The Strongest Hokage 253-256

ตอนที่ 253

 

สนามต่อสู้ดูสับสนและวุ่นวายมาก


กบนอนกองอยู่กับพื้นเกลื่อนกลาดอยู่เต็มสถานที่ บางตัวที่ยังได้สติอยู่ก็ตัวสั่นและไม่สามารถลุกขึ้นได้


แต่แน่นอนว่ากบทุกตัวรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่คิดว่ามนุษย์จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!


ไนโตะ ใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาที ในการเอาชนะพวกเขาทั้งหมด และพวกเขาก็ไม่มีโอกาสโจมตี ไนโตะ เลยแม้แต่น้อย


ในเวลานี้ กบบางตัวที่ยังมีสติก็มองการมาถึงของ ฟุคาซาคุ และ ชิมะ


“ท่านฟุคาซาคุ…”


“ไม่ต้องพูดแล้ว!”


เมื่อมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้การแสดงออกของ ฟุคาซาคุ เปลี่ยนไป เขาดูตกใจและไม่อยากเชื่อ


ชิมะ ก็ไม่พูดอะไรขณะที่เธอมองไปรอบ ๆ บริเวณด้วยความตกตะลึง


หลังจากที่ 2 เซียนใหญ่ มองดู และวิเคราะห์อาการของกบเหล่านั้น ทั้งคู่ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา


“พวกเขาถูกทำให้หมดสติด้วยพลังแปลก ๆ ผลของมันอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น พวกเขาจะสามารถขยับได้อีกครั้งในไม่ช้า แต่พลังนั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาบาดเจ็บเลยสักนิด ดูเหมือนว่าผู้บุกรุกคนนี้จะเมตตาอยู่บ้าง”


จากนั้น ฟุคาซาคุ ก็หันไปมองอีกทางหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นร่างหนึ่ง ยืนอยู่ตรงกลางสนามรบอยู่เงียบ ๆ


เมื่อเขาเห็น ไนโตะ ทันใดนั้นเขาก็เบิกตากว้าง


“นี่แม่ รู้สึกไหม?”


ชิมะ ก็มองไปที่ ไนโตะ ด้วยสีหน้าตะลึงงัน


“การไหลของพลังงานธรรมชาติรุนแรงมาก…เจ้านี่ใช้โหมดเซียน แต่มันดูแตกต่างจากของพวกเรา”


“แต่มันใจได้ว่ามันไม่ใช่วิชาเซียนของ ป่าชิโคซึ หรือ ถ้ำริวจิ แน่นอน”


เพียงแค่สัมผัสถึงการไหลของพลังงานธรรมชาติของ ไนโตะ คุณก็จะสามารถรู้สึกได้ถึงความกลัวจากน้ำเสียงของ ฟุคาซาคุ ได้อย่างชัดเจน


ชิมะ ที่อยู่ข้าง ๆ ฟุคาซาคุ พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ความเร็วของการดูดซับพลังงานนั้นช่างน่ากลัวมาก”


“อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ต้องขัดขวางการดูดซับพลังงานของเขา”


ชิมะ จ้องไปที่ ไนโตะ จากนั้นเธอก็ประสานอินขึ้นมา


ฟูคาซาคุ พยักหน้าให้เธอ จากนั้นเขาก็เริ่มทำแบบเดียวกัน


“วิชาเซียน : คาถาไฟกระสุนเพลิง!”


“วิชาเซียน : คาถาลมฝุ่นทราย!”


ซู้ม!!


แม้ว่าคาถาไฟจะไม่ได้รุนแรง แต่เมื่อรวมเข้ากับคาถาลมที่ใช้โดยวิชาเซียน จึงทำให้คาถานินจาแข็งแกร่งข้น


เมื่อกบที่อยู่ด้านหลัง ไนโตะ เห็นคาถานินจาที่กำลังพุ่งตรงมา พวกเขาก็พยายามกระโดดหลบในทันที


“ท่านฟูคาซาคุ และ ท่านชิมะ ใช้คาถานินจาผสาน”


“สิ่งนี้ต้องเอาชนะผู้บุกรุกได้อย่างแน่นอน”


ไม่มีกบตัวไหนสอดมือเข้ามายุ่งกับการต่อสู้ในครั้งนี้ เพราะกบทุกตัวรู้ถึงความแข็งแกร่งของ ฟูคาซาคุ และ ชิมะ เป็นอย่างดี


รัศมีของการโจมตีครั้งนี้กว้างมาก และพวกเขาจะได้รับอันตรายไปด้วยหากพวกเขายังอยู่ที่นั่น


ตู้ม!!


ไฟแผดเผาทุกอย่างที่ขวางหน้า


แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเปลวไฟมาถึง ไนโตะ เขาก็หยุดมัน!


เปี้ยง!!


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็รับลูกไฟนั้นไว้ด้วยมือเปล่า ขณะที่ พลังสั่นสะเทือน อันน่าสยดสยองก็ระเบิดออกมา และด้วยการบีบครั้งเดียว ลูกไฟก็แตกและหายไป!


ภาพนี้ทำให้กบทุกตัวตกใจ


ไม่มีใครคิดว่า ไนโตะ จะสามารถเอาชนะคาถานินจาที่สร้างจากวิชาเซียนได้อย่างง่ายดาย


เมื่อ ฟูคาซาคุ และ ชิมะ เห็นภาพนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจหรือความกลัวได้อีกต่อไป


“อะไรกัน?!”


“มันเป็นไปไม่ได้!!”


พวกเขาทั้งคู่เบิกตากว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ


การเอาชนะคาถานินจาของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาตกใจ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจก็คือ ไนโตะ สามารถทำลายคาถาของพวกเขาได้โดยไม่จำเป็นต้องหยุดการดูดซับพลังงานธรรมชาติ!


มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!


โหมดเซียน ต้องการสมาธิเป็นอย่างมากเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการดูดซับพลังงานตามธรรมชาติ และการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็จะเป็นการขัดจังหวะได้


และ ไนโตะ ก็ไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวเท่านั้น แต่เขายังอยู่ในสภาพต่อสู้อย่างแท้จริง แต่การดูดซับพลังงานก็ไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย มันเป็นได้ได้ยังไง?


“ผู้ชายคนนี้…ไม่ธรรมดา!”


สายตาที่ 2 เซียนใหญ่มองไปที่ ไนโตะ ดูน่าทึ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ


“ใช่แล้ว ปริมาณพลังงานที่เขาดูดซับเข้าไปนั้นมหาศาลมาก ไม่มีใครสามารถดูดซับมันได้มากขนาดนี้!”


“แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังดูปกติ ร่างกายเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง…หรือว่าเขามีร่างที่เป็นอมตะงั้นเหรอ?!”


ฟูคาซาคุ และ ชิมะ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยการคาดเดามากมายในใจ


ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังหวาดกลัวเกี่ยวกับความจริงที่ว่า พวกเขาไม่สามารถดูดซับพลังงานจากธรรมชาติได้หลังจากการปรากฏตัวของเขา!


กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พลังงานธรรมชาติเกือบทั้งหมดในสถานที่นี้ ถูกกวาดต้อนไปในทิศทางเดียวกันและตรงเข้าสู่ ไนโตะ ทำให้พวกเขาสามารถดูดซับพลังได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น


นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!


“นี่แม่จ๋า เราน่าจะฟังสิ่งที่เขาจะพูดก่อนดีกว่า พ่อรู้สึกได้ว่าเขาไม่อยากสู้กับเรา”


หลังจากสูดหายใจเข้าลึก ๆ ฟุคาซาคุ ก็เลิกคิดที่จะต่อสู้กับ ไนโตะ และในเวลาเดียวกันเขาก็เดินเข้าไปหา ไนโตะ


ชิมะ ก็พยักหน้าและมองกลับไปที่ ไนโตะ ซึ่งกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาเช่นกัน


“เด็กหนุ่มที่แข็งแกร่ง ทำไมเจ้าถึงมาที่ ภูเขาเมียวโบคุ แห่งนี้?”


ไนโตะ สังเกตได้ว่าทั้ง ฟุคาซาคุ และ ชิมะ ไม่ต้องการจะต่อสู้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงมองอย่างใจเย็นและตอบกลับไปว่า


“สภาพแวดล้อมของ ภูเขาเมียวโบคุ แห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากและเต็มไปด้วยพลังงานธรรมชาติ ผมอยากฝึกโหมดเซียนของผมที่นี่”


ไนโตะ พูดถึงจุดประสงค์ของเขาตรง ๆ


ไม่มีการปกปิดและไม่จำเป็นต้องซ่อนอะไร เพราะมันชัดเจนว่าไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้


“เจ้าต้องการฝึกโหมดเซียนของเจ้าที่นี่งั้นรึ?!”


คาซาคุ และ ชิมะ ดูตกตะลึง พวกเขาทั้งคู่มองหน้ากันเพื่อดูว่าพวกเขาคิดเหมือนกันหรือไม่


เนื่องจาก ไนโตะ อยู่ใกล้ 2 เซียนใหญ่มากขึ้น ทำให้ทั้งคู่สามารถสัมผัสพลังงานธรรมชาติรอบ ๆ ตัว ไนโตะ ได้อย่างชัดเจน


ดูเหมือนว่าพลังงานธรรมชาติวังวนอยู่รอบตัวเขา


ความเร็วในการดูดซับพลังทำให้ทั้งคู่ตกใจมาก และเมื่อพวกเขารับรู้สภาพร่างกายของ ไนโตะ พวกเขาก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป


“นี่คือ…”


“เจ้ากำลังฝึกร่างกายให้เป็นอมตะ!”


ในขณะนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความสามารถของ ไนโตะ ในการดูดซับพลังงานธรรมชาติในปริมาณที่บ้าคลั่ง ไนโตะ พยายามที่จะเปลี่ยนร่างของเขาให้อยู่ในสภาพอมตะ โดยการผสานจักระจากพลังงานธรรมชาติเข้ากับเซลล์ร่างกายของเขา


แทนที่จะใช้เวลาหลาย 10 ปีในการฝึกฝน แต่เขากลับเลือกมาที่นี่เพื่อเขาสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติในจำนวนมหาศาลและเปลี่ยนร่างกายให้เป็นอมตะ!

 

 

 


ตอนที่ 254

 

ฟูคาซาคุ เข้าใจสิ่งที่ ไนโตะ พูด แต่ความรู้ของ ไนโตะ ทำให้ ฟูคาซาคุ ดูตกใจ


ร่างอมตะ


แม้ว่า ภูเขาเมียวโบคุ นั้นจะอยู่ตัดขาดจากโลกภายนอก แต่พวกเขาก็ยังตระหนักถึงเหตุการณ์สำคัญบางอย่างที่เกิดขึ้นที่ด้านนอก อย่างเช่น พวกเขารู้ว่าเกิด มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2


จึงเป็นเรื่องที่ไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้ถึงการมีอยู่ของร่างอมตะ


อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่มีความแข็งแกร่ง พวกเขามักเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ พวกเขาเพียงแค่ต้องพัฒนาความสามารถของตัวเองเพื่อให้ได้มาซึ่งมัน มันเป็นพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในพวกเขา มันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเรียนรู้ได้ในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน!


ไม่มีใครสามารถผลักดันร่างกายของเขาไปจนถึงขีดจำกัดได้โดยบังคับให้พลังงานธรรมชาติจำนวนมหาศาลเป็นตัวช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง


เมื่อคุณสูญเสียการควบคุมพลังงานธรรมชาติผลลัพธ์อาจถึงแก่ชีวิต


อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สำหรับ ไนโตะ เขาสามารถบังคับให้พลังธรรมชาติออกจากร่างกายของเขาได้ตลอดเวลา หากเขาไม่สามารถควบคุมมันได้


แต่ความจริงที่ว่า ไนโตะ รู้วิธีสร้างร่างอมตะ นั่นทำให้ ฟุคาซาคุ ตกใจเป็นอย่างมาก!


“ใช้แล้ว ผมถึงต้องการพลังงานธรรมชาติจำนวนมากและสถานที่แห่งนี้ก็มีมันอยู่อย่างมหาศาล” ไนโตะ มองไปที่ ฟุคาซาคุ และ ชิมะ จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “แล้วตกลง จะเป็นอะไรไหม ถ้าผมจะขอฝึกอยู่ที่นี่?”


ฟุคาซาคุ และ ชิมะ ไม่ตอบ และหน้าผากของพวกเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ


พวกเขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับมัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่า ไนโตะ แข็งแกร่งแค่ไหน แต่แค่ความแข็งแกร่งของโหมดเซียนของเขา ก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้พวกเขาทั้งคู่ได้อย่างง่ายดาย!


ความสามารถในการต่อสู้ของทั้งคู่ขึ้นอยู่กับพลังงานธรรมชาติ การปรากฏตัวของ ไนโตะ เพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถดูดซับมันได้ ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นแค่กบตัวเล็กธรรมดา ๆ เท่านั้น


“เราไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้…”


ฟุคาซาคุ หยุดหายใจลึก ๆ และกำลังจะพูดต่อ


แต่เมื่อ ฟุคาซาคุ กำลังจะพูดต่อ ก็มีกบที่ตัวใหญ่กว่าเขาเล็กน้อยพุ่งออกมาจากพงหญ้า


“ท่านฟุคาซาคุ ท่านชิมะ…ท่านปูทวด บอกว่า ให้ปล่อยคนนอกไปและปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการ ครับ”


กามะมารุ เป็นกบที่อาวุโสที่สุดและเป็นที่เคารพนับถือที่สุดของ ชาวเมียวโบคุ และเนื่องจากอายุของเขาแก่มาก กบที่เพิ่งมาถึงจงเรียกเขาว่า ท่านปูทวด


เขายังเป็นที่รู้จักกันในนาม เซียนกบใหญ่ ซึ่งมีชีวิตอยู่มาเป็นพัน ๆ ปีและเขาก็เคยได้พบกัน เซียน 6 วิถี ด้วยตัวเอง


“อะไรน่ะ?!”


ไม่ใช่แค่ ฟุคาซาคุ และ ชิมะ เท่านั้นที่แปลกใจ แต่แม้แต่กบตัวอื่น ๆ ก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเช่นกัน


เมื่อเห็นว่ากบทุกตัวไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด กบที่เพิ่งมาบอกก็ยื่นมือออกมาและพูดว่า “เฮ้ นี้เป็นคำพูดของ ท่านปูทวด น่ะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามท่านด้วยตัวเองสิ”


แน่นอนพวกเขาเชื่อในสิ่งที่กบตัวนั้นพูด เพราะใน ภูเขาเมียวโบคุ จะไม่มีการโกหกอะไรแบบนี้ และแน่นอนว่าจะไม่มีใครไม่เชื่อฟังคำสั่งของ กามะมารุ


เพราะนอกจากนี้แล้ว พวกเขามีทางเลือกอะไรอีกละ?


ไนโตะ แข็งแกร่งเกินไป พลังของเขามีมากอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าพวกเขาคิดที่จะต่อสู้กับ ไนโตะ พวกเขาทั้งหมดต้องตายแน่นอน!


……….


ลึกลงไปใน ภูเขาเมียวโบคุ


กบตัวหนึ่งที่ดูแก่มากกำลังนั่งถือถ้วยชาอยู่ในมือ


หลังจากที่ กามะมารุ จิบชา เขาก็ถอนหายใจออกมา


“ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น….”


“คำพยากรณ์…”


เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ ดวงตาของ กามะมารุ ก็เปิดเผยความวิตกกังวลออกมา


“ตามคำพยากรณ์ จะดีกว่าถ้าเราไม่เข้าไปยุ่งกับเขา อนาคตของโลกภายนอก และสงครามของมนุษย์ จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ภูเขาเมียวโบคุ แห่งนี้”


……….


บน ภูเขาเมียวโบคุ


กามะมารุ สั่งให้กบทุกตัวออกห่างจาก ไนโตะ และไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะทำ ดังนั้น ไนโตะ จึงสามารถเข้าและออกจากสถานที่นี้ได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการอย่างอิสระ ดันนั้น ไนโตะ จึงเดินลึกเข้าไปในภูเขามากขึ้น


มันเป็นภาพที่คุ้นเคยมาก


บริเวณนี้อยู่ใกล้น้ำตกและถูกล้อมรอบไปด้วยรูปปั้นที่สวยงามนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม รูปปั้นพวกนั้นก็คือผู้ที่ไม่สามารถควบคุมพลังงานธรรมาชาติเอาไว้ได้


ด้านหน้ารูปปั้นหินเหล่านี้มีน้ำตกขนาดเล็ก


สิ่งที่ไหลออกมานั้นไม่ใช่น้ำ แต่มันเป็นน้ำมันพิเศษที่ช่วยดูดซับพลังงานธรรมชาติเอาไว้ทีนี่


เพราะน้ำตกนี้ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังงานธรรมชาติ


และความเข็มของพลังงานธรรมชาติที่บริเวณนี้ก็มีมากกว่าที่อื่น ๆ ในภูเขา


ในการ์ตูน นารูโตะ ก็ได้มาฝึกโหมดเซียนที่นี่ และความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ


“นี่คือน้ำมันพิเศษที่ นารูโตะ ใช้สินะ แต่มันก็ดูเหมือนน้ำมันธรรมดา แล้วทำไมมันถึงดูดซับพลังงานธรรมชาติได้กันน่ะ?”


ไนโตะ อดไม่ได้ที่จะลองด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงจุ่มมือลงในสระน้ำมัน


และทันทีที่เขาจุ่มมือลงไป เขาก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของพลังงานธรรมชาติที่ไหลเข้าหาที่มือของเขาอย่างรวดเร็ว


พลังงานธรรมาชาติไหลเข้าสู่ ไนโตะ อย่างรวดเร็วจนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงาน ไนโตะ พยายามเทพลังงานที่ได้มาทั้งหมดเข้าสู่ประตูด่านพลัง แต่มันก็มากเกินไปที่เขาจะนำพลังเหล่านั้นเข้าสู่ประตูพลังได้ทัน


หลังจากนั้นเขาก็เอามือขึ้นจากสระแล้วเช็ดมือจนแห่ง ปรากฏว่าการดูดซับของเขากลับเป็นเหมือนปกติ แต่พลังงานที่เขาได้มาก่อนหน้านี้ก็ไหลเข้าสู่ประตูพลังทันที


“น่าสนใจแฮะ”


เมื่อมองไปที่มือของเขา ไนโตะ ก็โบกมือให้เบา ๆ ในอากาศ


คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นการไหลของพลังงานธรรมชาติได้ แต่ด้วยสัมผัสพิเศษของ  ไนโตะ เขาจึงสามารถมองเห็นได้ทุกสิ่ง


เมื่อใดก็ตามที่เขาโบกมือ การไหลของพลังงานก็จะเปลี่ยนไป


ฟุ้ม!


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ส่งคลื่นสั่นสะเทือนเข้าไปในมือของเขาเพื่อบังคับให้พลังงานธรรมชาติออกมา


“ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นอะไร พลังสั่นสะเทือน ก็สามารถควบคุมได้เสมอ”


ภาพนี้ทำให้ ไนโตะ รู้สึกโล่งใจ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะใช้น้ำมันพิเศษ แต่เขาก็ยังสามารถบังคับพลังธรรมชาติให้ออกจากร่างกายของเขาได้อย่างง่ายดายเหมือนเดิม เขาจึงไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะกลายเป็นหิน


หลังจากทำใจให้สงบ ไนโตะ ก็นั่งขัดสมาธินั่งข้างสระน้ำ และหลับตา จากนั้นการฝึกอย่างจริงจังก็เริ่มต้นขึ้นในที่สุด

 

 

 


ตอนที่ 255

 

“ท่านมาดาระ ไนโตะ หายตัวไปได้ 3 เดือนแล้ว”


เซ็ทสึ ยืนอยู่หน้า มาดาระ และรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกเบื้องบนเหมือนเช่นที่เขาเคยทำมาโดยตลอด


มาดาระ ดูพึงพอใจเล็กน้อย และด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เขาเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ได้เวลาแล้ว”


……..


ภูเขาเมียวโบคุ


น้ำมันไหลตกลงมาและไหลกลับไปยังสระน้ำ ในขณะที่ ไนโตะ กำลังนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ที่ขอบสระ


พลังงานธรรมชาติกำลังก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายน้ำวนอยู่รวมตัวกันรอบ ๆ ไนโตะ ในขณะที่เขานั่งอยู่ในใจกลางของกระแสพลังงานที่วนอยู่นั้น และดูดซับมันอย่างต่อเนื่อง


การไหลของพลังงานธรรมชาติที่น่ากลัวและรุนแรงนี้ สามารถสัมผัสได้ทั่วทั้งภูเขา


“เจ้านั่นใช้เวลานานกว่า 2 เดือนแล้วใช่ไหม?”


“3 เดือนแล้ว และฉันก็ไม่เคยเห็นการฝึกแบบนี้มาก่อน”


กบตัวเล็ก 2 ตัวกำลังคุยกัน ในขณะที่พวกเขากำลังเฝ้าดู ไนโตะ จากระยะไกล


เกือบ 3 เดือนแล้วที่ ไนโตะ มาอยู่ที่นี่และเริ่มฝึก


ตั้งแต่เขาเริ่มทำการฝึก เขาก็ไม่ได้นอนและไม่ได้ดื่มหรือกินอะไรเลย สิ่งที่เขาทำก็คือดูดซับพลังงานอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เขาอยู่นิ่งมากจนเหมือนกับเขาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ


การไหลของพลังงานธรรมชาติรอบตัวเขาน่ากลัว แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสถานที่นั้น


เพราะมีนกบินมาเกาะที่หัวของ ไนโตะ แต่มันก็ไม่เป็นอะไรเลย


ขณะนี้ ไนโตะ เติมพลังให้ประตูด่านพลังเต็มไปแล้วทั้งหมด 4 ประตู ยิ่งไปกว่านั้น ประตูด่านพลังบานที่ 5 ก็เกือบจะเต็มแล้วเช่นกัน


พลังงานธรรมชาติไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่พลังงานเหล่านั้นก็ไม่ได้เข้าไปผสานเข้ากับจักระของเขา แต่มันไหลเข้าสู่ประตูที่ 5 ในทันทีที่ ไนโตะ ดูดซับเข้าไป


ในที่สุด ประตูด่านพลังทั้ง 5 บานก็เต็มไปด้วยพลังงานธรรมชาติ


ในขณะนี้ การไหลของพลังงานธรรมชาติที่น่ากลัวรอบตัวของ ไนโตะ ก็เริ่มหยุดและสงบลงอย่างช้า ๆ จากนั้นมันก็กลับสู่สภาวะปกติ


เปลือกตาของ ไนโตะ สั่นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น


“ใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือน…ก็แหงล่ะ พลังงานธรรมชาติที่นี่มหาศาลขนาดนี้”


หลังจากพึมพำกับตัวเอง ไนโตะ ก็ยืนขึ้น นั่นทำให้นกที่เกาะอยู่บนหัวของเขาตกใจและบินหนีไป


เขาบิดขี้เกียดทันทีหลังจากที่เขายืนขึ้น หลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน มันไม่ดีต่อสุขภาพแม้แต่กับนินจาก็ตาม มีแต่สิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะเท่านั้นถึงจะทำแบบนั้นได้


ในตอนแรก เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่อาการก็หายไปได้อย่างรวดเร็ว


ยิ่งไปกว่านั้น ไนโตะ ก็สามารถรู้สึกได้ถึงการพัฒนาของเขาอย่างชัดเจน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ภายในร่างกายของเขา


ไนโตะ ไม่ลืมที่จะดูความสามารถในการฟื้นฟูของเขา


ไนโตะ ต้องการตรวจสอบความสามารถในการรักษาตัวเองของเขา ในตอนที่เขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ได้ ความสามารถในการรักษาของเขาก็ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากแล้ว แต่ตอนนี้หลังจากที่เขาเชี่ยวชาญโหมดเซียน และเข้าถึงบางส่วนของ โหมดเซียนขั้นที่ 2 ร่างกายของเขาก็เกือบจะเป็นอมตะแล้ว แต่แน่นอนว่ายังไม่ถึงระดับของ ฮาชิรามะ แน่นอน


เมื่อวิเคราะห์ความสามารถของร่างกายในตอนนี้ ไนโตะ ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ


“คงไม่ต้องดูดซับพลังงานธรรมชาติอีกแล้ว ตอนนี้ประตูด่านพลังทั้ง 5 บานได้รับการผสานเข้ากับพลังงานอย่างสมบูรณ์แล้ว หลังจากนี้เราก็จะดูดซับพลังงานแบบเดิม คงจะใช้เวลาอีกหลายเดือนละมั้ง”


หลังจากนั้นไม่นาน ไนโตะ ก็ค้นพบว่าระยะสัมผัสพิเศษของเขานั้นก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย ดูเหมือนว่าการฝึกร่างอมตะจะช่วยเสริมพลังวิญญาณของเขาด้วย


เขาสัมผัสได้ถึงสัตว์ต่าง ๆ เช่น มด และกบที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้หมดทั้งภูเขา แต่เขาก็รู้ว่าบนภูเขาแห่งนี้มีกบอยู่เป็นจำนวนมาก


ไนโตะ ไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เพราะเขาไม่ต้องการดูดซับพลังงานธรรมชาติอีกแล้วหลังจากที่เขาดูดซับมันมากว่า 3 เดือน และตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะเดินทางกลับหมู่บ้าน


เขาจะกลับมาที่นี่อีกหลังจากผ่านไป 2 – 3 เดือน และทำแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง


มันจะใช้เวลาไม่นานนัก เขาจะต้องทำซ้ำแบบนั้นอีก 2 – 3 ครั้ง แล้วเขาก็จะเข้าถึงโหมดเซียนขั้นที่ 2 อย่างสมบูรณ์


ฟึ๊บ!!


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เคลื่อนที่ชั่วพริบตาอยู่หลายครั้งเพื่อออกจากที่นี่


ปัจจุบันความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขานั้นเร็วมากจนดูเหมือนจะเห็นหนึ่งในวิชาเคลื่อนที่ชั่วพริบตา


ในไม่ช้า ไนโตะ ก็ออกจาก ภูเขาเมียวโบคุ


ก่อนที่เขาจะเริ่มการฝึก ไนโตะ ได้ขอให้กบส่งข้อความไปถึง โคโนฮะ และเนื่องจากพวกกบและ โคโนฮะ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน พวกเขาจึงยินดีที่จะส่งข้อความไปให้


จิไรยะ ตกใจมากเมื่อรู้ว่า ไนโตะ ไปที่ ภูเขาเมียวโบคุ เพื่อฝึกโหมดเซียนขั้นที่ 2 แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อว่ามันเป็นความจริง


ตอนนี้ จิไรยะ สามารถเข้าสู่โหมดเซียนได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เชี่ยวชาญเท่าไรนัก และทุกครั้งที่เขาเข้าโหมดเซียน ร่างของเขาก็จะเปลี่ยนไปคล้ายกับกบ และเมื่อเขาได้ยินจากกบว่าร่างของ ไนโตะ ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยมันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ไนโตะ ยังมีโหมดเซียนที่แข็งแกร่งกว่า โหมดเซียนของ ภูเขาเมียวโบคุ นั่นยิ่งทำให้เขาตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก


ในตอนแรก จิไรยะ ต้องการพา มินาโตะ ไปที่ ภูเขาเมียวโบคุ เพื่อฝึกวิชาเซียน อย่างไรก็ตามตอนนี้ มินาโตะ ก็กำลังฝึกหนักกับวิชา เทพอัสนีเวหา ของเขาอยู่ เขาจึงไม่มีเวลาไปที่นั้น


ดังนั้นในช่วงเวลาที่ ไนโตะ อยู่ที่ ภูเขาเมียวโบคุ จึงไม่มีใครมารบกวนเขา เหมือนกับที่ เซียนกบใหญ่ กามะมารุ สั่งเอาไว้


ตลอดทางเดินข้างหน้า ไนโตะ ไม่พบอุปสรรคใด ๆ เขาเคลื่อนที่ผ่าน แคว้นแห่งไฟ มาได้ครึ้งทางอย่างรวดเร็ว และเข้าใกล้หมู่บ้านเรื่อย ๆ


“ในที่สุดเราก็ได้กลับสักที คุชินะ คงจะคิดถึงเราจะแย่อยู่แล้วมั้ง”


ในขณะที่ ไนโตะ มองไปยังทิศทางที่ตั้งของหมู่บ้าน เขาก็ยิ้มเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกเดินทางมาเป็นเวลานาน แต่สำหรับ คุชินะ แล้ว แม้ว่าเขาจะหายไปแค่ 3 เดือน แต่มันก็เหมือน 3 ปีสำหรับเธอ


แต่ทันใดนั้น ในขณะที่ ไนโตะ กำลังเข้าใกล้หมู่บ้านขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็ต้องเบิดตากว้างด้วยความตกใจ


“เกิดอะไรขึ้น?!”


ไนโตะ เร่งความเร็วขึ้น ในขณะที่สีหน้าของเขาแสดงถึงความตกใจเป็นอย่างมาก


โลกกำลังมีช่วงเวลาที่สงบสุข และไม่มีสัญญาณของการเกิด สงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 แล้วทำไมเขาถึงสัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือนรุนแรงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน


การสั่นสะเทือนที่ทรงพลังนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือสัญญาณของการต่อสู้ที่ดุเดือด!

 

 

 


ตอนที่ 256

 

คร๊ากก!!!


เสียงคำรามดังสนั่นไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ในขณะที่สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่มี 9 หาง ฟาดกรงเล็บลงบนพื้นจนทำให้พื้นดินแตกกระจาย


เมื่อ 9 หาง โจมตี นินจาโคโนฮะ จำนวนมากก็พากันส่งเสียงตระโกนและกรีดร้องด้วยความวุ่นวาน


“ทีมที่ 4  ถอยก่อน! ทีมที่ 5 ตามฉันมา!”


ซารุโทบิ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ยืนอยู่แนวหน้าของสนามรบ เขาสวมชุดออกรบอย่างเต็มยศและในมือของเขาก็ถือกระบองอันหนึ่งเอาไว้ นั่นก็คือ ราชาวานร เอ็นมะ


9 หาง ที่อยู่ด้านหน้าเขาดูบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก มันสะบัดหางไปรอบ ๆ และคำรามอย่างต่อเนื่อง


“บ้าเอ้ย…ผนึก 8 ทิศ เป็นผนึกที่แข็งแกร่งที่สุด! แล้วมันทำลายผนึกได้ยังไง!”


ที่ด้านหลังของ ซารุโทบิ หมู่บ้านส่วนใหญ่ถูกทำลาย อุซึมากิ เมอิ กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ มินาโตะ ในขณะที่พวกเขาทั้งคู่ดูกังวลเป็นอย่างมาก


9 หางหลุดออกมา เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ยุคก่อตั้งหมู่บ้าน เพราะผนึกของ ตระกูลอุซึมากิ มีความแข็งแกร่งและทรางพลังมากพอที่จะผนึก 9 หางเอาไว้ได้


แม้ว่า เหตุการณ์นี้จะไม่แปลกหากเกิดขึ้นกับหมู่บ้านอื่น เพราะพวกเขาไม่มีผนึกที่แข็งแกร่งแบบ โคโนฮะ


อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ 9 หางก็หลุดออกมาได้!


ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะเกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้ คุชินะ ไม่มีเวลาได้ส่งข้อความเตือนถึงหมู่บ้าน หลังจากที่ผนึกได้คลายออกแล้ว เธอก็คงถูกครอบงำโดยจักระที่แข็งแกร่งของ 9 หางในทันที


คร๊ากก!!


ในทันใดนั้น 9 หางก็ต้องมาที่ ซารุโทบิ และโจมตีเขาด้วยกรงเล็บในทันที


9 หาง อาจจะตัวใหญ่ แต่การเคลื่อนไหวของมันนั้นเร็วมาก ในไม่ช้า กรงเล็บของมันก็มาอยู่เหนือหัวของ ซารุโทบิ แล้ว และเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากป้องกันมันด้วยกระบองของเขา


ตู้ม!!


แม้ว่า ซารูโทบิ จะใช้ความสามารถพิเศษของกระบองของเขาคือการยืดออกไป แต่ 9 หางก็ยังคงดันกรงเล็บลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งพื้นดินที่อยู่ใต้เท้าของเขาไม่สามารถทนต่อพลังนั้นได้อีกต่อไป จนเริ่มร้าวและแตกออก


“ท่านโฮคาเงะ!”


ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็โผล่เข้ามาและตัดกรงเล็บของ 9 หาง ซึ่งทำให้ 9 หางต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด


เขาก็คือ ฮาตาเคะ ซาคุโมะ!


ซารุโทบิ กระโดดออกจากรอยแตกบนพื้นแล้วส่ายหัว


“ฉันไม่เป็นไร”


กรงเล็บของ 9 หาง เพิ่งถูกตัดขาดไป แต่จักระของมันก็หุ้มแผลเอาไว้และกรงเล็บของมันก็งอกขึ้นมาใหม่


พลังการทำลายล้างของ สัตว์หาง นั้นรุนแรงมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือร่างกายของพวกมันถูกสร้างขึ้นจากจักระ ซึ่งทำให้พวกมันสามารถงอกส่วนใดก็ได้ของร่างกายออกมาได้อย่างไม่สิ้นสุด


เป็นการยากที่จะเอาชนะมันได้ เว้นแต่คุณจะโจมตีมันด้วยการโจมตีที่ทำให้มันไม่สามารถฟื้นฟูได้ทัน


แน่นอนว่า สัตว์หาง ตัวนี้ไม่ใช่ 8 หาง มันคือ 9 หาง ซึ่งแข็งแกร่งกว่า แม้ว่า ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 จะสามารถต่อสู้กับ 8 หางได้ทุกครั้ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำแบบนั้นกับ 9 หาง


ไม่มีหวังที่จะสู้กับมัน การสู้กับมันจะหมายถึงจุดจบของหมู่บ้านเท่านั้น


“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน…”


ซาคุโมะ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซารุโทบิ สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ไม่สำคัญว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ผนึกได้คลายออกอย่างสมบูรณ์แล้ว เราต้องจัดการมันและทำการผนึกมันใหม่อีกครั้ง”


“อื้ม!”


ซารุโทบิ พยักหน้าแล้วเขาก็วิ่งเข้าหา 9 หาง พร้อมกับ ซาคุโมะ ทันที


ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ ซารุโทบิ เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ครั้งนี้เขาวิ่งเข้าหา 9 หาง พร้อมกับ ซาคุโมะ และทีมนินจาของ ซาคุโมะ


โอโรจิมารุ , จิไรยะ และ ซึนาเดะ เพิ่งมาถึงสนามรบ พวกเขาเพิ่งรู้ว่าหมู่บ้านถูก สัตว์หาง โจมตี


ในเวลาไม่นาน เหล่านินจาที่แข็งแกร่งที่สุดของ โคโนฮะ ก็มารวมตัวกันอยู่ที่สนามรบและต่อสู้กับ 9 หาง


พวกเขาใช้คาถานินจาที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาอย่างต่อเนื่องจนพวกเขาสามารถไล่ต้อนมันได้และทำให้มันต้องถอยหลัง


“เยี่ยมมาก พวกเราทำได้!”


“ท่านโฮคาเงะ และ ท่านซาคุโมะ แข็งแกร่งมาก และ 3 นินจาในตำนาน ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน!”


เมื่อเห็นว่าพวกเขาไล่ต้อน 9 หาง ได้ นินจาบางตัวในสนามรบก็อดไม่ได้ที่จะเปิดเผยความสุขออกมา


อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ ไม่ได้รู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขากลับเป็นกัลวลมากขึ้นกว่าเดิม


เพราะพวกเขารู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!


คร๊ากก!!


หลังจากถูกการโจมตีสุดท้ายของ ซารุโทบิ ทำให้ 9 หาง เหมือนกับอยู่ในสภาวะมึนงง มันไม่สามารถตั้งเป้าไปที่ใครได้ ทำให้ตอนนี้มันอาละวาดและบ้าคลั่งอย่างเต็มที่ มันเงยหน้าขึ้นฟ้าและคำรามเสียงดัง ทันใดนั้นจักระจำนวนมากก็กระจายออกไป ทำให้ทั่วทั้งสถานที่นั่นสั่นสะเทือนพร้อมกับหัวใจของผู้คนที่อยู่ในสนามรบ


ต่อหน้า นินจาโคโนฮะ ทุกคนรวมถึง ซารุโทบิ จักระที่น่ากลัวนี้ทำให้ทุกคนตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว!


จำนวนจักระของ 9 หาง มหาศาลจนไม่มีมนุษย์คนไหนเทียบได้


อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของนินจาไม่สามารถวัดได้ด้วยจำนวนจักระ เห็นได้จากการร่วมมือกันของนินจาจำนวนมาในการเอาชนะ สัตว์หาง ในการ์ตูน


แต่สำหรับ 9 หาง นั้นต่างออกไป


9 หาง เป็น สัตว์หาง ที่แข็งแกร่งที่สุด มันไม่เพียงแต่มีจักระที่มากที่สุดในบรรดา สัตว์หาง แต่มันยังมีความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย!


ภายใต้ความบ้าคลั่งของจักระที่น่ากลัว 9 หาง ก็อ้าปาก และบอลจักระที่น่ากลัวก็ก่อตัวขึ้น


กระสุนสัตว์หาง!!


เมื่อพวกเขาเห็นภาพนี้ เม็ดเหงื่อจำนวนมากก็เริ่มปรากฏขึ้นที่หน้าผากของทุกคน พวกเขาทุกคนรู้ว่าจักระจำนวนมหาศาลขนาดนี้สามารถทำลายล้างได้ขนาดไหน!


“จักระนี้…อันตรายมาก!”


โอโรจิมารุ ดูหวาดกลัวและพร้อมที่จะล่าถอย


“โดนเข้าไปไม่รอดแน่!”


จิไรยะ ก็ดูหวาดกลัวเช่นกัน “เราไม่มีทางหยุดมันได้! บ้าเอ้ย คงถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องใช้โหมดเซียนแล้วสินะ ถึงฉันจะยังไม่ชำนาญก็ตาม”


ซึนาเดะ กำหมัดของเธอแน่น แล้วพูดว่า “ไม่ว่าจะยังไง เราก็จะปล่อยให้มันทำลายหมู่บ้านไม่ได้”


ฟื้บ!!!


ในที่สุด กระสุนสัตว์หาง ก็พร้อมแล้ว และอากาศก็ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก ในขณะที่ทั่วทั้งสถานที่สั่นไหวเมื่อ กระสุนสัตว์หาง มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ


ฟื้บ!!


ทันใดนั้น กระสุนสัตว์หาง ก็หยุดขยายขนาด และ 9 หาง ก็ยิงมันไปยัง ซารุโทบิ และคนอื่น ๆ อย่างไม่ลังเล


“มันมาแล้ว!”


“ระวัง!”


“เราต้องหยุดมันให้ได้!”


ทุกคนมายืนเรียงหน้ากระดานติดกัน ในขณะที่สายตาของพวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่บอลจักระขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งตรงมาหาพวกเขา


พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหยุดมันให้ได้


ไม่ว่าพวกเขาต้องแลกมาด้วยชีวิตก็ตาม!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม