Virtual World – Peerless White Emperor 395-401

ตอนที่ 395

 

“เอาล่ะ! เรารีบไปกันเถอะ…” เย่ฉางกระตุ้นเตือน

ThornyRose หยิบแผนที่ออกมา และชี้ไปยังตำแหน่งสุสานทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบาล “ที่นี่มีหลุมฝังศพอยู่ใต้ดินของโบสถ์ ซึ่งเป็นที่ที่ฉันต้องไปเอาชิ้นส่วนของดาบที่หายไป …”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงให้พวกเรากลับมา มันเป็นสถานที่ที่มีอันเดทอยู่นี่เอง…” เย่เทียนมองไปยังแผนที่ แล้วคัดลอกสถานที่แห่งนี้ไปยังโปรแกรมแผนที่เสมือนจริงของเธอ ทำให้แผนที่ในระหว่างการเดินของเธอสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ThornyRose เห็นแผนที่ระดับไฮเอนด์ “ก๊อปปี้แผนที่ของเธอให้ฉันบ้างสิ…”

“10 เหรียญทอง นี่คือราคาส่วนลดระหว่างมิตรภาพของพวกเราที่จะลดให้ได้แล้ว…” คำพูดของเย่ฉางทำให้ ThornyRose รู้สึกปวดใจ นี่คือสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพงั้นหรือ? เขาไม่เพียงแต่ได้รับเงินจากสโมสรเท่านั้น แต่เขายังหลอกลวงเพื่อนๆทุกครั้งที่ทำได้อีกด้วย เธอมองไปที่ FrozenCloud และถอนหายใจ ‘ยังดีที่น้องเล็กไดโนไม่เป็นไปกับเขาด้วย’ เธอหยิบ 10 เหรียญทองออกมาและยื่นไปให้เขา เย่เทียนทำสำเนาก๊อปปี้แผนที่ด้วยการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ของเธอ และป้องกันไม่ให้ถูกคัดลอกได้อีกครั้ง หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว เธอก็ส่งสำเนาก็อปปี้ไปให้กับ ThornyRose พวกเขาจะไม่รับผิดชอบหากสำเนาก๊อปปี้แผนที่ถูกทำลายเนื่องจากเธอทำการซื้อขายกับคนอื่นหรือทำการคัดลอก…

ThornyRose เห็นว่าเย่เทียนปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเธอไว้เป็นอย่างดี เธอจึงถอนหายใจออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมแม่ของเธอถึงต้องการให้หญิงสาวตัวน้อยคนนี้เป็นที่ปรึกษา

ThornyRose มองไปยังแผนที่ของเธอด้วยอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย มันคุ้มค่ากับเงินที่เธอเสียไปเป็นอย่างมาก สภาพภูมิประเทศและทุกๆอย่างทำออกมาได้ดี และเธอยังได้รับรู้ถึงสิ่งที่กลุ่มของเย่ฉางได้สำรวจไปแล้วอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นโกสพีค อย่างไรก็ตาม แผนที่นี้ไม่สามารถอัพเดทได้ “เกี่ยวกับเรื่องการอัพเดทแผนที่…”

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันจะให้ราคาตามสถานการณ์ที่เราได้ออกไปสำรวจ…” เย่ฉางยกนิ้วโป้งให้กับเธอ

“เฮ้อ! ช่างเป็นคนที่ขูดเลือดขูดเนื้อจริงๆ เอาล่ะ ฉันจะเป็นหัวหน้าทีมและเป็นคนตั้งปาร์ตี้เอง” ThornyRose เป็นคนควบคุมปาร์ตี้และจัดแจงสมาชิกด้วยตัวเอง สมาชิกภายในปาร์ตี้ได้แก่ ตัวเธอเอง, FrozenBlood, ElegantFragrance, GreenDew, Sister Lily, Little Jade, กลุ่มสามพี่น้อง, นานะ, ฟางชิ, SpyingBlade, เย่เทียน, น้องเล็กไดโน, และคนบ้ากาม ปาร์ตี้ 15 คน พร้อมกับสัวต์เลี้ยงประเภทเสือ, แมลง และปีศาจน้อยที่ไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด อ่อ! ยังมีไก่น้อยอีก 1 ตัว ที่ด้านข้างของเธอ มี PassingBreeze, DemonSpirit และ Kitty ที่ไม่สามารถเข้าร่วมปาร์ตี้ได้ การสำรวจทางตอนเหนือยังต้องการพวกเธอ ดังนั้นพวกเธอจึงไม่สามารถออกไปกับปาร์ตี้นี้ได้ เธอแต่งตั้งเย่เทียนให้ผู้บัญชาการชั่วคราว ในขณะที่ตัวของเธอเองจะให้คำแนะนำในระหว่างการต่อสู้ หลังจากจัดกลุ่มปาร์ตี้เรียบร้อยแล้ว เธอก็พาทุกคนเดินจากไป

เย่ฉางได้แจกจ่ายน้ำยาฟื้นฟูมานาให้กับคนที่ใช้มานา ThornyRose สามารถทำได้แค่เพียงเพิ่มค่าแรงให้กับพวกเขาเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เธอยิ่งโกรธมากขึ้นก็คือ ราคาของน้ำยาฟื้นฟูมานา มันราคาแพงมาก!

“ฉันขายให้น้องชาย PureSoul แพงกว่านี้อีกนะ นี่เธอได้รับส่วนลดไปถึง 20% แล้วนะเนี่ย…” เย่ฉางแกล้งทำเหมือนกับตัวเขาเองถูกทำร้าย

‘แม่ง! เลิกเสแสร้งสักทีเถอะ! นายคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายมีสายแร่คริสตัลเวททั้งหมดงั้นหรือ!?’ ThornyRose จ้องมองเขาอย่างหงุดหงิด จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมา ในตอนนี้ทั้งสามพี่น้อง และ DarkBlade เป็นเอซของสโมสร เป็นเพราะพวกเขา สโมสร Thorns and Roses ถึงมีคุณสมบัติที่จะได้เผชิญหน้ากับทีมที่ทรงพลังทีมอื่นๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถอนตัวไป ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ได้ถ่ายโอนตัวละคร ตัวละครทั้งสามตัวก็จะยังคงอยู่ในสโมสร Thorns and Roses และจะกลายเป็นตัวละครกิตติมศักดิ์ที่อยู่คู่กับสโมสรต่อไป และเธอก็ยังได้เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบเลื่อนระดับแบบประเภทคู่กับ FrozenBlood อีกด้วย เธอไม่สามารถซื้อตัวละครแร็งค์ SS ได้ เพราะไม่ใช่ว่าจะมีคนขายตัวละครแร็งค์ SS อยู่เกลื่อนกลาด ดังนั้นเธอจึงได้แต่พึ่งพาตัวเธอเองเท่านั้น แต่โอกาสที่เธอได้รับก็ไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่ เธอไม่เคยคิดเลยว่าทั้งสามคนนี้จะมีพรสวรรค์อยู่ในระดับราชันสวรรค์ ถึงแม้ว่าแต่ละคนมีจุดอ่อนที่ชัดเจน แต่พวกเขาก็ประสานงานกันได้ยอดเยี่ยม จนกลบจุดอ่อนของแต่ละคนไปได้อีกด้วย ความจริงก็คือ เธอได้อิจฉามิตรภาพของพวกเขาทั้งสามคน แม้แต่น้องสาวของเธอเอง… เธอมองไปที่ FrozenBlood และถอนหายใจ ‘บ้าเอ้ย! ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่เลวร้ายจริงๆ…’

ตลอดการเดินทาง การต่อสู้ที่จางเจิ้งเฉียงกำลังเฝ้ารอคอยอย่างมุ่งหวังก็ไม่เกิดขึ้น เพราะอูนาและ ThornyRose ทั้งสองคนสนิทกันอย่างรวดเร็วอย่างไม่คาดคิด ThornyRose ไม่เคยคิดเลยว่านานะจะเป็นคนที่ดีแบบนี้ เธอรู้สึกประทับใจมาก เมื่อเทียบกับยัยเลวร้ายบางคนที่มัวแต่จะคอยแทงเธอจากด้านหลังแล้ว พวกเธอทั้งสองคนช่างต่างกันราวกับสรวงสวรรค์และนรก พวกเธอทั้งสองคนกลายเป็นเหมือนพี่สาวกับน้องสาวกันอย่างรวดเร็ว FrozenCloud มองไปที่อูนาและยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ตราบเท่าที่ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับเพลงร็อคแอนด์โรลกับนานะ เธอก็จะเปรียบเสมือนเป็นนางฟ้าที่ไร้ปีก เธอในตอนนี้ และเธอในตอนโหมดพังค์ มักจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าเธอมีสองตัวตนอยู่ภายในร่างเดียวกัน … ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ จิตวิญญาณพังค์ของเธอดูเหมือนว่าจะได้รับการสนับสนุนเห็นชอบจากหัวหน้าทีมอีกด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่เธอเดินไปบนเส้นทางนั้น ตอนแรกที่เธอได้รับรู้เรื่องนี้ เธอถึงกับตกตะลึงจนกลายเป็นโง่งมเลยทีเดียว…

“มีมินิบอสแร็พเตอร์กำลังมาทางนี้…” เย่ฉางพูดขึ้นมาพร้อมกับหยิบบาลิสต้าของเขาออกมา เขาตรวจสอบคริสตัลเวทก่อนที่จะติดตั้งลงไปในบาลิสต้า ทำให้บาลิสต้ามีพลังเวทเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องชาร์จพลังงาน ThornyRose ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับบอสที่บินได้ เธอจึงไม่สามารถเตรียมพร้อมอะไรได้เลย เธอทำได้แค่เฝ้าดูได้ว่าเขาจะโจมตีโดนไหม เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่บอสถูกยิงลงมา มันก็จะกลายเป็นการต่อสู้ของเธอโดยทันที โดยปกติการยิงมอนเตอร์ระดับบอส หรือมินิบอสให้ร่วงลงมาเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากจริงๆ แต่เมื่อเธอเห็นบาลิสต้าของเย่ฉาง เธอได้แต่หลังเหงื่อเย็นออกมาทันที ‘เมื่อกี้นี้คืออะไร!? มันสามารถติดตั้งคริสตัลเวทได้ด้วย!’

“บาลิสต้าระดับ Dark Gold…” ElegantFragrance หรี่ตาลงด้วยความอิจฉา “ให้ฉันยืมธนูของนายสักหน่อยสิ~…”

เย่ฉางแสร้งทำหน้าราวกับเขากำลังจะพูดว่า ‘ฉันสามารถปฏิเสธเธอได้ด้วยงั้นหรือ?’ และหันกลับไปยื่นธนูและบอกท่าบอกเป็นนัยให้เธอมารับมันไปด้วยตัวเอง ElegantFragrance เดินไปหยิบธนูหนักขึ้นมา เมื่อเธอเห็นค่าสถานะของมัน เธออดที่จะจับมันอย่างเหนียวแน่นไม่ได้ แม้ว่าธนูนี้จะเป็นเพียงแค่ระดับ Gold แต่ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาของธนูราวกับอยู่ในระดับ Dark Gold! มันเพิ่มระยะการโจมตีและมีสกิลในการโจมตี 2 สกิลที่จะติดคริติคอลอย่างแน่นอน! ความสามารถของสกิลในธนูนี้ สามารถใช้ร่วมกับสกิลอื่นๆได้อีกด้วย! เธอคว้าลูกธนูและรั้งสายธนูจนตึง จากนั้นก็เล็งไปที่เป้าหมาย!

เย่ฉางยิ้มอย่างแผ่วเบา เขาเริ่มใช้สกิล [Precise Shot]! เพราะตอนนี้มันยังเร็วเกินไปที่จะใช้ [Meteor Shot]

ทุกคนเฝ้าดูทั้งสองคน คนหนึ่งที่ใช้บาลิสต้า อีกคนหนึ่งใช้ธนูหนัก พวกเขาทั้งสองมุ่งเป้าไปที่การบินอย่างรวดเร็วของแร็พเตอร์ และยิงออกไปในเวลาเดียวกัน ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ลูกศรของเย่ฉางที่เป็นเหล็กในของราชินีผึ้งได้เจาะทะลุผ่านช่องท้องแร็พเตอร์ ส่วนลูกศรของ ElegantFragrance ยิงเข้าไปที่ดวงตาของมันอย่างแม่นยำ มันค่อยๆร่วงหล่นลงมา เย่ฉางเก็บบาลิสต้าของเขา และอัญเชิญ [Shadow Weapon] ที่เป็นหน้าไม้หนักออกมาเพื่อโจมตีใส่มันทันที เมื่อสลักเกลียวหน้าไม้ถูกยิง ลูกศรก็พุ่งออกไปราวกับสายฟ้าฟาด โจมตีไปยังแร็พเตอร์ที่กำลังร่วงหล่นลงมา

“ไป!” เย่ฉางดึงหอกออกมา และพุ่งเข้าไปพร้อมกับหลินหลี่และจางเจิ้งเฉียง แม้แต่เย่เทียนก็ดึงไม้เท้าออกมา และพุ่งเข้าไปเหมือนกับบาบาเรียน เธอตะโกนออกมาด้วยเสียงที่นุ่มนวล “ฆ่ามัน!” SpyingBlade กำลังมองไปที่ ThornyRose และ FrozenBlood ที่ไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิดเดียว “ไม่ไปงั้นหรือ!?”

“พวกเขาต้องการเราด้วยงั้นหรือ?” ThornyRose ยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นเธอก็หันมา และดึงฟางชิมาใกล้ๆด้วยรอยยิ้ม “นายชื่อฟางชิ ถูกต้องไหม? มานี่มา เรียกซัมมอนของนายออกมาให้ฉันดูหน่อยสิ และแสดงค่าสถานะของมันให้ฉันดูด้วยนะ…”

“……” ฟางชิสั่นสะท้านและเรียกบาลี่ออกมาทันที พร้อมกับแชร์ค่าสถานะของบาลี่ให้เธอดู ThornyRose ลูบคางของเธอ ‘นี่มันยอดเยี่ยมมาก มันเป็นซัมมอนประเภทพลังจิต! บอสบางตัวไม่กลัวการโจมตีทั้งทางกายภาพและเวทมนตร์ แต่ยังคงได้รับความเสียหายทางจิตวิญญาณและความเสียหายจากการโจมตีประเภทพลังจิต ยกตัวอย่างเช่น ผีศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับประเภทนั้น เด็กคนนี้อาจจะเป็นเนโครแมนเซอร์ที่ดีมาก ถ้าเราสามารถเลี้ยงดูเขาให้ดีๆ เคยมีคำพูดแต่เก่าก่อนบอกเอาไว้ว่า ‘เราไม่กลัวคมดาบของเทพเจ้าสงคราม แต่เราเกรงกลัวเหล่ากองทัพโครงกระดูก’ เธอตบไหล่ฟางชิ และพูดออกมาด้วยความจริงใจ “หนุ่มน้อย นายสัญญาได้ไหมว่า นายจะทำเพื่อ Thorns and Roses อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้…”

“……” FrozenCloud พึมพำ “ทำไมฉันจึงรู้สึกเหมือนหัวหน้าทีมอยู่ตรงนี้…”

“เธอคิดว่าไง ถ้าพวกเขากำลังจะเป็นคู่สามีภรรยากันจริงๆ…” FrozenBlood พูดออกมาอย่างช้าๆ

ต่อมา ThornyRose ได้พูดขออูนาอย่างไร้อย่างอายให้แชร์ค่าสถานะและสกิลต่างๆให้เธอดู อูนาแชร์ให้เธอดูอย่างใจดี โดยไม่มีปิดบังอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ThornyRose พยักหน้า และมองดูค่าสถานะต่างๆ ‘เธอเป็นนักเวทประเภทควบคุมสนามรบ! ถึงแม้จะไม่มีออร่าของเจ้าหมียักษ์ เลือดและมานาของเธอก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เธอเป็นนักเวทที่ทนทานกว่านักเวทคนอื่นๆมาก โอ้~ เธอยังมีแม้แต่สกิลพิเศษระดับ Epic อยู่อีกด้วย ทั้งหมดที่เธอขาดก็คือประสบการณ์เท่านั้นเอง’

 

 

 


ตอนที่ 396

 

เย่ฉางกลับมาพร้อมกับอุปกรณ์ระดับ Masterwork และถือธนูหนักกลับมาด้วย “แค่ก แค่ก เราได้มาอีก 10 เหรียญทอง มันน่าเสียดายมากที่ฉันไม่ได้เป็นคนค้นศพบอส มิฉะนั้นแล้ว เราจะได้อุปกรณ์ระดับ Dark Gold เป็นอย่างน้อย …”

“ขอยืมธนูของนายไปให้ ElegantFragrance ใช้หน่อยนะ เธอยังคงใช้ธนูระดับ Masterwork อยู่เลย นายมีวิธีมากมายในการโจมตีและยังสามารถพึ่งพาบาลิสต้าที่สามารถสร้างความเสียหายที่รุนแรงได้ ว่าแต่มันใช้เวลาในการรีโหลดนานแค่ไหน?” ThornyRose กลอกตาแล้วถาม

“ถ้าให้มันรีโหลดอัตโนมัติจะใช้เวลานานมากกว่า 10 วินาที แต่ถ้าทำด้วยตัวเอง ฉันสามารถทำมันได้ภายในเวลาไม่ถึง 6 วินาที …” เย่ฉางคิดสักครู่แล้วตอบ จากนั้นเขายื่นธนูหนักไปให้ ElegantFragrance อีกครั้ง จากนั้นก็ยื่นมือไปทาง ThornyRose ด้วยรอยยิ้ม “ค่าเช่า…”

ThornyRose ชี้ไปที่เย่ฉางเป็นเวลานาน เธอพูดอะไรไม่ออก จากนั้นก็ได้ยินแต่เสียงกัดฟันตามมา เย่ฉางลูบคางและพยักหน้า “อืมๆ ในเมื่อเราเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน งั้นฉันจะไม่คิดค่าเช่าก็แล้วกัน”

เขาพูดแล้วหยิบบาลิสต้าขึ้นมาอีกครั้ง และติดตั้งไว้บนไหล่ของเขา เขาได้กลายเป็นเครื่องจักรยิงระยะไกลไปแล้ว!

“นายได้อาวุธระดับ Dark Gold เหล่านี้มาได้อย่างไรกัน?” ThornyRose อยากรู้มาก ตอนนี้อาวุธระดับ Gold ก็หายากดั่งเขายูนิคอร์นแล้ว สำหรับอาวุธระดับ Dark Gold นั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก

“เราช่วยลูกสาวของสมาชิกคนสำคัญของคริสตจักร แล้วเราก็ได้รับรางวัลมา แม้กระทั่งเร็นน้อยก็ยังได้รับดาบคู่ระดับ Dark Gold” FrozenCloud เป็นคนตอบ ThornyRose มองไปที่ดาบคู่บนเอวเร็นน้อยและสั่นสะท้าน ‘บ้าเอ้ย! แม้แต่สัตว์เลี้ยงยังใช้อาวุธระดับ Dark Gold เลย แถมมันยังเป็นชุดเซ็ทอีกด้วย’ จากนั้นเธอก็มองเห็นกลองเล็กๆที่เอวเย่ฉาง “นี่เป็นอุปกรณ์ประเภทเครื่องดนตรีของนักกวีใช่ไหม?”

เย่ฉางโพสต์ค่าสถานะกลองให้เธอดู ThornyRose ได้แต่อ้าปากค้าง เธอถอนหายใจและรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นอุปกรณ์ต่างๆของเย่ฉาง เขามีทั้งเสื้อโค๊ท ผ้าคลุม และเกราะหนัก อาวุธของเขามีตั้งแต่ระยะใกล้ไปจนถึงระยะไกล และมีไปจนถึงเครื่องดนตรีประเภทเพิ่มบัฟ กลองใบนี้มันดีมากๆ มันเทียบเท่าได้กับออร่าพิเศษเลยทีเดียว แถมมันยังมีทักษะการโจมตีอีกด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ มันสามารถขัดจังหวะการร่ายเวท และสามารถสลายผลการควบคุมจิตใจได้

ตลอดการเดินทาง สัตว์ป่าที่พวกเขาฆ่าได้ถูกสับแยกชิ้นส่วนโดยเย่ฉาง ThornyRose กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เมื่อรู้ว่าถ้าพวกเขาไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว พวกเขาจะต้องกินหัวใจและเหล่าเครื่องในที่ฉีกขาดแบบนั้น นี่เป็นสาเหตุของความตรึงเครียดที่เพิ่มขึ้นของผู้หญิงคนอื่นๆ …

“เรามาถึงแล้ว …” ThornyRose ยืนอยู่บนยอดเขาและแหวกพุ่มไม้เข้าไป เย่ฉางเดินตามไปและมองเห็นสุสานที่มืดมนอยู่ข้างหน้า เมื่อเปรียบเทียบกับสุสานในหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะแล้ว สุสานแห่งนี้จะรู้สึกถึงความเศร้าหมองที่เห็นได้ชัดมากกว่า เย่เทียนได้สำรวจบริเวณรอบๆสุสานและเพิ่มมันลงในแผนที่ของเธอ สุสานและพวกอันเดทเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในเกมแนวแฟนตาซีแบบนี้ โดยปกติแล้ว สุสานจะมาพร้อมกับรางวัลพิเศษต่างๆ และแน่นอนว่าจะต้องมีหีบสมบัติ

เย่ฉางมองพวกซอมบี้ที่เดินเพ่นพ่านอยู่ข้างหน้า จากนั้นก็มองของเหลวซอมบี้ที่อยู่ในกระเป๋าเป้และพูดพึมพำว่า “ฉันกำลังเป็นกังวลเรื่องวัตถุดิบในการทำอาหารว่าจะไม่เพียงพออยู่พอดีเลย ในตอนนี้ปัญหานั้นได้ถูกแก้ไขแล้ว แต่ซอมบี้เหล่านี้ดูจะระดับสูงกว่าที่เจอในหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ …”

ThornyRose และคนอื่นๆเริ่มนึกขึ้นมาได้ และต้องปิดบังปากของพวกเขาไว้อย่างแน่นหนาเนื่องจากมันไปกระตุ้นการอาเจียนขึ้นมา ‘เขาใส่มันลงในอาหารของพวกเรา!’ FrozenBlood พึมพำ “ตั้งแต่ได้พบกับหัวหน้าทีมมา ฉันไม่เคยจู้จี้จุกจิกในการกินอาหารอีกเลย …”

“เอาล่ะ อาเฉียงเริ่มก่อกองไฟได้แล้ว ทุกคนจะได้รับบัฟจากอาหารกันเสียที พี่สาวโรส ฉันเพิ่งได้เรียนรู้ทักษะการทำอาหารมามากมาย งานเลี้ยงที่เมืองบาลเป็นเพียงปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง เท่านั้น…” เย่ฉางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“……” ทุกคนพูดไม่ออก

เย่ฉางเตรียมหม้อปรุงอาหารขนาดใหญ่และหม้ออีกอันสำหรับทอด เขาหยิบเห็ดออกมาหลากหลายชนิด ทั้งเป็นพิษและไม่เป็นพิษ เขาโยนพวกมันทั้งหมดลงไปในหม้อ จากนั้นเขาก็โยนเนื้อซอมบี้, เนื้อนกอินทรีและเนื้อหนูท่อลงไป ทุกคนรู้ว่าความรุนแรงของพิษจากเห็ดพิษนั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับกลิ่นที่เหม็นเน่าได้ นี่เป็นวิธีที่รับประกันได้ว่า อาจมีใครบางคนต้องได้กลับเมืองแน่ๆ

ในหม้อทอด เย่ฉางใช้เจลสไลม์และสมุนไพรป่าเป็นสารเคลือบหม้อแทนน้ำมัน จากนั้นเขาก็โยนเนื้อหมีปีศาจและเนื้อหมูป่าหินที่ทำให้นุ่มแล้วลงไป เขาหันมายิ้มให้ทุกคน ราวกับว่าเขากำลังจะทำให้ทุกคนประหลาดใจ “ฉันรู้ว่ามันเป็นเวลานานแล้ว ที่ทุกคนไม่ได้กินเมนูข้าวในเกม ดังนั้นฉันได้เตรียมมันไว้เป็นพิเศษ! แต่น แต้น ~ ข้าวต้มกุ๊ย ~ เซอร์ไพส์ ~ …”

ทุกคนส่ายหัว

เย่ฉางเริ่มทำข้าวต้มกุ๊ย แต่น้ำที่เขาใช้นั้นเอามาจากซุปเห็ดที่อยู่ในหม้อใกล้ๆ จากนั้นเขาก็เติมน้ำลงไปอีกเพื่อทำให้มันเจือจางลง จากนั้นเย่ฉางเอากะทะใบใหญ่ออกมา และเริ่มผัดเครื่องในสัตว์ต่างๆ พร้อมกับใส่ของเหลวซอมบี้, เจลสไลม์, ผงกระดูก, สมุนไพรป่า และสิ่งๆหนึ่งที่ทุกคนต่างสงสัย มันคืออึสีดำ!!

“หัวหน้าทีม นั่นคืออึของราชามังกรดำนะ มันเป็นอึราชามังกรดำ!!” SpyingBlade ตกใจมาก

“นายมองมันผิดไปแล้ว นี่เป็นเครื่องเทศของชาวจีนที่เรียกกันว่าถั่วดำ มันสามารถใช้เพื่อเพิ่มรสชาติได้ …” เย่ฉางโต้แย้ง

สตูว์(สามารถรับประทานร่วมกับข้าวเพื่อให้ได้บัฟอาหารชุด), เนื้อทอด (สามารถรับประทานร่วมกับข้าวเพื่อให้ได้บัฟอาหารชุด), ผัดเครื่องใน (สามารถรับประทานร่วมกับข้าวเพื่อให้ได้บัฟอาหารชุด) อาหารทั้งสามชนิดได้ถูกปรุงเสร็จแล้ว กลิ่นเหม็นของมันสูงเทียมฟ้า และมีไอน้ำหลากหลายสีเริ่มพุ่งออกมาล้อมรอบพวกเขา พวกเขารู้สึกว่ามีน้ำวนหมุนเหนือศีรษะเป็นเวลานาน และรู้สึกว่าพวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวยิ่งกว่าพวกผีร้าย จากภายในอ่างน้ำวนนั้น

หลังจากที่ตั้งชื่ออาหารเสร็จแล้ว เย่ฉางเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา “เอาล่ะ ทุกคนเชิญกินกันตามอัธยาศัย…”

สตูว์นรกโหยหวน: เมื่อกินจะฟื้นฟู 5 Hp ทุกๆ 1 วินาที และฟื้นฟู 1 Mp ทุกๆ 2 วินาที มีโอกาสทำให้ถึงตายได้ หลังจากกินไปแล้ว (หากคุณยังมีชีวิตอยู่) คุณจะได้รับ +8 ค่าสถานะทั้งหมด, +50 ความต้านทานพิษ, +6 พลังป้องกัน และสกิล Free Casting – ระดับเริ่มต้น (ลดการใช้มานาลง 15%) เป็นเวลา 6 ชั่วโมง (ถ้ากินร่วมกันกับข้าวต้มกุ๊ยจะได้รับบัฟจากอาหารเพิ่มขึ้นอีก 15%) มีเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้นที่สามารถรับประทานร่วมกับข้าวต้มกุ๊ยได้

เนื้อหมูและเนื้อหมีทอด: เมื่อกินจะฟื้นฟู 3 Hp ทุกๆ 1 วินาที รวมทั้ง +13 Constitution, +12 Strength, +15 พลังป้องกันและสกิล Toughness – ระดับเริ่มต้น เป็นเวลา 6 ชั่วโมง (ถ้ากินร่วมกันกับข้าวต้มกุ๊ยจะได้รับบัฟจากอาหารเพิ่มขึ้นอีก 15%) มีเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้นที่สามารถรับประทานร่วมกับข้าวต้มกุ๊ยได้

ผัดเครื่องในซาตาน: เมื่อกินจะฟื้นฟู 4 Hp ทุกๆ 1 วินาที รวมทั้ง +7 ค่าสถานะทั้งหมด, +15 ความต้านทานทั้งหมด, +7 พลังโจมตี, +8 พลังโจมตีเวท และสกิล Burst – ระดับเริ่มต้น เป็นเวลา 6 ชั่วโมง (ถ้ากินร่วมกันกับข้าวต้มกุ๊ยจะได้รับบัฟจากอาหารเพิ่มขึ้นอีก 15%) มีเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้นที่สามารถรับประทานร่วมกับข้าวต้มกุ๊ยได้

บัฟของอาหารเป็นที่น่าประทับใจมากๆ โดยเฉพาะสตูว์นรกโหยหวน แต่แค่กลิ่นของมันก็ทำให้หนังศรีษะของพวกเขาด้านชาแล้ว และการกินคู่กับข้าวต้มกุ๊ยจะทำให้ความทุกข์ทรมานของพวกเขาเพิ่มขึ้นมาหรือไม่? แต่ยังไงมันก็ยังมีข้อดีคือได้รับบัฟเพิ่มมากขึ้น! ThornyRose อ้าปากค้าง เห็นได้ชัดว่าควรใช้ข้าวต้มกุ๊ยกับสตูว์นรกโหยหวน เพราะจะได้รับความต้านทานพิษที่มากถึง 50! แล้วเนื้อหมูและเนื้อหมีทอดล่ะ! เธอหายใจเข้าลึกๆเมื่อมองไปยังอาหารจานที่สาม – ผัดเครื่องในซาตาน ทันใดนั้น ตะเกียบของเธอคีบเนื้อหมูและเนื้อหมีทอดเข้าไปในปากของเธอ แล้วตามด้วยการกัดและกลืนทันที จากนั้นเธอก็ตักสตูว์นรกโหยหวนราดลงบนข้าวต้มกุ๊ยและเริ่มกินมัน เมื่อสตูว์เริ่มเข้าปาก เธอก็เริ่มรู้สึกว่าตั้งแต่จากปากของเธอไปยังท้องของเธอราวกับเกิดภัยพิบัติ เธอรู้สึกราวกับว่ารถไฟความเร็วสูงได้พุ่งลงไปที่ลำคอของเธอ และระเบิดขึ้นภายในท้องของเธอ จิตใจเธอเริ่มค่อยๆเสียสูญ…

 

 

 


ตอนที่ 397

 

“อย่า … อย่าเพิ่งกินมัน ฉันมีวิธีลับที่สามารถปรุงรส … ให้มันอร่อย …ได้” เย่ฉางอยากจะหยุด ThornyRose ไว้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว อูนาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอเฝ้าดู ThornyRose ที่กำลังสาปแช่งเย่ฉาง ก่อนที่เธอจะนอนแน่นิ่งไป

เย่ฉางเอาหนวดของ Marshwalker ออกมาบดเป็นผงและโรยใส่ในสตูว์นรกโหยหวนที่ราดอยู่บนข้าวต้มกุ๊ย ทันใดนั้น มันก็เริ่มที่จะส่องแสงและโชยกลิ่นหอมหวนออกมา มันดูน่าจะอร่อยมาก! ทุกคนมองร่าง ThornyRose ที่นอนแน่นิ่งอยู่อย่างมีความสุข พวกเขาดีใจที่ยังไม่รีบกินอาหารไปก่อน จนได้รู้ถึงวิธีลับที่สามารถปรุงรสให้มันอร่อยได้ ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของสตูว์นรกโหยหวนจะดูน่าขยะแขยง แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอกินได้อยู่ กลุ่มของเย่ฉางมีภูมิคุ้มกันอาหารที่เปรียบเสมือนอาวุธชีวภาพนี่อยู่แล้ว พวกเขาจึงกินอาหารกันอย่างชิวๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับ ElegantFragrance และพวกสาวๆที่เหลือแล้ว พวกเธอยังไม่ได้ผ่านการทดลองกินอาวุธชีวภาพของเย่ฉางเลยสักครั้ง มันน่าขยะแขยงมากพอที่จะทำให้พวกเธออาเจียนออกมา SpyingBlade ถอนหายใจ ‘พวกทหารผ่านศึกเหล่านั้น มีการพัฒนาภูมิคุ้มกันไปหมดแล้ว ซึ่งแตกต่างจากพวกทหารหญิงใหม่พวกนี้ พวกเธอแทบจะไม่สามารถทนต่อมันได้’ เขาไม่รู้ว่าจะสุขหรือเศร้าใจดี จากนั้นเขามองไปที่ ThornyRose และหัวเราะอย่างขมขื่น เธอโชคดีที่ยังไม่ตาย พลังชีวิตของเธอเหลืออยู่ประมาณ 5% เท่านั้น

ThornyRose ตื่นขึ้นมาและได้เห็นท่าทางที่ดูเป็นห่วงเป็นใยของเย่ฉาง เธอรีบพุ่งใส่เขาทันที “ไอบัดซบ!!”

“หน้า หน้าของฉัน!” เย่ฉางกรีดร้อง FrozenBlood พยักหน้าเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่คุ้นเคยแบบนี้ ครั้งสุดท้ายที่เธอได้ยิน มันนานมากแค่ไหนกันแล้วนะ!

อูนาได้ทำงานร่วมกับ FrozenBlood อย่างรวดเร็ว โดยช่วยกันแยกพวกเขาออกจากกัน อูนาเริ่มเห็นอกเห็นใจ ThornyRose มากยิ่งขึ้น

จางเจิ้งเฉียงเริ่มร่ายเวท [Healing Light] ให้กับเธอ เย่เทียนก็ยังช่วยฮีลให้เธอด้วยอีกแรง

ThornyRose หายใจเข้าลึกๆ เมื่อเธอเห็นว่าคนอื่นๆดูดีกันหมดทุกคน เธอจึงจ้องมองเย่ฉางอย่างโกรธแค้น “ไปกันเถอะ…”

เย่ฉางเฝ้ามองขณะที่ ThornyRose เดินผ่านพุ่มไม้ไป เขาลูบรอยฟันบนใบหน้าและถอนหายใจ “ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ คงลืมกินยามาอีกครั้งแล้วแน่ๆ …”

หลังจากพูดจบ เขาก็ยกบาลิสต้าขึ้นวางไว้บนไหล่และเดินตามเธอไป อูนาอยากรู้ว่าทั้งสองคนได้พบเจอกันอย่างไร FrozenBlood เห็นความอยากรู้อยากเห็นของเธอ จึงเดินเข้าไปกระซิบบอกเธอ ในที่สุดอูนารู้เรื่องเกี่ยวกับลูกศรทั้งสองดอกที่เสียบรูก้นของ ThornyRose และหลั่งเหงื่อออกมาทันทีเย็น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความเสียใจและความอัปยศอย่างสุดซึ้ง … มันน่าเหลือเชื่อมากที่พวกเขายังคงเป็นเพื่อนร่วมทีมกันได้อยู่

ระหว่างทาง พวกเขาสามารถจัดการกับศัตรูที่กระจัดกระจายกันอยู่ได้อย่างง่ายดาย ThornyRose มองเจ้าหมียักษ์และเย่เทียนอย่างชื่นชม ประสิทธิภาพในการจัดการกับพวกอันเดทของพวกเขาดีมากๆ เจ้าหมียักษ์เป็นตัวแท้งค์ก็จริงอยู่ แต่เขาใช้อาวุธเป็นขวานยักษ์สองมือ แถมมันยังสร้างความเสียหายธาตุศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ด้วยการเหวี่ยงขวานของเขาแต่ล่ะครั้ง พวกวิญญาณร้ายจะกลายเป็นฝุ่นละอองทันที เจ้าเสือโคร่งน้อยก็โหดร้ายไม่ใช่เล่น มันอาจจะรวดเร็วที่สุดในทีม และความสามารถในการกระโดดของมันก็ยังน่ากลัวเป็นอย่างมาก มันสามารถกระโดดไปได้ทั่วทุกที่เหมือนเช่นแมวภูเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ดาบคู่ของมันก็สร้างความเสียหายได้อย่างมาก และความเร็วในการโจมตีของมันก็เร็วกว่าพวกแอสซาซินเสียอีก นอกจากนี้ มันยังมีความสามารถในการกดดันคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก สิ่งที่ทำให้เธอพูดไม่ออกมากที่สุดก็คือว่า มันเป็นเทคนิคการต่อสู้ที่ได้รับการสอนจากใครบางคนมา เหมือนว่ามันได้เรียนรู้การโจมตีและการหลบหลีกอย่างคาดไม่ถึงของหลินหลี่ การต่อสู้แบบหยาบโลนแต่รุนแรงของเจ้าหมียักษ์ และการมีความแม่นยำของเย่ฉาง พร้อมกับมันยังมีความสามารถในการสวมใส่อุปกรณ์อีก มันไม่เหมือนสัตว์ตัวอื่นๆเลย เธอกลัวว่าบางทีมันอาจจะแข็งแกร่งกว่าใครหลายๆคนในที่นี่ บางทีทั้งสามพี่น้องและ SpyingBlade ก็อาจไม่สามารถเอาชนะมันได้อย่างง่ายดาย…

ThornyRose เฝ้ามองเย่เทียนที่นั่งบนหลังแมลงคากูที่ชื่อว่าเจ้าอาหารฉุกเฉิน ซึ่งเธอกำลังไล่ตามพวกภูติผีอยู่ในอากาศ สิ่งนี้มันน่ากลัวมากๆ! การที่สามารถบินได้ในช่วงต้นเกมแบบนี้ จะได้เปรียบคนอื่นมากๆ ถึงแม้ว่าจะมีระดับการบินที่ต่ำ แต่มันก็น่าทึ่งมากๆอยู่ดี เมื่อเธอสังเกตดูไปสักพัก เธอสามารถบอกได้ว่า มันมีระยะเวลาการบินที่ไม่นานมากนัก อาจเป็นเพราะมันยังไม่เติบโตเต็มที่ เจ้าเสือโคร่งก็เหมือนกัน ในที่สุด เธอก็มองไปที่การเต้นและการเชียร์ของเจ้าซอสอ่อน เช่นเดียวกับเจ้าฟ้าน้อยซึ่งกำลังเต้นอยู่ข้างๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้มันยังเป็นเพียงลูกเหยี่ยวที่ตัวเล็กๆอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่มันเติบโตขึ้น มันน่าจะมีประโยชน์มากๆ ผิดกับปีศาจน้อยตัวนั้น เห็นได้ชัดว่ายังไงมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เธออยากรู้ว่ามันมาร่วมกลุ่มกับพวกเขาได้อย่างไร … เธอสามารถเห็นภาพในอนาคตได้อย่างง่ายดายว่า เย่ฉางยกหอกของเขาขึ้น และเปลี่ยนมันเป็นค่า Exp …

เย่ฉางยิงบาลิสต้าใส่พวกโครงกระดูกที่เดินเข้ามา ลูกศรเหล็กในราชาผึ้งคากูพุ่งใส่และระเบิดพวกมัน จากนั้นเขาเริ่มที่จะรีโหลดลูกศรใหม่ โดยการใส่ลูกศรธรรมดาลงไป เมื่อ ElegantFragrance ใช้ธนูที่ได้มาจากเย่ฉาง เธอก็เหมือนกับปลาในน้ำ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเธอนั้นรุนแรงมาก และไม่แย่ไปกว่าของเย่ฉางเลย เธอยิ้มอย่างน่ารัก ขณะที่เธอโยนธนูหนักกลับไปให้เย่ฉางและพูดว่า “ให้ฉันเล่นบาลิสต้าบ้าง! เอาลูกศรทุกชนิดมาให้ฉันด้วยล่ะ!”

เย่ฉางยิ้มเจื่อนๆ ‘เธอช่างเป็นผู้หญิงที่ชอบเอาแต่ใจจริงๆ’ เขารับธนูหนักที่เธอโยนมาให้ จากนั้นเขาก็โยนบาลิสต้าพร้อมกับลูกศรหลายๆดอกไปให้เธอ ElegantFragrance จับบาลิสต้าด้วยความยากลำบาก ‘ความต้องการค่าสถานะของบาลิสต้านี้สูงมาก! โชคดีที่ฉันมีความสามารถพิเศษในการลดความต้องการของอาวุธระยะไกล มิฉะนั้นแล้ว ฉันจะไม่สามารถใช้มันได้!’ เธอทุ่มความแข็งแกร่งทั้งหมดและยกมันขึ้นไปวางบนไหล่ของเธอ จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งจับลูกศร 3 ดอกใส่ลงไป เวลาในการรีโหลดลูกศรของเธอช้ากว่าเย่ฉางถึงหนึ่งวินาที จากนั้นเธอเล็งไปที่กลุ่มโครงกระดูกและยิง [Splitting Shot]! สลักเกลียวระเบิดออก จากนั้นลูกศรเวทสองดอกถูกยิงออกมาและแยกออกจากกันเหมือนตรีศูล ภายใต้ความสามารถในการเจาะทะลุทะลวงที่สูง กลุ่มโครงกระดูกทั้ง 10 ตัวหรือมากกว่านั้นก็กลายเป็นค่า Exp ทันที ElegantFragrance เริ่มลูบบาลิสต้าเบาๆ แม้ว่าการบรรจุลูกศรของมันจะยากลำบากมาก แต่เมื่อตอนที่ยิงลูกศรออกไปแล้ว มันให้ความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ!

สำหรับเย่ฉางที่ได้รับธนูหนักกลับมา เขาก็เริ่มโชว์ทักษะการยิงของเขา เขายิงไปและเคลื่อนที่ไปด้วยอย่างงดงาม ทันใดนั้น เขาเห็นโครงกระดูกชั้นสูงกำลังร่ายเวทอยู่ เขาเก็บธนูและหยิบหอกขึ้นมาและใช้ [Straight Thrust] พุ่งเข้าไปหา และระดมการโจมตีใส่ไม่ยั้ง จากนั้นก็กระโดดถอยกลับเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี ขณะที่เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววิในการเปลี่ยนมาใช้ธนูยิงใส่มัน เมื่อเขาร่อนลงพื้น เขารีบเบี่ยงตัวหลบการโจมตีของโครงกระดูกที่อยู่ข้างหลังเขา เย่ฉางใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาหลบนี้ ง้างธนูและยิงใส่โครงกระดูกชั้นสูงอีกครั้งหนึ่ง จนมันตายลงไป เขาล้มตัวลงกับพื้นและเปิดใช้ [Fire Lotus] ฆ่าฝูงโครงกระดูกทั้งกลุ่ม จากนั้นเขาก็เริ่มใช้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา [Light Strike Array]! โครงกระดูกนับสิบที่คลานอยู่พื้นดิน ได้กลายเป็นเป้าหมายของสกิล [Light Strike Array] ทันที แสงที่เจิดจ้าและเปลวไฟได้ระเบิดออกมา ก่อให้เกิดความเสียหายหนักและสตั้นพวกมัน …

ThornyRose ที่เพิ่งฆ่าโครงกระดูกไปเพียงไม่กี่ตัว เมื่อเธอเห็นเวทมนตร์ควบคุมขนาดใหญ่ – [Light Strike Array] ที่เย่ฉางใช้ออกมา ‘พระเจ้าช่วย! เวทมนตร์ควบคุมขนาดใหญ่แบบนี้ มันต้องมีระดับ Epic เป็นอย่างน้อย’ GreenDew ได้เห็นกระบวนการโจมตีทั้งหมดของเย่ฉางด้วยเช่นกัน จากเริ่มแรก เขาวิ่งและยิงธนูไปด้วย เขาพุ่งเข้าไปโจมตีอย่างรวดเร็วด้วยหอก เขายิงธนูกลางอากาศ จากนั้นก็กลับมาใช้หอกที่ลุกเป็นไฟโจมตีอีก และสุดท้ายการใช้เวทมนตร์ควบคุมขนาดใหญ่ มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกันการโจมตีด้วยหลายเทคนิคแบบนี้ของเขา ‘หัวหน้าทีม เมื่อมีคุณอยู่ในปาร์ตี้ แม้กระทั่งฉันและนานะร่วมมือกัน ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เท่ากับเวทมนตร์นี้ของคุณได้เลย …’

หลินหลี่มีท่าทางเหมือนไม่มีแรงกดดันอะไรเลย หลังจากที่เขาเปิดใช้งานออร่าแล้ว เขาก็สามารถยืนอยู่ในฝูงอันเดทอย่างสบายใจ เขาทำเพียงแค่แกว่งดาบยักษ์ไปทางซ้ายที ไปทางขวาที ก็ฆ่าพวกโครงกระดูกได้แล้ว พวกโครงกระดูกที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายเขา ทำได้แค่เพียงลดเลือดของไปเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ต้องขอบคุณความสามารถของออร่าที่ดูดพลังชีวิตแบบนี้

ThornyRose หัวเราะอย่างขมขื่น เขาคือเครื่องจักรฟาร์มมอนสเตอร์ชัดๆ เอฟเฟคออร่าของชุดเซ็ทนี้ ทำให้เป็นชุดของนั้นเปรียบเสมือนเป็นอุปกรณ์ระดับพระเจ้าสำหรับการฟาร์มมอนสเตอร์ อย่างไรก็ตาม สำหรับหลินหลี่นั้น ออร่านี้ไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก มันเป็นเพราะพลังโจมตีของเขามีมากเกินไปต่างหาก ที่สำคัญเขามีค่า Strength ที่สูงมากๆ แต่เขาก็ไม่ได้เปราะบาง ในเกมตอนนี้ พลังป้องกันของเขาไม่อ่อนด้อยไปกว่าพวกตัวแท้งค์คนอื่นๆเลย เธอยกโล่ฟาดโครงกระดูกที่อยู่ด้านข้าง จู่ๆ FrozenCloud กระโดดลอยตัวเตะใส่มันจนปลิ้วกระเด็นออกไป ThornyRose พยักหน้า นับตั้งแต่ที่ FrozenCloud เริ่มใช้เวลาอยู่กับพวกนั้น แม้ว่าสติปัญญาและศีลธรรมของเธอจะดิ่งลง แต่เทคนิคการต่อสู้ของเธอกลับเพิ่มมากขึ้นเลยทีเดียว …

 

 

 


ตอนที่ 398

 

ทุกคนมาถึงหน้าหลุมฝังศพหลุมหนึ่ง เย่เทียนอ่านข้อความจารึกบนป้าย “เจ้าของหลุมฝังศพนี้มีสถานะไม่ต่ำเลยทีเดียว ถึงหลุมศพนี้จะดูทรุดโทรมมาก แต่ตามประเพณีท้องถิ่นแล้ว ขุนนางชั้นสูงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะพอที่จะใช้การออกแบบหลุมฝังศพเช่นนี้ได้…”

ThornyRose ทำได้แค่เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ด้วยการที่พวกเขามีสารานุกรมเดินได้เช่นเย่เทียน ซึ่งเธอรู้ถึงขนาดวัฒนธรรมและประเพณีภายในเกมอีกด้วย… เกมนี้เพิ่งเปิดมานานขนาดไหนกันเชียว “ไปกันเถอะ… เจ้าหมียักษ์นายเป็นคนนำหน้านะ”

จางเจิ้งเฉียงนำทุกคนลงไปที่ชั้น 1 เมื่อลงมาถึงพวกเขามองเห็นห้องโถงสีดำมืดที่วางเรียงรายด้วยโลงศพ และบางครั้งพวกเขาก็สามารถมองเห็นแสงไฟระยิบระยับที่น่าหวาดกลัวได้ ไม่จำเป็นต้องคิดมากเลย ในการที่จะรับรู้ว่าแสงเหล่านั้นคือดวงตาของมอนเตอร์ประเภทโครงกระดูก เย่ฉางเตรียมพร้อมที่จะยิงสกิล [Meteor Shot]! พลังงานเกลียวเริ่มหดตัวไปที่ลูกศร และเริ่มหมุนวนอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ยิงลงไปที่ทางเดินแคบๆ ทันใดนั้น เปลวไฟที่น่าหวาดกลัวก็ค่อยๆหายไปทีละคู่ทีละคู่ พร้อมกับเสียงดังก้องของโครงกระดูกที่ร่วงหล่นกระทบกับพื้นดิน

ThornyRose ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นอีกครั้ง แค่เพียงบาลิสต้าก็มีความแข็งแกร่งมากพอแล้ว แล้วนับประสาอะไรที่จะเพิ่มความสามารถในการทะลุทะลวงของ [Meteor Shot] เข้าไปอีก สกิล [Meteor Shot] ของเขาสมกับเป็นสกิลระดับ Epic อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง สกิลนี้เพิ่มทั้งความรวดเร็วในการยิงและการเจาะทะลุทะลวง เธอได้แต่ถอนหายใจ จากนั้นเธอก็ให้ทุกคนจุดคบเพลิงตรงเชิงเทียนในตำแหน่งเหนือหัวของพวกเขา เพื่อที่จะทำให้พวกเขามองเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

“บอสตัวแรกอยู่ตรงด้านซ้ายผ่านกำแพงที่แตกหักตรงนั้นไป มันเป็นบอสที่จับคู่อยู่ด้วยกัน 2 ตัว ตัวแรกเป็นบอสประเภทโครงกระดูก ตัวที่สองเป็นบอสประเภทวิญญาณอาฆาต นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากจริงๆ เราจะถูกกำจัดเนื่องจากความเสียหายที่เราสร้างให้กับบอสไม่สูงพอ และอาชีพคลาสศักดิ์สิทธิ์ก็ใช้เวลานานมากเกินที่จะปั้นขึ้นมาใหม่ได้…” ThornyRose เป็นนำทาง เธออธิบายขณะเฝ้าดูจางเจิ้งเฉียง ซึ่งผู้ที่คนในปาร์ตี้เรียกว่า‘นักบวช’ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มีส่วนใดของเขาที่ดูคล้ายกับนักบวชเลยสักนิดเดียว เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาเป็นเบอเซอเกอร์ที่แกล้งทำตัวเป็นนักบวชเพียงเท่านั้น ตัวแท้งค์ประเภทเบอเซอเกอร์ในเกมนี้มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และโล่ของเขาได้แปรเปลี่ยนเป็นสนับมือที่ครอบคลุมเกือบทั่วทั้งแขน

SpyingBlade เดินไปที่มุม จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปหมุนหนึ่งในเชิงเทียนข้างบน กำแพงหินที่อยู่ใกล้ๆเริ่มเคลื่อนไหว และเปิดเผยให้เห็นถึงทางลับ “มีทางลับอยู่ตรงนี้…”

เย่เทียนเริ่มตรวจสอบเชิงเทียนอันนั้น เพื่อหาดูว่ามันแตกต่างจากที่เชิงเทียนที่เหลืออย่างไร เธอจ้องมองอย่างเคลือบแคลงใจ มันไม่มีอะไรที่ดูเป็นพิเศษ และแตกต่างจากเชิงเทียนอันอื่นๆเลยแม้แต่นิดเดียว ‘เขารู้ได้อย่างไรกัน? สัญชาตญาณ? นี่เป็นเชิงเทียนที่ 73 นับจากทางเข้า เดี๋ยวก่อนนะ! เชิงเทียนทั้งหมดอยู่เป็นคู่! แต่เชิงเทียนอันนี้อยู่โดดๆอันเดียว! เชิงเทียนอันอื่นๆทั้งหมดมีเป็นคู่และหันหน้าเข้าหากัน มีเพียงเชิงเทียนอันนี้อันเดียวที่ไม่มีคู่หันหน้าเข้าหากัน ดังนั้นเชิงเทียนอันนี้จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นสวิตซ์เปิดทางลับสูงมาก แต่เดี๋ยวก่อน! เชิงเทียนพวกนี้ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับโครงสร้างอาคารแบบนี้…’

ThornyRose แข็งค้าง เขาสมกับเป็นนักล่าสมบัติที่มีชื่อเสียงมากจริงๆ ไม่มีสมบัติใดๆที่สามารถเล็ดลอดจากการค้นพบของเขาได้ เธอกำลังมองไปยังหีบสมบัติที่อยู่ข้างหน้า ขณะที่เธอกำลังเหม่ออยู่ตรงนั้น เธอก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้ ‘บ้าเอ๊ย!’

ช่วงเวลาที่เย่ฉางได้ยินว่ามีเส้นทางลับ เขาค่อยๆหายตัวไปเหมือนควันไฟ และเดินเข้าไปข้างในอย่างเงียบๆ ‘ฮ่าฮ่า มันมีหีบสมบัติ! มันถือเวลาที่จะโชว์หัตถ์แห่งพระเจ้าให้ผู้คนรับรู้กันแล้ว!’

ThornyRose และคนอื่นๆต่างตื่นตระหนก มันเป็นเวลานานมากแล้ว นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สามารถตอบสนองได้ทันเวลา! “เร็วเข้า! รีบเข้าไปหยุดเขาไว้!”

SpyingBlade เพิ่งหลุดออกจากความคิดของเขาและรีบวิ่งเข้าไป แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เขาเห็นเย่ฉางเปิดหีบสมบัติออกมาแล้ว เขาได้แต่ถอนหายใจและส่ายหัวด้วยความเสียใจ จากนั้นก็หันไปมองยัง ThornyRose และคนอื่นๆ “มันสายไปแล้ว…”

เย่ฉางมองดูหีบสมบัติที่ไม่มีอะไรอยู่เลย ‘บ้าเอ๊ย! มีใครบางคนเจอห้องลับก่อนหน้าเรา! พวกเขาเปิดหีบสมบัติและทิ้งหีบที่ว่างเปล่าเอาไว้ที่นี่? นี่มัน… โหดร้ายเกินไปแล้ว!’ จากนั้นเขาก็ยืนขึ้น และตะโกนออกมาด้วยความเที่ยงธรรม “ชั่วช้าเกินไปแล้ว! ใครบางคนหยิบของในหีบสมบัติออกไปแล้ว และปล่อยหีบที่ว่างเปล่าทิ้งเอาไว้ที่นี่ เหอะ! อย่าให้ฉันพบเจอพวกชั่วช้าพวกนี้ก็แล้วกัน!!”

เย่ฉางหันกลับมา และได้รับการต้อนรับจากสายตาที่น่ารังเกียจของทุกคน เขาถอนหายใจ “โจรขโมยสมบัติคนนี้โหดร้ายเกินไปแล้ว ฉันเห็นเงาร่างอันมืดมิดจางหายไปเมื่อตอนฉันเดินเข้ามา…”

“จากนั้นเงาร่างที่มืดมิดก็วิ่งจากไปยังทางลับ พร้อมกับใบหน้าที่ดุร้ายของเขา…” เย่ฉางปั้นสีหน้าจริงจัง “ใครบอกให้แกมายุ่งกับหีบสมบัติของฉัน!! ฉันต้องสูญเสียอุปกรณ์ระดับ Gold ของฉันไป!! ทางที่ดีอย่าให้ฉันเจอแกอีกก็แล้วกัน!!”

“อ๊ากกก!! ไม่ใช่ฉัน มันเป็นโจรขโมยสมบัติที่เปิดหีบสมบัติอันนี้ไป เขาเหลือทิ้งไว้เพียงแค่หีบที่ว่างเปล่าอันนี้เท่านั้น!” เย่ฉางยังคงกรีดร้องอย่างไร้เดียงสาอย่างต่อเนื่อง

ทุกคนส่ายหัว ไม่มีใครเข้าไปมาช่วยเขาเลยสักคน การแสดงออกของพวกเขาสื่อออกมาว่า ‘ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะว่านายโชคร้ายเกินไปต่างหาก’ แม้แต่อูนาก็ถอนหายใจด้วยความรู้สึกสงสารหีบสมบัติอันนี้ มันเป็นหีบสมบัติในทางลับ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นของดี เธอเห็นเย่ฉาง และ ThornyRose ต่อสู้กันจนเกลือกกลิ้งไปบนพื้น และไม่สามารถทนมองไปที่พวกเขาทั้งสองได้ เธอเหลือบมองไปที่ FrozenBlood “มันไม่เป็นไรหรอก พวกเขาทั้งสองคนชอบทำแบบนี้กันเป็นประจำแหละ…”

FrozenBlood โชว์รูปภาพที่น่าอับอายของพวกเขา โดยเฉพาะท่า 69 “บรรพบุรุษของพวกเขาคงต้องเกลียดชังกันและกันเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอกัน ทุกๆสองหรือสามคำที่พวกเขาพูดคุย เพียงแค่นั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งสองคนอยากจะฉีกแต่ละคนออกเป็นชิ้นๆแล้ว…”

อูนาหัวเราะคิกคัก ถึงแม้ว่าเธอจะค่อนข้างอิจฉา แต่เมื่อเธอเห็นการแสดงออกที่รุนแรงของ ThornyRose แล้ว เธอไม่สามารถเกลียด ThornyRose ได้เลย “บางที…”

FrozenBlood ก็รู้สึกอับจนหนทาง แต่เธอรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมากที่ได้พูดคุยกับนานะ โดยเฉพาะตอนที่เธอหัวเราะคิกคักอย่างน่ารัก ‘เธอช่างแตกต่างกันมากจริงๆ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่กำลังเกลือกกลิ้งไปบนพื้นคนนั้น คนที่ไม่หัดรู้จักการยับยั้งช่างใจเอาบ้างเสียเลย ฉันคงไม่มีโชคในเรื่องเพื่อนจริงๆนั่นแหละ เฮ้อ! เห็นได้อย่างชัดว่าพวกเขาทั้งสองคนเป็นคนที่ผิดปกติมากจริงๆ’ ถ้า ThornyRose รู้ว่าความคิดของ FrozenBlood มีความคล้ายคลึงกับความคิดของเธอล่ะก็ บางทีพวกเธอทั้งสองคนอาจลงเอ่ยด้วยการต่อสู้กันเองก็เป็นได้…

หลังจากที่ทุกคนรับชมละครตลกกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็หันกลับไปทางกำแพงที่แตกหัก ตรงที่ ThornyRose เคยพูดไปก่อนหน้านั้น เย่ฉางเดินตามหลังคนอื่นๆและบ่นพึมพำออกมา “ยัยบ้าเอ๊ย! บัดซบจริงๆ! ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะต้องระเบิดหัวของเธอด้วยปืนเพื่อที่จะระบายความโกรธแค้นที่อัดอั้นอยู่ภายในหัวใจของฉัน น้องเล็กไดโน เธอคิดว่าไง…”

“หัวหน้าทีมคะ หีบสมบัตินั้นน่าเสียดายมากจริงๆ แต่ตอนนี้หัวหน้าทีมควรจะหยุดยั่วยุเธอก่อน ตอนนี้ดวงตาของพี่สาวโรสกลายเป็นแดงก่ำจากความบ้าคลั่งไปแล้วนะคะ…” FrozenCloud พูดออกมาด้วยความอ่อนล้า ‘ตอนนี้หัวหน้าทีมมีเทคนิคที่ชั่วร้ายมากที่สุด ฉันจะต้องไม่ทำอะไรเพื่อไปกวนใจเขาดีกว่า’

“น้องเล็กไดโน เธอทรยศฉัน ฉันปฏิบัติกับเธอเป็นอย่างดี แต่เธอดันไปพูดออกหน้าให้กับผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ…” เย่ฉางวางมือลงไปที่ไหล่ของเธอและยิ้มออกมา

“ใช่แล้ว ใช่เลย พี่สาวโรสควรให้ความสำคัญกับพี่ใหญ่ขาวมากกว่านี้ น้องเล็กไดโนที่โง่เง่า คนทรยศ พี่ใหญ่ขาวเอาโบนัสประจำปีของเธอให้กับผมแล้วกันนะ…” หลินหลี่คอยก่อเรื่องให้เลวร้ายลงอย่างเงียบๆ

“……” FrozenCloud เห็นว่าทั้งสองกำลังวางแผนอะไรกันบางอย่างอยู่ และเธอก็คิดว่ามันคงไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน ดังนั้นเธอจึงรีบยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าทีมคะ ฉันจะทรยศหัวหน้าทีมได้ยังไงกัน! พี่สาวโรสนั้นโหดร้ายเกินไปจริงๆด้วย!”

“อืม ไม่เลว ไม่เลว นั่นคือทัศนคติที่ถูกต้อง… ต้องแบบนี้สิ ค่อยสมกับเป็นน้องเล็กของพวกเรา…” เย่ฉางตบไปที่ไหล่ของเธอด้วยความซาบซึ้ง หลินหลี่ก็ตบไปที่ไหล่อีกข้างของเธอด้วยความซึ้งใจ “น้องเล็กที่ดี…”

FrozenCloud ทำได้แค่เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เพราะเธอได้เห็นท่าทีของ ThornyRose และปากของเธอก็พูดออกมาโดยไม่มีเสียงว่า ‘สายลับ’ ช่วงเวลาของเธอในฐานะของสายลับ และการสอดแนมจะกลายเป็นรอยแปดเปื้อนในประวัติของเธอไปตลอดกาล คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไปยั่วยุพี่สาวโรสขึ้น และพี่สาวโรสก็เอาเรื่องนี้ไปบอกกับหัวหน้าทีม ถึงตอนนั้นหัวหน้าทีมและหลินหลี่จะจัดการกับเธออย่างไรกัน…

“เอาล่ะ หยุดก่อน ถ้าเรายังเดินต่อไป จะอยู่ในระยะการรับรู้ของบอส ก่อนอื่นฉันจะมอบหมายหน้าที่ของแต่ละคนก่อน กลุ่มนักเวททั้งหลายจะถูกนำโดยเย่เทียน ElegantFragrance และเจ้าคนชั้นต่ำจะรับผิดชอบในการโจมตีสนับสนุนจากระยะไกล และให้ความสำคัญต่อการโจมตีบอสประเภทวิญญาณก่อน อาเฉียงนายเป็นคนคอยควบคุมบอสวิญญาณ พยายามอย่าปล่อยให้มันใช้สกิลใหญ่ คนที่โจมตีระยะประชิดให้เน้นโจมตีไปที่บอสโครงกระดูก ฉันจะเป็นคนที่ตรึงบอสตัวนี้ไว้เอง FrozenCloud และ Lily พวกเธอทั้งสองจะเป็นตัวออฟแท้งค์! (Off Tank) เย่เทียน เธอเป็นคนที่ต้องมีความรับผิดชอบมากที่สุด แต่สำหรับเธอแล้วคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก…” ThornyRose แบ่งหน้าที่ให้แต่ละคนได้อย่างรวดเร็ว

“ปล่อยให้เร็นน้อยเป็นคนจัดการกับบอสวิญญาณ ดาบคู่ของเร็นน้อยเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังมากๆต่อมอนเตอร์ประเภทวิญญาณ…” SpyingBlade เคยใช้หนึ่งในดาบนั้นมาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ค่าสถานะของดาบเป็นอย่างดี

 

 

 


ตอนที่ 399

 

“อืม งั้นเร็นน้อยไปกับเจ้าหมียักษ์เพื่อต่อสู้กับบอสวิญญาณก็แล้วกัน…” ThornyRose เดินไปหาเสือโคร่งที่มีขนาดสูงถึง 3 เมตร ก่อนที่เธอจะพูดจบ เร็นน้อยเปิดปากที่เต็มไปด้วยเลือด และเขมือบหัวของเธอไว้ในปาก ทำให้วิสัยทัศน์ของ ThornyRose กลายเป็นมืดมิดทันที ทั้งหมดที่เธอรู้สึกได้ในความมืดนี้ก็คือ มันชื้นและอุ่นๆ ที่สำคัญคือมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เหนียวเหนอะหนะ

ทุกคนสั่นสะท้าน ในขณะที่พวกเขาเฝ้ามองเร็นน้อยเขมือบหัวทั้งหมดของ ThornyRose ไว้ในปาก

“เร็นน้อยซุกซนอีกแล้วนะ…” เย่ฉางชื่นชมยินดี ในขณะที่เขาเดินเข้ามาหาและส่งสัญญาณให้เร็นน้อยปล่อยเธอออกมา เขาดึง ThornyRose ออกมา “เป็นความผิดฉันเอง ในบางครั้งเร็นน้อยมักจะซุกซนจนเกินไป มันมักจะชอบเล่นตลกกับผู้อื่นแบบนี้แหละ…”

ThornyRose กัดฟันของเธอ เธอเช็ดน้ำลายของเร็นน้อยบนใบหน้าด้วยผ้าเช็ดหน้า ‘แม่แกเถอะ! นี่เป็นเจตนาของนายชัดๆ!’ เธอเงยหน้าขึ้น และมองไปยังการแสดงออกที่โง่เขลาของเร็นน้อย จากนั้นเธอก็ลูบไปที่หัวของมันเบาๆ ‘อย่างไรก็ตาม แกเขมือบหัวฉัน!’ เธอเริ่มสงบสติอารมณ์และพูดต่อ “เกี่ยวกับบอส ทุกคนต้องระมัดระวังตัวกันหน่อย บอสโครงกระดูกมีการโจมตีแบบวงกว้างที่รุนแรง และมีสกิลที่คล้ายคลึงกับสกิล [Barbaric Tackle] อีกด้วย ส่วนบอสวิญญาณ … มันสามารถควบคุมจิตใจได้ การควบคุมจิตใจนี้ ต้องถูกจัดการด้วยสกิลของเจ้าหมียักษ์และเวทมนตร์ของเย่เทียน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราไปลุยกันได้แล้ว…”

เย่ฉางหยิบกรรไกรของเขาออกมา และตะโกนขึ้นมา “รอเดี๋ยวก่อน! พวกนายยังไม่มีบัฟจากการจัดแต่งทรงผมของฉันเลย!”

“ไม่จำเป็น ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ครั้งนี้…” ThornyRose รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการที่จะกลั่นแกล้งด้วยการตัดผมทรงแปลกๆให้เธออย่างแน่นอน

“แนวคิดของเธอนั้นไม่ถูกต้อง ในฐานะที่เป็นผู้เล่นชั้นยอด แม้แต่ค่าสถานะเพียงเล็กน้อยก็อาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ เธอเพียงแค่ต้องตัดแต่งทรงผมของเธอเล็กน้อย และเธอก็จะได้รับที่เพิ่มขึ้นมาเป็นเปอร์เซ็น ถึงแม้ว่าค่าสถานะจะเพิ่มขึ้นมาไม่มาก แต่เธอไม่ควรที่จะมองข้ามค่าสถานะเหล่านี้เช่นกัน…” เย่ฉางเริ่มอบรมสั่งสอน

“เขาพูดถูกแล้ว โรส เธอต้องคิดถึงภาพรวมนะ หัวหน้าทีมคะ เริ่มต้นด้วยการตัดแต่งทรงผมของ Little Jade ได้เลยค่ะ” FrozenBlood เอื้อมมือออกไป และคว้าตัว‘หนูทดลอง’ จากนั้นเธอก็ผลักหนูทดลองไปหาเย่ฉาง

ก่อนที่ Little Jade จะสามารถต่อต้านได้ เธอก็เห็นผมของเธอค่อยๆร่วงหล่นไปที่พื้น น้ำตาได้ซึมออกมาอยู่ที่หางตาของเธอ ‘หัวหน้าทีมต้องยังคงรู้สึกไม่พอใจกับการท้าทายในการแข่งขันปรุงอาหารในลีคอย่างแน่นอน’ เมื่อกรรไกรของเย่ฉางหยุดลง เธอรีบดึงกระจกออกมาเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ ผมที่ยาวสลวยของเธอแต่เดิม ได้แปรเปลี่ยนเป็นผมทรงบ๊อบที่น่ารัก ซึ่งมันดูดีมากและยังทำให้เธอดูเฉลียวฉลาด และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น เธอรีบส่งเสียงดีใจออกมาโดยทันที “ขอบคุณค่ะหัวหน้าทีม!”

FrozenBlood เห็นว่า Little Jade กลายเป็นดูดีมากยิ่งขึ้น และสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ‘เขาคงต้องการจะจัดการเพียงแค่โรสคนเดียวล่ะมั้ง’ จากนั้นเธอก็นั่งลง และปล่อยให้เย่ฉางตัดแต่งทรงผมของเธอ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เธอก็ตรวจสอบทรงหางม้าสั้นของเธอในกระจก และพึงพอใจกับทรงผมของเธอมาก ‘ไม่เลวเลย! ฉันได้บัฟเพิ่มค่า Dexterity…’

ทุกคนค่อยๆทยอยเข้ามาตัดแต่งทรงผมทีละคน ElegantFragrance และคนอื่นๆปล่อยให้เย่ฉางทำงานของเขาอย่างขะมักเขม้น และจบลงด้วยความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย จนท้ายที่สุดก็เหลือเพียงแต่ ThornyRose เท่านั้น เธอดูราวกับว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเธอ ในขณะที่เธอค่อยๆนั่งลง เธอก็ได้ข่มขู่เขา “ฉันขอบอกนายเอาไว้ก่อนเลยว่า ถ้านายแกล้งฉัน ฉันจะไฟว์กับนายอย่างแน่นอน…”

ก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบ เย่ฉางก็แกล้งทำเป็นกลัวและทำผิดพลาด ผมด้านซ้ายของเธอถูกตัดออกไปเกือบครึ่ง เขากระดกลิ้นของเขา และหัวเราะออกมา “ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเธอเองนะ เพราะเธอทำให้ฉันตกใจและหวาดกลัว…”

ThornyRose จ้องมองตัวเองอยู่ในกระจก ผมของเธอดูคล้ายกับลูกแอปเปิ้ลที่ใครบางคนได้กัดออกไป จนทำให้เธอเริ่มสั่นสะเทือนไปทั่วร่างกาย “ฉันจะต้องฆ่าแกอย่างแน่นอน…”

“มันไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ใจเย็นก่อน สงบสติอารมณ์ก่อน เชื่อฉันเถอะว่าหัวหน้าทีมจะต้องมีวิธีแก้ไขอย่างแน่นอน…” FrozenBlood เดินเข้ามามาอย่างรวดเร็ว และเริ่มปลอบโยนเธอ

อูนาจ้องมองไปที่ FrozenBlood ‘พวกเธอเป็นคู่รักเลสเบี้ยนกันจริงๆงั้นหรือ?’

เย่ฉางเริ่มตัดแต่งทรงผมของเธอด้วยกรรไกรของเขา จนเปลี่ยนแปลงผมที่เหมือนกับถูกกัดที่ด้านซ้ายของเธอออกไปสั้นๆ ขณะที่ผมอยู่ตรงด้านบนหัวของเธอถูกปล่อยให้ยาวออกมามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นเขาก็ปัดผมที่ยาวไปทางด้านขวา พร้อมกับตัดแต่งทรงผมในด้านซ้ายตรงส่วนที่สั้น เขากันผมของเธอให้เป็นรูปดอกกุหลาบอันประณีต และมีหนามยื่นออกมาเล็กน้อย ด้วยการออกแบบของเขา ทรงผมสไตล์ใหม่ของเธอทรงนี้จึงดูน่ารัก และโดดเด่นสำหรับทรงผมของผู้หญิงเป็นอย่างมาก

“ทรงนี้ดูเป็นไงบ้าง? ฝีมือของฉันดีใช่ไหมล่ะ…” เย่ฉางยิ้ม

ThornyRose มองไปที่ทรงผมของเธอในกระจก และพยักหน้าอย่างแผ่วเบา มันดูดีมากจริงๆ บางทีอาจจะดูสวยงามมากเกินไปด้วยซ้ำ ทรงผมทรงนี้มันทำให้เธอรู้สึกแบบ ‘ฉันคือบอส!’

เย่ฉางเก็บกรรไกรและถอนหายใจ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยในการไปยุ่งเกี่ยวกับทรงผมของผู้หญิง ถ้าเขาแกล้งเธอมากไปกว่านี้ เหล่าผู้หญิงพวกนี้คงจะกลายเป็นบ้า และมาเอาคืนเขาทีหลังอย่างแน่นอน

ทุกคนได้เดินผ่านกำแพงที่มีรอยแตกหักเข้ามา และเข้าสู่ในพื้นที่ที่มืดสนิท ThornyRose แจ้งเตือนทุกคนให้ระวัง เธอมองไปที่ SpyingBlade และ FrozenBlood “ไม่มีปัญหาใช่ไหม ถ้าฉันจะยกหน้าที่ในการทำให้พื้นที่บริเวณนี้สว่างขึ้นให้กับเธอ และ SpyingBlade…”

ทั้งสองคนพยักหน้า

จางเจิ้งเฉียงกระโดดเข้าไปตรงๆ ด้วยวิสัยทัศน์การมองเห็นในตอนกลางคืนของเขา เย่ฉางจึงได้เห็นว่าบนกำแพงที่ห่างออกไปหลายสิบเมตร มีกองกระดูกที่แตกระแหงเริ่มที่จะรวมตัวกันเอง เปลวไฟแห่งความชั่วร้ายเริ่มส่องประกายออกมาจากเบ้าตาของมัน มันลุกขึ้นยืน และถือดาบยาว 3 เมตร นี่อาจเป็นอาวุธหนักสำหรับพวกเรา แต่สำหรับพวกมันอาวุธหนักเหล่านั้นก็เปรียบเสมือนดาบขนาดปกติของพวกมัน บอสยังไงก็เป็นบอสวันยังค่ำ ความสามารถของบอสมักจะเกินขีดจำกัดของพวกมันอยู่เสมอ ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีวิญญาณปรากฏตัวออกมา… SpyingBlade โยนคบไฟอีกอันให้กับคนอื่นๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถมองเห็นพื้นที่แทบนั้นได้ จากนั้นเขาก็ถือคบไฟอีกอันหนึ่ง และเดินเลาะไปตามกำแพง เมื่อเขาเห็นเชิงเทียน เขาก็ยกคบไฟของเขาขึ้นไปจุด เพื่อส่องแสงเปิดวิสัยทัศน์ให้กับคนอื่นๆ

จางเจิ้งเฉียงลากขวานยักษ์ของเขา และร้องตะโกนออกมา ในขณะที่เขาพุ่งชาร์จเข้าไปหาบอสวิญญาณ จากนั้นเขาก็ยกขวานขึ้นมาเหนือหัวของเขา “ขอพลังจงสถิตอยู่กับข้า!!”

ThornyRose ผู้ที่กำลังพุ่งไปชาร์จบอสโครงกระดูกได้หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา ‘เขาเป็นเหมือนกับเบอร์เซอร์เกอร์ ที่ชอบตะโกนคำพูดออกมาก่อนที่จะโจมตีออกไป’ เนื่องจากเธอมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับมอนเตอร์ประเภทนี้มาก่อนแล้ว ThornyRose จึงได้เข้าไปตรึงบอสโครงกระดูกอย่างรวดเร็ว

สำหรับเย่ฉางที่ไม่ต้องการแสงไฟ เขากำลังชาร์จสกิล [Meteor Shot] ของเขา พลังงานได้ควบแน่นเป็นเกลียวที่ลูกศรเหล็กในราชินีผึ้งคากู และพุ่งออกไประเบิดหัวของมันทันที จนเกิดความเสียหายที่ร้ายแรงออกมา! เขารีบรีโหลดลูกศรลูกถัดไปอย่างรวดเร็ว บอสวิญญาณได้หายตัวไปพร้อมกับเสียโหยหวนจากขวานของจางเจิ้งเฉียง และดาบคู่ศักดิ์สิทธิ์ของเร็นน้อย เช่นเดียวกับลูกศรไฟ และเวทย์น้ำแข็งที่พุ่งออกไปโจมตีใส่บอสวิญญาณ จากนั้นมันก็ปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังของเย่ฉางก่อนที่เขาจะรีโหลดบาลิสต้าเสร็จเรียบร้อย

“เพื่อน!/หัวหน้าทีม! อันตราย!!” จางเจิ้งเฉียง และคนอื่นๆตะโกนออกมา

ก่อนเย่ฉางจะรีโหลดเสร็จ เขาตัดสินใจทิ้งบาลิสต้า และโจมตีออกไปอย่างไม่หวาดหวั่นด้วยหอกของเขา! [Flame Blade]! [Flame Lotus]! จากนั้นเขาก็โจมตีออกไปด้วย [Multiple Straight Thrusts] อย่างรวดเร็วจนก่อให้เกิดดอกบัวเพลิงถึง 3 ดอก FrozenBlood ผู้ที่ได้เสร็จสิ้นการจุดเชิงเทียน เห็นปฏิกิริยาความเร็วในการตอบสนองเย่ฉาง ทำให้เธออดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เธอจะได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างทุกครั้งทันที่เธอได้เห็นปฏิกิริยาการตอบสนองของเขา การระเบิดความเร็วของเขาน่าหวาดกลัวเกินไป มันก็เหมือนกับว่า การโจมตีที่เซอร์ไพรส์ของคนอื่นๆไม่สามารถใช้งานกับเขาได้ ตราบเท่าที่เขาถูกโจมตี ไม่ว่าคุณจะรวดเร็วมากแค่ไหน เขาก็สามารถตอบสนองได้ทันทุกครั้ง ถึงแม้ว่าการตอบสนองของเขาจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตอบสนองได้ทันในช่วงเวลานั้น เธอก็ไม่เคยเห็นเขาแสดงออกถึงความตกใจ หรือประหลาดใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เขาตอบสนองอย่างนิ่งสงบ ราวกับว่าการโจมตีที่รวดเร็วของคนอื่นๆ ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาประหลาดใจได้เลย

บอสวิญญาณส่งเสียงครวญคราง ElegantFragrance มองไปที่เย่ฉาง ‘ผู้ชายคนนี้เป็นแรนเจอร์ที่มีความสามารถรอบด้าน เขามีความสามารถถึงขนาดรับหน้าที่เป็นตัวแท้งค์ให้กับทีมได้ชั่วคราวอีกด้วย’ เธอเห็นว่าหอกของเขาได้ตรึงบอสจนไม่สามารถหนีหายได้อีกต่อไป ขณะที่เขากำลังทำการโจมตีระยะประชิดอยู่นั้น เขาก็ได้กระโดดถอยกลับข้างหลัง และคว้าบาลิสต้าบนพื้นขึ้นมา เขากระโดดสูงขึ้นไปกลางอากาศ และหมุนตัวยิงออกมาด้วยสกิล [Precise Shot]! ‘นี่เป็นเทคนิคการยิง… การยิงออกมาด้วยท่าทางดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องมีสกิลบางอย่าง มันไม่มีทางเลยที่ผู้เล่นเลเวลแค่นี้จะสามารถเคลื่อนที่ได้แบบนั้น อย่างแรกเลย ด้วยค่าสถานะเพียงเลเวลแค่นี้ไม่สามารถจะใช้การกระโดดหมุนตัวยิงกลางอากาศได้ประสบความสำเร็จด้วยความมั่นใจมากขนาดนี้ เพื่อที่จะสามารถใช้ท่าทางต่างๆได้ในการยิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความคล่องตัวจากค่าสถานะ Dexterity มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหาผู้เล่นที่สามารถหมุนตัวยิงกลางอากาศได้ด้วยเลเวลเพียงแค่นี้ หรือใช้เทคนิคการยิงด้วยท่วงท่าต่างๆอย่างแม่นยำขนาดนี้ เขาสามารถยิงได้อย่างแม่นยำในขณะที่กระโดด, พลิกตัว และหมุนตัว ในทุกประเภทของท่าทาง ฉันต้องยอมรับเลยว่าเทคนิคที่ชาญฉลาดของหัวหน้าทีมมีพลังอำนาจมากจริงๆ พร้อมกันนั้นเขายังมีเวทมนตร์ที่ทรงพลังและการร่ายเวทที่รวดเร็ว เป็นที่ชัดเจนเลยว่า เขาอยู่ในระดับที่แตกต่างจาก GreenDew และพวกเราอย่างสิ้นเชิง…’

 

 

 


ตอนที่ 400

 

เย่ฉางโยกตัวไปทางซ้ายและเปิดใช้งาน [Hunter Imprint – Conceal]ทันที ซึ่งทำให้เขาเข้าสู่สถานะล่องหน เขารีบวิ่งไปทางซ้ายแล้วหยุด จากนั้นเขาก็เริ่มที่จะย้ายไปทางขวาบ้าง เพื่อหลอกให้บอสวิญญาณคิดว่าเขาจะไปทางซ้าย และมันก็ได้ผลจริงๆ บอสยิงบอลวิญญาณออกไปทางซ้าย ซึ่งไม่โดนอะไรทั้งนั้น

สิ่งนี้ทำให้จางเจิ้งเฉียงมีเวลาพอที่จะหันกลับมาและโจมตีใส่บอสวิญญาณได้อีกครั้ง

ทางด้าน ThornyRose เธอยังมีบอสโครงกระดูกที่ต้องตรึงไว้อยู่ ขณะที่หลินหลี่ฟันดาบใส่บอสสามครั้งพร้อมกับเปิดใช้งานสกิล [Whirlwind Strike] ซึ่งสร้างความเสียหายแก่บอสโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก FrozenBlood ที่กำลังวิ่งหนีไป เห็นหลินหลี่ถือดาบยักษ์ด้วยมือข้างเดียวฟาดใส่บอสโครงกระดูก มันดูขัดๆกันยังไงไม่รู้กับร่างที่แคระเตี้ยของเขา

ลูกศรในมือของ ElegantFragrance เริ่มเรืองแสงขึ้น เธอเล็งไปที่บอสวิญญาณ [Sacred Arrow] … ลูกศรพุ่งใส่มัน ขณะที่ลูกศรกระทบกับร่างของบอสวิญญาณ เกิดแสงประกายเจิดจ้าขึ้นมาทันที และระเบิดเป็นชิ้นส่วนออกมาเหมือนดาวตก บอสวิญญาณได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากและติดสตั้นทันที ทันใดนั้นเย่ฉางได้ปรากฏตัวพร้อมกับมีเปลวเพลิงไหม้อยู่ในมือของเขา จางเจิ้งเฉียงและเร็นน้อยรีบกระโดดออกไปห่างๆจากบอสวิญญาณ พวกเขาเฝ้ามองขณะที่เย่ฉางยิง [Flame Burst] บินออกไป จากนั้นเขาดึงบาลิสต้าออกมาและยิงตามออกไป [Enchant Arrow – Fire – Explosive Arrow]! ลูกศรเหล็กในราชินีผึ้งคากูที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟพุ่งออกไป ขณะที่การระเบิดของ [Flame Burst] เสร็จสิ้นลง ลูกศรขนาดใหญ่ก็มาถึงตัวบอสวิญญาณพอดี และทำให้เกิดการระเบิดของเปลวไฟที่กำลังพิโรธ

“ตอนนี้ล่ะ! ทุกคนรีบๆจัดการมันซะ! [Tactics – Rapid Pursuit]!” เย่ฉางยกมือมือขวาขึ้นและโบกสบัดเพื่อเปิดใช้บัฟหมู่ ความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่ของทุกคนเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เขาใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ใช้มืออีกข้างหนึ่งชี้ไปที่บอสโครงกระดูกและกำหนดเครื่องหมายฮันเตอร์ใส่มัน

ThornyRose รู้สึกว่าความเร็วของเธอเพิ่มขึ้น ‘[Tactics – Rapid Pursuit]! มันคือสกิลอะไรกัน? … ฉันจะให้เขาแสดงให้ฉันดูอีกครั้งในภายหลัง สกิลนี้มีประโยชน์ต่อการสู้รบประเภทคนหมู่มากเช่นนี้จริงๆ … มันสามารถเพิ่มความเสียหายโดยรวมได้เป็นอย่างมาก’

เนื่องจากมีจางเจิ้งเฉียงและเย่เทียน ซึ่งเป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการปราบปรามบอสทั้งสองตัว ทำให้การฆ่าบอสนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย บอสตัวแรกที่ถูกฆ่าก็คือบอสวิญญาณ – คาร่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นของฟางชิก็ค่อนข้างดี การโจมตีของซัมมอนประเภทวิญญาณมีผลต่อบอสโครงกระดูกอย่างมาก พร้อมด้วยการโจมตีจากนักเวทผู้ใช้น้ำแข็งอย่างอูนา สุดท้ายบอสโครงกระดูกก็ถูกฆ่าตายโดยหลินหลี่และเรนน้อยที่พุ่งเข้ามาปิดบัญชี

เย่ฉางต้องการรีบไปค้นศพบอสโครงกระดูก แต่ ThornyRose ผู้ซึ่งคราวนี้ได้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังเอาไว้แล้วพุ่งคว้าเอวเขาไว้แน่น อย่างไรก็ตาม เย่ฉางไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้และค่อยๆคลานไปที่ซากศพของบอสโครงกระดูก … อูนาและคนอื่นๆต่างเช็ดเหงื่อที่เกิดขึ้นบนหน้าผากของพวกเขา ‘ทำไมเขาถึงคลั่งไคล้การคนศพบอสจัง’

หลินหลี่รีบค้นศพบอสทั้งสองตัวและยิ้มให้เขา “อุปกรณ์ 3 ชิ้น และหนังสือสกิล 1 เล่ม …”

เย่ฉางกลับมาเป็นปกติและถอนหายใจ เขามองอุปกรณ์ที่หลินหลี่ส่งให้เขา มีไม้เท้าระดับ Gold, รองเท้าระดับ Masterwork, สร้อยคอระดับ Distinguished ที่เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพ สำหรับหนังสือสกิลคือ [Ground Smash] “สำหรับไม้เท้าระดับ Gold อันนี้ แน่นอนว่านานะและหวังคงไม่ต้องการมัน ดังนั้นมันจึงเป็นของฟางชิและพวกนักเวทของเธอ …”

ThornyRose มองไปที่ไม้เท้าระดับไฮเอนด์ที่น่าประทับใจในมือของอูนาและฟางชิ สมแล้วที่เป็นอุปกรณระดับ Dark Gold ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพลังโจมตีเวทมนตร์ของนานะถึงได้สูงมาก สำหรับค่าสถานะไม้เท้าของ OldWangFromNextDoor เธอนั้นได้ดูมันมาก่อนแล้ว ไม่เพียงแต่จะเพิ่มค่าสถานะของซัมมอนที่อัญเชิญมา มันยังเพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์ไม่ใช่น้อยๆเลยทีเดียว ที่สำคัญมันยังมีความสามารถในการอัญเชิญซัมมอนระดับสูงให้มาช่วยในการสู้รบได้อีกด้วย ทำให้กำลังรบของทีมทั้งหมดแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พวกเขามีอุปกรณ์และสกิลที่ดีตั้งมากมาย บอสทั้งสองตัวนี้ไม่ได้บังคับให้พวกเขาต้องใช้ไพ่ตายของแต่ล่ะคนเลยด้วยซ้ำ นานะยังไม่ได้เปิดใช้งานความสามารถของไม้เท้า แต่เธอก็ยังคงใช้เวทมนตร์น้ำแข็งได้เหมือนกับเครื่องจักร “นายพูดว่านักเวทของฉันได้ยังไงกัน! เราเป็นกิลด์เดียวกันนิ!”

“ใครบอกเธอ! เราเป็นคนของกิลด์ Happy Firmaments! เธอสามารถพูดได้แค่ว่าเราอยู่ในสโมสรเดียวกันเท่านั้น …” เย่ฉางตะโกนใส่และโชว์ตราสร้างกิลด์ให้เธอดู “ฮี่ ฮี่ กิลด์จอมปลอมของเธอยังไม่ได้รับการอนุมัติจากเกมเลยนะ เธอดูนี่ซะ! จงมองดูให้เต็มตาซะ! เร็วๆนี้กิลด์ Happy Firmaments ของพวกเราจะเป็นกิลด์อันดับที่สองที่จะถูกจัดตั้งขึ้นมา!”

‘เชี่ย! ตราสร้างกิลด์อีกอัน! CloudDragon ก็เพิ่งได้มาจากคนเหล่านี้ แต่ตอนนี้พวกเขาได้มาอีกอันแล้ว!? ฉันไม่สามารถปล่อยตราสร้างกิลด์อันนี้หลุดมือไปได้! เพราะกว่าจะได้มามันไม่ใช่ง่ายๆเลย เพราะบอสอีเวนท์ไม่ได้โผล่มาให้เห็นง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็ไม่มีปัญญาที่จะฆ่าบอสได้’ เธอกระแอมไม่กี่ครั้งและปั้นรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร “ขายให้ฉันนะ ~ ฉันจะให้ราคาที่นายจะต้องพอใจมากอย่างแน่นอน!”

“ไม่มีทาง ฉันกำลังจะสร้างกิลด์ของฉันเอง!” เย่ฉางเก็บตราสร้างกิลด์และเชิดคางของเขาขึ้นอย่างภาคภูมิใจ หลินหลี่ยกคางขึ้นเลียนแบบเย่ฉาง “ใช่ๆ! ผมจะเป็นรองหัวหน้ากิลด์!”

“ฉันก็จะเป็นรองหัวหน้ากิลด์ด้วยอีกคน” จางเจิ้งเฉียงพูด

“หนูเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินและฝ่ายบุคคล” เย่เเทียนพูด

“หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์” อูนาตะโกน

“ผู้อาวุโส …” SpyingBlade พูด

“สมาชิก …” FrozenCloud ยิ้มอย่างขมขื่น

“สมาชิก” ฟางชิพูดตามอย่างผู้แพ้

หน้าอกของ ThornyRose บีบแน่นขึ้น ‘ทำไมพวกนายถึงตื่นเต้นกันมากนัก กับการสร้างกิลด์เล็กๆแบบนี้นี่นะ!’ เธอเอามือก่ายหน้าผากและยิ้มอย่างน่ารักอีกครั้ง “ขายให้ฉันเถอะน๊าา ด้วยทีมที่มีความแข็งแกร่งที่สุดยอดระดับโลกของนาย และด้วยหัตถ์พระเจ้าที่ไม่สามารถหาใครมาต่อกรได้ของนาย การจะได้รับตราสร้างกิลด์มาอีกอันนั้น มันง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีกนิ…”

เย่ฉางและหลินหลี่พยักหน้าพร้อมกัน ‘ถูกต้อง! นั่นแหละคือทีมของเรา!’

“พูดได้ดี เธอพูดได้ดีมากๆ เอาล่ะ! เราจะขายให้เธอแค่ 1000 เหรียญทอง ห้ามต่อรองราคาใดๆทั้งนั้น!” เย่ฉางตบไหล่ของเธออย่างพอใจ

“……” ThornyRose ตกตะลึง ‘1000 เหรียญทอง!?’ เธอหายใจเข้าลึกๆ มันถูกจริงๆเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของมัน หากขายให้กับกิลด์ Flame Dragon Union หรือกิลด์ Lord’s Reign ก็สามารถขายได้ในราคาถึง 2000 เหรียญทองเลยทีเดียว และถ้ายิ่งเป็นตราสร้างกิลด์อันแรก ราคาของมันก็จะสูงกว่านี้อีก 10 เท่าเลย เป็นที่น่าเสียดายว่ากิลด์ Mad War เป็นกิลด์แรกที่ได้ไปแล้ว พวกเขาช่างโชคดีมากๆเหมือนได้รับโชคจากฟ้าเลยทีเดียว

“จ่ายเป็นเงินจริงครึ่งหนึ่งได้นะ…” เย่ฉางหัวเราะเบาๆ

‘บ้าเอ้ย! ฉันมีเฉพาะเงินดอลล่าร์เท่านั้น ในตอนนี้ใครจะไปมี 500 เหรียญทองกัน!?’ ThornyRose กัดฟันแน่น “ฉันขอยืมเหรียญทองจากนายได้ไหม?”

“ดอกเบี้ย 1% ต่อวัน …” เย่เทียนพูดแทรกขึ้นมาและยื่นสัญญาที่ได้ร่างเอาไว้แล้วให้แก่เธอ

“ตกลง …” ThornyRose สั่นขณะที่เธอเซ็นสัญญา ‘พวกคนเหล่านี้เป็นคนในสโมสรเดียวกับเราจริงๆหรือไม่?’

SpyingBlade ยิ้มอย่างขมขื่น ThornyRose ได้ขุดตัวเองเข้าไปในหลุมแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะได้เงินมากกว่าถ้าขายให้กับกิลด์ Lord’s Reign แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยให้เป็นเช่นนั้นแน่ๆ ทุกคนต่างรู้ดีว่า เธอสนใจเรื่องชื่อเสียงของเธอมากๆ แน่นอนว่าก่อนที่จะได้พบกับพวกเย่ฉาง ในตอนนั้นเธอเป็นเหมือนกุหลาบที่หยิ่งผยอง แต่ในตอนนี้เธอทำตัวเป็นเด็กน้อยที่พูดจาไพเราะต่อหน้าหัวหน้าทีม แต่ภายในลึกๆของเธอ เกือบจะระเบิดความโกรธของเธอออกมาได้ตลอดเวลา

ThornyRose รับตราสร้างกิลด์มาด้วยความตื่นเต้น

“เอาล่ะ แล้วจะทำยังไงกับไม้เท้าอันนี้ดี?” เย่ฉางชี้ไปที่ไม้เท้าและถาม

“ให้ทั้งสามคนทอยลูกเต๋า…” SpyingBlade กอดอกและเสนอขึ้นมา

“ฉันก็ต้องการเช่นนี้เหมือนกัน แต่ต้องเพิ่มฉันเข้าไปด้วยอีกคน…” เย่ฉางพูดพร้อมกับปักไม้เท้าลงไปที่พื้น จากนั้นเขาโยนลูกเต๋าออกไป และแล้วเลข 0 ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง! “เราสามารถพูดได้ว่า 0 แต้มคือแต้มสูงสุดได้ไหม? เพราะระบบมีความลำเอียงกับฉัน …เห็นได้ชัดว่ามันชอบทำอะไรที่ตรงกันข้าม …”

“อะไรทำให้นายคิดได้แบบนั้น!?” ThornyRose พูดอย่างเหนื่อยใจ ‘นายคิดว่าฉันจะปล่อยให้นายทำอะไรได้ตามใจงั้นหรือ! ทำไมนายต้องไร้ยางอายอย่างนี้ด้วย! ไม่ใช่ว่าระบบมีความลำเอียงต่อนาย แต่มันเป็นเพราะดวงมหาซวยของนายมากกว่า! ไอคนขูดเลือดขูดเนื้อ! ไอคนบัดซบ!’ สายตาของเธอจ้องไปที่ก้นของเย่ฉางและตาของเธอกระพริบ ‘ถึงแม้ 10 ปีก็ยังไม่สายเกินไปที่จะการแก้แค้น …’

 

 

 


ตอนที่ 401

 

ในท้ายที่สุด ฟางชิก็เสียสละให้ GreenDew เป็นคนได้ไม้เท้าไป โดยเขาเลือกที่จะไม่เข้าร่วมการทอยลูกเต๋า ส่วนรองเท้าระดับ Masterwork ที่เพิ่มค่า Dexterity นั้น SpyingBlade ก็เสียสละให้ FrozenBlood เช่นกัน ในที่สุด SpyingBlade ก็เป็นคนได้สร้อยคอไป เมื่อแบ่งของกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เย่ฉางเริ่มใช้ทักษะเก็บเกี่ยวกับซากศพบอสวิญญาณ แม้แต่บอสโครงกระดูกก็ยังไม่เว้น

จากนั้นทั้งปาร์ตี้เดินออกจากรอยแตกของกำแพง และเดินกลับไปยังทางเดินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับมุ่งหน้าไปยังชั้นสอง ThornyRose บอกเย่ฉางแสดงค่าสถานะของความสามารถสกิลที่เขาใช้ไปเมื่อกี้ให้เธอดู ซึ่งเย่ฉางไม่มีทางปฏิเสธเธอได้ เขาจึงส่งค่าสถานะ [Tactics – Rapid Pursuit] ให้เธอดู

ThornyRose มองไปที่สกิล

“นายได้สกิลนี้มาตั้งแต่ตอนไหน และทำไมถึงไม่อัพเลเวลมันล่ะ? สกิลนี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของปาร์ตี้ได้! ในฐานะที่นายเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ นายควรอัพเลเวลของมันนะ … ถึงแม้นายจะรู้สึกว่ามันอาจไม่คุ้มค่า และฉันรู้ว่ามันมีสกิลออร่ามากมายที่นายอยากอัพ แต่นี่คือหนึ่งสกิลออร่าที่นายควรจะอัพในฐานะที่นายเป็นหัวหน้าปาร์ตี้นะ …”

ThornyRose ถอนหายใจ ตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าปาร์ตี้แล้ว แต่เขามีสกิลเพิ่มบัฟหมู่ที่มีประสิทธิภาพเมื่อเขาเป็นหัวหน้าปาร์ตี้เท่านั้น

เย่ฉางพยักหน้า สกิลนี้มีประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการถอยหรือการรุก เขาจึงใช้หนึ่งแต้มสกิลอัพสกิลนี้ไปเป็นระดับกลาง สำหรับระดับสูงนั้น เนื่องจากเลเวลของเขายังไม่สูงพอ มันจึงยังอัพไม่ได้

Tactics – Rapid Retreat / Pursuit (Adventurer – Intermediate Level)

ติดตัว: เมื่อคุณเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ สมาชิกในปาร์ตี้จะได้รับความเร็วในการเคลื่อนที่ + 15% และความเร็วในการโจมตี + 10%

เปิดใช้งาน: ตอนถอย/ตอนรุก – เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ + 75% / 65% และความเร็วในการโจมตี +0 / +50% นอกจากนี้คุณจะได้รับสกิลพิเศษที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวในแต่ล่ะรอบการเปิดใช้งาน สำหรับการเปิดใช้ตอนรุกจะได้รับสกิล [Charge](พุ่งไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ภายในระยะ 5 เมตร) หรือการเปิดใช้ตอนถอยจะได้รับสกิล [Escape] (สามารถเทเลพอร์ทถอยหลังออกไปได้หลายเมตร) เป็นเวลา 25 วินาที ใช้ 35 พลังงานกับ 20 มานา คูลดาวน์ 13 นาที

SpyingBlade เห็นว่าหนึ่งในสกิลออร่าได้ถูกยกระดับขึ้นมาแล้ว และเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และการโจมตีมาก แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นสกิลของหัวหน้าทีม! ออร่าทั้งหมดที่มีของทีมนี้เพิ่มความสามารถในการเอาตัวรอดขึ้นเป็นสองเท่า มันยังช่วยในการฟื้นฟูมานาและช่วยในการร่ายเวทให้ไวขึ้นอีกด้วย! สิ่งนี้ทำให้ ThornyRose รู้สึกเสียใจ แค่ด้วยสกิลออร่าของเจ้าหมียักษ์คนเดียว ความสามารถในการอยู่รอดของทีมนี้ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว พลังชีวิตของเธอเองเพิ่มขึ้นมาก และแม้กระทั่งการป้องกันของเธอก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน! เธอมองไปที่เกราะหนักของจางเจิ้งเฉียง ‘ผู้ชายคนนี้อาจจะอึดและตายยากมากกว่าแต่ก่อนเยอะ’

“เจ้าหมียักษ์มาที่นี่หน่อย …”

จางเจิ้งเฉียงเดินเข้าไปหาเธอ ThornyRose ฟันดาบใส่หน้าอกของเขา มีค่าความเสียหาย 7 เด้งขึ้นมา ซึ่งทำให้เธอตกใจมาก ‘จะมีใครที่ไหนกล้ามา PK เขา!’

“โชว์พลังชีวิตและพลังป้องกันของนายให้ฉันดูหน่อย …”

ThornyRose มองไปที่ค่าสถานะของเขาและรู้สึกท้อแท้ใจ ค่าสถานะที่สูงที่สุดของเขาคือค่า Constitution ตามด้วยค่า Wisdom และค่า Strength แต่ตัวเลขนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง ถ้าเขาเน้นอัพแต่ค่า Constitution เต็มรูปแบบ แล้วค่า Strength ของเขาจะเท่ากับเธอได้อย่างไร แถมยังมีค่า Wisdom ที่เท่ากับนักเวทระดับสูงอีกด้วย! เธอมองจางเจิ้งเฉียงอย่างสงสัย

“อันที่จริง เพื่อนของฉันห้ามไม่ให้บอกความลับให้เธอรู้นะ แต่เนื่องจากเรามีข้อตกลงต่อกันว่า เธอจะช่วยแนะนำผู้หญิงให้ฉันรู้จัก และช่วยฉันจีบเธอให้ติดด้วย ดังนั้นฉันจะให้เธอดูสกิลและความสามารถพิเศษของฉันทั้งหมด …” จางเจิ้งเฉียงพูด ในขณะที่เขาปล่อยให้ ThornyRose ดูสกิลและความสามารถพิเศษของเขา ThornyRose กลายเป็นโง่งมทันที ‘ระดับ Heroic!? ออร่าที่เป็นความสามารถพิเศษระดับ Heroic!’ นั่นหมายความว่าเจ้าหมียักษ์จำเป็นต้องเรียนรู้สกิลประเภทออร่าให้เยอะๆ เพราะเขาจะได้รับบัฟค่าสถานะขึ้นมาไม่น้อย ทุกๆออร่าจะเพิ่มให้ 5%! ในตอนนี้เขามีการเพิ่มขึ้นมา 25% แล้ว ไม่เพียงแค่นั้น เขายังมีสกิลออร่าที่หายากอย่างเช่น [Aura Mastery]! ซึ่งสกิลนี้ยิ่งค่าสถานะของเขาเพิ่มมากขึ้น มันจะมีผลต่อออร่าของเขาให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นี่มันจะไม่โกงไปหน่อยหรือ? สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งขึ้นก็คือความสามารถพิเศษอย่าง [Strong and Tough Body] และ [Feel Your Pain] คือยิ่งเขามีค่า Constitution มากเท่าไหร่ มันจะไปเพิ่มค่า Wisdom และค่า Strength ให้เขาอีกด้วย จากนั้นเธอก็มองไปที่สกิลการช่วยชีวิตมากมายของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกิล [Desperate Prayer], [Berserk Recovery], และ [Stone Skin] ‘สกิลเหล่านี้มัน … เขาสามารถมีแม้แต่สกิลของตัวแท้งค์?’

จากนั้นสายตาของ ThornyRose เหลือบมองไปที่แหวนสี่สีบนมือของเขา ‘เมื่อก่อนมันมีเพียงแค่สามสีหนิน่า? เขาได้มันมาอีกอันแล้ว?’ เมื่อเธอได้เห็นค่าสถานะของแหวนและความสามารถทั้งสี่ของแหวน เธอได้แต่อ้าปากค้าง นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถเอาอะไรมาแทนที่ได้! ถ้าใช้หนึ่งในความสามารถที่เก็บสกิลไว้ในแหวนได้ สมมุติว่าเขาเก็บสกิล [Desperate Prayer] ไว้ในแหวน … การใช้สกิลนี้ครั้งที่สองนั้น มันจะสามารถช่วยฮีลทั้งทีมได้อย่างมาก แถมเขายังมีสกิล [Healing Light] อีกด้วย! แค่ความจริงที่ว่า ค่าสถานะของแหวนวงนี้ มันเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์ให้ก็สุดยอดมากพอแล้ว …

ส่วนสกิลการโจมตีนั้น เขามีเพียงไม่กี่สกิลเอง แต่เขามีสกิลการโจมตีระดับ Epic อย่างเช่น [Holy Judgment]! ซึ่งมันสร้างความเสียหายได้มากและยังโอกาสที่จะทำให้เป้าหมายติดสตั้นอีกด้วย! ไม่เพียงแต่จะมีการโจมตีได้สามครั้งเท่านั้น คูลดาวน์ของมันก็ยังน้อยอีกด้วย ทำให้ในการต่อสู้กับบอสอาจใช้สกิลนี้ได้หลายครั้ง เธอมองไปยังเพลย์บอยตรงหน้าเธอ ที่กำลังรอให้เธอแนะนำให้เขาไปหาหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ เธอไม่รู้ว่าจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี ที่ตอนนี้มีซุปเปอร์ตัวแท้งค์ที่สามารถทำได้สารพัดอยู่ในทีม แต่มันน่าเสียดายที่เขาเป็นนักบวช!

ThornyRose ตกตะลึงอยู่เป็นเวลานานโดยที่ไม่สามารถจะพูดอะไรได้ เมื่อตอนที่เธอรู้ว่าเขามีอาชีพเป็นนักบวช เธอก็ตกตะลึงอยู่เป็นเวลานานเช่นกัน รูปแบบการเล่นของเขามันทำลายความเชื่อและความเข้าใจที่มีต่อระบบเกมของเธอทั้งหมด จะมีใครเป็นนักบวชอย่างเขาได้อีก! อย่างไรก็ตาม ThornyRose รู้อยู่แล้วว่าเหนือระดับ Epic ยังมีระดับ Heroic อยู่ อธิบายได้ว่าสกิลและความสามารถพิเศษระดับ Heroic ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง มันจะบังคับให้คุณเดินไปในเส้นทางของวีรบุรุษดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเจ้าหมียักษ์จะวิ่งสวนทางมัน เพราะวีรบุรุษเป็นพาลาดิน ในขณะที่เขาทำตัวเป็นเบอเซอเกอร์!

ขณะที่คิดมาถึงตรงนี้ เธอเริ่มนึกถึงหลินหลี่ขึ้นมา เธอจึงใช้เงินเพื่อหลอกล่อให้เขาเปิดเผยสกิลและความสามารถพิเศษที่ซ่อนอยู่ของเขา และมันเป็นอีกหนึ่งความสามารถพิเศษระดับ Heroic เช่นกัน ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษประเภทเพิ่มค่า Strength … ข่มขู่ทุกคนด้วยพละกำลัง! ‘ไม่ใช่ว่าไอคนต่ำต้อยก็มีความสามารถพิเศษระดับ Heroic เช่นกันงั้นหรือ? หรือความสามารถพิเศษของเขาจะเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์! เพราะเขาไม่มีอุปกรณ์ของนักเวทมากมาย แต่เขาก็ยังมีพลังโจมตีเวทมนตร์ที่สูงมาก สมกับที่มันเป็นความสามารถพิเศษระดับ Heroic จริงๆ…’

‘สามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะมีความสามารถพิเศษระดับ Heroic กันทั้งหมด!’ จิตใจของเธอตกอยู่ในความโกลาหล เมื่อเธอรู้ว่าพวกเขาได้รับความสามารถพิเศษระดับ Heroic ในตอนที่ทำเควสร่วมกันกับพวกเธอ ในเวลานั้น ตัวเธอเองก็ได้รับความสามารถพิเศษระดับ Epic ซึ่งเธอก็รู้สึกเหมือนว่าได้รับพรจากสวรรค์แล้ว แต่ว่าเจ้าคนบ้าบอพวกนี้กลับได้รับความสามารถพิเศษระดับ Heroic …

เธอมองไปที่ SpyingBlade … จากนั้นเธอจึงเดินเข้าไปหาเขาและกระซิบ “นายมีความสามารถพิเศษระดับ Heroic ด้วยใช่ไหม”

SpyingBlade ขมวดคิ้ว ‘เธอรู้ได้อย่างไร?’ เขาแสร้งทำเป็นว่าสงบเสงี่ยม แล้วก็พูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ความสามารถพิเศษระดับ Heroic? ในเกมนี้ยังมีเหนือความสามารถพิเศษระดับ Epic อีกงั้นหรือ!? ”

ThornyRose มอง SpyingBlade ‘เขาไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งทำ? ผู้ชายคนนี้ช่าง … ถ้าเขาบอกว่าเขาไม่รู้จัก งั้นคนครึ่งหนึ่งในเกมก็ไม่รู้จักแล้วล่ะ…’

ThornyRose มองไปที่เย่เทียน เย่เทียนถอนหายใจและพูดว่า “หนูไม่มี …”

การถอนหายใจของเย่เทียนเป็นเพราะว่า ในตอนต้นเกมเธอควรจะไปเก็บเลเวลกับพ่อของเธอดีกว่าที่จะมาอยู่กับป้าพวกนี้ ตั้งแต่เธอมาร่วมทีมกับพ่อช้าไปไม่กี่วัน หลินหลี่ก็มีสกิลและความสามารถพิเศษมากมายนำหน้าเธอไปแล้ว ทำให้ในตอนนี้ เธอมีเพียงแค่อันเดียวเท่านั้น ทุกครั้งที่เธอคิดถึงวิธีที่หลินหลี่ล้อเลียนเธอด้วยความสามารถพิเศษระดับ Heroic ของเขา เธอได้แต่กัดฟันทนและนับเลขอยู่แต่ในหัวของเธอเท่านั้น ‘ปีศาจหลี่ตัวที่หนึ่ง ปีศาจหลี่ตัวที่สอง ปีศาจหลี่ตัวที่สาม ปีศาจหลี่ตัวที่สี่ … อ๊ากกก! ไอบ้าหลินหลี่ ฉันเกลียดนาย!!!’

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม