Virtual World – Peerless White Emperor 402-408

ตอนที่ 402

 

พวกเขาพบบันไดลงไปยังชั้นถัดไป ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองเห็นในตอนกลางคืนของเย่ฉาง เขาจึงเป็นผู้นำลงไปชั้นล่างพร้อมกับแบกบาลิสต้าไว้บนไหล่ นี่ยังคงเป็นเส้นทางที่ยาวไกลอีกเช่นเคย ไม่มีประตูทั้งทางด้านซ้ายและด้านขวา ในขณะที่ตามเส้นทางจะมีห้องที่เปิดกว้าง โดยมีโลงศพวางไว้อยู่ในห้อง เนื่องจากความยาวของทางเดิน เขาจึงไม่สามารถรับรู้ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมในห้องได้ แต่ด้านในควรมีขนาดที่กว้างขวางมาก…

เย่ฉางโบกมือลงไปข้างล่าง และทุกคนก็จุดคบไฟส่องไปตามโลงศพ แต่ทันใดนั้น ThornyRose ก็ได้หยุดทุกคนเอาไว้

“หยุดก่อน! ถ้าเราไปกระตุ้นกลไกบางอย่างเข้า อาจจะทำให้เราต้องพบเจอกับบอสก็ได้ เรายังไม่รู้ว่าบอสที่จะออกมาเป็นบอสประเภทไหน ดังนั้นทุกคนต้องระวังตัวกันเอาไว้ด้วย เราจะไปสำรวจโลงศพด้วยกลยุทธ์ปกติเช่นเคย…”

ทุกคนพยักหน้า และเดินเข้าไปในห้องที่เก็บโลงศพ มันเป็นห้องทรงกลมที่มีพื้นที่ตรงกลางยกระดับสูงขึ้นมา ทั้งสี่ด้านจะมีบันไดหินให้เดินขึ้นไป บนพื้นที่ตรงกลางมีโลงศพที่ประณีตตั้งเอาไว้อยู่ ในมุมทั้ง 4 มีโลงศพทั้งหมด 8 โลงโอบล้อมรอบโลงศพตรงกลางเอาไว้อยู่ ในเวลานี้โลงศพเริ่มแสดงสัญญาณของการเคลื่อนไหวบางอย่าง

“เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้แบบกลุ่ม! FrozenBlood, น้องสาว Lily เธอทั้งสองคนไปทางซ้าย ฉันจะไปทางขวา SpyingBlade นายไปจัดการอีกด้านหนึ่ง ส่วนเจ้าหมียักษ์คอยตรึงบอสเอาไว้ เย่เทียนเธอด้วย เธอต้องเป็นทั้งคนประสานงาน, ซัพพอร์ทและคอยสกัดกั้นบอสเอาไว้!” ThornyRose แจกแจงหน้าที่

หลินหลี่เหวี่ยงกระเป๋าของเขา และจัดการสร้างทะเลเพลิงครอบคลุมโลงศพไว้ ThornyRose แอบคิดว่าการเคลื่อนไหวของหลินหลี่ครั้งนี้ยอดเยี่ยมมาก พวกเขาต้องอยู่นอกเปลวเพลิง และต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าศัตรูอยู่ข้างในนั้น ขวดระเบิดเพลิงระดับสูงเหล่านี้มีประโยชน์มากจริงๆ…

จางเจิ้งเฉียงพุ่งไปที่ตรงกลาง แต่ทันใดนั้น ก็มีประกายแสงปรากฏออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะยกแขนซ้ายของเขาเพื่อป้องกัน แต่เขาก็ยังถูกส่งลอยกระเด็นออกไปไม่กี่เมตรอยู่ดี ThornyRose เห็นจางเจิ้งเฉียงพริ้วไหวราวกับแอสซาซิน เขาพลิกตัวกลางอากาศ และพุ่งออกไปอีกครั้งด้วยสกิล [Barbaric Tackle] ตอนนี้ทุกคนก็ได้เห็นสิ่งที่คืบคลานออกมาจากโลงศพ มันเป็นซอมบี้ที่ถือขวานที่เต็มไปด้วยซี่ที่แหลมคม ดวงตาทั้งสองข้างของมันจ้องมองจางเจิ้งเฉียงด้วยความเย็นชา ในขณะที่เขากำลังพุ่งและคำรามออกมา

เย่ฉางรีบระบุตัวตนทันที

General Level Zombie (Boss – Abyss): ซอมบี้ประเภทสู้รบ ซึ่งแข็งแกร่งเป็นอย่างมากเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

เย่ฉางเริ่มเล็งเป้าหมาย สำหรับ ElegantFragrance เธอช่วย ThornyRose ยับยั้งซอมบี้หุ้มเกราะระดับ Abyss-Elite ที่กำลังล้อมรอบพวกเธอ ที่ฝั่งทางด้านซ้าย FrozenCloud ชื่นชมยินดีกับทะเลเพลิงแห่งใหม่ ซอมบี้พวกนี้ดูเหมือนกำลังจะเจอกับปัญหากับเปลวไฟจริงๆ เธอใช้ [Wyvern Kick] ส่งซอมบี้ตัวหนึ่งกลับเข้าไปข้างในเปลวไฟ ในขณะที่ DyedLily เอนตัว และหลบหนึ่งในการโจมตีของพวกซอมบี้ เธอใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ โดยการยกโล่ของเธอขึ้นและกระแทกซอมบี้กลับเข้าไปเปลวไฟ พวกเขายังคงจัดการกับซอมบี้ที่หลุดออกมาจากเปลวไฟกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนหลินหลี่นั้น เขาคอยเฝ้าระวังตรงขอบของเปลวไฟ และตีกระแทกพวกซอมบี้กลับไปในเปลวไฟราวกับเขากำลังเล่นเกมตีตัวตุ่น เขาโจมตีออกไปด้วยการฟันธรรมดา เพื่อประหยัดค่าความโกรธของเขาเอาไว้ใช้ในการโจมตีบอสในจังหวะสำคัญ

ในขณะที่จางเจิ้งเฉียงถูกปราบปรามโดยบอส OldWangFromNextDoor ก็สั่งให้ภูติน้ำของเขาชะลอความเร็วของบอสให้มากที่สุด ด้วยทะเลแห่งเปลวไฟทำให้เขาไม่สะดวกที่จะใช้เวทมนตร์โจมตีเป็นวงกว้างได้ ทางด้านอูนา เธอคอยใช้เวทมนตร์น้ำแข็งที่ใช้โจมตีเป้าหมายเดียวคอยสร้างความเสียหายอยู่ตลอดเวลา บอสซอมบี้สามารถหลบหลีกสกิล [Ice Spear] ของเธอได้อย่างง่ายดาย สิ่งนี้ทำให้เธอได้แต่ถอนหายใจ เมื่อบรรดาบอสเหล่านี้มีสติปัญญาที่สูงและปฏิกิริยาความเร็วที่มากเกินไป…

“เธอต้องพยายามใช้สกิล [Ice Spear] เมื่อเป้าหมายหยุดนิ่งหรือติดสตั้นอยู่เท่านั้น ฉันลองคำนวณดูแล้ว วิธีนี้คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดแล้ว เพราะมอนสเตอร์ระดับบอสสามารถตอบสนองได้รวดเร็วกว่าผู้เล่นมืออาชีพบางคนซะอีก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่เธอจะโจมตีโดน มันจะสิ้นเปลืองเปล่าๆ ถ้าเธอยังคงใช้สกิลอยู่แบบนั้น หรือบางที… ก่อนที่เธอจะโจมตี เธอลองใช้เย่เทียนเป็นดวงตาของเธอแทนดูสิ…” GreenDew วิเคราะห์

เย่เทียนพยักหน้า “เธอพูดถูกแล้ว ครั้งต่อไปถ้ามีโอกาส หนูจะแจ้งให้พี่รู้นะคะ…”

อูนาพยักหน้า เธอมีประสบการณ์น้อยเกินไป เธอมองไปที่เย่เทียน เธอ… ช่างมันเถอะ เย่เทียนแตกต่างจากคนอื่น IQ ของเย่เทียนมากกว่าเธอ และกลุ่มของเย่ฉางสามคนรวมกันซะอีก เพราะ IQ ของเย่เทียนมีมากกว่า 300!

ThornyRose ขมวดคิ้ว ‘เด็กคนนี้มีปัญหา เธอแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น’ เธอหันกลับมาพร้อมกับหลบหลีกการโจมตีของซอมบี้และโจมตีสวนกลับไป ตามด้วยการใช้โล่ทุบไปที่หน้าของซอมบี้จนระเบิดกระจุย จากนั้นเธอก็พุ่งเข้าไปหาซอมบี้ที่กำลังต่อสู้กับ FrozenBlood อยู่ พร้อมกับใช้สกิล [Heavy Strike], [Provoke]! ใส่มัน

สำหรับจางเจิ้งเฉียง ในขณะที่เขาพุ่งออกไปด้วยสกิล [Barbaric Tackle] เขาก็โจมตีออกไปด้วยขวานของเขา ทำให้บอสหยุดนิ่งชั่วครู่ แต่ตัวของจางเจิ้งเฉียงเองก็ถูกผลักกระเด็นถอยหลังกลับไปสองสามก้าว แต่ด้วยการที่บอสหยุดนิ่งเพียงชั่วครู่ ก็เพียงพอที่จะให้เย่ฉางยิงสกิล [Meteor Shot] ถูกเป้าหมายได้ ลูกศรเหล็กในราชินีผึ้งคากูพุ่งแทงไปที่หน้าอกของบอสซอมบี้ จนตอกมันไปตรึงกับโลงศพทันที ส่วนอาวุธเงาของเย่ฉางก็ยิงเหล็กในราชาผุ้งคากูออกไป และด้วยการซ้อนทับกันของพิษทั้งสองชนิด ทำให้เกิดระเบิดค่าความเสียหายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา แต่ค่าความเสียหายทั้งหมดก็ต่ำกว่าที่เขาคาดคิดไว้เป็นอย่างมาก เพราะว่ามอนเตอร์ประเภทซอมบี้หรืออันเดทนั้น มีความต้านทานต่อพิษสูงเป็นอย่างมาก

ลูกศรเหล็กในทั้งสองไขว่กันเป็นรูปตัว X ทำให้บอสซอมบี้ระดับนายพลถูกตอกและถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับทำให้บอสซอมบี้ติดสตั้นเป็นเวลาชั่วครู่ จางเจิ้งเฉียงได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และใช้สกิล [Holy Judgement]! ขวานยักษ์ของเขาเปล่งแสงสีขาวออกมา ในขณะที่เขาสับใส่บอสซอมบี้อย่างรุนแรง 3 ครั้งซ้อน การโจมตีครั้งที่ 3 ของเขาติดคริติคอล ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายที่น่าสะพรึงกลัวต่อบอสซอมบี้ ระยะเวลาการติดสตั้นได้เพิ่มขึ้น! ขวานยักษ์ของจางเจิ้งเฉียงได้สับลงไปอย่างรุนแรงอีกครั้ง เหลือทิ้งไว้เพียงบาดแผลที่ลึกและสาหัสเป็นอย่างมาก! เย่เทียนใช้โอกาสนี้ส่งสกิล [Pearls of Light] โจมตีไปที่บอสซอมบี้ จนก่อให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงออกมา ร่างของบอสซอมบี้เริ่มที่จะปลดปล่อยควันสีขาวออกมา ภายใต้การโจมตีของธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองครั้ง ร่างของบอสซอมบี้ก็ราวกับว่า มันถูกเกลือซัดสาดไปที่บาดแผล

เย่ฉางกวัดแกว่งหอกสีดำของเขา และพุ่งชาร์จเข้าไปด้วยสกิล [Dashing Straight Thrust] และเพิ่มพลังให้หอกด้วยสกิล [Flame Blade] และ [Fire Lotus] จากนั้นเขาก็แทงหอกออกไปอย่างรวดเร็วด้วยสกิล [Multiple Straight Thrusts] จนก่อให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงของเปลวไฟ เมื่อเขาเห็นถึงสัญญาณการหลุดออกจากสถานะสตั้นของบอสซอมบี้ เขาจึงหันกลับไป และส่งร่างเงาไปสนับสนุน FrozenCloud ที่ดูเหมือนกำลังพบเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจัดการซอมบี้ทั้ง 2 ตัว ร่างเงาพุ่งออกไปโจมตีด้วยสกิล [Dashing Straight Thrust] แทงทะลุไปที่เบ้าตาของซอมบี้ แล้วเตะซอมบี้กลับไปในเปลวไฟอีกครั้ง

“ขอบคุณค่ะ หัวหน้าทีม…” FrozenCloud ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ซอมบี้พวกนี้โหดร้ายเกินไป เธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมากในการที่จะฆ่าพวกมันลงได้แต่ละตัว

มือสองข้างของเย่ฉางเริ่มเรืองแสงด้วยเปลวเพลิง เขาใช้ [Light Strike Array] ยิงไปทางด้าน ThornyRose, FrozenBlood และ SpyingBlade ที่กำลังสกัดกั้นเหล่าซอมบี้กันอยู่ เขาพยายามเล็งอย่างดีที่สุดเพื่อมุ่งเน้นให้สกิลของเขาไปโดนเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลออกไป ThornyRose กำลังจะไล่ตาม แต่เมื่อเธอรู้สึกว่าเปลวไฟที่ใต้ฝ่าเท้าของเธอกำลังร้อนแรงมากยิ่งขึ้น เธอจึงรีบถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว เพียงในเวลาชั่วครู่เธอก็เห็นแสงจ้าและเปลวไฟลุกโชนพุ่งขึ้นผ่านมาปลายจมูกของเธอไปนิดเดียว จนเธอเกือบที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอหันกลับไปจ้องมองเย่ฉาง “ระวังสกิลที่โจมตีเป็นวงกว้างของนายหน่อย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันรุนแรงมากขนาดนี้!”

“มันไม่เป็นไรหน่า ฉันได้คำนวณเอาไว้หมดแล้ว อย่างมากที่สุด เธอก็แค่ถูกฆ่าตายในการระเบิดของเปลวไฟเท่านั้นเอง…” เย่ฉางโบกมือให้กับเธอ และบอกกับเธอว่าไม่ต้องคิดมากเกินไป

‘เชี่ย! นายหมายความว่าไง… อย่างมากที่สุด? ฉันจะถูกฆ่าตายในการระเบิดของเปลวไฟเท่านั้นเอง!? นี่คือจุดประสงค์หลักของนายใช่ไหม!? นายกำลังทำเหมือนกับว่ามันเป็นอุบัติเหตุโดยไม่ได้ตั้งใจสินะ? นายต้องการที่จะฆ่าฉันต่างหากล่ะไอเวรเอ๊ย!’

เย่ฉางยังคงร่ายสกิล [Flame Burst] โดยไม่สนใจอะไร เขาใช้สกิลเล็งไปที่ซอมบี้ทั้ง 2 ตัวที่กำลังโจมตี DyedLily อยู่ [Flame Burst] ได้พุ่งเข้าไปขนกับซอมบี้ทั้ง 2 ตัว จนพวกมันทั้ง 2 ตัวลอยกระเด็นออกไป ส่วน DyedLily เธอได้รับผลกระทบจากคลื่นกระแทกของสกิล [Flame Burst] ที่พุ่งเข้ามากระแทกซอมบี้จากด้านหลังเพียงเล็กน้อย และทำให้เธอได้รับความเสียหายเพียงแค่ 10 หน่วยเท่านั้น เธอหันกลับไปมองที่เย่ฉาง ผู้ที่ไม่หันมามองเธอแม้แต่นิดเดียว ‘เขาเป็นคนที่อ่านสถานการณ์ได้อย่างเด็ดขาดมากจริงๆ ฉันพบเจอปัญหาในระหว่างการต่อสู้กับซอมบี้ระดับ Abyss-Elite ทั้ง 2 ตัว มันเป็นเรื่องยากเกินไปที่ฉันจะสามารถต่อสู้กับซอมบี้ทั้ง 2 ตัวพร้อมกันได้ ด้วยอุปกรณ์และสกิลที่ฉันมี ฉันไม่สามารถเทียบกับ ThornyRose ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนพี่ใหญ่จ้าวแห่งเพชร เขาเป็นคนเดียวที่สามารถเผชิญหน้ากับบอสได้ด้วยตัวคนเดียว…’ เธอพยักหน้าให้กับเย่ฉาง “ขอบคุณ…”

“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่นานเธอก็จะกลายเป็นน้องสะใภ้ของฉันแล้ว…” เย่ฉางยิ้ม

จางเจิ้งเฉียงมีขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นมาทันที “เพื่อน เธอเป็น!? เธอยอมรับแล้วงั้นหรือ!? งั้นเราหยุดสู้บอสกันเถอะ เราต้องรีบไปศูนย์บริหารพลเรือนเพื่อจดทะเบียนสมรสกันเถอะ”

“ไปตายซะ!” DyedLily ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด

หมัดซ้ายของจางเจิ้งเฉียงพุ่งเข้าไปปะทะกับบอสซอมบี้ด้วยการชกที่หนักหน่วง หมัดของเขาส่งแรงระเบิดไปที่หน้าอกของบอสซอมบี้ และเจาทะลวงไปเข้าไปข้างในตัวบอสผ่านบาดแผลที่เย่ฉางได้สร้างเอาไว้ หลังจากที่จางเจิ้งเฉียงใช้สกิล [Rainbow Slam] มือของเขาก็ยังคงอยู่ภายในหน้าอกของบอส ด้วยมือของเขาที่ยังคงอยู่ภายในร่างของบอส เขาจึงรีบเปิดใช้งานสกิล [Desperate Prayer] ที่อยู่ภายในแหวนของเขาทันที สกิล [Desperate Prayer] ได้ฮีลเพื่อนร่วมทีมทุกๆคน ในขณะที่ยังคงสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงให้กับอันเดทด้วยเช่นกัน ความเสียหายที่ร้ายแรงได้เด้งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเขาก็หันกลับมองไปทาง ThornyRose สายตาของเขาดูเหมือนจะสื่อคำพูดออกมา ‘ทั้งหมดนี่มันขึ้นอยู่กับเธอแล้ว พี่สาวโรส’

“……” ThornyRose

ระหว่างการต่อสู้ที่ยากลำบากของเธอ จู่ๆขาของ ThornyRose ก็เริ่มอ่อนแรงลงเมื่อเห็นสายของจางเจิ้งเฉียง ‘เฮ้ นายยังต่อสู้กับบอสอยู่นะ! นายสามารถคิดฟุ้งซ่านได้ด้วยงั้นหรือ?! นายยังไม่ได้เอามือออกมาจากร่างของมันเลยนะ!’ ขณะที่เธอกำลังคิดกับตัวเองอยู่นั้น แต่ทันใดนั้นหลินหลี่ก็หายตัวไป! ‘นี่คือเหตุผลสินะ!’ เธอเฝ้ามองในขณะที่หลินหลี่ปรากฏตัวออกมาในจุดบอดของบอสซอมบี้พร้อมกับสกิล [Handcart Homerun]! จางเจิ้งเฉียงย่อตัวลงด้วยความสงบ หลบการกวัดแกว่งรถเข็นของหลินหลี่ที่พุ่งเข้ามา บอสซอมบี้ถูกส่งจนลอยกระเด็นออกไป พร้อมทั้งลากจางเจิ้งเฉียงไปกับมันด้วย หลินหลี่ไล่ตามทั้งบอสซอมบี้และจางเจิ้งเฉียง เมื่อมาถึงเขาก็รัวสกิลใส่บอสไม่ยั้ง [Handcart Charge]! [Handcart Tornado]! [Sword Drawing Arts]! [Whirlwind Strike]! [Rising Slash]! [Armed Destruction]! ในขณะที่เขากำลังล้มตัวลง เขาก็เหวี่ยงกระเป๋าออกของเขาออกไปปลดปล่อยระเบิดเพลิงระดับสูงเผาไหม้และกลบฝังบอสไว้ที่ตรงนั้น เขาแทงดาบยักษ์ซ้ำเข้าไปตรงหน้าอกของบอสซอมบี้ จากนั้นเขาก็เริ่มแหงนหน้าไปที่เพดาน และเริ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“วะ ฮ่าๆๆๆ ใครจะเป็นรายต่อไป!!!”

 

 

 


ตอนที่ 403

 

‘เฮ้! ระบบยังไม่ได้ประกาศว่าบอสตายเลยนะ!?’ ThornyRose มองไปยังหลินหลี่ที่กำลังหัวเราะด้วยเสียงที่ดังกึกก้องอย่างหมดคำพูด เธอกำลังจะเอ่ยเตือนเขา “หลินหลี่! มันยัง…”

จากภายในเปลวไฟ ขวานที่ปกคลุมด้วยเงาที่มืดมิดส่งหลินหลี่กระเด็นลอยไปยังกำแพงที่อยู่ไกลออกไป เมื่อเขากระแทกเข้ากับกำแพง มันก็เกิดการระเบิดขึ้นของผลึกน้ำแข็งแห่งความมืด ทำให้หลินหลี่เหลือพลังชีวิตไม่ถึง 10% เขาคลานขึ้นมาจากพื้นดินด้วยความเจ็บปวด

“โครตเจ็บเลยโว้ยย…”

‘ความผิดพลาดนี้คืออะไร? มันจะทำให้นายตายงั้นหรือ ถ้านายจะโชว์ออฟก็ทำให้น้อยลงกว่านี้หน่อย!?’ ThornyRose ได้แต่เอามือก่ายหน้าผาก บางครั้งหลินหลี่ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งจนคู่ต่อสู้รู้สึกท้อแท้ แต่บางครั้งเขาก็โง่เง่ามากเกินไปนัก จนทำให้คนอื่นๆอยากจะหวดเขาให้ติดกำแพงซะเหลือเกิน เธอมองไปยังอากาศเย็นยะเยือกที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากบอส เปลวไฟบนร่างกายของมันดับลงโดยพลังงานน้ำแข็งแห่งความมืด ฉากที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้านี้ แทบจะทำให้ผู้คนร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวเลยทีเดียว

“เร่งความเร็วขึ้นอีก! เปิดใช้สกิลบัฟหมู่นั้นของนายเร็วเข้า!” ThornyRose ตะโกนออกมา

เย่ฉางโบกมือของเขาอย่างลวกๆ “[Tactics-Pursuit!]”

ทันใดนั้น ทุกๆคนก็ได้รับรู้ว่า ไม่เพียงแต่การเคลื่อนไหวจะรวดเร็วขึ้น แต่ความเร็วในการโจมตีของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก พวกเขายังสามารถเลือก 1 ใน 2 ตัวเลือกของสกิลที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งด้วยสกิล [Charge] หรือ [Escape]

SpyingBlade เลิกคิ้วขึ้น ‘โอ้~ สกิลนี้มีประโยชน์อย่างมาก สมกับเป็นความสามารถพิเศษระดับ Heroic จริงๆ สกิลนี้เน้นการสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม แถมยังมีออร่าติดตัวที่เพิ่มความรวดเร็วให้แต่ละคนอีกด้วย’

จางเจิ้งเฉียงรีบพุ่งเข้าไปพัวพันกับบอสอีกครั้งด้วยสกิล [Barbaric Charge] เขาขบคิดกับตัวเอง ‘สกิลประจำวัน 1 ใน 4 ความสามารถของแหวนถูกนำมาใช้ไปแล้ว ฉันยังคงใช้สกิล [Desperate Prayer] ได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น ฉันควรจะเก็บสกิลนี้เอาไว้ก่อนดีไหม? หรือจะใช้ตอนนี้เลย?’

ThornyRose สังเกตเห็นว่าจางเจิ้งเฉียงกำลังวางแผนที่จะใช้สกิล [Desperate Prayer] “อย่าเพิ่งใช้สกิลนี้! เก็บเอาไว้ก่อน! บอสมันยังไม่ได้ท่าไม้ตายของมันเลย นายเก็บตัวเลือกสกิลนี้เอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน!”

จางเจิ้งเฉียงพยักหน้า และเริ่มที่จะเข้าไปเผชิญหน้ากับบอส และโชว์ความสามารถในการเป็นตัวแท้งค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสโมสร Thorns and Roses ThornyRose พุ่งเข้าไปยังตำแหน่งของ DyedLily ที่กำลังรับมือกับซอมบี้ทั้งสองตัว DyedLily ก็พุ่งสลับตำแหน่งเพื่อไปแทนที่ตำแหน่งเดิมของ ThornyRose เมื่อหลินหลี่ลุกขึ้นมา เขาได้บดขยี้เหรียญทองภายในมือ เพื่อเปิดใช้งานสกิล [Power of Money] และ [Money Maintenance] ทำให้พลังชีวิตของเขาฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเผชิญหน้ากับซอมบี้ตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับกองไฟ เขาจึงใช้สกิล [Rash Slash] กระแทกมันลอยขึ้นไปกลางอากาศ! ล้มเหลว? จากนั้นเขาจึงใช้สกิล [Trade Secret]! [Shamelessness]! เพื่อเคาะกระแทกมันลอยขึ้นไปกลางอากาศอีกครั้ง! ล้มเหลว! อย่างไรก็ตาม หลินหลี่ก็คงยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เขายังคงใช้สกิล [Shamelessness] ใส่มันอีก! ประสบความสำเร็จ! ครั้งต่อไปที่เขาสามารถใช้สกิลนี้ได้คือ 30 วินาที ซอมบี้ถูกส่งลอยขึ้นไปกลางอากาศโดยการสวิงดาบของหลินหลี่ ThornyRose หันกลับมามองการโจมตีของเขา นั่นอาจเป็นความสามารถพิเศษ [Shamelessness] ของเขา! มันดูยุ่งเหยิงมากจริงๆ สกิลนี้ไม่มีเป็นประโยชน์กับสกิลประเภทที่ประสบความสำเร็จแน่นอน 100% แต่เหมาะสำหรับสกิลที่มีโอกาสสำเร็จเป็นอย่างมาก สกิลนี้สามารถลองใหม่ได้ 2 ครั้ง ทุก 30 วินาที ช่างเป็นที่สกิลที่สมกับชื่อของมันจริงๆ …

TN: ต้องขอโทษด้วยครับ เกี่ยวกับสกิล [Trade Secret] ของหลินหลี่ที่ทางผู้แปล ENG แปลผิด สกิลนี้ทำให้หลินหลี่สามารถใช้สกิล [Shamelessness] ได้ 2 ครั้งภายใน 30 วินาทีครับ

หลังจากที่หลินหลี่สวิงดาบหวดซอบบี้ลอยออกไป เขาไม่ได้ไล่ตามซอมบี้ที่ลอยออกไป แต่เขาเลือกที่จะพุ่งเข้าไปหาซอมบี้ตัวที่อยู่ใกล้ๆกับเย่ฉางที่กำลังหลบหนีออกจากเปลวไฟแทน เย่ฉางใช้สกิล [Dashing Straight Thrust] ใส่ซอมบี้ที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยฝีมือของหลินหลี่ และโจมตีคอมโบใส่ซอมบี้ตัวนั้นแทน [Multiple Straight Thrusts]! [Straight Thrust]! จากนั้นเขาก็ดึงบาลิสต้าออกมาจากกลางอากาศ และเล็งไปที่ซอมบี้ชั้นสูงที่อยู่บนพื้น [Enchant Arrow – Fire]! ลูกศรไฟยิงเจาะเข้าไปที่หัวของซอมบี้ จนมันตายทันที

FrozenBlood ต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับซอมบี้ ซึ่งเธอไม่พบปัญหาอะไรที่ยากลำบากมากนัก แต่พลังชีวิตของซอมบี้พวกนี้สูงมาก จนทำให้เธอรู้สึกอับจนหนทางจริงๆ เธอต่อสู้กับซอมบี้ตัวนี้มานานมากแล้ว เธอเห็นจางเจิ้งเฉียงกำลังต่อสู้กับบอสซอมบี้ ถึงแม้ว่าเขาจะเสียเปรียบในด้านความแข็งแกร่ง และถูกผลักถอยกลับไปสองสามเมตร แต่ด้วยสกิล [Tactics-Pursuit] ของหัวหน้าทีม เขาก็พุ่งกลับมาอย่างรุนแรงด้วยสกิล [Berserk Tackle] การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เลือดของจางเจิ้งเฉียงเดือดพล่านอย่างช้าๆ จนเขาสามารถผลักบอสซอมบี้กระเด็นออกไปได้เล็กน้อย ด้วยการฮีลที่ชาญฉลาดและการสนับสนุนที่ไว้ใจได้จากเย่เทียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สกิล [Healing Chain] ที่เธอสามารถใช้ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะจนน่าสะพรึงกลัวเลยทีเดียว เมื่อเธอฮีลจางเจิ้งเฉียง เพื่อให้เขาสามารถยืนหยัดต่อสู้กับบอสได้แล้ว สกิลฮีลของเธอก็จะชิ่งไปโดน SpyingBlade ที่อยู่ใกล้ๆ จนท้ายที่สุดสกิลฮีลของเย่เทียนก็ชิ่งมาโดนเธอเป็นคนสุดท้าย เมื่อถึงเวลาที่ฮีลชิ่งมาโดยตัวเธอเป็นคนสุดท้าย ผลของสกิล [Healing Chain] ก็สามารถเทียบเท่าได้กับสกิล [Healing Light] เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าการฮีลเป้าหมายแรกจะฮีลได้เพียงครึ่งเดียว แต่สกิล [Healing Chain] มักจะฮีลลดลงเรื่อยๆ ในการชิ่งแต่ละครั้ง ผลของสกิลฮีลนี้มักจะอยู่ระหว่าง 25-50% ซึ่งความรุนแรงจากการฮีลของเธออาจจะเกี่ยวข้องกับค่าสถานะ เลเวลสกิล และความสามารถพิเศษของเธอก็ได้

เนื่องจากสกิลของเย่ฉางทำให้คนอื่นๆ สามารถโจมตีได้รวดเร็วราวกับพายุ จนซอมบี้ชั้นสูงทั้ง 5 ตัวถูกจัดการลงไปได้อย่างง่ายดาย ทันใดนั้นบอสซอมบี้ก็ได้ระเบิดพลังงานน้ำแข็งแห่งความมืดออกมาอย่างฉับพลัน ทำให้พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทันท่วงที พลังงานน้ำแข็งแห่งความมืดได้ปลุกคลุมไปทั่วทั้งห้อง และสักพักมันก็แปรเปลี่ยนไปเป็นร่างผลึกน้ำแข็งแห่งความมืด ทำให้ความเร็วของทุกคนลดลง 15% และได้รับความเสียหายจากการระเบิด 35 หน่วย ไม่ถึงหนึ่งวินาทีหลังจากนั้น บอสซอมบี้ก็คำรามออกมา ก่อให้เกิดการระเบิดพลังงานน้ำแข็งที่มืดมิดออกมาจนเป็นระลอกคลื่นอีกครั้ง ระลอกคลื่นพลังงานน้ำแข็งแห่งความมืดได้กวาดผ่านพวกเขาทุกคนอีกครั้ง คลื่นพลังงานที่กวาดผ่านไม่มีทางหลบได้อย่างแน่นอน! ทุกคนได้รับความเสียหายจากธาตุน้ำแข็งและธาตุความมืดอีก 35 หน่วย ดีบัฟได้ทับซ้อนกันจน ความเร็วลดลงไป 30%! จางเจิ้งเฉียงเห็นความหนาวเหน็บในดวงตาของบอสซอมบี้ ก่อนที่มันจะคำรามออกมาอีกครั้ง พร้อมกับปล่อยพลังงานการระเบิดออกมาอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนได้รับความเสียหายจากธาตุน้ำแข็งและธาตุความมืดอีก 50 หน่วย และดีบัฟได้ซ้อนทับกันอีกครั้ง นี่เป็นดีบัฟที่ซ้อนทับกันถึง 3 ครั้งแล้ว! ความเร็วในการเคลื่อนที่ และความเร็วในการโจมตีของพวกเขาลดลงไปถึง 50%! พวกเขาได้เข้าสู่สภาวะหวาดกลัวโดยทันที… ทะเลแห่งเปลวเพลิงยังถูกดับด้วยพลังงานน้ำแข็งแห่งความมืด แปรเปลี่ยนห้องนี้ให้กลายเป็นห้องเก็บน้ำแข็งที่มืดมิดทันที…

ThornyRose คิดกับตัวเอง ‘แย่แล้ว! ทุกคนได้รับผลกระทบจากสถานะหวาดกลัว เอ๊ะ!? ทำไมหลินหลี่กับเจ้าหมียักษ์ไม่ได้รับผลกระทบกันล่ะ? หรืออาจจะเป็นเพราะว่าค่าสถานะ Will ที่สูงของพวกเขากัน! ถ้าเพียงแต่เย่ฉางไม่ได้รับผลกระทบล่ะก็ กลองของเขาก็อาจจะทำให้พวกเราหลุดพ้นจากสถานะข่มขู่นี้ได้!’

เย่ฉางเปิดใช้งานสกิล [Swift Retreat] เพื่อยกเลิกดีบัฟที่ติดกับตัวเอง! เขาตีกลองที่อยู่ตรงเอวของเขา คลื่นเสียงได้ปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมา และหลุดพ้นจากสถานะหวาดกลัว หลินหลี่ขว้างปาระเบิดเพลิงระดับสูงราวกับโยนเศษเงิน เพื่อดึงอุณหภูมิภายในห้องให้กลับมาสูงดังเดิม ผลึกน้ำแข็งแห่งความมืดค่อยๆเริ่มละลายลง

ThornyRose มองไปยังจางเจิ้งเฉียงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากดีบัฟทั้ง 3 ครั้ง ค่าสถานะ Will ของเขาสูงมาก เพียงหนึ่งในความสามารถพิเศษของเขาก็เพิ่มค่า Will ให้กับตัวเองถึง 10%! เป็นความจริงที่ว่า เขาได้รับค่าสถานะต่างๆจากความสามารถพิเศษและอุปกรณ์ต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นคลาสอาชีพของเขาก็ยังเป็น 1 ใน 2 อาชีพที่มีค่า Will ที่สูงที่สุดอีกด้วย! นักบวช! นักบวชมักมีความต้านทานต่อผลกระทบทางจิต! ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักบวชนอกรีต แต่ออร่าของเขาก็ยังเพิ่มความต้านทานต่อผลกระทบทางจิตให้กับคนอื่นได้ไม่มากก็น้อยอยู่ดี! อาชีพอื่นๆที่มีความต้านทานต่อผลกระทบทางจิตก็คืออาชีพนักเวทลวงตา! อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เน้นไปทางเวทมนตร์จิตวิญญาณและดีบัฟต่างๆ

ฟางชิรู้สึกกระอักกระอ่วน เมื่อเขาหันไปมองบาลี่ที่กำลังหวาดกลัวเปลวไฟ สิ่งที่น่าอนาถใจสำหรับเขาเป็นอย่างมากก็คือ การใช้อันเดทต่อสู้กับอันเดทในทะเลแห่งเปลวเพลิง มันจะยิ่งน่าอนาถใจมากยิ่งขึ้น ถ้าใช้อันเดทต่อสู้กับอันเดทในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ อันเดทเป็นมอนเตอร์ที่ได้รับการยกเว้นจากสกิลประเภทคำสาปต่างๆ หรือถ้าคำสาปร้ายแรงมากจริงๆ เหล่าอันเดทจะโดนผลของคำสาปเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น…

พลังต่อสู้ของหวังได้ลดลงตามสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน เขามักจะพึ่งพาภูติน้ำของเขา แต่ตอนนี้มีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะให้ภูติน้ำของเขาอยู่นอกทะเลเปลวเพลิงได้ และทำให้เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์น้ำแบบวงกว้างได้อีกด้วย เขาทำได้เพียงสร้างความเสียหายด้วยดาเมจที่น่าเวทนาเป็นอย่างมาก อย่างน้อยเขาก็ยังไม่ได้ตกต่ำถึงขนาดเจ้าซอสอ่อนและเจ้าฟ้าน้อยที่กำลังเต้นแร้งเต้นกายืนเชียร์อยู่ที่หน้าทางเข้า…

ThornyRose ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เนื่องจากไม่มีการสูญเสียสมาชิกภายในทีม! ต้องขอบคุณสกิล [Desperate Prayer] ของจางเจิ้งเฉียง ที่สามารถช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังครั้งนี้ไปได้ นี่เป็นสกิลที่ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อต้องต่อสู้กับอันเดท ไม่เพียงแต่จะมีดาเมจที่รุนแรงและระยะที่กว้างมาก แต่สกิลนี้ยังสามารถช่วยชีวิตผู้เล่นภายในทีมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จากระยะไกล เย่ฉางกำลังแสดงออกถึงการร่ายเวทมนตร์ และทำมือเป็นสัญลักษณ์อย่างเงียบๆ…

 

 

 


ตอนที่ 404

 

“เวทมนตร์ที่ชั่วร้าย! จงแตกสลายไปซะ!” เย่ฉางยกมือขึ้นและตะโกนออกมา สกิล [Mark of the Wild] ถูกร่ายให้ทั้งปาร์ตี้ ทุกคนได้รับผลกระทบจากพลังงานธรรมชาติที่อบอุ่น สกิลนี้มันใช้มานาเกือบครึ่งหนึ่งของเย่ฉางเลยทีเดียว

Mark of the Wild – Beginner Level :ร่ายเวทอย่างทันทีโดยพันธมิตรรอบๆจะได้รับ +15 ค่าสถานะทั้งหมด, +50 ความต้านทานเวทธรรมชาติ, +15 พลังป้องกันและฟื้นฟู 1 Hp ทุกๆ 4 วินาที เป็นเวลา 3 ชั่วโมง

“นายแอบเก็บบัฟหมู่ที่ทรงพลังมาเพื่อใช้ตอนนี้นี่นะ!!” หน้าอกของ ThornyRose บีบรัดแน่น เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นสกิลการโจมตีที่ทรงพลังเพื่อจะได้ปลิดชีวิตบอส แต่มันกลับกลายเป็นบัฟอันทรงพลังแทน เธอถอนหายใจ “สกิลนี้มีระยะเวลาในการร่ายนานแค่ไหน?”

“ร่ายปุ๊บใช้ปั๊บ …” เย่ฉางยักไหล่

ThornyRose แข็งค้างทันที ‘แล้วทำไมนายถึงร่ายเวทอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน!?’ ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ความโกรธของเธอกำลังจะระเบิดออกมา “นี่นาย…”

“อย่าเพิ่งเสียสมาธิ เธอตั้งใจต่อสู้หน่อยสิ พวกเรากำลังต่อสู้กับบอสอยู่นะ … เธอนี่จริงๆเลย!” เย่ฉางมองเธออย่างดูถูก จากนั้นเขาหยิบบาลิสต้าออกมาและเริ่มเล็งใส่บอส

ดวงตาสองข้างของ ThornyRose เกือบจะยิงเปลวเพลิงออกมาได้ เมื่อจ้องมองไปที่ก้นของเขา

FrozenBlood รีบดึงเธอออกไปและเข้าร่วมต่อสู้กับบอสพร้อมกับคนอื่นๆ “ใจเย็นไว้ก่อน หัวหน้าทีมคงมีเหตุผลในการทำแบบนั้น…”

ThornyRose ระงับความโกรธของเธอและถามอย่างสงสัย “เหตุผลอะไร?”

“ต้องการโชว์ออฟไง …” FrozenBlood ยักไหล่และพูดอย่างใจเย็น ขณะที่เธอปลดปล่อยการโจมตีดั่งพายุใส่บอสซอมบี้

“……” ThornyRose รู้สึกเหมือนว่าเธอหายใจไม่ออก ‘นี่ฉันคบกับคนประเภทไหนเนี่ย …’

หลังจากที่ซอมบี้ชั้นสูงถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว บอสซอมบี้ก็โดนพวกเขาล้อมรอบไว้ ด้วยการแท้งค์บอสอย่างมีประสิทธิภาพของจางเจิ้งเฉียง ทำให้ทุกคนสามารถโจมตีใส่บอสซอมบี้ได้อย่างง่ายดาย ในที่สุด หลินหลี่ก็หมุนตัวและเปิดใช้สกิล [Sword Drawing Art] ตัดบอสซอมบี้ออกเป็นสองส่วน แต่ก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อ GreenDew ที่ได้รับคำสั่งให้ช่วยปกป้องศพบอสจากมือที่ต้องสาปแช่งของเย่ฉาง เธอยืนเฝ้าระวังอยู่ด้านหลังบอส แต่ถูกตัดหัวด้วยดาบยักษ์ของหลินหลี่ไปพร้อมกับบอส FrozenBlood เงยหน้าขึ้นและมองหัวของ GreenDew ที่พุ่งเข้ามา ‘เมื่อหลินหลี่เปิดฉากโจมตี ฉันมักจะซ่อนตัวอยู่ห่างๆ เพราะมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ดีว่าเขาจะทำอะไรลงไปบ้าง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรือสองครั้งที่ฉันเกือบจะเสียชีวิตด้วยฝีมือเขา ถ้าความเร็วและปฏิกิริยาตอบสนองของฉันช้า ฉันก็คงมีจุดจบเหมือนกับเธอ…’

“พี่ใหญ่ขาว ผมคิดว่าได้เผลอฆ่าคนแปลกหน้าไป แต่มันเป็นอุบัติเหตุนะ…” หลินหลี่พาดดาบยักษ์ไว้บนไหล่ของเขา และกระพริบตาปริบๆมองหัวคนแปลกหน้าที่ลอยออกไปไกล

ThornyRose แข็งค้าง ความสามารถในการจดจำใบหน้าผู้คนของหลินหลี่ทำให้เธอตกตะลึง ‘GreenDew เคยอยู่กับพวกเขามานานแล้ว แต่ทำไมเขาถึงยังจำไม่ได้!’

“หลินหลี่ เธอคนนี้ชื่ออะไร?” FrozenBlood ดึง Little Jade เข้ามา และชี้ไปที่เธอ

“Little Jade!” หลินหลี่ยิ้ม

“การมีตัวตนของ GreenDew ไม่ได้มีค่าเท่ากับ Little Jade เลย …” FrozenBlood พึมพำ Little Jade สั่นสะท้าน เธอควรรู้สึกดีใจไหมที่ได้ยินแบบนี้!!

“หลินหลี่ คนๆนั้นเป็นเพื่อนของเรา ฉันคิดว่าเธอน่าจะมีชื่อว่า GreenDuck …” เย่ฉางยิ้ม ขณะที่เขาเดินเข้าไปหาศพบอส

‘เธอมีชื่อว่า GreenDew !’ ThornyRose พูดอะไรไม่ออกและพุ่งเข้าไปจับตัวเขาไว้ อูนายังยืนอยู่ระหว่างเขากับศพบอส เพื่อปกป้องมันจากการถูกค้นจากมือต้องสาป ในที่สุดพวกเขาต้องยอมให้เย่ฉางค้นศพซอบบี้ระดับสูงตัวหนึ่ง เพื่อลดความอยากกระหายของเขา ทุกคนดูเขาแตะที่นี่และที่นั่น แม้กระทั่งพลิกศพไปมา แต่ก็ไม่มีอะไรดร็อปออกมา พวกเขาต่างถอนหายใจลึกๆ

“สิ่งของที่เจ้าตัวนี้พกมา อาจจะอยู่กับศพตัวข้างๆมัน ในระหว่างการต่อสู้ ฉันเห็นพวกมันทั้งสองตัวกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างเมื่อตอนอยู่ในกองไฟ มันต้องถ่ายโอนสิ่งของทั้งหมดไปให้กับตัวนี้แน่ๆ …” เย่ฉางพูดอย่างจริงจัง แล้วก็เดินเข้าไปหาศพซอบบี้ระดับสูงที่อยู่ข้างๆ อย่างไรก็ตาม เขาถูกขวางโดยทุกคนทันที ThornyRose และผู้หญิงทุกคนคำรามออกมา “ให้นายค้นศพไปหนึ่งตัวก็ดีแค่ไหนแล้ว! อย่าคิดไปค้นศพอื่นอีก!!”

“เฮ้อ พวกเธอจะต้องเสียใจ นี่จะเป็นอีกครั้งที่พวกเธอปล่อยให้อุปกรณ์ระดับพระเจ้าหลุดมือไป …” เย่ฉางพูดอย่างใจเย็นและถอนหายใจ ทุกคนกลอกตาและจ้องมองเขาอยางสงสัยว่า ความเชื่อมั่นที่ไร้เหตุผลของเขามาจากไหนกัน …

เย่ฉางหยิบไอเทมที่หลินหลี่ได้ค้นมาและเริ่มแจกจ่ายพวกมัน มันมีอุปกรณ์ระดับ Gold 1 ชิ้น, อุปกรณ์ระดับ Distinguished 5 ชิ้น และหนังสือสกิล 2 เล่ม อุปกรณ์ระดับ Gold เป็นเครื่องประดับที่ทุกคนต้องการ …

Frozen Corpse Eye (Gold – Abyss – Uncommon)

ประเภท: เครื่องประดับ

ความต้องการ: ไม่มี

+7 ค่าสถานะทั้งหมด

+8 พลังป้องกัน

เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิด: 10 – 12

สร้างความเสียหายเพิ่มเติมจากธาตุน้ำแข็งและความมืด: 10

Shadow Frost Roar : เปิดใช้งานเพื่อสร้างพลังงานในรูปแบบคลื่นวงแหวนน้ำแข็งแห่งความมืดกระจายออกไปรอบๆตัว 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะก่อให้เกิดความเสียหายความมืดและธาตุน้ำแข็ง 25 หน่วย มีโอกาสทำให้เป้าหมายกระเด็นและได้รับ 1 การซ้อนทับ เมื่อเป้าหมายสะสมครบ 3 การซ้อนทับ จะติดสถานะหวาดกลัวเป็นเวลา 3 วินาที และสร้างความเสียหายความมืดและน้ำแข็ง 50 หน่วย คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง

ThornyRose เดินเข้ามาดูใกล้ๆ มันไม่เพียงแต่จะเพิ่มพลังป้องกัน แต่มันยังมีสกิลที่ทรงพลังเช่น [Shadow Frost Roar] ที่น่าสังเกตมากก็คือ สกิลนี้เหมือนกับสกิลที่บอสเคยใช้เลย มันต่างกันเพียงแค่มีช่วงระยะที่แคบลงเท่านั้น

“เกี่ยวกับเครื่องประดับอันนี้ เราจะแบ่งกันยังไง?” เย่ฉางชู Frozen Corpse Eye ขึ้นมา ซึ่งปล่อยไอเย็นออกมาเป็นระลอก

“พวกนักเวททุกคนไม่เหมาะกับมัน เพราะเครื่องประดับอันนี้เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิด ฉันขอเสนอว่าควรมอบให้เจ้าหมียักษ์ …” SpyingBlade แนะนำ ถึงแม้เจ้าหมียักษ์จะมีเครื่องประดับอยู่แล้วก็ตาม แต่เขาก็มีมันไม่มาก คนที่มีเครื่องประดับมากนอกจากเย่ฉาง และ FrozenBlood แล้ว แทบไม่มีใครมีเลย แม้แต่หลินหลี่ก็ยังไม่มีมัน

“ฉันเห็นด้วย …” ThornyRose ถอนหายใจ ค่าสถานะของเครื่องประดับอันนี้มันเพิ่มให้ทุกค่าซึ่งมันเหมาะสำหรับคนที่เก่งรอบด้าน เพราะค่า Intelligence และค่า Wisdom นั้น มันไร้ประโยชน์สำหรับตัวเธอเอง แต่สำหรับเจ้าหมียักษ์ก็จะมีผลดีทีเดียว เครื่องประดับอันนี้ นอกเหนือจากเจ้าหมียักษ์แล้ว คงมีแค่ไอคนต่ำต้อยเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มศักยภาพ เพราะเขาก็เป็นประเภทเก่งรอบด้าน

ไม่มีใครคัดค้านเลยสักคนเดียว ขนาด DyedLily ยังพยักหน้า การให้มันแก่เขานั้น ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เขาเป็นตัวแท้งค์หลักของปาร์ตี้ในตอนนี้ และยังเป็นตัวแท้งค์ของสโมสรอีกด้วย อุปกรณ์และสกิลของเขาทั้งหมดนั้นก็น่าประทับใจมาก ThornyRose เคยบอกไว้ว่าเจ้าตัวแท้งค์คนนี้ได้รับการพัฒนามาจากนักบวช ดังนั้นค่า Intelligence และค่า Wisdom จึงมีประโยชน์ต่อเขา อีกทั้งสกิลของเครื่องประดับอันนี้เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในแนวหน้ามากกว่า เพื่อให้สามารถเข้าถึงศัตรูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ …

“ฮ่าๆๆ งั้นฉันก็ไม่ปฏิเสธแล้วกัน” จางเจิ้งเฉียงติดตั้งเครื่องประดับและหัวเราะ

“เครื่องประดับชิ้นต่อไปต้องเป็นของผมนะ …” หลินหลี่บุ้ยปากอย่างผิดหวัง

จากนั้นเย่ฉางแบ่งอุปกรณ์ระดับ Distinguished โดยฟางชิได้รับไป 2 ชิ้น และอีกสามคนในฝั่งของ ThornyRose ได้รับไปคนล่ะชิ้น ต่อไปก็คือหนังสือสกิล

Shadow Frost Strike (Uncommon – Abyss): โจมตีด้วยพลังงานน้ำแข็งแห่งความมืดใส่เป้าหมายอย่างรุนแรง สร้างความเสียหาย 185 หน่วย + 50% ความเสียหายจากธาตุน้ำแข็งและความมืดของผู้ใช้ (ความเสียหายจากธาตุจะได้รับโบนัสทั้งจากพลังโจมตีทางกายภาพและพลังโจมตีเวทย์) ลดความเร็วการเคลื่อนที่และการโจมตีของเป้าหมายลง 25% และลดเกราะ 15 หน่วย เป็นเวลา 5 วินาที นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะทำให้เป้าหมายกระเด็นและติดสตั้นอีกด้วย ใช้ 25 พลังงานและ 15 มานา คูลดาวน์ 5 นาที

Dark Ice Blade (Uncommon – Abyss) : ห่อหุ้มพลังงานน้ำแข็งแห่งความมืดให้กับอาวุธของคุณ ทำให้เพิ่มความเสียหายความมืดและธาตุน้ำแข็ง 22 หน่วย เมื่อโจมตีใส่เป้าหมายจะลดเกราะ 10 หน่วย และลดความเร็ว 15% เป็นเวลา 4 วินาที สามารถซ้อนทับกันได้ โดยการซ้อนทับแต่ล่ะครั้ง จะลดเกราะ 5 หน่วยและลดความเร็ว 5% สามารถซ้อนทับได้มากสุด 4 ครั้ง หรือ 3 นาที ใช้ 13 มานา คูลดาวน์ 3 นาที

 

 

 


ตอนที่ 405

 

ThornyRose มองไปที่หนังสือสกิลทั้งสองเล่ม และรู้ว่าพวกมันกำลังจะถูกนำไปให้คนๆเดียวใช้ เพราะไอคนต่ำต้อยเป็นคนที่มีพลังโจมตีเวทมนตร์สูงที่สุด สกิลทั้งสองนี้จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาอีกมาก เขาจะได้รับประโยชน์อีกครั้งหรือไม่? ไม่มีทางเสียหรอก!

“เราจะจ่าย 100 เหรียญทองสำหรับสองสกิลนี้!”

เย่เทียนเห็นแก่จำนวนสมาชิกที่มากของ Thorns and Roses เธอจึงเสนอราคาขึ้นมาและให้หักส่วนแบ่งจากหนี้ของพวกเธอแทน เย่ฉางหยิบหนังสือสกิลมาเรียนรู้ ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดของเขาสูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง ในตอนนี้เขามีความสามารถในการควบคุมระยะประชิดที่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เขาเหวี่ยงหอกของเขา ทำให้เกิดการระเบิดของพลังน้ำแข็งแห่งความมืดซึ่งบานสะพรั่งได้อย่างสวยงาม “ฮ่า ฮ่า ไม่เลวเลยทีเดียว …”

ThornyRose ถอนหายใจ การลดหนี้ของพวกเธอก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เธอมองไปรอบๆ และพบร่องรอยบนพื้นที่ถูกพลังของหอกฟาดใส่ ตอนนี้พวกเขาสามารถกลับมาเปิดประตูได้แล้ว

“ในตอนนี้ นายมีแผนอะไรบ้าง?”

“เดินไปในเส้นทางแห่งคมหอกของฉัน และกำจัดความชั่วร้ายในโลกนี้ให้หมดไป …” เย่ฉางยกหอกของเขาและพูดอย่างเคร่งขรึม จากนั้นเขาหยิบธนูหนักจาก ElegantFragrance คืนมา และเก็บบาลิสต้าไว้ในกระเป๋าเป้ของเขา

‘ไปตายซะ!’ ThornyRose ได้แต่กร่นด่าอยู่ในใจ เธออยู่ห่างจากการกลายร่างเป็นหมาบ้าที่โกรธกริ้วแค่เพียงนิดเดียว แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อการจบเควสของเธอและยังมีสิ่งมากมายที่ต้องทำในเมืองแบล็คร็อคแล้ว ทำให้เธอต้องฝืนทนมันเอาไว้ เธอหายใจเข้าลึกๆ

“ถ้าอย่างนั้นนายก็ทำของนายไปเลย แต่ฉันวางแผนที่จะย้ายฐานของกิลด์ไปยังเมืองบาล ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ดีในการเก็บเลเวลและอุดมไปด้วยทรัพยากร ที่สำคัญที่สุดก็คือเมืองบาลมีผู้เล่นน้อยมาก …”

เย่เทียนพยักหน้า มันเป็นความจริง สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนขุมสมบัติ ในอนาคตอาจจะมีกิลด์อื่นๆเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้กิลด์ Thorns and Roses ตั้งหลักปักฐานได้ นี่จึงเป็นทางเลือกที่ดี อย่างน้อยพวกเธอก็เป็นพันธมิตรกัน

“ตกลง แต่พวกคุณต้องช่วยในการก่อสร้างและการจัดการ …” เย่เทียนพูดขึ้นมา

“ฉันรู้แล้ว สำหรับผลกำไรนั้น …” ThornyRose และเย่เทียนเริ่มพูดถึงสิ่งที่เย่ฉางไม่ค่อยจะเข้าใจ แม้ว่าเขาจะพูดถึงโครงการต่างๆกับผู้คนใน 10 บทบัญญัติอยู่เสมอ แต่เขาไม่เคยมองไปที่ข้อตกลงเลยสักครั้ง เพราะเขามักจะแอบหลับอยู่ตลอด เลยพลาดในจุดสำคัญไป แต่อย่างไรก็ตาม เย่ฉางยังสามารถเข้าใจภาพกว้างๆได้อยู่ …

ทั้งปาร์ตี้จึงออกจากสุสาน ThornyRose ติดหนี้เย่ฉางเพิ่มขึ้นมาอีก โดยเธอขอซื้อน้ำยาฟื้นฟูมานาไปหลายถัง และยังซื้อสิ่งที่น่าขยะแขยงมากอย่าง หนอนยักษ์ทอดไปอีกหลายตัว ซึ่งมันสามารถเก็บรักษาไว้ได้เป็นเวลานาน

เย่ฉางมองดูก้นของ DyedLily และถอนหายใจ “ฉันยังไม่ได้ยืนยันด้วยมือของตัวเองเลย แต่เธอก็มีสะโพกที่ดีนะ อาเฉียง นายต้องทำงานหนักสักหน่อย …”

“แน่นอน เพื่อน …” จางเจิ้งเฉียงตบหน้าอกและยิ้มให้

ในระยะไกล DyedLily ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกหนาวเหน็บในก้นของเธอ เธอหันไปและเห็นจางเจิ้งเฉียง, เย่ฉาง, หลินหลี่ และเย่เทียน พวกเขาทั้งหมดชี้มาที่เธอ แต่เธอไม่รู้ว่าพวกเขากำลังชี้อะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม ความลึกลับที่หนาวเหน็บนั้นยังคงอยู่ ‘คนเหล่านี้เป็นพวกเพี้ยน!’ ทันใดนั้น ร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านขึ้นมา เธอรีบเดินเข้าไปอยู่ใกล้ๆกับ ThornyRose ขณะที่เอามือปิดก้นของเธอไว้

FrozenCloud ได้เห็นกลุ่มของเย่ฉางกำลังทำอะไรอยู่ ‘พวกนั้น …’ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็น จางเจิ้งเฉียงจ้องไปที่ DyedLily หัวใจของเธอรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงกระทุ้งศอกใส่เขาด้วยอารมณ์หงุดหงิด

จางเจิ้งเฉียงยกฝ่ามือบล็อคศอกของเธอได้อย่างง่ายดาย “น้องเล็กไดโน ไม่เอาน่า! ฉันรู้ความรู้สึกของเธอที่มีต่อฉัน แต่เราต้องคิดถึงเด็กที่เกิดมาสิ เพื่อให้พวกเขาดูหล่อเหลาเหมือนฉัน ด้วยเหตุนี้ฉันจึงมีลูกกับเธอไม่ได้ เฮ้อ…”

“ขอโทษด้วยนะน้องเล็กไดโน ถึงแม้ว่าเราจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ฉันสัญญากับพี่สาวของเขาไว้ว่า ฉันจะหาภรรยาที่สวยให้กับเขา นั่นคือคำมั่นสัญญาจากฉัน …” เย่ฉางพูดพร้อมกับมองไปที่เธอด้วยสีหน้าที่หดหู่

“……” FrozenBlood

อูนาและคนอื่นๆรู้สึกสับสน โดยเฉพาะ SpyingBlade ‘เธอเป็นน้องสาวของ FrozenBlood ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดในภาควิชาการแสดงของเมืองหลวง พวกเขาไม่รู้หรือไงกัน’ หลินหลี่เห็นสีหน้าของฟางชิและความสับสนของคนอื่นๆ เขาจึงเอารูปภาพหน้าไดโนเสาร์ของ FrozenCloud ออกมาโชว์ให้ทุกคนดู เมื่อหวังและฟางชิเห็น พวกเขาถึงกับเซถอยหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ FrozenCloud ด้วยการแสดงออกอย่างกระตือรือร้น SpyingBlade ถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น ‘ดังนั้น พวกนายทุกคนจึงคิดว่าเธอหน้าตาแบบนั้นมาก่อน … อย่างไรก็ตาม นี่มันเกิดจากการเล่นตลกของพระเจ้าหรือไงกัน? หรือว่ามีภัยพิบัติเกิดขึ้นที่สวรรค์ จึงเกิดใบหน้าแบบนี้ขึ้นมาบนโลกได้!’

FrozenCloud มีอารมณ์ที่ซับซ้อนมากมาย ถ้าเธอบอกความจริงไป เธอกลัวปฏิกิริยาของพวกเขา ที่สำคัญคือ นานะเคยบอกเธอเอาไว้ว่า สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดคือคนโกหก เธอชอบเย่ฉางเพราะเขาไม่เคยโกหกเธออย่างจริงจัง มากที่สุดเขาก็แค่พูดจาไร้สาระเท่านั้น FrozenCloud ชอบความจริงใจของเจ้าหมียักษ์ที่มีกับเธอ เขาเป็นคนเปิดกว้างและตรงไปตรงมากับความรู้สึก เขาเปิดเผยว่าเขาไม่ชอบคนหน้าตาไดโนเสาร์ แต่สำหรับตัวเธอเองนั้น เธอต้องพึ่งพาการโกหกเพื่อที่จะได้เข้าใกล้ชิดกับพวกเขา …

FrozenCloud ถอนหายใจ “ฉันก็ไม่ชอบผู้ชายตัวเท่าหมียักษ์แบบนายเหมือนกัน!”

หลังจากพูดเสร็จ เธอก็ดึงอูนาและเย่เทียนออกไป และเดินไปข้างหน้า

“อาเฉียง ทำไมนายถึงไม่ลดระดับสเปคลงหน่อย …” เย่ฉางไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป เขามองไปที่จางเจิ้งเฉียงและพูดแนะนำ

ความคิดของจางเจิ้งเฉียงเริ่มสั่นคลอน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่หล่อ แต่เขาก็ไม่ต้องการลดระดับสเปคลง คนปกติเท่านั้นที่จะทำกัน แต่ไม่ใช่สำหรับเขา “เพื่อน พี่สาวของฉันจะไม่ไปสู่สุขตินะ ถ้าฉันทำอย่างที่นายแนะนำ …”

“……” เย่ฉางถอนหายใจโดยโต้เถียงกลับไปไม่ได้ “น้องเล็กไดโน … มันคงจะดีกว่า ถ้าเราไม่รู้จักเธอก่อนที่เธอจะผ่าตัดศัลยกรรม …”

“จริงๆแล้วพี่สาวไดโนคือ …” ฟางชิอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกจางเจิ้งเฉียงมองเขาด้วยความรังเกียจและโยนภาพใส่เขา “ถ้าเป็นนายเป็นฉัน นายจะรับได้งั้นหรือ?”

ฟางชิพบว่าตัวเองไม่มีคำตอบ เขาไม่สามารถโต้แย้งได้เป็นเวลานาน

SpyingBlade ยิ้มอย่างขมขื่น เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ เพราะ FrozenCloud อาจจะมีเหตุผลที่เธอไม่ได้บอกพวกเขา …

จากนั้นปาร์ตี้ก็ตั้งเป้าหมายไปสำรวจซากปรักหักพังแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ พวกเขาจึงกลับไปที่เมืองบาลเพื่อเตรียมตัวกันก่อน และออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือตามบันทึกที่เขียนบอกไว้ เย่เทียนจึงนำทางทุกคนไปยังหุบเขาแห่งความตาย

“ซากปรักหักพังที่เราค้นหา มันไม่ได้อยู่ในหุบเหวแบบนี้หรอก มันควรจะอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ด้านบน แต่เราก็ไม่รู้ว่าควรจะไปทางซ้ายหรือทางขวาดี มันเต็มไปด้วยทะเลดอกไม้ …”

จางเจิ้งเฉียงมองไปที่ทางเข้าสู่หุบเขา เสียงลมทำให้หัวใจของพวกเขาหนาวสั่น เพราะมันมีเสียงร้องของสัตว์ร้ายดังตามมา ทั้งสองด้านของทางเข้าสู่หุบเขาเป็นป่าที่ลาดชันขึ้นไป

“ตั้งแต่เรามาถึงที่นี่แล้ว ทำไมเราไม่เข้าไปในหุบเขาและสำรวจกันสักหน่อยล่ะ อาจจะมีสมบัติบางอย่าง และอาจจะยังไม่มีใครมาสำรวจที่นี่ …”

“เอาเป็นว่าตอนนี้ความสำคัญอันดับแรกของเราก็คือ การหาสถานที่ซากปรักหักพังของ เทพธิดาแห่งดอกไม้และสายรุ้ง – แจมกันก่อน ระหว่างทางกลับ เราค่อยแวะมาสำรวจหุบเขานี้ก็แล้วกัน …” เย่ฉางพูดอย่างสงบ แล้วก็เริ่มมุ่งหน้าไปทางซ้าย ทุกคนจึงเดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิด

เย่ฉางลูบหัวเจ้าฟ้าน้อย จากนั้นเจ้าฟ้าน้อยก็บินขึ้นไป และส่งเสียงร้องออกมาดังกึกก้องอยู่เป็นเวลานาน

“ที่นี่ไม่มีทะเลดอกไม้เลย…” เย่ฉางพาทุกคนเดินผ่านป่าไปยังด้านบนสุดของหุบเขา ซึ่งมีต้นไม้กระจัดกระจายเป็นย่อมๆ โดยส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้า

เย่ฉางเดินไปที่หน้าผา เขามองลงไป ตามหน้าผามีเถาวัลย์และพุ่มหนามมากมาย เขาชี้ไปที่อีกฟากหนึ่งของหุบเขา มันสูงกว่าหุบเขานี้นิดหน่อยและคนอื่นๆมองไม่เห็น เจ้าฟ้าน้อยจึงบินไปและส่งเสียงร้องออกมา

“มันเห็นสิ่งก่อสร้างบางอย่าง แต่ไม่เห็นดอกไม้ …” เย่ฉางแปล

 

 

 


ตอนที่ 406

 

“ไปกันเถอะ…” เย่ฉางพาทุกคนไปที่ด้านข้าง และกระโดดลงไปตามทางลาดชัน เจ้าฟ้าน้อยส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง

เย่ฉางได้ตรวจสอบตำแหน่ง และนำพำทุกคนเดินทางไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาเดินทางมาถึงด้านบนของอีกฝั่งหนึ่งของหุบเขา และเริ่มวิ่งผ่านทุ่งหญ้าจนมาถึงพื้นที่ที่แห้งแล้ง จู่ๆเย่ฉางก็หยุดนิ่งและยกมือขึ้นมา เจ้าฟ้าน้อยก็บินกลับมาเกาะที่แขนของเย่ฉาง จากนั้นมันก็เดินไต่ไปที่ไหล่ของเขา และเริ่มทำความสะอาดขนนกของมันอย่างเนิบนาบ

เย่ฉางเอื้อมมือออกไปสัมผัสต้นไม้สีดำที่แห้งเหี่ยว เมื่อเขาสัมผัสกับต้นไม้ ต้นไม้ก็ได้กระจัดกระจายกลายเป็นกองขี้เถ้าโดยทันที เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่นะ?

เย่เทียนยังคงก้มหน้าลงและตรวจสอบ “นี่มันคล้ายกับต้นไม้ที่หมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ มันแห้งเหี่ยวเพราะถูกพลังกัดกร่อน หนูคิดว่าพลังอำนาจธรรมชาติของที่นี่ได้ไหลย้อนกลับ จึงทำให้ต้นไม้เหล่านี้เป็นแบบนี้…”

SpyingBlade เช็ดขี้เถ้าสีดำออกจากมือ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน และมองไปยังสิ่งก่อสร้างที่ถูกทำลายใกล้ๆกับหน้าผา “ไปที่นั่นเดี๋ยวเราก็รู้เอง…”

เมื่อพวกเขาเดินผ่านกองขี้เถ้าที่ร่วงโรยจากดอกไม้ที่ดำคล้ำ ทุกคนก็รู้สึกถึงความเศร้าโศกของดินแดนแห่งนี้ได้ ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบจากดีบัฟที่ลดพลังป้องกันลง 25% และอัตราการฮีลกับอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตตามปกติลดลงถึง 50% ด้วยอัตราการฮีลที่ลดลง นี้ ทำให้เย่เทียนถึงกับขมวดคิ้ว คำสาปในดินแดนแห่งนี้มีมากเกินไป มันตัดการฮีลลงไปครึ่งหนึ่ง และยังตัดการฟื้นฟูพลังชีวิตตามปกติของพวกเขาลงไปอีกด้วย ผลกระทบครั้งนี้ มันรวมไปถึงการฟื้นฟูจากอุปกรณ์, สกิล และยาฟื้นฟูต่างๆอีกด้วย หากเกิดการสูญเสียพลังชีวิต พวกเขาจะไม่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของตนเองได้เลย สิ่งที่น่ารำคาญมากที่สุดก็คืออัตราการฮีลที่ลดลง และยังสูญเสียพลังป้องกันไปถึง 25% อีกด้วย การลดเป็นเปอร์เซ็นต์นี้ ไม่ได้หมายความว่าความเสียหายที่พวกเขาได้รับจะเพิ่มขึ้นมา 25% แต่เป็นการที่พลังป้องกันลดลงไป 25% นั่นหมายถึงความเสียหายที่พวกเขาได้รับ จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นตามความรุนแรงของการโจมตี ในการโจมตีบางครั้ง อาจทำให้พวกได้รับความเสียหายมากขึ้น 2 เท่าเลยก็ได้…

SpyingBlade ยังคงระมัดระวังตัวกับสถานที่ที่ดูน่าอันตรายเช่นนี้ … เขายังคงคอยเฝ้าระวังอยู่ทุกทิศทาง เขาตรวจสอบตำแหน่งของดวงอาทิตย์ และเห็นว่าตอนนี้มันเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะออกสำรวจกันในตอนกลางคืน

เย่ฉางมองสำรวจไปรอบๆด้วยสกิล [Eagle Eyes] แต่เขาก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงอันตราย ก็ยังคงทำให้เขาระมัดระวังตัว ดินแดนที่มีแต่กองขี้เถ้าแห่งนี้ มันน่ากลัวมาก …

เมื่อถึงเวลาใกล้ค่ำ แสงสีทองเรืองรางจางๆ ได้ทำให้สถานที่ดูรกร้างแห้งนี้ดูน่าหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น เย่ฉางดึงฮู๊ดลงมา และปล่อยให้เจ้าฟ้าน้อยเล่นไปรอบหัวของเขา ผมสีขาวที่ยุ่งเหยิงของเขาถูกเปิดเผยออกมา เขาลูบไล้ขนที่สวยงามสีฟ้าของเจ้าฟ้าน้อยอย่างแผ่วเบา ด้วยสายลมที่พัดผ่าน ทำให้ฉากนี้ของเย่ฉางดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น เมื่อสายลมได้พัดกองขี้เถ้าก็ปลิวล่องลอย ก็ยิ่งทำให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกอึดอัดใจมากยิ่งขึ้น FrozenCloud มองไปที่เย่ฉาง ‘หัวหน้าทีมอาจดูเป็นคนเลวร้าย และมักจะไม่ค่อยน่าไว้ใจอยู่เสมอ แถมเขายังมีบุคลิกที่ดูชั่วร้ายเป็นอย่างมาก แต่เขากลับให้ความรู้สึกที่ทำให้ผู้คนอยากจะติดตามเขาอยู่เสมอ…’

เมืองบาล

ThornyRose กำลังตั้งฐานที่มั่นของกิลด์โดยไม่รีบร้อนที่จะใช้ตราสร้างกิลด์ เธอมองไปทาง ElegantFragrance “บ้านประมูลเป็นอย่างไรบ้าง?”

“จากบ้านประมูลทั้งหมด 2 แห่ง เราได้ควบคุมบ้านประมูลของพวกเขาไว้ 1 แห่ง สำหรับสถานที่อื่นๆของหัวหน้าทีม เราไม่มีกำลังคนที่มากพอ ดังนั้นเราจึงปล่อยให้กิลด์ Freedom Alliance เป็นคนจัดการ พรุ่งนี้เราถึงจะสามารถเปิดทำการได้ …” ElegantFragrance รายงาน

“ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณคู่หมั้นได้คาดคิดเอาไว้…” FrozenBlood ถอนหายใจ ThornyRose ต้องการที่จะฉีกหน้าของผู้หญิงคนนี้ ที่มักจะพูดสิ่งที่ไม่ดีต่างๆเกินจริงอยู่เสมอ FrozenBlood เหลือบมองเธอแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา “วันนี้ พี่สาวเซียง…”

ThornyRose ได้แต่เก็บทนความแค้นเคืองเอาไว้ ‘ฉันจะทนแบกรับมันเอาไว้ก่อน พวกเธอเกิดจากแม่คนเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ทำไมเธอถึงแตกต่างจากน้องเล็กไดโนที่สามารถยิ้มได้ และทนทุกข์ทรมานอยู่เงียบๆอย่างอดทน… เฮ้อ นี่ไม่ดีเอาซะเลย ฉันดันเกือบที่จะเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของ FrozenCloud ไปซะแล้ว…’

เวลากลางคืน

เย่ฉางหยุดเดิน ความรู้สึกถึงอันตรายของเขากำลังร้องเตือนขึ้นมา เขาขมวดคิ้วและพูดออกมา “ทุกคนระวังตัวด้วย! ขี้เถ้าโดยรอบๆกำลังเริ่มหมุนไปมา…”

SpyingBlade ก็สังเกตเห็นด้วยเช่นกันว่า นับตั้งแต่ถึงตอนกลางคืน ดินแดนแห่งนี้มันมีบางสิ่งบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น

เย่เทียนกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ทุกอย่างอยู่ภายในหัว แต่เธอก็ไม่สามารถรับรู้ได้ ข้อมูลที่เธอมีอยู่น้อยเกินไป เธอเริ่มตื่นตัวและขึ้นขี่เจ้าอาหารฉุกเฉิน

ในยามค่ำคืน ด้วยวิสัยทัศน์ที่จำกัด ทำให้พวกเขาได้แต่มองเห็นความมืดมิดที่ไร้สิ้นสุดได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น … สำหรับเย่ฉางที่มีวิสัยทัศน์ในการมองเห็นตอนกลางคืนแล้ว เขามองเห็นว่าขี้เถ้าที่ร่วงหล่นปลดปล่อยควันสีดำออกมา ซึ่งกลายเป็นพลังงานเงาสีดำที่ไม่มีที่สิ้นสุดออกมา เขารีบระบุตัวตน

Withered Shade (Uncommon – Rare): พวกเขาอาศัยอยู่ในดินแดนรกร้าง ด้วยกาลเวลาที่ยาวนาน ที่มาพร้อมกับความเกลียดชังรวมตัวกันจนสร้างรูปแบบที่ดุร้ายขึ้นมา สิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักและซับซ้อนชนิดนี้ เกิดขึ้นจากการผสมผสานของพลังงานจากขี้เถ้าที่ร่วงโรยและดวงวิญญาณต่างๆ โดยปกติมักจะปรากฏตัวเป็นกลุ่ม พวกมันมีเวทมนตร์ความมืดระดับต่ำ ในขณะที่ตัวตนของพวกมันที่มีระดับสูงกว่านี้ จะน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น เมื่อมันตาย มันสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมของการทำยา, อาหาร, ตีเหล็ก และเป็นส่วนประกอบเสริมของเวทมนตร์ และอื่นๆอีกมากมาย ถึงแม้ว่าวัตถุจากศพของพวกมันจะสามารถใช้งานได้หลากหลายประเภท แต่พวกมันก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตประเภทเงาที่หายากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ได้รับการจัดอันดับสูง

ทุกคนหันไปมองที่ปีศาจเงา และทำให้หัวใจของพวกเขาหนาวสั่น ด้วยจำนวนมากมายขนาดนี้ แค่การต่อสู้แบบสิบต่อหนึ่ง ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสู้ไหวหรือไม่ แม้กระทั้งร้อยต่อหนึ่ง พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะจัดการได้เลยรึเปล่า เย่เทียนเริ่มคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว มอนเตอร์พวกนี้เป็นปัญหาอย่างมาก มอนเตอร์ประเภทนี้มักมีความต้านทานต่อการโจมตีทางกายภาพที่สูงมาก แต่มีความต้านทานต่อเวทมนตร์ที่ต่ำมากเช่นกัน นอกเหนือจากเวทมนตร์ธาตุมืดที่ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับมันได้เลย เย่ฉางเลิกคิ้วขึ้น ถ้าเขาต้องการที่จะผ่านเส้นทางนี้ไป วิธีปกติคงจะไม่ได้ผล ตอนนี้มีเพียงทางเดียวเท่านั้น! เขามองไปยังกลุ่มของเขาที่ยืนอยู่ท่ามกลางขี้เถ้า มีเหล่าปีศาจเงาจำนวนไม่เยอะที่เฝ้าอยู่ทางทิศใต้ มือทั้งสองข้างของเขาเริ่มเรืองแสงด้วยสกิล [Light Strike Array] “อาเฉียง! เย่เทียน! พาทุกคนไปทางทิศใต้ ฉันจะเป็นคนเปิดทางให้เอง! ปล่อยตรงนี้ให้ฉันเป็นคนจัดการ! ออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหาสถานที่ที่สามารถใช้ป้องกันตัวเอาไว้ด้วยนะ!”

อูนาและคนอื่นๆไม่เข้าใจ จางเจิ้งเฉียง และ SpyingBlade รีบเร่งให้ทุกคนมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ แสงและเปลวไฟของ [Light Strike Array] ได้กระหน่ำยิงไปในทิศทางนั้น อูนาและคนอื่นๆเห็นจางเจิ้งเฉียง และ SpyingBlade พุ่งเข้าไปในเปลวไฟโดยไม่มีความลังเลใจใดๆ ตอนที่พวกเขาพุ่งฝ่าเข้ามา ดีบัฟที่ลดอัตราการฮีลและลดพลังป้องกันก็ได้หายไป ในขณะที่พวกเขาถอยกลับไป เย่เทียนคิดว่าเย่ฉางต้องมีไพ่ลับอะไรซ่อนเอาไว้อยู่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาต้องการให้ทุกคนออกไป เธอเริ่มฮีลฟางชิและหวังที่เหลือเลือดน้อยที่สุด เธอพยายามรักษาชีวิตคนอื่นๆให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ในเปลวไฟ การฮีลจำนวนมากจะสูญเปล่าไป

พวกปีศาจเงากลัวไฟ ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้ตามเข้ามา พวกมันสามารถติดตามกลุ่มของพวกเขาได้เพียงสายตาเท่านั้น ในขณะที่พวกมันถูกบังคับให้หนีออกจากเปลวไฟที่ปิดล้อม กลุ่มของพวกเขาก็วิ่งไปทางทิศใต้ และมาถึงพื้นที่ทุ่งหญ้าธรรมดา

เย่ฉางหยิบบาลิสต้าออกมา และปลดปล่อยสกิล [Meteor Shot]! ลูกศรพุ่งผ่านออกไป ในขณะที่เขาได้หลบหลีกปีศาจเงาไปด้วย จากนั้นเขาก็เก็บบาลิสต้าและดึงธนูออกมา เขาเล็งธนูไปยังปีศาจเงาที่กำลังพุ่งเข้ามา และปลดปล่อยสกิล [Enchanted Arrow – Fire Arrow] มือซ้ายของเขาจับคันธนูอย่างเหนียวแน่น ในขณะที่มือขวาของเขาปลดปล่อยลูกศรออกไป ลูกศรที่ได้พุ่งออกไป ได้เจาะผ่านสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นหัวของพวกมัน ลูกศรได้พุ่งออกไปเจาะหัวทางด้านขวาของปีศาจเงา ในขณะที่การโจมตีของปีศาจเงากำลังจะมาถึงตัวของเย่ฉาง เขาก็หายตัวไปด้วยสกิล [Shadow Step] จากนั้นเขาดึงหอกออกมา และเหวี่ยงแทงออกไปดุจมังกรทะยาน ผลึกน้ำแข็งและดอกบัวไฟได้เบ่งบานอยู่รอบๆตัวเขา จากนั้นเขาก็รัวสกิลใส่ไม่ยั้ง [Explosive Arrow], [Multishot], [Ice Shards] สกิลของเขาถูกใช้ออกมาอย่างไหลลื่น ทุกคนสามารถมองเห็นการเต้นรำอันงดงามของเย่ฉาง FrozenCloud ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาไม่โดนโจมตีเลยแม้แต่ครั้งเดียว…

 

 

 


ตอนที่ 407

 

เปลวไฟค่อยๆลดลง ถึงแม้เย่ฉางจะโดนพวกปีศาจเงาไล่โจมตีก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่พุ่งตัวออกไปอย่างรีบร้อน เขาหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามาด้วยการหมุนตัวโดยไม่เสียจังหวะ จากนั้นเขาก็เอนตัวและหลบปีศาจเงาที่จู่ๆก็ปรากฏตัวออกมา

เย่ฉางยังคงต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เขามี เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาส เขาจะยิงเวทมนตร์ของเขาออกไป สกิลของเขาถูกใช้เมื่อคูลดาวน์สกิลเสร็จ ในที่สุดเมื่อมานาของเย่ฉางหมดลง เขาก็ยังทำได้ดีโดยที่ไม่มีมานาให้ใช้สกิลต่างๆก็ตาม เมื่อค่าพลังงานของเขากำลังฟื้นฟู และสกิลทั้งหมดของเขาอยู่ในช่วงคูลดาวน์ เขาจึงพยายามหลบหลีกและโจมตีสวนกลับไป ในท้ายที่สุด เขาก็ถูกห้อมล้อมด้วยปีศาจเงาจำนวนมาก

“หนีเร็วเข้า!” SpyingBlade ดึงอูนาและเย่เทียนออกไปทางด้านในใกล้กับหน้าผา จางเจิ้งเฉียงดึง FrozenCloud, ฟางชิ และหวังไปซ่อนตัวอยู่ในคูน้ำ หลินหลี่และเร็นน้อยวิ่งตามกลุ่มของ SpyingBlade ไป หลินหลี่กระแทกก้นของเขาไปที่หน้าของเย่เทียน ทำให้เธอได้แต่กัดฟันด้วยความโกรธแค้น

ทันใดนั้น ก็มีเสียงระเบิดที่รุนแรงดังขึ้นมา ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีความต้านทานต่อธาตุมืดที่สูง แต่ป๊ศาจเงาก็ยังกระจัดจายด้วยการระเบิดที่รุนแรงนี้ เพียงพริบตา พื้นที่หลายพันเมตรรอบตัวของเย่ฉางก็ปราศจากเหล่าปีศาจเงา มันเหลือเพียงไม่กี่ร้อยตัวในพื้นที่ที่ห่างไกลออกไป

“พ่อคะ!” เย่เทียนเดาออกถึงสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้ และเห็นข้อความที่ระบุถึงการตายของเย่ฉาง! เธอกรีดร้องออกมา ในขณะที่หลินหลี่ยังคงตบหน้าเธอด้วยก้นของเขา

FrozenCloud ถอนหายใจ ‘หัวหน้าทีมเสียชีวิตในการต่อสู้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาสามารถระเบิดตัวเองได้!? การระเบิดครั้งนี้มันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวมาก พระเจ้าช่วย! เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีสกิลพิเศษบางอย่าง สกิลนี้ยังสามารถรองรับการใช้งานได้ในการ PvP อีกด้วย’ เธอเห็นแถบค่าประสบการณ์ของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว…

“อย่าเพิ่งกังวลมากเกินไป! หัวหน้าทีมไม่เพียงแต่สามารถระเบิดตัวเองได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถฟื้นชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง แต่สกิลนี้น่าจะมีคูลดาวน์หลายวันอยู่…” SpyingBlade ยิ้มและพูดออกมา เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เทียนจึงสามารถผ่อนคลายลงได้ ‘มันเป็นเช่นนี้เอง นั่นน่าจะเป็นสกิลจาก 1 ใน 2 แหวนของคุณพ่อ’ จากนั้นเธอก็นึกย้อนกลับไปเมื่อตอนก่อนที่จะเข้ามายังดินแดนที่แห้งแล้งแห่งนี้ พวกเขาควรจะรอเวลาค่ำเพื่อออกไปสำรวจ และพวกเขาน่าจะค่อยๆสำรวจเข้ามาทีล่ะนิด เพื่อที่จะไม่ถูกศัตรูล้อมกรอบแบบนี้ เธอเริ่มที่จะตำหนิตัวเองเพราะไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ และทำให้เกิดการสูญเสียไพ่ลับที่มีค่าของพ่อของเธอไป จนเผยให้ทุกคนได้เห็นถึงไพ่ลับใบนี้

หลังจากคลื่นกระแทกของการระเบิดหมดไป ทุกคนมองไปยังเย่ฉางที่กำลังวิ่งออกมาจากเศษซากกองขี้เถ้า พวกปีศาจเงาหลายร้อยตัวกำลังวิ่งไล่ตามเขามาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว พวกเขาได้ยินเสียงตะโกนจากระยะไกล “เฮ้ ไอพวกคนขี้เกียจ พวกนายจะมองดูกันอีกนานไหม ออกมาจากตรงนั้นแล้วมาช่วยฉันได้แล้ว!!”

จางเจิ้งเฉียงจึงนำทุกคนออกไปหาเย่ฉาง การสู้รบกลายเป็นเรื่องที่วุ่นวายและรุนแรงขึ้น พวกเขาต้องเผชิญกับเหล่าปีศาจเงา ในขณะที่พวกเขาก็ยังคงได้รับผลกระทบจากดีบัฟของดินแดนแห่งนี้ ด้วยฝนลูกศรเงาที่กระหน่ำลงมา จางเจิ้งเฉียงก็พุ่งไปหาพวกมัน และจัดการฆ่าพวกที่อยู่ในแถวลึกลงทันที ลูกศรเงา 2 ดอกที่โจมตีโดนเขาได้ลดพลังชีวิตของเขาลงไปครึ่งหนึ่ง เขารีบเปิดใช้งานสกิล [Desperate Prayer] เพื่อฮีลทุกคนทันที และยังช่วยข่มพวกปีศาจเงาได้อีกด้วย

เย่ฉางใช้คันธนูโจมตีจากระยะไกล ในขณะที่เขายังคงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว หลบหลีก, พลิกตัว และพุ่งออกไปข้างหน้า เพื่อที่จะไม่โดนลูกศรเงาที่โจมตีเข้ามา อย่างไรก็ตาม แม้ในขณะที่เขากำลังวิ่ง, พลิกตัว และพุ่งเข้าไป เขาก็ยังคงสามารถยิงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วเหมือนปกติ FrozenCloud มองดูเย่ฉางด้วยความตกตะลึง เธอเปิดการป้องกันด้วยพลังซี่ของเธอ และทำตามจางเจิ้งเฉียง เธอพุ่งตัดลึกเข้าไปในแถวของศัตรู SpyingBlade เปลี่ยนดาบของเขาเป็นดาบธาตุไฟข้างหนึ่ง และเคลื่อนที่ไปรอบๆตัวของจางเจิ้งเฉียง หลินหลี่หดหู่เป็นอย่างมาก การโจมตีทางกายภาพที่แข็งแกร่งของเขาไม่ค่อยมีผลมากนัก ดังนั้นเขาจึงโกรธเกรี้ยว และเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่สองของเขา … รูปแบบนักวางเพลิง! เขาเริ่มโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ขว้างปาระเบิดเพลิงระดับสูงออกไป

ตอนนี้เย่เทียนทำงานอย่างหนักเพื่อฮีลให้พลังชีวิตของจางเจิ้งเฉียง SpyingBlade และ FrozenCloud อยู่ในระดับสูงๆเข้าไว้ เธอไม่มีเวลาที่จะใส่ใจคนอื่นเลย หวังรู้สึกอนาถาเป็นอย่างมาก … เขาทำได้แค่เพียงเดินติดตามก้นภูติน้ำของเขาอยู่ตลอดเวลา ส่วนฟางชินั้น เขากำลังคลานอยู่บนพื้นดิน ในขณะที่ควบคุมบาลี่ไปด้วย โครงกระดูกที่เขาเรียกออกมาไม่ได้มีแม้แต่เวลาที่จะยืนขึ้นก่อนที่จะถูกโจมตีเป็นเศษซากด้วยลูกศรเงา เย่เทียนได้ใช้สกิล [Healing Chains] และ [Pearls of Light] เพื่อฮีลแนวหน้าทั้งสามคน

เย่ฉางเห็นว่าสกิล [Light Strike Array] ของเขาคูลดาวน์เสร็จแล้ว เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ‘ไปตายห่ากันให้หมด!’ “อาเฉียง เตรียมตัวใช้สกิลของนาย ฉันจะเล็งเป้าหมายและระเบิดตรงบริเวณที่นายอยู่!”

“จัดมาเลยเพื่อน!” จางเจิ้งเฉียงตอบกลับ และเตรียมใช้สกิลในการช่วยชีวิตของเขา FrozenCloud และ SpyingBlade รีบถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น เปลวไฟที่มีความรุนแรงก็พุ่งโจมตีเข้ามา พร้อมกับมีแสงได้ห่อหุ้มตัวของจางเจิ้งเฉียง และเหล่าปีศาจเงานับร้อยเอาไว้ จางเจิ้งเฉียงรีบเปิดใช้งาน [Berserk Recovery] เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาอย่างรวดเร็วก่อนที่สกิล [Light Strike Array] ของเย่ฉางจะโจมตีเข้ามา

FrozenCloud มองดูจางเจิ้งเฉียงที่อยู่ภายในเปลวไฟอันรุนแรง เขาถือขวานยักษ์และปลอกแขนยืนอยู่ตรงนั้นราวกับเทพเจ้าสงคราม ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย SpyingBlade ได้แต่ถอนหายใจและยิ้มออกมาอย่างไม่แยแสเหมือนกับเย่ฉางยังกับแกะ “ถ้าเพียงแต่เธอไม่ใช่น้องเล็กไดโน มันก็มีทางเป็นไปได้นะ …”

FrozenCloud พูดไม่ออก เมื่อมองไปยัง SpyingBlade ที่กำลังยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายของเขา ผู้ชายคนนี้รู้จักเธอมาก่อนที่เธอจะเป็นน้องเล็กไดโนซะอีก! เธอกลอกตามองไปที่เขา “อย่าเพิ่งบอกหัวหน้าทีมและพวกเขานะ ฉัน… ฉัน…”

“ฉันรู้หน่า…” SpyingBlade พยักหน้าและตบไปที่ไหล่ของเธอเบาๆ “ขอให้โชคดีนะ…”

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็พุ่งตัวออกไปเข่นฆ่าพวกปีศาจเงาในท่ามกลางเปลวไฟ

‘โชคดี? ขอให้โชคดีน้องสาวนายสิ! ฉันเป็นคนสวยนายก็รู้! ทำไมฉันจึงต้องใช้โชคเพื่อที่จะได้รับรักจากเพลย์บอยบ้าๆบอๆคนนี้ด้วย!? การที่นายได้คบกับพี่สาวกงซุนเฉียงของกิลด์ Falling Star แบบนั้นสิถึงจะเรียกว่าโชคดี! เฮ้อ…’ FrozenCloud คิดถึงตัวเองอย่างโศกเศร้า

เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ทุกคนก็หมดแรง หลังจากที่ใช้มานาไปหมดแล้ว พวกเขาก็สามารถจัดการกับกลุ่มปีศาจเงา 300 ตัวได้ พวกเขาต้องการที่จะเติมเต็มทั้งเลือด และมานาของพวกเขา ทันใดนั้น ดินแดนที่แห้งกร้านก็เริ่มปลดปล่อยควันสีดำออกมาเป็นจำนวนมาก ควันสีดำที่มีความสูงถึง 20 เมตร ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่าง เย่ฉางหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบ ‘จะไม่ให้เรามีเวลาพักกันเลยใช่ไหม!?…’

FrozenCloud ยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่เธอเฝ้าดูการปีศาจเงาขนาดยักษ์ ‘นี่น่าจะเป็นบอสอีเวนท์ซึ่งปรากฏตัวออกมาแบบสุ่ม นี่เป็นบอสประเภทที่อาจปรากฏตัวออกมาน้อยมาก หรืออาจไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลยก็ได้ โชคร้ายของหัวหน้าทีมของพวกเราย่ำแย่ถึงขนาดนี้เลยงั้นหรอ? พวกเรากำลังจะถูกส่งกลับไปที่เมืองบาลกันทั้งหมดเลยงั้นสิ?’

“รหัสแดง! รหัสแดง!” เย่ฉางเริ่มหลบหนี ทุกคนรีบวิ่งตามหลังของเขาไปอย่างบ้าคลั่ง แม้กระทั่ง SpyingBlade ผู้ที่เคยผ่านการต่อสู้กับฝูงมอนเตอร์มานับไม่ถ้วน ก็ไม่สามารถทนสู้ต่อไปได้ คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าบอสตัวนี้มันจะมีสกิลที่โครต OP หรือมีโหมดบ้าคลั่งบ้างไหม!?

เย่ฉางได้ยินเสียงคำรามจากด้านหลัง ลูกศรเงานับไม่ถ้วนกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้าราวกับห่าฝน ทุกคนได้ค้นพบสถานที่หลบซ่อนอย่างรวดเร็ว ขณะที่ห่าฝนลูกศรเงาหยุดลง พวกเขาก็เริ่มวิ่งหนีเพื่อออกจากดินแดนแห่งนี้อีกครั้ง บอสปีศาจเงาดูเหมือนว่าจะไม่ต้องการที่จะไล่ตามพวกเขาอีกต่อไป แต่เย่ฉางกลับสังเกตเห็นว่า พื้นดินที่ถูกกัดกร่อนแห่งนี้กำลังค่อยๆคืบคลานเข้ามาหาพวกเขา “ทุกๆคนรีบฮีลและรีบกินอาหารเพื่อรับบัฟเร็วเข้า…”

“เราจะรอดูสถานการณ์อีกหน่อย แล้วค่อยกินไม่ได้หรือ?…” เย่เทียนคิดว่าทุกครั้งที่พวกเขากินอาหาร พวกเขามักจะจบลงด้วยสถานะที่ไม่ชัดเจน

“ในขณะที่เรากำลังฟื้นฟูกันอยู่ ลองคิดดูหน่อยสิว่า พอจะมีใครที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สามารถมาช่วยเราได้บ้างไหม บอสตัวนี้เป็นบอสอีเวนท์ที่เกิดขึ้นตามเหตุการณ์ ลำพังแค่พวกเราคงไม่เพียงพอที่จะจัดการมันได้ เราต้องการผู้เล่นอย่างน้อยอีกหนึ่งโหล เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระของพวกเรา…” SpyingBlade ส่ายหัว

“การขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เป็นความอัปยศต่อพวกเราชาว Happy Firmaments เป็นอย่างมาก …” เย่ฉางลูบคางและครุ่นคิดเพียงเล็กน้อย “ThornyRose มาที่พิกัด XXX,YYY เธอมาช่วยฉันหน่อยสิ! เธอไม่มางั้นหรือ!? งั้นจ่ายเงินที่เธอติดฉันไว้มาซะดีๆ! นี่เป็นเรื่องที่เธอควรจะพูดในตอนนี้งั้นหรอ!? รีบมาที่นี่ เร็วๆเข้า…”

จากนั้นเย่ฉางก็โทรออกอีกครั้ง “น้องชาย PureSoul นายอยู่ไหน? ในถ้ำทางตอนเหนือของเมืองบาล?! เยี่ยมเลย! นายจำการต่อสู้ด้วยดาบของพวกเราในห้องอาบน้ำสาธารณะได้หรือไม่? ตอนนี้ฉันมีเรื่องลำบากเกี่ยวกับบอสอีเวนท์ที่เกิดขึ้นตามเหตุการณ์บางอย่าง นายมาช่วยเราหน่อยสิ คิดซะว่ามันคือตอบแทนความดีความชอบของฉันก็ล่ะกัน … จะแบ่งของกันยังไง!? มาที่นี่ก่อน แล้วเราจะจัดหาอุปกรณ์ให้นายหนึ่งชิ้น ไม่!? เฮ้อ! นายยังคงเป็นคนที่ฉันไม่สามารถไว้ใจได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะ … ฉันจะบ่นกับพี่ขาย CloudDragon เกี่ยวกับวิธีการที่เราหลุดออกหลังจากการต่อสู้ด้วยดาบของพวกเรา มันเป็นสัญญา! เยี่ยม! น้องชาย PureSoul นายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ฉันอยู่ที่พิกัด XXX,YYY รีบมานะ ฉันรออยู่!”

เย่ฉางถอนหายใจ “เคราะห์กรรมของฉันยังดีอยู่…”

“……” FrozenCloud และคนอื่นๆมองไปที่เขา จิตใจของพวกเขาตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

 

 

 


ตอนที่ 408

 

เย่ฉางและคนอื่นๆย้ายไปยังเนินเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป และเตรียมพร้อมที่จะกินอาหาร ทุกคนเฝ้าดูขณะที่เขาเริ่มปรุงอาหาร และดูเหมือนว่าเขาจะเกิดไอเดียใหม่ๆในการปรุงอาหารครั้งนี้ พวกเขาแต่ละคนจึงทำได้เพียงแต่ นั่งเตรียมใจรอรับชะตากรรม

กลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงคือกลุ่มของ NalanPureSoul เมื่อมาถึง เขามองเห็นควันที่ดูคุ้นเคยลอยมาจากด้านบนของเนินเขาเล็กๆ พร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่าที่แสนคุ้นเคยมาก มันชวนให้เขาเกิดความคิดที่จะไม่เข้าไปช่วยพวกเย่ฉาง NalanPureSoul, NalanMoon และ NalanMight ได้หยุดเดินโดยทันที

“ฉันไม่อยากไปแล้วล่ะ ขนาดเราอยู่ตั้งไกลขนาดนี้ กลิ่นเหม็นของมันยังรุนแรงมากขนาดนี้…” หนังศีรษะของ NalanMight รู้สึกด้านชา

“รีบไปกันเถอะ …” NalanPureSoul ถอนหายใจและพาพรรคพวกไปที่เนินเขา เขาเห็นร่างคนที่นอนอยู่ตามพื้น เย่เทียนซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่กินอาหาร เธอเห็น NalanPureSoul และคนอื่น ๆเดินเข้ามา ขณะที่เธอเริ่มค่อยๆสูญเสียจิตสำนึกของเธอไป เธอพยายามที่จะชี้ไปยังป้ายที่ติดอยู่ที่หม้อ ซึ่งเธอเตรียมไว้โดยเขียนบอกว่า ‘ช่วยเหลือตัวเองล่ะ!’ จากนั้นวิสัยทัศน์ของเธอก็มืดลง และเธอก็ล้มลงหมดสติไป

NalanPureSoul และคนอื่นๆไม่สามารถปิดกั้นกลิ่นเห็นเน่าได้ แม้กระทั่งบีบจมูกแน่นแล้วก็ตาม เขามองไปที่บัฟของอาหาร มันเป็นสิ่งที่ยังไงพวกเขาก็ต้องกิน! อาหารทั้งสามอย่างเพิ่มความต้านทานธาตุความมืดที่สูงมาก เห็นได้ชัดว่า มันต้องเกี่ยวข้องกับบอสที่พวกเขากำลังจะสู้ เขามองเย่ฉางที่นอนสลบอยู่ใกล้ๆด้วยความรัก ความเกลียดชังและความชื่นชม จากนั้นเขาก็กินอาหารทั้งสามชนิดและทรุดตัวลงกับพื้น NalanMoon และคนอื่นๆเห็นว่า NalanPureSoul กินเข้าไปแล้ว พวกเขาตัวสั่น ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ลานประหารชีวิตของพวกเขา …

หลังจากนั้นกลุ่มของ ThornyRose ก็ได้มาถึง ภาพแรกที่พวกเธอเห็นก็คือ หม้อยักษ์สามใบและกลุ่มคนนอนอยู่เต็มพื้น เช่นเดียวกับมองเห็นป้ายที่ติดอยู่บนหม้อ พวกเธอได้แต่หลั่งเหงื่อเย็นออกมา … ผู้หญิงทุกคนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และเริ่มมองหน้ากันและกัน Little Jade เกาะแขน FrozenBlood ไว้แน่นและส่ายหัว FrozenBlood ถอนหายใจ เธอเดินไปตักอาหารมาทั้งสามชนิด “ทุกคนทำตามฉัน!”

ขณะที่เธอพูด Little Jade คิดว่าเธอกำลังจะกินเป็นคนแรก แต่ FrozenBlood กลับคว้าตัวเธอและยัดมันลงในปากของเธอแทน เมื่อมอง Little Jade ที่กำลังนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น FrozenBlood ทำท่าทางราวกับว่าเธอได้ทำในสิ่งที่ดี “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก …”

GreenDew เห็น FrozenBlood มองมาที่เธอและเริ่มหลั่งเหงื่อออกมามากมาย เธอจึงตัดสินใจกินมันด้วยตัวเอง!

ทุกคนตื่นขึ้นมาทีละคนๆ ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือการล้วงคอ!

“ขณะที่ฉันกำลังคิดพัฒนาอาหารที่ฉันทำ ฉันได้ทำผิดพลาดไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้แย่เกินไปนัก …” เย่ฉางมองไปที่ทุกคนและพูดอย่างมั่นใจ

‘ไม่ได้แย่เกินไปนัก!? นี่เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย!?’ ทุกคนจ้องไปที่เย่ฉาง

“น้องชาย PureSoul ก่อนหน้านั้นในห้องอาบน้ำ นายหนีการประลองดาบกับฉันไปนะ เมื่อนายมีเวลา งั้นเราจะมาลองประลองกันอีกครั้ง …” เย่ฉางมองไปที่ NalanPureSoul และพูดขึ้นมา

ใบหน้าของ NalanPureSoul เปลี่ยนเป็นสีแดง “ใครต้องการที่จะประลองดาบกับพี่ในห้องน้ำกัน!? พี่ชาย PaleSnow หยุดล้อฉันเล่นได้แล้ว”

“การประลองดาบ? ในห้องน้ำ?” NalanMoon ถามอย่างสงสัย

“ฮ่าๆๆ เธอไม่รู้หรือไง? มันเป็นเกมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีข่าวลือว่า เกมนี้เป็นเกมที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชาย และเหล่าชายชาตรีก็มักจะใช้เกมนี้วัดความแข็งแกร่งกัน” หลินหลี่เริ่มอธิบาย

“มีเกมแบบนั้นด้วยหรือ? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน? แล้วมันมีวิธีเล่นอย่างไรบ้าง?” NalanMoon ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เกมจากสมัยโบราณ! มันฟังดูน่าสนใจจริงๆ!!

ThornyRose ที่อยู่ข้างๆส่ายหัวและคิดในใจ ‘เธอไม่รู้ยังจะดีกว่านะ!’

“อันดับแรก ทุกคนก็ต้องอยู่ในห้องน้ำและดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ออกจากเป้าของคุณ จากนั้นก็เปรียบเทียบความยาว! เปรียบเทียบความกว้าง! แล้วก็นำดาบมาไขว้กันเพื่อวัดความแข็งแกร่ง! เฮ้อ! มันเป็นเกมที่โหดร้ายมาก ในอดีตที่ผ่านมา ขณะที่เราเล่นประลองดาบกันอยู่ ดาบของหลี่น้อยถูกทำลายโดยดาบของฉัน จนเขายิ้มไม่ออกไปหลายวัน …” หลินหลี่อธิบายอย่างจริงจัง

“มันไม่มีเกมแบบนี้หรอกนะ!” นอกจากจางเจิ้งเฉียง, เย่ฉาง และเย่เทียนที่กำลังพยักหน้าแล้ว ส่วนที่เหลือทั้งหมดได้แต่ตะโกนออกมา

จากนั้นทุกคนก็มองไปที่ NalanPureSoul NalanMoon แทบจะสูญเสียเสียงของเธอไป “น้องชาย นาย …”

“มันเป็นเรื่องตลกของพี่ชาย PaleSnow! อย่าเข้าใจผิดไปเลย …” NalanPureSoul ยิ้มอย่างสงบ

FrozenCloud เห็น OldWangFromNextDoorg มองเย่ฉางด้วยความอิจฉา ‘เฮ้ นายอิจฉาเรื่องอะไรกัน!?’

ThornyRose หน้ามืด “เอาล่ะๆ บอสอยู่ที่ไหน? มันคือตัวอะไร? บอกรายละเอียดมาได้แล้ว! เราจะได้เริ่มสู้กันเสียที”

เย่เทียนอธิบายถึงการพบปะกับบอสให้ทุกคนฟัง หลังจากกรองส่วนที่ไม่จำเป็นบางอย่างออกไปแล้ว “หนูไม่ทราบรายละเอียดของบอสนัก เพราะเราต้องรีบหนีมาฟื้นฟูพลังชีวิตและมานา พร้อมกับรับบัฟจากอาหารกันก่อน ดังนั้นเราจึงไม่มีข้อมูลมากเกี่ยวกับบอสตัวนี้ เรารู้เฉพาะรูปร่างและคุณลักษณะของมันที่เป็นประเภทความมืดเท่านั้น”

“อย่าเพิ่งคิดอะไรมากไป เรารีบเตรียมพร้อมและไปต่อสู้กับมันกันเถอะ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก …” NalanPureSoul พยักหน้า จากนั้นเขาตรวจสอบออร่าทั้งหมดที่มีผลต่อเขา พลังชีวิตของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการโจมตีก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าก่อนเยอะ ‘ออร่าได้ยกระดับขึ้นมาอีกครั้ง …’

“ตกลง รีบร่ายบัฟของนายและเติมมานาให้เต็ม จากนั้นเรามาวางแผนกัน …” ThornyRose บอกเย่ฉาง

เย่ฉางเริ่มร่ายเวทและทำสัญลักษณ์มือ

NalanPureSoul ยกคิ้วขึ้น ‘เวทมนตร์ในเกมสไตล์ตะวันตก? มันเป็นเวทมนตร์อะไรกัน?’

ThornyRose เอามือก่ายหน้าผากของเธออย่างเจ็บปวด เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่ตื่นตระหนกของ NalanPureSoul และคนอื่นๆ ‘เขากำลังโชว์ออฟอีกแล้ว! นี่เป็นเพียงเวทมนตร์ที่ร่ายแบบทันทีเท่านั้น …’

“จงสลายหายไปซะ!” เย่ฉางตะโกน พลังแห่งธรรมชาติที่อบอุ่นไหลปกคลุมทุกคนไว้ NalanPureSoul ถึงกับชะงักงัน ‘+15 ค่าสถานะทั้งหมด? แถมยังมีความต้านทานเวทธรรมชาติที่สูงมาก และมีเอฟเฟคฟื้นฟูพลังชีวิตอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เอฟเฟคฟื้นฟูพลังชีวิตอาจจะไร้ประโยชน์ ตามที่เย่เทียนบอกไว้ว่า สถานที่แห้งแล้งแห่งนี้ยับยั้งการฟื้นฟูพลังชีวิตได้ แม้แต่การฮีลยังลดลงครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าสกิลนี้เป็นสกิลระดับสูง!’

จากนั้นเย่เทียนได้เริ่มร่ายบัฟให้ทุกคน ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 15%

หลังจากที่มานาฟื้นฟูจนเต็มแล้ว เย่ฉางจึงพาทุกคนกลับไปยังป่าที่แห้งแล้ง แสงจันทร์ส่องสว่างขึ้นบริเวณดังกล่าว ทำให้พวกเขามองเห็นเงาของสัตว์ร้ายได้อย่างชัดเจน มันมีรูปร่างคล้ายแมวป่า ดวงตาสองข้างของมันเปล่งแสงสีแดงเข้มออกมา และร่างกายทั้งหมดก็ปล่อยพลังงานสีดำที่หนาแน่นออกมา

เย่ฉางรีบระบุตัวตนอย่างรวดเร็ว

Withered Shade – Rabbis (Event Boss – Abyss – Rare) : ปีศาจเงาที่ดุร้ายเป็นอย่างมาก …

“ThornyRose ทีมของคุณจะอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนทีมฉันจะไปทางด้านขวาเอง HeavenShakingMight, คุณอาจจะเป็นคนเดียวที่สามารถแทงค์บอสได้ หากคุณพบจุดอ่อนใดๆของบอส โปรดแจ้งให้ทุกคนรู้โดยเร็วที่สุด พวกโจมตีระยะไกลให้กระจัดกระจายกันออกไปและอยู่ห่างๆบอสเข้าไว้ เอาล่ะ ลุยได้ …” NalanPureSoul เห็นแมวดำยักษ์คำรามและจ้องมองไปรอบๆด้วยดวงตาสีแดง เขาจึงนำทีมของเขาไปยังตำเหน่างดานขวา และกระจัดกระจายกันออกไป ThornyRose พาคนของเธอไปยังด้านซ้ายเช่นกัน

เย่ฉางได้โยนธนูหนักของเขาไปให้ ElegantFragrance และหยิบเอาบาลิสต้าออกมาติดตั้ง แทน จางเจิ้งเฉียงเป็นคนแรกที่ไปถึงสนามรบ เขากำลังเผชิญหน้ากับกรงเล็บสีดำที่พุ่งเข้าใส่ เขายืนมั่นอยู่บนพื้นและบล็อคกรงเล็บด้วยขวานยักษ์ของเขา พลังงานมืดไหลผ่านเขาอย่างต่อเนื่องและสร้างความเสียหายให้แก่เขา เขาคำรามและเบี่ยงตัวหลบกรงเล็บสีดำอีกข้างที่เหวี่ยงเข้ามา กรงเล็บสีดำทุบไปที่พื้นดินเสียงดัง พร้อมกับทิ้งรอยยาวเอาไว้ จุดที่เท้าของจางเจิ้งเฉียงยืนอยู่ได้ยุบลงไป อย่างไรก็ตาม เหตนี้ทำให้บอสหยุดชะงักไปชั่วคราว

NalanPureSoul ได้เฝ้าดูจางเจิ้งเฉียงแสดงพลังของเขาในฐานะตัวแทงค์ เขาช่างมีกลิ่นอายที่ทรงพลังจริงๆ NalanPureSoul ต้องการที่จะเผชิญกับพวกเย่ฉางในการแข่งขันลีค แต่โชคร้ายที่พวกเขาได้พ่ายแพ้ให้กับทีม Lord’s Reign ไปเสียก่อน จึงไม่สามารถที่จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ …

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม