The Legendary Mechanic 336-345

ตอนที่ 336

 

หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”เกิดอะไรขึ้น?เราไม่ตรงกับคะแนนความน่าเชื่อถืองั้นหรอ?”


“ผมอยากได้คนคุ้มกันนักรบ และบันทึกพวกคุณก็เต็มไปด้วยกิจวัตรประจำวันในศูนย์เพื่อคุณเป็นภารโรงที่นี่”มาร์ตินกล่าว”คุณมีคุณสมบัติเป็นทหารรับจ้างจริงๆงั้นหรอ?”

หานเซี่ยวขมวดคิ้ว”หมายความว่าไง?”

“คุณไม่มีสิทธิ์รับงานผม”มาร์ตินโบกมือด้วยความหงุดหงิด แม้เขาจะตั้งราคาไว้ถูกมาก แต่ก็ไม่ได้ลดมาตรฐานและต้องการนักรบที่ดีสุด บุคลิกของบลูนิมักเป็นอย่างนี้ ถูกและโลภ แม้ว่าคะแนนเฉลี่ยพลังสำหรับกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์จะเป็นC เขาก็ไม่เชื่อความสามารถพวกเขาหลังอ่านประวัติต่างๆ หากเขาใช้เงินไปกับทหารรับจ้างไร้ประโยชน์ ทีมวิจัยจะตกอยู่ในอันตราย


ทหารรับจ้างรอบๆเยาะเย้ยมาร์ติน


“นายกำลังเสนอเงินแค่400อีนาส นั่นเหมาะสมแล้ว”


“เห้อ พวกบลูนิ”


หานเซี่ยวกัดฟัน เห้อ ทำไมมันรู้สึกเหมือนพวกเขาซ้ำเติมฉัน


มาร์ตินเห็นโอกาสและรีบกดดันราคา”ด้วยประวัตินี้ ฉันให้ได้แค่200อีนาสต่อคน”


“ลาละ”


หานเซี่ยวจากไปโดยไม่หันมามอง ทัศนคติของมาร์ตินทำให้หานเซี่ยวหงุดหงิดและช่างกลหานอย่างเขาก็จะไม่ยอมให้ใครมากดดัน มันไม่เป็นไรหากพวกเขาไม่รับงานนั่นเพราะยังมีโอกาสอื่นอีก ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องอ้อนวอนอะไร


เขาเปิดหน้าต่างสถานะทหารรับจ้างและพบคำขอการจ้างงานหลายอย่างจากพวกซันนิล ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์เดียวกัน


บ้านเกิดของซันนิลถูกทำลายไปแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของโกโดร่า อารยธรรมจึงย้ายไปยังดาวอื่นที่เต็มไปด้วยป่าและธรรมชาติ มันถูกตั้งชื่อใหม่ว่าดาวเคราะห์ซันนิล


ดาวเคราะห์ซันนิลมีสัตว์ป่าอยู่มากสัญจรรอบดาว ส่วนใหญ่ พวกมันจะอยู่เฉยๆ แต่ทว่า มีก้อนหินที่บรรจุวิญญาณชั่วร้ายอยู่ต้าวซันนิล และมันก็จะเปลี่ยนสัตว์ร้ายให้ออกอาละวาดทุกๆสองสามปี หมู่บ้านและเมืองซันนิลจะได้รับผลกระทบ ทุกครั้ง ในช่วงเวลานี้ นักรบซันนิลที่ทำงานอยู่นอกดาวจะกลับมาและปกป้องบ้านพวกเขา


ซันนิลเป็นเผ่าที่น่าเศร้า เดิมที มันก็แค่อารยธรรมที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับดาวอื่น มันสงบสุขและพยายามพัฒนาเป็นสังคมที่ดีขึ้น น่าเสียดาย พวกเขาถูกดาราทมิฬโจมตี พวกซันนิลไม่มีทางสู้กลับได้เพราะกองยานจากดาราทมิฬได้ระดมยิงใส่พื้นเรื่อยๆ พื้นเต็มไปดด้วยเสียงร้องและไฟสงคราม ซึ่งทำให้ผู้คนสิ้นหวัง


ดาราทมิฬเป็นศัตรูตัวฉกาจของโกโดร่าและมันก็เป็นอารยธรรมชั้นนำในกาแล็กซี่กาตอน ดาราทมิฬพบจุดอ่อนการจัดการของโกโดร่าและโจมตีดาวเคราะห์ภายใต้การปกครองของโกโดร่า โกโดร่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้ทรัพยากรเพื่อช่วยเหลืออารยธรรมชั้นต่ำ หากโกโดร่าไม่สนใจผู้ประสบทุกข์ งั้นพวกเขาก็คงสูญเสียความเชื่อมั่นของสาธารณะชนในการปกครองกาแล็กซี่กาตอน


ในฐานะกองกำลังชั่วร้าย ดาราทมิฬได้ทำลายสนธิสัญญาระหว่างอวกาศ[รัฐธรรมนูญอารยธรรมอวกาศ] ยิ่งไปกว่านั้น วงแหวนดาวกระจายยังอยู่ไกลกับระบบดาวอื่น ดังนั้น หลังทำลายดาวต่างๆ ดาราทมิฬก็มักหายไปในเขตแดนพวกเขาอยู่นานและหลบหลีกการประกาศสงครามจากอารยธรรมอื่น ดาราทมิฬเหมือนเงาที่ค่อยๆกลืนกาแล็กซี่กาตอน


เมื่อกองยานโกโดร่ามาถึง ดาวเคราะห์ของซันนิลก็ถูกทำลายไปแล้ว พื้นเต็มไปด้วยลาวาและถูกทำลาย ระบบนิเวศเสียหาย และก็เหลือประชากรแค่10% เทคโนโลยีของเผ่าซันนิลหมดสิ้น และมันก็ยังไม่ฟื้นฟู ผู้ลี้ภัยถูกย้ายไปยังดาวเคราะห์ซันนิลใหม่ด้วยความช่วยเหลือของโกโดร่า และในตอนแรก โกโดร่าก็ได้ช่วยสร้างเมือง มันเป็นเพียงไม่กี่ปีหลังอาศัยอยู่จนกระทั่งผู้คนพบถึงสัตว์คลั่ง


การย้ายไปดาวอื่นย่อมใช้เวลา ครั้งนี้โกโดร่าเสนอความช่วยเหลือเพราะเหตุผลด้านศีลธรรม แต่หากซันนิลขอให้โกโดร่าช่วยอีก พวกเขาจะรู้สึกว่าเป็นหนี้โกโดร่ามากไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ขอความช่วยเหลือ พวกเขาตัดสินใจปักหลักบนดาวและสู้กับสัตว์ประหลาดแทน


มันเป็นช่วงเวลาที่สัตว์ร้ายออกอาละวาดอีกครั้ง ภารกิจเหล่านี้กำลังขอให้ช่วยปกป้องบ้านพวกเขา ความยากของภารกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีใครสมัครรับภารกิจอันตรายสุด สำหรับภารกิจง่ายสุ พวกเขาต้องการคะแนนความน่าเชื่อถือ120


หานเซี่ยวสามารถเลือกได้แค่ภารกิจง่ายสุด ดังนั้นเขาจึงยอมรับ อึดใจต่อมา เขาก็ได้รับการตอบกลับ


 


ภารกิจทหารรับจ้าง-[ปกป้องเมืองป่า]


คำแนะนำภารกิจ : หายนะอีกลูกกำลังคืบคลานเข้าหาซันนิล ท่านได้ยอมรับภารกิจ และหน้าที่ของท่านก็คือปกป้องเมืองป่า


ข้อกำหนดภารกิจ : ปกป้องเมืองป่า


เงื่อนไขการล้มเหลว : ไม่อาจปกป้องเมืองป่าได้


บทลงโทษการทำภารกิจล้มเหลว : คะแนนความน่าเชื่อถือ-60


รางวัล : ค่าประสบการณ์5แสน 1800อีนาส คะแนนความน่าเชื่อถือ34 ชื่อเสียงพื้นที่3


เวลาจนกว่าจะเริ่มภารกิจ : 12วัน


 


พวกซันนิลเรียกช่วงเวลาการโจมตีของสัตว์ว่า’หายนะ’ และเมืองป่าก็เป็นเมืองหลักของพวกซันนิล


นี่แค่ภารกิจทั่วไป แต่มันไม่ใช่สำหรับหานเซี่ยว เหตุผลที่เขายอมรับภารกิจก็เพื่อให้ได้เข้าใกล้พวกซันนิล เขาต้องกระตุ้นภารกิจเนื้อเรื่องด้วยตัวเอง


ในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง ผู้เล่นเองก็ได้รับภารกิจในกลุ่มทหารรับจ้าง หานเซี่ยวนำรางวัลของภารกิจใส่ลงไปในรางวัลภารกิจกองกำลัง ผู้เล่นจึงรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลสองเท่า


มันเป็นครั้งแรกที่กลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์เลือกภารกิจประเภทต่อสู้ ดังนั้นผู้เล่นจึงรู้สึกตื่นเต้น


หานเซี่ยวโบกแขน


“ไปกันเถอะ”



หลังผ่านไปสามวัน ทั้งกลุ่มก็ขึ้นยานและมาถึงดาวซันนิล จากจักรวาล ดาวเต็มไปด้วยสีเขียวพร้อมมีเมฆขาวลอยด้านบน


ยานสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเมื่อมันเคลื่อนลงสู่ชั้นบรรยากาศ ตามเส้นทางที่มุ่งไปยังป่า จากนั้นหานเซี่ยวก็เห็นที่ราบว่างเปล่า และมีเมืองตั้งอยู่ตรงกลาง นั่นคือบ้านใหม่ของซันนิล เมืองป่า


ยานอวกาศปล่อยห้องโดยสารออกมา หานเซี่ยวรู้สึกไร้น้ำหนักเล็กน้อย และก็ลงจอดอย่างปลอดภัย


ครื่น!


ประตูเปิ และพวกเขาก็อยู่ในฐานทัพ หานเซี่ยวก้าวออกมาและสังเกตเห็นทีมทหารซันนิลและรถหุ้มเกราะกำลังปกป้องฐาน


 


[ซันนิล-เกราะทหาร]คือเกราะที่ทหารซันนิลสวม เกราะมีสีเทาเข้มและแผ่นเกราะก็หนาจนสามารถป้องกันกระสุนหนักได้ ด้วยการสวมเกราะ ทหารจึงดูเหมือนทหารจริงๆ น้ำหนักเกราะเกือบตัน และมันก็ติดตั้งอุปกรณ์สนับสนุนการเคลื่อนไหว ยังมีปืนกลที่มีลำกล้องใหญ่ ตัวยิงจรวดขนาดเล็กบนไหล่และอาวุธประชิดอื่นๆ


ซันนิลเป็นอารยธรรมเทคโนโลยีบริสุทธิ์ และหลังอารยธรรมมาถึงขั้นหนึ่ง พวกเขาก็มักสร้างเกราะสำหรับทหารแต่ละคน อารยธรรมที่แตกต่างกันมีเกราะต่างกัน สำหรับซันนิล เกราะจัดแบ่งเป็นระดับและสาย มันแยกออกเป็นสไตล์การป้องกัน รุก สอดแนม อื่นๆ


ในความเป็นจริง หานเซี่ยวรู้ว่าเกราะซันนิลมีแม้กระทั่งสายที่ทรงพลังมากอย่าง’เกราะระดับผู้บัญชาการ’ อย่างไรก็ตาม มันถูกทำลายไปแล้ว และเทคโนโลยีก็สูญหายไปตลอดกาล


นอกเหนือจากเทคโนโลยีเกราะ ยังมีอาวุธจักรกลขนาดใหญ่ ยานพาหนะและยานบินขนาดเล็ก


ด้วยเครื่องจักรรอบตัว ดวงตาหานเซี่ยวจึงเป็นประกาย และเขาก็เดินเข้าไป อารยธรรมที่เอียนไปทางเทคโนโลยีบริสุทธิ์เป็นรากฐานที่ดีสุดสำหรับสายช่างกล และนี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่เขาอยากมาดาวซันนิล ระดับเทคโนโลยีของซันนิลสามารถนำผลประโยชน์มาสู่หานเซี่ยวได้


หานเซี่ยวถูกดึงดูดกับสายอาชีพรองของซันนิล และมันก็เกี่ยวกับเครื่องจักร มันเป็นสายอาชีพหายากที่สามารถพัฒนาสายอาชีพหลักของหานเซี่ยวได้อย่างมาก!สำหรับหานเซี่ยว นี่เป็นตัวเลือกที่ดีสุด


ผู้เล่นกวาดตามองรอบๆ หานเซี่ยวได้เล่าถึงโศกนาฏกรรมของชาวซันนิลให้พวกเขาฟังแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ามันเป็นอารยธรรมที่อยู่บนขอบเหว พวกเขาไม่คิดว่าจะได้มาเห็นเทคโนโลยีล้ำยุคแบบนี้


ตึง ตึง ตึง!


เสียงของลหะหนักดังขึ้นเมื่อทหารเกราะหนักใกล้เข้ามา เกราะเขาดีกว่าทหารทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด มันปกคลุมด้วยสีแดงและขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่านี่คือชุดเกราะระดับสิบโท ใบหน้าเขาเย็นชาและให้กลิ่นอายของทหารดุดัน


“ผมเป็นหัวหน้าทีมป้องกันB12เนวิลล์ ผมได้อ่านข้อมูลพวกคุณมาแล้ว แบล็คสตาร์ คุณเป็นทหารรับจ้างลำดับที่1432ที่เข้าร่วมกับเรา ผมมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนชาวซันนิลมาต้อนรับพวกคุณ หายนะยังไม่เริ่ม โปรดตามผมไปเขตพักผ่อนของทหารรับจ้าง จากนั้นผมจะมอบหมายภารกิจเฉพาะให้พวกคุณ”

 

 

 


ตอนที่ 337

 

เนวิลล์เงียบตลอดทาง ทหารซันนิลไม่รู้จักคำพูดพวกเขา และทุกคนก็มีสีหน้าจริงจัง ราวกับพวกเขาไม่มีเวลาจะคุยเรื่องไร้สาระ พวกเขาจดจ่อกับภารกิจตน กลิ่นเหล็กของชุดเกราะทหารเต็มอากาศ พร้อมกับความเงียบ เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงรถถังขับผ่านเป็นครั้งคราว


พวกซันนิลเคยเป็นที่รู้จักในฐานะอารยธรรมที่ยอมรับชีวิต คนของพวกเขารักงานศิลปะและวัฒนธรรม แต่ทว่า ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเกิดภัยพิบัติ ผู้รอดชีวิตถูกบังคับให้ต้องทิ้งตัวตนเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างที่พวกเขาสร้างขึ้น อาคารเหล็กรูปร่างคล้ายป้อมปราการเรียงรายอยู่ข้างถนนที่พวกเขาเดิน


ด้วยการมีเนวิลล์นำทาง กลุ่มของหานเซี่ยวก็มาถึงเขตพักผ่อน ที่ทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่รวมตัวกันทำให้เกิดเสียงดัง


ก่อนคลื่นหายนะจะเกิดขึ้น ทหารรับจ้างทุกคนต้องได้รับการสรุป


เนวิลล์ก้าวขึ้นไปบนแท่นและอธิบายด้วยเสียงหนักแน่น”หน่วยลาดตระเวนได้พบสัญญาณที่เพิ่มขึ้นของสัตว์ร้าย พวกคุณมาที่นี่ในฐานะทหารรับจ้างของเรา และเราหวังว่าคุณจะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้เราผ่านอุปสรรคนี้ไปได้”

หลังพูดสั้นๆ เนวิลล์ก็ตรงเข้าเรื่องหลัก”ใต้พิภพของดาวดวงนี้เต็มไปด้วยศิลาพยากรณ์ ศิลาพยากรณ์สามารถทำลายวิญญาณรอบๆพวกมันได้ และหินแร่ทั่วดาวนี้ก็ถูกเปลี่ยนแปลงโดยมัน นี่คือเหตุผลเบื้องหลังการคลุ้มคลังของสัตว์และความก้าวร้าวของธรรมชาติ แต่ทว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาหลักของหายนะ พลังงานที่ปกคลุมภายในศิลาพยากรณ์จะปลดปล่อยออกมาปีละครั้งในรูปแบบ’คลื่น’ นี่คือปัญหารากที่หยั่งลึกเบื้องหลังการระบาดของสัตว์”


“ด้วยเหตุผลบางอย่าง คลื่นของปีนี้มาถึงก่อนกำหนดครึ่งปี แผนกสังเกตการณ์พิเศษเราคาดการณ์ว่าคลื่นหายนะจะระเบิดเต็มกำลังในเวลาประมาณ7-13วัน ศัตรูเราคือสัตว์ทุกตัวบนดาวนี้ ในอดีต เราทำได้แค่รับมือกับสัตว์ตัวเล็กๆในช่วง3-6วันแรก จากนั้น เมื่อมันถึงวันที่10 ความถี่และความหนาแน่นของพวกมันจะเพิ่มขึ้น ห้าวันสุดท้ายจะเป็นช่วงที่อันตรายสุด จากนั้น ยานพาหนะส่วนใหญ่และกองกำลังเราก็ได้รับความเสียหายมาก สัตว์ร้ายที่เราเผชิญจะแข็งแกร่งสุดในเวลานั้น ซึ่งถูกดึงดูดจากความหนาแน่นของกลิ่นเลือด…”


ในเวลานี้ ทหารรับจ้างกล่าวขัดเขา”คุณมีรถถัง เครื่องบิน และแม้กระทั่งยานรบ ไม่ใช่ว่าการฆ่าสัตว์เหล่านี้ก็เหมือนกับการเข่นฆ่างั้นหรอ?”


เนวิลล์ส่งสายตาเย็นชา”คุณจะเข้าใจเมื่อคลื่นมาถึง”


ไม่นาน เนวิลล์ก็เปิดภาพฉายและเริ่มแนะนำสัตว์ทีละตัว หลังมองดูไม่กี่นาที หานเซี่ยวก็สามารถบอกได้ว่าสัตว์บนดาวซันนิลนั้นแข็งแกร่งกว่าอความารีนมาก ศิลาพยากรณ์อยู่บนดาวนี้มาหลายปีแล้วและพลังงที่พวกมันสะสมก็พอจะทำให้พวกสัตว์วิวัฒนาการ สัตว์บนดาวซันนิลมีความกระหายเลือดผิดปกติ และพวกมันก็ผลักดัน’กฏของผู้แข็งแกร่ง’ออกมา


จันทราเมเปิ้ลอยากรู้”ในเมื่อสัตว์เป็นศัตรู ทำไมเราถึงไม่ฆ่าพวกมันก่อนพวกมันจะแข็งแกร่งจากหายนะละ?”

“บางทีมันอาจคงไว้ซึ่งระบบนิเวศ”ดาบคลั่งตอบอย่างลังเล


แต่ขนมปังสุนัขกลับส่ายหัวไม่เห็นด้วย.”แต่นี่จะคุกคามแม้กระทั่งชีวิตของคน ทำไมพวกเขาต้องสนใจถึงระบบนิเวศด้วย?”

ผู้เล่นเริ่มถกเถียงกัน แต่ละคนมีความคิดเห็นของตนต่อวิกฤติของซันนิล


หลังฉายรูปสัตว์กว่าร้อยชนิด เนวิลล์ก็ส่งข้อมูลนี้ให้ทหารรับจ้างแต่ละคน จากนั้นพวกเขาก็ได้รับมอบหมายบทบาทต่อสู้ขึ้นอยู่กับงานที่รับไว้ล่วงหน้า


ซันนิลยังคงขุดเหมืองและทรัพยากรอื่นเพื่อสะสมไว้ อย่างไรก็ตาม คนของศซันนิลทั้งหมดจะละทิ้งสถานที่เหล่านั้นและกลับเมืองในช่วงหายนะ พวกเขาจะรวมกำลังทั้งหมดในจุดเดียวเพื่อลดโอกาสการถูกสัตว์ลอบโจมตี


ด้วยเมืองหลักที่เป็นกำแพงสุดท้าย เมืองป่าจึงมีห้ากำแพงล้อมรอบเมือง หานเซี่ยวและคนอื่นประจำการที่กำแพงสุดท้ายและได้รับมอบหมายให้ปกป้องเครื่องบินสอดแนมและยานรบจากพื้น พวกเขายังทำหน้าที่เป็นกลุ่มสนับสนุนรวดเร็วให้แนวหน้า


เมืองป่าถูกตกแต่งด้วยโครงสร้างป้องกันและการสร้างทุกอย่างรอบเมืองหลักก็เพื่อการรบเท่านั้น มันไม่ได้เป็นที่มั่นสุดท้ายเพราะใต้เมืองเต็มไปด้วยอุมงค์หลบหนี ชาวซันนิลสามารถหนีผ่านอุโมงค์ไปได้หรือแม้กระทั่งอพยพทางอากาศ และนี่ก็หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเสียเมืองหลัก อย่างไรก็ตาม สัตว์ร้ายก็มีจำนวนมากทั้งบนฟ้าและใต้ดิน ดังนั้นนี่จึงถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย


งานที่อันตรายสุดคือหน่วยลาดตระเวนและกองกำลังแนวหน้า ซันนิลเป็นดาวที่เต็มไปด้วยป่าหนาทึบ ทำให้มีจุดบอดมากมายที่ไม่อาจสำรวจผ่านอากาศ ซึ่งทำให้การลาดตระเวนบนพื้นมีความสำคัญ แต่ทว่า อันตรายของการเดินทางนอกเมืองในช่วงหายนะก็เห็นได้ชัด ในทางกลับกัน งานของกองทหารแนวหน้าคือการฆ่าหรือทำให้สัตว์ร้ายบาดเจ็บให้ได้มากที่สุดก่อนจะถึงกำแพงเมือง อัตราการรอดชีวิตพวกเขาเกือบเป็น0


นั่นทำให้สองงานไม่เคยถูกรับดยทหารรับจ้าง งานต่อสู้แนวหน้าจะเป็นของนักรบซันนิล


ทหารรับจ้างแต่ละคนจะถูกเจ้าหน้าที่นำไปประจำตำแหน่ง เนวิลล์พากลุ่มของหานเวี่ยวไปตามทางเพื่อทำความคุ้นเคยกับการป้องกัน


เวลาผ่านไป และในไม่ช้ามันก็ถึงเวลาค่ำ


ทหารรับจ้างได้รับที่พักในฐานทหาร แต่ทว่า หานเซี่ยวต้องเข้าเมืองเพื่อทำข้อกำหนดสายอาชีพรองให้เสร็จ เขาไปหาเนวิลล์ด้วยตัวเองและกล่าว”ผมอยากลงทะเบียนเข้าเมือง”


“ทำไมคุณถึงอยากเข้าเมือง?”เนวิลล์เลิกคิ้ว


“ผมมีเรื่องส่วนตัวต้องจัดการ ผมมีเพื่อนในเมือง”


“ไม่”เนวิลล์ปฏิเสธ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ทหารรับจ้างไม่เคยได้รับอนุญาติให้เข้าเมือง


“คุณไม่อาจใช้เหตุผลนี้เพื่อเข้าเมืองได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อนคุณสามารถออกมาเยี่ยมคุณได้”


หานเซี่ยวไม่มั่นใจว่าต้องทำยังไง ตัวละครหเนื้อเรื่องที่เขาอยากพบไม่รู้จักเขาเลย ไม่มีทางที่เขาจะออกมาเยี่ยมเขา


เขาต้องแอบเข้าไปงั้นหรอ?


เขามีอุปกรณ์ปลอมใบหน้าและสายอาชีพนักย่องเบา โอกาสลอบเข้าค่อนข้างสูง..ใช่ไหม?


หวือ!


ทันใดนั้น ลมแรงก็พัดลงมาจากฟ้า และลำแสงหลายสายก็ยิงลงมา มียานลอยอยู่กลางอากาศและปล่อยบันไดวนลงมา ยอดซันนิลดินลงมาจากยาน พวกเขาคือทหารรับจ้างซันนิลทั้งหมดและได้กลับมาป้องกันบ้านพวกเขา


ทหารซันนิลบนพื้นเงยหน้าและมองนักรบที่กลับมาด้วยความเคารพ พวกเขายังมีสีหน้ายินดี


ทุกครั้งที่นักรบซันนิลกลับบ้าน พวกเขาจะได้รับการต้อนรับและการปฏิบัติเหมือนวีรบุรุษ


หานเซี่ยวหรี่ตาและเห็นใบหน้าคุ้นเคย จากนั้นเขาก็ตะโกน”เห้!เลอเด็น!”


อัศวินเขียวเลอเด็นคือหนึ่ฝนนั้น และเขาก็หันมาหลังได้ยินคนเรียกชื่อเขา เขานึกสักพัก แต่ก็จำได้ ด้วยร่างเขาที่ได้รับการสนับสนุนกลางอากาศด้วยไฟสีฟ้าตรงเท้า เขาลอยมาหยุดตรงหน้าหานเซี่ยวและถามอย่างสงสัย


“แบล็คสตาร์เป็นหนึ่งในทหารรับจ้างที่เราจ้างมาครับ”เนวิลล์ยินดีและรีบตอบแทนหานเซี่ยว


“งั้น นายก็เป็นทหารรับจ้างเหมือนกัน”เลอเด็นพลันตระหนักถึงความจริง


“ใช่แล้ว ฉันเพิ่งลงทะเบียน ฉันรีบมาเมื่อได้ยินว่าคนของนายกำลังเผชิญกับวิกฤติ ไม่คิดเลยว่าจะได้สู้เคียงข้างนาย”หานเซี่ยวคว้าโอกาส”ฉันมีเพื่อนในเมืองที่อยากไปเยี่ยม นยช่วยฉันได้ไหม?”

“หากเขาเป็นเพื่อนคุณ งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร”เนวิลล์กล่าวเสริม


เลอเด็นคิดว่าในเมื่อพวกเขาจะได้สู้เคียงข้างกัน แม้เขาจะไม่รู้จักหานเซี่ยวจริงๆ เขาก็รู้สึกว่าหานเซี่ยวไม่ใช่คนเลว นอกจากนี้ เขายังทรงพลังอีกด้วย ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรที่จะผูกมิตรกับเขา”ได้ ฉันจะพานายเข้าเมือง”


“ขอบคุณ”หานเซี่ยวยิ้ม การพบคนคุ้นเคยช่างเป็นเรื่องดี แค่ประโยคเดียวก็สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว



พวกเขาไม่เจอกันสักพักแล้ว และร่างกายที่เสียหายของเลอเด็นก็ได้รับการซ่อมแซม หานเซี่ยวเดินผ่านสถานีรักษาความปลอดภัยไปกับเลอเด็น พร้อมด้วยยอดซันนิลคนอื่นที่อยากกลับเมืองหลังกลับดาว หานเซี่ยวและเลอเด็นเดินตามคนกลุ่มนี้ไป


เฮ!


ทันใดนั้น เสียงร้องก็ระเบิจากทั้งสองฝั่งถนน มีโปสเตอร์พวกยอดซันนิลที่ประดับตามกำแพงเมือง และชาวซันนิลก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับวีรบุรุษ

 

 

 


ตอนที่ 338

 

หายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นสร้างความหวาดกลัวให้จิตใจผู้คน แต่ผู้คบนถนนกลับมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าราวกับวีรบุรุษได้ขับไล่ความกลัวออกไป


“ภายใต้กฏ ฉันต้องพานายเข้าเมืองด้วยตัวเอง”เลอเด็นกล่าว


“ดูเหมือนว่าอารยธรรมของนายจะบูชาพวกพิเศษนะ”หานเซี่ยวแสดงความคิดเห็น


“มันเรียกว่าการขอบคุณมากกว่าการบูชา”เลอเด็นตอบ”หลังเผ่าพันธ์เราเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันและอพยพมาดาวนี้ เรายังไม่มีพลังพอจะยืนหยัดด้วยตัวเอง  การรวบรวมทรัพยากรช้าไปสำหรับเรา และเราก็ต้องซื้อวัสดุจากดาวอื่น ดังนั้น ค่าใช้จ่ายเราจึงสูงกว่าการผลิตเรา”


“เพื่อให้เราอยู่รอด พวกพิเศษที่มีพลังพอจึงต้องเข้าสู่อวกาศและกลายเป็นทหารรับจ้าง รางวัลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาบ้าน และมันก็คือรายได้หลักของเรา ไม่มีทางที่อารยธรรมนี้จะสร้างอาวุธได้พอสู้กับหายนะ”


หานเซี่ยวมีความเข้าใจถึงสถานการณ์ดี พวกซันนิลเป็นอารยธรรมที่อยู่ในช่วงวิกฤต พวกเขาทำได้แค่พึ่งพาคนแข็งแกร่งเช่นพวกพิเศษ เพื่อสนับสนุนรายได้หลักของเผ่าพันธ์ นั่นทำให้ผู้คนปฏิบัติต่อพวกพิเศษเหมือนวีรบุรุษ และคนก็จะได้รับเกียรติสูงหากเป็นพวกพิเศษ


หานเซี่ยวยังจำได้ว่าเลอเด็นเป็นพวกขี้เหนียวมาก ในความเป็นจริง เลอเด็นกลับมอบเงินเขาให้เผ่าทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงพยายามใช้จ่ายให้น้อยที่สุด


“มันจะนำมาซึ่งความหายนะหากอารยธรรมนี้ยังคงพึ่งพาพวกพิเศษ”


เลอเด็นพยักหน้า”นั่นก็จริง แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ท้ายที่สุด มันเป็นเพราะหายนะ ซึ่งชะลอการฟื้นฟูเรา เราต้องแยกส่วนสำคัญของเงินทุนเราเพื่อสร้างอาวุธและอุปกรณ์ทหารมาป้องกันหายนะ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเราถูกระงับไว้เพราะค่าใช้จ่ายพิเศษทั้งหมดที่ไม่อาจช่วยเหลือเศรษฐกิจได้”


“หากเราไม่อาจแก้ไขหายนะได้ เราก็ไม่อาจทำลายวงจรอุบาทว์นี้ได้ และอารยธรรมเราก็จะต้องทนทุกข์ทรมาน”


“เราพยายามหาทางแก้มากมาย และก็ยังพิจารณาเรื่องการฆ่าสัตว์ทั้งหมด  แต่นั่นเป็นตัวเลือกที่เลวร้ายสุด ไม่เพียงแต่มันจะเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อห่วงโซ่อาหารถูกทำลาย ทั่วดาวก็ต้องเผชิญกับความตาย ดังนั้น เราจึงต้องเลือกทางอื่น  พยายามขุดศิลาพยากรณ์และรับมือกับสาเหตุของหายนะ โครงการดำเนินมาหลายปีและเราก็กวาดศิลาทีละนิด วันหนึ่ง กระแสจิตจะหายไป และเผ่าพันธ์จะไม่ต้องเผชิญกับหายนะอีก..”


ใบหน้าของเลอเนให้ความรู้สึกสิ้นหวัง”มักมีแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์เสมอ”


หานเซี่ยวสร้างความประทับใจต่อชาวซันนิล พวกเขาพึ่งพาพวกพิเศษและพวกพิเศษก็มีความรับผิดชอบต่ออารยธรรมมาก


ช่างน่าสงสาร…หานเซี่ยวถอนหายใจเมื่อนึกถึงชะตากรรมของชาวซันนิลในชีวิตก่อนหน้าเขา


พวกพิเศษกระจายไปทั่วหลังเข้าเมืองและตรงไปบ้านตนเอง ฝูงชนค่อยๆกระจัดกระจาย


หานเซี่ยวใช้ความทรงจำอันบิดเบี้ยวเขาและในที่สุดก็มาถึงทางเดินหลังวนหา เขาหยุดตรงหน้าประตูแคบสีดำ และมีแก้วไวน์แขวนอยู่บนป้าย


“บาร์?คนที่นายอยากมาหาอยู่ที่นี่?”เลอเด็นขมวดคิ้ว


“นายมีปัญหางั้นหรอ?”

“..ไม่”


สีหน้าเลอเด็นยังไม่เปลี่ยน เขาดูถูกคนที่ใช้เงินเพื่อพักผ่อนเพราะคิดว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองเงิน


เหนือสิ่งอื่นใด เขาเสียสิทธิ์ที่จะเพลิดเพลินกับชีวิตไปแล้ว


พวกเขาผลักประตูและเดินไปในบาร์ บาร์มืดและไม่มีลูกค้าเลย เมืองนี้อยู่ในสถานะฉุกเฉิน มันจึงไม่มีใครกล้าพอจะมาเพลิดเพลินในนี้ หานเซี่ยวเดินไป และเสียงกรนเบาๆก็ดังจากด้านหลังเคาน์เตอร์


ช่างกลหานมองดูและเห็นชายคนหนึ่งกำลังนอนพาดเคาน์เตอร์ เขาหลับสนิทพร้อมกับขวดเปล่ากองหนึ่ง


ปัง!


หานเวี่ยวทุบเคาน์เตอร์อย่างแรงและตะโกน”ลูกค้ามา!ตื่น!”


นิ้วของชายคนนั้นขยับ และเขาก็ถอนหายใจยาว จากนั้นก็ยืนขึ้นพร้อมกลิ่นเหม็นเหล้า ดวงตาเขาไร้ชีวิตชีวา ลูเหมือนตื่นครึ่งหนึ่ง”ต้องการอะไร?”


“สองแก้ว”


“หนึ่งก็พอ”เลอเด็นแทรก


ชายคนนั้นหาว”จ่ายก่อน”


หานเซี่ยวหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาและเตรียมจ่าย ชายคนนั้นพลันหัวเราะลั่นและกล่าว”ลูกค้าที่รัก คุณคงไม่ได้คิดจ่ายด้วยอีนาสใช่ไหม?นี่เป็นธุรกิจเล็กๆ เรารับแค่สกุลเงินท้องถิ่น”


เลอเด็นขมวดคิ้ว เขามักใช้เวลาอยู่ในกาแล็กซี่ ดังนั้นสกุลเงินซันนิลจึงไม่คุ้มกับเขานัก เขาล้วงกระเป๋าและอยากจ่ายให้หานเซี่ยว แต่ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวก็หัวเราะ”ผมไม่มีสกุลเงินซันนิล ผมสามารถจ่ายด้วยวิธีอื่นได้ไหม?”


ชายคนนั้นมองหานเซี่ยวและเอื้อมไปหาอีกขวด”เช่นอะไรละ?”


“ชื่อ”


ชายคนนั้นขมวดคิ้ว เขาจ้องหานเซี่ยวและตอบ”ผมไม่มีเวลามาเล่นเกม ออกไปซะหากไม่จ่าย”


“เดลวิส”หานเซี่ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ แต่มันกลับดังเหมือนฟ้าร้องในหูชายคนนั้น


เขาแข็งค้างพยายามจิบน้ำจากขวด บรรยากาศผ่อนคลายสลายตัวและเขาก็กลายเป็นไร้อารมณ์ ราวกับเขาไม่ได้เมาเลย ความวิงเวียนในดวงตาเขาหายไป


เขาวางขวดลงและกล่าว”รอเดี๋ยว ผมต้องล้างหน้า”


ชายคนนั้นเดินออกไปและเข้าห้องน้ำ


มีเพียงหานเซี่ยวและเลอเด็นที่ยืนอยู่และเลอเด็นก็กล่าว”นายไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ งั้นนายก็ไม่ได้มาเยี่ยมคนที่นายรู้จักมาก่อน”


“ฉันรู้จักพี่ชายเขา นั่นทำให้ฉันตัดสินใจมาเยี่ยมเขา”หานเซี่ยวอธิบาย


ชายเมาคือเฮอลัส และเดลวิสก็คือพี่ชายเขา สายอาชีพย่อยที่หานเซี่ยวสนใจเรียกว่า[นายช่างอาวุธ] สำหรับผู้เล่น สายอาชีพนี้หาได้ยาก และก็มีวิธีการเปลี่ยนสายอาชีพในเผ่าซันนิล ของสำหรับการกระตุ้นคือ[บันทึกของเดลวิส]


เดลวิสเป็นนายช่างอาวุธชื่อดังก่อนเผ่าซันนิลจะถูกโจมตี เขาสร้างสิ่งประดิษฐ์มากมายสำหรับอาวุธทหาร และก็เขียนความคิดเขาทั้งหมดในบันทึกเขา หลังดาราทมิฬโจมตี เดลวิสก็ตายในการต่อสู้ และบันทึกก็อยู่ในมือเฮอลัส


หานเซี่ยวอยากยืมบันทึกจากเฮอลัสเพื่อเปลี่ยนสายอาชีพ


หลังจากนั้นไม่นาน เฮอลัสก็กลับมาพร้อมหัวเปียกชื้น เขาเป็นชายวัยกลางคน ผิวเขาเป็นสีฟ้า และมีรอยย่นเล็กน้อยบนหน้าผาก เขาคงมีอายุประมาณร้อยห้าสิบปี นอกจากนั้น เขาเกือบจะเหมือนพวกพิเศษ


เฮอลัสเปิดขวดและส่งให้หานเซี่ยว”ผมไม่รู้ว่าคุณหาตัวผมพบได้ไง แต่ชื่อพี่ชายผมคู่ควรกับขวดนี้ ผมทำมันด้วยตัวเอง”


ขวดเต็มไปด้วยควันขาวและกลิ่นแอลกอฮอล์ก็ทะลุจมูกพวกเขา เครื่องดื่มที่ทำโดยซันนิลมักทำจากใบของต้นไม้ซึ่งมีรสขม หลังจิบ หานเซี่ยวรู้สึกได้ถึงความเผ็ดร้อนที่แตะลิ้น


 


“ผมเป็นแค่ช่างกล ผมเคยได้ยินถึงชื่อพี่ชายคุณ และอยากยืมบันทึกเขา.


“แค่นั้น?”เฮอลัสเลิกคิ้วและพยายามหาข้อมูลเพิ่ม


“ตอนนี้ก็มีแค่นั้นแหละ”หานซี่ยวหัวเราะและมองเลอเด็น”คุณคิดว่าผมมีจุดประสงค์อื่นงั้นหรอ?”


เฮอลัสได้ยินคำตอบคลุมเครือและถามเสียงเย็น”ไม่คิดว่านี่เป็นการข่มขู่งั้นหรอ?”


“ไม่ ไม่ ผมเป็นมิตร”หานเซี่ยวยิ้ม”แต่สำหรับคนดีอย่างคุณ คุณคงไม่ปฏิเสธคำขอเล็กๆน้อยๆนี่ใช่ไหม?”


อีกด้าน เลอเด็นไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น พวกเขายังคงคุยด้วยภาษาซันนิล?ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจเลย?


เฮอลัสลังเลสักพัก แต่ก็เผยสีหน้ายอมแพ้ เขาตรงเข้าบ้านและออกมาพร้อมบันทึกในมือ เขาฟาดมันลงบนโต๊ะและกล่าว”ออกไปเมื่อคุณอ่านเสร็จแล้ว”


หานเซี่ยวแตะบันทึก และหน้าต่างสถานะก็ผุดขึ้น


 


ท่านได้รับ[บันทึกของเดลวิส]


ในที่สุดเขาก็ได้รับมัน!หานเซี่ยวระงับความตื่นเต้นไว้พลางเปิดบันทึก เขาทำตัวเหมือนเข้าใจทุกอย่าง แต่บันทึกเขียนด้วยภาษาซันนิล ซึ่งดูเหมือนจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่ทว่า มันไม่สำคัญว่าเขาจะอ่านออกไหม หน้าต่างสถานะได้แสดงความคืบหน้า และตราบเท่าที่เขาอ่านหนังสือจบ เขาก็จะสามารถเปลี่ยนสายอาชีพได้


ผ่านภารกิจทั่วไป คนต้องโชคดีเป็นพิเศษเพื่อให้ได้รับบันทึก ขั้นตอนการได้รับบันทึกซับซ้อน เนื่องจากไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของเฮอลัส คนสาวนใหญ่จึงไม่คิดว่าคนแปลกๆในบาร์จะเป็นชายคนนั้น ส่วนใหญ่ ผู้เล่นจะพบเกี่ยวกับบันทึกโดยการเป็นเพื่อนกับเฮอลัสและดื่มกับเขา จากนั้นเฮอลัสจึงค่อยเริ่มพูดถึงเรื่องพี่ชายเขาตอนเมา


อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวรู้ข้อมูลแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดไปยังตอนจบโดยไม่ต้องทำตามขั้นตอนซับซ้อน


เลอเด็นรู้สึกประหลาดใจและถาม”นายอ่านภาษาซันนิลได้?”

หานเซี่ยวปิดหนังสือและกล่าว”ไม่”


“งั้นนายจะอ่านมันทำไม?!”เฮอลัสจ้องหานเซี่ยวด้วยตาเบิกกว้าง


“แค่คิดว่ามันคือการแสดงความเคารพต่อพี่ชายนายก็พอ ขอบคุณสำหรับเครื่องดื่มนะ”


หานเซี่ยววางบันทึกลงและยิ้ม


“เป็นคนที่แปลกจริงๆ อย่ามากวนฉันอีก!”เฮอลัสตะโกนไล่ตาม


“อาจจะนะ”หานเซี่ยวมองกลับมาอย่างขี้เล่น


หลังเดินออกบาร์ไป หานเซี่ยวก็เปิดหน้าต่างสถานะและดูคำใบ้ใหม่ เขาอารมณ์ดี ในที่สุดเขาก็ได้รับสายอาชีพรองและสามารถใช้ค่าประสบการณ์ที่สะสมไว้ได้!


 


ท่านได้รับสายอาชีพ[นายช่างอาวุธ]

 

 

 


ตอนที่ 339

 

[นายช่างอาวุธ]ระดับ1


+1ความทนทาน +3สติปัญญา +1.5%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร +2แต้มสถานะ +1แต้มศักยภาพ


ท่านได้รับทักษะ[เครื่องจักรสงคราม]


ท่านได้รับทักษะ[การซ่อมแซมเครื่องจักรสงคราม]


 


มีห่วงโซ่ผลกระทบระหว่างนายช่างอาวุธและสายช่างกล ทักษะและสถานะนับว่าเหมาะกับสายช่างกล และสายรองนี้ก็เทียบกับสายหลักครึ่งหนึ่ง ระดับการใช้สำหรับสายอาชีพรองประเภทนี้ถือว่าสูงสุด


สายประเภทวิศวกรจะเน้นสติปัญยา และก็ไม่ถือว่ามีความสามารถต่อสู้ แต่ทว่า การเป็นวิศวกรนั้นมีค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับทักษะต่อสู้เพิ่มเติม นายช่างหมายถึงเครื่องจักรสงครามเช่นป้อมปืน เกราะ โล่และอื่นๆ สายอาชีพรองนี้จะให้บัฟเพิ่มเติมเมื่อสร้างและใช้


หานเซี่ยวดึงประสบการณ์ที่สะสมไว้ออกมาและใช้ทักษะทั้งสองนี้


 


[เครื่องจักรสงคราม]ระดับ10:เมื่อใช้เครื่องจักรสงคราม เพิ่มโบนัสพลังโจมตีและป้องกัน18%


[การซ่อมแซมเครื่องจักรสงคราม]ระดับ10:เมื่อซ่อมแซมเครื่องจักรสงคราม ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้น24% ในช่วงกระบวนการซ่อมแซม สุ่มฟื้นความทนทาน3-6% โอกาสขึ้นอยู่กับสติปัญญา


 


ผลกระทบของทักษะทั้งสองนี้เรียบง่ายแต่ดีงาม และก็มีประโยชน์ต่อหานเซี่ยวมาก แต่ทว่า เหตุผลหลักที่เขาอยากได้รับสายอาชีพรองก็เพราะความสามารถที่ปลดล็อคหลังเพิ่มระดับพวกมันจนเต็ม


เขาใช้ค่าประสบการณ์90ล้านหน่วยเพื่อเพิ่มสายอาชีพรองจนเต็ม


[นายช่างอาวุธ]ถึงระดับ10แล้ว(สูงสุด)


+1ความทนทาน +3สติปัญญา +1.5%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร +2แต้มสถานะ +1แต้มศักยภาพ


 


โดยรวมแล้ว สายอาชีพนี้มอบแต้มความทนทานให้เขา10หน่วย สติปัญญา30หน่วย +แต้มสถานะ20หน่วย และแต้มศักยภาพ10หน่วย รวมถึงรางวัลหลังเพิ่มระดับทักษะจนเต็ม


ปัจจุบัน สถานะสติปัญญาของหานเซี่ยวถึง391แล้ว หากเขาใช้แต้มสถานะฟรีทั้งหมด มันก้จะเกินความต้องการเปลี่ยนสายอาชีพเขาซึ่งก็คือ400


นายช่างอาวุธถูกเพิ่มระดับจนเต็ม และก็เหมือนนักย่องเบา เขาได้รับความสามารถใหม่า


 


ท่านได้รับทักษะ[การดัดแปลงทางทหาร]


ท่านได้รับความสามารถ[การเห็นแจ้งในเครื่องจักรทางทหาร]


[การดัดแปลงทางทหาร]ระดับ10 เมื่อสร้างหรือดัดแปลงเครื่องจักรสงคราม  สถานะของอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้น8%-14%(หมายเหตุ : บัฟขึ้นอยู่กับสถานะดั้งเดิมและไม่รวมสถานะจากบัฟอื่นๆ)


 


นี่เป็นสิ่งเดียวกับการเพิ่มพลังเครื่องจักร หานเซี่ยวพยักหน้าและมองความสามารถอื่น ซึ่งสำคัญสุด


 


[การเห็นแจ้งในเครื่องจักรทางทหาร] : ท่านได้รับการเห็นแจ้ง เมื่อสร้างเครื่องจักรสงครามใหม่ +30%อัตราความสำเร็จเมื่อสร้างสายการผลิตใหม่ +10%คุณภาพของสายผลิต -18%ต้นทุนทรัพยากร และ+20%ความเร็วการผลิต


 


ผลผลิตเป็นสาระสำคัญของสายอาชีพรองนี้


ช่างกลมีหลายขั้นตอนในการพัฒนาพวกเขา และแต่ละคนก็ถูกระบุด้วยการวัดประสิทธิภาพอย่างหนึ่ง หนึ่งในนั้นคือความเร็วการสร้างขณะสู้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ช่างกลทรงพลังมากตอนเวอร์ชั่น3.0 สำหรับสายประกอบ มันเป็นขั้นตอนต่อมา การผลิตจำนวนมากเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาครั้งใหญ่ โหดร้ายมากสุด และก็เป็นยุทธวิธีที่มีราคาแพงมากสุด


สำหรับช่างกลทั่วไป พวกเขาใช้อาวุธที่ดีสุด สำหรับการผลิตจำนวนมาก อุปกรร์จะมีคุณภาพต่ำ แม้ความแตกต่างด้านคุณภาพจะเพิ่มระหว่างช่างกลทั่วไปและช่างกลที่ใช้การผลิตจำนวนมาก อย่างหลังก็สามารถอุดได้ด้วยจำนวนที่เหนือกว่า


ช่างกลและจอมเวทย์เป็นสายที่ทรงพลังในช่วงท้าย การเร่งจากช่างกลและการเร่งอัญเชิญสามารถเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวได้ รูปแบบต่อสู้ทั้งสองนี้ทำให้ประสบการณ์เกมแย่ลงเพราะมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนถึงเอาชนะพวกเขาได้


แต่ทว่า แม้กลยุทธ์ทั้งสองเหล่านี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็มีต้นทุนสูง ต้นทุนการสร้างกองทัพหนึ่งเป็นอันตรายต่อผู้เล่นมาก ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยช่วงท้ายของเกม ผู้เล่นทุกคนจะมีความสามารถต่อต้านกองทัพ ดังนั้น แม้สายช่างกลจะทรงพลังกว่าศตัรู พวกเขาก็ยังมีขีดจำกัด หากพวกเขาเข้าร่วมเวทีแข่งขัน ความสามารถกองทัพพวกเขาจะลดลงเรื่อยๆและหลังแข่งไปสิบหรือยี่สิบรอบ พวกเขาก็จะใช้ทุกอย่างออกมาจนหมดตัว


และหากทั้งสองใช้การเร่ง งั้นทุกอย่างก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ด้ดวยการต่อสู้แบบทีมหนึ่งระหว่างสองกองทัพ ทั้งสองฝ่ายย่อมสูญเสียพลังทั้งหมดไปในการแข่งครั้งเดียว


ดังนั้น ในโลกก่อนหน้า การเร่งจึงถูกมองเป็นตำนาน มันยากจะพบผู้เล่นเหล่านี้ ดังนั้น หากมีผู้เล่นเช่นนั้น พวกเขาย่อมถือมันเป็นสมบัติ


หานเซี่ยววิเคราะห์สถานการณ์ เพราะผู้เล่นอยู่ในช่วงอ่อนแอ เขาจึงสามารถจัดการพวกเขาได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจะอันตรายในระยะต่อมา และพลังที่แตกต่างจะเกิดดขึ้น ดังนั้น หานเซี่ยวจึงไม่อยากเสี่ยง และการเร่งก็เป็นตัวเลือกที่ชัดเจน


ราคาแพง?!


ในสายตาสุดยอดช่างกลหาน เงินไม่ใช่ปัญหา


โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับความสามารถลดต้นทุน หานเซี่ยวไม่ต้องกังวลถึงต้นทุนและเงินในอนาคต


หานเซี่ยวมีแผนระยะยาวสำหรับการพัฒนาเขา แม้เขาจะไม่ได้เรียนรู้การสร้างสายประกอบ เขาก็ยังมีความสามารถสำคัญทั้งหมด


ระดับ80จะเป็นการเปลี่ยนสายอีกครั้ง และภารกิจเลื่อนสายก็ต้องใช้ค่าประสบการณ์60ล้าน หานเซี่ยวถอนหายใจ มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา


ในเวอร์ชั่น2.0 ระดับสูงสุดคือ90 แต่ของเวอร์ชั่นปัจจุบันคือ60 ผู้เล่นในเวอร์ชั่น1.0ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับภารกิจเลื่อนสายอาชีพ เพราะพวกเขาไม่อาจฝ่ากำแพงได้ ผู้เล่นจึงไม่มีประสบการณ์กับภารกิจเลื่อนขั้นในระดับ60และ80 การเลื่อนสายระดับ60จะทำให้ยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ไม่มากสำหรับระดับ80


เรื่องง่ายนั้นเป็นแต่มาตรฐานของสุดยอดช่างกลหาน ผู้เล่นต้องใช้เวลามหาศาลเพื่อสะสมค่าประสบการณ์60ล้านหน่วย หานเซี่ยวใช้ไป90ล้านเพื่อเลื่อนจากระดับ70เป็น80 ส่วนผู้เล่นที่ไม่มีค่าประสบการณ์ทำได้แค่กัดฟัน


ยิ่งไปกว่านั้น การเลื่อนสายยังไม่ได้ให้อะไรกลับคืนหลังจ่ายค่าประสบการณ์ ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจึงอยากเลิก


หานเซี่ยวอารมณ์ดี และเขาก็คิดกับตัวเอง ฉันแค่ต้องการความรู้ขั้นกลางอีกสองอัน หากฉันได้รับเงินพอจากภารกิจนี้ งั้นฉันก็ควรกลับบ้านได้ ตั้งรกร้าง หาภรรยา และมีลูก…โอ้ว นั่นฟังดูน่าเบื่อแน่ๆ อืม ฉันสามารถเปลี่ยนสายและหาสายหลักใหม่


หลังออกบาร์ หานเซี่ยวก็เลอเด็นก็เดินรอบเมือง


ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาว และแสงอ่อนโยนจากดวงดาวก็พาดไหล่พวกเขา แม้โลกนี้จะอันตราย แต่ก็มีมุมมองที่งดงาม


ภูเขาและป่าเขียวอยู่ไกลออกไป เสียงใบไม้ที่ดังตามเสียงลม และกาแล็กซี่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า หานเซี่ยวสามารถเห็นได้ว่าทำไมพวกซันนิลถึงเลือกดาวนี้


ด้วยการส่ายหัว หานเซี่ยวจำคำพูดหนึ่ง สิ่งอันตรายมากงดงาม


“นายจะไปไหน?”เลอเด็นถาม


“แค่เดินเล่น”


“งั้นก็ออกไปจากที่นี่และกลับฐานไปซะ”


“นายไม่มีอะไรทำที่นี่หรอ?”หานเซี่ยวถาม”อย่างการกลับบ้าน?”


เลอเด็นส่ายหัว”ฉันไม่มีครอบครัว”


หานเซี่ยวลูบคาง”งั้นนายมีภารกิจอะไร?”


“ต่อสู้แนวหน้า”


“นั่นเป็นงานที่อันตรายสุด พวกพิเศษได้รับเงินจากเลือด เหงื่อ และน้ำตา และนายก็ยังไปทำภารกิจอันตรายอย่างนั้น ไม่สงสัยเลยว่าทำไมนายถึงถูกมองเป็นวีรบุรุษ”


ดวงตาของเลอเด็นสั่นไหว เขากำลังจะเปิดปาก แต่ก็หยุดพลางส่ายหัว


หานเซี่ยวเห็นทุกอย่าง เขาดีใจที่ได้รับข้อมูลบางอย่าง


ฉันไม่คิดว่ามันผิด เนื้อเรื่องสำหรับซันนิลมีอยู่แล้ว…


งานทหารรับจ้างไม่ใช่เป้าหมายหลักของการเดินทางนี้ หานเซี่ยวมีเป้าหมายอื่น

 

 

 


ตอนที่ 340

 

เลอเด็นออกไปเข้าร่วมกองกำลังลาดตระเวน และหานเซี่ยวก็แค่นั่งและรอในฐาน อย่างไรก็ตาม เขาได้บรรลุวัตถุประสงค์ของสายอาชีพรองแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองอีก


เมื่อวันแห่งหายนะใกล้เข้ามา ผลของคลื่นก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เสียงพร่ามัวจะดังจากจิตใจของผู้คน เสียงนั้นฟังดูคุ้นเคย แต่ทว่า เมื่อใดก็ตามที่มีคนพยายามจะทำความเข้าใจ มันก็จะหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่


เมื่อความถี่ของเสียงกระซิบวิญญาณเริ่มจับคู่กับความยาวคลื่นสมองของสิ่งมีชีวิต มันจะทำให้เกิดอารมณ์กระเพื่อมผ่านจิตใจ ทหารรับจ้างไม่มีข้อยกเว้นและทุกคนก็มีอาการเหมือนกัน ในทางกลับกัน ทหารซันนิลเจอแบบนี้มาทุกวันอยู่แล้วและทำงานด้วยความมุ่งมั่นตามปกติ


นั่นเป็นการรบกวนจิตใจของศิลพยากรณ์ สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญามากจะมีโอกาสข่มมันได้และไม่ได้รับผลมากนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่คลืน่ระเบิด ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้น และทุกคนก็จะสามารถกับสิ่งที่สัตว์ร้ายพบเจอทุกวัน การใช้ชีวิตในสภาพเช่นนี้ไปตลอดหมายความว่าแรงผลักเล็กน้อยก็เกินพอจะผลักดันสิ่งหนึ่งได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ‘“คลื่น’เป็นประกายไฟที่นำมาซึ่งหายนะ


หวอ!หวอ!


วันนั้น เสียงแหลมของไซเรนดังขึ้นทั่วฐาน ทุกคนคุ้นชินกับเสียงนั้นดี มันหมายความว่าศัตรูมาแล้ว!


บรรยากาศในฐานตึงเครียด ทหารซันนิลวิ่งกลับไปยังตำแหน่งตน และทหารรับจ้างก็สามารถหาทางกลับกลุ่มตนได้อย่างงรวดเร็วเพราะการฝึกวันก่อนๆ


รถถังและรถหุ้มเกราะต่างๆออกปฏิบัติการ และป้อมปืนต้านแรงโน้มถ่วงจำนวนมากก็ลอยขึ้นในอากาศ


ฮืม!


ยานรบประจัญบานทั้งเก้าค่อยๆลอยขึ้น ทำให้ระลอกลมและทรายกวาดทั่ว พวกมันเปรียบเสมือนป้อมปราการทั้งเก้าในอากาศเหนือเมือง แต่ละอันจะหันไปในทิศแตกต่างกัน


หานเซี่ยวก้มหัวลง เห็นหินก้อนเล็กมากมายเริ่มเด้งขึ้นจากพื้น


พื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อยในตอนแรก แต่มันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ท้ายที่สุด เสียงฝีเท้าจำนวนมากก็ดังไปทั่วฐาน ใครๆก็ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายรอบๆป่า


ต้นไม้ถูกแยกโดยฝูงสัตว์ร้ายราวกับว่าอสรพิษยักษ์กำลังเลื้อยมาหา และพวกมันก็กำลังจะมาถึงชายแดนของที่ราบรอบเมือง


บางสิ่งกำลังออกมา คนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกประหม่า เหงื่อพวกเขาหยดเต็มหน้าผาก


“โฮก!”


เสียงคำรามของสัตว์ร้ายเหมือนเสียงฟ้าร้อง และต้นไม้ก็โค่นลงมาเผยให้เห็นฝูงสัตว์ร้ายจำนวนมหาศาล!

พวกมันเหยียบย่ำกันเองราวกับพวกมันคลุ้มคลั่ง มันราวกับว่ากระแสความมืดได้กวาดหาพวกมัน


เพียงแค่ภาพตรงหน้าก็ทำให้หัวใจของหลายคนเต็มไปด้วยความกลัว


“ยิงได้!”เจ้าหน้าที่ตะโกนอย่างท้อแท้


บูม!


อึดใจต่อมา ปืนใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนรอบแนวป้องกันก็เปิดฉากยิงทันที ทำให้แก้วหูของหลายคนดับ


หายนะมาถึงแล้ว!



เมืองป่ามีกำแพงป้องกันหลักห้าแห่ง แห่งแรกประกอบไปด้วยทุ่นระเบิดและป้อมปืนอัตโนมัติจำนวนมาก ตามแผนรบ ส่วนนี้จะประสานงานกับการยิงสนับสนุนจากแนวหลังเพื่อสลายฝูงสัตว์ประหลาด แห่งสองจะประกอบไปด้วยป้อมปราการ คูน้ำ กับดักและกำแพงไฟฟ้า ชะลอการเคลื่อนไหวของสัตว์ ช่วยให้ป้อมปืนต้านแรงโน้มถ่วง รวมถึงยานรบสร้างความเสียหายได้


กำแพงที่สามคือแนวป้องกันเหล็ก ฝูงบินจะไล่ตามรถหุ้มเกราะและทีมป้องกัน เมื่อสัตว์ร้ายเข้าสู่ส่วนนี้ การรบจะเข้าสู่ระยะประชิด และทีมป้องกันก็จะปลดปล่อยความเกรี้ยวกราดของอาวุธโลหะใส่สัตว์ร้ายทีนี่ นี่ยังเป็นจุดที่เนวิลล์ประจำการ


สองส่วนสุดท้ายเต็มไปด้วยปืนใหญ่ จุดประสงค์เพื่อสนับสนุนแนวหน้า กองทัพโต้ตอบเร็วและกำลังเสริมอื่นยังประจำการที่สองส่วนสุดท้าย ในช่วงเวลาที่สงบของหายนะ คนจากส่วนสุดท้ายจะทำการซ่อมแซมและทำการรักษาทหาร


กลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ประจำอยู่ที่สองส่วนสุดท้าย พวกเขาได้รับมอบหมายให้อยู่ในฝ่ายรถหุ้มเกราะหนักระยะยาวชื่อรหัสG7 รถถังหลักสามคันจะทำหน้าที่เป็นอาวุธหลักของขบวน รถถังเหล่านี้สามารถเกาะติดพื้นและแปลงเป็นป้อมปืนขนาดมหึมาได้ พวกเขายังติดตั้งป้อมปืนอัตโนมัติ18อันและกองกำลังภาคพื้นดินจำนวนหนึ่งรอบรถถัง


ในฐานะช่างกล งานของหานเซี่ยวคือการควบคุมปืนใหญ่เหล่านี้ เขามีแค่ภารกิจเดียว ยิงปืนใหญ่!คนส่วนใหญ่ที่มีสายช่างกลล้วนได้รับงานเดียวกัน ด้วยความสัมพันธ์พิเศษและความสามารถเกี่ยวกับกลไก พวกเขาจึงสามารถเพิ่มความเสียหายของอาวุธเหล่านี้ได้ ด้วยระดับวิกฤติของหายนะ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนๆเดียวจะมีอิทธิพลต่อสนามรบ


บูม!


กระสุนปืนใหญ่ยิงเป็นเส้นโค้งและคลุมท้องฟ้าก่อนจะตกใส่ฝูงสัตว์ ทำให้หมอกสีแดงบานสะพรั่งไปทั่ว เนื้อและกระดูกสัตว์ปลิวว่อน ทำให้เกิดภาพน่ากลัว


คลื่นสัตว์หยุดชะงักชั่วคราว อย่างไรก็ตาม สัตว์ด้านหลังกลับไม่เกรงกลัวเลยและพุ่งข้ามศพพวกมัน ฝืนวิ่งผ่านพายุกระสุนปืนใหญ่และระเบิด


กลิ่นดินปืนและเลือดผสมเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดลมร้อนแรงเพราะการระเบิดหลายครั้ง


บูม!บูม!บูม!


หานเซี่ยวสามารถรู้สึกได้ถึงการหดตัวครั้งใหญ่ทุกครั้งที่เขาเปิดฉากยิงด้วยปืนใหญ่ เขายิงทีละนัดพลางเฝ้าดูกระสุนตกใส่ใจกลางฝูงสัตว์ ระเบิดเหมือนดอกไม้สีส้ม


เขาเริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับการยิงปืนใหญ่นี้มาก!


แถวและแถวการแจ้งเตือนผุดไม่หยุด แจ้งเตือนว่าหานเซี่ยวกำลังได้รับค่าประสบการณ์ แม้จะเป็นการหยิบยืมอาวุธของพวกซันนิลจะทำให้ค่าประสบการณ์ถูกหัก หานเซี่ยวก็ทำเช่นนี้เพื่อคำนวณว่าผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์มากแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น การมีส่วนร่วมในสงครามระดับนี้ย่อมทำให้ผู้เล่นตื่นเต้น มันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และพวกเขาก็พยายามมีส่วนร่วมที่สุด


คลื่นดำหยุดสั้นๆ เปลวไฟจากด้านหลังปกคลุมทุกตารางนิ้ว และพวกมันก็แทบไม่อาจก้าวมาข้างหน้าได้โดยไม่ทิ้งเลือดเนื้อ


ทหารรับจ้างหน้าใหม่ผู้กำลังยิบปืนใหญ่ข้างหานเซี่ยวกล่าว”งั้น หายนะก็ไม่ใช้เรื่องใหญ่ พวกมันเข้ามาไม่ได้เลย”


หานเซี่ยวเหลือบมอง แต่ก็ไม่พูดอะไร พวกกระจอกนี่ไม่ได้สนอะไรมากตอนพวกซันนิลบรรยายถึงฝูงสัตว์ นี่แค่ระลอกแรกและถือว่าเป็นสัตว์ขนาดเล็กสุด ขนาดใหญ่สุดตรงหน้ายังสูงไม่ถึงสิบเมตร ตามข้อมูล สัตว์เหล่านี้ก็แค่อาหารเรียกน้ำย่อย ฝันร้ายยังมาไม่ถึง


การระดมยิงด้วยปืนใหญ่กินเวลากว่าสี่ชั่วโมงก่อนชะลอลง กองกำลังสนับสนุนรีบวิ่งผ่านสนามรบอย่างรวดเร็วเพื่อเติมกำลังพล หน่วยเครื่องยิงไฟยังถูกส่งออกไปเผ่าเลือดและคราบเพื่อป้องกันโรคระบาด ทหารยังถูกแทนที่ใหม่ตลอด แต่ละตำแหน่งมีวงจรกะที่กำหนดไว้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารคนจะผ่านการต่อสู้ดุเดือดเช่นนี้ได้โดยไม่พัก


เมื่อหานเซี่ยวเดินออกจากแท่นปืนใหญ่ไปพัก เครื่องยนต์ก็ดังขึ้นเหนือหัวเขา ฝูงบินลาดตระเวนลำใหม่ได้บินขึ้น อันตรายที่แนวหน้าเผชิญสูงกว่ากองกำลังป้องกันรอบเมืองมาก และปฏิบัติการพวกเขาก็ล้วนอยู่ภายใต้ความตาย พวกเขาเหมือนเรือลำเล็กที่ลอยอยู่บนมหาสมุทรตอนเกิดพายุ


ไม่นาน กองลาดตระเวนแนวหน้าก็ส่งข้อมูลมา สัตว์คลื่นใหม่กำลังจะมาถึง การเปลี่ยนแปลงใหม่ของทหารได้เตรียมรอศัตรูแล้ว


ฉากก่อนหน้าฉายซ้ำ แต่ทว่า คลื่นสัตว์สามารถเข้ามาใกล้ได้มากขึ้น จากนั้น เครื่องบินขับไล่ก็บินออกไปพร้อมปูพราม ไฟและระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง เครื่องบินขับไล่ซันนิลมีขนาดเล็กและว่องไว ปีกนั้นมีการออกแบบคล้ายชุดจักรกลเขา หานเซี่ยวสามารถบอกได้ว่าเครื่องบินเหล่านี้เหมาะกับการต่อสู้ทางอากาศด้วยความเร็ว


ศัตรูยังอยู่ไกล และแม้ว่ามันจะดูเหมือนจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทหารก็ยังไม่กลัว ระยะห่างระหว่างพวกเขาและสัตว์นั้นมีป้อมปราการเหล็กขวางกั้น


แต่ทหารซันนิลกลับเต็มไปด้วยความกังวล


ในเวลานั้น จุดสีดำก็ปรกาฏเหนือขอบฟ้าเล็กน้อย อสูรบินกำลังใกล้เข้ามา มันมีขนาดเล็กยาวไม่ถึงเมตรรวมถึงขนาดกลางที่มีปีกยาวหลายเมตร พวกมันดูดุร้ายและไม่เหมือนอะไรที่ทหารรับจ้างเคยเห็น บางตัวยังดูเหมือนแมลงสาบยักษ์


ข้อมูลที่พวกเขาให้เราบอกว่าสัตว์บินจะไม่ปรากฏจนกว่าวันที่สาม แต่ดูเหมือนพวกมันจะมาถึงก่อนเวลา


เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้น ผู้บัญชาการG7ก็ตะโกนออกคำสั่งใหม่


 


“เปลี่ยนเป็นกระสุนระเบิดและปรับเป้า ยิงขึ้นฟ้า!”


กองทหารปืนใหญ่ปฏิบัติตามคำสั่งและระเบิดท้องฟ้าทันที ทำให้ร่างกายชุ่มเลือดตกลงมา


เครื่องบินขับไล่บินสูงขึ้นเพื่อหาจุดยิงใส่พวกมัน


เครื่องบินขับไล่ติดต่อม่านพลังงานง่ายๆ สัตว์อากาศชุดแรกก็แค่ใช้กรงเล็บแหลมพวกมันและฟัน พวกมันไม่อาจทำอะไรได้มากนอกจากสร้างเสียงแหลม เครื่องบินขับไล่พุ่งเข้าและออกฝูงสัตว์ ดดูเหมือนอัศวินยุคกลางที่พุ่งแหวกผ่านทหารราบ


การต่อสู้นี้นับเป็นการต่อสู้ระดับสูงแล้ว เวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางการต่อสู้ดุเดือด


ตอนแรก ทหารรับจ้างสู้อย่างผ่อนคลาย แต่ทว่า หลังผ่านไปสามวันสั้น เมื่อสัตว์เพิ่มจำนวนและขนาดขึ้น พวกเขาก็ไม่อาจหัวเราะได้อีก การต่อสู้อย่างต่อเนื่องเริ่มดึงความเหนื่อยล้าจากทุกคน


หานเซี่ยวทำตามหน้าที่อย่างดี


วันที่4 ศัตรูสามารถคุกคามเขตปลอดดภัยด้านในได้


พื้นผิวสั่นสะเทือนราวกับคลื่น กลุ่มสัตว์ร้ายที่สามารถขุดและเคลื่อนไหวใต้ดินได้ชนกับกำแพงเหล็กของส่วนที่สามและพุ่งออกมา นี่คือครั้งแรกที่กองทัพด้านหลังได้เห็นสัตว์ร้ายในระยะใกล้


การปรากฏของสัตว์ใต้ดินเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระยะใกล้ พวกพิเศษที่รออยู่ด้านหลังเขตสามสามารถแสดงพลังพวกเขาได้แล้ว


กำแพงเหล็กและเครื่องจักรบนเขตสามพลันปลดปล่อยความเกรี้ยวกราด


ตอนที่ 341

 

สัตว์ร้ายคลานออกมาจากพื้นและแยกเขี้ยวพวกมัน อาละวาดไปทั่วแนวป้องกัน


ตึง!ตึง!


เสียงยิงจากปืนของทหารซันนิลฟังดูเหมือนปืนใหญ่ มีเปลวไฟกว่าหนึ่งเมตรกระโจนออกจากปากกระบอกปืนพวกเขา มันเหมือนมือมหาศาลที่มองไม่เห็นได้ถูกส่งไปกลบฝังสัตว์บิน สอยพวกมันลงมาและระดมยิง เสียงกรีดร้องังระงม กระดดองและเนื้อพวกมันกลายเป็นเนื้อบด  กระจายไปทั่วพื้น


“อย่าย้ายออกจากตำแหน่ง!”


เสียงของเนวิลล์ดุดันและเยือกเย็น สั่งให้ทีมป้องกันB12ภายใต้คำสั่งเขาจากอุปกรณ์สื่อสาร เขามีทหารสามสิบนายภายใต้คำสั่งเขา และก็ระดมยิงไม่ให้สัตว์ร้ายเข้ามา


ในช่วงช่องโหว่ระหว่างการยิง เนวิลล์กวาดตามอง คลื่นลูกนี้ไม่ได้สร้างปัญหามากนัก เกราะบางชิ้นได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ


บูม!


ทันใดนั้นสัตว์ร้ายสีดำสองตัวก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นใกล้ๆพวกเขา ปากขนาดใหญ่พวกมันอ้ากว้างใส่เนวิลล์และทหารคนอื่น


ก่อนสมาชิกคนอื่นของทีมป้องกันจะได้หันปืนมา เนวิลล์ก็ตอบโต้แล้ว เขาโยนอาวุธปืน เอื้อมมือโลหะเขาออกไปในชั่วพริบตา และคว้าปากมันไว้อย่างแม่นยำ ไม่ปล่อยให้เขี้ยวมันเจาะผ่านหมวกเขา ในชั่วพริบตา กระแสก๊าซก็ยิงออกจากแขนกล ข้อต่อทั้งหมดถูกล็อค หยุดพลังกัดอันรุนแรงของสัตว์ร้าย วินาทีต่อมา ใบมีดก็เด้งออกจากข้อมือเขา ตัดปากขนาดใหญ่ครึ่งหนึ่งของมัน


เนวิลล์ต้านทานกรงเล็บมันอย่างดุดัน ตรึงตำแหน่งตัวเองและจัดการโยนสัตว์ร้ายลงพื้น จากนั้นก็เหยียบลำคอมันด้วยเท้าเหล็ก คล้ายเข็มที่กดลงบนสัตว์ร้าย จากข้อมือเขา เขารีบดึงปืนพกแม่เหล็กไฟฟ้าสองกระบอกออกมา และยิงเจาะกระโหลกมัน


เลือดไหลไปทั่วชุดเกราะเขา และหน้าจอหมวกก็ถูกบังด้วยเมือก


การกระทำนี้รวดเร็วและราบรื่น ไม่แสดงความหนักจากการสวมเกราะหนัก


ทหารคนอื่นที่ถูกโจมตีไม่แข็งแกร่งเท่า หมวกเขาบิดและผิดรูป เกือบจะแบนและก็มีเลือดไหลจากช่องว่างของหมวกพลางล้มลง


นี่คือความตายครั้งแรก


เขายิงหลายนัดใส่ท้องของสัตว์ร้ายก่อนตาย ทำหน้าที่เขาจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต เขายังกังวลถึงเนวิลล์ และต้องการช่วยหัวหน้าก่อนตาย ปากกระบอกปืนเขาหันไปทางหัวหน้าเขา แต่ก็ไม่มีพลังพอจะลั่นไก


เกราะซันนิลจะเพิ่มความสามารถต่อสู้ให้ทหารทั่วไป มากพอจะสู้กับสัตว์ร้าย เกราะชั้นNCOของเนวิลล์ยิ่งมีความสามารถกว่า แม้ผู้สวมจะไม่ใช่พวกพิเศษ แต่ด้วยพลังของเกราะและในฐานะทหารผ่านศึก เขาย่อมไม่แพ้ทหารรับจ้างส่วนใหญ่


เนวิลล์หยิบปืนกลขึ้น ยิงและฆ่าสัตว์ร้ายตัวนี้ เขามองดูศพผู้ใต้บัญชา และโดยไม่เปลี่ยนเสียง เขาตะโกน”ทิ้งเขาไว้ อย่าเสียขบวนเด็ดขาด”


 


หลังจากอยู่ในกองทัพมากว่าสิบปี เขาก็ไม่อาจนับได้ว่าสวมเกราะนี้มากี่ครั้งแล้ว


ในชีวิตทหารยาวนาน เขาได้มีส่วนร่วมในภัยพิบัติดาราทมิฬ พบเจอการอพยพ และพาทีมสอดแนมมาสำรวจระยะแรกของดาวซันนิล มีสหายที่ตกตาย จำนวนทหารผ่านศึกยิ่งน้อยลง และเพื่อนเก่าเขาก็หายไปทีละคน


ทีมของเนวิลล์ได้รับการเติบเต็มหลายครั้ง ผู้ใต้บัญชาเขาตอนนี้เป็นพวกหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ากองทัพได้ไม่กี่ปี เขามักนำทีมให้ไปเจอภารกิจอันตราย ดังนั้นความเสียหายจึงมักหนักหน่วง รวมถึงเพื่อนหลายคนที่เขารู้จัก…เสียใจ?คำนี้ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมเขา เนวิลล์ไม่สนใจการตายของลูกน้อง เพื่อปกป้องเผ่าพันธ์ การเสียสละไม่อาจหลีกเลี่ยง นี่มักเป็นความเชื่อเขาเสมอ


ในสายตาคนอื่น เนวิลล์คือผู้บัญชาการที่เลือดเย็นมาก


หลังเอาชนะสัตว์คลื่นนี้ ทีมสอดแนมก็ส่งข้อความกลับมาว่ามีช่องโหว่ระหว่างการโจมตี เนวิลล์ร้องขอการซ่อมแซม รถบรรทุกอุปกรณ์ขับมาข้างค่าย กลุ่มซ่อมบำรุงมาพร้อมอุปกรณ์และแผ่นโลหะทุกชนิด เริ่มซ่อมเกราะของทีมป้องกัน เนวิลล์ถูกล้อมด้วยช่างซ่อมบำรุงที่มีอุปกรณ์เชื่อมไฟฟ้าและในเวลาเดียวกัน เขาก็เห็นหานเซี่ยวเดินมา


เพราะเลอเด็น เนวิลล์จึงมีความประทับใจต่อหานเซี่ยว เขากล่าวเสียงต่ำ”ทหารรับจ้าง กลับไปประจำตำแหน่ง!”


“ผมอยากขอเปลี่ยนภารกิจ”หานเซี่ยวกล่าว


“ไม่มีภารกิจที่ปลอดภัยไปกว่าสิ่งที่คุณกำลังทำแล้ว”น้ำเสียงเนวิลล์รุนแรง เขาเคยเห็นทหารรับจ้างจำนวนมากร้องขอให้เปลี่ยนภารกิจเพราะกลัวหายนะและไม่อยากอยู่ในแนวหน้าที่อันตราย


ซันนิลจะไม่บังคับทหารรับจ้างให้รับหน้าที่อันตราย พวกเขาแค่ต้องเสียคะแนนความน่าเชื่อถือและรางวัล แน่นอน เนวิลล์มักกำจัดพวกเขาออกไปโดยเร็ว เขารู้สึกว่าแม้แต่คำพูดเดียวก็เป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ดังนั้นเขาจึงอยากใช้เวลานั้นเพื่อหลับตาและพักฟื้น


อย่างไรก็ตาม งานที่ปลอดภัยสุดที่ทหารรับจ้างสามารถขอได้คือสิ่งที่หานเซี่ยวกำลังทำอยู่ เนวิลล์ไม่รู้ว่าปัญหาของแบล็คสตาร์คืออะไร หรือเขาแค่กลัวและอยากได้งานที่ปลอดภัยกว่า?ไม่สิ เขาคือเพื่อนของเลอเด็น เขาดูไม่เหมือนคนอย่างนั้น


เนวิลล์ระงับอารมณ์เขาและถาม”คุณอยากขออะไร?”

“ทีมผมอยากเข้าร่วมทีมสอดแนม.


ทันทีที่เขากล่าว ทหารและทหารรับจ้างแถวนั้นก็มองด้วยความประหลาดใจ


เนวิลล์คิดว่าเขาผิดพลาด นี่เป็นภารกิจที่อันตรายสุด ทหารรับจ้างมักหลีกเลี่ยงอันตราย นี่เป็นครั้งแรกที่บางคนร้องขอภารกิจอันตรายเช่นนี้


เนวิลล์เป็นคนพูดน้อย แต่แม้กระทั่ง เขาก็อดถามไม่ได้”ทำไม?”


“สมาชิกผมมีความสามารถพิเศษบางอย่าง พวกเขาเหมาะกับภารกิจอันตรายมาก”หานเซี่ยวกล่าว”นอกจากนี้ เลอเด็นคือเพื่อนผม …ถึงกระนั้น ผมก็ยังต้องการค่าตอบแทน นั่นคือหลักการผม”


“..ผมจะส่งคำขอให้เบื้องบน”น้ำเสียงเนวิลล์ไม่เย็นชาอีกต่อไป และทหารรอบๆก็แสดงความเคารพ ไม่ว่าเหตุผลจะคืออะไร ทหารรับจ้างเหล่านี้ก็ยินีเสี่ยงเพื่อช่วยเผ่าพันธ์พวกเขาแม้จะเป็นคนแปลกหน้า และการกระทำนี้ก็มากพอจะซื้อใจชาวซันนิล


 


ทหารรับจ้างคุยกันเอง พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับทีมหานเซี่ยว


“พวกเขามาจากกลุ่มไหนฦ.

“น่าจะชื่อแบล็คสตาร์นะ”


“ไม่เคยได้ยินมาก่อน อาจเป็นพวกหน้าใหม่ แต่ทำไมละ?มันไม่คุ้มนะหากตาย”


ไม่นาน ภารกิจใหม่ก็ผุดขึ้น การสอดแนมป่า รางวัลคือ8000อีนาส และเนื่องจากมันเป็นภารกิจที่มอบให้ทั้งกลุ่มทหารรับจ้าง ผู้เล่นอื่นจึงได้รับด้ดวย


ภาพภารกิจบนหน้าต่างสถานะสร้างความพึงพอใจต่อหานเซี่ยว เนื่องจากการไม่มีคะแนนความน่าเชื่อถือพอ พวกเขาจึงไม่อาจรับภารกิจอื่นได้ในศูนย์จูเบอรี่ แต่ทว่า พวกเขาสามารถต่อรองได้เมื่ออยู่บนดาวซันนิล แม้การจ้างส่วนตัวประเภทนี้จะไม่เพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือ แต่มันก็ไม่ขาดรางวัลและสามารถได้รับชื่อเสียงอีกด้วย


การสอดแนมป่าเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่คิดไปด้วยตนเอง เขากลับให้ผู้เล่นทำมัน ยังไงพวกเขาก็ไม่มีวันตาย ดังนั้นพวกเขาจึงเหมาะกับการสอดแนมสุด และเขาก็ยังได้รับรางวัลต่อให้ผู้เล่นทำมัน


ผู้เล่นประหลาดใจ แม้มันจะปลอดภัยในค่าย มันก็ยังน่าเบื่อ ตอนนี้พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจด้วยวรางวัล ผู้เล่นไม่สนใจถึงอันตรายของการสอดแนมป่าเลย


“อีกหนึ่งคำขอ ผมหวังว่าจะได้เข้าร่วมทีมซ่อมแซมสนามรบ”หานเซี่ยวกล่าว”ผมเป็นช่างกล…ค่อนข้างมีฝีมือ”


“ซ่อมแซม?”เนวิลล์ขมวดคิ้ว


“ผมรู้สึกว่างานนี้เหมาะกับผม”


 


การซ่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายสนับสนุน ครอบคลุมทุกอย่าง การปล่อยให้ทหารรับจ้างทำมันย่อมเสียทรัพยากร และมันก็เทียบได้กับการโยนเงินทิ้ง แต่ทว่า เนวิลล์ไม่ได้ปฏิเสธทันที กลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์เพิ่งรับภารกิจที่อันตรายสุด และคำขอของหัวหน้าพวกเขาก็ไม่ได้ข้ามเส้น


หานเซี่ยวรับเกราะชั้นผู้ใต้บัญชาขึ้นมาและเริ่มซ่อมแซมจุดนั้น ใช้เครื่องมือทุกประเภททีละอัน ประกายไฟแลบขึ้น ก่อนคนอื่นจะตอบสนอง เกราะนี่ก็ซ่อมไป90%แล้ว ความสัมพันธ์กับเครื่องจักรเขาสูงมาก และเขาก็ได้รับการสนับสนุนจาก[นายช่างอาวุธ] ดังนั้นความเร็วการซ่อมเขาจึงสูงมาก


 


“หากอุปกรณ์พวกคุณแค่ได้รับการซ่อมแซมในช่วงพัง มันจะอันตรายมาก แต่ทว่า ผมแข็งแกร่งพอจะปกป้องตัวเองในสนามรบและสามารถซ่อมแซมได้ ช่วยให้พวกคุณปลอดภัย”


เนวิลล์ถามหัวหน้าเขาและได้รับคำตอบ”ตกลง”


การซ่อมแซมสนามรบจำต้องเป็นพวกแนวหน้า หานเซี่ยวยอมแพ้ตำแหน่งปลอดภัยและรับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น พวกซันนิลประทับใจมาก


มีน้อยคนที่คิดทำเช่นเขา!


เมื่อเห็น จันทราเมเปิ้ลก็นึกถึงเป้าหมายของหานเซี่ยวในการมายังกาแล็กซี่ ทุกตัวละครหลักจะมีบุคลิกแบบตน ความชอบธรรมดูเหมือนจะไหลผ่านเส้นเลือดเขา นี่คือบุคลิกของวีรบุรุษงั้นหรอ?


หลังภารกิจเปลี่ยน ผู้เล่นก็ถูกดึงไปสอดแนมป่า พวกเขาตรงไปก่อนการโจมตีรอบต่อไปจะมาถึง และก็แยกกันชั่วคราว


หานเซี่ยวไม่จำเป็นต้องใช้ปืนใหญ่อีก มุ่งตรงสู่ทีมซ่อมแซมสนามรบเพื่อรายงาน โดยธรรมชาติ นี่คือส่วนหนึ่งของแผนเขา


สายช่างกลสามารถย้อนพิมพ์เขียวได้จากการซ่อมและดัดแปลง และยังได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก หานเซี่ยวไม่ได้ขาดค่าประสบการณ์ ตราบเท่าที่เขามีโอกาสซ่อมแซมพอ เขาก็จะระบุพิมพ์เขยวได้ เขาสนใจในเกราะทหารทั่วไปและเกราะสิบเอกมาก(NCO) และมันก็เป็นเกราะคุณภาพสูง เหมาะแก่การขายให้ผุ้เล่น ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับโชคลาภจากมัน เขายังเพิ่มความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยของกลุ่มทหารรับจ้างเขาได้


อีกสองวันข้างหน้า ทีมป้องกันต้องผ่านการต่อสู้ดุเดือด อุปกรณ์พวกเขาได้รับความเสียหายบ่อยครั้ง ดังนั้นหานเซี่ยวจึงวิ่งวนไปรอบๆสนามรบเพื่อซ่อมแซม ความคืบหน้าการย้อนพิมพ์เขียวเขาเพิ่มขึ้น


แม้แรงจูงใจเขาจะไม่บริสุทธิ์ แต่เวลาซ่อมแซมเขาก็ได้ช่วยทหารไปหลายคน มันชัดเจนและมีประสิทธิภาพมาก แม้กระทั่งเนวิลล์ ผู้ไม่สนใจถึงอาการบาดเจ็บและความตายของลูกน้องนักก็ยังพบว่าหานเซี่ยวถือเป็นผู้ช่วยชั้นเลิศ

 

 

 


ตอนที่ 342

 

ตกดึก ในป่าห่างจากเมืองสองร้อยกิโลเมตร  ทีมสอดแนมดูเหมือนกำลังวิ่งหนี พวกเขาดูตื่นตระหนกและยังคงมองย้อนหลัง ดูเหมือนมีบางสิ่งน่ากลัวกำลังไล่ตามมา เสียงใบไม้ถูกันดังจากป่าด้านหลัง มันดูเหมือนเสียงยังคงใกล้เข้ามา และความมืดสนิทก็ไล่ตามมา


ทีมนี้ประกอบไปด้วยสามคน เป็นยอดซันนิลทั้งหมด กัปตันฟูเมย์กล่าวด้วยตัวสั่นสะท้าน”อย่าหยุดเด็ดขาด ผีเสื้อรัตติกาลอยู่ด้านหลังเรา+.


ตามสัตว์ต่างๆที่ปรากฏขึ้นในเวลาต่างกัน หายนะแบ่งเป็นหลายขั้น การปรากฏของผีเสื้อรัตติกาลเป็นสัญญาณว่าหายนะเข้าสู่ขั้นกลางแล้ว สัตว์เหล่านี้จะออกล่าตอนกลางคืนและเมื่อพวกมันปรากฏตัวกันเป็นฝูง มันก็หมายถึงค่ำคืนแสนอันตราย


คลื่นพลังจิตทำให้สัตว์ทุกตัวบนดาวอาละวาด และเมืองป่าก็แค่ส่วนหนึ่ง มีสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนเข่นฆ่ากันในพื้นที่ต่างๆ ไม่มีที่ใดปลอดภัย หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เกิดฝูงสัตว์ร้ายเพราะสัตว์ที่อ่อนแอจะถูกแรงกดดันจากสัตว์ชั้นบนของห่วงโซ่ ดังนั้นพวกมันจึงออกจากอาณาเขตของสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่าและมุ่งหน้ามายังเมืองป่า เมื่อสัตว์ถูกฆ่าตายในจำนวนมาก มันก็จะดึงดูดสัตว์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


เป้าหมายการสอดแนมคือการหาสายพันธ์ของสัตว์ร้ายและเตือนเมือง นี่เป็นงานที่อันตรายมาก แทบหมายถึงความตาย ทีมสอดแนมป่านี้ได้ส่งข้อความกลับไปแล้ว และตอนนี้ พวกเขาก็กำลังวิ่งเอาชีวิตรอด


เมื่อรู้สึกถึงความเย็นและความมืดที่อยู่ห่างไม่กี่นิ้ว ทั้งสามก็หน้าซีด


ฟูเมย์กัดฟัน เต็มไปด้วยความเสียใจ


“มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว…นี่ไม่ใช่ครั้งแรก!”


เขาเจอหายนะมาสามครั้ง และทุกครั้ง เขาก็จะเลือกทีมสอดแนมป่า เขาเดินเข้าใกล้ประตูแห่งความตายมานับไม่ถ้วนและรอยแผลเป็นบนร่างเขาก็ยังให้ความรู้สึกเจ็บอยู่


ขณะที่เขาออกวิ่ง เขาก็อดคิดถึงชีวิตเขาไม่ได้


ย้อนกลับไปตอนเกิดหายนะครั้งแรก พวกพิเศษได้กลับจากกาแล็กซี่เพื่อปกป้องเผ่าพันธ์ และฟูเมย์ก็ด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากลับรู้สึกเหนื่อยกับการต่อต้าน เลือดเดือดย่อมเย็นลงในไม่ช้า เขาเอาแต่ให้แต่ไม่เคยได้รับอะไรตอบแทน หลังผ่านมาหลายปี ความอดทนของฟูเมย์ก็หมดลง เขารักบ้านเขาจริงๆ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเผ่าพันธ์จะสามารถใช้เขาได้ตามใจชอบและเห็นพวกเขาเป็นเครื่องมือ เหตุผลเพื่อรักษาเผ่าพันธ์กลายเป็นข้อแก้ตัวที่ฟูเมย์รู้สึกรำคาญ


มันไม่ยุติธรรม!ความอดทนเขามาถึงขีดจำกัด เขายอมมอบรางวัลของทหารรับจ้างให้เผ่าพันธ์ และก็ยอมมอบชีวิตให้ อะไรที่ทำให้เผ่าพันธ์มีสิทธิ์ร้องขอกับเขามากมายขนาดนี้?


เพียงเพราะมันเป็นเผ่าพันธ์เขา เขาถึงไม่ได้รับอะไรตอบแทน?!


อะไรที่ทำให้พวกเขามีสิทธิ์ทำให้คนที่แข็งแกร่งอย่างเขาต้องรับผิดชอบมากขนาดนี้!


งานทหารรับจ้างของฟูเมย์ในกาแล็กซี่ได้ขยายความรู้เขา และเขาก็รู้สึกต่อต้านการมอบชีวิตให้เผ่าพันธ์มากขึ้น ชีวิตมีค่ามาก


นักรบหลายคนแน่วแน่ แต่ก็ยังมีหลายคนที่มีความคิดเหมือนเขา หลังให้เผ่าพันธ์มากเกินไป เขาก็รู้สึกว่านั่นเกินพอแล้ว


หากฉันรอดชีวิตในครั้งนี้ ฉันจะไม่มีทางกลับมาที่นี่อีก!ฟูเมย์กัดฟัน


ทันใดนั้น หางก็ยิงออกจากป่าเหมือนแส้ ปลายหางคือกระดูกแหลม มันเจาะใส่ท้องของหน่วยสอดแนม ผู้สอดแนมร้องโหยหวนและเพลิงนักสู้ก็ปรากฏทั่วร่างเขา เขาฉีกหางและของเหลวดำก็กระเด็นใส่หน้าเขา


การโต้ตอบทำให้คนๆนี้ล้าหลังคนอื่นไปชั่วขณะ และนั่นก็หมายถึงชีวิตเขา


ซวบ!


มีหางนับสิบยิงออกมาจากความมืดและพัวพันนักสู้ผู้คนี้ ลากเขาไปในป่าทันที ฟูเมย์หันไปและเห็นไฟของเขาสว่างไปทั่วไป แสดงให้เห็นถึงพลังของนักสู้เกรดC


อย่างไรก็ตาม ไฟนี้กินเวลาอยู่แค่ครึ่งวินาทีก่อนจะระเบิดและแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับร่างคน


ฟูเมย์รู้สึกถึงความอบอุ่นบนใบหน้า หลังลูบคลำ เขาก็ยืนยันว่ามันเป็นเลือดอุ่นของสหายเขา


ในเวลาไม่ถึงวินาที นักสู้เกรดCก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ!


เสียงคำรามของผีเสื้อรัตติกาลดังไปทั่วป่า ไม่ใช่แค่จากด้านหลัง แต่ยังเป็นข้างหน้าด้วย โอบล้อมอีกสองคนไว้ เงาแส้นับพันปรากฏขึ้นในป่ามืด



ตึก ตึก ตึก!


เสียงระเบิดยาวนานจากปืนใหญ่ทำให้ท้องฟ้าสว่างไสว คลื่นสัตว์ประหลาดนี้กินเวลานานถึงห้าชั่วโมง การต่อสู้มาถึงช่วงร้อนระอุ และแนวป้องกันที่สามก็เต็มไปด้วยซากศพ ทีมป้องกันเหล็กต่อสู้มานานและต้องเปลี่ยนกะ เกราะของทุกคนได้รับความเสียหายกันถ้วนหน้า


มันเป็นกลางคืน และหานเซี่ยวก็ถือกล่องเครื่องมือและเดินไปทั่วแนวป้องกัน ซ่อมเกราะของทีมป้องกันทีละคน เวลาขาดแคลน และภารกิจก็สำคัญ พวกเขาต้องกลับไปสู้ทันทีหลังการซ่อมแซมเสร็จ


นอกจากนี้ยังมีทีมซ่อมแซมสนามรบ แต่ทักษะหานเซี่ยวดีสุด ชื่อของเขากระจายไปทั่วแนวป้องกันแล้วและทุกทีมก็หวังจะได้พบหานเซี่ยวในช่วงการซ่อมแซม มีเพียงตอนนั้นความปลอดภัยพวกเขาถึงได้รับการรับประกัน


การเชื่อมแผ่นเหล็ก ซ่อมวงจร รีเซ็ตระบบ การซ่อมของหานเซี่ยวไหลเหมือนน้ำ ทีมซ่อมแซมสนามรบมอบอุปกรณ์สื่อสารภายในให้เขาเพื่อให้ภารกิจง่ายขึ้น เมื่อเขาซ่อมทีมหนึ่งเสร็จ คำสั่งใหม่ก็ดังขึ้น”ทีมป้องกันB12กำลังร้องขอการซ่อมแซมด่วน!”


B12คือทีมของเนวิลล์ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงรีบรุดไป ทีมเนวิลล์ไม่ได้เปลี่ยนกะเพื่อพักเลย พวกเขายังคงสู้ และการซ่อมในช่วงต่อสู้ก็เสี่ยงมาก ทหารคนหนึ่งเห็นหานเซี่ยวและพูดอย่างเร่งรีบ”เร็วเข้า ทางนี้!”


หานเซี่ยวรีบวิ่งไปหาเนวิลล์ที่นอนอยู่บนพื้น รอยกรงเล็บของสัตว์ร้ายได้เจาะเกราะระหว่างหน้าอกและท้องเขา ทำให้เกิดดไฟฟ้าลัดวงจร ท่อแตกเผยให้เห็นอุปกรณ์พลังงานที่ดับลง เนวิลล์ไม่อาจลุกขึ้นได้ ดังนั้นทหารกลุ่มหนึ่งจึงโอบล้อมเขาไว้ตรงกลาง


“บัดซบ สมาชิกใหม่ทุกคน ออกไปจากที่นี่ซะ!พวกคุณไม่ได้รับอนุญาติให้ออกจากตำแหน่ง!”เนวิลล์ตะโกน แต่ทหารก็ไม่ฟัง ยังคงปกป้องเขา


เนื่องจากขบวนพวกเขา มันจึงทำให้เกิดช่องโหว่ในค่ายนี้ และคลื่นสัตว์เล็กๆก็ฝ่าเข้ามา สถานการณืเช่นนี้จำต้องมีทีมโต้ตอบเร็วมาสนับสนุน กำลังหนุนกำลังเดินทางมา ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ มันเป็นกระบวนการปกติ


แต่ทว่า ในสายตาเนวิลล์ นี่คือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นเขาจึงดิ้นรนจะยืนขึ้น


“อย่าขยับ”หานเซี่ยวกดเนวิลล์ลง นำวัสดุและอุปกรณ์ออกมา


เนวิลล์รู้สึกว่ามือของหานเซี่ยวเหมือนภูเขาที่กดทับร่างเขา เขาไม่อาจขยับตัวได้เลย ท้ายที่สุด เขาก็ทำได้แค่กัดฟันและยอมแพ้”เร็วเข้า!”


“หุบปาก”หานเซี่ยวกล่าวอย่างไร้อารมณ์


 


[ซันนิล-เกราะป้องกันชั้นสิบเอก ความคืบหน้า : 27%]


เขาได้ซ่อมแซมเกราะชั้นพลทหารมามากในช่วงหลายวันนี้และเขาก็ได้ใช้ค่าประสบการณ์ไปหลายล้านเพื่อดึงพิมพ์เขียว แต่ทว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะซ่อมเกราะชั้นสิบเอก ดังนั้น เขาจึงมีเพียง27% เขายังเดาว่าเกราะชั้นสิบเอกต้องการา[การดัดแปลงเครื่องจักรหนัก]เป็นข้อกำหนดเบื้องต้น ดังนั้นความคืบหน้าจึงค้างอยู่


นอกจากเกราะ เขายังโชคดีพอจะซ่อมยานพาหนะและแบตเตอรี่ และยังได้รับพิมพ์เขียวป้อมปืนลอยฟ้า


แม้เนวิลล์จะรีบกลับไปสนามรบ เขาก็ทำได้แค่รอให้หานเวี่ยวซ่อม และแม้เขาจะเร่ง ความเร็วหานเซี่ยวก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ มันคงใช้เวลาไม่นานก่อนเขาจะกลับไปต่อสู้ได้อีก

 

 

 


ตอนที่ 343

 

ขณะที่เขากำลังซ่อมแซม หานเซี่ยวก็มองยานอวกาศเหนือเมือง”ทำไมยานถึงยังไม่เข้าร่วมการต่อสู้?”


“มันเป็นม่านพลังของเมืองจาดฟ้า และยังเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งสุดดด ไม่จำเป็นต้องใช้มันกับสัตว์ตัวเล็กๆเหล่านี้”เนวิลล์ตอบ


หานเซี่ยวพลันเปลี่ยนน้ำเสียง”ผมได้ยินข่าวลือถึงไพ่ตายที่พวกคุณเรียกว่าเกราะชั้นผู้บัญชาการ ซึ่งทรงพลังกว่าเกราะชั้นสิบเอกมาก ทำไมพวกคุณถึงไม่ใช้มัน?”

“เกราะชั้นผู้บัญชาการสูญหายไปนานแล้ว ต้อนเราถูกโจมตีบนดาวบ้านเกิดเรา”เนวิลล์ตอบพร้อมถอนหายใจ”เราเสียเทคโนโลยีทำเกราะไป ตอนนี้ เรามีชุดเกราะชั้นบัญชาการที่เสียหายหนักแค่สี่ชุดในคลังเรา และทั้งหมดก็เสียหายไป70%ดังนั้น เราจึงไม่อาจทำวิศวกรรมย้อนกลับได้”


“ถึงแม้ใครก็สามารถสวมเกราะชั้นบัญชาการได้ แต่ก็มีเพียงพวกพิเศษถึงดึงประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุด เมื่อดาวบ้านเราถูกโจมตี เราก็ส่งเกราะชั้นบัญชาการทั้งหมที่มีไป และก็พังไปทีละอัน ส่วนทหารที่สวมเกราะก็เสียสละชีวิตตน โดยปราศจากพวกเขา ผู้รอดชีวิตจึงเหลือแค่ครึ่งเดียว ท้ายที่สุด เราก็ได้รับชุดเกราะเสียหายคืนมาแค่สี่ชิ้น ทั้งสี่ชุดคือกุญแจสู่ความอยู่รอดเรา เราเก็บมันไว้ภายใต้การบำรุงรักษา”


เกราะชั้นบัญชาการมีระดับแตกต่างกับเกราะที่เหลือโดยสิ้นเชิง เกราะชั้นพลทหารและสิบเอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่เกราะบัญชาการคืออุปกรณ์ชั้นสูงสุดและอยู่ในระดับเดียวกับอุปกรณ์ของพวกพิเศษ วัสดุที่ต้องใช้ผลิตเกราะชุดหนึ่งสามารถนำมาผลิตเกราะพลทหารได้สอง-สามร้อยชุด


การเสียเกราะชั้นบัญชาการไปหมายถึงการล่มสลายของอารยธรรม หากพวกเขายังมีเทคโนโลยีของเกราะชั้นบัญชาการ งัน้พวกเขาก็สามารถสู้กับสัตว์ร้ายได้สบายๆ และภัยคุกคามของหายนะก็จะลดลง


บูม!


พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทหารเกราะสองคนก็ถูกกระแทกไปข้างๆ เนวิลล์เห็นบางอย่างหลังหานเซี่ยวและตะโกน”หลบ!”


สัตว์เปลือกแข็งใต้ดินที่มีขนาดเท่ากระทิงกระแทกทหารขึ้นอากาศและชนหานเซี่ยว มีสัตว์ใต้ดินมากมาย และพวกมันก็เป็นประเภทพุ่งชนเป้าหมาย สถานะป้องกันพวกมันสูงพร้อมเกราะสีดำเข้มที่แข็งเหมือนเหล็ก มันสามารถป้องกันกระสุนได้ ดังนั้นมันจึงรับมือได้ยาก


หานเซี่ยวหันกลับและหยิบบอลทองคำออกมา บอลขยายเป็นความโกรธของกาเร็ตและโดยไม่รีรอ เขาเปิดใช้เจตจำนงค์แห่งเพลิงกับทักษะสร้างความเสียหายสำคัญพร้อมกระตุ้นความเสียหายจริง


ลำแสงสว่างพลันยิงทะลุอากาศและเจาะเกราะสัตว์ร้ายโดยตรง มีเพียงรอยไหม้บนตัวมันเท่านั้น


กองทหารป้องกันต้องใช้เวลากว่าสิบวินาทีเพื่อล้มมัน แต่หานเซี่ยวกลับทำได้ในการโจมตีเดียว ด้วยโมเมนตัมมัน ศพค่อยๆเลื่อนตัวไปข้างๆเท้าหานเซี่ยวพร้อมของเหลวที่รั่วไหล


 


“ไม่ต้องแปลกใจ ผมแข็งแกร่งกว่าพวกคุณทุกคน”หานเซี่ยวเก็บอาวุธและทำการซ่อมแซมต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“..ผมลืมไป”ปากของเนวิลล์เบิกก้วาง เขาคิดว่าหานเซี่ยวก็แค่คนงานด้านโลจิสติกส์ที่ไม่มีพลังรบใดๆ และเขาก็จำได้ว่าหานเซี่ยวเป็นพวกพิเศษ


ภายในไม่กี่นาที หานเซี่ยววางเครื่องมือเขาลงและพูด”มันเสร็จแล้ว”


เกราะทำงานได้อีกครั้ง เนวิลล์ยืนขึ้น ตรวจสอบอีกครั้งว่าเสร็จแล้ว และวิ่งตรงกลับไปสนามรบ ตะโกนบอกให้คนเขาออกจากตำแหน่ง


ถึงแม้พวกเขาจะถูกตะโกนใส่ ทหารก็ไม่บ่น พวกเขามีความสุขที่ช่วยชีวิตหัวหน้าได้


เนวิลล์หยุดตะคอกทหารและจดจ่อการรบ เขายังคงตะโกนออกคำสั่ง


เพียงเมื่อหานเซี่ยวเตรียมพร้อมย้ายไปจุดถัดไป สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นจากฐาน หานเซี่ยวหยุดและหันไปมอง


การเตือนระดับสอง หายนะอยู่ในขั้นกลางแล้ว


บรรยากาศลึกลับกระจายออกมา และกลุ่มเงาดำก็บินออกจากป่า พวกมันปกคลุมด้วยหมอกดำและบินข้ามทุ่งมา พวกมันหลบทุ่นระเบิดได้ง่ายๆและหลบการโจมตีส่วนใหญ่อย่างคล่องแคล่ว


ในไม่ช้า แสงสว่างก็ส่องกระทบสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ พวกมันมีเนื้อสีเทาเข้มไร้ขน พวกมันสูงอย่างน้อยสามหรือสี่เมตรและไม่มีลักษณะใบหน้าใด พวกมันมีหนวดสองเส้นบนหัวเพื่อสัมผัสสภาพแวดล้อม กรงเล็บยาวสี่ข้างยื่นออกจากร่างพวกมัน และพวกมันก็มีขาแข็งแกร่งและปีกค้างคาวสีดำคู่หนึ่ง นอกจากนี้ พวกมันยังมีหางคล้ายแส้สามหางที่เต็มไปด้วยหนามแหลม


“ผีเสื้อรัตติกาล!”หานเวี่วยจำมันได้จากการบรรยายเบื้องต้น การปรากฏของพวกมันหมายความว่าหายนะได้ผ่านระยะแรกแล้ว และระยะต่อมาก็จะอันตรายกว่าเดิมเป็นสิบเท่า ความตายและความเสียหายย่อมเพิ่มขึ้น


คำสั่งถอยถูกส่งผ่านหูฟัง”เจ้าหน้าที่บำรุงรักษาทุกคน ถอยกลับมาแนวป้องกันที่ห้าและเข้าฐานเดี๋ยวนี้!’


หานเซี่ยวทำตามคำสั่งและตรงกลับฐานเหล็ก ประตูและหน้าต่างปิดแน่นและไม่พบทางออก มันเป็นมาตรการความปลอดภัย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงสามารถดูการต่อสู้ได้นอกหน้าต่าง


พรึบ!


ทันใดนั้น แนวป้องกันก็เปิดไฟเต็มกำลังและส่องฟ้า กลางคืนกลายเป็นกลางวัน ผีเสื้อรัตติกาลพากันแผดเสียงร้องเมื่อแสงส่องกระทบพวกมัน และก็สูญเสียความรู้สึกด้านทิศทางจนชนกัน กลิ้งไปมาบนพื้นเหมือนพวกมันเมา จากนั้น ผีเสื้อรัตติกาลจำนวนหนึ่งก็ตกลงบนเขตทุ่นระเบิดและถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ


หนวดของผีเสื้อรัตติดาลไวต่อแสง ดังนั้นพวกมันจึงเคลื่อนที่ได้แค่ในความมืด


พวกซันนิลเตรียมแผนเฉพาะสำหรับสัตว์บางประเภท หลังเข้าสู่ระยะกลางของหายนะ ภารกิจก็ไม่ง่ายอย่างการยิงกระสุน ตอนนี้ กองทัพได้ใช้กลยุทธ์เฉพาะเพื่อรับมือกับพวกมัน กลยุทธ์ได้รับมาจากการเสียเลือดเนื้อของหายนะครั้งก่อน และพวกเขาก็ลดความเสียหายได้


ท้ายที่สุด มันก็มีศัตรูที่ยากจะรับมือ ตัวอย่างเช่นแมลงพิษ สิ่งเหล่านี้อยู่ในระยะสุดท้าย


ผีเสื้อรัตติกาลทุกตัวมีระดับเดียวกัน พวกมันคือพวกพิเศษเกรดD พวกมันมีความว่องไวมาก และหางพวกมันก็ง่ายต่อการแทงทะลุเกราะ เพราะเหตุนั้น ป้อมปืนจำนวนมากจึงถูกทำลาย และกองทหารป้องกันและทหารรับจ้างก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ



การต่อสู้ดุเดือดลากไปจนถึงรุ่งเช้า ในที่สุดผีเสื้อรัตติกาลก็ถอยออกไป และสนามรบก็สงบสุขชั่วคราว ทหารอย่างน้อยพัคนตายในคืนเดียว มันเป็นการต่อสู้ที่อันตรายมาก


ศพจำนวนนับไม่ถ้วนถูกยัดใส่ถังศพและส่งกลับไปแนวหลัง สมาชิกครอบครัวของทหารอาศัยอยู่ในเมือง การเสียสละพวกเขาไม่เพียงแต่จะเป็นความภาคภูมิเท่านั้น แต่ยังเพื่อครอบครัว ศพพวกเขาจะต้องถูกครอบครัวระบุศพ และค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดก็สะท้อนจากเมือง


ทหารเหล่านั้นกลับตายในค่ำคืนเดียว ขวัญและกำลังใจทหารตกลง ทหารเหนื่อยล้ามาก พวกเขาไม่อาจถอดชุดเกราะได้ในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นพวกเขาจึงกระจัดกระจายและนั่งลงแหงนมองฟ้า


เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของครอบคัว ทหารก็ตระหนักว่าพวกเขาอาจเป็นหนึ่งในนั้น


ในบรรยากาศเช่นนี้ ทหารรับจ้างทำได้แค่เงียบและเตรียมอุปกรณ์


ฉากนี้ทำให้หานเซี่ยวนึกถึงอความารีน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนในจักรวาล ความทุกข์ทรมานที่เกิดจากสงครามก็เหมือนๆกัน


ทันใดนั้น มันก็มีการเคลื่อนไหวด้านข้าง กลุ่มสอดแนมกลุ่มใหญ่กลับมาฐาน พวกเขาได้รับการเคารพอย่างมาก ทหารจำนวนมากจ้องพวกเขา และบางคนก็ทำท่าเคารพ


หน่วยลาดตระเวนมีกำหนดงาน มันมักมีทหารมาแทนที่ทีมพวกเขาเพื่อให้พวกเขากลับมาพัก ผู้เล่นก็ถูกส่งออกไปแทนทีมนี้


หานเซี่ยวนึกถึงตอนคุยกับเลอเด็น เลอเด็นบอกว่ามีทหารที่แข็งแกร่งสองคนผู้เป็นระดับB พวกเขาทำงานเป็นทหารรับจ้างในกาแล็กซี่และทุกๆปี พวกเขาจะได้รับเงินก้อนโต พวกเขาถือเป็นไอดอลของชาวซันนิล


ผู้นำของหน่วยสอดดแนมที่กลับมาก็คือหนึ่งในสองคนนั้น เฟอร์นัส


เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกองทัพทั้งหมดปรากฏตัวและต้อนรับทหารที่กลับมา


เฟอร์นัสโบกมือ”เราเสียพี่น้องไปมาก เราพยายามนำศพพวกเขากลับมาให้ได้มากที่สุด”


ฝูงชนกระจายออกไปและวางถุงศพ20กว่าใบลงบนพื้น พวกเขาคือยอดซันนิล ฟูเมย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น


หานเซี่ยวกวาดตามองและไม่เห็นศพของเลอเน เขามองไปในฝูงชนและยังเห็นเลอเด็นในนั้น แม้เขาจะเสียขาข้างหนึ่งและแขนสองข้าง อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิต


“พวกเขาเป็นวีรบุรุษ”ทหารกล่าว”เราจะจัดการที่เหลือเอง”


“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”เฟอร์นัสตอบ


ยอดซันนิลทุกคนมองศพสหายร่วมรบและแสดงสีหน้าโศกเศร้า


บรรยากาศสลดลงอีกครั้ง


หานเซี่ยวยังคงเฝ้าสังเกตสีหน้าพวกเขา และก็พบกลุ่มหนึ่ง รวมถึงเลอเด็นที่แสดงความสิ้นหวังและความเสียใจต่อการสูญเสีย


สำหรับกลุ่มอื่น นอกจากความโศกเศร้า พวกเขายังแสดงความโกรธแค้นค

 

 

 


ตอนที่ 344

 

ทีมที่กลับมาแยกย้ายกันพักผ่อน ส่วนเลอเด็นก็กระโดดด้วยขาข้างเดียว คิดไปหา’หมอ’ให้ซ่อมเขา หานเซี่ยวผิวปากส่งสัญญาณให้เลอเด็นมา


“นายนะเอง ไม่อยากเชื่อเลยว่านายยังไม่ตาย”เลอเด็นกระโดดมาตรงหน้าหลินฮวง


“ฉันควรเป็นคนที่พูดอย่างนั้น”หานเซี่ยวมองแขนขาที่หายไปของเขา


“เจออันตรายมาหน่อยนะ เกือบตาย”เลอเด็นกล่าวเหมือนไม่มีอะไร


แม้เขาจะไม่ได้สนิทกับหานเซี่ยวมาก เขาก็ยังรู้สึกดีใจที่เห็นว่าเพื่อนยังไม่ตาย


หานเซี่ยวหยิบกล่องอุปกรณ์ขึ้นมาและกล่าว”ดูเหมือนว่านายจะต้องการช่างฝีมือสูงนะ”


“นี่เป็นเวลาพักไม่ใช่หรอ?”เลอเด็นเลิกคิ้ว


หานเซี่ยวคิด”เลี้ยงเครื่องดื่มฉันสิ ในร้านเดิมครั้งก่อน”


มันเป็นช่วงแตกหักในหายนะ ไม่มีเวลาให้พัก ผู้บัญชาการยอมให้หานเซี่ยวเข้าเมืองเมื่อเห็นว่ากลุ่มทหารรับจ้างแบลคสตาร์รับหน้าที่อันตราย


เลอเด็นมีแขนสำรอง ดังนั้นหานเซี่ยวจึงซ่อมและเชื่อมต่อมันอย่างรวดเร็ว เดิมที มีแค่แขนขวาเลอเด็นที่ทำจากเนื้อ แต่ตอนนี้มันขาดแล้ว สีหน้าเขาสงบ เขาไม่สนใจถึงการเสียส่วนหนึ่งของร่างกาย


ทั้งสองเข้าเมืองและมาถึงบาร์ของเฮอลัส มีลูกค้าค่อนข้างมาก ทั้งหมดเป็นพลเมืองจากใกล้ๆ ทหารกำลังอาบเลือดและสู้อยู่นอกเมือง และพลเมืองส่วนใหญ่ก็ซ่อนในบ้านหรือศูนย์อพยพ มีบางคนเลือกใช้แอลกอฮอล์เพื่อกำจัดความกลัว 90%ของร้านในเมืองปิดตัวช่วงหายนะ แต่ร้านของเฮอลัสกลับเปิดปกติ


เมื่อเดินไปบาร์ หานเซี่ยวก็กล่าว”ขอสองแก้ว”

เลอเด็นรีบยกมือ”แก้วเดียวพอ”


เฮอลัสยกมือ และหลังเห็นหน้าหานเซี่ยว สีหน้าเขาก็เปลี่ยน”นายอีกแล้ว”


เขาจำหานเซี่ยวได้ ชายแปลกที่มาหาสมุดบันทึกของพี่ชายเขา


“อยากได้อะไรอีก?”


หานเซี่ยวยิ้ม”แค่มาดื่ม”


 


เฮอลัสจ้องหานเซี่ยวสักพัก จากนั้นหยิบขวดขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ หานเซี่ยวไม่พูดกับเขาอีก แค่ดื่มและคุยกับเลอเด็น เฮอลัสเห็นและยังคงสงสัย หันไปสนใจลูกค้าอื่นพลางเงี่ยหูฟังหานเซี่ยวกับเลอเด็น


หานเซี่ยวมองแขนของเลอเด็นและกล่าว”ไม่เจ็บเลยงั้นหรอ?”


เลอเด็นส่ายหัว”เมื่อฉันทำการปลูกถ่าย ฉันได้บอกหมอให้ตัดเส้นประสาทฉัน ดังนั้นอาการบาดเจ็บจึงไม่ส่งผลต่อความสามารถต่อสู้ฉัน”


“นายเป็นเอสเปอร์ ดังนั้นการปลูกถ่ายนายจึงทำให้พลังนายอ่อนแอ ทำไมนายถึงทำอย่างนั้น?”


“ต่อให้อ่อนแอก็ไม่เป็นไร”เลอเด็นกล่าวอย่างสงบ”ฉันสามารถมีชีวิตได้นานด้วยวิธีนี้ คนตายไม่มีประโยชน์อะไร”


“เพื่อเลือกปลูกถ่าย และทำภารกิจอันตราย นายคงรักเผ่าพันธ์นายมาก”ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย”ไม่มีใครเกิดมาเป็นวีรบุรุษ ยอดซันนิลดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นแก่ตัวกัน พวกนายต้องมีเหตุผล ลองบอกฉันหน่อยได้ไหม?ฉันอยากจะรู้”


 


เลอเด็นเงียบไปสักพัก สีหน้าเขากลายเป็นตึงเครียด และดวงตาเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย มันเหมือนกับว่าเขาไม่อาจระงับอรมณ์ตัวเองได้เมื่อคิดถึงอดีต เขาค่อยๆกล่าว”เหมือนกับชาวซันนิลคนอื่น ฉันเคยมีครอบครัว พ่อฉันเข้มงวดมาก แม่ฉันเป็นคนใจดีและอบอุ่น และฉันมีน้องสาวสองคน เมื่อดาราทมิฬถูกโจมตี ฉันยังเป็นเด็ก ถึงตอนนี้ ฉันก็ยังจำปืนที่ยิงถล่มจากฟ้าได้ มันหนาเหมือนน้ำตก เปลี่ยนสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่สุดในเมืองกลางให้เป็นเถ้าถ่าน เราเข้าร่วมกับฝูงอพยพ และทหารก็ปกป้องเรา พวกเขารู้ดีว่าการอยู่ด้านหลังหมายถึงความตาย แต่พวกเขาก็ยังอยู่และส่งเราออกไป”


“น่าเสียดาย พ่อแม่ฉันไม่อาจขึ้นยานช่วยเหลือของโกโดร่าได้พวกเขาตายกลางทาง ลำแสงเปลี่ยนพ่อแม่ฉันเป็นเถ้าถ่าน ฉันเพิ่งเป็นเด็กในตอนนั้ และสิ่งเดียวที่ฉันรู้ก็คือวิธีร้องไห้ ฉันตามผู้ลี้ภัยไป ทุกวัน กองทัพจะให้อาหารน้อยมากกับผู้ลี้ภัย ฉันหิวมากจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้ หลังได้รับอาหาร ฉันก็ซ่อนกว่าครึ่งไว้ ให้น้องสาวฉันแค่เล็กน้อย ฉันแค่อยากมีชีวิตอยู่ในตอนนั้น ฉันไม่รู้จักการคิดอย่างอื่น จากนั้น…น้องสาวทั้งสองฉันก็หิวตาย”


เลอเด็นหยุดและกล่าวต่อ”ฉันยังจำช่วงเวลานั้นได้ดี ฝ่ามือแห้งติดกระดูกพวกเธอคว้าเสื้อฉัน จ้องมองไปในตาฉัน เหมือนกับกำลังบอกว่าหิวแค่ไหน แต่ก็ไม่มีแรงพูด ดวงตาสองคู่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง สมองฉันขาวโพลน และไม่กี่วินาทีก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิบปี เมื่อแขนนั้นไหลลงอย่างหมดแรง ฉันก็ไม่กล้าหายใจ ฉันไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองทำลงไป หากฉันแบ่งอาหารให้น้องสาวฉัน ต่อให้ฉันจะหิว อย่างน้อยเราก็ยังรอดกันหมด แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ความ ฉันคิดแค่ว่าการกินน้อยจะทำให้ฉันหิวตาย…”

“ฉันตามตามฝูงชนมาด้วยยานช่วยเหลือ ไม่รู้ว่าไปไหน มีเด็กมากมายอย่างฉันที่ไร้ครอบครัว พวกเขาถูกมอบให้ทหารผ่านศึก กลุ่มเด็กและฉันเองก็ด้วย นับจากนั้น เราก็อาศัยอยู่กับเขา เขาเลี้ยงเราและสอนเราให้สู้ เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ก็เป็นทหารที่ดี พวกพิเศษหลายคนอย่างเราล้วนถูกเขาเลี้ยงมา”


“เมื่อเวลาผ่านไป ฉันก็ค่อยๆถือเขาเป็นพ่อบุญธรรม แต่ฉันมักมีความเสียใจ ฉันรู้สึกว่าอดีตฉันดำมืด ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนชั่ว หากฉันบอกพ่อบุญธรรมฉัน เขาจะไล่ฉันไหม?วันหนึ่ง ฉันบอกเขาถึงเรื่องน้องสาว และเขาก็ดุด่าฉัน…แต่ไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของฉัน เขาดันเหมือนกับว่าฉันมีหัวใจไปคิดถึงอดีต ฉันควรใช้เวลาเพื่อฝึก เขากล่าวว่าเผ่าพันธ์อยู่ในช่วงหายนะ และไม่มีเวลาให้คิดถึงอดีต ต่อให้ฉันเป็นฆาตกร ตราบเท่าที่ฉันถือปืนปกป้องเผ่าพันธ์ งั้นฉันก็จะมีแค่ตัวตนเดียว ทหาร ไม่มีใครสนใจอดีตของฉัน นั่นคือสิ่งที่ฉันจะทำได้….”


หานเซี่ยวลูบคางและถาม”แล้วเกิดอะไรกับทหารคนนั้น?”

“ครั้งแรกที่หายนะมาเยือน แม้ทหารพิการจะได้รับการคุ้มครอง แต่เขากลับร้องขอไปสนามรบ ที่ที่เขาตาย หลังจากนั้น ฉันก็ได้ยินว่าเขาไปร่วมทีมปกป้องกลุ่มลี้ภัยของฉัน ฉันเคยได้รับอาหารจากเขา…”เลอเด็นส่ายหัว”ฉันเป็นหนี้เผ่าพันธ์ ดังนั้น ฉันจึงตอบแทนทุกอย่าง”


“งั้น นายก็ทำดีเพื่อตอบแทน?”หานเซี่ยวหันมาและมองเฮอลัส ผู้เอียงหูฟัง ชายคนนั้นไร้อารมณ์ และหันหน้าเดินหนีไปราวกับไม่สนใจการสนทนาเช่นนี้


“ไม่ใช่ทั้งหมด ฉันทำเพื่อให้เผ่าพันธ์ฉันดำรงต่อไป”หลังบอกเรื่องราวน่าสลด ความเสียใจจากการเสียเพื่อนก็หายไปหมด เลอเด็นอยากรู้เกี่ยวกับหานเซี่ยวเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง”ไม่ต้องพูดถึงฉันหรอก มาพูดถึงนายกัน นาย…”


ครั้งนี้ หานเซี่ยวพลันยืนขึ้นและตัดบท”ขอโทษที แต่ฉันมีเรื่องส่วนตัวต้องไปทำ ฉันต้องออกไปสักพัก”


เลอเด็นพูดไม่ออก ไม่ใช่ว่าเพื่อนควรแบ่งปันเรื่องราวกัน?ทำไมเขาถึงหนีไปหลังฟังเรื่องราวฉัน?ฉันรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ


หานเซี่ยวเดินไปด้านข้าง พบเฮอลัสและกล่าว”ฉันอยากคุยกับนายเป็นการส่วนตัว”


เฮอลัสตื่นตัว”นายอยากได้อะไรกันแน่?”

หานเซี่ยวพูดตรงๆ”ฉันรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับนาย เช่นพลังของนาย อะไรที่ทำให้พี่ชายนายทิ้งนายไป บางทีนายคงสนใจเรื่องอนาคตของซันนิล”


อนาคต?!


คำพูดนี้ทำให้เฮอลัสประหลาดใจ และเขาก็มั่นใจถึงเป้าหมายของหานเซี่ยวยิ่งขึ้น”นายเป็นใคร?”


“ฉันคือผู้มองอนาคต หรือจะเรียกฉันว่า…ผู้พยากรณ์”

 

 

 


ตอนที่ 345

 

“ผู้พยากรณ์?”ใบหน้าเฮอลัสเต็มไปด้วยความกังขา คนแปลกหน้าจู่ๆก็มาหาเขาและบอกว่าเขาสามารถทำนายอนาคตได้ เขาไม่เคยคิดมาก่อน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?


ปฏิกิริยาแรกของเฮอลัสคือการไม่เชื่อ”ในเมื่อนายมองอนาคตได้ แล้วนายรู้ไหมว่าฉันจะกินอะไรพรุ่งนี้เช้า?”

“ต่อให้นายไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร นายแค่ต้องฟัง เวลาจะพิสูจน์ว่าฉันพูดจริงไหม”

หานเซี่ยวไม่สนใจคำพูดเขาและกล่าวต่อ เขาทำให้ตัวเองดูลึกลับและกล่าวด้วยเสียงที่ได้ยินแค่สองคน”ความขัดแย้งได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่นานจากนี้ องครักษ์ของเผ่าพันธ์นายจะแยกตัว และฝันของดาวซันนิลจะแตกสลายไปตลอดกาล หายนะจะดับสิ้นทั้งทรัพยากรและความหวังของพวกนาย ทางเดียวที่เหลือคือมองหาความช่วย้หลือและกลายเป็นดาวภายใต้ของอารยธรรมขั้นสูง คนของนายจะกระจายไปอาศัยตามเมืองต่างๆ ค่อยๆสูญเสียอิสรภาพ พึ่งพาคนแข็งแกร่ง จากนั้นก็ค่อยๆเสียจิตวิญญาณ อดีตของนายจะกลายเป็นคำพูด บันทึกในหนังสือประวัติศาสตร์ของอารยธรรมชั้นสูงอื่นๆ ลูกของายจะรู้ถึงประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธ์นายผ่านคำพูด…”


 


เขาใช้คำพูดไม่ชัดเจน บอกเรื่องที่ให้ความรู้สึกคลุมเครือ และเมื่อมันเกิดขึ้น ผู้คนก็จะรู้สึกเห็นแจ้งและเสียใจเมื่อคิดย้อนถึถงคำทำนาย แน่นอน หานเซี่ยวรู้อนาคตของชาวซันนิล เผ่าพันธ์นี้ไม่ได้จบลงแบบปกติ แต่พวกเขา’จบ’ในอีกรูปแบบ


จิตวิญญาณ มรดก ความเชื่อ ประวัติศาสตร์-สิ่งเหล่านี้ที่เผ่าพันธ์มีในช่วงกระบวนการพัฒนาการ ผ่านการคิดหลากหลายและคำตอบ สิ่งที่ไม่อาจแตะต้องได้ทำให้เกิด’อารยธรรม’ เหมือนกับฐานของสิ่งก่อสร้าง พวกมันเป็นสิ่งที่ทุกคนร่วมแบ่งปันกัน เสาที่ค้ำจุนเผ่าพันธ์ พวกสัตว์ร้ายมีหลากหลายชนิด แต่ไม่มีตัวใดเกิดอารยธรรมขึ้น


ดาวซันนิลเป็นอารยธรรมลี้ภัย พวกพิเศษคือผู้พิทักษ์และเผ่าพันธ์ก็ขอบคุณพวกเขา แต่ก็ไม่ได้มีทรัพยากรพิเศษให้รางวัลใดๆ เผ่าพันธ์สามารถฟื้นตัวได้โดยการพึ่งพาพวกพิเศษเท่านั้น และนั่นได้จุดประกายความขัดแย้ง ในชีวิตก่อนหน้าเขา กลุ่มพวกพิเศษไม่อาจทนได้อีกต่อไป พวกเขารู้สึกเหมือนพวกเขาทำมามากพอแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกละทิ้งบ้านเกิดและค้นหาอิสรภาพ ละทิ้งเผ่าพันธ์ ซึ่งพวกเขาเห็นเป็นภาระ


ชาวซันนิลมีบาดแผลสาหัส เดิมที ความเสียหายหลังหายนะยังพอรับได้ และพลังของเผ่าพันธ์โดยรวมก็ค่อยๆฟื้นตัว ทุกคนกำลังมองไปในวันที่ความขมขื่นหายไปจนสิ้นลามารถลิ้มรสหวาน แต่ทว่า เมื่อผู้พิทักษ์ของเผ่าพันธ์แยกตัว สถานการณ์ก็ดิ่งลงเหว ความเสียหายเริ่มมากเกินกว่าทรัพยากรสะสมของเผ่า และยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ


ชาวซันนิลไม่มีทรัพยากรพอจะอพยพ แม้พวกเขาจะทำได้ พวกเขาก็ไม่ทำ พวกเขาทำได้แค่มองหาความช้หวยือล กองกำลังชั่วร้ายมากมายมีอยู่ทั่วจักรวาล และอารยธรรมลี้ภัยก็ถือเป็นเหยื่อ หากพวกเขาออกจากการคุ้มครองของโกโดร่า อันตรายก็จะยิ่งมาเยือน มีทั้งพวกกินซาก พ่อค้าทาส และอื่นๆ นี่ไม่ใช่เรื่องหายาก พ่อค้าทาสจะจับเผ่าพันธ์ต่างๆที่หายาก จากนั้นก็เพิ่มราคาในฐานะ’เผ่าพันธ์ใกล้สาปสูญ’ ยังมีองค์กรชั่วร้ายที่คิดเข่นฆ่าเพื่อความพอใจ


กฏทำให้จักรวาลสมดุล แต่ก็ไม่อาจกำจัดความชั่วร้ายทั้งหมดได้


ท้ายที่สุด ซันนิลก็ยอมรับการเยียวยาของโกโดร่าและอพยพอีกครั้ง โกโดร่าแยกชาวซันนิลและส่งกองทัพมาคุ้มครองระยะยาว ยิ่งเวลาผ่านไป อารยธรรมซันนิลก็ถูกลืมเลือน


อารยธรรมจักรวาลทั้งสามได้สร้างกฏการรุกรามอารยธรรมชั้นต่ำขึ้น แต่สงครามไม่เคยจบ  งานรื่นเริงและจักรวาลที่ถูกควบคุมเป็นแค่ผิวเผิน และที่หลบซ่อนก็มีอารยธรรมที่ทะเยอทะยานมากมายหรือกำลังรอโอกาส เหนือสิ่งอื่นใด ทุกอารยธรรมล้วนอยากกลายเป็นผู้ปกครอง เนื่องจากมันมีกฏห้ามรุกรานอารยธรรมชั้นต่ำผ่านสงคราม พวกเขาจึงทำการหลอมรวมแทน แม้กระทั่งอารยธรรมที่ชอบด้วยกฏหมายก็ยังไม่ใช่คนใจดี อย่างโกโดร่าที่ยึดถือเรื่องเลือดบริสุทธิ์


ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมที่เจริญหรือล่มสลายก็ตาม หากคนอยากให้อารยธรรมดำเนินต่อ คนอื่นก็จะคว้าโอกาสเพื่อใช้ประโยชน์จากพวกเขา ทุกๆวัน มีเผ่าพันธ์หรืออารยธรรมที่กำลังล่มสลายในมุมของจักรวาล มันยังจะมีความแตกต่างอะไรอีก?อย่างมาก ประวัติของเผ่าพันธ์พวกเขาก็จะถูกบันทึกและกลายเป็นหัวข้อสนทนาหลังอาหารเย็นหรือบันทึกที่ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไร


กาแล็กซี่บางแห่งยังชอบรายงานปัญหาที่อารยธรรมต่างๆเผชิญและจุดขายของมันก็คือการกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจของผู้ชม แต่หวังว่าคนอื่นจะเปลี่ยนความเห็นใจเป็นการกระทำจริง บางคนอาจตัดสินใจทางอารมณ์ แต่เมื่อมันเป็นเรื่องของทั้งอารยธรรม มันก็มีแค่กำไรที่สำคัญ ท้ายที่สุดแล้ว ซันนิลก็เป็นแค่หนึ่งในอารยธรรมนับแสน มันไม่มีสิทธิ์ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ


นอกจากนี้ นี่คือวงแหวนดาวกระจาย ขอบของจักรวาลอันกว้างใหญ่ มีแต่พวกกากเดนอย่างพวกกินซาก กลุ่มคนที่ถูกทอดทิ้ง ทหารรับจ้างและนักปฏิบัตินิยมเหมือนพวกแร้ง


และดาราทมิฬยังโจมตีอารยธรรมชั้นต่ำเพราะพวกเขาอยากใช้ทรัพยากรของโกโดร่า หากอารยธรรมลี้ภัยแห่งหนึ่งสามารถหยุดพึ่งพาโกโดร่าได้และพึ่งพาตัวเอง ดาราทมิฬจะอนุญาติให้มีพันธมิตรโกโดร่าได้ยังไง?


หานเซี่ยวใช้คำพูดคลุมเครือเพื่ออธิบายอนาคต ปล่อยให้เฮอลัสรู้ว่าอนาคตของซันนิลถูกปกคลุมด้วยความมืด


 


“ทำไมนายถึงมาบอกฉันอย่าง?นายคิดว่าฉันจะสนใจ?”เฮอลัสถาม เขาเงยหน้าและกระดกเหล้า ดูไม่สนใจ


“เพราะฉันเห็นจุดจบนาย หลายสิ่งสามารถป้องกันได้”หานเซี่ยวยิ้ม


เฮอลัสวางแก้วลงและกล่าวอย่างอยากรู้”ฉันจะจบลงยังไง?”

แม้เขาจะไม่เชื่อคำพูดหานเซี่ยว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังอยากรู้อนาคต หานเซี่ยวบอกหลายสิ่ง และเฮอลัสก็อยากรู้ว่าชายคนนี้เห็นอนาคตเขายังไง


หานเซี่ยวหยุดและยิ้ม”เมื่อนายเชื่อว่าฉันเป็นผู้พยากรณ์ ฉันจะบอกนาย”


“ฉันเชื่อแล้ว”เฮอลัสมองกลับ


“หากนายเชื่อจริงๆ นายก็มาหาฉันได้ในครั้งหน้า”


หานเซี่ยวยิ้ม การโกหกใช้ไม่ได้กับเขา


เฮอลัสเป็นตัวละครหลักของซันนิล ตามประสบการณ์ของคนๆนี้ หานเซี่ยวคิดว่ามีโอกาสที่จะเอาบทบาทของตัวละครนี้มา ครั้งนี้ เฮอลัสยังเป็นคนติดเหล้าเพื่อหนีความจริง ไม่ตรงกับสไตล์ของตัวละครหลัก ชิ้นส่วนที่เขายังไม่เริ่มเล่น และนายช่างหานก็ได้ทำทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนแปลงเฮอลัส หวังสร้างความประทับใจกับเขา


กองกำลังเขาต้องมีNPCมากกว่าหนึ่ง และเฮอลัสก็เป็นเป้าหมายทดลองแรก


ครั้งนี้ การถกเถียงดังจากมุมของบาร์ หนึ่งในนั้นเมาและทะเลาะกับเพื่อน ดูเหมือนว่ากำลังพูดถึงการอยู่รอดของเผ่าพันธ์ และก็ขัดแย้งกันเพราะความไม่เห็นด้วย


“นายไม่รู้อะไร”เพื่อนกล่าวอย่างโกรธ”นี่เป็นแผนของโกโดร่า พวกมันตั้งใจอพยพเรามายังดาวเคราะห์อันตราย พวกเขาจะไม่รู้ถึงสภาพแวดล้อมของดาวนี้ได้ยังไง?โกโดร่าอยากให้เราอ้อนวอนพวกมัน!”

 

 

 


ตอนที่ 346

 

อีกด้านหนึ่ง ชายเมาได้หมุนขวดเหล้าเล่น เขาตะโกนเสียงดังอย่างมีอารมณ์”งั้นเราก็จะอ้อนวอนโกโดร่า!เกียรติสามาราถทำอะไรได้?การมีชีวิตถึงสำคัญ!หัวของผู้นำเหล่านี้เต็มไปด้วยความระยำ หลายคนตายทุกครั้ง น้องชายสองคนของฉันตายในกองทัพ!ทั้งหมดนี่สูญเปล่า เราควรขอความช่วยเหลือจากโกโดร่า ทำไมเราต้องทำให้ตัวเองลำบาก!พวกพิเศษเหล่านี้ไร้ประโยชน์ หากพวกเขาแข็งแกร่งจริง หายนะคงหมดไปนานแล้ว!”


ชายเมาพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกและดูหมิ่นพวกพิเศษและทหาร ตำหนิและบ่นด้วยภาษาหยาบคายขึ้น การกระทำนี้ทำให้ลูกค้ารายอื่นโกรธ พวกพิเศษและทหารถือเป็นวีรบุรุษของประชาชนส่วนใหญ่ ความสงสัยหรือการดูหมิ่นย่อมทำให้เกิดการไม่พอใจ


 


“ที่แกใช้ชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะพวกเขาที่สู้เพื่อเรา แกคิดว่าแกเป็นใครกัน!”


ชายเมาหัวเราะและกล่าว”นี่คือสิ่งที่พวกมันควรทำ ความสามารถมาพร้อมกับความรับผิดชอบ หากไม่ใช่เพราะการฝึกฝนของเผ่าพันธ์ พวกมันก็ควรเป็นคนธรรมดาอย่างฉัน”


“คนอย่างแกไม่ควรอยู่ในเมืองนี้!”


ชายเมาหัวเราะอีกครั้ง”ต่อให้การป้องกันเมืองจะพัง ฉันก็ยังเป็นประชากรที่ได้รับการอพยพ ฉันจะไม่เป็นคนที่ตาย”


“แกไม่สมควรได้รับการคุ้มครอง!”ฝูงชนเริ่มโกรธ


การโต้เถียงเริ่มเร่าร้อน เลอเด็นนั่งตรงเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย เขาไม่แม้แต่จะหันไปดู


ครั้งนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งกระโจนใส่ชายเมาอย่างดุเดือดและเริ่มสู้ตรงๆ เขากดชายเมาลงกับพื้นและชกใส่หน้าเขาถี่ยิบ เลือดกระจายไปทั่วพื้น คนอื่นเห็นว่ามีเลือดและพยายามรีบดึงเขาออกไป


“ลาน่า ใจเย็นๆ!”


“หยุดต่อยเขาได้แล้ว เขากำลังจะตาย+ง


ลาน่าชกอีกสองสามหมัดก่อนยืนขึ้นด้วยความเกลียดชังและถูกดึงออกไป ชายเมาเลือดไหลออกจากปากและจมูก ไม่อาจลุกขึ้นยืนได้หลังถูกทุบตี คนอื่นเข้าไปตรวจสอบและโชคดี ชายเมาแค่บาดเจ็บ จากนั้นคนก็ตำหนิลาน่าว่าใช้กำลังมากไป หลายคนที่นี่เป็นเพื่อนบ้านเขา และลาน่าก็เป็นชายหนุ่มที่หวังเข้ากองทัพ เขาแข็งแรงและมีกล้ามเป็นมัด


“พวกแกสองคน ไสหัวออกไปจากร้านฉันซะ”เฮอลัสตะโกน”กลับบ้านไปและสงบสติลง!”


ลาน่าออกไปอย่างไม่มีความสุข และชายเมาก็ถูกพาตัวไป ดังนั้น เรื่องทะเลาะจึงจบลง


หานเซี่ยวหันมา มองเฮอลัสและกล่าว”ฉันคือแบล็คสตาร์ หากนายสนใจสิ่งที่ฉันพูด ก็มาหาฉัน ฉันสามารถแก้ปัญหานี้ได้”


จากนั้น หานเซี่ยวก็โทรหาเลอเด็นและทั้งสองก็ออกจากบาร์


สีหน้าไร้ความกังวลหายไปจากหน้าเฮอลัส เปลี่ยนเป็นจริงจังเล็กน้อย ดวงตาเขาเป็นประกายและไม่เหมือนท่าทางเขา เขาไม่ได้ไม่สนใจอนาคตของเผ่าพันธ์


เขาไม่รู้ว่าทหารรับจ้างที่เรียกตัวเองว่าแบล็คสตาร์เป็นผู้พยากรณ์จริงไหม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น มันก็เป็นไปได้ที่เขาจะโกหกถึงอนาคตเพื่อหลอกเขา เขาต้องมีแรงจูงใจ แต่เฮอลัสไม่รู้ว่ามันคืออะไร


ประตูบาร์เปิดอีกครั้ง และชายสูงในชุดฮู้ดก็เดินมา”ขอเบียร์แก้ว”


ชายคนนั้นเงยหน้าและแสดงใบหน้าเขา


เฟอนาส!


เฮอลัสประหลาดใจ”นายไม่ดื่มนี่”


“ถือซะว่าเป็นการเฉลิมฉลองที่ฉันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”เฟอร์นาสรับแก้วมาลื่ม ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนิทกันมาก หากคนอื่นรู้ว่ายอดซันนิลระดับBของเผ่าพันธ์สนิทกับเจ้าของบาร์เล็กๆ พวกเขาคงตกใจ


พวกเขาเป็นเพื่อนเล่นกันแต่เด็ก เฮอลัสจึงคุ้นเคยกับเขา เฟอนาสทั้งกล้าหาญ ซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบและอื่นๆมากมาย หลังหายนะครั้งแรกของซันนิล เฟอร์นาสกลายเป็นทหารรับจ้างเพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธ์ เฮอลัสมักอิจฉาเฟอร์นาส ตั้งแต่เด็ก พี่ชายอายุสั้นเขามักพูดถึงเฟอร์นาสอย่างนั้น เฟอร์นาสอย่างนี้ ในสายตาเขา เฟอร์นาสคือ’เด็กข้างบ้าน’


แม้เขาจะอิจฉาอยู่บ้าง เฮอลัสก็เคารพเฟอร์นาส เขารู้ว่าเขาไม่อาจทำได้อย่างเฟอร์นาส หลังพี่ชายเขาตาย เฮอลัสก็ใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย รอคอยความตาย ไม่ได้กังวลถึงเผ่าพันธ์เลย เขารู้ว่าเขาเป็นคนขี้เกียจ เมื่อพี่ชายเขามีชีวิต เขามักถูกดุเสมอ หลายคนรู้สึกว่าเขามีพรสวรรค์พอๆกับเฟอร์นาสแต่ใช้ชีวิตสิ้นเปลือง ตอนนี้ เฟอร์นาสได้รับความเคารพจากคนทั่วเผ่าพันธ์


เขารู้จักเฟอร์นาส เขาเป็นคนมีวินัยและจะไม่ทำผิดกฏเด็ดขาด ดังนั้น เฮอลัสจึงขมวดคิ้วและถาม”เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“น้องชาย ฉันไม่อาจทนได้อีกแล้ว ฉันกำลังจะออกไป”เฟอร์นาสส่งรอยยิ้มขมขื่นออกไป เฮอลัสไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้มาก่อน


ออกไป?เฮอลัสตกใจ


“จักรวาลมีความเป็นไปได้ไม่รู้จบ”เฟอร์นาสกล่าว”เมื่ออดีตถูกคัดขาด ฉันก็ไม่อยากถูกฉุดรั้งด้วยเผ่าพันธ์อีก มีนักรบมากมายที่คิดเหมือนฉัน ดังนั้นเราจะไม่กลับมาหลังหายนะครั้งนี้”


“เราได้ปกป้องเผ่าพันธ์มานานเกินพอแล้ว เพื่อนหลายคนเสียสละตัวเอง และบางคนก็อ้อนวอนให้เราคุ้มครอง นี่ไม่ใช่ข้อผูกมัดเรา และไม่จำเป็นต้องทำต่อไป เราทำมามากเกินพอแล้ว บางทีเผ่าพันธ์ควรยอมรับความช่วยเหลือจากโกโดร่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีใครตายอีก”


“แม้แต่นายก็ยอมแพ้?!”เฮอลัสตกใจ ทันใดนั้น คำพูดของหานเซี่ยวก็ผุดขึ้นในหัว นี่คือการแตกแยกที่เขาทำนายไว้?งั้นเผ่าพันธ์เราก็คงมีอนาคตอย่างที่เขาว่า กลายเป็นดาวภายใต้โกโดร่าและเสียมรดก?

เฮอลัสจัดเรียงข้อมูล จากนั้นก็บอกเฟอร์นาสถึงคำทำนายของหานเวี่ยวถึงจุดจบหลังซันนิลยอมรับความช่วยเหลือจากโกโดร่า เฟอร์นาสส่ายหัวหลังได้ยิน โดยไม่มีความเปลี่ยนแปลง เขายังคงกล่าว”การมีชีวิตย่อมสำคัญสุด ตราบเท่าที่คนเรายังมีชีวิต อุดมคติก็จะไม่ตายจาก”


จะเป็นอย่างนั้นจริงๆ?


แต่เฟอร์นาสที่เขารู้จักย่อมไม่ละทิ้งเผ่าพันธ์


นายมีชีวิต แต่นายเปลี่ยนไป…


เฮอลัสเห็นหน้าเฟอร์นาสและรู้ว่าเขาตัดสินใจแล้ว เมื่อเห็นว่าเฟอร์นาสเป็นเพื่อนที่ดีสุดของเขา อารมณ์เขาจึงวุ่นวาย ตอนนี้ เขาไม่เคยมองเขาแบบเดิม มันเหมือนคนแปลกหน้า


“งั้นทำไมนายถึงมาบอกฉัน?”เฮอลัสถาม


เฟอร์นาสเขย่าขวดและกล่าว”พูดตรงๆ ฉันไม่ชอบนาย นายมีแข็งแกร่งยิ่งกว่าฉัน แต่ก็ปิดซ่อนและยอมรับการคุ้มครองจากเรา…ช่างเถอะ อย่าไปพูดถึงมัน ฉันแค่มาบอกนายเฉยๆ มันขึ้นอยู่กับนายว่าจะหลีกเลี่ยงต่อหรือยืนหยัดขึ้น”


เฟอร์นาสดึงฮู้ดขึ้นและทิ้งเฮอลัสไว้กับความคิดนั้น



เนื่องจากเมล็ดได้ถูกหว่านไปแล้ว หานเซี่ยวจึงไม่เข้าเมืองอีก เขาเลือกอยู่นอกเมืองและซ่อมแซมสนามรบ เขาจึงอยู่นอกเมืองและทำการซ่อมแซมต่อ เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางของหายนะ สนามรบจึงยิ่งร้อนระอุขึ้น สัตว์ประหลาดน่ากลัวทุกชนิดพุ่งมาทีละตัว และเขาก็ไม่อาจวิ่งข้ามสนามรบได้ด้วยร่างกายเพียวๆ เขาสวมชุดจักรกล บางครั้ง เมื่อสถานที่ที่เขาซ่อมมีช่องโหว่ เขาจะกลายเป็นตัวสำรองเพื่อเติมเต็มช่องโหว่นั้นด้วย ท่ามกลางทหารรับจ้าง พลังเขาไม่ถือว่าโดดเด่นเกินไป และเหลุผลเดียวที่ทหารรับจ้างคนอื่นจำเขาได้ก็เพราะกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์นั้นรับภารกิจเสี่ยงตาย ทหารรับจ้างหลายคนรู้สึกว่าหานเซี่ยวเสียสติ


ทหารจำนวนมากตายทุกวัน  และศพที่ไม่สมบูรณ์ก็ถูกส่งกลับไปแนวหลังทีละศพเพื่อระบุตัว  ค่ายป้องกันยังมีอาวุธและเครื่องบินที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นการป้องกันจึงกลายเป็นยากขึ้นเรื่อยๆ มียานรบเพียงเก้าลำในท้องฟ้าที่ยังไม่เคยยิง พวกซันนิลมีทรัพยากรจำกัด และพลังงานยานรบก็หายาก เฉพาะเมื่อสัตว์ที่แข็งแกร่งมากปรากฏตัว ยานถึงเริ่มยิง นอกจากนี้ ยานรบของพวกซันนิลยังบินรอบดาวได้แค่3-4วันอย่างมาก นอกจากการพิทักษ์น่านฟ้า การใช้งานสำคัญของยานทั้ง9ก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าจะขนส่งพลเรือนออกไปได้หากสถานการณ์พ้นมือ ละทิ้งเมืองเพื่อหลบหนี มันเป็นเส้นทางหลบหนีฉุกเฉิน


8วันต่อมา เมืองเงียบสงบอย่างแปลกประหลาด สัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงช่วงท้ายของหายนะดังขึ้น และครั้งนี้ ทุกคนก็ได้รับหน้ากากหายใจ ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ด้านโลจิสติกส์ แม้แต่พวกพิเศษบางคนยังเข้ามาในสถานที่ลี้ภัย


ฮูม!


ปีกแมลงส่งเสียงดัง และเมฆหนาสีดำก็คืบคลานมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแมลงขนาดเล็กที่มีความก้าวร้าวเหมือนคลื่น

 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม