The Strongest Hokage 232-238
ตอนที่ 232
เมื่อ คุชินะ ได้ยินสิ่งที่ ไนโตะ พูด เธอก็รู้สึกเป็นกังวลมาก แต่ในวินาทีต่อมา เธอก็ไม่ได้ถามอะไรเขาออกไป เธอแค่กระพริบตาสวย ๆ ของเธอ และจับมือ ไนโต อย่างอ่อนโยน
เธอจับมือเขาแน่นและมองไปที่เขา แล้วยิ้ม
ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดอะไรอธิบายคำตอบของเธอ
ไนโตะ ยิ้มกลับให้เธอ จากนั้นเขาก็จับมือเธอแน่นและมองไปในหมู่บ้าน
แม้ว่า คูชินะ จะเป็น พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง และไม่ว่า ไนโตะ จะออกไปจาก โคโนฮะ เมื่อไร เธอก็จะไปกับเขาอย่างแน่นอน
ไม่ว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไงก็ตาม!
……..
วันต่อมา
มันเป็นวันที่มีแดดจ้า เมฆสีขาวบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยความสงบ
หลังจากสิ้นสุด มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 หมู่บ้านใหญ่ต่างตกอยู่ในภาวะสับสนและวุ่นวาย แต่ไม่ใช่ที่ โคโนฮะ
ในวันนี้ ไม่มี สมาชิกตระกูลอุจิฮะ คนไหนมาเดินอยู่ในหมู่บ้านเลย
อย่างไรก็ตาม หมู่บ้านก็ไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาแค่ส่งนินจาคนอื่น ๆ มาเติมให้เต็มพื้นที่ในการลาดตระเวนประจำวันเท่านั้น
ที่จริงแล้ว หลังจากสิ้นสุด มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ความต้องการในการใช้นินจาไปลาดตระเวนก็ไม่จำเป็นเท่าไรนัก
คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ใน สำนักงานกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ที่อยู่ในเขตบ้านของ ตระกูลอุจิฮะ
พวกเขาทั้งหมดเป็น สมาชิกของตระกูลอุจิฮะ ไม่มี นินจาโคโนฮะ คนอื่นที่นั่น แม้แต่ โฮคาเงะ ก็ไม่ได้รับเชิญ
นินจาเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็น โจนิน , โจนินพิเศษ และ จูนิน แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็น จูนิน และแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่มี เนตรวงแหวน
พวกเขาส่วนใหญ่ที่มี เนตรวงแหวน จะเป็นนินจาระดับ โจนิน เพราะเมื่อพวกเขาสามารถปลุก เนตรวงแหวน ได้แล้ว
พวกเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็น โจนิน โดยอัตโนมัติ
เนตรวงแหวน ค่อนข้างหาได้ยากในตระกูล ไม่ต้องพูดถึง เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ดูเหมือนว่านอกจาก มาดาระ และ อิซึนะ (น้อง มาดาระ) แล้วก็แทบจะไม่มีใครสามารถปลุกมันขึ้นมาได้
แม้แต่ คาเงยาม่า ที่กำลังจะสละตำแหน่งผู้นำตระกูลก็ยังไม่มี เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา
ลานกลางบ้านมีขนาดใหญ่มาก และ นินจาอุจิฮะ ก็รวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก
บนแท่นหินที่อยู่ด้านหน้าของกลุ่มคน ฟูกาคุ ที่กำลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้นำตระกูลอุจิฮะ และเป็น ผู้บังคับการกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ยืนอยู่ที่นั่น!
คาเงยาม่า ยืนอยู่ข้าง ๆ ฟูกาคุ เขาสวมเสื้อคลุมที่มีรอยยับ ขณะที่สีหน้าของเขาแสดงถึงความเคร่งขรึมเล็กน้อย
ในขณะที่ ฟูกาคุ ดูเต็มไปด้วยความมั่นใจและดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งของเขา
เขามั่นใจว่าเขาจะนำตระกูลไปสู่ความสำเร็จและเขาก็พร้อมที่จะขจัดอุปสรรคใด ๆ ก็ตามที่จะขัดขวางหนทางสู่เป้าหมายของเขา รวมไปถึง ไนโตะ ด้วยเช่นกัน!
“ทุกคนมาครบแล้วใช่ไหม?”
เมื่อมองดูฝูงชนที่หนาแน่นที่อยู่ด้านล่าง คาเงยาม่า ก็ถามออกไปด้วยเสียงเบา ๆ ขณะที่เขาแสดงออกอย่างสง่างามและน่านับถือ
นินจาด้านล่างตอบกลับมาก ขณะที่มองไปที่ คาเงยาม่า ด้วยความเคารพ
“ทุกคนมาครบแล้วครับ”
“โอเค งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”
คาเงยาม่า สูดหายใจลึก ๆ แล้วยิ้มให้ ฟูกาคุ เขามองไปที่ลูกชายอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าตำแหน่งนี้จะได้รับการสืบทอดต่อไปยัง ฟูกาคุ โดยอัตโนมัติ แต่ก็มักมีคนไม่พอใจอยู่เสมอ
แต่ คาเงยาม่า ก็เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาปูทางให้กับ ฟูกาคุ ให้ประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำตระกูล ด้วยการปลดผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกจากตำแหน่งระดับสูง และแทนที่ด้วยคนที่เชื่อฟังเขา
เขาควบคุมทุกอย่างไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่า สมาชิกระดับสูงของตระกูลก็เห็นด้วย
สมาชิกระดับสูงเหล่านี้ ล้วนเป็นหัวหน้าหน่วยของกองกำลังตำรวจโคโนฮะ และเป็นนินจาที่ได้รับตำแหน่งอยู่เป็นเวลานาน คล้ายกับผู้อาวุโสของ โคโนฮะ
คนเหล่านี้คือผู้อาวุโสของตระกูล ดังนั้นพวกเขาจึงยืนอยู่แถวหน้าของกลุ่มคน
คาเงยาม่า เริ่มพูดอย่างจริงจังเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ยาวนานของเขา ซึ่งทำให้บรรยากาศของฝูงชนและทำให้พวกเขาทุกคนรู้ว่าตระกูลของพวกเขายิ่งใหญ่เพียงใด ยิ่งใหญ่กว่า ตระกูลเซนจู
ที่จริงแล้วสิ่งที่เขาพูดทั้งหมดก็เป็นเรื่องจริง แม้ว่า ตระกูลเซนจู จะไม่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็เหลือน้อยมาก หลังจากจบ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2
“ฉัน อุจิฮะ คาเงยาม่า ผู้บังคับการกองกำลังตำรวจโคโนฮะ และผู้นำตระกูลอุจิฮะ…ฉันขอแต่งตั้ง…อุจิฮะ ฟูกาคุ ให้เป็นผู้นำคนต่อไปของเรา!”
คาเงยาม่า กล่าวคำเหล่านี้ ขณะที่เขามองไปยัง ผู้อาวุโสของตระกูลอุจิฮะ เพื่อขอคำรับรอง
ถึงอย่างนั้น เรื่องนี้ก็ได้ถูกตัดสินใจไปแล้ว พวกเขาแค่ต้องทำเป็นให้เป็นพิธีเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
ผู้อาวุโสมองหน้ากันและพูดออกมาพร้อมกันว่า
“อนุมัติ”
“อนุมัติ”
“อนุมัติ”
………
สมาชิกทั้งหมดเริ่มเห็นด้วยกันและไม่มีใครคัดค้าน
นินจาที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มแสดงความตื่นเต้น และในวินาทีต่อมาพวกเขาก็เริ่มเรียก ฟูกาคุ ว่า ผู้นำตระกูล!
“ฟูกาคุ จะพาเราไปสู่จุดสูงสุดของโลก!”
“เราเชื่อในตัวเขา!”
ฟูกาคุ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของฝูงชน และมองไปที่ คาเงยาม่า
ขณะที่ คาเงยาม่า มองไปที่ฝูงชนและรอพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะสงบลง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “เนื่องจากไม่มีใครคัดค้าน ฉันของประกาศว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ฟูกาคุ คือ…”
“ฉันคัดค้าน”
ในขณะที่เขากำลังประกาศให้ ฟูกาคุ เป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป ทุกคนก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังมาจากในกลุ่มฝูงชน
คาเงยาม่า ยืนอยู่ตรงนั้นและมองไปที่ฝูงชนด้วยสายตาที่โมโหและโกรธเคืองเป็นอย่างมาก เพื่อพยายามมองหาคนที่ไม่เพียงแต่กล้าขัดจังหวะพิธี แต่กล้าที่จะปฏิเสธลูกชายของเขาในฐานะผู้นำตระกูลคนใหม่อีกด้วย
มันเป็นใครกัน?!
ตอนที่ 233
เมื่อมีคนพูดขัดจังหวะขึ้นมา คนคนนั้นกำลังสร้างปัญหาให้ตัวเองอยู่ ซึ่งทำให้หัวใจของ คาเงยาม่า เต็มไปด้วยความโกรธ
เขาทนไม่ได้จนต้องใช้ เนตรวงแหวน เพื่อหาต้นตอที่มาของเสียงนั้นและจ้องมองเข้าไปที่ฝูงชน ในขณะที่พวกเขาก็กำลังมองหาคนที่พูดสิ่งนั้นออกไป
ในขณะที่ คาเงยาม่า กำลังมองไปที่ฝูงชนด้วยความโกรธ ทำให้ฝูงชนต่างต้องมองกันและกันด้วยความสยองขวัญ
ใครกันที่กล้าคัดค้าน?!
ในวินาทีต่อมา คนก็เริ่มหันไปมองด้านหลัง
1 คน
2 คน
10 คน
และทั้งฝูงชนก็หันกลับไปมองทิศทางเดียวกัน
เกิดเป็นจุดรวมสายตาขึ้นมา ณ จุดหนึ่งในทันที แต่จุดนั้นไม่ได้อยู่ด้านหลังสุด พวกเขากำลังมองไปที่ใครสักคนที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน
เมื่อคนแรกได้เห็นร่างของคนคนนั้น การแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็ดูหมดแรง ในขณะที่เขายืนตัวแข็งราวกับว่าเขากลายเป็นหิน
จากนั้นสิ่งเดียวกันก็เกิดขึ้นกับทุกคน…
ดูเหมือนกับว่าคนคนนั้นจะมีเวทมนตร์บางอย่างที่ทำให้ทุกคนที่เห็นเขากลายเป็นหินได้!
ทันใดนั้นความเงียบก็เข้าควบคุมสถานที่แห่งนี้เอาไว้
แม้แต่การเคลื่อนไหวของ คาเงยาม่า และ ฟูกาคุ ก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
ความเงียบเป็นสิ่งที่น่ากลัว แม้แต่เสียงการหายใจก็ดูเหมือนจะหยุดไป มันเงียบจนคุณสามารถได้ยินเสียงเข็มที่ตกลงมาบนพื้นได้อย่างชัดเจน
ที่ใจกลางของฝูงชน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าของ ไนโตะ จากนั้นเขาก็ย้ำประโยคนั้นเบา ๆ อีกครั้ง
“ฉันคัดค้าน”
ไนโตะ พูดออกมาเบามาก แต่ก็ดูเหมือนว่าเป็นเสียงพายุที่พัดเข้ามาในหูของทุกคน ทั้ง ๆ ที่ในเวลานั้นท้องฟ้าจะแจ่มใสก็ตาม
พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากแสดงความสยองขวัญออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
“ไนโตะ!”
“แก…แกเข้ามาทีนี่ได้ยังไง?!!”
คาเงยาม่า ที่ยืนอยู่ที่บนเนินหิน ก็เหงื่อขึ้นเต็มหน้าทันทีที่เขาเห็น ไนโตะ
เขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะมาสร้างปัญหาให้เขาในวันนี้
แต่เขาก็กล้ามา!
แม้แต่ ตระกูลอุจิฮะ ก็ไม่กล้าสร้างปัญหาแบบนี้ในหมู่บ้าน!
คาเงยาม่า ส่งสัญญาณให้ ฟูกาคุ หนีในทันที
ฟูกาคุ รู้สึกประหลาดใจมากกับการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของ ไนโตะ แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นท่าทางของ คาเงยาม่า เขาก็พยักหน้าและเตรียมหนีในทันที
แต่ก่อนที่เขาจะวิ่งไปถึงประตู ไนโตะ ที่เมื่อกี้อยู่ท่ามกลางฝูงชนก็เคลื่อนที่ชั่วพริบตาและมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
“พิธีแต่งตั้งตำแหน่งยังไม่จบ คุณจะรีบไปไหนละ คุณว่าที่ผู้นำตระกูล?”
ไนโตะ เอนหลังพิงประตูพร้อมกับสีหน้าที่ขี้เกียจบนใบหน้าของเขา
นินจาในที่นี่ล้วนแต่เป็นนินจาระดับสูง พวกเขาเคยผ่านการต่อสู้นองเลือดมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นความเร็วของ ไนโตะ ด้วยสายตาของพวกเขาเอง ก็ทำให้พวกเขารู้สึกทึ่งและหวาดกลัวในทันที
คาเงยาม่า พยายามรักษาความสงบของเขาเอาไว้ ขณะที่เขาเดินไปที่ด้านหน้าของ ฟูกาคุ แล้วมองไปที่ ไนโตะ และพูดว่า “นี่เป็นพิธีสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลของเรา คนนอกไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่”
“โอ้? อย่างงั้นเหรอ? แล้วถ้าฉันอยากมีส่วนร่วมล่ะ?”
ไนโตะ ยกมือขึ้นมาแสดงท่าทางเล็กน้อย แต่การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายนี้ ก็ทำให้ทั้ง คาเงยาม่า และ ฟูกาคุ รู้สึกว่าถูกคุกคามจนต้องกระโดดถอยหลังออกไปและใช้ เนตรวงแหวน ในทันที
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้พวกเขาโกรธก็คือ ไนโตะ ทำให้พวกเขาต้องกระโดดกลับไป แต่เขากลับยังยืนพิงกำแพงอยู่เหมือนเดิม
ไนโตะ ไม่ได้มีจิตสังหารใด ๆ เขาเหมือนเป็นคนธรรมดา ๆ
ในขณะที่ คาเงยาม่า กลับรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
เขารู้อยู่ตั้งแต่แรกที่เห็น ไนโตะ มาอยู่ที่นี่แล้วว่า พิธีนี้จะไม่มีทางเสร็จสิ้นในวันนี้ นี่คงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน!
เมื่อคิดอย่างนี้ คาเงยาม่า ก็ฟันแน่นด้วยใบหน้าที่เย็นชาของเขา
เขาต้องการที่จะจบเรื่องนี้
แต่ ไนโตะ ก็ได้ชื่อว่าเป็นถึง เทพเจ้า เลยนะ?!
แต่เขาก็อยู่ในเขตของตระกูลอุจิฮะ และสมาชิกตระกูลทุกคนก็อยู่ที่นี่ เขาต้องไม่กลัว ไนโตะ!
แม้ว่า ไนโตะ จะเอาชนะ ริน ที่ใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ได้ แต่ คาเงยาม่า ก็ไม่กลัวเพราะเขามีกองทัพอยู่ที่นี่!
ไนโตะ กล้าดูถูกพวกเขา ดังนั้นเขาสมควรตาย!
เมื่อคิดแบบนี้ คาเงยาม่า ก็จิตใจสงบลงอย่างช้า ๆ และจิตสังหารของเขาก็เริ่มกระจายไปทั่วสถานที่
เขามองไปที่ ไนโตะ พร้อมกับจ้องมองอย่างเย็นชา
“ถ้าแกอย่างร่วมพิธีก็ย่อมได้ แต่ในฐานะ…คนตายไงละ!”
“เตรียมลงนรกส่ะ!”
ไนโตะ ยืนพิงประตูอย่างเกียจคร้านในขณะที่เขาฟัง คาเงยาม่า พูดอยู่ แต่เมื่อ คาเงยาม่า พูดจบ เขาก็พุ่งไปอยู่หน้า คาเงยาม่า อย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น เขาก็ค่อย ๆ วางมือลงบนไหล่ของ คาเงยาม่า
สีหน้าของ คาเงยาม่า ดูตกใจมากขณะที่เขาเบิกตากว้าง
เขารู้มาจากรายงานว่า ไนโตะ เป็นคนฆ่า ไรคาเงะ แต่เขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะแข็งแกร่งขนาดนี้
แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว
เขาไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้ทัน แม้ว่าเขาจะใช้ เนตรวงแหวน ก็ตาม!
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะมองมันทัน แต่เขาก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือป้องกันความเร็วนี้ได้
แคร๊ก!!!
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไนโตะ ก็ได้ส่ง พลังสั่นสะเทือน จากมือของเขาเข้าไปในร่างของ คาเงยาม่า
สีหน้าของ คาเงยาม่า เผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดได้อย่างชัดเจน และในเวลาเพียงวินาทีเดียวหลังจากนั้น ต่อหน้า นินจาอุจิฮะ จำนวนนับไม่ถ้วน ร่างของ คาเงยาม่า ก็ทรุดลงกับพื้นทันที!
“ท่านผู้นำ!”
“ผู้บังคับการ!!”
“ท่านพ่อ!”
ความสยองขวัญเข้าควบคุมหัวใจนินจาทั้งหมดในสถานที่นี้เอาไว้
ไนโตะ…ได้ทำมันแล้วจริง ๆ!
ใน หมู่บ้านโคโนฮะ ภายใต้สายตาที่จับจ้องของผู้คนจำนวนมาก ไนโตะ ได้ฆ่าผู้นำตระกูลอุจิฮะ!
“ลงนรกเหรอ ?…ขอโทษที แต่ฉันยังไม่สิ่งที่ต้องทำอีกเยอะ คุณไปก่อนเลยละกัน”
ไนโตะ โน้มตัวไปลงไปหา คาเงยาม่า และกระซิบคำเหล่านี้กับเขา ในขณะที่เขาสูดลมหายใจเฮือกสุดท้าย
ตอนที่ 234
หลังจากที่ ไนโตะ จัดการกับ คาเงยาม่า มันทำให้จิตใจของทุกคนจมลงสู่ความสยองขวัญ
หลังจากที่ ไนโตะ เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาก็กวาดสายตาไปยังฝูงชน
เมื่อใดก็ตามที่ดวงตาของ ไนโตะ กวาดไปถึงใครสักคน คนคนนั้นก็จะตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ พวกเขารู้สึกหวาดกลัวและโกรธในเวลาเดียวกัน
ช่างน่าอัปยศ!
ไนโตะ กล้าที่จะบุกเข้ามาในพิธีของพวกเขา และฆ่าผู้นำตระกูลของพวกเขา แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นอดีตผู้นำตระกูล แต่เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในคนของ ตระกูลอุจิฮะ
ไนโตะ กล้าดูถูก ตระกูลอุจิฮะ ที่ยิ่งใหญ่ และฆ่าอดีตผู้นำตระกูลของพวกเขา สิ่งนี้จะไม่มีวันลืม!
“ไอ่เด็กบ้า…”
“ฆ่ามัน!”
“ถึงมันจะเป็นเทพเจ้า เราก็จะช่วยกันฆ่ามัน!”
นินจาอุจิฮะ กัดฟันด้วยความโกรธ พวกเขาเผยให้เห็นถึงจิตสังหารอย่างชัดเจน แรงดันจักระของพวกเขาเมื่อรวมกันก็ทำให้สถานที่ทั้งหมดก็เริ่มสั่นคลอน
จิตสังหารรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวจนทำให้ นินจาโคโนฮะ ที่อยู่ด้านนอกรู้สึกได้ และเบิกตากว้างด้วยความสยอง
“เกิดอะไรขึ้น?!”
“มันมาจาก…เขตของ ตระกูลอุจิฮะ!”
“รายงายเรื่องนี้ให้ ท่านโฮคาเงะ ทราบโดยเร็วที่สุด!”
ภายใต้ความสยองขวัญของนินจาเหล่านี้ ข้อความก็ได้ส่งออกไปยัง โฮคาเงะ ในทันที จากนั้นพวกเขาก็ส่งนินจาตรวจจับบางคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ทันใดนั้น เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพวกเขา และในไม่ช้าพวกเขาก็รู้สึกว่าหัวใจของพวกเขากำลังจะระเบิดออกมาและพวกเขาก็เหมือนจะหมดแรง!
ใบหน้าของพวกเขาซีดในทันที่และพวกเขาก็แทบจะยืนไม่อยู่
อะไรกัน…นี่มันอะไรกันแน่?!
…
กลับไปที่ ลานกลาง สำนักงานกองกำลังตำรวจโคโนฮะ
แรงดันจักระและจิตสังหารของ นินจาอุจิฮะ รุนแรงและมุ่งตรงไปยัง ไนโตะ
ผู้ที่ยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย
หากหนึ่งในพวกเขามีใครที่มี เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา มันก็จะทำให้ ไนโตะ สนใจนิดหน่อย…แต่คนพวกนี้…อ่อนแอเกินไป!
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่รวมกันเป็นกองกำลัง แต่พวกเขาก็ยังเป็นแค่ฝูงมดเท่านั้น
อ่อนแอ เป็นเพียงคำเดียวที่ ไนโตะ คิดออกที่จะอธิบายถึงพวกเขา แต่เขาก็ต้องการฆ่าพวกเขา!
ฟึ๊บ!!!!
ทันใดนั้นแรงดันจักระที่น่ากลัวก็เริ่มก่อตัวขึ้นจากร่างกายด้านในของ ไนโตะ
มันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่คุณสามารถบอกได้ว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหนจากรอยแตกหนา ๆ ที่ปรากฏขึ้นบนพื้น แม้แต่ประตูที่ด้านหลังของเขาก็พังทลายลงเพราะผลจากมัน
พร้อมด้วย แรงดันจักระ ที่น่ากลัว คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ที่มองไม่เห็นก็พุ่งตรงไปที่นินจาที่อยู่ด้านหน้า
วิชานี้ไม่มีใครสามารถต้านทานได้และผลของมันก็เกิดขึ้นทันที
ใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีในการโจมตีทุกคน และทำให้จิตใจของพวกเขาทั้งหมดว่างเปล่า!
ตุ๊บ! ตุ๊บ!!
ในขณะนั้น นินจาอุจิฮะ จำนวนมาก ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และพวกเขาก็เริ่มล้มลงบนพื้นทีละคน ๆ
ดูเหมือนว่าวิญญาณของพวกเขากำลังถูกเกี่ยวไปเหมือนชาวนาเกี่ยวข้าวสาลี ภาพนี้ช่างเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อ ผู้ที่สามารถทนอยู่ได้ก็ตกอยู่ในความตกใจและมึนงง รวมถึง ฟูกาคุ ด้วยเช่นกัน!
“อะไรกัน…นี่มันพลังอะไรกันแน่?!”
“คาถาลวงตางั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางที่มันจะใช้คาถาลวงตาที่กินพื้นที่มากขนาดนี้ได้…”
คนที่ยังไม่ล้มลงก็ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่นินจาระดับสูงก็มีเหงื่ออยู่เต็มหน้า
พวกเขาจะเผชิญหน้ากับคนแบบนี้ได้อย่างไร!
ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้!
พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งของ ไนโตะ กำลังทำให้วิญญาณของ นินจาอุจิฮะ แตกสลาย เหลือแต่เพียงนินจาระดับสูงเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ได้
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ไนโตะ ก็สามารถทำลาย ตระกูลอุจิฮะ ได้เกือบหมด!
และเขาก็ไม่จำเป็นต้องขยับ เขาแค่ยืนอยู่เฉย ๆ เท่านั้น!
แรงดันจักระที่น่ากลัวนี้ ไม่เพียงแต่ทำลายพวกเขาได้เท่านั้น แต่มันยังแพร่กระจายไปยังทั่วทั้งหมู่บ้านจนนินจาและชาวบ้านนับไม่ถ้วน รู้สึกได้ถึงมันและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่มีจักระก็ยังรู้สึกได้จากระยะไกล!
“แย่แล้ว! นี่มัน…”
“นี่มันแรงดันจักระของ ไนโตะ มันมาจากเขตของ ตระกูลอุจิฮะ นี่น่า!”
นินจาระดับสูงบางคน สามารถบอกได้ว่าแรงดันจักระที่ท่วมท้นนี้เป็นของใคร และมันก็ทำให้จิตใจขอพวกเขาตกอยู่ในความหวาดกลัว
ในขณะที่นินจา กำลังรีบตรงไปที่ สำนักงานโฮคาเงะ เพื่อแจ้งให้เขาทราบ ก็มีร่างหนึ่งเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและพุ่งตรงไปยังเขตของ ตระกูลอุจิฮะ
……
กลับไปที่ ลานกลาง สำนักงานกองกำลังตำรวจโคโนฮะ
ในที่สุด พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ค่อย ๆ จางหายไป เหลือนินจาเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังยืนได้อยู่ แต่ ไนโตะ ก็ยังคงทำหน้าเบื่อหน่ายเหมือนเดิม
แค่นี้เหรอ?
พวกเขากล้าที่จะโจมตี ไนโตะ อยู่หลายต่อหลายครั้ง แม้หลังจากที่เขาฆ่า ไรคาเงะ และได้รับฉายาว่าเป็นเทพเจ้าก็ตาม แต่ตอนนี้พวกเขากลับไม่สามารถต่อต้านการโจมตีที่เรียบง่ายของ ไนโตะ ได้อย่างงั้นเหรอ?
ไนโตะ ไม่แน่ใจว่าพวกเขาโง่ หรือพวกเขามั่นใจเกินไป
ความมั่นใจจนเกินไป จะกลายเป็นความโง่เขลาในทันที!
ไนโตะ ดูผิดหวังมาก และเขาก็กำลังหันหลังกลับและเตรียมที่จะเดินออกไปจากที่นั่น
แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องหยุด
“เฮ้? ศพเขา…”
ไนโตะ ดูประหลาดใจมาก เพราะเมื่อเขาหันหลังกลับไป ศพของ คาเงยาม่า ก็ได้หายไปแล้ว
การโจมตีด้วย คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ของ ไนโตะ เพิ่งเกิดขึ้นเพียงครู่เดียว แล้วศพของ คาเงยาม่า หายไปได้อย่างไรในระยะเวลาสั้น ๆ
“ท่านพ่อ!”
ฟูกาคุ ที่ยังต้านทาน คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ได้ มองไปที่ด้านหลังของ ไนโตะ ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ไนโตะ มองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาศพของ คาเงยาม่า แต่เขาก็พบ คาเงยาม่า ยืนอยู่ห่างออกไปโดยที่ไม่มีเป็นอะไรเลย!
ไม่สิ เขาไม่เหมือนเดิม…เพราะเขาเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง!
“อิซานางิ งั้นเหรอ? สุดยอดไปเลย ถ้าฉันจำไม่ผิดมันต้องประสานอินก่อนไม่ใช่เหรอ แต่คุณประสานอินเมื่อไหร่กันนะ แล้วคุณหลบ คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ของฉันได้ยังไง?”
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เผยให้เห็นถึงความสุขอย่างชัดเจน ในขณะที่เขามองไปที่ คาเงยาม่า
ดูเหมือนว่า คาเงยาม่า กำลังจะพูดอะไรบ้างอย่าง แต่คำพูดของ ไนโตะ ก็ทำให้เขาตกใจมากและเขาก็เบิกตากว้างด้วยความสยองขวัญ
คราวนี้ คาเงยาม่า ตกใจมากจริง ๆ
ตอนที่ 235
“ใช่ ฉันรู้จักมัน”
ไนโตะ ยิ้มออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ขณะที่เขาปลดผนึกออกมาถือไว้ในมือและมองไปที่ คาเงยาม่า จากนั้นเขากพุ่งเข้าหา คาเงยาม่า
คาเงยาม่า ดูสับสน แต่เขาก็รู้ว่า ไม่ว่าเขาจะทำยังไง เขาก็ไม่สามารถเอาชนะ ไนโตะ ได้
ทันใดนั้น คาเงยาม่า ก็ล้มลงบนพื้นอีกครั้ง!
“คุณเหลือตาข้างซ้ายอีกข้างนึงนิ คุณจะยอมเสียสละมันไหมละ?”
ไนโตะ ดึงดาบของเขาออกจากร่างของ คาเงยาม่า ที่กองอยู่บนพื้น และแน่ใจว่าร่างนี้จะหายไปอีกครั้ง
แต่คราวนี้ร่างของ คาเงยาม่า กลับไม่มาปรากฏตัวต่อหน้า ไนโตะ
“อะไร?”
ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เริ่มมองหา คาเงยาม่า ด้วยสัมผัสพิเศษ และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่า ซารุโทบิ กำลังพุ่งตรงใกล้เข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว
ไนโตะ ยังคงมองหา คาเงยาม่า ต่อไป และในที่สุดเขาก็หาเจอ
คาเงยาม่า ซ่อนตัวอยู่ในห้องลับที่อยู่ในตัวอาคารสำนักงานกองกำลังตำรวจโคโนฮะ และเขาก็กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่!
“คุณอยากเล่นต่ออีกเหรอ?”
ไนโตะ ขยับมือของเขาและฟันดาบออกไป
ฟั๊บ!!
การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายนี้ ทำให้เกิดเป็น คลื่นสั่นสะเทือน และส่งมันให้พุ่งตรงไปในอากาศ
ทันใดนั้น ทั้งห้องก็ถูกตัดออกเป็น 2 ส่วน และ ไนโตะ ก็ไปปรากฏตัวอยู่ต่อหน้า คาเงยาม่า
คลื่นสั่นสะเทือน ยังไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่มันยังพุ่งตรงไปหา คาเงยาม่า ต่อไป
คาเงยาม่า โยนสิ่งที่อยู่ในมือของเขาลงพื้นทันที และพยายามหลบการโจมตี แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็หลบมันไม่พ้น
คลื่นสั่นสะเทือน ปะทะเข้าที่ไหล่ของ คาเงยาม่า จนไหล่ของเขาขาด และเลือดก็กระเด็นลงเต็มพื้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่ดูแปลกก็คือ ดวงตาของ คาเงยาม่า เต็มไปด้วยเลือด และดวงตาทั้งคู่ของเขาก็ไม่ได้บอด แต่มันคือ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา !
“ช่างเจ็บปวด…”
คาเงยาม่า ดูเหมือนจะไม่สนใจแขนที่เขาเสียไป เขากัดฟันแน่นและพร้อมสำหรับการปะทะครั้งต่อไป แต่ดวงตาของเขาก็ดูพร่ามัว เห็นได้ชัดว่า เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คู่นี้กำลังจะหมดสภาพ
“ตราบใดที่ฉันมีดวงตาเหล่านี้ ฉันก็ยังสามารถ…”
คาเงยาม่า จ้องไปที่ ไนโตะ ด้วยสายตาที่เดือดดาล
ฟึ้ม!!
ทันใดนั้น ก็มีเปลวไฟสีดำพุ่งเข้าหา ไนโตะ อย่างรวดเร็ว
“นี่มัน…เทวีสุริยา งั้นเหรอ? เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คู่นี้สามารถใช่มันได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะใกล้หมดสภาพแล้วนิ มันไม่สามารถทำอะไรฉันได้หรอก”
ไนโตะ ส่ายหัวและยิ้มให้ คาเงยาม่า ด้วยร่องรอยแห่งความสงสารในดวงตาของเขา
การได้ถูกวิชานี้โจมตีถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากมันถูกใช้โดยคนอย่าง อุจิฮะ อิทาจิ และ อุจิฮะ ซาสึเกะ แต่เป็นแค่ความไร้ค่าเมื่อวิชานี้ถูกใช้โดยผู้ชายอย่าง คาเงยาม่า
อย่างไรก็ตาม เมื่อ ไนโตะ มองดูเปลวไฟสีดำที่กำลังพุ่งมาหาเขา เขาก็รู้สึกว่าเขาสามารถเอาชนะมันได้
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ยื่นมือออกมาและแบมือออกไปทางเปลวไฟสีดำนั้น
การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายนี้ สร้างกระจกโปร่งใสบางอย่างในอากาศ ซึ่งทำให้อากาศเหล่านั้นแตกออก
ไนโตะ สามารถใช้และควบคุม พลังสั่นสะเทือน ได้อ่างสมบูรณ์ เขาไม่เพียงแต่ควบคุมพลังของมันได้เพียงเท่านั้น แต่เขายังสามารถควบคุมทิศทางของมันได้ตามต้องการอีกด้วย
ทันใดนั้น ภายใต้ฝ่ามือของ ไนโตะ เปลวไฟสีดำก็ถูกห่อหุ้มไปด้วย พลังสั่นสะเทือน จนดูเหมือนกับว่ามันกลายเป็นลูกบอล
ฟึ้ม!!
ภายใต้สายตาที่จ้องมองอย่างพร่ามัวของ คาเงยาม่า เทวีสุริยา ก็หายไป!
“ไม่…เป็นไปไม่ได้! เทวีสุริยา เป็นเพลิงที่ไม่สามารถดับได้ มันเป็นไปได้ยังไง…”
คาเงยาม่า ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น ในขณะนั้นหัวใจของเขาจมลงสู่ด้วยความสิ้นหวัง แต่เขาก็ยังโจมตี ไนโตะ ต่อไปอย่างดุเดือด
เปลวไฟสีดำยังคงพุ่งตรงไปหา ไนโตะ อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด มันก็ลุกไหม้คลุมร่างของ ไนโตะ เอาไว้
แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไร ไนโตะ ได้เลย
ไนโตะ ยืนอยู่เฉย ๆ ในขณะที่ พลังสั่นสะเทือน เริ่มปะทุออกมาจากร่างของเขาจนทำให้เปลวไฟสีดำแตกสลายและหายไป!
“แน่นอนว่า พลังสั่นสะเทือน ของฉัน สามารถทำลายท้องฟ้าได้…”
หลังจากที่ ไนโตะ ทำลาย เทวีสุริยา ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เขาก็ยิ้มออกมา ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า พลังสั่นสะเทือน ของเขา สามารถทำลายทุกสิ่งได้เหมือนกับพลังของ เพน 6 วิถี!
คาเงยาม่า เอามือปิดตาของเขา จากนั้นเขาก็ทรุดลงคุกเข้ากับพื้นอย่างช่วยไม่ได้
เขารู้สึกหมดหวัง จิตใจของเขาว่างเปล่าจนเขาไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่มาจากดวงตาของเขา
ทันทีที่ ไนโตะ ทำลาย เทวีสุริยา ได้ วินาทีต่อมาก็มีเสียงตะโกนดังมาจากระยะไกล
“ไนโตะ! หยุด!!”
ซารุโทบิ ตะโกนออกมาเสียงดังทันทีเมื่อเขามาถึงที่นี่ เขามาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลาพอดี แม้ว่าอาคาร สำนักงานกองกำลังตำรวจโคโนฮะ จะอยู่ห่างจากอาคารของเขามากก็ตาม
ไนโตะ ได้ยินเสียง ซารุโทบิ อย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะจบเรื่องนี้
เคร๊ก!!
อากาศแตกออกขณะที่ พลังสั่นสะเทือน ปะทะร่างกายของ คาเงะยาม่า อย่างจัง
ไนโตะ ไม่เปิดโอกาสให้ คาเงะยาม่า หนีไปได้อีกครั้ง และเขาก็ไม่สนใจ เทวีสุริยา ของ คาเงะยาม่า ดังนั้นเขาจึงทำลาย เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ไปพร้อมกับ คาเงะยาม่า
“ไนโตะ! เธอ!”
น่าเสียดายที่ ซารุโทบิ ไม่สามารถหยุด ไนโตะ ได้ เขามองไปที่สนามและเผยให้เห็นความตกใจออกมา จากนั้นเขาก็หันกลับมามองที่ ไนโตะ ด้วยความโกรธทันที
“เธอทำแบบนี้ทำไม! คนพวกนี้คือนินจาของหมู่บ้านเรานะ!!”
เมื่อฟัง ซารุโทบิ พูดแล้ว ไนโตะ ก็หัวเราะเยาะออกมาด้วยท่าทางล้อเลียน จากนั้นเขาก็มองไปที่ ซารุโทบิ และพูดว่า “และสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อุจิฮะ ริน ละ…ท่านจะบอกว่าท่านไม่รู้เรื่องนี้งั้นเหรอ?”
ประโยคนี้ทำให้ ซารุโทบิ พูดไม่ออก
การต่อสู้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้เรื่องนี้!
เมื่อมองไปที่ ซารุโทบิ ไนโตะ ก็ส่ายหัวด้วยสีหน้าที่น่าเบื่อ จากนั้น ไนโตะ ก็เดินออกไป
สำหรับ ซารุโทบิ วันเก่า ๆ ที่ดีของ ไนโตะ ได้หายไปแล้ว
หาก ไนโตะ ไม่สนใจ คุชินะ และ ซารุโทบิ ไม่ได้ดูแลเธอ ไนโตะ ก็จะบดขยี้ ซารุโทบิ ไปพร้อมกับ สมาชิกตระกูลอุจิฮะ เหล่านี้ไปแล้ว
ช่วงเวลาที่ ไนโตะ เดินผ่านหน้า ซารุโทบิ ไป เขาก็รู้สึกได้ว่าหัวใจของ ซารุโทบิ สั่นอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ขี้เกียจเกินไปที่จะให้ความสนใจกับเรื่องนี้
ตราบใดที่ ซารุโทบิ ไม่บีบให้ ไนโตะ ทำแบบนั้น เขาก็จะไม่ทำอะไรกับเขา
โคโนฮะ ไม่ได้มีความหมายอะไรกับ ไนโตะ อีกต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะ ได , ซึนาเดะ , คุชินะ และคนอื่น ๆ…เขาก็คงจะบดขยี้ทั้งหมู่บ้านในวันนี้
ตอนที่ 236
เมื่อ ไนโตะ จากไป หน่วยลับก็รีบวิ่งเข้าไปใน สำนักงานกองกำลังตำรวจโคโนฮะ และเมื่อพวกเขาเห็นสภาพของที่นี่ พวกเขาก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก!
“นี่…มันเกิดอะไรขึ้น?!”
“ไนโตะ เป็นคนทำเรื่องแบบนี้กับ ตระกูลอุจิฮะ เหรอ?”
แม้แต่นินจาระดับสูงก็แทบจะลืมหายใจเมื่อเห็นภาพนี้
ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ทำให้ โคโนฮะ สูญเสียตระกูลเก่าแก่ไปนับ 1,000 ตระกูล จน ตระกูลอุจิฮะ กลายเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่ใน โคโนฮะ
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าตระกูลที่ถูกเรียกว่าเป็นตระกูลใหญ่ จะถูก ไนโตะ ทำลายได้ในเวลาเพียงแค่แปบเดียว!
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ ไนโตะ กล้าโจมตีพวกเขาในหมู่บ้าน!
“แล้ว ท่านโฮคาเงะ ล่ะ?”
พวกเขาดูสับสนเป็นอย่างมาก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ โฮคาเงะ ที่กำลังยืนด้วยท่าทางที่เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
เขาจะออกคำสั่งให้พวกเราจับ ไนโตะ หรือเปล่า?
อย่าเลยนะ ขอร้อง!
ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะกล้าที่จะทำเช่นนั้น และแม้ว่าพวกเขาจะพยายาม แล้วพวกเขาจะจับ ไนโตะ ได้ยังไง?
คนที่ทำลาย ตระกูลอุจิฮะ ทั้งหมดได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ คนที่ถูกเรียกว่าเทพเจ้า!
ซารุโทบิ เงียบอยู่นาน ในที่สุดเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ตระกูลอุจิฮะ ถูกศัตรูลอบโจมตี และ ไนโตะ…มาถึงที่นี่ได้ทันเวลาและฆ่าศัตรูทั้งหมด…นี้เหละ คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
“ทำความสะอาดให้เรียบร้อย”
ซารุโทบิ พูดประโยคสุดท้ายนี้และสรุปเรื่องทั้งหมด
หน่วยลับที่อยู่ที่นี่ และแม้แต่ สมาชิกตระกูลอุจิฮะ ที่รอดชีวิต พวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่ ซารุโทบิ พูดนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ แต่พวกก็ไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได
พวกเขานิ่งเงียบไปสักพัก จากนั้นพวกเขาก็เริ่มทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว
……….
บนถนนของ โคโนฮะ
มีผู้คนมารวมตัวกันอยู่เต็มถนน
พวกเขาทั้งหมดดูหวาดกลัวเพราะพวกเขาคิดว่าศัตรูบุกเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว
แต่เนื่องจากไม่มีศัตรูบุกเข้ามาจริง ๆ นินจาจึงไม่ได้รับคำสั่งในการอพยพชาวบ้าน ดังนั้นชาวบ้านจึงอยู่ในสภาวะที่สับสนและวุ่นวาย
ทันใดนั้นฝูงชนก็สงบลง
แม้ว่าบนถนนจะแออัดมาก แต่บางคนก็สังเกตเห็นว่า ไนโตะ กำลังเดินฝ่าฝูงชนและมุ่งหน้าไปยังบ้านของเขา
ความเงียบเข้าครอบคลุมสถานที่เอาไว้
“เฮ้ นายเห็นไหม…ไนโตะ อยู่ตรงนั้น”
“นายคิดว่าเขาจัดการกับผู้บุกรุกไปหรือยัง?”
“แน่นอน! พวกมันกล้าที่จะโจมตี โคโนฮะ พวกมันก็ต้องถูก ท่านไนโตะ จัดการแน่นอน”
สีหน้าของพวกเขาแสดงถึงความชื่นชม ในขณะที่พวกเขาเฝ้าดู ไนโตะ เดินผ่านไปจน ไนโตะ ไปถึงบ้านและเปิดประตูเข้าบ้านไป
ทันใดนั้น ทุกคนก็สงบลงและยิ้มให้กันอย่างโล่งใจ
ไนโตะ เป็นที่ชื่นชมมากในหมู่ชาวบ้านใน โคโนฮะ เขาโด่งดังยิ่งกว่า ซาคุโมะ และในใจของพวกเขาแล้ว ไนโตะ เป็นชื่นชมมากกว่า โฮคาเงะ รุ่นที่ 3!
ไนโตะ เปิดประตูบ้านและเดินเข้าไปในบ้าน เขาเห็น คุชินะ ยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ และมองไปที่หน้าต่างในทิศทางที่เป็นที่ตั้งของ เขตตระกูลอุจิฮะ
เมื่องเธอสังเกตเห็น ไนโตะ เธอก็หันมามองเขาอย่างรวดเร็ว
“นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
คุชินะ ไม่สนใจสิ่งที่ ไนโตะ ทำ หรือจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เธอแค่เป็นห่วงเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินประโยคนี้ของเธอ เขาก็หยุดเดิน
“เธอคิดว่าพวกเขาจะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ?”
ไนโตะ ยิ้มออกมาและยักไหล่ให้ คุชินะ จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อโค้ทออกแล้วก็แขวนมันไว้
แต่ คุชินะ ก็ยังคงจ้องเขาอยู่
เมื่อเห็นว่า คุชินะ ไม่ยอมละสายตาจากเขา เขาจึงพูดขึ้นมาว่า
“เฮ้ ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ทำไมเธอไม่มาตรวจฉันดูเองละ?”
หลังจากนั้น เขาก็เดินไปหยิบเหยือกน้ำแล้วเทน้ำในแก้วจนเต็มเพื่อดื่ม จากนั้นเขาก็หันไปยิ้มให้ คุชินะ อีกครั้ง
คุชินะ คุ้นเคยกับมุกตลกของ ไนโตะ ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจเขา แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้ากับสิ่งที่เขาทำ
“เธอกลัวฉัน…”
“เธอคิดว่าฉันจะทำลายหมู่บ้านเหรอ?”
ไนโตะ ยิ้มและเดินเข้าหา คุชินะ แล้วจับมือเธอ จากนั้นเขาก็นั่งลงบนเตียงแล้วให้เธอนั่งบนตักของเขาและเขาก็โอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
คุชินะ แก้มแดงเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ต่อต้านเขาและนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วมองเขาอย่างใกล้ชิด
คุชินะ รู้สึกว่า ไนโตะ ดูไม่เหมือนตัวเอง ดวงตาของเขาดูลึกลับมาก
หรือเป็นเพราะแรงดันจักระของเขา
“ฉันดีใจที่เธอกลับมา”
คุชินะ เอนศีรษะของเธอบนไหล่ของ ไนโตะ และกระซิบเบา ๆ
แม้ว่าเธอจะเลือกอยู่ข้าง ไนโตะ แต่เธอก็ยังกังวลเกี่ยวกับเขา เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาก็กำลังเผชิญหน้ากับทั้งหมู่บ้าน
คุชินะ ไม่ใช่คนโง่ เธอเป็นคนฉลาดมาก เธอรู้สถานะของ ไนโตะ และรู้ความคิดของ ผู้อาวุโสของโคโนฮะ
พวกเขาพยายามป้องกันไม่ให้เธออยู่กับ ไนโตะ
ในตอนแรก ซารุโทบิ ก็เห็นด้วยกับพวกเขา แต่ตอนนี้เขาเริ่มไม่แน่ใจกับความคิดของพวกเขา
ตอนนี้เขาต้องการใช้ คุชินะ เป็นเชือกเพื่อดึง ไนโตะ เอาไว้ แต่วิธีนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง
ถ้าในวันหนึ่ง ไนโตะ ตัดสินใจที่จะออกจากหมู่บ้าน เขาก็จะพาเธอไปกับเขาด้วย
คนที่ต่อต้านเรื่องนี้ รู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะกัน คุชินะ ให้ออกห่างจาก ไนโตะ ในโลกแห่งนี้ เมื่อคุณตกหลุมรักใครแล้วคุณก็จะทำทุกอย่างเพื่อคนคนนั้น
เช่น ถ้า ซาสึเกะ ขอให้ ซากุระ ไปกับเขาในคืนนั้น เธอก็จะไปกับเขาอย่างไม่ลังเลเลย
“สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น” ไนโตะ มองไปที่ คุชินะ จากนั้นเขาก็จูบเธอ เธอมองเขาแล้วเธอก็กอดแขนเขาไว้แน่น
“ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ฉันไม่ได้คิดกับหมู่บ้านไปมากกว่าที่พัก ฉันจ่ายเงินให้หมู่บ้านแล้วและมันก็เพียงพอสำหรับเราทั้งคู่”
“อืม”
คุชินะ เอื้อมมือไปที่แก้มของ ไนโตะ จากนั้นเธอก็บีบแก้มเขาเบา ๆ จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ เราก็จะไม่แยกจากกันไปไหนอีก”
“แน่นอน”
ไนโตะ หน้าเบา ๆ ขณะที่เขาจ้องตาเธอ
บรรยากาศก็แปลกไปเล็กน้อย และใบหน้าของ คุชินะ ก็ชัดเจนในสายตาของ ไนโตะ
ไนโตะ กอด คุชินะ ไว้ในอ้อมแขนของเขา เขาจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็โน้มตัวเข้าไปหาเธอ
ตอนที่ 237
โคโนฮะ , สำนักงานโฮคาเงะ
ในห้อง ๆ หนึ่ง มีคน 4 คนกำลังนั่งประชุมกับอยู่ พวกเขาก็คือ ซารุโทบิ , ดันโซ , มิโตคาโดะ โฮมุระ และ อุทาทาเนะ โคฮารุ
อย่างไรก็ตาม หัวข้อในการประชุมในครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งอื่น ๆ
พวกเขาเคยคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะใช้ควบคุม ไนโตะ แต่ตอนนี้พวกเขากลัวที่จะไปยั่วยุเขา
พลังที่ ไนโตะ ใช้โจมตี ตระกูลอุจิฮะ นั้นน่าตกใจมาก แม้แต่ ซารุโทบิ ก็ตกใจเช่นกัน
เป็นเรื่องจริงที่ว่าการที่เขาสามารถเอาชนะ ตระกูลอุจิฮะ ได้นั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าก็คือ เขาใช้เวลาแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้นในการทำแบบนั้น!
ซารุโทบิ ได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว แล้วเขาใช้เวลานานแค่ไหนถึงไปถึงที่นั่น?
แค่แปบเดียวเท่านั้น!
แต่ด้วยเวลาแค่นี้ ตระกูลอุจิฮะ ก็พ่ายแพ้
ตระกูลอุจิฮะ ไม่ได้เป็นตัวแทนของหมู่บ้านทั้งหมด แต่การที่ตระกูลนี้เป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดใน โคโนฮะ ก็ไม่ใช่เรื่องที่พูดเกิดจริง!
ด้วยพลังของ ไนโตะ ทำให้ ซารุโทบิ หรือผู้ที่คิดจะจัดการกับ ไนโตะ ตระหนักได้ว่าแม้ว่าพวกเขาจะมีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น แต่ โคโนฮะ ก็จะได้รับความเสียหายร้ายแรงจากพลังของเขา
ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะไม่ใช่คนชั่วและเขาจะไม่มีวันฆ่าชาวบ้าน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเสี่ยงกับเรื่องนี้ได้ ถ้าเขาคิดจะเดินตามทางของเขา ใครจะรู้ว่าเขาจะทำอะไร?
พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้
ข้อสรุปสุดท้ายของการประชุมก็คือ พวกเขาจะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือขัดแย้งกับ ไนโตะ ซึ่งทำให้พวกเขาต้องทิ้งความคิดที่จะแยกเขาออกจาก คุชินะ
ความเสี่ยงที่จะบังคับให้ ไนโตะ ออกจาก คุชินะ อาจมีราคาแพงมาก เมื่อเทียบกับการละเมิดกฎบางข้อแล้วปล่อยให้เขายังเป็น โคโนฮะ อยู่ วิธีนี้จะทำให้ โคโนฮะ อยู่อย่างสงบ อย่างน้อยก็ในตอนนี้
หากต้องเลือกระหว่าง ความอับอาย กับ ความสงบสุข ไม่ว่าจะเป็น ซารุโทบิ หรือ ดันโซ พวกเขาก็จะเลือกความสงบสุขมาก่อนเสมอ
แต่เพราะ ซารุโทบิ เป็น โฮคาเงะ หากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น เขาจะต้องรับผิดในการตัดสิ้นใจในครั้งนี้ นี่อาจทำให้เขาเสียตำแหน่ง แต่ถ้ามันจะทำให้ โคโนฮะ เป็นสถานที่ที่ดียิ่งขึ้น ในฐานะ โฮคาเงะ เขาก็เต็มใจที่จะเสียสละตำแหน่งของเขา!
เพราะเขาเป็น โฮคาเงะ ผู้สืบทอดเจตจำนงแห่งไฟ!
มิโตคาโดะ และ อุทาทาเนะ สนับสนุนวิธีการของ ซารุโทบิ และทั้ง 3 ก็โหวดให้ใช้วิธีนี้
ท้ายที่สุดแล้ว ไนโตะ ก็จะไม่คงอยู่ตลอดไป คนเราย่อมมีความชราอยู่เสมอและในที่สุดเขาก็จะตาย
และหากพวกเขาต้องการเลือกระหว่าง พลัง กับ โคโนฮะ พวกเขาจะเลือก โคโนฮะ เสมอ
แน่นอนว่าคนเดียวที่คัดค้านการตัดสินใจครั้งนี้คือ ดันโซ
อย่างไรก็ตาม ซารุโทบิ ก็ได้เปลี่ยนความคิดของ มิโตคาโดะ และ อุทาทาเนะ ไปแล้ว
ไม่ใช่ว่า ดันโซ จะอยากจะทำลาย โคโนฮะ แต่เขาเชื่อว่าถ้าเขาสามารถควบคุมพลังนั้นได้ เขาสามารถนำ โคโนฮะ ไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้มากกว่านี้!
ไนโตะ เป็นเพียงอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้เขาไปถึงพลังนั้น และเขาก็รู้สึกว่าพวกเขาควรหาวิธีกำจัดเขา
ในการ์ตูน เพน 6 วิถี ได้เข้าโจมตี โคโนฮะ และทำลายทั้งหมู่บ้าน แต่ ดันโซ ก็ยังซ่อนตัวอยู่ในความมืดและไม่ได้สั่งให้ หน่วยราก ของเขาเข้าช่วยเหลือหมู่บ้าน
เขาเชื่อว่าสิ่งที่ เพน 6 วิถี ทำ จะนำไปสู่การเกิดใหม่ของ โคโนฮะ สถานที่ที่เขาจะได้เป็น โฮคาเงะ รุ่นที่ 6 และทุกอย่างจะสามารถซ่อมแซมได้หลังจากนั้น
…….
พื้นที่ใต้ดิน ด้านนอกของ โคโนฮะ
นี่คือฐานลับของ โอโรจิมารุ ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ ไนโตะ เคยมา
ไนโตะ มาที่นี่อีกครั้งและเข้าไปข้างใน หลังจากที่เขาได้รับการต้อนรับจาก โอโรจิมารุ
โอโรจิมารุ ยืนอยู่หน้า ไนโตะ ขณะที่ โอโรจิมารุ ถือม้วนกระดาษไว้ในมือ
“นี่คือผลของการวิจัยเกี่ยวกับการเพิ่มพลังวิญญาณในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฉันได้รวบรวมสิ่งที่จำเป็นต้องใช้และรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว”
ครั้งนี้ โอโรจิมารุ ไม่ได้ดูทำตัวสบาย ๆ เหมือนก่อน เขาพูดกับ ไนโตะ อย่างจริงจังและด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวัง
โอโรจิมารุ เก่งมากในการเลือกข้างและ เขารู้ว่าควรวางตัวแบบไหนกับใคร เหมือนกับในการ์ตูนตอนที่เขาอยู่ใน แสงอุษา
โอโรจิมารุ ไม่คิดว่า อิทาจิ จะแข็งแกร่งขนาดนั้น และนั่นก็เป็นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวของเขาและเขาก็ไม่เคยทำมันผิดพลอดอีกเลย
“ฉันเอาดวงตาที่มี เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ที่คุณต้องการมาให้แล้ว”
ไนโตะ รับม้วนกระดาษมาจาก โอโรจิมารุ และเขาก็ยื่นขวดเล็ก ๆ ให้กับ โอโรจิมารุ
เขาเก็บ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ไว้ในขวดนั้น
หลังจากที่ ไนโตะ บดขยี้ ตระกูลอุจิฮะ แล้ว โอโรจิมารุ ก็ไปพบเขาและขอให้เขาเอา เนตรวงแหวน มาให้
ไนโตะ สัญญาไว้แล้วว่าเขาจะช่วย โอโรจิมารุ หาของให้ 2 อย่าง และนี่คืออย่างแรก
ไนโตะ ไม่ได้เอา เนตรวงแหวน มาให้ โอโรจิมารุ แต่เขาเอา เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา มาให้แทน เขาไม่ได้เป็นกังวลที่จะมอบมันให้กับ โอโรจิมารุ
โอโรจิมารุ มองดูดวงตาคู่นั้น เหมือนกับในการ์ตูน เขายังไม่ได้ค้นพบพลังที่แท้จริงของดวงตาเหล่านี้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รู้พลังของมันเลย!
การที่ โอโรจิมารุ ได้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา มาไว้ในมือทำให้เขารู้สึกมีความสุข เขาไม่สนใจว่าดวงตาเหล่านี้ใกล้จะหมดสภาพหรือยังหรือจะใช้ยากแค่ไหน
นอกจากนี้ ดวงตาคู่นี้ตอบแทน 2 สิ่งที่ ไนโตะ ขอจากเขาได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่า คุณค่าของดวงตาคู่นี่มันมีความพิเศษมากในมุมมองของ โอโรจิมารุ ดวงตาคู่นี่มีค่ามากกว่า 2 สิ่งที่ ไนโตะ ของจากเขา!
หากเขาสามารถจับคู่เซลล์ที่เหมาะสมกับดวงตาคู่นี่ได้ เขาก็จะสามารถใช้มันได้โดยไม่มีข้อจำกัด และไม่มีผลข้างเคียง
ความสามารถของดวงตาคู่นี้คือการควบคุมแสง และการสร้างภาพลวงตาที่สามารถโจมตีได้จริง ซึ่งนี่เป็นความสามารถที่น่ากลัวมาก
ด้วยดวงตาคู่นี้เพียงคู่เดียว เขาก็จะสามารถเผชิญหน้ากับนินจาระดับ คาเงะ ได้
น่าเสียดายที่ดวงตาคู่นี้กำลังจะหมดสภาพ และเขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่เขาถึงจะได้ดวงตาคู่อื่นมา
แต่ โอโรจิมารุ ก็สามารถทำให้มันกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง หากเขาสามารถจับคู่เซลล์ที่ถูกต้องได้ นี่ยอดเยี่ยมมากและความสามารถเหล่านี้ก็เหมาะสมกับเขา
ไนโตะ ไม่สนใจว่า โอโรจิมารุ จะเอามันไปทำอะไร
เพราะความสามารถเหล่านี้ใช้ไม่ได้กับ สัมผัสพิเศษ ของ ไนโตะ แต่มันสามารถใช้กับ ซารุโทบิ ได้
ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่สนใจอยู่ดี
โอโรจิมารุ มองดูดวงตาคู่นี้ ด้วยความปิติยินดี
“เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา…ฉันไม่คิดว่า ตระกูลอุจิฮะ จะมีมันเก็บไว้…หลังจาก อุจิฮะ มาดาระ ตายไป ฉันก็นึกว่าจะไม่มีใครมีมันอีกแล้ว”
ตอนที่ 238
“ตอนนี้มีแล้ว และจะมีมากขึ้นอีกในอนาคต ตราบใดที่ ตระกูลอุจิฮะ ยังไม่ถูกทำลาย ก็จะมีอัจฉริยะเกิดขึ้นมาอีกและคนคนนั้นก็จะปลุกเนตรนั้นขึ้นมาได้แน่นอน”
ไนโตะ มองไปที่ โอโรจิมารุ และพูดแบบนั้นออกมา
ไนโตะ ไม่สนใจเนตรธรรมดา ๆ เหล่านี้ และไม่สนใจว่าใครจะเป็นผู้ที่ปลุกมันขึ้นมาได้ เขาสนใจแค่ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ เท่านั้น
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไนโตะ ก็ให้ความสนใจมากขึ้นในสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่ โอโรจิมารุ ได้รับดวงตาคู่นั้นไป
สิ่งนี้จะมีความสำคัญในอนาคต!
แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถขัดขวาง ไนโตะ ในการเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้ คนไหนที่กล้าเผชิญหน้ากับเขา ถ้าไม่ตายก็ปางตาย
ความแข็งแกร่งของเขาเพียงคนเดียว ก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายได้ทั้งแคว้น!
ดังนั้นความคิดของ ไนโตะ จึงค่อย ๆ เปลี่ยนไป เขาเริ่มมองข้ามสิ่งต่าง ๆ มากมาย อย่างเช่น โฮคาเงะ รุ่นที่ 3
เขาไม่สนใจเรื่องเล็ก ๆ เช่นนี้อีกต่อไป
แน่นอนว่าเมื่อเราพูดถึง ไนโตะ มีสิ่งหนึ่งที่เขาใส่ใจอยู่เสมอ นั่นก็คือการทำให้ตัวเขาเองแข็งแกร่งขึ้น และเขาก็จะไม่มีวันหยุดคิดเรื่องนี้
“โอโรจิมารุ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับ โหมดเซียน บ้าง?”
ไนโตะ มองไปที่ โอโรจิมารุ และถามอย่างใจเย็น
เมื่อ โอโรจิมารุ ได้ยินคำถามของ ไนโตะ เขาก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ฉันรู้เพียงวิชาเซียนของ ถ้ำริวจิ (วิชาเซียนงู) แต่มันยากเกิดไปที่ฉันจะเรียนรู้มันได้สำเร็จ แต่ถ้าเธออยากไป ฉันก็สามารถบอกวิธีเข้าไปให้เธอได้”
“อืม”
ไนโตะ พยักหน้า จากนั้น โอโรจิมารุ ก็หันหลังกลับไปที่โต๊ะและเขียนข้อมูลทุกอย่างที่เขารู้ใส่ในม้วนกระดาษแล้วส่งมันให้ ไนโตะ
สำหรับ โอโรจิมารุ มูลค่าของ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา นั้นสูงมาก แม้แต่วิธีการฝึกวิชาเซียนก็มีค่าน้อยกว่ามัน
วิธีการฝึกวิชาเซียนค่อนข้างมีความซับซ้อน ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกฝนก็ยังต้องอาศัยความพยายามและความรู้เป็นอย่างมาก
ในทางตรงกันข้าม ดวงตาที่มี เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เป็นสิ่งที่จับต้องได้จริง และเขาก็มีมันอยู่ในมือแล้ว ดังนั้นคุณค่าของมันจึงหาค่าไม่ได้
“ฉันไปละ”
หลังจากที่ ไนโตะ หยิบม้วนกระดาษจาก โอโรจิมารุ แล้ว เขาก็หันหลังกลับและเดินออกจากที่นั้น
โอโรจิมารุ มองดู ไนโตะ เดินจากไปจากทางด้านหลัง จากนั้นเขาก็ส่ายหัว และด้วยความดีใจ เขาจึงนำ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ออกมาจากขวด
………
“กลับมาแล้วเหรอ?”
เมื่อ ไนโตะ กลับมาถึงบ้าน คุชินะ ก็ยิ้มให้เขาและทักทายเขา
“อื้ม ฉันกลับมาแล้ว”
ไนโตะ พยักหน้าให้เธอ จากนั้นเขาก็เดินไปที่โต๊ะแล้วหยิบม้วนกระดาษทั้ง 2 ออกมาวางไว้บนโต๊ะ ม้วนแรกคือวิธีการฝึกวิชาเซียนที่ ถ้ำริวจิ และอีกม้วนคือ งานวิจัยเรื่องพลังวิญญาณ
เมื่อเธอเห็น ไนโตะ วางม้วนกระดาษลงบนโต๊ะ เธอก็เอนหลังมามอง จากนั้นเธอก็พูดว่า “ผู้ชายอย่าง โอโรจิมารุ ไม่น่าไว้ใจเลย นายระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะ”
ไนโตะ ยิ้มให้เธอจากนั้นเขาก็พูดกับเธอว่า “เขาดูเหมือนเป็นอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก ใช่ไหมละ”
“จ้า…ก็แหงละสิ นายเก่งที่สุดอยู่แล้วนิ ใครจะเก่งกว่านายไปได้ละ ทุกคนตั้งฉายาให้นายว่า เทพเจ้าแห่งนินจา เลยนะ ไนโตะ”
คุชินะ หัวเราะขณะที่เธอพูดแบบนั้นออกมา
ไนโตะ กำลังจะเปิดม้วนกระดาษดู แต่เมื่อเขาได้ยินเธอพูดหยอกล้อแบบนั้น เขาก็โยนม้วนกระดาษลงแล้วเอื้อมมือไปคว้ามือเธอและพลิกตัวเธอให้หงายลงบนโต๊ะและจับแขนทั้ง 2 ข้างของเธอไว้แน่น (จับขึง-///-)
คุชินะ ตกใจมาก เธอเป็นนินจาคนหนึ่ง แต่เธอก็ไม่สามารถตอบโต้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของ ไนโตะ ได้
“นี่…นายจะทำอะไรน่ะ…นี่มันกลางวันอยู่เลยนะ”
“เธอคิดว่าฉันยังไม่เก่งงั้นเหรอ? ฉันจะแสดงให้เธอเห็นว่าฉันยอดเยี่ยมขนาดไหน”
ไนโตะ พลิกตัวเธอให้นอนคว่ำ และเธอก็ได้แต่อุทานออกมา
คุชินะ ต้องการที่จะยืนขึ้น…แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
ไนโตะ…เขาเริ่มแล้ว!
ไนโตะ ใช้นิ้วลูบไล้ไปที่ไหล่ของเธอเบา ๆ (หวังว่าท่านผู้อ่านจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป >.<)
“เดี๋ยว…ไม่!! หยุดก่อน!!”
คุชินะ อยากจะพูดบางอยางออกมา แต่ในตอนนี้ ร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นจนเธอไม่สามารถพูดได้จนจบประโยค เธอรู้สึกว่ามีพลังแปลก ๆ ไหลผ่านไหล่ของเธอและกระจายไปทั่วร่างกายของเธอ ซึ่งทำให้รางกายของเธอสั่นและอ่อนระทวย
ไนโตะ แช่นิ้วไว้ที่ไหล่ของเธอ ขณะที่แสงสีขาวสลัว ๆ ส่องออกมาจากปลายนิ้วของเขา
ตอนนี้ ไนโตะ สามารถควบคุม พลังสั่นสะเทือน ของเขาได้อย่างง่ายดาย เขาสามารถควบคุมระดับของมันให้อยู่ในระดับต่ำสุด จนแม้แต่คนปกติก็สามารถทนมันได้
พลังสั่นสะเทือน สามารถใช้ในการเสริมสร้างและเพิ่มพลังทางกายภาพของร่างกายได้
มันไม่ส่งผลกับร่างกายของ ไนโตะ อีกต่อไป เพราะมันถูกผสานเข้ารับเขาแล้ว
แต่สำหรับ คุชินะ เธอไม่ได้สัมผัสกับมันบ่อยครั้งนัก ผลที่ออกมาจึงยอดเยี่ยมมาก
ไนโตะ จำเป็นต้องพัฒนา พลังสั่นสะเทือน ของเขาให้ถึงระดับ 5 ก่อน เขาจึงจะสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แบบแบบนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ดูเผิน ๆ อาจเหมือน ไนโตะ กำลังนวดให้ คุชินะ อยู่ เพราะในตอนนี้เธอรู้สึกสบายกับมันแล้ว
ดังนั้น ไนโตะ จึงเพิ่ม พลังสั่นสะเทือน ของเขาเข้าไปทีละนิด ๆ ยิ่งเขาเพิ่ม พลังสั่นสะเทือน มากขึ้นเท่าไร ความแข็งแกร่งของเธอก็จะยิ่งถูกเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งนี้จะทำให้เธอเกิดอาการชาและเจ็บปวดมากขึ้น
สำหรับ คุชินะ พลังของ ไนโตะ นั้นค่อยข้างอันตรายมาก หากเพิ่มมันเข้าไปมากเกินไป
ไนโตะ เลื่อนนิ้วลงไปที่หลังของเธอ จากบนลงล่างอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ทำเสร็จ
เสื้อผ้าของ คุชินะ เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เธอไม่สามารถขยับตัวได้ ดังนั้นเธอจึงต้องนอนอยู่เฉย ๆ สักพัก
ไนโตะ มองดู คุชินะ ที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนโต๊ะ และหันไปเทน้ำแก้วหนึ่งมาให้เธอ
คุชินะ ไม่สามารถลุกขึ้นได้ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็ค่อย ๆ ฟื้นพลังของเธอขึ้นมาได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ
ความแข็งแกร่งทางร่างกายของ ตระกูลอุซึมากิ นั้นยอดเยี่ยมมาก และวิธีนี้ที่ ไนโตะ ทำให้เธอ จะช่วยให้เธอสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งทางร่างกายของเธอได้อย่างเต็มที่
วิธีการช่วยเหลือของ ไนโตะ นั้นแปลกเสมอ
“ไอ้…!!”
เมื่อ คุชินะ ฟื้นกำลังของเธอได้แล้ว เธอก็ลุกขึ้นแล้วกำหมัดและเล็งไปที่ ไนโตะ แต่เขาก็หลบได้
“ฉันอุส่าเป็นห่วงนาย ฉันกลัวว่านายจะเป็นอะไร แต่นายกลับ…”
“ฉันเหรอ? ฉันทำอะไร?”
ไนโตะ ยักไหล่ให้ คุชินะ และเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วคิดว่าฉันไม่ห่วงเธอเหรอ? ฉันก็แค่ทำให้เธอแข็งแรงขึ้นแค่นั้นเอง!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น