The Novel’s Extra 494-498

 บทที่ 494 สงครามอันขุุ่นมัว (4)


 


ทันใดนั้นมีดคมก็มาถึงคอของ เทนซูฮาร์ มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์อ้าปากค้างเมื่อเจอความเยือกเย็นอย่างฉับพลัน


 


“เงียบ.”


 


“… .”


 


เทนซูฮาร์ เหลือบไปมองศัตรูที่อยู่ข้างหลังเขา เขามองไม่เห็นใบหน้าของผู้บุกรุก แต่ เทนซูฮาร์ สังเกตเห็นว่าเขาสวมเสื้อคลุมสีดำมีการปักลายดอกบัว


 


‘ดอกบัวดำ.’


 


สัญลักษณ์ของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในบรรดามอนสเตอร์ของออร์เดนเหมือน เทนซูฮาร์ เขาเริ่มหวาดกลัว


 


“…แกมีอะไรจะพูดไหม”


 


ดอกบัวดำถาม ภายใต้แรงกดดันและความกลัวที่ท่วมท้น เทนซูฮาร์ ตอบออกมาทันที


 


“ฉัน….ฉันไม่รู้อะไรเลย ดะ ได้โปรด, โธ่ เว้ยยยยย… ”


 


เทนซูฮาร์ เริ่มลิ้นพันและเขาก็หมดสติเมื่อเขาสำลักลิ้นของเขาเอง


คิมฮาจินดูสถิติของเขา


 


[พลังชีวิต 33/100]


[ชื่อ – เทนซูฮาร์]


[ตำแหน่ง – ผู้ผิดกฎหมาย / ผู้ใฝ่ฝัน]


[ขอบเขต ขั้นที่ 1 ค่าเฉลี่ย]


[ศักยภาพ ระดับ 3 ค่าเฉลี่ย]


[หน้าที่ ผู้บริหารระดับต่ำ]


[สถานะ หมดสติจากความกลัว]


[ความสามารถพิเศษ – ล้างสมองระดับต่ำ]


[โอกาสที่จะชวนเป็นพวก – สูงอย่างน่าประหลาดใจ]


 


เขาไม่มีความสามารถในการโทรขอความช่วยเหลือจากระยะไกล


ไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าเขาดังนั้น คิมฮาจิน จึงโยนเขาลงไปบนพื้น


*************************************************************************


พวกเราเข้ายึดปราสาทได้อย่างง่ายดาย ผมผูก เทนซูฮาร์ ด้วยเชือกแล้วแขวนเขากลับหัว จากนั้นผมนั่งบนโซฟาใกล้ ๆ


 


“หืมมม ที่นี่สวยงามจนน่าประหลาดใจเลยนะ”


 


“ดังนั้น ตอนนี้ก็มีฐานด่านหน้าแล้วนะ….”


 


บอสมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเจนก็พึมพำกับแผนที่ในมือของเธอ


 


“ที่นี่มีเพียง 4 หมู่บ้านจากที่นี่ไปก็เป็นวังของ ออร์เดน”


 


“……………. !”


 


ในขณะนั้น เทนซูฮาร์ ก็ลืมตาขึ้นมา


 


“เฮ้ยยยยยย!”


 


“หา? อะไรกัน นายไม่ได้ฆ่าชายคนนี้เหรอ ดอกบัวดำ~?”


 


“ไม่นะ ฉันคิดว่าบางทีพวกเราอาจใช้งานเขาได้”


 


“โธ่ เว้ยยยยย ได้โปรด ปล่อยฉัน ปล่อยฉันไปเถอะ…”


 


เทนซูฮาร์ เป็นลมอีกครั้งหลังจากลืมตาของเขา ‘ตกใจอะไรหนักหนา’


ผมไม่สนใจเขาและเรียกพ่อค้าปีศาจมา


 


[คุณใช้ 1,000 DP เพื่อเรียกพ่อค้าปีศาจ ‘กวง’]


 


– ดีใจที่ได้เจอคุณ! ฉันเป็นพ่อค้าปีศาจ กวง!


 


กวง พ่อค้าปีศาจคนเดียวที่ ‘เป็นกลาง’ ที่ผมเคยเห็นปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา เขายิ้มให้ผม


 


“เราต้องการอุปกรณ์สื่อสารที่สามารถใช้ติดต่อป้อมปราการใต้ดินได้ นายมีอะไรแบบนั้นมั้ย?”


 


– แน่นอน 1 สำหรับคุณและอีก 1 สำหรับป้อมปราการ ราคา 1250 DP รวมค่าจัดส่ง


 


เมื่อผมจ่ายเงินให้เขาที่ 1,250 DP ผ่านระบบ กวง ก็มอบเครื่องรับส่งสัญญาณมือถือสีดำให้ผม


 


– ขอบคุณ. มีอะไรอีกไหม?


 


“เอ่อ…อาจจะ?”


 


ระบบการค้าของอสูรกลายเป็นประโยชน์มากกว่าที่ผมคิด ความจริงที่ว่าพวกเขายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อผมตราบใดที่ผมจ่ายเงินให้พวกเขานั้นสะดวกมากอย่างที่ ยูยอนฮา กล่าว ผมลูบคางขณะที่พูด


 


“…เฮ้.”


 


– ใช่?


 


“มีหนทางหา DP ได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลยไหม?


 


– คุณจับสลากไปแล้วนะ!


 


“นั่นก็จริง แต่นายบอกว่าจำนวนตั๋วที่ได้มันมีจำกัด และมันค่อนข้าง


น่าเบื่อที่จะต้องมาขูดตั๋วพวกนั้นทั้งหมด”


 


DP ลอตเตอรีถูกแบ่งออกเป็นรอบที่แตกต่างกันและมีตั๋วเพียง 10 ใบ ในรอบแรก ดังนั้นเมื่อจำนวนตั๋วที่ซื้อได้ลดลงโอกาสที่จพชนะก็ลดลงเช่นกัน และไม่มีทางที่ผมจะรู้ตั๋วใบไหนจะได้รางวัลเพราะการมันมีการซื้อหวยแบบนี้หลายมิติเหมือนที่พ่อค้าปีศาจพูด


 


– อืม~ ถ้างั้นคุณอยากลองมินิเกมหน่อยไหม?


 


“มินิเกม?”


 


“เฮ้, ดอกบัวดำ~ นายสนุกกับพ่อค้าอยู่เหรอ~?”


 


ทันใดนั้นเจนก็เข้ามาแทรกและผมก็ผลักเธอออกไป


 


“มันคืออะไร?”


 


– โปรดดูนี่


 


กวง กางฝ่ามือของเขาและทันใดนั้นวิดีโอก็โผล่ขึ้นมา


 


[ภายในมิติ การบริจาค DP ของคุณสามารถบันทึกส่วนย่อยอื่นๆ]


 


มันฟังดูเหมือนเป็นโฆษณาการบริการสาธารณะ หลังจากนั้นประมาณ 5 วินาที ของรูปร่างทรงกลมก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของกวง


 


“นี่มันอะไรน่ะ?”


 


– มันคล้ายกับลอตเตอรีที่เป็นเกมแห่งโชค โลกนี้เรียกมันว่า ‘ไลลอส’ มันเป็นมิติย่อย


 


“มิติย่อย?”


 


– ใช่มันเป็นมิติที่มีอันดับต่ำกว่าโลก ความแตกต่างระหว่างโลกกับ ไลลอส เป็นเหมือนความแตกต่างระหว่าง ‘ความจริง’ และ ‘นิยาย’


 


“…ทำไมนายถึงเปรียบเทียบมันกับนิยาย”


 


– มันก็แค่ตัวอย่างเท่านั้น อย่างไรก็ตามดูนี่


 


กวง จับมือของเขาเพื่อซูมเข้า ‘ไลลอส’ ทรงกลมได้แปรสภาพเป็นที่ดิน กลุ่มอัศวินกำลังยืนอยู่ตรงนั้น กวง พูด


 


‘ไลลอส’ กำลังต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของดินแดนปีศาจ คุณเป็นคนที่มาจากมิติที่สูงขึ้นสามารถช่วยเหลือผู้คนใน ไลลอส ได้


 


“ทำไมฉันถึงต้องช่วยพวกเขา? ฉันกำลังยุ่งอยู่กับการดูแลตัวเอง”


 


– ถ้าเป็นสปอนเซอร์ของคนๆหนึ่งคุณสามารถได้รับ DP ทุกครั้งที่คนที่คุณเป็นสปอนเซอร์สังหารสัตว์อสูรได้


 


“…หืมมม จริงๆเหรอ?”


 


ผมมองอัศวินอย่างใกล้ๆ


 


‘ 1 2 1 2 1 2 1!’


 


อัศวินตัวเล็กๆหลายร้อยคนฝึกฝนอย่างหนัก


 


‘พวกคุณจะไม่ฆ่าสัตว์อสูรเพียงตัวเดียวหากพวกคุณฝึกฝนอย่างหนัก!’


 


แม้แต่การดุด่าอัศวินระดับหัวหน้าก็ฟังดูน่ารัก


 


– ทำไมพวกคุณต้องลองดู แต่ระวังด้วย! พวกคุณสามารถหาสปอนเซอร์ได้สูงสุด 3 คนเท่านั้น โดยปกติจะมี 1 แต่พวกคุณจะได้เพิ่มอีก 2 เพราะ พวกคุณมี 5 ต่าสถานะ! อย่างไรก็ตามพวกคุณควรพยายามเลือกคนที่มีศักยภาพสูง


 


“อ้า~ นั่นคือเหตุผลที่นายพูดแบบนี้มันคล้ายกับลอตเตอรีเลย”


 


– ถูกตัอง! คุณควรเลือกคนที่แข็งแกร่งและขยันมากที่สุด! เวลาในนี้ไหลผ่ายอย่างรวดเร็ว 1 ปีใน ไลลอส คือ 30 วันในโลกนี้ คุณจะได้นั่งบนภูเขา DP ถ้าเลือกดันถูกคน!


 


“เข้าใจแล้ว”


 


เงื่อนไขนี้่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผม ผมไม่จำเป็นต้องใช้โชคของผมด้วยซ้ำ ผมดูอัศวินทีละคนและเริ่มประเมินศักยภาพของพวกเขา


ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหนในตอนนี้ ผมมุ่งเน้นไปที่


‘ศักยภาพ’ ของพวกเขา


 


อัศวิน 1 คนมีศักยภาพ [ระดับ  3 ค่าเฉลี่ย] อีกคนคือ [ระดับ 4 หายาก] และแม้แต่ผู้ที่เหนือกว่าด้วยเสียงอันดังก็เป็นเพียงแค่ [ระดับ 5 หายาก]


 


‘ไม่มีใครที่นี่มีพรสวรรค์จริงเหรอ’


 


ผมศึกษาอัศวินอย่างระมัดระวัง


 


“…โอ้ เจอแล้ว”


 


ผู้หญิงคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ดูกลุ่มอัศวินอีกกลุ่ม เธอดูเด็กและเธอก็ยังอ้วนเล็กน้อย แต่รูปลักษณ์บนใบหน้าของเธอนั้นมุ่งมั่นและตั้งใจเหมือนที่อัศวินควรจะเป็น


 


[พลังชีวิต 100/100]


[ชื่อ – ลิเทรน]


[ตำแหน่ง – ดีเลิศ / ช่างฝัน]


[ขอบเขต ระดับ 0 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย]


[ศักยภาพ 9 เขตเขตเหนือธรรมดา]


[หน้าที่ – ผู้ฝึกหัด]


[สถานะ – รู้สึกอิจฉารุ่นพี่ของเธอ ]


[ศักยภาพในการเกลี้ยกล่อมเป็นพวก – มองหาเจ้านายเพื่อรับใช้]


 


ศักยภาพของเธอเป็นขอบเขตที่น่าประหลาดใจ 9 ผมไม่แน่ใจว่ามันดีแค่ไหน แต่ผมคิดว่ามันดีพอที่เธอจะเติบโตได้ด้วยตัวเองแม้ว่าผมจะทิ้งเธอไว้คนเดียว ผมเลือก ลิเทรน เป็นผู้รับผลประโยชน์


 


[คุณเลือกที่จะสปอนเซอร์ ลิเทรน]


 


– คุณต้องการบริจาคมากแค่ไหน?


 


“100,000 DP.”


 


– ว้าว คุณเป็นคนใจกว้างมาก~


 


[คุณบริจาค 100,000 DP ให้กับ ลิเทรน ลิเทรน ได้รับคุณสมบัติ


‘หน้าต่างสถานะ’]


[ลิเทรน จะใช้เงินบริจาคของคุณให้คุ้มค่าที่สุด]


 


วินาทีต่อมาดวงตาของ ลิเทรน ก็เบิกกว้าง เธอดูสับสน แต่การบริจาคครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นปรากฏการณ์ที่รู้จักกันดีใน ไลลอส ลิเทรน


กำกำปั้นของเธอและกระโดดขึ้นด้วยความดีใจ


 


– เย้~! ฉันถูกเลือก-!


 


เมื่อเสียงตะโกนของเธอดังขึ้น อัศวินคนอื่นๆก็หันมาสนใจเธอ


 


“นี่มันอะไรกัน ทำไมจู่ๆเธอก็มีความสุขขึ้นมา”


 


– ผู้คนใน ไลลอส คุ้นเคยกับการบริจาค…อืม มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการบริจาคงั้นเหรอ!


 


จู่ๆที่หางตาของผมก็เบิกกว้างและข้อความในระบบจำนวนมากขวางมุมมองของผม


 


[โชคต่างมิติของคุณเปิดใช้งาน]


[เนื่องจากโชคของคุณทำให้ความสามารถทางกายภาพของ ลิเทรน จะแข็งแกร่งขึ้น!]


[เนื่องจากโชคของคุณการเติบโตของ ลิเทรน จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!]


[ตอนนี้คุณสามารถได้รับ 100% ของ DP ที่ ลิเทรน ได้รับจากการล่า สัตว์อสูร]


 


– สมบูรณ์แบบ! เธอจะแข็งแกร่งมากในไม่ช้า! คุณสามารถคืนเงินบริจาคเริ่มต้น 100,000 DP ได้ภายใน 2 เดือน


 


“…อืม ฟังดูดีมาก”


 


ผมมองไปที่ ลิเทรน ที่กำลังกระโดดขึ้นๆลงๆอย่างสนุกสนานจากนั้นก็ปิด ‘มินิเกม’ ลง


 


“เสร็จแล้ว”


 


ผมจับตัวรับส่งสัญญาณที่ผมซื้อมาแล้วหันหลังกลับ


 


“ป้อมปราการใต้ดินพวกคุณได้ยินฉันไหม”


 


ตัวรับส่งสัญญาณนั้นเชื่อมต่อกับป้อมปราการใต้ดิน คำตอบส่งมาอย่างรวดเร็ว


 


– ใช่ ฉันได้ยิน นี่คือไอลีนและคุณคือ…ดอกบัวดำเหรอ? ฉันได้รับเครื่องส่งสัญญาณแล้ว แล้วพวกเราจะเจอกันอีกครั้งมั้ย เป็นเรื่องดีที่ได้เจอนายนะฉันว่า?


 


เสียงของ ไอลีน ฟังดูร่าเริงเหมือนปกติ ผมพูดในลักษณะที่ไม่แยแสตามปกติของ ดอกบัวดำ


 


“นี่คือดอกบัวดำ พวกเรายึดหมู่บ้านแห่งหนึ่งของออร์เดนเรียบร้อย”


บทที่ 495 สงครามอันขุุ่นมัว (5)


 


– หมู่บ้าน? มีหมู่บ้านในแอฟริกางั้นหรือ


 


น้ำเสียงของไอลีนสูงขึ้นราวกับประหลาดใจ ผมมองดูแผนที่บนโต๊ะของหมู่บ้านแล้วบอกไปว่า


 


“ใช่ หมู่บ้านชื่อ เครน พวกเราเพิ่งจะได้เป็นเจ้าของที่นี่”


 


– อะไรนะ? มันยังมีเจ้าของด้วยเหรอ?


 


“มันเป็นมอนสเตอร์ที่คล้ายกับจิ้งจก เทนซูฮาร์ เป็นชื่อของมัน”


 


– …


 


ไอลีนเงียบไปครู่หนึ่งและก็มีเสียงพึมพำจากอีกด้านหนึ่ง


 


“อ้าๆ~ เป็นเด็กคนนั้นอีกแล้วเหรอ~?”


 


เจนบ่นอย่างไม่มีความสุข ผมยิ้มและปิดตัวรับส่งสัญญาณ


 


“ฉันอยากรู้จัง เจน เธอรู้จัก ไอลีน ได้ยังไง”


 


“ฉัน? อืม~ ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ~ เมื่อก่อนฉันเคยทำตัวเป็นฮีโร่น่ะ


เธอเป็นหัวหน้าของฉัน ยัยเด็กเหลือขอนั่นอายุน้อยกว่าฉันตั้ง 2 ปี


ฉันเกลียดเธอและที่สำคัญเพราะพรสวรรค์ของเธอ~”


 


– วิ้ง


 


ตัวส่งสัญญาณส่งเสียงทันทีที่ เจน พูดจบประโยคของเธอ


 


– ใครอยู่ในหมู่บ้านบ้าง?


 


ไม่ใช่เสียงของ ไอลีน แต่เป็นของ ยุนซึงอา เจนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเธอขมวดคิ้ว ผมล้างคอของผมด้วยอาการไอแล้วตอบกลับด้วยเสียงของผมที่เปลี่ยนเป็นของแบล็กโลตัส


 


“มนุษย์.”


 


– พวกเขาปกติดีไหม


 


“พวกเขามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ดูเหมือนพวกเขาจะถูกล้างสมอง แต่ไม่ได้ถูกทำร้าย พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็น ‘นักขุด’ ที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้ว”


 


– …


 


เธอเงียบไปอีกครั้ง เมื่อผมไม่ได้ยินเสียงผมเดาว่าพวกเขาปิดเครื่องรับส่งสัญญาณและเริ่มการประชุม ผมตรวจสอบ ‘มินิเกม’ ขณะที่รอการตอบกลับ


 


「…ผ่านไปครึ่งวันแล้วตั้งแต่เลือก ลิเทรน อัศวินหลายคนแสดงความยินดีกับเธอ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอิจฉาเธอมากแค่ไหน ความแข็งแกร่งทางกายภาพของ ลิเทรน เพิ่มขึ้นทันทีที่เธอได้รับเลือกและเธอได้รับคะแนนเกือบ 130,000 คะแนน เห็นได้ชัดว่าสปอนเซอร์ของ


ลิเทรน เป็นเจ้าสัวที่ไม่เคยมีมาก่อน อัศวินไม่เข้าใจในสิ่งที่สปอนเซอร์


ผู้ร่ำรวยเห็นในตัว ลิเทรน


 


ผู้หญิงที่ไร้การศึกษาที่มาเมืองหลวงโดยไม่มีแผนอะไรเป็นได้เพียงภาระเท่านั้นนั่นสิ่งที่ ลิเทรน เป็นในสายตาของพวกเขา


 


ไม่มีใครรู้ว่า ลิเทรน รู้ถึงความไม่พอใจของเหล่าอัศวินหรือไม่ แต่เธอก็เริ่มเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ ช่วงเวลาที่เธอ ‘ถูกเลือก’ เธอตั้งศาลสำหรับสปอนเซอร์ของเธอในห้องเล็กๆและสวดภาวนาก่อนอาหาร


ทุกมื้อการที่ ‘ถูกเลือก’ เป็นความฝันของเธอ ตอนนี้เธอประสบความสำเร็จแล้วความสุขของเธอในตอนนี้ไร้ขอบเขต…. 」


 


“หืมม.”


 


สิ่งต่างๆดูเหมือนจะก้าวหน้าดี แต่ว่าเธอไม่จำเป็นต้องคารวะผม…


ผมเห็น ลิเทรน สวดอ้อนวอนก่อนรับประทานผมก็เลยไตร่ตรองอีกครั้ง


 


===


[Buster Call] [ระดับสูง]


– การใช้พลังเวทมนต์ของรอยสักเรียกจากข้ารับใช้จาก Tower of Wish ที่สาบานตนภักดีต่อ คิมฮาจิน หรือทรัพย์สมบัติของเขาออกมา


===


 


พรสวรรค์จากการใช้งาน Buster Call แต่เพียงผู้เดียวของผม ด้วยการเพิ่มอีก 1-2 คำหลัง ‘Tower of Wish’ ผมรู้สึกว่าผมสามารถใช้เพื่อเรียก ลิเทรน ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น [อัญเชิญจาก Tower of Wish หรืออีกมิติหนึ่ง…]


 


“เฮ้ย, กวง”


 


ผมพูดกับ กวง ที่ยืนอยู่เงียบๆ


 


– ว่าไง?


 


“นายบอกว่าพวกเราอยู่ในมิติที่สูงกว่าใช่มั้ย”


 


– ใช่เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของมินิเกม


 


“ถ้างั้นเป็นไปได้ไหมที่จะเรียกสิ่งมีชีวิตที่อยุ่ในมิติที่ต่ำมาสู่มิติที่สูงขึ้น?”


 


– ฉันไม่แน่ใจเพราะฉันไม่เคย แต่มันอาจเป็นไปได้ เพราะคุณมาจากมิติที่สูงกว่า


 


“…อะไรคือความแตกต่างระหว่างมิติสูงและมิติที่ต่ำกว่า”


 


– เพียงแค่เล็กน้อยขนาดที่ใหญ่กว่าจะมีความเสถียรมากกว่า สำหรับคนในมิติที่ต่ำกว่าสิ่งมีชีวิตในมิติที่สูงกว่านั้นก็เหมือนเทพ


 


‘มีเสถียรภาพ…’ ผมกำลังคิดถึงความหมายของคำนี้เมื่อ กวง อธิบาย


 


– มิติที่มีความเสถียรกว่าจะมีมนุษย์ที่อ่อนแอกว่า มิติที่มั่นคงที่สุดจะเป็นมิติที่มนุษย์แต่ละคนมีอิสระในการแทรกแซงธรรมชาติน้อยที่สุด


 


เห็นได้ชัดว่า กวง พูดอะไร แต่ทำไมฉันถึงคิดถึงโลกดั้งเดิมของผม ‘โลก’


 


โลกที่ผมอาศัยอยู่ไม่มีเวทมนตร์ มานา พลังเวทมนต์ ศิลปะการต่อสู้หรืออะไรก็ตามที่เหนือธรรมชาติ แม้ว่าเทคโนโลยีขั้นสูงของมนุษยชาติจะเอาชนะธรรมชาติได้ แต่คนจำนวนนับไม่ถ้วนเสียชีวิตไปในระหว่างกระบวนการนั้น มันเป็นโลกที่ ‘มนุษย์แต่ละคนมีอิสระน้อยที่สุดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธรรมชาติ’


 


ผมจ้องมองที่ กวง ด้วยความสงสัย แต่ กวง ยิ้มกว้างโดยไม่พูดอะไรเลย


 


“และตอนนี้”


 


– ตัวรับส่งสัญญาณส่งเสียงอีกครั้ง กวง ยังบอกด้วยว่าเวลาของเขาหมดลงแล้วและเขาก็หายไป


 


– นี่คือด้วง นายได้ยินฉันไหม?


 


“…ด้วง?”


 


– มันเป็นชื่อรหัส นายมีแผนจะทำอะไรต่อจากนี้


 


“…พวกเราวางแผนที่จะใช้หมู่บ้านนี้เป็นฐานด่านหน้า”


 


– Pathfinder? อ่าเข้าใจแล้ว แจ้งให้พวกเราทราบเมื่อคุณไปถึงหมู่บ้านฉันมีการประชุมที่จะเข้าร่วมตอนนี้


 


จากนั้นตัวรับส่งสัญญาณก็เงียบ ผมมองไปที่ เทนซูฮาร์ ที่ถูกมัดและห้อยต่องแต่งจากเชือกบนเพดาน ดวงตาของเขาถูกปิดราวกับว่าเขาหมดสติ แต่ผมสามารถเห็นสถานะของเขา


 


[สถานะ – เขากำลังแกล้งสลบ]


 


เขาแกล้งทำเป็นหมดสติ


 


“ลืมตาของแกซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก”


 


“… .”


 


“ 5 4 3 ….”


 


“ฉัน….ฉันตื่นแล้ว!”


 


เทนซูฮาร์ ลืมตาของเขาก่อนที่ผมจะนับถึง 2


 


“โอ้~ เขาตื่นแล้ว~?” เจนยิ้มและเข้าหาเขา


 


เทนซูฮาร์ ยิ้มอย่างยอมจำนนและถูมือของเขาเข้าด้วยกัน


 


“ใช่….ใช่ ฉัน……ฉันเพิ่งตื่น…”


 


“….” ผมยกเขาขึ้นมากลางอากาศแล้วพูดว่า“ เฮ้ย”


 


“ครับ?”


 


“…นายสามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำทางของพวกเราได้ไหม”


 


“นำทาง?”


 


“ถูกตัอง. พวกเราต้องไปต่อ”


 


แม้ผมจะสามารถหลีกเลี่ยงกับดักได้โดยใช้สายตาที่ยอดเยี่ยมของผมแต่มันก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่


 


“…โอ้! ได้ๆ”


 


เทนซูฮาร์ ดูเหมือนจะไตร่ตรองสักครู่ แต่ก็ตอบกลับอย่างกระตือรือร้น เขาคงตระหนักว่านี่เป็นวิธีเดียวที่เขาจะมีชีวิตรอดไปได้


 


[พี่ เป็นไงบ้างเหรอ?]


 


ข้อความปรากฏขึ้นต่อหน้าผม


 


[ฉันเองนะ ไม่ได้คุยกันนานเลยㅋㅋ ^^]


 


“…นี่มัน?”


 


[ฉันมาใน TOW (Tower of Wish) เพื่อสุ่มการ์ด ฉันส่งข้อความถึงพี่เพราะฉันได้อะไรที่น่าสนใจมา ㅋㅋ เดี๋ยวมาดูกันว่าฉันจะส่งข้อมูลการ์ดอะไรไปให้พี่]


 


“อะไรนะ?”


 


เสียงของ แชนายอน ถูกถ่ายทอดมาพร้อมกับข้อความ เสียงเรียกเข้าทำให้ผมปวดหัวเล็กน้อย


 


[ㅋㅋดูนี่สิ ㅋㅋ ฉันกรี๊ดออกมาเลยนะตอนที่ฉันได้มันมา ㅋㅋ มันเป็นการ์ด 8 ดาวใบแรกที่ฉันได้ ㅋㅋㅋ]


 


ข้อมูลการ์ดโผล่ขึ้นมาต่อหน้าผม


 


===


[การสื่อสารไม่มีที่สิ้นสุด] [8 ดาว] * ประสิทธิภาพดี *


– เลือก 55 ผู้เล่นเพื่อการสื่อสารที่ไม่จำกัด


– ข้อความและเสียงจะถูกส่งไปพร้อมกัน ผู้รับไม่สามารถปฏิเสธการสื่อสารของคุณได้หากไม่มีการ์ด 7 ดาวที่ชื่อว่า [ปฏิเสธการสื่อสาร]


– ผู้ใช้งานการ์ดใบนี้จะได้รับผลกระทบจากการรบกวนทางจิตใจ


===


 


[ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นยังไงบ้างพี่? พี่เคยได้การ์ด 8 ดาวมาก่อนหรือเปล่าละ? อ่า~ เป็นนานแล้วนะที่ฉันออกจากหอคอยมา แต่การสุ่มการ์ดใบนี้ได้ทำให้ฉันอยากจะกลับไป แต่ฉันมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำเหมือนกัน….]


 


“ชิ เสียงดังมาก….”


 


เธอน่าจะอยู่ในป้อมปราการใต้ดินหรือเปล่า? ทำไมเธอถึงไปที่หอคอย


 


[…อ๊ะ โอ๊ะๆๆ แย่แล้ว ฉันใช่เสียงสูงเกินไป ;;]


 


ดูเหมือนว่าเธอพึ่งจะคิดออก เสียงของ แชนายอน ซึ่งคล้ายเสียงคำรามลดลงไปจนถึงระดับของเสียงกระซิบ


 


“ฮา…อาา….”


 


[อ่า พี่ ฉันตั้งใจจะสื่อสารแบบ 2 ทิศทาง หากมีอะไรที่พี่ต้องการพูดออกมาได้เลยนะ พี่แค่คิดว่าจะส่งข้อความถึงฉัน]


 


“…นี่มันการ์ดอะไรวะเนี้ย”


 


เธอได้การ์ด 8 ดาวออกมาได้ยังไง โชคของเธอดีขนาดนั้นเลย?


 


ผมได้แต่ถอนหายใจ


*************************************************************************


 


วันถัดไป.


 


แชนายอน, คิมซูโฮ, และฮีโร่อีกหลายคนกลับไปยังป้อมปราการใต้ดินหลังจากดึงการ์ดในอาณาจักรแห่งการ์ดที่ Tower of Wish ไอลีนสั่งให้พวกเขาทำเช่นนั้นในกรณีที่พวกเขาอาจจะสุ่มได้สิ่งที่สามารถช่วยในภารกิจของพวกเขาได้


 


คิมซูโฮ ได้การ์ด 8 ดาวและการ์ด 7 ดาว 3 ใบในขณะที่ แชนายอนสุ่มได้การ์ด 8 ดาว 2 ใบ


 


[อ่า คิมซูโฮได้ยินฉันมั้ย]


 


“…อ่า.”


 


ปัจจุบัน คิมซูโฮ กำลังทุกข์ทรมานจากการโจมตีของ แชนายอน


 


[เสียงของฉันไม่ดังแล้วใช่มั้ย]


 


“ใช่เลย.”


 


[ฮิฮิ ㅋㅋ การ์ดใบนี้น่าทึ่งใช่ไหมละ]


 


คิมซูโฮถอนหายใจและตอบว่า “ใช่”


บทที่ 496 สงครามอันขุุ่นมัว (6)


 


[ฉันแทบเป็นบ้าตอนที่สุ่มได้การ์ด 8 ดาวใบแรกที่มันคือการสื่อสารที่ไม่สมเหตุสมผล แต่ ㅋㅋㅋ ฉันชอบมันที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ ㅋㅋㅋ]


 


“…คุณเพิ่งจะคุยไปไม่ได้เหรอ?”


 


เมื่อเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป คิมซูโฮ แดกดัน แชอนายอน ที่ยืนอยู่ข้างเขา แต่ แชนายอน นิ่งเงียบและส่ายหัว


 


[ไม่ ฉันต้องชินกับสิ่งนี้ก่อน มันใช้งานยากกว่าที่นายคิดเยอะ]


 


“อาๆๆๆ…ทำตามที่เธอต้องการเถอะ”


 


คิมซูโฮส่ายหัว


 


ขณะที่พวกเขากำลังทดสอบการ์ดที่พวกเขาได้มาประตูของเต็นท์ผู้บัญชาการก็เปิดออกและไอลีนก็เดินเข้ามาเธอจ้องมองที่คิมซูโฮและ


แชนายอนก่อนที่จะตะโกนเสียงดัง


 


“สมาชิกทุกคน! ออกมา!”


 


เสียงของเธอมีพลังซ่อนอยู่ข้างใน ทันใดนั้นสมาชิก 177 คนของป้อมปราการใต้ดินก็เดินออกไปจากค่ายทหารด้วยความงุนงงเมื่อเห็นแบบนี้ ไอลีนก็พูดด้วยความพึงพอใจ “พวกคุณไปซื้อการ์ดมาเมื่อวานใช่ไหม?”


 


แต่คำตอบนั้นไม่ได้มีความกระตือรือร้นเนื่องจากฮีโร่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นชนชั้นสูงที่มีพลังเกินกว่าจะรับใช้ภายใต้ผู้อื่นได้


 


“ชิ ฉันแน่ใจว่าพวกคุณรู้ว่าการ์ดอะไรมีประโยชน์ แลกเปลี่ยนพวกเขาหากพวกคุณต้องการ ยังไงก็ตามเหตุผลที่ฉันเรียกพวกคุณมา…”


ไอลีน พูดอย่างจริงจัง “…เพื่อบอกพวกคุณว่าแอฟริกามีหมู่บ้านอยู่”


 


“หือ?” แชนายอน และฮีโร่คนอื่นๆที่กำลังง่วนอยู่กับการหยิบการ์ดของพวกเขาต่างเอียงหัว


 


“ออร์เดนลักพาตัวมนุษย์และสร้างหมู่บ้านในแอฟริกา สมาคมบอกว่ามันจะขัดขวางพวกเราจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ แต่ใครจะรู้…ยังไงก็ตามพวกเราตัดสินใจจัดตั้งทีมลาดตระเวน”


 


หัวหน้านักยุทธศาสตร์ ‘อีกงมยอง’ ได้สั่งให้หน่วยรบเฉพาะกิจจัดตั้งทีมลาดตระเวนเพื่อลาดตระเวนจากภายนอก


 


“มันเป็นความสมัครใจดังนั้นแจ้งให้พวกเราทราบหากพวกคุณต้องการเข้าร่วม มันจะเป็นภารกิจที่อันตรายดังนั้นฉันจะเสนอการ์ด 7 ดาว 3 ใบที่ฉันมี”


 


“ฉันจะเข้าร่วม!” ใครบางคนตะโกนและยกมือของเธอในขณะที่ไอลีน พูดเสร็จเป็น แชนายอน ซึ่งเพิ่งชื่นชอบในคำว่า ‘ภารกิจอันตราย’


 


“ฉันจะเข้าร่วมด้วย”


 


“ฉันก็เหมือนกัน”


 


“ฉันจะไปด้วย”


 


คิมซูโฮ,ชินจงฮักและจินเซยอน รีบพูดตามทันที ทีมลาดตระเวนตอนนี้มี 4 คน


 


“อืม……..เยี่ยมมาก” ไอลีนพยักหน้าอย่างพอใจ


 


“ฉันจะเป็นคนนำทางเอง”


 


จากนั้นชายผู้แนะนำตัวเองว่าชื่อ รีเบล พูดขึ้นมา เขายังอยู่ในป้อมปราการใต้ดินแม้ภารกิจของเขาจะจบลงแล้ว


 


“…หากมีสิ่งอะไรที่ฉันทำได้ดีก็คงเรื่องการค้นหาเส้นทางที่ถูกต้อง”


 


รอยยิ้มของเบลล์ที่มองไปมาระหว่างคิมซูโฮ ชินจงฮัคและแชนายอน


*************************************************************************


ในทางตรงกันข้ามจินซาฮยอค กำลังสร้างเส้นทางที่เป็นอิสระทั้งหมดด้วยตัวเอง


 


“ไอ้…แม่งเ้อย…ฉันจะเผามันจนกว่าจะตาย”


 


เธอด่าทุกอย่างทุกย่างก้าวขณะเดินผ่านดินแดนแอฟริกา เธอกำลังทำงานหนักภายใต้ดวงอาทิตย์ร้อนแรงเพียงเพื่อจะได้พบกับเบลล์ผู้ซึ่งติดต่อกับเธอมา


 


“แฮ่ก,แฮ่ก…แฮ่ก….”


 


เธอเดินผ่านทะเลทรายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆเลย หากมอนสเตอร์หรือมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นมาเธอก็จะฆ่ามันด้วยพลังของเธอ มอนสเตอร์ที่ได้กลิ่นเลือดก็มาหาเธอและเธอก็ฆ่าพวกมันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ที่ดมกลิ่นได้ก็เข้ามาหาเธอ พวกมันเรียกตัวเองว่า’ฝ่ายลาดตระเวนมอนสเตอร์ร่างมนุษย์’ แต่ว่าจินซาฮยอคก็ส่งพวกมันไปเกิดใหม่เหมือนปกติ


 


ฆ่า เดินต่อ ฆ่า ฆ่า เดินต่อ


 


เธอทำซ้ำวงจรนี้เป็นเวลานานก่อนได้กลิ่นหอมในอากาศ มันแตกต่างจากกลิ่นของเลือดหรือเวทมนตร์ มันเป็นกลิ่นของคนที่เธอรู้จัก


 


“นี่…สูดๆ”


 


เหมือนสุนัขเธอสูดอากาศทุกทิศทาง


 


“เป็น เบลล์”


 


เป็นเบลล์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันไม่ใช่แค่กลิ่นของเบลล์ที่เธอได้กลิ่น อย่างน้อยอีก 4 คนซึ่งหมายความว่าเบลล์มีสหายมาด้วย…


 


“ไอ้ลูกหมานั้นกำลังวางแผนอะไรอยู่อีกละ”


 


จินซาฮยอค หลับตาและส่งสัญญาณอีกครั้ง


 


– เบลล์ ตอบด้วย ฉันอยู่ในแอฟริกาแล้ว กลิ่นของนายมันอยู่ที่นี่


นายกำลังวางแผนอะไรอยู่


 


1, 2, 3, 4, 5 …


 


5 วินาทีต่อมาคำตอบก็ส่งกลับมา


 


– โอ้~ พวกคุณมาถึงแอฟริกาแล้วเหรอ~? ตอนนี้ฉันกำลังลาดตระเวนกับสหายของฉัน


 


– ลาดตะเวน?


 


– ใช่~ คิมซูโฮ,แชนายอน,ชินจงฮักและจินเซยอนเธอรู้จักทั้ง 4 คนใช่มั้ย


 


คิมซูโฮ และ ชินจงฮัก พวกเขาเป็นผู้ชาย 2 คนที่จินซาฮยอคเกลียดมากที่สุด ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวอย่างรวดเร็วจนขมวดคิ้ว


 


– …นายวางแผนจะทำอะไรกับคิมซูโฮ? มาที่นี่เดี๋ยวนี้


 


– ฉันทำไม่ได้~ ฉันถูกจำกัดโดย วาจาสิทธิ ฉันต้องเชื่อฟังพวกเขาจนกว่า ออร์เดน จะตาย


 


– หยุดหลอกลวงได้แล้วไอ้บ้า ฉันรู้ว่านายสามารถกำจัดมันได้ทุกเมื่อที่นายต้องการ


 


จินซาฮยอค ยังคงส่งการส่งสัญญาณทางจิตจนกระทั่งผมของเธอตั้งขึ้น


แต่เมื่อภาษาของจินซาฮยอคเริ่มหยาบคายเบลล์ก็ตัดการติดต่ออีกครั้งและจินซาฮยอค ไม่มีทางเลือกนอกจากจะกระทืบเท้าของเธอด้วยความโกรธ


 


“ไอ้สารเลว รอเดี๋ยวก่อนเถอะ ฉันจะอัดแกให้เละเลย…”


 


ดินแดนปีศาจ พ่อค้าปีศาจ การสืบเชื้อสายของบาอัล มีคำถามมากมายที่เธอต้องการถาม แต่เบลล์ก็หลีกเลี่ยงเธอเหมือนเขาพัฒนางานอดิเรกใหม่คือหลอกให้อยากแล้วจากไป


 


“ฉันจะฆ่าแก.”


 


‘เบลล์ ความตายนิรันดร์ที่แกต้องการฉันจะมอบให้แกเป็นการส่วนตัวทันทีที่ฉันได้เจอแกอีกครั้ง’ จินซาฮยอค กัดฟันของเธอและเริ่มไล่ล่ากลิ่นของเบลล์


*************************************************************************


พระอาทิตย์อัสดงของแอฟริกา


ความร้อนที่แผดเผาหายไปอย่างรวดเร็วแทนที่ด้วยความหนาวเย็นและโลกก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด


 


ผมใช้โอกาสนี้เพื่อออกจาก เครน กับบอส, ชอคจุนกยอง และ เทนซูฮาร์ พวกเราวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่ 2  พวกเราให้ เทนซูฮาร์ นำทางเรา


 


“ไม่ได้มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ทุกคนมีความจงรักภักดีต่อ ออร์เดน, พวกเราทำตามสัญชาตญาณการต่อสู้และความแข็งแก่รง แต่กลับกันถ้ามอนสเตอร์ที่แข็งแก่รงกว่าออร์เดนปรากฏตัวเมื่อไหร่มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ของออร์เดนก็จะเปลี่ยนฝ่ายเอง”


 


เทนซูฮาร์ ดูถูก ออร์เดน เพื่อให้ได้รับความโปรดปรานของพวกเรา


 


“นี่เป็นความลับ แต่ฉันไม่เคยชอบ ออร์เดน เลย จริงๆแล้วผมอยู่ข้างมนุษย์ ผมได้รับการวางแผนให้ดูแลมนุษย์ในเครนและเตรียมหนีออกมาจากแอฟริกาอยู่แล้วนะ”


 


เขาโกหกอย่างชัดเจน แต่ผมจะปล่อยเขาไปก่อน


 


“แล้วแกอยากพวกเราทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”


 


แต่ ชอคจุนกยอง ดูเหมือนจะคิดอย่างอื่นเมื่อเขาวางมือบนหัวของ


เทนซูฮาร์


 


“อ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่าไม่มีอะไร ฉันแค่อยากให้รู้ว่ามีมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์อย่างฉันอยู่เหมือนกัน….”


 


“ตอนนี้ฉันกำลังมองดูมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์อย่างแก หยุดพูดเรื่อง


ไร้สาระและอธิบายว่าพวกเรากำลังไปไหน”


 


ชอคจุนกยอง จ้องมองไปที่ เทนซูฮาร์


 


“ใช่แล้ว หมู่บ้านระดับกลางที่ชื่อว่า ‘ลูพิตัน’ เป็นวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปข้างหน้า ลอร์ดลูพิตัน คือ ‘เพร์รอน’ ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ทรงคล้ายมนุษย์หิมะ


 


– ดิ้งงงงงงงงงง


 


ในขณะนั้นเองบอสก็ได้รับข้อความตัวอักษรจาก เจน


 


“อืม~ เจนบอกว่าพวกเธอขุดแร่”


 


“ดี.”


 


‘พรีเมียน’ เป็นแร่ที่ยอดเยี่ยม สมบัติที่พบได้ในแอฟริกาเท่านั้นจริงๆแล้วแร่ส่วนใหญ่ที่พบในแอฟริกานั้นหายากและมีค่า ผมออกแบบแอฟริกาให้เป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนสูง


 


“ดูเหมือนว่าถึงเวลาอัพเกรดอุปกรณ์ของเราแล้วสินะ”


 


พรีเมียนเป็นแร่ที่บอบบางมาก แต่ถ้าเอาไปแปรรูปจะสามารถปรับปรุงความทนทานได้หลายเท่า ในอัตรานี้ผมจะไม่แปลกใจถ้าผมสามารถทำให้มันกลายเป็นของดีได้อย่างง่ายดาย


 


“… .”


 


จากนั้นบอสมองมาที่ผมอย่างอิจฉา ผมยิ้มเพราะคิดว่าเธอน่ารักมาก


 


“ผมจะสร้างให้คุณด้วยบอส”


 


“…อืม ฉันไม่ปฏิเสธ”


 


“ทำให้ฉันด้วยสิ ฉันไม่ต้องการอะไรยิ่งใหญ่หรอกนะเอาแค่รองเท้า ก็ไม่มากแต่อยากให้เหมาะกับเท้าของฉันและไม่อยากให้มันแตกเร็ว”


 


ชอคจุนกยอง ขออุปกรณ์ใหม่ด้วยเช่นกันทันใดนั้น เทนซูฮาร์ ก็หันมามองผม ดวงตาที่เหมือนจิ้งจกของเขาเปล่งประกายสดใส ผมรอให้เขาพูด


 


“…คะ…คือ ฉัน ฉันก็กลัวว่าฉันจะถูกลอบสังหาร … เฮอะๆ”


 


“อะไรนะ? ไอ้จิ้งจกตัวนี้เป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”


 


“อ้าฮี่ๆ ฉันล้อเล่นน่ะ”


 


ในขณะที่ ชอคจุนกยอง กำลังจะทุบ เทนซูฮาร์ …


 


วิ้งงงงงงงงงงงง—


 


เสียงลมก็พัดผ่าน


 


“… ?”


 


เพราะมันเงียบมากทำให้เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจึงสังเกตได้ง่าย นอกจากนี้อากาศยังมีกลิ่นเวทมนต์จาง​ๆ ผมหันไปทางทิศทางที่ลมมาจากและการไหลของพลังเวทมนต์ที่เข้าไปในดวงตาพันไมล์ของผม


บทที่ 497 สงครามอันขุุ่นมัว (7)


 


คิมซูโฮ ออกจากป้อมปราการใต้ดินอันมืดมิดที่หยุดนิ่งและวางเท้าลงบนดินของแอฟริกาที่ร้อนและแห้งแล้ง


 


เป้าหมายของภารกิจนี้คือการตรวจสอบ ‘หมู่บ้าน’ ที่รูมิเคยพูดถึง ทีมได้รับคำสั่งให้ยืนยันว่ามี ‘หมู่บ้าน’ ในแอฟริกาจริงๆหรือไม่และมีกี่คนที่อาศัยอยู่ในนั้นและเพื่อหาเหตุผลที่ ออร์เดน สร้างหมู่บ้านเหล่านี้ขึ้นมาตั้งแต่แรก


 


“เดี๋ยวก่อน”


 


ทีมลาดตระเวนประกอบด้วย คิมซูโฮ, ชินจงฮัก, แชนายอน และ


จินเซยอน นอกจากนั้นก็มี เบลล์ และ รูมิ ที่มาทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง เนื่องจากมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทีมที่จะเคลื่อนไหวอย่างหลบๆซ่อนๆ คิมซูโฮหยิบการ์ดของเขาออกมา


 


===


[ผงพรางตัว] [7 ดาว] ผล ดี


○ ผงที่ช่วยพรางตัวตน (200g)


○ โรยผงนี้ลงบนร่างกายของคุณเพื่อลบร่องรอยการเคลื่อนไหวทางกายภาพ (ผลลัพธ์นาน 24 ชั่วโมงต่อ 3g)


===


 


เขาได้รับการ์ดใบนี้จากอาณาจักรแห่งการ์ด มันสมบูรณ์แบบสำหรับภารกิจซ่อนเร้นเหมือนภารกิจปัจจุบัน


 


“ทุกคนโรยสิ่งนี้ลงบนร่างกายของตัวเอง”


 


คิมซูโฮใช้การ์ดของเขา ผงปกปิดการแสดงตนของสมาชิกทั้ง 6 คนและทีมเริ่มภารกิจของพวกเขาอย่างราบรื่น


 


“ไปกันเถอะ.”


 


พวกเขาเคลื่อนที่อย่างเงียบสนิท หลังจากนั้น 4 ชั่วโมงหลังจากเดินทางทีมก็มาถึงป่าฝน ป่าฝนมีขนาดใหญ่และหนาแน่นด้วยต้นไม้ แต่เบลล์สามารถค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องด้วยความช่วยเหลือของรูมิ มอนสเตอร์ในป่าฝนไม่ได้สังเกตเห็นว่าวีรบุรุษผ่านพวกเขาไป


 


[เฮ้ เฮ้ เฮ้ คิมซูโฮ]


 


ขณะที่พวกเขาเดินผ่านป่าทึบ แชนายอน ก็ส่งข้อความมาถึง คิมซูโฮ


 


[พวกนายเองก็ได้รับภารกิจด้วยใช่ไหม?]


 


คิมซูโฮรู้แน่ชัดว่าแชนายอนกำลังพูดเรื่องอะไร


 


「ภารกิจ – ภารกิจลาดตระเวน」


「รางวัลเมื่อสำเร็จ – ได้รับ DP พร้อมค่าสถานะ ‘ความดื้อรั้น’ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย」


 


การแจ้งเตือนภารกิจนี้โผล่ขึ้นมาทันทีเมื่อเธอรับภารกิจครั้งแรก มันคล้ายกับเควสจาก Tower of Wish แต่ก็แตกต่างกันบ้าง คิมซูโฮ ส่งคำตอบโดยไม่พูดอะไร


 


[ใช่ ฉันเองก็ได้รับแล้ว]


 


[เฮ้ แล้วนายได้อะไรจากการล้างข้อมูลครั้งนี้]]


 


[DP และค่าสถานะ]


 


[อ้อ เหมือนกันเลย]


 


ในขณะนั้นเองเบลล์ผู้ทำหน้าที่นำทีมจากด้านหน้าหยุดอย่างกะทันหัน คิมซูโฮก็หยุดลงและมองไปข้างหน้าด้วย เบลล์พูดขึ้นมา


 


“ดูเหมือนว่าพวกเราจะอยู่ที่นี่”


 


คิมซูโฮและสมาชิกคนอื่นๆของทีมลาดตระเวนเข้าหาเบลล์ ในที่สุดแล้วพวกเขาก็สามารถมองเห็นว่าร่างกายของเบลล์ที่ล่องหนอยู่


 


“…”


 


ขากรรไกรของพวกเขาค้างและพวกเขาก็พูดไม่ออก


 


พวกเขารู้ว่าส่วนนี้ของแอฟริกาเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่มีหญ้าเหลืองและต้นไม้สีเขียวสูงที่กลมกลืนกันอย่างสง่างาม นั่นคือสิ่งที่ทุกคนรู้


 


“ว้าว.”


 


แต่ทิวทัศน์ที่วางอยู่ตรงหน้าไม่มีอะไรที่เหมือนกับสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง


มันเป็นเมืองมากกว่าหมู่บ้าน ไม่เพียงมีแต่ร่องรอยของทุ่งหญ้าสะวันนาเท่านั้นแต่ยังคงมีอาคารสูงเป็นแถว อาคารสูง 6 ชั้นตั้งอยู่ใจกลางแหล่งช้อปปิ้ง ตัวเมืองและเขตที่อยู่อาศัยถูกแยกออกจากกันมนุษย์และ


มอนสเตอร์ที่มีรูปร่างมนุษย์แออัดอยู่ตามถนน


 


“หมู่บ้านนี้เรียกว่า ‘ลูพิตัน’ มันเป็นหนึ่งในหมู่บ้านระดับกลางที่ใหญ่ที่สุดของ ออร์เดน มนุษย์ส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ที่นี่ถูกล้างสมองประชากรประมาณ 300,000 – 500,000 รวมถึงมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ ดังนั้นมันจึงเป็นเมืองขนาดกลาง เจ้านายของหมู่บ้านแห่งนี้เป็นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ ทรูโบน ชื่อ ‘เพร์รอน’”


 


รูมิอธิบายทันทีที่เธอเห็นหมู่บ้าน


 


‘หมู่บ้านระดับกลาง, ลูพิตัน,’ แชนายอน คิดว่า ‘ถ้านี่เป็นแค่ระดับกลางแล้วหมู่บ้านระดับสูงจะใหญ่ขนาดไหน?’


 


“ถ้านี่เป็นแค่ระดับกลางแล้วหมู่บ้านระดับสูงจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน”


แชนายอนพูดอย่างที่ใจเธอคิด


 


“หมู่บ้านระดับสูงไม่ใหญ่มาก จริงๆแล้วพวกมันคือ ‘ห้องทดลอง’ ที่


นักวิทยาศาสตร์ของออร์เดนเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ “


 


“…อะไรนะ? ห้องปฏิบัติการ?”


 


“ใช่ เพราะออร์เดนล้างสมองคนเหล่านี้พวกเขาทุกคนจึงต้องการที่จะกลายเป็นผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านระดับสูง อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะกลายเป็นหนึ่งในผู้อยู่อาศัยเหล่านั้นพวกเขาต้องเพิ่มระดับของพวกเขาผ่านการฝึกฝนตนเอง แต่เมื่อพวกเขามาถึงหมู่บ้านที่มีระดับสูงพวกเขาจะกลายเป็นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์อย่างทันทีทันใด….”


 


ขณะที่รูมิกำลังจะอธิบายต่อไปเธอก็มีศัตรูที่ร้ายกาจและเดือดดาลมาหาพวกเขา


 


“ในที่สุดฉันก็พบคุณ….”


 


ทั้งทีมหันไปตามเสียงที่มาจาก


 


“แกไอ้ลูกหมาตัวเมีย”


 


ที่ท้องฟ้าของแอฟริกาเป็น จินซาฮยอค เธอจ้องมองเบลล์และรูมิอย่างโกรธแค้นในสายตาของเธอ


 


เบลต์กับรูมิรีบซ่อนตัวอยู่หลังแชนายอนและจินเซยอนอย่างรวดเร็ว ปฏิกิริยาของเธอนั้นเหมาะสมกับสายลับที่หวาดกลัวดังนั้นแชนายอนและจินเซยอนจึงปกป้องเธอโดยไม่มีคำถาม


 


“…จินซาฮยอค”


 


คิมซูโฮ เป็นคนแรกที่พูดชื่อของเธอออกมา แต่ คิมซูโฮ นั้นเป็นสิ่งที่ไกลที่สุดจากใจของ จินซาฮยอค ในตอนนี้ ความโกรธของเธอพุ่งตรงไปที่ชายที่ชื่อ เบลล์


 


“แก ไอ้สารเลว”


 


– จินซาฮยอค เธอช่วยใจเย็นลงหน่อยได้ไหม?


 


เบลล์ส่งข้อความถึง จินซาฮยอค ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค


 


“อะไรนะ? แก-“


 


– ฉันขอโทษ. ฉันรู้ ฉันไม่คิดว่าเธอจะหาฉันเจอได้เร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วสินะ จินซาฮยอค ฉันภูมิใจในตัวเธอนะ


 


เบลล์ สับสนเขาไม่ได้โกหกจินซาฮยอคเก่งขึ้นจริงๆ เธอมีเข้าใจเกี่ยวกับค่าสถานะใหม่ [เหนือกฏเกณฑ์] และ [บิดเบือนความจริง]


 


“ใช่นั่นคือเหตุผลที่ฉัน”


 


– แต่อย่างพึ่งทำอะไร เธอจะทำลายทุกอย่างถ้าเธอส่งเสียงอึกทึกที่นี่ เธอไม่เห็น แชนายอน และ คิมซูโฮ อยู่ที่นี่เหรอ?


 


“โกหก … .”


 


ความโกรธของ จินซาฮยอค เป็นเหมือนภูเขาไฟที่กำลังปะทุและไม่สามารถหยุดยั้งได้ เบลล์ไม่มีทางเลือกอื่นลากคิมฮาจินเข้ามาในการสนทนาอีกครั้ง


 


– แชนายอน มีความเป็นมาลึกซึ้งกับคิมฮาจิน บางสิ่งที่เธอรู้ไม่ตรงกับความจริง


 


“อะไรนะ?”


 


– เธอคิดว่าคิมฮาจินเป็นคนรับใช้ของเธอใช่ไหม? แต่ความทรงจำของ แชนายอน บอกไม่เหมือนกัน เธอรู้จักทักษะที่ฉันเรียนรู้มาจากที่


Tower of Wish ใช่มั้ย


 


เบลล์เรียนรู้ทักษะขั้นสูงสุดที่เรียกว่า [ทะเลแห่งความทรงจํา] ทักษะนี้อนุญาตให้เขาสำรวจความทรงจำของคนอื่นในขณะที่พวกเขาหลับหรือหมดสติ เบลล์มองเข้าไปในความทรงจำของผู้คนจำนวนมากระหว่างที่เขาพักที่ป้อมปราการใต้ดิน แชนายอน เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ง่ายที่สุดของเขา ความทรงจำของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์และบาดแผลที่ไม่สามารถมองข้ามได้


 


“…………”


 


– จินซาฮยอค เป็นไปได้ที่คิมฮาจินกำลังโกหกเธอ เธอต้องหาทางทำให้แน่ใจว่าเขาเป็นใครกันแน่สิ?


 


จินซาฮยอค รู้ว่าเบลล์กำลังพูดความจริง


 


– ชิ, เธอไม่อยากรู้เหรอว่าความทรงจำลลึกซึ้งแบบไหนที่ แชนายอน มีกับ คิมฮาจิน? ฉันพนันว่าเธอจะต้องประหลาดใจถ้าเธอรู้


 


เธอสงสัยจริงๆเกี่ยวกับความทรงจำของ แชนายอน ทำไมเบลล์ถึงได้มีความมั่นใจมากขนาดนี้


 


– แค่ทำตัวเหมือนเธอไม่รู้จักพวกเรา จินซาฮยอค เธอไม่สามารถบอกพวกเขาว่า รูมิ อยู่ที่นี่แล้วหรือที่พวกเรากำลังทำสิ่งนี้เพื่อเธอ


 


“… .”


 


จินซาฮยอค ตัดสินใจปล่อยให้เบลล์หลอกเธออีกแค่ครั้งเดียว


 


“คิมซูโฮ แก ฉันตามหาแกมานานแล้ว”


 


เธอแกล้งทำเป็นว่าคิมซูโฮเป็นเป้าหมายของเธอมาโดยตลอด แต่เธอพูดออกมาอย่างเคอะเขินและแม้แต่ คิมซูโฮ ก็ดูสับสนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในพฤติกรรมของเธอ


 


“…ฉันเหรอ?”


 


“…ใช่ แกไอ้คนทรยศ แกนั้นแหละ”


 


“… .”


 


“ฉันตามหาแก คิมซูโฮ แกไอ้สารเลว ไอ้คนไม่ซื่อสัตย์ ไอ้ลูกเต่าหน้าตาเหมือนหนู แกตายซะ”


 


แม้ว่าเธอจะพูดจาแปลกๆ แต่ความโกรธของจินซาฮยอค เป็นเรื่องจริง


คิมซูโฮ คว้า มิสเทลทีน และจ้องมองไปที่ จินซาฮยอค


 


“โอเค แต่จะลองจริงๆเหรอ พวกเราอยู่ถัดจากหมู่บ้านของ ออร์เดน ไม่ไกล ถ้าพวกเราต่อสู้กันที่นี่พวกเราจะจบกันทั้งคู่”


 


“ยัยผู้หญิงบ้านี้มันพูดอะไร?”


 


คิมซูโฮ พยายามเอาใจ จินซาฮยอค แต่สมาชิกคนหนึ่งในทีมของเขาไม่สามารถทนต่อคำด่าของ จินซาฮยอค ได้ ด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธเหมือนโทรลล์ แชนายอน ก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับจินซาฮยอค


 


“เธอเป็นใคร ยัยหมาบ้านี้มาจากไหน?”


 


“…อะไรนะ? เธอพูดอะไร ยัยคนน่ารังเกียจ”


 


“เธอมัน หมาบ้า”


 


แชนายอน และ จินซาฮยอค ทั้ง 2 หน้าบึ้งใส่กันราวกับว่าเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ประกายไฟพุ่งออกมาจากสายตาของพวกเธอ


การแข่งจ้องตาที่ไม่หยุดยั้งกำลังจะเริ่มขึ้น….และแล้ว


 


“เธอมาทำอะไรที่นี่?”


 


ทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังพุ่มไม้ ทุกคนหันมาสนใจเขา ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครแม้แต่เบลล์หรือรูมิ ชายคนนี้ซึ่งดูเหมือนจะอยู่ในวัย 30 ของเขาถือตะกร้าในมือข้างหนึ่งและเคียวอีกมือดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้อาศัยในหมู่บ้าน ชายผู้ถูกล้างสมองโดยเหล่ามอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์จ้องมองไปที่คิมซูโฮก่อนจะก้าวถอยหลัง


 


“พวกแกเป็นคน…คนนอก”


 


เขาคว้า Smart Watch เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจจะรายงานต่อเจ้าหน้าที่


ทุกคนแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างประหม่า ในที่สุด รูมิ ก็พูดออกมา


 


“ไม่ พวกเราเองก็มาจากหมู่บ้านเหมือนกัน”


 


“หมู่บ้าน?”


 


“ใช่ ลูพิตัน พวกเราออกมาเพื่อรวบรวมพืชผลและนี่เป็นการต่อสู้กันเองในหมู่พวกเรา”


 


ชายผู้นั้นยังคงสงสัยว่า “…เป็นพืชชนิดใด?”


 


“ลอเรล.”


บทที่ 498 สงครามอันขุุ่นมัว (8)


 


ลอเรลเป็นพืชที่มีประโยชน์มากซึ่งสามารถนำมาทำเป็นยาหรือใช้ในการตีอาวุธ มันเป็นหนึ่งในพืชที่เติบโตแต่ในแอฟริกาเท่านั้น


 


“อืม งั้นพวกคุณคือผู้อยู่อาศัยใน ลูพิตัน”


 


ชายคนนั้นยิ้มและแขวนเคียวรอบเอว


 


“พวกคุณควรหยุดการต่อสู้และจากไปซะ ที่นี่เป็นพื้นที่อันตราย มันอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพราะ ท่านผู้มีระดับเซคริดโบน


‘ไทกริส’ มีกำหนดจะเข้ามาในอีก 1 สัปดาห์ หากพวกคุณถูกตำรวจจับพวกคุณอาจถูกจำคุกได้”


 


“…อ่า ฉันเข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ”


 


รูมิ กับ เบลล์ บอกชายคนนั้น


 


“… แชนายอน ไปกันเถอะ.”


 


คิมซูโฮ คว้าข้อมือของ แชนายอน แล้วดึงเธอเข้ามา


 


“จินซาฮยอค พวกเราไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ อคทรีน่า ใช่มั้ย ฉันพึ่งรู้ว่าเธอเองก็คุ้นเคยกับคิมซูโฮเช่นกัน”


 


“…อย่าพูดกับฉัน.”


 


ชินจงฮักและจินซาฮยอคเดินกันอย่างเชื่องช้าและท้ายที่สุดจินเซยอนก็กระซิบมาด้านหลัง


 


“พวกเราพบหมู่บ้านหนึ่งชื่อ ลูปิตัน พวกเราจะมุ่งหน้าไปข้างใน”


 


– ข้างใน?


 


“ใช่. สถานการณ์เบี่ยงเบนไปจากแผนแรกของพวกเรา แต่ดูเหมือนว่าผู้คนที่นี่จะไม่สงสัยพวกเราเพราะจำนวนประชากรในหมู่บ้านสูงมาก อย่างไรก็ตามผู้อยู่อาศัยทั้งหมดถูกล้างสมองโดย ออร์เดน แล้ว”


 


– … ล้างสมอง? อืม…โอเค รายงานมา อ้อ ส่งรูปมาให้ฉันด้วย


 


“ได้สิ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะขอความช่วยเหลือไป”


 


จินเซยอน ยังคงเดินต่อไปโดยมองไปที่จินซาฮยอค


 


*************************************************************************


 


ผมมองทิศทางที่ลมมาจากและใช้ ‘ดวงตาพันไมล์’ วิสัยทัศน์ของผมขยายออกไปในทันทีและจากระยะนี้ผมเห็น…แมลงขนาดเท่ามือของผม


 


“…นั่นอะไร?”


 


แมลงเรืองแสงสีทอง มันเป็นแมลงปอที่กระพือปีกสองปีกสีทองเหมือนจะรีบหนีมาอย่างรวดเร็ว


 


“มันคือแมลงปอทองคำ”


 


“หา แมลงปอทองคำ?”


 


ดวงตาของ เทนซูฮาร์ เบิกกว้าง


 


“นายรู้ไหมว่ามันคืออะไร”


 


“ นะ…… แน่นอน.”


 


เมื่อ เทนซูฮาร์ พยักหน้าแมลงปอก็มาใกล้พวกเราแล้ว มันเร็วเท่ากับ คุรุคุรุ แต่ผมเปิดใช้งาน Bullet Time และยังใช้ [การเร่งความเร็วเกินขีดจำกัด] เพื่อจับแมลง


 


ผมดูแมลงปอในมือของผม


 


===


[แมลงปอทองคำ] [คุณสมบัติ ลึกลับ]


– โชคดี


– มันยากที่จะจับ จะมีบางสิ่งดีๆเกิดขึ้นเมื่อคุณมีแมลงปอตัวนี้อยู่กับตัว


 


「ผลิต 50 DP ทุกๆชั่วโมง」


「ทุกๆ ค่าสถานะยกเว้นค่าสถานะที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 แต้ม 」


「โบนัสแห่งโชคชะตา – แมลงปอตัวนี้จะเพิ่มคุณสมบัติบางอย่าง


รักษาความปลอดภัย」


===


 


“…นี่มันอะไรน่ะ?”


 


“โอ้, ขอแสดงความยินดีด้วย แมลงปอทองคำเป็นแมลงที่หายากมากไม่ว่าจะเป็น เซคริดโบน ทรูโบนต่างก็อยากได้พวกมัน แมลงพวกนี้อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับพ่อค้าปีศาจ”


 


“หืมม.”


 


ผมโยนแมลงปอไปในรอยสักโดยไม่คิดมาก ทันใดนั้นผมก็รู้สึกปวดหัวอย่างมาก


 


“… อาาาาา.”


 


อาการปวดเป็นอาการที่คุ้นเคย แต่รุนแรงน้อยกว่าเมื่อก่อน


ผมกัดฟันและมองไปที่ไหล่


ที่นั่นรอยสักถูกจารึกลงไปเพียงบางส่วนเท่านั้น ผมจะต้องบอกว่ามันเพิ่มมาแค่ 0.4 รอยในแง่ของความยาว ผมมองอย่างสับสน แต่ไม่ช้าก็รู้ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น


 


มันเป็นเพราะผลของ ‘โบนัสแห่งโชคชะตา’


 


ตอนที่ผมเก็บแมลงปอไว้ในรอยสักโบนัสจึงถูกนำไปใช้กับมัน


 


ในขณะนั้นเองบอสก็ถามผมว่า “ดอกบัวดำ นายโอเคไหม”


 


“ชะ-ใช่ ฉันสบายดี.”


 


อย่างไรก็ตาม. แมลงปอที่โชคดีก็กลายเป็นของผม แต่ฉันรู้ว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นในเรื่องนี้ ผมยังไม่รู้ว่าแมลงตัวนี้วิ่งหนีไปจากอะไร


ผมจ้องมองระยะทาง


 


“…หืมม มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์และปีศาจอยู่ที่นั่น”


 


มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์และปีศาจจำนวนมากถูกไล่ล่า


มันง่ายที่จะบอกว่าพวกเขาเป็นใคร ปีศาจสวมเสื้อคลุมปักด้วยสัญลักษณ์ ‘9 ปีศาจ’ ‘Brutality’ และมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์คนหนึ่งดูเหมือนมนุษย์ยกเว้นปีกค้างคาวคู่หนึ่งบนหลังของเขา


 


“เฮ้ มอนสเตอร์นั่นมีปีกค้างคาว เธอรู้จักเขาหรือเปล่า”


 


“อะไรนะ? อ้า~ จะว่าทำไงดี นั่นคือ ‘Lacurdra’ เซคริดโบนที่อายุน้อยที่สุด”


 


“ฉันเห็นชื่อนั้นมาจากไหนนะ แต่…อะไรคือ เซคริดโบน”


 


“เซคริดโบน หมายถึงมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์มาก พวกเขาถึงความสมบูรณ์แบบทางพันธุกรรม”


 


การเผชิญหน้ากับพวกเขาไม่ใช่เป็นทางเลือกที่ดีนัก


 


“บอส ชอคจุนกยอง เอาไง”


 


บอสและ ชอคจุนกยอง ยักไหล่ พวกเขาไม่เห็นสิ่งที่ผมเห็นดังนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่อยากแสดงความคิดเห็น


 


“เทนซูฮาร์ พาพวกเราไป”


 


“แน่นอน”


 


จากในระยะไกลมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์และปีศาจกำลังอาละวาดขณะที่พวกเขาค้นหาแมลงปออย่างบ้าคลั่งตอนนี้มันได้มีเจ้าของไปแล้ว


 


พวกเราเดินต่อไป หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงในที่สุดพวกเราก็มาถึงหมู่บ้านที่ 2


 


“ในที่สุด นั่นคือ ‘ลูพิตัน’ ”


 


ในขณะที่ เทนซูฮาร์ ชี้ไปที่ ลูพิตัน พวกเราก็พูดไม่ออก


 


“…อะไรนะ.”


 


ทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าเราคือ


 


“นั่นมันเมืองไม่ใช่เหรอ?”


 


มันไม่มีอะไรที่จะอธิบายได้ไปกว่าคำว่าเมืองของมนุษย์


*************************************************************************


พระจันทร์เต็มดวงสูงขึ้นในท้องฟ้ากลางคืน


 


ทีมลาดตระเวนที่แทรกซึมเข้าไปใน ลูพิตัน ได้แบ่งออกเป็น 2 ทีมและเริ่มสำรวจเมือง คิมซูโฮอาสาที่จะอยู่ในทีมเดียวกันกับจินซาฮยอค


เขามุ่งมั่นที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเฝ้าดูระเบิดเวลาที่ไม่แน่ใจว่าจะระเบิดขึ้นมาตอนไหน


 


“ฉันได้รับข้อมูลที่สำคัญ ไทกริส ผู้ทำลายจีนกำลังมาที่นี่ บางทีพวกเราอาจลอบสังหารเขาได้….”


 


คิมซูโฮ พูดขณะที่เขาเดินไปตามถนนกับ จินซาฮยอค และ รูมิ เขาหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจาก จินซาฮยอค แต่ตามปกติเธอดูเหมือนจะไม่ฟังเขา


 


“เฮ้ออออ~” จินซาฮยอค หาวแล้วจึงพูดอย่างเมินเฉย ที่สำคัญกว่าความสัมพันธ์ของนายกับผู้หญิงคนนั้นคืออะไร”


 


“ผู้หญิงคนนั้น…เธอหมายถึง แชนายอน เหรอ?”


 


“ใช่” จินซาฮยอค พยักหน้า


 


คิมซูโฮคิดอยู่ครู่หนึ่ง “…พวกเราเป็นเพื่อนกัน.”


 


“ ชิ นายมีเพื่อนมากมาย แต่บางทีนายควรคิดให้ดีก่อนที่จะผูกมิตรกับใครซักคน”


 


“แชนายอนดีกว่าเธอแน่นอน”


 


“… ชิ” จินซาฮยอค เดาะลิ้นของเธอแล้วมองไปรอบๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจมากมายในหมู่บ้านของมอนสเตอร์ มีสนามกีฬา, สนามฝึกซ้อม, สถานที่สำหรับเติมพลังเวทมนต์, และอื่น ๆ ….


 


จินซาฮยอค ดูพวกมันจากนั้นก็หยุดลงและมองไปที่ คิมซูโฮ คิมซูโฮ


ผู้ที่เดินไปข้างหน้าหยุดเดินและหันกลับมามองจินซาฮยอค


 


“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”


 


“… .”


 


‘ความสัมพันธ์ระหว่างคิมฮาจินกับผู้หญิงคนนั้นมันยังไงกัน’


จินซาฮยอค อยากถามเขา แต่เธอไม่สามารถพูดออกมาเองได้ เธอหันไปมอง รูมิ แทน ท่าทางน่าอึดอัดใจเล็กน้อยเกิดขึ้นระหว่างพวกเธอเพราะพวกเธอแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกันและกัน


 


“คิมฮาจินอยู่ที่ไหน”


 


ในที่สุดจินซาฮยอค ก็ตอบคำถามที่แตกต่างออกมา ในขณะนั้นคิมซูโฮ ก็ได้ยินเสียงของแชนายอน


 


[เฮ้ คิมซูโฮ พวกเราพบที่พักแล้ว ฉันจะส่งที่อยู่ไปให้นายลองมาดูก่อนนอกจากนี้อย่าไปสนใจยัยหมาบ้านั้นละ]


 


ข้อความนี้ฟังดูเหมือน แชนายอน แบบปกติ คิมซูโฮยิ้มและตอบกลับ


 


[ฉันจะไปกับเธอ ได้โปรดอย่าต่อสู้กันเลยพยายามคุยกับเธอเอาไว้]


 


[ฉันไม่อยากสู้ แต่วิธีการที่เธอพูดมันน่ารำคาญมาก….]


 


จินซาฮยอค ขมวดคิ้ว


 


“นายหัวเราะอะไร”


 


“หา? ก็…ไม่มีอะไร.”


 


จินซาฮยอค ขมวดคิ้วของเธอ


 


“ไม่. บอกฉันว่านายกำลังทำอะไร”


 


“ฉันบอกแล้วว่าไม่มีอะไร.”


 


“นายกำลังพูดกับคิมฮาจินใช่ไหม? นายโทรจิตหาเขางั้นเหรอ?”


 


“ฉันบอกว่าไม่มีอะไรไง….”


 


ขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันเงาขนาดมหึมาก็โยนคิมซูโฮและจินซาฮยอค


ชนเข้ากับกำแพง


 


“อ๊ะ อะไรตอนนี้…?” จินซาฮยอค หน้านิ่วคิ้วขมวด


 


“… .”


 


ร่างใหญ่โตกำลังมองดูเธอ ทั้ง คิมซูโฮ และ จินซาฮยอค รู้ว่าเขาเป็นใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จินซาฮยอค เขาทิ้งความประทับใจไม่รู้ลืมเอาไว้ในตัวเธอ


 


“อะแฮ่ม..”


 


เขาคำรามเหมือนสัตว์ร้าย จินซาฮยอค และ รูมิ ดวงตาเบิกกว้างและมองไปที่ชายคนนั้น ชอคจุนกยอง


 


เขาถอนหายใจและถามว่า “เธอมาที่นี่ทำไม”


 


เขาเคยพบทั้ง 3 มาก่อน ความสัมพันธ์ของเขากับรูมินั้นซับซ้อนเป็นพิเศษและเขาก็มองเธอเบาๆ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม