You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! 197-203

 บทที่ 197 เธอเป็นใคร!!


พี่ใหญ่ทำสัญลักษณ์เป็นเชิงให้วิ่งได้เลย ดังนั้นทั้งหมดจึงออกวิ่งอีกครั้ง!


นี่อาจจะเป็นความได้เปรียบของเจ้าถิ่น พวกเขารู้เส้นทางทั้งหมด


เขาอุ้มอาหลี่ไว้และวิ่งเข้าไปในซอย แต่เมื่อเข้าไปได้ถึงกลางทาง เส้นทางทั้งหมดก็ถูกปิด


พี่ใหญ่ผมเขียวหัวเสีย “ไหนบอกทางโค้งพวกนี้จะทำให้รอดไง!”


“พี่ใหญ่ ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ พวกเราเจอทางคดเคี้ยวมากมายแต่อันนี้อาจจะไม่โค้งเยอะเหมือนซอยอื่นก็ได้…” ในครั้งนี้นั้นน้องเล็กพลาดสุดๆ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนี่?


อาหลี่พูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยของเธอ “คุณลุง ยอมแพ้เถอะ นี่เป็นทางเดียวแล้วนะ”


ยอมแพ้? เป็นไปไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้ในชีวิตของฉันด้วย!


พี่ใหญ่มองรอบๆตัวและพบว่ามันมีบาร์อยู่ที่นี่ บาร์? ในที่แบบนี้เนี่ยนะ… ไม่กลัวล้มละลายเลยรึไง… ชิงบาร์เหรอ? ชื่อน่าเกลียดชะมัด “ไปหลบตรงนั้นก่อน!”


“เยี่ยมเลย!”


ใจจริงทั้งสองก็ไม่ได้อยากเปิดประตูบ้านใครก็ไม่รู้เพื่อเข้าไปหลบหรอก แต่ว่าเท่าที่เห็นพวกแก๊งค์นั้นก็ไม่ได้ตามเข้าไปในบ้านหรืออะไรพวกนี้ด้วย เพราะงั้นนี่จึงเป็นทางออกสุดท้าย


“พี่ใหญ่ ทำยังไงต่อดี?”


“มีอะไรต้องคิดอีกเล่า ไป!”


ทั้ง 3 รวมกันเป็นก้อนก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้าไปในบาร์แห่งนั้น


ในความจริงแล้ว ภายในเมืองหลงอันแห่งนี้ ไม่มีบาร์ไหนที่อยากจะเริ่มตอแยกับที่นี่ซักเท่าไหร่ เอาจริงๆก็ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากทำให้ขุ่นเคืองกันมากกว่า


นั่นก็เพราะว่าบาร์นี้น่ะ…


คือชิงบาร์ไงล่ะ


สองพี่น้องหมอบอยู่ตรงประตูและเฝ้าสังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิด ทำไมพวกนั้นถึงวิ่งออกไปล่ะ?


“คุณลุง พวกเขาไปแล้ว…” อาหลี่นั้นดูสับสนและนี่เป็นสิ่งที่ให้เหตุผลไม่ได้


ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังพวกเขา


“แย่หน่อยนะ ซึ่งแปลได้ว่า ร้านยังปิดอยู่” เว่ยชางพูดด้วยความสุภาพราวกับสุภาพบุรุษ


สองพี่น้องผมเขียวผมแดงหันไปมองก่อนจะยิ้มแทนคำขอโทษ “อ่า…ไปกันเถอะ”


อาหลี่เองก็หันมามองก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงบอบบาง “ขอโทษด้วยค่ะ…”


เมื่อเว่ยชางได้เห็นใบหน้าน้อยๆของอาหลี่ นัยน์ตาของเขาก็ดูสับสนขึ้นมา ทำไมเด็กนี่ถึงคล้ายท่านผู้สูงส่งยิ่งนัก!? แล้วไหนจะกลิ่นกายที่ออกมาจากตัวเธอ ไหนจะลมหายใจ….


“เดี๋ยวก่อน!” เว่ยชางเปลี่ยนท่าทีจากสุภาพเป็นตะกุกตะกัก


ท่าทีแบบนี้แม้แต่ถังเว่ยที่เข้ามาเห้นยังตกใจ ใครกันนะที่อยู่ตรงนั้น … “ลุงเว่ย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”


เว่ยชางค่อยๆเดินเข้าไปหาอาหลี่


สองพี่น้องผมเขียวผมแดงรีบวิ่งเข้ามาดักหน้าของอาหลี่ไว้ ท่าทีที่หมดหวังของเขานั่นก็เพราะว่าพวกเขาเพิ่งจะหลุดมาจากถ้ำเสื้อแท้ๆ ยังต้องมาเจอกับจระเข้อีกเหรอ?


แต่ ณ เวลานั้น เว่ยชางตื่นเต้นเอาเสียมากๆ แม้แต่ถังเหว่ยเองก็ไม่เคยเห็นท่าทีนี้ของเขา


ตู้ม!


ภาพตรงหน้าคือร่างของพี่น้องผมเขียวผมแดงกระเด็นลอยไปติดกำแพง


“ลุงผมแดง ลุงผมเขียว!” อาหลี่ตะโกนเสียงดังและพยายามจะวิ่งเข้าไปดูอาการของทั้งสองลุงหากแต่ว่าร่างของเธอก็เด้งออกมาราวกับมีแรงที่มองไม่เห็นคอยผลักอยู่


อาหลี่หันกลับมาจ้องมองยังเว่ยจางและพูดด้วยเสียงเด็กน้อย “คุณลุงนิสัยไม่ดี! ปล่อยอาหลี่ไปนะ! คุณมันคนเลว!”


“ลุงเว่ย…” ถังเว่ยรู้สึกกังวลใจ


เว่ยจางไม่ได้สนใจมันเลย เขาเพียงแค่จ้องมองอาหลี่ มันมีความเป็นไปได้มากมายเกิดขึ้นมาในหัวของเขา


“ปล่อยอาหลี่!!!” อาหลี่เริ่มจะโกรธขึ้นมาแล้ว นัยน์ตาคู่เดิมเปล่งแสงจ้าเป็นสีแดง ลมหายใจอันแข็งแกร่งถูกปลดปล่อยออกมาราวกับเธอตั้งใจจะหักกระดูเว่ยชางออกเป็นเสี่ยงๆ หมัดเล็กๆพุ่งตรงไปหาเป้าหมาย


และตอนนั้นเองที่เว่ยชางก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นหนักขึ้นมาอีก บรรยากาศโดยรอบของเด็กคนนี้คล้ายกับท่านผู้สูงส่งมากๆ! เพราะงั้นแล้วเธอเป็นใครกันน่ะ!!


ที่สำคัญเด็กคนนี้สามารถทำลายพันธนาการของเว่ยชางได้ด้วยตัวเธอเอง เป็นไปไม่ได้!


เว่ยชางเหยียดนิ้วชี้ออกไปและยหยุดหมัดเล็กๆนั้นไว้


ความเจ็บปวดวิ่งพล่านไปทั่วจนเว่ยชางต้องข่มความเจ็บปวดนั้นๆที่ปะทุขึ้นมาแบบเร็วพลัน ไม่งั้นแล้วต้องเผลอพลั้งมือฆ่าเธอแน่ๆ


อาหลี่ผู้ที่เหวี่ยงหมัดไปต่อยดูเหมือนจะใช้พลังมากๆกับหมัดนั้นๆ เพราะงั้นดวงตาของเธอจึงค่อยๆหลับลงไปและเว่ยชางเองที่เข้าไปประคองร่างที่กำลังจะล้มไปกับพื้นนั้นไว้


“ลุงเว่ย…เธอคือ..?” ถังเว่ยถามอย่างสับสน


“ถังน้อย วันนี้น่ะ ลุงเว่ยคงจะไม่ได้ไปส่งเธอกลับบ้านนะ เพราะดูท่าว่าจะมีงานใหญ่เข้ามาแล้ว!” เว่ยชางจับมือเล็กๆของอาหลี่ไว้และสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอที่แผ่วเบาๆ ใช่แล้ว! บรรยากาศแบบนี้มันเป็นแบบเดียวกับท่านผู้สูงส่งเลย! ช่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก!


ถังเว่ยขมวดคิ้วด้วยความจริงจัง “ลุงเว่ย ถ้างั้นแล้วหนูก็จะอยู่ที่นี่กับคุณค่ะ!”


เว่ยชางพยักหน้ารับและติดต่อไปทางท่านผู้สูงส่งทันที และเหตุการณ์นี้ทำให้เขากังวลว่าวันหยุดฤดูร้อนของท่านผู้สูงส่งจะหมดเร็วกว่าที่คิดเสียแล้ว


เย่ฮั่วผู้ที่เคยห่างไกลจากชิงหยามานาน บัดนี้เขาได้รับการเติมเต็มแล้ว ทุกๆฉากทุกๆตอนที่ได้กระทำกันวันนั้น ทุกสิ่งที่เลี่ยนจนมดขึ้น จนแม้แต่ชิงยูตงเองก็ทนดูไม่ได้


จริงๆแล้วมันเหมือนกับว่าชิงหยาตอบสนองเย่ฮั่วมากขึ้นเสียมากกว่า เมื่อไหร่ที่เย่ฮั่วเริ่มจะดีด เธอเองก็จะเริ่มด้วย ซึ่งนี่ทำให้เย่ฮั่วรู้สึกมีความสุขมากๆ


จากแต่ก่อนที่ทั้งคู่นั้นไม่รู้สึกถึงความสุข รวมถึงไม่รู้สึกอะไรด้วย ในตอนนี้มันแสดงให้เห็นแล้วว่าความรู้สึกของทั้งชิงหยาและเย่ฮั่ว ค่อยๆกลับมาแล้ว และมันเพิ่มขึ้นมากในระดับหนึ่งเลย


แต่ก่อนชิงหยาจะเป็นฝ่ายจำยอมหากเย่ฮั่วแกล้งอะไรก็ตาม แต่ในตอนนี้มันไม่จำเป็นแล้ว


ตัวอย่างเช่นตอนนี้ เย่ฮั่วประกบริมฝีปากเข้าไปหาชิงหยา และเธอเองก็ไม่ขัดข้องพร้อมทั้งยกแขนทั้งสองข้างโอบเย่ฮั่วไว้ด้วย


หลังจากที่อยู่อย่างนั้นมาพักใหญ่ๆ ทั้งคู่จึงค่อยๆแยกออกจากกัน


“ปากบวมหมดแล้วเห็นไหมมม~” ชิงหยาเลียริมฝีปากตนเองเบาๆ พ่อหนุ่มอารมณ์พุ่งพล่านนี่เหมือนเด็กเข้าไปทุกที


เย่ฮั่วดึงชิงหยาเข้ามากอดไว้ก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงไปลูบบริเวณหน้าท้องส่วนล่างของเธออย่างอ่อนโยน ความรู้สึกหลงไหลนี่มันช่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก…


“เย่ฮั่ว จะตั้งชื่อลูกของพวกเราว่าอะไรดี?” ชิงหยาถามซอกแซกขณะซบอกเย่ฮั่วอยู่


เย่ฮั่วตอบแบบไม่ใส่ใจ “ต้องเป็นชื่อที่ดังที่สุดไปเลย”


“หมายถึง เย่หลาวเหลียง หรือเปล่า?”


เย่ฮั่วเคาะหน้าผากชิงหยาไปทีนึง จะตั้งแบบนั้นไม่ได้นะ…


“อ๋าาาา นายเคาะหน้าผากฉัน แสดงว่านายกำลังคิดไม่ออกสินะ” ชิงหยาร้องออกมาก่อนจะหันไปมองเย่ฮั่วด้วยความสงสาร


เขามองกลับไปยังหญิงสาวแล้วบรรจงจูบลงไปอีกทีเสียเลย


มันช่างนุ่มและหวานยิ่งนัก


“ท่านผู้สูงส่ง! ท่านผู้สูงส่ง!”


ขณะที่เย่ฮั่วกำลังมื่นชื่นอยู่กับริมฝีปากของภรรยาสาวนั้นเอง เว่ยชางก็ติดต่อเข้ามาทางกระแสจิต


แน่นอนว่าเขาไม่ยอมละปากออกจากชิงหยาแน่แต่ก็ตอบกลับไปด้วยวิธีเดียวกัน “อย่ารบกวนเด่ะ ออกไป๊!”


“ท่านผู้สูงส่ง มีงานใหญ่เข้ามาครับ!”


เย่ฮั่วขมวดคิ้ว เว่ยชางไม่เคยบอกว่ามีงานใหญ่เข้ามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว และเพราะเว่ยชางไม่เคยพูดมันจึงทำให้เขารุ้สึกเอะใจจนถอนจูบจากชิงหยาก่อน


“เย่ฮั่ว เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ชิงหยาถาม


เขาส่ายหัวก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงและหยิบบุหรี่มาจุดสูบ


“เกิดอะไรขึ้น?”


“ท่านผู้สูงส่ง ท่านต้องกลับมาให้เร็วที่สุดแล้ว! มีเรื่องที่อธิบายไม่ได้อยู่ที่นี่”


“แล้วมันคืออะไรเล่า!” เย่ฮั่วถามอย่างเยือกเย็น ไอ้สิ่งที่เรียกว่าเรื่องใหญ่นี่มันอะไรกันน่ะ?


“มีคนๆนึงที่อย่างให้เจอครับ ท่านผู้สูงส่ง ข้าผู้น้อยไม่เลอะเทอะแน่นอน!”


เย่ฮั่วกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมและก็ไม่ได้กระวนกระวายอะไร เขาพูดกับชิงหยาเชิงคำถามว่า “ชิงหยา จองตั๋วบินกลับเร็วที่สุดของวันพรุ่งนี้ เราต้องกลับแล้ว”


“เกิดอะไรขึ้น?” ชิงหยาถามด้วยความกังวล


เย่ฮั่วยิ้ม “เหมือนว่าจะเกิดอะไรขึ้นเล็กน้อย”


“ไม่ต้องมาโม้เลย เรื่องไม่เล็กแล้วมังแบบนี้ เรื่องใหญ่เหรอ?”


เย่ฮั่วยื่นมือไปหยิกแก้มชิงหยาและกล่าวตัดบท “สำหรับฉัน เธอต่างหากที่เรื่องใหญ่!”


“เย่ฮั่ว! นายเปลี่ยนไป!!” ชิงหยาร้องออกมาด้วยความตกใจ


“เอ่อ…”


“นายกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ไปแล้ว! คายเย่ฮั่วเวอร์ชั่นปกติออกมานะ!! นายมันร้ายเกินไป~ กดดาวน์เกรดตรงไหนน่ะ!!”


“แย่หน่อยนะที่เธอจะโดนหนักขึ้นๆไปอีกน่ะ!” เย่ฮั่วพูดแล้วก็พรมจูบลงไปอีก ครั้งหนึ่งฉันเคยคิดว่าคนที่อยู่สูงอย่างฉันคงไม่มาไกลกับยัยนี่ขนาดนี้ แต่ตอนนี้เริ่มอยากจะทำให้มันเป็นเรื่องจริงซะแล้ว


เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้ง 4 บินกลับหลงอันด้วยเที่ยวบินที่เช้าที่สุด เย่ฮั่วปณิธานไว้ชัดเจนว่าถ้าเกิดไอ้เรื่องที่บอกว่าใหญ่ของเว่ยชางมันไม่จริงล่ะก็ จะสั่งให้เลิกกับถังเว่ยจริงๆด้วย!


GG: บทที่ 198 – เธอคือใคร!


ชิงหยูตงกับเย่จีจี้หลับไปตลอดทาง และพวกเธอไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรตลอดทั้งคืน


หนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมา พวกเขาก็มาถึงที่สนามบินของเมืองหลงอัน ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ยังคงเล่นเป็นซอมบี้เดินได้อยู่ ชิงหยามองดูน้องสาวของเธอแล้วส่ายหัว เธออายุเท่าไหร่แล้วยังเล่นเป็นเด็กแบบเย่จีจี้อยู่อีก


เพื่อความถูกต้องมันควรจะเป็นเย่จีจี้ที่เล่นแบบชิงหยูตง


หลังจากนั้น 40 นาที ในที่สุดทั้งกลุ่มก็กลับมาถึงหน้าประตูชิงบาร์


“เย่ฮัวฉันอยากกินแพนเค้กผลไม้ ~”


“พี่สาวฉันก็อยากเหมือนกัน ~”


“ลูกพี่ลูกน้องใหญ่ เย่จีจี้อยากได้แบบเพิ่มไข่กับแฮม!”


เย่ฮัวกล่าวอย่างไม่สนใจ “ขนกระเป๋าเดินทางของคุณเข้าไป”


“พี่ชาย คุณจะปล่อยให้หญิงสวยทั้งสามขนของหลายอย่างนี่จริง ๆ เหรอ ~”


เย่ฮัวหันหลังกลับไปมองน้องตัวน้อย เขาพูดว่า “คุณยังขนมันได้”


“พี่เขย คุณจะยกของหนัก ๆ พวกนี้ได้อย่างไร ส่งมาให้ฉันเถอะ ฉันแข็งแรงมาก ~ “


ชิงหยามองน้องสาวของเธอ “แล้วศิลปะการต่อสู้ของเธอล่ะ?”


“พี่สาวชิง จีจี้ไม่แข็งแรง ฉันจะปล่อยให้คุณจัดการแล้วกัน ~ ฉันจะขึ้นไปนอนชั้นบน ” หลังจากพูดจบเธอก็จับมือของชิงหยาแล้วกระโดดโลดเต้นกลับเข้าบาร์ไป


ชิงหยูตงมองดูกล่องใหญ่ห้ากล่องและถอนหายใจยาว ทำไมพวกคุณถึงรังแกฉัน …


ในชิงบาร์


เว่ยชางกับตงฮวงหลี่กำลังมองหน้ากัน บรรยากาศค่อนข้างแปลก


ถังเว่ยยืนอยู่ด้านหลังเว่ยชาง เธอไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ทำไมลุงเว่ยถึงไปทำให้เด็กลำบาก?


พี่น้องสีเขียวแดงถูกมัดอยู่พร้อมด้วยเศษผ้าสีดำที่ไม่รู้ว่าเป็นผ้าอะไรอุดอยู่ในปากของพวกเขา


พี่ใหญ่เขียว “อือ ๆ อื้อ!!!”


แปลบทพี่ใหญ่เขียว: ‘มาต่อสู้กันสิ!’


น้องชายแดง “อือ ๆ อื้อ!!!”


แปลบทน้องชายแดง: ‘คนงาม ~ คุณไม่เข้าใจความแหวกแนวนี้งั้นเหรอ? ‘


ตงฮวงหลี่เบ้ปากของเธอและตะโกน “ลุง คุณเป็นคนเลว!”


“เธอเป็นใคร!” เว่ยชางถามอย่างจริงจัง


“อาหลี่จะไม่บอกคุณ” ตงฮวงหลี่ตะโกนและหันหน้าหนี


เว่ยชางยังคงถามต่อว่า “เธอมาจากไหน!”


“ไม่พูด! ไม่พูดมัน! ฉันจะไม่พูดมัน! “


เส้นเลือดปูดขึ้นบนหน้าผากของเว่ยชาง เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวอาหลี่ไม่ง่ายเลย แต่เขาไม่กล้าทำอะไรก่อนที่นายเหนือหัวจะกลับมา


” โครก ~”


ท้องของตงฮวงหลี่ร้องออกมา จักรพรรดิผู้ซึ่งยังคง“ ก้าวร้าว” เขินอายในทันที ถังเว่ยกับเว่ยชางตกตะลึงไปชั่วครู่


อุ๊บ


ถังเว่ยรู้สึกขบขัน ท่าทางของตงฮวงหลี่นั้นน่ารักมาก


“พี่สาวใหญ่อย่าคิดว่าเพราะคุณดูสวยแล้วคุณจะหัวเราะอาหลี่ได้ ทั้งวันอาหลี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย เป็นเรื่องปกติที่ท้องจะร้อง ~ ” ตงฮวงหลี่ตะโกน ดูเหมือนคุณทุกคนเป็นคนเลว คุณหัวเราะเยาะเด็กตัวเล็ก ๆ


เว่ยชางถอนหายใจ “เสี่ยวถังหาอะไรซักอย่างมาที”


“โอเค ลุงเว่ย”


แน่นอนว่าในบาร์ชิงนั้นมีของว่าง เมื่อมองดูของว่างตรงหน้า ตงฮวงหลี่กลืนน้ำลายของเธอ


“เฮ้ ~ จะล่อลวงอาหลี่ด้วยอาหาร มันไร้ประโยชน์ อาหลี่จะไม่ยอมแพ้ ~ ” เธอเลียปากเล็ก ๆ ขณะที่สาบานอย่างเอาจริงเอาจัง


เว่ยชางหัวเราะแล้วหยิบมันฝรั่งทอด มาเขย่าเบา ๆ ตรงหน้าตงฮวงหลี่ ดวงตากลมโตของตงฮวงหลี่ที่หันมาจ้องมันฝรั่งทอดนั้นน่ารักมาก


“เธอหิวไหม?”


ตงฮวงหลี่ตอบกลับด้วยเสียงเด็กเล็ก ๆ ของเธอ “หิว ~”


“มันเป็นของเธอทั้งหมด ที่เธอต้องทำก็เพียงแค่กินมัน” เว่ยชางยิ้ม


“ลุง นั่นคุณลุงเขียวกับคุณลุงแดง พวกเขาไม่ได้กินอะไรหลายวันแล้ว” ตงฮวงหลี่ขอร้อง


เว่ยชางสะบัดมือของเขาเชือกที่ผูกกับพี่น้องเขียวแดงก้หลุดออก พวกเขาได้อิสรภาพคืนและวิ่งไปหาตงฮวงหลี่ทันที


พี่ชายเขียวรีบปกป้องตงฮวงหลี่


น้องชายแดงดูแลของว่างบนโต๊ะ


“ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย กินเลย” เว่ยชางพูดเบา ๆ


ฉันเชื่อว่าคุณก็บ้าแล้ว คุณมันพวกเราไว้ทั้งคืนแล้วมาบอกว่าไม่ได้มีเจตนาร้าย…


แต่มันอร่อย…


ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางประตู


“เว่ยชาง พวกเขาคือ?” ชิงหยาพาเย่จีจี้เดินเข้ามาตามมาด้วย ชิงหยูตงที่ถือกระเป๋าเดินทาง


เย่จีจี้ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้ามองตงฮวงหลี่ที่กำลังกินอยู่ที่โต๊ะด้วยความสงสัย และรู้สึกเช่นเดียวกับเว่ยชาง


“นายหญิง เธอคือ … ” เว่ยชางไม่รู้จะอธิบายยังไงดี


ตงฮวงหลี่ผู้ซึ่งกำลังกินและหยิบอาหารมากมายไว้ในมือของเขา หัวเราะกับฝูงชน “ฉันชื่อตงฮวงหลี่”


“อาหลี่!” ชิงหยาอุทาน


ชิงหยูตงทิ้งกระเป๋าที่ถือและวิ่งไปหาเธอ


เย่จีจี้สั่นเล็กน้อยและคู่ต่อสู้ของเธอแกร่งมาก!


“คุณ … คุณคือป้าชิงเหรอ?” ตงฮวงหลี่มองดูใบหน้าที่ตื่นเต้นของชิงหยูตงและถามเสียงพึมพำ


ชิงหยูตงชี้ไปที่ตัวเองแล้วพูดว่า “ฉันเอง ฉันคือป้าชิง”


พี่น้องเขียวแดงยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ทั้งสามคนที่เข้ามาสวยงามมาก คนหนึ่งเป็นโลลิ มันช่างดี …


ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นรวยมาก น่าประทับใจ


ใบหน้าของตงฮวงหลี่ซึมลง เธอกอดชิงหยูตง “ในที่สุดอาหลี่ก็พบคุณ ฮือ~”


“อาหลี่ไม่ร้องนะ” ชิงหยูตงรีบปลอบใจตงฮวงหลี่ และมองไปที่พี่น้องเขียวแดง


เมื่อมองแวบแรกพวกเขาไม่ใช่คนดีแต่เป็นพวกลักพาตัวเสี่ยวอาหลี่แน่นอน


ชิงหยาก็เข้ามาและพูดเบา ๆ ว่า “อาหลี่ อย่าร้องไห้เลย”


“อืม อาหลี่จะไม่ร้อง อาหลี่มีความสุข ป้าชิงสวยงามมาก พวกคุณเหมือนกันเลย”


ประโยคนี้ฟังดูดีและผู้หญิงไม่ได้เกลียดคำชื่นชมจากผู้อื่น


แต่ชิงหยาเหลือบมองน้องสาวของเธอ ใบหน้าของคุณยังไม่ได้เปลี่ยนกลับ


“คุณคือป้าเย่! คุณอายุมากกว่าอาหลี่เพียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง” ตงฮวงหลี่ชี้ไปที่เย่จีจี้และอุทาน


ปากของเย่จีจี้กระตุกเล็กน้อย “อย่าเรียกฉันว่าป้า ฉันอายุมากกว่าคุณแค่นิดหน่อยเอง!”


นิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ใช่ประเด็น โดนเด็กตัวน้อยอีกคนหนึ่งเรียกว่าป้า เหมือนให้บอกว่าการบาดเจ็บนั้นไม่เจ็บ


“พี่ชายความสัมพันธ์ของพวกเขาซับซ้อนมาก” น้องชายแดงกระซิบ


“อืม ป้าเยอะมาก”


ตงฮวงหลี่มองไปรอบ ๆ และถามอย่างสงสัยว่า “เอ๋ ลุงของฉันล่ะ?”


ชิงหยาบีบใบหน้าเล็ก ๆ ของตงฮวงหลี่และพูดเบา ๆ ว่า “ลุงกำลังออกไปข้างนอกและจะมาที่นี่ในอีกไม่ช้า”


ทันใดนั้นคุณรู้สึกว่าอาหลี่เหมือน … เหมือนใครสักคน?


ตอนนั้นเองเย่ฮัวก็เข้ามาจากข้างนอก ถือแพนเค้กผลไม้ในมือของเขาและพูดเบา ๆ “อาหารเช้าของคุณ”


หลังจากพูดจบ เย่ฮัวก็ชะงักไปราวกับว่ามีคนสกัดจุดเขาและจ้องมองตงฮวงหลี่ในอ้อมแขนของชิงหยูตง


ตงฮวงหลี่ก็มองเย่ฮัวด้วยเช่นกัน ชิงหยามองไปทางซ้ายและขวา ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอเพิ่งคิดว่าอาหลี่ดูเหมือนคนที่เธอรู้จัก หน้าตาเธอดูเหมือนเย่ฮัวเลยไม่ใช่เหรอ?


ชิงหยูตงก็คิดเช่นเดียวกัน หากไม่มองที่ขนาดตัวของอาหลี่ คิ้วที่มีความเย่อหยิ่ง ดวงตาเหล่านั้นจมูกและปากก็คล้ายกับพี่เขยของเธอเลย


นี่เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์! เธอไม่ใช่ลูกสาวนอกสมรสของพี่เขยหรอกเหรอ!


ชิงหยูตงรู้ความจริงในทันที


ชิงหยาไม่ได้คิดไปทางลูกสาวนอกสมรส ในความเป็นจริงเธอไม่กล้าคิดไปในทางนั้น


ในตอนนี้ลมหายใจของเย่ฮัวถี่มาก เด็กผู้หญิงคนนี้มีลมหายใจของเขา เป็นไปได้อย่างไร!


ประเด็นคือกลิ่นของเลือดนั้น บริสุทธิ์มาก เป็นไปได้อย่างไร! เธอคือใคร!!!


GG: บทที่ 199 – วิกฤตของนายเหนือหัว


เย่ฮัวผู้ไม่เคยกังวล ตอนนี้กำลังดูกังวลและสับสน


ตงฮวงหลี่ไม่ได้คิดอะไรมากมายเขาแค่อยากจะใกล้ชิดกับลุงของเธอ เธอยื่นมือเล็ก ๆ ของเธอออกมาและตะโกนว่า “ลุงกอด”


หลังได้ยินเสียงเรียกของเด็กหญิงตัวน้อย เย่ฮัวไม่ได้คิดอะไรเลย เขาเดินเข้าไปช้า ๆ และรับตงฮวงหลี่จากอ้อมแขนของชิงหยูตง


เมื่อเย่ฮัวอุ้มตงฮวงหลี่ไว้ในอ้อมแขนของเขา เขาก็รู้สึกถึงสายเลือดที่เชื่อมโยงกันกับเธอ เธอเป็นลูกของเขางั้นเหรอ? เธอออกมาจากหิน? หรือออกมาจากเถาวัลย์?


ตงฮวงหลี่รู้สึกสบายตัวมาก เธอแค่อยากกอดลุงของเธอเพราะลุงมีกลิ่นที่ดีกว่าแม่ของเธอ


ใบหน้าของชิงหยาค่อนข้างสับสน ยิ่งกว่านั้นดูนี่สิ!


ความนุ่มนวลอย่างยิ่งบนใบหน้าของเย่ฮัวและความชอบอกชอบใจบนใบหน้าตงฮวงหลี่ รวมเข้ากับฉากที่พ่อและลูกสาวได้พบกัน


ชิงหยารีบส่ายหัวเพื่อสะบัดความคิดที่เป็นไปไม่ได้ แต่ที่เย่ฮัวรีบกลับมาทันทีหรือแค่เพื่อมาหาอาหลี่?


เว่ยชางกับเย่จีจี้มองหน้ากัน ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เห็นบางสิ่งบางอย่างจากนายเหนือหัว


ชิงหยูตงเริ่มที่จะดิ่งไปในจินตนาการของเธอ เด็กน้อยออกมาตามหาพ่อของเธอและในที่สุดก็ได้พบเขา


แต่มันก็เป็นสิ่งที่น่ากลัว พี่เขยมีผู้หญิงอยู่ข้างนอก!


เธอหันไปมองพี่สาวของเธอในทันที สีหน้าของพี่สาวของเธอดูไม่ค่อยดีนัก เธอเดากับตัวเอง พี่สาวของฉันเป็นคนที่เกลียดคนแบบนี้ที่สุด เธอเกลียดที่พ่อมีผู้หญิงสองคน และนี่พวกเขาก็พึ่งจะภาพถ่ายงานแต่งงานและกลับจากฮันนีมูน …


พระเจ้า ถ้าฉันเดาถูกนี่จะเป็นวิกฤตของครอบครัว บางทีมันคงเป็นความคิดที่ดีที่จะหย่า


จิตใจของเย่ฮัวอยู่ที่ตงฮวงหลี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของชิงหยาและไม่รู้ว่าชิงหยากำลังคิดมากอยู่


บรรยากาศในที่นั้นแปลกประหลาด และทุกคนก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร


แม้แต่เย่จีจี้ที่ชอบทำตัววุ่นวายก็ยังเงียบสงบ


หลังจากนั้นไม่นานเย่ฮัวก็มองดูพี่น้องเขียวแดง พวกเขาตกใจมากสายตาของผู้ชายคนนี้ดูไม่เป็นมิตรเลย


“เว่ยชาง โยนออกไป!” เย่ฮัวกอดตงฮวงหลี่ไว้และพูดอย่างเย็นชา


“ครับ!”


ตงฮวงหลี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาพูดอย่างเร่งรีบ “ลุง อย่าไล่พวกเขาออกไป”


ตามทัศนคติของเขาหากเมื่อก่อนเย่ฮัวจะไม่สนใจและมอบบทเรียนว่าไม่มีใครจะสามารถต่อต้านเขาได้!


ถึงแม้ว่าชิงหยาจะปรากฏตัวขึ้นมาก็ตาม แต่ตอนนี้กลับมีขึ้นมาอีกเป็นคนที่สอง


“ทำไม?” เสียงของเย่ฮัวไม่ได้แข็งมากนัก


“ลุง ลุงเขียวแดงเป็นคนพาอาหลี่มาส่งที่นี่ ถ้าไม่มีลุงเขียวแดง อาหลี่คงจะอดตาย … ” ตงฮวงหลี่มองไปที่เย่ฮัว เธอชอบลุงมากจนเธออยากจะอยู่ในอ้อมแขนของเขาตลอดไป


เย่ฮัวมองไปที่พี่น้องเขียวแดงและพูดเบา ๆ “เว่ยชาง จัดการที่เหลือให้ด้วย”


“ครับ!”


แม้ว่ามันจะเป็นเพียงคำพูดสั้น ๆ แต่ก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของพี่น้องเขียวแดงได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้พี่น้องเขียวแดงกำลังสับสน พวกเขาไม่รู้ว่าชายผู้มีอำนาจต่อหน้าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด การนำสายเลือดของเขากลับมานั้นสามารถทำให้พวกเขากลายเป็นผู้วิเศษแห่งความตายคนต่อไปได้


เงินไม่ใช่สิ่งที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ได้


“พี่ใหญ่ เราเคยเสียรู้มาก่อน แต่ตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้วหรือยัง?” น้องชายแดงพูดอย่างเงียบ ๆ


ถ้าเขาลังเลที่จะกลับไปในตอนนี้ พี่ใหญ่เขียวกระซิบ “ดูไปก่อนถ้าพวกเขาไม่ดีต่ออาหลี่ เราจะพาอาหลี่กลับไปตามหาพ่อกับแม่”


“โอเค ยังไงเราก็ยังต้องการซ่อนอยู่อีกสักพักหนึ่งอยู่ดี”


เย่ฮัวอุ้มตงฮวงหลี่ เมื่อเขาเดินผ่านชิงหยาเขาก็จับมือที่บอบบางของเธอและเดินขึ้นไปชั้นบน เมื่อทั้งสองหายตัวไปจากบันไดทุกคนก็โล่งใจ


เว่ยชางยังคงมีความสุขมาก ท้ายที่สุดนายเหนือหัวก็ยังมีสายเลือดอยู่อีกหนึ่ง คนประหลาดทั้งสองนี้ได้ทำคุณประโยชน์มากมาย!


“เดี๋ยวคุณมาคุยกับฉันทีหลัง” เว่ยชางหัวเราะเสียงดังนี่เป็นเหตุการณ์ที่มีความสุขและคุ้มค่ากับการเฉลิมฉลอง!


เย่จีจี้ก็แสดงรอยยิ้มอย่างจริงใจ สายเลือดของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าเขาสามารถสร้างราชวงศ์ใหม่ขึ้นเช่นเดียวกับมนุษย์ได้


แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ประเด็น กระบวนการนองเลือดเป็นสิ่งที่เย่จีจี้ต้องการ อันที่จริงความคิดของเว่ยชางนั้นก็คล้ายกัน


พี่ชายเขียวตบไหล่น้องชาย “อย่าท้อแท้ไปเลย นายสามารถปกป้องอาหลี่ได้ถ้านายจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย”


“ฉันไม่รู้ว่าการจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องจ่ายเงินเท่าไรต่อเดือน 2,000 หยวนได้ไหม? มันไม่เพียงพอเหรอ?” น้องชายแดงเป็นห่วงอย่างมาก


พี่ชายเขียวถามเว่ยชาง “พี่ชาย คุณควรมีประกันห้าฉบับและทองคำหนึ่งก้อน”


ทุกคนหัวเราะเมื่อพวกเขาพูดสิ่งนี้


เย่จีจี้ตะโกนว่า “มีคนซื่อตรงสองคนอยู่ที่นี่ ทุกคนกำลังรังแกพวกเขา ~”


คาดว่าคงมีเพียงพี่น้องเขียวแดงนี้เท่านั้นที่สามารถอยู่รอดต่อหน้าสัตว์ประหลาดกลุ่มนี้ได้


ชิงหยูตงหัวเราะเบา ๆ เธอมองขึ้นไปชั้นบนอย่างกังวลและเป็นกังวลอย่างเงียบ ๆ


“ลุงฉันอยากนอน ~” ตงฮวงหลี่พูดและใช้มือเล็ก ๆ ของเธอคล้องคอเย่ฮัว


เย่ฮัวกล่าวว่า “ไปอาบน้ำแล้วเข้านอน”


“อืม ~”


“ชิงหยา อุ้มอาหลี่ไปอาบน้ำ” เย่ฮัวส่งต่ออาหลี่ไปไว้ในอ้อมแขนของชิงหยา อารมณ์ของเธอซับซ้อนเล็กน้อย


“อืม เย่ฮัว คุณไปซื้อเสื้อผ้าให้อาหลี่มาสักสองสามชุดที” ชิงหยาพูดเบา ๆ และอุ้มพาตงฮวงหลี่ออกไป


เย่ฮัวพยักหน้าและเปิดโทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อซื้อเสื้อผ้าสำหรับอาหลี่ ในเมืองการขนส่งควรจะเร็วขึ้น


“ป้าชิง อาหลี่สามารถอาบน้ำด้วยตัวเอง ไม่ต้องรบกวนคุณ” ตงฮวงหลี่พูดอย่างอ่อนหวาน


ชิงหยาหัวเราะกับการแสดงออกที่น่ารักของตงฮวงหลี่เบา ๆ แม้ว่าเธอจะมีข้อสงสัยมากมายแต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงข้อสงสัย เย่ฮัวจะไม่โกหกตัวเอง


“เสี่ยวอาหลี่ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ” ชิงหยาลูบผมตงฮวงหลี่แล้วยิ้มเบา ๆ


“ได้ อาหลี่จะถูหลังให้ป้าชิง ~”


“แน่นอน”


“อืม อาหลี่ชอบป้าชิง”


ชิงหยาหัวเราะและพาอาหลี่เข้าห้องน้ำไป ตามปกติของเย่ฮัว กษัตริย์แห่งน้ำส้มสายชูคนนี้คงจะออกอาการกังวลแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกอะไรมาก

(น้ำส้มสายชูหก/เหม็นกลิ่นน้ำส้มสายชู – จีนใช้เปรียบเปรย อาการหึงหวง/คนขี้หึง)


เขายืนจุดบุหรี่สูบอยู่ตรงหน้าต่าง


ถ้าอาหลี่ไม่โผล่ออกมาจากหินและมันไม่ได้เกิดมาจากเถาวัลย์ แล้วเธอเกิดมาได้อย่างไร!


เป็นไปได้อย่างไรที่ฉันจะสัมผัสผู้หญิงสองคน


เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ดวงตาของเย่ฮัวก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและสำลักควันในมือของเขา


คืนนั้นเมื่อสามปีที่แล้วมันคือเธอ!!!


คิดย้อนไปเมื่อตอนเล่นเกมตอนนั้น อาหลี่กล่าวว่าเธออายุเกือบสามปี แม่ของเธอดูดี ส่วนพ่อของเธอตายแล้ว!


บ้าเอ้ย! ผู้หญิงคนนั้นกล้าสาปแช่งเทพผู้นี้!


เขาทิ้งบุหรี่และคิดอย่างหนัก พาตัวผู้หญิงคนนั้นมาโดยตรงเพื่อถามความจริงของเรื่องนี้!


ไม่!


ชิงหยา!


คิ้วของเย่ฮัวขมวดอย่างจริงจัง เขาถอนหายใจอย่างหนัก ถ้าชิงหยารู้เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอต้องทะเลาะกับเขาแน่นอน


เหมือนกับวันก่อน ๆ ที่เขามองผู้หญิงคนอื่นหน่อย น้ำส้มสายชูก็หกนิด ๆ หน่อย ๆ ไปซะทั่วเสียทุกที่


ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของการมองคนสวยหรือการเอาเด็กออกแล้ว


ตอนนี้มันยากที่จะโน้มน้าวให้ชิงหยาเชื่อฟัง มันจะกลับไปเหมือนก่อนหน้านี้และคอยดุทุกครั้งหรือไม่?


MD เทพมีปัญหากับสิ่งต่าง ๆ ที่วุ่นวายเช่นนี้ ธรรมชาติของมนุษย์ต้องการความวุ่นวายเสียจริง ๆ หากกลับไปสู่สถานะเดิมเมื่อก่อนนี้มันก็คงไม่มีอะไรต้องกังวล


เหตุการณ์สำคัญเช่นนี้จะต้องมีการประชุม ประชุมร่วมผู้ใต้บังคับบัญชา นี่เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่เทพพบ!


สำหรับสถานที่นัดพบ สถานที่เดิม ห้องน้ำ


GG: บทที่ 200 – แม่และผู้หญิงสูงค่า


พี่น้องเขียวแดงในห้องโถงประหลาดใจ พวกเขาเพิ่งจะพูดคุยกับเว่ยชาง ทันใดนั้นเขาก็พูดว่าปวดท้องและเข้าห้องน้ำไป จากนั้นโลลิตัวเล็กก็เดินตามเข้าห้องน้ำไปอีกคน …


พี่ชายเขียวกระซิบ “ฉันรู้สึกว่าลุงเว่ยและโลลิน้อยมีปัญหา”


“ฉันคิดว่าถังเว่ยดูเหมือนจะเป็นแฟนสาวของลุงเว่ย” น้องชายแดงรู้สึกแปลกมาก บาร์ในเมืองใหญ่นั้นดูวุ่นวายเกินไป


พี่ชายเขียวเกาหัว “ความคิดของเรายังเก่าเกินไปที่จะทันกับจังหวะของเมืองใหญ่”


“ใช่ ฉันรู้สึกว่าฉันหลงรักจังหวะของเมืองใหญ่” น้องชายแดงหัวเราะเบา ๆ ที่นี่เป็นเมืองใหญ่ อะไร ๆ เลยเปิดกว้าง ~


ในห้องน้ำ


“ผู้ใต้บังคับบัญชา คำนับนายเหนือหัว!”


“ผู้ใต้บังคับบัญชา คำนับนายเหนือหัว!”


“ผู้ใต้บังคับบัญชา คำนับนายเหนือหัว!”


เว่ยชาง เลี่ยกู และเย่จีจี้ บาปทั้งสามในบาปเจ็ดประการได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว


“อย่าคุกเข่า พื้นมันสกปรก” เย่ฮัวพูดเบา ๆ


“ขอบคุณสำหรับความกรุณาของนายเหนือหัว” ทั้งสามยืนขึ้นและตะโกน


หลังจากนั้นครู่หนึ่งเย่ฮัวก็หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟ “พวกนายคงจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้”


เลี่ยกูก็รับรู้ข่าวจากเว่ยชางแล้ว ในใจของเขาตกตะลึงมาก สายเลือดของนายเหนือหัวปรากฏออกมาแล้ว เขาคิดว่ามันต้องใช้เวลาอีกสักสองสามเดือนเสียอีก


“ผู้ใต้บังคับบัญชาคิดว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่น่ายินดี นายเหนือหัวและคุณหนูได้พบกัน ช่างโชคดี! ” เว่ยชางยิ้มและอีกสองคนพยักหน้า


เย่ฮัวขมวดคิ้วและพูดขึ้น “อาหลี่เป็นสายเลือดของฉัน แต่คนที่ให้กำเนิดเธอ … “


หลังกล่าวเย่ฮัวก็มองผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสาม “คุณคงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”


“ฉันไม่รู้” เย่จีจี้ยกมือขึ้นแล้วตะโกน อย่าได้เรียกชื่อฉันเพื่อให้ตอบคำถามนี้


แต่เรื่องนี้เว่ยชางกับเลี่ยกูรู้


เลี่ยกูกล่าวอย่างจริงจัง “นายเหนือหัวเนื่องจากสิ่งต่าง ๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว ก็ควรจะพาตัวผู้หญิงคนนั้นมาและด้วยสถานะของนายเหนือหัวผู้หญิงอีกคนหนึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ”


“นายคิดอย่างไร เว่ยชาง?” เย่ฮัวถามพลางพ่นควันบุหรี่


เว่ยชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผู้ใต้บังคับบัญชาคิดว่ายังคงต้องปรึกษานายหญิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าการที่จะมีผู้หญิงอีกคนนั้นเธอเต็มใจหรือไม่”


ตอนนี้เว่ยชางมักจะคิดเกี่ยวกับปัญหาจากมุมมองของผู้อื่น และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ถังเว่ยยังไม่ถูกเขากดลง


เย่จีจี้เบ้ปาก “ถ้าคุณอยากได้อะไร ก็แค่คว้ามันมาตรง ๆ ~”


เย่ฮัวเหล่มอง เย่จีจี้ก็รีบปิดปากของเธอทันที เธอยังมีความกังวลมากมายในเรื่องที่พึ่งเกิดไป


ถ้ามันเป็นเรื่องง่ายธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีอะไรดี แต่การต้องดูแลด้านหนึ่งและปลอบใจอีกด้านหนึ่ง มันลำบากจริง ๆ


“เลี่ยกู นายรวมผู้หญิงพวกนั้นมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร?” เย่ฮัวถามเบา ๆ คำถามประเภทนี้คงต้องปรึกษากับเลี่ยกูเพราะเขามีผู้หญิงสามคนและดูเหมือนพวกเธอจะอยู่ด้วยกันได้


เลี่ยกูคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างเคารพ “นายเหนือหัว ผู้ใต้บังคับบัญชาเองก็ไม่ทราบ อย่างไรก็ตามฉันแค่กดพวกเธอลง จากนั้น … อืมมม ก็กดพวกเธอลงพร้อมกัน”


เย่จีจี้มองอย่างรังเกียจ “มังกรโรคจิต”


“ฉันเป็นมนุษย์นี่คือธรรมชาติของมนุษย์” เลี่ยกูปฏิเสธที่จะยอมรับมัน และเถียงเย่จีจี้กลับด้วยความไม่พอใจ


เว่ยชางก็พูดขึ้น “นายเหนือหัว ผู้ใต้บังคับบัญชาคิดว่าผู้ที่สามารถทำให้นายเหนือหัวสนใจได้นั้น พวกเธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แน่นอนว่าคงไม่สามารถใช้วิธีปกติได้”


เย่จีจี้ตบมือเล็ก ๆ ของเธอ “ฉันเข้าใจแล้ว คนตะกละหมายถึงให้นายเหนือหัวซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับภรรยาของเขา จากนั้นภรรยาจะยอมรับอาหลี่อย่างนั้นใช่ไหม?”


เย่ฮัว “······”


เว่ยชาง “······”


เลี่ยกู “······”


“เว่ยชาง นายหมายถึงฉันยังไม่ต้องทำอะไร?” เย่ฮัวถามอย่างสงสัย


เว่ยชางพยักหน้า “ใช่ ปล่อยให้นายหญิงกับคุณหนูได้รู้จักกันก่อน ให้พวกเขาได้มีความประทับใจที่ดีต่อกัน แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ชิงหยาก็จะไม่อาย”


“สมเหตุสมผล” เย่ฮัวพยักหน้า


หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเย่ฮัวก็ถามต่อว่า “พวกคุณอยากจะให้เทพองค์นี้ยอมรับผู้หญิงคนนั้นเหรอ?”


เลี่ยกูยกมือขึ้นเพื่อตอบ


“ให้ฉันพูด!”


เลี่ยกูพูดขึ้นต่อทันที “นายเหนือหัว ผู้ใต้บังคับบัญชาคิดว่าเธอควรจะต้องได้รับการยอมรับ ถ้าคุณหนูเกิดมาจากเธอจริง ๆ เธอก็ควรจะมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามคุณหนูก็เป็นสายเลือดของนายเหนือหัว คนเป็นแม่ย่อมผู้หญิงสูงค่า”


เว่ยชางกับเย่จีจี้รู้สึกประหลาดใจ ไม่มีอะไรผิดปกติกับเลี่ยกู เขาแค่เปิดกว้างแล้ว


“เลี่ยกู เทพองค์นี้มีความสุขมากที่นายใช้สมองไม่ใช่ร่างกายส่วนล่าง”


เลี่ยกูยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ใครบอกว่ากษัตริย์สามารถขยับได้แต่ร่างกายส่วนล่างของเขาเท่านั้นกัน ดูนายเหนือหัวชื่นชมฉันสิ


“นายเหนือหัว แล้วผู้หญิงอีกคนหนึ่งเราจะเชิญเธอมาเมื่อไหร่?”


เย่ฮัวเหยียบบุหรี่แล้วพูดว่า “รอฉันสั่ง”


“รับทราบ!”


“รับทราบ!”


“รับทราบ!”


“ไปเถอะ เว่ยชางนายไปดูแลคนประหลาดสองคนนั้นดี ๆ ด้วยล่ะ” เย่ฮัวพูดจบเขาก็หายตัวไปและมาปรากฏในห้องนอน


เลี่ยกูร้องครวญครางและถามว่า “คนประหลาดสองคนนั้นคืออะไร?”


“มนุษย์สองคนที่พาสายเลือดนายเหนือหัวกลับมา” เว่ยชางยิ้ม


“บ้าเอ้ย เจ้าสองคนนี้ช่างโชคดีเสียจริง นายเหนือหัวยังเอ่ยถึงอย่างใส่ใจ สุดยอดจริง ๆ ” เลี่ยกูยกนิ้วให้และหายตัวไปจากห้องน้ำ


เย่จีจี้หาวและเดินออกจากห้องน้ำ พี่น้องเขียวแดงด้านนอกก็หันมาทันที


เว่ยชางมาหาทั้งสองและถามขึ้นว่า “พวกคุณอยากจะปกป้องอาหลี่ต่อไปไหม?”


พี่น้องเขียวแดงมองหน้ากันและพูดพร้อมกัน “อยาก!”


เว่ยชางพอใจกับคำตอบนี้มาก


เย่ฮัวที่กลับมาที่ห้องนอน ได้ยินเสียงขี้เล่นจากห้องน้ำ มุมปากของเขายกสูงขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็ลดลงอย่างรวดเร็ว


ผู้หญิงสามปีที่แล้ว และก็ชิงหยา ทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้? เทพไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ


แต่ก็ไม่เป็นไรยิ่งมีสายเลือดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น แต่เราจะปล่อยให้พวกเขาอยู่ร่วมกันได้อย่างไร นี่เป็นปัญหาใหญ่


มนุษย์เหล่านั้นแต่งงานกันหลายคนได้อย่างไรทั้งที่ไม่ใช่เทพ?


ลองมาพูดกันดูก่อน ถ้ามันไม่ได้ผลก็คงต้องใช้วิธีบีบบังคับ แต่เทพก็กลัวว่าผู้หญิงสองคนนั้นจะแหลกสลาย


เมื่อนึกถึงผู้หญิงเมื่อสามปีก่อน เย่ฮัวรู้สึกโอเค เธอสามารถเป็นผู้หญิงของเขาได้และแน่นอนว่าเธอยังต้องการการฝึกฝน อย่างไรก็ตามผู้หญิงคนนั้นทะนงตัวยิ่งกว่าชิงหยา ดูได้จากความไม่พอใจของเธอที่ยังคงมีอยู่


หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งชิงหยาก็อุ้มตงฮวงหลี่ในชุดนอนของเธอออกมา ตงฮวงหลี่ยิ้มและดูมีความสุขมาก


“ลุง อุ้ม ~”


เย่ฮัวยิ้มเล็กน้อยและคว้าอาหลี่มาอุ้มไว้ นี่เป็นความรู้สึกของการมีเด็กใช่ไหม?


ความรู้สึกอยากจะดูแลและปกป้องอย่างดี นี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก


ในที่สุดฉันก็สามารถเข้าใจความคิดของมนุษย์เหล่านั้นได้ ถ้าคุณฆ่าตัวเล็กคุณก็จะต้องฆ่าตัวใหญ่และถ้าคุณฆ่าตัวใหญ่คุณก็จะต้องฆ่าตัวเก่า ซ้ำไปซ้ำมา


ชิงหยาถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ มองเย่ฮัวและอาหลี่ พวกเขาดูเหมือนพ่อและลูกสาวจริง ๆ …


ฉันต้องบอกว่าสัญชาตญาณของผู้หญิงนั้นแย่มาก


“ลุง อาหลี่ไม่อยากนอนแล้ว อาหลี่อยากไปเล่นกินไก่กับป้าเย่” ตงฮวงหลี่กระซิบในอ้อมแขนของเย่ฮัว เธอกลัวว่าลุงของเธอจะตำหนิเธอ เพราะแม่จะโทษเธอทุกครั้ง


เย่ฮัวกระซิบ “ได้สิ”


ตงฮวงหลี่ดีใจมากและจูบแก้มของเย่ฮัว “อาหลี่ชอบลุง”


GG: บทที่ 201 – การรายงานการแก้แค้น


นี่ทำให้เย่ฮัวหัวเราะ


ชิงหยาเบ้ปากของเธอ ทีฉันต้องการจะเล่นแค่ไม่กี่รอบคุณไม่เต็มใจ แต่พออาหลี่ต้องการเล่นคุณกลับยอมง่าย ๆ นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ~


“ฉันก็อยากเล่นด้วย!” ชิงหยาไม่พอใจ


“โอเค อาหลี่จะพาป้าชิงไปกินไก่ ~” ตงฮวงหลี่หัวเราะและปรบมือของเธอ


เย่ฮัวพูดเบา ๆ “ป้าชิงของคุณนั้น เล่นอ่อนมาก”


“ไม่เป็นไรหรอก อาหลี่ชินกับมันแล้ว”


ชิงหยา “……”


พวกคุณรังแกกันเกินไปแล้ว ~


หลังอุ้มอาหลี่เข้าไปในห้องของชิงหยูตง ทุกคนก็เล่นทีม4คนด้วยกัน


เมื่อเย่จีจี้กับตงฮวงหลี่เจอกัน จะต้องมีการแข่งกันและก็จะการโต้เถียงเรื่องอายุกันอีกครั้ง


“ป้าเย่ คุณฆ่าน้อยกว่าอาหลี่ไปคนหนึ่ง ฮิฮิ ~”


“อย่าเรียกฉันว่าป้า! ฉันอายุเพียง 8 ขวบ! (แกล้งทำตัวเป็นเด็ก)”


“แต่คุณเป็นน้องสาวของป้าชิง ถ้าอาหลี่เรียกคุณว่าพี่สาว อาหลี่ก็จะต้องถูกเรียกว่าป้าด้วย อาหลี่เวียนหัว ~ ยุ่ง ~ “


ชิงหยาและชิงหยูตงมองดูอาหลี่ เธอน่ารักมากจริง ๆ


เย่ฮัวนั่งถัดจากเธอดูสี่คนเล่นเกมเงียบ ๆ เขาอารมณ์เสียจริง ๆ การปรากฏตัวของอาหลี่นั้นเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจนเขาไม่ทันตั้งตัวเกินไป ดูเหมือนว่าตำแหน่งของชิงหยาในหัวใจของเขานั้นสูงมาก ไม่งั้นเขาก็คงจะไม่รู้สึกเช่นนี้ ถ้าเป็นช่วงก่อนหน้านี้คงไม่กังวลมากมายอย่างนี้


ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่อคุณมีปัญหาครอบครัวคุณก็ต้องหยุดพักก่อน มันยากมากจริง ๆ ที่จะเป็นมนุษย์


มันยากมากที่จะเป็นมนุษย์มันง่ายกว่าที่จะเป็นโครงกระดูก อย่างเช่นผู้วิเศษแห่งความตายในปัจจุบัน มันเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้


เล่นเกมกับซุนฟางทุกวันและปล่อยให้โตวฟูชิหาแหล่งเงินมาให้ นั้นเป็นผลให้ตระกูลหยิงถูกปล้นกลางอากาศ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าสมบัติของตระกูลหยิงจะโผล่มาตามฮวงจุ้ยจริง ๆ มีสิ่งดี ๆ อยู่ทุกที่ส่วนคนที่ขมขื่นก็เป็นตระกูลหยิง


แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของตระกูลหยิงและเล่นแต่เกมอยู่ทุกวันเท่านั้น แต่ด้วยวิธีตามล่าสมบัติตามฮวงจุ้ยนี้ ตระกูลหยิงไม่สามารถที่จะป้องกันได้ นี่มันน่ารำคาญเกินไปและพวกเขากลัวที่จะต่อต้านเขา


โดยเฉพาะวัยรุ่นคนนั้นที่ถือเข็มทิศและเดินไปรอบ ๆ ตระกูลหยิงทุกวัน ตราบเท่าที่การคำนวณประสบความสำเร็จ เขาก็จะเรียกพายุฝุ่นมาขุดตรง ๆ …


ฉันอยากขโมยเข็มทิศนั้นจริง ๆ ….


Md สมบัติเหล่านั้นคือสิ่งที่ตระกูลหยิงวางไว้ เพื่อสร้างขุมสมบัติตามฮวงจุ้ย!


พระเจ้า ตระกูลหยิงกำลังจะตาย อ่า …


ในเวลานี้ในห้องสักห้องของตระกูลหยิง ผู้วิเศษแห่งความตายและซุนฟางกำลังนอนอยู่บนเตียง หน้าตาดูเคร่งเครียดและนิ้วควบคุมเกมอย่างต่อเนื่อง


ปากของซุนฟางเอาแต่พึมพำว่า “ไปตายซะ … ไปตายซะ … “


อั๊ก!


หลังจากสังหารซุนฟางมากกว่าร้อยครั้ง ในที่สุดนักรบของผู้วิเศษแห่งความตายก็ถูกสังหารโดยกลวิธีของซุนฟางในที่สุด


เมื่อมองไปที่ตัวละครของผู้วิเศษแห่งความตายที่ล้มลงในหน้าจอ ซุนฟางตะลึงและดวงตาของเธอก็ค่อยๆกลายเป็นสีแดง ในที่สุดก็ฆ่ามันได้! ในที่สุดฉันก็ได้ล้างแค้นตัวเอง!


ผู้วิเศษแห่งความตายถอนหายใจ อันที่จริงวันนี้เขาตั้งใจติดกับดักของซุนฟาง เธอน่าสงสารเกินไปจริง ๆ


ซุนฟางหันกลับมาและนั่งทับผู้วิเศษแห่งความตาย กำปั้นสีชมพูของเธอทุบผู้วิเศษแห่งความตาย “ดูสิ แม่คนนี้ฆ่านายได้แล้ว! ฮือ ๆ ๆ ~”


ความคับข้องใจของเดือนนี้ถูกปลดปล่อยออกมาทั้งหมด ทั้งหมดเพราะเขาทุกคนถึงหัวเราะเยาะเธอและเธอยังถูกเตะออกจากนิกายหยุน


ในท้ายที่สุดเธอก็พบผู้ร้ายแต่เธอไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย สิ้นหวัง … ในเวลานั้นมันช่างสิ้นหวังจริง ๆ เธออยากตาย แม้ว่าฉันจะไม่ฆ่านายในความเป็นจริง แต่ฉันจะฆ่านายในเกม


ความคิดนั้นดี แต่ในเกมดังกล่าวเธอก็ถูกผู้วิเศษแห่งความตายฆ่าไปหลายร้อยครั้ง ในที่สุดคราวนี้ก็ชนะและในที่สุดก็นั่งอยู่เหนือเขา


ผู้วิเศษแห่งความตายเหยียดนิ้วกระดูกออกมาและเช็ดน้ำตาที่แก้มของเธอ เขาพิมพ์อย่างรวดเร็ว “ภรรยาคุณร้องไห้แล้วดูดี ในอนาคตคุณต้องร้องไห้บ่อย ๆ “


ซุนฟางเขินและเตะเขา “ร้องไห้กับน้องสาวคุณสิ”


ผู้วิเศษแห่งความตายถูกเตะตกจากเตียง เป็นผู้หญิงที่รุนแรงเสียจริง แต่ผู้วิเศษแห่งความตายรักผู้หญิงคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ


ในห้องโถงของตระกูลหยิง เหล่าคนในตระกูลกำลังประชุมกัน


ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ


หยิงชางจ้องมองด้วยดวงตาสีบรอนซ์คู่ หน้าอกของเขากระเพื่อมด้วยความโกรธและตะโกนออกมา “พี่ใหญ่! นี่มันไม่ต่างอะไรกับการกลั่นแกล้งกันเลย!!!”


ใบหน้าของหยิงจิงซานนั้นแย่มาก สายตาทุกคู่แดงก่ำ ข่าวสารล่าสุดที่พวกเขาได้รับวันนี้ จักรพรรดินีกำลังมองหาเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ และผู้หญิงตัวน้อยคนนี้เป็นลูกสาวของเธอ!


ลูกสาวนอกสมรส!


เขาไม่ได้คาดคิดว่าจักรพรรดินีจะเป็นคนแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เพื่อเธอ สิ่งต่าง ๆ ในสองวันนี้ตระกูลหยิงก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ลูกชายของเขาก็คงจะไม่ตายและอันตรายที่ใหญ่ยิ่งกว่าก็คงจะไม่ตามมา!


การกระทำนี้ของจักรพรรดินีคือการเล่นกับศักดิ์ศรีของตระกูลหยิง!


อาการบาดเจ็บของหยิงคังซีเกือบจะหายดีหมดแล้ว ตอนนี้เขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นอย่างเร่งรีบ “ฉันจะไม่โทษจักรพรรดินีที่มีลูกสาวนอกสมรส ตราบใดที่ฉันยังได้แต่งงานกับเธอ”


เมื่อได้ยินหยิงคังซีพูดเช่นนั้น ทุกคนแทบรอไม่ไหวที่จะตบเขาให้ตาย คุณมันไม่ใช่คนตระกูลหยิง แต่เป็นสุนัขของจักรพรรดินี


หยิงจิงซานดวงตาแดงก่ำ “นี้เป็นการยั่วยุของความว่างเปล่าไร้อาณาเขต! แม้ว่าสถานะตระกูลหยิงของฉันจะไม่สูงนัก แต่มันก็ไม่สามารถมาดูถูกได้! ถ้าจักรพรรดินีไม่คิดจะรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับตระกูลหยิง! งั้นเราจะได้เห็นดีกัน!”


“พี่ใหญ่ฉันเห็นด้วย!” หยิงชางยืนขึ้นและตะโกน


หยิงคังซีชักชวนอย่างเร่งรีบ “ที่จักรพรรดินีไม่สนใจเรื่องนี้ ต้องโทษผู้หญิงทั้งสองคนและคนเหล่านั้น!”


“สัตว์นรก!”


หยิงจิงซานปรากฏตัวต่อหน้าลูกชายของเขาในทันทีและตบเขาบินไป “ถ้าไม่ใช่เพื่อแม่ของแก ฉันฆ่าแกไปตั้งแต่ประโยคเมื่อกี้แล้ว!”


หยิงคังซีปิดแก้มของเขาและมองพ่อของเขาอย่างไม่เชื่อสายตา “ตอนนี้เราต้องพึ่งพาจักรพรรดินี ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันเพื่อต่อสู้ พวกเราตระกูลหยิงจะก้มหัวให้ผู้อื่นได้อย่างไร!!!”


“ใครจะสู้อะไร?”


ซุนฟางกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างอ่อนช้อยตามมาด้วยโตวฟูชิ ผู้วิเศษแห่งความตายไม่ได้ตามมาด้วย ไม่รู้ว่าทำไมซุนฟางวันนี้ดูสวยงามเป็นพิเศษ ราวกับว่ากลับไปสมัยยังอยู่ที่นิกายหยุนอีกครั้ง แม้ว่าร่างกายที่น่ารักจะสวมเพียงเสื้อคลุมแบบเรียบง่ายเท่านั้นแต่ให้ความมั่นใจอย่างมาก ความโค้งของมุมปากยิ่งสะดุดตามากยิ่งขึ้น สมกับที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์จากภาคใต้


นี่คือเหตุผลที่ซุนฟางยึดมั่นในหัวใจของเธอและต้องการแก้แค้นให้เสร็จ


หลังจากการต่อสู้ไม่กี่วันที่ผ่านมาไปไวเป็นจรวด ในสามวันแรกพวกหัวหอกส่งเสียงวุ่นวายกันอย่างมากและตระกูลเหลียนไม่เคยอยู่ในนั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้ถึงกับได้กระโดดข้าม 3 ระดับ ข้ามตระกูลใกล้และข้ามตระกูลเก่าแก่ กระโดดขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของสามยักษ์ใหญ่


สิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตนี้ของเขาคือออกไปจับผีในคืนนั้น และจับคนผิด … แม้ว่ามันจะน่าอาย แต่ถ้าไม่ได้อับอายในวันนั้น วันนี้เขาจะได้เชิดหน้าชูตาได้อย่างไร


ตระกูลหยิง! หนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ มันออกจะเจ๋ง คุณต้องตอบแทนคู่รักที่ชั่วร้ายด้วยการช่วยให้ทำเงินมากขึ้นเพื่อให้พวกเขาเล่นเกม


แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าวันนี้พี่สาวมีความสุขมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ พี่สาวสวยงามมากเลย ~ พี่ใหญ่น่าเกลียดมาก … น่าเกลียดแต่มีบุคลิก ไม่น่าแปลกใจที่คุณจะหลงใหลพี่สาวจนถอนตัวไม่ขึ้น ~


GG: บทที่ 202 – ปล่อยให้พวกเขาสู้!


หยิงคังซีก้มศีรษะคำนับอยู่บนพื้น ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับซุนฟาง คนตระกูลหยิงในห้องโถงทั้งหมดวิ่งออกมาต้อนรับด้วยความเคารพ “ท่านซุน!”


ซุนฟางพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ และยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ฉันแค่จะผ่านไป คุณประชุมกันต่อไปเถอะ”


เหล่าปรมาจารย์ต่างตกใจ หยิงจิงซานพูดอย่างเร่งรีบ “ท่านซุนโปรดอย่าเข้าใจผิด ฉันกำลังเฝ้ารอที่จะได้มอบความภักดีให้นายเหนือหัว”


“นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด” ซุนฟางกล่าว


หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง หยิงจิงซานก็พูดต่อ “ท่านซุน เรากำลังคุยเรื่องความว่างเปล่าไร้อาณาเขต”


“หืม?” ซุนฟางสงสัยว่าความว่างเปล่าไร้อาณาเขตคืออะไร? เธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้


แม้ว่าเธอจะเคยเป็นประมุขนิกาย แต่ยักษ์ใหญ่ทั้งสามก็ยังใหม่สำหรับเธอและไม่สามารถเข้าถึงได้


หยิงชางกล่าวเสริม “ท่านซุน ความว่างเปล่าไร้อาณาเขตเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ที่ควบคุมกองกำลังในภาคเหนือ”


“อะไร? พวกเขาสร้างปัญหาให้คุณ?” ซุนฟางถาม


หยิงจิงซานกล่าวด้วยเสียงต่ำ “ท่านซุน ในตอนแรกจักรพรรดินีของความว่างเปล่าไร้อาณาเขตต้องการที่จะเกี่ยวดองกับเรา แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้กลับมีข่าวว่าจักรพรรดินีนั้นมีลูกสาวนอกสมรส!”


“อืม? ลูกสาวคนอื่น? ” ซุนฟางถามอย่างสงสัย


ฝูงชนก้มหัวลงเล็กน้อย หยิงจิงซานพูดต่อว่า “จักรพรรดินีเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และผู้สูงศักดิ์เสมอ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ตระกูลหยิงได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดินี แต่จักรพรรดินีมีลูกสาวนอกสมรส เธอโกหกต่อโลก เธอเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตระกูลหยิงของฉัน ถ้ามันแค่ตระกูลหยิงของฉัน ฉันอดทนได้ แต่ตอนนี้มันต่างไปแล้ว นี้มันเหมือนกับเธอเหยียบย่ำลงบนใบหน้าของนายเหนือหัว!”


หยิงจิงซานไม่ได้โง่ การต่อสู้กับความว่างเปล่าไร้อาณาเขตจะทำให้เกิดการสูญเสียอย่างแน่นอน แต่หากนายเหนือหัวเป็นคนลงมือ มันคงจะจบในเวลาไม่กี่นาที


ซุนฟางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย “สิ่งที่เกี่ยวกับสามยักษ์ใหญ่ของคุณ นายเหนือหัวของฉันไม่สนใจและจะไม่ยุ่ง”


“ท่านซุนกำลังเข้าใจผิด ตระกูลหยิงต้องการได้รับคำสั่งจากนายเหนือหัว การจะต่อสู้กับความว่างเปล่าไร้อาณาเขตจำเป็นที่จะต้องได้รับการเห็นด้วยจากนายเหนือหัว อย่างไรก็ตามแต่ฉันไม่กล้ารบกวนวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ของนายเหนือหัว” การที่หยิงจิงซานสามารถเป็นเจ้าบ้านได้นั่นไม่ใช่เพราะสิ่งใดเลย เพียงแค่ IQ ต้องทำงาน


ซุนฟางพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ “สมเหตุสมผล ฉันจะรายงานเรื่องนี้”


โตวฟูชิกำลังเมาพี่สาวดูดีและน่าประทับใจมาก เธอบดขยี้ตระกูลหยิง กดพวกเขาจนมิดและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น


หากโตวฟูชิรู้ว่าซุนฟางมีไพ่ที่สามารถทำให้ตระกูลหยิงถูกทำลายล้างได้ทันทีอยู่ในมือของเธอ เขาจะเข้าใจว่าทำไมคนกลุ่มนี้จึงต้องยอมก้มหัวลง


ชีวิตของทุกคนถูกบีบให้ตกอยู่ในมือของผู้อื่น แม้จะต้องก้มหัว คุณก็ต้องทำ


ซุนฟางโบกมือของเธอ บอกให้พวกเขาจัดการไป เธอจะไม่ไปประชุมกับพวกเขา เธอกำลังคิดว่าจะกลับไปชาร์จแบตเล่นเกมและฆ่ามันอีกสองสามครั้ง เจ๋งมากเลย ~


“ท่านซุนมีอีกอย่างที่ต้องรายงาน!” หยิงจิงซานก้าวไปข้างหน้าแล้วตะโกนอย่างเร่งรีบ


ซุนฟางหยุด แต่ไม่หันหลังกลับ “พูดสิ”


“เหตุการณ์นี้เกิดหลังจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของการแย่งชิงสิ่งประดิษฐ์โบราณ เราถูกปล้นภาคเหนืออย่างเปิดเผย ฉันว่า…”


ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซุนฟางเดินออกไปข้างนอกแล้วพูดอย่างใจเย็น “คุณสามารถตัดสินใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ได้ด้วยตัวเอง ฉันไม่มีเวลามาสนใจมัน”


ปากของเจ้าบ้านตระกูลหยิงกระตุกเล็กน้อย เขาเคยเห็นคนหยิ่งยโสมาก่อน แต่เขาไม่เคยเห็นคนหยิ่งยโสเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย … แล้วอะไรคือเรื่องใหญ่


แน่นอนว่ามันเป็นความขัดแย้งในครอบครัว


หลังจากกลับไปที่ห้อง ซุนฟางก็คุยเรื่องนี้กับผู้วิเศษแห่งความตาย


ผู้วิเศษแห่งความตายเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากได้ฟัง เขาได้ยินมาว่าตอนนี้นายเหนือหัวต้องการทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างเหนือและใต้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะเป็นการต่อสู้เล็ก ๆ หรือการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ มันก็ยังจำเป็นที่จะต้องถามความคิดเห็นของนายเหนือหัวก่อน แน่นอนคุณไม่ต้องข้ามรายงาน ต้องบอกนายท่านก่อน


ผู้วิเศษแห่งความตายก็ส่งข้อมูลให้นายท่านของเขาผ่านทาง WeChat


เว่ยชางตอบกลับในทันที คราวหน้าอย่าส่ง WeChat มาอีก มันเปลื้องเน็ตฉัน!


ผู้วิเศษแห่งความตาย ตกใจและสัญญาว่าครั้งหน้าจะไปรายงานด้วยตัวเอง


เย่ฮัวผู้ซึ่งกำลังนั่งดูสองสาวคนโตและสองสาวคนเล็กเล่นเกมอยู่ในห้องได้ยินว่าเว่ยชางมีข่าวบางอย่าง ก็ลุกขึ้นมาและไปที่ออฟฟิศ


ในไม่ช้าร่างของเว่ยชางก็ปรากฏขึ้น คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วกล่าวขึ้นอย่างเคารพ “ผู้ใต้บังคับบัญชาคำนับนายเหนือหัว”


“อืม?” เย่ฮัวตอบรับเบา ๆ และจุดบุหรี่สูบ


“มีข่าวจากซุนฟาง” เว่ยชางกล่าวและโค้งคำนับเล็กน้อย


เย่ฮัวพ่นควันแล้วเอนกายพิงหน้าต่าง และส่งสัญญาณให้เว่ยชางพูดต่อไป


หลังระลึกถึงเนื้อหาในรายงานผู้วิเศษแห่งความตาย เว่ยชางกล่าวขึ้น “ตระกูลหยิงที่นายเหนือหัวพิชิตในวันนั้นเป็นหนึ่งในสามยักษ์ ยักษ์ใหญ่ทั้งสามนี้ควบคุมกองกำลังทั้งเหนือ – ใต้ ตระกูลหยิงนั้นอยู่ทางภาคใต้”


เย่ฮัวตอบเบา ๆ และดูเหมือนจะไม่สนใจอะไร


เว่ยชางรู้ถึงความทุกข์ของนายเหนือหัวของเขา แต่เขายังคงต้องรายงานต่อไป “ตระกูลหยิงนี้เดิมทีกำลังจะแต่งงานกับยักษ์ในภาคเหนือ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกหลอก ตระกูลหยิงเสียหน้าของพวกเขาและพวกเขาต้องการที่จะฟื้นชื่อเสียงคืนมา”


เย่ฮัวกล่าวอย่างไม่แยแส “ดี แต่เราไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง ไม่งั้นมันจะไม่มีความหมายอะไรเลย”


“ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าได้บอกแล้วว่าเขาจะไม่เข้าไปแทรกแซงข้อพิพาทของพวกเขา”


“นั่นเป็นเรื่องดี ฉันไม่รู้ว่ายักษ์ทั้งสามนี้พังทลายลงหรือพวกเขาจะรวมตัวกันเป็นหนึ่ง? ถ้าหากมันกลายเป็นแบบนั้นมันคงจะน่าสนุก” เย่ฮัวเยาะเย้ย มีเพียงเลือดเท่านั้นที่สามารถทำให้คุณสงบลงได้เมื่ออารมณ์เสีย


เว่ยชางกล่าวอย่างเคารพ “มีคำถามจากผู้ใต้บังคับบัญชาอีกอย่างหนึ่ง เรื่องการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสิ่งประดิษฐ์โบราณ ดูเหมือนว่าภาคใต้ตั้งใจที่จะล้างแค้น”


“ถูกเวลาดี นี่คือแผนของฉันในตอนนี้ นายคอยจับตาจ้องมองเสี่ยวยี่ไว้ อย่าปล่อยให้เขาตาย เก็บเขาไว้ใช้ประโยชน์!”


“ครับ! ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ทิ้งกระบี่เซวียนหยวนของเขาไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นายเหนือหัวแล้ว” เว่ยชางยิ้มเบา ๆ ดูเหมือนว่าวิธีการดั้งเดิมนั้นถูกต้อง ในยามที่นายเหนือหัวอารมณ์เสียมีเพียงการฆ่าเท่านั้นที่ช่วยได้ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้โชคร้าย


เย่ฮัวก็คิดเช่นนั้น “ดีมาก”


“เป็นช่วงเวลาที่มีเกียรติที่สุดของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ได้รับคำชมจากนายเหนือหัว”


เย่ฮัวหัวเราะเบา ๆ และตบไหล่ของเว่ยชาง “กับถังเว่ยเป็นอย่างไรบ้าง?”


“เอ่อ ยังอยู่ในแผน … ” เว่ยชางพูดด้วยรอยยิ้ม เขาไม่รู้ว่าจะสามารถผลักเสี่ยวถังลงได้หรือไม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้เสี่ยวถังมักจะปรุงซุปและดื่มมันด้วยตัวเองไม่หยุด


เย่ฮัวถอนหายใจเบา ๆ “บางครั้งเราก็ต้องเรียนรู้จากเลี่ยกู ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้มากและแค่ผลักเธอลง”


“วิธีการของเลี่ยกูนั้นสะดวก แต่มันไม่สามารถเทียบได้กับนายเหนือหัว ผู้หญิงคนนี้มีเกียรติมากเธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับผู้หญิงธรรมดาได้ การเอาชนะร่างกายนั้นง่ายแต่หัวใจนั้นยาก”


คำพูดของเว่ยชางส่งถึงหัวใจของเย่ฮัว เขาหัวเราะเบา ๆ “เว่ยชางนายเข้าใจถึงความทุ่มเทของเทพ”


“ผู้ใต้บังคับบัญชา ยังคงศึกษาในเรื่องต่าง ๆ เช่นกัน” เว่ยชางยิ้ม การได้รับการยกย่องจากนายเหนือหัวนั้นดีกว่าการได้ฆ่า เขาเคยบอกว่าฉันโง่ แต่ตอนนี้ฉันไม่ใช้อีกแล้ว ในที่สุดฉันสามารถแบ่งปันความกังวลของนายเหนือหัวได้


“ถ้าพระเจ้าอยู่ที่นี่เขาคงจะต้องให้สติปัญญาแรกแก่คุณ” มุมปากของเย่ฮัวโค้งขึ้นเล็กน้อย มันมีประโยชน์ที่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้มีความสุข


เว่ยชางถ่อมตัวมาก “จิตใจของผู้ใต้บังคับบัญชานั้นดีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของพระเจ้า แต่มันก็ยังคงไม่สูงเท่านายเหนือหัว”


“ เอาล่ะ กลับไปหาแฟนของนายเถอะ หากไม่มีเหตุการณ์สำคัญใด ๆ ก็ไม่ต้องมารายงานหรอก เป้าหมายของเทพคือแค่ปล่อยให้พวกเขาสู้กันทั้งเหนือและใต้ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม”


“ผู้ใต้บังคับบัญชาจะปฏิบัติตามคำสั่งของนายเหนือหัว!”


GG: บทที่ 203 – ให้จักรพรรดินีคุกเข่าบนคีย์บอร์ด


ดูเวลามันเกือบเที่ยง พวกเขาควรออกไปกินข้าวได้แล้ว


เมื่อเข้ามาในห้องของชิงหยูตงที่ซึ่งร้อนจัด มองดูลูกของเขายืนอยู่บนเก้าอี้ก้นเล็ก ๆ บิดไปมาและมือที่เล็กกว่าเมาส์นั้น มันน่ารักมาก


“ลุงมาเล่นกัน อาหลี่จะพาคุณไปกินไก่ ฉันสัญญาว่าจะไม่ขโมยซีนของคุณ ~ ” ตงฮวงหลี่พูดด้วยรอยยิ้มและหันกลับมาเผยให้เห็นสองลักยิ้มที่น่ารัก


เย่ฮัวเคยได้ยินประโยคนี้หลายครั้งทุกทีเสี่ยวหลี่ไม่พูดเกี่ยวกับเครดิต ปัญหาที่ไม่ดีนี้ควรได้รับการจัดการเธอจะต้องเรียนรู้จากแม่ของเธอ


ชิงหยาพูดด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก “ลุงของคุณกลัวคุณจะขโมยซีนของเขาอีกครั้ง”


“อาหลี่ไม่ได้ตั้งใจเลย ~ อาหลี่ทำให้ลุงหัวเสียงั้นเหรอ? ~” ตงฮวงหลี่พูด ปากเล็ก ๆ ของเธอสามารถทำให้ทุกคนหัวเราะ


เย่ฮัวพูดไม่ออกเขาถูกล้อเล่นโดยลูกของเขาเอง อย่างไรก็ตามเย่ฮัวไม่ได้โกรธและพูดว่า “อาหลี่ ตอนเที่ยงคุณอยากกินอะไร?”


“อืม มันโอเคที่อาหลี่จะกินแค่ขนมปังและประหยัดเงินให้ลุง”


ชิงหยูตงรู้สึกปวดใจเมื่อได้ฟัง “อาหลี่ลุงและป้าของเธอมีเงิน เธอสามารถกินอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ”


“จริงเหรอ? ระหว่างทาง อาหลี่กินจนเงินของลุงเขียวและลุงแดงหมด ลุงเขียวและลุงแดงอดอาหาร อาหลี่ไม่อยากให้คุณอดอาหาร” ตงฮวงหลี่เบะปาก ตาของเธอเริ่มแดง


เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ตงฮวงหลี่ก็สะอื้นและพูดว่า “อาหลี่ทำร้ายผู้คนทุกที่ แง ~”


ชิงหยารู้สึกปวดใจเช่นกัน เธอกอดอาหลี่ไว้ในอ้อมแขนของเธอและปลอบโยน “อาหลี่เป็นเด็กฉลาดจริง ๆ แต่เด็กที่เด็กที่ฉลาดแล้วไม่ร้องไห้นะ ~”


“แต่… แต่อาหลี่อดไม่ได้ ~” ตงฮวงหลี่พูดด้วยความเศร้าในอ้อมแขนของชิงหยา


เมื่อเย่ฮัวเห็นว่าลูกของเขาเศร้ามาก หัวใจของเขาก็รู้สึกไม่ดี แม่ของเธอกำลังทำอะไร! เด็กรู้สึกผิดได้อย่างไร!


ถ้าไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของอาหลี่ เขาคงจะเรียกตัวเธอมาและสอนให้รู้ว่าในฐานะแม่คุณไม่สามารถปล่อยให้ลูกของคุณรู้สึกผิดได้!


เย่ฮัวอุ้มตงฮวงหลี่และกล่าวอย่างจริงจัง “อาหลี่บอกสิ่งที่คุณอยากจะกินมา ในโลกนี้คุณอยากกินอะไรฉันสามารถหามาให้ได้”


“ลุงคุณดีต่ออาหลี่ มากกว่าแม่ของฉันอีก ~” ตงฮวงหลี่กอดคอเย่ฮัวและพูดด้วยเสียงสดใสของเด็กน้อย


เย่ฮัวรู้สึกสบายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่เมื่อเขาจำได้ว่าแม่ของอาหลี่เคยให้อาหลี่คุเข่าบนคีย์บอร์ด เขาก็โกรธขึ้นมาทันที รอก่อนเถอะ! เทพจะให้คุณคุกเข่าบนคีย์บอร์ด คุณกล้าที่จะทำร้ายลูกของฉัน


เย่ฮัวลูบหลังของตงฮวงหลี่และพูดกับทุกคนว่า “ไปกันเถอะ ออกไปกินข้าวกันก่อน”


ทุกคนยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม ชิงหยาก็กระซิบกับน้องสาวของเธอ “หยูตง เธอคิดว่าเย่ฮัวดูสนิทกับอาหลี่มากไปรึเปล่า?”


ชิงหยูตงหยุดชั่วครู่และจับแขนที่ขาวราวหยกของพี่สาวเธอ “บางทีพี่เขยคงจะชอบเด็กมาก และพี่สาวเด็กในท้องของคุณยังไม่เกิด ดังนั้น… เอ่อ …” ฉันคิดอย่างอื่นมากกว่านี้ไม่ออกแล้ว


“เขาอาจจะป่วยเป็นโรคไข้ใจ เลยปฏิบัติต่อหลี่ในฐานะลูกของเขาเอง” ชิงหยูตงคิดว่าแกล้งพูดไปแบบนี้คงจะได้


ชิงหยาขมวดคิ้ว “จริงเหรอ?”


“มันจริงหรือเปล่างั้นเหรอ? ยังไงก็ตามอาหลี่ก็น่ารักมากและเป็นที่รักของทุกคน เมื่อคุณดีต่อผู้อื่น ผู้อื่นก็จะดีต่อคุณ”


ชิงหยาตีหน้าผากของน้องสาวเธอ “ดูแลตัวเองเถอะ ไปกันได้แล้ว”


ชิงหยูตงรู้สึกโล่งใจ ตั้งแต่เธอได้เห็นพี่เขยของเธอแสดงพลังของเขาในคืนนั้น ไม่ มันคือการแสดงความยิ่งใหญ่! ชิงหยูตงก็รู้สึกว่าพี่เขยของเธอไม่ธรรมดา พี่เขยที่แข็งแกร่งเช่นนี้อาจจะแค่เป็นห่วงเด็กแปลกหน้า?


เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ นอกเสียจากว่าอาหลี่เป็นลูกของพี่เขย แค่มองก็รู้ว่าพี่เขยใส่ใจเธอมากแค่ไหน


โชคดีที่พี่สาวของฉันไม่ได้สังเกต มันเป็นการตั้งครรภ์ที่โง่เง่าเมื่อสามปีที่แล้วแต่พี่เขยปิดมันไว้ เมื่อความจริงเปิดออก พี่สาวของฉันจะรับมันได้ไหม? ช่างน่าเป็นห่วงจริง ๆ


ทุกคนลงมาข้างล่างและเห็นพี่น้องเขียวแดงกำลังถือยาเม็ดสีดำ พวกเขาดูลังเล …


“ลุงเขียวลุงแดง ~” ตงฮวงหลี่ตะโกนเรียก


น้องชายแดงตกใจมาก ลูกบอลสีดำในมือของเขาตกลงกับพื้นและเปื้อนฝุ่น แต่น้องชายแดงไม่ได้รังเกียจ เขาหยิบมันขึ้นมาอีกครั้งและเก็บใส่ไว้ในกระเป๋า


“คุณสองคนมาด้วยกันสิ” เย่ฮัวที่อุ้มตงฮวงหลี่พูดเบา ๆ


พี่น้องเขียงแดงตกใจมาก ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าชายคนนี้เป็นเจ้าของร้านนี้ เขาจะต้องรวยมากแน่นอน ออกไปทานข้าวข้างนอก มันเยี่ยมมาก ~


ทั้งสองเดินไปสุดทางและกระซิบกัน


“พี่ใหญ่ คุณคิดว่าลุงเว่ยให้พิษกับเราเหรอ?” น้องชายแดงดูสับสน


พี่ชายเขียวถอนหายใจ “ลุงเว่ยบอกว่ายาเม็ดนี้จะทำให้เราถอดออกได้ แต่ฉันรู้สึกว่า…”


“พี่ใหญ่ คุณคิดว่ามันเลอะเทอะเกินไปใช่ไหม? ฉันเห็นลุงเว่ยยุ่งอยู่กับเป้าและแตะสองสามครั้งก่อนที่จะเอามันออกมา มันคงไม่ใช่…” น้องชายแดงรู้ความจริงและเกือบจะสูญเสียเม็ดยาไป


“โอ้ ฉันเพิ่งได้กลิ่น มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น”


“อะไรนะ พี่ใหญ่คุณดมกลิ่นมันจริง ๆ เหรอ!” น้องชายแดงรู้สึกประหลาดใจ


พี่ชายเขียวยกมือตบเขา “งี่เง่า ฉันกำลังดมพิษ”


“พี่ใหญ่ คุณได้กลิ่นพิษไหม? ฉันเกรงว่าคุณจะไม่ถูกวางยาพิษตาย แต่จะถูกรมควันตายแทน” น้องชายแดงเอื้อมมือขวาของเขาที่เพิ่งหยิบเม็ดยาออกมาดมกลิ่นมันและชิมมันเล็กน้อย


พี่ชายเขียวอารมณ์เสียมาก “ช่างมันเถอะ เราจะตัดสินใจว่าจะกินหรือไม่คืนนี้”


ยาเม็ดสีดำนี้เป็นสิ่งที่ดี สำหรับคนอื่นมันถือได้ว่าเป็นสมบัติ มันตกอยู่ในมือของพี่น้องเขียวแดงแต่พวกเขารู้สึกลังเลเล็กน้อย ท้ายที่สุดดูเหมือนมันจะเกิดจากการสัมผัสจากเป้าของเว่ยชาง ใครจะรู้ว่า …


เมื่อทุกคนเดินออกจากตรอก ชิงหยูตงก็พูดด้วยรอยยิ้ม “อาหลี่อยากจะกินหม้อไฟ มีอยู่ตรงข้ามนี้ร้านหนึ่ง มันอร่อยมาก”


ตงฮวงหลี่มองไปดู แล้วหันหน้ากลับมามุดเข้าอ้อมแขนของเย่ฮัวในทันที “อาหลี่ไม่ไปมีคนเลวอยู่ที่นั่น ~”


“เกิดอะไรขึ้นเหรอ อาหลี่?” ชิงหยาถามและลูบหัวปลอบโยนอาหลี่


“อาลีไม่ชอบร้านนั้น ลุงอย่าไป … ” ตงฮวงหลี่อ้อนวอน การแสดงออกนี้ทำให้เย่ฮัวเศร้ามาก


เขากล่าวเสียงต่ำ “คุณสองคนมานี่สิ!”


พี่น้องเขียวแดงเดินเข้ามาทันที พวกเขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย


“ทำไมอาหลี่ถึงไม่อยากไป?” เย่ฮัวถามอย่างเย็นชา


พี่น้องเขียวแดงมองหน้ากันแล้วพี่ชายเขียวก็พูดขึ้น “บอสเมื่อวานเราผ่านร้านนี้ แต่เจ้าของร้านเห็นว่าเสื้อผ้าของเราสกปรกและไล่พวกเราออกมา น้องชายกับฉันทำตามทฤษฎีบางอย่าง ผลลัพธ์คือพวกเขาไล่ล่าเรา”


ทฤษฎีบางอย่าง คำพูดของพี่ชายเขียวช่างแหลมคมมาก เห็นได้ชัดว่าวิ่งเข้าไปเพื่อยึดโต๊ะ


เย่ฮัวพอจะเข้าใจและหันมาถามตงฮวงหลี่ในอ้อมแขนของเขา “อาหลี่ เป็นอย่างนั้นเหรอ?”


“ลุง ตอนนั้นอาหลี่สกปรกมาก มันจะส่งผลต่อความอยากอาหารของผู้อื่น” คำพูดของตงฮวงหลี่ทำให้ทุกคนรู้สึกปวดใจ


ดวงตาของเย่จีจี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจาง ๆ ถึงกับกล้ารังเกียจคุณหนู! แม่มันเถอะ ไอ้คนไหนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม