The Strongest Hokage 134-146

ตอนที่ 134

 

นินจาที่รายงานข้อมูล เมื่อได้ยินคำถามของ ซาคุโมะ เขาก็ลังเลที่จะตอบ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ แต่แล้วเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเขาก็เริ่มรายงาน


“จำนวนผู้เสียชีวิตของ กองทัพอิวะ มีประมาณ 1,219 คน เป็นนินจาระดับสูงจำนวน 21 คน โจนินประมาณ 890 คน และ จูนิน กับ เกะนิน รวมกันประมาณ 300 คน แต่นี้ยังเป็นจำนวนที่ยังไม่แน่นอน”


“ไนโตะ สังหาร นินจาระดับสูง ไปทั้งหมด 17 คน!”


สถิติแรกนั้นช่างน่าทึ่ง


นินจาระดับสูง เหล่านี้เป็นนินจาอันดับต้น ๆ ของ หมู่บ้านอิวะ


พวกเขามีประสบการณ์ในการต่อสู้มาเป็นเวลานานตลอดหลายปีที่ผ่านมา


นินจาระดับสูง ใน กองทัพอิวะ ในสงครามครั้งนี้ มีจำนวนเพียงแค่ 21 คน แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ ไนโตะ สามารถจัดการกับพวกเขาด้วยตัวคนเดียวได้ถึง 17 คน!


พวกเขาเหล่านี้เป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งของกองทัพ และบางคนอาจมีชื่อเสียง!


ภายใต้ความตกใจของทุกคน ซาคุโมะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์ตัวเอง จากนั้นเขาก็ถามต่อว่า “แล้ว นินจาระดับอื่น ๆ ละ ไนโตะ ฆ่าไปกี่คน?”


คนอื่น ๆ ก็กลับมาตั้งใจฟังอีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้ยินคำถามนี้ พวกเขาตื่นเต้นมาก


นินจาคนนั้น เมื่อได้ยินคำถาม เขาไม่ได้ตอบคำถามในทันที เขาหันหน้าไปมอง ไนโตะ ด้วยสายตาเคารพและชื่นชม


“จำนวน นินจาอิวะ ในระดับอื่น ๆ ที่ถูก ท่านไนโตะ ฆ่า มีประมาณ 600 คน และยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าเป็นชิ้นส่วนของใคร แต่คาดว่าเขาจะฆ่ามากกว่านี้”


ความเงียบเข้าครอบงำในทันที


ในขณะนั้น แม้แต่เสียงใบไม่ที่หล่นลงพนพื้นก็สามารถได้ยินเสียงได้


ข้อมูลเรื่องนี้ น่าตกตะลึงยิ่งกว่าการได้ยินว่าเขาฆ่า นินจาระดับสูง ได้ 17 คนเสียอีก


ไนโตะ แข็งแกร่งมาก เมื่อเขาได้ต่อสู้กับ นินจาที่ระดับต่ำกว่า แต่สำหรับการฆ่า นินจาระดับสูง ได้ถึง 17 คนนั้น มันเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการ


ในการ์ตูน มินาโตะ เคยใช้ เทพอัสนีเวหา และสามารถฆ่านินจาได้ 50 คน คุณครูเคยเล่าเรื่องนี้ให้เด็ก ๆ ในโรงเรียนนินจาฟัง และพวกเขาก็เรียกมันว่า ปาฏิหาริย์


อย่างไรก็ตาม หากคนคนหนึ่งสามารถฆ่าคน 600 ได้โดยลำพัง นี้มันเกินกว่าคำว่าปาฏิหาริย์ มันกลายเป็นความน่ากลัวเกิน และถึงแม้ว่า คนทั้ง 600 คนจะยืนนิ่ง ๆ ให้เขาฆ่า มันก็ยังเป็นจำนวนที่มากเกินไปอยู่ดี!


ยิ่งไปกว่านั้น นินจาเหล่านี้ไม่ได้อยู่เฉย ๆ พวกเขาต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด!


มี นินจาอิวะ เกือบ 900 คน ทั้ง โจนิน และ จูนิน ในสนามรบ แต่พวกเขา 600 คน ถูกฆ่าโดย ไนโตะ นี้มันเป็นเรื่องล้อเล่นกันแน่ ๆ!


ทุกคนไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย เสียงเดียวที่ได้ยินก็คือเสียงลมพัด


แม้แต่ ซาคุโมะ ก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินตัวเลขนี้เช่นกัน แม้ว่าเขาจะสังเกตเห็นว่า ไนโตะ เคลื่อนที่ไปมาอยู่ในสนามรบ แตเขาก็ไม่คิดว่า ไนโตะ จะสามารถฆ่าศัตรูไปได้มากขนาดนี้


ไนโตะ จะฆ่าคนมากขนาดนี้ได้อย่างไร?!


“เธอแน่ใจเหรอว่าตัวเลขนี้ถูกต้อง?”


ด้วยการแสดงออกที่น่าตกใจ ซาคุโมะ ก็ถามนินจาคนนั้นกลับไป ผู้คนรอบ ๆ เขาก็มีความสงสัยเช่นนี้เหมือนกัน


มันไม่มีทางเป็นไปได้ ตัวเลขเหล่านี้มันมากเกินไป!


ถ้าตัวเลขเหล่านี้ถูกต้อง ก็แสดงว่า ไนโตะ คนเดียว สามารถฆ่าศัตรูได้มากกว่า กองทัพโคโนฮะ ทั้งกองทัพ!


มันเป็นไปไม่ได้!


“ท่านซาคุโมะ เราค่อนข้างแน่ใจเกี่ยวกับตัวเลขเหล่านี้ ถ้าจะมีอะไรผิดพลาด…ก็คงเป็นจำนวนชิ้นส่วนของศัตรูที่เรายังไม่ได้นับรวม และยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนฆ่าเขา แต่จากสิ่งที่เราเห็นในสนามรบ เราก็คงจะมั่นใจได้ว่าพวกเขาถูกฆ่าโดย ท่านไนโตะ”


นินจาที่กำลังรายงาย ไม่สามารถพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เขาตกตะลึงมากเช่นกัน เขาเคยรายงานข้อมูลมามากมายหลายครั้ง แต่ตลอดชีวิตเขาก็ไม่เคยเจอข้อมูลแบบนี้มาก่อน มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป แต่มันก็เป็นเรื่องจริง


เฮือก!!!


คำพูดของนินจาคนนั้น ทำให้ทุกคนต้องหยุดหายใจเป็นเวลานาน


จากนั้น พวกเขาก็หายใจออกพร้อมกัน!


มากกว่า 600 คน นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อ!!


ไม่มีใครกังขาในพลังของ ไนโตะ อีกแล้ว ใครจะกล้าตำหนิเขา คนที่เพิ่งฆ่าคนไป 600 คน… บางคนไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ


ผู้ชายคนนี้เป็นเครื่องจักรสังหาร!


ในขณะนั้น ทุกคนทำตัวไม่ถูกและเริ่มกลัว ไนโตะ ขึ้นมา พวกเขากลัวว่าจะไปทำให้ปีศาจในตัวของ ไนโตะ ตื่นขึ้น ผู้ชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาด และคุณไม่ควรอยู่ใกล้เขา!


ซาคุโมะ ยืนนิ่งโดยไม่พูดอะไร ที่จริงแล้ว เขาไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว


……


หมู่บ้านอิวะ


เมฆดำปกคลุมท้องฟ้าเหนือ สำนักงาน ซึจิคาเงะ


บรรยากาศมืดหม่นเป็นอย่างมาก


ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 3 กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงานของเขาอย่างเงียบ ๆ


ผู้บัญชาการหน่วยลับอิวะ กำลังยืนอยู่ถัดไปจาก โอโนกิ ในขณะที่ไหล่ของเขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผล


เนื่องจากกองทัพทั้งหมดของพวกเขาถูกทำลายโดย กองทัพโคโนฮะ จนไม่เหลือซาก จึงไม่มีความหมายที่เขาจะอยู่ใน แคว้นแห่งฝน อีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาที่หมู่บ้านของเขา


ที่สำคัญ พวกเขาจำเป็นต้องจัดกองทัพใหม่และคิดเกี่ยวกับการเดินหน้าต่อไป


“ไม่มีใครคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้”


ซึจิคาเงะ พูดขึ้นหลังจากที่เขานั่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน เขาไม่ได้ดูโกรธ แต่เขาก็ไม่ได้สงบเช่นกัน


“ไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์ของสงครามจะเป็นยังไง แต่ก็ไม่มีใครคิดว่ามันจะถูกควบคุมโดยชายคนเดียวแบบนี้”


โอโนกิ พูดด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนบนใบหน้าของเขา


แท้จริงแล้ว พลังของ ไนโตะ นั้นเหนือความคาดหมายทั้งหมด


เขาคิดว่า ถ้าเขาเสียเปรียบ เต็มที่เขาก็แค่แพ้ให้กับ ซาคุโมะ แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า ทหารเกือบ 2,000 คน จะถูกบดขยี้


ในมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 กองทัพพันธมิตรนินจา มีประมาณ 80,000 คน


20,000 คนมาจาก โคโนฮะ และจากหมู่บ้านอื่น ๆ อีกหมู่บ้านละประมาณ 10,000 คน


แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 มันคือ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 หมู่บ้านอิวะ จึงจำเป็นต้องวางกำลังไว้ป้องกันหมู่บ้าน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะส่งนินาจาทั้งหมดเข้าการต่อสู้ในครั้งที่ผ่านมา


อย่างน้อยก็มี นินจา 5,000 – 6,000 คน ที่ถูกทิ้งไว้เพื่อปกป้องหมู่บ้าน


เพราะถ้าหาก หมู่บ้านของพวกเขาถูกจู่โจม นินจาเหล่านั้นก็จะสามารถป้องกันมันได้


พวกที่อยู่ที่หมู่บ้าน ส่วนใหญ่ไม่ใช่ นินจาประเภทต่อสู้ แต่ส่วนใหญ่เป็น นินจาสอดแนม  และบางส่วนก็ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ รอบหมู่บ้าน


นินจาที่อยู่ที่หมู่บ้าน มักไม่เก่งในเรื่องการต่อสู้ หรือไม่ก็เป็น นินจาแพทย์ เป็นต้น


มีนินจาประมาณ 3,000 คนเท่านั้น ที่สามารถต่อสู้ได้


และตอนนี้ เขาก็สูญเสียไปครึ่งหนึ่ง!


โอโนกิ กำลังเครียดมาก แม้ว่าภายนอกเขาจะดูสงบ แต่ความรู้สึกข้างในนั้นเหมือนหัวใจของเขากำลังจะระเบิดออกมาในไม่ช้า


“ฉันควรทำยังไงต่อไปดี?”


โอโนกิ ดูสับสนมาก


เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนอากาศแล้วลอยไปที่หน้าต่าง

 

 

 


ตอนที่ 135

 

แคว้นแห่งลม


ในสำนักงาน คาเสะคาเงะ


คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 กำลังมองดูที่โต๊ะด้านหน้าของเขาพร้อมกับนินจาระดับสูง ที่โต๊ะมีแผนที่ของ แคว้นแห่งฝน และมีธงที่แสดงถึงตำแหน่งของ กองกำลังของหมู่บ้านอื่น ๆ ในแคว้นแห่งนี้ ปักอยู่มากมาย


หมู่บ้านซึนะ ก็เข้าร่วมสงครามครั้งนี้ และพวกเขาก็มีค่ายอยู่ใน แคว้นแห่งฝน ด้วยเช่นกัน


แม้ว่า แคว้นแห่งฝน จะมีขนาดเล็ก แต่จริง ๆ แล้วมันมีอาณาเขตติดกับ 5 แคว้นใหญ่ และยังมี ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ที่มีความสามารถที่เก่งกาจเป็นผู้ปกครองแคว้นแห่งนี้!


หลังจากที่พวกเขาได้ ประดาบกับ ฮันโซ ไป 2 ครั้ง พวกเขาก็พบว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเอาชนะเขาได้


คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 ยืนกอดอกแล้วมองไปที่อีกด้านหนึ่งของแผนที่


อีกด้านหนึ่งมีทั้ง ค่ายโคโนฮะ และ ค่ายอิวะ


“โคโนฮะ กับ อิวะ ได้ประกาศสงครามกันแล้ว ตามข้อมูลที่เราได้มา พวกเขามีจำนวนทหารใกล้เคียงกัน คาดว่าสงครามระหว่างพวกเขาจะเป็นการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย…ถ้าเราทำให้ ฮันโซ ล่าถอยออกไปได้ เราก็จะเป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้”


เมื่อ คาเสะคาเงะ พูดจบ ทันใดนั้นก็มี นินจา ที่มีสีหน้าตกใจรีบวิ่งเข้ามาในห้องทำงานของเขาอย่างรวดเร็ว


“ท่านคาเสะคาเงะ มีข้อมูลเร่งด่วนจากแนวหน้ามาแจ้งให้ทราบครับ!”


“ว่ามา”


คาเสะคาเงะ ขมวดคิ้ว เขาคิดในใจว่า ข้อมูลเร่งด่วนอะไรที่ทำให้นินจาคนนี้ตกใจมากขนาดนั้น เพราะพวกเขาได้ประเมินสถานการณ์เอาไว้แล้ว จึงไม่น่าจะมีอะไรที่น่าตกใจเกิดขึ้นในตอนนี้


“หมู่บ้านอิวะ พ่ายแพ้ให้กับ หมู่บ้านโคโนฮะ พวกเขาถูกฆ่าตายทั้งหมด หน่วยสอดแนมของเรารายงานมาว่า กองทัพอิวะ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คนครับ!”


เมื่อ คาเสะคาเงะ ได้ยินประโยคนี้ เขาก็แสดงสีหน้าที่ตกใจออกมาอย่างชัดเจน จากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นและสนุกสนาน


การต่อสู้ของ หมู่บ้านอิวะ และ หมู่บ้านโคโนฮะ ดุเดือนกว่าที่เขาคิดไว้!


ทั้ง หมู่บ้านอาเมะ และ หมู่บ้านซึนะ คาดการว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่ความขัดแย้งเล็กน้อยเท่านั้น และทั้ง 2 ฝ่ายก็คงจะไม่ส่งทหารลงสู่สนามรบมามากกว่า 100 คน แน่นอน


อย่างไรก็ตาม หาก หมู่บ้านอิวะ สูญเสียนินจาไปมากกว่า 1,000 คน นั้นก็หมายความว่า หมู่บ้านอิวะ เสียกำลังรบไปเป็นจำนวนมาก และพวกเขาคงจะต้องถอนตัวออกจากสงครามครั้งนี้…และเนื่องจากการสูญเสียเป็นจำนวนมากของ หมู่บ้านอิวะ นั้นก็แสดงว่าสถานการณ์ของ หมู่บ้านโคโนฮะ ก็คงจะไม่ต่างกัน!


ดังนั้นในตอนนี้ พวกเขาจึงได้รับผลประโยชน์จากการต่อสู้ในครั้งนี้ไปแบบเต็ม ๆ !


“แล้ว โคโนฮะ ละ มีนินจารอดชีวิตมาได้กี่คน แล้วจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นเท่าไร?”


คาเสะคาเงะ มั่นใจมากว่า กองทัพของโคโนฮะ ก็จะต้องสูญเสียมากด้วยเช่นกัน เขาถามคำถาม แต่ในหัวของเขาก็รู้คำตอบแล้ว


“การสูญเสียของฝ่ายโคโนฮะ เป็น 0 ครับ!”


“เยี่ยมยอด นินจาโคโนฮะก็ตายไปหมด พวกมันถูกทำลายจนหมด และนี้ก็จะเป็นข้อได้เปรียบของเรา!”


ความสุขบนใบหน้าของ คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 นั้นชัดเจนมาก


“และนอกจากนี้ยัง…”


แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจำรายงานแรกได้ว่า นินจาอิวะ ถูกฆ่าจนหมด


แล้วถ้า กองทัพโคโนฮะ ก็ตายหมดเช่นกัน หากเป็นอย่างนั้น หมู่บ้านอิวะ จะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?!


คาเสะคาเงะ คิดว่านินจาคนนั้นรายงานข้อมูลผิด เขาจึงจ้องไปที่นินจาคนนั้นและรอให้ นินจาคนนั้นอธิบาย


นินจาคนนั้น ลังเลอยู่สักครู่ แล้วเขาก็รายงานข้อมูลใหม่อีกครั้ง


“ท่านคาเสะคาเงะ กองทัพโคโนฮะ ไม่ได้ถูกทำลาย การล้มตายของพวกเขาเป็น 0 ซึ่งนั้นก็หมายความว่า พวกเขาไม่ได้รับการสูญเสียเลย พวกเขาแค่ได้รับบาดเจ็บเล็ดน้อยเท่านั้น…”


“…”


ทันใดนั้น การแสดงออกของ คาเสะคาเงะ ก็เปลี่ยนไปทันที


การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่อยากเชื่อ


ล้อกันเล่นหรือเปล่า?!


กองทัพอิวะ ตายเกือบหมด แต่ กองทัพโคโนฮะ ไม่ตายเลยสักคน?


เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ แม้ว่า ฝ่ายโคโนฮะ จะแข็งแกร่งมากกว่าก็ตาม


“เป็นไปไม่ได้! โคโนฮะ ส่งกองทัพที่มีแต่ โจนิน เขาสู่สนามรบอย่างนั้นเหรอ?”


ถึงแม้ว่า คาเสะคาเงะ จะรู้ว่า นินจาคนนี้ จะไม่บอกข้อมูลดังกล่าวแก่เขาแน่ หากมันไม่เป็นความจริง แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี


เพรามันน่าเหลือเชื่อมาก!


“ท่านคาเสะคาเงะ โคโนฮะ ไม่ได้ส่งกองทัพที่มีแต่ โจนิน แต่…สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพราะผู้ชายคนเดียวที่ทำให้ โคโนฮะ ได้รับชัยชนะ”


หลังจาก นินจาคนนี้ รายงานข้อมูลเหล่านี้เสร็จแล้ว เขาก็ลังเลเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเบา ๆ ว่า “และดูเหมือนว่าชายคนนี้จะมี ดาบคุซานางิ ไว้ในครอบครอง…”


คาเสะคาเงะ ยังไม่ทันได้ตั้งสติจากข้อมูลแรกที่เขาได้รับ แต่เขาก็ต้องตกใจขึ้นไปอีก หลังจากที่เขาได้รับข้อมูลที่ 2 เขามองดูนินจาคนนั้นและทำอะไรไม่ได้นอกจากตะโดนออกมา


“ดาบคุซานางิ งั้นเหรอ?! มันเป็นไปไม่ได้!!”


“มันเป็นคนที่ชิงดาบของ คินจิน ไปงั้นรึ?”


ภายใต้ความตกใจของ คาเสะคาเงะ เขาถามกลับไปในทันที


เมื่อ คาเสะคาเงะ ได้ยินข้อมูลนี้ จิตใจของเขาก็เหมือนกำลังจะระเบิดออกมา เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า


เขาคิดว่า คินจิน ยังคงอยู่ที่นั่นเพื่อปฏิบัติภารกิจลอบสังหารของเขาอยู่ แต่เมื่อเขารู้อีกที คินจิน ก็ถูกฆ่าไปแล้ว!


และตอนนี้ ดาบคุซานางิ ก็ได้ตกไปอยู่ในมือของ โคโนฮะ เรียบร้อยแล้ว!


“มันเป็นไปได้ยังไง นินจาคนนั้นมันเป็นใคร เรามีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับมันบ้าง?”


“มีครับ”


นินจาคนนี้ รู้ว่าเขาจะต้องถูก คาเสะคาเงะ ถามคำถามนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงดึงม้วนข้อมูลเกี่ยวกับ ไนโตะ ออกมา และส่งให้ คาเสะคาเงะ ในทันที


ถึงแม้ว่า ข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยลับที่มีชื่อรหัส ยูจิน เป็นความลับสุดยอด แต่ข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ชื่อ ไนโตะ นั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะหาได้


เมื่อ คาเสะคาเงะ มองไปที่ บรรทัดแรกของม้วนข้อมูล เขาก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที


ไนโตะ ? แกะนิน ?


เรื่องไร้สาระ!


มันไม่มีทาง


อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาดูข้อมูลอย่างละเอียดมากขึ้น การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป


ข้อมูลที่เขาได้มายังไม่สมบูรณ์ มันมีบอกถึงแค่ อายุของ ไนโตะ และข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับวิธีที่เขาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนินจาก่อนเวลา และข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่เขาชนะในการปะลองและกลายเป็นเด็กอัจฉริยะที่สุดในประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านโคโนฮะ


ข้อมูลนี้ยังไม่สมบูรณ์และข้อมูลของเขาก็มีเพียงแค่ข้อมูลก่อนหน้านี้ 1 ปีเท่านั้น


ดูเหมือนว่า ไนโตะ จะเป็นเพียงแค่ เกะนิน จริง ๆ!


แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันละ?


คาเสะคาเงะ ยังคงจ้องมองไปที่กระดาษแผ่นนี้อยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็สงบลงและกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของเขาและโยนกระดาษข้อมูลนั้นลงบนโต๊ะ


“โคโนฮะ…พวกเจ้าไปเอาสัตว์ประหลาดตัวนี้มาจากไหนกันแน่?!”


……


ณ หมู่บ้านคิริ


มิซึคาเงะ โยนเอกสารข้อมูลลงบนโตะอย่างแรง


“ล้อเล่นกันใช่ไหม?! ไม่มีทางที่เรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน!”


มิซึคาเงะ โกรธเป็นอย่างมาก เขามองไปที่นินจาที่ส่งรายงานให้เขาและตะโกนว่า “ไปซะ! แล้วไปตรวจสอบข้อมูลนี้อีกครั้ง! ปีศาจจากโคโนฮะ เอาชนะ กองทัพของอิวะ ได้ทั้งหมด จะบ้ารึเปล่า!!”


แต่ไม่ว่า มิซึคาเงะ จะให้คนของเขาตรวจสอบข้อมูลนี้อย่างไร ทุกครั้งที่นินจามารายงานข้อมูล เขาก็จะได้รับข้อมูลแบบเดิมทุกครั้ง จนในที่สุด เขาก็ต้องยอมเชื่อ


“มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 นี้กำลังจะจบลงแล้ว…เราจะดำเนินการสังเกตต่อไป…สั่งให้ กลุ่ม 7 ดาบนินจา เตรียมความพร้อมและปกป้องดาบของตนเอาไว้ หากผู้ชายคนนั้นกล้ามาที่ หมู่บ้านคิริ แห่งนี้ พวกเขาจะต้องสังหารมันให้ได้ เราจะไม่ยอมให้ดาบของเราตกไปอยู่ในมือของ โคโนฮะ โดยเด็ดขาด”


…….


ณ หมู่บ้านคุโมะ


ไรคาเงะ กำลังดูข้อมูลที่อยู่ในมือของเขา


“โคโนฮะ มีนินจาอัจฉริยะที่เก่งกาจจริง ๆ แต่ถ้าฉันอยู่ที่นั่นเขาก็คงจะไม่ทันได้ทำอะไรแม้แต่ขยับนิ้ว แล้วถ้าเขากล้ามาที่ หมู่บ้านคุโมะ ของเรา ฉันจะเป็นคนฆ่าเขาเอง!”


ดวงตาของ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 ดูแข็งกร้าว และแสดงให้เห็นถึงการดูถูกเหยียดหยามเล็กน้อย เขาไม่สนใจในสิ่งที่ ไนโตะ ทำ เพราะเขามั่นใจว่าเขาแข็งแกร่งกว่า


เขามีวิชา อาภรณ์สายฟ้า ที่สมบูรณ์แบบมาก เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ขั้นที่ 3 ของวิชานี้มาได้หลายปีแล้ว ร่างกายของเขาแข็งแรงมาก…และเขาพัฒนาไปจนถึงขั้นที่ว่า คาถานินจา ไม่มีผลกับร่างกายของเขาแล้ว ไม่มีอะไรสามารถระคายเคืองผิวหนังของเขาได้!


ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 แข็งแกร่งมากจนเขาสามารถจัดการกับ 8 ห่าง ได้ด้วยตัวเอง!


อย่างไรก็ตาม แม้แต่คนที่มีอำนาจขนานนี้ ก็รู้สึกวิตกในตัวของ ไนโตะ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกนี้ออกมาให้ใครได้เห็นเลยแม้แต่น้อย เขาต้องรักษากำลังใจของคนทั้งหมู่บ้านไว้


เขาไม่สนใจว่าตอนนี้ ไนโตะ จะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่การที่ ไนโตะ มีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาตกใจ


ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังไม่มีใครที่แข็งแกร่งเท่ากับเขาในยุคนี้ และเขาก็ไม่คิดว่าจะมีคนที่เหมือนเขาปรากฏตัวออกมาในยุคเดียวกัน

 

 

 


ตอนที่ 136

 

ณ หมู่บ้านโคโนฮะ


ข่าวที่น่าประหลาดใจจากสนามรบได้ส่งมาถึง สภาสูง ของหมู่บ้าน


วินาทีแรกที่พวกเขาได้รับข้อมูล ผู้อาวุโสทั้ง 4 ของโคโนฮะ ต่างก็ตกใจและไม่อยากเชื่อในข้อมูลที่ได้รับมา พวกเขาคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!


หลังจากที่พวกเขาตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว ปฏิกิริยาของพวกเขาก็เปลี่ยนจากการไม่เชื่อไปเป็นความตกใจถึงขีดสุด


ในที่สุด ทั้ง ซารุโทบิ และ ดันโซ ก็จัดการประชุมสภากับผู้อาวุโส 2 คน คือ อุทาทาเนะ โคฮารุ และ มิโตคาโดะ โฮมุระ เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องของ ไนโตะ


ชั้นบนสุดของสำนักงาน โฮคาเงะ


ห้องขนาดเล็กที่อยู่ชั้นบนสุด และใช้สำหรับจัดการประชุมที่สำคัญเท่านั้น


มีเพียงคนระดับสูงสุดในหมู่บ้านเท่านั้นที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมระดับสูงเหล่านี้ได้ และ ฮาตาเคะ ซาคุโมะ ก็เป็นคนระดับสูงสุดในหมู่บ้านเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสเท่านั้นจึงจะมีสิทธิเข้าร่วมการประชุมสภา เพราะพวกเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในโคโนฮะ


“พวกท่าคิดยังไงกับ ไนโตะ ?”


ซารุโทบิ เริ่มต้นการสนทนาด้วยคำถามนี้ ความตกใจยังปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาและน้ำเสียงของเขาก็ยังมีร่องรอยของความตกใจอยู่


“เขาทำภารกิจได้สมบูรณ์แบบตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นภารกิจลอบสังหาร ภารกิจสอดแนม หรือแม้แต่การต่อสู้ในสนามรบก็ตาม เขาสามารถทำหน้าที่ของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบและพลังของเขาก็แข็งแกร่งมาก…”


การแสดงออกของ ดันโซ นั้นเยือกเย็นมาก แต่ดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความตกใจของเขา เขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะทำแบบนั้นในสนามรบ


มันน่าเหลือเชื่อ!


อุทาทาเนะ นั่งเงียบอยู่นาน จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ “ตามที่ ดันโซ ได้พูดไว้ บทบาทในสนามรบของ ไนโตะ นั้นสำคัญมาก การมีอยู่ของเขาทำให้เหมือนกับเรามีอาวุธสงครามไว้ในมือ แต่เขาจะต้องถูกควบคุมเหมือน พลังสถิตร่าง”


ซาคุโทบิ ได้ยินทั้งความคิดเห็นของ ดันโซ และ อุทาทาเนะ จากนั้นเขาก็หันไปทาง มิโตคาโดะ และพูดว่า “แล้วท่านละ คิดว่ายังไง มิโตคาโดะ ?”


“ฉันเชื่อว่าในตอนนี้ ไนโตะ นั้นสำคัญกว่ามากกว่า พลังสถิตร่าง เสียอีก แต่ฉันคิดว่าเราไม่ควรควบคุมเขาไว้เหมือน พลังสถิตร่าง เพราะเราต้องการพลังของเขาในสนามรบ”


เมื่อ ซารุโทบิ ได้ยินคำพูดนี้ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นด้วยเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็พยักหน้าและคิดว่านี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด


เมื่อเห็นท่าทางของ ซารุโทบิ ดันโซ ก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “นี่ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่?! เพียงแค่ส่งเขาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้เขากลายเป็นอาวุธสงครามที่สมบูรณ์แบบเอง!”


การที่ ดันโซ พูดออกมาแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของเขาอย่างชัดเจน เขากำลังวางแผนบางอย่างอยู่


ซารุโทบิ จ้องไปที่ ดันโซ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นในที่สุด เขาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าความคิดของ มิโตคาโดะ เป็นทางออกที่ดีที่สุด และฉันก็เห็นด้วย”


“ฉันถาม ซาคุโมะ แล้ว เขาบอกว่า ไนโตะ สามารถเติบโตได้มากกว่านี้ หากได้ความช่วยเหลือขากเขา ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องควบคุมเขา เพราะตอนนี้เขายังอยู่ภายใต้การควบคุมของเราอยู่”


ดันโซ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แล้วถ้าปีศาจน้อยของท่านแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้ แล้ว ซาคุโมะ จะหยุดเขาได้ไหมละ?”


“พัฒนาการของเขานั้นรวดเร็วมาก เขาทำให้เราประหลาดใจได้ทุก ๆ ครั้ง ถ้าเขาแข็งแกร่งขึ้นแล้วเราจะทำอย่างไร?? มันจะเป็นเขาหรือพวกเรา ที่เป็นอันตราย!!”


คำพูดของ ดันโซ ทำให้ ซารุโทบิ ขมวดคิ้วเล็กน้อย


แต่ในที่สุด ซารุโทบิ ก็จ้องไปที่ ดันโซ ด้วยสายตาที่แข็งกร้าวแล้วพูดอย่างจริงจัง “ถ้าเขาแข็งแกร่งจน ซาคุโมะ หยุดเขาไม่ได้ ฉันจะเป็นคนหยุดเขาเอง!”


เมื่อฟังคำพูดของ ซารุโทบิ ทันใดนั้น ดันโซ ก็หยุดพูด


ดันโซ พร้อมที่จะงัดข้อกับ ซารุโทบิ ได้ทุกเมื่อ แต่คำพูดเหล่านั้นของ ซารุโทบิ ทำให้หน้าผากของ ดันโซ เต็มไปด้วยเหงื่อ


อำนาจของ ซารุโทบิ ทำให้ ดันโซ ไม่กล้าเถียง ยิ่งกว่านั้นเขารู้สึกกลัวมากจนเขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีก


“นอกจากนี้ เราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ไนโตะ จะแปรพรรคไปจากเราจริง ๆ หรือไม่ แต่ ดันโซ…ฉันกังวลเกี่ยวกับท่านมากกว่า…ดูเหมือนท่านจะกระตือรือร้นมากที่จะควบคุม ไนโตะ ให้ได้มากกว่าสิ่งใดเสียอีก”


“และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องแบบนี้ ฉันได้ยินมาว่าท่านต้องการควบคุม พลังสถิตร่างคนใหม่ ด้วยเช่นกัน ท่านกำลังวางแผนทำอะไรอยู่ลับหลังเราอยู่กันแน่?”


ใบหน้าของ ดันโซ แสดงออกถึงความตกใจอย่างชัดเจน ที่จริงแล้ว เขากำลังค้นหาวิธีในการควบคุม พลังสถิตร่างคนใหม่ อยู่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่า ซารุโทบิ รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร


มีคนทรยศใน หน่วยราก ของเขาอย่างนั้นเหรอ?


นั่นเป็นไปไม่ได้!


“เอาละ ๆ พลังสถิตร่าง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก มันก็ไม่แปลกที่ ดันโซ จะให้ความสนใจกับเรื่องนี้”


อุทาทาเนะ พยายามพูดเพื่อปกป้อง ดันโซ


อีกด้านหนึ่ง มิโตคาโดะ ก็มองไปที่ ดันโซ แล้วพูดว่า “อย่างไรก็ตาม การแสดงความสนใจมากขนาดนี้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ ซารุโทบิ จะสงสัย ฉันหวังว่าท่านจะไม่ทรยศเราใช้ไหม ดันโซ”


ดันโซ เงียบ


ซารุโทบิ ยืนขึ้น จากนั้นก็มองไปที่ ดันโซ และพูดว่า “การประชุมจบแล้ว”


มันเป็นความจริงที่ ดันโซ เป็นหนึ่งในคนระดับสูงของ โคโนฮะ และเขาก็มีอำนาจในมืออยู่มาก แต่เมื่อพูดถึงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้าน มันจะไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ซารุโทบิ และเพราะ ดันโซ มักจะประดาบกับ ซารุโทบิ อยู่บ่อยครั้ง เขาจึงรู้ว่าไม่สามารถก้าวก่าย ซารุโทบิ ไปได้มากกว่านี้


 


 


 


 


เหมือนเรื่องราวในการ์ตูนที่ ดันโซ ได้ร่วมมือกับ โอโรจิมารุ เพื่อทำให้ โอโรจิมารุ ได้เป็น โฮคาเงะ รุ่นที่ 4 และนั้นคือสิ่งที่คุกคาม ซารุโทบิ


ดันโซ มักจะรู้สึกว่า โอโรจิมารุ มีด้านมืดมากเกินไป และไม่เหมาะที่จะเป็น โฮคาเงะ ดังนั้น ดันโซ จึงโต้แย้งแผนการของ โอโรจิมารุ มาโดยตลอด


สิ่งนี้ทำให้ความเกลียดชังในหัวใจของ ดันโซ เพิ่มมากขึ้น จนในที่สุดเขาก็วางแผนเพื่อจัดการลอบสังหาร ซารุโทบิ แต่สุดท้ายแผนของเขาก็ล้มเหลว


ท้ายที่สุดแล้ว ซารุโทบิ ไม่เคยคิดถึงเรื่องส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย เขาคิดถึง หมู่บ้านโคโนฮะ ก่อนเสมอ เพราะหมู่บ้านมีความสำคัญมากกว่าสิ่งใด แม้แต่ตัวเขาเองก็ต้องยอมลืมความบาดหมางและให้อภัย ดันโซ เพราะ ดันโซ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อหมู่บ้าน ดังนั้นเขาจึงมอบอำนาจให้กับ ดันโซ และมอบหมายให้ ดันโซ จัดการกับภารกิจด้านมืดของหมู่บ้าน ในมุมของ ซารุโทบิ แล้ว ประโยชน์ที่ได้นั้นมีมากกว่าข้อเสีย


……


การต่อสู้ที่เด็ดขาดระหว่าง โคโนฮะ กับ อิวะ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั่วทั้งโลกนินจาแห่งนี้


แม้แต่ หมู่บ้านคุโมะ ที่ไม่ได้เข้าร่วมใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 นี้ และ หมู่บ้านคิริ ที่อยู่ไกลออกไปทางทะเล ก็มีความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้


และเมื่อข่าวถูกกระจายออกไป มันทำให้โลกแห่งนินจาต้องสั่นสะเทือน


โลกทั้งใบสั่นไหว!


เมื่อ นินจาอิวะ ที่รอดชีวิตมาได้การต่อสู้ครั้งนั้น ถูกถามถึงเรื่องของ ไนโตะ พวกเขาแทบจะพูดอะไรไม่ออกและพวกเขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้โดยที่ร่างกายของพวกเขาไม่สั่น!”


ไนโตะ คือฝันร้ายของพวกเขา!


ภาพนั้นได้ตามหลอดหลอนพวกเขาอย่างแท้จริง ภาพร่างกายของชายคนหนึ่งที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดที่วิ่งเข้าสนามรบและฆ่าทุกคนที่เป็นศัตรูของเขาโดยที่ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้!


หน่วยลับ ชื่อรหัส ยูจิน ได้หายไปในความมืด


และกำเนิดใหม่เป็น ไนโตะ ผู้มีฉายาว่า มนุษย์ครึ่งเทพแห่งสงคราม ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ !!


(Konoha’s Ashura the Demigod of War)


นี้คือฉายาที่พวกเขาใช้เรียก ไนโตะ และยังมีฉายาอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ยมทูต หรือแม้แต่ ฮาเดส เทพแห่งความตาย!!


นอกจากเรื่องของ ไนโตะ แล้ว เรื่องราวของ ซาคุโมะ ที่ตัดแขน นินจาระดับสูงของอิวะ ได้ ก็มีชื่อเสียงมากเช่นกัน


ฉายาที่พวกเขาเรียก เป็นฉายาเดียวกับที่เขาได้รับในการ์ตูน


ทั้งคู่ ได้รับชื่อเสียงเป็นอย่างมาก


ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ! และ เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ!


2 ฉายา , 2 นินจาที่ใช้วิชาดาบ ที่จะทำ โคโนฮะ ไปสู่ชัยชนะใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 !


ณ ตอนนี้ ไนโตะ มีชื่อเสียงมาก


แม้แต่ตัว ไนโตะ เอง ก็ไม่คิดว่าเขาจะโด่งดังถึงขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นก่อนที่จะมีคนรู้จัก 3 นินจาในตำนานของโคโนฮะ ก็ตาม


ความแข็งแกร่งของเขาอาจยังไม่ถึงระดับที่เขาควรจะมีชื่อเสียง แต่สิ่งที่เขาได้ทำในสงครามครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งโลก


หมู่บ้านโคโนฮะ


ในที่สุด มินาโตะ ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและกลายเป็น จูนิน ตอนนี้เขากำลังเตรียมตัวเพื่อไปรับภารกิจ จากนั้นเขาจึงเดินตรงไปยัง ห้องประชุมภารกิจ


เมื่อ มินาโตะ เปิดประตูเข้ามาในห้อง แต่นินจาทุกคนในห้องนั้นก็ไม่ได้สนใจการมาถึงของ มินาโตะ เลย เพราะพวกเขายังคงตกใจอยู่กับข่าวของสงครามที่เพิ่งมาถึงพวกเขา


“ไม่น่าเชื่อ!”


“มันเป็นไปได้ยังไง?”


“ไนโตะ…ไม่สิ…ท่านไนโตะ แข็งแกร่งมาก!”


นินจาหลายคนกำลังพูดคุยกันถึงข่าวนี้ มินาโตะ ไม่รู้ว่าทำไม นินจาผู้รับผิดชอบ ถึงปล่อยให้เขายืนรออยู่ตรงหน้าโต๊ะรับภารกิจแบบนี้ แต่ทันทีที่เขาได้ยินชื่อของ ไนโตะ เขาก็แสดงความประหลาดใจออกมา


เขาอยากรู้ว่ามีอะไรเกี่ยวกับ ไนโตะ เขาจึงถามไปว่า “เกิดอะไรขึ้นกับ ไนโตะ งั้นเหรอครับ?”


หนึ่งในนินจาผู้รับผิดชอบเงยหน้าขึ้นแล้วหันมามอง มินาโตะ และเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจว่า “นี้นายยังไม่ได้ยินข่าวนี้เลยเหรอ?!”


“พวกนายหมายถึงอะไร? ได้ยินข่าวอะไร?”


มินาโตะ ดูสับสนมาก

 

 

 


ตอนที่ 137

 

เมื่อเห็นว่า มินาโตะ ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ นินจาใน ห้องประชุมภารกิจ ก็มองไปที่ มินาโตะ ด้วยสายตาที่รู้สึกประหลากใจ


“ข่าวนี้มาจากแนวหน้าของสนามรบ นายยังไม่รู้ข่าวนี้เหรอ ข่าวที่ว่า ไนโตะ เพียงคนเดียวสามารถจัดการกับ นินจาอิวะทั้งกองทัพนับร้อย ๆ ได้โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!”


“ตอนนี้เขาคงจะได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็น โจนิน แล้ว ดังนั้นนายก็ควรเรียกเขาว่า ท่านไนโตะ นะ”


เมื่อนินจาเหล่านั้นพูดถึงข่าวนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม ไนโตะ


เพราะเขาเป็นนินจาคนที่ไม่ยอมให้ ไนโตะ และ ได ทำภารกิจที่ยากกว่าระดับของพวกเขา เขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะไปถึงระดับที่เขาทำได้เพียงแต่มองเท่านั้น!


เขาชื่นชม ไนโตะ จากใจจริง ๆ


เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ มินาโตะ ก็เหมือนกับถูกฟ้าผ่า


ไนโตะ…มันเกิดขึ้นได้ยังไง?!


การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อ!


ไนโตะ สามารถไปถึงระดับนั้นได้แล้ว และครอบครองชัยชนะในสงคราม! ช่างน่าตกใจ!


ช่างน่าตกใจจริง ๆ!


ในตอนแรก หลังจากที่เขาได้พบกับ ไนโตะ เป็นครั้งสุดท้าย มินาโตะ ก็คิดว่าเขาจะต้องฝึกฝนมากขึ้นเพื่อลดช่องว่างของพลังระหว่างเขากับ ไนโตะ ลง แต่เขาก็ไม่คิดว่าในเวลาอันสั้น ไนโตะ จะสามารถเพิ่มช่องว่างของพลังระหว่างพวกเขาได้มากขึ้นขนาดนี้!


ในเวลาเดียวกัน มินาโตะ ก็อดคิดไม่ได้เกี่ยวกับ หน่วยลับ คนที่เขาเจอมาก่อนหน้านี้ ในตอนที่ขบวนลำเลียงของเขาถูกโจมตี


ทันใดนั้น ทุกอย่างชัดเจน และในที่สุดเขาก็เข้าใจทั้งหมด


หน่วยลับคนนนั้น คือ ไนโตะ !!


…….


บนถนนของ โคโนฮะ


คุชินะ กำลังเดินอยู่


ทุกครั้งที่เธอมองไปที่มุมตึก เธอมักจะเห็นร่างของ ไนโตะ อยู่เสมอ แต่เธอก็รู้สึกตัวว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาจากจินตนาการของเธอเองเท่านั้น


เธอถอนหายใจ จากนั้นเธอก็มุ่งหนไปยังบ้านของ ไนโตะ


เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าประตูบ้านเธอก็หยุดอยู่ตรงนั้น แล้วทันใดนั้นก็มีมือของใครบางบนมาตบไหล่เธอเบา ๆ


เธอแปลกใจและด้วยความหวัง เธอก็ยิ้มและหันหลังกลับมา แต่เมื่อเธอมองไปที่คนที่แตะไหล่เธอ เธอก็รู้ว่าไม่ใช่ ไนโตะ


“เจ้า คุชินะ ตัวน้อย!”


เมื่อเขาพูดจบใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “ฉันมีข่าวเกี่ยวกับ ไนโตะ มาบอก เธออยากรู้ไหม?!”


“อยากสิ ๆ!”


คุชินะ พยักหน้าด้วยความกระตือรือร้น


มินาโตะ ยิ้มแล้วบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดของ ไนโตะ เมื่อเธอรู้ข่าวนี้เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเบิกตากว้างด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อ


“ตอนแรกที่ฉันได้ยินเรื่องนี้ ฉันก็ตกใจแบบนี้เหละ ก็จริงที่ฉันไม่อยากเชื่อเรื่องนี้!”


“แต่ มันก็เป็นเรื่องจริง!”


คุชินะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ และค่อย ๆ ระงับความตกใจของเธอ จากนั้นเธอก็พูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงขนาดนั้นได้เร็วแบบนี้”


“ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ…ฉายานี้เหมาะกับเขาจริง ๆ”


คุชินะ ยิ้มออกมา เธอดูมีความสุขมากเมื่อได้ยินข่าวนี้


……


แคว้นแห่งฝน


ค่ายบัญชาการของ โคโนฮะ


เนื่องจากพวกเขาสามารถเอาชนะในการต่อสู้กับ หมู่บ้านอิวะ มาได้ และพวกเขาก็มีจำนวนผู้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ค่ายบัญชาการของ โคโนฮะ จึงเริ่มรุกคืบหน้าเข้าสู่ใจกลางของ แคว้นแห่งฝน


อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ต้องการเขาไปถึงใจกลางของแคว้นแห่งนี้ เพราะที่นั้นเป็นที่ตั้งของ ค่ายบัญชาการของหมู่บ้านอาเมะ ท้ายที่สุดแล้ว โคโนฮะ ก็ยังคงจำเป็นต้องระวัง ฮันโซ อยู่ดี


ณ ค่ายบัญชาการใหม่ของโคโนฮะ


ในใจกลางของค่าย มีห้องพักจัดสรรให้กับนินจาระดับสูงอย่างเช่น โอโรจิมารุ , จิไรยะ , ซึนาเดะ และนินจาระดับสูงคนอื่น ๆ


นอกจากห้องพักของนินจาระดับสูงแล้ว ก็ยังมีห้องพักอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องพักของนินจาธรรมดาคนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครคัดด้านที่ห้องพักของเขาอยู่ตรงนี้


เพราะเจ้าของห้องนั้นก็คือ นินจาที่มีฉายาว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ นั้นเอง!


แน่นอนว่า หลังจากจบการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมาแล้ว ไนโตะ ก็ได้รับการเลื่อนระดับขึ้น เขาข้ามขั้นจาก จูนิน และ โจนินฝึกหัด และกลายเป็น โจนิน ในทันที!


ก่อนหน้านี้ ได ได้เลื่อนระดับขึ้นเป็น โจนินฝึกหัด มันทำให้คนจำนวนมากตกใจกับเรื่องนี้


แต่การเลื่อนระดับอย่างรวดเร็วของ ไนโตะ ในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก จนทุกคนต้องตกตะลึงมากกว่าเรื่องของ ได อีก!


อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครคิดจะคัดค้าน เพราะทุกคนรู้ว่า ไนโตะ มีความสามารถมากขนาดไหน!



ในห้องพักของ ไนโตะ ในขณะนี้


ไนโตะ กำลังนั่งเงียบ ๆ อยู่ในนั้น มีโต๊ะอยู่ตรงหน้าเขา มันทำจากหินและติดอยู่กับพื้นดินเป็นชิ้นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่า ผู้ใช้คาถาดิน เป็นคนสร้างมันขึ้นมา


บนโต๊ะมี ม้วนคัมภีร์ เปิดอยู่


ม้วนคัมภีร์ นี้ เป็นอันเดียวกับที่ โอโรจิมารุ มองให้กับ ไนโตะ และมันเป็นความลับในการควบคุมวิชา อาภรณ์สายฟ้า ขั้นที่ 2 และ ไนโตะ ก็ยังคงไม่แน่ใจในวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ โอโรจิมารุ


เขาอ่าน ม้วนคัมภีร์ วนไปวนมาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลย ข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง


โอโรจิมารุ ไม่มีวางกับดักอะไรไว้ในนี้


“น่าแปลก แต่ด้วยพลังของเราในตอนนี้ เราคงไม่ต้องกังวลเรื่องของ โอโรจิมารุ ตราบใดที่เรายังแข็งแกร่งกว่าเขา มันก็คงไม่เป็นไร”


หลังจากที่เขาส่ายหัว ไนโตะ ก็สะบัดความคิดเหล่านี้ออกไป จากนั้นเขาก็เริ่มอ่านคัมภีร์อีกครั้ง


แม้ว่า หมู่บ้านโคโนฮะ จะต่อสู้กับ หมู่บ้านอิวะ และได้รับชัยชนะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ยังมี หมู่บ้านซึนะ และ หมู่บ้านอาเมะ ที่ยังคงเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้อยู่ ดังนั้นการต่อสู้จึงยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ไนโตะ กลับมาที่ค่าย แต่เขาก็ยังไม่ได้ละทิ้งสงคราม


ไนโตะ ไม่ได้เป็น หน่วยลับ อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำภารกิจพิเศษใด ๆ ของ หน่วยลับ ได้ ตอนนี้เขาเป็นเพียง นินจาธรรมดา ๆ เท่านั้น เขาต้องยอมรับความจริงข้อนี้และต้องอยู่ในค่ายนี้เพียงเท่านั้น


บางทีความแข็งแกร่งของ ไนโตะ อาจจะยังไม่เทียบเท่ากับ ซาคุโมะ แต่ ฉายาของทั้งคู่ เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ และ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ นั้นโด่งดังไปทั่วโลกอย่างเท่า ๆ กัน!


คนทั้ง 2 เป็นตัวแทนของกองทัพทั้งหมดของโคโนฮะ ซึ่งทำให้สถานะของ ไนโตะ ในสงครามครั้งนี้ กลายเป็นเหมือน ซาคุโมะ และไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ


ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือเวลาที่ ไนโตะ จะพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นได้อีก


“ในขั้นแรกของวิชานี้ จะใช้จักระเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวและเสริมสร้างผิวหลังให้แข็งแรง แต่มีจักระส่วนน้อยเท่านั้นที่จะสามารถแทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อได้”


“แต่ขั้นที่ 2 ของวิชานี้ จักระจะสามารถแทรกซึมลงไปได้ถึงระดับของกล้ามเนื้อและด้านในของร่างกายได้อย่างสมบูรณ์”


“ส่วนขั้นที่ 3…รูปแบบจักระ มันจะผสานเข้ากับผิวหนังมากยิ่งขึ้นเพื่อเสริมการป้องกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”


หลังจากที่ ไนโตะ อ่านเนื้อหาใน ม้วนคัมภีร์ นี้อีกครั้ง แล้วเขาก็พึมพำคำเหล่านี้ออกมา จากนั้นเขาก็ม้วนมันเก็บ และเริ่มฝึกฝนตามคำแนะนำ.


ขั้นที่ 2 นั้น ไม่ง่ายเหมือนขั้นแรก และความคืบหน้าในการฝึกของเขาก็ค่อนข้างช้า.


ไม่ใช่ว่าความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาในตอนนี้ยังไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะจำนวนจักระของเขาน้อยเกินไป.


จำนวนจักระของ ไนโตะ นั้นมากเกินพอสำหรับวิชา อาภรณ์สายฟ้า ในขั้นแรก แต่สำหรับขั้นที่ 2…เขาจำเป็นต้องมีจักระมากกว่านี้!.

 

 

 


ตอนที่ 138

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจักระของ ไนโตะ ยังไม่เพียงพอในการฝึกวิชานี้ แต่ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ นั้นเกินความต้องการเป็นอย่างมาก และเรื่องนี้ก็ได้รับการรับรองมาแล้วจากคนทั้งสนามรบ


ยิ่งไปกว่านั้น วิชาเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม มันช่วยให้ ไนโตะ สามารถฟื้นฟูจักกระของเขาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เขาสามารถฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้า ขั้นที่ 2 ได้อย่างต่อเนื่อง


แต่แม้ว่าเขาจะฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง แต่ความก้าวหน้าของเขาก็ยังช้ามากอยู่ดี


อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ ไนโตะ รู้สึกทึ่งกับพลังของวิชา อาภรณ์สายฟ้า ขั้นที่ 2


แท้จริงแล้วมันก็เป็นหนึ่งใน คาถาลับ ที่ทรงพลังในโลกนินจาแห่งนี้!


ในขั้นที่ 1 มันอาจไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมา แต่ในขั้นที่ 2 มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีพลังมากจริง ๆ


หาก ไนโตะ ไม่ได้เรียนรู้วิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ มาก่อนหน้านี้ เขาก็จะไม่สามารถฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้า ได้อย่างแน่นอน!


มันเป็นวิชาที่ลึกลับมาก!!


ด้วยรูปแบบจักรนี้ ทำให้แสงสีฟ้าและสายฟ้าเริ่มปรากฏขึ้นรอบ ๆ ร่างกายของ ไนโตะ มันดูน่ากลัวมาก


เส้นสายฟ้ารอบตัว ไนโตะ ชัดเจนกว่า อาภรณ์สายฟ้า ขั้นแรก และมันก็ทำให้เสื้อผ้าของ ไนโตะ ฉักขาด


อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ และเขาก็ยังคงมุ้งมั่นในการควบคุมมันต่อไป…อันที่จริง เขาพยายามควบคุมไม่ให้มันทำลายร่างกายของเขา


คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญในการใช้ธาตุสายฟ้า ร่างกายของเขาจะไม่สามารถทนต่อสายฟ้าในระดับนี้ได้!


และแม้ว่าคนคนนั้นจะไม่ได้กลายเป็นผงในทันที แต่ร่างกายของเขาจะได้รับบาดเจ็บจากการสะท้อนของคุณสมบัติจักระธาตุสายฟ้าในร่างกายของเขาอย่างรุนแรง


เด็กน้อยที่สามารถเรียนรู้วิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้ขณะที่มีอายุแค่ 9 ขาบ มีเพียงสิ่งที่เหมือนกัน ไนโตะ เท่านั้น ที่สามารถทนต่อการฝึกฝนวิชานี้ได้


หลังจากผ่านการฝึกไปครึ่งวัน ไนโตะ ก็เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา


บางทีนี่อาจเป็นเพราะความจริงที่ว่า จุดเริ่มต้นของการเติบโตของเมล็ดพันธุ์ จะบ่งบอกถึงความธรรมดาหรือไม่ธรรมดาของต้นไม้ในอนาคต!


ด้วยความก้าวหน้านี้ เป็นไปได้ที่ ไนโตะ จะสามารถพัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้เขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้ในเร็ว ๆ นี้


เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้วที่ ไนโตะ ได้เขาสู่ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2


คำนวณเวลาแล้ว หากทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้ตามในการ์ตูน มหาสงครามนี้ก็กำลังจะถึงจุดจบแล้ว


ต่อจากนี้ถ้า ไนโตะ สามารถทำการฝึกฝนได้ทุกวันตลอดทั้งปี บางทีเขาก็อาจจะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ของวิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้


แต่มันยังห่างไกลจากตอนนี้มาก


โชคดีที่ตั้งแต่ ไนโตะ สามารถควบคุมวิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นแรก ได้ เขาก็ได้ทำการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว


“ฮึ๊บ!!”


ไนโตะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ร่างกายของเขาเริ่มเมื่อยล้า และตอนนี้เขาก็เหนื่อยเล็กน้อย เขาจึงต้องการหยุดพัก


ไนโตะ หลับตาและเริ่มนั่งสมาธิ เขากำลังคิดเกี่ยวกับ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 อยู่ แต่มันก็ยากมากที่จะเข้าใจได้ ความลับของวิชานี้คงจะถูกจัดให้เป็นความลับสุดยอด และคงถูกเก็บไว้ใน หมู่บ้านคุโมะ


คนเดียวที่สามารถขโมย ม้วนคัมภีร์วิชาอาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 มาได้ก็มีเพียงแค่ โอโรจิมารุ คนเดียวเท่านั้น แต่คงจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขโมย ม้วนคัมภีร์วิชาอาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 มาได้


ขณะที่เขากำลังเรื่องนี้อยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านนอกห้องของเขา


“ไนโตะคุง เธออยู่ไหม?”


เป็นเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก นั้นก็คือเสียงของ ซึนาเดะ นั้นเอง เธอกำลังเปิดประตูและเดินเข้ามาหา ไนโตะ


“อยู่ครับผม”


ไนโตะ ลืมตาขึ้นมาและมองไปที่ ซึนาเดะ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้เธอ แต่เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอมีท่าทางแปลก ๆ


เกิดอะไรขึ้น?


ไนโตะ มองไปที่เธอ เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ เขาจึงก้มลงมองตัวเอง จากนั้นเขาก็สะดุ้งขึ้นมาทันที


เนื่องจากการฝึกฝนของ ไนโตะ ทำให้เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตจนกระทั่งตอนนี้


“…”


ไนโตะ รู้สึกเขินอายเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยักไหล่และหยิกเศษผ้าชินหนึ่งมาปิดตรงนั้นไว้ จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังว่า “เอาล่ะ ทีนี้เราก็หายกันแล้วนะ”


“หายกันบ้าอะไรละ!!”


ซึนาเดะ ดูอารมณ์เสียเล็กน้อย ภาพมันติดตาไปแล้วจะหายกันได้ยังไงกัน?!


ไนโตะ ทำหน้าตาน่ารักนิดหน่อย และทำให้เธอสงบลง


พูดอีกอย่างหนึ่งว่า ไนโตะ มักใช้ใบหน้ามราไร้เดียงสาของเขา เพื่อทำให้ทุกสิ่งกลับสู่สภาวะปกติในสถานการณ์แบบนี้


แม้ว่า ไนโตะ จะรู้ว่า ซึนาเดะ ไม่ได้โกรธเขาจริง ๆ เพราะเธอคิดว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มขี้เล่นเท่านั้น


บรรยากาศดูอึดอัดเล็กน้อย


“เอ้อ แล้วพี่มาหาผมทำไมเหรอ?”


ไนโตะ พยายามที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น


ซึนาเดะ กัดฟันจากนั้นเธอก็พูดด้วยความโกรธขึ้นมาว่า “เจ้าแก่นั่น สั่งรวมกองทัพใหม่จำนวน 2,000 คน จากนั้นพวกมันก็เข้าโจมตีหนึ่งในหน่วยของเรา ในขณะที่พวกเขากำลังทำภารกิจอยู่ พวกเราต้องไปช่วยพวกเขา”


เมื่อได้ยินข่าวนี้ ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและพูดว่า “พวกเขาไม่กลัว หมู่บ้านคุโมะ ลอบโจมตีเหรอ?”


“จะไปรู้เหรอ?!”


ซึนาเดะ ยักไหล่แล้วมองไปที่ ไนโตะ และพูดว่า “มีโอกาสสูงที่ โอโนกิ จะเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย เธอต้องระวังเจ้าแก่นั้นให้ดี เขาแข็งแกร่งมาก และเธออาจจะเป็นเป้าหมายของเขา”


“ไนโตะ ยิ้มแล้วพูดกลับไปว่า “งั้นก็เป็นเกียรติที่ผมจะได้สู้กับเขา”


ซึนาเดะ รู้สึกโกรธมากกับความคิดของ ไนโตะ และพูดว่า “นี้เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า ทั้งโลกรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเธอ เธอควรระวังตัวมากกว่านี้!”


เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ไนโตะ ก็พยักหน้าด้วยความจริงจัง


เพราะ ไนโตะ แค่พูดเล่น ๆ ไปเท่านั้น เขารู้ว่าจากการกระทำของเขาทั้งหมดที่ผ่านมา เขารู้ว่าเขาต้องระวังให้มากขึ้น


“ก็จริงที่ทุกคนจะเล็งเป้ามาที่ผม แต่พี่ก็รู้นิว่าผมไม่ใช่เป้าหมายที่ง่าย!”


การแสดงออกของ ไนโตะ สงบมาก


บางที อาจจะยากกว่าการเล็งเป้าไปที่ ฮาตาเคะ ซาคุโมะ ก็เป็นได้!


ไนโตะ แข็งแกร่งทั้งในด้านการโจมตีระยะไกลและการต่อสู้ตัวต่อตัว เขามีภูมิคุ้มกันต่อ วิชาคาถาลวงตา ระดับพื้นฐาน และความเร็วที่สูงมากของเขา อีกทั้งยังมีวิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา ทั้งหมดทำให้เขาสมบูรณ์แบบในทุกด้าน


พูดได้อีกอีกอย่างหนึ่งว่า ไนโตะ เกือบจะไม่มีจุดอ่อนเลยก็ว่าได้


การเล็งเป้ามาที่เขานั้น เป็นความคิดที่ผิด!


……


แคว้นแห่งฝน


ใกล้กับชายแดนของแคว้นแห่งนี้


มีพื้นที่โลงกว้างอยู่ มันดูเหมือนกับที่ที่  ฮันโฮ และ 3 นินจาในตำนาน ใช้ในการต่อสู้กัน


ฝนตกลงมาจากท้องฟ้า ชำระล้างคราบเลือดที่นองอยู่เต็มพื้น


นินจาโคโนฮะ และ นินจาอิวะ กำลังต่อสู้กับอยู่


เป็นอีกหนึ่งการต่อสู้ครั้งใหญ่  มันเป็นการต่อสู้ของนินจาประมาณ 400 – 500 คน ในขณะที่กองทัพของทั้ง 2 ฝ่ายกำลังมุ่งหน้าเข้าปะทะกัน


ผู้นำกองทัพอิวะในครั้งนี้ ไม่ใช่ โอโนกิ เขาคือผู้ช่วยของ โอโนกิ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้บัญชาการกองทัพอิวะ กองทัพนี้ เขามีชื่อว่า ซันโดะ และเขาคือคนที่ถูก ซาคุโมะ ตัดแขน!


และด้านหลังของเขาก็มีนินจาที่สวมหน้ากากยืนอยู่


เมื่อดูจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ เขาคงไม่ใช่ ผู้บัญชาการกองทัพหน่วยลับอิวะ


เขาน่าจะเป็นเพียงแค่หนึ่งในสมาชิก หน่วยลับ เท่านั้น


ถึงแม้ว่า ซันโดะ จะเคยพ่ายแพ้ให้กับ ซาคุโมะ แต่พวกเขาทั้ง 2 ก็ได้กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง


ในสนามรบ นินจาส่วนใหญ่เป็น นินจาระดับ จูนิน


เมื่อมองดูสถานการณ์ในสนามรบ ซาคุโมะ ก็วิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น และทันใดนั้นเขาก็ออกคำสั่งให้ หน่วยโจนิน เข้าสู่สนามรบ


โอโรจิมารุ ก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่อย่างสงบ ในขณะเดียวกันจิตสังหารของเขาก็กระจายออกไปทั่วบริเวณ


ตอนนี้ ความดุเดือดของสงครามได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว

 

 

 


ตอนที่ 139

 

ด้านหลังกองทัพของอิวะ ผู้บัญชาการกองทัพอิวะ ยืนอยู่ที่นั่น ในขณะที่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น


เมื่อมองไปที่ ซาคุโมะ เขาได้เปิดเผยจิตสังหารที่ทรงพลังออกมา


ความแค้นของเขาเกิดจากการปะทะกันครั้งสุดท้ายของทั้งคู่ เมื่อ ซาคุโมะ จัดการตัดแขนของเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่โกรธแค้น ซาคุโมะ


แต่คนที่เขาเกลียดมากกว่าก็คือ ไนโตะ


หากไม่ใช่เพราะ ไนโตะ ในวันนั้นเขาก็คงจะไม่ถูกตัดแขน การที่เขาเหลือแขนเพียงข้างเดียว ทำให้เขาต้องประสานอินด้วยมือเดียว ซึ่งทำให้ความแข็งแรงของเขาลดลงเป็นอย่างมาก


“มันไม่ใช้แผนอะไรเลยเหรอ? คงจะเอาจริงตั้งแต่ต้นเลยสินะ งั้นก็ดี”


ด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น ซันโดะ ออกคำสั่งให้กองทัพของเขาเข้าสู่สนามรบในทันที


แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการออกคำสั่งให้บุกของ ซาคุโมะ แต่ ซันโดะ ก็คิดว่ามันเป็นประโยชน์สำหรับเขาที่จะเอาชนะในศึกครั้งนี้ได้


เนื่องจากเขาไม่เห็น ไนโตะ อยู่ในสนามรบ เขาจึงคิดว่ากองทัพของเขาจะสามารถจัดการกับ กองทัพโคโนฮะ ได้อย่างง่ายดาย


กองทัพอิวะ วิ่งเข้าสู่สนามรบในทันที แต่ดูเหมือนว่า ซาคุโมะ จะไม่สนใจเรื่องนั้น


การต่อสู้มาถึงจุดแตกหักแล้ว


นินจาของทั้ง 2 ฝ่ายต่างเป็นนินจาที่มีความสามารถ แต่ กองทัพอิวะ มีจำนวนมากกว่า 500 คน ในขณะที่ กองทัพโคโนฮะ มีเพียงแค่ประมาณ 400 คน เท่านั้น


ถึงอย่างนั้น โคโนฮะ ก็ได้เปรียบในการต่อสู้ในครั้งนี้


อันที่จริงแล้วที่ กองทัพอิวะ เสียเปรียบเป็นเพราะสภาพอากาศของ แคว้นแห่งฝน


ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ กองทัพโคโนฮะ ที่มีผู้ใช้วิชากระบวนท่าเป็นจำนวนมาก และผู้ใช้คาถาลมและคาถาน้ำก็มีจำนวนมากเช่นกัน ทำให้ได้เปรียบมากในสถานการณ์เช่นนี้


ถึงอย่างนั้น ซาคุโมะ ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะ กองทัพของอิวะ ก็มีจำนวนมากกว่า กองทัพโคโนฮะ อยู่พอสมควร!


การต่อสู้ในครั้งนี้ โคโนฮะ ไม่สามารถส่งกองกำลังทั้งหมดของพวกเขาเข้าสู่การต่อสู้ครั้งนี้ได้ เพราะพวกเขาได้ย้ายค่ายเข้าไปใกล้ใจกลางของ แคว้นแห่งฝน ทำให้ต้องใช้นินจาในการป้องกันค่ายมากขึ้น และด้วยระยะทางที่ไกล ทำให้กองกำลังสนับสนุนบังเดินทางมาไม่ถึงสนามรบแห่งนี้!


และเพราะ โคโนฮะ ย้ายค่ายเข้าไปใกล้ใจกลางของ แคว้นแห่งฝน มากขึ้น ทำให้ต้องทำการชิงพื้นที่จากเขตของ หมู่บ้านซึนะ และหมู่บ้านอาเมะ จึงเกิดการต่อสู้ขึ้นรอบ ๆ พื้นที่เป็นจำนวนหลายจุด


แม้ว่าการต่อสู้เหล่านั้นจะเป็นเพียงแค่การต่อสู้เล็ก ๆ แต่นั้นก็ทำให้ กองทัพโคโนฮะ อ่อนแอลงเรื่อย ๆ


โชคดีที่ ฮันโซ ยังไม่ได้เล็งเป้ามาที่ โคโนฮะ เพราะตอนนี้เขากำลังมุ่งความสนใจไปที่ ฝ่ายของซึนะ เนื่องจากมีข่าวว่า ย่าโจ สามารถทำยาต้านพิษของเขาได้ ทำให้เขาต้องให้ความสำคัญกับภัยคุกคามนี้ก่อน


“ตอนนี้เราเสียเปรียบเป็นอย่างมาก กองทัพอิวะ กำลังไล่ต้อนเรา ไนโตะ ยังไม่มาอีกเหรอ?”


ซาคุโมะ ได้แต่มองไปด้านหลัง แต่เขาก็ยังไม่เห็นวี่แววใด ๆ ของ ไนโตะ และ ซึนาเดะ


การต่อสู้ในครั้งนี้ เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า


ซาคุโมะ กำลังนำกองทัพไปโจมตี หน่วยหนึ่งของหมู่บ้านอาเมะ แต่ทันใดนั้นเขาก็ลอบโจมตีโดย กองทัพอิวะ


ต่อจากนั้น กองสนับสนุนจากทั้ง 2 ฝ่ายก็ลงสู้สนามรบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ การต่อสู้เล็ก ๆ ก็ขยายกลายเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ มาจนถึงตอนนี้


หากการต่อสู้ครั้งก่อนไม่ทำให้ หมู่บ้านอิวะ ถอนตัวออกจากสงคราม การต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้มันเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน


ขณะที่ ซาคุโมะ กำลังรอให้ ไนโตะ มาถึงสนามรบ สถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนไป!


พื้นดินของ แคว้นแห่งฝน เต็มไปด้วนโคลนและดินชิ้นแฉะ


สิ่งนี้ทำให้ กองทัพโคโนฮะ เคลื่อนที่ได้ช้าลงมาก


แต่สำหรับ กองทัพอิวะ พวกเขามีอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ใต้ดินได้อย่างอิสระ พวกเขาก็คือ หน่วยพิเศษอิวะ นั่นเอง!


หมู่บ้านอิวะ ใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนหน่วยพิเศษเหล่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงมีหน่วยพิเศษนี้อยู่เพียง 3 หน่วย เท่านั้น


ซึ่งหนึ่งในนั้นถูก ไนโตะ จัดการไปแล้ว ดังนั้น ซึจิคาเงะ จึงสั่งให้อีก 2 ทีมลงสู่สนามรบในครั้งนี้


สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนไปทันที เมื่อทั้ง 2 หน่วยนี้เข้าสู่การต่อสู้


ตู้ม!!!


หลังจาก หน่วยพิเศษอิวะ ลงสู่สนามรบ พวกเขาก็เริ่มโจมตี กองทัพโคโนฮะ จากทางใต้ดินในทันที


โคโนฮะ ต้องการกำจัด 2 หน่วยนี้ก่อน แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก และทุกครั้งที่พวกเขาโจมตีไปหา หน่วยพิเศษอิวะ นินจาอิวะ ที่อยู่ด้านบนก็จะคอยป้องกันการโจมตีของ โคโนฮะ ไว้ได้ทุกครั้ง


สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ทิศทางของสนามรบเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จากที่ โคโนฮะ กำลังได้เปรียบ กลายเป็นเสียเปรียบในทันที


เมื่อมองดูสถานการณ์ การแสดงออกของ ซาคุโมะ ก็เปลี่ยนไปและกลายเป็นความกังวลเป็นอย่างมากในทันที ไม่มีโอกาสที่เขาจะออกคำสั่งล่าถอยได้เลย เพราะหากเขาสั่งล่าถอยในตอนนี้ นินจาโคโนฮะ จะสูญเสียกำลังในการต่อสู้ในทันที และถ้าหากมันเกิดขึ้น โคโนฮะ ต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน


ซาคุโมะ จำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้


นินจายังคงลงสู่สนามรบอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่!


และ โคโนฮะ กำลังจะเป็นฝ่ายแพ้


ด้วยสถานการณ์บีบคั้นเช่นนี้ ในที่สุด ซาคุโมะ ก็ตัดสินใจลงสู่สนามรบด้วยตัวเองพร้อมกับ หน่วยลับ ของเขา และเมื่อ ซันโดะ เห็นดังนั้นเขาจึงทำแบบเดียวกัน การต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่าง ผู้บัญชาการทั้ง 2 กำลังจะเริ่มขึ้น


แม้ว่ามันจะไม่เป็นไปตามแผนของ ซาคุโมะ แต่เขาก็จำเป็นต้องหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นการต่อสู้นี้จะสิ้นสุดก่อนที่ ไนโตะ จะมาถึง!


และเมื่อ ผู้บัญชาการทั้ง 2 วิ่งมาเจอกัน ซาคุโมะ ก็ดึงดาบของเขาออกมาและโจมตีไปที่ ซันโดะ ในทันที แต่ ซันโดะ ที่มีแขนเพียงข้างเดียว ก็ไม่สามารถต้านการโจมตีของ ซาคุโมะ ไว้ได้ เขาจึงกระเด็นถอยหลังไปไกล


เป็นการโจมตีที่ทำให้ทุกคนตกใจ


อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ โคโนฮะ กลับมาได้เปรียบได้ และแม้ว่าการปะทะกันในครั้งแรกของ ผู้บัญชาการทั้ง 2 คน ผู้บัญชาการอิวะ จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่มันก็ไม่ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง


“ไนโตะ ยังมาไม่ถึงอีกเหรอ…”


ซาคุโมะ ยังคงเป็นกังวลทุกครั้งเมื่อมองไปในสนามรบ


ในขณะนั้น กองทัพโคโนฮะ ค่อย ๆ ถูกแยกออกจากกัน เพราะการโจมตีของ หน่วยพิเศษอิวะ จากใต้ดิน


“ไอ้พวกหนูบ้าพวกนี้!!”


หน้าที่ของ หน่วยพิเศษอิวะ นั้นไม่ใช่การฆ่าศัตรูโดยตรง แต่เป็นการสังหารโดยการลอบโจมตีในจุดที่ โคโนฮะ ไม่ทันได้ระวังตัว


โอโรจิมารุ ยังคงดูสงบนิ่ง แต่จิตสังหารของเขาก็ยังคงกระจายไปทั่วที่นั้น และเขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จากการลอบโจมตีใต้ดินของพวกอิวะ


“สถานการณ์แย่ลงอีกแล้ว ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่าง?!”


แต่ทันใดนั่น เขาก็ถูก หน่วยพิเศษอิวะ โจมตีจากทั้ง 2 ฝั่ง จนเขาเกือบจะได้รับบาดเจ็บ


โอโรจิมารุ ต้องถอยไปตั้งหลักและต้องร้องออกมา


“บ้าเอ้ย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราต้องแพ้แน่ ๆ แต่เราต้องยื้อเวลาต่อไปจนกว่า ไนโตะ จะมาถึง”


ทันทีที่ โอโรจิมารุ พูดถึงชื่อของ ไนโตะ ขึ้นมา นินจาโคโนฮะ ที่ได้ยินก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที “เราแค่ต้องตั้งรับพวกมันเอาไว้ให้ได้จนกว่า ไนโตะ จะมาถึง ถ้าเขามาถึงเขาก็จะสามารถจัดการนินจาอิวะบนพื้นได้ จากนั้นเราก็จะรับมือกับพวกที่อยู่ใต้ดินได้ง่ายขึ้น”


“แต่ถ้าเขามาไม่ทันล่ะ!”


“เราก็ยังมี หน่วยลับ ที่ชื่อรหัส ยูจิน อยู่ ฉันได้ยินมาว่าเขาสามารถจัดการกับพวกใต้ดินได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว”


การกล่าวถึง ยูจิน ทำให้ นินจาโคโนฮะ ทั้งหมด มีอีกความหวังหนึ่งนอกจาก ไนโตะ !


เมื่อ โอโรจิมารุ ได้ยินประโยคนี้ เขาก็รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย


แน่นอนว่า โอโรจิมารุ รู้ถึงตัวตนของ ยูจิน ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาไม่คิดว่ายังมีบางคนใน โคโนฮะ ที่ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของ ยูจิน เหลืออยู่อีก แม้แต่ในตอนนี้ หมู่บ้านอื่น ๆ ก็ยังคิดว่า ยูจิน คือคนคนเดียวกับ ไนโตะ


จริงอยู่ที่ข้อมูลเหล่านี้เป็นความลับขั้นสุดยอด แต่มันก็ถูกเปิดเผยแล้วด้วยการแสดงความสามารถในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาในสงคราม


ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้คนมากมายในโคโนฮะ ที่ยังไม่รู้เรื่องนี้


ตอนที่ 140

 

โอโรจิมารุ ต้องการบอกทุกคนว่า ยูจิน ก็คือ ไนโตะ แต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะข้อมูลนี้เป็นความลับสุดยอด


“ขอเพียง ไนโตะ มาถึงที่นี่ มันจะไม่สำคัญว่าพวกเขาจะรู้หรือไม่ก็ตาม”


เมื่อเขาพูดประโยคนี้ ความเครียดก็เข้าควบคุมความคิดของเขาอีกครั้ง


ในขณะนี้ กองทัพโคโนฮะ กำลังรอการมาถึงของ ไนโตะ หรือ ยูจิน ให้มาถึงยังสนามรบและจัดการกับ หน่วยพิเศษอิวะ


ไม่เพียงแต่ จูนิน ที่คิดเช่นนั้น แม้แต่ นินจาระดับสูง ก็เฝ้ารอการมาถึงของทั้งคู่ พวกเขาไม่ได้ต้องการให้ ไนโตะ มาที่นี่เพื่อจัดการทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง แต่การปรากฏตัวของ ไนโตะ ก็เพียงพอแล้วที่จะเพิ่มกำลังใจให้กองทัพ!


การปรากฏตัวของ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ ในสนามรบ จะทำให้ศัตรูหวาดกลัวและเพิ่มกำลังใจให้พันธมิตรได้เป็นอย่างดี


เมื่อสถานการณ์ของ โคโนฮะ เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ ทันใดนั้น ไกลออกไปจากขอบสนามรบ ในที่สุด ไนโตะ ก็มาถึง!


ไนโตะ มาถึงพร้อมกับ ซึนาเดะ แต่เมื่อเขาเริ่มมองเห็นสนามรบ เขาก็ทิ้งเธอไว้และรีบวิ่งตรงไปหาสนามรบด้วยความเร็วสูง


แน่นอนว่าเมื่อเขามาถึงสนามรบ สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ โคโนฮะ ถูกไล่ต้อนจนไม่มีทางสู้ และเห็น นินจาโคโนฮะ จำนวนมากนอนอยู่บนพื้นเต็มสนามรบ มีทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต


ในทางกลับกัน กองทัพอิวะ กำลังได้เปรียบเป็นอย่างมาก และเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังจะเป็นฝ่ายชนะ


“สถานการณ์แย่มาก ดูเหมือนว่าพวกอิวะจะเตรียมพร้อมกับการต่อสู้ครั้งนี้มาเป็นอย่างดี”


เขามองเห็น ซาคุโมะ ในสนามรบ


แม้แต่ ซาคุโมะ ก็ต้องลงไปต่อสู้ด้วยตัวเอง


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เผยให้เห็นถึงรังสีที่เยือกเย็นออกมา


จากนั้น เขาก็ลงสู่สนามรบในทันที!


ในครั้งนี้ ไนโตะ ไม่ได้รีบเร่งเข้าสู่การต่อสู้ เขาค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆ เข้าหาจุดศูนย์กลางของสนามรบ


ทุกก้าวที่เขาก้าวเข้าไปในสนามรบจิตสังหารของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ


ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ใช่จิตสังหารธรรมดา ๆ มันเป็นจิตสังหารของผู้ชายที่ได้รับฉายาว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ !


ดวงตาของเขาก็เย็นชาเหมือนเดิม แต่จิตสังหารของเขายังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ


ทำให้ทุกคนในสนามรบสามารถรับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่เย็นชาของเขา และความกลัวก็เริ่มเข้าครอบงำจิตใจของ กองทัพอิวะ


พวกเขาไม่รู้ใครเป็นคนทำสิ่งนี้ แต่พวกเขามั่นใจว่าบุคคลนี้ต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน ในที่สุด หนึ่งในนินจาอิวะ ก็มองเห็น ไนโตะ ที่กำลังเดินมาจากระยะไกล และทันใดนั้นหัวใจของเขาก็จมลงสู่ความสิ้นหวังในทันที


จิตสังหารของ ไนโตะ นั้นรุนแรงมาก จนทำให้ผู้คนทั้งสนามรบรู้สึกได้


นี้ไม่ใช่ คาถานินจาหรือวิชาใด ๆ มันเป็นเพียงแค่จิตสังหารของเขา มันไม่สามารถสร้างความเสียหายใด ๆ ต่อร่างกายได้ แต่มันจะทรมานและบีบคั้นจิตใจของพวกเขาจากภายใน


เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ กองทัพอิวะ กำลังได้เปรียบอย่างเต็มที่ และ กองทัพโคโนฮะ กำลังจะพ่ายแพ้ แต่เมื่อ ไนโตะ ปรากฏตัวออกมาและก้าวเข้าสู่สนามรบ สถานการณ์ทั้งหมดก็เปลี่ยนไปในทันที!


“นั่น ไนโตะ !!”


“เยี่ยม! ในที่สุดเขาก็มาถึง!”


“ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ !”


วินาทีที่ นินจาโคโนฮะ ได้ยินชื่อของ ไนโตะ พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาในทันที


แค่เพียงการปรากฏตัวของ ไนโตะ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้กำลังใจของพวกเขากลับมา เลยตราบใดที่ ไนโตะ ยังอยู่ในสนามรบ พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้อย่างแน่นอน!


สิ่งนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่ใช่ ไนโตะ ผู้ชายคนเดียวที่สามารถพลิกสถานการณ์แบบนี้ได้ด้วยเพียงแค่การปรากฏตัวของเขา ไม่มีใครนอกจากผู้นำที่แท้จริง!


ในไม่ช้า กองโคโนฮะ ที่ถูกไล่ต้อนก็ยืนหยัดและโต้กลับ กองทัพอิวะ ในขณะที่ กองทัพอิวะ เริ่มที่จะเสียขวัญ!


“หมอนั่นคือ…ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ คนนั้นเหรอ?!”


“ ฉันได้ยินมาว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่ดูเหมือนว่าเขายังเด็กอยู่เลยไม่ได้เหรอ?”


“นั่นนะสิ ดูเหมือนเขาไม่น่าจะแข็งแกร่งเท่าไร”


แม้ว่าทุกคนจะรู้ชื่อของ ไนโตะ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยเห็นตัวจริงของเขา เพราะคนที่เคยเจอเขาในการต่อสู้ครั้งก่อน มีชีวิตรอดกลับไปไม่มากนัก และพวกเขาก็กลัวที่เห็นใบหน้าของ ไนโตะ อีกครั้ง!


เพียงแค่เห็นใบหน้านั้นอีกครั้ง ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาคิดจะวิ่งหนีไปให้ไกลจากที่นี่!


แต่นินจาส่วนใหญ่ที่นี่ไม่รู้จักใบหน้าของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัว แต่พวกเขาก็สงสัยมากที่การปรากฏตัวของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้


เมื่อชายหนุ่มคนนี้มาถึง สถานการณ์การต่อสู้ก็เปลี่ยนไป


มันเป็นไปได้อย่างไร?


ภายใต้ความสับสนของ กองทัพอิวะ ทุกคน


ด้วยตาที่เฉียบคมของ ไนโตะ และพลังสั่นสะเทือน ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกได้ถึง หน่วยพิเศษอิวะ ที่เคลื่อนไหวอยู่ใต้พื้นดิน


“เล่นเกมหนูซ่อนแอบอีกแล้วเหรอ ขอโทษนะ วันนี้ฉันไม่มีเวลามาเล่นด้วย”


ไนโตะ ไม่เห็นพวกเขา แต่เขาสามารถรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวใต้ดิน และทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เยือกเย็นในทันที


ไนโตะ เกลียดคนเหล่านี้ เมื่อครั้งก่อนที่เขาได้ต่อสู้กับพวกเขา เขาก็รู้สึกรำคาญมากเช่นกัน


ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็ยกขาขึ้นช้า ๆ และภายใต้สายตาของนินจานับไม่ถ้วนที่กำลังจับต้องไปที่เขาอยู่ เขาก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้น


ตู้ม!!!


ทันใดนั้น เสียงคำรามก็ดังขึ้นราวกับฟ้าผ่าลงมาตรงหน้าของทุกคนในสนามรบ จากนั้นสนามรบทั้งหมดเริ่มสั่นและรอยแตกก็เริ่มปรากฏขึ้นมาบนพื้น และทันใดนั้นมันก็กระจายออกไปทุกทิศทาง!


ไนโตะ ดูตัวเล็กมาก ร่างกายของเขาดูไม่มีกล้ามเนื้อและขาเขาก็เล็ก แต่เขาก็สามารถทำลายพื้นดินทั้งหมดได้ด้วยการกระทืบเท้าง่าย ๆ ไปที่พื้นเพียงครั้งเดียว!!


เหมือนสัตว์ประหลาดชัด ๆ !


“นี่นะเหรอ ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ?!”


นินจาโคโนฮะ ดูประหลาดใจมาก


อีกด้านหนึ่ง นินจาอิวะ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่ความคิดเกี่ยวกับ ไนโตะ ของพวกเขาเปลี่ยนไปในทันที!”


“เป็นไปไม่ได้!!”


“นี่มันพลังอะไรกัน!”


“เขาเพิ่งทำลายพื้นดินทั้งหมดด้วยการกระทีบเพียงครั้งเดียว!”


ภายใต้การจ้องมองของทุกคน พลังสั่นสะเทือนไม่ได้เพียงแค่ทำลายพื้นดินเท่านั้น แต่มันยังลงลึกไปจนถึง หน่วยพิเศษอิวะ อีกด้วย!


ทันใดนั้น การแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันทีที่พลังสั่นสะเทือนเข้าใกล้พวกเขา


“แย่แล้ว!!”


“บ้าเอ้ย!”


“ป้องกันมันเอาไว้ เร็ว!!”


ด้วยความรุนแรงของพลังสั่นสะเทือน ทำให้ หน่วยพิเศษอิวะ ต้องร่วมมือเพื่อช่วยกันป้องกันการโจมตีของ ไนโตะ


ในไม่ช้า พวกเขาก็เค้นจักระออกมา และประสานอินเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพื้นดินเหนือหัวพวกเขา


และในที่สุด พวกเขาก็สามารถป้องกันการโจมตีของ ไนโตะ ไว้ได้


เหงื่อเย็น ๆ ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย


แต่เมื่อกี้…มันคืออะไรกันแน่?!


บนพื้น


ไนโตะ ส่ายหัวเมื่อเขารู้สึกได้ว่าการโจมตีของเขาถูกหยุดไว้ได้


“ฮ๊ะ จะยื้อไว้ทำไม แค่ยอมรับชะตากรรมและความตายก็แค่นั้นก็พอ”


ไนโตะ มองไปที่พื้นใต้เท้าของเขาและถอนหายใจด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความเหยียดหยาม เขายกขาขึ้นและกระทืบลงไปที่พื้นอีกหลายครั้ง


ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงหน้าเขาหรืออยู่ใต้ดิน ผลที่ออกมาก็จะเหมือนกัน แล้วจะซ่อนตัวไปทำไมละ?!


ช่างเป็นแผนที่โง่เง่า!!


ตู้ม! ตู้ม!! ตู้ม!!!


พลังของการกระทืบอย่างต่อเนื่องเหล่านี้ รุนแรงมาก จนสามารถทำลายพื้นดินรอบ ๆ ตัวเขาได้ รอยแตกกระจายออกไปทั่วและลึกลงไปในพื้นดิน พื้นดินทั้งหมดไม่สามารถ ต้านทานได้อีกต่อไป และในที่สุดมันก็พังทลายลงจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่!


รอยแตกยังคงกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง จนไปถึง นินจาของทั้ง 2 ฝ่าย พวกเขาทั้งหมดต้องวิ่งหนีและกระโดดหลบรอยแตกเหล่านั้นที่กำลังจะมาถึงพวกเขา


พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากยืนดูภาพที่น่ากลัวนี้


ปั้ง!!


ในที่สุด รอยแตกก็หยุดลง ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น


เมื่อรอยแตกหยุดลง สถานที่แห่งนี้ก็เงียบสนิทในทันที และไม่มีใครกล้าขยับตัวไปไหน


ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่เชื่อว่าความสยองขวัญได้หยุดลงแล้ว สิ่งเดียวที่พวกเขาแน่ใจก็คือ หน่วยพิเศษอิวะ ที่อยู่ใต้ดิน ได้ตายหมดแล้ว!


ในอีกฝากหนึ่ง นินจาโคโนฮะ ก็ตกตะลึงเช่นกัน และทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็นึกถึง หน่วยลับ ที่ชื่อ ยูจิน


ไนโตะ ทำในสิ่งเดียวกับที่ หน่วยลับคนนั้น ทำมาก่อน เขาสามารถฆ่าศัตรูที่กำลังไล่ต้อนพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และทำให้พวกเขาเข้าใจความจริงของบางสิ่ง


หน่วยลับ ที่มีชื่อรหัสว่า ยูจิน…แท้จริงแล้วก็คือ ไนโตะ นั่นเอง?! 

 

 


ตอนที่ 141

 

ทันทีที่ ไนโตะ ลงสู่สนามรบ เขาก็สามารถสังหาร หน่วยพิเศษอิวะ ทั้งหมดได้ในทันที


นินจาโคโนฮะ ตกใจกับพลังของ ไนโตะ เป็นอย่างมาก แต่สิ่งนี้ก็ทำให้พวกเขาฮึดสู้และมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก


ในขณะที่ หน่วยพิเศษอิวะ ได้หายไปแล้ว นินจาโคโนฮะ ก็มีความมั่นใจมากว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะในสงครามครั้งนี้ได้ แม้ว่า ไนโตะ จะไม่ได้เข้ามาช่วยต่อสู้ด้วยแล้วก็ตาม


ห่างออกไป ซันโดะ ซึ่งกำลังต่อสู้กับ ซาคุโมะ อยู่ เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากตะโกนออกมา


“บ้าเอ้ย!”


ทันทีที่เขาเห็น ไนโตะ เข้ามาในสนามรบ เขาก็ต้องการไปหา ไนโตะ และหยุด ไนโตะ ในทันที แต่เขาก็ ไม่สามารถผ่าน ซาคุโมะ ไปได้


แต่ หน่วยลับคนหนึ่ง ที่อยู่ด้านหลังของ ซันโดะ เขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและสามารถผ่าน ซาคุโมะ ไปได้ ขณะที่ ซาคุโมะ มุ่งความสนใจไปที่ ซันโดะ อยู่ แต่เมื่อ หน่วยลับคนนั้นจากไปแล้ว ซันโดะ ที่มีแขนเพียงข้างเดียว เขาจะถูก ซาคุโมะ ฆ่าได้อย่างง่ายดาย!


เมื่อมองสถานการณ์ในสนามรบ ซาคุโมะ ก็รู้สึกโล่งใจเมื่อ ไนโตะ มาถึง


ในที่สุด ไนโตะ ก็มาถึงและผลลัพธ์ของสงครามได้ถูกกำหนดขึ้นใหม่แล้ว


อย่างไรก็ตามเมื่อ ซาคุโมะ มองกลับไปที่ ซันโดะ แต่ ซันโดะ กลับไม่แสดงความกังวลออกมาเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม ใบหน้าของเขาที่มองไปทาง ไนโตะ ก็ราวกับว่าเขากำลังมองคนตายอยู่


หลังจาก ไนโตะ สามารถจัดการกับ หน่วยพิเศษอิวะ ได้ ความร้อนของสงครามก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง


ซาคุโมะ ถือดาบจักระแสงสีขาวไว้ในมือ จากนั้นเขาก็โจมตี ทำให้ ซันโดะ และ หน่วยลับ คนอื่น ๆ ของเขากระเด็นออกไปอีก


ต้องบอกว่า ซาคุโมะ น่าจะเป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ ถ้าเขาไม่ฆ่าตัวตายไปเสียก่อนเหมือนในการ์ตูน


ในสนามรบ


ไนโตะ ยืนขึ้นแล้วมองดู นินจาอิวะ คนอื่น ๆ


สายตาของเขาจ้องมองอย่างเย็นชา ทันใดนั้น ไนโตะ ก็วิ่งไปหา นินจาอิวะ ที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วสูง


ฟึ๊บ!


ในไม่กี่วินาที่ ไนโตะ ก็นำ ดาบคุซานะงิ ออกมา และโจมตีไปที่ นินจาอิวะคนนั้น ทันใดนั้น ก็มีเลือดสาดออกมาและ นินจาคนนั้นก็ถูกตัดออกเป็น 2 ท่อน!


ร่างของ ไนโตะ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งสนามรบ และตัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า มันไม่สำคัญว่าศัตรูของเขาจะเป็น จูนิน หรือ โจนิน เพราะไม่ว่าใครก็ไม่มีสามารถหยุดเขาได้


ไม่มีทางป้องกัน!


ภายใต้การนำของ ไนโตะ กำลังใจของ กองทัพโคโนฮะ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดพวกเขาก็สามารถเอาชนะและโต้กลับ กองทัพอิวะ ได้สำเร็จ


นี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับหน่วยลับของ ซันโดะ ที่กำลังต่อสู้อยู่กับ ซาคุโมะ พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมา พวกเขาเพียงแค่ได้ยินเรื่องเล่าถึงพลังของ ไนโตะ จากคำพูดของ ซันโดะ เท่านั้น


แต่ตอนนี้ หลังจากที่พวกเขาเห็นมันด้วยตนเอง พวกเขาก็รู้ว่า ซันโดะ ไม่ได้พูดเกินจริง!


ผู้ชายคนนั้นแข็งแกร่งจริง ๆ !!


เขาเป็นเหมือนเครื่องจักรสังหาร


และสิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นก็คือ คมดาบของ ไนโตะ ไปปรากฏในทุกหนทุกแห่งของสนามรบและสังหารพันธมิตรของพวกเขาไปทีละคน ๆ


และถ้ามีใครที่กล้าจะโจมตีกลับไป ไนโตะ ก็พร้อมที่จะโจมตีด้วยหมัดของเขา


แต่ ไนโตะ ก็เจอกับร่างแยกเงาจำนวนมาก นินจาอิวะ ทุกคนต่างใช้คาถานี้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของ ไนโตะ แต่ ไนโตะ ก็ขี้เกียจตามหาตัวจริง เขาจึงเลือกที่จะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าไปเรื่อย ๆ


มันเป็นไปไม่ได้จริง ๆ ที่จะมีใครหยุด ไนโตะ ได้ ดังนั้นเขาจึงทำลายทุกอย่างต่อไปอย่างต่อเนื่อง


จริง ๆ แล้ว ร่างแยกเงาเหล่านั้นจะถูกทำลายทันทีที่พวกมันเข้ามาใกล้ตัว ไนโตะ เพราะพวกมันจะถูกพลังสั่นสะเทือนที่ ไนโตะ ใช้ห่อหุ้มร่างของเขาไว้ และถูกทำลายไปปในทันที


นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ ไนโตะ เลือกที่จะไม่สนใจพวกมัน


เขาเป็นสัตว์ประหลาด!


นินจาอิวะ ทุกคนต้องการฆ่า ไนโตะ ทำให้จิตสังหารคละคลุ้งเป็นอย่างมาก จนเขาสามารถรู้สึกได้ถึงความบ้าคลั่งในสนามรบ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อตัวเขาเลยแม้แต่น้อย


แต่ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่แตกต่างออกไป มันรุนแรงกว่าปกติและทำให้เขาต้องหยุดเคลื่อนที่ในทันที


นั่นใครกัน?!


แม้ว่า ไนโตะ จะไม่รู้ว่าจิตสังหารที่รุนแรงแบบนี้เป็นของใคร แต่เขาก็มั่นใจว่าคนคนนี้จะต้องแข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน!


เป็นความรู้สึกของความเกลียดชังและจิตสังหารที่ชัดเจนมา!


อันตรายมาก!


ในไม่กี่วินาทีต่อมา ในที่สุด ไนโตะ ก็รู้ว่าใครคือเจ้าของของจิตสังหารที่รุนแรงนี้ เขาคือคนที่สามารถหลบหนีไปจากการโจมตีใครสุดท้ายของ ซาคุโมะ ในการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมาได้


ทันใดนั้น กำแพงดินหนา 2 อันก็ยกตัวขึ้นมาจากพื้นดินทางด้านซ้ายและขวาของ ไนโตะ ทำให้เขาติดอยู่ตรงกลางจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้


และจากด้านบน


“คาถาธุลี!”


คำนี้ ดึงดูดความสนใจจากทุกคนในสนามรบ


คาถาธุลี!


ซึติคาเงะ อยู่ในสนามรบงั้นเหรอ!


ในเวลานั้นมันก็สายเกินไปแล้วที่จะคิดว่า ทำไม ซึจิคาเงะ จึงตัดสินใจโจมตี ไนโตะ แทนที่จะเป็น ซาคุโมะ เพราะ คาถาธุลี ถือได้ว่าเป็นท่าไม้ตาย และทันทีที่มันสัมผัสศัตรู คนคนนั้นจะถูกกำจัดในทันที!


กำแพงหินที่กีดขวาง ไนโตะ ไม่ให้เคลื่อนไหวได้ เขาสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดายด้วยหมัดของเขา


แต่ คาถาธุลี ที่กำลังพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและตรงไปหา ไนโตะ ถ้าเขาทำลายกำแพงก่อนเขาจะไม่มีเวลาหนีจากคนถานี้ได้


นี่เป็นกับดักที่แยบยลจริง ๆ !


บนท้องฟ้า ซึจิคาเงะ ลอยอยู่บนนั้นแล้วมองลงไปที่ ไนโตะ ด้วยสายตาที่เย็นชามาก


ราวกับว่าเขากำลังจ้องมองคนที่ตายไปแล้ว


“เจ้าเด็กดื้อแห่งโคโนฮะ พร้อมจะตายหรือยัง!”


ไม่มีความเมตตาใด ๆ ในดวงตาของ โอโนกิ เขามั่นใจแล้วว่าการโจมตีของเขาในครั้งนี้จะสามารถทำให้ ไนโตะ กลายเป็นฝุ่นไปได้!


เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า คาถาธุลีตกลงมาหา ไนโตะ ด้วยความเร็วสูงมาก แต่ ไนโตะ ก็ยังคงดูสงบมาก


ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างมั่นใจ


ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไนโตะ ยังคงมั่นใจในขีดจำกัดสายเลือดของเขา!


คาถาแผ่นดินไหว ที่สามารถทำลายทุกสิ่งได้!


คาถาธุลี ที่สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลายเป็นฝุ่น!


อันไหนจะแข็งแกร่งกว่า!


ไนโตะ ระเบิดพลังออกมารอบ ๆ ตัวเขา ในขณะที่เขากำหมัดไว้แน่นจนและรวบรวมพลังไว้ได้จนเต็มเปี่ยมในหมัดเดียว เส้นเลือดปรากฏขึ้นมาบนผิวหนังของเขา พลังของเขากำลังพลุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย และทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา


ไนโตะ กำลังสนุกอยู่!


พื้นที่รอบ ๆ ไนโตะ ร้าวออกอย่างหนัก


“มาดูกันว่าอันไหนแข็งแกร่งที่สุด…”


ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ต่อยหมัดขึ้นไปบนท้องฟ้าในทางที่ คาถาธุลี กำลังพุ่งลงมา!


ตู้ม!!


ด้วยหมัดเดียว อากาศก็แตกออกเหมือนกระจกและมันก็แผ่กระจายออกไปสู่ท้องฟ้า!


สถานการณ์ที่อันตรายนี้ ทำให้ ไนโตะ ทำลายขีดจำกัดของเขาและส่งหมัดที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยปล่อยออกไป!


เปี้ยง!!!!


พลังสั่นสะเทือนระเบิดออกอย่างรุนแรง แม้ว่า ไนโตะ จะพุ่งเป้าและโจมตีไปที่ท้องฟ้า แต่นินจาทั้งหมดในสนามรบก็รู้สึกถึงพลังที่รุนแรงและแข็งแกร่ง ที่กำลังปะทะเข้ากับตัวของพวกเขา


รอบ ๆตัวของ ไนโตะ มีกลุ่มนินจาอิวะ ที่คิดจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ในการโจมตี ไนโตะ แต่พวกเขาก็ถูกลูกหลงจากพลังของ ไนโตะ จนกระเด็นออกไปไกล!


แต่ในขณะนี้ เรื่องนั้นไม่ใช้สิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือ พลังสั่นสะเทือน ที่กำลังจะเขาปะทะกับ คาถาธุลี!


ในที่สุด พลังทั้ง 2 ก็ปะทะกัน!

 

 

 


ตอนที่ 142

 

เมื่อ คาถาธุลี ปะทะเข้ากับ พลังสั่นสะเทือน มันไม่ได้ทำให้เกิดเสียงใด ๆ ไม่มีเสียงดังสนั่นหรือเสียงระเบิดใด ๆ


ถึงอย่างนั้น การปะทะกับของการโจมตีทั้ง 2 ก็ก่อให้เกิดกลุ่มแสงสว่างจ้าขนาดใหญ่ จนเหมือนกับว่ามันจะส่งสว่างออกไปทั่วทั้งโลก!


วิ้งง!!!


ทุกคนในสนามรบต่างมองไปบนท้องฟ้า แสงนั้นสว่างมากและใหญ่มากจนดูเหมือนเป็นดวงดาว


ในขณะนั้น เหมือนกับว่าแสงสว่างนั้นจะทำให้ทุกสิ่งบนโลกหายไป และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกอย่างในสนามรบหยุดการเคลื่อนไหว


แสงนั้นยังคงสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเขาไม่สามารมองเห็นท้องฟ้าและไม่เห็นแม้แต่เมฆหรือดวงอาทิตย์ด้วยซ้ำ


ทุกคนต่างหวาดกลัวเมื่อได้เห็นภาพนี้ แสงนั้นสว่างจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเขาต้องหลับตาและไม่สามารถมองขึ้นไปบนฟ้าได้อีกต่อไป


มันส่องสว่างไปทั่วทั้งพื้นดินและท้องฟ้า แม้แต่ผู้คนในเมืองใกล้เคียงก็สามารถมองเห็นมันได้ หรือแม้แต่ กองทัพนินจาอาเมะ ที่อยู่ห่างออกไปไกล ก็สามารถมองเห็นได้เช่นกัน!


“นั่นอะไรนะ?!”


ในเวลานั้น ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นแสง


แสงที่สามารถบดบังแสงของดวงอาทิตย์ได้


ช่างเป็นภาพที่น่าตกใจ


ในที่สุด แสงก็เริ่มจางหายไปและเงาของ โอโนกิ และ ไนโตะ ก็เริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง


ไนโตะ ยังคงไม่ได้ดึงหมัดของเขากลับมาและยังคงยื่นอยู่ตรงนั้น


โอโนกิ ยังคงรักษาท่าทีของเขาไว้ในขณะที่เขากำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่เขาก็ดูสับสนมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า คาถาธุลี ของเขาจะถูกหยุดโดยพลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ !


“คาถาธุลี…มันป้องกันได้อย่างนั้นเหรอ?!”


หัวใจของ โอโนกิ เต็มไปด้วยความกลัว


ตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิต มีนินจาจำนวนมากที่พยายามหยุดยั้ง คาถาธุลี ของเขา แต่ก็ไม่มีใครสามารถต้านทานมันได้ เขามั่นใจว่าไม่มีอะไรจะมาทำลายคาถาของเขาได้…จนถึงตอนนี้!


เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่า โอโนกิ เป็นผู้ที่มีสายเลือดคัดสรรที่แข็งแกร่งที่สุด!


ในการ์ตูน คาถาธุลี ของ โอโนกิ สามารถจัดการได้แม้กระทั่ง เทพวายุ ที่ยังไม่สมบูรณ์ของ มาดาระ


แม้แต่ มาดาระ ก็ไม่สามารถหยุดคาถานี้ได้ หากเขาไม่ใช่ เนตรสังสาระ ของ เพน 6 วิถี !


ช่างเป็นภาพที่น่าตกใจ


คาถาธุลี ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดย มู ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 2 พลังของคาถานี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นินจาระดับสูงของอิวะ และแม้แต่หมู่บ้านอื่น ๆ ก็รู้ว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน มันเป็นความจริงที่ว่า คาถาธุลี เป็นพลังของสายเลือดคัดสรรที่แข็งแกร่งที่สุด!


แต่ตอนนี้มันถูกป้องกันโดย ไนโตะ !


ทุกคนในสนามตกตะลึง


“คาถาธุลี ของ ซึจิคาเงะ …ถูกหยุดงั้นเหรอ?!”


“มัน…เป็นไปไม่ได้!”


“มันไม่น่าจะมีขีดจำกัดสายเลือดไหน ที่แข็งแกร่งกว่าของ ซึจิคาเงะ…”


นินจาอิวะ ทุกคนมีสายตาที่เศร้าหมองบนใบหน้า ภายใต้ความสยองขวัญที่พวกเขารู้สึกร่างกายของพวกเขาก็สั่นเทาและแม้แต่เสียงของพวกเขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงความกลัวด้วยเช่นกัน


แม้ว่า นินจาโคโนฮะ ส่วนใหญ่ในตอนนี้จะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่ง คาถาธุลี แต่เมื่อพวกเขาได้ยินและเห็นการแสดงออกของ นินจาอิวะ พวกเขาก็รู้ว่ามันน่าตกในจริง ๆ


ซึจิคาเงะ !


เป็น 1 ใน 5 คาเงะ และเป็น 1 ในนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!


แม้ว่าร่างกายของเขาจะเล็กกว่า ไนโตะ แต่เขาก็เป็น คาเงะ ของ หมู่บ้านอิวะ และเขาก็ยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของนินจาโลก!


แต่การโจมตีของเขาก็ถูกป้องกันโดย ไนโตะ แม้ว่าเขาจะลอบโจมตี ไนโตะ ก็ตาม!


ทุกคนในสนามไม่สามารถหายใจได้ตามปกติอีกต่อไป!


ในสนามรบ ผลกระทบจากการปะทะกันของพลังทั้ง 2 ยังคงไม่หายไป แต่มันก็ค่อย ๆ จางลงในขณะที่แรงปะทะยังคงส่งผลให้สนามรบยังสั่นอยู่


บนท้องฟ้า โอโนกิ ยังอยู่บนนั้นในขณะที่เขามองดู ไนโตะ ด้วยความตกตะลึง และในที่สุดการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป


เด็กคนนี้ต้องตาย!


อายุเพียงแค่นี้ เขายังสามารถหยุด คาถาธุลี ได้ ถ้าโตไปกว่านี้เขาจะทำอะไรได้ขนาดไหน?!


โอโนกิ แสดงจิตสังหารออกมารุนแรงมากกว่าเดิม เขากัดฟันแล้วจึงเริ่มเค้นจักระและรวบรวมไว้ที่มือ


แน่นอนว่า คาถาธุลี สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่ผู้ใช้คาถายังมีจักระเหลืออยู่


พลังของคาถานั้นมหาศาลก็จริง แต่มันต้องใช้จักระเป็นจำนวนมาก ถือได้ว่ามันเป็นคาถาที่ใช้จักระมากที่สุดในบรรดาขีดจำกัดสายเลือดต่าง ๆ


แต่ในใจของ โอโนกิ คิดอยู่อย่างเดียวว่า


ต้องทำให้แน่ใจว่ามันจะฆ่า ไนโตะ ได้จริง ๆ !


แน่นอนว่าจำนวนจักระของ โอโนกิ นั้นอยู่ในระดับของ คาเงะ แต่ ไนโตะ ก็ไม่แน่ใจว่าระหว่าง โอโนกิ กับ มู ใครจะมีจักระมากกว่ากัน


แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาทั้งคู่ต้องมีจักระอยู่ในระดับของ คาเงะ อย่างแน่นอน!


ปัญหาก็คือ ตอนนี้ โอโนกิ อยู่ในจุดสูงสุดของพลังของเขาแล้ว ในขณะที่ พลังสั่นสะเทือน ของ ไนโตะ ยังอยู่ในขั้นที่ 3 เท่านั้น


ตอนนี้ โอโนกิ ตัดสินใจแล้วที่จะกำจัด ไนโตะ ออกจากพื้นดินด้วยพลังทั้งหมดของเขา แต่จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งวิ่งตรงมาหาเขาจากนั้นร่างนั้นก็กระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้า


ไม่มีการกระพริบ แต่การเคลื่อนไหวนั้นเร็วมากจนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น!


จากนั้นด้วยพลังเต็มที่ของเขา เขาฟันดาบไปยัง โอโนกิ


เขาคือ เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ !


ในขณะที่ โอโนกิ กำลังรวบรวม คาถาธุลี แต่เมื่อ ซาคุโมะ พุ่งเข้ามาโจมตีเขา เขาจึงจำเป็นต้องปล่อยคาถาออกไปในขณะที่ยังรวบรวมพลังไม่เต็มที่ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็น โอโนกิ เขาก็ไม่สามารถหลบการโจมตีระยะประชิดของ ซาคุโมะ ได้ทัน


ฉับ!!


ทันใดนั้นก็มีบาดแผลปรากฏขึ้นมาบนคอของ โอโนกิ !


คาถาธุลี ทีถูกปล่อยออกไปตรงดิ่งลงไปด้านล่างในทันที แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่


ไนโตะ ส่ง พลังสั่นสะเทือน ออกไปอีกครั้ง


ตู้ม!!!


เป็นอีกครั้งที่นินจาหลายคนที่อยู่ใกล้ ๆ ไนโตะ กระเด็นออกไปด้วยพลังหมัดของเขา


การโจมตีทั้ง 2 ปะทะกัน และหายไปในทันที


ในช่วงเวลาสั้น ๆ สถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง


ตอนแรก ซึจิคาเงะ ปรากฏตัวขึ้นมาบนท้องฟ้าและลอบโจมตี ไนโตะ ด้วย คาถาธุลี ของเขา


ต่อมา ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจที่ ไนโตะ สามารถป้องกัน คาถาธุลี ของเขาได้!


จากนั้น เมื่อ ซึจิคาเงะ ตัดสินใจที่จะฆ่า ไนโตะ ด้วยพลังสูงสุดของเขา ซาคุโมะ ก็ดันพุ่งเข้ามาโจมตีเขาจนเกือบจะฆ่าเขาได้!


เป็นสิ่งที่น่าตกใจ!!


แม้ว่าเรื่องนี้จะตามมาด้วยเรื่องที่น่าตกใจอื่น ๆ แต่ นินจาอิวะ เกือบทุกคนก็ยังคงตกใจกับเรื่องที่ ไนโตะ สามารถหยุด คาถาธุลี ได้อยู่ดี

 

 

 


ตอนที่ 143

 

บนท้องฟ้า ซาคุโมะ กำลังลอยลงมาจากด้านบนอย่างช้า ๆ เพราะเขาไม่สามารถลอยบนอากาศได้


ห่างออกไป ซันโดะ ที่เพิ่งพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับ ซาคุโมะ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้ นินจาแพทย์ ก็กำลังรักษาเขาอยู่


เขาเป็นถึง ผู้บัญชาการกองทัพ และเป็น บัญชาการหน่วยลับ แต่เขาก็ไม่สามารถหยุด ซาคุโมะ ไว้ได้ และพ่ายแพ้ให้กับ ซาคุโมะ อย่างง่ายดาย


ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของ ซาคุโมะ เขาสามารถสงบนิ่งได้แม้จะอยู่ต่อหน้านินจาระดับ คาเงะ !


“เธอเป็นอะไรไหม?”


ในขณะที่ ซาคุโมะ กำลังลอยลงมา ภายนอกของเขาดูจริงจังมาก แต่ในใจของเขามีแต่ความสงบและมีสมาธิ


ไนโตะ มองไปที่ ซาคุโมะ แล้วตอบกลับว่า


“ไม่เป็นไรครับ”


ไนโตะ ส่ายหัวและดึงมือกลับ หลังจากที่เขาเหยียดร่างกายอย่างเต็มที่ ทั้งกล้ามเนื้อและกระดูกก็เกิดเสียงลั่นด้วยความเจ็บปวด


เขาใช้หมัดเด็ดที่เกิดกว่าขีดจำกัดของเขา ทำให้ร่างกายของเขาต้องรับภาระเป็นอย่างมาก แต่ความสามารถในการฟื้นตัวของเขาก็รวดเร็วมากและมันก็เริ่มรักษาเขาทันที


และ อาภรณ์สายฟ้า ขั้นที่ 2 นั้นดีมาก แม้ว่าเขาจะฝึกฝนได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้เขาได้รับการพัฒนาเป็นอย่างมาก ทั้งด้านร่างกายและด้านพลังของเขา


มิฉะนั้น ไนโตะ ก็คงจะไม่สามารถหยุด คาถาธุลี ไว้ได้


เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤตการณ์ขึ้น ซาคุโมะ และ ไนโตะ ยืนหยัดสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยสีหน้าที่เหมือนกัน


นี้คือรูปแบบที่แข็งแกร่ง พวกเขาเกือบจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันและเข้าสู่สภาวะไร้ความรู้สึก มันเป็นการตั้งรูปแบบการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ มีเพียงนินจาระดับสูงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวได้


แม้ว่าจะไม่เหมือนกับ หน่วยราก ที่จะละทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไปได้ตลอดเวลา แต่ในการต่อสู้แบบนี้มันก็เป็นไปได้ที่จะละทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไปได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อให้จิตใจเข้าสู่สภาวะสงบอย่างแท้จริง


ต้องบอกว่า ไนโตะ สามารถมาถึงระดับดังกล่าวได้เพียงเพราะเขาเคยต่อสู้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน


ซาคุโมะ ไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป เพราะ ไนโตะ ได้เข้าสู่สภาวะเดียวกับเขาเรียบร้อยแล้ว!


“เขี้ยวสีขาว และ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือด แห่งโคโนฮะ…”


โอโนกิ ลอยอยู่ในอากาศ เขามองดูทั้งคู่ด้วยสายตาที่เย็นชามาก


น่าเสียดายที่ การรวบรวมพลังของ โอโนกิ ในการใช้ คาถาธุลี ถูกขัดจังหวะโดย ซาคุโมะ แต่เขาก็ไม่คิดว่า ไนโตะ จะสามารถหยุดมันได้อีกครั้ง!


เมื่อเปรียบเทียบกับปัญหาเล็ก ๆ ที่ โอโนกิ กำลังคิดถึงอยู่


ไนโตะ และ ซาคุโมะ กำลังคิดเรื่องที่สำคัญกว่านั้น


ทำไม ซึจะคาเงะ ถึงมาที่นี่?


ไนโตะ และ ซาคุโมะ กำลังคิดในสิ่งเดียวกัน เพราะการต่อสู้ธรรมดา ๆ เช่นนี้ คาเงะ ควรจะอยู่ที่หมู่บ้านเพื่อป้องกันหมู่บ้านของเขา


เมื่อเขาออกมาจากหมู่บ้าน หมู่บ้านอื่น ๆ ก็จะลอบโจมตีหมู่บ้านของเขาได้อย่างง่ายดาย และในสถานการณ์แบบนี้ ก็คงจะเป็น หมู่บ้านซึนะ และ หมู่บ้านอาเมะ ที่กำลังคิดแบบนี้อยู่


แม้ว่าเขาอาจจะไม่ตายในการต่อสู้ แต่เขาอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัส


ดังนั้นเหตุผลเดียวที่จะทำให้ คาเงะ ยอมออกจากหมู่บ้านของตนก็คือ มี คาเงะ คนอื่นเข้าร่วมการต่อสู้ แต่สงครามครั้งนี้ยังอยู่ช่วงแรกเท่านั้น และทุกหมู่บ้านก็กำลังใช้ ผู้บัญชาการหน่วยลับ ของตน ในการนำกองทัพ


แต่ในตอนนี้ ทั้ง ซึจิคาเงะ ผู้บัญชาการหน่วยลับ และ หน่วยลับ ของอิวะ มาอยู่ที่นี่เกือบทั้งหมด


นั้นก็แสดงว่า โอโนกิ ไม่สนใจหมู่บ้านของเขาอีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?!


ไนโตะ และ ซาคุโมะ มีข้อสงสัยในใจของพวกเขา แต่เมื่อตอนนี้ โอโนกิ ก็อยู่ที่นี่แล้ว และถ้าคุณไม่รู้คำตอบ ก็ช่างมัน


ในการต่อสู้กับ ซึจิคาเงะ และ คาถาธุลี ที่ทรงพลังของเขา พวกเขาไม่ควรคิดอย่างอื่นนอกจากการจัดการกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้า


ไม่มีร่องรอยความกลัวในใจของพวกเขา


นี่คือสงคราม!


“ท่านซึจิคาเงะ!”


“ท่านซึจิคาเงะ!!”


นินจาอิวะส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่า โอโนกิ จะเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย เมื่อพวกเขาเห็น โอโนกิ พวกเขาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก


ซึจิคาเงะ มาช่วยพวกเรา!


ด้วยผลกระทบของ คาถาธุลี ทำให้นินจาของทั้ง 2 ฝ่ายแยกออกจากกัน!


นี้คือพลังของ ซึจิคาเงะ ชื่อเสียงของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่า เขี้ยวสีขาว และ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือด แห่งโคโนฮะ เลยแม้แต่น้อย!


ในอีกด้านหนึ่ง นินจาโคโนฮะ ก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน เพราะพวกเขาไม่คิดว่า ซึจิคาเงะ จะเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้


แต่พอพวกเขาเห็น ไนโตะ ที่สามารถหยุด คาถาธุลี เอาไว้ได้ และเห็น ซาคุโมะ ที่เกือบจะตัดหัว ซึจิคาเงะ ได้


ถึงแม้ว่า โฮคาเงะ จะไม่ได้อยู่ที่นี่


พวกเขาก็มีนินจาระดับสูงที่แข็งแกร่งมาก 2 คนนี้ อยู่ข้าง ๆ พวกเขา!


โอโนกิ มองไปที่ ไนโ และ ซาคุโมะ ด้วยท่าทางที่หมดหนทาง เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็โบกมือแล้วตะโกนออกมา


“ทำลายพวกมันให้หมด!”


“รับทราบ!!”


เมื่อ กองทัพอิวะ ได้ยินประโยคนี้ พวกเขาก็มีกำลังใจขึ้นมา จากนั้นการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันทีและพวกเขาก็พุ่งเข้าหา กองทัพโคโนฮะ ในทันที


ฝ่ายกองทัพโคโนฮะ ก็มีกำลังใจไม่น้อยกว่า กองทัพอิวะ พวกเขาไม่มีความกลัวอีกต่อไป จากนั้นเขาก็โห่ร้องและพุ่งเข้าหา กองทัพอิวะ เช่นกัน


สงครามได้ระเบิดขึ้นอีกครั้ง!


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดได้เริ่มต้นอีกครั้ง แต่ ซาคุโมะ , ไนโตะ และ โอโนกิ ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่การโจมตีทั้งหมดก็ผ่านพวกเขาไปเหมือนกับพวกเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น


อันที่จริง ไม่มีใครกล้าโจมตีพวกเขาต่างหาก


3 นินจากำลังเผชิญหน้ากัน ไนโตะ ดูเหมือนจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดใน 3 คนนั้น แต่หลังจากที่เขาสามารถหยุด คาถาธุลี ของ โอโนกิ ได้ โอโนกิ จึงต้องระวังเขาไว้ ไม่น้อยไปกว่า ซาคุโมะ


ในขณะเดียวกัน โอโนกิ ก็ต้องระวัง ซาคุโมะ ด้วยเช่นกัน เพราะ ซาคุโมะ คือคนที่เกือบจะตัดหัวเขาได้!


การแสดงออกของ ซึจิคาเงะ ดูเย็นชาเป็นอย่างมาก


อาจเป็นเรื่องจริงที่ตอนนี้ ฮาตาเคะ ซาคุโมะ แข็งแกร่งกว่า โนโตะ นั้นก็เพราะ ซาคุโมะ อยู่ในจุดสูงสุดของพลังของเขาแล้ว แต่ ไนโตะ ยังคงเติบโตไปได้มากกว่านี้หากได้ความช่วยเหลือของ ซาคุโมะ…สิ่งนี้ โอโนกิ จึงจำเป็นหยุด ไนโตะ ไว้เพียงเท่านี้!


เมื่อถึงตอนนั้น ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ จะน่ากลัวเป็นอย่างมาก!


โอโนกิ มาที่สนามรบแห่งนี้ก็เพราะรู้ว่า ซารุโทบิ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 จะไม่มาอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน


เหตุผลเดียวที่ทำให้ โอโนกิ ยอมออกจากหมู่บ้านมาที่สนามรบแห่งนี้ก็คือ เขาต้องฆ่า ไนโตะ และหยุด ไนโตะ จากการเป็นเสี้ยนหนามอันใหญ่ในอนาคต!


จิตสังหารของ โอโนกิ นั้นแน่วแน่มาก


ในเวลาต่อมา โอโนกิ ก็วางมือข้างหนึ่งบนมืออีกข้างหนึ่งแล้วยื่นไปข้างหน้า จากนั้นก้อนสีเหลียมสีขาวขนาดใหญ่ก็เริ่มปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือของเขา จากนั้นเขาก็ปามันออกไปหา ไนโตะ และ ซาคุโมะ


แม้ว่าคุณจะอยู่ห่างไกล แต่คุณก็จะสามารถรู้สึกได้ถึงจักระที่น่ากลัวได้อย่างง่ายดาย


มันคือ คาถาธุลี !


ฟึ้ม!! ฟึ้ม!!


เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคาถานี้ ทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ก็กระโดดถอยหลังอย่างไม่ลังเลและพวกเขาก็เกือบจะขยับไปพร้อม ๆ กัน!


หลังจากนั้น ซาคุโมะ ก็ใช้วิชาดาบของเขาซึ่งมันมีลักษณะเดียวกับ ตัดสายฟ้า แต่เขาใส่มันลงไปในดาบทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว พลังของมันน่ากลัวมากและมันก็สามารถตัดได้ทุกอย่าง


แต่ความเร็วของ ไนโตะ ก็สูงขึ้นเช่นกันเมื่อเขาใช้วิชา เหยียบเวหา มันเร็วจนเขาสามารถข้ามไปอีกฝั่งของสนามรบได้ในไม่กี่วินาที!


ไนโตะ และ ซาคุโมะ ต่างก็เคลื่อนไหวข้ามสนามรบได้อย่างรวดเร็ว


ทั้งคู่เคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ ทันใดนั้นเลือดก็กระเซ็นไปทุกหนทุกแห่ง และ นินจาอิวะ จำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกตัดออกเป็น 2 ท่อน


“บ้าเอ้ย!!”


ด้วยตาของ โอโนกิ ดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด


ถ้า ไนโตะ และ ซาคุโมะ ยังคงปะปนอยู่กับ ทหารนินจา เขาก็จะไม่สามารถใช้คาถานี้ได้อีกต่อไป


คาถาธุลี ของ โอโนกิ นั้นมีรัศมีที่กว้างมาก หากเขาขว้างมันออกไป มันจะสามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อสนามรบ


แต่ โอโนกิ ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะ กองทัพอิวะ ยังคงปะปนอยู่กับ กองทัพโคโนฮะ และเขาไม่สามารถสังหารกองทัพของเขาได้


แน่นอนว่า ไนโตะ และ ซาคุโมะ ไม่มีเจตนาที่จะฆ่า นินจาอิวะ เหล่านั้น แต่จุดประสงค์ที่ทั้งคู่เข้าไปในฝูงชนก็เพื่อป้องกันไม่ให้ โอโนกิ ใช้ คาถาธุลี


หาก โอโนกิ ฆ่านินจาของเขา กองทัพของเขาก็จะมีจำนวนลดลง


ทั้งคู่แค่ต้องถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ จากนั้น หาก โอโนกิ ใช้คาถาของเขา เขาก็จะฆ่านินจาของเขาด้วยตัวเขาเอง


ดังนั้น ทั้งคู่จึงเคลื่อนที่ออกไปเรื่อย ๆ


แต่จริง ๆ แล้ว ไนโตะ และ ซาคุโมะ กำลังคิดแบบเดียวกัน


นี่เป็นเพียงแผนการย้ายที่ต่อสู้ไปยังอีกที่หนึ่งเท่านั้น

 

 

 


ตอนที่ 144

 

ฟึ๊บ! ฟึ๊บ!!


ไนโตะ และ ซาคุโมะ เคลื่อนที่ข้ามสนามรบได้ในพริบตา พวกเขาไปไกลมาก แต่ โอโนกิ ก็ยังสามารถเห็นทั้งคู่ได้อยู่


ทั้งคู่มาถึงบริเวณที่เป็นเนินเขาสูง จากนั้นพวกเขาก็กระโดดขึ้นไปที่นั่นและยืนอยู่เฉย ๆ


เมื่อ ซึจิคาเงะ เห็นแบบนั้น เขาก็ลอยตามพวกเขาไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกับสายตาที่เย็นชา


ซาคุโมะ อายุน้อยกว่า โอโนกิ อยู่เล็กน้อย และ ไนโตะ มีอายุน้อยที่สุด


แค่เด็ก 2 คนนี้ กำลังท้าทายผู้อาวุโส


ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เพราะความตั้งใจของทั้งคู่นั้นชัดเจนมาก


และไม่มีทางที่ โอโนกิ จะมองข้ามการท้าทายนี้ไปได้!


เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!


เพราะเขาเป็น คาเงะ


หนึ่งใน คาเงะ ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกของนินจา!


คนที่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่า คาเงะ จะไม่มีหนีเด็ดขาด!


“คาถาดิน : หมัดหิน!”


ทันใดนั้น โอโนกิ ก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า แล้วต่อย ไนโตะ และ ซาคุโมะ ด้วยกำปั้นดินของเขา


การใช้ คาถาธุลี ทำให้เขาสูญเสียจักระไปเป็นจำนวนมากและเขาไม่สามารถใช้มันได้อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เขาจึงต้องการเวลาในการฟื้นฟูจักระให้กลับมาอีกสักเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้สึกกลัว เด็ก 2 คนนี้


ตู้ม!!


หมัดหินของ โอโนกิ นั้นไม่เหมือนกับผู้ใช้คาถาดินคนอื่น ๆ เขาเป็นปรามจารย์ด้านการใช้ คาถาดิน ซึ่งทำให้วิชาของเขาแข็งแกร่งกว่าปกติมาก


หมัดของ โอโนกิ ใกล้เข้ามา ในวินาทีต่อมา ซาคุโมะ ก็ท้าวถอยหลังไป 2 ก้าวอย่างช้า ๆ แล้วปล่อยให้ ไนโตะ จัดการกับมัน


ไนโตะ มองไปที่หมัดหินที่กำลังพุ่งตรงมา แต่เขาก็ยังไม่ขยับตัว เขามองมันอย่างใจเย็น จากนั้นก็ชกหมัดกลับไป


ตู้ม!!!


ในวินาทีต่อมา หมัดทั้ง 2 ก็ปะทะกัน


การระเบิดของอากาศและแรงกระแทกทำให้ หมัดหินแตกร้าว แม้กระทั่ง หมัดหิน ของ โอโนกิ ก็ไม่สามารถต้านทานพลังของ ไนโตะ ได้!


มันทำให้ตอนนี้ โอโนกิ มั่นใจแล้วว่าที่ ไนโตะ สามารถหยุด คาถาธุลี ไว้ได้ นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ


ไนโตะ มีพลังที่น่าอัศจรรย์บางอย่างที่เกิดจากขีดจำกัดสายเลือดของเขา


ถ้ามันแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ มันอาจทำลาย คาถาธุลี ของเขาได้อย่างแน่นอน!


ยิ่ง โอโนกิ คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้นมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าจำเป็นต้องฆ่า ไนโตะ มากขึ้นเท่านั้น ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เย็นชามากขึ้น


“คาถาดิน : แม่น้ำกระแสดินเชี่ยว!”


“คาถาดิน : กระสุนมังกรดิน!”


ตู้ม! ตู้ม!! ตู้ม!!!


ในชั่วพริบตา โอโนกิ ก็เปลี่ยนพื้นดินใต้เท้าของ ไนโตะ และ ซาคุโมะ ให้เป็นแม่น้ำโคลนที่พัดพาทั้งคู่ไป จากนั้นก็มีหัวมังกรดินปรากฏขึ้นมาและเริ่มยิงลูกบอลโคลนใส่ทั้งคู่


คาถาเหล่านี้ไม่ใช่คาถาขั้นสูง แต่เมื่อมันถูกใช้โดย นินจาระดับ คาเงะ พลังของมันจึงมากขึ้นเป็นอย่างมาก!


ซาคุโมะ กระโดนขึ้นไปในอากาศในทันที แต่ทันใดนั้นลูกบอลโคลนนับไม่ถ้วนก็พุ่งตรงมาหาเขา และเขาก็ไม่สามารถหลบพวกมันได้


แต่อย่างไรก็ตาม เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ ก็ไม่มีทางแพ้ให้กับกลเม็ดเหล่านี้ ในวินาทีต่อมา เขาก็ฟันดาบออกไปทางลูกบอลโคลนเหล่านั้น


ส่วน ไนโตะ การเคลื่อนไหวของเขานั้นเรียบง่าย เขากระโดดขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นเขาก็เตะขาออกไปทางลูกบอลโคลนที่กำลังพุ่งตรงมาหาเขา


ตู้ม!!!


ลูกบอลโคลนเหล่านั้น ถูกพลังสั่นสะเทือนอย่างจัง


ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็พุ่งเข้าหา โอโนกิ อย่างรวดเร็ว แล้วต่อยหมัดใส่เขา


“เฮ๊อะ!”


โอโนกิ มองไปที่ ไนโตะ จากนั้นเขาก็ตะคอกออกมาอย่างเย้อหยิ่ง นี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่มีคนพยายามโจมตีเขาจากบนท้องฟ้า เพราะเขาสามารถลอยอยู่บนฟ้าได้จึงทำให้ไม่มีใครกล้าโจมตีเขาจากบนนี้


“คาถาดิน : โกเลมหิน!”


เมื่อการโจมตีของ ไนโตะ กำลังจะมาถึงตัว โอโนกิ ทันใดนั้น ก็มีโกเลมหินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากดินและป้องกันการโจมตีของ ไนโตะ เอาไว้


โอโนกิ ใช้คาถานี้อยู่หลายครั้งในการ์ตูน พลังป้องกันของมันนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก และมันก็เพียงพอที่จะสกัดกั้นการโจมตีของ ไนโตะ ไว้ได้


อย่างไรก็ตาม การโจมตีของ ไนโตะ ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาดึง ดาบคุซานางิ ออกมา จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหา โอโนกิ อีกครั้งจากท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงสุด


ในเวลาเดียวกัน ซาคุโมะ ก็พุ่งเข้ามาจากอีกฝั่งหนึ่งของ โอโนกิ ด้วยความเร็วเต็มที่


ฟึ๊บ!!!


ทั้งคู่ฟันดาบออกไปอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นประกายแสงสีเงินจากทั้ง 2 ด้านของ โอโนกิ


ในวินาทีต่อมา โกเลมของ โอโนกิ ก็ขนาดออกเป็น 2 ท่อน แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะสามารถหลบการโจมตีของดาบทั้ง 2 เล่มได้ แต่ โอโนกิ ก็ใช้จังหวะนั้นในวินาทีสุดท้ายหนีออกมาได้ เขายืนห่างออกไปในขณะที่เสื้อผ้าตรงไหล่ของเขาขาดออกและก็มีเลือดไหลออกจากไหล่ของเขา


เขาได้รับบาดเจ็บ!


พวกเขาทั้งคู่หันกลับไปมอง โอโนกิ ขณะที่ทั้งคู่ยังคงถือดาบไว้ในมือ


ทั้งคู่ใช้กำลังเต็มที่ในการโจมตีครั้งนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถตัดท้องฟ้าได้หากพวกเขาต้องการ!


ในสนามรบที่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก นินจาที่อยู่ในสนามรบมองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ของทั้ง 3 คนนี้ รวมถึงภาพที่ โอโนกิ ถูกฟันไหล่ด้วยเช่นกัน


“ท่านซึจิคาเงะ…ได้รับบาดเจ็บเหรอ?!”


“มันเป็นไปไม่ได้!”


นินจาอิวะบางคนแสดงสีหน้าที่ตกใจมาก


แม้ว่ามันจะไม่ใช่บาดแผลที่สาหัส แต่เรากำลังพูดถึง ซึจิคาเงะ ที่เป็นหนึ่งในนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!


“ท่านซึจิคาเงะ แค่ใช้จักระมากเกินไปในตอนแรก ทำให้เขายังไม่สามารถใช้ คาถาธุลี ได้ในตอนนี้ ถ้าจักระของเขาฟื้นกลับมาละก็ เรื่องนี้จะต้องจบลงอย่างรวดเร็วแน่นอน”


“เมื่อ ท่านซึจิคาเงะ ฟื้นฟูจักระเสร็จ ไม่ว่าจะเป็น เขี้ยวสีขาว หรือ ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือด แห่งโคโนฮะ ก็จะไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้!”


เมื่อเห็นว่า นินจาอิวะ บางคนเริ่มหมดกำลังใจ นินจาระดับสูงของอิวะ ก็พูดเพื่อให้กำลังใจพวกเขาในทันที


เมื่อได้ยินคำเหล่านี้พวกเขาทุกคนต่างก็มีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้งและพยักหน้า


ถูกต้องแล้ว!


ซึจิคาเงะ ได้รับบาดเจ็บก็เพราะเขาไม่สามารถใช้ คาถาธุลี ได้ เมื่อเขาฟื้นฟูจักระของเขาแล้ว เขาก็จะสามารถกลับมาควบคุมสถานการณ์ได้อีกครั้งแน่นอน! 

 

 


ตอนที่ 145

 

การแสดงออกของ ซึจิคาเงะ สงบลงหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ แตจิตสังหารของเขายังคงเต็มเปี่ยม


เขามองไปทาง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ที่ตอนนี้ทั้งคู่มายืนรวมกันแล้ว จากนั้นเขาก็ลอยตัวสูงขึ้นไปบนอากาศ


เป็นเรื่องปกติที่จะต้องไม่ปล่อยให้ศัตรูเข้าสู่พื้นที่ศัตรูได้เปรียบ เมื่อเห็นดังนั้น ไนโตะ และ ซาคุโฒะ จึงไม่ยอมให้ ซึจิคาเงะ ลอยขึ้นไปบนอากาศตามที่เขาต้องการได้อย่างง่าย ๆ ดังนั้นทั้งคู่จึงพยายามสกัดเขา


ฟึ๊บ!!


พวกเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนดูเหมือนลำแสง ที่กำลังพุ่งตรงไปยัง ซึจิคาเงะ


อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นภาพนี้ใบหน้าของ โอโนกิ ก็แสดงให้เห็นถึงความเย็นชา ในขณะที่เขายกมือทั้ง 2 ข้างมาไว้ที่กลางอก


วิ้ง!!


ภายใต้การไหลของจักระที่บ้าคลั่ง แสงสีขาวปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือของ โอโนกิ จากนั้นมันก็กลายเป็นก้อนแสงลูกบาศก์ 4 เหลี่ยม


มันคือ คาถาธุลี อีกครั้ง!


“มาแล้ว!”


“จักระของ ท่านซึจิคาเงะ กลับมาแล้ว”


“เยี่ยมมาก เขาจะฆ่า 2 คนนั้นได้อย่างแน่นอน!”


การได้เห็นภาพนี้ แม้แต่ดวงตาของ โอโนกิ ก็ส่งประกายความตื่นเต้นออกมาเช่นกัน


โอโรจิมารุ และนินจาระดับสูงคนอื่น ๆ ของโคโนฮะ เมื่อเห็นภาพนี้พวกเขาก็ขมวดคิ้วด้วยความจริงจัง


“มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ ถึงยังไงเขาก็เป็น คาเงะ…”


“อย่างไรก็ตาม คาถาธุลี ทีเรียกได้ว่าเป็นขีดจำกัดสายเลือดที่ทรงพลังที่สุด ก็ถูกหยุดได้โดยคาถาแผ่นดินไหว ทำให้สูสีกันทั้ง 2 ฝ่าย”


พวกเขามองดูการต่อสู้ของ ไนโตะ และ ซาคุโมะ ที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับ ซึจิคาเงะ จากระยะไกล


ในอีกด้านหนึ่ง โอโนกิ ก็พร้อมที่จะระเบิดทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ให้กลายเป็นฝุ่นแล้ว


นี่เป็นสิ่งที่อันตรายมาก และ ไนโตะ อยู่ใกล้ โอโนกิ มากกว่า ซาคุโมะ


เมื่อ ซึนาเดะ เห็นภาพนี้ เธอก็มองด้วยความโกรธเล็กน้อย เธอเข้าร่วมสงครามนี้ด้วยเช่นกัน แต่เธอกลับไม่สามารถช่วยอะไร 2 คนนั้นได้เลย


ในความเป็นจริง ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้เลย คนที่สามารถเผชิญหน้ากับ ซึจิคาเงะ ได้ก็มีเพียงแค่ ไนโตะ และ ซาคุโมะ เท่านั้น


ในขณะนี้ แม้แต่สนามรบก็ไม่สำคัญอีกต่อไป การต่อสู้ในอีกด้านหนึ่งคือสิ่งที่จะชี้ชะตาผลของสงครามครั้งนี้


“คาถาธุลี : แยกพิภพบรรพกาล!!”


หลังจากคาถาพร้อมแล้ว โอโนกิ ก็ไม่ลังเลเลยที่จะโยนมันเข้าหาพวกเขา


แสงสีขาวกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว โดยไม่ส่งเสียงใด ๆ


ซาคุโมะ ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็กระโดดหลบมันทันที


ไนโตะ ถือ ดาบคุซานางิ ไว้ในมือ แต่เขาก็ไม่เคลื่อนไหวใด ๆ และในที่สุด ลูกบาศก์ 4 เหลี่ยม ก็คลอบตัวเขาไว้ แต่ทันใดนั้น เขาก็กลายเป็นควันและหายไป


มันเป็นเพียงแค่ร่างแยกเงา


แล้วทันใดนั้นร่างของ ไนโตะ ก็ไปปรากฏในที่ที่ห่างออกไป ในขณะที่จักระอันบ้าคลั่งไหลมาอยู่ที่ฝ่ามือของเขา โดยมีพลังสั่นสะเทือนอยู่ตรงศูนย์กลางของจักระ ทำให้เกิดเป็นรูปร่างคล้ายลูกบอล


นั่นคืออะไร?!


โอโนกิ ขมวดคิ้วและใบหน้าของเขาก็แสดงถึงความสงสัย


เขาจะหยุด คาถาธุลี ด้วยลูกบอลลูกเล็ก ๆ นั้นนะเหรอ?!


หากเขาเลือกที่จะหลบ คาถาธุลี เขาก็จะมีเวลาเพียงพอที่จะพุ่งเข้าไปโจมตี โอโนกิ ได้เลยด้วยซ้ำ


คาถาที่ โอโนกิ ใช้ในครั้งนี้แตกต่างจาก คาถาธุลี แบบปกติ ครั้งนี้มันเป็นการโจมตีด้วยลูกบาศก์เพียงครั้งเดียว ซึ่งทำให้มันหลีกเลี่ยงได้ง่ายกว่า แต่พลังของมันก็มากกว่า คาถาธุลี แบบปกติหลายเท่า


พลังของคาถานี้มหาศาลและไม่มีอะไรจะหยุดมันได้!


โอโนกิ บินอยู่บนฟ้า มองดู ไนโตะ ด้วยสายตาน่าสมเพชราวกับว่านี้คือจุดจบของ ไนโตะ


แต่ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็ขว้างลูกบอลนั้นตรงไปที่ คาถาธุลี !


“มันขว้างออกไปได้งั้นเหรอ?!”


โอโนกิ ตกใจเป็นอย่างมาก เขาคิดว่า ไนโตะ จะพุ่งเข้าหา คาถาธุลี แล้วกดลูกบอลเข้ากับคาถาของเขา


โอโนกิ ไม่คิดเลยว่าวิชาของ ไนโตะ จะสามารถขว้างออกไปได้


แต่ โอโนกิ ก็คิดว่าถึงมันจะสามารถขว้างออกไปได้ มันก็ไม่สามารถหยุด คาถาธุลี ของเขาได้


โอโนกิ มั่นใจเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็ตั้งสติแล้วมองกลับไปที่ ไนโตะ ด้วยสายตาราวกับว่าเขาเห็นผลลัพธ์แล้ว


ในไม่กี่วินาทีต่อมา ลูกบอลเล็ก ๆ ก็ปะทะเข้ากับ คาถาธุลี


“คาถาแผ่นดินไหว : กระสุนทำลายล้าง!!”


ไนโตะ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยดวงตาที่ดูมั่นใจมาก เขาไม่ได้มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะ โอโนกิ ได้ แต่เขามั่นใจในขีดจำกัดสายเลือดของเขา!


คาถาแผ่นดินไหว จะไม่มีทางแพ้ คาถาธุลี อย่างแน่นอน!


เปี้ยง!!!


นี่เป็นการปะทะกันครั้งที่ 2 ระหว่าง คาถาธุลี กับ คาถาแผ่นดินไหว


ในไม่กี่วินาที กระสุนทำลายล้าง ก็เข้าสู่ศูนย์กลางของลูกบาศก์


ทันใดนั้น คาถาทั้ง 2 ก็ลอยนิ่งอยู่ในอากาศราวกับว่า พวกมันเป็นฟองอากาศที่ลอยอยู่บนฟ้า


แต่ที่จริงแล้ว ในตอนนี้ทั้ง ไนโตะ และ โอโนกิ ต่างก็กำลังควบคุมพลังของคาถานินจาของพวกเขาอยู่


แล้วจู่ ๆ การแสดงออกของ โอโนกิ ก็เปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความสยองขวัญ


“บ้าเอ้ย!!”


โดยไม่ลังเล โอโนกิ ที่ลอยอยู่บนฟ้า ก็ลอยพุ่งสูงขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วในทันที


ในเวลาเดียวกัน ทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ก็พุ่งถอยออกไปไกลให้ห่างจากการปะทะของคาถาทั้ง 2 ออกไปไกลจากเนินเขานั้น


ทันใดนั้น คาถาทั้ง 2 ก็บดขยี้เข้าหากัน ทำให้เกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่!


ลำแสดงหลายพันเส้นพุ่งเข้าหากัน มันเหมือนกับกลุ่มดาวโคจรกันอย่างรวดเร็วในสนามรบ เกิดเป็นแสดงสว่างจ้าจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ จากนั้นในที่สุด มันก็ระเบิดออกและกระจายไปทั่วทุกทิศทาง


ไม่มีเสียงอะไรเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ


แต่ดูเหมือนว่าแสงสว่างเหล่านั้นจะแฝงไปด้วยพลังที่รุนแรงที่ไม่สามารถมองเห็นได้แต่เมื่อมันชนเขากับอะไร สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นผงในทันที!


ภายใต้สายตาที่จับจ้องของผู้คนนับไม่ถ้วน เนินเขาขนาดใหญ่ก็กลายเป็นผุยผงและหายไปทันที!!


ซึจิคาเงะ รู้สึกกลัวมาก แต่ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น…แต่ความจริงที่ว่า ไนโตะ สามารถหยุด คาถาธุลี ของเขาได้ นั้นคือสิ่งที่ทำให้เขากลัวมากที่สุด!


ยิ่งไปกว่านั้น คาถาที่เขาเพิ่งใช้ไปเป็นคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา และมันก็ไม่ได้ถูกลดทอนพลังลงเลยแม้แต่น้อย แต่ ไนโตะ ก็สามารถเอาชนะ คาถาธุลี ของเขาด้วยการปะทะกันซึ่ง ๆ หน้าอย่างแท้จริง!


ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !


ในโลกแห่งนี้ ยังมีขีดจำกัดสายเลือดที่เหนือกว่า คาถาธุลี อยู่อีกจริง ๆ หรือ?


ไม่ เป็นไปไม่ได้!


ผู้ที่มีสายเลือดคัดสรรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก จะไม่มีทางยอมรับการมีอยู่ของผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอย่างเด็ดขาด


ที่จริงแล้ว พลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ ยังพัฒนาไปไม่ถึงขั้นสูงสุด แต่ก็สามารถหยุดพลังสูงสุดของ คาถาธุลี ได้!


เมื่อคิดได้แบบนั้น โอโนกิ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสูดหายใจลึก ๆ แล้วจ้องมองไปที่ ไนโตะ อีกครั้ง


เขาใช้เวลานานกว่าจะถึงระดับนี้!


แต่ ไนโตะ ในวัยแค่นี้ ก็สามารถก้าวข้ามระดับของเขาไปได้แล้ว! 

 

 


ตอนที่ 146

 

พลังอันน่าสะพรึงกลัวกระจายไปทุกทิศทาง ไม่ว่ามันจะเป็นดินโคลนหรือก้อนแข็ง ๆ พลังนี้ก็ทำให้พวกมันกลายเป็นฝุ่นไปจนหมด


ในที่สุด เมื่อคลื่นพลังหยุดลง เนินเขาขนาดใหญ่เมื่อสักครู่นี้ก็กลายเป็นหลุมครึ่งวงกลมขนาดใหญ่


ช่างเป็นภาพที่น่าตกใจ!


ดูเหมือนว่าสวรรค์และโลกจะถูกบดขยี้กัน!


นินจาอิวะ มองไปยังเนินเมื่อสักครู่ด้วยหน้าอันน่าสะพรึงกลัว ราวกับว่าพวกเขากำลังฝันอยู่


ไม่ใช่เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นที่เนินเขา แต่เพราะว่า ไนโตะ สามารถหยุด คาถาธุลี ได้ นั้นเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดสำหรับพวกเขา


นินจาอิวะ เกือบทุกคนรู้ดีว่า คาถาธุลี มันคืออะไร มันถูกสร้างขึ้นโดย มู ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 2 และมีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้นอกจาก มู นั่นก็คือ ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 3 มันเป็นขีดจำกัดสายเลือดที่เหนือกว่าขีดจำกัดสายเลือดอื่น ๆ


ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 2 กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก หลังจากการตายของพี่น้อง ตระกูลเซนจู แม้ว่าจะเป็นความจริงที่ว่าเขาตายอย่างลึกลับ หลังจากที่เขาต่อสู้กับ มิซึคาเงะ รุ่นที่ 2 มันเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงซึ่งจบลงด้วยการที่ทั้งคู่ ไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ ไม่มีใครกล้าประมาทพลังของเขาหรือ คาถาธุลี ของเขา!


คาถาธุลี มีอำนาจในการทำลายทุกขีดจำกัดสายเลือด แต่ทว่าพลังประหลาด ๆ ของ ไนโตะ นั้นก็สามารถหยุดมันได้ นั่นก็แสดงว่า พลังขีดจำกัดสายเลือดของ ไนโตะ คือขีดจำกัดสายเลือดที่เหนือกว่าขีดจำกัดสายเลือดอื่น ๆ !


ซันโดะ ที่ยืนอยู่ห่างออกไป เขามองดูภาพนี้ในขณะที่ดวงตาของเขาดูเศร้าหมอง


“เป็นไปไม่ได้…มันหยุด คาถาธุลี ได้จริง ๆ ล้อเล่นหรือเปล่า?”


หน่วยลับ ที่ยืนถัดจาก ซันโดะ ไป ภายนอกของเขาดูสงบมาก แต่ภายใต้หน้ากาก เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากและเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขาเห็น!


มันไม่ใช่เรื่องของความแข็งแกร่ง


คาถาธุลี เป็นวิชาขั้นสูงของนินจาที่สูงขึ้นไปกว่าขีดจำกัดสายเลือดขั้นสูงอื่น ๆ


สิ่งเดียวที่สามารถหยุดมันได้ก็คือ เนตรสังสาระของเพนวิถีเปรต ที่สามารถดูดซับจักระได้ทุกประเภท


เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่ได้เห็น คาถาธุลี ถูกหยุดด้วยพลังชนิดอื่น


แน่นอนว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้ ไนโตะ สามารถหยุดมันไว้ได้ เพราะพลังของเขากำเนินมาจากแหล่งพลังงานที่ไม่เคยมีอยู่ในโลกของ นารูโตะ


ดังนั้น พลังสั่นสะเทือน จึงสามารถป้องกันพลังได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นขีดจำกัดสายเลือดหรือสายเลือดคัดสรร อย่าง คาถาธุลี และบางทีในอนาคตมันอาจจะสามารถป้องกันพลังของ เพน 6 วิถี ได้ก็เป็นได้


เมื่อเทียบกับความสยองขวัญที่ ฝ่ายอิวะ ได้รับ ฝ่ายโคโนฮะ ก็ตกตะลึงในตอนแรกแล้วพวกเขาก็เริ่มตื่นเต้น


ทันใดนั้น ฝ่ายโคโนฮะ ก็ได้รับแรงผลักดันที่มหาศาล!


โอโรจิมารุ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในตอนแรก จากนั้นเขาก็เลียมุมปากแล้วพึมพำว่า “คาถาธุลี ควรจะเป็นสายเลือดคัดสรรที่สามารถทำลายขีดจำกัดสายเลือดได้ทุกชนิด…ขีดจำกัดสายเลือดของ ไนโตะ…ดูเหมือนว่าเขาจะซ่อนบางอย่างเอาไว้”


“เยี่ยมมาก!”


หลังจากที่ ซึนาเดะ ต่อย หน่วยลับอิวะ คนหนึ่งจนจมดิน เธอก็มองไปที่ ไนโตะ จากระยะไกลด้วยสีหน้าแปลก ๆ


ซาคุโมะ เดินไปไม่กี่ก้าวและไปอยู่ด้านข้างของ ไนโตะ ทั้งคู่ยืนอยู่ติดกันและมองดู โอโนกิ ที่อยู่บนฟ้า


ความจริงที่ว่า ไนโตะ สามารถหยุด คาถาธุลี ของ โอโนกิ ได้ ทำให้ ซาคุโมะ ตกตะลึงเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราสิ่งนี้ทำให้ ฝ่ายโคโนฮะ ได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้


โอโนกิ ลอยอยู่บนท้องฟ้าแล้วมองลงไปที่ ไนโตะ ในขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากความต้องการฆ่า ไนโตะ เป็นความเกลียดชัง


ไอ่เด็กปีศาจ!!


ในขณะนี้ โอโนกิ เริ่มรู้สึกกลัวพลังของ ไนโตะ ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว!


ถึงกระนั้น โอโนกิ ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขายังคงโจมตี ซาคุโมะ และ ไนโตะ ต่อไป


ไนโตะ และ ซาคุโมะ ไม่จำเป็นต้องพูดคุยอะไรกัน พวกเขารีบพุ่งเข้าหา ซึจิคาเงะ ทันที และการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง!


ตู้ม!!


พื้นดินและท้องฟ้าสั่นสะเทือนอย่างหนัก จนทุกคนในสนามรบรู้สึกเหมือนว่ากำลังมีอุกกาบาตตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรงโดยไม่มีที่สิ้นสุด!


การต่อสู้ครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีวันสิ้นสุด


ปะทะกันตรงนู้น , ฟันดาบตรงนี้ , ใช้ คาถาธุลี ตรงนู้น , ใช้พลังสั่นสะเทือนตรงนี้


ทั้ง 3 เคลื่อนที่ต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว พยายามฆ่ากันและกันอย่างดุเดือด


แค่คราวนี้ ความคิดของ โอโนกิ ก็เปลี่ยนไป เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถฆ่า ไนโตะ ได้ก่อน


ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะฆ่า ซาคุโมะ ก่อน แล้วค่อยฆ่า ไนโตะ ทีหลัง


เป็นการยากที่จะฆ่า ไนโตะ เพราะ ไนโตะ สามารถป้องกัน คาถาธุลี ได้ ดังนั้น ซาคุโมะ จึงเป็นจุดอ่อนที่สุดในตอนนี้


เพราะถึงแม้ว่า ซาคุโมะ จะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่มีความสามารถในการป้องกัน คาถาธุลี ได้!


ตู้ม! ตู้ม!!


พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างหนักจากการปะทะกันของ คาถาธุลี และ พลังสั่นสะเทือน นับครั้งไม่ถ้วน ขณะที่แรงกดดันในสนามรบก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ


นินจาคนอื่น ๆ มองดูจากระยะไกลในสนามรบ ขณะที่ทั้งคู่ กำลังพยายามฆ่า คาเงะ


โอโนกิ เกือบจนมุมอยู่หลายครั้ง เพราะการโจมตีประสานที่ยอดเยี่ยมของ ซาคุโมะ และ ไนโตะ !


การต่อสู้ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ


ในที่สุด โอโนกิ ก็พุ่งเข้าไปหา ซาคุโมะ และใช้ คาถาธุลี ใส่เขา จนเกือบจะฆ่าเขาได้ ถ้าเขาไม่ได้ พลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ ช่วยเขาไว้


โอโนกิ พยายามหลบ แต่เขาก็ได้รับผลกระทบจากพลังสั่นสะเทือนไปเล็กน้อย


อั๊ก!!


โอโนกิ ถูกการโจมตีของ ไนโตะ จากขั้นเขาก็กระอักเลือดออกมาทันที


“พลังของเจ้าเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ขนาดเราโดนไปแค่เฉียด ๆ เรายังบาดเจ็บรุนแรงขนาดนี้…”


ใบหน้าของ โอโนกิ ดูเจ็บปวดตอนที่เขากระอักเลือดออกมา แต่มันก็เป็นเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น


ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาอาจจะฆ่า ซาคุโมะ ได้ แต่เขาจะต้องตายในสนามรบนี้อย่างแน่นอน!


สิ่งไหนสำคัญกว่า ชีวิตของเขา หรือ ซาคุโมะ ?!


แน่นอนว่าคำตอบของ โอโนกิ นั้นชัดเจน


ทันใดนั้น โอโนกิ ก็บินสูงขึ้นไปบนอากาศและหนีไปอย่างรวดเร็ว


ในที่สุด ด้วยการร่วมมือของ ไนโตะ และ ซาคุโมะ แม้แต่ ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 3 ก็ต้องพ่ายแพ้ในที่สุด


ด้วยการหลบหนีของ โอโนกิ ทำให้กำลังใจของ กองทัพอิวะ หายไปในทันที!


เมื่อเห็นว่า คาเงะ ของพวกเขากำลังพ่ายแพ้ กองทัพอิวะ ก็สูญเสียกำลังใจในการต่อสู้และกองทัพทั้งหมดก็พังทลายในที่สุด


ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง กำลังใจของ โคโนฮะ มาถึงจุดสูงสุด!


ไนโตะ และ ซาคุโมะ สามารถเอาชนะ คาเงะ ได้ ทั้งคู่สามารถเอาชนะ 1 ใน 5 นินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้!


ช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าตื่นเต้น!


แม้ว่าผลลัพธ์จะของการต่อสู้จะปรากฏออกมาแล้ว แต่ กองทัพโคโนฮะ ก็ยังไล่ตาม นินจาอิวะ และฆ่าพวกเขาไม่ให้เหลือ


สีแดงของเลือกย้อมไปจนทั่วทั้งสนามรบ มีศพอยู่ทุกหนทุกแห่งและเลือดก็ไหลราวกับแม่น้ำ!


ณ ตอนนี้ หมู่บ้านอิวะ ได้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!


“บ้าเอ้ย แม้แต่ ซึจิคาเงะ ก็แพ้เหรอเนี่ย”


ซันโดะ กำลังมองดู กองทัพอิวะ ที่กำลังแตกพ่าย ด้วยการแสดงออกที่ขมขื่น แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะพูดประโยคนั้นออกมา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว


ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขารู้สึกจริง ๆ ก็คือ ความสยองขวัญ


โฮคาเงะ ไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ ไนโตะ และ ซาคุโมะ เพียงแค่ 2 คนนี้ ก็สามารถเอาชนะ ซึจิคาเงะ ได้แล้ว!


นี้เป็นพลังที่แท้จริงของ โคโนฮะ งั้นเหรอ?!


แม้ว่าทั้งคู่จะไม่สามารถฆ่า ซึจิคาเงะ ได้ แต่ก็ไม่สามารถประเมินอำนาจของพวกเขาต่ำได้!


ซันโดะ สงบสติอารมณ์ตัวเองและเตรียมพร้อมที่จะล่าถอยตรม โอโนกิ ไป


ทันใดนั้น จิไรยะ ก็พุ่งตรงมาหาเขาเพื่อหยุดเขาจากการหลบหนี


“ไอ่กบโคโนฮะ แกคิดว่าแกจะฆ่าฉันได้งั้นเหรอ?!”


ซันโดะ โกรธขึ้นมาในทันที และถ้าเข้ายังมีแขนครบทั้ง 2 ข้างอยู่ ก็จะไม่มีใครสามารถจฆ่าเขาได้!


แต่ในวินาทีต่อมา ก็มีเสียงเยือกเย็นพูดออกมาจากทางด้านหลังของเขา


“เขาฆ่าคุณไม่ได้หรอก…แต่ฉันทำได้”


ฉับ!!!


ทันใดนั้น ใบดาบก็ทะลุเข้ามาที่หลังของเขา ผ่านหัวใจของเขา และทะลุออกมาที่อกของเขา


ซันโดะ หันหัวไปมองด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เลือดไหลออกจากปากของเขา เขามองเห็นแค่เงาของ ไนโตะ


สิ่งเดียวและสุดท้ายที่เขารู้สึกก็คือ มีคนมาปรากฏตัวข้างหลังเขา!


ความเร็วแบบไหนกัน?!


ในช่วงเวลาต่อมา ไนโตะ ก็ดึงดาบออกและร่างของ ซันโดะ ก็ล้มลงบนพื้น!


“เฮ้อ ในที่สุดเธอก็มาทัน”


เมื่อ จิไรยะ เห็นภาพนี้ เขาก็รู้สึกโล่งใจ เพราะถึงแม้ว่า ซันโดะ จะได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ซันโดะ ก็มีพลังมากอยู่ดี อีกอย่างหนึ่ง จิไรยะ ก็กังวลเกี่ยวกับวิชาลับของ ซันโดะ ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังเป็นอย่างมาก


แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่ ซันโดะ สูญเสียแขนไป เขาก็ไม่สามารถใช้วิชาของเขาได้รวดเร็วเหมือนเดิม


กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ไนโตะ มาถึงก่อนที่ ซันโดะ จะใช้วิชาลับของเขาได้


“แน่นอนครับ”


หลังจากที่เขาพยักหน้าให้กับ จิไรยะ ไนโตะ ก็รีบวิ่งไปที่สนามรบอีกครั้ง


จิไรยะ ยืนมองดู ไนโตะ จากทางด้านหลัง เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากสูดหายใจเข้าลึก ๆ และถอนหายใจเล็กน้อย


“แม้แต่ คาเงะ ก็แพ้เขาสินะ”


ใครจะเชื่อว่าเด็กตัวเล็กจากการแข่งขันธรรมดา ๆ จะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม