You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! 169-189

 GG บทที่ 169 – รีดไถเงิน


เจ้าสำนักฟ่างที่เงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง กลับมาส่งเสียงขึ้นอีกครั้ง “ไอ้นักพรตตาถั่ว ฉันจะสับแกให้เป็นชิ้นๆ”


พูดมาได้ยังไงว่าเธอกับผู้วิเศษแห่งความตายเป็นคู่รักกัน สงสัยจะตาบอดแน่ๆ


ผู้วิเศษแห่งความตายพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ด้วยมือข้างเดียว และหันหน้าจอให้เจ้าสำนักฟ่างดู : ไอ้หมอนี่ท่าทางมีตังค์อยู่นะ ปล้นเงินมันก่อน แล้วค่อยฆ่าทีหลังก็ไม่สาย


เจ้าสำนักฟ่างที่พยายามสะบัดให้หลุดจากการกอดของอีกฝ่าย มีท่าทีใจเย็นลง ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วพูดขึ้นว่า “ปล่อยฉันก่อนสิ”


ผู้วิเศษแห่งความตายปล่อยมือจากเอวของเจ้าสำนักฟ่าง ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเนื้อหนังของมนุษย์จะนุ่มนิ่มดีขนาดนี้


ไม่ต้องสงสัยอีกแล้วว่าเหตุใดมนุษย์เพศหญิงจึงได้รับความเคารพอย่างสูง แม้แต่เขาเองก็ต้องยอมรับว่าชื่นชมในความนุ่มนิ่มนี้ไม่น้อย โดยเฉพาะในยามที่ได้นอนอยู่ไม่ห่างจากเจ้าสำนักฟ่างทุกคืนๆ ดูเหมือนผู้วิเศษแห่งความตายจะรู้แล้วว่าการตกหลุมรักคืออะไร


ฝ่ายเจ้าสำนักฟ่างก็กำลังบอกตัวเองว่า เธอไม่ได้ทำตามคำสั่งของผู้วิเศษแห่งความตาย แต่เธอทำเพื่อตัวของเธอเอง เธอต้องทำเพื่อให้ได้ชีวิตที่มีความเป็นส่วนตัวกลับคืนมา


คิดได้ดังนั้น เจ้าสำนักฟ่างก็หันหน้าไปทางนักพรตหนุ่ม และคำรามเสียงดัง “มีเงินอยู่เท่าไหร่ส่งมาให้หมด!”


นักพรตหนุ่มคิดว่าตัวเองกำลังจะถูกฆ่าตายแน่นอน ไม่คิดเลยว่าคู่รักปีศาจคู่นี้มีเจตนาเพียงแค่อยากรีดไถเงินเขาเท่านั้น


“ท่านผีสาว ข้ามีติดตัวอยู่เท่านี้จริงๆ” นักพรตหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา ในนั้นมีเงินอยู่เพียงแค่ 20 หยวน เรียกว่ามีน้อยกว่าเจ้าสำนักฟ่างเสียอีก


สีหน้าของเจ้าสำนักฟ่างแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน


“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ เดี๋ยวนี้ใครเขาใช้เงินสดกันบ้าง โอนเข้ามาในวีแชทสิ!” เธอคำรามด้วยความดุร้าย


สุดยอดไปเลยแฮะ เดี๋ยวนี้แม้แต่ภูตผีวิญญาณร้ายก็รู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ถึงขนาดมีวีแชทไว้ใช้งานด้วย นักพรตหนุ่มคิดว่าตนเองประเมินวิญญาณเหล่านี้ต่ำไปจริงๆ


“ไอ้โครงกระดูกผี ใจคอจะไม่มาช่วยกันเลยหรือไง!” เจ้าสำนักฟ่างหันหน้าไปตะโกนใส่ผู้วิเศษแห่งความตาย


นักพรตหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเขาถูกวิญญาณร้ายรุมเล่นงานพร้อมกันถึงสองตน เห็นทีชีวิตคงรอดผ่านคืนนี้ไปไม่ได้อีกแล้ว


“ท่านผีสาว อันตัวข้าเองนี้ก็เป็นขอทานเหมือนกัน เดี๋ยวนี้มีผีให้จับน้อยเหลือเกิน ส่วนใหญ่จะมีพวกมือปราบผีเก่งๆ มาจับตัดหน้าไปหมดแล้ว คนจับผีปลายแถวอย่างข้า มีเงินไม่มากหรอกนะ” นักพรตหนุ่มพยายามร้องขอความเห็นใจ การปรับตัวให้ทันยุคสมัยเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเขา


“ฮึ! ไม่ต้องมาทำตัวน่าสงสาร เลิกเล่นลิ้นและโอนเงินมาได้แล้ว!”


ทำตัวน่าสงสาร…หัวใจของนักพรตหนุ่มตกไปอยู่ที่ตาตุ่มด้วยความหมดหวัง


เมื่อจัดการแอดเจ้าสำนักฟ่างเป็นเพื่อนในวีแชทเรียบร้อยแล้ว เจ้าสำนักฟ่างก็พูดว่า “ก่อนอื่น โอนมาเลย 10,000 หยวน”


ตอนนี้ แม้แต่ภูตผีก็รู้แล้วว่าวีแชทสามารถโอนเงินได้วันละไม่เกิน 10,000 หยวนเท่านั้น


ผู้วิเศษแห่งความตายดูยอดเงิน 10,000 หยวนที่ถูกโอนเข้ามาอย่างมีความสุข หลังจากนั้น จึงพิมพ์ข้อความว่า : ฆ่าได้เลย


เจ้าสำนักฟ่างยกมือขึ้นเตรียมลงมือ


“ท่านผีสาว วันพรุ่งนี้ข้าจะโอนให้อีก 10,000 หยวนก็แล้วกันนะ” นักพรตหนุ่มละล่ำละลักออกมา ไม่ว่าจะเสียเงินเท่าไหร่ สิ่งสำคัญที่สุดคือรอดชีวิตไปได้ก็พอแล้ว


ผู้วิเศษแห่งความตายกำลังมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง


แต่สำหรับเจ้าสำนักฟ่าง มีเพียงการฆ่าคนเท่านั้นที่จะทำให้เธอใจสงบลงได้


แต่เงินกำลังจะหมุนไป เงินต้องถูกใช้จ่ายในทุกๆ วัน


ผู้วิเศษแห่งความตายโอบกอดเจ้าสำนักฟ่างไว้อีกครั้งหนึ่ง ขัดขวางไม่ให้เธอลงมือ


นักพรตหนุ่มได้แต่จ้องมองผู้ที่เขาเข้าใจว่าเป็นวิญญาณร้ายสองตนตรงหน้า เสื้อคลุมของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตอนนี้ชายหนุ่มไม่รู้แล้วว่าโครงกระดูกผีใจดีเกินไป หรือวิญญาณผีสาวดุร้ายเกินไปกันแน่


“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะไปฆ่ามัน! ให้ตายเถอะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” เจ้าสำนักฟ่างพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากอ้อมกอดของผู้วิเศษแห่งความตาย เธอถึงกับจับกระดูกแขนของเขามากัดด้วยซ้ำ


ผู้วิเศษแห่งความตายถอนหายใจ หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือไง ดูเหมือนเขาจะต้องใช้ทักษะพิเศษที่ไม่ได้ใช้มาเนิ่นนานเสียแล้ว ตอนนี้ต้องทำให้เจ้าสำนักฟ่างหมดสติไปก่อนจะเป็นการดีที่สุด


ทักษะที่ผู้วิเศษแห่งความตายกำลังจะใช้ก็คือ…


จุมพิตมรณะ!


ผู้วิเศษแห่งความตายกระทำการจูบเป็นครั้งที่สองในชีวิต ดวงตาที่สวยงามของเจ้าสำนักฟ่างเบิกกว้างมองดูเบ้าตาที่ว่างเปล่าของหัวกระโหลกเบื้องหน้า หลังจากนั้น เธอก็หลับตาลง หมดสติไปทันที


นักพรตหนุ่มค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอย่างมีความหวัง


“พี่ชาย ช่วงนี้เงินขาดมือใช่ไหม?” นักพรตหนุ่มลองถามหยั่งเชิง


ผู้วิเศษแห่งความตายกอดร่างของเจ้าสำนักฟ่างพร้อมกับพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ไปด้วย : มีอะไรจะพูด ก็ว่ามา


“ก่อนหน้านี้ผู้น้อยผ่านไปที่โรงเก็บไวน์ และได้ยินมาว่าจะมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นในซานย่า และน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ได้เงินเยอะทีเดียว” ถึงจะได้ยินมาไม่ชัดเจนนัก แต่ใจความโดยรวมก็ประมาณนี้


ผู้วิเศษแห่งความตายพิมพ์ข้อความว่า : “จริงหรือเปล่า?”


เพื่อเอาตัวรอดในยามนี้ ถึงไม่จริง นักพรตหนุ่มก็ต้องบอกว่าจริงเอาไว้ก่อน


“พี่ชาย ข้าจะกล้าโกหกท่านได้อย่างไร”


ผู้วิเศษแห่งความตายนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในเมื่อเป็นเรื่องสำคัญ ข้อมูลก็น่าจะมีมูลค่าล้ำค่า และเขาก็จะทำเงินได้ก้อนโต ไม่มีเหตุผลใดที่จะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปเลย


:ลองโกหกสิ เจ้าได้ตายแน่! – ผู้วิเศษแห่งความตายพิมพ์ข้อความไว้แบบนั้น และด้วยการสะบัดมือเพียงครั้งเดียว ร่างของทั้งสามคนที่อยู่ในสวนสาธารณะ ก็หายวับไปปรากฏตัวอยู่ในเมืองซานย่าทันที


ผู้วิเศษแห่งความตายสามารถเดินทางไปได้ในพริบตา ในขณะที่เย่ฮัวต้องรอขึ้นเครื่องบินวันพรุ่งนี้


ตอนนี้ พวกของเย่ฮัวรับประทานอาหารมื้อดึกจนอิ่มหนำ และกำลังเดินกลับบ้านมาด้วยกัน


“ที่รักคะ ฉันอิ่มจังเลย…” ชิงหยาพูดพลางกอดแขนเย่ฮัว หลังจากปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ชิงหยาก็กลับมาทำตัวเป็นเด็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ฮัวอีกครั้ง


เย่ฮัวลูบหัวของชิงหยาเบาๆ “ใครบอกให้คุณกินเยอะขนาดนั้นล่ะ”


“แน่นท้องไปหมดแล้วเนี่ย”


“จีจี้ก็อิ่มเหมือนกันค่ะ”


ทันใดนั้น ก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากระดับเอวของพวกเขา คล้ายกับว่าเธอก็อยากมีส่วนร่วมในบทสนทนานี้ด้วย


นี่คือผู้เจริญอาหารสามคน แน่นอนว่าถ้าหน้าตาดีก็จะเรียกว่าผู้เจริญอาหาร แต่ถ้าหน้าตาน่าเกลียด ก็มักจะถูกเรียกว่าคนตะกละตะกลามอย่างไม่มีข้อแม้


เมื่อกลับเข้าสู่ห้องนอน หลังจากได้กินดื่มจนอิ่มหนำแล้ว ชิงหยาก็หลับสนิทรวดเดียวไปจนถึงรุ่งเช้า



เช้าวันรุ่งขึ้น


อากาศดี แสงแดดไม่แรงมาก เหมาะสำหรับการเดินทาง


เย่ฮัวลืมตาขึ้นและก้มมองหน้าอกตัวเองเป็นสิ่งแรก ดูเหมือนว่าชิงหยาจะไม่มีปัญหาเรื่องการนอนน้ําลายไหลให้รบกวนใจอีกแล้ว


“ตื่นได้แล้วคุณ”


“งื่อ”


“ตื่นได้แล้ว” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับขยับแขนภรรยา


“รีบตื่นทำไมคะ ยังเช้าอยู่เลย กว่าเครื่องจะออกก็ตอนบ่ายนู่นแน่ะ”


“ผมจะไปซื้ออาหารเช้าให้คุณไง” เย่ฮัวเป็นคนที่รักษาสัญญาเสมอ เมื่อเขาให้สัญญาอะไรไว้แล้ว เขาก็จะต้องทำให้ได้


ชิงหยากอดเย่ฮัวเอาไว้แน่น “ไม่เอา เดี๋ยวฉันไปซื้อเองก็ได้”


เย่ฮัวไม่มีทางเลือกอื่นอีก นอกจากอุ้มชิงหยาเข้าห้องน้ำ และบังคับให้เธอล้างหน้าแปรงฟัน


“พี่ชิงคะ ทำไมสองคนนั้นเสียงดังกันจังเลย” เย่จีจี้ที่นอนอยู่บนเตียงถามด้วยความไม่เข้าใจ


ชิงหยูตงตื่นแล้ว เธอลุกขึ้นมาพูดงัวเงียว่า “เป็นแบบนี้ประจำแหละ”


“เฮ้อ” เย่ฮัวเดินสูบบุหรี่ออกมาจากที่พัก เดินตรงเข้าไปในซอย


“แพนเค้กสอง ไข่ทอดกับไส้กรอกอย่างละหนึ่ง” เย่ฮัวยืนอยู่หน้าร้านขายอาหารเช้าและตะโกนสั่งป้าเจ้าของร้าน


เมื่อป้าเจ้าของร้านได้ยินเข้า ก็ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มว่า “เดี๋ยวนี้เชื่อฟังเมียแล้วเหรอจ๊ะ”


เย่ฮัวถึงกับพูดอะไรไม่ออก


“ไม่ต้องเขินหรอกน่าพ่อหนุ่ม เชื่อฟังเมียเป็นเรื่องที่ดีจะตายไป ไม่เห็นมีอะไรน่าอายสักหน่อย”


เพราะว่าป้าเจ้าของร้านพูดมากอย่างนี้ไงล่ะ เขาถึงไม่อยู่กินที่ร้านนี้สักที!


ป้าเจ้าของร้านทำแพนเค้กต่อไปอย่างอารมณ์ดี “คุณน่ะน่าจะยิ้มให้มากกว่านี้หน่อยนะ ป้าเห็นแต่ละวันทำหน้าอะไรก็ไม่รู้ โดยเฉพาะตอนที่อยู่กับเมีย”


“ไม่ใช่เรื่องของป้าสักหน่อย” เย่ฮัวพูดเสียงเบา


ป้าเจ้าของร้านทำหน้าไม่พอใจ และการโต้แย้งก็เปิดฉากขึ้น


ตอนนั้นชิงหยาเห็นว่าเย่ฮัวหายออกมานานยังไม่กลับไปสักที ด้วยความเป็นห่วง เธอจึงเดินมาตามและพบว่าเย่ฮัวกำลังยืนโต้เถียงอยู่กับป้าเจ้าของร้านขายอาหารเช้าพอดี


“เย่ฮัว ทำอะไรอยู่เนี่ย” ชิงหยาเดินเข้าไปหาด้วยความสงสัย


เย่ฮัวดึงตัวเธอเข้าไปกอดและพูดว่า “เมียผม ผมต้องใหญ่กว่าอยู่แล้ว”


ป้าเจ้าของร้านพูดอะไรไม่ออกอีก สามีภรรยาคู่นี้ไม่กี่วันก่อนยังเห็นทะเลาะกันอยู่เลย เอาไว้ทะเลาะกันอีกคราวหน้า อย่ามาให้ช่วยอีกก็แล้วกัน


ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ชิงหยาก็รู้จักนิสัยของเย่ฮัวเป็นอย่างดี เธอส่งเสียงหัวเราะ ก่อนที่จะยุติการโต้เถียงที่เกิดขึ้น ด้วยการเป็นฝ่ายขอโทษขอโพยป้าเจ้าของร้านเสียเอง



GG:บทที่ 170 เจอกันอีกแล้ว


เย่ฮัวกำลังเคี้ยวกินแพนเค้กด้วยหน้าตาโกรธเกรี้ยว ถ้าไม่ติดว่าป้าแกทำอร่อย เขาไม่มีทางเดินไปซื้อเด็ดขาด


ชิงหยาหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ทำได้เพียงทุบไหล่เย่ฮัวแล้วพูดว่า “เป็นอะไรไปคะ?”


“ป้าคนขายบอกว่าผมกลัวเมีย คิดดูแล้วผมก็เลยโกรธ” เย่ฮัวตอบเสียงห้วน ทั้งๆ ที่ในปากยังเคี้ยวแพนเค้กอยู่เต็มคำ


ความจริงแล้ว ทุกครั้งที่เย่ฮัวเดินลงไปซื้ออาหารเช้ามาให้เธอ ชิงหยาคิดว่านี่คือความน่ารักของเขาอย่างที่สุด ตอนแรกเย่ฮัวก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป นี่ก็เป็นกิจวัตรที่ชิงหยาคุ้นเคยไปแล้ว และถ้าวันไหนเย่ฮัวไม่กลับมาบ่นป้าเจ้าของร้านให้เธอฟัง ชิงหยาก็รู้สึกเหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่าง


“นี่ แล้วกลัวฉันมันไม่ดีตรงไหนคะ” ชิงหยาพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง


เย่ฮัวหัวเราะหึๆ สีหน้าแจ่มใสขึ้นทันตา


“เดี๋ยวนะ หัวเราะแบบนี้หมายความว่ายังไง” ชิงหยากระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะแย่งแพนเค้กของเขาไปกัดคำใหญ่ “อื้อหือ อร่อยจัง”


เมื่อกลับขึ้นชั้นบน ทุกคนก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว เย่ฮัวยืนมองกระเป๋าสัมภาระของหญิงสาวทั้งสามคน และได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจว่า นี่พวกเธอจะย้ายบ้านหรืออย่างไรกัน? โดยเฉพาะชิงหยูตงกับเย่จีจี้ พวกเธอมีกระเป๋าสัมภาระสองกองใหญ่ เมื่อนำมาตั้งซ้อนกันแล้ว ก็มีความสูงยิ่งกว่าตัวของเย่จีจี้เสียอีก


ชิงหยาเดินลากกระเป๋าของเธอออกมาจากห้องและมองน้องสาวของตนเองกับเย่จีจี้ด้วยความไม่อยากเชื่อ “ขนอะไรไปเยอะแยะเนี่ย”


ชิงหยูตงและเย่จีจี้หันไปมองกระเป๋าเดินทางของชิงหยา จากนั้นก็หันมามองกองกระเป๋าของตนเอง ดูเหมือนจะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่เลย


“พี่สะใภ้คะ กระเป๋าของพี่เยอะกว่าของพวกเราอีกนะ”


ชิงหยาพยักหน้าไปทางเย่ฮัวที่ยืนอยู่ตรงประตู “พี่เก็บเสื้อผ้าของเขารวมมาด้วยน่ะ”


“พี่ชายขี้เกียจกว่าฉันอีกนะเนี่ย”


เย่ฮัวถลึงตามองเย่จีจี้ และพูดเสียงเบาว่า “ไปกันได้แล้ว”


ชิงหยูตงประท้วงขึ้นทันที “จีจี้กับฉันยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยนะ รอพวกเราด้วยก็แล้วกัน” หลังจากนั้นพวกเธอก็ปิดประตูห้อง


เมื่อชิงหยูตงกับเย่จีจี้เปิดประตูกลับออกมาอีกครั้ง เย่ฮัวกับชิงหยาก็ต้องยืนอ้าปากค้าง


แม้ว่าเย่จีจี้จะสวมใส่ชุดกระโปรงสุ่มไก่แบบเจ้าหญิงดิสนีย์ ก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่พอรับได้ แต่ประเด็นก็คือเด็กน้อยแต่งหน้าแบบผู้ใหญ่ในลักษณะที่…ชิงหยาเห็นแล้วก็ให้รู้สึกปวดหัวทันที


“พี่คะ ฉันยังมีอีกชุดนะ สนใจอยากเปลี่ยนชุดไหมล่ะ” ชิงหยูตงพูด ถ้าเธอแต่งคนเดียวคนก็จะมองว่าเธอเป็นคนบ้า แต่ถ้าแต่งสองคน มันก็จะกลายเป็นคนบ้าสองคน อย่างน้อยเธอก็ยังมีเพื่อนหนึ่งคน และมันคงจะยิ่งดีไปกันใหญ่ ถ้าเธอสามารถลากพี่สาวให้มาแต่งตัวแบบจัดเต็มได้ด้วยอีกคน ก็จะครบแก๊งคนบ้าสามคนพอดิบพอดี


เย่จีจี้หันหน้ามายิ้มกว้าง “พี่ชายคะ จีจี้สวยไหม?”


ถ้าจะตอบตามความจริง ใบหน้าของเย่จีจี้เรียกได้ว่าน่ารัก ชุดที่ใส่ก็ดูโอเค แต่มันไม่โอเคเลยที่จะมาใส่ในชีวิตประจำวันแบบนี้


“เอาเถอะ ไปกันได้แล้ว” ชิงหยาหมดแรงที่จะพูดอะไรอีกต่อไป เธอรู้ซึ้งแล้วว่าการดูแลเด็กน้อยไม่ใช่งานง่ายเลยจริงๆ เมื่อคิดว่าอีกหน่อยเธอต้องดูแลเด็กในบ้านถึงสามคน ชิงหยาก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาแล้ว



เมื่อทั้งหมดมาถึงสนามบิน ชิงหยูตงและเย่จีจี้ก็กลายเป็นจุดสนใจในทันที แทบทุกคนที่พบเห็นพวกเธอจะต้องหยุดมอง และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป


โดยเฉพาะเย่จีจี้ที่เป็นขวัญใจของบรรดาตาลุงหัวงู ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเธอยังมีอายุไม่ถึงสิบขวบด้วยซ้ำ


ชิงหยูตงและเย่จีจี้มีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก พวกเธอโพสต์ท่าให้คนถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน สนามบินกลายเป็นงานนิทรรศการส่วนตัวของพวกเธอไปโดยปริยาย ถ้าชิงหยาไม่ลากตัวออกมาเสียก่อน เด็กทั้งสองคนนี้คงอยู่เล่นสนุกได้อีกทั้งวัน


ในที่สุด ชิงหยาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมวันนั้นเย่ฮัวถึงเตือนเธอเอาไว้แบบนั้น การทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กมันเหนื่อยอย่างนี้นี่เอง


หลังจากเข้ามานั่งรอในห้องวีไอพี ในที่สุดพวกเขาก็ได้หยุดพัก แต่ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ก็ยังนั่งคุยกันเรื่องเสื้อผ้าไม่หยุด


“รู้แล้วใช่ไหมว่าน่าปวดหัวขนาดไหน” เย่ฮัวพูดขณะนั่งลงบนโซฟา และเอื้อมมือหยิบนิตยสารมาเปิดดู


ชิงหยาถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า เธอน่าจะฟังคำเตือนของเย่ฮัวตั้งแต่แรก เด็กพวกนี้ทำตัวเป็นเจ้านาย…ส่วนเธอคือคนรับใช้


จังหวะนั้นเอง ที่หน้าประตูมีชายท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งเดินเข้ามา แต่พอเขาเห็นกลุ่มของพวกเย่ฮัว ชายคนนี้ก็จะหันหลังกลับออกไปทันที


“คุณจิ่วค้า” ชิงหยูตงร้องเรียก


จิ่วเย่ใจหายวูบ ทำไมต้องมาเจอคนพวกนี้อีกแล้ว? อยู่กับพวกนี้ทีไรเป็นได้เกิดเรื่องทุกทีสิน่า!


แต่ในเมื่อถูกพบตัวแล้ว จะให้เดินหนีไปแบบนี้ก็คงไม่ได้…เฮ้อ


“บอสครับ คุณผู้หญิง” จิ่วเย่เดินเข้ามาทักทายพร้อมรอยยิ้ม


เย่ฮัวเหลือบตาขึ้นมองเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าดูนิตยสารต่อไป เขารู้สึกว่าเสื้อผ้าบางชุดในนิตยสารฉบับนี้ น่าจะเหมาะสำหรับชิงหยาไม่น้อย


“คุณจิ่วจะไปไหนเหรอจ๊ะ” ชิงหยาถามด้วยรอยยิ้ม เธอดูเป็นมิตรขึ้นมาก พลังแห่งความรักมันยิ่งใหญ่อย่างนี้นี่เอง


จิ่วเย่รู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ หวังว่าพวกเขาคงไม่ได้กำลังจะไปที่เดียวกันหรอกนะ “ผมกำลังจะไปซานย่าครับ”


“ไปซานย่าเหรอ พวกเราก็เหมือนกัน”


จิ่วเย่พูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว “…”


จิ่วเย่ไม่รู้ว่าตนเองควรจะแสดงความรู้สึกอะไรดีในขณะนี้ นอกจากหัวเราะแห้งๆ ตอบกลับไปเท่านั้น


จิ่วเย่ไม่กล้านั่งลงที่โซฟาด้วยซ้ำ ทำได้เพียงหยิบขวดน้ำมารินใส่แก้วและเดินเลี่ยงออกมายืนจิบน้ำอยู่แถวประตู ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เมื่อเหลือบมองหน้าจอ จึงพบว่าผู้ที่โทรมาคือภรรยาของเขาเอง


“มีเรื่องอะไร?” จิ่วเย่กระซิบถาม


ได้ยินเสียงถามกลับมาทันทีว่า “คุณจะไปไหน!”


“เมื่อคืนผมบอกแล้วไงว่าจะไปทำธุระที่ซานย่า” จิ่วเย่ขมวดคิ้วอย่างปวดหัว ภรรยาของเขากำลังหึงหวงอย่างไม่มีเหตุผลอีกแล้ว


“ซานย่า! บอกมานะไปเที่ยวกับใคร!”


ให้ตายเถอะ


จิ่วเย่คิดว่าภรรยาของเขาจินตนาการบรรเจิดขนาดนี้ น่าจะไปเขียนนิยายขายซะให้รู้แล้วรู้รอด


“คุณจะบ้าหรือไง!” จิ่วเย่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบดับอารมณ์ด้วยมือที่สั่นเทา ทำให้น้ำในแก้วหกออกมาเล็กน้อย


ปรากฏแอร์โฮสเตสผู้หนึ่งเดินเข้ามาถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “คุณผู้ชายคะ น้ำกระฉอกเลอะหมดเลย ให้ฉันเช็ดให้ไหมคะ”


จิ่วเย่ตกใจทำอะไรไม่ถูก เช่นเดียวกับหญิงสาวที่อยู่ในโทรศัพท์ เธอส่งเสียงกรีดร้องออกมาทันทีว่า “นี่ไงล่ะ พาอีหนูไปกกที่ซานย่าใช่ไหม! เก่งกล้าขนาดนี้ก็อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกแล้วกัน!”


หลังจากได้ยินเช่นนั้น จิ่วเย่ก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกหนักกว่าเก่า แอร์โฮสเตสสาวได้ยินเสียงลอดออกมาจากโทรศัพท์ จึงรับทราบว่าเกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้นแล้ว


“ต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานะคะ”


จิ่วเย่ถอนหายใจ เก็บสมาร์ทโฟนไทเทเนียม 8848 กลับเข้ากระเป๋า “ไม่เป็นไร ผมขอตัวก่อนก็แล้วกัน…”


ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาก็แบบนี้ จิ่วเย่เคยผ่านการหย่าร้างมาแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขาเลย


หลังจากนั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เย่ฮัวและคนอื่นๆ ก็ย้ายขึ้นมานั่งรออยู่บนเครื่องบิน แน่นอนว่าพวกเขาจองตั๋วชั้นบิสเนสคลาส เมื่อได้ขึ้นมานั่งรอบนเครื่องแล้ว ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ก็ผล็อยหลับไปทันที เย่จีจี้นอนหลับแนบอกชิงหยูตง ทำให้พวกเธอเหมือนแม่กับลูกไม่มีผิด


ส่วนชิงหยากำลังซบไหล่เย่ฮัวและดื่มด่ำกับความสุขจากความเงียบสงบ


บนที่นั่งถัดไป จิ่วเย่นั่งอยู่ด้วยใบหน้าซึมเศร้าราวกับว่าอยู่กันคนละโลก


ทันใดนั้น แอร์โฮสเตสสาวก็เดินเข้ามา จิ่วเย่เงยหน้ามองและจำเธอได้ทันที


“คุณผู้ชาย ปล่อยให้มีรอยหยดน้ำเปื้อนบนเสื้อ มันจะดูไม่ดีนะคะ ให้ฉันช่วยทำความสะอาดให้ดีไหมคะ” แอร์โฮสเตสสาวกระซิบออกมาแผ่วเบา


จิ่วเย่เป็นชายหนุ่มมากประสบการณ์ เขาเข้าใจดีถึงนัยยะของแอร์โฮสเตสสาวผู้นี้ จิ่วเย่คิดว่าเธอน่าสนใจไม่น้อย ในเมื่ออยากจะทำความสะอาดให้เขานัก เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?


“ที่ไหนดีล่ะจ๊ะ?”


“ตามฉันมาเลยค่ะ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ด้านหลัง”


ถึงจะเรียกว่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่มันก็คือห้องน้ำนี่เอง เมื่อจิ่วเย่เดินกลับออกมาอีกครั้ง เนื้อตัวของเขาก็เบาสบายและสะอาดหมดจด


เครื่องบินใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสนามบินประจำเมืองซานย่า


ชิงหยูตงและเย่จีจี้ยืนถือร่มกันแดดคันโตด้วยสีหน้าที่ดูจะยังไม่ตื่นเต็มตาดีเท่าไหร่ แต่กลับเป็นภาพที่น่ารักอย่างยิ่ง


“บอสครับ คุณผู้หญิง พักกันที่ไหนหรือครับ ให้ผมไปส่งดีกว่านะ” จิ่วเย่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ รู้สึกดีขึ้นที่จะได้ไปให้พ้นจากพวกของเย่ฮัวเสียที


“แบบนั้นพวกเราคงรบกวนเกินไปแล้ว” ชิงหยาตอบออกมาอย่างเกรงใจ



GG: บทที่ 171 – ตงฮวงหลี่


“นั่นเป็นปัญหามากเกินไปสำหรับคุณ” ชิงหยาก็ดูสุภาพเช่นกัน


“ ไม่มีปัญหาเลย ไม่มีปัญหา”


“งั้นก็ไปที่โรงแรมสามฤดู”


จิ่วเย่ “……”


ทำไม! ทำไมแม้แต่โรงแรมก็ต้องที่เดียวกันล่ะ ทำไมคุณถึงต้องเล็งเป้ามาหาฉัน มาหาจิ่วเย่มากขนาดนี้ด้วย ฉันอยากจะไปพักที่โรงแรมอื่นจริง ๆ แต่อาจารย์บอกให้ฉันพักที่โรงแรมนี้และรอคำสั่ง…


“ ลูกพี่ลูกน้องใหญ่ จีจี้เดินไม่ไหว อุ้ม ~” เย่จีจี้ขยี้ตาที่สวยงามของเธอและยื่นมือออกมา


เย่ฮัวถอนหายใจ ฉันขี้เกียจจริง ๆ !


เขากำลังจะอุ้มเย่จีจี้ขึ้นมา เขาไม่คิดว่าชิงหยาจะไวกว่าและคว้าเธอไป


เย่ฮัวไม่ได้พูดอะไร …


เขามองเย่จีจี้ที่กอดคอสีขาวของชิงหยาไว้และหลับไปทันที


เย่จีจี้ช่างขี้เกียจมากจริง ๆ เธอจะนอนเมื่อเธอเบื่อและเธอก็หลับได้ในเสี้ยววิ ฉันจำได้ว่าการนอนหลับที่ยาวนานที่สุดนั้นประมาณสองสามเดือนได้


โรงแรมสามฤดูตั้งอยู่ริมทะเลและมีทำเลที่ยอดเยี่ยม เป็นโรงแรมห้าดาวพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและเมื่อตื่นขึ้นคุณสามารถชมทะเลยามเช้าได้ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย แต่ราคานั้นไม่ถูก


หลังจากมาถึงที่โรงแรมเย่จีจี้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเลือดและคืนชีพแล้วพูดคุยอยู่กับชิงหยูตงไม่หยุด โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย สองคนนี้ต้องกำลังพูดถึงสิ่งที่ไม่ดีอยู่อย่างแน่นอน


มีผู้คนมากมายเข้าออกโรงแรมสามฤดูสิ่งนี้ทำให้ชิงหยาสับสนเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวแต่คนที่นี้ก็ค่อนข้างดูเยอะเกินไป


เย่ฮัวก็รู้สึกได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดาและในใจของเขาก็อยากรู้อยากเห็นมาก คนพวกนี้มารวมตัวที่นี่กันเพื่ออะไร? ไม่ใช่ว่าพวกเขาควรไปหารือเรื่องทางเหนือเพื่อไล่ล่าสิ่งประดิษฐ์โบราณหรอกเหรอ?


จิ่วเย่ออกจากโรงแรมอย่างเร่งรีบหลังจากมาถึงโรงแรม แม้ว่าเขาต้องการที่จะเกาะต้นขานี้ต้นขานี้ไว้ แต่เขารู้สึกว่ามันอันตรายมากเกินไป … มันอันตรายยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น


ในใจจริงของจิ่วเย่ไม่มีทางเลือก เจ้านายคนนี้ไม่เล่นไพ่ตามสามัญสำนึกและเดาทางไม่ได้ …


“โชคดีนะ ที่ฉันจองห้องพักตั้งแต่เมื่อวาน” ชิงหยายิ้มเบา ๆ


เย่จีจี้ถือร่มขนาดเล็กและเลียปากของเธอเพราะอาหารอร่อย ๆ มากมายอย่างอดไม่ได้


ชิงหยูตงถือร่มขนาดเล็กเพื่อขายความน่ารัก เธอสะกิดเย่จีจี้และยักคิ้วระหงส์ใส่


เย่จีจี้เข้าใจและยักคิ้วของเธอตอบ


ความรู้สึกตอนนี้ของทั้งสองไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากคุยกัน แค่ใช้คิ้วก็พอ


เมื่อได้รับบัตรห้องพักมาแล้วทุกคนก็ขึ้นไปพักผ่อน ชิงหยาตัดสินใจที่จะถ่ายภาพงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็ไปพักผ่อนกับเย่ฮัวและฮันนีมูน


เย่ฮัวกำลังมีวันหยุดที่มีความสุขที่นี่และเสี่ยวอาหลี่ผู้ซึ่งอยู่ไกลในโลกเสมือนจริงโชคดีไม่นัก


เขาทำการบ้านเสร็จในตอนเช้าหลังจากนั้นก็ฝึกฝนทักษะดาบในตอนบ่าย


ในเวลานี้ตงฮวงหลี่กำลังโบกดาบยาวกว่าตัวเธอในลานแห่งหนึ่ง ใบหน้าเล็ก ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อ แต่ตงฮวงหลี่ไม่ได้บ่นหรือร้องไห้ออกมา ดวงตาคู่หนึ่งเปี่ยมด้วยความแน่วแน่ฉันจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง ถ้าแม่เห็นความสำเร็จของฉันเธอจะได้ยิ้มอย่างมีความสุขตลอดทั้งวัน


ในสนามอื่น ๆ มีการดื่มเหล้าเล็กน้อยคนใช้ที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ทุกข์ใจ ลูกของคนสำคัญเช่นนี้โดยทั่วไปแล้วจะถูกแม่ตามใจจนเสียนิสัย เพียงเพราะเธอเป็นลูกของราชินี เธอเลยต้องพยายามอย่างหนักงั้นเหรอ? (อาหลี่เป็นผู้หญิง?)


“องค์หญิงน้อย พักสักครู่เถิด” สาวใช้คนหนึ่งพูดพร้อมกับความทุกข์ใจ


ตงฮวงหลี่ตอบด้วยเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ของเธอ “ไม่ แม่ของฉันจะมีความสุขที่ได้เห็นการทำงานอย่างหนักของอาหลี่”


แม่บ้านถอนหายใจเบา ๆ จักรพรรดินีมาพบพระองค์เพียงแค่เวลากลางคืนเท่านั้น ช่างน่าเศร้า …


ตงฮวงหลี่ฝึกฝนศิลปะดาบที่แม่เธอสอนซ้ำ ๆ เหงื่อก็เปียกท้วมเสื้อผ้าของเธอไปหมด


ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ตงฮวงหลี่จึงทิ้งดาบยาวและมองไปที่ห้องนอนของแม่ซึ่งอยู่ตรงหน้าเธออย่างชัดเจน แต่เธอก็ไม่สามารถไปได้


“องค์หญิงน้อย โปรดพักสักครู่เถิด” สาวใช้ยกชามาแล้วกล่าวด้วยความเป็นห่วง


“อาหลี่คิดถึงแม่” ตงฮวงหลี่ไม่ได้ไปรับชาและพูดขึ้นอย่างโง่เขลา


สาวใช้รู้สึกสับสนไปเล็กน้อยและคุกเข่าลงต่อหน้าตงหวงหลี่ทันที “องค์หญิงน้อย องค์จักรพรรดินีมีรับสั่ง พระองค์ไม่สามารถออกไปจากลานนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตนะเพคะ”


ทำไมตงฮวงหลี่จะไม่รู้ว่าเธอไม่สามารถออกไปได้ เธอถอนหายใจเบา ๆ


“ พี่สาวปิง ทั้งหมดความผิดพลาดเป็นของอาหลี่เอง ทำให้คุณต้องมาอยู่ที่นี่กับอาหลี่ด้วย บางทีอาหลี่คงไม่ควรเกิดมาบนโลกนี้ ” ตงฮวงหลี่ค่อยๆนั่งยอง ๆ กอดเข่าของเขาไว้ด้วยมือทั้งสอง


ตงฮวงหลี่ตั้งแต่เกิดไม่เคยออกจากลานเล็ก ๆ แห่งนี้เลย ยกเว้นชายชราทั้งแปดคนไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดินีมีลูกสาว แม้แต่สาวใช้ที่รับใช้ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวออกไปจากลาน! แน่นอนว่ามียามขององค์จักรพรรดินีเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู


สาวใช้เหล่านี้เฝ้าดูตงฮวงหลี่เติบโตขึ้นทุกวัน แต่ยิ่งพวกเขาทำมากเท่าไหร่พวกเขายิ่งเป็นทุกข์มากขึ้น และองค์จักรพรรดินีก็ทรงกังวลเกินไป


อย่างไรก็ตามตงฮวงไป๋ลู่ก็มีปัญหาเช่นกัน การเกิดของอาหลี่นั้นไม่ควรจะเป็นที่รู้จัก ถ้ามันแพร่กระจายผลที่ตามมาคือหายนะ และแม้แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็อาจจะหันมาให้ความสนใจ แม่คนไหนในโลกกันที่จะขังลูกไม่ให้ออกมาเจอดวงตะวันกัน


“องค์หญิงน้อย … ” สาวใช้กอดตงฮวงหลี่อย่างอ่อนโยนและปลอบเขาให้สบายใจ


“กลับไปที่ห้อง” ตงฮวงหลี่มองดูห้องนอนของแม่เธออีกครั้งลากแล้วเล็กกะทัดรัดของเธอกลับเข้าห้องไป สาวใช้ทั้งสามก็ไปเตรียมน้ำร้อนและอาหารทันที


นั่งทานอาหารเย็นคนเดียวที่หน้าต่างมองดูดวงดาว ตงฮวงหลี่คุ้นเคยกับมันดี


เดิมมีคอมพิวเตอร์ที่ทำให้สามารถสัมผัสถึงโลกภายนอกได้ ตอนนี้แม้แต่คอมพิวเตอร์ก็ไม่มีและฉันก็ยังคงอยู่ในความสับสนนี้ต่อไป เมื่อแม่มาฉันจะนอนกับแม่ได้ฉันควรจะฝันดี ฉันฝันถึงแม่ พาตัวเองไปที่เรือโจรสลัดกินไอศกรีมและร้านแมคโดนัลด์ การได้คิดเกี่ยวกับมันนั้นสนุกมาก


รอและรอ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ตงฮวงหลี่หันกลับมามองที่ประตู แม่ก็ยังคงไม่มา …


ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูค่อยๆเปิดประตูออกไปข้างนอกเงียบ ๆ


ตงฮวงหลี่ขมวดคิ้วของเธอ และขยับก้าวเล็ก ๆ เดินไปที่ประตูบ้าน เขาเห็นผู้คนยืนอยู่ข้างนอกจากรอยแตกที่ประตู


ตงฮวงหลี่รู้สึกหมดหวังไปเล็กน้อย หันกลับและเดินไปที่บ้าน คงจะดีถ้าฉันสามารถเดินผ่านกำแพงนี้ได้ เธอไม่รู้ว่าแม่กำลังทำอะไรอยู่?


ทันใดนั้น!


ร่างกายเล็กกะทัดรัดของตงฮวงหลี่ก็หายไปจากลานและปรากฏขึ้นอีกครั้งนอกกำแพง ตงฮวงหลี่ก็กลัวตัวเอง เมื่อมองไปที่ยามห่างออกไปสิบเมตรเธอวิ่งไปที่มุมและปิดปากเล็ก ๆ ของเธอ


ฉันไม่ได้อยู่ข้างในเหรอ? ออกมาได้อย่างไร? และฉันก็รู้สึกเวียนหัวผีทุกคนก็ปรากฏขึ้น …


หลังจากผ่านไปพักใหญ่ ตงฮวงหลี่ก็สงบลงและอยากกลับไป แต่เมื่อเห็นห้องพักของแม่ตงฮวงหลี่ต้องการกอดแม่ของเธอและกลับไปนอน


เมื่อตัดสินใจเสร็จแล้วตงฮวงหลี่ก็เดินไปที่ห้องพักของแม่เธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกมาข้างนอกหญ้าและต้นไม้ทุกต้นสามารถทำให้ตงฮวงหลี่เกิดความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกมีความสุขมากโดยไม่รู้ตัว


ไม่นานหลังจากที่มาถึงวังของแม่ ตงฮวงหลี่ก็พึมพำว่า “มีทหารยามจำนวนมาก…”


“ถ้าเพียงแค่ฉันสามารถเข้าไปได้”


Biu


ตงฮวงหลี่ปรากฏตัวในห้องนอนของแม่เธอในทันที แต่ตงฮวงหลี่กุมศีรษะของเธอดูเหมือนว่าเธอเกือบจะเป็นลม แต่เมื่อเขาเห็นห้องนอนตงฮวงหลี่ตื่นเต้นมากไฟในห้องโถงยังคงติดอยู่ คุณแม่ยังคงทำงานอยู่


แม่ยังคงทำสิ่งต่าง ๆ จนดึกดื่น ตงฮวงหลี่รู้สึกว่าเธอกำลังจะเทน้ำแก้วหนึ่งเพื่อให้แม่เธอดื่มและบอกให้แม่พักก่อน


แต่ตงฮวงหลี่ไม่รู้ว่าจะหยิบถ้วยมาเทน้ำได้จากที่ไหน เธอเดินไปที่โถงพระราชวังด้วยความดีใจ



GG: บทที่ 172 – ฉันเกลียดแม่


ก่อนที่จะมาถึงทางเข้าวังตงฮวงหลี่ได้ยินเสียงการสนทนาอยู่ข้างในดูเหมือนว่าแม่จะยังยุ่งอยู่ ดังนั้นฉันจะรอต้องไม่รบกวนแม่


ในวังตงฮวงไป๋ลู่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีม่วงและจิบชาพร้อมกับความหงุดหงิดที่อยู่บนหว่างคิ้วของเธอ


มีชายชราสองคนกำลังนั่งอยู่ด้านล่างคือหยวนเต้อและซิงหาน


“องค์จักรพรรดินี ตระกูลหยิงได้รับข่าวของเราและสัญญาว่าจะลงไปโดยไม่พูดอะไรเลย” หยวนเต้อดูมีความสุข การแต่งงานกับผู้ชนะนั้นเป็นสถานการณ์ที่มีแต่ได้กับได้ ถ้าจักรพรรดินีสามารถให้กำเนิดทารกเพศชายได้ จากนั้นก็จะไม่มีสามยักษ์ใหญ่แล้ว แต่จะมีผู้ยิ่งใหญ่เพียงผู้เดียวเท่านั้น!


ซิงหานกล่าวอย่างเคร่งขรึม “องค์จักรพรรดินี ตระกูลจีดูเหมือนจะมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่เล็กน้อย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องการที่จะทำลาย “


หยวนเต้อส่งเสียงหึขึ้นจมูกนอย่างเย็นชา “ตระกูลจียังคงสามารถแข่งขันกับทั้งสองตระกูลได้อยู่อีกรึ พวกเขาประเมินความสามารถของตัวเองมากเกินไป”


“การแต่งงานครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทั้งหมด ตระกูลชั้นสูงและนิกายใหญ่ต่าง ๆ ก็กระตือรือร้นที่จะเคลื่อนไหว” ซิงหานเป็นกังวลเล็กน้อย แม้ว่าการแต่งงานจะเป็นเรื่องดีแต่ก็ยังหลายคนไม่ต้องการเห็นการแต่งงานเช่นนี้เกิดขึ้น โดยเฉพาะตระกูลจี


ตงฮวงไป๋ลู่เท้าคางไว้บนมือขวาแล้วถามว่า “ปฏิกิริยาของตระกูลทางเหนือเป็นอย่างไร?”


หยวนเต้อหยุดลงและขมวดคิ้ว “ ตระกูลใหญ่ทั้งห้ามีส่งคนมาขอแสดงความยินดีสามและส่วนอีกสองไม่เห็นด้วย”


“อะไรคือเหตุผลของการคัดค้าน?” ตงฮวงไป๋ลู่ถามอย่างใจเย็น


หยวนเต้อและซิงหานมองหน้ากันและซิงหานก็พูดขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ “จักรพรรดินีนั้นศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งมนุษย์จะเป็นจักรพรรดินีได้อย่างไร”


ตงฮวงไป๋ลู่หัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย


หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งตงฮวงไป๋ลู่ถาม “สถานการณ์ภายในตระกูลหยิงเป็นอย่างไร?”


“ลูกชายใหญ่ของตระกูลหยิงดูเหมือนจะไม่พอใจเมื่อเขาได้รับข่าวนี้ ลูกชายคนที่สองหยิงคังซีในงานเลี้ยงอาหารค่ำและเชื้อเชิญสี่อำนาจใหญ่ในซานย่ามาเข้าร่วม” ซิงหานกล่าวพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย


ตงฮวงไป๋ลู่พูดอย่างใจเย็น “เขามีความสุข”


“แน่นอนว่ามันเป็นพรที่เขาได้แต่งงานกับองค์จักรพรรดินี และของกำนัลสินสอดทองหมั้นก็อยู่ในระหว่างการเตรียมการ มันจะถูกส่งมาในเช้าวันพรุ่งนี้”


ปัง!


เสียงที่คมชัดขัดจังหวะการสนทนาของผู้คนดังขึ้น หยวนเต้อและซิงหานเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดร่างกายของพวกเขาหายไปทันทีและปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ด้านนอกห้องโถงวัง


เมื่อเห็นตงฮวงหลี่พวกเขาก็ทำความเคารพพร้อมความประหลาดใจในทันที “องค์หญิงน้อย”


ตงฮวงไป๋ลู่เดินตามออกมาช้า ๆ มองดูถ้วยชาที่พลิกคว่ำและลูกสาวที่น่าเบื่อพูดขึ้นว่า “พวกคุณต้องดูแลสินสอดทองหมั้นและตรวจสอบว่ามีใครเห็นอาหลี่หรือไม่ ถ้ามีพวกคุณควรรู้ว่าต้องทำเช่นไร”


“ครับ!”


“ครับ!”


ตงฮวงไป๋ลู่คว้าตัวลูกสาวของเธอแล้วหายตัวไปและปรากฏตัวขึ้นที่ลานบ้านอีกหลังหนึ่ง


เธอค่อย ๆ วางลูกสาวในอ้อมแขนลง ตงฮวงไป๋ลู่พูดอย่างเคร่งขรึม “คุกเข่าลง!”


ตงฮวงหลี่ยืนนิ่ง ๆ อย่างงี่เง่าในหัวกำลังสับสนวุ่นวาย แม่ของฉันกำลังจะแต่งงานกับคนอื่นเธอไม่ต้องการฉันกับพ่ออีกแล้ว


“คุกเข่าลง!” ตงฮวงไป๋ลู่กล่าว โชคดีที่ไม่มีความผิดพลาดครั้งใหญ่อะไรเกิดขึ้นในคืนนี้ แต่เธอก็ซนเกินไป


ตงฮวงหลี่พูดด้วยเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ของเธอและร้องไห้ออกมา “หนูไม่คุกเข่า!”


“เธอลองกล้าที่จะพูดอีกครั้งสิ!” ตงฮวงไป๋ลู่มองดูลูกสาวของเธออย่างไม่อยากเชื่อ เธอกล้าที่จะพูดคุยกลับ


“หนูไม่คุกเข่า หนูเกลียดแม่!” ร่างของตงฮวงหลี่สั่นและน้ำตาสองสายก็ไหลออกมา


ใบหน้าของตงฮวงไป๋ลู่เปลี่ยนไปทันทีและเธอยกมือขึ้น


ตงฮวงหลี่ไม่ได้กลัวเลยมองไปที่แม่แปลก ๆ


ตบนี้ไม่ได้ถูกพาดลงมา ตงฮวงไป๋ลู่ลดมือของเธอลง “อาหลี่ทำไมเธอถึงเกลียดแม่ เป็นเพราะแม่ขังเธอไว้ที่นี่งั้นเหรอ?”


ตงฮวงหลี่ราวกับเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อยและกล่าวว่า “คุณแม่ คุณไม่เคารพพ่อ!”


“พ่อของเธอตายแล้วทำไมฉันต้องเคารพมันด้วย!”


“ไม่ว่าในกรณีใดแม่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งไม่สุภาพต่อพ่อ และถ้าแม่ให้กำเนิดลูกอีกคนคุณก็จะไม่ต้องการอาหลี่อีกแล้วอย่างแน่นอน” เมื่อเธอคิดว่าแม่จะไม่กลับมาอีกเลย ตงฮวงหลี่ก็ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ


ตงฮวงไป๋ลู่ถอนหายใจและกำลังจะเข้าไปกอดลูกสาวที่ดื้อรั้นของเธอ ใครจะรู้ว่าตงฮวงหลี่จะไม่ปล่อยให้เธออุ้มและดิ้นหลุดมือไปจากอ้อมแขนของแม่


“อาหลี่ เธอไม่ต้องกังวลกับเรื่องของผู้ใหญ่แค่ทำการบ้านของเธอก็พอ”


ตงฮวงหลี่คุกเข่าและขอร้อง “แม่คุณไม่แต่งงานกับคนอื่นได้ไหม? อาหลี่ยังทำได้ไม่ดีพอเหรอ อาหลี่สามารถนอนหลับเพียงไม่กี่ชั่วโมงได้ ตราบใดที่แม่มีความสุขอาหลี่สามารถทำอะไรก็ได้ “


ใบหน้าของตงฮวงไป๋ลู่สั่นไหวเล็กน้อยแต่ก็ค่อย ๆ สงบลงอีกครั้ง “พักก่อนเถิด”


หลังจากพูดจบแล้วเธอก็เดินจากไปแต่เมื่อประตูปิดลงตงฮวงไป๋ลู่ก็หลั่งน้ำตา แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว ท่าทีที่ละเอียดอ่อนได้หายไปและท่าทางที่จักรพรรดินีควรมีก็แสดงออกมาให้เห็นอีกครั้ง


ในห้องอาหลี่นั่งลงบนพื้นอย่างอ่อนแอ แม่ของฉันไม่ต้องการฉัน …


ในโรงแรมสามฤดูเย่ฮัวนอนหลับไปพร้อมกับชิงหยาที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ชิงหยานอนพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ น่าจะเป็นความฝันที่ดี


ในอีกห้องหนึ่งชิงหยูตงและเย่จีจี้ก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง


“พี่สาวชิง คืนนี้เราจะใส่เสื้อผ้าอะไรกันดี? จะเอาเป็นนักเรียนมัธยมปลายหรือจะเป็นชุดแม่บ้านดี ~ ” เย่จีจี้พลิกกระเป๋าเดินทางของเธอซึ่งเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามและน่ารักที่เธอรัก


ชิงหยูตงหยิบชุดพยาบาลออกมาพร้อมกับยิ้มเยาะที่มุมปากของเธอ “จีจี้ แล้วชุดของฉันล่ะเป็นไง?”


“มันดีมาก แล้วฉันจะใส่อะไรดีล่ะ? ” เย่จีจี้กล่าว


“พี่สาวจะช่วยเลือกให้เธอ ชุดครูอาจารย์รุ่นโลลิอันนี้น่ารักมาก”


“ว้าว ~ พี่สาวชิงสายตาดีจริง ๆ จีจี้ก็คิดเหมือนกัน” เย่จีจี้ถือเสื้อผ้าไว้ราวกับว่าพวกมันเป็นสมบัติล้ำค่า


“เริ่มการเปลี่ยนได้”


“โก โก (GOGO)”


ไม่นานหลังจากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนเครื่องแบบ เครื่องแบบของชิงหยูตงไม่จำเป็นต้องพูดหมวกสีขาวขนาดเล็กควบคู่ไปกับชุดพยาบาลพร้อมถุงน่องสีขาว ที่แค่มองก็สามารถทำให้ผู้คนเลือดสูบฉีดได้


อย่างไรก็ตามถ้าชิงหยามาเห็นน้องสาวของเธอตอนนี้ เธอก็คงจะคว้ามีดทำครัวมาวิ่งไล่อย่างแน่นอน เพราะชิงหยูตงในปัจจุบันยังคงอยู่ในรูปลักษณ์ของพี่สาว


เครื่องแต่งกายของครูรุ่นโลลิของเย่จีจี้ร้ายยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหางม้าทั้งสองข้างนั้น ช่างน่าจับน่าดึงยิ่ง


“พระเจ้า จีจี้ เธอน่ารักมากมาให้พี่สาวจูบที”


“ไม่เอา … อย่ามาจูบฉันนะ”


ชิงหยูตงไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากและรีบวิ่งเข้าหาเย่จีจี้ ภาพนี้ช่างดูหอมหวาน มาตั้งสติกันเถอะ


หลังจากเล่นมานาน ทั้งสองเดินไปที่บาร์ชั้นล่างของโรงแรมสามฤดู ผู้คนที่เดินผ่านมาเห็นการแต่งตัวของคนสองคนต่างตกตะลึงอย่างไม่ต้องสงสัย คุณไม่กลัวว่าจะสูญเสียการติดต่อเมื่อแต่งตัวแบบนี้กลางดึกงั้นเหรอ?


ในอีกห้องหนึ่งของโรงแรมจิ่วเย่ก็ได้รับคำสั่งจากเจ้านายสองคน


ตอนนี้จิ่วเย่รู้สึกกดดันอย่างมาก นายทั้งสองคนสั่งให้เขาไปฆ่าคนและเป้าหมายของทั้งสองก็เป็นคนคนเดียวกัน ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ดีจริง ๆ


เขารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เขาควรเรียกคนอื่นตัวเขาไม่ใช่นักฆ่า เมื่อมองดูรูปถ่ายบนมือถือของเขา ผู้ชายคนนี้หล่อมาก แต่น่าเสียดายที่ไปยั่วยุคนที่ไม่ควรถูกยั่วยุ


เขายกสองขวดในมือขึ้น ได้ยินเจ้าของบอกว่ายานี้จะไม่ทำให้ตายในทันที แต่เมื่อเขาทั้งสองต้องการที่จะให้ตาย เพียงแค่เสี้ยวความคิดมันก็จะตายในทันที


หลังจากจัดเสื้อผ้าแล้วจิ่วเย่ก็ยืนขึ้นและตอนนี้เป้าหมายของเขาอยู่ที่บาร์ชั้นล่าง!



GG: บทที่ 173 – นักฆ่าสมัครเล่น


มีบาร์สามฤดูอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมสามฤดู มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางและกิจการธุรกิจก็กำลังเฟื่องฟู ไม่มีการขาดแคลนผู้ชายที่ออกล่าและไม่มีผู้หญิงขาดแคลนที่ถูกกระตุ้น ตราบใดที่พวกเขามีเงินพวกเขาสามารถทำสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ที่นี่


ดีเจในบาร์ขับบรรยากาศของสถานที่จัดงาน ชายหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังขยับโยกย้ายร่างกายและเพลิดเพลินกับความตื่นเต้นในการสัมผัสกับคนแปลกหน้า ชายสองคนสวมเสื้อผ้าธรรมดาดูไม่สะดุดตาอยู่บนดาดฟ้าตรงมุมบาร์


แต่คงไม่มีใครคิดว่าหนึ่งในคนเหล่านี้คือสามอำนาจใหญ่ ลูกชายคนที่สองของตระกูลหยิง หยิงคังซี อีกคนเป็นผู้ติดตามส่วนตัวของเขา หลิวปี้ ซึ่งเป็นอาจารย์และคนรับใช้ของเขามาตั้งแต่เด็ก ทั้งสองมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีต่อกัน


ในตอนนี้หยิงคังซีกำลังส่ายหัวของเขาตามจังหวะของเพลงอารมณ์ของเขาดีมาก ในขณะที่หลิวปี้ซึ่งอยู่ด้านข้างกำลังดูเป็นกังวล


“นายน้อย กลับไปกันเถอะ อย่าสร้างปัญหากับงานแต่งงานครั้งใหญ่ของคุณเลย” หลิวปี้แนะนำ นายน้อยของเขาได้รับข่าวมาวันนี้ ตื่นเต้นจนตัวแทบจะลอยขึ้นสวรรค์ ไม่เพียงแต่จะเขาจะจัดงานเลี้ยงขึ้นเท่านั้น แต่คืนนี้เขายังแอบลอบออกมาอีกด้วย


หยิงคังซียิ้มและตะโกน “ปีปี้ สบายใจเถอะน่า ใครจะรู้กันว่าฉันอยู่ที่นี่”


“แต่ผมเกรงว่านายน้อยใหญ่จะไม่พอใจกับคุณด้วย” หลิวปี้กังวล


“นายรู้ไหมว่าทำไมองค์จักรพรรดินีถึงเลือกฉัน แต่ไม่เลือกเขา?” หยิงคังซีถามด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ


หลิวปี้ส่ายหัว


หยิงคังซีตบไหล่ของหลิวปี้ “ใครกันจะเลือกถือหนาม แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องเลือกอะไรที่พวกเขาควบคุมได้ เช่นฉัน”


หลิวปี้ตระหนักได้ในทันที “นายน้อยช่างฉลาด แต่การแต่งงานครั้งนี้ได้ทำลายชื่อเสียงของนายน้อยเช่นกัน”


หยิงคังซีหัวเราะและจุดบุหรี่ “ปีปี้ นายไม่เข้าใจอะไรเลยจริง ๆ แค่การกดจักรพรรดินีชีวิตนี้ก็คุ้มค่าแล้ว”


“สิ่งที่นายน้อยพูดนั้นเป็นความจริงอย่างยิ่ง”


“น่าเสียดายที่จักรพรรดินีไม่มีทายาทชายไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่มีส่วนแบ่งของฉัน ท้ายที่สุดฉันก็เป็นเพียงเมล็ดพันธุ์แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังคงเป็นผู้ชนะ!” หยิงคังซีกระซิบและค่อยๆยิ้มออกมา


“แน่นอน นายน้อยเป็นที่อิจฉาของผู้ชายทั่วทุกมุมโลก ในวันนี้นายน้อยใหญ่ก็ต้องอิจฉาคุณเช่นกัน … “


“ฮ่าฮ่า พี่ชายของฉัน ฉันคิดว่าเขาคงจะรอที่จะฆ่าฉันไม่ไหวแล้ว”


“นายน้อยกลับกันเถอะครับ ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ” หลิวปี้ยังคงเกลี้ยกล่อมต่อไป


หยิงคังซียิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ ๆ กลับกัน หลังจากไปสั่งซื้อผลไม้แล้วก็เบียร์อีกสักสองขวดนะ”


หลิวปี้ถอนหายใจ นายน้อยคงจะเบื่อเกินไปโลกทางฝั่งสิ่งนี้คงจะน่าสนใจสำหรับเขามากกว่า


ในเวลานี้ชิงหยูตงและเย่จีจี้ก็อยู่ที่ประตูของบาร์แล้ว สำหรับคนงามนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าแถวและปล่อยให้เข้าไปตรง ๆ


อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งสองปรากฏตัวในบาร์ สายตาของคนที่เห็นพวกเธอต่างก็จับจ้องอย่างไม่วางตา ทั้งสาวคนโตและสาวคนเล็กนี้มีพลังมากเกินไป


เย่จีจี้มาที่บาร์เป็นครั้งแรกหลังจากได้ฟังเพลงเธอก็รู้สึกตื่นเต้น หางม้าเริ่มกระเพื่อม เส้นผมกระจายออกสะบัดพลิ้วเป็นแพรใหญ่


“จีจี้ อย่าพึ่งรีบ” ชิงหยูตงตะโกน


เย่จีจี้หยุดชั่วครู่ผมหางม้าก็หยุดสะบัดเธอพูดเสียงดังว่า “พี่สาวชิง ตอนนี้เรากำลังจะทำอะไรกันเหรอ?”


“แน่นอนว่าต้องโยกย้าย ~” ชิงหยูตงคว้าตัวเย่จีจี้และเดินตรงไปยังฟลอร์เต้นรำ แต่เธอหันหลังกลับมาทันทีหลังเจอคนคนหนึ่ง เบียร์ที่อยู่บนถาดก็ถูกทิ้งตกแตกลงบนพื้นในทันที


จิ่วเย่จ้องขวดที่ตกแตก เขาเพิ่งมาที่บาร์และเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าพนักงานทุกอย่างถูกเตรียมไว้เรีบร้อย ตอนนี้โอกาสก็กำลังจะมาและยาก็พร้อมแล้ว


เป้าหมายอยู่ห่างออกไปไม่เกินสิบเมตร แต่ผู้หญิงคนนี้เธอชนมันหล่นลงทันทีที่เธอหันกลับมา … ใจจิ่วเย่เหมือนถูกกรีดจนเลือดออก


“เสี่ยวจิ่ว คุณเป็นอย่างไรบ้าง?” ชิงยูตงอุทาน


เมื่อจิ่วเย่ได้เห็นใบหน้านี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเขาโชคร้ายนัก โอ้พระเจ้า คนเหล่านี้ช่างตายยากเสียจริง ๆ ไม่ใช่แค่ขึ้นเที่ยวบินและอยู่ในโรงแรมเดียวกัน แม้ตอนที่ฉันทำงานของฉันพวกเขาก็ยังมาทำยาพิษของฉันเสียของอีก!


แต่โชคดีนะ ที่เขายังมีขวดพิษอยู่


“คุณจำคนผิดแล้ว” จิ่วเย่ก้มศีรษะของเขาลงและหลบออกไปทางซ้ายแล้วไปผสมยาใหม่


ชิงหยูตงมุ่ยปากของเธอและไม่สนใจอะไรมาก เธอหิ้วเย่จีจี้และวิ่งไปที่ฟลอร์เต้นรำต่อ


แน่นอนว่าเมื่อสาวสองคนวิ่งไปที่ฟลอร์เต้นรำพวกเขาก็กลายเป็นจุดสนใจทันที ทุกคนล้อมรอบพวกเขาเป็นวงกลมและรับชม


ชิงหยูตงเป็นดารา การเต้นรำสำหรับเธอไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย


เย่จีจี้เต้นเป็นครั้งแรกเธอไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เมื่อเธอเห็นการเคลื่อนไหวของชิงหยูตง เธอก็เรียนรู้และจับจุดความรู้สึกได้อย่างรวดเร็ว


ความงามที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ โลลิน้อยน่ารัก หลายคนในที่นั้นกำลังเปิดBaiduและค้นหาว่ากินเด็กต้องติดคุกกี่ปี


“ทั้งสองนั้นน่าสนใจนิดหน่อย” หยิงคังซีก็สังเกตเห็นชิงหยูตงและเย่จีจี้บนฟลอร์เต้นรำเช่นกัน


หลิวปี้พยักหน้า “สายตาของนายน้อยนั้นไม่เหมือนใคร ต้องการให้ผมไปไหม?”


“ไปสิ ทั้งคนโตทั้งคนเล็กไม่เลวเลยจริง ๆ” หยิงคังซีตาเป็นประกาย ความงามเช่นนี้หายากเกินไป


ชิงหยุตงกับเย่จีจี้สนุกกับสายตาของทุกคน พวกเธอรู้สึกดีมากและเย่จีจี้ก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย


“ไอหย่า ผู้คนแทบไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นของพวกเขาได้เลย ~ ” เย่จีจี้เลียปากเล็ก ๆ ของเธอ แม้ว่าคนธรรมดามันจะน่าเบื่อไปบ้างแต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร


“คุณผู้หญิงทั้งสอง คุณพอจะอยากไปเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มด้วยกันสักครู่ไหม?” หลิวปี้มาอยู่ตรงหน้าของทั้งสองและกล่าวถาม


ชิงหยูตงและเย่จีจี้ตกลงอย่างรวดเร็ว ดื่มฟรีดื่ม เก็บเงินไม่ดื่ม


หลิวปี้คิดว่ามันคงยากที่จะโน้มน้าวใจพวกเธอ เขาไม่ได้คิดว่ามันจะง่ายดายอย่างนี้ ดูเหมือนว่าคืนนี้นายน้อยคงจะได้ฝันดี


เมื่อได้เห็นคนงามทั้งสองจากไปพร้อมชายหนุ่ม ผู้ชายทุกคนต่างก็อิจฉาความงามแบบนี้ปีละครั้งก็ยากที่จะได้พบ


เมื่อพวกเขามาถึงดาดฟ้าหยิงคังซีก็ลุกขึ้นเอื้อมมือออกมาอย่างสุภาพและพูดว่า “ยินดีที่ได้พบคุณ”


อย่างไรก็ตามชิงหยูตงกับเย่จีจี้ไม่ได้สนใจมันและนั่งลงที่โต๊ะบนดาดฟ้า หยิงคังซีนั้นค่อนข้างอึดอัดเล็กและเก็บมือกลับมา ผู้หญิงที่สวยมักจะมีบุคลิกเฉพาะตัว


“พี่สาวชิง ฉันหิวน้ำนิดหน่อย” เย่จีจี้ดึงแขนของชิงหยูตง


ชิงหยูตงยิ้มให้หยิงคังซี “คุณผู้ชาย คุณยังไม่มีไวน์ที่นี่เลย เราจะทำอย่างไรกันดี?”


“ไวน์? ได้เลยตามที่คุณพูด” หยิงคังซีพยักหน้า หลิวปี้ก็จัดการให้ในทันที


“คนสวยพวกคุณมาซานย่าเพื่อพักร้อนกันงั้นเหรอ?” หยิงคังซีเผยรอยยิ้มที่คิดว่าทำให้เขาดูหล่อขึ้น


เย่จีจี้พูดด้วยเสียงใส ๆ ของเธอ “ฉันจะไม่บอกคุณหรอก ฮึ ~”


ดูสิ โลลิน้อยตัวนี้ช่างน่ารักเหลือเกินหากคุณได้จับหางม้าทั้งสองนั้นมันจะสดชื่นแค่ไหน ถ้าคุณเพิ่มการบริการของหญิงงามคนโตนี้ไปด้วย มันคงจะน่าตื่นเต้นพอ ๆ กับที่จะได้กดจักรพรรดินีเลยทีเดียว


“คุณผู้ชาย ไวน์ของคุณอยู่ที่นี่แล้ว” จิ่วเย่มาพร้อมรอยยิ้มและวางไวน์สองขวดลงไป แต่เมื่อเขาเห็นชิงหยูตงและเย่จีจี้ ใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อไปทันที


เป็นพวกคุณอีกแล้ว! พบกันที่บาร์เดียวกันและแม้กระทั้งนั่งถัดจากเป้าหมายของฉัน ถ้าเกิดพวกเธอดื่มไวน์นี้เข้าไปล่ะ?


เขามองไปที่บริกรอีกคนหนึ่งเกวียนนั้นเต็มไปด้วยไวน์และภายใต้สายตาจ้องมองของจิ่วเย่ไวน์ทั้งหมดก็ถูกวางลงบนโต๊ะ


จบแล้ว? เมื่อกี้ที่ฉันวางมันสองขวดไหนกันนะ? มารดามันเถอะฉันจำมันไม่ได้!!!


GG: บทที่ 174 – ดุร้ายที่สุดเป็นอันดับ 1 ในประวัติศาสตร์


 


จิ่วเย่อยากจะร้องไห้แบบไร้น้ำตา


 


ชิงหยูตงงุนงงเป็นอย่างมาก จิ่วเย่กำลังทำอะไรอยู่กัน? เขามาแอบทำหน้าที่เหมือนพนักงานเสิร์ฟไปทำไมดูเหมือนว่าเขาจะเสียสติไปนิดหน่อยนะ


 


“เล่นลูกเต๋ากันไหม?” ชิงหยูตงเสนอ


 


“คนงามคุณพูดถึงอะไรงั้นเหรอ” หยิงคังซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากำลังนึกถึงการได้สัมผัสหางม้าที่ยอดเยี่ยมนั้นอยู่พักหนึ่ง


 


ชิงหยูตงหัวเราะเบา ๆ “ก็เพียงแค่เบื่อคนบ้างคนเท่านั้น”


 


หลิวปี้ที่อยู่ด้านข้างกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมจะจัดการให้เอง”


 


“คุณไม่ต้องเรียกใช้เขาแล้ว” นิ้วชี้ที่ละเอียดอ่อนของชิงหยูตงชี้ไปที่จิ่วเย่


 


จิ่วเย่ทรุดตัวลง … เขาอยากร้องไห้จริง ๆ แต่พนักงานเสิร์ฟอีกคนอยากร้องไห้มากกว่า พวกคุณสั่งคนชราไม่ใช่คนหนุ่ม … รสนิยมสาวงามตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วเหรอ?


 


จิ่วเย่จะเห็นด้วยได้อย่างไร เขาพูดอย่างเร่งรีบ “คุณผู้ชายครับ ผมยังต้องทำงาน”


 


หลิวปี้ส่งมัดแบงก์สีแดงให้เขาตรง ๆ และกล่าวว่า “ฉันรู้จักกับบอสของที่นี่”


 


จิ่วเย่ก็กลัวเกินกว่าที่จะปฏิเสธอย่างต่อเนื่องและอาจจะทำให้แผนการของเขาถูกเปิดเผย “โอเค”


 


แต่ที่นี่มีอย่างน้อยหกสิบขวดมีสองขวดในนี้ฉันผสมยาไว้! บัดซบ! ผู้หญิงคนนี้มันเป็นปีศาจ ไม่มีเรื่องดีเกิดขึ้นเลยเวลาได้เจอเธอ!


 


“ขวดหันไปชี้ตรงใครคนนั้นแพ้” ชิงหยูตงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล


 


หยิงคังซียกนิ้วให้ “คนงามช่างกล้าหาญ หนึ่งรอบต่อหนึ่งขวด”


 


เย่จีจี้เปิดขวดและเริ่มดื่มไปก่อนแล้ว


 


ฮึก ~


 


เกือบทุกคนหันมามองดูเย่จีจี้ที่กำลังเรออกมาเบา ๆ หยิงคังซีแทบจะอดใจรอไว้ไม่ไหว โลลี่ที่รักของฉัน ~


 


ห้าคนเล่นลูกเต๋าและก็ดื่มกันแบบขวดต่อขวด เครื่องดื่มหายไปครึ่งหนึ่งแล้วจิ่วเย่ดื่มไปประมาณสิบขวด เขาไม่รู้ว่าเขาได้ดื่มพิษไปหรือไม่ เขารู้สึกไม่ดีไปหมด


 


ต้องโทษพวกเธอที่ไม่มีอะไรทำจนต้องวิ่งมาที่นี่เพื่อดื่ม ถ้าพวกเธอไม่มาเป้าหมายนี้ก็คงจะเมาด้วยไวน์สองขวดที่ฉันเอามาให้ไปแล้ว


 


แม้ว่าไวน์นี้จะดื่มแล้วไม่เป็นไรแต่ตราบใดคาถาถูกร่ายก็สามารถตายได้ในทันที หากปรมาจารย์เหล่านั้นใช้คาถาในตอนนี้ ต้องมีใครสักคนตายอย่างแน่นอน!


 


ขวดสองขวดนั้นอยู่ไหนกัน?


 


เนื่องจากความกลัวขวดไวน์พิษ จิ่วเย่จึงไม่ได้ตั้งใจเล่นเกมทำให้เขาเกิดโอกาสแพ้สูงขึ้นเขาจึงต้องดื่มมากขึ้น


 


ไม่นานก่อนที่ขวดบนโต๊ะจะว่างเปล่า ใครเป็นดื่มทั้งสองขวดนั้นจิ่วเย่ไม่รู้ แต่เขารู้ว่ามีโอกาสเป็นเขาค่อนข้างมาก …


 


“ไวน์นี้น่าเบื่อแล้ว เอาไวน์ขาวมา!” ชิงหยูตงตะคอกอย่างอ่อนโยน


 


หยิงคังซีไม่สามารถเมาได้ เมื่อมาถึงระดับสูงสุดอย่างไวน์ขาว แน่นอนว่าไม่ใช่ขวดต่อขวดแต่ดื่มจิบเล็ก ๆ ในแก้วเล็ก ๆ


 


นอกจากจิ่วเย่แล้ว ก็มีแต่สัตว์ประหลาดเก่าแก่หรือระบบกำลังนั่งอยู่ ผู้น่าสงสารจิ่วเย่อาจจะต้องไปร้องไห้และเป็นลมในห้องน้ำ ราวกับว่าไวน์อมตะเรียกมนุษย์ผู้นี้มาเพียงเพื่อแค่ร่วมสนุก


 


เย่จีจี้รู้สึกค่อนข้างเบื่อ มันไม่ดีเท่าฉันแทงคุณคุณแทงฉัน เล่นกับหยิงคังซีแล้วหันไปเล่นไฟแช็กZippo เธอเบื่อมาก


 


จิ่วเย่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเขาล้มลงไปก่อนใคร ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทำเหมือนกับดื่มน้ำเปล่า


 


หลังจากเมาฟุบลงไปแล้วจิ่วเย่ก็ยิ้มอย่างความสุขและคงจะฝันว่าเขาทำภารกิจเสร็จแล้วอย่างแน่นอน


 


“คนงาม คุณแพ้อีกแล้ว” หยิงคังซีพูดด้วยรอยยิ้ม แต่มันก็แปลก ๆ ผู้หญิงคนนี้ดื่มไปมากแต่เธอก็ยังไม่เมา


 


ชิงหยูตงฮัมเพลงพลางมองมองดูเย่จีจี้เล่นไฟแช็ก “ชายรูปงามคนนี้ช่างโชคดี”


 


ชิงหยูตงยืนขึ้นและเติมแก้วให้ตัวเองกับหยิงคังซีจนเต็มอีกครั้ง


 


อย่างไรก็ตามในเวลานี้ชิงหยูตงมือของดูเหมือนจะไม่มั่นคงเล็กน้อยและไวน์ขาวก็ถูกเทรดลงตรงเป้ากางเกงของหยิงคังซี


 


เย่จีจี้ก็ตกตะลึงและไฟแช็กในมือก็หลุดกระเด็นไปตกลงบนเป้ากางเกงของหยิงคังซี “ พี่สาวชิง คุณเมาเหรอ?”


 


“ไฟ! ไฟ! ไฟ!” หยิงคังซีอับอายเล็กน้อย ใครจะไม่กังวลเกี่ยวกับเป้าของพวกเขากัน!


 


ทันใดนั้นเป้าของเขาก็ถูกกระแทกอย่างกะทันหัน


 


เย่จีจี้ตกใจ “อย่าตกใจฉันจะช่วยคุณเอง!”


 


เย่จีจี้หยิบไวน์ขาวขึ้นมาบนโต๊ะแล้วก็เท


 


ฟู่!


 


ไฟนั้นรุนแรงขึ้น หลิวปี้ก็รีบที่จะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ชิงหยูตงผลักเขาออกมาและตะโกนอย่างว่า “ให้ฉันเอง!”


 


รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตรพุ่งตรงไปที่กองไฟแล้วทุบ!


 


“ไม่!!! อ้า!!!” หยิงคังซีส่งเสียงร้องที่น่ากลัวออกมา แต่ถูกเสียงเพลงกลบและมุมนี่จะมีใครมองมากัน?


 


“จีจี้ มาช่วยฉันที” ชิงหยูตงเหยียบอย่างหนัก หลิวปี้ล้มลงบนโซฟาและไม่สามารถขยับเขยื้อน ได้แต่มองดูนายน้อยถูกทำร้าย


 


ตัวเย่จีจี้ค่อนข้างเล็กดังนั้นเธอจึงยืนบนโซฟาและเหยียบลงบนกองไฟ


 


หยิงคังซีที่หมดสติไปแล้วนั้นถูกปลุกให้ตื่นด้วยความเจ็บปวด เพียงแค่มองดูขาของเย่จีจี้ที่พุ่งตรงลงมาดวงตาของเขาก็หมดหวัง


 


“ไม่ … ” หยิงคังซีรู้สึกว่าในกางเกงที่ว่างเปล่ามีบางอย่างขาดหายไป…


 


“ไม่ต้องพูดแล้ว จีจี้กำลังช่วยชีวิตคุณ” หลังจากพูดเย่จีจี้ก็เหยียบลงไปทันทีส่วนหยิงคังซีก็หมดสติไปในทันทีเช่นกัน คุณมีความบาดหมางอะไรกับเป้าของฉันกันและคุณก็ไม่ได้กำลังช่วยชีวิต คุณกำลังฆ่าฉันอยู่!


 


การช่วยเหลือก็ยังดำเนินต่อไป หลังจากนั้นประมาณห้านาทีแห่งการเหยียบดับไฟก็จบลง ชิงหยูตงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอ “โชคดีที่มันไม่ได้เผาคน”


 


เย่จีจี้พ่นลมหายใจออกมา “เขาประมาทเกินไป ถ้าไม่ใช่เราสองคนช่วย เขาคงจะถูกไฟคลอกตาย”


 


หลิวปี้รู้สึกว่าร่างกายสามารถควบคุมได้อีกครั้งและรีบเข้าไปหานายน้อยของเขา “นายน้อย! นายน้อย! ตื่นขึ้นมาสิครับ!”


 


“พาเขาไปโรงพยาบาลเถอะ เราช่วยได้แค่นี้เท่านั้น จีจี้ ไปกันเถอะ ” หลังจากพูดจบชิงหยูตงก็ดึงพาเย่จีจี้จากไป


 


เมื่อออกไปนอกบาร์ทั้งสองก็ยักคิ้วส่งให้กันก่อนจะตีมือไฮไฟต์แล้วก็กระโดดกลับไปนอน


 


ฮืม ~ กล้าที่จะเล่นกับแม่คนนี้ งั้นฉันก็จะเหยียบคุณเอง ~


 


ในบาร์หลิวปี้มองไปที่เป้าของนายน้อยมันเป็นสีแดงเลือด คาดว่าด้านในเนื้อและเลือดคงจะเต็มไปหมด  ไม่นะ! ไม่! ต้องรีบกลับไปรักษา!


 


หลิวปี้อุ้มหยิงคังซีขึ้นมาและจากไปอย่างรวดเร็ว จิ่วเย่ที่เมาฟุบไปแล้วลืมตาขึ้นมาทันที หากเขาไม่ได้แกล้งทำเป็นเมาเขาอาจต้องดื่มมากเกินไป


 


แต่เพียงแค่เหล่มองและเห็นความรุนแรงของพวกเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นวาบที่เป้าของเขา มันโหดร้ายเกินไป! พวกเขาทำลายคนที่มีชีวิต …


 


ทันทีที่ฉันนึกถึงส้นสูงสิบเซนติเมตรโผล่ขึ้นมาในหัว ความเจ็บปวดนั้น … คงมีเพียงเป้าหมายของเขาเท่านั้นที่สามารถเข้าใจมันได้อย่างแท้จริง


 


ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาครุ่นคิดเรื่องนี้ ต้องรายงานเจ้านายไม่ให้พวกเขาร่ายคาถา……


 


หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจิ่วเย่ก็กลับมาที่ห้องทันทีและส่งข้อความถึงเจ้านายคนหนึ่ง “นายท่าน…ดูเหมือนว่า…ผมจะดื่มพิษไปแล้ว…”


 


หลังจากรอเป็นเวลานานปรมาจารย์ก็ตอบกลับในที่สุด


 


“ …… “


 


จิ่วเย่ค่อนข้างหงุดหงิดใจ คุณไม่เข้าใจความหมายหกคำนี้เหรอ?


 


แต่ไม่ว่าอะไรฉันก็ยังคงต้องรายงาน


 


“นายท่านแม้ว่าเป้าหมายจะไม่ตาย แต่เขาก็ไข่ระเบิดไปแล้ว”


 


เห็นได้ชัดว่าเจ้านายของจิ่วเย่ไม่ตอบสนอง เขายังคงสงสัยว่าไข่ระเบิดหมายความว่าอย่างไร หลังจากนั้นสักพักเขาก็ตอบกลับ “คุณหมายถึงอะไร”


 


จิ่วเย่ต้องให้คำจำกัดความใหม่แก่เจ้านายท่านนี้ที่ดูจะยังไม่เข้าใจ … จะต้องไม่พูดแบบเดิม


 


“ เป้าหมายอาจกลายเป็นขันที”


 


หลังจากพูดจบจิ่วเย่ก็รอคำตอบ ตราบใดที่คุณไม่ด่าว่าฉันและให้ยาแก้พิษมาก็เพียงพอแล้ว


 


“เสี่ยวจิ่วทำได้ดีมาก!”


 


เมื่อได้ยินคำตอบกลับจิ่วเย่งุนงงมาก สถานการณ์นี้มันคืออะไร?


 


“คุณต้องการอะไรบอกฉันมาได้เลย! อะไรก็ได้ทั้งนั้น!”


 


จิ่วเย่ตกตะลึง นี่อาจเป็นพรจากความโชคร้าย!


 


หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อเจ้านายอีกคนเขาไม่คิดว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะเหมือนกัน ช่างน่ากลัวจริง ๆ พวกเขาการรู้สึกว่าการทีคนอื่นได้เป็นขันทีนั้นน่ายินดีกว่าความตาย พวกคุณมันเป็นพวกนิสัยเสียฉันไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว!



GG: บทที่ 175 – ตระกูลหยิง


ในเวลานี้หลิวปี้พาหยิงคังซีบินกลับไปที่ทะเลอย่างรวดเร็วและพึมพำ “นายน้อย อดทนไว้ก่อน อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว!”


ถ้ารู้ว่าตอนจบจะลงเอยแบบนี้ฉันควรเกลี้ยกล่อมนายน้อยให้กลับบ้านมากกว่านี้ แล้วฉันจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรกัน!


กลางอากาศว่างเปล่าหลิวปี้หยุดกะทันหันหยิบโทเค็นออกมา รัศมีสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้าและเขาก็พุ่งเข้าไปตรง ๆ !


รอบด้านยังคงเป็นกลางทะเลแต่มีเกาะโผล่ขึ้นอยู่ไม่ไกล อาคารโบราณถูกสร้างขึ้นอยู่บนเกาะแห่งนี้ ประตูเมืองสูงตระหง่านทอดยาวยื่นออกไปทางปีกทั้งสองด้าน ตั้งแต่ฝั่งพระอาทิตย์ยามเช้าขึ้นจากทะเลจนถึงฝั่งอาทิตย์ที่ลาลับไปยามพลบค่ำ สง่างาม หาดูยากและแปลกตา


มีอาคารมากกว่า 20 แห่ง แต่ไม่มีความรู้สึกแออัดและซ้ำซาก ศาลา ศาลาริมสระน้ำ สระน้ำ ภูเขา หินประหลาด กระถางดอกไม้ ช่างเป็นสถานที่น่าอัศจรรย์


ยามบนกำแพงเมืองเห็นคนกำลังบินขึ้นมาก็เพิ่มความระมัดระวังขึ้นในทันทีและตะโกนว่า “ผู้มาเยือนคือใคร!”


“เปิดทางซะ นี่คือคุณชายสอง! ” หลิวปี้ตะโกนเสียงดัง


ผู้คุมตกใจรีบเก็บอาวุธและโค้งคำนับเล็กน้อยทันที


หลิวปี้ไม่ได้คิดมากนักและรีบตรงไปยังศูนย์กลางของอาคาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้เฒ่าตระกูลหยิงพักอยู่


ในฐานะเจ้าบ้านของตระกูลหยิง หยิงจิงซาน ไม่มีสนมและภรรยาน้อย ในชีวิตของเขามีผู้หญิงที่อยู่รอบตัวคนนี้คนเดียวเท่านั้น เธอชื่อหยูเหอ


นี่เป็นผู้หญิงที่หยิงจิงซานพบตอนเธอเกิดมา เธอไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่น่าทึ่ง แต่มันได้สัมผัสหัวใจของชายตระกูลหยิงคนนี้ และหยูเหอเป็นเพียงคนธรรมดา


ในอ้อมแขนของสามีของเธอ หยูเหอขมวดคิ้วและพูดว่า “จิงซาน คังเอ่อร์เขาจะยินดีที่จะแต่งงานหรือไม่?”


“ทำไมจะไม่ล่ะ อีกฝ่ายคือตงฮวงไป๋ลู่ผู้ชายนับไม่ถ้วนต้องการแต่งงานกับเธอและชีวิตของคังเอ่อร์ก็เป็นพรของเขา นอกจากนี้การแต่งงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดี ” ในฐานะเจ้าบ้านตระกูลหยิงแน่นอนว่าเขาต้องคิดอย่างรอบคอบ ส่วนในฐานะแม่เธอก็ต้องพิจารณาความสุขของลูกชายเธอเท่านั้น


หยูเหอถอนหายใจเบา ๆ “แต่ฉันมักจะรู้สึกไม่สบายใจ ฉันได้ยินมาว่าจักรพรรดินีองค์นี้ทรงดื้อรั้นและหยิ่งผยอง ฉันกลัวว่าคังเอ่อร์จะต้องทนทุกข์”


“มันจะเปลี่ยนไปหลังจากแต่งงานแล้ว ตอนนี้เราควรกังวลเกี่ยวกับการแต่งงานของฮาวเอ่อร์ ตอนนี้คุณมีเด็กผู้หญิงที่ดูไว้ไหม?” หยิงจิงซานถามด้วยรอยยิ้ม


ในความคิดของเขา หยิงจิงซานยังรู้สึกว่าลูกชายคนโต หยิงฮาว นั้นเหมาะที่จะสืบทอดตำแหน่งของเขามากกว่า เขาคิดว่าเขาทำผิดกับลูกชายคนเล็กของเขา แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าลูกชายคนเล็กจะได้แต่งงานกับตงฮวงไป๋ลู่!


เมื่อมองดูทัศนคติของลูกชายคนโตในวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยพอใจ ลองคิดดูสิ … ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน การได้พิชิตผู้หญิงอย่างตงฮวงไป๋ลู่ก็ราวกับได้พิชิตโลก


ฮาวเอ่อร์ทำงานหนักมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเพื่อเป็นเจ้าบ้านตระกูลหยิงคนต่อไป แต่คังเอ่อร์ไม่ได้ทำงานหนักมากนัก ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดมากและไม่ต้องการต่อสู้เรื่องนี้!


แล้วในตอนนี้เพราะจักรพรรดินี สถานะของน้องชายนั้นกลับกลายเป็นยิ่งใหญ่กว่าเขามาก เขาจะเต็มใจยอมรับมันอย่างไร ได้โบยบินขึ้นสูงโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม


“จิงซาน ฉันไม่คิดว่าจะต้องพูดถึงการแต่งงานของฮาวเอ่อร์ตอนนี้หรอกนะ ท้ายที่สุดคู่แต่งของคังเอ่อร์ก็คือจักรพรรดินี หัวใจของฮาวเอ่อร์นั้นไม่สมดุลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเขาพบว่าเธอก็แค่คนธรรมดาเขาก็คงจะไม่โกรธอีกต่อไป ฉันไม่ต้องการเห็นพี่ชายของพวกเขาร่วงหล่น ” แม้ว่าหยูเหอจะเป็นคนธรรมดา แต่เธอก็ค่อยๆเรียนรู้เกี่ยวกับวิสัยทัศน์นี้ หลังจากที่เธอได้แต่งงานกับหยิงจิงซาน


หยิงจิงซานถอนหายใจอย่างลึกซึ้ง “ฉันไม่รู้ว่าคำพูดของจักรพรรดินีนั้นจะดีจริงหรือไม่ ตระกูลหยิงของเราแค่ต้องการมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ไม่ว่าการต่อสู้เพื่ออำนาจคืออะไรก็ปล่อยมันไปเถอะ”


ทันใดนั้นก็มีเสียงดังเข้ามาจากข้างนอก ตระกูลหยิงไม่ได้เกิดสถานการณ์แบบนี้มานานแล้ว


“ฉันจะไปดูหน่อย” หยิงจิงซานพูดเบา ๆ


“ฉันจะไปกับคุณ”


ทั้งสองใส่ชุดราตรีผ้าไหมสีน้ำเงินและเดินออกมาจากประตู ทันทีหลิวปี้เห็นพวกเขาก็ตะโกนและร้องเสียงดัง “ท่านเจ้าบ้าน นายหญิง โปรดรีบช่วยนายน้อยด้วยเขากำลังจะตาย!”


เย่จีจี้กับชิงหยูตงนั้นไม่ได้ลงมือเบา ๆ โดยเฉพาะชิงหยูตงนั่นคือการเหยียบที่ถึงตาย สำหรับผู้ชายด้วยการเหยียบนี้ทีเดียวก้จบสิ้นแล้ว


หากคุณบอกให้ชิงหยูตงรู้ว่านี้คือลูกชายคนที่สองของตระกูลหยิง เธอก็อาจจะตอบรับอีกแบบหนึ่งก็ได้


“เกิดอะไรขึ้น!” หยิงจิงซานหลั่งน้ำตาและรีบตรวจสอบอาการบาดเจ็บของลูกชายของเขา สีหน้าของเขาแย่มาก


หลิวปี้ร้องร่ำ “ท่านเจ้าบ้าน นายน้อยช่างน่าสงสาร เขาถูกเหยียบย่ำกล่องชีวิต”


ดวงตาของหยิงจิงซานเบิกกว้างและตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “ไปตามหมอซ่งเฉินมาเร็วเข้า!”


หยูเหอเข้าไปมองดูใกล้ ๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกเวียนศีรษะเป้าของลูกชายเต็มไปด้วยเลือด …


หลังจากนั้นครู่หนึ่งหมอซ่งเฉินก็มาถึงและหยิงฮาวก็มาถึงด้วยเช่นกัน รูปลักษณ์ของเขาดูแย่กว่าหยิงคังซีเล็กน้อย มีไฝที่คางซึ่งทำให้คนรู้สึกว่าแก่และมีเลศนัย ในเวลาเดียวกันญาติและคนอื่น ๆ ในตระกูลหยิงก็มาถึง


ทุกคนนั่งรอผลอยู่ในห้องโถง หลิวปี้คุกเข่าอยู่ตรงกลางและร้องไห้เบา ๆ


หยิงจิงซานตบโต๊ะ “จะร้องไห้หาอะไร! เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาให้ละเอียดซะ! “


หลิวปี้เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพลางสะอื้นโดยไม่มีสิ่งใดตกหล่นและไม่ลดความสำคัญใดลง ช่างเป็นการกลั่นแกล้งอย่างสุจริต …


ญาติที่นั่งอยู่ในนั้นรู้สึกราวกับว่าเตะโดนแผ่นเหล็กและถูกทุบตี


ชายวัยกลางคนผอมคนหนึ่งเป็นผู้นำในการแสดงความคิด ชื่อของเขาคือ หยิงเจียง เขาเป็นน้องชายของหยิงจิงซาน


“จักรพรรดินีส่งข่าวมาในตอนเช้า ยังไม่ถึงวันดีคังเออร์ก็ก่อเรื่องตลกนี้ก็เกิดขึ้น ถ้ามันไปถึงหูของจักรพรรดินีเธอจะยังรับได้อยู่อีกเหรอ? เจ้าเด็กนี้ถูกตระกูลหยิงสั่งสอนมาจริง ๆ รึ? ” คำพูดของหยิงเจียงนั้นราวกับเป็นระเบิดลูกเล็ก มันเป็นการประชดที่ซ่อนอยู่


หยิงฮาวที่ยืนอยู่ด้านหลังพ่อของเขาไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้มันดีกว่าที่จะเงียบไว้


หลิวปี้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นกล่าวขึ้น “วันนี้นายน้อยสองมีความสุขที่ได้ไปดื่มที่นั่นเล็กน้อยและเรียกสาวสองพี่น้องมาดื่มด้วย”


หยิงชางเป็นลูกคนที่สามผู้มีความสุขในวัยกลางคนเล็กน้อย เพียงแค่ได้ยินเขาก็พูดขึ้นช้า ๆ ว่า “นอกจากผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่เท่านั้นยังไม่พอนี้ยังมีเด็กเล็กด้วย! พี่ใหญ่ เรื่องนี้มันช่างน่าขายหน้า!!!”


“นายน้อยสองไม่มีความคิดอื่นแฝงเลยจริง ๆ ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ กางเกงของนายน้อยสองถูกไฟไหม้ ผู้หญิงสองคนทำให้ไฟลุกแรงขึ้นและพวกเธอก็เหยียบบกางเกงของนายน้อยสอง ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ทำได้เพียงดูนายน้อยสองถูกทำร้าย … ” หลิวปี้รีบขอโทษแทนหยิงคังซี


หยิงจิงซานสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามขึ้น “ ผู้หญิงสองคนเป็นคนธรรมดา?”


หลิวปี้พยักหน้าและยืนยันว่าไม่พบความผิดปกติ


การเดาครั้งแรกในความคิดของหยิงจิงซานคือมีคนจงใจสร้างเกมนี้ขึ้น!


“มีเหตุการณ์แปลก ๆ บ้างไหม?” หยูเหอถามอย่างละเอียด


“ มีบริกรวัยกลางคนที่ดูไม่สบายใจแปลก ๆ” หลิวปี้คิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวออกมา


หยิงฮาวที่ไม่ได้พูดอะไรเลย ชะงักไปชั่วครู่


หยิงจิงซานได้ตัดสินอย่างคร่าว ๆ ดูเหมือนว่าข่าวที่คังเอ่อร์ออกไปในวันนี้ที่เป็นความลับจะถูกแพร่ออกไป!


ในตอนนั้นเองชายชราคนหนึ่งเดินช้า ๆ เข้ามาในห้องโถงและคำนับให้ฝูงชน


“หมอซ่งเฉิน อาการของคังเอ่อร์เป็นอย่างไรบ้าง” หยูเหอถามอย่างกังวล


หมอซ่งเฉินถอนหายใจ “ ชายชราได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วจริง ๆ แต่ไส้ตะเกียงของนายน้อยสองก็ดับไปแล้ว”


หยูเหอได้ยินผลลัพธ์เช่นนี้ ก็หน้ามืดและเป็นลมไปในทันที


“หยูเหอ!”


“แม่!”


GG: บทที่ 176 – ว่างเปล่า


หยูเหอไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกทางจิตใจได้ ลูกชายของเธอไม่สามารถมีทายาทได้อีกแล้ว!


หยิงจิงซานพาภรรยาของเขากลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนจากนั้นก็กลับมาที่ห้องโถงอีกครั้ง ใบหน้าของเขามืดมนและน่ากลัว


ดูเหมือนว่าเหล่าญาติของเขาจะไม่ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก สำหรับพวกเขานี้ถือเป็นโอกาส จักรพรรดินีจะทนแต่งงานกับขันทีได้หรือ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร ตระกูลหยิงที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้มีเด็กผู้ชายแค่คนเดียว


หยิงเจียงกล่าวขึ้น “พี่ชาย หลังตกลงกันไปนี้ก็พึ่งจะผ่านมาไม่นาน แล้วเรื่องหลานชายคังนี้จะอธิบายกับจักรพรรดินีอย่างไร?”


“ใช่ พี่ชาย การมีเรื่องแบบนี้เกิดในตระกูลหยิงมันน่าอับอายมาก วันพรุ่งนี้สินสอดทองหมั้นก็จะถูกส่งไปแล้ว พี่ใหญ่จะจัดการอย่างไรเล่า” หยิงชางยังกล่าวอีกว่าถ้าลูกชายของเขาได้แต่งงานกับจักรพรรดินี มันคงจะเป็นจังหวะแห่งความรุ่งโรจน์


ยิ่งกว่านั้นพี่ใหญ่มีบุตรชายเพียงสองคนเท่านั้น ตอนนี้คนหนึ่งก็กลายเป็นขันทีและถ้าอีกคนจะต้องไปแต่งงานแทน เขาก็จะต้องออกจากตำแหน่งว่าที่เจ้าของบ้าน


หรือจะยังคงให้ลูกอีกคนเป็นว่าที่เจ้าของบ้านต่อไป แล้วปล่อยให้เด็กชายคนอื่นไปแต่งงานแทน คุณไม่สามารถที่จะจับปลาทั้งสองมือได้


“เราต้องตรวจสอบเรื่องนี้! หยิงฮาว!” หยิงจิงซานตะโกน


“ลูกอยู่นี่”


“ไปพาบริกรของบาร์และผู้หญิงสองคนนั้นมา! ฉันต้องการที่จะเห็นว่าใครกล้าที่จะยั่วยุตระกูลหยิงของฉัน!”


“ครับ!”


มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะพบกับจิ่วเย่ข้อมูลที่เขาลงทะเบียนทั้งหมดเป็นของปลอม แล้วในตอนนี้จิ่วเย่ก็กลับไปที่เมืองหลงอันในชั่วข้ามคืน และเก็บกวาดเรื่องของเขาจนสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ไม่ได้โชคดีนัก


หยิงเจียงกล่าวอย่างรวดเร็ว “ พี่ใหญ่มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามฆาตกรที่อยู่เบื้องหลัง แต่มันก็สำคัญที่จะต้องอธิบายเรื่องนี้กับจักรพรรดินีในวันพรุ่งนี้”


“ฉันจะคิดดูเอง ไปพักผ่อนเถอะ” หยิงจิงซานโบกมือของเขาอย่างเบื่อหน่าย


จู่ ๆ หยิงชางก็กล่าวขึ้น “พี่ชาย หลานชายคังจะจัดงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ที่โรงแรมสามฤดู คุณต้องการยกเลิกงานเลี้ยงนี้หรือไม่? “


ผู้คนก็เป็นเช่นนี้ พวกเขาทนไม่ได้ที่พวกเขายังคงมีงานฉลอง แล้วในสถานการณ์แบบนี้จะฉลองอะไรดีเล่า ฉลองให้พ่อตาสามีคนอื่นในโลกนี้?


“ยกเลิกเลย” หยิงจิงซานพูดและจากไปเพื่อดูอาการบาดเจ็บของลูกชาย


ญาติ ๆ ส่ายหัว หลังจากคุยกับหยิงฮาวไม่กี่คำพวกเขาก็พากันจากไป


หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยิงฮาว จิ่วเย่คนนี้คาดไม่ถึงจริง ๆ นี้มันช่างเลวร้ายยิ่งกว่าการฆ่าทิ้งเสียอีก ผู้หญิงสองคนนั้นคงจะเป็นจิ่วเย่ที่เรียกให้มาและพวกเขาก็แสดงได้ดีจริง ๆ


ข้อดีเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของตระกูลหยิงคืออะไร มันน่าสนใจกว่าที่ได้เป็นชายของจักรพรรดินี!


สำหรับผู้หญิงสองคนนั้น แน่นอนว่าพวกเธอคงไม่กลับมาแล้ว ถ้าพวกเธอถูกเรียกมาช่วยงานพวกเธอก็ทำมันเสร็จแล้ว เพราะเขาก็ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว จิ่วเย่ยังคงมีประโยชน์อยู่บ้างฉะนั้นฉันก็จะยังไม่ฆ่าเขา


ในห้องพักของหยิงคังซี หลิวปี้อยู่กับเขาเพื่อดูแลเขาอย่างระมัดระวัง ตอนนี้นายน้อยของเขาดูซีดเซียวและราวกับแก่ลงอีกหลายปี มันช่างน่าสังเวชจริง ๆ


“เป็นยังไงบ้าง?” หยิงจิงซานถามขึ้นเมื่อเข้ามาถึง


หลิวปี้กล่าวด้วยความเคารพว่า “หมอซ่งเฉินกล่าวว่านายน้อยสองไม่เป็นอะไรมากแล้วเขาจะตื่นขึ้นในไม่ช้า”


คำพูดเพิ่งจะจบลง หยิงคังซีบนเตียงก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับคิ้วขมวด


“อา … คุณพ่อ หลิวปี้ พวกคุณอยู่นี่” หยิงคังซียิ้ม เขายังไม่รู้ว่าเขาได้สูญเสียอวัยวะบางอย่างไปแล้ว


เมื่อเห็นใบหน้าทั้งสองดูแปลก ๆ หยิงคังซีก็จำได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเหลือบมองลงไปในทันที มันรู้สึก … รู้สึกว่างเปล่า …


“นายน้อยอย่าพึ่งไปแตะนะครับ หมอซ่งเฉินเพิ่งทำแผลไป” หลิวปี้รีบเตือน


ปากของหยิงคังซีเริ่มกระตุก เป้าที่แบนราบทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที


“คังเอ่อร์ สงบสติไว้!” หยิงจิงซานก็ไม่ได้ดูดีเช่นกัน ใครจะไปทนรับการหายไปของความเป็นลูกผู้ชายของตัวเองได้กัน


“พ่อช่วยผมด้วย ผม … ผมไม่อยากจะเป็นขันที! ขันทีจะไม่ได้แต่งงานกับจักรพรรดินี! “


สองชั่วโมงที่ผ่านมาฉันกำลังนั่งฝันถึงร่างกายของจักรพรรดินี แต่ตอนนี้ …


“คังเอ่อร์ เกิดอะไรขึ้น?” หยิงจิงซานไม่ต้องการจะต่อว่าลูกชายของเขาในตอนนี้ แต่คุณคงจะไม่สามารถแต่งงานได้อย่างแน่นอน


สีหน้าของหยิงคังซีเปลี่ยนไปทันที “พ่อเป็นผู้หญิงสองคน! ผู้หญิงสองคนจงใจ! ผมต้องการฆ่าพวกเธอ!!! พวกเธอจะต้องถูกสับเป็นหมื่น ๆ ครั้ง !!! ”


“ฟังจากหลิวปี้ มีเด็กอายุ 7-8 ขวบด้วยไม่ใช่เหรอ? ” หยิงจิงซานถาม ถึงจะเศร้าแต่ก็ยังเกลียดชัง หากไม่ใช่เพราะคุณต้องการผู้หญิงเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร! แม้แต่เด็กก็ยังจะเอาอับอายขายหน้าเขาไปหมดแล้ว!


หยิงคังซีนึกถึงใบหน้าของเย่จีจี้ทันที รูปร่างที่เล็กกะทัดรัดและหางม้าคู่


มันน่าเสียดายที่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับผมหางม้าคู่นั้น มันเป็นไปไม่ได้ ในชีวิตนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว


“พ่อผมแค่เชิญพวกเขามาดื่มไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นเลย” หยิงคังซีอธิบายอย่างรวดเร็ว


หยิงจิงซานถอนหายใจยาว


“พ่อ ผมมีงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ ผม … “


“ฉันยกเลิกไปให้แล้ว ลูกควรพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เดี๋ยวคนที่ทำร้ายลูกก็จะถูกจับแล้ว” หลังจากพูดจบหยิงจิงซานก็จากไป เขารู้สึกอารมณ์เสีย


ยกเลิก! ฉันจะยกเลิกได้อย่างไร! ! ! ถ้าอย่างนั้นทุกคนจะไม่หัวเราะฉันงั้นเหรอ!


หัวเราะให้นกพิราบดีกว่าที่จะถูกหัวเราะเยาะว่าคุณเหมือนพ่อตา


หยิงจิงซานคิดอย่างง่าย ๆ เรื่องนี้จะต้องไม่ถูกส่งต่อไป หากจำเป็นคังเอ่อร์ก็ไม่ต้องออกไปไหนอีกในชีวิตนี้ ตระกูลหยิงทนรับการเสียหน้าครั้งนี้ไม่ได้


แต่นี่เป็นไปไม่ได้ ที่ตระกูลหยิงเสียหน้า!


“นายน้อย … ” หลิวปี้ทักขึ้นด้วยความกังวล


หยิงคังซีไม่ได้ไม่มีตาเขาไม่โง่! ความหมายของพ่อก็ชัดเจนหากคุณเป็นขันทีไปแล้วคุณก็ไม่สามารถแต่งงานกับจักรพรรดินีได้!


เขาระวังไม่ได้แจ้งเตือนก่อนออกแอบไปเมื่อคืนนี้ ดังนั้น! มันคงต้องถูกค้นพบโดยใครสักคนและพี่ใหญ่เป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด!


เมื่อคิดถึงการแสดงออกของพี่ใหญ่ในตอนเช้า ดูเหมือนว่าหยิงคังซีจะเข้าใจถูกแล้วเขาคิดอย่างเงียบ ๆ “ถ้าฉันไม่ได้ นายก็อย่าได้แม้แต่จะหวังถึงมัน!!!”


หลิวปี้รู้สึกเป็นกังวลเมื่อเขามองเห็นดวงตาเย็นชาของนายน้อย


ในโรงแรมสามฤดู ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ อาบน้ำจนสะอาดและมีกลิ่นหอมแล้วจากนั้นก็ใส่ชุดนอนน่ารัก มันดีมากที่เห็นการระเบิด เป็นเรื่องปกติที่หยิงคังซีจะมีความคิดเช่นนั้น แม้ว่าหยิงคังซีจะไม่ชวนพวกเธอก็ยังคงมีคนอื่น ๆ ที่มาเชื้อเชิญพวกเธออยู่ดีและตอนจบก็คงจะคล้าย ๆ กัน ทำได้เพียงโทษทีหยิงคังซีโชคร้ายเกินไปที่ถูกลิขิตให้เป็นชายของจักรพรรดินี


“จีจี้ เธอเป็นฉลาดจริง ๆ” ชิงหยูตงบีบใบหน้าเล็ก ๆ ของเย่จีจี้ เมื่อเธอเห็นเย่จีจี้เล่นกับไฟแช็กเธอก็พลิกแก้วเทไวน์ลงไป และในไม่ช้าเย่จีจี้คิดตามทันและก็เขย่ามือเล็กน้อย แล้วปล่อยให้ไฟแช็กร่วงลงไป


ผู้ทำลายสองคนอยู่ด้วยกัน คงจะสามารถจินตนาการได้


นี่คือเหตุผลที่เย่ฮัวไม่ต้องการให้เย่จีจี้อยู่กับชิงหยูตง สำหรับเย่จีจี้นี่เป็นเพียงกุมารเวชศาสตร์


เย่จีจี้โชว์ลักยิ้มที่น่ารักสองข้าง “อืม ~ จีจี้เบื่อเขานานแล้วและต้องการเผาเขาด้วยไฟ”


“พระเจ้า จีจี้เธอช่างรุนแรงเหลือเกิน นี้ไม่ดีเลยนะเป็นผู้หญิงต้องฉลาด” ชิงหยูตงสอนอย่างระมัดระวัง


“พี่สาวชิง จีจี้เรียนรู้จากคุณ การก้าวแบบคุณช่างสดชื่น “


“······”


ชิงหยูตงยักคิ้วของเธอ


เย่จีจี้เข้าใจได้ในทันที


เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองคนจะไม่เปิดคอมพิวเตอร์และกินไก่ก่อนเข้านอน


อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งสองเริ่มกินไก่นักฆ่าที่ถูกส่งมาโดยตระกูลหยิงก็ได้มาถึงแล้ว!



GG: บทที่ 177 – ชีวิตพวกคุณนี้ยุ่งวุ่นวายจริง ๆ


ชายคนนั้นอยู่ในชุดสีดำที่ทำให้ซ่อนตัวได้ดีในตอนกลางคืน นักฆ่าอย่างเขาไม่จำเป็นต้องแอบเข้ามาเพียงแค่บินขึ้นแล้วเดินผ่านหน้าต่าง


งานนี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดาสองคนมันง่ายเกินไป เขาลอยขึ้นมาอยู่เงียบ ๆ บนระเบียง ชายในชุดดำหยิบกริชสั้น ๆ ออกมาและวางพิษลงบนมัน ฆ่าด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น!


เมื่อเข้ามาข้างใน ห้องข้างๆนั้นยังมีแสงสว่างอยู่ ชายในชุดดำก็เริ่มเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับยิ้มเยาะ แต่!


“จีจี้! มีใครบ้างคนอยู่นอกหน้าต่าง!” ชิงหยูตงที่สวมหูฟังตะโกนขึ้น


ชายในชุดดำที่อยู่ข้างนอกรู้สึกตกใจในทันที พวกเธอค้นพบตัวเขาได้อย่างไร ข้อมูลบอกว่าแค่คนธรรมดาสองคนไม่ใช่เหรอ!


เย่จีจี้จัดการกับตัวละครและตะโกนว่า “ฉันได้ยินมานานแล้ว ดูสิว่าฉันจะฆ่าคุณอย่างไรดี!”


ชายในชุดดำหน้าซีดด้วยความกลัวและหมอบลงกับระเบียงในทันที


เมื่อได้ฟังชิงหยูตงก็กล่าวขึ้นเบา ๆ “ คุณคิดว่าฉันจะไม่เห็นคุณ เมื่อคุณหมอบลงงั้นเหรอ!”


ชายในชุดดำกำลังจะบ้า! เขายังไม่พบเป้าหมาย แต่เป้าหมายพบเขาแล้ว!


สิ่งที่นักฆ่ากังวลมากที่สุด นั่นคือการถูกเปิดเผยตัวตน!


หลังจากรออยู่ครู่หนึ่งชายในชุดดำก็สงบลงอีกครั้ง มันเป็นไปได้ไหมที่จะเป็นภาพลวงตา? มันคงจะเป็นเพียงแค่ภาพหลอนหูแว่ว พวกเธอจะค้นพบเขาไปได้อย่างไร


เขาแอบเข้าไปในห้อง ไฟนั่งเล่นและห้องนอนสว่างอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะอยู่ข้างในนั้น


ชายในชุดดำเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและเลียใบมีดโดยไม่รู้ตัว


ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ …


ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับพิษ! แม่เจ้าโว้ย! ฉันหลุดความสนใจจนพึ่งเลียยาพิษไป!


ชายในชุดดำหยิบยาแก้พิษออกมาดื่มลงไปในทันที เขาถอนหายใจแล้วตรงไปที่ห้องนอนอีกครั้ง


“ มีฝีเท้า!” ชิงหยูตงตะโกนดังขึ้นอีก


ชายในชุดดำเอนตัวพิงกำแพง มันเหลือเชื่อมาก เขาเดินเบาจนแทบจะไม่เกิดเสียงฝีเท้าแต่พวกเธอกลับได้ยิน


เย่จีจี้หัวเราะเสียงดัง “พี่สาวชิง เราหยุดคนโง่ได้แล้ว”


สีหน้าชายในชุดดำเปลี่ยนไปในทันที นี่เป็นกับดัก! เขากำลังกระโจนเข้าไปในกับดักของคนอื่น!


“จีจี้ อย่าขยับ รอให้ฉันไปจัดการชายคนนี้ก่อน ในวันนี้หญิงคนนี้จะเป่าหัวเขาเอง!” เสียงของชิงหยูตงดังขึ้นอีกครั้ง แต่มันทำให้ชายในชุดดำกำลังกลัว เขาเข้ามาในกับดักของคนอื่นจริง ๆ ด้วย


ไม่! ตอนนี้งานนี้มันยากเกินไปแล้ว ฉันต้องโทรหาผู้ช่วยสองสามคน!


ชายในชุดดำก้าวเล็ก ๆ ออกไปและเตรียมพร้อมที่จะจากไป


“เขาอยากจะวิ่งหนีงั้นเหรอ! จีจี้จะเป่าหัวของเขาเอง! “


“ ดีมาก ~”


ชายในชุดดำไม่สามารถจัดการอะไรได้มากนักและพุ่งผ่านหน้าต่างออกไปโดยตรง มีกับดักมากมายในนั้น! ข้อมูลผิด! ต้องวางแผนใหม่!


ในห้องนอน ชิงหยูตงขมวดคิ้วมองไปที่เย่จีจี้ “จีจี้ ฉันเพิ่งได้ยินเสียงกระโดดชนหน้าต่าง”


เย่จีจี้มองชิงหยูตง “ดูเหมือนว่ามีบางคนกระโดดออกจากหน้าต่าง”


“ดูเหมือนว่ายังมีคนอยู่ในเมือง P นี้” ชิงหยูตงถอนหายใจออกมา


มุมปากของพวกเธอยกยิ้มอย่างชั่วร้าย เกมนี้มันสนุกจริง ๆ


ห้องอยู่ติดกันเป็นของเย่ฮัว เสียงของหน้าต่างที่แตกทำให้เย่ฮัวลืมตา เขาโบกมือเบา ๆ


ชายในชุดดำที่กำลังดีใจที่วิ่งหนีไปได้นั้น กำลังบินอยู่พร้อมกับร่างกายที่ค่อย ๆ หายไป มันเป็นวิธีตายที่ไม่เจ็บปวดนัก


ผู้หญิงในอ้อมแขนที่เขากอดไว้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ถูกปลุกให้ตื่น มุมปากของเย่ฮัวโค้งขึ้นเล็กน้อย


“เย่ฮัวบางคนกระโดดออกจากหน้าต่าง … มาเลย … ” ชิงหยาเลียปากของเธอ ดูเหมือนเธอจะกำลังฝันอยู่


เย่ฮัวส่ายหัวของเขาอย่างอดไม่ได้ ถ้าเธอฝันว่าได้เล่นเกมงั้นก็โชคดีที่มีตัวเขาอยู่ในนั้น


“เย่ฮัว ~ คุณโดนเฮดช็อตได้ยังไง ฉันจะช่วยคุณแก้แค้นเอง”


เย่ฮัว “…….”


ผู้หญิงโง่คนนี้ เขาอยากจะปลุกเธอขึ้นมาสั่งสอนจริง ๆ


ในตอนเช้าชิงหยาตื่นแต่เช้า เพราะวันนี้เป็นวันดีที่จะได้ถ่ายรูปแต่งงานเพียงแค่นึกถึงมันก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว


ชิงหยาเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอแล้วดึงเย่ฮัวขึ้นมาจากเตียง “เย่ฮัวลุกขึ้น”


“คุณกังวลเกินไปแล้ว ตอนนี้มันพึ่งจะหกโมงเอง!” เย่ฮัวกล่าวด้วยเสียงต่ำ


ชิงหยาแกว่งแขนของเย่ฮัว “ สามี ~ ฉันตื่นเต้นแล้ว ลุกขึ้นเร็วเข้า ~”


“ฉันทนคุณไม่ไหวแล้ว!!!” เย่ฮัวลุกขึ้นคว้าเอวของชิงหยามาแล้วจูบเธอในทันที


“พอใจแล้ว ก็ลุกขึ้นมาได้แล้ว ~” ชิงหยามองเย่ฮัว เขาเริ่มวุ่นวายกับเธอมากขึ้นในตอนเช้า แต่เธอก็ชอบเย่ฮัวในปัจจุบันซึ่งดีกว่าเมื่อก่อนมาก


เย่ฮัวถอนหายใจหลังจากล้างหน้า เขาก็พาชิงหยาไปเรียกอีกสองคน


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้เข้านอนตอนตีสี่ พวกเธอพึ่งจะหลับได้เพียงสองชั่วโมงเท่านั้นและก็ถูกปลุกขึ้นมา


“ทำไมหน้าต่างของห้องพวกเธอถึงแตกล่ะ?” ชิงหยาถามอย่างสงสัย


เย่จีจี้อยู่ในชุดนอนถือหมีและออกมาพร้อมกับตาที่ยังหลับอยู่


ชิงหยูตงสวมผ้าปิดตาและกอดผ้าห่มหลังจากที่พวกเธอออกมาพวกเธอก็ล้มตัวลงบนโซฟา และดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่ลุกขึ้นมาอีกแล้ว


เย่ฮัวไปที่หน้าต่างแล้วจุดบุหรี่ “ใครพยายามจะทำอะไรกับพวกเธอกัน? นี้มันน่าสนใจจริง ๆ”


ภายใต้กลวิธีต่าง ๆ ของชิงหยา ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ก็สวมเสื้อผ้าและออกมาในที่สุด เย่จีจี้ก็ยังคงราวกับเจ้าหญิงน้อยความแตกต่างก็คือวันนี้เธอถือหมีไว้


ในที่สุดชิงหยูตงกลับมาเป็นปกติ กระโปรงยาวสวมอยู่บนร่างของเธอ


อาหารเช้าของโรงแรมนั้นฟรี และเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ทุกอย่างอร่อยหมด


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ที่เห็นอาหารก็ฟื้นคืนชีพในทันที เย่ฮัวนั่งประจำทีและยังคงวางตัวเป็นเจ้านายต่อไป


บทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภรรยาของคุณคืออะไร? นั่นคือการหลับนอนในตอนกลางคืนและการรับใช้ระหว่างวัน ไม่อย่างนั้นจะมีภรรยาไปทำไม? นั่นจะไร้ความหมาย


ชิงหยายังคงรู้จักเย่ฮัวหรือไม่? ของเย่ฮัวมีโจ๊กหนึ่งชามกับโหยวเถียว โอเค


เย่ฮัวมองดูตรงหน้าเขาแล้วมองดูตรงหน้าอีกสามคน “ของฉันคืออะไร?”


“ลูกพี่ลูกน้องตัวใหญ่โง่จัง นี่คืออาหารเช้าไง” เย่จีจี้พูดพร้อมรอยยิ้ม


เย่ฮัวเหลือบมองทำให้เธอสะดุ้งทันที


ชิงหยาหัวเราะแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “โอเค โอเคฉันล้อเล่น คุณอยากกินอะไร เดี๋ยวฉันจะไปเอามาให้?”


“ช่างมันเถอะ ฉันไม่ได้อยากอาหารมากอะไร” เย่ฮัวพูดเบา ๆ แล้วเริ่มตักโจ๊กกินไปสองสามคำ


ชิงหยูตงมองไปรอบ ๆ โรงแรมยังคงเต็มไปด้วยผู้คน วันนี้มีไม่กี่คนที่หายไป


“พี่เขยคุณไม่คิดว่าวันนี้โรงแรมดูแปลก ๆ เหรอ?” ชิงหยูตงถามอย่างสงสัย


เย่ฮัวรู้สึกมานานแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร


ทันใดนั้นชายสองคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหลังพวกเย่ฮัวพร้อมอาหารเช้าก็กระซิบกระซาบกัน


“ฉันได้ยินมาว่างานเลี้ยงในวันนี้ถูกยกเลิก มันทำให้ฉันคงต้องรีบกลับไปที่การประชุมผู้ปกครองของลูกในวันนี้”


“ฉันไม่เหมือนกันฉันไม่ได้มีส่วนร่วมในความสูญเปล่าของกลุ่มเมื่อคืนนี้”


“มีข่างลือว่าลูกชายคนที่สองถูกทุบไข่ดังนั้นงานวันนี้จึงถูกยกเลิก”


“ จริง ๆ เหรอ ไม่ใช่ว่ามันถูกกุขึ้นมาหรอกนะ? ใครอิจฉาเขาเช่นนี้กัน?”


“ข่าวในโลกของผู้ฝึกตนบอกว่าคนที่ทำลูกชายสองคนนี้เป็นเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะสองคน”


“อา ชายที่ต้องการแต่งงานกับจักรพรรดินีก็ยังคงเป็นเช่นนี้!”


“ใช่ ไม่กลัวจักรพรรดินีจะเฉือดรึไง?”


เมื่อเย่ฮัวได้ยินว่าเป็นหญิงสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เขาก็มองเย่จีจี้และนึกถึงนักฆ่าเมื่อคืนนี้ ไม่ต้องพูดอะไรมากมายมันคงเป็นสองคนนี้แน่นอน


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้กินอาหารเช้าอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย



GG: บทที่ 178 – การกระตุ้นรอบทิศทาง


“วันนี้คุณมีกำหนดการอย่างไร?” เย่ฮัวถามเบา ๆ


ชิงหยาเช็ดปากที่เซ็กซี่ของเธอ “ฉันเพิ่งได้รับการติดต่อมา ในวันนี้เราจะถ่ายทำกันในสตูดิโอและพยายามทำให้มันเสร็จในวันเดียว วันพรุ่งนี้จะออกไปถ่ายกันนอกสถานที่ ส่วนวันนี้เธอสองคนก็ไปเที่ยวผักผ่อนแล้วกัน หยูตงดูแลจีจี้ด้วย “


“โอเค” ชิงหยูตงพยักหน้า อย่างจีจี้ยังต้องการคนดูแลอยู่อีกเหรอ?


ทันทีที่เย่จีจี้ได้ยินว่าเธอสามารถไปเที่ยวเล่นได้เธอก็ตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าคนที่เหยียบไปเมื่อวานนี้คงจะเป็นคนใหญ่คนโต เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เธอต้องการพูดคุยกับพี่สาวชิงเกี่ยวกับวิธีการรับมือ วิธีการเล่นที่สามารถฆ่าคนได้มันน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคิดเกี่ยวกับมันช่างน่าเสียดายที่มังกรกระดูกตัวใหญ่กับคนตะกละไม่ได้มาด้วยกัน


“วันนี้ทั้งวัน! แล้วยังพรุ่งนี้วันหนึ่ง! มันทำไม่ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงเหรอ?” เย่ฮัวรู้สึกเหลือเชื่อต้องใช้เวลาสองวันในการถ่ายภาพ!!! เวลาสองวันฉันสามารถดูพี่น้องน้ำเต้าช่วยคุณปู่ได้ตั้งหลายตอน


ชิงหยารู้ว่าเย่ฮัวนั้นใจร้อนเหมือนเด็ก ๆ “มันไม่นานหรอกคิดซะว่าแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าไม่กี่โหลและคุณยังสามารถอุ้มฉันได้ตลอดเวลานะ ~”


“นั่นมันแทบจะไม่ต่างกันเลย!”


ชิงหยาค่อนข้างปวดหัวสามีคนนี้เหนียวเกินไป มองดูสถานการณ์ที่เขาทำท่าว่าแทบจะทนนานถึง 24 ชั่วโมงไม่ได้ มันช่างน่ารักอย่างยิ่งโดยเฉพาะสีหน้าที่เคร่งขรึมของเขา


จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตงฮวงไป๋ลู่ได้ยินเสียงในใจของชิงหยา มันน่าตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะคิดเกี่ยวกับมัน


ชิงหยูตงเห็นว่ากินกันเสร็จหมดแล้วก็ดึงเย่จีจี้ขึ้นมาและกล่าวว่า “พวกเราอิ่มแล้ว กลับห้องไปนอนก่อนนะ”


“อย่าลืมเปลี่ยนกระจกมันอันตราย” ชิงหยากล่าวเตือน


“ได้”


“ลูกพี่ลูกน้องใหญ่ ๆ จีจี้จะไม่อยู่กับคุณแล้วนะ” เย่จีจี้จับมือหมีโบกและพูดด้วยรอยยิ้ม


เย่ฮัวเตือนไม่ให้เล่นมากเกินไป ชิงหยายิ้มเสี่ยวจีจี้น่ารักจริง ๆ (แย่มาก)


เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องยิ่งขึ้นเย่ฮัวจึงได้ติดต่อไปหาเว่ยชาง


“ได้ข้อมูลอะไรบ้าง?”


“นายเหนือหัว กรุณารอสักครู่นะครับ”


เว่ยชางติดต่อหาผู้วิเศษแห่งความตายทันที


“ได้ข้อมูลอะไรบ้าง”


ในตอนนี้ผู้วิเศษแห่งความตายไม่ได้อยู่ในสวนสาธารณะแต่เป็นโรงแรม แม้ว่ามันจะไม่หรูมากนักอย่างน้อยมันก็มีเตียง


“ครับ! ที่ซานย่าทางตอนใต้ดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ข้าน้อยคิดว่าข้าจะต้องสู้ ดังนั้นในตอนเช้าวันนี้จึงได้ออกเดินมา ตอนนี้ถึงครึ่งทางแล้วครับ!”


อย่างน้อยก็มีข้อมูล ฉันกลัวว่าจะไม่มี


เว่ยชางกล่าวว่า “ดี! ทำได้ดีมากจับตาดูต่อไป!”


“ได้ครับ! นายท่าน!”


ผู้วิเศษแห่งความตายมองไปที่ซุนฟางที่ยังหลับอยู่จากนั้นเขาก็เริ่มจดจ่อกับเกม มันเป็นเวลากว่าร้อยปีแล้วฉันไม่ได้คาดหวังเลยว่าข้อมูลดังกล่าวจะได้รับการชื่นชมจากนายท่าน มันดีจริง ๆ


เว่ยชางส่งข้อมูลกลับไปให้เย่ฮัวและเย่ฮัวก็ชื่นชมเขา ในที่สุดทุกอย่างเสร็จสิ้น แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการสืบสวนต่อไป


อย่างไรก็ตามเว่ยชางได้ออกคำสั่งให้กับผู้วิเศษแห่งความตายไปแล้ว


ผู้วิเศษแห่งความตายนอนอยู่บนเตียงก็ไม่มีปัญหากับมันแน่นอน แต่ตอนนี้เขากำลังอารมณ์เสีย …


“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ … ”


แปลบทผู้วิเศษแห่งความตาย : ‘เกมห่วยแตก มารดาเจ้าเถอะไม่เคยจะชนะเลย ฉันต้องการเงินเดิมพันของฉัน! ฉันจะถอนการติดตั้งออกและถอนตัวออกจากโลกของเกมแล้ว!’


เมื่อผู้วิเศษแห่งความตายพูดว่าจะถอนการติดตั้ง เขาก็ถอนการติดตั้งเกมจริง ๆ ความมุ่งมั่นนี้ช่างน่ากลัว!


เมื่อเปิดข่าวต่างประเทศผู้วิเศษแห่งความตายก็เริ่มอ่านมัน เขายังคงเป็นโครงกระดูกที่ใส่ใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้


ทันใดนั้นโฆษณาก็ดึงดูดผู้วิเศษแห่งความตาย


“สวัสดีทุกท่าน ฉันช่าช่าฮ่วย ฉันเล่นเป็นจำนวนมาก แต่เกมที่ชอบที่สุด! ฉันชอบเล่น ทันหว่านหลานเย่ว(Fun Blue Moon) ไวน์องุ่นส่องสว่าง อุปกรณ์ที่รีไซเคิลกลับมาได้ คุณสามารถทำเงินได้เมื่อคุณเข้าใช้บริการและมันไม่ใช่เพียงความฝันอีกต่อไป”

( 贪玩蓝月 – Fun Blue Moon เดิมชื่อ “Blue Moon Legend” เกมMMORPGของทางZhejiang Sheng Network Technology Co., Ltd. )


ผู้วิเศษแห่งความตายถูกดึงดูดโดยโฆษณาที่อยู่ตรงหน้าเขา ส่วนใหญ่เป็นเพราะประโยคที่กล่าวว่าสามารถสร้างรายได้จากเกมนี้ได้ เกมนี้มีสุดยอดมากเลยงั้นเหรอ?


ผู้วิเศษแห่งความตายที่เพิ่งสาบานว่าจะไม่เล่นเกมมือถือ ดาวน์โหลดเกมในทันทีมันรู้สึกดีทีเดียว เขารีบเติมไปก่อน 648 แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คืน มันเป็นเกมที่ไม่เลวควรจะกล่าวว่าเป็นเกมที่มีมโนธรรม ผู้วิเศษแห่งความตายเขากำลังมีความสุขมาก


ตัวละครที่เลือกนั้นแน่นอนว่าเป็นนักรบ ก่อนอื่นซื้ออุปกรณ์ทุกชนิดทำตามภารกิจแล้วล่าสังหารไปทุกด้าน ช่างรู้สึกดี


MD การตกปลาเป็นเพียงแค่ไก่เผ็ด เกมทันหว่านหลานเย่วนี้ช่างน่าสนใจ


“เกมอะไรน่ะ?” ซุนฟางที่ไม่รู้ว่าตื่นมาเมื่อไหร่ มองหน้าจอโทรศัพท์แล้วถามขึ้นในทันใด


“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ … ” แปลบทผู้วิเศษแห่งความตาย : ‘เกมที่สร้างรายได้!’


ซุนฟางมองไปที่มันทันใดนั้นเธอก็คิดบางอย่างขึ้นได้ ดูเหมือนว่านี้จะเป็นเกมต่อสู้ ชีวิตจริงฉันไม่สามารถฆ่าคุณได้ ไม่ใช่ว่าฉันยังคงฆ่าคุณในเกมได้หรอกเหรอ! เดี๋ยวก่อน ฉันก็จะเล่นด้วย!


ซุนฟางเอนกายลงบนเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดาวน์โหลดเกม เธอถามถึงบริเวณที่ผู้วิเศษแห่งความตายอยู่ จากนั้นแอบเข้าไปและเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมเขา


“ก๊อก ๆ ๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น


ผู้วิเศษแห่งความตายที่กำลังเล่นอย่างหนักเหลือบมองเปิดประตูออก


โตวฟูชิเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่น่าตื่นเต้นจากนั้นเขาก็ปกปิดใบหน้าของเขา ฉันยังคงเป็นเด็กมันดีสำหรับคุณจริงเหรอ?


ซุนฟางดูเหมือนจะมึนงงเอนพิงเตียงเล็กน้อยถามขึ้น “มีอะไรเหรอ?”


โตวฟูชิกล่าวอย่างจริงจัง “พี่สาว ฉันพึ่งคำนวณดวงชะตาและวันนี้เรามีโชค! “


ซุนฟางเพื่อเติมเงิน 648 หายไปแล้ว …


“โอ้ … “


เมื่อเห็นว่าทั้งสองบนเตียงไม่มีความตั้งใจที่จะลุกขึ้นมาฟัง โตวฟูชิเจ็บปวด


“พี่ชาย … พี่สาว ฉันไม่สามารถเลี้ยงคนชราสองคนได้ตลอดเวลา สักวันหนึ่งฉันจะไม่มีเงิน”


“ฮะ! ฮะ! ฮะ!” เสียงของนักรบดังออกมาจากลำโพง

โตวฟูชิค่อนข้างสิ้นหวัง พวกตัวดูดเลือดสองตัวนี้ …


“ถ้าคุณประสบความสำเร็จในวันนี้ พวกพี่จะไม่ต้องกังวลกับปัญหาการเติมเงินในอนาคตและบริการทั้งหมดนั้นจะไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว!”


แน่นอนว่าผู้วิเศษแห่งความตายและซุนฟางได้เงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อย


ผู้วิเศษแห่งความตายนึกถึงการบริการเต็มรูปแบบก่อน


ส่วนซุนฟางนึกถึงการกำจัดการบริการเต็มรูปแบบก่อน


เขาพิมพ์ลงบนโทรศัพท์มือถือ “ทำ!”


โตวฟูชิมีความสุขมากและรีบพูดว่า “ฉันได้ข่าวว่าวันนี้มีคนร่ำรวยมาจากทางเหนือ ฉันคิดว่ามันจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่ ๆ พี่ใหญ่การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ทรงพลังกำลังจะระเบิดออกมา ตราบใดที่คุณป้องกันมันได้ หลังจากนี้คุณก็ไม่มีอะไรจะต้องกังวลอีกแล้ว!”


ตราบใดที่ซุนฟางสามารถฆ่าโครงกระดูกที่อยู่ข้างตัวเธอได้ เธอก็จะสามารถทำอะไรก็ได้


“อ้าปากซะ” ซุนฟางกล่าวอย่างเฉยเมย


“อะไร?”


“อ้าปากของคุณซะ!”


โตวฟูชิไม่มีทางเลือกนอกจากอ้าปากของเขาออก ซุนฟางสะบัดมืของเธอโตวฟูชิเพียงรู้สึกว่ามีบางอย่างกลืนหายลงไปในคอของเขา


“คุณกลืนยาครึ่งตายไปแล้ว ถ้าคุณกล้าโกหกฉัน ฉันจะไม่รักษาให้คุณ!” ซุนฟางตะโกนอย่างเย็นชา กลิ่นอายของจักรพรรดิถูกปลดปล่อยออกมา


โตวฟูชิสาบานทันทีว่าเขาจะไม่โกหก


“ ออกไปแล้วรอ” ซุนฟางกล่าวเย็นชา


หลังจากที่โตวฟูชิออกไปซุนฟางก็เอาขนม Maltesers ออกมาจากใต้ผ้าห่มและกินมัน อืม รสชาติก็ไม่เลว


“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ … ” แปลบทผู้วิเศษแห่งความตาย : ‘ช่วงเวลาของโชคในการทำงาน ช่างสว่างไสวเสียจริง’


ซุนฟางจ้องมองผู้วิเศษแห่งความตาย “เลิกมัวแต่ผายลม แล้วรีบทำงานได้แล้ว!”


หลังจากพูดจบแล้วเธอก็ลุกจากเตียงแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอไม่ได้หลบจากสายตกของผู้วิเศษแห่งความตาย ผู้วิเศษแห่งความตายก็หันหน้าหนีเธอในทันที ผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ถึงกับกล้าล่อลวงเขาตอนกลางวันแสก ๆ


แม้ว่าฉันจะเป็นเพียงโครงกระดูกแต่ฉันก็ได้ฝึกฝนความเร็วของมือและฉันสามารถเขย่าได้เฉลี่ย 100 ครั้งต่อวินาที! สามารถควบคุมความลึกและกระตุ้นได้รอบทิศทาง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่สามารถทนมันได้


ซุนฟางแต่งตัวและหันไปเห็นผู้วิเศษแห่งความตายที่มองออกไปนอกหน้าต่างและฮัมเพลง


หากผู้วิเศษแห่งความตายมีผิวใบหน้า ในตอนนี้เขาก็คงจะดูเป็นคนขี้อาย



GG: บทที่ 179 – ปล้น!


ทั้งสามคนเดินออกจากโรงแรมสามัญนี้และวิ่งไปที่ชานเมือง ตอนนี้ผู้วิเศษแห่งความตายรู้แล้วว่าควรสวมหน้ากากและถุงมือเมื่อเขาออกไปข้างนอก อันที่จริงแล้วซุนฟางเป็นคนจัดเตรียมไว้ให้เขาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น


คนขับรถของDidiรู้สึกกังวลเล็กน้อยสามคนนี้แปลกมาก ชายหนุ่มทางมือขวาเหมือนว่าจะกำลังคำนวณอะไรบางอย่างอยู่ แต่มันก็ดูราวกับว่าเขาเป็นตะคริวและสีหน้าของเขาก็ดูไม่ค่อยดีนัก

(Didi – แอพใช้เรียกรถtaxiของจีน)


ที่นั่งอยู่ด้านหลังมีคนในเสื้อคลุมสีดำสวมหน้ากากกำลังเล่นเกมมือถือ เสียงดังมากบางครั้งก็ส่งเสียงแปลก ๆ น่าขนลุกออกมา


เฉพาะผู้หญิงคนนี้ที่ดูสวยงามมากเหมือนนางฟ้าคนนี้ที่ดูปกติ


แต่หลังจากที่เธอขึ้นรถเธอก็เล่นโทรศัพท์มือถือด้วยเช่นกัน ฟังจากเสียงของเกมดูเหมือนว่าเธอกำลังเล่นเกมเดียวกันกับคนเสื้อคลุมดำ นั้นเกมทันหว่านหลานเย่ว(Fun Blue Moon)รึเปล่าน่ะ?


รถขับออกมาไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ คนขับรถเหงื่อออกเต็มหน้าผาก ฉันไม่น่ารับพวกเขามาเลย!


“หยุด!” โตวฟูชิตะโกนขึ้นในทันใด


คนขับรถเบรกรถอย่างกะทันหันและทั้งสองด้านหลังก็หัวกระแทกเข้ากับหลังเบาะของเขา


แต่ซุนฟางไม่สนใจ เธอดึงเสื้อคลุมของผู้วิเศษแห่งความตาย “เอามาให้ฉัน2000”


ซุนฟางไม่มีเงินสำหรับเติมเงิน แล้วเธอจะไปฆ่าเขาได้อย่างไร


ผู้วิเศษแห่งความตายไม่ใช่คนขี้เหนียว เขาให้เธอไปเลย4000 อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงต้องสร้างโชคลาภต่อไป


เมื่อทั้งสามออกจากรถ คนขับก็เหยียบคันเร่งและจากไปทันที เขาไม่ต้องการจะเจอทั้งสามคนอีกแล้ว


โตวฟูชิหยิบเข็มทิศออกมาแล้วพูดด้วยเสียงต่ำว่า “มองหามังกรจะต้องมองไปที่ภูเขาที่คดเคี้ยวเส้นทางที่ซับซ้อนนั้นเป็นอุปสรรค์ ถ้าที่ไหนมีประตูที่ถูกปิดด้วยกุญแจนับพัน ที่นั้นจะต้องมีที่พำนักของกษัตริย์อยู่แน่!”


ผู้วิเศษแห่งความตายไม่ค่อยเข้าใจมัน


ซุนฟางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นและถามว่า “คุณไม่ได้มองหาสุสานหรอกหรือ? มันเกี่ยวข้องกับการปล้นครั้งนี้ยังไง?”


โตวฟูชิยิ้มและหัวเราะ “โอ้ พี่สาว กลยุทธ์นี้ของฉันเปลี่ยนได้มากจนสามารถไปใช้กับคาสิโนได้”


“คุณไม่ใช่นักจับผีเหรอ?” ซุนฟางหัวเราะและเล่นเกมต่อไป


“พี่สาว ทุกวันนี้มันอยู่ไม่ง่ายเลยนะ นอกจากการจับผีฉันยังต้องหารายได้พิเศษอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการไปที่สุสานและขายเครื่องประดับทอง เงิน หรืออะไรก็ได้ ที่ทำเงินได้” โตวฟูชิถอนหายใจ ให้ตายเถอะ ในนวนิยายมีแต่เรื่องหลอกลวง จะไปมีหลุมศพมากมายได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะขุดสุสานมาสักพักแล้วก็ยังไม่เจอสุสานถล่มเลย เขาต้องการปราบผีบางตัวในหลุมฝังศพแต่มันก็ไม่เห็นมีแม้แต่เงาของผีที่คุณบอกว่าจะออกมาด้วยความโกรธเลยสักตัว


ซุนฟางได้รับเงินโอนจากผู้วิเศษแห่งความตาย เจ้ากระดูกนี้ช่างใจกว้างฉันไม่คิดว่าจะได้จากเขาตั้ง 4000 ถ้วน เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่!


ทั้งสามคนเดินต่อไปเรื่อย ๆ โตวฟูชิยกเข็มทิศและก็ตะโกนขึ้น “ที่นี่ไง!”


ผู้วิเศษแห่งความตายกับซุนฟางมองไปรอบ ๆ ที่นี่มันอะไร? โรงงานร้าง?


“คุณพาเรามาทำอะไรที่นี่? มีทองอยู่ที่ใต้ดินเหรอ?” ซุนฟางถามเสียงเบา


โตวฟูชิชี้นิ้วขึ้นมาและส่ายมันเบาๆ “พี่สาวมันไม่มีทองคำที่ใต้ดินหรอก แต่มีทองคำอยู่บนท้องฟ้า!”


ผู้วิเศษแห่งความตายวางโทรศัพท์แล้วพูดว่า “เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ ~ ” แปลบทผู้วิเศษแห่งความตาย : ‘น่าสนใจ!’


ซุนฟางรู้สึกเหมือนใบหน้าของเธอถูกเหยียดหยาม


ปัง!


โตวฟูชิมองไปที่พี่ชายและพี่สาวของเขาที่รีบขึ้นไปบนฟ้าแล้วตะโกนเสียงดัง พี่ชาย! พี่สาว พาน้องชายคนนี้ขึ้นด้วยที ฉันบินไม่ได้!”


ผู้วิเศษแห่งความตายและซุนฟางพุ่งขึ้นไปบนฟ้า จ้องมองความว่างเปล่าตรงหน้าพวกเขา


ทันใดนั้นเคียวแห่งความตายก็ปรากฏขึ้นในมือเขา มือของซุนฟางก็ขยับเล็กน้อยดาบทองคำม่วงก็มาอยู่ในมือของเธอ


“ใครกันที่กล้ามาขว้าง !”


คนห้าสิบคนในเสื้อคลุมสีแดงปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันกลางความว่างเปล่า สามสิบคนกำลังถือกล่องที่ทำจากไม้มะฮอกกานีคุณภาพสูง ไม่ต้องคิดเลยว่าสิ่งที่อยู่ภายในมันคืออะไร


อีกยี่สิบคนเป็นทหารยามและเมื่อพวกเขาเห็นคนเสื้อคลุมดำกับผู้หญิงปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็ชักดาบออกมาทันที


แต่อย่าประมาทสามสิบคนนั้น พวกเขาวางกล่องสินสอดของขวัญไว้บนบ่าแล้วดึงอาวุธออกมา


เมื่อได้ยินชื่อของอีกฝ่าย แน่นอนว่าซุนฟางที่เป็นผู้รอบรู้นั้นย่อมทราบถึงตัวตนของความว่างเปล่าไร้อาณาเขต และการลงมือข้ามหัวพวกเขานั้นไม่ต่างไปจากการหาเรื่องไปตาย


อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คาดคิดว่าคนที่พวกเธอจะมาปล้นจะเป็นพวกเขา!


แต่มันจะไปสำคัญอะไร? เธอหวังว่าพวกความว่างเปล่าไร้อาณาเขตนี้จะมีความสามารถอยู่บ้าง ปล้นสินค้าของพวกเขา จากนั้นก็ส่งคนที่แข็งแกร่งกว่านี้มาเพื่อฆ่าเธอกับผู้วิเศษแห่งความตายซะ และเขาก็จะได้ไม่ว่างมาจับตาเธอ


ผู้วิเศษแห่งความตายหยิบโทรศัพท์แล้วพิมพ์ จากนั้นตัวอักษรสีสันสดใสที่เคลื่อนไหวได้ก็โผล่ขึ้น “ปล้น!”


อย่างไรก็ตามซุนฟางนั้นเร็วกว่า เธอเข้าไปและลงมือแล้ว!


ท่าทางนี้ดูราวกับหมาป่าพุ่งเข้าฝูงแกะ ซุนฟางนั้นก็ยังคงเป็นผู้ฝึกตนคนหนึ่ง ในสถานการณ์ปัจจุบันระดับความแข็งแกร่งของเธอนั้นสามารถสู้กับเสี่ยวยี่ได้อย่างเท่าเทียม และหากเธอมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณเธอก็สามารถเหนือกว่าเขาได้ไม่ยาก บางทีเธอก็อาจจะสามารถชนะเขาได้


อย่างไรก็ตามผู้วิเศษแห่งความตายมีความสามารถในการฆ่าเสี่ยวยี่ ช่องว่างของความต่างนั้นยังคงมีอยู่


เมื่อมองดูซุนฟางร่ายรำท่ามกลางฝูงชน เลือดสาด แขนขาขาดกระเด็น ผู้วิเศษแห่งความตายสับสนไปเล็กน้อย ในทันใดนั้นผู้หญิงคนนี้ก็ดูงดงามขึ้นมาทันตา โดยเฉพาะเลือดของศัตรูที่ติดอยู่บนแก้มสีขาวและดวงตาที่ไร้มนุษยธรรมของเธอ ดึงดูดมาก!


โตวฟูชิที่ไม่ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้านบนท้องฟ้าและรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่ด้านล่าง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองก็สังเกตุเห็นจุดสีดำปรากฏขึ้น


โตวฟูชิขมวดคิ้วจุดดำนั้นคืออะไร? เมื่อจุดสีดำเข้ามาใกล้โตวฟูชิก็ตกตะลึง มันคือแขนที่ขาดออก!


เขาหลบจากมันในทันที จากนั้นก็มีแขน ขาที่ขาดร่วงลงมาจากท้องฟ้าเพิ่มอีก โตวฟูชิซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งและสั่นเทาด้วยความกลัว คู่รักคู่นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว


ในพริบตามีเพียง10คนเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่จากทั้งหมด50คน หัวใจของซุนฟางนั้นเต้นเร็วมาก ความหดหู่ใจในใจกระจายหายไป ตอนนี้เธอรู้สึกสบายตัวมากขึ้น


“คุณกล้ามากที่มาปล้นของจากความว่างเปล่าไร้อาณาเขตและยังฆ่าคนของความว่างเปล่าไร้อาณาเขตอีก เตรียมรอรับความหายนะได้เลย!” ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นเสียงดังแล้วพยักหน้ากับคนอื่น ๆ พวกเขาแยกย้ายกันจากไปและกลับไปรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที


ซุนฟางสะบัดมือของเธอ ดาบทองคำม่วงแปรเป็นลำแสงรุ้งเจาะทะลุร่างกายของเขา แต่ยังมีอีกหลายคนทีเธอไม่สามารถฆ่าได้ทันก่อนพวกเขาจะจากไป


ผู้วิเศษแห่งความตายดูถูกเหยียดหยาม ความว่างเปล่าไร้อาณาเขตบ้าบออะไร นายท่านของข้าสามารถทำลายพวกเจ้าได้ด้วยมือเดียวและนายเหนือหัวของข้าสามารถทำลายพวกเจ้าได้ด้วยประโยคเดียว


และฉัน!


“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ ~ ” แปลบทผู้วิเศษแห่งความตาย : ‘หนวดทมิฬ!’


หนวดเส้นใหญ่กลมและหนานับไม่ถ้วนโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าโจมตีไปทุกทิศทาง ทักษะนี้แม้แต่เสี่ยวยี่ก็ยังกลัวและเลือกที่จะหลีกหนี


เมื่อเผชิญกับผู้วิเศษแห่งความตาย เหล่าคนจาก ผุ้คนจากความว่างเปล่าไร้อาณาเขตไม่สามารถสู้กลับได้เลยแม้แต่น้อย ในที่สุดร่างกายของพวกเขาถูกแทงและก็ถูกหนวดกลืนกิน หนวดนี้ดูเหมือนกับเว่ยชางมาก


นี้เป็นครั้งแรกที่ซุนฟางได้เห็นผู้วิเศษแห่งความตายใช้ทักษะของเขา เธอคิดว่าท้ายที่สุดหากเธอลงมือแต่ไม่เร็วพอ เธอก็จะจบลงเหมือนพวกเขา


เจ้าโครงกระดูกบัดซบนี้ แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไรกัน!!!


หนวดทมิฬถูกเรียกกลับมา ผู้วิเศษแห่งความตายมองไปที่ซุนฟาง เขาต้องการจะถามเธอว่าคุณกลัวหนวดมากมายนี้ไหม! คิดถึงผลที่จะตามมาซะ!


ด้วยมืออันใหญ่ ของขวัญ15กล่องในอากาศก็ตามมาหาผู้วิเศษแห่งความตาย ซุนฟางถอนหายใจและตามเขาไป


เมื่อโตวฟูชิเห็นพวกเขาก็วิ่งเข้าไปทันที “พี่ชายพี่สาว พวกคุณมันสุดยอดเกินไปแล้ว!”


หลังจากพูดจบเขาก็เปิดกล่องของขวัญหมั้น ดวงตาของโตวฟูชิเปล่งประกายจากแสงสะท้อนของทองคำ “ทองคำจำนวนมาก! พระเจ้า! สมบัติมากมายมีแต่ของมีค่าทั้งนั้นเลย เกราะนี้ อาวุธนี้ สวรรค์! นี้มันอะไร คุณพระ! แม่เจ้าโว้ย มีสิ่งประดิษฐ์โบราณด้วย!”



GG: บทที่ 180 – ทำให้เขาเสียใจ


เมื่อได้เห็นสิ่งประดิษฐ์โบราณในกล่องสุดท้าย โตวฟูชิรู้สึกหวาดกลัวจนถอยกลับไปสองสามก้าว มันก็โอเคถ้าจะบอกว่ามันเป็นทองคำแต่ยิ่งเขาดูมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตกใจมากเท่านั้น ถึงกับมีความมั่งคั่งมากมายเช่นนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!


ซุนฟางเดินไปที่กล่องสุดท้ายและมองดูมัน ที่ข้างในมีพัดขนนกอยู่เธอหยิบมันขึ้นมาไว้ในมือแล้วเดินไปที่โรงงานร้าง!


บูม!


โรงงานทั้งหลังถูกพัดลอยขึ้น! โตวฟูชิมองอย่างตะลึงงัน …


เมื่อซุนฟางปรากฏตัวกลับมา โรงงานที่ลอยขึ้นจากพื้นดินก็ร่วงลงในทันทีทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว


ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายหายไป โรงงานทั้งหลังก็กลายเป็น “ขนมปังกรอบ” แผ่นบาง ๆ


“มันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ ใบพัดแห่งพระเจ้า!” ซุนฟางกล่าวเรียบ ๆ


โตวฟูชิกลัวจนล้มนั่งลงบนพื้นดิน และพึมพำถามว่า “คุณไปขโมยใครมากันแน่?”


“พวกความว่างเปล่าไร้อาณาเขต” ซุนฟางสะบัดใบพัดแห่งพระเจ้าในมือของเธอเบา ๆ สะดวกสบายเหมาะมือมาก


โตวฟูชิสับสน เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อนี้มาก่อน


“ยักษ์ใหญ่เหนือตระกูลชั้นสูง” ซุนฟางเพิ่มรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ


อ๊ะ!!!


โตวฟูชิรู้สึกหัวหมุนอย่างแรง ‘ยักษ์ใหญ่เหนือตระกูล’ฉันพึ่งได้ยินคำว่ายักษ์ใหญ่เหนือตระกูลไป พวกเขาพึ่งปล้นยักษ์ใหญ่เหนือตระกูลชั้นสูงไป มันจบแล้ว! ฆ่าฉันให้ตายทีเถอะ บางทีตายตอนนี้อาจจะเจ็บปวดน้อยกว่าหลังจากนี้ก็ได้


ทันใดนั้น! สายตาของซุนฟางก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอโบกใบพัดแห่งพระเจ้าในมือของเธอไปทางผู้วิเศษแห่งความตาย


พายุเฮอริเคนพัดโหมกระหน่ำเข้าโจมตีอย่างรุนแรงโตวฟูชิตกตะลึง สถานการณ์ระหว่างคนสองคนนี้ในตอนนี้มันอะไรกัน พวกเขาเพิ่งรวมกำลังกันเพื่อปล้นไปหมาด ๆ หรือจะเพราะพี่สาวจะต้องการการละเว้นโทษ? ดังนั้นเธอเลยจะฆ่าพี่ใหญ่สินะ แต่ทำไมคุณไม่ฆ่าตัวเองล่ะ?


หรือว่า!!!


เป็นไปได้ไหมที่คุณเห็นค่าความงามของตัวเอง คุณเลยจะฆ่าพี่ใหญ่เพื่อจะปลดปล่อยตัวเองไป!


พระเจ้า พี่สาว คุณเป็นผู้หญิงที่เป็นคนจริงซะจริง ฉันไม่อยากจะยอมรับความรักของคุณเลย


เมื่อมองดูผู้วิเศษแห่งความตายกลายเป็นดาวตกลอยกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า ในที่สุดริมฝีปากบนใบหน้าของซุนฟางก็ปรากฏมุมโค้งเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วิมันก็หายไป


เพราะมือโครงกระดูกพันรอบเอวของเธออีกครั้งและใบหน้ากะโหลกนั้นก็กำลังใกล้เข้ามา เธอไม่ได้คาดคิดว่าแม้แต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย! ทำเธออยากจะเป็นลมจริง ๆ


แต่ครั้งนี้ฉันไม่สามารถเป็นลมได้ แม้กระทั่งริมฝีปากก็ยังรู้สึก … ฉันอยากตาย …


โตวฟูชิหันหน้าไปอีกทาง พี่ชายสุดยอดมากเกินไป ฉันตัดสินใจที่จะปฏิเสธความรักของพี่สาวและเดินตามรอยเท้าของพี่ชาย


พี่สาว พี่ชายทั้งหล่อและเก๋ไก๋ ลืมน้องชายคนนี้ไปเถอะ น้องชายไม่สามารถแบกความรักของคุณได้


เมื่อมองไปที่พี่สาวที่เกาะคอของพี่ชายดูเหมือนว่าพวกเขาจะจูบกัน ฉันที่เป็นเด็กยังอยู่ ๆ เลยนะ มันจะดีจริง ๆ เหรอ? คุณไม่ควรกังวลเกี่ยวกับการแก้แค้นจากคนพวกนั้นเหรอ? อย่างไรก็ตามมันเป็นการดีที่ได้เป็นคนดีและฉันไม่ควรกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากไป …


“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ ~” แปลบทผู้วิเศษแห่งความตาย : ‘รสชาติไม่เลว’


ซุนฟางโกรธและโกรธมากเธอถูกโครงกระดูกจูบหลายครั้ง ใช่เธอบอกว่าเธอโกรธ! เธอยกใบพัดแห่งพระเจ้าในมือของเธออีกครั้ง


แต่ผู้วิเศษแห่งความตายคว้าข้อมือของเธอไว้ก่อน จากนั้นพิมพ์ประโยคพูดขึ้นมา “พัดพัง ๆ อันนี้ใช้อะไรกับฉันไม่ได้หรอก คุณเพียงแค่เป็นภรรยาของฉันไปอย่างสบายใจก็พอ”


ภรรยา!!!


มารดาแกเถอะ ฉันไปกลายเป็นภรรยาของคุณเมื่อไหร่! เจ้าโครงกระดูกไร้ยางอาย!


แต่มองย้อนกลับไปดู มันจะมีประโยชน์มากกว่านี้หรือไม่ถ้าฉันเข้าใจเขามากยิ่งขึ้น เมื่อได้รู้ถึงจุดอ่อนของเขา ฉันก็จะสามารถฆ่าเขาได้การโจมตีครั้งเดียว!


ความคิดนี้ดูดี ฉันไม่ต่อต้านอะไรกับการเป็นภรรยาของเขาแล้ว


ผู้วิเศษแห่งความตายโบกมือของเขาเรียกกล่องของขวัญ 15 กล่องมาและตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้ เขาจะต้องเก็บสำเนาไว้ นายท่านคงจะต้องการส่งมอบมันต่อไปให้นายเหนือหัว อย่างไรเสียนายเหนือหัวก็ใส่ใจเกี่ยวกับลูกน้องของเขามาก แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะดูไม่ดีแต่มันก็เป็นการแสดงความเคารพต่อนายเหนือหัว


ตระกูลหยิง!


ในตอนนี้กลุ่มคนที่นำโดยหยิงจิงซานและที่ตามมาด้านหลังของเขาเป็นเหล่าคนในตระกูลหยิง ทุกคนออกมาจากประตูเมืองในชุดที่งดงามเพื่อเตรียมการต้อนรับ!


เป็นเรื่องหายากที่หยิงคังซีก็อยู่ในกลุ่มคนนี้ด้วยเช่นกัน ใบหน้าของเขาซีดดูอ่อนแรงและดูเหมือนคนชราเล็กน้อย หลิวปี้ที่ด้านข้างกำลังรออยู่ด้วยกันอย่างระมัดระวัง


“น้องชาย ถ้ารู้สึกไม่สบายก็กลับไปพักในบ้านได้นะ พี่จะทำแทนให้เอง” หยิงฮาวยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจของเขาไม่สบายใจนัก นักฆ่าที่ส่งไปเมื่อวานนี้ยังไม่กลับมา เป็นไปได้ว่าอาจจะมีอุบัติเหตุบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น


หยิงคังซีหัวเราะเยาะ “พี่ชายไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก ฉันจะทำสิ่งที่ฉันต้องทำเอง”


“แต่นายยังเป็นแบบนี้อยู่ นายจะทำได้อย่างไร?” หยิงฮาวพูดด้วยความเสียใจ จากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรและมองไกลออกไป


หยิงคังซีกำหมัดของเขาแน่น ความเกลียดชังที่ชั่วร้ายนี้ไม่ได้ถูกมุ่งเป้าไปหาคนอื่นเลย มันจะต้องเป็นฝีมือของคุณแน่!


ท่ามกลางกลุ่มคนในตอนนี้หยิงเจียงก็ก้าวออกมาช้า ๆ “พี่ชายมันผ่านมาแล้วทำไมยังไม่มีใครมาอีก?”


หยิงจิงซานมองไปยังที่ห่างไกลและพูดว่า “รอต่อไปก่อน”


หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงเหล่าคนตระกูลหยิงก็เริ่มใจร้อนนิดหน่อย นี้เป็นการพบปะกันครั้งใหญ่แต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นอีกฝ่ายแม้แต่เงา


“นี่มันรังแกเกินไปแล้ว! เกรงว่าจักรพรรดินีคงจะรู้แล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่เธอไม่แม้แต่จะมาไถ่ถามเลยด้วยซ้ำ! เธอไม่เห็นตระกูลหยิงอยู่ในสายตาเลยงั้นเหรอ!” หยิงชางอดที่จะต่อว่าออกมาไม่ได้


หยิงจิงซานขมวดคิ้วและกล่าวขึ้น “ฮาวเอ่อร์ ไปข้างนอกแล้วดูว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือไม่”


“ครับ!”


หยิงฮาวเร่งรีบออกไปพร้อมกับยามของเขาในทันที ผู้วิเศษแห่งความตายที่นั่งอยู่ที่โรงแรมรู้สึกบางอย่างถึงมัน แต่เขาไม่ได้ใส่ใจ เกมเป็นสิ่งสำคัญกว่า


ใช้เวลาไม่นานนัก ที่หยิงฮาวจะพบศพของคนจากความว่างเปล่าไร้อาณาเขต แต่มันเป็นเรื่องแย่มาก!


ใครกันกล้าที่จะทำให้การแต่งงานของทั้งสองเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น! นั่นถือเป็นการต่อต้าน อย่างไรก็ตามจุดจบของคนต่อต้านนั้นไม่ได้ดูดีเลย!


หยิงฮาวรีบกลับมาแจ้งข่าว หยิงจิงซานสูดหายใจเย็นเฉียบหลังจากได้ฟังรายงาน ลูกชายคนเล็กถูกทำร้าย ของขวัญถูกขโมย คนถูกฆ่าตาย เรื่องนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้องมีการสมรู้ร่วมคิดซ่อนอยู่เบื้องหลังแน่


ความว่างเปล่าไร้อาณาเขต


ในเวลานี้จักรพรรดินีตงฮวงไป๋ลู่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำม่วงและหารือกับชายชราแปดคนเรื่องเมื่อคืนนี้


“องค์จักรพรรดินี กระหม่อมไม่ได้คาดคิดว่าลูกชายคนที่สองของตระกูลหยิงจะเป็นคนแบบนี้ กระหม่อมพลาดเอง” หยวนเก่อคุกเข่าลงบนพื้นและพูดขึ้นอย่างละอายใจ


ซิงหานพูดด้วยเสียงต่ำ “องค์จักรพรรดินี ถึงแม้ลูกชายคนที่สองคนนี้จะมีบุคลิกที่แย่มาก แต่จากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่ามีใครบางคนต้องการทำลายการแต่งงาน!”


“ผู้ต้องสงสัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือตระกูลจี!” ชราหัวโล้นออกมาและพูดขึ้น ชื่อของเขาคือเห่อเซวียน


ตงฮวงไป๋ลู่ไม่ได้พูดอะไรและเธอไม่ได้กำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอแค่กำลังคิดถึงคำถามเมื่อวานนี้ของลูกสาวเธอ ดูเหมือนว่ามันจะทำให้ใจเธอเจ็บปวด


“แต่ตอนนี้ของขวัญทั้งหมดถูกส่งออกไปแล้วเราควรทำอย่างไรดี?” หยวนเก่อพูดอย่างกังวลใจ ราวกับจักรพรรดินีของเขาไม่สามารถหาผู้ชายมาแต่งงานกับเธอได้


ซิงหานอ้อนวอน “องค์จักรพรรดินี ลูกชายคนที่สองของตระกูลหยิงไม่สามารถมีทายาทได้แล้ว มีเพียงแต่ต้องเลือกคนอื่นแทนเท่านั้น ท่านเห็นเป็นเช่นไร?”


ตงฮวงไป๋ลู่พูดเบา ๆ “คุณจัดการไปเถอะ”


ทุกคนมีความสุขมาก ตอนนี้องค์จักรพรรดินีท่านโตแล้วและรู้ว่าอะไรสำคัญ!


ผิดแล้ว มันก็เพียงแค่หัวใจของตงฮวงไป๋ลู่ได้ตายไปแล้ว


หากบอกว่าไม่ได้คิดอะไรเลยเรื่องเมื่อสามปีที่ผ่านมา คงต้องบอกว่าโกหก ทุกครั้งที่เธอเห็นลูกสาวของเธอ เธอก็จะคิดถึงชายคนนั้น แต่เรื่องคราวนี้ไม่ใช่ความผิดพลาด ตามจริงคือตงฮวงไป๋ลู่ต้องการให้ชายผู้นั้นเสียใจ เสียใจในความโหดร้ายของเขา เสียใจที่ไม่ได้ลงมาชั้นล่างในตอนนั้น ฉันก็ผู้หญิงเหมือนกัน ทำไมคุณถึงรักผู้หญิงคนนั้นได้ แต่ทำไมคุณถึงไม่สนใจฉัน



GG: บทที่ 181 – หลบหนี


แก้แค้น! ตอนนี้จักรพรรดินีตงฮวงไป๋ลู่นั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะการแก้แค้น


อย่างไรก็ตามแผนการแก้แค้นเดิมของเธอคือปรากฏตัวอย่างสง่างามต่อหน้าชายคนนั้น ให้เขารู้ว่าในปีนั้นเขาได้พลาดผู้หญิงแบบไหนไป ผู้หญิงที่ทุกคนต้องการไง!


น่าเสียดายที่คุณพลาดไปแล้ว และอย่าแม้แต่จะคิดที่จะหวังอีกครั้ง!


ชายชราแปดคนในห้องโถงเริ่มโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ส่วนในหัวของตงฮวงไป๋ลู่ตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาของเย่ฮัว


“รายงาน !!!”


ยามรักษาการณ์วิ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่อย่างเร่งรีบ


“มีอะไร?” ตงฮวงไป๋ลู่ถามอย่างเย็นชา


“มีข่าวมาจากทางตระกูลหยิง สินสอดทองหมั้นที่ส่งไปให้ตระกูลหยิงนั้น … ” ยามรักษาการณ์กลัวที่จะพูดออกมา เพราะมันไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาก่อน


หยวนเก่อถามว่า “พวกเขาทำมันตกลงไปในน้ำอย่างนั้นเหรอ?”


ซิงหานถามอย่างสงสัย “รึมันพลัดร่วงลงไปในแม่น้ำ?”


เห่อเซวียนพูดไม่ออก “ระหว่างสองอย่างนั้นมันแตกต่างกันที่ตรงไหนรึ? ตระกูลหยิงอยู่ในทะเล ถ้ามันหล่นมันก็ต้องหล่นอยู่ที่ทะเลนั้นล่ะ”


หยวนเก่อกับซิงหานมองไปทางเห่อเซวียนในจังหวะเดียวกัน ยังกล้าถามแล้วที่คุณพูดมันต่างจากเราพูดที่ตรงไหนกัน?


“พวกมันถูกปล้น! ทุกคนถูกฆ่าตาย!”


หลังจากยามรักษาการณ์บอกความจริงทั้งวังก็เงียบลงในทันที เงียบจนแม้แต่เสียงเข็มที่หล่นลงพื้นก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน


ถึงกับกล้าที่จะปล้นความว่างเปล่าไร้อาณาเขตแล้วยังกล้าฆ่าทุกคนหลังจากปล้นอีก! ตบนี้ไม่เจ็บปวด แต่มันดังมาก!


ตงฮวงไป๋ลู่ปล่อยกลิ่นอายเย็นเฉียบราวกับว่าจะแช่อากาศในโถงในแข็งไปซะ


“มันเป็นฝีมือของใคร!”


ยามรักษาการณ์หวาดกลัวแรงกดดันของจักรพรรดินีอย่างรุนแรง “ ไม่…ไม่ทราบครับ”


หยวนเก่อกล่าวขึ้นในทันที “องค์จักรพรรดินีเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อคืนอย่างแน่ ตราบใดเราจับเด็กผู้หญิงทั้งสองคนนั้นได้ ความจริงทุกอย่างก็จะปรากฏออกมา!”


“จำไว้! ชื่อของจักรพรรดินีไม่สามารถถูกเหยียบย่ำใครได้!” ตงฮวงไป๋ลู่ตะโกนด้วยโทนเสียงต่ำที่สุดที่ผู้หญิงนั้นมี


“ครับ!” ชายชราแปดคนตะโกนพร้อมกัน


ในขณะที่ชายชราแปดคนกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอกหญิงสาวคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ


เมื่อได้เห็นสาวใช้ที่เข้ามาตงฮวงไป๋ลู่ก็ขมวดคิ้วของเธอ


“สาวใช้กราบถวายบังคมองค์จักรพรรดินี”


ตงฮวงไป๋ลู่ความรู้สึกลางไม่ดีนัก “เกิดอะไรขึ้น?”


“องค์หญิง … “


“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ!” ดวงตาที่สวยงามของตงฮวงไป๋ลู่เบิกกว้าง กลิ่นอายอันทรงพลังกระจายออกมาจากเธออย่างบ้าคลั่ง ทั้งวังกำลังสั่นคลอน! กลิ่นอายของเธอในยามนี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก!


“องค์หญิงทรงหายตัวไปเพคะ”


ตงฮวงไป๋ลู่กำหมัดของเธอไว้แน่นและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “หยุดทุกอย่าง! แล้วไปพาตัวอาหลี่กลับมาให้ฉันซะ!”


หยวนเก่อรีบพูดขึ้น “องค์จักรพรรดินี องค์หญิงน้อยคงทรงแกล้งเล่นซ่อนแอบอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นแน่ กระหม่อมจะสั่งให้ใครบางคนไปหาเธอเองพะยะค่ะ”


มือที่มองไม่เห็นคว้าคอของหยวนเก่อในทันทีและยกให้ร่างของเขาลอยค้างอยู่กลางอากาศ


“ฉันจะพูดอีกครั้ง! ทุกคน! ทุกคนไปพาตัวอาหลี่กลับมาให้ฉัน! ใครกล้าขัดคำสั่ง มันผู้นั้นต้องถูกตัดหัว!” คิ้วระหงส์ของตงฮวงไป๋ลู่ขมวดแน่น ริมฝีปากที่บอบบางสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาสวยงามทอประกายรุนแรงราวกับเปลวเพลิง


อาหลี่เป็นราวกับเนื้อเลือดของเธอ หากไม่มีอาหลี่เธอก็ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้อีก!


เธอสะบัดมือส่งร่างของหยวนเก่อพุ่งดุจลูกปืนใหญ่ไปชนเข้ากับกำแพงด้านข้างของวัง


“พวกคุณฟังฉันไว้ให้ดี! บางสิ่งบางเรื่องมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกคุณ!” ตงฮวงไป๋ลู่ถอนหายใจเบา ๆ ร่างของเธอหายไปและปรากกขึ้นอีกครั้งในลานบ้านลูกสาวของเธอ


ชายชราที่เหลืออีกเจ็ดคนไม่กล้าพูดอะไร ความโกรธของจักรพรรดินีทำให้ทุกคนตกตะลึง ทั้งยังทำให้พวกเขาให้ตื่นขึ้น ท้ายที่สุดคุณก็เป็นแค่ผู้ใต้บังคับบัญชา! อย่าลืมตัวตนของคุณ!


ในตอนนี้ตงฮวงหลี่ออกมาจากความว่างเปล่าไร้อาณาเขตแล้ว ดินแดนแห่งผืนทรายสีเหลืองที่ปรากฏอยู่ด้านนอก


ดวงอาทิตย์แผดเผา ร่างเล็ก ๆ ที่เดินอยู่อย่างเงียบ ๆ ถอนหายใจขณะที่ขว้างก้อนกรวด “อาหลี่หายไปแล้วแม่ก็คงจะมีความสุขแล้ว … “


หลังจากเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเธอ ตงฮวงหลี่ก็เงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ “ร้อนจัง … ถ้าฝนตกตอนนี้ได้ … “


ครืนนน …


ฟ้าร้องส่งเสียงดังก้องหลายพันไมล์กลางท้องฟ้าแจ่มใส! ทันใดนั้นเมฆอันมืดครึ้มก็ปรากฏและพายุฝนก็สาดเทลงมาในทันที


ตงฮวงหลี่ตกตะลึงและรู้สึกเวียนหัวไปครู่หนึ่ง เธอรีบหลับตาวิ่งและคลุมหัว “อาหลี่ไม่ต้องการฝนอีกแล้ว อาหลี่อยากออกไปจากดินแดนสีเหลืองนี่”


Biu


เสี่ยวอาหลี่ตกตะลึง ดูเหมือนว่าฝนจะหยุดลงแล้ว ฉันอยู่ที่ไหน? มีถนน … และทุ่งหญ้า …


แต่ตอนนี้อาหลี่นั้นเวียนหัวมาก … อาหลี่กำลังจะเป็นลม …


ในที่สุดเสี่ยวอาหลี่ก็ทนอาการวิงเวียนศีรษะไม่ได้และล้มลงที่ข้างถนน …


ในตอนนั้นเองก็มีรถขับใกล้เข้ามา Wuling Hongguang!

(五菱宏光 – Wuling Hongguang ยี่ห้อรถของจีนหน้าตาทรงคล้ายๆกับฟอร์จูนเนอร์)


“พี่ใหญ่! ดูนั้น ที่ริมถนนมีคนอยู่!” วัยรุ่นที่นั่งอยู่ในรถกล่าวขึ้น หัวของเขาย้อมสีแดง


พี่ใหญ่ที่ขับรถก็ย้อมผมเช่นกัน แต่ไม่ใช่สีแดง แต่เป็นสีเขียวสว่าง ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนั้นควรจะเป็นครอบครัวเดียวกัน


เขาจอดรุลงที่ด้านข้าง ทั้งสองมองดูอาหลี่ที่หมดสติอยู่


“พี่ชาย ทำยังไงดี?”


“จะทำอะไรได้อีกล่ะ เจ้าโง่ พาขึ้นรถไป!” ในฐานะคนที่เป็นพี่ชาย เขารู้สึกเศร้าใจมากทำไมน้องชายของเขาถึงได้โง่ขนาดนี้กันนะ


“เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ ไม่ใช่ว่าหลงทางมาหรอกเหรอ?” หลังจากอุ้มตงฮวงหลี่ขึ้นมาบนรถ ชายคนน้องก็ถามอย่างสงสัย


ชายคนพี่จุดบุหรี่ “คงต้องรอให้เด็กหญิงตัวน้อยตื่นขึ้นมาให้เราถามก่อน ฉันเดาว่าพ่อแม่ของเธอก็คงกำลังเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน”


“พี่ใหญ่คุณช่างเป็นคนดี น้องชายคนนี้ชื่นชมคุณมากเหลือเกิน”


ชายคนพี่อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว “เจ้าโง่ เด็กหญิงตัวน้อยแต่งตัวงดงามขนาดนี้เธอต้องไม่ใช่เด็กธรรมดาอย่างแน่นอน มาหาพ่อแม่ของเธอกัน พ่อแม่ของเธอจะไม่จ่ายค่าแรงให้เราเลยรึไง?”


ทันใดนั้นเองชายคนน้องก็ตระหนักขึ้นได้และยกนิ้วให้ “หัวหน้าช่างฉลาด! น้องชายคนนี้นับถือคุณจริง ๆ”


“ดูไว้เป็นตัวอย่างซะ!”


“ได้ ๆ ๆ!”


ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนก่อนที่ตงฮวงหลี่จะตื่นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ และลูบหัวของเธอ เสียงนุ่ม ๆ ของเธอถามขึ้น “อาหลี่อยู่ที่ไหนเหรอ?”


ทั้งสองตกใจเล็กน้อยก่อนจะจอดรถที่ด้านข้างถนนในทันที


“เด็กน้อยตื่นแล้วเหรอ?” ชายคนพี่ถามด้วยรอยยิ้ม


อาหลี่อ้าปากตอบเขา “ลุงเขียวสวัสดี … “


ชายคนพี่ “……”


ชายคนน้องตบต้นขาของเขาแล้วหัวเราะ “ลุงเขียว ฮ่าฮ่า!!!”


ชายคนพี่ยื่นมือออกไปตีน้องของเขา คุณไม่รู้อะไรเลย สีเขียวสว่างนี้เป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปีนี้เลยนะ


“เด็กน้อยเธอชื่ออะไร?” ชายคนพี่ถาม


“ลุงเขียวฉันชื่ออาหลี่”


ชายคนน้องทำต้นขาของตัวเขาเองบวม


“ลุงแดงร้องไห้ออกมาทำไมเหรอ?” อาหลี่ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น


พี่ชายเขียวพูดพร้อมรอยยิ้ม “ภรรยาของลุงแดงชอบสีเขียวนี้น่ะสิ”


ตงฮวงหลี่สับสน …


น้องชายผมสีชะงักไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ


“อาหลี่ แล้วคุณพ่อคุณแม่ของเธอล่ะ” พี่ชายเขียวถาม ต้องพาเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักคนนี้กลับไปหาพ่อแม่ของเธอและขอค่าแรงสักเล็กน้อย


อาหลี่เบ้ปากเล็ก ๆ ของเธอ “ฉันเกลียดพวกเขา!”


ชายสีเขียวและแดงถอนหายใจ ความรู้สึกวิ่งไปในทางลบ เด็กประเภทนี้เกลี้ยกล่อมได้ง่าย


ชายสีแดงเช็ดน้ำตาของเธอ “อาหลี่ ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะ พ่อกับแม่ของเธอต้องกำลังเป็นห่วงเธออยู่แน่ ๆ ”


“พวกเขาไม่ห่วงอาหลี่หรอก” ขณะที่พูดดวงตาของอาหลี่ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง


ชายสีเขียวรีบหยิบอมยิ้มออกมาทันที “อาหลี่ นี่ ๆ ลุงให้อมยิ้มนี่นะ”



GG: บทที่ 182 – พี่ชายสีแดงและสีเขียว


“ขอบคุณลุงเขียว” อาหลี่เช็ดดวงตาของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้กินอมยิ้มมันรู้สึกดีมาก


หลังจากได้กินอะไรตกถึงท้องนิดหน่อย อาหลี่ก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นอีกเธอพูดขึ้นอย่างอาย ๆ “ลุงเขียว ลุงแดง อาหลี่หิวแล้ว”


“เอาละ อาหลี่อยากจะกินอะไรเหรอ?”


อาหลี่ตอบด้วยปากเล็ก ๆ ของเธอ “อาหลี่อยากกิน แมคโดนัลด์”


พี่ชายและน้องชายมองหน้ากันแมคโดนัลด์ไม่ใช่ว่าถูก แต่ตราบใดที่เราดูแลสุภาพสตรีตัวน้อยนี้ เราก็สามารถขอใช้จ่ายคืนค่าได้อย่างแน่นอน


มากกว่าคืนทุนเรื่องค่าใช้จ่ายมันสามารถสร้างรายได้มหาศาล


ภารกิจหลักคือตอนนี้ไปที่เมือง เขตเล็ก ๆ แถวนี้ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสุภาพสตรีตัวน้อยได้


“พี่ชาย พี่ไปที่เมืองเถอะ” น้องชายแดงหยิบกระเป๋าเงินออกมา มีเพียงตั๋วสีแดงไม่กี่ใบกับ50หยวนอีกไม่กี่เหรียญ


หัวใจของพี่ใหญ่เขียวแทบไม่สามารถทนเลี้ยงดูลูกหมาป่าได้ราวกับกำลังโดนกรีดจะเลือดไหล


เขาเอากระเป๋าเงินออกมาและส่งให้น้องชาย “ไปด้วยกัน”


ทันทีที่เปิดกระเป๋าแล้วเห็นตั๋วสีแดงห้าใบอยู่ข้างในน้องชายแดงก็ร้องขึ้น “คุณยืมเงิน 50 หยวนจากฉันในตอนเช้า! แต่คุณมีตั้ง 500 หยวน!”


“จริงหรอ? ฉันอาจจะเผลอลืม … ” พี่ใหญ่เขียวค่อนข้างอึดอัดใจเล็กน้อย


หลังจากเติมน้ำมันที่ปั๊มข้างถนนไป 200 หยวน พวกเขาก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำทุกทางเพื่อไปให้ถึงเมือง!


ตงหวงหลี่นอนพิงอยู่ที่หน้าต่างรถ มองดูเมืองเหล็กนี้ด้วยสายตาทุกคนอยากรู้อยากเห็น ข้างนอกดีกว่าความว่างเปล่าไร้อาณาเขตมาก ทุกสิ่งทุกอย่างช่างดูแปลกประหลาด


คนสองคนที่อยู่ด้านหน้ารถก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน ผู้คนในเมืองนั้นแต่งตัวดูดีแต่ยังไม่มีระดับเท่าพวกเราเลย พวกเขาควรเรียนรู้จากเรา มันต้องทำผมสไตล์แอฟโฟรและย้อมสีสดใสเพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามสิ


เด็กหญิงในหมู่บ้านจะมองตรงมาที่พวกเราผู้คนสังเกตเห็นเราในทุกที่ที่เราไป แม้แต่ในเมือง!


หลังจากที่จอดรถพี่น้องเขียวแดงก็ลงมา ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึก น้องชายน้องสาวที่เดินผ่านไปผ่านมา ทุกคนต่างก็มองมาทางนี้


พี่ชายเขียวภูมิใจและพูดว่า “บอกให้ย้อมสีเขียวนายก็ฟัง ดูผู้คนในเมืองนี้ตกตะลึงกับมันสิ”


“พี่ชายฉันคิดว่าพวกเขาดูถูกพวกเรา” น้องชายแดงรู้สึกว่าสายตาของผู้คนในเมืองนั้นมีบางอย่างไม่ถูกต้อง


พี่ชายเขียวตัดประโยคของเขา “นั้นคือความรู้สึกหึงหวง ถ้ามีโอกาสให้ฉันได้พูดคุยกับโทมัส ฉันจะทำให้ตาของพวกเขาสว่างขึ้น”


“ว้าว ที่นี่คือแมคโดนัลด์เหรอ? มันไม่เห็นเหมือนกับในรูปภาพเลย” เสี่ยวอาหลี่กระโดดออกมาจากรถและมองดูร้านของแมคโดนัลด์ตรงหน้าเธอดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ


เมื่อเสี่ยวอาหลี่ปรากฏตัว ผู้คนบนท้องถนนต่างอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น สองคนที่ไม่สำคัญกับเด็กที่น่ารัก เด็กที่น่ารักคนนี้คงจะไม่ได้ถูกพวกค้ามนุษย์จับอยู่ใช่ไหม!


เมื่อผู้คนได้เห็นเด็กน้อยกระโดดโลดเต้นไปมา สองคนที่ไม่สำคัญก็ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกคุกคามจากผู้คนแล้วก็ได้แต่มีสีหน้าขมขื่น


ทั้งสามคนเดินเข้าไปในร้าน ธุรกิจของแมคโดนัลด์นั้นดีมากและพวกเขาก็ต้องรอคิว


“อาหลี่กำลังจะเข้าแถว ~” ตงฮวงหลี่สุภาพมาก เธอไม่แทรกแถวและไปยืนต่ออยู่ที่ด้านหลังหญิงสาว หน้าตาท่าทางที่กำลังคาดหวังนั้นทำให้ผู้คนในร้านอยากจะเข้าไปกอด


พี่น้องเขียวแดงเป็นเหมือนผู้คุ้มกันรอจ่ายเงิน


หลังจากใช้เวลานานกว่าสิบนาที คิวของเสี่ยวอาหลี่ก็มาถึงในที่สุด แต่โต๊ะก็สูงเกินไปและเสี่ยวอาหลี่ก็มองไม่เห็น


“ลุงเขียว อาหลี่มองไม่เห็น” อาหลี่มองไปที่พี่ชายเขียวอย่างน่าสงสาร


พี่ชายเขียวถอนหายใจและอุ้มสุภาพสตรีตัวน้อยขึ้นมาบนบ่าของเขา


“ว้าว มันน่าอร่อยมาก ฉันอยากได้ไอศกรีมปั่น ฉันอยากได้โคล่า ฉันอยากได้น่องไก่เผ็ดและปีกไก่เยอะ ๆ แล้วก็ไก่ม้วน และถ้วยข้าวโพด และ … และก็ … “


เมื่อมองไปที่การพิมพ์รายการอย่างรวดเร็วของแคชเชียร์ น้องชายแดงอดไม่ได้ที่จะมองกระเป๋าเงินและมองไปที่พี่ชายของเขา


พี่ชายเขียวถอนหายใจออก ปล่อยให้สุภาพสตรีตัวน้อยได้กินไปก่อน เมื่อพ่อแม่ของเธอรู้ว่าพวกเราดีต่อเธอมาก พวกเขาจะให้คืนมาเงินมากกว่านี้แน่นอน


ในไม่ช้าน้องชายแดงก็ยกอาหารมาให้เธอ ตงฮวงหลี่อดใจรอไม่ไหวเธอลงมือหยิบกินอย่างรวดเร็ว


ถ้าตงฮวงไป๋ลู่ได้เห็นลูกสาวของเธอเป็นแบบนี้ เธอจะต้องสั่งสอนลูกสาวของเธออย่างแน่นอน


“อาหลี่ เมื่อเรากินเสร็จ ไปหาคุณพ่อคุณแม่ของเธอกันเถอะนะ” พี่ชายเขียวถามพลางหัวเราะเบา ๆ


ทั้งสองมีโคล่าเพียงแก้วเดียวเพราะพวกเขาทนไม่ได้ โคล่ามีราคาแพงมากไป ตอนนี้ต้องให้ความสนใจกับการเลี้ยงสุภาพสตรีตัวน้อย


ตงฮวงหลี่กำลังจดจ่ออยู่กับอาหารตรงหน้าเธอและพูดว่า “ได้”


เมื่อได้ยินคำสัญญาของตงฮวงหลี่ พี่น้องทั้งสองก็โล่งใจ สุภาพสตรีตัวน้อยคนนี้พวกเขาคงจะเลี้ยงดูมากกว่านี้ไม่ไหว


หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงเสี่ยวอาหลี่ก็แตะท้องของเธอ “อาหลี่อิ่มแล้ว”


พี่น้องเขียวแดงมองดูกองกระดูกตรงหน้า พวกเขาสงสัยจริง ๆ ว่าสุภาพสตรีตัวน้อยคนนี้ยัดมันเข้าไปหมดได้อย่างไร แต่เพียงแค่เธออิ่มก็ดีพอแล้ว


“อาหลี่ เราจะไปตามหาคุณพ่อคุณแม่ของเธอกันหรือยัง?” พี่ชายเขียวพูดด้วยความเจ็บปวด มื้อนี้มีราคาเท่าเงินเดือนของเขาทั้งเดือน


ตงฮวงหลี่บ่น “อาหลี่ ไม่ต้องการกลับไป”


เฮ้!


ถ้าคุณไม่ต้องการกลับไป แล้วเราเก็บเงินคืนได้อย่างไร!


น้องชายแดงรีบเกลี้ยกล่อมเธอ “อาหลี่ ถ้าเธอไม่กลับไปคุณพ่อคุณแม่ของเธอจะเป็นห่วงนะ”


ตงฮวงหลี่เงียบ … แม่จะเป็นห่วงตัวเธออย่างงั้นเหรอ? เธอไม่ห่วงหรอก เธอไม่ชอบอาหลี่อีกต่อไปแล้ว อาหลี่เศร้ามาก


เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อาหลี่ก็ร้องไห้


ให้ตายเถอะ นี้มันสถานการณ์แบบไหนกัน ทันใดนั้นพี่น้องเขียวแดงก็ตกตะลึง มีหลายคนที่หันมามองทางนี้


สุภาพสตรีตัวน้อยอย่าร้องไห้เลย พวกเราตั้งหากที่อยากร้องไห้


“ลุงเขียว ลุงแดง อาหลี่กำลังทำให้คุณเดือดร้อน อาหลี่จะไปเอง … ” ตงฮวงหลี่เช็ดน้ำตาของเธอและกระโดดลงจากเก้าอี้อย่างหดหู่


ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของปัญหาที่คุณสร้าง พวกเราลงทุนไปแล้วเราไม่สามารถคว้าน้ำเหลวได้


พี่น้องเขียวสีแดงรีบตามไปทันที


“อาหลี่ เธอคิดมากเกินไป ลำบากอะไรพวกเรากัน” พี่ชายเขียวพูดด้วยรอยยิ้ม


อาหลี่สะอึนอยู่สักพัก ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงป้าชิง ป้าชิงก็บอกว่าเธอต้องการเล่นกับเธอ ดังนั้นเธอก็คิดจะไปหาป้าชิง


“อาหลี่อยากกลับไป … “


ในที่สุดสุภาพสตรีตัวน้อยก็คิดได้ เยี่ยมมาก!


พี่ชายเขียวรีบถาม “อาหลี่ครอบครัวของเธออยู่ที่ไหนเหรอ?”


“เมืองหลงอัน” ตงฮวงหลี่จำได้ว่าป้าชิงบอกว่าเธออาศัยอยู่ที่บาร์ชิงในหลงอัน


เมื่อได้ยินชื่อนี้พี่น้องเขียวแดงรู้สึกโง่งม พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้


“ดูสิว่าเมืองหลงอันอยู่ที่ไหน มันคงไม่อยู่ไกลเกินไป” พี่ชายเขียวดีใจ อย่างน้อยคุณต้องจ่ายค่าขอบคุณมาสัก 1,000 หยวน


น้องชายแดงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วค้นหาเมืองหลงอันและผลก็ออกมาในไม่ช้า


“ใหญ่ … พี่ใหญ่ … “


“พูดให้มันชัด ๆ สิ!”


“เมืองหลงอันนี้ … “


“มีอะไรเหรอ?”


“เมืองหลงอันอยู่ห่างจากที่นี่มากกว่า 3,000 กิโลเมตรทางใต้ !!!”


“มากกว่าสามพันกิโลเมตร!!!” พี่ชายเขียวแทบจะกระอักเลือด เงินค่าผ่านนี้และน้ำมัน นั้นไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย!!!


น้องชายแดงกระซิบเบา ๆ “พี่ชาย อย่าลืมสิ นี่คือต้นทุนมันมีค่าน้อยกว่าเงินที่เราจะได้นะ “


พี่ชายเขียวถอนหายใจอย่างหนัก ตอนนี้เขาลงทุนเกือบ 400 หยวน ถ้าพวกเขาทิ้งมันกลางคันมันทั้งหมดก็จะสุญเปล่า!


หลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่งพี่ชายเขียวก็ตัดสินใจเดิมพันที่เปลี่ยนจักรยานให้กลายเป็นมอเตอร์ไซค์!


GG: บทที่ 183 – พี่ใหญ่ตำรวจกำลังมา


“ในบัตรฉันยังมีอยู่อีก 5,000 นั้นคงจะพอที่ให้เราไปถึงเมืองหลงอัน!” พี่ชายเขียวค้นกระเป๋าเงินของเขาเพื่อหาบัตรธนาคาร


น้องชายแดงตกตะลึง “พี่ใหญ่ 5,000 ที่ว่า 4,900 ในนั้นมันเป็นของฉันน่ะ !!!”


พี่ชายเขียวตบไหล่ของน้องชายของเขา “อย่าไปใส่ใจรายละเอียดเหล่านี้เลย ตราบใดที่เราทำธุรกิจนี้สำเร็จเราก็จะรวย!”


“พี่ชาย เลิกกันเถอะ “


“ขึ้นรถแล้วขับไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินกันเถอะ!” พี่ชายเขียวตะโกน


“พี่ชาย ฉันไม่มีใบขับขี่ ในเมืองนี้มันไม่ได้ต่างไปจากชนบทเท่าไรก็เลยไม่เป็นไรหรอก”


“ถึงได้บอกให้นายไปสอบใบขับขี่แต่เนิ่น ๆ นายก็ไม่ฟัง!”


“ไม่ใช่ว่าเงินทั้งหมดอยู่ที่พี่หรอกเหรอ ฉันจะเอาที่ไหนไปสอบกัน … ” น้องชายแดงพูดอย่างไม่พอใจ


“ฉันทำอย่างนี้เพื่อนายนั้นแหละ ฉันจะช่วยหาภรรยาให้นายในอนาคต แต่ตอนนี้ฉันต้องใช้มันตอนนี้อย่างเร่งด่วน”


ตงฮวงหลี่ที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า ฉันคิดว่าเรื่องนี้คงจะไม่ง่ายสำหรับลุงเขียวและลุงแดง ฉันจะต้องตอบแทนพวกเขาให้ดี


อย่างไรก็ตามสิ่งที่ภูมิใจที่สุดของพวกพี่ชายในชีวิตนี้คือการช่วยเหลือตงฮวงหลี่ ช่างเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ


เมื่อขับรถมาถึงธนาคารพี่ชายเขียวก็วิ่งไปที่เครื่อง ATM เขาไม่ได้คาดคิดว่าเงินในตู้นั้นทั้งหมดจะไม่เหลือแล้ว เขาจึงทำได้เพียงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อถอนเงิน อย่างไรก็ตามยังมีหลายคนเข้าแถวอยู่เขาจึงต้องต่อคิว เมื่อคิดถึงรถที่ไม่ได้อยู่ในที่จอด เขาก็วิ่งกลับมาแล้วบอกว่า “ดูทางไว้ ฉันจะไปถอนเงิน เตือนฉันหากตำรวจจราจรมา”


น้องชายแดงพยักหน้าและเริ่มระวังตัว ถ้าฉันได้รับใบสั่งฉันคงจะไม่สามารถจ่ายได้ ฉันได้ยินมาว่ามีค่าปรับหลายอย่างในเมืองใหญ่ที่ชนบทนั้นไม่มี


พี่ชายเขียวเข้าไปธนาคารและดึงดูดความสนใจของจนท.รักษาความปลอดภัยในทันที ลูกค้าคนนี้มีใบหน้าที่ดูแย่เสียจริง


หลังรับตั๋วเข้าแถวพี่ชายเขียวอายมากและจุดบุหรี่ ผู้คนรอบตัวมองดูเขาอย่างรังเกียจ


น้องชายแดงที่อยู่ข้างนอกกำลังมองไปรอบ ๆ


ทันใดนั้น! น้องชายแดงเห็นมอเตอร์ไซค์ตำรวจที่กำลังเขียนใบสั่งจากกระจก เขารีบเปิดประตูแล้ววิ่งไปที่ธนาคารทันที


หลังจากเข้ามาในธนาคาร เมื่อน้องชายแดงเห็นกลุ่มผมสีเขียวสดของพี่ เขาก็ตะโกนเสียงดังว่า “พี่ชายตำรวจมา!”


ด้วยเสียงตะโกนของน้องชายแดง ทุกคนในห้องโถงก็ตกตะลึงเงียบไปชั่วครู่หนึ่งและก็ต่างกรีดร้องขึ้นในทันที


“ปล้น !!!”


พี่ชายเขียวตกใจ ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นและดึงน้องชายแดงแล้ววิ่ง “นายยังมัวทำอะไรอยู่ วิ่งหนีเร็ว พวกเรากำลังจะถูกปล้น! “


ทั้งสองวิ่งออกจากธนาคารอย่างรวดเร็ว จนท.รักษาความปลอดภัยรีบวิ่งออกมาตามหลังพวกเขา “อย่าหนี จับพวกเขาไว้! “


พี่ชายเขียวสับสน จะมาจับฉันทำไม คุณประสาทรึเปล่า!


แต่เมื่อเขาเห็นตำรวจจราจรสองคน พี่ชายเขียวมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีเงื่อนไขและต้องการวิ่งหนี ไม่มีการต่อสู้แบบนี้ในชนบท


เมื่อเข้าไปในรถพี่ชายเขียวก็ขับรถออกไป ตำรวจจราจรสองนายที่ด้านหลังไปครู่หนึ่งแล้วรีบเปิดเสียงไซเรนเพื่อไล่ล่าในทันที! และรายงานไปยังศูนย์บัญชาการ


ตงฮวงหลี่ที่กำลังนอนหลับอยู่ด้านหลังก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นและขยี้ตาของเธอย่างโง่งม ได้ยินเสียงไซเรนจากข้างหลัง เธอเปิดหน้าต่างแล้วมองดูและยกมือเล็ก ๆ ขึ้นโบกแล้วตะโกนว่า “ลุงตำรวจ สวัสดี ~”


สีหน้าของตำรวจจราจรสองนายที่ด้านหลังเปลี่ยนไป มีแม้แต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กก็กำลังโบกมือขอความช่วยเหลือ!


สองคนนี้ไม่เพียง แต่เป็นโจร แต่ยังลักพาตัวประกัน! คดีใหญ่!


พี่ชายเขียวพูดอย่างเย็นชา “ในชนบทฉันเป็นเทพแห่งภูเขาตงหมิง ถ้าคุณสามารถเห็นไฟท้ายของฉันได้นับว่าคุณชนะแล้ว!”


“ พี่ชาย ใจเย็นก่อน! ตำรวจกำลังไล่ล่าเรา”


พี่ชายเขียวพูดด้วยเสียงเข้ม “ในฐานะผู้ชายก็ต้องมีหัวใจที่ต้องการชนะ ไม่อย่างนั้นนายจะต่างอะไรจากปลาเค็ม! “


“พี่ใหญ่ … ” น้องชายแดงกำลังจะร้องไห้ …


พูดไม่ได้จริง ๆ ว่า ทักษะรถของพี่ชายเขียวนั้นยอดเยี่ยมหรือพวกเขาเพียงแค่โชคดี ถึงได้หนีจากการไล่ล่าของตำรวจได้


พวกเขาจอดรถลงที่นอกเขตชานเมือง พี่ชายเขียวก็เห็นว่าน้องชายของเขาเงียบมาก


“เอาน่า นี้ก็เป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด มาฟังเพลงคลายอารมณ์กัน” พี่ชายเขียวตบไหล่น้องชายอย่างปลอบโยน


เขาเปิดวิทยุ


“ขณะนี้เป็นการออกอากาศข่าวสำคัญ ในวันนี้เวลา 15.00 น. วันนี้มีชายแปลกหน้าสองคนพยายามเข้าปล้นธนาคารและได้ลักพาตัวเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ตำรวจจราจรสองนายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้พบพวกเขา และมีการไล่ล่ากันเกิดขึ้นในเขตเมือง ผู้ต้องสงสัยนั้นมีทักษะรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมสามารถหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศออกหมายจับ ผู้ต้องสงสัยขับ Wuling Hongguang หมายเลขทะเบียนคือ ….. หากประชาชนพบเห็น โปรดรายงานตำรวจในทันที ทั้งสองเป็นของบุคคลอันตราย! “


คนขับรถเก่าที่ฟังข่าวรู้สึกประหลาดใจ


“โอ้พระเจ้า เทพรถ”


“เหลือเชื่อ! นับถือเลย!”


“หนีไปด้วย Wuling Hongguang ได้! ช่างมีความสามารถพิเศษ!”


ตอนนี้ทั้งรถตกอยู่ความเงียบสนิท


ตงฮวงหลี่กระซิบเบา ๆ “ลุงเขียว ลุงแดง มายอมแพ้กันเถอะ”


น้องชายแดงหลั่งน้ำตาจากตาทั้งสอง ออกมาอย่างมีความสุขในตอนเช้าและกลายเป็นอาชญากรที่คนต้องการตัวในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา …


พี่ใหญ่เขียวสูบบุหรี่อย่างเงียบ ๆ ยอมจำนน? เป็นไปไม่ได้ในชีวิตนี้แม้ว่าจะต้องยอมจำนน เราก็จะต้องส่งเสี่ยวอาหลี่กลับบ้านอย่างปลอดภัย!


“อาหลี่ไม่ต้องกังวล ลุงเขียวสัญญาว่าจะพาเธอกลับบ้าน!” พี่ใหญ่เขียวดีดก้นบุหรี่ในมือของเขาทิ้งและกล่าวขึ้น


มองดูพี่ชายที่อยู่ทางซ้าย ทันใดนั้นน้องชายแดงรู้สึกว่าพี่ชายของเขาเปล่งประกายสีทอง ราวกับว่าเป็นพระผู้เมตตาลงมาจุติ


“เอาป้ายทะเบียนออก แล้วลงไปตามถนนในชนบทกันเถอะ!” พี่ใหญ่เขียวยังคงฉลาดมาก ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถใช้ทางด่วนและทางหลวงระดับประเทศได้อย่างแน่นอน


“พี่ชาย โปรดรับความเคารพจากฉันด้วย!”


พี่ใหญ่เขียวยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ถ้าจะตาย เราก็ตายไปด้วยกัน!”


“พี่ช่วยส่งฉันกลับบ้านก่อนได้ไหม? ฉันกลัว”


พี่ใหญ่เขียวยกมือชี้เขา “นายนี้มันจริง ๆ เลย!”


เอาป้ายทะเบียนออกและรีบขับไปต่อบนถนน ตงฮวงหลี่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดาวแห่งหายนะ แม่ของเธอไม่ได้โหดร้ายแต่มันเป็นอันตรายที่เธอจะออกมาข้างนอก


“ลุงเขียว ลุงแดง อาหลี่ขอโทษ” ตงฮวงหลี่สะอื้น


น้องชายแดงยิ้มและพูดว่า “อาหลี่ไม่ต้องกังวลเมื่อเทียบกับพวกเราแล้ว พ่อแม่ของเธอคงกำลังเป็นกังวลมากกว่า”


ตงฮวงไป๋ลู่กำลังกังวลจริง ๆ ความโกรธของจักรพรรดินีไม่ใช่เรื่องตลก ในช่วงเวลาสั้น ๆ มันราวกับว่าความว่างเปล่าไร้อาณาเขตทั้งหมดพลิกกลับหัวกลับหาง ตอนนี้ลูกสาวของเธอไม่ได้อยู่ในความว่างเปล่าไร้อาณาเขตอีกแล้ว!


โลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่มาก อาหลี่มีอายุน้อยกว่าสามปี ถ้าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น … ตงฮวงไป๋ลู่ไม่กล้าคิดถึงมัน เธอหลั่งน้ำตาด้วยความสำนึกผิดเธอเข้มงวดกับลูกสาวมากเกินไป


เธอออกคำสั่งทันที จะต้องพาอาหลี่กลับมาด้วยกำลังทั้งหมด!


อย่างไรก็ตามคนที่ไม่ได้อยู่วงในของความว่างเปล่าไร้อาณาเขต ต่างอยากรู้อยากเห็น อาหลี่คนนี้คือใคร ไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวออกมา อาหลี่นั้นมีชื่อเรียกว่าตงฮวงหลี่และเธอเป็นลูกสาวของจักรพรรดินี!


ข่าวนี้สั่นสะเทือนทั้งความว่างเปล่าไร้อาณาเขต! จักรพรรดินีมีลูกสาว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ พ่อของตงฮวงลี่เป็นใครและใครกันคือสามีของราชินี!


ลูกสาวนอกสมรส!


ทุกคนตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ นามสกุลตงฮวงจะถูกทุกคนกล่าวหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวจักรพรรดินี!


ศักดิ์สิทธิ์ของการสืบทอดของจักรพรรดินีมันก็เหมือนกับศักดิ์สิทธิ์ของการสืบทอดของจักรพรรดิ และตอนนี้ก็มีเรื่องลูกสาวนอกสมรส เธอคนนี้ทำทุกอย่างพังทลายลงแล้ว!


ไม่เพียงแต่จักรพรรดินีเท่านั้น ความว่างเปล่าไร้อาณาเขตก็ได้รับผลกระทบเช่นกันและอาจถูกดึงลงจากตำแหน่งด้วย!


ห้าตระกูลใหญ่ในภาคเหนือกำลังจ้องมองอยู่!


GG: บทที่ 184 – 2 คนที่ไม่สามารถช่วยได้


แม่เลี้ยงเดี่ยวภายใต้แรงกดดันมหาศาลที่จะให้กำเนิดลูกบังคับให้ต้องปิดกันเด็ก ความเจ็บปวดนี้มีเพียงตงฮวงไป๋ลู่เท่านั้นที่เข้าใจมันอย่างแท้จริง ทำไมเธอจะไม่ต้องการให้ลูกสาวของเธอมีความสุขเหมือนกับคนอื่นกัน แต่เพื่อความว่างเปล่าไร้อาณาเขตแล้ว ตงฮวงไป๋ลู่เธอต้องทนครั้งแล้วครั้งเล่า


แต่ในตอนนี้ตงฮวงไป๋ลู่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป! ความเศร้าภายในปะทุออกมาอย่างสมบูรณ์ ใครกล้าที่จะแอบพูดอะไรไร้สาระ ฉันจะฆ่ามัน!


ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วความว่างเปล่าไร้อาณาเขตในเวลาอันสั้น และคงอีกไม่นานนักก่อนที่มันจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกของผู้ฝึกตน


เรื่องของลูกชายคนที่สองของตระกูลหยิงกลายเป็นเรื่องผายลมไปในทันที ทุกคนหันไปสนใจเรื่องที่จักรพรรดินีมีลูกสาวนอกสมรสกันอย่างท่วมท้น


พูดตามจริง เย่ฮัวในตอนนี้ค่อนข้างน่าสังเวช


ราวกับเป็นหุ่นยนต์ คุณต้องถ่ายรูปด้วยรอยยิ้มที่หลากหลาย คุณต้องเชื่อฟังบางสิ่งที่เรียกว่าช่างภาพ คุณต้องไม่หงุดหงิด


หากไม่ใช่เพราะผู้หญิงที่โง่เขลาคนนี้ เขาคงจะเลิกไปนานแล้ว


แต่แล้วอีกครั้ง ชิงหยาในชุดแต่งงานสวยงามมากจริง ๆ เย่ฮัวตัดสินใจที่จะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้ในชีวิตของเขา ปล่อยให้เธอทำบริษัทของเธอไป เขาจะดูแลเธอตลอดไปเอง ชั่วฟ้าดินสลาย!


แต่เมื่อเขานึกถึงการถ่ายภาพตอนกลางคืน เย่ฮัวก็ประหม่านิดหน่อย


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้นัก พวกเขานอนอยู่บนม้านั่งบนชายหาด บิกินี่สุดเซ็กซี่และบิกินี่ตัวเล็กน่ารัก พวกเธอกำลังดื่มน้ำผลไม้เพลิดเพลินกับดวงตาที่มองมานับไม่ถ้วน


เย่จีจี้กอดเจ้าหมีตัวน้อยของเธอและพูดว่า “พี่สาวชิงหาอะไรทำกันเถอะ มันน่าเบื่อมาก … “


“เรานั่งกันมานานแล้ว และไม่มีใครมายุ่งกับเราเลย ฉันจะไปทำอะไรได้ … ” ชิงหยูตงสวมแว่นกันแดดและถอนหายใจ พวกเธอแต่งตัวแต่งตัวเซ็กซี่มากแต่ก็ไม่มีใครตอบสนอง พวกเขารู้ว่าพวกเธอกำลังขุดหลุมพลางอยู่งั้นเหรอ พวกเขาฉลาดกันทุกคนเลยงั้นเหรอ?


เย่จีจี้ยิ้มอย่างลึกลับ “พี่สาวชิง จีจี้ มีวิธีดี ๆ “


“วิธีดี ๆ อะไร”


“จำการสนทนาระหว่างชายสองคนในตอนเช้าได้ไหม? เมื่อคืนที่ผ่านมาเราเหยียบชายเบื้องหลังใหญ่คนนั้นและเมื่อวานนี้เขาก็ส่งคนมาฆ่าเรา”


สำหรับนักฆ่าเมื่อคืนนี้นั้นชิงหยูตงกับเย่จีจี้ไม่ได้รับรู้อะไรเลย ชิงหยูตงรู้ว่าเย่จีจี้ไม่ใช่คนธรรมดา ผู้ติดตามและคนรอบตัวของพี่เขยนั้นไม่ง่ายแน่นอน ในทำนองเดียวกันเย่จีจี้ก็รู้ว่าชิงหยูตงนั้นผิดปกติ


ชิงหยูตงพยักหน้า “จำได้สิ ฆาตกรนั้นโง่จริง ๆ เขาเพิ่งเสียหน้าของนักฆ่าไป”


“อ่า พี่สาวชิง ฉันไม่ได้พูดถึงนักฆ่านั้น … “


“งั้นเธอพูดถึงอะไร?”


“พี่สาวชิงนี้โง่จริง ๆ ลองไปหาคนงี่เง่านั่นเมื่อวานนี้กัน” เย่จีจี้มีแผนแล้วมันสนุกแน่นอน ไม่สนุกไม่มีเงิน ขโมยสุดเท่


ทันใดนั้นชิงหยูตงก็เข้าใจ เธออุ้มเย่จีจี้ขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขน “เด็กน้อยของฉันฉลาดมาก”


“เดี๋ยว ๆ ๆ ฉันหายใจไม่ออก”


ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ มองอย่างตะลึง พวกเขาอยากจะกลายเป็นโลลิตัวน้อยในอ้อมแขนของสาวงามคนนั้นจริง ๆ


“ถ้างั้นลองคิดดูสิ เราจะถูกจับได้อย่างไร?” ชิงหยูตงอดใจรอไม่ไหว มันน่าตื่นเต้น


เย่จีจี้มองไปที่ร่างกายที่พัฒนาของชิงหยูตง และมองดูตัวเองอีกครั้ง รู้สึกไม่สมดุลมาก ๆ …


“อย่าไปสนใจมันเลย เมื่อเธอโตขึ้นเดี๋ยวมันก็พัฒนาเอง” ชิงหยูตงบีบแก้มของเด็กตัวน้อย เธอไม่รู้ว่าเย่จีจี้เติบโตได้แค่นี้เท่านั้น มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน


เย่จีจี้เบ้ปากเล็ก ๆ ของเธออย่างอารมณ์เสีย


“พี่สาวจูบ ~”


ผู้ชายหลายคนเดินก้มหน้าก้มตาราวกับหาของ บางคนกำลังนั่งอย่างอึดอัดใจและบางคนมองขึ้นไปบนฟ้า


อารมณ์ของเด็กนั้นแปรปรวน มาเร็วไปเร็ว


“พี่สาวชิง ออกไปล่องทะเลกันเถอะ ~”


“ความคิดดีไปล่องทะเลกัน!”


พวกเธอเช่าเรือยอชท์สุดหรูและล่องออกไปในทะเล จากนั้นก็หยุดลงกลางทะเลเฝ้ารอให้ใครซักคนมาจับ


ชิงหยูตงเอนกายนอนอยู่หน้าเรือยอชท์เธอง่วงเล็กน้อย “จีจี้ เรารอกันมาหนึ่งชั่วโมงแล้วเรายังไม่เจอใครเลยนะ พระอาทิตย์ก็กำลังจะตกแล้วด้วย”


เย่จีจี้ก็รู้สึกว่าวิธีนี้มันดูไม่ใช่ทางออกแล้ว พวกเขาทั้งหมดมันตาบอด เฮ้ คนงามถูกส่งมาหน้าประตูแล้วนะ เธอสะบัดนิ้วชี้ของเธอเบา ๆ


สายลมที่มองไม่เห็นกระแทกลงบนข่ายมนตรา ทำให้น้ำทะเลตกอยู่ในความปั่นป่วนและก่อตัวเป็นคลื่นขนาดใหญ่โจมตีตระกูลหยิงบนเกาะ


ตระกูลหยิงที่กำลังเริ่มการประชุมรู้สึกถึงการสั่นไหวของข่ายมนตรา สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นกว่าพัน ๆ ปีมาแล้ว! ที่ข่ายมนตรานั้นไม่มีการสั่นสะเทือน ไม่มีใครคิดว่ามันจะสั่นอย่างรุนแรงในวันนี้


หยิงจิงซานบินออกจากห้องประชุมพร้อมกับทุกคน พวกเขาเห็นคลื่นยักษ์สูงถึง100เมตรมาพร้อมกับการทำลายล้าง นี้ทำให้ทุกคนรู้สึกศีรษะด้านชา


แน่นอนว่าพวกเขาต้องประหลาดใจ กว่าสหัสวรรษที่ผ่านมาไม่เคยมีคลื่นยักษ์ใหญ่ขนาดนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน


หยิงฮาวยืนขึ้นผลักฝ่ามือของเขาออกไป แล้วตะโกนขึ้น “ป้องกัน!”


ทันใดนั้นคลื่นที่พุ่งสูงขึ้นก็ค่อยๆตกลงมาและผิวทะเลทั้งผืนก็สงบลงอีกครั้ง


หยิงจิงซานรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทุกอย่างมุ่งเป้ามาที่ตระกูล ตอนนี้ข่ายมนตราก็ถูกกระแทกจนสั่นสะเทือน มันเป็นฝีมือของใครกัน?!


“ฮาวเอ่อร์ ออกไปดูสิ!”


“ครับ!”


หยิงเจียงยิ้มและก้าวออกมาจากฝูงชน “หลานฮาวเอ่อร์ ลุงจะไปดูด้วยกันกับเธอเอง”


“รบกวนท่านลุงแล้ว” หยิงฮาวโค้งพลางป้องมือของเขา สุภาพมาก!


ท้ายที่สุดถ้าคุณต้องการได้รับการสนับสนุน คุณก็ต้องสนองความอยากอาหารของญาติเหล่านี้


เย่จีจี้หาวขึ้น เธอควบคุมพลังของเธอได้อย่างดีถ้าหากมันหนักไปกว่านี้ข่ายมนตรานั้นก็คงจะแตกสลาย ถ้าพลังไม่หายไปคนที่อยู่ข้างในก็จะหายไป นั่นจะน่าเบื่อ


ทันใดนั้นเอง คนมากกว่าหนึ่งโหลก็ปรากฏออกมาจากอากาศว่างเปล่า เย่จีจี้มีความสุขมาก “พี่สาวชิงมานี่สิ”


ชิงหยูตงผู้ที่หลับไปอุทานออกมา “ที่ไหน ที่ไหน?”


คุณสองคนไม่เก่งในเกมตีสีหน้าเอาซะเลย คนทั้งหลายกำลังบินอยู่บนท้องฟ้าต่อหน้าในฐานะเด็กผู้หญิงอย่างน้อยคุณควรจะอ้าปากและชี้ไปที่สัตว์ประหลาดบนท้องฟ้า แทนที่จะแสดงออกด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นสิ


“พี่สาวชิงใส่ใจกับการแสดงสิ ให้เกินจริงเกินไป !!!” เมื่อมองไปที่เย่จีจี้ เธอกำลังทำท่าทางที่ดูหวาดกลัวและหดตัวลง


ชิงหยูตงเพิ่งตื่นขึ้นมาและยังตอบสนองได้ไม่ดีนัก


ตอนนี้การตั้งสติจบลงแล้ว เธอรีบเข้ามากอดเย่จีจี้ในทันที เธอสั่นไปทั้งตัวและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความกลัว แต่ในดวงตาลึก ๆ ของเธอจริง ๆ กำลังตื่นเต้นอยู่


“หืม ผู้หญิงสองคนนี้ดูคล้ายกับคำอธิบายของหลิวปี้มากนะ” หยิงเจียงยิ้ม เขาค่อย ๆ บินไปที่เรือยอชท์และมองอย่างสงสัย


หยิงฮาวปล่อยจิตสังหารอย่างเปิดเผย การหายตัวไปของนักฆ่าเมื่อวานนี้นั้นลึกลับและสร้างปัญหามาก


แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทั้งสองนั้นเป็นคนที่ลงมือหรือไม่ แต่ดูจากลักษณะและอายุของพวกเธอ พวกเธอเกือบจะเหมือนที่อธิบายไว้เมื่อวานทุกอย่าง!


หากลุงของเขาไม่ได้ตามมาด้วย เขาก็สามารถลงมือฆ่าพวกเธอได้แต่ตอนนี้มันไม่ง่ายเลย!


“คุณ … คุณเป็นใคร … ? ” ทักษะการแสดงของชิงหยูตงทำงานในทันที เธอปกป้องเย่จีจี้ในอ้อมแขนของเธอด้วยความกลัว


ตอนนี้หยิงเซียงเข้าใจแล้วว่าทำไมหลานคังถึงได้เชื้อเชิญพวกเธอ พวกเธอช่างสวยเสียจริง …


คนโตเซ็กซี่ ส่วนคนเล็กก็น่ารักดีจริง ๆ


“อย่ากังวลไป เราเพียงแค่อยากจะถามคำถามคุณ” หยิงเซียงยิ้มอย่างอ่อนโยน มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหลานชายเขาไม่ได้ตามมาด้วย เขาอยากจะจับกุมพวกเธอและพากลับไปเป็นทาส แต่มันก็ไม่ง่ายเลย


เย่จีจี้กอดชิงหยูตงและน้ำตาไหล “พี่สาว จีจี้กลัว ~”


การสร้างความเชื่อใจบทที่หนึ่ง แสดงอย่างจริงใจไม่โกหก


GG: บทที่ 185 – เขาเป็นสัตว์ร้าย


โลลิน้อยตัวที่ดูน่าสงสารนี้ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ


“อย่ากลัวไปเลยนะ ลุงไม่ใช่คนเลว ลุงแค่อยากถามว่าเมื่อคืนนี้เธอได้ไปดื่มกับผู้ชายแล้วช่วยเขาดับไฟหรือเปล่า?”


ชิงหยูตงเผยสายตาลังเลออกมาทันที แต่แววตาดังกล่าวย่อมต้องตกอยู่ในสายตาของจิ้งจอกเฒ่าเช่นหยิงเจียงอย่างไม่ต้องสงสัย


อย่างไรก็ตามเย่จีจี้นั้นแสดงออกอย่างที่เด็กผู้หญิงตัวน้อยควรมีได้ดี


“ลุงพี่สาวของฉันและฉันช่วยพี่ชายคนหนึ่งดับไฟเมื่อคืนนี้ คุณให้เราไปได้รึยัง?” เย่จีจี้ตะโกนด้วยความกลัว คำพูดประโยคเดียวของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ไขทุกอย่างให้กระจ่างอย่างเต็มตา


ชิงหยูตงที่อยู่ด้านข้างรู้สึกว่าเย่จีจี้อาจจะสามารถกลายเป็นดาราเด็กได้เลย


หยิงฮาวขมวดคิ้ว ผู้หญิงสองคนนี้ถูกจิ่วเย่เชิญมาอย่างนั้นใช่ไหม ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาสองคน


แต่เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพวกเธอ …


หยิงเจียงค่อย ๆ ก้มลง ชิงหยูตงที่กอดเย่จีจี้ตกใจกลัวและถอยกลับไปด้านหลัง ทักษะการแสดงของเธอกำลังระเบิดออกมา


“อย่าเข้ามา … ฉันจะเรียกตำรวจ … “


หยิงเจียงยืนตรงขึ้นและพูดว่า “ฉันเกรงว่าตอนนี้พวกเธอจะต้องไปกับฉัน มันยังมีบางสิ่งที่อยากจะถาม”


ทันทีที่หยิงเจียงโบกมือของเขา ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ


เย่จีจี้เป็นลม


ชิงหยูตงคิดว่าการแสดงของเย่จีจี้นั้นค่อนข้างเกินจริงไปเล็กน้อย อย่างน้อยเธอก็ต้องประหลาดใจก่อนที่จะเป็นลมมันจึงจะดูสมจริง ดูฉันนี่!


“เกิดอะไรขึ้น! ฉันบินได้อย่างไร ปล่อยฉัน ไปปล่อยฉันไป … ” ชิงหยูตงดิ้นอย่างตื่นตระหนกก่อนจะเป็นลม …


หยิงเจียงหัวเราะ ผู้หญิงแบบสองคนนี้พึ่งจะทำร้ายหลานชายคังของเขาไป มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ …


หยิงฮาวเงียบลงและเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย


ฝูงแกะกลับไปที่คอกแกะพร้อมกับหมาป่าสองตัว แกะนั้นยังเด็กเกินไป ไม่ใช่แกะทุกตัวที่โชคดีเหมือนในการ์ตูน


หลังผ่านเข้าข่ายมนตราไป หยิงเจียงพาชิงหยูตงกับเย่จีจี้ไปที่ห้องโถงในทันที เพื่อตัดสิน …


เย่จีจี้ในอาการโคม่าไม่ได้คาดคิดว่าจะได้พบกับอาหารอร่อยมากมาย เธอรู้สึกอยากจะกินคนเป็นล้าน ๆ อย่างอดไม่ได้


แต่เพื่อความสนุกเย่จีจี้ยังคงแสร้งทำต่อไป บางครั้งมันน่าสนใจที่จะหยอกล้อศัตรูปล่อยให้พวกมันถูกกลืนด้วยความสิ้นหวังฮ่าฮ่า ~ ฉันนี่เป็นอัจฉริยะจริง ๆ


“เป็นพวกเธอ?” หยิงจิงซานถาม


หยิงฮาวกล่าวว่า “ยังไม่ชัดเจน ต้องรอให้น้องชายมาดูและยืนยัน”


“เอาล่ะ ปลุกพวกเธอขึ้นมาแล้วเอาเสื้อคลุมให้ใส่ซะ ทุกวันนี้เด็กผู้หญิงในโลกไม่รู้เลยว่าควรแต่งตัวอะไร” ในปีนั้นที่หยิงจิงซานออกไปก็เพื่อฝึกซ้อม เวลาแบบนั้นผู้หญิงจะกล้าสวมใส่ของพวกนี้ได้อย่างไร?


หลังสวมเสื้อคลุมให้ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ หยิงฮาวก็ปลุกพวกเธอขึ้นมา


พวกเธอสองคนลุกขึ้นนั่งอย่างงุนงง ความสับสนปรากกบนใบหน้าทั้งคู่นั้นได้สมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นครู่หนึ่งพวกเธอก็เหลือบมองกันและกอดกันแล้วตัวสั่นด้วยท่าทีหวาดกลัว


หากเย่ฮัวได้เห็นฉากนี้เขาจะต้องหวดก้นพวกเธอแน่นอน พวกคุณจะแกล้งศัตรูเช่นนี้ได้อย่างไร คุณรู้หรือไม่ว่ากำลังทำให้พวกเขาหมดหวัง? จงมีเมตตาและให้พวกเขาตายอย่างเจ็บปวด


เหล่าคนของตระกูลหยิง ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงสองคนนี้ มันยากที่จะอธิบายเรื่องเกินจริงพวกนี้ด้วยพลังเล็ก ๆ นี่


หยิงจิงซานนั้นคาดไม่ถึงยิ่งกว่า ลูกชายของเขาถูกทำร้ายโดยพวกเธอ มันจะเป็นไปได้อย่างไร!!!


ห้องโถงเงียบสงบชิงหยูตงกับเย่จีจี้ไม่ได้พูดอะไรและรอตัวแสดงหลักที่จะขึ้นมาบนเวทีอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไร แต่พวกเขาก็มองไปที่ชายวัยกลางคนที่ดูเป็นผู้นำคนนั้นและชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาคงจะเป็นลูกชาย แล้วสถานะตัวตนของคนที่ถูกเหยียบคืออะไร?


หลิวปี้ช่วยพยุงให้หยิงคังซีที่เดินกะโผลกกะเผลกเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเขาเห็นทั้งสองในห้องโถง เขาจำพวกเธอได้อย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าไปทันที


“ฉันจะฆ่าแก!!!” แม้ว่าพวกเธอจะกลายเป็นขี้เถ้าแต่หยิงคังชีก็ยังคงจำพวกเธอได้ ว่าสิ่งสำคัญของเขาถูกเหยียบย่ำโดยพวกเธอ!


คิ้วของหยิงจิงซาน ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ได้รับการคุ้มครอง หยิงคังซีผู้น่าสงสารถูกเขวี้ยงกลับไปหลายเมตร นั่งอยู่บนพื้น บาดแผลของเขาถูกกระแทกทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว เขามองพ่อของเขาอย่างไม่เชื่อสายตา


“พ่อ ให้ฉันฆ่าพวกเธอ!!!” ตอนนี้ไม่มีหน้าอะไรเหลือให้เสียอีกแล้ว หยิงคังซีคุกเข่าต่อหน้าพ่อของเขาและขอร้อง


หยิงจิงซานกล่าวเสียงต่ำ “ฉันยังมีอะไรอยากจะถามอยู่!”


“พ่อ!”


“หุบปาก!” หยิงจิงซานตะโกนอย่างเย็นชา


หยิงคังซีไม่ได้พูดอะไรอีก เขายืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ และจ้องมองผู้หญิงสองคนในห้องโถง เขาต้องการจับพวกเธอแขวน ใช้แส้หนังทรมานให้กรีดร้อง แล้วรอฟังเสียงร้องอันขมขื่นของพวกเธอ


เย่จีจี้รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องแสดง


“อย่าเข้ามานะ พี่สาว … ฉันกลัว” เย่จีจี้มองไปที่หยิงคังซีราวกับว่าเขาเห็นปีศาจและซุกตัวเข้าหาชิงหยูตง


ชิงหยูตงเข้าใจและตอบสนองในทันที


“คุณมันสัตว์ร้าย แม้แต่เด็กเล็ก ๆ ก็ยังไม่ปล่อยให้ไป!” ชิงหยูตงแสดงภาพลักษณ์แบบพี่สาวได้เป็นอย่างดี ไม่กลัวอำนาจในขณะที่ปกป้องน้องสาวของเธอ


เมื่อเจ้าบ้านและคนของตระกูลหยิงได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูด เกือบจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนถอนหายใจและส่ายหัว


หยิงคังซีแทบจะกระอักเลือด มันเป็นคุณ! พวกคุณคือคนที่ทำร้ายฉันแล้วตอนนี้คุณกลับมากัดฉันกลับเหรอ!


“พ่ออย่าเชื่อพวกเขา!”


คำถามยังไม่ได้เริ่ม ลูกชายของเขาก็ได้รับบทเป็นเด็กวัยรุ่นจอมข่มขู่ ตอนนี้ชื่อเสียงของตระกูลหยิงมันยังเสียไม่พออีกหรอ


ชิงหยูตงแสดงได้สมจริงมากโดยเฉพาะการแสดงออกที่ไม่กลัวใครทั้งนั้น มันน่าทึ่งมาก!


โอเค ประโยคเมื่อกี้เป็นตัวตนของเธอจริง ๆ


“อย่าคิดว่าพวกคุณสามารถกลั่นแกล้งน้องสาวของฉันได้นะ! จีจี้ไม่ต้องกลัวพี่สาวของเธออยู่นี่แล้ว” ชิงหยูตงพูดด้วยความโกรธและกอดเย่จีจี้ไว้ในอ้อมแขนของเธอ


เย่จีจี้ชี้ไปที่หยิงคังซีและกล่าวว่า “คุณสามารถรังแกฉันได้ แต่อย่ารังแกพี่สาวของฉันอีกครั้งเลย … “


อัก!


หยิงคังซีรู้สึกได้ถึงกลิ่นบนหน้าอกของเขา เห็นได้ชัดว่าคุณทั้งคู่ต่างหากที่กำลังรังแกฉัน!


เมื่อมองดูพี่น้องที่น่าสงสารทั้งสอง หยิงชางพูดด้วยเสียงต่ำ “พี่ชาย ฉันเกรงว่าเราคงจะต้องหารือเรื่องนี้ไปอีกสักระยะ”


หยิงจิงซาน คิดเกี่ยวกับมันและถามว่า “พูดมาสิว่าทำไมพวกเธอถึงทำร้ายลูกของฉัน!”


ชิงหยูตงกล่าวตามจริง “คืนนั้นเขาชวนฉันและน้องสาวของฉันไปดื่ม”


หลิวปี้ชะงักไปครู่หนึ่งและไม่ได้ปฏิเสธมัน นั่นเป็นเรื่องจริง


“และเขายังขอมากเกินไป ให้น้องสาวของฉันและฉันไปกับเขา … ไปกับเขา … น้องสาวของฉันพึ่งอายุเพียง 8 ปี มีคนเลวแบบนี้อยู่ในโลกได้อย่างไร!” เมื่อพูดจบชิงหยูตงก็ร้องไห้ออกมาและกระตุ้นความสงสารของเหล่าคนในตระกูล


“เธอพูดโกหกฉันไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น!!!” หยิงคังซีร้องตะโกนอย่างตื่นตะหนก ดวงตาทั้งสองข้างของเขากลายเป็นสีแดง


อย่างไรก็ตามคำพูดของหยิงคังซีดูไร้น้ำหนักมาก ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องปกติที่จะมีความคิดแบบนั้นผู้หญิงสองคนนี้ไม่ธรรมดาและโดดเด่น หากคุณคิดแต่ไม่ได้ลงมือทำมันก็ไม่เป็นไร แต่มันก็ยังคงน่าเกลียด!


พวกเขาฟังชิงหยูตงพูดต่อไปว่า “น้องสาวของฉันและฉันเกือบจะเมาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และกางเกงของเขาก็ติดไฟ”


“แม้ว่าเขาจะอันตราย แต่ถ้าพวกเราไม่ช่วยเขาก็อาจจะตายได้ น้องสาวของฉันและฉันเลยช่วยกันลงมือเพื่อดับไฟ ทำให้เขาไม่ถูกไฟไหม้แต่เขากลัวและจากไป”


ช่างเป็นคำพูดที่สมบูรณ์แบบชิงหยูตงรู้สึกว่าเธอสามารถไปเขียนนวนิยายขายได้


การสร้างความเชื่อใจบทที่ 2 ได้โปรด …


GG: บทที่ 186 – เหตุผลของพระเจ้า


“ผายลม! คุณทำลายของฉัน คืนของฉันมา!!!” ใบหน้าของหยิงคังซีกลายเป็นสีดำ เขากำลังจะพุ่งเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็ถูกดึงไว้ด้วยพลังที่มองไม่เห็น


หยิงฮาวที่อยู่ด้านข้างโล่งใจอย่างมาก ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ


เส้นเลือดสองสามเส้นปูดขึ้นบนหน้าผากของหยิงจิงซาน โชคร้ายจริง ๆ !


“คำถามสุดท้ายเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือเป็นคำสั่ง!” หยิงจิงซานถามอย่างเย็นชา


ดูเหมือนว่าชิงหยูตงกับเย่จีจี้จะกำลังคิดบางสิ่งไว้อยู่ในใจแล้ว


ทั้งคู่เหลือบมองหยิงฮาวและจากนั้นก็หันสายตากลับไปทันที


การเคลื่อนไหวนี้รวดเร็วมากและคนทั่วไปอาจไม่ได้สังเกตเห็น แต่ผู้คนที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนทรงพลังพวกเขาจะไม่สังเกตเห็นมันได้อย่างไร!


ทุกคนต่างมองไปที่หยิงฮาว หยิงฮาวชะงักไปในทันที คุณหมายความว่ายังไง! Mlgb!!!


หยิงคังซีคาดเดาไว้อยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้เชื่อมัน ในใจเขาไม่ต้องการเชื่อมัน ยังไงคนคนนั้นก็ยังเป็นพี่ใหญ่ของเขา!


แต่เมื่อได้เห็นสายตาของพวกเธอทำให้ตัวเขาแข็งทื่อ ตาของเขาค่อย ๆ หันไปหาพี่ชายของเขา เลือดไหลซึมออกจากมุมปาก “หยิงฮาว ฉันจะฆ่านาย!!!”


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้หัวเราะเบา ๆ ในใจ ปล่อยให้พวกเขาฆ่ากันเองโดยที่พวกเธอไม่ต้องพยายามอะไรเลย มันช่างสนุกจริง ๆ


หยิงฮาวตอบโต้และพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “คุณกำลังทำบ้าอะไรกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเธอกำลังพยายามใส่ร้ายและทำให้เราสู้กันเอง”


“จีจี้กับพี่สาวไม่รู้จักเขาจริง ๆ” เย่จีจี้สะอื้นและพูดด้วยความหวาดกลัวราวกับว่าเธอถูกข่มขู่


หากไม่พูดถึงความน่ารักของเธอ คำพูดของเด็กน้อยนั้นร้ายกาจมาก


อย่างไรก็ตามคำพูดนี้เสมือนมีดแทงใจดำของหยิงฮาว ทำให้เขาระเบิดความโกรธ


“ฉันจะฆ่าพวกเธอทั้งคู่!” หลังกล่าวจบหยิงฮาวก็ลงมือทันที


เมื่อเห็นอย่างนั้นชิงหยูตงก็ปกป้องเย่จีจี้ในทันที หากในท้ายที่สุดมีคนที่ต้องการที่จะลงมือเธอก็พร้อมที่จะสู้กลับอย่างไรก็ตามเธอเล่นมากพอแล้ว


แต่สถานการณ์เช่นนี้มีหรือจะไม่มีคนเข้ามาคุม? หยิงเจียงและหยิงชางเข้ามาขวางอยู่ที่ด้านหน้าของชิงหยูตงกับเย่จีจี้ และผลักหยิงฮาวให้ถอยกลับไป


หยิงชางพูดด้วยเสียงต่ำ “หลานฮาวเอ่อร์ การฆ่าคนมันไม่ดีหรอกนะ!”


“ลุงสาม! ปีศาจทั้งสองนี้กำลังสร้างความสับสนให้ทุกคน! ปล่อยพวกเธอเอาไว้ไม่ได้!” หยิงฮาวในตอนนี้ดูร้อนรนอย่างมาก การลงมือนี้ไม่ใช่ว่ามันเท่ากับว่าเขายอมรับว่าเป็นเขา?


“พี่ใหญ่ เป็นคุณจริง ๆ! ต่อจากนี้ไปพวกเราไม่ใช่พี่น้องกันอีกต่อไป!” หยิงคังซียกมือขึ้นและสาบาน นับตั้งแต่นี้เขากับหยิงฮาวตัดขาดกันทุกอย่าง เหลืออยู่เพียงความเกลียดชังเท่านั้น


หยิงจิงซานกำหมัด ถ้าเป็นไปได้เขาไม่ต้องการให้พวกเธอปรากฏตัวขึ้นมาเลย! มันกำลังทำร้ายพวกเขา!


“พูดมา ไม่ต้องกลัว!” หยิงจิงซานตะโกน


ชิงหยูตงกอดเย่จีจี้แน่น ทั้งสองตัวสั่นราวกับว่าพวกเธอกลัวที่จะพูด


หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มันจะกลายเป็นโอกาสของหยิงเจียงและหยิงชางไป


“สาวน้อยพวกเธอไม่จำเป็นต้องกลัว ฉันกับหยิงเจียงอยู่ที่นี่แล้วไม่มีใครกล้าทำร้ายพวกคุณ คุณสามารถพูดได้” หยิงชางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม


ในฐานะผู้ใหญ่ชิงหยูตงต้องไม่พูดอะไรอย่างเด็ดขาด ตราบใดที่พวกเธอเล่นได้ดีพวกเขาจะต้องสู้กันแน่นอน


ในตอนนี้มันเป็นตาของเย่จีจี้แล้ว


“จริงหรอ?” เย่จีจี้ถามด้วยความสงสัย


ไม่มีใครตั้งคำถามกับความปรารถนาเล็ก ๆ ของโลลิที่ต้องการจะอยู่รอด


“แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง” หยิงเจียงยิ้มอย่างอ่อนโยน


ตำแหน่งบนบ่าหยิงจิงซานนั้นราวกับว่ามันหนักขึ้นอย่างมาก ลูกชายสองคน! ทั้งหมดถูกทำลายด้วยมือของผู้หญิง!


เย่จีจี้เช็ดน้ำตาอย่างน่าสงสาร จากนั้นก็ชี้ไปที่หยิงฮาวและพูดว่า “ลุงคนนี้ให้เงินแก่พี่สาวมากมายและใช้ให้เราแต่งตัวเซ็กซี่ตอนกลางคืนในบาร์”


“ไม่มีอย่างอื่นแล้ว?” หยิงเจียงถาม


เย่จีจี้ส่ายหัว “ไม่”


ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก นี่คือการสมรู้ร่วมคิดอย่างจงใจ! ถึงกับสามารถคิดแบบนี้ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขาคือลูกชายคนโต!


หยิงเจียงเยาะเย้ย “พี่ใหญ่ คุณได้สอนลูกชายได้ดีจริง ๆ ! หากเรื่องนี้นี้แพร่กระจายออกไป พวกเราตระกูลหยิงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน!”


หยิงชางเดินกลับไปกลับมา อธิบายการสมรู้ร่วมคิดอย่างช้า ๆ


“หลานคังเอ่อร์มักจะไปที่บาร์ของโรงแรมสามฤดู เธอแน่ใจว่าน้องชายของเธอจะออกไปดื่มในเย็นวันนั้น และซื้อสองสาวด้วยเงินเพราะเธอรู้จักนิสัยของน้องชายดีว่าเขาจะต้องชวนให้สองสาวน้อยมาดื่มไวน์ด้วยกันอย่างแน่นอน!”


“ภารกิจของเด็กผู้หญิงสองคนนี้เป็นเพียงการสมรู้ร่วมคิดเท่านั้น ที่จริงแล้วพวกเขามาก็เพื่อแค่ปกปิดตัวตนของบริกร!”


ด้วยคำอธิบายของหยิงชางทุกคนก็ตกอยู่ในห้วงความคิด ที่เขาพูดมามันไม่มีอะไรผิดเลย!


อย่างไรก็ตามหน้าของหยิงฮาวนั้นมืดมนอย่างมาก


หยิงชางยังคงกล่าวต่อ “คนที่ออกไปตรวจสอบพบว่าพนักงานเสิร์ฟเป็นของปลอมและเขาหายตัวไปในคืนนั้น ถ้าฉันเดาถูกมันคงจะเป็นบริกรนั้น แต่ผู้หญิงสองคนนี้ใจดีและเมตตา แน่นอนว่ามันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ทำไมในตอนนั้นหลิวปี้ถึงถูกควบคุม ฉันไม่จำเป็นต้องพูด ทุกคนก็คงจะเข้าใจแล้ว”


หลิวปี้จ้องไปที่หยิงฮาวอย่างดุร้ายในทันที ช่างเป็นผู้ชายที่ชั่วร้าย!


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้นั้นระเบิดเสียงหัวเราะอยู่ในใจ ใจดีและเมตตา คำนี้ดูเป็นงานเป็นการมาก เธอไม่ได้คิดว่าจะได้ยินคำพูดถึงเธอแบบนี้จากปากเขา


ทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยความโกรธ ข้อห้ามใหญ่ของตระกูลหยิงคือการฆ่าพี่น้อง แม้แต่การต่อสู้เพื่ออำนาจก็ไม่สามารถทำร้ายกันถึงชีวิตได้ การเหยียบครั้งนี้ร้ายยิ่งกว่าการฆ่า


อย่างไรก็ตามญาติทุกคนต่างก็กระวนกระวาย หากหยิงฮาวเป็นคนก่อคดีนี้จริง ตำแหน่งของเจ้าของบ้านจะว่างเปล่า


“ทำไมถึงไม่ฆ่าไปซะ หลานฮาวเอ่อร์ไม่ควรทำอย่างนี้เลย ยังไงเขาก็เป็นน้องชายของเธอและนี้มันก็โหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาเสียอีก!” หลังจากพูดจบหยิงชางก็ปล่อยแรงกดดันของเขาออกมาและตะโกนเสียงดัง “ฉันพูดถูกไหม!”


“ผายลม! ฉันแค่ต้องการฆ่า … “


ผู้ชมทั้งหมดเงียบกริบ หยิงชางยังคงปล่อยแรงกดดันของเขาเพื่อโจมตีจิตใจอีกฝ่ายความแข็งแกร่งของเขานั้นมากกว่าหยิงฮาว ไม่สงสัยเลยว่าหยิงฮาวจะสูญเสียการตัดสินใจของเขาไปชั่วครู่และพูดความจริงออกมา แต่ความจริงที่ออกมานั้นน่ากลัวจริง ๆ


ถึงกับกล้าที่จะฆ่าน้องชายของตัวเอง!


หยิงเจียงกล่าวเสียงต่ำ “ดูเหมือนว่าหน้าที่ของบริกรคือการฆ่าหลานคังเอ่อร์ และเด็กผู้หญิงสองคนนี้ช่วยชีวิตหลานคังเอ่อร์ไว้ได้โดยบังเอิญ”


เรื่องนี้ทำให้ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ตกตะลึง เรื่องราวนี้ดูเหมือนจะขยายออกไปเรื่อย ๆ … มันเป็นการแย่งชิงกันจริง ๆ คนทรยศช่างดุร้าย … นี้มันดีกว่าละครทีวีเสียอีก


จะใครอีกล่ะ ขอบคุณเราสิถ้าไม่ใช่เพราะเราคุณคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว


อย่างไรก็ตามชิงหยูตงคิดว่าจิ่วเย่คงจะเกี่ยวข้องอะไรบ้างอย่างกับผู้ชายคนนี้ น่าสนใจดูเหมือนว่าจิ่วเย่ยังมีความลับที่ใหญ่มาก พวกเธอก็จะค่อย ๆ ขุดเขาอย่างช้า ๆ


การพลิกกลับครั้งใหญ่ทำให้หัวของหยิงจิงซานสั่นสะเทือน ลูกชายคนโตอิจฉาและพยายามจะฆ่าน้องชายของตัวเอง! ถ้าไม่ใช่เพราะความผิดพลาดตอนนี้ลูกชายคนเล็กของฉันก็คงจะข้ามแม่น้ำเหลืองไปแล้ว!

( แม่น้ำเหลือง – นรกของจีน )


“พี่ใหญ่ พวกเราเสียใจมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่มีกฎใดที่จะห้ามไม่ให้มันเกิดขึ้น!” หยิงเจียงพูดออกมาดัง ๆ อย่างไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย จริง ๆ ตามกฎตระกูลแล้ว หากมีคนจะทำสิ่งนี้และถูกจับได้ แม้แต่ศพเพียงเล็กน้อยก็จะไม่มีเหลือให้เห็น


หยิงฮาวเสียใจ! ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เมื่อคืนเขาคงจะลงมือด้วยตัวเอง!


GG: บทที่ 187 – แม่ลืมฉันเถอะ


ถึงแม้ว่าผู้หญิงสองคนนี้จะไร้สาระ แต่พวกเธอโดนฆ่าแน่นอน! สิ่งที่น่าขันคือพวกเธอยังกล้าที่จะหลอก ฉันโง่จริง ๆ !


หยิงคังซีคุกเข่าต่อหน้าพ่อของเขาและตะโกนด้วยความโกรธ “พ่อ! หยิงฮาว ละเมิดกฎของบ้าน และเขายังคิดจะให้พ่อจัดการเก็บกวาดมัน!”


เมื่อหยิงคังซีพูดเช่นนั้นญาติทุกคนก็ยืนขึ้นและตะโกน “พวกเราหวังว่าท่านเจ้าบ้านจะจัดการกับเขาตามกฎของตระกูล!”


หยิงฮาวทราบดีว่าจุดจบนั้นจะเป็นอย่างไร ดังนั้นการวิ่งหนีจึงดีกว่าที่จะนั่งอยู่เฉย ๆ!


หยิงฮาวนั้นรีบวิ่งออกไปในทันที ความคิดดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดูปัญญาอ่อนก็จริง แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้มันไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เลย


เหล่าคนในตระกูลจับตัวหยิงฮาวได้อย่างง่ายดายและให้เขานั่งคุกเข่าลงข้างชิงหยูตงกับเย่จีจี้


หยิงฮาวจ้องมองผู้หญิงสองคนที่ด้านข้างของเขา เย่จีจี้ก็ทำหน้าทำตาเยาะเย้ยหยิงฮาว “แบร่ ~”


การกระทำนี้กระตุ้นหยิงฮาวได้ในทันที เขาต้องการที่จะฆ่าผู้หญิงสองคนนี้ แต่ผลที่ได้คือมันทำให้เขาดูแย่และพิสูจน์ว่าเรื่องั้งหมดนั้นจริงมากขึ้น


“ฉันจะฆ่าคุณ! ฉันจะฆ่าคุณ!” ใบหน้าของหยิงฮาวบิดเบี้ยว ตาของเขาทอประกายดุร้าย เขาคำรามใส่ผู้หญิงสองคนที่ข้างตัวเขา


หยิงจิงซานยังคงนิ่งเงียบไม่มีความเจ็บปวดอยู่ในใจเขา คำพูดของจักรพรรดินีทำให้พี่น้องตระกูลหยิงทำลายกันเอง และให้ตระกูลกดดันเจ้าบ้านให้ฆ่าลูกของตัวเอง !


มันช่างแดกดัน! และเป็นการประชดที่ยอดเยี่ยม!!!


วันที่ผ่านมาญาติพี่น้องอิจฉาลูกชายคนโตที่ได้เป็นหัวหน้าตระกูลละลูกชายคนเล็กที่ได้แต่งงานกับจักรพรรดินี ช่างเป็นวันที่รุ่งโรจน์ แต่วันต่อมาลูกชายคนเล็กกลับถูกเหยียบย่ำและลูกชายคนโตอยากจะฆ่าน้องชายของเขา


จุดเปลี่ยนแบบนี้ทำให้ทั้งตระกูลประหลาดใจ แต่มันก็ตลกและเป็นโอกาสที่หายาก!


อันที่จริงผู้ร้ายตัวจริงกำลังนั่งอยู่ในห้องโถง แต่พวกคุณกลับกลายเป็นคนตาบอดที่มองไม่เห็น


แต่ก็ต้องบอกว่าชิงหยูตงกับเย่จีจี้นั้นช่วยชีวิตหยิงคังซีไว้ได้จริง ๆ ไม่เช่นนั้นจิ่วเย่ก็คงจะวางยาพิษใส่เขาได้สำเร็จ


“ฮาวเอ่อร์ คังเอ่อร์ … ” หยูเหอที่ดูอ่อนล้าวิ่งเข้ามาทางประตู มองลูกชายทั้งสองที่คุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วก็ร้องไห้ออกมา


“คุณกำลังทำอะไร ลุกขึ้น มันมีความเข้าใจผิดอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้กัน!” หยูเหอกรีดร้อง


หยิงเจียงพูดเบา ๆ “พี่สะใภ้ลูกชายคนโตของคุณต้องการฆ่าน้องชายของเขาและฝ่าฝืนกฎของตระกูล!”


“อะไรนะ! เป็นไปไม่ได้ ฮาวเอ่อร์จะฆ่าคังเอ่อร์ได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้ ฮาวเอ่อร์! พูดกับแม่สิ!” หยูเหอเขย่าลูกชายของเธอ เสียงร้องของเธอแหบแห้งเพราะเธอร้องไห้เรื่องลูกชายคนเล็กอยู่นาน


แต่ตอนนี้กลับมีคนมาบอกเธอว่าลูกชายคนโตของเธอต้องการฆ่าน้องชายของเขา มันเหมือนกับมีสายฟ้าผ่าลงมากลางฟ้าใส!


หยิงฮาวคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ได้หันมาเผชิญหน้ากับแม่ของเขาและก้มศีรษะของเขาลงต่ำ


หยูเหอวิ่งเข้าไปหาลูกชายคนเล็กของเธอแล้วร้องไห้ “คังเอ่อร์ ฟังคำแม่นะลูก พี่ชายของลูกจะอยากฆ่าลูกได้อย่างไร นี่จะต้องเป็นความเข้าใจผิดอย่างแน่นอน เร็วเข้ารีบคุยกับพ่อของลูกสิ”


หยิงคังซีไม่ได้มองไปที่แม่ของเขา แต่ก้มหัวลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “หยิงฮาวสมควรได้รับมัน! กฎตระกูล!”


หยูเหอทรุดตัวลงบนพื้นอย่างไม่เชื่อ คนพี่ต้องการจะฆ่าน้องชายของเขาและคนน้องขอให้กฎของตระกูลจัดการกับพี่ชายของเขา ทำไม! ทำไมเพียงแค่วันเดียวถึงได้เปลี่ยนแปลงตระกูลดี ๆ ให้กลายเป็นแบบนี้ไปได้กัน!


“จินซานคุณพูดอะไรสักอย่างสิ! คุณไม่สามารถฆ่าฮาวเอ่อร์ได้นะ เขาเป็นลูกของเรา!!!” หยูเหอคุกเข่าลงต่อหน้าสามีของเธอและขอร้อง


ไม่มีใครพูดอะไรเพราะถูกภาพตรงหน้าตรึงไว้


ฟังภรรยาของเขาอ้อนวอน ทำไมหยิงจิงซานถึงจะไม่อยากช่วย แต่ด้วยตำแหน่งที่เขานั่งอยู่นี่ เขาจะช่วยอย่างไร! จะช่วยยังไง!


“จินซาน ฉันขอร้องคุณ ถ้าคุณต้องการที่จะฆ่าฮาวเอ่อร์ ก็ให้ฉันตายแทนลูกชายของฉัน!” อย่างไรก็ตามหยูเหอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอแค่ต้องการช่วยลูก ๆ ของเธอเท่านั้น


การแต่งงานกับตระกูลแบบนี้สามารถเพลิดเพลินไปกับความสุขที่เกิดจากอำนาจได้มากมาย แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังคงต้องสูญเสียไปมากมายเช่นกัน


“แม่!”


เมื่อหยูเหอได้ยินเสียงเรียกของลูกชายคนโตใจของเธอก็แตกสลาย


ตระกูลหยิงไม่เหมือนตระกูลทั่วไป พวกเขามีกฎในการเรียกชื่อและนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินลูกชายของเธอเรียกแม่


หยูเหอเข้าไปหาลูกชายคนโตและจับมือของเขาไว้ “ฮาวเอ่อร์ แม่จะช่วยลูกเอง ลูกวางใจแม่นะ”


ผู้ชายจะต้องไม่ร้องไห้ นี่คือการสั่งสอนที่หยิงฮาวได้รับมา ดวงตาของเขาแดงแต่เขาก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมา


“แม่ ในที่สุดลูกชายก็ได้เรียกคุณว่าแม่แล้ว! อย่าขออะไรอีกเลย … ” หยิงฮาวรู้ว่าการวิงวอนทั้งหมดนั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้อีกแล้ว ฟังเสียงกรีดร้องของแม่ ใจของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นี่อาจเป็นบทลงโทษสำหรับเขา!


“พวกเขาทั้งหมดพูดถูกฉันต้องการที่จะฆ่าน้องชายของฉัน ฉันสมควรที่จะได้รับมัน ลืมลูกชายคนนี้ของคุณไปเถอะ ลูกชายไม่กตัญญูฉันไม่มีหน้าที่จะไปสู้หน้าคุณได้ ฉันไม่คู่ควรกับตระกูลหยิง โปรดรับการคำนับ3ครั้งจากลูกชาย ขอบคุณสำหรับการเลี้ยงดูของคุณ แม่!”


หยิงฮาวแกะมือจากแม่ของเขา ขยับไปข้างหลังแล้วบอกลาแม่ของเขา!


ปัง!


หน้าผากของหยิงฮาวกระแทกลงบนพื้นอย่างรุนแรง หินพื้นแตกทันทีและทั้งห้องโถงก็สั่นเล็กน้อย


ปัง!


พื้นหินไม่สามารถทนได้มันทรุดตัวลง รอยแตกร้าวกระจายออกไปไม่หยุด


ปัง!


เศษพื้นกระเด็นออกจากหลุมเล็ก ๆ ใบหน้าของหยิงฮาวที่ปกคลุมไปด้วยเลือดสั่นสะเทือนทุกคน


แม้แต่ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ก็ตกตะลึง พวกเธอไม่ได้คิดว่าหยิงฮาวจะทำเช่นนี้ พวกเธอคิดว่าเขาจะตายโดยไม่ยอมรับมัน


“แม่กลับไปเถอะ คุณไม่มีลูกชายอย่างฉัน”


หยูเหอมองลูกชายที่ใบหน้าของเขาเปื้อนเลือด หัวใจของเธอรู้สึกราวกับถูกมีดกรีด เธอกอดลูกชายเอาไว้ในอ้อมแขนของเธอเหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็ก “แม่จะไม่ไป แม่จะอยู่กับคุณ”


หยิงฮาวหายใจออกลึก ๆ และเพลิดเพลินไปกับความอบอุ่นครั้งสุดท้าย จากนั้นเขาก็ลูบหน้าผากของแม่อย่างอ่อนโยนแล้วทำให้เธอหลับไป


สาวใช้รีบพาหยูเหอที่หลับลงออกไป ทั้งห้องโถงเงียบลงอีกครั้ง ตอนนี้หยิงคังซีก็ยังคงคุกเข่าต่อหน้าพ่อของเขาและก้มหัวลงวิงวอน ไม่มีความตั้งใจที่จะให้อภัย


หยิงจิงซานพูดด้วยเสียงต่ำ “หยิงฮาว! ละเมิดกฎของตระกูล ตัดมือเท้าและลงโทษจองจ้ำในถ้ำฝุ่น!”


เมื่อได้ยินคำประกาศดังกล่าว เหล่าคนในตระกูลก็ถอนหายใจ ตราบเท่าที่เข้าไปในถ้ำฝุ่นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะออกมา


หยิงคังซีได้ยินบทลงโทษเช่นนี้ ในที่สุดก็รู้สึกได้รับการชดเชย!


หยิงฮาวที่ได้ยินบทลงโทษจากพ่อของเขา ไม่ได้แสดงอะไรออกมากมาย เขาเดาเรื่องนี้ไว้แล้ว


แต่ชิงหยูตงกับเย่จีจี้กำลังสงสัยว่าถ้ำฝุ่นนี้คืออะไร


“สำหรับคุณสองคน” หยิงจิงซานจ้องมองไปที่ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ หากทั้งคู่ไม่ปรากฏตัวมามันก็คงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น!


“ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะจัดการอย่างไร ทำให้ลูกชายของหัวหน้าตระกูลเป็นหมัน ลงโทษให้เข้าถ้ำฝุ่น!” สำหรับการลงโทษนี้ไม่มีใครให้ความสำคัญนัก ถึงแม้ว่าผู้หญิงสองคนนี้จะช่วยชีวิตของหยิงคังซีไว้แต่พวกเธอก็ทำให้ชีวิตเขาพัง แน่นอนว่ามันไม่สามารถชดเชยได้


แต่การลงโทษให้เข้าถ้ำฝุ่นนั้นค่อนข้างจะดูแรงไปหน่อย การลงมือตรง ๆ เลยมันคงจะดีกว่า


ความโกรธของหยิงจิงซานนั้นไม่มีที่ให้ลง ความซวยจึงมาตกที่ชิงหยูตงกับเย่จีจี้


แต่นอกจากความกลัวแล้ว พวกเธอทั้งสองอยากรู้เกี่ยวกับถ้ำฝุ่นและต้องการดูว่ามันคืออะไร พวกเขาถึงดูหวาดกลัวและให้ความเคารพ


ญาติบางคนอดถอนหายใจไม่ได้เมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้หญิงสองคนกำลังจะหายไป น่าเสียดาย …


ขอทีเถอะ


GG: บทที่ 188 – สัตว์ร้ายโบราณ!


การส่งคนเข้าไปในถ้ำฝุ่นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตระกูลหยิง คนในตระกูลทั้งหมดและผู้คุมอยู่ที่นี่


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้มองเจ้าบ้านตระกูลที่กำลังกราบไหว้บูชาสวรรค์อย่างรู้อยากเห็น ดูเหมือนว่านี่จะทำให้พวกเขามั่นใจขึ้นและราวกับว่าสวรรค์ดีกว่าถามตัวเอง


“พี่สาวชิงคุณกลัวไหม ถ้าคุณกลัวเรารีบออกไปกัน” เย่จีจี้กระซิบ


ชิงหยูตงพูดพึมพำว่า “ไม่ ลองเข้าไปดูกันว่ามันคืออะไร”


“ฉันก็คิดเหมือนกัน” เย่จีจี้สงสัยอย่างมากเกี่ยวกับถ้ำฝุ่น มีสัตว์ประหลาดข้างในไหม? ฉันชอบเล่นกับสัตว์ประหลาด ~


ถ้ำฝุ่นขนาดใหญ่นี้ตั้งอยู่ที่ด้านหลังของเกาะ มองจากภายนอกถ้ำนี้ดูเหมือนจะยาวไปถึงก้นทะเล อากาศเย็นเป็นครั้งคราวทำให้ผู้คนรู้สึกตัวสั่น


เมื่อพิธีกราบไหว้บูชาจบลงในที่สุด หยิงจิงซานก็มองไปที่ลูกชายของเขาจากนั้นก็หันหลังกลับและตะโกน “เข้าไปในถ้ำ!”


ผู้คุมพาทั้งสามคนและเดินไปที่ถ้ำฝุ่น เมื่อหยิงฮาวผ่านน้องชายเขาก็กล่าวว่า “ดูแลแม่ให้ดี”


หยิงคังซีมองไปที่พี่ชายที่กำลังจะฆ่าตัวตายและไม่พูดอะไร


ผู้คุมตะโกนเร่งทั้งสามคนเดินช้า ๆ เข้าไปในถ้ำฝุ่นอากาศ ทันใดนั้นเย็นเข้าปะทะหน้าพวกเขาและอุณหภูมิก็ลดฮวบลงในทันที


เมื่อได้เข้ามาแล้ว พวกเธอก็ไม่จำเป็นแสดงอีกต่อไป


“ลั้ลลาลา ลั้ลลาลา มันสนุกจริง ๆ ~” เย่จีจี้กอดหมีในมือของเธอและกระโดดโลดเต้น ขึ้นลงบันไดที่ตรงไปในส่วนลึกของถ้ำ


“จีจี้ ช้า ๆ หน่อยเดี๋ยวก็ล้มหรอก ~” ชิงหยูตงเตือน


เย่จีจี้วิ่งกลับขึ้นมาอีกครั้งและยิ้มหวาน “เข้าใจแล้ว”


ทั้งสองมองไปที่หยิงฮาวที่เงียบงันแปลก ๆ ตอนนี้มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะฆ่าน่ะ


หลังจากผ่านไปนาน ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ก็ไม่สามารถทนไฟของการนินทาในใจได้


“เฮ้ ทำไมนายไม่ฆ่าพวกเราล่ะ?” ชิงหยูตงถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เย่จีจี้ก็รอคำตอบของอีกฝ่าย


หยิงฮาวที่มีใบหน้าเปื้อนเลือดหัวเราะเยาะ “มันง่ายเกินไปสำหรับฉันที่จะฆ่าพวกเธอ การถูกสังหารด้วยพายุฝุ่นเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด ทำไมฉันต้องลงมือให้พวกเธอตายไปอย่างง่าย ๆ ด้วยล่ะ?”


“พายุฝุ่นคืออะไร? ดูเหมือนคุณจะกลัวมันมาก” เย่จีจี้ถามด้วยความอยากรู้และถือหมีไว้ในมือทั้งสอง เครื่องหมายคำถามนับแสนราวกับเขียนอยู่บนใบหน้าของเธอ


หยิงฮาวตะลึงและหัวเราะเยาะในความไม่รู้ของพวกเธอ


“พายุฝุ่นเป็นสัตว์ร้ายโบราณที่โหดร้ายที่สุด มันถูกตระกูลหยิงผนึกไว้มาหลายพันปีแล้ว!”


เย่จีจี้ป้องปากอุทานด้วยมือเล็ก ๆ “ว้าว สัตว์ร้ายโบราณ แค่คิดถึงมันก็ตื่นเต้นแล้ว”


“น้องสาวของคุณบ้าไปแล้ว” หยิงฮาวหัวเราะ


ชิงหยูตงหยักไหล่ เธอไม่เคยเห็นตัวอะไรที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายโบราณมาก่อน


ในความเป็นจริงเธอได้กินเนื้อสัตว์ประหลาดยักษ์ไปแล้ว สัตว์ร้ายโบราณตัวนี้เทียบไม่ได้กับสัตว์ประหลาดยักษ์


หลังจากผ่านไปนานทั้งสามคนก็มาถึงจุดสิ้นสุดของบันไดที่ดูว่างเปล่า ที่ความมืดมิดนั้นมีความหนาวเย็นและแรงกดดันที่รุนแรงกระจายออกมา


หยิงฮาวถอนหายใจยาว “ฉันจะไปรอพวกเธอที่อีกฝั่ง!”


หลังจากพูดแล้วเขาก็ตรงเข้าไปสู่ความมืด


โฮก!


ย้าก!


มีเสียงคำรามรวมถึงเสียงโต้กลับของหยิงฮาว แต่หลังจากนั้นไม่กี่วิทั้งโลกก็เงียบลงอีกครั้ง ชิงหยูตงได้ยินเสียงเคี้ยวเล็กน้อย ฟังดูกรุบกรอบ


เย่จีจี้ส่ายหัวของเธอ “คุณยังมีชีวิตอยู่คุณต้องไปตาย คุณไม่สามารถรอฉันได้ตลอดชีวิต”


ชิงหยูตงหัวเราะ เธอเอาหินออกมาจากระบบและโยนขึ้นไปในอากาศ มันสว่างขึ้นทันที!


ทั้งสองได้เห็นรูปร่างหน้าตาของสิ่งที่เรียกว่าพายุฝุ่น หัวสิงโต ร่างกายจระเข้ ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกลูกผสม


“นี่เป็นสัตว์ร้ายโบราณที่น่าเกลียดที่สุดและอ่อนแอที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น” เย่จีจี้บ่น


“แสบตาจริง ๆ ฉันไม่ได้คิดว่าสัตว์โบราณจะน่าเกลียดมากขนาดนี้” ชิงหยูตงไม่สามารถทนได้อีกต่อไป


ความสวยงามของทั้งสองมีรสนิยมจริง ๆ พายุฝุ่นนั้นก็มีศักดิ์ศรี ร่างกายของมันมีความยาวเกือบ 300 เมตร มันสูงประมาณตึกสิบชั้น ขนใต้คอนั้นเหมือนหนามทองคำแหลมคม เกล็ดบนร่างของมันนั้นสูงมากดูไม่ยากที่จะทำลายการป้องกันของมัน


ประเด็นก็คือสี่กรงเล็บขนาดใหญ่ที่เปล่งประกายด้วยแสง


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้เป็นเหมือนจุดดำเล็ก ๆ อยู่ตรงหน้าของพายุฝุ่น พวกเธอดูไม่สำคัญอะไรเลย


พายุฝุ่นคลานอย่างช้า ๆ ทุกครั้งที่มันขยับถ้ำก็สั่นสะเทือน


สัตว์ในสมัยโบราณทั้งหลายนั้นมีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง มนุษย์อ่อนแอสองคนนี้กล้าที่จะไม่ใส่ใจสัตว์ร้ายตัวนี้ และมองไปทางอื่น! อย่าคิดว่าคุณมีดีอะไรมากนัก สัตว์ร้ายตัวนี้สามารถเอาชีวิตคุณได้!


โฮก!!!


พายุฝุ่นส่งเสียงคำราม แรงกดดันมากมายพุ่งสูงท้วมทั่วบริเวณ นี้เป็นกลอุบายที่ทำให้เด็ก ๆ กลัว


ฝูงคนตระกูลหยิงนอกถ้ำได้ยินเสียงคำรามของพายุฝุ่น สูดหายใจด้วยความตกใจ


ทันใดนั้นเสียงคำรามก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างไม่คาดคิดพร้อมกับลมหายใจอันรุนแรงพัดออกมาจากถ้ำไปทั่วทั้งแท่นบูชา


หยิงจิงซานกล่าวเสียงต่ำ “พายุฝุ่นตัวนี้ แกร่งขึ้นกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย … “


ล้อเล่นน่า เสียงคำรามเมื่อครู่เป็นของเย่จีจี้ต่างหาก


เย่จีจี้ไม่เคยกลัวที่จะคำราม


อย่างไรก็ตามพายุฝุ่นที่หยิ่งอยู่เมื่อครู่ กำลังซ่อนตัวสั่นอยู่ในมุมเหมือนลูกแมวที่ได้รับบาดเจ็บ มันซุกศีรษะของตัวเองไว้ตรงหว่างขาหน้า


ในความเป็นจริงชิงหยูตงก็กลัวเช่นกัน ปกติแล้วความสามารถของเย่จีจี้นั้นดูไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก เสียงของโลลินั้นก็ไม่ได้ใช้เครื่องเปลี่ยนเสียง


โอเค คุณคงเดาได้


“ลั้ลล้าลา ลั้ลล้าลา อุลตราแมนโจมตีสัตว์ประหลาดตัวเล็ก ~ ” เย่จีจี้แกว่งหมีในมือของเธอกระโดดโลดเต้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพายุฝุ่นและเหยียดเท้าออกไปเตะกรงเล็บของมัน


“พี่สาวชิง ดูนี้สิ เล็บเจ้าตัวนี้ถูกทาสีด้วยยาทาเล็บสีดำล่ะ ดูดี”


พายุฝุ่น: “คุณโกหก! ฉันมีเล็บสีดำบริสุทธิ์ตามธรรมชาติเข้าใจไหม! อย่าคิดว่าคุณแข็งแกร่งแล้วจะมาทุบตีสัตว์ร้ายแสนดีได้นะ”


ชิงหยูตงเดินเข้าไป ถอนหายใจและพูดว่า “สีดำมันไม่ดี เราทาสีแดงดีไหม?”


“โอเค จีจี้ชอบสีแดง ~”


สัตว์ร้ายโบราณนั้นสิ้นหวังอย่างมาก


ทั้งสองทาสีใหม่จริง ๆ ไม่ได้มีการล้อเล่นแต่อย่างใด


“ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้อายซะจริง วางเล็บของคุณลงมาหน่อยสิ ไม่งั้นจะทาสีไม่ได้นะ”


“อุ้งเท้านั้นช่างเหมือนกับมือของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ฉันไม่เคยเห็นมันในโลกนี้มาก่อนเลย”


พายุฝุ่น: “……”


เมื่อได้ฟังคำพูดของชิงหยูตงกับเย่จีจี้ พายุฝุ่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสิ้นหวังแทบตาย พวกเธอมันไร้มนุษยธรรม ทากรงเล็บที่แสนภาคภูมิใจของฉันให้กลายเป็นสีแดงแพรวพราวและต้องการยัดเหยียดความสวยงามในแบบพวกเขามาให้ฉัน มารดาเถอะฉันอยากตาย!


ชิงหยูตงตบมือของเธอ “จีจี้ เธอว่าสวยไหม?”


เย่จีจี้กอดหมีมองดูท่าทีขัดข้องใจของพายุฝุ่น “คุณรู้ไหม มันจะง่ายกว่าถ้าคุณดึงนั้นออกมาใช้?”


“ โอ้ จริงด้วย จีจี้ฉลาดจริง ๆ มาให้พี่สาวจูบเธอที” จากนั้นเธอก็อุ้มเย่จีจี้ไว้ในอ้อมแขนและจูบเธอ


“โอ้ พี่สาวชิง คุณช่างเป็นคนโง่ … “


พายุฝุ่นก้มศีรษะของเขา ฉันยังเป็นเด็ก …


ชิงหยูตงหยิบไม้เท้าสีวิเศษออกมาจากระบบ หมุนมันเบา ๆ แล้วชูมันขึ้นทันที


GG: บทที่ 189 – ลูกพี่ลูกน้องคนโตกำลังจะมาแล้ว!


พายุฝุ่นยืดตัวเต็มความสูงอย่างช้า ๆ แววตาของมันไม่ได้สิ้นหวังอีกต่อไป แต่มันต้องการทำให้คนอื่นหมดหวัง ให้คนอื่นได้รับความอัปยศนี้แทน!


โฮก!


พายุฝุ่นไต่ขึ้นบันไดเหมือนเครื่องจักร หินนับไม่ถ้วนกลิ้งตกลงมา ถ้ำทั้งหมดสั่นราวกับกำลังจะพังลง


ชิงหยูตงปลดผนึกออก จุดประสงค์ของเธอนั้นง่ายมากเอาพายุฝุ่นออกไปเล่น การถูกขังไว้นาน ๆ จะทำให้ปัญญาอ่อน


“พี่สาวชิงเราขึ้นไปเล่นกันเถอะ”


“ได้สิ”


ทั้งสองจับมือกันและตามหลังพายุฝุ่นไป เสียงหัวเราะอันไพเราะของเย่จีจี้ดังสะท้อนออกมาแต่เสียงหัวเราะนั้นกลับฝังดูน่าขนลุก


ในตอนนี้เจ้าบ้านและคนตระกูลหยิงกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงเพื่อพูดคุยกันเรื่องว่าที่เจ้าบ้านคนต่อไป ในใจหยิงจิงซานโกรธมาก ลูกชายของเขาเพิ่งจะตายไป แต่พวกเขากลับรอไม่ไหวที่จะเป็นว่าที่เจ้าบ้านคนต่อไป!


ทันใดนั้นเอง!


ทั้งห้องโถงเริ่มสั่นสะเทือน ทั้งตระกูลหยิงตกตะลึง ลมหายใจนี้ …


“พายุฝุ่น!” หยิงชางตะโกนขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ พายุฝุ่นจะออกมาได้อย่างไร!


ทั้งเกาะสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว กลิ่นอายกดดันอันน่ากลัวที่กระจายออกมาจากพายุฝุ่นทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก


หยิงจิงซานตะโกนขึ้นอย่างไม่ลังเล “ใช้สิ่งประดิษฐ์โบราณทั้งหมดของตระกูลหยิง! ให้แน่ใจว่าปิดผนึกพายุฝุ่นได้ อย่าปล่อยให้มันออกมา!”


เมื่อเผชิญกับวิกฤติตระกูลหยิงก็ยังคงเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะกลายมาเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ได้อย่างไร


เมื่อพายุฝุ่นโผล่ออกมาจากถ้ำทันใดนั้นมันก็คำรามขึ้น ราวกับกำลังบอกให้โลกรู้ว่าความตายของคุณมาถึงแล้วฉันจะบดขยี้คุณด้วยกรงเล็บสีแดง!


ทุกครั้งที่มันก้าวขาออกมา อาคารที่หรูหราของตระกูลหยิงกลายเป็นโอรีโอ ไม่รู้ว่ามีใครอยู่ที่ใต้เท้าข้างนั้นหรือไม่!


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ตามออกมาอย่างช้า ๆ พวกเธอมองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้าและยืดเอวขี้เกียจเล็กน้อย


“พี่สาวชิง อุ้มหน่อย เหนื่อย ~” เย่จีจี้ยื่นมือออกมาแล้วพูดว่าเธอไม่อยากขยับตัวแล้ว


ชิงหยูตงอุ้มเย่จีจี้ขึ้น “ไปดูสัตว์ประหลาดตัวใหญ่สู้กับอุลตราแมนกัน”


“โอ้ ตอนนี้กี่โมงแล้ว? ถ้าลูกพี่ลูกน้องใหญ่ถ่ายภาพแต่งงานเสร็จและพบว่าเราไม่ได้อยู่ที่นั่น”


ชิงหยูตงมองไปที่ท้องฟ้า “ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือมาด้วย มองท้องฟ้าตอนนี้มันคงจะค่ำแล้ว”


“พี่สาวชิง คุณพูดเรื่องนี้นะ ~ “


“เด็กน้อย รู้จักโยนหม้อนะ” ชิงหยูตงบีบจมูกเล็กของเย่จีจี้ที่กำลังหัวเราะ


ตอนนี้พายุฝุ่นราวกับเครื่องจักรสงคราม ครึ่งหนึ่งของอาคารตระกูลหยิงทั้งหมดถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง ตระกุลหยิงทุกคนเริ่มโจมตีพายุฝุ่นอาวุธในมือของพวกเขาส่องแสงเป็นสีต่าง ๆ คุณสามารถรู้ว่าพวกมันเป็นสินค้าราคาถูกได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น


“พี่ใหญ่! พายุฝุ่นตัวนี้แปลกมากมันดูหงุดหงิดมาก!” หยิงชางถือหอกอยู่ในมือของเขา หอกสีดำล้อมรอบด้วยสายฟ้า! อาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ!


ในเวลานี้หยิงเจียงก็บินมาด้วย ในมือของเขาถือมีดขนาดใหญ่เหมือนชิงหลงเหยี่ยนเยว่เตา แต่ว่าใบมีดเป็นสีเหลืองและมันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ

(“ชิงหลงเหยี่ยนเยว่เตา 青龙偃月刀” หรือ ง้าวมังกรเขียว* อาวุธคู่กายของกวนอู)


สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับยักษ์ทั้งสามคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ


“พี่ใหญ่ กรงเล็บหนักของพายุฝุ่นตัวนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงได้อย่างไร … มันดูแปลก ๆ ไปหน่อยนะ”


หยิงจิงซานรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน พวกมันเหมือนถูกเคลือบด้วยน้ำยาทาเล็บ!


“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ปราบพายุฝุ่นแล้วปิดผนึกมันอีกครั้งก่อน!”


“ได้!”


“ได้!”


คำสั่งของเจ้าบ้านไม่สามารถฝ่าฝืน กฎก็คือกฎ ไม่มีใครสามารถแทนที่กฎของตระกูลหยิงได้!


เย่จีจี้ที่อยู่ในอ้อมแขนของชิงหยูตงเบ้ปาก “เด็กน้อยนี่ดูเหมือนจะไม่สามารถสู้ได้เลย”


“เอาล่ะ อาวุธในมือของพวกเขามันยากมากที่จะรับมือ” ชิงหยูตงกล่าว


ทั้งสองซ่อนตัวในสถานที่ห่างไกลเพื่อดูการต่อสู้ พวกเธอไม่ได้คาดหวังว่าตระกูลหยิงจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ให้เวลากับพวกเขาอีกสักพักพายุฝุ่นก็คงจะถูกผนึกอีกครั้งแล้ว


ทั้งสองเฝ้าดูอยู่อีกสิบนาทีพายุฝุ่นก็ล้มลง เผชิญหน้ากับการระเบิดพลังของตระกูลหยิงพายุฝุ่นไม่สามารถต้านมันได้


“พวกเขารังแกกันเกินไป คนเป็นพัน ๆ คนรุมตีคนเดียว” ชิงหยูตงเกลียดคนเหล่านี้จริง ๆ พูดตามจริงหยิงฮาวนั้นยังดูเป็นลูกผู้ชายมากกว่าเสียอีก ส่วนคนพวกนี้ … ช่างมันเถอะ


เย่จีจี้กล่าว “พี่สาวชิง เรามาช่วยสัตว์ประหลาดตัวน้อยกันเถอะ มันน่าสงสารมากไป … “


“โอเค ให้พวกเขาเห็นว่าสิ้นหวังที่แท้จริงมันหมายถึงอะไร” ชิงหยูตงบิดคลายกล้ามเนื้อของเธอ เตรียมพร้อมที่จะลงไปสู้


ขณะที่ทั้งสองกำลังเตรียมจะเข้าสู่สนามรบ สีหน้าของเย่จีจี้ก็เปลี่ยนไปในทันที


“พี่สาวชิง! เดี๋ยว! อย่าไป!!!” เย่จีจี้ที่ปกติจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตะโกนอย่างจริงจัง


ชิงหยูตงหันหลังกลับและถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอ จีจี้?”


“ลูกพี่ลูกน้องกำลังจะมา … ” ใบหน้าของเย่จีจี้บิดเล็กน้อย เธอกำลังคิดว่าจะซ่อนตัวที่ไหนดี


“อ้า! พี่เขยกำลังจะมา !!!” ชิงหยูตงก็ตกใจและรู้สึกเจ็บที่ก้นเล็กน้อย


ซ่อน …


ทั้งสองเข้าใจในสายตาของกันและกัน แล้วไปซ่อนตัวในทันที


ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว


ในอาคารจัดงานแต่งงาน เย่ฮัวรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ไปเล่นกับเย่จีจี้ยังดีกว่า เมื่อคิดว่ายังต้องถ่ายทำในวันพรุ่งนี้อีกวันหนึ่ง เย่ฮัวก็รู้สึกราวกับว่าวันนั้นจบสิ้นแล้วและได้เข้าใจว่าความรู้สึกของความไร้กำลัง มันเป็นอย่างไร


บางครั้งเขาก็อยากกลับไปยังอดีต กลับไปเป็นโครงกระดูกตัวเล็ก ๆ ที่น่ากลัว โอ้ …


ชิงหยาเดินเข้ามาในชุดแต่งงานสีขาวและมองเย่ฮัวที่ทำหน้ามุ่ย หัวเราะในใจ “โอเค อย่าโกรธเลย กลับไปแล้วฉันจะนวดให้นะ”


“อย่าคิดว่าแค่คุณพูดอะไรดี ๆ แล้วฉันจะไม่โกรธนะ” เย่ฮัวพูด เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างน้อยสิบชุดในวันนี้และตอนนี้เขากำลังสวมสูทสีแดงสด แม้แต่รองเท้าและถุงเท้าก็เป็นสีแดงอย่างกับมาทาดอร์!


ชิงหยาเดินไปหาเย่ฮัว เธอโน้มตัวลงและจูบที่แก้มของเย่ฮัวเบา ๆ “มาเถอะ”


ชายหนุ่มที่ลากชุดแต่งงานยาวด้านหลังราวกับถูกบังคับมา ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าของเขานั้นสวยงามมากจนเขาปลื้มและอยากจะจูบเธอ ไม่จำเป็นต้องพูดว่าผู้ชายคนนี้มีเหมืองที่บ้านและมีจำนวนมาก


เย่ฮัวไล่ตามริมฝีปากของเธอแล้วชิงหยาก็เริ่มตอบรับ ผลจากการฝึกของเธอก็ค่อนข้างดี


“เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับ” เย่ฮัวพูดด้วยความหงุดหงิด


ชิงหยาเหยียดนิ้วชี้ของเธอออกมาแล้วเกาคางของเย่ฮัว เธอกระพริบตาปิ๊ง ๆ แล้วกล่าวว่า “ที่รัก รอฉันด้วยนะ ~”


เย่ฮัวจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปทางชิงหยาที่เดินจากไป ผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เลย … เธอปล่อยให้เทพของเธอ … เย่ฮัวไม่รู้ว่าจะอธิบายอารมณ์ในขณะนี้อย่างไร เธอกล้าที่จะหยอกล้อกับเทพของเธอ!


รอให้กลับไปและรอดูว่าเทพจะลงโทษคุณอย่างไร ไม่สนทั้งกฎหมายและศีลธรรม


แม้ว่าจะกล่าวเช่นนั้น แต่ปากของเย่ฮัวค่อนข้างซื่อตรง มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย


ทันใดนั้น …


เย่ฮัวเหมือนจะได้ยินเสียงคำรามเล็กน้อย ซึ่งทำให้เย่ฮัวอยากรู้อยากเห็นมาก ใครกันแอบมาเดินสัตว์ร้ายกลางคืน


มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เย่ฮัวจะได้ยินเสียงคำรามของพายุฝุ่น ยังไงซะมันก็ไม่ได้อยู่ไกลมากนัก เมื่อรวมกับความตื่นเต้นของพายุฝุ่นที่ได้ขึ้นมาบนพื้นดิน เสียงของมันดังมากและผ่านเข้ามาในหูของเย่ฮัว


แน่นอนว่าไม่มีใครอื่นได้ยิน แม้ว่าเสี่ยวยี่จะถูกเรียกมา เขาก็ไม่สามารถได้ยินได้


นี่เป็นลมหายใจชนิดหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถสัมผัสได้ บวกกับข่ายมนตราที่ขวางกั้นอยู่ มันยิ่งยากที่จะได้ยินยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม