The Strongest Hokage 239-245
ตอนที่ 239
คุชินะ ตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ราวกับว่าเธอออกกำลังกายมาตลอดทั้งวัน แต่เธอก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย แต่เธอกลับรู้สึกสดชื่นและมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ
เธอกัดฟันจากนั้นก็ตระโกนใส่ ไนโตะ ว่า “ฉันบอกให้นายหยุดไง!!”
“เธอบอกว่าตอนนี้ยังกลางวันอยู่! แล้วกลางวันเราฝึกกันไม่ได้งั้นเหรอ?!”
ไนโตะ มองไปที่ คุชินะ อย่างเจ้าเล่ห์แล้วยื่นแก้วน้ำให้เธอและพูดว่า “เธอดูเหนื่อยนะ ดื่นน้ำซักหน่อยไหม”
“แล้วมันเพราะใครละ!!!”
คุชินะ จ้องไปที่ ไนโตะ และในที่สุดเธอก็รับแก้วน้ำจากเขามา หลังจากเธอดื่มน้ำจนหมดเธอก็กระแทกแก้วลงบนโต๊ะ
แน่นอนว่าเธอไม่เคยคิดที่จะฝึกกับ ไนโตะ เลย สิ่งที่เธออยากทำกับเขานั้นคืออย่างอื่น แต่เธอก็อายที่จะพูดออกมา
เมื่อ ไนโตะ สังเกตดูที่ใบหน้าของ คุชินะ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาราวกับว่าเขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่”
งั๊ม!!
คุชินะ ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอพุ่งเข้าหา ไนโตะ และกัดเข้าที่ไหล่ของเขาอย่างแรง
“โอ้ย! หยุดก่อน! หยุดก่อน! มันจั๊กจี้นะ!!”
เมื่อ คุชินะ เห็นการแสดงออกของเขา เธอก็กระโดดออกจากเขาและกำหมัดแน่นแล้วตะโกนออกไปว่า “หนอยแน่!”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ ไนโตะ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แล้วเขาก็กวักนิ้วให้เธอและยิ้มเยาะ “เธออยากจะกัดฉันอีกทีไหมละ?”
“ฉันจะฆ่านาย!”
คุชินะ กดฟันแน่นและแสดงท่าทางอย่างดุเดือดราวกับว่าเธอเป็นเสือที่กำลังต้องขย่ำเหยื่ออย่าง ไนโตะ
“เอาละ ๆ เราหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อน ฉันว่าตอนนี้เธอไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”
ไนโตะ หัวเราะออกมา
เพราะ คุชินะ อยู่ที่บ้าน เธอจึงใส่แค่เสื้อซับตัวเดียว และมันก็เปียกโชกจน ไนโตะ เกือบจะเห็นทุกอย่าง
อย่างไรก็ตาม คุชินะ ไม่สนใจเรื่องนั้น เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมานานแล้ว
หลังจากเธอจ้องไปที่ ไนโตะ อย่างดุร้าย เธอก็หันหลังและเดินไปที่ห้องน้ำและเข้าห้องน้ำไป
ไนโตะ ยักไหล่แล้วหยิบม้วนกระดาษขึ้นมา จากนั้นเขาก็หลับตาและใช้สัมผัสพิเศษเพื่อตรวจสอบดูว่าม้วนกระดาษมีกับดักอะไรหรือเปล่า
“ระยะ สัมผัสพิเศษ ของเราก็เพิ่มขึ้น แต่น่าเสียดายที่เราก็ยังไม่สามารถเพิ่มสีเข้าไปได้ มันเป็นเหมือนกับ เนตรสีขาว”
“แต่มันก็ดีที่ คาถาวงตา ไม่สามารถหลอก สัมผัสพิเศษ ของเราได้ เพราะมันเป็นสัมผัสเป็นอิสระจากประสาทสัมผัสทั้ง 5”
ไนโตะ ลืมตาอีกครั้งแล้วมองไปที่ม้วนกระดาษ
ในขณะนี้ คุชินะ ก็ออกมาจากห้องน้ำแล้ว
เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขาโดยมีผ้าขนหนูอาบน้ำพันอกอยู่เพียงผืนเดียว จากนั้นเธอก็โยนเสื้อผ้าของเขาใส่หัวเขา
“นายก็ตัวเปื้อน ไปอาบน้ำ!”
ไนโตะ หยิบเสื้อผ้าแล้วมองไปที่ คุชินะ เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “มันไม่มีเหงื่อสักหน่อย!”
“แล้วไง เธอต้องไปอาบน้ำ!”
ถึงแม้ว่านี่จะไม่มีเหตุผล แต่ ไนโตะ ก็หยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
เขาได้แต่คิดในใจว่า…แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอพูดด้วยเนี่ย…
ไนโตะ บิดขี้เกียจแล้วกระโดดเข้าห้องน้ำและปิดประตูทันที
แต่ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก
คุชินะ ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ
ไนโตะ อยู่ในสภาพกึ่งเปลือย แต่ คุชินะ ก็ไม่ได้มองเขา เธอเดินตรงไปที่เสื้อผ้าของเธอที่อยู่ในกะละมังแล้วนั่งลงซักพวกมัน
“เธอ…”
ฉันไม่ได้มาดูนาย ฉันมาซักเสื้อผ้าของฉัน”
ไนโตะ อาบน้ำ ในขณะที่เขามองไปที่ คุชินะ ที่กำลังซักผ้าอยู่ เธอดูจะตั้งใจกับการซักผ้ามาก
ไนโตะ อดไม่ได้ที่จะแก้แค้น คุชินะ ที่บังคับให้เขามาอาบน้ำ เขาส่ง พลังสั่นสะเทือน อ่อน ๆ ไปที่กะละมังซักผ้า ทำให้น้ำกระเด็นไปโดนเสื้อผ้าของเธอจนเปียกโชก
พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และอาบน้ำต่อไป จากนั้นเขาก็พูดอย่างใจเย็นว่า “โอ้ เธอเปียกอีกแล้ว โชคไม่ดีเลยนะเนี่ย งั้นก็ถอนเสื้อผ้าแล้วมาอาบน้ำอีกรอบสิ ฉันไม่รังเกียจหรอก”
คุชินะ “…”
ไนโตะ “…”
“ฮาฮาฮาฮาฮา”
ไนโตะ อดไม่ได้ที่จะหัวเราออกมา
คุชินะ “…”
ทันใดนั้น คุชินะ ก็มองเขาด้วยสีหน้าโกรธจัด แล้วเธอก็ยกถังน้ำสาดไปที่เสื้อผ้าแห้งของ ไนโตะ
ไนโตะ ตะโกนออกมา “ทำอะไรของเธอเนี่ย!!”
ทันใดนั้นห้องน้ำก็กลายเป็นสนามรบ!
…
พวกเขาเล่นกันอยู่นานจนในที่สุด คุชินะ ก็เหนื่อย จากนั้นเธอก็ออกจากห้องน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน
หลังจากที่เธอหลับไป ในที่สุด ไนโตะ ก็มีเวลาที่จะศึกษาม้วนกระดาษ เขาไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดม้วนกระดาษอ่าน
ก่อนอื่น เขาศึกษาวิธีเข้า ถ้ำริวจิ อย่างรอบคอบเพื่อศึกษาวิธีฝึก โหมดเซียน ของที่นั่น
หลังจากที่เขาอ่านข้อมูลทั้งหมด ไนโตะ ก็สามารถสังเกตได้อย่างรวดเร็วว่ามันแตกต่างจากวิธีการฝึกของ ภูเขาเมียวโบคุ
ภูเขาเมียวโบคุ มีพลังงานพิเศษที่ช่วยในการฝึก แต่ไม่มีการพูดถึงสิ่งนี้ในม้วนกระดาษนี้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทั้ง 2 วิชาเซียนนั้นแตกต่างกัน
ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าโหมดเซียนของทั้ง 2 วิชานั้นก็แตกต่างกัน โหมดเซียนของ ภูเขาเมียวโบคุ มีความพิเศษด้านความแข็งแกร่ง ส่วน โหมดเซียนของ ถ้ำริวจิ นั้นจะมีความสามารถและลักษณะบางอย่างของงู
พูดง่าย ๆ ก็คือ โหมดเซียนของแต่ละสถานที่จะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกันออกไป
เช่นโหมดเซียนของ ฮาชิรามะ ซึ่งเป็นโหมดพิเศษที่ผู้ใช้จะได้รับความสามารถในการรักษาตัวเองที่ทรงพลังมาก
โหมดเซียนนี้ สามารถเปิดใช้งานได้ตามต้องการ และใช้เวลาไม่นานในการรวบรวมและดูดซับพลังงานธรรมชาติ แต่วิธีที่ ฮาชิรามะ ใช้ในการฝึกเพื่อให้ได้โหมดเซียนนั้นมา ก็ไม่ได้อธิบายไว้ในการ์ตูน
แต่สิ่งที่รู้อย่างแน่นอนก็คือ โหมดเซียนของ ภูเขาเมียวโบคุ , ถ้ำริวจิ และ ป่าชิโคซึ นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
ตอนที่ 240
ควรเลือกฝึกวิชาเซียนที่ไหน ระหว่างสถานที่ทั้ง 3 แห่งนี้
เห็นได้ชัดว่า ไนโตะ มีปัญหาในการค้นหาคำตอบที่ถูกต้องของคำถามนี้
แม้ว่าข้อมูลเดียวที่เขารู้ในตอนนี้คือ ถ้ำริวจิ แต่ก็ไม่ยากที่ ไนโตะ จะหาข้อมูลของอีก 2 แห่งที่เหลือได้
ไนโตะ จะได้รับความช่วยเหลือจาก จิไรยะ อย่างแน่นอนถ้าเขาต้องการ…แม้ว่าเขาจะรู้วิธีนี้บ้างแล้วก็ตาม
เขารู้แล้วว่า 2 ใน 3 วิชาเซียนนั้นแตกต่างกันและอีก 1 วิชาเซียนก็คงจะแตกต่างกันเช่นกัน แต่เขาก็ต้องการฝึกวิชาเซียนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา
หากเขาสามารถเรียนรู้ได้ทั้ง 3 วิชาเซียน และสร้างวิชาเซียนใหม่ขึ้นมาได้ วิชาเซียนพิเศษของเขานั้นจะต้องจะดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยอย่างแน่นอน
หลังจาก ไนโตะ อ่านม้วนกระดาษวิชาเซียนเสร็จ เขาก็วางมันลงและหยิบม้วนกระดาษอีกม้วนขึ้นมาอ่าน
การอ่านการวิจัยของ โอโรจิมารุ นั้นเป็นเรื่องน่าเบื่อ เพราะข้อมูลเหล่านี้ไม่เคยปรากฏในการ์ตูนมาก่อน ดังนั้นเขาจึงต้องอ่านและตรวจสอบอย่างละเอียด
ไนโตะ ศึกษาม้วนกระดาษนั้นไป 2 – 3 วัน
ในที่สุด เขาก็อ่านจบและเริ่มฝึกทันที
การฝึกฝนเป็นไปอย่างยอดเยี่ยมมาก ไนโตะ สามารถรับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นของเขา และนี่เองที่ทำให้จักระของเขาแข็งแกร่งขึ้น!
ไม่เพียงแต่จักระที่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ พลังสั่นสะเทือน ก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากฝึกไปได้ครึ่งเดือน การพัฒนาก็ค่อย ๆ ชะลอตัวลง และในที่สุดก็แทบจะไม่มีความพัฒนาขึ้นเลย เห็นได้ชัดว่าการพัฒนามีขีดจำกัด
ณ จุดนี้ พลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 ใน 3 จากเดิม!
มันอาจดูไม่มากสักเท่าไร แต่มันก็เกินความคาดหมายของ ไนโตะ
เพราะทั้งจักระและ พลังสั่นสะเทือน ก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย
อุปสรรคแรกของ ไนโตะ ในการฝึก วิชาเซียน ก็คือจำนวนจักระของเขา แต่ด้วยการพัฒนานี้ทำให้เขามีจักระเพียงพอในการฝึกมัน
อย่างต่อไปก็คือการควบคุมที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างพลังงานธรรมชาติและจักระของเขา ไม่เช่นนั้นมันก็จะไม่มีทางสำเร็จ
ความล้มเหลวในการสร้างสมดุลขณะที่ฝึกวิชาเซียนที่ ภูเขาเมียวโบคุ จะทำให้คุณกลายเป็นกบหิน!
ไนโตะ ต้องการไปสำรวจทุกที่ด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงต้องการการเตรียมตัวเพิ่มเติม
……..
ไนโตะ จำเป็นต้องหาข้อมูลของวิชาเซียนสายที่ 3 ดังนั้นเขาจึงไปหาแหล่งข้อมูลโดยตรงอย่าง ซึนาเดะ
ตอนนี้ ซึนาเดะ อยู่ในหมู่บ้าน เธอไม่ได้ตระเวนไปที่หมู่บ้านอื่นเพื่อเล่นการพนันเหมือนอย่างที่เธอเคยทำ หรือบางทีเธออาจจะเสียหมดตัวเลยต้องกลับมาที่หมู่บ้านก็เป็นได้
การที่เธอได้เห็น ไนโตะ ทำให้เธอมีความสุขอยู่เสมอ แม้ว่า ไนโตะ จะอยู่ในหมู่บ้าน แต่เขาก็มักจะยุ่งอยู่กับการทำเรื่องส่วนตัวและเธอก็ไม่ต้องการไปรบกวนเขา
หลังจากกล่าวคำทักทายง่าย ๆ จากนั้น ไนโตะ ก็ถามในสิ่งที่เขาสงสัย
“โหมดเซียน ของ วิชาเซียนทาก เหรอ?”
ซึนาเดะ ดูประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากที่เธอครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็พูดออกมาว่า “ฉันรู้จัก แต่ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะฝึกโหมดนั้นได้ ฉันจึงไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับมันมากนัก”
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณสมบัติที่จะเรียนรู้ วิชาเซียน
ตัวอย่างเช่น มินาโตะ โฮคาเงะ รุ่น 4 เขาไม่สามารถใช้ โหมดเซียน ได้อย่างสมบูรณ์ และเขาก็บอกเองว่าเขามีปัญหาในการเรียนรู้มัน
“ผมสงสัยว่า ท่านคัตสึยุ มีโหมดเซียนหรือเปล่า”
ซึนาเดะ มองดู ไนโตะ และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “เธออยากรู้วิธีใช้ โหมดเซียน ของ วิชาเซียนทาก งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่ามันยากมากเลยน่ะ แต่ถ้าเธออยากรู้เธอคงต้องไปที่ ป่าชิโคซึ แล้วถามเรื่องนี้กับ เซียนทากยักษ์ เอาเองแล้วละ!”
“เซียนทากยักษ์?”
ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาได้ยินคำนี้
เขารู้อยู่แล้วว่าทากเหล่านี้ต้องมี เซียนทาก คอยชี้แนะ
แต่ ไนโตะ ก็รู้สึกแปลกใจที่ ซึนาเดะ แนะนำให้เขาไปหา เซียนทากยักษ์ และเรียนรู้ วิชาเซียนทาก จาก ป่าชิโคซึ โดยตรง…แล้วพวกเขาจะยอมสอนเขาเหรอ?
ซึนาเดะ เห็นถึงความกังกลของ ไนโตะ เธอยิ้มและตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “มันใจเข้าไว้สิ เธอเป็นคนอ่อนโยนและเป็นมิตร ถึงเธอจะยังไม่ได้ทำสัญญากับทาก แต่พวกเขาก็จะสื่อสารกับเธอได้แน่นอน”
“และถึงแม้ว่า พวกเขาจะไม่ยอมฝึกให้เธอ แต่เธอก็ยังมีฉันอยู่นะ”
ซึนาเดะ ลูบหัว ไนโตะ เบา ๆ เหมือนพี่สาวลูบหัวน้องชาย มันทำให้ปากของ ไนโตะ กระตุกเล็กน้อย หลังจาก นาวากิ น้องชายของเธอตายไป ความสัมพันธ์พี่สาวน้องชายของทั้งคู่ก็มากขึ้น
ไนโตะ ไม่ได้ทำสัญญากับทาก ดังนั้นทากจึงไม่สามารถใช้คาถาอัญเชิญแบบย้อนกลับและอัญเชิญเขาไปที่ป่าได้
ดังนั้น ไนโตะ จึงเดินทางออกจาก โคโนฮะ พร้อมกับ ซึนาเดะ เพื่อเดินทางไปยัง ป่าชิโคซึ
ป่าชิโคซึ นั้นอยู่ใกล้กับ ภูเขาเมียวโบคุ มาก และเพราะทั้งคู่เดินทางด้วยความเร็วสูง พวกเขาจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้นเพื่อไปถึงที่นั่น
ป่าแห่งนี้อยู่ใต้พื้นดิน
มันเป็นถ้ำขนาดใหญ่ใต้พื้นดิน ซึ่งพบพื้นดินเคยเป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่มาก่อน
“เซียนทากยักษ์ น่าจะอยู่ที่นั่น”
ซึนาเดะ มองไปรอบ ๆ จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
ป่าแห่งนี้และสถานที่อีก 2 แห่งล้วนเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน ไม่มีใครรู้อายุของ เซียนยักษ์ เพราะพวกเขาอยู่มาอย่างยาวนาน
ในขณะที่เดินเข้าไปในป่านี้ พวกเขาทั้ง 2 พบกับทากอยู่บ่อยครั้ง
ทากเหล่านี้ล้วนมาเพื่อทักสาย ซึนาเดะ
ในไม่ช้า ไนโตะ และ ซึนาเดะ ก็เดินมาจนมองเห็น เซียนทากยักษ์ ได้จากระยะไกล ร่างของเขาใหญ่มาก แม้แต่ ไนโตะ ก็ไม่สามารถซ่อนอาการตกใจของเขาได้
ยิ่งเขาเดินเข้าไปใกล้เท่าไร ไนโตะ ก็เห็น เซียนทากยักษ์ ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
แม้แต่การที่ ซึนาเดะ อัญเชิญ คัตสึยุ ในการ์ตูน ก็ดูเล็กมากเมื่อเทียบกับ เซียนทากยักษ์
“ตอนแรกฉันก็ตกใจแบบเธอเนี่ยแหละ”
ซึนาเดะ มองไปที่ ไนโตะ และยิ้ม
เซียนทากยักษ์ หันหัวไปรอบ ๆ และหันมามองทั้งคู่
“โอ้…นั่น ท่านซึนาเดะ ไม่ใช่เหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ละ?”
ถึงแม้ว่า เซียนทากยักษ์ จะมีขนาดใหญ่มาก แต่เสียงของเธอก็ไม่ต่างไปจาก คัตสึยุ และนำเสียงก็อ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ และไม่มีจิตสังหารเหมือน งู อยู่เลย
เสียงอันอบอุ่นของเธอทำให้ความตกใจของ ไนโตะ ค่อย ๆ จางหายไป
ซึนาเดะ โค้งให้ เซียนทากยักษ์ แล้วเธอเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างตั้งใจว่า
“เรามาที่นี่เพื่ออยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ โหมดเซียน ของ วิชาเซียนทาก คะ”
ตอนที่ 241
“ท่านซึนาเดะ…”
เซียนทากยักษ์ ลังเลนิดหน่อย จากนั้นเธอก็แยกร่างเล็ก ๆ ร่างหนึ่งออกจากตัวแล้วคลานไปยังมือของ ซึนาเดะ จากนั้น เซียนทาก ก็ดูราวกับว่ากำลังสัมผัสอะไรบางอย่างอยู่
“พลังของ ท่านซึนาเดะ ในตอนนี้ยังไม่สามารถฝึกโหมดเซียนของฉันได้ ถ้าท่านฝึกในตอนนี้ท่านจะได้รับอันตรายร้ายแรง ฉันคิดว่าท่านรอก่อนจะดีกว่านะคะ”
ซึนาเดะ ยักไหล่อย่างไร้ประโยชน์แล้วชี้ไปที่ ไนโตะ และพูดว่า “อันที่จริง…เขาต่างหากที่เป็นคนอยากฝึก”
“อะไรนะคะ?!”
เซียนทาก ดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะยังไม่ได้ทำสัญญากับทาก แต่เธอก็แยกร่างอีกครั้งแล้วคลานไปยังมือของ ไนโตะ
“…”
แม้ว่าจะดีกว่างู แต่มันก็ยังน่าขนลุกอยู่ดี ปากของ ไนโตะ กระตุกเล็กน้อย แต่เขาปล่อยให้เธอคลานขึ้นมา
เธอเชื่อมต่อจักระของเธอเขากับร่างกายของ ไนโตะ และหลังจากใช้เวลาสัมผัสเพียงเล็กน้อย ท่าทางของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
“เอ๊ะ?!”
เซียนทาก ดูประหลาดใจมาก เธอมีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน แต่เธอก็ไม่เคยเจอพลังแบบนี้มาก่อน!
ทรงพลังและแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวอีก!
ร่างหลักของ เซียนทากยักษ์ ก้มหัวลงและวางหนวดลงบนหัวของ ไนโตะ เพื่อสัมผัสถึงพลังของเขาอย่างระมัดระวังอีกครั้ง
ทันทีที่เธอสัมผัส ไนโตะ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าจักระของเธอนั้นมหาศาลเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับความประหลาดใจของ ไนโตะ แล้ว เซียนทากยักษ์ ตกใจมากกว่า
“วิชาของท่าน (กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ) สามารถทำลายขีดจำกัดของร่างกายได้และทำให้ท่านแข็งแกร่งกว่าคนปกติทั่วไป ถึงแม้ว่าตอนนี้วิชานั้นจะยังไม่สมบูรณ์ แต่มันแข็งแกร่งมาก…”
“แต่สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจก็คือพลังแปลก ๆ นั่น…มันทำให้รู้สึกเหมือนพลังของปีศาจ…มันคืออะไรกันแน่?”
ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจที่ เซียนทากยักษ์ รู้สึกได้ถึงพลังของผลปีศาจในตัวเขา!
เธอรู้สึกได้พลังนี้และมันให้เธอหวาดกลัว แต่เธอก็ไม่สามารถบอกถึงแหล่งที่มาของมันได้
ในท้ายที่สุด เซียนทากร่างเล็กก็คลานไปรวมกับ เซียนทากยักษ์ และเธอก็ยกหนวดขึ้น
“ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ท่านมีร่างกายที่ไม่ธรรมดา”
เซียนทากยักษ์ พูดต่อด้วยความประหลาดว่า “ท่านมีพลังพิเศษและจักระที่แข็งแกร่ง แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าท่านจะสามารถฝึก โหมดเซียน ของฉันได้หรือไม่”
“ทำไมล่ะ?” ไนโตะ พูด
ซึนาเดะ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยความกังวลแล้วพูดว่า “ไนโตะ ความเสี่ยงในการฝึก โหมดเซียน นั้นสูงมาก แม้แต่ เซียนทากยักษ์ ก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอจะทำได้หรือเปล่า ฉันว่าบางทีเธอน่าจะ…”
ไนโตะ ยิ้มแล้วพูดขัด ซึนาเดะ ขึ้นมาทันทีว่า “เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราทำได้หรือไม่ได้…ถ้าเราไม่ลองทำ เชื่อผมสิ ผมจะระวังตัวอย่างดี”
หลังจากที่ ไนโตะ พูดแบบนั้นออกไป เขาก็เงยหน้าขึ้นไปมอง เซียนทากยักษ์ แล้วพูดว่า “ท่านช่วยบอกวิธีฝึก โหมดเซียน ให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”
“แน่นอน”
ไนโตะ ประหลาดใจเล็กน้อย ที่จริงแล้วเขาไม่คิดว่า เซียนทากยักษ์ จะบอกวิธีฝึกกับคนที่ยังไม่ได้ทำสัญญา
และ ไนโตะ ก็พร้อมที่จะทำสัญญากับทาก
แม้ว่าเขาจะไม่สนใจที่จะเรียกทากเหล่านี้ออกมา แต่ ไนโตะ ก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รู้วิชาของพวกเขา
ในไม่ช้า เซียนทากยักษ์ ก็เริ่มอธิบายวิธีฝึกให้ ไนโตะ ฟังอย่างจริงจัง
เซียนทากยักษ์ มีชีวิตอยู่มานานมาก เธอเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่อยู่มาก่อนยุคประวัติศาสตร์ เธออยู่มาก่อนยุคของ เซียน 6 วิถี และอาจพูดได้ว่าเธอเป็นประวัติศาสตร์ทั้งหมดของโลกแห่งนี้!
แต่เธอไม่เคยเห็นใครเหมือน ไนโตะ!
“สักวัน…มนุษย์คนนี้จะเปลี่ยนโลก” เซียนทากยักษ์ อดไม่ได้ที่จะพูดประโยคนี้กับตัวเอง
หลังจากที่ ไนโตะ เรียนรู้วิธีฝึกวิชาเซียนของพวกเขาแล้ว ไนโตะ ก็กลับไปที่ โคโนฮะ พร้อมกับ ซึนาเดะ และเขาเลือกที่จะไม่ฝึกใน ป่าชิโคซึ
นั่นทำให้ ซึนาเดะ รู้สึกประหลาดใจ
เพราะในป่าแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยพลังญญาณ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะง่ายกว่าที่จะฝึกที่นั่นโดยที่มี เซียนทากยักษ์ คอยแนะนำ
ซึนาเดะ อดไม่ได้ที่จะอธิบายข้อดีของการฝึกที่ ป่าชิโคซึ ให้ ไนโตะ ฟัง แต่ ไนโตะ ก็ยิ้มให้เธอและปฏิเสธ
ระหว่างทางกลับไปที่หมู่บ้าน ซึนาเดะ ก็คอยเตือน ไนโตะ อยู่เป็นระยะ ๆ ว่าให้ระวังตัวในการฝึกวิชาเซียน
ไนโตะ ก็พยักหน้าทุกครั้ง
ไนโตะ รู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงของเธอ ถึงอย่างนั้นเขาก็มั่งใจในการควบคุมจักระของเขา และเขาก็คือว่าความน่าจะเป็นของความล้มเหลวนั้นมีน้อยมาก
เขาไม่ได้บอกว่าเขาจะไม่ฝึกวิชาเซียนอื่นพร้อมกันไปด้วย เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องการพัฒนาโหมดเซียนที่หมาะสมที่สุดทำหรับเขาขึ้นมาเอง
พูดง่าย ๆ ก็คือ ไนโตะ ต้องการสร้างโหมดเซียนให้ได้เหมือนกับ ฮาชิรามะ เพราะเขารู้สึกว่าโหมดเซียนของ ฮาชิรามะ เป็นโหมดเซียนที่สมบูรณ์แบบที่สุด
โอโรจิมารุ ยังคงเป็นแหล่งข้อมูลในการค้นคว้าคาถานินจาที่ดีที่สุดของ ไนโตะ แต่ ไนโตะ ก็ไม่ต้องการชี้แนะเขาไปมากกว่านี้
การค้นคว้าที่เขาทำอยู่คือการศึกษาการเพิ่มพลังวิญญาณ แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะทำอะไรต่อไปหากเขาได้วิธีการฝึกวิชาเซียนทั้ง 3 วิธีไป
ไนโตะ ควรระวังตัวอยู่เสมอ
วิชาเซียนของ ภูเขาเมียวโบคุ นั้นง่ายที่สุด สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการปล่อยวางจิตให้สงบและสัมผัสถึงการมีอยู่ของพลังงานธรรมชาติรอบตัวคุณและดูดซับมัน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะง่ายที่สุดแต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำมันได้
ไนโตะ ศึกษาทั้ง 3 วิชาเซียนอย่างต่อเนื่องและพยายามหาวิธีเชื่อมโยงทั้ง 3 วิชาเซียนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเป็นวิชาเซียนของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ผ่านไปแล้ว 1 เดือนนับตั้งแต่ ไนโตะ กลับมาจาก ป่าชิโคซึ แต่เขาก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย
ในทางตรงกันข้าม ภายใน 1 เดือนนี้ ไนโตะ ก็ได้ฝึกฝนและพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายของเขา!
แม้ว่าเขาจะศึกษา วิชาเซียน แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะฝึกร่างกายของเขา
ไนโตะ ยังคงใช้ วิชาเพิ่มน้ำหนักหิน เพื่อช่วยในการฝึกของเขา
ที่จริงแล้ว การพัฒนาทั้งหมดของเขา เป็นผลมาจาก วิชาเพิ่มน้ำหนักหิน!
ตอนที่ 242
“คาถาดิน : วิชาเพิ่มน้ำหนักหินสุดยอด!”
เนินเขาด้านหลังของ โคโนฮะ
มีเสียงดังมาจากที่นั่น พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของ ไนโตะ ทรุดตัวลงและรอยร้าวที่น่ากลัวก็กระจายไปทั่ว
สถานที่ทั้งหมดสั่นสะเทือน แม้แต่พื้นดินที่แข็งมากก็ไม่สามารถทนต่อ วิชาเพิ่มน้ำหนักหินสุดยอด ได้
ใช่แล้ว 1 เดือนที่ผ่านมา ไนโตะ ได้ค้นพบวิธีอัพเกรด วิชาเพิ่มน้ำหนักหิน!
นี่คือการพัฒนาด้านพลังวิญญาณของ ไนโตะ มันทำให้เขาสามารถควบคุมจักระได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้การใช้คาถานินจาของเขาดีขึ้นไปด้วย ถึงแม้ว่า คุณสมบัติจักระธาตุดิน จะไม่ใช่คุณสมบัติจักระตามธรรมชาติของเขา แต่ตอนนี้เขาก็สามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยวิชานี้ แม้ว่าตอนนี้ ไนโตะ จะยังไม่พร้อมที่จะฝึกโหมดเซียน แต่ในอนาคตเขาจะทำมันได้แน่นอน
ไนโตะ คาดว่าความแข็งแกร่งด้านร่างกายของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าถ้าเขาใช้วิชาใหม่นี้
หลังจากนั้น แม้ว่าร่างกายของเขาจะยังไม่พร้อมที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 แต่เขาก็คิดว่าคงจะอีกไม่นาน
“ฮึ…ฮึ…”
วิชาเพิ่มน้ำหนักหินแบบใหม่นี้ ไม่เหมือนกับ วิชาเพิ่มน้ำหนักหินแบบเดิม
แม้ว่า ไนโตะ จะพยายามลดจักระในการใช้วิชานี้ แต่มันก็ยังทรงพลังและยังเพิ่มน้ำหนักได้มากเหมือนเช่นเดิม
ไนโตะ แทบจะขยับตัวไม่ได้ แต่เขาก็จะยอมแพ้ เขาสาบานไว้แล้วว่าเขาจะไม่หยุดจนกว่าเขาจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด และตราบใดที่เขายังหายใจอยู่ เขาจะไม่มีวันยอมแพ้!
จากนั้น ไนโตะ กลับมาศึกษาวิชาเซียนต่อ และใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุขกับ คุชินะ เขาใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดหลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ไนโตะ ก็ได้รู้ข่าวบางอย่าง
นินจานักฆ่าฉายา มือเลือด ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในตลาดมืดพร้อมกับ ดาบคุซานางิ!
ไนโตะ ตามหาเขาตั้งแต่จบ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 แต่ถึงอย่างนั้น ไนโตะ ก็ไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์ใด ๆ เลย
แต่แล้วจู่ ๆ มือเลือด ก็โผล่ออกมาเอง
เหตุการณ์เป็นที่ไม่คาดคิด และมันน่าประหลาดใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ไนโตะ ไม่พบข้อมูลเหล่านั้นในตลาดมืดเลย แต่แล้ว มือเลือด ก็ปรากฏตัวออกมาใน แคว้นแห่งไฟ เพื่อทำภารกิจลอบสังหารของเขา!
เยี่ยมจริง ๆ!
ชายคนนี้ได้ลอบสังหาร ไดเมียว (ขุนนางชั้นสูง) ของ แคว้นแห่งไฟ แม้ว่าพวกเขาจะมีนินจาคอยคุ้มครองอยู่เสมอ
โดยมากแล้วจะไม่มีใครคิดจะสังหารพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น การตายของพวกเขาจะไม่ส่งผลต่อกำลังรบของอีกฝ่าย
แม้ว่าการสังหาร ไดเมียว จะส่งผลให้สงครามเริ่มต้นขึ้น คนกลุ่มเดียวที่จะต่อสู้กันก็คือเหล่านินจา พวก ไดเมียว จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้
ตัวอย่างเช่น หาก แคว้นแห่งสายฟ้า ส่งนินจาไปสังหาร ไดเมียว ของ แคว้นแห่งไฟ แคว้นแห่งไฟ ก็จะทำเช่นเดียวกันกับ แคว้นแห่งสายฟ้า
กลายเป็นการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย
หลังจากที่ มือเลือด ฆ่า ไดเมียว ของ แคว้นแห่งไฟ แล้ว เขาก็ได้สังหาร นินจาโคโนฮะ ไปอีก 3 คน แต่หนึ่งในนั้นก็สามารถทำเครื่องหมายลับไว้บนร่างกายของเขาได้
มันเป็นเครื่องหมายติดตาม
ดังนั้นหลังจากหมู่บ้านได้รับข่าวเรื่องนี้ พวกเขาก็ส่งทีม หน่วยลับ ออกติดตามเขาไป
ไนโตะ รู้เรื่องนี้ก็เพราะเขาสังเกตเห็นว่า ทีมหน่วยลับเหล่านี้ออกจากหมู่บ้านไปอย่างรีบเร่ง
ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงหน่วยข่าวกรองหน่วยลับ แต่เขาก็ไปที่นั่นและอ่านทุกอย่าง โดยที่ไม่มีใครหยุดเขา แม้แต่ โฮคาเงะ ก็ตาม
“เหลือเชื่อ…เขาลอบสังหาร ไดเมียวของแคว้นแห่งไฟ งั้นเหรอ? แคว้นแห่งลง และ แคว้นแห่งสายฟ้า อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เหรอเปล่าน่ะ?”
ไนโตะ พูดกับตัวเอง ขณะที่เอามือแตะคาง แล้วเดินออกจาก สำนักงานหน่วยลับ
การสังหาร ไดเมียว ไม่ใช่เรื่องยาก แต่หลังจากคุณทำมันลงไปแล้ว คุณก็ต้องเผชิญหน้ากับความโกรธแค้นของ แคว้นทั้งแคว้น!
เขาจะต้องมีความมั่นใจมาก ถึงขนาดกล้าทำให้หมู่บ้านใหญ่อย่าง โคโนฮะ โกรธ และ โคโนฮะ ก็จะไม่หยุดจนกว่าจะพบเขา
หลังจากที่ ไนโตะ ได้รับข้อมูลนี้แล้ว เขาก็ออกจาก โคโนฮะ และมุ่งหน้าไปตามทิศทางที่หน่วยลับวิ่งไป
ไนโตะ ไม่สนใจ ไดเมียว เขาสนใจแค่ ดาบคุซานางิ เท่านั้น เพราะมันเป็นของของเขา
หลังจากค้นหามาอย่างยาวนาน ไนโตะ ก็มั่นใจว่า ดาบคุซานางิ มีเพียงแค่ 3 เล่มเท่านั้น
ตอนนี้ ไนโตะ ได้มาแล้ว 2 เล่ม มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างดาบทั้ง 2 เล่มนี้ และถ้าเขาได้เล่มที่ 3 มา เขาก็คิดว่ามันน่าจะมีความสามารถพิเศษบางอย่างปรากฏออกมาให้เห็น
ดูเหมือนว่าดาบเล่มนี้จะหายไปนานแล้ว เพราะครั้งสุดท้ายที่มันปรากฏออกมาก็คือตอนที่ หมู่บ้านซึนะ ชิงมันไปจาก ตระกูลคุซานางิ
หลังจาก ไนโตะ วิ่งไปสักพัก เขาก็ไม่พบร่องรอยของ มือเลือด เลย!
ไนโตะ รู้ว่า มือเลือด เป็นคนฉลาด ดังนั้นเขาจะเลือกอยู่ในที่ที่อันตรายที่สุดเพราะมันคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้นเขาก็น่าจะยังอยู่ใน แคว้นแห่งไฟ ในขณะที่คนอื่นคิดว่าเขาหนีออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน ทีมหน่วยลับก็พบตัว มือเลือด
และผลลัพธ์ก็น่าตกใจ
เพราะก่อนที่ ไนโตะ จะออกมา โคโนฮะ ได้ส่งทีมหน่วยลับพิเศษมาเพิ่มอีก 2 ทีม แล้วทีมหน่วยลับทั้งหมดก็รวมกันเป็นทีม 8 คน!
แต่ มือเลือด กลับจัดการฆ่าพวกเขาไป 4 คนแล้วหลบหนีไปอีกครั้ง!
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลก็รายงานมาว่า มือเลือด ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ถึงอย่างนั้นมันก็ยังน่าตกใจอยู่ดี และ โคโนฮะ ก็พร้อมที่จะส่ง ซาคุโมะ ออกไปจัดการกับเขาทุกเมื่อ
หลังจากนั้น ไนโตะ ก็วิ่งไปจนพบกับทีมหน่วยลับที่เหลือ และเมื่อเขารู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไนโตะ ก็ไม่พอใจเล็กน้อย เพราะถ้าเป็นเขาที่เจอตัว มือเลือด เขาจะฆ่า มือเลือด ได้ด้วยดาบเดียว
จากนั้น ไนโตะ ก็พูดออกมาประโยคหนึ่งออกมา
“ฉันจัดการเอง”
ด้วยประโยคง่าย ๆ ทีมหน่วยลับที่เหลือก็มุ่งหน้ากลับไปที่ โคโนฮะ ทันที
ในขณะนั้น โคโนฮะ ก็กำลังเตรียมส่งอีกทีมหนึ่งซึ่งนำทีมโดย ซาคุโมะ ออกไป แต่เมื่อทีมหน่วยลับที่เหลือกลับมาถึงหมู่บ้านและเล่าเรื่อง ไนโตะ ให้ฟัง พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องส่งหน่วยเสริมออกไปอีกต่อไป!
เพราะพวกเขารู้ว่าเรื่องทั้งหมดนั้นจบลงแล้ว เมื่อ ไนโตะ ตัดสินใจที่จะจัดการเขาด้วยตัวเอง
ตอนที่ 243
ไนโตะ ไล่ล่า มือเลือด ไปอย่าต่อเนื่อง และด้วยความเร็วของเขา เขาจะไปถึงตำแหน่งปัจจุบันของ มือเลือด ได้ภายในไม่กี่วัน
แต่ มือเลือด ก็เคลื่อนที่อยู่เช่นกัน และตอนนี้เขาก็คงจะเคลื่อนที่เร็วขึ้นและคอยเปลี่ยนเส้นทางหลังจากสังหารทีมหน่วยลับไปแล้วและรู้ว่ามีคนตามเขาอยู่
เมื่อดูจากสิ่งที่เขาทำ มันฟังดูน่าประหลาดใจ นินจาคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับ คาเงะ!
และด้วยความสามารถของ ดาบคุซานางิ เขาก็คงจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก!
…
ครึ่งเดือนผ่านไป
ในป่า
ตอนแรก ไนโตะ ตาม มือเลือด โดยใช้ข้อมูลที่ได้จาก ทีมหน่วยลับโคโนฮะ และเมื่อเขาเข้าใกล้ มือเลือด มากขึ้น ดาบคุซานางิ ทั้ง 2 เล่มของเขาก็เริ่มสัมผัสได้ถึงดาบอีกเล่มหนึ่งในทิศทางหนึ่ง
แม้ว่าสัมผัสมันยังอ่อนมาก แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะไล่ตาม มือเลือด จากร่องรอยที่ มือเลือด ทิ้งไว้ เพราะส่วนใหญ่แล้วมันเป็นของปลอมที่ มือเลือด กำไว้เพื่อไม่ให้มีใครตามเขาได้ถูกทาง
ตามรอยด้วยสัมผัสที่แผ่วเบา และในที่สุด ไนโตะ ก็พบ มือเลือด!
เขาอยู่ในป่าแห่งนี้ และเขาก็กำลังเคลื่อนที่อยู่ แต่เพราะ ไนโตะ เข้าใกล้เขามากแล้ว ดังนั้น ไนโตะ จึงสัมผัสตำแหน่งของเขาได้ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ แม้ว่ามันจะยังเป็นแค่ภาพเบลอ ๆ ก็ตาม
ฟึ๊บ! ฟึ๊บ!!
ไนโตะ เคลื่อนที่ไปตามป่าด้วยความเร็วเต็มที่
ไนโตะ ถือ ดาบคุซานางิ วิ่งไล่ตาม มือเลือด ไม่ใช่จากบนต้นไม้แต่เขาวิ่งบนพื้น เพราะเป็นวิธีที่เร็วที่สุด
นินจาส่วนใหญ่เลือกเคลื่อนที่บนต้นไม้เพื่อลดร่องรอย เพราะบนพื้นดินจะทิ้งรอยเท้าไว้ชัดเจนกว่า และโดยปกติแล้วนินจาส่วนใหญ่ก็มุ่งเน้นไปที่การซ่อนร่องรอยของพวกเขาให้มากที่สุด
แต่ ไนโตะ ไม่สนใจที่จะซ่อนร่องรอยของเขา เขามุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวในขณะที่สัมผัสพิเศษของเขาเปิดอย่างเต็มที่ และไม่มีอะไรสามารถหยุดเขาได้ แม้แต่ต้นไม้ที่ขวางทางเขา เขาก็โค่นมันลงด้วย ดาบคุซานางิ
มือเลือด เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่สูงมาก แต่ก็เทียบไม่ได้กับความเร็วของ ไนโตะ และในที่สุดหลังจากนั้นไม่นาน ไนโตะ ก็วิ่งเข้าใกล้ มือเลือด มากขึ้นจนทำให้ มือเลือด เข้ามาอยู่ในระยะของสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ ทำให้ ไนโตะ สามารถสัมผัสถึง มือเลือด ได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น มือเลือด ก็หยุดวิ่งอย่างกระทันหัน แต่เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ เขาวิ่งกลับมาและมุ่งตรงเข้าหา ไนโตะ อย่างรวดเร็ว
มือเลือด มีหน้าที่ขาวซีดแต่เขาไม่ได้กลัว และถ้าคุณมองดี ๆ ก็จะเห็นว่าแขนของเขาก็ขาวเช่นกัน ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสีผิวปกติของเขา
ในขณะที่ มือเลือด พร้อมที่จะโจมตี ไนโตะ ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เร่งความเร็วในทันที
เหยียบเวหา!!
เห็นได้ชัดว่าความเร็วระดับนี้ของ ไนโตะ นั้นอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของ มือเลือด เพราะความเร็วเดิมของ ไนโตะ ก็น่าตกใจมากพอแล้ว และความเร็วระดับนี้ทำให้เขาตกใจมากขึ้นไปอีก
“คาถาโลหิต…” (ธาตุที่เกิดจากการรวมกันของคุณสมบัติจักระ น้ำ , หยิน และ หยาง)
ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็พุ่งมาอยู่ตรงหน้า มือเลือด
ฟั๊บ!!
ไนโตะ ฟันดาบออกไป
ทันใดนั้นเลือดก็สาดกระเซ็น และร่างของ มือเลือด ก็ถูกฟันขาดออกเป็น 2 ส่วน
“อะไรกัน?!” ไนโตะ อุทานออกมา
ไนโตะ เพิ่งตัด มือเลือด ออกเป็น 2 ส่วน แต่ ไนโตะ กลับเป็นคนที่ต้องประหลาดใจ
ร่างของ มือเลือด ทั้ง 2 ส่วน หล่นลงกับพั้น แต่หลักจากนั้นมันก็ละลายกลายเป็นกองเลือด ทันใดนั้นกองเลือดก็ก่อตัวขึ้นมาและกลายเป็นร่างเลือด 2 ร่างแล้วพุ่งเข้าหา ไนโตะ ทันที
“คาถาโลหิต เหรอ?”
นี้คือเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับฉายาแบบนั้น โลกแห่งนี้เต็มไปด้วยความสามารถแปลก ๆ เช่นบางคนก็สามารถใช้กระดูกของเขาเป็นอาวุธได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะพบคนที่สามารถใช้เลือดได้
แต่ร่าง 2 ร่างนี้ก็เป็นเพียงเลือดที่รวมตัวขึ้นมาเป็นร่าง ไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ ไนโตะ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
วิชาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นสิ่งที่อันตรายเสมอ
สิ่งที่ไม่รู้จักเท่ากับอันตราย
ดังนั้น ไนโตะ จึงกำหมัดและต่อยออกไป
ตู้ม!!
อากาศระเบิดออกและทั้ง 2 ร่างก็ถูกทุบ
ผลกระทบทำให้เกิดเสียงแปลก ๆ และร่างเลือด 2 ร่างก็ระเบิดออกกลายเป็นเลือดธรรมดา!
“นี้มันคุณสมบัติจักระอะไรกันแน่…?”
ไนโตะ มองดูเลือดบนพื้น จากนั้นเขาก็ส่ายหัว ในขณะที่ดวงตาของแสดงความดุดันอย่างชัดเจน
หลังจากที่เขาทำลายร่าง 2 ร่างนี้ด้วยหมัดของเขา เลือดบนพื้นก็ไม่ขยับอีกต่อไป
ไนโตะ ขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็ใช้สัมผัสพิเศษเพื่อมองไปรอบ ๆ
“เป็นร่างแยกส่ะงั้น”
……..
ห่างออกไปที่แม่น้ำสายเล็ก ๆ ทันใดนั้นน้ำก็พลุ่งขึ้นมาและคนคนหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากในน้ำ ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวอย่าชัดเจน
“บ้าเอ้ย ร่างแยกเลือดของฉันถูกทำลายอย่างง่ายดาย นี่น่ะเหรอพลังของคนที่ได้ฉายาว่า เทพเจ้าแห่งนินจา? ถ้าอย่างงั้นฉันคงต้อง…”
ทันใดนั้นก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นมา และทำให้ มือเลือด ต้องหยุดพูด
ไนโตะ พุ่งออกมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วชกเขาด้วยหมัด
มือเลือด ถูกต่อยอย่างจัง และเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหวาดกลัว
ความเร็วอะไรกัน?!
เมื่อกี้เขายังอยู่ตรงนู้น แล้วตอนนี้เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
“วิชาร่างแยก หลอกฉันได้สนิทเลยนะเนี่ย เป็นเรื่องยากที่จะมอง คาถาโลหิต ของคุณออกได้”
ไนโตะ พูดอย่างสงบ ที่จริงแล้ว ไนโตะ ไม่ได้หา มือเลือด เจอด้วยร่อยรอยที่เขาทิ้งไว้ แต่ ไนโตะ หาเขาเจอเพราะสัมผัสจากดาบ ดังนั้นถ้าเขาไม่ยอมทิ้ง ดาบคุซานางิ ไว้ เขาก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน!
ไนโตะ ไล่ตาม มือเลือด โดยอาศัยสัมผัสจากดาบที่ ไนโตะ รู้สึกได้!
มือเลือด ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมากจากการถูกหมัดของ ไนโตะ ต่อยเข้าอย่างจัง
“ไม่มีใครเคยเห็นขีดจำกัดสายเลือดของฉัน…”
มือเลือด ข่มความกลัวเอาไว้ แล้วมองไปที่ ไนโตะ ด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมา
เขากำลังประสานอิน!
ไนโตะ พร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งที่ตรงมาหาเขาด้วยหมัด แต่นี่ไม่ใช่วิชาที่ใช้ในการโจมตี
ในวินาทีต่อมา ร่างกายของ มือเลือด ก็หายเป็นปกติ
“นั่นอะไร?!”
หลังจากนั้น ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่แปลก ๆ ของเลือดในร่างกาย มือเลือด
“น่าสนใจ”
มือเลือด แสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมาต่อหน้า ไนโตะ ราวกับว่าเขากำลังมองดูคนตายอยู่ ทันใดนั้นเขาก็แบมือออก แล้วน้ำเต้าก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา และในวินาทีต่อมาก็มีลำแสงสีทองพุ่งออกจากน้ำเต้าแล้วมุ่งหน้าตรงไปยัง ไนโตะ
ตอนที่ 244
ฟุ้ม!!!
ทันใดนั้น แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นราวกับว่ามีดาวตกลงมาจากท้องฟ้า
ในไม่ช้ามันก็มาถึงหน้า ไนโตะ
ไนโตะ รู้ว่านี่เป็นความสามารถของ ดาบสะบั้นเมรัย (ดาบโทซึกะ) ซึ่งมีอำนาจในการผนึกศัตรูเข้าไปในน้ำเต้า
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่กลัวพลังของมัน เพราะตัวเขาเองก็มีพลังที่สามารถเขย่าสวรรค์ได้!
และในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ลำแสงสีทองจะมาถึงตัวเขา ไนโตะ ก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ฟึ้ม!!
ทันใดนั้นลำแสงสีทองก็ไหลผ่านร่างของ ไนโตะ
เมื่อมองไปที่ภาพนี้ มือเลือด ก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมา
“นี่นะเหรอคนที่ถูกเรียกว่า เทพเจ้าแห่งนินจา…ที่แท้ก็เป็นเหมือนกับ นินจาโคโนฮะ คนอื่น ๆ น่าอับอายจริง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
มือเลือด มีความมั่นใจในความสามารในการผนึกของ ดาบสะบั้นเมรัย ของเขา และเขาก็คิดว่ายังไง ไนโตะ ก็น่าจะพยายามทำอะไรสักอย่างกับมัน
แต่เขาก็ไม่คิดว่า ไนโตะ จะปล่อยให้การโจมตีโดนตัวอย่างจัง โดยที่ ไนโตะ ไม่คิดจะหลบมันเลย!
มือเลือด มองไปที่ ไนโตะ ในขณะที่แสงสีทองทะลุตัว ไนโตะ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ทันใดนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนไป และเสียงหัวเราะของเขาก็หยุดลง
ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็หยุดนิ่ง จากนั้นเหงื่อก็ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของเขา
“นั่นมันอะไร?!!”
มือเลือด ถือน้ำเต้าไว้ในมือ ซึ่งทำให้เขาสามารถยืดหรือหด ดาบสะบั้นเมรัย ได้ตามต้องการ และสิ่งที่เขาพยายามทำก็คือควบคุมดาบเพื่อผนึก ไนโตะ เข้าไปในน้ำเต้า
แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามกี่ครั้ง ดาบก็ไม่ขยับและเขาก็ไม่สามารถผนึก ไนโตะ เข้าไปในน้ำเต้าได้!
ราวกับว่าร่างของ ไนโตะ เป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ถูกตอกติดกับพื้น ซึ่งไม่มีทางที่จะดึงขึ้นมาได้!
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ไม่ควรเกิดขึ้น!
ดาบสะบั้นเมรัย มีความสามารถพิเศษนี้ในการผนึกศัตรูที่โดนใบดาบแทง (ลำแสงสีทอง) มันไม่เคยล้มเหลว ไม่มีทางที่จะมีใครที่สามารถต้านทานการผนึกนี้ได้ แล้ว ไนโตะ ทำได้ยังไง?!
มือเลือดไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“คุณคิดว่า ดาบคุซานางิ จะกล้าผนึกผู้ที่สร้างมันขึ้นมางั้นเหรอ?”
ไนโตะ มองดูอย่างใจเย็นไปที่ มือเลือด ที่น่าสงสารด้วยสายตาเย้ยหยัน
จากนั้น ไนโตะ ก็เอามือแตะใบดาบ (ลำแสงสีทอง) ที่ทะลุอกของเขาอยู่
ทันใดนั้น มือเลือด ก็รู้สึกถึงได้ถึงพลังที่เขาไม่อาจต้านทานได้และเขาก็ไม่สามารถถือน้ำเต้าของ ดาบสะบั้นเมรัย ได้อีกต่อไป และในวินาทีต่อมามันก็ลอยออกจากมือของเขาแล้วพุ่งตรงไปหา ไนโตะ ทันที
อะไรกัน!!
ใบมีดถูกดึงกลับเข้าไปในน้ำเต้า ในขณะที่ร่างของ ไนโตะ ไม่มีรอยบาดแผลจากการถูก ดาบสะบั้นเมรัย แทงเลยแม้แต่น้อย เพราะในขณะที่มันแทงทะลุตัวเขา มันไม่ได้ทำร้ายเขา แต่มันเชื่อมต่อเข้ากับเขา
ดาบสะบั้นเมรัย…เป็นของ ไนโตะ แล้ว!
น้ำเต้าสีทองสั่นไหวเบา ๆ ในมือของ ไนโตะ เห็นได้ชัดว่ามันกำลังมีความสุข
ภาพนี้ทำให้ มือเลือด ยืนตัวแข็งทื่อ
เขาตั้งใจให้ ดาบสะบั้นเมรัย ทะลุตัวเขา เพื่อที่เขาจะได้ชิงดาบไปงั้นเหรอ?!
ล้อเล่นใช่ไหม!!
มือเลือด รู้สึกราวกับว่าเขากำลังฝันไป ถ้า ไนโตะ ป้องกันมันได้หรือหลบมันพ้น เขาก็จะไม่ตกใจขนาดนี้
เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น
ทันทีที่ ไนโตะ วางมือลงบน ดาบสะบั้นเมรัย เขาก็รู้สึกได้ว่าดาบอีก 2 เล่มของเขากำลังส่งเสียงร้องบางอย่าง
“ในที่สุด ฉันก็ได้ดาบเล่มสุดท้ายสักที”
เมื่อมองที่น้ำเต้าในมือของเขา เขารู้สึกอารมณ์ดีมากขณะที่เขาพูดแบบนั้นออกมาเบา ๆ แต่เขาก็ไม่ได้เอาดาบ 2 เล่มแรกออกมาทันที เพราะการต่อสู้ยังไม่จบลง
เขาชี้ดาบและมองไปที่ มือเลือด
“ของคุณที่เก็บมันไว้มาอย่างยาวนาน และนำมันมาให้ฉัน”
ไนโตะ อารมณ์ดีมากขณะยิ้มให้ มือเลือด เขาถือ ดาบสะบั้นเมรัย ไว้ในมือแล้วส่งจักระเข้าไปในดาบ
“เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!!”
มือเลือด ยังคงไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ ใบหน้าของเขายังคงแสดงออกถึงความไม่อยากเชื่อ
เมื่อ มือเลือด เห็น ดาบสะบั้นเมรัย ชี้มาทางเขา หัวใจของเขาก็เริ่มสั่นคลอนด้วยความกลัว และทันใดนั้นเขาก็เหมือนว่าจะเข้าใจอะไรบางอ่าง
ดาบสะบั้นเมรัย!
เขาครอบครองดาบเล่มนี้มาอย่างยาวนานและเขาก็รู้ความสามารถของมันเป็นอย่างดี เขาใช้มันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และไม่มีใครสามารถต้านทานความสามารถของมันได้!
หัวใจของเขาจมลงสู่ความกลัว เขาไม่ต้องการต่อสู้กับดาบเล่มนี้ ในไม่ช้าเขาก็ประสานอินด้วยมือข้างเดียว จากนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นกองเลือดและพยายามไหลลงไปในแม่น้ำ
แต่ในวินาทีต่อมา ลำแสงสีทองก็ไหลผ่านร่างเขาก่อนที่เขาจะไปถึงแม่น้ำ!
“ไม่…ม้ายย!!”
กองเลือดกลับกลายเป็นร่างมนุษย์อีกครั้ง
ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง เขามักอาศัยพลังของดาบเล่มนี้ในการเอาชนะศัตรูของเขามามากมาย เขาไม่เคยคิดเลยว่า เขาจะมีชะตากรรมเช่นเดียวกับคนที่พ่ายแพ้ให้กับเขา!
เสียงของ มือเลือด หยุดลงอย่างกะทันหันและด้วยความสิ้นหวังบนใบหน้าของเขา ร่างกายทั้งหมดของเขาก็ละลายและถูกดูดเข้าไปในน้ำเต้าในมือของ ไนโตะ
ในที่สุด ลำแสงสีทองก็จางหายไปในน้ำเต้า
จริง ๆ แล้ว ดาบสะบั้นเมรัย ไม่มีใบดาบจริง ๆ แต่มันคือแก่นของพลัง
ฟึ้ม! ฟึ้ม!!
ควันสีขาวปรากฏขึ้นมาและ ดาบคุซานางิ ทั้ง 2 เล่ม ก็ลอยปรากฏอยู่ต่อหน้า ไนโตะ ในอากาศ โดยที่เขายังคงถือน้ำเต้าของ ดาบสะบั้นเมรัย เอาไว้ในมือ
ในที่สุด ดาบคุซานางิ ทั้ง 3 เล่มก็ได้กลับมาอยู่รวมกันอีกครั้ง!
ตอนที่ 245
ดาบคุซานางิ ทั้ง 3 เล่ม ดึงดูดกันเหมือนแม่เหล็ก หาก ไนโตะ ไม่ถือน้ำเต้าไว้ พวกมันคงจะพุ่งเข้าหากันและชนกันกลางอากาศแน่นอน
ในตอนที่เขายังมี ดาบคุซานางิ เพียงแค่ 2 เล่ม เขารู้สึกถึงความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างดาบ 2 เล่มนั้น แต่ตอนนี้หลังจากที่เขาได้ดาบ คุซานางิเล่มที่ 3 มา ความเชื่อมโยงเหล่านั้นก็แข็งแกร่งขึ้น
ไนโตะ ปล่อย ดาบคุซานางิ 2 เล่มไว้ในอากาศ ในขณะที่เขาถืออีกเล่มหนึ่ง (น้ำเต้า) เอาไว้อย่างระมัดระวัง
ดาบสะบั้นเมรัย มีความสามารถในการผนึกศัตรู แต่หลังจากที่มันผนึกคนเหล่านั้นเข้าไปแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?!
แล้วถ้าคุณทำลายน้ำเต้านี้ ศัตรูเหล่านั้นจะถูกปลดปล่อยออกมาหรือไม่?
นี่คือสิ่งที่เขาคิด แต่ ไนโตะ ก็ไม่ได้ทำแบบนั้น เขาแค่อยากรู้องค์ประกอบทั้งหมดของ ดาบสะบั้นเมรัย เท่านั้น แต่หลังจากค้นหามันมาอย่างยากลำบาก เขาก็เลือกที่จะเก็บสะสมพวกมันเอาไว้
ดาบได้สร้างความสัมพันธ์ใหม่กับ ไนโตะ
ดาบสะบั้นเมรัย มีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง มันสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของมันให้กับ ไนโตะ ได้ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอยู่ดี
การสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของมันนั้นง่ายมาก แม้มันจะน้อยนิดก็ตาม
แต่แค่นั้นมันก็มากพอแล้ว อันที่จริงมันน่าอัศจรรย์มาก และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ราวกับว่ามันได้เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของ ไนโตะ แล้ว
บางทีดาบอาจไม่ใช่แค่ผนึกศัตรูไว้ในน้ำเต้า บางทีมันอาจจะช่วยเพิ่มพลังวิญญาณให้แก่ผู้ใช้ด้วย!
กึก ๆ!!
ดาบทั้ง 3 เล่ม สั่นราวกับว่าพวกมันกำลังร้องขอให้ ไนโตะ ปล่อยให้พวกมันมารวมตัวกัน
หลังจากที่เขามองดู ดาบสะบั้นเมรัย ในมือของเขาอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ทำบางอย่าง
เป้ง!!
ทันทีที่เขาปล่อยดาบ (น้ำเต้า) ออกจากมือ ทันใดนั้นมันก็พุ่งตรงไปหาดาบอีก 2 เล่ม และเมื่อพวกมันชนเข้าหากัน พวกมันก็ถูกดูดเข้าไปในน้ำเต้าและถูกผนึกเอาไว้ในนั้น!
ภาพนี้สร้างความสับสนให้กับ ไนโตะ
ไนโตะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะปลดปล่อยสิ่งที่ผนึกไว้ในน้ำเต้าออกมาได้อย่างไร? และตอนนี้มันก็กินดาบอีก 2 เล่มเข้าไปแล้ว!
ทันใดนั้น ออร่าอันน่าแปลกประหลาดก็ปะทุออกมา
ทันทีที่ ดาบสะบั้นเมรัย กลืน ดาบคุซานางิ อีก 2 เล่มเข้าไป ไนโตะ ก็รู้สึกได้ถึง ความกระหาย ในบางอย่างของมัน และเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังพิเศษบางอย่างจากออร่าที่ออกมาเหล่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้ทำให้ ไนโตะ แปลกใจ
เพราะมันคือ พลังงานธรรมชาติ!
ดาบสะบั้นเมรัย สามารถดูดซับ พลังงานธรรมชาติ ได้จริงหรือ?!
เหตุการณ์นี้ทำให้ ไนโตะ ตกตะลึง เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ดาบและสงสัยว่ามันสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้อย่างไร
น้ำเต้า ยังคงดูดซับพลังงานอย่างต่อเนื่อง แต่มีบางอย่างที่แตกต่างออกไป
มันไม่ได้แค่ดูดซับพลังงานเข้าไปเท่านั้น
แต่หลังจากที่ ดาบสะบั้นเมรัย มันกลืน ดาบคุซานางิ อีก 2 เล่มเข้าไปแล้ว มันก็ยังแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย!
หลังจากตรวจสอบความเป็นไปได้อยู่นาน ไนโตะ ก็เข้าใจในที่สุด
“กลายเป็นว่า…ดาบทั้ง 3 เล่ม รวมเป็นหนึ่งเดียวกันงั้นเหรอ?”
เมื่อมองไปที่ ดาบสะบั้นเมรัย ที่ลอยอยู่กลางอากาศและดูดซับพลังงานธรรมชาติอยู่อย่างต่อเนื่อง ไนโตะ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดคำเหล่านั้นออกมา
จุดประสงค์ของการมีอยู่ของ ตระกูลคุซานางิ ก็คือการตีอาวุธขึ้นมา และดาบที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็ไม่ใช่อาวุธธรรมดา แต่พวกเขาสร้างอาวุธเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งและทรงพลังใกล้เคียงกับอาวุธของ เซียน 6 วิถี!
อย่างไรก็ตาม ตระกูลคุซานางิ ก็ไม่ได้มีบรรพบุรุษเป็น เซียน 6 วิถี และพวกเขาก็ไม่มีอำนาจแบบนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสร้างอาวุธที่ทรงพลังได้เทียบเท่า
ดังนั้น ตระกูลคุซานางิ จึงเลือกวิธีอื่น นั่นก็คือการแยกพลังของ อาวุธเวทย์มนตร์ ออกเป็นดาบทั้ง 3 เล่ม
ดาบสะบั้นเมรัย เป็นแก่นของพลัง พวกเขาจึงให้อำนาจในการผนึกศัตรูและอำนาจในการดูดซับพลังงานจากศัตรูที่ถูกผนึกไว้แก่มัน
และหลังจากดูดซับพลังงานจนเพียงพอแล้ว ดาบก็จะถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน และกลายเป็นอาวุธเวทย์มนตร์ ที่มีความสามารถไม่เหมือนใคร!
และหลังจากที่มันดูดซับพลังงานธรรมชาติจนเพียงพอแล้ว มันจะแข็งแกร่งมากจนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของผู้ใช้ เพราะแค่พลังของมันก็เพียงพอแล้วที่จะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับอาวุธของ เซียน 6 วิถี!
น้ำเต้ายังคงดูดซับพลังงานธรรมชาติต่อไป ไนโตะ รู้ว่ามันกำลังสะสมพลังอยู่ภายใน ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงของดาบใหม่ยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลเกี่ยวกับมัน
หลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ไนโตะ ก็คิดว่ากระบวนการนี้อาจกินเวลาถึง 1 เดือน
เนื่องจากมันดูดซับพลังงานธรรมชาติตลอดเวลาทำให้ขนาดของมันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และ ไนโตะ ก็ไม่พร้อมที่จะนำมันกลับไปที่หมู่บ้าน เพราะมันอาจทำให้เขามีปัญหาได้
ดังนั้น ไนโตะ จึงหาที่พักอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น
เมื่อ ดาบสะบั้นเมรัย ดูดซับพลังงานจากธรรมชาติ ไนโตะ ก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน!
ก่อนหน้านี้ ไนโตะ พยายามสัมผัสถึงการมีอยู่ของพลังงานธรรมชาติอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่มันยากเกินไปสำหรับเขา เพราะเขาไม่สามารถมุ่งเน้นไปที่การสัมผัสพลังงานธรรมชาติได้โดยไม่สัมผัสได้ถึง พลังสั่นสะเทือน ของเขา
แต่ในตอนนี้สิ่งที่ ไนโตะ ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ ดาบสะบั้นเมรัย เริ่มดูดซับพลังงานธรรมชาติ ไนโตะ ก็สามารถรู้สึกได้ถึงการไหลของพลังงานธรรมชาติด้วยสัมผัสพิเศษของเขา!
หลังจากที่เขาหลับตาลง โลกที่เขาเห็นด้วยสัมผัสพิเศษก็แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
พื้นดิน , ท้องฟ้า , ต้นไม้ , ต้นหญ้า ทุกอย่างเต็มไปด้วยพลังงานธรรมชาติ
“นี่คือพลังงานธรรมชาติสิน่ะ…”
ไนโตะ หลับตาอยู่ แต่ใบหน้าของเขาก็แสดงออกว่าเขาตกใจ เพราะไม่ว่าจะยังไง หรือคุณจะคิดยังไง พลังงานธรรมชาตินั้นก็เป็นปริศนาสำหรับเขาเสมอ
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะยังสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานธรรมชาติได้อีกหรือไม่ ถ้าดาบหยุดดูดซับพลังงาน
ดังนั้น ไนโตะ จึงนั่งอยู่ถัดจากมัน และทำสมาธิเพื่อเข้าถึงพลังงานธรรมชาติ เป้าหมายของเขาคือการทำให้สัมผัสพิเศษของเขาสามารถสัมผัสถึงมันได้แม้จะอยู่ในสภาวะปกติ
หลังจากทำสมาธิอย่างหนัก ไนโตะ ก็ประสบความสำเร็จ!
เมื่อ พลังสั่นสะเทือน ของ ไนโตะ พัฒนาไปจนถึงระดับที่ 5 สัมผัสพิเศษของเขาก็ได้รับการพัฒนาขึ้นไปด้วย และหลังจากที่เขาฝึกพลังวิญญาณ มันก็ทำให้สัมผัสพิเศษของเขาแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น