The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms 235-241

 บทที่235


ผู้แปล : N


แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เขาต้องพยายามรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งของสมาร์ทวอทช์ในตลาดประเทศจีนให้อยู่ในอันดับหนึ่งให้ได้ แต่ถ้ายอดขายมันตกลงมาจริงๆเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกินไป


ในสายตาของเขา เขายังคงมองว่าถึงยอดขายในประเทศจีนจะตกลงไปบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะตลาดที่สำคัญของบริษัทเขาคือในตลาดอเมริกาเหนือ


สำหรับโครงการแว่นตาสมาร์ต ทางบริษัทแอปเปิ้ลของเขาเองก็มีแผนจะไปเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วพวกเขาคงไม่มีทางเลือก พวกเขาคงต้องทำการปล่อยผลิตภัณฑ์แว่นตาสมาร์ตของพวกเขาออกมาเช่นกัน


…..


ในสำนักงานใหญ่ของบริษัทลู่เทคโนโลยีตอนนี้พวกเขากำลังดีใจที่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาประสบความสำเร็จอีกหนึ่งอย่างแล้ว


โครงการแว่นตาสมาร์ตจะถูกจัดให้เป็นผลิตภัณฑ์หลักอันดับสอง นอกเหนือจากโทรศัพท์มือถือก่อนหน้านี้  ดังนั้นวันนี้จึงมีการจัดประชุมเพื่อที่จะแต่งตั้งทีมปฏิบัติการและทีมผู้บริหารขึ้นมา


ลูชินกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องนี้ และเขาก็ได้ตัดสินใจหารือเรื่องนี้กับซู่จิงเพียงสองคน


“ เซียวจิน?” ลูชินมองไปที่ข้อมูลของผู้สมัครตรงหน้า ก่อนที่เขาจะถามซู่จิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง:“ ความสามารถในการทำธุรกิจของเขาถือว่าเป็นยังไงบ้าง?”


ซู่จิงได้สวมแว่นตาสมาร์ตที่โทนี่ส่งมาให้ ก่อนที่เธอจะได้ตรวดสอบข้อมูลของเซียวจินและพูดขึ้นว่า: “เซียวจิน เขาได้รับหน้าที่ดูแลการขายโทรศัพท์มือถือในโซนภาคเหนือเป็นเวลาหนึ่งปี ในด้านการทำงานเขาถือว่าดีที่สุดจากผู้สมัครคนอื่น”


ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย เพราะเซียวจินคนนี้เองก็เคยเป็นผู้ช่วยของเขาในอุสาหกรรมภาคใต้ก่อนที่ซู่จิงจะมาหาเขา


“ ผลงานในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาของเขาถือว่าน่าสนใจอย่างมาก” ลูชินพูดขึ้นมา


“คุณต้องการดูข้อมูลของผู้สมัครคนอื่นอีกไหม?” ซู่จิงถามออกมา


“ไม่ต้องแล้วละ! ผมจะให้โอกาสเขาเป็นหัวหน้าโครงการของแว่นตาสมาร์ต ถ้าผลการดำเนินงานของเขาดีไม่มีปัญหาอะไร เขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองประธานอาวุโส แต่ถ้าเขาไม่สามารถทำได้เขาก็จะต้องกลับมาดูแลโครงการทางภาคเหนือเหมือนเดิม” ลูชินได้พูดตัดสินใจออกมา


ซู่จิงที่เห็นว่าตอนนี้พวกเขาสามารถแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้แล้ว เธอจึงได้นำปัญหาอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาถามต่อว่า: “ตอนนี้ความร่วมมือในประเทศอเมริกาของเรากำลังประสบกับปัญหา คือผู้ประกอบการที่เราเคยตกลงกันเอาไว้เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้พวกนั้นกลับเริ่มแสดงท่าทีไม่ชัดเจนออกมา”


ราคาของโทรศัพท์HX1-2และ2S ต่างก็มีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ห้าหรือหกพันหยวน แต่ถ้าบริษัทของเขาสามารถนำผลิตภัณฑ์นี้ไปขายในต่างประเทศได้ ราคาเริ่มต้นที่พวกเขาจะตั้งไว้นั้นจะสูงขึ้นอย่างมาก


ดังนั้นเขาจึงเล็งเห็นว่า จะเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะสามารถเข้าไปตีตลาดในประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงได้มองไปที่ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ก็คือตลาดอเมริกาเหนือ


“ เป็นเพราะปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลใช้ไหม?” ลูชินได้ถาม


“ฉันคิดว่าเรื่องนี้ก็มีส่วนเหมือนกัน” ซู่จิงได้พูดต่อว่า “ในเรื่องเหตุผลเฉพาะทางนั้นเองก็ไม่ได้บอกพวกเรามามากนัก ในตอนแรกเราได้รับการติดต่อมาจากผู้ให้บริการยักใหญ่ถึงสามเจ้า ว่าพวกเขามีความสนใจอยากเป็นตัวแทนของเราในพื้นที่ของพวกเขา”


“แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางเรากับได้รับการโทรมาบอกว่าผลิตภัณฑ์ของเราถูกตรวจสอบจากหน่วยงานด้านความมั่นคง นั้นทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจที่จะรับเป็นตัวแทนของเรา ดังนั้นพวกเขาจึงขอเลื่อนการเซ็นสัญญากับทางเราออกไปก่อน “


” โอ้! ฉันไม่คิดว่าเราจะเจอปัญหาเดียวกันกับฮ่องกงอีกแล้ว “ลูชินได้พูดออกมาแบบสบายๆ


ในฐานะที่เขาต้องการเข้าไปเปิดตลาดในประเทศสหรัฐ เขาจึงต้องร่วมมือกับบริษัทในประเทศให้ได้ แต่ตอนนี้กลับมาเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นจึงทำให้แผนการเข้าไปเปิดตลาดใหม่ของเขาต้องหยุดชะงักไป


สาเหตุหลักๆที่เขาพอจะคิดได้ คือมีหน่วยงานเรียกว่า คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (Federal Communications Commission) เข้ามาตรวจสอบปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่อาจมีอยู่ในโทรศัพท์มือถือ


ด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการขายผ่านออนไลน์ได้เท่านั้น ดังนั้นเขาไม่แปลกใจเลยที่เห็นว่ายอดขายในสหรัฐจะอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำอย่างนี้


ซู่จิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ทำหน้าหมดหนทาง และพูดว่า: “นโยบายแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกัน ทางแก้ที่ทางเราพอจะคิดได้ก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆนี้อย่างแน่นอน”


“ ดังนั้นตอนนี้เราคงทำได้เพียงแค่ให้คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ พวกนั้นตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของเราให้เสร็จก่อนเท่านั้น”


“แล้วประเทศอื่นล่ะ?” ลูชินถามขึ้นมา


“ ประเทศอื่นนั้นไม่มีปัญหาเลย ตอนนี้เราได้รับใบอนุญาตการขายจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียมาแล้ว  และเร็วๆนี้เราจะได้ใบอนุญาตมากอีกสามประเทศ คือประเทศเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น และประเทศทางแถบยุโรป”


ซู่จิงพูดต่อว่า “ และเมื่อเร็วๆนี้เราได้รับการติดต่อมาจากคุณ อิชิโกะ วาตาสิ จากประเทศญี่ปุ่น เขาได้เชิญคุณและผู้จัดการหลิวตงไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเราที่บริษัทของเขาในช่วงเดือนหน้า”


“ ไปที่เอะโดะ? ประเทศญี่ปุ่น? ” ลูชินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ มันช่างน่าสนใจจริงๆ บริษัทของคุณอิชิโกะถือว่าเป็นบริษัทชั้นนำในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ฉันคงต้องลองไปดูบริษัทของเขาหน่อยแล้ว! “


ลูชินตัดสินใจที่จะไปประเทศญี่ปุ่นในเดือนหน้า ใครจะรู้ว่าแค่วันนี้วันนี้วันเดียวเขาจะได้รับเรื่องตื่นเต้นติดต่อกันแบบนี้


ได้มีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆโทรเข้ามาหาเขา เขาที่เห็นแบบนั้นก็รับสายก่อนจะถามว่า: “สวัสดี! นี้ใครพูดครับ?”


“นี้ใช้เบอร์ของลูชินไหมครับ?” เสียงจากปลายสายพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย


“ใช้ครับ?” ลูชินรู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าของเสียงนี้ แต่เขากลับคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าเป็นใคร


“ไอ้บ้าเอ้ย! นี้นายจำเสียงของเพื่อนตัวเองไม่ได้เหรอไง? ฉันเอง ไดเชียง!!” ชายคนนั้นพูดขึ้น


“ไดเชียง?” ลูชินจำได้ทันทีว่านี่คือหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องของที่มหาวิทยาลัย! ในช่วงครึ่งปีหลังจบการศึกษาทั้งพวกเขาได้ติดต่อกันบ่อยครั้ง แต่เมื่อเขาได้เริ่มทำงานที่บริษัทเกมแห่งความตาย พวกเขาก็เริ่มติดต่อกันน้อยลง


และต่อมาเขาเองก็ได้เปลี่ยนเบอร์และวีแชทใหม่,ดังนั้นเขาจึงได้ติดต่อพวกเพื่อนๆของเขาน้อยลงมาก แต่เขาต้องยอมรับว่าหลังจากผ่านมาสองปีแล้วตอนนี้เขาได้ยินเสียงเพื่อนสนิทอีกครั้ง มันทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก


“ ฉันก็คิดว่าทำไมเสียงนี้ถึงคุ้นๆชอบกล ที่แท้ก็คือนายนี้เอง แล้วช่วงนี้นายเป็นไงบ้าง?”


“ธุรกิจของฉันก็ดีอยู่ ” ไดเชียงพูดต่อว่า “ที่ฉันโทรมานี้คือฉันคิดถึงแก๊งสามเสือของห้อง303 ไม่รู้ว่านายจะมาดื่มกันไหม?”


ลูชินที่ได้ยินแบบนั้น ความทรงจำสมัยที่พวกเขาเรียนอยู่ที่มหาลัยต่างก็ลอยขึ้นมา นั้นทำให้เขารู้สึกว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขารู้สึกมีความสุขที่สุด


“ฮาฮาฮา ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน แต่ช่วงนี้ฉันยุ่งนิดหน่อย คงไว้โอกาสหน้าละกัน” ลูชินได้ตอบกลับไป


“โอ้! แล้วถ้าเป็นช่วงเดือนหน้าละ นายพอจะมีเวลาว่างไหม?” ดูเหมือนว่าไดเจียงจะยังไม่ยอมแพ้ในเรื่องนี้


“อาจจะ ทำไม่? ดูนายสนใจเวลาว่างของฉันนะ?”


“ฮาฮาฮา ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะในเดือนหน้านี้ฉันจะแต่งงาน ฉันเลยอยากจะเชิญแก๊งของเรามาร่วมงานของฉันนะ” ไดเจียงที่ได้ยินลูชินถามแบบนั้นเขาก็พูดจุดประสงค์ของเขาออกมาในที่สุด


ทันใดนั้นลูชินก็พูดอะไรไม่ออกเลย เขาไม่คิดว่าเพื่อนสนิทของเขาอย่างไดเชียงจะแต่งเร็วแบบนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าจะเป็นไอ้ชูอันเสียอีกที่จะแต่งงาน


อย่างไรก็ตามนี้คืองานแต่งของเพื่อนสนิทของเขา เขาจะไม่มีทางพลาดงานนี้อย่างเด็ดขาด


บทที่236


ผู้แปล : N.


ช่วงต้นเดือนนี้ลูชินถือโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของเขาอีก บ้านของเขานั้นได้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ด้านนอกยังมีสระว่ายน้ำ สวน ที่จอดรถ แม้แต่ศูนย์ออกกำลังกายก็มี นอกจากนี้รัวรอบบ้านของเขายังได้ติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยไว้รอบๆอีกด้วย


การตกแต่งภายในเองก็รับการออกแบบตามแบบบ้านสมาร์ตทั้งหมด และระบบทั้งหมดในตัวบ้านจะใช้โฮมสมาร์ตที่ทันสมัย


ตอนที่เขาเข้ามายังตัวบ้าน เขาไม่เห็นพ่อแม่ของเขาเลย ดูเหมือนว่าท่านทั้งสองคงกำลังไปนอนอาบแดดที่ชายหาดเพื่อพักผ่อน


แต่เขากลับเห็นพี่สาวซูแทน ตอนนี้เธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าโครงการบ้านจัดสรรที่เขาอยู่นี้ ดังนั้นเธอจึงอยู่ที่นี่เกือบตลอดทั้งปี


“ มันผ่านมาครึ่งปีแล้วสินะที่เราเจอกันครั้งล่าสุด” ในร้านกาแฟริมถนนพี่สาวซูพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ


ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทั้งสองได้พบกัน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นวันเกิดของเธอและตั้งแต่นั้นมาลูชินก็แทบจะไม่ได้อยู่ในเมืองเจียงเฉิงเลย เขาเดินทางไปทั่วประเทศและบางที่ก็ต่างประเทศจึงไม่ค่อยมีเวลาติดต่อกันมากนัก


เขาต้องยอมรับว่าถึงเขาจะไม่เห็นพี่สาวซูมานาน แต่เธอก็ยังคงสดใสอยู่เสมอ รสนิยมการแต่งหน้าของพี่สาวซูเองก็มีระดับ ในส่วนของการแต่งตัวของเธอเองก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และเมื่อนำมารวมกับการแต่งหน้าของเธอแล้วมันยิ่งทำให้เธอดูดีและสวยอย่างมาก


เขาคิดว่าการที่เธอดูดีแบบนี้ได้ส่วนหนึ่งเธอก็คงเลือกกินและการออกกำลัง ไม่อย่างนั้นเธอจะมีหุ่นที่สวยงามแบบนี้ได้เหรอ?


“ใช้! มันเร็วมาก” ลูชินรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมาก ถ้าไม่มีงานแต่งงานของเพื่อนรักของเขา เขาก็คงยังไม่ได้กลับมาบ้านง่ายๆ


พ่อกับแม่เองก็ดูเหมือนจะมีความสุขเช่นกันที่ได้ย้ายมาอยู่บ้านแบบนี้ พวกท่านได้ออกไปท่องเที่ยวทุกที่ที่พวกท่านอยากไป และยังได้ส่งรูปที่พวกท่านไปเที่ยวมาให้เขาดูทุกวัน!


“แต่ฉันกับรู้สึกว่าเวลามันช้ามาก” ซูเฉิงได้ถือกาแฟรสขมขึ้นมาจิบเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า: “มันนานเหมือนสามปีเลยที่เดียว”


“ฮาฮาฮา นี้พี่จะคิดถึงผมมากเกินไปไหม?” ลูชินได้พูดโพล่งออกมาแบบล้อเล่น


ซูเฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มให้เขาและพูดว่า: “นายรู้ตัวไหมว่าเริ่มเป็นคนหลงตัวเอง!”


“ถ้าผมไม่หลงตัวเอง พี่จะให้ผมเกลียดตัวเองเหรอไง ฮาฮาฮา?” ลูชินพูดด้วยรอยยิ้ม


“เฮ้อ! ฉันไม่รู้จะเถียงนายกลับยังไงเลย ฉันอยากรู้จริงๆว่านอกจากสมองที่นายเอาไว้ใช้หาเงินแล้ว นายได้นำมันไปทำอย่างอื่นอีกไหม? ” ซูเฉิงพูดวิจารณ์ต่อว่า “ข่าวทุกวันนี้นำเสนอแต่เรื่องธุรกิจของบริษัทเธอทั้งนั้น ฉันจะรู้สึกเบื่อขึ้นมาละ”


“ในด้านการทำงานนั้นถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ที่สำคัญจริงๆคือการที่ผมสามารถทำให้ประเทศของเราพัฒนาเทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้วได้นั้นละคือประเด็นหลัก “ลูชินพูดต่อว่า”และผมจะบอกข่าวลับสุดยอดให้พี่รู้คนแรกนะ อีกไม่นานผมจะไปเจาะตลาดที่อเมริกาเหนือ! “


” เป็นเรื่องจริง! “ซูเฉิงได้พูดแบบตกใจ เธอไม่คิดเลยว่าการเป็นหัวเรือใหญ่จะคิดการไกลแบบนี้ ถ้าเป็นพนักงานธรรมดาพวกเขาจะคิดเกี่ยวกับเรื่องของวันนี้เท่านั้นไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น


แต่ในฐานะหัวเรือใหญ่ คนนั้นต้องคิดพิจารณาทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบริษัท ชื่อเสียง ภาษีรายได้ต้นทุน และอื่น ๆ โดยเฉพาะการที่บริษัทลู่เทคโนโลยีมีพนักงานมากกว่าหมื่นคน นี้คิดเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมาก


“ฉันรู้สึกว่ายิ่งนานวันไป นายก็ยิ่งดูลึกลับขึ้น” ซูเฉิงได้พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าชื่นชมต่อว่า: “ฉันไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถสร้างธุรกิจของตัวเองให้กลายเป็นยักใหญ่ในระดับประเทศได้ตั้งแต่อายุแค่นี้ ถ้าฉันไม่รู้จักนายฉันก็คงคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่น! ”


ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกพอใจเล็กน้อย เขาจึงพูดว่า:” ผมแค่โชคดีนิดหน่อยครับ และส่วนที่สำคัญที่สุดเลยผมได้รู้จักกับเพื่อนที่ดีและเก่ง ”


“ไอ้เรื่องโชคดีนี้ฉันคิดว่ามันก็มีส่วน แต่มันก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะลักษณะนิสัยส่วนตัวและพฤติกรรมของนายเองมากกว่าที่พานายมาถึงจุดนี้ได้ ” ซูเฉิงพูดขึ้นมา


“เฮ้อ! ผมว่าเราหยุดคุยกันเรื่องของผมเถอะ” ลูชิยลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมรู้สึกว่ามันจะทำให้บรรยากาศดีๆนี้เสียหมด”


“แล้วนี้พี่สาวซูมาทำอะไรที่นี้เหรอ? “


ซูเฉิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับว่า “ฮิฮิ ฉันจะมาร่วมงานแต่งของรุ่นน้องของฉันนะ บางที่ฉันอาจจะได้รับช่อดอกไม้แล้วจะมีผู้ชายมาขอแต่งงานบ้างก็ได้”


“แล้วนายละมีความฝันไหม?” ซูเฉิงถามด้วยความอยากรู้อยาก


“เงิน…” น้ำเสียงของลูชินนิ่งงันอย่างมากที่ตอบคำถามนี้ คิ้วของซูเฉิงได้ขมวดขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่เขาด้วยตาที่ไม่พอใจก่อนที่จะพูดว่า: “ฉันคิดว่านั่นไม่ใช่ความฝัน”


“ใช้สิครับ! เพราะตอนนี้เรายังเด็กเรายังคงมีพลัง … ”


“ฉันคิดว่าแค่ตอนนี้นายก็มีเงินมากกว่าคนทั้งประเทศเสียอีก นายใช้เวลาแค่สองปีกับสองเดือนหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัย นายควรหยุดคิดเรื่องเงินไปซักพัก!” ซูเฉิงพูดขึ้นมาแบบติดตลกเล็กน้อย


ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มๆออกมา และถามว่าเธอจะกลับไปยังสำนักงานใหญ่วันไหน, แต่เหมือนว่าเขาจะคิดผิด พี่สาวซูได้พูดว่า: “ฉันยังไม่กลับเร็วๆนี้หรอก ฉันจะต้องไปร่วมงานแต่งก่อน! นายลืมไปแล้วเหรอไง?”


“โอ้! ผมเกือบลืมไปเลย แล้วพี่จะไปงานแต่งใครละครับ?”


“ฉันจะไปงานแต่งงานของไดเจียงนะ “ซูเสียวได้ตอบกลับมา


“อ่า! พี่ได้รับเชิญจากเขาด้วยเหรอ?” ลูชินถามด้วยความประหลาดใจ


“ฮิฮิ ไม่ใช่เขาหรอกที่เชิญฉัน” ซูเฉิงพูดต่อว่า “ฉันไม่รู้จักเขาหรอก แต่เป็นคนที่เขาจะแต่งงานด้วยนะ พอดีเธอเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าของฉัน”


อันที่จริงเธอเองก็ไม่สนิทกับรุ่นน้องคนนี้มากนัก แต่เดิมเธอคิดว่าจะไม่ไปด้วยซ้ำแต่เมื่อเธอได้ยินว่าคนที่รุ่นน้องคนนี้จะแต่งงานด้วยเป็นเพื่อนของลูชิน ดังนั้นเธอคิดว่าลูชินต้องมางานนี้อย่างแน่นอนเธอจึงได้ยินดีมาร่วมงานแต่งนี้


“โอ้! งั้นพี่จะไปพร้อมผมไหม?” ลูชินได้ถามออกไป


ซูเฉิงที่ได้ยิ้มแบบนั้นก็พูดว่า: “ฉันก็คิดว่านายจะไปเชิญฉันซะแล้ว”


วันรุ่งขึ้นลูชินและซูเฉิงได้เดินทางไปตลาดขายเรือนไม้ ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในมณฑลเจียงเป่ยเลยก็ว่าได้ เขาคิดว่าจะมอบงานไม้ให้เป็นของขวัญแต่งงานของเพื่อนรักของเขา


ในเวลานี้ในโรงแรมห้าดาว ไดเจียงได้สวมสูทอย่างเป็นทางการกำลังคุยกับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนเก่าเมื่อได้รับโทรศัพท์จากลูชินว่า ต้องการคนมานำทางพวกเขาพอดีพวกเขาไม่คุ้นกับสถานที


“ใครพอจะไปรับลูชินได้ไหม? พอดีเขาไม่รู้ทาง! ฉันเลยอยากถามว่าใครพอจะไปรับเขาได้บ้าง?” ไดเจียงได้ถามกับกลุ่มเพื่อนร่วมที่อยู่บริเวณนั้น


“ลูชิน ลูชินไหน?” ผู้ชายที่มีใบหน้าใหญ่และอ้วนพูดขึ้นมา เขามีชื่อว่าเฉินจิง ในอดีตตอนที่เรียนเขาถือว่าเป็นคนเงียบๆไม่มีเพื่อน แต่ตอนนี้เขากับกลายเป็นขวัญใจของกลุ่มเพื่อนร่วมห้องไปแล้ว ถึงขึ้นที่เพื่อนๆเรียกเขาว่า คุณชายเฉิง


“เขาเป็นเพื่อนของฉัน” ไดเจียงพูดต่อว่า “ ฉันไม่สะดวกออกไปรับ เพราะต้องอยู่ตอนรับแขกที่นี้ เฉินจิง! นายสะดวกออกไปรับไหม?”


“ลูชิน?” เฉินจิงได้คิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะคิดและพูดว่า “โอ้! มันเป็นคนที่เคยมีเรื่องกับฉันที่มหาลัยตอนนั้น แล้วตอนนี้มันทำงานอะไรอยู่”


ลูชินเคยมีเรื่องทะเลาะกับเขามาก่อน ในตอนแรกเขาลืมไปแล้วแต่ตอนนี้เขาคิดวิธีทำให้อีกฝ่ายต้องอับอายได้แล้ว


“ดูเหมือนว่าเขาจะทำงานอยู่ในบริษัทเกมอะไรซักอย่าง ฉันเองก็ไม่แน่ใจ” ไดเจียงตอบกลับมา


เฉินจิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็แสดงสีหน้าดูถูกออกมา: “ในงานเลี้ยงรุ่นครั้งที่แล้วเขาก็ไม่ไป ใครมันจะไปคิดว่าเขาจะทำงานเป็นแค่พนักงานเล็กๆแบบนี้”


“ดี! ฉันจะเอารถพอร์ชไปรับเขาเอง แต่มันติดอยู่อย่างเดียว! รถของฉันมีน้ำมันไม่พอนะสิ”


“ นายหมายความว่ายังไง” ไดเจียงขมวดคิ้วขณะที่พูดขึ้นมา


“ฉันคิดว่าเขาคงจะหาทางมาเองได้อยู่แล้ว นายไม่ต้องกังวลเกินไป” เฉินจิงได้พูดออกมาสบายๆ


ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้แล้วว่าเฉิงจิงนั้นต้องการสร้างปัญหาขึ้นมา เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปขอให้ลุงของเขาไปรับเพื่อนของเขาแทน


คนอื่นๆก็กำลังคุยกันต่อไป ได้มีผู้หญิงแถวนั้นได้ถามขึ้นมาอยากรู้อยากเห็น: “เฉินจิง นายซื้อรถพอร์ชมาเท่าไหร่”


“ไม่แพงเลย รถคันนี้ประมาณ 1.6 ล้านหยวนเท่านั้น” เฉินจิงได้พูดออกมาแบบสบายๆ


“ พระเจ้า! รถคันนี้มีราคา 1.6 ล้านหยวน มันแพงมาก เงินเดือนของฉันแค่ 10,000 ต่อเดือนเท่านั้น ฉันจะมีปัญหาซื้อรถแบบนี้ได้ตอนไหน!” เพื่อนร่วมชั้นหญิงต่างพากันพูดอย่างอิจฉา


เพื่อนคนอื่นต่างก็แสดงอารมณ์ของตนเองและพูดว่า: “เฉินจิง ฉันไม่คิดเลยว่านายจะทำเงินได้มากขนาดนี้?”


เฉินจิงพูดค่อนข้างสบาย: “โครงการอสังหาริมทรัพย์ของฉันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น? แต่ก็ถือว่าดีกว่าโครงการเจ้าอื่นอยู่ๆ ฉันก็เลยสามารถทำกำไรจากมันได้นิดหน่อย ””


บทที่237


ผู้แปล: N.


เกิดอะไรขึ้น? ทุกคนที่ได้ฟังแบบนี้ต่างก็แสดงอาการอิจฉาออกมาอย่างปิดไม่มิด ในอดีตเฉินจิงนั้นเป็นคนที่พวกเขาพยายามหลีกหนีอยู่ตลอด แต่วันนี้กับเปลี่ยนกลายมาเป็นคนที่พวกเขาพยายามเกาะต้นขาแทน มีกลุ่มผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาหว่านเสน่ห์ใส่เฉิงจิงโดยเฉพาะ


เฉิงจิงที่ได้เห็นแบบนั้นก็รู้สึกว่าเขาเป็นพระเจ้า นั้นยิ่งทำให้เขาแสดงความรวยของเขามากขึ้น


“ฉันคิดว่าถ้าพูดกันจริงๆแล้ว เฉิงจิงถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดแล้วในรุ่นของเรา ” พูดเสร็จคนนั้นก็ถอนหายใจออกมา เพราะถ้าเทียบกันแล้วเขาไม่สามารถสู้เฉิงจิงได้เลย เขาที่จบมาแล้วก็เข้าร่วมกับกองทัพเพื่อที่จะหวังว่าจะได้รับการติดยศเป็นผู้กอง แต่ตอนนี้เขาก็ยังเป็นแค่พลทหารธรรมดาเท่านั้น


“ ไม่กล้า ไม่กล้า ฉันก็แค่มีครอบครัวหนุนหลังเท่านั้น แต่ถ้าเพื่อนผู้หญิงคนไหนยังไม่มีงาน! ก็สามารถติดต่อฉันได้เลยนะ!” เฉินจิงพูดขึ้นมายิ้มๆ


“จริงเหรอ?” ทุกคนพูดขึ้นมาอย่างสงสัยโดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่หวังว่าจะสบาย ต่างก็รีบเข้ามาถามเฉิงจิงโดยตรง โดยที่มีผู้หญิงที่ดูหน้ารักเข้ามาถามเขาว่า: “พี่ใหญ่! คุณจะรับฉันเข้าไปทำงานกับคุณได้ไหม? ฉันขอเงินเดือนแค่สองหมื่นหยวนก็พอแล้ว”


“ ถ้าเธออยากได้เงินเดือนมากขนาดนั้นเธอก็ควรทำงานให้เป็น” เฉินจิงได้พูดขึ้นมาอย่างลึกลับ


“ ฮิฮิ ฉันรู้ว่าพี่ใหญ่ต้องการอะไร? ฉันจะมอบมันให้คุณ”ผู้หญิงคนนั้นเข้ามากระซิบข้างหูของเฉิงจิงโดยตรง


“ เธอบอกอะไรนาย!” ทุกคนถามด้วยความอยากรู้


“ฮาฮาฮา มันเป็นความลับ” เฉินจิงตอบออกมาอย่างยิ้มๆ


“นั้น! ชูอันใช้ไหม?” ทุกคนที่เห็นแบบนั้นต่างก็แสดงความสงสัยออกมา ก่อนที่จะมีคนพูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่าใช้นะ เขาชอบสวมแว่น ตัวสูงและผอม ฉันจำได้ว่าเขาเองก็เป็นเพื่อนสนิทของลูชินเช่นกัน”


“ดู ดู แล้วก็เป็นพวกขี้แพ้เหมือนกัน ฉันไม่คิดจะไปทำความรู้จักมันเลย “เฉินจิงได้ใช้น้ำเสียงดูถูกออกมา


“ฮาฮาฮา ” ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเฉิงจิงแบบนั้นก็พยายามประจบเอาใจของเขาจำนวนมาก ตอนนี้พวกเขามองว่าเฉิงจิงเป็นเจ้านายของพวกเขาไปแล้ว ถ้าเจ้านายสั่งอะไรพวกเขาก็พร้อมที่จะทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไขอะไรทันที


ทางด้านของไดเจียงที่ผ่านมาและยินคำพูดของเฉิงจิงก็ไม่พอใจอย่างมาก เขาจึงเข้ามาอธิบายให้ฟังว่า: “พวกนายผิดแล้ว ที่จริงชูอันเขาเป็นถึงรองประธานของบริษัทลู่เทคโนโลยี! ถ้าถามถึงเรื่องรายได้ของเขานั้นมีมากถึงร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีที่เดียว มันมากกว่านายด้วยซ้ำเฉิงจิง!” ประโยคหลังของไดเจียงนั้นทำให้เฉิงจิงแสดงสีหน้าหน้าเกลียดออกมา


“ และฉันยังจะไปคุยเรื่องธุรกิจกับเขาด้วยหลังจากงานแต่งนี้จบลง!”


พวกเพื่อนๆที่ได้ยินคำอธิบายของไดเจียงต่างก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา


“อะไรนะ! ชูอันเขาเป็นถึงรองประธานของบริษัทลู่เทคโนโลยี?” กลุ่มหญิงที่อยู่ใกล้ๆต่างก็พูดด้วยความประหลาดใจออกมา


“เขาชั่งทรงพลังเหลือเกิน”


มีคนที่ยังไม่เข้าในสถานการณ์นี้ดีพอ เขาจึงถามว่า: “บริษัทลู่เทคโนโลยี? คือบริษัทอะไร? ทำไมพวกนายถึงต้องแสดงอาการตกใจออกมาขนาดนั้นด้วย? ”


เพื่อนที่อยู่ด้านข้างรีบพูดขึ้นมาว่า “นายไปอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่องที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้? บริษัทลู่เทคโนโลยีที่เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีของประเทศเราตอนนี้ และเร็วๆนี้เขายังปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างรถไฟฟ้า แว่นตาสมาร์ต และที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือบริษัทในเครือของพวกเขาทั้งห้าบริษัทต่างก็ติดอันดับหนึ่งในสาขาที่พวกเขาอยู่อีกด้วย! ”


“ อะไรนะ! ที่นายพูดมาคือเรื่องจริง?! “คนนั้นที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดแบบเหลือเชื่อว่า “ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย! ”


” ใช่! เสี่ยวลี่ ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนเขาจะไล่จีบเธอใช้ไหม? “ผู้หญิงคนหนึ่งถามเพื่อนร่วมของเธอทันทีที่นึกถึงเรื่องนี้ได้


“ ตอนนั้นฉันกำลังตั้งใจเรียนเลยไม่ได้สนใจเขา”


“ มันน่าเสียดาย ฉันคิดว่าเธอคงพลาดโอกาสที่ดีที่สุดไปแล้วละ!”


ผู้หญิงหลายคนต่างก็รู้สึกเสียใจ ถ้าพวกเธอรู้ว่าจบมาชูอันจะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากขนาดนั้น ตอนนั้นพวกเธอคงยินดีพลีกายมัดใจของเขาไปแล้ว!


“แล้วธุรกิจที่นายจะไปคุณกับชูอันนั้นเกี่ยวกับอะไรละ? ” เฉินจิงที่รู้ว่าชูอันประสบสำเร็จขนาดไหน เขาก็อยากรู้ขึ้นมาว่าธุรกิจที่ไดเจียงจะคุยนั้นเป็นเรื่องอะไร


ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาได้พูดว่า: “ฉันสนใจในทำเรื่องโลจิสติกส์  พอดีว่าบริษัทของฉันประสบปัญหาเรื่องการจัดการข้อมูลด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ดังนั้นฉันจึงอยากถามเขาว่าสนใจมาร่วมมือกันพัฒนาขึ้นมาไหม? ”


” ความสามารถด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของบริษัทลู่เทคโนโลยีถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในประเทศและอาจจะติดหนึ่งในห้าของโลกด้วยซ้ำ ดังนั้นฉันจึงต้องการความร่วมมือจากชูอันในเรื่องนี้”


“และด้วยที่โรงงานของฉันเป็นโรงงานขนาดเล็กฉันกว่าว่าพวกนั้นจะไม่สนใจโครงการนี้ ฉันคิดว่าจะมาถามชูอันโดยตรงว่าเขาพอจะช่วยอะไรฉันได้บ้าง หรือไม่ก็ขอให้เขาแนะนำคนที่มีความสามารถด้านนี้มาช่วยก็ยังดี”


“ฉันเชื่อว่าเขาที่เป็นถึงรองประธานบริษัทลู่เทคโนโลยีต้องมีอำนาจมากพอดูอย่างแน่นอนมัน และถ้าเขาช่วยฉันพูดได้ก็จะเป็นการดีมากเลย ”


พวกเพื่อนๆที่ได้ยินแบบนั้นต่างก็พูดออกมาอย่างอารมณ์ตื่นเต้นว่า “โอ้! ฉันคิดว่ามันต้องสำเร็จอย่างแน่นอน!”


ในทางกลับกันลูชินและพี่สาวซูได้ขึ้นรถที่ลุงของไดเจียงไปรับ ทางเข้าห้องจัดแต่งงานลูชินเห็นแขกจำนวนมากที่มาร่วมงานแต่งของเพื่อนของเขา และด้านนอกทางเข้าห้องจัดงานนั้นเองเขาก็ได้พบกับเพื่อนสนิทของเขา


“ลูชิน! ฉันคิดว่านายจะใช้เวลานานกว่านี้ซะอีก ” ไดเจียงที่เห็นเพื่อนรักของตัวเองมาถึงก็รีบเข้าไปทักทายทันที


เขาได้รีบเข้าไปทักทายลูชิน แต่เหมือนว่าเพื่อนที่อยู่ข้างๆจะไม่ทำแบบนั้น พวกเขาพยายามหลบไม่เข้าใกล้ลูชินด้วยซ้ำ ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา แต่เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่มาด้วยกันแล้ว เธอดูเหมือนจะได้รับความสนใจมากกว่า!


“ได! นายดูสมบรูณ์ขึ้นนะ ฮาฮาฮา ” ลูชินที่ไม่ได้เห็นเพื่อนสนิทของเขามานานก็พูดติดตลกออกไป


ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ก่อนที่เขาจะพูดกลับไปว่า “นายก็เหมือนกัน ไม่เจอกันแค่สองปี นายเปลี่ยนไปจนฉันแทบจำไม่ได้“


“ทำไมนายถึงจำฉันไม่ได้?” ลูชินพูดยิ้มๆ


“ก็มันต้องสองปีแล้วนะเพื่อน!” ได้เจียงตอบกลับ


ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นว่า “มันควรเป็นฉันมากกว่าที่จะจำนายไม่ได้ นายไปทำอะไรมาในช่วงสองปีนี้ ดูนายอ้วนขึ้นเยอะเลย?”


“ เฮ้! นี้มันกล้ามเนื้อโว้ย! นายพูดซะฉันไปไม่ถูกเลยนี่! “


” นายนี้นะที่ออกกำลังกาย! “ลูชินพูดอย่างไม่น่าเชื่อ


” ฮาฮาฮา ฉันออกกำลังทุกเดือนเลยนะ! เดือนละสองครั้ง! “ไดเจียงพูดติดตลกออกมา จะเห็นได้ว่าการพูดของทั้งสองนั้นมีความสนิทกันมากขนาดไหน


ในไม่ช้าไดเจียงก็หันไปมองที่ซูเฉิง เขาต้องยอมรับว่าผู้หญิงที่มากับไอ้เพื่อนคนนี้ของเขานั้นสวยสุดยอดไปเลย เขาคิดว่าเธอคงสวยที่สุดในงานวันนี้แล้วแต่ก็สู้ภรรยาของเขาไม่ได้ ฮิฮิ


“นี้เทพธิดาซูไม่ใช่เหรอ?” ไดเจียงที่สังเกตผู้หญิงคนนี้มาซักพักก็พูดขึ้นมาอย่างประหลาดใจ ก่อนที่เขาจะถามออกไปด้วยความตกใจว่า “พวกคุณมาด้วยกัน? “


ต้องบอกว่าซูเฉิงนั้นเป็นคนที่ครองตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดของมหาวิทยาลัยมาติดต่อกันถึงสี่สมัย จนมีคนบางคนต้องฉายาให้เธอว่า เทพธิดา


“คุณก็ลองเดาอูสิ” ซูเฉิงไม่ได้ตอบโดยตรง แต่เธอกลับเลือกให้อีกฝ่ายเป็นคนคิดแทน


“โอ้ … ” การกระทำของซูเสียวทำให้ไดเจียงพอเข้าใจอะไรแล้ว


ซูเฉิงที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและพูดว่า: “ฉันคิดว่าตอนนี้ก็ควรถึงเวลาที่งานจะเริ่มแล้วนะ เธอควรไปเปลี่ยนชุดก่อนดีไหม?”


” ใช้! ลูชินเร็วเข้า! นายต้องมากับฉัน ฉันจะได้แนะนำแฟนของฉันให้นายได้รู้จัก! “ไดเจียงได้รีบพูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะดึงให้ลูชินและซูเสียวตามเขาไป


เพื่อนร่วมชั้นบางคนที่เห็นลูชินก็เข้ามาทักทาย แต่ก็มีบางคนที่ส่งสายตาดูถูกมาทางเขาอย่างไม่ปิดบัง เช่น เฉิงจิง


“ เฮ้! นี้ไม่ใช้ลูชินของเราหรือไง? ตอนนี้นายเปลี่ยนอาชีพเป็นเทรนเนอร์แล้ว?” เฉินจิงได้พูดจาดูถูกลูชินออกมาโดยตรง เพราะเขารู้สึกอิจฉารูปร่างของคนตรงหน้า ถ้าเทียบกันแล้วคนตรงหน้านั้นมีรูปร่างที่เพอร์เฟค แล้วกลับมาดูที่ตัวเองที่ตอนนี้เหมือนถังเบียร์เคลื่อนที่ มันยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างมาก


“ ไม่ใช้หรอก! ฉันยังคงทำธุรกิจเดิมอยู่” ลูชินตอบกลับออกมาอย่างง่ายๆ


“ โอ้! ฉันไม่คิดว่าเงินเดือนของนายจะสามารถซื้อชุดแพงๆแบบนี้ได้นะ นายไปยืมของใครมาละ?” เฉินจิงยังไม่หยุดการดูถูกลูชิน


เนื่องจากเขาที่พึ่งเคยมางานแต่งงานแบบนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นเขาจึงขอให้ซู่จิงแฟนของเขาเป็นคนจัดการเตรียมชุดให้ เขาไม่รู้หรอกว่าชุดนี้มีราคาเท่าไรและเขาก็ไม่คิดจะสนใจมันด้วย


“โอ้! ชุดนี้ถือว่าใส่สบายเหลือเชื่อ นายต้องหามาลองใส่นะ”


บทที่238


ผู้แปล : N.


เฉิงจิงที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกไม่พอใจมากนัก แต่เขาคิดว่าคนตรงหน้าของเขานั้นคือชนชั้นกลาง มันคงไม่รู้ว่าอะไรดีกับตัวเอง เขาคิดได้แบบนั้นก็รู้สึกขี้เกียจที่จะเก็บคำพูดของคนตรงหน้ามาใส่ใจ เขาจึงหันไปสนใจจผู้หญิงที่มากับลูชินมากกว่า เขารู้สึกสนใจเธอตั้งแต่แรกที่เห็นด้วยซ้ำ เขารู้ว่าเธอเป็นใครแต่เธอคงไม่รู้จักเขา


เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ของเขาแล้วรูปร่างของเธอนั้นดูดีมาก เธอคงออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีรูปร่างที่น่าดึงดูดแบบนี้


หัวใจของเฉิงจิงตอนนี้กำลังเต้นแรงอย่างมาก เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าตอนที่เราได้รับเงินล้านเสียอีก! เขาหวังไว้ว่าเขาจะต้องนำเธอมาเป็นของตัวเองให้ได้!


“คุณรู้ตัวไหมว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา ผมเป็นเพื่อนของไดเจียงครับ” เฉิงจิงพยายามปิดหน้าท้องของเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปทักทายซูเสียว


“โอ้! สวัสดีเช่นกัน” ซูเฉิงได้ตอบอย่างสุภาพ


“นี่คือนามบัตรของผม!” เฉินจิงรีบหยิบนามบัตรของเขาออกมาแล้วส่งให้เธอมันช่างสุภาพ ก่อนที่จะพูดว่า: “ผมเป็นประธานของบริษัทก่อสร้างเฉิง, ชื่อว่าเฉิงจิง”


“คุณซูเฉิง ผมได้ยินมาว่าคุณเองก็เป็นผู้จัดการอาวุโสของบริษัทบ้านจัดสรรเช่นกัน? ผมคิดว่านี้มันชั่งเป็นอะไรทีฟ้าประทานจริงๆ เราไม่เพียงแต่เป็นศิษย์เก่าจากมหาลัยเดียวกันเท่านั้น แต่เรายังถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกันอีกด้วย! ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอเพิ่มวีแชทกับคุณได้ไหม?” เฉินจิงได้พูดออกมารวดเดียว


ซูเฉิงที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงรอยยิ้มสุภาพออกมาและพูดว่า:“ วิธีการติดต่องานของฉันอยู่บนเว็บไซต์ของ ทางบริษัทแล้ว ถ้าคุณมีเรื่องอะไรก็สามารถติดต่อฉันผ่านทางนั้นได้”


เฉินจิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเลย ยิ่งผู้หญิงเล่นตัวมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขามากขึ้น: “โอ้! งั้นตอนนี้คุณสนใจจะไปนั่งรถเที่ยวกับผมหน่อยไหม?”


เขาพูดกับนำพวงกุญแจรถปอร์เช่ของเขาออกมา: “รถของผมก็ธรรมดา หวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธผมนะครับ”


เขาทำท่าทางแบบไม่ตั้งใจเปิดเผยว่าเขาเองก็มีรถยนต์สุดหรูราคาแพง ผู้หญิงที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็แสดงสีหน้าอิจฉาอย่างมาก แต่ซูเฉิงกับหันหน้าไปทางลูชินแล้วพูดว่า: “คุณนั่งตรงไหน?”


คำพูดของเธอให้เฉินจิงดูที่ลูชินด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าผู้หญิงที่มีความมันใจอย่างซูเฉิงจะต้องไปฟังคำพูดของคนอย่างลูชิน ทำไมคนนั้นไม่ใช้เขา?


‘มันควรจะเป็นเขาที่ยืนอยู่ตำแหน่งนั้น’ เฉิงจิงคิดในใจของเขา เขาจับไขมันที่เอวของเขาก่อนที่เขาจะคิดว่าส่วนนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์จริงๆ เขาเองก็พยายามออกกำลังแล้วแต่มันก็ไม่สามารถสู้ความอยากของเขาได้อยู่ดี


คนอื่นที่ได้ยินคำพูดของซูเฉิงเองก็รู้สึกแปลใจ พวกเขาไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้


ลูชินพูดว่า: “ผมคิดว่าจะนั่งตรงนี้ ถ้าพี่สาวซูจะไปหาเพื่อนก่อนก็ได้”


หลังจากนั้นไม่นานหน้าทางเข้าของโรงแรมก็มีขบวนรถเข้ามาจอดก่อนที่จะมีคู่บ่าวสาวเดินลงมา จากนั้นตัดกลับมาที่ทางโรงแรมตอนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขเพราะพวกเขาจะได้เป็นสักขีพยานของการแต่งงานครั้งนี้


มีพิธีกรในงานนี้เช่นกัน โดยที่เขารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการบนเวทีทั้งหมด ก่อนที่จะถึงช่วงที่ไดเจียงและแฟนสาวของเขาแลกเปลี่ยนแหวนและสัญญาแก่กันและกัน


ซูเฉิงได้วางมือบนหน้าอกของเธอและแสดงความอิจฉาของเธอเหมือนกับพวกผู้หญิงคนอื่นๆ ก่อนที่เธอจะหลุดพูดออกมาเบาๆว่า: “มันช่างเป็นช่วงเวลาที่วิเศษเหลือเกิน!”


“ พี่สาวซู ฉันคิดว่าแฟนของพี่ต้องเป็นผู้ชายที่โชคดีอย่างแน่นอนค่ะ” คนที่พูดขึ้นนั้นเป็นรุ่นน้องขอเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ


“จะว่ายังไงดีละ … คือฉันยังไม่มีแฟนเลย” น้ำเสียงของซูเฉิงนั้นค่อนข้างไร้ประโยชน์


“ พี่ก็ชอบพูดแต่เรื่องตลกนะค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าคนด้านข้างเธอพูดเรื่องตลก


ด้านบนเวทีพิธีทั้งหมดก็จบลงเช่นกัน และก่อนจบก็เช่นเคยต้องมีการจูบกันระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่อสาธารณะชน


เมื่อพิธีกรเห็นว่าบรรยากาศมาถึงจุดที่ควรจะเป็นแล้ว เขาก็ได้พูดกับเพื่อนเจ้าสาวและเจ้าบ่าวว่า “ในกลุ่มเพื่อนๆ ใครที่ยังเป็นโสดอยู่โปรดยืนขึ้น!”


หลังจากจบคำนี้ ก็มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งเดินขึ้นมาแถวหน้าทันที ในจำนวนก็มีซูเฉิงรวมอยู่ด้วย ชูหลิงพูดว่า: “พี่สาว! พี่ยังโสดอยู่อีกเหรอค่ะ?”


เธอที่เห็นว่าทุกคนหันมาสนใจแต่เธอ เธอก็รู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อย


“ ว้าว! ฉันไม่คิดว่าเทพธิดาของเราจะยังโสดแบบนี้! ฉันต้องขอมอบพรให้ผู้ชายที่อยู่ในห้องนี้สามารถจีบเทพธิดาของเราได้!” พิธีกรที่เห็นแบบนั้นก็รีบพูดขึ้นมา


“วันนี้ก็ถือว่าเป็นพรสำหรับหนุ่มโสดทุกคนที่อยู่ที่นี้เลยนะครับ! ไม่แน่ว่าวันนี้พวกคุณอาจจะเป็นผู้โชคดีก็เป็นไปได้!”


พิธีกรได้ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น หลังจากนั้นซูเฉิงก็ได้รับสายตาเป็นศัตรูที่ส่งมาจากผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างทันที


ซูเฉิงที่ได้ยินพิธีกรพูดออกมาแบบนั้นก็แสดงสีหน้าอายออกมา เธอไม่คิดว่าการที่เธอมายืนอยู่ตำแหน่งนี้จะทำให้ทุกคนสนใจแบบนี้ ถ้าย้อนกลับไปได้เธอจะไม่มายืนอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน


ตอนนี้พิธีกรเห็นว่าคนได้มารออยู่ด้านล่างเวทีก็พอสมควรแล้ว เขาก็พูดว่า “1 2 ..!”


หลังจากที่เสียงของพิธีกรจบลง เจ้าสาวก็ได้โยนดอกไม้ออกไปทันทีและคนที่รับช่อดอกไม้ของเธอได้นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เทพธิดาซูเฉิง!


“ฮ่าฮ่าฮ่า  ผมคิดไว่แล้วว่าคุณจะต้องรับช่อดอกไม่นี้ได้!” เฉินจิงพูดด้วยรอยยิ้มต่อว่า “นี้มีความหมายมากมาย ไม่แน่ว่าอีกไม่นานคุณซูอาจจะมีคนเข้ามาขอแต่งงานก็ได้”


เขารู้สึกดีใจมากเพราะโอกาสแบบนี้ไม่ใช้ว่าจะหาได้ง่ายๆ และหมอดูที่เขาพึ่งไปดูมาไม่นานมานี้ก็บอกว่าเขาจะมีเกณฑ์ที่จะได้แต่งงานเร็วๆนี้ ใครมันจะไปคิดว่าเขาจะได้ลาภก้อนโตแบบนี้!


แน่นอนการที่เฉิงจิงพูดแบบนี้ มันเป็นการข่มขู่ผู้ชายในงานไปในตัว ดังนั้นจึงมีผู้ชายไม่มากที่กล้าจะเข้ามาทำความรู้สึกหรือจีบซูเสียวได้


คิ้วของลูชินขมวดเข้ามากันเล็กน้อยหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า และเขายังสังเกตอีกว่าพี่สาวซูนั้นดูไม่สบายใจเช่นกันหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฉิงจิง


บทที่239


ผู้แปล : N


เฉินจิงไม่ได้สนใจสายตาคนอื่นเลย เขาได้ลุกขึ้นเพื่อที่เขาต้องการเข้าไปใกล้ที่เทพธิดาซูเฉิงให้เร็วที่สุด เขาหวังว่าเขาจะได้รับโอกาสในการตามจีบเธอ


‘ถ้าฉันปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือออกไปก็ถือว่าฉันโง่แล้ว! ฉันจะต้องเอาเธอมาเป็นของฉันให้ได้!  ใครก็ไม่มีสิทธิแย่งเธอไปจากฉันได้ ไม่ว่าใครก็ตาม!’


คนอื่นๆที่เห็นแบบนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย เพราะพวกเขาเห็นว่าไม่มีแค่เฉิงจิงเท่านั้นที่พยายามเข้าไปหาเทพธิดาซูเสียว แต่ยังมีลูชินอีกคนที่เข้าไปหา


เมื่อลูชินได้เข้าไปในสายตาของซูเฉิง เธอก็แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา เมื่อกี้เธอยังพยายามคิดหาวิธีหลุดออกจากสถานการณ์นี้อยู่เลย แต่เมื่อเธอเห็นลูชินเธอก็รู้สึกว่าปัญหาที่เกิดแบบนี้ก็มีประโยชน์เหมือนกัน


“ โอ้! ตอนนี้ได้เกิดศึกชิงตัวเทพธิดาขึ้นแล้วครับ!” พิธีกรตะโกนต่อว่า ” ผมอยากรู้จริงๆว่าใครกันที่เทพธิดาซูเฉิงของเราจะเลือก?”


ผู้ชมมองไปที่ลูชินแม้ว่าพวกเขาจะไม่คิดว่าลูชินจะมีโอกาสมากนัก แต่พวกเขาก็ส่งเสียงเชียร์ออกไป ซูเสียวมองไปที่ลูชินตลอดเวลา เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็เข้ามาอยู่อ้อมกอดของลูชินแล้ว


ลูชินที่เข้าไปกอดพี่สาวซูแล้วก็รู้สึกว่าตอนนี้เธอกำลังสั่นอยู่ เขาที่เห็นแบบนั้นก็คิดว่าควรพาเธอออกไปจากสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด


“โอ้! ฉันหวังให้ด้ายแดงของทั้งคู่อยู่ตลอดไป และฉันต้องขอบคุณพวกคุณทั้งสองที่มาร่วมงานแต่งครั้งนี้ของฉันด้วย” เจ้าสาวที่เห็นแบบนั้นก็พยายามพูดให้บรรยากาศอ่อนลง


อย่างไรก็ตามเมื่อเหมือนว่าซูเฉิงจะได้ตื่นขึ้นมาจากอาการตกใจแล้ว เธอจึงจูบลูชินในตอนที่เขายังไม่ได้ตั้งตัว ทางคนดูที่เห็นแบบนี้ต่างก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น


ซูเฉิงที่ทำแบบนั้นไปแล้วก็รีบก้มหน้าลงด้วยความอาย ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากที่เขาเดินออกไปจากด้านหน้าเวที ระหว่างที่เขาเดินผ่านชูอันนั้นเขาก็ได้ยินคำพูดจากเพื่อนของเขาว่า  “ฉันไม่คิดว่าประธานของเราจะเป็นเสือผู้หญิงแบบนี้ ฮาฮาฮา”


จะเห็นได้ว่าคนที่อิจฉาที่สุดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเฉินจิง! เขาไม่เข้าใจว่าคนอย่างลูชินนั้นมีอะไรดีถ้าพูดถึงเรื่องรายได้แล้วเขาเป็นฝ่ายที่นำหน้าเห็นๆ แต่ทำไม่เทพธิดาถึงยังเลือกมันไม่เลือกเขา?


งานเลี้ยงกำลังเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เจ้าสาวและเจ้าบ่าวต่างก็เข้าไปเยี่ยมแขกทุกโต๊ะ ก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปยังโต๊ะเพื่อนๆของพวกเขา


ในเวลานี้เฉิงจิงกำลังคุยโม้เกี่ยวกับโครงการของเขา “โครงการอสังหาริมทรัพย์ของฉันที่เพิ่งเปิดไปตอนนี้อยู่ที่เมืองเถียง ฉันถือว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่นั้น ถ้าเกิดมีเพื่อนๆคนไหนต้องการบ้านซักหลังละก็สามารถบอกฉันได้ ฉันจะให้ราคาที่พิเศษเลย!”


” ใช่ลูชิน! ตอนนี้นายซื้อบ้านหรือยัง?” เขาเห็นซูเฉิงนั่งถัดจากลูชินแบบนั้น ก็จงใจถามคำถามแบบนี้ออกไป


ลูชินที่ไก้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการบอกว่าเขาซื้อแล้ว เฉินจิงที่เห็นแบบนั้นก็ถามอยากรู้อยากเห็นพูดว่า: “นายซื้อที่ไหนละ?”


“ที่บ้านเกิดของฉันนะ”


“ที่เจียงเป่ยนั้นนะเหรอ! มันเป็นแค่มณฑลขนาดเล็กๆและราคาที่ดินรวมถึงบ้านก็ถูกอย่างมาก! ฉันคิดว่ามันคงมีราคาแค่ไม่กี่พันหยวนเท่านั้น!” เฉินจิงยังพูดดูถูกต่อว่า: “เฮ้อ! ฉันคิดว่านายลงเงินไปเสียเปล่า นายควรไปซื้อบ้านที่เมืองที่เศรษฐกิจที่ดีกว่านี้ ไม่งั้นนายจะรู้สึกเสียใจเมื่อต้องขายมัน!”


“โอ้?” ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้แล้วว่าคนตรงหน้าของเขาตรงการนำเรื่องเดือดร้อนมาให้เขา แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรออกไป เขาต้องการรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นต่อไป


เฉิงจิงยังคงพูดต่อว่า : “ตอนนี้การที่เราไม่มีบ้านในเมืองใหญ่ๆ มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะหาแฟนซักคน นี้ถือว่าเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สุดแล้วของการนัดบอด!”


หลังจากที่เฉิงจิงพูดจบเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆที่อยู่ด้านข้างว่า “นายควรเอาเฉิงจิงเป็นตัวอย่างนะ ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้เขารวยไปขนาดไหนแล้ว?”


“ ใช่ๆ นายต้องเรียนรู้จากเฉิงจิงให้มากๆ”


เฉิงจินที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะหันไปทางซูเสียวแล้วถามว่า “คุณซู คุณเป็นผู้หญิงที่สวยดังนั้นคุณคงบอกได้ว่าสิ่งที่ผมพูดไปก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องถูกต้องใช้ไหม?”


ซูเฉิงที่ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า: “ฉันคงไม่สามารถตอบได้ว่าความคิดของใครถูกของใครผิด เพราะแต่ละคนก็มีแนวคิดที่แตกต่างกัน”


” ฮาฮาฮา! ผมไม่คิดว่าเทพธิดาของเราจะมีความคิดที่ลึกซึ่งแบบนี้ ” เฉินจิงได้พูดออกมา


ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็คิดจะหยุดการสนมนานี้ เขาจึงหันไปรอบๆก่อนที่จะเห็นว่าไดเจียงกำลังดื่มกับเพื่อนๆ ” ตอนนี้เจ้าบ่าวของเราเมาแล้วหรือยัง? “


” ยังไม่เมา “ใบหน้าของไดเจียงที่ตอบกลับมานั้นมีสีแดงเล็กน้อยก่อนที่จะพูดต่อว่า:” เครื่องดื่มพวกนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์เล็กน้อยเท่านั้น ฉันดื่มพวกมันมาจนชินแล้ว ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลว่าวันนี้ฉันจะหนีไปเข้านอนก่อนอย่างแน่นอน “


“ดี! ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุให้แฟนของนายนอนเหงาในคืนนี้! ไม่อย่างนั้นฉันคงรู้สึกผิดต่อหลานที่เกิดมาอย่างแน่นอน” ลูชินพูดจบทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมา


ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและพูดว่า: “นายคงลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เราดื่มด้วยกัน เป็นใครที่ถูกลงโทษ”


“คนนั้นคือนายใช้ไหม?” ลูชินพูดออกมาแบบตลกๆ


ไดเจียงที่ดื่มไปซักพักก็เริ่มพูดถึงโครงการที่เขาต้องการออกมา: “ตอนนี้ฉันเปิดบริษัทที่จังหวัดบ้านเกิดของฉัน โดยที่บริษัทของฉันนั้นเป็นบริษัทเกี่ยวกับพวกการขนส่ง ฉันจึงคิดจะทำการเปิกโครงการโดรนส่งของในเขตตัวเมือง แต่มันก็ติดปัญหาที่ฉันไม่สามารถหุ้นส่วนที่เก่งในด้านนี้ได้เลย มันทำให้ฉันรู้สึกหนักใจอยู่ตลอดเวลา “


” แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันจะลองไปถามบริษัทลู่เทคโนโลยีที่ชูอันมันทำงานอยู่ ไม่แน่ว่าฉันสามารถแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ …. ฉันรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีที่ฉันใช้ความสัมพันธ์ของพวกเราแบบนี้ ดังนั้นฉันจึงอยากขอให้นายช่วยฉันพูดกับชูอันอีกแรง”


“ได้สิ ” ลูชินได้ตอบตกลงออกมาง่ายๆ


“ ขอบใจนายมากเลยนะ ถ้านายมีเรื่องอะไรในอนาคตก็สามารถมาหาฉันได้ตลอด”


เฉิงชิงที่ได้ยินกันสนมนาของทั้งคู่ก็พูดว่า: “ฉันคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าที่นายมาขอให้ฉันช่วย ไม่ใช้ให้คนที่มีฐานเงินเดือนแบบนั้นช่วย “


” นายช่วยหยุดพูดจาดูถูกเพื่อนของฉันได้ไหม? “ไดเจียงที่ได้ฟังคำพูดของเฉิงจิงที่พูดกับเพื่อนของเขาแบบนั้นก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ออกมา


ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจของเพื่อนของเขาทันที “ฉันอยากรู้เรื่องโครงการโดรนส่งของของนายให้มากกว่านี้ได้ไหม?”


เพราะเขาคิดว่าโครงการนี้น่าสนใจอย่างมาก และเขาก็คิดว่าเขามีเทคโนโลยีสำหรับโดรนที่เหมาะสมนำมาใช้ในสถานการณ์แบบนี้อยู่พอดี


“ นายจะรู้ไปทำไม? ” เฉินจิงได้พูดจาดูถูกต่อว่า:“ ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ คนระดับนายไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ถึงนายรู้ไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้อยู่ดี”


“ นายนั้นแหละที่หยุดพูดซักนาทีจะตายไหม? ” ไดเจียงได้เริ่มพูดเกี่ยวกับโครงการโดรนส่งของของเขาต่อว่า:“ ตัวโครงการนี้ก็ไม่ใช้อะไรที่ซับซ้อนหรอก มันก็ตรงตัวของมันนั้นแหละคือการส่งสินค้าผ่านอุปกรณ์โดรนในตัวเมืองที่มีการจราจรติดขัด”


“ และโครงการนี้ก็เหมาะสำหรับการจัดส่งสิ่งของขนาดเล็กไปถึงขนาดกลางเท่านั้น ฉันคิดว่าโครงการนี้จะสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน เพราะการจัดส่งแบบนี้จะมีราคาถูกกว่าการขนส่งแบบปกติ และระยะเวลาในการส่งของนั้นยังสั้นกว่าเดิมอีกด้วย “


” ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่การจารจรติดขัดมากการที่ส่งของแบบปกติในระยะทางสองกิโลเมตร จะต้องใช้เวลาถึงสองชั่วโมง แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้เครื่องโดรนมันจะใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น ในเรื่องค่าใช้จ่ายถ้าเป็นการขนส่งแบบปกติจะต้องเสียค่าบริการตามระยะ แต่ถ้าขนส่งผ่านเครื่องโดรนเราจะมีราคาที่ตายตัวเพียงราคาเดียวและนั้นจะถูกกว่าอย่างแน่นอน “


” และใช้ได้ยินข่าวลือมาว่าประธานของชูอันนั้นมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องโดรนที่ลำหน้าอย่างมาก ฉันจึงอยากทำงานร่วมกับบริษัทลู่เทคโนโลยีไง “


บทที่240


ผู้แปล : N


“ นี่ถือว่าเป็นโครงการที่ดีเลย แต่ถ้านายต้องการที่จะทำให้โครงการนี้สำเร็จละก็มันไม่ใช้เฉพาะปัญหาทางด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาการจัดการต่างๆในตัวโครงการ นอกจากนี้นายต้องทำการศึกษาข้อกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องด้วย” ลูชินพูดขึ้นมาหลังจากที่เขาฟังโครงการนี้จบแล้ว


การสร้างสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนมันไม่อาจหลีกเลี่ยงปัญหาบางอย่างได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการให้แน่ใจก่อนที่จะรับโครงการนี้มาอยู่ในใต้ชื่อของบริษัทลู่เทคโนโลยี


ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย ก่อนที่เขาจะพูดว่า “เรื่องที่นายพูดมาทางฉันเองก็เริ่มลงมือทำไว้แล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร “


“แต่นายไม่ต้องกังวลไป เพราะตอนนี้ได้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศขึ้น ทำให้ตัวจังหวัดได้ประกาศรณรงค์เรื่องนี้อย่างมาก ดังนั้นฉันคิดว่าถ้าเรานำโครงการนี้ไปเสนอให้กับตัวจังหวัด พวกนั้นต้องอนุมิตอย่างแน่นอน “


“นายพูดมาก็มีเหตุผล “ลูชินพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย การที่เราสามารถตอบโจทย์ด้านนี้ได้ก็ไม่มีความจำเป็นที่ตัวจังหวัดจะไม่อนุมัติเรื่องนี้ แต่เขากับคิดข้อเสียงของโครงการนี้ได้อีกอย่าง นั้นคือความปลอดภัยของการขนส่งแบบนี้ เพราะอาจจะมีใครบางคนได้ทำลายเครื่องโดรนระหว่างทางก็เป็นไปได้ แต่เรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องในอนาคต


“โครงการนี้ดีมาก ฉันเชื่อว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีจะต้องสนใจแน่นอน” ลูชินพูดออกมาด้วยความมันใจ


“ฮาฮาฮา ขอให้เป็นอย่างนายพูดละกัน” ไดเจียงรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่เขาเห็นว่ามีคนสนับสนุนโครงการนี้ของเขา


“นายจะไปเชื่อคำพูดของลูชินเนี่ยนะ! มันต้องเป็นคำพูดของชูอันต่างหากที่จะการันตีเรื่องนี้ได้!” เฉินจิงยังไม่หยุดการดูถูกลูชิน


เมื่อได้ยินประโยคนี้ซูเสียวอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา นั้นทำให้ทุกคนที่เห็นรอยยิ้มนี้ของเธอไม่เข้าใจว่าเธอยิ้มออกมาเพราะอะไร


ทางลูชินเองก็ยิ้มออกมาเช่นกันและพูดว่า: “ชูอันและฉันนับถือกันอย่างพี่น้อง ดังนั้นฉันเชื่อว่าเขาต้องไว้หน้าฉันบ้าง”


“ขอบคุณนายล่วงหน้าเลยนะ!” ไดเจียงพูดขอบคุณออกมา


ทุกคนที่ได้ยินแบบนี้ต่างก็สายหน้าออกมาพร้อมกันแต่ไม่ใช้กับเฉิงจิง เขาคนนั้นได้แสดงสีหน้าดูถูกออกมาอย่างไม่ปิดบัง


หลังจากที่ไดเจียงพูดประโยคนั้นจบก็เหมือนกับว่าเขาได้ยกภูเขาออกจากอก เขารีบคว้าขวดไวน์ที่อยู่ด้านข้างเข้ามาดื่มทันที ทางด้านของเฉิงจิงเองตอนนี้ก็ได้มีกลุ่มผู้หญิงจำนวนหนึ่งเข้ามาคุยด้วย ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากมันก็เป็นเรื่องที่พวกเธอพยายามจะจับเฉิงจิงเป็นสามีเท่านั้นเอง นั้นจึงทำให้ลูชินที่เห็นแบบนั้นแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาเล็กน้อย


หลังจากนั้นไดเจียงก็พูดว่า: “อา! ฉันต้องไม่ดื่มเยอะเกินไป ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สามารถขับรถไปส่งชูอันได้”


“นายไม่ต้องกังวล” เฉินจิงแสดงท่าทางเหมือนคนดีก่อนที่จะพูดว่า “ฉันสามารถไปส่งเขาแทนนายได้ ดังนั้นนายดื่มให้เต็มที่เลย”


ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็สังเกตได้ว่าเฉิงจินนั้นตั้งแต่เข้ามานั่ง เขายังดื่มไวน์ไม่หมดแก้วเลย นั้นแสดงว่าเขาเคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน


หลังจากนั้นไม่นาน ก็ถึงช่วงเวลางานเลิก แขกแต่ละคนก็เริ่มทยอยกลับกันแล้ว จะเห็นได้ว่าแต่ละคนนั้นต่างก็มีคนอื่นมารับ ไม่ได้ขับกลับคนเดียว


ชูอันเองก็เตรียมตัวจะกลับเช่นกัน ก่อนกลับนั้นเขาได้เจอกลุ่มเพื่อนๆที่รออยู่หน้าทางออก พวกนั้นได้เข้าไปทักทายเขาอย่างกระตือรือร้นมาก ลูชินและซูเสียวเองก็เดินตามกลุ่มนี้มาอย่างไม่มีทางเลือก โดยที่พวกนั้นตกลงกันว่าหลังจากจบงานนี้แล้วพวกเขาจะไปต่อกันอีกทีหนึ่ง และก็เป็นเฉิงจิงที่ขอเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ เขายังได้เตรียมรถรับส่งมารอพวกเขาถึงหน้าทางเข้าเลยที่เดียว


และเขายังไม่ลืมเข้าไปตีสนิทชูอัน เขาทำเหมือนว่าเขาและชูอันนั้นเป็นพี่น้องกันยังไงยังงั้น


“ชูอัน! นายมานั่งข้างฉันได้นะ!” เพื่อนร่วมห้องที่เป็นผู้หญิงสวยได้พูดขึ้นอย่างยินดีขณะที่เธอเห็นชูอัน: “พอดีฉันมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำจากนายหน่อยนะ!”


“นายมานั่งข้างฉันดีกว่า!” ชวนชวน เพื่อนผู้หญิงอีกคนได้พูดขึ้นมา


“คงไม่ได้หรอกสาวๆ พอดีฉันมีเรื่องที่จะคุยกับชูอัน” ไดเจียงรีบเข้ามาแก้สถานการณ์ทันทีที่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีอากาศคุยกับชูอันอย่างแน่นอน


ชูอันที่ได้ยินไดเจียงพูดแบบนั้นก็รีบตามออกไปทันที เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไงเช่นกัน ระหว่างทางนั้นเขาก็พบกับลูชินและซูเสียว


“ฉันคิดว่านายจะถูกพวกสาวๆนั้นกินไปแล้วเสียอีก?” ลูชินได้พูดขึ้นทันทีที่เห็นชูอันอยู่ด้านหน้าและพูดต่อว่า “ฉันคิดว่าถ้าฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกชูเหลียงจะเกิดอะไรขึ้นนะ?”


“งั้นฉันจะบอกเรื่องนายกับซู่จิง!”


“อ่า! งั้นพวกเรามาลืมเรื่องในวันนี้เป็นไง” ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้ว่าครั้งนี้พวกเขาเสมอกัน ดังนั้นมันจะเป็นการดีที่สุดที่พวกเขาจะลืมๆเรื่องในวันนี้ไป


“ชูอัน นายรีบมาตรงนี้เร็วเข้า!” เฉินจิงได้รีบตะโกนออกมาหลังจากที่เขาเลือกโต๊ะได้แล้ว


ชูอันแสดงสีหน้าเบื่อออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะกระซิบกับลูชินและซูเสียวว่า:“ ฉันจำได้ว่าตอนมหาลัยฉันไม่เคยสนิทกับเขาเลย ทำไมตอนนี้เขาถึงทำตัวเหมือนว่าฉันกับเขาสนิทกันมากขนาดนั้น?”


“ ฮาฮาฮา มีคนรักดีกว่ามีคนเกรียดนะ” ลูชินพูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆ


หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปนั่งโต๊ะที่เฉิงจิงเลือก ก่อนที่เฉิงจิงจะเห็นว่าอาหารที่เขาสั่งมาได้ถูกกินไปเกินครึ่งแล้ว เขาก็พูดว่า: “ไดเจียง! ทำไมนายไม่ไปบอกพ่อครัวทำเมนูพิเศษออกมาละ ฉันเชื่อว่าชูอันจะต้องชอบอย่างแน่นอน”


“ได้” ได้เจียงได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนที่เขาจะลุกออกไป


“ชูอัน จริงไหมที่นายทำงานที่บริษัทลู่เทคโนโลยี… ” เฉินจิงที่เห็นว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่เหมาะแล้ว เขาก็ถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้ออกมา พวกเพื่อนๆที่ได้ยินแบบนี้ต่างก็ขยับเข้ามาใกล้วงสนทนานี้ทันที


เฉินจิงที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า: “ฉันรู้อยู่แล้วละว่านายต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในรุ่นของเรา แล้วฉันก็คิดไว้ไม่มีผิด!, ฉันต้องขอแสดงความยินดีกับนายด้วย!”


“ฉันก็คิดแบบเฉิงจิงเหมือนกัน! “ผู้หญิงที่นั่งข้างๆได้พูดต่อว่า ” ฉันเองก็แอบชอบนายมาตั้งแต่มหาลัยแล้ว แต่นายไม่ยอมมาจีบฉันเลย ดังนั้นนายต้องดื่มกับฉันเป็นการขอโทษ ”


ชูอันที่ได้ยินแบบนี้ก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา โชคดีที่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาได้คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงมีวิธีรับมือกับมันได้


ในไม่ช้าไดเจียงก็กลับมาจากห้องครัว ก่อนที่เขาจะเริ่มคุยธุรกิจของเขากับชูอันทันที


“ บริษัทดราก้อนโลจิสติกส์? และโครการโดรนส่งของ” ชูอันฟังได้แบบนั้นก็พูดขึ้นว่า:“ นายรู้ใช้ไหมว่าฉันอยู่บริษัทเกม ฉันไม่ได้อยู่ในบริษัทขนส่ง ดังนั้นฉันจึงไม่มีความรู้เรื่องที่นายพูดมาเลย”


ไดเจียงพูดทันทีว่า:“ ฉันรู้! ฉันแค่ต้องการให้นายช่วยแนะนำคนที่มีความรู้ด้านนี้ก็พอ หรือไม่ก็ช่วยนำเรื่องโครงการของฉันไปเข้าประชุมก็ได้ “


ชูอันที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าหนักใจออกมา เขารู้ว่าโครงสร้างของบริษัทนั้นไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ ไม่ใช้ว่าเขาไม่อยากช่วยเพื่อนของเขาแต่เขาไม่สามารถทำได้จริงๆ


ถ้าเขาพูดโครงการนี้ในวาระการประชุม มันจะดูไม่เหมาะสมอย่างมาก แล้วทำไมไดเจียงถึงไม่ไปขอร้องลูชินแทนที่จะเป็นเขา ถ้าลูชินเป็นคนพูดเรื่องพวกนี้จะถูกจัดการอย่างแน่นอนก็


เขาได้ขมวดคิ้วออกมาก่อนที่จะพูดว่า : “นายสามารถส่งโครงการนี้ไปให้ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ ฉันเชื่อว่าพวกเขาต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้นายอย่างแน่นอน”


“ฉันลองทำไปแล้ว แต่มันไร้ประโยชน์”ไดเจียงพูดอย่างเศร้าๆว่า “เจ้าหน้าที่ในด้านนี้ได้ตอบกลับมาว่าตอนนี้ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีมีโครงการวิจัยจำนวนมากเกินไป พวกเขาไม่สามารถรับโครงการของฉันเพิ่มได้อีกแล้ว”


ชูอันที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดออกมาเรียบๆว่า  “การทำงานของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นฉันเองก็ไม่สามารถเข้าไปยุ้งได้ ดังนั้นถ้าทางนั้นตอบกลับมาแบบนั้น ฉันเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน”


การปฏิเสธของชูอันนั้นชัดเจนอย่างมาก ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาเช่นกันก่อนที่เขาจะพูดเศร้าๆว่า มี: “สรุปแล้วมันก็ไม่ได้สินะ!? งั้นพวกเรามาดื่มให้ลืมเรื่องนี้กันเถอะ”


ในเวลานี้ลูชินก็พูดขึ้นว่า : “นายไม่ต้องรีบตอบปฏิเสธไปแบบนั้น ฉันได้ฟังรายละเอียดโครงการของไดเจียงมาคราวๆแล้ว ฉันคิดว่าโครงการนี้ใช้ได้เลย ดังนั้นนายสามารถช่วยเขาเรื่องนี้ได้ “


ก่อนที่ลูชินจะพูดประโยคนี้ออกมา เขาได้ขอให้พนักงานที่เกี่ยวข้องในด้านนี้ทำการประเมินความเป็นไปได้มาแล้ว และพวกนั้นบอกว่าโครงการนี้ความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ


เหตุผลหลักๆก็คือ การขนส่งผ่านโดรนนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติในต่างประเทศ พวกเขาสามารถลอกเรียนการทำงานของพวกเขาและนำมันมาปรับใช้กับการทำงานของพวกเขาได้โดยตรง


ลูชินขอให้พวกนั้นหาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทดราก้อนโลจิสติกส์อีกด้วย หลังจากที่เขาอ่านข้อมูลที่ส่งมาก็เห็นว่าตัวโครงสร้างของบริษัทนี้ดีเป็นอย่างมาก และนี่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ถือว่าน่าสนใจอย่างมากสำหรับเขา และมันยังมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงอีกด้วย


หลังจากที่ลูชินพูดแบบนั้น ทุกคนต่างก็มองไปทางชูอัน พวกเขาอยากรู้ว่าชูอันจะมีปฏิกิริยายังไงหลังจากที่เขาพึ่งปฏิเสธไปอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้


เฉินจิงที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นว่า: “ลูชิน! ฉันคิดว่าเรื่องที่นายพูดมานั้นคือการวิเคราะห์สำหรับตัวบุคคลเท่านั้น มันไม่สามารถเทียบได้กับชูอัน ที่เขาปฏิเสธไดเจียงออกมาแบบนั้นเพราะเขาได้พิจารณาส่วนได้ส่วนเสียงทั้งหมดในมุมมองของตัวบริษัท ไม่ใช้ความคิดเห็นส่วนตัวแบบนาย ดังนั้นฉันคิดว่าสิ่งที่ชูอันพูดมาก่อนหน้านี้ถูกต้องแล้ว! . “


“ใช่! เราควรใช้วิธีคิดอย่างมืออาชีพ! ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวแบบนาย ”


เพื่อนที่อยู่ด้านข้างลูชินเองก็พูด “ฉันรู้ว่านายนั้นเป็นเพื่อนกับไดเจียงและชูอัน แต่การที่นายพูดแบบนี้นายไม่คิดเหรอว่ามันอาจจะทำลายมิตรภาพของพวกนายก็ได้ ดังนั้นนายควรตัดใจเถอะ “


บทที่241


ผู้แปล : N


ไดเจียงที่ได้ยินลูชินพูดแบบนั้นก็ตอบออกมาว่า: “ขอบใจนายมากนะที่พูดแทนฉันแบบนี้! แต่ฉันเองก็เข้าใจที่ชูอันพูดมาเหมือนกัน ดังนั้นฉันจึงทำใจได้แล้วละ”


“เดียวก่อน!” ชูอันได้รีบหยุดไดเจียงไว้ก่อน แล้วพูดว่า: “ฉันกลับมาคิดๆดูแล้ว เรื่องที่ลูชินพูดออกมามันก็สมเหตุสมผลอยู่นะ!”


“เอ๋!” ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา แค่ลูชินพูดออกมามาไม่กี่คำ ชูอันก็เปลี่ยนความคิดก่อนหน้านี้ไปทันที


เขารีบพูดทันที: “ชูอัน! นายไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ฉันไม่อยากให้นายผิดใจกับคนอื่นเพราะเรื่องของฉันแบบนี้ “


“ไม่เลย! มันไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้น” ชูอันรีบโบกมือปฏิเสธก่อนที่จะพูดต่อว่า “เพราะเรื่องนี้ลูชินได้พูดออกมาเอง ดังนั้นฉันคิดว่าคงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”


“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ละ?” ผู้หญิงด้านข้างพูดต่อว่า”ชูอัน! นายนี้เป็นคนดีจังเลยนะ! ฉันไม่คิดว่านายจะช่วยเพื่อนขนาดนี้”


เฉินจิงเองที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดอีกว่า: ” ความรู้สึกส่วนตัวกับธุรกิจไม่สามารถนำมารวมกันได้! ชูอัน! ฉันคิดว่านายไม่ควรฟังที่ลูชินพูดมากนักจะดีกว่า ไม่งั้นนายอาจจะเจอปัญหาได้ “


ชูอันที่ได้ฟังแบบนี้ก็แสดงสีหน้าไม่มีความสุขออกมา เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าอำนาจการตัดสินใจส่วนใหญ่นั้นมาจากลูชิน ถ้าพวกเขารู้คงไม่พูดแบบนี้ออกมา


เขาที่ไม่มีทางเลือกก็ได้พูดเรียบๆออกมาว่า: “ตราบใดที่ลูชินเห็นด้วยกับธุรกิจนี้ บริษัทลู่เทคโนโลยีเองก็จะเห็นด้วยอย่างแน่นอน”


“อย่าถามฉันว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น เพราะน้ำหนักของลูชินในบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นมีมากกว่าฉันเสียอีก!”


“อะไรนะ! ” ทุกคนที่ได้รู้แบบนั้นต่างก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา


“ในบริษัทลู่เทคโนโลยีลูชินมีน้ำหนักมากกว่านาย?” ไดเจียงเองก็พูดอย่างประหลาดใจ “งั้นก็แสดงว่าลูชินเองก็ทำงานในบริษัทลู่เทคโนโลยีเหมือนกันนะสิ?”


“ใช่” ลูชินพยักหน้าเป็นการยืนยัน


ไดเจียงที่เห็นแบบนั้นก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาอีกครั้ง เพราะตลอดมาเขาคิดว่าลูชินยังคงทำงานอยู่ในบริษัทเกมเล็กๆ เขาไม่คิดว่าลูชินจะเป็นคนที่น่าทึ่งแบบนี้ และชูอันยังพูดอีกว่าตราบใดที่ลูชินเห็นด้วยทางบริษัทเองก็จะเห็นด้วย นั้นแสดงว่าลูชินจะต้องมีตำแหน่งสูงกว่าชูอัน


ชูอันตอนนี้ดำรงตำแหน่งรองประธานของบริษัทลู่เทคโนโลยีและลูชินก็ต้องดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานด้วยเช่นกัน!


พระเจ้า! เขาไม่คิดว่าเพื่อนรักของเขาสองคนจะประสบความสำเร็จขนาดนี้!


ไดเจียงที่คิดได้แบบนั้นก็ยังคงแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาอยู่ ไม่ต้องพูดถึงพวกเพื่อนๆที่ก่อนหน้านี้ต่างก็พูดจาดูถูกลูชินมาก่อน ตอนนี้พวกเขาต่างก็แสดงสายตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจและงงงวย


จนมีผู้หญิงที่อยู่ร่วมโต๊ะได้ถามทันที: “เออ! ลูชิน! นายเป็นรองประธานของบริษัทลู่เทคโนโลยีหรือเปล่า?”


“ตำแหน่งนั้นยังเล็กเกินไปสำหรับเขา ” ซูเฉิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดต่อว่า: “ลูชิน! ประธานของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั่นคือไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกไป ทุกคนต่างก็ต้องทำตามที่เขาพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้”


“ประธาน?” เฉินจิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่เชื่อว่าคนที่เขาได้พูดจาดูถูกไปก่อนหน้านี้จะมีสถานะแบบนี้ ถ้าเขามีสถานะเดียวกับลูชินเขาจะมัวมานั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนแบบนี้ไหม? คำตอบคือไม่อย่างแน่นอน! เขาจะต้องไปนั่งร่วมโต๊ะกับพวกตัวแทนของรัฐบาลหรือไม่ก็นักธุรกิจรายใหญ่มากกว่า


“ใช้” ชูอันพูดต่อว่า “อ๋อ! ส่วนเรื่องโครงงานของนายนั้นไม่ต้องกังวลไปนะ ถ้าฉันกลับถึงบริษัทเมื่อไหร่ ฉันจะรีบทำแผนเสนอเข้าที่ประชุมทันที”


ชูอันได้พูดยืนยันอีกครั้ง และครั้งนี้ทุกคนที่ได้ยินต่างก็เงียบไปฉับพลัน ไดเจียงเองก็ตะลึงเช่นกัน เขาเริ่มสงสัยว่าเครื่องทั้งหมดนี้จะเกิดจากอาการหลอนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือไม่


แต่ไม่ใช้กับเฉิงจิง เพราะตอนนี้เขาได้จ้องมองไปยังลูชินด้วยสายตาตกใจ พร้อมกับคิดในใจว่า ชายตรงหน้าของเขานี้ทำตัวโปรไฟล์ต่ำจริงๆ! ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้เขาจะรีบเข้าไปเกาะต้นขาของลูชินทันที! แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันได้ ดังนั้นเขาจึงต้องทำให้ช่วงเวลาต่อไปนี้ให้ลูชินประทับใจให้ได้


เขาที่คิดได้อย่างนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า: “โอ้! คุณลู คุณนี้ซ่อนตัวตนได้ดีจริงๆ ขนาดเราที่เป็นเพื่อนกันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นคนที่ทรงพลังขนาดนี้!”


“นายต้องดื่มแก้วนี้ให้หมด โทษฐานที่นายไม่ยอมบอกเรื่องพวกนี้กับพวกเรา!!” ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างได้พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม ถ้าเป็นเมื่อก่อนหน้านี้เธอคงไม่พยายามเข้ามาตีสนิทเขาแบบนี้


“ฮาฮาฮา! ใครมันจะไปคิดว่าเราจะมีเพื่อนที่สุดยอดแบบนี้!”


“ฉันรู้สึกว่าฉันจะต้องเอานายเป็นตัวอย่างแล้วละ! ”


ตอนนี้เพื่อนๆหลายคนได้เข้ามาหาลูชินอย่างไม่ขาดสาย จากเดิมที่งานเลี้ยงครั้งนี้พวกเขาจะมาแสดงความยินดีที่ไดเจียงได้แต่งงานมีครอบครัว แต่ตอนนี้กับเปลี่ยนเป็นงานสำหรับแนะนำตัวให้ลูชินซะงั้น


ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ตราบใดที่แก้วไวน์ของเขาว่างจะต้องมีคนมาเติมให้มันเต็มอยู่ตลอด ดูเหมือนเฉิงจิงจะเป็นคนที่พยายามที่สุดในครั้งนี้


“ขอบใจ” ลูชินไม่ได้พูดมากนัก


ทางด้านของไดเจียงนั้น ตอนนี้เขาได้ดื่มจนหมดสติไปแล้ว เขาไม่ไม่ได้คาดหวังเพื่อนรักทั้งสองของเขาจะทรงพลังขนาดนี้ และตอนนี้เขาก็ยังไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับโครงการของเขาอีกด้วย


“ประธานลู ชูอัน มันเป็นความผิดของฉันเองที่พูดไม่ดีไปก่อนหน้านี้ ถ้าพวกนายไม่ว่าอะไรพรุ่งนี้ฉันขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงขอโทษพวกนายได้ไหม? ฉันรับรองว่าพวกนายต้องชอบอย่างแน่นอน! “เฉินจิงได้ตบหน้าอกของเขาเป็นการสัญญา


“ต้องขอโทษด้วย พอดีพรุ่งนี้ฉันยังมีบางอย่างต้องไปทำ!” ชูอันตอบกลับมาเรียบๆ


“ประธานลู! คุณดื่มมากแบบนี้ฉันกลัวว่ามันจะเป็นการไม่ดีที่จะให้คุณขับรถกลับไปคนเดียว เดียวฉันจะไปส่งคุณเอง” มีเพื่อนผู้หญิงบางคนพูดขึ้นมา


“ฉันต้องขอบใจเธอมากนะ! แต่ไม่เป็นไร! เดียวฉันจะพาเขาไปส่งเอง” ซูเฉิงที่รู้ความหมายแฝงก็ได้พูดปฏิเสธออกมาตรงๆ


ผู้หญิงคนนั้นได้แสดงสีหน้าเสียดายออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่เธอคิดแผนนี้มาก็เพื่อที่จะได้สร้างความประทับใจให้กับลูชิน แต่เธอไม่คิดเลยว่าจะถูกหยุดโดยซูเฉิงแบบนี้


เธอที่ได้ยินแบบนั้นยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า : “โอเค! ถ้างั้นฉันก็ขอให้พวกคุณเดินทางปลอดภัย”


ชูอันเองก็มีสภาพไม่ต่างจากลูชินมากนัก แต่เขาโชคดีที่มีเพื่อนผู้ชายพาเขาไปส่งยังที่พัก ไม่อย่างนั้นเขาก็คงถูกเพื่อนผู้หญิงชวยโอกาส


โชคยังดีที่สถานที่จัดงานเลี้ยงนี้อยู่ใกล้กับโรงแรม ดังนั้นเธอและลูชินจึงได้เขาไปยังพักที่โรงแรมแห่งนี้


เฉิงจิงและคนอื่นๆ ต่างก็อยากจะทำความรู้จักกับลูชินให้มากขึ้น ก่อนกลับพวกเขายังไม่ลืมมอบนามบัตรหรือไม่ก็เบอร์โทรศัพท์ให้กับลูชินอีกด้วย


“ลูชิน, ลูชิน, ลูชิน นี้อย่าบอกนะว่านายเมาจริงๆ!” ซูเสียวพยายามปลุกให้ลูชินตื่น แต่เธอทำยังไงเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย


….


หลังจากที่พวกเขาเห็นว่าลูชินและซูเฉิงเดินเข้าไปยังโรงแรมแล้ว ก็มีคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “จุ๊ จุ๊ ฉันคิดว่าวันนี้ลูชินของเราต้องได้เทพธิดาซูอย่างแน่นอน”


เพื่อนที่อยู่ข้างๆเองก็สายหัวก่อนที่จะพูดว่า “สุดท้ายยังไงผู้หญิงก็ยังเลือกที่จะคบคนรวยอยู่ดี”


“แล้วในนี้ใครพอรู้บ้างว่าสรุปแล้วลูชินเป็นประธานจริงๆไหม?” อยู่ดีๆก็มีคนถามคำถามนี้ขึ้น


“ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงนะ พวกนายไม่เห็นหรือว่าชูอันเปลี่ยนท่าทีทันทีที่รู้ว่าลูชินเห็นด้วยกับโครงการของไดเจียง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขายังปฏิเสธออกมาอย่างหนักแน่นอยู่เลย!” คำตอบนี้เป็นเฉิงจิงเป็นคนตอบ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม