The Strongest Hokage 246-252

ตอนที่ 246

 

สัมผัสพิเศษ คือความสามารถด้านประสาทสัมผัส และความสามารถด้านประสาทสัมผัสโดยทั่วไปจะเชื่อมโยงกับพลังวิญญาณ ซึ่งทำให้มันเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของผู้ใช้


วิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น จะทำให้สัมผัสพิเศษแข็งแกร่งขึ้นเองตามธรรมชาติ


ไนโตะ ใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการฝึกอย่างหนักเพื่อทำให้สัมผัสพิเศษสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติได้


แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจาก ดาบสะบั้นเมรัย แต่เขาก็ยังสามารถรับรู้ถึงการไหลของพลังงานธรรมชาติได้


ก่อนหน้านี้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะสัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติ มันเหมือนตกปลาในในทะเลทราย แต่ตอนนี้เขาสามารถรู้สึกถึงมันได้จากทุกทิศทาง


ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผ่านการฝึกในครั้งนี้ โลกที่มองเห็นด้วยสัมผัสพิเศษของเขาก็ได้รับการอัพเกรด และตอนนี้มันไม่ได้เป็นสีขาวดำอีกต่อไป ในที่สุดเขาก็สามารถเพิ่มสีให้กับมันได้!


พลังงานธรรมชาตินั้นช่วยเพิ่มการรับรู้ของผู้ใช้ มันไม่เพียงเพิ่มความเร็วและความแข็งแกร่ง แต่มันยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสกับสภาพแวดล้อมของเขาได้ดีขึ้น


ไนโตะ ยังไม่ได้เริ่มฝึกวิชาเซียน แต่หลังจากเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถควบคุมมันได้เล็กน้อยแล้ว!


ด้วยการควบคุมมัน ไนโตะ ก็สามารถผสานระหว่าง สัมผัสพิเศษ และ พลังงานธรรมาชาติ เพื่อเปิดโลกใหม่ได้ในที่สุด


โดยไม่ต้องฝึกวิชาเซียน แต่ ไนโตะ ก็สามารถควบคุมพลังงานธรรมชาติได้ ซึ่งเป็นความสามารถใหม่ของ ไนโตะ ที่เขาค้นพบด้วยตัวเอง


พลังสั่นสะเทือน มีผลต่อ พลังงานธรรมชาติ!


ไนโตะ สามารถควบคุมพลังงานธรรมชาติและเปลี่ยนการไหลของมันด้วยการใช้ พลังสั่นสะเทือน ในอากาศ


การฝึกสัมผัสพิเศษกลายเป็นการฝึกวิธีการควบคุมพลังงานธรรมชาติ


ไนโตะ ค้นพบวิธีการควบคุมพลังงานธรรมชาติบังเอิญ ซึ่งทำให้ปัญหาที่เขามีก่อนหน้านี้ คือปัญหาเรื่องจักระของเขาได้รับการแก้ไขในที่สุด!


ก่อนหน้านี้ ไนโตะ ต้องการฝึกวิชาเซียน แต่เขาก็ไม่สามารถสัมผัสพลังงานธรรมชาติได้ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถควบคุมมันได้


แต่ตอนนี้ ไนโตะ มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่างแล้ว


ทันทีที่เขาแก้ไขปัญหานั้นได้ ทุกอย่างก็ราบรื่น


หลังจากที่เขารู้สึกถึงการไหลของพลังงานธรรมชาติ ไนโตะ ก็ตระหนักว่าทุกสิ่งในโลกนี้มีความผันผวนในตัวเอง


แม้ว่ามันจะแผ่วเบาเป็นอย่างมาก แต่พลังงานธรรมชาติทำให้เขาสามารถตรวจจับการมีอยู่ของมันผ่านความผันผวนที่เกิดขึ้นได้


ด้วยวิธีนี้ ไนโตะ จึงสามารถเพิ่มสีให้กับโลกของสัมผัสพิเศษของเขาได้


หลังจากที่เขารวม พลังงานธรรมชาติ เข้ากับ สัมผัสพิเศษ ก็ทำให้ ไนโตะ เหมือนกับจะสามารถเชื่อมต่อกับทุกวัตถุภายในขอบเขตของสัมผัสพิเศษของเขา


ดูเหมือนว่า เขาสามารถสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ของวัตถุได้


ในที่สุด ไนโตะ ก็ได้สร้าง โหมดเซียน ของตัวเองขึ้นมา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รูปร่างของเขาเปลี่ยนไปเหมือนกับ จิไรยะ และ นารูโตะ หรือเปลี่ยนไปเหมือน คาบุโตะ


มันเป็นโหมดเซียนที่ไม่เคยมีมาก่อน


ถ้าเขาต้องการที่จะเดินตามรอย นารูโตะ เขาก็ทำได้ หรือถ้าเขาต้องการที่จะเรียนรู้ วิชาเซียนงู เขาก็สามารถทำได้เช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่ได้คิดว่าจะฝึกแค่วิชาเซียนวิชาใดวิชาหนึ่ง นั่นคือสาเหตุที่เขายังคงพัฒนาวิชาต่อไป


แน่นอนว่า โหมดเซียน ที่ ไนโตะ สร้างขึ้นนั้นยังไม่สมบูรณ์ มันเป็นแค่ต้นแบบดังนั้นมันจึงยังคงมีความเสี่ยงที่จะฝึกอยู่บ้าง


ในเวลาต่อมา ไนโตะ ก็เริ่มปรับปรุงและพัฒนามันทีละเล็กละน้อย เพื่อทำให้มันเหมาะสำหรับกับเขามากขึ้น


ในที่สุด ด้วยความเข้าใจพลังงานธรรมชาติ เขาก็เริ่มฝึกโหมดเซียน


ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ เขาจึงเริ่มพิจารณาการไหลของพลังงานธรรมชาติและเริ่มดูดซับมัน นอกจากนี้เขายังใช้ พลังสั่นสะเทือน เพื่อบังคับให้พลังงานธรรมชาติออกจากร่างกายเขา หากเกิดข้อผิดพลาดจนเขาไม่สามารถควบคุมมกันได้


มันเหมือนกับตอนที่ นารูโตะ เพิ่งเริ่มเรียนวิชาเซียน แล้ว ท่านฟุคาซาคุ ใช้ไม้เท้าเพื่อตีเขาและทำไล่พลังงานธรรมชาติออกจากร่างกายของเขา


ตรงกันข้ามกับ นารูโตะ ไนโตะ ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้เท้า


เพราะ พลังสั่นสะเทือน สามารถไล่พลังงานธรรมชาติออกจากร่างกายของ ไนโตะ ได้ทันทีที่เขาต้องการ ดังนั้นความเสี่ยงของการฝึกของเขาจึงลดลงจนเกือบเป็น 0 ตราบใดที่เขาระมัดระวังก็จะไม่มีปัญหาใด ๆ


ในการ์ตูน นารูโตะ มีจักระจำนวนมหาศาล และเขาก็ยังมีสัมผัสที่ช่วยให้เขารับรู้ถึงการไหลของพลังงานธรรมชาติได้ นอกจากนี้ยังมี ท่านฟุคาซาคุ ที่ค่อยสอนเขาและให้คำแนะนำที่ยอดเยี่ยมแก่เขา แต่เขาก็เข้าสู่โหมดเซียนได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น


เมื่อเทียบกับจักระของ ไนโตะ เขาก็มีจักระจำนวนมากเช่นกัน และมันก็สูงกว่าระดับของ คาเงะ!


นอกจากนี้ ไนโตะ ก็ยังมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่า นารูโตะ


นั่นคือ นารูโตะ ต้องการดูดซับพลังงานธรรมชาติทีละขั้นตอนผ่านการนั่งสมาธิ เพื่อที่เขาจะได้รู้สึกถึงการไหลของมัน ในขณะที่ ไนโตะ สามารถตรวจจับมันได้ด้วยสัมผัสพิเศษ และสามารถดูดซับมันได้แม้ว่า ไนโตะ เคลื่อนไหวอยู่!


โหมดเซียน นี้ถูกสร้างขึ้นโดย ไนโตะ และมันก็เป็นของเขาคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการใช้งานก็แตกต่างจากโหมดเซียนอื่นโดยสิ้นเชิง


ไนโตะ ไม่ดูดซับพลังงานธรรมชาติ แต่เขาควบคุมมัน!


ไนโตะ ไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดในการเรียนรู้โหมดเซียน


1 อาทิตย์?… 1 เดือน?… 3 เดือน?


ยังไม่มีความแน่ชัดในเรื่องนี่ แต่ นารูโตะ ก็เคยประสบความสำเร็จในการเรียนรู้โหมดเซียนในเวลาเพียงแค่ 10 วัน!


มันฟังดูเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ จริง ๆ แล้ว ไนโตะ คิดว่าเขาจะทำได้เร็วกว่า นารูโตะ เล็กน้อย


เพราะสิ่งที่ท้าทายที่สุดเกี่ยวกับมันก็คือความสามารถในการรับรู้การไหลของพลังงานธรรมชาติและวิธีการควบคุม


ปัจจัยเหล่านี้ ไนโตะ ได้ข้ามมันมาแล้ว เหลือแต่เพียงทำให้พลังงานผสมผสานกับจักระของเขาได้เพียงเท่านั้น


วึ้ม!!


ดาบสะบั้นเมรัย ดูดซับพลังงานธรรมชาติจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ ไนโตะ ที่นั่งถัดจากมันกลายเป็นจุดพลังงานธรรมาชาติจุดเล็ก ๆ ไปเลย


แต่ทันใดนั้น พลังงานธรรมชาติและจักระก็ได้รับการผสมผสานอย่างสมบูรณ์ และในวินาทีต่อมา จุดสีแดงจาง ๆ ก็ ปรากฏขึ้นรอบ ๆ คิ้วของ ไนโตะ


จุดสีแดงนี้ค่อย ๆ ปรากฏเยอะขึ้นจนล้อมรอบดวงตาของเขา เหมือนกับของ ฮาชิรามะ และในที่สุดโหมดเซียนของ ไนโตะ ก็ตื่นขึ้นมา


เมื่อมันปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว ในที่สุด ไนโตะ ก็ลืมตาขึ้น!

 

 

 


ตอนที่ 247

 

ด้วยโหมดเซียนนี้ ทำให้ทั้ง ความเร็ว ,ความแข็งแกร่ง และการป้องกันของ ไนโตะ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย


“ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นสินะ งั้น พลังสั่นสะเทือน ก็คงจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย แต่ก็คงต้องเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ให้ได้ก่อน มันถึงจะพัฒนาไปถึงขั้นที่ 6”


ไนโตะ ลืมตาขึ้นและมองดูสภาพร่างกายของเขา


จากนั้นเขาก็ยืนขึ้น และมองดูที่มือแล้วกำหมัด ตอนนี้เขาพร้อมที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของพลังใหม่ของเขาแล้ว


เขาเดินตรงไปที่ภูเขาแล้วเหวี่ยงหมัดออกไป


ตู้ม!!!


ในวินาทีต่อมา ภูเขาทั้งลูกก็พังทลายลง และป่าที่อยู่ด้านหลังภูเขาลูกนั้นก็ถูกทำลายด้วยเช่นกัน


“ถึงพลังจะไม่เพิ่มขึ้นเท่าไร แต่ก็ยังถือว่าเพิ่มอยู่ น่าเสียดายที่การฝึกโหมดเซียนไม่ได้ช่วยให้เราเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ได้ง่ายขึ้นสักเท่าไร”


ไนโตะ มองไปที่หมัดของเขา จากนั้นเขาก็ดึงมันกลับมาและถอนหายใจ


สิ่งที่เขาได้จากการฝึกในครั้งนี้ก็คือ โหมดเซียนของเขาเท่านั้น


เนื่องจากเขาสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้ขณะที่เคลื่อนไหว โหมดเซียนของเขาจึงใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง!


และ พลังสั่นสะเทือน ก็ไม่ได้ใช้จักระมากเท่าไรนัก ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะใช้พลังงานธรรมชาติในการต่อสู้มันก็จะใช้เพียงน้อยนิดเช่นกัน นั่นอาจพูดได้ว่า ไนโตะ สามารถใช้โหมดเซียนได้ตลอดเวลา


แน่นอนว่า โหมดเซียนนี้ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของ ไนโตะ


สิ่งที่เขาต้องการก็คือ เขาต้องการสำเร็จโหมดเซียนของ ฮาชิรามะ!


โหมดเซียน ที่ได้รับการขนาดนามว่า โหมดเซียนอมตะ!


มีเพียงโหมดเซียนนั้นเท่านั้นที่สามารถสนองความพึงพอใจของ ไนโตะ ได้ แม้ว่าโหมดเซียนที่เขาคิดค้นขึ้นมาจะสามารถใช้ได้อย่างถาวร แต่มันก็ยังแตกต่างกันอยู่


โหมดเซียนของ ไนโตะ ในตอนนี้เหมือนกับของ นารูโตะ ในการ์ตูน แต่มันอาจสมบูรณ์แบบกว่าของ นารูโตะ เพราะ ไนโตะ สามารถใช้มันได้ตลอดเวลา


ไนโตะ เรียกสิ่งนี้ว่า โหมดเซียนขั้นแรก


มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติและรวมเข้ากับจักระของคุณได้


แม้ว่า ไนโตะ จะสามารถใช้มันได้ตลอดเวลา แต่มันก็ไม่เหมือนกับโหมดเซียนของ ฮาชิรามะ


มันเป็นหนึ่งในความสำเร็จของ ฮาชิรามะ โหมดเซียนที่สมบูรณ์แบบที่สุด และ ไนโตะ ก็จัดให้มันเป็น โหมดเซียนขั้นที่ 2!


นั่นคือ เซลล์ของร่างกายจะถูกผสมเข้ากับพลังงานธรรมชาติ จนร่างกายสามารถสร้างพลังงานธรรมชาติขึ้นมาใช้ได้เอง


นั้นเป็นเหตุผลที่ ฮาชิรามะ สามารถใช้งานโหมดเซียนได้อย่างง่ายดาย แม้ในขณะที่เขากำลังเคลื่อนไหวก็ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ในการใช้มัน


โหมดเซียนแบบนี้ จะให้ร่างกายที่เป็นอมตะแก่ผู้ใช้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จในการฝึกโหมดเซียนนั้นได้ และดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่ลูกหลานของ อาชูร่า เท่านั้นที่สามารถทำได้ แต่ ไนโตะ ก็เชื่อว่าเขาจะสามารถทำมันได้ด้วยการฝึกของเขา


ไม่มีใครยืนอยู่บนท้องฟ้าตั้งแต่เริ่มต้น แม้แต่ เซียน 6 วิธี ก็ตาม


ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้น


แม้แต่ คางูยะ ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ก่อนที่เธอจะกินผลของต้นไม้เทพเจ้าเข้าไป


สิ่งที่ ไนโตะ ต้องทำก็คือการฝึกหนักอย่างต่อเนื่อง ทีละขั้นทีละตอน เพื่อที่เขาจะได้ไปถึงท้องฟ้าที่ซึ่งคนเหล่านั้นยืนอยู่


โหมดเซียนขั้น 2 จะมอบร่างอมตะ


มันจะเพิ่มความเร็ว และความแข็งแกร่งให้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความสามารถในการรักษาผู้ใช้วิชาโดยไม่จำเป็นต้องประสานอิน


สมบูรณ์แบบที่สุด สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าที่ ไนโตะ มีในตอนนี้


สิ่งที่ท้าทายที่สุดก็คือ วิธีผสมผสานพลังงานธรรมชาติเข้ากับเซลล์ของร่างกาย


หลังจากคิดอยู่นาน ไนโตะ ก็ได้คำตอบในที่สุด


กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังแบบย้อนกลับ สามารถทำแบบนั้นได้


เขาแค่ต้องผสานพลังงานธรรมชาติเขากับ ประตูด่านพลังทั้ง 5 บานที่เขาเปิดได้แล้ว และพลังงานธรรมชาติจะค่อย ๆ รวมเข้ากับมันและเปลี่ยนแปลงร่างของ ไนโตะ


มันจะทำให้เซลล์ในร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะค่อย ๆ แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา


แน่นอนว่าความเร็วของกระบวนการนี้จะช้า


สำหรับ ไนโตะ นี่คือการก้าวกระโดด ในที่สุดเขาก็รู้สึกโล่งใจ เพราะถ้าเขาสามารถฝึกโหมดเซียนนั้นได้สำเร็จ เขาก็จะ เปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ได้!


ตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องการคือการรักษาพลังงานธรรมชาติไว้ในตัวเขาให้ได้ และควบคุมมันให้ได้ตลอดเวลา เพื่อให้มันค่อย ๆ รวมเข้ากับเซลล์ของเขาและค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงร่างกายของเขา


แน่นอนว่า แม้ว่าเขาจะพยายามดูดซับพลังงานธรรมชาติมากขึ้น แต่ความคืบหน้าก็ไม่ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรก มันยากมากที่จะรวมพลังงานธรรมชาติเข้ากับเซลล์ของเขาโดยตรงและมันมักจะสูญเปล่าเป็นส่วนใหญ่


“ในที่สุด ฉันก็พบเส้นทางที่ถูกต้องในการ เปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 เหลือก็แค่บานที่ 7 และ 8 เท่านั้น แล้วฉันจะเปิดมันได้ยังไงกันล่ะ หรือว่าฉันต้องทำโหมดเซียนให้เป็นขั้นที่ 3 ?”


ไนโตะ รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายได้ เลือดกำลังสูบฉีดอย่างต่อเนื่องผสมกับพลังงานธรรมชาติ มันค่อย ๆ ผสมกับร่างกายของเขาและค่อย ๆ เปลี่ยนร่างกายของเขา


หลังจากโหมดเซียนขั้นที่ 2 ก็ยังมี โหมดเซียนขั้นที่ 3 อยู่อีก


จริง ๆ แล้วโหมดเซียนขั้นที่ 3 ไม่ได้จัดว่าเป็นโหมดเซียน แต่มันได้ชื่อใหม่ว่า


โหมดเซียน 6 วิถี!


โหมดนี้ตั้งชื่อตาม เซียน 6 วิถี ดังนั้นจึงเรียกว่า โหมดเซียน 6 วิถี


ในการ์ตูน มาดาระ ตอนกลายเป็น พลังสถิตร่าง ของ 10 หาง ก็มีร่างเป็นอมตะที่แข็งแกร่งกว่า ฮาชิรามะ และแข็งแกร่งกว่า โหมดเซียน 6 วิถี


แม้ว่าเขาจะถูกโจมตีด้วยการระเบิดพลังครั้งสุดท้ายของ ไก แต่เขาก็ยังไม่ตาย แม้ว่าตัวเขาเองจะบอกว่าเขาเกือบจะถูกฆ่าแล้วก็ตาม


การโจมตีของ ไก ทำให้ร่างของ มาดาระ หายไปเกือบครึ่งหนึ่ง แต่เขาก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าตอนนั้น มาดาระ อยู่ในโหมดเซียนขั้นที่ 2 เขาก็อาจจะตายไปแล้วก็ได้


“ถ้าใช้วิธีเดียวกับ มาดาระ ฉันคงต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี ถึงจะได้ร่างกายที่เป็นอมตะ…แต่ด้วย กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังแบบย้อนกลับ ฉันอาจใช้เวลาน้อยกว่า 10 ปี ที่จะทำมันได้สำเร็จ”


ไนโตะ ยืนขึ้นและเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์


ในขณะที่เขายังคงสังเกตเห็นการไหลของพลังงานธรรมชาติในร่างกายของเขา และคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องทำหลังจากนี้


ดาบสะบั้นเมรัย ที่ลอยอยู่ถัดจาก ไนโตะ ก็หยุดดูดซับพลังงานธรรมชาติ!

 

 

 


ตอนที่ 248

 

ไนโตะ รู้สึกกลัวเล็กน้อยในช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ดาบดูดซับพลังงานธรรมชาติ


เพราะมันเป็นก้อนพลังที่ใหญ่มาก!


ความเร็วในการดูดซับและปริมาณพลังงานธรรมชาติช่างน่ามากจนกลัวจริง ๆ!


และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มันเกิดขึ้นนานกว่า  1 เดือน


แต่จู่ ๆ มันก็หยุด!


ความเงียบเข้าครอบคลุมสถานที่


เมื่อ ดาบสะบั้นเมรัย หยุดดูดซับพลังงานธรรมชาติ ทุกอย่างก็สงบลงครู่หนึ่ง แม้แต่ ไนโตะ ก็หยุดการฝึกและจ้องมองไปที่น้ำเต้าที่ลอยอยู่ในอากาศ


ทันใดนั้นรอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนน้ำเต้า


แคร๊ก!!


เสียงดังคล้ายเสียงเปลือกไข่ร้าว รอยร้าวนั้นกระจายไปจนทั่วผิวของน้ำเต้า และในที่สุดน้ำเต้าทั้งใบก็เต็มไปด้วยรอยร้าว


ตู้ม!!


น้ำเต้าของ ดาบสะบั้นเมรัย ระเบิดออกมาพร้อมกับเสียงที่ดังกึกก้องจนทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน


ในขณะนั้น เกิดแสงจ้าราวกับว่ามีดวงอาทิตย์ลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับแสงจ้าที่ส่องประกายจนทำให้ ไนโตะ มองไม่เห็นไปชั่วขณะหนึ่ง และด้วยพลังระเบิดของมันก็ทำให้พื้นดินรอบ ๆ มันถูกทำลาย


อย่างไรก็ตาม ด้วยการสะบัดมือเบา ๆ ของ ไนโตะ แรงระเบิดนั้นก็ถูกหยุดและถูกปิดกั้นไม่ให้กระจายออกไป


แต่ถึงอย่างนั้น ผลกระทบของการระเบิดก็ทำให้ภูเขาหลายลูกแถว ๆ นั้นถล่มลงมา


มันเป็นการระเบิดของพลังงานธรรมชาติจำนวนมหาศาล มันปะทุและระเบิดออกมา เห็นได้ชัดว่าดาบไม่สามารถดูซับมันได้อีกต่อไปในช่วงสุดท้าย


อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่ปล่อยให้พลังงานธรรมชาติที่ระเบิดออกมานั้นเสียเปล่า ในวินาทีต่อมา เขาก็พยายามดูดซับพลังงานที่ระเบิดออกมาทั้งหมดเขาสู่ร่างกายเขาและบังคับให้มันไหลตรงไปสู่ ประตูด่านพลังบานแรกของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ…ชิมง ประตูแห่งความตาย


ปริมาณพลังงานธรรมชาติที่เขาเพิ่งดูดซับเข้าไปนั้นเท่า ๆ กับปริมาณพลังงานธรรมชาติที่เขาดูดซับมาตลอดทั้งเดือน!


ไนโตะ อดไม่ได้ที่จะแสดงความประหลาดใจออกมา


แต่นี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปยังที่ที่น้ำเต้าเคยลอยอยู่


น้ำเต้าของดาบสะบั้นเมรัย ถูกทำลายไปหมดแล้ว ในขณะที่บางอย่างส่องแสงอยู่ มันคืออาวุธชิ้นใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการรวมกันของ ดาบคุซานางิ ทั้ง 3 เล่น


แสงสีทองค่อย ๆ เริ่มจางหายไปอย่างช้า ๆ


ไนโตะ ตกใจมากเมื่อเขามองเห็นอาวุธใหม่ในวินาทีแรก


มันเหมือนกับลูกบอลแสงสีทองที่แปลกประหลาด


เพราะมันดูไม่เหมือนกับอาวุธ และไม่เหมือนกับ ดาบคุซานางิ เล่มไหนเลย


อย่างไรก็ตาม ลูกบอลแสงนี้ก็ไม่ได้ทำให้แสบตา ราวกับว่ามันทำมาจากแก้ว


และเขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อบางอย่างระหว่าง 2 สิ่ง


ในขณะที่ ไนโตะ กำลังคิดอยู่นั้น ลูกบอลสีทองก็พุ่งตรงมายังมือของเขา


เขารู้สึกได้ว่ามันถูกสร้างจากจักระ ซึ่งมันคล้ายกับ ซูซาโนะโอะ


แต่ ไนโตะ ไม่ได้รู้สึกถึงแค่จักระเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกได้ถึงพลังงานธรรมชาติที่อยู่ข้างในมันอีกด้วย ดังนั้นการมีอยู่ของมันจึงแปลกและไม่เหมือนสิ่งไหนในโลก


เมื่อมองดูลูกบอลสีทองนี้ ทันใดนั้น ไนโตะ ก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้


“บางที…หรือว่ามันจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรก็ได้…มันจะเป็นดาบได้ไหมน่ะ?”


ในขณะเดียวกันลูกบอลก็พุ่งเข้ามาที่มือของ ไนโตะ และมันก็เปลี่ยนรูปร่างไปตามที่เขาคิด มันกลายเป็นดาบยาวทองคำ


มันสามารถเปลี่ยนเป็นทุกอย่างได้จริง ๆ!


ไนโตะ ดูประหลาดใจและแปลกใจเล็กน้อยที่มันมีสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ อาวุธใหม่นี้ดีกว่า ดาบคุซานางิ เล่นก่อน ๆ อย่างแน่นอน


หรือบางทีมันอาจมีชื่อว่า ลูกแก้วแห่งการกำเนิด


ด้วยความสามารถของมัน มันสามารถเปลี่ยนรูปร่างของมันเป็นอะไรก็ได้ มันสามารถกลายเป็นเกราะหรือหอกยาวก็ได้


และสามารถขยายออกได้ตามต้องการ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนเป็นโซ่ยาวที่พันรอบมือ ไนโตะ ก็ได้


“สุดยอดไปเลย ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่ามันจะดีประโยชน์ขนาดนี้ อาวุธนี้มีคุณสมบัติที่แข็งแรง มันอาจแข็งแกร่งเท่ากับอาวุธของ เซียน 6 วิถี เลยทีเดียว”


ด้วยความคิดของ ไนโตะ ลูกแก้วแห่งการกำเนิด จึงเปลี่ยนรูปร่างกลับเหมือนเดิม


เซียน 6 วิถี เป็นเทพเจ้าของโลกแห่งนี้


และ ดาบคุซานางิ เล่มนี้ก็มีพลังแห่งเทพเจ้าจริง ๆ


อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่รู้ว่ามันเหมือนกับ ลูกแก้วแสวงสัจธรรม หรือไม่ แต่เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นจากพลังงานธรรมชาติ มันก็จะไม่มีทางพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย


และเนื่องจากมันเป็นอาวุธประเภทพลังงานธรรมาชาติ พลังของมันจึงเกี่ยวข้องกับผู้ใช้ หากผู้ใช้มีความแข็งแกร่งเพียงพอ มันก็อาจจะทำให้ ลูกแก้วแห่งการกำเนิด มีพลังเท่ากับ เซียน 6 วิถีก็เป็นได้


อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงการคาดเดาของ ไนโตะ เขายังไงไม่ได้ทดสอบมัน


เมื่อมองไปที่ลูกบอลทองคำ ในที่สุด ไนโตะ ก็พร้อมมี่จะทดสอบมัน


“มาลองดูพลังที่แท้จริงของแกกันเถอะ”


ดั่งใจคิด ลูกแก้วทองคำในมือของ ไนโตะ ก็กลายเป็นค้อนอันใหญ่


ไนโตะ ถือมันไว้ในมือของเขา จากนั้นเขาก็พุ่งออกไปไกล


แม้ว่ามันจะดูใหญ่ แต่มันกลับเบามาก เขาไม่สามารถรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของมันเลย


ในวินาทีต่อมา ค้อนในมือของ ไนโตะ ก็กระแทกภูเขาที่อยู่ตรงหน้า


จริง ๆ แล้วค้อนเป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดของ ลูกแก้วแห่งการกำเนิด ในการใช้พร้อมกับ พลังสั่นสะเทือน ของเขา


ตู้ม!!


ดูเหมือนว่าเขามันรุนแรงจนเกือบจะทำลายท้องฟ้า ทั้งสถานที่สั่นสะเทือนและแรงปะทะอันน่ากลัวก็ระเบิดออกมา ทำให้ภูเขาทั้งลูกร้าวและแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่มันจะถล่มลงมา


ตุ๊บ!!


ท้ายที่สุด พื้นดินบริเวณนั้นก็ยุบตัวลงจากผลกระทบของการโจมตีนี้ และกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ หลุมนั้นใหญ่มากจนเกือบจะเท่ากับ หมู่บ้านโคโนฮะ ทั้งหมู่บ้าน


ด้วยพลังสูงสุดของ ไนโตะ และด้วยการโจมตีง่าย ๆ นี้ มันทำให้การโจมตีของเขามีความรุนแรงอยู่ในระดับเดียวกับ ข่ายเทพพิชิตฟ้า ของ เพนวิถีสวรรค์


ที่จริงแล้วในแง่ของพลัง มันดูแข็งแกร่งกว่า


ข่ายเทพพิชิตฟ้า สามารถทำลายได้ทั้งหมู่บ้าน แต่ผู้คนมากมายก็รอดชีวิตมาได้ แต่การโจมตีของ ไนโตะ มันทำลายพื้นที่ทั้งหมดและทำลายสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในหมู่บ้าน


แม้แต่มดตัวเล็ก ๆ ก็ไม่สามารถรอดไปได้

 

 

 


ตอนที่ 249

 

“การใช้อาวุธนี้ไม่ใช่แค่ทำให้ พลังสั่นสะเทือน รุนแรงกว่าตอนที่ใช้หมัด แต่มันยังเพิ่มระยะทำลายล้างให้กว้างขึ้นอีกด้วย”


เมื่อ ไนโตะ กำลังตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้า ๆ ลงสู่พื้น เขาก็มองไปที่หลุดขนาดมหึมาที่เขาทำ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น


ทันใดนั้น ค้อนทองคำ ก็เปลี่ยนรูปร่างและกลายเป็นถุงมือทองคำที่ ไนโตะ สวมอยู่


หลังจากนั้น ไนโตะ ก็มองอย่างจริงจังไปที่ก้นหลุมและเขาก็รวบรวมพลังอีกครั้ง แล้วต่อยหมัดออกไป


ตู้ม!!!


ไนโตะ มุ้งเป้าไปที่ก้นหลุม ด้วยการโจมตีนี้ของเขาทำให้หลุมยุบลึกลงไปลึกมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว เห็นได้ชัดว่าระยะการทำลายของมันน้อยกว่าการโจมตีครั้งก่อนหน้า แต่พลังของมันก็รุนแรงกว่า!


ผนังด้านในหลุมค่อย ๆ ทรุดตัวลงเรื่อย ๆ ขณะที่หลุมทะลุลงไปจนถึงน้ำบาดาลใต้ดินจนทำให้เกิดเป็นน้ำพุพุ่งขึ้นมา!


เฮ้ย!


น้ำไหลออกจากหลุมเป็นจำนวนมากจนทั้งผืนป่ากลาเป็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่!


……


หลังจากที่ ไนโตะ ทดสอบอาวุธใหม่ของเขาต่อไป เขาก็ไม่ได้ก่อความเสียหายใด ๆ เพิ่มเติม เมื่อทดสอบเสร็จเขาก็ยักไหล่และหันหลังเพื่อเดินกลับหมู่บ้าน


ลูกแก้วแห่งการกำเนิด สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามต้องการ และเมื่อใดที่ผู้ใช้ไม่ได้ส่งจักระเข้าไป มันก็จะรักษาสภาพเป็นลูกแก้วเช่นเดิม และทันทีที่ผู้ใช้ส่งจักระเข้าไป มันก็จะเปลี่ยนรูปร่างได้ตามผู้ใช้ต้องการ


ยิ่งเปลี่ยนเป็นของที่ขนาดใหญ่เท่าไรก็ยิ่งใช้จักระมากเท่านั้น ถ้าคุณต้องการสร้างเกราะขนาดใหญ่คุณก็จะต้องใช้จักระเป็นจำนวนมากในการทำเช่นนั้น


แม้ว่า ไนโตะ จะเรียนรู้โหมดเซียน และจักระของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างน่าประทับใจ แต่ก็ยังสูงกว่าระดับของ คาเงะ ไม่เท่าไรนัก


ไนโตะ ต้องพัฒนาให้มากกว่านี้ อย่างน้อยก็ต้องให้เข้าใกล้ระดับพลังของ ฮาชิรามะ เมื่อนั้นเขาก็จะเข้าถึง โหมดเซียนขั้นที่ 2 และได้ร่างกายที่เป็นอมตะ หลังจากนั้นเขาก็สามารถ เปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ได้


อย่างไรก็ตาม ลูกแก้วแห่งการกำเนิด นั้นก็น่าทึ่งเป็นอย่างมาก


ยิ่งจำนวนจักระมากเท่าไร การโจมตีของอาวุธนี้ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น มันง่ายที่จะใช้มัน แต่มันก็แข็งแกร่งและทุกคนก็สามารถใช้มันได้


เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนที่สร้างอาวุธนี้ไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อดูพลังของมัน


หาก ไนโตะ ไม่ได้พยายามอย่างหนักเพื่อรวบรวมดาบทั้ง 3 นี้มารวมกัน อาวุธนี้ก็จะหายไปตลอดการในสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์


ไนโตะ ไม่จำเป็นต้องผนึกดาบอีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องทำก็แค่คิดว่า ให้อาวุธหดตัวลงและกลายเป็นแหวนสวมไว้ที่นิ้วของเขา


ตราบใดที่เขาเก็บมันไว้ที่นิ้วของเขา เมื่อเข้าต้องการใช้อาวุธเขาก็แค่ส่งจักระเข้าไปในแหวน มันก็จะเปลี่ยนรูปร่างอีกครั้งและกลายเป็นสิ่งที่เขาต้องการ


ไนโตะ รู้สึกมีความสุขกับอาวุธชิ้นใหม่ชิ้นนี้


ไนโตะ เดินออกจากพื้นที่นั้นและมุ่งหน้ากลับไปยัง โคโนฮะ


เขาไล่ล่า มือเลือด อยู่นานจนกระทั่งเขาไล่มาจนถึงชายแดนของ แคว้นแห่งไฟ


อย่างไรก็ตาม ระยะทางก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ไนโตะ ด้วยความเร็วสูงสุดของเขา เขาสามารถเคลื่อนที่ได้ไกลขึ้นด้วยการก้าวเพียงก้าวเดียว และเนื่องจากโหมดเซียนของเขาเปิดใช้อยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกินอะไรเลย


ในการ์ตูน นารูโจะ ต้องกินแมลงเข้าไปเพื่อให้อยู่รอดในการฝึกของเขา แต่ไม่ใช่สำหรับ ไนโตะ เพราะเขาผสานพลังงานธรรมชาติกับเซลล์ของเขา ผลลัพธ์จึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิง


เส้นทางของ นารูโตะ ตามในการ์ตูนไม่มีทางเปลี่ยนแปลง


หากเขาไม่ได้เป็นผู้สืบทอดสายเลือดของ อาชูร่า และปลุกพลังของ เซียน 6 วิถี มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก้าวข้ามโหมดเซียนขั้นที่ 2 และไปถึงระดับนั้นได้


แต่เส้นทางของ ไนโตะ นั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการรวม พลังงานธรรมชาติ เข้ากับ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ มันจะทำให้เขาสามารถเข้าถึงโหมดเซียนขั้นที่ 2 ได้


ตลอดทาง ไนโตะ เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงโดยไม่จำเป็นต้องใช้ เหยียบเวหา เลยแม้แต่ครั้งเดียว


ด้วยเหตุนี้เขาจึงอดไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับความเร็วของเขา


“ความเร็วของเราเพิ่มขึ้นมากเลยสิน่ะ แต่เราก็ยังไม่รู้ว่า เหยียบเวหาขั้นสูง พอจะสู้กับ เทพอัสนีเวหา ได้รึเปล่า”


ไนโตะ พึมพำกับตัวเอง เขาอดไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับ มินาโตะ เพราะ ไนโตะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ มินาโตะ ได้เรียนวิชา เทพอัสนีเวหา แล้วหรือยัง


เทพอัสนีเวหา เป็นวิชาลับที่ผู้ใช้ต้องมี มีดคุไนพิเศษ ปักไว้ในที่ที่ต้องการไป จากนั้นมันก็จะส่งผ่านผู้ใช้ไปยังจุดนั้นทันที เทพอัสนีเวหา ไม่จำเป็นต้องประสานอิน เพียงแค่คิดว่าจะใช้ก็สามารถใช้ได้เลย


อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีข้อเสียอยู่


ในระยะทางสั้น ๆ มินาโตะ จะต้องค้นหาตำแหน่งและนำ คุไน ไปที่นั่นก่อนเขาจึงจะสามารถเคลื่อนย้ายไปที่ตำแหน่งนั้นได้


อาจกล่าวได้ว่าในระยะทางสั้น ๆ ความเร็วของ ไนโตะ สามารถเทียบได้กับ เทพอัสนีเวหา และในบางสถานการณ์ก็ยิ่งทำได้เร็วกว่า!


แน่นอนว่า เทพอัสนีเวหา ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ตราบใดที่มี คุไนพิเศษ นั้นอยู่ ก็สามารถไปที่นั่นได้ทันที


ในทางกลับกัน แม้ว่า ไนโตะ จะมีความเร็วมากแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางตามความเร็วของ เทพอัสนีเวหา ในระยะไกลได้ทัน


แต่ ไนโตะ ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นสักเท่าไร


ไนโตะ มุ่งเน้นไปที่การสั่นสะเทือนของพลังงานธรรมชาติในอากาศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา เขายังคงสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้ในขณะเคลื่อนที่


ในขณะที่ ไนโตะ กำลังมุ่งหน้ากลับ โคโนฮะ เขาก็สังเกตเห็นภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป


ภูเขาลูกนั้นกว้างใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่สัมผัสพิเศษของเขาก็ไม่สามารถมองเห็นมันได้ทั้งหมด


และสิ่งที่น่าแปลกกว่าก็คือ ที่ภูเขาลูกนั้นเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่อย่างมหาศาล!


ยิ่งเขาเข้าไปใกล้ภูเขาลูกนั้นมากเท่าไหร่ เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติที่มากขึ้นเท่านั้น


หลังจากค้นพบภูเขาที่แปลกประหลาดนี้ ไนโตะ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดูที่นั่น ปริมาณพลังงานธรรมชาติในสถานที่นั้นดึงดูดความสนใจของ ไนโตะ อย่างแท้จริง


เมื่อ ไนโตะ เข้าใกล้มันทีละน้อย ๆ ความลึกลับของภูเขานี้ก็ค่อย ๆ เปิดเผย และในที่สุด ไนโตะ ก็จำสถานที่แห่งนี้ได้


ภูเขาเมียวโบคุ!


มันเป็นสถานที่ที่ นารูโตะ ใช้ในการฝึก โหมดเซียน ในการ์ตูน นอกจากนี้มันยังเป็นที่อยู่อาศัยของกบอีกด้วย

 

 

 


ตอนที่ 250

 

รอบนอกของ ภูเขาเมียวโบคุ นั้นซับซ้อนกว่า ป่าชิโคซึ ในการ์ตูนได้บอกเอาไว้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าสู่ภูเขาลูกนี้โดยไม่ใช้เส้นทางลับ เพราะรอบนอกของ ภูเขาเมียวโบคุ เป็นเหมือนกับเขาวงกต


โดยทั่วไปแล้วนินจาจะสามารถระบุตำแหน่งของตนและค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องได้ตลอดเวลา เขาวงกตจะไม่สามารถหยุดนินจาไม่ให้ไปสู่เป้าหมายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ นินจาตรวจจับ


แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อ ไนโตะ ยิ่งเดินทางลึกเข้าไปในภูเขา เขาก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมมันถึงถูกเรียกว่าเขาวงกต


เป็นไปไม่ได้เลยที่จะขึ้นไปถึงด้านบนของ ภูเขาเมียวโบคุ ไม่เพียงแค่เพราะว่ามันเป็นเขาวงกต แต่ยังเป็นเพราะพลังงานธรรมชาติที่อยู่ภายใน พลังอันแปลกประหลาดนี้รบกวนการรับรู้ของนินจาและทำให้พวกเขาหลงทาง


ด้วยพลังงานธรรมชาติจำนวนมหาศาลนี้ แม้แต่ นินจาตรวจจับ ก็เป็นไปได้ยากที่จะหาเส้นทางที่ถูกต้องได้เจอ


วิธีการเข้าสู่ ภูเขาเมียวโบคุ มีทั้งหมด 4 วิธี


วิธีแรก คือการใช้ คาถาอันเชิญย้อนกลับ ซึ่งจะสามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่อได้ทำสัญญากับกบแล้ว


วิธีที่ 2 คือทำลายทางข้างหน้าไปเรื่อย ๆ และตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงยอดเขา


วิธีที่ 3 คือการเปิดใช้โหมดเซียน และดูดซับพลังงานธรรมชาติ ซึ่งมันจะทำให้สามารถปิดกั้นการรบกวนและจะทำให้ผู้นั้นพบเส้นทางที่ถูกต้องได้


วิธีที่ 4 คือการใช้เส้นทางลับพิเศษ


สำหรับ ไนโตะ นอกจากวิธีแรกแล้ว เขาก็สามารถทำอีก 3 วิธีที่เหลือได้ พลังงานธรรมชาติอาจรบกวนการรับรู้ของคนทั่วไป แต่มันทำอะไรไม่ได้เมื่อเขามีสัมผัสพิเศษ


ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา ภาพทั้งหมดจึงชัดเจนสำหรับเขา และเขาก็มองเห็นเส้นทางลับ แต่เขาก็ไม่เลือกที่จะใช้มัน


ทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่เขาวงกต พลังงานธรรมชาติก็เริ่มเข้ามารบกวนสัมผัสของเขา แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันรบกวนเขาได้ เขาก็ดูดซับมันเข้าไปในร่างกายทันที


นับตั้งแต่วินาทีที่ ไนโตะ เรียนรู้โหมดเซียน เขาก็ไม่หยุดที่จะดูดซับพลังงานธรรมชาติ แม้ว่าเขาจะอยู่ในเขาวงกตก็ตาม


“สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังงานธรรมชาติ แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติอันมหาศาลในภูเขาได้อย่างชัดเจน”


ยิ่งเขาเข้าใกล้ยอดเขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น


หากเขาฝึกอยู่ที่ ภูเขาเมียวโบคุ ความคืบหน้าของการฝึกของเขาจะเร็วขึ้นอย่างแน่นอน


เขาวงกต รวมกับการแทรกแซงของพลังงานธรรมชาติ แค่ 2 สิ่งนี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นินจาส่วนใหญ่หลงทาง


อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ผลกับ ไนโตะ เขายังคงมุ่งหน้าเข้าสู่ภูเขาที่เต็มไปด้วยพลังงานธรรมชาติ และในที่สุด เขาก็ออกมาจากเขาวงกตได้ และก้าวเข้าสู่เขตของ ภูเขาเมียวโบคุ


ไนโตะ รู้สึกราวกับว่าเขาได้เข้ามาสู่โลกแห่งเทพนิยาย


เขาวงกตเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของพลังงานธรรมชาติ และ ภูเขาเมียวโบคุ คือแก่นของพลังงานธรรมชาติ


มีพืชยักษ์แปลก ๆ อยู่ทุกที่


พลังงานธรรมชาติในสถานที่นี้มากมายเกินกว่าจะคาดคิด มันทำให้พืชที่เกิดในบริเวณนี้เติบโตสูงใหญ่และแข็งแรง


พลังงานธรรมชาติถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของ ไนโตะ ตลอดเวลา แม้จะมองไม่เป็นด้วยตาเปล่า แต่ปริมาณพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่ที่นี่นั้นเกินกว่าจะจินตนาการได้


หลังจากเดินต่อไปไม่กี่ก้าว ไนโตะ ก็อดไม่ได้จนต้องหยุดและหลับตาเพื่อตั้งสมาธิในการดูดซับพลังงานธรรมชาติ


หลังจากนั้นไม่นาน ไนโตะ ก็ลืมตาขึ้นด้วยความดีใจ


“สถานที่แห่งนี้ จะสามารถเร่งความก้าวหน้าในการฝึกของเราได้!”


อาจต้องใช้เวลา 2 หรือ 3 ปี หรือเป็น 10 ปี เพื่อไปถึง โหมดเซียนขั้นที่ 2 และได้ร่างกายที่เป็นอมตะ


ถึงอย่างนั้น ภายในสถานที่แห่งนี้ การให้พลังแก่ ประตูด่านพลังทั้ง 5 บาน ด้วยพลังงานธรรมชาติจำนวนมากนี้ จะช่วยเร่งการผสานพลังเข้ากับร่างกายและจะเร่งการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้เร็วขึ้น


เป็นไปไม่ได้ที่จะให้พลังที่มากมายแก่ ประตูด่านพลังทั้ง 5 บาน เมื่ออยู่นอกสถานที่นี้


“ด้วยความเร็วขนาดนี้ เราคงดูดซับพลังงานธรรมชาติให้แก่ ประตูด่านพลังทั้ง 5 บาน จนเต็มได้ในเวลาไม่เกิน 3 เดือน”


“ถ้าเป็นแบบนี้ เราคงต้องตั้งสมาธิไปที่การดูดซับพลังงานธรรมชาติ และประตูด่านพลังทั้ง 5 บานก็จะทำหน้าที่ในการผสานมันเข้ากับร่างกายทั้งหมดของฉัน”


หลังจากรับรู้บางอย่าง ไนโตะ ก็ตัดสินใจว่าการอยู่ใน ภูเขาเมียวโบคุ แห่งนี้ จะช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกของเขาเป็นอย่างมาก


การเพิ่มพลังให้ ประตูด่านพลังทั้ง 5 บาน จะใช้เวลาแค่เพียง 3 เดือน และการผสานพลังเขากับเซลล์ทุกเซลล์ใจร่างกายของเขาต้องใช้เวลาอีก 3 เดือน


ดังนั้นกระบวนการนี้จึงใช้เวลาประมาณครึ่งปี


แม้ว่ากระบวนการนี้อาจจะไม่ได้ทำให้ร่างกายที่เป็นอมตะตั้งแต่ครั้งแรก แต่อย่างน้อยก็คงต้องผ่านกระบวนการนี้สัก 2 – 3 ครั้ง เพื่อให้ได้ร่างกายที่เป็นอมตะ


พูดอีกอย่างหนึ่งว่า อาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ปี เพื่อให้ได้ร่างกายที่เป็นอมตะ!


เวลาเพียงแค่ 1 – 2 ปีนับว่าเร็วมาก เมื่อเทียบกับแบบเดินที่อาจใช้เวลาถึง 10 ปี มันเร็วกว่าเดิมเกือบ 10 เท่า!


อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง ตอนนี้ ไนโตะ เปรียบเหมือนผู้บุกรุก


ภูเขาเมียวโบคุ เป็นที่อยู่อาศัยของกบ และถ้าเขาต้องการที่จะอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องพูดคุยและขออนุญาตพวกเขาก่อน


ที่จริงแล้ว เขาเข้ามาที่นี่ได้แค่ไม่ถึง 1 นาที แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามาหาเขา


ไนโตะ รู้สึกได้ว่ากบตัวหนึ่งกำลังเข้ามาใกล้เขา กบตัวนี้คือกบตัวเดียวกับในการ์ตูนที่ นารูโตะ เรียกว่า กามะบุนตะ!


ไนโตะ สามารถสัมผัสถึง กามะบุนตะ ได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาเข้ามาในภูเขาแห่งนี้ ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจ กามะบุนตะ แต่เนื่องจากเขาคิดจะอยู่ที่นี่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ กามะบุนตะ  ในครั้งนี้

 

 

 


ตอนที่ 251

 

ทันใดนั้น ก็มีบางอย่างขยับอยู่ในป่าที่อยู่ห่างออกไป


ภายใต้การสั่นสะเทือนของพื้นดิน กบขนาดใหญ่ก็กระโดดออกมา


กามะบุนตะ รู้สึกสับสนกับสิ่งที่เขารู้สึกได้ เขาจงึมาที่นี่


“การไหลของพลังงานธรรมชาติดูแปลกไป มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”


เพราะแม้แต่ ท่านฟุคาซาคุ และ ท่านชิมะ ก็ไม่สามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้มากมายมหาศาลขนาดนี้


กามะบุนตะ คิดไม่ออกว่าจะมีใครในภูเขาลูกนี้ที่จะสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้มากมายขนาดนี้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก


เมื่อเปิดใช้งานโหมดเซียน การไหลของพลังงานธรรมชาติก็จะค่อย ๆ กลับสู่ปกติ แต่มันไม่เหมือนกับครั้งนี้ สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


“ฉันต้องไปตรวจสอบด้วยตัวเองส่ะแล้ว”


กามะบุนตะ ไม่สามารถสลัดความคิดเกี่ยวกับสิ่งผิดปกตินี้ได้เลย และเขาก็กระโดดอีกครั้งอย่างไม่ลังเล


ตู้ม!!


พื้นดินเริ่มสั่นทันทีที่เขากระโดด เพราะร่างของเขาใหญ่เกือบเท่ากับภูเขา


หลังจากกระโดด 2 – 3 ครั้งติดต่อกันไปยังทิศทางที่เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของพลังงานธรรมชาติ  เขาก็เข้ามาใกล้ ไนโตะ มากแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกอันตรายใด ๆ ดังนั้นเขาจึงกระโดดลงไปที่ตรงกลางของลำธาร


ไนโตะ ยืนอยู่ที่นั่นเพื่อรอการมาถึงของ กามะบุนตะ แต่ ไนโตะ ก็ไม่คิดว่า กามะบุนตะ จะกระโดดลงมากลางหัวของเขาแบบนี้


อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็มองเห็น กามะบุนตะ ได้ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา


ในตอนนั้น มีเงาสีดำขนาดมหึมาปรากฏอยู่ด้านบนของ ไนโตะ และถ้า ไนโตะ ไม่ทำอะไรสักอย่างเขาจะต้องแบนเป็นแผ่นแน่นอน


ไนโตะ ไม่อยากคิดภาพที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนที่ชั่วพริบตาและหายตัวไป


ฟึ๊บ!!!


เห็นได้ชัดว่าความเร็วของ ไนโตะ นั้นเหนือกว่า กามะบุนตะ มาก และก่อนที่ กามะบุนตะ จะลงถึงพื้น ไนโตะ ก็ได้หายไปจากพื้นและไปปรากฏอยู่บนหัวของ กามะบุนตะ อย่างรวดเร็ว


“อะไร?!”


กามะบุนตะ รู้สึกว่ามีบางอย่างหล่นมาอยู่บนหัวของเขา


ตู้ม!!


ทันใดนั้นร่างขนาดใหญ่ของ กามะบุนตะ ก็ตกลงมาบนพื้นอย่างแรงจนทำให้เกิดรอยแตกกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง


จากนั้นเขาก็ขยับตาของเขาและเงยหน้าจ้องไปที่ ไนโตะ


“มนุษย์…นินจา เหรอ? แกเข้ามาได้ยังไง?”


ในวินาทีแรก กามะบุนตะ ก็รู้ได้ทันทีว่า ไนโตะ เป็นคนนอกและยังไม่ได้ทำสัญญากับกบ


แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่า ทำไมคนนอกอย่าง ไนโตะ จึงสามารถผ่านเขาวงกตและเข้ามาสู่ภูเขาแห่งนี้ได้ นี่ทำให้เขาประหลาดใจ


“ก็มาจากด้านนอกไงล่ะ”


ไนโตะ ยืนอยู่บนหัวของ กามะบุนตะ และตอบอย่างใจเย็น


เมื่อ กามะบุนตะ ได้ยินคำตอบของ ไนโตะ เขาก็เบิกตากว้างด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมากกับคำตอบนี้ เขารู้อยู่แล้วว่า ไนโตะ มาจากด้านนอก และคำตอบของ ไนโตะ ก็ทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกเยาะเย้ยอยู่


“ดูเหมือนว่าแกอยากมีปัญหาสินะ งั้นฉันจะจับตัวแกแล้วค่อยเค้นคำตอบแล้วกัน”


กามะบุนตะ แสดงให้เห็นถึงดวงตาที่บ้าคลั่ง ในการ์ตูน เขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องอารมณ์ร้อน และเพียงแค่ ไนโตะ ยืนอยู่บนหัวของเขานิ่ง ๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาอยากฆ่า ไนโตะ


ทันใดนั้น กามะบุนตะ ก็เตรียมที่จะกระโดดขึ้นฟ้าในขณะที่มี ไนโตะ อยู่บนหัว


แต่ในขณะนั้น กามะบุนตะ ก็รู้สึกได้ถึงพลังแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นจากด้านบนหัวของเขา


“อะไรกัน?!”


กามะบุนตะ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที


ตู้ม!!


กามะบุนตะ ที่เมื่อครู่นี้พร้อมที่จะโจมตี ไนโตะ ตอนนี้เขากลับไม่สามารถกระโดดได้ และร่างของเขาก็ทรุดลงกับพื้นทันที


ไนโตะ ยังคงยืนนิ่งอยู่บนหัวของ กามะบุนตะ โดยไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว แต่ กามะบุนตะ กลับล้มลงบนพื้นและไม่ว่า กามะบุนตะ จะพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้


“หนอยแก…”


กามะบุนตะ มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในหมู่กบ และเขาก็มีร่างกายที่ใหญ่โตและมีพลังที่แข็งแกร่งมาก


แต่เขากลับพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์ที่ยืนอยู่บนหัวของเขา


ในเวลานั้น ในที่สุด กามะบุนตะ ก็พบว่า ไนโตะ เป็นสาเหตุที่ทำให้การไหลของพลังงานธรรมชาติแปลกไป!


ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายคนนี้ใช้วิชาเซียนได้!


ถึงอย่างนั้น วิชาเซียนของเขาก็ไม่เหมือนกับวิชาเซียนกบ


“นี่มัน…โหมดเซียน แกไปเรียนมาจากไหน เจ้ามนุษย์?!”


กามะบุนตะ ที่พ่ายแพ้ไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะถาม ไนโตะ ออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงสัย


อย่างไรก็ตาม กามะบุนตะ ก็ยังอยู่ใน ภูเขาเมียวโบคุ เขาอาจพ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่กลัว


กบมีพลังในการรับรู้ที่ยอดเยี่ยมและที่นี่ก็มีกบอยู่เป็นจำนวนมาก


“ฉันสร้างมันขึ้นมาเอง”


ไนโตะ ที่ยืนอยู่บนหัวของ กามะบุนตะ ไม่ได้เพิกเฉยต่อคำถามของกบ และเขาก็ตอบ กามะบุนตะ อย่างแผ่วเบา


“สร้างเองงั้นเหรอ?!”


ตอนแรก กามะบุนตะ ดูงุนงง แล้วก็โกรธขึ้นมาทันที


วิธีที่ ไนโตะ ดูดซับพลังงานธรรมชาตินั้นมีความรุนแรงและน่ากลัว สำหรับ กามะบุนตะ แล้ว โหมดเซียนของ ไนโตะ ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าโหมดเซียนกบ


และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ แล้ว ไนโตะ สร้างมันขึ้นมาเองได้ยังไง?!


ในมุมมองของ กามะบุนตะ แล้ว นี่เป็นเรื่องไร้สาระ ไนโตะ ไม่ได้ดูแก่หรือมีประสบการณ์พอที่จะสามารถสร้างโหมดเซียนที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้!


“ไอ่มนุษย์บ้า แกคิดว่าแกมีโหมดเซียนนี้แล้วแกจะสามารถบุกเข้ามาได้ดินแดนของเราได้อย่างงั้นเหรอ?!”


ในที่สุด กามะบุนตะ ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่ ไนโตะ


ในเวลาเดียวกัน กามะบุนตะ ก็เริ่มต่อต้านพลังแปลก ๆ เพื่อขยับร่างกายของเขา เพราะเขารู้สึกว่าพลังได้อ่อนลงแล้ว


ชิ้ง!


ทันใดนั้น กามะบุนตะ ก็หยิบดาบสั้นขนาดใหญ่ที่คาดเอวเขาอยู่ออกมา แล้วเหวี่ยงมันไปที่ ไนโตะ ที่อยู่บนหัวของเขา


ทันใดนั้น ใบดาบก็พุ่งเข้าหา ไนโตะ อย่างรวดเร็วราวกับว่ามันจะตัด ไนโตะ ออกเป็น 2 ส่วนในทันทีที่มันสัมผัสกับ ไนโตะ


“คุณยังจะสู้อีกเหรอ?”


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ยกมือขึ้นแล้วดีดนิ้วตรงไปยังทิศทางที่ดาบกำลังฟันเข้ามา


เมื่อเทียบกับดาบแล้ว ร่างของ ไนโตะ ก็เล็กเหมือนกับมด


แต่การดีดนิ้วง่าย ๆ ของ ไนโตะ ก็ทำให้เกิด พลังสั่นสะเทือน อันมหาศาลที่สามารถฆ่าได้แม้กระทั่ง กามะบุนตะ!


ทันใดนั้นดาบก็มาถึงนิ้วของ ไนโตะ


 

 

 

 


ตอนที่ 252

 

ฟึ้ม!!


พลังสั่นสะเทือน ระเบิดออกมาและและดาบสั้นขนาดใหญ่ก็หยุดห่างจาก ไนโตะ ไปเพียงไม่กี่นิ้ว


เมื่อเทียบกับดาบขนาดใหญ่นี้ทำให้ระยะห่างนั้นดูน้อยมาก


แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ดูเหมือนว่ามันเป็นระยะท่างที่ห่างกันราวกับโลกและสวรรค์ และดาบนั้นก็ไม่มีวันไปถึงเขา!


แคร๊ก!!


เสียงแตกดังลั่นออกมาและภายใต้สายตาที่น่าสะพรึงกลัวของ กามะบุนตะ รอยร้าวก็ปรากฏขึ้นบนดาบของเขา!


ทันใดนั้นรอยร้าวก็เริ่มแพร่กระจายจนเต็มใบดาบ


ในที่สุด ดาบขนาดใหญ่ก็หักครึ่ง!


แค่การดีดนิ้วธรรมดา ๆ ไนโตะ ก็สามารถทำลายดาบและส่งให้มันกระเด็นลอยขึ้นไปบนฟ้าและปักลงตรงหน้า กามะบุนตะ


มันปักลงมาบนพื้นห่างแค่ 2 – 3 ฟุตจากหัวของ กามะบุนตะ ทำให้เขาเหงื่อออกมาทันที


ด้วยพลังจากเพียงนิ้วเดียว ไนโตะ ก็สามารถทำลายดาบของเขาได้ ไนโตะ ไม่ควรมีพลังเช่นนี้ แม้ว่า ไนโตะ จะสามารถใช้โหมดเซียนได้ก็ตาม!


นี่มันเป็นไปไม่ได้!!


ในขณะที่ กามะบุนตะ กำลังตกใจจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ในที่สุด กบตัวที่ 2 ก็มาถึง


จากนั้นก็มีมาเพิ่มเป็นตัวที่ 3 และ ตัวที่ 4


ภูเขาเมียวโบคุ เป็นถิ่นที่อยู่ของกบและมีกบอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นพวกกบเกือบทั้งหมดจึงสามารถสัมผัสถึงการไหลของพลังงานธรรมชาติที่แปลกไปได้


กามะบุนจะ อยู่ใกล้ที่สุด ดังนั้นเขาจึงมาถึงที่นี่ก่อน


“กามะบุนตะ เกิดอะไรขึ้น?”


“แล้วดาบของเจ้าหักได้ยังไง?”


“ดูนั่นสิ! มีคนอยู่บนหัว กามะบุนตะ!”


กบที่เพิ่งมาถึงทุกตัวดูแปลกใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น


อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มารวมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขาก็มีขนาดที่แตกต่างกันออกไป


พวกเขาทั้งหมดก็เข้าล้อมรอบ ไนโตะ ทันที หลังจากที่พวกเขาเห็นว่า กามะบุนตะ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์ พวกเขาก็ตัดสินว่ามนุษย์คนนั้นเป็นศัตรู


“มนุษย์คนนี้ไม่ได้ทำสัญญากับพวกเรา แล้วมันเข้ามาได้ยังไง?!”


“ผู้บุกรุก!”


“ระวังตัวให้ดี มนุษย์ใช้โหมดเซียนได้ และดูเหมือนว่ามันจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้การไหลของพลังงานธรรมชาติเกิดความผิดปกติ”


กบบางตัวกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ ในขณะที่ ไนโตะ ยังคงยืนอยู่บนหัวของ กามะบุนตะ และมองดูพวกกบอยู่เฉย ๆ


ไนโตะ ไม่สนใจสายตาของพวกเขา และจ้องมองไปที่ฝูงกบเพื่อมองหา ฟุคาซาคุ และ ชิมะ แต่เขาไม่พบ


กบเหล่านี้ไม่ได้มีสิทธิที่จะตัดสินใจและพวกเขาก็ไม่ได้เป็นผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ ถ้าเขาจะพูดด้วยเขาก็จะพูดกับเซียนใหญ่เท่านั้น


“มนุษย์ เจ้าบุกรุกเข้ามาในดินแดนของเรา เจ้ามีจุดประสงค์อะไร?”


ในที่สุด กามะบุนตะ ก็ตั้งสติกลับมาจากความตกใจได้ และตะโกนถามออกไป


ในเวลานี้ เขาสามารถบอกได้ว่า ไนโตะ ไม่ใช่คนดี!


“ฝึกฝน”


กามะบุนตะ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยความงุนงง แล้วพูดว่า “ฝึกฝนงั้นเหรอ?”


กบมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน กบตัวอื่น ๆ ก็พร้อมที่จะต่อสู้


อย่างไรก็ตามคำตอบของ ไนโตะ ก็ทำให้ กามะบุนตะ และกบตัวอื่น ๆ งุนงง


“ฝึกฝน…เจ้าหมายถึงฝึกร่างกายให้เป็นอมตะงั้นรึ?”


“ใช่แล้ว สภาพแวดล้อมของที่นี่เหมาะสมในการใช้เป็นสถานที่ฝึกเพื่อให้ได้มาซึ่งร่างอมตะ”


ไนโตะ พยักหน้าและตอบ กามะบุนตะ ด้วยน้ำเสียงสงบ


การแสดงออกของ กามะบุนตะ ดูอึดอัดใจอยู่เล็กน้อย จากนั้นเขาก็โกรธขึ้นมาและพูดว่า “ล้อเล่นรึเปล่า?!”


เขาต้องการฝึกที่นี่ ที่เป็นดินแดนของพวกเขา?


อะไรกันเนี่ย!!


ถ้า ไนโตะ ทำสัญญากับพวกเขาแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา


แต่โหมดเซียนของเขา ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับวิชาเซียนกบเลย ราวกับว่าเขากำลังของให้ใครบางคนยกบ้านของตนให้เขา


นี่เป็นเรื่องไร้สาระ!


“ฆ่ามัน!”


เมื่อ กามะบุนตะ พูดคำนี้ออกมา กบทุกตัวก็กระโดนเข้าโจมตีทันที


เมื่อเห็นภาพนี้ ไนโตะ ก็ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้


พวกเขาไม่เห็นความต่างของพลังงั้นเหรอ?!


ตู้ม! ตู้ม!! ตู้ม!!!


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็กระโดดลงจากหัวของ กามะบุนตะ และเคลื่อนที่ชั่วพริบตาหลายครั้ง


หลังจากเขาต่อยหมัดออกไปไม่กี่หมัด กบทุกตัวก็ร่วงลงบนพื้น


จากนั้น ไนโตะ ก็ลอยลงถึงพื้นอย่างช้า ๆ


กบเหล่านี้ไม่อ่อนแอ แต่พวกเขาแค่ไม่แข็งแรงพอที่จะหยุด ไนโตะ พวกเขาไม่สามารถแตะต้องตัว ไนโตะ ได้ ช่องว่างระหว่างพลังของพวกเขาแตกต่างกันมากเกินไป


หลังจากเอาชนะกองทัพกบทั้งหมดแล้ว ไนโตะ ก็ไม่ได้โจมตีต่อไป แต่หลังจากที่เขาส่ายหัว เขาก็หันไปมองทิศทางหนึ่งในทันที



ห่างออกไปจากสถานที่ต่อสู้


หลังจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้น กบตัวเล็ก 2 ก็ปรากฏตัวออกมา


กบตัวเล็ก 2 ตัวนี้กำลังวิ่งผ่านป่าด้วยความเร็วสูง


ถึงกบทั้ง 2 จะตัวเล็ก แต่ความแข็งแรงของพวกเขาก็ไม่สามารถวัดได้จากขนาดตัว พวกเขาคือ 2 เซียนใหญ่ แห่งดินแดนนี้!


พวกเขาดูกังวลเป็นอย่างมาก ขณะที่พวกเขารีบตรงไปยังที่เกิดเหตุ


“เราต้องรีบไปที่นั่นก่อนที่มันจะจบลง”


“แต่เจ้าผู้บุกรุกคนนั้นผ่านเขาวงกตมาได้อย่างไร หรือเขาวงกตของพ่อง่ายเกินไป…”


ชิมะ ดูค่อนข้างกังวลมาก


“เด็ก ๆ ของเราไปถึงที่นั่นแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรอก ตอนนี้พวกเขาก็คงกำลังต่อสู้กับผู้บุกรุกอยู่!”


“พูดมาได้ยังไง!! นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้วนะพ่อ แก่จนคิดไม่ได้แล้วงั้นรึ!”


ฟูคาซาคุ เข้าใจเรื่องนี้ดี มันเป็นปัญหาใหญ่ แต่เขาก็ไม่คิดว่านี้เป็นความผิดของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นคนสร้างเขาวงกตขึ้นมาก็ตาม


ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเถียงกันว่านี้เป็นความผิดของใคร และ ชิมะ ก็รู้ดี แต่เธอเพียงแค่หยอกล้อเขาเท่านั้น


“มิหนำซ้ำยังเป็นถึงเซียนใหญ่ ก็คงจะแก่…”


“อ๊ะ ๆ!! หยุดพูดเลยนะแม่!”


พวกเขายังไปไม่ถึงสถานที่เกิดเหตุ และขณะที่พวกเขากำลังทะเลาะกันอยู่นั้น ไนโตะ ก็มองเห็นพวกเขาจากระยะไกลได้ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา


2 ท่านนี้…


เมื่อเห็นทั้งคู่ทะเลาะกัน ไนโตะ อดไม่ได้ที่จะคิดถึง คุชินะ


ไนโตะ กลัวจริง ๆ ว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนกับ 2 ท่านนี้ในอนาคต!


2 เซียนใหญ่ โต้เถียงกันตลอดทางจนพวกเขามาถึงสถานที่เกิดเหตุ และพวกเขาก็หยุดเถียงกันทันทีเมื่อได้เห็นว่ากบทั้งหมดได้พ่ายแพ้ไปแล้ว

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม