The Strongest Hokage 197-203

ตอนที่ 197

 

หลังจากที่ ไนโตะ กินข้าวกับ คุชินะ เสร็จ เขาก็กลับไปที่บ้านของเขาเพื่อพักผ่อน


วันต่อมา ไนโตะ ก็เริ่มตามหาตัว คาโต้ ดัน


ดัน เป็นนินจาของ โคโนฮะ แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ดัน เป็นหน่วยลับ และไม่ใช่หน่วยลับธรรมดา เขาเป็นถึงหัวหน้าทีม


แม้ว่า ไนโตะ จะสูญเสียสิทธิ์ทั้งหมดของเขาในหน่วยลับ แต่มันก็ยังง่ายสำหรับเขาที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับใครก็ตามที่เขาต้องการ


หลังจากที่เขากำลังค้นหาข้อมูลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พบว่า ดัน กำลังจะเข้าร่วมการประชุมระดับสูงในโคโนฮะ และตอนนี้ ไนโตะ ก็รู้เรื่องการประชุมครั้งนี้แล้ว!


“น่าสนใจแฮ๊ะ…ถึงเขาจะรู้ว่าเราขี้เกียจไป แต่เขาก็น่าจะบอกให้เรารู้มั่งสิ”


ใบหน้าของ ไนโตะ ครุ่นคิดเล็กน้อย เขาสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นคำสั่งของ ซารุโทบิ หรือผู้เฒ่าคนอื่น


การประชุมระดับสูงของ โคโนฮะ ไม่เหมือนกับสภาอาวุโส การประชุมนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมคือนินจาระดับสูง


นินจาระดับสูง เป็นกลุ่มนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้าน แม้ว่าพวกเขาบางคนอาจไม่มีถูกแบ่งระดับพลัง แต่นินจาระดับสูงบางคนก็อาจมีพลังมากถึงระดับ คาเงะ!


อย่างเช่น ไนโตะ


นี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก


ตำแหน่งของ ไนโตะ คือ โจนิน แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นเกินตำแหน่งของเขามาก เขาสามารถฆ่า คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 และเอาชนะ 1 หาง ได้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในระดับ คาเงะ


ไนโตะ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้


เขายืนขึ้นแล้วเขาก็จ้องตรงไปที่ สำนักงานโฮคาเงะ ในตอนแรกหากเขาได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมการประชุม เขาอาจจะไป แต่ตอนนี้เขาจะไปอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่ได้รับคำเชิญก็ตาม


…….


สำนักงานโฮคาเงะ


ในห้องที่ใช้ในการจัดการประชุม มีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง และมีนินจาจำนวนมากนั่งล้อมรอบตะตัวนั้น และนินจาทุกคนในที่นี่ก็เป็นนินจาระดับสูงของหมู่บ้าน และ จิไรยะ ก็เป็นหนึ่งในนั้น


ในเวลานั้น ซึนาเดะ อยู่ที่นั่น แล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะ


มันเป็นเอกสารเกี่ยวกับการสร้างสถาบันฝึกนินจาแพทย์และคณะทำงานของสถาบันนั้น


“การเพิ่มจำนวนนินจาแพทย์จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตในสนามรบลงได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นฉันคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้แล้วใช่ไหม?!”


ซึนาเดะ ตบโต๊ะ ความเศร้าโศกและความเสียใจเรื่องน้องชายของเธอที่ตายไปไม่เคยลบหายไปจากใจของเธอ เธอจึงจริงจังมากในเรื่องนี้


อย่างไรก็ตาม นินจาที่อยู่ในที่ประชุมก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไร และ ซารุโทบิ ที่นั่นอยู่ก็ขมวดคิ้ว


“แม้ว่ามันจะลดการบาดเจ็บล้มตายลงไปได้ แต่การที่จะทำมันขึ้นมาก็ต้องใช้เงินและทรัพยากรเป็นจำนวนมาก”


นินจาคนหนึ่งพูด


คนอื่นที่ฟังเขาอยู่ พวกเขาก็มองหน้ากันและพยักหน้าเห็นด้วย


แทบจะไม่มีใครในที่ประชุมที่เห็นด้วยกับ ซึนาเดะ ซึ่งทำให้เธอโกรธมาก


ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างนอกห้อง


“ข้อเสนอของ ท่านซึนาเดะ นั้นยอดเยี่ยม ทำไมไม่มีใครเห็นด้วยละครับ?”


ด้วยความสงบนิ่ง ไนโตะ เดินเข้ามาในห้อง และนินจา 2 คนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ไม่กล้าที่จะห้ามเขา!


การมาถึงของ ไนโตะ ทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน


คาโต้ ดัน ที่กำลังจะลุกขึ้นเพื่อสนับสนุน ซึนาเดะ เมื่อเขาเห็น ไนโตะ เขาก็ความประหลาดใจและนั่งลงเหมือนเดิม


“เธอมาได้ยังไง…ไนโตะ?”


ซึนาเดะ รู้สึกแปลกใจและตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็น ไนโตะ เดินเข้ามา เธอคิดว่าเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะเข้าร่วมการประชุม แต่เมื่อเธอเห็นเขา เธอก็หันหน้ากลับไปมอง ซารุโทบิ ทันที


ใบหน้าของ ซารุโทบิ ดูแปลก ๆ


แต่การแสดงออกของ ซารุโทบิ ก็กลับมาเป็นปกติในทันที ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็น โฮคาเงะ จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ ไนโตะ และพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าเธอยุ่ง ๆ อยู่ ฉันเลยคิดว่าเธอคงไม่สนใจมานั่งประชุมน่าเบื่อแบบนี้ ฉันเลยไม่ได้บอกเธอ”


“ก็จริง ผมไม่ค่อนสนใจเท่าไร”


ไนโตะ พยักหน้าแล้วก็มองไปที่ ซึนาเดะ และพูดว่า “แต่ข้อเสนอของ ท่านซึนาเดะ นั้นเข้าท่ามาก และผมก็เห็นด้วยกับเธอ พวกท่านคิดว่าไงครับ?”


ไนโตะ พูดแล้วก็หันไปมองคนอื่น ๆ


แม้ว่าในที่ประชุมทั้งหมดจะเป็น นินจาระดับสูง แต่ทว่าการจ้องมองเพียง 1 ครั้งของ ไนโตะ ก็เปลี่ยนบรรยากาศทั้งหมด


แม้ว่า ไนโตะ จะเป็น โดจนิน แต่เขาก็แข็งแกร่งพอ ๆ กับ คาเงะ!


ไม่มีใครในห้องนี้สงสัยความแข็งแกร่งของ ไนโตะ และการตัดสินใจของเขา


“ผมก็เห็นด้วยกับ ซึนาเดะ”


ดัน เป็นคนเดียวที่เห็นด้วยกับ ซึนาเดะ ตั้งแต่แรก


ความกดดันทั้งหมดตกไปอยู่ในที่ประชุม จากนั้นพวกเขาก็มองหน้ากันและกันแล้วก็พยักหน้าทันที


ตอนแรกพวกเขาก็ไม่ได้จะไม่เห็นด้วย พวกเขาเป็นกลาง พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้ยังต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในด้านต่าง ๆ อีกหลางครั้งก่อนตัดสินใจ แต่ ไรโ ก็เปลี่ยนทุกอย่างเพราะพวกเขาต่างไม่อยากทำให้ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ต้องโกรธ!


แน่นอนว่าบางคนยังคงรู้สึกคัดค้าน ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องได้ยินความคิดเห็นของ โฮคาเงะ


แม้ว่า ซารุโทบิ คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี แต่มันก็ยังเป็นเรื่องใหญ่ และมันจะดีกว่าถ้าพวกเขาจะค่อย ๆ พิจารณาและตัดสินใจหลังจากศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติมแล้ว


แต่ ไนโตะ ก็ทำลายทุกอย่างด้วยการปรากฏตัวของเขา


แน่นอนว่าสิ่งนี้พิสูจน์ให้ ซารุโทบิ เห็นว่า ไนโตะ มีอิทธิพลกับคนอื่น ๆ มากขนาดไหน


“เอาล่ะ ถ้าทุกคนเห็นด้วย เรามาลองดูกันว่าจะทำยังไงได้บ้าง แล้วเราค่อยตัดสินใจกันทีหลัง”


หลังจากเงียบไปนาน ซารุโทบิ จึงตัดสินใจพูดแบบนี้ออกมา


เมื่อเห็นแบบนั้น ไนโตะ ก็มองไปที่ ซารุโทบิ จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไป


ใช่แล้ว ซารุโทบิ พูดถูก เขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะเข้าร่วมการประชุม


ไนโตะ รู้สึกเป็นอิสระที่จะเข้าร่วมหรือออกจากการประชุมระดับสูง ทุกคนในห้องต่างมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครรู้สึกโกรธเลย พวกเขาได้แต่ยิ้มและส่ายหัว


ซึนาเดะ มองไปที่ ไนโตะ ขณะที่เขาเดินจากไป แล้วเธอก็ยิ้ม เธอรู้สึกขอบคุณเขาจริง ๆ หลังจากนั้นการแสดงออกของเธอก็เริ่มจริงจังขึ้น เธอหันกลับมามองที่ประชุมแล้วพูดว่า “ถ้าเราจะลองทำเรื่องนี้ ก่อนอื่นเราก็คงต้องจัดระเบียบทุกอย่างก่อน”

 

 

 


ตอนที่ 198

 

สำนักงานโฮคาเงะ


นอกห้องประชุม


ไนโตะ ไม่สนใจการประชุม แต่เขากลับต้องการสำรวจอาคารทั้งหลังโดยใช้สัมผัสพิเศษของเขาแทน


ไนโตะ ต้องการรู้ว่าเขาจะสามารถหลบม่านพลังและขโมย ม้วนคัมภีร์ลับ ออกไปได้หรือไม่


และตอนนี้ ไนโตะ ก็สามารถหลบหลีกเข้ามาได้อย่างสมบูรณ์!


แต่น่าเสียดายที่ ม้วนคัมภีร์ลับ ได้รับการปกป้องโดยผนึกอยู่อีก 1 ชั้น มันทำให้ ไนโตะ ไม่สามารถอ่านมันได้


สิ่งที่ทำให้เขาตกใจก็คือ ผนึกนี้ แม้แต่ เพน 6 วิถี ที่บุกเข้ามาในหมู่บ้านก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงมัน แต่ ไนโตะ และสัมผัสพิเศษของเขาสามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยงได้


มันช่างน่าเหลือเชื่อ!


ถึงอย่างนั้น ม่านพลังนี้ก็ใหญ่มาก ใหญ่เท่า โคโนฮะ เลยงั้นเหรอ? ดูเหมือนมันจะครอบคลุมแม้แต่ภูเขารอบ ๆ หมู่บ้าน


คาถานี้ถูกสร้างขึ้นโดย โฮคาเงะ รุ่นที่ 2 โทบิรามะ ผลงานของชายผู้นี้ทำให้ ไนโตะ ประหลาดใจอยู่เสมอ!


หลังจากที่เขารออยู่สักพัก การประชุมก็จบลง


ซึนาเดะ เดินออกมาจากห้องเป็นคนแรก ไนโตะ จึงทักทายเธอ จากนั้นเขาก็หันไปหา ดัน ทันที


“ท่านไนโตะ?!”


ดัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย


แม้ว่า ไนโตะ จะอายุน้อยกว่าเขา  แต่เขาก็รู้สึกว่าเขาต้องเคารพ ไนโตะ เพราะความสำเร็จที่ ไนโตะ ทำในการต่อสู้ครั้งก่อน


“มากับผมหน่อยสิครับ ผมมีบางอย่างต้องคุยกับคุณ”


ดัน พยักหน้า แล้วพวกเขาก็เดินออกจากหมู่บ้านทันที


แม้ว่า ดัน จะรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ตาม ไนโตะ ไปเพราะความเคารพ


พวกเขาเดินไปพักหนึ่ง


“ผมได้ยินมาว่า คุณสามารถใช้ คาถาแปลงวิญญาณ ได้แล้ว และผมก็สนใจคาถานั้น แล้วตอนนี้ผมก็กำลังพยายามเรียนรู้มันอยู่”


ไนโตะ หยุดเดินและหันกลับไปมอง ดัน


ดัน เป็นคนฉลาด เขาเข้าใจความตั้งใจของ ไนโตะ ในทันที และพูดว่า “และท่านไนโตะ ต้องการความช่วยเหลือจากผม?”


“ใช่”


ไนโตะ พยักหน้า


ทันใดนั้น การแสดงออกของเขาก็สงบลงและเขาก็ยิ้มออกมา “แน่นอน นั่นไม่ใช่ปัญหา นับว่าเป็นเกียรติมากที่ได้ช่วยเหลือท่าน”


“ท่านไนโตะ ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อแสดงให้ท่านเห็นถึงพลังของคาถานี้ มันเป็นคาถที่พิเศษมาก”


“ผมจะทำให้ช้าลง ผมกลัวว่าถึงจะเป็นท่านก็อาจจะยากที่จะเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน”


“เพราะ…ผมบอกไปรึยัง ว่ามันเกี่ยวข้องกับพลังวิญญาณที่มองไม่เห็น”


ขณะที่ ดัน กำลังพูดสิ่งนี้ เขาก็เริ่มประสานอิน


วิชานี้เป็นวิชาต้องห้าม ดัน จะใช้มันก็ต่อเมื่อเพื่อเขาต้องการฆ่าศัตรูจำนวนมากเท่านั้น และตอนนี้ ไนโตะ ก็มีโอกาสได้เห็นมันด้วยตาเป็นครั้งแรก


ความต้องการของ ไนโตะ เป็นไปได้ด้วยดี เขาไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ เขาคิดว่า ดัน จะไม่เต็มใจที่จะแสดงให้เขาเห็นด้วยซ้ำ และเขาก็พร้อมที่จะบังคับ ดัน แม้ว่าพวกเขาจะต้องต่อสู้กันก็ตาม


ที่จริงแล้ว ดัน เป็นตัวละครที่เกือบจะเหมือนกับ มินาโตะ แต่เขาก็ไม่เก่งเท่า มินาโตะ


ฟึ๊บ!!


ในพริบตา ดัน ก็ประสานอินเสร็จและพร้อมที่จะใช้คาถา


จักระ เริ่มไหลเวียนในร่างกายของเขา แต่การไหลนั้นแตกต่างไปจากปกติอย่างสิ้นเชิง  มันไม่ได้ไหลตามวงจรเหมือนปกติ อย่างไรก็ตาม มันก็ถูกบางอย่างควบคุมและหายไปจากร่างกายอย่างสมบูรณ์


สายตาของ ไนโตะ ไม่สามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน แต่สัมผัสพิเศษของเขาสามารถสัมผัสได้ถึงกระกระแสการไหลของจักระและวิญญาณของ ดัน ได้อย่างชัดเจน


คาถานี้ทำให้วิญญาณยังคงอยู่ในโลกแห่งนี้ได้ และสามารถทำให้คนอื่นเห็นวิญญาณที่เป็นรูปร่างของผู้ใช้วิชาได้ด้วยตาเปล่า และคาถาจะส่งผลเรื่อยไปตราบเท่าที่ผู้ใช้ยังวิชาแข็งแกร่งพอ


“เป็นอย่างที่คิด…การเรียนรู้วิชานี้จะช่วยเพิ่มพลังวิญญาณจริง ๆ”


ไนโตะ พึมพำกับตัวเองเมื่องมองดูวิญญาณของ ดัน ลอยออกไปจากร่างกาย


นี้แสดงให้เห็นว่า โอโรจิมารุ มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าคนอื่นมากเขาจึงสามารถยึดร่างของคนเหล่านั้นได้


แม้ว่ามันจะนำไปสู่ความสับสนและวุ่นวายใจจิตใจของเขาเองก็ตาม


พลังวิญญาณของ ดัน นั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ ไนโตะ ก็คิดว่า มาดาระ น่าจะเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด


นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถปลดปล่อยวิญญาณของเขาออกจาก คาถาสัมภเวสีคืนชีพ ของ คาบุโตะ ได้


มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ


“นี่คือต้นกำเนิดของพลังทุกอย่าง”


ดัน พูดขณะที่เขายังอยู่ในร่างวิญญาณ จากนั้นเขาก็รีบกลับไปที่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วและเขาควบคุมร่างกายอีกครั้ง


ไนโตะ พยักหน้าให้ ดัน และพูดว่า “ขอบคุณมากครับ”


หลังจากที่ ไนโตะ พูด เขาก็นั่งลงและเริ่มทำสมาธิ


ดัน มองไปที่ ไนโตะ และยืนดูอยู่เงียบ ๆ ได้ไม่รบกวน



เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นไม่กี่เดือน ไนโตะ ก็เชี่ยวชาญคาถานี้


อย่างไรก็ตาม การใช้คาถานี้ได้ก็ไม่ได้ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นในแง่ของพลัง เพราะเขาจะไม่สามารถใช้คาถาใด ๆได้ในขณะที่เขาอยู่ในร่างของวิญญาณ


สิ่งที่ ไนโตะ ต้องการจริง ๆ ก็คือความสามารถติดตัว เช่น อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ซึ่งจะสามารถเสริมกำลังในการต่อสู้ด้วยกระบวนท่าของเขาได้


การฝึก คาถาแปลงวิญญาณ นั้นมีผลในการเสริมสร้างพลังวิญญาณ แต่ระดับการเพิ่มขึ้นของพลังวิญญาณก็น้อยนิด ที่สุดแล้ว มันก็เป็นคาถาที่ใช้ในการโจมตี


ดังนั้น ไนโตะ จึงพยายามหาวิธีอื่น ๆ เพื่อเสริมพลังวิญญาณของเขา


และนี่เป็นเรื่องที่ยากมาก


เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว ตอนที่เขาพยายามสร้างวิชาใหม่อย่าง กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังแบบย้อนกลับ เขายังมี ได คอยช่วยเขา แต่คราวนี้ เขาต้องทำมันด้วยตัวเอง


โชคดีที่ความรู้และความทรงจำในโลกเดิมของ ไนโตะ ช่วยเขามาตลอดในโลกนี้ และมันก็ยังมีประโยชน์จนถึงทุกวันนี้


นอกจากนี้ ในขณะที่เขาฝึก คาถาแปลงวิญญาณ ไนโตะ ก็ยังค้นพบอีกว่าพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าของ ดัน !


ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเขาแข็งแกร่งกว่า ดัน แต่ดูเหมือนว่าข้อเท็จจริงที่ว่า ไนโตะ มาจากโลกอื่น จะทำให้วิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าคนในโลกนี้

 

 

 


ตอนที่ 199

 

ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง ไนโตะ ฝึกฝนเเสร็จแล้วและพร้อมจะกลับบ้าน


ขณะที่เขายืนขึ้น ไนโตะ ก็รู้สึกแปลกใจ จากนั้นเขาก็เริ่มมองไปรอบ ๆ


“น่าแปลก…ทำไมวันนี้ คุชินะ ไม่มาน่ะ”


ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุชินะ จะคอยมาดู ไนโตะ ฝึกอยู่ทุกวัน


เหตุผลหนึ่งก็เพราะเธอเป็น พลังสถิตร่าง เธอแทบจะไม่ได้ออกจากหมู่บ้านไปไหนเลย และเธอมักจะมีนินจาคอยตามปกป้องเธอ แม้ว่าเธอจะอยู่ในหมู่บ้านก็ตาม


ไนโตะ รู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาคิดถึงเรื่องของ นารูโตะ


ในการ์ตูน นารูโตะ เป็น พลังสถิตร่าง แต่เขายังสามารถออกจากหมู่บ้านและไปทำภารกิจที่อันตรายได้!


แต่ถ้าไม่มี คาคาชิ คอยปกป้อง นารูโตะ เขาจะรอดมาได้หรือไม่?


ไนโตะ ส่ายหัวและพยายามไม่คิดถึงปัญหาเหล่านี้ จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินกลับไปที่หมู่บ้าน


ฃปกติแล้ว ไนโตะ จะเดินกลับบ้านในทันที แต่คราวนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปดู คุชินะ ที่บ้าน


“แปลกจริง ๆ”


ไนโตะ ไม่พบเธอที่บ้าน ดังนั้นเขาจึงมุ่งตรงไปที่ สำนักงานโฮคาเงะ


ดูเหมือนว่า คุชินะ กำลังช่วยนินจาคนอื่น ๆ ในการซ่อมม่านพลังบริเวณกำแพงรอบ ๆ หมู่บ้าน


หมู่บ้านทั้งหมดได้รับการปกป้องด้วยม่านพลังเหล่านี้ และไม่มีใครสามารถข้ามเข้ามาได้โดยไม่ถูกสังเกต


ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการจับตาดูคนที่กำลังเข้าและออกจากหมู่บ้านในทุก ๆ วัน


ม่านพลังที่สำคัญแบบนี้ต้องได้รับการซ่อมแซมและตรวจสอบเป็นประจำ และ คุชินะ ในฐานะที่เธอเป็นคนของ ตระกูลอุซึมากิ ทำให้เธอเชี่ยวชาญในด้านคาถาและผนึก เธอจึงได้เข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมซ่อมแซม


เมอิ ก็กำลังช่วย คุชินะ อยู่เช่นกัน ตอนนี้จึงไม่มีใครอยู่บ้านเลย


นี่ดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ ไนโตะ รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้


ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเขาจะคิดกี่ครั้ง เขาก็ไม่เข้าใจว่าในการ์ตูน คุชินะ ถูกลักพาตัวไปได้ยังไง


แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า…นี่แหละคือต้นเหตุ!


การที่เธอไปซ่อมและตรวจสอบม่านพลังเหล่านี้เป็นประจำ เธอจึงต้องออกจากหมู่บ้านและออกไปจนถึงม่านพลัง ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายอย่างยิ่ง!


ม่านพลังนี้ใหญ่มาก และไม่ง่ายเลยที่จะจับตาดูเธอได้ เพราะเธอต้องออกไปไกล


“นี่ไม่ถูกต้อง เราคงต้องลองไปดูสักหน่อยแล้ว”


ไนโตะ มีความรู้สึกที่ไม่สามารถเข้าใจได้ในหัวใจของเขา และเขาตัดสินใจที่จะไปที่ชายแดนของหมู่บ้าน


แม้ว่า คุชินะ จะเคยทำมาหลายครั้งแล้ว และเคยมีปัญหาเกิดขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในครั้งนี้!


ไม่นานนัก ไนโตะ ก็มาถึงเขตชายแดนและม่านพลังก็อยู่ห่างจากตรงหน้าเขาไปไม่กี่ กิโลเมตร


มันแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา เขาจึงเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของมัน


แต่เขาก็ยังหา คุชินะ ไม่เจอ ดังนั้นเขาจึงเริ่มพยายามขนายสัมผัสพิเศษของเขา


หลังจากนั้นครู่หนึ่ง การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป


ไม่ดีแน่!


ด้วยสัมผัสพิเศษ ทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยของการฉีกของม่านพลัง


ไนโตะ เดินหน้าต่อไป เขาไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เขาก็ยังรู้สึกได้!


มีการต่อสู้ที่นั่น!


มีศพ นินจาโคโนฮะ และม่านพลังก็ถูกทำลายเป็นวงกว้าง


สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าเขาจะสัมผัสไปทางไหน เขาก็หา คุชินะ ไม่เจอ!


ฟึ๊บ!!


ไนโตะ พุ่งด้วยความเร็วสูงสุด ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 นาที เขาก็มาถึงจุดที่น่าจะเป็นจุดที่เกิดการต่อสู้


หนาวมาก!


จากการสังเกตบาดแผลบนร่างกายของศพเหล่านั้น เขาสามารถประมาณได้ว่าคนเหล่านั้น ถูกโจมตีด้วยผู้ใช้วิชา อาภรณ์สายฟ้า อย่างแน่นอน


พวกมันโจมตีพวกเขา จากนั้นพวกมันก็หลบหนีไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะถูกตรวจพบ


ด้วยความเร็วแบบนี้ ไนโตะ มั่นใจว่าพวกเขาถูกโจมตีโดย นินจาคุโมะ !


ทีมนี้ไม่เหมือนกับ หน่วยพิเศษอิวะ


หน่วยพิเศษคุโมะ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเร็ว!


“ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น!”


“และ โคโนฮะ ก็ยังชักช้า”


ไนโตะ สูดหายใจลึก ๆ จากนั้นจิตสังหารของเขาก็ถูกเปิดเผยออกมา ในขณะเดียวกันด้วยสัมผัสพิเศษทำให้เขาสัมผัสได้ถึง หน่วยลับโคโนฮะ และ นินจาโคโนฮะอื่น ๆ ที่กำลังวิ่งตรงมายังที่เกิดเหตุด้วยความเร็วสูงมาก แต่เมื่อเทียบกับ ไนโตะ แล้ว พวกเขาก็ยังช้าเกินไป!!


ไนโตะ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะรอพวกเขา ในวินาทีต่อมา เขาก็วิ่งออกไปนอกเขตหมู่บ้านและหายไปในความมืด


หลังจาก ไนโตะ จากไปแล้ว หน่วยลับ และ นินจาโคโนฮะ หลายคนก็มาถึ


“แย่แล้ว!!”


“ม่านพลังถูกทำลายระหว่างการตรวจสอบ เรามาช้าเดินไป!”


“บาดแผลแบบนี้ พวกเขาถูกโจมตีโดยผู้ใช้วิชา อาภรณ์สายฟ้า พวกมันเข้ามาโจมตีและหนีไปอย่างรวดเร็ว”


“หน่วยลาดตระเวนของเราอยู่ไหน”


ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว หน่วยลับ ก็วิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว


นินจาคนอื่น ๆ มองหน้ากัน ในขณะที่ มินาโตะ ก้าวเข้ามาและพูดว่า “คุณสามารถตรวจจับทิศทางของพวกมันได้ไหม?”


หนึ่งใน หน่วยลับ ประสานอินด้วยมือทั้ง 2 ข้างแล้วหลับตา


หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เจออะไรเลยครับ”


ทันใดนั้น นินจาคนหนึ่งก็วิ่งมาจากไกล ๆ เธอมีผมสีแดงและเธอก็อายุเท่ากับ คุชินะ เธอคือ อุซึมากิ เมอิ


หลังจากที่เธอวิ่งมาถึง ทันใดเธอก็เข้าใจสถานการณ์ในทันที และเธอก็มองด้วยความเป็นกังวล


“นี่เป็นเขตการซ่อมแซมของทีม 2 คุชินะ ควรจะอยู่ที่นั้น เธอ…ถูกลักพาตัวไปงั้นเหรอ?!”


ทีมซ่อมแซมมี 2 ทีม และเนื่องจากทั้ง คุชินะ และ เมอิ เป็นคนของ ตระกูลอุซึมากิ พวกเธอจึงต้องแยกทีมกัน


“น่าจะเป็นอย่างนั้น”


“เราไม่เจอศพของเธอที่นี่”


นินจาบางคนพูดแล้วมองไปที่สนาม


ตอนนี้ คุชินะ คือ พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง และนินจาที่อยู่ที่นี่ก็แทบจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย และตอนนี้ ซารุโทบิ ก็ยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้!


ในเวลานี้


ในที่สุดข่าวก็มาถึง ซารุโทบิ


ซารุโทบิ รู้สึกราวกับว่าเขาถูกตบหน้าและเขาก็โกรธมาก


พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง ถูกชิงไปแล้วงั้นเหรอ?!


“ไล่ล่าศัตรู! และไม่ว่าจะต้องเสียอะไร พาพวกมันมาให้ฉันให้ได้!”

 

 

 


ตอนที่ 200

 

ทันทีที่ข่าวมาถึง ซารุโทบิ ทั้งหมู่บ้านก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก แม้ว่ามันจะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่เขาก็ออกคำสั่งให้นินจาจำนวนมากตามหา คุชินะ



กลางป่า


ร่าง 2 ร่างกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง


“หยุดก่อน!”


อุซึมากิ เมอิ หยุดวิ่ง จากนั้นเธอก็ประสานอินและหลับตา


หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เธอก็ลืมตาขึ้นและแสดงความดีใจออกมา


“ฉันรู้สึกถึงจักระของเธอแล้ว เราอยู่ใกล้เธอมากแล้ว”


คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอคือ มินาโตะ ตาของเขาเปล่งประกายจากนั้นเขาก็พูดว่า “งั้นเรารีบไปกันเถอะ”


“ไม่ ฉันจะตามเธอไปเอง ส่วนนายต้องกลับไปแจ้งให้ทุกคนรู้”


“แต่…มันจะดีกว่าน่ะถ้าให้ฉันไปด้วย ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ทำอะไรเกะกะเธอหรอกน่า”


มินาโตะ ยิ้มให้ เมอิ ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นเธอก็พยักหน้าให้เขาเบา ๆ


ดังนั้นพวกเขาทั้ง 2 ก็พุ่งตรงไปยังทิศทางที่ เมอิ สัมผัสจักระของ คุชินะ ได้


ความสัมพันธ์ระหว่าง คุชินะ และ เมอิ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้อง จริง ๆ แล้วมันลึกซึ้งกว่านั้น เพราะพวกเธอทั้ง 2 คนเหมือนกันมาก


เหมือนกันมากจนบางครั้งแม้แต่ ไนโตะ ก็ไม่สามารถบอกความแตกต่างได้


อย่างไรก็ตาม คุชินะ ก็ยังคงเป็น พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง และความจริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เรื่องนี้ทำให้เรื่องราวสับสนขึ้นเรื่อย ๆ


ไนโตะ รู้รู้สึกเสมอว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงไป การปรากฏตัวขึ้นมาของ อุซึมาดิ เมอิ เป็นเรื่องน่าสงสัย แต่ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่เคยพบคำตอบ ดังนั้นเขาจึงปล่อยมันไป


เพราะยังไงส่ะ มาดาระ ก็จะไม่สามารถดึง 9 หางออกมาได้อยู่ดี



“เธอใช้เส้นผมเป็นเบาะแส…เหมือนในการ์ตูนเลยสิน่ะ”


ไนโตะ หยุดอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่งและหยิบเส้นหนึ่งขึ้นมา


แม้ว่าเส้นผมของ คุชินะ จะเป็นสีแดงดง แต่ในป่าที่มืดขนาดนี้ มันก็ไม่สามารถหาเจอได้ง่ายๆ!


อย่างไรก็ตาม ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถรับรู้สีได้ แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงมัน


เมื่อใช้สิ่งนี้ ไนโตะ จะสามารถติดตาม คุชินะ ได้อย่างง่ายดาย


แม้ว่าความเร็วของ หน่วยพิเศษคุโมะ จะเร็วมากจนทำให้การตามรอบนั้นยากขึ้น แต่ตอนนี้ ไนโตะ เข้าใกล้พวกเขามากแล้ว!


นี่แสดงให้เห็นว่า ไนโตะ รวดเร็วแค่ไหน!


…….


ในป่า


นินจาคุโมะ มากกว่า 1 โหล กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงผ่านป่า และร่างของพวกเขาก็ปกคลุมไปด้วยออร่าสีฟ้า


หนึ่งในนั้นกำลังหิ้วเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูกมัดด้วยเชือกด้วยมือของเขา


มือของ คุชินะ ถูกผูกไว้ที่หลังของเธอ และเธอก็แทบจะไม่สามารถขยับตัวได้ เธอพยายามหาโอกาสทิ้งเส้นผมของเธอไว้ตามทางเมื่อพวกเขาไม่ได้สังเกต


อย่างไรก็ตาม เธอก็คิดว่าคงจะไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นร่องรอยที่เธอทิ้งไว้


เพราะมันยากมาก ที่จะเห็นเส้นผมของเธอในป่าที่มืดมิดแบบนี้


“เราออกมาห่างจาก โคโนฮะ มากแล้ว…แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็คงจะไม่สามารถสัมผัสจักระของเธอได้…”


ในขณะที่ นินจาคุโมะ วิ่งต่อไปเรื่อย ๆ ในป่า คุชินะ รู้สึกกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะไม่มีใครมาช่วยเธอ


แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอยังคงทิ้งเส้นผมไว้เป็นร่องรอยโดยหวังว่าจะมีใครสังเกตเห็น


“ด้วยความเร็วแบบนี้ ถึงแม้ว่าบางคนจะพบร่องรอย แต่พวกเขาก็คงจะตามมาช่วยเราไม่ทันแน่นอน…”


คูชินะ ไม่สามารถพูดได้ ปากของเธอถูกผนึกและเธอก็ถูกขโมยจักระไปหมด


แน่นอนว่า ถ้าเธอสามารถขยับมือได้ เธอก็สามารถคลายผนึกได้อย่างง่ายดาย


อย่างไรก็ตาม เธอก็พยายามทำให้ผนึกอ่อนลงเรื่อย ๆ ทีละน้อย ๆ


แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผนึก เพราะเธอสามารถคลายผนึกและหนีไปจากนินจาเหล่านี้ได้อย่างดาย แต่ปัญหาอยู่ที่พวกเขาเร็วกว่าเธอมาก


ความเร็วเป็นความพิเศษของพวกเขา


หัวหน้าของพวกเขาคือ โจนิน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง


“ตอนนี้ ไนโตะ ก็คงจะกลับบ้านแล้ว เขาต้องสงสัยแน่ว่าเราหายไป…แต่ถึงเขาจะสังเกตเห็นร่องรอย มันก็คงจะสายเกินไปแล้วที่จะตามมาช่วยเราได้ทัน”


คุชินะ คิดอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามที่จะทำให้ผนึกอ่อนลงและและทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลัง


ในที่สุด เธอก็สามารถคลายผนึกทั้งหมดออกได้ ทันใดนั้นเชือกก็คลายออก จากนั้นเธอก็หนีไป


ฟึ๊บ!!


อย่างไรก็ตาม ในไม่กี่วินาทีต่อมา นินจาคุโมะ ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและล้อมเธอไว้อีกครั้ง


นินจาคุโมะ เร็วกว่าเธอ


“เธอผลายผนึกได้”


“ตระกูลอุซึมากิ เก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอ?”


“ผนึกเธอกลับไปแล้วรีบพาเธอกลับหมู่บ้าน ไม่สำคัญว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ตราบใดที่เราได้ 9 หางมาเป็นของเราเท่านั้นก็พอ”


ทันใดนั้นใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปและเย็นชามาก


คุชินะ ยืนอยู่ตรงกลาง เธอพยายามที่จะปกป้องตัวเอง ในขณะที่เธอสับสนเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้ว่า นินจาคุโมะ รู้ตัวตนของเธอได้อย่างไร


พวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับ 9 หาง ได้อย่างไร แม้แต่คนส่วนใหญ่ใน โคโนฮะ ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ


มันไม่น่าเป็นไปได้


“รีบจับเธอเร็วเข้า เราต้องไม่เสี่ยงให้พวก โคโนฮะ ตามเราได้ทัน”


หัวหน้าทีมมองนินจาคนอื่นและออกคำสั่ง


นินจาคนอื่นพยักหน้าและพวกเขาก็พร้อมที่จะโจมตี


คุชินะ ตั้งท่าเตรียมป้องกันการโจมตีของพวกเขา


ฟึ๊บ!!


คุชินะ ไม่ได้ใช้พลังของ 9 หาง แต่เธอก็เป็น จูนิน เธอจึงสามารถหลบการโจมตีของพวกเขาได้


แต่การแสดงออกของ นินจาคุโมะ นั้นสงบมาก พวกเขาไม่กังวลเลย


ด้วยความเร็วของพวกเขา แค่พวกเขาเพียงคนเดียวก็พอแล้ว!


ขณะที่ คุชินะ กระโดดขึ้นไปบนอากาศและพยายามที่จะไปถึงยอดไม้เพื่อหนีพวกเขา นินจาคุโมะ คนหนึ่งก็พุ่งเข้าหาเธอในขณะที่ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยออร่าสีฟ้า


คุชินะ ยังอยู่กลางอากาศและเธอก็ไม่มีโอกาสที่จะหลบการโจมตีได้ และความเร็วของผู้ชายนั้นเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับเธอ


เธอไม่สามารถโต้ตอบได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ คุชินะ รู้สึกสิ้นหวังและ ในที่สุด เธอก็ยอมแพ้


หากพวกเขาจับเธอได้อีกครั้ง พวกเขาจะผนึกเธอแน่นหน้าขึ้นและเธอจะไม่มีโอกาสทิ้งร่องรอยอีกต่อไป และจะไม่มีใครสามารถหาเธอเจออีก


เมื่อเธอคิดว่านี้คือจุดจบของเธอ ทันใดนั้น บางอย่างก็พุ่งเข้ามาหาเธอ!

 

 

 


ตอนที่ 201

 

ฟึ๊บ!!!


นินจาคุโมะ พุ่งเข้าหา คุชินะ ด้วยความเร็วสูง!


ทันใดนั้นเลือดก็กระเด็นไปกลางอากาศ


คุชินะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเธอหลับตา เธอก็กัดฟันแน่นและรอรับการโจมตีของ นินจาคุโมะ อย่างไร้ทางหลบหนี แต่การโจมตีนั้นก็ไม่มาถึงเธอสักที


ในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกถึงบรรยากาศที่แปลกและคุ้นเคย


เธอลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย


การได้เห็นคนคนหนึ่งกำลังอุ้มเธออยู่ ทำให้เธอประหลาดใจมาก แต่ในเวลาเดียวกันเธอก็รู้สึกได้ถึงความสุขและเป็นความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้


เธอไม่สงสัยเลยซักนัดเดียว!


ผู้ชายคนนี้ เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอยังคงพยายามทิ้งร่องรอยเหล่านั้นไว้ข้างหลัง เพราะเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่นอน


แม้ว่าเธอจะถูกลักพาตัวไปที่ หมู่บ้านคุโมะ แต่เธอก็เชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะทำลายทั้งหมู่บ้านและสังหารพวกเขาทุกคนเพื่อช่วยเหลือเธอ!


“ขอโทษที่มาช้า”


ไนโตะ อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนเหมือนเจ้าหญิง จากนั้นเขาก็กระโดดลงมาที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ขนาดใหญ่


“มาจนได้น่ะ…”


คุชินะ จับเสื้อผ้าของ ไนโตะ ด้วยมือของเธอ ในขณะที่เธอดูมีความสุขมาก


จากนั้นเธอก็มองไปที่มือของเขา และสังเกตเห็นว่าเขาถือเส้นผมของเธอไว้ในมือ จากนั้นเธอก็มองเขาและยิ้ม


“นายเห็นร่องรอยที่ฉันทิ้งไว้จริง ๆ ด้วย”


“แน่นอน”


ไนโตะ พยักหน้าเบา ๆ และยิ้มให้เธอ เขาสังเกตเห็นว่าเธอยังไม่ต้องการออกไปจากอ้อมกอดของเขา ดังนั้นเขาจึงยังอุ้มเธอไว้แน่นด้วยแขนที่ 2 ข้าง


จากนั้นเขาก็หันหน้าไปอย่างช้า ๆ และจ้องมองไปที่ นินจาคุโมะ ด้วยสายตาที่เยือกเย็น


นินจาคุโมะ คนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าเขามาจากไหน และเขาทำอะไร


ตุ๊บ!!


ทันใดนั้น นินจาคุโมะ ที่พุ่งเข้าโจมตี คุชินะ เมื่อสักครู่นี้ ก็ตกลงมาบนพื้น เขาตายในทันทีแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาตายได้อย่างไร


นินจาคุโมะ คนอื่น ๆ มองหน้ากันและกัน ใบหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นร่องรอยของความมึนงงเมื่อเห็นศพของเพื่อน


จากนั้นพวกเขาทุกคนก็มองกลับไปที่ ไนโตะ ที่อุ้ม คุชินะ อยู่


“แก… แกคือ…”


ในวินาทีต่อมา นินจาคุโมะ ก็มีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มหน้าผากของพวกเขา


พวกเขาทุกคนต่างรู้จักถึงเอกลักษณ์ของ ไนโตะ


ไนโตะ เป็นนินจาที่มีชื่อเสียง ที่ทุกคนรู้จักในฉายา ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ไม่เว้นแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ก็รู้จักเขา!


ในขณะเดียวกัน คุชินะ ก็รู้สึกตัวว่าเธอกำลังถูก ไนโตะ อุ้มอยู่ และเธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรู้สึกเขิน เธอมองไปที่ ไนโตะ เพื่อส่งสัญญาณให้เขาวางเธอลง และเพื่อให้เขาสอนบทเรียนให้กับนินจาเหล่านั้น


แต่เขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้น เขาพุ่งเข้าหา นินจาคุโมะ ด้วยความเร็วสูง ขณะที่เขายังอุ้มเธออยู่


เมื่อเขามองไปที่ นินจาคุโมะ และภายใต้ความสยองขวัญของทุกคนที่อยู่เบื้องล่าง เขาก็ถีบตัวขึ้นไปบนฟ้าทันที


ฟึ๊บ


ด้วยการกระทืบพื้นเพียงครั้งเดียว ต้นไม้ทั้งต้นก็พังทลาย แรงสั่นสะเทือนทำให้อากาศแตกเป็นเสี่ยง ๆ ราวกับว่ามันเป็นกระจกที่กำลังแตก


ทันใดนั้น ต้นไม้ทุกต้นที่อยู่ใกล้เขาก็เริ่มแตก จากนั้นรอยร้าวก็กระจายออกไปในทุกทิศทาง


“บ้าเอ้ย!”


“แย่แน่!”


นินจาคุโมะ ตกตะลึงเมื่อเห็นการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งมันเกือบจะปกคลุมทั้งท้องฟ้าและดูเหมือนว่ามันจะทำลายทั้งทองฟ้าลงมาได้


พวกเขาไม่สามารถหนีได้ทัน พวกเขาทำได้แค่ป้องกันเท่านั้น!


ตู้ม!!


เป็นภาพที่น่าตกตะลึงมาก


พลังสั่นสะเทือน ปกคลุมทั่วทั้งป่า ทำให้ป่าทั้งป่าสั่นไหว


แม้แต่พื้นดินก็พังทลายลง รอยแตกกระจายไปเหมือนใยแมงมุม และในที่สุดพื้นดินก็ทรุดตัวลง!


ไนโตะ ลอยอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับอุ้ม คุชินะ ไว้ และมองลงมายังพื้นด้านล่าง


คุชินะ ค่อนข้างจะมึนงงเล็กน้อย


แม้ว่าเธอจะรู้ว่า ไนโตะ แข็งแกร่งมาก แต่เธอก็ไม่เคยเห็นเขาทำแบบนี้และเธอไม่เคยเห็นพลังที่แท้จริงของเขา


และตอนนี้ เธอได้เห็นมันแล้ว!


และมันน่าก็น่าทึ่งมาก การที่ได้ลอยอยู่บนอากาศ และได้เห็นป่าทั้งป่าสั่นสะเทือนด้วยพลังของ ไนโตะ มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ!


เธอได้แต่รู้สึกตกใจเมื่อได้เห็นภาพนี้ด้วยสายตาของตัวเอง เธอนิ่งเงียบอยู่นานจากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “พวกมันตายหรือยัง?!”


“ยัง”


ไนโตะ ส่ายหัวและ และเขาก็มองลงไปด้วยความสงบ เขาใช้สัมผัสพิเศษในการดูสถานการณ์


ปัจจุบัน ด้วยระดับของเขา เขาสามารถใช้สัมผัสพิเศษของเขาเพื่อดูวิสัยทัศน์ขณะที่ต่อสู้ได้


“ยังเหลืออยู่ไม่กี่คน”


ไนโตะ รู้สึกได้ว่ามี นินจาคุโมะ หลายคนที่ยังมีชีวิตอยู่พร้อม หนึ่งในนั้นก็คือหัวหน้าทีมที่ดูเหมือนว่าจะมีพลังเกือบเท่ากับ คาเงะ แต่เขาก็แทบจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้


อย่างไรก็ตาม ทีมส่วนใหญ่ของพวกเขาก็ถูกฆ่าตาย มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถ อาภรณ์สายฟ้า ได้ดีพอที่จะสามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้


ถึงอย่างนั้นมันก็น่าตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ!


นินจาเหล่านั้นแข็งแกร่งกว่าผู้คนมากมายที่ ไนโตะ เคยต่อสู้มา เพราะแม้ว่าพวกเขาจะถูกการโจมตีของ ไนโตะ แต่พวกเขาก็ยังรอดชีวิตมาได้!


“ถุย!”


น่าเสียดายที่หนึ่งในผู้รอดชีวิตได้รับบาดเจ็บ จนเขาต้องถุยเลือดลบพื้น


ดวงตาของเขาดูตกใจมาก


“มัน…มันแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!”


เมื่อ นินจาคุโมะ เห็นความเร็วของ ไนโตะ พวกเขาก็รู้ว่านี้ไม่ดีแน่ร้าย แต่พวกเขาคิดว่าอย่างน้อยพวกเขาก็จะสามารถซื้อเวลาได้


แต่เมื่อพวกเขาเห็นการโจมตีของ ไนโตะ พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าช่องว่างของพลังระหว่างพวกเขาห่างกันเหมือนฟ้ากับเหว!


“ถอนก่อน! หนีเร็ว!!”


นินจาคุโมะ ได้รับบาดเจ็บและร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผล เท้าของพวกเขารู้สึกช้ามาก แต่พวกเขาก็พยายามยืนขึ้นและหลบหนี


หัวหน้าทีม ไม่ลังเลเลยที่จะออกคำสั่งให้ทั้งทีมล่าถอย เขาเสียใจที่ไม่ได้ออกคำสั่งนี้ทันทีเมื่อ ไนโตะ มาถึง


“บ้าเอ้ย มันแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องที่ว่าเขาฆ่า คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 ได้ต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน…ข้อมูลนี้จะต้องรายงานกลับไปให้ ท่านไรคาเงะ ให้เร็วที่สุด!”


หัวหน้าหน่วยพิเศษคุโมะ หันหลังกลับและเค้นจักระของเขาทั้งหมดไปที่วิชา อาภรณ์สายฟ้า และเพิ่มความเร็วของเขาไปยังขีดสุด

 

 

 


ตอนที่ 202

 

หน่วยพิเศษคุโมะ ล่าถอยทันที!


หัวหน้าหน่วยพิเศษคุโมะ ตกตะลึงและนึกถึงความเป็นไปได้ในการหลบหนีของพวกเขา


พวกเขามีนินจาอยู่หลายคนและพวกเขาก็วิ่งไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ศัตรูของพวกเขามีเพียงคนเดียวก็คือ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตามไล่ล่าพวกเขาทั้งหมดได้ และพวกเขาก็มีความเร็วเป็นความสามารถพิเศษ!


ในอากาศ ไนโตะ มองดูพวกเขาอย่างสงบ


ในเวลาต่อมา ไนโตะ ก็อุ้ม คุชินะ ไว้แน่นขึ้น เธอไม่สามารถทำอะไรได้ เธอได้แต่กอดเขาให้แน่นขึ้น


แม้ว่าเธอจะเป็นคนขี้อาย แต่เธอก็อยากเห็นการต่อสู้ครั้งต่อไป แต่เธอก็กำลังจะบอกให้ ไนโตะ วางเธอลง


อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะได้พูดออกไป


ฟึ๊บ!


ไนโตะ พุ่งไปที่ลานโล่ง จากนั้นเขาก็ปลดผนึกดาบของเขาออกมาและถือมันด้วยมือเดียว


ด้วย ดาบคุซานางิ ที่อยู่ในมือ ไนโตะ ฟันดาบออกไปหลายครั้งในหลายทิศทาง


ฟิ้ว!


ทันใดนั้น เขาก็ส่ง คลื่นทำลายล้าง หลายคลื่นไปรอบ ๆ


พวกมันแพร่กระจายไปตามทางและทำให้ทุกอย่างที่มันผ่านแตกเป็นเสี่ยง ๆ


แล้วพวกมันก็พุ่งตรงไปหา นินจาคุโมะ ที่กำลังหลบหนีได้ทัน


เป็นครั้งที่ 2 ที่พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาตกอยู่ใน คาถาลวงตา การเคลื่อนไหวของพวกเขาเหมือนถูกหยุดและพวกเขาก็เริ่มรู้สึกราวกับว่าร่างกายของพวกเขากำลังสลาย


พวกเขาทั้งหมดกำลังถูกทำลาย!


มันเป็นภาพที่น่าตกใจมาก มันทำให้ คุชินะ ลืมไปว่าเธอเป็นรู้สึกอายแค่ไหนเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของ ไนโตะ และเฝ้าดูเขาต่อสู้


แข็งแกร่งมาก!


ในที่สุด เธอก็เข้าใจแล้วว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน!


แม้ว่าพวกเขาจะเร็วและแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ไนโตะ พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานหรือหลบหนีได้!


ห่างชั้นเกินไป


ในขณะที่ คุชินะ รู้สึกตกใจ ไนโตะ กลับแสดงสีหน้าปกติ จากนั้นเขาก็ยิ้ม


“น่าสนใจ ฉันไม่รู้ว่าชายคนนั้นใช้อะไร แต่เขาก็สามารถป้องกันการโจมตีของฉันได้ แถมยังได้รับบาดเจ็บแค่นิดเดียวส่ะด้วยสิ”


ไนโตะ มองไปที่ป่าเบื้องล่างของเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นร่องรอยของการเยาะเย้ย


หากเขาไม่มีสัมผัสพิเศษ เขาอาจถูกหลอกโดยการใช้คาถาสลับร่างไปแล้ว


ฟึ๊บ!!


ในเวลาต่อมา ไนโตะ ก็ใช้ เหยียบเวหา และพุ่งตรงไปในป่าทันที


“บ้าเอ้ย!!”


ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ นินจาคุโมะ ที่แทบจะยืนไม่อยู่กำลังกัดฟันของเขาไว้แน่น ในขณะที่ไหล่ของเขาเต็มไปด้วยเลือด เพราะถูกการโจมตีของ ไนโตะ จนกระดูกแหลกเป็นชิ้น ๆ


ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าไม่รู้จบ


ในตอนแรก เขาคิดว่าด้วยความเร็วของพวกเขา พวกเขาจะสามารถหลบหนีจาก ไนโตะ ได้ แต่ด้วยการใช้ดาบด้วยมือเดียวของ ไนโตะ ก็สามารถโจมตีพวกเขาได้ทั้งหมด


เขาเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตจากการโจมตีของ ไนโตะ !


แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้กับ ไนโตะ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องสละแขนนั้น เขากัดฟันแน่น จากนั้นเขาก็ตัดแขนของเขาด้วยจักระ และเขาก็หนีอีกครั้ง


การสูญเสียแขนจะมีผลเพียงเล็กน้อยต่อความเร็วของเขา


ในขณะที่เขาวิ่งไป เขายังคงคอยสัมผัสถึงจักระของ ไนโตะ เพื่อเตรียมหลบการโจมตีที่ ไนโตะ อาจจะโจมตีเขา


อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ การแสดงออกของหัวหน้าหน่วยก็เปลี่ยนไป และเขาก็พยายามหยุดวิ่งอย่างรวดเร็ว


สิ่งที่ทำให้เขาต้องหยุดก็คือ ไนโตะ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา และดูราวกับว่า ไนโตะ กำลังรอเขาอยู่


“มัน…มันเป็นไปไม่ได้!!”


หัวหน้าหน่วยพิเศษคุโมะ ดูสับสนมาก มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ก่อนที่เขาจะหาคำตอบได้ โลกด้านหน้าของเขาก็มืดลง


แม้แต่ในนาทีสุดท้ายของชีวิต การแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง


ไนโตะ ตามเขาทัน ในขณะที่ ไนโตะ จัดการกับคนอื่นได้อย่างไร!


ยิ่งไปกว่านั้น ไนโตะ จะวิ่งมาอยู่ข้างหน้าเขาได้อย่างไร โดยที่เขาไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ!


ความเร็วนี้ช่างเหลือเชื่อ!


คุชินะ กำลังดูว่า นินจาคุโมะ คนสุดท้ายเสียชีวิตได้อย่างไร และเธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอกำลังฝันอยู่


จริง ๆ แล้วเธอแค่หวังว่า ไนโตะ จะมาช่วยเธอ แต่ตอนนี้เธอเพิ่งเห็นว่า ไนโตะ มาช่วยเธอและกำจัดศัตรูทั้งหมด


เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง


เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากบีบแก้มตัวเอง


เจ็บ เจ็บ เจ็บ!


เธอไม่ได้ฝันไป!


“จบแล้วละ”


ไนโตะ โดยดาบของเขาขึ้นและผนึกมันกลับไป


จากนั้นเขาก็ลงสู่พื้นและเขาก็วาง คุชินะ ลงเบา ๆ


“เธอเป็นอะไรรึเปล่า?”


เมื่อมองดูการแสดงออกที่น่าตกใจของเธอ ไนโตะ ก็ได้แต่ยิ้มออกมา เขาประหลาดใจที่ได้เห็นเธอแสดงออกเช่นนี้


เขาอดไม่ได้ที่จะบีบแก้มเธอ


คราวนี้ คุชินะ ได้สติขึ้นมาในที่สุด เธอก็ก้าวถอยหลังเล็กน้อย เธอเอาแต่ก้มหน้าและไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา


“เฮ้ ทำไมเธอดูไม่มีความสุขเลยละ? ฉันเพิ่งช่วยชีวิตเธอไว้น่ะ หรือเธออยากถูกพวกมันจับไปอีกรอบ ก็ได้น่ะ เดียวฉันค่อยตามไปช่วยเธอทีหลังก็ได้ เอาอย่างงั้นไหมละ?”


ไนโตะ ยิ้ม จากนั้นเขาก็จับแก้มเธอและบีบอีกครั้ง


การแสดงออกของเขาดูขี้เล่นเล็กน้อย


คุชินะ รู้ว่า ไนโตะ พยายามหยอกล้อเธอ แต่คราวนี้เธอก็ไม่รู้สึกโกรธ


เธอพยายามที่จะไม่มองตาของเขา ในขณะที่แก้มของเธอแดงและดูหน้ารักมาก


บรรยากาศดูแปลก ๆ เล็กน้อย


ในไม่กี่นาทีต่อมา ร่าง 2 ร่างก็วิ่งมาจากระยะไหลและทำลายบรรยากาศนั้น


พวกเขาก็คือ มินาโตะ และ เมอิ


หลังจากตรวจสอบพื้นที่ พวกเขาทั้ง 2 ก็รีบตรงไปหา คุชินะ และ ไนโตะ แล้วพวกเขาก็รู้สึกได้ว่าทั้ง ไนโตะ และ คุชินะ กำลังทำตัวแปลก ๆ


จากนั้น มินาโตะ ก็จ้องมองไปที่สนามรบ และเขาก็ต้องตกใจอย่างช่วยไม่ได้


แม้จะรู้ว่า ไนโตะ แข็งแกร่งมาก แต่การได้เห็นการทำลายอันน่าสยดสยองของป่าแห่งนี้ และเลือดกับรอยร้าวรอบ ๆ สถานที่นี้ ก็ทำให้เขาต้องตกใจ


ส่วน เมอิ เธอก็ตกใจมากเช่นกัน เธอเคยได้ยิน คุชินะ พูดถึงความแข็งแกร่งของ ไนโตะ แต่เธอก็ยังไม่ได้เห็นด้วยตาของเธอเอง


แต่ตอนนี้ เธอก็เข้าใจในสิ่งที่ คุชินะ ตั้งใจจะบอกแล้ว!

 

 

 


ตอนที่ 203

 

“พวกเธอ…”


คุชินะ ได้สติกลับมาเมื่อ มินาโตะ และ เมอิ โผล่มาอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกอายและแก้มของเธอแดงมากจริง ๆ เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เธอได้แต่มองหน้าของ ไนโตะ


สีหน้าของ ไนโตะ ก็ดูแปลก ๆ เมื่อมองไปที่ทั้งคู่


พวกเขามาด้วยกันได้ยังไง?


มินาโตะ และ เมอิ รู้สึกได้ว่า ไนโตะ มองพวกเขาด้วยความอึดอัดเล็กน้อย


“เมอิ รู้สึกได้ถึงจักระของ คุชินะ แล้วมันก็เป็นเรื่องเร่งด่วน ฉันเลยไม่ได้กลับไปแจ้งให้หมู่บ้านทราบและรีบมาที่นี่กับเธอ”


“โอ้…พวกเธออยู่ด้วยกันตอนเกิดเรื่องเหรอ?”


คุชินะ ถามด้วยความอยากรู้ จากนั้นเธอก็เข้าในในทันที และเธอก็ตกใจจนต้องร้องอุทานออกมา


“นี้สิน่ะ คือสิ่งที่เธอทำอยู่ทุกวัน ๆ เธอตามสะกดรอย…”


“อ๊าๆๆๆ!!”


เมอิ รีบวิ่งเข้าไปปิดปาก คุชินะ ด้วยมือเล็ก ๆ ของเธอ ในขณะที่แก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง


พวกเธอทั้งคู่เริ่มแสดงท่าทางแปลก ๆ และแม้แต่ ไนโตะ ก็ไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร


“ฮ่าฮ่าฮ่า…เอาละ ๆ …มันจบแล้ว เยี่ยมมากเลยที่ ไนโตะ ตามมาช่วย คุชินะ ได้ทัน” มินาโตะ รู้ว่าพวกเธอพูดถึงอะไรและพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย


ไนโตะ กำเส้นผมของ คุชินะ ไว้ในมือแน่น


เขาเหลือบมองไปที่ มินาโตะ โดยคิดว่าถ้า เมอิ กลายเป็น พลังสถิตร่าง เรื่องทั้งหมดก็จะกลับตาลปัตร


แต่ตอนนี้ คุชินะ ก็ยังคงเป็น พลังสถิตน่าง ซึ่งทำให้ ไนโตะ รู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการปราฏตัวขึ้นมาของ เมอิ


พวกเขาทั้งง 4 คนค่อย ๆ เดินไปตามถนนเพื่อกลับไปที่หมู่บ้าน ระหว่างทางพวกเขาก็พบกับ นินจาโคโนฮะ และ นินจาโคโนฮะ ก็ไม่ประหลาดใจเลยที่รู้ว่า ไนโตะ ช่วย คุชินะ มาได้


ไนโตะ แข็งแกร่งมาก และเขาก็รู้สึกดีกับ คุชินะ ดังนั้นนี้จึงเป็นเหตุผลที่เขาจะช่วยชีวิตเธอเสมอ


อย่างไรก็ตาม แม้แต่ หน่วยลับโคโนฮะ ก็ตกตะลึงเมื่อพวกเขารู้ว่า หน่วยพิเศษคุโมะ ทั้งหมดถูกทำลายโดย ไนโตะ


หน่วยพิเศษคุโมะ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเร็ว


หน่วยนี้เคยประสบความสำเร็จในการโจมตี โคโนฮะ และ ซึนะ ทำให้พวกเขามีผลงานที่ดีมากในสนามรบ


แต่ตอนนี้พวกเขาถูกทำลายโดย ไนโตะ!


นี่เป็นเพียงแค่พลังส่วนหนึ่งของ คนที่สามารถบุกทำลายหนึ่งในหมู่บ้านใหญ่ได้ด้วยตัวเอง และฆ่า คาเงะ ของหมู่บ้านนั้น


นี่เป็นเพียงการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา!


……..


ห้องโถงมืดใต้ดินที่ไหนสักแห่ง


อุจิฮะ มาดาระ หลับตาอยู่ ร่างของเขากำลังจะตายและแม้ว่าเขาจะพึ่งพลังของ เทวรูปมารนอกรีต แต่เขาก็อยู่ได้อีกไม่นานแล้ว


มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเขาที่ต้องวางรากฐานของแผนของเขาในเวลานี้


ทันใดนั้น เซ็ทสึ ก็ปรากฏตัวขึ้นจากกำแพงข้าง ๆ เขา


“พวกเขากลับไปที่ โคโนฮะ แล้ว ฉันตามพวกเขาไปไม่ได้อีกต่อไป ถ้าฉันตามไปพวกเขาจะตรวจจับฉันเจอ”


มาดาระ ลืมตาขึ้นและมองไปที่ เซ็ทสึ จากนั้นเขาก็เปิดเผยร่องรอยของการเยาะเย้ยออกมา


“พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง…ตระกูลอุซึมากิ และผนึก 4 วิถี…ผนึกเก่าแก่ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน”


“แม้ว่าจะมีความลึกลับมากมายเกี่ยวกับ ไนโตะ แต่เขาก็ยังให้ความสำคัญกับผู้คน และนี่คือจุดอ่อนของเขา”


“และตราบใดที่เขายังมีจุดอ่อนอยู่ เราก็ยังสามารถควบคุมเขาได้”


เมื่อ เซ็ทสึ ได้ฟังคำพูดของ มาดาระ เขาก็พยักหน้าและยิ้มออกมาอย่างบ้าคลั่ง


……..


โคโนฮะ


ในที่สุด ไนโตะ และคนอื่น ๆ ก็กลับมาถึงหมู่บ้าน ก่อนอื่นเขาก็ไปส่ง คุชินะ กลับบ้าน จากนั้นเขาก็เดินไปยังถนนอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปยัง สำนักงานโฮคาเงะ


“พวกคุโมะ ช่างกล้ามาก พวกมันไม่กลัวเราโกรธเลยสิน่ะ งั้นก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะไปที่นั่นและเอาความลับของ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 มา!”


ดวงตาของ ไนโตะ เย็นชามากจนทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาบนถนนรู้สึกหลัวเป็นอย่างมาก


การได้เรียนรู้ คาถาแปลงวิญญาณ ทำให้พลังวิญญาณของ ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งทำให้จิตสังหารของเขารุณแรงขึ้นไปด้วย


หลังจากที่พลังวิญญาณของเขาได้รับการพัฒนา แม้ว่าภายนอกเขาจะดูธรรมดา แต่เมื่อคนอื่นเข้าใกล้เขา พวกเขาก็จะรู้สึกได้ถึงจิตสังหาร ซึ่งทำให้พวกเขาบางคนในถนนรู้สึกกลัว!


ในไม่ช้า ไนโตะ ก็มาถึง สำนักงานโฮคาเงะ


“ท่านไนโตะ!”


นินจาผู้เฝ้าประตูหน้าของ สำนักงานโฮคาเงะ เห็น ไนโตะ และโค้งคำนับให้เขาในทันที


ไนโตะ เหลือบขึ้นไปมองด้านบนของสำนักงานโดยใช้สัมผัสพิเศษของเขา และเขาก็สัมผัสได้ว่า ซารุโทบิ อยู่ในห้องทำงาน จากนั้นเขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วเคลื่อนที่ชั่วพริบตาและหายไปทันที


นินจา 2 – 3 คนที่เฝ้าประตูสำนักงานอยู่ ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที


“นี่คือความเร็วของ ท่านไนโตะ สิน่ะ…”


ไนโตะ มาถึงประตูของ ห้องทำงานโฮคาเงะ ที่เปิดอยู่ ข้างในนั้น ซารุโทบิ กำลังยืนอยู่และโกรธมาก


ไนโตะ เดินเข้าไปในห้อง


ในขณะเดียวกัน ซารุโทบิ ก็ได้รับข่าวว่า ไนโตะ สามารถช่วยเหลือ คุชินะ เอาไว้ได้ และเขาก็ต้อนรับ ไนโตะ ด้วยความโล่งใจ


ซารุโทบิ มองไปที่ ไนโตะ และพูดว่า “ไนโตะ เรารู้เรื่องแล้ว และโชคดีที่ คุโมะ ทำไม่สำเร็จ”


“พวกมันกล้าจริง ๆ ตอนนี้พวกมันกำลังต่อสู้อยู่กับ อิวะ แต่พวกมันก็ยังมาถึงที่นี่เพื่อลักพาตัวคนของเราไป ครั้งนี้พวกมันข้ามเส้นเกินไปแล้ว”


ด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นมาก ไนโตะ ก็เดินตรงไปที่โซฟาและนั่งลง


เดิมที ไนโตะ ไม่มีปัญหาใด ๆ กับ หมู่บ้านคุโมะ แต่ตอนนี้หลังจากที่พวกเขากล้ามาลักพาตัว คุชินะ ไม่ว่าจะเพราะจุดประสงค์อะไร ไนโตะ ก็ไม่สามารถนั่งดูอยู่เฉย ๆ ได้!


ไนโตะ มาที่ สำนักงานโฮคาเงะ ก็เพื่อเตือน ซารุโทบิ ว่า โคโนฮะ ควรจะปกป้อง คุชินะ ให้ดีกว่านี้!


แต่ ไนโตะ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกไป เพราะเพียงแต่จิตสังหารของเขาก็เพียงพอที่จะบอกทุกอย่างแล้ว


ซารุโทบิ ไม่มีความตั้งใจใด ๆ ที่จะทำร้าย คุชินะ เขาห่วงใยเธอมาก ความโศกเศร้าและรู้สึกผิดปรากฏชัดในสายตาของเขา แต่เมื่อเขารู้สึกได้ถึงจิตสังหารของ ไนโตะ ก็ทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย


สงครามสามารถเปลี่ยนแปลงคนได้จริง ๆ!!


“หมู่บ้านอิวะ สูญเสียดินแดนของพวกเขาไปมากมาย และพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ปกป้องหมู่บ้านของพวกเขาไว้เท่านั้น และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเรา”


“โชคดีที่ หมู่บ้านคุโมะ ทำภารกิจของพวกมันไม่สำเร็จ หากพวกมันจับตัว 9 หาง ไปได้แล้วละก็ ต่อให้เรายกกำลังทั้งหมดไปชิงคืน ก็คงจะทำได้ยาก”


การแสดงออกของ ซารุโทบิ ดูเคร่งขรึมมาก แม้ว่าเขาจะหายใจเข้าลึก ๆ เขาก็ไม่สามารถใจเย็นลงได้


เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา!


ไนโตะ มองไปที่ ซารุโทบิ และพยักหน้า


ไม่ใช่ช่วงเวลาที่สงบสุข โลกยังอยู่ในช่วงสงคราม และแม้แต่ทีมเต็มรูปแบบของ หน่วยลับ ก็ยังไม่เพียงพอที่จะปกป้อง คุชินะ


แม้ว่าในการ์ตูน จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้ว แต่ ไนโตะ ก็ยังรู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่าง

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม