Virtual World – Peerless White Emperor 409-415
ตอนที่ 409
“หลินหลี่รีบโยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงเร็วๆเข้า! โยนไปรอบๆบอสให้หมด เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของมัน!” ThornyRose สั่ง ในขณะที่โจมตีใส่บอสอย่างรุนแรงจากทางด้านซ้าย หลินหลี่เริ่มจุดทะเลแห่งเปลวเพลิงขึ้นมาทันที
“หลินหลี่โยนบางส่วนมาทางฉันด้วย!” NalanPureSoul สั่งปีศาจเพลิงของเขายิงลูกไฟใส่บอส ขณะที่เขาโยนวงแหวนแห่งไฟออกไป เขามองขึ้นไปเห็นขวดระเบิดเพลิงระดับสูงสี่หรือห้าขวดบินมาตรงหน้าเขา เขาหลั่งเหงื่อเย็นออกมา ‘นี่นายกะจะเผาฉันให้ตายเลยหรือไง!?’ ขวดระเบิดเพลิงระดับสูงตกแตกรอบๆตัวเขา NalanPureSoul พบว่าตัวเองถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลแห่งเปลวเพลิง โชคดีที่มันไม่ได้ลุกลามมาตรงที่เขายืนอยู่ ช่างเป็นการโยนที่แม่นยำอะไรเช่นนี้! เขาเริ่มที่จะรวบรวมเปลวไฟที่อยู่รอบๆตัวจนกลายเป็นหมาป่าเพลิง และบังคับมันให้พุ่งใส่บอส…
จางเจิ้งเฉียงหมุนตัว 360 องศาและเหวี่ยงขวานยักษ์ใส่คอของบอส เขาดึงขวานยักษ์ออก เผยให้เห็นบาดแผลที่ปล่อยพลังงานมืดออกมาที่คอของอบส บอสคำรามด้วยความโกรธ มันกวัดแกว่งกรงเล็บที่แหลมคมของมัน ในขณะที่ร่างกายของมันยิงลูกศรเงาออกมานับไม่ถ้วน
“ทุกคนหาที่หลบ!” ThornyRose ตะโกนบอกและย้ายไปยืนอยู่ใต้ตัวบอส
FrozenBlood กระโดดลงมาจากบนตัวบอสและเลือกที่จะซ่อนใต้ท้องของมัน หมาป่าเพลิงขนาดใหญ่กว่าห้าเมตรที่กำลังพุ่งเข้าใส่บอส โดนลูกศรเงายิงใส่จนค่อยๆสลายตัวอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายมันชนเข้ากับไหล่ของบอสและเกิดการระเบิดขึ้น NalanPureSoul ชูมือขึ้นและกำมือ เกิดการระเบิดเป็นทอดๆ! ลูกศรเงาส่วนใหญ่ที่เข้ามาในทิศทางของเขา ถูกทำลายโดยการระเบิดครั้งนี้ หลินหลี่เห็นว่าบอสกำลังติดสตั้นอยู่ เขาปักดาบสองเล่มลงกับพื้นและโยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงใส่ดาบทั้งสองเล่ม ทันใดนั้นดาบทั้งสองเล่มปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง เขาเก็บดาบเล่มหนึ่งไว้บนหลัง และคว้าดาบอีกเล่มไว้ในมือของเขา จากนั้นเขารีบกระโจนฟาดดาบใส่หัวของบอส เมื่อเขาร่อนลงบนพื้น เขาดึงดาบบนหลังขว้างใส่บอส [Sword Drawing Arts – Returning Dragon]! จากนั้นเขาเหวี่ยงดาบยักษ์ในมือ [Surging Dragon]! ตามด้วย [Sword Drawing Art – Flash]! และ [Whirlwind Strike]! มันช่างเป็นระบำดาบเปลวเพลิงที่สวยงามมากในความมืดแบบนี้ …
จางเจิ้งเฉียงวิ่งออกมาจากภายใต้ตัวบอส ‘ขวดระเบิดเพลิงระดับสูงสามารถใช้เช่นนั้นได้ด้วย!’ เขาปักขวานยักษ์ลงไปที่พื้น “หลินหลี่โยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงใส่ขวานฉันด้วย!”
“ได้เลย!” หลินหลี่ขานรับ และขว้างขวดระเบิดเพลิงระดับสูงใส่ขวานยักษ์ตรงหน้าจางเจิ้งเฉียง
จางเจิ้งเฉียงรีบหยิบขวานยักษ์ที่ลุกเป็นไฟขึ้นมา เปลวไฟสร้างความเสียหายให้แก่เขา 3 หน่วยต่อวินาที ความเสียหายนี้ไม่สูงจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้ถือว่าต่ำเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ความเสียหายเล็กน้อยดังกล่าว ถือว่าไม่มากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับความเสียหายที่บอสจะได้รับ! เขาคำรามและเหวี่ยงขวานยักษ์ใส่หัวของบอส [Holy Judgement] ความเสียหายจากไฟและแสงศักดิ์สิทธิ์ทำให้บอสกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน
ขณะเดียวกัน ลูกศรที่ยิงจากบาลิสต้าของเย่ฉางก็พุ่งเข้าใส่หัวของบอส ลูกศรดอกนี้ถูกยิงด้วยการคอมโบของสกิล [Hunter Imprint – Attack] (ใช้ครึ่งหนึ่งของค่า Dexterity ไปเพิ่มพลังโจมตี) กับสกิล [Enchant Arrow – Explosive Arrow] ทำให้ลูกศรดอกนี้มีพลังโจมตีที่สูงมาก เมื่อมันพุ่งปักที่หัวบอสจึงเกิดการระเบิดที่รุนแรงขึ้นมา จากนั้นเย่ฉางโผล่ออกมาจากเงาของ NalanPureSoul แล้วร่าย [Flame Blade] + [Fire Lotus] เคลือบหอกและพุ่งแทงหอกใส่หัวของบอสอย่างรวดเร็ว [Multiple Straight] + [Thrusts! Straight Thrust] + [Shadow Frost Strike] เกิดการระเบิดของน้ำแข็งขึ้นมา มีคำว่า ‘ต่อต้าน’ ลอยขึ้นมาเหนือหัวของบอส เย่ฉางรีบร่ายเวทอีกครั้ง [Hunter Imprint – Conceal] เขาเข้าสู่สถานะล่องหนและพุ่งผ่านใต้ท้องของมัน เพื่อหลบการโจมตีจากหางที่กวาดเข้ามา …
จางเจิ้งเฉียงเหวี่ยงขวานยักษ์ที่ลุกเป็นไฟไปมาอย่างกล้าหาญ SpyingBlade รีบปักดาบลงพื้นด้วยอีกคน “หลินหลี่โยนมาที่นี่ด้วย …”
NalanMight, NalanMoon, FrozenBlood และคนอื่นๆทั้งหมดใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่บอสให้ความสนใจอยู่กับจางเจิ้งเฉียง พวกเขารีบโยนอาวุธของตัวเองลงไปที่พื้นใกล้ๆกับดาบของ SpyingBlade เย่ฉางก็ยังโยนหอกของเขาตามมาด้วย หลินหลี่โยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงออกมาสองขวด และครอบคลุมอาวุธทั้งหมดด้วยเปลวไฟ ทุกคนรีบหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมา พวกเขาขมวดคิ้วกับผลข้างเคียงของความเสียหายที่ได้รับ 3 หน่วยต่อวินาที! นี่เป็นการใช้พลังชีวิตของตัวเองเพื่อแลกกับความเสียหายที่สูงขึ้น! แต่ความเสียหายที่ได้รับมีเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มันก็ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนความเสียหายของพวกเขาให้เป็นความเสียหายทางกายภาพที่เพิ่มธาตุไฟขึ้นมา …
การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงมาก เมื่อบอสเข้าสู่สถานะบ้าคลั่ง ฝ่ายของ NalanPureSoul ได้สูญเสียสมาชิกหลักบางคนไปทันที Little Jade ก็เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าด้วยห่าฝนลูกศรเงา
ThornyRose ขมวดคิ้ว บอสตัวนี้มีพลังชีวิตที่มากเกินไป พวกเขาต่อสู้มานานกว่า 20 นาทีแล้ว! มานาของเทพธิดาตัวน้อยเย่เทียนก็หมดไปกับการฮีลพวกโจมตีประชิดตัวที่ใช้อาวุธเพลิงอยู่ NalanBeauty ก็ย่ำแย่พอๆกัน เธอจึงต้องใช้วิธีการสลับตัวกับเย่เทียน เพื่อผลัดกันไปนั่งพักและดื่มน้ำยาฟื้นฟูมานา
ที่สำคัญคือจางเจิ้งเฉียงได้ใช้ [Desperate Prayer] เพื่อฮีลทั้งปาร์ตี้ไปแล้วหนึ่งครั้ง … แต่ด้วยการที่โดนดีบัฟลดค่าการฮีลและการฟื้นฟูลงครึ่งหนึ่ง ทำให้มันไม่ค่อยส่งผลดีต่อปาร์ตี้มากเท่าไหร่ ThornyRose หันไปมองทาง NalanPureSoul ซึ่งยังคงทุ่มพลังทั้งหมดของเขาโจมตีใส่บอส หากพวกเขาสามารถเอาชนะบอสตัวนี้ได้ เขาอาจจะเรียกร้องเอาไอเทมมากขึ้นเพราะเขานั้นสร้างความเสียหายได้สูงสุด เขาไม่เคยหยุดยิงเวทเลยแม้แต่นิดเดียว ที่สำคัญคือความเสียหายจากเวทของเขานั้นสูงมาก ปีศาจเพลิงของเขาก็ยังสร้างความเสียหายแก่บอสเป็นจำนวนมาก ทำให้คนอื่นๆเช่น หวัง, ฟางชิ, และนานะแทบไม่สำคัญเลย
“หลินหลี่อย่าปล่อยให้ไฟรอบๆตัว NalanPureSoul มอดลง …” ThornyRose เตือนอีกครั้ง หลินหลี่พยักหน้าและโยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงอีก 4 ขวดลงรอบๆตัว NalanPureSoul ทันที
“ขอบคุณมากน้องชายหลินหลี่ …” NalanPureSoul ยังคงยิงเวทไฟต่อเนื่อง เขาวางแผนซื้อขวดระเบิดเพลิงระดับสูงจากกิลด์ Happy Firmaments ในภายหลัง สิ่งเหล่านี้เหมาะกับสกิล [Kindling Technique] และ [Fire Recovery] ของเขามากๆ มันเหมือนกับว่าเขากำลังดื่มน้ำยาฟื้นฟูมานาไปด้วย และยังเพิ่มความเสียหายจากเวทไฟของเขาอีกด้วย เขากังวลว่ามันจะราคาแพงไหม เพราะแน่นอนว่าคนอย่างพี่ชาย PaleSnow จะขอเรียกราคาที่สูงมากแน่ๆ … มือที่ละเอียดอ่อนของเขาคว้ากลางอากาศ หมาป่าเพลิงพุ่งชนบอสและระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง มันสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากแก่บอส!
เย่ฉางก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เขาร่าย [Flame Burst] และยิงออกไปใส่บอส ความรุนแรงของการระเบิดก็น่าประทับใจมาก NalanPureSoul ยิ้มเบาๆ ‘พลังโจมตีเวทมนตร์ของเขาสูงมาก…’
พวกเขายังคงวุ่นวายกับการโจมตีบอส แม้ว่าจำนวนสมาชิกจะค่อยๆลดลง แต่กองกำลังหลักส่วนใหญ่ยังคงมีชีวิตอยู่ บอสสีเริ่มเปลี่ยนสีและรูปร่างของมันกลายเป็นบิดเบี้ยวขึ้นมา NalanPureSoul หยุดการโจมตีของเขา “ระวัง! มันอาจจะเป็นสกิลท่าไม้ตาย …”
มีเสียงคำรามที่ไม่พอใจดังออกมา แมวดำขนาดใหญ่แบ่งตัวออกเป็นลูกแมวเล็กๆจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ลูกแมวแต่ละตัวยังคงมีขนาดใหญ่พอๆกับหมาป่าทุ่งหญ้า พวกมันมีประมาณร้อยกว่าตัว
หัวใจของ NalanPureSoul ดิ่งลง ‘โอ้ ไม่นะ! พวกเรากำลังอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่พอแล้ว และสกิลของเราส่วนใหญ่อยู่ในช่วงคูลดาวน์ ตัวฮีลด้านหลังก็แทบจะไม่มีมานาเหลือแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะคอยเติมมานาอยู่ตลอด แต่พวกเขายังคงไม่สามารถฮีลได้ทันเลย …’
“เพื่อน! ยิงเวทของนายมาที่ฉันเลย!” จางเจิ้งเฉียงตะโกน เขาเหวี่ยงขวานยักษ์ไปมา แม้กระทั่งการเปิดใช้งาน [Desperate Prayer] ครั้งสุดท้าย ทำให้พลังชีวิตของเขามีเกินครึ่ง จากนั้นเขาก็เปิดใช้งาน [Berserk Recovery] ฟื้นฟูพลังชีวิตจนเต็ม ทันใดนั้น เขาก็ดึงความเกลียดชังของลูกแมวเล็กๆไปทั้งหมด
เย่ฉางเริ่มร่ายเวท [Light Strike Array] ใส่เขาโดยไม่ลังเลใจ แสงและไฟปุกคลุมไปทั่วตัวจางเจิ้งเฉียงและลูกแมวโดยรอบๆทันที NalanPureSoul มีความสุขมาก เขารีบยกมือคว้าไปในอากาศ เขาไม่สามารถทำอะไรกับแสงที่เป็นส่วนหนึ่งของเวทเย่ฉางได้ แต่เขาสามารถใช้ส่วนหนึ่งที่เป็นไฟได้ และคูลดาวน์สกิลของเขาก็เพิ่งเสร็จพอดี! การระเบิดของ [ Light Strike Array] กลายเป็นระเบิดสีแดงเข้มมากขึ้น
[ขอแสดงความยินดี คุณได้ฆ่า Dead Shade – Rabbis ได้รับ 4500 Exp และ 15 ความต้านทานความมืดถาวร … ]
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อบอสเสียชีวิต สัญญาณเตือนภัยของ ThornyRose ได้เตือนขึ้นมา 12000% ทันที! เธอประสบความสำเร็จอีกครั้งในการพุ่งเข้าหาเย่ฉางที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ ถ้าศพบอสตัวนี้ถูกทำลายโดยมือที่ต้องสาปของเขา การกัดเขาจนตายมันคงไม่พอที่จะทำให้เธอหายแค้นได้! นี่คือบอสอีเว้นท์เชียวนะ! การต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยและการสูญเสียพี่น้องไปเป็นจำนวนมาก ทุกอย่างมันจะสูญเปล่าไปหมด! ฝ่ายของ NalanPureSoul สูญเสียผู้เชี่ยวชาญไปอย่างน้อยสิบคนแล้ว
ตอนที่ 410
“ปล่อยฉันไป! บอสอีเว้นท์ตัวนี้น่าจะมีของที่ดีดร็อปออกมา! ด้วยหัตถ์แห่งพระเจ้าของฉันแล้ว เราจะต้องได้อุปกรณ์ระดับพระเจ้าอย่างแน่นอน! อย่างน้อยเราก็จะได้แหวนที่เพิ่มค่าสถานะทุกอย่าง +100!!” เย่ฉางพยายามดิ้นดุ๊กดิ๊กเหมือนกับตัวหนอน ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เขาค่อยๆขยับตัวเคลื่อนผ่านเปลวไฟไปหาฝุ่นสีดำ FrozenCloud และจางเจิ้งเฉียงรีบวิ่งเข้ามาช่วยกันสกัดกั้นเย่ฉางเอาไว้อย่างรวดเร็ว…
‘สภาวะที่ถูกครอบงำของเขาโดยซากศพนี้จะบ้ามากเกินไปแล้ว’ … กลุ่มคนของ NalanPureSoul ทั้งหมดหน้าแดงไปด้วยความอับอาย
หลินหลี่ทำเพียงแค่วิ่งไปด้านข้างของบอสและค้นศพ ที่ด้านหลังของหลินหลี่ เขารู้สึกถึงความไม่พอใจอันน่าสะพรึงกลัวที่เกือบจะปรากฏเป็นรูปเป็นร่างออกมาได้ ทำให้หน้าที่ไร้เดียงสาของหลินหลี่เต็มไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบ เขาฝืนทนกลืนน้ำลายและค้นศพต่อไป “พี่ใหญ่ขาว! เราได้รับบางสิ่งบางอย่างที่ดี!!”
เย่ฉางกลับคืนมาเป็นปกติ ถึงแม้ว่าเขาจะยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ แต่เขาก็กลับคืนมามีเหตุผลอีกครั้งหนึ่ง เขาหันกลับมาและถอนหายใจ “เฮ้อ นี่คงไม่ใช่แหวนที่เพิ่มค่าสถานะทุกอย่าง +100 อย่างแน่นอน…”
คนรอบข้างทั้งหมดหน้าแดงด้วยความอับอาย ‘เราเพิ่งมาไกลได้แค่ไหนภายในเกม มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะได้รับไอเทมแบบนั้น!’
เย่ฉางคว้าไปหยิบสิ่งของที่หลินหลี่มอบให้กับเขาและเลิกคิ้วขึ้น มันมีอุปกรณ์ระดับ Dark Gold ถึง 2 ชิ้น! อุปกรณ์ระดับ Gold อีก 2 ชิ้น, อุปกรณ์ระดับ Distinguished 2 ชิ้น และหนังสือสกิล 2 เล่ม!! ยังมีแม้แต่ตราสร้างกิลด์อีกด้วย! นี่เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่จริงๆ เขาหันมามอง ThornyRose และ NalanPureSoul ด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ แต่ไม่แยแส “ฉันสร้างปัญหาให้กับทุกคนจริงๆ ขอโทษนะ ตอนนี้มันจบแล้ว พวกคุณทั้งสองคนสามารถไปได้แล้วล่ะ…”
ThornyRose และ NalanPureSoul ทั้งคู่รู้สึกจุกเสียดไปที่หน้าอก เย่ฉางมองไปยังทั้งสองคน และเห็นท่าทางที่โกรธเกรี้ยของพวกเขา เขาจึงแสร้งทำเป็นไอออกมาเล็กน้อย “เฮ้ ฉันแค่ล้อเล่นเองหน่า…”
เขาพูดพร้อมกับแชร์ค่าสถานะของอุปกรณ์ระดับ Dark Gold
Rabbis Shadow Blade (Dark Gold – Abyss – Withered Shade)
ประเภท: ดาบยาว
ความต้องการ: 105 Strength และ 115 Dexterity
พลังโจมตี: 32 – 35
สร้างความเสียหายเพิ่มเติมจากธาตุมืด: 21 – 22
+15 Strength
+17 Dexterity
+13 ความเร็วในการโจมตี
[Rabbis Shadow Blade]: ปลดปล่อยดาบเงาที่คล้ายกับตะขอไปยังเป้าหมายที่ล็อคเอาไว้ และสร้างความเสียหาย 55 หน่วย มีโอกาสที่จะลากเป้าหมายไปยังตำแหน่งที่เลือกเอาไว้ แล้วทำการระเบิดออกมา สร้างความเสียหายเป็นธาตุมืด 45 หน่วย ให้กับศัตรูที่อยู่ภายในระยะของดาบ ศัตรูที่โดนระเบิดมีโอกาสที่จะติดสตั้นและกระเด็นถอยหลัง คูลดาวน์ 15 นาที
Rabbis Withered Shadow Staff (Dark Gold – Abyss – Withered Shade)
ประเภท: ไม้เท้ายาว
ความต้องการ: 115 Intelligence และ 90 Wisdom
พลังโจมตี: 30 – 31
+23 พลังโจมตีเวทมนตร์ธาตุความมืด
+16 พลังโจมตีเวทมนตร์
+20 Intelligence
+17 Wisdom
[Rabbis Withered Shadow Arrow]: หลังจากเปิดใช้งานสกิล ไม้เท้าจะทำการกักเก็บพลังงาน 2 วินาที จากนั้นจะปลดปล่อยลูกศรเงา 15 ดอก ไปยังพื้นที่ที่เลือกไว้อย่างต่อเนื่อง ลูกศรเงาแต่ละลูกจะสร้างความเสียหายธาตุมืด 45 หน่วย และลดเกราะของเป้าหมายลง 5% ดีบัฟนี้สามารถซ้อนทับกันได้ 10 ครั้ง ระยะเวลาที่ติดดีบัฟคือ 10 วินาที คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง
NalanPureSoul ครุ่นคิดบางอย่าง ‘มันเป็นอาวุธธาตุมืด ถึงแม้ว่าสกิลลูกศรเงาที่ราวกับปืนกลมันจะ OP มาก แต่ฉันเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเวทมนตร์ไฟมากกว่า และเป็นความจริงที่ว่า คนอย่างพี่ชาย PaleSnow คงจะไม่ปล่อยให้ฉันเป็นคนได้ไม้เท้าอันนี้ไปแน่ๆ แต่ฉันสามารถต่อสู้เพื่อแย่งชิงดาบเล่มนั้นมาให้กับพี่สาวแทนได้!’
ThornyRose ก็คิดเหมือนกัน ไม่มีใครในทีมของเธอที่เชี่ยวชาญในเวทมนตร์ธาตุมืด อย่างไรก็ตาม ดาบเล่มนั้นจะต้องมอบให้กับ FrozenBlood หรือไม่ก็ตัวเธอเอง! มันเป็นสิ่งที่ดีเกินไป และความสามารถในการใช้งานสกิลของอาวุธก็มีคูลดาวน์เพียง 15 นาทีเท่านั้น สำหรับศักยภาพของอาวุธชิ้นนี้นั้น พวกเขาได้รับมาเร็วเกินไปสำหรับเกมที่เปิดตัวได้ไม่นานนัก
“เริ่มต้นด้วยไม้เท้า เราจะทำยังไงกันดี? อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็เป็นไอเทมที่ดร็อปมาจากบอสระดับอีเวนท์ แต่ทำไมสุนัขตัวที่เราฆ่าไปครั้งก่อนหน้านี้ ถึงไม่ดร็อปอุปกรณ์ระดับ Dark Gold ออกมาบ้างเลย” เย่ฉางจับไม้เท้าและถามออกมาด้วยความสงสัย
“มันจะเป็นไปได้ยังไง เพราะการฆ่าบอสตัวที่แล้วนั้น NPC ทั้งสองเป็นคนฆ่า มันจึงถือว่าเป็นความสำเร็จของ NPC ดังนั้นมันจึงไม่มีอุปกรณ์ระดับ Dark Gold ดร็อปออกมา…” NalanPureSoul อธิบาย “เกี่ยวกับไม้เท้าอันนี้… เดี๋ยวก่อนนะ เรายังมีหนังสือสกิลอยู่อีกไม่ใช่หรือ? แชร์ข้อมูลให้พวกเราดูหน่อยสิ…”
เย่ฉางพยักหน้า และแชร์ข้อมูลของหนังสือสกิล
Shadow Chain (Rabbis – Special – Withered Shade): ร่ายวลีที่ยาวนาน (ประมาณ 4 วินาที) เพื่อล่ามโซ่เงาไปยังเป้าหมายที่เลือกไว้สองเป้าหมาย ความเสียหายทั้งหมดที่ได้รับจะถูกแชร์ร่วมกันระหว่างเป้าหมายที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ด้วยกัน เป้าหมายแรกที่ถูกล่ามโซ่จะได้รับความเสียหายธาตุมืดเพิ่มขึ้น 25% สามารถเลือกเป้าหมายที่ล่ามโซ่เข้าด้วยกันได้ 2 เป้าหมาย เป้าหมายที่ถูกล่ามโซ่ทั้งสอง จะถูกแชร์ความเสียหายร่วมกันเป็นเวลา 3 นาที ใช้ 30 มานา คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง
Summon Withered Shade (Rabbis – Special – Summoner/Warlock/Dark Mage/Ranger): เมื่อเรียนรู้สกิล สามารถอัญเชิญปีศาจเงามาช่วยต่อสู้ได้ ระดับของปีศาจเงาที่อัญเชิญออกมาขึ้นอยู่กับระดับของผู้อัญเชิญ สามารถอัญเชิญได้สูงสุด 2 ครั้ง ใช้ 30 มานา ไม่มีเวลาคูลดาวน์
หลังจากดูคำอธิบายของสกิล [Shadow Chain] แล้ว NalanPureSoul ก็อดรู้สึกว่าสกิลนี้โหดร้ายมากไม่ได้! สกิลนี้สามารถใช้ได้ในหลายๆสถานการณ์ มันสามารถใช้ต่อสู้กับบอสที่ไม่มีสกิลโจมตีเป็นวงกว้าง หรือการโจมตีธาตุมืด คุณสามารถเชื่อมโยงบอสไว้กับตัวแทงค์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานในขณะที่ต้องพบเจอกับบอสหลายตัวได้อีกด้วย ทุกๆคนนอกเหนือจากลุ่มของเย่ฉางทั้งสามคน สามารถมองเห็นการใช้งานที่หลากหลายได้… แม้แต่สถานการณ์พิเศษบางอย่างก็สามารถแก้ไขได้โดยการเชื่อมโยงตัวแทงค์ไว้กับบอสได้ ทุกๆ คนได้รับรู้ว่านักเวทธาตุมืดจะยิ่งทรงพลังเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาได้เรียนรู้สกิลนี้!
“เริ่มประมูลไม้เท้ากันเลยแล้วกัน…” NalanPureSoul พูดออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ประมูลตูดฉันดิ! เรามีคนที่ต้องการมันอยู่แล้ว ฉันเป็นหัวหน้าทีม และเจ้าของบอสอีเว้นท์ตัวนี้! นายสามารถไปตัดสินใจกันเอาเองได้เลยว่าใครจะเป็นคนเอาดาบเล่มนี้ไป พวกเราไม่ต้องการมัน นายควรจะรู้ว่าสมาชิก Happy Firmament ของเราทั้งหมด รวมถึงเร็นน้อยด้วย กำลังใช้อุปกรณ์ระดับ Dark Gold ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่านี้กันทั้งนั้นแหละ …” เย่ฉางส่งไม้เท้าที่เปล่งประกายสีดำไปให้กับฟางชิ ฟางชิบหยิบไม้เท้ามาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น เพราะเขายังไม่สามารถใช้มันได้ในตอนนี้ เขายังมีค่า Intelligence ที่น้อยอยู่
ThornyRose เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเนโครแมนเซอร์เป็นอาชีพที่ผสมผสานระหว่างเวทย์มนต์ดำ และการซัมมอนอันเดท จากนั้นเธอก็เห็นเย่ฉางส่งดาบให้กับ NalanPureSoul เพื่อให้เธอและ NalanPureSoul ไปตัดสินใจกันเอาเอง ทั้งสองคนไม่ได้คัดค้านอะไร มีอุปกรณ์ระดับ Dark Gold อยู่ 2 ชิ้น ดังนั้นพวกเขาจึงมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับไป 1 ชิ้น สิ่งที่ทำให้ NalanPureSoul ประหลาดใจมากที่สุดก็คือ พวกเขาเหล่านี้มีอุปกรณ์ระดับ Dark Gold กันทั้งหมดเลยงั้นหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น อาวุธของพวกเขาก็ด้วย… ต้องรู้เอาไว้ก่อนเลยว่า 99% ของผู้เล่นยังไม่เคยพบเห็นอุปกรณ์ระดับ Gold กันเลย อย่างไรก็ตาม เขาใส่ใจเกี่ยวกับหนังสือสกิลทั้ง 2 เล่มนี้มากกว่า เนโครแมนเซอร์… เขาเกือบลืมไปเลยว่าทีมของเย่ฉางมีผู้เล่นเนโครแมนเซอร์อยู่ด้วย
“อันที่จริงแล้ว ดาบเล่มนั้น ฉันสามารถใช้มันเป็นอาวุธรองของฉันได้…” SpyingBlade พูดออกมาอย่างเงียบๆ
“ผมยังไม่มีอาวุธระดับ Dark Gold เลยนะ…” ฟางชิพูดออกมาอย่างโศกเศร้า ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว
ตอนที่ 411
“ไม่ใช่ว่าตอนนี้นายก็มีอันหนึ่งแล้วงั้นหรอ…” SpyingBlade ยิ้ม
“เฮ้อ แต่ค่าสถานะของผมก็ยังไม่พอที่จะสวมใส่ได้อยู่ดี…” ฟางชิยักไหล่
ท้ายที่สุด ดาบยาวระดับ Dark Gold ก็ตกไปอยู่ในมือของ NalanMoon ThornyRose รู้สึกเสียใจ อย่างไรก็ตาม NalanPureSoul จ่ายเงินเพื่อที่จะซื้อดาบเล่มนี้ และสัญญาว่าจะไม่แย่งชิงดาบระดับ Dark Gold เล่มต่อไป
ไม่นานต่อมา พวกเขาก็แบ่งอุปกรณ์ระดับ Distributing กันเรียบร้อย ดาบระดับ Gold ตกไปอยู่กับ ThornyRose ในขณะที่เย่ฉางหยิบถุงมือเหล็กให้กับหลินหลี่ ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือหนังสือสกิลทั้ง 2 เล่ม เย่เทียนจึงลุกขึ้นยืนและพูดออกมาว่า “หนังสือสกิลจะตกไปเป็นของ ทีม Happy Firmaments ซึ่งมีสิทธิในการแจกจ่ายไอเทม แต่เราจะจ่ายชดเชยให้ 200 เหรียญทอง ซึ่งพวกพี่ทั้งสองกลุ่มต้องไปแบ่งกันเอาเอง ส่วนตราสร้างกิลด์นั้น มันก็เป็นของเราด้วยเช่นกัน … ในก่อนหน้านี้เรามีข้อตกลงกันว่า เราจะให้ไอเทมให้เพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น…”
‘ตราสร้างกิลด์…’ NalanPureSoul ขมวดคิ้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ มันดร๊อปออกมาจริงๆ!! เขามองไปที่เย่ฉาง และพูดออกมาอย่างจริงจัง “ระบุราคามาได้เลย…”
เย่ฉางยกนิ้วมือขึ้นมาสองนิ้ว “2000 เหรียญทอง สามารถจ่ายเป็นเงินจริงครึ่งหนึ่งและเหรียญทองอีกครึ่งหนึ่งได้ ถ้าเงินนายไม่พอ นายสามารถติดเงินเราเอาไว้ก่อนได้ เย่เทียนจะเป็นคนที่คิดดอกเบี้ยให้กับนายเอง…”
“ตกลง…” NalanPureSoul พูดออกมาโดยไม่มีความลังเล ถึงแม้ว่าราคา 2000 เหรียญทองจะดูแพง แต่ตราบใดที่เขาสามารถสร้างกิลด์อย่างเป็นทางการขึ้นมาได้ มันก็คุ้มค่าเป็นอย่างมาก! หนี้ 1000 เหรียญทองอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการหามาคืน … สกุลเงินภายในเกมตอนนี้ขาดตลาดเป็นอย่างมาก แม้แต่ตลาดมืดก็ยังมีไม่เพียงพอต่อการซื้อขายได้เลย
ThornyRose มองไปที่เย่ฉาง ‘ชั่วร้ายมาก! นี่เป็นตราสร้างกิลด์อันที่ 3 แล้ว แต่ NalanPureSoul ยังไม่รู้ว่าที่ฉันก็มีอยู่ 1 อัน ฉันต้องรีบกลับไป และสร้างกิลด์อย่างเป็นทางการ ฉันต้องรีบก่อนที่พวกเขาจะสร้างกิลด์’ เธอรีบนำคนของเธอกลับไปโดยไม่หันมามอง พวกเธอหายตัวไปราวกับควัน “นำเงินค่าหนังสือสกิลไปหักหนี้ของฉันก็แล้วกัน เอาล่ะ… ในเมื่อการแบ่งไอเทมจบลงแล้ว ดังนั้นฉันขอตัวก่อนแล้วกัน ฉันมีเรื่องที่สำคัญต้องไปจัดการ! บ๊ายบาย!”
NalanPureSoul เห็น ThornyRose รีบเดินจากไป ในขณะที่เขากำลังคว้าจับไปที่ตราสร้างกิลด์ ‘ไม่ว่าจะมีเรื่องที่สำคัญมากขนาดไหน เธอก็ควรที่จะต้องกล่าวคำอำลาที่เหมาะสมสิ และแถมยังมีซากปรักหักพังที่เราสามารถสำรวจเพิ่มเติมได้อีก สถานที่แห่งนั้นอาจจะมีรางวัลพิเศษซ่อนอยู่ก็เป็นได้ เดี๋ยวก่อนนะ! หรือว่าอาจจะเป็น!’ เขาตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก “แย่แล้ว! พวกเธออาจจะมีตราสร้างกิลด์อยู่กับตัว! รีบตามไปเร็วเข้า! พี่สาว นำกลุ่มคนบางคนไปจัดการสกัดกั้นพวกเธอเอาไว้ก่อน เร็วเข้า! ส่วนคนที่เหลือรีบกลับไปที่เมืองแบล็กร็อคด้วยความเร็วเต็มพิกัด!!”
เย่ฉางมองดูกองกำลังทั้งสองหายตัวไปในป่าอย่างรวดเร็ว และพึมพำออกมา “พวกเขาไม่แม้แต่จะขอร้องให้เรานำพวกเขาไปสำรวจสร้างปรักหักพังด้วยเลย … ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้วางแผนที่จะนำพวกเขาไปสำรวจด้วยก็ตาม…”
“ทั้งหมดนี่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสร้างกิลด์ของพวกเขา…” เย่เทียนยักไหล่
“เพื่อน พวกเราก็อยู่กิลด์เดียวกับ ThornyRose นะ…” จางเจิ้งเฉียงหลั่งเหงื่อออกมา
เย่ฉางกระพริบตาและครุ่นคิดไม่ถึงวินาที “แล้ว?”
SpyingBlade, ฟางชิ และหวัง พวกเขาทั้งสามได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพี่สาวโรสถึงได้จงเกลียดจงชังหัวหน้าทีมมากขนาดนี้ หัวหน้าทีมไม่เคยปฏิบัติกับ Thorns and Roses ในฐานะกิลด์เลย ทั้งสามคนสงสัยบางอย่าง หรืออาจจะเป็นเพราะเย่ฉางเพิ่งเคยเล่นเกมเป็นครั้งแรก เขาเลยไม่เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับกิลด์และสโมสรต่างๆเลย SpyingBlade และฟางชิที่รู้ว่า เย่ฉางเป็นหนึ่งในผู้นำของ 10 บทบัญญัติ ทั้งสองคนถึงกับพูดไม่ออก นอกจากนี้เขายังต้องได้รับการปฏิบัติตามข้อบัญญัติแบบเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในผู้นำ แต่การกระทำของเขามักจะข้ามเส้นอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น Sky Burial ถูกสังหารโดย Hunting Flame เนื่องจากเขาได้รับการอนุมัติจากเย่ฉาง นี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่า Sky Burial จะดีหรือไม่ก็ตาม แต่เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำของบทบัญญัติ 10 ประการอยู่ดี ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งแค่เพียงสองปีก็ตาม พวกเขายังได้เรียนรู้จาก Cold Moon และ Ardent Wind อีกว่า ผูนำหมายเลข 1 ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ และปล่อยให้ Hunting Flame มาเข้าร่วมการประชุมกับ Cold Moon เหมือนก่อนหน้านี้พร้อมกับรอยยิ้มที่ลึกลับ และใบหน้าที่เฉยเมยของเขา เราสามารถจินตนาการได้เลยว่า ตำแหน่งผู้นำทีมพิเศษของ 10 บทบัญญัติเป็นอย่างไร พวกเขายังรู้สึกได้อีกว่า ผู้นำหมายเลข 2 ยังมีอำนาจต่ำกว่าเย่ฉางอยู่เล็กน้อย
ฟางชิรับหนังสือสกิลที่เย่ฉางมอบให้กับเขา จากนั้นเขาก็เห็นเพื่อนร่วมทีมกำลังค้นศพปีศาจเงานับพันตัวกันอย่างขยันขันแข็ง ราวกับผึ้งงานตัวน้อย SpyingBlade ได้เข้าไปค้นศพปีศาจเงาที่แห้งเหี่ยว และโชคดีที่เขาได้รับอุปกรณ์ระดับ Masterwork มา เขามองดูเย่ฉางที่กำลังค้นศพปีศาจเงาที่อยู่ด้านข้างของเขา และค้นไปยังศพปีศาจเงาอีกศพหนึ่ง แต่เขาก็ยังคงได้รับเพียงวัตถุดิบที่ได้จากการใช้ทักษะเก็บเกี่ยวมาเท่านั้น “หัวหน้าทีม นายควรหยุดพักสักหน่อยนะ มอนสเตอร์ตัวน้อยเหล่านี้อาจจะทำให้หัตถ์พระเจ้าของนายสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ไปเปล่าๆ…”
“ลูกศิษย์ SpyingBlade พูดถูกต้องแล้ว ฉันเลินเล่อเกินไป หัตถ์พระเจ้าของฉันมีไว้สำหรับค้นศพบอสเพียงเท่านั้น มอนสเตอร์ตัวน้อยเหล่านี้ไม่สามารถรับพลังงานแห่งโชคของหัตถ์พระเจ้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกมันทั้งหมดรีบออกจากบ้านโดยไม่นำอุปกรณ์ติดตัวมาด้วยแม้แต่ชิ้นเดียว …” เย่ฉางลูบคางและพยักหน้าอย่างช้าๆ หลังจากที่เก็บเกี่ยวซากศพจากแมวดำ Rabbis ไปแล้ว เขาจึงนั่งลงและตรวจสอบส่วนผสมต่างๆในกระเป๋าของเขา ในเวลาเช่นนี้ เขาทำได้เพียงใช้ทักษะเก็บเกี่ยวกับซากศพทั้งหมด ที่ทุกคนไปค้นศพกันมาแล้วอย่างบ้าคลั่ง
อูนา และ FrozenCloud ทั้งคู่ยกนิ้วโป้งให้กับ SpyingBlade เพื่อขอบคุณเขาสำหรับการปกป้องซากศพปีศาจเงานับไม่ถ้วน…
รภเข็นที่อัพเกรดของหลินหลี่ในตอนนี้เต็มไปด้วยชิ้นส่วนของปีศาจเงา แต่รถเข็นของเขาก็ยัดชิ้นส่วนทั้งหมดได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เย่ฉางไม่ได้คิดมากอะไร เขาให้หลินหลี่และเย่เทียนกลับเมืองไปก่อน เพื่อเอาชิ้นส่วนทั้งหมดไปเก็บที่คลังสินค้า จากนั้นค่อยกลับมาหาเขาอีกที หลังจากเดินทางไปมาถึง 2 ครั้ง พวกเขาได้ทำความสะอาดดินแดนที่แห้งแล้งตรงนี้จนหมดจด สินค้าทั้งหมดถูกใส่เข้าไปในคลังสินค้าของพวกเขาที่เมืองแบล็กร็อค ในที่สุดแล้ว พวกเขามองกลับไปยังดินแดนที่แห้งแล้งเพื่อดูว่า หลังจากที่พวกเขาค้นศพที่ตรงนั้นกันหมดแล้ว สถานที่ตรงนั้นกลายเป็นที่โล่งเตียนอย่างสมบูรณ์ การลดทอนของดีบัฟก็ลดลงเช่นด้วยเดียวกัน ตอนนี้อัตราการโดนหักลดไป 25% และอัตราการฟื้นฟูเหลือ 50% ไม่มีใครแน่ใจว่าพวกเขาควรที่จะทำลาย หรือปล่อยระบบนิเวศนี้ไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในดินแดนแห่งนี้พื้นที่ตรงนี้ดูสะอาดสะอ้านเป็นอย่างมาก พวกเขาทั้งหมดจึงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น…
“พวกเราไปหาอะไรกินและพักผ่อนกันสักหน่อยก่อนดีกว่า จากนั้นพวกเราก็ค่อยออกไปสำรวจกันต่อ เราได้กำไรจากการค้าไปเป็นจำนวนมาก และยังได้รับวัตถุดิบล้ำค่ามากมายมหาศาล ดังนั้นคืนนี้เราจะพอกันแค่นี้ และออกไปเลี้ยงฉลองที่ตลาดกลางคืนกัน!” เย่ฉางพูดออกมาอย่างหาญกล้า
“เฮ้ เราแค่ออกไปกินอาหารที่ตลาดกลางคืนนี่นะ ถึงกับเรียกว่าเลี้ยงฉลองเลยหรือ? ถึงแม้ว่ารสชาติมันจะอร่อยก็ตาม! เดี๋ยวก่อนนะ วัตถุดิบล้ำค่า?…” SpyingBlade นึกขึ้นได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง และถามออกมาด้วยความสงสัย “ขี้เถ้าเหล่านี้มีค่ามาก?”
“น่าจะใช่ สกิลการระบุตัวตนของฉันบอกว่าขี้เถ้าเหล่านี้มีความหลากหลายในการใช้งาน ยิ่งปีศาจเงามีสีที่เข้มขึ้นมากเท่าไหร่ ขี้เถ้าจะยิ่งมีค่าเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในการใช้ที่หลากหลายในนั้น คือใช้เป็นวัตถุดิบในศิลปะการทำอาหารที่พิเศษสุดของฉัน…” เย่ฉางยิ้ม ทุกคนพยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินครึ่งแรกของประโยค ‘ไม่เลว’ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคิด มันดูมีคุณค่ายิ่งกว่าคริสตัลเวทมนตร์เสียอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาได้ยินประโยคครึ่งหลัง พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นแข็งค้าง ‘ฮ่าฮ่า ฉันคงบ้าไปแล้วที่ไปเออออกับคำพูดของผู้ชายคนนี้…’
…
ตลาดกลางคืน
กงซุนเฉียน (CompassionateStar) มาหาคนรักของเธอที่เพิ่งคืนดีกัน ถึงแม้ว่าเธอจะได้กล่าวคำขอบคุณกับเย่ฉางทั้งน้ำตาไปแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังเต็มไปด้วยความเคารพ และชื่นชมต่อเขามากยิ่งขึ้น เย่ฉางเพียงแค่โบกมือไปมา “ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีเงื่อนไขหนะ ตอนนี้เธอก็หยุดเรียกฉันว่าผู้มีพระคุณได้แล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถบอกเธอได้ว่าพวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง แต่ที่แน่ๆคือมันมีความเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก เธอไม่เป็นห่วงเขางั้นหรอ?”
กงซุนเฉียนพิงไหล่ของ SpyingBlade “ฉันไม่ห่วงเลย เพราะเขาเป็นคนที่ชนะใจฉันได้ยังไงล่ะ…”
เย่ฉางถึงกับโง่งมไปเลยทีเดียว เขาอดที่จะเผยอปากขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ ‘เธอเป็นผู้หญิงที่ดีจริงๆ’ … เขามองไปที่ SpyingBlade และพูดออกมาอย่างจริงจัง “อย่าทำให้เธอเสียใจอีกครั้งล่ะ…”
“ฉันรู้แล้ว…” SpyingBlade ค่อยๆโน้มตัวไปกอดกงซุนเฉียน และยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล
ไม่นานมานี้ ตลาดกลางคืนตรงบริเวณรอบๆร้านของเถ้าแก่หวังเริ่มมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เพราะเถ้าแก่หลี่จากร้านราเม็งก็เข้ามาร่วมวงด้วย ทั้งสองคนได้ลงมือทำอาหารงานเลี้ยงตะวันออก, ตะวันตก, อาหารญี่ปุ่นสำหรับทุกคน จนทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาน้ำลายไหล เมื่อพวกเขาเห็นกลุ่มคนทั้งสามคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ คนแรกมีผมสีขาวที่โดดเด่น คนที่สองมีร่างกายกำยำที่ราวกับหมี และคนสุดท้ายที่มีหน้าตาไร้เดียงสา พวกเขาทั้งหมดจึงเดินเข้าไปทักทาย อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดเข้าไปทักทายด้วยความเคารพโดยที่ไม่รบกวนพวกสามพี่น้อง เมื่อคิดย้อนกลับไปยังฉากของสภานักศึกษาที่ได้รับความสูญเสีญเป็นอย่างมาก และทนทุกข์ทรมานกับรูดอกเบญจมาศที่ถูกทิ่มแทง ทำให้พวกเขาพร้อมใจกันปกปิดก้นของตนเอง ที่เขตตะวันออกนี้ สมาชิกทีม T-105 ได้กลายเป็นตำนานที่มีชีวิตอยู่กันไปแล้ว…
ตอนที่ 412
เสียงหัวเราะบนโต๊ะอาหารทำให้เย่ฉางยิ้มขึ้นมา เขามองดูเย่เทียนที่กำลังโดนหลินหลี่แกล้ง, FrozenCloud ทำตาขวางใส่จางเจิ้งเฉียงแบบงอนๆ,โดยมีอูนาคอยปลอบโยนเธออยู่, ฟางชิตักอาหารให้ฟางถง, ซูหยี่ยี่พูดเรื่องแฟชั่นกับกงซุนเฉียน และเสียงหัวเราะที่โง่เขลาของ SpyingBlade ฉากทั้งหมดข้างหน้า ทำให้เขามีความสุขและสบายใจเป็นพิเศษ หัวใจของเย่ฉางรู้สึกอบอุ่นมาก ถ้าเป็นไปได้เขาหวังว่าจะได้อยู่กับพวกคนเหล่านี้ตลอดไป ‘ฉันคิดอะไรอยู่! มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!’ เขาไล่ความคิดที่ไม่ดีออกไปจากจิตใจของเขา “เอาล่ะ! มาชนแก้วกันเถอะ! บริษัท Happy Firmaments จงเจริญ! ไชโย!”
“… มันกลายเป็นบริษัทไปตั้งแต่ตอนไหน!? …” ทุกคนรู้สึกละอายใจ
“ไชโย!” พวกเขาชนแก้วและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
…
ณ.นรกอเวจี
ชายผมขาวที่สวมหน้ากากถูกล่ามโซ่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ท่ามกลางการโดนทรมาณที่แสนโหดร้าย แต่แววตาของเขากลับดูเงียบสงบ มีผู้หญิงที่สวมชุดขาวยืนมองเขาอยู่ใกล้ๆด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน ‘ความรักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ มันดูน่ากลัวยิ่งกว่าความทุกข์ทรมานอันเป็นนิจนิรันดร์ของนรกอเวจีเสียอีก มันทำให้คนๆหนึ่งที่ขนาดโดนทรมานอย่างหนักแบบนี้ แต่เขากลับไม่มีความเศร้าเสียใจเลย และยังซื่อสัตย์ต่อสัญญาที่ให้ไว้อย่างมาก ฉันรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้แสแสร้งทำ’ … เมื่อเธอหลุดออกมาจากความคิด เธอก็รีบเดินจากไป เธอค่อยๆเลี้ยวซ้ายและเดินออกเดินอย่างไม่ค่อยมั่นคง จิตใจของเธอยังคงคิดถึงดวงตาที่อ่อนโยนของเขา เธอถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก คำพูดเหล่านั้นของเขา มันฝังอยู่ในใจของเธอ … ‘เมื่อเทียบกับการสูญเสียความรักที่แท้จริงแล้ว ความเจ็บปวดเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงหรอก’ …เธอเผลอคิดขึ้นมา ‘ถ้าคนที่เขารักคือฉันล่ะก็’ … จู่ๆเธอรู้สึกว่ามีการเผาไหม้อย่างรุนแรงในหน้าอกของเธอ และมีรสหวานในลำคอของเธอ เธอถ่มเลือดออกมา ‘เกิดอะไรขึ้นกับฉัน? ฉันคนนี้ที่ได้รับการฝึกฝนในพระสูตรหัวใจหยก ฉันไม่ควรมีความรู้สึกรักใคร่แบบนี้สิ ฉันต้องขจัดความรู้สึกนี้ออกไปให้หมด!’
…
ตัดฉากกลับไปที่บ้านพักริมทะเล
ทุกคนเดินเล่นไปตามแนวชายหาดและพูดคุยกันขณะมองทะเลแห่งดวงดาว หลินหลี่หันไปดูดวงดาวอันไม่มีที่สิ้นสุด และดวงตาของเขาก็มีน้ำตาคลอออกมา ‘คุณพ่อ คุณแม่ ผมทำดีที่สุดแล้ว … ในตอนนี้ผมมีชื่อเสียงแล้วนะ พวกท่านยังตามหาผมอยู่ไหม?’
บนเรือสำราญลำหนึ่ง ซงซินมองดูข้อมูลที่เธอได้รวบรวมมา และคิ้วของเธอก็หดลง ใบหน้าของเธอแสดงสัญญาณระวังตัวออกมา เธอรีบทำลายไฟล์ต้นฉบับทันที ‘ฉันไม่สามารถบอกใครได้ว่าฉันกำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่!’ ดวงตาที่สวยงามของเธอมองไปยังภาพสะท้อนของดวงจันทร์บนทะเล ‘หลินหลี่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการตรวจสอบหรอกนะ แต่ฉันไม่กล้าสืบค้นให้ลึกไปมากกว่านี้ เพราะอาจจะมีความจริงที่น่ากลัวบางอย่างซ่อนอยู่ในอดีตของคุณ ทั้งหมดนี้มันดีสำหรับคุณนะ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การได้เห็นคุณมีความสุขและร่าเริงแบบนี้’
ทุกคนกลับเข้าเกมและโผล่ในป่าที่แห้งแล้ง พวกเขามุ่งหน้าไปยังซากปรักหักพัง ภายในอาคารไม่มีร่องรอยของพวกมอนเตอร์เลยสักตัวเดียว บางทีการต่อสู้ข้างนอกได้ดึงดูดพวกปีศาจเงาออกไปจนหมด เย่ฉางเห็นกล่องอัญมณีเล็กๆอยู่ที่มุมๆหนึ่ง เขาเหลียวมองทางซ้ายและขวา เมื่อไม่เห็นใครอยู่รอบๆตัวเขา เพราะพวกเขากระจายตัวกันเพื่อออกค้นหา เย่ฉางเริ่มวิ่งไปที่มุมอย่างรวดเร็วและเปิดกล่องอัญมณีทันที สุดท้ายเขาได้แต่พึมพำ “สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานานมากแล้ว มันจึงเป็นเรื่องปกติที่หีบสมบัติจะว่างเปล่าแบบนี้ เฮ้อ …”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เอาหีบสมบัติที่ว่างเปล่าไปซ่อน จากนั้นก็ทำการค้นหาต่อ
ในที่สุด ทุกคนก็มารวมตัวกันอยู่นอกวิหารและเริ่มรายงานผลการค้นหาของแต่ล่ะคน เย่ฉางได้มอบอุปกรณ์ของนักเวทระดับ Gold ให้กับฟางชิ มันทำให้เขามีค่าสถานะเพียงพอในการติดตั้ง ไม้เท้า Rabbis Withered Shadow Staff ที่เพิ่งได้รับมาจากบอสแมวดำ อูนาและหวังไม่มีการคัดค้านใดๆ
ตรงทางเข้าหน้าวิหาร พวกเขาเห็นเสาหินหลายอันที่โค่นล้มระเนระนาด ในบางแห่งเสาหินได้ปิดทางเข้าวิหารและอุโมงค์ไป ทำให้พวกเขาต้องวนไปเข้าอีกด้านหนึ่งแทน เย่เทียนพลิกอ่านหนังสือโบราณ
‘วิหารเทพธิดาแจมเป็นสถานที่สำหรับการอธิษฐานเพื่อความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนมากมายจะมาที่นี่เพื่อขอพรจากเธอ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่เจริญรุ่งเรืองมาก มันเต็มไปด้วยโรงแรมมากมายเพื่อให้ผู้คนที่มาขอพรได้พักผ่อนกัน พวกเขาจะเลือกแมวเป็นทูตของเทพธิดาแจมและบูชามัน สุดท้ายเมื่อ Rabbis …’
‘Rabbis ที่เป็นบอสอีเว้นท์นั้นนะหรือ?’ เธอปิดหนังสือและอธิบายเนื้อหาให้ทุกคนฟัง
“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ที่วิหารทั้งสามแห่งถูกทำลาย และดูเหมือนว่ามันไม่ได้เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ถ้าฉันเดาไม่ผิด ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน …” SpyingBlade เริ่มวิเคาระห์
“ใครจะไปสนล่ะ เราจะฆ่าทุกอย่างที่ขวางทางเรา เพื่อที่เราจะได้ไปชำระล้างรูปปั้นเทพธิดา เราไม่มีทางรู้หรอก ถ้าเราไม่ไปถามเธอเอง …” เย่ฉางยักไหล่และก้าวเดินเข้าไปในวิหาร ทุกคนทำตามเขาอย่างรวดเร็ว
หลังจากเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ เย่ฉางและคนอื่นๆก็หยุดเดินลง พวกเขาเห็นว่ากำแพงที่แตกถูกปกคลุมไปด้วยเนื้อบางๆที่มีเส้นเลือดเต้นตุบๆ เย่เทียนก้มลงและสัมผัสกับของเหลวเหนียวหนึดบนพื้นดิน “มันมาจากแมลง อวัยวะน่าขยะแขยงบนกำแพงเหล่านี้ มันน่าจะเป็นเช่นเดียวกับอันที่สร้างโดยพวกหนอน อย่างไรก็ตาม สถานที่นี้มันดูซับซ้อนมากขึ้น และด้านในควรมีการดำรงอยู่ของแมลงบางชนิด …”
“ทุกคนต้องระวังตัวด้วย หลินหลี่มีขวดระเบิดเพลิงระดับสูงเหลืออยู่กี่ขวด?” เย่ฉางถาม จากนั้นก็ดึงธนูหนักออกมา พร้อมกับหยิบลูกศรผึ้งคากูมาขึ้นสาย เขาค่อยๆก้าวลงสู่พื้นดินที่อ่อนนุ่ม
“ขอผมนับก่อนนะ …” หลินหลี่เปิดกระเป๋าเป้ของเขาและเริ่มนับทีละขวด ทีละขวด เย่เทียนถอนหายใจ “73 ขวดระเบิดเพลิงระดับสูง กับ 3 ขวดระเบิดเพลิงกัมปนาท …”
“เทียนน้อยทำได้ดีมาก นับได้เท่ากับพี่ใหญ่หลี่คนนี้เลย พี่ใหญ่ขาวครับ มันมีมากพอ ไม่ต้องห่วง …” หลินหลี่ตอบแบบยิ้มๆ
“ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เมื่อเราเข้าไปข้างในและต่อสู้กับแมลง เราจะใช้ไฟเหล่านี้เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับเราในสนามรบให้มากที่สุด …” ขณะที่เย่ฉางเดินเข้าไป เขาได้เห็นว่าในความมืดมิดมีไข่อยู่บนพื้น “ฉันเห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไข่ …”
จู่ๆมีของเหลวเหนียวหนึดบนเพดานหล่นใส่หน้าของอูนา เธอกรีดร้องและรีบเช็ดมันออกอย่างรวดเร็ว เธอบ่นพึมพำ “ฉันเกลียดสิ่งที่เหนียวหนึดเช่นนี้ น่าขยะแขยงชะมัด!”
เย่เทียนก้มลงลงและตรวจสอบไข่บนพื้น เธอใช้สว่านเล็กๆเจาะเปลือกไข่เพื่อให้มองเห็นข้างใน เธอไม่กล้าที่จะทุบมันให้แตก เพราะอาจจะมีตัวอ่อนแมลงอยู่ข้างใน และมันอาจส่งคลื่นสัญญาณเตือนขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้น เธอเห็นสิ่งมีชีวิตประเภทแมลงปีกแข็งในของเหลวเหนียวหนึด ‘ตัวด้วง? นั่นหมายความว่าการป้องกันของพวกมันต้องสูงมากแน่ๆ ถ้าเป็นบอส มันจะเป็นเรื่องราวที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง … ขณะที่เธอกำลังคิดใคร่ครวญอยู่นั้น จู่ๆขาที่เหมือนใบมีดก็พุ่งใส่เย่เทียน เธอหลบได้อย่างเฉียดฉิว แต่ก็เกิดรอยแผลเล็กบนใบหน้าของเธอ SpyingBlade รีบวิ่งเข้ามาแทงดาบใส่ไข่ทันที …
เย่ฉางระบุซากศพ ขณะที่เก็บเกี่ยวมัน “มันเป็นด้วงบากู …”
ฉากก่อนหน้านี้ ทำให้ผมของอูนาชี้ตั้งขึ้น เวลานั้นที่รังของแมลงคากูก็เพียงพอที่จะทำให้เธอสั่นกลัวแล้ว แต่ตอนนี้เธอต้องมาเจอกับรังด้วงบากูอีก มันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติผู้หญิงอย่างเธอที่จะต้องเกลียดพวกแมลงต่างๆ
“อย่าเพิ่งไปต่อเลย เรากลับไปที่สวนข้างนอกวิหารและกินอาหารอร่อยๆเพื่อรับบัฟกันก่อน ฉันมีเมนูใหม่ๆมานำเสนอ ~” เย่ฉางพูดเป็นนัยๆ ท่าทางของเขาเหมือนกำลังจะมอบเซอร์ไฟส์สุดแสนพิเศษให้กับทุกคน สิ่งนี้มันทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน ‘ขี้เถ้าปีศาจเงาแน่ๆ …’
เมื่อกลับมาที่สวน เย่ฉางเริ่มปรุงอาหาร เขาผัดเนื้อที่เคลือบเจลสไลม์, ขี้เถ้าปีศาจเงา, กระดูก, และชิ้นส่วนวิญญาณร้าย จากนั้นเขาก็โรยแป้งสีเทาที่เป็นสูตรลับของเขาลงไป ข้างๆเขายังมีหม้อที่กำลังเดือดปุดๆอยู่ มันเป็นงานศิลปะของเขาที่เรียกว่าซุปกระดูก ในขณะที่ทำอาหาร เย่ฉางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ซุปนี้ทำมาจากกระดูกของปีศาจโครงกระดูก, กระดูกของซอมบี้ระดับนายพล, กระดูกของสัตว์ปีศาจและกระดูกของสัตว์ต่างๆหลายชนิด ที่สำคัญมันถูกปรุงรสให้กลมกล่อมและชุ่มฉ่ำด้วยเห็ดเรืองแสง! นอกจากนี้ยังมีเห็ดชนิดอื่นๆอีกหลายชนิด ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยังไม่หมดแค่นี้นะ ~ นอกจากนี้ยังใส่ปลาที่แสนอร่อยลงไปอีกด้วย! นั่นคือปลาแบล็กพีค! พวกนายคิดว่ามันจะหมดแค่นี้ใช่ไหม!? ฉันบอกเลยว่า ไม่! นอกจากนี้ มันยังมีซอสหมักลับเฉพาะของฉันอีกด้วย … !” ขณะที่เขาพูดถึงวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารไม่หยุด ทุกคนรีบเข้ามาหยุดเขาไว้ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะเย่ฉางได้โยนซอสหมักลับเฉพาะลงไปในหม้อแล้ว เมื่อทุกคนมองดูซอสหมักลับเฉพาะของเย่ฉาง ไม่มีใครรู้ว่ามีส่วนผสมที่น่ารังเกียจและขยะแขยงมากแค่ไหน แต่ทุกคนเห็นว่า อย่างน้อยก็มีของเหลวซอมบี้ระดับนายพลเป็นหนึ่งในส่วนผสม …
ตอนที่ 413
“มันอร่อยมากเลยทีเดียว …” เย่ฉางเอาฝาปิดหม้อไว้อย่างมิดชิด ราวกับว่าเขากำลังผนึกสัตว์ปีศาจอยู่ จากนั้นเขาเริ่มที่จะทำเมนูต่อไป โดยการเอาอาหารที่เหลือจากครั้งที่แล้วมาสกัดสารพิษออก “เรายังคงมีข้าวอยู่เป็นจำนวนมากจากครั้งก่อน มันเหมาะสำหรับจะทำเป็นข้าวผัด …”
ขณะที่เขากำลังผัดข้าวในกองไฟขนาดใหญ่อยู่นั้น
“ขี้เถ้าปีศาจเงา! สิ่งนี้แน่นอนว่าจะทำให้รสชาติดีขึ้น!”
เขาหยิบมันมาหนึ่งกำมือและโยนมันเข้าไป
“แล้วเพิ่มซอสหมักลับเฉพาะของฉันเข้าไปอีก …”
เขาเทลงไปครึ่งขวด
“ข้าวผัดจะขาดเนื้อไม่ได้!!”
เนื้อซอมบี้ถูกโยนเข้าไป
“รู้สึกว่ามันจะแห้งไปนิดหน่อย …”
เจลสไลม์ผสมกับน้ำมันถูกเทลงไป
“จงร้อนแรง! ข้าวผัดของฉัน! ! @ # $! เอ๊ะ รู้สึกมันยังขาดๆอะไรไป! มันไม่มีไข่ !!!”
เย่ฉางเปิดใช้สกิลเพิ่มความเร็วของรองเท้าและพุ่งเข้าไปในห้องโถงทันที เขาหยิบไข่ขนาดกลางขึ้นมา เปลือกไข่ถูกเปิดออกบางส่วน ทำให้สามารถมองเห็นตัวอ่อนของแมลงข้างในได้ เขาฉีกเปลือกไข่และเททุกสิ่งทุกอย่างลงในข้าวผัด ทุกคนปิดปากของตัวเองขณะที่สั่นไปทั้งตัว … โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าอาหารฉุกเฉิน จนเย่เทียนต้องปลอบมันจนสงบลง “แกควรจะมีความสุขสิ ที่ทุกคนยังเห็นประโยชน์ของแกอยู่ … ไม่งั้นป่านนี้แกเป็นอาหารของคุณพ่อไปแล้ว”
เย่ฉางเริ่มกวัดแกว่งทัพพีด้วยความเร็วสูงในเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ ดั่งราวกับว่าเขากำลังกวัดแกว่งดาบอย่างโหดเหี้ยมในสนามรบ ทุกคนเฝ้าดูภาพที่น่ากลัวนี้อย่างฝืนทน แมลงกำลังร่ำร้องและดิ้นรนทุรนทุรายอยู่ในข้าวผัด ในที่สุดทุกคนก็มองไปที่หม้อข้าวผัดขนาดใหญ่, กองเนื้อผัดที่เหม็นเน่า และซุปกระดูกใส่เห็ดที่ทำลายความรู้สึกทั้งหมดของพวกเขา
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องทดลองวิธีการที่จะใช้ขี้เถ้าปีศาจเงาให้มากกว่านี้ มันยังมีข้อผิดพลาดอยู่นิดหน่อย …” เย่ฉางบีบจมูกของเขาอย่างแน่นหนา และพูดอย่างจริงจังด้วยเสียงแปลกๆ
‘นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเล็กน้อยเลย ช่วงเวลาที่เขาได้เรียนรู้ทักษะการทำอาหารที่หายาก นั่นเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด …’ กระเพาะอาหารของจางเจิ้งเฉียงรู้สึกปั่นป่วน ราวกับมีคลื่นสึนามิอยู่ภายใน เขารู้สึกเสียใจมากที่ปล่อยให้เย่ฉางเป็นคนได้เรียนรู้ทักษะการทำอาหารนี้ไป เหตุใดในตอนนั้นเขาจึงไม่เอา 5 แต้มที่อัพค่า Constitution ไปอัพค่า Intelligence แทน จากนั้นเขาก็จะได้เรียนรู้ทักษะการทำอาหารนี้แทนเย่ฉาง เร็นน้อยได้แต่นิ่งเงียบ มันค่อยๆหันหลังกลับและวางแผนที่จะหลบหนี แต่ถูกหลินหลี่คว้าหางของมันไว้ก่อน หลินหลี่ดึงเร็นน้อยกลับมา “อย่าคิดจะหนีไปด้วยตัวคนเดียว … เร็นน้อย …”
เร็นน้อยแสดงออกอย่างหวาดกลัว เมื่อถูกหลินหลี่ดึงหางของมันเข้ามาใกล้และยื่นชุดเช็ทอาหารจานนรกทั้งหมดให้แก่มัน สุดท้ายแล้วมันต้องยอมกินและตายอย่างน่าสังเวช เจ้าฟ้าน้อยและเจ้าซอสอ่อน เช่นเดียวกับคนอื่นๆทั้งหมดต่างกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ในฐานะซุปเปอร์ไวเซอร์อย่างเย่เทียน เธอมีความเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า หน้าที่ของเธอคือการทำให้ทุกคนกินอาหารให้หมดก่อนที่เธอจะกินเอง … เธอยังรับผิดชอบโดยการจับสัตว์เลี้ยงของเธออย่างเจ้าอาหารฉุกเฉินมากินอาหารอีก ถ้าเรียกเย่ฉางว่าฆาตกรแล้ว เย่เทียนเปรียบเสมือนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด อย่างน้อยสัตว์เลี้ยงทุกตัวก็รู้สึกแบบนี้จริงๆ…
ขณะที่ทุกคนกำลังดิ้นรนอยู่ภายใน เย่ฉางกำลังจ้องมองที่กำแพง ‘ตอนนี้ทักษะการทำอาหารของฉันเป็นขั้นสูงแล้ว ได้เวลาที่ฉันจะต้องเตรียมงานฉลองคุณภาพระดับโลกครั้งแรกของฉันแล้ว ส่วนผสมที่หายากเหล่านี้ ถูกทิ้งไว้นานจนเกินไปแล้ว’ … จากนั้นเขาหยิบจานข้าวผัดขึ้นมา และตักเนื้อผัดสองสามชิ้นใส่ แล้วก็เทน้ำซุปกระดูกลงในชาม ทุกคนสาบานได้ว่าพวกเขาต่างได้ยินเสียงโหยหวนแห่งความเศร้าโศกดังออกมาจากอาหารของเขา
เย่ฉางกินข้าวผัดและเนื้อผัดลงไป ก่อนที่จิตสำนึกของเขาจะจางหายไป เขาก็รีบซดน้ำซุปกระดูกลงคอ ร่างกายของเขารู้สึกราวกับว่า มันถูกฉีกขาดออกจากกันด้วยกลิ่นเหม็นที่รุนแรง จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นและเริ่มชักกระตุก
SpyingBlade สูดหายใจเข้าลึกๆ และกินอาหารทั้งสามชนิดภายในลมหายใจเดียว และแล้วเขาก็ทรุดตัวลงเช่นกัน คนส่วนใหญ่กินอาหารกันเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม ฟางชิ, OldWangFromNextDoor และอูนานั้นโชคร้ายอย่างมาก พวกเขาหมดสติไปในขณะที่พวกเขากำลังกินข้าวผัดและเนื้อผัด เย่เทียนถอนหายใจ เธอมองทั้งสามคนที่ยังขาดประสบการณ์! เมื่อกินอาหารที่พ่อของเธอทำ มันมีกฏเหล็กอยู่ว่า จะต้องกินให้รวดเร็วที่สุด เร็วเหมือนพายุทอร์นาโดได้ยิ่งดี มันไม่สำคัญว่าจะต้องกินมากขนาดไหน แต่ต้องกินให้ครบทั้งสามอย่าง! มันต้องกินอย่างนี้! เธอรีบคว้าเจ้าซอสอ่อนที่หวาดกลัวอย่างมากและเจ้าฟ้าน้อยที่กำลังสั่นงกๆอยู่ เธอยัดอาหารทั้งสามชนิดลงในปากของพวกมันอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเธอก็ตรวจสอบทุกคนและเห็นว่าไม่มีใครเสียชีวิต โชคของพวกเขานั้นดีมากๆ จากนั้นเธอก็หยิบอาหารทั้งสามอย่างยัดลงในปากของเธอ เธอเดินมานั่งใกล้ๆร่างเย่ฉางและหลับตาลง เธอค่อยๆล้มลงบนหน้าอกของเย่ฉางและชักกระตุกไปด้วยกัน …
หลังจากผ่านไปสักพัก ทุกคนก็ตื่นขึ้นมาและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับบัฟที่เพิ่มความเร็วและปฏิกิริยาตอบสนองขึ้น 5 % แถมมันยังเพิ่มค่าสถานะให้เป็นเปอร์เซ็นอีกด้วย บัฟของอาหารทั้งสามอย่างไม่เพียงแต่จะให้โบนัสค่าสถานะที่ดี แต่ยังให้ความต้านทานพิษและความต้านทานความมืดได้สูงมากกว่า 65! หากโดนโจมตีด้วยพิษธรรมดา พวกเขาจะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อพวกเขานึกถึงสิ่งที่พวกเขากินเข้าไปแล้ว พวกเขารู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
สำหรับอูนา, ฟางชิและหวังนั้น พวกเขาเฝ้ามองขณะที่เย่ฉางยื่นน้ำซุปกระดูกให้ และมองพวกเขาด้วยความห่วงใย “พวกนายยังไม่ได้กินน้ำซุปนี่เลยนะ เพื่อให้ได้รับผลบัฟที่ดีที่สุด ต้องรีบกินมันขณะที่กำลังอุ่นอยู่ เร็วๆเข้า ทุกคนกำลังรอพวกนายอยู่ …”
“……”
หลังจากที่ทุกคนได้รับบัฟอันสุดยอดของอาหารแล้ว เย่ฉางเริ่มเก็บอุปกรณ์ทำอาหารของเขาและเห็นว่ายังมีข้าวผัดกับน้ำซุปกระดูกเหลืออยู่มากมาย เขาเริ่มคิดอย่างจริงจังและพูดออกมาว่า “ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่า ฉันจะเป็นอัจฉริยะด้านการทำอาหาร! ฉันมีไอเดียใหม่ๆ ที่ทั้งยังสามารถปรับปรุงคุณภาพของอาหารและประหยัดวัตถุดิบได้ ครั้งต่อไปฉันจะผสมน้ำซุปกระดูกและข้าวผัดเข้าด้วยกัน ถูกแล้ว! ฉันจะทำข้าวต้มสไตล์เกาหลี! แน่นอนว่ามันต้องมีรสชาติที่ดีมากๆ! …”
ทุกคนกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนความเจ็บปวดและความเศร้าโศกของพวกเขาให้เป็นพลัง แต่ในตอนนี้พวกเขากำลังเศร้าสลดมากยิ่งขึ้น บัฟของอาหารอยู่ได้แค่ 6 ชั่วโมง! อูนาเอามือก่ายหน้าผาก ทำไมเธอถึงต้องเลือกมายังเมืองแบล็กร็อคด้วย! ทำไมมือของเธอจึงไม่สั่นกระตุกจนไปเผลอกดเลือกเมืองอื่นแทน … สิ่งที่ดีอย่างเดียวก็คือ ในโลกแห่งความเป็นจริง เธอเป็นคนทำอาหารเอง ตำแหน่งนี้เธอจะไม่ยอมถ่ายโอนให้เขาโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นแล้ว … เธอแทบไม่สามารถจะจินตนาการได้!
“เอาล่ะ ไปสำรวจกันต่อเถอะ …” SpyingBlade กล่าวด้วยเสียงที่ไร้พลัง
เย่ฉางเดินนำหน้าเข้าไป เขาได้เก็บเกี่ยวทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างตื่นเต้น ผู้คนที่เดินตามหลังเขาต่างถอนหายใจด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง และหนังศีรษะรู้สึกด้านชาทุกครั้งที่พวกเขาคิดถึงมื้ออาหารต่อไป พวกเขาทั้งหมดได้แต่อธิษฐาน ในขณะที่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว …
พวกเขากลับไปที่ทางเดินก่อนหน้านั้นและเดินเข้าไปในห้องโถงของวิหาร ถึงแม้วิสัยทัศน์การมองเห็นของพวกเขาจะไม่ดี แต่พวกเขาก็พอเห็นไข่ทั้งหมดได้ มีแต่เฉพาะเย่ฉางที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ผนังด้านข้างทั้งสองด้านและเพดานเต็มไปด้วยไข่จำนวนมาก มีรูปปั้นเทพธิดาขนาดมหึมาถูกปกคลุมไปด้วยไข่และของเหลวเหนียวหนืด เขาใช้สกิล [Eagle Eyes] มองไปยังถ้ำที่อยู่ใกล้รูปปั้นเทพธิดา มันมีความกว้างอย่างน้อย 10 เมตรและเต็มไปด้วยไข่ที่ดูเหมือนจะไหลทะลักออกมา ทุกคนต่างตกใจกับทะเลแห่งไข่นี้ จู่ๆก็มีเสียงที่แหลมสูงดังออกมา ไข่ทั้งหมดเริ่มแตกออก …
“หลินหลี่! จุดไฟเผาด้านซ้ายและขวาไว้! สร้างเป็นเส้นทางไปยังถ้ำ! เราจะใช้ไฟเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันเข้ามา!” เย่ฉางตะโกน
“รับทราบ!” หลินหลี่เริ่มโยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงออกไปทางซ้ายและขวา ไข่ที่ยังไม่แตกออกโดยสมบูรณ์ถูกทำลายก่อนที่พวกแมลงจะออกมา พวกมันถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลแห่งเปลวเพลิง ห้องโถงวิหารทั้งหมดเหมือนนรกที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของแมลงที่ทนทุกข์ทรมาน ทุกคนวิ่งไปข้างหน้า ในขณะที่หลินหลี่ยังโยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูงไปทางด้านข้างและตรงข้ามกับรูปปั้นเทพธิดา ในตอนนี้ห้องโถงวิหารทั้งหมดสว่างไสวไปด้วยเปลวเพลิง ผนังห้องเริ่มแตกออกและพื้นก็เริ่มสั่นไหว
“หลินหลี่ รีบหน่อย! มีอะไรบางอย่างกำลังจะออกมา!” SpyingBlade รู้สึกว่าบอสกำลังจะออกมาจากหลุม!
หลินหลี่เปิดใช้สกิล [Leap] ทันที เขากระโจนและเหวี่ยงกระเป๋าเป้อย่างบ้าคลั่ง เขาโยนขวดระเบิดเพลิงระดับสูง 12 ขวดลงไปในหลุม! เมื่อเขาร่อนลงพื้น เขาก็รีบโยนออกไปอีกจนไม่เหลือขวดระเบิดเพลิงระดับสูงเลยสักขวด จากนั้นเขาก็ถอยกลับไปหากลุ่ม พวกเขาหันไปเผชิญหน้ากับด้วงบากูที่อยู่รอบๆรูปปั้นเทพธิดาซึ่งยังไม่ถูกไฟไหม้ …
ตอนที่ 414
ในทะเลแห่งเปลวเพลิง จำนวนค่าประสบการณ์ได้เพิ่มขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะไม่มากเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่น้อยเหมือนกัน
ภายใต้แสงจากเปลวไฟ เทพธิดาแห่งการนองเลือดยิ่งดูน่ารังเกียจเป็นอย่างมาก ของเหลวเหนียวหนืดเป็นชั้นๆ ยิ่งทำให้ผู้คนหวาดกลัว ภายในชั้นนี้ ทั่วทั้งพื้นที่ยังคงสั่นสะเทือน ทุกคนได้กวาดล้างเหล่าแมลงต่างๆที่อยู่บริเวณรอบๆรูปปั้นเทพธิดา แต่พวกเขาคิดว่าเปลวไฟภายในหลุมเหล่านี้ คงไม่สามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่นัก
“อาเฉียง ไปยืนสแตนด์บายอยู่ใกล้ๆหลุม ถ้าพวกมันออกมา จัดการให้มันกลับลงไปในหลุมทันที” เย่ฉางใช้ธนูหนักของเขา และยิงลูกศรออกไปอย่างแม่นยำ ลูกศรพุ่งโจมตีไปยังด้วงบากูที่ไต่อยู่บนเพดาน เมื่อถูกโจมตี ด้วงบากูจึงหล่นกลับเข้าไปภายในหลุม
จางเจิ้งเฉียงพุ่งเข้าไปใกล้กับหลุม เขาลากขวานหนักของเขาไว้ข้างหลัง เขารู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่รุนแรงอยู่ภายใต้หลุม ดังนั้นเขาจึงย่อตัวลงเล็กน้อย
เปลวไฟภายในหลุมค่อยๆกลายเป็นขนาดเล็ก และเหล่าด้วงบากูก็ค่อยๆพากันคืบคลานออกมา แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่โหดร้ายคร่ำครวญออกมา ทำให้เหล่าด้วงบากูทั้งหลายกลายเป็นเศษเนื้อชิ้นเล็กชื้นน้อยกระจัดกระจายออกไป เคียวหุ้มเกราะขนาดยักษ์ยื่นโผล่ออกมาจากหลุม มันหันหน้าไปทางด้านในของวิหารด้วยความบ้าคลั่ง และส่งเสียงกรีดร้องที่แหลมเล็กออกมา ทำให้สติของพวกเขาตกอยู่ในความหวาดกลัว เย่ฉางรีบตีกลองอันเล็กที่เอวของเขา เพื่อปลุกทุกคนให้ฟื้นคืนสติขึ้นมา
Bagu Bug – Vanguard Beetle – Turchisa: นายพลทัพหน้าของด้วงบากู มันมีโครงกระดูกที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และมีความเร็วในการพุ่งชาร์จอย่างรวดเร็ว ด้วงบากูตัวนี้เป็นแมลงที่โดดเด่นในเรื่องพลังทำลายล้าง…
จางเจิ้งเฉียงมีค่าสถานะ Will ที่สูง ดังนั้นเขาจึงไม่ติดสถานะหวาดกลัวเมื่อมันปรากฏตัวออกมา ขณะที่บอสกำลังจะพุ่งออกมาจากหลุม จางเจิ้งเฉียงก็ใช้ [Barbaric Tackle] กระแทกไปยังลำตัวของมัน ทำให้มันกระเด็นกลับเข้าไปในหลุมอีกครั้ง ขวานยักษ์ของเขาได้สว่างไสวด้วยสกิล [Holy Judgement] เขาสับอย่างรุนแรงไปที่หัวของมันสามครั้งซ้อน อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่มันได้รับก็ไม่มากนัก เพราะเปลือกของมันแข็งและหนามากเกินไป
“เพื่อน! ความต้านทานการโจมตีทางกายภาพของมันสูงเกินไป!” จางเจิ้งเฉียงใช้ขวานเพื่อป้องกันเคียวที่กวาดเข้ามา พื้นที่เขาเยียบอยู่เกิดรอยแตกร้าว จนเขาจมลึกเข้าไปในพื้นดิน 5 เมตรก่อนที่จะหยุดยั้งเอาไว้ได้
“คนที่สามารถทำลายเกราะได้ ไปหาตำแหน่งยืน และเล็งโจมตีไปยังตำแหน่งเดียวซ้ำๆ ฟางชิ ในการต่อสู้ครั้งนี้ การอัญเชิญของนายจะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก การโจมตีด้วยจิตวิญญาณสามารถจัดการกับมอนเตอร์ประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี…” SpyingBlade พูดเตือน
ฟางชิพยักหน้า เขาเปิดใช้งาน [Shadow Arrows] จากไม้เท้าของเขา ทำให้เกิดผลการลดเกราะชั่วคราว ในขณะเดียวกันเขาก็ควบคุมบาลี่ให้ใช้คำสาป และการโจมตีด้วยจิตวิญญาณใส่บอส
‘ทำลายเกราะ?’ เย่ฉางยิ้ม มือของเขาส่องแสงสีเขียวแล้วยิงกระสุนสีเขียวหนืดๆ ที่เหมือนกับน้ำลายออกไป มันกระทบในจุดที่ลูกศรเงาทำการโจมตีไปก่อนหน้านี้ เปลือกของบอสเริ่มอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
“มันหวาดกลัวการโจมตีจากกรด!” SpyingBlade ตะโกน เขาเปิดงานใช้สกิลที่ลดความสามารถของเกราะเป้าหมายลง ดาบของเขาได้พุ่งออกไปทิ่มแทงยังตำแหน่งเดียวกับลูกศรเงาเช่นกัน เขาโจมตีออกไปอย่างรวดเร็ว 4 ครั้ง จนเหลือทิ้งไว้เพียงแค่ภาพเงา! ค่าความเสียหายที่รุนแรงได้ลอยขึ้นมา จากนั้นเขาก็เอนตัวไปด้านข้าง หลีกทางให้เย่ฉางพุ่งเข้ามาด้วยสกิล [Dashing Straight Thrust] ตามด้วย [Shadow Frost] เขามองดูดอกไม้น้ำแข็งที่บานสะพรั่งออกมา… ได้ผลไหม?
เย่ฉางแทงหอกออกไป ผลักดันให้ผลึกน้ำแข็งระเบิดออกจากภายในจนเกิดรอยแตก สำเร็จ! เป้าหมายถูกทำให้ติดสถานะสตั้น และถูกดีบัฟจากผลึกน้ำแข็ง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ได้เวลาที่ผมจะหงายไพ่ลับแล้ว…” หลินหลี่หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย เขาหยิบขวดสีเขียว และชั่งน้ำหนักพวกมันไว้ในมือ จากนั้นเขาก็โยนขวดทั้งสามขวดออกไป ของเหลวสีเขียวรั่วไหลไปทั่วทั้งตัวของบอส ทำให้เปลือกที่ห่อหุ้มรอบตัวมันทั้งหมด เริ่มที่จะปล่อยควันออกมา
“หลินหลี่ โยนขวดกาวไปที่หน้าของมัน และโยนไปในหลุมด้วย!” เย่ฉางยิ้ม ‘แกตายแน่! ขวดกรด และสกิล [Acid Spray] ของฉันถูกเก็บไว้ใช้สำหรับบอสที่อยู่ยงคงกระพันแบบแกนั่นแหละ ถ้าความเร็วในการพุ่งชาร์จของแกรวดเร็วมากล่ะก็ ฉันก็จะผนึกการพุ่งชาร์จของแกเอง!’
“จัดให้เลย! พี่ใหญ่ขาว!” หลินหลี่ได้โยนขวดน้ำยาสีขาวลอยไปที่ด้านขวาของบอสที่กำลังติดสตั้นอยู่ จากนั้นขวดน้ำยาสีขาวก็โค้งลอยต่ำลงมาปะทะกับใบหน้าของบอส SpyingBlade เลิกคิ้วขึ้น ‘นี่คือของเหลวที่เหนียวหนึบที่ถูกสร้างจากหนอน ใช่แล้ว! หลินหลี่มีสูตรในการทำกาว! โอ้วพระเจ้าช่วย! ตอนนี้เราสามารถหยุดการคลื่นไหวของมันได้แล้ว มันไม่มีทางที่จะพุ่งออกไปข้างหน้า หรือล่าถอยกลับไปได้อีกต่อไปแล้ว บอสตัวนี้ได้แต่ตำหนิตัวเองเท่านั้น ที่ต้องมาเจอกับความซวยของมันเอง ถ้าเป็นทีมอื่น บอสตัวนี้จะไม่มีทางอ่อนแอไปกว่าบอสอีเว้นท์ที่ผ่านมาได้เลย การที่มันมีเปลือกที่แข็งและหนาจนแทบจะอยู่ยงคงกระพันถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดเป็นอย่างมาก’ เขาเตือนทุกคน “อย่าหยุดโจมตี! เปลือกของมันฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว!”
หลังจากที่หลินหลี่โยนขวดกรดและขวดกาวออกไปแล้ว เขาก็กระโดดเข้ามาร่วมการต่อสู้ จากด้านข้างหลินหลี่ได้ปลดปล่อยสกิล [Wild Blows] ใส่บอส FrozenCloud รีบเตือนเขา ในขณะที่เขาเตรียมพร้อมที่จะเรียกรถเข็นของเขาออกมาเพื่อใช้สกิล [Handcart Homerun] เธอกลัวว่าหลินหลี่จะหวดมันออกไปจากระยะโจมตีของทุกคน และทำให้มันหลุดออกจากกับดักกาวได้ เขาจึงบุ้ยปากด้วยความหงุดหงิด และเก็บรถเข็นของเขากลับคืนไป จากนั้นเขาก็ทำการโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อระบายอารมณ์…
อูนาใช้สกิล [Ice Spear] เจาะทะลุเข้าไป ทำให้รอยแตกเริ่มขยายกว้างขึ้น หลังจากนั้นเย่ฉางก็ใช้ [Shadow Step] ย้ายไปตรงตำแหน่งของฟางชิ และใช้บาลิสต้าของเขาที่ติดตั้งลูกศรเหล็กในราชินีผู้งคากูยิงออกไปด้วยสกิล [Meteor Shot] ต่อจากนั้นเขาก็ใช้สกิล [Shadow Weapon] เพื่อเรียกหน้าไม้หนักที่บรรจุลูกศรเหล็กในราชาผึ้งคากู และยิงซ้ำไปยังตำแหน่งเดิม ความเสียหายมหาศาลได้ลอยเด่นตระหง่านขึ้นมาด้วยลูกศรเหล็กในทั้งสอง + พิษ ตอนนี้บอสทำได้เพียงแค่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง และอีกครั้ง…
ในเวลานี้ บอสได้หลุดออกมาจากสถานะสตั้นด้วยอาการเจ็บปวด เคียวทั้งสองข้างของมันตวัดเหวี่ยงไปมาจนสร้างเป็นตาข่ายคมเคียว SpyingBlade รีบถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี จางเจิ้งเฉียงโห่ร้องออกมา และก้าวเดินออกไปข้างหน้าแทนที่จะถอยหลังกลับ ขวานยักษ์ของเขาถูกใช้เป็นโล่ เขาเล็งไปที่รอยแตก และตะโกนออกไปพร้อมกับพุ่งชาร์จด้วยสกิล [Berserk Tackle] “อย่าหยุด! โจมตีต่อไป!”
จางเจิ้งเฉียยกแขนซ้ายขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตี เคร็ง! มือขวาของเขายกขวานยักษ์ขึ้นมา และกระแทกไปตรงรอยแตกของเปลือก เสียงกรีดร้องที่ดังกึกก้องได้ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการโจมตีที่วุ่นวายจากเคียวของบอส จางเจิ้งเฉียงได้แต่ป้องกันเพื่อรักษาระดับพลังชีวิตของเขาเอาไว้เท่านั้น เขามั่นใจว่าเขาจะไม่ได้รับความเสียหายที่มากมายอะไรนัก ดังนั้นเขาจึงต่อสู้ต่อไป และใช้สกิล [Desperate Prayer]! [Berserk Recovery]! [Rainbow Slam]! สำเร็จ!
จางเจิ้งเฉียงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง มันสำเร็จ! เย่เทียนรู้เอฟเฟคของสกิลนี้เป็นอย่างดี โอกาสที่จะสำเร็จเมื่อใช้กับบอสมีไม่มากนัก แต่แมลงมีความไวต่อแสง ดังนั้นโอกาสที่เขาสามารถทำสำเร็จได้จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก! นอกจากนี้ ด้วยบอสประเภทนี้ ตราบใดที่เปลือกของมันแตกออก ด้านในจะมีความอ่อนแอเป็นอย่างมาก และนี่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้พวกเขา เย่เทียนรีบใช้สกิล [Holy Shield] และ [Rejuvenating Light] ที่เสร็จสิ้นคูลดาวน์ให้กับจางเจิ้งเฉียง ตอนนี้เธอก็มีไข่มุกแห่งแสงอยู่สองอันแล้ว…
เย่ฉางเก็บบาลิสต้าของเขา เพราะตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีแล้ว เขาโจมตีอีกครั้งด้วยสกิล [Acid Spray] ฟางชิกำลังจะอัญเชิญปีศาจเงา แต่เขามีความคิดอีกอย่าง ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีความต้องการปีศาจเงา ดังนั้นเขาจึงรักษาระดับมานาของเขาเอาไว้ก่อน เขาโจมตีออกไปด้วยสกิล [Spirit Ball] เพื่อสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังโจมตีธาตุความมืดที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้ [Spirit Ball] ของเขายิ่งรุนแรงมากขึ้น แต่ก็เพิ่มความเสียหายขึ้นมาแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ฟางชิได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น อย่างที่คิดเอาไว้ด้วยอาวุธระดับ Dark Gold ทำให้สกิล [Spirit Ball] ของเขาเกือบจะเพิ่มดาเมจขึ้นเป็น 2 เท่า…
FrozenCloud ย่อตัวลง เธอเปิดใช้งานเอฟเฟคของเสื้อคลุมระดับ Dark Gold เพื่อเพิ่มค่าสถานะขึ้นเป็น 2 เท่าชั่วคราว ตามด้วยสกิล [Wyvern Kick]! กรงเล็บถูกยิงออกไปจากถุงมือของเธอ [Wolverine Strike], [Triple Strike], [Heavy Fist], [Kamaitachi – Sweeping Wind]! [Shoryuken]! เธอลอยลงพื้นและถอยกลับไป เธอใช้พลังซี่ของเธอที่มีทั้งหมดใส่ลงไปในสกิลระดับ Epic – [Collapsing Palm]! การโจมตีครั้งนี้สร้างรอยลึกทิ้งไว้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยโบนัสจากความสามารถพิเศษ [Combo Master] (หลังจากใช้สกิลแล้วการโจมตีครั้งต่อไปจะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 15%) มีตัวเลขค่าความเสียหายที่สูงอย่างน่ากลัวปรากฏขึ้น เปลือกของบอสถูกโจมตีอย่างรุนแรงทำให้มันติดสตั้นอีกครั้ง
เย่ฉางยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา บอสตัวนี้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว การทำให้มันไร้สมรรถภาพแบบนี้ ทำให้ง่ายต่อการจัดการ เขาดึงธนูหนักของเขาออกมา และยิง [Acid Sting] ออกไป (เมื่อเกิดความเสียหายจากพิษทั้งสองชนิด จะทำการระเบิดเป้าหมาย และทำให้เป้าหมายติดสถานะอัมพาต) ลูกศรพุ่งทะลุผ่านรอยของเปลือกที่แตกออกเข้าไปในเนื้อของมัน เขาเอื้อมมือ และดึงลูกศรอีกอันหนึ่งออกมา และใช้สกิล [Enchanted Arrow – Explosive Arrow] ซ้ำเข้าไปที่ตำแหน่งเดิม จนสร้างความเสียหายให้กับบอสได้เป็น 2 เท่า!…
ตอนที่ 415
บอสด้วงบากูได้หลุดออกจากสถานะสตั้นอีกครั้ง ด้วยความตกใจกลัว มันพยายามหมุนตัวไปรอบๆ เพื่อคลานกลับลงไปในหลุม อย่างไรก็ตาม ทุกๆหลุมถูกปกคลุมไปด้วยกาว ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะมันจะสามารถคืนคลานกลับเข้าไปในหลุมได้ สกิล [Acid Sting] ของเย่ฉางได้ระเบิดออกมา ทำให้บอสติดอัมพาตก่อนที่มันจะคลานไปที่หลุมได้ หลินหลี่รีบกระโดดไปตรงหลุม และเบียดตัวเข้าไปด้านในด้วยความยากลำบาก จากนั้นเขาก็กระแทกมันด้วยรถเข็นของเขา “หลินหลี่ โฮมรัน!”
“มันถูกทุบกระแทกออกจากหลุม ด้วยการสะบัดมือ ขวดกรดหลายขวดก็ได้ถูกขว้างออกมาขวดบินออกไปด้วยความโค้ง และลอยโจมตีไปที่บอสอย่างแม่นยำ…
จางเจิ้งเฉียงกระโดดจับบอสกลางอากาศ ในขณะที่มันลอยขึ้นมาด้วยการหวดรถเข็นของหลินหลี่ ทั้งคู่ได้รับความเสียหายจากขวดกรด แต่จางเจิ้งเฉียงก็พยายามบังคับให้มันลงไปกระแทกยังพื้นที่เต็มไปด้วยกาว เขาร่อนลงมาบนพื้น และพุ่งชาร์จออกไปอีกครั้ง [Holy Judgement]! เขาโจมตีออกไปอย่างรวดเร็ว 3 ครั้งซ้อน แต่การโจมตีด้วยแสงครั้งสุดท้าย ทำให้บอสติดสถานะสตั้นอีกครั้ง
หลินหลี่ผลักรถเข็นไปข้างหน้าราวกับกำลังเดินช็อปปิ้ง และพุ่งชนไปที่บอสด้วงด้วยสกิล [Handcart Charge] จางเจิ้งเฉียงก็ใช้สกิล [Barbaric Tackle] พวกเขาทั้งสองพุ่งอัดกระแทกบอสทั้งสองด้านราวกับแซนวิช บอสไม่มีทางที่จะต่อต้านการโจมตีที่เข้ามาได้เลย เกราะและเปลือกบนร่างกายของมันไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ เย่ฉางดึงคันธนูขึ้น และใช้สกิล [Precise Shot] ยิงเข้าไปตรงกลางระหว่างดวงตาทั้ง 2 ข้างของบอส
[ขอแสดงความยินดี คุณได้กำจัด Bagu Bug – Vanguard Beetle – Turchisa! ได้รับ 3000 Exp…]
FrozenCloud พุ่งไปที่เย่ฉาง และใช้สกิล [Wyvern Kick] เย่ฉางหัวเราะเยาะและหลบการโจมตีของเธอ เขาคว้าไปยังข้อเท้าของเธอในขณะที่เธอเตะออกมา ทำให้เธอหล่นกระแทกไปบนพื้น จากนั้นเขาก็ใช้ด้ามหอกตบไปที่หลังหัวของเธอ และหันร่างของเขาเพื่อหลบสกิล [Ice Arrow] ของอูนา “ง่ายเกินไป เธอคิดว่าจะสามารถหยุดฉันด้วย…”
เขายังไม่ทันได้พูดจบ เสียงของหลินหลี่ก็ดังขึ้นมาแล้ว “พี่ใหญ่ขาว! เราได้รับอุปกรณ์ระดับ Dark Gold! อุปกรณ์ระดับ Dark Gold!!”
“……” เย่ฉางรู้สึกแน่นหน้าอก เขาชี้นิ้วไปยังทุกคนด้วยความเจ็บปวดใจ “พวกนายทุกคน…”
“หัวหน้าทีม ทั้งหมดนี่ก็เพื่อทีมนะคะ…” FrozenCloud ที่นอนอยู่บนพื้นดิน ก็ได้รับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาและเธอไม่ได้ห่างชั้นเพียงแค่อุปกรณ์ แต่ยังเป็นสติ และความตระหนักรู้ต่างๆอีกด้วย หัวหน้าทีมจะรู้สึกถึงสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อเขาทันทีที่มันถูกปลดปล่อย การสกัดกั้นของพี่สาวโรสไม่เป็นพิษเป็นภัย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกว่าตนเองตกอยู่ในสภาพที่กำลังถูกคุมคาม…
เย่ฉางถอนหายใจ และหยิบสิ่งของที่หลินหลี่มอบให้กับเขาขึ้นมา ‘ไอพวกคนพาลเหล่านี้ไม่เชื่อมั่นในหัตถ์พระเจ้าของฉัน ฉันคงต้องทำให้พวกเขาหวาดกลัวกันบ้างซะแล้ว!! บอสอีเว้นท์ตัวต่อไป ฉันจะต้องเป็นคนได้ค้นศพของมันอย่างแน่นอน!!’ เขามองไปยังอุปกรณ์ทั้ง 2 ชิ้น
Bagu Bug Vanguard Mask (Dark Gold – Bagu Bug – Nightmare)
ประเภท: หน้ากากหนัก
ความต้องการ: 130 Strength
+20 พล้งป้องกัน
+25 Strength
+15 Constitution
ได้รับความเสียหายทางกายภาพลดลง 7%
Active – Bagu Vanguard : เมื่อเปิดใช้งาน ร่างกายของคุณจะถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกที่แข็ง และหนา ทำให้คุณได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 3 นาที คูลดาวน์ 15 นาที
Bagu Bug Vanguard Hatchet (Dark Gold – Bagu Bug – Nightmare)
ประเภท: ขวานหนักมือเดียว / ขวานหนักสองมือ
ความต้องการ: 115/105 Strength และ 75/70 Constitution
พลังโจมตี: 30 – 32 / 32 – 35
+15 Strength
+10 Constitution
+15 Crush (เมื่อต่อสู้กับมอนเตอร์/ผู้เล่นที่มีเกราะและค่าสถานะต่ำกว่าคุณ ทำให้มีโอกาสสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้น 50%)
Active – Bagu Bug Vanguard’s Fury: เมื่อทำการพุ่งชาร์จโจมตีไปยังเป้าหมาย จะสร้างความเสียหาย 165% และมีโอกาสที่จะทำให้เป้าหมายติดสถานะสตั้น 2 วินาที และกระเด็นถอยหลัง คูลดาวน์ 20 นาที
“หน้ากากสำหรับอาเฉียง ไม่มีใครมีปัญหาอะไรใช่ไหม…” เย่ฉางยื่นหน้ากากให้กับจางเจิ้งเฉียง
จางเจิ้งเฉียงหยิบหน้ากากขึ้นมาสวมใส่ เขาเคยชินกับความลำเอียงของเย่ฉางไปแล้ว ถ้าเย่ฉางคิดว่าอะไรเหมาะกับเขา เย่ฉางจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้รับมัน ตราบใดที่มันไม่ทำลายความรู้สึกของคนอื่นๆ เขาได้รับสิ่งที่ดีมาเสมอทุกครั้ง เย่ฉางมักจะคอยคิดเกี่ยวกับเขา และพี่สาวของเขาอยู่เสมอ…
ไม่มีใครคัดค้าน เพราะในกลุ่มนี้มีเพียงหลินหลี่และจางเจิ้งเฉียงเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้ สกิลการป้องกันของหน้ากาก เห็นได้อยางชัดเจนว่า ควรจะมอบมันให้กับตัวแท้งค์หลัก เพราะตัวแท้งค์ที่ทรงพลังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทีม ในสายตาของ SpyingBlade มันไม่ผิดอะไรที่จะมอบอุปกรณ์ที่ดีที่สุดให้กับจางเจิ้งเฉียงไปก่อน การมีส่วนร่วมของเขาในกลุ่มเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงแม้ว่าจะไม่มีออร่าของเขา เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวแท้งค์ที่ดีที่สุดของสหพันธ์เกมเมอร์ไปแล้ว ตัวแท้งค์ที่ดีถ้ามีเพียงแค่เทคนิคมันก็ยังไม่เพียงพอ มันต้องมีจิตวิญญาณพิเศษ! ความน่าประทับใจ! ถ้าคุณมีความกล้าหาญที่จะบุกวิ่งฝ่าเข้าไปในกองทัพนับพันของศัตรู โดยไม่สนว่าจะมีใครคอยสนับสนุนคุณจากข้างหลังหรือไม่ ถ้าคุณทำไม่ได้ แต่จางเจิ้งเฉียงสามารถทำได้! เขาเป็นแท้งค์ประเภทที่กระจายกลิ่นอายกระหาย ‘การต่อสู้กับศตรูนับหมื่น!’ มันราวกับว่าไม่ว่าใครจะอยู่เป็นคู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้า เขาก็จะไม่มีวันหลีกทางให้กับเหล่าศัตรูเลยแม้แต่คนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นราวกับเบอเซอเกอร์ที่จะไม่หยุดต่อสู้จนกว่าหัวของศัตรูจะหลุดออกไป เพราะนี่คือสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่ทั้งสามพี่น้องก็ไม่เคยเกรงกลัวใครในหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะเลยสักคน ที่พวกเขาทั้งสามคนไม่เคยเกรงกลัวใคร เพราะพวกเขาไม่สนใจว่าศัตรูจะเป็นใคร หรือจะมีมากน้อยขนาดไหนก็ตาม แม้แต่ CloudDragon ก็ตามเถอะ ด้วยคำสั่งเพียงคำเดียว พวกเขาก็จะลงมือฆ่าทันทีโดยไม่ถามอะไรเลยสักคำ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ SpyingBlade ได้ขายโล่ให้กับพวกเขา เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าไม่ควรไปยั่วยุสามพี่น้องเหล่านี้ ลองคิดดูสิว่าจะมีใครที่ไหนพูดต่อรองราคาว่า ‘ถ้าคุณไม่ขายครึ่งราคา พวกเราจะฉี่ใส่มันจนคุณไม่สามารถขายมันได้เลย’…
“แล้วขวานอันนี้ล่ะ แน่นอนว่าหลินหลี่และอาเฉียงไม่ต้องการมัน นายต้องการขวานอันนี้ไหม SpyingBlade?” เย่ฉางถามขึ้นมา
“ฉันไม่ใช้ขวาน และมันก็ไม่แตกต่างจากอาวุธรองของฉันมากนัก เก็บเอาไว้ก่อนแล้วกัน เราน่าจะขายได้ราคาดี เมื่อเรากลับไปที่เมือง…” SpyingBlade ส่ายหัว
“ก็ได้ งั้นตอนนี้เราจะเก็บขวานอันนี้เอาไว้ก่อนแล้วกัน…” เย่ฉางเก็บขวานใส่ไว้ในกระเป๋าของเขา จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะเก็บเกี่ยวกับศพบอส และแล้วทะเลของซากแมลงก็ถูกเติมเต็มลงไปในรถเข็น เขาดึงผ้าเช็ดตัวออกมาและผูกไว้ที่หอกของเขาอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนมันเป็นไม้ถูกพื้น ขณะที่เขามองไปทางรูปปั้นเทพธิดา “เอาล่ะ เริ่มทำความสะอาดรูปปั้นเทพธิดากันเถอะ!”
OldWangFromNextDoor ได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนหน้าอกของเทพธิดาตั้งแต่ตอนไหนไม่มีใครรู้ และเขาก็กำลังเฝ้ารอคอยคำสั่งนี้อยู่อย่างใจจดใจจ่อ
“……” เมื่อทุกคนเห็นสิ่งนี้ พวกเขาได้แต่ถอนหายใจกันออกมา โดยเฉพาะอูนา, FrozenCloud, SpyingBlade และฟางชิ ‘หวัง… เขาต้องเป็นคนที่เหงา และหมดหวังขนาดไหนกันนะ’
เย่ฉางทำเหมือนเดิม เขาทำความสะอาดสถานที่ตรงบริเวณระหว่างขาของเธอ จางเจิ้งเฉียง และ SpyingBlade ไปทำความสะอาดตรงก้นของเธอ หลินหลี่ทำความสะอาดตรงขาของเธอ ด้วยความช่วยเหลือของน้ำยาฟื้นฟูมานา เลือดและของเหลวที่เหนียวเหนอะหนะถูกล้างออกอย่างรวดเร็ว รูปปั้นเทพธิดาแจมเริ่มเรืองแสงออกมา อูนาและ FrozenCloud นั่งอยู่ใกล้ๆ ถ้าเธอเป็นเทพธิดาจริงๆ เธอก็จะฆ่าพวกหมิ่นประมาทพวกนี้อย่างทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าผมขาว ที่กำลังกระทุ้งหว่างขาของเธอด้วยหอกของเขา…
“อิย๊าาา~~!” เมื่อเทพธิดาเริ่มส่องแสง เธอส่งเสียงคำรามที่แผ่วเบาไปทั่ววิหารเป็นเวลานาน จนทำให้หวังรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ตามที่คิดไว้ นี่คือเทพธิดาสินะ…
“อ่า นักรบผู้กล้าหาญที่ใช้หอก กรุณานุ่มนวลด้วยค่ะ…” เทพธิดาแจมเอียงอายขณะที่เธอส่งเสียงครวญครางออกมา เย่ฉางตกอยู่ในอารมณ์หงุดหงิด เพราะเธอไม่ได้ให้รางวัลอะไรเลยแก่พวกเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มทำมันอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น! ‘รางวัลของฉันอยู่ไหน! มอบรางวัลมาให้ฉันซะ! หรือจะให้ฉันกระทุ้งเธอจนตายกันไปข้างหนึ่ง!!’
“อิย๊าาา~ นักรบ! อิย๊าาา~ อ่า ดี ดีจัง ดีมาก… อ๊า! แรงกว่านี้อีก!!”
อูนา และ FrozenBlood ปิดหูของพวกเธอ ฉากและเสียงดังกล่าว มันน่าอับอายเกินไปแล้ว เทพธิดาทั้ง 3 องค์นี้เป็นลูกสาวของเทพธิดาธรรมชาติจริงๆงั้นหรือ? ทำไมพวกเธอถึงรู้สึกว่าเทพธิดาแต่ละองค์ จะหิวกระหายกันมากซะเหลือเกิน และพวกเธอดูเหมือนจะชอบเล่นกับสิ่งที่น่าอับอายเหล่านี้อีกด้วย
“ขอบคุณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านแรนเจอร์ เพื่อที่จะตอบแทนคุณสำหรับการปลดปล่อยวิหารนี้ ฉันจะมอบพรของให้ฉันให้แก่คุณ!!!” เทพธิดาตะโกนด้วยลมหายใจอย่างถี่รัว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น