The Novel’s Extra 434-438
บทที่ 434 เป้าหมายเดียวกันแต่เส้นทางต่างกัน (2)
“ฉันคิดว่ามี 10 วิคเก็ชในโลกนี้ไม่ใช่ 9 ผู้คนพูดวันนี้ว่าชัยชนะต่อ
วิคเก็ชเหนือผู้อื่นทั้งหมด แต่ความคิดเห็นของฉันแตกต่างกัน สิ่งเลวร้ายที่สุดของ 10 ความชั่วร้ายคือ ‘ความเน่าเหม็น’ เสียงกลมกล่อมของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่เห็นได้ชัด “ ก็คือสมาคม”
ในทันทีใบหน้าของยูจินวอนก็กลายเปลี่ยนไป
“…คุณ. คุณจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ประธานทั้ง 7 ของสมาคมกำลังผละออกไปในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ใต้แสงแห่งความสำเร็จของชินมยองชุล อย่าเชื่อใจพวกมันที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อของ สุดยอดฮีโร่ ไม่นานพวกมันจะต้องถูกลากลงมาจากที่นั่งของพวกมัน” Vast Expanse พูดอย่างเคร่งขรึม
ยูจินวอง ถอนหายใจอย่างง่ายดาย Vast Expanse และ
ชินมยองชุล แม้แต่ยูจินวองก็ยังไม่ได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา สิ่งที่เขารู้ก็คือชินมยองชุลเป็นฮีโร่ที่ได้รับความเคารพจากฮีโร่ทุกคนซึ่งเคยมีบทบาทมาตั้งแต่ Outcall และ Vast Expanse เป็นผู้มาที่หลังซึ่งชื่นชม ชินมยองชุล มากกว่าใคร
Vast Expanse กล่าวต่ออีกว่า “มอบเด็กผู้หญิงให้ฉัน ฉันจะดูแลเธอ ฉันจะไม่ทิ้งสิ่งที่เป็นของฉันและฉันจะไม่ทำลายทรัพย์สินของฉัน
ฉันจะไม่เตะต้องเด็กจนกว่าพลังของเธอจะครบกำหนด”
“…แม้ว่าผมต้องการ….แต่มัน”
‘เขาดิ้นรั้นเกินไป’ ยูจินวอง คิดขณะที่เขาบ่นอย่างหดหู่
“หนึ่งในผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดของสมาคมคือแชจูชึล”
แชจูชึล
ทั้งมนุษย์และปีศาจต่างก็หวาดกลัวชื่อนี้ อิทธิพลของ แชจูชึล แข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
แต่…..
“ฮ่าๆๆๆ….”
Vast Expanse ส่งเสียงหัวเราะสบายๆ ยูจินวอง รู้สึกอิจฉาคำพูดที่ไหลออกมาจากปากของ Vast Expanse ในวินาทีถัดไปท่ามกลางเสียงหัวเราะ
“ฉันไม่กลัวแชจูชึล….ฉันยังไม่ได้บอกแหรอมีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันกลัว
มันก็คือ ‘ความแก่ชรา’ ….”
*************************************************************************
[อังกฤษ – ลอนดอน]
คำสั่งอพยพและการระดมกำลังได้รับการเผยแพร่ทั่วประเทศอังกฤษเนื่องจากมอนสเตอร์ในมหาสมุทรเริ่มโกรธแค้น ประชาชนต่างก็ได้รับการกระตุ้นให้อพยพออกจากแผ่นดิน ฮีโร่และกิลด์ได้รับคำสั่งให้มารวมตัวกันที่ชายฝั่ง เรเชล ‘หัวหน้า’ ของกิลด์ราชสำนักอังกฤษมาถึงช่องแคบแห่งอังกฤษพร้อมกับสมาชิกกิลด์ของเธอ
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง” เธอถาม
เจ้าหน้าที่ของรัฐตอบเรเชลอย่างจริงจัง “มอนสเตอร์ทะเลกำลังอาละวาดข้ามช่องแคบอังกฤษ แม้ว่าพวกเราจะได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์ลึกลับ แต่บาเรียและเขื่อนกันคลื่นก็อยู่ได้อีกไม่นาน”
แม่น้ำเทมส์ซึ่งไหลผ่านใจกลางกรุงลอนดอนนั้นปลอดภัยด้วย ‘Essence Barrier’ แต่ริมทะเลที่มอนสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่และจำนวนเยอะกำลังอาละวาดจนพวกเธอทำอะไรไม่ถูก ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ได้ละทิ้งเมืองหลวง ดับลินไปแล้ว
หนึ่งในเจ้าหน้าที่กำลังรายงานเมื่อจู่ๆ….
ตู้มมมมมมมมมมม
ไกลออกไปปลาดุกยักษ์ตัวหนึ่งสร้างสายน้ำเหนือผิวน้ำทะเล กระแสน้ำวนรวมกับกระแสน้ำที่รุนแรงและพลังเวทมนต์ขนาดมหึมาก็กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นที่วิ่งเข้าใส่ชายฝั่ง เรเชลดึงดาบของเธอไปเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากมอนสเตอร์ ธาตุน้ำปรากฎจาก
‘ดาบกาลาติน’
“วอเทอเติล หยุดมัน!”
ธาตุน้ำกลายเป็นนกพิราบลงไปในทะเลและสร้างกระแสน้ำใหม่ กระแส น้ำนี้หมุนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับพายุไต้ฝุ่นที่สร้างโดยปลาดุก
มันสะท้อนพายุไต้ฝุ่นขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายกับเมฆฝนทั่วไป
“ซันนี่,เอริท์,แฟรี่”
หลังหยุดการโจมตียังไม่เพียงพอ โดยการฆ่ามอนสเตอร์เท่านั้นที่จะสามารถยุติการต่อสู้ครั้งนี้ได้ เรเชลเรียกธาตุของเธอออกมา ตอนนี้
พวกมันโตเต็มที่แล้ว พวกมันยืนอย่างเข้มงวดและมองข้ามทะเลอย่างสง่างาม
“ทุกคนโปรดเตรียมพร้อม!”
เรเชลต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับฮีโร่ที่รวมตัวกัน
เธอวางแผนที่จะสั่งให้ วอเทอเติล ป้องกันการไหลของกระแสน้ำซันนี่และเอริท์กลายเป็นดินแดนใหม่และไฟลุกลามไปยังน้ำทะเลเพื่อให้
มอนสเตอร์ในทะเลที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ก้นมหาสมุทรออกมาจากนั้นฮีโร่และลูกธนู หอก ดาบ ลูกกระสุนปืนใหญ่ ต่างก็ระดมโจมตี
“วอเทอเติล … ?”
อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องให้ธาตุของเรเชลลงมือ
ตู้มมมมมมมมมมมมม-!
จากระยะไกลๆ อาวุธขนาดยักษ์ก็บินเข้ามาอย่างรวดเร็วพลังของมันเหนือยิ่งกว่าความเร็วที่ท่วมท้น ฮีโร่ ทุกคนมองย้อนกลับไปด้วยความงุนงง
อาวุธจำนวนนับไม่ถ้วนบินผ่านท้องฟ้า พวกมันบดขยี้ฝูงสัตว์ทะเลได้อย่างง่ายดาย มอนสเตอร์ไม่สามารถหลบหนีจากการโจมตีครั้งนี้ได้เลยแม้จะซ่อนอยู่ใต้น้ำ อาวุธประกอบไปด้วยพลังเวทมนต์ขนาดใหญ่สามารถไถผ่านน้ำทะเลได้อย่างง่ายดายและเด็ดหัวสัตว์ทะเลลง
เฟี๊ยวว-!
อาวุธเหมือนฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
‘ใครกับที่สามารถโจมตีแบบนี้ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส…?’ เรเชลหันกลับมามองสับสนก็ประหลาดใจ
“อา!”
อย่างที่คิด ชินซาฮยอค อยู่ที่นั่นชินซาฮยอค (ชื่อปลอมของจินซาฮยอค)เธอปลดปล่อยอาวุธที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนต์ออกมา
เรเชลไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่ถึงกระนั้น ชินซาฮยอค ก็เป็นกำลังเสริมที่ดีของกองกำลังพันธมิตร เรเชลตะโกนเสียงดัง
“เล็งไปที มอนสเตอร์ -!”
ฮีโร่ที่ได้รับการสนับสนุนจากความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของพันธมิตร
พวกเขาก็คำรามกึกก้องและเรเชลก็ทำในสิ่งที่เธอวางแผนไว้เกี่ยวกับธาตุของเธอ
“น้ำหายไปแล้ว! หัวหน้าทำให้ทะเลแห้ง!”
“โจมตีไปที่ สัตว์ทะเล ชายฝั่ง!”
“ตายซะ เจ้าพวกมอนสเตอร์ ตายๆห่าไปซะ….”
……3 ชั่วโมงหลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือด
เรเชล ต้อนรับ จินซาฮยอค ที่สำนักงานกิลด์ราชวงค์อังกฤษ
จินซาฮยอค นั่งต่อหน้าเรเชลแล้วมองไปรอบๆการตกแต่งภายในที่หรูหรา แต่สง่างามสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของเจ้าของ เรเชล
โค้งคำนับ จินซาฮยอค ก่อน
“ขอบคุณที่มาถึงอังกฤษแม้ว่าฉันจะไม่ได้ขอ”
“พอแล้ว”
จินซาฮยอค ขัดจังหวะเรเชลและโน้มตัวไปข้างหน้า ในท่านั้นเธอมองตรงไปที่เรเชล มันเป็นการสบตาที่ไม่คาดคิด
“… ?”
เมื่อเรเชลเงยหน้าของเธอด้วยความสับสนจินซาฮยอค ก็ยิ้มและพูดต่อ “จำจดหมายที่เธอให้ฉันครั้งล่าสุดได้ไหม”
“ …อ๊ะ ได้สิ”
ในที่สุดเรเชลก็มีความคิดคร่าวๆว่าการสนทนานี้จะเกิดขึ้นที่ใด
จินซาฮยอค อาจต้องการคำแนะนำของเธอเกี่ยวกับ คิมฮาจิน
…มันก็เป็นเพียงแค่นั้น แต่เรเชลรู้สึกไม่สบายราวกับว่ามีไฟไหม้ในท้องของเธอ จินซาฮยอค พูดอย่างใจเย็น
“ขอบคุณ เธอนะ ฉันนัดเจอเขาแล้ว”
“…อะไรนะ?”
ในขณะนั้นเองไหล่ของเรเชลสั่นไหวเล็กน้อย
“นะ-นัดเจอ? เธอนัดเจอเขางั้นเหรอ?”
“ใช่ ฉันคิดว่าฉันจะเจอเขาภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม….”
จินซาฮยอค ต่อเนื่องดูเรเชล ที่กำลังงงงวย
“คิมฮาจินชอบอะไร? ฉันอยากเตรียมของขวัญให้เขา”
เห็นได้ชัดว่านี่คือเจตนาที่จะกระตุ้นให้เรเชลโกรธ และมันก็ใช้ได้ดี
เรเชลสับสน จนไม่สามารถแม้แต่จะมองที่ไปหน้าของจินซาฮยอคได้
นิ้วที่บิดตัวไปมาของเธอและดวงตาสั่นไหวนั้นช่างน่าสงสาร
“ฉัน….ฉันไม่แน่ใจ….”
“อืม? ตัดสินจากเรื่องนี้ ฉันคิดว่าเธอเองก็ไม่ได้สนิท….-”
เรเชล ตัดประโยคก่อนที่จินซาฮยอคจะพูดจบประโยคของเธอ
ตัวเธอไม่ทราบว่าความอดทนของเธอหายไปไหนหมด
“นะ-หนังสือ เขาชอบหนังสือ”
“… หนังสือ?”
จินซาฮยอค ขมวดคิ้ว เธอคิดว่ามันยากที่จะเชื่อว่ามีผู้ชายที่ชอบหนังสือ
“ใช่. เธออาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ ฮาจิน เป็น Top ของชั้นเรียนของเขาในภาคทฤษฎีที่ Cube “
“อืม…จริงเหรอ? แล้วมันดีงั้นเหรอ?”
“มันไม่ใช่แค่ดี แต่มันน่าเหลือเชื่อ”
เรเชลพูดต่ออย่างเคร่งเครียด
“อาจารย์คนหนึ่งยกย่องเขาเป็นพิเศษเสมอโดยกล่าวว่าฮาจินจะได้รับรางวัลโนเบลหากเขามุ่งเน้นไปที่ทฤษฎีเท่านั้น ศาสตราจารย์คนนี้ก็ได้รับรางวัลโนเบลด้วยเช่นกัน”
“อืม…จริงเหรอ รางวัลโนเบลงั้นเหรอ….เอาล่ะฉันเข้าใจแล้วขอบคุณ มากนะ เธอช่วยได้มากเลยละ”
นั่นคือทั้งหมดที่เธอต้องการ ในตอนแรกเหตุผลที่เธอมาถึงที่นี่ก็เพื่อสังเกตว่าเจ้าหญิงผู้สง่างามคนนี้จะตอบสนองต่อการยั่วยุของเธอยังไง ตอนนี้ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายและเธอต้องการความบันเทิงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อจินซาฮยอค หันหลังกลับไปเธอได้ยินเสียงของเรเชลจากด้านหลัง
“คุณ ชินซาฮยอค”
“…อา?”
จินซาฮยอค หันไปหา เรเชล อีกครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าของเรเชลก็จริงจังใบหน้าของเธอแข็งกร้าวและกัดริมฝีปากแน่น เมื่อเห็นแบบนี้
จินซาฮยอค เกือบจะหัวเราะออกมา แต่เธอพยายามกลั้นตัวเองเอาไว้
เรเชล พูดกับ จินซาฮยอค ว่า “เนื่องจากคุณได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเขาในฐานะคนรู้จักกันได้โปรดอย่าสนุกกับเขามากละ ประเทศของฉันถือว่า คิม คุณคิมฮาจิน มีความสำคัญสูงสุดในด้านการทูต คุณฮาจิน เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคที่ Essential Dynamics และยังเป็น
สมาชิกของ Jeronimo……..”
คำเตือนที่สุภาพ แต่เข้มงวดของ เรเชล ยิ่งทำให้จินซาฮยอคขำ
“เฟนรีลมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลของเรา….ดังนั้น”
“จ้า..จ้า….ตกลง….ตกลง…..ฉันเข้าใจแล้ว”
จินซาฮยอค ตัดบนแล้วหันหลังกลับไป เธอรู้สึกได้ว่าเรเชลกำลัง
จ้องมองอยู่ด้านหลังเธอ
‘เธอเป็นคนที่แกล้งสนุกดีแฮะ’
“ฉันจะไปแล้ว”
การคุยกันครั้งนี้เป็นการเสียเวลาอย่างแท้จริง แต่จินซาฮยอค รู้สึกว่ามันคุ้มค่าเพราะเรเชลแสดงออกได้อย่างน่าสนใจ ตอนนี้อารมณ์เธอดีขึ้นกว่าเดิมมาก จินซาฮยอค ออกจากห้องทำงานของเรเชลเบาๆ
บทที่ 435 เป้าหมายเดียวกันเส้นทางที่ต่างกัน (3)
การประชุมกับ วิคเก็ช ดำเนินไปอย่างราบรื่น วิคเก็ชยืนยันว่าอำนาจของเธอในสังคมปีศาจในปัจจุบันไม่น้อยกว่าใครแน่ เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและความแข็งแกร่ง
“สมาคมบอกว่าพวกเขาจะปฏิบัติภารกิจในเดือนเมษายน กลางฤดูใบไม้ผลิ แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จ”
ผมเห็นด้วยภายในกับการประเมินของ วิคเก็ช ทีมลอบสังหารแรกที่
ก่อตั้งโดยสมาคมจะไม่สามารถฆ่าออร์เดนได้ จริงๆแล้วพวกเขาจะได้รับความสูญเสียอันยิ่งใหญ่จากผู้ทรยศในหมู่พวกเขา ปัญหาเดียวคือผมไม่เคยพูดถึงผู้ทรยศที่มีอยู่ในเนื้อเรื่องเดิม
ทุกอย่างจากจุดนี้ไป…เอาจริงๆผมที่เป็นคนแต่งจำได้แค่ว่าเขียนไปเพียงไม่กี่บรรทัดเกี่ยวกับทีมลอบสังหารแรกของสมาคมฮีโร่
ผมไม่รู้ว่านักเขียนงี่เง่าคนไหนที่เขียนเรื่องนี้ แต่ผมก็อยากให้เขาแต่มันออกมาดีๆ
“ดังนั้น พวกเราวางแผนที่จะรอพวกเขาและออกเดินทางไปในเดือนมิถุนายน หากพวกเขาฆ่าออร์เดนได้มันก็จะดีสำหรับพวกเรา แต่หากพวกเขาทำไม่ได้พวกเราจะต้องทำเอง”
“ใครเข้าร่วมทีมลอบสังหารบ้าง” บอสถามวิคเก็ช
บอสไม่สั่นไหวแม้แต่ต่อหน้าต่อหน้าวิคเก็ช บอสในตอนนี้มีความสามารถที่จะเผชิญหน้ากับ วิคเก็ช ได้อย่างทัดเทียม
“สมาชิกคนสำคัญของพวกเรา ผู้บริหารของ สังคมปีศาจ รวมถึง
คิมฮักเปียว,เทอร์โรว์ และลูกน้อง,ผู้ทำลายและลูกน้อง….”
ชื่อที่ วิคเก็ช บอกไว้นั้นเป็นปีศาจระดับ Top ทั้งนั้น
“ฉันไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยให้สัตว์ประหลาดนั้นยังมีชีวิตอยู่ ปีศาจ
คนอื่นๆเองก็คิดเช่นเดียวกัน ถ้า พอลคาส ยังมีชีวิตอยู่เขาคงจะลงมือด้วยตัวเองไปแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้บอสก็ขมวดคิ้ว “พอลคาส?”
“เธอเองก็คงเคยได้ยินเรื่องของเขาเช่นกัน พอลคาส เป็นมาร แชจูชึล ที่ตามล่า “ปกติปีศาจจะไม่พูดถึงชื่อมารถ้าไม่จำเป็นแต่เป็นเพราะ
พอลคาส ไม่ใช่มารที่เธอรับใช้ ปีศาจจะรับใช้มารที่แตกต่างและ
ที่วิคเก็ช รับใช้คือ ‘บาอัล’ ที่มีชื่อเสียง
“แล้วเธอว่าไงล่ะ? ฉันคิดว่าพวกเรามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าสมาคมฮีโร่นะ”
ปีศาจเป็นคนที่ทำสำเร็จในเนื้อเรื่องเดิม หลังจากความพ่ายแพ้ของสมาคมฮีโร่พวกเขาแทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรของออร์เดนและได้
ตัดแขนข้างหนึ่งของเขาลงมาพร้อมสังหารผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจำนวนนับไม่ถ้วน
แน่นอนหลังจากนั้นกลุ่มที่ตามมาก็จัดการต่อจนเสร็จ กลุ่มนั้นประกอบไปด้วย แชนายอน, ยียอนฮาน,เรเชล,ยุนซึงอา และ คิมซูโฮ ทำสำเร็จ
ในเนื้อเรื่องเดิม คิมซูโฮ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมลอบสังหารแต่แรกเนื่องจากสมาคมฮีโร่ต้องการให้เขาตรวจสอบหลังจากพิชิตหอคอยแห่งความปรารถนา แน่นอนว่าตอนนี้คิมซูโฮต่อสู้กับราชาปีศาจ เขาไม่สามารถคิดเกี่ยวกับเรื่องของออร์เดนได้
“ถ้าพวกเธอเข้าร่วมด้วย ฉัน วิคเก็ชจะยอมรับอำนาจของเธอในส่วนของ Pandemonium ที่เธอควบคุมอยู่ในปัจจุบัน”
คิ้วของบอสกระตุก มันเป็นข้อเสนอที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพราะปกติแล้ว
ปีศาจจะไม่ยุ่งกับปีศาจตนอื่นๆไม่ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะแย่แค่ไหน
“เป็นไง ฉันคิดว่ามันเป็นข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมเลยนะ” วิคเก็ช กล่าวขณะที่เธอหันมาสนใจผม ดวงตาของเธอตรวจสอบผม “ฉันชอบที่ดอกบัวดำทำลายการออกอากาศของออร์เดนนะ”
“… .”
มันเป็นคำชมทั่วไป แต่บอสก็ขมวดคิ้วอย่างไม่มีความสุข เธอจ้องมอง
วิคเก็ช และจ้องมองมาที่ผม
“แล้ว?” วิคเก็ชหันกลับมามองบอส
จากนั้นบอสก็มองมาที่ผม ผมพยักหน้าและบอสก็พยักหน้ารับคำถามของวิคเก็ช “…พวกเราจะเข้าร่วม แต่พวกเราจะไม่รับคำสั่งจากใคร” เธอประกาศกร้าว
ในตอนนั้นความคิดของผมก็คิดถึงเรื่องอื่นขึ้นมา Chameleon Troupe ได้เข้าร่วมทีมลอบสังหารของปีศาจในเนื้อเรื่องเดิมหรือเปล่านะ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่รับคำสั่งจากคนที่อ่อนแอกว่า! ใช่นั่นละถึงจะเป็น Chameleon Troupe!” วิคเก็ชหัวเราะในแบบที่ทำให้เข้าใจยากว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “ตอนนี้พวกเราก็ตัดสินใจได้แล้วสินะ!”
… 3 ชั่วโมงหลังจากการประชุม
Chameleon Troupe และ วิคเก็ช จากไปแล้ว แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของ วิคเก็ช ที่อยู่ในห้องประชุมไม่ได้ไปไหน ผู้บริหาร 6 คนถูกทิ้งไว้โดยไม่มีหัวหน้าและพวกเขาก็รวมตัวกันพร้อมเริ่มการสนทนา
“…เราจะปล่อยให้พวกเขาไปจริงๆเหรอ?” ผู้บริหารคนที่ 6 ของวิคเก็ช
ยีจุนฮานทำลายความเงียบงัน
“แกคิดว่ายังไงละ? ไอ้พวกนั้นขโมยของจากห้องนิรภัยส่วนตัวของฉัน!” ผู้บริหารคนแรกตะโกนอย่างโกรธเคือง
ปัง! เขายังกระแทกกำปั้นของเขาลงบนโต๊ะ
จริงๆแล้ว Chameleon Troupe ได้กำหนดกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมเมื่อพวกเขาเข้ายึดครอง Pandemonium แต่ปีศาจต้องทนทุกข์ทรมานกับการเสียผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปีศาจระดับสูงอย่าง
ผู้บริหารของ วิคเก็ช ผู้ซึ่งได้รับประโยชน์มากมายจากการทำงานกับ ผู้รับใช้ของซาตาน
“แต่บอสจะโกรธ….”
“ไม่ บอสต้องการแบบนี้เช่นกัน แกไม่รู้สึกเหรอ ลองนึกย้อนกลับไปดูว่าคนโง่ทั้ง 2 นั้นทำหน้าหยิ่งยโสแม้กระทั่งถอดเสื้อคลุมต่อหน้าบอส
บอสปล่อยไปเพราะสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเรา ไม่งั้นเธอจะไม่ลังเลเลยที่จะฆ่าพวกมัน”
ผู้บริหารเริ่มตีความความตั้งใจของ วิคเก็ช ด้วยตัวเอง พวกเขาอ้างว่าพวกเขารู้ว่า วิคเก็ช คิดยังไงและเธอต้องยินดีที่จะรู้ว่าพวกเขาฆ่าคนโง่ที่เย่อหยิ่งทั้ง 2 คนนั้น
“สมบูรณ์แบบ พวกเราจะฆ่าโจรเหล่านั้นในทันทีที่งานของเราเสร็จสิ้น” ผู้บริหารคนที่ 2 คือยุนยองฮานเสริมคำพูดของผู้บริหารคนแรก เคอร์เคน
“ไม่ ทำไมพวกเราไม่ฆ่าพวกมันก่อน ยังไงพวกเราก็สามารถจัดตั้งทีมลอบสังหารขึ้นมาใหม่ได้เสมอ”
“หืม…นั่นไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดีเลยนะ”
จากนั้นผู้บริหารคนที่ 4 Plaiun ก็พูดว่า “ทิ้งกับฉันไว้…. ”
“ปลาย ฉันบอกให้นายเรียนภาษาเกาหลีได้แล้ว นายจะใช้ชีวิตในยุคนี้ ยังไงถ้าไม่รู้ว่าจะพูดภาษาเกาหลียังไง”
“…ขอโทษที แต่ผมไม่ได้มีความสามารถในการพูด ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ทักษะการแปล ”
“…เพียงแค่พูดเป็นภาษาอังกฤษ ถ้านายจะผสมพวกมันเข้าด้วยกัน”
เคอร์เคน บน Plaiun แต่ก็แปลคำพูดของเขาให้คนอื่นๆฟัง เช่นนั้น
ผู้บริหาร 6 คนของ วิคเก็ช ก็ถึงบทสรุป ขณะที่พวกเขากำลังจะยกเลิกการประชุม …
“อืม… เคอร์เคน ฮยอน”
ยีจุงฮาน ผู้บริหารคนที่ 6 พูดอย่างระมัดระวัง
“อะไร.”
“แทนที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดทำไมพวกเราไม่ขายหน้าละ ทำให้เป็นแบบอย่างที่ดีจะได้ไม่มีใครทำเหมือนพวกนี้?”
“ขาย?”
“ชะ-ใช่แล้ว.”
เมื่อเห็นเคอร์เคนมีรอยย่นที่คิ้วของเขายีจุนฮานก็หัวเราะและพูดต่อ
“หนึ่งในนั้นมีรูปร่างค่อนข้าง … นายไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”
“ใคร? บอสของพวกนั้นเหรอ?” เคอร์เคนนึกถึงหัวหน้าของ Chameleon Troupe ที่ไม่แสดงท่าทางหวาดกลัวแม้แต่น้อยต่อหน้า วิคเก็ช
“ไม่ ไม่ใช่เธอ. เป็น….” ยีจุนฮาน ปล่อยเสียงไอแห้งๆ เขาเกาที่คอของเขาอย่างเชื่องช้าและจ้องไปที่ เคอร์เคน
Goosebumps พูดออกมาทันที “แกหมายถึง…ดอกบัวดำ”
“ผิวของเขาดูดี…แต่อย่าเข้าใจผิด มันไม่เหมือนที่ฉันต้องการ ฉันแค่คิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความอัปยศให้แก่พวกเขา….” ยี่จุนฮานน้ำลายไหลเมื่อเขาคิดหาข้อแก้ตัว Kirken ขมวดคิ้วด้วยความขยะแขยง ที่เห็น Yi Junghan น้ำลายไหล
“อืม … .”
การรักร่วมเพศไม่ใช่เรื่องผิดปกติในหมู่ปีศาจ ในความเป็นจริงมันได้รับการปฏิบัติเหมือนคนปกติ เคอร์เคน พยักหน้าโดยไม่คัดค้าน
“…ทำในสิ่งที่ฉกต้องการ”
“ฮ่าฮ่า ขอบคุณพี่ฮยอง”
ยีจุนฮานยิ้มอย่างสดใสและโค้งคำนับ
…ที่ห่างไกลมีคนแอบมองการสนทนาส่วนตัวของพวกเขา
“อะ-ไอ้บ้านั่น!”
ภายในห้องบัญชาการของเรือ Genkelope เรือ Captain โฮเนอร์ มีตะโกนกันอย่างดุเดือด เขาเฝ้าดูห้องประชุมในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับ
ผู้บัญชาการเรือและตอนนี้เขาก็ดีใจที่เขาไม่เหนื่อยเสียเปล่า
“ไอ้พวกโง่เขลา! พวกมันกล้าดูถูกผู้บัญชาการเรือของเรา!”
กัปตันผู้ใจเย็นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น โฮเนอร์หายใจเข้าลึกๆเพื่อ
พยายามใจเย็นลงมือของเขาสั่นด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็โทรออกไปทันที
– ครับ กัปตัน
“ร้อยโท เกิดเรื่องฉุกเฉิน”
[Alcatraz] คุกที่ผู้เล่น Tower of Wish กลัวที่สุด โฮเนอร์พูดกับร้อยโทของเรือที่อยู่ในความดูแลของเรือนจำแห่งนี้
“ฉันจะส่งรูปภาพของผู้เล่นไปให้ ติดตามพวกเขาและจับกุมพวกเขา
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่สำคัญว่าจะสูญเสียไปเท่าไรจับมันยัดข้อหาอะไรก็ได้ จะถ่มน้ำลายลงบนพื้น สูบบุหรี่บนถนน ต่อสู้อย่างสนุกสนาน…อะไรก็ได้แต่ต้องจับเจ้าอาชญากรรมนั้นมาให้ได้พวกมันเป็นกบฏ”
– …ผมขอถามว่าเกิดอะไรขึ้นได้ไหม?
“มันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของ ผู้บัญชาการเรือ Extra7”
ผู้หมวดซึ่งลังเลในตอนแรกกระโดดขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยิน
คำอธิบายของโฮเนอร์ เขาตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด
รับทราบ เข้าใจแล้วครับ!
“ให้พวกอาชญากรเหล่านี้เข้าคุกให้หมด”
อีก… 3 ชั่วโมงต่อมา
“อะ-อะไรกัน!? พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย! ”
“เอ่อ มันเกิดอะไรขึ้น! ”
“ปล่อยฉันไป! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร! ฉันชื่อเคอร์เคน! อย่านะฉัน…ฉันสามารถฝังพวกแกให้ทรมาณทั้งหมดในส่วนลึกของ-”
“เพิ่มโทษอีก 2 ปีสำหรับการต่อต้านการจับกุม”
“…เพิ่มอีก 2 ปี งั้นเหรอ?”
ประมาณปีศาจ 40 ตนถูกลากเข้าไปใน [Alcatraz Prison] ของ
เรือ Genkelope พวกเขาถูกตั้งข้อหาขัดขวางธุรกิจ ทั้งที่จริงๆเห็นได้ชัดว่าพวกเขาแค่คุยกันเสียงดังเกินไปในร้านอาหาร
************************************2************************************
บทที่ 436 เป้าหมายเดียวกันเส้นทางที่ต่างกัน (4)
ชั้น 30
“ช้าเกินไป.”
คำพูดของราชาปีศาจดังขึ้น คิมซูโฮพูดเบาๆขณะนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้น
“ดูเหมือนว่านายจนมุนแล้วนะ”
คิมซูโฮ แพ้ไปแล้ว 30 ครั้ง แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการทำให้ราชาปีศาจดึงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่แต่เขาก็ไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายในสภาพนั้นได้
คิมซูโฮมองไปที่ราชาปีศาจผู้ถอดชุดเกราะออก เขาไม่ได้สวมเกราะเพื่อการป้องกัน มันเป็นเพียงการจำกัด ความเร็วของเขา
ราชาปีศาจพูดว่า “อัศวิน เจ้าอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช”
ราชาปีศาจมีออร่าแห่งกษัตริย์ที่แท้จริงแม้คิมซูโฮจะไม่เชื่อเรื่องโหงวเฮ้ง ก็รู้ว่าชายตรงหน้าเขานั้นเป็นราชา ผิวของเขาซีดกว่ามนุษย์มากแต่ดวงตาและผมสีเข้มกว่า
“หากเจ้าไม่แสดงความก้าวหน้าออกมมาอีก ข้าจะไม่ยอมรับการท้าทายของเจ้าอีกแล้ว”
ราชาปีศาจ ทิ้งคำพูดนั้นไว้และหันหลังกลับไป เสื้อคลุมที่พลิ้วของเขาปกคลุมสายตาของคิมซูโฮ คิมซูโฮเดือดดาน เขารู้สึกอยากร้องไห้ดังนั้นเขาจึงหลับตาลง ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องเป็นความพ่ายแพ้ที่สิ้นหวังความสิ้นหวังอย่างต่อเนื่องมันคือกำแพงที่สูงเกินกว่าจะข้าม…การทำอะไรไม่ได้ซึมลึกเข้าไปในกระดูกของเขา เสียงบอกให้เขาเลิกปรากฏออกมาในจิตใจ
ในเวลาเดียวกันมีผู้คนมากมายปรากฏอยู่ใต้เปลือกตาปิดของเขา
พวกเขาเป็นคนที่เชื่อในตัวเขา ในบรรดาพวกเขาเป็น คิมฮาจิน และ
ยุนซึงอา ความไว้วางใจที่พวกเขามีต่อเขาผลักเขาให้ก้าวต่อไป
‘ฉันยอมแพ้ไม่ได้ ฉันยังไปต่อได้ สำหรับเพื่อนที่เชื่อใจในตัวฉัน…ฉันน่ะ’
เขาลุกร่างของเขาขึ้นมาอีกครั้ง
“…ฉันสามารถชนะได้”
แม้ว่าพลังเวทมนต์ของเขาจะหลั่งไหลออกมา มือของเขายังขยับได้ความแตกต่างของความแข็งแกร่งแค่ทำให้ขาและกระดูกซี่โครงหักมันเป็นสิ่งที่ถูกทำลายไม่ใช่ดาบของเขา ร่างกายของเขายังไหว ตราบใดที่เขายังมีดาบมันก็ยังคงอยู่ก็มีโอกาส ตราบใดยังมีโอกาสเขาจะไม่ยอมแพ้
“ฉันจะชนะ….”
ความแข็งแกร่งของดาบขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของอัศวิน ความเชื่อมั่นที่มากทำให้ดาบแข็งแก่รง คิมซูโฮ ยังคงเชื่อในคำพูดที่อาจารย์ของเขาเคยสอนเขามา
“… อืม.”
และแล้ว แม่มดก็เดินเข้าหาคิมซูโฮผู้ซึ่งอ้าปากค้างเพื่อหายใจ เธอยื่นกระเป๋าเล็กๆให้เขา
“นี่คือ…?”
“คู่ซ้อมของนายทิ้งไว้ให้นาย”
คิมซูโฮจ้องมองอย่างว่างเปล่า เขาจำสิ่งที่คิมฮาจินบอกเขาได้
‘เปิดสิ่งนี้เมื่อไม่เหลืออะไร มันจะช่วยนายได้มากเลยละ’
“ฉันคิดว่าคุณลืมมันไปแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของแม่มด คิมซูโฮ ก็ยิ้ม ‘ลืม? ฉันจะลืมสิ่งที่ฮาจินให้มาได้ยังไง ฉันไม่ได้ใช้เพราะฉันไม่อยากให้ตัวเองอ่อนแอลง ‘
“นี้ไม่ใช่เวลาที่นายต้องการความช่วยเหลือหรอกเหรอ?”
เสียงของ แม่มด ดังขึ้นกว่าปกติ
“อา….นั้นสินะ”
คิมซูโฮถอนหายใจออก หลังจากคิดถึงเรื่องนี้เขาก็เอื้อมมือไปข้างหน้าแล้วหยิบกระเป๋า มันเบา เขาไม่ได้สงสัยว่าอะไรอยู่ข้างใน แต่เมื่อพิจารณาว่ามาจากใครเขาก็หวังเอาไว้สูงมาก
ด้วยความเชื่อที่ฝังลึกของเขา เขาจึงค่อยๆเปิดกระเป๋าออกมา
“เอ๊ะ?”
ข้างในนั้นมีกระดาษ 3 ใบเหมือนคูปอง
[คูปองแต้ม]
[คูปองแต้ม]
[คูปองรวมพิเศษ]
************************************************************************
[เกาหลี – โซล]
หนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ทีมลอบสังหาร ออร์เดน ออกเดินทาง
– สมาคมฮีโร่เตรียมการสังหารออร์เดนเสร็จแล้ว ไอเท็มที่มีประสิทธิภาพจาก Tower of Wish ก็ถูกใช้อย่างเต็มกำลัง ….
ในขณะที่ดูทีวีผมก็นึกถึงคิมซูโฮขึ้นมา
“…เขาใช้มันหรือยังนะ”
ซูโฮน่าจะต่อสู้อย่างแลกเลือดกับราชาปีศาจ ผมไม่สงสัยเลยว่าราชาปีศาจในโลกนี้แข็งแกร่งกว่าที่ผมเคยเขียนอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ผมจึงเหลือ [คูปองแต้ม] และ [คูปองรวมพิเศษ] ให้กับ
คิมซูโฮ ซึ่งผมใช้ การตั้งค่า ทำให้มันเป็นจริง ผมไม่ต้องการให้พวกมันมีอิสระมากกว่านี้แต่ด้วยค่าสถานะตอนนี้ของคิมซูโฮคงยังไม่ไหวผมเลยได้แต่ต้องใช้วิธีนี้
พูดตามตรงผมไม่มีทางเลือกมากนัก
– ทีมลอบสังหารออร์เดนจะออกเดินทางในอีก 1 เดือน
ผู้ประกาศข่าวทางทีวีรายงานเกี่ยวกับทีมลอบสังหารออร์เดนของสมาคมฮีโร่ ‘1 เดือน’ ที่เขาพูดถึงนั้นไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเป็นชั้นเชิงกากๆ วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะออกเดินทางและผมจะต้องไปช่วยหญิงสาวคนนั้นในขณะที่พวกเขาฟุ้งซ่าน ….
– จินเซยอน, ไอลีน, ชินจงฮัก, อียองอา และฮีโร่ชื่อดังอื่นๆอีกมากมายเข้าร่วมในงานนี้
แต่คำพูดต่อไปของสมาคมทำให้ความคิดของผมหยุดนิ่ง ผมจ้องมองไปที่ทีวีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“…เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนนะ”
ความสงสัยเกิดขึ้นในหัวของผม เมื่อคิดถึงตอนนี้ไอลีนไม่เคยปรากฏตัวหลัง Arc ออร์เดน ในเนื้อเรื่องเดิม จินเซยอน เองก็ไม่ปรากฏตัวเช่นกันและอียองฮาเองก็เช่นกันเป็นเพราะผมเปลี่ยนไปมุ่งเน้นที่มุมมองของ คิมซูโฮ คิมซูโฮพ่ายแพ้ต่อออร์เดนและพันธมิตรของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นผมเองก็ไม่รู้เพราะผมก็มาที่นี่แล้ว
“นี้….”
ผมมองดู ไอลีน ที่กำลังยิ้มอย่างสดใสในทีวี ตัวละครที่ไม่ได้ปรากฏตัวในนิยาย…แม้ว่ามันจะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ต่างไปจากการตาย มันอาจจะเป็น…?
“งั้น เธอก็จะตายที่นี่?”
ขนลุกขึ้นมาบนร่างของผม ไม่มีตัวละครแม้แต่คนเดียวในหมู่พวกเขาที่จะต้องตาย พวกเขาทั้งหมดมีบทบาทสำคัญในการหยุดภัยพิบัติในอนาคต แต่อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนทรยศ เพราะผมไม่เคยเขียนมันไว้อย่างชัดเจน ผมเขียนในเนื้อเรื่องเดิมเพียงแค่ประโยคเดียวด้วยซ้ำ
“…คิมฮาจิน แกมันไอ้โง่”
ผมโทษตัวเองและจ้องมองไปที่ทีวี
– คุณ ไอลีน คุณมีอะไรที่อยากจะพูดไหม? ผมอยากให้พูดให้กำลังใจพวกเขา
– ให้กำลังใจ? งั้นพวกเราจะชนะแน่นอน จินเซยอน, อียองอา! พวกเธอเองก็มาพูดอะไรบางสิ
– ….อืม…คือผม อียองฮา ภรรยาของผมให้ผมไปดังนั้น…ผมรักคุณ ยองเฮ!
– เอ๊ะ หาาาา หยุดนะ!
จินเซยอน, ไอลีน, อียองอา และแม้แต่ ชินจงฮัก ทั้ง 4 คนเต็มไปด้วยพลังงาน
– ขอบคุณมากครับ นั่นคือ ปรมจารย์วาจาสิทธิ์ ไอลีน นั้นเอง
เมื่อนักข่าวสิ้นสุดการสัมภาษณ์ผมก็คิด เจน และ ชอคจุนกยอง น่าจะลักพาตัวหญิงสาวคนนี้กับพลังรักษามาได้แล้วแม้ว่าจะไม่มีผม
แต่ถ้าปาร์ตี้ของ ไอลีน อยู่ในช่วงวิกฤตชีวิตหรือความตายหากว่าความรู้สึกลางร้ายที่ผมมีเป็นเรื่องจริง คนเดียวที่สามารถช่วยพวกเขาได้ก็คือ…ผมเอง
“อ๊ะ .. ”
ผมทนไม่ไว้เลยหยิบ Desert Eagle ขึ้นมาจากนั้นผมก็ติดต่อบอสทันที
*************************************************************************
[Pandemonium ลานต่อสู้ – ห้องพักของ จินซาฮยอค]
“แม่งเอ้ย แก แกไอ้สวะ! ทำไมแกถึงมาทำกับฉันแบบนี้!”
จินซาฮยอค ด่าออกมาไม่หยดุ แน่นอนคนที่โดนค่าคือเบลล์ แต่เบลเพียงแค่ยักไหล่
“ทำไมละ กลัวฉันจะทรยศพวกเรางั้นเหรอ”
“…แกบ้าหรือเปล่า? ในที่สุดแกก็บ้าไปแล้วสินะ? แกก-!?”
จินซาฮยอค เป็นบ้าไปแล้วเพราะเบลล์ เบลล์เพิ่งประกาศว่าเขาจะเข้าร่วมทีมลอบสังหาร ออร์เดน ของ วิคเก็ช ที่ Chameleon เองก็มีส่วนร่วมเช่นกันและ เบลล์ รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาเจอกัน
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่น่าสะอิดสะเอียนของเบลล์ ก็ทำให้จินซาฮยอคโกรธจัด
เบลล์พูดออกมา “เธอเป็นคนที่เอาคริสตัลนั่นมาจากออร์เดนโดยไม่บอกฉันเองนะ”
“ …หาาาาา ฉันต้องขออนุญาตนายก่อนทุกอย่างงั้นเหรอ?”
จินซาฮยอค วางแผนที่จะย้อนกลับไปในอดีตกับคิมฮาจิน ด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถรู้ตัวตนของเขาได้ อย่างไรก็ตามเบลล์กำลังวางแผนที่จะ
ขัดขวางแผนการของเธอ
“ก็เอ้อ ซาฮยอค เธอรู้ไหมว่าตัวเธอสั่นเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา ฉันพนันได้เลยว่าเธอจะพูดติดอ่างตลอดเวลาเลยละ”
ในขณะนั้นไหล่ของจินซาฮยอคก็สั่นไหว อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเธอก็ตัวตรงทันที
“กะ- แกบ้าไปแล้วเหรอ แก-หมายถึงใคร ฉันเนี้ยนะพูดติดอ่าง!”
“…เธอฝันร้ายใช่มั้ย ฉันเห็นมัน ฉันถ่ายเก็บไว้ด้วยนะ ~อย่าทำอย่างนั้น ~ อย่าทำฉันเลยยย~”
เบลล์หัวเราะและฉายภาพโฮโลแกรมในอากาศ
จินซาฮยอค จ้องมองด้วยความเงียบงัน หน้าจอที่ทำจากพลังเวทมนต์แสดงวิดีโอโดนที่ตัวเธอไม่รู้ตัว
– ไม่หยุด. อย่าทำ…
– มันเจ็บนะไอ้บ้า…ไอ้สารเลว….
– ไม่นะ…มันเจ็บ…ฉัน…ขอร้องละ….
นี่อาจเป็นอีกทักษะหนึ่งของเบลล์ จินซาฮยอค คิดอะไรไม่ออกในตอนนี้
จิตใจของเธอว่างเปล่า ไม่สิมันเหมือนจะพังทลาย ไม่นานเธอก็ระเบิดออกมา การระเบิดปะทุขึ้นผ่านกะโหลกศีรษะของเธอและพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
“กะ…แก….”
จินซาฮยอค ตัดสินใจที่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของเธอ
“ไอ้เหี้ยยยยยย!”
เสียงคำรามสั่นโลกทั้งใบ หน้าต่างในห้องพักแตกและเฟอร์นิเจอร์ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ
“ฮ่าฮ่าฮ่ามีอะไรแปลก? ฉันคิดว่ามันน่ารักดี ถ้าเอามันให้กับคิมฮาจินเขาจะไม่เกลียดเธอเลย- ดีไม่ดีอาจจะชอบเธอก็ได้นะ’
“หุบปาก!”
หอกเวทมนต์พุ่งไปข้างหน้า เบลล์เปลี่ยนร่างกายของเขาเป็นพลังเวทย์อย่างสบายๆ ดังนั้นหอกของจินซาฮยอค จึงไม่สามารถแทงทะลุร่างของเขาได้
“… ?”
อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น แต่เบลล์สังเกตเห็นความเจ็บปวดหลั่งไหลเข้ามาก่อนที่หอกจะค่อยสลายไป ตอนแรกเขาคิดว่าเขาเข้าใจผิด แต่เขาคิดผิด
ฉึก
“อะไรกัน?”
เบลล์มองไปที่อาการบาดเจ็บที่ต้นขาของเขา จากนั้นเขาก็มองกลับไปที่
จินซาฮยอค เธอถูกครอบงำด้วยความโกรธและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ฉึก
มือของเขาถูกตัด คราวนี้มันลึกมาก
“อ้า…ฉันเข้าใจแล้ว”
เมื่อมองไปที่บาดแผลเบลล์ก็ยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะสังเกตจินซาฮยอค ได้ก้าวไปอีกระดับแล้ว
‘ดูเหมือนว่าความตายของฉันจะอีกไม่ไกลแล้วสินะ’
เบลล์รับการโจมตีของจินซาฮยอคด้วยความสุข ความเจ็บปวดที่เขาได้รับจากหอกค่อยๆผ่านร่างกายของเขาด้วยความปีติยินดี
“ดีดี…ดีมาก มากกว่านี้อีกสิ…”
เบลล์ ตะโกนด้วยความดีใจภายใต้ความเจ็บปวด
บทที่ 437 อาณาเขตของออร์เดน (1)
ฮีโร่กว่า 1,000 คนรวมตัวกันเพื่อต่อต้าน ออร์เดน ส่วนใหญ่เป็นฮีโร่ระดับสูงและอีกหลายคนเป็น Top ของวงการการโจมตีในตะวันออกกลางและยุโรปทำให้พวกเขาไม่มีเวลาอีกแล้ว ทีมฮีโร่ต่างก็ตรวจสอบโครงสร้างภายในของอาณาจักรออร์เดนแบ่งและ 1,000 ฮีโร่ออกเป็นทีมต่างๆและระบุวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแทรกซึมฐานศัตรู
“มาดูกัน….”
และในตอนนี้เองก็มีรถลีมูซีนเข้ามาที่แนวหน้า ไอลีน ซึ่งตอนนี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันของกองกำลังพิเศษกำลังมองเข้าไปในกระเป๋าวิเศษของเธอ
‘โพชั่นคุณภาพสูงรักษาอาการบาดเจ็บภายนอก’
‘โพชั่นคุณภาพสูงรักษาอาการบาดเจ็บภายใน’
‘โพชั่นพื้นฟูพลังเวทมนต์คุณภาพสูง’
‘โพชั่นพื้นฟูพลังงานคุณภาพสูง’
‘เต็นท์เวทมนต์’
‘เนื้อและอาหารต่างๆ’
ภายในบรรจุภัณฑ์มียา อาหารชั้นยอดและม้วนคำภีณ์กลับจุดที่กำหนดที่ผลิตโดย Essence Pharmacy ทั้งเต็นท์และเสบียงในกรณีที่เกิดการต่อสู้ยืดเยื้อ ไอเท็มที่จัดทำโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศและสมาคมเป็นเลิศอย่างแท้จริง
“ตอนนี้ฉันกำลังพูดถึง~”
ไอลีน ยิ้มในความพึงพอใจ แต่เธอกลับฟื้นคืนความสงบอย่างรวดเร็วในฐานะกัปตันของกองเรือรบพิเศษและมองดูสมาชิกของทีม
“ทุกคนตรวจสอบอุปกรณ์แล้วหรือยัง?”
จินเซยอน, อียองฮา, ชินจงฮัก และ ซอยองจี ฮีโร่ระดับสูงทั้ง 4 คนของทีม ไอลีน ทำการตรวจสอบข้าวของพวกเขา
“ใช่ ฉันตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างครบ”
“ฉันมีหมดแล้ว”
“ฉันด้วย~”
ไอลีนพยักหน้าอย่างใสซื่อ
“โอเค ดีมาก. กัปตันของพวกเธอ พอใจมาก”
ขณะที่เธอพูดเธอเหลือบมอง SmartWatch ที่จัดทำโดยสมาคมสรุปการทำงานของพวกเขา
[ก่อนอื่นเดินทางไปที่Portalใต้ดินในอียิปต์ซึ่งเป็นPortalที่ใกล้ที่สุดกับราชอาณาจักรของ ออร์เดน เมื่อคุณมาถึงคุณจะเข้าไปที่นั้นทันทีโดยใช้ ‘เทเลพอร์ต’ ของ ไอลีน ไม่ยากเท่าไรเพราะพวกเราได้ตรวจสอบโครงสร้างภายในโดยใช้โดรนแล้ว]
ดิ้งๆๆๆๆๆๆๆ—
ไอลีน ได้รับข้อความขณะที่เธอกำลังอ่านรายละเอียดในหัวของเธอ
ผู้ส่งคือ ยุนซึงอา ผู้นำทีมจู่โจมที่ 3
– พี่สาว พี่จะไปทางไหน
ยุนซึงอามีส่วนร่วมในการดำเนินงานในฐานะหัวหน้ากิลด์ของผู้รังสรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เธอไม่ได้อยู่ในหน่วยเฉพาะกิจพิเศษเช่นไอลีน แต่เป็น
ทีมปกติพร้อมด้วยฮีโร่ประมาณ 1 โหลจากผู้รังสรรค์ศักดิ์สิทธิ์
– แผนถูกวางเอาไว้แล้ว ฉันไม่สามารถบอกเธอได้
– …ดู พี่สิทำตัวเหมือนกัปตันเลยนะ
ไอลีน ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็พิมพ์คำตอบด้วยความพยายามของเธอ
– ฉันเป็นกัปตันเสมอ
“พวกเรามาแล้ว”
ในขณะนั้นเองรถลีมูซีนก็หยุด ไอลีน มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นว่าพวกเขาอยู่ตรงหน้าประตูทางทหาร เธอมองใบหน้าของสมาชิกในทีมและสั่งพวกเขาด้วยเสียงหนักแน่น
“ไปกันเถอะทุกคน”
“รับทราบ”
“เอาล่ะนะ”
กองรบประกอบไปด้วยฮีโร่ 5 คนได้ออกมาจากรถลีมูซีน ไอลีนเหยียดขาลงจากรถลีมูซีน
เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอดังก้องกังวานอย่างงดงาม ไอลีนเดินราวกับว่าเธออยู่บนเวทีเวลารอบตัวเธอช้าลง เพลงที่ยิ่งใหญ่และสง่างามดังก้องอยู่ในหูของเธอ เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของทุกคนแม้จะเผชิญกับการต่อสู้เธอก็ไม่กลัว เธอเดินด้วยความดีใจนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานของ ปรมจารย์วาจาสิทธิ์ ไอลีน นั้นเอง….
“…หืมมม”
“อะแฮ่ม”
“อา สภาพอากาศดีจังเลยยยย”
ทีมพยายามกลั่นหัวเราะสุดตัว ไอลีนตัวเล็กและน่ารักจริงๆแล้วก็ตลกดี
โชคดีที่พวกเขาสามารถไปถึงหน้าประตูได้โดยไม่หัวเราะ
“ทำความเคารพ~! นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับท่าน!”
ทหารที่รับผิดชอบทำความเคารพ ไอลีนพยักหน้าอย่างจริงจัง
“แน่นอน นี่คือ Portal เหรอ”
“ใช่ ประตูนี้เชื่อมโยงกับอุโมงค์ใต้ดินในอียิปต์ ครั้งล่าสุด ViP ชาวอียิปต์ใช้มันเพื่ออพยพ อย่างไรก็ตามอย่างที่คุณทราบระยะห่างระหว่างไคโรและออร์เดนนั้นไกลมาก”
แม้ว่าแอฟริกาจะกลายเป็นดินแดนแห่งอสูรแค่ไม่ใช่ทั้งหมดมีการรวบรวมข้อมูลกับมอนสเตอร์ มอนสเตอร์ในแอฟริกาต่อสู้กันเองและกินกันเองทำให้เหลือที่อยู่อาศัยเพียงไม่กี่แห่งทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์
“…ฮีโร่ส่วนใหญ่จะใช้ทางนี้เพื่อเข้าสู่อาณาจักรของออร์เดน”
“แต่พวกเราไม่ต้อง”
แต่ไม่ใช่กับไอลีน
“ในตอนแรกเหตุผลที่มีการจัดตั้งกองกำลังนี้คือเพื่อให้พวกเราสามารถแทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรของออร์เดนก่อนทุกคนจะส่งข้อมูลภายในและระเบิดสถานที่สำคัญๆ”
ไอลีน จงใจพูดเสียงต่ำ แต่แน่นอนการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ชัดเจนมากนัก
“พวกเราจะเข้าสู่ Portal จากนั้นเดินทางไปยังอาณาจักรของออร์เดนโดยใช้ทักษะของฉัน ‘เทเลพอร์ต’”
“…จะเป็นไรไหม”
ระยะห่างระหว่างอียิปต์และดินแดนของ ออร์เดน ที่ใจกลางของทวีปแอฟริกาคือระยะทางกว่า 10,000 กม. ถึงกระนั้นไอลีนก็ยังยิ้มให้กับทหารที่กังวล
“ฉันไอลีนเป็นกัปตันของหน่วยเฉพาะกิจ งานแรกของฮีโร่พันธมิตรถ้าทำไม่ได้ฉันก็ไม่มีคุณสมบัติเป็นกัปตัน”
“…อ๊ะ แน่นอนๆ คุณน่าทึ่งมากๆ”
ไอลีนและทหารดูเหมือนจะเข้าใจกันทหารมองไอลีนด้วยความเคารพและความกลัว ไอลีนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“เริ่มจาก Portal กันเถอะ”
“ใช่ๆ.”
วิ้งงงงงงงงงงงงงงงด้วยเสียงแห่งพลังเวทย์มนตร์และกระแสไฟฟ้าที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน Portal จึงเชื่อมโยงกับอุโมงค์ใต้ดินที่ห่างไกลในอียิปต์ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ Portal ไอลีนพยักหน้าเบาๆให้กับทหาร
มันเป็นการแสดงออกถึงความสุภาพ ทหารตอบด้วยการทักทายอย่างสุภาพ
“ทำความเคารพ~! คุณ ไอลีน หัวหน้าหน่วยรบพิเศษแห่งแรกของ พันธมิตร ผมขออธิษฐานให้คุณ!”
“…แน่นอน. แล้วฉันเองก็อยากจะรู้ชื่อของคุณเช่นกัน”
“ผมเป็นพันเอก คิมหวังโฮ”
“ผู้พัน หวังโฮ….เป็นชื่อที่ดี”
ทันใดนั้นใบหน้าของไอลีนก็แน่วแน่ พันเอกหวังโฮมองไปที่ไอลีนและ
ไอลีนก็พูดอีกครั้งด้วยเสียงเบาๆ “ถ้าพวกเราส่งสัญญาณให้ปิด Portal นี้ทันที พวกเราไม่สามารถให้ข้าศึกใช้ประโยชน์ได้หากการปฏิบัติการนี้ล้มเหลว”
“อะไรนะ?”
“อย่างที่ฉันพูด ฉันเป็นไอลีนกัปตันหน่วยเฉพาะกิจ แรกของ
สมาคมฮีโร่….”
สมาชิกใหม่ ซอยองจี ดูสับสนเล็กน้อยเมื่อฟังการสนทนา
“เธอเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เธอเป็นแฮะ”
“…ไม่….ไม่ใช่ “
จินเซยอน แสดงความไม่พอใจอย่างมากออกมา
“เธอหมกมุ่นอยู่กับชื่อเสียงของเธอในตอนนี้ เธอคิดมากเกินไป”
อียองฮาพยักหน้า
“เธอจะทำเรื่องให้มันยุ่งยากมากขึ้น…”
การพูดคุยเล็กๆของพวกเขาดำเนินไปอย่างไร้จุดหมายทันใดนั้นไอลีนก็เรียกพวกเขาจากระยะไกลหลังจากที่เธอพูดกับพันเอกเสร็จ
“เฮ้ ทีม!”
“ว่าไง.”
“พวกเราจะเริ่มภารกิจแล้ว ตอนนี้ทุกคนพร้อมหรือยัง -!”
“…เอ่อ แน่นอน”
“คำตอบของพวกเธอแย่มาก-! อีกครั้ง!”
ไอลีนตะโกน ‘…เดาสิว่าพวกเราจะต้องเล่นตามน้ำสินะ’ สมาชิกทั้ง 4 คิดในขณะที่พวกเขายืดตัวขึ้นตามสัญญาณของจินเซยอน
“””รับทราบ! พวกเราพร้อมแล้ว!”””
“ดีมาก. ตอนนี้ ฉันจะเรียกครั้งสุกท้าย”
“…ฮะ? แต่พวกเรามีแค่ 4 คนเองนะ”
“จุ๊ๆ พวกเราต้องทำแบบในหนังที่ฉันดูสิ พวกเราเองก็ทำได้เช่นกัน”
“…”
และดังนั้นการเริ่มประกาศตัวจึงเริ่มขึ้น
ชินจงฮัก ขั้นกลาง ระดับ สูง 1
ซอยองจิน ขั้นสูง ระดับ 7
จินเซยอน ปรมจารย์
วิหารแห่งความยุติธรรม อียองฮา
“ทุกคน. ตอนนี้พวกเราเข้าสู่ Portal กันเถอะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ ไอลีน ก็พาทีมข้าม Portal
*************************************************************************
[อาณาเขตของ ออร์เดน]
หน่วยรบพิเศษแห่งแรกของสมาคมฮีโร่เดินทางมาถึงในอัฟริกากลางซึ่งเป็นดินแดนของออร์เดนไม่นานผ่านการเทเลพอร์ตของไอลีน
“ยากมากจริงๆ… “
เทเลพอร์ตครอบคลุมระยะทางไกลสุดขีด ไอลีนผู้เคยใช้พลังเวทมนต์มามากมายในครั้งเดียวสั่นไหวด้วยอาการวิงเวียนศีรษะ อียองฮา จับเธอขณะที่เธอล้มลงและจากนั้นในที่สุดไอลีนก็มองไปรอบๆ
“…หืออะไรกัน พวกเราอยู่ไหน”
“…”
ไอลีนเองก็สับสนเหมือนกัน ดินแดนของ ออร์เดน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเหมือนที่พวกเขาจินตนาการ
“ ทำไมมียางมะตอยในแอฟริกา?”
ชินจองฮัก พึมพำในความงุนงง เขาคิดว่าจะมีทะเลทราย แต่มันแทนที่ด้วยถนนที่ถูกปกคลุมด้วยยางมะตอยเหมือนในเมืองมนุษย์ ไม่มีร่องรอยของธรรมชาติเช่นหญ้าหรือต้นไม้ ฉากด้านหน้าของพวกเขานั้นแตกต่างจากที่ทีมพันธมิตรตรวจสอบโดยดาวเทียมและโดรนมาก
“หัวหน้าพิกัดถูกต้องมั้ย”
จินเซยอน ถามและ ไอลีนก็พยักหน้าโดยไม่ลังเล
“แน่นอน เธอคิดว่าฉันจะผิดพลาดจริงๆเหรอ?”
ไอลีน มอง smartwatch ของเธออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ พิกัดถูกต้องแน่นอน พวกเขาอยู่ในสถานที่ที่นัดหมาย
“…ก่อนอื่นฉันคิดว่าพวกเรามาถูกแล้ว เอ่อฉันหมายถึง…พวกเรามาถึงปลายทางที่ถูกต้องแล้ว โอ้ดูนั่นสิ!”
ทันใดนั้นไอลีนก็ชี้ไปไกล มันดูเหมือนปราสาทที่สามารถมองเห็นได้ในมุมหนึ่งของท้องฟ้า แม้ว่ามันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตา แต่มันก็ดูเหมือนปราสาทขนาดใหญ่จริงๆ
“อ่า คุณพูดถูก ฉันเห็นบางตรงนั่น”
“ใช่. พวกเราจะมุ่งหน้าไปทางนั้นกัน!”
ไอลีน นำทีมเหมือนกัปตันผู้กล้าที่เธออยากเป็นมานาน
***********************************2*************************************
บทที่ 438 อาณาเขตของออร์เดน (2)
[หอคอยแห่งวีรบุรุษ]
หอคอยแห่งวีรบุรุษเป็นหอคอยขนาด 77 ชั้นที่สร้างขึ้นโดยสมาคม
เมื่อเทียบกับความสูงที่ยิ่งใหญ่อย่างไรก็ตามความกว้างของมันค่อนข้างเล็กอย่างน้อยก็จากด้านนอก อันที่จริงแล้วข้างในนั้นใหญ่กว่าหอคอยที่ปรากฏอยู่ด้านนอกมาก หอคอยแห่งวีรบุรุษ เป็นอาคารที่
โดดเด่นสร้างขึ้นด้วยเทคนิควิศวกรรมเวทมนต์ที่เรียกว่า
‘สถาปัตยกรรมการขยายตัว’
นั่นเป็นสาเหตุที่ชั้นหนึ่งของหอคอยใหญ่พอที่จะเก็บบ้าน 4-5 หลังได้
มีช่องว่างที่อยู่อาศัยแยกต่างหากสำหรับพนักงาน
“ศาสตราจารย์พลังเวทย์มาจากไหน”
ในหมู่พวกมันบ้านชั้น 33 ถูกกำหนดให้เป็นที่อยู่อาศัยของเด็กบางคน มันเป็นบ้านของ ยียูริ เด็กน้อยที่มีอำนาจในการรักษาเรียกว่า
‘หญิงสาวผู้มีพลังวิเศษ’
“เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเกิดขึ้นหลังจาก Outcall….”
15 ปีภายใต้การคุ้มครองอย่างเข้มงวดของสมาคมขณะนี้ได้รับบทเรียนส่วนตัวจากศาสตราจารย์ Cube
“แต่ฉันคิดว่าคำตอบนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอพึงพอใจ”
อาจารย์ส่งสำเนารายงานการวิจัยที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าให้เธอ
“โปรดดูนี่”
“โอ้นี่คือเอกสารชิ้นหนึ่งของเขาอีกแล้วงั้นเหรอ”
ศาสตราจารย์พยักหน้าให้ ยียูริ
“ใช่ มันซับซ้อนอย่างน่าเหลือเชื่อชัดเจนและมีรายละเอียด ฉันยังไม่อยากเชื่อว่านักเรียนอายุ 17 ปีเขียนผลงานชิ้นเอกเช่นนี้ออกมาได้”
“อ่า…ฉันเห็น.”
ยียูริ ยินดีรับกระดาษ อันที่จริงมีชื่อที่คุ้นเคยเขียนอยู่ด้านบน
[กำเนิดพลังเวทมนต์และหาทางเอาชนะ] – [Cube Class 1,
อันดับ 934, คิมฮาจิน]
ชื่อของเขาคือ ‘คิมฮาจิน’ อัจฉริยะที่มีความสำเร็จในทฤษฎีเวทมนต์ถูกบันทึกไว้ในตำรา ยียูริอ่านเอกสาร 5 ฉบับที่เขาเขียน พวกมันทั้งหมดอยู่ในวิชาที่แตกต่างกัน แต่สมบูรณ์แบบเท่าเทียมกัน
“ ‘คิมฮาจิน’ ฉันมองข้ามชื่อนี้ไปขณะเรียนหนังสือ”
ศาสตราจารย์ยิ้มเบาๆ “เช่นเดียวกันสำหรับนักเรียนที่ Cube เขาส่งบทความสอบทั้งหมด 23 เรื่องและบทความ 8 เรื่อง แต่ทั้งหมดได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่สำคัญ ปัจจุบันมีงานวิจัยทั้งหมด 8 ชิ้นที่อยู่บนพื้นฐานของเอกสารของที่เรียกว่า เอกสาร ฮาจิน”
“ว้าว…. ที่น่าตื่นตาตื่นใจ.”
“เขาเป็นนักเรียนที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยสอนมา”
ศาสตราจารย์ยิ้มขณะที่เขานึกถึงอดีตที่ไกลโพ้นในฐานะนักวิชาการ
ผู้ติดตามความจริงที่ลึกซึ้งเขาถือว่าคิมฮาจินเป็นตัวกระตุ้น คิมฮาจินเก่ง ฉลาดและมีพรสวรรค์แถมยังมีความคิดสร้างสรรค์….
ติ้งๆๆๆ
ทันใดนั้น smartwatch ของเขาก็ส่งเสียงบี๊บๆ ศาสตราจารย์มองไปที่ข้อความ
“อาดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ฉันจะออกไปซักพักแล้วดังนั้นโปรดอ่านกระดาษในระหว่างนี้ ฉันจะกลับมาไม่นานหรอก”
“ ได้คะ”
ศาสตราจารย์ออกไปและยียูริก็อ่านหนังสืออย่างตั้งใจ
“โอ้ …. “
ยิ่งเธออ่านกระดาษของ คิมฮาจิน มากเท่าไหร่เธอก็ชื่นชมมันมากขึ้นเท่านั้น เอกสารทางวิชาการไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิง แต่เอกสารของเขาดึงดูดเธอได้อย่างง่ายดายราวกับว่าเธอหลงใหลไปกับเวทมนตร์
ปัง –
ประตูเปิดอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นานและยียูริก็มองไปบนกระดาษ ศาสตราจารย์กลับมาแล้ว เขาสวมรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้าของเขา
“คุณ ยูริ มีข่าวดี”
“…คะ?”
“พ่อแม่ของเธอมาเยี่ยม เธอจะสามารถใช้เวลาที่เหลือของวันกับ
พวกเขาได้”
รอยยิ้มแผ่ไปทั่วใบหน้าของยี่ยูริ โดยปกติแล้วเธอเจอพวกเขาในทุกๆ
2 เดือน
“จริง-จริงเหรอ?”
“ใช่ แต่เธอจะได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวด เธออยากจะไปไหม”
“คะ! แน่นอน.”
ยูริรีบลุกขึ้นและเก็บข้าวของรวมทั้งเอกสาร จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่เธอโปรดปราน
“ตามฉันมา”
ศาสตราจารย์นำทางยูริพร้อมรอยยิ้ม ยูริตามศาสตราจารย์ไปที่ลิฟต์ที่ล็อคแน่นหนาบนชั้น 55
“ไปกันเถอะ”
“คะ…?”
หลังจากมาถึงหน้าลิฟต์แล้วยูริก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ สัญชาติญาณของเธอเตือนเธอให้ระวัง
เธอหยุดและมองไปรอบ ๆ
โดยปกติชั้นนี้จะเต็มไปด้วยทหารยาม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างไม่มี
พวกเขาอยู่ที่นี่ในวันนี้
“ขอโทษนะศาสตราจารย์ แต่ -!
ศาสตราจารย์จับมือยูริขณะที่เธอพยายามถอยกลับ เขาดึงเธอและพูดว่า “คุณควรตามฉันมาหากเธออยากมีชีวิตอยู่”
“อะไรนะ? ได้-โปรด”
ประตูลิฟต์ปิดและพวกเขาก็ลงมาที่ชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ศาสตราจารย์ลากยูริออกจากลิฟต์แม้ว่า Tower of Heroes จะอยู่ที่ ประตูควังฮวา แต่สิ่งที่ต้อนรับพวกเธอข้างนอกนั้นเป็นอะไรที่ว่างเปล่า
“ศาสตราจารย์ พวกเราอยู่ไหน”
“อย่ากลัวไปเลยตามฉันมา พวกเราจะไปพบพ่อแม่ของเธอ”
ศาสตราจารย์หรือเจนจับมือเธอแน่น ยียูริซึ่งตอนนี้สะอื้นเบาๆ
เจนพยายามพายูริไปที่หลบซ่อน
อย่างไรก็ตาม
“เธอจะไปที่ไหน ~”
มีเสียงปรากฏอย่างเงียบๆและหยุดเธอเอาไว้ เจนขมวดคิ้วเพราะการมาอย่างกะทันหันของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“สวัสดี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ. คุณเจนใช่ไหม?”
คนที่ทักทาย เจน คือ คิมจินวู นักล่าจาก Vast Expanse เจนจ้องมอง ไปที่เขาดวงตาของคิมจุนวูเหมือนหมาจิ้งจอกที่น่ากลัวเหมือนในอนิเมะ
แต่ตอนนี้มีพลังเวทมนต์ทำลายล้างที่อยู่ข้างกายของเจน
“ไง แกคือสุนัขรับใช้แห่ง Vast Expanse สินะ”
ชอคจุนกยอง พึมพำในขณะที่เขาก้าวมาข้างหน้าจากด้านหลังเจน
คิมจินวู ยิ้มให้เขา ใบหน้าของเขาโค้งทันที
“แกพูดถูกไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“…โอ้? ฉันจะจัดการไอ้บ้านี้เอง ดังนั้นเธอพาเด็กออกไป”
เจนพยายามทำตามที่เขาบอก
… แต่มีคนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ดินเปล่านี้
“เธอไม่สามารถไปจากที่นี่ได้”
ทันใดนั้นเสียงต่ำๆที่เปล่งออกมาและจากที่นั่นมีชายชราคนหนึ่งสวมเครื่องแบบออกมา ทั้ง ชอคจุนกยอง และ เจน แข็งตัวเมื่อเห็นชายชรา
“เด็กคนนั้นคือความหวังของฉัน”
Vast Expanse ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุดในสาขาอาชีพปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ชอคจุนกยอง จ้องมองไปที่ Vast Expanse แค่มอง ชอคจุนกยอง ก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นของจริง ผ่านไปไม่กี่นาทีในความเงียบงัน เจนถามอย่างระมัดระวัง
“…คุณมาแค่ 2 คนใช่ไหม”
คิมจุนวูพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เขาคิดว่าตัวเลขไม่สำคัญกับ
Vast Expanse ที่มีอยู่
“ว้ายยยย…. ดีเลย.”
เจนหายใจถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอมั่นใจมากขึ้นไม่นานเช่นเดียวกับ Vast Expanse กลุ่ม Chameleon Troupe เองก็ปรากฏตัวขึ้นจากความมืดทีละเงาที่มีอยู่มากมาย และไม่ใช่แค่คนเดียว
เจ้าของที่นั่งสีเงิน เกอิต้า
เจ้าของที่นั่งสีน้ำเงิน, ยูคยองฮวาน
เจ้าของที่นั่งสีน้ำตาล ฮิราโนะ อาราชิ
เจ้าของที่นั่งสีเขียว จินโยฮาน
เจ้าของที่นั่งของสีเขียวขุ่น เซนต์ริน
เจ้าของที่นั่งฟ้า คาลิฟา
และสุดท้ายคือ เจ้าของที่นั่งสีขาว บอส
สมาชิกทั้งหมดของ Chameleon Troupe ยกเว้นแค่ 2 คนมารวมตัวและล้อมรอบชายทั้ง 2
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า …. “
นี่เป็นความมั่นใจของผู้ชายที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดงั้นหรอ?
“พวกแกคงเป็น Chameleon Troupe มันนานมากแล้วที่ฉันไม่ได้สนุกแบบนี้”
แม้ว่าเขาจะถูกรายล้อมไปด้วยศัตรูที่แข็งแกร่งจำนวนมากแค่
Vast Expanse ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน
*************************************************************************
[อาณาเขตของ ออร์เดน]
ในขณะเดียวกันผมก็มาถึงใจกลางของแอฟริกากับสปาร์ตัน ผมเห็นอาณาเขตของออร์เดนในระยะไกล ผมศึกษาอาณาเขตจากระยะไกล
“…อะไรกัน?”
ตอนแรกผมสงสัยว่าผมมาถูกที่แล้วหรือยัง สิ่งต่างๆมากมากต่างจากสภาพดั้งเดิมของผม ผมจินตนาการถึงปราสาทเดี่ยวที่ยืนอยู่ตรงกลาง แต่ในสายตาของผมที่นี่เป็นดินแดนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกับดักและสิ่งกีดขวางรอบๆปราสาทที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
“มันเปลี่ยนมากเกินไปหรือเปล่า”
ผมพึมพำในความสิ้นหวัง ‘เนื้อเรื่องเดิม’ ไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามีเพียงหูและตาของผมเท่านั้นพึ่งพาได้
“นี่มัน….”
ผมหายใจเข้าลึกๆและรวบรวมพลังเวทมนต์ของรอยสักมารอบดวงตาของผม ด้วยปรมจารย์นักแม่นปืน ขั้น 2 ดวงตาพันไมล์ของมันทำให้ผมเห็นภาพเต็มๆของ อาณาเขตของออร์เดน
‘ที่ที่น่าจะเจอปาร์ตี้ของไอลีนมากที่สุดก็คือ … ‘ อย่างที่ผมคิดตอนนี้มีสิ่งกีดขวางอยู่ในสายตาของผม
[บาเรียเวลา]
– สัปดาห์ภายในกำแพงนี้เท่ากับ 1 ชั่วโมงข้างนอก อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกภายในนั้นเพราะการไหลของพลังเวทมนต์และอากาศนิ่งสนิท
– ช่องสัญญาณฟรี แต่ส่งออกไม่ได้
– หากต้องการทำลายบาเรียนี้จำเป็นต้องใช้พลังที่เทียบเท่ากับหรือไม่ก็ปลดปล่อยเวทมนต์ที่ยิ่งใหญ่กว่าออกมา
นี่เป็นกับดักที่น่าสงสัยที่สุดจากกับดักทั้งหมดที่รุมล้อมอาณาเขตของ ออร์เดน แน่นอนว่าผมไม่ได้สนใจว่ากับดักนั้นเป็นยังไง ผมนำ
[กุญแจลึกลับ] ติดตัวมากับผมจากหอคอยเพื่อเตรียมตัวสำหรับสิ่งต่าง ๆ
“มาดูกัน….”
สายตาของผมทะลุผ่าน บาเรียเวลาอย่างง่ายดายและผมมองเข้าไปข้างใน ‘มีอะไรในนั้นไหม’ ผมพิจารณาอย่างใกล้ชิด
“…โอ้?”
ผมเจอ 3 คน ใบหน้าของพวกเขาสกปรกเสื้อผ้าของพวกเขาถูกฉีกขาดและจากกระดูกที่ยื่นออกมาของพวกเขาผมคาดว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานานแล้ว
ไอลีน, ชินจงฮัก และ จินเซยอน พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นั่น
– ฉันหิว….
ไอลีน พึมพำอย่างน่าสงสาร จินเซยอน มักจะปลอบโยน ไอลีน ตลอดเวลาแต่ตอนนี้แม้แต่เธอเองก็ดูเหมือนจะทนไม่ไหว
– …ฉันเองก็หิวเหมือนกัน
– …
ฮีโร่ทั้ง 3 คนนี้เป็นโครงกระดูกที่เกือบจะอดตายผมสงสัยว่าทำไมเป็นแบบนี้ ผมมองดูรอบๆบริเวณกว้างภายในบาเรีย ผมใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจ
“…ไม่มีอะไร.”
ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน ไม่มีหญ้าไม่มีสัตว์ไม่มีน้ำไม่มีอะไรเลย
– น้ำ น้ำ อาาาา…. น้ำ….
ออร์เดน รู้วิธีจัดการกับไอลีน ไอลีนนั้นแข็งแกร่งแต่วิธีจัดการกับคนที่แข็งแกร่งแบบเธอนั้นเรียบง่ายอย่างน่าประหลาดใจ แค่ไม่ต้องต่อสู้กับเธอ การต่อสู้โดยไม่ต้องต่อสู้ มันง่ายมาก และต้องขอบคุณผู้ที่ทรยศจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะจัดการพวกเธอ
อย่างไรก็ตามถ้าสิ่งนี้ถูกต้องพวกเขาอาจตายที่นี่ได้เลย
“สปาร์ตัน ไปเอาถุงอาหารจากที่บ้านมา”
– เจี๊ยบบบบบบบบบ
ผมส่ง สปาร์ตัน ไปและรอมันกลับมาหลังจากนั้น 3 นาทีพร้อมถุงที่เต็มไปด้วยอาหารและน้ำ ผมคว้าพวกมันและวิ่งไปที่บาเรีย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น