Virtual World – Peerless White Emperor 416-422
ตอนที่ 416
[ขอแสดงความยินดี คุณได้รับพรจากเทพธิดาแจม +3 Wisdom, +2% Will และมีโอกาสที่จะได้รับสกิลประเภทพืช เนื่องจากเทพธิดาแจมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณได้มอบความสุขให้กับเธอ ดังนั้นเธอจึงมอบพรพิเศษแก่คุณ …]
[ขอแสดงความยินดี คุณได้เรียนรู้สกิล Flowers in the Wind]
Flowers in the Wind (Jam – Beginner Level): ร่าย 3 วลี (ประมาณ 2 วินาที) และก่อให้เกิดสายลมที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ซึ่งช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตในระยะพื้นที่ พันธมิตรจะสามารถฟื้นฟูพลังชีวิต 7 Hp ต่อวินาที เป็นเวลา 20 วินาที และมีโอกาสที่จะลบล้างดีบัฟที่สร้างความเสียหายได้ ใช้ 35 มานา คูลดาวน์ 20 นาที
[ขอแสดงความยินดี คุณได้รับพรพิเศษ คุณได้เรียนรู้สกิล Jam’s Plant Techniques]
Jam’s Plant Techniques (Jam – Beginner Level)
Jam – Planting Skill : สามารถค้นหา, ระบุและรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชได้ สามารถเพาะปลูกและขยายพันธุ์ได้
Jam – Rapid Growth : สามารถใช้กับพืชในพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อช่วยเร่งระยะเวลาการเจริญเติบโตได้ (สามารถเเร่งการเจริญเติบโตและไม่สามารถซับทับได้ ถ้าหากอยู่ในระยะช่วงซ้อนทับกัน จะเกิดผลเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น และจะมีผลระยะเวลาคือจนกว่าพืชจะโตเต็มวัย)
เย่ฉางรู้สึกพอใจมาก ทักษะการปลูกพืชคือการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบกับทักษะการทำอาหารของเขา เมื่อมีมันอยู่ในมือของเขา เอฟเฟคของมันไม่ได้เป็นเพียงแค่ 1 +1 = 2 หรือ 1 + 1 = 3 แต่มันคือ 1 + 1 = N! มันมีความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด!
ทุกคนมองไปยังเย่ฉางที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข แน่นอนว่าทุกคนต่างรู้ดีว่า เขาต้องกำลังคิดอะไรที่ปัญญาอ่อนอยู่แน่ๆ …
ในเวลานี้ ภายในวิหารเริ่มส่องแสงสว่างมากยิ่งขึ้น ภาพเงาของเทพธิดาทั้งสามได้ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าต่อตาทุกคน OldWangFromNextDoor จ้องมองด้วยความหื่นกระหาย ตามที่คาดไว้ของสามเทพธิดาทั้งสาม ความงามแบบหยิ่งยะโสของอันย่า, ความสง่างามของแมลโล, ความงามอันแสนบริสุทธิ์ของแจม หลินหลี่ได้วัดขนาดหน้าอกของพวกเธอได้อย่างรวดเร็ว จนได้ข้อสรุปว่าหน้าอกของพวกเธอมีขาด F, D + และ E ตามลำดับ
“นักรบผู้กล้าหาญ ขอบคุณทุกท่านที่ทำให้วิหารของเราสามพี่น้องเป็นอิสระ ถ้าเป็นไปได้ เราหวังว่าคุณจะช่วยเราฟื้นฟูวิหาร และนำไปสู่ความรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกครั้ง เพื่อที่จะช่วยให้เราสามารถปกป้องผู้คนในแบล็กพีคต่อไปได้ …” การหายใจหนักๆของแจมเริ่มค่อยๆเบาลงอย่างช้าๆ
“แจม ในตอนนี้หุบเขาแห่งความรุ่งโรจน์ของเราได้ถูกยึดครองโดยพวกแมลงแล้ว ความสำคัญสูงสุดของเราในตอนนี้ก็คือ การขอให้นักรบผู้กล้าหาญเหล่านี้ รวบรวมเหล่านักรบทั้งหลายมาช่วยกวาดล้างพวกแมลงออกไปให้หมดก่อน …” อันย่ากล่าว
“อันย่าพูดถูกแล้ว นักรบผู้กล้าหาญทั้งหลาย คุณจะช่วยเราแบกรับภาระในการกวาดล้างพวกแมลง และกู้คืนหุบเขาแห่งความรุ่งโรจน์กลับคืนมาได้หรือไม่” แมลโลมองไปที่ทุกคนและถามอย่างจริงจัง
เย่ฉางเริ่มคิดคำนวณในใจ รางวัลของเควสนี้น่าจะมากมายมหาศาล แต่พวกเขาจะทำการชำระล้างหุบเขาแห่งความตายได้หรือไม่? แค่ลำพังการฟื้นฟูวิหารทั้งสาม มันก็เหมือนกับการสร้างเมืองบาลอีกสามแห่ง พวกเขาจะสามารถจัดการกับมันได้หรือไม่? เขามองไปที่เหรัญญิกน้อยเย่เทียน
เย่เทียนคิดสักครู่แล้วพยักหน้า
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรตินี้ …” เย่ฉางยอมรับเควสนี้
[ขอแสดงความยินดี คุณได้รับเควสระดับ Epic ‘การฟื้นฟูวิหารของเทพธิดาทั้งสาม’ คุณต้องช่วยพวกเธอสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ และช่วยรวบรวมผู้ศรัทธาพร้อมกับปลดปล่อยหุบเขาแห่งความตายจากพวกแมลงและสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย ระยะเวลา:ไม่จำกัด รางวัล:ไม่ทราบ]
“รวบรวมผู้ศรัทธา …” เย่ฉางขมวดคิ้ว การแข่งขันระหว่างสมาคมในเมืองแบล็กร็อคนั้นสูงมาก และเหล่าเทพธิดาทั้งสามก็เงียบหายไปนานเกือบพันปีแล้ว แต่พวกเธอยังคงต้องการผู้ศรัทธากลับคืนมา เขารู้สึกเหมือนว่าไม่สามารถที่จะทำเควสนี้สำเร็จได้ เป็นที่รู้กันดีว่า สมาคมอื่นๆต่างมีอาจารย์สอนทักษะให้และมีเควสที่ล่อตาล่อใจมากมาย แล้วเขาจะเอาแรงจูงใจที่ไหนไปชักชวนและรวบรวมผู้คนมาได้ …
“ไม่ต้องกังวลไปเลย พวกเราได้กลับมาแล้ว และลูกหลานของผู้ศรัทธารุ่นก่อนๆ ก็ได้รับข้อความจากเราแล้ว พวกเขาควรรีบเร่งและช่วยเหลือคุณในการรวบรวมบรรดาผู้ศรัทธาที่เหลือ …” แมลโลยิ้ม
เย่เทียนเข้าใจความหมายของเธอไม่มากก็น้อย สมกับเป็นเหล่าเทพธิดาที่ได้รับการเคารพบูชาจริงๆ พวกเธอเปรียบเสมือนเป็นไอดอลที่ยังมีแฟนคลับแดนตายหลายคน ถึงแม้วิหารจะถูกทำลายไปแล้วก็ตาม แต่พวกเธอก็ยังคงให้พรแก่ลูกหลานของเหล่าแฟนคลับแดนตายอยู่เสมอ ตระกูลที่ได้พรจากพวกเธอจะต้องเป็นตระกูลที่ทรงพลัง … แบบที่มีมานานหลายชั่วอายุคน แม้ว่าพวกเธอจะต้องทำอย่างลับๆก็ตาม “ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในวิหารทั้งสาม เทพธิดาทั้งสามรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เทพธิดาทั้งสามต่างส่ายหัว
เย่เทียนจึงอธิบายสิ่งที่เธอได้อ่านจากหนังสือโบราณให้ฟัง เทพธิดาทั้งสามต่างขมวดคิ้ว อันย่าเงยหน้าขึ้น “ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นการกระทำของนิกายซาชิน่าที่น่าขยะแขยงนั่น …”
เย่เทียนพอเข้าใจเล็กน้อย มันเป็นนิกายขนาดใหญ่ในถิ่นทุรกันดารที่บูชาเทพธิดาซาชิน่า ซึ่งเป็นเทพธิดาที่โหดเหี้ยมและไร้ความปรานี เมื่อวิหารทั้งสามถูกทำลาย เหล่าผู้ศรัทธาของพวกเธอถูกไล่ฆ่า จนพวกเขาต้องหนีไปยังถิ่นทุรกันดารทางตอนเหนือและไม่ได้หวนกลับคืนมาอีกเลย พร้อมด้วยสงครามต่อเนื่องระหว่างอาณาจักรพลาเนทารี่กับอาณาจักรเหล็กไหล พวกเขาก็ยุ่งมากที่จะใส่ใจกับนิกายนี้ … เมืองแบล็กร็อคส่วนใหญ่ยังไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแบล็กพีค ไม่มีสมาคมใดที่ต้องการจัดการกับความวุ่นวายนี้ จนหุบเขาแห่งความรุ่งโรจน์แต่เดิม เริ่มเปลี่ยนเป็นหุบเขาแห่งความตายไป …
“ในที่สุด เราก็จะได้แก้แค้นพวกมันเสียที แต่ก็ไม่ใช่ในตอนนี้ …” แมลโลยิ้มอย่างเยือกเย็น
เย่ฉางยังคงคิดถึงวิธีกระจายการโฆษณาชวนเชื่อและแข่งขันดึงตัวผู้คน เขาหายใจเข้าลึกๆ และเข้าสู่โหมด ‘ตัดสินใจในหนึ่งวินาที’ เขากอดอกและมองขึ้นไปในความคิดหนึ่งวินาทีนั้น แล้วก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา เขาเดินมาหาเทพธิดาทั้งสามและพูดว่า “เทพธิดาทั้งสามโปรดยืนแนบชิดกันหน่อย …”
สามเทพธิดายืนชิดกันอย่างสับสน เย่ฉางดึงเสื้อผ้าของอันย่าลง เพื่อเผยให้เห็นหน้าอกเกือบครึ่งของเธอ แล้วเอามือของแมลโลกอดเอวของอันย่าไว้ จากนั้นเขาก็ให้แจมใช้มือข้างหนึ่งบีบก้นอันย่า ส่วนมืออีกข้างก็ให้โอบมาจับนมอันย่าจากด้านหลัง เขาพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อทำให้เทพธิดาทั้งสามเผยส่วนโค้งเว้าให้มากที่สุด สิ่งนี้ทำให้สามเทพธิดาโกรธอย่างมาก เย่ฉางถอนหายใจและปั้นสีหน้าจริงจัง เขารีบอธิบายให้พวกเธอรู้ว่า บรรดาผู้ชายยุคใหม่ทุกคนชอบสิ่งนี้ เขาพ่นเรื่องโกหกเกี่ยวกับเทคนิคการตลาดต่างๆนา! เขาเริ่มที่จะหลอกพวกเธอด้วยการแสดงออกที่จริงจังของเขา เขาโนมน้าวพวกเธอโดยอ้างเหตุผลว่า เนื่องจากพวกเธอสูญหายไปนานกว่าพันปี ทุกอย่างในตอนนี้จึงเปลี่ยนไปมาก สิ่งไหนที่พอจะทำได้ก็ต้องรีบทำ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการฟื้นฟูวิหารทั้งสามของพวกเธอ เขาถึงขนาดกล้าสาบานต่อสวรรค์และโลก และเขายังได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ – หลินหลี่ ผู้ซึ่งเห็นด้วยกับเย่ฉางอย่างบริสุทธิ์ใจ หลินหลี่มองไปที่เย่ฉางราวกับได้เห็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดตัวจริง จนเทพธิดาทั้งสามเชื่อมั่นพวกเขาทั้งสองคนเป็นอย่างมาก เทพธิดาทั้งสามพยักหน้าให้เย่ฉางและได้พูดขอโทษต่อเขา จากนั้นเย่ฉางก็ให้อูนา, FrozenCloud และ SpyingBlade ที่มีทักษะการวาดภาพ เริ่มวาดภาพเทพธิดาทั้งสามที่ยืนโพสท่ากันอยู่ (สำหรับไว้แจกจ่ายให้ NPC) เย่ฉางทำตัวเหมือนช่างภาพ คอยถ่ายภาพต่างๆด้วยกล้องเสมือนจริงของเขา (สำหรับไว้แจกจ่ายให้ผู้เล่น)
OldWangFromNextDoor และจางเจิ้งเฉียงจ้องเขม็งไปพร้อมกับปากที่อ้าพะงาบๆ ขณะที่ เย่ฉางเดินเข้ามาดึงเสื้ออันย่าลงอีก เผยให้เห็นหน้าอกคัฟ F ของเธอมากขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงมืออาชีพ “แอ่นอกให้มากขึ้นอีกหน่อย มองมาทางฉันแล้วยิ้มให้เซ็กซี่ที่สุด … สมบูรณ์แบบ ! ดีมาก!”
เย่ฉางเอารูปถ่ายให้เธอดู “เป็นไงบ้าง?”
อันย่าพยักหน้าอย่างอายๆ ในทางตรงกันข้าม เย่ฉางกลับเป็นคนที่ไม่พอใจและตะโกนว่า “นี่ยังไม่ดีพอ! ลองอีกครั้ง! คุณต้องปล่อยความเซ็กซี่ของตัวเองออกมามากๆอีกหน่อยสิ! แสดงด้านป่าเถื่อนของคุณออกมา! คุณไม่ใช่ลูกแมวน้อยนะ! ลองอีกที!”
“คราวนี้เผยให้เห็นหน้าอกให้มากขึ้น จากนั้นก็ให้ยิ้มแบบหยิ่งยะโสแต่แฝงความเซ็กซี่เล็กๆออกมา …” เย่ฉางแสดงให้เห็นเธอดูอีกครั้ง การแสดงออกของเขาจริงจังและเป็นมืออาชีพมาก สมองของอันย่าประสบปัญหาในการประมวลผลทั้งหมด แต่เธอก็ทำตามคำพูดของเย่ฉางอย่างจริงจังและโพสท่าออกมาอีกครั้ง
“ไม่เลว …” เย่ฉางเอารูปถ่ายให้เธอดูอีกครั้ง อันย่าก็พอใจเป็นอย่างมาก แถมเธอยังดูตื่นเต้นอีกด้วย
“ด้วยแผนการโฆษณาด้วยสาวงามนี้ เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลในการหาผู้ศรัทธาอีกต่อไป!” เย่ฉางมองดูผลงานศิลปะของเขาและพูดอย่างจริงจัง เขายิ้มราวกับว่า เขาปฏิบัติต่อผลงานของเขาเหมือนเป็นลูกของตัวเอง ซึ่งทำให้อันย่าพยักหน้าอย่างอายๆ อีกสองเทพธิดาไม่สามารถระงับความอิจฉาได้ ทั้งสองคนร้องขอรูปภาพของตัวเองจากเขา
อูนาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ผู้ชายคนนี้กำลังเรื่องชั่วร้ายให้ดูเป็นเรื่องดี ถ้าเธอไม่รู้จักกับเขามาก่อนล่ะก็ เธอก็อาจจะคิดว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ
ตอนที่ 417
“หนูคิดว่าเราควรจะปรับโฉมให้เทพธิดาแจมดูทันสมัยหน่อยนะ…” ลูกสาวแดนตายของเย่ฉาง เย่เทียนเสนอขึ้นมา
“อืม เธอพูดมีเหตุผล…” เย่ฉางคว้าผมที่ตรงยาวของเทพธิดาแจม และตรวจสอบมันอย่างมืออาชีพ “เทพธิดาแจม ตามฉันมาทางนี้หน่อย…”
เย่ฉางนำเทพธิดาแจมและทีมงานภาพวาดระดับโปรเฟสชั่นแนลของเขาเดินออกมานอกวิหารเขาใช้วิหารที่พังทลายเป็นฉากหลัง จากนั้นเขาเอาชุดช่างตัดผมออกมา เขาตัดผมสไตล์ยุโรปให้กับเทพธิดาแจมแบบฟรีๆ หลังจากนั้นไม่นาน ความงดงามของเทพธิดาแจมเพิ่มขึ้นมาสองเท่า จากนั้นเขาก็ให้เธอเปลี่ยนใส่ชุดเดสยาวสีเขียวที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ และทำพวงมาลัยดอกไม้เพื่อวางไว้บนหัวของเธอ
เย่ฉางสั่งให้เทพธิดาแจมไปยืนอยู่ที่ขอบของเวทีที่พังทลาย ซึ่งมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านมาจากด้านข้าง เธอก้มศีรษะลงมองไปที่ซากปรักหักพังและทุ่งหญ้าที่แห้งเหี่ยว “อย่ายืนซื่อแบบนั้นสิ แสดงความโศกเศร้าของคุณออกมา! คุณเป็นถึงเทพธิดาแห่งดอกไม้และสายรุ้งเชียวนะ เมื่อคุณเห็นสภาพที่พังยับเยินแบบนี้ ทั้งวิหารของคุณถูกทำลาย ดอกไม้ของคุณแห้งเหี่ยว คุณไม่รู้สึกเศร้าบ้างเลยเหรอ?”
เทพธิดาแจมได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกโศกเศร้าออกมาอย่างรวดเร็ว เย่ฉางรีบถ่ายภาพทันที “เพอร์เฟคมาก …”
“เธอช่างงดงามจริงๆ …” เทพธิดาแมลโลและอันย่าต่างก็จ้องมองด้วยความตกตะลึง ฉากหลังแบบนี้ สีหน้าและท่าทางการแสดงออกแบบนี้ มันช่างผสมผสานออกมาได้อย่างลงตัว
เทพธิดาแจมรู้สึกพึงพอใจมาก จากนั้นเย่ฉางได้สั่งให้เธอนอนลงบนกำแพงหินที่แตกหัก เขาจัดท่าทางให้เธอนอนเอนไปด้านหลังและใช้แขนทั้งสองข้างยันพื้นไว้ แล้วสั่งให้เธอชันขาขึ้นมาข้างหนึ่ง เขาดึงชุดเดสของเธอขึ้นไปที่ต้นขาและเผยให้เห็นขาขาวที่เรียวยาว จากนั้นเขาก็ดึงสายคล้องไหล่ของเธอที่ทำจากพืชลงไปถึงข้อศอก เพื่อโชว์นมหนองโพที่สามารถล่อลวงแม้แต่สัตว์ป่าได้ “แสดงความเซ็กซี่ออกมาให้มากที่สุด ฉันจะนับถึงสาม จากนั้นให้คุณกัดริมฝีปากและส่งเสียงครางออกมาเช่น อิย๊าาา ~~”
“อิย๊าาา ~~” รูปลักษณ์ที่ดูร้อนแรงและมีเสน่ห์ของเทพธิดาแจม เปรียบเสมือนนางฟ้าและปีศาจที่อยู่ในร่างเดียวกัน OldWangFromNextDoor ต้องถึงกลับออฟไลน์เพื่อไปดับไฟราคะของตัวเอง ฟางชิกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และต้องหนีบหว่างขาของตัวเองไว้แน่น…
FrozenCloud เช็ดเหงื่อเย็นและยังคงวาดภาพต่อ หัวหน้าทีมช่างกล้าหาญมากเกินไปแล้ว รูปติดเรทขนาดนี้ แต่เขายังจะกล้าแจกให้คนอื่นเพื่อใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อนี่น่ะ!
ในที่สุด เย่ฉางก็ปรับเปลี่ยนทรงผมและเสื้อผ้าของอีกสองเทพธิดา เขาเปลี่ยนความสง่างามของแมลโลและความงามอันแสนบริสุทธิ์ของแจม ให้กลายเป็นสาวสวยเซ็กซี่ที่แสนเย็นชา จากนั้นเขาก็ให้เทพธิดาทั้งสามแสดงท่าทางหยอกล้อกัน เขาสร้างเป็นอัมบั้มรูปภาพทั้งหมด แม้แต่โฆษณาที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นแต่ล่ะอาชีพ เขาให้พวกเธอถือธนู ไม้เท้าและกรงจักร รูปภาพเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ในหมู่บ้านแรกเริ่มต่างๆ เขาวางแผนที่จะตั้งสมาคมเทพธิดาขึ้นมา แต่ในสายตาของทุกคนตอนนี้ ทั้งสามเทพธิดาเหมือนถูกเย่ฉางทำการละเมิดล่วงเกินยังไงไม่รู้
OldWangFromNextDoor ล็อกอินเข้ามาในเกมอีกครั้ง ฟางชิ, จางเจิ้งเฉียง, FrozenCloud และอูนา ทุกคนมองเขาด้วยความรังเกียจ “ไอคนลามกที่หลั่งไว …”
“ฉันไม่ได้ออฟไลน์เพื่อจะไปทำ …” OldWangFromNextDoor ไม่ได้แม้แต่จะพูดแก้ตัวให้จบก่อนที่เขาจะหยุดพูด โดยการจ้องมองด้วยสายตาที่ดูถูกของทุกคน
“เอาล่ะ อัมบั้มรูปภาพที่ใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราสามารถกลับไปที่เมืองแบล็กร็อคได้แล้ว เทพธิดาทั้งสาม ภาระที่ยิ่งใหญ่นี้ เราจะทำให้สำเร็จให้ได้…” เย่ฉางแสดงออกอย่างสุภาพและพูดอย่างจริงจัง เขามอบอัมบั้มรูปภาพเล่มหนึ่งให้แก่เทพธิดาทั้งสาม ซึ่งพวกเธอมีความสุขมากเมื่อได้รับมัน
“ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณแล้ว นักรบผู้กล้าผมขาว เพราะวิหารของฉันถูกทำลาย อำนาจที่เหลืออยู่ของฉันจึงมีไม่มาก แต่เมื่อคุณเป็นแรนเจอร์ ดังนั้นฉันพอจะให้ความสามารถบางอย่างแก่คุณได้ …” อันย่าพูดด้วยความกตัญญู
[ขอแสดงความยินดี คุณได้รับคำชี้แนะจากอันย่า และได้เรียนรู้สกิล Anya’s Berserk Shot]
Anya’s Berserk Shot (Anya’s Hunter Class Series Shooting Technique – Beginner Level – Epic): สามารถล็อคเป้าหมายได้ถึง 20 เป้าหมายที่อยู่ระยะสายตา ภายในระยะเวลาสองวินาที จากนั้นยิงธนูออกไปอย่างรวดเร็วใส่แต่ละเป้าหมาย ลูกศรทั้งหมดจะสร้างความเสียหาย 95% และสามารถเปิดใช้งานสกิลของอาวุธได้ ใช้ 30 พลังงาน คูลดาวน์ 5 นาที
หลังจากนั้น ทั้งสามเทพธิดาก็จากไปด้วยความพึงพอใจ
เย่ฉางหันมาและเห็นจางเจิ้งเฉียง, OldWangFromNextDoor, SpyingBlade และแม้แต่อูนาก็ยกนิ้วให้เขา “นายแน่มาก!”
“ฉันก็แค่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของฉันออกไปก็เท่านั้น … เฮ้อ …” เย่ฉางสวมฮู๊ดหัวหมาป่าของเขาและถอนหายใจ “กลับไปที่เมืองแบล็กร็อคกันเถอะ …”
อูนา, FrozenCloud, SpyingBlade และคนอื่นๆก็กลิ้งตาขึ้น ‘เขาเป็นคนที่ไม่เคยลืมที่จะทำตัวอวดเก่งเลยสักครั้ง …’
เมื่อเย่ฉางและพรรคพวกกลับมาถึงเมืองแบล็กร็อค เย่เทียนมอบเหรียญทองบางส่วนให้กับคุณยายริก้า และจัดเตรียมแผนการที่จะสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ เธอยังเจรจากับ ThornyRose ในเรื่องนี้อีกด้วย
ThornyRose วางสายจากเย่เทียนและยิ้มอย่างขมขื่น “คนพวกนั้นได้รับเควสเนื้อเรื่องหลักระดับ Epic มันเกี่ยวข้องกับการสร้างวิหารของเทพธิดาทั้งสาม และการกวาดล้างหุบเขาแห่งความตาย”
“สมกับเป็นคู่หมั้นของเธอจริงๆ …” FrozenBlood พยักหน้าอย่างช้าๆและพูดขึ้นมา ThornyRose เกือบจะสะดุดล้ม ‘ถ้าเธอไม่พูด เธอจะตายให้ได้เลยใช่ไหม!?’
เย่ฉางไปที่ศูนย์บริหารเมืองและทำการซื้อตึก เขาแขวนป้ายที่เขียนว่า ‘สมาคมเทพธิดา’ ไว้ตรงหน้าทางเข้าประตู เขาวางรูปภาพที่เซ็กซี่ของเทพธิดาทั้งสามไว้ โดยข้างๆรูปมีเขียนถ้อยคำแนะนำเกี่ยวกับเทพธิดาทั้งสาม โดยมีข้อความสำคัญว่าสมาชิกหลักแต่ล่ะคนจะได้รับรูปภาพเหล่านี้เป็นรางวัล และเขายังเขียนประกาศรับสมัครผู้คนไปช่วยทำเควสอีกด้วย “เทพธิดาแห่งธรรมชาติทั้งสามได้หวนกลับคืนมาแล้ว และยังสรรหาวีรบุรุษมาช่วยเหลือพวกเธอ จงมาร่วมมือกันเพื่อช่วยเทพธิดาให้กลับมาสู่ความรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกครั้ง มาช่วยกันทำเควสระดับ Epic นี้กันเถอะ! เปิดรับสมัครทุกอาชีพ! รางวัลมากมายกำลังรอพวกคุณอยู่! พวกคุณกำลังจะรออะไรกันอยู่!? รีบมาสมัครเร็วๆเข้า!”
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาทั้งหมดรีบเข้ามาดู เมื่อพวกเขาเห็นรูปภาพที่เซ็กซี่ของเทพธิดาทั้งสาม พวกเขาก็เริ่มที่จะพูดคุยกัน
“ไม่นะ! ฉันตกหลุมรักเทพธิดาแจมเข้าแล้ว!”
“เทพธิดาอันย่าคือความรักที่แท้จริงของฉัน!”
“ให้ตายเถอะ! เห็นได้ชัดว่าเทพธิดาแมลโลดีที่สุด!”
“สมาคมนี้นำโดยพี่ใหญ่วีรบุรุษแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ! พวกเรากำลังรออะไรกันอยู่!? นั่นพี่ใหญ่วีรบุรุษนี่! ฉันต้องรีบเข้าไปสมัครแล้ว! โปรดรับฉันเข้าสมาคมด้วยคน!” ฟางชิที่ได้รับคำสั่งให้เป็นหน้าม้ากำลังแสดงท่าทางที่สนใจมาก เขามองไปที่ฝูงชนที่กำลังตื่นตาตื่นใจกันอยู่ และชี้ไปที่เย่ฉางซึ่งกำลังเดินออกมาจากตึกอย่างช้าๆ
“ดี! พูดได้ดีมาก! เวลานี้ฉันได้รับมอบหมายจากเทพธิดาทั้งสาม ในการช่วยพวกเธอสร้างวิหารขึ้นมาใหม่, รับสมัครผู้ศรัทธาและกวาดล้างหุบเขาแห่งความตาย เดิมทีฉันไม่ได้วางแผนที่จะแชร์เควสนี้ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าฉันเป็นคนที่ยุติธรรมแค่ไหน ฉันจะไม่ปฏิเสธใครที่อยากจะเข้าร่วมเลยสักคน!” เย่ฉางถอดฮู๊ดหัวหมาป่าออก เผยดวงตาทั้งสองข้างที่ดูจริงจังในขณะที่พูด
“พี่ชาย PaleSnow ช่วยเหลือที่ไว้ให้ฉันหน่อยนะ …” เสียงของ NalanPureSoul ดังมาจากฝูงชน จากนั้นทุกคนจึงเปิดทางให้กับเขา
“แน่นอนอยู่แล้วน้องชาย PureSoul…” เย่ฉางยิ้ม พวกเขาจ้องมองกันเป็นเวลานาน เกิดเป็นบรรยากาศที่แปลกประหลาดระหว่างพวกเขาสองคน
“ฉันว่ามีบางอย่างทะแม่งๆเกิดขึ้นกับพี่ใหญ่วีรบุรุษและ The Temptress นะ! แค๊ก แค๊ก! ถ้าเกิด Fighting King รู้เรื่องนี้เข้า เขาคงจะหงุดหงิดน่าดู …”
“นี่คงเป็นสงครามความรัก ที่เต็มไปด้วยความแค้นและการทรยศหักหลัง … เฮ้อ …”
“เหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้ นายจะไม่คิดเชิญฉันหน่อยหรือ? พี่ใหญ่วีรบุรุษ … ช่างไม่มีความยุติธรรมเลยนะ…” LordAsked เดินเข้ามาและยิ้ม
“พี่พูดเหมือนว่าเขาและพี่สนิทกันมาก …” LordGrinned ตอบ
ผลั๊ว! LordAsked ตบหลังหัว LordGrinned “หุบปาก!”
“นายเป็นใคร?” เย่ฉางแสดงออกว่าไม่รู้จักเขา ฟางชิค่อยๆเดินเข้ามากระซิบบอกเขา “LordAsked เป็นหนึ่งในสี่ราชันสวรรค์ เขาเป็นหัวหน้ากิลด์ Lord’s Reign ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองแบล็กร็อค…”
“อ๋อ! เป็นพี่ชาย Asked นี่เอง! น้องชายคนนี้มีตาหามีแววไม่ ขออภัยด้วย…” เย่ฉางยิ้มอย่างใจเย็น
ThornyRose รีบวิ่งเข้ามาและเห็นว่า LordAsked และ NalanPureSoul ได้มาถึงก่อนแล้ว ทั้งสามคนเผชิญหน้ากันและยิ้ม “เข้าไปพูดคุยข้างในกันเถอะ สำหรับสหายที่อยู่หน้าตึกเหล่านี้ กิลด์ Thorns and Roses ของเราจะรับพวกคุณไว้ทั้งหมดเอง …”
ตอนที่ 418
ที่โต๊ะกลมขนาดใหญ่ มีกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดของเมืองแบล็กร็อคนั่งล้อมรอบอยู่ที่นั่น ทำให้บรรยากาศรอบด้านดูอืมครึมเป็นอย่างมาก
“ฉัน LordAsked ต้องการส่วนแบ่ง 30%!” LordAsked พูดอย่างตรงไปตรงมา
“10% แค่รางวัลพิเศษสำหรับการทำเควสก็เพียงพอแล้ว ฉันไม่ขาดกำลังคน นายควรรู้เอาไว้ด้วยว่า ตอนนี้ฉันเป็นคนที่สามารถมอบเควสให้กับนายได้ คนที่จะได้รับเควสนี้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฉัน พี่ชาย Asked พี่ควรจะทำความเข้าใจตรงจุดนี้เอาไว้ด้วย อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำตามที่พูดล่ะ พี่ชาย…” เย่ฉางยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา
ThornyRose เลิกคิ้วขึ้น ตอนนี้บรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วยความเหน็บหนาว และคละคลุ้งไปด้วยอารมณ์ที่คุกกรุ่น เธอหันไปมองทางตัวแทนของกิลด์ Flame Dragon Union และ Mad War ที่อยู่ในเมืองแบล็กร็อค พวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อเติมเชื้อไฟให้รุนแรงขึ้น ด้วยข้อเสนอของ LordAsked และ NalanPureSoul พวกเขาจะไม่ได้รับอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย อย่างดีที่สุดพวกเขาก็ได้รับแค่ของเหลือใช้เท่านั้น…
LordAsked เลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย “10%? น้องชายวีรบุรุษ หรือว่านายกำลังมองข้ามกิลด์ Lord’s Reign ของพวกเราอยู่งั้นหรือ…?”
“ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วมันยังไงงั้นหรือ?” จางเจิ้งเฉียงลุกขึ้นยืนด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี
เย่ฉางเอื้อมมือออกไปกดไหล่ให้จางเจิ้งเฉียงนั่งลง จากนั้นเขาก็กล่าวคำขอโทษออกมา “ฮ่าฮ่า ขอโทษที ขอโทษที! พอดีว่าเพื่อนของฉันเป็นคนพูดตรงๆหนะ หวังว่าพี่ชาย Asked จะไม่ถือสานะ…”
หลินหลี่ยกมือของเขาจับไปที่ด้ามดาบ เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่ราวกับว่า เขาจะโจมตีใส่ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าทำให้เขาไม่พอใจ…
LordAsked ขมวดคิ้ว ‘หืมม ไอพวกหมาบ้าเหล่านี้ ถึงแม้ว่าการแบ่งสิ่งของจะเป็นสิ่งสำคัญก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรางวัลพิเศษจากเควส นอกจากนี้พวกเขาก็มีสิทธิ์ เพราะพวกเขาเป็นคนค้นพบเควสจาก NPC เอ๊ะ! เหรียญตรานั้น! ถ้าฉันไม่ผิดล่ะก็ มันคือเหรียญตราประจำตัวไวเคานต์ เขาสามารถเป็นไวเคานต์ได้ยังไงในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้? พวกเขาประสบความสำเร็จอะไรกัน? ระบบยังไม่ทันได้เริ่มต้นสงครามขึ้นเลยด้วยซ้ำ…’
NalanPureSoul ยิ้มออกมาอย่างสง่างาม “พี่ชาย Asked เราได้ยอมรับข้อเสนอ 10% ไปแล้ว ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการกวาดล้างหุบเข้าแห่งความตาย และเปิดเส้นทางไปทางทิศเหนือ ถูกต้องไหม?”
“อ่า ฉันยอมรับข้อเสนอของน้องชายวีรบุรุษก็แล้วกัน” LordAsked ตอบตกลงในท้ายที่สุด เขาหันไปทางตัวแทนจากกิลด์ Flame Dragon และ Mad War และตัดสินใจที่จะหาเวลาในการจัดการกับคนเหล่านี้ จากนั้นเขาจะได้รับส่วนแบ่งของ % เพิ่มขึ้น NalanPureSoul ก็คิดแบบเดียวกัน เขาได้เรียนรู้จากเย่ฉาง ดังนั้น NalanPureSoul จึงแสดงรอยยิ้มอย่างคนใจดีออกมาให้กับตัวแทนจากกิลด์ทั้งสอง ตัวแทนจากกิลด์ทั้งสองได้แต่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เมื่อมองเห็นรอยยิ้มของเขา
“เอาล่ะ ในที่สุดเราก็ตกลงกันได้สักที” เย่ฉางยื่นมือออกไปหา LordAsked ทั้งสองเผชิญหน้ากันและกัน คนหนึ่งมีความหยิ่งทรนง ส่วนอีกคนมีรอยยิ้มที่ไม่แยแสต่อสิ่งใด พวกเขาทั้งสองเปรียบเหมือนไฟกับน้ำ LordAsked หันกลับและเดินจากไป ในขณะที่เขากำลังเดินจากไป เขาก็เหลือบมองไปที่จางเจิ้งเฉียง และยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา “น่าสนใจจริงๆ…”
“พี่ใหญ่ มันเป็นพวกเขาที่อยู่บนรถไฟ…” LordGrinned ยังไม่ทันได้พูดจบ LordAsked ก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาทันที ‘ไอเด็กบ้า! แกจะตายใช่ไหมถ้าไม่ได้ทำลายอารมณ์ของบิดาคนนี้!?’ เขาตบไปที่หัวของ LordGrinned ด้วยความโกรธเคือง “นายยังอับอายตัวเองไม่พออีกงั้นหรือ!!”
“เขาเป็นหนึ่งในอัศวินที่อยู่ภายใต้คำสั่งของครอสมาร์ และยังเป็นคนที่ได้รับความเคารพอย่างสูงอีกด้วย…” เย่เทียนพูดออกมาอย่างเฉยเมย
เย่ฉางนึกถึงความฝันของครอสมาร์ที่จต้องการเป็นพระสันตะปาปา บางทีผู้ชายคนนั้นอาจจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของครอสมาร์ก็ได้ เมืองแบล็กร็อคเป็นฐานทัพของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกันจากภายในให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะนะ แน่นอนว่าถ้าเขาสามารถกำจัดคู่แข่งคนอื่นๆได้ล่ะก็ เขาก็อาจจะได้รับส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้น เย่ฉางพยักหน้าให้กับตัวแทนทั้งสองจากกิลด์ Flame Dragon Union และ Mad War ด้วยรอยยิ้มอย่างคนใจดี ทั้งสองคนพยักหน้ากลับให้เขาและเดินจากไป
“ว่าแต่ทั้งสองคนนั้นเป็นใครกัน?” เย่ฉางไม่รู้จักพวกเขาเลย เขารู้เพียงแค่ว่า พวกเขาทั้งสองคนคือตัวแทนจากกิลด์ Flame Dragon Union และ Mad War
“BlackWind และ LeftEar ทั้งสองคนเป็นสมาชิกหลักด้วยกันทั้งคู่ และพวกเขายังเป็นตัวสำรองในการแข่งขันของสโมสรอีกด้วย ส่วนความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองคนไม่ค่อยเท่าไหร่นัก…”
“อย่างไรก็ตาม…” เย่ฉางมองไปยังผู้คนจำนวนมากที่สอบถามเกี่ยวกับสามเทพธิดา บางคนก็ถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์ของดวงดาว, กรุ๊ปเลือด… และการสืบเชื้อสาย
ในสายตาของทีม Happy Firmaments สามเทพธิดาก็เปรียบเสมือนหุ่นเชิด ในขณะที่เย่ฉางเป็นเหมือนกับราชาปีศาจ ที่คอยชักใยอยู่ในเงามืด และทำกับเทพธิดาทั้งสามราวกับเป็นของเล่น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันเป็นเวลาพันปีแล้วที่พวกเธอหลับไหล และด้วยไอคิวของพวกเธอทั้งสาม … ไม่ใช่ว่าไอคิวของพวกเธอทั้งสามอยู่ในระดับต่ำ แต่เป็นเพราะหัวหน้าทีมน่าสะพรึงกลัวเกินไป FrozenCloud มองไปยัง ThornyRose ที่ต้องคอยจัดการเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดนี่ ทำให้เธอสั่นสะท้านทันที ‘ดีนะที่ฉันเป็นเพียงแค่ลูกน้อง … พี่สาวโรสช่างน่าสงสารเกินไปแล้ว’ ThornyRose หันมามอง FrozenCloud และถอนหายใจ ‘น้องเล็กไดโน… เฮ้อ ช่างน่าสงสารจริงๆ…’
ทุกคนแยกย้ายกลับไปที่สมาคมของตนเอง เย่ฉางถอนหายใจและมองไปที่ประตูทางเข้าสมาคมของเขา เขากำลังจะกลายเป็นหัวหน้าของสมาคมเทพธิดา ดังนั้นมันคงจะดีกว่าที่เขาจะควรไปลาออกจากสมาคมนักผจญภัย ในขณะที่เขาเดินเข้าไปในสมาคมนักผจญภัย ลินดาและพวกคนแก่ก็พาเขาเข้าไปในห้องลับ
“นายได้ตอบรับข้อเรียกร้องของเทพธิดาแห่งธรรมชาติทั้งสามจริงๆงั้นหรือ?” ลินดาเริ่มสั่นสะท้าน
“ใช่ ฉันมาที่นี่เพิ่มมาลาออกจากสมาคมนี้ ฉันได้รับความคาดหวังจากเทพธิดา และจะหาสถานที่สักแห่งหนึ่งเพื่อจัดตั้งสมาคมขึ้นมา…” เย่ฉางมองไปยังทุกคน และพูดออกมาอย่างใจเย็น
เย่ฉางตระหนักว่า ภายในห้องนั้นเงียบมาก ทุกคนกำลังใคร่ครวญบางอย่าง ลินดาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปที่คนรุ่นเก่า “ต้องขอโทษทุกคนด้วย ตระกูลอัสของฉันได้ติดตามเคารพเทพธิดาอันย่ามาหลายชั่วอายุคนแล้ว บรรพบุรุษของฉันสอนไว้ว่า วันหนึ่งในอนาคต เทพธิดาอันย่าจะกลับมา ในฐานะคนรุ่นต่อไปที่ได้รับความคุ้มครองจากเทพธิดา ฉันต้องทำตามเสียงเรียกของเธอ…”
“ฮ่าฮ่า พวกเราทุกคนแก่หงำเหงือกกันหมดแล้ว แต่ลินดา เธอนั้นต่างออกไป เธอไม่เหมือนกับเรา เธอเป็นเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องกังวลกับอายุมากนัก ฉันจะจดจำความทรงจำของเรา ในตอนที่กำลังเดินทางไปยังอาณาจักรพลาเนทารี่…” คุณยายไอวี่โอบกอดลินดาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากเป็นเหมือนคุณ ชีวิตที่ยาวนานไม่แปลว่าจะมีความสุขเสมอไป…” ลินดาพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน
เย่ฉางหลั่งเหงื่อออกมา ‘โอ้… พวกเธอมาจากยุคสมัยเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอาวุธทำลายล้างคู่นั้นของเธอถึงได้ทรงพลังมาก มันเกิดขึ้นจากการดูดซับสสารสำคัญมาเป็นเวลานานนี่เอง’ เขาถามขึ้นมาว่า “แค๊ก แค๊ก เธอหมายความว่า…”
“ฉันจะเข้าร่วมสมาคมเทพธิดาของนาย ท่านประธาน…” ลินดายิ้มออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก
“แม้ว่านายจะอยู่ในสมาคมเทพธิดา แต่นายก็ไม่จำเป็นต้องออกจากสมาคมนักผจญภัยก็ได้…” คุณยายไอวี่มองไปที่เย่ฉางและพูดออกมา เธอหันไปหาลินดา “ถ้าเธอต้องการอะไรจากเรา เพียงแค่บอกเรามา มีไม่กี่คนในเมืองแบล็กร็อคหรอกที่กล้ายั่วยุพวกเรา…”
“หืมม ฉันและเบลอาจจะแก่แล้ว แต่ขวานของฉันยังคงเฉียบคมอยู่เสมอ…” ชายชราที่มีความสูง 130 เซนติเมตรเอ็ดตะโรออกมา เย่ฉางเฝ้าดูบรรดาเหล่าผู้อาวุโสได้กล่าวล่ำลากับลินดา ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่น “เราจะเป็นเพื่อน, คู่หู, พี่น้อง และพี่สาวกันไปตลอดชีวิต!!” เขาเดินเข้าตรงหน้าเธอ และถามออกมา “เธอเสียใจที่เชื้อสายของเธอมีชีวิตที่ยาวนานงั้นหรือ?”
ลินดาตอบกลับไป “ความสุขไม่เคยมีอยู่ตลอดไป แต่ความเจ็บปวดจะอยู่กับนายไปจนวันตาย…”
เย่ฉางเฝ้ามองขณะที่เธอจับคันธนูของเธออย่างเหนียวแน่น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคันธนูอันนี้มีขนาดเหมาะสำหรับผู้ชาย เขาถอนหายใจออกมา ‘สงคราม? ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม สงครามก็เป็นบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ดี ร่างไร้ชีวิตของผู้ไร้เดียงสามารถทับถมกันเป็นกองภูเขาได้ พวกเขาเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานมากยิ่งกว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับสงครามซะอีก มนุษย์, มนุษย์เทียม และมนุษย์กลายพันธุ์ สงครามครั้งนี้จะมีวันสิ้นสุดจริงๆงั้นหรือ?’
เย่ฉางแต่งตั้งให้ลินดาเป็นรองประธานสมาคมเทพธิดาในเมืองแบล็กร็อค เธอจะเป็นคนคอยจัดการกับเรื่องราวทั้งหมดภายในเมืองนี้ เมื่อลินดาเข้าร่วม เมื่อผู้ชายที่เดินผ่านไปมาเห็นสัดส่วนร่างกายที่สามารถฆ่าผู้ชายได้ของเธอ พวกเขาเหล่านั้นก็จะมุ่งหน้าไปเข้าร่วมกับสมาคมเทพธิดาอย่างแน่นอน ThornyRose สั่นสะท้าน คนเหล่านี้พึ่งพาร่างกายส่วนล่างในการคิดยังงั้นหรือ!? จากนั้นเธอก็มีความคิดบางอย่างแว๊ปขึ้นมา เหมือนมีรูปเงินดอลล่าร์อยู่ที่ตาทั้งสองข้างของเธอ! เธอเริ่มขายบัตรสมาชิกและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าชมนมหนองโพคู่นี้!
เย่ฉางกำลังเดินกลับไปที่ร้านขายของชำเพื่อพักผ่อน แต่เมื่อเขาได้รับข้อความของเย่เทียน เขาจึงเปลี่ยนเส้นทาง ‘ครอสมาร์อยากเจอเรางั้นหรือ?’ เขาเดินเข้าไปในห้องโถงภายในโบสถ์ด้วยความสับสน และพบว่าครอสมาร์กำลังดื่มเหล้า “นี่ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามหรอกหรือ?”
“นี่มันก็แค่กฏระเบียบที่เล็กน้อยเท่านั้น อาร์คบิชอปวิเวียนเป็นผู้หญิงขี้เมาที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ถ้าการห้ามดื่มเหล้าเป็นกฏระเบียบที่เคร่งครัด แล้วเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน…” ครองมาร์ยิ้ม
ตอนที่ 419
เย่ฉางยิ้มอย่างแผ่วเบา แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเบาๆดังออกมาจากมุมหนึ่ง เขามองไปทางต้นเสียงที่ดังออก ถ้าเขาไม่ได้เห็นที่มาของเสียงด้วยตาตัวเองแล้วล่ะก็ เขาก็คงไม่สามารถที่จะรับรู้ได้เลยว่าเป็นใคร คนที่ซ่อนตัวอยู่ก็คืออาร์คบิชอปมากิวิเวียน
เย่ฉางยังคงยิ้มออกมา “จริงงั้นหรอ? แต่ดูเหมือนว่าอาร์คบิชอปมากิจะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการดื่มเลยนะ… เธอดูเคร่งครัดและเข้มงวดมาก!”
“นั่นเป็นเพราะว่านายไม่เคยไปอยู่ที่โบสถ์ต่างหากล่ะ นี่คือขวดไวน์จิตวิญญาณอายุ 60 ปี ถ้าฉันไม่ได้ซ่อนมันไว้เป็นอย่างดี ไวน์ขวดนี้จะต้องถูกเธอพรากไปจากฉันอย่างแน่นอน แต่ก่อนฉันก็เคยไร้เดียงสาแบบนายมาก่อนนี่แหละ…” ครอสมาร์หงุดหงิด และเทไวน์ใส่แก้วให้กับตัวเองอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยื่นแก้วไวน์ไปให้กับเย่ฉาง “นั่งดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ…”
“ฉันจะไม่ยอมให้นายใส่ร้ายป้ายสีอาร์คบิชอปมากิต่อหน้าฉัน! นายควรหยุดพูดไร้สาระได้แล้ว หรือต้องการที่จะให้ฉันกลายเป็นบ้าไปเสียก่อน!!” เย่ฉางตะโกนออกมาอย่างหุนหันด้วยความชอบธรรม การตะโกนของเขาทำให้ครอสมาร์ถึงกับพูดไม่ออก ‘เขาเป็นบ้าอะไรกันถึงได้ตะโกนออกมาแบบนั้น?’ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว ‘หรือว่าจะเป็น!? บ้าเอ๊ย!!!’
“อ่า… ถ้าฉันไม่ได้ยินมาก่อนว่าวีรบุรุษของลูกสาวฉันมาที่โบสถ์ก่อนหน้านี้ ฉันคงไม่รู้เลยว่านายจะเอาฉันไปพูดในทางที่ไม่ดีแบบนี้ล่ะนะ…” ครอสมาร์ได้ยินเสียงของอาร์คบิชอปมากิดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา ทำให้หลังของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบ เขามองไปที่เย่ฉางด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน ‘ไอบัดซบเอ๊ย! ทำไมนายถึงไม่บอกฉันสักหน่อยว่าเธออยู่ที่นี่! นายถึงขั้นขายเพื่อนเพื่อทำให้ตัวเองดูดีขึ้นมาเชียวหรือ!’ เขารีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว “ผมรู้ว่าลอร์ดบิชอปที่ยิ่งใหญ่จะมา ดังนั้นผมจึงได้เตรียมไวน์ชั้นดีไว้สำหรับคุณ และน้องชาย PaleSnow เพื่อให้ทั้งสองคนได้เพลิดเพลินกันรสชาติอันยอดเยี่ยม คำพูดก่อนหน้านี้ของผมเป็นเพียงเรื่องตลกเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ท่านอย่าได้ใส่ใจเลยครับ ความสามารถในการจัดการกับแอลกอฮอล์ของลอร์ดมากินั้นยอดเยี่ยมที่สุดในคริสตจักรแน่นอนอยู่แล้วครับ!”
“นายเป็นคนมีหน้ามีตาและฉลาดแกมโกงดีนะ” อาร์คบิชอปมากิอดยิ้มออกมาไม่ได้ ในขณะที่เธอนั่งลง และเห็นไวน์จิตวิญญาณอายุ 60 ปี “อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยนายก็ยังพอรู้วิธีที่จะเอาตัวรอดในสถานการณ์แบบนี้ไปได้อีกนะ นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ฉันเพียงแค่ดื่มไปไม่กี่ขวดต่อปีเท่านั้นเอง ครั้งต่อไป…”
“โอ้ ผมต้องส่งมอบไวน์ขวดนี้กับคุณอย่างแน่นอน ไม่ ไม่ใช่สิ! ผมต้องส่งมอบมันให้กับคริสตจักรอยู่แล้วครับ!” ครอสมาร์มอบของขวัญให้เธอราวกับอัศวิน
อาร์คบิชอปมากิพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ขอให้แสงสว่างจงสถิตอยู่กับนาย…”
“……” เย่ฉางหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา ‘คริสตจักรถูกสร้างขึ้นมาจากเหล่าร้ายและอันธพาลงั้นหรือ?’
“ครอส นั่งลงได้แล้ว…” อาร์คบิชอปมากิยิ้มออกมา
“ฉันได้ยินมาว่านายกำลังฟื้นฟูเทพธิดาทั้งสามอยู่งั้นหรือ?” ครอสมาร์เปลี่ยนจากคนอัธยาศัยดีไปเป็นอีกคน เพราะการที่มีบิชอปนั่งอยู่ข้างๆเขา ทำให้เขาไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับเย่ฉางราวกับเพื่อนสนิทได้
“อืม ฉันได้ไปสำรวจซากปรักหักพังทั้งสามของแบล็กพีคมา และได้ยอมรับคำร้องขอของเทพธิดาทั้งสาม ฉันจึงได้จัดตั้งสมาคมเทพธิดา และกำลังเตรียมพร้อมที่จะกวาดล้างหุบเขาแห่งความตาย และฉันยังวางแผนที่จะฟื้นฟูหุบเขาให้กลับสู่สภาพเดิมเหมือนที่เคยเจริญรุ่งเรืองดั่งในอดีต แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าดินแดนที่แห้งแล้งเป็นยังไงบ้างในตอนนี้…” เย่ฉางไม่ได้กังวลว่า ความเชื่อของพวกเขาจะเปลี่ยนไปจากเดิม เขาได้รับรู้จากเย่เทียนแล้วว่า เทพธิดาแห่งธรรมชาติ และพระเจ้าแห่งแสงเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นลูกสาวทั้งสามคนของเทพธิดาแห่งธรรมชาติจึงเป็นหลานสาวของพระเจ้าแห่งแสงด้วย ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ถูกกำจัด แต่พวกเธอก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือเช่นกัน อย่างมากที่สุด พวกเขาก็สามารถเชื่อมสัมพันธ์กันฉันมิตรได้
“เหล่าคนเก่าคนแก่ที่สมาคมนักผจญภัยมาหาฉัน เพื่อขอให้ฉันอย่าได้สร้างเรื่องยุ่งยากให้กับนาย เพราะ ‘หมาป่าแห่งความโลภ’ ได้เข้าร่วมสมาคมเทพธิดากับนายด้วย…” มากิยิ้มออกมา
“ท่านหมายถึงคนที่คอยสกัดกั้นนายพลมาระแห่งอาณาจักรเหล็กไหล และทหารหลายพันคน! นักผจญภัยที่ภายในหนึ่งปีที่ผ่านมาได้ทำลายล้างศัตรูเพื่อแก้แค้นให้กับสามีของเธองั้นหรอครับ? ‘หมาป่าแห่งความโลภ’?” ครอสมาร์ตกใจ
“สามีของเธอเป็นนายทหารระดับสูงแนวหน้าของอาณาจักรพลาเนทารี่ – ฮาลัน เขาเสียชีวิตเพื่อที่จะช่วยหมู่บ้านแบล็คริเวอร์ที่ตั้งอยู่ตรงชายแดน หลังจากที่เขาเสียชีวิตไป นายพลมาระได้ตัดหัวของเขา และแขวนไว้บนกำแพงเพื่อให้คนอื่นๆเห็น…” มากิได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวส่วนนั้นของประวัติศาสตร์
“หลังจากนั้นเหล่าเอลฟ์ก็ได้อพยพไป จนทางตอนเหนือแทบจะไม่มีเอลฟ์อาศัยอยู่เลย ต่อมาเธอก็ได้กลายเป็นทาสหญิงที่ถูกนำมาขายอยู่ในเมืองไวท์สโตน เธอได้รับการช่วยชีวิตจากฮาลัน เรื่องราวเหล่านี้มันก็เหมือนกับเทพนิยาย แต่เป็นตอนจบที่ไม่แฮปปี้สักเท่าไหร่นัก…” ครอสมาร์พูดเสริม เย่ฉางได้แต่ถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขาก็ได้รับรู้ประวัติของลินดาแล้ว
“อายุขัยของเอลฟ์และมนุษย์แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ยังไงซะทั้งสองคนก็ไม่สามารถมีชีวิตในปั้นปลายด้วยกันได้หรอก…” มากิส่ายหัวไปมา
อย่างไรก็ตาม เย่ฉางก็ยิ้มออกมาและพูดขัดจังหวะ “ความรักที่แท้จริงไม่สนใจเกี่ยวกับเวลา แม้การได้รักกันเพียงแค่ชั่ววินาที ก็อาจจะแปรเปลี่ยนรักที่นิจนิรันด์ได้ ในขณะที่ช่วงเวลาของความเศร้าโศกทุกข์ทรมาน จะคงอยู่กับเราไปตลอดกาล…”
ทั้งสองคนหันไปมองเย่ฉางด้วยความประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งคำถามกับเขา
เย่ฉางรู้ว่าเขาก็ไม่ได้รู้อะไรดีไปมากกว่ากันสักเท่าไหร่นัก เขารู้สึกเยาะเย้ยตัวเอง แต่ทุกคนก็มีความทะเยอทะยานของตัวเองด้วยเช่นกัน บางคนก็รักในอำนาจ บางคนก็รักในผลประโยชน์ บางคนก็รักในเซ็กซ์ แต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากคำนั้นได้ ‘ความรัก’ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดมาพร้อมกัน แต่เขาก็คาดหวังว่าจะได้ตายด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ‘ความรัก’ สำหรับเขาตอนนี้นั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย…
มากิมองไปที่เย่ฉางและเลิกคิ้วขึ้น ‘เด็กคนนี้เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวหรือไม่? คนที่จีน่าเลือกน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ดี…’
เย่ฉางส่ายหัว “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งต่อสู้กับปีศาจเงามา และได้กองขี้เถ้ามาเป็นจำนวนมาก ครอสมาร์ นายต้องการอะไรบ้างไหม?”
“ขี้เถาปีศาจเงา!? เท่าไหร่?!” ครอสมาร์ไม่มีเวลาได้ตกตะลึง ก่อนที่มากิจะให้ความสนใจกับเรื่องนี้
“เต็มคลังสินค้าทั้ง 2 แห่ง ฉันวางแผนที่จะขายมันเพื่อเงิน…” เย่ฉางพึมพำ
ครอสมาร์รู้จักคลังสินค้าของพวกเขาดี ‘พวกเขาเก็บพวกมันจนเต็มคลังสินค้าขนาดใหญ่ได้ถึง 2 แห่ง!? นั่นมันเป็นปีศาจเงาเกือบ 10,000 ตัวเลยนะ! โชคของเด็กคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว!’ ขี้เถ้าปีศาจเงามีประโยชน์เป็นอย่างมากกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธาตุแสงและธาตุความมืด สำหรับคริสตจักรแล้ว ขี้เถ้าเหล่านี้สามารถใช้เพื่อเพิ่มความต้านทานความมืด และใช้เพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อใช้ต่อสู้กับนักบวชแห่งความมืด และผู้พิพากษาแห่งความมืดได้ มันเป็นสินค้าที่ช่วยเพิ่มกลยุทธ์ที่ใช้ต่อต้านธาตุความมืดขั้นที่ 3 ได้! อาร์คบิชอปมากิถูกล่อลวงไปโดยทันที แต่เธอก็ยังเลือกตัดสินใจที่จะเงียบไปก่อนอยู่ดี…
“เป็นสินค้าที่ดี ถึงแม้ว่าเราจะซื้อในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมเล็กน้อยก็ตาม แต่… ฉายาอัศวินกิตติมศักดิ์ของนาย ฉันสามารถเลื่อนระดับขึ้นให้นายได้ ฉันจะแนะนำให้นายเลื่อนระดับเป็นกัปตันอัศวินกิตติมศักดิ์…” คำพูดของมากิทำให้ครอสมาร์ประหลาดใจ ตำแหน่งกัปตันอัศวินกิตติมศักดิ์นั้นไม่ต่ำต้อยเลยทีเดียว! ตำแหน่งนี้มันมีอำนาจอย่างแท้จริง! พวกเขาสามารถใช้เพื่อเข้าถึงการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังได้เลย! เขาคิดถึงจีน่าและรู้สึกโล่งใจ นี่คือแม่สามีที่กำลังมองหาลูกเขยในอนาคตใช่หรือไม่?
เย่ฉางไม่รู้สึกอะไรมากนัก เมื่อเขาได้ยินว่าเขาจะกลายเป็นกัปตันอัศวินกิตติมศักดิ์ เขาไม่รู้เลยจริงๆว่ามันคืออะไร แต่เนื่องจากอาร์คบิชอปต้องการมัน เขาก็จะมอบมันให้กับเธอ การที่ขายให้เธอถูกลงกว่าเดิมเล็กน้อยไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร อีกอย่างหนึ่ง พวกเขาก็ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานในเมืองแบล็กร็อค และพวกเขายังต้องการที่จะช่วยให้ครอสมาร์มีตำแหน่งที่สูงขึ้นอีกด้วย “ขอขอบคุณอาร์คบิชอปมากิมากครับ…”
“แล้วขี้เถ้าประเภทนี้คืออะไรกันครับ?” เย่ฉางหยิบขี้เถ้าของ Rabbis ออกมา
“มันเป็นขี้เถ้าขั้น 2! ขี้เถ้าประเภทนี้จะขายได้ราคาดีมาก มันจะคุ้มค่ากับเหรียญทองที่ได้รับมาอย่างแน่นอน…” ครอสมาร์ตรวจสอบเล็กน้อยและพูดขึ้นมา
“ถ้านายตกลง นายสามารถขายขี้เถ้าอันนี้ให้ฉันด้วยราคาสองเท่าของราคาตลาดได้…” อาร์คบิชอปมากิพูดออกมา
เย่ฉางพยักหน้าด้วยความลังเล จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ! “ราคาตลาดสองเท่า? สองเท่า?”
“อืม…” อาร์คบิชอปมากิพยักหน้า
ครอสมาร์หรี่ตาลง สิ่งนี้หายากเป็นอย่างมาก และยังมีความต้องการสูงอีกด้วย! สินค้าชนิดนี้มีเพียงหัวหน้านักบวชเท่านั้นที่มีไว้ในครอบครอง ส่วนคนอื่นๆนั้น พวกเขาจะถูกแจกจ่ายให้เพียงเล็กน้อย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาซื้อสินค้าชนิดนี้ได้ในราคาตลาดทั่วไป! ถ้าอาร์คบิชอปมากิตัดสินใจที่จะนำสินค้าเหล่านี้ไปขายที่เมืองอื่น เธอจะได้กำไรเป็นหลายเท่าตัว ถึงแม้เธอจะรับซื้อเป็นราคาสองเท่าของตลาดก็ตาม แต่เธอไม่ได้ขาดทุนเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นขี้เถ้าขั้น 3 ในก่อนหน้านี้ก็ตาม…
ตอนที่ 420
เย่ฉางได้รับ 3,321 เหรียญทองหลังจากที่ขายขี้เถ้าปีศาจเงาไป แต่เขายังแอบเก็บไว้นิดหน่อยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบการทำอาหาร สำหรับในตอนนี้ของเกม เงิน 3,321 เหรียญทองค่อนข้างเป็นเงินจำนวนมหาศาล แม้ว่ากิลด์ใหญ่ๆจะซื้อเหรียญทองจากตลาดมืดอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเขาก็สามารถหาซื้อได้แค่ 10 เหรียญทองต่อวันเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการสร้างวิหารนั้นจะต้องสูงมากๆ …
จีน่าวิเวียนยืนอยู่ที่ประตูโบสถ์ ขณะที่เธอโบกมือลาเย่ฉาง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและลำบากใจ ซึ่งสร้างความสับสนให้แก่เย่ฉาง เขาส่ายหัวและตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมอลิส เมื่อเขามาถึงที่บ้านของเธอ เขาเห็นเจสและแมรี่เล่นอยู่ในลานบ้าน เขาหลั่งเหงื่อเย็นออกมาทันที ‘อย่าบอกฉันนะว่าแมรี่เป็นแฟนตัวน้อยของเจส’ เมื่อคิดขึ้นมาถึงจุดนี้ ทันใดนั้นเขาก็เห็นแมรี่จูบปากกับเจส ‘ชัวร์ป๊าบ…’
เมื่อแมรี่เห็นเย่ฉาง เธอพาเจสออกมาต้อนรับเขา เจสมองไปที่เย่ฉางอย่างมีพิรุธ ‘พี่ชายผมขาวรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?’ ขณะที่เขาเห็นว่าอลิสกับเย่ฉางคุยกันอย่างสนิทสนม เขาคิดในใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนจะต้องดียิ่งขึ้นในอนาคต
“ฉันไม่ได้มาเยี่ยมพวกเธอนานแล้ว งั้นให้ฉันทำอาหารให้พวกเธอกินก็แล้วกัน…” เมื่อเย่ฉางพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ห้องครัว แมรี่และเจสตกตะลึง ในขณะที่อลิสรีบคว้าเย่ฉางไว้ “ฉันจะเป็นคนทำเอง”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก! ไม่ต้องอาย แค่ปล่อยให้ฉันทำมันเอง” เย่ฉางยิ้มอีกครั้งและหันไปทางห้องครัว รอยยิ้มของอลิสแข็งค้าง และเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “นั่งลงซะ …”
เย่ฉางนั่งลงทันที ‘ผู้หญิงคนนี้แปลกประหลาดมาก ปกติแล้วเธอค่อนข้างที่จะเป็นมิตรนี่หน่า! แต่เมื่อฉันพูดว่าจะไปทำอาหารในห้องครัวเท่านั้น นิสัยของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอช่างเป็นคนเห็นแก่ตัวมากเกินไป หรือว่าห้องครัวมันเหมือนกับเป็นสวนลับของเธอ แต่เธอก็ควรแชร์ให้กับทุกคนสิ แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว คนที่เก่งในการทำอาหารจะมีความปรารถนาที่จะปกป้องดินแดนของพวกเขา สิ่งนี้จึงอธิบายได้ว่า ทำไมเธอจึงเห็นแก่ตัวเช่นนี้’
อลิสถอนหายใจอยู่ในห้องครัว ถ้าเธอปล่อยให้เขาอยู่ใกล้กับเครื่องมือทำอาหารในห้องครัว แม้แต่คนที่มีหลายชีวิตก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้ ‘เขาเอาความเชื่อมั่นมาจากไหนกัน? ใครจะยอมให้เขาทำอาหารอีกครั้ง …’
เย่ฉางเสียใจอย่างมาก เขาลูบหน้าผากของเจสและแมรี่อย่างเศร้าๆ “เป็นเพราะอลิสคนเดียว พวกเธอสองคนจึงพลาดโอกาสที่จะได้กินอาหารที่แสนอร่อยของฉัน ถ้าพวกเธอต้องการที่จะตำหนิใครสักคน คนๆนั้นต้องเป็นอลิส เป็นเพราะเธอหวงดินแดนของเธอมากจนเกินไป ถึงกับห้ามพ่อครัวที่มีทักษะสูงอย่างฉันเข้าไปในห้องครัวของเธอ …”
“…” ทั้งคู่พูดอะไรไม่ออก ‘มันเป็นเพราะคุณมากกว่า …’
หลังจากพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแล้ว เย่ฉางก็พาเจสกลับไปที่ร้านค้าทั่วไป ชั้นวางของเต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นมีกลุ่มคนมากมายกำลังให้ความอุปถัมภ์ร้านของเขาอยู่ ‘โอ้ใช่แล้ว!ยังมีอาวุธระดับ Gold อีกหนึ่งชิ้นที่จะต้องจัดการด้วย มันอาจขายได้ยาก ถ้าจะตั้งขายผ่านทางร้านค้า’ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ติดต่อ Thorny Rose และส่งมอบอาวุธให้กับเธอ “ช่วยฉันขายมันหน่อยนะ”
หลังจากเสร็จสิ้นธุระกับ Thorny Rose แล้ว เย่ฉางก็มุ่งหน้าไปยังบ้านประมูลระดับไฮเอนด์ของเมืองแบล็กร็อค โดยทิ้ง ThornyRose ไว้เบื้องหลัง เธอได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น ‘ผู้ชายคนนั้นไปที่บ้านประมูลระดับไฮเอนด์? มันเป็นสถานะที่เฉพาะผู้ที่มีตำเหน่งสูงๆเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้ ขั้นต่ำต้องมียศไวเคานต์ขึ้นไป ฉันพนันได้เลยว่าจะต้องมีสิ่งที่ดีและมีค่าในการประมูลแน่ๆ แต่ราคาของมันจะค่อนข้างสูงเกินไป ที่สำคัญคือฉันไม่สามารถเข้าไปได้’
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เย่ฉางมาที่บ้านประมูลระดับไฮเอนด์ ยามมองดูป้ายยศไวเคานต์ของเขาและปล่อยให้เขาเข้าไป
หลังจากเข้าบ้านประมูลมา เย่ฉางเลือกที่นั่งแล้วเริ่มเฝ้าดูการประมูล รายการที่กำลังทำการประมูลอยู่เป็นของเก่าแก่โบราณ การแข่งขันแย่งชิงสิ่งของนี้สูงมาก และราคาสุดท้ายก็มาถึง 300 เหรียญทอง เงินจำนวนนี้ทำให้ผู้ชมต่างถอนหายใจ มันช่างเป็นราคาที่มากเกินไปจริงๆ! รายการต่อไปคือปืนคู่ มันมีลำกล้องที่ยาว 30 ซม. และมีลักษณะที่คล่องตัว หนึ่งในนั้นมันใหญ่กว่าอีกกระบอกหนึ่งมาก ซึ่งทำให้มันน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เย่ฉางเลิกคิ้วขึ้น ‘นี่เป็นปืนระดับ Dark Gold จริงๆหรือเปล่า? มันช่างดูหรูหรามาก!’
“นี่คือสินค้านำเข้าที่ดีมากๆ มันเป็นอุปกรณ์คริสตัลเวทย์มนตร์รุ่นล่าสุดที่ผลิตโดยเมืองฟาร์ซารีฮาร์เบอร์ มันถูกเรียกว่า Giant Owl No.2 มันช่างดูหรูหรามากจริงๆ ราคาเริ่มต้นของมันคือ 50 เหรียญทองเท่านั้นเอง” เย่ฉางลูบคางของเขา ‘ราคาเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ระดับ Dark Gold นี้มีราคาถูกมาก นี่คงเป็นเพราะค่านิยมของพวก NPC และของผู้เล่นแตกต่างกันมาก’ เขาจึงเสนอราคา “ฉันซื้อ 50 เหรียญทอง!”
การแข่งขันยังดำเดินต่อไป และแล้วเย่ฉางก็ได้รับปืนมาอย่างมีความสุขในราคา 100 เหรียญทอง เนื่องจากทุกคนยอมแพ้เพราะเห็นว่าราคาสูงเกินไป ผู้คนในห้องประมูลส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบอาวุธ เว้นแต่มันจะพิเศษมากๆ โดยปกติการเสนอราคาที่รุนแรง จะเกิดขึ้นกับสินค้าหรูหราและทรัพยากรที่หายากจำนวนมาก
Giant Owl No.2 – Left (Dark Gold, Magic Crystal Equipment)
ประเภท: ปืนพกขนาดกลาง
ความต้องการ: 100 Strength, Agility 65
พลังโจมตี: 31 – 32
+15 Strength
+10 Agility
+25 ความเร็วในการยิง
+45 ระยะการยิง
+30 เจาะเกราะ
Converging Shot – Giant Owl No.2: ดูดซับพลังงานจากคริสตัลเวทย์มนตร์จำนวนมาก หลังจากผ่านไป 3 วินาที จะยิงกระสุนพลังงานที่รุนแรงออกมา สร้างความเสียหาย 200% สำหรับเป้าหมายที่ถูกยิงซ้ำอีกครั้ง ความเสียหายจะลดลง 15% คูลดาวน์ 5 นาที
อุปกรณ์คริสตัลเวทย์มนตร์: เมื่อต้องการยิง จะต้องดูดซับพลังงานจากคริสตัลเวทย์มนตร์เสียก่อน
Giant Owl No.2 – Right (Dark Gold, Magic Crystal Equipment)
ประเภท: ปืนพกขนาดใหญ่
ความต้องการ: 107 Strength, 56 Agility
พลังโจมตี: 33 – 34
+16 Strength
+9 Agility
+20 ความเร็วในการยิง
+55 ระยะการยิง
+5 เจาะเกราะ
Explosive Energy Bullet – Giant Owl No.2: ดูดซับพลังงานจากคริสตัลเวทย์มนตร์จำนวนมาก หลังจากผ่านไป 3 วินาที จะยิงกระสุนระเบิดออกมา และสร้างความเสียหาย 85 หน่วยในระยะพื้นที่ คูลดาวน์ 5 นาที
อุปกรณ์คริสตัลเวทย์มนตร์: เมื่อต้องการยิง จะต้องดูดซับพลังงานจากคริสตัลเวทย์มนตร์เสียก่อน
Wings Of The Giant Owl – Giant Owl No.2 (Dual Gun Effect) : ดูดซับพลังงานจากคริสตัลเวทย์มนต์จำนวนมาก เพื่อเปิดใช้งานโหมดยิงเร็วเป็นเวลา 6 วินาที โดยแต่ล่ะนัดจะสร้างความเสียหาย 90% โหมดการยิงนี้จะใช้พลังงานจากคริสตัลเวทย์มนตร์เป็นจำนวนมาก คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง
เย่ฉางเหน็บปืนไว้ที่ด้านข้างเอวของเขา ช่องอุปกรณ์ของเขาเต็มไปหมดแล้ว ธนูหนักและหอกถูกวางไว้บนหลังของเขา สองปืนเหน็บอยู่ที่ด้านข้างเอว กลองห้อยไว้ที่ด้านหลังเอวของเขา ในกระเป๋าของเขาเป็นบาลิสต้า และในเงาของเขาเป็นหน้าไม้หนัก ‘ฮ่า ฮ่า ในตอนนี้จะมีใครที่มีอาวุธมากกว่าฉัน!’
รายการที่เหลือของการประมูลเป็นผลงานศิลปะทั้งหมด ซึ่งทำให้เย่ฉางหมดความสนใจ เขาจึงเดินออกจากบ้านประมูลทันที เมื่อมองไปยังฝูงชนที่อยู่ด้านนอกประตูของสมาคมเทพธิดาแล้ว ThornyRose ได้แต่ถอนหายใจในเสน่ห์ของลินดา คนเหล่านี้เป็นบ้าอะไรไปกันหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพฮันเตอร์และแรนเจอร์ หลังจากได้รู้ว่าลินดาเป็นครูฝึกในสมาคม หลายคนร้องไห้เพื่อเข้าร่วมสมาคมเทพธิดา เธอเฝ้ามองขณะที่เย่ฉางยกปืนพกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็วูบวาบไปด้วยคลื่นพลังงาน ทำให้ฝูงชนเงียบลงและเปิดเส้นทางให้กับเขา สิ่งที่ทำให้คนหลั่งเหงื่อเย็นออกมาก็คือ เย่ฉางได้เป่าไปที่ปากกระบอกปืน และควงปืนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเหน็บมันไว้ที่เอวของเขา
ThornyRose หัวเราะอย่างขมขื่น ‘บ้านประมูลระดับไฮเอนด์ยังมีสินค้านำเข้าที่ดีแบบนี้อยู่ด้วย ฉันสามารถใช้เขาเพื่อช่วยฉันซื้ออุปกรณ์ราคาถูกได้ เนื่องจากค่านิยมของพวก NPC และของผู้เล่นแตกต่างกันมาก บางทีอุปกรณ์ของพวกเขาไม่น่าจะแพงเท่าของเรา’
“สุดยอด! พี่ใหญ่วีรบุรุษกำลังใช้ปืนอยู่! แต่เรายังคงใช้ธนูคุณภาพต่ำกันอยู่เลย!”
“โง่เง่า! ในเกมนี้ธนูมีข้อดีของมันอยู่แล้ว”
“แล้วนายต้องการปืนหรือธนู …”
“แค๊ก แค๊ก การใช้ธนูลำบากมากเกินไปก็จริงอยู่ ถึงแม้ว่าปืนจะมีความแม่นยำที่น้อยกว่า การเล็งและการคำนวณวิถีของกระสุนจะเหมาะสมสำหรับผู้เล่นทั่วไป อย่างไรก็ตาม เมืองแบล็กร็อคไม่ได้ผลิตอาวุธปืน เพราะยังคงมีวัฒนธรรมทางศาสนาอยู่ที่นี่ ซึ่งห้ามการใช้คริสตัลเวทมนตร์ ดังนั้นการได้รับมันมาจึงยากมากๆ”
“แล้วพี่ใหญ่วีรบุรุษได้รับมันมายังไง?”
“ไม่มีอะไรที่พี่ใหญ่วีรบุรุษทำไม่ได้หรอก เขาเป็นถึงผู้นำสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะและยังเป็นผู้อำนวยการสมาคมเทพธิดาแห่งเมืองแบล็กร็อคเชียวนะ …”
ตอนที่ 421
ThornyRose มองปืนที่เหน็บตรงเอวของเย่ฉางอย่างตกตะลึง เขาทำตัวเหมือนคนรวยที่ชอบใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว! จะมีคนบ้าที่ไหนกัน ที่พกอาวุธจำนวนมากติดตัวแบบนี้! แรนเจอร์ส่วนใหญ่จะมีอาวุธที่พิเศษแค่เพียงชิ้นเดียว แต่แรนเจอร์คนนี้กลับมีความสามารถพิเศษของอาชีพ ที่ช่วยให้เขาสามารถสวมใส่อุปกรณ์ได้มากขึ้น …
“พี่ใหญ๋วีรบุรุษสุดยอด!” ฝูงชนที่อยู่ข้างนอกสมาคมตะโกน
เย่ฉางยกมือขึ้น “ทุกคนโปรดเงียบลงก่อน! ฉันสัญญาว่าจะมีที่ว่างสำหรับทุกคนอย่างแน่นอน เทพธิดาแห่งธรรมชาติทั้งสามไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าคุณจะเป็นเผ่าพันธุ์ไหน ไม่ว่าคุณจะมีความแข็งแกร่งแค่ไหน ตราบเท่าที่คุณมีความศรัทธาต่อเทพธิดาทั้งสาม คุณก็สามารถเข้าร่วมสมาคมเทพธิดาได้ ในตอนนี้วิหารของเทพธิดากำลังอยู่ในช่วงระหว่างการฟื้นฟู ซึ่งวิหารตั้งอยู่ที่แบล็กพีค นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเพื่อให้ทุกคนสามารถเลื่อนเลเวลได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญคือคุณควรรู้ด้วยว่าสามเทพธิดาสามารถสอนสกิลลับของแต่ล่ะอาชีพให้อีกด้วย” จากนั้นเย่ฉางดึงปืนขึ้นมาเล็งล็อค 20 เป้าหมายที่อยู่ข้างหน้าและยิงออกไป ปัง ปัง ปัง! ลำแสงพุ่งออกมาอย่างสวยงามท่ามกลางฝูงชน ผู้เล่นหลายคนรู้สึกว่ามีกระสุนพลังงานพุ่งผ่านหูของพวกเขาไป … นี่เป็นสกิล!? มันสามารถล็อคไปยังเป้าหมายจำนวนมากได้ในทันที!?
“นี่เป็นหนึ่งสกิลที่เทพธิดาอันย่าสอนให้ฉัน จงทำงานให้หนักมากขึ้นเพื่อเทพธิดา จงศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อเทพธิดา … และคุณจะได้รับสุดยอดเซอร์ไพร์ส~~” เย่ฉางเป่าควันจากปากกระบอกทั้งสองและเก็บใส่ซองปืนที่ข้างเอว พร้อมกับแสดงสีหน้าหื่นๆที่ผู้ชายทุกคนต้องรู้
“สุดยอดเซอร์ไพร์ส!!” คนเริ่มโน้มตัวลงเหมือนคลื่น
เย่ฉางถอนหายใจแล้วพยักหน้าให้ฟางชิ ฟางชิดึงผ้าม่านออก เผยรูปภาพหน้าอกที่แสนเซ็กซี่ของเทพธิดาอันย่าออกมา ทุกคนหนีบขาตัวเองแน่นและโก่งก้นไปข้างหลัง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มคุกเข่า “เราขอให้คำมั่นสัญญาว่า ชีวิตของเราจะเป็นของเทพธิดาตลอดไป!”
“ดีมาก …” เย่ฉางส่งสัญญาณอีกครั้ง ฟางชิจึงเก็บรูปภาพไว้
ThornyRose มองไปที่เย่ฉางด้วยการแสดงออกแปลกๆ ‘นายไปทำอะไรกับเทพธิดาทั้งสามแถมนายยังมีรูปภาพที่เกือบจะถือว่าหยาบคายนี้อีก …’
FrozenCloud ถอนหายใจเพียง ‘เทพธิดาทั้งสามถูกทำลายโดยหัวหน้าทีม … พวกเธอเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้หลอกล่อพวกคนเหล่านี้เท่านั้น …’
ชื่อเสียงของสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะดังกระฉ่อนมากยิ่งขึ้น ในตอนนี้พวกเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแบล็กร็อคไปแล้ว และความนิยมของพวกเขาก็มีไม่น้อยไปกว่าสี่ราชาสวรรค์เลยทีเดียว
หลินหลี่ทำเควสที่ได้รับมอบหมายจากประธานสมาคมพ่อค้าอาวุธสำเร็จ โดยการนำขี้เถ้าปีศาจเงามามอบให้ และตอนนี้เขาถูกเลื่อนตำเหน่งเป็นถึงหนึ่งในสี่ผู้นำของสมาคมพ่อค้าอาวุธไปแล้ว เขายักคิ้วขึ้นมองผู้คนจำนวนหลายร้อยที่เดินตามหลังเขามา หลินหลี่กระชับดาบขึ้นและบุ้ยปากอย่างไม่พอใจ ‘ผู้คนเหล่านี้เป็นใคร ทำไมถึงเดินตามฉันมา?’ ผู้คนที่เห็นเขาทำหน้าหงุดหงิดใส่ ต่างพากันหวาดกลัวจนเดินเซถอยหลัง จากนั้นหลินหลี่ยังคงเดินต่อไป ส่วนคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ยังเดินตามมาเหมือนเดิม หลินหลี่หันหลังกลับมามองอีกครั้ง ทุกคนก็เดินเซถอยหลังไปอีกครั้ง …เหตุการณ์แบบนี้เป็นไปสักพักหนึ่ง จนหลินหลี่ทนไม่ไหว เขาหันกลับมาทั้งต่อยและเตะใส่ฝูงชน! แต่เมื่อเขารู้ว่าทุกคนต้องการที่จะเข้าร่วมสมาคมเทพธิดา เขาจึงพูดแบบชายชาติชาตรีว่า “ไปลงทะเบียน เพียงแค่บอกพวกเขาว่าพี่ใหญ่หลี่คนนี้อนุญาตแล้ว …”
“ขอบคุณครับพี่ใหญ่หลี่ พี่ช่างมีน้ำใจจริงๆ!” แฟนคลับทุกคนรีบไปลงทะเบียนทันที ในอีกไม่กี่วันนี้ต่อมา จำนวนสมาชิกของสมาคมเทพธิดาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากสมาคมหลายแห่งในเมืองแบล็กร็อค พวกเขาอาจไม่ได้อยู่ในกลุ่มอันดับต้นๆ แต่ก็ไม่ได้อยู่อันดับต่ำด้วยเช่นกัน สำหรับสมาคมใหม่แล้ว นี่ถือว่ามีพลังมากพอจะทำให้สมาคมอื่นๆหันมาจับตามองอย่างใกล้ชิด แม้แต่ลินดาเองก็เริ่มมองเย่ฉ่างอย่างแปลกๆ เพียงแค่สิ่งที่เขาทำกับเทพธิดาทั้งสาม มันก็เหลือเชื่อมากเกินพอแล้ว เธอมองอัลบั้มภาพที่เย่ฉางมอบให้กับเธอ เขาบอกให้เธอดูแลอย่างดีและถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเขา เธอไม่สามารถเผยแพร่ให้กับคนอื่นได้
จู่ๆก็มีชายชราคนหนึ่งชื่อมาคาร์โระได้ปรากฏตัวขึ้น เขาอ้างว่าเป็นนักเวทสายพืช เขามาจากเมืองคูลบีช ตระกูลของเขาบูชาเทพธิดาแจม หลังจากที่เขาได้รับข้อความจากเทพธิดาแจมแล้ว เขาจึงรีบเดินทางมาที่นี่โดยทันที ลินดาปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ เธอเตือนเย่ฉางว่าเขาเป็นนักเวทสายพืชที่ทรงพลังมาก พลังของเขาเพียงคนเดียวเปรียบเทียบเท่าได้กับทั้งกองทัพ เย่ฉางรีบเลื่อนตำแหน่งเขาให้เป็นรองประธานสมาคมทันที โดยให้เขารับผิดชอบเรื่องนโยบายของสมาคมและการฟื้นฟูวิหาร หลังจากที่มาคาร์โระเริ่มดูแลสมาคม ขนาดมากิก็ยังรีบเดินทางมาเพื่อทักทายเขา …
“พลังเวทมนตร์ของเขา มันน่าอัศจรรย์มาก …” มากิเดินจากไปและพูดกับครอสมาร์
“อันที่จริงผมไม่สามารถมองระดับพลังของเขาได้เลย ผมเกรงว่าเขาน่าจะเป็นนักเวทระดับ Magister …” ครอสมาร์พยักหน้า
“มาคาร์โระ ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนเลย … คนทรงพลังมากเช่นเขา ทำไมหลายปีมานี้ถึงไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลย …” มากิขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
ลินดาก็ตกตะลึง
ต่อหน้าปฏิกิริยาเหล่านี้ มาคาร์โระยกคิ้วและลูบเคราสีเทาที่ยาวที่ถึงเอวของเขา “ตระกูลของฉันรักสันโดษและไม่ชอบที่จะโอ้อวด เราเพียงแค่สนุกกับการค้นคว้าความมหัศจรรย์ของพืชและรอคอยการเรียกของเทพธิดาแจม เพื่อฟื้นความมหัศจรรย์ของพืชขึ้นมาอีกครั้ง …”
ลินดาที่เป็นเอลฟ์ซึ่งมีความเคารพยำเกรงต่อนักเวทสายพืชอยู่แล้ว นี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากๆ พวกเขาเป็นที่แพร่หลายในสมัยโบราณ แต่ในตอนนี้ แม้แต่นักเวทสายพืชระดับธรรมดา ก็ยังหายากดั่งเช่นนกฟีนิกซ์และยูนิคอร์น
เย่ฉางพยักหน้า ขณะนี้เทพธิดาแจมซึ่งจะมาเป็นอาจารย์สอนในสมาคมได้มาถึงแล้ว เหลือเพียงแค่เทพธิดาแมลโลเท่านั้นที่ยังไม่มา ในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่นั้น จู่ๆก็มีสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเซนทอร์หญิงวิ่งเหยาะๆเข้ามา ภายใต้ดวงตาที่ตกตะลึงของผู้คนรอบข้าง ในมือของเธอเป็นหอกคริสตัลสีเขียว ราวกับว่ามันเป็นทั้งหอกและไม้เท้าในอันเดียวกัน ร่างกายส่วนล่างของเธอเป็นสัตว์สี่เท้า ส่วนร่างกายส่วนบนของเธอมีหน้าอกที่เหมือนเหยือกขนาดใหญ่สองใบที่ปกปิดด้วยใบไม้เท่านั้น เธอยังมีใบหน้าที่สวยงามและมีเสน่ห์อย่างมาก ร่างกายส่วนล่างของเธอถูกตกแต่งด้วยสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นดอกพลัม เธอมองไปที่เย่ฉางและถามว่า “ขอโทษนะ … คุณคือท่านนักปราชญ์ PaleSnow ใช่ไหม?”
‘ท่านนักปราชญ์ PaleSnow?’ ThornyRose และคนอื่นๆต่างพูดไม่ออก ‘เขาไม่ใช่คนเช่นนั้น!’
“ใช่แล้ว ฉันคือท่านนักปราชญ์ PaleSnow เอง …” เย่ฉางรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับชื่อเรียกแบบนี้
“ฉันชื่อมารูนาย่า ฉันได้รับข้อความของเทพธิดาแมลโลผู้ยิ่งใหญ่ ให้รีบมารับคำสั่งจากคุณ ได้โปรดรับฉันไว้เพื่อที่จะได้ช่วยฟื้นฟูเวทมนตร์ธรรมชาติขึ้นมาอีกครั้ง” เซนทอร์หญิงคุกเข่าลงและชูหอกของเธอขึ้นพร้อมกับพูดอย่างจริงจัง
“ช่างจิตวิญญาณกวางที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้ พลังธรรมชาติในตัวเธอบริสุทธิ์มาก …” มาคาร์โระหรี่ตาลง เสียงที่เขาเปล่งออกมาแทบจะไม่ได้ยิน (ส่วนล่างน่าจะเป็นกวางไม่ใช่ม้านะครับ)
“ดี ดีมาก! เข้าพูดคุยกันข้างในก่อน …” เย่ฉางเดินเข้ามาและพยุงเธอลุกขึ้น จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังของเธอด้วยรอยยิ้ม
“รับทราบคะ ท่านนักปราชญ์ PaleSnow …” มารูนาย่าไม่ได้รังเกียจเขา เธอวิ่งเหยาะๆขึ้นบันไดเข้าไปในตึกสมาคม
เย่ฉางมอบหมายให้เย่เทียนล้างสมองทั้งสามคน เย่เทียนแชร์เป้าหมายและฝังสโลแกนในหัวของพวกเขา สโลแกนนั้นก็คือ เราไม่สามารถปล่อยให้เทพธิดาทั้งสามตกต่ำลงได้!
“ฉันอาศัยอยู่ในป่าแห่งความลุ่มหลงมาโดยตลอด ดังนั้นฉันจึงไม่คุ้นเคยกับโลกภายนอกเช่นนี้ สำหรับวิธีการรับสมัครผู้ศรัทธานั้น …” มารูนาย่ากล่าวอย่างกังวล
“ไม่มีปัญหา เราจะรับผิดชอบในการสรรหาบุคลากรเอง ส่วนคุณจะรับผิดชอบการเป็นตัวแทนของเทพธิดาแมลโล ในฐานะเป็นอาจารย์ผู้สอนในสมาคม เพื่อคุณจะได้ค้นพบศักยภาพของผู้ศรัทธาและแนะนำพวกเขาได้ …” เย่เทียนตอบ
มารูนาย่าพยักหน้าและพูดอย่างสุภาพ “ฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอให้เทพธิดาแมลโลจงคุ้มครองคุณ …”
“ท่านประธาน ฉันมีความคิดบางอย่าง เราสามารถร่วมมือกับสมาคมนักผจญภัยได้ เพื่อให้ทุกคนในสมาคมเทพธิดาสามารถไปที่นั่นและรับภารกิจได้ ตราบเท่าที่เราแบ่งปันผลตอบแทนจากภารกิจให้กับพวกเขา ทุกอย่างไม่น่าจะเป็นปัญหา ปล่อยให้ฉันเป็นคนเจรจาเอง …” ลินดาตบหน้าอกของเธออย่างมั่นใจ ทำให้หน้าอกสั่นไหวไปมาเหมือนคลื่นในทะเล
มาคาร์โระตกตะลึง สายตาเขาจ้องมองเข้าไปในรอยแยกของนมหนองโพ เขาอ้าปากค้าง ‘นี่เป็นสมาคมที่ดีจริงๆ’ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “ฉันเห็นด้วย…”
ThornyRose ซึ่งยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าพูดอะไรไม่ออก ‘ตาแก่คนนี้ ตาแทบจะหลุดออกมาแล้ว!’ เธอหันกลับมาและเห็นเย่ฉางมีท่าทางเหมือนกัน เธอหน้าบึ้งและถอนหายใจออกมา
ตอนที่ 422
จากวิหารทั้งสามแห่ง เย่ฉางวางแผนที่จะฟื้นฟูวิหารที่อยู่ใกล้ๆเมืองบาลก่อน ซึ่งเป็นวิหารของเทพธิดาแมลโลนั่นเอง เพราะมันมีความเสี่ยงอันตรายค่อนข้างต่ำ แถมยังไม่ต้องใช้แรงงานที่มากมายนัก เย่เทียนเสนอให้เย่ฉางว่า เขาควรที่จะสร้างวิหารแห่งแรกขึ้นมาก่อน แล้วค่อยเคลียร์เส้นทางเข้าสู่หุบเขาแห่งความตาย ภายใต้การเป็นผู้นำของเย่ฉาง เย่เทียนจึงเข้ามาดูแลและควบคุมการก่อสร้างที่มีราคาแพง ซึ่งริก้าได้จ้างคนงานเหล่านี้มาจากเมืองแบล็กร็อค สมาชิกสมาคมเทพธิดาทั้งหมดยังได้เข้าร่วมในการก่อสร้างวิหารในครั้งนี้อีกด้วย หรือไม่พวกเขาก็แยกย้ายกันไปเก็บเลเวลในพื้นที่อันตรายของภูเขาแบล็กพีค…
เมื่อผ่านไปหลายสัปดาห์ พวกเขาจึงสามารถซ่อมแซมสะพานและห้องโถงวิหารขึ้นมาได้ SpyingBlade ยืนเฝ้ายามอยู่ตรงรูปปั้นเทพธิดาหากเกิดกรณีที่มีคนพยายามที่จะแอบมาทำอะไรกับรูปปั้น สำหรับคนรอบข้าง พวกเขาหยุดพักเพื่อรองานชิ้นต่อไป ก่อนวันที่จะเสร็จสิ้นการฟื้นฟูวิหาร เย่ฉางจงใจเดินไปที่รูปเทพธิดาและเรียกหาเธอ วิธีในการเรียกหาเทพธิดาของเขาเป็นเรื่องยากที่คนอื่นๆจะสามารถยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม FrozenCloud และคนอื่นๆก็เคยชินกับมันไปแล้ว เรื่องทางเพศเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับหัวหน้าทีม ร่างอวาตาร์ของแมลโลที่ขี้อายได้ปรากฏตัวออกมา เย่ฉางได้เปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอให้กลายเป็นเสื้อผ้าที่ดูเร้าอารมณ์และสง่างาม เขาตัดแต่งผมของเธอและดันหน้าอกของเธอขึ้น ด้วยเสื้อผ้าที่ที่รัดรูปและติดแน่นกับผิวของเธอ จึงทำให้ขีปนาวุธทั้งสองของเธอดูเหมือนจะหลุดออกมาได้ทุกเมื่อ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่ผู้ชายคนอื่นๆจะเบือนหน้าหนีจากเธอไปได้
เย่ฉางเตือนเธอว่า เมื่อเขาพาคนมาแสวงบุญ เธอควรจะปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ นอกจากนี้ เธอต้องกล้าและทำตัวสง่างามราวกับว่าเธอไม่เคยถูกสัมผัสมาก่อน พวกเขาทั้งสองจึงได้ฝึกซ้อมเรื่องนี้กันซ้ำไปซ้ำมา…
วันต่อมา
เย่ฉางนำกลุ่มคนที่หิวโหยของสมาคมไปที่วิหาร แสงสว่างเริ่มเรืองรองลงสู่บัลลังก์ อวาตาร์ของแมลโลปรากฏตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอนั่งอยู่บนบัลลังก์มองดูสาวกต่างๆด้วยความภาคภูมิใจ ขีปนาวุธทั้งสองข้างของเธอทำให้เหล่าคนที่หิวโหยได้แต่ก้มตัวลงคุกเข่า…
แมลโลลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ “มารูนาย่า นับจากนี้ไป เธอเป็นผู้ควมคุมของวิหารแห่งนี้ จงศรัทธาในตัวของเรา ตราบเท่าที่เธอมีความเชื่อในตัวเรา เธอก็จะได้รับพลังงานจากธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ที่สุด…”
“น้อมรับคำบัญชา เทพธิดาแห่งธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ แมลโล!” มารูนาย่าแสดงความเคารพนับถืออย่างสุดหัวใจ
ทุกคนพากันเฝ้ามอง ในขณะที่เทพธิดาแมลโลปลดปล่อยพลังธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสีสันต่างๆล้อมรอบวิหาร ทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดีที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกาย และจิตใจของพวกเขา ราวกับพวกเขาได้รับการเยียวยา ภายใต้แสงเรืองรองสีเขียว ทำให้แมลโลดูสง่างามมากยิ่งขึ้น ขีปนาวุธของเธอเริ่มขยับไปมา…
“สิ่งนี้จะยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้ว…”
“ฉันสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อเทพธิดาแมลโล!”
“จงเจริญ!!”
ทุกคนคุกเข่าลง สาวๆของกิลด์ Thorn and Roses ก็คุกเข่าลงด้วยเช่นกัน แต่เสียงของพวกเธอขาดความเข้มแข็งและมุ่งมั่น “จงเจริญ…”
“ดีมาก! เพื่อที่จะให้พวกคุณสามารถกอบกู้หุบเขาแห่งความรุ่งโรจน์ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่นนั้นฉันจะอำนวยพรจากธรรมชาติให้กับพวกคุณทุกคน!” แมลโลค่อยๆรวบรวมพลังงานสีเขียว จากนั้นเธอก็สะบัดมือให้พลังงานเหล่านี้ไปปกคลุมรอบตัวของทุกคน (ในอดีตเรียกว่าหุบเขาแห่งความรุ่งโรจน์ แต่พอโดนพวกแมลงยึดครองเรียกว่าหุบเขาแห่งความตาย)
[ขอแสดงความยินดี คุณได้รับพรธรรมชาติจากเทพธิดาแมลโล +15% ทุกค่าสถานะ, +15% พลังป้องกัน, 15% พลังโจมตี, ฟื้นฟู HP 1% ทุก 15 วินาที, ฟื้นฟูมานา 1% ทุก 30 วินาที, +50% ความต้านทานธรรมชาติและต้านทานพิษ, 15% Will เป็นเวลา 7 วัน]
หลังจากที่พวกเขาได้รับพร แมลโลก็นั่งลงบนบัลลังค์และหายใจอย่างถี่รัว ด้วยความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียของเธอ ทำให้หน้าอกคู่นั้นของเธอกระเพื่อมไปมาอย่างรุนแรง อีกเพียงนิดเดียวขีปนาวุธทั้งสองของเธอก็จะหลุดออกจากเสื้อผ้าแล้ว “จงศรัทธาในตัวฉัน เหล่านักรบที่กล้าหาญทั้งหลาย ด้วยวิหารที่เพิ่งถูกสร้างเสร็จสิ้น ทำให้ความสามารถของฉันยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวอยู่ ดังนั้นพรที่ฉันให้พวกคุณทุกคนจึงเพิ่มได้เพียงแค่นี้เท่านั้น…”
หลังจากที่เธอพูดจบ ร่างของเธอก็ค่อยๆจางหายไปในความว่างเปล่า ทุกคนก็ได้ยินเสียงตะโกนที่น่ารักและเอียงอายออกมา “อ๊า!! นมเกือบโผล่แล้ว!!”
เหล่าผู้หิวโหยทุกคนยังคงคุกเข่า และไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ “ถ้าเพียงเธออยู่นานขึ้นแค่ 1 วินาทีเท่านั้น! จากนั้นเราก็จะได้เห็นนมของเธอแล้ว!! นี่มันยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้ว!! เทพธิดาแมลโล!!!!”
“……” สาวๆของกลิด์ Thorns and Roses, LordAsked, NalanPureSoul และคนอื่นๆ ได้แต่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา นี่เป็นที่รวมตัวกันของกลุ่มพวกน่ารังเกียจ!!
LordAsked ถอนหายใจ เขาหันไปและเห็นว่า LordGrinned ยังคงคุกเข่าอยู่ และตีพื้นด้วยความหงุดหงิด เขาจึงสับ, ตี, กระแทกจน LordGrinned หมดสติ ‘แก่แล้วยังทำตัวแบบนี้อยู่อีก!’
ThornyRose และ LordAsked ได้แต่เฝ้าดูผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่สังกัดไหน ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ “เราจะเปิดสงครามศักดิ์สิทธิ์กับหุบเขาแห่งความตาย! เพื่อปกป้องเทพธิดาทั้งสาม!! ความชั่วร้ายทั้งหมดที่ยืนอยู่ต่อหน้าเทพธิดาของเรา พวกเราสมาคมเทพธิดาแห่งความชอบธรรมจะเหยียบย่ำพวกแกเอง!!”
เย่ฉางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แผนการนี้ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากคลาสเรียนของรั่ว หงเย่ในเมืองหลวง “นี่เป็นกลยุทธ์ที่ดีมาก ฉันคนนี้สุดยอดจริงๆ…”
FrozenCloud และอูนาสั่นสะท้าน มีความจริงบางอย่างกับคำพูดของเขา ปกติเขาจะมากับกลยุทธ์บ้าบิ่น ในขณะที่หลินหลี่จะเป็นคน‘จบเรื่องราว’ พวกเขามองเข้าไปในฝูงชน ในขณะที่หลินหลี่ตะโกนออกมา “ไอพวกหุบเขาแห่งความตายระยำ มันเป็นความผิดของแกทั้งหมดที่เราไม่ได้เห็นขีปนาวุธคู่นั้นหลุดออกมา!! หลินหลี่คนนี้จะลงโทษพวกแกทุกคน! เหยียบย่ำพวกแกทุกคน!!” มันฟังเหมือนกับมีเสียงนับ 10,000 คน ตะโกนออกมาพร้อมกับเขา… สมกับที่เป็น ราชาแห่งความคิดผู้ชั่วร้ายของทีม Happy Firmament
มารูนาย่า, ลินดาและมาคาร์โระ กำลังสแตนด์บายอยู่ที่หน้าทางเข้าหุบเขา ในกรณีที่มีบางอย่างเกิดขึ้น อย่างน้อยคนทั้งกลุ่มก็ต้องมีที่ไหนสักแห่งให้หลบหนีไปได้
เมื่อมาถึงหุบเขา เย่ฉางส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุด เขาเรียก LordAsked ด้วยรอยยิ้ม “พี่ชาย Asked ตอนนี้พี่ควรออกไปพูดได้แล้ว!”
LordAsked ไม่พูดอะไรออกมา แต่เขากลับเดินนำขึ้นไปแล้ว เขาค่อยๆเดินก้าวไปข้างหน้า และกระจายกลิ่นอายของทรราชย์ออกมา เขาดึงดาบยาวออกมาและชี้ไปที่หุบเขา “ถึงแม้ว่านี่จะเป็นก้าวเล็กๆที่จะเข้าสู่หุบเขาแห่งความตาย แต่มันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ต่อเทพธิดาของเรา และของรางวัลที่มหาศาล! ดังนั้นเราต้องสู้ สู้เพื่อเทพธิดาทั้งสามของพวกเรา!!!”
“สู้เพื่อเทพธิดาทั้งสามของพวกเรา!!!” ทุกคนพร้อมใจกันตะโกนออกมา
เย่ฉางเลิกคิ้วขึ้นและครุ่นคิดเล็กน้อย ‘ผู้ชายคนนี้เป็นที่นับถือเชิดชูอย่างรวดเร็ว ด้วยการพูดไปที่ประเด็นสำคัญ’ จากนั้นเย่ฉางก็เริ่มเตรียมโรงอาหาร เพื่อให้กลุ่มหลักสามารถสร้างผลงานได้ดียิ่งขึ้น LordAsked มองหม้อเหล็ก 10 หม้อที่ทำให้พวกคนอื่นๆเพียงแค่ได้กลิ่น ต้องถึงกลับอาเจียนออกมา “น้องชาย PaleSnow นี่คือ…”
“สมาชิกหลักควรได้รับบัฟจากอาหาร นี่เป็นสูตรอาหารลับของฉัน และไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถกินได้…” เย่ฉางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
LordAsked ทนกลิ่นที่ทำให้เขาเกือบจะอาเจียนออกมา และตรวจดูบัฟของอาหาร บัฟนี่สุดยอดมาก! เขาคิดว่าออร่าของจ้าวแห่งเพชรเป็นที่น่าอัศจรรย์มากพออยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่ากลุ่มของเย่ฉางจะมีบัฟอาหารที่ทรงพลังมากเช่นนี้อยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม กลิ่นนี่มันแย่ยิ่งกว่าเต้าหู้เหม็นซะอีก ฝูงชนโดยรอบเห็นว่าก่อนที่สงครามอันยิ่งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น สมาชิกหลักของแต่ละกิลด์ และสมาชิกในสมาคมเทพธิดาได้พ่นฟองน้ำลายออกจากปากราวกับถูกยาพิษ ฉากนี้เกิดขึ้นพร้อมกับกลิ่นเหม็นที่โชยออกมา…
หลังจากที่พวกเขาได้รับบัฟกันเรียบร้อย ทุกคนก็เดินเข้าสู่หุบเขา มีถ้ำอยู่ทั่วทุกหนแห่ง บางแห่งก็อยู่บนหน้าผาที่สูงชัน บางแห่งก็อยู่ใต้ดิน บางครั้งพวกเขาก็เห็นแมลงยักษ์ปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว ขณะที่พวกเขาเข้าสู่หุบเขา แมลงคากูนับไม่ถ้วนได้แห่กันออกมา ทำให้มีการต่อสู้เกิดขึ้นทันที เหล่านักธนูและบรรดานักเวทเริ่มกระหน่ำระเบิดซัดซาดไปทั่วทุกพื้นที่ LordAsked และ NalanPureSoul แบ่งกองกำลังกันอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งใช้เพื่อต่อสู้กับแมลงคากู อีกส่วนใช้เพื่อสำรวจถ้ำ เย่ฉางพาปาร์ตี้ของเขาเดินไปยังถ้ำทรายแห่งหนึ่งเพื่อสำรวจ
“พ่อคะ รังขนาดใหญ่เหล่านี้น่าจะมีการดำรงอยู่ของแมลงราชินี เป้าหมายของเราคือการทำลายล้างแมลงราชินีเหล่านี้ ด้วยเครือข่ายใต้ดินที่ซับซ้อนเช่นนี้ ทุกเส้นทางจะสามารถพาเราไปที่แห่งนั้นได้…” เย่เทียนพูดออกมา ในขณะที่เธอทำการวิเคราะห์เหล่าแมลงโดยรอบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น