Virtual World – Peerless White Emperor 450-456
ตอนที่ 450
อีกสองสามวันถัดมา เย่ฉางนำกลุ่มปาร์ตี้ของเขาไปที่เทือกเขาแบล็กพีค ระหว่างทางเขาได้พบกับผู้เล่นหลายคนที่คำนับหรือตะเบ๊ะเพื่อทักทายเขา “สวัสดีครับท่านประธาน!”
เย่ฉางโบกมือ และพาปาร์ตี้ของพวกเขาเดินมุ่งหน้าไปยังยอดเขาโกสพีค ซึ่งเป็นที่ตัวของวิหารเทพธิดาอันย่า เขาจ้างนักล่าท้องถิ่นทางตอนเหนือ มาเป็นยามเพื่อรับผิดชอบด้านความปลอดภัยสำหรับคนงานที่นั่น เกี่ยวกับการฟื้นฟูวิหารเทพธิดาอันย่า เหล่านักล่าจำนวนมากพากันมาแสดงความรู้สึกขอบคุณ เพราะเมื่อหลังจากฟื้นฟูวิหารเทพธิดาอันย่าเสร็จเรียบร้อย พวกเขาจะสามารถไปที่นั่น เพื่อได้รับความรู้เกี่ยวกับการล่า…
เย่ฉางหยุดอยู่ตรงฐานที่มั่นของเทือกเขาโกสพีค “ครั้งสุดท้ายเราได้หยุดการสำรวจลงตรงนี้ มีผู้เล่นน้อยมากที่สามารถสำรวจสถานที่แห่งนี้ไปได้มากกว่าเรา และคนที่มาสำรวจอาจจะสิ้นเปลืองโพชั่นหรือยาต่างๆไปอย่างมากมาย นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนต้องล้มเลิกที่จะออกไปสำรวจเทือกเขาโกสพีคกันต่อ ขณะที่วิหารเทพธิดาอันย่า และหมู่บ้านที่อยู่ตรงกลางของเทือกเขากำลังอยู่ในช่วงระหว่างการก่อสร้าง ดังนั้นเราจะไปสำรวจภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้กันก่อนดีกว่า…”
“ความคิดของคุณพ่อไม่เลวเลยค่ะ เทือกเขาแบล็กพีคมีขนาดใหญ่ และระยะที่กว้างขวางมาก ผู้เล่นหลายคนและรวมไปถึงกลุ่มของเราด้วยที่ได้สำรวจไป อย่างมากการสำรวจเทือกเขาแบล็กพีคเพิ่งดำเนินการไปได้เพียงแค่ 30% เท่านั้น! และภายใน 30% นั้นส่วนมากก็ยังเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถระบุได้ ส่วนที่เหลืออีก 70% คือส่วนหนึ่งอยู่ที่เทือกเขาโกสพีค อีกสองส่วนอยู่ทางตะวันออกของวิหารเทพธิดาแจม และทางเหนือของวิหารเทพธิดาแมลโล ทั้งสามเส้นทางนี้ยังนำไปสู่เส้นทางที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอีกมากมาย ระดับของมอนเตอร์และพวกสัตว์ปีศาจอาจมีระดับสูงเกือบสองเท่าของตอนนี้ ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่จึงยังคงอยู่ที่วิหารทั้งสามแห่ง…” เย่เทียนหยิบปากกาออกมา และลากเส้นเชื่อมต่อไปทั้งสามจุด เพื่อทำเครื่องหมายว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย จากนั้นเธอก็ทำเครื่องหมายจุดเฝ้ายามไม่กี่แห่งในเทือกเขาแบล็กพีค ซึ่งเป็นข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนี้ มีจุดเฝ้ายามเพียงสองแห่งเท่านั้นที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขา หนึ่งในนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขาโกสพีค และอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ราบลุ่มทางตอนเหนือของวิหารเทพธิดาแมลโล ทั้งสองแห่งนี้ถูกเรียกว่าจุดเฝ้ายาม แต่จริงๆแล้วมันเป็นแค่เหล่านักล่าในหมู่บ้านที่ถูกรวบรวมโดยอาณาจักรพลาเนทารี่ เพื่อมาเป็นยามแค่เพียงในนามเท่านั้น “บริเวณรอบวิหารทั้งสามแห่งเป็นที่ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะมารวมตัวกัน … เพราะพวกมอนเตอร์และสัตว์ปีศาจมีความแข็งแกร่งสูงมาก มันจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับผู้เล่นธรรมดาที่จะจัดการได้…”
“พี่สาวโรสและคนอื่นๆพากันไปที่วิหารของเทพธิดาแจม” FrozenCloud ชี้ไปยังพื้นที่ทางตะวันออกของวิหารเทพธิดาแจม
“มันน่าจะเกี่ยวข้องกับเควสของพวกเธอ…” SpyingBlade ยิ้มออกมา
“ในสองสามวันนี้ ฉันต้องการที่จะไปถึงเลเวล 20!” เย่ฉางมองที่แถบประสบการณ์ของเขาซึ่งอยู่ห่างจากเลเวล 20 อีกเพียง 50% เท่านั้น เมื่อเลเวล 20 เขาสามารถกลับไปที่สมาคมเทพธิดาเพื่อเรียนรู้สกิลเซ้ทที่ 2 ได้
“อันที่จริง เรามาช่วยให้หัวหน้าทีมได้รับสกิลเซ้ทที่ 2 และความสามารถพิเศษอันใหม่ แล้วกลับไปที่สมาคมเทพธิดาในเมืองแบล็กร็อคกันก่อนดีกว่า ฮี่ฮี่…” OldWangFromNextDoor เริ่มหัวเราะเหมือนกับลูกสมุนผู้ชั่วร้าย ทุกคนจ้องมองไปที่เขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ จากนั้นก็พากันถอนหายใจออกมา พวกเขาพากันเดินสำรวจเป็นวงกลมรอบเทือกเขาโกสพีค ก่อนที่จะค่อยๆเข้าไปยังส่วนลึก และพากันทิ้งหวังที่เต็มไปด้วยความอับอายไว้เบื้องหลัง
“ฉันจะต้องมีแฟนในปี้นี้อย่างแน่นอน!” OldWangFromNextDoor ตะโกนออกมาด้วยความอัปยศอดสู และไล่ตามหลังของทุกคนไป
“มีใครอยากเดิมพันบ้าง?” เย่ฉางพูดออกมาโดยไม่มองกลับไปที่คนอื่นๆ ขณะที่เขาลาดตระเวนหาเส้นทางสำหรับการสำรวจ
“2 ล้านดอลลาร์ว่าเขาจะไม่มีแฟนในปีนี้…” FrozenCloud วางเดิมพันอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันเดิมพันอีก 2 ล้านดอลลาร์ว่าเขาจะไม่มีแฟนในปีนี้เช่นกัน…” อูนาพูดอย่างมีความสุข เมื่อนึกถึงเงินรางวัลที่จะได้รับของเธอ
“ผมจะเดิมพัน ผมจะเดิมพันด้วย ผมเดิมพันว่าหวังสามารถหาแฟนได้! ผมจะเดิมพัน ผมจะเดิมพัน อืม! สัก 3 ล้านดอลลาร์ก็แล้วกัน…” หลินหลี่เดินเข้ามาพร้อมกับเดิมพันด้วยเงินค่าจ้างของเขา
เย่ฉางและจางเจิ้งเฉียงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ “พวกเราอยู่ข้างหลินหลี่! คนละ 3 ล้านดอลลาร์!”
“ผมขอเดิมพัน 1 ล้านดอลลาร์ว่าเขาจะไม่มีแฟนในปีนี้…” ฟางชิเดิมพันด้วยเงินค่าจ้าง และโบนัสเดือนแรกของเขา
SpyingBlade กอดอก และยิ้มออกมา “3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ! เขาจะไม่มีแฟนในปีนี้”
หวังเห็นจากด้านหลังว่า ไม่มีใครให้ความสนใจกับเขา และแต่ละคนก็กำลังวางเงินเดิมพันของแต่ละคน เขาจึงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ‘หัวหน้าเป็นคนโหดร้ายมากจริงๆ’
จากนั้นเขาก็ไอออกมา “ฉันเดิมพัน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐว่าฉันสามารถทำได้!”
“นายกล้ามาก! นายนี่มันคนจริงของแท้!” จางเจิ้งเฉียงถูกอกถูกใจหวังเป็นครั้งแรก
“นายมีเป้าหมายหรือยัง?” อูนาหยอกล้อ
“Little Jade!” หวังพูดออกมาอย่างจริงจัง ทุกคนพากันแข็งทื่อและหันเดินจากไป
“เมื่อวานนี้ ฉันได้ยินข่าวเกี่ยวกับละครศึกพิศวาสสองพี่น้องซีซั่น 2 ด้วย…”
“โอ้ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ศึกพิศวาสสองพี่น้องซีซั่น 2 ได้เข้าสู่ขั้นเตรียมการเปิดกล้องแล้ว”
“ถ้าพวกเขาเปิดกล้องศึกพิศวาสสองพี่น้องซีซั่น 2 เร็วกว่านี้ก็คงจะดี ผมจะได้ดูอาเจียวและคนอื่นๆได้อีกครั้ง”
“มีคนบอกว่าศึกพิศวาสสองพี่น้องซีซั่น 2 จะมีตัวละใครใหม่มาด้วย รู้สึกว่าจะชื่อลิลลี่ …”
“นายหมายถึงผู้ชายที่รักอาเจิ้งใช่ไหม!? เห็นได้ชัดว่าเขาไปศัลยกรรมแปลงเพศมาจากที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นซีซั่น 2 มีแววน่าจะสนุกกว่าเดิม …”
“พวกเราขอร้องล่ะ!อย่าเพิ่งพูดเกี่ยวกับละครกันในตอนนี้เลย”
“ผู้หญิงที่โง่เง่า…”
หวังมองทุกคนพูดคุยเกี่ยวกับละคร ขณะที่พวกเขากำลังเดินจากไป ‘เฮ้ พวกเราเป็นทีมเดียวกันใช่ไหม? พวกคุณจะไม่ให้กำลังใจฉันกันหน่อยเลยงั้นหรือ?…’
ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงคำรามดังขึ้นมา ต้นไม้นับไม่ถ้วนหักโค่นลงมา เผยให้เห็นร่างที่ซ่อนอยู่ข้างในที่มีสีน้ำตาลเข้ม, มีตาเดียว และมีความสูงถึง 6 เมตร ทันใดนั้นสิ่งมีชีวติที่คล้ายคลึงกับลิงได้ปรากฏตัวออกมา จากข้อเท็จจริงที่ว่ามันสามารถหักโค่นต้นไม้ได้อย่างง่ายดาย มันจะต้องเป็นมอนเตอร์ประเภทพละกำลังสูงอย่างแน่นอน
เย่ฉางรีบระบุตัวตนทันที
One Eyed Ogre (Elite – Abyss): เรียกทั่วๆไปว่าออร์ค สิ่งมีชีวิตชนิดนี้เป็นมอนเตอร์ประเภทออร์คหิน พวกมันมีรสชาติที่ดีมากเมื่อกินแบบดิบๆ ทั้งการโจมตีและการป้องกันของพวกมันมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก! ตามตำนานเล่าว่าพวกมันเป็นลูกหลานของไซคลอปส์ กับสิ่งมีชีวิตประเภทลิงตัวเมีย สติปัญญาของพวกมันต่ำมาก
เย่ฉางเริ่มยิงปืนออกไปและมองไปยังความเสียหายที่เกิดขึ้น เขาเห็นว่าความเสียหายของเขาลดลงไปอย่างน้อยถึง 50% จากปกติ “ทุกคนระวังด้วย มันเป็นมอนเตอร์ที่มีทั้งพลังโจมตี และพลังป้องกันสูงมาก แต่สติปัญญาของมันโครตต่ำ!”
จางเจิ้งเฉียงพุ่งขึ้นไป และสไลด์ออกไปด้านข้าง เขาชกกำปั้นออกไปอย่างรวดเร็วไปที่เป้าตรงหว่างขาของมัน ทำให้มันส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวด จากนั้นจางเจิ้งเฉียงก็ใช้สกิล [Holy Judgement] ซ้ำเข้าไปอีกครั้ง
หวังอ้าปากค้าง การถูกต่อยแบบนั้น ไปที่ตรงนั้น เพียงแค่มองไปที่มัน ก็ดูเจ็บปวดโครตๆ แล้ว…
SpyingBlade เหวี่ยงดาบเฉือนออกไป และมองไปยังตำหนิที่เกิดจากการเฉือน ที่แทบจะไม่ก่อให้เกิดความเสียใดๆเลย แน่นอนว่าพลังป้องกันนี้มาจากผิวที่แข็งเหมือนกับหินของมัน! เขาใช้คอมโบและเน้นการโจมตีของเขาทั้งหมดไปยังตำหนิที่เกิดก่อนหน้านี้ จนก่อให้เกิดแผลลึกและมีเลือดซัดกระเซ็นออกมาทันที
เย่ฉางเฝ้ามองขณะที่ทุกคนปิดล้อมและดึงบาลิสต้าออกมา กับมอนเตอร์ประเภทนี้ อาวุธแบบนี้ดีที่สุดแล้ว เขาเล็งไปที่มันและชาร์จพลังงานเพื่อใช้ [Meteor Shot] จากนั้นเขาก็ใช้สกิล [Shadow Weapon – Heavy Crossbow] ลูกศรเหล็กในราชินีและราชาผึ้งคากูถูกล็อกเป้าหมายไปที่ออร์ค จากนั้นเขาก็ยิงออกไป ลูกศรเหล็กในทั้งสองเจาะผ่านและฆ่าออร์คตายลงทันที
“มอนเตอร์ตัวนี้เป็นเพียงมอนเตอร์ระดับสูงงั้นหรือ? อ่า… มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสู้กับมินิบอสอยู่เลย” อูนาพูดออกมา
“ใช่เลย อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่งและการป้องกันของมัน ตั้งแต่สิ่งมีชีวิตเช่นนี้ได้ปรากฏตัวออกมา นั่นก็หมายความว่า ที่ใดที่หนึ่งในพื้นที่แห่งนี้ควรจะเป็นรังของพวกมัน …” SpyingBlade วิเคราะห์ออกมา
“ถ้าเป็นเช่นนั้น นั่นก็หมายความว่าน่าจะมีบอสด้วยเช่นกัน…” เย่เทียนพูดอย่างสงบ SpyingBlae พยักหน้าอย่างช้าๆ อย่างน้อยที่สุดจากประสบการณ์ของเขา สิ่งต่างๆเช่นนี้มักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอ
“ถ้ามีรังของพวกมัน นั่นก็หมายความว่าน่าจะต้องมีหีบสมบัติด้วยเช่นกัน เร็วเข้า เร็วๆเข้า บุกไปข้างหน้า ไปข้างหน้า สำรวจให้หมด สำรวจทุกซอกทุกมุม…” ดวงตาทั้งสองข้างของเย่ฉางเริ่มแดงก่ำ และเขาเริ่มรู้สึกคันไม้คันมือ
SpyingBlade เห็นว่าเขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ และตัดสินใจว่าในครั้งต่อไปที่เขาพบหีบสมบัติ เขาจะบอกหลินหลี่โดยตรง ผู้ชายที่เรียกว่าหัวหน้าทีมคนนี้ และอัตราการเปิดหีบสมบัติของเขาจนถึงตอนนี้ยังเป็น 0% ต้องโชคร้ายขนาดไหนถึงจะทำแบบนั้นได้ และนี่ยังไม่รวมถึงสิ่งต่างๆที่เขาเข้าไปค้นด้วยมือของตัวเองอีก เพียงแค่คิดถึงมัน ก็ทำให้ SpyingBlade ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
ตอนที่ 451
ทุกคนเดินขึ้นไปบนยอดเขา เมื่อพวกเขาเดินมาถึงด้านบนสุด แล้วมองลงไปข้างล่างเห็นป่าที่เต็มไปด้วยหินเล็กหินใหญ่จำนวนมาก ซึ่งดึงดูดความสนใจของเย่ฉางเป็นอย่างดี เขาจึงส่งสัญญาณให้เจ้าฟ้าน้อยบินสำรวจบริเวณรอบๆ เย่เทียนเริ่มกระบวนการคำนวณและคัดลอกบริเวณพื้นที่แถวนี้ลงในแผนที่เสมือนของเธอ “พ่อคะ พื้นที่บริเวณนี้มีป่าหิน, ทะเลสาบ, บึงและหลุมลึก นอกจากนี้พวกมันยังมีมูลค่าทางการสำรวจสูงมาก … นี่คือแอ่งกะทะในภูเขา มันต้องมีทรัพยากรที่สำคัญอื่นๆอยู่อีกมาก …”
“เจ้าฟ้าน้อยได้เห็นพวกสิ่งมีชีวิตบางอย่างในป่าหินด้วย …” เย่ฉางได้ยินเสียงเจ้าฟ้าน้อยร้องขึ้นมาและพูดออกมาอย่างตื่นเต้น ราวกับว่ามีหีบสมบัติและบอสที่กำลังกวักมือเรียกเขาให้เข้าไปหาอยู่ เขาค่อยๆสวมฮู๊ดหมาป่าและดึงดาบออกมา เขาก้าวไปข้างหน้าและชี้ดาบไปที่ป่าหินพร้อมกับตะโกนว่า “เป้าหมายของเรา! คือที่นั่น! ออกเดินทางได้!!”
“ออกเดินทางได้!!” หลินหลี่ตะโกนอย่างดีใจ
FrozenCloud และอูนาเอามือก่ายหน้าผากตัวเอง ‘เฮ้อ ทุกคนก็ยืนอยู่ใกล้ๆนายกันหมด นายไม่จำเป็นต้องตะโกนดังขนาดนั้นก็ได้’
สิ่งมีชีวิตอย่างเช่นปีศาจหมีหินไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาได้ พวกมันถูกจัดการลงอย่างรวดเร็วด้วยบาลิสต้าของเย่ฉาง จากนั้นพวกมันก็ถูกชำแหละแยกชิ้นส่วนโดยเย่ฉาง และตามระหว่างทางที่พวกเขาเดินมา ไม่มีสมุนไพรหรือพืชที่น่าสนใจใดๆที่สามารถหลบพ้นน้ำมือของเขาไปได้ สิ่งที่ทำให้ SpyingBlade, FrozenCloud และคนอื่นๆรู้สึกยินดีก็คือว่า พวกสมุนไพรหรือพืชเหล่านี้จะถูกนำไปปลูกและเจริญเติบโตขึ้นมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ก็คือว่า พวกมันจะเติบโตขึ้นมาเป็นอะไรบ้าง!
เมื่อเย่เทียนทำแผนที่เสมือนของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็นำทุกคนเข้าสู่ป่าหิน เธอได้ทำเครื่องหมายเส้นทางการสำรวจเอาไว้บนแผนที่ โดยเธอจะเริ่มสำรวจจากป่าหินก่อน แล้วค่อยมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบ จากนั้นก็เป็นบึงและท้ายที่สุดก็คือหลุมลึกที่คล้ายๆกับอุโมงค์
ก่อนที่จะถึงป่าหิน ทุกคนรู้สึกว่าการมองมาจากบนยอดเขาและการมองจากที่นี่ มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เสาหินทุกต้นมีความสูงไม่น้อยกว่า 30 เมตร ส่วนเสาหินที่สูงที่สุด มันสูงกว่า 100 เมตร พวกมันเหมือนถูกแทงขึ้นมาจากพื้นดินเหมือนหอก มีทั้งเอียง, แนวตั้งและแนวนอน
ทุกคนเดินเข้าไปในป่าหิน ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาได้สักพัก พวกเขาก็ค้นพบการเคลื่อนไหวที่รุนแรงบางอย่างจากทางข้างหน้า พวกเขาดึงอาวุธออกมาเตรียมพร้อมต่อสู้ และเพิ่มความเร็วในการก้าวของพวกเขาเพื่อมุ่งไปข้างหน้า เสียงที่สั่นไหวก็ใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ
เย่ฉางเดินนำหน้าสุด และเป็นคนแรกที่ได้เห็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนจะเป็นชาวพื้นเมืองที่มีผิวสีดำ พวกเขาและโกแลมที่มีความสูงถึง 20 เมตร กำลังต่อสู้กับพวกออร์คตาเดียวประมาณสิบกว่าตัว ซึ่งในบรรดาพวกมัน มีออร์คตาเดียวที่เตี้ยกว่าโกแลมเพียงนิดเดียวอยู่ด้วย!
“เพื่อน เราจะไปช่วยฝ่ายไหนดี?” จางเจิ้งเฉียงถาม ขณะที่กระชับขวานยักษ์แน่น และเตรียมพร้อมที่จะพุ่งเข้าไป
“มันยังไม่เป็นที่ชัดเจนอีกหรือ? แน่นอนว่าเราต้องช่วยพวกมนุษย์อยู่แล้ว!” FrozenCloud ตอบอย่างรวดเร็ว
“ไม่แน่เสมอไป การคิดจากมุมมองที่แตกต่างกันมีความสำคัญอย่างมากในเกมแบบนี้ ถ้าเราช่วยพวกออร์คตาเดียวและได้รับการยอมรับจากพวกมัน บางทีเราอาจมีโอกาสที่จะสำเร็จเควสเนื้อเรื่องในทิศทางที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือชาวพื้นเมืองและโกแลม แต่บางทีเราอาจจะไม่ได้รับรางวัลเลยก็ได้ คุณไม่สามารถใช้เผ่าพันธุ์ในการแยกความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่วร้ายได้ …” เย่เทียนวิเคราะห์อย่างจริงจัง
“มันมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง …” หลินหลี่ทำท่าทางเหมือนคนฉลาด และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“มันคืออะไร?” หวังถาม
“ง่ายๆ ก็แค่ฆ่าทั้งสองฝ่าย …” หลินหลี่หรี่ตาของเขา
“ใช่แล้ว นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง” เย่เทียนพยักหน้า แต่อาจจะไม่มีใครที่จะเลือกแบบนี้ โดยปกติแล้ว การช่วยเหลือชาวพื้นเมืองจะได้รับรางวัลที่ดีกว่าการช่วยเหลือออร์คตาเดียว และยังดีกว่าการกำจัดทั้งสองฝ่าย แต่มันยังมีตัวเลือกสุดท้ายอยู่อีก นั่นก็คือการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บหนัก”
“หัวหน้าทีม รีบๆตัดสินใจซะที” SpyingBlade พูดอย่างไม่แยแส
เย่ฉางเงยหน้าขึ้นมองการต่อสู้ที่อยู่ข้างหน้า และคิดไม่ถึงหนึ่งวินาที แล้วก็พูดออกมาอย่างใจเย็นว่า “มันยังมีอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งก็คือ การหยุดทั้งสองฝ่ายไม่ให้สู้กัน แต่มันคงไม่เหมาะกับสถานการณ์เช่นนี้ … งั้นเราไปช่วยชาวพื้นเมืองกันเถอะ เพราะว่าพวกออร์คตาเดียวนั้น ดูท่าจะไม่ค่อยฉลาดพอที่จะสื่อสารหรือค้าขายอะไรด้วยได้ นอกจากนี้ พวกมันยังโกรธง่ายอีกด้วย …”
เย่ฉางดึงบาลิสตาออกมาและกระโดดขึ้นบนเสาหินที่เอียง แล้วปีนขึ้นไปจนบนสุด เขาเลือกจุดซุ่มยิงและเรียกเงาที่ถือหน้าไม้หนักออกมา เขาเล็งไปที่บอสออร์คตาเดียว ลูกศรราชาและราชินีผึ้งคากูถูกยิงออกไปทันที [Meteor Shot]!
จางเจิ้งเฉียงเป็นผู้นำพุ่งเข้าไปกระแทกเข้าที่ด้านหลังออร์คตัวหนึ่งจนเซไปชนกับอีกตัวหนึ่ง จากนั้นเขาเปิดใช้งานสกิลของขวาน จันทร์ครึ่งเสี้ยวปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับมีเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว หลังจากการต่อสู้ในครั้งก่อนหน้านั้น เย่ฉางได้ค้นพบว่า มีเฉพาะผิวรอบๆเอวของพวกออร์คที่บางกว่าส่วนอื่นๆ และอีกจุดอ่อนหนึ่งของพวกมันก็คือดวงตา!
ในหมู่ชาวพื้นเมืองมีหญิงเซ็กซี่คนหนึ่ง ที่มีใบหน้าถูกแต่งแต้มไปด้วยสีที่เป็นสัญลักษณ์ของชนเผ่า ใบหน้าที่สวยของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เธอสวมสร้อยคอกระดูกสัตว์และถือหอกกระดูกไว้ในมือ เมื่อเธอเห็นจางเจิ้งเฉียงและคนอื่นๆที่เข้ามาช่วยพวกเธอ มันทำให้เธอรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะ เธอกระโดดไปตามแขนของโกแลมและพุ่งแทงหอกใส่บอสออร์คตาเดียว
โกแลมยกหมัดทุบลงบนหน้าอกของบอสออร์คตาเดียว ทำให้มันเซถอยหลังและติดสตั้น ทันใดนั้น เย่ฉางยกบาลิสตาขึ้นเล็งและยิงออกไป ลูกศรพุ่งปักตาของบอสอย่างแม่นยำ และร่างเงาก็ยิงหน้าไม้หนักตามออกไปด้วยเช่นกัน ลูกศรพุ่งปักซ้ำที่ตาของบอสอีกครั้ง เสียงกรีดร้องของบอสดังลั่นไปทั่วบริเวณ เย่ฉางพาดบาลิสต้าไว้ที่ด้านหลังและชักปืนคู่ออกมา เขาใช้ประโยชน์จากการที่บอสบาดเจ็บหนักอยู่ ระดมยิงห่าฝนกระสุนออกไปไม่ยั้ง
หญิงชาวพื้นเมืองหันไปมองเย่ฉางที่ยืนอยู่ด้านบนเสาหิน ด้วยรูปลักษณ์ที่สวมฮู๊ดหมาป่าและผ้าคลุมเสือโคร่ง อีกทั้งยังยืนอยู่ภายใต้แสงแดดจ้าแบบนี้ พร้อมกับระดมการโจมตีที่สุดยอดใส่บอส เมื่อเธอมองไปที่ดวงตาของเย่ฉาง หัวใจของเธอรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาทันที
หลินหลี่ใช้ประโยชน์จากการบาดเจ็บหนักของบอส เขารีบกระโดดขึ้นไปที่ไหล่ของมันและเรียกรถเข็นออกมา เขาเหวี่ยงรถเข็นฟาดใส่ตาของบอส [Handcart Home Run]! จากนั้นเขาก็ดึงดาบยักษ์ออกมาและฟันใส่อย่างรุนแรง จางเจิ้งเฉียงเห็นว่าบอสกำลังจะหายจากอาการสตั้น เขาจึงรีบพุ่งเข้าชนด้วยสกิล [Fearless Charge] พร้อมกับเปิดใช้งานสกิล [Super Speed] ของแหวน ทันใดนั้น เขาก็พุ่งเข้าชนที่เท้าของมัน จนทำให้มันเสียการทรงตัวและล้มลงกระแทกพื้น
“อดอส !!” หญิงชาวพื้นเมืองตะโกน โกแลมประสานมือยกขึ้นทุบลงไปที่หัวบอสอย่างเต็มแรง ทำให้พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง หลังจากที่โหมดยิงเร็วของเย่ฉางหมดเวลาลงแล้ว เย่ฉางเก็บปืนและใช้มือซ้ายหยิบหนังสือเวทมนตร์ออกมา เขาเปิดใช้งานสกิล [Flame Burst] ที่กักเก็บไว้ในหนังสือเวทมนตร์ยิงออกไป พร้อมกับยกมือขวาขึ้นร่ายสกิล [Flame Burst] ยิงตามออกไปอีกลูก เกิดการระเบิดขึ้นที่หัวบอสอย่างรุนแรง
หลังจากการระเบิด SpyingBlade พุ่งเข้าไปในควัน ดาบของเขาพริ้วไหวไปมาในควัน พร้อมกับมีเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว
หวังควบคุมภูติน้ำของเขาให้ยิงสกิลน้ำแข็งใส่พวกลูกน้องบอส เพื่อลดความเร็วของพวกมัน อูนายังใช้ความสามารถในการควบคุมเวทได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อตอนที่บอสล้มลง เธอก็ได้ยิงเวทหอกน้ำแข็งพุ่งแทงเข้าไปในด้านหลังศีรษะของบอสอย่างจัง
ส่วนฟางชิ นอกเหนือจากการโยนเวทคำสาปใส่บอสแล้ว ส่วนใหญ่เขาก็ไปช่วยอูนาและหวังควบคุมลูกน้องบอส
ทางด้าน FrozenCloud เธอคอยป้องกันไม่ให้ออร์คตาเดียวตัวอื่นๆเข้ามาโจมตีพวกอูนา, หวัง, ฟางชิและเย่เทียน เธอระดมการใจตีใส่พวกมันไม่ยั้ง [Wyvern Kick]+[Shoryuken]+ [Assault Charge] เธอทำหน้าที่ตัวแท้งค์อันดับสองได้เป็นอย่างดี
ขณที่บอสกำลงจะลุกขึ้นยืน จู่ๆมันก็รู้สึกว่าพื้นดินร้อนขึ้นมาอย่างกระทันหัน แต่ก่อนที่มันจะสามารถตอบสนองได้ทัน เปลวไฟก็โพยพุ่งออกมาจากพื้นดินและกลืนกินมันไปทันที หญิงชาวพื้นเมืองมองไปที่เปลวไฟที่โผล่ขึ้นมา ก่อนที่ดวงตาของเธอจะหันกลับมามองที่เย่ฉางอีกครั้ง เธอเห็นว่ายังมีเปลวไฟหริบหรี่อยู่ในมือเขา
[ขอแสดงความยินดี คุณได้ฆ่าออคยักษ์ตาเดียว ได้รับ 3800 Exp]
ตอนที่ 452
เย่ฉางดึงบาลิสต้าออกจากหลังและใส่ไว้ในกระเป๋า ก่อนที่จะชักหอกออกมาโจมตีพวกออร์คตาเดียวที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว เมื่อบอสออร์คตาเดียวตายลงไป ความกดดันของชาวพื้นเมืองลดลงไปอย่างมาก แต่ละคนต่างคำรามและโจมตีใส่พวกออร์คตาเดียวที่เหลืออยู่อย่างรุนแรง ชัยชนะค่อยๆโอนเอียงไปทางฝั่งของเย่ฉางและชาวพื้นเมือง
ในท้ายที่สุด หญิงชาวพื้นเมืองก็เห็นออร์คตาเดียวตัวสุดท้ายที่กำลังปีนขึ้นไปบนตัวโกแลม ถูกหอกพุ่งเข้ามาปักที่คอของมันตอกติดกับแขนโกแลม จนมันตายลงไป
เย่ฉางกระโดดลงจากเสาหิน เขาเอื้อมมือออกไปคว้ากรงเล็บเจ้าฟ้าน้อยที่บินโฉบเข้ามาหา และค่อยๆร่อนตัวลงมาอย่างช้าๆ เมื่อเขาร่อนลงมาใกล้จะถึงผู้หญิงชาวพื้นเมือง เขาเปิดใช้งานสกิล [Shadow Step] โผล่ออกมาจากเงาข้างหลังผู้หญิงคนนั้น ซึ่งกำลังสงสัยอยู่ว่านักรบที่ร่อนลงมาพร้อมกับเหยี่ยวคนนั้นหายตัวไปไหน เย่ฉางตบไหล่ของเธอเบาๆ
หญิงชาวพื้นเมืองหันมามองและยิ้มให้กับเย่ฉาง เธอเห็นเขาถอดฮู๊ดหมาป่าและยื่นมือเข้ามาหาเธอ “ยินดีที่ได้พบคุณ ฉันคือเอิร์ล PaleSnow แห่งเมืองแบล็กร็อค …”
หญิงชาวพื้นเมืองตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอมองไปที่เส้นผมสีขาวของเย่ฉางที่มีไฮไลท์สีดำแซมบางๆ รอยยิ้มจางๆของเขาทำให้เขาดูหล่อเป็นพิเศษ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามือที่ยื่นออกมาตรงหน้าเธอหมายถึงอะไร แต่เธอก็ยังจับมือเขาเอาไว้ด้วยอารมณ์ที่สั่นไหว “ฉัน … ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าฟามิเลีย ฉันมีชื่อว่าลีน่า ฉันขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ … ท่านเอิร์ล PaleSnow ”
“ฉันไม่เคยคิดว่า หัวหน้าทีมจะมีเสน่ห์ต่อผู้หญิง แน่นอนว่าถ้าเธอไม่รู้ว่าความจริงที่ว่า เขานั้นเป็นคนชั่วช้าและชอบโชว์ออฟมากแค่ไหน …” FrozenCloud รู้สึกชื่นชมเย่ฉาง เมื่อตอนที่ช่วยจีน่าวิเวียนจากการตกหน้าผาในก่อนหน้านั้นมาแล้ว และในตอนนี้เขาก็ยังช่วยเหลือหญิงชาวพื้นเมืองคนนี้อีก แต่อย่างไรก็ตาม การที่เขาวางท่าทางเป็นฮีโร่แบบนี้ มันทำให้เขาลืมการค้นศพบอสไปเสียสนิท เธอหันหลังกลับมาและเห็นว่าหลินหลี่วิ่งเข้าไปค้นศพบอสแล้ว…
อูนาพยักหน้า เธอจำได้ว่าตอนที่เธอตกอยู่ในอันตรายถึงตายอยู่นั้น จู่ๆก็มีมือที่ผอมแห้งและซีดขาวของเย่ฉางเข้ามาช่วยเธอไว้ มือของเขาสามารถฉีกประตูอัลลอยด์ได้อย่างง่ายดาย เมื่อเธอนึกมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของเธอเริ่มเป็นสีแดง
“สมกับเป็นหัวหน้าทีม เขาคือไอดอลของฉัน ฉันจะต้องเป็นอย่างเขาให้ได้ในสักวันหนึ่ง …” หวังชื่นชมอย่างจริงจัง
“เป็นไปไม่ได้หรอก หัวหน้าทีมสามารถหลอกคนอื่นด้วยการแสดงออกทางท่าทางและสีหน้าที่เนียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีใครจะรู้สึกว่าเขาชั่วร้ายและหน้าไหว้หลังหลอกเลย ส่วนนายนั้น ขนาดแค่เพียงมองไปที่นาย ฉันก็สามารถมองเห็นกลิ่นอายที่ชั่วร้ายของนายได้ …” FrozenCloud ส่ายหน้าอย่างดุเดือด
อูนารู้สึกแบบนั้นเช่นกัน แต่เธอก็ยังคงตบไหล่ของหวังเบาๆและพูดอย่างจริงใจว่า “โชคดี…”
“นักรบผู้มีพระคุณทั้งหลาย ฉันขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ กรุณาตามฉันไปที่เผ่า เพื่อที่พวกฉันจะได้ตอบแทนพระคุณทุกท่าน …” ลีน่ายิ้มจนเห็นฟันขาวของเธอ
หวังเต็มไปด้วยความอิจฉา เธอเป็นผู้หญิงสวยและเซ็กซี่จริงๆ เขาได้แต่เก็บความเสียใจไว้ข้างใน
“อืมๆ ไหนๆเราก็เหนื่อยล้าจากการเดินทางมามากพอสมควรแล้ว ฉันรู้สึกขอบคุณหัวหน้าเผ่าลีน่าด้วยที่ชวนเราไปยังเผ่าของคุณ …” เย่ฉางยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ลีน่ายิ่งมั่นใจว่าเย่ฉางเป็นคนสไตล์เดียวกับเธอ เขาไม่เก๊กเหมือนขุนนางอื่นๆจากเมืองแบล็กร็อคเลย เธอยิ้มให้เขาด้วยความเต็มใจ หลังจากนั้นเย่ฉางก็ไปชำแหละพวกศพออร์คตาเดียวอย่างรวดเร็ว และใส่ลงในรถเข็นของหลินหลี่ ในขณะที่ชาวพื้นเมืองต่างประหลาดใจในความจุที่มากของรถเข็นคันนี้ จากนั้นเย่ฉ่างก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนไหล่โกแลม และมุ่งหน้าไปยังอีกฟากหนึ่งของป่าหินกับลีน่า
เมื่อลีน่ารู้ว่าเย่ฉางเป็นคนฟื้นฟูวิหารเทพธิดาอันย่าขึ้นมาใหม่ และยังอยู่ในช่วงระหว่างการสร้างที่อยู่อาศัย, อาคารสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งชอปปิ้ง เธอขอร้องเย่ฉางอย่างจริงจังเพื่อที่จะเป็นผู้คุ้มกันวิหาร จึงทำให้เย่ฉางรู้ว่าชนเผ่านี้ประกอบไปด้วยลูกหลานของคนที่หลบหนีไปจากวิหารเทพธิดาอันย่าในช่วงเกิดภัยพิบัติ และเลือกที่จะอยู่อย่างสันโดษในป่าแห่งนี้ แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะฟื้นฟูวิหารเทพธิดาอันย่ากลับคืนมา แต่พวกเขาไม่ได้มีความสามารถหรือทรัพยากรที่เพียงพอ นอกจากนี้ พวกเขายังถูกรุกรานโดยพวกออร์คตาเดียวอยู่บ่อยๆอีกด้วย ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาค่อยๆลดลง จนไม่สามารถทำอะไรได้ไปมากกว่านี้
“ท่านเอิร์ล PaleSnow ท่านจะเป็นผู้มีพระคุณของเผ่าฟามิเลียตลอดไป!” ลีน่าคำนับ
[ขอแสดงความยินดี ชื่อเสียงของคุณในเผ่าฟามิเลียกลายเป็นที่น่าเคารพบูชา!] ประกาศจากระบบ
ส่วนคนอื่นๆก็ได้รับข้อความเกี่ยวกับการได้รับสถานะเป็นที่นับถือ พวกเขารู้สึกตื่นเต้นมาก นี่ หมายความว่าพวกเขาสามารถซื้อสินค้าหายากในเผ่านี้ได้
“ฉันเป็นประธานสมาคมเทพธิดา และยังเป็นโฆษกส่วนตัวของเทพธิดาทั้งสามอีกด้วยนะ ในตอนนี้วิหารเทพธิดาแมลโลและวิหารเทพธิดาของแจมได้รับการบูรณะฟืนฟู้เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดแบล็กพีคก็จะกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของเทพธิดาทั้งสามอีกครั้ง …” เย่ฉางมองไปข้างหน้าและพูดออกมา จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปเตะหัวของลีน่าเบาๆ “ในตอนนี้ เธอเป็นสมาชิกของสมาคมเทพธิดาแล้วนะ หัวหน้าเผ่าลีน่า …”
“ท่านประธาน ฉัน ลีน่า หัวหน้าเผ่าฟามิเลียขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อสมาคมเทพธิดาตลอดไป!” ลีน่ากล่าวคำสาบานอย่างแน่วแน่
‘นั่นไง! หัวหน้าทีมกำลังเข้าสู่โหมดการล้างสมองคนอื่นอีกแล้ว เหมือนกับที่เขาเคยล้างสมองพวกเทพธิดาทั้งสามมาแล้ว!’ FrozenCloud และคนอื่นๆต่างคิดในใจ
ทุกคนรู้สึกว่ารอยยิ้มที่ดูหงิมๆของเขา มันดูชั่วร้ายมากกว่าที่เห็นเยอะ เหมือนเขากำลังหัวเราะอย่างชั่วร้ายอยู่ในใจว่า ‘มามะ! พวกเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาทั้งหลาย! จงกลายมาเป็นของเล่นของฉันซะ! วะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!’ พวกเขาต่างจินตนาการในหัวว่าอย่างนั้น
แต่สำหรับเย่ฉาง เขากำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ‘เทพธิดาทั้งสามนี่มีประโยชน์มากจริงๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เทพธิดาแมลโลไม่ค่อยเชื่อฟังคำสอนของฉันเท่าไหร่ เพราะเธอน้อยใจตรงที่ว่าเธอได้รับความนิยมน้อยกว่าเทพธิดาแจม เฮ้อ! ฉันคงต้องให้คำแนะนำเพิ่มเติมแก่เธอให้มากกว่านี้แล้ว’
ในที่สุดทุกคนก็มาถึงที่ตั้งของเผ่าฟามิเลีย สิ่งก่อสร้างต่างๆในเผ่าเป็นกระท่อมหินอย่างง่ายๆ คนที่นี่ส่วนใหญ่หาเลี้ยงชีวิตโดยการล่าสัตว์ แต่ภูมิประเทศแถวนี้ไม่เหมาะสมต่อการล่าสัตว์ และยังมีการรุกรานจากพวกออร์คตาเดียวอีก ส่วนทางด้านบนของเผ่า ก็มีการคุกคามจากอาณาจักรเหล็กไหลอยู่เป็นระยะๆ จึงทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่สำคัญมากนัก ทำให้มีผู้คนน้อยมากที่จะรู้จักชนเผ่านี้ พวกเขาถูกละเลยจากพวกชนชั้นสูงอย่างสิ้นเชิง และนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีที่พวกเขาพบเจอคนแปลกหน้า
ลีน่าประกาศว่าเย่ฉางกำลังฟื้นฟูวิหารเทพธิดาอันย่า และเธอยังพูดอย่างภาคภูมิใจว่า ต่อไปทุกคนในเผ่าจะย้ายไปอยู่ที่โกสพีค เพื่อช่วยในการฟื้นฟูวิหารและเป็นผู้คุ้มครอง เย่เทียนมองไปรอบๆเผ่า มีเด็กหลายคนที่หิวโซ เนื่องจากบริเวณนี้เต็มไปด้วยพวกออร์คตาเดียว ทำให้พวกเขาล่าสัตว์ไม่ค่อยได้ พวกออร์คตาเดียวแข็งแกร่งมาก เธอยังคิดอีกว่า แม้แต่ปาร์ตี้ผู้เล่นทั่วๆไป 10 กว่าคน ก็ยังยากที่จะเอาชนะออร์คตาเดียวตัวหนึ่งได้ หลังจากที่เธอสอบถามข้อมูลจากลีน่า เธอจึงได้รู้ว่า บริเวณนี้มีพวกออร์คตาเดียวเป็นพันๆตัว ฐานหลักของพวกมันอยู่ที่เทือกเขาพันยอดซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของเผ่า บริเวณนั้นเต็มไปด้วยป่าหิน แต่ขนาดของมันไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเจอมาเมื่อกี้จะเทียบได้ พวกเขาจึงมองไปยังเทือกเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป เทือกเขาพันยอด!!
“แต่สิ่งที่เรากลัวมาก ไม่ใช่พวกออร์คตาเดียวที่เราเพิ่งสู้มา แต่เป็นพวกออร์คที่อยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาพันยอดต่างหาก แม้ว่าฉันจะไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อน ซึ่งพวกมันไม่เคยออกมาจากเทือกเขาพันยอดเลย เพราะแหล่งอาหารหลักของพวกมันอยู่ที่นั้น ตามบันทึกของหัวหน้าเผ่ารุ่นที่ 121 เขียนบอกไว้ว่า มีออร์คยักษ์ตาเดียวตัวหนึ่งซึ่งเป็นหัวหน้าของพวกออร์คอาศัยอยู่บนยอดสุดของเทือกเขา แค่เสียงคำรามของมันก็ทำให้เกิดพายุเฮอร์ริเคน และแค่เพียงมันต่อยเบาๆก็สามารถบดขยี้ภูเขาเล็กๆได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าจะมีการพูดเกินจริงมากไปหน่อย แต่มันมีความเป็นไปได้ว่า มันอาจน่ากลัวตามนั้นจริงๆ …” ลีน่ามองไปที่เทือกเขาพันยอดและพึมพำ
‘มันอาจเป็นบอสใหญ่อีเว้นและเป็นบอสของอาณาจักรนี้! โดยปกติแล้ว บอสระดับนี้จะต้องยกกองกำลังทั้งหมดในอาณาจักรเข้าต่อสู้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถทำอะไรตอนนี้ได้’ เย่เทียนส่ายหัว “เอาล่ะ! ในตอนนี้เราควรคิดถึงเรื่องการย้ายไปที่วิหารเทพธิดาอันย่ากันก่อน คุณควรรีบไปรวบรวมคนในเผ่า เพื่อออกเดินทางได้แล้วนะคะ…”
เย่ฉางพาคนในเผ่า 300 คนมุ่งหน้าไปที่วิหารเทพธิดาอันย่า และให้พวกเขาอาศัยอยู่บริเวณรอบๆวิหาร
เย่เทียนมอบหมายงานให้กับทุกคน โดยให้คนส่วนใหญ่ไปช่วยในการก่อสร้างต่างๆ และบางส่วนเป็นพวกเวรยามดูแลความเรียบร้อย โดยที่พวกเขาจะได้รับเงินเดือนและอาหารจากเมืองแบล็กร็อค สิ่งที่ทำให้เย่ฉางถอนหายใจก็คือ พวกชาวพื้นเมืองมีฝีมือทางด้านการก่อสร้างสูงมาก พวกเขาถนัดการสร้างอาคารด้วยหิน เพียงแค่ยื่นพิมพ์เขียวสิ่งก่อสร้างพร้อมกับคำอธิบายง่ายๆให้กับพวกเขา พวกเขาก็สามารถสร้างมันออกมาได้อย่างสวยงามและตระการตา นี่จึงเป็นสาเหตุที่เย่ฉางถอนหายใจ เพราะเขาได้คาดการณ์ว่าเทพธิดาแมลโลและเทพธิดาแจม คงต้องมาบ่นกับเขาอีกแน่ๆว่า ทำไมวิหารเทพธิดาอันย่าถึงดีกว่าของพวกเธอ! ในเวลานี้ เขาจึงพยายามคิดหาคำแก้ตัวไว้ให้กับพวกเธอ
ตอนที่ 453
เกี่ยวกับเทือกเขาพันยอด เย่ฉางไม่ได้บอกอะไรกับ ThornyRose, NalanPureSoul และคนอื่นๆ
“เอิร์ล PaleSnow ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณได้ทำเพื่อเทพธิดาอันย่าและเผ่าของเรา ฉันไม่รู้จะตอบแทนความดีความชอบของคุณครั้งนี้ยังไงดี แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณต้องการฉัน คุณเพียงแค่เรียกฉันก็พอ” ลีน่าพูดอย่างเต็มใจ
[ขอแสดงความยินดี คุณได้ทำเควสลับ ‘นำเผ่าฟามิเลียกลับคืนสู่มาตุภูมิ’ เสร็จสิ้น ได้รับ 3000 Exp, สุ่มความสามารถพิเศษอาชีพ และ 1 แต้มสกิล]
Advanced Shooting (Epic – Beginner Level, Ranger / Hunter / หรือคลาสอาชีพโจมตีระยะไกลอื่นๆ): +15% เจาะเกราะ, +20% ความเร็วของลูกศรหรือกระสุน, +15 ความเร็วในการยิง
“เยี่ยมมาก สมาคมเทพธิดาได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น แต่ตอนนี้เธอเพียงแค่ปกป้องชนเผ่าของเธอเอาไว้ให้ดีก็พอ …” เย่ฉางยิ้มอย่างแผ่วเบา
ลีน่าก้มหัวลงต่ำ “ฮู๊ดหมาป่าของคุณ ฉันสามารถทำใหม่ให้มันดีกว่าเดิมได้ นี่คือความปรารถนาดีของฉัน คุณแค่รับมันไว้ก็พอ…”
เย่ฉางถอดฮู๊ดหมาป่าของเขาออกมา เขานึกขึ้นได้ว่าเขายังมีหนังสัตว์จากการฆ่าเทพเจ้าหมาป่าอยู่ด้วย เขาจึงหยิบมันออกมาด้วยเช่นกัน ลีน่าพูดอย่างมีความสุข “ด้วยหนังหมาป่าที่มีคุณภาพสูงเช่นนี้ มันจะดียิ่งขึ้นไปอีก ท่านเอิร์ล PaleSnow ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะมีหนังหมาป่าที่หายากเช่นนี้…”
เย่ฉางสังเกตจากด้านข้าง เขาเห็นว่าความสามารถในการทำเครื่องหนังของลีน่านั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เธอยังสามารถเพิ่มเวทมนตร์ให้กับหนังสัตว์ได้อีกด้วย “เธอช่วยสอนฉันเกี่ยวกับการทำเครื่องหนังได้ไหม?”
“แน่นอน…” ลีน่ามีความสุขมากที่เย่ฉางต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเครื่องหนัง ซึ่งถูกสืบทอดต่อกันมาในชนเผ่าของเธอ
“ถ้าอย่างนั้น ได้โปรดชี้แนะด้วยครับ หัวหน้าเผ่าลีน่า” เย่ฉางโค้งคำนับ ลีน่ารีบเข้าไปหยุดเขาไว้อย่างรวดเร็ว เธอชื่นชมทัศนคติที่สุภาพของเขามากจริงๆ ‘เพื่อที่จะสามารถทำงานให้กับบุคคลที่น่าเกรงขามเช่นนี้ นับว่าเป็นเกียรติของฉันมากจริงๆ ฉัน ลีน่าคนนี้ ยินดีที่จะมอบทั้งชีวิตและหัวใจให้กับสมาคมเทพธิดา’
หลังจากนั้น ลีน่าก็ลงมือทำเครื่องหนัง ในขณะที่อธิบายถึงความซับซ้อนของการทำเครื่องหนัง และวิธีการเสริมพลังเวทมนตร์ให้เหมาะสมให้แก่เย่ฉาง เธอยังสอนเทคนิคการทอผ้าที่เธอได้รับรู้มาทั้งหมดให้กับเย่ฉางอีกด้วย
[เนื่องจากได้รับการสอนที่สมบูรณ์แบบจากลีน่า คุณจึงได้เรียนรู้การทำเครื่องหนังเวทมนตร์ของเผ่าฟามิเลีย]
ลีน่าส่งฮู๊ดหมาป่าที่เพิ่งทำใหม่ให้กับเย่ฉาง
Dina’s Protection (Dark Gold – Dina)
ปรเภท: ฮู๊ด
ความต้องการ: ไม่มี
+29 พลังป้องกัน
+20 Strength
+20 Dexterity
+21 Intelligence
+10% Dexterity
+15 พลังโจมตีเวทมนตร์
ได้รับความเสียหายจากเวทมนตร์ลดลง 20%
ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางกายภาพลดลง 15 หน่วย
Wolf Totem – Dina (ติดตัว): ฝ่ายพันธมิตรที่อยู่รอบๆจะได้รับ +10 พลังโจมตี, +5 พลังป้องกัน และ +5% ความเร็วในการเคลื่อนที่
เย่ฉางเห็นว่าฮู๊ดหมาป่าตัวใหม่ดูดีขึ้นมากกว่าเดิม ขนของหนังหมาป่าอ่อนและนุ่มเป็นอย่างมาก มันยังมีประกายแสงจางๆที่หนาวเหน็บออกมาจากดวงตาของหมาป่าทั้งสองข้าง เขาจึงใส่มันอย่างพึงพอใจอย่างมาก ส่วนผ้าคลุมเสือโคร่ง เย่ฉางวางแผนที่จะอัพเกรดมันด้วยตัวเอง เขาให้ลีน่าไปที่เมืองแบล็กร็อค เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมด้านการบริหารการจัดการในช่วงระยะแรก ตอนนี้ลีน่าที่กำลังงงงวยถูกส่งตัวไปตามเส้นทางของเขาแล้ว
ทุกคนมารวมตัวกันที่คลังแสงของชนเผ่าฟามิเลีย และซื้อไอเทมระดับ Uncommon ที่ดูดีบางอย่างมา SpyingBlade และ FrozenCloud สังเกตเห็นว่าเอฟเฟคของออร่าเพิ่มขึ้นมาหนึ่งอย่าง และมันยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อเย่ฉางเดินเข้ามา พวกเขาเห็นเย่ฉางสวมฮู๊ดหมาป่าตัวใหม่ที่ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
หวังได้รับสกิลซัมมอนระดับ Uncommon ชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมา [Earth Elemental – Barto] สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อูนาเห็นว่ารายการไอเทมมีแต่สกิลเวทมนตร์ธาตุดินเท่านั้น ทำให้เธอผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยังคงซื้อสกิล [Boulder Strike] มาไว้ใช้
จางเจิ้งเฉียงเห็นสกิล [Earth Shield] (สร้างโล่ดินล้อมรอบตัวเอง ซ้อนทับกันได้ 3 สแต็ค ทุกครั้งที่คุณได้รับการโจมตี แสต็คจะถูกนำมาใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับคุณ 30 HP) เขาจึงซื้อมันอย่างไม่ลังเล
สำหรับเย่ฉาง เขาเห็น ‘กล่องลึกลับของเผ่าฟามิเลีย’ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ค่าชื่อเสียงระดับน่านับถือ, ใช้ห่วงภูติน้ำ 100 อัน และ 500 เหรียญทอง ว่าแต่อะไรคือห่วงภูติน้ำกัน?
“ห่วงภูติน้ำคืออะไร?” เย่ฉางสอบถาม
“สร้อยข้อมือที่พวกภูติน้ำสวมใส่” ผู้เฝ้าคลังแสงอธิบายออกมาสั้นๆ
เย่ฉางนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็หันไปมองที่หวังด้วยรอยยิ้มที่แสนดี “เรียกซัมมอนภูติน้ำของนายออกมาหน่อยสิ”
เมื่อหวังเห็นรอยยิ้มที่คุ้นเคย เขาจึบรีบอัญเชิญภูติน้ำของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ซัมมอนภูติน้ำที่เรียกออกมาจะสามารถยืนได้อย่างมั่นคง เย่ฉางก็แทงมันอย่างรุนแรงด้วยสกิล [Flame Blade] เขาเอื้อมมือออกไปหาห่วงภูติน้ำจากในตัวของโทบิระ (ชื่อภูติน้ำ) จากนั้นเขาก็หันกลับไป และพูดออกมาอย่างโศกเศร้า “อ่า ไม่เห็นมีอะไรเลย ฉันไม่สามารถแม้แต่จะเอาสร้อยข้อมือของมันออกมาได้”
หวังเห็นโทบิระที่เขารักมากตายไปตรงหน้า ‘หัวหน้าทีม … นาย … นายจะโหดร้ายเกินไปแล้วนะโว้ย’
“นายต้องการสร้อยข้อมือเพื่ออะไร?…” อูนาถามออกมาด้วยเม็ดเหงื่อที่ไหลย้อย
เย่ฉางโพสต์ข้อมูลกล่องลึกลับให้ทุกคนได้เห็น SpyingBlade เลิกคิ้วขึ้น สิ่งที่จำเป็นต้องใช้เงินถึง 500 เหรียญทอง แน่นอนว่ามันต้องมีบางสิ่งที่ดีอยู่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม มันก็จำเป็นที่จะต้องใช้ห่วงภูติน้ำ 100 อันด้วยเช่นกัน
ทุกคนมองไปที่หวัง “อัญเชิญมันออกมาอีกครั้ง…”
หวังเห็นทุกคนจ้องมองมาที่เขาและกลืนน้ำลาย เขาเริ่มอัญเชิญภูติน้ำออกมาอีกครั้ง และช่วงเวลาที่โทบิระปรากฏตัวออกมา ทุกคนก็ร่วมมือกันทุบตีมันไปสู่ความตาย หลินหลี่เข้าไปค้นศพ และส่ายหน้าไปมา “ไม่เห็นมีอะไรเลย…”
“ฉันคิดว่า เราอาจไม่สามารถฆ่าเพื่อนร่วมทีม เพื่อที่จะค้นไอเทมจากศพได้หรอกนะ” FrozenCloud กอดอกและอธิบายออกมา
เย่ฉางสอบถามผู้เฝ้าคลังแสงอีกครั้ง จากนั้นก็หันกลับไปหาทุกคน “ที่ทะเลสาบ มีภูติน้ำที่ดุร้ายอยู่ที่นั่น จุดสำรวจที่สองของเราก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน ไปกันเถอะ ออกเดินทางได้! กล่องลึกลับกำลังร้องเรียกหาหัตถ์พระเจ้าของฉันอยู่!”
ทุกคนมองไปที่แผ่นหลังของเย่ฉางและกลอกตาไปมา ‘กล่องลึกลับ หรือหีบสมบัติที่เรียกหานาย มันว่างเปล่าไปทั้งหมดนั่นแหละ…’
ตามถนนหนทาง เย่ฉางหยิบกองหนังจากรถเข็นออกมาเพื่อฝึกซ้อม จนเปลี่ยนเป็นกองเกราะหนังขนาดใหญ่ จนในที่สุดเขาก็อัพเกรดผ้าคลุมเสือโคร่งให้เป็นระดับ Dark Gold ได้สำเร็จ และถอนหายใจที่ฝีมือการตัดเย็บของเขาดีมากขนาดนี้ เมื่อเห็นเย่ฉางได้เรียนรู้การทำเครื่องหนังเวทมนตร์ SpyingBlade จึงคิดว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องของเกราะหนังของเขาอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสรรสร้างการตีเหล็กของเจ้าหมียักษ์ หลักฐานที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ พวกเขามีวัสดุที่หายากเป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นทีมอื่นอาจจะต้องคิดมากเกี่ยวกับวัสดุเหล่านี้ แต่สำหรับทีมนี้นั่น เป็นสิ่งที่เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว … เหตุผลง่ายๆก็คือว่า พวกเขามีหัวหน้าทีมซุปเปอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกวาดของโลก…
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ทะเลสาบ พวกสัตว์ป่าและสัตว์ปีศาจก็เริ่มที่จะปรากฏตัวออกมามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้บ้าคลั่งสมบัติอย่างเย่ฉาง พวกมันจึงถูกจัดการลงอย่างง่ายดาย ทุกคนได้ทำงานกันอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าหีบสมบัติจะมีบางสิ่งที่ดีอยู่ในนั้น
ทะเลสาบค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาในสายตาของพวกเขา เย่ฉางหยุดพักและเริ่มก่อกองไฟ แต่เดิมที่ทุกคนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น แต่ตอนนี้พวกเขาได้แต่พากันถอนหายใจออกมาทันที ในที่สุดช่วงเวลานี้ก็มาถึง!
“ด้วยจิตวิญญาณการทำอาหารของฉัน หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ฉันจึงคิดค้นสูตรใหม่ได้แล้ว!” เย่ฉางโยนเนื้อออร์คตาเดียว, เนื้อซอมบี้, เนื้อหนู, กระดูกปีศาจ, สมุนไพรต่างๆ และเห็ดที่แม้ตัวเขาเองไม่รู้จักลงไปในหม้อ
“เรามาลองดูรสชาติของเนื้อออร์คกัน…” เย่ฉางปิดฝาแล้วเริ่มเตรียมอาหารจานทอด เขาหั่นเนื้อออร์คตาเดียว และเนื้อหมูป่าหินเป็นชิ้นบางๆ พร้อมกับเคลือบพวกมันด้วยเจลสไลม์ จากนั้นก็ใส่เห็ดเหม็นลงไปเพิ่ม เขาเริ่มผัดมัน ทุกคนเห็นว่าแม้แต่ตัวคนทำเองก็ไม่สามารถเปิดตาขณะผัดได้ เขาเพียงแค่อาศัยความรู้สึกในการผัด กลิ่นเหม็นของมันทำให้สัตว์ปีศาจ ซึ่งแต่เดิมตั้งใจจะซุ่มโจมตีพวกเขา ต่างพากันหนีหายไปราวกับหมอกควัน
ตอนที่ 454
ด้วยการเพิ่มเนื้อออร์คลงไป ทำให้เอฟเฟคของอาหารที่เพิ่มค่า Constitution จากก่อนหน้านี้เพิ่มมากขึ้นไปอีก และทำให้พลังชีวิตของพวกเขาสูงขึ้นมากอีกด้วย แต่ผลเสียที่ได้รับก็คือว่า พวกเขาทั้งหมดต่างพากันล้มลงและชักกระตุกอย่างรุนแรง
“แน่นอนว่าปัญหาที่มาพร้อมกับการคิดค้นสูตรใหม่ๆ มันมักจะอันตรายอยู่เสมอ …” เย่เทียนลุกขึ้นเป็นคนแรกและอธิบายออกมา
หลังจากกินอาหารเพื่อรับบัฟกันหมดทุกคนแล้ว พวกเขาก็เดินทางไปถึงทะเลสาบ ซึ่งตอนนี้มันเป็นช่วงเวลากลางคืนพอดี และพวกเขาได้เห็นแสงไฟที่ส่องประกายบินไปมาเหนือทะเลสาบราวกับหิ่งห้อย ฉากนี้ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นทะเลสาบที่ส่องประกายระยิบระยับ จนทำให้ดูสวยงามมากเป็นพิเศษ
แต่ทันใดนั้น น้ำก็ค่อยๆก่อตัวเป็นภูติน้ำ บนแขนของมันหรือสิ่งที่พวกเขาสงสัยว่าจะเป็นแขน มีกำไลอยู่คู่หนึ่ง เย่ฉางชักปืนทั้งสองกระบอกออกมาและพูดกับทุกคน “ทุกคนพร้อมลุยกันหรือยัง?”
เมื่อเห็นทุกคนพยักหน้า เย่ฉางใส่คริสตัลไฟลงไปในปืนของเขา จากนั้นก็เปิดใช้งานโหมดยิงเร็วทันที ภายใต้ความสามารถใหม่ที่เขาได้รับมา ลูกกระสุนไฟก็เริ่มโหมกระหน่ำออกไป จางเจิ้งเฉียงและคนอื่นๆยืนเฝ้าอยู่ที่ริมทะเลสาบ SpyingBlade ขมวดคิ้ว ‘หัวหน้าทีมมีเวทมนตร์ไฟที่น้อยเกินไป พวกเขาต้องหานักเวทธาตุไฟเพื่อสร้างความแตกต่างให้ได้มากกว่านี้ พวกเขาไม่สามารถเอาแต่พึ่งพาหัวหน้าทีมเพียงอย่างเดียวได้ ทีมนี้ไม่อาจเอาคนที่เก่งรอบด้านอย่างหัวหน้าทีมมาเป็นนักเวทธาตุไฟหลักของทีมได้! อย่างไรก็ตาม หัวหน้าทีมก็ไม่ได้เน้นไปที่ธาตุไฟเป็นพิเศษ! เขายังมีเวทมนตร์ธาตุอื่นๆอีก ดังนั้นทีมนี้จำเป็นต้องรับสมัครคนเพิ่มเติมอีกสองสามคน อย่างเช่นผู้อัญเชิญสายพืชของสมาคมเทพธิดา และอาชีพซัพพอร์ทคลาสอื่นๆ! สำหรับนักเวทธาตุไฟ NalanPureSoul จะเป็นตัวเลือกแรกอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน’
กระสุนธาตุไฟได้สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ภูติน้ำถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจนทำให้มันเกิดเป็นไอน้ำลอยออกมา เมื่อมาถึงฝั่ง ภูติน้ำทั้งสองตัวได้ปะทะกับพวกเขาอยู่ที่แนวหน้า และตายลงด้วยระเบิดเพลิงระดับสูงของหลินหลี่ พวกเขาได้รับห่วงภูติน้ำมา 30 อันอย่างรวดเร็ว ที่นี่อูนาและหวังแทบจะไม่มีประโยชน์เลย เนื่องจากภูติน้ำมีภูมิต้านทานต่อเวทมนตร์ธาตุน้ำด้วยกันเอง
เย่ฉางสับเปลี่ยนคริสตัลเวทมนตร์ และตรวจสอบคริสตัลเวทมนตร์สำรองของเขา มันยังคงมีคริสตัลไฟเหลืออยู่อีกมาก เดิมทีเขาตั้งใจที่จะหลอกลวง NalanPureSoul และ LordAsked เกี่ยวกับการฝังคริสตัลไฟ แต่เพราะการฝังคริสตัลไม่ได้ทำเงินให้กับเขามากนัก และกล่องลึกลับก็กำลังร้องเรียกหาเขาอยู่! เขาจึงจำเป็นต้องใช้คริสตัลไฟอย่างไม่เสียดายเลย!!”
เมื่อพวกเขาเดินไปรอบๆทะเลสาบ เย่ฉางก็สังเกตเห็นท่าเรือที่ดูคุ้นตา แต่เมื่อเขาเห็นลุงที่กำลังพักผ่อนอยู่บนท่าเทียบเรือ เขาก็จำได้ทันที เขาคือปาสตอเร่นั้นเอง! เย่ฉางจึงตะโกนออกไป “ลุงปาสตอเร่!!”
ปาสตอเร่กำลังอยู่ระหว่างการไตร่ตรองว่า เขาจะจับปลาที่มีค่าที่สุดในทะเลสาบแห่งนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อเขาเห็นเย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียง และหลินหลี่ ทำให้เขาฉีกยิ้มกว้างออกมา “ฮ่าฮ่า เป็นพวกนายนี่เอง ฉันไม่เคยคิดเลยว่า พวกนายจะออกจากหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะมาสู่โลกภายนอกนี้ … นี่ทำให้ฉันประหลาดใจมากจริงๆ…”
SpyingBlade ไม่ได้อยู่ด้วย เมื่อตอนเย่ฉางได้ทำเคลียร์เควสตกปลา ดังนั้นเขาจึงตกอยู่ในความสับสน ‘พวกเขารู้จักกัน?’
เย่ฉางพาทุกคนไปที่ท่าเรือ
ปาสตอเร่เห็นหลินหลี่เดินเข้ามา เขาจึงเดินเขาไปบีบไหล่ของหลินหลี่เบาๆ “นายสามารถจับปลาที่หายากตัวอื่นๆได้บ้างไหม?”
หลินหลี่คิดหนักและตอบกลับไป “ผมไม่รู้ ผมลืมไปแล้ว…”
ปาสตอเร่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา
จางเจิ้งเฉียงคิดในใจ ‘โอกาสนี่แหละ! ฉันจะใช้ 1 ใน 100 คำพูดของการรับเควสให้ทุกคนดู!’ เขาจึงรีบพูดอย่างรวดเร็ว “ลุงปาสตอเร่ เมื่อผมเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของลุงแล้ว ลุงมีสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือใช่ไหม?”
SpyingBlade, FrozenCloud และคนอื่นๆ ถึงกับพูดอะไรไม่ออก เมื่อจางเจิ้งเฉียงใช้ 1 ใน 100 คำพูดของการรับเควสสำหรับมือใหม่ออกมา ‘เขาต้องการให้นายช่วย เพียงแค่นายเห็นว่าเขามีปัญหาบางอย่างงั้นหรือ?’
“ใช่แล้ว ทะเลสาบโคซาวี่เป็นทะเลสาบที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ในทะเลสาบนี้มีปลาที่หายากมากๆ ที่ถูกเรียกกันว่าปลาสายฟ้าอยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม มันมีมอนเตอร์ภูติน้ำอาศัยอยู่ที่นี่มากเกินไป พวกมันเกลียดชาวประมง หรือนักตกปลาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้กลัวพวกมอนเตอร์ภูติน้ำเหล่านี้ แต่พวกมันก็มารบกวนการตกปลาของฉันอยู่บ่อยครั้ง … ฉันหวังว่าพวกนายทุกคนจะสามารถปกป้องเรือของฉัน และคอยเฝ้าระวังไม่ให้พวกมันรบกวนฉัน เพื่อที่ฉันจะได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการตกปลาได้อีกครั้ง …” ปาสตอเร่พยักหน้า
“ลุงปาสตอเร่ ลุงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราได้เลย” เย่ฉางยิ้มอย่างเฉยเมย
ปาสตอเร่มองไปที่เสื้อผ้าของเย่ฉาง และมองเหรียญตราที่อยู่บนอกด้วยความสนใจ “ไม่เลวเลย นี่มันเพิ่งผ่านไปนานแค่ไหนกันนะ? นายทำได้ดีมากทีเดียว ท่านเอิร์ล…”
“ไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไรเลยครับ” เย่ฉางตอบกลับไปอย่างสุภาพ
“ทุกคนขึ้นไปบนเรือเพื่อเตรียมพร้อมกันก่อนเถอะ เราจะออกเดินทางภายในครึ่งชั่วโมง ฉันจำเป็นต้องปรับสภาพจิตใจของฉันสักครึ่งชั่วโมงก่อน” ปาสตอเร่นั่งอยู่บนท่าเรือ และจ้องมองไปบนพื้นผิวของทะเลสาบ เขาจมลึกลงไปในความคิด ปากของเขายังคงพูดพึมพำ “นางเงือกมีไว้เพื่ออุ่นเตียงของฉัน นางเงือกมีไว้เพื่ออุ่นเตียงของฉัน…”
SpyingBlade มองไปที่เย่ฉางอย่างสงสัย FrozenCloud เดินเข้าไปกระซิบ “นี่คือ NPC อีเว้นท์แบบสุ่มที่ฉัน, หัวหน้าทีมและคนอื่นๆได้พบเจอที่หมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ ของรางวัลจากเควสเป็นสิ่งที่ดีมาก นี่อาจเป็น NPC ที่เดินทางไปทั่วโลกอยู่ตลอด…”
SpyingBlade นึกถึงตอนที่หลินหลี่สามารถตกปลาได้และเข้าใจได้ในทันที เขาเดินขึ้นไปบนเรือลำเล็กๆ และยืนอยู่ข้างราวบันไดเพื่อรับลม เย่เทียนเดินขึ้นไปและตรวจสอบเรือลำนี้ เธอสำรวจโครงสร้างของเรือตามที่เธออยากรู้ เธอใช้ทักษะทางวิศวกรรมของเธอในการวิเคราะห์โครงสร้างของเรือ จากนั้นเธอก็ส่ายหัวออกมา เธอยังคงขาดทักษะหลักที่จำเป็น ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องแยกชิ้นส่วนเครื่องยนต์เวทมนตร์ออกมา และตรวจสอบพวกมันเพื่อทำความเข้าใจ แต่ส่วนประกอบที่เหลือก็ได้รับการอนุมานอย่างสมบูรณ์โดยเธอไปเรียบร้อยแล้ว เธอยังคงตรวจสอบแผงควบคุมอยู่เล็กน้อย
เย่ฉางกระโดดลงไปบนเรือ และตรวจสอบคริสตัลเวทมนตร์ของปืน เขาแทนที่คริสตัลที่ใช้แล้วครึ่งหนึ่งด้วยคริสตัลไฟที่มีคุณภาพสูงกว่าที่ยังไม่ได้ใช้ FrozenCloud มองไปทั่วทั้งเรือ เมื่อถึงเวลา เธอจะเป็นคนเฝ้าที่ข้างหลังเอง “อาเฉียง นายเป็นคนรับผิดชอบด้านหน้า ดังนั้นนายจะต้องระวังตัวเองไว้ด้วยนะ…”
จางเจิ้งเฉียงโอบไปที่ไหล่ของ FrozenCloud “น้องเล็กไดโน เธอกลัวงั้นหรือ? ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ ฉันคนนี้จะคอยคุ้มครองเธอเอง ฮี่ฮี่ แต่เธอต้องช่วยฉันให้สนิทกับพี่สาว Lily…”
จู่ๆ FrozenCloud ก็แปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นบูดบึ้ง เธอใช้ข้อศอกกระแทกไปที่หน้าอกของเขา แต่มันไม่ได้ทำให้จางเจิ้งเฉียงรู้สึุกเจ็บเลย พลังชีวิตของเขาลดไปเพียงเล็กน้องเท่านั้น จากนั้นเธอก็หันกลับไป “ฉันไม่จำเป็นที่จะต้องให้นายมาเป็นห่วงฉัน! ไอบ้าเพลย์บอย…”
จางเจิ้งเฉียงคว้า FrozenCloud เข้ามาอีกครั้ง สายตาของเขาจ้องมองตรงไปที่เธอ และยิ้มออกมา “น้องเล็กไดโน อันที่จริงฉันไม่สนใจเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาหรืออดีตของเธอ เพราะฉันก็เป็นคนที่ถูกหยิบมันขึ้นมาจากเถ้าถ่านด้วยเช่นกัน แต่ในตอนนี้ฉันไม่สามารถอยู่กับเธอได้ ฉันจะมีความรู้สึกไม่ดี หากฉันได้อยู่กับเธอ เพราะฉันอาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป เธอจะช่วยฉันสักหน่อยได้ไหม?”
FrozenCloud มองรอยยิ้มที่โง่งมของจางเจิ้งเฉียง และรู้สึกถึงมือที่แข็งแกร่งขนาดใหญ่ของเขาสัมผัสเข้ากับแก้มของเธอ ทำให้ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงราวกับมะเขือเทศทันที เสียงของเธอลดลงเล็กน้อย “ใคร… ใครชอบนายกัน ต้องไม่ใช่ฉันอย่างแน่นอน”
“เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากเหมือนกับพี่สาวของฉัน น้องเล็กไดโน ไม่ว่าเธอจะชอบฉันหรือไม่ ฉันหวังว่าเธอจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น หากเธอมีสุขภาพร่างกายที่ดี สิ่งดีๆอื่นๆก็จะตามมา สุขภาพร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด… ส่วนที่เหลือก็ดี ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ เราก็สามารถมีอนาคต… มีความสุข… และ… ความเศร้า…” จางเจิ้งเฉียงปล่อยมือจาก FrozenCloud และยกขวานยักษ์ไว้ที่ด้านหน้าของเรือ เขาจ้องมองไปที่ดวงจันทร์อย่างเศร้าๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของจางเจิ้งเฉียง FrozenCloud ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไม แต่ดวงตาของเธอก็มีน้ำใสๆไหลออกมา
อูนาโอบไหล่ FrozenCloud “อย่าคิดว่าอาเฉียงจะมีแต่กล้ามเนื้อ และชอบการใช้กำลังนะ แต่จริงๆแล้ว เขาเป็นคนที่อ่อนโยนและใส่ใจคนอื่นมากๆ เขาเป็นผู้ชายที่เข้าใจคนอื่นเป็นอย่างดี มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเจอกับเด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังขายดอกแดฟโฟดิลอยู่ ซึ่งแต่ละดอกมีราคาตั้ง 200 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เด็กหญิงตัวเล็กต้องการขายให้ได้ถึง 20,000 ดอก เขาไม่ลังเลที่จะซื้อดอกไม้มาเป็นจำนวนมาก เขาใช้เงินของตัวเองทั้งหมดก็ยังไม่พอซื้อ เขาจึงมาขอยืมเงินในทีมไปใช้ก่อน และนั่นแทบจะเป็นเงินทั้งหมดของทีมแล้ว ในเวลานั้น ฉันคิดว่าเขาเป็นเพียงแค่ไอพวกหัวงูบัดซบ แต่หลังจากนั้น ฉันก็พบว่าครอบครัวของเด็กหญิงคนนั้นน่าสงสารมากๆ พ่อของเธอป่วยและต้องการเงินเพื่อรักษา เธอสามารถเดาได้ไหมว่าใครเป็นพ่อของเด็กหญิงคนนี้คือใคร?”
FrozenCloud ส่ายหัว
“อันที่จริงแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เธอก็เคยพบเขาอยู่บ่อยๆ เขาคือเถ้าแก่หวังที่ตลาดกลางคืนนั้นเอง เถ้าแก่หวังซาบซึ้งใจมาก เดิมทีเถ้าแก่หวังต้องการปฏิเสธที่จะรับเงินค่าอาหารจากพวกเขา แต่เย่ฉางและคนอื่นๆก็ยืนยันที่ต้องการจะจ่าย ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่กลับมาที่ร้านนี้อีก … อาเฉียงเป็นคนที่ใจดีมาก ไม่เพียงแต่ใจดีกับเด็กหญิงตัวเล็กๆเท่านั้น เขาใจดีกับทุกคนที่เดือดร้อน เพียงแต่ว่าผู้คนมักจะหวาดกลัวเขาเท่านั้นเอง” อูนานึกถึงลักษณะภายนอกของจางเจิ้งเฉียงที่มักจะชอบทำตัวแข็งแกร่ง และยิ้มออกมา
ในขณะเดียวกัน จางเจิ้งเฉียงจ้องมองไปที่ดวงจันทร์ ‘เพื่อน ฉันยังคงพยายามทำความเข้าใจกับศิลปะการจีบสาวอยู่ พี่สาว Lily รอจนกว่าฉันจะเอาปืนใหญ่เข้าไปนะ!’
ตอนที่ 455
ปาสตอเร่ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ เขานำอุปกรณ์ตกปลาของเขาขึ้นไปบนเรือ แล้วมองไปที่เย่เทียนในห้องควบคุม “แล่นเรือไปทางเหนือสุดของทะเลสาบ ที่นั้นถูกเรียกว่าหัวใจของทะเลสาบ”
การเดินทางเงียบสงบและราบรื่นเป็นอย่างมาก ภูติน้ำปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น และแล้วเรือก็ค่อยๆแล่นมาถึงตรงที่เป็นหัวใจของทะเลสาบ ปาสตอเร่สั่งให้หยุดเรือทันที เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เตรียมเหยื่อชนิดพิเศษบางอย่างเกี่ยวตะขอเบ็ด และเหวี่ยงสายเบ็ดออกไป จากนั้นเขาก็นั่งลงและเข้าสู่โหมดการตกปลา ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจดจ้องอยู่แต่ที่ผิวของทะเลสาบ
ทันใดนั้น พื้นผิวของทะเลสาบเริ่มกระเพื่อมขึ้น
“มันมาแล้ว …” SpyingBlade ชักดาบออกมาและตะโกนบอก
เย่ฉางชักปืนคู่ออกมา และกวาดตามองไปเหนือน้ำที่มีแต่ฟองน้ำ จางเจิ้งเฉียงยืนคุ้มกันใกล้ๆปาสตอเร่ ฟางชิรีบซัมมอนผีร้ายสองตัวของเขาออกมา
“หวัง ภูติน้ำของนายสามารถเสกน้ำให้กลายเป็นน้ำแข็งได้หรือไม่?” SpyingBlade ถาม
“ได้ มันมีเวทน้ำแข็งอยู่” หวังพยักหน้า
“งั้นลงมือได้เลย เปลี่ยนพื้นผิวทะเลสาบให้เป็นน้ำแข็ง เพื่อให้ฉัน, หลินหลี่และเร็นน้อย สามารถใช้มันเป็นลานเหยียบได้” SpyingBlade ชี้ไปยังพื้นที่ที่ต้องการ
“พวกมันมาแล้ว!” เย่ฉางตะโกนเตือน จู่ๆมีภูติน้ำมากกว่าสิบตัวโผล่ขึ้นมาจากน้ำ
เย่ฉางเริ่มยิงปืนในมือซ้ายออกไปด้วยสกิล [Enchanted Bullet – Fire – Explosive Bullet]! กระสุนพลังงานลุกเป็นไฟได้พุ่งชนภูติน้ำ ทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ส่วนปืนในมือขวา ของเขากำลังชาร์ตพลังงานไฟไว้สำหรับยิงด้วยสกิล [Explosive Energy Bullet] หลินหลี่โยนระเบิดเพลิงระดับสูงออกไปเป็นจำนวนมาก เปลี่ยนพื้นผิวของทะเลสาบให้เป็นทะเลแห่งเปลวไฟ คลื่นความร้อนและไอน้ำเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ร่างของภูติน้ำค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆ แต่เมื่อตัวหนึ่งเหือดหายไป ก็จะเกิดภูติน้ำอีกตัวหนึ่งขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ หวังและอูนาเริ่มให้การสนับสนุนพวกโจมตีระยะประชิด ด้วยการสร้างพื้นน้ำแข็งบนทะเลสาบที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ เย่ฉางหันไปมอง FrozenCloud ซึ่งอยู่ด้านหลังเรือ มีเพียงภูติน้ำไม่กี่ตัวที่ขึ้นเรือมาได้ ดังนั้นเขาจึงหันมายิงใส่พวกมัน พวกโจมตีประชิดตัวรีบโยนอาวุธมารวมกัน จากนั้นหลินหลี่ก็โยนระเบิดเพลิงระดับสูงใส่บนกองอาวุธ พวกเขาต่างหยิบอาวุธที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟขึ้นมา และกระโดดลงบนลานน้ำแข็ง คอยสกัดกั้นพวกภูติน้ำที่ผ่านเปลวไฟเข้ามาได้
ทุกคนคอยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการยิงจากระยะไกลของเย่ฉ่างช่วยทีมได้เป็นอย่างมาก เปลวไฟที่อยู่บนผิวน้ำอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ และสุดท้ายมันก็ค่อยๆมอดดับลง ทันใดนั้น ก็มีแสงไฟส่องสว่างจ้าบนผิวน้ำ และเปลวไฟก็ค่อยๆลุกโชนออกมา [Light Strike Array]! เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นน้ำแบบนี้ จึงทำให้ความเสียหายของสกิลนี้ลดลงไปอย่างมาก แต่มันก็ยังทำให้ภูติน้ำติดสตั้นได้อยู่ หลินหลี่ใช้โอกาสนี้โยนระเบิดเพลิงระดับสูงออกไป เพื่อทำให้ผิวน้ำเต็มไปด้วยเปลวไฟอีกครั้ง
SpyingBlade ฆ่าภูติน้ำไปหลายตัวด้วยดาบไฟของเขา เขาหันหลังกลับมาและตะโกนว่า “น้ำแข็งกำลังจะแตกแล้ว! ดำเนินการสร้างข้ำแข็งต่อไป! อย่าหยุด! พวกนักเวทอย่าคิดเกี่ยวกับการโจมตี เพียงแค่มุ่งเน้นไปที่การปูทางให้กับพวกเราพอ!”
อูนาร่ายเวทน้ำแข็งยิงลงไปในน้ำ เพื่อสร้างลานน้ำแข็งให้กับพวกเขาอย่างรวดเร็ว หวังเพียงแค่ควบคุมโทบิระมุดลงไปในน้ำและเสกน้ำให้แข็งตัว
ฟางชิยิง [Shadow Arrows] ออกจากไม้เท้าของเขาเหมือนปืนกล และสั่งให้ลูกน้องสองตัวของเขาช่วยโจมตี ในขณะที่เขาก็ร่ายเวทคำสาปใส่ภูติน้ำที่พุ่งเข้ามาใกล้ๆ เขาได้แต่บ่นอยู่ในใจ เพราะค่าความต้านทานคำสาปของพวกภูติน้ำนั้นสูงมาก จนคำสาปแทบไม่ส่งผลกระทบต่อพวกมันเลย
เย่เทียนคอยฮีลให้พวกแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง เธอร่ายเวทโล่ศักดิ์สิทธิ์ให้กับทุกคนแล้วถอนหายใจออกมา ‘มันคงดีกว่านี้ ถ้าทีมเรามีผู้เล่นซัพพอร์ทที่เชื่อถือได้ เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหรือสองคน เพราะพี่ใหญ่เฉียงมีหน้าที่เป็นตัวแท้งค์หลัก ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถช่วยซัพพอร์ทได้และที่สำคัญเวท [Desperate Prayer] ของเขาก็มีประโยชน์อย่างยิ่ง แต่เขาก็แทบไม่ได้มีส่วนช่วยในการซัพพอร์ทเลย’
ภูติน้ำเริ่มปรากฏตัวออกมาเร็วขึ้นและเร็วขึ้น แต่มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่วนอยู่รอบๆเรือ นอกนั้นต่างพุ่งเข้ามาหาเรือทั้งหมด SpyingBlade มองไปที่หลินหลี่และตะโกนบอก “หลินหลี่และเร็นน้อย ทั้งสองกลับไปช่วยอาเฉียงซะ เขาเพียงคนเดียวไม่สามารถจัดการพวกมันได้หมด เราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลุงปาสตอเร่เป็นอันดับแรก ถ้าภูติน้ำโจมตีเขาได้แล้วล่ะก็ …”
“ได้เลย! เร็นน้อยกลับไปช่วยพี่ใหญ่เฉียงกัน!” หลินหลี่ออกคำสั่ง เร็นน้อยจึงพุ่งกลับเรือพร้อมกับถือดาบไฟทั้งสองมือ ภายใต้สายตาที่อิจฉาของ SpyingBlade ด้วยการกระโดดเพียงไม่กี่ครั้งของมัน เร็นน้อยก็ขึ้นมาอยู่บนเรือแล้ว “สร้างลานน้ำแข็งตรงหน้าเร็นน้อยและอาเฉียงซะ!”
อูนาแทบไม่ว่าง เมื่อเห็นว่ามานาของเธอหมดลงหลังจากที่สร้างลานน้ำแข็งไปจำนวนมาก เธอจึงรีบนั่งลงและดื่มยาฟื้นฟูมานา “หวังฝากทางนั้นด้วย …”
หวังก็ยุ่งมาก แต่เขาก็ยังสามารถจัดการได้ เขาอดดีใจไม่ได้ที่ภูติน้ำของเขามีมานาที่เยอะ อีกทั้งยังมีความเร็วในการฟื้นฟูมานาที่สูงอีกด้วย ภูติน้ำของเขายังสามารถร่ายเวทต่อไปได้อีกสักระยะ
จางเจิ้งเฉียงกระโดดลงจากเรือและยืนบนลานน้ำแข็ง เขากับเร็นน้อยเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับภูติน้ำที่พุ่งเข้ามา เขายังเอาตัวบังกระสุนน้ำและลูกศรน้ำแข็งที่พวกภูติน้ำยิงใส่ปาสตอเร่อีกด้วย
ที่ด้านหลังของเรือ ด้วยความช่วยเหลือของเย่ฉาง ทำให้แรงกดดันที่มีต่อ FrozenCloud ค่อยๆลดลง ‘การยิงไกลของเขามันช่างน่ากลัวจริงๆ’ เธอหันกลับมาและพูดว่า “หัวหน้าทีม ฉันสามารถรับมือที่นี้คนเดียวได้แล้ว หัวหน้าทีมไปช่วยด้านหน้าเถอะ!”
เย่ฉางหันกลับและเริ่มเปิดใช้โหมดยิงเร็วสาดกระสุนออกไปยังด้านหน้าของเรือ กระสุนไฟพุ่งเข้าใส่พวกภูติน้ำดั่งห่าฝน แถบค่า Exp ของพวกเขาค่อยๆพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง SpyingBlade ถอนหายใจด้วยความโล่งอก การได้รับค่า Exp เช่นนี้ มันช่างรู้สึกดีมากๆ ภูติน้ำเหล่านี้เป็นมอนเตอร์ชั้นสูงทั้งหมด ทำให้ได้รับค่า Exp ที่สูงมาก!
อัตราการเกิดของภูติน้ำค่อยๆลดลง พื้นผิวของทะเลสาบเริ่มเงียบสงบลง ทะเลแห่งเปลวไฟค่อยๆมอดดับ และพื้นผิวของทะเลสาบถูกปกคลุมไปด้วยซากศพภูติน้ำ ทุกคนต่างถอนหายใจออกมา SpyingBlade ขมวดคิ้ว “ทุกคนอย่าเพิ่งลดการป้องกันลง…”
“ถูกต้อง …” เย่ฉางตรวจสอบทะเลสาบด้วยสกิล [Eagle Eyes] ทันใดนั้น ปลาสายฟ้าก็ปรากฏตัวขึ้นมา มันพุ่งเข้าไปกำลังจะงับเหงื่อบนตะขอเบ็ดของปาสตอเร่ แต่ในเวลานั้น ผิวทะเลสาบเริ่มกระเพื่อมอย่างรุนแรง และแผ่พลังทางจิตวิญญาณบางอย่างออกมา SpyingBlade และคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆต่างสังเกตเห็นว่า มีแอ่งน้ำวนขนาดมหึมาเกิดขึ้น ทุกคนจึงรีบวิ่งหน้าตั้งกลับเรือ ลานน้ำแข็งค่อยๆถูกดูดลงในน้ำวนทีล่ะแผ่นๆ
SpyingBlade ซึ่งอยู่ใกล้กับน้ำวนมากที่สุด เขารู้สึกว่าหนีไม่ทันแล้วแน่ๆ ลานน้ำแข็งที่อยู่ใต้เท้าเขาค่อยๆถูกดูดลงไปในน้ำวน ทันใดนั้นเย่ฉางก็ผิวปาก เจ้าฟ้าน้อยที่เกาะอยู่บนเรือก็บินออกไปหา SpyingBlade อย่างรวดเร็ว เขารีบกระโดดจับกรงเล็บของเจ้าฟ้าน้อยไว้ ก่อนที่ลานน้ำแข็งจะถูกดูดลงในน้ำวน
เจ้าฟ้าน้อยเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นอีก และลาก SpyingBlade ไปทางเรือ แต่เนื่องจากเจ้าฟ้าน้อยยังไม่โตเต็มที่ มันจึงยังไม่สามารถแบกรับน้ำหนักของเขาได้นาน SpyingBlade จึงคอยเหยียบลานน้ำแข็งอันอื่นๆเพื่อดีดตัวขึ้นไปเป็นระยะๆ จนในที่สุดเขาก็มาถึงบนเรือ ‘ฟู่! เฉียดฉิวชะมัด! โชคดีที่เรามีเจ้าฟ้าน้อย’ เขายิ้มให้เจ้าฟ้าน้อย “ขอบคุณนะ …”
“ไอซื่อบื้อ! ไอซื่อบื้อ!” เจ้าฟ้าน้อยพูดเหมือนนกแก้ว
SpyingBlade หลั่งเหงื่อเย็นออกมา ‘หัวหน้าทีมคงสอนให้มันพูดอย่างนี้ทุกวันแน่ๆ?’ จากมุมมองหนึ่งของสายตาของเขาเห็นว่า ยังมีสัตว์เลี้ยงอีกตัวหนึ่งที่กำลังเต้นเชียร์อยู่บนเรือ นั่นก็คือเจ้าซอสอ่อน! ‘สมกับเป็นสัตว์เลี้ยงของหัวหน้าทีมจริงๆ …’
ทุกคนมองไปที่แอ่งน้ำวนอย่างรวดเร็ว แต่ปาสตอเร่ยังคงจดจ่ออยู่กับการตกปลาของเขาต่อไป ความสงบของเขาทำให้ SpyingBlade และคนอื่นๆรู้สึกหงุดหงิด
ทันใดนั้น มีน้ำจำนวนมหาศาลพุ่งออกมาจากแอ่งน้ำวน และน้ำทั้งหมดก็ค่อยๆรวมตัวกันจนเกิดเป็นภูติน้ำขนาดใหญ่เกือบ 16 เมตร ลำตัวท่อนบนของมันโผล่พ้นออกมาเหนือน้ำ พร้อมกับมีกำไลยักษ์สวมบนแขนของมัน ส่วนลำตัวท่อนล่างของมันยังคงเชื่อมติดกับทะเลสาบ
เย่ฉางรีบระบุตัวตนของมัน
Lake Water Elemental Lord (Advanced Boss – Elemental – Abyss): หัวหน้าของเหล่าภูติน้ำที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ พลังโจมตีของมันไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ แต่เมื่อตอนมันโกรธ พลังโจมตีของมันจะสูงมากๆ น้ำในร่างของมันสามารถใช้ทำน้ำยาฟื้นฟูมานาระดับสูงได้ถ้าคุณสามารถแยกน้ำออกจากตัวมันได้ล่ะก็นะ! มันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้
บอสภูติน้ำเหวี่ยงกำปั้นของมัน ส่งคลื่นน้ำพุ่งเข้าหาทุกคนบนเรือ เย่ฉางร่ายเวท [Tidal Wave] และยิงออกไปอย่างรวดเร็ว คลื่นน้ำเล็กๆของเย่ฉางพุ่งเข้าปะทะคลื่นยักษ์ของบอส ทำให้คลื่นยักษ์แยกออกเป็นสองส่วน และเฉียดผ่านทั้งสองด้านของเรือไป ตัวเรือโยกไปมาเล็กน้อย แต่ไม่มีปัญหาใหญ่อะไรเกิดขึ้น
“พวกนักเวทสร้างเส้นทางน้ำแข็งมุ่งหน้าไปหาบอส! หลินหลี่ โยนระเบิดเพลิงระดับสูงใส่อาวุธพวกเราอีกครั้ง!” SpyingBlade รีบโยนอาวุธออกไป พวกโจมตีประชิดตัวก็รีบโยนอาวุธออกไปรวมกับของ SpyingBlade จากนั้นหลินหลี่ก็โยนระเบิดเพลิงระดับสูงใส่กองอาวุธ หวังกับอูนารีบร่ายเวทน้ำแข็งยิงไปที่ผิวน้ำ ลานน้ำแข็งปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ คนอื่นๆกระโดดลงบนลานน้ำแข็งและรีบวิ่งไปหาบอสภูติน้ำ
“FrozenCloud เธอและฉันจะคอยคุ้มกันปาสตอเร่อยู่ที่นี่” เย่ฉางบอก FrozenCloud ให้อยู่บนเรือกับเขา เขาไม่แน่ใจว่าจะสามารถจัดการกับพวกภูติน้ำที่เหลืออยู่ได้เพียงลำพังไหม! เพราะอูนาและหวังไม่มีทางที่จะจัดการกับภูติน้ำได้เลย
ตอนที่ 456
เมื่อเย่ฉางพูดกับ FrozenCloud เสร็จแล้ว เขาก็รีบหยิบคริสตัลไฟระดับสูงที่ได้มาจากบอสใส่ลงในบาลิสต้า และพาดมันไว้บนหลัง
จางเจิ้งเฉียงฟาดขวานยักษ์ที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟใส่แขนของบอสภูติน้ำ จนทำให้เกิดเป็น ไอน้ำลอยขึ้นมา หลินหลี่โยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงจำนวนมากใส่บอสภูติน้ำ จนเกิดไอน้ำจำนวนมากโพยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังจากการที่ร่างของมันโดนเผาไหม้ไปทั่วทั้งตัว
อูนาและหวังจดจ้องอยู่กับการสร้างลานน้ำแข็งให้กับพวกเขา ในขณะที่ค่อนข้างกระวนกระวายใจ SpyingBlade ขมวดคิ้วขึ้น ‘หรือว่าบอสตัวนี้จะเป็นบอสอีเว้นท์’ เขาเหวี่ยงดาบที่ลุกเป็นไฟของเขาใส่บอสอย่างรุนแรง
แม้แต่ปลาสายฟ้าก็ยังตกใจกลัว แต่มันก็ยังคงพุ่งเข้าไปหาเหยื่ออย่างต่อเนื่องอยู่
FrozenCloud กระโดดลงจากเรือ เพื่อไปจัดการกับภูติน้ำที่เริ่มปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง เธอพุ่งเข้าไปต่อยภูติน้ำด้วยกรงเล็บที่ลุกเป็นไฟของเธอ [Triple Strike]! หลังจากนั้นเธอระดมใช้สกิลใส่มันอีกสองชุด เย่ฉางเห็นว่า FrozenCloud ไม่มีปัญหาในการรับมือกับภูติน้ำสองหรือสามตัว เขาจึงดึงบาลิสต้าออกมาเล็งและยิงออกไป [Enchanted Arrow – Fire – Explosive]! ลูกศรเหล็กในราชินีผึ้งคากูที่ลุกเป็นไฟพุ่งออกไปทันที
ลูกศรเหล็กในราชินีผึ้งคากูที่ลุกเป็นไฟพุ่งปักหน้าอกของบอสภูติน้ำ และเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จนเกิดหลุมลึกขนาดใหญ่สองเมตรตรงที่หน้าอกของมัน ขณะที่เปลวไฟลุกไหม้ไปทั่วทั้งหลุม เย่ฉางใช้โอกาสนี้ในการยิงเวท [Flame Burst] ใส่ตรงที่จุดเดิม ทำให้หลุมลึกบนหน้าอกของบอสภูติน้ำขยายกว้างขึ้นมา จากนั้นเขาก็ดึงหนังสือเวทมนตร์ออกมาและเปิดใช้สกิล [Rapid Fireballs] ที่กักเก็บไว้ในหนังสือยิงออกไป ลูกไฟห้าลูกพุ่งใส่ตรงที่จุดเดิมอีกครั้ง ตามด้วยร่ายสกิล [Light Strike Array] ที่เพิ่งคูลดาวน์เสร็จพอดี เปลวไฟลุกโชนขึ้นมาจากแอ่งน้ำวนสูงเกือบ 10 เมตร และปกคลุมบอสภูติน้ำอย่างสมบูรณ์
เย่ฉางยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เขาชักปืนคู่ออกมาและเปิดใช้งานโหมดยิงเร็วรั่วกระสุนใส่บอสไม่ยั้ง เขาถอนหายใจออกมา เวทมนตร์ธาตุไฟทั้งหมดของเขาใช้เวลาคูลดาวน์ที่ค่อนข้างนานมาก ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งพาอาวุธของเขาเท่านั้น เขาหวังว่าปาร์ตี้ของเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากการระเบิดนี้ เพื่อสร้างความเสียหายแก่บอสให้ได้มากที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนก็ตระหนักได้ว่าบอสดูอ่อนแอลงจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนร่างกายของมันที่กระเด็นออกไปจากแรงระเบิด ก็ค่อยๆงอกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วด้วยน้ำในทะเลสาบ การฟื้นฟูพลังชีวิตของมันนั้นสูงเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่พวกเขามีขวดระเบิดเพลิงระดับสูงของหลินหลี่ ที่ช่วยยับยั้งการฟื้นฟูพลังชีวิตของมันได้อยู่ แต่พวกเขาก็ใช้ขวดระเบิดเพลิงระดับสูงไปเยอะมากแล้ว และมันอาจจะหมดลงก่อนที่บอสจะตายไป เมื่อถึงตอนนั้น ไม่รู้ว่าพวกเขาจะสู้บอสต่อไหวไหม!
บอสภูติน้ำสร้างลูกบอลน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนและปาออกมา FrozenCloud รีบพุ่งไปอยู่ด้านหน้าปาสตอเร่และบล็อคลูกบอลน้ำ 3 ลูกที่พุ่งเข้ามาหาเขา ทำให้เธอสูญเสียพลังชีวิตไปถึง 80% โชคดีที่ลูกบอลน้ำเหล่านี้กระจัดกระจายไปทั่ว แม้ว่ามันจะสร้างความเสียหายจำนวนมากให้กับทุกคน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าพวกเขาได้ เย่เทียนรีบฮีล FrozenCloud, อูนา และหวังอย่างรวดเร็ว ส่วนพวกแนวหน้าก็ได้รับการฮีลจากสกิล [Desperate Prayer] ของจางเจิ้งเฉียง
จางเจิ้งเฉียงยังคงดึงค่าความโกรธของบอสไว้ได้อยู่ แต่จู่ๆเขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนใต้ฝ่าเท้า เขาจึงรีบกระโดดไปยืนบนลานน้ำแข็งอีกอันหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆแทน เสาน้ำพุ่งออกมากระแทกลานน้ำแข็งอันที่เขาเคยยืนอยู่ จนลอยสูงขึ้นไปเกือบสามสิบเมตร
เร็นน้อยทำตัวเป็นเหมือนแมลงปอ มันกระโดดโจมตีใส่บอสในขณะที่กระโดดจากลานน้ำแข็งจากอันนี้ไปอันโน้นอย่างต่อเนื่อง SpyingBlade ไม่มีพลังในการกระโดดเหมือนเร็นน้อย แต่เขาก็ยังเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากที่มานาของอูนาและหวังค่อยๆหมดลงและยังฟื้นฟูไม่ทัน ลานน้ำแข็งก็ค่อยๆมีจำนวนน้อยลงๆ หัวใจ SpyingBlade ทรุดฮวบ ‘พวกนักเวทมานาหมดแล้วหรือ!?’ เขาจึงรีบตะโกนบอก “พวกนักเวทรีบฟื้นฟูมานาก่อนเลย! ลานน้ำแข็งที่เหลืออยู่ ยังทำให้เราสู้ไปได้อีกสักพัก! เย่เทียนคำนวณเวลาที่ลุงปาสตอเร่ตกปลาสายฟ้าได้ด้วยนะ และให้พวกเขาฟื้นตัวให้ได้มากที่สุด!”
เย่เทียนพยักหน้า แม้ว่า SpyingBlade จะไม่บอกเธอ แต่เธอก็มักจะคำนวณทุกอย่างอยู่ในหัวของเธอไว้แล้ว เธอมองกระแสไฟฟ้าที่วูบวาบอยู่ใต้น้ำและคำนวณออกมา อีกเพียงเจ็ดวินาทีจนกว่าปลาสายฟ้าจะมาถึงเหยื่อ! แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถฆ่าบอสตัวนี้ได้! แต่อย่างน้อยพวกเขาต้องทำเควสให้สำเร็จ และล่าถอยออกไปอย่างปลอดภัยให้ได้! พวกเขาต้องยื้อเวลาไว้ให้ได้มากที่สุดจนกว่าจะถึงช่วงเวลานั้น!
เย่ฉางผิวปากอีกครั้ง เจ้าฟ้าน้อยบินออกไปและกระพือปีกปล่อยสายลมหนาวออกมา เพื่อสร้างลานน้ำแข็งให้กับทุกคน กระแสน้ำที่อยู่รอบๆตัวบอสกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด!
SpyingBlade ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากำลังคิดจะถอยหนีออกมา เพราะไม่มีลานน้ำแข็งให้เหยียบแล้วอยู่พอดี เขารีบกระโดดขึ้นไประดมการโจมตีใส่บอสอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้น แอ่งน้ำวนภายใต้ร่างบอสภูติน้ำเริ่มหมุนเร็วขึ้น ช่วงระยะของมันยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงชั่วพริบตา ทุกอย่างภายในระยะร้อยเมตรรอบๆตัวบอส ต่างถูกปกคลุมไปด้วยแอ่งน้ำวน เรือก็แล่นไปตามกระแสน้ำและเริ่มหมุนรอบๆแอ่งน้ำวน หัวใจของทุกคนดิ่งลง ‘เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แล้ว! ระยะของน้ำวนกว้างเกินไป!’
เมื่อปลาสายฟ้างับลงบนเหยื่อ คิ้วของปาสตอเร่ยกขึ้นมา เขารีบม้วน, ลาก, ม้วนแล้วออกแรงดึง! จากนั้นเขาดึงคันเบ็ดอย่างแรง ในขณะที่ปลาสายฟ้าลอยอยู่ในอากาศและพุ่งตกลงบนเรือ เขาตีหัวมันให้สลบและโยนมันลงในตะกร้า จากนั้นเขาก็หยิบเอาสมุดบันทึกออกมา แล้วเริ่มวาดภาพและบันทึกข้อมูลต่างๆ ทันใดนั้น แอ่งน้ำวนขนาดมหึมาก็ยิงเสาน้ำขนาดใหญ่ออกมากระแทกทุกคนที่อยู่บนลานน้ำแข็งและเรือลอยขึ้นไปบนฟ้า แต่ปาสตอเร่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย เขายังคงนั่งอยู่กับที่อย่างมั่นคง เพื่อจดบันทึกข้อมูลลงในสมุดบันทึกการตกปลาของเขา
พลังชีวิตของเย่ฉางลดลงอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ นอกจากชื่นชมความอุทิศตนการต่อตกปลาของปาสตอเร่ ขนาดช่วงเวลาเป็นตายแบบนี้ เขาก็ยังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการบันทึกข้อมูลของปลาสายฟ้า เมื่อพวกเขาและเรือลอยขึ้นมาเกือบ 50 เมตรในอากาศ เย่ฉางทำให้ร่างกายของเขามั่นคง และกระโดดออกจากเรือ เขาเปิดใช้งานสกิล [Cloudwalk] เพื่อกระโจนไปยังลานน้ำแข็งที่ลอยอยู่กลางอากาศอันหนึ่งไปยังอันหนึ่ง เขากระโดดแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่องราวกับว่ากำลังแสดงหนังอยู่ FrozenCloud เห็นเย่ฉางกระโดดไปมา ขณะที่เธอยังคงลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศอยู่เลย เขาทั้งกระโดดไปด้วยและกินอาหารทหารไปด้วย ‘การควบคุมร่างกายของหัวหน้าทีมเป็นเรื่องผิดปกติมากเกินไป เขาสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!? อย่างไรก็ตาม การที่เขาทำแบบนี้ได้ อาจเพราะด้วยความช่วยเหลือจากสกิลเพิ่มความเร็วของเขา’
ขณะที่ SpyingBlade ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก จนเหลือพลังชีวิตเพียง 20 Hp เขาก็สังเกตเห็นเย่ฉางดำเนินการบางอย่าง เขามองเห็นเย่ฉางกลายเป็นเงาที่พุ่งเข้าไปหาบอสภูติน้ำ จางเจิ้งเฉียงรีบเปิดใช้งานสกิล [Desperate Prayer] ที่กักเก็บไว้ในแหวนของเขา เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตของพวกโจมตีระยะประชิดที่อยู่ใกล้ๆเขาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็รีบหยิบอาหารทหารออกมากินทันที SpyingBlade ถอนหายใจ ‘สกิล [Desperate Prayer] + อาหารทหาร ตราบใดที่พวกเขายังไม่ตายก็คงไม่มีปัญหาใดๆ’
สำหรับอูนาและพวกใช้เวทคนอื่นๆ พวกเขาไม่มีโชคสักเท่าไหร่ ด้วยเกราะผ้าที่มีพลังป้องกันน้อยของพวกเขา หากไม่มีมานาเพื่อร่ายเวทป้องกันตนเองแล้ว พวกเขาทั้งหมดจึงถูกเสาน้ำกระแทกจนตายไป เย่เทียนที่ลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อเธอหล่นลงมาบนเรือ เธอเห็นพลังชีวิตของเธอเหลืออยู่เพียงแค่ 5 Hp เท่านั้น เธอหลั่งเหงื่อเย็นออกมา จากนั้นเธอจึงรีบฮีลตัวเองและกินอาหารทหารอย่างรวดเร็ว ‘โชคดีที่ฉันเปิดใช้งานสกิลโล่ศักดิ์สิทธิ์ของไม้เท้าได้ทัน มิฉะนั้นแล้ว ฉันจะเป็นเหมือนพี่สาวนานะและผู้ใช้เวทคนอื่นๆ’ เธอมองไปที่ซากศพผู้ใช้เวททั้งสามคนที่ถูกกระแสน้ำพัดลอยออกไป
เย่ฉางร่ายสกิล [Flame Lotus] ลงบนหอก และพุ่งโจมตีบอสด้วยสกิล [Multiple Straight Thrust] ดอกบัวเพลิงสามดอกพลิบานบนตัวบอส และเกิดหลุมลึกเล็กๆไปเต็มไปด้วยเปลวไฟจากนั้นเขาก็เหยียบลานน้ำแข็งที่อยู่ใกล้ๆดีดตัวออกมา “พวกเราถอยได้แล้ว เราทำเควสสำเร็จแล้ว …”
เย่ฉางกระโดดลงไปในน้ำและเริ่มว่ายน้ำกลับไปที่เรือด้วยความเร็วเหมือนพวกปลา
SpyingBlade ถอนหายใจ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะขวดระเบิดเพลิงระดับสูงของหลินหลี่ก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย ถึงแม้ว่าบอสจะยังมีพลังชีวิตเหลืออยู่เพียงนิดหน่อยก็ตาม แต่ด้วยการที่มันมีความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตที่สูงมาก ขวดระเบิดเพลิงระดับสูงที่เหลืออยู่ของหลินหลี่ คงไม่พอที่จะยับยั้งมันได้อีกต่อไปได้
ปาสตอเร่ไม่มีผลกระทบใดๆจากการที่เรือโดนเสาน้ำกระแทกจนส่ายไปมาอย่างแรงเลย เขาไม่ได้สูญเสียความสมดุลทางร่างกายเลย จู่ๆเขาก็หยิบเอาสิ่งที่ทุกคนสงสัยว่าเป็นปืนใหญ่ออกมาและยิงไปทางบอส เย่ฉางและคนอื่นๆที่ยังอยู่บนลานน้ำแข็งรีบมุดลงในน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการยิงนี้ เย่เทียนและ FrozenCloud ที่อยู่บนเรือเห็นว่า เมื่อบอสภูติน้ำโดนยิง มันค่อยๆหดตัวลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีไอน้ำจำนวนมหาศาลพ่นออกมา ในที่สุดมันก็ตายลงไป โดยทิ้งสิ่งที่เหลือไว้คือกำไลคู่ขนาดใหญ่
[ขอแสดงความยินดี คุณได้ฆ่า Lake Water Elemental Lord ได้รับ Exp 4500 ]
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น