The Black Technology 160-180

 บทที่160

ผู้แปล : N.

เห็นสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ เฉิงหยิงไม่รู้ว่าต้องทำอะไร

เมื่อหูจิงได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้ยว่า: “นายพูดว่าอะไรนะ! ได้! ฉันจะไปเรียก ร.ป.ภ มาลากพวกแกออกไป!”

“คุณหูนี่ … ” เฉิงหยิงได้รีบเข้าไปห้ามทันทีแต่ก็ไม่ทัน

หูจิงได้วิ่งไปที่ประตูแล้วไปหาผู้คุ้มกันของซู่เซ๋วเหมิง

ทางด้านภายในห้องนั้น เซี่ยยูได้รู้ว่าตอนนี้ลูชินมาถึงแล้ว เขาประหลาดใจ: “ประธานลูมาถึงแล้ว ผมต้องออกไปรับเขาก่อน”

หลิงยูเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม: “อ่า ประธานลูมาถึงแล้ว พวกเราควรออกไปต้อนรับเขาด้วยกัน”

ซู่เซ๋วเหมิงได้ยืนขึ้นและออกไปกับพวกเขา

เมื่อพวกเขาออกมาพบ หูจิงพร้อมกับบอดี้การ์ดของซู่เซ๋วเหมิงสองคนกำลังเข้าไปหาลูชินและพวกเขายังได้ยินว่า: “พวกนั้นเป็นตัวสร้างปัญหา พามันออกไป!”

หลิงยูเฟิงไม่รู้จักลูชิน และเซี่ยยูก็ยังไม่ได้ออกมาจากห้อง

ซู่เซ๋วเหมิงได้เห็นการกระทำทั้งหมด เขาเข้าไปถามทันทีว่า: “หูจิง เกิดอะไรขึ้น?”

หูจิงกระซิบตอบว่า: “คนพวกนี้เข้ามาสร้างปัญหาให้พวกเรา ดังนั้นฉันจึงได้ให้คนไล่พวกนั้นออกไป!”

ซู่เซ๋วเหมิงได้ยินแบบนั้นก็ได้มองดูทั้งสามด้วยสายตาที่น่ารังเกียจและพูดว่า: “เป็นพวกที่น่ารำคาญจริงๆ”

เป็นเวลานานที่ไม่มีใครพูดคำนี้กับลูชิน

ทางด้านของหลิงยูเฟิงเขาได้เห็นว่าซู่เซ๋วเหมิได้เข้าไปผสมโรงการทะเลาะครั้งนี้ด้วยตัวเอง และเขายังได้พูดคำพูดที่รุนแรงออกไปอีกด้วย มันทำให้เขาต้องขมวดคิ้วออกมาหลังจากที่ได้เห็นการกระทำนั้น

ในความเป็นจริงเขาไม่ชอบซู่เซ๋วเหมิงมากนัก แต่เขาก็อยู่ในวงการนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาต้องสุภาพกับเพื่อนร่วมทางคนนี้ แต่ในใจของเขาคิดว่า ‘คุณภาพของซู่เซ๋วเหมิงนั้นน่าผิดหวังจริง!’

เขาจึงได้เดินเข้าไปและพูดว่า: “เพื่อน นายควรเชิญพวกเขาออกไปดีๆ พวกเขาอาจจะมาผิดห้องก็ได้?”

เห็นการกระทำของหลิงยูเฟิง, ซู่เซ๋วเหมิงพูดในใจของเขาว่า: “แกมันใจกว้างจริงๆนะ!”

จากนั้นเขาก็พูดว่า: “โอ้ เห็นแก่หน้าของคุณหลิง พวกแกก็ออกไปจากห้องนี้ได้!”

ซู่เสี่ยวที่เห็นหลิงยูเฟิงก็ตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของซู่เซ๋วเหมิงก็หมดอารมณ์ทันที!

หลังจากที่ซู่เซ๋วเหมิงพูดประโยคนั้นจบ เขาได้ยิ้มอย่างน่ารังเกียจและใช้สายตาดูหมิ่นไปทางพวกลูชินทันที ลูเว่ยที่เห็นทัศนคติที่รุนแรงของซู่เซ๋วเหมิงก็ไม่ไม่กล้าพูดอะไรเลย

ลูชินได้เข้าไปปลอบโยนและพูดว่า: “อย่ากลัวเลยฉันอยู่ที่นี่ ในวันนี้จะไม่มีใครสามารถรังแกพวกเธอได้”

เขาพูดจบก็ได้พากซู่เสี่ยวและลูเหว่ยไปนั่งบนโซฟาทันที เขานั่งตรงกลางแล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า : “เซี่ยยู อีกนานไหมที่นายจะออกมา”

หลิงยูเฟิงได้เห็นว่าคนตรงหน้ายังคงดูสงบและเขายังพูดชื่อของเซี่ยยูขึ้นมาอีกด้วย หลิงยูเฟิงจึงถามไปว่า “สุภาพบุรุษคนนี้ คุณรู้จักเซี่ยยูด้วย?”

“แน่นอน ฉันรู้จัก” ลูชินพูดจบเซี่ยยูก็ได้เดินออกมาจากในห้อง

เมื่อเขาเห็นลูชินนั่งอยู่บนโซฟาเขาได้ยิ้มออกมาและพูดว่า: “ประธานมาเร็วจริงๆ ผมเพิ่งพูดว่าจะไปรับ ไม่คิดว่าประธานจะมาถึงแล้ว”

“ประธาน” หลิงยูเฟิงที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงอาการประหลาดใจออกมา     ซู่เซ๋วเหมิงและหูจิงก็ไม่ใช่คนโง่มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาเห็นว่าเซี่ยยูนั้นให้ความเคารพในน้ำเสียงตอนพูดไปแค่ไหน

หูจิงไม่เชื่อว่าลูชินจะเป็นประธานของของบริษัทลู่เทคโนโลยี เธอถามไปอย่างรวดเร็วว่า: “ประธานลู?”

เซี่ยยูได้ยินแบบนั้นก็พูดแนะนำ: “ใช้ คนตรงหน้าของผมนี้คือประธานใหญ่ของบริษัทลู่เทคโนโลยีของเรา ประธานลูชิน ”

เซี่ยยูที่พูดจบซุ่เสี่ยวก็ถามเป็นครั้งแรกว่า: “พี่เขย พี่เป็นประธานลูคนนั้น? “

ลูชินพยักหน้ายอมรับและลูเหว่ยที่อยู่ด้านข้างมองไปยังลูชินด้วยความประหลาดใจ พี่เขยของซู่เสี่ยวเป็นถึงเจ้าของบริษัทยักใหญ่ ก่อนที่เธอจะมาเธอก็คิดว่าพี่เขยของซุ่เสี่ยวแค่เป็นหัวหน้าแผนกเสียอีก ใครจะไปคิดว่าเขาจะสุดยอดขนาดนั้น

อย่างไรก็ตามไม่ใช้แค่พวกเธอจะตกใจ คนที่อยู่ที่นี้ก็ตกใจไม่แพ้พวกเธอเหมือนกัน!

หูจิงตะลึงทันทีที่นี้คือเรื่องจริง มันเป็นเรื่องจริง! เขาได้พูดให้พวกเธอออกมาขอโทษและเขาก็ยังเป็นประธานของบริษัทลู่เทคโนโลยีจริงๆ

ยิ่งกว่านั้นการที่เธอพึ่งไปด่าและไล่เขาออกไป มันเป็นการตัดอนาคตของพวกเธอไปจริงๆ นี่เป็นการเทน้ำมันลงบนกองไฟ!

หูจิงรู้สึกว่าตอนนี้โลกได้หมุน ตลอดมาที่เธอทำอาชีพของเธอ เธอไม่เคยประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เช่นนี้มาก่อน!

ทางด้านซู่เซ๋วเหมิงเองก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเช่นกัน เขาได้พูดดูถูกลูชินไปและเขายังไล่ให้พวกเขาออกไปจากที่นี้อีกด้วย

แม้ว่าเขาจะได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อเร็วๆนี้ และมีการขยายตัวของฐานแฟนคลับจำนวนมาก แต่เขาก็ยังไม่มีกล้าพอที่จะไปทำให้บริษัทลู่เทคโนโลยีโกรธได้!

ตอนนี้ในสถานการณ์นี้ เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงเขาได้มองไปทางหูจิงเพื่อขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเขาเห็นได้ว่าตอนนี้ใบหน้าของหูจิงได้มีเหงื่อออกจำนวนมากบนหน้าผากของเธอ

เฉิงหยิงเองก็ตกใจเช่นกันที่สถานการณ์กลับกลายเป็นแบบนี้

หลิงยูเฟิงนั้นดีกว่าพวกนั้นมาก เพราะเขาไม่เพียงไม่ได้รุกรานลูชิน แต่เขากลับเข้าไปปกป้องพวกเขาในตอนแรกอีกด้วย

เขาพูดอย่างรวดเร็วว่า “เป็นโชคดีของผมในวันนี้ที่ได้เจอคุณลู ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก”

ลูชินลุกขึ้นยืนแล้วจับมือกับหลิงยูเฟิงแล้วนั่งลงอีกครั้ง

หูจิงได้ยิ้มออกมาและพูดว่า: “โอ้! คุณคือประธานลู ฉันต้องขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย!”

“มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่ซู่เซ๋วเหมิงชอบทำ ฉันต้องขอ……… “

เธอต้องการแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แต่เมื่อเธอกำลังพูดนั้นลูชินได้พูดขัดจังหวะเธอโดยตรงว่า “หยุด!”

เสียงของหูจิงหยุดลงทันที เธอครวญครางด้วยความประหลาดใจและมองดูซู่เซ๋วเหมิงและหลิงยูเฟิง

“ประธานลู เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยยูถามออกไป

“ คนสองคนนี้ ฉันไม่อยากเห็น” ลูชินพูดออกมาอย่างง่าย ๆ

ใบหน้าของซู่เซ๋วเหมิงนั้นแสดงออกอย่างน่าละอาย เขาคุ้นเคยกับเป็นผู้กระทำคนอื่นเสมอมา เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะมีวันนี้ วันที่เขาเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ!

เขาต้องการที่จะทำอะไรบางอย่าง แต่หูจิงที่อยู่ข้างๆเขา ได้คว้าเขาไว้ก่อนและพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ายินดีว่า: “คุณยังติดหนี้ขอโทษเด็กหญิงคนนั้นอยู่ คุณจำได้ไหม?”

“อะไรนะ? ฉันขอโทษ?” ซู่เซ๋วเหมิงแสดงอาการโกรธออกมาและพูดต่อว่า “เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันไม่ต้องการพูดขอโทษออกไป”

“ฉันไม่ต้องการเป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัทนี้แล้ว ฉันไม่คิดว่ามันจะหายากเย็นอะไรกับการเป็นพรีเซนเตอร์พวกนั้น!”

ลูชินพูดกับเซี่ยยูว่า: “ฉันไม่คิดเลยว่า นายจะไปหาดาราที่มีพฤติกรรมแย่ๆแบบนี้มาเป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัทเรา”

เซี่ยยูได้ยินแบบนั้นหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำในทันทีและพูดขอโทษลูชินว่า: “ประธานลู ผมต้องขอโทษในความประมาทของผมในครั้งนี้ด้วย ผมจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก “

บทที่161

ผู้แปล : N.

ซู่เซ๋วเหมิงพูดอย่างรุนแรงว่า: “ฉันจะไม่ขอโทษ!”

เซี่ยยูพูดว่า: “คุณพูดอะไรนะ!”

“ได้…ตั้งแต่วันนี้ไปบริษัทลู่เทคโนโลยี และพันธมิตรของเราจะปฏิเสธที่จะร่วมมือกับคุณและบริษัทบันเทิงชั้นนำที่อยู่ข้างหลังคุณ!”

“ฉันต้องเตือนคุณว่า คุณได้ทำเรื่องที่สกปรกมาเยอะถึงแม้บริษัทของคุณจะช่วยคุณปกปิดมันไว้ แต่เราไม่ใช้ เราคือบริษัทลู่เทคโนโลยี เราจะไม่ยอมทนกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ”

หูจิงได้ฟังแบบนั้นก็หน้าซีดขึ้นมาทันที สิ่งที่อีกฝ่ายบอกมานั้นถือว่าเป็นคำขาด หากซู่เซ๋วเหมิงยังคงตั้งใจที่จะไม่ขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรับรองว่าเรื่องนี้ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน

ช่องทางและเครือข่ายของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นแข็งแกร่งกว่าของพวกเธอมาก หากบริษัทของพวกเขากดดันบริษัทของเธอขึ้นมาจริงๆ มันคงเป็นความสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะเธอรู้ว่าซู่เซ๋วเหมิงนั้นทำเรื่องสกปรกไว้มากขนาดไหน ที่มันไม่เป็นข่าวมาถึงทุกวันนี้นั้นเพราะบริษัทได้ทำการปกปิดให้เขา แต่ถ้าบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการขุดคุ้ยความผิดเก่าๆของซู่เซ๋วเหมิงขึ้นมาละก็ บริษัทของเธอต้องถูกผลกระทบอย่างแน่นอน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คือซู่เซ๋วเหมิงเป็นคนผิด นี่จึงทำให้เธอไม่มีเงื่อนไขที่จะเจรจากับอีกฝ่าย

“ซู่เซ๋วเหมิง! คุณยืนอยู่นิ่งๆได้ไหม!” หูจิงตะโกนออกมาและเธอเดินไปหยุดอยู่หน้าซู่เซ๋วเหมิงจากนั้นกระซิบว่า: “คุณยอมทำเพื่อบริษัทได้ไหม คุณไปขอโทษพวกเขาหน่อยนะ!”

“เป็นไปไม่ได้!” ทัศนคติของซู่เซ๋วเหมิงแสดงออกมาชัดเจน

หูจิพูดว่า: “ฉันรู้ว่าคุณไม่ต้องการเสียหน้า แต่เรื่องนี้มันส่งผลต่อภาพรวมของบริษัท…”

ระหว่างที่เธอกำลังพูดก็ได้มีสายเรียกเข้าจากซีอีโอของบริษัทซุปเปอร์สตาร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์

บริษัทซุปเปอร์สตาร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ พวกเขานั้นมีศิลปินแนวหน้ามากมาย เคลือโรงละครภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ขนาดใหญ่เป็นของตัวเองอีกด้วย

เมื่อซีอีโอได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเขาก็โกรธทันทีและพูดว่า “ฉันจะถามเธอว่าเรื่องในครั้งนี้ใครผิด ถ้าเป็นบริษัทลู่เทคโนโลยีเราจะสู้เรื่องนี้ให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน…”

“อะไรนะ เรื่องทั้งหมดเกิดเพราะซู่เซ๋วเหมิง!”

“เธอส่งโทรศัพท์ไปให้มันคุย! “

หูจิงได้ยื้นโทรศัพท์ไปให้กับซู่เซ๋วเหมิง เธอพูดว่า:” เจ้านายต้องการคุยกับคุณ “

ซู่เซ๋วเหมิงถอนหายใจถอนและพูดว่า” สวัสดีครับ “

อีกฝั่งได้พูดขึ้นมาทันที “ซู่เซ๋วเหมิง นายทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม ในสายตาของนายทุกคนต้องอยู่ต่ำกว่าตัวนายเสมอเลยใช้ไหม!”เขาพูดต่อว่า “ฉันจะถามนายประโยคเดี่ยว นายไปทำร้ายน้อยสาวของประธานลูทำไหม นายคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรือไง? ”

” ฉันต้องการให้นายไปขอโทษพวกเขาทันที หากนายทำให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทละก็ ฉันจะไล่นายออก! นายเข้าใจไหม? ”

ซู่เซ๋วเหมิงได้ยินแบบนั้นก็แสดงหน้ามืดมนออกมา แต่เขาก็ไม่กล้าเถียงกลับไปเพราะเขารู้ดีว่าคำพูดของเจ้านายของเขานั้นมีผลยังไงในวงการบันเทิง ถ้าเขาไม่ทำตามที่เจ้านายบอกเขาต้องจบอนาคตในวงการอย่างแน่นอน!

ดวงตาของเขาเป็นสีแดงและเขามองไปที่ลูชิน  ตอนนี้ลูชินยังคงนั่งอยู่บนโซฟาและด้านข้างของเขาก็มีซู่สี่ยวและลูเหว่ยนั่งอยู่ด้วย

ซู่เซ๋วเหมิงยังคงนิ่งอยู่ ทันใดนั้นหูจิงได้เดินมาผลักเขาไปยืนต่อหน้าลูชิน เขาจำต้องพูดว่า “ประธานลู! ผมต้องขอโทษด้วยกับการกระทำของผมก่อนหน้านี้”

“ขอโทษฉัน?” ลูชินถาม

“ใช่ … ” ซู่เซ๋วเหมิงได้พูดออกมาด้วยความไม่เต็มใจ ทางด้านหลิงยูเฟิงก็ได้เดินออกไปด้านข้างและแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร

“และฉันไม่ควรดูถูกพวกคุณ!” ซู่เซ๋วเหมิงหายใจเข้าลึกๆและพูดต่อว่า“ ฉันต้องขอโทษคุณจากใจจริง”

“ โอ้”

หากมีโอกาสซู่เซ๋วเหมิงต้องการชกลูชินซักครั้ง แต่เขาไม่กล้าเพราะเขาเพิ่งได้ยินคำพูดของเจ้านาย เขายังต้องการที่จะสนุกกับชีวิตการเป็นดาราอยู่ ดังนั้นเขาต้องทนกับเรื่องนี้เท่านั้น

เขาหันไปหาลูเหว่ยและกระซิบว่า: “ขอโทษที่ผมได้ผลักเธอไป มันเป็นความผิดของผม”

ดวงตาของลูเหว่ยเบิกกว้าง เธอไม่เคยคิดเลยซู่เซ๋วเหมิงจะมาขอโทษตัวเอง!

ด้านหลังของซู่เซ๋วเหมิงนั้นคือหลิงยูเฟิง ตอนนี้เขากัดริมฝีปากของเขาแล้วมองไปที่ซู่เซ๋วเหมิงซึ่งยังขอโทษในการกระทำของตัวเอง เขาต้องยอมรับว่ามุมมองที่เขามองซู่เซ๋วเหมิงได้พังทลายลงมา!

เขาได้มองเห็นความกลัวในสายตาของมองซู่เซ๋วเหมิง โชคดีที่เขายังไม่ได้ทำอะไรผิดออกไป ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงเป็นเขาที่ต้องทำเรื่องน่าอายนี้!

ซู่เสี่ยวดูตื่นเต้นมาก เธอไม่คิดเลยว่าพี่เขยของเธอจะเป็นคนที่สุดยอดขนาดนี้!

“ฉันจะรับไว้ ถึงรู้ว่านั้นคือคำขอโทษที่นายพูดส่งๆมาก็ตาม พวกนายไปได้แล้ว!” ลูชินโบกมือไล่ให้ออกไป เขาได้ใช้น้ำเสียงที่หูจิงและซู่เซ๋วเหมิงเคยใช้พูดกับเขา!

ซู่เซ๋วเหมิงปิดตาของเขาและไม่พูดอะไรเลยหูจิงรีบดึงเขาออกมาแล้วพูดว่า: “พวกเราต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันเป็นความผิดของพวกเราทั้งหมดและเจ้านายของเราก็ทราบเรื่องนี้แล้ว เขาฝากมาว่าอีกไม่นานเขาจะมาขอโทษคุณด้วยตัวเองอีกครั้ง “

เธอพูดจบแล้วดึงซู่เซ๋วเหมิงออกไปทันที

…

สิบนาทีต่อมาดูเหมือนว่าบางคนลืมไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามหลิงยูเฟิงรู้ว่าถึงแม้ซู่เซ๋วเหมิงจะพูดขอโทษออกมา แต่เขาก็ได้สร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมาแล้ว

เมื่อรู้ว่าซู่เสี่ยวคือน้องของลูชิน หลิงยูเฟิงก็ถ่ายรูปกับพวกเธอเป็นพิเศษและยังได้รวมพูดคุยกันอีกด้วย ซึ่งทำให้ซู่เสี่ยวนั้นมีความสุขอย่างมาก

ในตอนเย็นวันนั้น เมื่อพวกเขาไปดูคอนเสิร์ตกลับมาที่ห้อง ซู่เสี่ยวยังพูดถึงเรื่องนี้ เธอพูดว่า: “พี่เขย พี่สุดยอดมากเลย พี่เหมือนบอสใหญ่ในหนังยังไงยังงัน!”

“พวกเธออย่าบอกเรื่องนี้กับพี่สาวของเธอละ ฉันไม่อยากจะถูกลงโทษ!” ลูชินพูดออกมา

“พี่เขยสามารถมันใจได้!” ซูเสี่ยวหัวเราะออกมา

ในอีกด้านหนึ่ง ซู่เซ๋วเหมิงได้ย้ายออกจากโรงแรมในวันนั้นทันที !

“คุณได้ทำเรื่องใหญ่แล้ว? ” หูจิงพูดต่อว่า”คุณต้องรู้จักพูดขอโทษบ้าง ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต”

ซู่เซ๋วเหมิงตะโกนออกมาว่า: “ขนาดแม่ของฉันยังไม่กล้าขอให้ฉันขอโทษเธอเลย แล้วพวกนั้นคือใครถึงต้องให้ฉันไปขอโทษ!”

“เฮ้ คุณรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา!” หูจิงมองไปที่หน้าของซู่เซ๋วเหมิงและพูดว่า: “เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป ฉันจะไม่สนใจมันแต่ในอนาคตคุณต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดีกว่านี้ ไม่เช่นนั้นฉันคงต้องขอลาออกจากการเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ!”

“เธอว่าอะไรนะ!” ซู่เซ๋วเหมิงถามด้วยความตกใจออกมา

“ตอนนี้ฉันต้องขอเตือนคุณว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ เจ้านายต้องการให้เรารีบกลับไปยังบริษัททันที และครั้งนี้คุณต้องยอมรับความผิดพลาดของคุณต่อเจ้านายทั้งหมด คุณต้องยอมรับอย่างจริงใจด้วย! “หูจิงพูดด้วยความอับจนหนทาง

…

ซู่เสี่ยวได้อยู่เล่นเพียงหนึ่งวันในเมืองเจียงเฉิง, ก่อนที่จะถูกส่งไปยังสนามบินโดยลูชินในวันถัดไป และเธอดูลังเลอยู่บ้าง เธอพูดว่า “หนูจะมาหาพี่เขยในวันหยุดครั้งต่อไปได้ไหม? ”

” เราจะคุยเรื่องนี้หลังจากจบการสอบเข้าวิทยาลัย! “ลูชินพูดก่อนที่พวกซุ่เสี่ยวจะขึ้นเครื่อง

พายุเล็กๆของเหตุการณ์ของซู่เซ๋วเหมิงไม่มีผลกับบริษัทลู่เทคโนโลยี

ลูชินไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้และพนักงานของบริษัทได้จัดการเรื่องนี้ได้ดี เขาเริ่มให้ความสำคัญกับการวิจัย ‘กล้องถ่ายอัจฉริยะ’ต่อทันที

นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาชิ้นต่อไปของลูชิน กล้องถ่ายภาพอัจฉริยะเป็นเพียงชื่อของโครงการเท่านั้น ที่จริงเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับการฉายภาพด้วยเลเซอร์ การประมวลผลภาพ และชิปการถ่ายภาพอัจฉริยะ สิ่งนี้สามารถใช้ได้ไม่เพียงแต่กับโทรศัพท์ แต่ยังใช้กับอุปกรณ์อัจฉริยะชิ้นอื่นๆได้อีกด้วย เช่นแว่นตาอัจฉริยะ g-551 ที่ลูชินมีอยู่แล้ว

บทที่162

ผู้แปล : N.

เป็นไปไม่ได้ที่ห้องปฏิบัติการจะเสร็จเร็วๆนี้ ดังนั้นลูชินจึงได้จัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนาในการสร้างกล้องอัจฉริยะขึ้นมาก่อนใน ในส่วนของซอฟต์แวร์ประมวลผลและรูปภาพนั้นได้ถูกส่งมอบให้กับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ในเคลือของบริษัทลู่เทคโนโลยีและในส่วนของชิปนั้นได้ส่งมอบให้กับทีมพัฒนาชิปที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่

การสร้างกล้องโทรศัพท์นั้นไม่ยาก ความยากคือวิธีการปรับปรุงฟังก์ชั่นพิกเซล การประมวลผลภาพ การโฟกัสอัจฉริยะ และอื่น ๆ

เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องที่ดีที่สุดตอนนี้คือบริษัทแอปเปิ้ลที่กล้องของพวกมีพิเซลสูงถึง12 ล้านพิกเซล นั้นถือเป็นช่องว่างขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับโทรศัพท์แบรนด์อื่นในตลาด

ในห้องปฏิบัติการลูชินกำลังชี้แนวทางให้กับทีม R & D ที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่

“ตอนนี้เรามีเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ก่อนสามอย่าง” ลูชินพูดต่อว่า “สิ่งแรกคือกล้องหน้า”

“โทรศัพท์ในปัจจุบันของเราไม่สามารถหลีกเลี่ยง ‘กล้องหน้า’ บนหน้าจอของโทรศัพท์ได้ เมื่อเทียบกับโทรศัพท์แบรนด์อื่นในตลาดแล้วไม่แตกต่างกัน เราควรเพิ่มฟังก์ชั่นเข้าไปด้วยเช่นการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า สิ่งนั้นจะทำให้เราขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำได้ ”

นักวิจัยคนหนึ่งถามว่า:” ประธานลู! ตอนนี้เทคโนโลยีของเรายังไม่มีความสามารถมากพอที่จะสร้างการทำงานการปลดล็อกด้วยใบหน้าได้ ”

” ดังนั้นพวกเราต้องวิจัยมันขึ้นมาไง! “ลูชินพูดต่อว่า” นี่เป็นเรื่องแรก ”

” เรื่องที่ที่สองคือการโฟกัสอัจฉริยะ “เขาพูดต่อ” เราไม่เพียงต้องมีกล้องโทรศัพท์ขนาดเล็กที่ไม่สุดุดตาบนหน้าจอเท่านั้น มันต้องไม่ทำให้เกิดความหนาขึ้นกับตัวเครื่องอีกด้วย เมื่อผู้ใช้งานได้ทำการถ่ายด้วยกล้องหน้ามันต้องสามารถโฟกัสได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ! ”

พวกเขาได้ฟังสิ่งที่ประธานพูดมาทั้งสองประเด็น พวกเขาก็แสดงหน้าตาที่เป็นทุกข์ออกมา ประเด็นเหล่านี้พูดง่ายแต่ความยากลำบากในการวิจัยและพัฒนานั้นสูงมาก การที่จะทำแบบที่ประธานต้องการนั้นถึงแม้พวกเขาจะทำการวิจัยและพัฒนามาตลอดทั้งปีก็อาจจะมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ เรื่องที่สามคือการฉายภาพด้วยเลเซอร์ที่สร้างภาพขึ้นบนอากาศ”

ลูชินได้เห็นว่าทุกคนมีใบหน้าที่ขมขื่นขนาดไหนเมื่อฟังประเด็นทั้งสามจบ ดังนั้นเขาจึงยิ้มออกมาแล้วพูดว่า: “พวกคุณไม่ต้องกังวลไป ฉันจะเริ่มการวิจัยและพัฒนาประเด็นทั้งสามนี้ร่วมกับพวกคุณ”

เมื่อการวิจัยและพัฒนาเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง พวกเขาค้นพบว่าการวิจัยและพัฒนานั้นไม่ยากอย่างที่คิด เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบกับปัญหาประธานลูจะเป็นคนแก้ไขมันได้สำเร็จทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจะจัดหาวัสดุที่ใช้อ้างอิงหรือเครื่องมือสำคัญบางอย่าง

เพื่อให้พวกเขาฝ่าฟันความยากลำบากและเดินหน้าต่อไปได้ในบางครั้ง พวกเขารู้สึกว่าการวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

ลูชินและทีม R&D ได้ทำการศึกษาโปรเจคกล้องอัจฉริยะมาตลอดครึ่งเดือน จากนั้นเขาไปที่อุสาหกรรมภาคใต้ต่อทันที การไปครั้งนี้เพื่อทำการตรวจสอบความคืบหน้าของการพัฒนาซอฟต์แวร์จดจำใบหน้า

เมื่อไม่นานมานี้เขาได้รับรายงานมาว่าซอฟต์แวร์จดจำใบหน้านั้นประสบความสำเร็จในขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว แต่กับมีปัญหาในด้านของผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะซึ่งยังทำงานได้ค่อนข้างแย่

เหลียงซ่งซึ่งเป็นประธานของบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ในเครือของบริษัทลู่เทคโนโลยีเขาได้ถูกแต่งตั้งมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ถ้านับเวลามาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งปีพอดีที่เขาได้เข้ามารับหน้าที่เป็นประธาน

ในช่วงปีที่ผ่านมานอกเหนือจากโปรเจคแม่บ้านช่วยดูแลคอมพิวเตอร์แล้ว บริษัทลู่เทคโนโลยียังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆขึ้นมาจำนวนมาก ในส่วนของตัวเกมเองก็ได้ถูกพัฒนาด้วยบริษัทนี้ อาจพูดได้ว่าบริษัทนี้เป็นตัวช่วยสร้างผลกำไรมาโดยตลอด

“มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้ไหม?” ลูชินถามออกมา

“ในซอฟต์แวร์ของผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ การเรียนรู้ด้วยเสียงนั้นไม่ใช้เรื่องอยากสำหรับเรา เราได้เข้าใจหลักการทำงานของมันแล้ว แต่ที่มันเกิดปัญหานั้นเกิดจากซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ประมวลผลและตอบโต้นั้นมีเกรดต่ำเกินไป ดังนั้นผลการทดสอบจึงออกมาไม่ได้ตามที่ตั้งไว้” เหลียงซ่งพูดต่อว่า “ดังนั้นเราจึงได้จัดตั้งทีมใหม่ขึ้นมาเพื่อทำการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ขึ้นและได้เร่งทำการวิจัยและพัฒนาอย่างเต็มที่ แต่ผลที่ได้นั้นไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ”

“พาฉันไปดูสถานการณ์นี้!” ลูชินสั่งออกมา

“ ไปที่แผนกโครงการของโฮสต์คลาวด์ ทีมโครงการของเราอยู่ที่นั่น” เหลียงซ่งพูดจบก็ได้นำลูชินไปยังแผนกโครงการทันที ในแผนกนั้นมีพนักงานที่ทำงานมากกว่าหนึ่งร้อยคน จากเดิมที่มีเพียงสิบกว่าคนเท่านั้นนี้แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้มีความสำคัญขนาดไหน

“ ประธานเหลียงซง!” หัวหน้าโครงการและโปรแกรมเมอร์ได้เข้ามาทักทายทันทีที่ได้เห็นคนเข้ามา

“นี่คือประธานลู?” ฮันเจี่ยที่เป็นหัวหน้าของโครงการนี้ เขาพึ่งถูกจ้างงานเมื่อต้นปีนี้และเขาไม่เคยเห็นลูชินมาก่อนดังนั้นเขาจึงถามไปด้วยความสงสัย

“ ใช่แล้ว ประธานลูต้องการดูระบบประมวลผลข้อมูลของซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะที่เราพัฒนาขึ้น!” เหลียงซ่งได้บอกสิ่งที่ต้องการออกมทันทีที่เขาเข้ามา

“แน่นอนครับ ระบบนี้เราใช้ชื่อว่า Red Letter Cloud System หรือที่เรียกว่า เรทคลาวด์ (Red Cloud)” ฮันเจี๋ยแนะนำในขณะที่เดิน

“ตอนนี้ข้อมูลทุกอย่างบนอินเตอร์เน็ตได้ถูกจัดเก็บไว้บนคลาวด์ เราได้เห็นว่าการจัดเก็บแบบนี้สามารถลดการใช้หน่วยความจำของโทรศัพท์ได้ ดังนั้นตลาดของโทรศัพท์ที่ใช้ระบบคลาวด์ในการเก็บข้อมูลนั้นถือว่าบริษัทของเรามีโฮสต์คลาวด์ที่ทรงพลังที่สุด!”

“ระบบเรทคลาวด์ สามารถทำการวิเคราะห์และประมวลผลแบบไม่ซับซ้อนได้เท่านั้น เช่น การสนทนาง่ายๆ ฟังก์ชั่นการเปิดฟังก์ชั่นต่างในเครื่อง และการค้นหาบางอย่างบนอินเตอร์เน็ตได้รวดเร็วมากขึ้น หรือสิ่งที่คล้ายกัน ”

สิ่งที่ฮันเจี๋ยอธิบายมานั้นมันไม่ได้แตกต่างจากฟังก์ชั่นที่บริษัทอื่นๆทำได้เลย ทำให้ลูชินแสดงความไม่พอใจออกมา

พวกเขาได้มาถึงสถานที่จัดเก็บอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเป็นการพิเศษสำหรับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ พวกเขาสามารถทำการศึกษาระบบตัวหลักของระบบเรทคลาวด์ได้จากที่นี้

“ซู่หยูแสดงให้ประธานลูเห็นว่าระบบเรทคลาวด์ของเราสามารถทำอะไรได้บ้าง” ฮันเจี๋ยได้กวักมือเรียกพนักงานคนหนึ่งมา

“สวัสดีครับ ประธานลู ผมชื่อซู่หยู” ซู่หยูพูดขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้

“อืม เรามาเริ่มต้นกันเลยไหม?” ลูชินถามกลับมา

“ครับ” ซู่หยูพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ชื่อระบบเรทคลาวด์ ‘Red Cloud’ มันสามารถดำเนินการสื่อสารด้วยเสียงได้”

“เรทคลาวด์สวัสดี!” ซู่หยูตะโกนใส่อุปกรณ์

ภาพที่เรียบง่ายปรากฏขึ้นบนอุปกรณ์ มันเป็นภาพการ์ตูนที่มีการเปลี่ยนแปลงของเส้นริมฝีปากพูดโดยเสียงสังเคราะห์ทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้หญิงว่า: “Hello, ซู่หยู”

ซู่หยูหันมาอธิบายกับลูชินว่า: “มันระบุตัวตนของผมผ่านระบบจดจำใบหน้า ด้วยที่มีอัตราความสำเร็จในการจดจำคือ 99%”

“คุณกินข้าวแล้วหรือยัง?” ซู่หยูถามอีกครั้ง

“ฉันเป็นปัญญาประดิษฐ์ไม่ต้องกินอะไร แล้วคุณละกินแล้วหรือยัง?” เรทคลาวด์ได้ตอบตามตั้งโปรแกรมไว้

“เรทคลาวด์ช่วยฉันตรวจสอบสภาพอากาศวันนี้” ซ่งหยูพูดจบ เรทคลาวด์ก็เริ่มค้นหาข้อมูลแล้วตอบว่า: “วันนี้มีเมฆมาก อุณหภูมิสูงสุดวันนี้อยู่ที่ 17 องศาเซลเซียส แนะนำให้สวมแจ็คเก็ต ฯลฯ ดัชนีอากาศ 82 ถือว่าดี คุณสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลางแจ้งได้ … “

บทที่163

ผู้แปล : N.

“นี่คือการค้นหาแบบง่ายที่เราได้จัดทำขึ้น ในส่วนที่มีความซับซ้อนนั้นเราก็ได้จัดทำเช่นกัน ” ซู่หยูได้หันมาอธิบายกับลูชินก่อนที่เขาพูดขึ้นอีกครั้งว่า: “เรทคลาวด์ช่วยฉันวิเคราะสภาพถนนในเมืองเจียงเฉิง?”

เห็นได้ชัดว่าระบบเรทคลาวด์นั้นทำการประมวลผลล่าช้าไปสองสามวินาทีก่อนที่จะตอบว่า: “ถนนในเมืองเจียงเฉิงนั้นค่อนข้างแออัดและการจราจรติดขัดอาจเกิดขึ้นได้”

ฮันเจี๋ยได้เดินเข้ามาหาลูชินแล้วพูดว่า: “ประธานลู คุณคิดว่าใช้ได้ไหม?”

ลูชินไม่ได้ตอบทันที ตอนนี้เขากำลังคิดว่าถ้าฟีเจอร์นี้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี มันอาจจะสามารถทำให้เขาตกใจขึ้นมาบ้าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลายๆบริษัทก็จะมีเทคโนโลยีแบบนี้อยู่แล้ว

“การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์นั้นซับซ้อนเกินไป” ลูชินพูดกับฮันเจี๋ยและเขายังพูดอีกว่า: “หลังจากสามสิบนาทีนี้ ฉันจะไปยังเขตพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของเจียงเฉิง ช่วยฉันวางแผนเส้นทาง ”

ภายใต้การตอบสนองของระบบเรทคลาวด์ได้ช้าลงก่อนที่จะตอบว่า “มีเส้นทางที่ได้ถูกวางแผนไว้เก้าแผนเริ่มจากจุดที่คุณอยู่ตอนนี้ไปยังจัตุรัสกลาง “

ลูชินที่ได้เห็นว่าเส้นทางที่ระบบเรทคลาวด์ได้บอกมานั้นยังไม่สามารถตอบโจทย์ที่เขาต้องการได้ เขาพูดว่า: “ดูเส้นทางที่ระบบมันแสดงออกมาสิ มันมีแค่เก้าเส้นทางเท่านั้น และเส้นทางเหล่านั้นก็ไม่มีประสิทธิภาพอยากมาก”

“ เป้าหมายที่ฉันต้องการคือ การตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน มันควรจะเป็นแบบนี้ เราต้องการทำระบบที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกว่าพวกเขาได้ผู้ช่วยเพิ่มขึ้นมา ”

ลูชินพูดจบแล้วฮันเจี๋ยก็ดูอึดอัดใจก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า:” ระบบเรทคลาวด์นั้นถือว่ากำลังอยู่ในขั้นเริ่มต้นดังนั้นมันอาจจะยังทำแบบที่ประธานลูหวังไว้ไม่ได้”

ลูชินพูดขึ้นว่า“ ปัญญาประดิษฐ์ของกูเกิล ในตอนแรกมันสามารถทำได้ถึงการจัดระเบียบบ้าน การขับขี่อัจฉริยะด้วยตนเอง การตรวจสุขภาพส่วนบุคคล การวิเคราะห์ทางการเงิน การเล่นหมากรุกหรือแม้แต่การสร้างผลงานศิลปะ ฯลฯ พวกคุณเข้าใจสิ่งที่ฉันจะสื่อไหม?”

ลูชินพูดจบไม่เพียงแต่ฮันเจี๋ยเท่านั้น เหลียงซ่งเองก็รู้สึกว่าความต้องการของลูชินนั้นสูงเกินไป

เหลียงซ่งพูดว่า: “ประธานลู คำขอของคุณนั้นสูงเกินไป คุณต้องเข้าใจว่าบริษัทพวกนั้นทำการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาหลายปีแล้ว ดังนั้นผมคิดว่าระบบของเราทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว”

“มันยังใช้ไม่ได้!” ลูชินดูโหดเหี้ยมขึ้นทันทีและเขายังได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า “ปัญญาประดิษฐ์ของซีริ ได้เริ่มพัฒนาไปสู่การวิเคราะห์อย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับการจราจรในเมือง และยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆเช่นฟังก์ชั่นเสริมสำนักงานอย่างง่าย การออกแบบหน้าเว็บไซต์ ของเราทำแบบนี้ได้ไหม?”

ปัญญาประดิษฐ์ซึ่งสามารถสร้างให้มีฟังก์ชั่นในการปรับแต่งและออกแบบหน้าเว็บหรือแอพโดยอัตโนมัติและสามารถออกแบบหน้าเว็บต่างๆได้หลายสิบล้านหน้าในแต่ละครั้ง ด้วยวิธีนี้งานที่ต้องใช้เวลาสองสามวันหรือสัปดาห์กว่าก็จะเสร็จสิ้นในหนึ่งวินาที!

“ไม่ได้ ทุกฟังก์ชั่นต้องการอัลกอริธึมที่แตกต่างกันและมีข้อมูลจำนวนมากที่ต้องเพิ่ม เรายังคงต้องศึกษาอีกมาก” ฮันเจี๋ยส่ายหัว

ในแง่นี้บริษัทลู่เทคโนโลยียังอยู่อีกไกลจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก แต่ลูชินเชื่อว่าในอีกไม่นานบริษัทของเขาจะสามารถนำหน้าบริษัทพวกนั้นได้

ลูชินพูดว่า “ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะอยู่ที่นี่ในเดือนนี้และฉันจะเป็นคนออกแบบอัลกอริธึมต่างๆด้วยตัวเอง พวกนายมีหน้าที่เพียงนำอัลกอริธึมที่ฉันออกแบบไปติดตั้งและทดสอบผล ..”

“ประธานลู! คุณจะทำด้วยตัวเอง? คุณจะทำได้แบบนั้นได้ยังไงกัน?” ฮันเจี๋ยได้สงสัยว่าเขาอาจจะได้ยินผิด ประธานลูพูดว่าจะเป็นคนออกแบบอัลกอริธึมด้วยตัวเอง! นี่ไม่ใช่การทำเค้กที่มันจะทำขึ้นมาได้ง่ายๆ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากแผนกโครงการทั้งหมดที่มีอยู่ในบริษัทตอนนี้ เพื่อทำการเขียนอัลกอริธึมมันก็ต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งปี! และประสิทธิภาพที่ออกมานั้นก็ยังไม่แน่นอน!

ซ่งหยูก็ประหลาดใจเขาจึงได้ถามว่า: “ประธานลู คุณเข้าใจใช้ไหมว่าคุณพูดอะไรออกมา”

“หยุด!” เหลียงซ่งพูดว่า “ฉันสามารถรับรองได้ว่าประธานลูสามารถทำได้อย่างที่พูดอย่างแน่นอน เพราะถ้าเทียบความเข้าใจด้านเทคโนโลยีในโลกแล้ว เขาสามารถอยู่อันดับห้าคนแรกด้วยซ้ำ! “

ฮันเจี๋ยและซ่งหยูไม่เชื่อในการรับรองของเหลียงซ่งเลย เพราะตอนที่พวกเขาเข้ามาทำงานนั้นก็ไม่เคยเห็นประธานลูแสดงความสามารถอะไร ถ้ามีก็เพียงข่าวลือเท่านั้นที่บอกว่าเขาสุดยอดขนาดไหน

เหลียงซ่งเองก็เป็นคนที่รู้จักเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ระดับสูง ถ้าเปลี่ยนมาพูดว่าเหลียงซ่งนั้นสามารถติดหนึ่งในห้าของประเทศได้พวกเขายังเชื่อมากกว่านี้ ตอนนี้พวกเขาเริ่มสงสัยแล้วว่านี้คงจะเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น

“ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อ” ฮันเจี๋ยยังไม่เชื่อจึงพูดว่า: “นี่ไม่ใช่ขั้นตอนง่ายๆ !”

ลูชินพูดว่า “ฉันจะไม่ออกแบบพวกการตอบสนองการสนทนา การพยากรณ์อากาศ ตารางการค้นหาข้อมูลการซื้อโทรศัพท์ ฯลฯ “

” ฉันคิดว่าระบบเรทคลาวด์ของเรานั้นสามารถไปได้ไกลกว่านี้ ด้วยที่เริ่มจากการสร้างฐานความรู้และศูนย์ข้อมูล เพื่อทำการวิเคราะห์ด้วยระบบอัจฉริยะของเจ้าของภาษาและพฤติกรรมของผู้ใช้ และเลือกเปิดฟังก์ชั่นระบบที่สอดคล้องกันไปแต่ละบุคคล”

“พวกนายรู้ไหมว่าฟังก์ชั่นซอฟต์แวร์ที่สำคัญที่สุดคืออะไร? มันคือฟังก์ชั่นการเรียนรู้เจ้าของภาษาที่แตกต่างกัน นิสัย และวิธีการประมวลผลข้อมูล “

” นี่จะเป็นการพูดเกินจริงไปไหมครับ คุณกำลังบอกว่าระบบที่คุณจะสร้างนั้นมันแข็งแกร่งกว่าซีริจากบริษัทแอปเปิ้ล! “ฮันเจี๋ยตกใจอย่างสมบรูณ์เมื่อฟังความคิดของลูชิน

ซ่งหยูยังกล่าวอีกว่า: “ความก้าวหน้าในปัจจุบันของเรา ถ้าต้องการที่จะไปถึงระดับนี้อย่างน้อยต้องรอหนึ่งหรือสองปี?”

“ไม่จำเป็น” ลูชินไม่ได้อธิบายอีกต่อไปและเขาพูดว่า “พวกนายแค่ทำการหยุดงานวิจัยทั้งหมดลงไปก่อน ฉันจะทำการเขียนอัลกอริธึมขึ้นมาใหม่และจะส่งไปให้พวกนายโดยเร็วที่สุด”

ฮันเจี๋ยได้ฟังแบบนั้นเขาก็รู้สึกแปลกใจอย่างมาก ตลอดการทำงานมานี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเจ้านายแบบนี้ เขาบอกว่าให้ยกเลิกงานวิจัยทั้งหมด? เขาหันไปหาเหลียงซ่งเพื่อขอความช่วยเหลือและหวังว่าเขาจะหยุด ลูชินจากความคิดพวกนี้

อย่างไรก็ตามเหลียงซ่งไม่เพียงแต่ไม่คัดค้านเท่านั้น แต่ยังใช้ความคิดริเริ่มที่จะพูดว่า: “ตามที่ประธานลูพูดไว้ เราจะทำการหยุดงานวิจัยทั้งหมดลง”

“ แม่*ฉันไม่คิดว่าเหลียงซ่งจะเลียเจ้านายได้สุดยอดแบบนี้!” ฮันเจี๋ยคิดในใจและเขาพูดขึ้นว่า “แผนการของประธานลูนั้นไม่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ถ้าเราทำตามที่บอกมันต้องส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าของโครงการอย่างแน่นอน ”

‘เฮ้อ เดือนนี้ไม่เพียงแต่จะลำบากเท่านั้น แต่ฉันยังต้องมาเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้อีกด้วย’

ลูชินไม่ทราบความคิดของฮันเจี๋ยที่มีต่อเขา เขาพูดกับเหลียงซ่งว่า: “ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือน  “

บทที่164

ผู้แปล : N.

ลูชินได้เริ่มทำงานทันที ฮันเจี๋ยก็ได้ประกาศคำสั่งของลูชินต่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของแผนกโครงการทันทีเช่นกัน เจ้าหน้าที่ได้ยินการประกาศแบบนั้นก็แสดงอาการไม่เข้าใจออกมา

“ พระเจ้า งานของเรากำลังอยู่ในช่วงสำคัญนะ! ทำไมเราต้องมาหยุดตอนนี้ด้วย” โปรแกรมเมอร์อาวุโสในแผนกได้แสดงอาการไม่พอใจออกมาและพูดต่อว่า “ไม่ ฉันต้องไปถามประธานให้รู้เรื่อง! “”

พนักงานที่อยู่ด้านข้างได้รั้งเขาไว้และรีบพูดว่า “นายต้องใจเย็นๆ เราสามารถส่งคำร้องของเราผ่านไปที่หัวหน้าฮันได้ เรายังต้องการนายนะ! “

” เอาล่ะ ฉันจะไปพูดกับหัวหน้าฮัน “ชายคนนั้นพยักหน้าก่อนที่เขาจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม

แม้ว่าพนักงานคนอื่นจะมีความคิดเห็นแบบเดี่ยวกับเขา แต่พวกเขาก็รู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช้เรื่องง่ายที่จะทำการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่บ่นเพียงไม่กี่คำก่อนที่จะกลับไปทำงานตามปกติ

“พระเจ้า โครงการของเราอยู่ระหว่างการพัฒนามาครึ่งปีแล้ว และตอนนี้ประธานต้องการให้เขาหยุดทำมัน!” ใครบางคนได้บ่นขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาได้ยินคำสั่งใหม่

“ การทำงานล่วงเวลาของพวกเราอาจจะต้องสูญเปล่า แล้วแบบนี้หัวหน้าจะจ่ายโบนัสให้พวกเราไหม?”

มีคนที่ไม่พอใจกับสถานการณ์นี้ก็ต้องมีคนที่พอใจกับเรื่องนี้เช่นกัน

“ฉันได้ยินมาว่า ประธานจากสำนักงานใหญ่มาถึงที่นี้เพื่อที่เขาจะได้แก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง ฉันคิดว่าเรื่องนี้ต้องทำให้โครงการของเราไปไกลอย่างแน่นอน?”

“แน่นอน ถึงขั้นที่ประธานลูมาเอง มันต้องสำเร็จ!” พนักงานเก่าได้พูดต่อว่า “ฉันกล้าบอกตรงนี้เลยว่า ตราบใดที่ปัญหามันเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เราก็ไม่ต้องกลัวว่าประธานจะแก้ไขมันไม่ได้!”

พนักงานเก่าพูดจบ เขาก็ได้รับสายตาไม่เชื่อจากพวกเพื่อนๆที่อยู่ด้านข้างทันที และมีคนหนึ่งพูดว่า:“ พี่ชาย!นายโม้ไปไหม? ฉันจะเชื่อถ้านายบอกว่าประธานเราเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศตอนนี้ แต่นี้นายกับมาบอกว่าประธานเราเป็นผู้เชี่ยวชาญเนี่ยนะ! “

“ฉันไม่ได้โกหก! พวกนายคิดว่าธุรกิจนี้เกิดขึ้นมาได้เพราะใครกัน ถ้าไม่ใช้เพราะประธานลู!” พนักงานเก่าอธิบายต่อ แต่เพื่อนๆของเขาก็ยังไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดมา

เพราะในมุมมองของพวกเขา ประธานลูนั้นเป็นเพียงชายที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยเท่านั้น?

“พวกนายไม่เชื่อ? อย่างงันเรามาพนันกัน ฉันขอพูดว่าด้วยการนำของประธานลู โครงการของเราจะก้าวหน้าอย่างแน่นอน ถ้าฉันแพ้ฉันจะเลี้ยงอาหารเช้าพวกนายหนึ่งเดือน!”

พวกเขาได้เห็นการแสดงออกของเพื่อนแล้วก็ไม่รู้จะพูดโน้มน้าวยังไง “ดี! ถือว่านายทำตัวเอง ถ้าพวกฉันแพ้ ฉันก็จะเลี้ยงอาหารเช้านายหนึ่งเดือนเช่นกัน!”

…

ตอนนี้ความสามารถในการคิดของลูชินที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเซรั่มH1ได้แสดงความสามารถออกมา ภายในครึ่งวัน เขาสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาของโครงการและทิศทางของงานวิจัยในส่วนต่างๆ ของโครงการตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

หลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มแบ่งงานทันที  ด้วยที่เขาจะรับหน้าที่พัฒนากระบวนการตัดสินใจขั้นพื้นฐานทั้งหมดและการประมวลผลต่างๆด้วยตัวเองทั้งหมด!

เมื่อพวกฮันเจี๋ยได้ยินคำสั่งแบบนี้ก็แสดงความแปลกใจออกมา เพราะการทำงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์นั้นมันเป็นงานที่ต้องใช้คนหลายคนเพื่อทำมันด้วยกัน มันไม่ใช้งานที่สามารถทำคนเดี่ยวได้

ปัญญาประดิษฐ์เป็นเพียงคำเรียกเท่านั้น ที่จริงแล้วมันคือการรวมอัลกอริทึมที่หลากหลายเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นขั้นตอนการปฏิบัติงานขึ้นมา และขั้นตอนการปฏิบัติงานนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามบทบาทที่อัลกอริทึมได้ออกแบบไว้ ตัวอย่างเช่นการมุ่งเน้นไปที่การดูแลทางการแพทย์บางอย่าง มุ่งเน้นไปที่ข้อมูลทางการเงินหรือระบบการขับขี่อัจฉริยะ ระบบการจัดการการจราจรในเมือง และอื่น ๆ

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความฉลาดของปัญญาประดิษฐ์

และการที่จะสร้างอัลกอริทึมขึ้นมาได้แต่ละอย่างนั้น ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามอย่างมาก มันจะเป็นไปไม่ได้ที่ลูชินจะทำให้เสร็จได้ด้วยตัวคนเดียว

แต่ลูชินไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะตอนนี้ฟังก์ชั่นพื้นฐานบางอย่างได้สำเร็จไปแล้ว เช่นการจดจำเสียงพูด การแปลงข้อมูลจากเสียงเป็นข้อความ และระบบประมวลผลข้อมูลอัจฉริยะของเรทคลาวด์ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือการสร้างกรอบการทำงานของอัลกอริทึมที่จะสามารถรวมพวกนั้นเข้าด้วยกันและกลายเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมา

ด้วยเหตุนี้ลูชินจึงได้ขอวิธีสร้างและการออกแบบจากกลุ่มแชทเทคโนโลยีสีดำ ด้วยการปรึกษาสมาชิกในกลุ่มเช่นราชินีแดงและโทนี่โดยเฉพาะ พวกเขายังให้ประสบการณ์และข้อมูลที่มีค่าแก่ลูชินจำนวนมาก

ลูชินได้นำข้อมูลที่ได้รับจากกลุ่มมาดำเนินงานทันที ด้วยที่เขามีราชินีแดงคอยเป็นที่ปรึกษาอยู่ด้านข้าง มันจะมีอะไรดีไปกว่าการมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์เป็นคนให้คำปรึกษากัน

พนักงานจากตอนแรกที่มีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับความสามารถของลูชิน แต่เมื่อพวกเขาได้ทำงานด้วยแล้วข้อสงสัยเหล่านั้นได้หายไปทันที เพราะไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรลูชินก็สามารถแก้ไขมันได้อย่างสมบูรณ์

ทุกวันนี้คนในแผนกยุ่งเป็นอย่างมาก ลูชินได้ส่งงานที่สำเร็จเรียบร้อยแล้วออกมาอย่างต่อเนื่องและได้ขอให้พวกเขาทำการทดสอบโดยเร็วที่สุด

“กรอบการเรียนรู้ สมบูรณ์แบบ … ” ตอนนี้พวกเขาได้ฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ที่ได้รับการปรับปรุงและโปรแกรมที่จะใช้เพื่อประสานพวกมันเข้าด้วยกันเรียบร้อยแล้ว

ต้นแบบของผู้ช่วยอัจฉริยะกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

ในวันที่ 28 ของการวิจัยอย่างเป็นทางการของลูชิน เขาได้เริ่มทำการตรวจสอบลายละเอียดปลีกย่อย เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่เขาอาจจะพลาดไป

ปลายเดือนนี้ผู้ช่วยอัจฉริยะซึ่งได้รับการออกแบบโดยลชินเป็นการส่วนตัวก็เสร็จสมบรูณ์อย่างเป็นทางการ

มันเป็นส่วนหนึ่งของ “ระบบ Red Letter Cloud System ” และสามารถเรียกได้ว่าเรทคลาวด์ อย่างไรก็ตามนี้คือเรทคลาวด์ที่ออกแบบโดยลูชิน มันจึงแตกต่างจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมอย่างมาก

“ เราจะทำการสาธิตกันภายในวันนี้เลยไหม?” พวกงานที่ได้ร่วมโครงการนี้มาตั้งแต่เริ่ม นั้นไม่สามารถทำใจยอมรับได้ว่าโครงงานที่พวกเขาทำมาตลอดครึ่งปีจะไม่สามารถสู้การทำงานของคนเดี่ยวได้ มันจะมีความคืบหน้าเร็วเกินไปไหม

“เร็วขนาดนี้เลย นี่เป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จที่ประธานเราไปซื้อมาใช้ไหม?” ได้มีพนักงานบางคนสงสัยการกระทำของลูชิน

“ไป! อีกเดี่ยวเราก็จะได้รู้ว่านี้ใช้ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จไหม”

พนักงานได้ไปรวมตัวกันที่ห้องปฏิบัติการทันที ตอนนี้พวกเขาอยากรู้ว่าผู้ช่วยอัจฉริยะที่ถูกพัฒนาโดยประธานจะเป็นอย่างไร

ในห้องปฏิบัติการได้มีพนักงาน วิศวกรอาวุโส และนักออกแบบที่สำคัญจำนวนมากมาดูการสาธิตในครั้งนี้ของลูชิน เหลียงซ่ง ฮันเจี๋ย ซู่หยูและอื่น ๆ

เมื่อผู้คนมาถึง ลูชินยืนอยู่บนเวทีและประกาศดังๆว่า : “วันนี้ผู้ช่วยอัจฉริยะที่พัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีในเคลือของบริษัทลู่เทคโนโลยีของเราประสบความสำเร็จในขั้นต้นเรียบร้อย มันจะเป็นระบบประมวลผลข้อมูลอัจฉริยะตัวแรกที่มีฟังก์ชั่นเต็มรูปแบบ!”

“ ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ฉันต้องขอขอบคุณในความพยายามอย่างต่อเนื่องของเพื่อนร่วมงานทุกท่าน และตอนนี้ได้ถึงเวลาที่เราจะทดสอบแล้วว่าการทำงานหนักของเราไม่ได้สูญเปล่า!”

รายการถัดไปดำเนินการโดยฮันเจี๋ยด้วยที่เขาพูดว่า “พูดตามตรงผมไม่ได้คิดเลยว่าเราจะสามารถพัฒนามันได้เร็วแบบนี้ ดังนั้นผมต้องชื่นชมความอัจฉริยะของประธานลูจริงๆ… “

“…และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะเริ่มทดสอบการทำงานของของระบบเรทคลาวด์เวอร์ชั่นใหม่นี้กันแล้ว โดยเริ่มจากฟังก์ชั่นพื้นฐาน”

บทที่165

ผู้แปล : N.

ฮันเจี๋ยได้ทำการเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมการจดจำใบหน้าซึ่งเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นของผู้ช่วยอัจฉริยะของเรทคลาวด์

ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาทีโทรศัพท์ก็จดจำใบหน้าของฮันเจี๋ยเพื่อทำการปลดล็อคได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็เปิดตัวช่วยด้วยเสียงของผู้ช่วยอัจฉริยะ

“สวัสดีฉันเป็นเรทคลาวด์ ฉันมีความสุขมากที่ได้พบคุณ!” เสียงผู้หญิงสังเคราะห์ผ่านอุปกรณ์เสริมของห้องสาธิตได้ยินได้อย่างชัดเจนในผู้ชม

“คุณภาพของเสียงสังเคราะห์นี้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก!” ทีมงานกระซิบว่าเสียงสังเคราะห์ก่อนหน้ามีดูเป็นเสียงเชิงกลมากเกินไปเมื่อเทียบกับเสียงตอนนี้

“สวัสดีเรทคลาวด์” ฮันเจี๋ยคุยกับเธอแล้วถามว่า: “เธอช่วยแนะนำตัวเองได้ไหม?”

“โอเค สวัสดีทุกคน ฉันเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะของระบบที่เรียกว่าเรทคลาวด์ คุณสามารถสื่อสารกับฉันได้และคุณสามารถบอกความต้องการของคุณให้ฉันได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็จะทำมันออกมาให้ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เวลา 15:00 น. เวลาในปักกิ่ง ”

” ดีมาก “ฮันเจี๋ยพูดต่อว่า”นี้คือการสาธิตขึ้นพื้นฐานเท่านั้น ตอนนี้เรายังได้เพิ่มภาษาท้องถิ่นที่แพร่หลายที่สุดไว้ในคลังเสียงอีกด้วย นั้นรวมถึงภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย แม้แต่ภาษาออนไลน์ที่เป็นที่นิยมตอนนี้ก็มีในนั้น ”

ทุกคนปรบมือ แต่พวกเขายังสับสนอยู่ดี เพราะพวกเขาฟังมาถึงตรงนี้ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ช่วยอัจฉริยะนี้จะดูแตกต่างจากบริษัทอื่นในตลาดอย่างใด

ฮันเจี๋ยยังแสดงฟังก์ชั่นพื้นฐานหลายอย่างตัวอย่างเช่นเขาพูดว่า: “เปิดเพลง”

เรทคลาวด์สามารถเล่นเพลงอัตโนมัติโดยผ่านซอฟต์แวร์เพลงหรือการสั่งเปิดแอพภาพยนตร์ ซอฟต์แวร์แชทหรือการโตตอบเบื้องต้นก็สามารถทำได้

“ต่อไป เราจะมาดูสิ่งที่พิเศษของเรทคลาวด์กัน!”

ฮันเจี๋ยพูดว่า: “เรทคลาวด์ ฉันไม่อยากไปทำงานพรุ่งนี้ เธอสามารถช่วยฉันส่งข้อความถึงเจ้านายของฉันได้ไหม?”

“โอเค เจ้านายที่รัก ตอนนี้ธุรกิจของบริษัทกำลังเฟื่องฟูขึ้นผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก นั้นทำให้ผมทำงานหนักขึ้นจนส่งผลต่อสุขภาพของตัวเอง ดังนั้นผมจึงได้ส่งใบลานี้เพื่อให้ทราบและหวังว่าเจ้านายที่รักจะอนุมัติ! “เรทคลาวด์ได้สร้างข้อความขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ฮั่นเจี๋ยพูดว่า: “ใช่ ส่งเลย”

ต่อจากนั้นข้อความนี้ก็ถูกส่งไปยังเหลียงซ่งโดยเรทคลาวด์ทันที

ได้มีเสียงปรบมือดังขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะความสามารถนี้มันได้แสดงให้เห็นถึงความพิเศษกว่าแบรนด์อื่นๆ ใบหน้าของฮันเจี๋ยก็แสดงรอยยิ้มด้วยเช่นกันและเขาอธิบายว่า :“ มันได้ใช้หลักการวิเคราะห์ลักษณะการพูดและข้อความที่เราใช้ในชีวิตประจำวันและได้ทำการเขียนข้อความที่มีลักษณะเหมือนเราออกมา”

“ มาตอนกัน เรทคลาวด์ถ่ายรูปให้ฉัน” ฮันเจี๋ยได้นำโทรศัพท์ขึ้นมาตรงหน้า

เรดคลาวด์ตอบกลับว่า: “โอเค ได้โปรดยิ้มแล้วพูดว่าชีส!”

หลังจบคำพูดนั้นได้มีรูปภาพของขึ้นฮันเจี๋ยขึ้นมาบนหน้าจอ เขาพูดว่า: “รูปนี้ดูไม่ดีเลย เธอช่วยแก้ไขมันให้ฉันด้วย”

เขาพูดจบเรทคลาวด์ได้ทำการเปิดตัวซอฟต์แวร์แต่งภาพอัตโนมัติ เพื่อทำการตกแต่งจุดด่างดำ และอื่นๆ   มันไม่เพียงสร้างขึ้นมารูปเดี่ยวแต่มันได้ทำการเปรียบเทียบกันหลายรูปเพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือก

“เฮ้!” ได้มีเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง

“ฉันคิดว่าคุณสมบัตินี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิง พวกเธอจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน” ฮันเจี๋ยพูดต่อว่า “เรทคลาวด์ ฉันต้องการไปดูภาพยนตร์เรื่องล่าสุด” Wolf Wolf 3 “เธอช่วยฉันซื้อตั๋ว”

เรทตลาวด์ตอบทันทีว่า: “คุณจะไปคนเดียวหรือไปกับกลุ่มเพื่อนและเวลาใด?”

“หลังเลิกงานกับเพื่อนสองคน” ฮันเจี๋ยตอบกลับไป

“ โอเค มีโรงภาพยนตร์สามแห่งในบริเวณใกล้เคียง แต่ฉันแนะนำโรงภาพยนตร์เชิงโจ คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและระยะทางที่ใกล้อีกด้วย ตอนนี้ได้มีโปรซื้อตั๋วแบบกลุ่มถึงแปดแบบ คุณสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง”

“เอาละ ฉันจะส่งรายละเอียดทั้งหมดให้คุณตัดสินใจ “

บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของฮันเจี๋ยได้ปรากฏรายการขึ้นมาและรายละเอียดเหล่านั้นยังได้แสดงข้อดีและข้อเสียของรายการต่างๆ

เมื่อฮันเจี๋ยเลือกหนึ่งในรายการที่เรทคลาวด์ส่งมา ส่วนที่เหลือก็ได้ถูกลบออกไป

เมื่อคนที่มาชมการสาธิตเห็นแบบนี้ก็ยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีก!

“ยอดเยี่ยมมาก! ระดับสติปัญญาระดับนี้สูงกว่าที่เราเคยทำมาก่อนอย่างน้อยสิบเท่า!”

“พระเจ้า! การตอบโต้และการตอบสนองแบบที่ชาญฉลาด และการตัดสินใจในขั้นตอนต่างๆมันเหมือนกับการตัดสินใจของมนุษย์เลย!”

“นี่คือสิ่งที่เราทำจริงหรือ? ”

……

ฮันเจี๋ยพูดว่า ” เรทคลาวด์ไม่เพียงแต่ตั๋วซื้อได้เท่านั้น เธอยังสามารถทำอย่างอื่นได้อีกมาก เช่นการเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ เธอจะทำการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ที่คล้ายกันออกมาให้เราทำการตัดสินใจ, หรือการที่คุณต้องการหาข้อมูล แต่ข้อมูลที่คุณหานั้นมันมีความหลากหลายและอาจจะทำให้คุณสับสนกับมันได้ เรทคลาวด์ก็สามารถที่จะเลือกข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของคุณออกมาโดยตรงได้! ”

” การเดินทาง, กล้อง, การโทร, ฯลฯ เธอก็สามารถทำได้เช่นเดี่ยวกัน หรือแม้กระทั้งขณะที่คุณกำลังเล่นเกมคุณก็ยังสามารถเปิดระบบเรทคลาวด์เพื่อช่วยคุณส่งข้อความไปยังผู้เล่นรายอื่นได้อีกด้วย!”

ฮันเจี๋ยพูดจบทุกคนก็หัวเราะออกมา และในเสียงหัวเราะของพวกเขานั้นกับมีความภาคภูมิใจปนอยู่ไม่น้อย

“และอย่างสุดท้าย ประธานลูของเราได้สร้างฟังก์ชั่นการแสดงอิโมติคอนลงไป” ฮันเจี๋ยพูดต่อว่า “นี่เป็นฟังก์ชั่นเล็กๆที่น่าสนใจอย่างมาก  โดยที่มีฟังชั่นนี้เมื่อเราต้องการส่งข้อความแบบมิโมติคอนไปยังผู้อื่นเพื่อแสดงความรู้สึกของเราออกไป แต่มันกลับไม่มีอิโมติคอนตัวนั้น ระบบเรทคลาวด์นี้ก็จะทำการสร้างมันขึ้นมาให้กับผู้ใช้อัตโนมัติ”

ที่จริงแล้วนี่คือการเพิ่มฟังก์ชั่นโดยไม่ตั้งใจของลูชิน เพราะช่วงก่อนหน้านี้เขาได้ทำการพูดคุยกับราชินีแดงโดยการใช้การโต้ตอบมิโมติคอนกัน และได้มีคนเข้ามาพบเข้า เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเพิ่มมันลงไป

ฮันเจี๋ยได้พูดแนะนำเกือบจบแล้ว เขาจึงพูดว่า: “อาจกล่าวได้ว่าระบบผู้ช่วยอัจฉริยะของเราประสบความสำเร็จอย่างมากในตอนนี้! และไม่เพียงแค่นั้นฉันจะบอกให้พวกคุณรู้อีกว่าระบบประมวลผลข้อมูลอัจฉริยะอย่างเรทคลาวด์ของเรานั้นสมารถสร้างกรอบอัลกอริทึมขึ้นมาได้ด้วยตัวเองอีกด้วย!”

“ตราบใดที่เราได้เพิ่มเงื่อนไขที่เราต้องการลง เธอก็จะทำการสร้างและเติมเต็มอัลกอริธึมเหล่านั้นขึ้นมาเอง! และแผนงานในอนาคต เราจะไม่หยุดทำเพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่เรายังรวมไปถึงคอมพิวเตอร์ รถยนต์นาฬิกาสมาร์ท และเครื่องใช้อิเล็กทรอนิคอื่นๆอีกด้วย!”

“ทั้งหมดนี้ คือการนำของประธานลู! ”

” เฮ้ … “ได้มันเป็นเสียงปรบมือที่แสดงความตื่นเต้นออกมาหลังจากที่พวกเขาได้ฟังสิ่งที่ฮันเจี๋ยอธิบายไว้ข้างต้น

“ประธานลูนี้สุดยอดจริง เขาไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยเท่านั้น แต่เขายังมีความสามารถที่น่าทึ่งอีกด้วย!”

“รอให้ทำงานพรุ่งนี้ ฉันจะต้องไปเปลี่ยนภาพติดฝาผนังห้องใหม่ทั้งหมด ฉันจะนำรูปของประธานไปติดให้เต็มห้องไปเลย!”

พนักงานเก่าที่เคยพูดการพนันก่อนหน้านี้ได้พูดขึ้นว่า:“ ฉันบอกพวกนายแล้วการมาถึงของประธานลูนั้นจะต้องช่วยให้เราไปไกลอย่างแน่นอน! พวกนายแพ้พนันแล้ว!”

คนที่แพ้พนันต่างก็อุทานว่า: “ฉันไม่น่าไปพนันกับนายเลย ฉันไม่ได้หวังไว้ว่าประธานเราจะเก่งขนาดนี้!”

ไม่เพียงแต่พวกพนักงานเท่านั้น  ฮันเจี๋ยและผู้นำโครงการชุดดั้งเดิมคนอื่นๆก็รู้สึกแบบเดี่ยวกับพวกเขา ในตอนแรกพวกเขายังกังวลเกี่ยวกับคำสั่งโดยพลการของลูชินอยู่เลยว่ามันอาจจะทำให้โครงการนี้ล้มเหลว

แต่เมื่อพวกเขามองไปที่โครงการตอนนี้สิ มันเกิดคืออะไร? เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าความกังวลของพวกเขาก่อนนี้หน้านี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ!

ฮันเจี๋ยพูดด้วยอารมณ์ว่า: “ฉันไม่รู้จริงๆว่าสมองของประธานลูทำมาจากอะไร การที่เขาสามารถทำโครงการนี้ตัวคนเดียว และยังสามารถลดระยะเวลาการวิจัยของไปได้อย่างน้อยหลายปีได้อีกอีกด้วย!”

“ฉันไม่แปลกใจเลยที่ประธานเหลี่ยวซ่งจะเชื่อการตัดสินใจของประธารใหญ่ก่อนหน้านี้”

“ อ่า ฉันไม่สามารถทำใจเชื่อได้เลย”

“ ตอนนี้ฉันต้องเชื่อแล้วว่าประธานใหญ่ของเรามีความสามารถที่จะติดอันดับนักโปรแกรมเมอร์ระดับโลกได้จริงๆ!”

บทที่166

ผู้แปล : N

เป้าหมายของลูชินในอุสาหกรรมภาคใต้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้วยการออกแบบเทมเพลตอันชาญฉลาดของเขาทีมงานโครงการสามารถปรับปรุง “ความฉลาด” ของเรทคลาวด์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องมีเขาอยู่ช่วยอีกแล้ว และผู้ช่วยอัจฉริยะนี้จะถูกนำไปใช้กับโทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยีตัวต่อไป

…

ลูชินกลับไปที่เมืองเจียงเฉิง เพื่อเคลียงานต่างๆที่ค้างเอาไว้

“ เมื่อเดือนที่แล้วยอดขาย HX2 ได้มีการลดลงแต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่า 3 ล้านเครื่อง” ในสำนักงานซู่จิงได้อ่านรายงานข้อมูลให้เขาฟัง

“ ในแง่ของกำลังการผลิตนั้นเราสามารถทำเพิ่มขึ้นได้ถึง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาดในตอนนี้”

“ ในส่วนโทรศัพท์โมดุล มีกำหนดจะวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนนี้และจากการวิเคราะห์ตลาดในปัจจุบันพวกเราคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 400,000 เครื่อง ซึ่งยอดขายนี้น้อยกว่าครึ่งของวันที่เราเปิดขายโทรศัพท์HX2”

ลูชินพยักหน้าและพูดว่า:“ โทรศัพท์โมดุลถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะ และเนื่องจากราคาเปิดตัวของเราค่อนข้างสูง ดังนั้นผลตอบรับช่วงแรกอาจจะช้าลงไปบ้าง!”

ซัมซุงและแอปเปิ้ลเป็นโทรศัพท์มือถือแบรนด์ต่างประเทศ เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีจำนวนมากดีกว่าโทรศัพท์ในประเทศ แต่ยอดขายในประเทศของพวกเขาก็ไม่ดีเท่าเมื่อเทียบกับแบรนด์ในประเทศ เป็นเพราะราคาที่พวกเขาตั้งไว้นั้นสูงเป็นอย่างมาก

ด้วยราคาของโทรศัพท์ของพวกเขาที่ตั้งราคาใกล้เคียงกับพวกนั้น ก็ทำให้บริษัทของเขาไม่สามารถทำยอดขายติดสามอันดับแรกได้ อย่างไรก็ตามในแง่ของปริมาณของผลกำไรบริษัทของเขาก็ไม่ได้น้อยกว่าบริษัทเหล่านั้นมากนัก

….

ในขณะนี้กลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากปักกิ่งซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทแอปเปิ้ลในจีน ได้จัดการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหานี้เช่นกัน

“ เดือนที่แล้วยอดขายของโทรศัพท์มือถือของเราในประเทศจีนได้ลดลงอีกครั้ง ยอดขายนี้ลดลงถึง 15%! นี่ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก!” ในห้องประชุมหัวหน้าเขตฮันเชี่นหรือเรียกอีกชื่อว่ามอร์ริส กริฟฟินชื่อในภาษาอังกฤษของเขาได้พูดขึ้นมาอีกว่า “พวกคุณคิดว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร”

มอร์ริส กริฟฟินเป็นชายผิวขาวธรรมดาที่มีรูปร่างสูงและเคยเป็นหัวหน้าแผนกการตลาดที่สำนักงานใหญ่ มานานกว่าสี่ปี

ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้เขาได้เห็นความร้อนแรงของโทรศัพท์แอปเปิ้ลในตลาดผู้บริโภคชาวจีนและเห็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายโทรศัพท์ในจีนอีกด้วย

จนถึงทุกวันนี้บริษัทแอปเปิ้ลก็ยังสามารถสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์จากตลาดจีนทุกปี! ฮันเชี่ยเชื่อว่าตลาดในประเทศจีนมีความสำคัญที่สุดรองลงมาจากตลาดอเมริกา ดังนั้นพวกผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่จึงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้

“ จากการสำรวจตลาดในตอนนี้ แสดงให้เห็นว่ามีเหตุการณ์สำคัญหลายประการ” ผู้บริหารคนหนึ่งพูดต่อว่า“ ประการแรกคือผู้บริโภคชาวจีนเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือใหม่ของพวกเขานั้นสามารถต่อสู้กับพวกเราได้ ดังนั้นยอดขายบางส่วนของเราถึงได้ลดลง”

“ ประการที่สองคือโทรศัพท์แบรนด์ในประเทศจีนนั้นมีราคาที่ถูกกว่าของเราอย่างมาก ประเด็นนี้น่าจะมีส่วนมากที่สุดที่ทำให้ยอดขายของเราตกลง”

“ ประการที่สามคือผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพที่ดีเกินไป ซึ่งนั้นทำให้ผู้บริโภคบางคนคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่”

“ นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ฉันต้องการได้ยิน!” ฮันเชี่ยพูดด้วยอารมณ์ต่อว่า “จากที่ฉันทราบมาคือเหตุผลหลักมาจากบริษัท Red Letter ”

“โดยส่วนตัวฉันได้ทำการศึกษาโทรศัพท์ของHX2 ของพวกนั้นมาแล้ว ซึ่งฉันคิดว่ามันอาจเป็นผลิตภัณฑ์เดียวในแบรนด์โทรศัพท์ของประเทศจีนที่สามารถแข่งขันกับพวกเราได้!

ไม่ว่าจะหน่วยประมวลผลหลัก, ระบบต่างๆของตัวเครื่อง, แบตเตอรี่ลิเธียม-แอร์, เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้โทรศัพท์HX2 สามารถมายืนเทียบกับเราได้!

นักวิเคราะห์ตอนแรกได้พูดขึ้นมาว่า:” ก่อนการเปิดตัวโทรศัพท์HX2 ยอดขายในตลาดของเราก็ตกลงอยู่แล้วถึงแม้ว่าจะไม่มากเท่าตอนนี้ก็เถอะ แต่เมื่อเราทำการเปิดตัว iPhone x ยอดขายของเราก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ”

และหลังจากที่โทรศัพท์HX2ได้เปิดตัว ยอดการขายของเราก็ได้ลดลงเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกันและแนวโน้มนี้อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต “

“ ดังนั้นนี่คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราตอนนี้ “ฮันเชี่ยพูดขึ้นว่า” พวกเราพอจะมีมาตรการรับมือการเหตุการณ์นี้ไหม? “

“ ลี คุณคิดอะไรได้บ้าง?”

คนที่ถูกถามนั้นได้ตอบกลับมาว่า“ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ชั้นนำของประเทศจีนแล้วในตอนนี้ เนื่องจากพวกเขานั้นสามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทในระดับเดี่ยวกับเราได้ นั้นถือว่าว่าตอนนี้เรากำลังเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว”

“ และไม่ใช้เพียงแต่เราเท่านั้นที่ประสบปัญหายอดขาย บริษัทเจ้าอื่นที่มีผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนเหมือนพวกเราก็เจอเหมือนกัน เพราะเมื่อทำการเปรียบเทียบในด้านราคาแล้วโทรศัพท์HX2ของพวกนั้นมีความต่างกันตั้งแต่หลังร้อยไปถึงพันหยวนเลยที่เดียว เมื่อเทียบราคาโทรศัพท์รุ่นล่าสุดของเรา”

“ดังนั้นผู้บริโภคจึงเต็มใจที่จะเลือกโทรศัพท์มือถือที่มีราคาถูกกว่าและยังผลิตในประเทศของตัวเองอีกด้วย “

” โอ้ ผมเกือบลืมมัน ยังมีอีกปัจจัยที่สำคัญที่นำไปสู่การสูญเสียลูกค้าของเรา นั่นคือระบบปฏิบัติการของพวกเขานั้นมีระบบที่เหมือนกับของเราอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภครู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อพวกเขาเปลี่ยนโทรศัพท์ไปใช้ของพวกเขา “

เมื่อฮัยเชี่ยได้ยินการวิเคราะห์ครั้งนี้ก็มีความคิดที่คล้อยตามเช่นกัน

ครู่ต่อมาเขาพูดว่า: “หากเราไม่มีโทรศัพท์มือถือใหม่ เราก็ไม่สามารถทำการลดราคาเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ นี่ไม่ใช่แนวทางปฏิบัติของเรา!”

พวกเขาขายราคาแพงมาโดยตลอดและพวกเขาต้องทำให้เกิดความเท่าเทียมกันกับผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ดังนั้นในแง่ของการจัดอันดับการขายทั่วโลกผลิตภัณฑ์ของพวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นอันดับแรก แต่ในแง่ของผลกำไรพวกเขาก็ไม่น้อยไปกว่าบริษัทอันดับแรกๆเลย!

และตอนนี้ได้มีบริษัทน้องใหม่ที่บังคับให้พวกเขาต้องทำการลดราคาเพื่อที่จะสามารถมีกำลังการแข่งขันกับพวกนั้นได้

หลังจากที่คนในห้องประชุมได้ยินแบบนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นมา

มันเป็นชาวอเมริกันที่ทำลายความเงียบขึ้น เขาพูดว่า:“ ผมคิดว่าที่โทรศัพท์HX2สามารถทำการบุกเข้ามาในตลาดของเราได้นั้น มีเหตุผลสำคัญก็คือระบบปฏิบัติการของพวกเขาเอง เพราะระบบของพวกเขานั้นสามารถใช้ซอฟต์แวร์ซีริของเขาได้ นั้นจึงเป็นเหตุผลให้ผู้ใช้ที่ภักดีของเราลดลง “

“ ดังนั้นผมขอแนะนำให้เราฟ้องร้องให้พวกเขาหยุดการละเมิดดังกล่าวทันที! ”

ในความเป็นจริงข้อเสนอนี้ต้องทำการคิดให้ดีเสียก่อนที่จะทำอะไรออกไป เพราะโทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นทำเพียงให้ดาวโหลดฟังก์ชั่นเสริมเท่านั้น

และซอฟต์แวร์และฟีเจอร์ที่จดสิทธิบัตรของบริษัทแอปเปิ้ล บริษัทลู่เทคโนโลยีไม่สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ ดังนั้นเรื่องที่พวกเขาดาวโหลดซอฟต์แวร์ในแอพของพวกเขาไม่ใช้การละเมิดโดยตรง สำหรับการละเมิดทางอ้อมนั้นในทางกฎหมายและข้อบังคับในประเทศจีนนั้นคลุมเครือและไม่ชัดเจนอย่างมาก

อย่างไรก็ตามประโยคนี้ดูเหมือนจะเป็นแรงบันดาลใจให้ฮันเชี่ย เขาพูดว่า: “ถูกต้องแล้ว เราต้องให้พวกเขาหยุดพฤติกรรมนี้และทำการชดเชยกับความสูญเสียที่เราได้รับ เราจะไม่อนุญาตให้โทรศัพท์ของพวกเขา ดาวโหลดแอพหรือซอฟต์แวร์ใดๆที่ผ่านบัญชี Apple ของพวกเราลงบนโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ไม่เช่นนั้นเป็นการละเมิดสิทธิ์ของเรา! ”

ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับว่าเขาพบวิธีที่จะเอาชนะบริษัทลู่เทคโนโลยีได้แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้เช่นกัน

บริษัทแอปเปิ้ลเป็นคนใจร้อนเช่นกัน หลังจากที่พวกเขาคุยเรื่องนี้ในห้องประชุมเสร็จแล้ว พวกเขาได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า “การเก็บภาษีแอปเปิล” สำหรับแอปพลิเคชั่นหรือซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่ไม่ใช้แบรนด์ของพวกเขาถึง 30%!

บทที่167

ผู้แปล : N.

ประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทแอปเปิ้ลนั้นรวดเร็วอย่างมาก พวกเขาใช้เวลาไปเพียงสามวันเท่านั้นในการประกาศกฎระเบียบใหม่ของพวกเขา และในไม่ช้าอุตสาหกรรมโทรศัพท์ในประเทศก็ตื่นตระหนกเนื่องจากแอปเปิ้ลได้ประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อทำการยกเลิกบริการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับบริษัทลู่เทคโนโลยี

ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นระบบแม่บ้านดูแลคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์ ด้วยที่ทางแอปเปิ้ลได้ตั้งข้อสงสัยว่าบริการเหล่านี้เป็นการละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องของระบบ IOS ของพวกเขา

“หลังจากการตรวจสอบระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยีได้มีฟังก์ชั่นและซอฟต์แวร์จำนวนมากที่ได้ละเมิดสิทธิ์และผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องของบริษัทของเราอย่างจริงจัง! ”

” จากนี้ไปซอฟต์แวร์และฟังก์ชั่นในระบบIOS จะไม่อนุญาตให้มีการดาวน์โหลดหรือใช้งานโดยตรงบนระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์บริษัทลู่เทคโนโลยีถ้ามีการตรวจพบจะต้องถูกลงโทษทันที เช่นการลบบัญชีในระบบIOSของผู้ใช้หรือการปิดบริการเป็นเวลา ที่นี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางบริษัท”

“ และบริษัท Red Letter ต้องชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้…”

สรุปสิ่งที่บริษัทแอปเปิ้ลได้ประกาศออกมาได้ว่า บริษัทแอปเปิ้ลต้องการทำให้บริษัทลู่เทคโนโลยีหยุดการใช้ซอฟต์แวร์และฟังก์ชั่นในระบบIOSของพวกเขาทั้งหมด และยังได้ทำให้การกระทำของบริษัทลู่เทคโนโลยีเป็นเคสตัวอย่างเพื่อในอนาคตจะไม่ได้มีบริษัทอื่นมาทำเลียนแบบอีกด้วย

เมื่อประกาศนี้ได้ถูกรายงานโดยสื่อ มันได้ก่อให้เกิดการโต้เถียงขึ้นอย่างมาก

สำนักข่าวเพนกวิน: “การกระทำของบริษัทแอปเปิ้ลนั้นถือว่าเป็นนักฆ่าในธุรกิจของโทรศัพท์ตอนนี้ก็ว่าได้”

สำนักข่าวฟีนิกซ์ “การยื่นฟ้องของบริษัทแอปเปิ้ล!”

สำนักข่าวประเด็นร้อน: “บริษัทแอปเปิ้ลได้ทำหนังสือประกาศล่าสุดเพื่อจะได้ฟ้องร้องบริษัท Red Letterสำหรับการละเมิด!”

สำนักข่าวไชน่าทาวน์: “บริษัทแอปเปิ้ลได้กล่าวหาว่าการกระทำของบริษัทลู่เทคโนโลยีเป็นการละเมิดและทำให้พวกเขาสูญเสียผลประโยชน์จำนวนมาก! “

เว็บไซต์บ้านมือถือ:” การกระทำของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นเป็นการละเมิดจริงหรือไม่ ทางผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายก็ไม่สามารถบอกได้ เพราะข้อกฎหมายที่มีอยู่ในตอนนี้นั้น…! “

…

การประกาศของบริษัทแอปเปิ้ล ไม่ได้เผยแพร่เฉพาะข่าวเท่านั้น พวกเขาได้ทำการส่งอีเมลไปยังผู้ใช้และนักพัฒนาซอฟต์แวร์โดยตรงอีกด้วย

ทางผู้ใช้โทรศัพท์มือถือของแอปเปิ้ลนั้นไม่ได้สนใจต่อการกระทำของพวกเขามากนัก อย่างไรก็ตามผู้ใช้โทรศัพท์HX1-HX2ต่างก็ไม่สบายใจที่ฟังการประกาศในครั้งนี้ของบริษัทแอปเปิ้ล

“บริษัทแอปเปิ้ลทำบ้าอะไร แล้วแบบนี้พวกเราจะทำยังไงต่อละ!”

“แม่* ตอนนี้ฉันใช้แอฟที่เกี่ยวกับระบบIOSไม่ได้แล้ว ”

“ไม่น่าแปลกใจ ฉันรู้มานานแล้วว่าเรื่องพวกนี้จะต้องเกิดขึ้น!”

“พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ของระบบIOSก็ได้  เรายังมีระบบ Android อยู่นะ มันยังสามารถใช้กับระบบปฏิบัติการของบริษัทลู่เทคโนโลยีได้! ทุกคนหันมาใช้ระบบ Android!

” สิ่งนี้ถือว่าเป็นการบังคับให้เราเลือกว่าจะไปอยู่ในค่ายไหนระหว่าง IOS หรือ Android “

…

ทางด้านนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ได้ฟังการประกาศครั้งนี้ก็ต้องทำการวางแผนใหม่ทั้งหมด เพราะมันไม่ใช้เรื่องเล็กๆเลยเมื่อพวกเขาต้องทำการออกแบบซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้กับระบบปฏิบัติการของบริษัทลู่เทคโนโลยีใหม่นี่จะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงอย่างมาก

แผนเดิมของพวกเขานั้นเมื่อมีการอัปเดตระบบ Android และ IOS ซอฟต์แวร์ของพวกเขาจะได้รับการอัปเดตไปพร้อมกันในครั้งเดียว แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องมาทำการแยกการอัพเดตซอฟต์แวร์ของพวกเขาออกเป็น 3 อย่าง คือ ระบบIOS ระบบAndroid  และระบบของบริษัทลู่เทคโนโลยีนี้ยังไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายในการพัฒนา ค่าบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะตามมาอีก ดังนั้นพวกเขาต้องเลือกตัดทิ้งไปหนึ่งเวอร์ชัน และพวกเขาได้เลือกระบบIOS และระบบของบริษัทลู่เทคโนโลยี

บริษัทลู่เทคโนโลยี

ลูชินที่ได้รู้ข่าวนี้เป็นครั้งแรก เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษเลยและเขายังได้ฟังวังถังอธิบายเรื่องนี้ว่า: “ตอนนี้บริษัทแอปเปิ้ลกำลังรีบ พวกเขาคิดว่าการกระทำของพวกเขานั้นสามารถทำให้เราล้มลงได้!”

“ห้ามใช้ซอฟต์แวร์และฟังก์ชั่นต่างๆของระบบ IOS ในโทรศัพท์ของเรานั้นมันส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อเรา เพราะผู้ใช้โทรศัพท์ของเราส่วนใหญ่คือผู้ใช้ระบบ Android ดังนั้นเรื่องที่พวกนั้นประกาศออกมาเราจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร ”

” และด้วยโอกาสนี้ เรายังสามารถเชิญนักพัฒนาซอฟต์แวร์เจ้าต่างๆมาพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีเฉพาะกับระบบปฏิบัติของเราได้!”

“ ฉันเห็นด้วยกับหัวหน้าวัง!” ซู่จิงวิเคราะห์และพูดว่า “จากเหตุการณ์นี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้กลัวการเติบโตของพวกเรา! “

“นี่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยๆในวงการนี้” ลูชินยิ้มและพูดว่า “แต่การกระทำของบริษัทแอปเปิ้ลในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเดินเกมที่พลาดอย่างมาก เพราะคู่ต่อสู้ของพวกเขาคือเรา”

“ คือบริษัทลู่เทคโนโลยี!”

“ถ้าพวกเขาต้องการฟ้องศาล พวกเราก็พร้อมเช่นกัน”

คดีพิพาทประเภทนี้ทุกบริษัทใหญ่ๆจะมีให้เห็นเป็นประจำและพวกเขาถือว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย โดยที่พวกเขาจะไม่เก็บมาใส่ใจ

“เรื่องพวกนี้ไม่ช้าก็เร็วพวกนั้นก็จะต้องยกมาเป็นประเด็นอยู่แล้ว เราแค่ต้องต่อสู้กลับไปก็พอ” ลูชินพูดต่อว่า “เนื่องจากพวกเขากลัวว่าเราจะครองตลาดของพวกเขา งันจากนี้เราจะทำสิ่งที่พวกเขากลัวให้เป็นจริง! ”

…

ในอุตสาหกรรมก็มีการพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน

บริษัทไรซ์ เทียนเซียงก็กำลังหารือเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคน

เทียนเซียงพูดว่า: “การเดินเกมครั้งนี้ของบริษัทแอปเปิ้ลถือว่าเป็นการตัดขาของบริษัทลู่เทคโนโลยีอย่างจงใจ ถ้าบริษัท Red Letter ไม่สามารถแก้เกมได้ พวกเขาต้องได้รับผลกระทบอย่างมาก”

“อันที่จริงไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบของโทรศัพท์บริษัทลู่เทคโนโลยี เราเองก็ได้รับความกดดันนี้เช่นกัน เพราะโทรศัพท์HX2 ถือว่าเป็นผลิภัณฑ์ชั้นนำในตอนนี้ มันทำให้แบรนด์ต่างๆที่มีอยู่ในตลาดต้องทำการลดราคาลงมาจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ”

” แม้แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิ้ลก็ได้ทำการลดราคาลงอย่างเงียบๆมาประมาณสองร้อยหยวน ดังนั้นนี้จึงถือว่าเป็นการต่อสู้ของพวกยักใหญ่!”

“ เป็นการต่อสู่กันระหว่างชาวประมงกับชาวประมง” เทียนเซียงพูดอีกว่า “ การต่อสู้ครั้งนี้เราคงทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นเราจะมุงไปยังตลาดในต่างประเทศมากขึ้น โดยเดือนหน้าเราจะทำการบุกตลาดแอนดรอยด์ในอินเดียและประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจะต้องทำการขยาดตลาดในครั้งนี้ให้ได้”

…

บริษัทเทนเซ็นต์ในฐานะบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตในประเทศเป็นและบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่สุด การประกาศของบริษัทแอปเปิ้ลนั้นส่งผลต่อพวกเขาโดยตรงเช่นกัน

ในห้องประชุมผู้บริหารระดับสูงกำลังพูดคุยถึงวิธีการจัดการกับเรื่องนี้ว่า: “ตอนนี้โทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยี ได้ยกเลิกฟังก์ชั่นการแปลงซอฟต์แวร์ในระบบ IOS ไปแล้ว นั้นทำให้แอพมือถือจำนวนมากของเราต้องได้รับการออกแบบใหม่เพื่อปรับให้เข้ากับระบบปฏิบัติการของพวกเขาเท่านั้น”

” ปริมาณงานนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่มาก ผมกลัวว่ามันจะไม่เสร็จในเวลาอันสั้นนี้! “

“เราไม่สามารถทำอะไรได้ เรายังต้องทำการรีบแก้ไขแอพที่เราทำมาให้เร็วที่สุด เพราะได้มีผู้ใช้โทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยี มากกว่าห้าสิบล้านเครื่อง นี้ถือว่าเป็น1ในสามของตลาดในประเทศเลยก็ว่า ”

ผู้บริหารระดับสูงพูดว่า “ในความเป็นจริงฉันชอบบริษัทลู่เทคโนโลยี มากกว่าบริษัทแอปเปิ้ล เพราะตลอดมาเราต้องจ่ายเงินให้พวกเขาเป็นเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ทุกปี ทั้งๆที่พวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการละเมิดพวกเขาเลย”

คนที่นั่งด้านข้างได้พูดขึ้นมาเช่นกันว่า “มันก็พูดยากเพราะบริษัทแอปเปิ้ลมีธุรกิจขนาดใหญ่และปริมาณของผู้ใช้ก็สูงตลอดมาแต่ตอนนี้มันกับไม่ใช้อย่างเคยแล้ว เพราะการปรากฏตัวของบริษัทลู่เทคโนโลยี”

…

คนทั่วไปที่ได้ฟังการประกาศของบริษัทแอปเปิ้ลต่างก็คาดการณ์การกระทำของบริษัทลู่เทคโนโลยี ว่าจะทำยังไง และบริษัทลู่เทคโนโลยีก็ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง พวกเขาได้ออกมาแถลง2ข้อด้วยกัน

ข้อแรกคือพวกเขาไม่ได้ทำการล่วงละเมิดอย่างที่บริษัทแอปเปิ้ลประกาศออกมาและพวกเขายังต้องการดำเนินคดีกับบริษัทแอปเปิ้ลที่ได้ประกาศเรื่องเท็จออกมาอีกด้วย

ข้อสองคือพวกเขาได้ประกาศว่าตอนนี้พวกเขาได้เชิญผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จำนวนมากมาทำการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้ได้ในระบบปฏิบัติการของพวกเขาโดยตรง ดังนั้นขอให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการเรทไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้

ทางด้านลูชินเขาก็ทำการตอบโตกลับไปเช่นกัน โดยที่เขาจะทำการปล่อยระบบผู้ช่วยอัจฉริยะเรทคลาวด์ล่วงหน้า และผู้ใช้โทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยี ทุกรุ่นสามารถดาวน์โหลดและใช้การอัปเดตเวอร์ชันได้ ไม่เพียงแค่นั้นเดือนนี้เขายังทำการเปิดตัวโทรศัพท์โมดุลอีกด้วยและหลังจากที่เขาทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วนั้น เขาจะทำการทำการลดราคาของโทรศัพท์HX2 ลงจากเดิน 200หยวน

ต้องยอมรับว่าการเดินเกมครั้งนี้ของลูชินนั้นคือการจงใจโจมตีบริษัทแอปเปิ้ลโดยตรง!

บทที่168

ผู้แปล : N.

บริษัทลู่เทคโนโลยี เลือกที่จะต่อสู้กลับ ซึ่งทำให้ผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิ้ลโกรธยิ่งขึ้น

“บริษัทลู่เทคโนโลยี นี้ไม่เพียงแต่ไม่ขอโทษ แต่พวกเขายังได้มาประณามพวกเราอีกด้วย?” ฮันเชี่ยนคำรามและพูดต่อว่า “และพวกเขากำลังเตรียมที่จะลดราคาโทรศัพท์HX2อีก นี้คือการประกาศสงครามกับเราเห็นๆ!”

“นับตั้งแต่เราได้ทำการประกาศระเบียบข้อบังคับ ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์HX2 จำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างมาก นั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี! “บุคคลที่รับผิดด้านข่าวสารได้พูดขึ้น

ลีพูดขึ้นว่า: “ผมคิดว่าปฏิกิริยาของบริษัทลู่เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่อันตรายมากสำหรับเรา! เราควรคิดถึงการตอบโต้ล่วงหน้าเผื่อเอาไว้ก่อน”

“ลี, คุณหมายถึงอะไร” ฮันเชี่ยนถามขึ้นมา เขาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลี่เสมอ เพราะเขาซึ่งเป็นคนอเมริกันมันอาจจะไม่เข้าใจความคิดของคนจีนในบางมุมมอง และนั้นอาจจะทำให้เกิดผลกระทบด้านลบแก่บริษัทได้

“คุณควรสังเกตว่าโทรศัพท์ตัวใหม่ที่พวกเขาวางจำหน่ายคือโทรศัพท์โมดุล ที่ถูกพูดถึงในการประชุมก่อนหน้านี้ว่าเป็นโทรศัพท์ที่มีความคิดสร้างสรรค์มาก สิ่งนี้ผมคิดว่าอาจจะเป็นอาวุธของพวกเขาที่จะใช้โจมตีพวกเรา!”

ลีพูดจบก็ได้มีใครบางคนหัวเราะและพูดว่า: “ถึงแม้ว่าโทรศัพท์โมดุลอะไรนั้นจะเป็นความคิดที่สร้างสรรค์จริง แต่มันก็คงไม่มีตลาดรองรับ! ความคิดแบบนี้ของพวกเขาจะทำลายตัวเอง”

ลีพูดแย้งว่า: “ในแง่ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของบริษัทลู่เทคโนโลยี นั้นถือว่าแข็งแกร่งกว่าเราอย่างมาก บางทีพวกเขาอาจจะมีทีเด็ดอะไรซ้อนอยู่ก็เป็นได้ “

” ฉันก็คิดแบบนั้น! “ฮันเชี่ยนถามต่อว่า” คุณมีอะไรจะนำเสนออีกไหม? ”

” แน่นอน “ลี่พูดต่อว่า” บริษัทลู่เทคโนโลยียังได้ออกมาเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะเหมือนเราอีก พวกเขาเรียกมันว่า เรทคลาวด์”

“ นี่อาจจะถือเป็นการตอบโต้ที่รุ่นแรงที่สุดของพวกเขา”

“ เรทคลาวด์ มันจะฉลาดไปกว่าซีริของเราได้ยังไง” ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจทันทีเมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของลี “ คุณต้องเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของบริษัทตัวเองสิ! ”

” ผมก็หวังว่ามันจะเป็นเช่นเดี่ยวกับที่คุณพูด “ลี่เห็นว่าทุกคนไม่สนใจฟังในสิ่งที่เขาบอก แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก

ในตลาดโทรศัพท์ระดับไฮเอนด์ของประเทศจีนได้เกิดสงครามระหว่างแอปเปิ้ลกับบริษัทลู่เทคโนโลยีขึ้นแล้ว

การฟ้องร้องของทั้งสองฝ่ายนั้นกินเวลาถึงหนึ่งเดือนและคาดว่าเรื่องพวกนี้ก็คงไม่สามารถสรุปผลลัพธ์ได้ภายในหนึ่งหรือสองปี ในแง่ของการแข่งขันในตลาดนั้นก็เริ่มจะรุนแรงและตรงไปตรงมามากขึ้น

เมื่อไม่สามารถใช้ซอฟต์แวร์ระบบIOSบนโทรศัพท์HX2ได้ ทำให้ปริมาณการขายของพวกเขาลดลงอย่างมากในสัปดาห์แรก

สัปดาห์แรกของเกมระหว่างบริษัทแอปเปิ้ลและบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นถือว่าแอปเปิ้ลเป็นฝ่ายชนะ อย่างไรก็ตามในสัปดาห์ที่สองบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการเปิดตัวของผู้ช่วยอัจฉริยะทำให้ให้ผู้ใช้โทรศัพท์HX2ได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น

เมืองเจียงเฉิง สถานที่จุดชมวิวยอดนิยม

ได้มีนักท่องเที่ยวผู้หญิงหลายคนกำลังเดินทางไปด้วยกัน ทุกครั้งที่ไปสถานที่ท่องเที่ยวพวกเธอจะต้องถ่ายรูปตามปกติ

ต่อหน้ารูปปั้นผู้หญิงสามคนได้เรียกชายที่อยู่บริเวณนั้นมาถ่ายรูปให้กับพวกเธอ

“คุณสามารถถ่ายรูปให้พวกเราได้ไหม? ”

” โอเค ” ชายคนนั้นดูมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือผู้หญิงกลุ่มนี้ พวกเธอได้ยื่นมือถือออกมาและส่งให้เขาทันที

“เฮ้ พวกคุณก็มีโทรศัพท์HX2 ทำไมพวกคุณถึงไม่ใช้มันถ่ายภาพละ”

“ทำไมเราต้องใช้มันละ?” กลุ่มผู้หญิงถามกลับไปด้วยความสงสัยเช่นกัน

” ใช้VI ของฉันถ่ายจะได้ภาพที่สวยกว่า”

“อ่า พวกคุณยังไม่ได้ลองใช้เรทคลาวด์ใช้ไหม ฉันขอให้พวกคุณรีบดาวน์โหลดมาใช้ทันที”

“ได้” ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์HX2 ได้โหลดโปรแกรมเรทคลาวด์ที่ชายคนนั้นพูดทันที และชายคนนั้นได้ทำการเปิดระบบขึ้นมาพร้อมพูดว่า: “เรทคลาวด์ถ่ายภาพพวกพี่สาวสามคนนี้”

“โอเค กล้องได้เปิดขึ้นแล้ว!” เรทคลาวด์ได้ล็อคภาพใบหน้าของทั้งสามอย่างชาญฉลาดและถ่ายภาพทันที

“ โอเค” ชายคนนั้นพูดขึ้นมาทันทีที่เขาเห็นว่าการถ่ายรูปนั้นเสร็จสมบรูณ์

“ เร็วขนาดนี้เลย งันเรามาถ่ายอีกสองสามรูปกันไหม?” ผู้หญิงทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปดูรูปอย่างอยากรู้อยากเห็นเพื่อดูว่าเขาถ่ายได้สวยหรือไม่

เมื่อพวกเธอได้เห็นรูปมันก็ทำให้พวกเธอแปลกใจออกมา ในภาพนั้นมีคนสามคนและรูปปั้นอยู่ในทิศทางที่สวยงามและใบหน้าของทุกคนสามารถโฟกัสได้อย่างชัดเจนมาก

“ฉันต้องขอบใจคุณมากที่บอกฉันให้รู้จักแอพตัวนี้” กลุ่มผู้หญิงพูดขึ้นมาหลังจากที่พวกเธอได้เห็นประสิทธิภาพของเรทคลาวด์

“ ไม่เป็นอะไร พวกคุณยังสามารถทำให้เธอช่วยแต่งรูปให้พวกคุณได้อีก” ชายคนนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ทำแบบนั้นได้ด้วย?” เจ้าของโทรศัพท์พูดขึ้นว่า “เรทคลาวด์ช่วยแต่งรูปที่ถ่ายไปทั้งหมด”

“โอเค รูปสวยๆกำลังมา!” เรทคลาวด์ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์แต่งภาพบนโทรศัพท์มือถือของเธอโดยอัตโนมัติ รายละเอียดของภาพถ่ายจำนวนมากได้รับการจัดการทันที

“ว้าว ฟังก์ชั่นนี้มันสะดวกอย่างมาก?” เพื่อนที่มาด้วยกันพูดอย่างประหลาดใจว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในแต่ละครั้งเมื่อทำการแต่งรูปพวกนี้ แต่นี้เธอกลับใช้เวลาเพียงที่ไม่กี่วินาที”

“แน่นอนนี่คือระบบเรทคลาวด์ผู้ช่วยที่ชาญฉลาดที่ไม่เหมือนใคร มันสะดวกสบายอย่างมาก “ชายคนนั้นพูดอย่างภูมิใจต่ออีกว่า ” พวกคุณยังสามารถให้เธอช่วยค้นหาเส้นทางและสถานทีท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบได้อีกด้วย!”

” ให้ฉันลอง” เพื่อนที่มาด้วยกันมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมากหลังจากที่พวกเธอได้รับประสบการณ์โดยตรง จนพวกเธอพูดขึ้นว่า: “ผู้ช่วยอัจฉริยะแบบนี้สุดยอดและสะดวกอย่างมาก หลังจากกลับไปฉันต้องไปหาซื้อแล้ว”

…

ในภาคใต้มีร้านค้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่

หยวนหยวนเป็นชาวต่างชาติและเขาก็ได้ทำธุรกิจเปิดร้านค้าออนไลน์เช่นกัน แต่เขามักจะรู้สึกว่าเขาไม่มีเวลาเหมือนกับญาติของเขา ดังนั้นเขาจึงได้เดินมาภาคใต้เพื่อที่จะได้เรียนรู้การทำงานจากญาติของเขา

เขาได้เดินเข้าไปในประตูร้านและเห็นลูกพี่ลูกน้องใหญ่ของเขากำลังเล่นเกมอยู่และเขาไม่ได้สนใจตอบคำถามของลูกค้าเลย

“ลูกพี่ลูกน้อง นายจะไม่ตอบคำถามของลูกค้าเลยเหรอ?” หยวนหยวนรีบเตือนขึ้นมาหลังจากที่เขาเห็นว่าได้มีการสอบถามรายละเอียดของสินค้าจากลูกค้า

ลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่เพียงจะไม่สนใจเท่านั้น เขายังพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องไปสนใจ ฉันได้ต้องโปรแกรมไว้แล้ว!”

“อะไร นายตั้งโปรแกรมอะไร?” หยวนหยวนได้ถามออกมาด้วยความแปลกใจ เพราะนี้อาจจะเป็นวิธีที่ญาติของเขาใช้ในการทำธุรกิจ

ลูกพี่ลูกน้องของเขาพูดในขณะที่เล่นเกมว่า “ นายยังไม่รู้อีกเหรอ นายจะล้าสมัยเกินไปไหม?”

“นายรีบบอกฉันมา” หยวนหยวนรู้สึกอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่ญาติของเขาพูดอย่างมาก เขาจึงพูดว่า“ ลูกพี่ลูกน้อง นายหมายถึงอะไร”

“นายมาดูด้วยตัวเองดีกว่า” ลูกพี่ลูกน้องได้ส่งโทรศัพท์HX2ของเขาไปให้หยวนหยวน ตอนนี้ก็มีลูกค้ากำลังสอบถามรายละเอียดสินค้าเข้ามาพอดี

ลูกค้า: “สวัสดี นี้เป็นรูปภาพร้องเท้าที่ฉันต้องการ ร้านของคุณมีมันหรือไม่?”

เขาเห็นว่าได้มีการตอบอัตโนมัติว่า: “คุณลูกค้า โปรดบอกรายละเอียดของสินค้าที่คุณต้องการแบบระเอียดให้ฉันได้หรือไม่?.”

หลังจากนั้นลูกค้าได้กรอกรายละเอียดสินค้าที่ต้องการลงไปทันที หลังจากนั้นได้มีข้อความตอบกลับโดยอัตโนมัติว่า: “โอเค ทางร้านของเราได้มีสินค้าแบบที่คุณต้องการ โดนที่ทางเรามีโปรโมชั่นถ้าคุณซื้อมากกว่า 300 ชิ้นในครั้งเดี่ยว เราจะทำการลดราคาให้คุณถูกลงอีก 30 หยวนต่อชิ้น”

ลูกค้า: “ตกลง ฉันต้องการมัน”

ระบบอัตโนมัติตอบว่า: “ขอบคุณ ทางเราจะจัดส่งสินค้าให้คุณทันทีหลังจากที่คุณได้ทำรายการสั่งซื้อขอบคุณ (อิโมติคอน: ยิ้ม)”

หยวนหยวนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและถามว่า: “พระเจ้าลูกพี่ลูกน้อง นายไปได้ซอฟแวร์ตอบกลับอัตโนมัติแบบนี้ที่ไหน? ”

” ระบบเรทคลาวด์ ตัวนี้มากับโทรศัพท์HX2 นายไม่รู้? “ลูกพี่ลูกน้องได้ตอบกลับไป

หยวนหยวนส่ายหัวของเขา ลูกพี่ลูกน้องของเขาเห็นแบบนั้นก็พูดอย่างภูมิใจว่า: “มันเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่นายสามารถสัมผัสมันได้เฉพาะโทรศัพท์HX2เท่านั้น นายสามารถทำการตั้งโปรแกรมการโต้ตอบแบบนี้ได้และฉันจะบอกนายอีกว่ามันสามารถทำได้ด้วยการพูดเท่านั้น “

“ แต่ถ้าลูกค้าต้องการรายละเอียดที่นอกเหนือจากที่ตั้งเอาไว้มันก็จะทำการแจ้งเตือนมาให้เราเป็นคนตอบเอง “

หยวนหยวนได้ยินแบบนั้นก็ถามด้วยความสงสัยว่า ” มันจะสะดวกเกินไปไหม? “

” เทคโนโลยีสมัยนี้ก็ต้องทำให้เราสบายขึ้นอยู่แล้ว”ลูกพี่ลูกน้องพูดจบก็ได้ทำการตรวจสอบรายการที่ลูกค้าสั่งซื้อทันที แต่เรทคลาวด์ได้พูดขึ้นมาก่อนว่า: “มาสเตอร์ ลูกค้าต้องการเปลี่ยนสีของสินค้าที่เขาได้สั่งซื้อไป นั้นสามารถเปลี่ยนได้หรือไม่”

“ได้”

“โอเค การส่งกลับไปยังลูกค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ”

หยวนหยวนที่ได้เห็นการตอบโต้ระหว่างลูกพี่ลูกน้องของเขากับระบบเรทคลาวด์ก็แสดงอาการแปลกใจมากยิ่งขึ้น

“พระเจ้า นี้มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มันสามารถแทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้เลย!” หยวนหยวนพูดด้วยความตกใจ

“เธอก็ไม่สามารถช่วยได้100% แต่อย่างน้อยฉันก็สามารถลดภาระงานลงได้หนึ่งในสาม ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงมีเวลาว่างมากขึ้นที่” ลูกพี่ลูกน้องตอบกลับมา

“666 ลูกพี่ลูกน้อง นายต้องสอนฉันนะ! ทุกวันนี้ภรรยาของฉันได้บ่นให้ฉันในเรื่องที่ไม่มีเวลาทำการบ้านเลย”

บทที่169

ผู้แปล : N.

ระบบเรทคลาวด์ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การโต้ตอบหรือถ่ายรูปเท่านั้น มันยังมีฟังก์ชั่นต่างๆที่รอให้ผู้ใช้ค้นพบอีกมาก

ตัวอย่างเช่นผู้ที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งออนไลน์ บางคนได้ดาวน์โหลดแอพสำหรับช็อปปิ้งมาจำนวนมาก และพวกเขาได้ให้เรทคลาวด์ทำรายการซื้อขายให้พวกเขาโดยที่วิธีการนี้สามารถลดระยะเวลาของพวกเขาลงไปจำนวนมาก

บางคนได้ดาวน์โหลดแอปการสอนและใช้ระบบเรทคลาวด์เพื่อฝึกการสื่อสารภาษาต่างประเทศ หรือผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายพวกเขาได้ใช้ระบบเรทคลาวด์ทำการควบคุมการออกกำลังกายและการกินของพวกเขา

แม้แต่ตอนนี้ผู้ใช้ก็ยังไม่สามารถสัมผัสขีดจำกัดของระบบเรทคลาวด์ตัวนี้ได้ นั้นจึงทำให้ระบบนี้เป็นที่สนใจอย่างมาก

ในสำนักงานใหญ่

ลูชินกำลังดูรายการผ่านทางวีแชท รายการชื่อว่า: “คุณใช้ระบบเรทคลาวด์ คุณชอบทำอะไรกับเธอมากที่สุด?”

ในวิดีโอได้มีผู้หญิงออกมาสัมภาษณ์ผู้คนตามท้องถนน โดยที่เธอใช้ไมโครโฟนและถามคนที่เดินผ่านไปมาแบบสุ่ม เธอพบชายหนุ่มคนแรกในวัยยี่สิบต้นๆ

“คนที่แต่งตัวประหลาดที่รูปหล่อ โปรดหยุดซักครู ฉันต้องการถามคำถามบางอย่างกับคุณ คุณได้ใช้โทรศัพท์HX2”

“ใช่” ชายA ตอบกลับมา

“ดังนั้น คุณรู้สึกยังไงกับระบบเรทคลาวด์และคุณใช้เธอทำอะไรบ้าง ”

“เธอสุดยอดมาก” ชายAพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันก็กำลังใช้งานเธออยู่เช่นกัน”

” ฉันไม่เคยใช้ระบบแบเธอมาก่อน ฉันต้องยอมรับว่าเธอใช้ได้ดีเป็นอย่างมาก”

” แล้วคุณใช้เธอทำอะไรบ่อยที่สุด? “ผู้หญิงคนนั้นถาม

“เล่นเกม” ชายAพูดต่อว่า “ฉันชอบเล่นเกมมือถือ บางครั้งมันลำบากมากในการพิมพ์เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่ฉันเจอ แต่ตอนนี้ฉันสามารถให้ระบบเรทคลาวด์ช่วยฉันในการพิมพ์ตอบโต้ได้แล้ว”

“โอเค ขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณนี่เป็นของขวัญเล็กๆสำหรับคุณที่มาร่วมตอบคำถามนี้” ผู้หญิงได้มอบของรางวัลเล็กๆให้หลังจากที่เธอหมดคำถาม

เธอได้ไปสัมภาษณ์พี่สาวที่เดินผ่านมาอีกคนและถามคำถามที่เธอถามชายคนแรกเช่นกันว่า

“แน่นอนว่ามันคือการแต่งรูป จากนั้นก็มีการซื้อของออนไลน์บ้างเป็นบางครั้ง! มันสะดวกมาก”

หญิงสาวข้างๆพูดว่า: “ ใช่แล้ว ฉันก็ได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง เธอได้ใช้ระบบเรทคลาวด์ในการคุยกับฉันใครบางคนเป็นเวลานาน มันช่างเหมือนคนจริงๆ!”

คนที่ถูกสัมภาษณ์คนต่อไปคือพนักงานออฟฟิศที่มีกระเป๋าเอกสารเขาตอบว่า:“ ระบบเรทคลาวด์ มันใช้งานง่ายมาก! มันเหมาะสำหรับการทำงานของฉันอย่างมาก ฉันมีกลุ่มวีแชทหรือกลุ่มคิวคิวจำนวนมาก ฯลฯ ในกลุ่มเหล่านั้นมักจะมีข่าวสำคัญอยู่ข้างใน “

“และฉันก็ไม่สามารถจ้องมองมันได้ตลอดเวลา ดังนั้นฉันจึงตั้งโปรแกรมให้เธอช่วยฉันตรวจสอบข่าวที่สำคัญก่อนที่จะส่งมาให้ฉัน”

ในวิดีโอยังมีนักเรียนระดับประถมศึกษาคนหนึ่งที่สัมภาษณ์เขาพูดโดยตรงว่า:“ ฉันใช้เธอเพื่อทำการบ้านเพียงแค่ถามคำถามที่ฉันต้องการออกไป เธอก็จะบอกคำตอบออกมาทันที เธอดีกว่าแม่ของฉัน “

” เด็กๆ การใช้แบบนี้มันก็ไม่ดีเท่าไร! ”

ในตอนท้ายของวิดีโอหญิงสาวพูดสรุปว่า:” หลังจากการตรวจสอบอย่างง่ายๆ เราสามารถรู้ได้ว่าระบบเรทคลาวด์นั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง แล้วคุณละได้หันมาใช้เธอแล้วหรือยัง?”

หลังจากที่ลูชินได้เห็นรายการเหล่านี้ก็ยิ้มออกมา เพราะนั้นแสดงให้เห็นว่าการทำของอย่างหนักตลอดหนึ่งเดือนของเขาไม่ได้สูญเปล่า

ระบบเรทคลาวด์เปิดตัวเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาและได้รับความสนใจอย่างมาก เธอได้รับการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตบ่อยครั้ง นั้นจึงทำให้ยอดขายโทรศัพท์HX2 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในระยะเวลาอันสั้น!

และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ด้วยการเปิดตัวของโทรศัพท์โมดุล มันยิ่งเป็นการต้องย้ำกระแสที่ร้อนแรงตอนนี้อย่างมาก!

โรงเรียนมัธยมในเจียงเฉิงในห้องเรียนซู่เสี่ยวได้หยิบโทรศัพท์มือถือโมดุลของเธอออกมา

กลุ่มนักเรียนได้รีบเข้ามาล้อมรอบเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็นและดูความแปลกใหม่

“ซูเสี่ยวนี้คืออะไร ฉันรู้สึกถึงความไฮเอ็นด์อย่างมาก” นักเรียนที่สวมแว่นตาด้านข้างถามเธอ

“นี่คือโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดของบริษัทลู่เทคโนโลยี มันเรียกว่าโทรศัพท์โมดูล!” ซู่เสี่ยวตะโกนอย่างภาคภูมิใจว่า “พี่เขยของฉันได้ส่งมาให้ฉัน”

“โทรศัพท์โมดุล? มันคืออะไร” หลายคนงงงวย

“พวกเธอมอง! นี่คือตัวหลัก นี่คือโมดูลฮาร์ดแวร์ตราบใดที่มีการประกอบมันสามารถมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้” ซู่เสี่ยวหยิบชิ้นส่วนออกมาและเริ่มประกอบ

ในสายตาของนักเรียนพวกเขาได้เห็นเธอรวมโมดูลตามวิธีการประกอบตัวอย่างในคู่มือและจากนั้นมีการสร้างโทรศัพท์ใหม่!

“แม่* มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว” เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งพูดออกมา

“แน่นอน มันคือสิ่งที่พี่เขยของฉันสร้าง!” ซูเสี่ยวพูดจบก็ได้กดปุ่มบูตใช้งาน ได้มีกระแสไฟไหลผ่านแต่ละโมดูลและหน้าจอก็สว่างขึ้นทันทีแสดงอินเทอร์เฟซของบริษัทลู่เทคโนโลยี

“มันสามารถใช้งานได้จริงเหรอ!” นักเรียนที่อยู่โดยรอบต่างอุทานออกมา

“ไม่ต้องตื่นเต้น นี่เป็นเพียงรุ่นพื้นฐานที่สุด เรามาดูประสิทธิภาพกันดีกว่า” ซู่เสี่ยวพูดต่อ: “ฉันกำลังติดตั้งโมดูลเกมลงไป”

หลังจากที่ซูเสี่ยวติดตั้งโมดูลเกมลงไปโทรศัพท์ของเธอก็จะกลายเป็นเครื่องเกมทันทีและมันยังได้แสดงฟังก์ชั่นทั้งหมดที่เครื่องเกมตามท้องตลาดมี

นักเรียนชายหลายคนตื่นเต้นทันทีและพวกเขาพูดว่า: “โทรศัพท์นี้มีประสิทธิภาพอย่างมาก กลับบ้านไปฉันต้องบอกให้พ่อซื้อให้เครื่องหนึ่ง!”

“นี่คือโมดูลกล้อง ด้วยที่เรามีสิ่งนี้เราจะสะดวกอย่างมากเมื่อเราทำการบันทึกวิดีโอในอนาคต!” ซู่เสี่ยวได้พูดกับเพื่อนรอบตัวเธออีกครั้ง

“นี้ยังมีโมดูลสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงอีกด้วย เธอสามารถบันทึกเพลงที่ต้องการลงบนตัวเครื่องและเมื่อเธอทำการเล่นมัน มันจะทำให้เธอสัมผัสเหมือนกับว่ากำลังฟังจากลำโพงราคาหลายหมื่นหยวนเลย” ซู่เสี่ยวได้เปลี่ยนโมดูลเพลงและเล่นมันทันที

ทุกคนได้เงียบลงเพื่อที่พวกเขาจะได้ฟังเพลงและทำการเปรียบเทียบ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าโมดูลเพลงนั้นดีกว่าลำโพงทีติดโทรศัพท์ทั่วไปยังไง แต่พวกเขาก็รู้ว่าเพลงที่เปิดจากตัวนี้ดีกว่าโทรศัพท์มือถือของพวกเขามาก

“ซู่เสี่ยว โทรศัพท์นี้ราคาเท่าไหร่” หลายคนกระตือรือร้นที่จะทราบราคา

“ตัวโทรศัพท์โมดูลมีราคาเดียวกับโทรศัพท์HX2 แต่ถ้าพวกนายต้องการซื้อโมดูลอื่นแยก พวกนายต้องเสียเงินเพิ่ม” ซูเสี่ยวอธิบาย

“แน่นอน ฉันจะต้องซื้อมัน! ”

บทที่170

ผู้แปล : N.

บริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการเปิดตัวโทรศัพท์โมดุล การกระทำครั้งนี้ของพวกเขาได้ทำให้ยอดขายโทรศัพท์HX2และHX1เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

…

สำนักงานใหญ่ของบริษัทแอปเปิ้ลเขตภูมิภาคจีน บรรยากาศไม่ได้ดีเหมือนเมื่อสองหรือสามสัปดาห์ที่แล้วใบหน้าของผู้บริหารระดับสูงไม่สามารถมีรอยยิ้มออกมาได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมากสำหรับพวกเขา

ในไม่กี่วันหลังจากที่พวกเขาได้ทำการออกประกาศเรื่องการละเมิดของบริษัทลู่เทคโนโลยี ยอดขายโทรศัพท์ของพวกเขาได้เพิ่มขึ้นในสัปดาห์แรก อย่างไรก็ตามในสัปดาห์ที่สองแนวโน้มก็ได้ลดลง!

ในห้องประชุมฮันเชี่ยนขมวดคิ้ว เพราะด้านหน้าของเขาตอนนี้มีรายงานยอดขายของพวกเขาในสัปดาห์นี้

เขาพูดว่า “ประเทศจีนมีคำพูดที่เรียกว่ารู้จักศัตรูให้ดีเหมือนรู้จักตัวเอง ตอนนี้โทรศัพท์HX2ได้มีระบบผู้ช่วยอัจฉริยะขึ้นมา, พวกคุณได้ทำการทดลองใช้แล้วใช้ไหม? พวกคุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างเมื่อเปรียบเทียบกับซีริของเรา?”

ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมนี้ต่างก็เงียบ พวกเขายังจำได้ว่าเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขายังได้พูดดูถูกผู้ช่วยอัจฉริยะของบริษัทลู่เทคโนโลยี ว่ามันเป็นเพียงซอฟต์แวร์ระดับต่ำกว่าของพวกเขา

แต่เมื่อพวกเขาได้สัมผัสเป็นการส่วนตัว พวกเขาพบว่าผู้ช่วยอัจฉริยะระบบเรทคลาวด์นี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าซีริของพวกเขาด้วยซ้ำ

ถึงมันจะแข็งแกร่งกว่าของพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าพูดความคิดนี้ออกมา

“เทย์เลอร์คุณคิดยังไง?” ฮันเชี่ยนได้ถามคนที่ชื่อเทย์เลอร์ เขาเป็นผู้รับผิดชอบด้านข่าวกรองที่สำนักงานใหญ่ก่อนที่จะถูกส่งมายังประเทศจีน และเขาก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ในสหรัฐอเมริกาอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ที่เขาได้ยินข่าวการปล่อยระบบผู้ช่วยอัจฉริยะของบริษัทลู่เทคโนโลยี เขาดูมันเป็นเพียงเรื่องตลกและไม่จำเป็นต้องกังวล แต่เมื่อเขาได้รับรู้ความจริงเขาก็เหมือนโดนคำพูดของตัวเองตบหน้า

เทย์เลอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: “ระบบเรทคลาวด์ มันได้อยู่เหนือจินตนาการของผมเป็นอย่างมาก ผมต้องยอมรับว่ามันมีความก้าวหน้าในด้านของสติปัญญามากกว่าซีริของเราตอนนี้”

เมื่อเขาพูดสิ่งนี้ทุกคนต่างก็แสดงออกอย่างประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดว่าบริษัทแอปเปิ้ลของพวกเขาจะถูกกดดันโดยบริษัทในประเทศจีนในด้านเทคโนโลยี?

เทย์เลอร์พูดต่อว่า:“ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน แต่ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าระบบเรทคลาวด์นั้นมีความสามารถไม่มีขีดจำกัด มันไม่ได้มีปัญหาด้านการสื่อสารที่เราเจออยู่และมันยังตอบสนองฟังก์ชั่นบางอย่างตามความต้องการของผู้ใช้ได้อีกด้วย นี่คือข้อได้เปรียบของพวกเขา “

“และเมื่อไม่กี่วันก่อนผมได้บินกลับไปยังสหรัฐอเมริกาไปที่บริษัทแม่เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกของระบบผู้ช่วยอัจฉริยะเรทคลาวด์ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก “

เทย์เลอร์พูดจบ ฮันเจี่ยนก็แสดงอารมณ์ที่ไม่ดีออกมาทันที เขาถามว่า: “ลี่ คุณเคยคาดการณ์มาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คุณมีวิธีจัดการกับเรื่องนี้ไหม?”

ลี่ส่ายหัวและพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า: “นี่เป็นเรื่องทางด้านเทคนิคซึ้งผมไม่มีความรู้ด้านนี้มากนัก แต่ผมคิดว่าวิธีรับมือที่เป็นไปได้มากที่สุดคือพยายามพัฒนาเทคโนโลยีของเราให้ไปถึงระดับพวกเขาให้ได้ “

ทุกคนที่ได้ฟังแบบนี้ต่างก็มีความคิดเห็นตรงว่าเป็นไปไม่ได้ พวกเขารู้ดีว่าการพัฒนาเทคโนโลยีของพวกเขาให้ไปถึงระดับของบริษัทลู่เทคโนโลยี มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาโดยใช้เวลาอันสั้น

“ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ไม่ใช้กับบริษัทลู่เทคโนโลยี พวกนั้นไม่เพียงแต่มีระบบเรทคลาวด์เท่านั้น พวกเขายังถือว่ามีผลิตภัณฑ์โทรศัพท์ที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้อีกด้วย!” ฮันเชี่ยนได้ยกประเด็นที่ร้ายแรงที่สุดที่พวกเขาเผชิญอยู่ตอนนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้ง

เนื่องจากยอดขายของโทรศัพท์มือถือแบรนด์แอปเปิ้ลได้ตกลงอย่างรวดเร็ว!

ตอนนี้เขาต้องการคำแนะนำจากทุกคนเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครคิดวิธีที่ดีออกมาได้ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด

เมื่อพวกเขาได้รับรายงานของยอดขายโทรศัพท์ในตลาดจีนเมื่อเดือนที่แล้วมา มันยิ่งทำให้สถานการณ์ที่พวกเขาเป็นอยู่ตอนนี้ยิ่งแย่ลงไปใหญ่

สำนักข่าวทั่วทั้งประเทศได้ทำการประกาศยอดขายโทรศัพท์ในตลาดจีนที่ผ่านมาและยอดขายโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งคือโทรศัพท์ HX2 ของบริษัทลู่เทคโนโลยี!   ที่สองคือโทรศัพท์ของบริษัทไรซ์ซึ่งรุ่นที่ขายดีนั้นคือรุ่นที่ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการของบริษัทลู่เทคโนโลยี

และถึงแม่ว่าโทรศัพท์โมดุลจะไม่ได้รับการนำเสนอในครั้งนี้ แต่รุ่นนี้ก็สามารถขายได้ถึง 800,000 เครื่องในเดือนนี้ นี้อาจพูดได้ว่าเป็นโทรศัพท์รุ่นที่ขายดีที่สุดในโทรศัพท์ประเภทโมดูล!

ในทางตรงกันข้ามยอดขายโทรศัพท์มือถือของเจ้าอื่นที่ระดับราคาเดียวกัน ก็ได้มียอดขายที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือบริษัทแอปเปิ้ล เพราะในช่วงก่อนนั้นพวกเขาได้ทำหนังสือประกาศห้ามใช้ซอฟต์แวร์ของ IOS ในระบบปฏิบัติการเรทโดยตรงและพวกเขายังได้ทำการฟ้องร้องบริษัทลู่เทคโนโลยีในเรื่องที่เกิดขึ้นอีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้ดึงดูดผู้ใช้และนักพัฒนาซอฟต์แวร์จำนวนมาก

ในช่วงต้นสัปดาห์ทุกคนยังคงเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิ้ล อย่างไรก็ตามหลังจากการเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะของบริษัทลู่เทคโนโลยี ทุกคนพบว่าโทรศัพท์ของพวกเขานั้นคือขยะเมื่อเทียบกัน?

โทรศัพท์HX2นั้นมีดีกว่า! และบริษัทลู่เทคโนโลยียังได้เชิญนักพัฒนาซอฟต์แวร์มาพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีเฉพาะในระบบปฏิบัติการของพวกเขาขึ้นมาอีกด้วย

ประสิทธิภาพที่ดีกว่า ราคาถูกกว่า และยังเป็นผลิตภัณฑ์ในประเทศ นั้นจึงได้ส่งผลให้ยอดขายโทรศัพท์ของพวกเขาในเดือนที่แล้วลดลงไปครึ่งหนึ่ง!

ถูกต้อง! มันคือครึ่งหนึ่งแล้วนี้เป็นผลลัพธ์ที่พวกเขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน! ปีที่แล้วยอดขายโทรศัพท์ของ พวกเขาโดยเฉลี่ยต่อเดือนในตลาดประเทศจีนจะอยู่ที่ 4.25 ล้านเครื่อง แต่เมื่อเดือนที่แล้วกลับมียอดขายเพียง 2.1 ล้านเครื่อง!

ฮันเชี่ยนได้เปลี่ยนความคิดที่มั่นใจในตอนแรกมาเป็นความหวาดกลัว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันส่งผลกระทบต่อตำแหน่งของเขาตอนนี้อยากมาก! ปริมาณการขายที่ลดลงตอนนี้ถ้าถูกแปลงเป็นผลประกอบการมันจะมีมูลค่าถึง พันล้านหยวน!

ตั้งแต่เขาเป็นหัวหน้าเขตภูมิภาคประเทศจีนของแอปเปิ้ลมานั้นไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้มาก่อน! ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยไม่คำนึงถึงยอดขาย ประสิทธิภาพการทำงานของเขาที่ส่งไปยังสำนักงานใหญ่ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและตอนนี้เป็นครั้งแรกที่บริษัทแอปเปิ้ลถูกโจมตีด้วยบริษัทในประเทศจีน!

ในสำนักงานฮันเชี่ยนมองไปยังนอกหน้าต่าง ตอนนี้เขาไม่ต้องการดูรายงานสรุปผลที่อยู่บนเดสก์ท็อปตรงหน้าของเขา

อย่างไรก็ตามได้มีการเตือนสายวิดีโอดังขึ้นมา บนคอมพิวเตอร์ของเขา

ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอคือทิมคุ๊ก ซีอีโอคนปัจจุบันของแอปเปิ้ล ซึ่งถือว่าเป็นคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก!

ฮันเชี่ยนเชื่อมต่อการสื่อสารและเห็นการแสดงออกของทิมดูไม่มีความสุขอย่างมาก เขาสวมแว่นตาและผมของเขาเป็นสีเทาร่างกายที่อ่อนแอดูเหมือนจะแสดงออกถึงความสง่างามซึ่งทำให้ฮันเชี่ยนรู้สึกกลัวเล็กน้อย

“ ฮันเชี่ยน ฉันเห็นรายงานยอดการขายประเทศจีนแล้ว ฉันต้องบอกว่าผิดหวังมากกับการทำงานของนาย!” น้ำเสียงของทิมได้แสดงความโกรธออกมาชัดเจน

“ นายรู้ไหม? เมื่อเดือนที่แล้วโทรศัพท์ของเราสามารถทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดอเมริกาเหนืออีกครั้ง แต่ความยินดีในครั้งนี้ต้องหมดลงเพราะรายงานของนาย!”

บทที่171

ผู้แปล : N.

เหตุผลคืออะไร? ฮันเชี่ยนได้คิดมาตั้งแต่เขาได้รู้ผลสองสัปดาห์แรกแล้วและเขายังได้ตั้งคำถามนี้กับทุกคนมาตลอด พวกนั้นก็ได้ให้เหตุผลต่างๆมากมาย แต่เหตุผลที่ส่งผลให้ยอดขายของเขาลดลงมากที่สุดคือบริษัทลู่เทคโนโลยี

โทรศัพท์ของพวกนั้นได้เข้ามาแทนที่โทรศัพท์มือถือของพวกเขาในตลาดประเทศจีน เพราะผลิตภัณฑ์ของพวกนั้นมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า มีความคิดสร้างสรรค์ที่มากกว่าและที่สำคัญพวกนั้นได้มีระบบผู้ช่วยอัจฉริยะเรทคลาวด์ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้

ฮันเชี่ยนหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตอบว่า: “คู่แข่งของเราชื่อบริษัทลู่เทคโนโลยี พวกนั้นได้ยึดส่วนแบ่งตลาดที่เคยเป็นของเราไป”

“ผมได้ให้ลูกน้องทำการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับพวกนั้นแล้ว และมันจะถูกส่งไปยังกล่องอีเมลของคุณในภายหลัง”

“บริษัทลู่เทคโนโลยี?” ทิมรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้ เพราะชื่อของบริษัทนี้ได้ถูกกล่าวถึงซ้ำๆในรายงานเมื่อเร็วๆนี้ของประเทศจีน ตอนนั้นเขาเพียงแค่รู้สึกว่ามันเป็นชื่อที่ไม่ต้องใส่ใจมากนัก

“ นี่คือเหตุผลของนาย?”

“เพราะคู่แข่งมีความแข็งแกร่งกว่าพวกเรามันจึงได้ให้เราประสบปัญหา นายคิดว่าเหตุผลนี้มีนำหนักมากกว่าประสิทธิภาพในการทำงานของนายเอง?” ทิมได้ถามขึ้นมา

ฮันเชี่ยนไม่มีอะไรจะพูดอีกเมื่อเขาได้ยินคำถามนี้ของเจ้านาย เขาพูดเพียงว่า: “ผมยอมรับในความผิดครั้งนี้ของผม แต่ผมต้องขอยืนยันคำพูดที่เคยบอกท่านไปแล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะบริษัทลู่เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของพวกนั้นแข็งแกร่งกว่าเรามาก! “

ทิมได้ยินคำพูดของฮันเชี่ยนก็ได้เงียบลงเช่นกัน เพราะฮันเชี่ยนคือคนที่เขาได้ส่งไปยังประเทศจีนในฐานะประธานใหญ่ของบริษัทแม่ของประเทศจีน ความสามารถของเขานั้นดีมากดังนั้นคำพูดของเขาจึงมีความน่าเชื่อถือสูง และตอนนี้ตลาดในประเทศจีนถือว่าเป็นรายใหญ่อันดับสองลองลงมาจากตลาดอเมริกาเหนือดังนั้นผลที่เกิดขึ้นกับฮันเชี่ยนเขาจึงต้องพิจารณาอีกครั้ง

เขาตัดสินใจที่จะเชื่อเขาพูดของฮันเชี่ยนและเขาจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์คู่แข่งรายนี้อย่างจริงจัง!

…

ยอดขายโทรศัพท์มือถือในประเทศของแอปเปิ้ลได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยอดขายของโทรศัพท์บริษัทลู่เทคโนโลยีกลับสวนทางขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

เว็บไซต์บ้านโทรศัพท์มือถือได้ทำการเปิดตัวด้วยหัวข้อข่าวที่ว่า: “บริษัทลู่เทคโนโลยีvs บริษัทแอปเปิ้ล, การต่อสู้ครั้งแรกบริษัทลู่เทคโนโลยีเป็นฝ่ายชนะ!”

“เมื่อบริษัทแอปเปิ้ลได้ทำการประกาศเรื่องการละเมิดของบริษัทลู่เทคโนโลยี, โทรศัพท์มือถือของแอปเปิ้ลได้รับผลตอบรับที่เพิ่มขึ้นในช่วงแรก แต่เมื่อบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะเรทคลาวด์ โทรศัพท์ของพวกเขาก็กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดทันที! “

“ในการสำรวจของเราพบว่าผู้คนกว่า 60% ยินดีที่จะเป็นเจ้าของโทรศัพท์HX2 ซึ่งหมายความว่ายอดขายโทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยีจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอีกในเดือนต่อๆไป!”

“การกระทำก่อนหน้านี้ของบริษัทแอปเปิ้ลกลายเป็นเสือกระดาษที่ถูกบริษัทลู่เทคโนโลยีเจาะทำลายลงไปอย่างง่ายดาย และเหตุการณ์ครั้งนั้นยังได้เป็นการสร้างกระแสให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นที่สนใจในสถานบันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติอีกด้วย ”

……

ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทลู่เทคโนโลยียังได้ออกมาพูดอีกว่า :”โทรศัพท์HX2และโทรศัพท์โมดุลนั้นดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์แอปเปิ้ล! ”

” โทรศัพท์ของบริษัทลู่เทคโนโลยีคือผลิตภัณฑ์ระดับไฮด์เอ็น!”

“ น่าทึ่ง! พวกเขาคือโทรศัพท์มือถือในประเทศที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในตอนนี้!”

“ เมื่อโทรศัพท์มือถือของบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการขายในต่างประเทศเมื่อไร บริษัทต่างประเทศเหล่านั้นคงจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน!”

“ว้าว เราจะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในที่สุด! “

…

ลูชินที่ได้เห็นผลรายงานแบบนี้เขาก็มีความสุข เพราะเมื่อก่อนตอนที่เขาได้ประกาศว่าเขาจะเลิกผลิตเกมและได้ส่งมอบหน้าที่นี้แก่บริษัทย่อย ได้มีคนที่ต่อต้านและไม่เห็นด้วยจำนวนมาก

ในความเป็นจริงแม้แต่วังถังก็รู้สึกว่ารูปแบบของโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ของพวกเขาอาจจะเป็นเรื่องอยากที่จะตีตลาดได้ แต่วันนี้เขากับคิดผิด!  ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้กลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดในตอนนี้และไม่มีใครสามารถที่จะแข่งขันกับเขาได้!

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงผลลัพธ์ในปัจจุบันเท่านั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงของตลาดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต บางทีในอนาคตอาจจะมีบริษัทที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีแบบพวกเขาขึ้นมาได้

แต่นั้นก็เป็นเรื่องของอนาคต ดังนั้นในตอนนี้ลูชินจึงได้ทำการประกาศเรื่องการเพิ่มโบนัสให้กับพนักงานของเขาเพื่อเป็นการสนับสนุนให้พวกเขาพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ และมีฟังก์ชันมากขึ้นในอีกในอนาคต

ลูชินยังได้จัดประชุมรอบพิเศษเพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาในอนาคตกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของบริษัทอีกด้วย

“ตอนนี้เราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราไปยังจุดที่ดีที่สุดในขณะนี้ ประธานลู! ผมคิดว่าเราสามารถเริ่มคิดการสร้างร้านค้าของเราอย่างเป็นทางการได้แล้ว!” หลิวตงได้เสนอขึ้นมาหลังจากที่เขาได้เห็นผลประกอบการล่าสุด

เพราะการขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขานั้นส่วนใหญ่ได้ทำผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ มันไม่เพียงพอ

“ข้อเสนอนี้อาจเป็นไปได้ ในหกเดือนที่ผ่านมางบประมาณการเงินของเรามีความคล่องตัวมากขึ้น นี้คงพอที่เราจะสร้างร้านของเราเองได้” ลูชินได้เห็นด้วยกับความคิดนี้ของหลิวตง

“รูปแบบของร้านนั้นผมได้ทำการได้เตรียมสำเนาไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าโครงการนี้ผ่านการเห็นชอบจากประธานมันจะสามารถเปิดทำการได้ภายในหนึ่งปีและจำนวนร้านที่ผมได้คิดไว้คือ 150 ร้าน ซึ่งนี้คือตัวเลขที่สามารถคลอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจส่วนใหญ่ในประเทศของเราทั้งหมด” หลิวตงได้เตรียมงบประมาณรายละเอียดไว้ และกระบวนการต่างๆพร้อม

คนอื่นๆก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ของเขา ดังนั้นข้อเสนอแรกจึงได้รับการอนุมัติทันที

ในแง่อื่นๆพวกเขายังได้พูดถึงการนำผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเข้าไปสู่ตลาดต่างประเทศ

“โทรศัพท์ของเรานั้นยอดเยี่ยมมากในตลาดในประเทศ ถ้าเรายังสามารถรักษายอดขายในปัจจุบันได้ไปตลอดปีนี้เราอาจจะสามารถเริ่มแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เราในต่างประเทศได้” ได้มีคนที่ร่วมประชุมในครั้งนี้เสนอขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาได้พูดกันในเรื่องนี้

ผู้บริหารระดับสูงบางคนที่ได้ฟังเรื่องนี้ก็พูดขึ้นว่า “นี่เป็นเรื่องที่ยังไงเราก็ต้องทำอยู่แล้ว แต่ผมคิดว่าเรายังไม่พร้อมในการไปตีตลาดต่างประเทศ”

“เพราะความพร้อมและความรู้ในด้านที่จำเป็นนั้นเรายังมีไม่มากพอที่จะตัดสินใจได้ เรายังต้องทำการตรวจสอบตลาดจากต่างประเทศอีก ไหนจะค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้ไปแล้วไหนเราจะต้องหาสถานที่เพื่อจัดตั้งสาขาและโรงงานอีก มันไม่ใช้เรื่องง่ายเลย”

“ฉันรู้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องอยาก” ลูชินพูดต่อว่า:“ แต่ยังไงเราก็ต้องไปอยู่ดี ดังนั้นฉันอยากให้พวกคุณไปทำการบ้านเรื่องนี้มาให้เร็วที่สุด”

“ตามที่ประธานลูต้องการ ฉันขอแนะนำให้เราจัดตั้งแผนกวิจัยตลาดต่างประเทศเพื่อทำการตรวจสอบนโยบายและสภาพตลาดของต่างประเทศขึ้นมาด้วยเฉพาะ เพื่อที่เราจะสามารถเตรียมแผนรับมือได้ดียิ่งขึ้น “ซู่จิงได้แสดงความคิดเห็น

ข้อเสนอนี้ของเธอได้รับการเห็นชอบอย่างมากจากทุกคน

บทสรุปของการประชุมในครั้งนี้ก็จบลงแบบนี้

….

กลุ่มแชทเทคโนโลยีสีดำ ราชินีแดงกำลังคุยกับโทนี่เกี่ยวกับไวรัสที่ตายแล้ว

ราชินีแดง: “ไวรัสเอเลี่ยนตัวนี้เข้ากันไม่ได้กับไวรัสทีและไวรัสจี ฉันได้ทดลองศึกษาพวกมันในรูปแบบอื่นๆแต่มันกับเป็นผลให้เกิดการระเบิดขึ้นมา”

โทนี่: “ฉันต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้คาดหวังว่าไวรัสนี้จะเกิดเหตุแบบนี้”

“ฉันเองก็ได้ศึกษามันด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนักและฉันก็ได้เจอการระเบิดแบบเดี่ยวกันอีกด้วย “

ราชินีแดง:”…. “

บทที่172

ผู้แปล : N.

ดูการแสดงออกของราชินีแดง, แน่นอนว่าลูชินต้องไม่ปล่อยโอกาสแบบนี้ผ่านไป เขาได้ส่งภาพล้อเลียนไปอย่างรวดเร็วพร้อมข้อความว่า: “ฮาฮาฮา ใครบอกว่าเป็นAIที่ฉลาดที่สุดกัน”

ราชินีแดง: “(อิโมติคอน : ฉันจะจำเรื่องในครั้งนี้ไว้!) “

โทนี่:” เนื่องจากการวิจัยไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ ดังนั้นฉันจะกลับไปค้นคว้าและพัฒนาชุดเกราะของฉันให้ทนอุณหภูมิที่สูงเป็นพิเศษขึ้นมาแทน ”

ราชินีแดง:” แม้ว่าจะไม่มีผลการวิจัยที่คืบหน้า แต่ฉันอาจจะบอกข้อมูลงานวิจัยของฉันให้คุณรู้ได้ มันอาจจะมีประโยชน์กับคุณ”

“ หลังจากการติดเชื้อไวรัส เซลล์ของผู้ป่วยนั้นจะผลิตพลังงานชีวภาพชนิดหนึ่งที่ส่งเสริมการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา ในขณะที่เกิดกระบวนการนี้มันทำให้เกิดพลังงานร้อนขึ้นจำนวนมากและนี้อาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดการระเบิดขึ้นมาในที่สุด”

“ดังนั้นฉันจึงคิดว่าถ้าเราสามารถผลิตสารยับยั้งโดยการสร้างกระแสไฟฟ้าชีวภาพซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของไวรัสตัวนี้หมดสภาพหรือทำให้กระบวนการของมันนั้นช้าลงได้ละ? ”

โทนี่พูดอย่างรวดเร็วว่า:” แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”

ลูชินที่ได้อ่านข้อความทั้งหมดที่ทั้งสองคุณกับแล้วก็ได้ส่งอังเป๋าให้กับโทนี่

โทนี่ที่ได้รับอังเป๋าแบบไม่ได้คาดคิดก็พูดขึ้นว่า “โอ้ มันเป็นวิธีการผลิตสารยับยั้งไวรัส”

โทนี่: “@ Mr. L ขอบคุณ”

ราชินีแดง: “(อิโมติคอน: ฉันเห็นอะไร?)”

ในเวลานี้บรูซเวย์นที่ไม่ได้ออนไลน์มาเป็นเวลานาน ได้พูดขึ้นมาว่า “เจ้าของกลุ่ม เรื่องที่คุณพูดก่อนหน้านี้ถูกต้องทั้งหมด มันเป็นฉันเองที่ทำผิดพลาดลงไป”

Mr.L “เกิดอะไรขึ้น?”

บรูซเวย์นพูดว่า: “ฉันดูถูกตัวตลกเกินไป เขาสามารถหนีออกไปจากโรงพยาบาลที่มีการคุมกันแน่นหนาที่สุดไปได้!”

“และสิ่งที่แย่ที่สุดคือ คนที่ดูแลการรักษาด้านจิตแพทย์ของเขา แฮรี่ควีน เธอได้กลายเป็นพวกนั้นอย่างที่คุณได้พูดไว้ไม่มีผิด “

Mr. L : “นั้นไม่ใช้ความผิดของคุณ คุณสามารถจับพวกเขาได้อีกครั้ง”

บรูซเวย์น: “แน่นอน!”

โทนี่: “ฉันอยากจะเสนอความคิดว่า ฆ่าพวกเขาทั้งคู่จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด ”

บรูซเวย์น:” ไม่ นี้จะทำให้เราไม่แตกต่างจากพวกนั้นเลย “

โทนี่ได้พูดขัดจังหวะเขาอีกครั้งว่า” ฉันรู้ว่าสิ่งที่นายต้องการบอกนั้นคืออะไร ฉันว่าความคิดของนายนั้นมันเป็นเพียงทฤษฎีของความยุติธรรมเท่านั้น “

” เราจะไม่คุยกันด้วยเรื่องแบบนี้อีก ”   บรูซเวย์นได้พูดตัดจบลงแบบนั้นเพราะเขาขี้เกียจเกินไปที่จะต้องมาอธิบายเรื่องนี้กับคนอื่น และท้ายที่สุดโทนี่ไม่ได้เป็นคนในโลกใบเดียวกัน

เมื่อเห็นบรรยากาศผิดปกติแบบนี้ลูชินก็ได้พูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า: “นายสตาร์ก แว่นตาอัจฉริยะที่คุณได้ส่งมาให้ฉันครั้งล่าสุดนั้นสุดยอกมาก ตอนนี้ฉันยังได้ให้คนที่บริษัทเริ่มทำการศึกษามันแล้ว แต่ฉันมีปัญหากับเซ็นเซอร์และเลนส์ฉายภาพ “

“ในการทำงานของมันได้เกิดการรบกวนขึ้นด้วยไม่ทราบสาเหตุและตัวเครื่องยังไม่สามารถระบุเซ็นเซอร์ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย เมื่อทำการทดลองใช้จริงกับพบว่าการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เซ็นเซอร์บนตัวแว่นตาอัจฉริยะไม่สามารถจับสัญญาได้ และการทำงานของฟังก์ชั่นบนตัวแว่นก็ไม่สามารถตอบสนองได้ตามที่ต้องการ “

“ภาพที่ฉายบนตัวเลนส์แว่นตานั้นก็ไม่ชัดเจน มันได้ทำให้ภาพที่ฉายบนตัวของมันไม่เสถียรขณะที่มีการเคลื่อนไหวอีกด้วย “

โทนี่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็พูดขึ้นมาว่า : “เจ้าของกลุ่มอาจต้องใช้วัสดุใหม่ และปรับปรุงกระบวนการผลิตใหม่ทั้งหมด ฉันจะส่งขั้นตอนการผลิตทั้งหมดไปให้เจ้าของกลุ่มเดี่ยวนี้”

ภายในเวลาไม่ถึงนาทีโทนี่ได้ส่งอังเป๋าไปให้ลูชินทันที หลังจากที่เขาได้รับมัน เขาได้ทำการกดรับ

ข้อความของกลุ่ม: “ขอแสดงความยินดีคุณได้รับอังเป๋าจากโทนี่ ได้รับสำเนาของ” เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับแว่นตาอัจฉริยะและกระบวนการผลิต “

ลูชินที่ได้รับของขวัญแบบนี้ก็พูดว่า: “ขอบคุณมากที่ให้ข้อมูลนี้กับฉัน”

ด้วยสิ่งเหล่านี้ เขาไม่ต้องกลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้นมาหลังจากที่เขาได้เริ่มวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีกล้องอีกแล้ว และด้วยข้อมูลนี้ยังสามารถขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ในอนาคตที่เขากำลังจะทำได้อีกด้วย

โทนี่: “นี้เป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ โชคไม่ดีที่ผู้สร้างลุคไม่ได้ออนไลน์ในวันนี้ ฉันอยากถามคำถามเกี่ยวกับเกราะหนักกับเขาอย่างมาก”

ผู้สร้างลุคตอนนี้อยู่ในสถานะออฟไลน์และความถี่ในการออนไลน์ของเขาน้อยอย่างมาก ลูชินยังจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เขาออนไลน์นั้นเขาได้บอกว่าเขาได้พบปัญหาเมื่อเร็วๆว่ามีคนนอกที่ต้องการบุกเข้าไปในเมืองของเขา นั้นจึงทำให้เขาต้องใช้เวลาทั้งหมดในการปกป้องมันให้ปลอดภัย

ราชินีแดง: “(อิโมติคอน: ฉันโกรธอย่างมาก)”

Mr.L: “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”

ราชินีแดงพูดว่า: “เจ้าของกลุ่ม คุณไม่ได้ขอข้อมูลทางเทคนิคกับฉันมานานแล้ว (อิโมติคอน:คุณต้องการทิ้งฉันหลังจากที่ฉันหมดประโยชน์แล้วใช้ไหม?”

Mr.L:“ … ”

แต่หลังจากที่เขาคิดว่าความคิดของราชินีแดงนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป เขาจึงรีบพูดว่า:“ ฉันยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลย เธอไม่ต้องกังวลไปเพราะอีกไม่นานฉันต้องการเทคนิคการผลิตวัสดุใหม่ๆจำนวนมาก และปัญหาเหล่านี้ฉันจะถามเธอเป็นคนแรกอย่างแน่นอน “

ราชินีแดง:” (อิโมติคอนที่มีความสุข: ฉันจะรอ) “

Mr.L” (อิโมตอคอน:คุณเป็นสุนัขหรือไม่?) @ ราชินีแดง”

ราชินีแดง:” (อิโมติคอน : ตกใจ)เจ้าของกลุ่ม ตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นที่ศูนย์วิจัยบางแห่ง ดังนั้นฉันต้องขอตัวไปก่อน ”

หลังจากนั้นราชินีแดงก็ได้ออฟไลน์ออกไป ลูชินพบว่าพฤติกรรมช่วงหลังๆมานี้ของเธอเริ่มเข้าใจยากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เข้าใจว่าโลกเรซิเดนต์อีวิลของเธอ เธอจะไปพูดคุยกับใครได้แล้วเธอจะสามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้จากที่ไหน?

ลูชินก็ได้ออกจากกลุ่มแชทนี้เช่นกันหลังจากที่เขาได้รับข้อมูลจากโทนี่ และเขาไม่สงสัยเลยว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและอยากลำบากอย่างแน่นอน

ถ้าเขาต้องทำการศึกษาเองมันจะต้องใช้เวลานานอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาต้องคิดวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเป็นแนวทางในการวิจัยและพัฒนา และเพื่อที่จะทำแบบนั้นได้เขาต้องใช้เวลาอยู่ในห้องปฏิบัติการอย่างน้อยเป็นเวลาสองหรือสามเดือนและนั้นคือสิ่งที่เขาไม่ต้องการอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงได้เดินทางไปที่โรงงานแบตเตอรี่คุนเพ้งอีกครั้ง เพื่อดูสถานการณ์ของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม RI-8901

ตอนนี้โรงงานแบตเตอรี่คุนเพ้งได้เปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมด โดยที่พวกเขาได้ทำการเปลี่ยนเอาอุปกรณ์เก่าทั้งหมดออกไปและแทนทีด้วยของใหม่ทั้งหมด และเขายังได้เพิ่มสายการผลิตแบตเตอร์รี่อีกสองสาย ไม่เพียงเท่านั้นโรงงานแบตเตอรี่คุนเพ้งยังมีแผนที่จะเปิดโรงงานแห่งที่สองด้วยเนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากเกินที่โรงงานแห่งเดียวจะผลิตได้ทัน

การมาครั้งนี้ของลูชินก็ไม่ได้มีการบอกล่วงหน้า เพื่อที่เขาจะได้ทำการสังเกตการณ์ทำงานของหุ่นยนต์จางเกวียงอีกด้วย

บทที่173

ผู้แปล : N

ลูชินไปที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่คุนเพ้งและพบว่าวังถังไม่ได้อยู่ในโรงงาน เขาจึงเรียกไบบอสแทนแล้วถามว่า “จางเกวียงอยู่ไหน?”

“อาจารย์จาง? เขาไปที่โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ด้านข้างของโรงงานเราครับ” ไบบอสได้ตอบกลับมา

“อาจารย์จาง?” ลูชินมองดูเขาอย่างแปลกประหลาด เพราะอายุที่แสดงบนบัตรประชาชนของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม RI-8901 นั้นอยู่ในวัยเพียงยี่สิบต้นๆเท่านั้น นั้นคือจางเกวียงถือว่าเป็นรุ่นน้องของไบบอส และเมื่อก่อนไบบอสยังได้ตะโกนเรียกว่า ‘เสี่ยวจาง’ แต่ดูตอนนี้สิกับกลายเป็นอาจารย์จาง! มันเกิดอะไรขึ้น?

“ใช่ครับ อาจารย์จาง!” ไบบอสพูดด้วยอารมณ์ว่า “อาจารย์จางเป็นชาวต่างชาติที่มีความรู้จากต่างประเทศมากมาย ความรู้ของอาจารย์ที่เกี่ยวกับเครื่องจักรและอุปกรณ์นั้นมีความสมบูรณ์แบบ อาจารย์นั้นมีความรู้มากกว่าช่างอาวุโสเสียอีก”

“และเมื่อโรงงานมีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ใดๆ จะต้องเรียกหาอาจารย์เท่านั้น”ไบบอสพูดต่อว่า “ไม่เพียงแต่ในโรงงานของเราเท่านั้น แต่ยังนับรวมโรงงานที่อยู่รอบๆเราอีกด้วย”

” มีเรื่องแบบนี้ด้วย! “ลูชินยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าหุ่นยนต์ตัวนี้จะสามารถพัฒนาตัวเองได้

เขาอยู่ในโรงงานซักพักหนึ่งและระหว่างนั้นได้ทำการตรวจสอบสถานการณ์ในโรงงาน หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเขาถึงได้เรียกให้จ่างเกวียงเข้าพบ

การมาของจางเกวียงนั้นยิ่งทำให้เขาแปลกใจ เขาไม่ได้กลับมาด้วยตัวเองแต่เป็นหัวหน้างานเวิร์คช็อปของโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ด้านข้างโรงงานของเขาขับรถมาส่งด้วยตัวเอง และก่อนกลับนั้นเขายังได้พูดกับจางเกวียงว่า: “ต้องขอขอบคุณอาจารย์จางอย่างมาก ถ้าไม่ได้อาจารย์ช่วยไว้ โรงงานของผมต้องประสบปัญหาการส่งสินค้าให้ลูกค้าไม่ทันอย่างแน่นอน ผมต้องขอบคุณอาจารย์จริงๆ”

หลังจากที่ชายคนนั้นคุยกับจางเกวียงจบแล้วก็มองมายังลูชินแล้วพูดต่อว่า “อ่า!…ถ้าผมรู้ว่าประธานลูมา ผมต้องนำของเล็กๆน้อยๆติดมือมามอบให้อย่างแน่นอน! ถ้าคุณมาครั้งหน้าอย่าได้ลืมบอกผม ผมจะทำการเตรียมร้านอาหารที่ดีที่สุดต้อนรับอย่างแน่นอน ”

” ลาวจ้าว คุณก็เกรงใจเกินไป เราก็ถือว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนไม่ช่วยและจะมีเพื่อนไว้ทำไม!”ไบบอสได้ยิ้มหลังจากที่พูดจบ แล้วเขาหันไปพูดกับจางเกวียงว่า :“ อาจารย์จาง ประธานลูต้องการพบคุณ”

จางเกวียงพยักหน้าและไม่มีการแสดงออกเพิ่มเติมบนใบหน้าของเขา อย่างไรก็ตามทุกคนคุ้นเคยมานานแล้ว เพราะตลอดระยะเวลาครึ่งปีมานี้พวกเขาได้ชินไปกับการแสดงออกนี้แล้ว

“จางเกวียง นายมาแล้ว?” ลูชินพูดออกมาหลังจากที่เห็นจางเกวียงเข้ามาในห้อง

“ครับ”

เมื่อเข้าสู่สำนักงานลูชินได้บอกให้เขาล็อคประตูและพูดขึ้นว่า: “เร็วๆนี้มีปัญหาอะไรไหม?”

“ไม่ครับ ทุกอย่างเป็นปกติ” จางเฉวียงตอบ

“ดีมาก” ลูชินถามต่อว่า “ในฐานข้อมูลของนายควรมีข้อมูลอุตสาหกรรมมากมายใช้ไหม?”

“ใช่ครับ” จางเกวียงตอบ

“ แล้วมีข้อมูลทางด้านการทำแว่นตาอัจฉริยะไหม?”

“ ไม่มีครับ” คำตอบของจางเกวียงนั้นง่ายมากและเขายังได้อธิบายต่อว่า “ ในคลังข้อมูลของผมส่วนใหญ่เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องจักรกลและพลังงานเคมีเท่านั้น”

ลูชินได้ยินแบบนั้นก็ต้องยอมรับว่าหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันและเนื่องจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่มีการทำงานในงานที่แตกต่างกันจำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกัน นั้นรวมถึงฐานข้อมูลและโครงสร้างภายในจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“มันเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้” ลูชินคิดอยู่พักหนึ่งแล้วถามว่า: “และถ้าฉันจะเพิ่มข้อมูลนี้เข้าไปในคลังข้อมูลของนาย นายจะสามารถทำความเข้าใจมันได้ไหม”

“ได้ครับ”

“โอเค งั้นเปิดคลังข้อมูลของนายเพื่อรับข้อมูลที่ฉันจะส่งไปให้”หลังจากพูดจบลูชินได้ทำการคัดเลือกข้อมูลที่เกี่ยวกับแว่นตาอัจฉริยะให้กับจางเกวียง

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีข้อมูลเกี่ยวข้องทั้งหมดได้ถูกจัดเก็บเข้าไปยังคลังความรู้ของจางเกวียงเรียบร้อย

ลูชินพูดว่า: “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายไม่จำเป็นที่จะอยู่ในโรงงานนี้”

จางเกวียงไม่พูดอะไรลูชินจึงพูดต่อว่า: “ฉันเกรงว่าพฤติกรรมที่ผิดปกติของนายอาจจะทำให้คนอื่นเริ่มสงสัยขึ้นมา”

“ดังนั้นฉันจะส่งนายไปยังแผนก R&D ของบริษัทใหญ่ เพื่อเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีกล้องและเทคโนโลยีแว่นตาอัจฉริยะนี้ นายเข้าใจใช้ไหม?”

“เข้าใจครับ” จางเกวียงตอบกลับมา

ลูชินรู้สึกผ่อนคลายขึ้นอย่างมาก ด้วยการนำของหุ่นยนต์อัจฉริยะจางเกวียง เขาจึงไม่ต้องกังวลในปัญหาที่จะเกิดขึ้นนี้ และด้วยวิธีนี้จางเกวียงจึงได้ถูกนำตัวไปยังแผนก R&D และกลายเป็นหัวหน้างานอย่างเต็มตัว

เมื่อธุรกิจต่างๆของบริษัทพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้เวลาก็ได้ผ่านมาจะถึงสิ้นปีอีกครั้ง

บ้านของลูชินในเขตบ้านพักระดับไฮเอ็นได้เริ่มสร้างขึ้นแล้ว โดยที่พี่สาวซูยังคงมองหาเขาเป็นครั้งคราว เพื่อรายงานความคืบหน้า

ปีนี้เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกลับบ้าน แต่เขาจะไปยังเมืองหลวงเพราะนั่นคือบ้านของซู่เสี่ยว หลังจากที่เขาได้คบหาซู่จิงอย่างเป็นทางการคงต้องถึงเวลาที่จะไปพบพ่อตาแล้ว

หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันตรุษจีนลูชินและซู่จิงได้ขึ้นเครื่องบินไปยังเมืองหลวงและคนที่ไปพร้อมกับพวกเขาด้วยก็คือซู่เสี่ยว ซึ่งการไปครั้งนี้ได้ตรงกับวันหยุดของโรงเรียนพอดี

บนถนนซู่จิงได้บอกนิสัยและสิ่งที่พ่อของเธอชอบและไม่ชอบให้ลูชินฟังอย่างละเอียด

“แม่ของฉันเป็นคนที่อารมณ์ดี เธอจะไม่มีอคติกับพวกเรื่องของขวัญที่ฉันเลือกให้คุณอย่างแน่นอน” ซู่จิงพูดต่อว่า “แต่ทางพ่อของฉันอาจจะมีปัญหาเล็กน้อย”

“มันคืออะไร?” ลูชินรีบถามทันที “ไม่ใช้ว่าเขาจะไม่ชอบขี้หน้าฉันตั้งแต่แรกนะ?”

“พี่เขย พี่ต้องจัดเต็มเลยนะ!” ซูเสี่ยวพูดต่อว่า “หนูรู้มาว่าตอนนี้ได้มีคนรวยรุ่นที่สองจำนวนหนึ่งได้เข้ามาจีบพี่สาวของหนูอย่างมาก และเหมือนว่าพ่อจะเล็งไว้แล้วด้วย! ”

ลูชินมองที่ซู่จิงโดยตรง เขาต้องยอมรับว่าตอนนี้เธอดูสวยกว่าตอนที่เขาเจอครั้งแรกอย่างมาก เขาจึงได้พูดอย่างจริงจังว่า:”ฉันจะไม่ปล่อยให้แฟนของฉันหลุดมือไปอย่างแน่นอน”

“คุณก็อย่าไปฟังสิ่งที่น้องฉันพูดเกินไป! “ซู่จิงได้มองมาทางลูชินแล้วพูดว่า: “พ่อของฉันเป็นคนที่จริงจังมาก เขาคิดแต่เรื่องธุรกิจของเขาทุกวัน เขาไม่มีเวลามานั่งจับคู่ให้ฉันและเมื่อตอนที่ฉันกำลังเรียนหนังสืออยู่ พ่อยังให้ฉันเลือกเรียนที่ตรงกับสายงานของพ่อ เพื่อว่าจบมาฉันจะได้กลับมาช่วยได้”

“แต่ผลลัพธ์กับกลายเป็นว่าฉันมาทำงานกับคุณเสียก่อน”

“ใช่ ลูกสาวที่แต่งงานแล้วก็เหมือนกับการสาดน้ำออกไปเสมอ นี่ขนาดพี่ยังไม่ได้แต่งงานนะก็จะไปช่วยคนนอกแล้ว ช่างเสียแรงที่พ่อเลี้ยงพี่มาตลอด 20 ปีจริงๆ”ซู่เสี่ยวที่เห็นว่าบรรยากาศเริ่มแย่ลงก็ได้พูดเรื่องตลกร้ายนี้ขึ้นมาและเธอยังได้ใช้น้ำเสียงเหมือนพ่อสามีกำลังพูดกับลูกอีกด้วย

ลูชินพูดขึ้นว่า: “เธอเนี่ยนะ!”

ซู่เสี่ยวพูดขึ้นอีกว่า: “อย่ากังวลไปเลยพี่เขยอย่างมากที่สุดถ้าพ่อตาไม่ยอม พี่ก็แค่พาพี่สาวของหนูหนีตามกันไปก็พอ”

“เธอจะแก่แดดไปแล้วนะ!” ซู่จิงได้บีบใบหน้าเล็กๆของน้องสาวขณะที่เธอได้พูด

“ฉันอุสาคิดแผนเผื่อพี่เลยนะ” ซู่เสี่ยวได้คุยโตทันทีหลังจากที่เธอหลุดจากมือของพี่สาว

“ขอให้จริงเถอะ”ซู่จิงได้พูดประชดออกมา

ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้มาถึงหน้าบ้านของตระกูลซู่

บทที่174

ผู้แปล : N.

สภาพครอบครัวของซู่ค่อนข้างร่ำรวยและครอบครัวอาศัยอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยระดับสูงในเขตเมืองหลวง ลูชินได้เตรียมของขวัญที่ดีและพร้อมที่จะพบพ่อตาแล้ว

เมื่อพวกเขามาถึงประตูบ้านประตูก็เปิดโดยอัตโนมัติ หลังบานปะตูนั้นมีหญิงสาวสวยวัยกลางคนกำลังยิ้มต้อนรับพวกเขาอยู่

เธอพูดว่า“ซู่จิง แม่คิดไว้แล้วว่าลูกต้องกลับมา” แม่ของซู่จิงเรียกว่าเยรุย เขาต้องยอมรับว่าแม่ของซู่จิงนั้นดูแล้วยังไม่เหมือนคนที่อายุเข้าเลขสี่เลย เพราะการที่เธอได้ดูแลผิวอย่างดีเป็นพิเศษมันจึงทำให้เธอดูเหมือนเพียงอายุเลขสามเพียงเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดคงเป็นหน้าตาและรูปร่าง เขารู้เลยว่าพี่น้องคู่นี้ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ทั้งหมด

“แม่ หนูคิดถึงแม่จัง?” ซู่เสี่ยวได้พุ่งเข้าหาแขนของเยรุยทันทีที่เธอเข้าประตู

เยรุยบีบใบหน้าของลูกสาวคนเล็กและแสดงรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมาก่อนที่จะพูดว่า: “ลูกคนนี้ไปจำคำพูดแบบนี้มาจากไหนกัน? แล้วทำไมลูกถึงไม่อยู่ที่โรงเรียน?”

“ ถ้าพ่อของลูกมาเห็นลูกตอนนี้ เขาต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน!”

“แม่ต้องช่วยหนูนะ! “ซู่เสี่ยวมองแม่ของเธอด้วยสานตาลูกแมวหิวนม

เยรุยที่เห็นสายตาแบบนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า ” ทำไมลูกถึงไม่ทำตัวเหมือนพี่สาวของลูกบ้างนะ! “

ซู่เสี่ยวพูดล้อเล่นว่า:” แม่อะ ครั้งหน้าหนูจะไม่กลับมาแล้ว ”

เยรุยที่ได้ยินแบบนั้นก็เอามือลูบหัวของซู่เสี่ยวก่อนที่จะถามว่า :”ลูกควรตั้งใจเรียนให้มากเข้าไว้ ถ้าลูกสอบเข้ามหาลัยไม่ได้พ่อต้องเอาลูกตายแน่นอน แล้วเรื่องนี้แม่คงช่วยไม่ได้”

” หนูจะเริ่มอ่านหนังสือในปีหน้า” ซู่เสี่ยวพูดจบก็ได้เปลี่ยนเรื่องทันทีว่า “แม่ กลิ่นอะไร? ทำไมหอมจัง! ฉันจะไปดูก่อน” จากนั้นเธอก็แอบเข้าไปในห้องครัว

“คุณป้า ผมชื่อลูชินครับ” ลูชินได้แนะนำตัวเอง

“ฉันรู้ว่าเธอคือใคร ฉันยินดีที่เธอมาเป็นแขกของเรา.” ทัศนคติของเยรุยยังคงเป็นมิตรเสมอ เธอเงยหน้าขึ้นและลงเพื่อทำการสำรวจลูชิน

ก่อนที่เธอจะพูดว่า :. “ตัวจริงดูดีกว่ารูปถ่ายอีกนะ เธอดูหล่อมาก ลูกสาวของฉันนี้รู้จักเลือกจริงๆ”

ซู่จิงที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอพาแฟนกลับบ้าน ดังนั้นเธอยิ่งประหม่ากว่าลูชินไปไหนๆ และเธอยังกลัวว่าพ่อแม่ของเธอจะมีความคิดเห็นแปลกๆอีกด้วย

แต่ในตอนนี้พวกเขาก็ได้มีความสัมพันธ์ที่ดี เยรุนและลูชินได้คุยกันซักพักหนึ่งก่อนที่ซู่จิงจะแนะนำลูชินให้แม่ของเธอรู้จักมากขึ้น

เยรุนพูดด้วยอารมณ์ว่า: “โอ้ เธอเป็นเด็กที่มีอนาคตอีกไกล มันหายากมากกับเด็กสมัยนี้”

“ขอบคุณครับ” ลูชินพูดอย่างสุภาพ

“ ฉันต้องบอกเธอว่าพ่อของซู่จิงเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเหมือนกัน ฉันคิดว่าเขาต้องมีความสุขอย่างแน่นอนหลังจากที่รู้ว่าลูกเขยของเขามีความสามารถหนาดไหน” เยรุนได้พูดขึ้นมาหลังจากที่เธอรู้ประวัติของลูชินโดยละเอียด

ลูชินยิ้มและกล่าวคำสรรเสริญเล็กน้อยเช่นกัน เยรุนที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น

เธอยิ้มและพูดว่า: “โอ้ใช้ เสี่ยวลู เธอก็คิดว่าบ้านนี้เป็นของตัวเองเลยนะ”

“แต่ฉันจะต้องเตือนเธอว่า ถ้าพ่อของซู่จิงกลับมาแล้วเธอต้องระวังตัวไว้ด้วยนะ “

“ผมรู้ครับ” ลูชินพยักหน้า

“งั้นฉันจะไปทำอาหารก่อน เสี่ยวเหมิน ลูกยังกินอยู่ในครัว? ” เยรุนได้รีบไปที่ครัวทันที เธอปล่อยให้ลูชินและซู่จิงดูทีวีในห้องนั่งเล่น

“เรนโบว์เปิดทีวี!” ซู่จิงได้พูดออกมาแล้วทีวีแอลซีดีทีวีอัจฉริยะที่แขวนอยู่บนผนังในห้องนั่งเล่นก็เปิดโดยอัตโนมัติ     ดวงตาของลูชินมองไปยังวัตถุสี่เหลี่ยมเล็กๆที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น เขาถามด้วยความประหลาดใจ: “อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านของเธอดูทันสมัยจริงๆ”

“คุณลืมไปแล้วเหรอว่าพ่อของฉันทำงานเกี่ยวกับของพวกนี้ มันต้องเป็นที่แน่นอนว่าต้องมีอุปกรณ์พวกนี้อยู่ที่บ้าน “ซู่จิงได้พอบกลับมา

เธอยังพูดอีกว่าก่อนหน้านี้พ่อของเธอเคยทำธุรกิจเครื่องใช้ในบ้านในเขตเมืองระดับสองต่อมาเมื่อธุรกิจที่เขาทำได้เติบโตขึ้นเล็กน้อย เขาก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงแทนและตอนนี้เขาก็ได้เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ บริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของถึง 12.3% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท และยังเป็นรองประธานของ ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ อีกด้วย

ลูชินได้ทำการตรวจสอบมาแล้วว่าบริษัทของพ่อตานั้นถือว่าเป็นบริษัทที่มีความสำเร็จค่อนข้างดีในด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ทีวีแอลซีดี เครื่องปรับอากาศ หม้อหุงข้าว เตาอบ ไมโครเวฟ ฯลฯ และตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาถือว่าเป็นที่รู้จักอย่างมากในประเทศ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับแบรนด์ของฮิตาชิของสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆมันดูแย่กว่ามาก

ลูชินถามด้วยความอยากรู้ว่า: “ผลิตภัณฑ์ของบริษัทพ่อคุณถือว่าเป็นที่สุดในท้องตลาดตอนนี้แล้วใช้ไหม? “

“ฉันก็ไม่รู้?” ซู่จิงส่ายหัวของเธอแล้วพูดต่อว่า “เพราะตอนนี้ทุกบริษัทก็กำลังวิจัยและพัฒนาสมาร์ทโฮมขึ้นมาจำนวนมาก และเหมือนว่าบริษัทของพ่อฉันก็กำลังวิจัยเรื่องกล่องสมาร์ทโฮมขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของพวกเขาเลยก็ว่าได้”

“ อันที่จริงแล้วมันก็พอใช้ได้เลยเมื่อเทียบกับรุ่นเดี่ยวกันในตลาดตอนนี้ แต่ฉันคิดว่ามันธรรมดาไปหรืออาจจะแย่กว่าเมื่อเทียบกับระบบเรทคลาวด์ของเรา”

“และตอนนี้พวกเขามีเพียงฟังก์ชั่นเล่นเพลง เปิดทีวี เปิดไฟ ปรับเครื่องฟอกอากาศ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสื่อสารกับมันเหมือนระบบเรทคลาวด์ของเรา ความเสถียรก็ไม่คงถือและถ้ามีการรบกวนจากภายนอกมากเกินไปกล่องอัจฉริยะนี้ก็ไร้ประโยชน์ ”

ซู่จิงยังให้เขาดูการสาธิตด้วยตัวอย่างเช่นเธอพูดกับกล่องอัจฉริยะว่า: “เรนโบว์เปิดไฟในห้องนั่งเล่น”

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีของความล่าช้าไฟในห้องนั่งเล่นก็ถูกเปิด

“เรนโบว์เปิดเพลง” กล่องอัจฉริยะเปิดเพลงแบบสุ่มแล้วซู่จิงพูดว่า: “เรนโบว์ปิดไฟในห้องนั่งเล่น”

อย่างไรก็ตามในเวลานี้กล่องอัจฉริยะไม่มีการตอบสนอง ในเวลานี้ซู่เสี่ยวผู้ที่เพิ่งแอบออกมาจากในครัวตะโกนใส่กล่องอัจฉริยะว่า: “เรนโบว์ปิดไฟในห้องนั่งเล่น!”

กล่องอัจฉริยะยังไม่ตอบสนอง เธอจึงได้เพิ่มเดซิเบลเสียงขึ้นแล้วตะโกน “ปิดไฟในห้องนั่งเล่น!”

ในที่สุดกล่องอัจฉริยะก็ตอบสนอง แต่คราวนี้มันไม่ได้ปิดไฟในห้องนั่งเลน แต่เป็นการเพิ่มเสียงเพลงเป็นสองเท่าแทน

ในห้องครัว เยรุนถามว่า: “พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?”

“ฉันโกรธอย่างมาก นี่คือปัญญาประดิษฐ์ที่ปัญญาอ่อนที่สุด!” ซูเสี่ยวเดินไปข้างหน้าและปิดสวิตช์ของกล่องอัจฉริยะโดยตรง

“ มีเครื่องใช้ในบ้านอื่นๆ เช่นเครื่องฟอกอากาศ มันชอบปรับอุณหภูมิในห้องผิดพลาดตลอดและการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องใช้ในบ้านนั้นก็แย่มาก” ซู่จิงได้อธิบายให้ลูชินฟัง

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็นิ่งเงียบไปซักพักก่อนที่จะพูดว่า: “มันอาจจะมีปัญหาในด้านการตั้งโปรแกรมไว้ก็ได้”

“ใช่ ดังนั้นมันจึงเป็นเพียงเอไอปัญญาอ่อนที่ไม่สามารถขายได้!” ซู่เสี่ยวพูดต่อว่า “พี่เขย ขอเพียงพี่นำระบบเรทคลาวด์มาใช้เป็นสมาร์ทโฮมได้ฉันขอรับรองว่ามันต้องขายดีกว่าบริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ อย่างแน่นอน! ”

” ใครบอกว่าระบบของฉันเป็นปัญญาอ่อน? “เสียงผู้ชายที่ลึกเข้ามาและเสียงนั้นแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

ลูชินเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าของซู่เสี่ยวเปลี่ยนไปและเธอได้รีบยืนตัวตรงเธอยังได้ปั้นรอยยิ้มให้กับคนที่เพิ่งเปิดประตูว่า:“ พ่อ พ่อกลับมาแล้ว!”

บทที่175

ผู้แปล : N.

ลูชินมองไปทางเข้าประตูเห็นชายวัยกลางคนวัยสี่สิบปีกำลังเปลี่ยนรองเท้า ผมสั้น สวมสูทสีดำและใบหน้าของเขาเหมือนคนที่มีเรื่องคิดอยู่ตลอดเวลา – เมื่อเขาไม่พูดคุยคิ้วของเขาหย่อนลงเล็กน้อยให้ความรู้สึกที่รุนแรงและไม่สงบ

นี่น่าจะเป็นพ่อของซู่จิง

ซู่จิงมองที่พ่อของเธอและเธอเห็นว่าสายตาของพ่อได้ตกไปยังลูชิน ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า: “สวัสดีครับคุณลุง”

“อืม” ซู่ชิเพิ่งบ่นและสีหน้าของเขาก็ไม่ได้มีความสุขมาก ในฐานะที่เป็นพ่อมีลูกสาว เขาได้เห็นเธอมาหลายปีแล้วแต่ตอนนี้เธอกลับถูกคนอื่นพาไป มันให้อารมณ์ที่ซับซ้อนกับเขาอย่างมาก

เขาเปลี่ยนรองเท้าของเขาและถามว่า: “ลูกบอกว่ามันเป็นระบบที่ปัญญาอ่อนใช้หรือไม่?”

เมื่อพูดถึงปัญหานี้ซู่เสี่ยวรีบพูดขึ้นมา: “ไม่มีใครพูดเรื่องนี้เลย? พ่อต้องหูแว่วไปเองแน่นอน ”

ซู่จิงได้ไอสองครั้งเพื่อเป็นการแก้ไขสถานการณ์นี้แล้วลุกขึ้นพูดว่า:” พ่อ หนูจะเข้าไปเอาถ้วยชามาให้เอง “

” เฮ้ หนูไปด้วย “ซู่เสี่ยวได้พูดออกมา

ซู่ชิได้พูดขึ้นมาหลังจากที่เขาเห็นลูกสาวของเขาเดินหนีไปว่า ” เรนโบว์ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดแล้วตอนนี้ ดังนั้นการที่มันจะมีข้อบกพร่องทางเทคนิคบ้างจะเป็นไรไป และอีกไม่นานปัญหาเหล่านี้ก็จะได้รับการแก้ไข! ”

” หนูก็คิดอย่างนั้น “ซุ่เสี่ยวได้ตะโกนออกมาจากในห้องครัว

ซู่ชิมองที่ลูชินและถามว่า: “ฉันได้ยินมาว่านายเองก็มีส่วนร่วมในเรื่องนี้เช่นกัน นายมีความคิดอย่างไรกับระบบที่บริษัทฉันออกแบบบ้าง”

ลูชินไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะถูกถามคำถามนี้เป็นครั้งแรก ไม่น่าแปลกใจที่เยรุยได้เตือนเขาก่อนหน้านี้ว่าอารมณ์ของพ่อตานั้นแปลกเกินสามัญสำนึกของเขาไปอย่างมาก

อย่างไรก็ตามเนื่องจากอีกฝ่ายคือพ่อตา ดังนั้นเขาควรจะต้องตั้งใจตอบคำถามนี้อย่างดี “ฟังก์ชั่นการโต้ตอบด้วยเสียงนั้นไม่ดีอย่างที่ควร มันจึงทำให้การจดจำด้วยเสียงไม่แม่นยำและยังเป็นการง่ายต่อการถูกรบกวนอีกด้วย”

ได้ยินคำพูดของลูชินใบหน้าของซู่ชิก็ได้ถูกทำให้มืดลงเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าลูชินจะไม่ได้สังเกตเขายังคงคิดเกี่ยวกับวิธีการตอบคำถามนี้ให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นมืออาชีพมากที่สุด

เขาพูดต่อว่า: “คุณภาพเสียงก็ไม่ดีอย่างที่ควรเป็น และฟังก์ชั่นการเปิดเพลงผมก็คิดว่าคุณภาพเสียงของเพลงไม่ดีเท่าฟังจากลำโพงหรือโทรศัพท์เลย”

“จากนั้นฟังก์ชั่นที่สำคัญมากที่สุดคือระบบการประสานงาน”

“นอกเหนือจากการที่ตัวกล่องสามารถเปิดเพลงได้แล้ว มันควรเป็นเหมือนตัวศูนย์กลางของระบบสมาร์ทโฮมเพื่อเป็นตัวถ่ายทอดคำสั่งด้วยเสียงของเราเพื่อไปควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะตัวอื่นๆ ตัวอย่างเช่นการสลับอุปกรณ์ควบคุมระยะไกล ”

” แต่ผมพบเพียงว่าตัวกล่องนี้มีเพียงฟังก์ชั่นง่ายๆเช่นสวิตช์เปิด/ปิดเท่านั้น ผมคิดว่าฟังก์ชั่นของเครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะทุกชิ้นควรเป็นส่วนหนึ่งของ ‘Internet of Things’ เช่นเดียวกับแอพในโทรศัพท์ซึ่งมีบทบาทที่มากขึ้น”

” อุปกรณ์เหล่านี้ต้องการเชื่อมต่อทั้งหมด เช่นตัวเซ็นเซอร์ที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของแสง เสียง อุณหภูมิจากนั้นจึงทำการปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบันที่สุด และเห็นได้ชัดเจนว่ากล่องอัจฉริยะตัวนี้ไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ ”

ลูชินได้พูดมาถึงตรงนี้ เขาพบว่าซู่เสี่ยวกำลังเหล่เขาเพื่อบอกบางอย่างและเมื่อเขาได้มองไปที่ใบหน้าของพ่อตาที่แสดงสีหน้าดำไปครึ่งหนึ่งแล้ว

ลูชิจึงต้องรีบพูดแก้ตัวว่า: “คือสิ่งที่ผมพูดมานั้นอาจจะเป็นความเข้าใจเพียงส่วนตัวของตัวเองและผมก็ไม่มีความรู้ด้านนี้อีกด้วย ดังนั้นคุณลุงก็ไม่ต้องนำคำพูดของผมมาใส่ใจเลยนะครับ”

ในเวลานี้เยรุยออกจากห้องครัวและพูดพร้อมยิ้มว่า “เธอพูดมาก็ไม่ผิดหรอก มันแค่เขาไม่อยากรู้ความจริงเท่านั้นเอง “

“อะไรนะ?” ซู่ชิไม่พอใจที่ได้ยินภรรยาของตัวเองพูดแบบนั้น เขาจึงพูดขึ้นว่า “นี่เป็นเพียงสถานการณ์เพียงผิวเผินเท่านั้นและมันก็ไม่ใช้เรื่องที่คุณจะทำความเข้าใจได้ด้วย!”

เขาขมวดคิ้วและพูดกับลูชินว่า: “ปัญหาบางอย่างที่นายพูดมาก็ถูกต้อง แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับระบบเรนโบว์อย่างแน่นอน”

“และปัญหาของการรบกวนนั้นก็เกิดขึ้นกับทุกผลิตภัณฑ์มรประเทศนี้ด้วยกันทั้งนั้น “

ลูชินพูดขึ้นว่า:” ในความเป็นจริงมันก็ไม่ใช้เรื่องอยากที่เราจะทำการปรับปรุงเพียงแค่คุณลุงเพิ่มโค้ดการทำงานบางตัวลงไป มันก็เพียงพอที่จะทำให้การโต้ตอบด้วยเสียงและเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ทำงานได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ “

“ไม่ยาก? “ซู่ชิพูดต่อว่า ” นายยังไม่รู้ว่าการเพิ่มโค้ดลงไปหนึ่งตัวนั้นจะส่งผลยังไงกับระบบทั้งหมดบ้าง! “

อย่างไรก็ตามเยรุยได้พูดขึ้นมาว่า “คุณไม่ควรใช้อารมณ์จากที่ทำงานมาใช้ในบ้าน! ตอนนี้สิ่งแรกที่คุณควรทำคือคุณควรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของคุณ เราเห็นคุณยังใส่สูทขณะอยู่ที่บ้านมันทำให้เราทุกคนรู้สึกไม่สบายใจเลยมันเหมือนกับว่าเรากำลังจะไปเข้าประชุมยังไงยังงั้น?”

ซู่ชิได้ยินแบบนั้นก็ได้ลังเลก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไปยังห้องเพื่อเปลี่ยนชุดตามที่สั่ง ซู่จิงที่เห็นแบบนั้นรีบเข้ามากระซิบข้างหูของลูชินอย่างรวดเร็วว่า: “คุณไม่เป็นอะไรนะ พ่อของฉันก็เป็นแบบนี้ประจำ “

ซู่เสี่ยวก็ได้ผงกหัวก่อนที่จะพูดว่า:” พี่เขย พ่อของฉันก็เป็นแบบนี้แหละ และการที่พี่เขยพูดแทงใจดำของพ่อแบบนั้น เป็นใครบ้างที่จะมีความสุขจริงไหม? “

ลูชินพึ่งรู้ตัวในว่าเขาทำอะไรลงไป เขารู้ว่าทุกคนคงจะไม่มีความสุขเมื่อได้ยินคนอื่นวิจารณ์ความพยายามของตนเองในฐานะ “นักวิจัย” เขาเองก็เคยอยู่ในสถานการณ์นี้มาก่อนจึงเข้าใจความรู้สึกนี้ได้

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้เดินไปบังโต๊ะรับประทานอาหารตามคำเรียกของเยรุย ในตอนแรกซู่ชิจะตำหนิซู่เสี่ยวโดยบอกว่าเธอทำตัวเกเรแค่ไหนในโรงเรียนและเขายังได้รับข้อความจากครูของเธออีกด้วย แต่ดูเหมือนว่าซู่เสี่ยวจะมีอ้างว่าตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กอยู่และตอนนี้เธอสัญญาว่าจะทำการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น

จากนั้นก็ถึงคราวของซู่จิง, ซู่ชิถามว่า: “ตอนนี้ลูกเป็นอย่างไรบ้างกับการทำงานในบริษัท?”

“อ่า…ตอนนี้บริษัทที่หนูทำงานอยู่นั้นกำลังพัฒนาไปได้ดีอย่างมาก” ซู่จิงได้ตอบตามความจริง

แต่จะเหมือนว่าพ่อของเธอจะไม่พอใจเขาพูดขึ้นว่า: “ลูกควรมาทำงานที่เมืองหลวง เพราะนี้คือสถานทีที่พัฒนาที่สุดในประเทศแล้ว”

ซู่จิงได้แสดงสีหน้าเบื่อออกมาเพราะเธอรู้ว่าพ่อยังคงต้องการให้เธอกลับไปทำงานด้วยกัน

เยรุยพูดขึ้นว่า: “เด็กๆควรไปลงมือทำสิ่งใหม่ๆ คุณก็ไม่ควรไปบังคับลูกนะ”

“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย? ” ซูชิได้ตอบกลับ

“ ใช่! พ่อพูดถูก อะนิพ่อ! ผักที่พ่อชอบ” ซู่เสี่ยวรีบพูดแก้ไขสถานการณ์นี้ทันที

ลูชินยังพูดอีกว่า: “บริษัทของเราเองก็กำลังพิจารณาที่จะสร้างสาขาในเมืองหลวงอยู่เช่นกัน ผมว่าอีกไม่นานซู่จิงคงมีเวลากลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยขึ้นครับ”

“นั่นเป็นเรื่องที่ดี ” เยรุยได้หัวเราะออกมา

หลังจากนั้นพวกเขายังได้พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณของลูชินและยังได้ถามถึงแนวทางในอนาคตของพวกเขาอีกด้วย

แต่ระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้นซู่ชิกับพูดขึ้นว่า: “เรื่องนี้ฉันเข้าใจแล้ว อีกเดี่ยวฉันจะกลับไปให้เร็วที่สุด เมื่อถึงตอนนี้เราจะมาแก้มันด้วยกัน”

เย่รุยถามออกมาว่า: “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นคะ? นี้วันปีใหม่คงไม่ใช้ว่าคุณต้องกลับไปที่บริษัทนะ”

เมื่อซู่ชิได้ยินแบบนี้ก็พูดด้วยอารมณ์ว่า “ถ้าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่สามารถทำยอดขายได้ดีในเดือนนี้ โครงการตัวนี้ต้องถูกยุบ “

” ตอนนี้ฉันไม่รู้แล้วว่าจะแก้ไขมันยังไง เพราะพวกนั้นได้ให้งบประมาณมาที่โครงการนี้ของฉันน้อยเกินไป”

“ พวกเขาไม่คิดเลยว่าอัตราการเติบโตของสมาร์ทโฮมในสหรัฐอเมริกาในปีนี้สูงถึง 5.8% และในประเทศจีนนั้นสูงเพียง 0.1% ถ้าเราสามารถครองตลาดตอนนี้ได้มันจะส่งผลยังไง!”

เมื่อพูดถึงตรงนี้เสียงของซู่ชิเต็มไปด้วยอาการซึมเศร้า เพราะในใจลึกๆของพวกเขาเองก็เตรียมใจที่จะเจอผลลัพธ์เช่นนี้เช่นกัน

บทที่176

ผู้แปล : N

ซู่จิงที่เห็นอาการพ่อแบบนั้นก็ถามว่า “ทำไม?”

ซู่ชินพูดว่า :. “มันได้ขาดคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ดีไปและอีกสิ่งหนึ่งที่เรายังขาดคือตลาดในประเทศจีนนั้นไม่กว้างขวางพอ ”

” ปีที่ผ่านมา, บริษัทอเมซอนได้แสดงยอดขายกล่องอัจฉริยะในตลาดอเมริกาเหนือมากกว่าสิบล้านเครื่องซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ได้เลย! แต่เมื่อเทียบกับเรา ประเทศจีนได้มียอดการขายกล่องอัจฉริยะน้อยกว่าหนึ่งล้านเครื่องต่อปีด้วยซ้ำ “

“และในสหรัฐอเมริกาบางส่วนของสมาร์ทโฮมและกล่องอัจฉริยะมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขาอย่างมาก “

ลูชินพูดว่า :.” คุณลุงกำลังบอกว่าเพราะขาดคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ดีและการตลาดใช้ไหมครับ?”

“มันก็ไม่ใช้ทั้งหมดซะที่เดี่ยว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุสาหกรรมเครื่องใช้ภายในบ้านอัจฉริยะของประเทศเรานั้นไม่มีมาตรฐานเกินไป และบางครอบครัวได้ซื้อกล่องอัจฉริยะไปแต่ไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องใช้สมาร์ทอยู่ในบ้าน เช่นสมาร์ททีวี ตู้เย็น สวิตช์ และเครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ต่างๆที่สามารถเชื่อมต่อกับกล่องอัจฉริยะได้ และอุปกรณ์เหล่านี้มีราคาสูงอย่างมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ธรรมดาในระดับเดียวกัน”ซู่ชิได้อธิบายอีกว่า

“ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตามฉันก็หวังว่าประเทศของเราจะสามารถวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์สมาร์ทและกล่องอัจฉริยะเหล่านี้ให้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าต่างประเทศให้ได้ “

ทางด้านซู่เสี่ยวพูดว่า:” คุณพ่อก็พูดแบบนี้มาตั้งแต่สองปีที่แล้ว และไม่เห็นว่ากล่องอัจฉริยะตัวนี้จะอัจฉริยะเลย! “

ซู่ชิได้หลุดออกจากความฝันก่อนที่เขาจะพูดว่า:” ลูกคนนี้! ”

ลูชินที่เห็นแบบนี้ก็พูดว่า” ในความเป็นจริงการโต้ตอบด้วยเสียงและการประมวลผลข้อมูลอัจฉริยะผมสามารถช่วยได้นะครับ “

” นายเหรอ? “ซู่ชิมองดูลูชินอย่างสงสัย เขารู้ว่าบริษัทของคนตรงหน้าถือว่าเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศสินทรัพย์โดยรวมของชายคนนี้มากกว่าบริษัทของเขาไม่รู้เท่าไหร่ แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลูชินเลยทั้งในแง่ของการจัดการและทักษะต่างๆ

“นายรู้ใช้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?” ซู่ชิถาม

“ครับ ตัวผมเองก็ยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบเรทคลาวด์ขึ้นมาอีกด้วย ” ลูชินได้ตอบกลับไป

ซู่ชิยังไม่เชื่อในสิ่งที่ลูชินบอกมาร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบตอบโต้อัจฉริยะแบบนั้นขึ้นมาได้ เพราะเขาคือประธารและคนที่มีตำแหน่งนั้นไม่จำเป็นต้องมีส่วนรวมในโครงการพวกนี้เลย

ซู่จิงพูดว่า: “ใช่พ่อ ถ้าพ่อมีคำถามใดๆพ่อสามารถถามลูชินได้โดยตรง”

“ไม่จำเป็น” ซู่ชิไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินและเขายังถือว่าเป็นผู้อาวุโสกว่า

ในเวลานี้เยรุนพูดว่า: “ระบบเรทคลาวด์ที่บริษัทของลูกเขยทำนั้นทรงพลังอย่างมาก คุณอาจจะต้องการให้ชินน้อยไปกับคุณในครั้งนี้?”

เธอได้หันไปทางลูชินแล้วพูดว่า: “ชินน้อย เธอพอมีเวลาไหม?”

“ ได้ครับ ผมยังคงอยู่ในเมืองหลวงตลอดทั้งวัน” ลูชินพยักหน้ายอมรับ

ซู่ชินั้นแสดงท่าทางไม่ยินยอมออกมาเล็กน้อย แต่เมื่อเขาย้อนกลับไปคิดถึงการถูกทรมานจากปัญหาเหล่านี้มาตลอด และเขาคิดว่าบางทีลูชินอาจให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ก็ได้ และการไปครั้งนี้เขาก็ต้องการเห็นความสามารถว่าที่ลูกเขยคนนี้อีกด้วย

เขายังคงถามอย่างระมัดระวังว่า: “ข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นความลับของบริษัทของนายไหม?”

“ไม่ครับ ข้อมูลนี้ผมมีอำนาจตัดสินใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” โดยปกติแล้วเขาจะไม่มีทางให้ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทแก่คนภายนอกอย่างแน่นอน แต่นี้คือพ่อตาในอนาคต

“งั้นนายไปบริษัทกับฉันตอนนี้” ซู่ชิพูดขึ้นทันที

“หนูก็อยากไปเหมือนกัน!” ซู่เสี่ยวตะโกนออกมา

“เธอไปก็มีแต่เพิ่มความวุ่นวายให้พวกเขา ดังนั้นเธอต้องอยู่บ้าน” ซู่จิงพูดต่อว่า “แล้วอีกเดี่ยวเรายังต้องออกไปข้างนอกกับแม่เพื่อหาซื้อสินค้าปีใหม่”

…

ลูชินได้ไปที่บริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ เขาได้เดินเข้าไปกับว่าที่พ่อตาและพนักงานข้างในที่พบซู่ชิได้พูดว่า “สวัสดีปีใหม่“

เมื่อเห็นว่ามีคนแปลกหน้าอยู่ข้างหลังซู่ชิ พวกเขาได้แสดงอาการสงสัยอย่างมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่เคยเห็นหน้าชายคนนี้มาก่อน

เมื่อพวกเขาอยู่บนลิฟต์ซู่ชิก็พบกับคนรู้จัก ชายคนนี้มีอายุเท่ากันกับซู่ชิและป้ายบนหน้าอกของเขาอ่าน: รองประธานเชียหยุน

“เฒ่าซู่ นายไม่ได้กลับบ้านเหรอ?” เชียหยุนถามออกมาด้วยความแปลกใจ

“ พอดีเกินปัญหานิดหน่อย” ซู่ชิตอบกลับไปง่ายๆ

เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนแบบนี้เชียหยุนพูดว่า: “เฒ่าซู่ นายก็รู้ว่าปัญหาพวกนั้นเราจะแก้มันหลังจากปีใหม่”

“ฉันรู้ว่านายตั้งความหวังกับมันไว้มาก แต่ยังไงก็ตามโครงการนี้ได้แสดงผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจอย่างมาก นั้นทำให้ผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่งเห็นว่าถ้าเรายังคงยื้อโครงการนี้ต่อไป มันจะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรของเราไปเปล่าประโยชน์”

ซู่ชิไม่เห็นด้วยกับมุมมองของพวกนั้น เขาคิดว่าแบรนด์เครื่องใช้ในบ้านนั้นกำลังจะเกิดการขยายตัวอย่างแน่นอนในอนาคต ถ้าเขาปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปมันอาจจะทำให้พวกเขาไม่สามารถมีกำลังแข่งขันกับบริษัทข้ามชาติเหล่านั้นได้เลย

เชียหยุนพูดต่อว่า:” และพวกนั้นยังเห็นชอบด้วยว่าเราควรเป็นตัวแทนขายของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สมาร์ทเหล่านั้นแทน”

ซู่ชิส่ายหัวและพูดว่า:“ ตัวแทนนี้นะ! ทำไมพวกนั้นคิดง่ายไปแล้ว”

เชียหยุนที่เห็นแบบนั้นก็รู้ว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวเพื่อนคนนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเปลี่ยนเรื่องคุยเท่านั้น และเขาเห็นว่ามีคนแปลกหน้ายืนอยู่เขาจึงถามออกไปว่า: “คนนี้คือ?”

ซู่ชิพูดว่า: “เขาเป็นแฟนหนุ่มของลูกสาวฉัน และเขาก็ถือว่านนักธุรกิจเหมือนกับเรา ดังนั้นฉันจึงนำเขามาเดินชมรอบบริษัท”

“ โอ้ ที่แท้ก็ลูกเขยของนายนั้นเอง” เชียหยุนที่ได้รู้แบบนั้นก็หันไปทักทายลูชินอย่างสุภาพ ทางด้านลูชินเองก็ได้มีการตอบกลับมาอย่างสุภาพเช่นกัน

ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ไปที่แผนกพัฒนากล่องอัจฉริยะ เมื่อคนในนั้นเห็นว่าซู่ชิเข้ามาทุกคนก็ทักทายเขาอย่างง่ายๆก่อนที่จะกลับไปทำงานของตนต่อ

“เฒ่าเซี่ย เซียวหวัน นายสองคนมาที่นี่ก่อน” ซู่ชิเรียกคนสองคนมาหาทันทีที่เขามาถึง จะเห็นได้ว่ามีชายวัยกลางคนและชายหนุ่มที่มีอายุมากกว่าลูชินไปเล็กน้อยเดินเขามา

ซู่ชิได้แนะนำคนทั้งสองให้ลูชินฟังว่า “เฒ่าเซี่ย ผู้อำนวยการของแผนกวิจัยกล่องอัจฉริยะ เขามีประสบการณ์การทำงานในสายงานนี้มานานกว่าสิบปี!”

“นี่คือเซียวหวัน, เขาเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมจากมหาลัยอันดับหนึ่งของเมืองหลวง และเขายังมีความรู้ในเรื่องอุปกรณ์อิเล็กโทนิคอีกด้วย ”

” นายและพวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนประเด็นทางเทคนิคกันได้ ”

ที่ซู่ชิทำแบบนี้ก็เพราะถึงตอนนี้เขาก็ยังได้สงสัยในคำพูดของลูชินที่ได้วิจารณ์ข้อด้อยของผลิตภัณฑ์ของเขาที่บ้าน และมันยังได้รับคำชมจากทั้งลูกและภรรยาของเขาอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงอยากแก้เผ็ดว่าที่ลูกเขยคนนี้ซักนิดก็ยังดี

และเนื่องจากลูชินได้เป็นคนอาสาที่จะมาช่วยเขาในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่าลูกเขยคนนี้จะมีดีอย่างที่พูดไว้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงได้มอบหน้าที่ทดสอบนี้ให้กับเฒ่าเซี่ย เซียวหวันในการสอนบทเรียนนี้ให้กับลูชินและเขาจะแสดงให้ว่าการที่มาแหย่เสือเฒ่าคนนี้จะเจอกับอะไร!

บทที่177

ผู้แปล : N.

เฒ่าเซี่ยและเซียวหวัน มองลูชินอย่างสงสัยและพูดว่า: “หัวหน้าซู่ คนนี้คือ?”

ซู่ชิพูดว่า “นี้คือแฟนของลูกสาวฉัน พอดีว่าเขามีความรู้ด้านนี้เช่นกัน ฉันจึงคิดว่าถ้าได้ความคิดเห็นของเขามา มันอาจจะช่วยเรามองภาพรวมนี้ในมุมมองอื่นบ้าง”

“ดังนั้นพวกนายต้องเรียนรู้จักเขาให้มากๆละ”

“ครับ” เฒ่าเซี่ยได้แสดงรอยยิ้มออกมา เขาคิดว่า ‘ชายหนุ่มคนนี้เนี่ยนะที่จะมาช่วยพวกเขา นั่นเป็นเรื่องตลกที่หัวหน้าซู่ทำใช้ไหม?’ เขาคาดว่าลูชินมาที่บริษัทนั้นเพราะกำลังว่างงานและหัวหน้าของเขาต้องการดึงตัวของเขามาทำงานที่บริษัทนี้

เซียวหวันเองก็ไม่เห็นด้วย เขาคิดว่าจะไม่คุยกับลูชินในเรื่องพวกนี้เด็กขาด แม้แต่ในใจของเขาก็ยังดูถูกลูชินไปแล้วมากมาย ต้องการมาช่วย? มันเรื่องล้อเล่นใช้ไหม!

ซู่ชิเหมือนจะอธิบายง่ายๆต่อไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะถามขึ้นว่า “แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นละ? ได้รับการแก้ไขแล้วหรือยัง”

“ไม่ครับ” เฒ่าเซี่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า “ตอนนี้เรายังไม่สามารถแก้ปัญหาการรับรู้เสียงที่ไม่ถูกต้องได้ครับ จากความคิดเห็นของนักวิจัยพวกนั้นบอกว่าอาจจะเกิดจากการเขียนโปรแกรมครับ”

“แสดงให้ฉันดู “ซู่ชิพูด

พวกเขาได้เดินไปยังห้องปฏิบัติการ ซึ่งในนั้นได้มีห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องน้ำ และห้องอื่น ๆ ทั้งหมดได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์สมาร์ทเพื่อทดสอบผลของกล่องอัจฉริยะ

กล่องอัจฉริยะสีฟ้าวางอยู่กลางห้องนั่งเล่นเซียวหวันได้เดินไปใกล้ตัวเครื่องก่อนที่จะพูดว่า “เปิดเครื่องปรับอากาศ”

เครื่องปรับอากาศได้เปิด แต่อุณหภูมิกับไม่ได้ถูกควบคุม มันได้เปิดในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าปกติ ทันใดนั้นทุกคนในห้องก็รู้สึกเย็น และเมื่อเห็นฉากนี้คิ้วของซู่ชิก็เข้าหากันทันที

เซียวหวันสั่งอย่างต่อเนื่องว่า: “ปิดเครื่องปรับอากาศและเปิดวิทยุ”

คราวนี้กล่องไม่มีการตอบสนอง เซียวหวันจึงต้องทำการพูดอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น ครั้งนี้มันเริ่มทำงาน เครื่องปรับอากาศปิดแต่มันไม่ได้เปิดวิทยุมันกับเปิดเพลงแบบสุ่มขึ้นมาแทน

เซียวหวันเห็นแบบนั้นก็พูดอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “หัวหน้าจะเห็นได้ว่าเราต้องพูดอย่างน้อยสองหรือสามครั้งก่อนที่ตัวกล่องของเราจะตอบสนอง และถ้าหากมีเสียงรบกวานจากภายนอกผลที่เราได้ก็จะไม่เหมือนสิ่งที่เราต้องการ…”

ซู่ชิได้ส่ายหัวก่อนที่จะพูดว่า: “ปัญหานี้เกิดขึ้นมาประมาณครึ่งปีแล้วและยังไม่มีวิธีแก้ไขมัน! ฉันไม่สามารถอธิบายให้ผู้ถือหุ้นคนอื่นฟังได้เลย”

เซียวหวันแสดงอาการที่ไม่พอใจออกมาเช่นกัน เพราะนี้ก็ไม่ใช้สิ่งที่เขาอยากจะเห็น

เชียหยุนได้ถามขึ้นมาว่า:“ เฒ่าเซี่ย นายมีทางไหม?”

เฒ่าเซี่ยส่ายหัวก่อนที่จะตอบว่า “ตอนนี้โปรแกรมเมอร์ของเราได้ทำการแก้ไขขั้นต้นไปแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร “

” ถ้าเราไม่สามารถซื้อเทคโนโลยีของอเมริกาหรือได้รับข้อมูลทางเทคนิคมา ผมก็ไม่เห็นความหวังว่าจะแก้ไขมันได้เลย ”

ซู่ชิถอนหายใจอย่างหนัก เขารู้สึกถึงพ่ายแพ้อย่างมาก

ระหว่างที่เขากำลังจมอยู่ในความรู้สึกอยู่นั้นลูชินกับพูดว่า: “ผมขอดูโปรแกรมการจดจำเสียงของพวกคุณได้ไหม? เผื่อว่าอาจจะพอปรับปรุงและพัฒนามันได้”

“คุณเหรอ?” เซียวหวันส่ายหัวของเขาก่อนที่จะพูดว่า: “มันซับซ้อนเกินไป และคุณอาจจะไม่เข้าใจโค้ดมันด้วยซ้ำ”

“ลองให้ผมดูก่อน” ลูชินตอบกลับมา

เซียวหวันยิ้มและพูดว่า: “คุณลู ผมไม่สงสัยความสามารถของคุณแต่ข้อมูลนี้ซับซ้อนเกินไป คุณไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าคุณลูต้องการไปเยี่ยมชนนั้นผมก็สามารถพาคุณไปดูได้”

ที่เซียวหวันพูดแบบนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาไม่เชื่อในความสามารถของลูชิน

ในขณะนี้ซู่ชิพูดว่า “ให้เขาได้เห็นข้อมูลบางส่วนของเรา บางทีเขาอาจจะให้คำแนะนำเราได้” เมื่อเห็นว่าหัวหน้าของตนพูดแบบนี้ เซียวหวันก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องพาลูชินได้ดูโค้ดบางส่วน

ลูชินได้เห็นเพียงส่วนน้อยของโค้ดและเขาได้พบปัญหามากมาย : “พวกคุณมีข้อมูลสำคัญจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลเหล่านี้ และยังมีช่องโหว่จำนวนมากเกินไป ฟังก์ชั่นบางตัวก็ไม่สมบูรณ์”

“คุณรู้ได้ยังไง” เซียวหวันถามออกมาด้วยความสงสัย เพื่อปกป้องความลับของบริษัทเขาได้จัดให้ข้อมูลสำคัญหลายอย่างถูกซ่อนไว้ เขาไม่คิดว่าลูชินจะสามารถดูออกทันที

“ มันเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับผม ถ้าพวกคุณสามารถให้ข้อมูลที่มากกว่านี้กับผมได้ ผมรับรองว่าจะสามารถแก้โปรแกรมนี้ได้อย่างแน่นอน” ลูชินได้พูดออกมา

“นายสามารถปรับปรุงได้จริงเหรอ?” ประโยคนี้ถูกถามโดยซู่ชิ แต่เดิมเขาต้องการให้ลูชินรับบทเรียนเล็กๆน้อยๆใครจะรู้ว่ากลับเป็นพวกเขาเองที่จะได้รับบทเรียนเสียเอง

“ ครับ ” ลูชินชี้ไปโค้ดบางตัวก่อนที่จะพูดว่า :“ คุณเห็นนี้ไหม นี้คือโค้ดที่มีปัญหา มันจะทำให้การรับรูปด้วยเสียงของอุปกรณ์มีปัญหาได้… ”

หลังจากนั้นลูชินได้ชี้ให้เห็นปัญหาอีกหลายแห่ง น่าแปลกใจที่หลายสิ่งที่ลูชินพูดว่ามีปัญหานั้นคือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีปัญหาได้

เซียวหวันค่อนข้างเศร้าเพราะความผิดพลาดบางอย่างที่ลูชินพูดมานั้นได้รับการออกแบบหรือดูแลโดยเขา

เซียวหวันพูดอย่างสงสัยว่า: “ผมไม่เห็นด้วยกับมุมมองของคุณ การออกแบบเหล่านี้มีเหตุผลอย่างสมบูรณ์ดังนั้นถ้านายทำการแก้แขมัน มันจะต้องเกิดปัญหาขึ้นกับโค้ดเหล่านี้อย่างแน่นอน!”

ลูชินยิ้มและพูดว่า: “มันก็ไม่ใช้ว่าโค้ดทั้งหมดนี้จะมีปัญหา แต่คุณต้องรู้ว่าภาษาจีนของเรานั้นถ้าแปลความหมายผิดไปนิดเดียว ความหมายของรูปประโยคที่เราได้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปอีกแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิง “

” มันสามารถแก้ไขได้หรือไม่? “ซู่ชิยังคงเป็นห่วงปัญหานี้มากที่สุด

“สามารถทำได้ครับ” ลูชินพยักหน้าเป็นการยืนยันและพูดว่า “แต่ผมต้องการข้อมูลหลักของพวกคุณทั้งหมดเพื่อที่ผมจะได้ทำการปรับปรุงได้อย่างเต็มที่”

วิธีที่ลูชินคิดนั้นไม่ใช้วิธีเดี่ยวกับที่เขาใช้ในการสร้างระบบเรทคลาวด์ เขาคิดว่าจะทำเพียงแค่แก้ไขโค้ดบางตัวและเพิ่มประสิทธิ์ภาพของตัวรับสัญญาเท่านั้น

“นี่ … ” เฒ่าเซี่ยมีอะไรจะพูดขึ้นแต่กลับถูกขัดจังหวะโดยอีกคน

“เป็นไปไม่ได้! นั่นคือข้อมูลที่เราทำงานอย่างหนักและมันก็ยังถือว่าเป็นความลับของบริษัทอีกด้วย!” เชียหยุนได้ตอบกลับมาทันที

“ถ้าอย่างนั้นผมก็หมดหนทาง ”

ซู่ชิพูดว่า “ให้เขาดู! มันจะหมดประโยชน์ไปทันทีเมื่อโครงการของเราถูกปิด”

“และฉันเชื่อว่าลูชินจะไม่ทำอะไรที่เป็นการเปิดเผยข้อมูลของเรา ”

ซู่ชิไม่เชื่อว่าลูชินจะใส่ใจกับข้อมูลที่ล้มเหลวเหล่านี้ นอกจากนี้ลูชินไม่ได้ขาดเงินและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจำข้อมูลเหล่านี้ได้ทั้งหมด

ลูชินพยักหน้าก่อนที่จะพูดขึ้นว่า: “ผมรับรองได้ว่าจะไม่ทำอะไรกับข้อมูลเหล่านี้อย่างแน่นอน”

“โอเค งั้นเราขอไปเตรียมข้อมูลก่อน” เฒ่าเซี่ยพูดกับลูชิน ก่อนที่จะพาเขาไปยังสถานทีจัดกับข้อมูลเหล่านั้น

ซู่ชิมองที่ลูชินและพูดอย่างจริงจังว่า: “ถ้านายสามารถปรับปรุงมันได้ถือว่าฉันเป็นหนี้บุญนายแล้วกัน และฉันจะอนุญาตให้นายพาลูกสาวของฉันไปเที่ยวได้ในวันพรุ่งนี้”

ลูชินรู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะเขาคิดว่าเขาได้ทำเรื่องเล็กๆให้พ่อตาเพียงเท่านั้น และก่อนหน้านั้นเขาคิดว่าต้องทำการทดสอบมากกว่านี้ถึงจะได้รับอนุญาตพาซู่จิงไปเที่ยวได้ เขากลับไม่คิดว่าเขาจะผ่านการทดสอบเรียบร้อยแล้ว – มันจะง่ายเกินไปไหม!

บทที่178

ผู้แปล : N.

ในทางตรงกันข้ามเซียวหวัน เขาบ่นว่า: “เด็กนั้นจะไปรู้อะไร นี้เราต้องเอาข้อมูลที่เราทำงานกันอยากหนักกว่าจะได้มา เราจะให้เขาดูจริงๆ?”

เฒ่าเซี่ยปลอบเขาก่อนที่จะพูดว่า: “ตอนนี้เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ฉันว่าให้เขาดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไร “

เซียวหวันส่ายหัว ” ผมแค่ไม่อยากให้ข้อมูลที่พวกเราทำมาต้องมาสูญเปล่าแบบนี้เลย ”

“ เฮ้อ!” เฒ่าเซี่ยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ออกมา เขารู้ว่าโครงการนี้ได้ทำการวิจัยเป็นเวลาสองปีดังนั้นมันจึงมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 100 ล้านหยวนและผลลัพธ์ที่พวกเขาได้ยังไม่มีความคืบหน้าอีกด้วย

“ เราคงต้องทำให้ดีที่สุดเท่านั้น” เฒ่าเซี่ยพูดออกมา

พวกเขาได้ส่งมอบข้อมูลหลักให้กับลูชิน โดยที่ซู่ชิได้ใช้เครดิตของเขาเพื่อให้เวลาลูชินศึกษามันได้สองหรือสามชั่วโมง

หลังจากที่ลูชินได้อ่านข้อมูลทั้งหมด เขาได้พูดว่า: “จากปริมาณข้อมูลทั้งหมดนี้ผมสามารถทำการแก้ไขมันได้ภายในสองหรือสามวันครับ”

“ได้! ฉันจะให้เวลาที่นายขอ!” ซู่ชิพยักหน้า

“ สองหรือสามวัน?” เฒ่าเซี่ยและเซียวหวันได้ตกใจกับสิ่งที่พวกเขาได้ยิน มันไม่ใช้เรื่องที่จะสามารถพูดเล่นได้

ในอีกสองวันลูชินได้ตามซู่ชิมาที่บริษัทอีกครั้ง และการมาครั้งนี้ของเขาคือการนำเสนอกล่องอัจฉริยะรุ่นปรับปรุง

ในระหว่างการปรับปรุงลูชินได้ทำการติดตั้งฟังก์ชั่นการโต้ตอบด้วยเสียงของกล่องอัจฉริยะที่เขาได้คิดขึ้นมาใหม่เข้าไปอีกด้วย แต่ถ้าเทียบระบบนี้กับระบบเรทคลาวด์จะเห็นได้ว่าระบบแบบใหม่นั้นด้อยกว่าระบบเรทคลาวด์เป็นไหนๆ แต่เขาคิดว่าแค่นี้ก็พอตอบโจทย์ที่พ่อตาของเขาต้องการได้แล้ว

เพื่อที่จะทำให้ซู่ชิและคนอื่นๆเชื่อมั่นมากขึ้นลูชินได้ขอให้จางเกวียงทำตัวเซ็นเซอร์ขึ้นมาใหม่ก่อนที่เขาจะนำมาติดตั้งในกล่องอัจฉริยะรุ่นปรับปรุงนี้

“ เสร็จสมบูรณ์แล้ว?” ซู่ชิถามด้วยความประหลาดใจก่อนที่เขาจะพูดอีกว่า “ เร็วมาก”

“ผมได้ทำการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆของตัวโปรแกรมแล้วและผมยังได้ทำการออกแบบตัวเซ็นเซอร์ใหม่อีกด้วย ผมคิดว่านี้ควรเป็นไปตามความต้องการของคุณ”

ลูชินได้วางกล่องอัจฉริยะตัวอย่างที่เขาได้ทำขึ้นมาใหม่ไว้บนโต๊ะทำงานก่อนที่จะพูดอีกว่า “นี่คือเครื่องต้นแบบที่ผมได้ทำการปรับปรุงแล้ว “

ซู่ชิดูตัวอย่างที่ลูชินวางไว้จากมุมมองของเขาและพบว่ากล่องตัวใหม่นี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากของเดิมมากนัก เขาสงสัยจริงๆว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปรับปรุงแล้วใช้ไหม?

เขากลัวว่าถ้านำกล่องนี้ออกไปถามใคร เขาก็คงไม่รู่ว่ากล่องตัวนี้มีความแตกต่างจากของเดิมยังไง?

ลูชินพูดต่อว่า: “คุณสามารถเรียกเฒ่าเซี่ยและเซียวหวัน เพื่อมาดูการทำงานของมันได้”

ซู่ชิเห็นความมั่นใจในตัวลูชินก่อนที่เขาจะถามไปด้วยความสงสัยว่า “มันเสร็จจริงไหม?”

เฒ่าเซี่ยที่เข้ามาเห็นก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน เขาไม่คิดว่าลูชินจะมีความคืบหน้าอะไรได้ภายในสองวัน เนื่องจากเขาไม่เชื่อว่าลูชินจะสามารถปรับปรุงได้เขาจึงขี้เกียจเกินไปที่จะถามคำถามที่เขาสงสัยนี้ออกมา

เซียวหวันยังคงดูตัวอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะเพื่อทำการเปรียบเทียบกับตัวกล่องรุ่นเก่าของพวกเขา แต่ดูยังไงเขาก็ไม่สามารถบอกได้ เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “ผมว่าเราต้องทำการทดสอบดูก่อนที่จะสามารถบอกได้ว่ามันเป็นรุ่นปรับปรุงจริงหรือไม่”

ซู่ชิที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “งั้นเราไปทดสอบกันที่ห้องปฏิบัติการ”

เครื่องใช้ในห้องปฏิบัติการนั้นคืออุปรกรณ์สมาร์ททั้งหมด ถ้าพวกเขาได้นำตัวกล่องของลูชินไปทดสอบที่นั้นก็จะสามารถรู้ผลได้ทันที

ลูชินได้ทำการเปิดตัวเครื่องของกล่องอัจฉริยะของเขาเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับสัญญาณของอุปกรณ์สมาร์ทชิ้นอื่น ๆ โดยที่เครื่องใช้ของพวกเขาทั้งหมดนั้นสามารถนำเดินงานผ่านแอพได้ หลังจากที่ลูชินได้เปิดทำงานของกล่องอัจฉริยะ ตัวเซ็นเซอร์ในห้องที่ทำหน้าที่ตรวจจับแสงได้ทำการปรับแสงในห้องใหม่ทั้งหมด

“พวกคุณสามารถสั่งงานได้แล้ว” ลูชินได้พูดออกมา

ซู่ชิได้เป็นคนเปิดงานก่อนเขาได้พูดว่า: “เรนโบว์เปิดทีวีและถ่ายโอนภาพไปยังส่วนกลาง”

สัญญาณไฟของกล่องอัจฉริยะได้กระพริบเพื่อแสดงว่าได้รับคำสั่งเสียง จากนั้นสมาร์ททีวีจะถูกเปิดโดยอัตโนมัติและโปรแกรมก็ถูกปรับโดยอัตโนมัติซึ่งได้เปิดช่องข่าวของจีน

“ ฮืม มีความคืบหน้าเล็กน้อย!” ซู่ชิรู้สึกประหลาดใจกับกล่องอัจฉริยะรุ่นปรับปรุงนี้อยู่บ้าง เพราะถ้าเทียบกับรุ่นก่อนแล้วจะเห็นได้ว่ารุ่นนี้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทั้งหมด

“นี่เป็นเรื่องปกติ กล่องอัจฉริยะของเราก็สามารถทำแบบนี้ได้ ” เซียวหวันได้พูดขึ้นมาหลังจากที่เขาได้เห็นการทำงานของตัวกล่อง

เฒ่าเซี่ยยังคงต้องการทดสอบด้วยตัวเอง เขาได้จงใจใช้คำของภาษาถิ่นที่แตกต่างกันออกมาว่า: “เรนโบว์ฉันต้องการอาบน้ำ”

กล่องอัจฉริยะได้ตอบกลับว่า: “โอเค เครื่องทำน้ำอุ่นได้เปิดให้แล้ว “

กล่องอัจฉริยะพูดจบเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องน้ำก็เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ถ้าเขาอาบน้ำจริงๆเขาสามารถเลือกอุณหภูมิที่เหมาะสมได้ทันที

“เป็นไปไม่ได้!” เซียวหวันแสดงความประหลาดใจออกมา เพราะเขารู้ดีว่าการที่จะทำให้ตัวกล่องนั้นสามารถทำงานตามที่สั่งโดยที่ใช้ภาษาท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องที่อยากขนาดไหน

ถ้าเขาได้ทำการพูดโดยใช้ภาษาท้องถิ่นกับกล่องรุ่นเดิมของพวกเขานั้น มันจะไม่สามารถทำตามที่ของสั่งได้อย่างถูกต้อง

เชียหยุนเองก็ยังแสดงสีหน้าที่ไม่เชื่อออกมาเช่นกัน กล่องนี้ได้รับการปรับปรุงโดยชายคนนั้นจริงหรือไม่? เขาไม่เชื่อดังนั้นเขาจึงได้พูดขึ้นว่า: “เรนโบว์ เปิดเพลง Agen”

กล่องอัจฉริยะได้ตอบกลับมาว่า:” เล่นเพลงAgenให้คุณแล้ว ”

จากนั้นเพลงภาษาอังกฤษก็ได้เล่นออกมา ทำให้ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงของเพลงและนี้ทำให้ทั้งห้องได้มีเสียงรบกวนจำนวนมากเกิดขึ้น ถ้านี้เป็นกล่องรุ่นเดิมของพวกเขามันจะต้องไม่สามารถรับคำสั่งต่อไปได้อย่างแน่นอน

เมื่อเพลงดังมากและการแทรกสอดมีขนาดใหญ่ขึ้น เชียหยุนได้พูดขึ้นว่า: “บ้านเริ่มสกปรกแล้ว ทำความสะอาดด้วย”

สัญญาณไฟของกล่องอัจฉริยะได้กระพริบเพื่อระบุว่าได้รับคำสั่งเสียงแล้ว จากนั้นหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านอัจฉริยะในห้องก็เริ่มทำงานและทำความสะอาดพื้นทันที

เมื่อเห็นฉากนี้เชียหยุนต้องยอมรับว่ามันน่าทึ่งจริงๆ! ขณะนี้มีเสียงของทีวีในห้องเช่นเดียวบวกกับเสียงเพลงเข้าไปอีก แต่กล่องอัจฉริยะรุ่นปรับปรุงนี้ก็ยังสามารถรับคำสั่งเสียงและควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านได้อย่างสมบูรณ์

การมาถึงระดับนี้ได้นั้นพวกเขาต้องยอมรับโครงการนี้ของพวกเขาประสบความสำเร็จ!

และทั้งหมดนี้จะแล้วเสร็จไม่ได้เลยถ้าขาดลูชินไป เขาใช้เวลาแก้ไขเพียงสองวันเท่านั้น มันช่างแตกต่างจากพวกเขาที่ทำโครงการนี้มาตลอดสองปี!

ความประหลาดใจของซู่ชิและเฒ่าเซี่ยนั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเชียหยุน เมื่อคำสั่งเสียงสองคำสั่งแรกนั้นได้ถูกดำเนินการได้อย่างสมบรูณ์พวกเขาก็พึงพอใจแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับมารู้อีกว่ากล่องอัจฉริยะรุ่นปรับปรุงนี้ยังสามารถรับรู้ขณะที่มีเสียงรบกวนได้!

คงมีเฉพาะลูชินเท่านั้นที่ยังคงดูสงบ ในมุมมองของเขาฟังก์ชั่นเหล่านี้ง่ายเกินไปจริงๆ ในความคิดของเขาบ้านอัจฉริยะที่แท้จริงควรทำงานได้ดีกว่านี้และมันจำเป็นที่จะต้องสามารถควบคุมเครื่องใช้ในบ้านทุกอย่างในแบบมนุษย์โดยไม่ต้องใช้คำแนะนำของผู้ใช้เลย ตัวอย่างเช่นขณะที่อุณหภูมิข้างนอกตัวบ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบจะต้องทำการคำนวณแล้วปรับเปลี่ยนอุณหภูมิได้เองด้วยที่ไม่ต้องให้เจ้าของบ้านสั่งการ เป็นต้น

บทที่179

ผู้แปล : N

ซู่ชิยังได้ทดลองออกคำสั่งหลายแบบและทุกคำสั่งได้รับการทำตามอย่างดีไม่มีข้อยกเว้น

เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาหัวเราะและพูดว่า: “สำเร็จ! โครงการนี้ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ!”

เฒ่าเซี่ยยังตกใจเช่นกันก่อนที่เขาจะพูดว่า: “หัวหน้าซู่ คุณช่างยอดเยี่ยม!”

“ลูชิน!” “ นี้ถือว่าฉันติดหนี้ของนาย นายต้องการอะไรไหม?”

ลูชินได้ส่ายหัวอย่างรวดเร็วและพูดว่า: “อ่า คุณลุงสุภาพเกินไปแล้วมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ”

ตอนนี้แผนการที่ทำให้พ่อตาเป็นหนี้ก็สำเร็จไปตามแผน ที่นี้เมื่อเขาจะทำอะไรหรือขออะไรจากพ่อตาในอนาคตก็จะสะดวกขึ้นอย่างแน่นอน

เซียวหวันก็รู้สึกประทับใจและได้พูดชื่นชมเป็นอย่างมากว่า :“ ผมไม่คิดจริงๆเลยว่าคุณลูชินจะทำการปรับปรุงมันได้สำเร็จเร็วแบบนี้! สำหรับผมถ้าต้องการทำการแก้ไขให้ได้แบบคุณ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย2-4ปีเลยที่เดี่ยว!”

“แผนกโครงการนี้ต้องขอขอบคุณด้วยครับ! ”

“พวกคุณไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ผมก็แค่ช่วยเท่าที่ทำได้เท่านั้น “ลูชินได้ตอบกลับมาอย่างสุภาพ

ซู่ชิพูดอย่างดังว่า: “.. จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ในฐานะพ่อตาฉันต้องบอกว่านี้คือสินทรัพย์ทางปัญญาของนายดังนั้นนายต้องได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม และพ่อตาคนนี้ขอสัญญาว่าจะทำให้นายได้รับค่าตอบแทนที่ดีที่สุดย่างแน่นอน”

ก่อนหน้านี้ซู่ชิได้แนะนำตัวของลูชินว่า “นี่คือแฟนของลูกสาวฉัน” ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนชื่อเป็นลูกเขยโดยตรงและทัศนคติของเขาที่มีต่อลูชินก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยอีกด้วย

“ไม่จำเป็นจริงๆครับ” ที่จริงแล้วลูชินยังได้มีแผนอีกอันคือการร่วมมือกับบริษัทของพ่อตากับบริษัทของเขาเพื่อร่วมมือกันเปิดตลาดใหม่อีกด้วย

แต่ดูเหมือนว่าโอกาสนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะคุยเรื่องนี้ และเขาต้องลองพูดเรื่องนี้กับซู่จิงก่อน

เชียหยุนไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ที่เขาได้เห็นผลลัพธ์นี้ ตอนแรกที่เขาได้ยินคำพูดของลูชินนั้นเขาได้ดูถูกการกระทำของลูชินอย่างมาก แต่มันกลับกลายเป็นว่าลูชินกับทำสิ่งที่ตัวเองพูดได้!

เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า: “ลูชิน คุณเคยศึกษาเรื่องโค้ดอุปกรณ์โฮมสมาร์ทพวกนี้จากต่างประเทศมาก่อนหรือไม่?”

“ไม่” ลูชินได้ตอบกลับไปอย่างไม่เป็นทางการเท่าไหร่

“เรทคลาวด์!” ดวงตาของเซียวหวันสว่างขึ้น “คุณรู้จักผู้ช่วยอัจฉริยะเรทคลาวด์หรือไม่?”

“แน่นอน โปรแกรมนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยผม” ลูชินได้ตอบกลับ

“อะไรนะ!” เซียวหวันและเฒ่าเซี่ยกรีดร้องในเวลาเดียวกัน

“ระบบเรทคลาวด์ คือระบบที่คุณเป็นคนพัฒนาขึ้นมาเอง” เซียวหวันถามออกไปโดยความตกใจ

ลูชินพยักหน้าและตอบว่า: “ผมจะไปโกหกทำไม เพราะผมมีความรู้ด้านนี้มาเล็กน้อยจึงสามารถแก้ไขกล่องอัจฉริยะของพวกคุณให้เสร็จสมบรูณ์ได้เร็วแบบนี้ไง”

“มันคือคุณจริงๆ!” เซียวหวันกรีดร้องด้วยความประหลาดใจตอนนี้ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความคารวะนับถือ

เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า: “ท่านเทพ ผมไม่คิดเลยว่าจะเจอท่านที่นี้!”

ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาก่อนที่จะถามว่า: “คุณพูดว่าอะไรนะ?”

เซียวหวันพูดต่อว่า: “ท่านเทพ ผมต้องบอกท่านว่างานวิจัยทีมของท่าน… ระบบเรทคลาวด์นั้นคือเทคโนโลยีระดับสูงที่สุดที่โลกเคยมีแล้วตอนนี้!”

“ ที่ปรึกษาของผมจาก MIT ยังได้ยกย่องว่าระบบเรทคลาวด์ทำงานได้เป็นอย่างดี เขาคาดว่าถ้าระบบนี้ทำการพัฒนาขึ้นต่อไปแบบนี้เรื่อยๆมันจะต้องเป็นปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงอย่างแน่นอน! เขายังพูดอีกว่าโอกาสที่ประเทศของเขาจะเป็นผู้นำโลกในด้านนี้มีสูงอย่างมาก! ”

เสียงของเซียวหวันนั้นเต็มไปด้วยความเคารพ ดูเหมือนว่าเขาจะได้พบไอดอลของตัวเองแล้ว

“ทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซู่ชิที่ได้ยินแบบนั้นก็เหลือบมองทางลูชินเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าลูกเขยของเขาจะทำให้คนที่หยิ่งยโสอย่างเซียวหวันเคารพได้มากขนาดนี้ ในตอนแรกเขาต้องการที่จะนำเฒ่าเซี่ยและเซียวหวันมาในครั้งนี้เพื่อที่จะได้มอบบทเรียนให้ลูกเขยคนนี้ แต่ใครจะไปรู้ว่าลูกเขยของเขาจะเป็นอวตานของเทพ

“แน่นอนมันช่างน่าทึ่ง!” เฒ่าเซี่ยพูดต่อว่า “ผมไม่คิดเลยว่าท่านเทพจะมาช่วยโครงการของเราแบบนี้ ถ้าผมรู้ก่อนหน้านี้ผมจะทำการมอบข้อมูลทั้งหมดของเราให้ท่านดูตั้งแต่แรกเลย!”

” ถ้าผมมีลูกสาว ผมจะยกเธอให้แต่งงานกับคนที่มีพรสวรรค์แบบนี้! ”

ระหว่างที่พวกเขาคุยกันอยู่นั้นซู่ชิก็ได้หัวเราะออกมาว่า:” ฮ่าฮ่า ฉันต้องยอมรับว่าสายตาของลูกสาวฉันดีจริงๆ! “

“ไม่เสียแรงที่เป็นลูกฉัน ฮาฮาฮา “

หลังจากนั้นลูชินได้อธิบายให้พวกเขาทราบแนวทางการพัฒนาโครงการของพวกเขาว่าจะสามารถทำอะไรเพิ่มได้และเขายังรับรองด้วยว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรหลังจากนี้เขาก็จะยินดีเข้ามาช่วยเสมอ

…

บ้านของครอบครัวซู่ ผู้หญิงสามคนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาขณะที่กำลังดูทีวี

“มันน่าเบื่อมาก” ซู่เสี่ยวดูเหมือนปลาเค็มขณะที่เธอกำลังบีบแขนของแม่เธอ

“เอาละ” เยรุนพูดขึ้นมาว่า “ลูกมากับแม่ อีกเดี่ยวเราต้องเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นกันแล้ว”

เมื่อซู่เสี่ยวได้ยินแบบนี้ก็หันไปทางพี่สาวก่อนจะพูดว่า “พี่ พี่ว่าตอนนี้พ่อจะจัดการกับพี่เขยยังไง? ”

“ทำไมถึงถามแบบนั้นละ?”ซู่จิงถามกลับไปด้วยความสงสัย

“ นี้พี่แกล้งทำเป็นไม่รู้หรือยังไง! พี่ไม่ได้สังเกตอาการของพ่อเลยหรือไง! หนูคิดว่าที่พ่อนำตัวพี่เขยไปบริษัทด้วยทุกวันนั้นเขาคงหวังจะไปสั่งสอนพี่เขยแน่นอน!” ซู่เสี่ยวพูดมาแบบนั้นซู่จิงก็ได้พูดขึ้นมาว่า “มันก็จริงนะ”

อย่างไรก็ตามซู่เสี่ยวกับถูกดีดเข้าที่หน้าฝากอย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนที่พี่สาวของเธอจะพูดว่า “นี้แนะ! ทำเป็นรู้ดีแล้วเรื่องการบ้านของเธอละ เสร็จไปถึงไหนแล้ว?”

“พี่ทำอะไรเนี่ย! “ซู่เสี่ยวพูดต่อว่า ” พี่ทำแบบเดียวกับครูที่โรงเรียนเลย! ”

ในเวลานี้ได้มีเสียงดังออกมาจากปะตูหน้า ซู่เสี่ยวรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้งและเธอพูดว่า: “พวกเขากลับมาแล้ว พี่สาวเรามาพนันกันไหม ถ้าพ่อเข้ามาด้วยอาการหน้างอถือว่าหนูชนะแล้วพี่ต้องเป็นคนทำเวรทำความสะอาดในอาทิตย์หน้าทั้งหมด”

“จะไม่มีการพนันเกิดขึ้นทั้งนั้น!” ซู่จิงได้พูดต่อว่า: “ความเป็นไปได้ที่หน้าของพ่อจะงอมีถึง 80% ฉันจะไม่ยอมเสียเปรียบเธอในเรื่องนี้อย่างแน่นอน!”

ประตูเปิดขึ้นพี่น้องทั้งสองรีบมองไปที่ประตูและสังเกตการแสดงออกของซู่ชิ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อนั้นแตกต่างจากความคิดของทั้งสองคนที่ว่าพ่อจะต้องมีการแสดงออกที่รุนแรงและโกรธอย่างมาก แต่นี้กลับตรงกันข้ามทุกอย่างเขาได้ยิ้มเข้ามาและยังแสดงสีหน้าที่เหมือนจะไปเจอเรื่องดีๆอีกด้วย

ซู่เสี่ยวรู้สึกประหลาดใจจึงถามขึ้นว่า: “พ่อ ทำไมวันนี้พ่อถึงดูมีความจัง พ่อได้ถูกลอตเตอรี่มาใช้ไหม? ”

“พ่อไม่เคยซื้อลอตเตอรี่!” น้ำเสียงของซู่ชินั้นฟังดูผ่อนคลายอย่างมากและเขาพูดต่อว่า “แต่พ่อได้ถูกรางวัลใหญ่ “

” รางวัลอะไร? “ซูเสี่ยวรีบถามออกมา

“พ่อได้ให้กำเนิดลูกสาวที่หน้ารักที่ชื่อว่าซู่เสี่ยวไง” ซู่ชิตอบกลับไปแบบยิ้มๆ

ซู่เสี่ยวที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้ว่าตัวเองโดนพ่อหลอกให้แล้ว เธอจึงได้เดินเข้าไปในห้องครัวและตลอดทางเธอก็พูดว่า: “มันต้องเป็นรางวัลที่พิเศษมากแน่ ไม่งั้นพ่อจะไม่อารมณ์ดีแบบนี้!”

เยรุนได้เดินออกมาจากห้องครัวแล้วพูดด้วยความสงสัยว่า: “วันนี้ดูคุณอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ ทำไมคุณถึงไม่บอกข่าวดีที่คุณเจอกับพวกเราละ “

” ฮ่า ๆ ๆ ๆ ! “ซู่ชิไม่สามารถช่วยได้ เขาหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า:”เป็นเพราะโครงการที่ผมรับผิดชอบนั้นสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้วและมันยังได้เสร็จสมบรูณ์ไปพร้อมกันอีกด้วย! ”

” แก้ไขได้แล้วและยังเสร็จแล้วด้วย “เยรุนที่ได้ยินแบบนั้นก็มีความสุขเช่นกัน เธอพูดขึ้นว่า “แล้วคุณทำยังไงถึงทำให้โครงการนี้เสร็จละ เห็นครั้งที่แล้วคุณบอกว่าโครงการนี้จะถูกปิดอยู่เลย?”

“นี้ต้องขอบคุณลูกเขยที่ดีของฉัน! เขาใช้เวลาเพียงสองวันในการช่วยเราพัฒนาตัวกล่องอัจฉริยะขึ้นมาและมันดีกว่ารุ่นเดิมของเราอีกด้วย!” ซู่ชิพูดต่อว่า “ที่รัก! เธอช่วยไปเอาขวดไวน์ชั้นดีที่ฉันซ่อนไว้ออกให้ด้วย วันนี้เราทั้งคู่ต้องดื่มฉลองกัน! ”

ซู่ชิไม่ค่อยได้ดื่มพวกนี้เท่าไรเพราะเขาต้องรักษาสภาพการทำงานของเขา แต่วันนี้ถือเป็นเรื่องยกเว้นเขาตั้งใจจะดื่มฉลองความสำเร็จนี้กับทุกคนในบ้านจริงๆ

ซู่เสี่ยวเห็นการแสดงออกของพ่อจึงได้ไปกระซิบข้างหูของพี่สาวตัวเองว่า:“ พี่สาวดูเหมือนว่าชายชราคนนี้จะได้ขายพี่ให้กับพี่เขยแล้ว!”

“ ไปช่วยแม่ทำอาหารได้แล้ว!”

“พี่ตีหนูทำไม!” ซู่เซี่ยวร้องตะโกนตลอดทางไปห้องครัว หลังจากที่เธอเข้าไปแล้วยังได้ตะโกนออกมาอีกว่า: “พ่อ พี่เขย หนูจะทำอาหารแล้ว ช่วยกันไม่ให้พี่เข้าไปในห้องครัวด้วย”

“หนูยังไม่อยากให้ห้องครัวของเราระเบิด!”

ลูชินได้ชำเลืองมองที่ซู่จิง ซึ่งการมองครั้งนี้ของเขาเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งก่อนที่ซู่จิงพูดว่า “ก็แค่ฉันยังไม่ได้ฝึกเท่านั้นเอง”

พูดถึงตรงนี้ใบหน้าของซู่จิงก็กลายเป็นสีแดง เธอพูดเบาๆว่า:“ ฉันแค่ต้องไปเรียนเพิ่มเท่านั้น ฉันมันใจว่าจะสามารถทำอาหารได้อย่างแน่นอน”

“ นั่นก็ยังคงเป็นอันตรายอยู่มาก” ลูชินได้ตอบกลับมาแบบยิ้มๆ

“คุณ!”

บทที่180

ผู้แปล : N.

หลังมื้ออาหารลูชินและซู่จิงได้ออกไปเดินเล่นและพูดคุยเกี่ยวกับบริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์

ลูชินพูดว่า: “วันนี้ผมได้ให้กล่องอัจฉริยะแก่พวกเขาไป ระดับของการโต้ตอบด้วยเสียงนั้นถือว่าสูงกว่าของในท้องตลาดในตอนนี้ แต่ก็ยังอยู่ห่างไกลจากระบบเรทคลาวด์ของเราอยู่ดี และตัวเซ็นเซอร์หลักก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัทของเรา”

“ถ้าพูดตามจริงแล้วการที่พ่อของคุณได้ขายผลิตภัณฑ์นี้ในตาลดอาจจะมียอดขายที่ไม่สูงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับยอดของอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านแบบธรรมดา ”

” แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “ซู่จิงจับมือของลูชินแล้วพูดว่า:” เขาเพียงแค่ต้องการพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าความคิดของเขาและทิศทางการดำเนินธุรกิจของเขานั้นไม่ผิดก็พอแล้ว ”

“เป็นฉันสิที่ต้องขอบคุณที่ช่วยพ่อฉันในเรื่องนี้ ”

” มันไม่ใช้เรื่องที่ต้องขอบคุณอะไรเลย “ลูชินยิ้มก่อนที่จะพูดต่อว่า” พ่อของคุณได้สัญญาบางอย่างกับผมด้วยนะ แต่เหมือนว่าเขาจะลืมไปแล้ว ฮาฮาฮา ”

ซู่จิงพูดว่า:” ฮิฮิ เขาก็เป็นแบบนี้แหละ! “

ลูชินพูดว่า:” ที่จริงแล้วผมคิดว่าโครงการโฮมสมาร์ทนั้นถือว่าเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการพัฒนาบริษัทของเราในอนาคต คุณคิดว่าไง? “

” คุณต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องด้วย! “ซู่จิงได้เข้าใจทันทีว่าลูชินหมายถึงอะไร

จากนั้นเธอได้ทำการวิเคราะห์ก่อนที่จะพูดว่า “ตอนนี้ตลาดโฮมสมาร์ทในต่างประเทศกำลังเพิ่มขึ้นทุกปีถึงแม้ว่าตลาดในประเทศจีนของเรายังไม่ถึงช่วงการเติบโตขนาดใหญ่เช่นต่างประเทศ แต่ก็เริ่มมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

“ไมโครซอฟท์, กูเกิล, แอปเปิ้ล, และที่กำลังมาแรงในตอนนี้คือ บริษัทแอมะซอนที่กำลังลงทุนทิศทางนี้ในประเทศจีน บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่จากสหรัฐอเมริกาเองก็กำลังทุนในตลาดในประเทศจีนเช่นกันและฉันคิดว่าอีกไม่นานบริษัทต่างๆก็คงหันมาสนใจในด้านนี้กันมากขึ้น ”

ลูชินได้พยักหน้า:” ฉันก็คิดอย่างนั้น เป้าหมายสูงสุดของระบบเรทคลาวด์ของเราคือการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน “

” และเครื่องใช้ในบ้านถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของทุกคนตอนนี้ ถ้าเราสามารถเข้าสู่ตลาดนี้ได้มันก็ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งที่เราจะขึ้นไปเป็นผู้นำโลกในด้านเทคโนโลยี! “

“คุณพูดมาแบบนี้ คุณต้องการทำอะไร?” ซู่จิงได้มองไปยังลูชินและถาม

“ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท ผมได้ตั้งพื้นฐานของการพัฒนาไว้ว่าบริษัทของเรานั้นจะเป็นคนที่นำเทคโนโลยีมาช่วยในการใช้ชีวิตของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น” ลูชินได้หยุดไปแล้วพูดว่า: “ดังนั้นฉันจึงคิดว่าการมีส่วนร่วมในโครงการโฮมสมาร์ทนั้นถือว่าเป็นทิศทางที่บริษัทของเราจำเป็นต้องมี”

“คุณหมายถึงบริษัทของพ่อของฉัน บริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์?” ซู่จิงได้พูดในสิ่งที่เธอเข้าใจออกมา

ลูชินพูดอย่างใจเย็นว่า: “ดูเหมือนว่าบริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ จะเป็นทางเลือกที่ดีอย่างมาก ถ้าพวกเราไปลงทุนในบริษัทแบรนด์ใหญ่ เช่น ฮาตาชิ พวกเขาอาจจะไม่เห็นด้วยกับการลงทุนของเรา เพราะพวกเขาถือว่าพวกเขานั้นได้อยู่ในวงการนี้มานานกว่าเรา และพวกเขายังได้เริ่มวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์โฮมสมาร์ทพวกนี้มานานแล้ว”

“แบบนั้นผมจึงคิดว่าการเลือกบริษัทของพ่อคุณนั้นถือว่าสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณมีความสัมพันธ์กับพ่อของคุณมันจะสะดวกกว่าสำหรับเราที่จะได้เรียนรู้การทำงานของพวกเขา”

เขาได้สังเกตการณ์บริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ มาระยะหนึ่งแล้ว ก็ต้องถือว่าบริษัทนี้ตรงตามความต้องการของเขา

ซู่จิงได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า: “มันอาจจะเป็นไปได้ แต่ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่พ่อของฉันคิดและผู้ถือหุ้นรายอื่นของบริษัทอาจจะไม่เห็นด้วย”

ซู่จิงรู้ดีว่าการลงทุนครั้งนี้ของลูชินคือการเป็นผู้ถือหุ่นรายใหญ่ที่สุด ดังนั้นผู้ถือหุ่นรายอื่นอาจจะไม่เห็นด้วยและแม้แต่พ่อของเธอเองก็เช่นกัน

ลูชินพูดว่า:“ ดังนั้นผมจึงอยากได้ความคิดเห็นของคุณก่อนที่จะผมจะไปคุยเรื่องนี้กับพ่อของคุณ”

ซู่จิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักพักและพูดว่า: “ดี ฉันจะกลับไปคุยเรื่องนี้กับพ่อ “

” คุณก็อย่าไปกดดันอะไรมากละ “ลูชินพูดต่อว่า” ถ้าเราไม่สามารถซื้อหุ่นของพวกเขาได้ เรายังสามารถพัฒนาโฮมสมาร์ทได้ด้วยตัวเอง”

สิ่งที่ลูชินกำลังทำอยู่ตอนนี้ไม่เพียง แต่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ยังรวมถึงการวางโครงสร้างเช่นเดียวกับบริษัทชั้นนำของโลก

หลังจากการพูดคุยกันระหว่างพวกเขาทั้งสองในวันรุ่งขึ้น ซู่จิงไปที่ห้องทำงานของพ่อเธอเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้และถามเขาว่าเขาคิดอย่างไร

“ บริษัทของลูกต้องการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทของพ่อ?” ซู่ชิได้ยินข้อเสนอของลูกสาวก็ตกใจไปซักพักก่อนที่จะถามว่า: “เท่าไหร่?”

“มากเท่าที่จะมากได้คะ!” ซู่จิงพูดแบบนี้ซู่ชิก็รู้สึกประหลาดใจก่อนที่จะพูดว่า : “มันใหญ่เกินไปหรือเปล่าบริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ ของพ่อนั้นเป็นบริษัทที่ทำการจดทะเบียนในตลาดหุ้นด้วยและตอนนี้มูลค่าในตลาดบริษัทของพ่อนั้นอยู่ใน20บริษัทชั้นนำของประเทศ มันมีมูลค่าถึงห้าพันล้านหยวน!”

ซู่จิงยิ้มออกมาและพูดว่า“ พ่อ นี่คือบริษัทลู่เทคโนโลยีนะ! มันเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างมาก ไม่ว่ามูลล่าบริษัทของพ่อจะมีสูงถึงหมื่นล้านเราก็สามารถซื้อได้!”

“ลูกรู้ตัวใช้ไหมว่าพูดอะไรออกมา!” ซู่ชิมองไปยังซู่จินอย่างจริงจัง “ขณะนี้อุตสาหกรรมเครื่องใช้ในบ้านมีมูลค่าตลาดมากกว่าพันล้านเหรียญ”

“และถ้าบริษัทลู่เทคโนโลยีของลูกมาลงทุนในบริษัทของพ่อ พ่อคิดว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นคงไม่เห็นด้วย”

“ หนูรู้ หนูถึงมาพูดเรื่องนี้กับพ่อก่อนไง!” ซู่จิงพูดต่อว่า “ กุญแจสำคัญคือการดูว่าพ่อมีความคิดเห็นอย่างไงหลังจากที่พ่อรู้ว่าบริษัทของหนูต้องการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่”

“ พ่อคิดดูนะ! ในบริษัทตอนนี้พ่อถือว่าเป็นเจ้าของโดยที่พ่อถือหุ้นถึง 12 .3% ของหุ้นทั้งหมด ถ้าคิดเป็นมูลค่าตามจริงมันคิดเป็นเงินเพียงหลักร้อยล้านเท่านั้น แต่ถ้าพ่อปล่อยให้บริษัทของหนูเข้ามาลงทุนด้วยถึงแม้ว่าพ่อจะมีหุ้นเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของหุ้นทั้งหมด มันก็จะมีมูลค่าสูงกว่าตอนนี้ของพ่ออย่างแน่นอน!”

“ และหนูมั่นใจว่ายิ่งพ่อปล่อยไปนานเท่าไหร่ ราคาหุ้นของพ่อจะยิ่งตกลงเท่านั้น!”

ซู่ชิที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยังเลือกที่จะส่ายหัวออกมา หากนี้เป็นการลงทุนปกติเขาและบริษัทก็ยังสามารถยอมรับได้ แต่นี้ไม่ใช้มันคือการเข้ามาเป็นผู้ตัดสินใจหลักและควบคุมทิศทางดำเนินงานของบริษัททั้งหมด และใน ในฐานะที่เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในขณะนี้ไม่สามารถยอมรับได้

“จากมุมมองของการพัฒนาองค์กรการถือหุ้นของบริษัทลู่เทคโนโลยีในบริษัทของพ่อถือว่าเป็นผลที่ดีที่สุดเช่นกัน” ซู่จิงยังคงพูดเกลี้ยกล่อมต่อว่า “แนวคิดของพ่อคือการสร้างอุปกรณ์โฮมสมาร์ทขึ้นมา แต่ผู้ถือหุ้นรายอื่นของบริษัทกับไม่คิดแบบพ่อ พวกเขาเพียงต้องการให้พ่อพัฒนาเครื่องใช้ในบ้านแบบดั้งเดิมต่อไปเท่านั้น ”

” ด้วยความแข็งแกร่งตอนนี้ของบริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ ของพ่อนั้นถ้าจะทำการพัฒนาโครงการโฮมสมาร์ทต่อนั้นจะต้องใช้ต้นทุนการวิจัยที่สูงมาก และผู้ถือหุ้นบริษัทของพ่อจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน และความฝันของพ่อก็จะยังเป็นเพียงความฝันตลอดไป ”

” แต่ถ้ามีบริษัทของหนูเข้าไป มันจะตรงกันข้าม ด้วยความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีและการนำของลูชิน โครงการโฮมสมาร์ทต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน พ่อก็เห็นแล้วว่าลูชินนั้นทำอะไรได้บ้าง ”

” ถ้ามีบริษัทลู่เทคโนโลยีหนุนหลัง บริษัทของพ่ออาจจะหลายเป็นบริษัทชั้นนำในด้านของอุปกรณ์โฮมสมาร์ทของประเทศ..อ่า….ไม่สิ! ต้องบอกว่าของโลกเลยก็ได้! “

หลังจากที่ซู่ชิได้ฟังแบบนั้นก็ยังไม่ได้คัดค้านโดยตรง แต่ตกอยู่ในความคิดของตัวเอง หลังจากลูชินได้ทำการปรับปรุงกล่องอัจฉริยะขึ้นมาใหม่ เข้าถึงเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของบริษัทลู่เทคโนโลยี

ยิ่งเขารู้มากขึ้นเท่าไหร่เขาก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้น เทคโนโลยีต่างๆของบริษัทลู่เทคโนโลยีได้พัฒนามาถึงจุดนี้จริงๆแล้วเกิดขึ้นมาจากลูกเขยของตนเองทั้งหมด !

และถ้าหากเขาสามารถทำให้อุปกรณ์โฮมสมาร์ทของเขาไปถึงระดับของบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ละ? แค่เขาจินตนาการมาถึงตรงนี้ก็ตื่นเต้นแล้ว