Virtual World – Peerless White Emperor 436-442

ตอนที่ 436

 

“ทำได้ดี ทำได้ดีมาก! พวกเธอต้องจำเอาไว้ให้ดี! โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ที่อยู่ข้างใน~! จงแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความสวยของพวกเธอ และกระตุ้นอารมณ์ของพวกเขาให้ได้มากที่สุด !!” เย่ฉางเดินออกจาออกจากวิหารไปอย่างช้าๆ เทพธิดาทั้งสามโบกมือลาเขา

SpyingBlade มึนงง ทำไมเขาเห็นการฝึกเทพธิดาของเย่ฉาง มันเหมือนกับการฝึกพวกหญิงโสเภณีเลย? แต่ยังไงก็ตาม ในตอนนี้พวกเธอดูคล้ายกับเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี

ช่วงเวลาที่เย่ฉางก้าวออกมาจากวิหาร เขาถูกจับโดย ThornyRose “ อุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ และอาหารทหารอยู่ไหน!? … ไอคนชั้นต่ำ! เมื่อนายได้รับสิ่งที่ดี นายไม่คิดที่จะติดต่อมาหาฉันเลยนะ! เราไม่ได้อยู่ในสโมสรเดียวกันงั้นหรือ??”

“เออ … คือมันเป็นแบบนี้นะ ฉันคิดว่าเธอไม่สามารถจ่ายได้ เพราะฉะนั้น…” เย่ฉางตอบอย่างจริงจัง

ฟันของ ThornyRose กัดลงบนใบหน้าของเขาทันที

“อ๊ากกก! หน้าของฉัน!” เสียงกรีดร้องของเย่ฉางดังก้องไปทั่ววิหาร อูนาถอนหายใจและค่อนข้างเห็นใจ ThornyRose ทุกครั้งที่พวกเขาพบเจอกัน พี่สาวโรสจะโกรธเอาเป็นเอาตาย เธอรีบทำงานร่วมกับ FrozenBlood เพื่อดึงพวกเขาให้ออกจากกัน

ในท้ายที่สุด เย่ฉางได้สั่งการกับเยเทียนว่า พวกเขาจะมอบอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ 3 ชิ้นและอาหารทหารอีก 15 ขวดให้กับทีม ThornyRose เย่ฉางมองไปยังท้องฟ้าสีแดงที่ห่างไกล เขาถอนหายใจออกมา ทันใดนั้น รูปลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาของหลินหลี่ก้ปรากฏขึ้น “พี่ใหญ่ขาว เมื่อตอนผมประชุมเสร็จ ขณะที่ผมเดินลงบันไดมา ผมได้เจอตราสร้างกิลด์ตกอยู่ด้วยแหละ …”

ThornyRose ที่กำลังเดินลงบันได ก็รู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมาทันที ขาของเธอแทบหมดแรงเดิน จนทำให้เธอเกือบผลัดตกบันได ‘เชี่ย! เรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ก็มีด้วย!!? หลินหลี่ พ่อของนายเป็น GM ใช่ไหม!?’

“รีบไปกันเถอะ! เราจะไปสร้างกิลด์ Happy Firmaments!” เย่ฉางหยิบตราสร้างกิลด์มาจากหลินหลี่ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและมองไประยะไกลๆอย่างกล้าหาญ พร้อมกับชูดาบ Assenroche ชี้ขึ้นบนฟ้า ใบดาบดูโปร่งใสสวยงามมาก

เมืองแบล็กร็อค

ในบริเวณย่านตลาดที่ผู้เล่นตั้งแผงค้าขาย มีผู้เล่นจำนวนมากกำลังจับจ่ายใช้สอยกันอยู่ ในตอนนี้ร้านค้าทั่วไปของเย่ฉางเป็นสถานที่ที่ได้รับนิยมอย่างมาก ทำให้พื้นที่รอบๆร้านค้าได้กลายเป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งขนาดใหญ่ไปแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมาที่นี่ทันที หลังจากที่กลับมาถึงเมืองแล้ว บ่อยครั้งที่ร้านค้านี้จะเอาอุปกรณ์ที่ดีมาขายในราคาถูกกว่าที่อื่น ซึ่งทำให้ผู้เล่นทุกคนที่มีเงินเพียงนิดเดียว สามารถเข้ามาซื้อได้

ทันใดนั้นก็มีประกาศจากระบบดังขึ้นมา!

“มีการจัดตั้งกิลด์ใหม่! ยินดีต้อนรับกิลด์ [Happy Firmaments – Fraternity – Corporation – Conglomerate – Invincible in the firmaments – เรามีบริการด้านอาหาร, ยา, โครงการวิศวกรรม, อุปกรณ์ และการตัดแต่งทรงผม ด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ พวกเราเป็นแค่มินิกิลด์ ดังนั้นจึงขออภัยด้วย ที่ขณะนี้เรายังไม่ได้เปิดรับสมาชิกใหม่ เราหวังว่าทุกคนจะมีความสุขในการเล่นเกม ปล: นี่คือการเตือนที่เป็นมิตร O (n_n) O คุณสามารถเรียกชื่อกิลด์เราย่อๆว่า Happy Firmaments ได้ สาเหตของการที่เราตั้งชื่อยาว เป็นเพราะมันครอบคลุมประสิทธิภาพและความยิ่งใหญ่ของกิลด์เราได้ดี] เข้าสู่เมืองแบล็กร็อค!” ประกาศของระบบประเทศจีน

“ช่างเป็นชื่อที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้? เวลาพูดลิ้นมันจะไม่พันกันเรอะ!” CloudDragon ตกตะลึง

LordAsked แข็งค้างและยิ้มที่มุมปาก “กลุ่มคนบ้า …”

ThornyRose หน้าเจื่อน “ฉันว่าแล้ว … พวกนั้นไม่มีทางตั้งชื่อปกติเหมือนชาวบ้านหรอก …”

“มันสามารถเป็นอะไรที่เหลือเชื่อได้มากกว่านี้อีก …” MistyVeil ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“บริการด้านอาหาร?” ใบหน้าของ NalanPureSoul เริ่มซีดลง

เสียงผู้เล่นดังไปทั่วเมืองแบล็กร็อค

“พี่ใหญ่วีรบุรุษได้สร้างกิลด์ขึ้นมาแล้ว! มันช่างเป็นชื่อที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินจริงๆ! มันครอบคลุมไปหมดทุกด้าน!”

“แน่นอนอยู่แล้ว! นายไม่รู้หรือว่านี่กิลด์ของใคร!? เพราะมันเป็นกิลด์ของสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะไง!!”

“น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เปิดรับสมาชิกใหม่ ความปรารถนาสูงสุดในชีวิตของฉันก็คือ การเข้าร่วมกิลด์ Happy Firmaments เพื่อช่วยเหลือพวกสามพี่น้อง …”

“นายฝันมากไปหรือเปล่า! นายแค่เลเวล 11 เองนะ นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน!? อย่างไรก็ตาม การทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่า พวกเขากำลังเดินตามเส้นทางของพวกระดับสูงงั้นหรือ! มีเพียงผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเท่านั้น ที่จะสามารถเข้ากิลด์ของเขาได้!”

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันจะเข้ากิลด์ล่ะ!? นายคิดว่าพี่ใหญ่วีรบุรุษจะไม่สนใจเลยหรือ!”

“มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะสนใจนาย …”

“นายพูดแบบนี้ คงอยากตายมากนักสินะ! [Triple Strike]!!”

“หึ ฉันเป็นลูกค้าประจำของร้านค้าทั่วไป Happy Firmaments ฉันจะแสดงให้นายเห็นว่าอุปกรณ์ระดับ Distinguished นั้น มันน่ากลัวแค่ไหน! … [Shadow Assault]!”

“นี่พวกนายอย่าเพิ่งสู้กันอยู่เลย ขณะนี้สมาคมเทพธิดาได้เริ่มเปิดรับสมาชิกใหม่อีกครั้งแล้ว! ทำไมพวกนายยังไม่รีบไปกันอีก!”

“รอฉันด้วย! เพื่อน ช่วยจองที่ว่างให้ฉันที่หนึ่งนะ! เนื่องจากฉันยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของชีวิตในการเข้าร่วมกิลด์ Happy Firmaments ได้ ดังนั้นฉันจะเข้าร่วมสมาคมเทพธิดาแห่งนี้ก่อน !!”

“ให้ตายเถอะ! นายยังมีเวลาที่จะมาที่นี่ทันอยู่ เร็วๆเข้าเถอะ! รีบใช้สกิลการเคลื่อนไหวของนายซะ อย่ามัวแต่พูดมากอยู่เลย !!”

เย่ฉางเดินออกมาจากศูนย์บริหารเมืองและเก็บผ้าคลุมเสือโคร่งไว้ “ต่อจากนี้ไป ให้เรียกฉันว่าหัวหน้ากิลด์ …”

“เรียกผมว่ารองหัวหน้ากิลด์ …” หลินหลี่เชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

“ฉันก็เหมือนกัน …” จางเจิ้งเฉียงยืดตัวและกอดอก

“พวกนายชอบวางมาดกันจังเลย …” อูนาไม่สามารถหุบยิ้มได้

“น้องเล็กไดโน ลากคนหยาบคายคนนี้ออกไปให้พ้นหน้าฉันและเฆี่ยนตีเธอให้หนัก เธอมีโทษประหารชีวิต …” เย่ฉางสั่งการ แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ อูนาก็เอื้อมมือออกมาหยิกที่แก้มของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายพูดว่าอะไรนะ?”

“ฉันแค่ล้อเล่นหน่า … เธอไม่ตลกงั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า …” เย่ฉางกลืนน้ำลาย FrozenCloud ยังรู้สึกเสียวสันหลังและหนังศีรษะด้านชา ‘นานะน่ากลัวมากเมื่อตอนเธอโกรธ’

“จริงๆแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นหัวหน้ากิลด์แล้วนะ เธอก็ควรหัดเคารพฉันให้มากขึ้นสิ มิฉะนั้นแล้วคนอื่นๆจะมองกิลด์ของเราไม่ดี …” เย่ฉางบ่น อูนาเพียงแค่กลอกตาตอบสนอง

“เอาล่ะ! ในเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว เราจะพาสมาชิกของสมาคมเทพธิดาไปยังวิหารของเทพธิดาแจม เพื่อรอให้เทพธิดาทั้งสามเสด็จลงมา …” เย่ฉางพูด จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของแต่ล่ะคน

ขบวนพาเหรดขนาดใหญ่มาถึงวิหารของเทพธิดาแจม ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนสุดของหุบเขาแห่งความตาย ตรงท่ามกลางของซากปรักหักเป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อมองดูรอบๆแล้ว มันเป็นฉากที่ดูหดหู่เป็นอย่างมาก จู่ๆด้านบนของบันไดวิหาร ก็มีลำแสงสาดส่องลงมา จากนั้นเทพธิดาทั้งสามก็ปรากฏตัวพร้อมกัน ทันใดนั้น ทั่วทั้งบริเวณนี้เริ่มที่จะปล่อยกลิ่นหอมของดอกไม้โชยออกมา ในขณะที่อากาศกลับกลายเป็นความสะอาดและสดชื่นขึ้น เทพธิดาอันย่าสวมกระโปรงสั้นลายเสือป่า เทพธิดาแจมสวมชุดที่ทำจากใบไม้สีเขียว และเทพธิดาแมลโลสวมชุดเดรสยาวแต่เหวกตั้งแต่ต้นขาลงมา จนเปิดเผยให้เห็นถุงน่องข้างใน พวกเธอทั้งหมดสวมรองเท้าส้นสูงสีที่แตกต่างกัน ชุดเหล่านี้ได้รับการออกแบบโดยคาร์รี่ ซึ่งเย่ฉางได้ไหว้วานให้มาช่วย ด้วยใบหน้าที่แสนงดงามและรูปลักษณ์ที่เย้ายวนของพวกเธอ ทำให้ผู้เล่นนับพันนับหมื่นคน ต่างเอามือปิดจมูกและปากของตัวเองไว้

“ขอบคุณเหล่าผู้ศรัทธาและวีรบุรุษทั้งหลาย ที่ช่วยสร้างวิหารของน้องสาวเราขึ้นมาใหม่ โปรดรับการอวยพรจากเราอีกครั้ง …” เทพธิดาแจมกล่าว เธอกุมมือและหลับตาลง แล้วก็เริ่มร้องเพลงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาออกมา ดอกไม้นับร้อยๆต้นบานสะพรั่งและมีเหล่าผีเสื้อโบยบินไปทั่ว จากนั้นเสียงร้องที่โดดเด่นและหนักแน่นของเทพธิดาอันย่าได้ดังออกมา ทุกคนเหมือนได้เห็นภาพของนักล่าที่กำลังล่าเหยื่อ และเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงที่ไพเราะและแสนอ่อนหวานของเทพธิดาแมลโล จู่ๆก็มีวัฏจักรแห่งการเติบโตและความเสื่อมสลายเริ่มเล่นรอบๆตัวพวกเขา นี่คือกฎของธรรมชาติ และเมื่อมันสิ้นสุดลง ทุกคนทำได้เพียงแต่หลับตาและรู้สึกถึงจิตวิญญาณในอากาศ พวกเขากลัวที่จะพลาดแม้แต่จังหวะเดียวของบทเพลงที่ตราตรึงใจนี้ ความเครียดจากการทำงานหนักและการใช้ชีวิตที่ยากลำบากของพวกเขาถูกชำระล้างจนสะอาดหมดจด พวกเขากำลังลุ่มหลงอย่างมัวเมาในท่วงทำนองเพลงของเหล่าเทพธิดาแห่งธรรมชาติ

[ขอแสดงความยินดี คุณได้รับพรแบบถาวรจากเทพธิดาทั้งสาม เพิ่ม +2 ค่าสถานะทั้งหมด, +10 ความต้านทานทางธรรมชาติ และความต้านทานพิษ อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้อย่างรวดเร็ว เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ]

 

 

 


ตอนที่ 437

 

ทุกคนได้หลงใหลไปกับดนตรีอยู่เป็นเวลานานสองนาน แม้แต่เย่ฉางด้วยเช่นกัน

เย่เทียนเล่าถึงข้อมูลที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ ลูกสาวเทพธิดาแห่งธรรมชาติทั้งสามองค์ได้รับมรดกและบทบาทหลักของแต่ละองค์ แต่แน่นอนว่า เทพธิดาแห่งธรรมชาติก็ยังคงเป็นเทพเจ้าที่สำคัญมากที่สุดอยู่ดี

ทันใดนั้นเสียงปรบมือก็ดังขึ้น ทุกคนพากันส่งเสียงเชียร์และยกย่องนับถืออย่างมาก เทพธิดาทั้งสามสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่พวกเขามอบให้ มันเป็นเวลานานแล้วที่พวกเธอได้รับความศรัทธาอย่างแรงกล้าเช่นนี้ ความขอบคุณที่มีต่อเย่ฉางเพิ่มขึ้นมาอีก 2-3 จุด

“เอ่อ นี่เป็นการเดบิวต์ครั้งแรกของพวกเธอ…” อย่างไรก็ตาม เมื่อ FrozenCloud มองดูการแสดงของเทพธิดาทั้งสาม เธอรู้สึกราวกับว่านี่เป็นการแสดงคอนเสิร์ตชัดๆ

ไม่นานหลังจากนั้น ด้วยการบูรณะวิหารของเทพธิดาทั้งสามเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้เทพธิดาทั้งสามได้รับบทบาทเป็นผู้ฝึกสอนอาชีพในสมาคม ต่อมา มีคนเพิ่มมาอีกไม่กี่คนที่ตอบรับการเรียกขานจากเทพธิดา โดยแต่ละคนได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ภายใต้ผู้ฝึกสอนอาชีพทั้ง 3 องค์ มีฮันเตอร์และแอสซาซินจำนวนมากได้เข้าร่วมกับเทพธิดาอันย่า เหล่านักเวทได้เข้าร่วมกับเทพธิดาแจมและแมลโล ความแตกต่างระหว่างเทพธิดาทั้งสองก็คือ เทพธิดาแจมจะเน้นไปที่การอัญเชิญธรรมชาติ ในขณะที่เทพธิดาแมลโลจะเน้นไปทางเวทมนตร์ดรูอิท และเวทมนตร์โจมตีทางธรรมชาติ

แน่นอนว่า ในฐานะที่เป็นประธานสมาคมเทพธิดา เย่ฉางจึงต้องยอมรับฟังคำแนะนำจากลินดา และมารูนาย่า แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เย่ฉางจะเรียนรู้สกิลของเทพธิดาอันย่าเท่านั้น ส่วนสกิลที่เหลือ เขาสามารถค่อยๆทดลองดูได้ มารูนาย่าได้สอนสกิลที่ใช้ในการขว้างหอก ในขณะที่ลินดาสอนสกิล [Tactical] อันใหม่ให้กับเขา

Maru Naya’s Spear Fundamentals (Maru Naya – Beginner Level) : ขว้างปา : สร้างความเสียหาย 115% แก่เป้าหมายระยะไกล

Pinning Pierce: ชาร์จพลังงาน 2 วินาที จากนั้นจะปาอาวุธประเภทหอกออกไปด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดที่คุณมี ไปยังเป้าหมายที่อยู่ใกล้กับกำแพงหรือพื้น สร้างความเสียหายให้กับเป้าหมาย 215% และทำให้เป้าหมายถูกตรึง ใช้พลังงาน 30 หน่วย คูลดาวน์ 3 นาที

Spear Mastery: เมื่อใช้อาวุธประเภทหอกจะได้รับค่าความชำนาญ +30 และความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 15%

Puncturing Star: รวมรวบความแข็งแกร่งทั้งหมดที่คุณมี และพุ่งออกไปสั้นๆยังเป้าหมาย จากนั้นจะปาหอกออกไปด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของคุณ สร้างความเสียหายด้วยการเจาะ 185% ความเสียจะลดลง 10% สำหรับเป้าหมายที่ถูกเจาะผ่าน ใช้พลังงาน 35 หน่วย คูลดาวน์ 1 นาที

Recall: เอื้อมมืออกไปและทำท่าคว้าจับไปยังทิศทางของอาวุธที่ถูกขว้างปา เพื่อทำให้อาวุธพุ่งกลับมาที่มือของคุณ

Tactics – Attack / Defence: เมื่อคุณเป็นผู้นำทีม เพื่อนร่วมทีมของคุณจะได้รับ +8% พลังโจมตี, +5% Strength, ความเสียหายที่ได้รับลดลง +4% และ +5% Constitution เมื่อเปิดใช้งานในโหมดพลังโจมตี จะเพิ่มพลังโจมตีให้แก่เพื่อนร่วมทีมของคุณทั้งหมด 30% และเพิ่มค่า Strength 20% เมื่อเปิดใช้งานในโหมดป้องกัน เพื่อนร่วมทีมของคุณทั้งหมดจะได้รับความเสียหายลดลง 12% และเพิ่มค่า Constitution 25% โดยบัฟนี้จะคงอยู่เป็นเวลา 1 นาที คูลดาวน์ 30 นาที

สำหรับคนอื่นๆ พวกเขายังได้รับรางวัลเป็นสกิลที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย หลายคนเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่ พวกเขาเลือกที่จะออกจากสมาคมเก่า ละทิ้งสกิลที่พวกเขาเคยเรียนรู้ทั้งหมดทันที และเลือกที่จะเรียนรู้สกิลของสมาคมเทพธิดาแทน เพียงช่วงเวลาสั้นๆ สมาคมเทพธิดากลายเป็นสมาคมที่พุ่งพรวดขึ้นมาทันที แต่แน่นอนว่า เมื่อเทียบกับสมาคมที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน พวกเขายังคงห่างไกลอยู่อีกหลายขุม แม้เพียงเปรียบเทียบกับผู้ฝึกสอนอาชีพ พวกเขาก็เปรียบเสมือนทารกแรกเกิดเท่านั้น แต่ในฐานะสมาคม อย่างน้อยพวกเขาก็อาจจะเลื่อนขั้นจากสมาคมระดับต่ำกลายเป็นสมาคมระดับกลางก็ได้

สำหรับสมาชิกที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีเหล่านี้ เย่ฉางจึงบอกให้ Little Jade แจกอัลบั้มภาพเล่มแรก และเพลงซิงเกิ้ลใหม่ของเทพธิดาให้กับพวกคนเกล่านี้! Little Jade เห็นว่าหลังจากที่พวกเขาได้รับอัลบั้มภาพเล่มแรกไป ทุกคนต่างล็อคออฟออกจากระบบทันที ทำให้เธอถึงกับก่ายหน้าผาก

ThornyRose ยกมือก่ายหน้าผากและหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น สิ่งที่ทำให้เธอพูดไม่ออกมากที่สุดก็คือ ในบรรดาแฟนคลับเดนตายเป็นผู้หญิงถึง 20%! หลายคนที่เป็นผู้ศรัทธาเทพธิดาอันย่าได้แต่ก้มมองราวกับ ‘สุนัขที่มึนเมา’ เทพธิดาแจมถึงกับพูดอย่างน้อยใจว่า เทพธิดาอันย่าได้ขโมยซีนของเธอไปหมด ไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม แต่พวกเธอเป็นเทพธิดานะ! ไม่ใช่ไอดอลเกาหลี! อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงการล้างสมองเทพธิดาของเย่ฉางแล้ว นี่คงดูเป็นเรื่องปกติล่ะมั้งนะ…

สมาคมกำลังเริ่มต้นได้ดี เย่เทียนได้จัดทำนโยบาย และส่งต่อให้ผู้ฝึกสอนทั้งสามคน และหัวหน้างานผู้ซึ่งจะรับผิดชอบในตอนที่พวกเขาไม่อยู่

เย่เทียนได้ทำสำเนาของปืน Giant Owl No.2 ออกมา 3 ชุด แต่คุณภาพของปืนในสำเนาก็ยังห่างไกลจากปืนทั้ง 2 ในมือของเย่ฉางอยู่ดี อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์เหล่านี้ก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ระดับ Gold และกลายเป็นอุปกรณ์หลักของร้านค้าของพวกเขา จนกระตุ้นให้เกิดความสนใจกันอย่างล้นหลาม แม้ว่าอาวุธประเภทปืนจะไม่ได้หายากภายในเกม แต่ก็ไม่ใช่อาวุธที่พบเห็นกันได้มากนัก นอกจากปืนคู่ที่อยู่ในมือของเย่ฉางแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่มีผู้ใช้ปืนคนอื่น ที่เป็นที่รู้จักอีกเลย

ในขณะที่เย่ฉางได้จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจึงนำทุกคนไปเก็บเลเวลกันต่อ ในขณะที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ได้ไปเก็บเลเวลที่แบล็กพีคกันหมดแล้ว เย่เทียนจึงเสนอว่า พวกเขาควรมุ่งหน้าผ่านทุ่งหญ้าไปยังเมืองไวท์สโตนแทน พวกเขาสามารถเดินทางไปเมืองไวท์สโตนได้อย่างสะดวกสบาย และจบเควสลับที่เธอได้รับมาจากโบสถ์ เควสลับของเธอคือการตรวจสอบการเงินของที่โบสถ์ที่เมืองไวท์สโตน!

การเดินจากเมืองแบล็กร็อคไปยังเมืองไวท์สโตนต้องใช้เวลาหลายวัน เย่ฉางและคนอื่นๆได้เก็บเลเวลไปตลอดการเดินทาง ระหว่างทางพวกเขาได้พบกับหมาป่าทุ่งหญ้าเป็นจำนวนมาก แต่พวกมันทั้งก็ได้กลายเป็นค่าประสบการณ์สำหรับกลุ่มปาร์ตี้ของเขา ทำให้ในตอนนี้พวกเขาใส่แต่อุปกรณ์ระดับสูง OldWangFromNextDoor จ้องออกไปในระยะไกล ‘ฉันเปลี่ยนจากคนกระจอกงอกง่อยไปเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว…’

สิ่งที่ทำให้เย่ฉางประหลาดใจมากที่สุดก็คือสัตว์เลี้ยงคู่หูของเขา นกเหยี่ยวตาฟ้า – เจ้าฟ้าน้อย มันมาถึงเลเวล 10 และเข้าสู่วัยเด็กแล้ว ร่างกายของมันโตขึ้นมาอีกเล็กน้อย และตอนนี้มงกุฎที่เพรียวบางของมันได้ยืดขยายออกไปจนถึงหาง ดวงตาทั้งสองข้างมีความเฉียบคมเป็นพิเศษ มันแผ่ปีกของมันและกระโดดโบนบินขึ้นไปบนฟากฟ้า มองดูผินแผ่นดินจากสวรรค์และมีหน้าที่เป็นเหมือนดวงตาดวงที่สองของเย่ฉาง

สัตว์คู่หู (PaleSnow): เจ้าฟ้าน้อย

ประเภท: นกเหยี่ยวตาฟ้า

เกรด: A+

เลเวล: 10

Specialties: บุตรแห่งความภาคภูมิใจแห่งสายลม / จ้าวแห่งนกล่าเหยื่อ : มีโอกาสมองผ่านภาพลวงตา, เพิ่มเอฟเฟคให้กับพลังธาตุน้ำแข็งและธาตุลม ความรวดเร็วในการบินเพิ่มขึ้นอย่างมาก

พลังโจมตี: 36 – 40

Strength: 47

Dexterity: 71

Constitution: 45

Intelligence: 72

Wisdom: 80

Eagle Eyes: มองเห็นได้ไกล และสามารถแบ่งปันวิสัยทัศน์กับผู้เล่นได้

Whirlwind: กระพือปีกทั้ง 2 ข้าง เพื่อสร้างใบมีดแห่งสายลมออกมาหลายสิบใบโดยทันที

Divebomb: เมื่อบินอยู่บนฟ้า จะบินหมุนตัวพุ่งลงมาอย่างรวดเร็วไปที่เป้าหมาย สร้างความเสียหายทางกายภาพอย่างหนักหน่วง และความเสียหายจากธาตุลม ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นตามความเร็วในการพุ่งชน

Cold Wings: บินผ่านพื้นที่เพื่อสร้างความเสียหายจากธาตุลมและธาตุน้ำแข็งไปยังเป้าหมาย และทำให้ติดสถานะสโลว์

Rapid Rush: เพิ่มความเร็วในการบินขึ้นชั่วคราว 65%

ดวงตาข้างซ้ายของเย่ฉางเรืองแสงออกมาจางๆ แบ่งปันวิสัยทัศน์กับเจ้าฟ้าน้อยที่โบยบินอยู่ด้านบน เขาปิดตาอีกข้างหนึ่งเพื่อมุ่งเน้นที่ยังมุมมองที่อยู่ด้านบน ก่อนหน้าพวกเขาเป็นพื้นที่ที่เป็นเนินเขา ‘โอ้ มีถ้ำอยู่ด้วย’ เขายกเลิกความสามารถ ดวงตาข้างซ้ายของเขากลับมาเป็นปกติ แล้วชี้ไปยังทิศทางตรงนั้น และพูดขึ้นมา “มีถ้ำอยู่ตรงนั้น เราลองไปที่นั่นดูกันดีกว่า…”

SpyingBlade มองไปยังเจ้าฟ้าน้อยที่กำลังบินสูงอยู่เหนือพวกเขา ‘[Eagle Eye]? เป็นสกิลเชิงกลยุทธ์ที่ดีมาก หัวหน้าทีมยังมีสกิล [Tactics] อันใหม่อยู่อีกด้วย ดูเหมือนว่าจะเป็นสกิลประเภทระเบิดพลังเพิ่มค่าสถานะ สกิลที่เพิ่มได้ทั้งการโจมตีและการป้องกัน … สกิลนี้เมื่ออยู่ในมือของหัวหน้าทีมแล้ว มันจะมีความหมายที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าข่าวลือมักจะพูดเกินจริงอยู่เสมอ แต่บางทีอาจจะมีแรนเจอร์ที่สามารถทำได้ทุกอย่างและยังทรงพลังอย่างแท้จริงเกิดขึ้นมาแล้วก็ได้…’

 

 

 


ตอนที่ 438

 

เย่ฉางปีนขึ้นไปบนยอดเนินเขา และสำรวจภูมิประเทศอย่างละเอียด ถ้ำถูกซ่อนไว้เป็นอย่างดี มันถูกปกปิดไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่ลุ่มน้ำระหว่างเนินเขาหลายแห่ง ถ้าเขาไม่ได้มองเห็นมันจากด้านบนฟ้า เขาอาจจะไม่ได้พบถ้ำแห่งนี้เลยก็ได้…

“พ่อคะ หนูคิดว่ามีบางอย่างถูกซ่อนเอาไว้อยู่ ถ้ำแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ…” แม้ว่าเย่เทียนจะมองเห็นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เธอก็มั่นใจว่า ถ้ำแห่งนี้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากเกินไป ดังนั้นนี้จึงไม่ได้เป็นถ้ำตามธรรมชาติอย่างแน่นอน ถ้ำแห่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น มันถูกสร้างขึ้นในที่ซ่อนเร้นแบบนี้ ถ้ามันไม่ใช่รังโจรแล้วล่ะก็ มันก็น่าจะเป็นที่หลบภัยของกลุ่มลัทธิที่ชั่วร้ายบางอย่าง

“รอก่อน ฉันขอเข้าไปตรวจสอบก่อน…” SpyingBlade กระโดดลงไปตามเส้นทางภายในป่าพร้อมกับเปิดใช้งาน [Stealth]

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง SpyingBlade ก็กลับมา และเห็นอาหารถูกทำไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขาของเขาแทบอ่อนแรงลง เมื่อเห็นการแสดงออกที่รุนแรงของทุกคน ‘เขาทำอาหารอะไรในครั้งนี้?’ ในขณะที่เขากำลังหายตัวอยู่ เขาปิดจมูกและพูดว่า “ฉันยืนยันแล้วว่ามันเป็นถ้ำของโจร และคนที่อยู่ภายในนั้นค่อนข้างแข็งแกร่งเลยทีเดียว มีหอสังเกตการณ์ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าถ้ำ แต่ฉันจัดการพวกมันไปหมดแล้ว”

“เยี่ยมมาก มากินอาหารก่อนและเตรียมตัวกันเถอะ วันนี้เป็นเนื้อด้วงบากู, เนื้อแมลงคากู และซุปเนื้อหนอน ถึงแม้ว่าหน้าตาอาหารจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่มันน่าจะอร่อย เพราะเอฟเฟคบัฟจากอาหารนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก” เย่ฉางพยายามอย่างใส่ใจ และเสิร์ฟอาหารบางอย่างบนข้าวของเขา จากนั้นเขาก็คว้าชิ้นเนื้อแมลงที่ห่อหุ้มไว้ในขี้เถ้าที่แห้งใส่ลงไปบนจาน

SpyingBlade ต้องการที่จะโยนทิ้งเพียงแค่เห็นมัน เขารีบปิดปากของตัวเองอย่างรวดเร็ว “ทำไมมันถึงมีแต่เนื้อด้วงบากู, เนื้อแมลงคากู และเนื้อหนอนกัน…”

“เพราะว่าเรามีเนื้อแมลงเหล่านี้มากเกินไป ดังนั้นเราจึงต้องพยายามกินเนื้อพวกนี้ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรามีเนื้อพวกนี้กองเป็นภูเขาเลากา มันน่าเสียดายที่จะปล่อยให้เนื้อพวกนี้เน่าเสียไปเฉยๆ” เย่ฉางพูดขึ้นมา จากนั้นเขาก็กินอาหารทั้ง 3 อย่างต่อเนื่อง เขาพยายามที่จะกินให้เสร็จอย่างรวดเร็วก่อนที่จะล้มลงไปบนพื้น

ทุกคนอ้าปากค้าง ความยากลำบากในการกินเพิ่มมากขึ้นไปอีก พวกเขาอาจจะไม่สามารถกินทั้ง 3 อย่างนี้ได้ในครั้งเดียว มันอาจจะต้องใช้ความพยายามถึง 2 ครั้ง ปรากฏว่า SpyingBlade, หลินหลี่ และจางเจิ้งเฉียงสามารถกินได้ในครั้งเดียว ส่วนคนที่เหลือไม่สามารถทำได้ พวกเขาต้องกินเป็นครั้งที่ 2

เย่ฉางเก็บเครื่องมือทำครัวของเขากลับไป และมองไปยังเพื่อนร่วมทีมที่แสนอ่อนแอของเขา เขาใช้สกิล [Mark of Nature] ให้กับทุกคน เย่เทียนก็ได้ใช้สกิลบัฟทั้ง 2 ของตัวเอง จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งลง และดื่มน้ำยาฟื้นฟูมานาเพื่อเติมเต็มมานาที่เสียไป

หลังจากที่ฟื้นฟูมานากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เย่ฉางก็ดึงปืนออกมา “ไปกันเถอะ…”

ทุกคนกระโดดลงเนินเขาไปยังอีกทีหนึ่ง เย่เทียนตรวจสอบทางเข้าถ้ำ “พวกมันเป็นกลุ่มโจรที่เมืองไวท์สโตนต้องการตัว มันคือกลุ่มโจรโซแลม กลุ่มโจรนี้ถูกตั้งค่าหัวเอาไว้ด้วย…”

“งั้นตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?” FrozenCloud ถามออกมาด้วยความสงสัย ‘เธอรู้แม้กระทั่งค่าหัวกลุ่มโจรของเมืองไวท์สโตนเลยงั้นหรือ? มีอะไรที่เธอไม่รู้บ้างนะ?’

“เพราะโจรกลุ่มนี้ตั้งอยู่ในอาณาเขตระหว่างทั้ง 2 เมือง เมืองแบล็กร็อคมีประกาศรายชื่อค่าหัวของโจรกลุ่มนี้ ดังนั้นเมืองไวท์สโตน่าจะต้องมีเช่นเดียวกัน…” เย่เทียนกลอกตามองไปยัง FrozenCloud

‘สารเลวน้อย’ FrozenCloud เห็นเย่เทียนมองดูเธอราวกับมองคนงี่เง่า เธอจึงได้แต่กัดฟันอดทนเอาไว้ ‘เธอจะน่ารักมาก เมื่อเธออยู่เงียบๆ’

“ตราบเท่าที่มีรางวัลก็เพียงพอแล้ว ไปกันเถอะ” เย่ฉางพูดขึ้นมาอย่างไม่แยแส จางเจิ้งเฉียงเป็นคนนำ ส่วนคนที่เหลือก็ตามเขาไป

พวกเขาเดินไปตามทางที่ลาดต่ำภายในถ้ำ และได้เจอกับโจรระดับสูง 4-5 คน ที่ยืนอยู่ตรงหัวโค้ง

“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว! จัดการพวกมันซะ!” SpyingBlade ตะโกนออกมา

เย่ฉางดึงหอกออกมาจากเงาและใช้สกิล [Pinning Pierce] ด้วยความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดปาหอกตรึงโจรไว้ที่กำแพง จากนั้นเขาก็ดึงบาลิสต้าออกมา เขาเล็งไปที่หัวโจรอย่างรวดเร็วและลั่นไก จากนั้นโจรก็ถูกฆ่าตายโดยทันที

เขาเก็บบาลิสต้ากลับไป จากนั้นเขาก็ยกมือทำท่าคว้าจับอากาศ และหอกก็ได้ปรากฏอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง [Straight Thrust]! [Shadow Frost Strike] เกราะของโจรถูกทำลายและติด สตั้นทันที!

จางเจิ้งเฉียงต่อยออกไปด้วยกำปั้นที่เร่าร้อน ส่งโจรหนึ่งคนลอยไปติดกำแพง [Ice Spear] ของอูนายิงซ้ำไปที่โจรคนนั้น ทำให้โจรคนนั้นถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็ว

ดาวยาวของ SpyingBlade สะบัดฟันออกไปราวกับแส้สีดำ และโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่องตรงคอและหัวใจของโจรคนนั้น FrozenCloud ปลดปล่อยสกิล [Triple Strike], [Shoryuken] ไปยังโจรอีกคนหนึ่งที่ถูกต่อยกระเด็นโดยจางเจิ้งเฉียง

ทุกคนตัดสินใจให้หวังและฟางชิ ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

เย่ฉางถอนหายใจ การต่อสู้ในพื้นที่ที่คับแคบเช่นนี้ ทำให้การใช้อาวุธโจมตีระยะไกลและเวทมนตร์เป็นเรื่องยากลำบากมาก เขาต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้โจมตีไปโดนทีมเดียวกันเอง เขาเก็บปืนของเขากลับไป และตัดสินใจที่จะต่อสู้ในระยะประชิดแทน และแล้วโจรทั้งหมดก็ถูกจัดการ

ขณะที่พวกเขาเดินลึกเข้าไปในถ้ำเรื่อยๆ ในไม่ช้าพวกเขาก็เดินมาถึงทางสิ้นสุดของถ้ำ เย่ฉางเดินไปสำรวจก่อน และพบบันไดหินยาวลงไปประมาณ 10 เมตรหรือมากกว่านั้น ขณะที่เขาเดินลงมาตามบันไดหิน พื้นที่ข้างล่างมีบริเวณที่กว้างขวางมาก มันมีหมู่บ้านอยู่ใต้ดิน! ห่างออกไปประมาณ 100 เมตรเป็นแม่น้ำใต้ดินและมีแม้กระทั่งเรือ! ว่าแต่พวกมันไปอยู่ไหนกันหมด? ด้วยพื้นที่ที่เปิดกว้างขึ้น เย่ฉางจึงโยนหอกของเขากลับเข้าไปในเงา เขาตระเวนไปรอบๆ และเห็นว่าพื้นข้างล่างเป็นแนวราบเสมอกัน มันมีหอสังเกตการณ์ถูกตั้งเอาไว้อยู่ จากนั้นเขาก็ถอยกลับไปแจ้งคนอื่นๆ

SpyingBlade คิดและพูดขึ้นมา “หัวหน้าทีม นายและฉันควรจัดการหอสังเกตการณ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดลงก่อน เพราะมีเพียงพวกเราสองคนที่มีสกิลหายตัว ส่วนคนที่เหลือให้รอคอยสัญญาณจากพวกเราก็แล้วกัน”

เย่ฉางพยักหน้าและเดินตามไป ทั้งสองคนเดินจากไปและเปิดใช้ [Stealth] การหายตัวของเย่ฉางคือการเปิดใช้สกิล [Hunter Imprint – Conceal] ถึงแม้ว่ามันจะหายตัวได้เพียงไม่กี่วินาที แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว เพราะสกิลนี้สามารถเปิดใช้งานได้ 2 ครั้งติดต่อกัน เย่ฉางต้องการใช้เพียงแค่ครั้งเดียวในการหาเงาของเป้าหมาย “นายขึ้นไปก่อนเลย ฉันจะใช้ [Shadow Step] ตามขึ้นไป”

SpyingBlade ปีนขึ้นหอสังเกตการณ์ไปอย่างเงียบๆ ในขณะที่ยามทั้งสองคนมองไปข้างหน้า ทันใดนั้น เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังยามหนึ่งคนโดยการใช้มือปิดปากยาม และใช้สกิล [Heart Strike]! ก่อนที่ยามอีกคนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เย่ฉางก็ได้ปรากฏออกมาจากเงาของเขา และใช้สกิล [Shadow Frost Strike]!

ทุกคนได้รับสัญญาณ และเดินไปที่หอสังเกตการณ์ หลินหลี่ปีนขึ้นมาข้างบน เย่ฉางมองไปที่อาคารไม้ที่ตั้งอยู่ข้างหลังรั้ว เขาจ้องมองไปยังพวกโจรที่อยู่นั่งอยู่รอบกองไฟ “ฉันมีแผนกลยุทธ์บางอย่าง…”

SpyingBlade กลอกตาไปมา ‘เขาพูดจาแปลกๆออกมาอีกครั้งแล้ว! บางครั้งเขาก็พูดจาออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับมาจากละครย้อนยุค’

“แผนอะไร?”

เย่ฉางนำทุกคนกลับไปที่อุโมงค์ “ฉันจะทำอาหารอร่อยที่เป็นพิษออกมา 2 หม้อ จากนั้นฉันจะให้ SpyingBlade สวมใส่เสื้อผ้าของโจร และนำอาหารเข้าไปข้างใน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอาหารค่ำของพวกมัน ดังนั้นพวกมันจะต้องหิวกันอยู่แน่นอน…”

ไม่ใช่ว่า SpyingBlade ไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ แต่อาหารต้องเป็นพิษ และต้องอร่อยอีกด้วย ‘แสดงว่าอาหารที่นายทำครั้งล่าสุด มันไม่ใช่ความบังเอิญสินะ!?’

“ว่าแต่อาหารที่อร่อย นายสามารถทำมันได้แน่หรือ!?”

“ฉันมีสูตรอาหารที่อร่อยอยู่ แต่มันจะต้องเสียเนื้ออันแสนล้ำค่าของพวกเราไป เฮ้อ! ครั้งนี้ฉันจะเพิ่มเนื้อของแมลงราชินีลงไปด้วย ซึ่งเนื้อนี้มันมีจำนวนจำกัด แต่โชคดีที่ฉันได้เก็บส่วนที่ดีที่สุดไว้สำหรับพวกเราเอาไว้…” เย่ฉางหยิบเอาสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแขนมนุษย์ เพียงแต่มันมีขนาดที่ใหญ่กว่าออกมา จากนั้นเขาก็ตัดเนื้อออกมาสองสามชิ้น และเก็บส่วนที่เหลือกลับไปอย่างระมัดระวัง อูนาและ FrozenCloud กำลังปิดปากของตัวเองอยู่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่านี่เป็นส่วนท่อนบนของแมลงราชินีและไม่ใช่เนื้อมนุษย์ก็ตาม แต่มันก็ทำให้พวกเขาอดนึกถึงส่วนที่สำคัญที่สุดในการพูดของเขาก่อนหน้านี้ขึ้นมาไม่ได้ ‘เดี๋ยวก่อนนะ ส่วนที่ดีที่สุดที่เขาเก็บไว้ … อย่าบอกฉันนะว่า มันเป็นหน้าอกของแมลงราชินี!?’

SpyingBlade ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เขากลับมองไปที่เย่ฉางด้วยความชื่นชมจากใจจริง การที่เย่ฉางได้ทำสิ่งเหล่านี้ มันไปไกลเกินกว่าจินตนาการของเขาแล้ว…

 

 

 


ตอนที่ 439

 

เย่ฉางเริ่มทำอาหาร เห็ดพิษและพวกวัตถุดิบที่เป็นพิษต่างๆ ถูกโยนลงในสตูว์เนื้อแมลงที่ดูเหมือนจะน่าอร่อย มีกลิ่นหอมค่อยๆโชยออกมา อูนาและคนอื่นๆเปิดตากว้าง ‘เขาทำอาหารพิษที่ดูจะน่าอร่อยให้กับพวกศัตรู แต่สำหรับพวกเดียวกัน เขากลับทำอาหารที่เป็นเหมือนดั่งฝันร้ายชัดๆ …’ พวกเขาทั้งหมดต่างถอนหายใจออกมา

เย่ฉางและ SpyingBlade เปลี่ยนใส่ชุดโจร พวกเขายกหม้อขนาดใหญ่สองอันไปวางไว้ที่กลางลานใกล้ๆกองไฟและนั่งลง “ได้เวลากินข้าวแล้ว! ได้เวลากินข้าวแล้ว!”

“อืม วันนี้เป็นสตูว์? มันมีกลิ่นที่หอมเลยทีเดียว เนื้อนั่นดูน่าอร่อยจัง …” โจรคนหนึ่งพูดขึ้นมา

“หัวหน้า มากินกันเถอะ …”

อาหารในหม้อหมดลงอย่างรวดเร็ว เย่ฉางและ SpyingBlade รีบถอยกลับมาและซ่อนตัวอยู่ในหอสังเกตการณ์ เมื่อมองจากด้านบน พวกเขาเห็นพวกโจรกำลังกินอาหารกันอย่างมีความสุข ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มได้รับข้อความจากระบบที่แจ้งให้ทราบถึงการตายของพวกโจร

“อ๊ากกกก! มันเป็นพิษ !!”

“มีคนใส่ยาพิษในอาหาร !!”

เย่ฉางส่งสัญญาณให้จางเจิ้งเฉียงนำทุกคนพุ่งเข้ามาโจมตีทันที จากนั้นเขาก็ชักปืนพกคู่ออกมาและเริ่มยิงจากด้านบนหอสังเกตการณ์

จางเจิ้งเฉียงเป็นเหมือนเสือที่กระโจนเข้าใส่ฝูงแกะ ขวานยักษ์ของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือดจำนวนมาก หลินหลี่เหวี่ยงดาบยักษ์ตัดทุกสิ่งทุกอย่างในเส้นทางของเขาออกเป็นสองส่วน และพวกโจรค่อยๆตายลงภายใต้ห่าฝนกระสุนของเย่ฉาง

ในที่สุด มีเพียงแค่หัวหน้าโจร – กาบาสที่ยังมีชีวิต แต่เขาก็ถูกตรึงอยู่กับพื้นโดยหอกของเย่ฉาง จากนั้นเย่ฉางจึงเรียกเงาของเขาออกมาและยิงหน้าไม้หนักออกไป [Meteor Shot]! ตามด้วยบาลิสต้าของเขา ผลที่ตามมาก็คือ เหมือนมีหอกสามเล่มตรึงกาบาสไว้กับพื้น ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ จากนั้นเขาก็หมดลมหายใจลง ภายใต้การโจมตีของหอกน้ำแข็ง, ลูกศรน้ำแข็งและลูกศรเงา …

หลินหลี่รีบเข้ามาค้นศพบอส ส่วนเย่ฉางก็รีบกระโดดลงจากหอสังเกตการณ์ แต่เมื่อตอนร่อนลงพื้น เขาเสียการทรงตัวและเอาหน้ากระแทกพื้น โชคดีที่มีรั้วปิดกั้นมุมมองของทุกคนไว้ ไม่งั้นเขาคงจะเสียหน้าอย่างมาก!

เย่ฉางรีบลุกขึ้นและเช็ดหน้าให้สะอาด เขายังเอากระจกเงาออกมาเพื่อส่องดูใบหน้าของเขาก่อนที่จะพยักหน้า “โชคดีไม่เกิดรอยแผลเป็น”

“เงื่อนไขสำหรับการรับรางวัลคืออะไร?” เย่ฉางเดินเข้ามาหาทุกคน โดยที่แทบไม่แสดงอะไรที่ผิดสังเกตบนใบหน้า หรือในน้ำเสียงของเขา

“คุณพ่อต้องตัดหัวของบอสมาด้วย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า เราได้ฆ่าหัวหน้าพวกโจรเหล่านี้แล้ว” เย่เทียนพูดขึ้นมา เย่ฉางเดินเข้าไปตัดหัวกาบาสและยัดใส่ในกระเป๋า

เย่เทียนไม่ให้ความสนใจกับคนที่กำลังทดสอบโชคของตัวเอง โดยการค้นศพโจรระดับสูงอีกต่อไป เธอมองไปที่เรือและคิดอะไรบางอย่าง ‘มีแม่น้ำใต้ดินที่ดูเหมือนจะไหลผ่านไปยังเมืองไวท์สโตน ขณะที่ต้นน้ำอยู่ในทิศทางของเมืองแบล็กร็อค พวกโจรเหล่านี้มักปรากฏและหายตัวไปอย่างลึกลับอยู่เสมอ ถ้างั้นบางทีการก่ออาชญากรรมในเมือง มันอาจจะเป็นฝีมือของ … !?’

“ทุกคนรีบขึ้นเรือกันเถอะคะ ถ้าหนูเดาไม่ผิด พวกมันยังคงมีป้อมปราการอยู่ในเส้นทางของแม่น้ำใต้ดินสายนี้อีก ซึ่งมันต้องอยู่ระหวางทางไปเมืองแบล็กร็อคและเมืองไวท์สโตน รีบไปจัดการพวกมันเร็วเถอะ! และคุณพ่อควรไปรับครอสมาร์มาด้วย เพราะสิ่งนี้จะสร้างผลงานให้เขาได้ เราควรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปิดเส้นทางนี้และตำแหน่งที่ตั้งอื่นๆ ซึ่งมันเป็นไปได้ที่จะกลายมาเป็นอาณาเขตส่วนตัวของพ่อ ด้วยวิธีนี้ เราจะสามารถควบคุมสถานีขนส่งใต้ดินทั้งหมดได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการขนส่งหรือการสู้รบ สิ่งนี้มันจำเป็นต้องมี แม่น้ำใต้ดินสายนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก หนูคาดว่าเรือขนาดใหญ่ก็ยังสามารถแล่นผ่านได้ ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวเมื่อไม่กี่ปีก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่เราต้องรีบทำให้มันเสร็จอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าเกิดเรายังขืนชักช้าต่อไป พวกเจ้าหน้าที่ในเมืองอาจจะมาพบเจอได้”

SpyingBlade ตกตะลึง หากพวกเขาสามารถยึดครองเส้นทางสายนี้และสร้างท่าเรือได้ พวกเขาก็จะได้รับรายได้มหาศาล!

“เอาล่ะ! เราจะชักช้าอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ทุกคนรีบไปขึ้นเรือเดี๋ยวนี้เลย” เย่ฉางนำทุกคนวิ่งขึ้นเรือ และแล่นเรือไปทางเมืองแบล็กร็อค เย่ฉาง, SpyingBlade และ FrozenCloud สวมชุดโจรและยืนอยู่บนดาดฟ้า แม่น้ำใต้ดินสายนี้มืดสนิทมาก นอกเหนือจากเย่ฉางแล้ว ทุกคนเหมือนเป็นคนที่ตาบอด และสามารถมองเห็นได้แค่รอบๆคบไฟเท่านั้น

เย่ฉางยืนอยู่ที่เสากระโดงของเรือเพื่อสังเกตการณ์

หลังจากแล่นเรือไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง เย่ฉางก็เห็นแสงไฟจากในระยะไกลๆและพูดเตือนทุกคนว่า “เรามาถึงแล้ว ทุกคนเตรียมพร้อมโจมตี อาเฉียง นายนำทุกคนซุ่มรออยู่ในเรือ เพื่อรอสัญญาณโจมตีจากฉัน SpyingBlade และฉันจะดำเนินกลยุทธ์การจัดส่งอาหารต่อไป มันยังคงเป็นช่วงเวลาอาหารค่ำอยู่ ดังนั้นโจรส่วนใหญ่อาจจะยังกินกันไม่เสร็จ เราจะวางยาพิษให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ …”

เมื่อเรือจอดเทียบท่า เย่ฉางยื่นหม้อเหล็กขนาดใหญ่ไปให้ SpyingBlade ขณะที่พวกเขาเดินขึ้นฝั่งอย่างช้าๆ SpyingBlade เห็นโจรที่เฝ้าเวรยามเดินเข้ามาตรวจสอบ เขาจึงยื่นหม้อให้ดู “มันหอมมากใช่ไหม? แน่นอนว่ามันอร่อยมากๆด้วยนะ หัวหน้าสั่งให้เรามามอบสิ่งนี้ให้กับทุกคน เพื่อเป็นรางวัลสุดพิเศษสำหรับพี่น้องของเรา”

“ขอบคุณพี่น้องจากแม่น้ำตอนกลางมาก” โจรที่เฝ้าเวรยามตะโกนบอกคนให้มาช่วยยกหม้อไป พร้อมกับเชิญเย่ฉางและ SpyingBlade เข้าไปยังบริเวณที่ก่อกองไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับประทานอาหารกลางแจ้งของพวกเขา

SpyingBlade ถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าพวกโจรเพิ่งเริ่มกินข้าวกัน เขาเฝ้ามองขณะที่พวกโจรจุ่มขนมปังลงในสตูว์พิษ และเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่แสนอร่อย เย่ฉางเห็นว่า แม้แต่โจรที่เฝ้ายามอยู่บนหอสังเกตการณ์ ก็ยังเดินลงมาเมื่อได้กลิ่นของอาหารที่โชยออกไป ทั้งสองคนจึงเดินไปที่มุมของฐาน และตรวจสอบบอสของสถานที่แห่งนี้ – ดูเรี่ยน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มแอบกลับไปที่เรือ

พวกเขาถอดชุดโจรออก และเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ของพวกเขา เย่ฉางใส่คริสตัลเวทมนตร์สองก้อนที่ถูกเคลือบยาพิษมาแล้วลงในปืนพก และพาดบาลิสต้าไว้ข้างตัวเขา เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา จางเจิ้งเฉียงและคนอื่นๆก็ออกมาจากบนดาดฟ้า และเตรียมพร้อมที่จะเริ่มการโจมตี เร็นน้อยกระโดดเพียงครั้งเดียวขึ้นไปอยู่บนเสากระโดงเรือ มันถือดาบสองเล่มและใช้ดวงตาเสือของมันมองส่องลงมาในที่มืด

“อาหารเป็นพิษ! ใครส่งมันมา!” ดูเรี่ยนถ่มน้ำลายปนเลือดออกมาและเริ่มอ่อนแอลง เขามองไปรอบๆและเห็นพวกลูกน้องที่กำลังมีน้ำลายฟูมปาก ทันใดนั้น เขารีบยกดาบขึ้นบล็อคกระสุนพลังงานของเย่ฉาง “แกเป็นใคร!!”

“ฉันเห็นแก่แกที่กำลังใกล้ตายแล้ว ฉันจะบอกให้เอาบุญก็แล้วกันว่าฉันคือ …” เย่ฉางลุกขึ้นยืนและตะโกนออกมา แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดจบ ก็ถูกอูนาตบหลังหัวเสียก่อน “นายยังจะมาโชว์ออฟอะไรในสถานการณ์เช่นนี้! รีบทำให้มันจบๆได้แล้ว!”

“น้องเล็กไดโน เอาผู้หญิงที่โง่เง่าคนนี้ … ออก …” เย่ฉางยังคงพูดด้วยความไม่แยแส แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดจบ เขาถูกบังคับให้กลืนคำพูดของตัวเอง เมื่อเขาเห็นแสงประกายเจิดจ้าจากสายตาของอูนา “ไปกันเถอะ!”

เย่ฉางเปิดใช้ [Eagle Eyes] ล็อคเป้าหมาย 20 คนข้างหน้าทันที และเปิดใช้งานโหมดยิงเร็วพร้อมกับปลดปล่อยสกิลทั้งหมดออกมา [Anya’s Berserk Shot]! [Multishot]! [Enchant Fire – Explosive Shot]! [Explosive Energy Bullet]!

ทันใดนั้น กระสุนก็พุ่งออกไปดุจสายฝน และทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภายใต้ห่าฝนนี้ พวกโจรทั้งหมดและบอสก็แทบจะตายเกลี้ยง ทำให้คนอื่นๆแทบไม่ต้องเสียเวลามากในการเก็บกวาดส่วนที่เหลือ เย่ฉางกำลังจะเข้าไปค้นศพบอส แต่ถูก FrozenCloud และจางเจิ้งเฉียงสกัดกั้นเขาเอาไว้ก่อน ขณะที่หลินหลี่เดินไปค้นศพบอสอย่างสบายใจ เย่ฉางถอนหายใจและเดินเข้าไปตัดหัวดูเรี่ยนและบ่นว่า “พวกนายควรรู้ไว้ด้วยนะว่า ชัยชนะครั้งนี้เป็นเพราะกลยุทธ์และทักษะการทำอาหารที่สุดยอดของฉัน แล้วเหตุใด ฉันถึงไม่ได้ค้นศพบอส! เจ้าพวกเนรคุณเอ้ย …”

“หัวหน้าทีม ที่เราทำไปทั้งหมดนี้ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทีมของเรานะ …” FrozenCloud ปลอบโยน

“ถ้ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทีม เธอก็ควรปล่อยให้ฉันค้นศพบอสสิ แน่นอนว่า ทีมของเราจะได้รับอุปกรณ์ระดับพระเจ้า!”

ทุกคนกลอกตาไปมา พวกเขาขี้เกียจเกินไปที่จะโต้ตอบแล้ว

ไอเทมที่ได้จากบอสทั้งสอง เป็นอุปกรณ์ระดับ Dark Gold 1 ชิ้น และอุปกรณ์ระดับ Gold 3 ชิ้น อีกทั้งยังมีหนังสือสกิลที่สามารถลบล้างดีบัฟได้! หนังสือสกิลถูกมอบให้กับ SpyingBlade เข็มขัดโลหะสีดำระดับ Dark Gold เนื่องจากมันมีค่า Constitution ที่สูงและยังลดความเสียหายที่ได้รับลงอีก มันจึงถูกมอบให้กับจางเจิ้งเฉียง ปลอกแขนเบาระดับ Gold ถูกมอบให้กับฟางชิ แหวนระดับ Gold ที่เพิ่มพลังโจมตีกายภาพถูกมอบให้กับ FrozenCloud สำหรับชิ้นสุดท้ายเป็นขวานระดับ Gold เนื่องจากไม่มีใครต้องการมัน เย่ฉางจึงโยนขวานลงในรถเข็นและตั้งราคาขายเอาไว้

ตอนที่ 440

 

หลังจากที่ทุกคนเก็บกวาดทุกอย่างในป้อมปราการไปหมดแล้ว พวกเขาก็เดินออกอุโมงค์จนมาโผล่ที่ด้านนอก

เย่เทียนมองไปที่บริเวณโดยรอบๆ และรู้ตำแหน่งของพวกเขาทันที นี่เป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตของเย่ฉาง มันอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขาคาร์โรล หลังจากที่ยืนยันตำเหน่งแล้ว พวกเขาทุกคนก็กลับไปยังแม่น้ำใต้ดิน และแล่นเรือไปยังพื้นที่ส่วนกลางของแม่น้ำ เมื่อคำนวณความเร็วจากการแล่นเรือแล้ว พวกเขาน่าจะมาทันเวลาสำหรับอาหารค่ำของพวกโจรพอดี

เมื่อพวกเขามาถึง พวกโจรก็กำลังล้อมวงกินอาหารค่ำอยู่พอดี ดังนั้นเย่ฉางและ SpyingBlade จึงปลอมตัวเป็นพวกโจรอีกครั้ง และหม้อสตูว์ทั้งสองจึงกลายเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของพวกโจรไปโดยปริยาย การซุ่มลอบโจมตีเกิดขึ้นมาอีกครั้ง และก็จบลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้ทุกคนต่างถอนหายใจก็คือว่า คราวนี้เย่ฉางสามารถเข้าไปค้นศพของบอสได้ แต่ก็ไม่ได้อะไรอีกเหมือนเดิม อูนาเฝ้ามองเย่ฉางที่สาบานอย่างจริงจังว่า ครั้งต่อไปจะได้รับอุปกรณ์ระดับพระเจ้าอย่างแน่นอน เขาไม่ได้แสดงท่าทางของการกลับตัวกลับใจเลย แววตาที่เขามองหัตถ์แห่งพระเจ้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เรื่องนี้ทำให้เธอโกรธมาก จนเธอขยี้เท้าของเธอกับพื้นอย่างฉุนเฉียว ความเพียรพยายามของพวกเขาในครั้งนี้สูญเปล่าโดยที่ไม่ได้อะไรเลย!

ทุกคนเดินออกมาจากอุโมงค์ใต้ดินอีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้มันเป็นเวลาตอนเย็นแล้ว พวกเขาปีนขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เย่เทียนคำนวณว่าที่นี่ควรจะอยู่ในหุบเขาที่ไหนสักแห่งหนึ่งใกล้ๆกับเมืองไวท์สโตน เมื่อพวกเขาปีนขึ้นไปบนยอดเขา พวกเขาก็สามารถมองเห็นอาณาเขตของเมืองไวท์สโตนได้ บริเวณนี้ไม่ค่อยมีนักเดินทาง และมีพวกมอนเตอร์เพียงไม่กี่ตัว

“ไปกันเถอะคะ ไปดูกันสิว่าแม่น้ำใต้ดินสายนี้จะสิ้นสุดลงที่ไหน” เย่เทียนพูดขึ้นมา ทุกคนจึงเดินกลับมาที่ถ้ำใต้ดินอีกครั้งและแล่นเรือไปตามแม่น้ำ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่ฉางก็เห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างอยู่ข้างหน้าพวกเขา ข้างหน้ามันคือน้ำตก!? ถ้าพวกเขายังคงฝืนแล่นเรือต่อไป พวกเขาจะต้องตายกันหมดทุกคนแน่ๆ พวกเขาจึงช่วยกันหยุดเรือทันที เย่ฉางสั่งให้เจ้าฟ้าน้อยบินไปสำรวจข้างหน้า เขาใช้สกิล [Eagle Eye] เพื่อใช้การมองเห็นร่วมกันกับเจ้าฟ้าน้อย เขามองลงไปที่น้ำตก “น้ำตกนี้ มันลึกมากๆ มันอาจจะลึกไปถึงแกนกลางของโลกเลยทีเดียว ถ้าเราขืนยังไปต่อ เราต้องตายแน่ๆ เรากลับกันเถอะ …”

“ลึกไปถึงแกนกลางของโลก?” เย่เทียนเริ่มวาดภาพในใจของเธอ ‘ถ้ามันลึกไปถึงแกนกลางของโลกจริงๆแล้วล่ะก็ อาจจะมีแม่น้ำใต้ดินอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่นั่น แต่ถ้าเรายังขืนไปต่อ ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ ในอนาคตเอาไว้ค่อยมาสำรวจที่นี่ใหม่ดีกว่า’ เธอถอนหายใจ “คุณพ่อพูดถูก เราไปที่เมืองไวท์สโตนกันก่อนดีกว่า …”

พวกเขาล่องเรือกลับไปที่เดิมและเดินออกจากอุโมงค์ใต้ดิน พวกเขาใช้เวลาเดินทางกันทั้งคืนเพื่อมุ่งไปยังเมืองไวท์สโตน สิ่งก่อสร้างต่างๆในเมืองไวท์สโตนมีลักษณะคล้ายกับเมืองแบล็กร็อคมาก แต่ส่วนใหญ่จะทาด้วยโทนสีพาสเทิล เมื่อผู้เล่นหลายคนเห็นกลุ่มของเย่ฉางเดินเข้าเมืองมา พวกเขาต่างอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ CloudDragon รับรู้อย่างรวดเร็วว่าเย่ฉางได้เข้ามาในเมืองไวท์สโตนแล้ว เขาจึงสั่งให้คนติดตามดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างใกล้ชิด

เย่ฉางมุ่งหน้าไปยังสำนักงานว่าการเมืองไวท์สโตน เขาใช้เงินเป็นจำนวนมากในการซื้อที่ดินสองแห่งที่อยู่ห่างจากตัวเมืองมากๆ เมื่อเขาเห็นพนักงานมองมาด้วยสายตาที่ดูถูก เขาหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ‘เหอะๆ ในอนาคตนายจะรู้เองว่า ที่ดินที่ฉันซื้อไป มันมีมูลค่ามากแค่ไหน!’

จากนั้นเขาก็มองหาร้านค้าที่ว่างอยู่ในเมืองไวท์สโตน ยังคงมีร้านค้าขนาดใหญ่ที่ต้องมียศไวส์เคาน์ขึ้นไปถึงจะซื้อได้เหลืออยู่ แต่มันมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น และราคาแห่งล่ะ 400 เหรียญทอง เขาตัดสินใจซื้อโดยทันที จากนั้นเขาก็เดินออกมาจากสำนักงานว่าการ ด้วยผ้าคลุมเสือโคร่งของเขา ทำให้เขาดูเหมือนนายน้อยผู้หยิ่งยโส…

ในขณะเดียวกัน เย่เทียนสามารถแก้ไขปัญหาทางด้านการเงินของคริสตจักรได้อย่างรวดเร็ว โดยการหาผู้กระทำความผิดพบ ทำให้เธอได้รับรางวัลเป็นสกิล [Circle Healing Healing] (ฟื้นฟูพลังชีวิตของเป้าหมายในระยะพื้นที่) อาร์คบิชอปแห่งเมืองไวท์สโตน – คาร่า พยายามชักชวนให้เย่เทียนย้ายมาเข้าสังกัดที่เมืองนี้แทน เธอยังพูดจาใส่ร้ายอาร์คบิชอปมากิอย่างเสียๆหายๆอีกด้วย เย่เทียนหลังเหงื่อเย็นออกมา ‘ดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนนี้ จะมีความบาดหมางกันอยู่’

สำหรับหลินหลี่นั้น เขาเข้าไปรายงานตัวยังสมาคมพ่อค้าอาวุธแห่งเมืองไวท์สโตน และเขายังโชว์ความสามารถในด้านการทวงหนี้ให้ดูอีกด้วย จนได้รับคำชื่นชมยกใหญ่จากรองหัวหน้าสมาคมพ่อค้าอาวุธแห่งเมืองไวท์สโตน – คาร์ลอส “สมกับเป็นคนที่เอดอสน่ายกย่องจริงๆ นายมีความสามารถที่น่าประทับใจมากๆ …”

สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาแยกย้ายกันไปยังสมาคมอาชีพของแต่ล่ะคน เย่ฉางก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน แต่เขาใช้ร้านค้าที่เพิ่งซื้อมาตั้งเป็นสมาคมเทพธิดาแทน โดยการติดรูปภาพเทพธิดาทั้งสามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมเอาไว้ตรงหน้าร้าน พร้อมกับเขียนป้ายบอกไว้ว่า ‘หาหุ้นส่วนร่วมลงทุน’ จากนั้นเขาก็โทรบอกให้ Little Jade ส่งพวกอาจารย์และพนักงานต้อนรับชั้นหนึ่งจากเมืองแบล็กร็อคมายังสาขาแห่งนี้ นอกจากนี้ เขายังบอกให้คุณยายริก้าส่งคนไปเปิดร้านค้า Happy Firmaments อีกแห่งหนึ่งด้วย

“เออ หัวหน้าทีมคะ มันจะไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ? …” Little Jade พูดเบาๆ เธอกลัวเย่ฉางมากๆ เพราะเธอได้เห็นแล้วว่า เย่ฉางได้ทำลายพวกเทพธิดาอย่างไรบ้าง

“เธอกล้าที่จะขัดคำสั่งฉัน!?” คำพูดของเย่ฉางทำให้ Little Jade รีบตะโกนสรรเสริญเขาทันทีแม้กระทั่งเปรียบเทียบเขากับเหล่าทวยเทพ!

“ดีมาก สมาคมเทพธิดาที่นี่จะต้องได้รับการจัดการที่ดี … บอกให้ลินดาเป็นคนจัดการเรื่องนี้” เย่ฉางพูดจบ แล้วก็วางสายอย่างพอใจ

Little Jade นำคำพูดของเย่ฉางไปบอกลินดาทันที ทำให้ลินดารู้สึกไม่พอใจมาก พวกเขาเพิ่งตั้งตัวในเมืองแบล็กร็อคได้ไม่เท่าไหร่เอง แต่นี่ยังจะขยายสาขาไปที่เมืองไวท์สโตนอีกหรือ!? ถึงแม้ว่าเมืองแบล็กร็อคและเมืองไวท์สโตนจะอยู่ใกล้กันก็ตาม แต่พวกเขาไม่ได้มีอาจารย์เพียงพอที่จะสอนทั้งสองแห่ง … เธอส่ายหัว ในฐานะที่เธอตัวแทนของเทพธิดา เธอควรมีความคิดของตัวเอง

ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายของคุณยายริก้าทำงานมีประสิทธิภาพมาก เพราะเธอเพิ่งได้พบกับผู้ช่วยที่มีความสามารถและมีประสบการณ์สูง อีกทั้งยังค่อนข้างน่าเชื่อถือได้ เธอจึงแต่งตัวให้เขาเป็นผู้จัดการร้านที่นี้แทนเธอ เธอรีบพาพวกลูกน้องคนอื่นๆไปยังเมืองไวท์สโตนทันที แต่เธอยังกังวลเรื่องการขนส่งสินค้าจำนวนมากแบบนี้ เพราะเมื่อเร็วๆนี้ ได้มีกองคาราวานถูกโจมตีหรือสูญหายไป ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนในเมืองยังหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย

เย่ฉางกำลังคิดหาคนที่จะพาพวกคุณยายริก้ามาส่งที่เมืองไวท์สโตน โดยที่คนๆนั้นจะต้องเชื่อถือได้และมีความแข็งแกร่งมากพอ เพราะเย่ฉางได้เลือกเส้นทางที่สามารถมาถึงเมืองไวท์สโตนได้ไวกว่าปกติมาก แต่เส้นทางนี้มันค่อนข้างอันตราย พวกคุณยายริก้าต้องเดินทางมาในเทือกเขาคาร์โรล และลงเรือที่เขาทิ้งไว้ให้ในอุโมงค์ใต้ดิน และแล่นเรือจนมาถึงที่เมืองไวท์สโตน เขาถอนหายใจ เพราะเขาไม่สามารถหาคนอื่นได้ นอกจากหญิงบ้าคนนั้นเท่านั้น “สวัสดี เธอเป็นอย่างไรบ้าง?”

“……” ThornyRose รู้สึกแน่นหน้าอกและถามว่า “นายมีธุระอะไร?”

เย่ฉางเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับแม่น้ำใต้ดิน และขอให้เธอพาพวกคุณยายริก้ามาที่เมืองไวท์สโตนจากนั้นเขาจึงส่งพิกัดให้เธอ

ThornyRose ยกคิ้วขึ้น ‘แม่น้ำใต้ดิน!? ผู้ชายคนนี้ต้องการสร้างท่าเรือและธุรกิจการขนส่ง นี่จะเป็นรายได้มหาศาล อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเทือกเขาคาร์โรลแล้ว ทางออกอื่นๆไม่ควรเป็นอาณาเขตของเขา ถ้าคนอื่นๆรู้สถานที่แบบนี้แล้วล่ะก็ คงจะไม่มีใครขายเลยแน่ๆ’

“แล้วทางออกอีกสองแห่งล่ะ …” ThornyRose ถาม

“ฉันได้ซื้อที่ดินอีกสองแห่งมาแล้ว …” คำพูดของเย่ฉางทำให้ ThornyRose คิดถึงเย่เทียนทันที ถ้ามีเด็กสาวคนนี้อยู่ข้างๆตัว ไม่มีทางที่เขาจะพลาดอะไรไปได้ ‘ครอบครัวนี้มีแต่คนร้ายกาจ’

“ฉันเข้าใจแล้ว …” ThornyRose ตอบ

“โอ้ เดี๋ยวก่อนนะ เธอช่วยนำคำพูดของฉันไปบอกครอสมาร์หน่อย แต่มันต้องเป็นแบบส่วนตัวนะ …” เย่ฉางบอกเธอ

“รู้แล้ว ไว้ค่อยเจอกันที่เมืองไวท์สโตน” ThornyRose พูดเสร็จก็วางสายทันที และเริ่มมุ่งหน้าไปยังร้านค้าทั่วไปของคุณยายริก้า

เมื่อสะสางทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จึงทำให้เย่ฉางไม่มีอะไรทำ เขาจึงตัดสินใจไปเดินเล่น รอบๆเมือง อันดับแรกคือเขามองหาบ้านประมูลระดับไฮเอนด์ของเมืองไวท์สโตน ซึ่งจะมีการจัดงานประมูลในช่วงดึก การประมูลเหล่านี้มักจะมีสิ่งที่ดีๆ … ดังนั้นเขาจึงต้องการไปตรวจสอบดูเสียหน่อย แต่จู่ๆเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง “น้องชาย Pale Snow ฉันรู้ว่านายเพิ่งได้รับอะไรดีๆมา …”

เย่ฉางหันมาและยิ้ม เมื่อเห็นว่าคนๆนั้นเป็นใคร “พี่ชาย CloudDragon ไม่ได้เจอกันนานนะ…”

 

 

 


ตอนที่ 441

 

“พี่ชาย CloudDragon ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเช่นเคย …” คำพูดของเย่ฉางทำให้ CloudDragon รู้สึกเบื่อหน่าย ‘จะมีใครที่ไหนเขาชมคนอื่นด้วยความไม่จริง ซึ่งหน้าๆแบบนี้กันบ้าง?’

ผู้คนที่เดินไปมามองไปที่ทั้งสองคนอย่างแปลกประหลาด “นั่นมันคู่เกย์แห่งมืองบ้านมือใหม่จริงๆนะนี่…”

“ฉันจะพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยก็แล้วกันว่า ฉันต้องการลงทุนในสมาคมเทพธิดาในเมืองไวท์สโตน…” CloudDragon รู้สึกถึงการจ้องมองที่ร้อนแรงของผู้คนที่เดินไปมารอบๆตัวเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพวกสาววาย พวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงชนจำนวนมาก และยังคงเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลงเลยสักนิดเดียว พลังแห่งการซุบซิบนินทา และข่าวลือมีพลังมากกว่าที่เขาคิด

“ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้เย่เทียนมาพูดรายละเอียดกับพี่ก็แล้วกัน สำหรับตอนนี้ พี่ชาย CloudDragon สนใจจะเข้าร่วมงานประมูลระดับไฮเอนด์ไหม?” คำพูดของเย่ฉางได้ดึงดูดความสนใจของ CloudDragon บ้านประมูลระดับไฮเอนด์? ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา เขาไม่สามารถเข้าร่วมได้ แต่สถานะของเย่ฉางนั้นแตกต่างออกไป เพราะเขามีสถานะระดับสูงอย่างไวเคาต์ เขาจึงพยักหน้า

ทั้งสองคนเดินเข้าไปที่บ้านประมูลระดับไฮเอนด์ เมื่อยามได้มองเห็นเหรียญตราระดับไวเคาต์ของเย่ฉาง และไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ ยามจึงอนุญาตให้ทั้งสองคนเข้าไป

การประมูลในตอนนี้ไม่ใช่การขายสินค้า แต่เป็นผู้คน เย่ฉางขมวดคิ้ว ‘เมืองไวท์สโตนยังมีการซื้อขายทาสอยู่อีก?’ เขาไม่เคยเห็นการขายทาสเหล่านี้มาก่อนเลยในเมืองแบล็กร็อค

“เมืองไวท์สโตนและเมืองแบล็กร็อค ตั้งอยู่ติดชายแดนขอบเขตของจักรวรรดิพลาเนทารี่ ดังนั้นการซื้อขายทาสจึงเป็นเรื่องธรรมดา…” CloudDragon ได้เห็นเอลฟ์ที่โชคร้ายบางคน และมนุษย์ถูกลำเลียงเข้ามาก่อนที่เขาจะไปเก็บเลเวล

“ตอนนี้เรากำลังประมูลเอลฟ์หญิงคนหนึ่ง แน่นอนว่าคำอธิบายเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เริ่มประมูลที่ 200 เหรียญทอง!” ผู้ประมูลชี้ไปยังเอลฟ์สาวที่สวมเสื้อผ้าเก่าๆ เธอมีผมยาวสีเขียว แต่ร่างกายและใบหน้าของเธอดูสกปรกเป็นอย่างมาก แต่ยังคงเห็นได้ชัดว่า เธอเป็นเอลฟ์ที่สวยคนหนึ่งและน่าสนใจเป็นอย่างมาก

“200 เหรียญทอง” เย่ฉางเริ่มเสนอราคา

CloudDragon กอดอกและยิ้มออกมา ‘ต้องการเสี่ยงโชคงั้นหรือ? หรือการเสี่ยงโชคแบบนี้จะนำไปสู่การเริ่มต้นเควสลับงั้นหรือ? ผู้ชายคนนี้แน่นอนว่าต้องรวยมากๆ เพราะราคา 200 เหรียญทองไม่ได้ทำให้เขาลังเลใจเลยแม้แต่น้อย’ แต่เมื่อเขานึกถึงอุปกรณ์ขยายเวทมนตร์ และอาหารทหาร เขาก็ได้แต่ส่ายหัวและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

“300 เหรียญทอง!”

“310 เหรียญทอง!”

เมื่อเขามองไปยังเอลฟ์สาวที่น่าสงสาร เย่ฉางก็นึกถึงตอนที่คุณยายเก็บเขาขึ้นมาจากริมแม่น้ำ เขาขบฟันอย่างรุนแรง และเสนอราคาออกไป 500 เหรียญทอง นี่เป็นเงินทั้งหมดที่เขามี ส่วนเงินที่เหลือยังคงอยู่กับริก้าและเย่เทียน

หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครเสนอราคาขึ้นมาอีกเลย

“ขอแสดงความยินดี คุณได้รับผู้ติดตามแล้ว”

ยามได้ส่งมอบเอลฟ์สาวให้กับเย่ฉาง เย่ฉางคว้าไปที่โซ่เหล็กและกระชากมันออก เอลฟ์สาวตรวจสอบเย่ฉางด้วยดวงตาสองข้างของเธอ และร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “คุณเป็น…”

“หยุดพูด!” เย่ฉางตะโกนเบาๆ เอลฟ์สาวปิดปากของเธออย่างรวดเร็วและพยักหน้า

CloudDragon เลิกคิ้วขึ้น ‘โอ้ มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ? เธอพูดว่า ‘คุณเป็น’ … พวกเขารู้จักกันรึเปล่า? ไม่ใช่! นี่มันต้องเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธ์ุของพวกเขา’ เขานึกถึงวิสัยทัศน์ในการมองเห็นตอนกลางคืนของเย่ฉาง และความสามารถทางภาษา ‘เขาเป็นฮาล์ฟเอลฟ์? นั่นคงเป็นสิ่งที่เธอต้องการจะพูด และมันเป็นความจริงที่ว่าฮาล์ฟเอลฟ์เป็นเรื่องต้องห้าม ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดีขึ้นกว่าในอดีต แต่ก็ยังคงถูกเลือกปฏิบัติอยู่ดี’

“เธอชื่ออะไร?” เย่ฉางถามออกมา

“ลิเลียน่า” เอลฟ์หญิงบอกชื่อของเธอ

“อืม สำหรับตอนนี้ เธอก็มาทำงานให้ฉันก็แล้วกัน ฉันยังขาดพนักงานต้อนรับที่สมาคม ฉันจะทำให้เธอเป็นเหมือนตุ๊กตามากขึ้นกว่านี้ และเป็นคนฝึกเธอเอง…” เย่ฉางพูดออกมา และไม่ได้วางแผนที่จะฟังเรื่องราวชีวิตของเธอ เขาสามารถจินตนาการถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นได้

ลิเลียน่าไม่เข้าใจ แต่เธอก็ยังคงพยักหน้ากลับไปอยู่ดี “ขอบคุณ…”

ชื่อผู้ติดตาม: ลิเลียน่า (ไม่ทราบชื่อตระกูล)

ความภักดี: ผู้ช่วยชีวิต

เผ่าพันธ์ุ: ซันฟูรี่เอลฟ์

ลักษณะ: สง่างาม, ขี้เกียจ

เกรด: A+

ประเภทของทาส: ไม่ใช่ทาสประเภทการต่อสู้: ความสามารถในการต่อสู้ต่ำมาก

ความสามารถพิเศษ: ยังไม่ถูกค้นพบ

เย่ฉางหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา เธอแทบจะไม่มีอะไรดีเลย และระดับพลังของเธอก็ไม่เกิน 5 อีกด้วย ทำไมเกรดของเธอจึงเป็นระดับ A+ กัน? เจ้าฟ้าน้อยจะทนความอับอายนี่ได้อย่างไร?

CloudDragon ไม่ใส่ใจกับทั้งสองคน เขามองไปที่รายการถัดไปและเลิกคิ้วขึ้น ‘กล่อง?’

“รายการถัดไป เป็นกล่องลึกลับ 3 กล่อง อันที่จริงแล้ว เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างในมีอะไร เริ่มประมูลที่ราคา 20 เหรียญทอง!” ผู้ประมูลพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

“อือ นี่คือบางอย่างที่เหมือนกับกล่องวัดดวง…” CloudDragon คิดถึงเรื่องนี้ และกำลังจะเสนอราคา แต่ทันใดนั้น ดวงตาทั้งสองข้างของเย่ฉางก็กลายเป็นผิดปกติขึ้นมา ‘บัดซบ! ฉันลืมนึกถึงสัตว์ประหลาดชอบค้นศพและเปิดหีบสมบัติที่ยืนอยู่ข้างฉันไปได้ยังไงกัน!’

“20 เหรียญทอง!” เย่ฉางคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“25 เหรียญทอง!”

“30 เหรียญทอง!”

“35 เหรียญทอง!”

“40 เหรียญทอง!” ในที่สุดเย่ฉางก็จ่ายออกไป 40 เหรียญทอง เพื่อที่จะได้รับกล่องลึกลับ 3 กล่อง และเปิดกล่องทั้งหมดออกมาทันที มันไม่มีอะไรอยู่ข้างในเลยแม้แต่กล่องเดียว เขามองไปยังผู้ประมูล และส่งเสียงคำรามออกมา “บัดซบ! นี่มันเป็นการคดโกงชัดๆ! มันไม่มีอะไรเลยใน 3 กล่องนี้! ฉันต้องการคำอธิบาย! นี่มันเป็นการหลอกลวงกันอย่างเห็นได้ชัด!”

คนรอบข้างมองไปที่เย่ฉาง มันไม่มีอะไรอยู่ข้างในนั้นเลยจริงๆ! “เฮ้ นี่มันจะมากเกินไปแล้ว พวกคุณกล้าขายกล่องลึกลับที่ว่างเปล่าให้กับพวกเรางั้นหรือ? ในอนาคตจะมีใครซื้อสิ่งของจากที่แห่งนี้กัน?”

ผู้ทำการประมูลรีบวิ่งไปเพื่อยืนยัน และพบว่าข้างในกล่องมันว่างเปล่าจริงๆ ทำให้เขาหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยบุคลสำคัญ ด้วยการที่เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ ถ้าเขาไม่จัดการมันให้ดี มันจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบ้านประมูลเป็นอย่างมาก เขามองไปที่เย่ฉาง “เรียนคุณลูกค้าที่เคารพ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความประมาทของเราเอง เราจะคืนเงินของคุณ และมอบของขวัญให้คุณเพื่อเป็นการขอโทษ … แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน การประมูลที่เมืองไวท์สโตนของเราเป็นเรื่องที่ความยุติธรรมเป็นอย่างมาก ขอให้ทุกท่านได้โปรดอย่ากังวล”

CloudDragon เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา เขามองไปยังเย่ฉางที่กำลังฮัมเพลงเบาๆ ‘เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ปัญหาที่แท้จริงก็คือ ไม่ว่าเขาจะค้นอะไรก็ตาม เขาแม่งโครตโชคร้ายบัดซบ ถึงขนาดที่แม้แต่บ้านประมูลก็ยังรู้สึกว่าพวกเขาได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป และยังมอบของขวัญแก่เขาเป็นค่าชดเชยอีกด้วย’

ในท้ายที่สุด CloudDragon ก็ได้ใช้จ่ายออกไป 100 เหรียญทอง ซึ่งถือว่าราคาถูกมากในการซื้อแหวนระดับ Dark Gold แน่นอนว่ามันราคาถูก เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดของผู้เล่นเท่านั้น เย่ฉางได้รับคำขอโทษจากบ้านประมูลด้วย และได้รับหนังสือเวทมนตร์ระดับ Dark Gold มาอีกด้วย

Advanced Magic Tome (Dark Gold – Mage’s Tower)

ปรเภท: หนังสือเวทมนตร์

ความต้องการ: 150 Intelligence, 110 Wisdom

+20 Intelligence

+10 Wisdom

+20 พลังโจมตีเวทมนตร์

+10% ความเสียหายที่เกิดจากเวทมนตร์

ฟื้นฟูมานา 2 หน่วย ทุก 10 วินาที

Incantation Recording: สามารถกักเก็บเวทย์ระดับ 5 หรือต่ำกว่าได้ หลังจากใช้เวทมนตร์ที่กักเก็บไปแล้ว ต้องใช้เวลา 1 วัน เพื่อจัดเก็บเวทมนตร์ได้อีกครั้ง

Divine Flash – Advanced: ในทุกๆวัน หนังสือเวทมนตร์จะรีเฟรชเวทมนตร์ระดับ 3-4 โดยอัตโนมัติ (น่าจะเหมือนกับการสุ่มเวทมนตร์ระดับ 3-4 โดยอัตโนมัติให้เองนะครับ)

เย่ฉางพึงพอใจเป็นอย่างมาก มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในที่สุดเขาก็สามารถเปลี่ยนหนังสือเวทมนตร์ที่ได้รับมาเล่มนี้แทนเล่มเก่าของเขาได้ CloudDragon มองไปยังเย่ฉางที่กำลังถือดาบเวทมนตร์ และถือหนังสือเวทมนตร์ในมืออีกข้างหนึ่ง ส่วนปืนสองกระบอกที่เหน็บอยู่ตรงเอว และอาจจะมีอาวุธอีกมากมาย เขาจะสร้างตัวละครให้มีความสามารถทุกอย่างเลยงั้นหรือ? เมื่อมองไปที่ดาบของเย่ฉาง เขาสามารถบอกได้เลยว่า ดาบเล่มนั้นเป็นดาบที่ดีมากๆ ด้วยวิธีการที่เย่ฉางได้รับอุปกรณ์ระดับ Dark Gold โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเลยแม้แต่น้อย เขาจึงได้แต่ถอนหายใจออกมา

หลังจากนั้น เย่ฉางก็แจ้งเย่เทียนให้มาเจรจากับ CloudDragon และพวกเขาก็ตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว CloudDragon โบกมือลา และเย่เทียนก็เริ่มให้ความสนใจกับลิเลียน่า ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าของเธอจะขาดรุ่งริ่ง และสภาพของเธอก็ดูสกปรก แต่เธอก็ยังคงดูสง่างามมากอยู่ดี เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เธอต้องมาจากตระกูลที่ดี

เย่ฉางได้หาเสื้อผ้าบางอย่างในกระเป๋าของเขามาคลุมให้กับลิเลียน่า เขาให้เย่เทียนพาเธอไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่

เย่เทียนมองไปยังความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ในกระจก หูยาวแหลม หน้าอกที่ไม่ได้มีขนาดเท่ากับแม่พันธุ์ แต่ก็ยังคงใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยอยู่ดี ชุดราตรียาวที่เปิดไหล่เพียงข้างเดียว จนทำให้แม้แต่ลิเลียน่าเองก็ตกตะลึงไปด้วยเช่นกัน

หลังจากนั้น เย่ฉางจัดแจงให้เธออาศัยอยู่ในสมาคมเทพธิดา จากนั้นเขาจึงล็อกออฟออกจากระบบเพื่อไปกินข้าว

 

 

 


ตอนที่ 442

 

เมื่อคุณยายริก้าได้คุยกับ ThornyRose เธอจึงรีบเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ใหม่ให้เป็นคนที่เธอไว้ใจมากที่สุดเข้ามาแทน เธอคิดว่าตัวเองไม่ควรเปิดเผยความลับเรื่องนี้แก่ผู้อื่น และนำพวกเขาไปที่เทือกเขาคาร์โรล

หลังจากนั้น ThornyRose ก็ไปหาครอสมาร์และบอกเรื่องแม่น้ำใต้ดินให้เขารู้ ครอสมาร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะที่จะร่าเริงขึ้นมาทันที เขามองไปที่ ThornyRose ตั้งแต่ที่เจ้าเด็กสารเลวได้ส่งมอบข้อความสำคัญดังกล่าวนี้มาให้ งั้นเขาคงต้องลองไว้ใจเธอคนนี้ดูสักหน่อย เขานำ ThornyRose, ผู้ฝึกสอนบางคน, เจ้าหน้าที่จากสมาคมเทพธิดา และกลุ่มของริก้ามากับเขาด้วย ThornyRose นำทุกคนไปยังพิกัดที่แสดงบนแผนที่เสมือนของเย่เทียน ในสถานที่ซึ่งแทบไม่มีร่องรอยของมนุษย์เคยเข้ามา และในตอนนี้พวกเขาได้เข้าสู่เทือกเขาคาร์โรลแล้ว

เมื่อครอสมาร์เห็นขนาดของแม่น้ำใต้ดิน ‘เยี่ยมมาก มันอาจจะเป็นไปได้ที่เราจะสามารถแล่นเรือรบมาที่นี่ น้ำในแม่น้ำสายนี้ไม่เร็วมากเกินไป’ เมื่อปีนขึ้นไปบนเรือของโจรที่เย่ฉางได้เหลือทิ้งเอาไว้ เขาเห็นสัญลักษณ์ของกลุ่มโจรโซแลม ‘ดังนั้นสถานที่แห่งนี้คือฐานของพวกโจร และพวกมันใช้แม่น้ำใต้ดินในการลักลอบเข้ามาในเมือง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเจ้าหน้าที่สืบสวนถึงไม่สามารถหาพวกมันเจอเลย เพราะทุกอย่างหลบซ่อนอยู่ใต้ดินนี่เอง!’

เมื่อล่องเรือไปบนแม่น้ำ พวกเขาผ่านจุดกึ่งกลางแม่น้ำและแล่นเรือต่อไปจนไปถึงเทือกเขาอลอนโซ่ เมื่อปีนขึ้นไปบนยอดเขา เมืองไวท์สโตนก็ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ตรงนี้แล้ว ตำแหน่งตรงนี้ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก! แน่นอนว่านี่เป็นเส้นทางการขนส่งเชิงกลยุทธ์! แต่ทำไมถึงไม่มีใครเคยค้นพบมันมาก่อน!? เขานึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีหลายพื้นที่ได้ยุบตัวลง มันอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้ … ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางที่จะพบสถานที่แบบนี้ได้เลย พวกเขาสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 70% ในการเดินทางจากเมืองแบล็กร็อคไปยังเมืองไวท์สโตน! แน่นอนว่าการเดินเรือทวนกระแสน้ำแบบนี้ อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ แต่มันจะไม่มีปัญหาเลยถ้าใช้เรือที่ขับเคลื่อนพลังงานจากคริสตัลเวทมนตร์!

สำหรับเย่เทียน เธอวางแผนที่จะใช้พลังงานจากลมในตอนขากลับ เพราะในช่วงเวลากลางคืน สายลมจะพัดหนุนจากทิศทางของเมืองแบล็กร็อคไปยังเมืองไวท์สโตน แต่ในบางครั้ง สายลมจะเปลี่ยนทิศทางหนุนจากเมืองไวท์สโตนไปที่เมืองแบล็กร็อคแทน ถึงแม้ว่าเรือธรรมดาจะสามารถเดินทางได้ แต่ก็ต้องมีการวางแผนกันก่อน

ครอสมาร์เดินทางมาถึงเมืองไวท์สโตน และไปพบกับเย่ฉางทันที

“เกี่ยวกับอาณาเขตอื่นๆ นายได้จัดการมันไปแล้วรึยัง?” ครอสมาร์เปิดประตูเข้ามาและถามเย่ฉาง

“ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว” เย่ฉางพูดอย่างเฉยเมย

“นั่นดีมาก อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กับใครล่ะ ฉันจะไปปรึกษากับท่านมาควิสก่อน ถ้านายต้องการเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ นายต้องมีตำแหน่งอย่างน้อยเป็นเอิรล์ซะก่อน ไม่อย่างนั้นนายจะโดนค่าภาษีที่สูลิ่ว ถึงแม้ว่าจะมันเป็นไปด้วยความยากลำบากก็ตาม แต่ฉันและท่านมาควิสจะทำทุกอย่างในอำนาจของเราเพื่อช่วยให้นายประหยัดค่าภาษีให้มากที่สุด แต่ถ้ามีคนจำนวนมากได้รับรู้เรื่องนี้ ส่วนแบ่งผลกำไรของพวกเราจะลดลงเป็นอย่างมาก” ครอสมาร์พยักหน้าช้าๆ “การแต่งตั้งให้นายเป็นเอิรล์อาจจะใช้เวลาสักสองวัน แต่ฉันจะเร่งกระบวนการนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่นายได้เปิดเส้นทางการค้าที่เจริญรุ่งเรือง และจำกัดพวกโจรในแม่น้ำทางตอนเหนือให้หมดก่อน นายจะได้เป็นประธานของสมาคมใหม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายจะได้รับการแต่งตั้ง นายไม่สามารถปล่อยให้ผู้มีอำนาจคนอื่นนอกจากฉันรับรู้เรื่องนี้ได้! ไม่อย่างนั้นมันจะต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน!”

“พ่อคะ ครอสมาร์พูดถูกแล้วค่ะ…” เย่เทียนเห็นด้วย

“ฉันรู้…” เย่ฉางไม่ค่อยใส่ใจ

“เอาล่ะตอนนี้นายก็รีบกลับไปที่เมืองแบล็กร็อคพร้อมกับฉันก่อนก็แล้วกัน…” ครอสมาร์ดึงเย่ฉางไปพร้อมกับเขา พวกเขารีบวิ่งกลับไปที่เนินเขาอลอนโซ่และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกค้นพบ

“ฉันยังไม่ได้รับรางวัลสำหรับการฆ่าหัวหน้าโจรทั้งสามคนเลย…” เย่ฉางมองไปทางเมืองไวท์สโตนด้วยความโศกเศร้า

“นายสามารถกลับไปรับที่เมืองแบล็กร็อคได้! นี่เป็นรางวัลที่นำเสนอร่วมกันของทั้งสองเมือง …” ครอสมาร์จ้องมองไปที่เย่ฉางอย่างกระวนกระวายใจ ในสถานการณ์เช่นนี้เขายังมาเป็นห่วงของรางวัลเล็กๆน้อยๆอยู่อีก

ที่พักของมาร์ควิสอัสชาร่า

ครอสมาร์พาเย่ฉางไปเยี่ยมเยือนกลางดึก อัสชาร่ายังคงอยู่ในชุดนอนด้วยความงงงวยเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เร่งด่วนนี้ ใครกันที่บังอาจมารบกวนเขาในตอนดึกเช่นนี้! เขากำลังจะถามออกมาว่าใคร แต่เมื่อเห็นว่าครอสมาร์ทำท่าทางบ่งชี้ให้เห็นว่ามันเป็นความลับสุดยอด เขาจึงรีบปิดบานประตูหน้าต่าง และตรวจสอบสภาพแวดล้อมว่ามีคนอื่นๆอยู่หรือไม่ เมื่อเขาแน่ใจว่าไม่มีใครแล้ว เขาก็ได้ยินเกี่ยวกับแผนท่าเทียบเรือของแม่น้ำใต้ดิน อาการง่วงนอนของเขาหายไปในทันที “เรื่องจริง!?”

“เรื่องจริงอย่างแน่นอน ฉันได้แล่นเรือไปที่เทือกเขาอลอนโซ่ที่อยู่ใกล้กับเมืองไวท์สโตนมาแล้ว มันประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อยได้ถึง 70%! นอกจากนี้ ถ้ำในแม่น้ำใต้ดินยังมีขนาดใหญ่ ทำให้ไม่มีปัญหาในการที่จะแล่นเรือรบเข้าไปได้อีกด้วย!” ครอสมาร์ยืนยันเรื่องนี้อย่างจริงจัง

“แล้วเจ้าของพื้นที่ตรงนั้นคือใคร?” อัสชาร่าถามออกมาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นส่วนที่น่ากังวลมากที่สุด

“เป็นเพื่อนที่ดีของฉันที่มาจากบ้านเกิดของเราเอง ไวเคานต์ PaleSnow นอกจากนี้บริเวณท่าเรือเคยได้รับการครอบครองโดยกลุ่มโจรโซแลมมาก่อน แต่พวกมันถูกกำจัดโดยไวเคานต์ PaleSnow และกองทหารของฉันอย่างนักบวช HeavenShakingMight และพาลาดิน NightSky…” ครอสมาร์ยิ้มออกมา

“ดีมาก! ดีมาก! อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่เขามียศแค่ไวเคานต์ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะปกป้องอาณาเขตนี้ได้ มันคงจะดีถ้าเรื่องนี้รับรู้เพียงแค่เรา แต่ถ้าเกิดเคลย์ได้รับรู้เรื่องนี้ขึ้นมาแล้วล่ะก็ มันจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้นมาโดยทันที เนื่องจากเรามีสิทธิ์เป็นเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฉันจะส่งข้อความเวทมนตร์ไปยังผู้มีตำแหน่งระดับสูงที่เมืองเรดมูนพร้อมกับหนังสือรับรอง! เราน่าจะสามารถดำเนินการได้ในวันพรุ่งนี้” อัสชาร่าเริ่มเขียนหนังสือรับรองอย่างรวดเร็ว โดยการโอ้อวดการกระทำของเย่ฉางอย่างเช่น การฟื้นฟูเทพธิดาทั้งสามองค์, สร้างสมาคมขึ้นมาใหม่, การกวาดล้างเส้นทางหุบเขาแห่งความตาย และกำจัดกลุ่มโจรโซแลม

“น้องชาย PaleSnow การที่ครอสมาร์มีเพื่อนแบบนายนั้น มันก็เหมือนกับว่านายได้ติดปีกให้กับพยัคฆ์ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการก่อสร้างท่าเรือมากไปนัก ไม่ว่าจะดีหรือไม่ ฉันก็เคยอยู่ในกองทัพเรือมาก่อน ดังนั้นเรามายืนยันผลประโยชน์ของแต่ละคนกันก่อน จักรวรรดิจะต้องคิดภาษี 30% อย่างแน่นอน แต่นั่นคือสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และส่วนที่เหลือจะเป็นของพวกเรา สำหรับส่วนแบ่งของพวกเรา เราสามารถพูดคุยกันได้ …” อัสชาร่าเอื้อมมือออกไปตบไหล่ของเย่ฉาง ในขณะที่เย่ฉางได้แต่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำ เมื่อคิดเกี่ยวกับการแบ่งสันปันส่วน การที่เขาอยู่ที่นี่พร้อมกับครอสมาร์ เขาจึงตกเป็นส่วนหนึ่งของครอสมาร์ไปโดยปริยาย แน่นอนว่าการแบ่งส่วนแบ่งกับเขาเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อเย่ฉางคิดไปถึงตาแก่มาร์ที่หลั่งน้ำตา และไม่หันกลับไปมองเมื่อตอนเขาเดินจากไป จากนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของครอสมาร์ที่ประกาศว่าจะเป็นพระสันตะปาปาสำหรับฮาล์ฟเอลฟ์ เขาจึงอดที่จะพยักหน้าออกมาไม่ได้ “แล้วแต่มาร์ควิสอัสชาร่าจะจัดการเลยครับ …”

อัสชาร่าหรี่ตาลงมอง และเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเย่ฉางใหม่อีกครั้ง บุคลิคเขาไม่อ่อนน้อมถ่อมตนหรือเป็นคนเอาแต่ใจ! การแบ่งผลประโยชน์คือช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ต้องปรึกษากันก่อน หรือไม่ผลประโยชน์ก็ทำให้จิตใจคนเปลี่ยนไปได้ ถ้าเย่ฉางไปหาเคลย์ เขาจะไม่สูญเสียผลประโยชน์มากเช่นนี้ แต่นี่เขากลับยอมรับมันด้วยดี ครอสมาร์ได้เห็นการยอมรับของเย่ฉาง ทำให้เขานึกถึงจดหมายจากพ่อของเขา นี่คือคนที่เขาสามารถไว้ใจได้ มันอาจจะเป็นแค่สำหรับเขาเท่านั้น … ไม่สิต้องสำหรับพ่อของเขา… เขาเป็นคนที่น่าสนใจอย่างแท้จริง

เย่ฉางโบกมือลา และล็อคออฟออกจากเกม

“เพื่อนของนายน่าสนใจมากจริงๆ ครั้งแรกที่ฉันเห็นเขา การแสดงออกของเขาก็ทำให้ฉันประทับใจเป็นอย่างมากแล้ว แต่มาในครั้งนี้ เขากลับทำให้ฉันประทับใจมากขึ้นไปอีก …” อัสชาร่ามองไปยังทิศทางที่เย่ฉางหายตัวไป

“ใช่แล้ว…” ครอสมาร์เปิดขวดไวน์ “ฉันเดาว่าคุณไม่สามารถนอนหลับได้อีกต่อไปแล้ว…”

อัสชาร่าหัวเราะเบาๆ และดื่มไวน์พร้อมกับขนมปังปิ้งกับลูกเขยของเขา ชุดนอนของเขาคลายตัวเล็กน้อยจนเผยให้เห็นหลังคอ มันมีตราประทับบางอย่างอยู่ที่หลังคอของเขา!? มันเป็นตราประทับของนักโทษฮาล์ฟเอลฟ์เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ครอสมาร์มองไปที่ตรานักโทษและยิ้มออกมา “นั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณได้พบกับแม่ของฉัน…”

“อ่า ใช่แล้ว ในขณะนั้นเรามีเด็ก 7 คนกำลังวางแผนเพื่อที่จะหลบหนี แต่มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ส่วนคนที่เหลือทั้งหมดถูกพวกมนุษย์ฆ่า …” อัสชาร่าคิดย้อนกลับไป และเริ่มที่จะจับไปตรงตรานักโทษบนคอของเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะลูบมันอย่างช้าๆ เขาถอนหายใจออกมา “จริงๆแล้วถ้าไม่ใช่เพราะทั้ง 4 คนได้ดึงดูดความสนใจของพวกมนุษย์ไป พวกเราก็คงหนีไม่พ้น ฉันเดิมพันได้เลยว่า นายไม่เคยคาดเดาถึงสิ่งที่พวกเขาตะโกนก่อนตายเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้หรอก เพราะตอนนั้นแม่ของนายอายุน้อยกว่าฉัน ดังนั้นเธออาจจะจำไม่ได้…”

“พวกเขาพูดว่าอะไร?” ครอสมาร์ถาม

“Alukas, roccas, alona, donenar…” อัสชาร่ามองออกไปนอกหน้าต่างและพึมพำ

“ฮาล์ฟเอลฟ์ทั้งหลาย ไฟในหัวใจของพวกเราจะไม่หยุดเผาไหม้ ความมืดได้ผ่านไป และแสงสว่างจะอยู่กับพวกเรา…” ครอสมาร์พึมพำขึ้นมา จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงด้วยความความเคารพอย่างเงียบๆ

(ผู้แปลอิ้งไม่แน่ใจว่า คำว่า Alukas, roccas, alona, donenar เป็นชื่อฮาล์ฟเอลฟ์ หรือภาษาของฮาล์ฟเอลฟ์นะครับ)

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม