The Novel’s Extra 487-493

 บทที่ 487 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (1)


 


[อังกฤษ, พระราชวังบักกิ้งแฮม]


 


หลังจากปราบ โทจิ เฮย์เนคได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรัฐบาลอังกฤษ เฮย์เนค ไม่ต้องการให้สาธารณชนค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการ


กลับมาของเขาและอังกฤษก็พยายามอย่างเต็มไม่ให้ข่าวหลุดออกไป เป็นผลให้ เฮย์เนค อยู่ในอังกฤษอีก 2 วันก่อนจะกลับไปที่เทือกเขาหิมาลัย


 


“… อืมมม.”


 


เมื่อส่ง เฮย์เนค แล้ววันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ ยูยอนฮา จะอยู่ที่พระราชวังบักกิ้งแฮม เธอยืนอยู่หน้ากระจกในห้องและตรวจสอบชุดของเธอ


เธอสวมชุดสีดำที่ออกแบบโดยนักออกแบบระดับโลก ยียูจ็อง ซึ่งเป็น


ไอเท็มระดับสุดยอดที่เรียกว่า ‘สร้อยคอไข่มุกดำของไซเรน’ และไอเท็มจากซิลลาโบราณที่เรียกว่า ‘สร้อยคอทองคำ’ เมื่อเธออยู่ที่พระราชวังบักกิ้งแฮมที่สวยงามความงามของเธอก็ยิ่งเด่นขึ้นไปอีก


 


“ฮุฮุ.”


 


ทุกครั้งที่เธอเห็นตัวเองในกระจกเธอก็ได้แต่ขอบคุณพ่อแม่ของเธอ


เธอไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าพวกเขาถ่ายทอดยีนที่ดีที่สุดแบบนี้ออกมาได้ยังไง


 


ด้วยความมั่นใจทำให้เธอโพสท่าต่างๆ และยิ้มเหมือนสาวน้อยน่ารัก


กัดริมฝีปากเบาๆดูไม่เคร่งเครียดเหมือน CEO ผู้ยิ่งใหญ่


 


เธอตระหนักดีถึงประโยชน์ที่ได้รับจากความงามของเธอ เธอมีประสบการณ์ทางธุรกิจโดยตรง การปรากฏตัวของเธอแสดงออกถึงความเชื่อมั่นและความชื่นชมทำให้ภาพลักษณ์ของเธอดีขึ้น เป็นเหตุผลที่ ยูยอนฮา เป็นหน้าตาของ Essence of the Strait


 


…แต่รูปร่าง หน้าตาของเธอไม่เคยได้ ‘ความรัก’ จากใครเลย


 


“ชิ.”


 


ทันใดนั้นความรู้สึกสงสัยก็เข้ามาหาเธอ ยูยอนฮา เดาะลิ้นของเธอและหันหน้าหนีจากกระจก


แต่ความรู้สึกหมดหนทางไม่ได้หายไปอย่างง่ายดาย เธอนึกถึงชินจงฮักโดยไม่รู้ตัว เธอชอบเขาตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่ยอมแพ้ต่อเขาหลังจากที่รู้ตัวว่าเขาไม่มีทางเป็นของเธอ


 


‘ฉันมาชอบเขาได้ยังไงนะ’


 


มันเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว


 


“เฮ้ออออออออออออ… .”


 


ยูยอนฮา นั่งลงที่มุมเตียงของเธอแล้วนึกถึงการพบกันครั้งแรกของเธอกับชินจงฮัก


 


…ชื่ออย่างเป็นทางการอาจเป็น ‘การประชุมมิตรภาพระหว่างกิลด์’


มันเป็นการรวมตัวทางสังคมสำหรับผู้นำกิลด์และผู้บริหารระดับสูงของกิลด์ต่างๆ


 


ผู้ใหญ่และลูกๆ ของพวกเขาทุกคนเข้าร่วม ยูยอนฮา อายุ 5 ปีรอคอยการประชุม เธอมีความทะเยอทะยานตั้งแต่ตอนนั้น


 


ในวันนั้นเธอลองชุดหลายสิบชุดกับแม่ของเธอ แม้ว่าแม่ของเธอจะชมมันทุกชุดแต่ ยูยอนฮา ก็รู้สึกไม่ถูกใจซะทีเธอแต่งตัวนานกว่า 7 ชั่วโมงเพราะกังวลเรื่องชุดของเธอ


 


– ฉันจะมองพ่อได้ยังไงละแบบนี้


 


ในที่สุดชุดที่เธอเลือกก็เหมือนกับชุดที่เธอสวมตอนนี้ เดรสสีดำและสร้อยคอที่ทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่


 


– น่ารักมาก, ยอนฮา!


 


– อะ-อาาา หยุดนะ! พ่อทำให้ชุดหนูยับนะ! หยุดดดดด!


 


พ่อของเธอกอดเธอพร้อมเสียงหัวเราะ ยูยอนฮา จำได้ว่าตอนนั้นเธอกำลังโกรธพ่อของเธอเพราะทำให้ชุดของเธอยับ


 


ไม่นานหลังจากเลือกชุดของเธอแล้วน้าของเธอยูจินฮยอกที่กำลังเป็นฮีโร่ดาวรุ่งในเวลานั้นก็มาถึง พวกเขามุ่งหน้าไปยังการประชุมร่วมกัน


 


การประชุมจัดขึ้นในสวนของคฤหาสน์หลังใหญ่ของแชจินยูน


 


– ว้าว….


 


เพลงคลาสสิกแฟนซีเล่นเป็นพื้นหลังและดอกไม้ที่สวยงามเปล่งประกายภายใต้ดวงอาทิตย์ ดวงตาของ ยูยอนฮา เบิกกว้างเมื่อเห็นสภาพอากาศที่ชัดเจนและทิวทัศน์ที่สวยงาม แม้ว่าเธอจะมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยแต่คฤหาสน์อันยิ่งใหญ่ของผู้เป็นอมตะนั้นมีเสน่ห์อันสูงส่งที่เธอไม่เห็นในบ้านของเธอ


 


– โอ้ นั้นใช่ ยูจินวอง!


 


– ฮ่าฮ่าผู้นำ โจยองโฮ ยินดีที่ได้เจอคุณนะ


 


– ไม่ต้องทักทายหรอก ตามฉันมา ชินเมียงจุลพาเด็กที่น่าทึ่งมากับเขา ด้วยนะ เธอชื่อไอลีน เธอเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่หายากยิ่งที่เรียกว่า ‘วาจาสิทธิ์’


 


– โอ้อออ?


 


พ่อและแม่ของเธอหายตัวไปกับหัวหน้า โจยองโฮ น้ายูจินฮยอกพาเธอไปยังสถานที่ที่เด็กทุกคนมารวมตัวกัน มันเป็นสนามเด็กเล่นที่สร้างขึ้นสำหรับเด็กเล็ก ยูยอนฮา ป่องแก้มอย่างไม่สบอารมณ์


 


– น้าจินฮยอกฉันจะทักทายกับพวกผู้ใหญ่ไม่ได้เหรอ? เด็กๆน่าเบื่อ


 


– ไม่ได้ เธอทำไม่ได้


 


– แต่…..ทำไมละ


 


– เป้าหมายของการประชุมครั้งนี้คือ ‘การติดต่อ’ พ่อแม่ของหนูจะดูแลผู้ใหญ่และเป็นหน้าที่ของหนูที่จะติดต่อกับเด็กคนอื่นๆ การติดต่อให้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่เธอเถอะ นอกจากนี้เธออายุแค่ 5 ขวบ อย่าไปบอกว่าเด็กๆน่าเบื่อสิเพราะเธอเองก็เป็นเด็กนะ


 


สิ่งที่ยูจินฮยอกพูดนั้นสมเหตุสมผล เมื่อไม่มีทางเลือก ยูยอนฮา ก็ไปที่สนามเด็กเล่น ที่นั่นเธอเห็นเด็กอายุ 10 ขวบหรือมากกว่านั้น


 


เฮ้อออออออออออ… ….


 


ยูยอนฮา รวบรวมลมหายใจของเธอก่อนที่จะเข้าใกล้พวกเขา


 


– สวัสดีฉันชื่อ ยูยอนฮา


 


30 นาทีก็เพียงพอแล้ว ด้วยทักษะการสนทนาและความงามของเธอทำให้เธอดึงดูดใจเด็กๆ คนอื่นๆได้อย่างง่ายดาย เมื่อเธอแน่ใจว่าเธอเป็นตัวละครหลักของการประชุมแล้ว…


 


– น่ารำคาญ


 


เด็กผู้หญิงก็ปรากฏ เธอสวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืด เด็กสาวอารมณ์เสียและถอนหายใจและนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ ๆ


 


ตอนแรก ยูยอนฮา งงมาก ที่การประชุมอันสูงส่งจะมีเด็กแบบนี้ได้ยังไง


 


แต่ในไม่ช้าเธอก็ตระหนักว่าเธอเพิกเฉยผู้หญิงคนนี้ได้ ยูยอนฮา ลองเชิญทุกคนที่เพิ่มรู้จักกินพุดดิ้งที่พึ่งมาเสริฟ์


 


– พุดดิ้งนี้อร่อยมาก พวกเธอลองทาน…หน่อยไหม?


 


อย่างไรก็ตามเด็กส่วนใหญ่ของเธอหายไปหมดแล้ว ‘พวกเขาไปไหน?’


ยูยอนฮา ดูรอบๆอย่างสับสน จากนั้นเธอเห็นพวกเขาประจบเด็กสาวคนนั้น


 


– ไม่…จริงใช่มั้ย?


 


คำว่า ‘นายอน, นายอน’ เต็มหูของเธอ ต่อมาเมื่อเธอก็รู้ตัวว่าอีกฝ่ายเป็นใคร


 


แชนายอน ลูกสาวคนสุดท้องของแดฮยอนและหลานสาวของแชจูชึล


 


นั่นคือตอนที่ ยูยอนฮา พบกับ แชนายอน ครั้งแรกและมันก็เป็นเช่นกันมาตลอดเธอรู้สึกด้อยกว่าเป็นครั้งแรก แต่เธอปฏิเสธที่จะยอมแพ้เธอเชื่อว่าเธอเหนือกว่าทั้งรูปลักษณ์และเสื้อผ้า


 


– …สวัสดีพวกเธออายุเท่าไหร่? ฉันอายุ 5 ขวบ


 


เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดึงความสนใจจากเด็กคนอื่นๆ…แต่มันก็


ไร้ประโยชน์ ลูกชายและลูกสาวของกิลด์ขนาดกลางต่างก็พยายามทำความรู้จักกับแชนายอน


 


‘การติดต่อ’ นั้นไม่จำสำหรับแชนายอน ลูกหลานของกิลด์และบริษัทต่างหางที่ต้องมาติดต่อเธอ ‘บางสิ่งบางอย่าง’ มันสำคัญยิ่งกว่ารูปลักษณ์


 


ในขณะนั้นเองที่ ยูยอนฮา ตระหนักว่าเธอไม่ใช่ตัวละครหลัก ว่าเธอเป็นเพียงคนพิเศษ ยูยอนฮา ผู้เยาว์วัยและมีภาคภูมิใจได้แต่ต้องเสียใจที่เธอไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของการประชุมครั้งนี้ ความขุ่นเคืองของเธอถูกชี้ไปที่แชนายอนซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของการประชุมด้วยกางเกงยีนส์และเสื้อยืดธรรมดาๆ


 


เธอกลั้นน้ำตาและจ้องมองไปที่ แชนายอน แม้ว่าเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย แต่เธอก็รู้สึกรำคาญ


 


– …ผู้หญิงคนนั้น. มันงี่เง่าเกินไปแล้ว…


 


ยูยอนฮา กินพุดดิ้งขณะที่เธอสะอื้น มีเพียงความหวานของพุดดิ้งเท่านั้นที่ทำให้เธอสบายใจ


 


ในตอนนั้นเองที่ ‘ชินจงฮัก’ ก็ปรากฏขึ้นในชีวิตของเธอ


 


– พุดดิ้งนั้นอร่อยมั้ย?


 


เสียงของเขาดูเด็กๆแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาไม่ได้พูดด้วยคำพูดที่สุภาพ แต่ ยูยอนฮา ไม่สนใจ


 


‘มีคนมาหาฉัน!’


 


ข้อเท็จจริงนี้ทำให้เธอมีความสุข ยูยอนฮา เช็ดน้ำตาของเธอและ


หันกลับไปมอง


 


ที่นั่นเธอเห็นเด็กชายรูปงามที่ดูเหมือนโผล่ออกมาจากภาพวาด


เธอถามด้วยความงุนงง


 


– …นายเป็นใคร?


 


ชินจงฮักยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า


 


– ชินจงฮัก ฉันเป็นหลานของชินมยองชุลน่ะ


 


– เมียงจุง…


 


– ชินมยองชุล ไม่ใช่ ชินเมียงจุง


 


ดวงตาของ ยูยอนฮา เบิกกว้าง ไม่มีใครในโลกที่ไม่รู้จักชินมยองชุล


ชินจงฮักดูเหมือนจะชอบปฏิกิริยาตอบสนองของเธออย่างมากในขณะที่เขาปลอบใจเธอ


 


– ไม่ต้องกังวลกับเจ้าพวกนั้น พวกเขาเป็นเพียงหุ่นกระบอกของพ่อแม่


 


ชินจงฮักพูดออกมาด้วยท่าทางหึงหวง เนื่องจากเขาชอบ แชนายอน มาตลอดเขาจึงไม่ชอบที่จะเห็น แชนายอน ที่รายล้อมไปด้วยคนอื่นๆ


แต่ยูยอนฮาไม่รู้เรื่องนี้ในเวลานั้น


 


– คนที่ไล่ตามคนพิเศษโดยไม่พยายามเป็นคนพิเศษเองก็จะเป็นได้แต่ถังขยะเท่านั้น


 


แม้แต่ตอนนี้เขาก็เป็นคนที่หยิ่งมาก


 


– …อ๊ะ…..โอเค….


 


เมื่อก่อนเขาดูเหมือนคนที่เจ๋งที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดในโลก


 


นั่นคือความทรงจำตั้งแต่วัยเด็กของเธอ ปกติเมื่อเธอนึกถึงตอนนั้นหัวใจของเธอจะเต้นแรงแต่ว่าตอนนี้มันเหมือนที่เคยเป็นมา


 


ประมาณ 12 ปีต่อมา ยูยอนฮา พบชายอีกคนหนึ่ง ชายคนหนึ่งที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่ก็ค่อยๆพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง


 


แม้เธอจะรู้สึกรำคาญ เพิกเฉย ต่อว่าเขา เขาก็ยังมาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ไม่เพียงแค่นั้น แต่เขายังเปลี่ยนชีวิตของเธอมาจนถึงตอนนี้


 


คิมฮาจิน


 


ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้เธอกลายเป็น ‘คนมีเกียรติ’ ได้อย่างที่เธอต้องการ Essence of the Strait กลายเป็นกิลด์อันดับหนึ่งของโลกและติด 10 อันดับแรกขององค์กรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เธอบรรลุความทะเยอทะยานของเธอได้โดยไม่รู้ตัวเพราะเขา…


 


– ต๊อก ต๊อก


 


เสียงเคาะทำให้เธอรู้สึกตัว ยูยอนฮา พุ่งขึ้นจากเตียงแล้วตกใจ


 


“ใครน่ะ?”


 


– คือ…ฉันเอง เรเชล ฉันได้ยินว่าเธอกำลังจากกลับดังนั้นฉันจึงมาหา


 


“…อืมมม.”


 


ยูยอนฮายืดชายเสื้อของเธอและเดินไปเปิดประตู เรเชลยืนอยู่ตรงหน้าดูเหมือนว่าเธอจะเหนื่อยจากการต้องรับมือกับซินยอฮวาแต่เธอก็ทักทาย ยูยอนฮา ด้วยรอยยิ้มที่สดใส


 


“เธอดูดีจัง. เธอพร้อมจะกลับแล้วเหรอ?”


บทที่ 488 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (2)


 


“… .”


 


“… ยอนฮา?”


 


ยูยอนฮา จ้องมองเรเชลอย่างเงียบๆ เรเชลทำหน้าแสนดีและเรียบง่าย อย่างเช่นเคย แต่ก็มีแววตาแห่งความคาดหวัง ยูยอนฮา รู้ว่าเธอมีตำแหน่งที่เธอสามารถกำหนดชะตากรรมของประเทศได้ แม้จะเหมือนพูดเกินจริงเล็กน้อยแต่เธอก็สามารถจัดการอังกฤษได้ถ้าเธอตั้งใจจะทำ


 


“เธอ.”


 


ยูยอนฮาไม่ชอบทัศนคติของเรเชล อารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อแชนายอนในวันนั้นกลับมาอีกครั้ง เธออดใจไม่ไหว เธอบอกความรู้สึกที่ถูกกักไว้ในใจออกมา


 


“เธอมีความสัมพันธ์แบบไหนกับคิมฮาจิน”


 


ในขณะนั้นไหล่ของเรเชลก็สั่นไหว


 


“อะไรนะ? เธอหมายถึงอะไร”


 


“อย่าทำเหมือนเธอไม่รู้”


 


ยูยอนฮา จริงจังมาก


 


“เด็กที่เธอพาวิ่งหนีไปเมื่อ 2 วันก่อนฉันเห็นเด็กคนนั้นที่โซล ในเวลานั้นเด็กคนนั้นไม่ได้อยู่กับเธอ แต่เป็นคิมฮาจิน”


 


“… .”


 


เรเชลไม่ได้พูดอะไร เท่าที่ยูยอนฮารู้ตัวความเงียบก็เหมือนกับคำตอบ


 


“ฉันจะถามอีกครั้ง”


 


ใบหน้าของ ยูยอนฮา จริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอกัดฟันและถามอย่างตรงไปตรงมาตอนนี้เหมือนมีมีดอยู่ในหัวใจของเธอ


 


“เธอนอนกับคิมฮาจินแล้วใช่มั้ย”


 


ในช่วงเวลาที่เธอถามคำถามนั้นออกมา


 


ตู้มมมมมมมมม…


 


พลังเวทมนต์อันไร้ขอบเขตก็เริ่มไหลลงมาจากสถานที่ที่ไม่รู้จัก


*************************************************************************


[รอบชิงชนะเลิศ▷ ‘คุณไม่สามารถกระโดดลงจากรถไฟที่วิ่งอยู่ได้]]


[การเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจกำลังคืบหน้า…เสร็จสิ้น 3%]


[การคำนวณหอคอยที่ยังไม่ถูกยึดครอง]


[หอคอยแห่งปาฏิหาริย์,หอคอยแห่งนิรันดร์,หอคอยแห่งสัตว์,


หอคอยแห่งความเศร้าโศก,หอคอยแห่งความสิ้นหวัง…]


[…พบทั้งหมด 13 หอคอย พลังของหอคอยทั้ง 13 แห่งนี้จะถูกปลดปล่อยสู่โลกภายนอก]


 


“…ฮาจิน พลังเวทมนต์มัน-”


 


“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”


 


“เอ๊ะ…อะไรนะ?”


 


การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของระบบในชื่อของ ‘ส่วนเสริม’ ตอนนี้ผมไม่สามารถระงับความโกรธของผมได้ ผมวิ่งไปที่หน้าต่างและเงยหน้าขึ้นมอง จากนั้นผมก็พูดไม่ออก


 


วิ้งงงงงงงงงงง


 


ดาวตกหลายพันดวงตกลงมาจากท้องฟ้าส่องสว่างในความมืด


ฝนดาวตก ตัวอักษรที่หลากหลายปรากฏบนดาวตก ผมน่าจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะเห็นมัน


 


เวลาผ่านไปนานพอแล้วตั้งแต่การทำลายเปลือกของหอคอยแต่ในช่วงเวลานี้มนุษยชาติให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยในการพิชิตหอคอยที่เหลืออยู่ พวกเขามีทางเลือกน้อยเพราะศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าออร์เดน


 


หอคอยแห่งปาฏิหาริย์, หอคอยแห่งนิรันดร์, หอคอยแห่งสัตว์,


หอคอยแห่งความโศกเศร้า, หอคอยแห่งความสิ้นหวัง … หอคอยทั้ง 13 แห่งที่ยังไม่ได้ถูกพิชิตทั้งหมดได้ปลดปล่อยพลังออกมา มันเป็นเพราะ


‘พลังแห่งการปฏิเสธ’ ซึ่งเป็นผลมาจาก Tower of Wish พลังของมัน


ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับเร่งการเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจของโลก


 


…ตอนนี้อุกกาบาตกำลังตกลงมาบนโลก อุกกาบาตนั้นประกอบไปด้วยอสูรร้ายหลายร้อยตัว อสูรและอสูรแห่งการทำลายล้าง นี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจ


 


แต่การเปลี่ยนแปลงอาณาจักรปีศาจนี้ไม่ได้เป็นปรากฏการณ์ที่เรียบง่ายเหมือนอย่างจาก Tower of Wish ‘ปีศาจไม่ใช่ศัตรูทั้งหมด’


การเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจจะเปลี่ยนโลกและนำไปสู่ยุคใหม่…. 」


 


“นั่นมันหมายความว่ายังไง บัดซบ ทำไมถึงได้เลวขนาดนี้”


 


ผมสาปแช่งคนแต่งใหม่และมองคำที่ผมไม่เข้าใจ จากนั้น …


 


ตู้มมมมมมมมม


 


อุกกาบาตบางส่วนระเบิดออกเมื่อพวกมันถึงพื้น แผ่นดินสั่นสะเทือนและควันลอยขึ้นมา


 


[รางวัลที่มอบให้แก่มนุษยชาติทั้งหมดสำหรับการพิชิตหอคอยแห่งความปรารถนา – เปิดใช้งาน ‘การอวยพรของนักบุญ’]


[ระบบใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว]


[น่าสนใจ ระบบของคุณคือระดับ 6 คุณคือผู้เล่นเพียงคนเดียวที่มี


ระดับเกิน 4]


 


ระดับของระบบ ในขณะที่ผมปีนหอคอยแห่งความปรารถนาผมใช้


[คูปองเลื่อนระดับ] เพื่อเพิ่มระดับของระบบเป็นระดับ 6


 


[ค่าสถานะของคุณได้รับการแก้ไขรวมกับ 5 คุณสมบัติ]


[คุณสมบัติของคุณคือ 1.ความชัดเจน 2. ความดื้อรั้น 3. ความคิดสร้างสรรค์ 4.การลงมือทำ 5. การรวมกัน]


 


“บอส?”


 


ผมหันไปหาบอส เธอดูเหมือนจะประสบปรากฏการณ์เดียวกันขณะที่เธอกำลังจ้องมองไปในอากาศ


 


– โฮกกกกกกกกกกกกกกก


 


– โฮกกกกกกกกกกกกกกก


 


ถัดไปเสียงคำรามแปลกๆ เริ่มดังขึ้นข้างนอก ดวงตาผมเบิกกว้างและมองออกไปนอกหน้าต่าง


 


– โฮกกกกกกกกกกกกกกก


 


อุกกาบาตที่ตรึงอยู่กับพื้นมีสัตว์อสูรหลายร้อยตัวกำลังคลานออกมา


 


[ความคืบหน้าของ บทใหม่ – สัตว์ร้ายของดินแดนปีศาจบุกมนุษยชาติ]


[ดันเจี้ยน ‘มิเรอร์เวิร์ล’และสนามรบอื่นๆจะถูกสร้างขึ้นนับไม่ถ้วน]


[ทุกครั้งที่เคลียร์ดันเจี้ยนหรือสัตว์อสูรถูกสังหารคุณจะได้รับ DP


(แต้มแห่งความมืด)]


[DP สามารถรับได้โดย ‘ใครก็ได้’ และสามารถใช้ใน ‘เมืองปีศาจ’ หรือกับ ‘พ่อค้าปีศาจ’]


[หมายเหตุพ่อค้าปีศาจและเมืองปีศาจไม่ใช่ศัตรูของคุณ พวกเขาคือ


‘ตัวกลาง’ ที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ผ่านสงครามนี้]


[คุณสามารถเปลี่ยน SP เป็น DP ได้]


 


โครมมมมมมม!


 


ในขณะนั้นเองสัตว์ร้ายสีดำก็พุ่งเข้ามาทางหน้าต่างและมาถึงตัวผมทันที ผมเหวี่ยงมือของผมออกไปโดยไม่รู้ตัว สัตว์ปีศาจถูกตัดขาดครึ่งอย่างหมดจด


 


“…บ้าน่า?”


 


ผมมองลงไปที่ฝ่ามือของผมซึ่งมันเฉียบแหลมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


 


[ความเฉียมคม 7 คะแนนจะถูกฝังไปในทุกการกระทำ]


[คุณได้ 5 DP จากการสังหารสัตว์อสูร]


 


“ อะไรนะ….”


 


“ฮาจิน?”


 


ขณะที่ผมกำลังบ่นอย่างสับสนบอสก็เรียกชื่อผม ผมเปิดทีวีโดยไม่ตอบเธอ


 


– รายงานฉุกเฉิน โลกกำลังประสบกับฝนดาวตกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อุกกาบาตเหล่านี้ก่อให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ขอแนะนำให้พลเรือนอยู่ภายใน….


 


“ไม่นะ ฮาจิน”


 


บอสจับบนไหล่ของผมเหมือนเธอรู้สึกท้อแท้


 


“อะไรเหรอ?”


 


“มะ-มองไปทางนั่น”


 


“ฮะ…?”


 


ผมหันไปทางทิศทางที่บอสชี้ไป เมื่อ 3 นาทีก่อนมันเป็นลานกว้างใหญ่ในเอเชียกลางโดยไม่มีอะไรน่าสนใจ


 


แต่นั่นไม่ใช่ตอนนี้


 


ร้านค้าทั่วไป ร้านเสื้อผ้า ร้านขายอาวุธ ร้านค้าเวทมนตร์และอื่นๆ…. ม้านั่งล้อมรอบบ่อน้ำในพลาซ่ามีโรงแรมสูง 4 ชั้น มีแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนผู้คน


 


อุกกาบาตถล่มและสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา


 


“…นั่นมันอะไรกัน?”


 


ระบบให้คำตอบกับการบ่นที่สับสนของผม


 


[พวกเขาเป็น ‘พ่อค้าปีศาจ’ สิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในโลกผ่านอุกกาบาต พ่อค้าปีศาจมีความแตกต่างจากปีศาจ อสูร มารและสัตว์ร้ายอย่างอื่นๆปีศาจไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวในหมู่ที่มาจากดินแดนปีศาจ ปีศาจถูกแต่งเนื้อเรื่องใหม่แตกต่างจากเดินโดยขึ้นอยู่กับเผ่าพันธุ์ของพวกเขา]


 


[มารจะจ้าง ปีศาจและสัตว์อสูรเพื่อพิชิตโลก มนุษยชาติจะพยายามหยุดพวกเขา ‘พ่อค้าปีศาจ’ เหล่านี้อยู่ที่นี่เพียงเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสงครามของทั้ง 2 ฝ่าย]


 


[พวกเขาจะขายทุกอย่างอะไรให้พวกคุณไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในการทำลายล้างสมาชิกของเผ่าพันธุ์ตัวเอง อาวุธเวทมนตร์หรืออะไรก็ตาม ตราบใดที่คุณมี DP เพียงพอ]


 


[เป็นยังไงบ้าง แบบนี้ก็ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วใช่ไหม?]


 


“แกล้อเล่นกับฉันใช่มั้ย ไอ้สวะ…”


 


เมื่อเห็นประโยคสุดท้ายผมก็ไม่สามารถอดกลั้นความโกรธของผมได้อีกแล้ว


 


“เฮ้ออออ…”


 


แต่ความโกรธไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ผมต้องใจเย็นๆ มีบางอย่างที่ผมต้องทำ ผมเอา [คริสตัลบริสุทธิ์] ออกจากรอยสักของผม


 


แต่ในขณะนั้นบอสก็ค้นพบสิ่งอื่น


 


“…ฮาจิน.”


 


เธอชี้ไปที่ท้องฟ้าด้วยมือที่สั่นเทา


‘เกิดอะไรขึ้น’ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างใจสั่นในสิ่งที่ผมจะเห็นต่อไป


ทันใดนั้นความคิดของผมก็หยุดลง


 


“มะ…มะ….มังกร”


 


บอส พูดออกมาอย่างเงียบๆ บอสและผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความงุนงง มันไม่ใช่อะไรที่เหมือนกับ มนุษย์มังกรไอลีน แต่เป็นมังกรที่แท้จริง บนท้องฟ้าสมาชิกของเผ่าพันธุ์ลึกลับที่รู้จักกันในนามมังกรกำลังวนรอบดวงจันทร์


 


“พระเจ้า มึงบ้าไปแล้ว….ไอ้แม่…..”


 


ผมอดไม่ได้ที่จะพูดแบบนี้ออกมา ผมไม่ได้ด่าใครมานานมากแล้วแต่ว่าผู้เขียนร่วมคนนี้ต้องยอมให้จริงๆ


 


งับ


 


“โอ้ยย”


 


บอสกัดมือของผมด้วยปากเล็กๆของเธอ ผมได้แต่มองเธออย่างสับสน และเธอก็ทำให้ผมเขินอาย


 


“อย่าพูดไม่เพราะสิ”


 


“อะ….อ่า……โอเค.”


บทที่ 489 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (3)


 


[เหลืออีก 44 วันกว่าจะเริ่มพัฒนาการครั้งแรก


‘Advent of the Calamity’]


[ในฐานะผู้เขียนต้นฉบับคุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโครงร่างของ


การพัฒนาการ]


[คุณสามารถเข้าถึงโครงร่างได้โดยใช้พรสวรรค์ดั้งเดิมของคุณ ,


‘การสังเกตการณ์และการอ่าน’]


[โปรดอย่าลืมว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะถามคำถามหรือแสดงความคิดเห็นได้]


 


ผมวิ่งไปกับบอสเพื่อไปที่อุกกาบาตที่หล่นลงมา หลังจากวิ่งไป 3 นาทีในที่สุดพวกเราก็เริ่มเห็นหมู่บ้านที่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา หมู่บ้านดูคล้ายกับที่ผมเห็นใน อคทรีน่า บ้านทำจากอิฐเป็นการออกแบบยุคกลางคลาสสิกๆ


 


“…นี่มันอะไรน่ะ?”


 


ไม่ใช่แค่พวกเราที่มา ปีศาจ และทหารรับจ้างของ Pandemonium ก็มารวมตัวกันที่หมู่บ้านเช่นกัน ปีศาจดูไม่เหมือนจะมาต่อสู้ เพราะจากที่สังเกตหมู่บ้านแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกดำมืด


 


“อย่างที่ฉันคิดพวกนายก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน”


 


ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็เรียกพวกเรา ผมหันไปมองพร้อมกับบอสเป็น


‘หุ้นส่วนทางธุรกิจ’ ของพวกเรา วิคเก็ช สมาชิกของ 9 ปีศาจ


 


บอสถาม วิคเก็ช “เธอรู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันงั้นเหรอ”


 


“ไม่ ฉันไม่ได้ทำอะไร”


 


วิคเก็ชส่ายหัวของเธอและผู้บริหารทั้ง 3 ที่อยู่กับเธอก็ทำเช่นเดียวกัน


จนถึงตอนนี้ผมได้ปล่อยตัวผู้บริหารออกมาเพียง 3 จาก 6 คนของเธอ ผมจัดสรรส่วนที่เหลืออีก 3 คนไว้เพื่อใช้ในภายหลังในกรณีที่พวกเราจำเป็นต้องเจรจากับ วิคเก็ช อีกครั้ง นี่เป็นวิธีที่ผมตั้งใจจะเก็บของไว้กับวิคเก็ช เพราะพรสวรรค์ของ วิคเก็ช จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อจำนวน


ผู้ติดตามของเธอเพิ่มมากขึ้น


 


“…ปรากฏการณ์นี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับดินแดนปีศาจ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? เธอไม่ได้เป็นปีศาจหรอกเหรอ?” บอสถามขึ้นมา


 


“ปีศาจไม่ได้มาจากดินแดนปีศาจ ฉันแค่รับใช้มารเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน ลองเข้าไปข้างในด้วยกันแล้วหาคำตอบกันเถอะ”


 


คำอธิบายของ วิคเก็ช นั้นสมเหตุสมผล พวกเราจึงมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านด้วยกัน หมู่บ้านนั้นใหญ่และแบ่งออกเป็นหลายภาค พวกเรายังคงเดินต่อไปทันใดนั้นมีปีศาจขนาดเท่า ไอลีน กระโดดออกมาตรงหน้าพวกเราจากมุมถนน


 


– สวัสดี!


 


จริงๆแล้วผมค่อนข้างตกใจ (บอสและวิคเก็ชก็เช่นกัน) แต่ความภาคภูมิใจของผมไม่อนุญาตให้ผมกระโดดด้วยความตกใจออกมาได้


วิคเก็ชมองไปที่ลูกน้องของเธอ หนึ่งในผู้บริหารของเธอก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน


 


“แกเป็นใคร? เปิดเผยตัวตนมาซะ”


 


เพื่อให้พวกเราสามารถสื่อสารได้.


 


อย่างที่คิดปีศาจพูดภาษาเกาหลี เขาตัวเล็ก แต่มีเขาโค้งขนาดใหญ่งอกออกมาจากหัวของเขา


 


“บอกพวกเราเกี่ยวกับตัวแกและสิ่งที่แกทำที่นี่”


 


– ชื่อของฉันคือ กวง และฉันเป็นพ่อค้า ฉันพยายามหาข้อมูลทุกอย่าง….


 


ผมใช้ [สิทธิผู้แต่งดั้งเดิม] กับปีศาจ


 


[พ่อค้าแห่งดินแดนปีศาจ กวง]


[พลังชีวิต 100/100]


[ตำแหน่ง – เป็นกลาง]


[ขอบเขต – ขั้นที่ 1 ค่าเฉลี่ย]


[งาน – พ่อค้าระดับกลาง]


[สถานะ – พูดความจริง]


 


– ฉันมีหลายอย่างสำหรับการขายที่จะช่วยพวกคุณได้ โปรดดูนี่


 


กวง แสดงแคตตาล็อกร้านค้าให้พวกเรา


 


[มื้อพิเศษ]


[กำแพงป้องกัน]


[ไอเท็มต่างมิติ]


[ทหารรับจ้างให้เช่า]




 


– คุณสามารถซื้อสิ่งของเหล่านี้ด้วย DP ซึ่งเป็นสกุลเงินที่เราใช้ในโลกของพวกเรา คุณสามารถสร้างรายได้จากการล่าสัตว์อสูร อาพวกคุณรู้หรือไม่ว่าสัตว์อสูรคืออะไร พวกมันไม่แตกต่างจากมอนสเตอร์มากนัก เมื่อมอนสเตอร์ปนเปื้อนในดินแดนแห่งปีศาจพวกมันจะกลายเป็นสิ่งที่พวกเราเรียกว่าสัตว์อสูร ฉันขอแนะนำไอเท็มนี้ ‘State of Existence Enhancer’! มันมีราคาแพง แต่มันคุ้มค่ากับราคา!


 


“ดินแดนปีศาจ? นายหมายถึงการเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจงั้นเหรอ?”


 


บอสขมวดคิ้ว ผู้ที่เข้าร่วมใน Tower of Wish ทุกคนต่างก็รับรู้เรื่องของ


‘การเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจ’


 


– ใช่ อุกกาบาตในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจ หากพวกคุณล้มเหลวในการต่อสู้ โลกจะเปลี่ยนเป็นดินแดนปีศาจโดยสมบูรณ์ในเวลาไม่นาน


 


เราทั้งสามคนเงียบลง ความรู้สึกตกใจพัดผ่านพวกเรา ผมมองลงไปที่พ่อค้าปีศาจ ‘กวง’ และพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว


 


“พวกเราได้รับ DP จากการฆ่าสัตว์อสูร…จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันฆ่านาย”


 


– อะไรนะ?


 


“ฉันจะได้รับ DP จากการฆ่านายหรือเปล่า”


 


– อ้อใช่ แต่คุณไม่สามารถฆ่าฉันได้ ฉันเป็นเพียงโฮโลแกรม ร่างกายของฉันอยู่ในดินแดนปีศาจที่แท้จริง


 


[สถานะ – พูดความจริง]


 


ผมไม่ได้วางแผนฆ่าเขาจริงๆ แต่ก็รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถทำได้


 


“ฉันเข้าใจแล้ว.”


 


– ไม่มีประโยชน์ใดที่จะฆ่าพวกเรา พวกเรายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อพวกคุณตราบใดที่พวกคุณจ่าย DP ให้พวกเรา


 


“…ชิ สกุลเงินอีกรูปแบบหนึ่งงั้นเหรอ”


 


DP, TP, SP มันเริ่มสับสนแล้วสิ…แต่นั่นก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เข้าใจมัน


ผมมีความสามารถในการหาเงิน ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ผมก็สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องกังวล อย่างที่พูดไปความสำเร็จเป็นทักษะเล็กน้อยและโชคคือทั้งหมด


 


“นายมีคาสิโนที่นี่ไหม”


 


– อาาา~ พ่อค้าระดับสูงกว่าไม่อยู่ แต่ฉันมีตั๋วลอตเตอรีนะ!


 


“…จริงเหรอ?”


 


– ใช่ พวกมันราคา 20 DP ต่อตั๋วและนายสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที


รางวัลอันดับ 1 จะได้รับ 1,500,000 DP, รางวัลอันดับ 2 150,000 DP, รางวัลอันดับ 3 15,000 DP …


 


ผมสามารถทำ 1.5 ล้าน DP ได้โดยลงทุนแค่ 20 DP แน่นอนลอตเตอรีโอกาสที่จะชนะมันน้อยมาก กวง อธิบายต่อ


 


– โอกาสได้รางวัลอันดับ 1 คือ 1 ใน 30,000,000 รางวัลอันดับ2 คือ


1 ใน 9,000,000 รางวัลอันดับ 3 คือ 1 ใน 300,000 ….


 


1 ใน 30,000,000


1 ใน 9,000,000


1 ใน 300,000


 


ภาพรวมตัวเลขเหล่านี้ดูเหมือนต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทำไม ทำไมผมถึงหยุดยิ้มมุมปากไม่ได้เลยนะ? ผมพยายามที่จะสงบสติอารมณ์


 


“นั่นมันค่อนข้างแย่ใช่มั้ย”


 


– โอกาสค่อนข้างต่ำ แต่พวกเราขายตั๋วเหล่านี้ในมิติและโลกอื่นๆด้วย


ดังนั้น ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ~


 


“ใช่ ก็ไม่เป็นไร”


 


มันไม่สำคัญว่าโอกาสจะต่ำแค่ไหน ผมมั่นใจว่าค่าสภานะโชคดีเหนือมนุษย์ของผมที่ 9.1 แต้มจะนำมาซึ่ง DP จำนวนมหาศาลถึงแม้ว่ามันมีความน่าจะเป็นที่ต่ำจนน่าขันก็ตาม


*************************************************************************


 


[แอฟริกาป้อมปราการใต้ดิน]


 


[การนินทา – ดอกบัวดำ Q&A]


 


ถามเหตุใดดอกบัวดำจึงต่อต้านออร์เดน


ฉันไม่รู้รายละเอียด แต่ฉันคิดว่ามีเหตุผลเบื้องหลังความเป็นศัตรูของเขา ยกตัวอย่างเช่นสมาชิกในครอบครัวของเขาถูกฆ่าโดย ออร์เดน หรืออะไรบางอย่างแนวๆนั้น

 


ดอกบัวดำ แข็งแกร่งแค่ไหน?

ฉันสามารถตอบคำถามนี้ได้อย่างมั่นใจ ดอกบัวดำมีพลังพอๆกับ หรือไม่ก็มากกว่า แชจูชึล เพราะ เขาแก่แล้วดังนั้นฉันคิดว่า ดอกบัวดำ จะเป็นผู้ชนะเมื่อเวลาผ่านไป

 


จริงเหรอ? แต่พวกเราทุกคนรู้ว่านักดาบแห่งปาฏิหาริย์ คิมซูโฮ ก็แข็งแกร่งเช่นกันและ ‘เฟนรีล’ เองก็เคยฆ่า ดอกบัวดำ มาก่อน

ฉันได้ยินคิมซูโฮเองก็ยอมรับดอกบัวดำ อันที่จริงคิมซูโฮอาจจะแข็งแกร่งกว่าดอกบัวดำในการต่อสู้ 1 ต่อ 1 แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ฉันต้องบอกว่าไม่มีฮีโร่คนไหนที่สามารถต่อต้าน ดอกบัวดำ ได้ สำหรับ เฟนรีล…ฉันไม่ขอออกความคิดเห็น แต่ฉันก็ยังคิดว่าดอกบัวดำ นั้นแข็งแกร่งกว่า เฟนรีล

 


ดอกบัวดำมีบรรยากาศแบบไหน?

เขาดูเศร้าๆและเย็นชา แต่ฉันเห็นความอ่อนแอแบบมนุษย์ในตัวเขาฉันรู้สึกว่าเขามีบาดแผลในใจที่ไม่สามารถลบได้ แม้กระทั่งทัศนคติที่ไม่แยแสของเขาก็ไม่สามารถปิดบังความเสียใจของเขาได้ เขาเป็นสัตว์ร้ายที่กำลังได้รับบาดเจ็บ…

 


ถาม ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆทำไมคุณถึงคิดว่าดอกบัวดำได้รับบาดเจ็บ

ฉันไม่แน่ใจ อาจมีหลายเหตุผล การต่อสู้ของเขากับ ออร์เดน หรือการต่อสู้กับ เฟนรีล ใน Tower of Wish หรืออาจเป็นการกดขี่จากสมาคม….แต่ยิ่งไปกว่านั้นฉันคิดว่าเป็นเพราะดอกบัวดำเป็นผู้สูงศักดิ์ เขาสามารถเหยียบโลกอยู่ใต้แทบเท้าของเขาได้และเขาก็เป็นผู้นำของ

Chameleon Troupe ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายิ่งสูงเขาก็ยิ่งหนาว


===


 


ในขณะเดียวกัน ยีจินยูน ก็กำลังแพร่กระจายข่าวลือผ่าน ตอบคำถามของห้องจัดเลี้ยงสีม่วง แม้ว่าข่าวลือเหล่านี้ล้วนมาจากอาการหลงผิด แต่เธอก็ไม่รู้สึกผิดอะไรในใจของเธอข่าวลือเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อดอกบัวดำ นอกจากนี้เธอเชื่อว่าการวิเคราะห์ของเธอเป็นเรื่องจริง


 


แตะ แตะ แตะ แตะ


 


เธอสะสมคะแนน ห้องจัดเลี้ยงสีม่วง มากขึ้นเรื่อยๆเสียงของคีย์บอร์ดก็ดังขึ้นๆ ระดับ ID ห้องจัดเลี้ยงสีม่วง ของ ยีจินยูน นั้นน่าทึ่งมาก


[Blue Diamond] นี่คือเหตุผลที่ผู้คนเชื่อในสิ่งที่เธอพูดโดยไม่คิดแม้แต่จะตรวจสอบข้อเท็จจริง


 


“….อืมมม เราควรตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของเรา ในตอนนี้”


 


หลังจากเสร็จสิ้นการถามคำถาม ยีจินยูน ก็ปิด ห้องจัดเลี้ยงสีม่วงและดึงบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอขึ้นมา


 


[ยีจินยูน]


 


[โพสต์ 2,480] [ผู้ติดตาม 36.3M] [กำลังติดตาม 103]


 


“ฮุฮู.”


 


การเป็นสมาชิกของ ‘ทีมลอบสังหารออร์เดน’ ทำให้ผู้คนต่างก็สนใจในตัวเธอ ยีจินยูน เป็นเพียงซัพพอร์ตเด็กๆแต่ในอินเทอร์เน็ตเธอเป็นคนดังที่ได้รับความนิยมอย่างมากด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดและภาพลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของเธอ


 


ในบัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของเธอ เธอได้รับความนิยมทั่วโลกโดยการโพสต์รูปถ่ายของเธอกับฮีโร่ชื่อดังอื่นๆเช่น แชนายอน,


ยูยอนฮา, คิมซูโฮ และ ชินจงฮัก ในห้องจัดเลี้ยงสีม่วงเธอเปิดเว็บไซต์ลับๆที่เรียกว่า [ห้องนินทาสีม่วง] ซึ่งเธอโพสต์เรื่องซุบซิบเหมือน Q&A ก่อนหน้านี้ เป้าหมายแรกของเธอคือคะแนน ห้องจัดเลี้ยงสีม่วง ทำให้เธอได้รับผู้ติดตามจำนวนมาก


 


– นายขายของงั้นเหรอ?


 


“…พวกนั้นยังไม่เสร็จเหรอ?”


 


ยีจินยูน ปิด smartwatch แล้วลุกจากที่นั่ง เธอเปิดประตูเล็กน้อยแล้วมองออกไปนอกช่องว่าง ไอลีนยังคงซักถามปีศาจอยู่


 


– ใช่สิ่งที่พวกเราทำคือขายสินค้า


 


“นายคาดหวังให้ฉันเชื่ออย่างนั้นจริงๆเหรอ”


 


หลังจากอุกกาบาตนับไม่ถ้วนตกลงมาที่ป้อมปราการใต้ดินก็ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน อุกกาบาตหนึ่งแล่นผ่านพื้นดินและกลายเป็น ‘ร้านค้า’ ซึ่งตั้งอยู่นอกป้อมปราการ


 


– มองที่พวกเราสิ. พวกเราไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อต่อสู้ ฉันเตี้ยกว่าเธออีก


 


ปีศาจหมุนตัววนรอบ


 


“…นายล้อเล่นใช่ไหม? เป็นเรื่องจริงเหรอที่นายสั้นกว่าฉัน”


 


ยีจินยูน ก้าวออกไปข้างนอกและยืนถัดจาก แชนายอน และ คิมซูโฮ ที่กำลังมอง ไอลีน


 


“นายอน ซูโฮ ยังไม่จบเหรอ?”


 


“หืม?”


 


“ไม่ๆ แต่ฉันคิดว่ามันจะจบในเร็วๆนี้ละ อ่าใช่มั้ย เธอได้ค่าสถานะแบบไหน?”


บทที่ 490 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (4)


 


‘ค่าสถานะ’ ยีจีนยูนสงสัยว่า คิมซูโฮ หมายถึงอะไร จากนั้นเธอก็ตระหนักว่าเขาหมายถึง ‘การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่’ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้


 


“อ้อ ฉันได้รับบัฟมาน่ะ แล้วพวกเธอ 2 ล่ะ?”


 


“ฉันได้รับ ‘ความดื้อรั้น’ และ ‘ขีดสุดความสามารถ’”


 


“การขยายพลัง”


 


คิมซูโฮ ได้รับ ‘ความดื้อรั้น’ และ ‘ขีดสุดความสามารถ’ แชนายอน ได้รับการขยายพลัง


 


“ฮะ? ทำไมนายถึงมี 2 อันละซูโฮ”


 


“ อืม…ฉันก็ไม่แน่ใจ”


 


“อาจเป็นเพราะเขาเคลียร์ Tower of Wish งั้นเหรอ”


 


แชนายอน เคาะที่หน้าอกของ คิมซูโฮ คิมซูโฮกอดหน้าอกของเขา


 


“อ่านั่นสมเหตุสมผลแล้ว”


 


ในขณะนั้นการสนทนาระหว่างไอลีนกับปีศาจดูเหมือนจะจบลงในที่สุด


 


“นายสัญญาว่าจะไม่บอกใครเกี่ยวกับป้อมปราการของพวกเราใช่ไหม”


 


แน่นอน.


 


“พวกเราแค่ต้องการฆ่าออร์เดน”


 


– แน่นอน ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่พวกเราสามารถช่วยให้เธอบรรลุ


เป้าหมายได้! ตราบใดที่เธอมี DP!


 


“ดี เฮ้ ทุกคนออกมา!”


 


เสียงของ ไอลีน ดังขึ้น สมาชิก 177 คนของหน่วยเฉพาะกิจเฉพาะกิจได้ก้าวออกมานอกเต็นท์


 


“พวกเราจะเริ่มฝึก!”


 


ไอลีน นำ [การฝึกฝนแบบจำลอง] ออกมา อุปกรณ์นี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สะท้อนถึงรายงานของ รูมิ ในวังของ ออร์เดน ตอนนี้มันสมจริงและแม่นยำยิ่งขึ้น


 


“ฉันต้องการให้ทกุคฝึกสิ่งนี้ วันที่เริ่มภารกิจจะไม่เปลี่ยนแปลง! พวกเราหยุด 3 สัปดาห์จากนั้น! พวกเราจะไปฆ่าออร์เดน!”


 


เสียงแหลมสูงของ ไอลีน ดังก้องไปทั่วถ้ำใต้ดิน


 


“นอกจากนี้!”


 


จริงๆแล้วเรื่องนี้ยังไม่ตายตัว สมาคมได้บอกกับไอลีนว่าพวกเขาจะ


‘พยายามและเจรจา’ แต่ไอลีนตัดสินใจที่จะประกาศให้สมาชิกทราบเพื่อยกขวัญกำลังใจ


 


“ดอกบัวดำจะเข้าร่วมกับพวกเราในภารกิจนี้!”


 


เป็นเหมือนข่าวดีของสมาชิก ชินจงฮักดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ แชนายอน พยักหน้าอย่างจริงจังเพราะ คิมซูโฮเล่าเรื่องของดอกบัวดำที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดให้เธอฟังส่วนยีจินยูนหวังที่จะถ่ายเซลฟี่กับดอกบัวดำสักครั้ง


 


“…อันนี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? ฉันคิดว่ายังเจรจากันอยู่”


 


คนเดียวที่รู้ความจริง ยุนซึงอา เข้าหาไอลีนและกระซิบข้างหู


 


“…ฉันได้ยินมาว่าค่าใช้จ่ายในการเจรจาสูงมาก…. มีข่าวลือว่าเงินมัดจำคือ 50 พันล้านวอน”


 


“ช่างมันนั่นคือปัญหาของพวกตาแก่ พวกเราต้องการดอกบัวดำเพื่อฆ่า ออร์เดน ให้ได้”


 


ไอลีน ประกาศอย่างไม่ย่อท้อแม้จะมีข้อกังวลของ ยุนซึงอา ก่อนที่จะเริ่มฝึกซ้อมประจำ


*************************************************************************


 


[เมืองปีศาจในเอเชียกลาง]


 


ผมกลับไปที่เมืองปีศาจหลังจากตามล่าสัตว์อสูร 100 ตัวกับบอสและ


วิคเก็ช (เธอยืนยันที่จะตามพวกเรามา) ในปัจจุบันการแปลงร่างเป็นอสูรนั้นเสร็จไปเพียง 3% และสัตว์อสูรนั้นแข็งแกร่งพอๆกับมอนสเตอร์ระดับกลาง


 


กวง ทักทายพวกเราเมื่อพวกเรากลับมา


 


“ฉันมี 1,000 DP ซื้อตั๋วลอตเตอรี 50 ใบเลย”


 


– อา เราไม่ขายที่นี่


 


กวง พาพวกเราไปที่ร้านค้าทั่วไปใกล้ๆ


 


– ยินดีต้อนรับเข้ามาเลย~


 


ผมเป็นคนแรกที่เข้าไปในร้าน มีของเจ๋งๆมากมายอยู่ในนั้นและเจ้าของร้านก็เป็นยักษ์ที่ยิ่งใหญ่เท่ากับ ชอคจุนกยอง ผมหาเจ้าของร้านและพูดว่า


 


“เฮ้.”


 


– ยินดีที่ได้รู้จัก


 


“ชื่อของนายลงท้ายด้วย ‘อ็อก’ หรือเปล่า”


 


– ถูกตัอง.


 


“…โอ้ ฉันซื้อตั๋วลอตเตอรี่ 50 ใบฌลย”


 


– เจ้าจะไม่ชนะ เป็นโอกาส 1 ใน 30 ล้าน มนุษย์ไม่เคยชนะ


 


ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดีอ็อก ดูเหมือนจะไม่อยากขายหวยให้ผม


 


“ฉันจะแสดงให้นายเห็นว่าโชคของนายเหนือกว่ามนุษย์ ส่งตั๋วให้ฉัน”


 


– …


 


ดีอ็อก ดูไม่พอใจ แต่ผมก็มองเขาและในที่สุดเขาก็ให้ตั๋วผมมา 50 ใบ


 


– มันจะไม่ได้ผล


 


ผมขูดบัตรสลากกินแบ่ง 50 ใบทันที


 


ตั๋วแรกคือรางวัลอันดับที่ 6 100 DP


 


ตั๋วที่สองไม่มีอะไร


 


ตั๋วที่สามคือรางวัลอันดับที่ 6 อีกครั้ง 100 DP


 


บอสดวงตาเบิกกว้าง


 


“โอ้ มันออกมาค่อนข้างบ่อยสำหรับ 1 ในโอกาส 30 ล้าน”


 


“…ฮะ? โอ้ เขาหมายถึงว่าเป็น 1 ใน 30 ล้านรางวัลที่ 1 แต่รางวัลอื่นๆมีความเป็นไปได้สูง”


 


“เอ่อ…ฉันเข้าใจแล้ว อะแฮ่ม ฉันไม่เคยซื้อตั๋วลอตเตอรีมาก่อนเลย”


 


บอสปล่อยเสียงไอแห้งๆด้วยความลำบากใจ ผมขูดลอตเตอรีต่อไป


 


ตั๋วที่สี่คือ รางวัลอันดับที่ 5 500 DP


 


ตั๋วที่ห้าคือ รางวัลอันดับที่ 3 15000 DP


 


– ว้าว! นายได้รางวัลอันดับ 3 ! ขอแสดงความยินดีด้วยนะ!


 


– รางวัลอันดับที่ 3? นั่นคืออะไรเหรอ


 


“โอ้ นายโชคดีมาก”


 


กวง, ดีอ็อก และ วิคเก็ช แสดงความยินดีกับผม แต่ผมก็ยังไม่พอใจ


ผมขูดตั๋วต่อไปใบที่ 15, 23, 33, 50 แม้ว่าผมจะไม่ได้รางวัลที่ 1 จาก


50 ใบแรก แต่ผมก็ซื้ออีก 150 ใบด้วย DP ที่ผมชนะจากลอตเตอรี


 


ผมเริ่มต้นอีกครั้ง ใบที่ 69, 75, 83…. และเมื่อผมถึงลอตเตอรี่ใบที่ 109


ผมเห็นแสงริบหรี่สีทองที่ปลายนิ้วของผม


 


“อา รางวัลอันดับที่ 1 เป็นอันนี้”


 


มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยมากดังนั้นผมจึงขูดบัตรด้วยความมั่นใจ


 


[รางวัลอันดับที่ 1]


 


ผลลัพธ์เป็นสิ่งที่ผมคาดไว้อย่างแน่นอน ด้วยรอยยิ้มแจ่มใสผมส่ง


ตั๋วรางวัลอันดับที่ 1 ไปให้ ดีอ็อก


 


“เห็นไหม ตอนนี้ส่ง DP มาให้ฉันได้แล้ว”


*************************************************************************


[กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้]


 


… 10 วันผ่านไปแล้วตั้งแต่ ‘เหตุการณ์ฝนดาวตกปีศาจ’ มนุษยชาติปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เมื่อความสับสนเริ่มสงบความแตกต่างระหว่าง ‘พ่อค้าปีศาจ’ และ ‘ปีศาจ’ ถูกกำหนดไว้และฮีโร่เริ่มซื้ออาวุธที่มีประโยชน์จากพ่อค้าปีศาจเพื่อตามล่ามอนสเตอร์และสัตว์อสูรได้ง่ายขึ้น


 


นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบทความเกี่ยวกับ ‘ดอกบัวดำ’ ก็เริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้น ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่เนื่องจากพวกเขาบูชาดอกบัวดำมากขึ้นเรื่อยๆผมก็ได้แต่ตัดสินใจปล่อยพวกเขาไปมันอาจเป็นเพราะ ‘โชค’ ของผม


 


“…เธอจะมาเมื่อไหร่”


 


ปัจจุบันผมอยู่ที่โซลเพื่อรอยูยอนฮามาถึง วันนี้เป็นวันที่ผมถูกกำหนดให้พบกับ โอแจจิน สมาชิก 9 ดารา


 


เนื้อเรื่องเดิมของ โอแจจิน นั้นประกอบด้วย 2 ประโยคง่ายๆ


‘จอมเวทเพียง 1 เดียวใน 9 ดารา’,’จอมเวท 10 ดาวเพียงคนเดียวในโลก’


 


‘วันนี้เราจะคุยเรื่องอะไรกันกับโอแจจิน?…เขารู้เรื่องพ่อค้าปีศาจและ DP ไหมนะ?’


 


“อ่า เธอมานี่แล้ว”


 


ในขณะนั้นรถลีมูซีนที่หุ้มด้วยวัสดุกันกระสุนก็ปรากฏจากในระยะไกล


 


“เฮ้ นี่ ตรงนี้ๆ….”


 


ผมโบกมือให้ลีมูซีน แต่ วิ้งงง รถลีมูซีนผ่านผมไปอย่างเย็นชา


 


“อะไรกัน”


 


มีอะไรงั้นเหรอหรือว่าเราทำอะไรผิดพลาด ผมถามตัวเองอย่างสับสน


และแล้ว


 


เฟี้ยววววววววว—


 


ลมกระโชกแรงพัดผ่านมาหาผม


 


“…ฮะ?”


 


จากนั้นรถที่ผมมอบให้กับ ยูยอนฮา ก็ปรากฏตัวเหนือสายลม


 


“ไง.”


 


ยูยอนฮา กำลังนั่งอยู่บนที่นั่งของรถสโนว์โมบิลพร้อมหมวกกันน็อก


 


“โอ้~ วันนี้เธอดูดีจัง”


 


ผมยิ้มแล้ว ยูยอนฮา ก็ถอดหมวกของเธอออก ผมยาวของเธอสั่นไหวไปในอากาศและด้วยเหตุผลบางอย่างเธอทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยความไม่พอใจอย่างสูง ยูยอนฮา เคาะบนที่นั่งด้านหลังเธอ ใบหน้าของเธอนิ่งมาก


 


“…มีอะไรเหรอ”


 


“ขึ้นมา ฉันมีคำถามมากมายสำหรับนาย แต่พวกเราจะไม่สามารถพบกับโอแจจินได้ถ้าพวกเราไปสาย”


 


“หา? อ้อ-ได้สิๆ แน่นอน.”


 


ผมนั่งซ้อนยูยอนฮา เธอบิดแฮนด์ทันที ใช้เวลาเพียง 0.3 วินาทีในการเริ่มต้น บนที่นั่งของยานพาหนะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงผมถาม ยูยอนฮา


 


“ทำไมพวกเราจะไม่ได้พบเขา ถ้าพวกเราไปสาย”


 


“ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่สามารถพบเขาได้ แต่พวกเราจะไม่สามารถสนทนากับเขาได้”


 


“…หา? ผลข้างเคียงของเขาคืออะไร?”


 


ผมไม่แน่ใจเพราะผมไม่ได้ลงรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับเขาในเรื่องนี้


 


“ภาวะสมองเสื่อม.”


 


“หาาาาาาาา… ? …อะไรนะ?”


 


ยูยอนฮา มองมาที่ผมและตอบอย่างเมินเฉย


 


“ผลข้างเคียงของเขาคือภาวะสมองเสื่อม!!!”


บทที่ 491 เมฆแห่งสงคราม (1)


 


ยูยอนฮา และผมมาถึงที่จังหวัดพยองอันเหนือ ย้อนกลับไปตอนที่ฉันยังอยู่ใน Cube จังหวัดพย็องอันเหนือยังคงเป็นดินแดนรกร้างเนื่องจากจำนวนมอนสเตอร์ในพื้นที่และดินแดนที่แห้งแล้ง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือมันอยู่ใกล้กับแมนจูเรียซึ่งเต็มไปด้วยปีศาจป่าเถื่อน


 


“…มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเลยฮะ”


 


แต่ตอนนี้จังหวัดพยองอันเหนือแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าผมอยู่ในเมืองทั่วๆไปของโลก แม้ว่าอาคารจะไม่ได้สูเนื่องจากการโจมตีของมอนสเตอร์ที่อาจเกิดขึ้น แต่วิทยาศาสตร์เวทมนต์ได้เปลี่ยนสถานที่นี่ให้เป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีสูง เครื่องยนต์ AI วิ่งไปตามถนนและผมเห็นทหารแบก ‘ปืนเลเซอร์เวทมนต์’ มากกว่าปืนทั่วไป


 


“นายบอกให้ฉันลงทุนในดินแดนรกร้างดังนั้นนี้คือสิ่งที่ฉันทำ ผู้อพยพจะแห่กันมาที่นี่ในเร็วๆนี้”


 


ยูยอนฮา พูดห้วนๆ


 


“โอ้ ใช่…ฉันพูดแบบนั้นเหรอ”


 


ฉัมเกาแก้มตัวเองเบาๆ ผมส่งข้อความถึงเธอเกี่ยวกับแนวคิดทางธุรกิจบางอย่าง แต่ผมไม่คาดคิดว่า ยูยอนฮา จะลงมือทำทุกอย่างที่เขาบอกบางทีนี่อาจเป็นเพราะโชคของผมด้วยสินะ


 


“ฉันคิดว่ามีชาวต่างชาติมากมายเลยนะ”


 


คนส่วนใหญ่ที่เดินไปมาเป็นชาวต่างชาติ ผู้คนจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่นี่บางทีอาจเป็นเพราะประเทศบ้านเกิดของพวกเขาอันตรายเกินไปหรือเพราะพวกเขาเพียงแค่ชื่นชมเกาหลี


 


“100% ของดินแดนที่นี่เป็นของฉัน มันไม่ใช่แค่จังหวัดพยองอันเหนือ จังหวัด ฮัมพย็อง จังหวัด ชากัง และ จังหวัด รยังกัง ซึ่งถูกทิ้งร้างใน ตอน Outcall ทั้งหมดถูกฟื้นคืนโดยกิลด์ Essence of Strait”


 


“โอ้? ทำได้ดีมาก”


 


“จังหวัดฮัมพย็องและพย็องอัน ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด นอกเหนือจากอาคารที่อยู่อาศัย ตอนนี้ที่นี่ยังมีโรงเรียนสถานศึกษาสมาคมของฮันเตอร์และอื่นๆ ที่นี่ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับโซลได้ แต่ผู้อพยพประมาณ 2 ล้านคนอาศัยอยู่ที่นี่ในขณะนี้ อย่างที่นายเห็นพวกเรากำลังพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือสังคม”


 


“…ใช่นั่นมันยอดเยี่ยมมาก”


 


ผมเดินไปพร้อมกับพูดชม ยูยอนฮา และเดินผ่านผู้อพยพที่พูดภาษาเกาหลี พวกเรามาถึงหน้าโรงพยาบาลที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเวทมนต์


 


พยาบาลกำลังรอพาพวกเราเข้าไปข้างใน พวกเราเดินผ่านห้องโถงที่ว่างเปล่าไปที่ลิฟท์


 


ยูยอนฮา กดไปที่ชั้นใต้ดิน 6F ประตูลิฟต์เปิดขึ้นพร้อมกับเสียง ดิ้ง


 


“…พวกเราอยู่ในยุค 70 หรือไง”


 


ชั้นใต้ดินชั้นที่ 6 ของโรงพยาบาลสร้างขึ้นเหมือนย่านที่อยู่อาศัย


มันเกือบจะดูเหมือนว่าพวกเราย้อนเวลากลับมาจากในลิฟท์เนื่องจากบ้านถูกสร้างในสไตล์ดั้งเดิมพร้อมทีวีเก่าๆและแม้แต่โทรศัพท์แบบหมุน


เมื่อเห็นแบบนี้ผมก็สับสน ยูยอนฮา อธิบายทันที


 


“พวกเขาสร้างมันขึ้นมาแบบนี้โดยเจตนาเพื่อให้ 9 ดารา โอแจจิน สงบจิตใจ เขาอาศัยอยู่ในที่ซ่อนตัวในหมู่บ้านเก่าๆบนเกาะเชจู ชั้นนี้เป็นแบบจำลองของหมู่บ้านนั้น”


 


“…ฉันเข้าใจแล้ว.”


 


ผมจินตนาการถึงความเสียหายที่จอมเวทย์ระดับ 10 ดาว สร้างขึ้นจากความโกรธ เป็นการดีที่สุดที่จะกำจัดทุกสิ่งที่สามารถกระตุ้นเขา


 


“ตามฉันมา.”


 


พวกเราเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ยูยอนฮา ถอดรองเท้าแล้วยืนอยู่หน้าประตูเลื่อนของห้องหลักของบ้าน ผมตามเธอไป


 


ต๊อก ต๊อก


 


ยูยอนฮา เคาะและคำตอบก็ดังขึ้นทันที


 


– เข้ามา.


 


เสียงของผู้สูงอายุเป็นของผู้หญิง


 


“ขอโทษนะ”


 


ผมเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับยูยอนฮา รูปลักษณ์ที่อบอุ่นในชนบทของห้องทำให้ผมนึกถึงบ้านของปู่กับย่า ข้างในสามีและภรรยาก็มองมาที่พวกเรา


 


“…สวัสดีฉันชื่อยูยอนฮา คนนี้คือคิมฮาจิน”


 


“สวัสดี.”


 


พงกเราทั้ง 2 โค้งคำนับ คู่รักเก่าแก่ต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้ม


 


“ยินดีที่ได้รู้จักทั้งคู่ ฉันชื่อ ยียุนโฮ คุณเองก็พูดสวัสดีสิ”


 


“…ฉันคือ โอแจจิน”


 


โอแจจินตอบสั้นๆ เขาดูเย็นชาและชัดเจนและเป็นสิ่งที่ผมจินตนาการไว้จอมเวทจะมีลักษณะเครายาวและผมยาว


 


“ยินดีที่ได้รู้จัก.”


 


“เนื่องจากฉันไม่มีเวลามากตัดเรื่องไร้สาระไปซะ ฉันได้ยินมาว่าเธอมีวิธีการรักษาผลข้างเคียงของฉันงั้นเหรอ”


 


โอแจจิน ตรงไปที่จุด


 


“ใช่ เป็นไปได้”


 


เมื่อได้ยินคำตอบที่มั่นใจของผม ใบหน้าของยียุนโฮ ก็สดใสขึ้น แต่


โอแจจินไม่ได้พูดอะไร เขาจ้องมาที่ผมและกระพริบตา 2-3 ครั้งจากนั้นเขาก็หันไปหาภรรยาของเขา


 


เขาพูดว่า “…แม่ ฉันหิวแล้ว~”


 


“อ่า…เขาเอาอีกแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ แค่บอกฉันแล้วฉันจะบอกข้อมูลนี้ให้เขาในภายหลัง”


 


“ฉันหิว~ ฉันหิว~ ฉันหิว~!”


 


แกนดัล์ฟแก่ๆเริ่มโมโหหิว


 


“ฉันหิวววววววววววววว~!”


 


ผมมึนงงแต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกและนำส่วนผสมพร้อมกับครกออกมา


 


“แชมร็อค, โอโทเรน, แสงโสม,มรกต,และเขาของมิโนเทารัส พวกมันเป็นส่วนผสมของยาทั้งหมดจาก Tower of Wish”


 


“ฉันจะกินมัน!”


 


โอแจจินพยายามที่จะแย่งวัตถุดิบไปอย่างรวดเร็ว แต่ผมใส่พวกเขาในครกก่อนที่เขาจะจับมือของผม ด้วยความชำนาญที่น่าประหลาดใจและพลังเวทมนต์ของรอยสักผมได้บดขยี้ส่วนผสมและทำให้เป็นยาต่อหน้า ยียุนโฮ, ยูยอนฮา และ โอแจจิน ต่างก็สังเกตเห็นทักษะการทำยาของผมด้วยความงุนงง ไม่ช้าก็มีเม็ดยา 5 เม็ดออกมา


 


[ยามหัศจรรย์]


 


ยามาพร้อมกับเอฟเฟกต์ต่างๆ แต่ผมลบส่วนใหญ่ด้วย ‘การตั้งค่า’ และเพิ่ม ‘ผลย้อมกลับของผลข้างเคียง’ เป็นคุณสมบัติลงไป แต่ละเม็ดใช้ 70SP ในการทำและส่วนผสมมีราคา 100,000 TP รวมกันแล้ว 350 SP และ 500,000TP ไม่ถูกแต่ก็ไม่แพงถ้าผมเอาชนะใจ โอแจจิน ได้


 


“ยาเม็ดนี้จะรักษาผลข้างเคียงของ 9 ดารา โอแจจิน ได้”


 


ยียุนโฮ มองเม็ดยาในมือของผมด้วยความตกใจ


 


“แต่ผมต้องการให้คุณสัญญาอะไรบางอย่างกับผม”


 


1 เม็ดทุก 2 สัปดาห์


 


“เมื่อเขาหายแล้วเขาจะต้องช่วยมนุษยชาติ”


 


เมื่อผมส่งยาให้ ยียุนโฮ เธอพยักหน้าอย่างมั่นใจ


 


“แน่นอนแม้ว่าฉันอยากจะหยุดเขา เขาก็อยากมันทำมากกว่าใคร


สามีของฉันเป็นฮีโร่ผู้กล้าหาญที่สุดที่ฉันรู้จัก”


 


ไม่น่าแปลกใจที่ยียุนโฮมีความเชื่อมั่นอย่างมากในตัวสามีของเธอ


*************************************************************************


ยูยอนฮา พูดทันทีที่พวกเราออกจากโรงพยาบาล


 


“…มันไปได้ด้วยดีกว่าที่ฉันคาดไว้”


 


“แน่นอน.”


 


พวกเราไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวใจพวกเขามากนัก ในทางใดทางหนึ่งก็จะต้องมีการคาดหวัง 9 ดาราเป็นฮีโร่ที่ได้รับการคัดเลือกจากประชาชนตามความแข็งแกร่งและลักษณะของพวกเขา สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาหยุดการช่วยเหลือมนุษยชาติคือผลข้างเคียงของความสามารถพวกเขา ตราบใดที่ปัญหาหายไป 9 ดารา ส่วนใหญ่ก็ยินดีช่วยเหลือ


 


“…ว่าแต่ นายรู้เรื่องนี้ไหม”


 


ดูเหมือนว่า ยูยอนฮา ยังคงอยากพูดมากกว่านี้


 


“นี่เป็นข้อมูลลับสุดยอด แต่ฉันได้ยินว่าดอกบัวดำช่วยสมาคมฮีโร่ในภารกิจลอบสังหารออร์เดนของพวกเขา”


 


ดอกบัวดำ คำพูดนี้ทำให้ผมสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยิน แต่ผมก็พยักหน้าอย่างสบายๆ


 


“ฟังดูน่าสนใจ.”


 


“ใช่แล้ว…นายจะไม่เข้าร่วมด้วยเหรอ”


 


“ฉันเหรอ? ฉันสนใจชีวิตของฉัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าดอกบัวดำฆ่าฉัน?”


 


“ชิ…ใช่สิ นายฆ่าดอกบัวดำในหอคอย ฉันเดาว่านายเองก็คงกลัว”


 


ยูยอนฮา หัวเราะคิกคักกับความจริง


 


“ตอนนี้ฉันคิดๆดูแล้วนายน่าทึ่งจริงๆ”


 


“…ขอบคุณนะ แล้ว…”


 


เมื่อคิดว่าบทสนทนาเริ่มไปถึงทางตัน ผมเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว


 


“วันนี้เธอเป็นยังไงบ้าง”


 


“ไม่ว่างเหมือนเคย ฉันยุ่งมากจริงๆ”


 


“ทำไม?”


 


“นายรู้ไหมกับเมืองปีศาจและพ่อค้าปีศาจที่ปรากฏขึ้นมานั้น…ทำให้ฉันต้องคิดหาวิธีที่จะได้รับ DP”


 


“เธอจะทำยังไงกับ DP?”


 


นี่เป็นคำถามสำคัญ ฉันไม่แน่ใจว่าจะใช้ 1.8 ล้าน DP ที่ได้มาจาก


ลอตเตอรี่ยังไง แต่ผมแน่ใจว่า ยูยอนฮา จะให้ความคิดดีๆกับผม


 


“เยอะมาก ซื้อไอเท็มจากมิติอื่นๆก็อย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ DP เป็นสกุลเงินใหม่ หากนายอยากได้อาคารนายก็สามารถซื้อได้ ถ้านายต้องการทองคำ นายก็สามารถซื้อได้ หากนายต้องการอาวุธ


นายก็สามารถซื้อได้ นายสามารถสร้างเมืองทั้งเมืองได้ใน 3 วินาทีหากนายมี DP เพียงพอ”


 


“อืม………..ฉันเข้าใจแล้ว”


 


“DP สามารถเป็นอะไรก็ได้ทำให้เป็นการปฏิวัติวงการ พวกเราจะไม่ต้องรอให้โครงการเสร็จสิ้นหรือรอการวิจัยอีกต่อไป”


 


“อ้า….”


 


ผมพยักหน้าและหยิบ [สมุดเช็คอะไรก็ได้] ออกมา


 


===


[สมุดเช็คอะไรก็ได้] [8 ดาว] * ผลดี *


– สมุดเช็คที่สามารถจ่ายได้ทุกอย่าง ผู้ซื้อจะต้องรับรู้สิ่งที่เขาจ่ายออกไป


===


 


ผมเขียน 1 ล้าน DP และให้เช็คกับ ยูยอนฮา ที่จ้องมองมาที่ผมอย่างประหลาดใจ


 


“…นี่มันอะไรน่ะ?”


 


“1 ล้าน DP.”


 


“หาาาา…อีกครั้งสิ?”


 


ยูยอนฮาตรวจสอบด้วยท่าทางที่งุนงง


 


“เธอจะมี 1 ล้านในขณะที่ทุกคนมีไม่ถึง 1 พัน เธอน่าจะสามารถควบคุมตลาดได้ด้วยสิ่งนี้ได้ใช่ไหม”


 


“อืม, นี่มันยังไงกันแน่?”


 


“มันเป็น เช็ค DP แค่ฉีกมันแล้วเธอจะได้รับ 1 ล้าน DP”


 


“นายกำลังพูดบ้าอะไร….”


 


ยูยอนฮา บ่นในขณะที่เธอฉีกเช็คออกครึ่หนึ่ง DP ของผมก็ตกอยู่ในมือของเธอทันที ตอนนี้ผมเหลือเพียง 800,000 DP


 


“… ?!”


 


ดวงตาของ ยูยอนฮา ข้างไปประมาณ 2 วิ เธอดูตกใจยิ่งกว่าตอนที่เธอรู้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่ซะอีก


 


“นี่มันอะไรกัน?”


 


ผมยิ้มเมื่อเห็น ยูยอนฮา ตกใจ


 


“ 1 ล้าน DP ฉันลงทุนกับเธอไม่ได้แจกฟรีดังนั้นใช้มันเพื่อขับเคลื่อนตลาด เธอเอาไปทำอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ แต่ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เธอทำจะเป็นของฉันโอเคไหม”


 


“แน่นอน แต่นายสร้างรายได้เป็นล้าน DP ได้ยังไง การล่าสัตว์อสูร


ไม่น่าจะพอที่จะ….”


 


‘ไม่สิฉันกำลังฝันไปอยู่เหรอ?’ ยูยอนฮาส่ายหัวและตบแก้มของเธอ


เธอหยุดหลังจากแก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง


 


“ว้าว…ฮิฮิฮิฮิ”


 


ยูยอนฮา ยิ้มอย่างสดใสหลังจากรู้แล้วว่าเธอไม่ได้ฝัน มันเป็นรอยยิ้มที่ผู้คนใฝ่ฝันมันเกิดขึ้นจากความสุขอันบริสุทธิ์ที่สามารถก้าวข้ามคู่แข่งของเธอได้


บทที่ 492 เมฆแห่งสงคราม (2)


 


…ในอีกด้านหนึ่งการประชุมได้ดำเนินการภายในสมาคมฮีโร่ จริงๆแล้วเป็นการอภิปรายมากกว่าการประชุม มีเพียง 3 คนที่อยู่ที่นี่


 


“ฉันได้ยินว่า เฮย์เนค กลับมาแล้ว”


 


ยียุนโฮ ประธานสมาคมคนปัจจุบันกล่าว หัวล้านของเขาส่องแสงภายใต้แสงของห้อง


 


“คุณคิดยังไง? แชจูชึล และ เฮย์เนค น่าจะฆ่า ออร์เดน ได้ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน”


 


ชายที่ตอบรับนั้นคืออดีตประธานาธิบดีแห่งเกาหลี คิมซุคโฮ


 


“มันเป็นไปได้ แต่ฉันไม่คิดว่า แชจูชึล ยินดีที่จะสูญเสีย….”


 


“งั้นถ้าเป็น ดอกบัวดำ กับ คิมซูโฮ มันน่าจะง่ายกว่านี้”


 


ดอกบัวดำ. คิมซุคโฮตัวสั่นเมื่อเขาได้ยินชื่อที่ ยียุนโฮ พูดถึงชื่อนี้


เขาจ้าง เซียนภูเขาไปลอบสังหารเขา แต่ ดอกบัวดำ รอดชีวิตมาได้ในขณะที่เขาขาดการติดต่อกับพวกนักฆ่า มันชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นเรื่องนี้ ทำให้ คิมซุคโฮ เกลียดดอกบัวดำยิ่งขึ้น


 


ในขณะนั้นสมาชิกคนที่ 3 ของการประชุมก็พูดขึ้นมา


 


“แต่ค้าจ้างดอกบัวดำนั้นแพงเกินไป การยอมรับราคาที่พวกเขาเสนอจะทำให้สมาคมมีช่องโหว่” สมาชิกคนที่ 3 เป็นกังวลด้านการเงิน


“พวกเขามีทักษะน่ะใช่ แต่พวกเขาเรียกราคาแพงเกินไป สุนัขพวกนั้นไม่รู้ว่าตัวเองมีค่าแค่ไหน”


 


ยียุนโฮ โต้กลับ “มันก็ดีกว่าแพ้ออร์เดน คุณไม่เห็นคำสั่งที่ไอ้โง่นั้นส่งมาใช่ไหม? นอกจากนี้การให้อาหารสุนัขล่าสัตว์พวกนั้นก็ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไรขนาดนั้น”


 


ในสัปดาห์นี้ออร์เดนได้ข่มขู่สมาคมฮีโร่และประเทศต่างๆด้วยคำสั่งอย่างเป็นทางการ เขาบอกว่าเขาจะประกาศสงครามหากคำสั่งของเขาไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ


 


สมาชิกคนที่ 3 พยักหน้าตอบ ยียุนโฮ “เดาว่าพวกเราคงไม่มีทางเลือก”


 


คิมซุคโฮ จ้องมองที่สมาชิกคนที่ 3 พร้อมความคาดหวัง ถ้าพวกเขาแต่ละคนมีอำนาจ 33% อีก 1% สุดท้ายเป็นของสมาชิกคนที่ 3 เพราะไม่เพียงแต่เขามีอำนาจ เขายัง ‘แข็งแกร่ง’


 


“พวกเราปล่อยสุนัขพวกนั้นไปก่อน หลังจากนั้นก็ตามล่ามันให้จบสิ้น”


 


คิมซุคโฮ ชอบสิ่งที่เขาได้ยินจากสมาชิกคนที่ 3 มาก


 


*************************************************************************


 


วันถัดมา


 


ผมกลับไปที่ Pandemonium และสวมชุดดอกบัวสีดำของผม เมื่อได้รับการยืนยันว่า Chameleon Troupe จะเข้าร่วมในภารกิจลอบสังหารออร์เดน


 


“นายพร้อมหรือยัง?” บอสถาม


 


“แน่นอน ผมพร้อมแล้ว”


 


“โอ้~ สีดำดูดีสำหรับนายจริงๆ” ชอคจุนกยอง แสดงความคิดเห็นจากด้านข้าง


 


ผมยักไหล่แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับมือสังหาร? นายรู้หรือยังว่าใครอยู่เบื้องหลังพวกเขาบ้าง”


 


“ไม่ พวกมันไม่คายออกมาไม่ว่าพวกเราจะทำอะไรก็ตาม”


 


“อืม…ก็คงปกติของพวก เซียนภูเขาแล้วจินซาฮยอค ล่ะ?”


 


“เธอยังถูกจำคุก เธอก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง พวกเราส่ง โดรน ไปหาเธอโดยหวังว่าเธอจะกลัวนิดหน่อย แต่เธอก็ยังดื้อกว่าที่คิด”


 


โดรน มีความสามารถหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือคาถามายาที่เรียกว่า


‘ภาพแห่งความตาย’ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการทรมาน แต่มันอาจไม่ได้ทำงานกับจินซาฮยอค


 


“เธอทนได้แม้แต่คำสาปของแบนชี ดังนั้นมันจึงเป็นการยากที่จะทำให้เธอกลัว”


 


หากมีสิ่งใดที่เหนือกว่าความอดทนของเธอนั้นก็ต้องเหนือกว่าคำสาปของแบนชี………แต่ในโลกนี้อาจไม่มีอะไรแบบนั้น


 


“อืม ฉันเข้าใจแล้ว…เฮ้ยพวกนายรีบไปเร็ว!” ชอคจุนกยอง ตะโกนทันที


 


จากนั้นสมาชิกของ Chameleon Troupe ก็มาถึงอย่างรวดเร็ว


 


“ ชิ หยุดเสียงดังได้แล้ว มันไม่น่าดู” เซนต์​ริน พึมพำ


 


“นายไม่จำเป็นต้องตะโกนตลอดเวลาก็ได้นะ”


 


ต่อจากเธอก็ คาลิฟา จินโยฮัน โดรน เจนและเกอิต้า (ผู้ที่ยังไม่ตาย)


ก็มาถึง พวกเรา 8 คนรวมถึงผมและบอสจะเข้าร่วมในภารกิจวันนี้


 


“เงียบก่อน. ตอนนี้ทุกคนมาที่นี่แล้ว เปิดพอร์ทัลได้เลย คาลิฟา”


 


คาลิฟา เปิดพอร์ทัลตามคำสั่งของบอส ประตูรูปวงรีปรากฏขึ้นในอากาศและความร้อนอันร้อนระอุส่องออกมาจากข้างใน


 


เมื่อพวกเราก้าวเข้าสู่พอร์ทัลเสียงฉุกเฉินก็ดังขึ้นจาก Smart Watch ของผม


 


– ข่าวฉุกเฉิน ราชามอนสเตอร์ ออร์เดน ส่งวิดีโอไปยังสำนักข่าวทั่วโลกพร้อมกับพระราชกฤษฎีกา เขาขู่ว่าจะประกาศสงครามหากไม่ได้มีการออกกฤษฎีกานี้สู่สาธารณะ ดังนั้นหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วรัฐบาลได้ตัดสินใจเผยแพร่กฤษฎีกาฉบับนี้…


*************************************************************************


ในเวลาเดียวกันหลังจากสมาชิก Chameleon Troupe เดินทางออกจากแอฟริกา


 


“…ฮุ,ฮุ”


 


คลิก-!


 


จินซาฮยอค แทบจะทนไม่ไหวร่างกายของเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อขณะที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก


 


“เฮ้ออออออออ … .”


 


ต้องขอบคุณ ค่าสถานะทั้งสองคือ เหนือกฏเกณฑ์ และ การบิดเบือน ที่เธอได้รับหลังจากเหตุการณ์ล่าสุด [เหนือกฏเกณฑ์] ทำให้เธอเพิกเฉยต่อพลังเวทมนต์บางส่วนและ [การบิดเบือน] ก็เสริมพลังของการจัดการความเป็นจริงของเธอ


 


“พวกแก รอก่อนเถอะ….”


 


จินซาฮยอค เดินโซเซแม้ว่าเธอจะถูกขังอยู่ในห้องขังของ Chameleon Troupe เป็นเวลานานเธอแต่เธอก็ยังได้ยินเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายนอก การเปลี่ยนแปลงดินแดนปีศาจและพ่อค้าปีศาจ


ทุกสิ่งทุกอย่างมีความก้าวหน้าอย่างที่เบลล์บอกเอาไว้ล่วงหน้าสถานการณ์ต่อไปคือการสืบเชื้อสายของบาอัล พูดอีกอย่างก็อีกไม่นานเธอจะได้กลับไปที่ อคทรีน่า ได้


 


“ เฮ้อออ, ฮ่าาาาาาา…”


 


หลังจากรวบรวมลมหายใจและเติมพลังเวทมนต์แล้วจินซาฮยอคก็หลับตาลงและถ่ายทอดเจตจำนงของเธอ


 


– เบล แกไอ้ลูกหมา แกไปอยู่ที่ไหน?


 


แม้ว่าเธอจะไม่คุ้นเคยกับการใช้ โทรจิต แต่ความสามารถที่เหนือชั้นของเธอก็เกินพอแล้ว


 


– โฮ? เธอได้รับการปล่อยตัวแล้วเหรอ ซาฮยอค~?


 


– หุบปาก. แกอยู่ที่ไหน?


 


– ฉันอยู่กับ รูมิ ในป้อมปราการใต้ดิน


 


– ป้อมปราการใต้ดิน?


 


จินซาฮยอค ขมวดคิ้ว ‘เกิดอะไรขึ้นตอนที่ฉันถูกคุมขังที่นี่?’


 


– เป็นฐานล่วงหน้าที่สร้างขึ้นในแอฟริกาใต้ดิน พวกเขาจะฆ่าออร์เดน คิมซูโฮก็มาที่นี่ด้วย


 


“อะไรนะ?”


 


‘เราพลาดอะไรไปมากเลยสินะ!’ จินซาฮยอค ขมวดคิ้ว


 


– ฉันเองก็กำลังมุ่งหน้าไปเช่นกัน


 


– หา? ไม่เธอทำไม่ได้ คิมซูโฮจะรู้ว่าเธอเป็นใคร นอกจากนี้มีบางสิ่งเกิดขึ้นด้วย


 


– อะไร.


 


– ก็ต้องลองถามประชาชนดู


 


ถามประชาชน? เหี้ยอะไรวะ จินซาฮยอค อยากถาม แต่เธอไม่คุ้นเคยกับเทคนิค โทรจิตทำให้เธอปวดหัว เธอเลยสร้างพอร์ทัลขึ้นมา


เป้าหมายแรกของเธอคือหลบหนีจากคุกบ้าๆนี้


 


“…..ไม่นะ.”


 


แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับมันเป็นครั้งที่ 2 การออกจากสถานที่นี้ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ไม่ดี ความสัมพันธ์ของหล่อนกับ Chameleon Troupe จะจบลงถ้าเธอจากไป บางทีมันอาจเป็นการดีกว่าที่จะพักอยู่ที่นี่เพื่อ….คิมฮาจิน … และในเวลานั้นเองก็มีหลอดไฟติดอยู่ในหัวของเธอ


 


“โอ้ ใช่ๆๆๆๆ.”


 


จินซาฮยอค เรียก ‘คลังไอเท็ม’ ของเธออกมาและดึงการ์ดขึ้นมา


 


===


[ร่างปลอม] [6 ดาว] * ผลดี *


– สร้างหุ่นที่ดูเหมือนตัวคุณ


– หุ่นจะมีอายุ 150 วันและคุณสามารถสลับสถานที่กับหุ่นได้ตลอดเวลา


===


 


“จริงเหรอ.”


 


ทันทีที่เธอพึมพำออกมาก็มีหุ่นเชิดเหมือนกับ จินซาฮยอค โผล่ออกมา จินซาฮยอค ใส่พลังเวทมนต์ลงไปบนหุ่นและสั่งมัน


 


“ทำตัวให้เหมือนฉันมากที่สุด เข้าใจไหม”


 


หุ่นจ้องมองที่ จินซาฮยอค ก่อนพยักหน้า


 


“… โอเค.”


 


“ดี.”


 


เมื่อเห็นแบบนี้เธอก็ยิ้มอย่างพึงพอใจและจินซาฮยอคก็เข้าไปในพอร์ทัล


บทที่ 493 สงครามอันขุุ่นมัว (3)


 


[ป้อมปราการใต้ดินในแอฟริกา]


 


“เขาวางแผนที่จะสร้างประเทศ”


 


นี่คือสิ่งสุดท้ายที่รูมิได้มาในฐานะสายลับ


 


“…เป็นชนชาติหนึ่งเลยเหรอ”


 


ไอลีน และ จินเซยอน ผู้เขียนคำพูดของ รูมิ เอียงศีรษะด้วยความสับสน


 


“ใช่. เขาได้สร้างหมู่บ้านหลายแห่งในแอฟริกาแล้ว คุณไม่ได้บอกว่ามีคนหายไปหลังจากเหตุการณ์ประหลาดครั้งล่าสุดไม่ใช่เหรอ”


 


“ฮะ? ใช่ฉันบอก แต่…นี้มันไม่ถูกต้อง”


 


รูมิดื่มน้ำเย็นและถอนหายใจ


 


“…การคาดเดาของคุณถูกต้อง ออร์เดนอาจบังคับให้คนที่หายไปอพยพเข้าหมู่บ้านที่เขาสร้างขึ้น ลูกกระจ๊อกของคุณไม่สามารถตรวจจับได้เพราะพวกมันมีความไวสูงมาก พวกมันทำลายทุกอย่างก่อนที่จะรู้ตัว”


 


สิ่งที่รูมิพูดก็สมเหตุสมผล รัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ 1000 นายไปยังแอฟริกา แต่ 990 คนถูกกำจัดไปแล้ว พวกเขาต้องใช้ 10 คนที่เหลือเพื่อวางแผนเส้นทางที่ปลอดภัย แต่เป็นความจริงที่ว่า ออร์เดน ทำการรักษาให้พวกมนุษย์ให้มีชีวิตอยู่ต่อและสร้างสถานที่ให้พวกเขามันยากที่จะเชื่อ


 


รูมิพูดต่อ “เชื่อฉันสิ ฉันเห็นเอกสารของเขาแล้ว ฉันรับผิดชอบการกำหนดหมวดหมู่”


 


“หมวดหมู่?”


 


“ใช่ เป็นการจัดอันดับมอนสเตอร์และหมู่บ้าน”


 


รูมิท่อง ‘การตั้งค่า’ ของดินแดน ออร์เดน มอนสเตอร์ทั้งหมดได้รับการจัดเป็นประเภท เซคริดโบน และ ทรูโบน เรียกจาก 1-9 เหมือนกับฮีโร่ หมู่บ้านทั้งหมดเองก็มีอันดับต่ำ กลางและสูง


 


“…เธอกำลังจะบอกว่ามีหมู่บ้านจริงๆงั้นเหรอ”


 


“ถูกตัอง. พวกมันเป็นหมู่บ้านที่สร้างโดยมอนสเตอร์ ออร์เดนเลือกวิธีนี้เพราะเขารู้ว่ามีมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับมนุษย์ แต่ในบรรดามอนสเตอร์ของออร์เดนก็มีนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าวิธีที่จะเปลี่ยนมนุษย์ที่ถูกลักพาตัวไปให้กลายเป็นมอนสเตอร์”


 


เมื่อการสนทนามาถึงจุดนี้ไอลีนก็ขมวดคิ้วเหมือนคนแคระที่กำลังเจ็บปวด ใบหน้าของ อีกงมยองบนหน้าจอแล็ปท็อปของเธอเองก็เหมือนกัน


อีกงมยอง พูด


 


– …พวกเราเองก็ได้ยินรายละเอียดนี้มาเหมือนกัน


 


“หา?”


 


ไอลีน และ จินเซยอน ต่างก็สับสน ‘เขาบอกว่ามีสายลับคนอื่นนอกเหนือจากรูมิงั้นเหรอ?’ พวกเธอสงสัย


 


“คุณหมายถึงอะไร ‘คนอื่น’?”


 


– อ้อ ฉันได้รับข่าวนี้แล้ว


 


อีกงมยอง ถอนหายใจและส่งข้อความที่เขาเพิ่งได้รับจากหัวหน้าของเขา


 


– เห็นได้ชัดว่าดอกบัวดำและ Chameleon Troupe เองก็มีส่วนร่วมในภารกิจนี้ พวกเขากำลังเดินทางมาดังนั้นหากมีหมู่บ้านจริงๆพวกเขาจะเป็นคนแรกที่เจอพวกนั้น


*************************************************************************


พวกเรามาถึงในแอฟริกา ตอนแรกพวกเราอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าพวกเรามาผิดหรือเปล่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่พวกเรามาที่นี่


 


“นั่นมันหมู่บ้านใช่มั้ย ~”


 


เจนพึมพำด้วยความประหลาดใจ สมาชิกคนอื่นรวมถึงผมรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน


 


“…ใช่นั่นดูเหมือนจะเป็นหมู่บ้าน”


 


มันพอเพียงที่จะบอกว่าแอฟริกาได้ผ่าน ‘การเปลี่ยนแปลงที่ดี’ ดินแดนที่คลานไปกับเหล่าอสูรนั้นถูกแปรสภาพให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ ไม่มีตึกสูงหรือตึกระฟ้าเหมือนในเมือง อย่างไรก็ตามมีอาคารทรงกลมขนาดเล็กซึ่งเพียงพอที่จะสร้างทิวทัศน์ในชนบทได้


 


“พวกเราอยู่ตรงไหน คาลิฟา”


 


บอสถามคาลิฟา


 


“ฉันว่าพวกเราอยู่ในเขตชานเมืองของ ออร์เดน พวกเราต้องเดินทาง 700 กม. เพื่อไปยังวังของ ออร์เดน”


 


ออร์เดนจะสังเกตุเห็นได้ทันทีถ้าพวกเราตั้งประตูใกล้กับวังของเขา


ดังนั้นคาลิฟาจึงสร้างพอร์ทัลของเขาที่ชานเมืองแอฟริกา หมู่บ้านนี้สร้างขึ้นกลางเส้นทางที่สั้นที่สุดไปยังพระราชวังของ ออร์เดน


 


“แต่ชาวบ้านพวกนั้นไม่ใช่มอนสเตอร์นะ”


 


ชอคจุนกยอง หรี่ดวงตาของเขาแคบลงและมองไปไกลๆพร้อมเอียงศีรษะไปด้านข้าง


 


“นายพูดถูก. พวกเขาเป็นมนุษย์ทุกคนเลย”


 


เพราะผมมีสายตาที่ดีกว่าเขาผมจึงสังเกตตั้งแต่วินาทีแรกที่พวกเรามาถึงที่นี่ ชาวบ้านทุกคนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่มอนสเตอร์ เป็นมนุษย์อย่างแท้จริง


 


“อ่า~ ฉันได้ยินมาว่ามีคนหายไปจำนวนมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้~ นี่คือที่ที่พวกเขาเอาคนเหล่านั้นมา~ จากรูปลักษณ์ของพวกเขาท่าทางจะโดนล้างสมองไปเล็กน้อย~ น่าสนใจมาก~”


 


เจนหัวเราะเบาๆ ตะวันออกกลางและยุโรปตะวันตกยังคงเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ แต่จำนวนคนที่หายไปนั้นสูงกว่าจำนวนผู้เสียชีวิต มันสมเหตุสมผลที่หมู่บ้านจะใหญ่โตถ้าพวกเราสันนิษฐานว่าคนที่หายไปเหล่านั้นถูกลักพาตัวแทนที่จะถูกฆ่า


 


“อืมมม พวกเรามาดูกันว่าออร์เดนทำอะไรลงไปบ้าง”


 


ผมดึงการถ่ายทอดสดของ ออร์เดน มาอ่านบน smartwatch ของผม


 


– …ก่อนอื่นฉันต้องการให้มนุษย์ถูกส่งไปยังแอฟริกา แต่ละประเทศจะส่งคนมา 200 ล้านคน ฉันสัญญาว่าจะทำให้ตัวประกันปลอดภัยทุกคน


 


– 2 ฉันต้องการการยอมรับอย่างเป็นทางการและมอบความเคารพให้กับฉันและคนรับใช้ของฉันในฐานะ ‘มนุษย์พันธุ์ใหม่’ มนุษย์พันธุ์ใหม่ เหนือกว่ามนุษย์ มนุษย์ควรซาบซึ้งที่พวกเราไม่ได้เลือกที่จะกำจัด


พวกเขาหรือปกครองพวกเขาอย่างเด็ดขาด


 


ความต้องการของ ออร์เดน นั้นค่อนข้างไร้สาระ ไม่มีประเทศไหนที่จะยอมส่งมอบพลเมือง 200 ล้านคนให้กับคนอื่นแบบนี้


 


– …….ในฐานะผู้ปกครองที่มีความอดทนฉันยินดีที่จะมอบช่วงเวลาผ่อนผันให้แก่มนุษย์เป็นเวลา 6 เดือน


 


“นั่นมันเหมือนจะเป็นเรื่องไร้สาระแต่ดู ออร์เดน จะสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อการนั้น”


 


ผมปิด Smart Watch แล้วมองดูสมาชิกของ Chameleon Troupe


พวกเขาทั้งหมดมองมาที่ผม


 


“อืม…ทำไมพวกเราไม่สร้างฐานให้กับตัวเองก่อน? เหมือนกับป้อมปราการใต้ดินนั้นหน่วยเฉพาะกิจที่สร้างขึ้นมา”


 


“ฐาน~?”


 


เจนเงยหัวเธออย่างสงสัย


 


“ใช่……….ภารกิจนี้อาจใช้เวลาสักครู่”


 


“ทำไมพวกเราไม่ใช้หมู่บ้านนั้นเป็นฐานเลยละ?”


 


ชอคจุนกยอง แนะนำ


 


“อืมม…..ฟังดูเหมือนเป็นความคิดที่ดี”


 


“แม้แต่คนบ้าๆอย่างนายเองก็มีประโยชน์เหมือนกันแฮะ~”


 


ไม่เพียง แต่ จินโยฮาน และ เซนต์​ริน เท่านั้น แต่ เจน เองก็ยังเห็นด้วย


 


“เอ่อ….”


 


“ทำไมนายถึงลังเล พวกเราสามารถล้างบ้างที่นั้นได้ภายในไม่กี่วินาที”


 


เมื่อมาถึงที่นี่ผมตระหนักถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเรา ในความเป็นจริง ชอคจุนกยองและบอสก็เพียงพอที่จะเอาชนะมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ส่วนใหญ่ได้


 


“…โอเค”


 


ผมยิ้มและยกนิ้วขึ้นมาชี้ไปที่ใจกลางหมู่บ้าน


 


“แล้วปราสาทที่อยู่ตรงนั้นล่ะ? ดูเหมือนว่าที่หมู่บ้านจะมีคนอยู่มากมาย เลยนะ”


 


ปราสาทไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่มันสูงกว่าอาคารอื่นๆรอบๆตัว


 


“ดี. ไปที่นั่นกันกันเถอะ”


 


ตามคำประกาศของบอส พวกเราเคลื่อนไหวเหมือนสายลม


 


[‘เครน’ หมู่บ้านระดับต่ำที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของดินแดน ออร์เดน]


 


“อืม … .”


 


‘เทนซูฮาร์’ เป็นชื่อของมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ที่ถูกเลือกให้เป็น


ผู้ปกครงแห่ง เครน เขาตัวเล็กและดูเหมือนจิ้งจก เขาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าเพราะเขาเป็นคนพูดเก่งและมีความสามารถที่หายากที่เรียกว่า


‘ล้างสมอง’ มันเป็นเพราะมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ที่แข็งแกร่งอยากที่จะอยู่ในพระราชวังกลางแทนที่จะมาปกครองมนุษย์


 


“… อืมมม.”


 


เทนซูฮาร์ ขาสั่น ‘ฉันให้ท่าน ออร์เดน มาสนใจและได้รับชื่อเสียงและโชคลาภได้ยังไง? และทำไมเราต้องทิ้งความใฝ่ฝันมาอยู่ที่ชานเมืองแบบนี้นะ’


 


“การพัฒนาหมู่บ้านอย่างแท้จริงนั้นไม่เพียงพอ โธ่ เว้ยยยยย”


 


มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่อาศัยอยู่ใน เครน หมู่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไปมีมนุษย์อยู่กับมอนสเตอร์เหมือนกัน แต่เขาจะต้องเป็นอันดับ 1 จึงจะสามารถครอบครองหมู่บ้านได้ เขาเลยต้องมาที่ๆไกลปืนเที่ยงแบบนี้


 


“โธ่ เว้ยยยยย แม้ว่าฉันจะขุดแร่ทั้งหมดขึ้นมามันก็จะไหลไปสู่หมู่บ้านระดับกลางหรือระดับสูงแล้ว….”


 


เครน เป็นหมู่บ้านเหมืองแร่ระดับต่ำ


 


“แต่ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลยฉันจะต้องถูกลงโทษแน่ๆ โธ่ เว้ยยยยย”


 


พรีเมียม แร่เวทย์มนตร์ที่บอบบางที่สุดในโลก พรีเมียม จำนวนมากถูกฝังใน เครน และนั่นคือสาเหตุที่ชาวบ้านทุกคนเป็นมนุษย์ ด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของมอนสเตอร์พวกมันจะบดขยี้ พรีเมียม เป็นฝุ่นก่อนที่จะขุดออกมาหมด


 


“ไม่มีโอกาสที่ฉันจะโดดเด่นเลย…. โธ่ เว้ยยยยย”


 


เทนซูฮาร์ กัดริมฝีปากของเขา มอนสเตอร์ขนาดเล็กส่วนใหญ่มีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะประสบความสำเร็จ มันเป็นความบกพร่องทางพันธุกรรมเนื่องจากพวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่ากับมอนสเตอร์อื่น ๆ


เทนซูฮาร์ เองก็ไม่แตกต่างกัน เขาไม่พอใจกับหมู่บ้านที่เขารับผิดชอบแม้ว่า เครน นั้นจริงๆแล้วดีเกินไปสำหรับเขาด้วยซ้ำ


 


“แม่งเอ้ยยยยยยยยยย องครักษ์!”


 


เมื่อหงุดหงิด เทนซูฮาร์ เรียกทหารองครักษ์ออกมาเพื่อขออาหาร


 


– กรี้จจจจจ!


 


ผู้พิทักษ์ เทนซูฮาร์ เป็นมอนสเตอร์ระดับ 4 ที่ขาดความสามารถในการพูดหรือคิดอย่างซับซ้อน เขาได้รับมอบหมายให้ปกครองมอนสเตอร์ระดับ 4 เท่านั้นเพราะเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะกับระดับที่สูงกว่า นี้


 


“เอาอะไรมาให้ฉันกินหน่อย!”


 


– กรี้จจจจจ!


 


ยามพยักหน้าแล้วออกไป


 


“ชิ.”


 


เกณฑ์สำหรับการจำแนกมอนสเตอร์ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเมื่อเร็วๆนี้


มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายให้เรียงระหว่างระดับที่ 1 และระดับที่ 9 มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเป็น ‘ทรูโบน’ หรือ


‘เซคริดโบน’


 


“โธ่ เว้ยยยยย ฉันจะทำยังไงกับลูกน้องที่ไม่สามารถพูดได้แบบนี้”


 


จริงๆแล้วเกณฑ์หลักในการจำแนกมอนสเตอร์คือความสามารถในการพูด หากคุณพูดไม่ถูกต้องคุณก็อยู่ในระดับที่ 2 ที่สุดเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดอันดับ 2 คือความแข็งแกร่ง สติปัญญาและความสามารถพิเศษ


 


เทนซูฮาร์ เป็นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ระดับ 3 เขาอ่อนแอ แต่พูดได้อย่างคล่องแคล่ว ความสามารถของเขานั้นดีและสติปัญญาของเขาสูงกว่าค่าเฉลี่ยของมนุษย์


 


– แคร่งงง


 


ในขณะนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอึกทึกที่ชั้นล่าง เทนซูฮาร์ ลุกขึ้นจากที่นั่งของเขาด้วยความโกรธ


 


“แม่ง! ทำอะไรง่ายๆก็ไม่ได้ แต่เอาอาหารมาให้ฉัน! โธ่ เว้ยยยยย”


 


เขากระทุ้งไปที่ประตูเพื่อดุด่าองครักษ์และแล้วประตูก็เปิดขึ้น ไม่สิมีใครบางคนเปิดประตู


เทนซูฮาร์ สับสนและมองไปที่ช่องว่างของประตู


 


“………..?”


 


มนุษย์ตัวใหญ่มาก กล้ามเนื้อของเขามีขนาดเท่าศีรษะของเขาและขาของอีกฝ่ายก็นั้นหนาเท่ากับเอวของเขา


 


‘มีคนในหมู่บ้านมีลักษณะแบบนี้ด้วยเหรอ?’ เทนซูฮาร์ ครุ่นคิด

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม