The Strongest Hokage 122-133
ตอนที่ 122
เมื่อ ไนโตะ เห็น โอโรจิมารุ ในเมืองนี้ เขาไม่แน่ใจว่าคนคนนี้คือ โอโรจิมารุ ในวินาทีแรกที่เห็น เขามั่นใจว่าคนคนนี้ต้องเป็น นินจา อย่างแน่นอน แต่เขาคิดว่าคนคนนี้อาจเป็นศัตรูกับเขาก็ได้
ไนโตะ สะกดรอยตาม โอโรจิมารุ ไปจนสุดทาง หลังจากนั้น โอโรจิมารุ ก็เปลี่ยนร่างกลับเป็นร่างเดิมของเขา
“แกตามฉันมานานแล้ว ออกมาเดี๋ยวนี้”
โอโรจิมารุ หันกลับไปทางที่ ไนโตะ ซ่อนตัวอยู่ ด้วยท่าทางที่มั่นใจและจริงจัง
ท้ายที่สุดแล้ว โอโรจิมารุ ก็มีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมต่อสภาพแวดล้อมรอบข้างเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อ ไนโตะ เดินออกมา โอโรจิมารุ ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะเป็นคนที่สะกดรอยตามเขามา
แทนที่มันจะเป็นการสะกดรอยง่าย ๆ มันกลับกลายเป็นการเผชิญหน้าในที่สุด
“โอ้…ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเธอนะ ไนโตะ”
โอโรจิมารุ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยรอยยิ้มที่ ไนโตะ ไม่สามารถเข้าใจได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ระหว่างสงคราม ไนโตะ ไม่เห็น โอโรจิมารุ แม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ ไนโตะ ไม่รู้เลยว่า โอโรจิมารุ กำลังทำอะไรอยู่กันแน่
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่กังวลที่ โอโรจิมารุ เจอเขา เพราะ ไนโตะ ไม่กลัว โอโรจิมารุ เลย
โอโรจิมารุ จะแข็งแกร่งมากในอนาคต แต่สำหรับตอนนี้ เขายังไม่แข็งแกร่งเท่าไรนัก
“แค่เรื่องบังเอิญครับ”
ไนโตะ พยักหน้าให้ โอโรจิมารุ แต่การแสดงออกและท่าทางของเขาก็ไม่ได้ดูสุภาพเลย
การแสดงออกของ โอโรจิมารุ เมื่อเห็น ไนโตะ ก็ดูลึกลับด้วยเช่นกัน
โอโรจิมารุ เป็นหัวหน้าทีมของ หน่วยลับ และเขารู้ว่า ไนโตะ เป็นสมาชิกของกองกำลังหน่วยลับพิเศษ มันทำให้ ไนโตะ มีฐานะที่พอ ๆ กับเขา
ในเวลานั้น โอโรจิมารุ ก็ยังได้ยินข่าวเกี่ยวกับความสำเร็จต่าง ๆ ที่ ไนโตะ ทำได้ในสงครามครั้งนี้อีกด้วย
“ผมไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่นี่…ท่านกำลังทำอะไรอยู่? ท่านควรจะรู้ว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นไม่ใช่เหรอ”
“ธุระส่วนตัวบางอย่างนะ แล้วฉันก็กำลังจะกลับแล้ว”
ไนโตะ รู้สึกไม่สบายใจขณะที่พูดคุยกับ โอโรจิมารุ เพราะน้ำเสียงของเขา ทำให้ ไนโตะ รู้สึกแปลก ๆ อยู่เสมอ
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการสนทนา โอโรจิมารุ จ้องมาที่ ไนโตะ ด้วยสายตาที่แข็งกร้าวและพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าเธอเจอ ดาบคุซานางิ แล้ว”
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินคำถามนี้ เขาก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที แม้ว่า เขาจะไม่รู้ว่า โอโรจิมารุ ได้รับข้อมูลนี้มาจากใคร แต่นั้นก็ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า โอโรจิมารุ สนใจ ดาบคุซานางิ เป็นอย่างมาก
แต่ถึง โอโรจิมารุ จะอยากได้มัน ไนโตะ ก็ไม่มีทางมอบให้เป็นอันขาด!
ในขณะเดียวกัน ไนโตะ ก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาในใจ ถ้าเป็นกับคนอื่น เขาคงเอาดาบออกมาแล้วฆ่าคนคนนั้นไปแล้ว แต่สำหรับ โอโรจิมารุ นั้นต่างออกไป
“คนที่ได้เห็น ดาบคุซานางิ ของผม…ตายไปหมดแล้ว”
ไนโตะ จ้องไปที่ โอโรจิมารุ ในขณะที่น้ำเสียงของเขาเปิดเผยถึงคำเตือน
ไนโตะ เป็นผู้สืบทอด ตระกูลคุซานางิ และดาบเล่มนี้ก็เป็นมรดกของเขาและเขาจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องมันเด็จขาด
ที่ ไนโตะ พูด เป็นความจริงทั้งหมด เพราะทุกคนที่เห็นดาบของเขาคนคนนั้นต้องตาย
จนถึงตอนนี้ คนที่รู้ว่า ไนโตะ เป็นผู้ครอบครอง ดาบคุซานางิ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“ถ้างั้น…ฉันขอดูหน่อยสิ”
โอโรจิมารุ ไม่สนใจคำเตือนของ ไนโตะ หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เอาลิ้นของเขาเลียริมฝีปาก
ไนโตะ ยังคงยื่นนิ่งอยู่อีกซักพัก จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ โอโรจิมารุ และพูดเบา ๆ ว่า “ท่านอยากเล่นกับผมจริง ๆ หรือ ท่านโอโรจิมารุ ?”
“ฉันแค่อยากจะสอนความหมายที่แท้จริงของการเป็นอัจฉริยะก็เท่านั้นเอง”
โอโรจิมารุ จ้องมอง ไนโตะ ด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นเขาก็หุบลิ้นกลับเข้าไปและยิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจ
ทันใดนั้น แรงกดดันก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ระดับเดียวกับ ผู้บัญชาการหน่วยลับ ?!
ไม่ ถึงแม้ในการ์ตูน เขาจะแข็งแกร่งมากและมีพลังอยู่ในระดับเดียวกับ ผู้บังคับการหน่วยลับ แต่ตอนนี้ โอโนจิมารุ ก็ยังคงอายุน้อยกว่ามาก
การปรากฏตัวของ โอโรจิมารุ นั้น เหมือนกับงูตัวใหญ่ มันทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงอันตราย ในทางกลับกัน การปรากฏตัวของ ไนโตะ ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่าพวกเขาไม่ควรเข้ามายุ่ง!
แรงกดดันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่พวกเขาจ้องมองกันและกัน
“ที่น่าสนใจ”
“คาถามือเงาอสรพิษ!”
ฟึ๊บ!!
ในวินาทีต่อมา โอโรจิมารุ ก็สะบัดมือออกไปข้างหน้า จากนั้นมือของเขาก็กลายเป็นงูตัวใหญ่จำนวนมาก
“ฮึ!”
ในการเผชิญกับเล่ห์เหลี่ยมนี้ แต่ ไนโตะ ก็ยังคงสงบนิ่ง จากนั้นเขาก็ต่อยหมัดออกไป
เปี้ยง!!!
อากาศระเบิดอย่างแรง จากนั้นเม็ดฝนก็ค้างอยู่ในอากาศ
งูเหล่านั้น หยุดอยู่ตรงหน้า ห่างจากหมัดของ ไนโตะ ไป 1 นิ้ว
มันถูกพลังสั่นสะเทือนและจากนั้นพวกมันก็ถูกทำลายและลุกลามไปเรื่อย ๆ จนมาถึงตัว โอโรจิมารุ และเขาก็ถูกพลังหมัดของ ไนโตะ เข้าไปด้วยเช่นกัน
“ขีดจำกัดสายเลือดของเธอแข็งแกร่งมาก…ฉันไม่คิดว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้นได้ถึงขนาดนี้”
ร่างกายของ โอโรจิมารุ กำลังกระเด็นออกไป
แต่ตราบใดที่จักระของ โอโรจิมารุ ยังคงเหลืออยู่ เขาก็จะมีสภาพเป็นอมตะอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าเธอสามารถพัฒนามันได้มากกว่านี้ มันจะเทียบเท่ากับ คาถาไม้ ได้เลยทีเดียว”
มีความตกใจปรากฏออกมาในดวงตาของ โอโรจิมารุ เขาเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับพลังของ ไนโตะ มาอยู่บ้าง แต่สิ่งที่เขาได้ยินมานั้นแตกต่างจากที่เขาเจออย่างสิ้นเชิง
ไนโตะ ยืนนิ่งอยู่กับที่ และเขาก็ไม่โจมตี โอโรจิมารุ อีกครั้ง เขาแค่มองไปที่ โอโรจิมารุ ด้วยสายตาที่เย็นชาเท่านั้น
ไนโตะ สัมผัสได้ว่า การโจมตีของ โอโรจิมารุ ไม่ใช่เพื่อสังหาร
ดังนั้น ไนโตะ จึงไม่โจมตีเพื่อสังหารด้วยเช่นกัน
“อีกสักทีแล้วกัน…”
โอโรจิมารุ แปลงร่างเป็นงูตัวใหญ่ แล้วเลื้อยไปหา ไนโตะ ด้วยความเร็วสูง
ในไม่ช้า โอโรจิมารุ ก็มาถึงตัว ไนโตะ จากนั้นเขาก็อ้าปากออก
“แม่น้ำงู!!”
ในไม่ช้าก็มีงูจำนวนมากเลื้อยออกมาจากปากของ โอโรจิมารุ จนดูเหมือนกับเป็น แม่น้ำงู จากนั้นพวกมันก็เลื้อยไปหา ไนโตะ อย่างรวดเร็ว
โอโรจิมารุ ยังคงอ้าปากกว่าขึ้นเรื่อย ๆ และงูก็ออกมาจากปากของเขามากขึ้น ๆ
เมื่อต้องเจอกับการโจมตีแบบนี้ แต่ ไนโตะ ก็ไม่กลัวเลย เขาได้แต่ยิ้มเยอะออกมาและคิดเพียงอย่างเดียวว่า
ช่างน่าขยะแขยงจริง ๆ !
ไนโตะ เหมือนจะอยากอ้วกออกมา เมื่อเขาเห็นภาพนี้
งูตัวใหญ่ ๆ 1 ตัว ยังไม่สามารถทำอะไร ไนโตะ ได้เลย นับประสาอะไรกับงูตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ เขาต้องการอะไรจากการโจมตีแบบนี้? เป็นแผนที่งี่เง่ามาก
เขาไม่ต้องการสัมผัสกับงูเหล่านี้
ดังนั้นคำตอบของ ไนโตะ ก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากหมัดของเขา
ตู้ม!!
อากาศระเบิดออกและพื้นดินแตกกระจาย ขณะที่แขนของ ไนโตะ ส่องแสงสีขาว มันจะทำลายทุกอย่างที่ขวางทางมัน!
ตอนที่ 123
เพราะแม่น้ำงูเหล่านี้ ทำให้ดูเหมือน โอโรจิมารุ จะติดอยู่ใจกลางงูพวกนั้น
แคร๊ก!!
โอโรจิมารุ กระโดดถอยหลังทันที เมื่อพื้นเริ่มเกิดรอยแตก
ในเวลานี้ โอโรจิมารุ ก็มองไปที่ ไนโตะ ด้วยท่าทีที่สงบเช่นเดิม แต่ภายใต้การแสดงออกนั้นมีปีศาจร้ายซ่อนตัวอยู่ในความมืดที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้
“แค่นี้ก็พอแล้ว ตอนนี้ฉันรู้ความสามารถที่แท้จริงของเธอแล้ว…เธอเป็นอัจฉริยะที่เก่งยิ่งกว่า มินาโตะ และคนอื่น ๆ ตอนแรกฉันคิดว่าเธอแค่เก่งเฉย ๆ แต่การพัฒนาของเธอนั้นเกิดที่ฉันคิดไว้มาก”
ขณะที่ โอโรจิมารุ มองไปที่ ไนโตะ จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
“เมื่อความแข็งแกร่งของเธอพัฒนาไปจนถึงขีดสุด บางคนอาจจะไว้ใจเธอ แต่บางคนก็คงจะพยายามควบคุม”
ไนโตะ รู้ได้ในทันทีว่า โอโรจิมารุ กำลังพูดถึงอะไร
ความจริงที่ว่า ไนโตะ จะแข็งแกร่งขึ้นได้มากกว่านี้อีกมาก มันจะทำให้เกิดการสั่นคลอนของอำนาจใน โคโนฮะ เป็นอย่างมาก ดังนั้น ทัศนคติของ ซารุโทบิ อาจจะเปลี่ยนจากความไว้วางใจเป็นความหวาดระแวงก็เป็นได้
และถึงแม้ว่า ซารุโทบิ จะเชื่อใจในตัวของ ไนโตะ แต่ ดันโซ จะคิดเช่นกันหรือไม่? แล้วผู้อาวุโสคนอื่นอย่าง มิโตคาโดะ โฮมุระ หรือ อุทาทาเนะ โคฮารุ ละ?
เมื่อความแข็งแกร่งของ ไนโตะ กลายเป็นภัยคุกคามต่อ ซารุโทบิ และ โคโนฮะ แม้ว่า ไนโตะ จะไม่คิดทรยศ แต่ ดันโซ และ ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ จะไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน
เมื่อความคิดนี้พุ่งเข้ามาในหัวของ ไนโตะ เขาก็คิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นจริง จากนั้นเขาก็ส่ายหัวเล็กน้อย
ไนโตะ ไม่สนใจเรื่องนี้สักเท่าไร เพราะ ไนโตะ มีความมั่นใจในพลังของเขามาก ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นทีละนิด แต่มันเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ครั้งต่อไปเขาจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีกมาก!
ทันทีที่เขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังแบบย้อนกลับ ได้ ไนโตะ จะไม่กลัวใครใน โคโนฮะ อีกต่อไป แม้ว่าเขาจะไม่อยู่ยงคงกระพัน แต่ก็ไม่มีใครที่จะยืนหยัดต่อสู้เขาได้
เมื่อถึงตอนนั้น โคโนฮะ จะไม่สามารถยับยั้งเขาได้อีกต่อไป
“ท่านต่องการอะไร?”
ไนโตะ ถาม โอโรจิมารุ ไปตรง ๆ
เขารู้ว่า โอโรจิมารุ จะไม่ทำอะไรไปมากกว่านี้ เพื่อเตือนให้เขารู้เรื่องนี้
โอโรจิมารุ ยิ้มแล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว ฉันสนใจ ดาบคุซานางิ ของเธอมาก แต่ตอนนี้ ฉันสนใจเธอมากกว่า”
ความเย็นปรากฏบนใบหน้าของ ไนโตะ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้น โอโรจิมารุ ก็อ้าปากและคาย ม้วนคัมภีร์ ออกมา มันหล่นลงบนพื้นและกลิ้งไป 2 – 3 รอบ จากนั้นมันก็ไปหยุดอยู่ที่เท้าของ ไนโตะ
เมื่อเห็นสิ่งที่ โอโรจิมารุ ทำ ไนโตะ ก็ไม่สามารถเข้าใจความคิดของ โอโรจิมารุ ได้อีกต่อไป
“มีบางอย่างที่เธอต้องการใน ม้วนคัมภีร์ นี้ คิดซ่ะว่าเป็นของขวัญจากฉัน หรือไม่ก็เป็นคำขอโทษสำหรับการโจมตีเธอโดยไม่มีเหตุผล และแน่นอน ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฉันสามารถทำให้เธอได้”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ค่อย ๆ ก้าวถอยหลังและหันหลังเดินออกไป ขณะที่เขาเดินไปเขาก็หันหัวกลับมายิ้มให้ ไนโตะ แต่ ไนโตะ ก็ไม่สามารถเข้าใจความหมายของรอยยิ้มนั้นได้
เมื่อมองไปที่ โอโรจิมารุ ไนโตะ ก็ส่ายหัวแล้วมองไปที่ ม้วนคัมภีร์ ที่อยู่ตรงเท้าของเขา
มันคืออะไร?
มันมีอะไรในนั้น? ดาบคุซานางิ อีกอันงั้นเหรอ?
ไนโตะ ยิ้มออกมา เพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
ในที่สุด ไนโตะ ก็หยิบมันขึ้นมาด้วยดาบของเขา
แม้ว่ามันจะปลอดภัย แต่ ไนโตะ ก็ไม่สามารถใช้มือหยิบมันออกมาได้ เพราะมันออกมาจากปากของ โอโรจิมารุ และมันก็น่าขยะแขยงมาก
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาเปิดมันออก เขาก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด!
ขั้นที่สองของ อาภรณ์สายฟ้า!
เนื่องจากเขาเชี่ยวชาญในขั้นแรกแล้ว ไนโตะ จึงมั่นใจว่า นี้คือความลับในการฝึกขั้นที่2 อย่างแน่นอน!
ในตอนท้ายของวิธีฝึกขั้นที่ 2 มีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับวิธีการควบคุมวิชาในขั้นที่ 3 และขั้นสุดท้ายของ อาภรณ์สายฟ้า!
“โอโรจิมารุ…คุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณต้องการอะไรกันแน่?”
นี่เป็นครั้งแรกที่ ไนโตะ รู้สึกยากที่จะเข้าใจความคิดของตัวละครในการ์ตูน
เขาไม่รู้ว่า โอโรจิมารุ ได้ม้วนคัมภีร์นี้มาได้อย่างไร แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ เขาไม่ได้ส่งมันกลับไปที่หมู่บ้าน แต่เขากลับมอบมันให้กับ ไนโตะ
นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกินไป ไนโตะ ไม่คิดว่าเขาจะมีมันไว้ในครอบครอง
“เอาล่ะ เราไม่รู้หรอกว่าทำไมเขาทำแบบนี้ แต่ถึงยังไงก็ช่างมัน เดี๋ยวเราเริ่มฝึกก็คงจะรู้เอง”
ไนโตะ มองไปทางที่ โอโรจิมารุ เดินหายไป จากนั้นเขาก็ส่ายหัวเล็กน้อย แล้วเก็บ ม้วนคัมภีร์ ไว้ทันที
แม้ว่าเขาจะได้มันมา แต่เขาก็ไม่สามารถฝึกมันได้ในตอนนี้
สงครามกำลังจะมา
……..
หมู่บ้านอิวะ เริ่มรวบรวมกองกำลังและก็รวบรวมได้เกือบจะเสร็จแล้ว ส่วน หมู่บ้านซึนะ ก็กำลังรวบรวมกองกำลังอย่างรวดเร็วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หมู่บ้านซึนะ ก็มีปัญหาบางอย่างในระหว่างการรวบรวมกองกำลัง เพราะพวกเขาถูก หมู่บ้านอาเมะ โจมตี
นี่คือสิ่งที่ หมู่บ้านอิวะ และ หมู่บ้านโคโนฮะ ต้องการได้ยินในเวลานี้
เมื่อมาถึงจุดนี้ แคว้นแห่งฝนก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย!
ตลอดทางที่กลับมา ค่ายบัญชาการ ไนโตะ ไม่พบ โอโรจิมารุ อีกเลย ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เส้นทางอื่นในการกลับมา
ในขณะนี้ บรรยากาศในค่ายดูกดดันเป็นอย่างมาก
นินจาทั้งหมดอยู่ใน สถานะพร้อมรบอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือป้องกัน
การแสดงออกของทุกคนดูจริงจังมาก
พวกเขารู้ว่าการต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเกิดขึ้น
ด้วยค่ายที่มีนินจาจำนวนมากเหล่านี้ แม้ว่าคุณจะแข็งแกร่ง แต่คุณก็ไม่สามารถมั่นใจในความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นินจาที่แข็งแกร่งจริง ๆ ก็มีจำนวนไม่มาก แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงแค่ ขูนิน และ โจนิน เท่านั้น
หลังจากที่ ไนโตะ กลับมาที่ค่ายแล้ว เขาก็ไปพบกับ ซาคุโมะ ในทันที เพื่อสอบถามถึงแผนการต่อสู้ครั้งในนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ คำสั่งที่เขาได้รับจาก ซารุโทบิ
เขามีคำสั่งให้ ไนโตะ ไปต่อสู้ในแนวหน้าของสนามรบ แต่ ไนโตะ ไม่ใช่ สมาชิกของหน่วยลับพิเศษ ยูจิน ต่างหากที่เป็น หน่วยลับพิเศษ
ไนโตะ รู้สึกแปลก ๆ ในตอนแรก
เพราะตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา ไนโตะ ได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาในฐานะ หน่วยลับ ชื่อรหัสว่า ยูจิน มาโดยตลอด แต่ชื่อรหัส ยูจิน ของเขาจะไม่มีอยู่อีกต่อไป และตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยให้ทุกคนได้เห็น!”
ทำไม ซารุโทบิ ถึงตัดสินใจเช่นนี้?
ตอนที่ 124
เมื่อคุณปรากฏตัวออกมาอยู่ด้านสว่างแล้ว คุณจะไม่สามารถกลับสู่ด้านมืดได้อีก
พูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า หลังจากจบสงครามในครั้งนี้ ไนโตะ จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ หน่วยลับ อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของ ไนโตะ ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาในทันทีเมื่อเขาคิดเรื่องนี้ แต่ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจทุกอย่าง
ใช่แล้ว อย่างนี้นี่เอง!
ตำแหน่งปัจจุบันของเขาใน หน่วยลับ ก็คือ เขาเป็นสมาชิกของทีมหน่วยลับพิเศษ แต่ความสำเร็จต่าง ๆ ของเขาในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นยิ่งใหญ่กว่าหัวหน้าหน่วยลับบางคนเสียอีก!
หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ตำแหน่งของเขาก็จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และในที่สุด เขาจะได้เป็น ผู้บัญชาการของหน่วยลับ คนต่อไป เป็น เขี้ยวขาวของโคโนฮะ คนต่อไป
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาถูกผลักดันให้ไปต่อสู้ที่แนวหน้าเหมือนกับ นินจา ปกติ
แต่สิ่งนี้ก็เปรียบเหมือนดาบ 2 คม ไม่สำหรับ ไนโตะ แต่สำหรับ โคโนฮะ ไนโตะ ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ในตอนแรกที่เขาเข้ามาอยู่ใน หน่วยลับ แต่เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น มันทำให้เกิดการสั่นคลอนอำนาจของบุคคลระดับสูงในหมู่บ้าน รวมไปถึงในแคว้นด้วย
เมื่อเขากลายเป็น ผู้บัญชาการของหน่วยลับ และด้วยอัตราการเติบโตอันอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เขาจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อหมู่บ้าน หรือแม้แต่ตัวของ โฮคาเงะ เองก็ตาม!
แม้ว่า ซารุโทบิ จะเชื่อใจ ไนโตะ และต้องการให้เส้นทางนี้แก่เขา แต่ ดันโซ และ ผู้เฒ่าคนอื่น ๆ จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจเช่นนี้
การให้ ไนโตะ ไปต่อสู้ในแนวหน้าในสงครามครั้งใหญ่แบบนี้ จะช่วยให้ตำแหน่งของเขาขึ้นอย่างเร็ว
หลังจากสงครามครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็น ผู้บัญชาการหน่วยลับ แต่อย่างน้อยเขา ก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็น โจนิน
ตำแหน่งนี้ แน่นอนว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า ผู้บัญชาการหน่วยลับ แต่เขาก็สามารถเป็นฮีโร่ของ โคโนฮะ ได้เสมอ ตราบใดที่เขาไม่มีอำนาจอยู่เหนือการควบคุม ดันโซ หรือ ซารุโทบิ
เมื่อคิดถึงสาเหตุของการตัดสินใจในครั้งนี้ ในที่สุด ไนโตะ ก็เผยให้เห็นร่องรอยของการเยาะเย้ยทั้ง ดันโซ และ ซารุโทบิ
พวกเขาคิดว่า ไนโตะ ต้องการตำแหน่งสูงส่งแบบนั้นเหรอ?!
พวกเขาคิดผิด
ไนโตะ ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย!!
ตำแหน่งเหล่านี้ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
อุจิฮะ มาดาระ ไม่ได้มีตำแหน่งสูงส่งเช่นนั้น เขาเป็นแค่ผู้นำของ ตระกูลอุจิฮะ แต่เขาสามารถบดขยี้ โคโนฮะ ได้ทั้งหมู่บ้าน ด้วยความแข็งแกร่งของเขา
ลึก ๆ แล้ว ไนโตะ ไม่ชอบการตัดสินใจของ ดันโซ และ ซารุโทบิ พวกเขามองผิดทาง
ในโลกของ นารูโตะ มีคนที่แข็งแกร่งและน่าหวาดกลัว อยู่เป็นจำนวนมาก
ซารุโทบิ ควรจะกลัว มาดาระ ที่กำลังวางแผนจะทำลายทั้งโลก หรือ คางูยะ ที่มีแผนการที่จะกลับมาปกครองโลกนี้อีกครั้ง!
เมื่อเผชิญกับคนเหล่านี้ ต่อให้เป็น ผู้บัญชาการหน่วยลับ , โฮคาเงะ หรือแม้แต่คนทั้งโลก ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย
“เอาละ เราไม่ต้องสวมหน้ากากนี้อีกแล้วสินะ”
ไนโตะ ถอดหน้ากากออก จากนั้นเขาก็ทำลายมันทิ้งด้วยพลังสั่นสะเทือนของเขา และเขาก็ถอดเสื้อคลุมของเขาออก ขณะที่ทุกคนต่างพากันตกใจกันยกใหญ่
จากนั้น ไนโตะ ก็เข้าร่วมกองทัพในทันที
ไนโตะ เห็นคนที่คุ้นเคยมากมายรอบตัวเขา บางคนก็เป็นนักเรียน แต่ มินาโตะ ก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้
“เฮ้ ไนโตะ!”
มีคนคนนึงจำ ไนโตะ ได้ในทันทีที่เห็นและทักทายเขา
ไนโตะ ทำเป็นไม่ได้ยิน แต่เขาก็เรียกซ้ำและพยักหน้าให้เล็กน้อย
“เฮ้”
คนที่ทักทาย ไนโตะ คือน้องชายของ ซึนาเดะ
เขาคือ นาวากิ นั้นเอง
“เฮ้! นายก็มาเข้าร่วมกองทัพด้วยเหรอเนี่ย นายไม่กลัวเหรอ?”
นาวากิ เดินเขาไปหา ไนโตะ ด้วยรอยยิ้มที่กว้างมากบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็เข้าไปกอด ไนโตะ แล้วพูดว่า “แน่นอนว่าไม่มีทางที่ อัจฉริยะของโคโนฮะ จะไม่มาอยู่ที่นี่สินะ”
ปากของ ไนโตะ กระตุกเล็กน้อย ไม่แปลกใจเลยที่ ซึนาเดะ จะสนใจ นารูโตะ เพราะ ทั้ง นารูโตะ และ นาวากิ นั้นดูเหมือนกันมาก
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ นาวากิ ถูกฆ่าตายตั้งแต่ตอนที่เขาอายุยังน้อยมาก
นาวากิ สังเกตท่าทางของ ไนโตะ เขาคิดว่า ไนโตะ กำลังกลัวอยู่ เขาจึงยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ถ้านายกลัว นายตามฉันมาได้นะ เพราะฉันจะต้องเป็น โฮคาเงะ ฉันจะไม่ตายแน่นอน!”
“…”
ไนโตะ รู้สึกเศร้าทันที เมื่อเขาได้ยินประโยคนี้
หวังว่านี้จะไม่ใช่คำพูดสุดท้ายของนายนะ…
นาวากิ ต้องการพูดบางอย่างเพิ่มเติม แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอื่น
“ทุกคน ฟังฉันหน่อยได้ไหม?!”
เป็นเสียงตะโกนที่ดังมาก และในชั่วครู่หนึ่งฝูงชนก็เงียบและทุกคนก็มองไปข้างหน้าในทันที
1 ใน 3 นินจาในตำนานในอนาตค จิไรยะ กำลังเดินขึ้นไปแท่นสูงต่อหน้าพวกเขา
“ดูสิ นั่นท่านจิไรยะ…”
จิไรยะ แสดงท่าทีที่จริงจัง ในขณะที่เขาเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปยังแท่นนั้น
แต่น่าเสียดายที่เขาเหยียบพลาดบันไดขึ้นสุดท้ายและสะดุด
ตุ๊บ!!
จิไรยะ หัวคะมำจากนั้นเขาก็หมุนตัวกลางอากาศและลงจอดบนพื้นอย่างราบรื่น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาสะดุดในตอนท้าย
ไนโตะ “…”
นาวากิ “…”
ฝูงชนทั้งหมด “…”
จิไรยะ รู้สึกเขินมา และความเท่ก็พังลงทันที
นี้มันข้อผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย!
จิไรยะ ไอแก้เขิน และเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่จริงจัง
“เอาละ ต่อไปฉันจะประกาศชื่อหัวหน้าของทุกหน่วยให้ทราบ”
หน่วยงานเหล่านี้ต่างจากในการ์ตูนอย่างสิ้นเชิง
กองทัพของโคโนฮะ ที่ก่อตั้งขึ้นมานี้ มีจำนวนนินจาทั้งหมด 1,000 คน พวกเขาถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม จากนั้นพวกเขาก็เลือกหัวหน้าหน่วยของแต่ละหน่วย
หน่วยเหล่านี้เป็นเพียงหน่วยชั่วคราวเพื่อใช้ในสงครามเท่านั้น
ฮาตาเคะ ซาคุโมะ รับหน้าที่เป็น ผู้บัญชาการกองพันทั้งหมด แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมทั้งกองทัพได้ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องแบ่งกองกำลังออกเป็นส่วน ๆ ให้สามารถตั้งหัวหน้าหน่วยเพื่อช่วยเขาควบคุมกองทัพทั้งหมดได้ง่ายขึ้น
ในไม่ช้าพวกเขาก็ประกาศชื่อของหัวหน้าหน่วย 2 คนแรก และพวกเขาทั้ง 2 ก็มีชื่อเสียงมาก
ตามด้วยชื่อของหัวหน้าหน่วยที่ 3
นั่นก็คือ ไนโตะ !
“เฮ้ ไนโตะ…ฉันไม่ได้ยินชื่อนี้มานาน แต่เขาก็ได้กลายเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 เนี่ยนะ !”
ในตอนแรก จิไรยะ รู้สึกคุ้น ๆ กับชื่อนี้ แต่เมื่อเขาเห็นหน้า ไนโตะ เขาก็จำได้ทันทีว่า คนคนนี้คือคนที่ต่อสู้กับ มินาโตะ และสามารถเอาชนะ มินาโตะ ได้เมื่อปีก่อน จิไรยะ ไม่มีทางลืมใบหน้าของ ไนโตะ ได้อย่างแน่นอน
แม้ว่า จิไรยะ จะเป็นคนที่ประกาศว่า ไนโตะ เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 แต่เขาก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากว่าทำไมพวกถึงเลือกเด็กไม่มีประสบการณ์อย่าง ไนโตะ มาเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นคำสั่งจาก ซาคุโมะ จิไรยะ จึงไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อคิดถึงเรื่องความแข็งแกร่งและความสามารถของ ไนโตะ และวิธีที่เขาสามารถเอาชนะ มินาโตะ มาได้อย่างง่ายดาย ในตอนนี้เขาก็คงจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม แม้ว่า ไนโตะ จะไม่มีประสบการณ์ แต่ จิไรยะ ก็รู้สึกว่า ไนโตะ จะต้องมีความพิเศษบางอย่าง จึงทำให้ ซาคุโมะ ตัดสินใจเลือกเขา
ตอนที่ 125
“เขาคือ…หัวหน้าหน่วยงั้นเหรอ?”
“เขาเป็นแค่เด็กที่เพิ่งเรียนจบมา เขาจะมาเป็นหัวหน้าหน่วยได้ยังไง”
“นี้ คุณไม่รู้เหรอว่าเขาคือ ไนโตะ เขาไม่ได้เพิ่งจบการศึกษา แต่เขาจบการศึกษาตั้งแต่ต้นปีแล้ว และเขาคนนี้ก็คืออัจฉริยะของโคโนฮะ”
“ถึงเขาจะเรียนจบมานานแล้ว แต่ยังไงเขาก็เด็กเกินไปอยู่ดี…เขาไม่สามารถเป็นหัวหน้าได้ จะเอาเขาไปตายเสียเปล่า ๆ!”
ทันทีที่ จิไรยะ ประกาศชื่อของ ไนโตะ ออกไป ทันใดนั้นทั้งสนามก็เกิดเสียงดังขึ้น คนส่วนใหญ่ต่างตกใจและมึนงงกับการตัดสินใจครั้งนี้
นาวากิ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไนโตะ ก็ตกใจด้วยเช่นกัน
ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกอายนิดหน่อย เพราะเขาเพิ่งประกาศไว้ว่าเขาจะเป็น โฮคาเงะ แต่ตอนนี้ ไนโตะ ก็ได้เป็นหัวหน้าหน่วยแซงหน้าเขาไปแล้ว
แต่เขาก็ไม่คิดอะไรมาก
“อะแฮม ไนโตะ…นายแน่ใจไหมว่านายทำได้?”
นาวากิ ดูกังวลเป็นอย่างมาก
ไนโตะ ขี้เกียจอธิบายเกี่ยวกับความสงสัยของผู้คนรอบ ๆ ตัวเขา เขามองไปที่ นาวากิ และพูดว่า “ถ้านายคิดว่านายทำได้ดีกว่าฉัน นายมาทำแทนฉันได้นะ”
“อะ…อะไรนะ” นาวากิ ดูสับสนมาก เขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะยอมแพ้ง่ายขนาดนี้
นาวากิ เงียบไปสักพัก
“ถ้านายไม่อยากเป็น งั้นฉันก็…”
เขาอยากที่จะยืดอกอย่างภาคภูมิใจและอยากประกาศตัวเป็นหัวหน้าคนใหม่ แต่หัวใจของเขาจมลงด้วยความกลัวจนเขาไม่สามารถทำได้
“ทุกคนเงียบ!”
ด้วยเสียงตะโกนเพียงครั้งเดียว ทำให้นินจาทั้งหมดเงียบเสียงลงทันที
จิไรยะ พูดอย่างใจเย็น “นี้เป็นคำสั่งอย่างเป็นทางการ และทุกคนต้องต้องเชื่อฟังพวกเขา!”
มันแปลกมากที่คนระดับสูงแต่งตั้งให้ ไนโตะ เป็น หัวหน้าหน่วยคนที่ 3 และถ้าเปลี่ยนเป็น นาวากิ ที่เพิ่งเรียนจบ มันก็จะยิ่งลงไปอีก!
ในไม่ช้า กองทหารนินจาทั้งหมด ก็เรียงแถวและจัดกลุ่มกัน โดยมี ไนโตะ ยืนอยู่ด้านหน้า
ไนโตะ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะพูดถ้อยคำปลุกใจใด ๆ เขาหันหลังกลับและออกจากค่ายทันที จากนั้นกลุ่มนินจากลุ่มนี้ก็ตามเขาไป
จิไรยะ เฝ้าดูการจากไปของ ไนโตะ และกองทหารของเขา เมื่อ จิไรยะ มองดูการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ มันยิ่งทำให้เขาคุ้นเคยขึ้นไปอีก
ทำไมมันรู้สึกคุ้น ๆ แบบนี้?
แต่ จิไรยะ ก็จำไม่ได้
เขาคิดว่า บางทีเขาอาจจะจำการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ มาจากการที่ ไนโตะ ต่อสู้กับ มินาโตะ เมื่อปีที่แล้วก็เป็นได้
…….
แคว้นแห่งฝน
เมฆปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าและฝนก็ยังคงตกลงมาเช่นเคย
แม้มันจะตกมาเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่สามารถล้างคราบเลือดที่นองอยู่ทั่วทั้งสนามรบได้
แรงกดดันสูงมากและบรรยากาศก็ตรึงเครียดเป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะนินจาต่างเผยให้เห็นสัญชาตญาณการฆ่าและจิตสังหารก็กระจายอยู่ทั่วทุกแห่ง!
นี้ไม่ใช่จากนินจาเพียงคนเดียว แต่มันคือจิตสังหารของนินจาทั้งหมดที่อยู่ในที่แห่งนี้
ที่นี่คือสนามรบของสงครามระหว่าง หมู่บ้านโคโนฮะ และ หมู่บ้านอิวะ
ในขณะนี้มี นินจา อย่างน้อยหลายร้อยคนที่เข้าร่วมในการต่อสู้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็เป็นแค่ เกะนิน และ จูนิน เท่านั้น
กองกำลังเหล่านี้ มีไว้เพื่อเป็นแค่เบี้ยในกระดาษเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อจำนวนกองทหารอิวะ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ฝ่ายของ โคโนฮะ ก็จำเป็นต้องล่าถอยและพวกเขาก็เริ่มพ่ายแพ้
ท้ายที่สุด จูนิน 100 คนของ โคโนฮะ ก็ไม่สามารถต่อสู้กับกองทัพจำนวนมากของอิวะได้
นินจาโคโนฮะ ยังคงลงสู่สนามรบเรื่อย ๆ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เขาปะทะกับศัตรูโดยตรง พวกเขาแค่สนับสนุนทีมจากด้านหลังเท่านั้น
นินจาฝั่ง โคโนฮะ แต่ละคนดูแตกต่างกัน
โจนิน มีเครื่องแบบที่แตกต่างไปจาก จูนิน
เพราะ นินจาระดับ จูนิน ไม่ได้สวมชุดพิเศษใด ๆ พวกเขามีเพียงแค่ผ้าคาดหน้าผากเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีนินจาบางคนที่สวมหน้ากาก ยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านข้างของสนามรบ
อันที่จริงการต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้น
หมู่บ้านโคโนฮะ ไม่ใช่ฝ่ายเดียวที่มี หน่วยลับ หมู่บ้านอิวะ ก็มี หน่วยลับ ด้วยเช่นกัน และทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็กำลังเผชิญหน้ากันอยู่
สำหรับ ซาคุโมะ เขาไม่ได้ปรากฏตัวออกมาในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยลับ แต่เขาปรากฏตัวออกมาในฐานะ ผู้บัญชาการกองทัพโคโนฮะ เขายืนอยู่ข้างหลัง และหันหน้าไปทางกองทัพของอิวะ
และข้าง ๆ เขาก็มีหน่วยลับพิเศษคนหนึ่งยืนอยู่ เขาก็คือ โอโรจิมารุ นั้นเอง
โอโนกิ ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง เขามองไปที่ ซาคุโมะ และหน่วยลับพิเศษคนนั้น ด้วยสงสัย เขาคิดอยู่อย่างเดียวว่า หน่วยลับคนนั้นหรือ ที่ทำลายแผนการของเขาทั้งหมดลงได้
“เจ้าต้องระวังตัวให้ดีในการต่อสู้กับ หน่วยลับของโคโนฮะ”
เขามองไปที่ โอโรจิมารุ และดวงตาของเขาก็เปิดเผยความกังวลออกมา จากนั้นเขาก็มองกลับไปที่กองทัพของเขา
“มีนินจาที่แข็งแกร่งอยู่ใน หน่วยลับ ของมัน มันสามารถทำลายหน่วยของเราได้เป็นจำนวนมาก และก็ทำลายหน่วยพิเศษของเราได้อีกด้วย”
หลังจากที่ โอโนกิ พูดอย่างนั้น เขาก็จ้องมองไปที่ ซาคุโมะ และ โอโรจิมารุ
ซาคุโมะ ยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบ แต่ใจของเขาก็จดจ่อเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมของเขา
ซาคุโมะ กำลังรอเวลาที่เหมาะสมที่จะแสดงความสามารถของเขา ที่ทำให้เขาได้รับฉายาว่า เขี้ยวขาวแห่งโคโนฮะ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องเตือนทุกคนว่าให้ตื่นตัวไว้ตลอดเวลา เพราะทุกคนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ทันใดนั้นก็มี นินจาสอดแนม คนหนึ่ง มารายงานสถานการณ์กับ ซาคุโมะ “ท่านซาคุโมะ กองกำลังกลุ่มต่อไปเดินทางมาถึงแล้วครับ”
ซาคุโมะ มองดูเขาและพูดว่า “สั่งให้นินจาทั้งหมดในสนามรบตอนนี้ ล่าถอย แล้วล่อให้ศัตรูรุกคืบหน้าเราเข้ามา”
“รับทราบ!”
อีกฝั่งหนึ่ง ฝ่ายอิวะ ก็มีนินจาอิวะ จำนวนมากอยู่ในสนามรบ
ทันใดนั้น หน่วยสอดแนม ก็มารายงายสถานการณ์กับ โอโนกิ
“ท่านซึจิคาเงะ กองทัพของโคโนฮะ มาสมทบอีกเพิ่มอีกแล้วครับ”
“ดูเหมือนว่าพวก โคโนฮะ ต้องการจบการต่อสู้อย่างรวดเร็วสินะ…รายงานคำสั่งออกไป ให้พวกเรารุกคืบพวกมันให้มากขึ้น”
“รับทราบ!”
หลังจากที่ โอโนกิ ส่ายหัวแล้วเขาก็มองกลับไปที่ ซาคุโมะ และ โอโรจิมารุ ต่อไป
การต่อสู้เล็ก ๆ นี้ไม่สำคัญต่อทิศทางของสงครามเลย แม้ว่าในสนามรบจะมีนินจาต่อสู้กันอยู่นับร้อย แต่มันก็ยังเป็นแค่จำนวนน้อยเมื่อเทียบกับกองทัพที่เหลือทั้งหมด
โอโนกิ ไม่สนใจแม้แต่ทีมต่อไปที่เขาส่งเข้าสู่สนามรบ
คนเดียวที่ โอโนกิ สนใจคือ ซาคุโมะ และหน่วยลับพิเศษของเขา
สำหรับ สนามรบที่มี จูนิน ต่อสู้กันอยู่นั้น เป็นการต่อสู้ที่ไม่ต้องให้ความสนใจมากนัก มันเป็นเพียงการเสียสละที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการ มันเป็นแค่การต่อสู้เพื่อลดจำนวนของศัตรูลงในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ไม่มีทางที่สงครามจะจบลงด้วยการต่อสู้เล็ก ๆ แค่นี้
ในที่สุด กองทัพแรกของโคโนฮะ ก็ล่าถอย และ กองทัพใหม่ก็เข้ามาถึงใจกลางสนามรบ
ในเวลาเดียวกัน ไนโตะ ก็ได้เข้าร่วมการต่อสู้ในที่สุด
“ในที่สุด มันก็เริ่มขึ้นแล้ว”
ไนโตะ พูดออกมาเบา ๆ เมื่อเขาก้าวเท้าลงเหยียบบนสนามรบ ขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่นและมองไปยังฝ่ายอิวะ
นาวากิ ยืนอยู่ข้าง ๆ ไนโตะ เขากลืนน้ำลายด้วยความกลัว แต่เขาก็ไม่ต้องการเปิดเผยมันออกมา เขามองไปที่ ไนโตะ และต้องการถามว่า ไนโตะ กลัวบ้างไหม
แต่ทันใดนั้น เมื่อ นาวากิ รู้ตัวอีกที ไนโตะ ก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว เขาพยายามมองหา ไนโตะ แล้วเขาก็มองไปข้างหน้าและเห็น ไนโตะ วิ่งตรงไปยัง กองทัพของอิวะ อย่างรวดเร็ว
จิไรยะ ก็ลงไปในสนามรบเช่นกัน และทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็น ไนโตะ เขาก็พูดออกมาว่า “เจ้านั้นมันทำอะไรของมัน? อยากตายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ซาคุโมะ ที่กำลังดูสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ได้แต่ยิ้มออกมา
โอโรจิมารุ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ซาคุโมะ เขาก็จ้องมองดู ไนโตะ ตั่งแต่ก้าวแรกที่ ไนโตะ ลงสู่สนามรบเช่นกัน จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาเหมือนปีศาจ
ในที่สุด…สงคราม ก็เริ่มต้น!
—— End of Season 1 : สิ้นสุดปฐมบท ——
ตอนที่ 126
นินจาอิวะ 1,000 คน ปะทะ นินจาโคโนฮะ 1,000 คน พวกเขาดูเหมือนฝูงชนจำนวนมากในสนามรบ พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด
นินจาหลายร้อยคนได้ตายไปแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ทั้ง 2 ฝั่ง ก็มีกองสนับสนุนอยู่ประมาน 2 กองร้อย พวกเขาพร้อมที่จะเข้าไปเสริมในสนามรบในทันที
กองสนับสนุน ไม่ได้เข้าไปต่อสู้ในทันที แต่พวกเขารอให้พวกของเขาเสียเปรียบซะก่อนจึงค่อยเข้าไปช่วย
แต่ก็นินจาคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำแบบนั้น นินจาโคโนฮะ ที่รีบลงไปในสนามรบทันทีที่เขามาถึง
มีนินจาหลายร้อยคนกำลังรอดูสถานการณ์ แต่พวกเขาก็เห็น ไนโตะ วิ่งลงไปในสนามรบทันที
และเขาก็คือที่สามารถสั่งการหน่วยได้!
“เขาจะรีบเข้าไปทำไม?”
“เขาอยากตายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เขาคิดผิด เพราะเขาไม่มีประสบการณ์ยังไงละ ใคร ๆ ก็รู้ว่าไม่ควรเข้าไปในสนามรบที่มีสถานการณ์แบบนี้!”
นินจาโคโนฮะ ที่มีประสบการณ์บางคน ดูถูก ไนโตะ
พวกเขาบางคนแสดงความสงสารออกมาเล็กน้อย ในมุมมองของพวกเขา ไม่มีทางที่ ไนโตะ จะรอดชีวิตกลับมาได้ เพราะเขาแยกตัวออกจากหน่วยของเขา
ฝั่ง นินจาอิวะ ที่กำลังต่อสู้อยู่ พวกเขาก็เห็นสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ
พวกเขาตกใจเล็กน้อย จากนั้นพวกเขาก็แสดงท่าทางเยาะเย้ยออกมา
“ไอ่เด็กนั้นมันกล้าฝ่าเข้ามาหาเรา มันคิดว่ามันเป็นใคร?”
“มันคิดว่ามันเป็น ผู้บัญชาการหน่วยลับ อย่างนั้นเหรอ?!”
“ไปกันเถอะ ถ้ามันอยากตายขนาดนั้น เราก็ไปสนองให้มันกันเถอะ!”
จากนั้น กลุ่มนินจาอิวะ กลุ่มหนึ่งก็เคลื่อนที่ไปหา ไนโตะ อย่างรวดเร็ว
“คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิง!!”
“คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิง!!”
ตู้ม!!
ในวินาทีต่อมา พวกเขาก็เปิดฉากการโจมตีด้วย คาถานินจา เดียวกัน แต่มันก็เป็นเพียงแค่ คาถาไฟ ระดับ C เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็รวมตัวกันกลายเป็นลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่!
พื้นดินที่เต็มไปด้วยโคลนเกือบจะถูกเผาด้วยความร้อนของคาถานี้ และฝนที่กำลังตกลงมาก็ระเหยไปทันทีที่สัมผัสกับเปลวไฟ
แต่มันยังไม่หมดแค่นี้!
หลังจากที่พวกเขาปล่อย คาถาไฟ ออกไปแล้ว พวกเขาก็เริ่มประสานอินอีกครั้งและใช้คาถาอื่นต่อทันที
“คาถาลม : กระแสวายุ!!”
ฟู้ว!!
นินจาอิวะ 12 คน ใช้คาถาลมเพื่อเพิ่มพลังให้คาถาลูกบอลเพลิง
“แย่แล้ว!”
“เขาเสร็จแน่!”
เมื่อเห็นว่า นินจาอิวะ สามารถใช้คาถาที่สมบูรณ์เช่นนี้ได้สำเร็จ มันทำให้ นินจาโคโนฮะ บางคนถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่ นินจาโคโนฮะ คนอื่น ๆ ก็ต้องการเข้าไปช่วย ไนโตะ ดังนั้นพวกเขาจึงประสานอินขึ้นมา
แต่ในขณะนั้น พวกเขาก็เห็น ไนโตะ วิ่งตรงเข้าหา ลูกบอลเพลิงยักษ์ลูกนั้น พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากตะโกนออกไปว่า “เดี๋ยวก่อน ทำอะไรของเธอนะ!”
พวกเขาคิดว่า หาก ไนโตะ ถูกการโจมตีระดับนี้เข้าไป ไนโตะ ต้องตายอย่างแน่นอน
“เขาจะฆ่าตัวตาย เร็วเข้า รีบป้องกันการโจมตีนี้ก่อนที่เขาจะไปถึงมัน!”
“เร็ว! ก่อนที่มันจะสายเกินไป!”
เมื่อมองดูลูกไฟยักษ์ลูกนั้น กำลังพุ่งตรงมาหา ไนโตะ นินจาโคโนฮะ ทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้น ก็รวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็วและพยายามหยุดคาถานั้นให้ได้
“คาถาน้ำ : คลื่นคลั่ง!!”
ซู้ม!!!!
พวกเขาคิดว่า ไนโตะ จะต้องตายอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะป้องกันคาถานั้นไม่ให้มาถึงพวกเขา
“เขาตายอยู่แล้ว เร็วเข้า รีบป้องกันการโจมตีนี้ก่อนที่มันจะมาถึงเรา!”
“เร็ว! ก่อนที่มันจะสายเกินไป!”
เมื่อมองดูลูกไฟยักษ์ลูกนั้น กำลังพุ่งตรงมาหา ไนโตะ นินจาโคโนฮะ ทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้น ก็รวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็วด้านหลังของ ไนโตะ และพยายามหยุดคาถานั้นให้ได้
“คาถาน้ำ : คลื่นคลั่ง!!”
ซู้ม!!!!
เนื่องจากที่นี่เป็น แคว้นแห่งฝน คาถาน้ำ จึงมีพลังมากขั้นในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ดังนั้น คาถาน้ำของพวกเขาจึงรวมตัวกันและกลายเป็นคาถาระดับ A
พลังของคาถานี้จึงแข็งแกร่งขึ้นมาก
นาวากิ ต้องการห้ามพวกเขา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ทำไมพวกคุณทำแบบนี้?”
คลื่นน้ำขนาดใหญ่ กวาดล้างทุกอย่างที่ขวางหน้า และมันก็ไหลตรงไปทาง ลูกบอลไฟยักษ์
นาวากิ กำหมัดของเขาไว้แน่น และถอนหายใจ เขาอยากจะเข้าไปช่วย ไนโตะ ที่ถูกขังอยู่ตรงกลางระหว่างคาถาที่รุนแรงทั้ง 2 คนถานี้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไปวิ่งและไปหยุดอยู่ตรงกลางด้วยท่าทางที่สงบนิ่ง ซึ่งทำให้ทุกคนต้องตะลึง
“ของพวกนี้…มันไร้ประโยชน์”
ไนโตะ ส่ายหัว จากนั้นเขาก็หันข้างและไขว้แขนไว้ที่หน้าอก ทันใดนั้นเขาก็กางแขนออกและระเบิดพลังออกมาจากมือทั้ง 2 ข้าง
“คาถาแผ่นดินไหว : กระแทกพิภพ!!”
เปี้ยง!!
อากาศระเบิดออกอย่างรุนแรง จากทั้ง 2 ข้างของ ไนโตะ
ทันใดนั้นรอยร้าวเหล่านั้นก็กระจายออกไปในทุกทิศทาง
ตู้ม!!!
การปะทะกันของคาถาทั้ง 2 กับพลังของ ไนโตะ นั้นรุนแรงมาก จนทำให้พื้นดินใต้เท้าของ ไนโตะ แตกออก
คาถาไฟ และ คาถาน้ำ ทั้ง 2 หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศห่างจากหมัดของ ไนโตะ และในเวลาต่อมา พวกมันทั้ง 2 ก็ระเบิดออกและถูกทำลาย!!
ทันใดนั้น นินจาทั้งหมด แสดงออกถึงความตกใจเป็นย่างมาก!
“อะไรกัน?!”
“เขาเพิ่งทำลายคาถาพวกนั้นงั้นเหรอ?!”
“ล้อเล่นรึเปล่า?! พลังของเขามันคืออะไร?!”
ฝ่ายอิวะ ทุกคน รวมถึง โอโนกิ ทำอะไรไม่ได้นอกจากตะโกนออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
ฝ่ายโคโนฮะ บางคนอย่าง โอโรจิมารุ และ ซาคุโมะ ยังคงดูสงบราวกับพวกเขารู้ผลลัพธ์นี้อยู่แล้ว ในทางกลับกัน จิไรยะ และคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
“เป็นไปไม่ได้!! เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?!”
จิไรยะ เป็นคนแรกที่ร้องตะโกนออกมา จนเขาเกือบเจ็บคอ
จิไรยะ เคยเห็นภาพนี้มาแล้ว ไนโตะ เคยใช่วิชาเดียวกันนี้กับ มินาโตะ เมื่อ 1 ปีก่อน แต่มันไม่สามารถเทียบกันได้กับพลังของเขาในตอนนี้ พลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตอนนี้ มันเพียงพอแล้วที่จะทำลาย คาถานินจาระดับ A ได้พร้อมทันทีเดียว 2 คาถา
ไม่น่าเชื่อ!!
จิไรยะ ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น และในเวลาต่อมา ความคิดหนึ่งก็เข้ามาในหัวของเขา ทำให้เจาตกตะลึงมากขึ้น
เขาทำอะไรไม่ถูก เขาหันไปมองที่ ซาคุโมะ
ซาคุโมะ สังเกตเห็นการแสดงออกของ จิไรยะ และเขาก็รู้ถึงสิ่งที่ จิไรยะ กำลังคิดอยู่ในทันที ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมาและพยักหน้าให้กับ จิไรยะ
ไม่จำเป็นที่จะต้องซ่อนตัวตนของ ไนโตะ อีกต่อไป หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ชื่อของ ไนโตะ จะดังไปทั่วโลก!
“เป็นเขาจริงเหรอเนี่ย?!”
เมื่อเห็น ซาคุโมะ พยักหน้า จิไรยะ ก็เหมือนตกอยู่ในความฝัน หน่วยลับ ที่เขาสงสัยตัวตนมาตลอดเวลา หน่วยลับที่มีชื่อรหัสว่า ยูจิน จริง ๆ แล้วเขาคือ…ไนโตะ?!
ตอนที่ 127
ตู้ม!!
แรงปะทะทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั้งสนามรบ เปลวไฟและสายน้ำกระจายออกไปทั่ว และตรงกลาง ไนโตะ ยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย
วิสัยทัศน์ของทั้ง ฝ่ายอิวะ และ ฝ่ายโคโนฮะ ถูกปิดกั้นด้วยการระเบิดของคาถาทั้ง 2 จนพวกเขาไม่สามารถมองเห็น ไนโตะ ได้อย่างชัดเจน
ทั้ง 2 ฝ่าย พวกเขาทั้งหมดพยายามมองหา ไนโตะ
เกิดอะไรขึ้น?!
นาวากิ ได้แต่ขยี้ตา เมื่อเขามองเห็นร่างของ ไนโตะ
เกิดอะไรขึ้น?
ในความสับสนของทุกคน ร่างของ ไนโตะ ก็เริ่มปรากฏให้เห็นอย่างช้า ๆ และพวกเขาต่างก็ตกใจมากเมื่อเห็นท่าทางที่น่ากลัวของ ไนโตะ
อันที่จริงแล้ว ไนโตะ ไม่ใช่คนที่น่ากลัว แต่นี่คือสงคราม!
และเขาก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ!
ตู้ม!!
ทันใดนั้น พื้นดินก็ร้าวออก จากนั้นร่างของ ไนโตะ ก็หายไปจากที่เดิมอย่างรวดเร็วเหมือนไฟกระพริบ และเขาก็พุ่งตรงไปยัง นินจาอิวะ ด้วยความเร็วสูงสุด
ความหวาดกลัวของทุกคนแสดงออกมาอย่างชัดเจน
ท้ายที่สุด พวกเขา ก็ไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้ สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นก็คือ ไนโตะ หายไปจากที่เดิมและไปโผล่อยู่อีกที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว!
สิ่งเดียวที่ตาเปล่ามองเห็นก็คือ ภาพของ ไนโตะ ที่กะพริบเหมือนแสงไฟ ไปโผล่อยู่หลาย ๆ ที่ อย่างรวดเร็ว
มีเพียง โจนิน เท่านั้น ที่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้ และรับรู้ได้ว่า ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถประมาทได้แม้แต่วินาทีเดียว
สิ่งนี้ทำให้กำลังใจของ กองทัพโคโนฮะ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นสิ่งที่ ไนโตะ ทำ พวกเขาก็พากันโห่ร้องกันอย่างกึกก้อง และ นินจาโคโนฮะ ทั้งหมด ก็วิ่งตาม ไนโตะ เข้าสู่สนามรบในทันที
อีกด้านหนึ่ง นินจาอิวะ กลัวจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
เมื่อมองดูภาพนี้จากระยะไกล ผู้บัญชาการหน่วยลับของอิวะ ก็แค้นเป็นอย่างมาก เขาต้องการเข้าร่วมการต่อสู้และจัดการกับ ไนโตะ ด้วยตัวเอง แต่เขาก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและออกคำสั่งใหม่ออกไป
นินจาอิวะ จำนวนมาก ได้รับคำสั่งใหม่ ให้จัดการกับเป้าหมายนั้นก็คือ ไนโตะ เมื่อพวกเขาได้รับคำสั่ง พวกเขาก็วิ่งตรงไปหา ไนโตะ ในทันที พวกเขาต้องจัดการกับ ไนโตะ ให้ได้ก่อน พวกเขาจึงจะมีสิทธิที่จะชนะในสงครามครั้งนี้
หลังจากที่เขาต้องส่งนินจาของเขาลงสู่สนามรบมากขึ้น โอโนกิ ก็รู้สึกไม่สบายใจและความรู้สึกเหล่านี้ก็ปรากฏบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
เมื่อ โอโนกิ เห็น ไนโตะ สามารถทำลายคาถาทั้ง 2 ได้อย่างง่ายดาย เขาก็คิดว่า ไนโตะ อาจจะเป็นคนที่ทำลายแผนของเขาก็เป็นได้ แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจในเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงยืนมองและสังเกตการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ต่อไป
ในสนามรบ
ไนโตะ พุ่งเข้าหา นินจาอิวะ อย่างรวดเร็ว และทันใดนั้น นินจาอิวะ ก็ล้มลงทีละคน
ความสยองขวัญปรากฏชัดบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาไม่เห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ เลยแม้แต่นิดเดียว!
พวกเขาพยายามที่จะป้องกันและสกัดกั้น แต่เมื่อพวกเขาถูกจับได้ พวกเขาก็จบลงบนพื้น
ตู้ม!!
ในไม่ช้า ไนโตะ ก็เข้าถึง นินจาอิวะ อีกคน และเมื่อ ไนโตะ แตะตัวเขาคนนั้น ร่างกายของเขาก็ระเบิดออกและกลายเป็นเศษลงไปกองอยู่กับพื้น ในเดียวกัน เลือดของเขาก็กระเด็นไปทั่วทุกที่
นี่ไม่ใช่คนแรกที่ตายด้วยฝีมือของ ไนโตะ และแน่นอน มันจะไม่ใช่คนสุดท้าย!
“ฆ่ามัน!”
เมื่อเห็นเลือดของพวกพ้อง นินจาอิวะ ที่เห็นเหตุการณ์ก็กัดฝันและกำหมัดไว้แน่นด้วยความโกรธ จากนั้นพวกเขาก็วิ่งเข้าไปหา ไนโตะ แม้ว่าพวกเขาจะกลัว แต่นี้คือสงครามและพวกเขาก็มีจำนวนมากกว่า
“มันมีแค่คนเดียวเท่านั้น”
“กองสนับสนุนเรากำลังจะมา อย่าไปกลัวมัน!”
ฟิ้ว!!
ในไม่ช้า ดาวกระจาย , คุไน และ อาวุธนินจาทุกประเภท ก็ถูกข้างตรงไปยัง ไนโตะ
แม้ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจำนวนมากขนาดนี้ แต่ ไนโตะ ก็ยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ต่อยหมัดออกไป และพลังสั่นสะเทือนของเขาก็ระเบิดออก!
ตู้ม!!
อากาศระเบิดออกอย่างแรง แสงสีขาวปกคลุมหมัดของ ไนโตะ อย่างน่ากลัว รอยแตกกระจายไปทั่วราวกับว่าอากาศกลายเป็นกระจากที่กำลังแตกออก
รอยแตกเหล่านี้แพร่กระจายออกไปไกล อาวุธจำนวนมากที่ นินจาอิวะ โจมตีมาก็หยุดอยู่กลางอากาศ จากนั้นพวกมันก็เริ่มสั่นอย่างหนัก และในที่สุดพวกมันก็กลายเป็นผง!
แรงสั่นสะเทือน ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น แต่มันก็ยังส่งผลกระทบออกไปทั่วทิศทาง
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!!
ทันใดนั้น นินจาอิวะ หลายคนที่อยู่แถวนั้นและโดนการโจมตีของ ไนโตะ ร่างกายของพวกเขาก็ระเบิดออกเหมือนมะเขือเทศโดนบีบ
เลือดกระเด็นออกไปทุกที่!
เป็นภาพที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก!
แม้แต่ นินจาอิวะ ที่อยู่ห่างออกไปก็ไม่รอดจากการโจมตีนี้ ทันใดนั้น พลังสั่นสะเทือน นั้น ก็มาถึงพวกเขา จากนั้นกระดูกของพวกเขาก็เริ่มแตกในทันทีและทุกคนก็ล้มลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด!
ในเวลาเพียงแค่วินาทีเดียว นินจาอิวะ หลาย 10 คน ก็ถูกสังหารโดย ไนโตะ
ทันใดนั้น ทั่วทั้งสนามรบก็เกิดความเงียบในทันที
ทุกคนรู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อที่เย็นบนในหน้าของพวกเขาเมื่อเห็นภาพนี้ และหัวใจของพวกเขาก็จมลงสู่ความกลัว แม้กระทั่ง นินจา ที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับศัตรูของเขาก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหว ไม่ใช่แค่กับ นินจาอิวะ เท่านั้น แต่ นินจาโคโนฮะ ก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน
การโจมตีเพียง 1 ครั้ง สามารถทำลายการโจมตีของ นินจา 100 คนได้อย่างง่ายดาย
ช่างเป็นภาพที่น่าตกใจ!
ไนโตะ จัดการหยุดอาวุธเหล่านั้นได้ทั้งหมดและเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นฝุ่น พวกเขาเกิดความกลัวขึ้นมาในทันที!
“อะไรกันวะเนี่ย พลังนี้มันอะไรกัน!!”
“พลังปีศาจนี้มันอะไรกัน? เขาไม่ใช่คนแน่ ๆ !!”
เหงื่อเริ่มไหลจากหน้าผากของพวกเขาไปที่แก้มและไหลลงไปที่คาง จากนั้นก็หยดลงบนพื้น
“บ้าเอ้ย!!”
“เข้าไปให้เร็วกว่านี้!!”
หลังจากที่พวกเขาได้รับคำสั่งจาก โอโนกิ นินจาอิวะกลุ่มใหม่หลายคน ก็รีบวิ่งเข้าสู่สนามรบ ทันทีที่พวกเขาเห็นว่าพวกพ้องกำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว จากนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกไป
“หลีกไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเรา เราจะจัดการเขาเอง!”
นินจาอิวะ เหล่านี้แสดงจิตสังหารออกมาอย่างชัดเจน
เมื่อหน่วยสนับสนุนมาถึงและวิ่งตรงเข้าหา ไนโตะ นินจาอิวะ ที่กำลังตกใจกับพลังของ ไนโตะ ก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ตั้งสติได้อีกครั้ง และพวกเขาทั้งหมดก็วิ่งเข้าหา นินจาโคโนฮะ ในทันที
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเห็นสิ่งที่ ไนโตะ ทำ นินจาโคโนฮะ ก็มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นและรีบกลับไปต่อสู้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“ฆ่าพวกมันให้หมด!!!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ฝ่ายอิวะ แต่ ฝ่ายโคโนฮะ ก็ไม่กลัวอีกต่อไป เพราะหลังจากที่พวกเขาเห็นว่า ไนโตะ สามารถฆ่าศัตรูได้อย่างง่ายดาย พวกเขาจึงรู้ว่าฝ่ายของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าฝ่ายของศัตรูอย่างชัดเจน
ในไม่ช้า ทั้ง 2 ฝ่ายก็ปะทะกันอีกครั้ง
ถึงอย่างนั้นก็ยังมี นินจาโคโนฮะ บางคน อย่าง นาวากิ ที่ยังคงมองไปที่ ไนโตะ ด้วยความงุนงง
ไนโตะ เพิ่งฆ่า นินจา หลายคนได้ด้วยตัวเอง!
พวกเขาอยู่ข้างเดียวกับ ไนโตะ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเทียบกับ ไนโตะ ได้เลย และไม่มีทางที่พวกเขาจะแข็งแกร่งเท่า ไนโตะ ได้อย่างแน่นอน และพวกเขาก็รู้สึกสบายใจที่ ไนโตะ เป็นพวกของพวกเขา
เพราะ ไนโตะ กลายเป็นคนอันตรายไปแล้วจริง ๆ!
ตอนที่ 128
ไกลออกไป
ฝ่ายโคโนฮะ ตกใจมากเมื่อเห็นการระเบิดพลังของ ไนโตะ แต่พวกเขาก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและเริ่มสังเกตการณ์การต่อสู้อีกครั้ง
ซาคุโมะ ไม่ได้ดูประหลาดใจมากนัก เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ความสามารถของ ไนโตะ และ ซาคุโมะ ก็มั่นใจว่า การที่ ไนโตะ ลงสู่สนามรบ จะทำให้สถานการณ์เป็นต่อเป็นอย่างมาก
โอโรจิมารุ ดูสนใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามรบ เขามองไปที่ จิไรยะ แล้วพูดว่า “นายคิดว่า พวกนินจาอิวะ จะสามารถจัดการกับ ไนโตะ ได้หรือเปล่า?”
ในที่สุด จิไรยะ ก็กลับมาตั้งสติอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า “พวกมันทำไม่ได้หรอก อย่างมากก็คงแค่ถ่วงเวลาได้สักพักแค่นั้นเหละ”
จิไรยะ แน่ใจว่า ไนโตะ แข็งแกร่งกว่า นินจาอิวะ พวกนั้นอย่างแน่นอน!
แต่ถ้าหากเป็นตัวเขาเองที่ต้อง เผชิญหน้ากับ นินจาอิวะ เหล่านั้น เขาคงอาจจะสามารถถ่วงเวลาพวกมันไว้ได้บ้าง แต่เขาจะไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อ โอโรจิมารุ ได้ยินคำตอบของ จิไรยะ เขาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
“ถ่าวเวลาเขางั้นเหรอ?”
“อย่าเอาพลังของตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิ พลังของ ไนโตะ มากกว่านายหลายเท่า พวกมันจะไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้ แม้แต่จะถ่วงเวลาก็ไม่มีทาง และพวกมันก็ไม่มีวันที่จะหยุดเขาได้”
เมื่อ โอโรจิมารุ พูดแบบนี้ออกมา จิไรยะ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เมื่อเขาคิดถึงพลังของ ไนโตะ
ไนโตะ สามารถทำสิ่งที่ไม่คาดคิดได้อย่างง่ายตาย และเขาสามารถฆ่า นินจา ไปได้หลายคนในเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เขาลงสู่สนามรบ แต่คำพูดของ โอโรจิมารุ สามารถแปลความหมายได้อีกแบบหนึ่งว่า ไม่มีใครสามารถหยุดยั้ง ไนโตะ ได้อีกต่อไป!
นี้ทำให้ จิไรยะ ต้องกลับมาคิดถึงสิ่งที่ โอโรจิมารุ พูด ไม่มีใครสามารถทำนายการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้ และไม่มีใครรู้ว่าพลังของ ไนโตะ ในปัจจุบันนั้นมากมายขนาดไหน
จิไรยะ มองกลับไปหา ไนโตะ ที่อยู่ในสนามรบด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก
แต่ความจริงแล้ว คำพูดของ โอโรจิมารุ ก็มาจากความคิดของเขาเพียงเท่านั้น เขาวิเคราะห์จากความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ในตอนที่เขาต่อสู้กับ ไนโตะ เพียงเท่านั้น
บางที ถ้า ไนโตะ เข้ามาต่อสู่ในสงครามครั้งนี้ ก่อนที่เขาจะสำเร็จวิชา เหยียบเวหา นินจาอิวะ ก็อาจจะสามารถหยุดเขาได้ก็เป็นได้ และ ไนโตะ ก็คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการจัดการกับพวกเขา
แต่ตอนนี้ เขาสำเร็จวิชานั้นแล้ว!
ในสนามรบ
ในที่สุด นินจาอิวะ ก็วิ่งมาถึง ไนโตะ
ไนโตะ มองดู นินจาอิวะ กลุ่มนั้นอย่างสงบ แล้วก็เหลือบมองไปที่ โอโนกิ ด้วยดวงตาที่แสดงท่าทางเยาะเย้ย
“โอโนกิ ส่งนินจาของเขามาจัดการเราแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ดูเหมือนว่าเขายังไม่รู้สินะว่าเราเป็นใคร”
“ถ้าอย่างนั้น…ฉันจะทำให้พวกมันลงไปกองอยู่กับพื้นให้หมด!!”
ทันใดนั้น ดวงตาของ ไนโตะ ก็เย็นชาขั้นมา ในขณะที่ท่าทางของเขาดูดุดันมากขึ้นและทันใดนั้น แรงกดดันจากจิตสังหารของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
“เหยียบเวหา!!”
ตู้ม!!
ทันใดนั้น พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของ ไนโตะ ก็ระเบิดออก และในเวลาเดียวกัน ร่างของ ไนโตะ ก็หายไป!
นินจาอิวะ ที่เตรียมตั้งรับการโจมตีครั้งต่อไปของ ไนโตะ ไม่สามารถสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้เลย และการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเป็นความมึนงงในทันที เมื่อ ไนโตะ เคลื่อนที่ไปโผล่ตรงนู้นทีตรงนี้ทีด้วยความเร็วสูงสุดและใกล้พวกเขาเข้ามาเรื่อย ๆ
พวกเขาไม่สามารถมองตามการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้ทัน!
เร็ว!
เร็วมาก!
ไม่ถึง 1 วินาที ไนโตะ ก็มาถึงตัว นินจาอิวะ คนแรก และ ไนโตะ ก็ต่อยเขา
ด้วยความเร็วของ ไนโตะ ทำให้ นินจาอิวะ คนนี้ ไม่สามารถใช้คาถาใด ๆ ได้ทัน และเมื่อเขาเห็น ไนโตะ มาอยู่ต่อหน้าเขา เขาก็ถูกโจมตีไปแล้ว
ตู้ม!!!
พลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ ทำให้เขากระแทกกับพื้นในทันที
และในเวลาไม่ถึง 2 วินาทีต่อมา ไนโตะ ก็ไปถึงตัว นินจาอิวะ อีกคน และต่อยเขาด้วยหมัด!
ตู้ม!!
นินจาคนนั้น ก็ถูกทุบลงพื้นอย่างแรง โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาถูกอะไรกระแทก
เลือดของเขากระเซ็นไปทั่วทุกที่และไหลลงไปรวมกับน้ำโคลน
นินจาอิวะ คนนนั้นไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้หลังจากที่เขาถูกต่อย เขาหายใจเข้าเฮือกสุดท้าย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและความผิดหวัง เขาไม่คิดว่าเขาต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้!
“เฮือกก ๆ!”
นินจาอิวะ ที่เหลือเกือบลืมหายใจสักพักหนึ่งเมื่อเห็นภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ จากนั้นพวกเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวน้อยลงเลย
พลังอันท่วมท้น! ช่างเป็นจุดจบที่น่ากลัวอะไรอะไรเช่นนี้!
ทุกคนที่เห็นภาพนี้ มีสีหน้าตกใจมาก
นาวากิ ไม่สามารถขยับตัวได้หลังจากที่เขาเห็นภาพนี้ จนทำให้เขาเกือบถูกสังหารโดยการโจมตีของคู่ต่อสู้ของเขา
ไนโตะ เพิ่งฆ่า โจนิน ด้วยหมัดของเขาใช้ไหม?!
ผู้คนที่ตกตะลึงมากที่สุดก็คือคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของ ไนโตะ และความสามารถของเขามาก่อน พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครในโลกนี้ที่จะสามารถฆ่าคนได้ด้วยหมัดเดียว
การแสดงออกของ จิไรยะ ในขณะนั้น ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดได้ ปากของเขากระตุกและดวงตาของเขาก็เหมือนกำลังตกอยู่ในความฝัน
หมัดเดียวก็สามารถฆ่าคนได้….ไนโตะ…ขีดจำกัดของคุณคืออะไร?!
แม้แต่ ซาคุโมะ ก็ดูประหลาดใจอยู่พอสมควร เขารู้ว่า ไนโตะ แข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ไม่เคยเห็น ไนโตะ ทำอะไรแบบนี้มาก่อน
และสิ่งที่ ไนโตะ ทำ ก็ทำให้ขารู้สึกประหลาดใจ!
ห่างออกไปในฝ่ายอิวะ โอโนกิ ยืนอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางตกใจและหวาดกลัว ในที่สุด เขาก็เข้าใจและเขาก็ไม่สามารถสงบได้อีกต่อไป
“แน่นอน! เป็นเจ้านั่นนั่นเอง!!”
ก่อนที่ โอโนกิ จะรู้เรื่องนี้ เขารู้สึกคุ้นเคยกับการเคลื่อนที่ของ ไนโตะ แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจ แต่ด้วยพลังแบบนี้และความแปลกประหลาดนี้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน
ในที่สุด โอโนกิ ก็เข้าใจ
คนที่ทำลายแผนการทั้งหมดของเขามาโดยตลอด ก็คือ ไนโตะ และ โคโนฮะ ก็วางกลอุบายหลอกเขาโดยการจงใจให้ ไนโตะ มาเป็นแนวหน้าในสนามรบ เพื่อทำให้เขาประหลาดใจ!!
ใครจะไปคิดว่าคนที่ทำลายแผนการของเขาคือเด็กหนุ่มคนนี้!
เมื่อรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของ ไนโตะ แล้ว โอโนกิ ก็ไม่สามารถสงบได้อีกต่อไป เขาออกคำสั่งกองทัพของเขาโดยไม่ลังเลในทันที
ในที่สุด โอโนกิ ก็ออกคำสั่งไปถึงนินจาที่เก่งที่สุดที่เขามี เขาไม่สามารถมองข้าม ไนโตะ ได้อีกต่อไป หลังจากที่ โอโนกิ ได้เห็นพลังของ ไนโตะ เขาก็มั่นใจว่าพลังของ ไนโตะ ต้องอยู่ในระดับเดียวกับ คาเงะ อย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง ซาคุโมะ ก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกต่อไป และด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม เขาจึงออกคำสั่ง
“สกัด หน่วยสนับสนุนของอิวะ เอาไว้!”
“รับทราบ!!”
ในวินาทีนั้น กองทหารขนาดใหญ่ของโคโนฮะ ก็รีบวิ่งเข้าสู่งสนามรบด้วยความเร็วสูงสุด
สถานการณ์ทั้งหมดในสนามรบเปลี่ยนไปในทันที ผู้บัญชาการหน่วยลับอิวะ ที่คอยสังเกตการณ์อยู่ ก็รายงานสถานการณ์ต่อ โอโนกิ ด้วยความหวดหวั่น
“นินจาหน่วยที่ 1 , หน่วยที่ 2 , หน่วยที่ 3 และ หน่วยที่ 4 ทั้งหมดถูกทำลายโดย นินจาโคโนฮะ หมดแล้วครับ!”
“ออกคำสั่งให้ หน่วยลับ หน่วยที่ 1 , หน่วยที่ 2 และ หน่วยที่ 3 เข้าสู่สนามรบเดี๋ยวนี้ และอนุญาตให้ใช้ วิชาหรือคาถาต้องห้าม ได้ หากจำเป็น!”
ในไม่ช้า ด้วยคำสั่งของ โอโนกิ ไม่ใช่แค่ นินจาอิวะ นับ 1,000 แต่เป็น กองทัพอิวะ ทั้งหมด ก็ถูกส่งไปยังสนามรบในทันที!
เมื่อเห็นว่า ฝ่ายอิวะ ส่งกองทัพของเขาทั้งหมดลงสู่สนามรบ ในบรรดา นินจาระดับสูงของโคโนฮะ ที่ยืนสั่งการอยู่ด้านหลังของสนามรบ ฮาตาเคะ ซาคุโมะ ยังคงยืนนิ่งอย่างสงบนิ่ง แต่จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว เขาหันหลังกลับและออกคำสั่งสุดท้ายแก่ กองทัพโคโนฮะทั้งหมด ที่รอสนับสนุนอยู่ด้านนอกของสนามรบ และกองทัพทั้งหมดของโคโนฮะ ก็บุกเข้าสู่สนามรบในทันที!
ตอนที่ 129
หลังจากที่ ไนโตะ จัดการกับ นินจาอิวะ คนนั้นได้แล้ว เขาก็ดึงหมัดกลับมา แล้วเขาก็จ้องมองไปที่ ฝ่ายอิวะ
นินจาอิวะ เกือบทั้งหมดเกิดความกลัวขึ้นมาเป็นอย่างมาก และ นินจาอิวะ คนที่อยู่ใกล้ที่สุดก็กลัวมากที่สุด แต่เขาก็จะไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย และเขาก็เริ่มประสานอินเพื่อใช้คาถาร่างแยกเงา
แต่มันก็ไร้ประโยชน์!
ตู้ม!!
อีกครั้งเนื่องจากผลกระทบอันทรงพลังจากการใช้ เหยียบเวหา พื้นใต้ฝ่าเท้าของ ไนโตะ แตกออกและในที่สุด ไนโตะ ก็หายตัวไปอยู่ตรงหน้า นินจาอิวะคนที่อยู่ใกล้ที่สุด จากนั้น ไนโตะ ก็ต่อยหมัดออกไป ก่อนที่นินจาอิวะคนนั้น จะประสานอินเสร็จ
ตู้ม!!
ทันใดนั้น หมัดอันทรงพลังของ ไนโตะ ก็ปะทะเข้ากับ นินจาอิวะคนนั้น และกดเขาลงกับพื้น แรงต่อยทำลายพื้นดินเป็นวงกว้าง!
การโจมตีของ ไนโตะ บดขยี้ทั้ง นินจา และ พื้นดิน จนแตกละเอียด
นินจาอิวะ ตายไปอีกคน !
นินจาอิวะคนถัดไป เกิดความกลัวอย่างแท้จริงเมื่อเห็นภาพนี้ ทันใดนั้น เขาก็ประสานอิน จากนั้นเขาก็มุดตัวลงไปใต้ดิน เพื่อซ่อนตัวจาก ไนโตะ
ไนโตะ มองเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ตู้ม!!
ไนโตะ พุ่งไปยังตำแหน่งสุดท้ายที่ นินจาอิวะคนนั้น หายไป และก่อนที่ ไนโตะ จะไปถึงตรงนั้น เขาก็กระโดดขึ้นเหนือพื้น จากนั้นเขาก็ต่อยลงไปบนพื้นดินอย่างแรง
ตู้ม!!!
พื้นดินทั้งหมดถูกทำลายด้วยแรงมหาศาล
แรงกระแทกแผ่ออกจากกำปั้นของ ไนโตะ ลงไปที่พื้น จากนั้นก็แผ่ออกไปทุกทิศทาง ในเวลานี้ การโจมตีของ ไนโตะ ทำให้ทั้งสนามรบสั่นสะเทือน จนทั้งกองทัพของทั้ง 2 ฝ่าย ต้องหยุดดูสิ่งนี้
แม้แต่ นินจาที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ก็ต้องหยุดต่อสู้กัน เมื่อเห็นภาพที่น่าตกใจนี้
ด้วยพลังของ ไนโตะ ทำให้พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ
แน่นอนว่านี้เป็นภาพที่น่าตกใจ!
แม้ว่ามันจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อทุกคนในสนามรบ แต่พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เข้ามาในร่างกายของพวกเขา
นินจาอิวะคนที่ลงไปแอบอยู่ใต้ดิน เขากำลังวางแผนที่จะมุดไปไปด้านหลังของ ไนโตะ และโจมตี ไนโตะ จากด้านหลัง แต่ก่อนที่เขาจะประสานอินได้สำเร็จ
พลังอันมหาศาลจากการต่อยของ ไนโตะ ก็ทำพื้นดินแตกและทรุดตัวลง จากนั้นมันก็บดขยี้ร่างกายของเขาไปในทันที
แม้แต่มดที่อยู่ใต้ดินก็ไม่สามารถรอดจากการโจมตีนี้ได้
จนถึงตอนนี้ ไนโตะ สามารถจัดการกับ นินจาอิวะ ไปได้หลาย 10 คนแล้ว และอย่างน้อย 3 คน เป็นนินจาระดับ โจนิน
คุณสามารถพูดได้ว่า ไนโตะ ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในสนามรบนี้!
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่เพียงพอสำหรับ ไนโตะ
การสังหารนินจาไปแค่ไม่กี่ 10 คน จากนินจาจำนวนนับ 1,000 จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมของสงคราม
ไนโตะ ได้สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่า เขาจะยุติสงครามในครั้งนี้ด้วยมือของเขาเอง!
ไนโตะ หันกลับไปทาง กองทัพของอิวะ จากนั้นการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป เขาเผยให้เห็นถึงรังสีที่น่ากลัวมาก
ทันใดนั้น เขาก็เหยียบพื้นอย่างแรง
ตู้ม!!
และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาใช้ เหยียบเวหา แต่คราวนี้เขาไม่ได้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า แต่เขากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า!
ตอนนี้ ไนโตะ ความเร็วของ ไนโตะ ยังไม่ถึงระดับเดียวกับ ไมโตะ ไก และเขาก็ยังไม่สามารถเปิด ประตูด่านพลังได้ครบทั้ง 8 บาน เขาจึงยังไม่สามารถใช้ ผีเสื้อราตรี หรือ ช้างราตรี ได้ แต่ด้วยวิชา เหยียบเวหา ทำให้เขาสามารถกระโดดขึ้นไปบนอากาศได้สูงมาก
เขากระโดดสูงมากจนทุกคนในสนามรบสามารถมองเห็นเขาได้ และทุกคนก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
ไนโตะ…คุณกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?!
โดยปกติแล้ว จะไม่มีใครกล้ากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าในสนามรบแบบนี้ เพราะนั่นจะทำให้ศัตรูทุกคนมุ่งเป้ามาที่เขา และศัตรูก็ไม่ต้องกลัวที่จะโจมตีพลาดโดนพวกเดียวกัน ดังนั้นศัตรูของเขาก็จะโจมตีเขาด้วย คาถานินจาที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละคนโดยไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป
แต่…ไนโตะ ก็ไม่กลัวคาถานินจาที่อ่อนแอของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย!
ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ใช้ท่าผสานกัน ไตโนะ ก็จะสามารถทำลายทุกสิ่งที่พวกเขาโจมตีมาได้อย่างง่ายดาย และแม้ว่าพวกเขาจะใช้ท่าผสานกัน ไนโตะ ก็จะต่อยหมัดออกไปและทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา!
ดังนั้น ไนโตะ จึงไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!
และเมื่อพูดถึงสาเหตุของการกระโดดในครั้งนี้ ความตั้งใจของ ไนโตะ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือ การโจมตี!!
ทันใดนั้น ภายใต้ความตกใจของทุกคน ไนโตะ ที่ตอนนี้ลอยอยู่บนฟ้าของ กองทัพอิวะ เขาก็กำหมัดจากนั้นเขาก็ต่อยมันลงไปด้านล่างยังพื้นที่ที่ กองทัพอิวะ ยืนอยู่
ตู้ม!!
นี้ไม่ใช่การโจมตีเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่เขาใช้ในสงครามครั้งนี้ นี่เป็นหมัดที่รุนแรง หมัดที่เต็มไปด้วยพลัง!
พลังของการโจมตีในครั้งนี้แข็งแกร่งมาก พลังของมันอาจจะไม่เท่ากับ คาถานินจาระดับ S ของเขา แต่รัศมีการทำลายล้างของมันก็มากที่สุดในบรรดาวิชาของเขา!
เกิดรอยแตกขึ้นในอากาศ จากนั้นมันก็กระจายไปจนทั่วและปกคลุม กองทัพอิวะ ทั้งหมดไว้!
“ล้อเล่นใช่ไหม?!”
“เป็นไปไม่ได้!!”
“แข็งแกร่งมาก!!!”
นินจาอิวะ รู้สึกประหลาดใจมากที่ ไนโตะ กระโดดขึ้นไปแบบนั้น แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าเป้าหมายของ ไนโตะ คือการโจมตีกองทัพของเขาทั้งหมดในครั้งเดียว พวกเขาก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกนินจาระดับสูงของอิวะ
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะรู้ดีว่า พลังของพวกเขาไม่สามารถเทียบกับ ไนโตะ ได้ แต่การคิดจะทำลายทั้งกองทัพด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้น เป็นความคิดที่หยิ่งยโสเกินไป
เมื่อ โอโนกิ สังเกตเห็นสถานการณ์ในสนามรบ เขาและหน่วยลับรอบ ๆ ตัวเขาก็ย้ายที่ไปอยู่ด้านข้างของสนามรบ จากนั้นเขาก็มองกลับไปที่ ซาคุโมะ และพูดเยอะเย้ย “นินจาของเจ้ามีพลังมากก็จริง แต่เขาก็เป็นแค่คนบ้า”
“ใช่ไหม?”
ซาคุโมะ ดูสงบเมื่อมองกลับไปที่ โอโนกิ
ซาคุโมะ รู้สึกแปลกใจที่ ไนโตะ ตัดสินใจโจมตี กองทัพอิวะทั้งหมด ในครั้งเดียว แต่ในความเห็นของเขา การตัดสินใจของ ไนโตะ ก็ดูจะสมเหตุสมผลดีเช่นกัน
ดังนั้น แม้ว่า ซาคุโมะ จะไม่คิดว่า ไนโตะ จะสามารถทำความเสียหายให้กับ ฝ่ายอิวะ ได้ แต่ ซาคุโมะ ก็เลือกที่จะเชื่อใจใน ไนโตะ
และแน่นอนว่า เมื่อ ซาคุโมะ เห็นว่า โอโนกิ และหน่วยลับอิวะจำนวนหนึ่ง ย้ายมาอยู่ข้างสนามรบ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกของเขามากนัก
เมื่อเห็นดังนั้น ซาคุโมะ จึงตัดสินใจลงสู่สนามรบพร้อมกับ หน่วยลับโคโนฮะจำนวนหนึ่ง เพื่อไปเผชิญหน้ากับ โอโนกิ และแค่เพียงไม่กี่วินาทีที่ ซาคุโมะ ลงสู่สนามรบเพื่อไปหา โอโนกิ เขาก็สามารถจัดการกับ นินจาอิวะ ได้หลาย 10 คน
“เฮ้! หยุดฆ่านินจาของฉันได้ แล้วมาดูกันดีว่าเด็กน้อยของแกจะทำอะไรได้บ้าง!”
โอโนกิ พูด จากนั้นก็มองกลับไปที่สนามรบอีกครั้ง
ในเวลานี้ ซาคุโมะ ก็ค่อย ๆ เดินไปข้างหน้าและจ้องมองไปที่ โอโนกิ
การแสดงออกของ โอโนกิ เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นสายตาของ ซาคุโมะ และกลายเป็นความเยือกเย็นในทันที “เจ้าเด็กน้อย แกแน่ใจหรือว่าแกอยากจะเล่นกับฉัน?”
“เราจะไม่มีทางรู้ผลลัพธ์จนกว่าเราจะได้ลอง”
การแสดงออกของ ซาคุโมะ ยังคงดูสงบนิ่งเช่นเดิม เขาเดินไปทีละก้าว ๆ ไปหา โอโนกิ แรงกดดันเริ่มสูงขึ้น ๆ
ซาคุโมะ ยังไม่ได้ดึงดาบของเขาออกมา แต่จิตสังหารของเขาก็ทำให้รู้สึกได้ว่าคมดาบที่อยู่ในฝัก พร้อมที่จะตัดทุกอย่างให้ขาดแล้ว!
ตอนที่ 130
“ถ้าแกอยากจะเล่นกับฉันมากขนาดนั้น งั้นฉันก็จะเล่นด้วย”
แรงกดดันที่ตึงเครียดระหว่าง โอโนกิ กับ ซาคุโมะ เพิ่มมากขึ้นทันทีหลังจาก โอโนกิ พูดประโยคนี้จบ
ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลระหว่าง ผู้บัญชาการ 2 คน ทำให้หน่วยลับของทั้ง 2 ฝ่าย ต่างมองหน้ากันและกัน ในขณะที่ ผู้บัญชาการทั้ง 2 กำลังก้าวเข้าหากัน
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มต้น!
เมื่อ ผู้บัญชาการ 2 คน กำลังจะเดินมาถึงกัน ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากสนามรบ พวกเขาทั้ง 2 หยุดลงทันทีและมองไปที่สนามรบ
“นั่นมันอะไรกัน?!”
…….
ไกลออกไปในสนามรบ
การโจมตีของ ไนโตะ กำลังพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
นินจาอิวะ หลาย 1,000 คน รวมตัวกันในทันที จากนั้นพวกเขาก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้าเพื่อป้องกันการโจมตีของ ไนโตะ ไว้
“คาถาดิน : กำแพงพสุธา!!”
“คาถาดิน : ลดน้ำหนักหิน!!”
“คาถาดิน : ชุบแข็งชั้นหิน!”
ตู้ม!!!
นินจาอิวะหลาย 100 คน พยายามป้องกันการโจมตีของ ไนโตะ ด้วยการใช้คาถาดินมากกว่า 10 คาถาพร้อมกัน พวกมันถูกปล่อยออกมาเยอะมากจนปกคลุมไปทั้งท้องฟ้า และพวกมันก็ถูกผสานเข้าด้วยกันกลายเป็น ก้อนหินขนาดใหญ่
และ นินจาอิวะที่เหลือ ก็โจมตีไปที่ ไนโตะ ด้วยคาถานินจาของพวกเขา
“คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิง!!”
“คาถาลม : กระแสวายุ!”
“คาถาดิน : มังกรดิน!”
ฟู้!!
ชั่วครู่หนึ่ง คาถาลม , คาถาไฟ และ คาถาดิน ก็รวมตัวกันและก่อตัวเป็นมังกรหินขนาดใหญ่ที่มี ไฟ และ ลม หมุนวนอยู่รอบตัว
ด้วยการโจมตีจากบนฟ้าของ ไนโตะ ทำให้เขาไม่สามารถใช้วิชา เยียบเวหา หรือ คาถาแผ่นดินไหว ใด ๆ ได้เลย
แต่…เขาก็ยังสามารถลอยอยู่บนอากาศได้ชั่วครู่หนึ่ง!
พลังสั่นสะเทือนนี้มีจุดอ่อนมาโดยตลอด และเป็นสิ่งที่ ซาคุโมะ ได้เตือน ไนโตะ ไว้ตอนที่ทั้งคู่ต่อสู้กันเป็นครั้งแรก มันยังคงต้องชาร์จพลังก่อนที่จะสามารถใช้ได้อีกครั้ง
แต่ตอนนี้ ความอ่อนแอนี้กลายเป็นข้อได้เปรียบที่มีประโยชน์ เพราะแม้ว่า ไนโตะ จะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ในอากาศ แต่เขาก็สามารถลอยในอากาศได้นานขึ้น เพราะทุกครั้งที่เขาใช้พลังนี้ แรงสั่นสะเทือนก็จะดีดกลับและทำให้เขาลอยค้างอยู่ในอากาศได้นานขึ้น!
เปี้ยง!!
หลังจากที่เขาขว้างหมัดออกไป ท้องฟ้าทั้งท้องฟ้าเหนือหัว ฝ่ายอิวะ ก็ดูเหมือนกับกระจกที่กำลังแตกและอากาศก็ระเบิดออก จากนั้นรอยแตกสีขาวจำนวนมากก็ปรากฏขึ้น
ตู้ม!!
พลังสั่นสะเทือนกระแทกเข้ากับอากาศ และสิ่งแรกที่ปะทะกับมันก็คือ คาถาที่ นินจาอิวะ โจมตีสวนกลับมา
เหลือเชื่อ!!
ทั้ง คาถาไฟ และ คาถาลม ถูกทำลายในทันที ส่วนมังกรหินขนาดใหญ่ มันก็ระเบิดออกเมื่อพลังสั่นสะเทือนมาถึง
คาถานินจาเหล่านี้ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าพวกมันจะรวมกันแล้ว แต่มันก็ยังเป็นแค่ คาถานินจาระดับ C หรือ ระดับ B เท่านั้น
และตราบใดที่มันยังไม่ใช่ คาถานินจาระดับ A หรือ S ไนโตะ ก็สามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดายด้วยหมัดของเขา
ดูเหมือนว่าหมัดของ ไนโตะ จะทำลายทุกอย่างได้!
แรงปะทะรุนแรงเป็นอย่างมาก มันทำให้ นินจาโคโนฮะทุกคน มองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยท่าทางตกใจ มันเป็นภาพที่น่าตกใจมากจนพวกเขาจะไม่มีวันลืมภาพนี้ไปตลอดชีวิต
คนคนเดียว ต่อสู้กับ นินจานับ 1,000
ต่อยหมัดออกไปขณะที่ลอยอยู่บนฟ้า และทำลายคาถานินจานับไม่ถ้วน
นี่มันพลังแบบไหนกันแน่!
ตู้ม!!
พลังสั่นสะเทือนยังคงพุ่งลงไปอย่างต่อเนื่อง จนเข้าปะทะกับ ก้องหินขนาดมหึมา
ก้อนหินก้อนนี้ถูกสร้างขึ้นมาจาก นินจานับ 100 คน และจะไม่มีใครสามารถทำลายได้ นอกจาก อุจิฮะ ดามาระ!
หลังจากพลังของ ไนโตะ ปะทะเข้ากับ ก้องหินขนาดใหญ่ก่อนนี้ มันก็เกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาบนผิวของมัน
แต่ทันใดนั้น รอยแตกเหล่านั้นก็ได้รับการซ่อมแซมในทันที
ถึงอย่างนั้น ทุกคนในสนามรบก็ยังคงตกตะลึงกับการโจมตีครั้งรุนแรงในครั้งนี้ที่ ไนโตะ เพิ่งใช้ออกมา!!
นินจาทุกคนของฝ่ายอิวะ มีเหงื่ออยู่เต็มหน้าผาก พวกเขาเหนื่อยมาก แต่พวกเขาก้สามารถหยุดการโจมตีของ ไนโตะ เอาไว้ได้ ถ้าเป็นตัวต่อตัว พวกเขาจะไม่มีทางป้องกันการโจมตีของ ไนโตะ ได้อย่างแน่นอน!
“จริงอยู่ที่มันแข็งแกรงมาก แต่อย่าลืมว่ามันมีแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น!”
“อย่าไปกลัว เราสามารถป้องกันการโจมตีของมันไว้ได้แล้ว เราไม่ต้องสนใจมันอีกต่อไป เราต้องมุ่งหน้าไปยัง กองทัพของโนโคฮะ เพื่อจัดการพวกมันให้เร็วที่สุด!”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีก นินจาระดับสูงของเราจะต้านมันไว้เอง”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ นินจาอิวะ จำนวนมากก็ดูเหมือนจะได้สติกลับคืนมา และมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลานี้ ไนโตะ ที่อยู่บนท้องฟ้าก็เริ่มลอยลงอย่างช้า ๆ
ดูเหมือนว่าพลังของ ไนโตะ ในตอนนี้ จะไม่สามารถทำลาย คาถานินจา แบบนี้ได้ บางทีถ้าเขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้ ก่อนเข้าสู่สงคราม เขาก็อาจจะทำลายมันได้ก็ได้
ในขณะที่ ไนโตะ ลอยลงมาสู่พื้นอย่างช้า ๆ เมื่อเขาลงมาถึงพื้น จากนั้นเขาก็ถีบเท้าและส่งตัวเองลอยขึ้นฟ้าไปอีกครั้งในทันที
เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวในอากาศได้ และเขาก็ลอยอยู่ได้ไม่นาน
ไนโตะ ครุ่นคิดถึงเรื่องของ ก้อนหินขนาดใหญ่นั้น และทันใดนั้น รอยยิ้มอันสบายใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
คาถาป้องกันนี้ น่าสนใจมาก!
“การโจมตีครั้งเดียวไม่สามารถทำลายมันได้…แต่จะเป็นยังไงถ้าเขาไม่ได้ใช้หมัด?!”
ฟึ๊บ!!
ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็ยื่นมือออกมาและมีควันสีขาวปรากฏขึ้นที่มือ จากนั้นก็มีดาบออกมาอยู่ในมือของเขา
มันคือ ดาบคุซานางิ !
นี่เป็นครั้งแรกที่ ไนโตะ เอาดาบของเขาออกมาสู่สาธารณะ
ฟึ๊บ!!
ไนโตะ โบกดาบของเขาและแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นที่ใบดาบ
ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็ฟันดาบออกไปอย่างแรง การโจมตีที่รุนแรงพุ่งตรงไปยัง ก้อนหินขนาดใหญ่ของฝ่ายอิวะ
“วิชาดาบคลื่นทำลายล้าง!”
ในตอนแรก นินจาอิวะ กำลังคิดที่จะสลายคาถาที่พวกเขาใช้ป้องกันการโจมตีของ ไนโตะ แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่า ไนโตะ จะยังไม่ยอมแพ้และโจมตีใส่พวกเขาอีกครั้ง
นินจาอิวะหลายคนส่ายหัว จากนั้นพวกเขาก็เพิ่มระดับความแข็งแกร่งให้คาถานินจาของพวกเขาต่อไป
“ไม่มีประโยชน์”
“ถึงยังไง มันก็มีแค่คนเดียว มันไม่สามารถทำอะไรเราได้หรอก”
“ทำไม่ได้แม้แต่จะทำลายการป้องกันของเราด้วยซ้ำ”
พวกเขายักไหล่และมองไปที่ท้องฟ้า ดวงตาของพวกเขาแสดงออกถึงความน่ารังเกียจเล็กน้อย
ตู้ม!!
ทันใดนั้น คลื่นดาบก็ปะทะเข้ากับผิวของหินก้อนใหญ่ แต่มันก็ทำให้หินเกิดเป็นรอยแตกเล็ก ๆ เท่านั้น
เมื่อเห็นภาพนี้ นินจาโคโนฮะ ก็ส่ายหัวเล็กน้อย พวกเขารู้สึกว่า ไนโตะ ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นขีดจำกัดของเขา
แต่นี้ยังไม่จบ
“พวกมันคิดจริงเหรอว่า เราจะไม่สามารถทำลายก้อนหินนี้ได้?!”
ไนโตะ ยิ้มเยาะและดวงตาของเขาก็ส่องประกายด้วยความมั่นใจ จากนั้นเขาก็ส่งพลังสั่นสะเทือนเข้าไปในดาบ
แต่คราวนี้ ไนโตะ ไม่ได้ทำเพียงเท่านั้น เขาจับดาบด้วยมือทั้ง 2 ข้างและฟันออกไปอีกหลายครั้ง
เปี้ยง! เปี้ยง!! เปี้ยง!!!
ในพริบตาเดียว คลื่นดาบจำนวน 4 – 5 คลื่น ก็ปะทะเข้ากับก้อนหิน
และนี่ยังไม่จบ
เมื่อ คลื่นสั่นสะเทือน ปะทะเข้ากับ ก้อนหินขนาดใหญ่ ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ส่งพลังสั่นสะเทือนเข้าไปในดาบมากขึ้น จากนั้นเขาก็ฟันออกไปอีกครั้ง จนในที่สุด ก้อนหินขนาดใหญ่นั้น ก็เกิดรอยแตกขนาดใหญ่!
“คาถาแผ่นดินไหว : วิชาดาบคลื่นทำลายล้างอนันต์!!”
ตอนที่ 131
ตู้ม! ตู้ม!! ตู้ม!!!
เสียงแรงปะทะของพลังกับก้อนหินดังสนั่นไปทั่ว มันบดขยี้และทำให้พื้นดินสั่นทั่วทั้งบริเวณ ราวกับเสียงของอุกกาบาตที่ตกลงมาบนพื้นอย่างที่ไม่มีที่สิ้นสุด
มือของ ไนโตะ กวัดแกว่งดาบอย่างรวดเร็วจนยากที่จะเห็นมือและดาบของเขาได้ เขาส่งคลื่นทำลายล้างออกไปอย่างต่อเนื่อง
เมื่อคลื่นสั่นสะเทือนแรกปะทะเข้ากับก้อนหินขนาดใหญ่ ผิวของมันก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนและเกิดรอยแตกเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของมัน แต่เมื่อคลื่นสั่นสะเทือนอันที่ 2 ปะทะเข้ากับมัน รอยแตกนั้นก็กว้างขึ้น และ นินจาอิวะ ก็ไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ทันอีกติอไป
จากนั้นก็ตามมาด้วย คลื่นที่ 3 , คลื่นที่ 4 และ คลื่นที่ 5 !!
ความบ้าคลั่งยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่ ไนโตะ ยังคงส่งคลื่นสั่นสะเทือนออกไปอย่างต่อเนื่อง ช่างเป็นอีก 1 ภาพที่น่ากลัวมาก
ความเสียหายอย่างต่อเนื่องจากการโจมตีของ ไนโตะ ทำให้อากาศที่อยู่ระหว่าง ไนโตะ กับ ก้อนหินก้อนนี้ เกิดการแตกร้าวออกจนเหมือนกระจกแตก!
แสงสีขาวทำให้อากาศแตกออก และทำให้เกิดแสงส่องประกายไปทั่วทั้งสนามรบ
ห่างออกไป
ซาคุโมะ และ โอโนกิ ได้แต่มองหน้ากันและกัน ใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่เผยให้เห็นถึงการแสดงออกที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก
ไนโตะ…สามารถโจมตีต่อเนื่องได้!
“แย่แล้ว!!”
ในตอนนี้ โอโนกิ รับรู้ได้ถึงอันตรายของสถานการณ์นี้และเขาก็ต้องการเข้าไปช่วยกองทัพของเขาในทันที แต่ ซาคุโมะ ก็ยังคงยืนอยู่ต่อหน้าเขา เขาจึงไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาต้องการได้
ฟึ๊บ!!!
นินจาอิวะจำนวนนับไม่ถ้วน ร่วมมือกันเพื่อไม่ให้ก้อนหินของพวกเขาถูกทำลาย แต่ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของ ไนโตะ ทำให้รอยร้าวบนก้อนหินกระจายตัวออกอย่างต่อเนื่อง และในที่สุด รอยร้าวเหล่านั้นก็กระจายตัวไปก็ทั่วทั้งก้อนหิน
ยิ่งไปกว่านั้น รอยแตกเหล่านั้นก็ไม่หยุดเพียงแค่นั้น มันเริ่มแตกร้าวลงไปลึกถึงด้านในของมัน
ถ้าแนวป้องกันของอิวะพังลง ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คงจะไม่ดีสำหรับพวกเขาเท่าไร
รอยแตกเริ่มลึกลงไปเรื่อย ๆ !
“บ้าเอ้ย!”
“แย่แล้ว!”
“อย่างยอมแพ้!”
นินจาอิวะ ที่อยู่ใต้ก้อนหิน เริ่มเกิดความตกใจ จากนั้นความโกลาหลและความวุ่นวายก็ปรากฏขึ้นในหมู่พวกเขา พวกเขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะสามารถรักษาแนวป้องกันไว้ได้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น นินจาระดับสูงก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก พวกขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะแข็งแกร่งขนาดนี้!
นินจาอิวะ เกือบทั้งหมดพยายามรีดจักระทั้งหมดออกมาเพื่อพยายามรักษาก้อนหินก้อนนี้ไม่ให้พังทลายลง
พวกเขารวมตัวกันมากขึ้น จาก 100 เป็น 1,000 และไม่มีใครกล้าถอยกลับ เพราะพวกเขารู้ดีว่าก้อนหินก้อนนี้เกือบจะถึงขีดจำกัดของมันแล้ว และมันจะถูกทำลายถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรเลย!
แคร๊ก!!!
นินจาอิวะจำนวนนับไม่ถ้วน กำลังปั่นกระแสจักระของพวกเขาเข้าด้วยกันเพื่อรั้งแนวป้องกันสุดท้ายของพวกเขาเอาไว้
อีกฝั่งหนึ่ง ไนโตะ ยังคงโจมตีลงมาเรื่อย ๆ และเขาก็สามารถใช้พลังของเขาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ภาพนี้ทำให้ กองทัพโคโนฮะ ซึ่งพร้อมที่จะบุกเข้าสนามรบ ต้องหยุดและพากันมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความตกใจ
“แข็งแกร่ง…แข็งแกร่งมาก”
“เขาเพียงคนเดียวจะสามารถต่อสู้กับทั้งกองทัพได้จริงเหรอ?!!”
“เรามาทำอะไรทีนี่?”
ไม่มีใครโทษพวกเขาที่พวกเขารู้สึกแบบนี้ นี่เป็นสิ่งที่น่าตกใจจริง ๆ ไม่มีใครสามารถห้ามตัวเองจากความรู้สึกแบบนี้ได้ เพราะสิ่งที่ ไนโตะ ทำ เหมือนกับว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ คนธรรมดาจะมีพลังมากถึงขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
นินจาโคโนฮะ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการชนะสงคราม แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปในสถานการณ์เช่นนี้
หากพวกเขารีบจู่โจมเข้าไปใต้ก้อนหินก้อนนั้น พวกเขาจัดการกับ นินจาอิวะ พวกนั้นได้อย่างแน่นอน แต่พวกเขาก็จะเข้าไปอยู่ในระยะการโจมตีของ ไนโตะ
ดังนั้น สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ก็คือ เฝ้าดู ไนโตะ ต่อสู้กับ นินจาอิวะ ทั้งกองทัพ!
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ ไนโต บางคนถึงกับไม่สามารถกระพริบตาได้ในชั่วครู่หนึ่ง ราวกับว่า นินจาเหล่านี้ จะไม่ได้เห็นภาพเช่นนี้อีกตลอดชีวิตที่เหลือของพวกเขา
ไนโตะ สามารถเลือกที่จะไม่สนใจก้อนหินและตรงไปฆ่า นินจาอิวะ ทันทีเลยก็ได้ แต่คนที่หยิ่งและจองหองอย่างเขา ไม่มีวันที่จะกลับคำพูดอย่างแน่นอน เขาได้กล่าวเอาไว้แล้วว่า เขาจะทำลายมันและฆ่า นินจาอิวะทั้งหมด และนี้คือสิ่งที่เขากำลังจะทำ!
และสิ่งที่เขากำลังจะทำ แม้แต่ หน่วยลับที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ยังไม่สามารถทำได้!
เหตุผลเดียวที่มีเพียงแค่ ไนโตะ เท่านั้นที่ทำได้ก็คือ เขาแทบจะไม่ต้องใช้จักระของเขาเลย!
ในทางกลับกัน นินจาทั่วไปจะต้องใช้คาถานินจาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเพื่อทำลายการป้องกันแบบนี้ แม้ว่าเขาจะมีจักระเพียงพอที่จะสามารถใช้คาถานั้นได้ 4 – 5 ครั้ง แต่ร่างกายของเขาก็จะไม่สามารถทนภาระนี้ได้
เพราะฉะนั้น บุคคลเพียงคนเดียวในโคโนฮะ ที่สามารถเทียบกับ ไนโตะ ได้ ก็มีเพียง โฮคาเงะ เท่านั้น!
“ยังโชคดีที่พวกนั้นยังต้านมันไว้ได้ แต่ผู้ชายคนนั้น…จักระแบบไหนที่จะสามารถปล่อยการโจมตีได้อย่างต่อเนื่องมากขนาดนี้ จักระของเขาไม่มีวันหมดอย่างนั้นเหรอ?”
หน่วยลับอิวะ ที่อยู่ด้านหลัง โอโนกิ พูดออกมาด้วยท่าทางน่าตกใจ
ในอีกด้านหนึ่ง ซาคุโมะ ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน แต่เขาก็รู้ว่านั้นคือ ไนโตะ ดังนั้นเขาจึงหายใจเข้าลึก ๆ และสงบลงในทันที
ไนโตะ มักจะทำให้เขาประหลาดใจได้ทุกครั้ง !
ทุกครั้งที่เขาเจอ ไนโตะ เขาคิดว่า ไนโตะ มาถึงขีดสุดแล้ว แต่ทุกครั้ง ไนโตะ ก็พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิด
ไนโตะ แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถแข็งแกร่งได้มากกว่าที่ ซาคุโมะ คิดไว้!
แม้ว่าครั้งนี้ ไนโตะ จะไม่สามารถทำลายการป้องกันของ กองทัพอิวะ ได้ แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับทำให้ ซาคุโมะ เห็นว่า เขานั้นสมบูรณ์แบบมากจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม คำจำกัดความของ ความสมบูรณ์แบบ ในความคิดของ ไนโตะ นั้นแตกต่างจากที่ ซาคุโมะ คิด
ซาคุโมะ คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้สมบูรณ์แบบแล้ว แต่ ไนโตะ ไม่คิดเช่นนั้น
“เราต้องทำได้…เราไม่มีวันยอมแพ้อย่างเด็ดขาด”
ไนโตะ มองลงไปที่ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเขา ในขณะที่โบกดาบและดวงตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยความแรงกล้า
มันเป็นความจริงที่ว่า การโจมตีของ ไนโตะ นั้นใช้จักระแค่นิดเดียว แต่เมื่อเทียบกับจักระของ นินจาหลาย 100 คน มันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้ว่าหากเขาทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จักระของทั้ง ไนโตะ และ กองทัพอิวะ ก็จะหมดลง และ กองทัพโคโนฮะ ก็จะสามารถจัดการกับ กองทัพอิวะ ได้อย่างง่ายดาย แต่ ไนโตะ ไม่ต้องการให้มันจบลงแบบนั้น!
ไนโตะ ต้องการจบสงครามนี้พร้อม ๆ กับทุกคน!
เมื่อตอนที่เขายังอ่อนแอ ไม่มีพลัง เขาต้องอยู่อย่างหวาดกลัว หลบซ่อนและวิ่งหนี แต่ตอนนี้ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด และตราบใดที่ มาดาระ ไม่ใช่คนที่อยู่ต่อหน้าเขา เขาก็จะไม่มีวันยอมแพ้อย่างแน่นอน
ไนโตะ รู้ว่าเขาทำได้และเขาจำเป็นต้องทำแบบนี้!
ไนโตะ ต้องการที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และ กองทัพอิวะ เหล่านี้ ก็จะเป็นบันไดขึ้นแรกที่จะพาเขาขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่เขาตั้งเป้าไว้
ฟึ๊บ!
ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็หยุดฟันดาบและแสงสีขาวที่ใบดาบของเขาก็ค่อย ๆ หายไป และหลังจากที่เขาหยุดโจมตี ก้อนหินขนาดใหญ่นั้นก็ได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว
นินจาอิวะ ดูเหนื่อยเป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะสารถหยุดการโจมตีของ ไนโตะ เอาไว้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้แสดงความดีใจออกมาเลย
แต่พวกเขากลับรู้สึกหวาดกลัว!
“มันจะไม่โจมตีมาอีกแล้วใช้ไหม?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันยังดูไม่เหนื่อยเลยสักนิด!”
“อย่าล้อเล่นน่า มันหยุดโจมตี เลยทำให้เราซ้อมแซมแนวป้องกันของเราได้จนเหมือนเดิม มันคงไม่โจมตีมาอีกแล้วละ”
คำพูดเหล่านี้ช่วยปลอบใจพวกเขาบางคน แต่เมื่อพวกเขาเริ่มรู้สึกโล่งใจ พวกเขาบางคนก็แสดงท่าทางที่หวาดกลัวออกมา
พวกเขาเห็นว่า ไนโตะ ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า และเขากำลังฟันดาบลงมาอีกครั้ง!
แต่คราวนี้มันไม่เหมือนเดิม!
ตอนที่ 132
หลังจาก นินจาอิวะบางคน สัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังจะมา พวกเขาก็ต้องการที่จะเตือนพวกของเขาทุกคน แต่มันก็สายเกินไป
การโจมตีครั้งต่อไปของ ไนโตะ ใกล้เข้ามาแล้ว
แต่ครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง ในครั้งนี้มันไม่ใช่แค่พลังสั่นสะเทือนธรรมดา ๆ อีกต่อไป…ครั้งนี้มันเป็นพลังที่มหาศาล!
ไนโตะ ลอยอยู่บนท้องฟ้า เขาฟัน ดาบคุซานางิ ออกไปอย่างแรง ทำให้พื้นที่รอบ ๆ เขาแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
จากนั้นคลื่นกระแทกก็ถูกส่งไปยังก้อนหินก้อนนั้น
ตู้ม!!
ก้อนหินก้อนใหญ่แตกออก เศษหินแตกกระจัดกระจายและตกลงมา เหมือนกันหยดน้ำตกลงบนทะเลสาบ
หลังจาก คลื่นทำลายล้าง ปะทะเข้ากับก้อนหิน ไนโตะ ก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เข้าส่งพลังสั่นสะเทือนสูงสุดเข้าไปในดาบและฟันมันออกไปอีกครั้ง
ดาบคุซานางิ เป็นศิลปวัตถุที่เก่าแก่ มันสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้อย่างง่ายดายโดยที่มันไม่แตกสลาย!
ไนโตะ กำลังถือดาบของเขา ในขณะที่ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความมั่นใจของเขา ในวินาทีต่อมา พลังอันรุนแรงก็ระเบิดออก
“คาถาแผ่นดินไหว : เฉือนแกนโลก!”
การโจมตีครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนมาก
การโจมตีนี้ ไม่ส่งผลใด ๆ กับอากาศโดยรอบ มันไม่ได้ทำลายอะไรเลย มันแค่พุ่งตรงไปยังก้อนหิน และตัดก้อนหินออกเป็น 2 ส่วน เหมือนกับตัดผลไม้ มันตัดผ่านไปเร็วมากและคมกริบจนไม่สามารถมองเห็นได้
แคร๊ก! แคร๊ก!! แคร๊ก!!!
เสียงแตกดังสนั่นไปทั่วสนามรบ ทำให้ทุกคนต้องหันมาจ้องมองไปที่ก้อนหินก้อนนั้น ด้วยความเงียบ
นินจาอิวะ ที่อยู่ใต้ก้อนหินขนาดใหญ่ ทุกคนต่างหยุดเคลื่อนไหว
ในฝ่ายโคโนฮะ นินจาบางคนดูตกใจเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่พวกเขาเห็นคือ ไนโตะ เพิ่งฟันดาบออกไปอีกครั้ง ซึ่งเหมือนกับก่อนหน้านี้และผลลัพธ์ก็คงจะเหมือนเดิม
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ทำไม พวกอิวะ หยุดเคลื่อนไหว มันเกิดอะไรขึ้น?”
“มีบางอย่างแปลก ๆ…”
ความสงสัยนี้เริ่มแพร่กระจายไปทั่ว กองทัพโคโนฮะ แต่แล้วพวกเขาก็หยุดทันที
นินจาโคโนฮะ ทั้งหมดเบิกตากว้าง ด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก
ตรงหน้า นินจาโคโนฮะ นินจาอิวะ ตกตะลึงและไม่เคลื่อนไหวได้ราวกับว่าพวกเขากลายเป็นหิน
ความเงียบ
เหตุผลของความเงียบของพวกเขาก็คือ เมื่อพวกเขามองไปที่ก้อนหิน พวกเขาก็เห็นมันถูกตัดออกเป็น 2 ส่วน
แต่ไม่ใช่แค่นั้น
ในวินาทีต่อมา สายเลือดก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของ นินจาอิวะบางคน ที่อยู่ในรัศมีของการโจมตีของ ไนโตะ และทันใดนั้นพวกเขาก็ผ่าออกเป็น 2 ซีก!
นินจาอิวะคนอื่น ๆ ไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ดวงตาของพวกเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ก้อนหิน และจิตใจของพวกเขาก็จมอยู่ในความกลัว
ความเงียบ
ในไม่ช้า ก้อนหินขนาดมหึมาเหนือ นินจาอิวะ ซึ่งมีรอยแตกอยู่แล้ว ไม่กี่นาที มันก็ถูกตัดเป็น 2 ส่วน
ทันใดนั้น ภายใต้สายตาของผู้คนทั้งหมดในสนามรบ ก้อนหินขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่ง…ได้ถูกทำลายลงแล้ว!!
มันถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนและแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นเดียวกับ นินจาอิวะ หลายคนที่อยู่ด้านล่าง
ภาพนี้ มันเป็นความงามที่อธิบายไม่ได้ มันไม่ได้รุนแรงและดุดันเหมือนการโจมตีครั้งก่อน แต่มันก็สงบและสวยงาม
เลือดที่นองบนพื้นดินเหมือนกับเป็นดอกไม้แห่งนรก ภาพที่สวยงามนี้ ทำให้จิตใจของ กองทัพอิวะ จมอยู่ในความกลัว มันมีความเย็นยะเยือกบนไหล่ของพวกเขา มันเป็นความหน่วยเย็นจากความตาย
ไนโตะ ได้เปลี่ยนสนามรบให้กลายเป็นทะเลเลือด
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง แม้กระทั่ง โอโนกิ และ ซาคุโมะ เองก็ตาม
“นี้มัน…”
โอโนกิ ดูสับสนเมื่อเขามองไปที่สนามรบ ในขณะที่ ซาคุโมะ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็สับสนด้วยเช่นกัน
การโจมตีที่ ไนโตะ เพิ่งใช้ออกมา…มันอาจไม่แข็งแกร่งเท่า วิชาดาบจักระแสงสีขาว ของ ซาคุโมะ
แต่ระยะการโจมตีและวิถีทำลายล้างนั้นแข็งแกร่งกว่ามาก!
ที่จริงแล้ว ระดับของ ไนโตะ ไม่สูงเท่ากับ ซาคุโมะ แต่ในสนามรบ ไนโตะ มีบทบาทสำคัญกว่า ซาคุโมะ !
ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ไนโตะ ก็เหมือนกับเป็น ยมทูต ที่คอยเก็บวิญญาณของผู้คน
“เด็กน้อย…เธอทำได้จริง ๆ”
ในที่สุด ซากุโมะ ก็หายใจเข้าลึก ๆ ขณะมองไปที่ ไนโตะ หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้จบ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะทำลายการป้องกันและสามารถจัดการศัตรูได้เพียงแค่ 10 คนเท่านั้น แต่นี้ก็คือจุดจบ
หมู่บ้านโคโนฮะ ได้รับชัยชนะ
ในที่สุด ไนโตะ ก็ยุติสงครามครั้งนี้ได้ด้วยตัวเอง!
ด้วยใบหน้าที่สงสัย โอโนกิ มองไปที่ ไนโตะ ที่ลอยอยู่บนฟ้าและกำลังถือ ดาบคุซานางิ ไว้ในมือ ใบหน้าของ โอโนกิ แสดงให้เห็นร่องรอยของความหวาดกลัว
แม้แต่ โจนินอิวะ ก็ยังมีสีหน้าที่น่ากลัวเช่นกัน!
ไนโตะ ไม่ได้ตัวใหญ่ จริง ๆ แล้วเขาดูตัวเล็กกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ เขาดูเหมือนยักษ์ที่จะทุบศัตรูทั้งหมดด้วยมือเปล่าของเขาได้!
ในเวลานั้น ในที่สุด นินจาโคโนฮะ ก็ตั้งสติได้ และไม่กี่วินาทีต่อมา พวกเขาก็ได้รับกำลังใจจาก ไนโตะ และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็กลัว ไนโตะ ด้วยเช่นกัน
กำลังใจและจิตวิญญาณของพวกเขาอยู่ในจุดสูงสุด !!
“ฆ่าพวกมัน!!”
“ทำลายพวกมันทั้งหมด!”
“ย้า!!!”
ในไม่ช้า กองทัพโคโนฮะทั้งหมด ก็วิ่งตรงไปหา กองทัพอิวะ ที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว
กำลังใจของ กองทัพอิวะ ได้ถูก ไนโตะ บดขยี้ไปจนหมดสิ้นแล้ว อาจพูดได้ว่าสงครามครั้งนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ด้วยสถานการณ์แบบนี้ แม้ว่า ไนโตะ จะออกจากสนามรบ แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม
หัวหน้านินจาอิวะบางคน ยังคงตกอยู่ภายใต้ความกลัวและความสยองขวัญ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป
แต่ในวินาทีต่อมา
นินจาอิวะ บางคนเห็นร่างของ ไนโตะ กำลังตกลงมาจากฟ้า และในไม่ช้า ไนโตะ ก็ลงมาถึงพื้นดิน ในมือของเขายังคงถือ ดาบคุซานางิ เอาไว้ แต่ นินจาอิวะ บางคนก็ไม่เห็น ไนโตะ จนกระทั่งเขาลงมาอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว
และทันใดนั้น ไนโตะ ก็เริ่มทำการเก็บเกี่ยววิญญาณของพวกเขา!
ไนโตะ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนเหมือนแสงไฟที่กระพริบ
เลือดสาดทางนู้น เลือดสาดทางนี้ ร่างถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ตรงนู้นที ตรงนี้ที กระพริบจากศัตรูคนหนึ่งไปที่ศัตรูอีกคนหนึ่ง นินจาอิวะ ได้แต่มองดูเพื่อนถูกฆ่าทีละคนอย่างสิ้นหวัง
ฉับ!! ฉับ!! ฉับ!!
ในสนามรบแห่งนี้ ไม่มีใครสามารถเผชิญหน้ากับ ไนโตะ ได้!
จนถึงขณะนี้ ไม่มีใครรู่ว่า ไนโตะ ฆ่าศัตรูไปทั้งหมดกี่คนแล้ว แต่สิ่งเดียวที่ทุกคนในสนามรบนี้มั่นใจก็คือ เขาจะฆ่าต้อไปเรื่อย ๆ จนกว่าศัตรูของเขาจะหายไปหมด
ในบรรดานินจาที่เขาฆ่าไป มีทั้ง จูนิน และ โจนิน แม้กระทั่ง นินจาระดับสูง และ หน่วยลับ ก็ถูกฆ่าตายด้วยมือของเขา!
การนองเลือดนี้ ไม่ใช่สงครามอีกต่อไป มันกลายเป็นการสังหารหมู่!
ในที่สุด กองทัพอิวะ ก็ถูกทำลาย
ในช่วงเวลาสั้น ๆ พวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับ กองทัพโคโนฮะ ที่นำโดย ไนโตะ
แม้ว่า ไนโตะ จะเป็นเพียงแค่หัวหน้าหน่วยชั่วคราว และมีหัวหน้าหน่วยคนอื่น ๆ กับกองทัพที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะได้รับชัยชนะในวันนี้หรือไม่ หากขาด ไนโตะ
ผู้นำที่แท้จริงของสงครามครั้งนี้ ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ไนโตะ!
เพราะกำลังใจและแรงผลักดันที่ กองทัพโคโนฮะ ได้รับ มาจากความน่าทึ่งในพลังของ ไนโตะ!
ในสนามรบนี้ ไนโตะ ได้สร้างชื่อของเขาในโลกนินจาแห่งนี้
นินจาผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความตาย
ภายใต้การสังหารในครั้งนี้ หมู่บ้านอิวะ…พ่ายแพ้ไปอย่างสมบูรณ์!
ตอนที่ 133
แนวหน้าของสนามรบเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลราวกับเป็นแม่น้ำ และศพของ นินจาอิวะ ก็กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกแห่ง ไนโตะ ยังคงไล่สังหารศัตรูที่เหลืออยู่
ไนโตะ เหมือนเป็น ยมทูต ที่ตามเก็บดวงวิญญาณของ นินจาอิวะ
อีกฝากหนึ่ง โอโนกิ และ ซาคุโมะ กับหน่วยลับของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังคงยืนเผชิญหน้ากันอยู่
อย่างไรก็ตาม โอโนกิ ก็ไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับ ซาคุโมะ สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือ วิ่งเข้าสู่สนามรบเพื่อหยุด ไนโตะ ไม่ให้สังหารคนของเขาไปมากกว่านี้ แต่ ซาคุโมะ จะไม่มีทางให้เขาทำได้อย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปและสงครามก็สิ้นสุดลง
ในสถานการณ์แบบนี้ เท่ากับว่าชีวิตของ โอโนกิ กำลังตกอยู่ในอันตราย และตอนนี้เขาไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของสงครามได้อีกต่อไป แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะหลบหนีไปได้ขณะที่ ซาคุโมะ ยังอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก
แน่นอนว่า โอโนกิ คือหนึ่งใน คาเงะ ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่ ซาคุโมะ ก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ง่าย ๆ
ทันใดนั้น โอโนกิ ก็พยายามหลบหนีลงใต้ดินพร้อมกับ หน่วยลับของเขา แต่ ซาคุโมะ ก็ดึงดาบออกมา แล้วพุ่งเข้าโจมตี โอโนกิ ทันที แต่วิชาของ โอโนกิ นั้นรวดเร็วมาก จน ซาคุโมะ ไม่รู้ว่าเขาฟันโดนอะไร แต่สิ่งเดียวที่เหลืออยู่บนพื้นก็คือ แขนที่ถูกตัด!
ฉับ!!
ที่จริงแล้ว โอโนกิ สามารถต่อสู้กับ ซาคุโมะ ได้อย่างง่ายดาย เขามั่นใจด้วยซ้ำว่าจะสามารถเอาชนะ ซาคุโมะ ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เขากลัวก็คือ ไนโตะ จะมาช่วย ซาคุโมะ อย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า โอโนกิ จะสามารถหลบหนีไปได้ แต่นั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า หมู่บ้านอิวะ พ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้!
ผู้ชนะคือ หมู่บ้านโคโนฮะ และจำนวนผู้เสียชีวิตก็น้อยมาก!
ในสนามรบ มี นินจาอิวะ เหลืออยู่ไม่มากนัก
ไนโตะ สังหารพวกเขาไปเกือบทั้งหมด
เขาเก็บ ดาบคุซานางิ จากนั้นก็มองไปที่สนามรบ
ทางด้านหลัง โอโรจิมารุ ยังคงเนื้อตัวสะอาด แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่าก็คือ ไนโตะ ที่ยืนอยู่กลางสนามรบ
ครั้งนี้ เนื้อตัว ไนโตะ ไม่ได้สะอาดเหมือนครั้งก่อน ๆ
ท้ายที่สุด ในการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ ไนโตะ ไม่สามารถรักษาพลังสั่นสะเทือนของเขาให้ปกคลุมตัวเขาได้ เขามุ่งความสนใจไปที่การกำจัดศัตรูเท่านั้น และนั้นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือดของศัตรู
เขายืนอยู่ที่นั่น ในขณะที่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด
โอโรจิมารุ เฝ้าดู ไนโตะ ที่ยืนอยู่ตรงนั้น และพูดออกด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ชายเพียงคนเดียว ควบคุมทั้งสนามรบได้ด้วยตัวเอง”
โอโรจิมารุ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยดวงตาที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นถึงท่าทางแปลก ๆ
“เขาแข็งแกร่ง ถึงเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่า ซาคุโมะ …แต่แน่นอนว่า ไนโตะ เป็นเหมือนเครื่องจักรสังหารในสนามรบครั้งนี้”
“ขีดจำกัดสายเลือดของเขา เหมาะสำหรับสถานการณ์แบบนี้จริง ๆ”
ในท้ายที่สุด โอโรจิมารุ ก็สูดหายใจลึก ๆ แล้วเผยให้เห็นประกายในดวงตาที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับ
ในทางกลับกัน จิไรยะ ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แม้ว่าหลายต่อหลายครั้งที่เขาอยากที่จะมุ่งหน้าไปหา ไนโตะ แต่เขาก็รู้สึกละอายใจ เขาจะไปเสนอหน้าให้ ไนโตะ เห็นได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ในสนามรบ เขาทำได้แค่ยืนมอง ไนโตะ จากตรงนี้ และชื่นชมในพลังและจิตวิญญาณของ ไนโตะ เพียงเท่านั้น
เขามักจะถือตัวว่าเขาอยู่ในฐานะผู้อาวุโสกว่าทั้ง ไนโตะ และ มินาโตะ แต่หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้จบลง เขาคงไม่กล้าให้ ไนโตะ เคารพเขา แม้ว่าเขาจะแก่กว่า ไนโตะ ก็ตาม!
ฟิ้ว!!
หลังจากที่ ไนโตะ มองไปทั่วทั้งสนามรบ เขาก็รู้ว่าไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว เขาจึงรีบวิ่งกลับไปหา ซาคุโมะ ด้วยความเร็วสูงสุด
ซาคุโมะ กำลังจะเก็บดาบของเขาเข้าฝัก
“โชคร้าย ที่พวกเขาหนีรอดไปได้ทั้งหมด”
ซาคุโมะ พูดด้วยความสงสาร ในขณะที่เขามองไปมราแขนเปื้อนเลือดที่อยู่บนพื้น
ซาคุโมะ แน่ใจว่าแขนข้างนี้ไม่ใช่ของ โอโนกิ อย่างแน่นอน มันเป็นแขนของ ผู้บัญชาการหน่วยลับของอิวะ
เมื่อ ไนโตะ มาถึง ซาคุโมะ เขาก็เห็นแขนที่อยู่บนพื้น แล้วพยักหน้าให้ ซาคุโมะ และพูดว่า “ถ้าผมมาถึงเร็วกว่านี้ เราต้องหยุดเขาไว้ได้แน่นอน”
“ไม่หรอก มันยากกว่าที่คิด ถ้า โอโนกิ ได้ประสานอินแล้ว ก็ยากที่จะมีใครจับเขาได้ทัน…แม้ว่า คาถาแผ่นดินไหวของเธอจะสามารถทะลุลงไปในชั้นดินได้ แต่วิชาของ โอโนกิ นั้นเร็วมาก”
ซาคุโมะ ส่ายหัว จากนั้นเขาวิเคราะห์อย่างจริงจังถึงผลลัพธ์อีกรูปแบบหนึ่งหาก ไนโตะ มาได้ทันเวลา แต่เขาก็ภูมิใจกับผลลัพธ์นี้เล็กน้อย
เพราะมีโอกาสน้อยมาก ที่นินจาคนที่ถูกตัดแขนจะรอดชีวิตไปได้ การสังหาร ผู้บัญชาการหน่วยลับ ได้ ก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก และสิ่งนี้จะทำให้ หมู่บ้านอิวะ เดินเกมในสงครามได้ยากขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็รู้ว่าสิ่งที่ ซากุโมะ พูดนั้นก็ถูกต้องทุกอย่าง การที่จะสังหาร โอโนกิ ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่า ไนโตะ จะมาถึงทันเวลาก็ตาม
“เข้าใจแล้วครับ”
ไนโตะ พยักหน้า เขาไม่ต้องรอให้ ซาคุโมะ อธิบายทั้งหมด เพราะเขารู้ดีว่า โอโนกิ แข็งแกร่งแค่ไหน
ความสามารถของ ไนโตะ นั้นทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสนามรบเช่นนี้ เขาคือเครื่องจักรสังหาร แต่ถ้า ฝ่ายอิวะ มีคนที่แข็งแกร่งอย่าง ซาคุโมะ มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับ ไนโตะ ที่จะเอาชนะได้
ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ในขณะนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก มันสูงกว่าครึ่งหนึ่งของระดับ คาเงะ แต่ก็ยังไม่เท่ากับระดับ คาเงะ อาจพูดได้ว่า ไนโตะ อยู่ในระดับของ กึ่งคาเงะพิเศษ เพราะพลังของ ไนโตะ นั้นพิเศษจริง ๆ นั้นก็หมายความว่า เขาสามารถจัดการกับใครก็ได้ที่มีนระดับต่ำกว่าระดับ คาเงะ หรือต่ำกว่าระดับของเขาได้อย่างง่ายดาย
ซาคุโมะ ไม่ต้องการคิดเกี่ยวกับเรื่องการหลบหนีของ โอโนกิ อีกต่อไป เขาหันกลับมามองที่ ไนโตะ แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าตัวของ ไนโตะ เต็มไปด้วยเลือด แต่เขาไม่ได้ตกใจอะไร เขาได้แต่ยิ้มให้ ไนโตะ เพราะเขารู้ว่าเลือดพวกนี้ไม่ใช้เลือดของ ไนโตะ อย่างแน่นอน
“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาชื่นชมในสิ่งที่เธอทำในวันนี้ สิ่งเดียวที่ฉันพูดได้ก็คือ…เธอสมบูรณ์แบบมาก”
ด้วยความขอบคุณจากใจ ซาคุโมะ ยิ้มให้ ไนโตะ อย่างจริงใจ เขารู้อยู่แล้วว่าหาก ไนโตะ ระเบิดพลังออกมา เขาจะกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร อย่างแน่นอน
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
“ผมทำแบบนั้นได้ก็เพราะไม่มีใครใน กองทัพอิวะ ที่จะหยุดผมไว้ได้ เพราะนินจาอิวะที่เก่ง ๆ พวกนั้นถูกท่านจัดการไปหมดแล้วยังไงละครับ”
ไนโตะ ยิ้ม ในตอนนี้ จิตสังหารของเขาได้สงบลงแล้ว และการแสดงออกของเขาก็กลับเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ได้สังหาร นินจาอิวะ ไปเป็นจำนวนมาก ตัวของเขาจึงยังเต็มไปด้วยเลือด
ในขณะที่ ไนโตะ กับ ซาคุโมะ กำลังพูดคุยกันอยู่ในสนามรบนั้น นินจาโคโนฮะ ก็ได้เก็บหลักฐานและทำความสะอาดสนามรบแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว
ทันใดนั้น นินจาคนหนึ่ง ก็ปรากฏตัวต่อหน้า ซาคุโมะ และ ไนโตะ
“ท่านซาคุโมะ ท่าน…ไนโตะ นี้เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ของการต่อสู้ครั้งนี้ครับ”
นินจาคนนั้น เรียก ซาคุโมะ ก่อน จากนั้นเขาก็ลังเลที่จะเรียก ไนโตะ แบบนั้น แต่สุดท้ายเขาก็เรียกออกมา
ไนโตะ ยังคงเป้นแค่ เกะนิน และเขาก็ยังเด็กมาก อายุเขายังน้อยเกินไปที่จะมีใครเรียกเขาว่า ท่าน
อย่างไรก็ตาม หลังจากการกระทำที่น่าอัศจรรย์ของเขาในสนามรบแห่งนี้ เขาก็สมควรที่จะได้รับการให้เกียรติสุงสุด!
“จำนวน กองทัพอิวะ ทั้งหมดมีประมาณ 1,400 คน เสียชีวิตไป 1,219 คน และอีก 37 คนถูกจับได้ จำนวนผู้ที่หนีไปได้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่น่าจะมีประมาน 100 คนเท่านั้นครับ”
ซาคุโมะ พยักหน้ารับรายงายของ นินจาคนนั้น แล้วเขาก็ถามขึ้นมาว่า “แล้ว ไนโตะ ฆ่าไปกี่คน?”
เมื่อ ซาคุโมะ ถามคำถามนี้ออกไป นินจาที่ได้ยินก็ทยอยกันเข้ามาล้อมวงรอบ ๆ ซาคุโมะ , ไนโตะ และ นินจาที่กำลังรายงานผล ทุกคนต่างอยากรู้ว่า ไนโตะ ฆ่าไปกี่คนกันแน่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น