The Novel’s Extra 434-438

 บทที่ 434 เป้าหมายเดียวกันแต่เส้นทางต่างกัน (2)


“ฉันคิดว่ามี 10 วิคเก็ชในโลกนี้ไม่ใช่ 9 ผู้คนพูดวันนี้ว่าชัยชนะต่อ


วิคเก็ชเหนือผู้อื่นทั้งหมด แต่ความคิดเห็นของฉันแตกต่างกัน สิ่งเลวร้ายที่สุดของ 10 ความชั่วร้ายคือ ‘ความเน่าเหม็น’ เสียงกลมกล่อมของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่เห็นได้ชัด “ ก็คือสมาคม”


 


ในทันทีใบหน้าของยูจินวอนก็กลายเปลี่ยนไป


 


“…คุณ. คุณจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ”


 


“ประธานทั้ง 7 ของสมาคมกำลังผละออกไปในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ใต้แสงแห่งความสำเร็จของชินมยองชุล อย่าเชื่อใจพวกมันที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อของ สุดยอดฮีโร่ ไม่นานพวกมันจะต้องถูกลากลงมาจากที่นั่งของพวกมัน” Vast Expanse พูดอย่างเคร่งขรึม


 


ยูจินวอง ถอนหายใจอย่างง่ายดาย Vast Expanse และ


ชินมยองชุล แม้แต่ยูจินวองก็ยังไม่ได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา สิ่งที่เขารู้ก็คือชินมยองชุลเป็นฮีโร่ที่ได้รับความเคารพจากฮีโร่ทุกคนซึ่งเคยมีบทบาทมาตั้งแต่ Outcall และ Vast Expanse เป็นผู้มาที่หลังซึ่งชื่นชม ชินมยองชุล มากกว่าใคร


 


Vast Expanse กล่าวต่ออีกว่า “มอบเด็กผู้หญิงให้ฉัน ฉันจะดูแลเธอ ฉันจะไม่ทิ้งสิ่งที่เป็นของฉันและฉันจะไม่ทำลายทรัพย์สินของฉัน


ฉันจะไม่เตะต้องเด็กจนกว่าพลังของเธอจะครบกำหนด”


 


“…แม้ว่าผมต้องการ….แต่มัน”


 


‘เขาดิ้นรั้นเกินไป’ ยูจินวอง คิดขณะที่เขาบ่นอย่างหดหู่


 


“หนึ่งในผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดของสมาคมคือแชจูชึล”


 


แชจูชึล


 


ทั้งมนุษย์และปีศาจต่างก็หวาดกลัวชื่อนี้ อิทธิพลของ แชจูชึล แข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา


 


แต่…..


 


“ฮ่าๆๆๆ….”


 


Vast Expanse ส่งเสียงหัวเราะสบายๆ ยูจินวอง รู้สึกอิจฉาคำพูดที่ไหลออกมาจากปากของ Vast Expanse ในวินาทีถัดไปท่ามกลางเสียงหัวเราะ


 


“ฉันไม่กลัวแชจูชึล….ฉันยังไม่ได้บอกแหรอมีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันกลัว


มันก็คือ ‘ความแก่ชรา’ ….”


*************************************************************************


[อังกฤษ – ลอนดอน]


 


คำสั่งอพยพและการระดมกำลังได้รับการเผยแพร่ทั่วประเทศอังกฤษเนื่องจากมอนสเตอร์ในมหาสมุทรเริ่มโกรธแค้น ประชาชนต่างก็ได้รับการกระตุ้นให้อพยพออกจากแผ่นดิน ฮีโร่และกิลด์ได้รับคำสั่งให้มารวมตัวกันที่ชายฝั่ง เรเชล ‘หัวหน้า’ ของกิลด์ราชสำนักอังกฤษมาถึงช่องแคบแห่งอังกฤษพร้อมกับสมาชิกกิลด์ของเธอ


 


“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง” เธอถาม


 


เจ้าหน้าที่ของรัฐตอบเรเชลอย่างจริงจัง “มอนสเตอร์ทะเลกำลังอาละวาดข้ามช่องแคบอังกฤษ แม้ว่าพวกเราจะได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์ลึกลับ แต่บาเรียและเขื่อนกันคลื่นก็อยู่ได้อีกไม่นาน”


 


แม่น้ำเทมส์ซึ่งไหลผ่านใจกลางกรุงลอนดอนนั้นปลอดภัยด้วย ‘Essence Barrier’ แต่ริมทะเลที่มอนสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่และจำนวนเยอะกำลังอาละวาดจนพวกเธอทำอะไรไม่ถูก ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ได้ละทิ้งเมืองหลวง ดับลินไปแล้ว


 


หนึ่งในเจ้าหน้าที่กำลังรายงานเมื่อจู่ๆ….


 


ตู้มมมมมมมมมมม


 


ไกลออกไปปลาดุกยักษ์ตัวหนึ่งสร้างสายน้ำเหนือผิวน้ำทะเล กระแสน้ำวนรวมกับกระแสน้ำที่รุนแรงและพลังเวทมนต์ขนาดมหึมาก็กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นที่วิ่งเข้าใส่ชายฝั่ง เรเชลดึงดาบของเธอไปเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากมอนสเตอร์ ธาตุน้ำปรากฎจาก


‘ดาบกาลาติน’


 


“วอเทอเติล หยุดมัน!”


 


ธาตุน้ำกลายเป็นนกพิราบลงไปในทะเลและสร้างกระแสน้ำใหม่ กระแส น้ำนี้หมุนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับพายุไต้ฝุ่นที่สร้างโดยปลาดุก


มันสะท้อนพายุไต้ฝุ่นขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายกับเมฆฝนทั่วไป


 


“ซันนี่,เอริท์,แฟรี่”


 


หลังหยุดการโจมตียังไม่เพียงพอ โดยการฆ่ามอนสเตอร์เท่านั้นที่จะสามารถยุติการต่อสู้ครั้งนี้ได้ เรเชลเรียกธาตุของเธอออกมา ตอนนี้


พวกมันโตเต็มที่แล้ว พวกมันยืนอย่างเข้มงวดและมองข้ามทะเลอย่างสง่างาม


 


“ทุกคนโปรดเตรียมพร้อม!”


 


เรเชลต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับฮีโร่ที่รวมตัวกัน


เธอวางแผนที่จะสั่งให้ วอเทอเติล ป้องกันการไหลของกระแสน้ำซันนี่และเอริท์กลายเป็นดินแดนใหม่และไฟลุกลามไปยังน้ำทะเลเพื่อให้


มอนสเตอร์ในทะเลที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ก้นมหาสมุทรออกมาจากนั้นฮีโร่และลูกธนู หอก ดาบ ลูกกระสุนปืนใหญ่ ต่างก็ระดมโจมตี


 


“วอเทอเติล … ?”


 


อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องให้ธาตุของเรเชลลงมือ


 


ตู้มมมมมมมมมมมมม-!


 


จากระยะไกลๆ อาวุธขนาดยักษ์ก็บินเข้ามาอย่างรวดเร็วพลังของมันเหนือยิ่งกว่าความเร็วที่ท่วมท้น ฮีโร่ ทุกคนมองย้อนกลับไปด้วยความงุนงง


 


อาวุธจำนวนนับไม่ถ้วนบินผ่านท้องฟ้า พวกมันบดขยี้ฝูงสัตว์ทะเลได้อย่างง่ายดาย มอนสเตอร์ไม่สามารถหลบหนีจากการโจมตีครั้งนี้ได้เลยแม้จะซ่อนอยู่ใต้น้ำ อาวุธประกอบไปด้วยพลังเวทมนต์ขนาดใหญ่สามารถไถผ่านน้ำทะเลได้อย่างง่ายดายและเด็ดหัวสัตว์ทะเลลง


 


เฟี๊ยวว-!


 


อาวุธเหมือนฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง


 


‘ใครกับที่สามารถโจมตีแบบนี้ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส…?’ เรเชลหันกลับมามองสับสนก็ประหลาดใจ


 


“อา!”


 


อย่างที่คิด ชินซาฮยอค อยู่ที่นั่นชินซาฮยอค (ชื่อปลอมของจินซาฮยอค)เธอปลดปล่อยอาวุธที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนต์ออกมา


 


เรเชลไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่ถึงกระนั้น ชินซาฮยอค ก็เป็นกำลังเสริมที่ดีของกองกำลังพันธมิตร เรเชลตะโกนเสียงดัง


 


“เล็งไปที มอนสเตอร์ -!”


 


ฮีโร่ที่ได้รับการสนับสนุนจากความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของพันธมิตร


พวกเขาก็คำรามกึกก้องและเรเชลก็ทำในสิ่งที่เธอวางแผนไว้เกี่ยวกับธาตุของเธอ


 


“น้ำหายไปแล้ว! หัวหน้าทำให้ทะเลแห้ง!”


 


“โจมตีไปที่ สัตว์ทะเล ชายฝั่ง!”


 


“ตายซะ เจ้าพวกมอนสเตอร์ ตายๆห่าไปซะ….”


 


……3 ชั่วโมงหลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือด


 


เรเชล ต้อนรับ จินซาฮยอค ที่สำนักงานกิลด์ราชวงค์อังกฤษ


จินซาฮยอค นั่งต่อหน้าเรเชลแล้วมองไปรอบๆการตกแต่งภายในที่หรูหรา แต่สง่างามสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของเจ้าของ เรเชล


โค้งคำนับ จินซาฮยอค ก่อน


 


“ขอบคุณที่มาถึงอังกฤษแม้ว่าฉันจะไม่ได้ขอ”


 


“พอแล้ว”


 


จินซาฮยอค ขัดจังหวะเรเชลและโน้มตัวไปข้างหน้า ในท่านั้นเธอมองตรงไปที่เรเชล มันเป็นการสบตาที่ไม่คาดคิด


 


“… ?”


 


เมื่อเรเชลเงยหน้าของเธอด้วยความสับสนจินซาฮยอค ก็ยิ้มและพูดต่อ “จำจดหมายที่เธอให้ฉันครั้งล่าสุดได้ไหม”


 


“ …อ๊ะ ได้สิ”


 


ในที่สุดเรเชลก็มีความคิดคร่าวๆว่าการสนทนานี้จะเกิดขึ้นที่ใด


จินซาฮยอค อาจต้องการคำแนะนำของเธอเกี่ยวกับ คิมฮาจิน


…มันก็เป็นเพียงแค่นั้น แต่เรเชลรู้สึกไม่สบายราวกับว่ามีไฟไหม้ในท้องของเธอ จินซาฮยอค พูดอย่างใจเย็น


 


“ขอบคุณ เธอนะ ฉันนัดเจอเขาแล้ว”


 


“…อะไรนะ?”


 


ในขณะนั้นเองไหล่ของเรเชลสั่นไหวเล็กน้อย


 


“นะ-นัดเจอ? เธอนัดเจอเขางั้นเหรอ?”


 


“ใช่ ฉันคิดว่าฉันจะเจอเขาภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม….”


 


จินซาฮยอค ต่อเนื่องดูเรเชล ที่กำลังงงงวย


 


“คิมฮาจินชอบอะไร? ฉันอยากเตรียมของขวัญให้เขา”


 


เห็นได้ชัดว่านี่คือเจตนาที่จะกระตุ้นให้เรเชลโกรธ และมันก็ใช้ได้ดี


เรเชลสับสน จนไม่สามารถแม้แต่จะมองที่ไปหน้าของจินซาฮยอคได้


นิ้วที่บิดตัวไปมาของเธอและดวงตาสั่นไหวนั้นช่างน่าสงสาร


 


“ฉัน….ฉันไม่แน่ใจ….”


 


“อืม? ตัดสินจากเรื่องนี้ ฉันคิดว่าเธอเองก็ไม่ได้สนิท….-”


 


เรเชล ตัดประโยคก่อนที่จินซาฮยอคจะพูดจบประโยคของเธอ


ตัวเธอไม่ทราบว่าความอดทนของเธอหายไปไหนหมด


 


“นะ-หนังสือ เขาชอบหนังสือ”


 


“… หนังสือ?”


 


จินซาฮยอค ขมวดคิ้ว เธอคิดว่ามันยากที่จะเชื่อว่ามีผู้ชายที่ชอบหนังสือ


 


“ใช่. เธออาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ ฮาจิน เป็น Top ของชั้นเรียนของเขาในภาคทฤษฎีที่ Cube “


 


“อืม…จริงเหรอ? แล้วมันดีงั้นเหรอ?”


 


“มันไม่ใช่แค่ดี แต่มันน่าเหลือเชื่อ”


 


เรเชลพูดต่ออย่างเคร่งเครียด


 


“อาจารย์คนหนึ่งยกย่องเขาเป็นพิเศษเสมอโดยกล่าวว่าฮาจินจะได้รับรางวัลโนเบลหากเขามุ่งเน้นไปที่ทฤษฎีเท่านั้น ศาสตราจารย์คนนี้ก็ได้รับรางวัลโนเบลด้วยเช่นกัน”


 


“อืม…จริงเหรอ รางวัลโนเบลงั้นเหรอ….เอาล่ะฉันเข้าใจแล้วขอบคุณ มากนะ เธอช่วยได้มากเลยละ”


 


นั่นคือทั้งหมดที่เธอต้องการ ในตอนแรกเหตุผลที่เธอมาถึงที่นี่ก็เพื่อสังเกตว่าเจ้าหญิงผู้สง่างามคนนี้จะตอบสนองต่อการยั่วยุของเธอยังไง ตอนนี้ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายและเธอต้องการความบันเทิงเล็กน้อย


อย่างไรก็ตามเมื่อจินซาฮยอค หันหลังกลับไปเธอได้ยินเสียงของเรเชลจากด้านหลัง


 


“คุณ ชินซาฮยอค”


 


“…อา?”


 


จินซาฮยอค หันไปหา เรเชล อีกครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าของเรเชลก็จริงจังใบหน้าของเธอแข็งกร้าวและกัดริมฝีปากแน่น เมื่อเห็นแบบนี้


จินซาฮยอค เกือบจะหัวเราะออกมา แต่เธอพยายามกลั้นตัวเองเอาไว้


 


เรเชล พูดกับ จินซาฮยอค ว่า “เนื่องจากคุณได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเขาในฐานะคนรู้จักกันได้โปรดอย่าสนุกกับเขามากละ ประเทศของฉันถือว่า คิม คุณคิมฮาจิน มีความสำคัญสูงสุดในด้านการทูต คุณฮาจิน เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคที่ Essential Dynamics และยังเป็น


สมาชิกของ Jeronimo……..”


 


คำเตือนที่สุภาพ แต่เข้มงวดของ เรเชล ยิ่งทำให้จินซาฮยอคขำ


 


“เฟนรีลมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลของเรา….ดังนั้น”


 


“จ้า..จ้า….ตกลง….ตกลง…..ฉันเข้าใจแล้ว”


 


จินซาฮยอค ตัดบนแล้วหันหลังกลับไป เธอรู้สึกได้ว่าเรเชลกำลัง


จ้องมองอยู่ด้านหลังเธอ


 


‘เธอเป็นคนที่แกล้งสนุกดีแฮะ’


 


“ฉันจะไปแล้ว”


 


การคุยกันครั้งนี้เป็นการเสียเวลาอย่างแท้จริง แต่จินซาฮยอค รู้สึกว่ามันคุ้มค่าเพราะเรเชลแสดงออกได้อย่างน่าสนใจ ตอนนี้อารมณ์เธอดีขึ้นกว่าเดิมมาก จินซาฮยอค ออกจากห้องทำงานของเรเชลเบาๆ


บทที่ 435 เป้าหมายเดียวกันเส้นทางที่ต่างกัน (3)


 


การประชุมกับ วิคเก็ช ดำเนินไปอย่างราบรื่น วิคเก็ชยืนยันว่าอำนาจของเธอในสังคมปีศาจในปัจจุบันไม่น้อยกว่าใครแน่ เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและความแข็งแกร่ง


 


“สมาคมบอกว่าพวกเขาจะปฏิบัติภารกิจในเดือนเมษายน กลางฤดูใบไม้ผลิ แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จ”


 


ผมเห็นด้วยภายในกับการประเมินของ วิคเก็ช ทีมลอบสังหารแรกที่


ก่อตั้งโดยสมาคมจะไม่สามารถฆ่าออร์เดนได้ จริงๆแล้วพวกเขาจะได้รับความสูญเสียอันยิ่งใหญ่จากผู้ทรยศในหมู่พวกเขา ปัญหาเดียวคือผมไม่เคยพูดถึงผู้ทรยศที่มีอยู่ในเนื้อเรื่องเดิม


 


ทุกอย่างจากจุดนี้ไป…เอาจริงๆผมที่เป็นคนแต่งจำได้แค่ว่าเขียนไปเพียงไม่กี่บรรทัดเกี่ยวกับทีมลอบสังหารแรกของสมาคมฮีโร่


 


ผมไม่รู้ว่านักเขียนงี่เง่าคนไหนที่เขียนเรื่องนี้ แต่ผมก็อยากให้เขาแต่มันออกมาดีๆ


 


“ดังนั้น พวกเราวางแผนที่จะรอพวกเขาและออกเดินทางไปในเดือนมิถุนายน หากพวกเขาฆ่าออร์เดนได้มันก็จะดีสำหรับพวกเรา แต่หากพวกเขาทำไม่ได้พวกเราจะต้องทำเอง”


 


“ใครเข้าร่วมทีมลอบสังหารบ้าง” บอสถามวิคเก็ช


 


บอสไม่สั่นไหวแม้แต่ต่อหน้าต่อหน้าวิคเก็ช บอสในตอนนี้มีความสามารถที่จะเผชิญหน้ากับ วิคเก็ช ได้อย่างทัดเทียม


 


“สมาชิกคนสำคัญของพวกเรา ผู้บริหารของ สังคมปีศาจ รวมถึง


คิมฮักเปียว,เทอร์โรว์ และลูกน้อง,ผู้ทำลายและลูกน้อง….”


 


ชื่อที่ วิคเก็ช บอกไว้นั้นเป็นปีศาจระดับ Top ทั้งนั้น


 


“ฉันไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยให้สัตว์ประหลาดนั้นยังมีชีวิตอยู่ ปีศาจ


คนอื่นๆเองก็คิดเช่นเดียวกัน ถ้า พอลคาส ยังมีชีวิตอยู่เขาคงจะลงมือด้วยตัวเองไปแล้ว”


 


เมื่อได้ยินสิ่งนี้บอสก็ขมวดคิ้ว “พอลคาส?”


 


“เธอเองก็คงเคยได้ยินเรื่องของเขาเช่นกัน พอลคาส เป็นมาร แชจูชึล ที่ตามล่า “ปกติปีศาจจะไม่พูดถึงชื่อมารถ้าไม่จำเป็นแต่เป็นเพราะ


พอลคาส ไม่ใช่มารที่เธอรับใช้ ปีศาจจะรับใช้มารที่แตกต่างและ


ที่วิคเก็ช รับใช้คือ ‘บาอัล’ ที่มีชื่อเสียง


 


“แล้วเธอว่าไงล่ะ? ฉันคิดว่าพวกเรามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าสมาคมฮีโร่นะ”


 


ปีศาจเป็นคนที่ทำสำเร็จในเนื้อเรื่องเดิม หลังจากความพ่ายแพ้ของสมาคมฮีโร่พวกเขาแทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรของออร์เดนและได้


ตัดแขนข้างหนึ่งของเขาลงมาพร้อมสังหารผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจำนวนนับไม่ถ้วน


 


แน่นอนหลังจากนั้นกลุ่มที่ตามมาก็จัดการต่อจนเสร็จ กลุ่มนั้นประกอบไปด้วย แชนายอน, ยียอนฮาน,เรเชล,ยุนซึงอา และ คิมซูโฮ ทำสำเร็จ


 


ในเนื้อเรื่องเดิม คิมซูโฮ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมลอบสังหารแต่แรกเนื่องจากสมาคมฮีโร่ต้องการให้เขาตรวจสอบหลังจากพิชิตหอคอยแห่งความปรารถนา แน่นอนว่าตอนนี้คิมซูโฮต่อสู้กับราชาปีศาจ เขาไม่สามารถคิดเกี่ยวกับเรื่องของออร์เดนได้


 


“ถ้าพวกเธอเข้าร่วมด้วย ฉัน วิคเก็ชจะยอมรับอำนาจของเธอในส่วนของ Pandemonium ที่เธอควบคุมอยู่ในปัจจุบัน”


 


คิ้วของบอสกระตุก มันเป็นข้อเสนอที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพราะปกติแล้ว


ปีศาจจะไม่ยุ่งกับปีศาจตนอื่นๆไม่ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะแย่แค่ไหน


 


“เป็นไง ฉันคิดว่ามันเป็นข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมเลยนะ” วิคเก็ช กล่าวขณะที่เธอหันมาสนใจผม ดวงตาของเธอตรวจสอบผม “ฉันชอบที่ดอกบัวดำทำลายการออกอากาศของออร์เดนนะ”


 


“… .”


 


มันเป็นคำชมทั่วไป แต่บอสก็ขมวดคิ้วอย่างไม่มีความสุข เธอจ้องมอง


วิคเก็ช และจ้องมองมาที่ผม


 


“แล้ว?” วิคเก็ชหันกลับมามองบอส


 


จากนั้นบอสก็มองมาที่ผม ผมพยักหน้าและบอสก็พยักหน้ารับคำถามของวิคเก็ช “…พวกเราจะเข้าร่วม แต่พวกเราจะไม่รับคำสั่งจากใคร” เธอประกาศกร้าว


 


ในตอนนั้นความคิดของผมก็คิดถึงเรื่องอื่นขึ้นมา Chameleon Troupe ได้เข้าร่วมทีมลอบสังหารของปีศาจในเนื้อเรื่องเดิมหรือเปล่านะ?


 


“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่รับคำสั่งจากคนที่อ่อนแอกว่า! ใช่นั่นละถึงจะเป็น Chameleon Troupe!” วิคเก็ชหัวเราะในแบบที่ทำให้เข้าใจยากว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “ตอนนี้พวกเราก็ตัดสินใจได้แล้วสินะ!”


 


… 3 ชั่วโมงหลังจากการประชุม


 


Chameleon Troupe และ วิคเก็ช จากไปแล้ว แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของ วิคเก็ช ที่อยู่ในห้องประชุมไม่ได้ไปไหน ผู้บริหาร 6 คนถูกทิ้งไว้โดยไม่มีหัวหน้าและพวกเขาก็รวมตัวกันพร้อมเริ่มการสนทนา


 


“…เราจะปล่อยให้พวกเขาไปจริงๆเหรอ?” ผู้บริหารคนที่ 6 ของวิคเก็ช


ยีจุนฮานทำลายความเงียบงัน


 


“แกคิดว่ายังไงละ? ไอ้พวกนั้นขโมยของจากห้องนิรภัยส่วนตัวของฉัน!” ผู้บริหารคนแรกตะโกนอย่างโกรธเคือง


 


ปัง! เขายังกระแทกกำปั้นของเขาลงบนโต๊ะ


จริงๆแล้ว Chameleon Troupe ได้กำหนดกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมเมื่อพวกเขาเข้ายึดครอง Pandemonium แต่ปีศาจต้องทนทุกข์ทรมานกับการเสียผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปีศาจระดับสูงอย่าง


ผู้บริหารของ วิคเก็ช ผู้ซึ่งได้รับประโยชน์มากมายจากการทำงานกับ ผู้รับใช้ของซาตาน


 


“แต่บอสจะโกรธ….”


 


“ไม่ บอสต้องการแบบนี้เช่นกัน แกไม่รู้สึกเหรอ ลองนึกย้อนกลับไปดูว่าคนโง่ทั้ง 2 นั้นทำหน้าหยิ่งยโสแม้กระทั่งถอดเสื้อคลุมต่อหน้าบอส


บอสปล่อยไปเพราะสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเรา ไม่งั้นเธอจะไม่ลังเลเลยที่จะฆ่าพวกมัน”


 


ผู้บริหารเริ่มตีความความตั้งใจของ วิคเก็ช ด้วยตัวเอง พวกเขาอ้างว่าพวกเขารู้ว่า วิคเก็ช คิดยังไงและเธอต้องยินดีที่จะรู้ว่าพวกเขาฆ่าคนโง่ที่เย่อหยิ่งทั้ง 2 คนนั้น


 


“สมบูรณ์แบบ พวกเราจะฆ่าโจรเหล่านั้นในทันทีที่งานของเราเสร็จสิ้น” ผู้บริหารคนที่ 2 คือยุนยองฮานเสริมคำพูดของผู้บริหารคนแรก เคอร์เคน


 


“ไม่ ทำไมพวกเราไม่ฆ่าพวกมันก่อน ยังไงพวกเราก็สามารถจัดตั้งทีมลอบสังหารขึ้นมาใหม่ได้เสมอ”


 


“หืม…นั่นไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดีเลยนะ”


 


จากนั้นผู้บริหารคนที่ 4 Plaiun ก็พูดว่า “ทิ้งกับฉันไว้…. ”


 


“ปลาย ฉันบอกให้นายเรียนภาษาเกาหลีได้แล้ว นายจะใช้ชีวิตในยุคนี้ ยังไงถ้าไม่รู้ว่าจะพูดภาษาเกาหลียังไง”


 


“…ขอโทษที แต่ผมไม่ได้มีความสามารถในการพูด ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ทักษะการแปล ”


 


“…เพียงแค่พูดเป็นภาษาอังกฤษ ถ้านายจะผสมพวกมันเข้าด้วยกัน”


 


เคอร์เคน บน Plaiun แต่ก็แปลคำพูดของเขาให้คนอื่นๆฟัง เช่นนั้น


ผู้บริหาร 6 คนของ วิคเก็ช ก็ถึงบทสรุป ขณะที่พวกเขากำลังจะยกเลิกการประชุม …


 


“อืม… เคอร์เคน ฮยอน”


 


ยีจุงฮาน ผู้บริหารคนที่ 6 พูดอย่างระมัดระวัง


 


“อะไร.”


 


“แทนที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดทำไมพวกเราไม่ขายหน้าละ ทำให้เป็นแบบอย่างที่ดีจะได้ไม่มีใครทำเหมือนพวกนี้?”


 


“ขาย?”


 


“ชะ-ใช่แล้ว.”


 


เมื่อเห็นเคอร์เคนมีรอยย่นที่คิ้วของเขายีจุนฮานก็หัวเราะและพูดต่อ


“หนึ่งในนั้นมีรูปร่างค่อนข้าง … นายไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”


 


“ใคร? บอสของพวกนั้นเหรอ?” เคอร์เคนนึกถึงหัวหน้าของ Chameleon Troupe ที่ไม่แสดงท่าทางหวาดกลัวแม้แต่น้อยต่อหน้า วิคเก็ช


 


“ไม่ ไม่ใช่เธอ. เป็น….” ยีจุนฮาน ปล่อยเสียงไอแห้งๆ เขาเกาที่คอของเขาอย่างเชื่องช้าและจ้องไปที่ เคอร์เคน


 


Goosebumps พูดออกมาทันที “แกหมายถึง…ดอกบัวดำ”


 


“ผิวของเขาดูดี…แต่อย่าเข้าใจผิด มันไม่เหมือนที่ฉันต้องการ ฉันแค่คิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความอัปยศให้แก่พวกเขา….” ยี่จุนฮานน้ำลายไหลเมื่อเขาคิดหาข้อแก้ตัว Kirken ขมวดคิ้วด้วยความขยะแขยง ที่เห็น Yi Junghan น้ำลายไหล


 


“อืม … .”


 


การรักร่วมเพศไม่ใช่เรื่องผิดปกติในหมู่ปีศาจ ในความเป็นจริงมันได้รับการปฏิบัติเหมือนคนปกติ เคอร์เคน พยักหน้าโดยไม่คัดค้าน


 


“…ทำในสิ่งที่ฉกต้องการ”


 


“ฮ่าฮ่า ขอบคุณพี่ฮยอง”


 


ยีจุนฮานยิ้มอย่างสดใสและโค้งคำนับ


 


…ที่ห่างไกลมีคนแอบมองการสนทนาส่วนตัวของพวกเขา


 


“อะ-ไอ้บ้านั่น!”


 


ภายในห้องบัญชาการของเรือ Genkelope เรือ Captain โฮเนอร์ มีตะโกนกันอย่างดุเดือด เขาเฝ้าดูห้องประชุมในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับ


ผู้บัญชาการเรือและตอนนี้เขาก็ดีใจที่เขาไม่เหนื่อยเสียเปล่า


 


“ไอ้พวกโง่เขลา! พวกมันกล้าดูถูกผู้บัญชาการเรือของเรา!”


 


กัปตันผู้ใจเย็นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น โฮเนอร์หายใจเข้าลึกๆเพื่อ


พยายามใจเย็นลงมือของเขาสั่นด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็โทรออกไปทันที


 


– ครับ กัปตัน


 


“ร้อยโท เกิดเรื่องฉุกเฉิน”


 


[Alcatraz] คุกที่ผู้เล่น Tower of Wish กลัวที่สุด โฮเนอร์พูดกับร้อยโทของเรือที่อยู่ในความดูแลของเรือนจำแห่งนี้


 


“ฉันจะส่งรูปภาพของผู้เล่นไปให้ ติดตามพวกเขาและจับกุมพวกเขา


ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่สำคัญว่าจะสูญเสียไปเท่าไรจับมันยัดข้อหาอะไรก็ได้ จะถ่มน้ำลายลงบนพื้น สูบบุหรี่บนถนน ต่อสู้อย่างสนุกสนาน…อะไรก็ได้แต่ต้องจับเจ้าอาชญากรรมนั้นมาให้ได้พวกมันเป็นกบฏ”


 


– …ผมขอถามว่าเกิดอะไรขึ้นได้ไหม?


 


“มันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของ ผู้บัญชาการเรือ Extra7”


 


ผู้หมวดซึ่งลังเลในตอนแรกกระโดดขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยิน


คำอธิบายของโฮเนอร์ เขาตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด


 


รับทราบ เข้าใจแล้วครับ!


 


“ให้พวกอาชญากรเหล่านี้เข้าคุกให้หมด”


 


อีก… 3 ชั่วโมงต่อมา


 


“อะ-อะไรกัน!? พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย! ”


“เอ่อ มันเกิดอะไรขึ้น! ”


“ปล่อยฉันไป! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร! ฉันชื่อเคอร์เคน! อย่านะฉัน…ฉันสามารถฝังพวกแกให้ทรมาณทั้งหมดในส่วนลึกของ-”


 


“เพิ่มโทษอีก 2 ปีสำหรับการต่อต้านการจับกุม”


 


“…เพิ่มอีก 2 ปี งั้นเหรอ?”


 


ประมาณปีศาจ 40 ตนถูกลากเข้าไปใน [Alcatraz Prison] ของ


เรือ Genkelope พวกเขาถูกตั้งข้อหาขัดขวางธุรกิจ ทั้งที่จริงๆเห็นได้ชัดว่าพวกเขาแค่คุยกันเสียงดังเกินไปในร้านอาหาร


 


************************************2************************************


บทที่ 436 เป้าหมายเดียวกันเส้นทางที่ต่างกัน (4)


 


ชั้น 30


 


“ช้าเกินไป.”


 


คำพูดของราชาปีศาจดังขึ้น คิมซูโฮพูดเบาๆขณะนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้น


 


“ดูเหมือนว่านายจนมุนแล้วนะ”


 


คิมซูโฮ แพ้ไปแล้ว 30 ครั้ง แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการทำให้ราชาปีศาจดึงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่แต่เขาก็ไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายในสภาพนั้นได้


 


คิมซูโฮมองไปที่ราชาปีศาจผู้ถอดชุดเกราะออก เขาไม่ได้สวมเกราะเพื่อการป้องกัน มันเป็นเพียงการจำกัด ความเร็วของเขา


 


ราชาปีศาจพูดว่า “อัศวิน เจ้าอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช”


 


ราชาปีศาจมีออร่าแห่งกษัตริย์ที่แท้จริงแม้คิมซูโฮจะไม่เชื่อเรื่องโหงวเฮ้ง ก็รู้ว่าชายตรงหน้าเขานั้นเป็นราชา ผิวของเขาซีดกว่ามนุษย์มากแต่ดวงตาและผมสีเข้มกว่า


 


“หากเจ้าไม่แสดงความก้าวหน้าออกมมาอีก ข้าจะไม่ยอมรับการท้าทายของเจ้าอีกแล้ว”


 


ราชาปีศาจ ทิ้งคำพูดนั้นไว้และหันหลังกลับไป เสื้อคลุมที่พลิ้วของเขาปกคลุมสายตาของคิมซูโฮ คิมซูโฮเดือดดาน เขารู้สึกอยากร้องไห้ดังนั้นเขาจึงหลับตาลง ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องเป็นความพ่ายแพ้ที่สิ้นหวังความสิ้นหวังอย่างต่อเนื่องมันคือกำแพงที่สูงเกินกว่าจะข้าม…การทำอะไรไม่ได้ซึมลึกเข้าไปในกระดูกของเขา เสียงบอกให้เขาเลิกปรากฏออกมาในจิตใจ


 


ในเวลาเดียวกันมีผู้คนมากมายปรากฏอยู่ใต้เปลือกตาปิดของเขา


พวกเขาเป็นคนที่เชื่อในตัวเขา ในบรรดาพวกเขาเป็น คิมฮาจิน และ


ยุนซึงอา ความไว้วางใจที่พวกเขามีต่อเขาผลักเขาให้ก้าวต่อไป


 


‘ฉันยอมแพ้ไม่ได้ ฉันยังไปต่อได้ สำหรับเพื่อนที่เชื่อใจในตัวฉัน…ฉันน่ะ’


 


เขาลุกร่างของเขาขึ้นมาอีกครั้ง


 


“…ฉันสามารถชนะได้”


 


แม้ว่าพลังเวทมนต์ของเขาจะหลั่งไหลออกมา มือของเขายังขยับได้ความแตกต่างของความแข็งแกร่งแค่ทำให้ขาและกระดูกซี่โครงหักมันเป็นสิ่งที่ถูกทำลายไม่ใช่ดาบของเขา ร่างกายของเขายังไหว ตราบใดที่เขายังมีดาบมันก็ยังคงอยู่ก็มีโอกาส ตราบใดยังมีโอกาสเขาจะไม่ยอมแพ้


 


“ฉันจะชนะ….”


 


ความแข็งแกร่งของดาบขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของอัศวิน ความเชื่อมั่นที่มากทำให้ดาบแข็งแก่รง คิมซูโฮ ยังคงเชื่อในคำพูดที่อาจารย์ของเขาเคยสอนเขามา


 


“… อืม.”


 


และแล้ว แม่มดก็เดินเข้าหาคิมซูโฮผู้ซึ่งอ้าปากค้างเพื่อหายใจ เธอยื่นกระเป๋าเล็กๆให้เขา


 


“นี่คือ…?”


 


“คู่ซ้อมของนายทิ้งไว้ให้นาย”


 


คิมซูโฮจ้องมองอย่างว่างเปล่า เขาจำสิ่งที่คิมฮาจินบอกเขาได้


‘เปิดสิ่งนี้เมื่อไม่เหลืออะไร มันจะช่วยนายได้มากเลยละ’


 


“ฉันคิดว่าคุณลืมมันไปแล้ว”


 


เมื่อได้ยินคำพูดของแม่มด คิมซูโฮ ก็ยิ้ม ‘ลืม? ฉันจะลืมสิ่งที่ฮาจินให้มาได้ยังไง ฉันไม่ได้ใช้เพราะฉันไม่อยากให้ตัวเองอ่อนแอลง ‘


 


“นี้ไม่ใช่เวลาที่นายต้องการความช่วยเหลือหรอกเหรอ?”


 


เสียงของ แม่มด ดังขึ้นกว่าปกติ


 


“อา….นั้นสินะ”


 


คิมซูโฮถอนหายใจออก หลังจากคิดถึงเรื่องนี้เขาก็เอื้อมมือไปข้างหน้าแล้วหยิบกระเป๋า มันเบา เขาไม่ได้สงสัยว่าอะไรอยู่ข้างใน แต่เมื่อพิจารณาว่ามาจากใครเขาก็หวังเอาไว้สูงมาก


 


ด้วยความเชื่อที่ฝังลึกของเขา เขาจึงค่อยๆเปิดกระเป๋าออกมา


 


“เอ๊ะ?”


 


ข้างในนั้นมีกระดาษ 3 ใบเหมือนคูปอง


 


[คูปองแต้ม]


[คูปองแต้ม]


[คูปองรวมพิเศษ]


 


************************************************************************


[เกาหลี – โซล]


 


หนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ทีมลอบสังหาร ออร์เดน ออกเดินทาง


 


– สมาคมฮีโร่เตรียมการสังหารออร์เดนเสร็จแล้ว ไอเท็มที่มีประสิทธิภาพจาก Tower of Wish ก็ถูกใช้อย่างเต็มกำลัง ….


 


ในขณะที่ดูทีวีผมก็นึกถึงคิมซูโฮขึ้นมา


 


“…เขาใช้มันหรือยังนะ”


 


ซูโฮน่าจะต่อสู้อย่างแลกเลือดกับราชาปีศาจ ผมไม่สงสัยเลยว่าราชาปีศาจในโลกนี้แข็งแกร่งกว่าที่ผมเคยเขียนอย่างแน่นอน


 


ด้วยเหตุนี้ผมจึงเหลือ [คูปองแต้ม] และ [คูปองรวมพิเศษ] ให้กับ


คิมซูโฮ ซึ่งผมใช้ การตั้งค่า ทำให้มันเป็นจริง ผมไม่ต้องการให้พวกมันมีอิสระมากกว่านี้แต่ด้วยค่าสถานะตอนนี้ของคิมซูโฮคงยังไม่ไหวผมเลยได้แต่ต้องใช้วิธีนี้


 


พูดตามตรงผมไม่มีทางเลือกมากนัก


 


– ทีมลอบสังหารออร์เดนจะออกเดินทางในอีก 1 เดือน


 


ผู้ประกาศข่าวทางทีวีรายงานเกี่ยวกับทีมลอบสังหารออร์เดนของสมาคมฮีโร่ ‘1 เดือน’ ที่เขาพูดถึงนั้นไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเป็นชั้นเชิงกากๆ วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะออกเดินทางและผมจะต้องไปช่วยหญิงสาวคนนั้นในขณะที่พวกเขาฟุ้งซ่าน ….


 


– จินเซยอน, ไอลีน, ชินจงฮัก, อียองอา และฮีโร่ชื่อดังอื่นๆอีกมากมายเข้าร่วมในงานนี้


 


แต่คำพูดต่อไปของสมาคมทำให้ความคิดของผมหยุดนิ่ง ผมจ้องมองไปที่ทีวีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


 


“…เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนนะ”


 


ความสงสัยเกิดขึ้นในหัวของผม เมื่อคิดถึงตอนนี้ไอลีนไม่เคยปรากฏตัวหลัง Arc ออร์เดน ในเนื้อเรื่องเดิม จินเซยอน เองก็ไม่ปรากฏตัวเช่นกันและอียองฮาเองก็เช่นกันเป็นเพราะผมเปลี่ยนไปมุ่งเน้นที่มุมมองของ คิมซูโฮ คิมซูโฮพ่ายแพ้ต่อออร์เดนและพันธมิตรของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นผมเองก็ไม่รู้เพราะผมก็มาที่นี่แล้ว


 


“นี้….”


 


ผมมองดู ไอลีน ที่กำลังยิ้มอย่างสดใสในทีวี ตัวละครที่ไม่ได้ปรากฏตัวในนิยาย…แม้ว่ามันจะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ต่างไปจากการตาย มันอาจจะเป็น…?


 


“งั้น เธอก็จะตายที่นี่?”


 


ขนลุกขึ้นมาบนร่างของผม ไม่มีตัวละครแม้แต่คนเดียวในหมู่พวกเขาที่จะต้องตาย พวกเขาทั้งหมดมีบทบาทสำคัญในการหยุดภัยพิบัติในอนาคต แต่อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนทรยศ เพราะผมไม่เคยเขียนมันไว้อย่างชัดเจน ผมเขียนในเนื้อเรื่องเดิมเพียงแค่ประโยคเดียวด้วยซ้ำ


 


“…คิมฮาจิน แกมันไอ้โง่”


 


ผมโทษตัวเองและจ้องมองไปที่ทีวี


 


– คุณ ไอลีน คุณมีอะไรที่อยากจะพูดไหม? ผมอยากให้พูดให้กำลังใจพวกเขา


 


– ให้กำลังใจ? งั้นพวกเราจะชนะแน่นอน จินเซยอน, อียองอา! พวกเธอเองก็มาพูดอะไรบางสิ


 


– ….อืม…คือผม อียองฮา ภรรยาของผมให้ผมไปดังนั้น…ผมรักคุณ ยองเฮ!


 


– เอ๊ะ หาาาา หยุดนะ!


 


จินเซยอน, ไอลีน, อียองอา และแม้แต่ ชินจงฮัก ทั้ง 4 คนเต็มไปด้วยพลังงาน


 


– ขอบคุณมากครับ นั่นคือ ปรมจารย์วาจาสิทธิ์ ไอลีน นั้นเอง


 


เมื่อนักข่าวสิ้นสุดการสัมภาษณ์ผมก็คิด เจน และ ชอคจุนกยอง น่าจะลักพาตัวหญิงสาวคนนี้กับพลังรักษามาได้แล้วแม้ว่าจะไม่มีผม


 


แต่ถ้าปาร์ตี้ของ ไอลีน อยู่ในช่วงวิกฤตชีวิตหรือความตายหากว่าความรู้สึกลางร้ายที่ผมมีเป็นเรื่องจริง คนเดียวที่สามารถช่วยพวกเขาได้ก็คือ…ผมเอง


 


“อ๊ะ .. ”


 


ผมทนไม่ไว้เลยหยิบ Desert Eagle ขึ้นมาจากนั้นผมก็ติดต่อบอสทันที


 


*************************************************************************


 


[Pandemonium ลานต่อสู้ – ห้องพักของ จินซาฮยอค]


 


“แม่งเอ้ย แก แกไอ้สวะ! ทำไมแกถึงมาทำกับฉันแบบนี้!”


 


จินซาฮยอค ด่าออกมาไม่หยดุ แน่นอนคนที่โดนค่าคือเบลล์ แต่เบลเพียงแค่ยักไหล่


 


“ทำไมละ กลัวฉันจะทรยศพวกเรางั้นเหรอ”


 


“…แกบ้าหรือเปล่า? ในที่สุดแกก็บ้าไปแล้วสินะ? แกก-!?”


 


จินซาฮยอค เป็นบ้าไปแล้วเพราะเบลล์ เบลล์เพิ่งประกาศว่าเขาจะเข้าร่วมทีมลอบสังหาร ออร์เดน ของ วิคเก็ช ที่ Chameleon เองก็มีส่วนร่วมเช่นกันและ เบลล์ รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาเจอกัน


เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่น่าสะอิดสะเอียนของเบลล์ ก็ทำให้จินซาฮยอคโกรธจัด


 


เบลล์พูดออกมา “เธอเป็นคนที่เอาคริสตัลนั่นมาจากออร์เดนโดยไม่บอกฉันเองนะ”


 


“ …หาาาาา ฉันต้องขออนุญาตนายก่อนทุกอย่างงั้นเหรอ?”


 


จินซาฮยอค วางแผนที่จะย้อนกลับไปในอดีตกับคิมฮาจิน ด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถรู้ตัวตนของเขาได้ อย่างไรก็ตามเบลล์กำลังวางแผนที่จะ


ขัดขวางแผนการของเธอ


 


“ก็เอ้อ ซาฮยอค เธอรู้ไหมว่าตัวเธอสั่นเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา ฉันพนันได้เลยว่าเธอจะพูดติดอ่างตลอดเวลาเลยละ”


 


ในขณะนั้นไหล่ของจินซาฮยอคก็สั่นไหว อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเธอก็ตัวตรงทันที


 


“กะ- แกบ้าไปแล้วเหรอ แก-หมายถึงใคร ฉันเนี้ยนะพูดติดอ่าง!”


 


“…เธอฝันร้ายใช่มั้ย ฉันเห็นมัน ฉันถ่ายเก็บไว้ด้วยนะ ~อย่าทำอย่างนั้น ~ อย่าทำฉันเลยยย~”


 


เบลล์หัวเราะและฉายภาพโฮโลแกรมในอากาศ


จินซาฮยอค จ้องมองด้วยความเงียบงัน หน้าจอที่ทำจากพลังเวทมนต์แสดงวิดีโอโดนที่ตัวเธอไม่รู้ตัว


 


– ไม่หยุด. อย่าทำ…


– มันเจ็บนะไอ้บ้า…ไอ้สารเลว….


– ไม่นะ…มันเจ็บ…ฉัน…ขอร้องละ….


 


นี่อาจเป็นอีกทักษะหนึ่งของเบลล์ จินซาฮยอค คิดอะไรไม่ออกในตอนนี้


จิตใจของเธอว่างเปล่า ไม่สิมันเหมือนจะพังทลาย ไม่นานเธอก็ระเบิดออกมา การระเบิดปะทุขึ้นผ่านกะโหลกศีรษะของเธอและพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า


 


“กะ…แก….”


 


จินซาฮยอค ตัดสินใจที่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของเธอ


 


“ไอ้เหี้ยยยยยย!”


 


เสียงคำรามสั่นโลกทั้งใบ หน้าต่างในห้องพักแตกและเฟอร์นิเจอร์ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ


 


“ฮ่าฮ่าฮ่ามีอะไรแปลก? ฉันคิดว่ามันน่ารักดี ถ้าเอามันให้กับคิมฮาจินเขาจะไม่เกลียดเธอเลย- ดีไม่ดีอาจจะชอบเธอก็ได้นะ’


 


“หุบปาก!”


 


หอกเวทมนต์พุ่งไปข้างหน้า เบลล์เปลี่ยนร่างกายของเขาเป็นพลังเวทย์อย่างสบายๆ ดังนั้นหอกของจินซาฮยอค จึงไม่สามารถแทงทะลุร่างของเขาได้


 


“… ?”


 


อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น แต่เบลล์สังเกตเห็นความเจ็บปวดหลั่งไหลเข้ามาก่อนที่หอกจะค่อยสลายไป ตอนแรกเขาคิดว่าเขาเข้าใจผิด แต่เขาคิดผิด


 


ฉึก


 


“อะไรกัน?”


 


เบลล์มองไปที่อาการบาดเจ็บที่ต้นขาของเขา จากนั้นเขาก็มองกลับไปที่


จินซาฮยอค เธอถูกครอบงำด้วยความโกรธและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง


 


ฉึก


 


มือของเขาถูกตัด คราวนี้มันลึกมาก


 


“อ้า…ฉันเข้าใจแล้ว”


 


เมื่อมองไปที่บาดแผลเบลล์ก็ยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะสังเกตจินซาฮยอค ได้ก้าวไปอีกระดับแล้ว


 


‘ดูเหมือนว่าความตายของฉันจะอีกไม่ไกลแล้วสินะ’


 


เบลล์รับการโจมตีของจินซาฮยอคด้วยความสุข ความเจ็บปวดที่เขาได้รับจากหอกค่อยๆผ่านร่างกายของเขาด้วยความปีติยินดี


 


“ดีดี…ดีมาก มากกว่านี้อีกสิ…”


 


เบลล์ ตะโกนด้วยความดีใจภายใต้ความเจ็บปวด


บทที่ 437 อาณาเขตของออร์เดน (1)


 


ฮีโร่กว่า 1,000 คนรวมตัวกันเพื่อต่อต้าน ออร์เดน ส่วนใหญ่เป็นฮีโร่ระดับสูงและอีกหลายคนเป็น Top ของวงการการโจมตีในตะวันออกกลางและยุโรปทำให้พวกเขาไม่มีเวลาอีกแล้ว ทีมฮีโร่ต่างก็ตรวจสอบโครงสร้างภายในของอาณาจักรออร์เดนแบ่งและ 1,000 ฮีโร่ออกเป็นทีมต่างๆและระบุวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแทรกซึมฐานศัตรู


 


“มาดูกัน….”


 


และในตอนนี้เองก็มีรถลีมูซีนเข้ามาที่แนวหน้า ไอลีน ซึ่งตอนนี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันของกองกำลังพิเศษกำลังมองเข้าไปในกระเป๋าวิเศษของเธอ


 


‘โพชั่นคุณภาพสูงรักษาอาการบาดเจ็บภายนอก’


‘โพชั่นคุณภาพสูงรักษาอาการบาดเจ็บภายใน’


‘โพชั่นพื้นฟูพลังเวทมนต์คุณภาพสูง’


‘โพชั่นพื้นฟูพลังงานคุณภาพสูง’


‘เต็นท์เวทมนต์’


‘เนื้อและอาหารต่างๆ’


 


ภายในบรรจุภัณฑ์มียา อาหารชั้นยอดและม้วนคำภีณ์กลับจุดที่กำหนดที่ผลิตโดย Essence Pharmacy ทั้งเต็นท์และเสบียงในกรณีที่เกิดการต่อสู้ยืดเยื้อ ไอเท็มที่จัดทำโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศและสมาคมเป็นเลิศอย่างแท้จริง


 


“ตอนนี้ฉันกำลังพูดถึง~”


 


ไอลีน ยิ้มในความพึงพอใจ แต่เธอกลับฟื้นคืนความสงบอย่างรวดเร็วในฐานะกัปตันของกองเรือรบพิเศษและมองดูสมาชิกของทีม


 


“ทุกคนตรวจสอบอุปกรณ์แล้วหรือยัง?”


 


จินเซยอน, อียองฮา, ชินจงฮัก และ ซอยองจี ฮีโร่ระดับสูงทั้ง 4 คนของทีม ไอลีน ทำการตรวจสอบข้าวของพวกเขา


 


“ใช่ ฉันตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างครบ”


 


“ฉันมีหมดแล้ว”


 


“ฉันด้วย~”


 


ไอลีนพยักหน้าอย่างใสซื่อ


 


“โอเค ดีมาก. กัปตันของพวกเธอ พอใจมาก”


 


ขณะที่เธอพูดเธอเหลือบมอง SmartWatch ที่จัดทำโดยสมาคมสรุปการทำงานของพวกเขา


 


[ก่อนอื่นเดินทางไปที่Portalใต้ดินในอียิปต์ซึ่งเป็นPortalที่ใกล้ที่สุดกับราชอาณาจักรของ ออร์เดน เมื่อคุณมาถึงคุณจะเข้าไปที่นั้นทันทีโดยใช้ ‘เทเลพอร์ต’ ของ ไอลีน ไม่ยากเท่าไรเพราะพวกเราได้ตรวจสอบโครงสร้างภายในโดยใช้โดรนแล้ว]


 


ดิ้งๆๆๆๆๆๆๆ—


 


ไอลีน ได้รับข้อความขณะที่เธอกำลังอ่านรายละเอียดในหัวของเธอ


ผู้ส่งคือ ยุนซึงอา ผู้นำทีมจู่โจมที่ 3


 


– พี่สาว พี่จะไปทางไหน


 


ยุนซึงอามีส่วนร่วมในการดำเนินงานในฐานะหัวหน้ากิลด์ของผู้รังสรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เธอไม่ได้อยู่ในหน่วยเฉพาะกิจพิเศษเช่นไอลีน แต่เป็น


ทีมปกติพร้อมด้วยฮีโร่ประมาณ 1 โหลจากผู้รังสรรค์ศักดิ์สิทธิ์


 


– แผนถูกวางเอาไว้แล้ว ฉันไม่สามารถบอกเธอได้


 


– …ดู พี่สิทำตัวเหมือนกัปตันเลยนะ


 


ไอลีน ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็พิมพ์คำตอบด้วยความพยายามของเธอ


 


– ฉันเป็นกัปตันเสมอ


 


“พวกเรามาแล้ว”


 


ในขณะนั้นเองรถลีมูซีนก็หยุด ไอลีน มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นว่าพวกเขาอยู่ตรงหน้าประตูทางทหาร เธอมองใบหน้าของสมาชิกในทีมและสั่งพวกเขาด้วยเสียงหนักแน่น


 


“ไปกันเถอะทุกคน”


 


“รับทราบ”


 


“เอาล่ะนะ”


 


กองรบประกอบไปด้วยฮีโร่ 5 คนได้ออกมาจากรถลีมูซีน ไอลีนเหยียดขาลงจากรถลีมูซีน


 


เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอดังก้องกังวานอย่างงดงาม ไอลีนเดินราวกับว่าเธออยู่บนเวทีเวลารอบตัวเธอช้าลง เพลงที่ยิ่งใหญ่และสง่างามดังก้องอยู่ในหูของเธอ เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของทุกคนแม้จะเผชิญกับการต่อสู้เธอก็ไม่กลัว เธอเดินด้วยความดีใจนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานของ ปรมจารย์วาจาสิทธิ์ ไอลีน นั้นเอง….


 


“…หืมมม”


 


“อะแฮ่ม”


 


“อา สภาพอากาศดีจังเลยยยย”


 


ทีมพยายามกลั่นหัวเราะสุดตัว ไอลีนตัวเล็กและน่ารักจริงๆแล้วก็ตลกดี


โชคดีที่พวกเขาสามารถไปถึงหน้าประตูได้โดยไม่หัวเราะ


 


“ทำความเคารพ~! นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับท่าน!”


 


ทหารที่รับผิดชอบทำความเคารพ ไอลีนพยักหน้าอย่างจริงจัง


 


“แน่นอน นี่คือ Portal เหรอ”


 


“ใช่ ประตูนี้เชื่อมโยงกับอุโมงค์ใต้ดินในอียิปต์ ครั้งล่าสุด ViP ชาวอียิปต์ใช้มันเพื่ออพยพ อย่างไรก็ตามอย่างที่คุณทราบระยะห่างระหว่างไคโรและออร์เดนนั้นไกลมาก”


 


แม้ว่าแอฟริกาจะกลายเป็นดินแดนแห่งอสูรแค่ไม่ใช่ทั้งหมดมีการรวบรวมข้อมูลกับมอนสเตอร์ มอนสเตอร์ในแอฟริกาต่อสู้กันเองและกินกันเองทำให้เหลือที่อยู่อาศัยเพียงไม่กี่แห่งทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์


 


“…ฮีโร่ส่วนใหญ่จะใช้ทางนี้เพื่อเข้าสู่อาณาจักรของออร์เดน”


 


“แต่พวกเราไม่ต้อง”


 


แต่ไม่ใช่กับไอลีน


 


“ในตอนแรกเหตุผลที่มีการจัดตั้งกองกำลังนี้คือเพื่อให้พวกเราสามารถแทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรของออร์เดนก่อนทุกคนจะส่งข้อมูลภายในและระเบิดสถานที่สำคัญๆ”


 


ไอลีน จงใจพูดเสียงต่ำ แต่แน่นอนการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ชัดเจนมากนัก


 


“พวกเราจะเข้าสู่ Portal จากนั้นเดินทางไปยังอาณาจักรของออร์เดนโดยใช้ทักษะของฉัน ‘เทเลพอร์ต’”


 


“…จะเป็นไรไหม”


 


ระยะห่างระหว่างอียิปต์และดินแดนของ ออร์เดน ที่ใจกลางของทวีปแอฟริกาคือระยะทางกว่า 10,000 กม. ถึงกระนั้นไอลีนก็ยังยิ้มให้กับทหารที่กังวล


 


“ฉันไอลีนเป็นกัปตันของหน่วยเฉพาะกิจ งานแรกของฮีโร่พันธมิตรถ้าทำไม่ได้ฉันก็ไม่มีคุณสมบัติเป็นกัปตัน”


 


“…อ๊ะ แน่นอนๆ คุณน่าทึ่งมากๆ”


 


ไอลีนและทหารดูเหมือนจะเข้าใจกันทหารมองไอลีนด้วยความเคารพและความกลัว ไอลีนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ


 


“เริ่มจาก Portal กันเถอะ”


 


“ใช่ๆ.”


 


วิ้งงงงงงงงงงงงงงงด้วยเสียงแห่งพลังเวทย์มนตร์และกระแสไฟฟ้าที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน Portal จึงเชื่อมโยงกับอุโมงค์ใต้ดินที่ห่างไกลในอียิปต์ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ Portal ไอลีนพยักหน้าเบาๆให้กับทหาร


มันเป็นการแสดงออกถึงความสุภาพ ทหารตอบด้วยการทักทายอย่างสุภาพ


 


“ทำความเคารพ~! คุณ ไอลีน หัวหน้าหน่วยรบพิเศษแห่งแรกของ พันธมิตร ผมขออธิษฐานให้คุณ!”


 


“…แน่นอน. แล้วฉันเองก็อยากจะรู้ชื่อของคุณเช่นกัน”


 


“ผมเป็นพันเอก คิมหวังโฮ”


 


“ผู้พัน หวังโฮ….เป็นชื่อที่ดี”


 


ทันใดนั้นใบหน้าของไอลีนก็แน่วแน่ พันเอกหวังโฮมองไปที่ไอลีนและ


ไอลีนก็พูดอีกครั้งด้วยเสียงเบาๆ “ถ้าพวกเราส่งสัญญาณให้ปิด Portal นี้ทันที พวกเราไม่สามารถให้ข้าศึกใช้ประโยชน์ได้หากการปฏิบัติการนี้ล้มเหลว”


 


“อะไรนะ?”


 


“อย่างที่ฉันพูด ฉันเป็นไอลีนกัปตันหน่วยเฉพาะกิจ แรกของ


สมาคมฮีโร่….”


 


สมาชิกใหม่ ซอยองจี ดูสับสนเล็กน้อยเมื่อฟังการสนทนา


 


“เธอเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เธอเป็นแฮะ”


 


“…ไม่….ไม่ใช่ “


 


จินเซยอน แสดงความไม่พอใจอย่างมากออกมา


 


“เธอหมกมุ่นอยู่กับชื่อเสียงของเธอในตอนนี้ เธอคิดมากเกินไป”


 


อียองฮาพยักหน้า


 


“เธอจะทำเรื่องให้มันยุ่งยากมากขึ้น…”


 


การพูดคุยเล็กๆของพวกเขาดำเนินไปอย่างไร้จุดหมายทันใดนั้นไอลีนก็เรียกพวกเขาจากระยะไกลหลังจากที่เธอพูดกับพันเอกเสร็จ


 


“เฮ้ ทีม!”


 


“ว่าไง.”


 


“พวกเราจะเริ่มภารกิจแล้ว ตอนนี้ทุกคนพร้อมหรือยัง -!”


 


“…เอ่อ แน่นอน”


 


“คำตอบของพวกเธอแย่มาก-! อีกครั้ง!”


 


ไอลีนตะโกน ‘…เดาสิว่าพวกเราจะต้องเล่นตามน้ำสินะ’ สมาชิกทั้ง 4 คิดในขณะที่พวกเขายืดตัวขึ้นตามสัญญาณของจินเซยอน


 


“””รับทราบ! พวกเราพร้อมแล้ว!”””


 


“ดีมาก. ตอนนี้ ฉันจะเรียกครั้งสุกท้าย”


 


“…ฮะ? แต่พวกเรามีแค่ 4 คนเองนะ”


 


“จุ๊ๆ พวกเราต้องทำแบบในหนังที่ฉันดูสิ พวกเราเองก็ทำได้เช่นกัน”


 


“…”


 


และดังนั้นการเริ่มประกาศตัวจึงเริ่มขึ้น


ชินจงฮัก ขั้นกลาง ระดับ สูง 1


ซอยองจิน ขั้นสูง ระดับ 7


จินเซยอน ปรมจารย์


วิหารแห่งความยุติธรรม อียองฮา


 


“ทุกคน. ตอนนี้พวกเราเข้าสู่ Portal กันเถอะ”


 


หลังจากที่เธอพูดจบ ไอลีน ก็พาทีมข้าม Portal


 


*************************************************************************


[อาณาเขตของ ออร์เดน]


 


หน่วยรบพิเศษแห่งแรกของสมาคมฮีโร่เดินทางมาถึงในอัฟริกากลางซึ่งเป็นดินแดนของออร์เดนไม่นานผ่านการเทเลพอร์ตของไอลีน


 


“ยากมากจริงๆ… “


 


เทเลพอร์ตครอบคลุมระยะทางไกลสุดขีด ไอลีนผู้เคยใช้พลังเวทมนต์มามากมายในครั้งเดียวสั่นไหวด้วยอาการวิงเวียนศีรษะ อียองฮา จับเธอขณะที่เธอล้มลงและจากนั้นในที่สุดไอลีนก็มองไปรอบๆ


 


“…หืออะไรกัน พวกเราอยู่ไหน”


 


“…”


 


ไอลีนเองก็สับสนเหมือนกัน ดินแดนของ ออร์เดน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเหมือนที่พวกเขาจินตนาการ


 


“ ทำไมมียางมะตอยในแอฟริกา?”


 


ชินจองฮัก พึมพำในความงุนงง เขาคิดว่าจะมีทะเลทราย แต่มันแทนที่ด้วยถนนที่ถูกปกคลุมด้วยยางมะตอยเหมือนในเมืองมนุษย์ ไม่มีร่องรอยของธรรมชาติเช่นหญ้าหรือต้นไม้ ฉากด้านหน้าของพวกเขานั้นแตกต่างจากที่ทีมพันธมิตรตรวจสอบโดยดาวเทียมและโดรนมาก


 


“หัวหน้าพิกัดถูกต้องมั้ย”


 


จินเซยอน ถามและ ไอลีนก็พยักหน้าโดยไม่ลังเล


 


“แน่นอน เธอคิดว่าฉันจะผิดพลาดจริงๆเหรอ?”


 


ไอลีน มอง smartwatch ของเธออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ พิกัดถูกต้องแน่นอน พวกเขาอยู่ในสถานที่ที่นัดหมาย


 


“…ก่อนอื่นฉันคิดว่าพวกเรามาถูกแล้ว เอ่อฉันหมายถึง…พวกเรามาถึงปลายทางที่ถูกต้องแล้ว โอ้ดูนั่นสิ!”


 


ทันใดนั้นไอลีนก็ชี้ไปไกล มันดูเหมือนปราสาทที่สามารถมองเห็นได้ในมุมหนึ่งของท้องฟ้า แม้ว่ามันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตา แต่มันก็ดูเหมือนปราสาทขนาดใหญ่จริงๆ


 


“อ่า คุณพูดถูก ฉันเห็นบางตรงนั่น”


 


“ใช่. พวกเราจะมุ่งหน้าไปทางนั้นกัน!”


 


ไอลีน นำทีมเหมือนกัปตันผู้กล้าที่เธออยากเป็นมานาน


 


***********************************2*************************************


บทที่ 438 อาณาเขตของออร์เดน (2)


 


[หอคอยแห่งวีรบุรุษ]


 


หอคอยแห่งวีรบุรุษเป็นหอคอยขนาด 77 ชั้นที่สร้างขึ้นโดยสมาคม


เมื่อเทียบกับความสูงที่ยิ่งใหญ่อย่างไรก็ตามความกว้างของมันค่อนข้างเล็กอย่างน้อยก็จากด้านนอก อันที่จริงแล้วข้างในนั้นใหญ่กว่าหอคอยที่ปรากฏอยู่ด้านนอกมาก หอคอยแห่งวีรบุรุษ เป็นอาคารที่


โดดเด่นสร้างขึ้นด้วยเทคนิควิศวกรรมเวทมนต์ที่เรียกว่า


‘สถาปัตยกรรมการขยายตัว’


 


นั่นเป็นสาเหตุที่ชั้นหนึ่งของหอคอยใหญ่พอที่จะเก็บบ้าน 4-5 หลังได้


มีช่องว่างที่อยู่อาศัยแยกต่างหากสำหรับพนักงาน


 


“ศาสตราจารย์พลังเวทย์มาจากไหน”


 


ในหมู่พวกมันบ้านชั้น 33 ถูกกำหนดให้เป็นที่อยู่อาศัยของเด็กบางคน มันเป็นบ้านของ ยียูริ เด็กน้อยที่มีอำนาจในการรักษาเรียกว่า


‘หญิงสาวผู้มีพลังวิเศษ’


 


“เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเกิดขึ้นหลังจาก Outcall….”


 


15 ปีภายใต้การคุ้มครองอย่างเข้มงวดของสมาคมขณะนี้ได้รับบทเรียนส่วนตัวจากศาสตราจารย์ Cube


 


“แต่ฉันคิดว่าคำตอบนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอพึงพอใจ”


 


อาจารย์ส่งสำเนารายงานการวิจัยที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าให้เธอ


 


“โปรดดูนี่”


 


“โอ้นี่คือเอกสารชิ้นหนึ่งของเขาอีกแล้วงั้นเหรอ”


 


ศาสตราจารย์พยักหน้าให้ ยียูริ


 


“ใช่ มันซับซ้อนอย่างน่าเหลือเชื่อชัดเจนและมีรายละเอียด ฉันยังไม่อยากเชื่อว่านักเรียนอายุ 17 ปีเขียนผลงานชิ้นเอกเช่นนี้ออกมาได้”


 


“อ่า…ฉันเห็น.”


 


ยียูริ ยินดีรับกระดาษ อันที่จริงมีชื่อที่คุ้นเคยเขียนอยู่ด้านบน


 


[กำเนิดพลังเวทมนต์และหาทางเอาชนะ] – [Cube Class 1,


อันดับ 934, คิมฮาจิน]


 


ชื่อของเขาคือ ‘คิมฮาจิน’ อัจฉริยะที่มีความสำเร็จในทฤษฎีเวทมนต์ถูกบันทึกไว้ในตำรา ยียูริอ่านเอกสาร 5 ฉบับที่เขาเขียน พวกมันทั้งหมดอยู่ในวิชาที่แตกต่างกัน แต่สมบูรณ์แบบเท่าเทียมกัน


 


“ ‘คิมฮาจิน’ ฉันมองข้ามชื่อนี้ไปขณะเรียนหนังสือ”


 


ศาสตราจารย์ยิ้มเบาๆ “เช่นเดียวกันสำหรับนักเรียนที่ Cube เขาส่งบทความสอบทั้งหมด 23 เรื่องและบทความ 8 เรื่อง แต่ทั้งหมดได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่สำคัญ ปัจจุบันมีงานวิจัยทั้งหมด 8 ชิ้นที่อยู่บนพื้นฐานของเอกสารของที่เรียกว่า เอกสาร ฮาจิน”


 


“ว้าว…. ที่น่าตื่นตาตื่นใจ.”


 


“เขาเป็นนักเรียนที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยสอนมา”


 


ศาสตราจารย์ยิ้มขณะที่เขานึกถึงอดีตที่ไกลโพ้นในฐานะนักวิชาการ


ผู้ติดตามความจริงที่ลึกซึ้งเขาถือว่าคิมฮาจินเป็นตัวกระตุ้น คิมฮาจินเก่ง ฉลาดและมีพรสวรรค์แถมยังมีความคิดสร้างสรรค์….


 


ติ้งๆๆๆ


 


ทันใดนั้น smartwatch ของเขาก็ส่งเสียงบี๊บๆ ศาสตราจารย์มองไปที่ข้อความ


 


“อาดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ฉันจะออกไปซักพักแล้วดังนั้นโปรดอ่านกระดาษในระหว่างนี้ ฉันจะกลับมาไม่นานหรอก”


 


“ ได้คะ”


 


ศาสตราจารย์ออกไปและยียูริก็อ่านหนังสืออย่างตั้งใจ


 


“โอ้ …. “


 


ยิ่งเธออ่านกระดาษของ คิมฮาจิน มากเท่าไหร่เธอก็ชื่นชมมันมากขึ้นเท่านั้น เอกสารทางวิชาการไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิง แต่เอกสารของเขาดึงดูดเธอได้อย่างง่ายดายราวกับว่าเธอหลงใหลไปกับเวทมนตร์


 


ปัง –


 


ประตูเปิดอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นานและยียูริก็มองไปบนกระดาษ ศาสตราจารย์กลับมาแล้ว เขาสวมรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้าของเขา


 


“คุณ ยูริ มีข่าวดี”


 


“…คะ?”


 


“พ่อแม่ของเธอมาเยี่ยม เธอจะสามารถใช้เวลาที่เหลือของวันกับ


พวกเขาได้”


 


รอยยิ้มแผ่ไปทั่วใบหน้าของยี่ยูริ โดยปกติแล้วเธอเจอพวกเขาในทุกๆ


2 เดือน


 


“จริง-จริงเหรอ?”


 


“ใช่ แต่เธอจะได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวด เธออยากจะไปไหม”


 


“คะ! แน่นอน.”


 


ยูริรีบลุกขึ้นและเก็บข้าวของรวมทั้งเอกสาร จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่เธอโปรดปราน


 


“ตามฉันมา”


 


ศาสตราจารย์นำทางยูริพร้อมรอยยิ้ม ยูริตามศาสตราจารย์ไปที่ลิฟต์ที่ล็อคแน่นหนาบนชั้น 55


 


“ไปกันเถอะ”


 


“คะ…?”


 


หลังจากมาถึงหน้าลิฟต์แล้วยูริก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ สัญชาติญาณของเธอเตือนเธอให้ระวัง


 


เธอหยุดและมองไปรอบ ๆ


 


โดยปกติชั้นนี้จะเต็มไปด้วยทหารยาม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างไม่มี


พวกเขาอยู่ที่นี่ในวันนี้


 


“ขอโทษนะศาสตราจารย์ แต่ -!


 


ศาสตราจารย์จับมือยูริขณะที่เธอพยายามถอยกลับ เขาดึงเธอและพูดว่า “คุณควรตามฉันมาหากเธออยากมีชีวิตอยู่”


 


“อะไรนะ? ได้-โปรด”


 


ประตูลิฟต์ปิดและพวกเขาก็ลงมาที่ชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ศาสตราจารย์ลากยูริออกจากลิฟต์แม้ว่า Tower of Heroes จะอยู่ที่ ประตูควังฮวา แต่สิ่งที่ต้อนรับพวกเธอข้างนอกนั้นเป็นอะไรที่ว่างเปล่า


 


“ศาสตราจารย์ พวกเราอยู่ไหน”


 


“อย่ากลัวไปเลยตามฉันมา พวกเราจะไปพบพ่อแม่ของเธอ”


 


ศาสตราจารย์หรือเจนจับมือเธอแน่น ยียูริซึ่งตอนนี้สะอื้นเบาๆ


เจนพยายามพายูริไปที่หลบซ่อน


อย่างไรก็ตาม


 


“เธอจะไปที่ไหน ~”


 


มีเสียงปรากฏอย่างเงียบๆและหยุดเธอเอาไว้ เจนขมวดคิ้วเพราะการมาอย่างกะทันหันของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ


 


“สวัสดี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ. คุณเจนใช่ไหม?”


 


คนที่ทักทาย เจน คือ คิมจินวู นักล่าจาก Vast Expanse เจนจ้องมอง ไปที่เขาดวงตาของคิมจุนวูเหมือนหมาจิ้งจอกที่น่ากลัวเหมือนในอนิเมะ


แต่ตอนนี้มีพลังเวทมนต์ทำลายล้างที่อยู่ข้างกายของเจน


 


“ไง แกคือสุนัขรับใช้แห่ง Vast Expanse สินะ”


 


ชอคจุนกยอง พึมพำในขณะที่เขาก้าวมาข้างหน้าจากด้านหลังเจน


คิมจินวู ยิ้มให้เขา ใบหน้าของเขาโค้งทันที


 


“แกพูดถูกไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”


 


“…โอ้? ฉันจะจัดการไอ้บ้านี้เอง ดังนั้นเธอพาเด็กออกไป”


 


เจนพยายามทำตามที่เขาบอก


 


… แต่มีคนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ดินเปล่านี้


 


“เธอไม่สามารถไปจากที่นี่ได้”


 


ทันใดนั้นเสียงต่ำๆที่เปล่งออกมาและจากที่นั่นมีชายชราคนหนึ่งสวมเครื่องแบบออกมา ทั้ง ชอคจุนกยอง และ เจน แข็งตัวเมื่อเห็นชายชรา


 


“เด็กคนนั้นคือความหวังของฉัน”


 


Vast Expanse ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุดในสาขาอาชีพปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ชอคจุนกยอง จ้องมองไปที่ Vast Expanse แค่มอง ชอคจุนกยอง ก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นของจริง ผ่านไปไม่กี่นาทีในความเงียบงัน เจนถามอย่างระมัดระวัง


 


“…คุณมาแค่ 2 คนใช่ไหม”


 


คิมจุนวูพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เขาคิดว่าตัวเลขไม่สำคัญกับ


Vast Expanse ที่มีอยู่


 


“ว้ายยยย…. ดีเลย.”


 


เจนหายใจถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอมั่นใจมากขึ้นไม่นานเช่นเดียวกับ Vast Expanse กลุ่ม Chameleon Troupe เองก็ปรากฏตัวขึ้นจากความมืดทีละเงาที่มีอยู่มากมาย และไม่ใช่แค่คนเดียว


 


เจ้าของที่นั่งสีเงิน เกอิต้า


เจ้าของที่นั่งสีน้ำเงิน, ยูคยองฮวาน


เจ้าของที่นั่งสีน้ำตาล ฮิราโนะ อาราชิ


เจ้าของที่นั่งสีเขียว จินโยฮาน


เจ้าของที่นั่งของสีเขียวขุ่น เซนต์​ริน


เจ้าของที่นั่งฟ้า คาลิฟา


และสุดท้ายคือ เจ้าของที่นั่งสีขาว บอส


สมาชิกทั้งหมดของ Chameleon Troupe ยกเว้นแค่ 2 คนมารวมตัวและล้อมรอบชายทั้ง 2


 


“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า …. “


 


นี่เป็นความมั่นใจของผู้ชายที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดงั้นหรอ?


 


“พวกแกคงเป็น Chameleon Troupe มันนานมากแล้วที่ฉันไม่ได้สนุกแบบนี้”


 


แม้ว่าเขาจะถูกรายล้อมไปด้วยศัตรูที่แข็งแกร่งจำนวนมากแค่


Vast Expanse ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน


 


*************************************************************************


 


[อาณาเขตของ ออร์เดน]


 


ในขณะเดียวกันผมก็มาถึงใจกลางของแอฟริกากับสปาร์ตัน ผมเห็นอาณาเขตของออร์เดนในระยะไกล ผมศึกษาอาณาเขตจากระยะไกล


 


“…อะไรกัน?”


 


ตอนแรกผมสงสัยว่าผมมาถูกที่แล้วหรือยัง สิ่งต่างๆมากมากต่างจากสภาพดั้งเดิมของผม ผมจินตนาการถึงปราสาทเดี่ยวที่ยืนอยู่ตรงกลาง แต่ในสายตาของผมที่นี่เป็นดินแดนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกับดักและสิ่งกีดขวางรอบๆปราสาทที่ตกแต่งอย่างสวยงาม


 


“มันเปลี่ยนมากเกินไปหรือเปล่า”


 


ผมพึมพำในความสิ้นหวัง ‘เนื้อเรื่องเดิม’ ไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามีเพียงหูและตาของผมเท่านั้นพึ่งพาได้


 


“นี่มัน….”


 


ผมหายใจเข้าลึกๆและรวบรวมพลังเวทมนต์ของรอยสักมารอบดวงตาของผม ด้วยปรมจารย์นักแม่นปืน ขั้น 2 ดวงตาพันไมล์ของมันทำให้ผมเห็นภาพเต็มๆของ อาณาเขตของออร์เดน


 


‘ที่ที่น่าจะเจอปาร์ตี้ของไอลีนมากที่สุดก็คือ … ‘ อย่างที่ผมคิดตอนนี้มีสิ่งกีดขวางอยู่ในสายตาของผม


 


[บาเรียเวลา]


– สัปดาห์ภายในกำแพงนี้เท่ากับ 1 ชั่วโมงข้างนอก อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกภายในนั้นเพราะการไหลของพลังเวทมนต์และอากาศนิ่งสนิท


– ช่องสัญญาณฟรี แต่ส่งออกไม่ได้


– หากต้องการทำลายบาเรียนี้จำเป็นต้องใช้พลังที่เทียบเท่ากับหรือไม่ก็ปลดปล่อยเวทมนต์ที่ยิ่งใหญ่กว่าออกมา


 


นี่เป็นกับดักที่น่าสงสัยที่สุดจากกับดักทั้งหมดที่รุมล้อมอาณาเขตของ ออร์เดน แน่นอนว่าผมไม่ได้สนใจว่ากับดักนั้นเป็นยังไง ผมนำ


[กุญแจลึกลับ] ติดตัวมากับผมจากหอคอยเพื่อเตรียมตัวสำหรับสิ่งต่าง ๆ


 


“มาดูกัน….”


 


สายตาของผมทะลุผ่าน บาเรียเวลาอย่างง่ายดายและผมมองเข้าไปข้างใน ‘มีอะไรในนั้นไหม’ ผมพิจารณาอย่างใกล้ชิด


 


“…โอ้?”


 


ผมเจอ 3 คน ใบหน้าของพวกเขาสกปรกเสื้อผ้าของพวกเขาถูกฉีกขาดและจากกระดูกที่ยื่นออกมาของพวกเขาผมคาดว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานานแล้ว


 


ไอลีน, ชินจงฮัก และ จินเซยอน พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นั่น


 


– ฉันหิว….


 


ไอลีน พึมพำอย่างน่าสงสาร จินเซยอน มักจะปลอบโยน ไอลีน ตลอดเวลาแต่ตอนนี้แม้แต่เธอเองก็ดูเหมือนจะทนไม่ไหว


 


– …ฉันเองก็หิวเหมือนกัน


 


– …


 


ฮีโร่ทั้ง 3 คนนี้เป็นโครงกระดูกที่เกือบจะอดตายผมสงสัยว่าทำไมเป็นแบบนี้ ผมมองดูรอบๆบริเวณกว้างภายในบาเรีย ผมใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจ


 


“…ไม่มีอะไร.”


 


ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน ไม่มีหญ้าไม่มีสัตว์ไม่มีน้ำไม่มีอะไรเลย


 


– น้ำ น้ำ อาาาา…. น้ำ….


 


ออร์เดน รู้วิธีจัดการกับไอลีน ไอลีนนั้นแข็งแกร่งแต่วิธีจัดการกับคนที่แข็งแกร่งแบบเธอนั้นเรียบง่ายอย่างน่าประหลาดใจ แค่ไม่ต้องต่อสู้กับเธอ การต่อสู้โดยไม่ต้องต่อสู้ มันง่ายมาก และต้องขอบคุณผู้ที่ทรยศจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะจัดการพวกเธอ


อย่างไรก็ตามถ้าสิ่งนี้ถูกต้องพวกเขาอาจตายที่นี่ได้เลย


 


“สปาร์ตัน ไปเอาถุงอาหารจากที่บ้านมา”


 


– เจี๊ยบบบบบบบบบ


 


ผมส่ง สปาร์ตัน ไปและรอมันกลับมาหลังจากนั้น 3 นาทีพร้อมถุงที่เต็มไปด้วยอาหารและน้ำ ผมคว้าพวกมันและวิ่งไปที่บาเรีย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม