Virtual World – Peerless White Emperor 335-346

ตอนที่ 335

 

“การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว” พี่ใหญ่เฉาเห็นว่าการนับถอยหลังการเริ่มต้นการต่อสู้ได้สิ้นสุดลงแล้ว

“พวกเขาเลือกที่จะวิ่งตรงไปข้างหน้า แทนที่จะตรวจสอบรายละเอียดของพื้นที่ กลิ่นอายของจ้าวแห่งเพชรเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์มาก” ซูหยี่ยี่ถูกดึงดูดโดยจอมหมัดเหล็กของจางเจิ้งเฉียง เขาดูดุร้ายราวกับพยัคฆ์ มีหมาป่าวิ่งมาหาเขา 3 ถึง 4 ตัว

“อันที่จริงแล้ว กลิ่นอายของเขาเกือบจะดูเหมือนจะมีพลังทำลายล้าง ในสมัยโบราณ กลิ่นอายของคนๆหนึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อการสู้รบ เพราะอาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจ! ยิ่งมีมากกว่าคู่แข่งของคุณมากเท่าไหร่ จะยิ่งส่งผลต่อการเป็นผู้ชนะได้” พี่ใหญ่จงวิเคราะห์

จางเจิ้งเฉียงต่อยกระแทกไปที่ด้านข้างลำตัวของ HalberdInSand และใช้ข้อศอกกระแทกไปที่หน้าอก จากนั้นเขาก็บิดลำตัวเพื่อหลบดาบที่โจมตีเข้ามาของ InstantNoodle เขาย่อตัวลงเล็กน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงมีดที่พุ่งเข้ามาของ BitterBuckwheatNoodle เมื่อเห็นสิ่งนี้แล้ว พี่ใหญ่เฉาไม่สามารถข่มตัวเองให้นั่งอยู่กับที่ได้อีกต่อไป “เป็นปฏิกิริยาการตอบสนองที่น่าสะพรึงกลัวมาก ฉันคิดว่าปฏิกิริยาการตอบสนองของเขาไม่ด้อยไปกว่า CloudDragon เลยทีเดียว ในช่วงเวลาสั้นๆแค่นี้ เขาสามารถหลบหลีกการโจมตีทั้ง 3 ครั้ง และยังสามารถโต้ตอบกลับไปได้! เขากำลังต่อสู้แบบ 1 ต่อ 3 อยู่จริงๆ! เขาไม่ได้มีดีเพียงแค่กลิ่นอายเท่านั้น! แต่จ้าวแห่งเพชรยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปในการต่อสู้ระยะประชิดอีกด้วย!!”

CloudDragon เหยียดนิ้วมือของเขา และจ้องมองที่จางเจิ้งเฉียง ตั้งแต่ที่หมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ จางเจิ้งเฉียงก็เป็นเสมือนดาบที่ยังไม่ถูกชักออกจากฝัก แต่ก็ยังคงแผ่กลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวอย่างต่อเนื่อง ‘ความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็เหมือนกับที่ตาแก่เฉาพูดนั่นแหละ’ CloudDragon ต้องการที่จะต่อสู้กับผมขาว, เจ้าหมียักษ์, SpyingBlade และหลินหลี่ สโมสร Thorn and Roses ในปีนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง Misty Rain, Freedom Alliance, และ Lord’s Reign! เขามองไปที่เย่ฉาง ผู้ที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ในทุ่งหญ้าอย่างไม่แยแสอะไรทั้งนั้น เสียงกริ๊กกริ๊กของดาบเขาก็ยังคงดังตามเขาไปในทุกที่ ‘ให้ฉันดูนักดาบปีศาจของนายหน่อยว่าจะเจ๋งขนาดกันไหน?’

BitterBuckwheatNoodles ไม่ได้เข้ามร่วมต่อสู้กับ HeavenShakingMight นานนัก เมื่อเขาขว้างมีดออกไป เขาก็รีบก้าวถอยหลังจากไปทันที เขาเดินจากไปโดยไม่ตื่นตระหนกและไม่กังวลใดๆ เขาเดินราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกริ๊กกริ๊กที่ก้องกังวาลของดาบ ‘มีคนกำลังดูถูกฉัน!? ทีม Thorn and Roses อาจจะแข็งแกร่ง! แต่ก็ไม่สามารถมาดูถูกฉันแบบนี้ได้!!’ เขาพุ่งไปข้างหน้าตามเสียงกริ๊กกริ๊กของดาบ แต่ CapableLiu ได้ตะโกนออกมา “Buckwheat! ถอยกลับมา! นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!!”

CapableLiu ถอนหายใจ เธอไม่สามารถเรียกให้เขาถอยกลับมาทันได้ ในการต่อสู้รอบแรกนั้น เขาประมาทและถูกสังหารไปโดยนักรบดาบยักษ์ ในตอนนี้เพื่อที่จะกู้ชื่อเสียงและเกียรติของเขากลับคืนมา ทำให้เขาสูญเสียเหตุผลของเขาไป เธอมองไปยังเย่ฉางที่ดูสงบ และไม่เคร่งเครียดอะไรเลยสักนิด แต่เธอก็สามารถบอกได้ว่า เขาไม่ใช่คนที่เรียบง่ายเหมือนอย่างที่ตาเห็น “WiseSea เตรียมใช้ท่าไม้ตาย เพื่อต่อสู้กับเขาเอาไว้ด้วย!!”

CapableLiu พูดออกมา แล้วเตรียมที่จะใช้เวทมนตร์ของเธอ [Hurricane]

เย่ฉางได้เฝ้าดูการพุ่งเข้ามาของแอสซาซิน เขายังแสดงออกเหมือนเดิม โดยการเดินไปข้างหน้าอย่างสบายๆ มีดคู่ของ Buckwheat เริ่มเรืองแสงสีดำออกมา ‘แม้ว่านายจะมีตัวละครแร็งค์ S แต่นักดาบปีศาจก็ไม่ใช่ตัวละครที่คนทั่วไปสามารถควบคุมได้!’ เขากลิ้งไปที่ด้านข้างของเย่ฉาง มีดของเขาเล็งแทงไปที่หัวใจของเย่ฉาง และอยู่ห่างออกไปเพียง 10 เซนติเมตรเท่านั้น

กริ๊ก! นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างของเขาส่งดาบออกจากฝัก

เมื่อเสียงกริ๊กครั้งนี้ดังขึ้น เวลาก็ดูเหมือนจะหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง

หัวใจของ CloudDragon สั่นสะท้าน “ตอนนี้ล่ะ!”

ประกายแสงที่เหมือนกับแสงที่จุดประกายจากไฟแช็ก ทำให้ Buckwheat ประหลาดใจอย่างสิ้นเชิง ในวินาทีที่มีดของเขาเกือบจะแทงเข้าไปที่หัวใจของฝ่ายตรงข้าม แต่จู่ๆ เขาก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณศรีษะของเขา!? เขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเห็นเพียงแค่ HP ของเขาได้ลดลงต่อเนื่องอย่างรวดเร็วจนเหลือ 0HP! เขาตายแล้ว! แต่ทำไมเขาถึงยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกตัดออกเป็นชิ้นๆอยู่หละ!?

ในขณะที่เย่ฉางดึงดาบออกมา และใช้ด้ามจับทุบไปที่กรามและมือซ้ายของ Buckwheat จากนั้นเขาก็ฟันดาบจากล่างขึ้นบน, ฟันดาบแนวนอน, ฟันดาบจากบนลงล่าง และฟันดาบแนวนอนอีกครั้ง หลังจากการโจมตีครั้งนี้ เขาก็เก็บดาบเข้าไปในฝัก และใช้นิ้วหัวแม่มือของเขาดันดาบออกมาอีกครั้งเพื่อทำคอมโบ และได้รับบัฟจากการทำคอมโบ เขาฟาดฟันดาบไปทั้งซ้าย และขวาจนเกิดเป็นคอมโบ 4 ครั้ง จากนั้นเขาก็รีบเปลี่ยนอาวุธทันที! โบนัสที่เกิดจากคอมโบไม่อนุญาตให้ใช้ดาบเดิมโจมตีศัตรูมากกว่า 2 ครั้ง และการโจมตีเป้าหมายเดียวก็ไม่อนุญาตให้มีการโจมตีด้วยอาวุธแต่ละแบบมากกว่า 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีความจริงที่ว่า การเปลี่ยนอาวุธอื่นๆ จะลดเวลาการเปลี่ยนลง 0.5 วินาที ถ้าเขาไม่ทำตามข้อกำหนด เขาก็จะสูญเสียบัฟความเร็วของเขาไป เขาหมุนตัวดึงดาบยาวที่หลังของเขาออกมา และใช้การหมุนตัวโดยถือดาบยาวโจมตีออกไป สร้างการโจมตีที่เหมือนกับจันทร์เต็มดวงออกมา จากนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบฟันลงไปอีกครั้ง จากนั้นมือซ้ายของเขาก็เก็บดาบไว้ที่หลัง ในขณะที่มือขวาดึงดาบสั้นตรงไหล่ซ้ายออกมา เขาใช้ดาบสั้นที่ดึงออกมาแทงออกไปอย่างรวดเร็ว 2 ครั้ง ในขณะที่มือซ้ายเอื้อมมือออกไปดึงดาบสั้นที่ไหล่ขวาออกมา! เขาแทงออกไปอย่างรวดเร็วอีก 2 ครั้งเช่นกัน! การคอมโบโจมตีของเขากำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทุกคนมองไปที่การร่ายรำดาบของเย่ฉาง ที่กำลังไหลลื่นอย่างต่อเนื่องโดยการใช้ดาบยาว, ดาบตรง และดาบสั้น นี่เป็นตัวอย่างตำราของการใช้ประโยชน์จากระยะการโจมตีของดาบแต่ละชนิด สุดท้ายเมื่อการคอมโบโจมตีสิ้นสุดลง เย่ฉางก็เก็บดาบ และใช้หัวแม่มือดันดาบจนมีเสียงกริ๊กกริ๊กออกมา ราวกับเขากำลังเล่นไฟแช็กดังเดิม

“61 คอมโบ! เขาทำลายสถิติของ Akari จริงๆ!” พี่ใหญ่เฉาจัดหมวกบนหัวที่บิดเบี้ยว และตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ สามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะแข็งแกร่งจริงๆด้วย! ทั้งสามคนมีจุดเด่นที่เทียบชั้นได้กับผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์เลยทีเดียว! พี่ใหญ่วีรบุรุษคนนี้ได้ทำลายสถิติคอมโบของนักดาบปีศาจคนเก่าไปซะแล้ว!

“มันไม่ใช่ 61 คอมโบ! แต่มันเป็น 65 คอมโบ!” พี่ใหญ่จงโชว์การจับภาพเคลื่อนไหวแบบสโลว์โมขั่นในช่วง 2-3 วินาทีที่ผ่านมา

“สวยงามมาก…” CloudDragon อดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ VastSea ก็ไม่พูดอะไรสักคำ การประสานงานแบบนี้ และปฏิกิริยาแบบการตอบสนองแบบใดกัน ที่จะทำคอมโบได้ในระดับสูงเช่นนี้ ความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นจำเป็นต้องใช้การประสานงาน และปฏิกิริยาการตอบสนองที่เพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วเสียง แต่ถ้าคุณไม่มีการควบคุม และปฏิกิริยาการตอบสนองที่ตรงกัน ถ้าอย่างนั้น มันคงเป็นการเสี่ยงที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“โอ้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด! ไม่ใช่ว่าสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะน่ากลัวมาก สมคำร่ำลืองั้นหรอกหรือ? ทั้งสามคนแข็งแกร่งมาก!”

“การแข่งขันปีนี้ อาจจะมีม้ามืดที่ไม่คาดคิดเกินขึ้นแล้วก็เป็นไปได้ การแข่งขั้นปีนี้ต้องยกนิ้วให้กับสโมสร Thorn and Roses เลยจริงๆ”

“ม้ามืด? พวกเขาเป็นพวกสเมิร์ฟโว้ย! การแข่งขันครั้งนี้มันจะไปยุติธรรมได้ยังไงกันวะ? การที่เขาทำลายสถิติเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากก็จริง มันก็ไม่มากเกินไปนักเมื่อเทียบกับความผิดปกติทั้งหลายจากทีม ที่บ่มเพาะผู้เล่นชั้นยอดเอาไว้ เพราะการแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง…” (Smurf/สเมิร์ฟ คือผู้เล่นที่มีฝีมือระดับสูง แต่กลับมาเล่นกับพวกฝีมือระดับต่ำกว่า ถ้าเปรียบง่ายๆก็คือ ผู้เล่นระดับ Rank Conqueror สมัคร ID ใหม่มาตบผู้เล่นระดับ Rank Bronze Silver ทำนองนี้ครับ)

“ใครสนกันล่ะ! ถ้านายเจ๋งจริง งั้นก็ลองไปทำลายสถิติให้ดูหน่อยสิ! นายแม่งก็รู้แค่วิธีพ่นเรื่องไร้สาระออกมาจากปากเท่านั้นแหละ!”

“เลิกเถียงกันได้แล้ว แม้ว่าพี่ใหญ่คนนี้จะมีอารมณ์ค่อนข้างก้าวร้าว แต่สิ่งที่เขาพูดก็ถูกต้อง 4 กิลด์ใหญ่ไม่ใช่แรงผลักดัน และการแข่งขันในลีคก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ทีม Broken Halberd เป็นเพียงทีมรุกกี้มือใหม่เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีศักยภาพ แต่ก็ต้องบอกเอาไว้ว่า ตอนนี้พวกเขาก็ยังเป็นทีมระดับกลางๆที่อยู่ในอันดับต้นๆเท่านั้นเอง ประการแรก Buckwheat ไม่ควรประเมินตัวละครแร็งค์ S ต่ำเกินไป ในขณะที่เขาใช้เพียงตัวละครแร็งค์ A เพียงเท่านั้น แม้ว่าความยากในการควบคุมนักดาบปีศาจจะสูงมากก็ตาม แต่ด้วยความฉลาดของ Miss Rose ที่ปล่อยให้เขาเป็นคนใช้นักดาบปีศาจ ดังนั้นเธอจะต้องมั่นใจในฝีมือของเขามากอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าสโมสร Thorn and Roses จะต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่หลงเหลือจากรุ่นก่อนๆ และพยายามดิ้นรนเพื่อหนีจากการล่มสลาย แต่สโมสรของพวกเธอก็ยังมีผู้เล่นชั้นนำอย่าง ThornyRose, FrozenBlood และ ElegantFragrance ที่พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อรับสมัครสมาชิกใหม่ๆที่มีฝีมืออยู่ตลอดเวลา”

“เพื่อนของฉันพูดถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เรามาดูการแข่งขันกันต่อเถอะ…”

“ผู้ชายผมขาวคนนี้ เขาเข้าใจถึงแก่นแท้ ‘เส้นทางของคฑาและดาบ’ เหมือนกับฉัน…”

“โอ้! ในที่สุดก็ปรากฏตัวแล้ว…”

“ความสำเร็จที่จิ๊บจ๊อยเช่นนี้ เทคนิคดาบของเขาไม่ได้ครึ่งของคนบนเกาะในประเทศฉันเลย”

“อ่อ เกาะของประเทศหมาอ่ะนะ กัดฟันของนายเอาไว้ให้แน่นๆต่อไปเถอะ อย่าให้ฉันเห็นว่านายพูดจาหมาๆแบบนี้อีก…”

“ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดมันออกมาดีหรือไม่ แต่อย่างน้อย เราไม่ได้สนุกกับรายการทีวีของแกเลย! รายการทีวีเหล่านั้นของพวกแกมันน่าเกลียดเกินไป! มีผู้หญิงคนไหนกันที่ซ่อนระเบิดไว้ที่หว่างขาตัวเอง และถ่ายภาพ H เป็นจำนวนมาก แล้วจบการแสดงด้วยการทำลายซึ่งกันและกัน! มันก็เหมือนพวกติดยาเสพติดและมีเซ็กส์กับศพนั่นแหละ แกแน่ใจหรือว่านี่เป็นละครสงครามศักดิ์สิทธิ์!? แม้ว่าแกจะล้อเลียนเรา แต่อย่างน้อยแกก็ควรจะมีมาตรฐานพื้นฐานบางอย่างบ้าง! พวกแกน่าจะมีมันบ้างนะ!”

“เอ๊ะ สิ่งที่เขาพูดมีเหตุผลมาก ฉันไม่สามารถโต้ตอบได้เลยจริงๆ…”

“……”

ตัดฉากกลับไปที่เย่ฉาง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตี 65 คอมโบของเย่ฉาง ขวัญกำลังใจของทีมฝ่ายตรงข้ามได้ลดลงป่นปี้ เสียงกริ๊กกริ๊กของเขา ได้ทุบไปที่หัวใจของฝ่ายตรงข้ามทั้งหมด CapableLiu กัดฟันของเธอแน่น ‘เราจะทำยังไงดี? พี่ใหญ่วีรบุรุษคนนี้เป็นเหมือนกับปีศาจ จ้าวแห่งเพชรก็มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ และเขาก็ไม่ได้ถูกกำจัดออกไปเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสกิล [Hurricane] ของฉัน ถึงแม้ว่าเราจะสามารถจัดกลุ่มกันใหม่อีกครั้งได้ แต่พวกเขาก็เข้ามายืนขวาง และฆ่าคนที่อยู่ด้านหน้าทั้งหมด ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะร่ายเวทมนตร์ได้เลย ElegantFragrance ได้ยับยั้งฉันอย่างสมบูรณ์แบบ การแข่งขันครั้งนี้เป็นเหมือนกับเกมแมวไล่จับหนูอย่างเห็นได้ชัด’

ThornyRose ดึงดาบออกจากหน้าอกของ InstantNoodle การแข่งขันครั้งนี้ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เมื่อ CapableLiu และ WiseSea เห็นจางเจิ้งเฉียงและเย่ฉางมาถึง พวกเธอจึงเลือกที่จะยอมแพ้ทันที พวกเขาเลือกที่จะพยายามคว้าชัยชนะในโหมดฮีโร่ และโหมดความบันเทิงแทน เมื่อเทียบกับโหมดอารีน่าแล้ว พวกเขาถนัดโหมดฮีโร่มากกว่า

“การแข่งขันถัดไปคือโหมดฮีโร่ อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีมมากนัก คุณคิดว่า ThornyRose และ HalberdInSand จะแบ่งเลนกันอย่างไร? พี่ใหญ่เฉา พี่ใหญ่จง?” ซูหยี่ยี่ยิ้ม

“สำหรับทีม Thorn and Roses มันอาจจะเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ใช้อัศวินสายรุ้งและ ElegantFragrance อยู่เลนเดียวกัน FrozenBlood และ ThornyRose อาจจะไปด้วยกัน สำหรับเลนกลาง ถ้ามันไปตามการเล่นปกติก็น่าจะเป็น นักดาบปีศาจ, จอมหมัดเหล็ก, หรือไม่ก็ DemonSpirit ก็อาจจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามถ้าหากพวกเขาวางแผนที่จะเล่นตัวแก้งภายในป่าแล้ว มันอาจจะเป็นเพชฌฆาตเงาหรือ FrozenBlood ก็ได้ ถ้าเธอเลือกที่จะไม่ไปกับ ThornyRose นะ” พี่ใหญ่เฉาวิเคราะห์

“ฉันรู้สึกว่าจอมหมัดเหล็ก หรือนักดาบปีศาจมีโอกาสที่จะอยู่เลนกลางสูงกว่ามาก เพราะค่าสถานะทั้งสองตัวละคร มีความแข็งแกร่งมากในการแข่งขันโหมดฮีโร่แบบนี้ และความสามารถของผู้เล่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย แต่คุณได้ละเลยใครคนหนึ่งไปรึเปล่า?” พี่ใหญ่จงมองออกไป

“ปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่ง?” ซูหยี่ยี่ขมวดคิ้ว

“ถูกต้อง…” พี่ใหญ่จงพยักหน้าเบาๆ

“ในโหมดฮีโร่ ความสามารถของนักรบดาบยักษ์เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่… ยกเว้นแต่ความสามารถในการนั่งที่ม้านั่งสำรอง” พี่ใหญ่เฉาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ข้อมูลสกิลของตัวละครนักรบดาบยักษ์ ซึ่งในสองโหมดนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง (โหมดฮีโร่เป็นเหมือนกับเกม LOL ทุกคนจะเริ่มต้นที่เลเวล 1 ค่อยๆเพิ่มระดับสกิล และใช้แต็มวิญญาณของศัตรูหรือครีปที่ฆ่าเพื่อซื้ออุปกรณ์สวมใส่ ดวงวิญญาณยังสามารถใช้ในร้านค้าเพื่อซื้อไอเทมฟื้นพลังและอุปกรณ์พิเศษต่างๆได้อีกด้วย)

“ทั้งสองทีมกรุณาส่งรายชื่อผู้เข้าแข่งขัน! โอ้!! เขาใช้นักรบดาบยักษ์จริงๆด้วย! ปีนี้สโมสร Thorn and Roses ขาดการใช้ความคิดพื้นฐานมากเกินไปจริงๆ พวกเขาได้เชิญสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะที่เพิ่งเป็นมือใหม่ และยังไม่มีประสบการณ์ออกมาแข่งขัน แถมยังจ่ายในราคาที่สูงลิบเพื่อซื้อตัวละครแร็งค์ S อีกด้วย ตัวละครแร็งค์ S ที่สโมสร Thorn and Roses ซื้อมาใหม่เป็นตัวละครที่มีความยุ่งยากในการควบคุม และยังเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าตัวละครแร็งค์ A ซะอีก” พี่ใหญ่เฉาเห็นรายชื่อผู้เข้าร่วม และโห่ร้องออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ฉันรู้สึกว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับมันจริงๆ และพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้บรรดาผู้ชมผิดหวัง มันคุ้มค่ามากที่ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ และการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นของสโมสร Thorn and Roses…” ซูหยี่ยี่ยิ้มออกมา

“อันที่จริงแล้ว จากทุกดิวิชั่น สโมสร Thorn and Roses น่าจะเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากในปีนี้” พี่ใหญ่จงก็เห็นด้วย “แม้ว่าฉันไม่สามารถคาดเดาเส้นทางของพวกเขาได้ว่า เลนไหนที่นักรบดาบยักษ์ควรจะไป ไม่มีใครรู้ได้จริงๆ หรือบางทีเขาอาจจะเข้าป่า แต่ด้วยความสามารถในการแก้งของตัวละครนี้อ่อนแอเป็นอย่างมาก เพราะมันทั้งเชื่องช้า และมีสกิลในการเคลื่อนที่เพียงสกิลเดียวเท่านั้น แถมมันยังไม่ใช่สกิลประเภทเทเลพอทหรือบลิ้งอีกด้วย”

 

 

 


ตอนที่ 336

 

“การแบ่งเลนกันแบบนี้ … มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฝั่งตรงข้ามจะคาดเดาได้ …” ซูหยี่ยี่ยิ้มอย่างขมขื่น

พี่ใหญ่เฉาก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาได้แต่พูดพึมพำว่า “นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นไปตามหลักพื้นฐานทั่วๆไปเลย”

“มันจะจริงเหรอ …” พี่ใหญ่จงลูบคางและพึมพำ

ThornyRose ที่อยู่บนสนามรบก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน ทั้งสามนั้นคนคิดมากเกินไป อันที่จริงแล้วมันก็เป็นเพราะ ในช่วงเวลาเริ่มต้น พวกเขายืนยันว่าต้องการที่จะไปในเลนเดียวกัน แล้วพวกเขาก็ซื้อรูนดูดเลือด 5% ภายใต้คำสั่งของเย่ฉางก็เพียงเท่านั้นเอง จากนั้นพวกเขาก็โบกมือลาเย่เทียน ขณะที่วิ่งขึ้นเข้าไปในเลนบน โดยทิ้ง ThornyRose, ElegantFragrance ไว้เบื้องหลัง ในที่สุด ThornyRose ทำได้แต่เพียงยิ้มอย่างขมขื่นและเปลี่ยนตัวเอาเย่เทียนออก เธอให้ ElegantFragrance ไปเลนล่าง ส่วนเธออยู่เลนกลาง และปล่อยให้ FrozenBlood ฟาร์มป่า

“จริงๆแล้วพวกของพี่ใหญ่วีรบุรุษตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?” ซูหยี่ยี่ถามอย่างสงสัย

ขณะที่ครีปยังไม่มาถึง เย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ได้ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้าในป่าของฝั่งศัตรู พวกเขาทั้งหมดนั่งยองๆกำลังวางแผนกันอยู่

“เมื่อพวกเขามาถึง และยังกล้าที่จะเข้ามาทางนี้ อาเฉียง นายต้องจับตัวเขาไว้ ถ้าเราสามารถฆ่าได้ ก็จงฆ่า” เย่ฉางวางแผนการ ทั้งสามคนจึงอดทนรออย่างตั้งใจ

“กลยุทธ์แบบนี้มันล้าหลังมาก …” พี่ใหญ่เฉาพึมพำ

“มันจะได้ผลหรือ? ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้โง่ๆนะ” ซูหยี่ยี่แสดงความสงสัย

เมื่อได้ยินเสียงแตรดังขึ้น ครีปก็เกิดและเดินไปตามแต่ล่ะเลน ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาคือ InstantNoodles และ HalberdInSand ทั้งสองคนเดินตามครีปมาถึงพื้นที่รบ แต่พวกเขาไม่เห็นคู่ต่อสู้มาเลนบนนี้เลย พวกเขาจึงส่งข้อความอย่างรวดเร็ว “ไม่มีศัตรูขึ้นไปเลนบน!”

“InstantNoodles ไปซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้าซะ พวกเขาอาจจะฟาร์มอยู่ในป่า” Halberd ขบคิดและสั่งการ InstantNoodles พยักหน้าและเริ่มมุ่งหน้าไปที่พุ่มหญ้า แต่เมื่อเขาเเดินเข้ามาในพุ่มหญ้า

[ขอแสดงความยินดี ผู้เล่น HappyAndCheerful ได้สังหารผู้เล่น InstantNoodles แล้ว First blood!!!]

“……” พิธีกรสาว ผู้บรรยายทั้งสองและผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึง ‘มันประสบความสำเร็จจริงๆ’

Halberd ยืนแข็งค้าง เมื่อรู้สึกตัวเขาก็เริ่มวิ่งถอยไปตั้งหลัก สำหรับสกิลอันแรกของเย่ฉาง เขาเลือกอัพสกิล [Blade Edge Blink] สกิลนี้ทำให้เขาสามารถเทเลพอทไปยังตำเหน่งด้านหน้าดาบของศัตรูได้ ถ้าศัตรูกำลังโจมตีใส่ และสามารถบล็อคการโจมตีได้สำเร็จ ก็จะสามารถโจมตีสวนกลับด้วยคอมโบอย่างรวดเร็วได้

Halberd มองไปที่เย่ฉาง ผู้ปรากฏตัวตรงหน้าดาบของเขา เขาจึงฟันดาบใส่อย่างรวดเร็ว

“บ้าเอ้ย! ฉันไม่ควรโจมตีใส่เขาเลย ฉันควรจะรออีก 2 วินาทีเพื่อให้ผลเอฟเฟคสกิลของเขาสิ้นสุดลงเสียก่อน หรือเพียงแค่ปกป้องตัวเองและวิ่งหนีไปเท่านั้น เราทุกคนยังเลเวลหนึ่งกันอยู่ และในหมู่สกิลการเคลื่อนที่ สกิล [Blade Edge Blink] ของนักดาบปีศาจนั้น ถือว่าดีที่สุดในเลเวลต่ำๆแบบนี้ สกิลนี้มันสามารถเทเลพอทระยะกลางๆได้ ต่อไปก็มีเอฟเฟคพิเศษเป็นการบล็อค ซึ่งถ้าประสบผลสำเร็จ อาจนำไปสู่การโจมตีสวนกลับแบบคอมโบได้”

“ชุดคอมโบเริ่มต้นแล้ว” ซูหยี่ยี่ชี้

“7 ครั้ง” พี่ใหญ่จงไม่สามารถหยุดที่จะอุทานออกมาได้ “แค่สกิลเลเวลหนึ่งเท่านั้น แต่เขายังทำการคอมโบได้ตั้ง 7 ครั้ง แม้ว่าทุกครั้งจะทำดาเมจได้เพียง 45% ของการโจมตีปกติ แต่ก็ยังมากพอที่จะฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้”

[ผู้เล่น PaleSnow ได้สังหารผู้เล่น HalberdInSand]

“ตอนนี้ทีม Broken Halberd คงต้องเจองานช้างซะแล้วล่ะ…” พี่ใหญ่เฉาถอนหายใจ

ThornyRose ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตราบเท่าที่เลนบนชนะ มันก็เป็นผลดีต่อทีม ในเลนกลาง เธอสามารถจัดการกับ CapableLiu ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเธอจะต้องเล่นพาลาดินก็ตามที ปัจจุบันเธอมีข้อได้เปรียบในด้านประสบการณ์ทำให้ CapableLiu ถอนหายใจ ‘สมกับเป็นตัวแท้งค์ที่มีชื่อเสียงด้านการ PVP – Miss Rose’ CapableLiu ทำได้เพียงแต่ระวังตัวอยู่ภายในป้อมเท่านั้น

ในเลนล่าง ElegantFragrance แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ทำให้เธอเป็นหนึ่งในนักธนูที่ดีที่สุด เธอลาสครีปได้ทุกตัวจึงสามารถเก็บแต้มวิญญาณได้อย่างมากมาย แถมยังกดดันฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดีอีกด้วย คนที่น่าสงสารที่สุดในตอนนี้ก็คือ FrozenBlood ทุกเลนต่างมีผลงานกันหมดแล้ว มีแต่เธอคนเดียวที่ยังทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย เมื่อเธอสามารถจับตำเหน่ง Buckwheat ที่เล่นตัวป่าของฝ่ายตรงข้ามได้ เธอจึงเปิดใช้สกิลหายตัว และภาพเงาของเธอค่อยๆหายไป

ในเลนบน เย่ฉางและคนอื่นๆมีเลเวล 3 กันแล้ว และในตอนนี้พวกเขาก็โจมตีป้อมกันอยู่ เย่ฉางและจางเจิ้งเฉียงเดินไปดักครีปอยู่ด้านหลังป้อม และเพื่อสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคนที่ควรจะกลับมา ในขณะที่หลินหลี่คอยกระหน่ำฟาดดาบยักษ์ใส่ป้อมไม่ยั้ง

“นักรบดาบยักษ์สร้างความเสียหายให้กับป้อมอย่างมาก! พลังป้องกันของป้อมแทบจะไม่มีผลกับเขา!” ซูหยี่ยี่ตะโกนออกมา ‘เขาทำความเสียหายมากกว่าผู้เล่นอื่นๆตั้งสามเท่า!’

“ในตอนเลเวล 1 ปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่งเลือกที่จะไม่อัพสกิลโจมตี แต่เขาเลือกอัพสกิลติดตัวแทน ซึ่งควรได้รับการพิจารณาว่ามันไร้ประโยชน์ในการแข่งขันในโหมดฮีโร่แบบนี้ สกิลติดตัว [Giant Slayer] มีเอฟเฟคคือช่วยให้นักรบดาบยักษ์สามารถสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น พร้อมกับการเจาะเกราะที่เพิ่มขึ้นกับศัตรูที่มีขนาดใหญ่ สกิลติดตัวนี้ยังมีเอฟเฟคพิเศษที่ซ่อนอยู่อีกด้วย ซึ่งก็คือสามารถสร้างความเสียหายใส่พวกสิ่งก่อสร้างได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ฉันได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ฉายา ‘ม้านั่งอุ่น’ ของนักรบดาบยักษ์สามารถโยนทิ้งไปได้เลย” พี่ใหญ่เฉากล่าว

“แค่ก แค่ก เมื่อลีคแห่งทรราชหมดยุคไปแล้ว ตัวละครตัวนี้จึงได้เปลี่ยนมากลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งหรือสองในการตีป้อม มูลค่าของมันจะเพิ่มสูงขึ้นแน่ๆ” พี่ใหญ่จงยิ้ม

เย่ฉางกำลังเฝ้ารอศัตรูอยู่หลังป้อม เสียงกริ๊กกริ๊กจากดาบของเขาดังขึ้น ทำการกวาดล้างพวกครีปที่เดินเข้ามา เมื่อมองไปที่แต้มวิญญาณของเขา เขาจึงเลือกที่จะอัพเกรดอาวุธ สำหรับจางเจิ้งเฉียง เขาเลือกอัพเกรดพลังซี่และเริ่มฆ่าครีปในป่าที่อยู่ใกล้ๆ

Halberd ได้เห็นว่าเย่ฉางและคนอื่นๆยึดเลนบนไว้ได้อย่างสบายๆ ‘พวกเขากำลังถล่มป้อมอยู่โดยการตัดครีป!’ เขาจึงเรียก Buckwheat ให้เข้ามาช่วยเลนบน จากนั้นเขาก็แอบเข้าไปในป่าและเห็นจางเจิ้งเฉียงฟาร์มครีปป่าของพวกเขาอย่างสบายใจ Buckwheat กระโจนออกมาจากอีกด้านหนึ่ง ขณะที่เขากำลังจะโจมตีใส่จางเจิ้งเฉียง แต่ทันใดนั้น Buckwheat ได้ยินเสียงที่หนาวเย็นของผู้หญิงดังมาจากข้างหลังเขา “นี่ ~ เธอ ~มาได้ไง!? …”

Buckwheat รีบหันกลับและแทงมีดใส่เธอ แต่ FrozenBlood ก็พุ่งเข้าประชิดตัวเขาแล้ว เธอใช้เพียง 5 การโจมตีเพื่อจบชีวิตของ Buckwheat มันเป็นการลงมือฆ่าอยู่เพียงฝ่ายเดียว Buckwheat ฟื้นขึ้นมาในฐานและยิ้มอย่างขมขื่น ‘สมกับเป็น Night Empress จริงๆ’ เขาเคยดูการต่อสู้ของเธอมาตั้งแต่ตอนช่วงมหาวิทยาลัยแล้ว เแต่ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับเธอ เขาไม่คาดคิดว่าช่องว่างระหว่างเธอและเขา มันจะใหญ่มากถึงขนาดนี้ เขาหายใจเข้าลึกๆ วันนี้เขาได้รับความอับอาย และเขาจะไม่หนีไปแบบนี้แน่ๆ เขากระชับมีดแน่นและเดินเข้าไปในป่าอีกครั้ง

Halberd และ InstantNoodle พบว่า Buckwheat ถูกฆ่าโดย FrozenBlood ดังนั้นพวกเขาจึงวางแผนที่จะถอนตัวออกจากป่า แต่เสียงกริ๊กกริ๊กดังขึ้นไม่ไกลจากหลังของพวกเขา หัวใจของพวกเขาดิ่งลง ‘แย่แล้ว เราถูกล้อม!’

[ป้อมแรกของเลนบนถูกทำลายโดยผู้เล่น HappyAndCheerful!]

ไม่เพียงแต่จะถูกซุ่มโจมตี ถูกโจมตีสวนกลับด้วยคอมโบ แม้แต่ป้อมก็ยังถูกทำลาย พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกอับจนหนทางมาก แต่ตอนนี้พวกเขาต้องฝ่าวงล้อมนี้ออกไปให้ได้ก่อน พวกเขาจึงตัดสินใจวิ่งไปในในทิศทางของนักดาบปีศาจ เพื่อที่พยายามจะฝ่าทะลุออกไปให้ได้ แต่เย่ฉางมีเลเวล 5 แล้ว ขณะที่พวกเขาทั้งสองมีเลเวลแค่ 2 เท่านั้น นอกจากนี้ เย่ฉางยังอัพเกรดอาวุธของเขาแล้วอีกด้วย อย่างไรก็ตาม! ในเมื่อทั้งสองคนตัดสินใจวิ่งไปหาเย่ฉางที่กำลังเล่นกับดาบของเขาอยู่ เย่ฉางหลบสกิล [Earth Splitter] ของ Halberd จากนั้นเขาใช้สกิล [Blade Edge Sprint]! หลบผ่านสกิล [Multi-Thrust] ของ InstantNoodle เพื่อพุ่งเข้าไปหา Halberd เมื่อตอนเย่ฉางพุ่งผ่าน Halberd เขาแทงดาบใส่ไปหนึ่งครั้ง เมื่อเขามาถึงในตำแหน่งประมาณ 10 เมตรด้านหลังของ Halberd เย่ฉางหันมาและปาดาบสั้นใส่ไหล่เขาและฆ่าเขาตายลงไป จากนั้นเย่ฉางก็ใช้สกิล [Blink Edge Blink]! เขาหายตัวไปและปรากฏตัวตรงหน้า InstantNoodle ซึ่งยังคงแสดงผลของสกิล [Multi-Thrust] อยู่ เย่ฉางยกดาบบล็อค! เคาน์เตอร์! คอมโบ! ดาบยาว, ดาบสั้น, ดาบตรง! ทุกอย่างถูกระดมใช้ออกมาหมด เขาทำเกือบ 10 คอมโบที่สวยงาม จากนั้นเขาก็เก็บดาบใส่ฝัก

[ผู้เล่น PaleSnow ได้สังหารผู้เล่น HalberdInSand และ InstantNoodle Double Kill!!…]

เย่ฉางเห็นว่าเลเวลอัพเป็น 6 แล้ว เขาเลือกอัพสกิลการเคลื่อนที่หลักของเขา – [Blade Frenzy] “อาเฉียง นายและหลินหลี่อยู่เลนบนนี่ก่อน ฉันได้เรียนรู้สกิลใหม่แล้ว ดังนั้นฉันจะออกไปแก้ง …”

“เพื่อน! ฉันไปด้วย! มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะได้เจิดจรัสเสียที!” จางเจิ้งเฉียงฟาดฝ่ามือฆ่าครีปป่าไป แล้วรีบวิ่งตามเย่ฉางไป หลินหลี่ยกดาบยักษ์พาดบ่าและวิ่งตามมาด้วยอีกคน “ผมอยากไปด้วย! ผมอยากไปด้วยคน! ผมอยากไปแก้งหรืออะไรก็ตาม! มันดูเหมือนจะสนุก เรื่องสนุกแบบนี้จะขาดผมไปได้ไงกัน!”

“เฮ้! ถ้าพวกนายจะไปกันหมด แล้วใครจะป้องกันเลนบนล่ะ!” FrozenBlood ตะโกน

“ก็เธอไง …” ทั้งสามคนหันมาตอบและยักไหล่ จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในป่า

“ฉันเป็นตัวป่า ฉันควรจะไปแก้งมากกว่าสิ!” FrozenBlood เดินไปที่เลนบนอย่างไม่เต็มใจ เธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและเริ่มที่จะหาว ในขณะที่เธอสังหารครีปและเก็บเกี่ยวแต้มวิญญาณของพวกมัน ‘แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ฉันสามารถอัพไปถึงเลเวล 6 ได้อย่างง่ายๆ เพื่อให้ได้รับสกิล [Single Flash]’

“สามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ เป็นคนน่าสนใจจริงๆ …” ซูหยี่ยี่อดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ดูเหมือนว่าปีนี้ จะมีสามผู้เล่นที่แหวกแนวเกิดขึ้นมาแล้ว ช่างน่าสนใจมากๆ” พี่ใหญ่จงก็ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตาม

“อืม แต่มันเหมาะสมดีแล้วหรือที่พวกเขาจะเดินแก้งทั้งๆแบบนี้ …” พี่ใหญ่เฉาเฝ้าดูขณะที่เย่ฉางเล่นกับดาบและส่งเสียงกริ๊กกริ๊ก ส่วนหลินหลี่เดินโชว์พลังพร้อมกับส่งเสียงคำรามดังก้องไปทั่ว

“……” ซูหยี่ยี่ก็พูดไม่ออก “พวกเขาได้เดินผ่านแม่น้ำและกำลังมุ่งหน้าไปยังเลนกลางแล้ว”

“CapableLiu ระมัดระวังตัวด้วย พวกมันกำลังไปยังเลนกลางแล้ว” Halberd เตือน

CapableLiu ยิ้มอย่างขมขื่น เธอไม่จำเป็นต้องมีคำเตือน เสียงในแม่น้ำดังเสียจนพวกตาสีตาสาที่ไหนก็รู้ว่าต้องมีบางอย่างอยู่

หัวใจ ThornyRose บีบรัดแน่น ‘ใครเขาแก้งกันแบบนี้หึ!? ก่อนที่ตัวพวกนายจะมาถึง เสียงก็มาถึงก่อนแล้ว แล้วศัตรูที่ไหนจะอยู่รอความตายกัน!’ เธอใช้แต้มวิญญาณอัพโล่และอุปกรณ์ของเธอ “ฉันจะแท้งค์ป้อมให้เอง ตอนนี้ฉันคงรับการโจมตีจากป้อมได้สามครั้ง ส่วนพวกนายรีบฆ่าเธอให้เร็วที่สุดซะ”

เย่ฉางครุ่นคิดแล้วนำพรรคพวกของเขาไปด้านหลังป้อม ก่อนที่จะให้สัญญาณ ThornyRose เขามอง CapableLiu ที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆป้อมอย่างระมัดระวัง เขาลดท่าทางลงอย่างแผ่วเบา “อาเฉียง ถ้าเธอไม่สามารถทนรับมือการโจมตีจากป้อมได้ นายช่วยรับช่วงต่อด้วยล่ะ! หลินหลี่ลงมืออย่าให้พลาดนะ”

ThornyRose ผลักดันครีปเข้าไปยังฝั่งตรงข้าม Buckwheat ที่กำลังเดินข้ามแม่น้ำด้านขวา เห็น ThornyRose กำลังจะขึ้นไปที่ป้อมของพวกเขา เขาจึงเปิดใช้สกิลหายตัว ThornyRose รีบวิ่งไปที่ป้อมและใช้สกิล [Judgment] เพื่อสตั้น CapableLiu เมื่อเธอโดนสตั้น เธอรีบเปิดใช้สกิล [Cryonics] เพื่อให้หลุดออกมาจากการโดนสตั้น จากนั้นเธอก็รีบล่าถอยไปด้านหลังป้อม ThornyRose หัวเราะเยาะ CapableLiu รู้สึกหนาวๆบนหลังและรีบหันมาดู มีกระสุนพลังซี่อยู่ข้างหน้าของเธอ เธอถูกกระแทกชนเข้ากับป้อมและติดสตั้นอีกครั้ง ThornyRose พุ่งเข้าไปฟัน CapableLiu เพื่อรับดาเมจจากป้อม จากนั้นเธอก็รีบวิ่งไปหาพวกเย่ฉาง ถ้าเธอไม่ได้วิ่งไป เธอจะถูกป้อมยิงไม่หยุดจนตาย! ถ้าเธอตาย CapabeLiu จะได้ผลประโยชน์ไปซึ่งมันไม่คุ้มค่าเลย! “ฆ่าเธอเร็วๆเข้า!”

เย่ฉางพุ่งเข้าไปด้วยสกิล [Blade Edge Sprint] ขณะที่เขาวิ่งผ่าน Thornyrose เขาฟันดาบใส่เธอจนตาย จากนั้นเขาก็แทงดาบเข้าไปในลำคอของ CapableLiu หลินหลี่พุ่งมาจากด้านหลังพร้อมด้วยสกิลการเคลื่อนไหวของเขา หลินหลี่พุ่งเข้ามาตัดหัว CapableLiu ด้วยการฟันหนึ่งครั้ง ThornyRose ซึ่งถูกป้อมยิงไปแล้วสองครั้ง และการยิงครั้งที่สามกำลังจะมาถึงตัวเธอ ขณะที่เธอวิ่งผ่านเย่ฉาง เธอก็ถูกเขาฆ่าตายทันที ก่อนที่เธอกำลังจะตาย เธอมองและชี้ไปที่เย่ฉาง “ไอสาาาาาาดดดดด …”

เย่ฉางและหลินหลี่เฝ้ามองภาพการยิงครั้งสุดท้ายของป้อม ที่ยิงใส่ศพของ ThornyRose และแล้วพวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการแก้ง!

“มันน่าจะเป็นไปได้ที่ ThornyRose จะรอดจากการโจมตีของป้องใช่มั้ย?” ซูหยี่ยี่ยืนขึ้นพร้อมกับหลั่งเหงื่อเย็นออกมา ‘พี่ใหญ่วีรบุรุษฆ่าเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง!!’

“อืม ThornyRose ต้องคำนวณและรู้ตัวดีว่าเธอจะสามารถรอดจากป้อมไปได้ แต่…” พี่ใหญ่จงตอบ

“มันต้องเป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่คุ้นเคยกันและอาจขาดประสบการณ์ ดังนั้นจึงอาจเกิดเรื่องผิดพลาดแบบนี้ขึ้นได้ โดยการเลือกที่จะฆ่าเธอด้วยตัวเขาเอง เขาคงจะเลือกที่จะต้องทนทุกข์ทรมาน จากการโดนหักแต้มของฝั่งตัวเองมากกว่าที่จะให้แต้มแก่ฝ่ายตรงข้าม สมกับเป็นผู้นำของสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ” พี่ใหญ่เฉาอธิบายถึงสิ่งที่เขาคิดว่าต้องเกิดขึ้น

 

 

 


ตอนที่ 337

 

FrozenCloud ส่ายหน้าอย่างรุนแรงในห้องพัก “โถ่! พี่ใหญ่เฉานี่ช่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย หัวหน้าทีมเพียงแค่ต้องการที่จะฆ่าพี่สาวโรสจริงๆ …”

“ฉันโดนลงโทษจากการที่ฆ่าเพื่อนร่วมทีมไป ฉันเสียแต้มวิญญาณไปตั้ง 100 ดวง” เย่ฉางกลับไปที่ป่าของศัตรูอย่างไม่สบายใจ

ThornyRose เกิดที่ฐานด้วยสีหน้าโกรธแค้น ElegantFragrance ผู้ซึ่งได้กลับมาที่ฐานและเห็นว่า ThornyRose กำลังจะระเบิดอารมณ์ขึ้น เธอจึงรีบซื้อไอเทมฟื้นพลังอย่างรวดเร็วและเดินจากมาทันที เธอไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเลย เพราะมีข้อความจากระบบแจ้งเตือนไว้อยู่ก่อนแล้วว่า ‘ผู้เล่น PaleSnow ได้สังหารเพื่อนร่วมทีม ThornyRose’

“เพื่อน เมื่อตอนเราอยู่ในแม่น้ำ ฉันเห็นบอสด้วยล่ะ เราลองไปสู้กับบอสดีไหม!?” จางเจิ้งเฉียงเสนอความคิด

“ใช่แล้ว! พี่ใหญ่ขาว! เราลองไปสู้กับบอสกันเถอะ!” หลินหลี่เห็นด้วย

“เอาล่ะ ไปลองดูกันเถอะ …” เย่ฉางพูด และแล้วทั้งสามคนก็เดินลงไปที่แม่น้ำ ด่านที่กำลังแข่งนี้คือด่าน Nightmare Rainforest ดังนั้นจะมีบอสอยู่ 4 ตัว โดยฝั่งแม่น้ำด้านบนจะมีบอส Titan Alligator และ Athos the Skeletal Demon ส่วนฝั่งแม่น้ำด้านล่างจะมีบอส Super Strength Python และ Extremely Poisonous Toad Spirit โดยตามความยากลำบากจากที่จัดการง่ายที่สุดไปหายากที่สุดคือ Titan Alligator, Super Strength Python, Athos The Skeletal Demon และ Extremely Poisonous Toad Spirit โดยให้รางวัล 150,200,300,500 แต้มวิญญาณตามลำดับ ที่สำคัญบอสทั้งสี่ยังให้รางวัลเป็นบัฟอีกด้วย

สมาชิกของทีม Broken Halberd คิดว่าพวกเย่ฉางทั้งสามกำลังเดินเข้าป่าเพื่อหาแก้งคน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าออกจากป้อมของพวกเขาเลย พวกเขาทำตัวเหมือนเต่าที่หดหัวอยู่แต่ในกระดอง

เย่ฉางมองไปยังบอส Titan Alligator ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา “ลุยโล้ด…”

ทั้งสามคนจึงเริ่มต่อสู้กับ Titan Alligator

“นักดาบปีศาจเลเวล 6, จอมหมัดเหล็กเลเวล 5 และนักรบดาบยักษ์เลเวล 5 กำลังวางแผนที่จะฆ่าบอส Titan Alligator!? ช่างบ้าไปแล้วววว …” ซูหยี่ยี่เป็นกังวลมาก เพราะเธอได้เดิมพันว่าทีม Thorns and Roses จะชนะ

“มันน่าจะไหวนะ นักรบดาบยักษ์มีความสามารถในการสู้กับศัตรูที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นเขาน่าจะสร้างความเสียหายแก่บอสได้สูงมากๆ ตราบเท่าที่นักดาบปีศาจและจอมหมัดเล็กสามารถยื้อบอสไว้ได้ และสุดท้ายแล้วพวกเขาน่าจะทำสำเร็จ” พี่ใหญ่เฉามองไปที่นักรบดาบยักษ์และวิเคราะห์

“พี่ใหญ่เฉาพูดถูกต้องแล้ว ข้อด้อยของนักรบดาบยักษ์คือ PVP แต่เมื่อเทียบกับการสู้กับบอสแล้วล่ะก็ ตัวละครตัวนี้ถือว่าเป็นแร็งค์ SS ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบอสขนาดใหญ่แบบนี้” พี่ใหญ่จงพยักหน้าและพูดแสดงความคิดเห็น

“บ้าเอ้ย เพื่อน จระเข้ตัวนี้มีพลังโจมตีสูงมาก พลังชีวิตของฉันหายไปครึ่งหลอดแล้ว!” จางเจิ้งเฉียงทดสอบดาเมจของบอส

“ดังนั้น เราอย่าไปโดนมันโจมตีใส่เข้าให้ล่ะ อาเฉียง นายกับฉันมาช่วยกันยับยั้งการโจมตีของบอส และปล่อยให้หลินหลี่เป็นคนโจมตีมันอย่างเดียว ที่สำคัญคือเราอย่าปล่อยให้มันโจมตีใส่หลินหลี่ได้ล่ะ!” เย่ฉางหลบและบล็อคการกัดของบอสอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเร็วในการโจมตีและการเคลื่อนที่ของเขาเร็วขึ้นและเร็วขึ้นเรื่อยๆ การกระทำเช่นนี้พร้อมกับการหลบหลีกแบบนี้ ทำให้ทุกคนตื่นตระหนกตกใจ

เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ สมาชิกของทีม Broken Halberd กำลังงงงวยกันอยู่ “สามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะอยู่ที่ไหนกัน? มันนานมากแล้วที่ไม่มีร่องรอยของพวกเขาเลย ขนาด Buckwheat ยังไม่ได้พบเจอพวกเขาในป่าเลย”

[Titan Alligator ได้ถูกสังหารโดยทีม Thorns and Roses ได้รับ 150 แต้มวิญญาณ และพลังโจมตี + 10%!]

“……” ทุกคนในทีม Broken Halberd หลั่งเหงื่อเย็นออกมา ‘ไม่นะ!’ จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ มีเลเวล 6 แล้ว หลินหลี่ตัดสินใจใช้แต้มอัพสกิล [Giant Beheader] ส่วนจางเจิ้งเฉียงเลือกอัพท่าไม้ตาย [Qi Burst – Elements] ต่อมาพวกเขาทั้งสาม ก็มาถึงที่อยู่ของบอส Athos the Skeletal Demon หลังจากลังเลอยู่สักพัก พวกเขาตัดสินใจไปหาบอสอีกฝั่งของแม่น้ำดีกว่า เมื่อเห็นบอส Super Strength Python พวกเขาจึงเลือกที่จะสู้กับบอสตัวนี้ ขณะที่พวกเขาอยู่ในระหว่างการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของพวกเขานั้น Buckwheat ก็รีบวิ่งไปที่จุดเกิดของบอส Titan Alligator และเห็นศพมัน

[Super Strength Python ได้ถูกสังหารโดยทีม Thorns and Roses ได้รับ 200 แต้มวิญญาณ และพลังป้องกัน + 10%!]

ทั้งสามคนเลือกที่จะอัพเกรดอาวุธของตน และพยายามต่อสู้กับบอส Extremely Poisonous Toad Spirit หลังจากนั้นไม่นาน…

[ผู้เล่น PaleSnow, HappyAndCheerful, HeavenShakingMight ถูกสังหารโดย Extremely Poisonous Toad Spirit]

ทั้งสามคนจ้องมองกันตรงจุดเกิดที่ฐาน หลินหลี่กัดฟันแน่น “พี่ใหญ่ขาว เราต้องกลับไปฉีกเจ้าคางคกบ้านั้นออกเป็นชิ้นๆให้ได้!!”

เย่ฉางพยักหน้าและคิดย้อนกลับไปที่การต่อสู้กับบอส ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น บอสก็พ่นหมอกพิษออกมาเป็นบริเวณพื้นที่กว้าง และพวกเขาต้องจำยอมต่อสู้กับบอสในหมอกพิษแบบนี้เท่านั้น ถ้าพวกเขาไปตอนนี้ พวกเขาก็จะตายลงอีกครั้ง พวกเขาควรทำอย่างไรดี? สุดท้ายแล้วเขาจึงตัดสินใจที่จะไปถามใครสักคน คนที่มีประสบการณ์มากที่สุดคือ ThornyRose แต่เธอเพิ่งถูกฆ่าโดยเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะถาม FrozenBlood “มีวิธีฆ่าบอสคางคกไหม?”

“ก่อนอื่น นายต้องมีการโจมตีดูดเลือดที่มาก หรือมีความต้านทานต่อพิษที่สูง โดยปกติแล้วบอสตัวนี้เราจำเป็นต้องใช้ 6 คนเข้าสู้ และต้องสู้หลังจากการล้างบางทีมฝั่งตรงข้ามหมดแล้ว และที่สำคัญก็คือทุกคนต้องใช้ตัวละครแร็งค์ A ขึ้นไป และมีเลเวล 11 หรือสูงกว่า”

เย่ฉางมองแต้มที่เหลือของเขา แล้วเลือกที่จะอัพเกรดรูนดูดเลือด

“เพื่อน ในร้านค้ามียาเพิ่มความต้านทานพิษด่วยล่ะ! มันราคา 100 แต้ม! แพงมากจริงๆ” จางเจิ้งเฉียงบอก

“พวกนายซื้อมาอันหนึ่งซะ! ฉันอยากฆ่าคางคก!”เย่ฉางกัดฟันและตะโกน จากนั้นเขาให้ความสำคัญกับการอัพเกรดชุดเกราะและซื้อยาเพิ่มความต้านทานพิษ จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ก็ซื้อมาคนล่ะอัน จากนั้นทั้งสามคนมุ่งหน้าไปหาบอส Extremely Poisonous Toad Spirit

“เฮ้! พวกเขาใช้จ่ายแต้มจำนวนมากซื้อยาเพิ่มความต้านทานพิษ เพื่อจุดประสงค์ในการเอาชนะบอสนี่นะ? เป้าหมายหลักของพวกเขาน่าจะเป็นการเอาชนะทีมฝั่งตรงข้ามมากกว่า บอสเหล่านี้เป็นเพียงครีมบนหน้าเค้กเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปจะมาฆ่ากันเมื่อตอนที่ทั้งสองทีมเอากันไม่ลง” ซูหยี่ยี่เอามือก่ายหน้าผากของเธอ

“ตามข้อมูล การต่อสู้กับบอสคางคกในตอนนี้อันตรายอย่างมาก…” พี่ใหญ่เฉาวิเคราะห์

“อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจจะทำเร็จก็ได้ พวกเราได้เห็นการประสานงานที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาแล้ว แต่ตอนนั้นพวกเขายังมีความต้านทานพิษและระดับรูนดูดเลือดต่ำอยู่” พี่ใหญ่ฉงยิ้ม

กลับไปที่รังบอส Extremely Poisonous Toad Spirit เมื่อทั้งสามคนมาถึงและเห็น Buckwheat เดินออกจากรังของบอส พวกเขาจึงฆ่าเขาไปอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในรังบอส

ThornyRose พยายามโน้มน้าวพวกเขาให้หยุดการกระทำที่ไร้สาระนี่ซะ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งสามคนตั้งใจฆ่าบอสอย่างจริงจัง เธอเอามือก่ายหน้าผาก จู่ๆเธอก็เห็นสมาชิกของทีม Broken Halberd ออกจากเลนไปหมด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขากำลังไปที่ไหน! หากบอสคางคกถูกแย่งไปโดยฝั่งศัตรู ผลงานที่สะสมมาของทีมเธอก็จะหายไปอย่างสมบูรณ์ ในฐานะที่เป็นบอสสุดท้ายของแม่น้ำฝั่งนี้ บัฟจากการฆ่ามันนั้นมีประโยชน์มากๆ และแต้มวิญญาณของมันมีค่าเทียบเท่ากับการฆ่าคนไป 3.5 ครั้ง และยังแจกให้ทั้งทีมอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือบัฟ Constitution + 20%, ลดความเสียหายที่ได้รับลง 15% และค่าสถานะทั้งหมด + 5% แน่นอนว่าเธอไม่สามารถให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด “ทุกคนมารวมตัวกันที่บอสคางคก! ElegantFragrance ฆ่ามันถ้าเธอมีโอกาส แน่นอนว่าเราไม่สามารถปล่อยให้ทีมอื่นขโมยมันไปได้! ยัยไอซ์ เธอและฉันจะรอฆ่าพวกเขากัน …”

“ได้เลย …” มีดของ FrozenBlood แทงปลิดชีพทหารปืนใหญ่ ซึ่งทำให้เธออัพเป็นเลเวล 7 ทันที จากนั้นเธอก็กระโดดลงไปในแม่น้ำ

EleganFragance เริ่มมองหาจุดซุ่มยิงและมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง

“จริงๆแล้ว พวกเขาสามารถเลือกที่จะไม่ต่อสู้กับบอสคางคกก็ได้ หากพวกเขาเพียงแค่กดดันฝั่งตรงข้ามอยู่เหมือนเดิม ยังไงซะ ชัยชนะก็ต้องตกเป็นของพวกเขา ทำไมถึงต้องมาทำเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญแบบนี้ด้วย เฮ้อ!” ซูหยี่ยี่ถอนหายใจ

“มันเป็นเพราะศักยภาพที่แข็งแกร่งของสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ สามารถเห็นได้จากการต่อสู้ในช่วงต้นเกมที่ผ่านมา เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขามีคุณสมบัติของผู้เล่นชั้นนำจริงๆ แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายแบบนี้ขึ้นมา ประการแรกเป็นเพราะพวกเราเกเรและดือรั้นจนเกินไป ประการที่สองเป็นเพราะพวกเขาไม่ฟังคำสั่งของหัวหน้าทีมเลย ส่วนประการที่สาม พวกเขาปล่อยให้อารมณ์มามีผลต่อการตัดสินใจของพวกเขา” พี่ใหญ่จงชี้ไปที่หน้าจอและอธิบาย

“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเสน่ห์ของพวกเขา …” พี่ใหญ่จงยิ้มอย่างที่ไม่เคยยิ้มแบบนี้มาก่อน

เย่ฉางหลบน้ำลายของบอสคางคกและฟาดดาบใส่มันเต็มแรง ทั้งสามคนปิดล้อมและต่อสู้กับบอสอย่างสนุกสนาน ใกล้ๆพวกเขามีแอสซาซินของฝ่ายศัตรูจ้องมองอยู่ ElegantFragrance ยกคิ้วขึ้นและระดมยิงลูกศรออกไปทันที Buckwheat ที่กำลังซ่อนตัวอยู่โดนลูกศรยิงใส่จนเผยตัวตนออกมา เมื่อเขาถูกลูกศรดอกที่สองยิงใส่อีก เขาจึงทำการล่าถอยออกมา InstantNoodles ไม่กล้าเข้าไปที่จุดซุ่มยิงของ ElegantFragrance เพราะว่ามี ThornyRose และ FrozenBlood ยืนเฝ้าอยู่ข้างประตูทางเข้า FrozenBlood มีเลเวล 7 แล้วและกำลังซ่อนตัวอยู่ ทำให้พวกเขารู้สึกลังเลใจที่จะเข้าไป

“เราเข้าไปกันเถอะ ถ้าเรายังไม่รีบเข้าไปในตอนนี้ พวกเขาจะได้บอสไปจริงๆนะ ยังไงตอนนี้เราก็ตามหลังพวกเขาอยู่เยอะ ทำไมเราถึงไม่ลองเดิมพันไปขโมยบอสดูล่ะ!?” CapableLiu กระชับไม้เท้าและตะโกนบอก

“CapableLiu พูดถูก! แม้ว่าเราอาจจะโดนฆ่าตายหมด แต่ถ้ามีใครสักคนในฝั่งเราลาสบอสได้ จะทำให้เรารับบัฟจากบอสคางคกนี้ได้!” Halberd พูดแล้วก็คำราม “ลุย!”

สมาชิกทั้ง 6 คนของทีม Broken Halberd เริ่มพุ่งเข้าไป CapabeLiu เรียกพายุทอร์นาโดเพื่อพยายามต่อต้านลูกศรของ ElegantFragrance

“ไม่ดีแล้ว!!” ElegantFragrance เห็นว่าลูกศรส่วนใหญ่ของเธอได้รับการหักเหจากพายุทอร์นาโด เธอเลียริมฝีปาก “[Hundred Flowers Withering]”

สกิล [Hundred Flowers Withering] เป็นสกิลท่าไม้ตายที่จะได้มาตอนเลเวล 6 มันเป็นการยิงลูกศรเวทมนตร์ออกไป และกลายเป็นดอกไม้ไฟที่งดงาม จากนั้นสะเก็ดไฟก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง, ไฟและสายฟ้าตกลงมา มันเป็นการโจมตีด้วยทั้งสามธาตุ น้ำแข็งจะลดความเร็วของศัตรู ไฟจะทำให้ศัตรูติดสถานะเผาไหม้ และสายฟ้าจะทำให้ศัตรูเป็นอัมพาต ด้วยการที่มันมีจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดเอฟเฟคตามธาตุต่างๆ

ด้านฝั่งทีม Broker Halberd ด้วยการสะกัดกั้นจากสกิลท่าไม้ตายของ ElegantFragrance ทำให้พวกเขาต้องฝ่าเข้าไปด้วยความยากลำบาก โชคดีที่พวกเขามีพายุทอร์นาโดของ CapableLiu ทำให้พวกเขาสามารถผ่านพ้นไปได้

ThornyRose ยืนคุ้มกันอยู่ข้างหลังพวกบ้าสามคน Buckwheat ที่กำลังจะแอบเข้าไปหาบอสอีกครั้ง จู่ๆเขารู้สึกหนาวข้างหลังขึ้นมา

“ฉัน ~ จับนาย ~ ได้อีกครั้งแล้ว ~” FrozenBlood ยิ้ม หัวใจของ Buckwheat ทรุดลง เขาไม่สามารถปล่อยบอสไปอีกครั้งได้แล้ว! เขาบิดตัวหลบเลี่ยงการโจมตีที่ถึงตายของ FrozenBlood

FrozenBlood ประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่เลว…”

Buckwheat แกล้งทำท่าโจมตีใส่เธอ แต่ทันใดนั้นเขากลายเป็นควันดำและมาโผล่ข้างหลังเธอ FrozenBlood ก็แกล้งทำเป็นบล็อคการโจมตีของเขา แต่เธอแอบเปิดใช้งานสกิลท่าไม้ตายของเธอ [Single Flash]! เกิดเป็นแสงและเงาวูบวาบขึ้นมา ทำให้ Buckwheat ล้มลงกับพื้น หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ ตอนนี้เขาสามารถเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขาได้อย่างชัดเจนแล้ว ไม่ใช่แค่ความแตกต่างระหว่างตัวละครแร็งค์ A และ S เท่านั้น แม้ว่าจะเป็นตัวละครแร็งค์ A เหมือนกัน เขาก็ยังขาดประสบการณ์อยู่ดี เขาต้องฝึกให้หนักขึ้น!!

[Extremely Poisonous Toad Spirit ได้ถูกสังหารโดยทีม Thorns and Roses ได้รับ 500 แต้มวิญญาณ, Constitution + 20%, ลดความเสียหายที่ได้รับลง 15% และค่าสถานะทั้งหมด + 5%!]

“ความหวังสุดท้ายของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ อัตราการชนะของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีโอกาสนั้นเลยจริงๆ …” พี่ใหญ่เฉาถอนหายใจ

“ยังไม่ยอมแพ้อีก?” ThornyRose ยิ้มอย่างพอใจ หลังจากที่เพิ่งได้รับบัฟจากบอส ซึ่งเป็นผลงานของสามสหายเกรียน

“ตราบเท่าที่ฐานเรายังไม่แตก เราจะไม่ยอมแพ้!” Halberd ตะโกน

ThornyRose ยิ้มเบาๆ สโมสรที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งนี้ ซึ่งเป็นทีมที่โดดเด่นและมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะสร้างผลงานได้ดี แต่กลับถูกทีมเธอกดดันจนทำอะไรไม่เป็น เธอหันไปมองสามสหายเกรียนที่กำลังเดินออกมาจากรังบอส พวกเขามองกลับไปที่เธอ แล้วก็มุ่งหน้าไปยังบอสตัวสุดท้าย พวกเขาไม่มีเจตนาที่จะช่วยต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามเลยสักนิด ThornyRose หลั่งเหงื่อเย็นขึ้นมาทันที ‘เฮ้อ! แม้ว่าฉันจะสั่งให้พวกเขากลับมา แต่พวกเขาจะฟังฉันหรือ? แต่พวกนี้ก็เกินไปจริงๆ ฝั่งตรงข้ามมีแค่ Buckwheat ที่ตายไป และพวกเขายังคงมีอีกตั้ง 5 คน! พวกนายยังต้องการให้เราต่อสู้ 3 ต่อ 5 งั้นหรือ?’ เธอได้แต่ถอนหายใจ “พวกนายกำลังจะไปที่ไหน!”

“ฆ่าบอส! ก็ไอ้เจ้าบอสโครงกระดูกตัวนั้น มันจ้องมองพวกเราเหมือนว่าพวกเราเป็นตัวตลก ดังนั้นเราจึงต้องไปฆ่ามัน!” หลินหลี่ตอบโดยไม่ต้องหันหลังกลับมามอง ทั้งสามคนหายตัวไปอย่างรวดเร็วในแม่น้ำ

 

 

 


ตอนที่ 338

 

“อะไรกัน! พวกเขาหนีไปต่อสู้กับบอส Athos เฉยเลย และไม่สนว่าพวกของ ThornyRose จะตายเลย” ซูหยี่ยี่เฝ้าดูพวกของ ThornyRose ทั้ง 3 คนที่คอยต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามทั้ง 5 คน และยังมีความได้เปรียบมากอีกด้วย แต่ทันใดนั้นทั้งสองฝ่ายก็หยุดชะงักลง

[Athos the Skeleton Demon ได้ถูกสังหารโดยทีม Thorn and Roses ได้รับ 300 แต้มวิญญาณ ค่าสถานะทั้งหมด +10%]

ThornyRose ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และอัพเกรดโล่ของเธออย่างรวดเร็ว ด้วยบัฟเพิ่มค่าสถานะทั้งหมด 10% ทำให้สมาชิกทีม Broken Halberd ทั้ง 5 คนถูกทุบตีโดยกลุ่มคน 3 คนของ ThornyRose ทำให้ Halberd ถอนหายใจ และฟื้นคืนชีพกลับมาที่ฐาน “ทรัพยากรของพวกเรากับพวกเขาแตกต่างกันมากเกินไป และมีเพียงแค่ CapableLiu คนเดียวที่มีเลเวล 6 หลังจากที่พวกเเราถูกฆ่า เราก็ไม่มีหนทางใดที่จะฉกฉวยโอกาสจากพวกเขาได้อีกต่อไป ตอนนี้พวกเราออกไปป้องกันป้อมกันก่อนเถอะ”

“นั่นคือทั้งหมดที่เราสามารถทำได้ ทุกคนใช้แต้มวิญญาณที่เหลือซื้อน้ำยาเพิ่มความแข็งแกร่งชั่วคราว แล้วค่อยใช้เมื่อพวกเขามาถึงตรงนี้แล้วกัน ถ้ามีโอกาสก็ฆ่าพวกเขาไปเลย” CapableLiu พยักหน้า

“ทุกคนรวมตัวบุกเลนกลางเลย!” ThornyRose ตะโกนออกมา

กลุ่มของเย่ฉางทั้งสามคนมาที่เลนกลาง และได้พบกับผู้หญิงทั้งสามคน เมื่อเห็นความเกลียดชังของ ThornyRose เย่ฉางจึงรีบกางแขนของเขา “ในเวลานั้น ฉันคิดว่าเธอไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ แทนที่จะให้คนอื่นได้รับผลประโยชน์ เป็นฉันลงมือจัดการเองน่าจะดีกว่านะ เธอต้องมองภาพรวมสิ สิ่งนี้มันดีสำหรับทีมนะ เธอควรจะเข้าใจ…”

ThornyRose ชี้ไปที่เย่ฉาง แต่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ หน้าอกของเธอกระชับแน่น สิ่งนี้ทำให้ ElegantFragrance แอบคิดกับตัวเอง ‘เธอใกล้ที่จะระเบิดเต็มที่แล้ว’ แล้วเข้าไปจับเธอไว้อย่างรวดเร็ว “เรายังต้องชนะ ต้องชนะอยู่นะ…”

ThornyRose หันกลับไปและถอนหายใจ ทุกคนได้เริ่มการโจมตีครั้งสุดท้าย ไล่ตีป้อมที่ 1 ป้อมที่ 2 จนมาถึงฐานฝ่ายตรงข้าม จางเจิ้งเฉียงคำรามเปิดใช้งานพลังซี่เพิ่มพลังป้องกัน จากนั้นเขาก็พุ่งตัวออกไปแท้งค์ป้อม เมื่อทุกคนพุ่งตามติดเขาไป เขาจึงเปิดใช้สกิล! [Qi Burst – Elements – Ice Ruin]! ฝ่ามือของเขาได้ปลดปล่อยหนามน้ำแข็งออกไปข้างหน้าหลายสิบเมตร ในขณะที่จางเจิ้งเฉียงกำลังแท้งค์ป้อม หลินหลี่ก็พุ่งมาถึงพร้อมกับเปิดใช้งานสกิล [Giant Beheader]! [Crushing Blow]! ก่อนที่ศัตรูจะมาถึง ป้อมของพวกเขาก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงไปถึงสองครั้งแล้ว

“ความสามารถในการทำลายป้อมของนักรบดาบยักษ์จะน่ากลัวเกินไปแล้ว…” พี่ใหญ่เฉาจ้องมองอย่างว่างเปล่า พวกเขาเพียงแค่เลเวล 9 เท่านั้น…

“ปัญหามันอยู่ที่สกิลของเขา [Giant Beheader] และ [Crushing Blow] ทั้งสองสกิลนี้มีประสิทธิภาพที่รุงแรงมากต่อคนและป้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ฉันเคยคิดถึงการใช้งานในด้านใหม่ๆของนักรบดาบยักษ์ มันสามารถใช้ต่อสู้กับพวกตัวละครที่มีสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ และตัวละครประเภทที่สามารถเปลี่ยนร่างได้ดี ถ้าตัวละครเหล่านี้พบกับนักรบดาบยักษ์ พวกเขาจะเจอปัญหาที่ยุ่งยากเป็นอย่างมาก แต่การเล่นนักรบดาบยักษ์ของปีศาจหลี่คนนี้ เขาเน้นไปที่ป้อมและสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เท่านั้น เขาใช้แทคติคการ PvP ที่ชาญฉลาดมาก เขาใช้นักรบดาบยักษ์เป็นคนแรกเพื่อยับยั้งศัตรูทั้งหมด แล้วใช้ความเสียหายมหาศาลของนักรบดาบยักษ์ จัดการศัตรูด้วยการระเบิดพลังเพื่อฟันเพียงครั้งเดียว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ตายด้วยการระเบิดพลังฟันครั้งนั้นก็ตาม แต่ศัตรูก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน” พี่ใหญ่จงพูดขึ้นมาขณะที่กำลังเฝ้าสังเกตสกิลของนักรบดาบยักษ์

“ฉันมีข้อสันนิษฐานว่าสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ จะส่องประกายในการแข่งขันลีคครั้งนี้…” ซูหยี่ยี่ยิ้ม

“เธอไม่ต้องมาพูดเลย…” พี่ใหญ่เฉาและพี่ใหญ่จงกรอกตาของพวกเขาไปมา

“อ๊ะ…” ซูหยี่ยี่ค่อนข้างอับอาย เธอกำลังถูกดูถูกโดยคนที่ผู้ชายที่อยู่ในชุดนอน และผู้ชายที่มีทรงผมสีทองที่เหมือนกับตัวละครในอนิเมะ

“โอ้ พี่ใหญ่วีรบุรุษกำลังจะลงมือแล้ว…” พี่ใหญ่เฉาชี้ไปที่หน้าจอ นักดาบปีศาจของเย่ฉางกำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงของดาบที่ดังกริ๊กกริ๊กโดยไม่กังวลเกี่ยวกับศัตรูที่กำลังพุ่งเข้ามาแม้แต่นิดเดียว ในพริบตานั้น ดาบของเย่ฉางก็ถูกดึงออกมา การโจมตีคอบโบที่บ้าคลั่งของเขาปรากฏขึ้นเพื่อฆ่าศัตรูอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เก็บดาบลงฝักอย่างสงบ และเริ่มเอาหัวแม่มือดันดาบจนส่งเสียงดึงกริ๊กกริ๊กจนดังสะท้อนไปทั่วทั้งฐานของศัตรู

“ทำไมเขาถึงเอาแต่เล่นกับดาบ? การกระทำของเขาเหมือนกับการกระทำที่ไร้ประโยชน์ไม่ต่างจากการเล่นไฟแช็กเลย” ซูหยี่ยี่รู้สึกสับสนมาก

“มันอาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวของเขา แต่การเล่นกับดาบของเขาไม่ใช่เรื่องไร้ประโยชน์ กระที่เขาดันดาบไปมาเพื่อเตรียมการใช้งานต่างหาก ลองดูฉากตั้งแต่ตอนที่เขาทำคอมโบ 65 คอมโบดูสิ หลังจากที่เขากวัดแกว่งดาบด้วยมือสองข้างแล้ว เขาก็คว้าดาบสั้นจากไหล่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งออกมา นี่คือการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับเขา แม้ว่าจะเร็วกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย น้อยมากจนไม่สำคัญอะไร แต่ก็ยังคงเร็วขึ้นอยู่ดี สำหรับการเคลื่อนไหวที่ส่งเสียงดังกริ๊กกริ๊กนั้นก็คือ การกำหนดจังหวะของเขา เธอไม่สังเกตเห็นเหรอ? เวลาที่เขาทำเสียงกริ๊กกริ๊กจะเว้นห่างกันทุก 1 วินาทีเป๊ะๆ ไม่มีมากหรือน้อยไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นเหมือนกับ CloudDragon เขาน่าจะเป็นคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย” พี่ใหญ่เฉาพูดขึ้นมาพร้อมกับโชว์ฉากจากก่อนหน้านั้น

“ไม่เพียงแค่นั้นนะ…” พี่ใหญ่จงใช้ภาพซุปเปอร์สโลว์ในฉากคอมโบที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และชี้ไปที่การเคลื่อนไหวของเย่ฉาง “นี่คือการชักดาบออกจากฝักที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ดาบออกจากฝักไปจนถึงการฟาดฟันไปที่ศัตรู มันเป็นการฟันที่ตรงไปตรงมาโดยไม่มีการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์แม้แต่นิดเดียว การขยับดาบของเขายังทำเพื่อลดความต้านทานต่ออากาศมากที่สุดอีกด้วย ขั้นตอนทั้งหมดของเขามีความสงบ และมั่นคงเป็นอย่างมาก เธอเห็นขั้นตอนทั้งหมดนี่แล้วใช่ไหม? ไม่มีการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์แม้แต่นิดเดียว แม้แต่การก้าวย่างของเขาก็สมดุลไปหมด นี่คือฆ่าที่มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด…” พี่ใหญ่จงอธิบายอย่างละเอียด

CloudDragon ผู้ที่กำลังชมการแข่งขันเห็นด้วยกับคำพูดของพี่ใหญ่จง การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันเหล่านี้คือปฏิกิริยาที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าพวกเขาจะดูเป็นปกติมาก แต่หลังจากที่มีการต่อสู้แลกเปลี่ยนกันแล้ว พวกเขาก็จะทราบว่าการกระทำเหล่านี้ มันยากลำบากมากแค่ไหน

MistyVeil ได้รับข่าวใหม่ว่าพี่ใหญ่วีรบุรษได้ทำลายสถิติการคอมโบของนักดาบปีศาจไปซะแล้ว เธอเดินออกจากพื้นที่อื่นเพื่อไปดูภาพรีเพลย์ เธอเฝ้ามองการฟันดาบ การดึงดาบ การเก็บดาบ และการเคลื่อนไหวต่างๆ การฟาดฟันที่สมบูรณ์แบบ 10 ครั้ง ยิ่งเธอมองดูมากเท่าไหร่ คิ้วของเธอก็ยิ่งขมวดมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นผู้เล่นที่มีการโจมตีที่ดุดันอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอยังคงเฝ้ามองต่อไป เธอไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบสไตล์การเล่นใหม่ๆสำหรับนักรบดาบยักษ์ ส่วนจอมหมัดเหล็กคนนี้ก็มีความแข็งแกร่งที่น่าอศัจรรย์มาก ด้วยความแข็งแกร่งนี้ได้ทำให้ใครหลายคนมองเห็นเขาเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 อย่างไม่แปลกใจเลยทีเดียว แต่ CloudDragon กลับคิดแตกต่างออกไป สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับจ้าวแห่งเพชรคนนี้ ก็คือกลิ่นอายของเขา กลิ่นอายของเขามันให้ความรู้สึกว่า แม้ว่าพระเจ้าจะยืนขวางทางเขา เขาก็จะพุ่งเข้าไป และฉีกกระฉากพระเจ้าออกเป็นชิ้นๆ กลิ่นอายนี้ทำให้เขาคิดถึงคำพูดของตัวตนทางประวัติศาสตร์ – เอจิส (เอจิส คือกษัตริย์องค์แรกของสปาร์ตัน) ที่เคยกล่าวไว้ว่า “ชาวสปาร์ตันจะไม่ถามว่าศัตรูมีจำนวนเท่าไร แต่ถามว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน…”

MistyVeil ดูรีเพลย์ของหลินหลี่ในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งจนถึงรอบที่สาม การได้รับชนะของเขาดูเหมือนจะได้รับมาจากความโชคดี “นี่เป็นผู้เล่นที่ถูกประเมินอย่างจริงจังโดยสโมสรอื่นๆ เขา และจักรพรรดิดอกเบญจมาศมีความคล้ายคลึงกันด้วยเหตุผลที่ว่า พวกเขาเป็นอัจฉริยะที่โง่เขลา แม้ว่าเขาจะเป็นโง่ แต่ก็ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้ เพราะคนประเภทนี้เป็นพวกที่ไม่มีขีดจำกัดล่าง พวกเธอมีแม้กระทั่ง DarkBlade อีกด้วย ThornyRose ได้เฟ้นหาผู้เล่นจากทั่วทุกแห่งหนเพื่อสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาจริงๆ…”

“Thorns and Roses … ชักจะเริ่มน่าสนใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วสิ …” Flame Emperor เลิกคิ้วขึ้น แต่แล้วเขาก็หันตัวเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น

ThornyRose ขว้างดาบของเธอออกไปเจาะทะลุผ่านหน้าอกของ CapableLiu เมื่อเธอกำลังจะวิ่งถอยไป ThornyRose ก็ใช้บลิ้งมาอยู่ตรงหน้าเธอ ThornyRose ดึงดาบออกมา และใช้สกิล [Divine Cut] ตัดร่างของเธอออกไปครึ่งร่าง “ไปทำลายฐานศัตรูซะ…”

ThornyRose หันไปมองเย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียง และหลินหลี่ผู้ที่ไม่มีจริยธรรมของมืออาชีพที่กำลังซ่อนตัวอยู่รอบๆ คอยดักซุ่มโจมตีตรงจุดเกิด ทีม Broken Halberd รู้ดีว่าพวกเขาได้พ่ายแพ้แล้ว พวกเขาจึงเดินออกจากจุดฟื้นคืนชีพ และวางแผนที่จะออกไปแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ แต่พวกเขาได้เรียนรู้มากมาย ในขณะที่พวกเขาเดินออกจากพื้นที่ปลอดภัย กลุ่มของเย่ฉางทั้งสามคนได้ปลดปล่อยสกิลที่มีทั้งหมดของพวกเขาออกไป จนฆ่าพวกเขาทั้งหมดไปอีกครั้ง

จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็ยกมือทำท่าไฮไฟว์กัน

“เพื่อน สกอร์การฆ่าของนายเยอะมาก นายฆ่าไปตั้ง 12 ครั้ง ฉันเพิ่งฆ่าได้แค่ 7 ครั้งเอง” จางเจิ้งเฉียงยิ้มด้วยความอิจฉา

“ผมฆ่าได้แค่ 4 ครั้งเอง แต่ผมก็ได้ทำลายป้อมไป 6 ป้อมเลยนะ!” หลินหลี่แสดงข้อมูลของเขาอย่างตื่นเต้น

“ไม่เลวเลยทีเดียว เราไปหาที่อื่นเพื่อซ่อนตัวกันอีกครั้งดีกว่า และฆ่าพวกเขาในกรณีที่พวกเขาพยายามที่จะออกมาจากจุดฟื้นคืนชีพอีกครั้ง” เย่ฉางเสนอแผนการ และแสดงท่าทางเหมือนนักยุทธศาสตร์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ ทั้งสามคนกลับไปหาที่ซ่อนที่อื่นอีกครั้ง

“เอ่อ… พฤติกรรมแบบนี้ผิดต่อกฏระเบียบใช่ไหม?” ซูหยี่ยี่สั่นสะท้าน

“กฏไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่มันก็ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี และโดยทั่วไปก็ไม่มีใครทำแบบนั้น…” พี่ใหญ่เฉาพูดออกมา รู้สึกละอายใจในนามของพวกเขา

“แต่ตอนนี้มีแล้ว…” พี่ใหญ่จงอดยิ้มออกมาไม่ได้

กลุ่มผู้ชมเริ่มด่าทอเหยียดหยาม, หัวเราะ, เยาะเย้ย, ส่งเสียงเชียร์ไปทั่วบริเวณจนเกิดเป็นเสียงที่ดังกระหึ่ม สามพี่น้องจากหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนับจากนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย กลุ่มแฟนคลับสามพี่น้องเพิ่งถูกก่อตั้งได้ไม่นานนี้เอง แต่พวกเขาถึงกับมีแฟนคลับที่เข้าร่วมมากกว่า 10 ล้านคนแล้ว ซูหยี่ยี่ที่เฝ้าดูได้ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ “พวกเขามีชื่อเสียงมากขนาดนี้เลยหรือ?”

“ประการแรก พวกเขาทั้งสามคนเป็นคนที่ดูสนุกสนาน ประการที่สอง พวกเขามีความแข็งแกร่งมาก เป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีผุ้เล่นที่น่าสนใจอย่างพวกเขาปรากฏตัวขึ้นในสโมสร เธอควรจะรู้ไว้ว่า กลุ่มสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ มีแฟนคลับนับล้านในเกมเสมือนจริง แม้ว่าการแคมป์ปิ้งครั้งนี้จะดูน่าละอายใจมากก็ตาม” พี่ใหญ่เฉายิ้ม

“หลินหลี่ นายออกไปเต้นยั่วยุพวกเขาหน่อยสิ ทำให้แน่ใจด้วยว่า นายสามารถล่อพวกเขามาได้นะ” เย่ฉางสั่งให้หลินหลี่เป็นตัวล่อให้กับพวกเขา

หลินหลี่เดินตรงไปที่หน้าเขตปลอดภัย และเริ่มเต้นยั่วยุ ThornyRose และสาวๆที่กำลังทำลายฐานศัตรูกันอยู่ มองเห็นการเต้นที่น่ารักของหลินหลี่ เขาตบก้นไปมา ปั้นหน้าปั้นตา และทำท่าทางเหมือนกับลูกแมวน่ารัก เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ก็อดจะส่งเสียงออกมาไม่ได้ ‘ฮิ้ววว’ อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิกทีม Broken Halberd พวกเขาไม่สามารถแบกรับความอัปยศครั้งนี้ได้อีกต่อไป “เมื่อฉันนับถึง 3 ให้ทุกคนพุ่งตัวออกไปพร้อมกันเลยนะ! ไม่ว่าผลการแข่งครั้งนี้จะเป็นยังไงก็ช่างมัน แค่เราจะต้องฆ่าไอพวกสามพี่่น้องบัดซบพวกนี้ให้ได้!”

“1, 2, 3 ไป!” Halberd ร้องตะโกน Buckwheat, InstantNoodles และ Kate, พากันพุ่งออกไปหาหลินหลี่ทั้งหมด และถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วโดยการฟาดฟัน, พลังซี่ และดาบยักษ์ของพวกสามเกรียน Halberd ที่พุ่งตัวออกมาจากเขตปลอดภัยได้เพียงเล็กน้อยรีบถอยกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขาสังเกตเห็นว่า CapableLiu และ WiseSea กำลังนั่งยองๆอยู่ที่เดิม และไม่ได้วางแผนที่จะเคลื่อนไหวไปไหนเลย จากนั้นเขาก็หันไปมองดวงวิญญาณทั้งสามดวงที่กำลังลอยตัวอยู่ในโหมดผี เขาลูบคางของเขา และพูดขอโทษออกมา “ฉันหุนหันพลันแล่นเกินไป เรามารอที่เขตปลอดภัยจนกว่าฐานจะพังกันเถอะ”

“เชี่ยเอ๊ย! พฤติกรรมของสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ ทำให้ฉันขนหัวลุกชิบหายเลย… แต่ฉันก็ชอบนะ~~”

“ไร้ยางอายเกินไปแล้ว! พวกเขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้กับใครบางคนที่จุดเกิดได้อย่างไรกัน! ช่างง่ายดาย! และเรียบง่ายยิ่งนัก! นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้วน๊า~~”

“เอ่อ… พวกพี่คะ นี่เป็นพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมหรือไม่? กลุ่มสามพี่น้องทำผิดแปลกไปจากตำราจริงๆ ตอนต้นเกมก็ปล่อยป้อมทิ้งไว้และไปซุ่มรออยู่ในพุ่มหญ้าตั้งนาน แถมยังมาดักหน้าจุดเกิดฝ่ายตรงข้ามแบบนี้อีก”

“นี่เป็นเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น…”

“กลุ่มสามพี่น้องกลุ่มนี้ สมควรที่จะเป็นคนของสหพันธ์เกาหลีของเราอย่างแท้จริง คุณสามารถบอกได้ถึงความเป็นเกาหลีของพวกเขา จากการที่พวกเขาแคมป์ปิ้งที่จุดเกิด…”

“ช่างเป็นคนจีนที่น่ารังเกียจมากจริงๆ คุณทำสิ่งที่น่ารังเกียจมากจริงๆ! คุณทำให้คนอื่นๆดูถูกจริงๆ”

“เฮ้อ ทุกครั้งที่ฉันเห็นทั้งสองภูมิภาคต่อสู้กัน ฉันไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยนอกจากอาการประสาทจะกิน แต่หลังจากผ่านไปนานฉันก็ได้เรียนรู้ว่าฉัน… มีภาวะทางจิตใจที่ไม่ได้จริงๆ!!!@#!@#$!@!@#มึง$!@#$!@#$@#!!!!”

“……”

“กลยุทธ์ของพี่ใหญ่วีรบุรุษได้นำชัยชนะมาสู่ทีม Thorns and Roses!”

“การแข่งขันครั้งสุดท้ายเป็นโหมดความบันเทิง มีผู้ชมหลายคนชื่นชอบโหมดความบันเทิงมากจริงๆ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน” ซูหยี่ยี่ยิ้ม

 

 

 


ตอนที่ 339

 

ทีม Broken Halberd และคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกสนามจ้องเขม็งไปที่ทีม Thorn and Roses “พวกคุณไม่มีจริยธรรมจรรยาบรรณของมืออาชีพบ้างเลยงั้นหรือ?”

“ThornyRose เขาบอกว่าเธอไม่มีจริยธรรมจรรยาบรรณของมืออาชีพ มีอะไรเกิดชึ้นในระหว่างที่ฉัน, หลินหลี่ และอาเฉียงกำลังต่อสู้กับบอสอยู่งั้นหรือ?” เย่ฉางชี้ไปที่อีกฝั่ง แล้วหันกลับไปถาม ThornyRose

“พวกเขากำลังพูดถึงพวกนายสามคนที่ไปแคมป์ปิ้งดักที่จุดเกิดต่างหากล่ะ!!” ThornyRose ตะโกนออกมา เธอถอนหายใจ และมองไปที่ Halberd และคนอื่นๆด้วยความเสียใจ “กลุ่มสามพี่น้องเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจในกฎระเบียบมากเท่าไหร่ อย่าไปสนใจและไม่ต้องไปทะเลาะกับพวกเขาหรอก พวกเราไปเริ่มแข่งขันในโหมดความบันเทิงกันดีกว่า…”

“ใครบอกกันล่ะ! ผมเข้าใจกฏระเบียบดี!” หลินหลี่รีบกระโดดออกมาอย่างไม่สนใจหน้าอินหน้าพรหม เขาจ้องมองไปที่ Halberd และคนอื่นๆด้วยความเกลียดชัง “ตอนนี้ผมโมโหแล้วนะ…”

“……” Halberd และคนอื่นๆต่างก็พูดไม่ออก พวกเขาเกือบที่จะขอโทษออกไปแล้ว แต่เมื่อคิดย้อนกลับไป พวกเขาก็ได้แต่สบถอยู่ภายในใจ ‘เชี่ย! คนที่ควรจะโมโห มันคือพวกเราต่างหากโว้ย!!’

“มาเริ่มการแข่งขันกันเถอะ…” CapableLiu พูดเตือน

“สตรีทแดนซ์แบทเทิ้ล!?” Halberd มองไปที่โหมดการแข่งขันที่สุ่มได้ และหันไปหาทีมของเขา “ใครสามารถที่จะ…”

“ฉันเอง ฉันรู้จัก และเคยเข้าร่วมกลุ่มจักรพรรดิสตรีทแดนซ์มาก่อน…” Kate เดินออกมา Halberd พยักหน้า ในทีมของเขาอาจจะมีเพียงแต่ Kate เท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับการเต้นสตรีทแดนซ์

ThornyRose กลับไปที่ห้องพักและมองไปที่ทุกคน “ใครจะเป็นคนออกไป…” ท้ายที่สุดสายตาของเธอก็มองไปที่เย่ฉาง แม้ว่าเธอจะไม่เคยพูดถึง แต่เธอก็ได้ดูคอนเสิร์ตในคืนนั้นทุกวินาที การเต้นวอลทซ์ที่แสนโศกเศร้าของเย่ฉาง แม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับมันเท่าไหร่ แต่การเต้นของเขาก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาเช่นกัน เธอไม่รู้ว่าการเต้นสตรีทแดนซ์ของเขาเป็นยังไง แต่เธอก็คิดว่าเขาน่าจะเต้นออกมาได้ดีเช่นกัน จากนั้นเธอก็หันไปมองชายแปลกหน้าที่หยาบคายคนหนึ่ง “เขาเป็นใคร? ทำไมเขาถึงเข้ามาในห้องพักนักกีฬาของเราได้กัน?”

“เขาชื่อหวัง เขาเป็นซัมมอนเนอร์ที่อยู่ในปาร์ตี้ของหัวหน้าทีม” FrozenCloud อธิบาย

ThornyRose ไม่ได้พูดอะไร แต่กลิ่นอายของผู้ชายคนนี้ทำให้ผู้หญิงรึสึกถึงความอันตรายยิ่งกว่ากลิ่นอายของเจ้าหมียักษ์ซะอีก “หลังจากนี้เอาข้อมูลของตัวละคร, สกิล และสิ่งต่างๆที่นายมีทั้งหมดในเกมมาให้ฉันด้วย…”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอารมณ์ดุจดั่งราชินีของ ThornyRose ทำให้ OldWangFromNextDoor แทบจะหมอบคลานไปบนพื้น และตอบออกมา “ครับผม!”

“เดี๋ยวก่อนนะ เขาอยู่ในทีมของฉัน ทำไมเขาถึงจำเป็นต้องให้ข้อมูลกับเธอด้วย…” เย่ฉางถามออกมาด้วยความสับสน

“นายไม่ต้องการที่จะได้พบกับเหล่าสาวงามหรอกหรือ?” ThornyRose มองไปที่ OldWangFromNextDoor และพูดขึ้นมา

“ขอความกรุณาด้วยครับ!” OldWangFromNextDoor รีบตอบกลับไปโดยไม่ต้องคิด เย่ฉางถอนหายใจ เขาหันกลับไป และเห็นจางเจิ้งเฉียงเดินเข้าไปหาเธอ “พี่สาวโรส~~ เราได้ตกลงกันไว้ว่า…”

“ไม่ต้องรีบร้อนไป รออีกไม่นานหรอก หลังจากจบการแข่งขันลีคครั้งนี้แล้ว ฉันจะแนะนำสาวๆให้กับนายเอง!” ThornyRose พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด

“พี่สาวโรส ไม่ใช่ว่าพี่เกลียดพวกผู้ชายเหล่านั้นหรอกหรือ? แต่ทำไมพี่ถึงให้พวกเขาเข้าร่วมกับกลุ่มผู้หญิงของเรากันล่ะ?” KittyKat พูดตรงประเด็นอย่างเงียบๆ

“ในอดีตประธานสโมสรของเราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่เพื่อผู้ชายแล้ว เธอได้ทิ้งแม้กระทั่งคนรักของเธออย่าง FrozenBlood เฮ้อ… โอ้ใช่แล้ว! เธอได้พูดอะไรกับหลินหลี่ในก่อนหน้านี้หรือไม่?” ElegantFragrance ถอนหายใจ จากนั้นก็มองไปที่หลินหลี่ผู้ซึ่งกำลังเด้งไปมาอยู่รอบๆ และพยายามเรียนรู้การเต้นสตรีทแดนซ์

“……” KittyKat สั่นสะท้าน เธอมีปัญหาในการเชื่อมต่อคำพูดส่วนแรก และส่วนที่สองของคำพูดของเธอ

“PaleSnow นายเป็นคนออกไปแล้วกัน นายเต้นได้ดีที่สุดในทีมพวกเราแล้ว สำหรับเสื้อผ้า มันมีให้นายเลือกเยอะแยะในโกดังของสโมสร นายสามารถสวมใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ที่นายต้องการ” ThornyRose พูดออกมา

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก…” เย่ฉางยักไหล่ ตั้งแต่ที่เขาได้เต้น เขาแค่ต้องสวมเสื้อผ้าอย่างเป็นทางการ เช่นชุดทักซิโด้กับกางเกงที่เข้ากับชุดอย่างเหมาะสม และเสื้อเชิ้ตสีม่วงเพียงเท่านั้น

“นายแน่ใจนะว่านายสามารถเต้นสตรีทแดนซ์ และไม่ใช่การอย่างเป็นทางการอย่างการเต้นบัลเล่ต์, วอลทซ์ หรืออะไรก็ตามแต่…?” FrozenBlood หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา เธอได้เห็นการเต้นของเขา และมันทำให้เธอตกใจมากจริงๆ

ผู้ชมกำลังตกอยู่ในความโกลาหลสับสนวุ่นวาย และมีผู้ชมจำนวนมากได้ส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา “มีใครกันบ้างวะที่สวมชุดทักซิโด้มาเต้นสตรีทแดนซ์! นายเป็นคนบ้าใช่ไหม!? วีรบุรุษที่โง่เขลางั้นหรือ!?”

“หุบปากเน่าๆของแกไปซะ! พี่ใหญ่วีรบุรุษต้องสวมทักซิโด้ด้วยเหตุผลบางอย่างอย่างแน่นอน! ทำไมปากที่เน่าเหม็นของแก ไม่เคยพูดอะไรที่ดีกับคนอื่นได้บ้างเลยนะ!?”

พร้อมกับการเริ่มต้นของเพลง เย่ฉางเริ่มเต้นเป็นหุ่นยนต์ ความเร็วของเขาได้เข้ากับจังหวะเพลงอย่างสมบูรณ์แบบ และการเคลื่อนไหวของเขาทำให้เขาดูเป็นหุ่นยนต์มากจริงๆ ทุกคนไม่สามารถอดปรบมือออกมาได้ กลุ่มคนที่เยาะเย้ยทั้งหมดได้หุบปากลงทันที สำหรับ Kate เธอได้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่หนักหนามาก เป็นการเต้นสตรีทแดนซ์ที่ยอดเยี่ยมมาก! ความแข็งแรง, จังหวะ, ความเร็วของเขาเรียกได้ว่าไม่มีข้อผิดพลาดใดๆเลย เมื่อดนตรีเปลี่ยนเป็นความเศร้าหมอง เย่ฉางได้ปรับเปลี่ยนจังหวะและการท่าทางการเต้นของเขา ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่กำลังค่อยๆพังยับเยิน แขนขาและลำคอที่ไร้พลังงานได้ส่งเสียงแตกหักดังออกมา ทุกคนที่เฝ้าดูรู้สึกราวกับว่า แขนขาของเย่ฉางได้แตกหักออกไปอย่างแท้จริง ร่างกายของเขาพังทลายร่วงหล่นไปบนพื้น Kate เลือกที่จะเฝ้าดูการเต้นของเขา และตัดสินใจยอมรับความพ่ายแพ้ทันที นี่คือ…

เมื่อจังหวะเร็วขึ้นอีกครั้ง แขนขาที่อ่อนปวกเปียกของเย่ฉางเริ่มสั่นไหว ราวกับกระดูกของเขากำลังฟื้นตัว เท้าซ้ายของเขาลุกขึ้นยืน เท้าขวาของเขาลุกขึ้นยืน มือซ้ายของเขาจับไปที่ไหล่พร้อมกับเสียงที่แตกร้าว คอของเขาที่โค้งงอทำมุมองศา 130 ถูกยืดออก เขาแสดงรอยยิ้มที่มืดมน เขาแตะไปที่ปลายหมวก และหยิบไม้เท้าสีดำขึ้นมา เขาถอดหมวกออก และโค้งคำนับด้วยความสง่างาม

“อ่า โครตหล่อเลย!”

“หล่อมาก!”

“การเต้นของเขา ทำให้ฉันขนลุกเลยจริงๆ!…”

“ทักซิโด้เทพพระเจ้าหุ่นยนต์ ฮ่าฮ่า เขาน่าทึ่งมาก…”

“ฉันต้องการให้เขาสอนฉัน! ทักษะการเต้นของเขาสุดยอดมากเกินไปแล้ว! แม้กระทั้งแชมป์การเต้นของรายการ America’s King of Dance ก็ยังไม่ดีเท่ากับเขาเลย นอกจากนี้เนื่องจากเขาใส่ทักซิโด้ นั่นหมายความวว่าเขารู้จักการเต้นอื่นๆ ที่นอกจากสตรีทแดนซ์เป็นอย่างดี! เอาไมค์โครโฟนมาให้ฉัน!” ซูหยี่ยี่ลุกขึ้นยืนคว้าไมค์

“พี่ใหญ่วีรบุรุษ ฉันซูหยี่ยี่! คุณสามารถให้เกียรติมาสอนฉันเต้นได้หรือไม่?” ซูหยี่ยี่ถามออกมาด้วยความจริงใจ

“ก็ได้… แต่มันมีค่าเล่าเรียนน๊า~” เย่ฉางใส่หมวก และถือไม้เท้าของเขาหันมายิ้มให้กับเธอ

ThornyRose เริ่มวางแผน ถ้าเธอสามารถทำให้ซูหยี่ยี่มาเป็นโฆษกให้กับสโมสร Thorn and Roses ได้ล่ะก็ จะมีผู้สนับสนุนมากมายเข้าร่วมกับสโมสร Thorn and Roses และพวกเธอจะไม่อยู่ในสถานะที่ขาดแคลนเงินทุนอีกต่อไป

ซูหยี่ยี่รีบเดินลงมาแลกเปลี่ยนที่อยู่ และวันนัดหมายกับเย่ฉาง เธอพูดอย่างจริงจังว่า “คุณสามารถสอนการเต้นแจ๊สให้กับฉันได้ไหม! สำหรับคอนเสิร์ตครั้งต่อไปของฉัน ฉันหวังว่าคุณจะสามารถให้คำแนะนำกับฉันได้”

ความรู้สึกภายในใจของเย่ฉางได้ถูกกระตุ้น ‘แจ๊ส?’ เขานึกย้อนถึงความทรงจำในอดีต และยิ้มออกมาอย่างเจ็บปวด “ตกลง นี่คือการเต้นแจ๊สที่ฉันคิดค้น‘ความรัก – ส่วนที่ 3 – ความซื่อสัตย์ต่อความตาย’”

เย่ฉางเปิดดนตรีเต้นรำที่เขาจัดไว้ให้กับเธอในปีนั้น เดิมทีมีเพียงแค่ 2 ส่วนเท่านั้น ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่เขาทำเสร็จหลังจากที่เขาฟื้นความชัดเจนในวันที่ฝนตก การเต้นของเขาก็ยังคงเป็นการเต้นของคนสองคน เย่ฉางเริ่มระลึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้น การเต้นรำที่ดูปกติแต่ร่าเริงของเขา จังหวะ, หมุน, ก้าว, เปลี่ยน ทุกคนรู้สึกราวกับกำลังเฝ้าดูการเต้นของชายหนุ่มเต้นไปรอบๆหญิงสาวคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามจังหวะค่อยๆเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขามีท่าทางดูกระวนกระวายใจ เข่าของเขาไร้เรี่ยวแรงจนหลุดลงไปบนพื้น เพลงที่สั่นคลอนทำให้การเต้นของเขาดูเหมือนกับกำลังแบกรับเรื่องราวที่ทุกข์ทรมานเกินจะทนไหว ราวกับว่าพวกเขากำลังเฝ้าดูผู้ชายคนหนึ่งถือศพของคนรักของเขาในวันที่ฝนตก เขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังในขณะที่นั่งจมไปที่กองเลือดและสายฝน ชายคนนั้นเศร้าโศกมาก แต่ก็ยังกอดเธออย่างนุ่มนวล และไม่ยอมปล่อยมือจากเธอไป ในท้ายที่สุด ทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกันไปตลอดกาล ทีมของเย่ฉางมีการแสดงออกที่โศกเศร้า ในขณะที่พวกเขามองไปยังฉากที่มืดมนฉากนี้ ในที่สุดเย่ฉางก็กระโดดลงไปในความมืด และการเต้นรำก็สิ้นสุดลง มันไม่ใช่ฉากจบที่แฮปปี้เอนดิ้ง มีเพียงแต่ความรักและความศรัทธาในขณะที่เขากระโดดลงไปในความมืดเท่านั้น

เพลงแจ๊สที่เริ่มต้นอย่างร่าเริ่ง กลายเป็นมืดมน, หดหู่, โศกเศร้าโดยการเต้นของเย่ฉาง

“ไม่!!!” ผู้หญิงนับไม่ถ้วนกำลังร้องไห้

เย่ฉางค่อยๆเดินออกมาจากความมืด เขาถอดหมวกออกและโค้งคำนับอีกครั้ง

หญิงสาวทั้งหมดในทีม Thorn and Roses ต่างพากันร้องไห้ออกมา การเต้นของเขามันสะเทือนใจมากเกินไปจริงๆ เพลงที่แสนเศร้า และการเต้นที่เศร้าโศกผสมผสานกันเพื่อสรรสร้างการเต้นที่ดีที่สุดออกมา พลังการทำลายล้างครั้งนี้สูงเกินไป แม้แต่ ElegantFragrance และ FrozenBlood ที่เป็นพวกหญิงแกร่งใจกล้า ก็ยังไม่สามารถหันไปแอบเช็ดน้ำตาของพวกเธอได้ หลินหลี่ก็รู้สึกเสียใจมากด้วยเช่นกัน จางเจิ้งเฉียง และเย่เทียนก็ร้องไห้ด้วยใบหน้าที่ไม่น่าดูมากเท่าไหร่

“เพื่อน สำหรับพี่สาวและฉันที่ได้พบกับนายในช่วงชีวิตนี้ ฉัน…” จางเจิ้งเฉียงไม่สามารถพูดไปมากกว่านี้ได้ เย่เทียนเดินไปกอดเขา “หนูรู้ค่ะ…”

“หลังจากที่พี่สาวฉันตาย เขาต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหนเพื่อฉันกัน เขาถึงกับทิ้งขว้างชีวิตตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อฉัน เขามีอายุพอๆกับฉัน แต่เขาดูแลฉันเหมือนเป็นพ่อเหมือนเป็นพี่ชายของฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะติดหนี้เขามาก แต่ฉันก็ไม่สามารถแม้แต่จะตอบแทน หรือช่วยเขาและพี่สาวของฉันได้เลย… ฉันมันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์มากจริงๆ…” จางเจิ้งเฉียงจับมือของเย่เทียน เสียงพูดของเขาเป็นเพียงเสียงพึมพำออกมาเท่านั้น

เย่เทียนพิงไหล่ของจางเจิ้งเฉียง “พี่ใหญ่เฉียง พ่อคงมีความภูมิใจที่ได้มีเพื่อนและน้องชายอย่างพี่ หนูยังคิดว่าพี่เป็นพี่ชายที่แท้จริงของหนูเลยนะ พวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ…”

“ใช่แล้ว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน…” หลินหลี่กระโดดเข้าไปกอดจางเจิ้งเฉียง

FrozenCloud ยืนจับมือจางเจิ้งเฉียงอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ เธอมองไปที่จางเจิ้งเฉียงที่กำลังร้องไห้ราวกับสาวน้อย หัวใจของเธอถูกทำให้สั่นสะเทือน ความแข็งแรง, ความบ้าบิ่นเป็นลักษณะภายนอกของเขา แต่หัวใจของเขาดูบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ‘ฉัน… ฉัน… อาจจะชอบไอหมีที่โง่เง่าคนนี้จริงๆงั้นหรือ’

“น้องเล็กไดโน แม้ว่าฉันจะสูญเสียการควบคุมเล็กน้อย แต่… เฮ้อ… ถ้าหน้าของเธอไม่ขรุขระเหมือนกับเส้นทางบนภูเขาล่ะก็…” จางเจิ้งเฉียงเช็ดหน้าเช็ดตาของเขา และพูดออกมาอย่างจริงจัง

“พี่สาวไดโน แม้ว่าพี่จะเป็นพี่สาวของหนู(พี่สาวรถเข็น) แต่หนูก็ไม่ยอมให้พี่อยู่ด้วยกันกับพี่ใหญ่เฉียงหรอกนะ พี่จะทำลายความฝันของพี่ใหญ่เฉียง ในการมีลูกที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ธรรมดา ไม่ว่าจะสวยงามหรือเป็นสาวหล่อก็ดี พี่จะทำอย่างนั้นไม่ได้นะ ..” เย่เทียนพูดอย่างจริงจัง

“น้องเล็กไดโนเป็นคนดี แต่แค่นิดหน่อยเท่านั้นนะ… แม้ว่าฉันต้องการจะโต้กลับเย่เทียน แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี สิ่งที่ผมจะพูดก็คือ มันเป็นความผิดของเธอน้องเล็กไดโน! ใครบอกให้เธอเกิดมาน่าเกลียดมากกันล่ะ! มันเป็นเพราะเธอ ผมจึงไม่มีอะไรที่จะสามารถโต้กลับไปได้! น่ารังเกียจจริงๆ!!” หลินหลี่เปลี่ยนจากการปกป้องเป็นการบ่นคร่ำครวญแทนทันที เขามองไปที่การแสดงออกอย่างภาคภูมิใจของเย่เทียน และมองด้วยสายตาเกลียดชังไปที่ FrozenCloud

“……” อารมณ์ของ FrozenCloud ตอนนี้ มีเพียงต้องการที่จะฆ่าพวกเขาทีละคนทีละคน

ซูหยี่ยี่โค้งคำนับอย่างลึกซึ้งเพื่อแสดงความเคารพของเธอ เขาเป็นราชานักเต้นที่แท้จริง! แม้แต่เธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมาได้ ผู้บรรยายอย่างพี่ใหญ่เฉาก็ยังต้องใช้หมวกปิดบังใบหน้าเพื่อเช็ดน้ำตาและน้ำมูกของเขาเลย พี่ใหญ่จงก็ใช้ผมสีทองที่เหมือนกับตัวละครในอนิเมะ มาปิดบังใบหน้าในการร้องไห้ของเขาด้วยเช่นกัน

“พวกเราได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง…” สมาชิกทีม Broken Halberd ต่างก็พากันสูดหายใจเข้าลึกๆ

เย่ฉางยิ้มอย่างแผ่วเบา เชยคางของซูหยี่ยี่ด้วยไม้เท้าของเขา “เงยหน้าขึ้น โปรดจำกฎข้อแรกของฉันไว้ให้ดี ถ้าหากเธอต้องการจะเรียนรู้จากฉัน เมื่อเธอเต้นรำ เธอต้องสวมเครื่องแต่งกายอย่างเป็นทางการ…”

“ฉันเข้าใจแล้ว…” ซูหยี่ยี่ลังเลใจ จากนั้นเธอก็แสดงรอยยิ้มที่ไม่อาจบรรยายได้ออกมา

 

 

 


ตอนที่ 340

 

ทันใดนั้น เย่ฉางกลายเป็นผู้เล่นยอดนิยมในการแข่งขันรอบแรกนี้ไปทันที หลายสโมสรยกให้เขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับการแข่งขันการเต้นในโหมดความบันเทิง

“ดูเหมือนว่าในเร็วๆนี้ ทีม Thorns and Roses จะมีผู้เล่นระดับราชาสวรรค์กำเนิดขึ้นมาแน่ๆ” MistyVeil ยิ้ม เกี่ยวกับการพบกับเย่ฉางในตลาดกลางคืนนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักเธอจริงๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หลังจากที่โหมดความบันเทิงของเย่ฉางจบลงแล้ว ทีม Thorns and Roses ก็กวาดคะแนนเรียบด้วยชัยชนะ 12 คะแนน

เย่ฉางนั่งพิงไม้เท้าของเขาอยู่ในห้องพัก หวังมองเขาด้วยอาการกระหายอยากเรียน “ไม่ต้องหวังสูงเลย นายไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้หรอก แม้ว่านายจะทำหน้าตาเช่นนั้น แต่ฉันก็ไม่ได้สอนนายเพียงเพื่อที่นายจะใช้มัน ในการหลอกล่อพวกผู้หญิงหรอก” เย่ฉางพูดอย่างเฉยเมย

“ในอนาคต การเต้นทุกชนิดในโหมดความบันเทิงจะเป็นของ PaleSnow คนเดียวเท่านั้น เอาล่ะ! คู่แข่งในรอบที่สองของเราคือทีม Auran ความแข็งแกร่งของพวกเขาสูงกว่าทีม Broken Halberd เล็กน้อย …” คำพูดของ ThornyRose ทำให้เย่ฉางเพียงแค่ยักไหล่

“ทีมคู่แข่งต่อไปของทีม Thorns and Roses คือทีม Auran ด้วยความแข็งแกร่งของสามพี่น้องแล้ว ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดมากเกินไป ก็เป็นการรับประกันได้ว่า รอบรองชนะเลิศของสายนี้จะเป็นพวกเขาเจอกับทีม Falling Star” พี่ใหญ่เฉาพูดพร้อมกับมองไปที่ผู้เล่นของทีม Auran

“ก่อนหน้านี้ การโชว์ที่คุณครูเย่ฉางเพิ่งแสดงไป มันถูกเรียกว่า ‘ความรัก – ส่วนที่ 3 – ความซื่อสัตย์ต่อความตาย’ ซึ่งหมายความว่าก่อนหน้านี้มีอยู่ 2 ส่วน ฉันต้องการเห็นทั้งสองส่วนนั้นจริงๆ” คำพูดของซูหยี่ยี่แตกต่างจากเรื่องการแข่งขันไปอย่างสิ้นเชิง

“อืม ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เรามาดูการแข่งขันรอบที่ 2 กันก่อน” พี่ใหญ่จงจงพยักหน้า

“รอบนี้ให้ฉันเป็นคนแรกนะ” จางเจิ้งเฉียงพูดพร้อมกระโดดลงบนลานประลอง ThornyRose และคนอื่นๆไม่มีการคัดค้านใดๆ ในด้าน PVP นั้น ความแข็งแกร่งของเจ้าหมียักษ์นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

“ทางด้านทีม ThornyRose ทัพหน้าคือ จอมหมัดเหล็ก – HeavenShakingMight ส่วนทางด้านทีม Auran คือ BitingCold ซึ่งเป็นหัวหน้าสโมสร ตัวละครของเขาคือ Grappler แร็งค์ S -หมัดดาวเหนือ ผู้เล่น BitingCold เป็น Grappler มืออาชีพอันดับที่ 5 ของจีน และยังเป็นผู้เล่นชั้นยอดอีกด้วย การบังคับบัญชาและความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก …” พี่ใหญ่เฉาวิเคราะห์

“แท้จริงแล้ว BitingCold เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ประชิดตัว และมีชื่อเสียงในเรื่องการโจมตีสวนกลับ จากสิ่งที่เราได้เห็นมาก่อนหน้านี้ ตัวละครจอมหมัดเหล็กของ HeavenShakingMight น่าจะเป็นเชี่ยวชาญการใช้พลังซี่ แต่ความสามารถในการต่อสู้ประชิดตัวของตัวละครนี้ น่าจะด้อยกว่าตัวละครหมัดดาวเหนือของ BitingCold อย่างไรก็ตามความสามารถในการฆ่าและการป้องกันของจอมหมัดเหล็กนั้น เหนือกว่าหมัดดาวเหนืออยู่มาก” พี่ใหญ่จงพูดเสริม

“Grappler vs Grappler นี่เป็นหนึ่งในแมตช์ที่ผู้ชมชื่นชอบมากที่สุด” ซูหยี่ยี่ยิ้ม

“มันเริ่มแล้ว …” พี่ใหญ่เฉายกคิ้วขึ้น

จางเจิ้งเฉียงรวบรวมพลังซี่ไว้ที่หมัด และพุ่งเข้าไปพร้อมกับส่งเสียงคำราม BitingCold ไม่กล้าที่จะประมาท ฝ่ายตรงข้ามที่กำลังพุ่งเข้ามานั้น ยากต่อการรับมือจริงๆ เขาเตรียมที่จะปัดป้องและเพ่งมองหมัดพลังซี่ที่กำลังมาถึงตัวเขา จู่ๆเขาก็ก้าวขาไปข้างหน้าและใช้มือขวาหักเหหมัดที่พุ่งเข้ามา ขณะที่ฝ่ามือซ้ายซัดใส่คางของฝ่ายตรงข้าม

จางเจิ้งเฉียงหัวเราะเยาะ เขาดึงหมัดซ้ายกลับและเปลี่ยนไปใช้หมัดขวาที่มีพลังซี่มากกว่าเดิมซัดเข้าใส่ [Ice Rend]! จากนั้นเขาก็เงยคางขึ้นและรู้สึกถึงลมที่มาจากฝ่ามือ พัดผ่านคางของเขาไป

BitingCold รู้สึกประหลาดใจ ‘ปฏิกิริยาตอบสนองแบบไหนกัน!?’ เขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับ CloudDragon เขาเบี่ยงไหล่ขวาไปข้างหน้าเพื่อปะทะกับหมัดพลังซี่ ทำให้ตัวของเขาหมุนไป จากนั้นเขาอาศัยการใช้ประโยชน์จากแรงหมุนเพื่อดำเนินการโจมตี [Iron Tackle]

“ทุกครั้งที่ฉันเห็นเขา ฉันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ HeavenShakingMight ทำให้คนอื่นๆรู้สึกว่าเขาเหมือนดั่งสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่ง แต่ในการต่อสู้แล้ว การเคลื่อนไหวของเขาเป็นอิสระและไม่ถูกจำกัดใดๆ เขาสามารถใช้รูปแบบการโจมตีต่างๆได้มากมาย ซึ่งสอดคล้องกับการรับรู้และความเร็วในการตอบสนองที่รวดเร็วของเขา” พี่ใหญ่จงกล่าว

จางเจิ้งเฉียงยกมือซ้ายป้องกัน [Iron Tackle] ตรงบริเวณหน้าอก จากนั้นเขาดึงมือขวากลับเพื่อไปคว้าจับไหล่ของฝ่ายตรงข้ามไว้

“ช่างเป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ เขายังสามารถเคลื่อนที่แบบนั้นพร้อมกับดึงมือขวากลับไปได้ทัน พร้อมๆกับการใช้แรงเฉื่อยเพื่อจับตัวคู่ต่อสู้ไว้ได้” พี่ใหญ่เฉาอดที่จะปรบมือชมไม่ได้

BitingCold ต้องการที่จะดึงไหล่กลับ แต่เหมือนถูกคีมเหล็กหนีบไว้อย่างแน่นหนา เขาตัดสินใจหมนุตัวเคลื่อนไหวไปด้านหลังของจางเจิ้งเฉียง ทันใดนั้นจางเจิ้งเฉียงเหยีดขาซ้ายไปด้านหลัง ขณะที่ขาขวาค้ำยันลำตัวไว้ เขาทำมุมเลี้ยว 180 องศา โดยอาศัยใช้กำลังของ BitingCold เพื่อโยนเขาลงกับพื้น จากนั้นใช้สกิลท่าไม้ตายต่อยอัดลงไป [Qi Blast – Elemental Chaos]!

Bitingcold ก็เปิดใช้งานท่าไม้ตายของเขาเช่นกัน [Swap]! ทั้งสองต่างสลับตำแหน่งกันทันที โดยจางเจิ้งเฉียงกลายเป็นคนถูกกดลงกับพื้น และท่าไม้ตายที่เขาปล่อยออกไประเบิดขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า แต่ยังคงเกิดแรงระเบิดพัด BitingCold ลอยออกไป BitingCold พลิกตัวกลางอากาศและค่อยๆลงพื้นอย่างนุ่มนวล

จ้างเจิ้งเฉียงใช้มือยันพื้นแล้วดีดตัวขึ้นมา เขากำหมัดแน่น ‘มันคือสกิลอะไร? ตามที่คาดไว้ การต่อสู้ในเกมมันน่าสนใจมากกว่าการต่อสู้จริงๆเสียอีก มันมีสกิลพิเศษมากมาย’ จากนั้นเขาเปิดใช้งานพลังซี่และยิงกระสุนพลังซี่ออกไป

BitingCold วิ่งไปตามขอบของเวที เพื่อหลบหลีกกระสุนพลังซี่ การปะทะก่อนหน้านั้น เขาถูกกดดันอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าไม่ได้ความสามารถจากท่าไม้ตาย การถูกกดลงพื้นแบบนั้น เขาคงจะตายไปแล้ว เขาวิ่งไปด้านข้างและหลบกระสุนพลังซี่อีกครั้งหนึ่ง แต่ในช่วงเสี้ยวพริบตาเขาปรากฏตัวตรงหน้าจางเจิ้งเฉียง และแทงนิ้วที่เหมือนดาบใส่เขา [Piercing Finger]!

จางเจิ้งเฉียงยิ้มกว้าง เขาใช้มือทั้งสับ,ทุบและคว้าจับที่ข้อมือ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งกำลังพุ่งไปจับที่ต้นแขนของ BitingCold

BitingCold ถอนหายใจ เขาบิดข้อมือและหมุนพลิกตัวไปข้างหน้า 360 องศา จากนั้นเขาก็เหวี่ยงขาแตะอย่างเต็มแรง …

เมื่อจางเจิ้งเฉียงตระหนักว่าเขาล้มเหลวในการจับต้นแขน เขาจึงรีบดึงมือกลับมาพร้อมกับระเบิดพลังซี่ปุกคลุมแขนไว้ บล็อคการแตะที่รุนรุนเหมือนขวานยักษ์สับ เกราะป้องกันพลังซี่แตกสลายทันที และลูกแตะก็กระแทกที่แขนของเขา จนทำให้แขนของเขาบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังยิ้มเยาะเย้ยใส่ เขาใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ เพื่อจับข้อเท้าของ BitingCold ไว้ และทุ่มลงกับพื้นอีกครั้ง BitingCold รู้ว่าเขานั้นแย่แล้ว ทั้งมือขวาและข้อเท้าซ้ายของเขาถูกฝ่ายตรงข้ามจับเอาไว้ได้!

จากนั้นจางเจิ้งเฉียงใช้เข่าที่หุ้มพลังซี่ไว้กระแทกใส่หลัง BitingCold เต็มแรง ทำให้เขาติดสตั้นชั่วคราว เขาปล่อยมือทั้งสองที่จับข้อมือและข้อเท้า เขาทำท่าทางเหมือนหมียักษ์ จากนั้นเขาก็ใช้มือทั้งสองข้างจับหัว BitingCold ยกลอยขึ้นมา เขาเร่งพลังซี่ทั้งหมดใส่มือทั้งสองและหักคอ BitingCold แกร๊ก! BitingCold ตายในทันที จากนั้นเขาก็โยนศพทิ้งไป

[HeavenShakingMight แห่งทีม Thorns and Roses ได้รับชัยชนะ!]

“หมัดดาวเหนือปะทะจอมหมัดเหล็ก ในที่สุดก็รู้ผลแพ้ชนะแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้หมัดดาวเหนือได้สูญเสียความสามารถที่แข็งแกร่งอย่างการโจมตีสวนกลับของตัวเองไป มันน่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นการปะทะของสกิลท่าไม้ตาย [Big Dipper Fist] และ [Sky Shake Qi Cannon] …” ซูหยี่ยี่พูดด้วยอาการถอนหายใจ

“มันมีความแตกต่างระหว่างจุดแข็งของพวกเขา ในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าแบบนี้ HeavenShakingMight มีทั้งปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็ว, มีพลังทำลายล้าง, มีการป้องกันที่ดี และมีความสามารถในการตอบโต้ ทั้งหมดนี้ทำให้เขาไม่มีจุดอ่อนเลย สิ่งเดียวที่เขาขาดนั่นก็คือประสบการณ์การต่อสู้เพียงเท่านั้น ก่อนหน้านี้เมื่อ BitingCold ใช้ท่าไม้ตายสลับตำเหน่งกับเขา ดูเหมือนว่าเขามีสีหน้าตกใจอย่างมาก เขาคงจะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น…” พี่ใหญ่เฉาตอบ

“แต่เขาก็ยังคงสามารถที่จะตอบสนองในเวลาไม่กี่วินาทีได้ เขาเป็น grappler ประเภทใช้สัญชาตญาณในการแก้ไขสถานการณ์ ดังนั้นประสบการณ์ไม่ใช่ปัญหาสำคัญสำหรับเขาเลย สำหรับสองสกิลท่าไม้ตายที่คุณหยี่ยี่พูดถึงนั้น ด้วยการที่ทั้งสองสกิลนั้นเป็นสกิลใหญ่ และมีระยะเวลาในการใช้ที่นาน และด้วยการต่อสู้บนเวทีประลองแบบนี้ จึงแทบไม่มีโอกาสที่จะใช้มันได้” พี่ใหญ่จงส่ายหัว

การที่ BitingCold ถูกสังหาร สร้างผลกระทบอย่างมากต่อขวัญและกำลังใจของทีม ทำให้ในการสู้ในโหมดอารีน่าแบบทีมและในโหมดฮีโร่ พวกเขาประสบความพ่ายแพ้ทั้งหมด ส่วนในโหมดความบันเทิงนั้น Bejeweled และ KittyKat ก็ได้รับชัยชนะไป ทำให้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกเขาชนะโดยได้แต้มเต็ม 12 คะแนนไป มันช่างเป็นการเปิดตัวที่สวยหรูมากจริงๆ

MistyVeil เฝ้ามองตั้งแต่ต้นจนจบ จากนั้นเธอก็สรุปการวิเคราะห์ของเธอ

ID: PaleSnow

การประเมิน: S

การต่อสู้ประชิดตัว: S

การต่อสู้ระยะไกล: ไม่ทราบ

ความสามารด้านเวทมนตร์: ไม่ทราบ

การต่อสู้มือเปล่า: ไม่ทราบ (อย่างน้อย A)

ความสามารถด้านกลยุทธ์: ไม่ทราบ

ความสามารถในการบังคับบัญชา: B

ความนิยม: S

โหมดความบันเทิงที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ: การเต้น – SSS, เกมอื่นๆยังไม่ทราบ

ตัวละครที่ดีที่สุด: นักดาบปีศาจแร็งค์ S

ตัวละครที่ดีอันดับสอง: นักดาบวายุแร็งค์ A

การประเมินประเภท: นักฆ่าความเร็วสูง

ID: HeavenShakingMight

การประเมิน: S

การต่อสู้ประชิดตัว: S

การต่อสู้ระยะไกล: ไม่ทราบ

ความสามารด้านเวทมนตร์: ไม่ทราบ

การต่อสู้มือเปล่า: S

ความสามารถด้านกลยุทธ์: ไม่ทราบ

ความสามารถในการบังคับบัญชา: B

ความนิยม: B

โหมดความบันเทิงที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ: ไม่ทราบ

ตัวละครที่ดีที่สุด: จอมหมัดเหล็กแร็งค์ S

ตัวละครที่ดีที่สุดอันดับสอง: นักสู้แร็งค์ A

การประเมินประเภท: ผู้เชี่ยวชาญการโจมตีประชิดตัว

ID: HappyAndCheerful

การประเมิน: S

การต่อสู้ประชิดตัว: A +

การต่อสู้ระยะไกล: ไม่ทราบ

ความสามารด้านเวทมนตร์: ไม่ทราบ

การต่อสู้มือเปล่า: ไม่ทราบ

ความสามารถด้านกลยุทธ์: ไม่ทราบ

ความสามารถในการบังคับบัญชา: D

ความนิยม: C

โหมดความบันเทิงที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ: ไม่ทราบ

ตัวละครที่ดีที่สุด: นักรบดาบยักษ์แร็งค์ S

ตัวละครที่ดีที่สุดอันดับสอง: มือระเบิดแร็งค์ A

การประเมินประเภท: ชอบชนะอย่างเซอร์ไพรส์

ข้อมูลของทั้งสามคนของ MistyVeil ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และเธอยังได้ทำข้อมูลของเย่เทียนและ SpyingBlade ไว้อีกด้วย แต่ทั้งสองคนนี้ยังไม่ได้ขึ้นไปแข่งเลยสักครั้ง ดังนั้นการวิเคราะห์ยังคงเป็นคำว่าไม่ทราบอยู่ สุดท้ายเธอเปลี่ยนแปลงการประเมินผลของทีม Thorns and Roses “นี่คือทีมที่เราต้องไม่ประมาทอย่างมาก”

ระหว่างที่บันทึกข้อมูล MistyVeil ดูข้อมูลของ FlameEmperor นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เขาเป็นเหมือนลาสบอสของลีค นับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันลีคมา เธอก็ถูกทำลายโดยเขาเสมอ ขนาด CloudDragon ยังชนะเขาได้ด้วยความบังเอิญเลย

ID: Flame Emperor

การประเมิน: SSS

การต่อสู้ประชิดตัว: SSS

การต่อสู้ระยะไกล: SS

ความสามารด้านเวทมนตร์: SSS

การต่อสู้มือเปล่า: SS

ความสามารถด้านกลยุทธ์: A

ความสามารถในการบังคับบัญชา: S

ความนิยม: SSS

โหมดความบันเทิงที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ: กีฬาทุกประเภท- SSS, ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบ

ตัวละครที่ดีที่สุด: Broken Edge War God แร็งค์ SS

ตัวละครที่ดีที่สุดอันดับสอง: Red Lotus Conqueror แร็งค์ SS (ตัวละครกิตติมศักดิ์ของ Flamedynast )

การประเมินประเภท: มีอำนาจทุกอย่าง

ในห้องพัก หวังทำชาให้สำหรับทุกคนและคอยประจบประแจงกับพวกสาวงาม ทำให้ ThornyRose ถอนหายใจ ‘เฮ้อ! ยังน้อยก็ยังมีคนคอยรับใช้สมาชิกในทีม’ จากนั้นเธอมองไปที่จุดที่เย่ฉางหายไป ‘เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เขาถึงเต้นด้วยความเศร้าโศกแบบนั้น? อะไรทำให้เขากระโดดลงไปในความมืดอันไม่มีวันสิ้นสุด’

“พี่สาวโรส หัวหน้าทีมได้จุดกระแสความนิยมการเต้นขึ้นมา โรงเรียนสอนเต้นของลูกพี่ลูกน้องของฉัน ตอนนี้กำลังคึกคักกับสมาชิกใหม่ แม้ว่าบทเรียนในโลกเสมือนจะแออัดมากเกินไปก็ตาม” Little Jade พูดถึงแทรนด์การเต้นที่กำลังมาแรง

“ถึงตอนนี้ ฉันไม่สามารถเชื่อได้ว่า คนที่รับเกมการเต้นในโหมดความบันเทิงไป จะเป็นหัวหน้าทีม …” FrozenBlood ถอนหายใจ

ThornyRose ก็ถอนหายใจ เธอรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน

ณ.บ้านพักริมทะเล

อูนากำลังเต้นตามส่วนที่ 3 ที่เย่ฉางได้แสดงไปด้วยน้ำตา หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดของเธอ แต่งเพลงใหม่ขึ้นมา เพลง ‘ความรักสีดำ’ มันฟังดูเหมือนเป็นความเศร้าเสียใจนับๆพันปี แม้แต่ตัวเธอเองก็เริ่มร้องไห้หลังจากได้ฟัง ทันทีที่อารมณ์ของเธอดีขึ้น ‘ครั้งหน้า! แน่นอนฉันจะทำให้วง Falling Sand มีชื่อเสียงขึ้นมาให้ได้! เพื่อเติมเต็มความฝันของฉัน! นานะ! เธอสามารถทำมันได้! เอาล่ะ! ขนาดนี่แค่ส่วนที่ 3 เองนะยังได้ถึงขนาดนี้เลย! ถ้ารวมอีก 2 ส่วนเข้าไปมันจะขนาดไหนกัน! ฉันต้องได้รับชัยชนะเหนือพวกเขา!’ เธอรีบไปที่ตลาดเพื่อซื้อส่วนผสมมากมาย เพื่อที่จะทำอาหารที่เย่ฉางชอบกิน

“ว้าว! นานะ อาหารวันนี้หรูหรามาก! นี่เป็นซี่โครงที่ผมชอบกินที่สุดเลย…” หลินหลี่เอื้อมมือออกไปคว้ามัน แต่โดนอูนาห้ามไว้ “นี่สำหรับพี่ใหญ่ขาว!”

จางเจิ้งเฉียงรู้สึกขนขนลุกกับพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของอูนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ยินเธอเรียกว่าพี่ใหญ่ขาว หลินหลี่บุ้ยปากและเริ่มสะอื้น “ผมก็อยากกินด้วยเหมือนกันนี่”

อูนาจึงให้หลินหลี่หนึ่งชิ้น จากนั้นก็ตักให้เย่ฉางอย่างนุ่มนวล “พี่ใหญ่ขาว ขอแสดงความยินดีกับชัยชนะด้วยคะ ว่าแต่ … ฉันมีอะไรอยากจะปรึกษากับคุณ …”


 

 

 


ตอนที่ 341

 

“แสดงส่วนแรกกับส่วนที่สองให้ฉันดูหน่อยสิคะ …” อูนาพูดอย่างไพเราะ

เย่ฉางคิดเล็กน้อย แล้วก็พยักหน้าอย่างใจเย็น “ฉันไม่มีอารมณ์…”

ตอนแรกอูนาเห็นเขาพยักหน้าจึงรู้สึกโล่งใจ แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว เธอก็คว้าตัวเขาทันที “จะทำหรือไม่!”

“อ่า! ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่แสดงให้ดูเสียหน่อย อันที่จริงแล้ว มันไม่มีสองส่วนแรกนั้นหรอก มันมีเพียงส่วนที่สามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น …” เย่ฉางยักไหล่

“โกหก นายโกหก!!” อูนาไม่เชื่อ

“มีเพียงแค่ส่วนที่ 3 จริงๆ เพราะส่วนแรกและส่วนที่ 2 ฉันลืมไปหมดแล้ว …” เย่ฉางยิ้มอย่างขมขื่น

“จริงๆนะ …” อูนาปล่อยตัวเขาและมองเขาอย่างสงสัย

“จริงๆ ฉันไม่โกหกเธอหรอก …” เย่ฉางถอนหายใจ

อูนาค่อนข้างไม่พอใจ เธอจึงเอาซี่โครงกลับคืนมาและกินมันเอง

“……” เย่ฉางมองดูซี่โครงที่หายไปจากในชามของเขา

“หัวหน้าทีมคะ การแข่งนัดต่อไปจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ แล้วในช่วงเวลานี้เราควรทำอะไรดี?” FrozenCloud ถาม

“พักผ่อน” เย่ฉางบอก เขาไม่มีเจตนาที่จะเตรียมตัวสำหรับการแข่งในวันพรุ่งนี้เลยสักนิด

ณ.ทะเลสาบจันทร์ครึ่งเสี้ยวในเวลาตอนกลางคืน

ซูหยี่ยี่มาถึงทะเลสาบตามที่เย่ฉางได้นัดหมายไว้ เมื่อเธอมองจากระยะไกล เธอได้เห็นชายคนหนึ่งที่สวมหน้ากากเสือ กำลังรังแกนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง เสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยอง ฟังดูเหมือนเธอกำลังร้องเรียกขอความช่วยเหลือยังไงยังงั้น จากนั้นเธอก็มองเห็นชายแปลกหน้าอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆซึ่งสวมหน้ากากจิ้งจอกสวรรค์ เขาสวมชุดทักซิโด้และหมวก เธอถามด้วยรู้สึกกล้าๆกลัวๆว่า “อาจารย์ฉางใช่ไหม?”

เย่ฉางพยักหน้า “คำนิยามของการเต้นรำจังหวะแจ๊สมีเพียงคำเดียวนั่นคืออิสระเสรี คุณเป็นนักแสดงหญิง ดังนั้นควรสามารถแสดงอารมณ์ได้ดี แต่ … วิธีใส่ความรู้สึกเหล่านั้นลงในการเต้นรำเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด พื้นฐานของคุณไม่เลวเลย พยายามตามผมให้ทันแล้วกัน!”

เย่ฉางอธิบายจบ แล้วกระโดดลงไปบนทะเลสาบจันทร์ครึ่งเสี้ยว แสงจากดวงจันทร์ส่องพาดผ่านเขา เกิดเป็นเงาสะท้อนบนพื้นผิวของทะเลสาบ ภายใต้เท้าของเขา น้ำกระกระเพื่อมเป็นระลอกคลื่น ภายใต้แสงกระทบจากดวงจันทร์ เขามองดูลึกลับน่าค้นหาอย่างยิ่ง

ซูหยี่ยี่คิดนิดหน่อย แล้วตั้งใจว่าจะถอดรองเท้าส้นสูงของเธอ ถ้าขืนเธอยังใส่รองเท้าส้นสูง มันจะยากที่จะยืนบนน้ำได้นาน ไม่เพียงแต่พลังซี่ของเธอกระจายไม่เท่ากันแล้ว มันยากสำหรับแผ่พลังซี่ปกคลุมส้นรองเท้าที่สูงตั้ง 10cm นี่อีก ทำให้การรักษาความสมดุลจะทำได้ลำบากมาก

“คุณไม่สามารถถอดมันออกได้ ก่อนหน้านี้ ผมก็ได้บอกกฎข้อแรกให้คุณได้ทราบไปแล้วว่า ถ้าคุณอยากเรียนการเต้นจากผม คุณต้องแต่งกายอย่างเป็นทางการเท่านั้น …” เย่ฉางพูดอย่างไม่แยแส

ซูหยี่ยี่ลังเล แต่ก็ยังกระโดดไปยืนตรงหน้าเขา พลังซี่ของเธอไหลเวียนไปรอบๆรองเท้า และเธอพยายามทำให้ดีที่สุดที่จะยืนบนน้ำ หลังจากนั้นไม่ถึง 2 วินาที ส้นเท้าก็ทะลุผิวน้ำลงไปทำให้เธอเสียการทรงตัว จนเธอล้มลงกระแทกผิวน้ำจนเปียกปอนเหมือนลูกเป็ดตกน้ำ จากนั้นเธอควบแน่นพลังซี่เพื่อฝืนตัวเองให้ยืนขึ้นอีกครั้ง แต่เมื่อเธอมองสุภาพบุรุษที่ยืนอยู่บนน้ำภายใต้แสงสะท้อนของดวงจันทร์ เธอคิดในใจ ‘ชายผมขาวที่เต้นด้วยเพลงวอลทซ์อันแสนเศร้าคนนั้น ก็ควรน่าจะเป็นผู้ชายคนนี้ใช่มั้ย?’ เธอจึงตัดสินใจถามขึ้นมา “คุณเป็นอาชูร่าขาวใช่มั้ยคะ?”

เย่ฉางไม่ตอบเพียง แต่พูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันเป็นแค่อาจารย์หน้ากากจิ้งจอกสวรรค์ของคุณเท่านั้น สำหรับส่วนที่เหลือ ไม่ต้องถามเกี่ยวกับมัน อย่าคิดถึงเรื่องอื่นนอกจากการเต้นรำเพียงเท่านั้น นี่เป็นกฏข้อที่สอง”

ซูหยี่ยี่ยันตัวกระโดดขึ้นและพยายามที่จะยืนอยู่บนผิวน้ำอีกครั้ง แต่แล้วเธอก็ตกลงไปในน้ำอีกครั้ง เย่ฉางถอนหายใจ เขาดึงเธอขึ้นมาและเอามือทั้งสองข้างของเธอ พาดไว้บนบ่าของเขาเพื่อให้ตัวเธอมั่นคง เขาแบกรับน้ำหนักทั้งหมดเอาไว้ แต่เขาก็ไม่ได้จมลง “ลองทำตามที่ผมบอกต่อไปนี้ อย่าคิดพะวงว่าส้นเท้าของคุณจะเจาะผิวน้ำลงไปหรือเปล่า ให้คุณเพียงคิดว่ารองเท้าส้นสูงก็เปรียบเสมือนร่างกายของคุณ เพียงแค่ต้องใช้พลังซี่ที่แตกต่างกันออกไปเท่านั้นเอง ลองใส่พลังซี่ที่ส้นเท้าให้มากขึ้นและตรงปลายเท้าแค่นิดหน่อยก็พอ เมื่อคุณเต้นรำ ถ้าส้นเท้าไม่มีสมดุล คุณก็จะตกลงไปในน้ำอีกเหมือนเดิม นอกจากนี้สำหรับการเต้นรำของผู้หญิงที่เน้นการใช้ส้นเท้านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการก้าวไปที่ด้านหน้า มันมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และการเคลื่อนไหวที่คุณสามารถทำได้จะแตกต่างกันอย่างมาก คุณต้องให้ความสำคัญทั้งส้นเท้าและปลายเท้า ข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ใช่แค่การใช้พลังซี่ที่มากขึ้นเท่านั้น แต่มันยังต้องมั่นคงอีกด้วย การเต้นรำบนพื้นดินมันอาจจะดีตรงที่ว่าการใช้พลังซี่มากขึ้น จะสามารถเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของคุณได้ แต่ในทะเลสาบแบบนี้ พลังซี่จะมากหรือน้อย มันก็ไม่เป็นผลดีทั้งนั้น”

ซูหยี่ยี่ควบคุมการหายใจของเธอ แล้วพยายามทำตามคำแนะนำของเย่ฉาง 5 วินาที 10 วินาทีผ่านไป จู่ๆเธอก็สามารถยืนนิ่งอยู่บนผิวน้ำได้ แต่เธอก็ยังไม่กล้าที่จะเคลื่อนที่ออกจากเขา

เย่ฉางหัวเราะเบาๆแล้วดึงมือเธอ “ยิ่งคุณกังวลกับสิ่งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของคุณมากแค่ไหน และยิ่งคุณพยายามควบคุมการหายใจมากเท่าไหร่ คุณก็จะตกลงไปในน้ำ ดังนั้นจงผ่อนคลายจิตใจของคุณซะ และให้ลองนึกภาพว่าตัวเองกำลังยืนอยูบนพรมที่แสนนุ่ม …”

จากนั้นเย่ฉางก็เต้นนำซูหยี่ยี่ โดยนำทางเธอทีละจังหวะการก้าว หลังจากเต้นไปสักพักแล้ว พวกเขาก็ย้อนกลับไปที่ฝั่ง “ดีมาก ในวันนี้จบการฝึกเพียงแค่นี้ก่อน และเธอต้องนำไปฝึกฝนต่อที่บ้านด้วยล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องฝึกการควบคุมความแรงของคุณให้ดี การเต้นรำนั้นสามารถมีได้ทั้งความแข็งกร้าวและรุนแรง แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงด้วยความละเอียดอ่อนและนุ่มนวล และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเชี่ยวชาญการยืนอยู่บนทะเลสาบแล้ว การเต้นบนเวทีก็จะไม่ได้ยากอีกต่อไป …”

ซูหยี่ยี่รู้สึกราวกับว่าเธอได้เรียนรู้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมท่าเต้นของเธอ เธอโค้งคำนับเขาอย่างจริงใจ “ขอบคุณคะอาจารย์หน้ากากจิ้งจอกสวรรค์มากคะ สำหรับคำแนะนำที่มอบให้แก่ฉัน หลังจากเชี่ยวชาญการยืนอยู่บนทะเลสาบแล้ว จะมีอะไรยากกว่านี้อีกไหมคะ?”

“อืม การยืนบนภูเขาใบมีด แล้วก็เป็นยืนบนทะเลแห่งเปลวไฟ และอันที่ยากที่สุดก็คือการเหยียบย่ำบนเมฆ …” เย่ฉางพูดครึ่งจริงครึ่งเล่น ซูหยี่ยี่รู้สึกความเคารพเขามากยิ่งขึ้น ในตอนแรก เธอคิดว่าการเต้นรำเป็นสิ่งที่เธอต้องฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็จะสำเร็จ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าถ้าเธอต้องการเต้นรำให้ได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น ราคาและความพยายามที่เธอจะต้องจ่ายจะไม่ใช่น้อยๆเลย แม้แต่ยังมีความอันตรายสูงมาก ลองนึกถึงการเต้นรำในทะเลแห่งเปลวไฟ หรือบนภูเขาใบมีดสิ แค่เพียงคิดก็ทำให้เธอสั่นสะท้านแล้ว และเพื่อให้สามารถเต้นรำบนเมฆได้ … การเต้นรำนี้อาจใช้ความพยายามตลอดทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ “ตอนนี้อาจารย์อยู่ขั้นไหนแล้วคะ?”

“น่าจะทะเลแห่งเปลวไฟ” เย่ฉางตอบอย่างจริงจัง

“แสดงให้ศิษย์คนนี้ดูสักครั้งได้ไหมคะ …” ซูหยี่ยี่ขอร้องเขา ในตอนนี้ชุดของเธอนั้นเปียกชุ่มอยู่ และภายใต้แสงจันทร์แบบนี้ จึงทำให้สามารถมองเห็นชุดชั้นในของเธอได้รำไร ขณะนี้จางเจิ้งเฉียงต่อยเฉาเฉียงหยูจนลอยออกไป จากนั้นเขาก็มองมาทางซูหยี่ยี่ ‘ผู้หญิงคนนั้นช่างเซ็กซี่จริงๆเลย เอ้ย! นั้นมัน … เทพธิดาหยี่ยี่!’ เฉาเฉียงหยูเห็นจางเจิ้งเฉียงยืนนิ่ง เธอคิดว่านี่เป็นโอกาสดี เธอจึงรีบลุกขึ้นและแทงดาบฝึกของเธอใส่เขา จางเจิ้งเฉียงใช้มือปัดดาบฝึกโดยที่สายตายังคงจับจ้องมองชุดชั้นในอยู่ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงฝ่ามือกระแทกใบหน้าของเธอ ส่งเธอบินลอยไปอีกครั้ง “ทุ่มพลังให้มากขึ้นกว่านี้อีก! อาจารย์ของเธอได้ฝึกฝนเธอมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถแม้แต่จะป้องกันการโจมตีของฉันได้เลยสักครั้ง!? เธอเคยอายอาจารย์และตัวเองบ้างไหม! จงทุ่มความพยายามให้มากขึ้นอีก!? ทำได้ไหม!?”

น้ำตาเริ่มเออนองในดวงตาของเฉาเฉียงหยู แต่เธอกัดฟันแน่นและคลานลุกขึ้นมา เธอยังคงพุ่งโจมตีใส่จางเจิ้งเฉียงต่อ ทุกๆครั้งเธอก็ยังถูกจางเจิ้งเฉียงซัดจนลอยออกไป และถูกเขาต่อว่าอีกครั้ง

เย่ฉางลังเลใจ ทะเลแห่งเปลวไฟ ภูเขาใบมีดและเหยียบย่ำบนเมฆอะไรนั่น มันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะเสียหน้าได้ เขาจึงไปหาถังน้ำมันแล้วจุดไฟไว้ ทะเลแห่งเปลวไฟก่อรูปร่างขึ้นมา จากนั้นเขากระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนเปลวไฟที่ร้อนจัดนั้น เมื่อเทียบกับการยืนบนน้ำแล้ว การยืนบนความร้อนแบบนี้ไม่ใช่ง่ายๆเลย เพราะน้ำยังไงก็ยังเป็นสสารที่จับต้องได้อยู่ แต่ความร้อนเป็นแค่พลังงานและอากาศที่ไหลเวียนกันอยู่เท่านั้น

เมื่อเห็นการเต้นรำของเขา ซูหยี่ยี่นับถือและคลั่งไคล้เขาอย่างมาก ถ้าเป็นคนที่มีพลังพิเศษที่เกี่ยวกับไฟ หรือได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ การยืนในเปลวไฟเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย แต่การใช้เทคนิคเฉพาะตัวเพื่อให้ยืนได้อย่างสง่างามในเปลวไฟที่ร้อนระอุแบบนี้ จะต้องใช้การควบคุมที่ยากขนาดไหน เขาทำยังไงถึงควบคุมการเต้นรำได้อย่างสมบูรณ์แบบ! และที่สำคัญเขายังแสดงสีหน้าไม่แยแสต่อสิ่งใดอีก

ซูหยี่ยี่ยังเฝ้าดูเย่ฉางแสดงการเต้นในเปลวไฟ เขาเหมือนผีเสื้อที่บินรอบๆเปลวไฟ มันช่างดูสวยงามมาก หลังจากจบการเต้นแล้ว เสื้อผ้าของเขาไม่ได้โดนไฟเผาเลยสักนิด เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกหวาดกลัวหรือเป็นกังวลใดๆเลย ดูเหมือนว่าถ้าเธอยังเรียนรู้จากเขาต่อไปเรื่อยๆ เธอสามารถฝึกตัวเองให้เป็นนักเต้นระดับซุปเปอร์ระดับพระเจ้าได้เลยทีเดียว การเต้นบนผิวน้ำ, ภูเขาใบมีด, ทะเลแห่งเปลวไฟ, การเหยียบย่ำบนเมฆ เธอเก็บถ้อยคำเหล่านี้ไว้ในความทรงจำของเธอ

ความรู้สึกของเฉาเฉียงหยูค่อยๆจางหายไป ร่างกายของเธอได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว เพราะเธอถูกซ้อมอยู่ฝ่ายเดียว จางเจิ้งเฉียงยิ้มเมื่อเห็นเย่ฉางและซูหยี่ยี่กำลังจะมาถึง

เฉาเฉียงหยูเห็นซูหยี่ยี่ในชุดยาวที่โปร่งใสเนื่องจากเปียกน้ำ ทำให้สามารถมองเห็นชุดชั้นในได้รำไร หัวใจเธอแทบหยุดเต้น ‘นี่คือซูหยี่ยี่!’ ด้วยความรู้สึกเฮือกสุดท้าย เธอจึงฝืนหยิบกระดาษเปล่ายื่นไปข้างหน้า “คุณซูหยี่ยี่คะ ฉันชอบผลงานของคุณมากๆ โปรดเซ็นชื่อ …”

คองอของเฉาเฉียงหยูพับลง และเธอก็หมดสติไป

“เธอเป็นอะไรไป?” ซูหยี่ยี่ที่สงสัยตั้งแต่ก่อนมาถึงแล้ว ‘ชายสวมหน้ากากเสือคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็น HeavenShakingMight นี่น่า แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้คือ?’

“เธอเป็นศิษย์น้องของคุณ ฉันกำลังสอนเธอ …” เย่ฉางยิ้ม ส่วนจางเจิ้งเฉียงยกหัวและคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง ‘เห็นได้ชัดมาเธอมาทีหลังนิ ดังนั้นเฉาเฉียงหยูน่าจะเป็นศิษย์พี่สิ? แต่ทำไมมันถึงกลับกลายเป็นแบบนี้ ดูไม่เหมาะสมเลย’

“เธอเรียนรู้การเต้นด้วยเหรอ?” ซูหยี่ยี่ตกตะลึง ‘อ่า นี่คือ … หรือว่าต่อไปฉันต้องโดนอัดน่วมแบบนี้? แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเต้นเลย หรือว่ามันมีความหมายอื่น!?’

“เธอการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ …” เย่ฉางยิ้ม

ซูหยี่ยี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ‘อ่อ มันเป็นศิลปะการต่อสู้นั่นเอง ดูเหมือนมันจะเป็นเหมือนที่พูดกันว่า อาจารย์ที่เข้มงวดจะสร้างลูกศิษย์ที่ดี แต่ฉันไม่เคยเห็นลูกศิษย์คนไหนที่ถูกทำร้ายจนสาหัสขนาดนี้ แม้แต่ผู้หญิงสวยๆเช่นนี้ก็ไม่ละเว้น ดีนะที่ฉันเรียนแค่การเต้น’ เธอถอนหายใจ “วันพรุ่งนี้จะเป็นศึกครั้งที่สองของฝ่ายคุณ ฉันค่อยมาเรียนอีกทีในคืนนั้นก็แล้วกัน?”

“ตกลง…” เย่ฉางคิดนิดหน่อยและพยักหน้า มันก็สะดวกดีเหมือนกัน เพราะในคืนนั้นเขากะจะสอนการระเบิดพลังให้กับฉาเฉียงหยูอยู่พอดีเลย

“อาจารย์พักอยู่ที่ไหนคะ ฉันอยากจะขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน? ฉันไม่สามารถกลับไปที่โรงแรมในสภาพแบบนี้ได้” ซูหยี่ยี่เดินทางมาคนเดียวและไม่ได้นำบอดี้การ์ดมาด้วย มันเป็นแสดงความเคารพและความเชื่อใจต่ออาจารย์ของเธอ หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว คิวงานของเธอจะแน่นมาก จนแทบขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย มันจะดีกว่าที่เธอจะอาศัยช่วงเวลานี้คอยเก็บเกี่ยวความรู้จากอาจารย์ สำหรับการแสดงครั้งต่อไปของเธอ เธอต้องการแสดงทักษะการเต้นที่สุดยอดนี้ เพื่อจะให้การแสดงของเธอเป็นการแสดงที่ดีที่สุดตลอดกาล

“อาเฉียง นายพาเธอกลับบ้านไปก่อน ส่วนฉันจะไปส่งเฉาเฉียงหยู …” เย่ฉางอุ้มเฉาเฉียงหยูขึ้นมาและหายตัวไป

จางเจิ้งเฉียงพาซูหยี่ยี่กลับไปที่บ้านพักริมทะเล

อูนาเคยลองพยายามหลายครั้ง เพื่อสรุปหาส่วนแรกและที่สอง แต่มันก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เธออยู่ที่ระเบียงและเห็นจางเจิ้งเฉียงเดินมาพร้อมกับผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง FrozenCloud ที่อยู่ข้างๆเธอก็ลุกยืนขึ้น! การแสดงออกของเธอเหมือนกับอาการของแมวเห็นหนู เธอตะโกนออกมาทันทีว่า “ซูหยี่ยี่!”

ณ.อพาร์ตเมนต์ของเฉาเฉียงหยู

เย่ฉางช่วยรักษาแผลฟกช้ำบนร่างกายของเธออย่างเงียบๆ ในขณะที่เขามองใบหน้าที่น่าจดจำและฟังการหายใจที่แผ่วเบาของเธอ เขาเอื้อมมือจับแก้มของเธอไว้สักครู่ และยิ้มอย่างอ่อนโยน “ซินหยู่…”

ไม่นานหลังจากนั้น เย่ฉางก็ตื่นจากภวังค์ การแสดงออกของเขาดูโศกเศร้ามาก “ทำไมคุณถึงต้องฆ่าตัวตายด้วย คุณไม่ให้ความหวังในการที่ฉันจะช่วยคุณเลย DNA ของฉันสามารถช่วยคุณได้! ทำไม!? ทำไมฉันต้องมาช้าเกินไปด้วย!? ทำไมฉันต้องใช้เวลานานมากในการเข้าใจร่างกายของฉัน ทำไมกัน!…”

เย่ฉางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาหันหลังและเห็นกระเป๋าเงินที่ก้นของเธอ เขากระพริบตามองไปที่เงินค่าเล่าเรียนเหล่านั้น มันมีเพียงแค่ 5000 ดอลลาร์เท่านั้นเอง ‘เฮ้อ! ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย’ จากนั้นเขาก็หยิบเงินใส่ในกระเป๋าของเขาและเขียนโน๊ตทิ้งไว้ แล้วก็กระโดดออกจากระเบียงและหายตัวไป

 

 

 


ตอนที่ 342

 

เย่ฉางกลับไปที่บ้านพักริมทะเล เขามองไปยังมือขวาของตัวเอง และรู้สึกสังหรณ์ใจถึงลางร้ายบางอย่าง

ในขุมต่ำสุดของนรกอเวจี (อเวจีคือนรกขุมต่ำสุดตามความเชื่อทางศาสนาพุทธ)

อเวจีคือความโหดร้ายของนรก ผู้ที่อยู่ในนรกอเวจีจะไม่สามารถหลบหนีได้ และต้องทนทุกข์ทรมานต่อการลงโทษห้าประเภท ประเภทแรกการลงโทษของเวลา สำหรับผู้ที่ถูกส่งลงมาที่อวเจีต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ ประเภทที่สองการลงโทษของพื้นที่ ผู้ที่ถูกส่งลงมาที่อเวจีจะถูกทรมานไปตามทุกส่วนของร่างกายและจิตวิญญาณ ไม่มีเว้นแม้แต่นิ้วเดียว ประเภทที่สามเครื่องมือแห่งการลงโทษ ผู้ที่ถูกส่งลงมาอยู่ในอเวจีจะไม่ถูกทรมานด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ หรือวิธีการทรมานเพียงแค่อย่างเดียว แต่พวกเขาจะถูกทรมานด้วยเครื่องมือ และวิธีการที่แตกต่างกันหลากหลายวิธี ประเภทที่สี่การลงโทษด้วยความเสมอภาค ไม่มีใครที่จะได้รับการพิจารณา และยกเว้นโทษเป็นกรณีพิเศษแม้แต่คนเดียว ประเภทที่ห้าการลงโทษแห่งชีวิตและความตาย ผู้ที่ถูกส่งลงมาที่อเวจีจะได้รับทุกข์โทษอย่างแสนสาหัสจนขาดใจตายไปแล้ว แต่ก็ฟื้นกลับมารับโทษทัณฑ์อยู่ร่ำไป เวลาของในนรกจะถูกบิดเบือนจากความเป็นจริง หนึ่งวินาทีในนรกอาจจะเท่ากับหนึ่งหมื่นปีบนโลกมนุษย์ เวลาไม่มีความหมายในนรกแห่งนี้

ในส่วนที่ลึกสุดของนรกอเวจี เป็นผู้ชายที่มีผิวถูกถลกออกทั้งหมด เขาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า เขามีผมยาวสีขาวที่่ถูกย้อมด้วยสีแดงของเลือด เขาได้รับการลงโทษมานับไม่ถ้วน ทั้งถูกดึง แยกส่วน, ถลกหนัง, ตัดเป็นชิ้นๆ, ร่างกายบิดเบี้ยว, แต่ร่างกายของเขายังคงฟื้นกลับคืนมา เหมือนกับเล่นฉากเดิมซ้ำไปซ้ำมา ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ส่งเสียงกรีดร้อง และไม่ได้แสดงออกถึงความทรมานออกมาเลยสักครั้ง ดวงตาสีชมพูของเขาดูไร้ความรู้สึก แต่ยังคงจ้องมองออกไปในความมืดอย่างแน่วแน่

“เขาได้รับความทุกข์ทรมานมา 9 ล้านล้านปีแล้ว นรกอเวจีได้แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเขาเป็นอมตะ ทั้งหมดที่เราทำได้คือการวางกับดักเขาไว้ที่นี่ ถ้าเขาเปิดหนังสือแห่งความหวังได้สำเร็จ พระเจ้าทั้งหมดในดาวดวงนี้จะถูกสังหารโดยเขา” เสียงของผู้หญิงได้เล็ดลอดออกมาจากช่องว่าง

“เรามีทางเลือกอื่นอีกไหม? เราไม่สามารถฆ่าร่างอมตะของเขาได้เลย เธอจะทำยังไงกับเขากัน?” เสียงผู้ชายได้ดังสะท้อนไปทั่วทั้งนรก

“เราต้องรออีกหน่อย ถึงจะปล่อยให้เขาเป็นอิสระได้ บางทีเราอาจจะสามารถใช้ช่วงเวลาปัดเป่าความเกลียดชังของเขาได้ ความจริงก็คือ ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกถึงความเกลียดชังใดๆจากเขาเลย มันก็ผ่านมาเป็นเวลาถึง 9 ล้านล้านปีแล้วนะ แต่เขาก็ยังคงจ้องมองออกไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา…” เสียงของผู้หญิงถอนหายใจออกมา

“เธอเชื่อจริงๆงั้นหรือว่า หลังจากที่เราทรมานเขามานานแสนนาน และบังคับให้เขาตื่นขึ้นมาตลอดเวลา จะไม่ทำให้เขามีความเกลียดชังใดๆเลยงั้นหรือ?” เสียงของผู้ชายตอบโต้กลับไป

“เฮ้อ… ฉันไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาจะบุกเข้ามาในนรกอเวจีเพื่อชุบชีวิตใครคนหนึ่ง จะไปสะดุดเข้ากับหนังสือแห่งความหวัง ทำให้พวกเราอับจนหนทางเต็มที แต่อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเปิดหนังสือแห่งความหวังได้งั้นหรือ?” เสียงของผู้หญิงพูดออกมาเบาๆ

“ไม่ว่าเขาจะทำได้หรือไม่ก็ตาม แต่เรากล้าที่จะเสี่ยงได้ด้วยงั้นหรือ? กฏทั้งสี่ประกอบขึ้นด้วย หนังสือแห่งบาป, หนังสือแห่งความหวัง, หนังสือแห่งการทำลาย และหนังสือต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มไหน พวกมันก็มีพลังที่น่าหวาดหวั่นมาก ทั้งเธอและฉันก็ไม่รู้เลยว่าหนังสือพวกนั้นทำอะไรได้บ้างกันแน่ นอกเหนือจากหนังสือแห่งบาปเพราะ…” เสียงของผู้ชายยังคงพูดอย่างต่อเนื่อง

“เพราะหนังสือแห่งบาปอยู่ในมือของคุณชายคนนั้น คนของพันธมิตรเพื่อสันติภาพจักรวาล…” เสียงของผู้หญิงได้หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น

ผู้ชายผมขาวยังคงได้รับความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะที่เขามองไปข้างหน้าอย่างไร้ความรู้สึก แต่ยังคงแน่วแน่

เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาอาหารเช้า

อูนาและคนอื่นๆ ดูเหมือนจะสงบเสงี่ยมต่อหน้าผู้หญิงคนใหม่ เธอมาที่นี่เพื่อเรียนเต้นรำ และทั้งสามคนก็ได้คุยกันอย่างมีความสุขเมื่อคืนนี้ พวกเขาปฏิบัตราวกับเธอเป็นพี่สาวที่แท้จริง อูนารู้สึกขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็น และคำแนะนำของซูหยี่ยี่เกี่ยวกับการแต่งเพลง แม้แต่ FrozenCloud ก็ยังได้รับบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวกับการแสดงด้วยเลย

ฟางชิเฝ้าดูซูหยี่ยี่เล่นกับถงน้อย เขามองไปยังการแสดงออกที่มีความสุขของถงน้อยและยิ้มออกมา ตามที่คาดคิดเทพธิดาที่มีชื่อเสียงคนนี้มีความสัมพันธ์ที่เข้ากับคนอื่นได้ดีมาก

จางเจิ้งเฉียงจะมองไปที่ซูหยี่ยี่เป็นครั้งคราว ‘เทพธิดา… เทพธิดา…’

เย่ฉางมองดูข่าวโดยไม่สนใจอะไร

ซูหยี่ยี่ค่อนข้างพอใจกับสถานที่แห่งนี้ มันสงบมาก และมีสายลมทะเลที่สดชื่นอยู่เสมอ มันเป็นบ้านพักตากอากาศที่ดีเกินไปในวันหยุดยาวนี้ มันน่าสนใจยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับสถานที่หรูหราอื่นๆ ลมทะเลได้พัดชุดเดรสของเธอกระพือไปมา จางเจิ้งเฉียงจึงรีบก้มลงอย่างกระทันหัน หลินหลี่ที่อยู่บนเสากระโดงเรือกับเขา ได้ก้มตัวเลียนแบบจางเจิ้งเฉียง “มันเป็นสีแดง!”

“ไปทะเล ไปทะเลกัน” เย่ฉางได้เรียกทุกคนเข้ามา “ถงน้อย เธอควรกลับเข้าไปในบ้านนะ บนเรือมันค่อนข้างสั่นเล็กน้อยหนะ เมื่อเธออาการดีขึ้นอีกหน่อย จากนั้นพวกเราค่อยไปจับปลาด้วยกัน ฟางชินายก็เหมือนกัน”

“เอ๊ะ…” ถงน้อยไม่พอใจนิดหน่อย แต่เธอก็เป็นเด็กสาวที่ฉลาด และรู้ว่านี่เป็นผลดีกับตัวเธอเอง ฟางชิยิ้มออกมา และพาเธอกลับไปที่บ้าน

“วันนี้ฉันต้องไปที่สโมสร ดังนั้นฉันจะไม่ไปทะเลกับพวกนายนะ” อูนาหยิบกีตาร์ของเธออกมา และอำลาทุกคน จากนั้นเธอก็เดินทางไปสโมสรทางรถไฟ

ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรในทะเล

ซูหยี่ยี่มองไปยังฉมวกที่เย่ฉางมอบให้กับเธอ เธอได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการฝึกร่างกายหรืออะไรทำนองนั้น เธอมองไปยัง FrozenCloud ที่กำลังถือฉมวกอยู่ และดูเหมือนว่าเธอกำลังตื่นเต้นอีกด้วย ‘เธอเป็นผู้หญิงจริงงั้นหรือ?’

ซูหยี่ยี่กระโดดตามทั้งสามคนลงไปในน้ำ ภาวะซึมเศร้าแต่เดิมของเธอได้หายไปหลังจากที่เธอได้ปลาตัวแรก นี่มันแตกต่างจากการฝึกอบรมว่ายน้ำมากจริงๆ การฝึกซ้อมแบบนี้จำเป็นต้องควบคุมความรุนแรง เมื่ออยู่ใกล้ปลา อย่างแรกเลยคือต้องเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ จากนั้นก็ระเบิดความแข็งแกร่งที่มีออกมาทั้งหมด เธอโผล่ขึ้นมาจากน้ำด้วยรอยยิ้มที่สดใสและมีเสน่ห์ เธอมองไปที่ปลาตัวใหญ่บนฉมวกของเธอ จากนั้นเธอก็หันกลับมา และเห็นครีบขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำพุ่งเข้าหาเธอ นี่เป็นฉากที่คุ้นเคยมาก เธอรู้สึกเหมือนเคยเห็นทางทีวีมาก่อน เธอดำดิ่งลงไปใต้น้ำ และเงยหน้าขึ้นมองเห็นฉลามขาวขนาดมหึมาที่กำลังพุ่งมาหาเธอ ‘โอ้ พระเจ้า!’ เธอรีบว่ายน้ำหนีอย่างสุดชีวิตไปยังทิศทางของเรือ แต่เธอกลับเห็นทั้งสามคนว่ายน้ำเข้ามาหาเธอ “เป็นฉลามขาวชั้นยอด!”

ฉลามขาวชั้นยอดเห็นจางเจิ้งเฉียง, หลินหลี่ และ FrozenCloud ว่ายน้ำพุ่งเข้ามา จากนั้นมันก็หันตัวกลับ และรีบว่ายน้ำหนีจากไปสุดชีวิตทันที

“……” ซูหยี่ยี่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา ‘พวกคุณไปทำอะไรกับมันกัน? มันถูกรังแกจนหวาดกลัวคุณอย่างเห็นได้ชัด!’

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ซูหยี่ยี่ก็ว่ายน้ำกลับขึ้นเรือ และขึ้นไปนั่งหอบหายใจพะงาบพะงายบนเกาอี้ที่ด่านฟ้าของเรือ FrozenCloud ส่งมอบเครื่องดื่มชูกำลังที่ทำขึ้นด้วยตัวเองให้กับเธอ “ครั้งแรกก็จะเหนื่อยเล็กน้อยแบบนี้แหละ แต่เธอจะเคยชินกับมันไปเอง หลังจากผ่านไปไม่กี่ครั้ง”

ระหว่างปิ้งบาร์บีคิว

“ให้ฉันย่างให้คุณเถอะ” ซูหยี่ยี่เห็นการแสดงออกของเย่ฉางที่เต็มไปด้วยความปรารถนา และด้วยการถอนหายใจของทุกคน เธอยื่นบาร์บีคิวให้กับเขา ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้ยื่นสิ่งที่ดำมืด และมีกลิ่นแปลกๆส่งคืนให้กับเธอ มันไม่ได้เหมือนกับบาร์บีคิวที่เธอยื่นให้เขาไปเลยสักนิดเดียว ส่วนที่เป็นสีดำนี่ถูกเคลือบด้วยช็อกโกแลต? ดูเหมือนว่าเขายังใช้ส่วนผสมของผักบางชนิดใส่เข้าไปจนถูกเผาเป็นขี้เถ้าอีกด้วย เธอเงยหน้าขึ้น และเห็นการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเย่ฉาง “ลองกินดูสิ”

“……” ซูหยี่ยี่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา และพยายามที่จะกัด แต่จบลงด้วยการยืนพิงเรือเพื่อคืนสิ่งที่เธอได้กินไปตอนเช้าและกลางวันกลับคืนสู่ธรรมชาติ

หลังอาหารเย็น พระอาทิตย์ที่กำลังตกดูสวยงามมากจนทำให้หัวใจของทุกคนอุ่นขึ้น ซูหยี่ยี่รู้สึกผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ เธอมองไปยังทั้งสี่คนที่กำลังเล่นบอร์ดเกมกันอยู่ด้านข้าง จากนั้นก็หันไปมองเย่เทียนผู้ที่กำลังเล่นแท็บเล็ตอยู่ “ทำไมเธอถึงไม่ไปเล่นกับพวกเขาล่ะ?”

“พวกเขาไม่ชอบที่ฉันนับไพ่ได้ และสถาบันการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษายังมีวิทยานิพนธ์ 50 เรื่องให้ฉันทบทวน อืม… แต่มันคงใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก หลังจากที่ฉันทบทวนเสร็จแล้ว คุณป้ายังได้ขอให้ฉันช่วยล้างข้อมูลขยะออกให้หมดอีกด้วย” เย่เทียนตอบกลับไปอย่างสงบ

“……” ซูหยี่ยี่ตกตะลึง นี่เป็นเด็กหญิงอายุ 10 กว่าปีจริงงั้นหรือ? ถึงแม้ว่าเธอจะเคยได้ยินมาว่ามันสมองและที่ปรึกษาของทีม T-105 จะเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆก็ตามที แต่เธอก็ไม่เคยเชื่ออย่างเต็มที่ เธอลุกขึ้นและเดินไปดูเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ แต่เธอกลับรู้สึกว่าเย่เทียนไม่ได้อ่านมันเลย เธอแค่พลิกผ่านมันเหมือนกับเครื่องพิมพ์เงิน ซูหยี่ยี่ขอเย่เทียนให้หยุดสักครู่ และอ่านหัวข้อของวิทยานิพนธ์ ปฏิกิริยาที่แตกต่างของการลดไอออน และการสลายตัวภายใต้การสั่นสะเทือนสูง XXXX เมื่อเธอเห็นถึงหัวข้อนี้ ทำให้เธอรู้สึกโง่งมไปเลยทีเดียว หน้าของคำ และการคำนวณเป็นเหมือนเวทมนตร์ ทำให้เธอปวดหัว ดูเหมือนว่าหญิงสาวตัวน้อยคนนี้จะเป็นอัจฉริยะของจริง เธอกลับไปที่เก้าอี้ และพักผ่อนมองดูทะเลสีทองด้วยความรู้สึกพึงพอใจ จนมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากเธอ

“เพื่อน เราไม่เคยใช้เวลาทั้งคืนในทะเลกันเลย ลองพักกลางทะเลตอนกลางคืนกันเถอะ ฉันขอสวมใส่การ์ดง้าวระเบิดทำลายเมืองมังกรให้กับใช้ราชันนักฆ่า เพื่อฆ่าราชากระต่ายปีศาจ” จางเจิ้งเฉียงพูดออกมาในขณะที่เขากำลังเล่นบอร์ดเกมไปด้วย

“ก็ได้ เปิดใช้งานการ์ดอัลติเมท! การเต้นรำของพระเจ้า และปีศาจ! เป้าหมายคืออิลินแดนของน้องเล็กไดโน เธอมีการ์ดเค้าเตอร์ถึง 16 ใบรึเปล่า? ถ้าไม่มีงั้นเธอก็ตายไปซะ! ฮ่าฮ่า!” เย่ฉางตอบขณะที่เล่นบอร์ดเกมไปด้วย

“การใช้เวลากลางคืนในทะเลฟังดูน่าสนใจ หัวหน้าทีมคะ ฉันขอโทษด้วย ฉันอาจจะไม่มีการ์ดเค้าเตอร์ถึง 16 ใบ แต่ฉันมีการ์ดนี้! การ์ดกับดักทำงาน! ความตายของอัลติเมท! การ์ดใบนี้ทำให้การ์ดอัลติเมทของหัวหน้าทีมไร้ผล และทำให้ฉันจั่วการ์ดเพิ่มขึ้นมาอีก 3 ใบ! ตอนนี้แหละ! การ์ดการกลายร่างเป็นปีศาจ! ฉันขออัญเชิญซัมมอนธาตุไฟ!!” FrozenCloud ยิ้ม และเปิดใช้งานการ์ดกับดักของเธอ

“หืม หืม เทิร์นของหลินหลี่! จั่ว! การ์ดเกราะชีวะกายเวอร์! สวมใส่! ขอโจมตีผู้พิชิตเซียงหยู่ของพี่ใหญ่เฉียง! เปิดใช้งานการ์ดอัลติเมท! การ์ดปืนใหญ่กายเวอร์!” หลินหลี่เปล่งเสียงทางจมูก

“เปิดใช้งานการ์ดเวทมนตร์! การ์ดอำลาเมียน้อย! เมื่อโดนโจมตีโดยการ์ดอัลติเมทจะสามารถอัญเชิญฮีโร่พิเศษขึ้นมาได้ ฉันขออัญเชิญยูจิ!! ลดความเสียหาย 75%! ฮ่าฮ่า! พี่ใหญ่คนนี้ไม่รู้สึกแม้แต่จะจักกะจี้เลยสักนิด! แถมยังได้ฮีโร่พิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย!” จางเจิ้งเฉียงใช้ประโยชน์จากการ์ดเด็คฮีโร่ของเขา

“อาเฉียง ฉันกำลังเฝ้ารอการเคลื่อนไหวของนายครั้งนี้อยู่เลย! การ์ดเวทมนตร์ทำงาน! ลิโป้ และเตียวเสี้ยน! เมื่อผู้เล่นคนอื่นเรียกฮีโร่พิเศษผู้หญิงออกมา! ฉันจะสามารถเรียกเตียวเสี้ยนออกมาได้ทันที! ฉันขอใช้เอฟเฟคพิเศษของเตียวเสียน! เอฟเฟคล่อลวง! เป้าหมายคืออิลินแดน และเซียงหยู่! ให้ต่อสู้กันเอง!” เย่ฉางหัวเราะเบาๆ ‘ฉันมีการ์ดเคาเตอร์ได้ทุกอย่างโว้ย!’

“เพื่อน อย่าลืมเกี่ยวกับยูจิของฉันสิ เปิดใช้งานสุดยอดอัลติเมทยูจิ! ขณะที่ผู้พิชิตเซียงหยูอยู่บนสนาม! สกิลของเพศหญิงไม่สามารถล็อคเป้าไปที่เซียงหยูได้!” จางเจิ้งเฉียงพูดพร้อมกับทำท่าเตะเครนคิกของคาราเต้ออกมา

FrozenCloud หลั่งเหงื่อออกมา ‘ต้องโอ้อวดในขณะที่เล่นบอร์ดเกมกันด้วย? แต่! อย่าคิดว่าฉันเป็นหมูที่จะถูกกินง่ายๆนะ!’ “ขอสวมใส่ดาบแอสซินอท! เพิ่มพลังโจมตี +2 เพิ่มความสามารถในการโจมตีกระจาย! เพิ่มระยะในการโจมตีกระจาย! โจมตี!!” FrozenCloud จัดการสร้างความเสียหายให้กับทั้งสามคน

หลินหลี่บุ้ยปาก “เธอรังแกผมงั้นหรือ!? ผมจะสู้กับเธอเอง!! จั่ว! ฮ่าฮ่า! การ์ดวิวัฒนาการ! เหยี่ยวพายุ! จั่วอีกครั้ง! หลินหลี่ยอดเยี่ยมที่สุด! การ์ดวิวัฒนาการ! ฟินิกซ์นรก! เปิดใช้เอฟเฟคการ์ด! เปลวเพลิงนิพพาน! โจมตีไปที่น้องเล็กไดโน!”

ซูหยี่ยี่เฝ้าดูเกมของพวกเขา บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้งราวกับพวกเขาสามารถเปิดฉากการต่อสู้ได้ตลอดเวลา เธอเดินออกมาเพื่อชมดูบรรยากาศ หลังจากที่ความงามของพลบค่ำก็เป็นทะเลแห่งดวงดาว เธอเป็นคนที่ยุ่งมาก ดังนั้นมันจึงเป็นเวลานานมากแล้วที่เธอไม่ได้หยุดพัก และผ่อนคลายมากขนาดนี้ เธอยืนพิงราวบันได เธอเอื้อมมือออกไปปัดผมเหน็บไว้ที่หลังหู ‘ฉันควรจะพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายตัวเองบ้าง การแข่งขันลีคอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเร็วๆนี้แล้ว’ เธอหันหลังกลับไป และเห็นเย่เทียนถือไอติมยื่นให้กับเธอ เธอจึงหยิบไอติมมาด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณนะ…”

“โอ้ใช่แล้ว กรอกแบบฟอร์มนี้ด้วยนะ” เย่เทียนหยิบกระดาษออกมา

ซูหยี่ยี่หยิบมันมา และมองเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ที่สะดุดสายตาของเธอ ‘แบบฟอร์มใบสมัครพันธมิตรแอนตี้หลินหลี่’ ซึ่งทำให้เธอหัวเราะอย่างหนักจนน้ำหูน้ำตาไหล

 

 

 


ตอนที่ 343

 

เย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียง และคนอื่นๆทั้งหมดลุกขึ้นหยิบโซฟาออกมาตั้งนั่งข้างนอก ซูหยี่ยี่รู้สึกเหมือนกำลังตั้งแคมป์อยู่ในเต็นท์ขนาดใหญ่ ยกเว้นแต่ว่าพวกเขายังอยู่บนเรือ เธอรับผ้าห่มที่ FrozenCloud ส่งมาให้ เธอกลับมานั่งบนโซฟา และเฝ้าดูดวงดาวพร้อมกับทุกคน มันเงียบสงบและสบายใจเป็นอย่างมาก

FrozenCloud นั่งลงบนโซฟาของตัวเอง และคลุมขาด้วยผ้าห่มของเธอ เธอเห็นจางเจิ้งเฉียงเดินเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่มมากมายอย่างวิสกี้, เตกีลา และเบียร์ เขายังนำถังน้ำแข็งมาอีกด้วย “มีใครอยากดื่มบ้าง? ฉันรู้สึกว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เหมาะกับการดื่มเป็นอย่างมาก”

“ขอวิสกี้ออนเดอะร็อคแก้วนึงค่ะ…” ซูหยี่ยี่ร้องขอพร้อมพยักหน้าอย่างสุภาพ

จางเจิ้งเฉียงรีบรินเหล้าใส่แก้วของเธอ และใส่น้ำแข็งลงไปอีกสองสามก้อน จากนั้นเขาก็ส่งมอบแก้วราวกับว่ากำลังสนับสนุนเธอเต็มที่

“ขอบคุณค่ะ ปรมาจารย์ลุงเฉียง~” ซูหยี่ยี่พูดด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก จางเจิ้งเฉียงลูบหัวของเขาอย่างเขินอาย

“ขอเตกีลาให้ฉันบ้างสิ…” FrozenCloud ร้องขอ

“ไปทำมันด้วยตัวเองเลย!” จางเจิ้งเฉียงพูดออกมาอย่างไม่สนใจ

“นาย!!” FrozenCloud โกรธมากขณะที่เธอคว้าขวดเตกีลา และเทลงไปในแก้วของตัวเอง ‘ไดโนเสาร์ไม่ใช่คนงั้นหรือ!? แต่ฉันไม่ใช่ไดโนเสาร์โว้ย!!’

หลินหลี่หยิบมะนาวและบีบใส่วิสกี้ของซูหยี่ยี่ไปเล็กน้อย แล้วเทน้ำเชื่อมใสๆลงไป จากนั้นเขาก็ปิดแก้วและเขย่า “รสชาติจะดียิ่งขึ้นเมื่อทำแบบนี้! ลองดูสิ!”

ซูหยี่ยี่ดื่มวิสกี้ด้วยความสงสัย มันเปรี้ยวและหวานจนลงตัวกับเหล้าอย่างวิสกี้ สัดส่วนของมะนาวและน้ำเชื่อมอาจกล่าวได้ว่าสมบูรณ์แบบมากเลยทีเดียว! วิสกี้ที่แสนธรรมดาแก้วนี้ แต่หลังจากผ่านการมิกซ์ของเขา ทำให้วิสกี้แก้วนี้มีรสชาติที่น่ารื่นรมย์เป็นอย่างมาก! “นายเป็นบาร์เทนเดอร์งั้นหรือ?”

“เปล่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมแค่คิดว่ารสชาติจะดีขึ้นถ้าใส่ส่วนผสมบางอย่างลงไป นอกจากนี้เธอควรจะเรียกผมว่าปรมาจารย์ลุงหลี่…” หลินหลี่ยักไหล่ จากนั้นเขาก็ผสมวิสกี้, เตกีลา และแอลกอฮอล์อื่นๆอีก เขารีบกรอกและเทลงไปในแก้วของเขา เขาจิบเหล้าและเริ่มเฝ้าดูดวงดาว

“หลินหลี่ มิกซ์ให้ฉันสักแก้วด้วยสิ” FrozenCloud ยิ้ม

“ไปทำมันด้วยตัวเองเลย!” หลินหลี่พูดอย่างไม่สนใจ

“……” FrozenCloud รู้สึกราวกับว่าเธอเกือบจะบดแก้วในมือของเธอแตกเป็นชิ้นๆไปแล้ว

“เมื่อพูดถึงเรื่องเหล้า เหล้าที่ดีที่สุดควรจะเป็นไวน์ของมาดามหลิน พวกเขาผลิตเพียง 300 ขวดต่อปีเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ไวน์ของเธอมา แต่ฉันมีอยู่ 2 ขวด ในอีก 2 วันข้างหน้า ฉันจะให้คนนำมันไวน์นั้นมาให้เราลองดื่มกัน” ซูหยี่ยี่ยิ้ม

“ฉันได้ยินมาว่า นี่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่จักรพรรดิดอกเบญจมาศเหลือทิ้งไว้ แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่ที่แห่งนั้นก็ยังคงเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอยู่ดี” FrozenCloud พยักหน้า พ่อของเธอก็ได้เก็บไวน์ของมาดามหลินไว้ได้ไม่กี่ขวด เขาพยายามอดทนที่จะไม่ดื่มไวน์ของมาดามหลิน ดังนั้นไวน์ของพ่อเธอจึงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

“เพื่อน นายจะดื่มอะไรดี?” จางเจิ้งเฉียงมองไปที่เย่ฉางซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่อาบน้ำ และกำลังเป่าผมของเขาให้แห้ง

“เบียร์…” เย่ฉางพูดอย่างเฉยเมย คว้าเบียร์ราคาถูกที่จางเจิ้งเฉียงโยนให้เขา เขาเปิดกระป๋อง และดื่มเบียร์ นั่งลงบนโซฟาของตัวและเพลิดเพลินไปกับการแล่นเรือผ่านทะเลดวงดาว

ซูหยี่ยี่มองไปที่ยี่ห้อของเบียร์ราคาถูกที่เย่ฉางดื่ม ยี่ห้อ Ailemei ซึ่งเคยเผชิญหน้ากับการล้มละลายมาก่อน แต่มีบางคนสนับสนุนพวกเขา ในขณะที่ขอให้พวกเขาดำเนินงานกันต่อไปเป็นการตอบแทน จนตอนนี้พวกเขาได้ฟื้นจากความตาย และเริ่มรักษาผลกำไรของพวกเขาเอาไว้ได้ พวกเขาทนทานยิ่งกว่าแมลงสาบซะอีก เบียร์ราคาถูกของพวกเขาได้กลายเป็นที่รักของผู้ที่อยู่ในระดับต่ำสุดของสังคม ทำไมบางคนที่สง่างามอย่างเย่ฉางถึงได้ดื่มเบียร์ราคาถูกเช่นนี้กันล่ะ? ซูหยี่ยี่ไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าเป็นเบียร์ยี่ห้ออื่นเธอสามารถยอมรับได้ แต่ยี่ห้อ Ailemei เป็นเบียร์ที่ผู้คนบางส่วนของชุมชนแออัดชอบดื่มกันเท่านั้น เธอเห็นว่าจางเจิ้งเฉียงได้เปิดกระป๋อง และดื่มลงไปเช่นกัน ด้วยความสงสัย เธอจึงหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาเปิดจิบ และรู้สึกว่าลิ้นของเธอถูกทำร้ายอย่างรุนแรง มันไม่เพียงแต่มีสิ่งสกปรกมากมาย แต่การดื่มอะไรที่ชั้นต่ำในสถานที่สวยงามแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกหมดสนุกไปเลยจริงๆ

“ไม่เคยดื่มมันมาก่อนใช่ไหมล่ะ?” เย่ฉางยิ้มอย่างเฉยเมย

ซูหยี่ยี่พยักหน้า

เย่ฉางหัวเราะ เขาคว้ากระป๋องเบียร์ที่ซูหยี่ยี่เปิดจิบขึ้นมาและดื่มมันต่อไป

“ฉันและเพื่อน ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นก็ได้แต่ดื่มเบียร์ยี่ห้อนี่ มันเป็นเบียร์ที่พี่สาวของฉันซื้อมา เพื่อน! ฉันจำได้ว่าในเวลานั้น เราแอบดื่มกันไปหลายกระป๋องเลยนะ…” จางเจิ้งเฉียงยิ้มออกมา

“เราแอบดื่มกันไป 5 กระป๋อง จนพี่สาวของนายโกรธมาก แต่กระป๋องทั้งหมดได้ถูกเราเปิดกันไปหมดแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นการเสียของถ้าเราไม่ดื่มกันต่อ” เย่ฉางพยักหน้าและยิ้มออกมา

“พ่อคะ…” เย่เทียนมองไปที่เย่ฉางด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร ฉันเพียงแค่ไม่รู้ว่าจะดื่มอะไรดี และฉันก็ชอบรสชาติของเบียร์ยี่ห้อนี่ไปแล้วจริงๆ” เย่ฉางกอดเย่เทียนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา และลูบไปที่หัวของเธอ ในขณะที่เธอยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา

ซูหยี่ยี่ได้ตระหนักว่าเธอได้กระทำสิ่งที่ไม่ดีออกไป เมื่อนึกไปถึงการเต้นรำ เธอรีบคว้าอีกหนึ่งกระป๋องและดื่มไปอึกใหญ่ สิ่งสกปรกและรสฝาดเปรี้ยวที่ยากจะยอมรับ แต่เมื่อเธอกลืนลงไปแล้ว เธอรู้สึกถึงรสชาติหวานของเบียร์

“มาเล่นเกมเศรษฐีกันเถอะ” หลินหลี่พูดเกี่ยวกับเรื่องเกมออกมา

“ก็ได้…” เย่ฉางพูดพร้อมกับเลือกตัวละคร

ทุกคนได้เลือกตัวละคร และการแข่งขันเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ซูหยี่ยี่ก็ได้รับความรู้สึกร่วมไปด้วย และจบลงด้วยความโกรธเกรี้ยว

ณ. โลกเสมือนจริง การประชุมของ 10 บทบัญญัติ

“เมื่อเร็วๆ นี้ Silver Devil มีความขยันขันแข็งแบบแปลกๆ…” เสียงผู้หญิงได้หัวเราะเยาะออกมาจากตำแหน่งหมายเลข 2

ฟางชิยังคงเงียบอยู่ เขายังไปไม่ถึงระดับของพวกหัวหน้าหน่วย ดังนั้นยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างความผิดพลาดกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เขาต้องรับเข้าใจเกี่ยวกับองค์กรนี้โดยเร็วที่สุด ดูเหมือนว่าตำแหน่งหมายเลข 7 เป็นสิ่งที่หัวหน้าหน่วยคนอื่นๆจะหวาดกลัว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่ใส่ใจกับตำแหน่งหมายเลข 7 มากเป็นพิเศษขนาดนี้ เมื่อคิดดูดีๆแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดถอนรากถอนโคนที่มีอัตราความสำเร็จถึง 100% มีเพียงหัวหน้าตำแหน่งหมายเลข 7 และ ColdMoon เพียงเท่านั้น เขาได้รับรู้ว่าอายุของเธอไม่แตกต่างจากตัวเขามากนัก หรือบางทีอาจจะน้อยกว่าเขาซะด้วยซ้ำ แต่เธอกลับมีกลิ่นอายที่เย็นชาเป็นอย่างมาก ทำให้มีเพียงแค่ หัวหน้าใหญ่ 1 คน และอีก 2 คนที่อยู่ในตำแหน่งด้านข้างของเขา รวมถึงคนที่หัวหน้าทีมได้แนะนำมาอย่าง Ardent Wind และ Hunting Flame ส่วนที่เหลือล้วนแต่หวาดกลัวเธอ

“นายไม่จำเป็นต้องระมัดระวังขนาดนั้นก็ได้มั้ง? Ardent Wind และ Hunting Flame อยู่ข้างเรา ถึงแม้ว่า Ardent Wind จะได้รับคำสั่งโดยตรงจากหัวหน้าใหญ่ก็ตาม เธอจะไม่ทำอะไรที่ทรยศต่อหัวหน้าโดยเด็ดขาด Hunting Flame ก็เช่นกัน เพราะ Hunting Flame เป็นเหมือนกับฉัน เราเป็นสมาชิกของหน่วยที่ 7 มาก่อน และเป็นคนที่ถูกฝึกโดยตรงจากหัวหน้า Hunting Flame เป็นคนที่ชอบทำโปรไฟล์ของเขาให้ดูต่ำเอาไว้เสมอ แต่อย่าไปยั่วยุเขาก็แล้วกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาโกรธ แม้แต่ฉันก็แทบจะหยุดยั้งเขาเอาไว้ไม่ได้” Cold Moon อธิบายจากด้านข้างของเขา

“แล้วตำแหน่งหมายเลข 2 คือใครกัน?” แม้ว่าฟางชิจะอยากรู้เกี่ยวกับหัวหน้าใหญ่ตำแหน่งหมายเลข 1 เป็นอย่างมาก แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามออกไป เพราะว่าเขายังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รู้

“Thousand Spirits คนทรยศของตระกูลหม่าที่เป็นเอ็กโซซิสต์มานับพันปี เพื่อที่จะแยกตัวออกมาจากตระกูล เธอได้ทำงานร่วมกับหัวหน้าสาขาอย่างหม่าไฮ่หลง และสังหารหัวหน้าตระกูลหม่าคนก่อนหน้านี้ จากนั้นเธอก็ได้เข้าร่วมกับหม่าไฮ่หลง และก่อตั้งก่อตั้ง Soul Guiders ขึ้นมา แต่เหตุผลที่เธอเข้าร่วมกับ 10 บทบัญญัติก็คือการขอลี้ภัย ฉากหน้าของ Thousand Spirits คือเธอเป็นโฆษก แต่เบื้องหลังของเธอคือบอสที่แท้จริงของ Soul Guiders …” Cold Moon ตอบกลับไป

“กลุ่มมังกรได้ค้นพบบางสิ่งบางอย่าง สำหรับความร่วมมือใหม่ของเรา Cold Moon ไปแจ้ง Silver Devil และขอให้เขาอำนวยความสะดวกให้เรา…” หัวหน้าใหญ่ตำแหน่งหมายเลข 1 พูดเสร็จก็หายตัวจากไปทันที

“ความร่วมมือใหม่คืออะไร?” ฟางชิแสดงความสับสนของเขา

“การวิจัยเกี่ยวกับการกลายพันธ์ุ ถึงแม้ว่าองค์กรนิพพานจะเป็นเป้าหมายหลักในการกำจัดของเรา แต่การวิจัยเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ และยีนของพวกเขาคือการตัดขอบของวิทยาศาสตร์ไปสู่ความรู้ใหม่ๆ และยังเป็นสิ่งที่บ้ามากที่สุดอีกด้วย ทุกองค์กรที่ได้ขุดรากถอนโคน พวกเขาจะแอบค้นคว้าวิจัยงานของพวกเขากันอย่างลับๆ” Cold Moon ไขกระจ่างความสับสนของเขา “เนื่องจากหัวหน้าต้องการเกษียณออกไป เพราะฉะนั้นเรื่องนี้นายจะต้องเป็นคนจัดการ ถ้านายไม่สามารถแม้แต่จะทำเรื่องแค่นี้ได้ นายก็จะทำให้ตำแหน่งหมายเลข 7 ของหัวหน้าอับอายขายขี้หน้าแล้วล่ะ และนายก็คงไม่อยากรู้ถึงผลลัพธ์ที่ตามมาสักเท่าไหร่หรอก…” Cold Moon พูดออกมาและเดินจากไป

ฟางชิได้แต่หัวเราอย่างขมขื่น ‘หัวหน้า ทำไมคนที่คุณรู้จักทั้งหมดถึงได้น่าหวาดกลัวเช่นนี้กันนะ คนที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีที่สุด กลับให้ความรู้สึกเหมือนกับจะถูกเธอฆ่าได้ตลอดเวลาเลยนะ’ เขาถอนหายใจ แม้ว่า Cold Moon จะน่ากลัว แต่ความเคารพต่อหัวหน้าของเธอก็จริงใจเป็นอย่างมาก เมื่อใดก็ตามที่มีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเขาเกิดขึ้น Cold Moon จะเป็นคนแรกที่ก้าวขึ้นไป แต่สิ่งที่เธอห่วงใยก็คือหัวหน้าเท่านั้น เขาเป็นผู้สืบทอดที่สามารถประสบความสำเร็จได้เท่านั้น และไม่อาจล้มเหลวได้เลยสักครั้ง เขาถอนหายออกมาอีกครั้ง เป็นแรงกดดันที่ใหญ่มาก แต่ก็รู้สึกว่ามีความหมายด้วยเช่นกัน…

ในขณะที่เขากำลังจะออกไป คนจากตำแหน่งหมายเลข 3 ก็เดินเข้ามา เขาก็คือ Hunting Flame นั่นเอง

“ขอให้โชคดีนะ ถ้านายต้องการความช่วยเหลือ นายสามารถถามฉันหรือ Cold Moon ก็ได้ นายไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปหรอก เธอเป็นคนอ่อนโยนกว่าคนอื่นๆมากนะ อ่อ… แน่นอนว่าถ้านายไม่ไปยั่วยุเรื่องที่เกี่ยวกับหัวหน้า เธอก็จะเป็นคนที่อ่อนโยนมากจริงๆ…” Hunting Flame ยิ้มอย่างแผ่วเบาและเดินจากไป

ฟางชิมองไปยังทิศทางที่ Hunting Flame ได้เดินจากไป ‘Hunting Flame หัวหน้าตำแหน่งหมายเลข 3 ความเชี่ยวชาญพิเศษคือการสืบสวนและลอบสังหาร…’

“เขาเป็นผู้รับผิดชอบการลอบสังหาร ส่วนการสอบสวนของส่วนใหญ่จะเป็นฉันมากกว่า…” เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนได้ดังมาจากด้านข้าง ฟางชิรีบหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และเห็นถึงความงดงามปรเภทสาวใหญ่! ‘ตำแหน่งหมายเลข 9! Ardent Wind!’

“หากนายต้องการข้อมูลอะไร นายก็มาหาฉันแล้วกัน ฉันเป็นหนี้บุญคุณเขามากเกินไป นายจงทำอย่างดีที่สุด และอย่าทำให้เขาผิดหวังละ และนายก็ควรรู้เอาไว้ว่ามีดของ Cold Moon นั้นไม่สนใจเหตุผลใดๆเลย…” คำพูดของ Ardent Wind ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย

“ผมรู้…” ฟางชิหลั่งเหงื่อนที่เย็นเยียบออกมา แต่ก็งงงวยในเวลาเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่าง Cold Moon และหัวหน้าคืออะไร? “หัวหน้าครับ Cold Moon และหัวหน้า…”

“Cold Moon และนายเหมือนกัน เป็นผู้รอดชีวิตจากเมืองเฉียงซาน ฉันได้อยู่กับเขาในวันนั้น Silver Devil ได้ช่วยเธอไว้หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา ขณะกำลังปกป้องร่างกายของคนที่ตัวเองรัก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการถูกปลุกให้ตื่นขึ้น Cold Moon จึงได้สูญเสียการแสดงออก และอารมณ์ของเธอไป ต่อจากนั้นมา เธอก็ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ Silver Devil เสมอ เธอได้เรียนรู้วิธีการฆ่าจากเขา และกลายมาเป็น Cold Moon ในปัจจุบัน ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าสำหรับ Cold Moon แล้ว Silver Devil เป็นคนเดียวที่เธอใส่ใจมากที่สุด นอกจากเขา ชีวิตหรือความตายของคนอื่นล้วนไม่สำคัญกับเธอเลย” Ardent Wind เล่าเรื่องที่เธอรู้ให้เขาฟัง

ตอนนี้ฟางชิเข้าใจแล้วว่า เย่ฉางหมายถึงอะไรเมื่อเขาพูดถึงผู้รอดชีวิตของเมืองเฉียงซาน Cold Moon เป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่ตัวเขาเองกลับเลือกที่จะวิ่งหนี แต่เธอกลับเลือกที่ยืนหยัดต่อสู้ เขาทำได้เพียงแค่วิ่งหนี เพราะเขายังคงมีน้องสาวตัวน้อยที่เขารักอยู่ ในขณะที่เธอไม่มีเหตุผลที่จะหลบหนีอีกต่อไปแล้ว เธอสามารถต่อสู้เพื่อปกป้องศพของครอบครัวเธอได้เท่านั้น

ฟางชิออกจากโลกเสมือนจริง เขามองไปที่ใบหน้าที่กำลังนอนหลับอย่างสงบเงียบของน้องสาวเขา และนึกถึงประสบการณ์ของเขาภายใน ‘เกม’ หัวหน้าทีมไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ เมื่อต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากที่สุด เขาจะอยู่ที่นั่นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขา… คุณสามารถเรียกคนแบบนี้ว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์? ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วมันก็เป็นความฉลาดที่ทำให้คนอื่นไม่อยากทอดทิ้งเขา…

ตอนกลางคืน ที่ทะเลบนดาดฟ้าของเรือ

เย่ฉางกอดอกและเฝ้ามองซูหยี่ยี่ ที่ตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวด้วยท่าทางง่ายๆบางอย่างในขณะที่เธอสวมรองเท้าส้นสูงเต้นรำอยู่บนผิวน้ำ เขายิ้มและเงยหน้าขึ้นมองดวงดาว ตอนนี้ดวงจันทร์มีรูปร่างคล้ายกับใบมีดโค้ง ‘Cold Moon ไม่ใช่สิ… เฉินเมิ่งรู่ว ฉันจะเป็นคนที่ทำลายความเกลียดชังทั้งหมดของเธอเอง นี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำ ฉันยังหวังที่จะได้เห็นการแสดงออกที่มีความสุขของเธอ ในขณะที่เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นนะ’

 

 

 


ตอนที่ 344

 

ณ.สถานที่แข่งขัน

“ถ้าพวกนายมีเวลาว่าง ฉันอยากให้พวกนายมาฝึกซ้อมกับพวกเราให้มากขึ้น เราจะได้มีทีมเวิร์คที่ดีกว่านี้ …” ThornyRose มองไปที่เย่ฉางและคนอื่นๆที่มาสายและถอนหายใจ

“ไม่เป็นไรหรอก เรามีความเข้าใจกันดีอยู่แล้วหนิ!” เย่ฉางตอบกลับไป

ThornyRose เอามือก่ายหน้าผาก ‘เข้าใจกันห่าเหวอะไรของนาย พวกนายไม่เคยฟังคนอื่นเลยสักครั้ง’ เธอถอนหายใจ “ฝ่ายตรงข้ามของเราในรอบนี้คือทีม Hundred Flowers ถ้าไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น หลังจากที่เราเอาชนะพวกเขาแล้ว เราจะต้องเจอกับคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราในสายนี้ นั่นคือทีม Falling Star”

“ในการเจอกับทีม Hundred Flowers ฉันขอไม่ลงนะ ฉันจะเตรียมความพร้อมไว้รอสู้กับทีม Falling Star เลย…” SpyingBlade พูดเบาๆพร้อมกับยืดนิ้วของเขา ถึงเวลาแล้วที่จะต้องตัดความสัมพันธ์ขั้นสุดท้ายของพวกเขา

“ฉันรู้แล้ว …” ThornyRose รู้ดีว่าเขาถูกขับไล่ออกจาก Falling Star

“ในรอบนี้ฉันคิดว่าจะพักด้วยเช่นกัน ถ้าเธอเก็บฉันไว้เป็นไพ่ลับ มันก็จะเพิ่มเสน่ห์ให้ฉันอย่างมาก …” เย่ฉางลูบคางของเขาและพูดขึ้นมา

“ไปตายซะ!” ThornyRose ตอบกลับอย่างไม่พอใจ ทำให้เย่ฉางต้องขึ้นไปแข่งเป็นคนแรก

เย่ฉางถอนหายใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นตัวละครนักดาบปีศาจ และค่อยๆเดินขึ้นไปบนเวทีประลอง มือทั้งสองข้างของเขาจับดาบและเสียงกริ๊กกริ๊กก็เริ่มดังขึ้น

หัวหน้าของทีม Hundred Flowers เป็นคนสวยที่มีชื่อเสียงในโลกเสมือนจริง เธอชื่อว่า FieldLily ตัวละครที่เธอควบคุมอยู่คือนักดาบสายฟ้า มันเป็นตัวละครนักดาบสายความเร็ว ประเภทเดียวกับนักดาบปีศาจของเย่ฉางเลย

“FieldLily ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงมาก ที่สำคัญเธอนั้นแข็งแกร่งมากๆ…” FrozenBlood ได้ต่อสู้กับเธอมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นจึงรู้ถึงความแข็งแกร่งของ FieldLily ดี ซึ่งอยู่ระดับดียวกันกับตัวเธอและ ThornyRose เลยทีเดียว เธอไม่รู้ว่าหัวหน้าทีมจะมีวิธีการที่จะจัดการกับตัวละครนักดาบสายความเร็วเหมือนเขาได้อย่างไร!

“คู่ต่อสู้ในวันที่สองของทีม Thorns and Roses คือทีม Hundred Flowers ครับท่านผู้ชม ทั้งสองทีมเป็นสโมสรที่เต็มไปด้วยพวกผู้หญิงสวย ฤดูกาลที่ผ่านมา Hundred Flowers อยู่ในระดับเดียวกับ Thorns and Roses อ่อ! ถ้าพูดถึงสโมสรที่เต็มไปด้วยพวกผู้หญิงสวย ยังมีสโมสร Beauties at the Crossfire อีกหนึ่ง ทั้งสามสโมสรนี้ต่างถูกขนาดนามว่า ‘Thorny Flower Beauties’ มีอยู่ครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงตอนเย็นแห่งหนึ่ง ที่หัวหน้าทั้งสามคนได้พบกัน เวลานั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ThornyRose และ BornFlirty ที่ชอบทะเลาะซึ่งกันและกัน จน FieldLily ต้องเป็นคนแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน …” พี่ใหญ่เฉายิ้ม

“ฉันก็อยู่ในงานเลี้ยงนั้นด้วยเช่นกัน ว่าแต่พวกคุณสังเกตเห็นไหมว่า วันนี้มีผู้ชมมากกว่าหมื่นซึ่งมากกว่ารอบที่แลวเยอะมาก …” ซูหยี่ยี่ชี้แจง

“เนื่องจากกลุ่มสามพี่น้องนับเป็นม้ามืดพุ่งแรง จึงทำให้ความนิยมของทีม Thorns and Roses ซึ่งเมื่อก่อนอยู่ในระดับ B+ พุ่งขึ้นไปจนใกล้เคียงระดับ S แล้ว เหตุผลที่พวกเขายังไม่ได้เป็นระดับ S จริงๆ นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่มีการทำงานเป็นทีมมากนัก ซึ่งปัจจัยหลักก็มาจากกลุ่มสามพี่น้องนั่นเอง…” พี่ใหญจงเห็นว่าทั้งสองคนกำลังขึ้นเวทีแล้ว เขาจึงหยุดวิจารณ์ต่อและพูดขึ้นมาว่า “มันเริ่มต้นแล้ว”

FieldLily สบัดผมหางม้าที่ยาวของเธอ ซึ่งมันยาวจนไปถึงพื้นเลยทีเดียว อาวุธของเธอเหมือนกับเย่ฉาง เธอมีดาบสองเล่มที่เอว เธอสวมชุดเกราะสีเขียวฟ้ากับเสื้อคลุมสีม่วง ใบหน้ารูปไข่ที่ละเอียดอ่อนของเธอพยักหน้าให้เขาด้วยรอยยิ้ม “สวัสดี …”

“สวัสดี …” เย่ฉางตอบด้วยรอยยิ้มไม่แยแสและพยักหน้า

“คุณสามารถโจมตีก่อน …” FieldLily พูดยังไม่ทันจบ เย่ฉางก็พุ่งเข้ามาด้วยสกิล [Blade Edge Sprint] เขาตวัดดาบใส่เธอทันที FieldLily ตื่นตระหนก เธอรีบเหวี่ยงดาบอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า เพื่อบล็อคการโจมตีอย่างฉับพลันนี้

“น่ารังเกียจ! ไอ้ชาติชั่ว! แกกล้าแอบโจมตีเทพธิดาลิลลี่ของเรา !!”

“ในสนามรบ ใครจะไปมัวสนใจว่าเป็นชายหรือหญิงกัน! ไอ้พวกเวรเอ้ย! ชัยชนะคือเส้นทางของราชาต่างหาก! พี่ใหญ่วีรบุรุษ ผมสนับสนุนคุณ!”

“การแอบโจมตีครั้งนี้ ต้องยอมรับว่ามีความรวดเร็วในการลงมือจริงๆ นอกจากนี้ตัวละครนักดาบปีศาจยังเป็นตัวละครที่ผสมระหว่างแอสซาซินกับนักดาบอีกด้วย ในเมื่อเป็นแอสซาซินไปตั้งครึ่งตัวแล้ว ทำไมเมื่อมีโอกาสแล้ว ถึงแอบโจมตีไม่ได้ล่ะ? ถ้างั้นแล้วจะเป็นแอสซาซินไปทำมะเขือไร?”

FieldLily ยังไม่ฟื้นตัวจากอาการตกใจ บางทีอาจจะไม่ถึง 0.1 วินาทีด้วยซ้ำ หลังจากการโจมตีครั้งแรกของเขา เย่ฉางก็ได้ชักดาบที่สองฟาดใส่เธออีกครั้ง การคอมโบเริ่มต้นขึ้นแล้ว! เป็นอีกครั้งที่ FieldLily ต้องถูกบังคับให้เป้นฝ่ายตั้งรับอีกครั้ง เธอโกรธมากที่เขาแอบโจมตีเธออย่างนี้! ตอนนี้พวกเขาได้แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอีกครั้ง เธอรู้ดีว่าเย่ฉางนั้นรวดเร็วขนาดไหน! เธอจึงรีบเปิดใช้งานท่าไม้ตายของเธอ [Lightning Sword]! ดาบสองเล่มของเธอกระพริบเหมือนฟ้าผ่าปะทะกับดาบสองเล่มของเย่ฉาง การปะทะกันครั้งนี้ราวกับพายุโลหะ

1 การโจมตี! 2 การโจมตี! เย่ฉางเริ่มทำการคอมโบอย่างหนักหน่วง ดาบยาวของเขาฟัน! เขาดึงดาบสั้นของเขาฟันใส่อีก! จากนั้นก็ดึงดาบตรงฟันออกไปอีก ดาบทุกกเล่มเข้าและออกจากฝักดาบของเขาส่งเสียงกริ๊งกริ๊ง เสียงดาบปะทะกันดังก้องไปทั่ว พวกคนดูไม่สามารถมองเห็นตัวดาบได้เลย พวกเขาได้แต่เพียงได้ยินเสียงดาบปะทะกันเท่านั้น พวกคนดูเห็นเพียงว่าทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน ขณะที่ใบดาบพัดเหวี่ยงรอบตัวพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง ดาบที่กระพริบเหมือนสายฟ้า และดาบที่กระพริบเหมือนแสงจันทร์ ต่างถูกเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง

“เป็นเวลานานแล้ว ที่เราไม่ได้เห็นการต่อสู้อันงดงามระหว่างสองนักดาบความเร็วสูงเช่นนี้ แต่พี่ใหญ่วีรบุรุษกุมความได้เปรียบและคอยกดดันใส่ FieldLily หากเธอไม่สามารถทำลายการคอมโบครั้งนี้ของเขาได้แล้วล่ะก็ เธอจะพ่ายแพ้ในที่สุด ความแข็งแกร่งของพี่ใหญ่วีรบุรุษนั้นไม่มีใครหยุดยั้งเขาได้จริงๆ การคอมโบของเขามันช่างสุดยอดมากๆ…” พี่ใหญ่เฉาปรบมือ

FieldLily เริ่มรู้สึกหมดหวัง มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะต้านทานเขาได้ เพราะความเร็วของเขาเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาเล่นตัวละครนักดาบปีศาจได้แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร! เขาทำไปแล้ว 45 คอมโบ แต่ก็ไม่ได้มีข้อผิดพลาดแม้แต่เพียงนิดเดียวเลย ทั้งการชักดาบ, ฟัน, แทงและการเก็บดาบเข้าฝัก ที่สำคัญเธอต้องมาพะวงในทุกๆ 10 คอมโบของเขาอีก ‘ซ้ายหรือขวา!? ด้านหลัง!’ เธอหันหลังกลับและใช้ดาบ 2 อันเพื่อบล็อคดาบยาวของเย่ฉาง ถ้าขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป มันจะไม่เป็นผลดีกับเธอ! เธอจึงตัดสินใจใช้สุดยอดท่าไม้ตายอีกอันหนึ่ง [ Lightning Transformation – Spark Dragon]! (นักดาบปีศาจจะสามารถเทเลพอทระยะสั้นๆได้ในทุกๆ 10 คอมโบ โดยมีระยะประมาณ 5 เมตรและต้องใช้ภายใน 0.3 วินาที!)

กระแสไฟฟ้าไหลจากดาบทั้งสองลงสู่ในร่างกายของเธอ แสงฟ้าแลบส่องประกายและเสียงฟ้าร้องดังขึ้นมา จากนั้นตามมาด้วยเสียงคำรามของมังกร ! เย่ฉางหัวเราะเบาๆ เขาชักดาบยาวออกมาอีกครั้งและขว้างไปยังเสาที่ขอบเวทีประลอง เขาใช้ [Blade Edge Blink] โผล่ไปหน้าดาบที่ปักอยู่บนเสาเพื่อหลบมังกรสายฟ้า เขาดึงดาบยาวออกจากเสาและฟันใส่เสาไปหนึ่งทีเพื่อรักษาคอมโบไว้! จากนั้นเขาใช้สกิล [Blade Edge Sprint] โผล่มาที่ตรงหน้าเธออีกครั้ง ด้วยโบนัสเกือบ 100 คอมโบ มันจึงใช้เวลาเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้นในการฆ่าเธอ! 10 การโจมตีฆ่าเธอ, 15 การโจมตีตัดร่างเธอเป็นชิ้นๆ!

“นั่นมัน 86 คอมโบ ทำให้นักดาบปีศาจรวดเร็วมากๆ …” พี่ใหญ่เฉาแอบพึมพำ

“นี่เป็นคุณสมบัติพิเศษของนักดาบปีศาจที่เราไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ ในช่วงเวลานั้นเขาได้เพิ่มจำนวนคอมโบ ในขณะที่ประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงวิกฤติได้ ด้วยการใช้สกิล [Blade Edge Blink] ใส่กับดาบที่ตัวเองโยนไป ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของเขาฟันที่เสาและรักษาการคอมโบเอาไว้ได้ จากนั้นก็ใช้ [Blade Edge Sprint] พุ่งมาฆ่าเธออย่างรวดเร็วด้วย 25 การโจมตี! นี่คือนักดาบปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในประวัติศาสตร์ การประสานงานของเขาทรงพลังมากเกินไป ทุกคนควรรู้ดีว่าการใช้นักดาบปีศาจเป็นเรื่องยากที่ต้องมีความเร็วมือที่มากพอ ถ้ามันต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกับบางสิ่งบางอย่างแล้ว มันก็เหมือนการพูดเร็วๆนั่นแหละ เมื่อคุณต้องพูดอย่างรวดเร็วและเร็วขึ้นแล้ว มันอาจมีโอกาสที่จะพูดไม่ชัด การคอมโบของนักดาบปีศาจก็เหมือนกัน ทุกการคอบโบต้องลื่นไหลต่อเนื่องกัน ถ้าเกิดมีจังหวะไหนสะดุดไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างขึ้นมาจะสูญเปล่าและต้องเริ่มต้นใหม่ …” พี่ใหญ่จงอดที่จะลุกขึ้นมายืนปรบมือให้ไม่ได้ เขาหันกลับมามองไปที่ภาพลักษณ์ที่งดงามของซูหยี่ยี่ ขณะที่เธอมองไปที่หน้าจอการพนันของเธอ เขาแอบชำเลืองมอง “ไม่เลวนี่ คุณได้รับมาไม่น้อย …”

“พี่ใหญ่จง อย่าบอกฉันนะว่าคุณไม่ได้เดิมพัน …” ซูหยี่ยี่ยิ้มอย่างน่ารัก

“พวกเรารู้จักกันและกันดี …” พี่ใหญ่จงยิ้มให้เธอ เห็นได้ชัดว่าเขาก็เดิมพันทางฝั่ง Thorns and Roses ด้วย

 

 

 


ตอนที่ 345

 

“พี่ใหญ่วีรบุรุษ! พี่ใหญ่วีรบุรุษ!”

“ไอ้คนชั่ว! ไอ้คนน่ารังเกียจ! ไอ้คนบัดซบ!”

“ที่รักของฉัน! พระเจ้าแห่งการเต้นรำ!”

มีทั้งเสียงเชียร์และเสียงด่าทอของผู้คน

เย่ฉางเก็บดาบเข้าในฝักด้วยความเศร้าโศก “ในฐานะที่ฉันเป็นเอซของทีม ฉันมักจะพบกับเสียงเชียร์และเสียงด่าทอแบบนี้เป็นประจำ ฉันเคยชินกับมันแล้ว …”

“……” ทุกๆคนทั้งในและนอกสนามต่างพูดไม่ออก

“แค่ก แค่ก ผู้เล่นคนที่สองของทีม Hundred Flowers คือ Azania เธอเป็นรองหัวหน้าทีมและยังเป็นคนที่จะรับสืบทอดตำเหน่งหัวหน้าสโมสรต่อจาก FieldLily อีกด้วย ตัวละครของเธอคือ Thorny Swordmaster ซึ่งใช้ดาบมือสองที่มีระยะโจมตีกลางๆ การผสมผสานของความแข็งแกร่งและความเร็วของเธอ ทำให้เธอเป็นคู่ต่อสู้ที่โดดเด่น” พี่ใหญ่เฉามองผู้เล่นคนที่สองซึ่งกำลังขึ้นมาบนเวทีประลอง

“ขนาด FieldLily ที่มีความเร็วขนาดนั้น ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายกับพี่ใหญ่วีรบุรุษได้มากนัก ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตด้วยความเร็วที่มากของเขา ดังนั้น Azania จะต้องมีปัญหาในการเผชิญหน้ากับนักดาบปีศาจความเร็วสูงคนนี้อย่างแน่นอน” ซูหยี่ยี่มองผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลบนเวทีประลอง

Azania ดึงดาบยักษ์ที่พาดอยู่บนหลังออกมา เธอถือดาบด้วยสองมือพร้อมกับลากไปกับพื้นเธอพร้อมที่จะเข้าโจมตีได้ทุกเวลา เสียงกริ๊งกริ๊งเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทุกคนรู้สึกกังวลราวกับว่ามีคนกำลังเคาะหัวใจของพวกเขาอยู่ เธอหายใจเข้าลึกๆและกระพริบตา “นาย…”

Azania ค้นพบว่าในขณะที่เธอกระพริบตา เย่ฉางก็ได้หายตัวไปแล้ว ‘แย่แล้ว!’

“เธอ … กำลังมองไปที่ไหน?” เสียงเย่ฉางดังมาจากด้านหลังของเธอ

“ด้วยสกิล [Blade Edge Blink] ทำให้ไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนที่ของเขาได้ เขาใช้ประโยชน์ในช่วงเวลาที่เธอกระพริบตาด้วยการใช้สกิลนี้เทเลพอทไปอยู่ด้านหลังเธอ เขาเป็นผู้เล่นที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง เขาไม่ยอมแม้แต่ให้เวลาฝ่ายตรงข้ามแม้แต่กระพริบเลยทีเดียว” พี่ใหญ่จงพึมพำ

กริ๊ง! เย่ฉางใช้นิ้วดีดดาบออกจากฝักและฟันใส่เธอ! มันกระแทกเข้ากับศีรษะของ Azania

“เป้าหมายติดสตั้นเป็นเวลา 0.2 วินาที!”

ปากของเย่ฉางเผยอขึ้นเป็นรอยยิ้ม นั่นเกินพอแล้ว! การคอมโบเริ่มต้นขึ้น! การโจมตีครั้งแรก! ตามมาด้วยพายุดาบ! Azania แทบไม่ได้มีเวลาที่จะได้ใช้สกิลท่าไม้ตายของเธอเลย และเมื่อเธอหายจากอาการสตั้น เธอวางแผนที่จะใช้สกิลการเคลื่อนไหวเพื่อดึงระยะให้ห่างออกไป แต่เธอกลับถูกไล่ล่าจากเย่ฉางโดยทันที เขาใช้สกิล [Blade Edge Sprint] โผล่ตรงหน้าเธอ และเธอถูกฆ่าตายในพริบตาเพียง 15 คอมโบเท่านั้น! กริ๊ง! เขาเก็บดาบใส่ฝักอีกครั้ง “คนต่อไป…”

“สุดยอดนักดาบปีศาจ …” CloudDragon ที่เพิ่งมาชมการประลอง เมื่อตอนเขามาถึง เขาได้ทันดูฉากเมื่อกี้พอดี จากนั้นเขาก็เปิดดูรีเพลย์ย้อนหลัง “กับคู่แข่งอย่างนี้ ไม่คณามือเขาหรอก …”

“ไม่เลวทีเดียว เขามีคุณสมบัติพอสำหรับให้ฉันบดขยี้ …” รอยยิ้มของ Flame Emperor กลายเป็นโหดร้ายและอวดดี คนที่อยู่รอบๆตัวเขา ต่างมองเขาด้วยความหวาดกลัว

“การดวล – S, การควบคุม – S …” MistyVeil ยังคงเพิ่มข้อมูลของเธอ

“พี่ใหญ่ขาวเจ๋งมาก!” หลินหลี่เชียร์ จากนั้นเขาก็เตะหวังที่กำลังจ้องมอง DyedLily อยู่ “นายกำลังมองอะไรอยู่! ทำไมนายถึงไม่ช่วยกันเชียร์พี่ใหญ่ขาว!”

“พี่ใหญ่ขาวไร้เทียมทาน แม้แต่สวรรค์ยังต้องยอมสยบ! สามพี่น้องยิ่งใหญ่เกรียงไกร! สามพี่น้องปกครองโลกหล้า!” หวังหายใจเข้าลึกๆและเริ่มเชียร์อย่างดุเดือดอีกครั้ง “พี่ใหญ่วีรบุรุษไร้ที่ติ! จ้าวแห่งเพชรผู้แข็งแกร่ง! ปีศาจหลี่บ้าคลั่งกว่าผู้ใด! ต่อต้านพระเจ้า! เข่นฆ่าปีศาจ! แข็งแกร่งเหนือสามโลก! สุดยอดตลอดกาล!”

“คำพูดของคนๆนั้นฟังดูเจ๋งมากๆ! เฮ้ พวกเรากลุ่มแฟนคลับสามพี่น้องทุกคน! มาพูดพร้อมๆกันเถอะ! “

“พี่ใหญ่ขาวไร้เทียมทาน แม้แต่สวรรค์ยังต้องยอมสยบ! สามพี่น้องยิ่งใหญ่เกรียงไกร! สามพี่น้องปกครองโลกหล้า!”

“พี่ใหญ่วีรบุรุษไร้ที่ติ! จ้าวแห่งเพชรผู้แข็งแกร่ง! ปีศาจหลี่บ้าคลั่งกว่าผู้ใด! ต่อต้านพระเจ้า! เข่นฆ่าปีศาจ! แข็งแกร่งเหนือสามโลก! สุดยอดตลอดกาล!”

เย่ฉางได้ยินคำขวัญและเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่ม เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ‘อารมณ์ของคนดูตอนนี้ มันเป็นอารมณ์เดียวกับตอนคอนเสิร์ตของนานะเลย เมื่อตอนนั้นเธอพูดคำหยาบคายกระตุ้นพวกคนดู จนได้รับความคลั่งไคล้และกำลังใจที่ล้นหลาม ใช่แล้ว’ เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ทีม Hundred Flowers แล้วยกนิ้วกลางขึ้นและพูดอย่างจริงจัง “ฉันจะเย …พวกเธอทั้งหมด!”

“ถูกต้อง! ถูกต้อง! ผมจะเย …พวกเธอทั้งหมด!” หลินหลี่ทำตามพร้อมกับยกนิ้วกลางขึ้นทั้งสองข้าง ที่สำคัญเขานั้นยังเต้นยั่วพวกเธออีกด้วย

[ตึ๊ง! ผู้เล่น PaleSnow และ ผู้เล่น HappyAndCheerful ได้รับใบเหลือง! ข้อหาพูดจาหมิ่นประมาทและไม่สุภาพ! ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งในรอบนี้ได้อีกต่อไป]

เย่ฉางถูกส่งตัวออกจากเวทีประลองทันที และมีข้อความว่าโดนแบนลอยอยู่เหนือศีรษะของทั้งสองคน

“ทั้งสองโดนแบน!! …” ThornyRose ตกตะลึง เธอหันกลับไปและเห็นว่าทั้งสองคนไม่มีเจตนาที่จะขอโทษ แถมพวกเขายังทำตัวมีความสุขอย่างกับเป็นผู้ชนะอีกด้วย จากนั้นเธอก็ได้ยินคำพูดที่ดูเสียใจของจางเจิ้งเฉียง! “บ้าเอ้ย! ฉันไม่ได้ทันพูดตามด้วยเลย ฉันตอบสนองช้าเกินไป …”

ผู้ชมต่างตื่นเต้นกันอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาต่างเรียกร้องให้ยกเลิกการแบนทั้งสองคน พวกผู้หญิงทีม Hundred Flowers มีใบหน้าที่มืดมน FieldLily กัดฟันแน่นและจ้องมองไปที่เย่ฉางและหลินหลี่ ซึ่งกำลังจะทำไฮไฟว์กัน “พวกสามพี่น้องแห่งหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ ฝากไว้ก่อนเถอะ ต้องมีสักวันที่พวกเราจะต้องเอาคืนให้สาสม”

“ทั้งสองคนช่างเป็นตัวของตัวเองจริงๆ …” ซูหยี่ยี่ยิ้มขึ้นมา เธออดที่จะคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้

“ไม่มีใครพูดอย่างนี้มาก่อนในเวทีประลองเลย ฉันรู้สึกเหมือนการแข่งขันลีคในปีนี้ จะมีสีสันมากกว่าเดิมเยอะ พวกสามพี่น้องนี้ช่างสร้างความประหลาดใจและมีเรื่องสนุกๆให้รับชมอยู่เสมอ” พี่ใหญ่เฉาพยักหน้า

“อย่างไรก็ตาม … ดูเหมือนว่าทีม Hundred Flowers จะเกลียดพวกเขาถึงขั้นอยากฆ่าพวกเขาให้ตายเลยทีเดียว เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิงทั้งหมด พวกเขาสองคนพูดแบบนี้กับพวกเธอต่อหน้าคนทั้งโลกเชียวนะ …” พี่ใหญ่จงมอง FieldLily ผู้ซึ่งกำลังโกรธจนตาแทบลุกเป็นไฟ จนเขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

เมื่อเย่ฉางโดนแบน คนที่จะมาแทนที่เขาก็คือ ThornyRose ซึ่งเธอได้รับชัยชนะอย่างง่ายดายในการประลองครั้งที่สามนี้ ทำให้ทีมของเธอเก็บ 2 แต้มจากการประลองเดี่ยวไป ส่วนการประลองกลุ่มและโหมดฮีโร่ ทีม Hundred Flowers ที่กำลังโกรธมากต่างระดมการโจมตีใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่ด้วยการโชว์ฟอร์มขั้นเทพของจางเจิ้งเฉียง พวกเธอจึงต้องพ่ายแพ้ไป

ทีม Hundred Flowers โกรธมากยิ่งขึ้นเมื่อพวกเธอแพ้ไปอีกสองครั้ง พวกเธอจ้องมองไปที่เย่ฉางและหลินหลี่ ซึ่งกำลังเล่นเกมกระดานกับ FrozenCloud และ SpyingBlade อยู่ เย่ฉางและหลินหลี่สังเกตเห็นแววตาที่จ้องเขม็งของพวกเธอ ทั้งสองคนพยักหน้าให้พวกเธอและพูดอย่างสุภาพว่า “สวัสดี …”

“ฉันผิดไปแล้วที่พูดไม่ดีในก่อนหน้านี้ บรรยากาศในตอนนั้นมันค่อนข้างคุ้นเคย ดังนั้นจึงเผลอพูดอะไรที่ไม่ดีออกไป ให้อภัยฉันด้วยนะ ~~” เย่ฉางพูดขอโทษ ส่วนหลินหลี่ก็เอามือประสานกันไว้ข้างหน้าและพูดขอโทษ “ฮึ่ม ~ ขอโทษๆ ~”

ThornyRose รู้สึกดีที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกับเธอ เธอเฝ้าดูทีม Hundred Flowers ที่มีใบหน้าเขียวคล้ำเหมือนโดนวางยาพิษ ‘ความสามารถในการยั่วยุคนอื่นของพวกเขา ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้หรอก!’ FrozenBlood สังเกตเห็นอารมณ์ของ ThornyRose ‘เฮ้อ! เธอโดนมามากกว่าพวกทีมนั้นเยอะ…’

โหมดความบันเทิงเป็นเกมทำอาหาร ภายใต้การจ้องมองที่อิจฉาของเย่ฉาง LittleJade ขึ้นไปและแสดงความสามารถของเธอจนได้รับชัยชนะ และแล้วทีม Thorns and Roses ก็ชนะสามครั้งติดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ

“มันควรจะเป็นฉันที่ขึ้นไปแข่งการทำอาหารสิ ช่างเถอะ! ลีคระดับเล็กแบบนี้ ไม่พอกับความสามารถของฉันหรอก” เย่ฉางบ่น

“มันจะไม่มีวันที่นายจะได้ขึ้นไปแข่งทำอาหารเลย! ไม่ว่าลีคจะระดับใหญ่ขึ้นแค่ไหนก้ตาม” ThornyRose และผู้หญิงทุกคนตะโกนใส่เขา

หลินหลี่มองไปที่ทีม Hundred Flowers เขาวิ่งไปขอโทษอย่างจริงจัง “ผมขอโทษจริงๆสำหรับก่อนหน้านี้ พี่สาวทุกคน หลินหลี่ขอโทษด้วย …”

หลินหลี่ก้มหัวขอโทษอย่างจริงจัง และทำตาเหมือนลูกหมาที่น่าสงสาร ซึ่งทำให้อารมณ์โกรธของพวกเธอค่อยๆลดลง พวกเธอต่างคิดว่าในเมื่อการแข่งจบไปแล้ว เรื่องผิดใจต่อกันก็ควรจบๆกันไป อีกทั้งเขาก็ยอมรับผิดและขอโทษอีกด้วย FieldLily กำลังจะบอกเขาว่า ‘ช่างมันเถอะ ไหนๆมันก็ผ่านไปแล้ว’ แต่เธอเห็นหลินหลี่เงยหน้าขึ้นและเอามือถูจมูกพร้อมกับพูดว่า “พวกเธอคิดจริงๆหรือว่าฉันจะพูดแบบนั้นจริงๆ? เฮ้อ … ช่างอ่อนหัดจริงๆ พวกเด็กน้อย! พวกคนขี้แพ้เอ้ย! พี่ใหญ่ขาวและฉัน ไม่มีวันที่จะขอโทษพวกเธอจริงๆหรอก!!”

FieldLily และพวกผู้หญิงต่างระเบิดความโกรธออกมา พวกเธอไม่สามารถระงับมันเอาไว้ได้อีกแล้ว เสียงด่าทอที่หยาบคายของพวกเธอดั่งก้องไปทั่ว และตามมาด้วยเสียงคำเตือนจากระบบ

“……” ทุกคนทั้งในและนอกสนาม กำลังสงสัยว่าทั้งสองคนนี้คงเป็นพวกชอบตีสองหน้า และคงเกรียนจริงๆ

 

 

 


ตอนที่ 346

 

ทีม Hundred Flowers ทุกคนถูกส่งออกนอกสนามโดยระบบ

“ความสามารถในการยั่วยุคนอื่นๆของปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่งและพี่ใหญ่วีรบุรุษ อยู่ในระดับ SS อย่างแน่นอน” พี่ใหญ่เฉาพูดออกมาด้วยความรู้สึกละอายใจ

“เห็นด้วย…” พี่ใหญ่จงตกตะลึง

“PaleSnow, HappyAndCheerful: การยั่วยุ – ระดับ SS ดูเหมือนว่าเมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขา เราจะต้องมีวิธีการป้องกันการโจมตีทางจิตใจของพวกเขา…” MistyVeil ได้เพิ่มข้อมูลของพวกเขาลงไปในแท็บเล็ตของเธอ

พวกผู้ชมที่เป็นแฟนคลับของทีม Hundred Flowers เริ่มสบถคำสาปแช่งกันออกมา “ปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่งคนนี้จะดูถูกกันเกินไปแล้ว! เทพธิดา Hundred Flowers ไม่ต้องไปใส่ใจคำพูดของพวกมันหรอก ไม่ต้องไปบ้าคลั่งตามมัน! ครั้งต่อไปค่อยหยามสามพี่น้องกลับคืนไป!”

“พวกเด็กน้อยเอ้ย วิธีที่ปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่งใช้ไม่บ้าเกินไปหน่อยงั้นหรือ? ทีม Hundred Flowers ที่กระจ้อยร่อยจะมีความหวังที่จะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้อีกยังไงกัน? พี่ใหญ่วีรบุรุษสับ FieldLily ของเธอจนตาย และแม้แต่ฆ่า Azania ตายอย่างทันที! ทำไมพวกเอ็งไม่ไปสวมกระโปรงซะไป๊!?”

การถกเถียงกันระหว่างทั้งสองฝ่ายกลายเป็นความยุ่งเหยิง แต่ในไม่ช้ากลุ่มสามพี่น้องก็ได้กดขี่ฝ่ายศัตรูทั้งหมด

ในห้องพักนักกีฬาของสโมสร Thorn and Roses ทุกคนกำลังเตรียมตัวกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ ThornyRose และพวกสาวๆ เพราะรอบต่อไปที่พวกเธอจะต้องเจอ นั่นคือทีม Falling Star ซึ่งเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งมาก กิลด์ Falling Star เคยเป็น 1 ใน 4 กิลดิ์ใหญ่มาก่อน แต่ว่าพวกเขาได้ถูกพรากตำแหน่งนั้นไปจนหมดสิ้น แม้ว่ากิลด์ Falling Star จะเคยล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นกิลด์ที่มีประวัติอันยาวนาน ผู้เล่นที่โด่งดังที่สุดในหมู่พวกเขาคือสมาชิกคนหนึ่งจากยุคทองอย่าง The Big Flowery Underpants – TruePath และในตอนนี้หัวหน้าสโมสรก็คือ Thorny Rosa -CompassionateStar แม้แต่ ThornyRose ก็ต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันแบบคู่ หรือการแข่งขันอื่นๆก็ตาม ThornyRose เคยพ่ายแพ้ให้กับเธอนับครั้งไม่ถ้วน อันที่จริงเธอไม่เคยได้รับชัยชนะเลยสักครั้ง

“Thorny Rose vs Thorny Rosa พี่ใหญ่เฉา พี่คิดว่าใครจะได้รับชัยชนะคะ?” ซูหยี่ยี่ถามออกมา

“ถ้าเป็นในอดีต ผู้ชนะก็คงจะเป็น Thorny Rosa อย่างไรก็ตามในตอนนี้ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะกลุ่มสามพี่น้องมีความแข็งแกร่งที่พิเศษมาก และพวกเขายังมีดาวรุ่งคนเก่าของกิลด์ Falling Star – DarkBlade อีกด้วย แต่ในการต่อสู้แบบกลุ่ม Falling Star ยังมีข้อได้เปรียบที่มากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น Flame Dragon Union ก็เคยพ่ายแพ้เนื่องจาก VastSea มาครั้งหนึ่งแล้ว…” พี่ใหญ่เฉาลูบคาง และคิดย้อนกลับไปถึง VastSea

“ก็จริง นอกจากนี้ด้วยความไม่พอใจระหว่าง DarkBlade และ Falling Star การต่อสู้ครั้งนี้คงไม่ทำให้ใครหลายคนต้องผิดหวังอย่างแน่นอน…” พี่ใหญ่จงยิ้มออกมา

เย่ฉางและกลุ่มของเขานั่งดูโทรทัศน์ราวกับว่ามันไม่มีส่วนสำคัญสำหรับพวกเขา ต่อให้ท้องฟ้าจะพังพินาศย่อยยับก็ตามที

“สวัสดีคะ นี่คือช่วงข่าวบันเทิง! อาจจะมีใครหลายท่านที่เพิ่งได้ยินข่าวเกี่ยวกับสามพี่น้องหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะ หลายคนอาจไม่ได้รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร และถ้าคุณทำเช่นเดียวกับวีรบุรุษของหมู่บ้านจริงๆนะ แต่ตอนนี้หลังจากไม่ถึงสองเดือน สามพี่น้องหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะได้กวาดผ่านลงไปครอบคลุมที่ลีคอาชีพกันแล้ว! หลายคนได้เรียกกลุ่มของเขาว่าเป็นพวกม้ามืดของฤดูกาลนี้ หรือแม้กระทั่งทีมที่จะกลายเป็นราชาสวรรค์! บางคนอาจบอกว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่สามคนโง่ที่สร้างความยุ่งเหยิงกับให้ลีคอาชีพ แฟนคลับเกือบ 10 ล้านคนของพวกเขาได้รับความร่วมมือช่วยกันสร้างกลุ่มแฟนคลับสามพี่น้อง! ในตอนนี้มีทั้งคำดูถูกและคำชมต่อพวกเขา ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เราก็ต้องยอมรับว่าทุกคนให้ความสนใจกับ ‘สามพี่น้อง’ เพื่อจะเฝ้าดูว่าพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน…”

“ในการวิเคราะห์เชิงลึก พี่ใหญ่วีรบุรุษ จ้าวแห่งเพชร ปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่ง พวกเขาใช้ตัวละคร…”

“เรามาดูแฟชั่นยอดฮิตตอนนี้กันคะ! เนื่องจากพี่ใหญ่วีรบุรุษเพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันลีคเป็นเวลา 2 วัน แต่มีเหล่านักเรียนหลายคนกำลังเลียนแบบการกระทำท่าชักดาบกริ๊กกริ๊กของเขาไปทั่ว การฝึกฝนดาบที่มาพร้อมกับฝักดาบ ทำให้ยอดการขายอาวุธที่มีฝักเพิ่มมากขึ้นในท้องตลาด อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีนักเรียนจำนวนมากที่ต้องการความเงียบสงบ และไปบ่นกับสภานักศึกษาเช่นกัน…”

“ด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวนี้ และความแข็งแกร่งของจ้าวแห่งเพชรได้ผลักดันหมัดดาวเหนือลงจากตำแหน่งในการจัดอันดับ Grappler และด้วยตัวละครจอมหมัดเหล็กที่โผล่มาจากไหนไม่มีใครทราบได้ และได้ขึ้นแท่นกลายเป็นอับดับที่ 3 ของ Grappler!”

“การเปิดตัวครั้งแรกในรอบหลายปีของนักรบดาบยักษ์! เขาปรับเปลี่ยนนักรบดาบยักษ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ! เครื่องจักรในการต่อสู้ 1v1! การทำลายล้างของปีศาจ! ปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่งได้แสดงถึงความสามารถของนักรบดาบยักษ์ให้ทุกคนเป็นที่ประจักษ์กันแล้ว!”

ThornyRose มองไปยังกลุ่มคนที่มองดูข่าวเกี่ยวกับตัวเองอย่างสบายใจ ‘พวกนายจะจริงจังกันขึ้นมาสักเล็กน้อยได้ไหมเนี่ย! รอบต่อไปที่พวกเราต้องเจอคือ Falling Star เลยนะ! บ้าเอ๊ย! รอบนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าเรามีความสามารถมากพอหรือไม่’ “ฉันว่าพวกนายน่าจะมาที่นี่ และวางแผนกับเรา! รอบต่อไปเป็นเรื่องที่สำคัญมาก! พวกนายช่วยให้ความใส่ใจเพิ่มขึ้นมาสักเล็กน้อยบ้างได้ไหม!”

“เฮ้อ! พวกข้าบริวารที่เป็นกังวลมากกว่าจักรพรรดิ…” เย่ฉางถอนหายใจ และลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ThornyRose อยากจะแทงเขาให้ตาย ‘นายหมายความว่ายังไงที่ว่าข้าบริวารที่เป็นกังวลมากกว่าจักรพรรดิ!?’

ThornyRose เฝ้ามองขณะที่พวกเขาเดินเข้ามา เย่ฉางกำลังเล่นกับผมของเขาอย่างเหม่อลอย หลินหลี่กำลังแคะจมูก ส่วนจางเจิ้งเฉียงยิ้มกว้างชูนิ้วโป้งให้เธอ และทำปากพูดโดยไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา ‘ได้โปรดอย่าลืมสาวสวยด้วยนะ’ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และได้แต่เอามือก่ายหน้าผาก “รอบต่อไปเราต้องเจอกับ Falling Star ซึ่งมีความแข็งแกร่งไม่เหมือนกับสามรอบแรก Falling Star เป็นทีมที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง แม้ว่าด้วยเหตุผลหลายประการที่ทำให้พวกเขาได้หลุดออกจากสี่กิลด์ใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังคงมีประวัติที่ยาวนานอยู่ดี เราไม่สามารถประมาทได้ นายน่าจะรู้จัก Falling Star ได้ดีที่สุด เนื่องจากนายเคยเป็นอดีตสมาชิกของ Falling Star มาก่อน ใช่ไหม DarkBlade!?”

“เรียกฉันว่า SpyingBlade อืม Falling Star มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ความแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่มีอะไรพิเศษ…” SpyingBlade ยักไหล่ ThornyRose มองไปที่กลุ่มของเย่ฉางที่กำลังกรอกตาของเขาจ้องมองมาที่เธอ ราวกับเธอกำลังจุกจิกจู้จี้ซะเหลือเกิน

“อย่างไรก็ตาม จะดีกว่าถ้าพวกนายทำให้ได้ดีขึ้นสัก 120%! เอาล่ะนี่คือข้อมูลของพวกเขา ทุกคนมาดูกัน” ThornyRose ส่งข้อมูลที่เธอจัดเรียงให้กับทุกคน เย่ฉางชี้ว่าเขาไม่ต้องการมัน และพูดออกมา “เอซที่แท้จริงไม่เคยดูที่ข้อมูลของคนอื่น เพราะพวกเขาไม่มีค่าอะไร ถึงยังไงพวกเขาก็จะจบลงด้วยการตายอยู่ดี…”

“ผมไม่เข้าใจเลย! เธอสามารถทำให้มันง่ายขึ้นกว่านี้ได้ไหม? เฮ้อ…” หลินหลี่เหลือบมองข้อมูล และโยนมันออกไปด้วยความโกรธเพราะเขาไม่เข้าใจ

“ประเด็นคืออะไร? ถ้าพวกเขามาหาเราหนึ่งคน เราก็แค่ฆ่าหนึ่งคน ถ้าพวกเขามาเป็นทีม เราก็แค่ฆ่าพวกเขาทั้งทีม!” จางเจิ้งเฉียงยิ้มกว้าง

“……” ThornyRose อยากจะบ้าตายจริงๆ ‘ฉันควรสื่อสารกับพวกเขาอย่างไรกัน!? ทำไมพวกเขาคิดอะไรไร้สาระกันจริง เอซควรเป็นคนที่ต้องการดูข้อมูลมากที่สุดสิ!’ สำหรับจางเจิ้งเฉียง ThornyRose ทำได้แต่เพียงถอนหายใจเท่านั้น เพราะนั่นเป็นเพียงธรรมชาติของเขา ธรรมชาติของเขา มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้รับกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถบ่นอะไรออกมาได้

SpyingBlade หัวเราะเบาๆ เขามองที่ใบหน้าสะอาดบริสุทธิ์ในหน้าแรก จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา ‘ถึงเวลาที่จะตัดความสัมพันธ์ของเราแล้ว ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ต้องการที่จะตายในครั้งเดียวภายใต้มือของเธอ แต่… ฉันต้องจบความปรารถนาสุดท้ายที่เธอยังคงยึดกุมฉันเอาไว้’ “ให้ฉันไปเป็นคนแรก…”

“ตกลง นี่เป็นเวทีคัมแบ็กที่สมบูรณ์แบบสำหรับนายแล้ว สำหรับความรู้สึกใดๆ ที่นายมีให้กับทีม Falling Star ฉันหวังว่ามันจะไม่เป็นตัวบ่อนทำลายในการแข่งขันครั้งนี้หรอกนะ…” ThornyRose พยักหน้า เธอเฝ้ามองขณะที่ทีม Falling Star เข้ามาในสนามแล้ว จากนั้นก็พูดออกมา

“ฉันจะไม่… เพราะฉันมีเหตุผลที่จะแพ้ไม่ได้…” SpyingBlade เปลี่ยนไปตัวละครเพชฌฆาตเงา กลิ่นอายความมืดมนที่โหดเหี้ยมลอยออกมาจากเสื้อเกราะแสงสีดำของเขา เขาหยิบหน้ากากสีดำและค่อยๆสวมใส่มัน ทันใดนั้น ดวงตาสองข้างของเขาก็วูบวาบเปล่งสะท้อนถึงลางแห่งความตายออกมา จิตใจของ ThornyRose, FrozenBlood และ ElegantFragrance สั่นสะท้าน ‘นั่นคือเขา! ความรู้สึกที่อันตรายมากเช่นนี้ แอสซาซินที่แท้จริง! เพชฌฆาตเงา – DarkBlade!’

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม