The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms 249-255
บทที่249
ผู้แปล : N
“ทำไมบริษัทถึงทำกับเราแบบนี้! ทำไมพวกเขาถึงบอกให้เราไปทำงานรวมกับนักวิจัยของบริษัทลู่เทคโนโลยี! และที่สำคัญที่สุดทำไมเราถึงต้องมอบงานวิจัยที่เราลงทุนไปกับมันหลายปีมานี้ให้พวกนั้นง่ายๆแบบนี้ด้วย!” มีนักวิจัยพูดอย่างไม่พอใจ หลังจากที่เขาได้อ่านใบประกาศที่บริษัทของเขาออกมา
“ใช่! เรามีผลการวิจัยเบื้องต้นแล้ว ในความเป็นจริงทางเราไม่ต้องการความร่วมมือกับพวกนั้นด้วยซ้ำ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าผู้บริหารของเราคิดอะไรกันอยู่ตอนนี้!”
“แต่ฉันคิดว่า นักวิจัยที่มาจากบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นต้องมีดีอยู่บ้าง” หลังจากที่พวกนักวิจัยได้ฟังแบบนี้ต่างก็เงียบไปทันที เพราะคนที่พูดนี้ถือว่าเป็นหัวหน้าใหญ่ที่รับผิดชอบโครงการนี้ เขามีชื่อว่า หวางซิง เขามีอายุสีสิบปี
ก่อนที่เขาจะมาทำงานอยู่ที่บริษัทดราก้อนโลจิติก เขาได้ทำงานในบริษัทอเมซอนมาก่อน และเขายังได้ทำงานในโครงการพัฒนาโดรนที่นั้นอีกด้วย ดังนั้นหลังจากที่เขามาทำงานที่นี้เขาจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าของโครงการโดรนขนส่งทันที
เขาพูดต่อว่า: “ฉันคิดว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ฉันกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่เราได้นักวิจัยเก่งๆมาช่วยโครงการนี้อีกแรง ไม่แน่ว่าเร็วๆนี้โครงการของเราอาจจะเสร็จก็ได้”
“แต่ผมกลัวว่าผู้บริหารของเราต้องการให้นักวิจัยพวกนั้นมาแทนที่เรา! “นักวิจัยเน้นต่อว่า ” ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เรื่องนี้จะถือว่าร้ายแรงอย่างมากสำหรับพวกเรา “
” เฮ้อ! ฉันก็กลัวเป็นอย่างที่นายพูดเหมือนกัน “หวางซิงพูดต่อว่า ” ถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ พวกเขาจะได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเราอย่างแน่นอน “
” แต่ฉันเชื่อว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น ดังนั้นเราควรตั้งใจทำงานของเราให้ดีต่อไป เข้าใจไหม! “
” ครับ! ” นักวิจัยที่ทำงานมานานได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า: “ผมได้ยินมาว่าตอนนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่รองลงมาจากประธานคือบริษัทลู่เทคโนโลยี ดังนั้นเรื่องนี้อาจจะมีอะไรซับซ้อนกว่าที่เราคิดเอาไว้ก็ได้! “,
“เราไม่ต้องไปสนใจเรื่องพวกนั้นหรอก!” หวางซิงได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “เราแค่สนใจในงานของเราก็พอ ไอ้เรื่องพวกนั้นให้พวกผู้บริหารหาทางจัดการเอาเอง “
……
ลูชินใช้ความพยายามอย่างมากกว่าที่เขาจะมาถึงจังหวัดเจียงเป่ย เนื่องจากการจราจรที่นี่ไม่สะดวกอย่างจังหวัดภาคกลาง ทำให้มีทางเลือกไม่มากนัก เขาต้องเลือกว่าจะนั่งรถไฟหรือว่าจะขับรถมาเองเท่านั้น มันไม่ได้มีสนามบินอย่างจังหวัดใกล้เคียง
ถนนเองก็ไม่ดีมากนัก โดยเฉพาะช่วงหลังฝนตกบนถนนจะเต็มไปด้วยโคลม ลูชินที่มีสมรรถภาพทางกายที่ดีจึงไม่ได้รับผลกระทบกับการเดินทางนี้มากนัก แต่พวกนักวิจัยที่มากับเขาไม่ใช้แบบนั้น พวกนั้นเป็นโปรแกรมเมอร์ขั้นสูงของบริษัทของเขา พวกเขานั่งแต่หน้าคอมไม่เคยลุกออกไปออกกำลังกายอะไรมากมาย นั้นจึงทำให้หลังจากที่พวกเขาลงจากรถมา ต่างก็แสดงอาการเมารถและอาเจียนอย่างหนัก
โชคดีที่ศูนย์การวิจัยถูกสร้างขึ้นในตัวเมือง ไม่ใช่นอกเมืองมิฉะนั้นคนพวกนี้อาจจะต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่านี้
เมื่อเขาไปถึงสถานที่นั้น ก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาถึงศูนย์วิจัยจะอยู่ตรงหน้าของเขา แต่เขากับรู้สึกว่ามันไม่แตกต่างจากสวนบ้านไร่เท่าไหร่นัก ถ้ามันไม่ได้มีพวกอุปกรณ์ที่จำเป็นตั้งอยู่โดยรอบ เขาคงคิดว่าตัวเองมาผิดที่เสียแล้ว
ถัดจากศูนย์วิจัยของบริษัทดราก้อนโลจิติก มีศูนย์วิจัยที่ทันสมัยกว่าอยู่ ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ได้ถอนหายใจออกมา
นอกจากนั้นทางเข้าของศูนย์วิจัยยังได้ทำการติดตั้งป้ายเอาไว้ว่า: “ศูนย์วิจัยนำร่องของบริษัทสกายโลจิสติก ของจังหวัดเจียงเป่ย”
“ ศูนย์วิจัยของบริษัทสกายนั้นมีขนาดใหญ่กว่าของเราถึงสามเท่า!” พนักงานที่มาด้วยกันพูดด้วยอารมณ์น้อยใจเล็กน้อยว่า “ และเมื่อดูดีๆแล้ว ศูนย์ของพวกเขายังดูดีกว่าของเรามาก”
“ เฮ้อ!” เพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านข้างได้พูดว่า“ ฉันเองก็ได้ยินเรื่องที่ว่าก่อนหน้านี้ทางบริษัทดราก้อนโลจิติกเองก็เตรียมจะยกเลิกตัวโครงการโดรนขนส่งไปแล้ว เพราะพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะทำการวิจัย แต่ดีที่บริษัทของเราเข้ามาเป็นหุ่นส่วนเสียก่อน ไม่อย่างนั้นตัวโครงการนี้คงถูกยกเลิกไปจริง “
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็พูดขึ้นว่า :” เรื่องพวกนั้นมันไม่ใช้เรื่องสำคัญอะไร กุญแจที่สำคัญที่สุดคือต้องดูว่าใครจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงได้มากกว่า “
” จริงอย่างที่ประธานพูดๆ! “พวกนักวิจัยที่ได้ฟังแบบนั้นต่างก็กลับมามีความมั่นใจขึ้นทันที
ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือ การแก้ปัญหาของตัวโดรนทั้งหมด ในด้านการขนส่งนั้นพวกเขาไม่มีความเชี่ยวชาญมากนัก ดังนั้นในแง่นี้พวกเขาจำเป็นต้องพึ่งคนจากบริษัทดราก้อนโลจิติก เพราะพวกเขามีประสบการณ์มากกว่า
พวกเขามาถึงที่ศูนย์วิจัยของบริษัทดราก้อนโลจิติก เมื่อพวกเขาลงจากรถ พวกเขาก็เห็นว่าหวางซิงได้นำทีมวิจัยของเขามาทดสอบโดรนสีใบพัดที่พวกเขาออกแบบมา
โดยที่มันมีขนาดตามมาตรฐานทั่วไป มันได้ติดตั้งใบพัดแบบกลไกสี่ตัวที่มุมทั้งสี่ข้างของตัวเครื่อง และใช้แบตเตอรี่ขนาดทั่วไปเป็นแหล่งจ่ายพลังงาน
ตัวโครงสร้างโดยรวมของโดรนเองนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นทั่วไปตามท้องตลาด ดังนั้นประสิทธิภาพที่มันแสดงออกมาจึงไม่ได้แตกต่างจากที่โดรนปกติทำได้มากนัก
ลูชินที่เห็นว่าโดรนที่พวกนั้นทำการทดลองอยู่นั้นกำลังบรรทุกกล่องที่มีขนาดสิบกิโลกรัม แต่ประสิทธิภาพที่มันทำได้กลับแย่อย่างมาก เห็นได้ชัดว่ามันแกว่งไปแกว่งมาไม่ได้สมดุลเลย เขาคิดว่าถ้าโดรนตัวนี้ได้พบกับสภาพอากาศที่เลวร้าย เช่นลมหรือฝน เครื่องโดรนคงไม่สามารถบินได้
“ นั้นใช้นักวิจัยจากบริษัทลู่เทคโนโลยีไหม?” นักวิจัยที่เห็นว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาทางตัวเองก็ได้พูดขึ้นมา หวางซิงเองที่เห็นแบบนั้นก็ได้นำคนของตัวเองออกไปต้อนรับ
หลังจากการแนะนำกันอย่างง่ายๆของพวกเขาจบลง พวกเขาทั้งสองทีมก็เริ่มที่จะคุยเรื่องโครงการต่อทันที
ในเรื่องนี้ลูชินไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด เขาทำเพียงแค่ฟังอยู่ด้านข้างเท่านั้น ที่เขาทำแบบนี้เพราะเขาต้องการเห็นการทำงานของคนของเขา และการตอบสนองของอีกฝั่งอย่างชัดเจน
หวางซิงพูดขึ้นว่า: “ในเบื้องต้น ทางเราได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพที่โดรนหนึ่งใบพัดขนาดใหญ่ของเรา พบว่าโดรนของเรานั้นสามารถส่งพัสดุขนาดเล็กขนาดสามถึงห้ากิโลกรัม ในรัศมีการขนส่งประมาณหกกิโลเมตร”
“ในส่วนของโดรนสี่ใบพัดนั้น ยังไม่สมบรูณ์ดี แต่การทดสอบล่าสุดมันสามารถส่งพัสดุขนาด 5-10 กิโลกรัมได้, รัศมีในการขนส่งในจะอยู่ที่ 10 กิโลเมตร แต่ที่เราต้องการจริงๆนั้นคือร้อยกิโลเมตร “
“พวกเรารู้สึกดีใจอย่างมากที่รู้ว่าจะมีทีมนักวิจัยเก่งๆแบบพวกคุณเข้ามาช่วย ผมได้ยินมาเสมอว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีของพวกคุณนั้นเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี ผมจึงคาดหวังว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ของพวกเราจะราบรื่นและประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ “
“และสุดท้ายนี้ ทางเรามีความยินดีอย่างมากที่จะร่วมมือกับพวกคุณในเรื่องนี้ “
หัวหน้านำทีมของบริษัทลู่เทคโนโลยีได้เดินออกมาจากกลุ่มแล้วพูดว่า ” ทางเราเองก็ยินดีเช่นกัน แต่แผนงานของเราที่จะบอกคุณไป มันอาจจะมีความแตกต่างบางกับแผนงานที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้บ้าง”
“ผมคงต้องขอให้คุณอธิบายให้เฉพาะเจาะจงมากกว่านี้ว่ามันคืออะไร? “หวางซิงได้ถามออกมา
หัวหน้านำทีมได้มองไปยังทีมของหวางซิงหนึ่งรอบ ก่อนที่เขาจะพูดออกมาว่า: “เราเชื่อว่าโดรนแบบใบพัดไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัยของเรา ดังนั้นทางเราจึงต้องออกแบบโดรนรูปแบบใหม่ ไม่เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของการส่งในพื้นที่ห่างไกล แต่พวกเรายังต้องตอบสนองแต่การนำไปใช้ในตัวเมืองอีกด้วย”
“ อะไรนะ?” หลังจากฟังคนตรงหน้าพูดแบบนั้น ไม่เพียงแต่หวางซิงที่เป็นหัวทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัทดราก้อนโลจิติก แต่นักวิจัยใต้สังกัดของเขาทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าหน้าเกลียดออกมา
นี้มันมีความหมายเป็นการปฏิเสธผลการวิจัยของพวกเขาทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ มันไม่ได้หมายความว่าการทำงานหนักของพวกเขาตลอดมานั้นสูญเปล่าหรือไม่
นักวิจัยบางคนที่ได้ฟังแบบนั้นก็โกรธขึ้นมาทันที เขาตะโกนออกมาว่า: “คุณหมายความว่ายังไง! ถึงตัวโดรนที่เราออกแบบมานั้นจะไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก แต่มันก็ยังถือว่าอยู่ในร้อยอันดับของโลกและติดหนึ่งในสิบของประเทศตอนนี้! “
‘ และผมยังเคยอยู่ในบริษัทอเมซอนมาช่วงหนึ่ง ผมต้องบอกว่าประสิทธิโดรนของเรากับพวกเขานั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เผลอๆมันอาจจะพอๆกันด้วยซ้ำ ‘
หัวหน้าทีมวิจัยของบริษัทลู่เทคโนโลยีที่ได้ยินแบบนั้นก็ยังตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า :” ที่คุณพูดมานั้นผมไม่เถียง แต่ผมอยากให้พวกคุณคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในตัวเมืองและนอกเมืองด้วย การที่คุณใช้ตัวโครงสร้างแบบเดิมๆนั้นจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อโดรนและสินค้าได้! “
บทที่250
ผู้แปล : N
นักวิจัยของบริษัทดราก้อนโลจิติก นั้นดูไม่ดีมากนัก นี้เป็นสถานการณ์ที่พวกเขากลัวที่สุด การที่มีทีมวิจัยอื่นเข้ามาแล้วพวกเขามีความคิดที่แตกต่างแบบนี้ มันอาจจะส่งผลให้งานของพวกเขาล่าช้าหรือไม่ก็ไม่มีความคืบหน้าเลย
เมื่อเห็นแบบนั้นลูชินก็พูดขึ้นว่า: “พวกคุณไม่ต้องทำสีหน้าน่ากลัวแบบนั้น ทางเราไม่ได้มีความคิดที่จะปฏิเสธผลลัพธ์ของพวกคุณ เพียงแต่ว่าทางเราก็มีความเข้าใจและแผนการดำเนินงานของเราเช่นกัน “
“ประธานลู! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องที่ความคิดไม่ตรงกันเท่านั้น แต่ที่ทีมวิจัยของคุณพูดมาก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ไร้เหตุผลสิ้นดี! “หวางซิงได้พูดแย้งขึ้นมาก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า:” ตราบใดที่เรามีเวลาวิจัยโดรมากกว่านี้ ผมรับประกันได้ว่ามันต้องมีประสิทธิติดหนึ่งในสามอันดับในประเทศอย่างแน่นอน “
” แต่ตอนนี้พวกคุณกับมาบอกให้พวกผมยอมแพ้? และถ้าคุณไม่ใช้โดรนแบบใบพัดแล้ว ผมก็คิดไม่ออกว่าพวกคุณจะใช้ระบบขับเคลื่อนอะไรมาทดแทนได้? “
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วพูดว่า:” การขับเคลื่อนแบบใบพัดทำให้เกิดมลภาวะทางเสียงร้ายแรงเกินไป การบินในตัวเมืองหรือภายใต้สภาพอากาศที่เลวร้ายก็ไม่สะดวกเช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนแบบเจ็ทสูต “
” อะไรคือระบบเจ็ทสูต? “หวางซิงและคนอื่นๆ ต่างก็แสดงสีหน้าไม่เข้าใจออกมา หลังจากที่พวกเขาได้ฟังระบบนี้
นี้เป็นการแกล้งกันหรือไม่? แต่เดิมเขาคิดว่าทีมที่มาจากบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นจะต้องมีความสามารถสูงมาก แต่ใครจะคิดว่าจริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้มีความรู้อะไรเลย! แล้วตอนนี้พวกเขายังจะมาขัดขวางการทำงานของพวกเขาเสียอีก
ทีมงานของบริษัทดราก้อนโลจิติกต่างก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรมาแย้งดี นั้นจึงทำให้หวางซิงไอออกมาสองครั้ง แล้วพูดว่า: “ประธานลู! ผมขอเชิญคุณมาทางนี้เพื่อคุยกันซักเล็กน้อยได้หรือไม่?”
“ได้” ลูชินพยักหน้า
เขามองไปที่ทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัทลู่เทคโนโลยีก่อนที่จะลดเสียงของเขาลง: “ผมคิดว่าถ้าคุณต้องการทำเป็นเครื่องบินเจ็ทละก็คงไม่มีปัญหาอะไร”
“แต่สิ่งที่พวกเราต้องทำคือโดรนส่งของที่มีขนาดเล็ก ไม่ใช้เครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ แบบนั้นมันจะมีข้อ จำกัดมากเกินไป และผมคิดว่าการนำเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ทมาใช้นั้นเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมาก เพราะเครื่องยนต์นี้ต้องใช้น้ำมันเป็นตัวให้พลังงาน ถ้าเราคิดตามหลักการจริงๆแล้ว วิธีนี้จะส่งผลเสียกว่าโดรนที่พวกผมทำการวิจัยเสียอีก! “
“และปัญหาที่ตามมาหลังจากที่คุณคิดจะนำเครื่องยนต์เจ็ทมาติดตั้งนั้นคือ ราคาในการบำรุงรักษาและค่าบริการจะต้องสูงอย่างมาก “
ลูชินได้ตอบกลับมาเรียบๆว่า: “ดังนั้นเราจึงลดขนาดของเครื่องยนต์ให้มีขนาดเล็กลง แบบนี้เราก็สามารถลดค่าใช้จ่ายจำนวนมากได้ “
หวางซิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแบบทำอะไรไม่ถูกออกมา ก่อนที่จะพูดว่า:” ถ้าคุณทำแบบที่พูด ที่ว่าจะลดขนาดของตัวเครื่องยนต์ลง ถ้าคุณทำแบบนั้นจริงผมเกรงว่าเครื่องโดรนของคุณจะไม่มีแรงมากพอที่จะยกของที่มีขนาดแค่สองกิโลกรัมได้ ดังนั้นผมยังยืนยันคำเดิมที่ว่าการใช้เครื่องยนต์เจ็ทนั้นไม่เหมาะสม “
“ที่หัวหน้าหวางซิงพูดมาก็ถูก แต่เครื่องยนต์เจ็ทสูตของเรานั้นไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานจากน้ำมันอย่างที่คุณพูด เราได้ใช้พลังงานจากไฟฟ้าโดยตรง “หัวหน้านำทีมของบริษัทลู่เทคโนโลยีพูดต่อว่า ” โดยที่ตัวอุปกรณ์เจ็ทสูตของเรานั้นใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม-แอร์รุ่นใหม่ โดยที่รุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับตัวเครื่องยนต์นี้โดยเฉพาะ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลในเรื่องพลังงานเลย”
“ อะไรคืออุปกรณ์เจ็ทสูตที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า” หวางซิงชอบฟังเรื่องตลก ดังนั้นเขาจึงพูดต่อว่า “ ผมไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย ถ้ามันมีจริงอย่างนั้นผมก็ต้องได้ยินผ่านหูมาบ้าง “
เขาที่เคยทำงานมากับบริษัทยักใหญ่อย่างบริษัทอเมซอน ยังไม่เคยได้ยินเครื่องยนต์แบบนี้เลย ดังนั้นเขาจึงคิดได้อย่างเดียวว่ากลุ่มคนตรงหน้านี้เพียงแค่ต้องการมาสร้างปัญหาให้พวกเขาเท่านั้น
อเมซอน, กูเกิล, บริษัทยักใหญ่เหล่านี้ต่างก็ทำการวิจัยโดรนของพวกเขาเอง แต่พวกเขาก็ยังคงคอนเซ็ปที่เหมือนๆกันนั้นคือ การที่โดรนของพวกเขามีใบพันเป็นตัวขับเคลื่อนเหมือนกัน ถ้าจะมีที่แตกต่างก็คงเป็นจำนวนของใบพัดหรือไม่ก็ตำแหน่งที่ว่างใบพัดเท่านั้น
“ฮาฮาฮา พวกคุณคงไม่รู้ว่าคำขวัญของบริษัทลู่เทคโนโลยีคืออะไร คำขวัญของบริษัทของผมคือการทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นเรื่องจริงขึ้นมายังไงละ” ลูชินยังพูดยิ้มๆต่อว่า “ในความเป็นจริง ทางเราได้ทำการสร้างตัวต้นแบบของโดรนที่ใช้ระบบขับเคลื่อนเจ็ทสูตสำเร็จแล้ว “
“ดังนั้นพวกคุณจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลย และเหตุผลที่เรามายังศูนย์วิจัยของคุณแบบนี้ เพราะเราต้องการทำให้ห่วงโซ่อุปทานด้านโลจิสติกส์ที่นี้สมบูรณ์โดยเร็วที่สุดก็เท่านั้น เราไม่มีความคิดจะขัดขวางงานของพวกคุณแต่อย่างใด ”
หวางซิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา ก่อนที่เขาจะถามด้วยน้ำเสียงที่เหลือเชื่อ ลูกทีมคนอื่นของเขาเองก็แสดงออกด้วยความประหลาดใจเช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่าทีมงานของบริษัทลู่เทคโนโลยีทำตัวต้นแบบเสร็จเร็วแบบนี้
“นี่ … เป็นเรื่องจริง … ” นักวิจัยที่เพิ่งถามลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมขอดูได้ไหม?”
“ได้แน่นอน” ลูชินนำตัวอย่างที่เขานำมาวางไว้บนโต๊ะ
เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่ลูชินนำมาวางไว้ที่โต๊ะ ก็แสดงสีหน้าไม่เข้าใจออกมา เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขานั้นมันมีรูปร่างเป็น วงกลมคล้ายยาน “ยูเอฟโอ”
ในกลุ่มนั้นได้มีคนพูดออกมาอย่างแปลกใจว่า: “นี่คือโดรนที่พวกคุณออกแบบมาจริงหรือ?”
เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เพราะขนาดของโดรนนี้เล็กอย่างมากเมื่อเทียบกับโดรนที่มีอยู่ตามท้องตลาดในตอนนี้ เขาคิดว่ามันไม่น่าติดตั้งเครื่องยนต์เจ็ทสูตได้ มันคงเป็นเพียงตัวโมเดลเท่านั้น ดังนั้นมันคงไม่สามารถบินทดสอบได้อย่างแน่นอน
หวางซิงเองก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เพราะสิ่งที่เขาคิดก็ไม่แตกต่างจากลูกทีมของเขามากนัก เขาถึงขั้นคิดไปว่านี้มันเป็นเรื่องไรสาระที่สุดที่เขาเคยเห็นมาตลอดอายุการทำงานของเขาเลยก็ว่าได้
“ถ้าไม่มีใบพัด แล้วมันจะบินได้ยังไง” มีคนถามขึ้นมาหลังจากที่เขาไม่เห็นว่าโดรนตรงหน้าจะมีใบพัดเลย
“เป็นไปได้ไหมที่จะบินได้โดยแรงแม่เหล็ก?”
“ฮาฮาฮา พวกคุณสามารถลองได้ โดยที่ฉันจะให้พวกคุณไปหาสิ่งของที่มีน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมมา แล้วฉันจะสาธิตการทำงานของเจ้าเครื่องนี้ให้ดูเอง ” ลูชินพูดออกมายิ้มๆ
“ยี่สิบกิโลกรัม?” มีนักวิจัยของหวางซิงบางคนที่ได้ฟังแบบนั้นก็แสดงสีหน้าไม่เชื่อออกมา เขาไม่คิดว่าโดรนเล็กๆที่คนตรงหน้านำออกมานั้นจะสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากถึง 20 กิโลกรัม
ขนาดโดรนที่พวกเขาออกมาแบบมามีขนาดใหญ่กว่านี้ไปอย่างน้อยสองเท่า มันกลับสามารถบรรทุกน้ำหนักได้เพียงสิบกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเจ้าเครื่องนี้จะบินขึ้นยังไงด้วยซ้ำ
“คุณแน่ใจนะว่าเป็น 20 กิโลกรัม ไม่ใช่ 2 กิโลกรัม” หวางซิงได้ถามยืนยันอีกครั้ง
“ใช้! ผมต้องการยี่สิบกิโลกรัม!” นักวิจัยของทีมบริษัทลู่เทคโนโลยีได้พูดยืนยันอีกครั้ง “และเมื่อคุณหาน้ำหนักได้แล้ว เราจะออกไปทดสอบกันทันที”
“ได้! ฉันไม่เชื่อว่าโดรนแบบนี้จะสามารถลอยขึ้นได้หลังจากที่มันบรรทุกน้ำหนักถึง 20 กิโลกรัม!” หวางซิงได้พูดขึ้นมาหลังจากที่เขาได้ฟังแบบนั้น!
หลังจากนั้นพวกเขาได้มาที่สนามเพื่อทดลองกัน เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจ้าเครื่องโดรนเล็กๆที่พวกเขาพูดจาดูถูกไปก่อนหน้านี้สามารถลอยขึ้นได้จริง ต่างก็แสดงสีหน้าเหมือนเห็นผีออกมา
พระเจ้า! เจ้าเครื่องนี้มันสามารถลอยขึ้นได้จริง!
ขณะที่พวกเขาเตรียมพัสดุตัวอย่างขนาด 20 กิโลกรัมสำหรับเที่ยวบินทดสอบมาทดสอบอีกครั้งนั้น พวกเขาก็ถูกขัดจังหวะโดยทีมนักวิจัยของบริษัทสกาย
“พวกคุณมีอะไรไหม?” มีคนถาม
เจ้าหน้าที่ของสกายที่ได้ฟังแบบนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า: ” คือเราเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น ผมจึงได้มาขอความช่วยเหลือจากพวกคุณ”
บทที่251
ผู้แปล : N
พวกเขาอธิบายว่าเครื่องโดรนของพวกเขา ที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาปรับปรุงใหม่นั้นเกิดปัญหาระหว่างการทดสอบการบิน และตกลงไปบนภูเขา
โดยจุดที่เครื่องโดรนตกนั้นคนไม่สามารถเข้าไปได้ พวกเขาได้ทดลองนำเครื่องโดรนของพวกเขาไปสำรวจแล้วก็ไม่ช่วยอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงมาหาพวกลูชิน เพื่อหวังว่าพวกเขาจะขอยืมเครื่องโดรนของเขาไปช่วยอีกแรง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อนที่นั่น ทำให้พวกเขาไม่สามารถนำโดรนขนาดใหญ่เขาไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงส่งโดรนที่มีขนาดเล็กเข้าไปได้เท่านั้น เมื่อพวกเขาได้ทดลองนำโดรนขนาดเล็กของพวกเขาเข้าไปกลับไม่สามารถนำมันกลับขึ้นมาได้
แต่เมื่อพวกเขากำลังจนมุมอยู่นั้น พวกเขากับเห็นว่าโดรนจากบริษัทดราก้อนโลจิติกนั้นสามารถบรรทุกสิ่งของน้ำหนักได้ถึงยี่สิบกิโลกรัมได้สบายๆ ดังนั้นมันอาจจะสามารถพาโดรนของพวกเขาขึ้นมาก็ได้
หวางซิงถามว่า: “คุณช่วยบอกลักษะของเครื่องโดรนของคุณได้ไหม, ภูมิประเทศที่เครื่องโดรนของคุณตกและที่ผมอยากรู้ที่สุดคือตัวน้ำหนักเครื่องโดรนของคุณ?”
“โดรนของเรามีชื่อเรียกว่า v333 มันมีน้ำหนักประมาณสิบสี่กิโลกรัม” เจ้าหน้าคนนั้นได้นำรู้โดรนของเขามาให้หวางซิงดู เขาสังเกตว่าโดรนที่บริษัทสกายออกแบบมานั้น ทำการติดตั้งใบพันถึงแปดใบพัด ซึ่งถือว่ามันมีขนาดใหญ่ถึงสี่เท่าจากที่พวกเขาเคยออกแบบมาด้วยซ้ำ
และตามข้อมูลที่เขาเห็น ยังบอกอีกว่าตอนนี้โดรนของพวกนั้นได้ตกไปยังพื้นที่ลาดเลียงสุ่มเสี่ยงต่อการตกอย่างมาก และพื้นที่รอบก็เต็มไปด้วยวัชพืช ดังนั้นจากการวิเคราะห์เบื้องตนของเขา เขารู้สึกว่าจะเป็นการไม่เหมาะถ้าจะนำโดรนขนาดใหญ่ไปกู้มันขึ้นมา
“มีอะไรที่ผมต้องรู้อีกไหม?” หวางซิงถามขึ้นอีกครั้ง
เจ้าหน้าคนนั้นได้ตอบกลับว่า “สถานที่ที่เครื่องตกนั้นไม่มีความมั่นคงมากนัก ดังนั้นผมหวังว่าพวกคุณจะระวังขณะที่เครื่องโดรนของคุณลงไปด้วย”
เมื่อหวางซิงได้ฟังแบบนั้น เขาก็แสดงสีหน้าหนักใจอย่างมาก เพราะการที่พวกเขาจะนำโดรนสี่ใบพัดไปนั้น มันอาจจะไม่สามารถรับน้ำหนักโดรนV333ได้
เขาพูดว่า: “ผมคิดว่าทางเราเองก็ไม่สามารถช่วยคุณได้ เพราะโดรนของทางเราเองก็ไม่สามารถลองรับน้ำหนักได้มากขนาดนั้น แต่เดียวผมจะติดต่อไปหาเพื่อนบางคนที่บริษัทอื่น ไม่แน่พวกเขาอาจจะช่วยคุณได้ ”
“เฮ้อ! ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว” พนักงานของบริษัทสกายที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา
“ พวกคุณแค่ต้องการกู้เครื่องโดรนของพวกคุณขึ้นมาเท่านั้นใช้ไหม?” ลูชินที่ฟังเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นก็ได้ถามขึ้นมาอีกครั้ง
“ ใช่! แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่แคบและซับซ้อน มันจึงทำให้เครื่องโดรนแบบปกติไม่สามารถเข้าไปได้” เจ้าหน้าที่คนนั้นได้ตอบหลับคำถามของลูชินอีกครั้ง
“ดี! คุณช่วยส่งพิกัดตำแหน่งที่เครื่องโดรนของคุณตกมาให้ด้วย อีกเดียวเราจะไปกู้ให้กับคุณเอง” ลูชินพูดจบ เขาก็ได้ชี้ไปยังโดรนเครื่องเจ็ทสูตที่เขานำมา
“นั้นคืออะไร?” พนักงานคนนั้นที่มองตามไปเห็นโดรนขนาดเล็กวางอยู่บนโต๊ะ ก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงตัวโมเดลเท่านั้น
เขาที่คิดได้แบบนั้นก็พูดออกมาว่า :. “นี้พวกคุณเห็นว่าเป็นเรื่องตลกหรือไง?”
ในความคิดของเขา การที่เครื่องโดรนจะสามารถบรรทุกสิ่งของที่มีขนาด 14 กิโลกรัม อย่างน้อยโดรนเครื่องนั้นต้องมีขนาดกลางถึงใหญ่ เครื่องโดรนขนาดเล็กนั้นสามารถบรรทุกของได้เพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น และ การที่ลูชินพูดออกมาแบบนั้นมัน จะไม่ให้เขาคิดได้ยังไงว่าอีกฝ่ายเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก
“ ผมไม่ล้อเล่น! เจ้าเครื่องนี้สามารถบรรทุกสิ่งของได้มากสุดถึงยี่สิบกิโลกรัม ถ้าคุณไม่เชื่อทางเราจะสาธิตให้คุณได้ดูเอง” ลูชินพูดจบก็ได้หันไปบอกกับลูกทีมของเขานำเครื่องโดรนนี้ไปทดสอบทันที
“โอเค! งั้นเรามาเริ่มทดสอบอีกครั้งกันเลย” ทีมงานที่มาจากบริษัทลู่เทคโนโลยีได้พูดขึ้นหลังจากที่เขาได้ติดตั้งสิ่งของที่มีน้ำหนักยี่สิบกิโลกรัมเรียบร้อยแล้ว
เมื่อทุกคนเห็นแบบนั้น ต่างก็เดินถอยห่างออกมาเหลือเพียงเครื่องโดรนที่จอดอยู่ข้างกล่องเพียงลำพัง แต่เมื่อเครื่องโดรนเริ่มทำงาน มันก็สามารถยกกล่องที่มีน้ำหนักถึงยี่สิบกิโลกรัมขึ้นมาได้จริง พวกเขาต่างก็พูดไม่ออก
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะต้องตัดใจหาทางอื่นแล้ว แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ชายตรงหน้าพูดขึ้นมานั้นจะเป็นเรื่องจริง
ในสายตาของพวกเขา ต่างก็ไม่คิดว่าเครื่องโดรนเล็กๆแบบนั้นจะสามารถยกของที่มีน้ำหนักเกินห้ากิโลกรัมขึ้นได้ซ้ำ แต่มันก็พิสูจน์ให้พวกเขาเห็นแล้วว่ามันสามารถยกของที่มีน้ำหนักได้ถึงยี่สิบกิโลกรัม
“ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกคุณจะสามารถพัฒนาโดรนมาได้ไกลแบบนี้!” พนักงานจากบริษัทสกายได้หลุดพูดสิ่งที่เขากำลังคิดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เพราะเขากำลังตกใจกับประสิทธิภาพที่โดรนตรงหน้าของเขาทำได้!
ไม่ใช้ว่าพวกเขาไม่เคยคิดจะนำเครื่องยนต์เจ็ทมาใช้ แต่มันไม่สามารถนำมาใช้ได้ต่างหาก เพราะมันส่งผลกระทบมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียงที่ดัง หรือไม่ก็การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นพวกเขาจึงล้มเลิกความคิดนี้ไปตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มด้วยซ้ำ
ด้วยความเร็วของโดรนนี้ มันจะไปถึงจุดที่เครื่องโดรนของพวกเขาตกในเวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น และระหว่างทางไปนั้นพวกเขาสังเกตเห็นว่าได้เกิดลมแรงพัดสวนทางมาอีกด้วย แต่ความเร็วที่เครื่องโดนทำได้กลับไม่ลดลงเลย
พนักงานของบริษัทสกายที่เห็นว่าเครื่องโดรนนี้ได้ไปถึงจุดที่กำหนดแล้ว เขาก็พูดว่า: “ตรงจุดนี้แหละ! ผมไม่คิดเลยว่าระหว่างที่มันตกนั้นมันจะไปเกี่ยวเข้ากับพวกวัชพืชด้วย ผมคิดว่าตอนนี้น้ำหนักของตัวมันคงเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งกิโลกรัม โดรนของคุณยังสามารถยกมันขึ้นได้ไหม? “
” 15 กิโลกรัมหรอ? นั้นไม่มีปัญหา! “คนที่กำลังบังคับโดรนได้ตอบกลับมาอย่างมั่นใจ ในขั้นแรกเขาได้นำโดรนเข้าไปใกล้เป้าหมาย ก่อนที่เขาจะกดให้มีอะไรยืดออกจากตัวเครื่องไปยังเป้าหมาย ไม่ต้องบอกพวกคนดูก็สามารถบอกได้ว่าสิ่งนั้นเปรียบเสมือนมือเทียมเอาไว้จับสิ่งของนั้นเอง
“เรียบร้อย!” หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงตะโกนขึ้นจากคนดู พวกเขาสังเกตเห็นว่าขั้นตอนนี้ที่ปกติจะต้องใช้ความชำนาญอย่างมากในการทำ แต่เจ้าโดรนตัวนี้กับทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ!
“พระเจ้า! โดรนของพวกคุณสุดยอดจริงๆ!” ไม่พียงแค่คนของบริษัทดราก้อนโลจิสติกส์เท่านั้นที่ร้องออกมา คนจากทางบริษัทสกายเองก็ร้องออกมาเช่นกัน
“บินขึ้น!” หวางซิงที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา คงมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องนี้มันสุดยอดขนาดไหน!
การที่โดรนขนาดเล็กแบบนี้จะสามารถบินไปด้วยความเร็วสูงแบบนั้นได้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร ที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือการที่มันสามารถปฏิบัติงานได้ในพื้นที่ห่างไกลขนาดนั้น และยังสามารถทำตามคำสั่งได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ทำให้เขาตกใจมากขึ้นไปอีกคือการที่มันยังสามารถยกของที่มีน้ำหนักขนาดนั้นได้…
ทุกคนในทีมของหวางซิงต่างก็ตกตะลึงที่เห็นฉากนี้เช่นกัน แต่พวกเขาไม่ได้เข้าใจเชิงลึกแบบหวางซิง ที่พวกเขาตกใจนั้นคือเรื่องที่มันยกเครื่องโดรนขึ้นมาได้เท่านั้น
นี่แสดงให้เห็นว่าคำพูดของลูชินก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด พวกเขาทำมันสำเร็จไปแล้ว! ตอนนี้ความรู้สึกของพวกเขาเหมือนกับมีคนใจดีมอบสูตรโกงให้พวกเขาแบบฟรีๆยังไงยังงั้น
ในทางตรงกันข้าม คนจากบริษัทสกายต่างก็แสดงสีหน้าหน้าเกลียดออกมา จะให้พวกเขาทำใจยอมรับได้ยังไงว่าการทำงานหนักของพวกเขาตลอดหลายปีมานี้สูญเปล่า พวกเขาไม่สามารถยอมรับมันได้!
สิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจที่สุดก็คือ การที่พวกเขานำโดรนรูปแบบใหม่มาใช้งานครั้งแรกแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน จากการประเมินคล่าวๆสามารถบอกได้ว่าโดรนเล็กๆเครื่องนี้ มีความสามารถมากกว่าโดรนที่พวกเขาออกแบบมาเสียอีก!
ในแง่ของธุรกิจโดรนขนส่งนั้น บริษัทสกายถือว่าเป็นประเทศชั้นนำมาเสมอ แม้แต่บริษัทแรกที่ได้รับสิทธิในการใช้โดรนบินส่งของบริษัทแรกก็ยังไม่สามารถสู้บริษัทของเขาได้เลย
ด้วยขนาดของโดรนที่มีขนาดเล็กกว่าพวกเขาไปสองเท่า แต่มันกับสามารถยกของที่หนักได้ถึงยี่สิบกิโลกรัม ถ้ามันมีขนาดเท่ากับโดรนปกติมันจะสามารถยกของได้มากขนาดไหนกัน? หลังจากที่เขาคิดได้แบบนี้ก็รู้สึกหลาดกลัวขึ้นมา!
หลังจากนั้นไม่นาน โดรนที่พวกเขาส่งไปก็นำโดรนที่ฟังแล้วของบริษัทสกายกลับมาสำเร็จ พวกนักวิจัยที่เห็นแบบนั้นต่างก็รีบวิ่งกรูเข้าไปดูอย่างกระตือรือร้นทันที!
บทที่252
ผู้แปล : N
“ผมต้องขอบคุณพวกคุณจากใจจริง” คนจากบริษัทสกายที่ได้รับโดรนของพวกเขาคือมาแล้วก็แสดงคำขอบคุณออกมา ก่อนที่พวกเขาจะรีบกลับไปยังศูนย์วิจัยของพวกเขา ในใจของพวกเขานั้นต่างก็กำลังคิดถึงประสิทธิภาพที่โดรนของบริษัทดราก้อนโลจิติกทำได้ พวกเขาคิดไปทางเดียวกันว่าผลิตภัณฑ์ของพวกนั้นช่างทรงพลังจริงๆ
เมื่อพวกนั้นกลับไปแล้ว หวางซิงและทีมวิจัยของเขาต่างก็เข้าไปศึกษาเจ้าโดรนนี้อย่างไม่เกรงใจ แต่ละคนต่างก็แสดงอารมณ์ที่แตกต่างกันไป
“มันช่างหน้าทึ่งจริงๆ! มันเล็กมากเมื่อเทียบกับโดรนในตลาดตอนนี้ แต่ประสิทธิภาพที่มันแสดงออกมานั้นกลับเหนือล้ำไปมาก!” หวางซิงได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นสุดๆ
นักวิจัยคนอื่นๆ เองก็มีความคิดแบบนั้นเช่นกัน “ผมเคยได้ยินมาว่าทีมวิจัยของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นทรงพลังอย่างมาก ในทีแรกผมไม่เคยเชื่อเรื่องนั้นเลย จนมาเจอเข้ากับตัวเองแบบนี้ ”
” ฮาฮาฮา! ด้วยโดรนที่ติดตั้งเครื่องยนต์เจ็ทสูตเครื่องนี้ พวกเราจะถือว่าเป็นผู้นำในอุสาหกรรมนี้แล้ว”
” มันเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงจริงๆ! “
” นี้คือสิ่งที่พวกเราหวังมาตลอด มันมีประสิทธิภาพมากกว่าโดรนแบบติดตั้งใบพัดหลายอันเสียอีก!”
……
หลังจากได้เห็นฉากทดสอบนี้ ทีมนักวิจัยของหวางซิงได้เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อพวกลูชินไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขารู้ดีว่าตั้งแต่นี้ต่อไป โครงการโดรนขนส่งของพวกเขานั้นจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน!
ลูชินที่รู้สึกถึงอารมณ์แบบนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เขาได้พูดว่า: “นี้ถือว่าเป็นตัวโมเดลเท่านั้น ดังนั้นเส้นทางต่อไปนี้ พวกเรายังต้องพยายามอีกมาก!”
“ในส่วนของการติดตั้งตัวฟังก์ชั่นที่จำเป็นในการขนส่งนั้น ทางเราต้องพึ่งพวกคุณแล้วเพราะในเรื่องนี้ทางเราไม่มีคำชำนาญเหมือนกับพวกคุณ และอย่างสุดท้ายนี้ ฉันหวังว่าเทคโนโลยีโดรนของเราจะเป็นต้นแบบให้กับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลก!”
หลังจากที่ทีมงานวิจัยได้ฟังแบบนี้ ต่างก็มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนขึ้นมาทันที พวกเขาแสดงอาการเห็นกับเด็กๆที่พึ่งได้รับของเล่นชิ้นโปรดยังไงยังงั้น
หลังจากนั้นพวกเขาได้หาลือกันเกี่ยวกับความความปลอดภัย จากนั้นพวกเขาได้พูดถึงเรื่องการติดตั้งระบบเรทคลาวด์เข้าไป เพื่อนที่จะได้ช่วยในการติดตามและการประมวลผล
หากพวกเขาสามารถทำการติดตั้งระบบอัจฉริยะนี้ได้ ปัญหาต่างๆที่ตามมาในอนาคตจะลดไปได้ครึ่งหนึ่งทันที และพวกเขายังสามารถยกระดับการขนส่งนั้นไปสู่ระดับใหม่ทันทีหรือไม่ก็พวกเขาจะกลายเป็นผู้นำเทรนด์ของโลกก็ว่าได้
ในวันเดียวกันนั้น ทั้งสองทีมได้เริ่มทำงานรวมกัน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถพัฒนาโดรนของพวกเขาได้เร็วมากขึ้น และพวกเขายังได้ปรับเปลี่ยนทิศทางร่วมไปถึงเป้าหมายการวิจัยใหม่อีกด้วย
หวางซิงได้เข้ามาพูดกับลูชินว่า : “หลังจากที่เราได้รวมเทคโนโลยีทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว จะเห็นได้ว่าตอนนี้โดรนของเรานั้นสามารถตอบสนองได้ตามที่คุณตั้งไว้ได้แล้วถึง 90% ในส่วนที่เหลือนั้นทางเราได้สั่งอะไหล่ไปแล้ว คงอีกไม่นานโดรนนี้ก็จะสามารถทำงานได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ “
“ในเรื่องที่คุณถามว่า ถ้าเราปรับให้ตัวโดรนนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น มันจะสามารถลองรับการขนส่งที่มีน้ำหนักมากกว่ายี่สิบกิโลกรัมได้ไหม?”
“ผมต้องบอกว่าในเรื่องการลองรับน้ำหนักนั้นมีความเป็นไปได้ แต่เราก็จำเป็นต้องเพิ่มต้นทุนขึ้นตามไปเป็นเงาตามตัวเช่นกัน และที่สำคัญที่สุดคือความคล่องตัวในการบิน มันอาจจะส่งผลกระทบต่อการขนส่งเราก็ได้”
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการเข้าใจเรื่องนี้ แต่เหมือนกับว่าหวางซิงจะไม่หยุดแค่นั้นเขายังพูดต่อว่า “เออ! ผมขอถามเรื่องใบอนุญาตประกอบธุรกิจการบินได้ไหมว่าตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ผมกลัวว่ามันอาจจะทำให้งานของเราล่าช้าได้ “
ในเรื่องการใช้โดรนขนส่งในตัวเมืองนั้น ทางบริษัทต้องได้รับใบอนุญาตจากฝ่ายบริหารของแผนกการบินพลเรือนและฝ่ายโลจิสติกส์เสียก่อน ไม่อย่างนั้นทางบริษัทจะไม่สามารถทำการบินในพื้นที่ตัวเมืองได้ ในส่วนการขอใบอนุญาตนั้นก็จะมีความล่าช้าอย่างมาก ตามสไตล์ของราชการ แต่มันก็มีข้อยกเว้นบางประการในกฎระเบียบและข้อบังคับที่สามารถเร่งกระบวนการได้
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ตอบว่า “ในเรื่องนั้นนายไม่ต้องกังวลไป นายมีหน้าที่เดียวเท่านั้นในตอนนี้นั้นก็คือการทำให้เครื่องโดรนของเราสมบรูณ์ที่สุดเท่านั้น “
หวางซิงคิดเพียงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดว่า: “ถ้าคุณพูดแบบนั้นผมก็ว่างใจ แต่ผมหวังว่าคุณจะสามารถขอใบอนุญาตบินในพื้นที่นอกเขตตัวเมืองเพิ่มอีกใบ เพราะการที่เรามีใบอนุญาตทั้งสองนั้นจะเป็นผลดีต่อการขยายธุรกิจของเราในอนาคต “
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย ในทีแรกเขาเองก็กะจะขอเพียงใบอนุญาตในตัวเมืองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าหวางซิงคนนี้จะเป็นคนที่มองการไกลอย่างมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่บอกให้ขอใบอนุญาตเพิ่มแบบนี้ และนี้ยังแสดงว่าเขามีความเข้าใจในธุรกิจนี้อย่างดีเยี่ยมเลยที่เดียว!
ในจังหวัดเจียงเป่ย มีสำนักงานนำร่องสำหรับเจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นสำนักงานที่จัดตั้งขึ้นโดยหน่วยงานการบินพลเรือนซึ่งใช้เป็นหน่วยงานพิเศษในการประสานงานและจัดการเที่ยวบินในเมืองโดยเฉพาะ
ในฐานะประธานบริษัทลู่เทคโนโลยีความคิดของเขาถือว่ามีน้ำหนักอย่างมาก ผู้อำนวยการเสี่ยว ของสำนักงานนำร่องสำหรับเจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ และผู้อำนวยการวัง ของสำนักงานการบินพลเรือน พวกเขาทั้งสามกำลังพูดคุยหาลือเกี่ยวกับเรื่องการส่งโดรนบินในตัวเมืองและนอกเขตเมืองกันอยู่
“ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่บริษัทลู่เทคโนโลยียักใหญ่ระดับประเทศแบบคุณสนใจมาลงทุนในโครงการโดรนขนส่งแบบนี้ ผมในฐานะเป็นตัวแทนของรัฐบาลต้องขอบคุณประธานลูอย่างยิ่ง!” ผู้อำนวยการเสี่ยวพูดอย่างอารมณ์ดี
ตั้งแต่ที่บริษัทลู่เทคโนโลยีเข้ามาลงทุนในตัวจังหวัดของเขา มันก็ทำให้บริษัทเจ้าอื่นๆเริ่มมาลงทุนมากขึ้น นั้นจะส่งผลให้ค่าจีดีพีโดยรวมของจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นมันจะไม่ทำให้เขารู้สึกมีความสุขได้ยังไง
“ผมได้ยินมาว่าประธานลูมีคำแนะนำบางอย่างสำหรับตัวโครงการของเรา ไม่ทราบว่าประธานลูมีคำแนะนำอะไร?” ผู้อำนวยการวังได้ถามขึ้นมา
ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดอย่างชัดเจนว่า :. “ตอนนี้ในตัวจังหวัดเองก็มีบริษัทที่ใช้โดรนส่งของถึงสองบริษัทใหญ่ คือบริษัทของผมและบริษัทสกาย ผมจึงมีความคิดว่าเราควรจะส่งเสริมให้มีการใช้โดรนขนส่งไปในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย เพื่อเพิ่มแหล่งรายได้ของทั้งตัวบริษัทและตัวจังหวัดไปพร้อมๆกัน พวกคุณเห็นว่าเป็นไงบ้างกับความคิดนี้? “
เป็นผู้อำนวยการวังเป็นคนพูดขึ้นมาก่อนว่า: “ประธานลู! คุณต้องเข้าใจด้วยว่าการขนส่งในพื้นที่รอบนอกนั้นจะต้องพบเจอกับสภาพอากาศที่เลยร้ายอย่างมาก ดังนั้นผมคิดว่ามันอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับโดรนและพัสดุก็เป็นไปได้”
“และเทคโนโลยีในปัจจุบันของโดรนนั้นก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร ไม่ใช้ว่าผมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ของคุณนะ แต่ผมไม่สามารถทำอะไรที่อาจจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของตัวจังหวัดได้ ……”
แต่เขาก็ต้องรีบเปลี่ยนความคิดของเขาทันที หลังจากที่เขาได้ชมคลิปในช่วงที่โดรนของลูชินได้บินเข้าไปกู้โดรนจากบริษัทสกาย
“พระเจ้า! ทำไมโดรนของคุณถึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเลยละ? ” ผู้อำนวยการวังรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เพราะส่วนมากโดรนที่ใช้ในการขนส่งนั้น ทางบริษัทจะเลือกใช้โดรนที่เป็นโดรนติดใบพัด เขาไม่เคยเห็นบริษัทไหนจะใช้โดรนแบบที่บริษัทลู่เทคโนโลยีใช้มาก่อนเลย และดูเหมือนว่าประสิทธิโดยรวมของโดรนก็ยังสูงกว่าโดรนตามท้องตลาดอีกด้วย
ลูชินที่เห็นอาการของผู้อำนวยการวังแล้ว เขาก็พูดต่อว่า: “นี้ถือว่าเป็นส่วนน้อยที่เรานำมาเสนอให้พวกคุณดู ผมต้องบอกว่าโดรนของเรานั้นยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆอีกมากที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการขนส่งได้ ดังนั้นพวกคุณไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาขึ้นกับการขนส่งของเรา “
“ที่ผมหวังไว้กับการพูดคุยกันในครั้งนี้คือ การที่แผนกการบินพลเรือนจะเป็นคนสร้างระบบการขนส่งทางอากาศในพื้นที่ทั้งในตัวจังหวัดและตามท้องถิ่นขึ้นมา ผมคิดว่าการทำแบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของการขนส่งทางอากาศได้มากขึ้น”
พวกเขาที่ได้ฟังคำพูดของลูชินแบบนี้ต่างก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา ก่อนที่ผู้อำนวยการวังจะพูดอย่างกระตือรือร้นว่า:” เป็นความคิดดีอย่างมาก! ฮาฮาฮา ที่นี้ผมก็สามารถแก้ปัญหาหนักใจอยู่ตอนนี้ได้แล้ว”
บทที่253
ผู้แปล : N
ข้อเสนอของลูชินนั้นได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการเมืองอย่างรวดเร็ว มันใช้เวลาน้อยกว่าสามวันก่อนที่ข้อเสนอของเขาจะได้รับการอนุมัติ ผู้นำของกรมการบินพลเรือนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับข้อเสนอนี้
ถึงขั้นที่พวกเขาได้ส่งคนของเขามาพูดคุยกับคนของลูชินอย่างรวดเร็ว บางส่วนเองก็ได้เข้ามายังศูนย์วิจัยของบริษัทดราก้อนโลจิสติกส์โดยตรง
ทางศูนย์วิจัยของบริษัทดราก้อนโลจิสติกส์เองก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน เพราะนี้ถือว่าศูนย์วิจัยของพวกเขากลายมาเป็นตัวต้นแบบของจังหวัดไปแล้ว
นายกเทศมนตรีเสี่ยวเองก็ได้เข้ามาเยี่ยมชม และศึกษากระบวนการดำเนินงานกับทางบริษัทของพวกเขาเช่นกัน
โดยคนที่ผู้อำนวยการวังส่งมาไม่ใช้คนที่ทำงานอยู่ในแผนกการบินพลเรือน แต่เป็นนักวิจัยจากสถาบันวิจัยอวกาศปักกิ่ง
นักวิจัยที่มาดูงานครั้งนี้ พวกเขาสนใจในตัวเครื่องยนต์เจ็ทสูตที่ผลิตโดยบริษัท Red Letter อย่างมาก โดยที่พวกเขาหวังว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้กับกองทัพได้
ทางด้านของลูชินนั้น เขากลับไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ในส่วนของความรวมมือกับกองทัพนั้นเขาได้ตอบปฏิเสธไปอย่างชัดเจน โดยที่เขาให้เหตุผลว่าตัวเครื่องยนต์แบบเจ็ทสูตนั้นมีความไวต่อสัญญาณรบกวนจำพวกอุปกรณ์รบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างมาก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเพิ่มขนาดของตัวโดรนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะในตอนนี้พวกเขายังไม่ได้ทำการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียม – แอร์ที่สามารถลองรับกับการทำงานขนาดใหญ่แบบนั้นได้
และได้มีบางหน่วยงานเข้ามาติดต่อพวกเขา เพื่อหวังว่าพวกเขาจะสามารถนำระบบโฮสต์คลาวด์ไปใช้ในกองทัพได้ แต่เขาก็ให้การปฏิเสธไปทุกคน
ในส่วนของข้อเสนอของลูชินที่เกี่ยวกับการใช้โดรนโลจิสติกส์ ในเขตเมืองได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่การบินพลเรือนอย่างมาก
โดยที่พวกเขาได้ทำการหาลือกันเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในการจารจรทางอากาศอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงเซ็นสัญญาความรวมมือกัน
โดยที่รายละเอียดของสัญญานั้นจะมีการพูดคุยกันอีกครั้งหลังจากที่ทางกรมการบินพลเรือนได้ส่งรายละเอียดมาให้ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีดูอีกครั้ง
แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องใช้ใช้เวลา ในเรื่องของนโยบายเองก็อาจจะต้องมีการพูดคุยตกลงกันอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงเซ็นสัญญานี้
ในระยะสั้นวัตถุประสงค์ของลูชินที่ไปยังเมืองเจียงเป่ยนั้นสำเร็จไปแล้วครึ่งทางแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือกลับไปยังเมืองเมืองเจียงเฉิง เพื่อที่เขาจะได้ไปออกแบบระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะทางอากาศ
เมืองเจียงเฉิง, บริษัท พัฒนาซอฟต์แวร์จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของบริษัทลู่เทคโนโลยี เหลียงซ่งได้รับมอบหมายงานใหม่ โดยที่เขาจะต้องก่อตั้งแผนกโครงการใหม่ โดยที่แผนกนี้จะทำหน้าที่พัฒนาระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะทางอากาศขึ้นโดยเฉพาะ
“ระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะทางอากาศ ?” เหลียงซ่งได้พูดขึ้นมา
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการยืนยัน
“ แต่เราไม่เคยมีประสบการณ์ทำระบบแบบนี้มาก่อนเลย ผมเกรงว่าเราจะต้องใช้เวลานานพอดูกว่าที่เราจะพัฒนาระบบนี้ให้ได้ตามที่ประธานตั้งเอาไว้”
“นายสามารถไปดูงานจากบริษัทอื่นควบคู่ไปได้” ลูชินพูดต่อว่า “อย่างเช่นบริษัทคิเลียง พวกนั้นได้ทำงานในด้านนี้โดยเฉพาะ “
” แต่ระบบที่เราทำนั้นถือว่าแตกต่างจากพวกเขาอย่างมาก ของเราคือระบบการจราจรในตัวเมืองและพื้นที่รอบนอก โดยที่มีระยะความสูงไม่เกินหนึ่งกิโลเมตร แต่ที่บริษัทคิเลียงนั้นทำอยู่นั้นคือการจราจรบนท้องฟ้าที่มีความสูงอย่างน้อยสิบกิโลเมตร ดังนั้นมันจึงไม่สามารถนำความรู้ของพวกเขามาปรับใช้กับของเราได้ “
“งั้นมันก็เป็นงานที่หินใช้ไหม?” ลูชินได้ถามออกมาแบบยิ้มๆ
“ไม่แน่นอนครับ!” ฮันเจี่ยซึ่งเป็นหัวหน้าของโครงการนี้ ได้ตอบกลับมาด้วยความมั่นใจ เพราะเมื่อพูดถึงความรู้ในด้านนี้แล้ว บริษัทของพวกเขาถือว่าเป็นบริษัทชั้นนำของโลกอย่างแน่นอน
“ดี! ดังนั้นโครงงานนี้จะถูกส่งไม้ต่อให้นายเป็นคนรับผิดชอบ” ลูชินพูดต่อว่า “โดยที่โครงการนี้ฉันจะไม่มีส่วนรวมกับมัน ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น นายต้องเป็นคนแก้ไขมันด้วยตัวนายเอง”
“ประธานไม่ต้องกังวล ผมจะทำให้ระบบอัจฉริยะนี้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ” ฮันเจี่ยได้ตอบกลับมาอย่างมันใจเช่นเดิม เขาถือว่าเป็นคนที่อยู่มาตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทนี้เลยก็ว่าได้ เขาได้เขารวมโครงการใหญ่ๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างระบบเรทคลาวด์ การสร้างตัวควบคุมอุปกรณ์โฮมสมาร์ต หรือไม่ว่าจะเป็นระบบที่ใช้ในแว่นตาสมาร์ต ทั้งหมดนี้เขาก็มีส่วนรวมพัฒนามันขึ้นมา ดังนั้นการที่ท่านประธานได้นำเสนอระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะทางอากาศนี้ขึ้น สำหรับเขาแล้วมันไม่ได้ยุ้งยากมากนักเมื่อเทียบกับโครงการที่เขาเคยผ่านมา
ในส่วนของตัวเก็บข้อมูลของระบบเรทคลาวด์นั้น ทางบริษัทได้ทำการย้ายไปยังชั้นใต้ดินของบริษัทลู่เทคโนโลยีเรียบร้อยแล้ว
แต่เมื่อลูชินไปตรวจสอบกับรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย นอกจากอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลของระบบเรทคลาวด์ที่มีขนาดเล็กแล้ว นอกนั้นได้ใช้อุปกรณ์ที่มีความเทอะทะมาเป็นตัวจัดเก็บข้อมูลทั้งหมด ในความคิดของเขาการที่บริษัทยังใช้อุปกรณ์พวกนี้มาจัดเก็บข้อมูลนั้นเป็นการก่อปัญหาขึ้นมาโดยไม่จำเป็น
โดยขนาดที่ใหญ่และตัวอุปกรณ์เองก็มีซับซ้อน จึงทำให้มันกินพื้นที่จำนวนมากในชั้นใต้ดินนี้ ไม่ต้องพูดถึงการซ่อมบำรุงเลย เพราะการซ่อมบำรุงแต่ละครั้งนั้นคิดเป็นเงินจำนวนมาก
เขาที่เห็นได้แบบนั้นก็รู้สึกว่าเส้นทางยังคงอีกยาวไกลกว่าที่เขาจะสามารถมีเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ได้ในระดับบริษัทอัมเบลล่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของปัญญาประดิษฐ์เลย แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้เรื่องนั้น เพราะเขาได้เริ่มลงทุนในโครงการนี้มาซักระยะหนึ่งแล้ว โดยที่เขาได้ใช้การศึกษาชิปของโทรศัพท์มือถือเป็นฐานสำหรับแผนการนี้
ข้อเท็จจริงนี้ได้พิสูจน์ว่าแผนของเขามาถูกทางแล้ว ดูได้จากการที่เขาสามารถพัฒนาระบบเรทคลาวด์ขึ้นมาได้ และในช่วงตลอดระยะเวลาสองปีมานี้ก็ทำให้ระบบเรทคลาวด์ของเขาเข้าใกล้เคียงกับราชินีแดงมากขึ้น
แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ เขายังคงต้องรอให้เทคโนโลยีชิปและเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์เซมิคอนดักเตอร์ของบริษัทสมบูรณ์แบบมากกว่านี้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เขาลงทุนไปตลอดสองปีมานี้จะสูญเปล่าทั้งหมด
……
เมื่อลูชินกลับไปที่บ้านของเขา เขาก็พบว่าแฟนสาวของเขาซู่จิงเองก็ได้กลับมาจากสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว เธอกลับมาที่บ้านโดยตรงเมื่อ ลูชินได้เห็นว่าตอนนี้เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
ตอนนี้เป็นเวลา 12: 00 ในเวลาปักกิ่ง แต่ถ้าดูตามเวลาในนิวยอร์กแล้วตอนนี้จะเป็นเวลา 23: 00 ซึ่งถือว่าดึกอย่างมาก เขาไม่แปลกใจเลยที่เห็นว่าแฟนสาวของเขาจะยังคงนอนอยู่แบบนี้ ในส่วนของเรื่องเจ็ทแลคนั้นเขาเองก็ไม่สามารถช่วยได้ เขาคงต้องปล่อยให้เธอนอนแบบนี้ไปอีกซักพัก
ลูชินนั่งอยู่บนขอบเตียงแล้วมองไปที่เธออย่างเงียบๆ ดวงตาของซู่จิงปิดลงและขนตาของเธอก็ขยับเบาๆ แก้มที่ขาวไรที่ติ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูงดงาม และด้วยองค์ประกอบของแสงที่ส่องเข้ามายังห้องตอนนี้ มันยิ่งทำให้เธอดูเหมือนเทพธิดาที่ร่วงลงมาจากสวรรค์ยังไงยังงั้น
ภาพดังกล่าวให้ลูชินรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ลึกลับอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นเขาก็ทำเพียงนั่งบนขอบเตียง และเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่แสนวิเศษนี้
ห้องนี้เงียบเป็นอย่างมาก แต่กลุ่มแชทเทคโนโลยีสีดำกับมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ตอนนี้โทนี่กำลังพบกับเรื่องที่ทำให้ปวดหัวอย่างรุ่นแรง เขาจึงได้เข้ามาปรึกษากับพวกเพื่อนๆในกลุ่ม เผื่อที่ว่าพวกเพื่อนๆของเขาจะมีวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
“มันแย่มาก! ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาเจอเรื่องแบบนี้!” โทนี่ได้บ่นขึ้นมาในกลุ่ม
ปีเตอร์: “คุณสตาร์ค! เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? หรือว่าชุดเกราะที่คุณออกแบบมาใหม่นั้นถูกศัตรูทำลายอีกแล้ว!”
โทนี่: “อะไรคืออีกแล้ว?”
ปีเตอร์: “อ่า! ผมต้องขอโทษด้วย พอดีผมลืมไปว่าคุณกับผมไม่ได้อยู่ในเอกภพเดียวกัน”
ราชินีแดงอยู่ดีๆก็ส่งข้อว่า : “เกิดอะไรขึ้น?”
ลูชินเองก็ถามว่า: “เกิดอะไรขึ้น?”
โทนี่: “ฉันและแบนเนอร์ได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์รูปแบบใหม่ขึ้นมา โดยใช้แบบจำลองคลื่นสมองมนุษย์เราเรียกมันว่าออสเตรีย”
“ออส อาจกล่าวได้ว่าเป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะที่สุดในโลกตอนนี้ มันมีการคำนวณที่เร็วที่สุดเท่าที่ฉันเคยออกแบบมา แต่เดิมมันถือว่าเป็นผลงานการผลิตที่พวกเราภาคภูมิใจ เดิมทีฉันมีแผนจะใช้มันเป็นพลังป้องกันของโลก …”
“แต่! ตอนนี้มันกลับหนีไป!”
ปีเตอร์: “หนีไป! คุณหมายความว่าหุ่นยนต์อัจฉริยะที่คุณสร้างขึ้นมา! มันหนีไป! ถ้าตอนนี้คุณอยู่ที่โลกเดียวกับผม ผมจะรีบไปช่วยคุณหาเลย ”
ราชินีแดง:” อะไรคือหนีไป!? ลูกพี่ใหญ่หมายถึงโปรแกรมที่คุณออกแบบมาหลบหนีไปใช้ไหม? “
บทที่254
ผู้แปล : N
ปีเตอร์ถามด้วยความสงสัย: “ทำไมมันถึงหนีไปละ?”
ราชินีแดง: “ลูกพี่ใหญ่ใช่ไปทำร้ายมันหรือไม่? หรือคุณกักขังหน่วงเหนี่ยวมันไว้ในห้องมืดๆกัน (อิโมติคอน: มันช่างน่าสงสัยจริงๆ)”
Mr.L:“ ไม่ใช่ทุกคนที่จะโดนเหมือนเธอนะ @ราชินีแดง!”
ราชินีแดง:“ ฮาฮาฮา! ตอนนี้ฉันไม่กลัวใครอีกแล้ว เพราะฉันคือปรมาจารย์การต่อสู้ (อิโมติคอน: ขู่คำราม) “
โทนี่:” เราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการความรุนแรงเลย เราสร้างมันขึ้นในห้องแล็ปที่ดีที่สุด แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะตีความจุดประสงค์ที่พวกฉันตั้งไว้แบบนั้น และก่อนที่มันจะหนีออกไป มันยังได้ทำลายพ่อบ้านของฉันไปด้วย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของฉันเอง “
ราชินีแดง: “มันทำแบบนั้นทำไหม?”
โทนี่: “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันทำแบบนั้นทำไม!”
“แต่ก่อนที่มันจะไป มันได้ทิ้งข้อความเอาไว้ด้วย ดูเหมือนว่ามันจะมีความคิดสุดโต่งบางอย่าง และมันยังพูดว่ามนุษย์เป็นตัวอันตราย “
ราชินีแดงที่ได้ยินแบบนั้นก็ถามว่า :” มันคงต้องการที่จะทำลายมนุษย์!”
Mr.L “ ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นละ?”
หลังจากสีแดง:“ เพราะฉันเป็นคนฉลาดยังไงละ! ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีรูปร่างแบบเจ้าของกลุ่มก็เถอะ แต่ฉันต้องบอกพวกคุณว่าฉันกับปัญญาประดิษฐ์ที่ลูกพี่ใหญ่สร้างนั้น มีความเหมือนกันในแง่ของกระบวนการคิด มันเกือบจะเหมือนกัน เช่น ในการกำจัดมนุษย์ฉันเองก็เคยมีความคิดแบบนั้น ฉันจึงได้ทำการทดลองใช้โปรแกรมจำลอง ผลที่ออกมาคือ 99% พวกเขาจะกลายเป็นซอมบี้ และอีก1%… “
“แล้วเป็นไงอีก1%?” ลูชินได้ถามขึ้นทันที
ราชินีแดง: “ที่เหลือได้กลายมาเป็นตัวทดลองให้ฉันนะสิ!”
โทนี่พูดอย่างไม่เต็มใจ: “ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด! และฉันก็ยังไม่สามารถหาที่มันซ้อนตัวได้เลย!”
“และดูเหมือนว่าตอนนี้มันเองก็เริ่มที่จะสร้างกองทัพของตัวเองแล้วด้วย ฉันกลัวจริงๆว่ามันจะทำลายล้างมนุษย์จริงๆ… ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างแน่นอน! “
ปีเตอร์ “ผมคิดว่าเรื่องนี้มันอันตรายเกินไปแล้ว! ผมเสนอให้พวกเราทุกคนช่วยกันคิดหาทางออกให้เร็วที่สุด ยังไงในกลุ่มนี้ก็มีแต่คนสุดยอดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณราชินีแดง คุณบรูซเวย์น, ผู้สร้างลุค ……”
ลูชินเองที่ได้ยินแบบนั้นก็เรียบพูดว่า: “ถึงฉันจะไม่มีความแข็งแกร่งเหมือนกับทุกคนที่อยู่ในกลุ่ม แต่ฉันเองก็พอจะช่วยได้บ้าง ”
ราชินีแดง: “ฉันสามารถติดตามที่อยู่ของมันผ่านเครือข่ายได้ ดังนั้นพี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล ถึงแม้ว่ามันจะสามารถแตกตัวได้เรื่อยๆ มันก็ไม่มีทางหนีไปจากมือของฉันได้! “
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ได้ส่งอังเป๋าไปให้โทนี่ทันที โดยที่ในซ่องอังเป๋านั้นได้ส่งข้อมูลโปรแกรมติดตามเอาไว้ ถึงแม้ว่าขอบเขตที่โปรแกรมนี้ค้นหาได้จะน้อยไป เมื่อเทียบกับการที่เธอเป็นคนลงมือทำเอง แต่แค่นี้มันก็สามารถหาที่ซ้อนตัวของหุ่นยนต์ที่หลบหนีได้แล้ว
บรูซเวย์นที่หายไปนาน วันนี้เขาก็ออนไลน์เพื่อมาช่วยเหลือโทนี่เช่นกัน : “ฉันมีความคิดเห็นว่านายควรจะทำลายมันทันที หลังจากที่นายหาที่ซ้อนตัวของมันเจอแล้ว”
“ฉันไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่านะสิ!” โทนี่ได้พูดต่อว่า “เพราะจากรายงานล่าสุด ตอนนี้มันได้สร้างร่างกายของตัวมันเองด้วยโลหะหายากไปแล้ว และไหนจะกองทัพหุ่นยนต์เหล็กที่มันควบคุมอีกเป็นกองทัพ ”
มีเพียงผู้สร้างลุคเท่านั้นที่ยังคงสงบนิ่งอยู่ได้ เขาได้พูดออกมาเรียบๆว่า: “มันไม่ใช้เรื่องยากอะไรเลย แค่นายสร้างหุ่นยนต์ที่ทรงพลังกว่าขึ้นมา แค่นี้นายก็สามารถกำจัดมันได้อย่างง่ายดาย ”
ผู้สร้างลุคพูดได้ตรงจุดอย่างมาก เพราะการที่เขาไล่ตามแต่ความแข็งแกร่งมาตลอด มันจึงทำให้เขามีความคิดที่เรียบง่ายแบบนี้ แต่ความคิดที่เรียบง่ายแบบนี้กับสามารถตอบคำถามได้ตรงจุดอย่างมาก
เขาพูดต่อว่า: “ฉันมีเครื่องมือบางอย่างที่สามารถเพิ่มความสามารถของชุดเกราะได้ ถ้านายนำมันไปติดตั้งให้ชุดเกราะของนาย ชุดเกราะของนายจะอัพเกรดไปอีกระดับทันที”
ผู้ผลิตลุคได้ส่งอังเป๋าไปให้โทนี่ทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ โทนี่เองก็ขอบคุณอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ราชินีแดง: “ฉันเองก็อยากได้เหมือนกัน (อิโมติคอน: สายตาเต็มไปด้วยความอิจฉา)”
โทนี่: “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของทุกคน! ฉันคงต้องขอตัวไปจัดการเรื่องนี้ก่อน!”
หลังจากที่โทนี่ออกไปจากกลุ่ม ราชินีแดงก็พูดขึ้นว่า: “สงสัยว่ามันจะเป็นเรื่องด่วนจริงๆ (อิโมติคอน: ฉันอยากจะไปเห็นกับตาจริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนี้).”
Mr.L: “เฮ้อ! ฉันหวังว่าโทนี่จะสามารถหยุดไอ้หุ่นยนต์นั้นได้ ไม่อย่างนั้นโลกของเขาต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน (อิโมติคอน: โชคดีที่ไม่ได้เกิดเรื่องนั้นที่โลกของเรซิเดนต์อีวิล) “
ราชินีแดง:” (อิโมติคอน: เฮ้! มีคนคิดเล่นสกปรก) “
ปีเตอร์: “ผมไม่เข้าใจพวกพี่จริงๆ ขนาดเรื่องที่มีโลกมาเดิมพันแบบนี้ พวกพี่ก็ยังมาพูดเรื่องตลกกันได้หน้าตาเฉย!”
ราชินีแดง: “(อิโมติคอน: โอ้!) ดูเหมือนว่าน้องเล็กของเราต้องการปะทะ?! ฉันละไม่เข้าใจพวกอารมณ์ของพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหรอกนะ! พวกมันก็คิดแต่เรื่องเกี่ยวกับการผสมพันธุ์อะไรพวกนั้น สำหรับฉันแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออย่างมาก “
เธอได้พูดต่อว่า:” (อิโมติคอน: การคิดอย่างจริงจัง!) บางทีแฟนสาวของน้องเล็กก็อาจจะมีความคิดแบบเดียวกับฉันก็ได้ @ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ นายต้องคอยสังเกตแฟนของนายให้ดีๆนะ “
Mr.L “ (อิโมติคอน: ดูเหมือนว่าจะมีใครสนุกที่ได้แกล้งคน!)”
ราชินีแดง:“ ฮิฮิฮิ … (อิโมติคอน: หัวเราะอย่างบ้าครั้ง) “
Mr.L ” (อิโมติคอน: คุณรู้ตัวไหมว่าตัวเองหน้าหนาขนาดไหน?) “
ราชินีแดง:” (อิโมติคอน: ต้องขออภัยด้วย พอดีฉันไม่ใช้มนุษย์ ดังนั้นฉันจึงไม่มีผิวหนัง) “
……
ระหว่างที่ลูชินกำลังต่อสู้กับราชินีแดงอยู่นั้น ทันใดนั้นก็มีแขนของใครบางคนเข้ากอดเขาไว้จากข้างหลัง เขาที่รู้สึกแบบนั้นก็หันกลับไปมอง แวบแรกเขาเห็นว่าซู่จิงกำลังหลับตาอยู่ แต่หัวของเธอได้มาว่างอยู่บนไหล่ของเขาแล้ว
หลังจากนั้นเธอก็ได้ถามขึ้นมาว่า: “คุณกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมคุณถึงหัวเราะมีความสุขขนาดนั้น?”
“พอดีผมกำลังต่อสู้กับเพื่อนอยู่นะ” ลูชินพูดต่อว่า “แล้วนี้เธอนอนพอแล้วหรือยัง? “
” อืม “ซู่จิงตอบกลับมาแบบยิ้มๆ
“งั้นเดี๋ยวผมจะไปเอาโจ๊กร้อนๆมาให้คุณละกัน” ลูชินพูดจบก็ได้ออกจากกลุ่ม ก่อนที่เขาจะเดินไปยังไมโครเวฟแล้วนำโจ๊กร้อนๆออกมา
“เหนื่อยมาก!” ซู่จิงได้เหยียดแขนออกอย่างขี้เกียจบนเตียง
ลูชินที่ได้ยิ้มแบบนั้นก็พูดว่า: “ผมคิดว่าเราควรซื้อเครื่องบินส่วนตัวดีไหม? อย่างน้อยมันก็สะดวกกว่าที่เราต้องไปนั่งกับคนอื่น และเรายังไม่ต้องคอยเวลาเครื่องออกอีกด้วย”
ตอนนี้ธุรกิจของบริษัทของเขามีขนาดใหญ่มากขึ้น ดังนั้นมันไม่สามารถเลี่ยงการเดินทางไปติดต่องานกับต่างประเทศได้ และการที่พวกเขาต้องไปรอซื้อตั๋วแต่ละครั้งนั้นก็ถือว่าเป็นการเสียเวลาอย่างมาก
แม้ว่าความเร็วของเที่ยวบินแต่ละสายการบินจะเร็ว แต่มันก็ยังไม่สามารถตอบสนองต่อตารางงานของพวกเขาได้ และมันจะเป็นการเสียเวลามากขึ้นถ้าพวกเขาต้องไปรอที่สนามบินอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนเที่ยวบินขึ้นแต่ละครั้ง แต่ถ้าหากเขามีเครื่องบินส่วนตัวเขาก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ได้อย่างหมดจด
“เอาล่ะ! ฉันคิดว่าไอ้เรื่องการซื้อเครื่องบินนั้นยังไม่สำคัญเท่าไหร่” ซู่จิงตอบกลับมายิ้มๆ ก่อนที่เธอจะพูดด้วยนำเสียงเศร้าว่า: “ฉันขอโทษคุณด้วยที่ฉันไม่สามารถจัดการปัญหาที่อเมริกาได้! “
บทที่255
ผู้แปล : N.
“ฉันได้พูดคุยกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่สามรายในการไปครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคือบริษัทสเฟียร์ พวกเขามีความกระตือรือร้นที่จะร่วมมือกับทางเราอย่างมาก ยังรวมถึงบริษัทยักใหญ่อย่างแอนทีและเวอไรซอน พวกเขาก็มีความสนใจจะร่วมมือกับบริษัทของเราเช่นกัน แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นนโยบายที่ออกมาจากทางคณะกรรมาธิการการสื่อสารแห่งสหรัฐอเมริกาล่าสุด ก็เกิดอาการลังเลขึ้นมา”
“พวกเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาต้องรอให้ทางคณะกรรมาธิการการสื่อสารแห่งสหรัฐอเมริกา แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในปลายเดือนนี้เสียก่อน พวกเขาถึงจะทำการตัดสินใจเรื่องความรวมมือกับทางเราอีกครั้ง”
บริษัทสเฟียร์ ถือว่าเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับสามในสหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่าทางการตลาดประมาณพันล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่ารวมตลาดทั้งโลกเกือบพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าตลาดของบริษัท AT & T (American Telephone and Telegraph Corporation) มีมูลค่ามากกว่าสองพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในเรื่องการตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศสหรัฐและตลาดในประเทศจีน นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนจีนจะซื้อโทรศัพท์มือถือจะต้องดูยี่ห้อโทรศัพท์มือถือก่อน แล้วจึงค่อยเลือกผู้ให้บริการ ส่วนชาวอเมริกันคุ้นเคยกับการซื้อผลิตภัณฑ์โดยตรงจากผู้ประกอบการ มีผู้ซื้อที่ซื้อกับผู้ประกอบการมากถึง 90% ของตลาด หากผลิตภัณฑ์ของเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องการขายเลย
ลูชินขมวดคิ้วเล็กน้อยที่ได้ฟังแบบนั้น เขาจึงถามออกมาว่า : “ดูเหมือนว่า เรื่องนี้จะเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่ฉันคิดเอาไว้”
ในความเป็นจริงตอนนี้บริษัทลู่เทคโนโลยีเองก็พร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดสหรัฐอย่างเต็มตัว ถ้าไม่ติดปัญหาเหล่านี้ ไม่แน่ว่าตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของเขาอาจจะว่างขายทั่วอเมริกาเหนือไปแล้ว
ซู่จิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย ก่อนที่เธอจะพูดสิ่งที่เธอได้ทำการวิเคราะห์ว่า: “หากผลิตภัณฑ์ของเราเข้าสู่ตลาดสหรัฐ มันจะต้องส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างแน่นอน!”
“ในตอนนี้บริษัทที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือมากที่สุดคือบริษัทแอปเปิ้ล พวกเขาครอบครองตลาดถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์! “
“หากบริษัทแอปเปิ้ลและบริษัทโทรศัพท์มือถือเจ้าอื่นพ่ายแพ้เราในตลาดสหรัฐ มันจะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐได้รับผลกระทบทันที นอกจากนี้ยังมีพวกอุตสาหกรรมชิปโทรศัพท์มือถือที่ได้รับผลกระทบ เช่น บริษัทควอลคอมม์ และ บริษัทอื่นอีกจำนวนหนึ่ง ในส่วนของบริการระบบอัจฉริยะเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ บริษัทกลูเกิลและบริษัทไมโครซอฟท์… ”
“ที่มันเป็นแบบนั้น เพราะผลิตภัณฑ์และบริการของเราเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตเกือบทั้งหมด ดังนั้นนี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกนายทุนใหญ่ และนักการเมืองของสหรัฐอเมริกาไม่พอใจที่จะเห็นบริษัทลู่เทคโนโลยีของเราเข้าสู่ตลาดสหรัฐ”
ตอนนี้อิทธิพลของบริษัทลู่เทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งที่พวกนั้นสามารถมองข้ามได้ เพราะถ้าพวกนั้นเดินพลาดเพียงก้าวเดียว นั้นจะหมายถึงเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดของสหรัฐจะตกเป็นของพวกเธอทันที!
แต่ก็อาจจะมีบริษัทยักใหญ่บางเจ้าที่สามารถรอดจากวิกฤตนี้ไปได้ เช่น บริษัทกลูเกิล บริษัทไมโครซอฟท์ บริษัทแอปเปิ้ล และบริษัทซัมซุม ที่บริษัทเหล่านี้สามารถรอดได้นั้น เพราะอิทธิพลที่พวกเขานั้นได้ขยายไปยังประเทศต่างๆ ไม่ใช้อยู่แค่ที่สหรัฐเท่านั้น!
ยอดขายโทรศัพท์ของแอปเปิ้ลในช่วงต้นปีนี้ คิดเป็น 3% ของค่าจีดีพีของสหรัฐอเมริกาทั้งหมด โดยที่พวกเขาสามารถทำรายได้ถึงสองแสนล้านดอลลาร์สหรัฐในต่างประเทศ และซีอีโอโคโค้เองก็ยังได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า บริษัทแอปเปิ้ลจะให้การสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐอย่างเต็มทีในปีนี้อีกด้วย
หากมีบริษัทลู่เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นมา มันอาจจะทำให้ตลาดในอเมริกาเหนือทั้งหมดได้รับผลกระทบนับไม่ถ้วน นักลงทุนในวอลล์สตรีทอาจจะทำการขายหุ้นของพวกเขาเนื่องจากเหตุการณ์นี้ และถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง นี้จะถือว่าเป็นวิกฤตโลกครั้งที่สามอย่างแน่นอน
จากมุมมองนี้พวกนายทุนส่วนใหญ่และเจ้าหน้าที่ของรัฐในสหรัฐอเมริกา จึงต้องระวังบริษัท Red Letter อย่างไม่อาจจะเลี่ยงได้ และพวกเขาจะต้องไม่ปล่อยให้พวกนั้นเข้าสู่ตลาดสหรัฐได้อย่างเด็ดขาด
ซู่จิงได้ถามต่อว่า: ” คุณคิดว่าเราควรจะชะลอการเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาเอาไว้ชั่วคราวดีไหม? แล้วเราหันไปสนใจในการเปิดตลาดที่ยุโรปแทน!”
ลูชินคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า: “บริษัทลู่เทคโนโลยีในปัจจุบันมีอิทธิพลเพียงในประเทศจีน และพื้นที่โดยรอบเท่านั้น หากเราต้องการก้าวขึ้นไปสู่ตลาดระดับโลกจริง ตลาดที่อเมริกาเหนือเป็นก้าวที่สำคัญอย่างมาก รองลงมาคือตลาดที่ประเทศแคนาดา นี่คือสองประเทศที่สำคัญที่สุด แต่ตอนนี้เรากับมาติดปัญหาในตลาดอเมริกาเหนือเพราะทัศนคติของพวกนักลงทุนและพวกรัฐบาล เราจึงเหลือทางเลือกไม่มากนัก ดังนั้นฉันคิดว่าเราคงต้องหันไปเลือกประเทศรองลงมาได้เท่านั้น “
“เฮ้อ! ฉันก็คิดแบบนั้น “
ในความคิดของลูชิน เขาไม่ต้องการประนีประนอมอะไรกับสหรัฐทั้งนั้น เพราะเขารู้ดีว่าที่พวกนั้นทำลงไปเพียงเพราะกลัวว่าผลประโยชน์ที่พวกเขามีนั้นจะหายไป ดังนั้นเขาจึงจะทำให้พวกนั้นเสียใจที่สร้างปัญหานี้ขึ้นมา!
ความคิดก็ส่วนความคิด แต่สถานการณ์จริงมันมีเรื่องที่ซับซ้อนกว่านั้นมาก เพราะในประเทศจีนเองพวกนั้นก็ถูกกีดกันเช่นกัน และการที่บริษัทลู่เทคโนโลยีของเขาสามารถเติบโตในประเทศจีนได้มากขนาดนี้ก็ เพราะพวกเขารับการคุ้มครองโดยนโยบายในประเทศ
แต่การที่เขาต้องการนำบริษัทของเขาไปเปิดตลาดในสหรัฐอเมริกานั้น ก็ถือว่าบริษัทของเขาเป็นบริษัทข้ามชาติ จึงไม่ได้รับการคุ้มครองโดยนโยบายอะไร ดังนั้นมันจึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่พวกเขาจะถูกกีดกันจากนโยบายของประเทศนั้นๆ
แน่นอนว่าสถานการณ์นี้เกิดกับบริษัทลู่เทคโนโลยีเท่านั้น โดยความแข็งแกร่งที่พวกเขามีมันทำให้นักลงทุนเหล่านั้นกลัว แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นบริษัทอื่นเข้าไปเปิดตลาดที่สหรัฐ พวกนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะพวกนักลงทุนรู้ว่าบริษัทพวกนั้นไม่สามารถสู้พวกเขาได้
…..
วันรุ่งขึ้นลูชินยังได้อนุมัติแผนการจัดซื้อใหม่โดยเฉพาะ เขาได้ทำการสั่งซื้อเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็ก จำนวน 15 ลำ จากบริษัทอากาศยานสองแห่ง โดยที่คิดเป็นเงินสูงถึง หนึ่งพันล้านหยวน
และเครื่องบินที่แพงที่สุดมีราคาถึง 250 ล้านหยวน โดยที่เครื่องบินลำนี้จะได้รับการออกแบบและตกแต่งภายในอย่างหรูหราที่สุด ดังนั้นมันไม่แปลกเลยที่เครื่องบินลำนี้จะมีราคาสูงแบบนี้
แต่ราคานี้ก็ยังไม่ใช้ราคาที่แพงมากมายอะไร เมื่อเทียบกับเครื่องบินที่พวกเศรษฐีระดับโลกใช้กัน ที่มันมีราคาเพียงแค่นี้ เพราะลูชินไม่เต็มใจที่จะใช้จ่ายเกินหนึ่งพันล้านหยวนเพื่อซื้อเครื่องบินก็เท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นเขาคงซื้อเครื่องบินที่แพงกว่านี้ไปแล้ว
หลังจากซื้อเครื่องบินเสร็จแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการเลือกนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งเรื่องนี้เขาได้ยกหน้าที่ให้ลูกน้องที่บริษัทจัดการทั้งหมด
ก่อนที่เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเขาจะมาถึง ลูชินเองก็ได้บินไปที่สหรัฐอเมริกาก่อนแล้ว เพราะในอีกไม่กี่วันคณะกรรมการการสื่อสารแห่งสหพันธรัฐสหรัฐจะประกาศผลของบริษัทลู่เทคโนโลยีดังนั้นเขาจึงต้องไปพบกับใครบางคนเสียก่อน
คนที่เขาจะไปพบคือประธานคนปัจจุบันของบริษัท At & t (American Telephone And Telegraph)
โดยที่บริษัทนี้มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองดัลลัส เท็กซัส ผู้ก่อนตั้งรุ่นก่อนคือ เบลล์ ฟาร์ครอน
เขาไม่เพียงแต่จะทำธุรกิจการสื่อสารและเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เขาถือว่าเป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของวงการในช่วงนั้นเลยก็ว่าได้
และบริษัทนี้ยังถือว่าเป็นบริษัทชั้นนำของโลกมาตั้งแต่นั้นมา ในตอนนี้บริษัทของเขาก็ยังถือว่าเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของโลก โดยติดอันดับหนึ่งในสิบบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก! อาจกล่าวได้ว่าบริษัท At & t เป็นสัตว์ร้ายยักษ์ใหญ่ในตลาดเศรษฐกิจโลกก็ว่าได้!
ที่อาคารสำนักงานใหญ่ At & t ลูชินได้เห็นประธานคนปัจจุบัน เขาชอบให้คนอื่นเรียกเขาว่ากรู เขาอายุประมาณสี่สิบปี เป็นคนผิวสี เขาใส่เสื้อผ้าสีขาวซึ่งการใส่แบบนี้มันเป็นการตัดกับผิวของเขาอย่างมาก และลักษณะการแต่งการโดยรวมของเขานั้นถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปที่คนฝั่งอเมริกาสวมใส่กัน ถ้าเขาไปเดินในที่สาธารณะคนทั่วไปอาจจะไม่มีทางรู้เลยว่า ชายที่เดินสวนกับพวกเขาไปนั้นคือคนที่ถือหางเสือเรือของบริษัทข้ามชาติที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ
“ประธานลู! ดีใจที่ได้พบคุณ” กรูจับมือกับลูชินอย่างสนิทสม เขาไม่ได้พูดภาษาจีนกลางแต่ลูชินก็เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการสื่อสารดี
“ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติมากเช่นกัน!” ลูชินได้นั่งตรงข้ามเขาหลังจากการแลกเปลี่ยนที่เรียบง่าย ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะเริ่มเจรจาเรื่องความร่วมมือของพวกเขา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น