The Strongest Hokage 147-161
ตอนที่ 147
เมื่อรวมกันแล้ว ไนโตะ และ ซาคุโมะ ก็สามารถกำจัด นินจาอิวะ ได้เป็นจำนวนมาก
แม้ว่า โอโนกิ จะมีวิชา คาถาธุลี ที่สามารถจัดการกับ กองทัพโคโนฮะ ได้ทั้งหมดในครั้งเดียว แต่มันก็ถูกหยุดโดย ไนโตะ และ ซาคุโมะ จนเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
อาจกล่าวได้ว่า การต่อสู้ระหว่างคนทั้ง 3 นี้ เป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ของสงครามทั้งหมด แม้ว่า หมู่บ้านอิวะ จะมีนินจาอยู่อีกหลายร้อยคนที่หมู่บ้าน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถลงสู่สนามรบครั้งนี้ได้ เพราะหากพวกเขาไม่มีนินจาคอยปกป้องหมู่บ้าน หมู่บ้านของพวกเขาจะต้องถูกลอบโจมตีและทำลายโดย หมู่บ้านซึนะ อย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่า ความพ่ายแพ้ของ ซึจิคาเงะ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ กองทัพอิวะ สูญเสียกำลังใจ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้บัญชาการหน่วยลับ ก็ยังถูกสังหารในสนามรบอีกด้วย!
อาจกล่าวได้ว่า หมู่บ้านอิวะ ถูกตัดสิทธิ์ออกจาก มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ไปแล้ว
หมู่บ้านที่ยังคงต่อสู้อยู่ในสงครามครั้งนี้ก็คือ หมู่บ้านอาเมะ หมู่บ้านซึนะ และ หมู่บ้านโคโนฮะ
……
แคว้นแห่งไฟ
หมู่บ้านโคโนฮะ
ที่ประตูหลักของหมู่บ้าน มี นินจาหน่วยลับระดับสูง ยืนรวมตัวกันอยู่หลายสิบคน พวกเขาส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าทีม และที่เหลือคือนินจาในทีมของพวกเขา
พวกเขาเป็นนินจาที่มีระดับสูงกว่า โจนิน ทุกคน เพราะพวกเขาคือ หน่วยสนับสนุนฉุกเฉิน นินจาที่ดีที่สุดเท่านั้นถึงจะได้คัดเลือดเข้ามาอยู่ในหน่วยนี้ และหัวหน้าหน่วยนี้ก็คือ โฮคาเงะ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้นำไม่ควรจะเป็นใครอื่นนอกจาก โฮคาเงะ !
“ท่านซารุโทบิ เราพร้อมแล้ว รีบไปกันเถอะครับ!”
นินจาคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซารุโทบิ รายงานความพร้อม เขาเป็นโจนินฝึกหัดเพียงคนเดียวในหน่วยนี้ และเขาก็คือ ไมโตะ ได
ในปีนี้ ไมโตะ ได ได้รับการเลื่อนระดับจาก เกะนิน ให้เป็น โจนินฝึกหัด และเขาก็เกือบจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็น จูนิน แล้ว
ได ได้ยินมาว่า ซึจิคาเงะ ได้เข้าร่วมในสนามรบด้วย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเป็นห่วง ไนโตะ มาก
ได ใช้ชีวิตแบบเดียวกับ ไก เขาไม่ได้มีเพื่อนคนอื่น เพื่อนคนแรกและคนเดียวที่เขามีคือ ไนโตะ แต่ ไนโตะ ไม่ใช่แค่เพื่อนของ ได เท่านั้น แต่ ไนโตะ ยังเป็นศิษย์ของ ได ด้วย
เมื่อก่อน เด็กคนนั้นชอบสะกดรอยตาม ได และขอให้เขาสอนวิธีการเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 และตอนนี้เด็กคนนั้นก็แข็งแกร่งได้เพราะวิชานี้ จนผู้คนให้ฉายาว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ
ในตอนนี้ ไก ได้เกิดขึ้นมาแล้ว
นอกจากภรรยาและลูกชายของเขาแล้ว คนคนเดียวที่เขาห่วงใยคือ ไนโตะ
“ได อย่าให้อารมณ์ควบคุมเธอ การรีบเร่งทำอะไร ไม่เคยดี”
ซารุโทบิ พยายามพูดปลอบใจ ได ด้วยน้ำเสียงที่สงบ แต่ข้างในลึก ๆ แล้วเขาก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากและดวงตาของเขาก็เยือกเย็นมาก
ซึจิคาเงะ ไม่สนใจฐานะของเขา เหมือนการดูหมิ่นตำแหน่ง คาเงะ และเข้าร่วมในสนามรบ เขาควรตำหนิตัวเองหากเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับหมู่บ้านของเขา!
ในแง่ของอำนาจ โคโนฮะ เป็นหมู่บ้านที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหมู่บ้านอื่น ๆ แม้ว่าจะเคยถูกหมู่บ้านอื่น ๆ โจมตีมาในอดีต แต่ โคโนฮะ ก็สามารถรักษาอาณาเขตของพวกเขาไว้ได้ทั้งหมด
นี่คือพลังที่แท้จริงของหมู่บ้านที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนินจา!
“ไม่ต้องห่วง หากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้เจ้าพวกนั้นแน่นอน…” ซารุโทบิ พูดปลอบ
ได กัดฟันด้วยความโกรธ “ไนโตะ แข็งแกร่งมาก ถึงเขาจะแพ้ แต่เขาก็น่าจะหนีไปได้แน่นอน”
แม้แต่ ได ผู้ที่พูดคำเหล่านี้ ก็ไม่เชื่อในคำที่เขาพูดออกมา เพราะแม้ว่า ไนโตะ จะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่มีประโยชน์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ซึจิคาเงะ หนึ่งในชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก !
เมื่อ ซารุโทบิ ฟังคำพูดของ ได เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เพราะหาก ไนโตะ พ่ายแพ้ กองทัพโคโนฮะ ที่เหลือจะถูกทำลายในไม่ช้าอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องนำตัว ซาคุโมะ ออกมาให้ได้
นี้คือกรณีที่เลวร้ายที่สุด
ซารุโทบิ ไม่คิดว่า หมู่บ้านอิวะ จะส่งกองทัพมาอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งจบการต่อสู้กับ โคโนฮะ ไปไม่นาน และแน่นอนว่า ซารุโทบิ ก็ไม่คิดว่า โอโนกิ จะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยตัวเอง
ซารุโทบิ หัวหน้าหน่วยสนับสนุนฉุกเฉิน เขารวบรวมนินจาที่มีฝีมือดีที่สุดของเขา และตอนนี้พวกเขาก็พร้อมแล้วที่จะไปยังแนวหน้าในทันที
และเมื่อพวกเขากำลังจะก้าวออกจาก หมู่บ้านโคโนฮะ และพร้อมที่จะออกเดินทาง ทันใดนั้นข้อมูลฉุกเฉินจากแนวหน้าก็มาถึง
ฟึ๊บ!!
นินจาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขาและโค้งคำนับให้ โฮคาเงะ
“ท่านซารุโทบิ มีรายงานด่วนจากสนามรบครับ!”
“ว่ามา”
ซารุโทบิ สูดหายใจลึก ๆ และเตรียมใจสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
“ผู้บัญชาการกองทัพของเรา ท่านซาคุโมะ และ ไนโตะ เข้าร่วมการต่อสู้ และสามารถเอาชนะ ซึจิคาเงะ โอโนกิ ได้ การต่อสู้ยาวนานถึง 2 วัน และจบลงด้วยการตายของ ซันโดะ ซึ่งเป็น ผู้บัญชาการกองทัพอิวะและผู้บัญชาการหน่วยลับอิวะ ตอนนี้ หมู่บ้านอิวะ พ่ายแพ้อย่างราบคาบแล้วครับ!”
“กองทัพอิวะ มากกว่าครึ่งหนึ่งถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าจะมีนินจาบางส่วนหนีรอดไปได้แต่ส่วนใหญ่ก็บาดเจ็บสาหัส ดังนั้นจำนวน นินจาอิวะ ที่จะรอดกลับไปได้ถึง หมู่บ้านอิวะ ก็คงมีจำนวนน้อยมาก”
เพียงแค่ 2 ประโยคเท่านั้น ทำให้ความเงียบเข้าครอบงำบรรยากาศทั้งหมด
“เธอว่าอะไรนะ?!”
แม้แต่ ซารุโทบิ ก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน เพราะแม้แต่นินจาที่ส่งข้อมูลนี้ก็ดูตกใจมาก
สำหรับนินจาคนอื่น ๆ ในหน่วยกก็มีการแสดงออกที่ไม่น่าเชื่อบนใบหน้าของพวกเขาเช่นกัน พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่
เขาพูดว่าอะไรนะ?!
……..
ใต้ดินของโคโนฮะ
ดันโซ ไม่ได้กลับไปที่สนามรบหลังจากการประชุมครั้งล่าสุด ถ้าเขาไปที่สนามรบตั้งแต่แรก บางทีสถานการณ์คงจะไม่เลวร้ายขนาดนี้ เพราะหาก ดันโซ ร่วมมือกับ ซาคุโมะ พวกเขาก็คงจะสามารถต่อสู้กับ ซึจิคาเงะ ได้โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือ
แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถเอาชนะ ซึจิคาเงะ ได้ แต่พวกเขาก็น่าจะต่อสู้กับเขาได้อย่างเท่าเทียม
พลังของ ดันโซ นั้นเทียบได้กับนินจาระดับ คาเงะ และเขาก็มีความสามารถพิเศษและวิชาต้องห้ามมากมายอีกด้วย
ในการ์ตูน เขาไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงของเขา เขาใช้แค่เพียง เทพบิดา อิซานางิ เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วเขายังมีวิชาลับอยู่อีกมากมาย
ดันโซ ควรได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคของเขา
“โฮคาเงะ กำลังจะไปที่สนามรบเหรอ?”
ดันโซ กำลังเดินอยู่ในความมืด และดูเหมือนว่าเขากำลังพูดกับตัวเองอยู่
ฟึ๊บ!
นินจาปรากฏตัวออกมาจากควันแล้วโค้งคำนับให้กับ ดันโซ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ท่าดันโซ โฮคาเงะออกไปแล้วครับ”
“อืม”
ดันโซ พยักหน้าและกระพริบตาช้า ๆ
เมื่อ โคโนฮะ ออกไปจากหมู่บ้าน ดังนั้นคนที่ดูแลสถานการณ์ของหมู่บ้านก็คือ ดันโซ เอง
และในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นไปได้ว่า โฮคาเงะ อาจจะตกอยู่ในอันตราย เขาอาจได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
และนี่เป็นโอกาสดีสำหรับ ดันโซ ที่เขาจะได้กลายเป็นเป็นผู้นำแทน โฮคาเงะ
“ฉันอาจจะแพ้ทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ในสงครามนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะพิชิตโลกใบนี้!”
ดันโซ พูดกับตัวเองด้วยสายตาที่เย็นชาบนใบหน้าของเขา
ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายหลักของ ดันโซ คือการเป็น โฮคาเงะ !
ในการ์ตูน ดันโซ ก็ได้เป็น โฮคาเงะ ในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อตอนที่ เพน 6 วิถี เข้าโจมตีและทำลาย หมู่บ้านโคโนฮะ ดันโซ ก็ได้เข้ามารับตำแหน่ง โฮคาเงะ แทน ซึนาเดะ เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่สามารถปฏิบัติหน้าทีต่อไปได้ในขณะนั้น
ดันโซ จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่เขาจะได้เป็น โฮคาเงะ
“มันเป็นโอกาสของฉันที่จะได้เป็น…โฮคาเงะ คนต่อไป…”
ดันโซ กำลังนึกถึงภาพตัวเองที่กำลังสวมหมวกของ โฮคาเงะ อยู่ และเอาชนะทุกแคว้นในโลกนินจาและทำให้ หมู่บ้านโคโนฮะ กลายเป็นผู้นำที่แท้จริงของโลกใบนี้
แต่ในไม่กี่วินาทีต่อมา หน่วยราก ที่อยู่ต่อหน้าเขาก็ดูอึดอัดและการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับว่าเขาต้อพูดบางอย่างออกมา แต่มันเป็นสิ่งที่ขัดขวางความฝันของ ดันโซ
“เอ่อ…ท่านดันโซ…แล้วเราก็ได้รับข้อมูลเร่งด่วนจากแนวหน้าของสนามรบ”
“ข้อมูลอะไร”
ดันโซ ถามกลับ จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ
ดูเหมือน ดันโซ จะรู้ผลอยู่แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าใครจะตายก่อน ไนโตะ หรือ ซาคุโมะ แต่เขาก็คิดว่าทั้งคู่น่าจะตายอย่างแน่นอน…
“ไนโตะ และ ผู้บัญชาการของกองทัพโคโนฮะ ซาคุโมะ ทั้งคู่เข้าร่วมการต่อสู้และสามารถเอาชนะ ซึจิคาเงะ ได้ และสังหาร ซันโดะ ผู้บัญชาการของกองทัพอิวะ…โคโนฮะ ชนะสงครามครั้งนี้ครับ!”
แพ้ง!!
ถ้วยชาหล่นจากมือของ ดันโซ และตกลงบนพื้น มันแตกออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน ชาร้อน ๆ หกลงบนเสื้อผ้าของเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะเขากำลังตกใจอยู่
ตอนที่ 148
ก่อนที่สงครามครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้น ไม่มีใครรู้จักชื่อของ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ หรือ เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ เลย แต่ตอนนี้ฉายาของพวกเขานั้นโด่งดังไปทั่วโลก!
ไม่เพียงแต่พวกเขาสามารถฆ่า ผู้บัญชาการหน่วยลับอิวะ ได้เท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถเอาชนะ ซึจิคาเงะ ของ หมู่บ้านอิวะ ได้อีกด้วย!
แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ 2 ต่อ 1 แต่ ซึจิคาเงะ ก็ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 5 คาเงะ ที่แข็งแกร่งที่สุด!
และแม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ 3 ต่อ 1 มันก็ยังเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากและยังคงทำให้พวกเขามีชื่อเสียงอยู่ดี
ในการ์ตูน โอโรจิมารุ , ซึนาเดะ และ จิไรยะ ก็ได้รับฉายาว่าเป็น 3 นินจาในตำนาน มาโดยตลอด เพราะพวกเขาสามารถเอาชนะ ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ได้ในการต่อสู้ แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ 3 ต่อ 1 ก็ตาม
อาจกล่าวได้ว่าชื่อเสียงของพวกเขาทั้งหมด ถูกสร้างขึ้นจากเหตุการณ์นี้
ในอดีต ไนโตะ และ ซาคุโมะ เป็นเหมือนคนธรรมดา ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามีตัวตน
แต่จากนี้ไปชื่อของ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือด และ เขี้ยวสีขาว แห่งโคโนฮะ จะเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก!
แม้ว่า ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะยังไม่ผ่านการรับรองในระดับเดียวกับ คาเงะ แต่ชื่อเสียงของพวกเขาก็มาถึงจุดสูงสุดแล้ว!
…….
แคว้นแห่งฝน , ค่ายโคโนฮะ
ฝนตกอย่างต่อเนื่องเช่นเคย แต่ นินจาโคโนฮะ ก็ได้ทำโดมขนาดใหญ่คลุมค่ายแห่งนี้ไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาในค่าย
หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้นจบลง ซารุโทบิ ก็ออกคำสั่งไปยังทุกคนในค่ายอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ปฏิบัติต่อทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ด้วยความเคารพและให้เกียรติ
แน่นอนว่าคำสั่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผู้คนให้ความความเคารพและให้เกียรติพวกเขา
อาจกล่าวได้ว่า ไม่มีนินจาคนไหนในค่ายที่จะไม่ได้ชื่นชมและเคารพ ไนโตะ แม้แต่นินจาระดับสูงอย่าง โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ก็ชื่นชมเขาเช่นกัน พวกเขาไม่ได้ชื่นชมตามคำสั่งแต่พวกเขาชื่นชมและเกียรติเพราะความแข็งแกร่งของเขา!
และตอนนี้ ไนโตะ ก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนินจาระดับ โจนิน เรียบร้อยแล้ว
โจนิน อายุ 11 ปี
ไนโตะ ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้นมาแล้ว เพราะแม้แต่ ฮาตาเคะ คาคาชิ ก็ยังเป็น โจนิน เมื่อเขาอายุ 12 ปี
อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ ไนโตะ เกือบจะมีตำแหน่งสูงสุดแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขา เช่น ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ผู้บัญชาการหน่วยลับ และ ผู้ช่วยของโฮคาเงะ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี สมาชิกสภาสูงโคโนฮะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นตำแหน่งสูงที่สุด รองจาก โฮคาเงะ
แล้ว ไนโตะ อยู่ในตำแหน่งไหนละ?
เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางเป็น ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ได้ เพราะตำแหน่งนั้นเป็นของ ตระกูลอุจิฮะ เท่านั้น และแน่นอนว่ามันเป็นเพียงแค่ฉากหน้า เพราะคนที่ได้ตำแหน่งนี้ก็คือหัวหน้า ตระกูลอุจิฮะ และ สมาชิกของกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ต้องเป็นคนของ ตระกูลอุจิฮะ เท่านั้น
ส่วนตำแหน่ง ผู้บัญชาการหน่วยลับ นั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากความสามารถของ ไนโตะ เป็นที่รู้กันไปทั่วโลกแล้ว
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ได้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าและพลังของพวกเขาแล้ว มันจะเป็นการดีกว่าถ้าความสามารถของพวกเขาจะไม่ถูกซ่อนอยู่ในความมืด!
สำหรับตำแหน่ง ผู้ช่วยโฮคาเงะ…ปัจจุบันคือ ดันโซ เขาจะยอมสละตำแหน่งเพื่อให้ ไนโตะ มาแทนที่อย่างนั้นเหรอ?!
ไม่มีทาง!
แม้ว่าทุกคนจะทรมานเขาด้วยไฟ แต่เขาก็จะไม่ปล่อยให้ตำแหน่งของเขาไปเป็นของ ไนโตะ อย่างแน่นอน แค่ความเกลียดชังที่เขามีต่อ ไนโตะ ก็มากพอแล้วที่เขาจะปฏิเสธ
บวกกับความจริงที่ว่า ไนโตะ ยังเป็นแค่เด็กและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้เป็นหนึ่งในสภาสูง หรือเป็นคนที่จะได้รับเลือกให้เป็น โฮคาเงะ คนต่อไป
ไม่มีทาง เขาไม่น่าคิดเรื่องนี้เลยในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขาไม่สนใจตำแหน่งที่จะได้รับ สิ่งเดียวที่เขาคิดตั้งแต่แรกก็คือพลัง
พลังคือทุกสิ่ง!
ห้องพักของ ไนโตะ ได้ถูกย้ายอีกครั้งและไปตั้งอยู่ภายในสำนักงานใหญ่ของค่าย
ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไนโตะ หรือ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ เขาก็มีสิทธิที่จะอยู่ที่นั่น
“สภาพอากาศแย่จัง…แล้วเราจะฝึกได้ไหมเนี่ย”
ไนโตะ นั่งอยู่ในห้อง เขามองออกไปข้างนอกด้วยความเซง
แคว้นแห่งฝน มีน้ำอยู่ทุกที่
แม้ว่าฝนจะไม่ตกลงโดนตัวบ้านและไม่มีน้ำบนพื้นดิน แต่อากาศก็ยังคงมีความชื้นสูงอยู่มาก
น้ำเป็นสื่อกระแสไฟฟ้าที่ดี
ดังนั้น คาถาสายฟ้าจึงปั่นปวนได้ง่าย ทำให้ ไนโตะ ควบคุมมันได้ยากมากขึ้น
ปัญหาคือตอนนี้ ไนโตะ กำลังฝึก อาภรณ์สายฟ้า ขั้น 2 อยู่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สายฟ้า เป็นธาตุทีควบคุมได้ยากที่สุดในบรรดาคุณสมบัติจักระทั้งหมด มันควบคุมยากยิ่งกว่า ไฟ
เปลวไฟสามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายบนฝ่ามือและคุณสามารถเปลี่ยนมันเป็นบอลไฟได้
แต่ สายฟ้า นั้นต่างออกไป คุณจะไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้ง่าย ๆ นั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของ อุจิฮะ ซาสึเกะ ที่เขาสามารถควบคุม คาถาสายฟ้า ได้ตั้งแต่เขายังเด็ก
“สายฟ้า…”
เมื่อมองดูออร่าสายฟ้ารอบตัวเขา ไนโตะ ก็พูดออกมาเบา ๆ จากนั้นสายฟ้าก็เริ่มรวมตัวที่ฝ่ามือของเขา
มันรวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างคล้าย บอลสายฟ้า
ตู้ม!!
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สายฟ้าเริ่มอัดตัวเล็กน้อยมันก็ระเบิดออก
แต่ ไนโตะ ไม่ได้รับบาดเจ็บ!
ไม่ใช่แค่เพราะร่างกายของ ไนโตะ ที่แข็งแรงมากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการควบคุมสายฟ้าที่ดีของเขา มันจึงไม่เคยทำร้ายร่างกายของเขาได้เลย
แม้ว่าเขาจะยังไม่ถึงระดับที่จะสามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ความสามารถในการควบคุมของ ไนโตะ ก็ทำได้ดีมาก
“ถ้าเราฝึกฝนต่อไปเรื่อย ๆ ในไม่ช้า สภาพอากาศของแคว้นแห่งนี้ก็จะไม่มีผลกับเราอีกต่อไป”
ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่น จากนั้นเขาก็กลับไปฝึก คาถาสายฟ้า ต่อ
และเมื่อเขากำลังจะหลับตาอีกครั้ง เขาก็สังผัสได้ถึงจิตสังหารที่กำลังคุกคามที่แห่งนี้
มันมืดและหนาวเย็นมาก ทันใดนั้นก็มีเงาปรากฏขึ้นทางด้านหลังของ ไนโตะ !
ฟึ๊บ!!
เขาถือมีดคุไนไว้ในมือ แล้วเขาก็กำลังจะแทง ไนโตะ จากทางด้านหลัง
ในเวลาเดียวกัน ไนโตะ ก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในอากาศและจิตสังหารที่รุนแรงที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา
ลอบสังหาร!
มีดคุไนของ นักฆ่า กำลังจะถึงตัวของ ไนโตะ แล้ว มันอยู่ห่างจาก ไนโตะ เพียงแค่นิ้วเดียว แต่ทันใดนั้นก่อนที่มันจะมาถึงตัว ไนโตะ ร่างของเขาก็หายไปทันที
“อะไรกัน?!”
หัวใจของ นักฆ่า ดิ่งสงสู่ความสงสัยและความกลัวในทันที
ร่างแยกเงางั้นเหรอ? หรือ คาถาสลับร่าง?!
ไม่ใช่ มันไม่มีควัน!
ในขณะที่ นินจาคนนั้นยังคงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และเขาก็พร้อมที่จะล่าถอยอย่างรวดเร็วก่อนที่เรื่องจะเลวร้ายลงไปกว่านี้ ร่างของ ไนโตะ ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งด้านหลังของเขา
ไนโตะ จับที่หัวของเขาด้วยมือข้างเดียว
ตู้ม!!!!
พื้นดินแตกออกเหมือนใยแมงมุม ในขณะที่ ไนโตะ กดหัว นักฆ่า ลงไปที่พื้น และ นักฆ่าคนนั้นก็ทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากตาย
เลือดไหลออกมาจากหัวของเขาอย่างช้า ๆ นักฆ่ากำลังสูดลมหายใจเฮือกสุดท้ายด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ และสิ่งเดียวที่เขาคิดได้ก็คือ เขาทำได้ยังไง…ความเร็วขนาดนี้?!
“นายคิดว่านี้เป็นครั้งแรกที่ฉันถูกรอบโจมตีงั้นเหรอ น่ารำคาญจริง ๆ!”
เมื่อมองลงไปที่ศพ ดวงตาของ ไนโตะ ก็เต็มไปด้วยความเย็นชา
คนอื่นอาจตายไปแล้วหลังจากที่เขากลายเป็นเป้าหมายของ นักฆ่า แต่ไม่ใช่สำหรับ ไนโตะ เขายังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตั้งแต่ ไนโตะ กับ ซาคุโมะ เอาชนะ โอโนกิ ได้ เขาก็ตกเป็นเป้าหมายในการลอบสังหารอยู่หลายต่อหลายครั้ง
นักฆ่า เหล่านั้นมาจาก หมู่บ้านอิวะ บ้าง หมู่บ้านซึนะ บ้าง แต่บางครั้ง ไนโตะ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร
มีแม้กระทั่ง นักฆ่า บางคนก็ดูเหมือนจะมาจาก ตลาดมืด เพราะ ไนโตะ ก็ถูกตั้งค่าหัวด้วยเช่นกัน
ซาคุโมะ ไม่ได้เป็นเป้าหมายในการลอบสังหารอย่างต่อเนื่องนี้
มีเพียง ไนโตะ เท่านั้นที่ถูกหมายหัว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประเมิน ไนโตะ ต่ำเกินไป อาจเป็นเพราะพวกเขาคิดว่า ถึง ไนโตะ จะแข็งแกร่งแต่เขาก็ยังเด็ก ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งเป้าทั้งหมดมาที่ ไนโตะ
ตอนที่ 149
แม้ว่านินจาทุกคนที่พยายามฆ่า ไนโตะ จะถูก ไนโตะ ฆ่าเสียเอง แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่หยุดและยังมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งตอนนี้ สนามรบยังอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ดังนั้นการลอบสังหารจึงมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันส่งผลเสียต่อการฝึกซ้อมของ ไนโตะ
คาดว่าคงใช้เวลาอีกนานกว่าที่สถานการณ์จะดีขึ้น
หรือบางที ไนโตะ อาจจะต้องทำอะไรสักอย่างกับการลอบสังหารเหล่านี้ เขาอาจจะต้องทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ทุกคนมุ้งเป้ามาที่เขาอีก
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ในที่สุด นินจาคนหนึ่งที่ได้ยินเสียงดังมาจากห้องของ ไนโตะ ก็มาถึง จากนั้นพวกเขาก็เหลือบไปเห็นร่างของ นักฆ่า ที่บนพื้น
ไนโตะ มองไปที่นินจาข้างหน้าเขา จากนั้นก็พูดว่า “ไม่มีอะไร มันเป็นแค่นักฆ่าอีกคนที่สามารถฝ่าแนวป้องกันของเราได้”
หลังจากที่ ไนโตะ พูดออกไป เม็ดเหงื่อเย็น ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของนินจาคนนั้น
“ขอโทษครับ ท่านไนโตะ…”
“มันยากจริง ๆ ที่ จะสามารถจับตาดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายได้อย่างทั่วถึงในสถานการณ์แบบนี้ ในขณะที่ทุกคนออกไปทำภารกิจ…”
นินจาพยายามอธิบายสถานการณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้ว ไนโตะ ก็หายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วโบกมือให้นินจาคนนั้น “ช่างมันเถอะ แค่ทำความสะอาดก็พอแล้ว”
“ครับ!”
นินจาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เริ่มทำความสะอาดทันที
และในขณะที่ ไนโตะ กำลังยืนรออยู่ ร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องของเขา
“ลอบสังหารอีกแล้วเหรอ?”
ไนโตะ จำเสียงได้ทันที คนที่เดินเข้ามาคือ ซึนาเดะ เธออาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ ไนโตะ
“ใช้ครับ”
ไนโตะ พยักหน้าให้เธอแล้วพูดต่อว่า “คนพวกนี้ทำอะไรผมไม่ได้”
“แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะเป้นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ”
ซึนาเดะ รู้สึกเศร้าใจกับเขา เธอส่ายหัวขณะมองดูนินจาที่กำลังทำความสะอาด
มันน่ารำคาญจริง ๆ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง นินจาคนนั้นก็ทำความสะอาดเสร็จ ทันใดนั้น ซึนาเดะ ก็มองไปที่ ไนโตะ และพูดว่า “ถ้าเธอไม่สบายใจ เธอย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับฉันก็ได้นะ พวกมันคงไม่กล้าโจมตีถ้ามี 2 คนอยู่ในห้อง”
ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยินเธอพูดแบบนี้
ห้องของ ซึนาเดะ อยู่ติดกับเขา เธอไม่ได้บอกให้เขาทำประตูระหว่าง 2 ห้อง…แต่เธอบอกให้เขาไปอยู่กับเธอ
อะแฮม!
นี่เป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจเล็กน้อย
“พี่เป็น นินจาแพทย์ พี่ยุ่งตลอดเวลา พี่จะอยู่กับผมได้ยังไง?” ไนโตะ พูดขณะที่มองไปที่ ซึนาเดะ
ซึนาเดะ เป็น นินจาแพทย์ และเธอมักจะไปยังแนวหน้าเสมอ!
“งั้นเหรอ”
ดวงตาของ ซึนาเดะ ดูไม่พอใจเล็กน้อยแล้วเธอก็พูดว่า “งั้นถ้าเธออยากให้มีคนอยู่กับเธอตลอดเวลา ทำไมเธอไม่ลองไปถาม โอโรจิมารุ ดูละ ห้องเขาอยู่ถัดจากเธอไปนิดเดียวเอง ใช่ไหม?”
อ๊ากกกกก!!!
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินคำเหล่านี้ เขาก็รู้สึกเหมือนอยากอาเจียนออกมา
การใช้ชีวิตอยู่กับ โอโรจิมารุ นั้นเป็นสิ่งที่ ซึนาเดะ กำลังคิดอยู่!
ให้ ไนโตะ ต้องเจอกับการลอบสังหาร 2 ครั้งทุกวัน ๆ ยังดีกว่าที่เขาจะต้องไปอยู่กับ โอโรจิมารุ
หลังจากที่ ซึนาเดะ พูดจบ เธอก็รู้สึกแบบเดียวกัน ไม่มีใครกล้าที่จะอยู่กับ โอโรจิมารุ เขาจะทำอย่างไรถ้าเขาตื่นขึ้นมาแล้วกลางดึกแล้วพบว่าตัวเองกำลังโดนผ่าอยู่
ขนลุกก!!
“ถ้าอย่างงั้น ฉันจะไปขอให้ ซาคุโมะ ช่วยเธอเรื่องนี้ละกัน”
เมื่อเธอพูดจบเธอก็เดินออกจากห้องของ ไนโตะ ไป
ไนโตะ ส่ายหัว จากนั้นเขาก็มองไปที่นินจาคนนั้นที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว
“คุณไปได้แล้ว”
“ครับ”
นินจาพยักหน้าอย่างเคารพให้ ไนโตะ จากนั้นเขาก็ออกจากห้องไป นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเคารพ ไนโตะ ทั้ง ๆ ที่ ไนโตะ ยังอายุน้อยอยู่
เพราะหากไม่ใช่เพราะ ไนโตะ พวกเขาคงจะไม่รู้สึกปลอดภัยแบบนี้ การมีอยู่ของเขาทำให้ทุกคนมีความหวัง และที่หมู่บ้านกำชัยในสงครามมาได้มากถึงขนาดนี้ก็เพราะมีเขาเป็นพวก
หลังจากทั้ง 2 คนออกไปจากห้อง ไนโตะ ก็เริ่มฝึกฝนอีกครั้ง
หลังจากที่ ซึนาเดะ ไปบอกเรื่องการลอบสังหารให้ ซาคุโมะ ฟัง ท้ายที่สุดเขาก็ส่งทีม หน่วยลับพิเศษ มาเฝ้าหน้าห้องของ ไนโตะ ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในนั้น
แน่นอน เพราะห้องนี้อยู่ในสำนักงานใหญ่ ซาคุโมะ จึงสามารถส่งนินจามาเฝ้าได้อย่างง่ายดาย
นินจาเหล่านี้ อาจไม่มีกำลังพอที่จะหยุดนักฆ่าทุกคนได้ แต่นั้นก็มากเกินพอที่จะทำให้ศัตรูกลัว
หลังจากที่มีนินจามาเฝ้าหน้าห้องของ ไนโตะ จำนวนการลอบสังหารก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ท้ายที่สุด ห้องของ ไนโตะ ก็ได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีและ ไนโตะ ก็ใช้เวลาทั้งหมดของเขาอยู่ในนั้น
หลังจากที่ หมู่บ้านอิวะ พ่ายแพ้ไป สงครามครั้งนี้จึงกลายเป็นสงครามของ 3 หมู่บ้าน
หมู่บ้านซึนะ , หมู่บ้านอาเมะ และ หมู่บ้านโคโนฮะ
ถือได้ว่า โคโนฮะ ได้ครอบครองความได้เปรียบเกือบทุก ๆ ด้านของสงครามไว้ในมือ ทำให้ตอนนี้ ซึนะ และ อาเมะ เลิกต่อสู้กัน และมุ่งเป้ามาที่ โคโนฮะ แทน
ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้ โคโนฮะ ได้สักเท่าไร เนื่องจาก ฮันโซ ยังไม่ได้แสดงตัวออกมา และเมื่อเขาออกมาทิศทางของสงครามต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
แม้ว่า ซึนาเดะ จะสามารถทำถอนพิษได้ แต่ โคโนฮะ ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้
ในการ์ตูน ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด แต่จะเห็นได้ว่าเขาพยายามรักษาแคว้นของเขาจาก 3 แคว้นใหญ่ได้หลายครั้ง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายผู้นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
ไม่อย่างงั้น ป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว
เขาสร้างความปวดหัวให้กับทุกคน และถึงแม้ว่า ซาคุโมะ จะแข็งแกร่ง แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่ ซาคุโมะ จะวามารถเอาชนะเขาได้
ในขณะที่ โคโนฮะ กำลังคิดหาวิธีจัดการกับ ฮันโซ อยู่นั้น ในที่สุด การฝึกการควบคุม คาถาสายฟ้า ของ ไนโตะ ก็ดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว
ในห้องของ ไนโตะ
จิ๊ส ๆ!!
สายฟ้าไหลผ่านตัวของ ไนโตะ จากนั้นมันก็ไปรวมกันอยู่ที่มือของเขา ในขณะที่สายฟ้าเริ่มพุ่งออกมาจากปลายนิ้ว ทันใดนั้นสายฟ้าก็รวมตัวกันเป็นลูกบอล
แม้ว่าจะมีประจุระเบิดออกมาจาก ลูกบอลสายฟ้า บ้างเป็นครั้งคราว แต่มันก็ไม่ได้เสียรูปร่างหรือระเบิดออกทั้งหมด
“ในที่สุด มันก็เกือบจะสมบูรณ์แล้ว”
เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ ไนโตะ ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็ใช้พลังจาก บอลสายฟ้า และแผ่มันออกไปจนทั่วร่างกายของเขา และตอนนี้ร่างกายของเขาก็ปกคลุมไปด้วยสายฟ้า
ไนโตะ ไม่ได้สวมเสื้อ มันทำให้เห็นผิวหนังของเขาเปลี่ยนเป็นสีบรอนซ์ แต่มันยังไม่เข้มเหมือนกับของ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 และ 4 ตอนนี้สีของมันยังจางอยู่
สิ่งนี้ทำให้ร่างกายของ ไนโตะ มีความนุ่มนวลน้อยลงและมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
สายฟ้าไหลเวียนอยู่ในร่างกายของ ไนโตะ แต่คราวนี้มันถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์ภายใต้ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ และไม่มีท่าทีว่ามันจะระเบิดออกเพราะสภาพอากาศของ แคว้นแห่งฝน
สายฟ้ายังคงไหลเข้าสู่ร่างกายของ ไนโตะ และกระตุ้นเซลล์ร่างกายของเขาอยู่ตลอดเวลา
จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นการกระตุ้นเซลล์ แต่มันเป็นการเพิ่มเซลล์ของจักระ เพื่อให้เซลล์ทุกส่วนในร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น
ตอนที่ 150
ภายใต้การควบคุม คาถาสายฟ้า ของ ไนโตะ ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในตอนแรก ไนโตะ สามารถควบคุม อาภรณ์สายฟ้าขั้น 2 ได้ 5% หลังจากนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็น 10% จากนั้นก็ 20% ร่างกายของ ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้นทุกวินาที ในขณะที่ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ก็ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วยเช่นกัน จนในที่สุด ตอนนี้เขาก็มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้แล้ว
สำหรับ พลังสั่นสะเทือน ก็พัฒนาขึ้นไปอีกเล็กน้อย
แน่นอนว่า ไนโตะ กำลังให้ความสำคัญกับการฝึกฝน แน่นอนว่า ผู้ชายอย่างเขาจะไม่ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แน่นอน
เป็นเวลานานแล้วที่ ซารุโทบิ ไม่ได้ให้ภารกิจหรืองานใด ๆ แก่ ไนโตะ เขาต้องการให้ ไนโตะ อยู่ใกล้ ๆ เขา ดังนั้นเขาจึงขอให้ ไนโตะ อยู่แต่ในห้องและให้ความสนใจกับการฝึกฝนเป็นสิ่งแรก
หลังจากที่ ไนโตะ ฝึกฝนมาเป็นระยะเวลานาน เขาก็หยุดและออร่ารอบตัวเขาก็หายไป
ก๊อกๆ
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็นเสียงเคาะผนัง เพราะคนส่วนใหญ่มักเคาะบนผนังเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องหยุดเดินและเข้าไปได้ทันทีหากคนด้านในอนุญาต
ไนโตะ แต่งตัวแล้วพูดว่า “เข้ามาได้”
วินาทีต่อมา ซึนาเดะ ก็เข้ามาในห้อง
“ไนโตะ การฝึกเป็นไงบ้าง?”
ซึนาเดะ รีบเดินไปหา ไนโตะ อย่างรวดเร็ว ถ้าเธอไม่รู้ว่า ไนโตะ จะไม่สวมอะไรเลยขณะฝึก เธอคงจะพุ่งพรวดเข้ามาโดยไม่เคาะบอกก่อน
“ก็ดีครับ”
ไนโตะ พยักหน้าให้ ซึนาเดะ เล็กน้อย แต่ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ดูรีบ ๆ นะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าพาความซวยมาด้วยนะ?”
“ไม่ ไม่ใช่หรอก แค่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
ซึนาเดะ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปที่ ไนโตะ ด้วยสายตาจริงจัง การแสดงออกของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น
“สงครามครั้งนี้กินเวลามาเกือบ 1 ปีแล้ว เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ทรัพยากรทั้งกำลังคนและอุปกรณ์ถูกใช้ไปอย่างมากมาย คนระดับสูงของ โคโนฮะ จึงตัดสินใจที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับทั้ง ซึนะ และ อาเมะ เราจะต่อสู้กับทั้ง 2 หมู่บ้านนี้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!”
“ในขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ ท่านซาคุโมะ ก็ได้กำลังนำกองทัพออกไปแล้ว”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่ ซึนาเดะ พูด ไนโตะ ก็ขมวดคิ้วและแสดงท่าทางจริงจัง
ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น?
การสิ้นสุดของสงครามครั้งนี้
ไนโตะ ก็รู้อยู่แล้วว่า ซึนาเดะ จะพูดอะไรต่อไป
และสิ่งที่เธอพูดต่อไปก็คือ “ฉันมาขอให้เธอไปกับฉัน กับ โอโรจิมารุ และ จิไรยะ ไปทำภารกิจที่สำคัญที่สุด ภารกิจที่จะจบสงครามครั้งนี้”
“ภารกิจของเราคือการหยุด ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ชายผู้นี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่ ซาคุโมะ ก็ไม่สามารถจับเขาได้ ดังนั้นเราจึงต้องบีบให้เขาออกมา เพื่อไม่ให้เขาสามารถสั่งการกองทัพได้และรอจนกว่ากองทัพของเราจะเอาชนะในสนามรบ และแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่เราก็ต้องหยุดเขาไว้ให้ได้”
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินแบบนี้ เขาก็พยักหน้าแต่เขาก็ถามเธอกลับไปว่า “แต่ดูเหมือนว่า ในสนามรบจะเป็นจุดที่สำคัญที่สุดในการยุติสงครามครั้งนี้”
ซึนาเดะ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ กองทัพมี ซาคุโมะ อยู่ แค่เขาก็เพียงพอแล้ว เธอควรมากับฉันเพื่อรับมือกับ ฮันโซ มากกว่า ถ้าเธอไปกับกองทัพ มันอาจทำให้ ซาคุโมะ ไม่สามารถควบคุมและออกคำสั่งได้…”
แบบนี้นี่เอง
ไนโตะ เข้าในว่า ซารุโทบิ จะไม่ยอมเสี่ยงที่จะให้ ไนโตะ เป็นผู้ออกคำสั่ง
มิฉะนั้น ในสนามรบกองทัพจะเชื่อคำสั่งของ ไนโตะ มากกว่า ซาคุโมะ
“งั้นก็ได้ครับ”
ด้วยเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของ ซึนาเดะ ทำให้ ไนโตะ ไม่ปฏิเสธ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มาหา ไนโตะ ยังไงเขาก็จะต้องตามไปอยู่ดี เพราะเขายังคงไม่แน่ใจว่าทั้ง 3 จะหยุด ฮันโซ ไว้ได้
เพราะหลังจากการมาถึงของ ไนโตะ ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้เปลี่ยนไปมาก ไนโตะ กลัวว่า ฮันโซ จะทำอะไรบางอย่างที่จะทำให้ชะตากรรมทั้งหมดของโลกแห่งนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล
สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นอาจเกิดขึ้น
ฮันโซ อาจไม่เหมือนในการ์ตูน
ฮันโซ อาจฆ่าพวกเขา
โอโรจิมารุ อาจจะหนีไปได้ แต่อีก 2 คนจะถูกฆ่าอย่างแน่นอน
“ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์…”
ไนโตะ พูดออกมาเบา ๆ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ฮันโซ เป็นหนึ่งในนินจาที่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!
เขาน่าจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับ 5 คาเงะ
ประวัติของเขาเป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของเขาได้อย่างชัดเจน เขาสามารถต่อสู้กับ 3 นินจาในตำนาน ได้อย่างง่ายดาย
พูดง่าย ๆ ว่า ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ นั้นแข็งแกร่งและ ไนโตะ ไม่สามารถประเมินเขาต่ำได้!
“ไนโตะ พิษของ ฮันโซ อันตรายมากก็จริง แต่เราก็มียาถอนพิษที่ดีมาก ถ้าเธอโดนพิษของเขาเข้าไป เธอจะได้รับยาถอนพิษในทันที”
ซึนาเดะ รู้สึกได้ว่า ไนโตะ กำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับพลังของ ฮันโซ ดังนั้นเธอจึงพยายามพูดปลอบใจเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“แล้วเราก็ไม่ได้พยายามที่จะเอาชนะเขา เราแค่ต้องถ่วงเวลาเขาให้ได้ระยะหนึ่ง จนกว่ากองทัพของเราจะชนะ จากนั้นเราก็จะ หนีออกมา”
“เข้าใจแล้วครับ”
เมื่อ ไนโตะ ฟัง ซึนาเดะ พูดจบ เขาก็พยักหน้าและเดินตามเธอออกจากห้องไป ที่ด้านนอกห้อง โอโรจิมารุ และ จิไรยะ ยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อรอทั้งคู่ออกมา
เมื่อพวกเขาเห็น ไนโตะ เดินออกมา โอโรจิมารุ ก็มีรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเขา แล้วเขาก็พูดว่า “ฉันคิดว่าการฝึกของเธอจะเป็นไปได้ด้วยดีนะ”
“ใช่ครับ” ไนโตะ พยักหน้าให้ โอโรจิมารุ แต่ ไนโตะ ก็ยังไม่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของเขา
“งั้นก็ดีแล้ว”
โอโรจิมารุ ยิ้มเยาะและหันหลังกลับ
ไนโตะ มองดูเขาด้วยความสงสัย
จักระของ โอโรจิมารุ ก็เพิ่มขึ้นในทุกวินาที แม้แต่ ไนโตะ ก็ต้องระวังตัวจากเขา
ในวินาทีนี้ดูเหมือนว่า โอโรจิมารุ จะไม่มีวันตาย.
โอโรจิมารุ…เขาไปถึงระดับของ คาเงะ แล้วงั้นเหรอ?!.
ความคิดนี้ทำให้ ไนโตะ รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่มันก็สมเหตุสมผล.
ในการ์ตูน โอโรจิมารุ เป็นอัจฉริยะที่ 10 ปี จะมีสัก 1 คน เขามีความสามารถมากกว่า จิไรยะ และ ซึนาเดะ ตอนนี้เขามีอายุ 20 ปี แต่เขาก็มาอยู่ในจุดสูงสุดของพลังของเขาแล้ว.
ไนโตะ ขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปที่ โอโรจิมารุ แต่เมื่อ ซึนาเดะ เห็นท่าทางของเขา เธอจึงคิดว่าเขายังกังวลเกี่ยวกับเรื่อง ฮันโซ อยู่.
แม้แต่ จิไรยะ ก็สังเกตเห็นเช่นกัน เขายิ้มให้ ไนโตะ และพูดว่า “ขนาดฉันยังไม่กลัว ฮันโซ เลย ไนโตะ เธอแข็งแกร่งกว่าฉัน เธอไม่ต้องกังวลไป ถึงยังไงเราก็ 4 ต่อ 1 !”.
ตอนที่ 151
ไนโตะ เบะปากเมื่อเขาได้ยินคำพูดของ จิไรยะ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขายังคงคิดเรื่องของ โอโรจิมารุ ต่อไป
เป็นเรื่องปกติที่นินจาส่วนใหญ่จะสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็วในระยะแรก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พัฒนาไปจนถึงระดับ คาเงะ แล้ว มันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะก้าวไปสู่ระดับต่อไป นินจาจำนวนมากจะมาถึงจุดสูงสุดของพลังของพวกเขาเมื่ออายุได้ 30 หรือ 40 ปี และจะคงอยู่อย่างนั้นตลอดไป
โอโรจิมารุ ก็เช่นกัน เขายังคงพัฒนาต่อไป แต่มันคงต้องใช้เวลามากขึ้นนับจากนี้ ไนโตะ คิดว่าเขาน่าจะถึงจุดสูงสุดของพลังของเขาได้ในช่วง มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3
หลังจากนั้น เขาก็น่าจะสามารถโจมตี โคโนฮะ โดยลำพัง
แน่นอนว่านี่เป็นภาพสะท้อนจากอีกด้านหนึ่งว่า ซารุโทบิ แข็งแกร่งแค่ไหน ที่สามารถหยุด โอโรจิมารุ เอาไว้ได้
ในการ์ตูน ซารุโทบิ ถือได้ว่าเป็น โฮคาเงะ ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง เขารู้วิชาคาถาทั้งหมดใน โคโนฮะ
สำหรับความแข็งแกร่งของ ซารุโทบิ…เขาสามารถควบคุมคุณสมบัติจักระได้ทั้ง 5 ธาตุ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้วิชาลับและวิชาต้องห้ามทั้งหมดของหมู่บ้าน เขาแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่า ดันโซ
คนที่แข็งแกร่งเหนือระดับของ คาเงะ นั้น หาได้ยากมากในโลกนี้
ไนโตะ ได้แบ่งระดับความแข็งแกร่งสูงสุด 2 ระดับสูดท้ายคือ ระดับ คาเงะ และ ระดับ เซียน 6 วิถี
ยกตัวอย่างเช่น เพน 6 วิถี อยู่ในระดับ คาเงะ
ระดับ เซียน 6 วิถี สูงขึ้นไปว่าระดับ คาเงะ อยู่มาก แม้แต่ ฮาชิรามะ และ มาดาระ ก็ยังไม่ถึงระดับดังกล่าว พลังของพวกเขานั้นอยู่ระหว่าง 2 ระดับนี้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีพลังที่สามารถกำจัดคนทั้งหมู่บ้านได้สบาย ๆ
ระดับ เซียน 6 วิถี นั้นมันเป็นพลังที่แม้แต่ นารูโตะ และ ซาสึเกะ ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ พวกเขาทำได้แค่แบ่งพลังนั้นออกคนละครึ่งเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็น ระดับเซียน 6 วิถี หรือ ระดับคาเงะ ไนโตะ ก็ครอบครองพลังที่จะสามารถช่วยให้เขาไปถึงระดับนั้นได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่เพียงพอ
หลังจากที่เขาช่วย 3 นินจา เอาชนะ ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ได้แล้ว ไนโตะ ก็วางแผนที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 และยุติสงครามนี้
“เอาละ เราไปกันเถอะ”
หลังจากที่พูดจบ ซึนาเดะ ก็มองไปยังทั้ง 3 คน แล้วพยักหน้าให้พวกเขา จากนั้นพวกเขาทั้ง 4 คนก็เดินนำ นินจาระดับสูงจำนวนหนึ่งออกจากค่ายไป
เนื่องจากแผนนี้ใช้เพื่อถ่วงเวลา ฮันโซ ไว้เท่านั้น พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องนำนินจาจำนวนมากไปด้วย
เมื่อพวกเขาทั้ง 4 จากไป ค่ายก็ว่างเปล่าในทันที
ขณะที่พวกเขากำลังเดินออกไป ร่างสีขาวก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินที่เป็นโคลน
มันคือ เซ็ทสึ!
“ปล่อยมันไป เป้าหมายของเราคือ ฮันโซ…แค่เอาข้อมูลไปรายงานก็พอ”
เซ็ทสึ มองไปยังทางที่ ไนโตะ และอีก 3 คน ที่กำลังเดินคุยกัน จากนั้น เซ็ทสึ ก็หายกลับลงไปใต้พื้นดินอีกครั้ง
…..
ใต้ดินที่ไหนสักแห่งในโลกนินจา
ในส่วนลึกของความมืด ชายชราผู้ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังจะตายได้ทุกเวลา ยืนอยู่ที่นั่น
ชายชราดูอ่อนแอมากและดูเหมือนว่าเขาจะล้มถ้ามีใครได้เดินไปชนเขา
ดวงตาของชายชราไม่มี เนตรวงแหวน เขามองไปที่พื้นด้วย เนตรสังสาระ ของเขา และเหมือนว่าเขาจะเห็นจุดสิ้นสุดของโลกนี้แล้ว
เขาคือ…อุจิฮะ มาดาระ!
“สงครามใกล้จะสิ้นสุดแล้ว”
ทันใดนั้น จากความมืด เซ็ทสึ ก็ปรากฏออกมายืนต่อหน้า มาดาระ ในขณะที่เขาดูสงบมาก
“ใช้แล้วครับ สงครามกำลังจะสิ้นสุด โคโนฮะ กำลังเริ่มโจมตีครั้งสุดท้าย”
เซ็ทสึ เดินเข้าไปหา มาดาระ แล้วพูดต่อว่า “เด็กที่ท่านสนใจ เขากำลังจะไปต่อสู้กับ ฮันโซ ครึ่งเทพ”
“ครึ่งเทพ? ฮ่าฮ่าฮ่า…พูดเป็นเล่น!”
เมื่อได้ยินคำนั้น มาดาระ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะ
เขากล้าเรียกตัวเองว่าเป็นพระเจ้าได้อย่างไร?!
“ขนาดตัวตลกตัวนั้นยังเรียกตัวเองว่าเป็นพระเจ้า…โลกนี้ช่างน่าเบื่อจริง ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร มันดีสำหรับแผนของฉัน”
หลังจากที่ มาดาระ ส่ายหัว เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “ต้องคอยสังเกตสถานการณ์ต่อไป ถ้า ฮันโซ สามารถฆ่าเด็กคนนั้นได้ เราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป แล้วก็จะไม่มีใครมาหยุดแผนการของเราได้”
“เข้าใจแล้วครับ”
เซ็ทสึ แสดงความเคารพอย่างมาก เขาพยักหน้าให้ มาดาระ จากนั้นเขาก็หายลงไปที่พื้นอีกครั้ง
……
แคว้นแห่งฝน
บริเวณเนินเขาที่เต็มเป็นด้วยโคลน
ไนโตะ และคนอื่น ๆ กำลังวิ่งไปเรื่อย ๆ
ในเวลานี้ความแตกต่างของความเร็วนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน
เร็วที่สุดคือ ไนโตะ เขาวิ่งอยู่ข้างหน้าสุด ตามมาด้วย โอโรจิมารุ
สำหรับ ซึนาเดะ เธอวิ่งเร็วกว่า จิไรยะ นิดหน่อย
ตามในการ์ตูน จิไรยะ เร็วกว่า ไนโตะ แต่ตอนนี้เธอเชียวชาญวิชา เหยียบเวหา ทำให้เธอเร็วกว่าในการ์ตูน
ตลอดทางที่เดินทางมา ไนโตะ พยายามเร่งความเร็วอย่างตั้งใจ แต่ โอโรจิมารุ ก็ยังตามเขาได้ทันอยู่เสมอ ซึ่งทำให้ ไนโตะ มั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีที่ โอโรจิมารุ พัฒนาขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้
พวกเขาวิ่งมาจนเกือบถึงป่า
ไนโตะ ชะลอความเร็วลง จากนั้น โอโรจิมารุ และคนอื่น ๆ ก็ชะลอตัวลงเช่นกัน แล้วพวกเขาก็หยุดก่อนที่จะถึงป่า
“ฉันจะสำรวจป่าแถวนี้”
โอโรจิมารุ เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวแล้วก็ประสานอิน จากนั้นเขาก็กดมือลงบนพื้น ทันใดนั้นก็มีงูตัวเล็ก ๆ หลาย 10 ตัว เลื้อยออกมา จากนั้นพวกมันก็เลื้อยเขาไปในป่าและหายไป ในขณะเดียวกัน โอโรจิมารุ ก็หลับตาลง
หลังจากนั้นไม่กี่นาที โอโรจิมารถถ ก็ลืมตาขึ้นและพูดว่า “ไม่มีการซุ่มโจมตี”
“โอเค ไปต่อได้”
ไนโตะ พยักหน้าและพาทุกคนเข้าไปในป่าทันที
หลังจากที่พวกเขาวิ่งผ่านป่าไป พวกเขาก็มุ่งหน้าลึกเข้าไปใน แคว้นแห่งฝน
ระหว่างทาง ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะตื่นตัวกับสิ่งรอบตัวเขามาก แต่นินจาคนอื่น ๆ ก็ยังคงสำรวจทุกซอกทุกมุมอย่างระมัดระวัง เพราะไม่มีใครรู้ว่า ฮันโซ จะซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
ฮันโซ อันตรายเป็นอย่างมาก และหากพวกเขาไม่ระมัดระวังให้ดี พวกเขาจะเป็นฝ่ายที่ถูกโจมตีเสียเอง
ตอนที่ 152
ไนโตะ และคนอื่น ๆ ยังคงเคลื่อนที่ผ่านเขตชนบทของ แคว้นแห่งฝน ไปเรื่อย ๆ และในที่สุดพวกเขาก็พบเข้ากับ กองทหารจากอาเมะ ที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ใกล้ ๆ กับเนินเขา
ใกล้ ๆ กับเนินเขา มีแม่น้ำขนาดใหญ่ที่กำลังกัดเซาะตลิ่งอยู่ ไนโตะ และคนอื่น ๆ วิ่งอยู่เหนือเนินเขาสูงนี้ ในขณะที่ กองทหารอาเมะ กำลังวิ่งอยู่ในแม่น้ำ
หน่วยของ ไนโตะ ได้เปรียบมากในสถานการณ์ตอนนี้ เพราะพวกเขาอยู่ที่สูงกว่า และพวกเขาทุกคนคือนินจาระดับ โจนิน ดังนั้น โอโรจิมารุ จึงเข้าโจมตีศัตรูในทันที
เมื่อ ไนโตะ เห็นดังนั้น เขาก็เข้าใจความคิดของ โอโรจิมารุ ในทันที ดังนั้นเขาจึง ยกมือขึ้นเป็นส่งสัญญาณให้ ซึนาเดะ และคนอื่น ๆ
ทุกคนรู้ว่าพวกเขาควรทำอะไรต่อไป และทันใดนั้นพวกเขาก็วิ่งนำ ไนโตะ จากนั้นพวกเขาก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศในขณะที่พวกเขาประสานอินในทันที
เมื่อพวกเขาประสานอิน จักระของพวกเขาก็ไหลออกมาในปริมาณมาก ทำให้ กองทัพอาเมะ ในแม่น้ำสัมผัสได้ถึงจักระของพวกเขา
แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่จะตอบโต้
“คาถาน้ำ : คลื่นน้ำระเบิดจู่โจม!!”
“คาถาดิน : หินถล่ม!!”
“คาถาสายฟ้า : ลูกบอลสายฟ้า!!”
นินจาระดับสูงโคโนฮะ ประสานอินได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นคลื่นน้ำขนาดใหญ่ก็เทลงมาจากท้องฟ้ากระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง เนินเขาทลายลงมา และสายฟ้าก็ช๊อตลงไปในกระแสน้ำ
ตู้ม!!!
ทุกอย่างเกิดขึ้นในไม่กี่วินาที นินจาอาเมะ ไม่มีเวลาที่จะได้ตอบโต้ และพวกเขาส่วนใหญ่ก็ถูกฆ่าตายในทันทีด้วยการโจมตีที่สมบูรณ์แบบนี้
แต่ก็มี นินจาอาเมะบางคน ใช้คาถาร่างแยกเงาและสามารถหลบการโจมตีออกไปได้
หน่วยโคโนฮะ หน่วยนี้ มีนินจาอยู่เพียง 30 – 40 คนเท่านั้น แต่ กองทหารอาเมะ เมื่อสักครู่นี้ มีนินจาอย่างน้อย 100 คน
การโจมตีที่ของ โคโนฮะ ทำให้ นินจาอาเมะ อย่างน้อยหลาย 10 คน ตายในทันที และทำให้ตอนนี้ จำนวนของทั้ง 2 ฝ่าย ใกล้เคียงกันแล้ว
ฟึ๊บ!!
นินจาอาเมะ หลาย 10 คนที่เหลือ สามารถหลบการโจมตีได้ และมองไปที่ ไนโตะ และหน่วยของเขา
เมื่อพวกเขาเห็นร่างของ ไนโตะ พวกเขาต่างก็เผยความเกลียดชังออกมา
“ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ”
ไนโตะ เป็นที่รู้จักของทุกคนในสงครามครั้งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงจำ ไนโตะ ได้ในทันที
อย่างไรก็ตาม ท่าทางของ นินจาอาเมะ อาจจะตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดูหวาดกลัวเขาแต่อย่างใด และการแสดงออกของพวกเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
เพราะตรงกลางของ กองทัพอาเมะ มีอีกคนที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับ ไนโตะ อยู่
ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ !
ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ เดินไปอย่างช้า ๆ และไปยืนอยู่หน้ากองทัพของเขา
ดวงตาของ ฮันโซ ดูเย็นชามาก เมื่อเขามองไปที่ ไนโตะ “ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ…พวกเขาส่งเธอมาหยุดฉันงั้นเหรอ?”
ในเวลาเดียวกัน ฮันโซ ก็มองไปที่ 3 นินจาในตำนวน แต่เขาก็มุ่งความสนใจไปที่ โอโรจิมารุ เป็นพิเศษ
คนคนนั้นดูแข็งแกร่งมาก
เด็กรุ่นใหม่ ๆ ของ โคโนฮะ นั้นมีประสิทธิภาพมาก นี่คือเหตุผลเดียวที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ โคโนฮะ ในสงครามครั้งนี้
เมื่อ ฮันโซ หายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นดวงตาของเขาก็สงบลง แม้ว่า โคโนฮะ จะชนะในสงครามครั้งนี้ แต่ไม่มีวันที่เขาจะยอมแพ้ให้กับเด็กเหล่านี้แน่นอน!
การระวังตัวไม่ได้หมายความว่าเขากลัวศัตรู!
ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขากลัว เมื่อเขาคือคนที่ถูกเรียกว่า ครึ่งเทพ
“งั้นเรามาเริ่มกันเลย!”
ฮันโซ พุ่งเข้าหา ไนโตะ และหน่วยของเขาในทันที
แต่ก่อนที่ ฮันโซ จะถึงตัว ไนโตะ ไนโตะก็ต่อยหมัดออกไป
ตู้ม!!
อากาศแตกออก และ นินจาอาเมะ บางคนก็ไม่สามารถหลบได้ทัน เขาถูกหมัดของ ไนโตะ เขาไปอย่างจังและตายในทันที
นินจาอาเมะ คนอื่น ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็น โจนิน มีความเข้าใจในความสามารถและพลังของ ไนโตะ เป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะหลบการโจมตีของ ไนโตะ
ตอนนี้ความสามารถของ ไนโตะ ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป นินจาทุกคนในโลกรู้ว่าพลังของเขามีมากขนาดไหน ซึ่งทำให้หลาย ๆ หมู่บ้านเริ่มศึกษา พลังสั่นสะเทือน ของ ไนโตะ อย่างจิงจัง
และ หมู่บ้านอาเมะ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ฮันโซ หลบการโจมตีในทันที เมื่อเห็นการโจมตีของ ไนโตะ ทันใดนั้น ฮันโซ ก็กัดนิ้วของเขา จากนั้นก็ประสานอิน แล้วกดมือลงบนพื้นทันที
“คาถาอันเชิญ!”
ฟึ้ม!!
ควันสีขาวปรากฏขึ้นและ ซาลามานเดอร์พิษ ตัวใหญ่ก็ปรากฏตัวออกมาจากควันนั้น ฮันโซ ยืนอยู่บนหัวของมันและจ้องมองไปที่ ไนโตะ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ซึนาเดะ ก็ไม่ลังเลและโยนขวดเล็ก ๆ ให้ จิไรยะ , ไนโตะ และ โอโรจิมารุ คนละ 2 ขวด
“ถ้าพวกนายฉีดยาสีขาว พวกนายจะไม่ได้รับผลจากพิษของมัน แต่มันก็มีเวลาจำกัด…และถ้าพวกนายโดนพิษของมันเข้าไป ให้พวกนายฉีดยาสีแดงเข้าไปในร่างกาย”
ซึนาเดะ เตรียมพร้อมในการต่อสู้ครั้งนี้มาเป็นอย่างดี
หลังจากพวกเขาได้รับยาไป พวกเขาก็เอามันใส่กระเป๋าของตัวเอง จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่ ฮันโซ
เห็นได้ชัดว่า ฮันโซ ไม่คิดว่า ซึนาเดะ จะสามารถทำยาถอนพิษของเขาได้
แต่ถึงกระนั้นการแสดงออกของ ฮันโซ ก็ยังคงสงบอยู่ เพราะถึงพวกเขามียาแต่มันก็ยังมีระยะเวลาจำกัดอยู่ดี
ตราบใดที่เขาใช้พิษได้ถูกเวลา ยาถอนพิษเหล่านี้จะไม่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา
จิไรยะ , ไนโตะ และ โอโรจิมารุ ยังไม่ได้ดื่มยาต้านพิษเข้าไป พวกเขาซ่อนมันไว้แล้วมองไปที่ ฮันโซ
นินจา 4 คนนี้ ไม่ได้มีแต่พลังเพียงอย่างเดียว พวกเขายังเป็นนินจาที่ฉลาดมากอีกด้วย
“คาถาน้ำ : ระเบิดน้ำมังกรวารี!”
ทันใดนั้น ฮันโซ ก็เปิดฉากโจมตีทันที เขาประสานอินได้เร็วมาก และการโจมตีของเขาก็พุ่งไปหา ทั้ง 4 คนในทันที
ซู่ม!!
มังกรวารี เป็นคาถาที่รุนแรง แต่เพราะมันถูกใช้โดย ฮันโซ จึงทำให้มันยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก
พลังของมันเกือบจะเท่ากับคาถานินจาระดับ S มันพุ่งไปในอากาศอย่างเร็วราวกับว่าจะไม่มีอะไรหยุดมันได้!
ในวินาทีต่อมา ซึนาเดะ และ จิไรยะ ก็กระโดดถอยหลังเพื่อหลบการโจมตี
ในขณะที่ ไนโตะ ยังคงยืนอยู่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เอา ดาบคุซานางิ ออกมา แล้วกระโดดเข้าหา มังกรวารี จากนั้นก็เขาก็ฟันดาบออกไป
ไนโตะ กำลังร่วมมือกับ 3 นินจา เพื่อต่อสู้กับ ฮันโซ และการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ตอนที่ 153
ในขณะที่ ไนโตะ และ 3 นินจา กำลังต่อสู้กับ ฮันโซ อย่างดุเดือด ห่างออกไปบริเวณขอบของสนามรบมีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว
ที่นั่น คน 3 คนที่ได้ยินเสียงที่ดังมาจากสนามรบ พวกเขาสงสัยจึงเข้ามาดูใกล้ ๆ ทันใดนั้น 2 ใน 3 คนนั้นก็แสดงท่าทางตกใจเป็นอย่างมาก
“นั่นมัน…ครูไนโตะ นี่น่า!”
3 คนนั้นก็คือ ยาฮิโกะ , โคนัน และคนที่ 3 ก็คือ นางาโตะ เขายืนอยู่หลัง 2 คนนั้นในขณะที่เขามองไปที่สนามรบ
ในช่วงเวลานี้ โคนัน และ ยาฮิโกะ เดินทางไปทั่ว แคว้นแห่งฝน เพื่อหลบซ่อนตัวจาก นินจาอิวะ และ นินจาซึนะ
แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าเดิม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเดินทางข้าม แคว้นแห่งฝน และหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย
พวกเขาต้องหลบซ่อนอยู่หลายครั้ง
ในที่สุด หลังจากที่พวกเขาหาที่หลบซ่อนอยู่หลายครั้ง ทั้งคู่ก็ได้พบกับ นางาโตะ และเขาคือคนสุดท้ายที่ร่วมเดินทางไปกับทั้งคู่
ในขณะที่พวกเขาพเนจรอยู่ใน แคว้นแห่งฝน นั้น ยาฮิโกะ และ โคนัน ก็ได้ยินเรื่องของ ไนโตะ อยู่หลายต่อหลายครั้ง ฉายา ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ นั้นโด่งดังไปทั่วโลก
ไม่มีใครคิดว่า ไนโตะ ที่แก่กว่าพวกเขาเพียงเล็กน้อยจะมีชื่อเสียงขนาดนี้
แม้ว่า ทั้งคู่จะไม่ได้เจอกับ ไนโตะ มาเป็นเวลานาน แต่พวกเขาก็ได้ยินเรื่องราวของ ไนโตะ มาอยู่ตลอด ดังนั้นความเคารพและชื่นชมในตัว ไนโตะ ของพวกเขาจึงไม่ลดลงเลย
“นั่นมัน ผู้นำของหมู่บ้านอาเมะ ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์!”
ยาฮิโกะ มองไปที่อีกด้านหนึ่งและด้วยการมองเพียงแวบเดียว เขาก็จำตัวตนของ ฮันโซ ได้ทันที
เมื่อ โคนัน ได้ยิน ยาฮิโกะ พูด เธอก็มองไปที่ ฮันโซ ทันทีและทันใดนั้นเธอก็แสดงความหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ฮันโซ มีชื่อเสียงมากในเวลานั้น ทุกคนรู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน!
ถึงแม้ว่า ไนโตะ ก็มีชื่อเสียงเช่นกัน แต่มันก็อันตรายที่จะต้องต่อสู้กับคนอย่าง ฮันโซ
ยาฮิโกะ มองไปที่สนามรบและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ครูไนโตะ แข็งแกร่งมากก็จริง แต่ ฮันโซ ก็เป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในโลกนี้…อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย แต่เราต้องหาวิธีหยุดช่วยเขา!”
โคนัน ส่ายหัวแล้วพูดว่า “การต่อสู้รุนแรงขนาดนี้ เราทำอะไรไม่ได้หรอก”
ด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยบนใบหน้าที่สวยงามของ โคนัน เธออดไม่ได้ที่พูดออกมาเบา ๆ “เราทำได้แค่ภาวนาให้เขาปลอดภัยเท่านั้น”
ในขณะที่ทั้ง 3 กำลังเฝ้าดูการต่อสู้อยู่นั้น ห่างออกไปจากพวกเขา มีคนกำลังจ้องมาพวกเขาอยู่
เขาเป็นคนร่างกายสีขาวที่กำลังซ่อนอยู่หลังหิน
“น่าสนใจ นางาโตะ มาที่นี่จริง ๆ เราต้องไปบอกเรื่องนี้ให้กับ มาดาระ”
เซ็ทสึ พูดออกมาเบา ๆ เมื่อมองไปที่สนามรบและตรงที่ทั้ง 3 คน ซ่อนตัวอยู่ เขาไม่ได้สนใจ โคนัน และ ยาฮิโกะ เลยย คนเดียวที่เขาสนใจก็คือ นางาโตะ
ท้ายที่สุดแล้ว เนตรสังสาระ เป็นส่วนสำคัญในแผนของ มาดาระ
แน่นอนว่า เซ็ทสึ ก็มีแผนของตัวเองเช่นกัน
ถ้า มาดาระ ไม่ยอมทำตามแผนของเขา เขาก็จะใช้ นางาโตะ แทน
……..
โคนัน และอีก 2 คน กำลังซ่อนตัวและเฝ้าดูการต่อสู้ ขณะที่ เซ็ทสึ ก็แอบสังเกตสถานการณ์ในสนามรบและ นากาโตะ อยู่อย่างลับ ๆ
ในขณะเดียวกัน ในสนามรบก็กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ
“ยันต์ระเบิดพันธนาการ!!”
ทันใดนั้น ฮันโซ ก็ยกมือขึ้นมาประสานอินอย่างรวดเร็ว
ฟิ้ว!!
ในวินาทีต่อมา ยันต์ระเบิด ก็ปรากฏขึ้นมาจากพื้นและพันรอบตัว โอโรจิมารุ ไว้
ทันทีที่ โอโรจิมารุ เห็นสิ่งนี้ เขาก็อ้าปากออกและทันใดนั้น เขาก็คายร่างของเขาอีกร่างหนึ่งออกมา จากนั้นร่างที่เพิ่งออกมาก็กระโดดหนีอย่างรวดเร็ว
ตู้ม!!
ในวินาทีต่อมา ยันต์ระเบิด ก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง ถึง โอโรจิมารุ จะหนีออกมาได้ แต่เขาก็ยังถูกแรงระเบิดและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ทันใดนั้นการแสดงออกของ โอโรจิมารุ ก็เยือกเย็นและเริ่มเผยให้เห็นถึงจิตสังหานอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากที่ ฮันโซ ใช้วิชานั้นเสร็จ เขาก็วิ่งเข้าหา จิไรยะ ต่อและโจมตี จิไรยะ ด้วยโซ่ทันที
แต่ที่ปลายของโซ่เส้นนี้ มันคือเคียวขนาดใหญ่
(อาวุธนินจา คุซาริกามะ มีลักษณะเป็น เคียวที่มีโซ่ยาวติดไว้ที่ด้าม”
“เส้นผมเข็มพันเล่ม!”
จิไรยะ กระโดดถอยอย่างไม่ลังเล จากนั้นเขาก็ก้มตัวลงอย่างรวดเร็ว
ฟิ้วๆๆ!!
ผมของ จิไรยะ ฟูออก และทันใดนั้น เข็มนับพันก็พุ่งออกมาและตรงไปหา ฮันโซ และพวกมันแทง ฮันโซ เข้าเต็ม ๆ
แต่ทันใดนั้น ร่างของ ฮันโซ ก็กลายเป็นหิน
มันคือ ร่างแยกหิน!
“แย่แล้ว!”
จิไรยะ ตกใจมาก ตอนนี้เขายังเด็กมากและเขาก็ยังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ ฮันโซ
ในวินาทีต่อมา ทันใดนั้นร่างของ ฮันโซ ก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ด้านหลังของ จิไรยะ และฟันเคียวใส่ จิไรยะ
ในเวลานั้นมันก็สายเกินไปแล้วที่ จิไรยะ จะป้องกันการโจมตีนี้ไว้ได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามหลบการโจมตีของ ฮันโซ ด้วยการเอียงหลบ แต่เขาไม่มีทางที่จะหลบพ้น แต่ทันใดนั้น “เหยียบเวหา!”
“ตาย!!”
ขณะที่ ฮันโซ กำลังจะโจมตีและฆ่า จิไรยะ ซึนาเดะ ก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจนเหมือนกับเธอหายตัวมาและพยายามที่จะทุบ ฮันโซ ด้วยหมัดของเธอ
“อะไรกัน?!”
ฮันโซ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะแข็งแกร่งแบบนี้ นี้ ในตอนแรกเขาคิดว่าเธอเป็นเพียงแค่ นินจาแพทย์ ธรรมดา ๆ
อย่างไรก็ตาม ฮันโซ นั้นมีความแข็งแกร่งพอ ๆ กับ คาเงะ และการโจมตีดังกล่าวของ ซึนาเดะ จะไม่เป็นปัญหากับเขา
ไม่ว่าจะเป็นจักระ หรือความแข็งแกร่งร่างกาย พลังของ ฮันโซ ก็อยู่ระดับเดียวกับ คาเงะ เขาจึงสามารถหลบการโจมตีของ ซึนาเดะ ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยการขยับเพียงครั้งเดียว เขาก็สามารถหลบหมัดของเธอได้ และแตะเธอกลับไป
ซึนาเดะ ตกใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่า ฮันโซ จะหลบการโจมตีของเธอได้ แถมยังสามารถโจมตีเธอกลับได้อีกด้วย
เธอไม่สามารถหลบลูกเตะของเขาได้ทัน เธอทำได้เพียงแค่ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาตั้งการ์ดเพื่อป้องกันเท่านั้น
ตู้ม!!
ทันใดนั้น ฮันโซ ก็ทำให้ ซึนาดเดะ กระเด็นออกไปในอากาศด้วยลูกเตะของเขา จากนั้นเขาก็ขว้างเคียวตามเธอไป เคียวพุ่งไปอย่างรวดเร็วและกำลังจะถึงตัวเธอ
ดูเหมือนว่านี้จะเป็นจุดจบของ ซึนาเดะ
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ฮันโซ ก็สามารถเอาชนะพวกเขาทั้ง 3 คนได้ด้วยตัวคนเดียว นี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกเรียกว่า ครึ่งเทพ!
เมื่อเคียวกำลังจะตัดร่างของ ซึนาเดะ ออกเป็น 2 ส่วน ทันใดนั้น ร่าง ๆ หนึ่งก็ปรากฏมาอยู่ระหว่างเธอกับเคียว เขาคือ ไนโตะ !
เป้ง!!
ไนโตะ ฟัน ดาบคุซานางิ ออกไป จากนั้นมันก็ปะทะเข้ากับเคียวของ ฮันโซ และหยุดมันไว้!
ตอนที่ 154
“ไม่หักงั้นเหรอ?!”
เมื่อมองไปที่เคียวของ ฮันโซ ที่เพิ่งปะทะกับ ดาบคุซานางิ ของ ไนโตะ มันไม่มีรอยร้าวหรือรอยแตกเลยแม้แต่น้อย มันทำให้ ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนว่าเคียวนี้ทำจากวัสดุที่ดีเช่นกัน ไม่เช่นนั้นมันต้องถูกทำลายจากการโจมตีของ ไนโตะ ไปแล้ว มันควรจะหักออกเป็นชิ้น ๆ เหมือนอาวุธอื่น
ฮันโซ ดึงโซ่และคว้าเคียวของเขากลับไป จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการโจมตีปกติของ ฮันโซ แต่มันก็ทำให้เขาประหลาดใจเมื่อเห็นว่ามีคนที่สามารถหยุดเคียวของเขาไว้ได้
“ดาบเล่มนั้น…มันคือดาบคุซานางิ!”
ฮันโซ จ้องไปที่ ไนโตะ ดวงตาของเขาเหมือนมีอะไรบางอย่าง แต่มันก็ไม่ได้กลัว
หลังจากที่เขาคว้าเคียงของเขากลับมาได้ ทันใดนั้นเขาก็วิ่งเข้าหา ไนโตะ ทันที
ฟิ้ว!!
จักระของ ฮันโซ ไหลเข้าไปในเคียว ทำให้เคียวของเขาคมมากยิ่งขึ้น จนดูเหมือนว่าเคียวจักระของเขาจะแข็งแกร่งกว่า ดาบจักระ ของ ซุคุโมะ
เคียวคุซาริกามะ ถูกสร้างขึ้นโดย ซามูไร จาก แคว้นแห่งเหล็ก และดาบของ ซาคุโมะ ก็ทำจากที่นั่นเช่นกัน
คมแหลมของเคียวกำลังพุ่งตรงไปที่หัวใจของ ไนโตะ และดูเหมือนว่ามันคมจนสามารถตัดท้องฟ้าได้!
“แย่แล้ว!!”
เมื่อเห็นภาพนี้ ซึนาเดะ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ไนโตะ เธอก็ตกใจมาก
ดังนั้นเธอจึงกระโดดถอยหลัวเพื่อหลบการโจมตี
ในอีกด้านหนึ่งทั้ง โอโรจิมารุ และ จิไรยะ หลังจากการปะทะกันครั้งสุดท้ายกับ ฮันโซ พวกเขาทั้ง 2 ก็ยังคงยืนอึ้งอยู่
ด้านหน้าของการโจมตีของ ฮันโซ ในครั้งนี้ มีเพียง ไนโตะ ที่มีจิตใจที่เฉียบคมและจิตวิญญาณที่แน่วแน่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่พร้อมจะตอบโต้กลับ
พลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ เกือบจะเท่ากับ คาถานินจาระดับ S แล้ว คลื่นทำลายล้าง ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็ใกล้จะเท่ากับ คาถานินจาระดับ S แล้วด้วยเช่นกัน
ฮันโซ จะจัดการกับพลังเช่นนี้ได้อย่างไร?!
“วิชาดาบ…คลื่นทำลายล้าง!!”
ในช่วงเวลาต่อมา ไนโตะ จับ ดาบคุซานางิ ด้วยมือทั้ง 2 ข้างแล้วฟันออกไปอย่างแรงและตัดผ่านอากาศตรงไปยังเคียวของ ฮันโซ
หากเป็นอาวุธปกติมันจะไม่สามารถต้านทานพลังดังกล่าวได้
เป้ง!!!
ไนโตะ ฟันดาบของเขาและหยุดทั้งเคียวและ ฮันโซ ไว้กลางอากาศ
ตู้ม!!
การปะทะกันของอาวุธทั้ง 2 ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งท้องฟ้าจะถล่มลงมา
พื้นดินด้านหลังของ ไนโตะ เริ่มร้าวออกและรอยแตกเหล่านั้นก็กระจายออกไปไกล
ในเวลาเดียวกัน ฮันโซ ก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศด้วยพลังของการปะทะกันของอาวุธทั้ง 2 และในที่สุด ดาบคุซานางิ ก็เริ่มกินทะลุเข้าไปในเนื้อเคียว
ภายใต้สายตาของทุกคน พลังสั่นสะเทือนก็เริ่มกระจายออกไปและทำให้อากาศเริ่มแตกและสั่น!
เปรี้ยง!!!
ภายใต้การปะทะที่รุนแรงของอาวุธทั้ง 2 ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของ ไนโตะ จะอ่อนแอกว่า ฮันโซ เล็กน้อย แต่ ดาบคุซานางิ นั้นแข็งแกร่งกว่าเคียวมาก!
และนี้คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า ดาบคุซานางิ แข็งแกร่งกว่า เมื่อมันทำให้เคียวเกิดรอยร้าว!
เมื่อเห็นภาพนี้ ฮันโซ ก็ตกใจและเคียดแค้นขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็ดึง เคียวคุซาริกามะ กลับมาและกระโดดถอยหลังทันที
ท้ายที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ จะแข็งแกร่งที่สุดในจำนวนนินจาทั้ง 4 คนนี้
ฟึ๊บ!!
ในตอนที่ ฮันโซ กำลังกระโดดถอยอยู่นั้น โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ก็พุ่งเข้าโจมตีเขาจากทั้ง 2 ด้าน และ จิไรยะ ก็พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังของเขา
ในขณะนี้ ไนโตะ ยังคงมึนงงนิดหน่อยจากผลของการปะทะกันของอาวุธทั้ง 2 แต่เขาก็สามารถตั้งสติกลับมาได้ในไม่กี่วินาที จากนั้นเขาก็ยกดาบขึ้นฟ้าด้วยมือทั้ง 2 ข้างและพุ่งเข้าหา ฮันโซ จากทางด้านหน้า
ตอนนี้ทั้ง 4 คน กำลังล้อม ฮันโซ ไว้ตรงกลาง จากนั้นพวกเขาก็โจมตีพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา ฮันโซ ก็ประสานอินด้วยมือข้างเดียว แล้วร่างของเขาก็หายลงไปในดินทันที
ตู้ม!!
ทั้ง 4 โจมตีลงไปที่พื้นดินตรงจุดที่ ฮันโซ หายตัวไป การโจมตีของพวกเขาทำให้พื้นดินตรงนั้นเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่!
เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อดูว่าพวกเขาโจมตีโดน ฮันโซ หรือไม่ แต่พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงก่อนจักระขนาดใหญ่
ทันใดนั้นก็มีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ตัวหนึ่งโผล่ออกมา มันอ้าปากและพ้นละอองหมอกพิษสีม่วงที่น่าสยดสยองออกมาในอากาศ
“แย่แล้ว!”
“ถอยก่อน!”
แม้ว่า ซึนาเดะ จะมียาถอนพิษแต่พวกเขาก็ไม่สามารถประมาทได้
ไม่มีใครต้องการถูกพิษโดยไม่จำเป็น!
โอโรจิมารุ และอีก 3 คน กระโดนถอยหลังในทันที
ไนโตะ มองดู ซาลามานเดอร์พิษ ที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างเยือกเย็น จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นฟ้าแล้วต่อยหมัดไปที่มัน
“ถ้าคุณคิดว่าจะจะอยู่ใต้ดินได้ตลอดไป…ลองคิดใหม่ดีกว่า!”
ตู้ม!!
ด้วยสัญชาตญาณของ ซาลามานเดอร์ มันรับรู้ได้ถึงอันตราบอย่างชัดเจน แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่มันจะมุดดินหนี
พลังของ ไนโตะ ปะทะเขากับร่างของมันและพื้น!
พิษของมันก็ถูกทำลายด้วยแรงกระแทกและจางหายไปในอากาศ
เมื่อได้เห็นภาพนี้ โอโรจิมารุ และ จิไรยะ ก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แม้แต่ ซึนาเดะ ก็ดูตกใจมากเช่นกัน
ไนโตะ เป็นคนที่น่ากลัวจริง ๆ
ไม่ว่าคุณจะจู่โจมเขาแบบไหน พลังสั่นสะเทือน ของเขาก็จะทำลายทุกสิ่งจนไม่เหลืออะไรเลย!
แม้ว่ามันจะเป็นหมอกพิษ แต่เขาก็ต่อยหมัดออกไป และหยุดมันได้!
ฟึ๊บ!!
ในขณะที่ โอโรจิมารุ กำลังยืนตะลึงกับสิ่งที่เห็น ทันใดนั้น ฮันโซ ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของ จิไรยะ ในขณะที่ดวงตาของเขาส่องประกายถึงจิตสังหารอย่างชัดเจน
เขาไม่คิดเลยว่า ซาลาแมนเดอร์ ของเขาจะถูก ไนโตะ สังหารได้อย่างง่ายดาย
มันจะต้องไม่ตายเปล่า!
ฮันโซ ถือเคียวไว้ในมือ จากนั้นเขาก็ง้างมือขึ้น และฟัน จิไรยะ จากด้านบน
มันสายเกินไปแล้วที่จะหันหลังไปป้องกัน จิริยะจึงพยายามป้องกันเคียวที่ฟันมาจากด้านหลังด้วย มีดคุไน ในมือทั้ง 2 ข้าง แต่การโจมตีนี้รุนแรงเกินไปที่เขาจะต้านไว้ได้ เขาแทบจะกันมันไว้ไม่ไหวจนเคียวเกือบจะแทงลงไปถึงหัวของเขา
พลังอันน่าสะพรึงกลัวของการโจมตีครั้งนี้ มากขนาดทำให้พื้นดินที่ จิไรยะ ยืนอยู่แตกออกเพราะแรงกดของเคียว!
มีรอยร้าวพื้นดินและนั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้น
แคร๊ก!!
เมื่อ จิไรยะ กำลังจะย้อมแพ้กับการโจมตีของ ฮันโซ เขาก็ได้ยินเสียงแตกของบางอย่าง ทันใดนั้น รอยแตกบนเคียวก็เริ่มกระจายออกไป!
ตอนที่ 155
โชคดีที่การปะทะกันครั้งสุดท้ายของเคียว กับ ดาบคุซานางิ เคียวไม่สามารถต้านทานพลังอันมหาศาลของ ไนโตะ ได้จนเกิดเป็นรอยร้าว
และแม้ว่าการปะทะกับ ไนโตะ ในครั้งแรกจะไม่สามารถทำลายเคียวของ ฮันโซ ได้ แต่การปะทะครั้งที่ 2 กับ จิไรยะ ก็สามารถทำลายมันได้ในที่สุด
ครึ่งหนึ่งของเคียวแตกเป็นชิ้นและตกลงที่พื้น ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งยังอยู่ในมือของ ฮันโซ ภาพนี้ทำให้เหงื่อจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าผากของ จิไรยะ
เกือบไปแล้ว!!
หากเคียวไม่ร้าวตั่งแต่ตอนที่ปะทะกับ ไนโตะ ป่านนี้ จิไรยะ คงตายไปแล้ว!
“อะไรกัน?!”
ฮันโซ มองไปที่ เคียวคุซาริกามะ ที่หักของเขา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว เขาคิดว่านี้จะเป็นจุดจบของ จิไรยะ แต่เคียวของเขาก็ต้องมาหักเพราะรอยร้าวที่เกิดจาก ไนโตะ !
หลังจากรอดจากความตาย จิไรยะ ก็กระโดดถอยหลังเพื่อทิ้งระยะห่างจาก ฮันโซ ในทันที
ทั้ง 3 คนมองหน้ากันด้วยความสิ้นหวัง พวกเขารู้ว่าพวกเขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับ ฮันโซ ได้
ถ้า ไนโตะ ไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาจะถูก ฮันโซ บดขยี้ได้อย่างง่ายดาย!
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฮันโซ ก็โยนเคียวของเขาทิ้ง จากนั้นเขาก็หายใจลึก ๆ แล้วพูดว่า “พวกเธอทั้ง 4…แข็งแกร่งเกินกว่าที่ฉันคาดไว้มาก”
“ฉันถูกเรียกว่า ครึ่งเทพ มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เชื่อเถอะว่ามันไม่ใช่แค่ชื่อ!”
ในการ์ตูน 3 นินจาในตำนาน แทบจะไม่สามารถรับมือกับ ฮันโซ ได้เลย แต่ ฮันโซ ก็ยอมปล่อยทั้ง 3 คนไปเพราะเขาไม่อยากขัดแย้งกับ โคโนฮะ
แต่ในตอนนี้มันต่างออกไป ไม่ใช่เพราะ เคียวคุซาริกามะ ของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ หรือเพราะพิษของเขาถูกทำลาย แต่เพราะความโกรธแค้นและความกลัวลึก ๆ ในจิตใจ เพราะฉะนั้น ฮันโซ ก็ตัดสินใจแล้วที่จะฆ่าทั้ง 4 คน
ในการ์ตูน ฮันโซ ไม่กลัวเลยที่ปล่อยให้ทั้ง 3 คนไป เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ฮันโซ ก็มั่นใจว่าถึงอย่างไรเขาก็แข็งแกร่งกว่าทั้ง 3 คนอยู่ดี เพราะอย่างไรก็ตามเขาก็คือคนที่ได้ฉายาว่า ครึ่งเทพ!
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ นั้นแตกต่างจาก 3 คนนี้
ฮันโซ รู้ว่าพลังของ ไนโตะ จะสร้างปัญหาให้เขาในอนาคต และบางทีนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาที่จะฆ่า ไนโตะ ได้ก่อนที่ ไนโตะ จะแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้ เพราะถ้ามันเกิดขึ้น จะไม่มีใครในโลกที่จะสามารถหยุด ไนโตะ ได้
ทันใดนั้น ฮันโซ ก็พุ่งเข้าหา โอโรจิมารุ และประสานอินอย่างรวดเร็ว
“คาถาไฟ : ระเบิดมังกรเพลิง!!”
ฮันโซ ถอดหน้ากากออกและทันใดนั้น มังกรไฟที่น่ากลัวก็พุ่งเข้าหา โอโรจิมารุ
เมื่อเห็นดังนั้น โอโรจิมารุ จึงประสานอินและกดมือลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว
“คาถาอันเชิญ : ประตูราโชมอน 3 ชั้น!”
ทันใดนั้น ประตูเหล็กขนาดใหญ่ 3 บาน ก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินด้านหน้าของ โอโรจิมารุ
ตู้ม!!
ทันใดนั้น มังกรไฟก็พุ่งชนประตูแรกจนพัง จากนั้นมันก็ปะทะเข้ากับประตูบานที่ 2 จนพัง จากนั้นก็พุ่งไปยังประตูบานที่ 3 และแม้แต่ประตูบานที่ 3 ก็ไม่สามารถหยุดมันได้ แต่มันก็ทำให้พลังของมันอ่อนลง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี้เป็นคาถานินจาระดับ A ที่ทรงพลังจนเกือบเท่ากับพลังของคาถานินจาระดับ S !
แม้แต่ ประตูราโชมอน 3 ชั้น ก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีนั้นได้ ทำให้ร่างกายของ โอโรจิมารุ ถูกล้อมรอบไปด้วยเปลวไฟ แต่โชคดีที่ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งและสามารถทนไฟได้ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากไฟ แต่ผิวของเขาก็สามารถรักษาตัวได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อ ฮันโซ ปล่อยคาถาไฟใส่ โอโรจิมารุ แล้ว เขาไม่ได้สวมหน้ากากกลับไป แต่เขาวิ่งตรงไปที่ จิไรยะ แล้วพ่นหมอกพิษที่ทรงพลังใส่ จิไรยะ ทำให้ จิไรยะ จำเป็นต้องกระโดดถอยหลังไป
ซึนาเดะ ต้องการหาโอกาสที่จะโจมตี ฮันโซ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะ ฮันโซ มีประสาทสัมผัสที่ไวมาก
เธอกลัวว่า ถ้าเธอพุ่งเข้าไปโจมตีเขา เธอเองที่จะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือบางทีเธออาจตายได้เลยทีเดียว!
ฮันโซ ได้เแสดงให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของเขาอีกครั้ง เขาสามารถทั้ง 3 คนได้อย่างง่ายดาย แต่ทันใดนั้น การโจมตีของ ไนโตะ ก็มาถึง
ตู้ม!!!
สนามรบทั้งหมดเริ่มสั่นและแม้แต่ฝนก็หยุดอยู่กลางอากาศ
ไนโตะ ขว้างหมัดออกไปอย่างเต็มแรง และถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจาก ฮันโซ แต่ พลังสั่นสะเทือน ก็สามารถเข้าถึงตัว ฮันโซ ได้อย่างง่ายดาย
“คาถาดิน : กำแพงพสุธา!”
นี้คือคาถาป้องกันที่แข็งแกร่งและเพราะมันถูกใช้โดย ฮันโซ พลังของมันจึงเท่ากับคาถานินจาระดับ A
ปั้ง!!
กำแพงหินหนาพุ่งขึ้นมาจากพื้นและปิดกั้นเส้นทางของ พลังสั่นสะเทือน ที่กำลังตรงมายังทางที่ ฮันโซ อยู่
แคร๊ก!!
การโจมตีของ ไนโตะ ปะทะเข้ากับกำแพงหินอย่างรุนแรง ทำให้กำแพงหินเริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นบนผิวของมัน
และในที่สุดกำแพงหินที่แข็งแกร่งก็ถูกทำลายโดยพลังของ ไนโตะ !
“แค่หมัดธรรมดา ๆ ยังมีพลังมหาศาลขนาดนี้…อันตรายจริง ๆ”
ฮันโซ มองดูภาพนี้ จากนั้นเขาก็หันไปเผชิญหน้ากับ ไนโตะ และแสดงให้เห็นถึงจิตสังหารที่แสนเยือกเย็น
ฮันโซ ตัดสินใจทิ้ง 3 นินจาในตำนานได้อย่างง่ายดาย เพราะเขารู้ว่าเขาสามารถจัดการทั้ง 3 เมื่อไรก็ได้
และตอนนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าภัยคุกคามที่แท้จริงคือคนที่อยู่ตรงหน้าของเขา เขาจะไม่สามารถสบายใจได้จนกว่าเขาจะฆ่า ไนโตะ ได้
“ชักจะยุ่งแล้วสิ…”
ไนโตะ มองไปที่ ฮันโซ จากนั้นเขาก็จับดาบด้วยมือทั้ง 2 ข้าง แล้วถีบพื้นอย่างแรง
ตู้ม!!!
ทันใดนั้นพื้นดินก็แตกออก จากนั้นร่างของ ไนโตะ ก็หายไป และพุ่งเข้าหา ฮันโซ อย่างรวดเร็ว
“เร็วมาก!”
นี้เป็นครั้งแรกที่ ฮันโซ ได้เห็นความเร็วที่แท้จริงของ ไนโตะ และมันเร็วกว่า ซึนาเดะ
เมื่อ ฮันโซ เห็นดังนั้น เขาก็ประสานอินด้วยมือเดียว แล้วเขาก็หายตัวไปทันที
หลังจาก ไนโตะ แทงดาบลงไปในดินตรงที่ ฮันโซ หายไป แต่เขาก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น เขารีบมองหา ฮันโซ อีกครั้งในทันที
ฮันโซ ไปปรากฏตัวอีกครั้งในที่ที่ห่างออกไป และในวินาทีต่อมา เขาก็ ใช้คาถานินจาระดับ A โจมตีใส่ ไนโตะ อีกครั้ง
แต่ ไนโตะ ก็ทำลายมันด้วยคลื่นดาบของเขา และพุ่งตรงไปหา ฮันโซ อย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ช่องว่างระหว่างพลังของ ไนโตะ และอีก 3 คน นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนมาก
ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ นั้นใกล้เคียงกับระดับ คาเงะ มาก
ในบรรดา 3 นินจาในตำนวน แม้แต่ โอโรจิมารุ ที่แข็งแกร่งที่สุดใน 3 คนนี้ ก็ไม่สามารถทำอะไร
การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงมาก แม้ว่าจะเป็น โอโรจิมารุ หรืออีก 2 คน พวกเขาก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่ใช่ส่วนสำคัญของการต่อสู้ในครั้งนี้
สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือเชื่อในตัว ไนโตะ คอบสนับสนุนเขาเมื่อมีโอกาส และก่อกวน ฮันโซ เพื่อเปิดโอกาสให้ ไนโตะ โจมตีได้
หลังจากที่พวกเขาค้นพบหน้าที่ที่ดีที่สุดในการต่อสู้ในครั้งนี้แล้ว ทั้ง 3 คนและ ไนโตะ ก็เป็นต่อในการต่อสู้มากขึ้น!
ในตอนแรก ฮันโซ ยังคงสามารถโจมตีพวกเขาทั้ง 3 คนได้ แต่ตอนนี้พวกเขาทั้ง 3 คนกลับเป็นผ่ายกดดัน ฮันโซ แทน และถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ชัยชนะของพวกเขาจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป!
ตอนที่ 156
สภาพอากาศยังคงมีฝนตกเหมือนอย่างที่เคย
สนามรบมีแต่ความเศร้าหมอง
3 นินจาในตำนานได้ร่วมมือกับ ไนโตะ เพื่อต่อสู้กับ ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเสียเปรียบในตอนแรก แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบและการต่อสู้ก็ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ
การผลิกผันของสถานการณ์ในการต่อสู้ครั้งนี้ เป็นเพราะความจริงที่ว่า ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ เขาก็คือ ไนโตะ !
คนคนหนึ่งพร้อมกับดาบของเขา ได้เปลี่ยนชะตากรรมทั้งหมด
การโจมตีของพวกเขาได้กดดัน ฮันโซ มากขึ้นและทำให้เขาไม่มีจังหวะได้โจมตีกลับ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะชนะในการต่อสู้ครั้งนี้
ห่างออกไป โคนัน , ยาฮิโกะ และ นางาโตะ จ้องมองด้วยความตกใจ แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ 4 ต่อ 1 แต่ 1 คนนั้นก็คือ ฮันโซ ฉายา ครึ่งเทพ !
1 ในนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ กำลังถูกนินจา 4 คน กดดันเป็นอย่างมากและทำให้เขาไม่สามารถโจมตีส่วนกลับไปได้
ช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริง ๆ !
ใบหน้าที่สวยงามของ โคนัน เธอกำลังมองไปที่สนามรบและจ้องไปที่ ไนโตะ ด้วยความชื่นชม ในขณะที่เขากำลังต่อสู้กับ ฮันโซ อยู่
ครูไนโตะ…บางทีสักวันหนึ่งเขาอาจกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกก็ได้
โคนัน เชื่อในตัวของ ไนโตะ จากก้นบึ้งหัวใจของเธอ
ในอีกด้านหนึ่ง เซ็ทสึ ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็มองด้วยความประหลาดใจมาก เขามั่นใจมากว่าเขาเป็นคนที่รู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้
เขารู้มาโดยตลอดว่า ฮันโซ เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้
แข็งแกร่ง!
แข็งแกร่งจริง ๆ !
แม้แต่ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ก็ไม่สามารถสู้แบบ 1 ต่อ 1 กับ ฮันโซ ได้
ฉายา ครึ่งเทพ ไม่ได้มาแบบเล่น ๆ เท่านั้น!
แต่ถึงอย่างนั้น คนคนนี้ก็กำลังถูกต้อนให้จนมุม และแม้ว่า ฮันโซ จะยังไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็กำลังจะแพ้!
“เหลือเชื่อจริง ๆ พวกมันทั้ง 4 คนกำลังจะบดขยี้ ฮันโซ ถึงแม้ว่าพวกมันจะมียาถอนพิษ แต่ความแข็งแกร่งของ ฮันโซ ก็ไม่ได้อยู่ที่พิษของเขาเพียงอย่างเดียว”
เซ็ทสึ มองไปที่สนามรบจากนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ…ถ้าไม่มีเขา ต่อให้มีกองทัพโจนิน ก็ไม่สามารถเอาชนะ ฮันโซ ได้”
“เดี๋ยวก่อน ถ้าพวกมันเอาชนะ ฮันโซ ได้จริง ๆ พวก นางาโตะ ก็จะได้พบกับ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ถ้าเป็นอย่างนั้น เนตรสังสาระ ก็จะตกอยู่ในมือของ โคโนฮะ…”
ในขณะที่ เซ็ทสึ กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปและเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะไปบอกเรื่องนี้กับ มาดาระ
และเมื่อเขาตัดสินใจได้แบบนั้น การต่อสู้ก็ได้สิ้นสุดลงในที่สุด
ตู้ม!!!
เสียงดังลั่นของพื้นแตก ฮันโซ ทรุดตัวลงกับพื้น ในขณะที่เขามีเลือดไหลออกจากปาก
ในอีกด้านหนึ่ง โอโรจิมารุ และคนอื่น ๆ ยังไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่พวกเขาก็ดูเหนื่อยมาก พวกเขาหายใจหอบอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จิไรยะ เขาใช้จักระไปเป็นจำนวนมากและดูเหมือนว่าเขาก็กำลังจะเป็นลม
การต่อสู้นั้นตึงเครียดมาก แม้กระทั่ง ไนโตะ ที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งก็ยังดูเหนื่อยเช่นกัน แต่ก็ต้องบอกเลยว่า ฮันโซ แข็งแกร่งจริง ๆ ขนาด ไนโตะ ก็ยังไม่สามารถฆ่าเขาได้จนถึงตอนนี้
แต่…ท้ายที่สุดแล้ว ไนโตะ ก็เป็นฝ่ายชนะ!
แม้ว่า ฮันโซ จะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่สถานการณ์ในสนามรบเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ถึงเขาจะยังสามารถฆ่า โอโรจิมารุ หรือ จิไรยะ ได้ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็จะถูกฆ่า!
ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะโด่งดังและแข็งแกร่งมาตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ 3 นินจาในตำนาน ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้ง 4 ก็สามารถเอาชนะ ฮันโซ ผู้ที่ทำให้ทั้งโลกต้องหวาดกลัว พวกเขาสามารถไล่ต้อนเขามาได้ถึงขนาดนี้ นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะได้รับชัยชนะ!
ซึนาเดะ ยืนอยู่ถัดไปจาก ไนโตะ เธอดูตื่นเต้นมาก!
เธอไม่คิดว่าจะสามารถยื้อ ฮันโซ ได้นานขนาดนี้!
ในตอนแรก เธอคิดว่าเธอจะถ่วงเวลา ฮันโซ ได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
แต่เพราะ ไนโตะ และความพยายามของทั้ง 4 คน พวกเขาจึงสามารถเอาชนะ ฮันโซ ได้ในที่สุด
“โคโนฮะ…หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่แข็งแกร่งที่สุด”
ฮันโซ จ้องไปที่ ไนโตะ ในขณะที่ยังมีเลือดอยู่ที่มุมปากของเขา
เขาพยายามที่จะฆ่า ไนโตะ นับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งที่ ไนโตะ โจมตีกลับมา มันไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่มันพรงพลังมาก
ไนโตะ คือ อัจฉริยะ ที่แท้จริง!
นี้คือความรู้สึกที่ ฮันโซ มีต่อความแข็งแกร่งของ ไนโตะ สำหรับอีก 3 คน พวกเขาทำได้ดีกว่า โจนิน ทั่วไปมาก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะถูกฆ่าไปนานแล้ว
สำหรับทีม โจนิน ที่มาพร้อมกับทั้ง 4 คน หลังจากที่พวกเขาเอาชนะ กองทหารอาเมะ ได้แล้ว พวกเขาก็เข้าร่วมการต่อสู้กับ ฮันโซ แต่พวกเขาก็ถูกฆ่าตายทีละคนในเวลาไม่นาน
พวกเขาอ่อนแอเกินไปที่จะเข้าร่วมการต่อสู้แบบนี้
“พวกเธอทั้ง 4 คนแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่เพราะฉันไม่สามารถเอาชนะพวกเธอได้ แต่เพราะพวกเธอเอาชนะฉันได้ต่างหาก ชื่อของพวกเธอจะต้องดังไปทั่วทั้งโลกนินจา”
“โดยเฉพาะเธอ…” ฮันโซ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยสีหน้าประหลาด ๆ “ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ฉายานี้อาจไปถึงจัดสูงสุดของโลกแห่งนี้ก็เป็นได้”
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินคำพูดของ ฮันโซ เขาก็ดูสับสนเล็กน้อย “คุณหมายถึงอะไร?”
“ไม่มีความหมายแฝงอะไรทั้งนั้น สงครามครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกต่อไป โคโนฮะ เป็นฝ่ายชนะ และพวกเธอทั้ง 4 คนก็เอาชนะฉันได้…รู้สึกแย่กว่าการถูกฆ่าอีกนะเนี่ย”
ฮันโซ พูดออกมาด้วยท่าทางที่สงบเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่ ไนโตะ เป็นครั้งสุดท้าย และในที่สุดเขาก็ประสานอิน
วิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา!
ฟึ๊บ!!
ทันใดนั้น ฮันโซ ก็หายตัวไป
ไนโตะ มองไปที่ ฮันโซ ก่อนที่เขาจะหายไป แต่เขาก็ไม่ทำอะไรเลยนอกจากส่ายหัว
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนนั้นก็อ่อนล้ามากและหากเขาไล่ตาม ฮันโซ ไป พวกเขาก็ไม่สามารถตามไปได้ทันอย่างแน่นอน และนี่จะจบลงด้วยการตายของพวกเขาแทน
“ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์…ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งจริง ๆ”
ไนโตะ ผนึกดาบของเขากลับไป พร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย
ในที่สุด ด้วยความพ่ายแพ้ของ ฮันโซ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ก็ได้สิ้นสุดลง!
มันคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการ์ตูน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือการมีอยู่ของ ไนโตะ ในสงครามครั้งนี้ ทำให้ โคโนฮะ สามารถบดขยี้หมู่บ้านอื่น ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ และการประกาศตัวให้โลกทั้งใบรู้ว่าเขาแข็งแกร่งที่สุด!
เมื่อสิ้นสุดสงครามครั้งนี้ ความพ่ายแพ้ของ หมู่บ้านอาเมะ ทำให้มีการต่อสู้ใน แคว้นแห่งฝน ต่อไปอีกเป็นระยะเวลาหลายปี และความขัดแย้งเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลง จากนั้นมันก็จะรุนแรงขึ้นอีกครั้ง จนในที่สุด มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ก็จะเริ่มขึ้น
ในความเป็นจริงแล้ว มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ก็ถือได้ว่าเป็นผลที่เกิดมาจาก มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 นั้นเอง
ตอนที่ 157
“ถึงยังไงเขาก็คือ ครึ่งเทพ”
หลังจากที่ ซึนาเดะ เห็นว่า ฮันโซ หายไปจากสนามรบ เธอก็หายใจเข้าลึก ๆ และในที่สุดเธอก็ถอนหายใจออกมา
ถึงตอนนี้ การต่อสู้ในแนวหน้าก็คงจะจบลงแล้ว
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะสามารถเอาชนะ ฮันโซ ได้จริง ๆ”
หลังจาก จิไรยะ หายใจเข้าลึก ๆ เขาก็ใจเย็นลง
โอโรจิมารุ ชี้นิ้วไปทาง ไนโตะ แล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ ไนโตะ มีแค่เธอเท่านั้นที่สามารถป้องกันการโจมตีของ ฮันโซ ได้…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โอโรจิมารุ ก็มอง ไนโตะ ด้วยสายตาแปลก ๆ และยิ้มเยาะ แล้วพูดว่า “แต่ฉันก็ยังคิดว่าเธอน่าจะเอาชนะเขาได้ ถ้าเขาไม่หนีไปเสียก่อน”
ไนโตะ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ”
ในอีกด้านหนึ่ง จิไรยะ ที่ยืนฟัง ไนโตะ และ โอโรจิมารุ คุยกันอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เธอแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมากน่ะ ไนโตะ อีกไม่นานเธอก็คงจะเก่งเท่ากับ ฮันโซ ตอนนั้นเธอก็คงอายุประมาณ 20 ละมั้ง”
ช่วงอายุ 20 – 30 ปี เป็นช่วงอายุของคนทั่วไป ที่จะพัฒนาพลังของตนให้ไปถึงจุดสูงสุด
โดยทั่วไปแล้ว ช่วงเวลาที่จะพัฒนาได้อย่างรวดเร็วคือช่วงอายุ 10 – 16 ปี แต่ก็มีบางกรณีที่หาได้ยากมากอย่าง คาคาชิ ที่เริ่มพัฒนาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
“อายุ 20…”
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินคำนี้ เขาก็ได้แต่ส่ายหัว
อุจิฮะ อิทาจิ สามารถเบิก เนตรวงแหวน ได้ตั่งแต่อายุ 13 ปี และเมื่อเขาสามารถเบิก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ได้ พลังของเขาก็เทียบเท่ากับระดับ คาเงะ ทันที
แต่สำหรับ ไนโตะ แล้ว การเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 จะทำให้เขามีพลังมากขึ้นจนเทียบเท่ากับระดับ คาเงะ!
และอีกไม่นาน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ก็จะเริ่มขึ้น ดังนั้น ไนโตะ จะต้องแข็งแกร่งกว่านี้
มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ถือได้ว่าเป็นสงครามที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับสงครามครั้งอื่น ๆ
แต่ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 จะมี ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์มาร่วมสงครามด้วย การต่อสู้กับผู้ชายคนนี้จำเป็นต้องใช้พลังที่มากกว่าเดิมหลายเท่า
ปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ นั้นมากเกินพอสำหรับ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 แต่สำหรับสงครามในอนาคต พลังแค่นี้ยังไม่พอ
เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น ไนโตะ จะต้องเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 , 5 และ 6 ของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ให้ได้!
……
“ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์…แพ้งั้นเหรอ?!”
ยาฮิโกะ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
โคนัน ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา พยักหน้าและด้วยสีหน้าที่ตกใจเล็กน้อย เธอก็พูดว่า “ครูไนโตะ ชนะ”
“พวกเราไปหาเขาดีไหม?”
ยาฮิโกะ รู้สึกลังเลเล็กน้อย เมื่อเขามองไปที่ โอโรจิมารุ และอีก 2 คน ที่อยู่กับ ไนโตะ
แน่นอนว่าเขาคุ้นเคยกับ ไนโตะ แต่ โอโรจิมารุ ก็ดูหน้ากลัวมาก และอีก 2 คนก็ไม่ได้ดูเป็นคนดีเช่นกัน
“เราจะปลอดภัยไหมถ้าเข้าไป?”
โคนัน ก็รู้สึกลังเลเล็กน้อยเช่นกัน แต่เธอก็ยิ้มออกมาแล้วมองไปที่ ยาฮิโกะ และพูดกับเขาว่า “พวกเขามากับ ครูไนโตะ ไม่เป็นไรหรอกน่า ไปกันเถอะน่ะ”
“งั้นก็ได้”
เมื่อ ยาฮิโกะ ได้ยินคำพูดของ โคนัน เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาและพยักหน้าให้เธอ
ใช่แล้ว ถึงแม้ว่า นินจาโคโนฮะ จะดูน่ากลัวนิดหน่อย แต่พวกเขาคงไม่ทำอะไรพวกเรา เมื่อ ไนโตะ อยู่ที่นั่น
“นางาโตะ ไปด้วยกันสิ เราจะแนะนำ ครูไนโตะ ให้นายรู้จัก”
“หา…อื้ม…”
นางาโตะ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ในขณะเขารู้สึกกลัวเล็กน้อย
เขายังจำได้อย่างชัดเจน ในวันที่พ่อแม่ของเขาถูกนินจาฆ่าตาย ซึ่งนินจาพวกนั้นมีสัญลักษณ์บนผ้าคาดหน้าผากแบบเดียวกันกับนินจาทั้ง 3 ที่อยู่กับ ไนโตะ
ยาฮิโกะ และ โคนัน ไม่รู้จักอดีตของ นางาโตะ
ทั้งคู่ยืนขึ้นและเดินตรงไปหา ไนโตะ ในทันที
นางาโตะ ยื่นมือออกไปและพยายามที่จะหยุดพวกเขา เพราะเขาไม่อยากเขาไปหา นินจาพวกนั้น และเขาก็ไม่อยากอยู่คนเดียวด้วย
ด้วยความลังเลใจ ทำให้ความคิดของเขาจมลงสู่ความสับสนวุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ
……
ถ้ำใต้ดินที่ไหนสักแห่ง
อุจิฮะ มาดาระ กำลังนั่งรออยู่
“มาดาระ ไนโตะ และนินจาจากโคโนฮะ เอาชนะ ฮันโซ ได้แล้ว”
“แน่นอน ดูเหมือนว่าปีศาจตัวน้อยจะแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดไว้” มาดาระ เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและใบหน้าของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความกังวลที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบนใบหน้าของเขา
แต่มันก็ไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดของโลก ดังนั้น ถึง ไนโตะ จะเอาชนะ ฮันโซ ได้ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
เหมือนกับมด 2 ตัวต่อสู้กัน ถึงแม้ว่ามดตัวไหนจะชนะ นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันสามารถพิชิตโลกใบนี้ได้!
“อีกเรื่องหนึ่ง นางาโตะ ก็อยู่ที่นั้นด้วย และในไม่ช้าเขาก็คงจะได้เจอกับ ไนโตะ เราจะเอายังไงดี?”
“อะไรนะ?”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ มาดาระ ก็ขมวดคิ้วในทันที
เขาอยากจะคิดว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไร แต่นี่ไม่ใช่ในกรณีที่ ไนโตะ เริ่มแข็งแกร่งขึ้นแล้ว และเขาก็ไม่รู้ว่า ไนโตะ จะทำอะไรต่อไป
มาดาระ เงียบไปนาน ในขณะที่ใบหน้าของเขาแสดงถึงความกังกลอย่างมาก
“ป้องกันไม่ให้ นางาโตะ ได้เจอกับ ไนโตะ เขาอาจแทรกแซงแผนการของเราได้…”
มาดาระ พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน จากนั้นเขาก็หลับตาลง
ในตอนนี้ ดวงตาของ อุจิฮะ ไม่ใช่ เนตรสังสาระ มันคือ เนตรวงแหวน ธรรมดา ๆ
อย่างไรก็ตาม เนตรวงแหวน ของ มาดาระ ก็แข็งแกร่งมาก!
ชิ้ง!!
ทันใดนั้น มาดาระ ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับ เนตรวงแหวน ที่มีจุดหยุดน้ำครบทั้ง 3 จุด
แม้ว่ามันจะเป็นแค่ เนตรวงแหวนธรรมดา แต่พวกมันก็ดูแข็งแกร่งกว่า เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา !
และแม้ว่า มาดาระ จะย้าย เนตรสังสาระ ไปให้ นางาโตะ แต่เขาก็ยังมีพลังของ เพน 6 วิถี อยู่
พลังนั้นดูจะไม่สนใจต่อความจริงที่ว่าเขาไม่มี เนตรสังสาระ อยู่อีกแล้ว และพลังนั้นก็ติดอยู่กับ เนตรวงแหวน ของเขาแทน
……
แคว้นแห่งฝน
หลังจากที่ ฮันโซ พ่ายแพ้ให้กับ ไนโตะ และ 3 นินจา พวกเขาก็เดินไปรอบ ๆ สนามรบ
แม้ว่าพวกเขาจะชนะ แต่สภาพสนามรบก็ดูน่าสะพรึงกลัวมาก พวกเขาเกือบสูญเสียทีม โจนิน ไปทั้งหมด แต่นั่นก็ทำให้ กองทหารอาเมะ ถูกทำลายในที่สุด
ทีมโจนินที่เสียชีวิตเหล่านี้ ไม่ได้ถูกฆ่าโดย กองทหารอาเมะ แต่พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าโดย ฮันโซ
พวกเขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ครั้งนี้
ไนโตะ และ 3 นินจาในตำนาน ไม่สามารถหยุด ฮันโซ ไม่ให้ฆ่าพวกเขาได้
ทั้ง 4 สามารถปกป้องพวกเขาได้ซักพัก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องพวกเขาตลอดเวลา
“พวกเขาตายหมดแล้ว”
จิไรยะ มองไปยังเลือดที่ไหลอยู่เต็มพื้น จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ
ในตอนนั้น โอโรจิมารุ ก็เหลือบมองแล้วพูดว่า “ไม่ ยังไม่หมด”
“อะไรนะ?!”
จิไรยะ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยินคำพูดของ โอโรจิมารุ
โอโรจิมารุ หันไปมองอีกทางหนึ่ง “มีคนซ่อนอยู่ตรงนั้น”
ในวินาทีต่อมา โอโรจิมารุ ก็พร้อมพุ่งเข้าโจมตีทุกสิ่งที่เคลื่อนไหว
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เดินมาถึง โอโรจิมารุ และหยุดเขา
“ไม่จำเป็น”
หลังจากที่ ไนโตะ หยุด โอโรจิมารุ เขาก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย
พวกนั้นคือ โคนัน และ ยาฮิโกะ…
แม้ว่าความสามารถของ ไนโตะ ในการตรวจจับจักระของคนอื่น ยังไม่แข็งแกร่งเท่า โอโรจิมารุ แต่ ไนโตะ ก็สามารถรู้ได้ว่าเป็นพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
มันเป็นชะตากรรมงั้นเหรอ? หรือแค่ความบังเอิญเป็น?
ท้ายที่สุดแล้ว นี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกเขามาเจอกันในสถานที่ที่ไม่คาดคิด
หลังจากที่ ไนโตะ ส่ายหัว เขาก็ก้าวไปข้างหน้า จากนั้นก็ยิ้มให้ ยาฮิโกะ และ โคนัน ที่กำลังวิ่งตรงมาหาเขา
“ไม่เจอกันนานเลยนะ ยาฮิโกะ…โคนัน”
“ครูไนโตะ”
ตอนที่ 158
ในที่สุด โคนัน และ ยาฮิโกะ ก็วิ่งมาถึง ไนโตะ พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
หลังจากที่พวกเขาเห็นครูเอาชนะ ฮันโซ ได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะรู้สึกชื่นชมจากใจจริง
ซึนาเดะ ดูประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกเขาทั้ง 2 คน จากนั้นเธอก็มองไปที่ ไนโตะ และพูดว่า “เธอไปเป็นครูของเด็กพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไร? เด็ก 2 คนนี้…ดูเหมือนว่าจะมาจาก หมู่บ้านอาเมะ สินะ”
“ใช่ครับ”
ไนโตะ พยักหน้า จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ ซึนาเดะ ที่กำลังดูเหมือนกำลังโกรธอยู่ “พวกเขาเป็นเด็กกำพร้า ผมเจอพวกเขาตอนที่ผมกำลังทำภารกิจสอดแนมอยู่ ผมเลยอยู่กับพวกเขาสักพักหนึ่ง”
“แล้วทำไมไม่บอกฉันสักคำ?”
ซึนาเดะ เดินไปหา ไนโตะ ในขณะที่เธอมองไปที่ โคนัน และ ยาฮิโกะ และเธอก็รู้สึกแปลก ๆ กับเรื่องนี้
ไม่ใช่เพราะ ไนโตะ อายุน้อยเกินกว่าจะเป็นครูได้
ด้วยความแข็งแกร่งของ ไนโตะ มันสมเหตุสมผลมากที่เขาจะมีลูกศิษย์
สิ่งที่แปลกก็คือ เขารับ 2 คนนี้เป็นศิษย์ แต่พวกเขาทั้ง 2 ดูเป็นคนธรรมดา ๆ จักระของพวกเขาก็อ่อนแอมากและดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปถึงได้แค่นินจาระดับ จูนิน
แล้วทำไม ไนโตะ ถึงยอมสอนวิชานินจาให้พวกเขา?
ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมเขาถึงเลือกสอนเด็ก 2 คนจาก หมู่บ้านอาเมะ ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถเลือกสอนเด็กใน หมู่บ้านโคโนฮะ ได้ เพราะเท่าที่ ซึนาเดะ เห็นก็คือ โคนัน และ ยาฮิโกะ ก็ไม่ต่างจากเด็กปกติใน หมู่บ้านโคโนฮะ
“ผมไม่ได้บอกก็เพราะพวกเขาก็ไม่ได้มาจาก โคโนฮะ ผมเลยไม่รู้ว่าจะได้เจอกับพวกเขาอีกหรือเปล่า”
ไนโตะ พยายามอธิบาย
อย่างไรก็ตาม ซึนาเดะ ก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ไนโตะ พูด เธอต้องการถามเขาเพิ่มอีก แต่ในเวลาเดียวกัน นางาโตะ ก็เดินเข้ามาหาอย่างช้า ๆ ด้วยท่าทางที่ดูลังเลเล็กน้อย
โอโรจิมารุ ยืนอยู่ข้าง ไนโตะ และ ซึนาเดะ แต่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการสนทนานี้ เพราะเขาเหนื่อยจากการต่อสู้กับ ฮันโซ เกินกว่าที่จะพูดคุยด้วย
แต่เรื่องที่ ไนโตะ มีลูกศิษย์ ก็ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย
ไม่ใช่แค่ ซึนาเดะ ที่สงสัย แม้แต่ โอโรจิมารุ ก็สงสัยเช่นกัน
เขามองไปที่ โคนัน และ ยาฮิโกะ แต่เขาก็ไม่เห็นถึงความพิเศษอะไรในตัวทั้งคู่เลย จากนั้นเขาก็มองไปที่ นางาโตะ ที่เพิ่งเดินมาถึง
โอโรจิมารุ มองไปที่ นางาโตะ ด้วยดวงตาที่ชั่วร้าย แต่ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็สั่นขึ้นมาในทันที
จิไรยะ ก็เช่นกัน ทันทีที่เขารู้สึกได้ถึงพลังพิเศษที่มาจาก นางาโตะ เขาก็ก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ
นั่นมันอะไร?!
ในขณะเดียวกัน โอโรจิมารุ ก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่น่ากลัวมากที่ออกมาจาก นางาโตะ และยิ่งตอนที่ นางาโตะ มาอยู่ใกล้ ๆ เขา มันทำให้เขารู้สึกเหมือนเขาเป็นมดที่กำลังจะโดนเหยียบ!
แต่ ยาฮิโกะ กลับไม่รู้สึกอะไรเลย เขาเดินไปหา นางาโตะ อย่างช้า ๆ แล้วหยุดอยู่ข้าง นางาโตะ
“นี้คือ นางาโตะ เราเจอเขาเมื่อ 2 วันก่อน…”
ยาฮิโกะ พร้อมที่จะแนะนำและพูดคุยเกี่ยวกับ นางาโตะ ให้ทุกคนรู้จัก แต่ก่อนที่เขาจะพูดได้จบประโยค ท่าทางของ นางาโตะ เปลี่ยนไป
ในขณะนี้ จิตสังหารของ นางาโตะ รุนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก รัศมีของมันกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
แคร๊ก!!!
พื้นดินเริ่มร้าวออกภายใต้แรงกดดันอันแรงกล้านี้ และผมสีแดงของเขาก็เริ่มลอยขึ้น…เผยให้เห็นดวงตาของเขาที่เป็น เนตรสังสาระ !
“อ๊า…!!”
ดูเหมือนว่า นางาโตะ จะหมดสติไปแล้วและสิ่งที่อยู่ตรงนี้คืออย่างอื่น
เป็นเพราะดวงตาที่ชั่วร้ายของ โอโรจิมารุ ทำให้ นางาโตะ นึกถึงเรื่องราวในอดีตในวันที่พ่อแม่ของเขาถูกสังหารได้ หัวใจของเขาจมลงสู่ความกลัวจนกระทั่งเขาไม่สามารถควบคุมสติได้
ในตอนนี้ เขาไม่สามารถควบคุมพลังของเขาได้อีกต่อไปและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
แคร๊ก!!!!
นี่คือพลังของ เพน 6 วิถี นั่นเอง และแม้แต่ โอโรจิมารุ และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกได้ถึงพลังของมัน
“เป็นไปไม่ได้!!!”
“ดวงตานี้…เนตรสังสาระ!”
ทั้ง โอโรจิมารุ และ จิไรยะ รู้สึกตกใจมากและพวกเขาก็จำตาแบบนั้นได้ในทันที
ในเวลานี้ แม้แต่ โอโรจิมารุ ก็ไม่สามารถสงบสติของเขาได้ เขาเริ่มหายใจหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้ง โอโรจิมารุ และ จิไรยะ ต่างรู้ดีว่าดวงตาเหล่านี้คืออะไรและมันมีพลังแบบไหน!
ในวินาทีต่อมา โอโรจิมารุ ก็พุ่งเข้าหา นางาโตะ
“เดี๋ยว!!”
“หยุดก่อน!”
ซึนาเดะ และ จิไรยะ ตกใจอย่างมากกับการกระทำของ โอโรจิมารุ พวกเขาต้องการหยุด โอโรจิมารุ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
ไนโตะ สามารถหยุด โอโรจิมารุ ได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเห็นสภาพของ นางาโตะ แล้ว ไนโตะ ก็ขมวดคิ้วและด้วยสีหน้าแปลก ๆ เขาจึงอยากให้ โอโรจิมารุ ลองดู
ฟึ๊บ!!
งูตัวใหญ่จำนวนมากออกมาจากมือของ โอโรจิมารุ และพุ่งตรงไปหา นางาโตะ ทันที ในขณะที่พวกมันอ้าปากและพร้อมที่จะกัดเขา
ทันใดนั้น นางาโตะ ก็ระเบิดพลังออกมา
“ข่ายเทพพิชิตฟ้า!”
ตู้ม!!
พื้นรอบตัว นางาโตะ เริ่มสั่นไหวและเคลื่อนพลังบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ก็ระเบิดออกมาจากร่างของ นางาโตะ และระเบิดออกไปทั่วทิศทาง
พื้นไม่ได้แตกออก แต่มันกลายเป็นเศษในทันที เกิดเป็นหลุมลึกที่น่ากลัว และในไม่ช้า มันก็เริ่มกระจายออกไป
ด้วยพลังแบบนี้ ทุกคนรู้ดีว่าจะต้องหนี!
การโจมตีของ โอโรจิมารุ ถูกทำลายในทันที ด้วยพลังของ ข่ายเทพพิชิตฟ้า!
“แย่แล้ว!”
โอโรจิมารุ เผยให้เห็นความสยองขวัญในดวงตาของเขา เขารู้ได้ทันทีว่านี้คือพลังของ เนตรสังสาระ ดังนั้นเขาจึงรีบหนีโดยไม่ลังเล
ในเวลาเดียวกัน ท่าทางของ ซึนาเดะ และ จิไรยะ ก็เปลี่ยนไป แล้วพวกเขาก็กระโดดหนีในทันที
ไนโตะ ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองไปที่ นางาโตะ
การที่ นางาโตะ ไม่สามารถควบคุมพลังของเขาได้ มันเป็นเรื่องแปลกสำหรับ ไนโตะ เป็นไปได้ว่านี้เป็นเพียงพลังที่ระเบิดออกมาเมื่อเขาขาดสติหรือตื่นกลัว แต่มันก็ยังแปลกมากอยู่ดี
“ถอยก่อน!”
ในเวลาต่อมา ไนโตะ ก็คว้าเสื้อ ยาฮิโกะ แล้วโยน ยาฮิโกะ ไปด้านหลัง และ ไนโตะ ก็อุ้ม โคนัน ขึ้นมา และรีบหนีออกจากการระเบิดพลังนี้อย่างรวดเร็ว
การระเบิดพลังของ ข่ายเทพพิชิตฟ้า กระจายไปทุกทิศทาง มันรวดเร็ว รุนแรง และทำลายทุกสิ่งได้อย่างแท้จริง
ในตอนนี้ ไนโตะ มั่นใจว่า นางาโตะ ในตอนนี้ ไม่เสียสติไปแล้วก็กำลังถูกควบคุมอยู่
ทันใดนั้น การระเบิดก็สงบลง และดวงตาของ นางาโตะ ก็เยือกเย็นเป็นอย่างมาก จนดูเหมือนว่าดวงตาคู่นั้นจะแช่แข็งโลกได้ทั้งใบ!
เมื่อมองไปที่ดวงตาคู่นั้น ในที่สุด ไนโตะ ก็รู้ว่า นางาโตะ ไม่ได้หมดสติ เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถหยุดวิชาของเขาได้ และแน่นอนว่าเขาจะไม่มองมาด้วยสายตาแบบนี้
แม้ว่า นางาโตะ จะยังไม่หมดสติ แต่ก็เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเขา และไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้เขากำลังถูกควบคุมอยู่
สายตาและจิตสังหารแบบนี้…มันเหมือนกับของ มาดาระ !
ตอนที่ 159
ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ อุจิฮะ มาดาระ สามารถใช้คาถาลวงตากับ นางาโตะ และควบคุมเขาจากระยะไกลได้
อุจิฮะ มาดาระ ชายคนนี้คือนินจาที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่ถ้าแผนการของเขาที่จะให้ นางาโตะ ชุบชีวิตเขาขึ้นมาในอนาคต ไม่ประสบความสำเร็จ คุณคิดว่ามันจะหยุดเขาได้อย่างนั้นเหรอ?!
คำตอบคือไม่อย่างแน่นอน!
ผู้ชายคนนี้สามารถทำอะไรก็ได้ และไม่มีอะไรจะมาหยุดเขาได้!
แม้ว่าเขาแผน เนตรสังสาระ ของเขาจะผิดพลาด เขาก็จะมีวิธีอื่นอย่างแน่นอน!
“ครูไนโตะ…”
นี่คือเสียงของ ยาฮิโกะ ที่เรียก ไนโตะ หลังจากที่ ไนโตะ ช่วยเขาและ โคนัน หนีออกมาพลังนั้น
ท้ายที่สุดแล้วมันก็หยาบคายเกินไปที่จะโยนผู้หญิงออกไป
“ไม่เป็นไร”
ไนโตะ วาง โคนัน ลงบนพื้น จากนั้นเขามองไปที่ นางาโตะ ที่อยู่ห่างออกไป
หน้าของ โคนัน แดงขึ้นมาเล็กน้อย
หลังจากที่ ไนโตะ วางเธอลงบนพื้น เธอก็ไม่ได้พูดอะไรและมองไปที่ นางาโตะ
ในเวลาเดียวกันเธอก็ดูกังวลเล็กน้อย
นางาโตะ ในตอนนี้ แตกต่างจากที่เธอรู้จัก เขาไม่ใช่ นางาโตะ คนเดิมอีกแล้ว!
อีกด้านหนึ่ง ยาฮิโกะ ก็มองไปที่ นางาโตะ ด้วยความตกใจเช่นกัน
เขาไม่เคยรู้เลยว่า นางาโตะ มีพลังเช่นนี้!
“ครูไนโตะ…นางาโตะ เขา…”
“นายถอยไปก่อน ฉันจะจัดการเขาเอง”
ไนโตะ ขัดจังหวะ ยาฮิโกะ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง โดยไม่หันกลับมามอง
ทั้ง โคนัน และ ยาฮิโกะ พยักหน้าแล้วทั้ง 2 ก็ถอยหลังทันที ด้วยความรู้สึกที่เป็นห่วงทั้ง ไนโตะ และ นางาโตะ
“นี่คือพลังของ เนตรสังสาระ งั้นเหรอ?”
จิไรยะ ดูตกใจมากเมื่อเห็นภาพนี้ ภาพที่พลังของ ข่ายเทพพิชิตฟ้า ทำลายทุกสิ่งรอบ ๆ นางาโตะ จนหมด
ในอีกด้านหนึ่ง โอโรจิมารุ ก็ดูตกใจเช่นกัน
พลังแบบนี้…เขาไม่สามารถเผชิญกับมันได้!
ในอีกด้านหนึ่ง นางาโตะ กำลังจ้องมองที่พวกเขาด้วยท่าทางน่ากลัวมาก
เขาจ้องไปที่ โอโรจิมารุ แต่จากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจในตัวของ โอโรจิมารุ เลย จากนั้นดวงตาของเขาก็หันไปทาง ไนโตะ
ฟึ้ม!!
ในไม่ช้า แรงกดดันที่รุนแรงก็ปะทุออกมา
นี้ไม่ใช่วิชาคาถา มันเป็นแค่การไหลของจักระ ของเขา!
ตู้ม!!
ทันใดนั้นพื้นดินใต้ฝ่าเท้าของ ไนโตะ ก็ร้าวออก
ดูเหมือนว่า ไนโตะ จะตกอยู่ใต้แรงกดดันจักระนั้น
“แข็งแรงมาก…”
ไนโตะ รู้สึกชื่นชมพลังนี้
“แต่ฉันไม่มีทางแพ้คุณแน่!”
ตู้ม!!
ในเวลาต่อมา ไนโตะ ก็เริ่มปล่อยแรงกดดันจักระของเขาออกมา
แรงกดดันจักระเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และทั่วทั้งสถานที่นั้นก็เริ่มสั่น
แคร๊ก!!
พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของ ไนโตะ เริ่มแตกออก จิตสังหารที่น่ากลัวของเขาแพร่กระจายไปทั่วสถานที่ และเมฆทึบขนาดใหญ่ก็เริ่มปกคลุมท้องฟ้า!
ฝนที่กำลังตกรอบ ๆ ตัว ไนโตะ หยุดอยู่กลางอากาศราวกับว่าเวลาได้หยุดลง
ไนโตะ มองตรงไปที่ดวงตาของ นางาโตะ โดยไร้ร่องรอยแห่งความกลัว!
แม้ว่า นางาโตะ จะแข็งแกร่งกว่า ไนโตะ แต่ตัวของ มาดาระ เองก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาแค่ควบคุม นางาโตะ จากระยะไกลเท่านั้น
ภายใต้แรงกดดันจักระของ ไนโตะ เขาเริ่มคุกคาม มาดาระ
ในขณะนี้ มาดาระ ก็เริ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“จักระแบบนี้…”
แม้แต่ตอนที่ มาดาระ ได้ยินว่า ไนโตะ เอาชนะ ฮันโซ ได้ เขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
เพราะในความเห็นของเขา ฮันโซ ก็เป็นแค่นินจาอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น
แต่ตอนนี้เมื่อเขารู้สึกได้ถึง จิตสังหารและแรงกดดันจักระที่แข็งแกร่งของ ไนโตะ และท่าทางที่ไม่มีความกลัวในสายตาเลยแม้แต่น้อย มันทำให้เขาเห็นเงาของ ฮาชิรามะ ในตัวของ ไนโตะ !
ทันใดนั้น ดวงตาของ นางาโตะ ก็เยือกเย็นและเขาก็ยื่นมือออกไปทาง ไนโตะ
หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์!
ฟิ้ว!!
เกิดแรงดึงดูดอันหาศาลที่ดึงร่างของ ไนโตะ เขาไปหา นางาโตะ ในทันที
“ไนโตะ!”
“ระวัง!”
ทั้ง จิไรยะ และ ซึนาเดะ ดูตกใจมาก พวกเขาทำไม่สามารถช่วยอะไร ไนโตะ ได้เลย
ไนโตะ ยังคงดูสงบมากเมื่อถูกดูดโดย หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์ เพราะเขาคุ้นเคยกับพลังของ เพน 6 วิถี เป็นอย่างดี
ตราบใดที่มันไม่ใช่ เนตรสังสาระ ของ อุจิฮะ มาดาระ ไนโตะ ก็ไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับมัน
แม้ว่า เนตรสังสระ จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถเอาชนะมันได้
เมื่อร่างของ ไนโตะ ถูกดูดเข้าไปจนเกือบจะถึงตัว นางาโตะ ในที่สุด ไนโตะ ก็กำหมัดแน่นและต่อยออกไปอย่างแรง
ตู้ม!!!
พลังสั่นสะเทือน นั้นแข็งแกร่งและน่ากลัวมาก!
“อะไรกัน?”
มาดาระ ไม่คิดว่า ไนโตะ จะสามารถทำอะไรได้อีก หลังจากที่เขาโดนดูดโดย หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์
อย่างไรก็ตาม มาดาระ ดูเหมือนจะไม่สนใจ เมื่อเผชิญหน้ากับ พลังสั่นสะเทือน ที่น่ากลัวที่สามารถฉีกทุกอย่างออกเป็นชิ้น ๆ ได้ แต่ มาดาระ กลับยังสงบนิ่งเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็ควบคุม นางาโตะ และใช้อีกความสามารถหนึ่งของ เนตรสังสาระ
“วิถีเปรต!”
ฟูม!
ทันใดนั้น พลังสั่นสะเทือน ที่พุ่งตรงไปหา นางาโตะ ก็ถูกดูดซับด้วยความสามารถของ วิถีเปรต
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ไนโตะ ก็ลับยิ้มออกมา
จริงอยู่ที่การโจมตีของ ไนโตะ ใช้จักระผสมเข้าไปด้วย แต่มันก็เป็นจักระเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
พลังสั่นสะเทือนของเขา ไม่ใช่แค่จักระ!
จริงอยู่ที่การดูดซับจักระจะสามารถลดพลังของ พลังสั่นสะเทือน ได้ แต่มันจะไม่หมดไปอย่างแน่นอน
ตู้ม!
ในวินาทีต่อมา การแสดงออกของ นางาโตะ ก็เปลี่ยนไปในทันที วิถีเปรต สามารถดูดซับจักระได้ แต่ไม่สามารถดูดซับพลังพลังสั้นสะเทือนได้ และทันใดนั้น พลังสั่นสะเทือน ก็ตรงเข้าหาตัวเขา
ตอนที่ 160
“บ้าเอ้ย…”
มาดาระ ตกใจในทันที คราวนี้มันเกินความคาดหมายของเขา เพราะแม้แต่ คาถาธุลี วิถีเปรต ก็สามารถดูดซับได้อย่างสมบูรณ์
แต่พลังของ ไนโตะ เขากลับไม่สามารถดูดซับได้!
“ข่ายเทพพิชิตฟ้า!!”
เมื่อ พลังสันสะเทือน กำลังจะปะทะเข้ากับ นางาโตะ มาดาระ จึงใช้ ข่ายเทพพิชิตฟ้า เพื่อต้านพลังสั่นสะเทือน เอาไว้
ตู้ม!!
นี้คือการปะทะกันโดยตรงระหว่าง พลังสั่นสะเทือน และ อำนาจของ เนตรสังสาระ
และ พลังสั่นสะเทือน ก็ดันเข้ามาเรื่อย ๆ มันพลังที่สมบูรณ์แบบ!
ถึงแม้ว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า จะแข็งแกร่งเช่นเดียวกับ ที่เป็นคาถานินจาระดับ S แต่ร่างกายของ นางาโตะ จะสามารถใช้พลังเช่นนี้ได้จริงเหรอ?
ตู้ม!!
ดูเหมือนโลกและสวรรค์ได้ถูกบดขยี้เข้าหากัน
การปะทะกันของพลังทั้ง 2 สร้างผลกระทบที่ทรงพลังและแสงสีขาวก็ระเบิดออกมาจนดูเหมือนว่ามันจะทำให้พื้นดินทั้งหมดแตกสลาย!
พื้นดินสั่นสะเทือนและสั่นไหวอย่างหนัก แม้แต่คนที่อยู่รอบ ๆ ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงมัน
พื้นดินรอบ ๆ ไนโตะ และ นางาโตะ เริ่มร้าวและแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
แต่ทั้งคู่ยังคงยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน
“ใครชนะ?”
ซึนาเดะ และคนอื่น ๆ ดูเป็นกังวลมาก เพราะถึงอย่างไร ไนโตะ ก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับ เนตรสังสาระ พลังแห่ง เพน 6 วิถี นั่นเอง!
ทั้ง ซึนาเดะ และ จิไรยะ เริ่มกังวลมากขึ้น เมื่อความรุนแรงของปะทะเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ทุกสิ่งในที่นั่นแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ในที่สุด บางอย่างก็เกิดขึ้น
ไนโตะ ก็ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย
“ครูไนโตะ!”
“ไนโตะคุง!”
เมื่อเห็นภาพนี้ โคนัน ยาฮิโกะ และ ซึนาเดะ พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากตะโกนชื่อของ ไนโตะ ออกมา
ไนโตะ แพ้ เนตรสังสาระ งั้นเหรอ?
เมื่อพวกเขาคิดว่า ไนโตะ แพ้ การแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ไนโตะ ถอยหลังไปเล็กน้อยก็จริง แต่ในเวลาต่อมาเขายืนนิ่ง ในขณะที่ นางาโตะ กลับกระอักเลือดออกมาจากปาก
อั๊ก!!!
นางาโตะ ดูท่าทางแปลก ๆ เขาแทบจะยืนไม่อยู่จนเกือบจะล้มลง แต่ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเขา
ในขณะที่ มาดาระ กำลังควบคุม นางาโตะ อยู่ เขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“พลังของมันสามารถต่อสู้กับ เนตรสังสาระ ได้งั้นเหรอ?!…ไม่ เพราะร่างกายของ นางาโตะ ยังอ่อนแอเกินไป เขายังใช้พลังของ เนตรสังสาระ ได้แค่ 1% เท่านั้น”
เขาส่ายหัวแล้วก็ถอนหายใจเล็กน้อย แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินทุกอย่างได้
ในความเป็นจริงการ์ตูน แม้แต่ในอนาคตเมื่อ นางาโตะ โตขึ้น เขาก็ยังไม่สามารถใช้พลังทั้งหมดของ เนตรสังสาระ ได้ เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะต้านทานพลังของ เนตรสังสาระ ได้
มีเพียงร่างกายที่มีเซลล์ของ ฮาชิรามะ เท่านั้น ที่จะสามารถต้านทานพลังนั้นได้!
ด้วยเหตุผลหลายประการ แม้ว่าหลังจากที่ มาดาระ ควบคุมร่างกายของ นางาโตะ เพื่อต่อสู้กับ ไนโตะ แล้ว แต่ มาดาระ ก็ไม่สามารถใช้พลังทั้งหมดของ เนตรสังสาระ ได้
มาดาระ มองไปที่ ไนโตะ ผ่านสายตาของ นางาโตะ ด้วยสายตาที่เฉียบแหลม จากนั้นเขาก็ใช้ ข่ายเทพพิชิตฟ้า อีกครั้ง
ฟู้ม!!!
พลังของ ข่ายเทพพิชิตฟ้า เริ่มทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้ง ไนโตะ และ โอโรจิมารุ
โอโรจิมารุ พยายามที่จะช่วยคนอื่นให้หนี ในขณะที่ ไนโตะ ยังยืนอยู่ที่เดิม และเขาก็ปลดผนึกดาบเขาออกมาและฟันออกไปทีพลังของ นางาโตะ อย่างแรง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ไนโตะ กำลังจะพุ่งเข้าไปจัดการกับ นางาโตะ แต่เขาก็หายตัวลงไปในพื้นดินแล้ว
“หนีงั้นเหรอ?”
ไนโตะ มองไปที่พื้นและตองการไล่ล่าเขา แต่ในที่สุดเขาก็ส่ายหัวแล้วเปลี่ยนใจ
บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะ นางาโตะ แต่มันก็เสี่ยงเช่นกัน เพราะไม่มีใครรู้ว่า มาดาระ จะซ่อนกับดักอะไรไว้หรือเปล่า
“เนตรสังสาระ มันแข็งแกร่งมาก”
โอโรจิมารุ ยังคงเห็นเงาของ นางาโตะ อยู่ในตาของเขา
เขายังคงตกใจอยู่!
“ไม่คิดเลยว่าดวงตาคู่นั้นจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันหมายความว่ายังไงกันแน่?”
จิไรยะ หายใจเข้าลึก ๆ และสีหน้าของเขาก็ตกใจเหมือนกับ โอโรจิมารุ
ซึนาเดะ กำลังมองด้วยดวงตาอันงดงามของเธอไปที่ ไนโตะ
เธอไม่คิดว่า ไนโตะ จะสามารถต่อสู้กับพลังของ เนตรสังสาระ ได้ เขาดูแข็งแกร่งขึ้นซึ่งทำให้เธอตกใจมาก
เธอรู้ว่า เนตรสังสาระ หมายถึงอะไร และนั้นคือพลังของ เซียน 6 วิถี นั้นเอง!
“ไนโตะ เธอทำได้ เธอสามารถป้องกันพลังนั้นได้”
เธอรีบเข้าไปหา ไนโตะ ในขณะที่น้ำเสียงของเธอเผยให้เห็นร่องรอยแห่งความกลัวเล็กน้อย เพราะถ้าไม่มี ไนโตะ พวกเขาอาจจะถูกฝังทั้งเป็นไปแล้ว!
ช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดที่พวกเขารู้สึกวันนี้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาต่อสู้กับ ฮันโซ เป็นเวลานาน แต่มันเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นนี้!
“ไม่ใช่หรอกครับ เมื่อกี้ยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของ เนตรสังสาระ…มันยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ”
ไนโตะ ส่ายหัว จากนั้นเขาก็ผนึก ดาบคุซานางิ กลับไป และหายใจเข้าลึก ๆ
เขายังอ่อนแอเกินไป!
ในสายตาของคนอื่น ๆ พลังของพวกเขาทั้ง 4 ก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายโลกทั้งใบ หลังจากที่พวกเขาสามารถหยุด ฮันโซ ได้
แต่ ไนโตะ รู้ว่ามันไม่พอ!
หาก นางาโตะ สามารถใช้พลังได้เหมือนในการ์ตูน แม้แต่โลกทั้งใบก็ยังไม่สามารถต่อต้านเขาได้!
หลังจากเหตุการณ์นี้ มาดาระ ก็จะเฝ้าดู ไนโตะ ทุกอย่างก้าวอย่างแน่นอน
แต่ ไนโตะ ก็ไม่กลัว เพราะในเวลานี้ มาดาระ อ่อนแอมาก ขนาดตอนที่เขาควบคุม นางาโตะ เขายังไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขาในขณะนี้
แต่ถึงอย่างนั้น เรากำลังพูดถึง มาดาระ !
ไนโตะ ไม่กลัวแม้ว่าโลกทั้งใบจะร่วมมือกันต่อสู้ฆ่าเขา
แต่สำหรับ อุจิฮะ มาดาระ นั้นต่างออกไป!
“ถึงเวลาที่เราต้องเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ให้ได้ ไม่งั้นครั้งต่อไป เราจะสู้กับ เนตรสังสาระ ไม่ได้แน่นอน”
“ไม่ ไม่ใช่แค่บานที่ 4 เราต้องเปิดบานที่ 5 และ 6 ด้วย!”
หลังจากที่เขาพึมพำในใจ ไนโตะ ก็หายใจลึก ๆ และพยายามทำให้ตัวเองสงบลง
ในเวลานี้ โคนัน และ ยาฮิโกะ ก็วิ่งเข้ามาหา ไนโตะ
โคนัน เป็นคนที่ช่วย นางาโตะ หลังจากที่เธอพบว่าเขากำลังอดตาย แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่า นางาโตะ จะสร้างปัญหาให้ ไนโตะ
“ครูไนโตะ ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้”
“ไม่เป็นไร เธอไม่ผิดหรอก”
ไนโตะ ส่ายหัวเบา ๆ
ถึงแม้ว่า ยาฮิโกะ และ โคนัน จะไม่ยังไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ ไนโตะ ก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แน่นอนว่าในความเป็นจริง มันเป็นไปไม่ได้ที่ นางาโตะ จะตายในตอนนี้
และแม้ว่า ยาฮิโกะ และ โคนัน จะไม่ได้เข้าไปช่วย นางาโตะ ไว้ในตอนนั้น แต่ เซ็ทสึ ที่คอยแอบดูอยู่ตลอดเวลา เขาจะไม่ปล่อยให้เขาตายอย่างแน่นอน
ตอนที่ 161
ฝนยังคงตกลงมาเหมือนอย่างเช่นเคย และทุกคนก็ตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ยกเว้น ไนโตะ
“ไนโตะ เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับ เนตรสังสาระ มาก่อนหรือเปล่า?”
จิไรยะ มองไปที่ ไนโตะ และถามเขาด้วยความสงสัย
แม้ว่า จิไรยะ จะดูเหมือนเป็นคนตลก แต่เขาก็ไม่ได้โง่
อาจกล่าวได้ว่า 3 นินจาในตำนาน ในตอนนี้ ยังไม่มีคุณสมบัติด้านพลังที่จะเป็น โฮคาเงะ แต่ความฉลาดของพวกเขานั้น สามารถเป็น โฮคาเงะ ได้แล้ว
“ตอนแรกที่ผมเจอกับ โคนัน และ ยาฮิโกะ ตอนนั้น นางาโตะ ยังไม่ได้อยู่กับพวกเขา”
จิไรยะ มองไปที่ ไนโตะ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นด้วยสายตาที่จับจ้องของเขา เขาก็รู้ว่า ไนโตะ ไม่ได้โกหก แล้วเขาก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่งและไม่ได้พูดอะไรกับ ไนโตะ ต่อ
หลังจากที่ 3 นินจา มองหน้ากันและกัน ซึนาเดะ ก็หายใจเข้าลึก ๆ แล้วถาม ไนโตะ ไปว่า “แล้วเธอจะเอายังไงต่อ จะกลับไปพร้อมกับเราไหม?”
เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ โคนัน ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอกัดริมฝีปากแล้วมองที่ ไนโตะ
“ไม่ละครับ ผมจะอยู่ที่นี่ต่อ”
ไนโตะ มองไปที่ โคนัน จากนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “เมื่อ เนตรสังสาระ ปรากฏออกมาแล้ว เราคงต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
“อีกอย่างตอนนี้สงครามก็จบลงแล้ว งั้นผมจะอยู่ที่นี่และดูแล 2 คนนี้ครับ”
คำพูดของ ไนโตะ ทำให้ โคนัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและดวงตาของเธอก็เปล่งประกายด้วยความสุข
แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นและไม่ได้เป็นคนธรรมดาอีกต่อไป แต่ชีวิตของพวกเขาก็ยังคงยากลำบากอยู่ดีและมันก็ยากสำหรับพวกเขาที่จะอยู่รอดไปได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขาต้องคอยหลบซ่อนอยู่เสมอ
ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับนินจาจริง ๆ พวกเขาก็ยังอ่อนแออยู่ดี
เมื่อ ซึนาเดะ ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นด้วยแววตาที่จริงจัง เธอก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาล่ะ การปรากฏตัวของ เนตรสังสาระ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
ในอีกด้านหนึ่ง โอโรจิมารุ ส่ายหัวเล็กน้อยจากนั้นเขาก็พูดว่า “เนตรสังสาระ ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสามารถจัดการได้ด้วยตัวคนเดียว”
“ถึงอย่างนั้น คุณคงไม่คิดว่าผมจะนั่งดูอยู่เฉย ๆ ได้หรอก จริงไหม?”
ไนโตะ พูดอย่างชัดเจน และเขาจะไม่ยอมให้ โอโรจิมารุ เข้าใกล้ เนตรสังสาระ เด็ดขาด
แม้ว่าในการ์ตูน โอโรติมารุ จะสนใจแต่ เนตรวงแหวน และจะไม่สนใจใน เนตรสังสาระ ก็ตาม
แต่เมื่อเรื่องราวเปลี่ยนไป ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า เขาจะไม่ตามล่า นางาโตะ
นอกจากนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะต้องการ ไนโตะ เพราะด้วยขีดจำกัดสายเลือดที่สามารถเอาชนะ คาถาธุลี หรือคาถานินจาอื่น ๆ ได้นั้น ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน
เขาคงจะต้องการเพิ่มมันเข้าไปในเซลล์ของ ฮาชิรามะ!
แม้ว่ามันอาจเป็นเรื่องยากที่จะทำได้สำเร็จ แต่ถ้าเขาทำมันสำเร็จขึ้นมา เขาอาจจะได้ร่างที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ถึงอย่างไร อัตราความสำเร็จก็คงต่ำมาก
การเอา วิชาเนตรของขีดจำกัดสายเลือดต่าง ๆ ยังง่ายกว่ามากเมื่อเทียบกับเรื่องนี้
เขาสามารถปลูกถ่ายดวงตาเหล่านั้นได้ ถ้าเขามีร่างกายที่เหมาะสม!
เช่น เนตรวงแหวน และ เนตรสีขาว เป็นวิชาเนตรที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ทั้ง 2 เนตรจะปรากฏอยู่ใน 2 ตระกูลคือ ตระกูลอุจิฮะ และ ตระกูลฮิวงะ เท้านั้น
สำหรับ เนตรสังสาระ เป็นตำนานที่ทุดคนรู้จัก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะมีอยู่จริงในโลกนี้ แล้วคุณคิดว่า โอริจมารุ จะไม่อยากได้มันงั้นเหรอ?!
“ถึงจะยากที่จะเอาชนะ แต่เราก็ต้องหาทางกันต่อไป…คาถานินจาทุกคาถาจะต้องมีจุดอ่อนในตัวมันเอง ไม่เว้นแต่เนตรนั้น”
ดวงตาของ โอโรจิมารุ ดูแปลกไปเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ส่ายหัวแล้วก็จากไป
ไนโตะ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเดา
ถึงยังไง การตามหา เนตรสังสาระ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย!
ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ โอโรจิมารุ มีแค่ตัวคนเดียว และแม้ว่าเขาจะบอกเรื่องนี้กับ ดันโซ หรือต่อให้ไปบอกกับ ซารุโทบิ จนทำให้พวกเขาส่งกองทัพทั้งหมดของ โคโนฮะ ออกตามหา เนตรสังสาระ พวกเขาก็ไม่สามารถตามหามันได้ง่าย ๆ อยู่ดี
เพราะ มาดาระ จะต้องซ่อน นางาโตะ ไว้เป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าพวกเขาจะหาเจอ เนตรสังสาระ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถควบคุมกันได้ง่าย ๆ คุณจะไม่สามารถใช้จำนวนเยอะเข้าสู้ได้เพราะถึงอย่างไร กองทัพมดก็แพ้ไฟ อยู่ดี
“ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก่อน เราต้องไปรายงายเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
จิไรยะ สูดหายใจลึก ๆ จากนั้นก็หันกลับไปทาง โอโรจิมารุ และค่อย ๆ เดินตามเขาไป
ตอนนี้เรื่องราวเปลี่ยนไปจากในการ์ตูนมาก ข่าวเกี่ยวกับ เนตรสังสาระ จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะแม้แต่ โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ก็รู้เรื่องนี้แล้ว และพวกเขาก็คงจะทำให้เรื่องราวเปลี่ยนไปอีกมาก
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จิไรยะ ก็หายไปจากบริเวณนั้น
ซึนาเดะ มองไปที่ ไนโตะ อยู่ซักพัก เธอรู้จักเขาดีมากและเธอก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไร เขาไม่ได้ต้องการอยู่ที่นี่เพื่อดูแล โคนัน และ ยาฮิโกะ หรือเพื่อตามหา เนตรสังสาระ แต่เขาต้องการหาสถานที่สงบ ๆ เพื่อฝึกซ้อมเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว ตลอดเวลาที่เกิดสงคราม ไนโตะ ไม่มีเวลาฝึกฝนเลย แล้วเมื่อใดที่เขาว่าง เธอก็จะเห็นเขาฝึกฝนสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นพวกบ้าคลั่งการฝึกฝน
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนที่ชอบฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา เขาก็จะไม่มีทางมีความแข็งแกร่งขนาดนี้ในตอนที่เขาอายุแค่ 12 ปี!
ถ้าไม่ยอมลำบากก็จะไม่มีวันได้มา
“ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ”
เมื่อทราบความตั้งใจของ ไนโตะ แล้ว ซึนาเดะ ก็จะไม่ห้ามเข้า และหลังจากที่เธอพูดคำนั้นออกไป เธอก็จากไป
เหลือแค่ โคนัน และ ยาฮิโกะ เท่านั้น
ฝนยังคงตกลงมาเรื่อย ๆ แต่ ไนโตะ ยังคงยืนอยู่ที่นั่น โคนัน และ ยาฮิโกะ ก็ไม่กล้าทักท้วงเขาและยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
“ไปกันเถอะ”
หลังจากนั้นไม่นาน ไนโตะ ก็เริ่มออกเดิน จากนั้นทั้งคู่ก็พยักหน้าและเดินตามเขาไป
…..
สงครามใน แคว้นแห่งฝน จบลงด้วยชัยชนะของ โคโนฮะ
ซาคุโมะ นำ กองทัพโคโนฮะ ไปสู่ชัยชนะในสนามรบ เขาทำได้ดีมาก เขาสามารถกดดัน ย่าโจ ผู้ช่วยของ คาเซะคาเงะ ได้เป็นอย่างดี และเขาก็ได้ฆ่าพ่อแม่ของ ซาโซริ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดยังคงเหมือนกับเรื่องราวในการ์ตูน
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่เรื่องอื่นที่น่าตกใจที่สุด
ข่าวที่น่าตกใจที่สุดก็คือ
ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ และ 3 นินจามือขวาของ โฮคาเงะ ซารุโทบิ ได้ต่อสู้กับ ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ผู้ซึ่งได้รับฉายาว่า ครึ่งเทพ และสามารถเอาชนะเขาได้!
เมื่อมีข่าวนี้ออกมา ทุกคนไม่อยากเชื่อกับเรื่องนี้
เพราะมันช่างน่าเหลือเชื่อ!
แม้ว่า ไนโตะ จะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังเด็กมากและอายุน้อยกว่าอีก 3 คน
พวกเขาทั้ง 4 ร่วมมือกันและเอาชนะ ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ได้ ข่าวนี้เหมือนกับระเบิดที่ระเบิดทั้งโลก
แม้แต่หมู่บ้านใหญ่อื่น ๆ ก็ไม่เชื่อกับข่าวนี้ และพวกเขาต่างก็ส่งหน่วยสอดแนมออกไปอีกครั้ง เพื่อหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น