The Strongest Hokage 218-224

ตอนที่ 218

 

การฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ไม่สามารถฝึกให้สำเร็จอย่างสมบูรณ์


พูดง่าย ๆ ว่า มันไม่มีขีดจำกัด ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นมากเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม ระดับของการเพิ่มประสิทธิภาพนั้นสูงที่สุดในตอนต้น แต่เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้นและเริ่มปรับเข้ากับคุณสมบัติจักระสายฟ้าได้ ความเร็วของการเพิ่มประสิทธิภาพก็จะลดลง


เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความแข็งแกร่งของ A ก็คือเนื่องจากเขาฝึกวิชานี้มาเป็นเวลานานแล้ว แม้แต่ตอนที่เขาได้เป็น ไรคาเงะ แล้ว เขาก็ยังหาเวลาในการฝึกอยู่เสมอ


3 เดือนที่เขาฝึกวิชานี้ ทำให้ร่างกายของ ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้นมาก ดังนั้นเขาจึงเข้าใกล้ระดับที่จะสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้มากยิ่งขึ้น


และมันก็ผ่านไปไม่นานนักนับตั้งแต่ที่เขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้!


ระยะเวลาในครั้งนี้สั้นกว่ามาก ทั้งที่จริงแล้วมันควรจะใช้เวลามากขึ้นเพราะมันจะยากขึ้นเรื่อย ๆ


สิ่งเดียวที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือมันทำให้ประตูด่านพลังบานที่ 3 มีประสิทธิภาพน้อยลง


ด้วยการพัฒนาที่ช้าลงแบบนี้ จะทำให้ ไนโตะ ไปถึงระดับ ไรคาเงะ ได้ในอีก 10 ปี


ถึงแม้ว่า ไนโตะ พร้อมที่จะฝึกวิชานี้นานกว่านี้ แต่เมื่อความเร็วของการพัฒนาช้าลงมาก มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป


“ได้เวลากลับแล้วสินะ…”


หลังจากที่ ไนโตะ มองไปรอบ ๆ ในที่สุดเขาก็ยุติการฝึกนี้


หลังจากนั้น ไนโตะ ก็ยืนขึ้นและบิดขี้เกียจ


ในตอนนี้ ไนโตะ ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรเลย สายฟ้าฉีกเสื้อผ้าของเขาออกเป็นชิ้น ๆ และเนื่องจากเขาอยู่คนเดียวบนภูเขาแห่งนี้ เขาจึงไม่สนใจเรื่องนี้


สิ่งเดียวที่ดูแปลกสำหรับ ไนโตะ ก็คือผิวของเขาไม่ได้กลายเป็นสีบรอนซ์เข้มเหมือน ไรคาเงะ รุ่นที่ 4


มันแตกต่างจากตอนที่เขาฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 ในครั้งนี้เมื่อ ไนโตะ เริ่มฝึกขั้นที่ 3 ผิวของเขาก็ค่อย ๆ บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าเขาเกิดใหม่


ตรงข้ามกับ ไรคาเงะ ผิวของ ไนโตะ ดูขาวและอ่อนโยนราวกับว่าเขาเป็นเด็กแรกเกิด นี่อาจเป็นเพราะ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ และวิธีที่มันสูบฉีดเลือดเข้าไปในร่างกายของเขา เพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำให้ผิวหนังของเขาไม่เกิดการไหม้จนเป็นสีบรอนซ์


“โอ้ ดีจัง”


ไนโตะ ยิ้มออกมา แม้ว่าร่างของ ไรคาเงะ จะดูน่าเกรงขาม แต่ ไนโตะ ก็ไม่ต้องการที่จะดูเหมือนเขา แต่ ไนโตะ ต้องการที่จะแข็งแกร่งเท่าเขา


ร่างกายของ ไนโตะ ไม่ได้ดูมีกล้ามเนื้อมากขึ้น และเขาก็ยังผอมเหมือนเคย เขาไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในร่างกายของเขาเลย


อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการทำให้ศัตรูหวาดกลัว เขาก็แค่ปล่อยแรงกดดันจักระและจิตสังหาร เท่านี้ศัตรูของเขาก็จะตกอยู่ในความกลัวในทันที


“ก่อนอื่น เราต้องหาเสื้อผ้าก่อน”


หลังจากตรวจสอบร่างกายของเขาแล้ว ไนโตะ ก็มองไปที่เศษเสื้อผ้าที่ฉีกขาดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วเขาก็ส่ายหัว และเขาก็คิดที่จะไปหาเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยเดินทางกลับ โคโนฮะ


แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดและยิ้ม


“พอดีเลย”

…….


ด้านล่างของภูเขา


นินจาคุโมะ ทีมเล็ก ๆ กำลังวิ่งเข้ามาหาภูเขาลูกนี้


“มีข้อมูลรายงานมาว่าสภาพอากาศรอบ ๆ ภูเขาลูกนี้ดูแปลกมาก มีฟ้าร้องและฟ้าผ่าลงมาตลอดเวลา”


“มันอาจเป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมดา ๆ ก็ได้ แต่ชาวบ้านพากันเอะอะไปเอง”


นินจาคุโมะ พูดคุยกันขณะที่พวกเขากำลังวิ่งเข้ามา


ความขัดแย้งระหว่าง อิวะ และ คุโมะ ได้ถูกหยุดไว้ก่อน เพราะในขณะที่ คุโมะ สูญเสีย ไรคาเงะ ไป แต่ อิวะ เองก็ถูกทำลายอย่างหนักโดย โคโนฮะ เช่นกัน และสถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่สู้ดีนัก


ดังนั้นในช่วงพักรบในครั้งนี้ หมู่บ้านทั้ง 2 จึงพยายามไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกัน


ทั้ง 2 หมู่บ้านจึงได้เจรจาและพิจารณายุติความขัดแย้งระหว่างกัน แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนที่จะยอมเสียสละหมู่บ้านตัวเองเพื่อหมู่บ้านอื่น ในทางกลับกัน ดันโซ และ ตระกูลอื่น ๆ ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้สงครามสิ้นสุดลง


กลับมาที่ นินจาคุโมะ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังภูเขาลูกใหญ่


“ก็ใช่ แต่นายเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนยอดเขาเมื่อกี้ใช่ไหม?!”


นินจาอีกครมองขึ้นไปบนยอดเขาอย่างไม่สบายใจ


“ถึงจะยังไงมันก็เป็นงานของเรา เราต้องไปดูให้แน่ใจเพื่อให้ชาวบ้านไม่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว”


หัวหน้าทีมพูดด้วยความสงบ


นินจา 4 คน ยังคงเดินหน้าต่อไปยังยอดเขา


เมื่อพวกเขาขึ้นมาถึงยอดเขา พวกเขาก็เดินไปสักพักหนึ่งและหนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “สภาพอากาศเป็นเหมือนที่ชาวบ้านรายงานมาจริง ๆ ด้วย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นผลมาจากการฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้า เหมือนตอนที่ ท่านไรคาเงะ ฝึก”


“เป็นไปไม่ได้ ท่านไรคาเงะ ได้ตายไปแล้ว มันจะเป็นบบนั้นได้ยังไง!”


หนึ่งในนั้นแย้งขึ้นมาในทันที


เมื่อเห็นว่าเพื่อนของขาไม่เชื่อ เขาก็ได้แต่ส่ายหัว


“เฮ้ย หรือว่านายคิดว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ แข็งแกร่งกว่า ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 งั้นเหรอ?”


“หุบปากส่ะ! เราไม่ควรพูดถึง ไรคาเงะ ผู้ล่วงลับแบบนี้ เขาไม่ได้ถูกฆ่าโดยศัตรู แต่เขาตายเพราะถูกภูเขาถล่มทับไปพร้อมกับศัตรูคนนั้น”


เมื่อได้ยินว่านินจาพูดคุยเกี่ยวกับ ไรคาเงะ แบบนั้น หัวหน้าทีมก็พูดออกมาด้วยความโกรธในทันที


นินจาทั้งหมดหยุดพูดในทันที จากนั้นพวกเขาก็มองไปข้างหน้า


ในขณะนั้นการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที


“นั่นมัน…”


ทันใดนั้นก็มีเงาดำงาหนึ่งใต้ก้อนเมฆปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของพวกเขา จากนั้นมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นจนกระทั่งในที่สุดมันก็กลายเป็นร่างของใครบางคน


“ระวัง มีคนอยู่ตรงนั้น!”


หัวหน้าทีมเตือนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นทันที


เมื่อร่างเริ่มใกล้เข้ามา ทั้ง 4 คนก็ตกตะลึงราวกับว่าพวกเขาเป็นผี


“แก…แกคือ…”


“เป็นไปไม่ได้!!!”


เหงื่อจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าผากของนินจาทุกคนรวมทั้งหัวหน้าทีมของพวกเขาก็ด้วยเช่นกัน และพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเกิดความกลัวขึ้นมาในทันที


นั่นคือเขา! เป็นเขานั่นเอง แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง!!!


แน่นอนว่าคนที่ออกมาไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่นั้นก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะเรื่องที่สำคัญก็คือคนคนนี้ไม่ควรอยู่ที่นี่ เขาควรตายไปแล้วพร้อมกับ ไรคาเงะ ของพวกเขา!!!


นี่คือฝันร้าย!


“ขอบคุณน่ะ ที่เอาเสื้อผ้ามาให้ฉัน และเพื่อเป็นการตอบแทน ฉันจะทำให้จบเร็วที่สุดแล้วกัน”


ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของ ไนโตะ เขาก็เดินเข้าหา นินจาคุโมะ ทีละก้าว ๆ จากนั้นเขาก็หายตัวไป


นินจาคุโมะ ไม่ได้มีเวลาตอบสนองต่อความเร็วของ ไนโตะ พวกเขายังคงตะลึงอยู่กับการที่ได้เห็นว่า ไนโตะ ยังมีชิวิตอยู่!


ตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้ เขาพุ่งเข้าหา นินจาคุโมะ ในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที!


พวกเขาทั้ง 4 คน ไม่ทันได้สังเกตเห็น พวกเขายังคงคิดอยู่เพียงสิ่งเดียวว่า


ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ…ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ!!


ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!ตุ๊บ!


นินจาคุโมะ ทั้ง 4 คน ล้มลงกับพื้นพร้อม ๆ กัน แม้แต่หัวหน้าทีมก็ไม่สามารถโต้ตอบได้!


พวกเขาไม่เห็นอะไรเลย!


จนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนที่พวกเขาทั้ง 4 จะตาย แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ตัว

 

 

 


ตอนที่ 219

 

เสื้อผ้าของทั้ง 4 คนไม่พอดีกับตัว ไนโตะ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเปลือยกายอีกต่อไป แล้วเขาจะสามารถหาเสื้อผ้าใหม่ได้เมื่อเขาเจอเมืองต่อไป


ไนโตะ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะทำลายศพเหล่านี้ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขาก็หันหน้ากลับและเดินไปมองที่ด้านล่างภูเขา


ไนโตะ มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเมฆที่ล้อมรอบภูเขาอยู่


อย่างไรก็ตาม การใช้สัมผัสพิเศษของเขา ทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งที่ชัดเจนรอบตัวเขาและรัศมีการรับรู้ของเขาก็มากกว่าเดินอย่างไม่น่าเชื่อ


มันคงเป็นเพราะการต่อสู้ระหว่างเขากับ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 ที่ทำให้พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นและทำให้พลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน


ความมุ่งมั่นของแต่ละบุคคล เป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างพลังวิญญาณของคนนั้น


และเนื่องจากพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นจึงทำให้ คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ของเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน แม้แต่นินจาระดับสูงก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป


“โอเค ได้เวลาลงไปแล้ว”


ไนโตะ มองไปที่ก้อนเมฆรอบ ๆ ตัวเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะและกระโดดลงไปที่ด้านล่างของภูเขา!


ฟึ๊บ!!


ราวกับว่าเขาเป็นดาวตกที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า ทะลุผ่านเมฆและตกลงมาเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด และทันทีที่เขาลงมาถึงพื้นก็เกิดเสียงดังลั่นและพื้นดินก็แตกออก


ไนโตะ ยืนขึ้นและเหยียดร่างกายของเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าพึงพอใจ


เมื่อเขาฆ่า นินจาคุโมะ ทั้ง 4 คน เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาลง แต่ตอนนี้ หลังจากที่เขากระโดดลงจากภูเขาแล้ว ไนโตะ ก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก


เวลาในการฝึก 3 เดือนนี้ มีค่าเท่ากับการฝึกเกือบ 2 ปีในตอนที่ขาออกกำลังกาย!


ไม่นานหลังจากที่ ไนโตะ เดินทางออกไป เขาก็มาถึงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง และเขาก็หาเสื้อผ้าเปลี่ยน


ตอนหลัง ไนโตะ ก็รู้ข่าวที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก ทั้งโลกคิดว่าเขาตายแล้วจริงหรือ?!


ไม่น่าแปลกใจที่นินจาที่ผ่านไปผ่านมามองเขาราวกับว่าพวกเขาเห็นผี เพราะพวกเขาคิดว่า ไนโตะ ได้ตายไปพร้อมกับ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 แล้ว!


นั่นทำให้ ไนโตะ รู้สึกโกรธเล็กน้อย


ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาไม่ตำหนิพวกเขา เพราะเขาไม่ได้รายงานกลับไปที่หมู่บ้าน และตอนนี้ คุชินะ ก็น่าจะคิดว่าเขาตายไปแล้วเช่นกัน


โลกนี้ไม่เหมือนกับโลกที่เขาจากมา คนที่นี่ไม่ได้พูดโกหก และเมื่อพูดถึงความรัก พวกเขาก็สามารถสละชีวิตเพื่อคนที่พวกเขารักได้ และตอนนี้ คุชินะ ก็คงจะเศร้ามาก เธอคงจะคิดว่าการตายของ ไนโตะ เป็นความผิดของเธอเอง


“ถึงเวลาที่ต้องกลับไปแล้วสินะ”


ไนโตะ มองดูภูเขาเป็นครั้งสุดท้ายจากระยะไกล จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินออกไป


ตลอดทางกลับ แม้ว่าจะมี นินจาคุโมะ อยู่บนถนนทุกสาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุด ไนโตะ ได้


ที่จริงแล้ว นินจาคุโมะ ได้ปิดกั้นถนนทุกสายที่มุ่งเข้าสู่หมู่บ้านของพวกเขา เพราะพวกเขาพยายามซ่อนความจริงเกี่ยวกับการตายของ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3


แม้ที่สุดแล้ว พวกเขาจะพบศพของ ไรคาเงะ แล้ว แต่พวกเขาก็ยังพยายามปล่อยข่าวลืออื่น ๆ ที่จะกลบเกลื่อนเรื่องนี้ เช่น 8 หาง หนีไปได้ และ ไรคาเงะ ก็กำลังออกตามล่ามันอยู่เป็นต้น


นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวลืออื่น ๆ อีกมากมายเช่นนี้


แต่ ไนโตะ ก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะให้ความสนใจกับข่าวลือเหล่านี้ เขาได้สิ่งที่เขาต้องการแล้ว เขาได้ฆ่า ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 และได้รู้ความลับของ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3


เขาฝึกฝนมันเป็นเวลา 3 เดือน และ ไนโตะ ก็พอใจมากกว่าสิ่งอื่นใด


ระหว่างทางกลับไปที่ โคโนฮะ ไนโตะ ก็ได้ลองลงไปที่ตลาดมืด เขาไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่มีฉายาว่า ‘มือเลือด’


ในช่วงเวลาที่ ไนโตะ กำลังฝึกอยู่ มือเลือด ได้ปรากฏตัวขึ้นใน หมู่บ้านคุโมะ และทำการลอบสังหารสมาชิกระดับสูงของหมู่บ้านบางคน แล้วหลังจากที่เขาทำภารกิจนั้นสำเร็จ เขาก็ได้หายตัวไปและไม่โผล่ออกมาอีกเลย!


เมื่อ ไนโตะ รู้ข่าวนี้ เขาก็ตกใจเล็กน้อย


เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตอนที่เขากำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกของเขา


และตอนนี้การหา มือเลือด จะยากยิ่งกว่าเดิม


และ ไนโตะ ก็สงสัยว่างานลอบสังหารที่ มืดเลือด ทำใน หมู่บ้านคุโมะ อาจเป็นงานจ้างจาก โคโนฮะ และถ้าเป็นอย่างนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นคำสั่งของ ดันโซ อย่างแน่นอน


“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวเราก็เจอเขาในสักวัน ยังไงส่ะเราก็ได้ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 มาแล้ว”


หลังจากที่ ไนโตะ ส่ายหัว เขาก็เดินออกจากตลาดมืด และเดินตรงไปที่ แคว้นแห่งไฟ โดยไม่ได้แวะไปที่ไหนอีก


แคว้นแห่งไฟ ได้ขยายดินแดนพวกเขาเข้าไปใน แคว้นแห่งดิน และ แคว้นแห่งสายฟ้า ซึ่งทั้ง 2 หมู่บ้านใหญ่พยายามอย่างหนักที่จะต่อต้านการรุกรานของ โคโนฮะ แต่ โคโนฮะ ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นกองทัพใหญ่ ดังนั้นจึงไม่ได้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้นเหนือดินแดนเหล่านี้


แต่ โคโนฮะ ก็ยังเป็นกังวลอยู่ว่า เมื่อ อิวะ และ คุโมะ ยุติความขัดแย้งกันแล้ว พวกเขาจะสามารถมุ่งเน้นไปที่การยึดพื้นที่ดินแดนของพวกเขาคืนได้


“เราออกจากหมู่บ้านมาเกือบครึ่งปีแล้วสินะ”


เมื่อมองดูหมู่บ้านจากระยะไกล ไนโตะ ก็แสดงรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่เขาก็รู้สึกถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจของเขา


ไนโตะ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะตัดสินหมู่บ้านนี้อีกต่อไป


เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาเรียกที่นี่ว่าบ้านก็เพราะที่นี่มี คุชินะ อยู่ และอีกอย่างหนึ่งก็คือความคุ้นเคยที่ ไนโตะ มีต่อหมู่บ้าน


แม้ว่ามันจะมีความลับดำมืดอยู่ แต่มันก็เหมือนบ้านมากกว่าที่อื่น ๆ ในโลกนี้


เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้จะคงอยู่อีกนานแค่ไหน…


ไนโตะ ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในเขตหมู่บ้านทีละก้าว ผ่านม่านพลังที่ครอบคลุมทั้งหมู่บ้านอยู่


การผ่านเข้าม่านพลังนี้ ๆ ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เนื่องจากมันจะใช้ได้เฉพาะเมื่อศัตรูข้ามเข้ามาเท่านั้น


แต่มันก็ยากที่จะระบุได้ว่าคนที่ผ่านเข้ามานั้นเป็นใคร


โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ไนโตะ เพราะเขาสามารถปิดกันพลังและจักระของเขาได้จนเขาเป็นเหมือนกับคนธรรมดา


การกลับมาของ ไนโตะ ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของนินจาตรวจสอบที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังอยู่


หลังจากที่เขาผ่านม่านพลังเข้ามา และจากนั้นในที่สุดเขาก็มาถึงประตูหลักของหมู่บ้าน และพยายามเดินเข้าไปอย่างคนปกติ


ไนโตะ ไม่ได้พยายามซ่อนตัว


ในเวลานี้ของวัน ผู้คนจำนวนมากต่างเดินกันเข้าออกหมู่บ้านอย่างขวักไขว่


ในช่วงเวลาที่เกิดสงครามแบบนี้ โคโนฮะ เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด นักธุรกิจหลายคนจึงเลือกที่นี่เป็นที่พักพิงชั่วคราวและบางคนก็จ้างนินจาของ โคโนฮะ ไว้เป็นผู้คุ้มกัน

 

 

 


ตอนที่ 220

 

นินจา 4 คน ยืนอยู่ที่ประตูหลักของ โคโนฮะ พวกเขา 2 คนกำลังตรวจสอบนักท่องเที่ยวและอีก 2 คนกำลังตรวจสอบตัวตนของพวกเขา


มีผู้คนจำนวนมากต้องการที่จะเข้าหมู่บ้าน


ไนโตะ ชะโงกหัวไปมองที่พวกเขาจากนั้นเขาก็ส่ายหัวอย่างชั่วไม่ได้และเดินออกจากแถวแล้วเดินตรงเข้าหมู่บ้านทันที


“คุณครับ รอให้ถึงคิวคุณก่อนนะครับ…” นินจาสังเกตเห็นว่ามีคนเดินผ่านไปทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ พวกเขาจึงพยายามหยุดคนคนนั้นเอาไว้ แต่เมื่อนินจาคนนั้นเห็นใบหน้าของ ไนโตะ การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป


ผู้ชายคนนี้ดูคุ้นมาก!


นินจามองไปที่ ไนโตะ ต่อไป แต่ ไนโตะ ก็ยังคงดินต่อไปโดยไม่สนใจ


นินจาคนอื่นก็สังเกตเห็น ไนโตะ เช่นกัน ใดนั้นพวกเขาก็วิ่งเข้าไปขวางด้านหน้าของ ไนโตะ ทันที


แต่ช่วงเวลาที่พวกเขาเห็นใบหน้าของ ไนโตะ พวกเขาทั้งหมดก็ตกตะลึง


ท่ามกลางความสับสนของพวกเขา ทันใดนั้น ไนโตะ ก็หายตัวไปจากสายตาของพวกเขา


ภาพนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายในฝูงชน


“นี้! ทำไมพวกคุณปล่อยให้ชายคนนั้นผ่านไปง่าย ๆ ละ?!”


“เขาดูไม่เหมือน นินจาโคโนฮะ เลยนิ”


แน่นอนว่า นินจาของโคโนฮะ สามารถเข้าไปในหมู่บ้านได้ในทันที แต่ ไนโตะ ไม่ได้แต่ตัวด้วยเครื่องแบบ นินจาโคโนฮะ เขาใส่เสื้อผ้าเหมือนคนธรรมดา ซึ่งทำให้คนอื่น ๆ แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก


อย่างไรก็ตาม คนบางคนในฝูงชนก็เหมือนจะจำเขาได้ และความตกใจก็ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา


“ชายคนนั้น…ไม่ใช่ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ใช่ไหม?!”


ในที่สุดก็มีคนพูดคำเหล่านี้ออกมา


ประโยคนี้ทำให้ทั้งฝูงชนต่างพากันหัวเราะออกมา


“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? มันจะเป็นไปได้ยังไง?!”


“ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ คนนั้น เขาตายไปแล้ว พร้อมกับ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3…”


แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่า ไนโตะ เป็นใครและพวกเขาทั้งหมดก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับการตายของเขาในการต่อสู้กับ ไรคาเงะ แต่ชาวบ้านก็แทบจะไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าของ ไนโตะ!


ในทางกลับกัน นินจาทั้ง 4 คนนั้นยืนเงียบอยู่เป็นเวลานาน พวกเขาต่างมองหน้ากันและกันด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ


ในขณะนั้นทั้ง 4 คนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก!


“เป็นไปไม่ได้!”


“ท่านไนโตะ…เขายังไม่ตาย!”


“ต้องมีใครบางคนใช้ คาถาแปลงร่าง เพื่อให้ดูเหมือนเขาอย่างแน่นอน เขาอาจเป็นศัตรู แจ้ง ท่านโฮคาเงะ ทันที!”


หัวใจของพวกเขาจมลงด้วยความกลัวและพวกเขาก็ไม่สามารถคิดอะไรได้อีกต่อไป


ไม่ว่าจะเป็นใครที่ต้องการแอบเข้ามาในหมู่บ้าน เขาคนนั้นจะต้องไม่ใช่ ไนโตะ อย่างแน่นอน ไนโตะ ได้ตายไปแล้ว นี่มันเป็นเรื่องไร้สาระ!


ในขณะนั้น พวกเขาทั้ง 4 คนก็ไม่รอช้าและรีบไปแจ้งให้ ซารุโทบิ ทราบเรื่องนี้ในทันที


แม้แต่ ซารุโทบิ ก็ไม่เชื่อเช่นกัน!


“ไนโตะ ยังไม่ตายงั้นเหรอ?!”


“เป็นไปไม่ได้!!”


ในเวลานั้น แม้ว่าจะไม่สมเหตุสมผล แต่ ซารุโทบิ ก็คิดได้แค่เพียงว่า มีใครบางคนกำลังเชิดศพของ ไนโตะ และพยายามแอบเข้ามาในหมู่บ้าน…


เพราะมันดูเหมือนจริงมาก…เหมือนว่า ไนโตะ ยังมีชีวิตอยู่!


…….


ด้านใน หมู่บ้านโคโนฮะ ในสถานที่ที่เงียบสงบ


สถานที่นั้นเงียบมาก และไกลจากถนนที่แออัดของ โคโนฮะ สถานที่แห่งนี้เป็นการรำลึกถึงผู้ตาย


ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ…ไนโตะ


มีรูปปั้นอยู่ที่นั่น และมีคนคนหนึ่งกำลังยืนจ้องอยู่ด้านหน้ารูปปั้นนั้น


คนนั้นก็คือ ไนโตะ นั้นเอง


ไนโตะ ยืนดูรูปปั้นของตัวเองมาเป็นเวลานานแล้วโดยที่เขาไม่พูดได้เลย


“จะบ้ากันรึเปล่า!!!”


ไนโตะ รู้อยู่แล้วว่าพวกเขาคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะทำรูปปั้นให้เขา!


ช่างน่าเจ็บปวดจริง ๆ


ไนโตะ ไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันน่าหงุดหงิดแค่ไหนที่ต้องมาเห็นรูปปั้นของตังเองแบบนี้


แคร๊ก!!


ทันใดนั้นเขาก็ส่ง พลังสั่นสะเทือน ออกจากมือและทำลายรูปปั้นนั้นเป็นชิ้น ๆ


การทำแบบนี้ ดึงดูดความสนใจจากนินจาที่คอยดูแลสถานที่แห่งนี้อยู่ และพวกเขาก็เข้ามาในทันที


“เฮ้! ทำอะไรของคุณนะ?!”


เมื่อเห็นว่า รูปปั้นถูกทำลาย นินจาเหล่านั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันนี


มันพังอีกแล้ว!


ตั้งแต่สร้างมันขึ้นมา มันก็ถูกทำลายโดย ซึนาเดะ ไป 1 ครั้ง และถูกทำลายอีกครั้งโดย คุชินะ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรู้สึกเศร้าไปกับพวกเขา แต่ตอนนี้มันกลับถูกทำลายอีกครั้ง!


ไนโตะ เป็นวีรบุรุษที่พวกเขาชื่นชมและเคารพ แต่รูปปั้นของเขาก็ถูกทำลายเป็นครั้งที่ 3 โดยใครที่ไหนไม่รู้ที่แต่งตัวประหลาด พวกเขาได้แต่ดูถูกคนคนนั้น


อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่คิดว่า ไนโตะ จะแต่งตัวเหมือนกับคนคนนี้


ทันใดนั้น ชายอีกคนก็ปรากฏตัวออกมา เขาเป็นอีกคนที่ดูแลสถานที่และเขาก็ใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์ของ ตระกูลอุจิฮะ อยู่ที่ด้านหลังเสื้อของเขา


“พูดยังไงดีละ จริง ๆ มันไม่ควรมีของแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว และครั้งนี้มันก็ถูกทำลายเป็นครั้งที่ 3”


นินจาอุจิฮะ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราออกมา เขามาอยู่ที่นี่ก็เพราะเขาได้รับมอบหมายจากหมู่บ้านให้ปกป้องมัน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะทำลายมันด้วยตัวเอง


ไนโตะ หันหน้ามา


นินจาอุจิฮะ ยังคงหัวเราะต่อไป แล้วจู่ ๆ เขาก็หยุดและการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย


นั่นมัน!!!


ไม่มีใครใน ตระกูลอุจิฮะ ที่จะลืมใบหน้านี้ได้


ชายคนที่อยู่หน้าเขา…เขาเคยเจอมาก่อน! ใบหน้าของ ไนโตะ!!


นอกจาก นินจาอุจิฮะ แล้ว นินจาคนอื่น ๆ ก็ดูประหลาดใจเช่นกัน


พวกเขาโกรธที่รูปปั้นของ ไนโตะ ถูกทำลาย พวกเขาทั้งหมดหยิบอาวุธออกมาและเตรียมพร้อมที่จะโจมตีคนที่ทำเรื่องนี้ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นใบหน้าของ ไนโตะ และอาวุธในมือของพวกเขาก็หล่นลงพื้นในทันที


บางคนอดไม่ได้ที่จะขยี้ตาของเขา


“มัน…มันเป็นไปไม่ได้…”


“แกเป็นใคร! กล้าดียังไงที่ปลอมตัวเป็น ท่านไนโตะ!!”


นินจาบางคนจ้องหน้ากันและกันอย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่นินจาที่เหลือยังคงจ้องไปที่ ไนโตะ อยู่และเปิดเผยถึงจิตสังหารของพวกเขา

 

 

 


ตอนที่ 221

 

“…”


ไนโตะ รู้สึกโกรธจริง ๆ เมื่อเห็นท่าทีของนินจาเหล่านี้ที่ทำกับเขา


แต่เขาก็ไม่สามารถโจมตี นินจาของโคโนฮะ ได้ เขาได้แต่จ้องมองไปที่พวกเขาด้วยความเย็นชา


สถานที่นั้นค่อนข้างมืด แต่ ไนโตะ ก็ใช้สัมผัสพิเศษของเขาเพื่อรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และใช้ เขาสังเกตเห็นว่า นินจาของตระกูลอุจิฮะ กำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่!


นินจาคนนั้นหัวเราะเพราะรูปปั้นของ ไนโตะ ถูกทำลาย มันเป็นเรื่องที่น่าตลกอย่างนั้นเหรอ?


ฮึ!


ไนโตะ จ้องไปที่ ชายจากอุจิฮะ แล้วก็ส่งเสียงออกมา


ระดับของ ไนโตะ ในตอนนี้ทำให้เขาสามารถควบคุม คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ และบีบให้มันมุ้งเป้าไปที่เป้าหมายเดียวแทนที่จะทำความเสียหายไปรอบบริเวณได้


ฟึ้ม!!!


ทันใดนั้น นินจาตระกูลอุจิฮะ ก็รู้สึกว่าพลังอันน่าสยดสยองกำลังบดขยี้จิตใจของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มกรีดร้องและเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด


ภายใต้ความเจ็บปวดอันน่าสะพรึงกลัวนี้ นินจาอุจิฮะ ก็ใช้ เนตรวงแหวน ของเขาทันทีเพราะเขาคิดว่าเขากำลังถูกคาถาลวงตาอยู่และเขาก็พยายามที่จะต่อต้านมัน


ในวินาทีต่อมา พลังอันน่ากลัวก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และในทันใดนั้นชายคนนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นและไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปนอกจากความกลัวและความสยองขวัญที่ ไนโตะ มอบให้เขาด้วยการจ้องมองเพียงอย่างเดียว!


“นี้จะสอนให้คุณรู้ถึงตำแหน่งของคุณ”


ไนโตะ หันมองเขาเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้น ไนโตะ ก็ส่ายหัว


หลังจากนั้น ไนโตะ ก็มองไปที่ นินจาคนอื่นที่อยู่ต่อหน้าเขา


ไนโตะ ไม่ได้เล็ง คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ไปที่พวกเขา แต่มันก็ยังส่งออร่าที่น่ากลัวออกมาอยู่ ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวเช่นกัน


แต่มันก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้สึกแบบนั้น หลังจากที่พวกเขาเห็นเพื่อนลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น!


หลังจากที่ ไนโตะ ส่ายหัว เขาก็ไม่รู้สึกอยากคุยกับพวกเขาและหายตัวไปทันที


นินจามองหน้ากันอย่างไม่เชื่อ


“เขาเพิ่ง…หายตัวไปใช่ไหม?!”


“มันอะไรกันเนี่ย!!”


“ไม่มีใครที่มีแรงกดดันวิญญาณรุนแรงขนาดนั้นได้ และความเร็วแบบนั้น…เป็นใครไปไม่ได้ ชายคนนั้นคือ ไนโตะ จริง ๆ!”


พวกเขาเกือบจะลืม ชายจากอุจิฮะ ที่กำลังนั่งตัวสั่นอยู่ข้าง ๆ พวกเขา และพวกเขาก็ยืนตัวแข็งอยู่ที่นั่นพร้อมกับดวงตาที่แสดงถึงความไม่น่าเชื่อ


ท่านไนโตะ…ยังมีชีวิตอยู่!


……


ที่บ้านของ ไนโตะ


บ้านทังหลังสะอาดเป็นอย่างมาก มันไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว แต่มีคนคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องอย่างเงียบ ๆ


หลังจากที่มีการประกาศการเสียชีวิตของ ไนโตะ และได้สร้างรูปปั้นให้เขาขึ้นมาแล้ว คุชินะ ก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านของ ไนโตะ ในทันที


เพราะถ้าหากบ้านไม่มีคนอยู่ สักวันหนึ่งมันก็จะถูกส่งต่อให้คนอื่นเข้ามาอยู่แทน ซึ่ง คุชินะ ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น


ในโลกธรรมดาเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก แต่ในโลกแห่งนินจาแห่งนี้จะมีผู้คนตายอยู่ทุกวัน เรื่องแบบนี้จึงเป็นเรื่องปกติ


คุชินะ ไม่อยากให้ใครเข้ามาอยู่ในบ้านของ ไนโตะ ดังนั้นเธอจึงย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ก่อนที่คนอื่นจะได้รับมันไป


เธอรักษาบ้านของเขาไว้ เพื่อรอเขากลับมา


คุชินะ นั่งฟุบหน้าลงบนโต๊ะและหลับไปด้วยความเหนื่อย


คุณจะเห็นว่าเธอเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจขนาดไหนเพียงแค่มองไปที่หน้าเธอ ท้ายที่สุดแล้วความบอบช้ำทางจิตใจที่เธอได้รับนั้นช่างหนักหนาจริง ๆ


ความเงียบเข้าครอบงำบ้านทั้งหลังเอาไว้


มีเสียงประตูเปิดเบา ๆ


ไนโตะ รับรู้ได้ว่า คุชินะ อยู่ข้างในบ้าน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเสียงใด ๆ เพื่อรบกวนเธอ


เมื่อเขาเข้ามาในบ้าน เขาก็ปิดประตูเบา ๆ และเดินเข้าไปหาเธอ


ไนโตะ เดินเขาไปใกล้เธอ และมองเห็นเธอได้อย่างจัดเจน


ตอนที่เขาไปที่บ้านของเธอ เขาไม่พบเธออยู่ที่นั่น มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย แต่เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะย้ายมาอยู่ที่นี่


และ ไนโตะ ก็รู้สึกทราบซึ้งใจทุกครั้งที่ เขาคิดเกี่ยวกับเหตุผลที่เธอตัดสินใจที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเขา


ไม่ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกซาบซึ้งใจ เขาสามารถรู้สึกถึงมันได้ด้วยจิตวิญญาณ และเขาจะไม่มีวันลืม!


อายุของ ไนโตะ นั้นไม่เท่ากับ คุชินะ แต่ก็ยังไม่ห่างกันจนมองได้ว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ


เมื่อก่อน ไนโตะ รู้สึกเหมือนว่าเขาควรปฏิบัติต่อเธอเหมือนน้องสาว แต่หลังจากที่เขาช่วยชีวิตเธอไว้ ความรู้สึกบางอย่างก็เปลี่ยนไป


ฉันรักเธอเหรอ?


แค่ความบ้าคลั่งในหัวใจของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นคำตอบ


เขาอดไม่ได้ที่จะเอามือไปแตะหน้าที่น่ารักของเธอที่กำลังหลับอยู่


คุชินะ มาจาก ตระกูลอุซึมากิ และเธอก็ยังเป็น พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง แม้ว่าเธอจะไม่สามารถควบคุมจักระของ 9 หาง ได้ แต่เธอก็แข็งแกร่งมาก


ด้วยตาที่สะลึมสะลือ เธอก็ตื่นขึ้นมา


จากแวบแรก มันเป็นใบหน้าที่เธอร้องไห้ด้วยตัวเองทุกคืนเพื่อนอนหลับ


แม้ว่าจะผ่านมานานแล้ว แต่ ไนโตะ ก็ไม่เคยจากเธอไป เขายังคงปรากฏตัวในฝันของเธออยู่ทุกคืน


“ฉันฝันอีกแล้วเหรอเนี่ย?”


คุชินะ ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกในใจของเธอได้ เธอเอื้อมมือของเธอเข้าไปหาใบหน้าของ ไนโตะ


แต่ก่อนที่มือของเธอจะไปถึงหน้าของเขา เขาก็จับมือของเธอไว้อย่างอ่อนโยน


“ตื่นได้แล้วยายขี้เซา ไปหาอะไรกินกันไหม?”


เขาจับมือเธอด้วยมือเดียว แล้วเขาก็ใช้มืออีกข้างไปจับแก้มเธอ


ทันใดนั้น คุชินะ ก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และมองไปที่ ไนโตะ


จากนั้นเธอก็รีบเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว เพราะเธอกลัวว่าเขาจะหายตัวไปอีก และด้วยพลังทั้งหมดที่เธอมี เธอจึงโอบกอดเขาราวกับว่าเธอจะไม่ปล่อยเขาไปอีก


“อย่าร้องไห้…”


ไนโตะ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นหน้าเธอ เขาก็สามารถบอกได้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่


และในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกได้ถึง 2 สิ่งที่อ่อนนุ่มบนหน้าอกของเธอ


อะแฮ้ม!!


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ยิ้มเจ้าเล่ออกมาและกระซิบคำเหล่านี้ข้างหูเธอ


“ว้าว พวกมันใหญ่จริง ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะโตขึ้นมากเลยนะเนี่ย หลังจากที่ฉันหายไปไม่กี่เดือน!”


(ไอ่เด็กเวน อุส่ากำลังโรแมนติก)


ท่ามกลางความประหลาดใจและสิ่งที่ ไนโตะ พูดออกมา


เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น บรรยากาศทั้งหมดก็หายไปทันที


ทันใดนั้นแก้มของเธอก็แดงขึ้น และเธอก็ผลักเขาออกทันทีแล้วก็จ้องหน้าเขา


นี่คือคำพูดที่เขาใช้ปลอบเธองั้นเหรอ?!

 

 

 


ตอนที่ 222

 

“ขอโทษที่ ฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ แต่…”


ไนโตะ ยิ้มให้เธอ จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและกอดเธออีกครั้ง


คุชินะ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเธอก็ลืมตากว้างในขณะที่มือของ ไนโตะ โอบตัวเธอเอาไว้ เธอดูเขินมากและเธอก็พยายามที่จะต่อต้านมัน แต่หัวใจเธอกลับไม่ยอมทำตาม


ทั้งคู่กอดกันอยู่นาน ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงเรา 2


แม้ว่าเธอจะไม่ยากออกไปจากอ้อมแขนของ ไนโตะ แต่ตอนนี้แก้มของเธอก็แดงมากและเธอก็กัดริมฝีผากของเธอ ในขณะที่เธอมองไปที่ ไนโตะ เธอไม่รู้จะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง


“อิตาบ้า!”

เธอพูดสิ่งเดียวที่คิดได้ออกมา และผลักตัวออกจาก ไนโตะ


“มาอยู่บ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”


ไนโตะ มองไปที่เธอแล้วยิ้ม จากนั้นหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นความเจ้าเล่ห์และพูดว่า “เธอไม่คิดว่า…เธอจะทำอะไรให้ฉันบ้างเหรอ?”


“ฮ๊ะ!”


ใบหน้าของ คุชินะ แดงก่ำขึ้นยิ่งกว่าเดิม และเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ทะ…ทะ…ทำอะไร!”


“ก็…เธอมาอาศัยอยู่ในบ้านของฉัน เธอก็ควรจะจ่ายฉันด้วยอะไรบ้างอย่างไม่ใช่เหรอ?”


ทันใดนั้น แปลวไฟก็ปรากฏขั้นในดวงตาของเธอ และควันก็ออกมาจากหัวของเธอ เมื่อ ไนโตะ เห็นดังนั้นเขาก็กดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา


“เชอะ!!!’


คุชินะ ไม่สามารถต่อปากต่อคำกับ ไนโตะ ได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงหันหลังกลับและกำลังจะเดินออกจากห้องไป


เมื่อเห็นสิ่งนี้ ไนโตะ ก็ยิ้มออกมา


หลังจากนั้น คุชินะ ก็ไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใด ๆ ของ ไนโตะ และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเป็นอย่างมาก เธอกลัวว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นแค่ฝันของเธอ เธอจึงอดไม่ได้และต้องหันหลังกลับไปหา ไนโตะ


แต่ทันทีที่เธอหันกลับมา เธอก็ต้องตกใจ เมื่อใบหน้าของ ไนโตะ เข้ามาอยู่ใกล้กับเธอจนแก้มติดกัน


ทันใดนั้น คุชินะ ก็ผงะออกไป ในขณะที่ ไนโตะ ยังคงยืนนิ่งและชี้นิ้วตรงมาที่เธอ “ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างที่ฉันคิดไว้เลย เธออดไม่ได้ที่จะจูบผู้ชายหล่อ ๆ อย่างฉันจริง ๆ ด้วย”


“…”


ทันใดนั้น คุชินะ ก็โกรธขึ้นมาจริง ๆ เธอกำหมัดไว้แน่นแล้ววิ่งเข้าหา ไนโตะ


“ฉันหิวอะ”


ทันใดนั้นความโกรธของเธอก็ดับลงทันทีที่ได้ยินเขาพูด และทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิม


หลังจากนั้นไม่นาน คุชินะ ก็สงบลงและเดินตรงไปที่ห้องครัว หลังจากที่ ไนโตะ ขอร้องให้เธอทำอาหารให้เขากิน


ไนโตะ พลาดช่วงเวลาเหล่านี้มามาก และ คุชินะ ก็รอคอยการกลับมาของเขาอยู่ทุกวัน ไม่ต้องพูดถึงว่าอาหารของเธออร่อยแค่ไหน


บางทีมันอาจจะไม่อร่อยในตอนแรก แต่เธอก็พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำมันให้อร่อยขึ้น


หลังจากรับประทานอาหารใครมือนี้ ไนโตะ ไม่ได้ต้องการอะไรเลย นอกจากการที่เขาจะได้อยู่กับเธอ


และเวลาแห่งความสุขย่อมผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ


ในตอนนี้ ทั้งหมู่บ้านกำลังตกอยู่ในความโกลาหล นินจา ทุกคนต่างตรวจสอบทั้งใต้ดินและบนพื้นดินของหมู่บ้าน


ไม่ว่าจะเป็น ซารุโทบิ , หน่วยลับ หรือแม้แต่ ชาวบ้าน พวกเขาทั้งหมดตื่นตระหนก


เหตุผลก็เพราะข้อความสั้น ๆ ที่ส่งต่อกันมา


ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ…กลับมาแล้ว!


เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะมีการประกาศการตายของเขา และพวกเขาก็เพิ่งจะสร้างรูปปั้นให้เขา เรื่องนี้จึงทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก


หลังจากได้ยินข่าวนี้ แม้แต่ มินาโตะ ก็ตกใจเช่นกัน แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ท้ายที่สุดแล้ว ไนโตะ ก็เป็นนินจาที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้จริง ๆ


สำรับ ซึนาเดะ เมื่อเธอได้รับข่าวนี้ เธอก็รีบตรงไปที่บ้านของ ไนโตะ ทันที เธอไม่สนใจว่า คุชินะ จะอยู่กับเขาหรือเปล่า เธอแค่ต้องการจะต่อยเขาเท่านั้น


ไนโตะ ค้นพบโดยบังเอิญว่าสาว ๆ รอบตัวเขาต่างมีความอันตรายทุกคน…


อย่างไรก็ตาม เมื่อ ซึนาเดะ มาถึง คุชินะ ก็หยุดเธอด้วยสายตาที่ดุดัน แต่เมื่อ ซึนาเดะ ได้เห็น ไนโตะ เธอก็รู้สึกมีความสุขจริง ๆ


ไนโตะ มีความสุขมากที่ คุชินะ กล้าเข้าไปหยุดผู้หญิงที่ไม่ควรเข้าไปเล่นด้วยอย่าง ซึนาเดะ!


โชคดีที่ คุชินะ ก็ยังพูดคุยกับ ซึนาเดะ แบบเป็นปกติหลังจากที่เธอหยุด ซึนาเดะ ไว้


หลังจากที่ ซึนาเดะ กลับไป คุชินะ กับ ไนโตะ ก็กลับมาพูดคุยกันตามปกติอีกครั้ง


บางคนมีความสุขจริง ๆ กับเรื่องนี้


และแน่นอนว่ามีคนบางกลุ่มที่ไม่มีความสุข


ตระกูลอุจิฮะ ไม่พอใจกับข่าวนี้


ความรู้สึกนี้อบอวนอยู่เต็มห้อง ในขณะที่ผู้อาวุโสของตระกูล นั่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มที่น่ากลัว!


“ทำไมมันไม่ตาย ทำไมไอ่เด็กบ้าคนนั้นถึงไม่ตาย!”


พวกเขาทุกคนมีดวงตาสีแดงและเคียดแค้น เมื่อพูดถึงการกลับมาของ ไนโตะ


……..


ขณะที่ทั้งหมู่บ้านกำลังวุ่นวาน ดันโซ ก็ได้นำ นินจาหน่วยราก ไปซ่อนตัวอยู่ในภูเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างแนวป้องกันของ อิวะ และ คุโมะ


ทั้ง 2 หมู่บ้านต้องการมาเจรจาพูดคุยกัน และ ดันโซ ก็มาเพื่อทำลายการเจรจาของพวกเขา


“ที่เราจำเป็นต้องแต่งตัวให้เหมือนกับ นินจาอิวะ ก็เพราะ ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับ ทีมคุโมะ ในระหว่างทางที่มาเจรจา อิวะ ก็จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ และแม้ว่าเราจะไม่สามารถทำลายพวกมันได้ทั้งหมด แต่ คุโมะ ก็จะโทษ อิวะ ในสิ่งที่เกิดขึ้น”


ดันโซ มองไปที่นินจาของเข จากนั้นเขาก็พูดออกมาเบา ๆ ด้วยดวงตาและน้ำเสียงที่เย็นชา


“เราควรใช้การตายของ ไรคาเงะ ให้เป็นประโยชน์ เราต้องป้องกันไม่ให้สงครามสิ้นสุดลง”


เมื่อพูดจบแล้ว ดันโซ ก็แทนน้ำในกาต้มน้ำลงในแก้ว


ในขณะนั้นก็มีนินจาคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว


“ท่านดันโซ มีข่าวด่วนครับ!”


“ไนโตะ ยังไม่ตาย และตอนนี้เขาก็กลับมาที่ โคโนฮะ แล้วครับ!”


เก๊งเก๊ง!!


เสียงกาต้มน้ำหล่นลงกับพื้น


ดันโซ ดูสับสนมาก ในขณะที่การแสดงออกของ นินจาหน่วยราก ยังคงเยือกเย็นเหมือนเดิม


………


ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน จากนั้นก็ไปทั่ว แคว้นแห่งไฟ และในที่สุดทั่วโลกก็รับรู้!


ความเร็วในการกระจายข่าวเรื่องนี้ช่างน่าหวาดกลัวมาก ในเวลาไม่นานนัก ทั่วโลกก็ได้ยินข่าวนี้


ข่าวนี้ทำลายทุกข้อสรุปของทุกคน


ไนโตะ ยังไม่ตาย ซึ่งทำให้ผู้คนจำนวนมากตกใจ รวมทั้ง มิซึคาเงะ และ ซึจิคาเงะ ด้วยเช่นกัน!


ไนโตะ ไม่ได้จบชีวิตลงในการต่อสู้กับ ไรคาเงะ แต่เขาฆ่า ไรคาเงะ ได้ และเขาก็รอดชีวิตมาได้!


เขาเคยฆ่า คาเงะ มาก่อนหน้านี้ แต่ทุกคนเชื่อว่ามันเป็นแค่โชคดีของเขาเท่านั้น เพราะ คาเสะคาเงะ นั้นอ่อนแอ


แต่ตอนนี้ เขาได้ฆ่า คาเงะ คนที่ 2 ซึ่งก็คงไม่ใช่โชคช่วยอีกต่อไป มีคำอธิบายเพียงคำเดียวสำหรับเรื่องนี้


นั่นก็คือ ไนโตะ นั้นแข็งแกร่งมาก มีอำนาจมากและเกือบจะเป็นอมตะ!


เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ก็ได้รับฉายาใหม่ว่า เทพเจ้าแห่งนินจา!


เทพเจ้า เป็นตำแหน่งสูงสุดของธรรมชาติ และพวกเขาไม่สามารถหาคำอื่นใดเพื่อมาอธิบายผู้ชายอย่าง ไนโตะ ได้ นอกจากคำว่า เทพเจ้า!


ฮันโซ ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ชายที่ถูกเรียกว่า ครึ่งเทพ แต่ ไนโตะ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาแข็งแกร่งกว่าและสามารถเอาชนะ ฮันโซ ได้!


สำหรับ ฮันโซ หลังจากที่เขารู้ข่าวนี้ เขาก็รู้สึกงง ๆ แต่ในที่สุดเขาก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และเผยให้เห็นภาพที่แปลกประหลาดในสายตาของเขา


ครั้งหนึ่งเขาเคยต่อสู้กับ ไนโตะ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไนโตะ นั้นแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งเช่นนี้ หากไม่มี 3 นินจาในตำนาน คอยช่วยเหลือ ไนโตะ เขาก็คิดว่าเขาสามารถฆ่า ไนโตะ ได้


แต่ตอนนี้ ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้นมาก ซึ่งทำให้เขามีความรู้สึกที่น่ากลัวเกิดขึ้น ถ้าพวกเขาทั้ง 2 ต้องต่อสู้กันอีกครั้ง ไนโตะ จะสามารถเอาชนะเขาได้ และฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายแน่นอน!


“นินจาโคโนฮะ จัดการได้ยากเสมอ”


เขาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งใน แคว้นแห่งฝน แล้วเขาก็มองไปยังทิศทางของ แคว้นแห่งไฟ


คำเหล่านี้ ก็เป็นคำพูดเดียวกันกับที่ คาเงะ คนอื่น ๆ พูดด้วยเช่นกัน


ด้วยข่าวการกลับมาของ ไนโตะ ทำให้ แคว้นแห้งไฟ เริ่มกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง


ไม่มีหมู่บ้านไหนที่อยากเสี่ยงโชคกับการโจมตีแคว้นแห่งนี้ พวกเขาทั้งหมดขอสงบศึกและยอมจ่ายค่าคุ้มครองให้กับ แคว้นแห่งไฟ เพื่อให้สงครามยุติลง


เมื่อมาถึงจุดนี้ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ก็สิ้นสุดลงในที่สุด!

 

 

 


ตอนที่ 223

 

ในช่วงท้ายของ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 สายตาของคนทั้งโลกต่างจับจ้องไปที่ทรัพยากรที่ แคว้นแห่งไฟ ได้รับมา


แคว้น 3 ใหญ่อย่าง แคว้นแห่งลม , แคว้นแห่งสายฟ้า และ แคว้นแห่งดิน ต่างก็ต้องกัดฟันเพื่อรักษาดินแดนของพวกเขาเอาไว้ แม้แต่ แคว้นแห่งน้ำ ก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ได้


อย่างไรก็ตาม อำนาจของ โคโนฮะ ก็เป็นอุปสรรคต่อการรักษาดินแดนของ 3 แคว้นใหญ่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ โคโนฮะ มี ไนโตะ


ควบคู่ไปกับการสูญเสียที่ 3 หมู่บ้านใหญ่ประสบในสงครามครั้งนี้ ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมเจรจาสงบศึกและยอมจ่ายค่าคุมครองเป็นจำนวนมากให้กับ แคว้นแห้งไฟ หลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องฟื้นฟูหมู่บ้านและแคว้นของพวกเขาต่อไป


นี่เป็นจุดสิ้นสุดของ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 แต่มันไม่ใช่จุดสิ้นสุดของ ไนโตะ อันที่จริงแล้วเขามีชื่อเสียงมากในช่วงนี้และได้รับฉายามาถึง 2 ฉายา นั้นก็คือ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ และ เทพเจ้าแห่งนินจา…


นับตั้งแต่ยุคก่อตั้ง มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งนินจา” เพราะความกล้าหาญที่ไม่มีใครเทียบได้


คนแรกก็คือ โฮคาเงะ รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง หมู่บ้านโคโนฮะ


ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ปรมาจารย์ ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น


แม้ว่า ไนโตะ จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในใจของผู้คนนับไม่ถ้วน แต่เขาก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับ เซนจู ฮาชิรามะ และเขาก็ยังห่างไกลกว่าที่จะตาม ฮาชิรามะ ได้ทัน


คนอื่นคิดว่า ไนโตะ จะไม่มีวันก้าวข้าม ฮาชิรามะ ได้ และคนที่รู้ว่า ฮาชิรามะ ทำอะไรได้บ้างก็เชื่อว่าฮาชิรามะ เป็นเทพเจ้าที่แท้จริง!


แต่ ไนโตะ ไม่เชื่อแบบนั้น


และเขาไม่สนใจเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ หรือสิ่งที่ผู้คนคิดเกี่ยวกับเขา เขาแค่อยากเดินตามทางของเขาเอง


มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 เพิ่งจะสิ้นสุดลง


อย่างไรก็ตาม จุดจบของมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า


ไนโตะ มั่นใจว่าต้องเป็นแบบนั้น แม้ว่าในครั้งนี้ 3 หมู่บ้านใหญ่จะพ่ายแพ้และสูญเสียครั้งใหญ่ แต่มันก็จะไม่เป็นเช่นนั้นตลอดไป พวกเขาจะฟื้นฟูหมู่บ้านและแคว้นของพวกเขา และในที่สุดพวกเขาก็จะลุกขึ้นต่อต้านอีกครั้ง


โดยไม่พูดถึงว่า อุจิฮะ มาดาระ ยังคงซ่องตัวอยู่ในความมืด และพยายามควบคุมทุกอย่าง แล้วก็ ดันโซ ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อจุดชนวนสงครามขึ้นมาอีกครั้ง


นอกจากนี้ก็ยังมี นางาโตะ , เนตรสังสาระ , โอบิโตะ , แพน 6 วิถี…


ดังนั้น สำหรับ ไนโตะ แล้ว นี้เป็นเพียงแต่จุดเริ่มต้น


……


ยามค่ำคืน


บนเตียงนอน


คุชินะ กำลังกอดผ้าห่มไว้แน่น และมองไปที่ ไนโตะ ที่นอนอยู่ข้าง ๆ เธอด้วยความใสซื่อในใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่ารักของเธอ


การนอนด้วยกันบนเตียงเดียวกัน 2 ต่อ 2 แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่พวกเขาก็ยังเด็กอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้


ไนโตะ มั่นใจว่า ดันโซ จะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อมาก่อกวนพวกเขา แต่ ดันโซ กลับไม่ทำอะไรเลย


แม้แต่ ซารุโทบิ ก็ไม่ได้รบกวน ไนโตะ ด้วยการพูดคุยร่ายยาวเหมือนกับสุนทรพจน์ของเขาเลย


“ไม่เอาน่า หยุดจ้องฉันได้แล้ว จ้องฉันแบบนี้แล้วฉันจะนอนกลับได้ยังไงละ”


ไนโตะ หาวขณะที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน


ด้วยแก้มสีแดง คุชินะ มองไปที่ ไนโตะ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น นายก็ลุกจากเตียง แล้วลงไปนอนที่พื้นสิ!”


“ทำไมละ? นี่มันบ้านของฉันน่ะ!”


ไนโตะ มองไปที่ คุชินะ ด้วยสายตาที่มีเลศนัย และใบหน้าของ คุชินะ ก็แดงขึ้นเรื่อย ๆ


คุชินะ เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า


“นายตัวเหม็น ไปอาบน้ำส่ะ!”


“ฮ๊ะ”


หลังจากที่ ไนโตะ ยักไหล่ เขาก็วิ่งเข้าห้องน้ำและในเวลาไม่นานเขาก็วิ่งกลับมานอนบนเตียง


คุชินะ ไม่ได้หนีไปไหน แต่เธอก็เอาผ่าห่มมาคลุมศีรษะเอาไว้


หลังจากที่เธอรออยู่นาน เธอก็ไม่สามารถรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวใด ๆ จากด้านข้างของเธอ


เธอจึงดึงผ้าห่มลงอย่างช้า ๆ และเธอก็พบว่า ไนโตะ หลับไปแล้ว


“…”


เธอมองดูเขาอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งในที่สุดเธอก็หลับไปเช่นกัน


หลังจากที่เธอหลับไปแล้ว ไนโตะ ก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขามองดูใบหน้าของเธอที่กำลังหลับอยู่ ใบหน้าของเธอทำให้เขาเกิดรอยยิ้ม


คุชินะ ยังคงดูเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในทางกลับกัน ไนโตะ กลับดูเหมือนเขาเป็นชายหนุ่มอายุ 20 ปี


หลังจากที่เขามองเธออยู่ซักพัก ไนโตะ ก็ลุกออกจากเตียงแล้วไปอีกห้องหนึ่ง


เขานอนไม่หลับ!


ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจฝึกฝนอยู่พักหนึ่ง


เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาทั้ง 2 ก็ยังคงอยู่ด้วยกัน แม้ว่า คุชินะ มักจะเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าอายบางอย่าง แต่พวกเขาทั้ง 2 ก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข


การฝึกฝนของ ไนโตะ เริ่มเข้าสู่ภาวะเฉื่อยชาอีกครั้ง


ไม่ใช่เพราะ ไนโตะ ไม่ฝึกฝน เขายังคงฝึกหนักเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่ก้าวหน้ามากนัก


พูดให้ถูกก็คือ ร่างกายของ ไนโตะ นั้นแข็งแกร่งมากและการฝึกก็เป็นไปตามปกติ แต่ผลลัพธ์กลับไม่เหมือนเดิม


การฝึกเดียวที่มีประโยชน์ก็คือการฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 แต่สภาพแวดล้อมของ แคว้นแห้งไฟ ก็ไม่ดีเท่ากับ แคว้นแห้งสายฟ้า


เสื้อผ้าของ ไนโตะ เต็มไปด้วยทุ่นถ่วงน้ำหนัก แต่การทำ ลุกนั่ง วิดพื้น หรือการต่อยง่าย ๆ เหล่านั้น ก็ไม่มีประโยชน์อะไร


เมื่อพูดถึงการเพิ่มและลดน้ำหนัก สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดของ ไนโตะ ก็คือ โอโนกิ ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 3 นอกเหนือจาก คาถาธุลี ของเขาแล้ว เขาก็ยังมี คาถาดิน ที่ยอดเยี่ยมอีก 2 คาถา


คาถาแรกก็คือ คาถาดิน : ลดน้ำหนักหิน และคาถาที่ 2 ก็คือ คาถาดิน : เพิ่มน้ำหนักหิน


โอโนกิ สามารถลดน้ำหนักของวัตถุได้ เขาใช้คาถาง่าย ๆ นี้ทำให้ตัวเขาเองสามารถบินได้


และเขาก็สามารถใช้คาถานี้ในขั้นที่สูงขึ้นไปอีกคือ ลดน้ำหนักหินสุดยอด ซึ่งในการ์ตูน เขาก็ได้ใช้คาถานี้ในการหยุดอุกกาบาตของ มาดาระ


ตรงกันข้ามกับคู่ของมันคือ คาถาดิน : เพิ่มน้ำหนักหิน คาถานี้จะทำให้หมัดดินของ อิวะ แข็งแกร่งขึ้นอีกหลายสิบเท่า!


ไนโตะ ไม่สนใจที่จะลดน้ำหนักของสิ่งต่าง ๆ เขาจะสามารถบินได้ถ้าเขาไปถึงระดับของ ไก


แต่การเพิ่มน้ำหนักคือสิ่งที่ ไนโตะ สนใจ เขาสามารถใช้มันเพื่อช่วยในการฝึกฝนของเขาได้!


อย่างไรก็ตาม คาถานินจาทั้ง 2 นี้ก็ไม่ง่ายที่จะได้มา แม้แต่ในการ์ตูน ก็ดูเหมือนว่าจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้วิชานี้


ไนโตะ ไม่พบม้วนคัมภีร์ของคาถาทั้ง 2 ใน โคโนฮะ และแม้ว่าพวกเขาจะมีมัน พวกเขาก็คงจะไม่ให้มันแก่ ไนโตะ แน่นอน


“เราต้องไปที่ หมู่บ้านอิวะ ด้วยงั้นเหรอ? แต่เราไม่อยากไปจาก คุชินะ เลย…” ไนโตะ ขมวดคิ้ว


ปัญหาหลักก็คือ คาถานินจาทั้ง 2 นี้เป็น คาถาดิน


เขาไม่มีคุณสมบัติจักระประเภทนั้น


และมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝึกฝนและตามหาวิชาทั้ง 2 ได้ด้วยตัวเอง


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา


โอโรจิมารุ!!


เพราะเขาเคยมอบวิธีฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 ให้แก่ ไนโตะ และถ้าหากเขามีคาถาทั้ง 2 ไว้ในครอบครอง เขาก็จะไม่รังเกียจที่จะมอบพวกมันให้ ไนโตะ

 

 

 


ตอนที่ 224

 

ก่อนหน้านี้ ไนโตะ ไม่อยากติดต่อกับ โอโรจิมารุ


พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไนโตะ รู้สึกรังเกียจเขามากเพราะพฤติกรรมของเขา ไนโตะ ไม่เคยเข้าใจเขาเลย


ถึงอย่างนั้น ไนโตะ ก็ไม่กลัว โอโรจิมารุ


เพราะความแข็งแกร่งของ ไนโตะ นั้นห่างชั้นกว่า โอโรจิมารุ!


แม้ว่า โอโรจิมารุ จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นศัตรูของ ไนโตะ


พลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ นั้นพัฒนาขึ้นเรื่อง ๆ จนในปัจจุบันมันกลายเป็นขีดจำกัดสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก นอกจากนี้ คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น และภูมิคุ้มกันต่อคาถาลวงตาของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน


และหาก โอโรจิมารุ พยายามที่จะชิงดาบของเขาไป นั่นจะกลายเป็นจุดจบของ โอโรจิมารุ!


นินจาทุกคนมีจุดอ่อนของตัวเอง ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบในโลกใบนี้ แต่ประโยคนี้ไม่ได้ใช้กับ ไนโตะ พลังของเขาไม่ได้เป็นของโลกใบนี้


ยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ไนโตะ ก็ยิ่งใกล้เข้ากับความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อย ๆ


……


ภายในฐานมืดใต้ดิน


ไนโตะ เดินไปอย่างเงียบ ๆ ในห้องโถง ทั้งสถานที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงหินที่เหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมาชาติ


หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เดินไปจนเห็นแสงสว่างอยู่ด้านหน้า


ร่าง ๆ หนึ่งกำลังยืนอยู่ที่นั่น และรอการมาถึงของ ไนโตะ ด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย


“น่าแปลกจริง ๆ ที่เธอมีเวลามาที่ฐานของฉัน!”


สีหน้าของ โอโรจิมารุ นั้นยากเสมอที่จะเข้าใจความคิดได้


“แล้วที่นี่ไม่ยินดีต้อนรับผมเหรอ?”


ไนโตะ มองไปที่ โอโรจิมารุ


โอโรจิมารุ ยิ้มและพูดว่า “ฉันยินดีต้อนรับเธออย่างแน่นอน เธอเป็นแขกของฉัน ตามฉันมาสิ”


เมื่อเขาพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและเดินนำไป


เมื่อเห็นดังนั้น ไนโตะ ก็เหลือบดูอย่างสงบ แล้วเดินตาม โอโรจิมารุ เข้าไปในห้องทดลองของเขา


สถานที่นี้ใหญ่มาก แต่ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ เขาจึงสามารถสัมผัสได้ทุกอย่าง


ไนโตะ ไม่สนใจการทดลองในห้องทดลองนี้นอกจากการวิจัยของ โอโรจิมารุ ที่ทดลองเกี่ยวกับวิญญาณ


การวิจัยเกี่ยวกับวิญญาณได้กินเวลาการทดลองส่วนใหญ่ของ โอโรจิมารุ และค่อย ๆ กลายเป็นการทดลองหลักของเขา


ตอนนี้ โอโรจิมารุ ได้เริ่มศึกษาการสร้างวิชา คาถาสัมภเวสีคืนชีพ แล้ว


“นี้สำหรับคุณ”


หลังจากมองไปรอบ ๆ ไนโตะ ก็หยิบม้วนคัมภีร์ออกมาแล้วโยนมันให้ โอโรจิมารุ เขารับมันในขณะที่เขากำลังแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากด้วยท่าทางแปลก ๆ


หลังจากเปิดมันออกมาดู โอโรจิมารุ ก็เบิกตากว้างจากนั้นเขาก็ยิ้มให้ ไนโตะ


ไนโตะ ไม่ดูไม่ออกว่าเขามีความสุขหรือไม่ เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร รอยยิ้มของเขาก็ดูชั่วร้ายอยู่เสมอ


“เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ ขั้นที่ 3 ต้องใช้พลังสายฟ้าจากธรรมชาติภายนอกเพื่อยกระดับคุณสมบัติจักระสายฟ้าของผู้ใช้วิชา”


“ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับการทดลองดัดแปลงร่างกายของฉันได้เป็นอย่างมาก”


โอโรจิมารุ ปิดคัมภีร์กลับไปแล้วกลืนมันลงไปในท้อง และมองไปที่ ไนโตะ อีกครั้ง


ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่ ไนโตะ มอบให้เขาก็คือความลับของ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ที่ ไนโตะ ได้สรุปและเขียนขึ้นมานั้นเอง


โอโรจิมารุ เป็นคนที่ให้คัมภีร์วิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 แก่ ไนโตะ และตอนนี้ ไนโตะ ได้ให้คัมภีร์วิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 แก่เขา ไนโตะ ไม่คิดว่ามันจะมีประโยชน์มากสำหรับเขา แต่จากน้ำเสียงของเขาแล้วดูเหมือนว่าเขาจะสนใจมันจริง ๆ


“คุณต้องการอะไรถึงให้คัมภีร์อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 กับผมในตอนนั้น?”


ไนโตะ ถาม โอโรจิมารุ ไปตรง ๆ เพราะเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะเล่นเกมใจกับ โอโรจิมารุ


“ก็…”


โอโรจิมารุ ยิ้มแล้วพูดว่า “มีบางคนไม่ต้องการให้เธอได้มันไป ฉันไม่ชอบมัน และฉันไม่ชอบเป็นกลาง”


“ตอนนี้ฉันคิดว่าการตัดสินใจของฉันไม่ผิดเลย ด้วยคัมภีร์ที่เธอนำมาให้ฉัน เธอช่วยฉันมากกว่าที่ฉันช่วยเธอเสียอีก”


โอโรจิมารุ หัวเราะอย่างมีเล่ห์สนัย แต่หลังจากที่ ไนโตะ คุยกับเขาซักพัก ไนโตะ ก็เริ่มชินกับมัน


แต่การที่ได้ยินว่า โอโรจิมารุ รู้สึกขอบคุณ ไนโตะ ที่นำคัมภีร์มาให้เขา ทำให้ ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย


ท้ายที่สุดแล้ว อาภรณ์สายฟ้า ก็ไม่เหมาะกับรูปแบบการโจมตีของ โอโรจิมารุ


“คุณต้องใช้มันในการทดลองงั้นเหรอ?”


“แน่นอน”


โอโรจิมารุ ยิ้มแล้วเขาก็เดินไปยังอีกห้องหนึ่ง


ไนโตะ ขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นก็เดินตามเขาไป


โอโรจิมารุ จับคนธรรมดาและศัตรูจากหมู่บ้านอื่นไว้ในห้องนี้ ดูเหมือนว่า โอโรจิมารุ จะยังไม่ได้เริ่มทำการทดลองกับ นินจาของโคโนฮะ แต่ทว่าเขาก็มีโอกาสที่ดีในช่วงสงครามเพื่อจับคนเหล่านี้


ด้านในสุดของห้องนี้ มีประตูบานหนึ่ง ที่จะนำไปสู่อีกห้องหนึ่ง ที่เขาใช้ทำการทดสอบกับสัตว์


“ฉันไม่รู้ว่า คุณไนโตะ เคยได้ยินเรื่องนี้หรือเปล่า เรื่องที่ว่า ในโลกแห่งนี้ยังมีพลังงานอีกอย่างหนึ่ง ที่นอกเหนือจากที่นินจาใช้อยู่”


ประโยคของ โอโรจิมารุ ทำให้ ไนโตะ เกือบที่จะพูดออกมา


พลังงานธรรมชาติ!


ในเวลาเดียวกัน ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ โอโรจิมารุ สนใจในพลังงานธรรมชาติตั้งแต่ตอนนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยเรียนรู้วิธีการใช้มันก็ตาม


ภูเขาเมียวโบคุ (วิชาเซียนกบ) , ถ้ำริวจิ (วิชาเซียนงู) และ ป่าชิโคซึ (วิชาเซียนทาก) ทั้ง 3 แห่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังงานเฉพาะเป็นของตนเอง และทั้งหมดถูกกล่าวถึงในการ์ตูน แม้ว่า ป่าชิโคซึ จะไม่เคยปรากฏให้เห็นก็ตาม


ในช่วง มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 คาคุโตะ สามารถเรียนรู้พลังงานธรรมชาติและเหนือกว่า โอโรจิมารุ ได้


อย่างไรก็ตาม ไนโตะ คิดว่า โอโรจิมารุ จะไม่สามารถไปถึงระดับที่สามารถใช้โหมดเซียนได้ เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอลงมากหลังจากที่เขาสูญเสียมือทั้ง 2 ข้าง โดยการผนึกของ รุ่นที่ 3!


โดยไม่พูดถึงว่า การย้ายร่างทำให้ของเขาอ่อนแอลงไปอีก

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม