Virtual World – Peerless White Emperor 430-435

ตอนที่ 430

 

เย่ฉางรับหอกยาว 3 เมตรอันใหม่ขึ้นมาดู หอกเป็นสีดำและดูเรียบง่าย หอกเล่มนี้ไม่มีลวดลายอะไรแต่งเติมเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งนี้ทำให้เขาพึงพอใจกับหอกอันใหม่เล่มนี้เป็นอย่างมาก

Shadow Spear (Dark Gold – HeavenShakingMight – Reinforced)

ประเภท: หอกใหญ่

ความต้องการ: 145 Strength, 113 Dexterity, 125 Constitution

พลังโจมตี: 36 – 42

+25 Strength

+20 Dexterity

+17 Constitution

+60 เจาะเกราะ

+25% ความรุนแรงในการเจาะและความเร็ว

Shadow Spear (ติดตัว): ระยะโจมตีเพิ่มขึ้น 2 เมตร

Barbed Spear – Bleed (ติดตัว): เมื่อโจมตีเป้าหมายประสบความสำเร็จ จะมีโอกาสที่จะทำให้เป้าหมายติดดีบัฟเลือดไหล ค่าความเสียหายที่เกิดจากการติดดีบัฟเลือดไหลจะคิดจากค่า Strength และพลังโจมตี

Shadow Strike: ปลดปล่อยร่างเงาออกไป 3 ร่างพุ่งชาร์จไปยังเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างรวดเร็ว สามารถสลับเปลี่ยนร่างเงาไปมาได้อย่างอิสระ สร้างความเสียหาย 185% + 35% สำหรับร่างเงาแต่ละร่าง และมีโอกาสที่จะโจมตีทะลุเกราะ ทำให้พลังป้องกันของเป้าหมายลดลง 15% คูลดาวน์ 5 นาที

“เพื่อน เป็นไงบ้าง? มันยอดเยี่ยมมากเลยใช่ไหม!?” จางเจิ้งเฉียงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการสรรสร้างของตัวเอง

“ไม่เลวเลยทีเดียว นายสามารถสร้างอาวุธประเภทไม้เท้าได้บ้างไหม?” เย่ฉางโยนหอกเล่มใหม่ของเขาเข้าไปในเงา

“ฉันไม่สามารถทำได้ เทคนิคการหลอมอุปกรณ์ของโบสถ์ทำได้เพียงอาวุธและไม้คทา หรือสิ่งต่างๆที่ทำขึ้นจากเหล็กทั้งหมด ไม้คทาระดับ Dark Gold ของเย่เทียนถูกสร้างขึ้นจากฉันโดยใช้โลหะเวทมนตร์และมิธริล อีกอย่างไม้คทาของเย่เทียนยังมีสกิลศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก 3 สกิลที่ถูกปิดผนึกเอาไว้อยู่ด้วย แต่ไม้เท้าของนักเวทส่วนมากจะทำขึ้นจากไม้… ด้วยการที่ต้องใช้ไม้ มันจึงไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขทักษะการตีเหล็กของฉัน…” จางเจิ้งเฉียงส่ายหัวไปมา

“ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันจะไปปลูกพืชผักบางชนิดก่อน ถุงมือของน้องเล็กไดโนยังคงต้องมีการสรรสร้างขึ้นมาใหม่อยู่ ดังนั้นนายก็ช่วยเธอหน่อยก็แล้วกันนะ…” เย่ฉางหันกลับไป และเดินออกมาจากโรงตีเหล็ก เขาไปขอร้องให้ริก้าช่วยเขาเช่าฟาร์มส่วนตัว เขาปลูกเห็ดบางชนิด และเมล็ดพันธุ์ของผักบางอย่าง จากนั้นเขาก็เริ่มใช้สกิล [Jam – Planting Skill] ในการหว่านเมล็ด และกระตุ้นให้มันเติบโตขึ้น เนื่องจากพืชพรรณเหล่านี้ต้องการช่วงเวลาที่ครบกำหนด เขาจึงจากไป และวางแผนที่จะกลับมาอีกครั้งในภายหลัง เขายังไปขอให้มาคาร์โระผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านพืช ให้ช่วยแวะมาดูมันเป็นครั้งคราว

มาคาร์โระที่กำลังว่างและทำเพียงแค่เดินไปรอบๆเมืองอยู่ เมื่อเขาแวะมาดูตามที่เย่ฉางขอร้องทันใดนั้นเขาก็ต้องหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมาเมื่อเห็นหน่อต้นไม้ 2 ต้น เขาอดที่จะมองตาปริบๆ และยิ้มออกมาอย่างขมขื่นไม่ได้ “เป็นต้นโอ๊กศักดิ์สิทธิ์จริงๆ และยังมีต้นไม้มังกรดำไททันอีกด้วย … นี่คือขุมทรัพย์ที่ไม่มีใครเทียบได้อีกแล้ว…”

มาคาร์โระอัญเชิญต้นไม้ที่มีอานุภาพบางอย่างออกมา และเริ่มจัดระเบียบพื้นที่ของสวนใหม่อีกครั้ง เขาเปรียบเสมือนชาวนาที่เป็นเพื่อนบ้านใจดีในระแวกใกล้เคียง เขาเริ่มจำแนกและจัดเรียงลำดับพืชพรรณแต่ละชนิด เห็ด, พุ่มไม้, ต้นผลไม้, พืชผักต่างๆ…

เย่ฉางอ้าปากหาวด้วยความรู้สึกเบื่อ เขาไปที่บ้านของอลิสและดื่มชา เมื่อเขากำลังจะจากไป เขาเห็นอลิสโบกมือลาให้กับเขา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขายิ้มได้ ‘จะไปที่ไหนต่อดี?’ ในขณะที่เขากำลังคิด เย่เทียนก็แจ้งให้เขารู้ “พ่อคะ งานวิจัยประสบความสำเร็จแล้ว! หนูได้พัฒนาอุปกรณ์ขยายสำเร็จแล้ว!”

‘อุปกรณ์ขยายคืออะไร?’ ด้วยความสงสัย เย่ฉางจึงไปที่ห้องทดลองของเย่เทียน และเห็นว่าในห้องไม่มีใครเลยสักคน ‘เธอไม่ได้บอกว่าเธออยู่ที่นี่งั้นหรือ?’

“พ่อคะ อาจารย์ได้นำเรือเหาะกลับไปที่เมืองไวท์สโตนและให้หนูเฝ้าดูห้องวิจัย ดังนั้นหนูจึงสามารถใช้ห้องวิจัยของอาจารย์ได้ …” เย่เทียนเห็นเย่ฉางมองไปรอบๆ เธอจึงยิ้มออกมา เหมือนกับเด็กหญิงตัวน้อยที่ได้ของเล่นอันใหม่ เธอเอาอุปกรณ์ที่ดูซับซ้อนออกมา “พ่อคะ นี่เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือพิเศษประเภทใหม่ที่หนูพัฒนาขึ้น – อุปกรณ์ขยาย! ตอนนี้หนูทำได้แค่เพียงแบ่งเป็นอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ และอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหว…”

“อะไรนะ?” เย่ฉางไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง…

“อุปกรณ์ขยายเวทมนตร์เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงคุณภาพของอาวุธนักเวททั้งหลาย ซึ่งจะคล้ายๆกับไม้คทาของหนู ถ้าหนูติดตั้งอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ใส่ในไม้คทา ค่าสถานะ Will ของหนูจะเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 18% ส่วนอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวจะสามารถติดตั้งได้เพียงในอุปกรณ์ป้องกันเท่านั้น อุปกรณ์ขยายจะช่วยเพิ่มพลังงานจลน์ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่ง หรือความเร็วของพ่อได้ชั่วคราว และยังสามารถเสริมการป้องกันได้ด้วย อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้อุปกรณ์ขยายได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น! และแต่ละคนจะติดตั้งอุปกรณ์ขยายได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น! นี่เป็นข้อจำกัดของระบบ…” เย่เทียนเริ่มโฆษณาสินค้าของเธอเหมือนดอกเตอร์ตัวน้อย

“ใช่! แบบนี้แหละที่ฉันอยากรู้! ว่าแต่ราคาในการสร้างของมันคือเท่าไหร่?” ในที่สุดเย่ฉางก็เข้าใจ

“ประมาณ 3 เหรียญทอง แต่วัสดุบางอย่างมีจำนวนจำกัดและค่อนข้างหายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุของการสร้างอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ ส่วนอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหว ในการใช้แต่ละครั้งยังคงต้องการการสนับสนุนของคริสตัลเวทมนตร์เหมือนกับปืนของพ่อค่ะ โอ้ใช่แล้ว! พ่อคะ ปืนของพ่อ หนูได้วิเคราะห์โครงสร้างของมันแล้วนะคะ มันเป็นอาวุธประเภทที่ต้องใช้คริสตัลเวทมนตร์มาแปลงเป็นพลังงาน ดังนั้นถึงแม้ว่าปืนของพ่อจะไม่ใช่อุปกรณ์ป้องกันก็ตาม แต่หนูก็ยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ หรืออุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวได้ในปืนของพ่ออยู่ดีค่ะ เพราะหลักการของปืนคือการดึงพลังงานเวทมนตร์ออกมาควบแน่น และแปลงเป็นพลังงานจลน์ ถ้าหนูใส่อุปกรณ์ขยายเวทมนตร์เข้าไปในนั้น อาจจะมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า และเนื่องจากอุปกรณ์ขยายมีช่องบรรจุพลังงานเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถใช้งานในโหมดยิงเร็วได้นานถึง 4 วินาที หนูเคยทดลองใช้อุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวใส่ลงไปในปืนแล้ว สำหรับอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ หนูสามารถใส่ลงไปในไม้เท้าของพ่อได้เลยตอนนี้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ขยายแต่ละอย่างยังเป็นเรื่องที่ง่ายมากอีกด้วย แต่นั่นต้องเป็นการทำโดยหนูเท่านั้นนะ ไม่อยากนั้นอุปกรณ์ขยายจะถูกทำลาย …” เย่เทียนยังคงอธิบายอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเธอจึงหยิบปืน Giant Owl No.2 ที่มีอานุภาพทรงพลังมากขึ้นออกมา และส่งคืนให้กับเย่ฉาง

รอยยิ้มของเย่เทียนดูใสซื่อบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก จากนั้นเธอก็หันหลังกลับไป และหัวเราะเยาะ ‘ฮ่าฮ่า! ไอบัดซบหลินหลี่ แกจะสามารถมาแข่งขันกับฉันคนนี้ได้ยังไงกัน!? ในที่สุดฉันก็เป็นคนที่ชนะ!!’

ในเวลานั้น หลินหลี่ก็ได้พุ่งกระโจนเข้าไปในห้องวิจัยอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่ขาว! ผมค้นพบสูตรการเล่นแร่แปรธาตุใหม่แล้ว! ผมจะตั้งชื่อมันว่า หลินหลี่อาหารทหาร! ลองดูเอฟเฟคของมันสิ กินเพื่อฟื้นฟู HP 10 ต่อวินาที เป็นเวลา 20 วินาที และจะฟื้นฟู HP ครึ่งหนึ่งของ HP ทั้งหมดทันที แต่สามารถใช้งานได้เพียง 5 ครั้งต่อวันเท่านั้น!”

เย่เทียนประหลาดใจ ‘ฟื้นฟูทันทีครึ่งหนึ่งของ HP ทั้งหมด และยังฟื้นฟู HP 10 ต่อวินาที เป็นเวลา 20 วินาที… สะ สิ่งนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าอุปกรณ์ขยายของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับประโยชน์ของทีม และมูลค่าของตลาด’ เธอได้เห็นรูปลักษณ์ที่หลินหลี่แสดงให้เธอเห็น ราวกับเขากำลังพูดว่า ‘ฮี่ฮี่ สารเลวน้อยเย่เทียน ขณะที่เธอยกก้นของเธอขึ้น ฉันคนนี้ก็รู้แล้วว่าเธอจะทำอะไร’ เย่เทียนรู้สึกแน่นหน้าอก และทำได้แค่เพียงส่งเสียงคำรามอยู่ภายในใจ ‘อ๊ากกก!!! ไอหลินหลี่บัดซบ! แกมันเลวโคตรโคตรเลยโว้ย!’

เย่ฉางกำลังประเมิน สามารถใช้ได้ 5 ครั้งต่อวัน แค่นี้ก็สุดยอดมาแล้ว นี่เป็นสิ่งช่วยชีวิตที่สำคัญมาก “หลินหลี่ ราคาในการสร้างมันขึ้นมาอยู่ที่เท่าไหร่?”

“ผมไม่รู้ มันต้องใช้สิ่งเหล่านี้ นี่ และยังมี… ของพวกนี้อีก…” หลินหลี่หยิบวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดออกมา เย่เทียนคำนวณราคาของวัตถุดิบที่หลินหลี่หยิบออกมาทันที วัตถุดิบทั้งหมดมีราคา 1 เหรียญทอง ถึงแม้ว่าราคานี้จะสูง แต่ประโยชน์ของมันมีค่าสูงกว่าราคาของมันมาก LordAsked, NalanPureSoul, NalanMoon หรือผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ จะไม่ตระหนี่ในการจับจ่ายใช้สอยซื้อสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน สำหรับวัตถุดิบ พวกเขาอาจจะเปิดร้านรับซื้อเอาก็ได้…

“เย่เทียน เธอมีอุปกรณ์ขยายอยู่มากเท่าไหร่?” เย่ฉางถามออกมา

“นอกจากที่เราติดตั้งไปแล้ว ตอนนี้เราก็มีอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ 2 อัน และอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหว 3 อัน…” เย่เทียนตอบกลับไป

“ฉันเข้าใจแล้ว หลินหลี่ทำอาหารทหารให้มากขึ้น ฉันจะไปหาผู้ซื้อบางส่วน เวลานี้เราจะทำกำไรจากโชคของเรา แล้วจากนั้นฉันจะพาพวกนายไปที่บ้านประมูลระดับไฮเอนด์เอง พวกนายสามารถบอกฉันได้ถ้าพวกนายต้องการอะไร เราจะซื้อ! ซื้อ! ซื้อมันทั้งหมด!” เย่ฉางหันกลับไป และมองออกไปยังที่ที่ห่างไกล

“เย้! พี่ใหญ่ขาว! เย้!” หลินหลี่รู้สึกตื่นเต้น เย่เทียนรู้ตัวช้ากว่าเล็กน้อย แต่เธอก็กระโดด และส่งเสียงเชียร์ออกมาด้วยเช่นกัน “เย้…”

 

 

 


ตอนที่ 431

 

เย่ฉางเรียกทุกคนมาเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ขยาย จางเจิ้งเฉียงพยายามอย่างระมัดระวังในการสกัดแร่ใส่ลงไปในปลอกแขนคริสตัลของเขา เพื่ออัพเกรดปลอกแขนคริสตัลให้เป็นระดับ Dark Gold ตอนนี้คริสตัลดูเหมือนจะไหลเวียนไปด้วยพลังงาน เย่เทียนติดตั้งอุปกรณ์ขยายไปที่ปลอกแขน จากนั้นก็ยึดอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวไว้กับคริสตัลเวทมนตร์บนไหล่ของเขา จางเจิ้งเฉียงลุกขึ้นยืนและทดลองอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหว เขารู้สึกได้ทันทีเลยว่าความแข็งแกร่งของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด เขารีบยกเลิกมันเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียพลังงาน จากนั้นเขาก็มองไปที่ปลอกแขนคคริสตัล และเห็นว่าเอฟเฟคของปลอกแขนคริสตัลของเขาเพิ่มขึ้นมาถึง 20% สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

หลินหลี่ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ได้ เขาสามารถติดตั้งได้เพียงอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหว ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะติดตั้งไปที่ถุงมือข้างขวาของเขาแทน มันช่วยให้เขาสามารถเพิ่มความรุนแรงในการฟาดฟันของเขาได้อย่างง่ายดาย

SpyingBlade ทำได้แค่เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่นเท่านั้น มันเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า เย่เทียนได้พัฒนาอุปกรณ์พิเศษของตนเอง และสมกับที่เธอเป็นอัจฉริยะตัวจริง เขาติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวไว้ที่รองเท้าข้างขวาของเขา มีเพียงคนเดียวที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวไว้ที่อาวุธได้ ซึ่งก็คือ FrozenCloud เธอเลือกที่จะติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวไว้ที่สนับมือข้างขวาของเธอ

สำหรับนักเวท พวกเขาเลือกที่จะติดตั้งอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ไว้ที่ลูกแก้วคริสตัลเวทมนตร์บนหัวไม้เท้าของพวกเขาทั้งหมด มันดูเหมือนกับปีกกาที่ได้ยึดติดแน่นกับคริสตัลจนทำให้น่าดูชมมากยิ่งขึ้น

อาหารทหารของหลินหลี่ทำให้ FrozenCloud, SpyingBlade และคนอื่นๆต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ฟางชิอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าอาหารทหารของหลินหลี่สามารถฟื้นฟู HP ของเขาจนเต็มได้เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะสามารถใช้งานได้เพียง 5 ครั้งต่อวันก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นไอเทมที่ดีมากอยู่ดี มันเทียบเท่าได้กับการเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ชีวิตเลยทีเดียว

สำหรับ SpyingBlade เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ขยายแล้ว อาหารทหารของหลินหลี่มีประโยชน์มากกว่า สิ่งที่แอสซาซินต้องการมากที่สุดก็คือ ยาและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสำเร็จภารกิจของพวกเขาได้

เย่ฉางเห็นว่าทุกคนได้ติดตั้งอุปกรณ์ขยายและอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวกันครบเรียบร้อยแล้ว พวกเขายังคงเหลืออาหารทหารอีก 50 ขวด, อุปกรณ์ขยายเวทมนตร์อีก 2 อัน และอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวอีก 3 อัน เขาหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมา และยิ้มออกมาอย่างเฉยเมย “น้องชาย PureSoul เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฉันคิดถึงนายมากจริงๆ นายหมายความว่าไง ทำไมนายถึงคิดว่าฉันต้องการให้นายโฆษณาสินค้าให้?’ ส่วนไหนของฉันที่ทำให้นายไปคิดแบบนั้นได้! ฉันมีอุปกรณ์พิเศษสุดล้ำค่าจะมาขายให้นายต่างหาก และฉันก็คิดถึงนายเป็นคนแรกเลย … นี่เป็นของที่ดีมากๆเชียวนะ เอาล่ะ ตอนนี้ให้ฉันแสดงให้นายเห็นก่อนแล้วกัน นายคิดว่าไง? 10 เหรียญทอง? นายกำลังเล่นมุขตลกกับฉันงั้นหรือ? เราใช้เงินไปทั้งหมด 40 เหรียญทองเพื่อสร้างมันขึ้นมาเชียวนะ! เย่เทียนยังสามารถถอดออก และใส่ลงไปในอุปกรณ์ชิ้นใหม่ได้ เพื่อให้นายสามารถใช้งานได้ต่อไปได้อีกนาน นี่ไม่ใช่ไอเทมที่ใช้แล้วทิ้งหรอกนะ ตั้งแต่ที่เราได้เป็นพี่น้องที่ดีที่ต่อกัน และได้อาบน้ำพร้อมกับไขว้ดาบกันแล้ว ดังนั้นฉันจะขายให้นายในราคามิตรภาพก็แล้วกัน ราคาคือ 100 เหรียญทอง! นายคิดว่าไง!? ไอย๊า 40 เหรียญทองเป็นค่าวัสดุ และ 60 เหรียญทองเป็นต้นทุนการผลิต นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสูง ดังนั้นราคาส่วนใหญ่เป็นราคาทรัพย์สินทางปัญญา จ่ายเป็นเงินจริงครึ่งหนึ่ง? อันที่จริงฉันไม่ต้องการหรอกนะ แต่ฉันจะพูดว่าไม่ได้ก็ยังไงๆอยู่ เพราะนายเป็นน้องชายที่ฉันเคยไขว้ดาบมาด้วยกัน เอาเป็นว่าดีลก็แล้วกัน! เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งวางสาย นี่คือสิ่งที่น้องชายของฉันเรียกว่าอาหารทหาร ส่วนผสมคือสาหร่ายทะเลที่อยู่ลึกลงไป 1 ล้านเมตร…”

เย่ฉางเก็บอุปกรณ์สื่อสารและหันมามองเย่เทียน “เมืองแบล็กร็อคอยู่ไกลจากทะเลรึเปล่า?”

เย่เทียนพยักหน้า เย่ฉางคิดว่า ‘อะไรก็ช่างมันเถอะ…’ แล้วหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาอีกครั้ง “ฮ่าฮ่า ฉันแค่ล้อเล่นหน่า อาหารทหารทำมาจากผลไม้ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของแบล็กพีค น้ำจากทะเลสาบสวรรค์ และอากาศด้านบนที่บริสุทธิ์ของสวนร้อยดอกไม้ หลินหลี่ต้องทดลองทำถึง 9981 ครั้งกว่าจะสำเร็จ … ราคาเท่าไหร่? 10 เหรียญทองต่อขวด! ฉันไม่เคยคดโกงไม่ว่าจะเด็กหรือจะแก่ก็ตาม! อาหารนี้มันมีคุณค่าเป็นอย่างมาก เราเคยไขว้ดาบกันมาแล้ว ดังนั้นฉันจะหลอกลวงนายได้ยังไงกัน! ค่าใช้จ่าย? เฮ้อ มันไม่มีค่าที่จะต้องไปพูดถึงหรอก … เพราะเราเคยไขว้ดาบด้วยกันมาแล้ว อย่ารีบไปเลย… จริงดิ … ตอนนี้ฉันมีอยู่ 50 ขวด นายต้องการ 15 ขวด ถูกต้องไหม? เงิดสดครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม? โอเค! ดีล! ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของนาย อย่าลืมไปที่ร้านค้าทั่วไปของเรา… น้องชาย PureSoul ทำไมเราถึงไม่นัดพบเพื่อไขว้ดาบกันอีกครั้งดูล่ะ… เอ๊ะ! เขาวางสายไปแล้ว?”

เย่ฉางบุ้ยปาก จากนั้นจึงโทรไปยังหมายเลขลูกค้าคนถัดไป “พี่ชาย Asked พี่เป็นยังไงบ้างตั้งแต่ที่เราได้พบกันครั้งสุดท้าย? นี่เป็นข้อตกลง ทีมของเราเพิ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสูง และฉันก็คิดถึงพี่ชาย Asked เป็นคนแรกเลย สิ่งนี้เรียกว่าอุปกรณ์ขยาย เรามีอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์เพียงแค่ 1 อัน และอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวอยู่ 2 อัน ราคาเท่าไหร่? 120 เหรียญทอง! ไม่มีส่วนลด! พี่ชายหมายความว่าไง พี่กำลังหมายความว่าฉันกำลังปล้นพี่งั้นหรือ? ฉันยังบอกน้องชาย PureSoul ว่าราคาคือ 150 เหรียญทองเลยนะ!”

ทุกคนได้ยินเสียงคำรามจากผู้สื่อสารอีกฝั่งหนึ่ง “ไหนนายบอกว่าฉันเป็นคนแรกไงวะ!!!”

“ก็ได้ ก็ได้ เราถอยกลับมาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า เพื่อมิตรภาพอันนิรันดร์ของเรา ฉันจะขายให้พี่ชายในราคาแค่ 100 เหรียญทอง! ฉันไม่สามารถลดราคาให้ต่ำกว่านี้ได้อีกแล้ว! จ่ายเป็นเงินสดทั้งหมด? ไม่ได้ ไม่ได้ เราไม่สามารถตอบรับเรื่องนี้ได้ จ่ายครึ่งหนึ่งเป็นเหรียญทองก็แล้วกัน และฉันจะให้พี่เลือกเอาเองระหว่างอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ และอุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เยี่ยม! ต้องตรงไปตรงมาแบบนี้สิ! สมกับเป็นพี่ชาย Asked จริงๆ! นอกจากนี้ พวกเรายังมียาตัวนี้ด้วยนะ ราคาแค่ 13 เหรียญทองต่อ 1 ขวดเอง! แพงเกินไปงั้นหรือ? เฮ้อ! พี่เป็นถึงผู้นำที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมากเลยนะ พี่ต้องคิดถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการอยู่รอด หรือจะตายอยู่ข้างถนนล่ะ เมื่อพี่ต้องต่อสู้กับบอส นี่จะเป็นสมบัติที่สามารถช่วยชีวิตพี่ได้ครั้งใหญ่เลยนะ ราคา 13 เหรียญทองนี่ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากแล้ว ลดราคาลงอีกนิด? พี่กำลังทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องยากสำหรับฉันจริงๆ เราต้องปีนขึ้นไปถึงยอดเขาแบล็กพีค และฆ่างูที่มีอายุถึงหนึ่งร้อยปีเพียงเพราะต้องใช้เลือดและถุงน้ำดีของมัน จากนั้นเราก็ต้องหอบเอาร่างกายที่ทรุดโทรมของเรา ไปที่ทะเลสาบจิตวิญญาณลึกลับที่อยู่ในเทือกเขา และเราก็ต้องสวดภาวนาถึง 7749 ครั้ง … เอ๊ะ! ราคา 10 เหรียญทอง จ่ายเป็นเงินสดครึ่งหนึ่ง? โอเค! พี่ชายต้องการทั้งหมด 20 ขวด? ดีล!! ฉันจะทิ้งมันไว้ที่ร้านค้าทั่วไปของเรา อย่าลืมไปซื้อล่ะ … เอ๊ะ! ผู้ชายคนนี้หยาบคายเกินไปแล้ว เขาวางสายไปเฉยเลย เรายังเหลืออุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหวที่ยังไม่ได้ขายอยู่นะ …” เย่ฉางถอนหายใจ ทุกคนได้แต่พากันส่ายหัวไปมา ‘นายบอกตัวนายเองเถอะ คนที่นายปฏิบัติด้วยความจริงใจนั้นมีน้อยมาก…’

“พี่ชาย CloudDragon! เป็นเวลานานแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน ฉันคิดถึงพี่จริงๆ… เอ๊ะ! นี่คือ อุปกรณ์เพิ่มกำลังการเคลื่อนไหว พี่สนใจรึเปล่า? มันสามารถติดตั้งกับสนับมือของพี่ชายได้นะ ราคาเท่าไหร่? ฮ่าฮ่า 200 เหรียญทอง! อย่าเพิ่งวางสาย … งั้นฉันลดให้เหลือ 100 เหรียญทองก็แล้วกัน LordAsked ก็ซื้อมันในราคานี้ เงินจริงครึ่งหนึ่ง… เฮ้อ ไม่เป็นไรสำหรับพี่ชาย CloudDragon แล้ว ฉันคนนี้ยินดีที่จะสูญเสียเล็กน้อยก็ได้… โอ้ ใช่แล้ว! นอกจากนี้พวกเรายังมียาตัวนี้ด้วยนะ อันที่จริงแล้วฉันจะต้องขายมันในราคา 20 เหรียญทอง แต่สำหรับพี่ชาย CloudDragon ฉันจะขายเพียงแค่ 10 เหรียญทองก็แล้วกัน พี่ชายต้องการ 10 ขวด? เงินจริงครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม? ดีล! ฉันจะไปสถานีและส่งอีเมลไปให้พี่ก็แล้วกันนะ…” เย่ฉางเสร็จสิ้นการเจรจา และเห็นรูปลักษณ์ที่ทุกคนมองมาที่เขา เขายักไหล่โดยไม่สนใจอะไร “ฟางชิ นำสิ่งของไปที่ร้านขายของทั่วไปของเรา น้องเล็กได้โนไปที่สถานี และส่งอีเมลไปให้กับ CloudDragon…”

“อื้อ…” ฟางชิ และ FrozenCloud นำสิ่งต่างๆออกจากห้องวิจัย

“ส่วนคนที่เหลือ… หลินหลี่, เย่เทียน และฉันจะไปที่บ้านประมูลระดับไฮเอนด์ อันที่จริงฉันก็อยากจะนำพวกนายทั้งหมดไปด้วยนะ แต่ด้วยสถานะปัจจุบันของฉัน ฉันสามารถนำไปได้แค่หนึ่งหรือสองคนเพียงเท่านั้น …” เย่ฉางพาทุกคนเดินออกไป และเดินตรงไปยังบ้านประมูล ยามเฝ้าประตูเห็นตราสัญลักษณ์สมาคมพ่อค้าอาวุธ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานฝ่ายการทวงหนี้ของหลินหลี่ ทำให้พวกเขาตื่นกลัวทันที และปล่อยให้พวกเขาทั้งสามคนผ่านไปโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ เย่เทียนถอนหายใจ กลายเป็นว่าดูเหมือนหลินหลี่จะเป็นคนนำทุกคนเข้ามาแทนมากกว่า ตราบเท่าที่มันเป็นร้านค้าที่สังกัดอยู่ในเมืองแบล็กร็อค พวกเขาก็จะหวาดกลัวสมาคมพ่อค้าอาวุธกันเป็นอย่างมาก สำหรับพวกเขา มันเป็นองค์กรอันธพาลที่ไร้ยางอายและนักเลงที่บ้าบิ่น

ทั้งสามคนพบที่นั่งและนั่งลงเฝ้าดูรายการสินค้าอย่างต่อเนื่อง เย่เทียนเริ่มตรวจสอบ และประเมินสินค้าทั้งหมด พวกเขาประมูลในบางสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นของประดับโบราณ

“มูลค่าที่แท้จริงของดิสก์นี้อย่างน้อยเป็นสิบเท่าของราคาที่หนูซื้อมา ด้วยการที่มันเป็นงานเขียนของโซโลมอน หนูสามารถรับประกันได้เลยว่า ดิสก์นี้เป็นส่วนหนึ่งในคอลเลกชันของเขา ที่อาจสูญหายโดยบังเอิญ…” เย่เทียนพูดขึ้นมาพร้อมกับจับไปที่ดิสก์

“ใครคือโซโลมอน?” เย่ฉางมองสารานุกรมเดินได้เย่เทียนด้วยความสับสน

“ราชาในสมัยโบราณ กษัตริย์แห่งเมืองทองคำ แต่ถูกทำลายเมื่อประมาณ 2000 ปีที่แล้ว ตำแหน่งที่ตั้งของเมืองทองคำน่าจะอยู่รอบๆ พื้นที่รกร้างทางตอนเหนือของเมืองแบล็กร็อค…” เย่เทียนได้อนุมานมาจากหนังสือที่เธอได้อ่านจากห้องสมุดของโบสถ์ เธอกรองข้อมูลทั้งหมด และอธิบายออกมาอย่างรวดเร็ว

 

 

 


ตอนที่ 432

 

เย่ฉางเห็นว่ารายการถัดไปคือดาบ ซึ่งไม่สามารถมองค่าสถานะของมันได้ มันแค่มีข้อมูลบอกไว้ว่า นักเวทการ์รอสผู้มีชื่อเสียงเคยใช้ดาบนี้ในสมัยตอนที่ยังหนุ่มๆ และมันน่าจะเป็นดาบเวทมนตร์! ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้มันได้ ราคาเริ่มต้นไม่สูงมากนัก เพียงแค่ 50 เหรียญทองเท่านั้น แต่เมื่อประมูลจริงๆแล้ว ราคาของมันพุ่งขึ้นไปถึง 250 เหรียญทอง

“พ่อคะ เราสามารถเพิ่มราคาขึ้นอีกนิดได้ …” เย่เทียนหรี่ตาลง 250 เหรียญทอง แม้แต่ชาวพื้นเมืองที่เป็น NPC นี่ก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก เย่ฉางยกมือขึ้น “265 เหรียญทอง …”

ในที่สุด ราคาก็ปิดลงที่ 265 เหรียญทอง เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นค่าสถานะของดาบภายในกล่องได้ หลายคนจึงไม่ได้เสนอราคาแข่งอีก มันเป็นเพียงอาวุธที่การ์รอสเคยใช้ในวัยหนุ่มเท่านั้น พวกเขาส่วนใหญ่รู้ว่าจะควบคุมตัวเองได้อย่างไร เย่ฉางจ่ายเงินและเปิดกล่องยาวออก มันเป็นดาบสีฟ้าโปร่งใส ด้ามจับทำด้วยแร่มิธริลที่ดูสวยงามมาก ดาบมีความกว้างประมาณ 2 นิ้ว และมีความยาว 140 เซนติเมตร มันเป็นดาบมือเดียวที่เพียวบางมาก ตัวดาบเป็นสีฟ้าโปร่งใสซึ่งดูเหมือนว่าจะสร้างมาจากคริสตัล เย่ฉางลูบผิวดาบด้วยนิ้วมือ มันให้ความรู้สึกว่ากำลังสัมผัสพื้นผิวของโลหะ จากนั้นเขาสะบัดดาบ เกิดเสียงที่ก้องกังวานเป็นพิเศษ

Assenroche (Dark Gold – Mysterious – Garros)

ประเภท: ดาบเวทมนตร์

ความต้องการ: 115 Strength, 125 Dexterity, 100 Constitution, 145 Intelligence, 135 Wisdom

พลังโจมตี: 34 – 38

+20 ค่าสถานะทั้งหมด

+ 10% Intelligence

+30 พลังโจมตีเวทมนตร์

+ 15% ความเสียหายจากการใช้เวทมนตร์

ทุกการโจมตีจะเพิ่มความเสียหายเวท Arcane : 22 – 25

Assenroche’s Favor (ติดตัว): เมื่อใช้เวทมนตร์ จะลดค่าการใช้มานาลง 25% (ยกเว้นเวทมนตร์ประเภทวิญญาณ, ความมืด และเวทอัญเชิญ)

Assenroche’s Finger : เปิดใช้งานด้วยการโจมตีด้วยเวทมนตร์ Arcane สร้างความเสียหาย 100 หน่วยในบริเวณด้านหน้า พร้อมกับมีโอกาสทำให้เป้าหมายติดสตั้น, กระเด็นถอยหลังหรือกระเด็นลอยขึ้น คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง

ปิดผนึก: ???

หมายเหต: Assenroche เป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถควบคุมเวทมนตร์ Arcane ได้

หลินหลี่มองดาบที่สวยงามด้วยความอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเขาเห็นความต้องการค่าสถานะของดาบแล้ว เขาก็หมดความสนใจลงทันที 145 Intelligence! เขาไม่มีวันใช้ดาบนี้ได้ …

เย่เทียนยกคิ้วขึ้น คุ้มค่าแล้ว! ระดับ Dark Gold! ในขณะนี้ อาวุธระดับ Dark Gold สามารถขายได้ประมาณ 200 เหรียญทอง ค่าสถานะและสกิลทั้งสองก็เหมาะกับพ่อของเธอเป็นอย่างดี และมันก็ยังมีสกิลที่ถูกปิดผนึกไว้อีกด้วย ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถหาวิธีที่จะปลดผนึกมันได้ บางทีพวกเขาอาจจะได้รับอีกหนึ่งเควสลับก็เป็นไปได้

เย่ฉางพาดดาบเวทมนตร์ไว้ในแนวนอนด้านหลังเอวของเขา ทำให้เขาแผ่กลิ่นอายของจอมพลผู้ยิ่งใหญ่ออกมา

ทั้งสามคนใช้เงินไปเกือบ 1000 เหรียญทองในการประมูล การซื้อสินค้าของเย่เทียนเป็นสิ่งที่สามารถขายเพื่อเก็งผลกำไรมหาศาล หลินหลี่ซื้อสร้อยคอระดับ Dark Gold มันให้ค่า Strength ที่สูงมากๆ ทำให้ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของเขาถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เมื่อ ThornyRose รู้ว่าทั้งสามคนใช้เงินไปเกือบ 1000 เหรียญทองในบ้านประมูลระดับไฮเอนด์หน้าอกของเธอรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา ‘พวกเขารวยมากแค่ไหนเนี่ย!! ขนาดในกิลด์ใหญ่ๆยังมีปัญหาในการใช้เงิน 100 เหรียญทองเลย …’

“ได้มาไวก็หมดไปอย่างไวเช่นกัน เย่เทียนรีบสร้างอุปกรณ์ขยายให้ได้สัก 1 โหลหรือมากกว่านั้น หลินหลี่จงทำงานหนักให้มากขึ้น เพื่อสร้างอาหารทหารให้เยอะๆ …” เย่ฉางจับด้ามดาบใหม่ของเขาและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“คะ / รับทราบ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน พวกเขาทั้งสองกลับไปเป็นแรงงานเด็กอีกครั้ง เพื่อหาเงินให้กับจอมล้างผลาญ

เย่ฉางชักดาบ Assenroche ออกมา เขามองไปที่ตัวดาบและค่อยๆเอามือลูบมันเบาๆ “โอ้ เจ้าดาบที่รักของฉัน เจ้าคิดว่าฉันควรจะทำอะไรต่อไปดี … อยู่เฉยๆงั้นหรือ!? …อืมๆ”

ทะเลสาบจันทร์ครึ่งเสี้ยวในเมืองหลินไห่

เย่ฉางนั่งบนหินก้อนเดิมและอ้าปากห้าว เมื่อเห็นว่าการฟันดาบของเฉาเฉียงหยูเบี่ยงเบนไปจากเดิมแค่ 0.001 เขาก็จะตีเธอและแก้ไขจุดที่ผิดพลาดของเธอโดยไว อีกด้านหนึ่งคือศิษย์พี่ของเธอ ซึ่งได้เรียนรู้การเต้นรำมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ซูหยี่ยี่เต้นท่าง่ายๆบนผิวทะเลสาบด้วยความยากลำบาก แต่มันยังคงดูมีพลังและสวยงามอยู่ การเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆนี้ทำให้เธอตื่นเต้นอยู่เป็นเวลานาน เธอเพียงแค่ทำขั้นตอนง่ายๆโดยการหมุนและก็หมุน ทำให้เกิดอาการปวดที่ข้อเท้าขึ้นมา จนทำให้เธอเผลอหล่นลงน้ำไป

“การเคลื่อนไหวของเธอมันผิด ไม่ว่าเธอจะเรียนรู้การเต้นรำหรือศิลปะการต่อสู้จากฉัน เธอต้องฝึกเพื่อให้ทุกการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐาน ไม่มีความเบี่ยงเบนแม่แต่เพียงนิดเดียว ฉันไม่สนหรอกนะว่าพวกเธอจะฝึกกันแบบไหน แต่สำหรับฉันแล้ว ทุกอย่างมันต้องสมบูรณ์แบบ จงจำไว้ด้วยว่า แค่ดีเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ มันต้องสมบูรณ์แบบเท่านั้น …” เย่ฉางเอนตัวนอนบนหินและพูดขึ้นมา คำพูดของเขาดูจริงจัง ซึ่งทำให้ผู้หญิงสองคนรู้สึกกดดันมากขึ้น แต่พวกเธอก็รู้สึกเคารพในวิธีการสอนที่เคร่งครัดของเย่ฉางด้วย

เย่ฉางหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาเปิดและดันหน้ากากจิ้งจอกสวรรค์ขึ้นเล็กน้อยเพื่อดื่ม เขาเฝ้าดูทั้งสองคนที่ยังคงฝึกซ้อมกันอย่างจริงจัง เขายิ้มอย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นดวงจันทร์ที่สว่างบนท้องฟ้า เขาค่อยๆลดหน้ากากของเขาลงอีกครั้ง …

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น วันนี้เป็นวันแรกของการสอบของมหาวิทยาลัย (เกมหยุดพักช่วงหยุดสัปดาห์สองวัน)

ในห้องพักของครูประจำชั้น กลุ่มเย่ฉางทั้งสามคนถือกระดาษข้อสอบเปล่าๆเดินเข้ามาในห้อง เย่ฉางเป็นคนแรกที่ยื่นมันให้กับอาจารย์ที่ใส่แว่นตา “อาจารย์ โปรดจำไว้ด้วยว่า ให้เกรดผมดีๆล่ะ …”

“เหมือนกัน …” จางเจิ้งเฉียงก็ยื่นส่งด้วยอีกคน

“ผมด้วย!” หลินหลี่วางกระดาษข้อสอบไว้อย่างดี

อาจารย์ประจำชั้นเริ่มหลั่งเหงื่อเย็นออกมา เขามองไปที่จางเจิ้งเฉียง ผู้ซึ่งกำลังบีบกำปั้นและยืดข้อต่อของเขา มันส่งเสียงดังออกมาไปทั่วทั้งห้อง จากนั้นเขาก็มองไปที่กระดาษข้อสอบทั้งสามเล่ม เขายิ่งพูดไม่ออกเมื่อเห็นหลินหลี่ “อืม … อันนี้เป็นข้อสอบศิลปะสมัยใหม่นะ …”

“พี่ใหญ่ขาว, พี่ใหญ่เฉียง อาจารย์ประจำชั้นกำลังปฏิเสธผม …” ปอยผมของหลินหลี่หล่นลงมา ทำให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง

“หลินหลี่ มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้หรอก อาจารย์ … ขอโทษด้วยนะ ไม่ทราบว่าผมจะเรียกคุณว่าอะไรดี …” เย่ฉางลูบหัวของเขาอย่างอายๆ เขามองไปที่อาจารย์ของภาควิชาปรัชญาแล้วก็ยิ้มให้ และเอามือวางบนไหล่ของหลินหลี่ ****เย่ฉางและจางเจิ้งเฉียงอยู่ภาควิชาปรัชญา ส่วนหลินหลี่อยู่ภาควิชาศิลปะ****

“เรียกฉันว่าอาจารย์โจว …” อาจารย์สวมแว่นตามองไปที่รอยยิ้มใต้เส้นผมสีขาวของเย่ฉางและสั่นสะท้านขึ้นมา ‘นี่เป็นคนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเขตตะวันออก เขาเป็นถึงจอมพลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เขาคืออาชูร่าขาว – เย่ฉาง’

“อาจารย์โจว คุณไม่สามารถยืดหยุ่นได้มากกว่านี้ กับการสอบของหลินหลี่เลยหรือ? …” จางเจิ้งเฉียงดึงราวลูกกรงตรงหน้าต่างที่เป็นเหล็กออกมาพับเป็นชั้นๆ แล้วก็ดึงยืดมันให้ตรงอีกครั้ง เขาทำซ้ำๆราวกับเป็นของเล่น เขาจ้องเขม็งไปที่อาจารย์โจว เมื่อเห็นดังนั้น อาจารย์โจวก็กลืนน้ำลายลงคอและรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ปล่อยเรื่องนี้ให้ฉันจัดการเอง …”

“เอาล่ะ งั้นเราจะไม่รบกวนอาจารย์โจวแล้ว ลาก่อน …” เย่ฉางพยักหน้าอย่างสุภาพ เขาพาทั้งสองคนออกจากห้องพักครู อาจารย์โจวทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้และเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา เมื่อใดก็ตามที่วายร้ายทั้งสามปรากฏตัวขึ้น เขานั้นกลัวแทบตาย สมกับที่เป็นราชาสงครามศักสิทธิ์ เขามองไปที่กระดาษข้อสอบศิลปะของหลินหลี่และยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่เขาโทรไปหาเพื่อนที่ดีของเขา ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้สอนวิชาศิลปะ “ได้โปรดให้เกรดเขาดีๆด้วยเถอะ … ฉันยังต้องการเห็นวันที่ลูกชายของฉันโตเป็นหนุ่มและแต่งงานมีครอบครัว … เพียงเพราะยังไม่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดนะ … เฮ้อ!”

กลุ่มของเย่ฉางได้พบกันที่สถานีรถไฟ และเดินทางขึ้นเหนืออีกครั้งเพื่อไปยังเมืองหลวง เมื่อพวกเขาขึ้นรถไฟ พวกเขาก็เห็นชิเซียวนั่งอยู่ข้างหน้าต่างและกำลังเล่นมือถืออยู่ พวกเขาเผยรอยยิ้มที่ดีใจออกมา FrozenCloud ถอนหายใจ ‘เขาโชคร้ายแค่ไหนนี่?’ เมื่อเร็วๆนี้ ทุกครั้งที่เขาไปเมืองหลวง เขาก็จะขึ้นขบวนเดียวกับเย่ฉาง ถ้าเป็นเธอล่ะก็ เธอจะหลีกเลี่ยงรถไฟที่หยุดรับตรงสถานีเมืองหลินไห่ … บางครั้งการทำอะไรโดยไม่วางแผนให้ดี ก็อาจทำให้ถึงตายได้

ชิเซียวรู้สึกเสียวสันหลัง ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมา เขาก็เห็นกลุ่มวายร้ายพวกนี้ที่กำลังยิ้มให้กับเขา ร่างกายทั้งหมดของเขาแข็งค้างทันที …

 

 

 


ตอนที่ 433

 

ณ.สถานีรถไฟลอยฟ้าในเมืองหลวง

MistyVeil ได้รับโทรศัพท์จากชิเซียวอีกครั้ง เธอจึงรีบไปหาเขาโดยทันที เป็นอีกครั้งที่เธอเห็นเขานั่งกอดไหล่ของตัวเอง พร้อมกับมีป้ายปิดช่วงล่างของเขาเอาไว้ บนแผ่นป้ายมีข้อความเขี้ยนไว้ว่า “ผมขอโทษ! ผมไม่ควรหยาบคายและกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อพบกับเพื่อนสนิท …”

MistyVeil หันไปมองรอบๆและเป็นไปตามที่เธอคาดไว้ เธอเห็นกลุ่มคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากำลังเดินออกมาจากสถานี เธอโบกมือให้พวกเขา “ฉันจะให้พวกนายนั่งรถไปด้วย …”

“ได้เลย …” เย่ฉางเดินตรงไปยังเบาะที่นั่งข้างคนขับ

ชิเซียวใส่เสื้อผ้าในรถและคิดในใจด้วยใบหน้าที่ขมขื่น ‘พวกคนเหล่านี้ไม่ไปมหาวิทยาลัยกันเลยหรือไง? ทำไมพวกเขาถึงทำตัวว่างอยู่แบบนี้? วันนี้ควรจะเป็นวันที่มหาวิทยาลัยของพวกเขาสอบหนิ …’

“ทำไมวันนี้นายถึงมาเที่ยวเมืองหลวงได้? ถ้าฉันจำไม่ผิด มหาวิทยาลัยหลินไห่ควรจะเริ่มสอบวันนี้นี่น่า …” MistyVeil ถามด้วยรอยยิ้มขณะขับรถ

FrozenCloud ถอนหายใจ ‘พวกเขาเกือบจะทำให้พวกอาจารย์ร้องไห้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนอธิบายให้หัวหน้าภาควิชาการแสดงฟัง เจ้าหมียักษ์ได้ยกรูปปั้นหนักหลายตันขึ้นมาเล่นและได้แกล้งทำเป็นเหมือนอุบัติเหตุ โดยเขาทำรูปปั้นหล่นลงข้างๆพวกอาจารย์ จากนั้นเขาก็ข่มขู่พวกอาจารย์ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วน่ากลัว ทำให้ในตอนนี้เธอได้รับการลงบันทึกเป็นนักศึกษาพิเศษโดยอาจารย์ของเธอ ภาคการศึกษาแรกของเธอเพิ่งเริ่มต้นเอง แต่คะแนนของเธอก็เต็มไปด้วยเกรด A แล้ว คนเหล่านี้สามารถทำตามใจชอบอะไรก็ได้ในเขตตะวันออก … หลังจากสงครามศักดิ์สิทธิ์จบลง สภานักศึกษาเขตตะวันออกจะเอามือกุมตูดของตัวเองไว้ และรีบเดินหนีไปไกลๆ เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นกลุ่มเย่ฉาง …’

“ตั้งแต่ที่เรามีชื่อเสียงโดดเด่นขึ้นมา พวกอาจารย์ก็กำหนดเกรดที่ดีๆไว้ให้เราในภาคการศึกษานี้แล้ว …” เย่ฉางตอบ และมองท้องฟ้าสีครามด้วยความเศร้า

“ชิ เขาคงกลัวพวกนายมากกว่า…” ชิเซียวกระซิบ

“อาเฉียง สั่งสอนเขาหน่อย …” เย่ฉางออกคำสั่งจากที่นั่งข้างหน้า

ได้ยินเสียงของคนโดนรุมทุบ ดังมาจากที่นั่งด้านหลัง

“…” MistyVeil เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจากกระจกด้านหน้าของเธอและกลอกตาไปมา ‘เฮ้อ! ฉันต้องใจเย็นๆเข้าไว้! ยิ้มเข้าไว้! ยิ้มมมม!! …’ เธอถอนหายใจและยิ้มออกมา “ในวันนี้ตระกูลของเราจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง นายควรจะมาที่บ้านของฉัน เพราะคนตระกูลฉินก็กำลังจะมาด้วยเช่นกัน …”

“เอางั้นก็ได้…” เย่ฉางยังคงมองไปที่ท้องฟ้าอย่างเศร้าๆ ในขณะที่เสียงกรีดร้องของชิเซียวยังคงดังมาจากด้านหลังของรถ

ตระกูลลั่วในเมืองหลวง

เย่ฉางตระเวนเดินเล่นไปรอบๆสวน จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่กำลังฝึกซ้อมอยู่ในโรงยิม เมื่อเย่ฉางเดินไปสักพัก เขาก็เจอกับชายชราคนหนึ่งที่กำลังนั่งตกปลาอยู่ “โย่ เราบังเอิญเจอกันอีกแล้วนะ ผู้อาวุโสลั่ว …”

“ฮ่าๆ เป็นเจ้าเด็กเหลือขอนี่เอง … คราวนี้ฉันจะ …” อาวุโสลั่วเห็นเย่ฉางและลุกขึ้น

“เอานี่ไปกินซะ! ไลท์นิ่งโบลท์!” เย่ฉางต่อยหมัดใส่โดยที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า

‘บ้าเอ้ย!’ อาวุโสลั่วรีบรวบรวมพลังซี่เพื่อป้องกัน ‘เจ้าวายร้ายตัวน้อยคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก! โล่น้ำ! ไม่ดีแล้ว! ไลท์นิ่งพลาสม่าของเขากลายเป็นไลท์นิ่งโบลท์! ฉันเกรงว่าโล่น้ำของฉันจะต้องถูกทำลาย!’ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นจากการปะทะกัน เกิดเป็นหยดน้ำสาดซัดกระเซ็นไปทั่วเหมือนกับลูกกระสุน เย่ฉางเคื่อนไหวเหมือนสายฟ้าคอยหลบหยดน้ำที่พุ่งเข้ามาและปล่อยหมัดที่ทรงพลังออกไป “หมัดอุดรเทวะ! หมัดอสูรดาวเหนือ!”

อาวุโสลั่วขมวดคิ้ว ‘ปฏิกิริยาตอบสนองของเด็กคนนี้น่ากลัวมาก เขาลื่นไหลดั่งสายน้ำ รวดเร็วดุจสายฟ้า!’ เย่ฉางระดมต่อยหมัดรวดเดียวไปเจ็ดครั้งซ้อน แต่ดูเหมือนหมัดจะไม่ค่อยแรง! อาวุโสลั่วตื่นตระหนก ‘มันเป็นท่าหลอก!’ จากนั้นเขาได้ยินเสียงสยดสยองที่ข้างหู “ สตรองไดมอนด์ฟิงเกอร์ …”

แคร่ก! ความเจ็บปวดที่รุนแรงสามจุดปรากฏขึ้นที่เอว ทำให้อาวุโสลั่วถึงกับหอบ ‘บ้าเอ้ย! เจ้าสิบแปดมงกุฎ! เจ้าวายร้ายตัวน้อยคนนี้เชื่อถืออะไรไม่ได้! ชัดเจนว่านั่นคือทักษะที่จะต้องใช้พลังซี่อย่างมาก เพียงหนึ่งนิ้วก็สามารถสร้างความเสียหายตั้งสามจุดได้!’ จากนั้นเขาเพิ่มพลังขึ้นถึง 60% เขาหันกลับมาและเหวี่ยงฝ่ามือออกไป แต่ค้นพบว่าเย่ฉางได้หลบหนีไปไกลกว่า 10 เมตรแล้ว เย่ฉางพุ่งผ่านต้นไม้และจากไปทันที

“อาวุโสลั่วช่างเป็นคู่แข่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะต้องไปทำ บะบาย …”

“หุบปากไปเลย! วันนี้ฉันจะแก้แค้นในครั้งนี้, ครั้งล่าสุดและครั้งก่อนหน้านั้นอีกให้ได้ !!!!” อาวุโสลั่ววิ่งไล่ตามเย่ฉางไปด้วยการเคลื่อนไหวที่ไหลลื่น แต่เขาไม่สามารถตามเย่ฉางที่เหมือนกับสายฟ้าได้ทัน เขาได้แต่กัดฟันอย่างเจ็บแค้น ‘ความเร็วของเด็กน้อยคนนี้ช่างเร็วเกินไป แม้แต่ฉันทุ่มใช้พลังทั้งหมด ก็อาจไม่สามารถตามเขาทัน’

ในศาลา มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่บนเก้าอี้โบราณ เขาเป็นผู้นำตระกูลลั่วคนปัจจุบัน – ลั่วเฟิงเฉียง เขาเฝ้าดูฉากการไล่ล่าระหว่างคนทั้งสอง มันเหมือนเป็นภาพของสายน้ำไหลที่กำลังไล่ตามสายฟ้าสีขาวอยู่ “รู่วหยาน ชายหนุ่มที่มีผมสีขาวเป็นผู้ช่วยชีวิตของลูก และยังเป็นลูกเขยของฉินซานใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ …” MistyVeil ตอบรับ

“ช่างรวดเร็วสมกับชื่อสายฟ้าสีขาว เขามีความเร็วดุจสายฟ้า และมีความพละกำลังที่สามารถฉีกโลหะอัลลอยด์เหมือนเช่นฉีกกระดาษ ที่สำคัญเขายังเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของกลุ่มมังกรในเมืองหลินไห่ ที่รับผิดชอบในการหารือกับ 10 บทบัญญัติ เขายังเชี่ยวชาญการสอบสวน, ระดับความแข็งแกร่งของเขายังไม่รู้แน่ชัด ระดับความเป็นอันตราย ผู้ชายคนนี้อันตรายสุดๆ …” ลั่วเฟิงเฉียงมองผ่านแฟ้มลับสุดยอดที่เขาให้คนไปสืบค้นมา “เขาไม่ใช่คนธรรมดา …”

MistyVeil พยักหน้าอย่างจริงจัง คนที่สามารถใช้มือรับกระสุนเจาะเกราะที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วได้ จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไรกัน?

ฉินฮองและฉินซานได้พา ThornyRose เดินเข้าบ้านตระกูลลั่ว และเห็นลำแสงสายฟ้าพุ่งผ่านไป และเห็นคล้ายๆกับสายน้ำพุ่งตามมา ฉินฮองและฉินซานยิ้ม ทันใดนั้น พื้นหินแกรนิตใต้เท้าพวกเขาแตกออก จากนั้นพวกเขาก็พุ่งตามไป ฉินซานไม่ลืมที่จะตะโกนว่า “ลั่วเฟิงเฉียง สำหรับค่าเสียหาย ลงบัญชีไว้ก่อนนะ!”

ลั่วเฟิงเฉียงหลั่งเหงื่อเย็นออกมา ‘ผู้ชายที่ไร้ยางอาย …’ เขาเฝ้ามอง ขณะที่ทั้งสี่คนกำลังต่อสู้กันอยู่ หินตกแต่งต่างๆและสวนถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี แม้แต่ศาลาก็ยังพังทลายด้วยการเตะของฉินฮอง จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากชั้นบน “บ้าเอ้ย! การต่อสู้ที่ดีเช่นนี้ พวกแกจะไม่ชวนฉันเข้าร่วมหน่อยหรือ!”

“ท่านปู่สอง …” MistyVeil ยิ้มอย่างขมขื่น นี่จะเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้ค่าซ่อมแพงขึ้นมา

เย่ฉางหลบรูปแบบเต่าทมิฬของฉินซาน เขาหลบทั้งไฟ, สายฟ้า, หยินและหยาง แล้วตะโกนว่า “ซุปเปอร์ไลท์นิ่งพลาสม่า!!”

ทันใดนั้น พื้นที่ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยพลังงานหมัด และครอบคลุมทั้งสี่คนเอาไว้!

“ก้าวย่างเคลื่อนวิญญาณ – หยาง!”

“ก้าวย่างเคลื่อนวิญญาณ – หยิน!”

ฉินซานและฉินฮองได้ปลดปล่อยท่าเคลื่อนไหวลับของพวกเขาทันที ทั้งสองคนวิ่งวนอยู่รอบๆกัน จนพื้นที่ภายในรัศมี 100 เมตรถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองและเศษซากต่างๆ อาวุโสลั่วและอาวุโสที่สองต้องร่วมมือกันเพื่อต่อต้านการทำลายล้างจากซุปเปอร์ไลท์นิ่งพลาสม่าและก้าวย่างเคลื่อนวิญญาณ เย่ฉางพุ่งออกไปให้พ้นระยะเหมือนสายฟ้า

“ฉินฮอง! นายและลูกชายพยายามที่จะทำลายสถานที่นี้หรือไม่?” อาวุโสลั่วตะโกนถาม เมื่อมองไปที่ซากปรักหักพังที่อยู่ข้างใต้พวกเขา

“ฉันไม่สน มันไม่ใช่บ้านของฉัน …” ฉินฮองกล่าวอย่างใจเย็น

ฉินซานวางมาดของนักวิชาการและยิ้ม “ต่อไปผมจะระมัดระวังมากขึ้น ขอโทษด้วย …”

เมื่อพูดจบ ฉินฮองก็ใช้รูปแบบเต่าทมิฬพุ่งไปโจมตีอาวุโสที่สอง

“ไอสารเลวเอ้ย! รูปแบบเต่าทมิฬที่ดี! มันต้องเจอกับนี่! คลื่นวารีพิสุทธิ์!” อาวุโสที่สองต่อยหมัดออกไปเหมือนคลื่นยักษ์ เข้าปะทะกับฝ่ามือของฉินฮอง หลังจากการปะทะกัน เกิดคลื่นแผ่กระจายออกไปรอบตัวของพวกเขา เย่ฉางยกมือฟันลงมาเหมือนดาบ ตัดคลื่นที่กระแทกเข้ามา ทันใดนั้น เขาหายตัวไปเหมือนฟ้าแลบ และปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังอาวุโสที่สอง เย่ฉางใช้นิ้วมือที่เหมือนดาบแทงไปที่หลังของอาวุโสที่สองทันที เกิดเป็นประกายไฟขึ้นมา ริมฝีปากของอาวุโสที่สองเผยอยิ้มขึ้น ‘ช่างเป็นเด็กเหลือขอที่รวดเร็วนัก! เขาช่างกล้า!’

ฉินซานส่งสายตาประสานกับเย่ฉาง เพื่อร่วมมือกันจัดการอาวุโสที่สองก่อน เขาเปิดใช้รูปแบบพยัคฆ์ขาว จู่ๆก็มีเสียงคำรามของเสือดังออกมาจากร่างของเขา อาวุโสลั่วยกคิ้วขึ้น ‘ผู้นำตระกูลฉินรุ่นที่สามคนนี้ช่างทรงพลังนัก! ถ้าไม่มีคนไปช่วยอาวุโสสองแล้วล่ะก็ เขาอาจถูกจัดการโดยฉินซานและเจ้าเด็กเหลือขอที่ร้ายกาจ!’

 

 

 


ตอนที่ 434.1

 

อาวุโสที่สองขมวดคิ้ว ผู้ชายผมขาวที่ใส่กางเกงชายหาดนั้นรวดเร็วเกินไป เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีที่พุ่งเข้ามาได้ เขาทำได้เพียงแค่ต้องปะทะตรงๆเท่านั้น! เขาไม่กล้าแบ่งความสนใจของเขาไปจากตรงหน้าได้เลย เพราะเจ้าสารเลวฉินซานกำลังปลดปล่อยพลังที่รุนแรงถึงขั้นที่จะสามารถระเบิดเขาออกเป็นชิ้นๆได้เลย ดังนั้นเขาจึงโคจรพลังซี่ออกมาถึง 70%

นิ้วมือที่เหมือนกับดาบของเย่ฉางต้องเผชิญหน้ากับแรงต้านทานอยู่เล็กน้อย และเจาะเข้าไปราวกับมีดผ่าตัด

‘แย่แล้ว!!’ ผู้อาวุโสที่สองประหลาดใจมาก

ในเวลานั้น มีมือที่ยื่นออกมาคว้าจับไปยังนิ้วที่เหมือนดั่งดาบของเย่ฉาง “ผู้มีพระคุณของรู่วหยาน ถ้าเป็นไปได้ นายควรให้ความสำคัญกับคนอื่นๆหน่อยนะ เราแค่ปล่อยให้พวกเขาทั้งสี่คนต่อสู้กันดีไหม?”

“ฉันไม่เคยอยากจะมีส่วนร่วมด้วยเลย มันเป็นความผิดของผู้อาวุโสลั่วที่ข่มขู่ฉัน ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการหลบหนี แต่ที่ฉันโจมตีเข้าไปนั้น ฉันเพียงแค่เข้าใจถึงโอกาสที่มิสเตอร์ฉินและปู่ฉินมอบให้กับฉันก็เท่านั้น… อันที่จริงแล้ว ลองรับนี่ไปชิมดู! สตรองไดมอนด์ฟิงเกอร์ !” เย่ฉางแสดงออกถึงความสำนึกผิด และทันทีทันใดนั้น คมดาบที่เกรี้ยวกราดก็ถูกปลดปล่อยออกจากนิ้วมือของเขา ตอนแรกลั่วเฟิงเฉียงวางแผนที่จะปล่อยเย่ฉางไป แต่เขากลับพบว่านี่มันเป็นเรื่องหลอกลวงที่นำไปสู่การจู่โจมอย่างฉับพลัน จนทำให้เขารู้สึกแน่นหน้าอก ‘ไอเด็กสารเลวนี่ต่ำช้าเกินไปแล้ว’ เพียงพริบตา ขลุ่ยหยกที่เอวของเขาได้ยิงพลังดาบซี่ออกมา จนก่อให้เกิดเสียงจากการปะทะกันของดาบดังออกมา

ผู้อาวุโสลั่วหรี่ตาลง ‘เจ้าสารเลวน้อยคนนี้ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือการบ่มเพาะก็ตาม แต่การที่เขาฝึกฝนร่างกายได้ในระดับที่สามารถรับดาบพลังซี่ของเฟิงเฉียงด้วยมือเปล่าของเขาได้ นั่นถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว … เขากำลังปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเองเอาไว้อยู่สินะ อ่า! หรือเขาจะเป็นนักดาบ … ไม่ ไม่สิ! อย่างน้อยเขาก็ต้องอยู่ในระดับนักดาบวีรชน หรือไม่ก็อาจจะสูงกว่านั้น’

“เย่น้อย นายควรจะจริงใจมากกว่านี้นะ…” ก่อนที่ลั่วเฟิงเฉียงจะพูดจบ เย่ฉางก็ปลดปล่อยการโจมตีออกมาอีกครั้ง “ไลท์นิ่งพลาสม่าซอร์ด!!”

ดาบพลังแสงถูกยิงออกไปและระเบิดออกมา จนเติมเต็มท้องฟ้าไปด้วยริ้วดาบ มันปกคลุมลั่วเฟิงเฉียงเหมือนกับตาข่ายแสง ลั่วเฟิงเฉียงเลิกคิ้วขึ้น “เป็นการโจมตีที่ดี!”

พลังดาบซี่กระเพื่อมออกมาจากขลุ่ยหยก จนกวาดตาข่ายดาบออกไป แต่เย่ฉางก็ได้หายตัวไปซะแล้ว ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องของผู้อาวุโสที่สองก็ดังขึ้นมา “เอวของฉัน!!”

“สวยงามมาก!!” ฉินซานมองดูเย่ฉางใช้ 3 กระบวนท่า และประสบความสำเร็จในการลอบโจมตีอย่างไม่คาดคิด ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสที่สอง ผู้ที่มีความแข็งแกร่งยากหยั่งถึงราวกับมหาสมุทร ต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

หัวใจของผู้อาวุโสลั่วสั่นสะท้าน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งที่แท้จริง เขาใช้พลังเพียงแค่ 60% เท่านั้น แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเด็กน้อยคนนี้ได้ ที่สำคัญคือเด็กน้อยคนนี้ยังสามารถลอบทำร้ายอาวุโสสองได้อีก เด็กสารเลวนั่นต้องมีความเชี่ยวชาญในเทคนิคการลอบสังหารอย่างแน่นอน…

“งานเลี้ยงเริ่มต้นแล้ว!” MistyVeil ตะโกนออกมา

เย่ฉาง, ฉินฮองและฉินซานต่างพากันถอยหลังกลับ และกระโดดออกจากซากปรักหักพัง จากนั้นก็เดินไปที่ทางเข้าด้านหน้า เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ผู้อาวุโสลั่วและผู้อาวุโสที่ สองได้แต่กัดฟัน ในขณะที่พวกเขาเฝ้าดูทั้งสามคนแสดงออกอย่างร่าเริง พวกเขาทั้งสองต่างเอามือลูบเอว ‘ความแค้นในครั้งนี้ เราจะต้องเอาคืนอย่างแน่นอน!’

“ไอเด็กเหลือขอคนนี้ มีทักษะในศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมาก ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันไม่สามารถมองผ่านกลลวงของเขาได้เลย…” ผู้อาวุโสที่สองพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด

“เป็นเพราะความเร็ว ถึงแม้ว่าเขาอาจจะอ่อนแอที่สุดในที่นี้ แต่ความเร็วของเขารวดเร็วมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถพลิกแพลงไปมาได้เป็นอย่างดี ตระกูลฉินได้รับสมบัติที่มีค่ามากจริงๆ เด็กคนนี้ไม่ได้เป็นกบในบ่อน้ำอีกต่อไปแล้ว…”

ในขณะเดียวกัน ตระกูลฉินก็พากันเฮฮารื่นเริง

“เป็นการโจมตีที่ดีมากเจ้าลูกเขย ฮ่าฮ่า เมื่อฉันเห็นผู้อาวุโสที่สองกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันทำให้ฉันรู้สึกดีมากจริงๆ…” ฉินซานพูดออกมาโดยปราศจากความวิตกกังวล

“ฮ่าฮ่า มันไม่มีอะไรมากเลย เป็นเพราะรูปแบบเต่าทมิฬของลุงฉินที่ตรึงเขาเอาไว้ต่างหากล่ะ…” เย่ฉางพูดพร้อมกับนำมือทั้งสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงชายหาด และพลิกรองเท้าแตะไปมา

“อ่า สดชื่นจริงๆ นายเห็นไหมว่าฉันเอาชนะเจ้าแก่นั่นได้ จนทำให้หนวดของเขาบิดเบี้ยวไปเลยทีเดียว”

“แน่นอน อาวุโสฉินทรงพลังอยู่แล้วหนิ…” เย่ฉางพูดพร้อมกับบิดขี้เกียจ การตอบสนองที่เขาได้รับก็คือเทคนิคมังกรสวรรค์ – ฟ้าถล่ม! เขารีบหันหลังและหายตัวไปราวกับสายฟ้า โดยเขาวิ่งไปที่ห้องจัดเลี้ยง

“เจ้าเด็กสารเลว เขารู้จักทำให้คนโมโหได้ดีมากจริงๆ…” คำพูดเหล่านี้เตือนให้ฉินฮองนึกถึงการพบกันครั้งแรกกับเย่ฉาง ซึ่งเย่ฉางชกหมัดขวาอัดไปที่ท้องของเขา เวลานั้นเขารู้สึกเจ็บปวดมากจนรู้สึกว่าลำไส้ของเขาขดตัวบีบรัดกันแน่น แต่เขาก็ต้องฝืนทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เร็วมาก ศักยภาพของลูกเขยน่ากลัวมากจริงๆ ไม่ใช่ว่าพ่อเคยรับกำปั้นของเขาโดยที่ไม่ทุกข์ทรมานมาก่อนไม่ใช่หรอ รากฐานของเขาน่าหวาดกลัวมากจริงๆ พ่อสังเกตเห็นไหมว่าการกระทำทุกอย่างของเขาดูมั่นคงเป็นอย่างมาก? เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลยแม้แต่น้อย และพ่อรู้ไหมว่า เร็นลองเคยบอกผมในก่อนหน้านี้ว่า แท้จริงแล้วเขาไม่มีพลังซุปเปอร์พาวเวอร์ หรือพลังซี่เลย แต่เขาก็สามารถฉีกโลหะอัลลอยด์ราวกับฉีกกระดาษด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียว…” ฉินซานถอนหายใจ หลังจากคิดถึงความสามารถพิเศษที่แข็งแกร่งของเย่ฉาง

“ด้วยความพละกำลังเพียงอย่างเดียว!?” ฉินฮองไม่สามารถทนเก็บความสงบเอาไว้ต่อไปได้

“ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่ผู้นำกลุ่มมังกรได้สืบเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาด้วยตนเอง ศักยภาพของเขาน่าหวาดกลัวมากเกินไป ก่อนหน้านี้ ผมสงสัยว่าทำไมเขาถึงให้อางเฉียง และหลินหลี่มาเรียนรู้จากผม ขณะที่ตัวเขาเองไม่มาเรียนรู้ด้วย แต่ปรากฎว่าเขามีสไตล์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว สไตล์ที่มีแต่เขาเท่านั้นที่ทำได้ แค่เฉพาะในการแลกเปลี่ยนฝีมือครั้งล่าสุด เราก็ตระหนักถึงเทคนิคการลอบสังหารของเขาไปแล้ว ผมจึงรู้ว่าเขาเป็นคนบ้ามากแค่ไหน ถ้าละเลยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว แม้กระทั่งวิธีการฆ่าของเขาก็โหดร้ายเป็นอย่างมาก มันเป็นการฆ่าที่จิตใจของเขาไม่เหลือแม้แต่อารมณ์หรือความรู้สึกผิดใดๆเลยสักนิด พ่อเชื่อไหมว่านี่คือเด็กหนุ่มอายุ 21 ปี?”

ฉินฮองเลือกที่จะเงียบ เมื่อตัวเขาอายุ 21 ปี เขายังคงมีส่วนร่วมในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้เหล่านั้นอย่างมีความสุขอยู่เลย ในขณะที่เด็กสารเลวคนนี้ ต้องแบกภาระในการเลี้ยงดูพี่น้องของเขา และต้องออกไปปฏิบัติภารกิจอีกด้วย “ครั้งสุดท้ายเมื่อเขาพูดถึงวิธีการสอบปากคำ ฉันไม่รู้สึกถึงเจตนาหรือความมุ่งร้ายจากเขาเลย เขาเป็นคนที่ลึกลับมากเกินไป แต่ยังไงก็ตาม เขาก็ยังเป็นคนที่เซียงเอ๋อพามาหาเราอยู่ดี…”

ฉินซานยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา และเดินไปพร้อมกับฉินฮองเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยง

เมื่อเย่ฉางพบจางเจิ้งเฉียงและคนอื่นๆ เขาจึงเดินไปนั่งกับพวกเขา แขกจำนวนมากได้เห็นชุดของเย่ฉางและขมวดคิ้ว แต่แขกบางคนที่มักจะอยู่กับคนในตระกูลฉิน รู้สึกเคยชินไปเรียบร้อยแล้ว หรือแม้กระทั่งบางคนที่หวาดกลัวกลุ่มของเย่ฉางก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาได้เห็นเย่ฉางคว้าจับกระสุนปืนได้อย่างง่ายดาย และจับกุมตัวมือสังหารได้อย่างสบายๆ ในสภาพที่มือสังหารเลือกที่อยากตายมากกว่ามีชีวิตอยู๋ซะอีก … ทำให้ตอนนี้พวกเขารู้สึกหนาวสั่นอยู่ภายในใจเมื่อเห็นเขา

การมาถึงของ NalanPureSoul ทำให้ห้องโถงจัดเลี้ยงทั้งหมดอ้าปากค้าง ความสมบูรณ์แบบพิเศษของเขา ท่าทางที่ดูสง่างามเป็นอย่างมาก เหล่าแขกผู้หญิงได้แต่ก้มหัวลงด้วยความอิจฉา

NalanPureSoul มองไปที่กลุ่มของเย่ฉางและเดินตรงไป ข้างๆเขามีหญิงสาวที่สวยงามคนหนึ่ง เธอดูอายุราวๆ 25 ปี เธอมีใบหน้าเป็นรูปไข่ที่ประณีต และสวมชุดเดรสสีชมพู หญิงสาวคนนี้ก็คือ NalanMoon

“น้องชาย PureSoul… อุปกรณ์ขยายเวทมนตร์เป็นยังไงบ้าง?” เย่ฉางถามออกมาด้วยรอยยิ้ม

“มันคงจะดีกว่านี้ ถ้ามันถูกลงอีกสักหน่อย…” NalanMoon ขัดจังหวะอย่างไม่มีความสุข

“ผู้หญิงโง่เง่า! ถ้ามันราคาถูก มันน่าจะไปคู่ควรกับสถานะของน้องชาย PureSoul ได้ยังไงกัน!” เย่ฉางพูดอย่างชอบธรรม

NalanMoon กรอกตาไปมา และไม่สามารถหาคำพูดมาหักล้างได้

“ขอบคุณมาก พี่ชาย PaleSnow มันมีประโยชน์เป็นอย่างมาก…” NalanPureSoul อดยิ้มออกมาไม่ได้

“ไม่เป็นไร นายเป็นคนแรกที่ฉันคิดถึงเมื่อต้องการขายมัน เพราะเราเป็นพี่น้องที่ดีจากสมาคมไขว้ดาบ!” เย่ฉางลาก NalanPureSoul ไปเข้ากลุ่มที่น่าอึดอัดใจบางอย่างอีกครั้ง

NalanPureSoul ถอนหายใจ “พี่ชายเย่ฉาง พี่ช่วยหยุดพูดเรื่องการต่อสู้ด้วยการฟันดาบ, ไขว้ดาบ หรือสมาคมไขว้ดาบด้วยเถอะ เพราะเรื่องนี้…”

“นายไม่มีดาบงั้นหรือ?” เย่ฉางตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก แล้วก็เข้าใจ “นี่คือเหตุผลของนายสินะ แต่ฉันไม่สนใจหรอก งั้นครั้งต่อไปเราจะมาเล่นฟันดาบและโล่ก็แล้วกัน”

NalanPureSoul สั่นสะท้าน ‘เราไม่สามารถมีการสนทนาที่ปกติได้เลยสินะ! ฉันยังไม่ทันที่จะพูดจบเลยด้วยซ้้ำไป!! เฮ้อ’ เขาถอนหายใจออกมาและพูดขึ้นว่า “ดาบและโล่คือ…”

“ฉันจะใช้ดาบของฉันเจาะทะลวงโล่ของนาย จนกว่านายจะไม่สามารถใช้งานโล่ของนายได้อีกต่อไป…”

เย่ฉางไม่ทันได้พูดจบก่อนที่หน้าของ NalanPureSoul จะกลายเป็นสีแดง และพูดขัดจังหวะเขาอย่างรวดเร็ว “แค๊ก แค๊ก พี่ชาย PaleSnow หยุดยั่วยุฉันได้แล้ว…”

“ฉันจริงจังนะ ถึงแม้ว่า…” เย่ฉางพึมพำ

“……”

 

 

 


ตอนที่ 434.2

 

หลังจากที่เข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยง ลั่วเฟิงเฉียงที่เป็นเจ้าภาพมองไปยังบรรดาแขกทั้งหลายของเขา “วันนี้ ผมอยากจะขอบคุณทุกคนที่สามารถมายังงานเลี้ยงของผมได้ ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะมีงานที่ยุ่งวุ่นวายมากก็ตาม ก่อนหน้านี้ลูกสาวของผมเกือบจะถูกสังหาร แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้มีเกียรติท่านหนึ่ง งานเลี้ยงของวันนี้คือการปลอบขวัญลูกสาวผม และเป็นงานเลี้ยงขอบคุณสุภาพบุรุษท่านนี้อีกด้วย…” เมื่อเขากำลังพูด เขามองไปยังเย่ฉางผูู้ที่กำลังกัดกินขนมปังปิ้ง “น้องชายเย่ ตระกูลลั่วติดหนี้บุญคุณครั้งยิ่งใหญ่ต่อน้องชายแล้ว…”

“ไม่เป็นไร นี่มันไม่จำเป็นเลย…” เย่ฉางกินขนมปังต่ออย่างไม่แยแส

“สำหรับนาย มันอาจจะเป็นความพยายามเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับฉันมันคือการได้รับชีวิตใหม่เลยนะ…” MistyVeil พูดออกมาอย่างจริงจัง “ตระกูลลั่วเป็นตระกูลที่จะตอบแทนบุญคุณ และสะสางความแค้นอย่างเปิดเผย!”

เย่ฉางถอนหายใจ เขาหันหลังให้กับเธอและกระซิบออกมา “เราไปที่อื่น และให้ฉันจับก้นของเธอก่อนสิคุณป้าก้นกระชับ แล้วฉันจะช่วยเธอชำระความแค้นให้เอง…”

“……” MistyVeil รู้สึกว่าแข้งขาของเธอไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันที ‘มันจะทำให้ไอบ้านี่ตายงั้นหรือ ถ้าเขาไม่ได้ทำสิ่งเลวร้ายแบบนี้!?’

ThornyRose กลอกตาของเธอไปมา ‘เมื่อเจ้าคนชั้นต่ำเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นคนที่ไร้ยางอาย จากนี้ไปคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดเดาได้ว่า เขาจะเป็นคนยังไงต่อไป ถ้าเขากล้าพูดเรื่องนี้กับฉัน ฉันจะทำมากกว่าแค่แทงเขาด้วยส้อมและมีดของฉัน!’ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอจับมีดและส้อมอย่างเหนียวแน่น จนทำให้มือของเธอสั่นเทา ‘ต้องแก้แค้นให้รูก้นของฉัน แก้แค้นให้รูก้นของฉัน…’

แขกทุกคนได้ยินข่าวสำคัญนี้ การได้รับความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวงจากตระกูลลั่วเป็นสิ่งที่โชคดีมาก วิธีการที่พวกเขามองไปยังเย่ฉางที่สวมกางเกงชายหาดขาสั้นเปลี่ยนแปลงไปทันที พวกเขาเหล่านี้เต็มไปด้วยความอิจฉาและความชื่นชม มีหลายคนที่ต้องการเลื้อยเข้ามาเพื่อเป็นเพื่อนกับพวกเขา แต่ก็ถูกเย่เทียนจัดการด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ

“ในวันนี้ ยังมีแขกผู้มีเกียรติอีกจำนวนหนึ่งได้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย ฉันหวังว่าคงจะไม่มีใครไปเสียมารยาทกับพวกเขาหรอกนะ…” ลั่วเฟิงเฉียงพูดอย่างจริงจัง

ขณะที่คำพูดเหล่านั้นถูกพูดขึ้น มีบางคนก็พูดขึ้นมาเช่นกัน “ลุงลั่ว ฉันเป็นคนที่ไม่มีมารยาทด้วยรึเปล่า?”

หญิงสาวที่มีเสน่ห์แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำแบบผู้หญิงกำลังมองเข้ามา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกล้าหาญ คนๆนี้เป็นผู้นำของกลุ่มมังกร มังกรแดง – หลงเซียงยี่ หรือคนที่เย่ฉางมักจะเรียกว่าทอมบอยนั่นเอง ในขณะเดียวกัน คนหัวล้านที่ยืนอยู่ข้างๆเธอเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ 7 – เร็นลอง

ฉินฮองเลิกคิ้วขึ้น สัตว์ประหลาดที่แท้จริงได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว เธอเป็นหัวหน้าตระกูลตอนอายุ 18 ปี และเป็นหัวหน้ากลุ่มมังกรตอนอายุ 26 ปี เธอได้รับการกล่าวว่าเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหลงเท่าที่เคยมีมา ตระกูลหลงเคยเป็นสภาของสหพันธรัฐจีน อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคนที่เคยเป็นผู้นำกลุ่มมังกรก็มาจากตระกูลหลง พวกเขาเป็นตระกูลที่มีความสำคัญและยังไม่ถูกลืมเลือน

คนที่เข้ามาถัดจากพวกเขาก็คือ Hunting Flame ด้วยการแสดงออกที่เฉยเมย เขาได้เหลือบมองสภาพต่างๆภายในงานเลี้ยง แต่เมื่อเขาเห็นเย่ฉาง เขาจึงยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา มังกรแดงเห็น Hunting Flame เดินเข้ามา เธอจึงพยักหน้าเบาๆให้กับเขา Hunting Flame ก็หันกลับไปพยักหน้าให้กับเธอเช่นกัน นี่ไม่ใช่การพบกันครั้งแรกของทั้งสองคน

มังกรแดงมองไปยังเย่ฉางที่เดินไปรอบๆในชุดกางเกงชายหาด และจดจ่ออยู่กับธุระของตัวเอง ‘ไอบัดซบนี่ มัวแต่ยุ่งกับการเดินกินอาหาร ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขา เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขาเป็น 1 ใน 10 ผู้นำของ 10 บทบัญญัติ แต่เขามักต้องการที่จะอยู่เบื้องหลังเสมอ เขาเป็นฝันร้ายอันดับ 1 ในบรรดาผู้นำทั้งหมดของ 10 บทบัญญัติ เขาถือครองอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของกลุ่มพวกบ้าคลั่ง’ เธอคิดถึงการต่อสู้ ที่พวกเขาได้ทำลายล้างตระกูลเอนอสหายไปจากโลกใบนี้ ถ้าเธอไม่ได้ต่อสู้กับเขามาก่อน เธอก็คงจะไม่รู้เลยว่า Silver Devil เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวและน่าเชื่อเถือได้มากขนาดไหน ถ้าเป็นไปได้ เธอไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเขาเลย

ทุกคนกลายเป็นเงียบงัน มังกรแดงมาถึงแล้ว! การมาถึงของพวกเขา ทำให้แขกบางคนหวาดกลัว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่า Hunting Flame คือใคร แต่ความจริงที่ว่าพวกเขาได้แลกเปลี่ยนการพยักหน้ากัน นั่นหมายความว่า เขาเป็นคนที่มังกรแดงให้การยอมรับ จนทำให้พวกเขาเริ่มแสดงความอยากรู้อยากเห็นกันขึ้นมา

“เธอเป็นแขกที่ได้ทรงเกียรติมากที่สุดในที่แห่งนี้แล้ว ฉันไม่กล้ารุกรานเธอหรอก…” ลั่วเฟิงเฉียงยิ้มออกมา

“ฮ่าฮ่า คนที่พิเศษที่สุดไม่ใช่ฉันหรอก ไม่ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันไปร่วมงานเลี้ยงของลุงลั่วซะหน่อย ลุงลั่วทำสิ่งที่ลุงต้องทำเถอะ…” มังกรแดงเดินมาที่โต๊ะของลั่วเฟิงเฉียงและนั่งลง เร็นลองก็นั่งลงด้วยเช่นกัน ด้วยการที่มีมังกรแดงอยู่ ทำให้เขาไม่กล้าลุกขึ้นไปไหน เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้นำของลัทธิชั่วร้าย เขาไม่เคยขาดแคลนเงิน, หญิงงาม หรืออะไรก็ตามแต่ที่เขาต้องการ เขามีมันทั้งหมด แต่ตอนนี้ ต่อให้ไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง แต่เขาก็ไม่กล้าหือกับเธอ หรือไปทำอะไรให้เธอโกรธ เขาถอนหายใจออกมา และมองไปยังมังกรแดงด้วยความเคารพ

“ตอนนี้ฉันขออนุญาตแนะนำเพื่อนของฉันอย่างเป็นทางการ เขาคือ Hunting Flame ผู้นำหมายเลข 3 ของ 10 บทบัญญัติ ขอบคุณมากสำหรับการมางานเลี้ยงครั้งนี้ของฉัน …” คำพูดของลั่วเฟิงเฉียง ทำให้แขกที่เงียบงันกลายเป็นตื่นตระหนก 10 บทบัญญัติ!? ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลยสักคนเดียว พวกเขามองไปที่ Hunting Flame ด้วยความหวาดกลัว

Hunting Flame เดินมาถึงโต๊ะหลักของงานเลี้ยง

ทุกคนมองไปยังคนที่อยู่ตรงโต๊ะหลัก ด้วยความรู้สึกตกตะลึง กลุมมังกร, 10 บทบัญญัติ, ตระกูลลั่ว อะไรทำให้พวกเขามารวมกลุ่มกันยังที่แห่งนี้? หรือว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารลูกสาวคนโตของตระกูลลั่วกัน…

งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

“ฉันไม่คิดเลยว่า นายจะเข้าร่วมงานเลี้ยงประเภทนี้ด้วยเหมือนกันนะ Hunting Flame…” มังกรแดงรู้สึกประหลาดใจ เพราะ Hunting Flame เป็นผู้เชี่ยวชาญในการลอบสังหาร และรวบรวมข้อมูล

“ฉันอยู่หลังฉากมานานพอแล้ว ฉันคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ฉันจะได้เปิดตัวสักที…” Hunting Flame ยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา

“ฉันไม่คิดว่านายจะเป็นคนฆ่า Sky Burial ด้วยตนเอง ฉันคิดว่าเป็นพวกองค์กรแพนโดร่าเสียอีก…” มังกรแดงรู้เกี่ยวกับข้อมูลนี้ แต่ไม่ได้รู้รายละเอียดลึกซึ้งอะไรนัก

“ทุกอย่างปกติดี ตอนนี้ฉันรับผิดชอบเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับองค์กรแพนโดร่าแล้ว…” Hunting Flame ยักไหล่

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันคิดว่าองค์กรแพนโดร่าคงได้ปวดหัวหนักมากแน่ๆ…” มังกรแดงอดยิ้มออกมาไม่ได้ เธอเหลือบไปตรงตำแหน่งที่เย่ฉางกำลังกิน, ดื่ม และพูดคุย จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมา “หัวหน้าของนายจะมีอิสระมากเกินไปแล้ว…”

“ผู้นำได้ทำสิ่งต่างๆให้กับ Cold Moon และฉันมามากพอแล้ว พวกเราทั้งสองคนหวังว่าผู้นำจะมีอิสระในการใช้ชีวิตมากกว่านี้ซะอีก…” Hunting Flame คิดถึงอดีตและยิ้มออกมา มังกรแดงยังคงคิดกับตัวเองอยู่เงียบๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมผู้นำหมายเลข 1 ถึงหวาดกลัวเขามาก เพราะอำนาจของทั้งสามคนนี้ สามารถโค่นล้มอิทธิพลของเขาได้อย่างง่ายดาย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างความบาดหมางให้กับพวกเขาทั้งสามคน โดยเฉพาะ Cold Moon ไม่มีใครที่พยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมเธอ แล้วจะรอดกลับมาได้เลยสักคน ตอนนี้ไม่มีใครกล้าทำให้เธอรำคาญอีกต่อไปแล้ว

“เมื่อได้ยินคำพูดของนายแล้ว ฉันยิ่งต้องการที่จะพบกับ Silver Devil มากขึ้นไปอีก…” ลั่วเฟิงเฉียงยิ้มออกมา

ทั้งสองคนแข็งค้าง จากนั้นทั้งคู่ก็ยิ้มออกมา “อีกไม่นานหรอก…”

“สำหรับเรื่องขององค์กรแพนโดร่า ฉันคิดว่าจะพูดคุยเรื่องนี้กับตระกูลลั่วอยู่พอดี หากคุณสนใจ เราสามารถเตรียมการกันได้เลย…” Hunting Flame หวนนึกถึงองค์กรแพนโดร่า ที่ต้องการทำงานร่วมกับตระกูลลั่วเพื่อพัฒนายาตัวใหม่ขึ้นมา

“ฉันสนใจกับข้อเสนอของนาย น้องชาย Hunting Flame” ลั่วเฟิงเฉียงพูดด้วยความใส่ใจ แพนโดร่าเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยารักษาโรคใต้ดินที่แข็งแกร่งที่มากสุด ถึงแม้จะมีต้นกำเนิดมาจากยาพิษก็ตาม อย่างไรก็ตาม การพัฒนายาของพวกเขายังคงเป็นอับดับที่หนึ่งอยู่เสมอ พวกเขาสร้างความสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วมกับสหพันธ์ แต่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเหล่าตระกูลต่างๆ อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับตระกูลลั่วมากเท่าไหร่

มังกรแดงไม่ได้พูดอะไรออกมา ถึงแม้ว่าองค์กรแพนโดร่าจะมีส่วนร่วมในการติดต่อกับสหพันธ์จีน แต่ในฐานะกลุ่มมังกรแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ในการจัดการปัญหาที่ยุ่งยากเหล่านี้

งานเลี้ยงค่อยๆสิ้นสุดลง คืนนี้บรรดาแขกทั้งหลายดูไม่ค่อยมีความสุขมากนัก เนื่องจากพวกเขาได้เห็นความสัมพันธุ์ของกลุ่มต่างๆกับตระกูลลั่วที่เป็น 1 ใน 3 ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง เย่ฉางบอกให้ทุกคนกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลฉินกันก่อน โดยที่เขามุ่งหน้าไปที่ริมทะเลสาบ

“ตระกูลลั่วตกลงที่จะทำงานร่วมกับองค์กรแพนโดร่าแล้ว…” Hunting Flame ค่อยๆเดินออกมาจากความมืด

“นี่เป็นสิ่งที่องค์กรแพนโดร่าเหลือทิ้งไว้ ลองไปหา Mandala ดู แต่เธออาจจะปฏิเสธก็ได้…” เย่ฉางพยักหน้า

“เข้าใจแล้วครับ ท่านผู้นำ…” Hunting Flame กลายเป็นประกายไฟและหายตัวไปทันที

 

 

 


ตอนที่ 435

 

เมื่อเย่ฉางกลับมาถึงบ้านตระกูลฉิน เขาจึงเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำทันที เขากดเปิดหลังคากระจกและเพลิดเพลินกับแสงจันทร์ที่สุกสกาวในยามค่ำคืน เขาเอื้อมมือไปจับแหวนที่ห้อยอยู่บนหน้าอกอย่างช้าๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น

เย่ฉางกลับไปยังชั้นเรียนของรั่วหงเย่อีกครั้ง และได้เห็นฉินซานปลอมตัวโดยสวมหมวกนั่งอยู่ในแถวแรก ข้างๆเขาเป็นคนผู้มาใหม่อย่างจางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ พวกเขารู้สึกเหมือนเพิ่งก้าวเข้าสู่โรงภาพยนต์เสมือนจริง ขณะที่พวกเขาทำตามคนส่วนมากภายในห้อง FrozenCloud นั่งหน้าเจื่อน เธอเพิ่งมาชั้นเรียนของรั่วหงเย่เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจเกินไป ที่เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวซึ่งอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยผู้ชายหื่นๆ ที่พร้อมจะพ่นน้ำออกมาได้ทุกเมื่อ…

หลังจากจบการสอน กลุ่มของเย่ฉางได้กลับมายังเมืองหลินไห่ พวกเขาเข้าเกมเมื่อเวลา 12.00 น.

เนื่องจากอีกสองวิหารถูกบูรณะเสร็จสิ้นแล้ว เย่เทียนได้วางแผนงานเพื่อติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในตอนนี้พวกเขายังพอมีเวลาว่างอยู่ ก่อนที่เทพธิดาทั้งสามจะมาถึง สำหรับเมืองบาล มีคุณยายริก้าอยู่ที่นั่นเพื่อดูแลเรื่องต่างๆแล้ว

“หัวหน้าทีมอยู่ที่ไหน?” OldWangFromNextDoor มาช้าไปเล็กน้อย

“ทั้งสองวิหารกำลังจะเสร็จแล้ว ดังนั้นหัวหน้าทีมจึงมุ่งหน้าไปที่วิหารของเทพธิดาแมลโลเพื่อฝึกสอนอะไรบางอย่างแก่เทพธิดาทั้งสาม …” FrozenCloud พูดด้วยความประหลาดใจ

OldWangFromNextDoor เต็มไปด้วยความหึงหวงและเสียใจอย่างมาก เขามองไปที่รูปภาพของเทพธิดาทั้งสามที่ติดอยู่ตรงประตูทางเข้าหน้าสมาคม “ถ้าฉันเป็นหัวหน้าทีม ก็คงดีไม่น้อย…”

วิหารเทพธิดาแมลโล

SpyingBlade เฝ้าดู ขณะที่เย่ฉางกำลังสอนให้เทพธิดาทั้งสามแสดงท่าทางต่างๆที่น่าอับอาย เขาอดคิดไม่ได้ว่า เย่ฉางเคยอ่านนิตยสารแฟชั่นในตอนเช้าบ้างไหม!? ดูเหมือนว่าเขากำลังวางแผนที่จะสร้างความอัปยศอดสูให้แก่พวกเธอชัดๆ …

“แจม! เธอแข็งกระด้างเกินไปแล้ว! ผ่อนคลายลงหน่อย โชว์หน้าอกอีกนิด! ยิ้มหวานและให้ดูเซ็กซี่เข้าไว้! อะไรนะ! เธอไม่รู้ว่ายิ้มหวานและให้ดูเซ็กซี่ทำยังไง? มานี่ ฉันจะช่วยเธอเอง … ปากของเธอควรเป็นแบบนี้และแบบนี้ มันเป็นเรื่องยาก!? อดทนหน่อยสิ! ฉันช่วยให้เธอปรับตัวเข้ากับสมัยใหม่เชียวนะ! ถ้าเธอไม่ทำตัวให้ทันสมัยเข้าไว้ เธอจะถูกบรรดาผู้ศรัทธาทอดทิ้งไปแน่ๆ …”

“อันย่า ทำไมเธอถึงใส่กางเกงแบบพวกอนุรักษ์นิยมเช่นนี้! มันหนาและปกปิดเยอะเกินไป! กระโปรงสั้นที่ฉันให้ไป อยู่ที่ไหน!? อืมๆ มันควรจะเป็นเช่นนี้สิ! หา! เธอถามว่าจะใส่รองเท้าแบบไหน? แน่นอนว่ามันต้องรองเท้าส้นสูงอยู่แล้ว! ฉันสั่งทำมาเป็นพิเศษเชียวนะ! อะไรนะ เธอจะไม่ใส่มัน!? เธอต้องเชื่อใจผู้เชี่ยวชาญอย่างฉันสิ! ถ้าเธอใส่มัน เธอก็จะรู้สึกเหมือนว่ากำลังโบยบินอยู่บนฟ้า! วันนี้แหละ ฉันจะทำให้พวกเขาตราตรึงเธอไว้ข้างในหัวใจตลอดไป! เยี่ยม มันต้องแบบนี้สิ! แอ่นก้นออกมาให้มากขึ้นกว่านี้อีก!”

“และเธอด้วย แมลโล! แม้ว่าหน้าอกของเธอจะเป็นจุดขาย แต่เธอยังคงต้องเปลี่ยนสิ่งต่างๆเพื่อดึงดูดสายตาที่หิวโหยเหล่านั้น หิวโหยคืออะไรงั้นหรือ? ฉันหมายถึงผู้ศรัทธาของเธอไง … เอาล่ะ! โชว์เรียวขาออกมาจากชุดเดรสให้มากขึ้นกว่านี้อีก! และสวมนี้ลงไปด้วย! มันคืออะไรงั้นหรือ!? มันคือถุงน่อง … มันเป็นเหมือนเครื่องประดับที่ทำให้ผู้ชายตกหลุมรัก … รีบๆใส่มันซะ!”

อูนาเอามือก่ายหน้าผากของเธอ เธอหันหลังกลับและเดินออกจากวิหาร เธอไม่สามารถทนมองดูการกระทำที่ไร้ยางอายของเย่ฉางได้อีกต่อไปแล้ว เธอมองมารูนาย่าและบรรดาผู้ศรัทธาคนอื่นๆที่รออยู่ข้างนอกวิหาร เธอได้แต่ถอนหายใจและเห็นใจอย่างเงียบๆ…

ThornyRose และ FrozenBlood มาที่ด้านนอกของวิหาร และเห็นอูนายืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “ทำไมเธอถึงไม่เข้าไปข้างใน?”

“อย่าเข้าไปข้างในเลย พวกเธอทนรับไม่ได้หรอก …” อูนาพูดพร้อมกับถอนหายใจ

ThornyRose เข้ามาข้างในไม่ถึงห้านาที ก่อนที่จะรีบเดินออกมา “ฉันรู้สึกเหมือนว่าเหล่าเทพธิดาทั้งสามจะ * * * *” เธอดูเหมือนจะตื่นเต้นเล็กน้อย …

“…” อูนาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ผู้หญิงสองคนเริ่มคุยกันและคาดเดาสิ่งต่างที่อยู่ข้างในอย่างมีความสุข

“เดี๋ยวนะ! แล้วพี่สาวไอซ์อยู่ที่ไหน?” อูนาสงสัยว่าทำไม FrozenBlood ไม่ได้ออกมาจากข้างในวิหารพร้อมกับ ThornyRose

“เธอควรจะอยู่ข้างใน …” ThornyRose ตอบอย่างไม่แน่ใจ ทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปในวิหารอีกครั้งหนึ่ง และเห็นว่า FrozenBlood ได้รับบทบาทเป็นผู้ช่วยของจอมวายร้าย ผู้หญิงคนนี้เป็นสุดยอดผู้ช่วยจริงๆ เธอสามารถทำงานร่วมกับเย่ฉางได้เป็นอย่างดี …

ผู้หญิงทั้งสองคนเดินออกมาอีกครั้งหนึ่ง ข้างในนั้น มันช่างเป็นโลกที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง!

“แล้วหลินหลี่อยู่ที่ไหนหรือ?” ThornyRose ถาม ขณะที่เธอนั่งอยู่บนบันได

“เขาติดประชุมที่สมาคมพ่อค้าอาวุธ โดยในไตรมาสนี้ สมาชิกที่หาเงินเข้าสมาคมได้มากที่สุดจะได้รับรางวัล …” คำพูดของอูนาทำให้ ThornyRose ประหลาดใจ ‘หลินหลี่มีตำเหน่งใหญ่โตในสมาคมหรือ!?’

“แล้วเจ้าหมียักษ์และเย่เทียนล่ะ?” ThornyRose ส่ายหัวและหยุดสงสัยเกี่ยวกับหลินหลี่

“อาเฉียงอยู่ระหว่างการทดสอบของอาจารย์ ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นอาจารย์ของเขา ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนพวกเกย์เฒ่า เขากำลังสัมผัสไปทั่วทั้งตัวของอาเฉียงและพูดว่า ‘ร่างกายที่แข็งแรง จะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี’ ฉันว่ามันน่าขยะแขยงมากนะ …” อูนาพูดด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

“เธอหมายถึงผู้ฝึกสอนอาชีพของอาเฉียงใช่ไหม? เขาชื่อคอนนาร์ดโดฟ และเขาไม่ได้เป็นเกย์ เธอควรรู้ด้วยว่า ตำแหน่งของเขาในคริสตจักรสูงกว่าอาร์คบิชอปมากิเสียอีกนะ เขาเป็นถึงวีรบุรุษในตำนาน ตอนนี้เขาแค่สนุกกับชีวิตวัยเกษียณของเขาเท่านั้น …” SpyingBlade เพิ่งเดินออกมาและพูดขึ้น เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่สามารถทนดูสิ่งที่อยู่ข้างในได้อีก

“นายรู้ได้อย่างไร? เทียนน้อยบอกนายหรือ?” อูนาหัวเราะ

“ฉันเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรด้วย …” SpyingBlade ชี้ไปที่ตราของหน่วยตุลาการทมิฬ

“ฉันขอถามอะไรหน่อยนะ เมื่อนายคืนดีกับแฟนแล้ว ทำไมนายถึงไม่ไปเข้าร่วมกิลด์ Falling Star ของเธอล่ะ!? ผู้คนต่างยกย่องให้นายเทียบเท่า CloudDragon เลยนะ แต่ทำไมนายถึงมาเข้าร่วมกับกิลด์เล็กๆแบบนี้? …” ThornyRose อยากรู้อยากเห็น

“มันไม่มีเหตุผลหรอก ฉันแค่สับสนเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง และไม่สามารถทำให้มันชัดเจนได้ ฉันเคยทำผิดพลาดไป แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว เพราะในตอนนี้ฉันมีสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในโลกแล้ว …” SpyingBlade ตอบ แล้วหันกลับไปทางวิหารและยิ้ม “หัวหน้าทีมเป็นคนที่ลึกลับก็จริง แต่เขาก็เป็นคนดีมากๆ การได้มาพบเจอเขา คือความโชคดีของกงซุนเฉียน …”

“เฮ้ นายมีสติดีอยู่ไหม หรือว่านายถูกไอคนต่ำต้อยล้างสมองไปแล้ว … “ThornyRose รีบลุกขึ้นยืนและส่ายหน้า

“เพราะตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้วหัวหน้าทีมยิ่งใหญ่แค่ไหน …” SpyingBlade ยิ้มและรู้สึกตื่นเต้น หัวหน้าทีมไม่เพียงแต่มีอำนาจมากใน 10 บทบัญญัติ แต่ยังมีสัมพันธ์ที่ดีกับพวกระดับสูงของกลุ่มมังกรอีกด้วย เขาไม่ได้มีชื่อเสียงในโลกใต้ดินเท่านั้น แต่เขายังมีความไว้วางใจจากเพื่อนของเขา SpyingBlade คิดถึงเหตุผลที่หัวหน้าทีมไม่ต่อสู้เพื่อแย่งเอาตำแหน่งอันดับที่ 1 ของ 10 บทบัญญัติ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาอาจทำมันสำเร็จ แต่เขาก็ไม่ได้ทำมัน เพราะฉะนั้นมันอาจมีสัญญาอะไรบางอย่าง ที่เขายังไม่รู้ก็เป็นไปได้

“เจ้าคนนั้นนี่นะยิ่งใหญ่! ไม่มีทาง …” ThornyRose หันไปในอารมณ์ที่ไม่ดี เธอเริ่มคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง ช่วงเวลาที่เธอ, FrozenBlood และ GreenDew กำลังต่อสู้กับบอสอยู่ แต่จู่ๆก็มีลูกศรพุ่งเสียบรูตูดของเธอ และที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น เธอถูกยิงโดยชายคนหนึ่ง! เธอได้อดทนมันเอาไว้เพื่อประโยชน์ของกิลด์ แต่มันก็เกิดขึ้นอีกครั้งจนได้! ‘เขาต้องตั้งใจยิงแน่ๆ!!’

อูนาและ SpyingBlade ได้เห็นความโกรธในดวงตาของ ThornyRose ขณะที่กำลังเล่าถึงเรื่องราวของการพบกันครั้งแรก พวกเขาได้แต่หุบยิ้ม เพราะเธอกำลังโกรธอย่างมาก

“แล้วน้องชายฟางชิไปไหนล่ะ?” ThornyRose เปลี่ยนหัวข้อ เพื่อเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ของเธอ

“เมื่อเร็วๆนี้ เย่ฉางมอบหมายให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบการขาย …” อูนาหยุดพูดต่อ เพราะนึกขึ้นมาได้ว่า เย่ฉางสั่งห้ามบอกให้ ThornyRose รู้

SpyingBlade ช่วยคลายข้อสงสัยให้เธออย่างรวดเร็ว “ขายอุปกรณ์ …”

“โอ้ ~~ เป็นแบบนี้นี่เอง?” ThornyRose ยกคิ้วขึ้น เธอมองไปยังอูนาที่กำลังหลบหน้าเธออยู่ “น้องสาวที่แสนดี มาคุยกับฉันตรงนี้หน่อย …”

เธอลากอูนาไปคุยกันหลังเสา

“เฮ้อ! สมกับเป็นผู้หญิงของหัวหน้าทีมชะมัด …” SpyingBlade ถอนหายใจ แล้วกลับเข้าไปในวิหารเพื่อดูฉากที่เหลือเชื่อต่อ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม