Taming Master 223-228
ตอนที่ 223
Creak- Crea-crea-creak- Thud-!
หลังจากได้ยินเสียงเสียดสีที่ไม่สบายหูและเสียงหนักที่ดังพอที่จะทำให้ชั้นใต้ดินทั้งหมดสั่นสะเทือน ประตูเหล็กยักษ์ที่ปิดกั้นเอียนและไดซ์เริ่มเปิดขึ้นอย่างช้าๆ
Keu-keuk- Keu-keu-keuk-.
และภายในมีบันไดสีทองอร่ามต้อนรับเอียน
‘ทางเข้าแบบไหนกันที่นำไปสู่ร้านค้าทาสที่มีหน้าตาแบบนี้?’
ประตูเปิดออก แต่ดวงตาทั้งสองของเอียนซึ่งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกระพริบตาเมื่อเขาจ้องมองไปที่ไดซ์
เช่นนั้น ไดซ์ยิ้มขณะที่เขาพูด
“ถ้าท่านเดินลงบันไดนี้จะเป็นชั้นล่างสุดของตลาดค้าทาสของเราในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว”
เอียนพยักหน้า
“ผมเข้าใจแล้ว”
ไดซ์พูดต่อ
“สิ่งนี้ไม่สามารถใช้ได้กับสถานที่อื่นๆ แต่ในกรณีที่ชั้นล่างสุดนี้ เมื่อท่านเข้ามาจะมีกฎตั้งไว้ว่าท่านไม่สามารถจ้างทาสได้มากกว่าหนึ่งคนในแต่ละครั้งที่ท่านเข้ามา”
เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ผมได้ยินเนื้อหาจากเซราฟิมในปริมาณที่พอสมควรแล้ว ดังนั้นผมจึงรู้เรื่องนี้”
“อย่างนั้นหรอครับ? ถ้างั้นมันก็จะอธิบายง่ายหน่อย”
ไดซ์เริ่มเดินลงไปอย่างช้าๆและเอียนก็ตามไป
“ท่านมีหนึ่งในสี่ของวัน ภายในหนึ่งในสี่ของวันท่านจะต้องตัดสินใจเรื่องทาสที่ท่านต้องการทำสัญญาและทำสัญญากับพวกเขา ในกรณีที่เวลาของท่านหมดลงหรือหากว่าท่านทำสัญญากับทาสแล้ว ท่านจะถูกวาร์ปโดยอัตโนมัติไปที่ชั้นบนสุดของตลาดค้าทาส”
เอียนผู้จำข้อควรระวังของเซราฟิมไว้แล้ว พึมพำกับตัวเอง
‘เขาบอกว่าฉันจะต้องตรงเวลา แต่พวกเขาก็ให้เวลามากกว่าที่ฉันคาดไว้’
เอียนตอบกลับสั้นๆ
“เข้าใจแล้วครับ”
ในที่สุดเมื่อพวกเขาเดินลงบันไดก็มีที่โล่งๆปรากฏขึ้นและดวงตาทั้งสองของเอียนก็โตขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากแปลกใจ
‘พวกเขาบอกว่ามันเป็นชั้นล่างสุดที่มีแต่ทาสหายากรวมตัวกัน ดังนั้นฉันคิดว่ามันจะมีขนาดเล็กกว่าเมื่อเทียบกับชั้นอื่นๆที่เราผ่านไป แต่… มันใหญ่กว่าแทน!’
และเขาเริ่มตรวจสอบพื้นที่อย่างรวดเร็ว
หนึ่งในสี่ของวันนั้นไม่ใช่เวลามาก หากว่าเขาต้องการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของทาสภายในที่นี่
ขณะที่มองไปที่เอียนซึ่งมองไปรอบๆทันทีที่เขาเข้ามาในชั้นล่างสุด ไดซ์ยิ้ม
“ถ้างั้นกระผมอวยพรให้ท่านประสบความสําเร็จ กระผมหวังว่าทาสที่ท่านได้รับอย่างน้อยก็อยู่ในระดับ Heroic นะครับ ท่านเอียน”
เช่นเดียวกับผู้ติดตามหรือสัตว์เลี้ยงหรือแม้แต่ไอเทม ระดับของทาสคือระบบที่ถูกแบ่งจากระดับ Common ไปถึงระดับ Legendary
อย่างไรก็ตาม เมื่อมันมาถึงความหายากของพวกเขา มันเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน
ในกรณีของทาส ส่วนใหญ่พวกเขาจะเป็นระดับ Common และระดับ Rare ดังนั้นเริ่มจากระดับ Unique ความหายากของพวกเขาสูงมากจนถึงจุดที่ยากที่จะพบพวกเขา
อย่างในกรณีนี้ทาสระดับ Heroic ที่ไดซ์พูดถึงนั้นอยู่ในระดับที่สงสัยว่ามีอยู่จริงหรือไม่
เอียนยิ้มขณะที่เขาพยักหน้า
“ขอบคุณนะไดซ์ ผมจะทำให้ได้เลย”
ไดซ์ยิ้มตอบขณะที่เขาตอบกลับ
“เอาล่ะ ถึงกระนั้นที่นี่ก็เป็นชั้นล่างสุด เนื่องจากมีเพียงทาสที่มีระดับ Rare หรือสูงกว่าเป็นอย่างน้อยจะไม่มีกรณีที่ท่านจะเสียใจอย่างแน่นอน ฮาฮาฮ่า”
ไดซ์ซึ่งพูดจบแล้วก็หายตัวไปราวกับว่าเขาถูกลมพัดปลิวออกไปและเอียนก็รีบเดินไปที่ห้องขังของทาสซึ่งเรียงรายไปด้วยทุกที่อย่างรวดเร็ว
* * *
ณ อาคาร 2 ชั้นขนาดเล็กทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
ในห้องโถงของชั้น 1 ของอาคารนั้น ดูเหมือนว่าจะมีคนประมาณสิบห้าคนนั่งเป็นวงกลม
และชายที่ยืนอยู่ตรงกลางของวงกลมนั้นคือชยาคราน
“ทุกคนอาจรู้ แต่… เควสต์กิลด์นี้เป็นโอกาสที่ไม่เหมือนสำหรับพวกเรากิลด์ไททั่น”
สายตาของทุกคนอยู่ที่ปากของชยาครานและเขาพูดต่อไป
“เราเป็นคนแรกที่ได้รับเควสต์กิลด์ในอาณาจักรปีศาจและต้องขอบคุณเควสต์นี้ ยี่สิบคนจากกิลด์ของเราสามารถเข้าสู่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวซึ่งยังมีคนไม่มากนักที่สามารถก้าวเข้ามาได้”
ต้องขอบคุณตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจ เอียนสามารถก้าวเข้าสู่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถเข้าสู่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวได้ พวกเขาจำเป็นต้องทำตามเควสต์สาธารณะของเมืองให้สมบูรณ์
และเมื่อระดับความยากของเควสต์สาธารณะมีระดับความยากอย่างมากจนถึงจุดที่คนส่วนใหญ่คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงเว้นแต่คุณจะเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ แม้กระทั่งสองสามวันก่อนเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวเป็นพื้นที่ที่ผู้เล่นไม่สามารถเข้าได้ถึงห้าคน
จากตอนแรก เนื่องจากมีผู้เล่นไม่ถึงสิบคนที่ผ่านเขต 110 ได้ มันพิจารณาได้อย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเควสต์ที่มีเงื่อนไขซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองหรือกับอีกคนเป็นคู่ มันเป็นสถานการณ์ที่ผู้เล่นในจัดอันดับหลายคนสามารถรวมจุดแข็งของพวกเขาเหมือนตอนที่พวกเขาเผชิญหน้ากับหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของโซน 110
แม้แต่ชยาครานผู้แข็งแกร่งที่สุดของผู้เล่นอาชีพวอริเออร์และซีลรอนผู้แก่งแย่งในอันดับต้นๆในการจัดอันดับอัศวิน ต้องรีดความแข็งแกร่งทั้งหมดที่พวกเขามีเพื่อที่จะเคลียร์มัน
อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการนั้นโชคที่ไม่คาดคิดมาหาทั้งสองคน
หากมีหัวหน้ากิลด์และรองหัวหน้ากิลด์ของกิลด์เดียวกันภายในปาร์ตี้ที่ดำเนินการตามเควสต์สาธารณะของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว ระบบจะเรียกใช้เควสต์ลับ
ยิ่งไปกว่านั้น เควสต์ลับนั้นเป็นเควสต์กิลด์แรกของอาณาจักรปีศาจ
และเงินที่พวกเขาได้รับเป็นรางวัลการเปิดใช้งานเควสต์แรกของกิลด์นั้นมหาศาล
ปาร์ตี้เล็กๆในเครือกิลด์ทั้งหมดถูกเรียกตัวไปที่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวและในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ได้รับสิทธิ์เข้าเมือง
เนื่องจากจำนวนคนสูงสุดที่สามารถเข้าร่วมในปาร์ตี้คือยี่สิบคน สมาชิกจึงถูกย้ายมาและเข้าร่วมจำนวนมาก
เมื่อมองดูเหมือนพวกเขาไม่ได้รับสินค้ามากมายหรืออะไรแบบนั้น มันอาจดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่พูดตามตรงแล้วมันช่างเหลือเชื่อ
เนื่องจากภายในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาใหม่จำนวนมหาศาลจึงทำให้มีเพียงกิลด์ไททั่นเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมด้วยพลังการต่อสู้ที่สามารถรวมกลุ่มกันได้
“เราจะต้องไม่ทิ้งโอกาสนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”
ดวงตาของผู้เล่นที่เข้าร่วมกับกิลด์ไททั่นเปล่งประกาย
เนื่องจากพวกเขาเป็นคนที่ถูกระบุว่าเป็นกิลด์อันดับที่ 2 เพราะดาร์ครูน่า พวกเขาไม่ต้องการที่จะสูญเสียโอกาสนี้อีก
“รับทราบครับ หัวหน้า!”
เมื่อเสียงตอบรับอันมีพลังดังขึ้นมา เสียงตะโกนดังๆก็ออกมาจากที่ต่างๆ
ชยาครานซึ่งดูสมาชิกกิลด์ของเขาอย่างช้าๆ ยิ้มขณะที่เขาหยิบดาบและยกมันขึ้น
Chuk-!
“ทันทีที่ซีลรอนกลับมา เราจะดำเนินการเพื่อให้เควสต์สำเร็จ”
* * *
เอียนได้ตรวจสอบข้อมูลของทาสมา 2 ชั่วโมงแล้ว
“อืมมม… ดูเหมือนว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะผ่านไป มันเป็นเผ่าพันธุ์มูนเอลฟ์เผ่าพันธุ์แรกที่ฉันพบ แต่ไม่มีคุณสมบัติเผ่าพันธุ์พิเศษที่แนบมากับพลังแฝงของมัน”
โครงสร้างของชั้นล่างสุดของตลาดค้าทาสนั้นผิดปกติเล็กน้อย
เมื่อพูดถึงความจริงที่ว่ามีห้องขังจำนวนนับไม่ถ้วนที่ทาสถูกขังอยู่ แต่ชั้นล่างสุดล้วนมีห้องของตัวเอง
เหนือสิ่งอื่นใดมันไม่ใช่บาร์ธรรมดา แต่มีอะไรบางอย่างที่เหมือนกับกำแพงเวทย์มนตร์ใสๆที่กักพวกเขาไว้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะเป็นโครงสร้างที่โปร่งซึ่งภายในสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้มองเอียนเมื่อเอียนเดินผ่านไปทางขวาต่อหน้าพวกเขา แต่ดูเหมือนว่ามันเป็นกำแพงเวทย์มนตร์ที่ป้องกันไม่ให้คนที่อยู่ข้างในมองเห็นด้านนอก
“เฮ้อ เป็นไปตามที่เซราฟิมบอก มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาทาสจริงๆ”
เผ่าพันธุ์ที่เซราฟิมแนะนำเอียนคือมูนเอลฟ์ ดาร์คแฟนท่อมและคาร์กอน
แม้แต่ในหมู่ทาสจำนวนมากทาส จำนวนสามเผ่าพันธุ์ก็ยังต่ำจนถึงจุดที่เอียนไม่ค่อยเจอเลย
ยิ่งกว่านั้น เขาไม่ได้เลือกเผ่าพันธุ์เหล่านั้นเช่นกัน
‘เนื่องจากไม่มีคนที่มีพลังแฝงของเผ่าพันธุ์เลย… ‘
เหตุผลว่าทำไมเผ่าพันธุ์ที่เซราฟิมแนะนำนั้นดีเพราะเผ่าพันธุ์นั้นจะมีพลังแฝงที่พวกเขามีได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะมีพลังแฝงของเผ่าพันธุ์ไม่ว่ายังไงก็ตามเพราะพวกมันเป็นเผ่าพันธุ์นั้น
ข้อมูลที่เอียนสามารถตรวจสอบได้ในหน้าต่างข้อมูลของทาสนั้นเป็นแบบนี้
อิเรล่า
เลเวล : 105
เผ่าพันธุ์ : มูนเอลฟ์
ประเภท : ทาส
ระดับ : ไม่ทราบ
บุคลิกภาพ : พิถีพิถัน
พลังโจมตี : 2,125 หน่วย
พลังป้องกัน : 1,455 หน่วย
ความว่องไว : 2,512 หน่วย
สติปัญญา : 3,312 หน่วย
พลังชีวิต : 132,450/132,450
พลังแฝง A (พลังแฝงเผ่าพันธุ์)
ไม่ทราบ
พลังแฝง B
ไม่ทราบ
แฟรี่แห่งราตรีที่ได้รับพลังงานจากดวงจันทร์และสร้างผลประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมทีม
แฟรี่แห่งราตรีเป็นเผ่าพันธุ์ที่หายากอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กและน่ารัก แต่ก็มีพลังมาก ดังนั้นจึงเป็นที่รู้จักกันแม้กระทั่งแวมไพร์ ขุนนางแห่งราตรี
ส่วนที่เอียนตรวจสอบอย่างละเอียดทีละคนก็คือเผ่าพันธุ์ของทาสรวมถึงคำที่อยู่ในวงเล็บถัดจากพลังแฝงของพวกเขา
มีประโยคต่างๆห้าชนิดที่อยู่ในวงเล็บและความหมายที่พวกเขามีดังต่อไปนี้
พลังแฝงเผ่าพันธุ์ – หมายถึงพลังแฝงที่เกี่ยวข้องเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์ของทาส
เผ่าพันธุ์พิเศษ – หมายถึงเมื่อพลังแฝงที่เกี่ยวข้องถูกเรียกใช้ พลังแฝงนั้นจะถูกเรียกใช้สองครั้งอย่างมีประสิทธิภาพ
ความสามารถหายาก – หมายถึงพลังแฝงที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นพลังแฝงหายาก
ความสามารถในการเสริมความแข็งแกร่ง – หมายถึงพลังแฝงที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นพลังแฝงที่เสริมความแข็งแกร่งไปอีกระดับหนึ่ง
ความสามารถในการพัฒนา – หมายถึงพลังแฝงที่เกี่ยวข้องสามารถพัฒนาได้ขึ้นอยู่กับการเพิ่มเลเวลของทาส
ข้อที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 เป็นคุณสมบัติที่แน่นอนว่าจะดีถ้าพวกเขามี แต่ข้อที่เอียนมองหาอย่างระมัดระวังนั้นเป็นข้อที่หนึ่งและที่สอง
โดยเฉพาะข้อที่ 2 ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์พิเศษมีความสำคัญก็ต่อเมื่อเป็นเงื่อนไขก่อนหน้านี้ ข้อที่ 1 คือพลังแฝงเผ่าพันธุ์ซึ่งแนบมาไม่ว่ายังไงก็ตาม
เมื่อทาสคนหนึ่งซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ของมูนเอลฟ์มีพลังแฝงที่ไม่เกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์ของตนจะไม่มีผลใดๆถึงแม้ว่าจะมีคุณสมบัติ ‘เผ่าพันธุ์พิเศษ’ อยู่ก็ตาม
เขาสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลทั้งหมดนี้ผ่านทางเซราฟิมและเอียนซึ่งเป็นคนฉลาดหลักแหลมในสิ่งเหล่านี้ได้เข้าใจระบบอย่างสมบูรณ์หลังจากที่ได้ยินเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้กระบวนการของเอียนในการเลือกทาสช่วยไม่ได้ที่จะเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม
‘เวรเอ้ย ฉันจะเลือกทาสที่เป็นไปตามเงื่อนไขทั้งหมดของฉันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!’
ทาสที่เอียนต้องการในตอนนี้คือทาสที่อย่างน้อยก็มีพลังแฝงของ ‘พลังแฝงเผ่าพันธุ์’ รวมถึงคุณสมบัติ ‘เผ่าพันธุ์พิเศษ’ และนอกจากนี้ยังต้องมีพลังแฝงคุณสมบัติ ‘พลังแฝงเผ่าพันธุ์’ อย่างน้อยที่สุด
‘หรือแม้ว่าจะมีเพียงแค่คุณสมบัติความสามารถในการเสริมความแข็งแกร่งที่แนบมากับพลังแฝงเผ่าพันธุ์อันใดอันหนึ่ง มันจะไม่เลวร้ายนัก’
เมื่อเทียบกับคุณสมบัติ ‘เผ่าพันธุ์พิเศษ’ จำนวนพลังแฝงที่จะเสริมด้วยคุณสมบัติ ‘ความสามารถในการเสริมความแข็งแกร่ง’ แทนที่ จะทำให้มันขาดไประดับหนึ่ง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี
‘มีโอกาสจะมีคุณสมบัติอย่างน้อย 3 อย่างแนบมาด้วยกันไหม?’
เขาเคยเห็นกรณีที่มี 2 คุณสมบัติแนบไว้ถัดจากพลังแฝงในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาไม่ได้เห็นกรณีที่มีสามคุณสมบัติแนบไว้ เอียนส่ายหัวของเขาแม้หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมัน
“ถ้าฉันเพิ่มระดับมาตรฐานของฉันสูงเกินไป ฉันอาจไม่สามารถเลือกทาสสักคนได้ก่อนที่เวลาจะหมด”
เนื่องจากเอียนต้องการค้นหาทาสที่หายากที่ตามเงื่อนไขทั้งหมดที่เขาสร้างขึ้นมาเองรวมถึงเป็นหนึ่งในสามเผ่าพันธุ์ที่ให้คำมั่นสัญญากับเซราฟิมด้วย
อย่างไรก็ตามตราบใดที่เขาพบ ไม่สงสัยเลยว่ามันจะต้องเป็นทาสระดับสูงแน่นอน
“ฉันยังมีเวลา 3 ชั่วโมง! ฉันจะหาได้ภายในเวลานั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!”
เอียนเบิกตาและเริ่มเดินอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ทาสที่มีร่างกายสีดำขุ่นมัวจับตาของเขาซึ่งเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
‘โอ้ มันคือดาร์คแฟนท่อมที่ฉันเคยเห็นเป็นครั้งแรกใช่ไหม?’
เอียนรีบวิ่งไปที่กำแพงอย่างรวดเร็วและรีบตรวจสอบข้อมูลของทาส
อย่างไรก็ตามจากนั้น ดวงตาของเอียนเบิกโพลง
นี่เป็นเพราะข้อมูลของเผ่าพันธุ์ทาสที่โผล่ขึ้นมาในส่วนบนของหน้าต่างข้อมูลของทาส
เผ่าพันธุ์ : คากะ แฟนท่อม
ตอนที่ 224
‘คากะแฟนท่อม…? มันคืออะไร?’
แน่นอนว่าไม่ใช่หนึ่งในสามสายพันธุ์ที่เซราฟิมแนะนำ
เพราะเป็นกรณีนี้ ถ้ามันเป็นสถานการณ์ปกติอื่นๆทันทีที่เขาตรวจสอบเผ่าพันธุ์ มันเป็นสิ่งที่เขาควรมองข้าม
อย่างไรก็ตามเอียนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
‘รูปร่างหน้าตาคล้ายกับดาร์คแฟนท่อมอย่างมากเลย!’
ความจริงที่ว่า ไม่มีอะไรที่เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของรูปลักษณ์ของพวกเขาได้
เนื่องจากดาร์คแฟนท่อมไม่ได้มีอะไรเหมือนรูปร่างภายนอกที่แน่นอน
รูปร่างของดาร์คแฟนท่อมปกตินั้นมีรูปร่างราวกับเมฆหนาทึบและลอยอยู่บนอากาศ
เมื่อเอียนบอกว่าพวกเขาดูคล้ายกัน เขาหมายความว่าพื้นผิวของพวกเขาและความรู้สึกที่พวกเขาให้ออกมามีความคล้ายคลึงกัน
และประเด็นที่น่าสนใจเล็กน้อยคือแตกต่างจากดาร์คแฟนท่อมอื่นๆ คากะแฟนท่อมมีรูปร่างที่แน่นอน
และรูปร่างนั้นก็เหมือน…
“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นมังกรแสนน่ารัก เจ้านาย”
ตามคำพูดของคาร์เซอุสที่โผล่ออกมาจากด้านหลังของเอียนและพูดทันที คากะแฟนท่อมมีรูปร่างเหมือนกิ้งก่าตัวเล็กและน่ารัก
“มะ มังกร?”
อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่เอียนเห็นรูปลักษณ์ภายนอกของคากะแฟนท่อมรู้สึกเหมือนไดโนเสาร์ที่มีปีกเล็กๆติดอยู่แทนที่จะเป็นมังกร
หลังจากที่เอียนมองกลับไปกลับมาที่แฟนท่อมและคาร์เซอุสหลายครั้ง เขาก็ถามคาร์เซอุส
“คาร์เซอุส ตอนที่นายยังเด็ก นานเป็นเด็กหัวโตใช่มั้ย? นอกจากนั้นมีท้องที่ยื่นออกมาเหมือนบอลลูนน้ำและปีกที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ…”
“เจ้านาย ไม่มีทางที่เทพมังกรแบบข้าจะเป็นคนที่น่าเกลียดเมื่อตอนเด็ก!”
ขณะที่มองไปยังคาร์เซอุสซึ่งโกรธจนพ่นควัน เอียนแสยะยิ้ม
“นายบอกว่ามันน่ารักนิ”
คาร์เซอุสลังเลสักครู่ก่อนที่เขาจะตอบกลับ
“นะ… น่ารักน่าชัง”
“…”
เอียนจ้องไปที่เผ่าพันธุ์ที่เรียกว่า ‘คากะแฟนท่อม’ ด้วยท่าทางที่งุนงง
‘ฉันรู้สึกว่ามันจะเข้ากันได้ดีกับบุ๊กค์ด้วยเหตุผลแปลกๆ…’
เอียนซึ่งจับจ้องอยู่ที่หน้าตาของคากะแฟนท่อมก็ตกใจ ในขณะที่เขาเปิดหน้าต่างข้อมูลทันที
‘อ่อใช่ ไม่มีเวลามาทำแบบนี้แล้ว!’
ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่เขากำลังมองหา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาต้องการที่จะตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดของตัวนี้
และต่อหน้าของเอียน หน้าต่างข้อมูลของคากะแฟนท่อมเปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง
กาก้า
เลเวล : 145
เผ่าพันธุ์ : คากะแฟนท่อม
ประเภท : ทาส
ระดับ : ไม่ทราบ
บุคลิกภาพ : ใจถึง
พลังโจมตี : 135 หน่วย
พลังป้องกัน : 77 หน่วย
ความว่องไว : 97 หน่วย
สติปัญญา : 7,812 หน่วย
พลังชีวิต : 2,334/2,334
พลังแฝง A (พลังแฝงเผ่าพันธุ์) (เผ่าพันธุ์พิเศษ) (ความสามารถการเสริมความแข็งแกร่ง)
ไม่ทราบ
พลังแฝง B (ความสามารถหายาก)
ไม่ทราบ
พลังแฝง C (พลังแฝงเผ่าพันธุ์) (เผ่าพันธุ์พิเศษ) (การพัฒนาความสามารถ) (ความสามารถเสริมความแข็งแกร่าง)
ไม่ทราบ
ตอนนี้เป็นเผ่าพันธุ์โบราณที่ถูกลืม
มีทฤษฎีว่าสายพันธุ์นี้เป็นต้นกำเนิดของดาร์คแฟนท่อมรวมถึงทฤษฎีที่ว่าพวกเขาเป็นบรรพบุรุษของเผ่าพันธ์ุคาร์กอนแต่ไม่มีใครรู้ความจริง
เนื่องจากหัวของมันมีขนาดใหญ่และร่างกายมีขนาดเล็ก ดูเหมือนว่ามันจะไม่โตเต็มที่
อย่างไรก็ตามน่าแปลกใจที่ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนฟอสซิลที่มีชีวิตอยู่อย่างน้อย 3,000 ปี
มันเกลียดเมื่อเรียกมันว่าน่ารักมากที่สุด
เอียนซึ่งอ่านข้อมูลจากหน้าต่างทั้งหมดแสดงความงุนงง
‘สิ่งมีชีวิตที่น่าเหลือเชื่ออะไรกันเนี่ย…?’
ดวงตาทั้งสองของเอียนจับจ้องอยู่ที่พลังแฝง
เขากำลังดูคุณสมบัติที่เหลือเชื่อที่ถูกแนบไว้ถัดจากพลังแฝง
เอียนก็เกือบยื่นมือออกไปทำสัญญาที่อยู่ตรงหน้ากำแพงโปร่งใสก่อนที่เขาจะรู้ตัว
“นะ นี่คือสิ่งล่อใจของปีศาจ!”
ในขณะที่พูดพล่ามเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้งุนงง เขาจับหัวของเขาด้วยมือทั้งสอง
คาร์เซอุสจ้องมองเอียนด้วยท่าทางที่งุนงงและเอียนก็ตรวจดูข้อมูลของคากะแฟนท่อมอีกครั้ง
‘ทำไมแกถึงเป็นสายพันธุ์แปลกๆแบบนี้? หากแกเป็นดาร์คแฟนท่อมหรือคาร์กอน ฉันจะทำสัญญากับแกทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้…’
อย่างไรก็ตาม เอียนก็ไม่สามารถยอมแพ้กับสิ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
สัญชาตญาณในเกมของเขาบอกให้เขาเลือกเจ้านี่
‘เฮ้อ ตั้งสติแล้วดูมันอีกรอบ’
อย่างไรก็ตาม หน้าต่างข้อมูลของคากะแฟนท่อมเป็นภาพที่เขาอ่านอย่างละเอียดมากขึ้น
ส่วนที่น่าตกใจที่สุดคือโดยเฉพาะความสามารถในการต่อสู้
‘ทำไมหน้าต่างค่าสถานะของมันเป็นแบบนี้กัน? โห! สติปัญญานั้นมากกว่าพลังชีวิตถึงสามเท่า! นี่เป็นสถานการณ์แบบไหนกัน?’
เขาคิดอย่างจริงจังว่าเขาเห็นหน้าต่างค่าสถานะไม่ถูกต้อง
นี่เป็นครั้งแรกที่เอียนพบสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติขณะที่เล่นไคลันนั่นคือเลเวล 145 แต่พลังชีวิตของมันยังไม่ถึง 10,000 หน่วยเลย
‘ว้าว… มันอาจถูกฆ่าในทันที แม้ว่าจะถูกกลืนด้วยปากของบุ๊กค์ก็ตาม’
“ไม่สิ มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าสติปัญญาของมันอยู่ในระดับสูง? เมื่อค่าสถานะอื่นๆจะต้องดีเพื่อให้สติปัญญาของมันสูงพอที่จะสนับสนุนมัน…”
ในกรณีของตัวละครของผู้เล่นยิ่งสติปัญญาของพวกเขาสูงขึ้น พลังโจมตีที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์, มานา, รวมถึงจำนวนการฟื้นฟูมานา ฯลฯ
ในกรณีนี้ความจริงที่ว่านอกเหนือไปจากนักเวทย์มนตร์ สติปัญญานั้นเป็นค่าสถานะที่ไม่สำคัญ
อย่างไรก็ตามในกรณีที่ไม่ใช่ผู้เล่น เช่นมอนสเตอร์, NPC หรือสัตว์เลี้ยงภายในเกมมันแตกต่างกัน
สำหรับพวกเขา นอกเหนือจากค่าสถานะการต่อสู้ที่เพิ่มผลของพลังโจมตีเวทย์มนตร์, มานา, จำนวนการฟื้นฟูมานา ฯลฯ สติปัญญาเป็นองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อ AI มากที่สุด
‘ไม่ว่า AI จะสูงแค่ไหน… ด้วยค่าสถานะที่บอบบางเช่นนี้คงไม่มีอะไรที่จะทำได้’
ความสามารถในการต่อสู้ของคากะแฟนท่อมนั้นถือได้ว่าเป็นค่าสถานะที่เหมาะกับรูปลักษณ์ภายนอกของมังกรที่ดูเหมือนว่าทำจากชุดผ้าฝ้าย
เอียนหันกลับมามองที่หน้าต่างข้อมูลและจ้องมองที่คาร์เซอุสเล็กน้อย
“ฉันควรทำยังไงดีคาร์เซอุส?”
“ท่านพูดถึงเรื่องอะไร?”
“นะ นายคิดว่ายังไงล่ะ? ฉันควรจ้างมันไหม?”
“อะแฮ่ม…”
คาร์เซอุสซึ่งหรี่ดวงตาของเขาและจ้องมองที่ลูกมังกรที่ดูเหมือนเมฆคิวมูลัสก็พยักหน้าของเขาอย่างช้าๆราวกับว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว
“เจ้านาย”
“หืมมม?”
“เป็นข้าจะไม่ทำอย่างนั้น”
“อืมม… ทำไมล่ะ?”
“มันน่าเกลียด อย่างใดมันรู้สึกเหมือนความอัปยศในวันที่สดใสในตอนเด็กของข้า”
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความเห็นที่จริงจังของคาร์เซอุส เอียนก็ส่ายหัว
“ไม่สิ ลองคิดดูอีกครั้ง ถึงอย่างนั้นฉันคิดว่ามันเป็นคนที่มีพลังแฝงอย่างมาก”
“ไม่มีทาง มันน่าเกลียด”
“ไม่ ถึงอย่างนั้น…”
คาร์เซอุสจ้องไปที่เอียน
“เจ้านาย!”
ในขณะที่มองไปที่คาร์เซอุสซึ่งระเบิดออกมาทันที เอียนก็สั่นเล็กน้อย
“หืมมม…?”
“เจ้านาย ท่านเป็น!”
คาร์เซอุสซึ่งพูดไร้สาระ เอียนถามกลับอีกครั้ง
“อะไรล่ะ?”
“นั่น… Dapjungnuh[1]! เจ้านาย ท่านเป็น dapjungnuh!”
เมื่อคาร์เซอุสพูดคำที่ไม่คาดคิด เอียนก็ตกตะลึง
“อะไรน่ะ?”
“ท่านต้อง ‘ตัดสินใจแล้วตอบ ท่านแต่ต้องตอบ!’ ตอนนี้!”
เอียนถอนหายใจขณะที่เขาส่ายหน้า
“บักค์สอนนายมาหรอ”
คาร์เซอุสพยักหน้า
“เมื่อข้าศึกษามันครั้งแรก ข้าไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร แต่ข้าก็ตระหนักได้หลังจากเห็นท่านในตอนนี้ เจ้านาย”
“…”
คาร์เซอุสทำดวงตาเศร้าสร้อยขณะที่เขาจ้องไปยังเอียน
“อะไรอีกล่ะ?”
คาร์เซอุสพูดต่อ
“บักค์บอกว่า dapjungnuh นั้นเป็นการป่วนขั้นสุดท้าย”
“…”
“เจ้านายของเราป่วยขั้นสุดท้าย…”
ในขณะที่ไม่สนใจคาร์เซอุสซึ่งจ้องมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก เอียนก็ยื่นมือออกไปทำสัญญาทันที
เมื่อเขาทำอย่างนั้น สัญญาของคากะแฟนท่อมบินมาถึงมือของเอียน
เช่นนั้น เอียนจึงได้รับทาสที่ไม่คาดคิด
* * *
เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวนั้นเป็นเมืองที่กว้างและใหญ่ซึ่งเกือบจะเป็นขนาดของเขตที่เหมาะสมกับอาณาจักรปีศาจ
และตรงกลางนั้นมีปราสาทขนาดใหญ่
กำแพงยักษ์ของปราสาทนั้นมีรูปร่างแปลกประหลาดที่ดูเหมือนว่ามันถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟที่มีสีสันและปีศาจเรียกพวกมันว่า ‘เปลวไฟแห่งนรก’
“ฮ่าๆ ในที่สุดก็ก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ได้”
เมื่อปาร์ตี้ของชยาครานและสมาชิกกิลด์ของกิลด์ไททั่นเข้ามาเปิดประตูของปราสาท ข้อความระบบโผล่ขึ้นมาต่อหน้าพวกเขา
กริ๊ง-
ท่านเป็นคนแรกที่เข้ามาในปราสาทแห่งความโกรธเกรี้ยวของราชาปีศาจ
ชื่อเสียงกิลด์ของท่านเพิ่มขึ้น 150,000 หน่วย
ชื่อเสียงแต่ละบุคคลเพิ่มขึ้น 50,000 หน่วย
การต้านทานเวทย์มนตร์ของท่านเพิ่มขึ้น 0.5%
ในขณะที่ดูข้อความที่โผล่ขึ้นมาทีละอัน ชยาครานไม่สามารถซ่อนมุมปากของเขาที่ม้วนงอขึ้นได้
“ฮ่าๆ ดูเหมือนว่ากิลด์ไททั่นของเราจะสามารถครอบคลุมเนื้อหาของอาณาจักรปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ในครั้งนี้”
สมาชิกของกิลด์ไททันมุ่งหน้าเข้าไปในปราสาทของราชาปีศาจโดยไม่ชักช้า
ราชาแห่งความโกรธเกรี้ยวซึ่งให้เควสต์กิลด์ที่เกี่ยวข้องแก่พวกเขากำลังรออยู่ข้างใน
ชยาครานแสดงท่าทางที่มีชัยชนะในขณะที่เสียงฝีเท้าของสมาชิกของกิลด์ไททั่นนั้นดูร่าเริง
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นาน คล้ายกับเค้กข้าวที่ถูกบดด้วยเท้าของช้าง ช่วยไม่ได้ที่การแสดงออกของพวกเขาจะบูดบึ้งอย่างอนาถ
* * *
“ดังนั้น… ท่านกำลังบอกว่าผู้เล่นหนึ่งคนจากทุกอาชีพต้องรวมอยู่ในปาร์ตี้ด้วยงั้นหรอครับ?”
ห้องทำงานของราชาปีศาจซึ่งอยู่จุดสูงสุดของปราสาทของราชาปีศาจ
ชยาครานเผชิญหน้ากับไฮคอน ราชาปีศาจแห่งความโกรธเกรี้ยวด้วยการแสดงออกอย่างงุนงงและสมาชิกกิลด์คนอื่นๆที่อยู่ข้างหลังเขาที่อยู่ในแถวเดียวกันก็แสดงท่าทางงุนงงเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามราชาปีศาจแสดงท่าทางที่ผ่อนคลายขณะที่เขาพูดกับชยาคราน
“ถูกต้อง เจ้าต้องทำเควสต์ของข้าให้เสร็จโดยการจัดปาร์ตี้ที่ประกอบด้วยหนึ่งในแต่ละอาชีพซึ่งจะมีสมาชิกทั้งหมดแปดคน”
ชยาครานถอยหลังกลับขณะที่เขาล้างลำคอของเขา
“อะแฮ่ม!”
มันเป็นเงื่อนไขของเควสต์ที่ช่วยไม่ได้ที่จะงุนงง
‘มันเป็นไปด้วยดี แต่ตอนนี้มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?
รางวัลของเควสต์ที่ชยาครานดำเนินการอยู่นั้นดำเนินการตามเควสต์ที่สำนักจัดการกิลด์ของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวได้จัดหามา
เมื่อมองดู มันอาจจะเหมือนรางวัลที่บกพร่อง
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาลงทะเบียนเป็นกิลด์อย่างเป็นทางการในเมือง ผลประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเติมนั้นมีความหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่คาดไว้
โดยพื้นฐานแล้วค่าคอมมิชชั่นที่แนบมาเมื่อพวกเขาขายสินค้าหรือเมื่อพวกเขาซื้อบางอย่างจากร้านค้าในเมืองก็ลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้พวกเขายังสามารถรับบัฟจากศาลเจ้าอาณาจักรปีศาจที่อยู่ในพลาซ่ากลางของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวรวมถึงใช้ประตูวาร์ปที่อยู่ถัดจากศาลเจ้าได้
แน่นอนว่าประตูวาร์ปไม่ได้เชื่อมต่อกับประตูนอกอาณาจักรปีศาจ ในขณะนี้พวกมันจึงไม่มีประโยชน์
อย่างไรก็ตามถ้าเขาจะพิจารณาจากในอนาคต แน่นอนว่ามันจะมีประโยชน์อย่างมาก
‘แต่สำหรับเควสต์ที่ต้องหยุดแบบนี้…!’
อย่างไรก็ตามในเควสต์ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สภาพที่ชั่วร้ายก็เข้ามาโดยฉับพลัน
เขาต้องการสร้างปาร์ตี้ที่รวมทุกอาชีพเพื่อดำเนินเควสต์และแก้ไขเควสต์ของราชาปีศาจ
สำหรับสมาคมไททันในปัจจุบัน นี่เป็นเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้
นั่นเป็นเพราะถ้าต้องทุกอาชีพ แน่นอนรวมถึงอาชีพใหม่เช่นกัน
‘แน่นอนว่ามีแอสซาซินที่อยู่ใกล้ๆจากเลเวล 160 อยู่ในกิลด์อยู่แล้ว ในกรณีของนักเวทย์มนตร์มืดมีใครบางคนที่มากกว่าเลเวล 170 ดังนั้นถ้าฉันพาพวกเขาไปที่อาณาจักรปีศาจพวกเขาน่าจะมาได้’
อย่างไรก็ตาม ปัญหานั้นอยู่ที่ซัมมอนเนอร์
‘แต่ว่า… ฉันจะหาซัมมอนเนอร์ได้จากที่ไหนกัน!? ฉันสังเกตเห็นว่าซัมมอนเนอร์ที่อยู่ในอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับคือเลเวล 165 หรืออะไรทำนองนั้น… เวรเอ้ย!’
สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือในหมู่ผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่อยู่ในกิลด์ไททั่น เขารู้ว่าผู้เล่นเลเวลสูงสุดนั้นก็ไม่ได้อยู่ที่เลเวล 140 เช่นกัน
ถ้ามันเป็นเลเวล 140 จากมาตรฐานของชยาคราน แม้ว่าพวกเขาจะเข้ามาในอาณาจักนปีศาจ มันเป็นเลเวลที่ต่ำมากที่จะไม่ช่วยพลังการต่อสู้ใดๆเลย
เมื่อหัวของชยาครานเริ่มเจ็บปวด ราวกับว่าราชาปีศาจไฮคอนรู้ถึงความคิดของชยาคราน เขาได้พูด
“หากมีผู้เล่นที่น่าหัวเราะรวมอยู่ด้วยก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านการทดสอบของข้า เจ้าเห็นไหมว่าข้าไม่ได้เป็นราชาปีศาจที่ไร้ค่า”
ชยาครานถอนหายใจออกมา
[1] Dapjungnuh = ตามที่คาร์เซอุสอธิบาย มันเป็นคำแสลงของภาษาเกาหลีสำหรับคนที่ตัดสินใจที่จะตอบคำถามแล้ว แต่รอคำตอบนั้นจากคนอื่นออกมา
ตอนที่ 225
“ว้าว…!”
“เฮ้ เจ้าหนู นายทำได้ดี! อีกนิดเดียว!”
“ฮิลเลอร์ทำอะไรอยู่? ฉันบอกให้สนใจกับการฮิลนักเวทย์มืด!”
เซลาคูมาหัวหน้าผู้พิทักษ์ที่ปิดกั้นทางไปยังโซนช่วง 100 หรือในคำอื่นๆคือหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูที่ปกป้องประตูมิติของโซน 110 อยู่ในช่วงกลางของการเผชิญหน้ากับปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นยี่สิบคน
และนอกกำแพงที่มองไม่เห็นนั้น มีผู้เล่นจำนวนมากและในขณะที่ดูการต่อสู้ พวกเขาเชียร์ผู้ท้าทายอย่างหลงใหลราวกับว่าพวกเขากำลังเชียร์การแข่งขันกีฬา
แน่นอนว่าเป็นเพราะความคิดที่ว่าหากปาร์ตี้ที่ท้าทายประสบความสำเร็จในการฆ่าเซลาคูมา ประตูก็จะเปิดออก
และมีนักเวทย์มนตร์มืดที่เป็นผู้นำปาร์ตี้นั้นและเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคันจิฮูนี่ย์
“พี่คาโนเอล! ใช้สกิล AoE!”
“โอเค! ออเดนใช้ ‘หวาดกลัวมังกร!”
Keuoooh-!
ตามที่คาดไว้ถัดจากฮูนี่ย์ คาโนเอลได้อยู่กับเขาและมังกรดำที่กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของคาโนเอลมีขนาดโตขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะรู้ตัวและมีภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจ
ซัมมอนเนอร์ ‘สัตว์เลี้ยงของคาโนเอล’ ‘ออเดน’ ได้ใช้ ‘หวาดกลัวมังกร’
เป็นเวลา 10 วินาที หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตู ‘เซลาคูมา’ จะตกอยู่ในสถานะ ‘ไบ้’ และเป็นเวลา 3 วินาที เขาจะตกอยู่ในสถานะ ‘หวาดกลัว’
พลังชีวิตของหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตู ‘เซลาคูมา’ ลดลง 17,998 หน่วย
ฮูนี่ย์สั่งคำสั่งให้กับสมาชิกปาร์ตี้และอันเดดของเขาอย่างไม่หยุดพัก
“บัลลัม ตอนนี้แหละ!”
รับทราบครับเจ้านาย!
‘บัลลัม’ อัศวินแห่งความตายที่อยู่ข้างๆฮูนี่ย์เสมอได้ยกดาบขึ้นขณะที่เขาเริ่มพุ่งเข้าหาเซลาคูมา
และพร้อมกับอัศวินแห่งความตายสองคนที่ตามหลังบัลลัม พวกมันพุ่งไปข้างหน้า
เมื่อเลเวลของฮูนี่ย์และความชำนาญในเวทย์มนตร์มืดเพิ่มขึ้น เขาสามรถอัญเชิญอัศวินแห่งความตายสามตัวโดยไม่จำกัดเวลา
‘เฮ้อ ทันทีที่ฉันฆ่าเจ้านี่ได้ ฉันจะสามารถเพิ่มเลเวลได้หนึ่งเลเวลสินะ?’
แสงอันเฉียบคมส่องผ่านดวงตาของฮูนี่ย์
นี่เป็นเพราะแถบพลังชีวิตของเซลาคูมานั้นเริ่มกระพริบไวขึ้น
‘ถ้าฉันเลเวลเพิ่มอีก 1 เลเวล ฉันจะถึงเลเวล 180 บางทีฉันอาจจะได้รับสกิลใหม่ด้วย’
ในบรรดานักเวทย์มนตร์มืดที่ได้รับการจัดอันดับในอันดับอย่างเป็นทางการผู้เล่นเลเวลสูงสุดคือเลเวล 177
เดิมทีเลเวลของฮูนี่ย์นั้นอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยเลเวลเดิมของเขา เขาไม่สามารถเอาชนะผู้เล่นอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับนักเวทย์มนตร์มืดได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถทำได้แล้ว
ฮูนี่ย์หลบการโจมตีของเซลาคูมาซึ่งกระจายเป็น AoE ไปที่ต่างๆในขณะที่เขาขยับมือโดยไม่หยุดพัก
Pung- Pu-pu-pung-!
และรังสีที่ดูมืดมืดยิงออกมาจากคฑาของฮูนี่ย์ทะลุผ่านร่างกายของเซลาคูมา
อ๊ากกก! ข้าล่ะชอบเจ้าจริงๆ…!
เซลาคูมาเต็มไปด้วยความบ้า แต่ดูเหมือนว่าเงื่อนไขของชัยชนะจะเอนไปสู่ปาร์ตี้ของฮูนี่ย์
ฮูนี่ย์ยิงเวทย์มนตร์โจมตีทั้งหมดที่เขามีซึ่งถือได้ว่าเป็นเวทย์มนตร์ที่น่ารังเกียจในขณะที่เขาตรวจสอบเวลาคูลดาวน์ของสกิลการใช้งานของเขาอย่างรวดเร็ว
‘ฮ่าๆ อย่างที่คาดไว้ พลังของผู้อมตะนั้นดีจริงๆ แม้ว่าฉันจะทำการยิงมั่วๆแบบนี้ มานามืดของฉันก็ไม่แห้งไปไหน’
ในขณะเดียวกัน เขาก็ควบคุมอันเดดด้วยการแสดงความสามารถการควบคุมหลายอย่างที่น่าเหลือเชื่อ
ในขณะที่มองดูความสามารถของฮูนี่น์ ผู้ชมต่างก็ตกใจอย่างมาก
“โอ้…! เด็กคนนั้นคือใคร เขาน่าทึ่งมาก!”
“ฉันไม่คิดว่าจะมีเด็กแบบนั้นอยู่ในรายชื่อการจัดอันดับของนักเวทย์มนตร์มืดนะ! “
“ไม่มีทางเป็นอย่างนั้น เจ้านี่อยู่อันดับที่ 20 ในการจัดอันดับของนักเวทย์มนตร์มืด แต่ฉันคิดว่าเจ้านี่มันแข็งแกร่งกว่าสองเท่าในตอนนี้!”
“นายหมายความว่าอะไรสองเท่า? มันไม่ใช่ประเด็น!”
ผ่านไปประมาณ 10 นาที
Kyaaooh!
เซลาคูมาป้องกันการโจมตีที่เทใส่เขาโดยไม่พัก ในขณะที่เขายกมือข้างหนึ่งขึ้น
และเมื่อเห็นเช่นนั้น ดวงตาทั้งสองของฮูนี่ย์เบิกโพลง
‘นั่นแหละ! ถ้าฉันสันนิษฐานถูก การต่อสู้ได้จบลงแล้ว!’
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮูนี่ย์ท้าทายเซลาคูมา แต่ในขณะที่อยู่ในโซน 110 เป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ฮูนี่ย์ได้เห็นการต่อสู้ของผู้เล่นคนอื่นที่ท้าทายเขานับครั้งไม่ถ้วน
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรู้รูปแบบการโจมตีของเซลาคูมาเป็นอย่างดี
‘มาสิ! มันถึงเวลาแล้ว มันคือจุดจบของนาย!’
จากมือขวาของฮูนี่ย์ พลังงานมืดเริ่มก่อตัว
สิ่งที่เซลาคูมาพยายามใช้ตอนนี้คือสกิลที่มีพลังทำลายล้างที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสกิลทั้งหมดของเขาและฮูนี่ย์กำลังวางแผนที่จะเอาชนะเซลาคูมาด้วย ‘การแก้แค้นแห่งความตาย’ ซึ่งเป็นสกิลที่คืนค่าความเสียหายกลับไป
นี่ยังเป็นวิธีที่เขาใช้ด้วยกันกับเอียนเมื่อเผชิญหน้ากับผู้อมตะ
ดวงตาของฮูนี่ย์และคาโนเอลสบกันสักครู่หนึ่ง
“พี่ รู้ใช่ไหม!”
“ได้เลย!”
เนื่องจากทั้งสองอยู่ในสถานะที่พวกเขาได้ประสานงานกันอย่างเพียงพอก่อนที่จะเข้าสู่การต่อสู้ แม้เพียงแค่สบสายตา พวกเขาก็สามารถเข้าใจบทบาทของกันและกันได้
“ยงยง ตอนนี้แหละ!”
“กร๊าา!”
ในเวลาเดียวกันกับคำสั่งของคาโนเอล ยงยงมังกรแดงที่เป็นสัตว์เลี้ยงกางปีกออกเมื่อมันพุ่งเข้าหาเซลาคูมา
Keuaaaah!
รังสีสีแดงถูกยิงออกมาจากมือของเซลาคูมาซึ่งค้นพบยงยอง
Kwaaah!
และในขณะนั้นกระแสแห่งความมืดที่พุ่งออกมาจากมือของฮูนี่ย์พันล้อมรอบยงยง
“การแก้แค้นแห่งความตาย!”
Bang- Ba-ba-bang-!
ช่วงเวลานั้นแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อจนถึงจุดที่มันสร้างภาพลวงตาราวกับว่ารังสีสีแดงและกระแสแห่งความมืดพบกลางอากาศ
มันอาจจะเห็นได้ชัด แต่รังสีสีแดงย้อนกลับมาจากเส้นทางที่มันมาและเจาะทะลุหัวใจของเซลาคูมา
Keu-ack- Keu-aack!
เซลาคูมาซึ่งโดนรังสีโดยตรงที่ถูกยิงออกจากมือของเขา ได้ทำให้พลังชีวิตทั้งหมดของเขาหมดลงไป
Thud- Boom-!
ร่างกายขนาดใหญ่ของเซลาคูมาล้มลงกับพื้น
“วู้ววว!”
“วู้วว! เจ้าหนูเท่ห์ไปเลย!”
“นายโคตรหล่อเลย!”
ในขณะเดียวกันเสียงเชียร์ของผู้ชมก็ระเบิดออกมา
“เอาล่ะ!”
ฮูนี่ย์กำหมัดทั้งสองของเขาขณะที่เขายิ้มและคาโนเอลวิ่งไปกอดเขาอย่างแน่นหนา
“ว้าว ฮูนี่ย์ นายนี่สุดยอดจริงๆ!”
ฮูนี่ย์ชนกำปั้นกับคาโนเอลขณะที่เขายิ้มด้วยท่าทางอวดดี
“เพราะว่าฉันเป็นนักเวทย์มนตร์มืดของจักรวาล”
หลังจากฮูนี่ย์และสมาชิกปาร์ตี้ของเขาแลกเปลี่ยนคำพูดสองสามคำกล่าวว่าทำงานได้ดีต่อกัน พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังประตูมิติที่นำไปสู่โซน 109
และเมื่อพวกเขาหายตัวไป สิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นก็หายไปในขณะที่เปิดทางสู่โซน 109 และราวกับว่าพวกเขารอคอยอยู่ ผู้เล่นหลายล้านคนหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่เหมือนน้ำไหล
ขณะที่กำลังจะเข้าประตูมิติ ฮูนี่ย์คิดกับตัวเอง
‘จากสิ่งที่ฉันรู้ ผู้เล่นในการจัดอันดับหลายคนได้เข้าไปในโซน 100 แล้วรวมถึงพี่เอียนด้วย… แล้วทำไมหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูโซน 110 ยังอยู่ที่นั่นล่ะ? พวกเขาหายไปเหมือนโซน 120 และปรากฏตัวอีกครั้งหรือไม่?’
ฮูนี่ย์ไม่รู้ แต่ถ้าไม่ใช่การแก้แค้นแห่งความตายที่ฮูนี่ย์ร่ายในตอนท้าย ปาร์ตี้ของฮูนี่ย์ก็สามารถไปที่โซน 109 ได้โดยไม่ต้องฆ่าเซลาคูมา
อย่างไรก็ตาม โดนความเสียหายจำนวนมากเข้าไปในครั้งเดียว เซลาคูมาเสียชีวิตโดยไม่มีเวลาว่างเพื่อหยุดการต่อสู้
ต้องขอบคุณสิ่งนั้น ผู้เล่นหลายคนก็ได้กำไร
‘เฮ้อ ไม่ว่าจะยังไง ฉันเดาว่าควรไปหาพี่เอียนแทนในตอนนี้’
จิตวิญญาณในการแข่งขันของฮูนี่ย์ซึ่งนึกถึงเอียนเริ่มลุกไหม้อีกครั้ง
* * *
“เจ้านาย เราจะไปที่ไหนกันครับ?”
“เรากำลังจะไปโซน 107 กัน”
“ทำไมเราต้องไปที่นั่นล่ะครับ?”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย!”
เอียนอยู่ในสถานะที่เขาอารมณ์เสียอย่างมาก
‘เวรเอ้ย! ฉันไม่ควรดื้อและควรฟังคาร์เซอุส…!’
และเหตุผลที่เป็นอย่างนี้เพราะสมาชิกในครอบครัวใหม่ ‘กาก้า’ ซึ่งลอยอยู่ข้างหลังเอียนในขณะนี้
กาก้าเป็นชื่อของคากะแฟนท่อมที่เอียนเพิ่งได้รับในฐานะทาส
‘คุณสมบัติเพิ่มเติมที่แนบมาเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ถ้าคุณสมบัติหลักอยู่ในสภาพแบบนี้ ฉันควรทำอย่างไร…!’
เมื่อเอียนทำสัญญากับกาก้า เขาตรวจสอบพลังแฝงที่เบลอไว้ทันทีและก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะผิดหวังในทันที
พลังแฝงของกาก้ามีดังนี้
ผู้สืบทอดแห่งความมืด (พลังแฝงเผ่าพันธุ์) (เผ่าพันธุ์พิเศษ) (ความสามารถในการเสริมความแข็งแกร่ง)
คากะแฟนท่อม ผู้สืบทอดแห่งความมืด มีภูมิต้านทานต่อการโจมตีทั้งหมดยกเว้นการโจมตีธาตุแสง อย่างไรก็ตามด้วยการโจมตีธาตุแสงจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น 50 เท่า
แม่มดโลภยามค่ำคืน (ความสามารถหายาก)
แม่มดยามค่ำคืนเป็นปีศาจที่สามารถสร้างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความฝันสู่ความเป็นจริงได้
กาก้า แม่มดยามค่ำคืนที่มีความโลภมากจะปรากฏขึ้นพร้อมกับของหายากจากความฝัน
ความสามารถถูกผนึก (พลังแฝงเผ่าพันธุ์) (เผ่าพันธุ์พิเศษ) (พัฒนาความสามารถ) (ความสามารถในการเสริมความแข็งแกร่ง)
ไม่ทราบ
(เป็นความสามารถที่ไม่สามารถใช้งานได้เว้นแต่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น)
‘เฮ้อ ไม่มีความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่งที่สามารถใช้งานได้เลย’
‘ผู้สืบทอดแห่งความมืด’ ซึ่งเป็นพลังแฝงอันแรกของมัน มีความคล้ายคลึงกับความสามารถที่ดาร์คแฟนท่อมมี
ในขณะที่ดาร์คแฟนท่อมมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทั้งหมดยกเว้นธาตุแสงและพลังงานปีศาจ มันหมายถึงว่าเจ้านี่จะได้รับความเสียหายจากธาตุแสง ดังนั้นจนถึงจุดนี้มันเป็นมาตรฐานที่ดีกว่าแทน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือส่วนที่ติดท้ายเมื่อกล่าวว่า ‘ด้วยการโจมตีธาตุแสง มันจะได้รับความเสียหาย 50 เท่า’
‘เวรเอ้ย! มันอาจจะตายได้หากว่าฉันลเปิดหลอดไฟดวงน้อยๆต่อหน้า!’
ในไคลัน การโจมตีธาตุแสงไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากเว้นแต่ว่าพวกมันจะเป็นอันเดด
ตามจริงแล้ว กรณีของดาร์คแฟนท่อมนั้นมีจุดประสงค์
‘เนื่องจากอัตราการเปิดใช้งานของพลังงานปีศาจนั้นต่ำมากและถ้าไม่ใช่อาณาจักรปีศาจจะไม่มีคู่ต่อสู้ที่มีพลังงานปีศาจ ยิ่งไปกว่านั้นดาร์คแฟนท่อมไม่ใช่อันเดด ดังนั้นนั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความเสียหายมากมายจากการโจมตีธาตุแสง’
แม้แต่ ‘อาณาเขตแห่งแสง’ ซึ่งเป็นการโจมตีของนักบวชแบบ AoE ที่สูงที่สุด หากคุณคิดว่ามันยากที่จะทำความเสียหายได้ถึง 2,000 หน่วยในการโจมตีสิ่งที่ไม่ใช่อันเดด การโจมตีด้วยธาตุแสงในความเป็นจริงจนถึงจุดที่พวกเขาสามารถเมินไปได้
อย่างไรก็ตาม ถ้ามันคูณด้วย 50 มันเป็นเรื่องที่แตกต่าง
‘จากสิ่งที่ฉันรู้ความเสียหายขั้นพื้นฐานของสกิลแสงศักดิ์สิทธิที่นักบวชเรียนรู้ทันทีที่พวกเขาเปลี่ยนอาชีพคือ 50 หน่วย… แต่ถ้ามันโดนโจมตี มันจะตายในทันทีใช่ไหม?’
พลังชีวิตของกาก้าในปัจจุบันอยู่ที่ 2,300 หน่วย
ความเสียหายแสงศักดิ์สิทธิ์ 50 หน่วยจะจากกระโดดไปถึง 50 เท่าของความเสียหายและกาก้าผู้ที่ได้รับความเสียหาย 2,500 หน่วยจะตายไปอย่างนั้น
เสียงถอนหายใจยาวๆออกมาจากปากของเอียน
‘เฮ้อออ…’
ยิ่งไปกว่านั้น พลังแฝงที่สองนั้นเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า
ตอนแรกเอียนค่อนข้างคาดหวังในพลังแฝงที่สอง แต่เพียงแค่การสนทนาเพียงครั้งเดียวความคาดหวังนั้นถูกย่ำยีอย่างไร้ความปราณี
“กาก้า”
“เรียกข้าทำไมหรอเจ้านาย?”
“แกจะนอนเมื่อไหร่?”
“ทำไมล่ะ?”
“ในบรรดาพลังแฝงของแก มีความสามารถที่เรียกว่า ‘แม่มดโลภยามค่ำคืน’ ฉันถามเพราะแกจำเป็นต้องนอนเพื่อใช้สิ่งนั้น ไม่ใช่ว่าไอเทมจะเกิดขึ้นเมื่อแกตื่นขึ้นจากการนอนหลับงั้นหรอ?”
“อืมม… ขอโทษนะเจ้านาย”
“ห้ะ?”
“ข้าไม่รู้ว่านอนหลับยังไง”
“…?”
“ผู้สืบทอดแห่งความมืดของพวกเราไม่เคยหลับ ข้าไม่ได้หลับมา 3,000 ปีแล้ว”
“เฮ้อ…”
“ฉันก็ยังอยากให้ลองสิ่งที่เรียกว่านอนหลับ ฉันได้ยินมาว่ามันดีจริงๆ”
“…”
ในกรณีนี้ เอียนจะไม่โกรธอย่างที่สุดได้อย่างไร?
“เฮ้ กาก้า”
“เรียกข้าทำไมเจ้านาย?”
“ทำไมแกถึงมีสกิลแม่มดยามค่ำคืนด้วย?”
“ข้าไม่รู้เจ้านาย ข้าก็อยากรู้เช่นกัน”
“เอ่อ…”
ดวงตาทั้งสองของซีเรียซึ่งมองไปยังกาก้าจนถึงจุดที่ทำให้เห็นภาพลวงตาว่ามันเต็มไปด้วยหัวใจ
“โอ้ ดูปีกนั่นสิ! มันน่ารักจังเลย!”
แม้แต่ไคซาร์ก็หลงเสน่ห์เสน่ห์อันน่ารักของกาก้า
“อะแฮ่ม ข้าเข้าใจ ลองดูใกล้ๆสิ เมื่อใดก็ตามที่มันกระพือปีก ท้องของมันจะขึ้นและลงด้วย”
ทุกคนต่างก็หมกมุ่นกับการสังเกตกาก้าซึ่งลอยอยู่ข้างหลังเอียน
“แต่มันบินไปรอบๆได้ยังไง? มันเคลื่อนไหวด้วยปีกขนาดเล็กช้ามาก… ดังนั้นมันลอยอยู่บนอากาศได้ยังไง?”
กาก้าซึ่งได้ยินคำถามของคาร์เซอุสได้ตอบกลับ
“แต่เดิมข้าสามารถบินได้”
“ … ดังนั้นปีกจึงเป็นเพียงการแสดง”
ซีเรียยิงหัวใจด้วยดวงตาทั้งสองของเธอขณะที่เธอร้องอุทานอีกครั้ง
“โอ้ ฉันทำยังไงดี? มันน่ารักเกินไปแล้ว!”
กาก้าจ้องไปที่ซีเรียขณะที่มันเตือนเธอ
“ข้สเกลียดที่จะได้ยินคำว่าน่ารักมากที่สุด ข้าจะขอบคุณถ้าเจ้าระมัดระวังมากขึ้นจากนี้ไป!”
อย่างไรก็ตามไม่มีทางที่จะเป็นอย่างนั้น
“ลองนึกภาพถ้าเด็กอายุห้าขวบพูดแบบนั้น! จะน่ารักขนาดไหน?”
กาก้าดุซีเรีย
“เอ๊ะ…!”
และมีเพียงเอียนที่มองย้อนกลับไปดูเล็กน้อย ส่ายหัวของเขาเมื่อเขาเดินไปข้างหน้า
“เฮ้อ… ทันใดนั้นฉันรู้สึกว่าเซลล์มะเร็งกำลังเติบโตขึ้น”
ปาร์ตี้ของเอียนซึ่งได้รับพลังใหม่ (?) มุ่งหน้าไปยังโซน 107 อย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าเนื่องจากพลังการต่อสู้ของพวกเขาที่แข็งแกร่งขึ้นหนึ่งระดับ พวกเขาจึงสามารถมาถึงโซน 107 ก่อนผ่านไปหนึ่งในสี่ของวัน
และมุมปากเอียนซึ่งพบห้องปฏิบัติการของเซอร์เวียโดยไม่ลำบากมากภายในโซน 107 ยกตัวขึ้น
‘ดูเหมือนว่าฉันจะได้รับอาชีพคู่เร็วกว่าใครๆเลย’
เอียนซึ่งเดินไปที่ห้องปฏิบัติการด้วยเสียงฝีเท้าหนักแน่น เปิดประตูห้องปฏิบัติการอย่างมีพลังงาน
ตอนที่ 226
เซอร์เวียนที่คาดหวังว่าเอียนจะกลับประมาณสองสามเดือนก็ช่วยไม่ได้ที่จะแสดงความตกใจเมื่อเขาค้นพบเอียน
“จะ… เจ้าสัตว์ประหลาด!”
เพราะเมื่อเซอร์เวี่ยนเห็นเอียน เขาก็สามารถค้นพบว่าเขาประสบความสำเร็จในการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจและถึงระดับของปีศาจระดับสูงในครั้งเดียว
เอียนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“ไม่ใช่ว่าคุณทักทายผมอย่างสุดโต่งเกินไปงั้นหรอ?”
อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าการตอบสนองของเซอร์เวี่ยนอาจพิจารณาได้ว่าสดใส
เนื่องจากเขาเพียงแค่กระพริบตาทั้งสองในขณะที่เขาประหลาดใจมาก
เขาไม่สามารถเชื่อได้ในผลลัพธ์ที่เอียนประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้นไม่ถึงสิบวัน แม้ว่าเขาจะเห็นมันด้วยตาสองข้างของเขาเองก็ตาม
“ขอโทษนะ เซอร์เวี่ยน? ทำไมคุณไม่พูดอะไรเลยล่ะ? คุณควรเปลี่ยนอาชีพของผมได้แล้วนะ”
“ห้ะ? ชะ ใช่สิ”
เซอร์เวี่ยนซึ่งรู้สึกถึงความต้องการของเอียน เขาก็พูดต่ออีกครั้ง
“แต่ฉันควรรู้สึกผิด…”
“ห้ะ?”
ในคำพูดที่เขารู้สึกผิด เอียนก็รู้สึกลางไม่ดีชั่วครู่ แต่เขาก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากนั้นไม่นาน
“เนื่องจากข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะกลับมาอย่างรวดเร็ว ห้องปฏิบัติการของข้ายังไม่พร้อมเลย”
“โอ้ ถ้างั้นผมต้องรอนานแค่ไหน?”
เซอร์เวี่ยนแสดงรอยยิ้มอันขมขื่นขณะที่เขาพูดต่อ
“ข้าไม่แน่ใจ… ข้าคิดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณหนึ่งสัปดาห์”
เอียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
‘หนึ่งสัปดาห์? เขาบอกให้ฉันรอหนึ่งสัปดาห์หรอ? ฉันจะปล่อยไปอย่างนั้นไม่ได้ ฉันอาจสูญเสียฉายาที่จะเป็นคนแรกที่จะได้อาชีพคู่’
เอียนซึ่งใจร้อนก็พูดอีกครั้ง
“ถ้าผมช่วยคุณ อาจจะเสร็จเร็วกว่านี้หรือป่าวครับ?”
เมื่อเอียนพูด เซอร์เวี่ยนยินดีเมื่อเขาตอบกลับ
“โอ้ ข้ายินดีถ้าเจ้าจะช่วย”
และก่อนที่เอียนจะพูด หน้าต่างเควสต์โผล่ขึ้นมาทันที
กริ๊ง-
จุดเริ่มต้นของการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ lll (ลับ) (เชื่อม)
ซัมมอนเนอร์ปีศาจเซอร์เวี่ยน เอลฟ์คแรกที่กลายเป็นครึ่งปีศาจนั้นกลัวความสามารถและพรสวรรค์ของท่านอย่างสมบูรณ์
เพราะเป็นกรณีนี้ เขาต้องการพาคุณเข้ามาฝึกงานโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามเมื่อท่านทำเควสต์มอบหมายเสร็จเร็วเกินไปการเตรียมการจึงยังไม่เสร็จสมบูรณ์
เตรียมความแข็งแกร่งของคุณในการฟื้นคืนห้องปฏิบัติการของเซอร์เวี่ยนและดำเนินการฟื้นฟูให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
ระดับความยากเควสต์ : S
เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ผ่านบททดสอบที่สองของเซอร์เวี่ยน
ผู้เล่นที่เป็น ‘ครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ’ รวมถึงซัมมอนเนอร์
เวลาจำกัด : ไม่มี
รางวัล : หินแห่งความโกลาหล x20 หินเวทย์มนตร์แปรธาตุระดับต่ำ x20
*เมื่อเควสต์เสร็จสิ้น ท่านจะได้รับโอกาสในการเปลี่ยนอาชีพเป็นซัมมอนเนอร์ปีศาจ – นักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์
ท่านจะยอมรับเควสต์หรือไม่?
แน่นอนว่าเอียนยอมรับเควสต์ทันทีและราวกับว่าทุกนาทีทุกวินาทีที่ผ่านไปนั้นเสียเวลาเขาก็ถามเซอร์เวียทันที
“ถ้างั้นให้ผมทำอะไรครับ?”
“ไม่สิ ทำไมเจ้าถึงรีบจังล่ะ?”
“โอ้ ลืมมันไปแล้ว รีบบอกผมเถอะได้โปรด”
“อืมม… ถ้างั้นอย่างแรกเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถนำขน 70 เส้นจากอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำที่เรียกว่าชายุปุรีมาได้ไหม?”
ทันทีที่เซอร์เวี่ยนพูดจบ ข้อความเควสต์โผล่ขึ้นมา
กริ๊ง-
เควสต์ – เก็บขนของชายุปุรี : 0/7
เอียนซึ่งหันหลังกลับและกำลังจะจากไปทันทีที่เขาเห็นข้อความ หันกลับไปอีกครั้งแล้วพูดกับเซอร์เวี่ยน
“บอกทุกสิ่งที่คุณต้องการภายในครั้งเดียว ผมสามารถเก็บทุกอย่างได้ในครั้งเดียวโดยที่ไม่ต้องกลับไปกลับมา”
ดูเหมือนว่าเซอร์เวี่ยนจะตกตะลึงนิดหน่อย ในขณะที่เขาเหงื่อออกที่หน้าผากของเขาขณะที่เขาเริ่มสาธยายช้าๆ
“อย่างนั้นหรอ? ถ้างั้น…”
และข้อความเควสต์เริ่มโผล่ขึ้นมาที่ละอันต่อหน้าของเอียน
เควสต์ – เก็บฟันกรามของบีเกอร์ : 0/35
เควสต์ – เก็บกงเล็บของคาโทร : 0/9
เอียนผู้ตรวจสอบข้อความทั้งหมดออกจากห้องทดลองอีกครั้งโดยไม่เหลียวหลังแม้แต่น้อย
ในขณะที่ดูเขาทำอย่างนั้น ช่วยไม่ได้ที่เซอร์เวี่ยนจะส่ายหัว
“เขานี่คาดเดาไม่ได้เลย”
และมุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
“อย่างไรก็ตาม ข้าก็ชอบเขา”
เซอร์เวี่ยนก็เดินไปรอบๆและเข้าสู่ห้องเชิงปฏิบัติการของเขา
เนื่องจากมีความแน่นอนว่าเจ้าคนที่เหมือนสัตว์ประหลาดจะกลับมาหลังจากทำเควสต์ในทันทีอีกครั้ง เขาจึงต้องทำงานอื่นให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
* * *
“ซีลรอน”
“ครับหัวหน้า”
“มันเป็นไปไม่ได้งั้นหรอ?”
“คุณหมายความว่า…”
ปาร์ตี้ของกิลด์ไททั่นที่ล้มเหลวในการทดสอบของราชาปีศาจถึงสามครั้งติดต่อกันจึงมีบรรยากาศที่มืดมน
พวกเขารวบรวมผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแต่ละอาชีพภายในกิลดิของพวกเขาและดำเนินการตามเควสต์ อย่างไรก็ตามพวกเขาล้มเหลวอย่างไร้ความปราณีโดยไม่ได้เข้าใกล้ความสำเร็จ
“อ๊าก ฉันรู้สึกว่ามันจะได้ผลสิ!”
ชยาครานมองไปที่ผู้เล่นอาชีพใหม่ก่อนที่จะถอนหายใจอย่างหนัก
นี่เป็นเพราะแม้จะไม่รวมซัมมอนเนอร์ซึ่งเขากังวลในตอนแรก ผู้เล่นนักเวทย์มนตร์มืดและผู้เล่นแอสซาซินก็เป็นช่องว่างขนาดใหญ่เช่นกัน
‘ในขณะที่ฉันคัดเลือกผู้เล่นเลเวลสูงที่มีพลังการต่อสู้สูง ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันละเลยการสรรหาพลังการต่อสู้ของอาชีพใหม่มาแทน’
ความจริงที่ว่าเลเวลของผู้เล่นอาชีพใหม่ที่อยู่ในเลเวลต่ำไม่ได้เป็นปัญหาเท่านั้น
พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เล่นที่มีเลเวลสูงในอาชีพของตน แต่ความสามารถของพวกเขานั้นแย่มาก
ในไคลัน แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในเลเวลเดียวกันเพราะมีความแตกต่างกันอย่างมากในพลังการต่อสู้ของพวกเขาขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุม สถานการณ์ต่างๆก็ยิ่งแย่ขึ้น
‘เฮ้อ ฉันควรทำยังไง…’
ความจริงที่ว่าเขารู้คำตอบอยู่แล้ว
แทนที่จะเพียงแค่หาสมาชิกทำเควสต์แต่ในกิลด์ไททั่น ถ้าเขายอมรับผู้เล่าจากกิลด์อื่นเข้ามาในปาร์ตี้และลองด้วยพลังการต่อสู้สูงสุดของแต่ละอาชีพมันจะได้ผล
อย่างไรก็ตาม ชยาครานยังไม่ยอมแพ้
‘แล้วฉันจะทำเควสต์กิลด์นี้อย่างหนักเพื่ออะไร…! ไม่มีทางที่ฉันจะแบ่งปันสิ่งนี้กับกิลด์อื่นได้!’
ชยาครานกำหมัดขณะที่เขายืนขึ้น
“ซีลรอน ลองดูอีกนิดเถอะ”
ซีลรอนถอนหายใจขณะที่เขาตอบกลับ
“ฉันว่ามันยากเกินไป แต่ว่า…”
“ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถให้กิลด์อื่นๆได้!”
“ฉันก็หวังว่าจะไม่ต้องทำอย่างนั้นล่ะนะ”
“หากยังไม่ได้ผลอย่างน้อยเราจะลองทำการสรรหาผู้เล่นที่ไม่มีกิลด์ในหมู่ผู้เล่นในการจัดอันดับของอาชีพใหม่จากนั้นค่อยดำเนินการต่อ”
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาได้ยินคำพูดสุดท้ายของชยาคราน ซีลรอนก็ลุกขึ้นยืนทันที
“โอ้ หัวหน้า มีบางสิ่งที่ผมเพิ่งนึกขึ้นได้!”
“มันคืออะไร?”
“เมื่อวานนี้มั้ง? ผมได้ยินข่าวที่น่าสนใจจากแหล่งกิลด์”
“…?”
ซีลรอนยิ้มขณะที่เขาพูดต่อ
“หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูอาณาจักรปีศาจโซน 110 ถูกฆ่าตาย แต่แรงผลักดันของปาร์ตี้ที่ประสบความสำเร็จในการฆ่านั้นคือผู้เล่นนักเวทย์มนตร์มืด ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิลด์ใดๆ”
“อย่างนั้นหรอ?”
ซีลรอนพยักหน้าและรอยยิ้มอันกว้างเกิดขึ้นบนหน้าของชยาคราน
“ไปชักชวนเขาเลย!”
* * *
ภายในวันอันแสนเหน็ดเหนื่อย เอียนดำเนินงานที่เซอร์เวี่ยนมอบให้เขาและกลับมาอย่างสมบูรณ์
และแน่นอนว่า เซอร์เวี่ยนอ้าปากค้าง
“ถึงตอนนี้ข้าคิดว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้ข้าประหลาดใจอีกต่อไป…”
เอียนซึ่งล่าอสูรเวทย์มนตร์อย่างไม่รู้จบโดยไม่ต้องนอนหลับเพื่อทำเควสต์ให้สำเร็จ
‘เวรเอ้ย ฉันรู้สึกเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นจนกว่าฉันจะได้ตรวจสอบข้อความที่ฉันประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพคู่ ฉันไม่สามารถปิดตาของฉันอย่างสบายได้!’
ไม่มีอะไรที่สามารถหยุดเอียนจากการเปลี่ยนอาชีพคู่ได้
“เฮ้อ อย่างไรก็ตามทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ?”
เซอร์เวี่ยนที่ตัวสั่นหลังจากเห็นเอียน รีบพยักหน้า
เขาคิดว่าถ้าเขาให้เควสต์อื่นๆแก่เอียน มันเป็นไปได้ที่เขาจะถูกแทงด้วยหอกที่เอียนถืออยู่
“ชะ ใช่ ทำดีมากเอียน! เจ้าน่าทึ่งจริงๆ!”
และข้อความที่เอียนรอคอยอยู่ก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเขา
กริ๊ง-!
ท่านประสบความสำเร็จในการเคลียร์เควสต์จุดเริ่มต้นของการเล่นแร่แปรธาตุสัตว์วิเศษ III (ลับ) (เชื่อม)!
ระดับการเคลียร์ : SSS
ท่านได้รับชื่อเสียง 85,000 หน่วย
ท่านได้รับไอเทม ‘หินแห่งความโกลาหล’ 20 ก้อน
ท่านได้รับไอเทม ‘หินเล่นแร่แปรธาตุระดับต่ำ’ 20 ก้อน
‘เซอร์เวี่ยน’ ครึ่งปีศาจเสนอการเปลี่ยนอาชีพเป็น ‘ซัมมอนเนอร์ปีศาจ – นักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์’ ให้กับท่าน
อาชีพ ‘ซัมมอนเนอร์ปีศาจ – นักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์’ คืออาชีพคู่ที่สามารถได้รับจากอาณาจักรปีศาจเพียงเท่านั้น
เนื่องจากอาชีพคู่เป็นอาชีพที่ท่านสามารถเปลี่ยนอาชีพได้ในขณะที่รักษาอาชีพดั้งเดิมที่ท่านมีอยู่ในเวลาเดียวกันจึงไม่ส่งผลกระทบต่ออาชีพดั้งเดิม
ท่านจะเปลี่ยนอาชีพเป็น ‘ซัมมอนเนอร์ปีศาจ – นักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์’ หรือไม่?
เซอร์เวี่ยนและเอียนสบตากัน
“เจ้าจะลองเรียนรู้เกี่ยวกับการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ไหม?”
เอียนยิ้มกว้าง
“แน่นอนครับ! ผมจะเปลี่ยนอาชีพ!”
“คิดได้ดี เจ้าจะสามารถเป็นนักแปรสภาพที่ยอดเยี่ยมได้แน่”
ข้อความระบบที่เอียนทำงานอย่างหนักเพื่อจะได้เห็นปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน
ท่านประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนอาชีพเป็น ‘ซัมมอนเนอร์ปีศาจ – นักแปลงสภาพอสูรเวทย์มนตร์’
ท่านประสบความสําเร็จในการเป็นคนแรกที่ได้รับอาชีพคู่!
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์จากนี้ ความชำนาญทั้งหมดของสกิลของอาชีพคู่จะเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าของความเร็วเดิม
ท่านได้รับชื่อเสียง 200,000 หน่วย
ท่านได้รับไอเทม ‘ไข่ที่ไม่ทราบอสูรเวทย์มนตร์’
* * *
“เฮ้อ ระดับความยากไม่สูงกว่าที่ฉันคาดไว้ มันง่ายที่เคลียร์มากกว่าที่ฉันคิด”
รีเมียร์พึมพำเมื่อเธอมองไปที่ลูกบอลสีแดงที่ถูกดูดซึมเข้าสู่มือทั้งสองข้างของเธอ
และคาซานดราซึ่งลอยอยู่บนอากาศขณะที่เธอเป็นอย่างนั้นก็พยักหน้าเมื่อเธอพูดกับรีเมียร์
ความสามารถของเจ้าโดดเด่นมากรีเมียร์ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะเคลียร์การทดสอบของปีศาจได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งในช่วงสุดท้าย แม้ว่าเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจเองนั้นก็เป็นปีศาจธรรมดา
ในขณะที่มองไปที่พลังงานสีแดงที่ส่องแสงอยู่ใต้เท้าของเธอ รีเมียร์พยักหน้า
“อย่างไรก็ตาม ฉันผิดหวัง ตามคำพูดของเธอถ้าเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจเป็นของปีศาจระดับสูงฉันจะสามารถได้รับระดับของปีศาจระดับสูงในครั้งเดียวใช่มั้ย?”
คาซานดราส่ายหน้า
ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเจ้าจะได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจระดับสูงที่ไหน? สิ่งที่เจ้าทำสำเร็จในตอนนี้อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เจ้าสามารถทำได้ ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเจ้าเอาชนะคู่ต่อสู้สุดท้ายที่มีความแตกต่างอย่างท่วมท้นเจ้าจึงได้รับการประเมินสูงอย่างมาก แม้จะเป็นปีศาจระดับธรรมดา
“อย่างนั้นหรอ?”
ใช่ เนื่องจากเจ้ามีพลังปีศาจ 10,000 หน่วยนับตั้งแต่วินาทีที่เจ้ากลายเป็นครึ่งปีศาจ… หากเจ้ารวมอีก 5,000 หน่วย เจ้าจะสามารถกลายเป็นปีศาจระดับสูงได้
ตอนนั้นเองรีเมียร์ก็สามารถแสดงท่าทางที่พึงพอใจได้
“เข้าใจแล้ว หากเป็นเช่นนั้น ฉันควรจะกลายเป็นปีศาจระดับสูงอย่างรวดเร็ว”
ก่อนอื่นจะไม่ดีกว่าหรอที่จะไปรับอาชีพคู่ก่อน? ถ้าเจ้าได้รับอาชีพคู่ระดับความเร็วในการล่าของเจ้าอาจเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าเร็วกว่านี้เช่นกัน
รอยยิ้มเล็กน้อยแผ่ไปทั่วริมฝีปากสีแดงของรีเมียร์
“ฉันควรทำอย่างนั้นสินะ?”
อย่างไรก็ตาม ช่วยไม่ได้ที่รอยยิ้มของเธอจะหายไปทันที
แน่นอนว่าเหตุผลเพราะข้อความโลกที่โผล่ขึ้นมาทั่วทั้งอาณาจักรปีศาจ
ผู้เล่น ‘เอียน’ ประสบความสำเร็จในการเป็นคนแรกที่ได้รับอาชีพคู่!
ใบหน้าที่สวยงามของรีเมียร์มุ่ยทันที
ตอนที่ 227
เอียนซึ่งประสบความสำเร็จในการเป็นคนแรกที่ได้รับอาชีพคู่ออกจากระบบทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบอะไรเลยเกี่ยวกับอาชีพและออกไปนอน
นี่เป็นเพราะเขาไม่ได้นอนอย่างถูกต้องเพื่อให้งานทั้งหมดของเซอร์เวี่ยนเสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
อย่างไรก็ตามท่ามกลางสิ่งนั้น เอียนก็ไม่ลืมและนั่นก็เป็นสกิลลับที่เขาได้รับเมื่อระดับของเทมมิ่งมาสเตอร์เพิ่มขึ้นมาเรียกว่า ‘การสื่อสาร I’
สกิลการสื่อสารเป็นสกิลที่น่าหวาดกลัวที่ทำให้เอียนสามารถให้สัตว์เลี้ยงของเขาล่าได้ แม้ในขณะที่เขาออกจากระบบ
ด้วยเหตุนี้สัตว์เลี้ยงล่าสุดของเอียนต้องการที่จะตายอย่างจริงจัง
“ฮืออออ เจ้านาย ทำไมท่านต้องให้พวกเราล่าขณะที่ท่านกำลังพักผ่อนล่ะ!”
“แค่ล่าอีก 5 ชั่วโมงแล้วไปพักผ่อน ฉันก็อยากล่าโดยไม่พัก แต่ไม่มีอะไรที่ฉันจะทำได้เมื่อตาของฉันมันจะปิด”
“อ๊าก! เจ้านาย พวกเราก็ง่วง…!”
“เมื่อฉันกลับมาหลังจากออกไป ฉันจะให้นายพัก”
“โกหก!”
เอียนออกจากระบบหลังจากไล่สัตว์เลี้ยงทั้งหมดออกจากห้องปฏิบัติการ
และสัตว์เลี้ยงของเอียนเริ่มล่าอสูรเวทย์มนตร์ในสนามหน้าห้องปฏิบัติการ
“ฮืออ เจ้านายของเราใจร้าย ข้าเกลียดเขา!”
เมื่อบักค์บ่น คาร์เซอุสเห็นด้วย
“ถูกต้อง เจ้านายของเราใช้มันในทางที่ผิด”
Kku-ruk- Kku-kkuk-!
แม้แต่พินซึ่งไม่ได้พูดก็ประท้วงอย่างรุนแรง
Grr- Grrr-!
ใบหน้าของฮัลลิจะร้องไห้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามมีเพียงสัตว์เลี้ยงตังเดียวที่อยู่ท่ามกลางการล่าอย่างเงียบๆ…
“กร๊า ฉันคิดว่าฉันพบกับเจ้านายที่ถูกต้องแล้ว ฮ่าๆ”
มันคือไล ราชาแห่งเฟนเรียร์ซึ่งเสพติดการล่า
บักค์แสดงสีหน้าหวาดกลัว
“ไลแปลกไปแล้ว คาร์เซอุส”
เมื่อบักค์พูด คาร์เซอุสพยักหน้า
“ข้าก็คิดอย่างนั้น ข้ารู้สึกว่าจิตวิญญาณของเจ้านายสิงเข้าไปในร่างของไลแล้ว”
“ถึงอย่างนั้นเมื่อเรามีไล เราสามารถเล่นได้เล็กน้อย ดังนั้นมันก็ดี”
“ถูกต้อง เราควรขอบคุณไล”
ต้องขอบคุณสิ่งนั้น บักค์และพินสามารถล่าขณะที่มีไลช่วย
และอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำที่ฮัลลิรวบรวมมาไว้ด้วยกันถูกคาร์เซอุสใช้ลมหายใจใส่
Hwa-reu-reuk-!
มีการบ่นจำนวนมาก แต่สัตว์เลี้ยงของเอียนกำลังล่าอย่างเป็นระบบในแบบของตัวเองแม้ว่าจะไม่มีเอียนก็ตาม
วิธีการล่าของเอียนได้ถูกจารึกไว้ในร่างกายของสัตว์เลี้ยงในเวลาเดียวกัน ดังนั้นโดยไม่คิดแตกแยก พวกมันจึงเคลื่อนไหวไปตามบทบาทของแต่ละตัว
อย่างไรก็ตามนอกจากสัตว์เลี้ยงของเอียน มีคนอื่นๆที่ตื่นเต้นเกี่ยวกับพวกมันที่ถูกให้ทำงานนอกเวลาทำงานเช่นนี้
“ฮ่า เจ้าหนูลอร์ดน่าทึ่งจริงๆ”
พวกเขาคือผู้ติดตามของเอียนรวมถึงไคซาร์
เนื่องจากผู้ติดตามไม่ได้ถูกอัญเชิญออกมาหรืออะไรทำนองนั้น พวกเขาจึงล่ามาตลอดแม้ว่าเอียนจะไม่ได้อยู่ที่นั่น
“ว้าว ฉันผิดหวังเพราะเราไม่มีเป้าหมายให้ฉันใช้สกิลการรักษาของฉันเมื่อเราล่าด้วยตัวเอง ดังนั้นตอนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ดีกว่า”
จากซีเรียที่ชื่นชอบสัตว์เลี้ยงของเอียนตั้งแต่แรก…
“อืมม หากว่าบักค์ป้องกันอยู่ด้านหน้า การต่อสู้จะง่ายกว่านี้!”
สำหรับพอลลีนซึ่งปกติไม่ค่อยพูด พวกเขามีความสุขอย่างมากเกี่ยวกับการเข้าร่วมของสัตว์เลี้ยง
อย่างไรก็ตามมีดวงตาคู่หนึ่งที่เฝ้าดูการทำงานล่วงเวลาในเวลากลางคืนที่น่าเศร้า
‘บุ๊กค์…! เป็นไปตามที่คาดฉันไม่ควรกลับไปบุ๊กค์!’
คนที่จ้องมองอยู่นั้นคือบุ๊กค์ผู้น่าสงสารซึ่งได้กลับไปหาเอียนและเพื่อนๆของมันเมื่อมันคิดถึงพวกเขา
‘เป็นไปตามที่คาด เจ้านายของเรานั้นน่ากลัวบุ๊กค์! ตอนนี้เขาใช้พวกเขาทำงานแม้ในตอนที่เขาไม่อยู่ที่นี่บุ๊กค์!’
บุ๊กค์เดินไปอีกครั้ง
เขารู้สึกผิดจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาเพราะดูเหมือนว่าเขาเป็นคนเดียวที่ผ่อนคลายในขณะที่เพื่อนของเขาทุกคนต้องทนทุกข์ทรมานจากการทำงานอย่างหนัก แต่เขาก็ไม่สามารถกลับไปได้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม
‘บุ๊กค์…! ฉันอาจจะไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ฉันควรจะกินสมุนไพรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและรีบกลับมาหลังจากที่ฉันกลายเป็นเต่าที่เท่ห์กว่าบักค์ บุ๊กค์!’
กระดองของบุ๊กค์ซึ่งเด้งขึ้นและลงเมื่อใดก็ตามที่บุ๊กค์เดินได้หายไปในความมืดอย่างเงียบๆ
* * *
เอียนซึ่งกลับมาหลังจากนอนหลับพักผ่อนเป็นเวลานานกว่า 10 ชั่วโมง เป็นครั้งแรกที่เขาหน้าต่างข้อมูลของอาชีพทันทีที่เขาเข้าสู่ระบบ
ทันทีที่เขาเข้าสู่ระบบ เขาอัญเชิญคาร์เซอุสเพื่อให้เขามีคนคุยด้วย แต่เขาตัดสินใจที่จะให้เวลาเขาอีกเล็กน้อยเพื่อพักผ่อนเช่นกัน
‘ฉันควรปล่อยให้พวกเขาพักจนกว่าเราจะล่าอีกครั้ง’
มันเป็นวิธีของเอียนที่แสดงให้เห็นถึงการพิจารณาต่อสัตว์เลี้ยงของเขาซึ่งทำงานอย่างหนัก
ความจริงที่ว่าเพราะเขาไม่สามารถใช้สกิลการสนทนาหากความสัมพันธ์ของเขากับพวกมันลดลง เขาเพียงแค่รู้สึกผิดชอบชั่วดีกับความรู้สึกของสัตว์เลี้ยง
‘เอาล่ะ ฉันควรเปิดหน้าต่างข้อมูลของอาชีพคู่แทนสินะ?’
ในขณะที่ดูหน้าต่างใหม่ ‘นักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์’ ซึ่งอยู่ด้านล่างส่วนที่กล่าวว่า ‘เทมมิ่งมาสเตอร์’ ในหน้าต่างข้อมูลของอาชีพ เอียนแสดงรอยยิ้มที่น่าพอใจ
– ซัมมอนเนอร์ปีศาจ – นักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์ –
ประเภทอาชีพ : อาชีพคู่ของอาณาจักรปีศาจ
ระดับอาชีพ : อาชีพลับ
ความชำนาญอาชีพ : ระดับเริ่มต้น (0%)
ค่าสถานะของรายการที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ
พลังงานปีศาจ – จำเป็นเพื่อควบคุมอสูรเวทย์มนตร์ เพื่อที่จะอัญเชิญอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงจำนวนมากจำเป็นต้องมีพลังงานปีศาจจำนวนมหาศาล
ความสัมพันธ์อสูรเวทย์มนตร์ – จำเป็นเพื่อจับอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง
ความชำนาญ – เกี่ยวข้องกับโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์
รายชื่อสกิลที่เกี่ยวข้องกับอาชีพที่ครอบครอง
การอัญเชิญอสูรเวทย์มนตร์ (เปิดข้อมูลรายละเอียด)
จดจ่อกับความคิด (เปิดข้อมูลรายละเอียด)
แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ (เปิดข้อมูลรายละเอียด)
การถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์ (เปิดข้อมูลรายละเอียด)
อาชีพลับที่ซัมมอนเนอร์ปีศาจซึ่งเป็นเอลฟ์คนแรกที่กลายเป็นครึ่งปีศาจซึ่งสร้างขึ้นเมื่อสิ้นสุดความพยายามหลายร้อยปี
เซอร์เวี่ยนสร้างศิลปะลับต้องห้ามที่เรียกว่า ‘แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์’ และต่อจากนั้นเขาสร้างอสูรเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ
หากท่านเชี่ยวชาญการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ ท่านจะสามารถสร้างสัตว์วิเศษที่มีพลังมากจนยากที่จะจินตนาการได้
ส่วนที่สะดุดตาของเอียนเป็นอันดับแรกในหน้าต่างข้อมูลคือ ‘ค่าสถานะที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ’ อย่างที่คาดไว้
‘ในอาชีพซัมมอนเนอร์ปีศาจ ดูเหมือนว่าพลังงานปีศาจจะใช้แทนความเป็นผู้นำ’
เพื่อซัมมอนเนอร์จะอัญเชิญสัตว์เลี้ยงระดับสูงได้ พวกเขาต้องมีค่าสถานะ ‘ความเป็นผู้นำ’
และสิ่งที่ตั้งใจจะให้มีบทบาทเช่นเดียวกับความเป็นผู้นำสำหรับซัมมอนเนอร์ อาชีพคู่คือพลังงานปีศาจ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากพลังงานปีศาจไม่ได้เป็นค่าสถานะที่บริโภคเหมือนมานา มันไม่เหมือนความเสียหายคงที่ของพลังงานปีศาจที่ลดลงเพราะอสูรเวทย์มนตร์ถูกอัญเชิญ
‘ดูเหมือนว่าฉันจะนึกถึงความสัมพันธ์อสูรเวทย์มนตร์ในแบบของอาณาจักรปีศาจของค่าสถานะความสัมพันธ์ที่ฉันมีอยู่เดิม…’
หลังจากตรวจสอบความสามารถของความชำนาญที่อยู่ในรายการด้านล่างความสัมพันธ์อสูรเวทย์มนตร์ เอียนก็ถอนหายใจ
‘เอ่อ… ความชำนาญของฉันหมดหวังแล้ว แต่จำเป็นต้องมีค่าสถานะความชำนาญแม้ในการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์งั้นหรอ?’
ปัจจุบัน ค่าสถานะความชำนาญของเอียนนั้นมากกว่า 500 หน่วยเล็กน้อย
แม้สิ่งนี้เขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ผลิตไอเทมสัตว์เลี้ยงพิเศษ แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าค่าสถานะอื่นๆของเขา
‘เฮ้อ ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว มันสามารถเอาชนะได้ผ่านการฟาร์มเท่านั้น’
เอียนสัญญากับตัวเองว่าเขาจะขยันขันแข็งมากขึ้นในเวลาว่างขณะที่เขาดูรายการสกิลในครั้งนี้
“หืมม? ด้วยการอัญเชิญอสูรเวทย์มนตร์ ฉันสามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรโดยการมองมัน แต่จดจ่อกับความคิดคืออะไร?”
การอัญเชิญอสูรเวทย์มนตร์น่าจะเป็นสกิลที่มีบทบาทเดียวกับการอัญเชิญที่มีอยู่สำหรับอาชีพซัมมอนเนอร์
เอียนก็กระโดดข้ามการอัญเชิญอสูรเวทย์มนตร์และเปิดข้อมูลรายละเอียดของจดจ่อกับความคิดทันทีซึ่งอยู่ด้านล่าง
– จดจ่อกับความคิด
ประเภท : สกิลใช้งาน
เลเวลสกิล : เลเวล 0
ความชำนาญ : 0%
เวลาคูลดาวน์ : 60 นาที
ระยะเวลา : ไม่มี
เงื่อนไขสำหรับการใช้งาน: สกิลทั้งหมดที่เหลือเวลาคูลดาวน์น้อยกว่าครึ่ง
ซัมมอนเนอร์ปีศาจจะจดจ่อกับความคิดของพวกเขาและรีเซ็ตเวลาคูลดาวน์ทั้งหมดของสกิลทั้งหมดยกเว้นสกิล ‘จดจ่อกับความคิด’ และความสามารถทั้งหมดของสัตว์เลี้ยงในการต่อสู้
เมื่อใช้จดจ่อกับความคิด สกิลทั้งหมดที่เหลือเวลาคูลดาวน์น้อยกว่าครึ่งหนึ่งจะถูกนำมาให้กลับมาใช้ใหม่ได้
นี่เป็นสกิลการสนับสนุนที่จะช่วยได้มากในการต่อสู้ หากลดเวลาคูลดาวน์ที่เหลืออยู่ของสกิลที่ครอบครองทั้งหมดถือว่าดี
*หากว่าความชำนาญของสกิลเพิ่มขึ้น เวลาคูลดาวน์ของจดจ่อกับความคิดจะลดลงที่ละน้อย
*หากใช้จดจ่อกับความคิด ซัมมอนเนอร์ปีศาจจะไม่สามารถดำเนินการใดๆเป็นเวลา 30 วินาที (ยิ่งระดับความชำนาญของจดจ่อกับความคิดสูงขึ้นเท่าไหร่ระยะเวลาที่ซัมมอนเนอร์ปีศาจไม่สามารถขยับได้ก็จะสั้นลง)
‘อืมม ดูเหมือนว่าความสามารถนี้ไม่ได้เป็นเพียงสกิลที่มีอยู่สำหรับอาชีพลับนักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์ แต่เป็นสกิลที่ซัมมอนเนอร์ทุกคนที่ได้รับอาชีพซัมมอนเนอร์ปีศาจเป็นอาชีพคู่ได้’
เอียนผู้อ่านสกิลการจดจ่อกับความคิดอย่างเข้มข้นได้คิดในหัวของเขาทันที
‘มันเป็นสกิลที่มีประโยชน์อย่างแน่นอน ความจริงที่ว่าฉันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา 30 วินาทีเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ แต่… หลังจากที่ฉันเพิ่มความชำนาญได้มากแล้วมันจะเป็นความช่วยเหลืออย่างมากในการต่อสู้’
สำหรับเอียนผู้ที่ใช้สกิลทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด สกิลการจดจ่อกับความคิดเป็นสกิลที่มีประโยชน์อย่างมาก
เอียนที่เข้าใจจดจ่อกับความคิดเสร็จสิ้น ตอนนี้เปิดข้อมูลรายละเอียดของสกิล ‘แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์’ ที่อยู่ข้างล่างนั้น
‘สกิลนี้คือเหตุผลสำหรับการมีอยู่ของอาชีพลับของฉัน’
ข้อมูลสกิลของแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน
แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์
ประเภท : สกิลใช้งาน
เลเวลสกิล : เลเวล 0
ความชำนาญ : 0%
เวลาคูลดาวน์ : ไม่มี
ระยะเวลา : ไม่มี
เงื่อนไขสำหรับการใช้ : อสูรเวทย์มนตร์สองตัวหรือมากกว่าที่มีความสัมพันธ์มากกว่า 50 หน่วยต้องถูกผสาน
แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์เป็นศิลปะลับที่ต้องห้ามที่แปรธาตุอสูรเวทมนตร์สองตัวขึ้นไปและสามารถสร้างอสูรเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งขึ้น
ยิ่งความชำนาญของผู้ร่ายสูงขึ้นเท่าไหร่โอกาสของอสูรเวทย์มนตร์ที่ถูกแปรสภาพก็จะเกิดขึ้นในระดับที่สูงขึ้นและอัตราความสำเร็จของแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
โดยพื้นฐานแล้วสำหรับแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ อสูรเวทย์มนตร์หลักที่จะกลายเป็นร่างหลักของอสูรเวทย์มนตร์ที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุจำเป็น รวมถึงอสูรเวทย์มนตร์หนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นที่จำเป็นต้องมีส่วนผสมเพิ่มเติม
หากประสบความสำเร็จในการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ อสูรเวทย์มนตร์ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจากระดับเดิมชซึ่งเป็นอสูรเวทย์มนตร์หลักจะได้รับ
*อสูรเวทย์มนตร์ที่จะกลายเป็นตัวหลักจะต้องเป็นระดับที่สูงกว่าหรือแม้กระทั่งระดับเดียวกัน เป็นอสูรเวทย์มนตร์ที่จะกลายเป็นส่วนผสม
*หากการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ล้มเหลว อสูรเวทย์มนตร์ที่จะกลายเป็นส่วนผสมจะหายไป อย่างไรก็ตามอสูรเวทย์มนตร์ที่เป็นตัวหลักจะไม่หายไป
*เลเวลสกิลของการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์สามารถเติบโตได้สูงสุด 10 ขั้นและขึ้นอยู่กับเลเวลสกิล ระดับของอสูรเวทย์มนตร์ที่สามารถจัดการได้แตกต่างกันไป
เลเวลสกิล 0-1 : การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ที่เป็นไปได้สูงสุด ‘ระดับกลาง’
เลเวลสกิล 2-3 : การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ที่เป็นไปได้สูงสุด ‘ระดับสูง’
เลเวลสกิล 4-5 : การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ที่เป็นไปได้สูงสุด ‘ระดับ Heroic’
เลเวลสกิล 6-8 : การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ที่เป็นไปได้สูงสุด ‘ระดับ Legendary’
เลเวลสกิล 9-10 : ทุกระดับเป็นไปได้สำหรับการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์
เมื่อเอียนอ่านข้อมูลของการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์อย่างขยันขันแข็ง เซอร์เวี่ยนก็เปิดประตูออกมาจากในห้องทำงานและออกมา
“พักผ่อนเพียงพอแล้วสินะเอียน?”
เอียนพยักหน้า
“ครับ”
“ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์”
เมื่อเอียนพยักหน้าหนึ่งครั้งโดยไม่พูด เซอร์เวี่ยนพูดต่อ
“เจ้าจะต้องเพิ่มความชำนาญของเจ้าในการเล่นแร่แปรธาตุทันที ในขณะที่ความชำนาญของเจ้าอยู่ในสถานะต่ำ เจ้าจะไม่สามารถแปรธาตุได้อย่างถูกต้องแม้กระทั่งอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำ”
ระดับของอสูรเวทย์มนตร์ไม่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงมากนัก
มันง่ายที่จะเข้าใจมากที่สุดคือชื่อของระดับของสัตว์เลี้ยงปกติที่เรียกว่า Common, Rare และ Unique ถูกเปลี่ยนเป็น ระดับต่ำ,ระดับกลาง,ระดับสูง
เอียนถามเซอร์เวี่ยน
“เมื่อผมตรวจสอบข้อมูล มันบอกว่ามันเป็นไปได้ที่จะแปรธาตุอสูรเวทมนตร์ระดับกลางเมื่อเลเวลสกิล 0-2 ดังนั้นสิ่งที่คุณหมายถึงเมื่อคุณพูดว่ามันยากที่จะแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำคืออะไรครับ?”
เซอร์เวี่ยนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“แน่นอนว่าถึงตอนนี้เจ้าจะ ‘พยายาม’ แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ระดับกลางเป็นร้อยครั้ง เจ้าก็จะล้มเหลวทั้งร้อยครั้ง”
เอียนถามคำถามตามมาทันที
“แม้ว่าผมจะล้มเหลว ไม่ใช่ว่าควรแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อจะเพิ่มความชำนาญให้เพิ่มเร็วขึ้นหรอครับ?”
เซอร์เวี่ยนส่ายหน้า
“ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าเจ้าล้มเหลวในการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ความชำนาญของเจ้าจะไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามแน่นอนยิ่งเจ้าประสบความสำเร็จในการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงความชำนาญของเจ้าก็จะสูงขึ้น… ถ้าเจ้าต้องการยกระดับความชำนาญของเจ้าอย่างรวดเร็ว มันจะเป็นประโยชน์มากขึ้นในการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำอย่างต่อเนื่องในตอนแรก”
เอียนคิดอีกครั้ง
‘ถ้างั้นดูเหมือนว่าไม่มีกรณีใดๆของฉันที่ใช้อสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงรัคเยลที่ฉันจับและทิ้งไว้ครั้งที่แล้ว’
และในขณะที่มองเอียน เซอร์เวี่ยนก็ยังคงพูดต่อไปอย่างจริงจัง
“เส้นทางของนักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์นั้นจะไม่ง่ายและยาวไกล เจ้าจะต้องมีความอดทนและความพยายามอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อที่จะได้เป็นนักแปรสภาพที่ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นเจ้ายังต้องมีจิตวิญญาณการวิจัยที่ไม่น้อยไปกว่านักเวทย์มนตร์ นี่เป็นเพราะในการที่จะทำให้การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ประสบความสำเร็จ ความชำนาญของสกิลหรือความคล่องแคล่วของเจ้าก็ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญเช่นกัน แต่อสูรเวทย์มนตร์ที่เจ้าใส่ไว้ในร่างกายหลักและส่วนประกอบยังทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบขนาดใหญ่อย่างมาก เจ้าน่าจะต้องค้นหาอสูรเวทย์มนตร์ที่น่าสนุก”
เซร์เวียนพูดเพื่อปลูกฝังความกลัวให้กับเอียน แต่การแสดงออกของเอียนผู้ได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็ไม่ได้แสดงความกลัวเลย
นอกจากนั้น เอียนยิ้มออกมา
‘ค้นคว้าและเรียนรู้รวมถึงฟาร์ม…! มันเป็นสไตล์ของฉันอย่างสมบูรณ์!’
ดวงตาทั้งสองของเอียนซึ่งวาดภาพตามสไตล์ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบเริ่มเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
ตอนที่ 228
สิ่งที่เอียนได้ยินคำอธิบายจากเซอร์เวี่ยนคือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ ‘การถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์’
“การถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าการแปรธาตุ นี่เป็นเพราะการถอดแยกของเจ้าจะต้องสูงเพื่อให้ได้ส่วนผสมที่สวยงามจากอสูรเวทย์มนตร์ที่ถูกแยกส่วน”
เซอร์เวี่ยนเปิดหน้าต่างสกิลของการถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์
การถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์
ประเภท : สกิลใช้งาน
เลเวลสกิล : เลเวล 0
ความชำนาญ : 0%
เวลาคูลดาวน์ : ไม่มี
ระยะเวลา : ไม่มี
เงื่อนไขสำหรับการใช้งาน : ระดับของอสูรเวทย์มนตร์ที่เป็นไปได้สำหรับการถอดชิ้นส่วนขึ้นอยู่กับเลเวลสกิล (ระดับอสูรเวทย์มนตร์ปัจจุบันเป็นไปได้สำหรับการถอดแยกชิ้นส่วน : ระดับกลางและระดับต่ำกว่า)
การถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์เป็นสกิลที่แยกชิ้นส่วนของอสูรเวทย์มนตร์และจำเป็นต้องมีเพื่อให้ได้ส่วนผสมสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ
โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปได้ที่จะดำเนินการกับการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ตราบใดที่มีอสูรเวทย์มนตร์สองตัวหรือมากกว่านั้น แต่เนื่องจากส่วนผสมของการเล่นแร่แปรธาตุที่ได้รับจากการถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์นั้นจะต้องเพิ่มเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้อสูรเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่ง การถอดแยกชิ้นส่วนอาจถือได้ว่าเป็นความสามารถที่สำคัญ
ขึ้นอยู่กับระดับและเลเวลของอสูรเวทย์มนตร์ที่ถูกถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์รวมถึงพลังแฝงที่มันมีอยู่ ส่วนผสมที่สามารถได้รับจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงและอสูรเวทย์มนตร์ที่ถูกถอดแยกก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
*ส่วนผสมที่มีเลเวลสูงมากกว่าระดับของการถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์สามารถได้รับและยิ่งเลเวลและความชำนาญในการถอดแยกชิ้นส่วนสูงขึ้นเท่าใดโอกาสที่จะได้รับส่วนผสมของระดับก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
*ในกรณีที่การถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์ล้มเหลว แน่นอนว่าอสูรเวทย์มนตร์จะหายไป แต่จะไม่มีส่วนผสมใดส่วนประกอบหนึ่งที่จะได้รับเช่นกัน
*เลเวลสกิลของอสูรเวทย์มนตร์สามารถเติบโตได้สูงสุด 10 และขึ้นอยู่กับเลเวลสกิลระดับของอสูรเวทย์มนตร์ที่สามารถจัดการได้จะแตกต่างกันไป
สกิลเลเวล 0-1 : สามารถถอดแยกอสูรเวทมนต์ได้สูงสุดมากถึง ‘ระดับกลาง’
สกิลเลเวล 2-3 : สามารถถอดแยกอสูรเวทมนต์ได้สูงสุดมากถึง ‘ระดับสูง’
สกิลเลเวล 4-5 : สามารถถอดแยกอสูรเวทมนต์ได้สูงสุดมากถึง ‘ระดับ Heroic’
สกิลเลเวล 6-8 : สามารถถอดแยกอสูรเวทมนต์ได้สูงสุดมากถึง ‘ระดับ Legandary’
สกิลเลเวล 9-10 : ทุกระดับสามารถถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์ได้
“อืมม…”
แตกต่างจากการเล่นแร่แปรธาตุเพียงแค่อ่านข้อมูลของสกิลการถอดแยก เขาไม่สามารถเข้าใจได้
เมื่อเอียนอ่านหน้าต่างข้อมูลของการถอดแยกหลายครั้ง เซอร์เวี่ยนก็เริ่มอธิบายอย่างช้าๆ
“มีไอเทมหลากหลายอย่างมากที่เจ้าสามารถหาได้จากการถอดแยก”
“มีกี่ชนิดครับ?”
“เจ้าไม่สามารถนับได้ทั้งหมด เนื่องจากถึงแม้ว่าเป็นจะข้าก็ไม่รู้จักทั้งหมด ลูกแก้วค่าประสบการณ์, หินเวทย์มนตร์ ฯลฯ ไอเทมทุกประเภทจะปรากฏขึ้น อย่างไรก็ตามข้าจะอธิบายส่วนผสมสองอย่างที่จะใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุ”
ดวงตาทั้งสองของเอียนเปล่งประกายขณะที่เขารอเซอร์เวี่ยนพูดต่อ
ในตอนนั้น เซอร์เวี่ยนก็แสดงความหวาดกลัวเล็กน้อย
‘ข้าคิดว่าเขาเป็นคนที่ชอบทำสงครามธรรมดา แต่สีหน้านั้นมันคืออะไรกัน?’
เซอร์เวียนซึ่งเข้าใจว่าเอียนนั้นเสพติดการล่า แต่กลับกังวลว่าเอียนจะเบื่อกับคำอธิบายทางทฤษฎี
อย่างไรก็ตามในขณะที่เอียนมีทัศนคติที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิดอย่างสมบูรณ์ เขาก็รู้สึกสับสน
“อะแฮ่ม มีทัศนคติที่ดี อย่างไรก็ตามข้าจะเริ่มอธิบายแล้วนะ”
เซอร์เวี่ยนแนะนำส่วนผสมที่สามารถรับได้ผ่านสกิลการถอดแยก
“อย่างแรกเป็นไอเทมที่เรียกว่า ‘หินจิตวิญญาณปีศาจ’ ไอเทมนี้เป็นไอเทมที่ในกรณีส่วนใหญ่อย่างน้อยหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยจะปรากฏในกรณีที่ประสบความสำเร็จในการถอดแยก”
“มันเป็นชื่อที่คล้ายกับหินเวทย์มนตร์ มันน่าสับสน”
เซอร์เวี่ยนพยักหน้า
“ถูกต้อง อย่างไรก็ตามบทบาทของพวกมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพียงแค่ใส่หินจิตวิญญาณปีศาจมันจะเป็นไอเทมที่เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์”
“โห…”
ดวงตาทั้งสองข้างของเอียนซึ่งกำลังฟังอย่างกระตือรือร้นโดยระบุว่าเป็นไอเทมที่หาได้ง่ายเปล่งประกายอีกครั้งหลังจากได้ยินบทบาทของหินวิญญาณปีศาจ
นี่เป็นเพราะการเพิ่มอัตราความสำเร็จของการเล่นแร่แปรธาตุเป็นส่วนสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด
“ยังมีระดับของหินจิตวิญญาณปีศาจและโดยธรรมชาติยิ่งระดับสูงขึ้นค่าอัตราความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
เอียนถาม
“ถ้าอย่างนั้น ถ้าผมใส่ส่วนผสมเช่นหินจิตวิญญาณปีศาจระดับ Legendary มันก็เหมือนกับการประสบความสำเร็จในการแปรสภาพมีโอกาสเกือบ 100% หรืออะไรทำนองนั้นใช่ไหมครับ?”
เมื่อเอียนถาม เซอร์เวี่ยนซึ่งครุ่นคิดเกี่ยวกับมันสักครู่หนึ่งได้ตอบกลับ
“อืมม… มันไม่ใช่อย่างนั้น นี่เป็นเพราะจำนวนที่อัตราความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นการเปลี่ยนไปตามระดับของอสูรเวทย์มนตร์ที่จะเข้าสู่การเล่นแร่แปรธาตุ “
“อืมม…”
“ตัวอย่างเช่นหากเจ้าใช้หินจิตวิญญาณปีศาจระดับ Heroic เจ้าอาจจะประสบความสำเร็จเกือบ 100% ในการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์โดยใช้ส่วนผสมที่มีอสูรเวทย์มนตร์ที่อยู่ในระดับปานกลางหรือต่ำกว่า อย่างไรก็ตามหากเจ้าส่งอสูรเวทย์มนตร์ที่อยู่ในระดับ Heroic หรือสูงกว่านั้น อัตราความสำเร็จจะสูงถึงประมาณ 10-20% เท่านั้น”
มันซับซ้อนเล็กน้อย แต่เอียนสามารถเข้าใจคำเหล่านั้นได้ทันที
‘ตามที่คาดไว้… นั่นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สกิลมีความสมดุลอย่างเหมาะสม เนื่องจากถ้าโอกาสเพิ่มขึ้นเป็นค่าสัมบูรณ์ ค่าความสมดุลจะพังลงและความสนุกในการทดลองจะลดลงเช่นกัน’
เอียนมีความคิดที่เหมาะสมกับชื่อที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ‘นักวิจัยเกม’ ขณะที่พยักหน้าและเซอร์เวี่ยนผู้เห็นเขาทำเช่นนั้นก็ยิ้มเมื่อเขาเริ่มอธิบายอีกครั้ง
“และไอเทมต่อไปที่ข้าจะอธิบายก็คือไอเทมที่เรียกว่า ‘หินความสามารถอสูรเวทย์มนตร์’ และแตกต่างจากหินจิตวิญญาณปีศาจ อันนี้เป็นไอเทมที่มีโอกาสปรากฏน้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ”
“หินความสามารถอสูรเวทย์มนตร์หรอ…”
อย่างที่คาดไว้เอียนไม่สามารถเข้าใจการใช้ไอเท เพียงแค่ได้ยินชื่อของมัน
เอียนเริ่มจดจ่อกับคำพูดของเซอร์เวี่ยนอีกครั้งและคำพูดของเขายังคงดำเนินต่อไป
“หินความสามารถอสูรเวทย์มนตร์โอกาสการดรอปน้อยแม้กระทั่งไม่เต็ม 1% เมื่อเจ้าแยกอสูรเวทย์มนตร์และมันก็บรรจุหนึ่งในพลังแฝงของอสูรเวทย์มนตร์ที่เกี่ยวข้องเป็นการสุ่ม”
“คุณหมายความว่าอะไรที่บอกว่าบรรจุพลังแฝง?”
“ตัวอย่างเช่น… เจ้าจำรัคเยลที่เจ้าเอาชนะมาและจับครั้งสุดท้ายได้หรือไม่?”
เอียนพยักหน้า
เขาจะลืมคนที่จับได้อย่างหวุดหวิดเมื่อสิ้นสุดการต่อสู้นองเลือดที่กินเวลาทั้งวันได้อย่างไรกัน?
เซอร์เวี่ยนพูดต่อ
“รัคเยลมักเกิดมาพร้อมกับพลังแฝงประมาณสามอย่าง แต่สิ่งที่ดีที่สุดในบรรดาพวกมันคือพลังแฝงที่เรียกว่า ‘การปะทุของเวทย์มนตร์’”
“อืมม ผมคิดว่าผมเคยเห็นมัน ผมคิดว่ามันเป็นสกิลการสร้างความเสียหายแบบ AoE”
เซอร์เวี่ยนพยักหน้าขณะที่เขาตอบ
“ถูกต้อง มันคือสกิลเวทย์มนตร์โจมตีแบบ AoE อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่หมายความว่าถ้าเจ้าถอดแยกรัคเยลด้วยการถอดแยกอสูรเวทย์มนตร์ เจ้าสามารถรับหินความสามารถที่มีสกิล ‘การปะทุของเวทย์มนตร์’ หากว่าเจ้าโชคดี”
ดวงตาของเอียนซึ่งได้ยินถึงจุดนั้นโตขึ้นเล็กน้อย
‘อย่างไรก็ตามสิ่งนี้เรียกว่าหินความสามารถ มันเป็นไอเทมที่ถ้าฉันใช้มันกับสัตว์เลี้ยง มันจะเพิ่มพลังแฝงหรือเปลี่ยนแปลงความสามารถที่มีอยู่ก่อนสินะ?’
หากเป็นเช่นนั้น มันจะเป็นไอเทมที่โกงอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
“สมมติว่าเจ้ามีหินความสามารถที่มีการปะทุของเวทย์มนตร์และถ้าในกรณีที่เจ้าใช้หินความสามารถนี้ในกระบวนการของการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ อสูรเวทย์มนตร์ที่เกิดมาจะมีโอกาสสูงอย่างมากที่จะมีสกิลที่อยู่ในหินความสามารถ”
“โห…”
เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ใช่ไอเทมที่เขาสามารถใช้กับสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่ก่อนหน้าของเขาได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแบบนี้ มันก็เป็นไอเทมที่จะช่วยได้อย่างมากแน่นอน
เอียนถามเซอร์เวี่ยน
“ถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะเป็นการดีที่สุดที่จะทำการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์โดยใช้อสูรเวทย์มนตร์ที่มีค่าสถานะพิเศษที่สุดเป็นฐานและแปลงสภาพมันด้วยหินความสามารถอสูรเวทย์มนตร์ที่มีพลังแฝงใช่มั้ยครับ?”
เซอร์เวี่ยนพยักหน้าด้วยท่าทางพึงพอใจ
“ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้นข้อดีที่สุดของหินความสามารถของอสูรเวทย์มนตร์คือแม้ว่าเจ้าจะใส่หินความสามารถ แต่ความสามารถนั้นไม่ได้ปรากฏอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า”
เอียนถามด้วยท่าทางงุนงง
“แล้วมันดียังไงหรอครับ?”
เซอร์เวี่ยนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“ถ้าในกรณีที่พลังแฝงดั้งเดิมที่มีอยู่แล้วของอสูรเวทย์มนตร์นั้นดีกว่าพลังแฝงที่เจ้าใส่ด้วยหินความสามารถ ความสามารถของหินความสามารถจะหายไปโดยอัตโนมัติ เจ้าเข้าใจไหม?”
แน่นอนว่าเอียนเข้าใจทันที
“โอ้ มันดีจริงๆ ดังนั้นความเสี่ยงจึงลดลง”
“ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากพลังแฝงที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาพลังแฝงที่อสูรเวทย์มนตร์จะหายไปและความสามารถที่มีอยู่ในหินความสามารถจะเข้ามาแทนที่ ช่วยไม่ได้ที่สิ่งนี้จะมีเป็นอย่างมาก”
เอียนและเซอร์เวียนอยู่ในสภาพเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยคำว่า ‘การทดลองเกี่ยวกับอสูรเวทย์มนตร์’ ทั้งสองได้สนทนากันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่าสองชั่วโมง
“ฮ่า เซอร์เวี่ยน ผมเห็นว่าโลกของอสูรเวทย์มนตร์มีความลึกซึ้งอย่างมาก”
เซอร์เวี่ยนพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง
“ถูกต้อง ฮ่าๆ ข้าคิดว่าคงไม่มีคนมากมายที่สามารถเข้าใจโลกนี้ แต่ดูเหมือนว่าข้าจะได้พบกับลูกศิษย์ที่ดีอย่างแท้จริง”
เอียนก็ตอบกลับ
“เหมือนกันครับ ต้องขอบคุณอาจารย์ ผมจึงได้เรียนรู้สิ่งดีๆหลายอย่างด้วยกัน”
เซอร์เวี่ยนยิ้มขณะที่เขาพูดต่อ
“อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากถ้าเจ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้าเรียนรู้ในวันนี้คือจุดสิ้นสุดของการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ หากความสามารถในการเรียนของเจ้าเพิ่มขึ้นมากขึ้นจะมีสกิลใหม่ๆมากมายที่จะรอเจ้าอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ‘การผลิตอาวุธจิตวิญญาณปีศาจ’…”
เมื่อปรากฏชื่อใหม่ของสกิลที่กระตุ้นความสนใจของเขา เสียงของเอียนก็ดังขึ้นเล็กน้อย
“โห มันคืออะไรครับ?”
อย่างไรก็ตาม เซอร์เวี่ยนแสยะยิ้มขณะที่เขากระดิกนิ้ว
“ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังในภายหลัง หลังจากที่เจ้าประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้จากข้าตอนนี้และกลายเป็นนักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์ในระดับที่สูงขึ้น”
เอียนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็เผาจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขามากยิ่งขึ้น
“ฮ่า เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นผมจะขยันในการเพิ่มความชำนาญของสกิลที่ผมได้เรียนรู้มาในตอนนี้”
เซอร์เวี่ยนพยักหน้าด้วยท่าทางพึงพอใจ
“เอาล่ะ ทัศนคติแบบนั้นมันดีมาก”
เอียนยืนขึ้นทันทีขณะที่เขาเสริม
“ศิษย์คนนี้จะอุทิศตนมากขึ้นและแสดงให้ท่านเห็นจุดจบของการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ ผมจะพิสูจน์และแสดงให้ท่านเห็นว่านักเรียนคนไหนที่เก่งที่สุด”
* * *
โซน 107 ของอาณาจักรปีศาจเป็นสถานที่ที่อสูรเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังยังปรากฏในพื้นที่รอบนอก
นี่เป็นเพราะถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในระดับที่อสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงปรากฏตัวบนพื้นที่ แต่ถึงกระนั้นก็ตามประมาณ 30% ของมอนสเตอร์ในพื้นที่ประกอบด้วยอสูรเวทย์มนตร์ระดับกลาง
“ไล ถอยกลับมา! ดูเหมือนว่ามันจะตายถ้านายโจมตีมันอีกครั้งเดียว!”
“รับทราบครับเจ้านาย”
“บักค์ไปเป็นเกราะป้องกันเนื้อที่ด้านหน้า ขณะที่ฮัลลิและพินดึงดูดความสนใจของอสูรเวทย์มนตร์ตัวอื่นๆเพื่อที่พวกมันจะไม่สามารถเข้าใกล้เราได้!”
Grr- Grr-!
เอียนเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆขณะที่เขาจับอสูรเวทย์มนตร์ทั้งหมดที่เขาเห็น
“จับ…!”
ท่านประสบความสำเร็จในการจับอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำ ‘บีเกอร์’
ความชำนาญของอาชีพคู่ ‘ซัมมอนเนอร์ปีศาจ – นักแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์’ เพิ่มขึ้น 0.15%
เอียนซึ่งจับอสูรเวทย์มนตร์เพิ่มเติมนั้นได้เปิดหน้าต่างข้อมูลอสูรเวทย์มนตร์เมื่อเขามองดูอสูรเวทย์มนตร์ที่เขาครอบครองอยู่ในปัจจุบัน
เนื่องจากหน้าต่างข้อมูลอสูรเวทย์มนตร์ทำแยกต่างหากจากหน้าต่างข้อมูลของสัตว์เลี้ยงจึงสะดวกในการจัดการ
‘ฉันจะสามารถจับอีกหนึ่งหรือสองตัวได้อีกไหม?’’
ปริมาณพลังงานปีศาจที่จำเป็นในการจับอสูรเวทย์มนตร์หนึ่งตัวอยู่ที่ประมาณระหว่าง 500-1,000 หน่วย
เนื่องจากปริมาณพลังงานปีศาจที่เอียนมีอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 17,000 หน่วย เขาจึงสามารถจับอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำได้ประมาณ 20-25 ตัวพร้อมกัน
หลังจากเอียนจับอสูรเวทย์มนตร์จำนวนมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้กับพลังงานปีศาจที่เขาครอบครอง เขาก็นั่งลงใกล้ประตูที่นำไปสู่โซน 106 และเริ่มการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์
“เอาล่ะ เราจะเพิ่มความชำนาญของการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์แล้วล่ะนะ?”
ไม่มีทางที่อสูรเวทย์มนตร์ที่สร้างขึ้นจากการแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำนั้นจะเป็นอสูรที่มีความพิเศษจนถึงจุดที่เอียนยังคงพอใจอยู่ดี
นี่เป็นเพราะเอียนรู้สึกว่ามันต้องการอย่างน้อยก็เหมือนรัคเยลอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงที่เขาจับเมื่อวันก่อนเพื่อให้มันเป็นประโยชน์ต่อพลังการต่อสู้ของเอียนในปัจจุบัน แต่ด้วยความสามารถในการแปรสภาพในปัจจุบันของเขา อสูรเวทย์มนตร์ในระดับนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนั้น เอียนก็ฟาร์มอยู่อย่างนั้น
‘ฉันต้องเพิ่มพลังแฝงของฉันให้เกินเลเวล 3 อย่างรวดเร็ว’
เลเวล 3 เป็นสิ่งที่เอียนคิดว่าเป็นขั้นต่ำ ขณะที่พูดตามตรงเป้าหมายของเขาคือเลเวลที่ 5
นี่เป็นเพราะเขาต้องการที่จะไปให้ถึงเลเวล 5 เพื่อที่จะแปลงสภาพอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงขึ้นไป
แน่นอนเพราะมันเป็นไปได้ที่จะจัดการกับอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงเป็นส่วนผสม แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเลเวล 3 เขาก็สามารถแปรสภาพอสูรเวทย์มนตร์ระดับ Heroic ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงโอกาสที่น้อยนิดอย่างมาก
เอียนซึ่งนั่งลงใช้ความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุของเขาและหลังจากที่หน้าต่างโผล่ขึ้นมา เขาวางอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำสองตัวเป็นส่วนผสม
‘การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์’ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ท่านจะตั้งค่าอสูรเวทย์มนตร์ ‘ชายุปุรี’ เป็นร่างหลักใช่หรือไม่?
“ใช่”
ท่านจะตั้งค่าอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำ ‘บีเกอร์’ เป็นส่วนผสม 1 ใช่หรือไม่?
“แน่นอน”
หลังจากการตั้งค่าอสูรเวทย์มนตร์ที่จะกลายเป็นส่วนผสมของการแปลงสภาพ ข้อความก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ท่านสามารถเพิ่มไอเทมที่ต้องการในการแปลงสภาพได้
ตามข้อความนั้น หน้าต่างคลังของเอียนโผล่ขึ้นมา
เอียนคิดถึงเรื่องนี้ซักครู่ก่อนที่จะดึงหินจิตวิญญาณปีศาจระดับต่ำที่เขาได้รับจากเซอร์เวี่ยนออกมา
‘แน่นอนเพราะมันสำคัญที่ต้องดูว่ามีระบบทำงานอย่างไร’
และในขณะที่เขาเพิ่มหินจิตวิญญาณปีศาจระดับต่ำเป็นส่วนผสมในการแปลงสภาพข้อความก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ท่านเพิ่ม ‘หินจิตวิญญาณปีศาจระดับต่ำ’ เป็นส่วนผสมในการแปลงสภาพ
อัตราความประสบความสําเร็จของท่านเพิ่มขึ้น 20%
ดวงตาของเอียนโตขึ้นเล็กน้อย
‘โอ้โห ดูเหมือนว่าเพราะมันเป็นการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำที่สุดหรืออะไรก็ตาม แม้แต่หินจิตวิญญาณปีศาจระดับต่ำอัตราก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย’
และเมื่อขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ตัวแรกของเอียนก็เริ่มขึ้น
หากท่านตั้งค่าส่วนผสมทั้งหมดที่จำเป็นในการแปลงสภาพ การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์จะเริ่มขึ้น
อสูรเวทย์มนตร์ทั้งสองที่เอียนเลือกลอยขึ้นไปบนอากาศและหินจิตวิญญาณปีศาจที่อยู่ในมือของเขาก็ส่องแสงสีขาวขณะที่มันลอยขึ้นไปบนอากาศเช่นกัน
“โห…”
และผู้ติดตามของเอียนดูฉากนั้นด้วยความตื่นเต้น
“เจ้าทำอะไรอยู่น่ะ เจ้าหนูลอร์ด?”
ไคซาร์ถามด้วยสีหน้าที่ดูราวกับว่าเขาสนใจ แต่เอียนซึ่งมุ่งเน้นไปที่การแปลงสภาพไม่ได้ให้การตอบสนองใดๆ
มือทั้งสองของเอียนค่อยๆยกขึ้นไปบนอากาศและพลังงานปีศาจที่ออกมาจากมือปกคลุมรอบอสูรเวทย์มนตร์ทั้งสองเมื่อทั้งสองเริ่มรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
Kuoooh-!
ฉากลึกลับถูกสร้างขึ้นเมื่อกระแสสีแดงและแสงสีขาวรวมเข้าด้วยกัน
หลังจากนั้นไม่นานแสงสีขาวก็ระเบิดขึ้นบนอากาศเมื่ออสูรเวทย์มนตร์ตัวใหม่เกิดขึ้นในจุดนั้น
กริ๊ง-
ท่านประสบความสำเร็จในการ ‘แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์’!
ความชำนาญของ ‘การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์’ เพิ่มขึ้น 1.5%
ระดับการแปรธาตุ : B+
เมื่อระดับการแปรธาตุอยู่เหนือระดับ B ระดับของเวทมนต์จะเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ
อสูรเวทย์มนตร์ระดับกลาง ‘ไคโรป’ ได้เกิดขึ้นแล้ว
ท่านประสบความสำเร็จในการแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์เป็นครั้งแรก
ชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 100,000 หน่วย
ความชำนาญของ ‘การแปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์’ เพิ่มขึ้นเพิ่มเติม 10%
ไคโรป
เลเวล : 1
ประเภท : อสูรเวทย์มนตร์
ระดับ : ระดับกลาง
บุคลิกภาพ : ขี้อาย
สามารถวิวัฒนาการได้
พลังโจมตี : 17
พลังป้องกัน : 15
ความว่องไว : 8
สติปัญญา : 10
พลังชีวิต : 225/225
พลังแฝง
*บ้าคลั่ง (ติดตัว)
เมื่อการโจมตีปกติสำเร็จแล้วมีโอกาส 5% ที่จะเข้าสู่สถานะบ้าคลั่งเป็นเวลา 10 วินาที
หากอยู่ในสถานะบ้าคลั่งพลังป้องกันจะลดลง 30% ในขณะที่พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 50%
*พุ่งโจมตี (เวลาคูลดาวน์ 2 นาที)
อสูรเวทย์มนตร์ไคโรปจะพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างรุนแรงประมาณ 30 เมตรและสร้างความเสียหาย 170%
หากประสบความสำเร็จในการสร้างความเสียหายแก่คู่ต่อสู้ด้วยสกิลพุ่งโจมตีจะมีโอกาส 30% ที่จะสามารถใช้ได้อีกครั้ง
อสูรเวทย์มนตร์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากผู้เล่น ‘เอียน’ แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์
อสูรเวทย์มนตร์ที่เป็นรูปแบบของสัตว์ป่าดุร้ายที่มีฟันที่แข็งแกร่งและกรงเล็บขนาดใหญ่และแตกต่างจากรูปลักษณ์ที่ดูว่องไว ความว่องไวของมันค่อนข้างแย่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น