The Strongest Hokage 162-168
ตอนที่ 162
ผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว ที่โลกต้องสั่นสะเทือน
ถึงแม้ว่า ซาคุโมะ คือผู้ที่เอาชนะสงครามในวันนั้นมาได้ แต่ฉายา ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ก็ยังได้รับความสนใจจากผู้คนมากกว่า
หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น โคโนฮะ ก็มีทรัพยากรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และ แคว้นแห่งไฟ ก็ใช้ทรัพยากรเหล่านี้ในการกว้างซื้อพื้นที่ใหม่ ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ก็เพื่อวางรากฐานและจุดยุธศาสตร์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามในครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดของสงครามครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้านใหญ่ ๆ จะสิ้นสุดลง
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็น ซารุโทบิ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 , ดันโซ หรือผู้เฒ่าในสภา พวกเขาต่างก็มีส่วนร่วมในช่วงเวลานี้เพื่อรักษาความได้เปรียบของหมู่บ้านเอาไว้
ดังนั้น หลังจากจบเหตุการณ์นั้นไป มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ก็เหลือแต่เพียง ความขัดแย้งในเขตชายแดน
หมู่บ้านอาเมะ เป็นฝ่ายที่เหลือกองกำลังน้อยที่สุด ทำให้พวกเขายอมแพ้ให้กับ หมู่บ้านโคโนฮะ ด้วยความเต็มใจ
ในทางตรงกันข้าม หมู่บ้านซึนะ ที่พ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ แต่ก็ยังเหลือกองกำลังอยู่อีกมาก พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องยอมแพ้ต่อหมู่บ้านใด ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งหน้ากลับไปที่หมู่บ้านของพวกเขา และมุ่งเน้นไปที่การรักษาพรมแดนของ แคว้นแห้งลม แทน
ดังนั้น กองทัพโคโนฮะ จึงยังคงต้องปักหลักอยู่ใน แคว้นแห่งฝน เพื่อเตรียมบุกยึด แคว้นแห้งลม ต่อไป
ไม่นานหลังจากที่ โคโนฮะ และ ซึนะ เริ่มทำสงครามกันในเขตชายแดน ไรคาเงะ ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดจึงตัดสินใจเริ่มเคลื่อนไหวและบุกเข้าสู่ แคว้นแห่งดิน
ไรคาเงะ รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะโจมตี หมู่บ้านโคโนฮะ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะโจมตี หมู่บ้านอิวะ แทน
สำหรับ แคว้นแห่งน้ำ (หมู่บ้านคิริ) แคว้นแห่งนี้เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลที่อยู่ถัดจาก แคว้นแห่งไฟ ไปทางด้านซ้าย มิซึคาเงะ จึงตัดสินใจที่จะอยู่เงียบ ๆ ก่อน เพื่อรอโอกาสของเขา
แม้ว่า มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะจบลงแล้ว แต่การต่อสู้ในเขตชายแดนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานนับปี
แต่ตลอดช่วงเวลานี้ ไนโตะ ก็ไม่ได้สนใจการต่อสู้พวกนั้นเลย และเขาก็ยังคงอยู่ใน แคว้นแห่งฝน ต่อไป
เขาไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ในเขตชายแดน แต่เขาอยู่ที่นั่นเพื่อสอน โคนัน และ ยาฮิโกะ ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามฝึกควบคุม อาภรณ์สายฟ้าขั้น 2 ด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ว่าสงครามใน แคว้นแห่งฝน จะจบลงไปแล้ว แต่ก็ยังมีนินจาจากหมู่บ้านอื่น ๆ ยังคงอยู่ในแคว้นแห่งนี้ หลังจากทั้งหมด แคว้นแห่งฝน ก็ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้านใหญ่ ๆ อยู่ดี
แม้ว่าสงครามจะสิ้นสุดลง แต่การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม การที่ ฮันโซ ยังมีชีวิตอยู่ใน แคว้นแห่งฝน นี้ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อหมู่บ้านใหญ่อื่น ๆ เพราะพวกเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูของ ฮันโซ
……
ใน แคว้นแห่งฝน ในบ้านไม้ที่สง่างามและเงียบสงบทีล้อมรอบไปด้วยหญ้าและดอกกไม้
แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดครึ้มเป็นปกติ แต่ที่นี่ก็ดูเหมือนกับสรวงสวรรค์ เพราะมันดูเหมือนไม่ได้ถูกสร้างโดยมนุษย์
ในห้องที่อยู่ในบ้าน ไนโตะ นั่งเงียบ ๆ ขณะที่เขาหลับตาอยู่
ออร่าสีฟ้ากระจายไปทั่วร่างกายทำให้แสงส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง
มีประกายสายฟ้าถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องและช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายของ ไนโตะ
ประตูด่านพลังบานแรก ชิมง (ประตูแห่งความตาย) ช่วยสูบฉีดจักระไปทั่วร่างกายของเขา ในขณะที่ประตูด่านพลังบานที่ 2 ช่วยสกัดจักระเพื่อนำไปเสริมสร้างร่างกายทั้งหมดของเขา
ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะไม่สามารถใช้วิชา เบียคุโก ได้ แต่กลไกนี้ก็จะช่วยให้เขารักษาร่างกายของเขาได้อย่างรวดเร็ว
หากเขามีบาดแผล มันจะค่อย ๆ หายไปอย่างช้าลง โดยไม่ต้องทำการรักษาใด ๆ
เซลล์ในร่างกายของ ไนโตะ นั้นเต็มไปด้วยพลังงานอันทรงพลัง และถ้าหากมันถูกกระตุ้นด้วยคุณสมบัติจักระสายฟ้า มันจะทำให้เซลล์ของเขามีพลังมากขึ้นไปอีก
ที่จริงแล้ว กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น เพราะมันไม่มีผลข้างเคียงกับผู้ใช้วิชา แต่มันกลับเสริมกำลังร่างกายให้ผู้ใช้วิชาอย่างต่อเนื่อง และมันไม่เพียงแต่พลังทางกายภาพเท่านั้น มันยังช่วยเพิ่มพลังให้เขาในทุก ๆ ด้านอีกด้วย
มันเป็นวิชาที่ยอดเยี่ยมมาก!!
ภายใต้การควบคุมของ ไนโตะ ประกายสายฟ้าก็แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าเขามีเสื้อคลุมสายฟ้าที่ปกคลุมทั่วร่างกายของเขา
ฟั๊บ!!
แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็สูญเสียการควบคุมและทันใดนั้นสายฟ้าทั้งหมดก็หายไป
“แหงละ มันยังไม่พอ”
ไนโตะ ลืมตาขึ้นแล้วมองที่มือของเขา
วิชา อาภรณ์สายฟ้า ของ ไนโตะ ยังไม่สมบูรณ์ มันจึงยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับ ไรคาเงะ
เมื่อ ไนโตะ มาถึงขั้นที่ 3 เขาจะสามารถสร้างรูปร่างสุดท้ายนั้นได้ คือสร้างออร่าเป็นเสื้อคลุมที่ห่อหุ้มไปทั่วร่างกาย
เป็นเวลานานกว่าครึ่งปีแล้ว ที่เขาได้ต่อสู้กับ ฮันโซ
ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ไนโตะ ได้ฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 ได้อย่างสมบูรณ์
ในเวลาเดียวกัน ไนฌโตะ ก็พยายามฝึกขั้นที่ 3 ของวิชานั้น แต่เขาก็ล้มเหลวมาโดยตลอด ไม่ว่าเขาจะพยายามฝึกกี่ครั้งก็ตาม
เขาไม่เห็นความหวังใด ๆ เลย
มันไม่เหมือนกับวิชาอื่น ๆ ที่เขาเคยฝึก วิชาอื่นเมื่อเขาล้มเหลวในครั้งแรกหลังจากนั้นเขาก็จะมีการพัฒนาขึ้นไม่มากก็น้อยจนกระทั่งเขาทำมันได้สำเร็จ แต่กับวิชานี้มันไม่มีการพัฒนาอะไรขึ้นเลย เขาล่มเหลวอย่างสิ้นเชิง
“สงสัยเราคงต้องไปที่ หมู่บ้านคุโมะ จริง ๆ สินะ ไม่งั้นคงไม่รู้เคล็ดลับในการฝึกขั้นที่ 3 แต่ก่อนอื่น ตอนนี้เหมือนว่าเราจะแข็งแกร่งพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบ่านที่ 4 แล้วสินะ”
หลังจากที่ ไนโตะ สามารถควบคุม อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขาก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้ในทันที ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ไปก่อน
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ได้สำเร็จ แต่ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนในที่สุด ไนโตะ ก็แข็งแกร่งพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้
ไนโตะ ยืนขึ้นแล้วบิดขี้เกียจ เขาไม่ได้จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ในทันที ตอนนี้เขาต้องการหยุดพักก่อน
เพราะการฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 นั้นเขาใช้จักระไปเกือบครึ่ง ดังนั้นเขาจึงรอให้จักระฟื้นกลับมาก่อน
จากนั้น ไนโตะ ก็ลุกขึ้นไปดื่มน้ำในแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ออกไปจากห้อง
ข้างนอกบ้าน
โคนัน และ ยาฮิโกะ กำลังฝึกซ้อมอยู่กลางสายฝน
ในครึ่งปีที่ผ่านมาทั้ง 2 คนแข็งแกร่งขึ้นมาก
ไม่ใช้เพราะพวกเขามีพรสวรรค์ แต่เพราะพวกเขาโต้กว่าเด็ก ๆ ในโรงเรียนนินจา และถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่แข็งแกร่งเท่า คาคาชิ ตอนอายุ 5 ขวบ แต่พวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นมากเลยทีเดียว
ตอนที่ 163
“ครูไนโตะ”
เมื่อเห็น ไนโตะ เดินออกมาจากบ้าน โคนัน ก็หยุดฝึกและยิ้มให้เขา
“ดีแล้ว โคนัน แต่เธอยังต้องฝึกฝนการควบคุมจักระต่อไป…เพราะจักระคือแหล่งพลังงานและแหล่งกำเนิดชีวิตของนินจา ยิ่งจักระของเธอแข็งแกร่งขึ้นเท่าไร มันจะยิ่งทำให้เธอสามารถควบคุมกระดาษของเธอได้ดีขึ้นเท่านั้น”
ไนโตะ พยักหน้าให้ โคนัน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเหมือน นารูโตะ ในการ์ตูน เขามีจักระจำนวนมากมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นนินจาปกติคนอื่น ๆ จึงต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้จักระของตนเองแข็งแกร่งขึ้น
หากคุณมีจักระไม่มากพอ คุณก็จะไม่สามารถใช้คาถานินจาระดับสูงได้ หรือแม้แต่เรียนรู้คาถาเหล่านี้ได้
แน่นอนว่า ไนโตะ นั้นแตกต่างออกไป เพราะ พลังสั่นสะเทือน ของเขาไม่ต้องใช้จักระมากนัก
“ถ้าเรื่องจักระ ฉันยังไม่ไปถึงไหนเลย”
โคนัน พูดในขณะที่เธอรู้สึกอายเล็กน้อย
โคนัน พัฒนาขึ้นในเรื่องคาถากระดาษของเธอ แต่ไม่เลยสำหรับจักระ
ไนโตะ มองไปที่ โคนัน และหลังจากที่เขาใช้ความคิดอยู่ครูหนึ่ง เขาก็พูดว่า “ถ้างั้น…ตามฉันมา”
“อื้ม”
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่า ไนโตะ จะพาไปไหน แต่เธอก็ตามเขาไป
ไนโตะ เดินมาจนถึงต้นไม้ใหญ่ แต่เขาก็ไม่หยุดเลย จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปบนต้นไม่ทีละก้าว ๆ
“รวบรวมจักระไว้ที่เท้าของเธอ แล้วลองเดินขึ้นมาเหมือนที่ฉันทำ”
โคนัน และ ยาฮิโกะ ไม่เคยฝึกปีนต้นไม้หรือเดินบนน้ำมาก่อน เพราะจำนวนจักระของพวกเขายังน้อยมากในตอนนั้น
การปีนต้นไม้และเดินบนน้ำเป็นอีกวิธีหนึ่งในการฝึกควบคุมจักระ หากจำนวนจักระยังไม่พอ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะฝึก
ในการ์ตูน ซาสึเกะ ถูกเรียกว่าเป็นคนที่มีจักระที่แข็งแกร่งมากตั้งแต่ต้น แต่เขาก็ไม่เคยฝึกฝนด้วยการการปีนต้นไม้
เขาสามารถควบคุมจักระของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เขาสามารถใช้คาถานินจาได้โดยไม่ต้องฝึก
แต่ โคนัน และ ยาฮิโกะ ไม่เหมือนเขา แต่ ไนโตะ ก็เชื่อว่าพรสวรรค์ของ โคนัน ในการควบคุมจักระนั้นสูงมากและถ้าเธอพยายามเธอจะสามารถทำได้แน่นอน
ส่วน ยาฮิโกะ อาจใช้เวลานานกว่า
“อื้ม ฉันละลองดู”
โคนัน มองไปที่ ไนโตะ จากนั้นเธอก็เดินตรงไปที่ต้นไม้แล้วพยักหน้าให้เขา แล้วเธอก็มองไปที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าเธอทันที
แล้ว โคนัน ก็เหยียบขึ้นไปบนต้นไม้
ในการ์ตูน ซากุระ สามารถควบคุมจักระของเธอได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การควบคุมจักระของ โคนัน น่าจะทำได้ดีกว่า ซากุระ ดังนั้นมันน่าจะง่ายสำหรับเธอ
ทีละก้าว ๆ ในที่สุด โคนัน ก็เดินขึ้นไปบนต้นไม้ได้ จากนั้นเธอก็มองลงมาที่ ไนโตะ และยิ้มให้เขา
“ครูไนโตะ ฉันทำได้แล้ว!”
“โอ้…เห็นไหมละ เธอสามารถควบคุมจักระได้อย่างยอดเยี่ยม”
ถึง ไนโตะ จะพูดแบบนั้น แต่สีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เมื่อเขามองไปที่ โคนัน และเห็นว่าเธอสามารถเดินบนต้นไม่ได้อย่างงายดาย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะสามารถทำได้ แต่ในวินาทีต่อมา การแสดงออกของเขาก็เป็นกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ลมพัดมา และทำให้กระโปรงของ โคนัน เปิดออก ทำให้ ไนโตะ เห็นกางเกงในสีขาวของเธอเต็ม 2 ตา…
โคนัน รีบเอามือไปปิดกระโปรงอย่างรวดเร็วและแก้มของเธอก็กลายเป็นสีแดง จากนั้นเธอก็กระโดดลงจากต้นไม้
อะแอม!
ไนโตะ ไอออกมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กระโดดลงจากต้นไม้
“ตามฉันมา เราจะไปอีกที่หนึ่ง”
“อื้ม”
โคนัน ตอบเบา ๆ โดยไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นมากกว่า และการแสดงออกของเขาก็ยังคงสงบมาก ซึ่งทำให้ โคนัน รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา
แต่เธอก็ไม่รู้ว่าภายใต้ว่าการแสดงออกที่สงบนั้นเขาซ่อนอะไรไว้บ้าง
ในไม่ช้า ไนโตะ ก็เดินมาถึงแม้น้ำ
ไนโตะ ยังคงเดินต่อไปและเดินลงไปบนผิวน้ำจนไปถึงกลางแม่น้ำ จากนั้นเขาก็หันกลับมามอง โคนัน
“ลองทำแบบเดียวกับตอนที่ปีนต้นไม้สิ๊”
“อื้ม”
โคนัน พยักหน้าแล้วเธอก็เหยียบลงไปบนน้ำอย่างระมัดระวัง
เมื่อเธอเหยียบเท้าข้างหนึ่งลงไปบนน้ำ หลังจากที่เธอแน่ใจว่าจะไม่เป็นอะไร เธอก็ก้าวเท้าอีกข้างของเธอลงไป
หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว โคนัน ก็เกิดไปถึง ไนโตะ
“มันอาจจะยาก…นิด…หน่อย…”
ไนโตะ มองไปที่ โคนัน ด้วยท่าทางที่ตะลึงงัน เขาไม่คิดว่าเธอจะสามารถทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม การฝึกบนน้ำก็มีอยู่ 2 ขั้นตอน ขั้นแรกก็คือการยืนบนน้ำ และขั้นที่ 2 ก็คือการใช้คาถานินจาในขณะที่ยืนบนน้ำอยู่
“ต่อไปก็ลองใช้คาถานินจาตอนที่ยืนบนน้ำดู”
“อ้า”
โคนัน พยักหน้า จากนั้นเธอก็เริ่มใช่ วิชากระดาษ ทันที
แน่นอนว่า การยืนอยู่บนน้ำและใช้คาถานินจานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับนินจาระดับสูง แต่สำหรับมือใหม่อย่าง โคนัน ความยากลำบากจึงสูงมาก
แน่นอนว่าในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะมีความสามารถในการควบคุมจักระที่ดีเยี่ยม แต่เธอก็จะไม่สามารถทำมันได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกแน่นอน
เมื่อเธอเริ่มใช้คาถานินจา เธอก็สูญเสียการควบคุมจักระที่เท้าของเธอ และทันใดนั้นเธอก็ร้องออกมาเสียงดังแล้วร่างของเธอก็เริ่มจมลงน้ำ
ไนโตะ ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็คว้าแขนเธอไว้แล้วดึงเธอขึ้นมาทันที
“ครู…ขอโทษคะ…”
ถึงแม้เธอจะควบคุมจักระได้เป็นอย่างดี แต่เธอก็ล้มเหลว และเธอก็รู้สึกอายที่จะมองหน้า ไนโตะ
ไนโตะ ปล่อยมือเธอ แล้วพยักหน้าและพูดเบา ๆ ว่า “ไม่เป็นไร เธอแค่ต้องฝึกอีกหน่อย”
“รับทราบคะ”
หลังจากที่เธอพยักหน้า การแสดงออกของเธอก็ดูจริงจังมาก จากนั้นเธอก็เริ่มฝึกฝนทันที
หลังจากที่ ไนโตะ ช่วยดึง โคนัน ขึ้นจากน้ำหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็ทำได้สำเร็จ แม้ว่าเธอจะยังไม่เชี่ยวชาญ แต่เธอก็ไม่จมน้ำอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าของเธอก็เปียกโชก แม้ว่าเธอจะยังเด็กแต่มันก็ทำให้เห็นหน้าอกของเธอได้อย่างชัดเจนมาก
หลังจากที่ ไนโตะ แน่ใจแล้วว่าเธอจะไม่จมน้ำอีก เขาก็ปล่อยเธอไว้คนเดียวและเดินกลับไปที่บ้าน
หลังจากใช้เวลาสอน โคนัน ไปเล็กน้อย จักระของ ไนโตะ ก็ฟื้นกลับมาในที่สุด เขากลับเข้าไปในห้องของเขา และหลังจากที่เขาทำสมาธิ เขาก็พร้อมที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แล้ว!
หลังจากที่เขาเริ่มนั่งสมาธิจักระของเขาก็เริ่มไหลเข้าไปในประตู 3 บานแรก
ฟู้!!
ด้วยการเพิ่มขึ้นของจักระในประตูพลัง 3 บานแรก ทำให้ร่างกายของ ไนโตะ เริ่มปล่อยแรงกดดันจักระออกมาอย่างมหาศาลและจักระของเขาก็เริ่มก่อตัวเป็นออร่าที่พลุกพล่านรอบตัวเขา
ร่างกายของ ไนโตะ แข็งแกร่งพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้อย่างเต็มที่ หลังจากจักระไหลเข้าสู่ประตูพลัง 3 บานแรก มันก็พุ่งตรงไปถึงประตูพลังบานที่ 4 และเริ่มดันประตูพลังอย่างแรง และ ไนโตะ ก็ใช้ พลังสั่นสะเทือนของเขารวมเข้าไปด้วย จนในที่สุด ประตูพลังบานที่ 4 ก็ร้าวออกและในที่สุดมันก็พัง!
ตอนที่ 164
การเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 นั้นง่ายกว่าการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 2 และ 3
เพราะตั่งแต่ ประตูด่านพลังบานที่ 2 ถึง 6 มันเรียงต่อกันเป็นเส้นตรงตามแนวกระดูกสันหลัง มันแค่ต้องใช้จักระดันให้มันเปิดออก
ตราบใดที่ร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งมากพอก็จะสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้ พลังสั่นสะเทือน ให้ประตูอ่อนลงและจากนั้นก็เค้นจักระให้พุ่งตรงไปยังประตูจนมันพังในที่สุด และสุดท้ายประตูนั้นก็จะเชื่อมต่อกับประตูก่อนหน้าทั้งหมดด้วยจักระ
หลังจากเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้สำเร็จ ประตู 3 บานแรกก็เชื่อมต่อกับประตูบานใหม่ทันทีและเริ่มปรับสมดุลของร่างกายใหม่ทั้งหมด
ครึ่งเดือนต่อมา ประตูด่านพลังบานที่ 4 ก็เสถียรอย่างสมบูรณ์ และจักระก็ไหลออกมาจากประตูนั้นอย่างมหาศาล
มาถึงจุดนี้ จักระของ ไนโตะ ก็เทียบเท่ากับระดับ คาเงะ แล้ว!
แต่ปริมาณจักระก็ไม่สามารถวัดความแข็งแกร่งของจักระได้
ถึงแม้ว่า จำนวนจักระของ ไนโตะ ก่อนหน้านี้จะน้อยกว่าระดับ คาเงะ แต่ ไนโตะ ก็มั่นใจว่าเขาสามารถสู้ได้!
เพราะแม้แต่ นินจาระดับ คาเงะ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อสู้กับเขาได้
เมื่อเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้สำเร็จ พลังสั่นสะเทือน ของ ไนโตะ ก็แข็งแกร่งขึ้น และในที่สุดมันก็มีพลังเทียบเท่ากับคาถานินจาระดับ S !
เนื่องจากพลังของคาถานินจาในช่วงท้ายของการ์ตูน กลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญจึงไม่มีการจัดระดับให้พวกมัน ดังนั้น ไนโตะ จึงจำแนกพวกมันด้วยการจัดระดับใหม่
ไนโตะ ได้แบ่ง คาถานินจาระดับ S ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ คาถานินจาระดับ S ขั้นต่ำ และ คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง
ตัวอย่างเช่น ดาวกระจายวงจักร จัดเป็น คาถานินจาระดับ S ขั้นต่ำ
ข่ายเทพพิชิตฟ้า จัดเป็น คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง และมันสามารถทำลาย ดาวกระจายวงจักร ได้อย่างง่ายดาย แต่ในทางกลับกัน ดาวกระจายวงจักร สามารถสร้างความเสียหายให้กับร่างกายมนุษย์ได้มากกว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า
เพราะเหตุนี้ ไนโตะ จึงยังสงสัยความถูกต้องของการจำแนกของเขาอยู่
แต่ถึงอย่างนั้น ไนโตะ ก็มันใจว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า มีพลังมากกว่า ดาวกระจายวงจักร
คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง จะไม่สามารถทำลายได้ เว้นแต่ว่าคุณจะโต้กลับกับด้วย คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง อีกคาถาหนึ่ง!
สำหรับ ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ คาถานี้ไม่ควรจัดให้อยู่ต่ำกว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า ดังนั้นจึงควรแบ่งพวกมันให้อยู่คนละกลุ่ม แต่เขาก็ไม่สามารถระบุได้ว่าอันไหนแข็งแรงกว่าเพราะเขายังไม่เคยเจอด้วยตัวเอง
ถ้าอย่างนั้นต้องแบ่งเป็น ระดับ S ถึง ระดับ SSS !
ระดับ SSS เป็นกลุ่มของคาถานินจาที่มีเพียงแค่คนอย่าง อุจิฮะ มาดาระ หรือ ฮาชิรามะ เท่านั้นที่ใช้ได้
ทั้งคู่มีความสามารถในการเปลี่ยนคาถานินจาแบบง่าย ๆ ให้กลายเป็นคาถาอันทรงพลังอย่างยิ่งได้
พวกเขามีความสามารถในการป้องกัน กระสุนสัตว์หาง ได้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง ดังนั้นจึงเหมาะสมแล้วที่จะจัดพวกเขาไว้ที่ระดับสูงสุดของ คาถานินจาระดับ SSS !
ระดับ S ขั้นต่ำ , ระดับ S ขั้นสูง จากนั้นก็ ระดับ SSS ที่มีอำนาจที่จะทำลายโลก
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ความคิดของ ไนโตะ เท่านั้น เขายังไม่เคยเจอคนเหล่านั้นเลยและการตัดสินใจของเขาก็อาจจะผิด
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้ว การตัดสินใจของเขาก็ไม่น่าจะผิด
ประตูด่านพลัง 4 บานแรกของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้เปิดออกแล้ว และ ไนโตะ ก็มาถึงครึ่งทางแล้ว ในเวลาเดียวกัน ในที่สุด พลังสั่นสะเทือนของเขาก็มาถึงขั้นที่ 4 แล้ว และ ไนโตะ ก็มองเห็นเส้นทางของเขาในอนาคตอย่างชัดเจน
ตอนนี้พลังของเขาสามารถบดขยี้ คาถานินจาระดับ S ขั้นต่ำ ได้แล้ว และสำหรับ คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง เขาก็สามารถต่อสู้กับมันได้!
นี่เป็นเพียงแค่พลังที่มาจากการประตูด่านพลัง 4 บานแรกเท่านั้น
เมื่อเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ไนโตะ จะไปถึง คาถานินจาระดับ S ขั้นสูง ได้แน่นอน และจะเป็นไปได้ไหม…ว่าถ้าเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 แล้ว พลังของเขาจะไปถึง คาถานินจาระดับ SSS?!
แล้วถ้าเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 7 และ 8…เขาจะแข็งแกร่งเท่ากับ คางูยะ หรือเปล่า?
ไนโตะ มันใจว่าถ้าเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 เขาจะมีพลังตามที่เขาคาดไว้แน่นอน แต่สำหรับประตูด่านพลังบานที่ 6 และ 7 นั้น เขาก็ยังไม่แน่ใจ
แต่ตราบใดที่ พลังสั่นสะเทือน ของเขาแข็งแกร่งขึ้นทุก ๆ ครั้งที่เขาเปิดประตูด่านพลังบานใหม่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร!
ความเชี่ยวชาญในการใช้ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 และการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 พร้อมกับ พลังสั่นสะเทือนขั้นที่ 4 ทำให้ ไนโตะ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เนื่องจากการพัฒนาที่เขาได้รับจากจักระใหม่ ทำให้วิชา เหยียบเวหา ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นไปด้วยและเขาก็สามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลขึ้นมาก
ความเร็วของ ไนโตะ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ไนโตะ เองก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเร็วแค่ไหน แต่เขาก็แน่นอนว่าในตอนนี้ แม้แต่ ซาคุโมะ ก็จะไม่สามารถตามเขาได้ทัน!
ถ้าเป็น ฮันโซ ก็อาจจะตามเขาได้ทัน แต่ก็คงจะสู้กับเขาไม่ได้
ไนโตะ กำหมัดของเขาและหายใจเข้าลึก ๆ ความมั่นใจในด้วยตาของเขานั้นชัดเจนมาก
นานเหลือเกินแล้วที่ ไนโตะ มาอยู่ในโลกแห่งนี้
ตอนนี้อายุของเขาก็คงจะประมาณ 12 ปี
ในการ์ตูน อุจิฮะ อิทาจิ สามารถปลุก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ได้ตอนอายุ 13 และพลังของเขาก็ขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับ คาเงะ ทันที…
เขาสามารถไปถึงระดับเดียวกับ อิทาจิ ได้ตอนอายุ 12 ปี และในที่สุด ไนโตะ ก็ไปได้ไกลกว่า อิทาจิ
หลังจากที่เขาพักผ่อนเป็นเวลานาน ไนโตะ ก็เอาม้วนกระดาษม้วนหนึ่งออกมา
ในปีที่ผ่านมา ไนโตะ ฝึกฝนเกือบตลอดเวลา เขาใช้เวลาเพียงส่วนน้อยเพื่อสอน ยาฮิโกะ และ โคนัน
ไนโตะ ยังคงรวบรวมข้อมูลอยู่
ในปีที่ผ่านมา ไนโตะ ไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ นางาโตะ เลย เพราะ นางาโตะ ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาอีกเลยหลังจากเหตุการณ์นั้น และแม้ว่าข่าวนี้จะถูกส่งไปยัง โคโนฮะ แล้ว และ โฮคาเงะ กับ สภาสูง ก็ส่งทีมออกไปเก็บข้อมูลเรื่องนี้โดยตรงใน แคว้นแห่งฝน แล้วก็ตาม พวกเขาก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรอยู่ดี
พวกเขาค้นหาจนทั่วทั้งแคว้น แต่พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยของ นางาโตะ และ มาดาระ เลย ไม่มีใครรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
แน่นอนว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะหาไม่พบ แต่พวกเขาก็ไม่หยุดหาและเริ่มค้นหาในพื้นที่ใหม่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่พบข้อมูลใด ๆ ที่เป็นประโยชน์อยู่ดี
ม้วนกระดาษในมือของ ไนโตะ เป็นข้อมูลอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับ ดาบคุซานางิ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 สิ่งที่ ไนโตะ สนใจ
อีกสิ่งหนึ่งก็คือ วิธีการ อาภรณ์สายฟ้าขั้น 3
และวิธีฝึกขั้นที่ 3 นั้นต้องซ่อนอยู่ใน หมู่บ้านคุโมะ อย่างแน่นอน มันคงถูกจัดเป็นความลับขั้นสูงสุดแม้แต่กับนินจาของพวกเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะได้มันมา เขาก็คงจะใช้เวลานานในการฝึกฝนมันให้สำเร็จ และอาจจะดีกว่าถ้าเขาจะรอจนกว่าเขาจะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ได้ก่อนที่จะคิดเรื่องเกี่ยวกับมัน
ดังนั้น ไนโตะ จึงเลือกจะฝึกฝนอยู่ใน แคว้นแห่งฝนต่อไป แต่สิ่งที่เขากังวลก็คือส่วนที่เหลือของข้อมูลเกี่ยวกับดาบ ดาบคุซานางิ ที่ยังขาดหายไป
ตอนที่ 165
ดาบโทซึกะ (ดาบสะบั้นเมรัย) ซึ่งเป็นหนึ่งใน ดาบคุซานางิ ถูกพบใน แคว้นแห่งฝน…
เมื่ออ่านข้อมูลในม้วนกระดาษ ไนโตะ ก็เข้าสู่ห้วงความคิด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อมูลนี้ถูกต้อง เพราะมันถูกเก็บรวบรวมโดยหน่วยลับ จึงทำให้ความน่าเชื่อถือของข้อมูลควรจะสูงมาก
ตามในการ์ตูน เดิมที ดาบโทซึกะ (ดาบสะบั้นเมรัย) เป็นของ อุจิฮะ อิทาจิ แต่ตอนนี้ อิทาจิ ยังไม่เกิด
น่าจะเป็นเวลาราว ๆ กับที่เขาออกจาก โคโนฮะ และเข้าร่วมกับ แสงอุษา ซึ่งเขาก็เป็นคนหาดาบนั้นด้วยตัวเขาเอง ดังนั้น โอโรจิมารุ จึงไม่รู้ว่าเขามี ดาบคุซานางิ ไว้ในครอบครอง
จากข้อมูลในม้วนกระดาษได้เขียนไว้ว่า มีนินจาเคยพบเห็นดาบเล่มนี้ในตลาดมืดใต้ดินของ แคว้นแห่งฝน
เมื่อพูดถึงตลาดมืดใต้ดิน คุณจะสารถพบของที่ทรงพลังเช่นนี้ขายได้อย่างง่ายดาย
สำหรับคนที่มีเงินและชอบสะสมสิ่งของเหล่านี้ พวกเขาก็มักจะไปเที่ยวตลาดแบบนี้ที่มีอยู่ทั่วโลก หากคุณค่าของมันคุ้มกับเงินที่จ่ายไป ก็มีแนวโน้มว่ามันจะถูกขายออกไปอย่างรวดเร็ว
“ตลาดมืดใต้ดินงั้นเหรอ…ถ้อย่างงั้น ดูเหมือนว่าการเดินทางที่ยอดเยี่ยมกำลังรอเราอยู่สินะ”
ไนโตะ อ่านม้วนข้อมูลต่อไปและหลังจากที่เขาอ่านจบ ในที่สุดเขาพึมพำคำเหล่านี้ออกมา
ด้วยข้อมูลทั้งหมด ไนโตะ ก็พบว่ามี ดาบคุซานางิ เล่มใหม่ที่ปรากฏในตลาดมืด
ในการ์ตูน มีการกล่าวถึง ดาบคุซานางิ เพียง 3 เล่มเท่านั้น ซึ่ง 1 ในนั้นอยู่ที่ ไนโตะ นั่นคือดาบที่มีชื่อว่า ดาบอสรพิษ
อีก 2 เล่ม คือ ดาบโทซึกะ (ดาบสะบั้นเมรัย) ของ อิทาจิ และ ดาบของ ซาสึเกะ
และในตอนนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับดาบ 2 เล่มนี้ ซึ่งทั้ง 2 เล่มก็ถูกพบเห็นในตลาดมืด และ ไนโตะ ก็ต้องลองไปที่นั่นเพื่อหาพวกมัน
หลังจากที่เขาบอกลาทั้ง โคนัน และ ยาฮิโกะ แล้ว ไนโตะ ก็เดินออกจากที่นั่นไป
ตลาดมืดในโลกแห่งนี้มีเครือข่ายเป็นของตัวเองและมันก็กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งแคว้น จึงไม่แปลกที่จะพบเห็นนินจาจำนวนมากในตลาดมืดเหล่านี้
ดันโซ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
แน่นอนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพบคนอย่าง ซารุโทบิ ที่เป็น โฮคาเงะ มาปรากฏในสถานที่แบบนี้
แต่ในขณะเดียวกัน หน่วยลับ ก็มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับตลาดมืดใน แคว้นแห่งไฟ อยู่ด้วย
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่ ไนโตะ จะหาตลาดมืดใน แคว้นแห่งฝน ได้เจอ แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้อยู่ใน หน่วยลับ แล้วก็ตาม
ตลาดมืดใน แคว้นแห่งฝน ตั้งอยู่ในเมืองที่ห่างไกลความเจริญ
ในเมืองแห่งนี้ ไนโตะ เห็นนินจาหลายคนจาก หน่วยลับโคโนฮะ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ แล้วเดินตรงเข้าไปในตลาดมืดต่อไป
หลังจากที่เขาเข้าไปในโรงเตี๊ยม เขาก็เดินเลี้ยวตามทางไป 2 – 3 โค้ง แล้วเขาก็เข้าสู่ ด้านมืดของโลกใบนี้
ตลาดมืดดูคล้ายกับโครงสร้างใต้ดินขนาดใหญ่ของ โคโนฮะ มันเกือบจะดูเหมือนถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่
แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในที่นี่เป็นโจร
ที่จุดศูนย์กลางของตลาดมืด มีทั้งคนที่ไม่รู้ว่ามาจากหมู่บ้านไหน และก็มีนินจาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ
นินจาส่วนใหญ่สวมหน้ากากและเสื้อคลุมเพื่อซ่อนตัวตนของพวกเขา
ไนโตะ ไม่ได้สวมหน้ากาก เขาเกลียดสิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา และตอนนี้เขาไม่ต้องการปกปิดตัวตนของเขาอีกต่อไป
เมื่อ ไนโตะ ก้าวข้าเข้าไปในตลาดมืด บางคนที่ไม่เคยเห็นเขามาก่อนก็รู้สึกประหลาดใจมาก
“คนแปลกหน้าเข้ามาในนี้ได้ยังไง?!”
“แต่เหมือนฉันเคยเห็นเขามาก่อน…เขาคงเป็นเด็กที่ฉันเคยเจอไหนสักที่ แต่ทำไมมันรู้สึกแปลก ๆ ?!”
นินจาบางคนรู้สึกคุ้นเคยเมื่อมองมาที่เขา แต่พวกเขาก็จำเขาไม่ได้
ในเวลานี้ ไนโตะ เดินเข้าไปในตลาดมืด จากนั้นก็เดินทางไปยังแผนกข่าวกรองข้อมูลในทันที
ตลาดมืดใต้ดินทั้งหมดเผยให้เห็นบรรยากาศที่มืดหม่นมาก มันมากยิ่งกว่าที่ สำนักงานหน่วยลับของโคโนฮะ ที่แห่งนี้ แม้แต่อากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นเลือด ทำให้น่าอึดอัดเป็นอย่างมาก
เกือบทุกคนในที่แห่งนี้ ทำตัวลึกลับและน่าสงสัย เพราะพวกเขาอยู่ในเครือข่ายแบบนี่มาเป็นเวลาหลายปี
จริง ๆ ตลาดเหล่านี้ไม่ได้ถูกควบคุม เพราะแม้แต่หมู่บ้านใหญ่ ๆ ก็ไม่สามารถควบคุมตลาดมืดในแคว้นของตนได้ คนเหล่านี้จึงเป็นคนอันตรายที่สุดและกระจายอยู่ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีการควบคุมตลาดมืด แต่มันก็มีระเบียบเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งพื้นที่ขายของต่าง ๆ ก็ได้รับการแบ่งออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน และยังมีนินจาที่คอยดูแลที่นี่อยู่ด้วย
ไนโตะ ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นคนแปลกหน้าและเขาก็ไม่ได้สวมหน้ากาก
สายตาหลายคู่ก็จับจ้องมาที่เขา
คนส่วนใหญ่ที่มอง ไนโตะ มองเขาด้วยสายตาที่น่ากลัว ดูราวกับว่าพวกเขารู้จักตัวตนของเขา
แต่แน่นอนว่าบางคนก็จำ ไนโตะ ไม่ได้ แต่พวกเขาก็ดูตะลึงเมื่อเห็นเขา
ไอ้เด็กนี้เข้ามาได้ยังไง?!
แต่จู่ ๆ พื้นดินด้านหลัง ไนโตะ ก็สั่นและใกล้ ไนโตะ เข้ามาเรื่อย ๆ แต่ ไนโตะ ก็ยังคงมองไปข้างหน้าอย่างใจเย็น
ตึ้ม! ตึ้ม!! ตึ้ม!!!
ในไม่ช้า ก็มีคนตัวใหญ่เดินเข้ามาหาและหยุดอยู่ข้างหลัง ไนโตะ จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแล้วดวงตาของเขาก็จ้องไปที่ ไนโตะ
ดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กเหลือขอ!
“ไอ้เด็กเหลือขอ แกเป็นใคร ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเด็กอย่างแก!”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็พยายามเอื้อมมือไปที่คอของ ไนโตะ เขาต้องการโยน ไนโตะ ออกไปจากที่นี่
คนที่อยู่รอบ ๆ ไม่ได้ทำอะไร พวกเขาทำเหมือนกับกำลังดูสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติด้วยสายตาที่ชั่วร้าย
ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็หันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา
ตู้ม!!!
ในวินาทีต่อมา เสียงระเบิดดังคำรามไปทั่วทั้งตลาดมืด พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของ ไนโตะ ทรุดตัวลง ผู้คนในที่แห่งนี้ต่างรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือน ทันใดนั้น ไนโตะ ก็มาถึงชายคนนั้น และด้วยหมัดของ ไนโตะ เขาต่อยชายคนนั้นลงไปที่พื้น
เลือดของชายคนนั้นซึมไปตามรอบแตกของพื้นอย่างช้า ๆ
“ฆ่าคนที่นี่ ไม่ผิดใช่ไหม?”
ไนโตะ ดึงหมัดของเขากลับอย่างช้า ๆ และมองไปที่นินจาที่ดูแลที่นี่อยู่
ในเวลานี้ นินจาที่มองดูอยู่ก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก และในที่สุดพวกเขาก็รู้ถึงตัวตนที่แท้จริง ไนโตะ ในทันที
ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ!!
ไม่ใช่แค่นินจาเท่านั้นที่ตกใจกับการที่ ไนโตะ โจมตี ชายร่างใหญ่คนนั้น แต่ผู้คนในที่นั้นก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากตกใจกับสิ่งที่เห็นเช่นกัน
สำหรับนินจาที่อยู่ใกล้ ๆ พวกเขาทั้งหมดหยุดหายใจเมื่อพวกเขาจำ ไนโตะ ได้!
และนินจาคนอื่น ๆ ที่จำเขาได้ตั้งแต่ต้นก็ดูตกใจ
ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ!
“นั่นคือเขาจริง ๆ !”
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นั่นคือเขาจริง ๆ!”
“เขาดูเด็กกว่าที่ฉันคิดไว้ แต่แรงดันจักระที่น่ากลัวขนาดนี้ คงเป็นใครไม่ได้นอกจากเขา”
นินจาหลายคนมองหน้ากัน พวกเขาไม่อย่ากเชื่อว่า ไนโตะ จะเป็นเด็กคนนี้!
นินจาที่ดูแลอยู่สูดหายใจเข้าลึก ๆ และเขาแทบจะไม่สามารถระงับความตกใจในหัวใจของเขาได้ จากนั้นเขาก็พูดอย่างช้า ๆ ว่า “ไม่มีปัญหาแน่นอน คุณไม่ต้องทำอะไรกับศพ เดียวเราจัดการเอง”
ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีกฎใด ๆ มีแค่พลังเท่านั้น
ตอนที่ 166
“งั้นก็ดี”
ไนโตะ พยักหน้า และจากนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลาอีกต่อไปเขาก็เดินไปข้างหน้าทันที เขาก็เดินตรงไปที่นินจาที่ดูแลแผนกข่าวกรองข้อมูลเพื่อมองหาข้อมูลเกี่ยวกับ ดาบคุซานางิ
ที่เก็บม้วนข้อมูลของตลาดมืด ไม่ละเอียดเท่า ที่เก็บม้วนข้อมูลของหน่วยลับ แต่เนื่องจาก ดาบคุซานางิ เคยปรากฏในตลาดมืด ดังนั้นที่นี่ก็ควรมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมัน
แน่นอนว่าหลังจากที่ ไนโตะ จ่ายค่าสินค้าแล้ว เขาก็รับข้อมูลที่เขาต้องการ
หนึ่งใน ดาบคุซานางิ ที่มีชื่อว่า ดาบโทซึกะ ถูกใช้โดยนินจาที่ชื่อว่า “มือเลือด” นินจาคนนี้ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
ไนโตะ ยังได้ถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนินจาคนนั้นด้วย แต่ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาน้อยมาก
แม้แต่เครือข่ายข่าวกรองของตลาดมืดก็ไม่ทราบตำแหน่งของเขา
การขาดข้อมูลเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าผิดหวังเล็กน้อยสำหรับ ไนโตะ แต่ยังโชคดีที่เขาคือ ตระกูลคุซานางิ ทำให้เขาสามารถสัมผัสถึงมันได้เสมอ
ท่ามกลางความผิดหวัง แต่แล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน!
ในม้วนข้อมูลที่เขาได้มาใหม่ มันบอกถึงที่อยู่ของดาบเล่มที่ 3 ที่เป็นของ ซาสึเกะ ในอนาคต!
และจากข้อมูลมันบอกว่าตอนนี้ ดาบอยู่ใน หมู่บ้านซึนะ!
ข่าวนี้ไม่มีประโยชน์ต่อนินจาคนอื่น ๆ เพราะไม่มีใครคิดจะไปไกลถึง หมู่บ้านซึนะ เพื่อแค่ไปเอาดาบ
เพราะมันเป็นไปไม่ได้!
แต่ ไนโตะ นั้นแตกต่างออกไป เขาไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับทั้งหมู่บ้านด้วยตัวเอง!
ตามเรื่องราวในการ์ตูน เดอิดาระ ก็สามารถโจมตี หมู่บ้านซึนะ ได้ด้วยตัวคนเดียว และยังสามารถจับ กาอาระ คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 5 ต่อหน้าต่อตาคนทั้งหมู่บ้าน และแน่นอนว่า ไนโตะ มีพลังมากกว่า เดอิดาระ!
“หมู่บ้านซึนะ…เอิ่ม…ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลามากกว่าที่เราคิดแฮ๊ะ”
ไนโตะ พึมพำออกมา พร้อมกับดวงตาที่เย็นชาของเขา
หมู่บ้านโคโนฮะ ในตอนนี้กำลังพยายามบุกเข้าสู่ แคว้นแห่งลม และพวกเขากำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับ หมู่บ้านซึนะ ซึ่งหนึ่งในนินจาที่เป็น ผู้นำทัพโคโนฮะ ในครั้งนี้ก็คือ ซึนาเดะ ทำให้ ไนโตะ มีเหตุผลเพียงพอที่จะไปช่วยพวกเขาในสนามรบ
โดยไม่ต้องพูดถึงว่าหนึ่งใน ดาบคุซานางิ เหมือนจะอยู่ในมือของ หมู่บ้านซึนะ
หลังจากที่ได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว ไนโตะ ก็ค่อย ๆ เดินออกจากตลาดมืดไป
สายตาจำนวนมากจับจ้องมาที่ ไนโตะ ดวงตาเหล่านี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความโลภ หลังจากเรื่องราวทั้งหมด ชื่อของ ไนโตะ ก็ได้เข้าไปอยู่ในรายชื่ออันดับต้น ๆ ของคนที่มีค่าหัวในตลาดมืดและเงินรางวัลนั้นก็สูงมาก
แต่นินจาเกือบทั้งหมดที่อยู่ในตลาดมืดก็ไม่มีใครคิดที่จะโจมตีเขา
ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ผู้คนหลายพันคนถูกฆ่าตายด้วยมือของเขา และ 1 ใน 5 คาเงะ ที่แข็งแกร่งที่สุด ต้องพ่ายแพ้ให้แก่เขา นอกจากนี้เขาพร้อมกับ 3 นินจามือขวาของ โฮคาเงะ ก็ยังเอาชนะ ฮันโซ ได้และเป็นเหตุทำให้ โคโนฮะ ชนะสงครามครั้งนั้นในที่สุด
ข้อมูลพวกนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่พวกเขาจะไม่คิดจะโจมตี ไนโตะ
แน่นอนว่า มีบางคนที่ถูกครอบงำด้วยความโลภ
หลังจากที่ ไนโตะ ออกจากตลาดมืดมาแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามีบางคนกำลังตามเขามา เพื่อรอโอกาสที่จะโจมตีเขาแต่ ไนโตะ ก็จัดการฆ่าเขาโดยที่ไม่ต้องหันหลังกลับ เขาแค่สะบัดมือไปด้านหลังแล้วส่งคลื่นสั่นสะเทือนไปเพียงเท่านั้น
สำหรับคนอื่น ๆ ที่เหลือ เมื่อเห็นแบบนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าโจมตี ไนโตะ อีกต่อไป
แต่เมื่อ ไนโตะ กำลังจะกลับไปที่ค่าย เปลวไฟจากคาถานินจาที่รุนแรงก็พุ่งตรงมาที่ ไนโตะ จากทางด้านข้าง
“คาถาไฟ : บั้นศีรษะ!!”
“คาถาลม : พลังขับทำลาย!!”
ในชั่วพริบตา คาถานินจาที่ทรงพลังทั้ง 2 ก็ผสานเข้าด้วยกัน กลายเป็นเปลวไฟที่โหมกระหน่ำครั้งใหญ่ ที่พุ่งตรงไปหา ไนโตะ
แม้ว่าพวกมันจะเป็นเพียงแค่คาถานินจาระดับ B แต่ด้วยความสามารถในการแปลงคุณสมบัติจักระของผู้ใช้วิชา จึงทำพวกมันรุนแรงขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับ มาดาระ แต่มันก็น่ากลัวมากอยู่ดี
หลังจากที่ คาถาลม และ คาถาไฟ ผสานเข้าด้วยกัน คาถานั้นก็รุนแรงใกล้เคียงกับ คาถานินจาระดับ S !
คลื่นเปลวเพลิงที่น่าสยดสยองพุ่งเข้าหา ไนโตะ และดูเหมือนว่ามันจะสามารถทำให้เขากลายเป็นเถ้าถ่าน
อย่างไรก็ตาม ในการเผชิญหน้ากับคาถานินจาที่น่าสยดสยองขนาดนี้ แต่ ไนโตะ ก็แค่ต่อยหมัดออกไปด้วยท่าทางที่สงบนิ่ง
ตู้ม!!!
ทันทีที่เขาต่อยออกไป อากาศทั้งหมดก็เริ่มสั่น
พลังสั่นสะเทือน ได้พัฒนามาถึงขั้นที่ 4 แล้ว ด้วยการชกเพียงครั้งเดียวพื้นที่ทั้งหมดด้านหน้าของ ไนโตะ ก็ถูกทำลายไปทั้งหมด
คาถาไฟต้านทานการโจมตีของ ไนโตะ ได้เพียงไม่กี่วินาที มันก็ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง แต่ พลังสันสะเทือน ก็ยังคงระเบิดออกไปอีกไกล
ตู้ม!
พื้นดินถูกทำลายในทันที
นินจาที่แอบเข้าโจมตี ไนโตะ ก็มีสีหน้าที่น่าตกใจเมื่อเห็นภาพนี้
“แม้แต่การแปลงคุณสมบัติจักระของฉันก็ถูกทำลาย…แข็งแกร่งกว่าข้อมูลที่บอกไว้อีกสินะ!”
วินาทีต่อมาร่างของคนคนนั้นก็กระโดดออกมาจากด้านหลังก้อนหิน และถอยออกไปด้านข้าง
พลังสั่นสะเทือน ยังคงพุ่งตรงไปจนกระทั่งมันกระแทกเข้ากับก้อนหินที่เมื่อกี้เขาซ่อนตัวอยู่ จนทำให้มันแตกออกเป็นชิ้น
“เป็นคุณจริง ๆ ด้วยสินะ!”
ในตอนแรก ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อมองไปที่คนคนนั้น เขาคิดว่าคนที่จะใช้คาถาระดับนั้นได้คงจะเป็นคนที่มีฝีมือ แต่เขาไม่คิดว่าจะเป็นคนคนนี้
1 ในสมาชิกของ แสงอุษา ในอนาคต และเป็นคู่หูกับ ฮิดัน เขาคือ คาคุซึ !
ในตอนนี้ แสงอุษา ยังไม่ได้ถูกก่อตั้งขึ้น และ คาคุซึ ก็ยังคงเป็นนักล่าค่าหัวในตลาดมืด
หากจะมีใครที่กล้าหมายหัว ไนโตะ ก็ต้องเป็น คาคุซึ คนเดียวเท่านั้น!
สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือเงินและค่าหัวของ ไนโตะ ก็สูงมาก!
“แกรู้จักฉันงั้นเหรอ?”
เมื่อ คาคุซึ ได้ยินคำพูดของ ไนโตะ เขาก็สงสัยและยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง
ไนโตะ มองไปที่ คาคุซึ ด้วยสายตาที่เย็นขา “คุณไม่อยากทำแบบนี้หรอก”
“ก็ใช่ แต่ค่าหัวแกก็สูงมากพอที่จะทำให้แกเป็นเป้าหมายของฉัน”
คาคุซึ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยความเย็นชา เขารู้ว่า ไนโตะ ทรงพลังเพียงใด ดังนั้นเขาจึงเอาจริงตั้งแต่เริ่ม
ฟึ๊บ! ฟึ๊บ!!
ก้อนเส้นใยประสาทสีดำโผล่ออกมาจากร่างของเขาเหมือนเป็นปีศาจที่กำลังปีนออกมาจากนรก จากนั้นก็มีหน้ากากหลายอันปรากฏออกมาที่ก้อนสีดำเหล่านั้น และพวกมันก็ออกมายืนอยู่ข้าง ๆ เขา
“ถ้าแกคิดว่าสามารถหยุดวิชาประสานของฉันได้ละก็ งั้นก็ลองนี้ดู!”
“คาถาไฟ : บั้นศีรษะ!!”
“คาถาลม : พลังขับทำลาย!!”
“คาถาดิน : หอกดิน!”
ตู้ม!!
มันคล้ายกับการโจมตีก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้เขาได้เพิ่มคาถาดินเข้าไปด้วย
แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น!
หน้ากากอีก 2 ตัว ก็พุ่งมาขนาบข้าง ไนโตะ จากนั้นมันก็ใช้ คาถานินจา ออกมา
“คาถาน้ำ : คลื่นคลั่ง!”
“คาถาสายฟ้า : ความมืดเทียม!”
ตู้ม!!!
ท้องฟ้าสั่นสะเทือน ขณะที่คาถานินจาทั้งหมดผสานเข้าด้วยกันก่อให้เกิดเป็นคาถานินจาที่ทรงพลัง!
ตอนที่ 167
การโจมตีด้วยคาถานินจาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสถานที่
แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะรวมคุณสมบัตรจักระไฟกับน้ำเข้าด้วยกัน ดังนั้น คาคุซึ จึงใช้คาถาทั้ง 2 อย่างจากทั้ง 2 ด้านของ ไนโตะ
“คาคุซึ…คนคนนี้แข็งแกร่งจริง ๆ ทั้งจักระและวิชาที่เขาใช้ ถึงเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ คาเงะ แต่เขาก็เข้าใกล้มากแล้ว”
แต่การแสดงออกของ ไนโตะ ก็สงบลงเมื่อเขามองดู ลม เปลวไฟ สายฟ้า และคาถานินจาจากคุณสมบัติจักระทั้ง 5 ธาตุ ที่กำลังตรงมาหาเขา
ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็ยื่นมือทั้ง 2 ข้างออกไปและทันใดนั้น ดาบคุซานางิ ก็ปรากฏออกมาแล้วเขาก็จับมันด้วยมือทั้ง 2 ข้าง
ฟึ๊บ!!
ทันใดนั้น คลื่นพลังสั่นสะเทือน ก็ออกมาทันทีที่เขาฟันดาบออกไป
ดูเหมือนว่ามันจะออกมาอย่างช้า ๆ แต่มันก็เร็วมาก
ในไม่ถึง 2 วินาที คลื่นพลังนั้นก็พุ่งไปทั่วทั้งสนาม มันพุ่งเข้าไปทำลาย การโจมตีผสานของ คาถาน้ำ กับ คาถาสายฟ้า และ คาถาไฟ และ คาถาลม!
แต่มันไม่หยุดแค่นั้น!
คลื่นพลังสั่นสะเทือน พุ่งตรงไปหา ร่างหน้ากาก 2 ร่าง แล้วทำลายพวกมันทันที!
“อะไรกัน?!”
ในตอนนี้ คาคุซึ มีท่าทางที่น่าสะพรึงกลัวมาก
ในการเผชิญกับการโจมตีด้วยคาถานินจาพร้อมกันทั้ง 5 ธาตุ แต่ ไนโตะ ก็สามารถทำลายมันได้ทั้งหมด และยังทำลาย หน้ากาก ของเขาได้อีก 2 อันอีกด้วย!
พลังอะไรกัน!
ข้อมูลที่เขาได้มาเป็นเรื่องโกหก ด้วยพลังอำนาจขนาดนี้ ไนโตะ ไม่จำเป็นต้องให้ ซาคุโมะ ช่วยในการต่อสู้กับ ซึจิคาเงะ
และเขาก็ต้องสามารถต่อสู้กับ ฮันโซ ได้ด้วยตัวคนเดียว!
ข้อมูลที่ คาคุซึ ได้มานั้น…ผิดทั้งหมด และเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะตายในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะหนีไปอย่างไม่ลังเล
แต่ ไนโตะ จะปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ?!
แม้ว่าในอนาคต คุณจะได้เป็นสมาชิกของ แสงอุษา แต่ถ้าหากคุณกล้าต่อสู้กับ ไนโตะ คุณก็ต้องรับมือกับความโกรธของเขาให้ได้!
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็พุ่งออกมาจากควันไฟ แล้ววิ่งตรงเข้าหา คาคุซึ ที่กำลังจะหนีในทันที
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!!!
ทุกคมดาบที่ ไนโตะ ฟันออกไปทำให้ คลื่นสั่นสะเทือน ระเบิดออกและทำลายหัวใจของ คาคุซึ ได้ทุกครั้งที่เขาฟันออกไป
เมื่อ ไนโตะ แกว่งดาบออกไปครั้งสุดท้าย ร่างของ คาคุซึ ก็แยกออกเป็น 2 ส่วน พร้อมกับก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของเขา!
ความตกใจในสายตาของ คาคุซึ ยังคงชัดเจน
นี่ฉันจะตายแล้วเหรอ?
ฉันเคยเผชิญหน้ากับตำนานอย่าง ฮาชิรามะ แต่ฉันก็รอดชีวิตมาได้ แต่ตอนนี้ฉันต้องมาตายด้วยน้ำมือของ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ
ในวินาทีต่อมา หัวใจของ คาคุซึ ก็หยุดเต้น!
ไนโตะ มองดูที่ศพโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่เขาทำนี้ จะส่งผลต่อเหตุการณ์ในอนาคตหรือไม่
สิ่งเดียวที่เขาคิดคือ อุจิฮะ มาดาระ
ไม่มีที่สำหรับผู้อ่อนแอ
หากใครกล้าเผชิญหน้ากับ ไนโตะ และดาบของเขา เขาจะไม่มีความเมตตากับคนคนนั้นเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็น ดันโซ ก็ตาม หาก ดันโซ กล้าสร้างปัญหาให้กับเขา เขาก็จะฆ่าอย่างไม่ลังเล!
แต่ถ้าเขาฆ่า ดันโซ แล้ว โคโนฮะ จะเป็นยังไงล่ะ แล้ว ซารุโทบิ ล่ะ?!
…..
ไม่นานจากนั้น ไนโตะ ก็เดินทางกลับไปยังบ้าน
โคนัน และ ยาฮิโกะ ยังคงฝึกฝนอยู่และในที่สุดพวกเขาก็พัฒนามาจนถึงนินจาระดับ จูนิน แล้ว และ พวกเขาจะปลอดภัยใน แคว้นแห่งฝน นี้
ตราบใดที่พวกเขาไม่ไปต่อสู้กับนินจาคนอื่น ๆ ก็จะไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ยังไม่ได้คิดที่จะออกจากแคว้นแห่งนี้และยังไม่คิดที่จะไปที่ หมู่บ้านซึนะ
เพราะ ไนโตะ ก็ยังไม่รู้ว่า ดาบคุซานางิ อยู่ที่ หมู่บ้านซึนะ จริงหรือไม่ และการไปที่นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องสู้กับทั้งหมู่บ้านด้วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้กลัว และตราบใดที่พลังของพวกเขายังไม่ถึงระดับ คาเงะ ด้วยพลังของ ไนโตะ ก็สามารถทำลายกองทัพของพวกเขาได้ทั้งหมด
แต่นั่นจะง่ายกว่านี้ถ้าเขามี เนตรสีขาว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาถ้าเขามีมันเขาจะแข็งแกร่งกว่านี้อย่างแน่นอน!
เมื่อ ไนโตะ เปิดประตูด่านพลังบานที่ 3 ได้ ประสาทสัมผัสของเขาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ว่านินจาจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็จะมีการสั่นสะเทือนในทุกการกระทำที่พวกเขาทำ แม้ว่าการสั่นสะเทือนเหล่านี้จะบางเบามาก
เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแบบนี้ได้
อย่างไรก็ตาม พลังสั่นสะเทือน ของ ไนโตะ ก็ทำให้เขาสามารถรู้สึกถึงมันได้!
ในระหว่างที่ ไนโตะ ต่อสู้กับ คาคุซึ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงการโจมตีของ คาคุซึ จากด้านข้างได้โดยไม่หันไปมอง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงมันอย่างชัดเจน
สิ่งนี้ไม่สามารถทำในตอนที่ พลังสั่นสะเทือน ของเขายังอยู่ในขั้นที่ 3 แต่เมื่อพลังของเขามาถึงขั้นที่ 4 ความสามารถนั้นก็ถูกพัฒนาจนสมบูรณ์แบบ
เมื่อ ไนโตะ กลับมาถึงบ้าน เขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องของเขา แต่เขาเข้าไปนั่งที่ชายคาที่เงียบสงบของบ้าน จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้แล้วเขาก็หลับตาและพยายามรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนรอบ ๆ ตัวเขา
คนธรรมดาจะไม่สามารถสัมผัสถึงคาถานินจาระดับ A ได้โดยไม่ต้องมอง
คาถานินจาระดับ B และ C นั้นก็ยากเข้าไปอีกที่จะสัมผัสได้
ไม่ต้องพูดถึงคาถานินจาระดับ D หรือการซุ่มโจมตีด้วยดาบ มันเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะรู้สึกถึงมัน
ในตอนนี้ ไนโตะ สามารถสัมผัสได้ถึง มีดคุไน หากมันจะโจมตีเขาจากทางด้านหลัง เขาสามารถสัมผัสและตรวจจับระยะโจมตีของมัน
จากที่ที่ ไนโตะ นั่งอยู่ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของ ยาฮิโกะ ในขณะที่ ยาฮิโกะ กำลังฝึกปา มีดคุไน อยู่ และเขาก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้ โคนัน กำลังฝึก คาถากระดาษ ของเธออยู่
อย่างไรก็ตาม เขาต้องการสัมผัสให้ได้มากกว่านี้
หลังจากที่ ไนโตะ หลับตา เขาก็พยายามทำจิตใจให้ว่างและพยายามรู้สึกถึงสถานที่รอบ ๆ ตัวเขา เขาพยายามสัมผัสให้ถึงจุดที่ลึกที่สุด ดิ่งลึกลงไปถึงสถานที่ที่ลึกมากจนแม้แต่เสียงของ มีดคุไน หรือ ดาวกระจาย ก็ไม่สามารถลงไปถึงได้
สิ่งที่ ไนโตะ พยายามทำตอนนี้คือการเพิ่มความสามารถในการรับรู้ของเขา
ไนโตะ หลับตาฟังเสียงฝนที่ตกลงมา
เขาไม่รู้ว่าเขาใช้เวลานานเท่าใด แต่ในที่สุดเขาก็ดิ่งลึกลงไปในจุดที่ลึกที่สุด ทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์
ฝนตกลงบนพื้น
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็รู้สึกราวกับว่าเขากำลังมองมันด้วยตาของเขาเอง
แต่ไม่ใช่แค่นั้น เขาเห็นแม้กระทั่ง ฝนที่ตกลงมาแล้วกระทบกับแมลงสาบที่อยู่บนพื้น เขาเห็นมันได้อย่างชัดเจน
ด้วยการสัมผัสทั้งหมดนี้ โลกแห่งความมืดในใจของ ไนโตะ ก็เปลี่ยนไปราวกับว่ามันถูกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นอย่างสมบูรณ์
ฝนหยดที่ 2 , หยุดที่ 3 , หยดที่ 4…
ฝนที่ตกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ในใจของ ไนโตะ เต็มไปด้วยเม็ดฝนที่กำลังตกอยู่ในความมืด
แม้แต่เส้นทางการเคลื่อนที่ของฝนทุกหยดในโลก เขาก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ตอนที่ 168
“โลกที่แตกต่าง…”
ไนโตะ ยื่นมือออกไป และทันใดนั้นฝนก็ตกลงมาบนปลายนิ้วของเขา
จากนั้นฝนอีกหยดหนึ่งก็ตกลงมาใส่ฝนหยดแรก
จ๋อม!!
เสียงของน้ำ 2 หยดชนเข้าด้วยกัน มันไม่ควรจะมีใครได้ยินมัน แต่ในโลกแห่งการรับรู้ด้วยสัมผัสนี้ ก็ทำให้ ไนโตะ ได้ยินเสียงมันอย่างชัดเจน
ตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่เขาไม่ลืมตา
“เนตรสีขาว สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด 360 องศา มันเป็นเนตรที่ทรงพลังมาก สามารถมองทะลุได้ถึงระดับเซลล์และมองออกไปไกล ๆ ได้”
แต่ความสามารถของเขานั้นต่างออกไป
อันที่จริงแล้ว ไนโตะ ไม่จำเป็นน้องหลับตา และเมื่อเขาลืมตาเขาก็จะสามารถสัมผัสได้ทั้งโลก
เหตุผลที่เขาหลับตาก็เพราะเขาอยากรับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือนของทั้งโลก
ไนโตะ ค่อย ๆ ยกมือของเขาขึ้น และทันใดนั้นก็มีควันสีขาวปรากฏขึ้น จากนั้น ดาบคุซานางิ ก็ปรากฏออกมา
ไนโตะ จับดาบของเขาด้วย 2 มือและโดยไม่ใช้พลังของเขา เขาฟันดาบออกไปตัดเม็ดฝนที่ตกลงมาตรงหน้าของเขา
ฟึ๊บ!
ฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าถูกตัดออกเป็น 2 ส่วนกลางอากาศ
จากนั้น ไนโตะ ก็ฟันดาบออกไปหลายครั้ง และตัดฝนที่ตกลงมาทุก ๆ เม็ด
แน่นอนว่า เนตรวงแหวน สามารถทำแบบนี้ได้เช่นกัน แต่ ไนโตะ ไม่มี
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไนโตะ ก็เก็บดาบกลับไปแล้วลืมตาขึ้น และมองดูไปรอบ ๆ จากนั้นเขาก็พูดออกมาเบา ๆ
“แบบนี้สินะ?”
“ไม่ เราน่าจะทำได้มากกว่านี้”
ไนโตะ เชื่อว่าสัมผัสของเขาทำได้มากกว่าการโจมตีน้ำฝน
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ ไนโตะ ยังไม่สามารถมองเห็นเป็นพื้นที่ทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ในตอนที่เขาหลับตาเขายังคงเห็นเป็นแค่โลกมืด ๆ ที่มีฝนตกเท่านั้น
“คนธรรมดาไม่สามารถรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแบบนี้ แต่เราทำได้ ปัญหาก็เรายังมีประสาทสัมผัสทั้ง 5 อยู่ ซึ่งมันมีผลต่อการสั่นสะเทือนในอากาศ”
หลังจากคิดอยู่สักพักหนึ่ง ไนโตะ ก็จุดประกายความคิดบางอย่างขึ้น และในที่สุดเขาก็รู้ว่าเขาจะสามารถพัฒนาสัมผัสพิเศษของเขาได้อย่างไร
หลังจากนั้น ไนโตะ ก็ค่อย ๆ ปิดกั้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเขาทีละอย่าง
การได้กลิ่น และการได้ยิน ไนโตะ สามารถปิดกั้นมันได้อย่างง่ายดาย แต่การสัมผัสด้วยร่างกายนั้นค่อนข้างปิดกั้นได้ยาก แต่สำหรับเขา ตราบใดที่เขายังคงพยายามเขาก็จะทำมันได้ในที่สุด
เมื่อ ไนโตะ สามารถปิดกั้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเขาได้ ในที่สุดโลกเบื้องหน้าเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
เขาเห็นภาพอย่างชัดเจนเมื่อเขาหลับตา แม้ว่ามันจะไม่มีสี แต่ภาพขาวดำของทัศนียภาพต่าง ๆ ก็ชัดเจนมาก!
“ถ้าทุกสิ่งในโลกมีการสั่นสะเทือนเป็นของตัวเอง อย่างนั้นเราก็สามารถรับรู้ทุกสิ่งที่อยู่ในโลกนี้ได้อย่างงั้นเหรอ? ไม่ มันมากกว่าที่เราต้องการ”
แม้ว่าทุกสิ่งรอบตัวเขาจะเป็นขาวดำ แต่ภาพก็ชัดเจนมาก
ไนโตะ สามารถสัมผัสได้ทั้งวิถีการเคลื่อนที่ของฝนและอากาศ
หลังจากที่ ไนโตะ ปิดกั้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเขาแล้ว แม้ว่าลมจะบางเบา แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้
ไนโตะ สามารถสัมผัสได้ถึงทุกอย่างในธรรมชาติผ่านการไหลของอากาศ
ไนโตะ ยืนขึ้นแล้วเดินออกไป เขาค่อย ๆ ยกเท้าขึ้นและเหยียบลงบนพื้นอย่างช้า ๆ
เขาพยายามที่จะไม่ใช้กำลังมากไป เขาเดินเบามาก จนเหมือนหยดน้ำที่กำลังตกลงสู่ทะเลสาบที่สงบ
ด้วยความสามารถนี้ ทำให้เขาเห็นภาพทุกอย่างชัดเจน และเขาก็ยังสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างพื้นดินที่เป็นโคลนกับพื้นดินแข็งได้อีกด้วย
สัมผัสของ ไนโตะ ยังคงแพร่กระจายออกไปเรื่อย ๆ
ห้องต่าง ๆ , ต้นไม้ , ทุกอย่างรอบ ๆ บ้าน , พุ่มไม้ที่อยู่ไกลออกไป , ป่า…
ดูเหมือนว่า ไนโตะ ในตอนนี้จะสามารถรวมโลกทั้งโลกเข้ากับการรับรู้ของเขา แต่ในวินาทีต่อมาเขาก็ถูกขัดจังหวะ
อะแฮ้ม!!!
ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขั้น และใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความสงสัยเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เอามือแตะคางแล้วพูดว่า “ถ้าทำสำเร็จ คงจะสนุกหน้าดู”
“…ไม่ เป้าหมายในชีวิตของฉันต้องไม่ใช่แค่นั้น”
…
ในอีกห้องหนึ่งในบ้าน
โคนัน ถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นเธอก็แช่ตัวลงไปในอ่างน้ำ
มีแค่ส่วนศีรษะของเธอที่ยังคงอยู่เหนือน้ำ ในขณะที่ใบหน้าของเธอมีแต่ความเศร้าโศก
“ฉันรู้ดีว่ายังไงสักวันหนึ่ง ครูไนโตะ ก็ต้องจะจากเราไป”
“แคว้นแห่งฝน ไม่ใช่บ้านของ ครูไนโตะ แต่อย่างน้อยก่อนที่เขาจะไป ฉันก็อยากให้เขาภูมิใจในความแข็งแกร่งของฉันก่อน”
เธอพึมพำกับตัวเอง แต่ความเศร้าบนใบหน้าของเธอก็ไม่หายไป
……
อีกครั้งหนึ่งที่ ไนโตะ เข้าสู่สมาธิและทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง
ในที่สุด ไนโตะ ก็เข้าสู้โลกแห่งสัมผัสพิเศษได้อีกครั้ง
ในไม่ช้าสัมผัสของ ไนโตะ ก็กระจายเลยบ้านไปและยังคงแผ่ขยายออกไปไกล เขาพยายามที่จะไปจนถึงขีดสุดของของเขตการสัมผัสที่เขาจะทำได้
แต่ทันใดนั้น ร่างที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดใกล้ ๆ บ้านก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ในสัมผัสของเขา!
ไนโตะ ไม่เคยรู้สึกถึงการมีอยู่ของเขามาก่อน
หลังจากที่สัมผัสของ ไนโตะ ครอบคลุมเป็นวงกว้าง ไนโตะ ก็เห็นเขา
มันไม่ใช่นักลอบสังหาร…มันคือ เซ็ทสึ!
“กำลังแอบดูฉันงั้นเหรอ?”
ไนโตะ รู้สึกแปลกใจและเขาก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อุจิฮะ มาดาระ เป็นคนที่ส่ง เซ็ทสึ มา!
นานแค่ไหนแล้วที่ เซ็ทสึ แอบดูเขาอยู่
ในเวลาต่อมา ไนโตะ ก็ออกจากสมาธิและเปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 กลับมา จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นและยืนขึ้นเพื่อยืดร่าง
ไนโตะ แสร้งทำเป็นเปิดประตูบ้านเพื่อเข้าบ้านราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทันใดนั้นดวงตาของเขาเปล่งประกาย
ตู้ม!
ในวินาทีต่อมาพื้นดินใต้เท้าของเขาก็แตกออกและรอยแตกก็เริ่มแพร่กระจายออกไป
ทันใดนั้น ฝนก็เหมือนถูกแช่แข็งกลางอากาศ ขณะที่ ไนโตะ หันหลังกลับและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งดึงดูดความสนใจของ โคนัน ที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จ ดังนั้นเธอจึงเดินออกมาดู
ครูไนโตะ กำลังฝึกคาถาใหม่งั้นเหรอ?!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น