Taming Master 215-222
ตอนที่ 215
เอียนซึ่งเห็นไอเทมที่มีชื่อว่า ‘สัญญาทาส’ ดวงตาทั้งสองเบิกโพลง
‘อะไรวะเนี่ย? สัญญาทาส?’
เอียนมองไปรอบๆตัวเขาอีกครั้ง
‘ที่ตลาดทาส หอคอยที่อยู่ต่อหน้าฉันมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในคุก… ฉันจะสามารถทำสัญญากับยันโคในฐานะทาสของฉันและบังคับเขาได้ไหม?’
อย่างไรก็ตาม เขาคิดอีกครั้งและตระหนักว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
‘ถ้ายันโคตกไประดับทาส ไม่มีทางที่เฮสก้าปีศาจธรรมดาจะแสดงความเคารพต่อเขา’
เอียนเปิดไอเทมสัญญาทาสและตรวจสอบข้อมูลก่อน
สัญญาทาส
ประเภท : สินค้าเบ็ดเตล็ด
ระดับ : Rare
ความทนทาน : 50/50
ตลาดค้าทาสที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรปีศาจอยู่ตรงใจกลางของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
ในการทำสัญญาทาสในตลาดค้าทาสของอาณาจักรปีศาจ ต้องมีระดับในอาณาจักรปีศาจอย่างน้อยก็เป็นปีศาจระดับสูง
อย่างไรก็ตามหากว่าท่านมีสัญญาทาส ท่านสามารถได้รับสิทธิ์ในการทำสัญญาทาสหนึ่งคนไม่ว่าท่านจะมีระดับในอาณาจักรปีศาจหรือไม่
*ในกรณีที่ระดับในอาณาจักรปีศาจของผู้เล่นเป็นปีศาจระดับสูงหรือสูงกว่านั้น ค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาต่อทาสหนึ่งคนจะลดลงครึ่งหนึ่ง
*ไอเทมนี้เป็นของผู้เล่น ‘เอียน’
มันไม่สามารถถ่ายโอนหรือขายให้กับผู้เล่นรายอื่นและแม้ว่าตัวละครจะตายก็จะไม่ดรอป
(สามารถถ่ายโอนได้เพียงครั้งแรก)
‘อืมม… ตอนนี้ เมื่อฉันไม่รู้แน่ชัดว่าเนื้อหาทาสนี้เป็นเนื้อหาประเภทใด ดูเหมือนว่ามันเป็นไอเทมที่ฉันจะต้องเก็บไว้ในตอนนี้’
นี่เป็นไอเทมที่ผูกไว้กับบัญชี
พูดได้อีกอย่างหนึ่งคือมันเป็นไอเทมที่ผูกมัดซึ่งสามารถถ่ายโอนได้ครั้งเดียว แต่ด้วยบุคลิกภาพของเอียน ไม่มีทางที่เขาจะขายหรือโอนไอเทมที่เขาได้รับเป็นครั้งแรกให้กับใครบางคน
‘ก่อนอื่นลำดับความสำคัญสูงสุดคือหายันโค’
หอคอยแห่งการลงโทษนั้นเป็นตามที่เอียนคาดไว้ สถานที่ซึ่งคำว่า ‘คุก’ เหมาะสมกับมันมากที่สุดและในหอคอย นักโทษจำนวนมากของอาณาจักรปีศาจก็อยู่เต็มคุก
เอียนมองไปรอบๆข้างในหอคอยแห่งการลงโทษขณะที่เขาเดินอย่างช้าๆ
เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกของยันโคนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์มาก ตราบใดที่เขาอยู่ในพื้นที่ที่มองเห็นได้ เขามั่นใจว่ายันโคจะโดดเด่นกว่าเขา
อย่างไรก็ตาม 30 นาทีต่อมา เอียนสามารถตระหนักได้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้เป็นทางเลือกที่ผิดอย่างมาก
‘เอ่อ… ทำไมถึงมีนักโทษจำนวนมากกันล่ะ?’
ในที่สุดเอียนก็ยอมแพ้ในการตามหาเขาด้วยตัวเองและเขาก็เข้ามาในห้องผู้คุมที่กำลังนั่งอยู่ที่มุมห้องและถือตราประทับพรีเมี่ยมของเขาในขณะที่เขาพูดคุยกัน
“เอ่อ… ผมตามหา ‘ยันโค’ อยู่ครับ คุณรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนไหม?”
ผู้คุมที่ตกใจกับคำพูดของเอียน เช็ดน้ำลายที่ไหลออกจากมุมปากของเขาขณะที่เขาตอบอย่างเร่งรีบ
“ถ้าเป็นท่านยันโคที่ท่านตามหา เขาอยู่ที่ใจกลางคุกบนชั้นที่ 10 ครับ”
เมื่อผู้คุมตอบกลับ เอียนแสดงท่าทางสงสัย
‘อะไรกันเนี่ย? สถานการณ์แบบนี้เป็นแบบไหนกันแน่ที่ผู้คุมใช้ชื่อที่ให้เกียรติกับนักโทษ?’
อย่างไรก็ตามไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ในขณะที่เขามั่นใจว่าสิ่งที่น่าสงสัยทั้งหมดของเขาจะได้รับการแก้ไขเมื่อเขาพบกับยันโค หลังจากที่เอียนพยักหน้าเขาก็เดินอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณนะ ถ้างั้นผมไปละ”
เพราะเขาขึ้นไปชั้น 6 แล้วในขณะที่มองไปรอบๆหอคอยเป็นเวลา 30 นาที เขาแค่ต้องขึ้นไปอีก 4 ชั้นเพื่อไปที่ชั้น 10
เอียนได้ขึ้นไปบนบันไดเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“ฮาฮาฮาฮ่า! เจ้ามนุษย์! เจ้านี่ค่อนข้างแข็งแกร่งเลยนะ!”
กระดูกปีกขนาดใหญ่โค้งงอยาวทั้งสองทิศทางบนข้อต่อทั้งสองข้างราวกับเขาของแรด
ร่างกายของปีศาจที่เต็มไปด้วยสีแดง
‘เซลาคูมา’ หน้าบึ้งต่อหน้าผู้เล่นทั้งห้าที่อยู่ด้านหน้าของเขา
“เฮ้อ เฮ้อ… ในจุดนี้ ไม่ใช่ว่าถึงเวลาที่แกต้องยอมแพ้แล้วหรอ? แกไม่เพียงพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเราหรอก”
คนหนึ่งยืนอยู่ที่ด้านหน้าสุดเล็งหอกยาวไปหาเซลาคูมาคือซีลรอนผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในอาชีพลับที่เรียกว่า ‘อัศวินทรงเกียรติ’
ผู้เล่นที่อยู่ข้างหลังเขาเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆของเซิร์ฟเวอร์ไคลันของเกาหลีที่มีชื่อโดดเด่นเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชยาครานและรีเมียร์ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังซีลรอนเป็นผู้เล่นระดับสูงที่เป็นที่รู้กันว่าติดอันดับหนึ่งในห้าเมื่อพูดถึงพลังการต่อสู้ของพวกเขา
เซลาคูมาซึ่งมีพลังการต่อสู้ไม่มากนักกำลังเผชิญหน้ากับการรวมกำลังของพวกเขานั้นคือหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของอาณาจักรปีศาจที่คอยดูแลโซน 110
หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของอาณาจักรปีศาจ (นายพลทั้งสิบสองที่ถูกเลือก) เซลาคูมา / เลเวล : 360
เลเวลของเซลาคูมาอยู่ที่ 360 สูงกว่าเลเวลของยันโค 10 เลเวลและเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจนถึงจุดที่ผู้จัดอันดับห้าคนในเลเวล 180-190 จำเป็นต้องใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อเผชิญหน้ากับเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อสิ้นสุดการต่อสู้ที่ดุเดือดยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง พลังชีวิตของเซลาคูมาก็ถูกใช้จนหมดสิ้น
ณ เวลานั้น เซลาคูมายินดีกับปาร์ตี้ก่อนที่เขาจะพูดอย่างช้าๆ
“เอาล่ะ ข้าจะยอมรับเจ้า เจ้ามีสิทธิ์ที่จะเข้าไปข้างในนี้”
เซลาคูมาแสดงอาการโมโหเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม รีเมียร์ซึ่งเงียบมาจนถึงตอนนี้ได้ถามเซลาคูมา
“บอกว่าเราสมควรได้รับ ‘สิทธิ’ เพื่อเข้าไปข้างในโซน 110…”
เมื่อเห็นปลายนิ้วของรีเมียร์ซึ่งลุกโชติช่วงด้วยเปลวไฟ ซีลรอนพูดกับเธอด้วยท่าทางที่งุนงงเล็กน้อย
“มีอะไรหรอรีเมียร์?”
รีเมียร์ตอบกลับด้วยท่าทางเย็นชา
“รอก่อน”
เธอก้าวเข้าหาเซลาคูมาทีละก้าว
“ถ้าฉันฆ่าแกตอนนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าฉันฆ่าแก เราจะสามารถผ่านที่นี่ไปได้และเราจะสามารถได้รับชื่อเสียงที่มหาศาลด้วยเช่นกัน…”
หลังจากรีเมียร์พูด มุมปากของชยาครานยกขึ้นมา
‘ฉันไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น… เป็นไปตามที่คาดรีเมียร์ เธอไม่ใช่คนธรรมดา’
ทั้งปาร์ตี้มองรีเมียร์และเซลาคูมาคุยกันด้วยท่าทางสนใจและเซลาคูมาพูดต่อ
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่สนหรอกว่าแกจะสู้กับฉันจนถึงที่สุด”
แม้ว่ารีเมียร์จะขู่ แต่เสียงของเซลาคูมาก็ยังสงบ
“อย่างที่เจ้าพูด ถ้ามันยังเป็นเช่นนี้คนที่จะพ่ายแพ้จะเป็นข้าไม่ใช่เจ้าและหลังจากประสบความสำเร็จในการฆ่าข้า เจ้าจะสามารถได้รับชื่อเสียงและรางวัลจำนวนมหาศาล”
เซลาคูมายอมรับคำพูดของรีเมียร์อย่างอดทน แต่เขายังพูดไม่จบ
“อย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องคิดให้ดีว่านี่จะเป็นข้อได้เปรียบด้านใด ถ้าเจ้าฆ่าข้า หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูคนใหม่จะได้รับการแต่งตั้งเพื่อปกป้องประตูนี้และในที่สุดพวกเขาก็จะปกป้องสถานที่แห่งนี้อีกครั้งภายในหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นเพื่อผ่านที่นี่เจ้าจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้กับพวกเขาอีกครั้ง”
“…!”
เมื่อเซลาคูมาพูดคำที่ไม่คาดคิด ดวงตาของรีเมียร์เบิกโพลง
“ถ้าอย่างนั้นแกจะทำอะไร? แกจะต่อสู้กับฉันจนกว่าจะจบงั้นหรอ? ถ้างั้นฉันจะเผชิญหน้ากับแกด้วยพลังทั้งหมดที่ฉันมีเช่นกัน”
จากการตอบสนองของเขา พลังปีศาจของเซลาคูมาก็เริ่มลุกโชนอย่างมีพลังรอบตัวเขา
ซีลรอนซึ่งยืนอยู่ด้านหลังรีบเรียกรีเมียร์
“รีเมียร์ ดูเหมือนว่าเราจะสูยเสียมากกว่าถ้าเราสู้จนถึงที่สุดกับเขานะ”
รีเมียร์หรี่ตาขณะที่เธอถาม
“ทำไมล่ะ? แน่นอนว่าความจริงที่ว่าเราต้องเจอหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูอีกคนในครั้งต่อไปนั้นน่ารำคาญนิดหน่อย แต่เราไม่รู้ว่าเราจะได้รับรางวัลอะไรจากคนที่เป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ของอาณาจักรปีศาจ แม้ว่าจะเป็นงานที่ยุ่งยาก ฆ่าเจ้านี่และสร้างปาร์ตี้ใหม่ในครั้งต่อไปเพื่อล่าอีกครั้ง…”
ชยาครานซึ่งดูพวกเขาโดยไม่พูดอะไรได้เข้าร่วมการสนทนา
“ไม่ใช่อย่างนั้นรีเมียร์ ตามที่ซีลรอนพูด ถ้าเราจบลงตรงนี้และผ่านไป ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์ต่อเราในหลายๆทาง”
รีเมียร์หันหน้าไปหาชยาครานขณะที่เธอพูด
“นายอธิบายให้ฉันฟังได้ไหมว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น?”
ชยาครานพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ถ้าเธอแค่คิดถึงผลประโยชน์ในทันที ตามที่เธอพูดรีเมียร์ มันอาจจะเป็นการดีกว่าที่จะฆ่าเขาและรับรางวัล อย่างไรก็ตามเราต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์เชิงเปรียบเทียบเช่นกัน”
“ผลประโยชน์เชิงเปรียบเทียบ?”
ชยาครานพูดต่อ
“ถูกต้อง ถ้าเราปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่และไป โซน 110 จะกลายเป็นสถานที่ที่ไม่มีผู้เล่นรายอื่นนอกจากเราจะสามารถผ่านไปได้สักพัก ถ้าผู้เล่นรายอื่นสร้างปาร์ตี้ที่ไม่ผู้จัดอันดับที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้ พลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับเซลาคูมาจะไม่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย”
เมื่อชยาครานอธิบาย รีเมียร์พยักหน้าอย่างช้าๆ
“อืมม… ฉันคิดสั้นไป ผลประโยชน์เชิงเปรียบเทียบ… มันเป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอน”
การผ่านหรือไม่ผ่านโซน 110 มีความสำคัญมากกว่าโซน 120
นี่เป็นเพราะเมืองแรกที่สามารถพบได้ในอาณาจักรปีศาจคือ ‘เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว’ ได้ถูกตั้งรกรากในโซน 100
เนื่องจากข้อมูลที่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวอยู่ในโซน 100 เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างเป็นทางการในบันทึกย่อจาก LB Corp. แล้วมันจึงเป็นความจริงที่ทุกฝ่ายรู้เกี่ยวกับมัน
รีเมียร์ผู้รวบรวมความคิดเห็นของปาร์ตี้ หันหัวไปหาเซลาคูมาขณะที่เธอพูด
“เอาล่ะ เราจะจบการต่อสู้ไว้ที่นี่ตามที่แกบอก”
เซลาคูมายิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“คิดถูกแล้ว นั่นเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งเจ้าและข้า”
รีเมียร์พยักหน้าขณะที่เธอตอบกลับ
“คิดซะว่าวินวินกันทั้งคู่ละกัน”
ในเวลาเดียวกัน ข้อความระบบที่ทั้งปาร์ตี้รอคอยโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของพวกเขา
ท่านเป็นคนแรกที่ชนะหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของโซน 110 ในฐานะคู่ต่อสู้
ท่านได้รับชื่อเสียง 400,000 หน่วย
จากนี้ไป ขณะที่ ‘เซลาคูมา’ หัวหน้าผู้พิทักษ์ของอาณาจักรปีศาจนั้นป้องกันประตูอยู่ ท่านจะสามารถใช้ประตูมิติของโซน 110 ตามที่ท่านต้องการ
มุมปากของรีเมียร์ยกขึ้น
‘เอาล่ะ’
ผู้เล่นห้าคนที่ได้จัดการข้อตกลงกับเซลาคูมาสำเร็จ เดินไปยังประตูมิติที่เปิดสู่โซน 109 โดยไม่ลังเล
รีเมียร์พูดเบาๆกับใครบางคนราวกับว่าเธอกำลังกระซิบและพูดกับตัวเอง
“คาซานดรา ครั้งนี้ล่ะ? ครั้งนี้ฉันผ่านไปก่อน ‘พวกเขา’ ใช่ไหม?”
พร้อมกับการพึมพำของรีเมียร์ เปลวไฟสีขาวที่ลุกไหม้จากฝ่ามือของเธอก่อนที่จะมีทรงกลมกลมลอยขึ้นมา
และคาซานพราซึ่งโผล่หน้าออกมาจากในนั้น ยิ้มขณะที่เธอตอบกลับ
ใครจะไปรู้ อาจจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ก็ได้
ใบหน้าของรีเมียร์ที่คิดว่าเธอเป็นคนแรกในคราวนี้ บึ้งทันที
“อะไรกัน? เป็นไปได้ยังไง? ฉันได้ตรวจสอบด้วยว่าเราได้รับข้อความว่าเราเป็น ‘คนแรก’ ที่ชนะหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูปกป้องโซน 110 ในฐานะคู่ต่อสู้ของเราในครั้งนี้แล้วนะ”
คาซานดราโบกนิ้วของเธอขณะที่เธอตอบ
แน่นอนว่าปาร์ตี้ของเจ้าเป็นคนแรกที่เอาชนะเซลาคูมา อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขามี ‘ตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจ’ เรื่องราวมันจะกลับกัน
รีเมียร์เดินเข้าไปในประตูมิติที่มุ่งสู่โซน 109 ขณะที่เธอพูดต่อ
“ ‘ตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจ’? มันคืออะไร?”
ง่ายๆเลยนะ มันเป็นไอเทมที่ช่วยให้เจ้าได้รับการปฏิบัติจากเผ่าปีศาจระดับสูง หากเจ้ามีสิ่งนั้น เจ้าสามารถผ่านส่วนต่างๆของหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูที่มีปีศาจระดับสูงหรือต่ำกว่าได้อย่างอิสระ
“…?”
ถ้าเป็นอย่างนั้น ‘พวกเขา’ ได้รับตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจจากยันโค พวกเขาสามารถผ่านโซน 110 ได้อย่างสบายๆ
Whoong-.
ขณะที่พวกเขาเดินผ่านประตูและเข้าสู่โซน 109 ปาร์ตี้พูดคุยกันดังก็ดังสนั่นเพราะพวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการชมการทำงานหนักของกันและกันและเฉลิมฉลองความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นคนแรก (?) ที่ก้าวเท้าเข้าสู่โซน 109
อย่างไรก็ตาม รีเมียร์ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
“ทำไมเธอเพิ่งมาบอกฉันล่ะ? ถ้าเราฆ่าเซลาคูมาด้วย ไม่ใช่ว่าเราก็จะได้รับสิ่งที่เรียกว่าตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจงั้นหรอ?”
คาซารดราส่ายหน้าขณะที่เธอตอบกลับ
ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าจะให้เคล็ดลับแก่เจ้าล่วงหน้าตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะได้รับอย่างง่ายดาย หากเจ้าต้องการได้รับตราประทับจากเซลาคูมา เจ้าต้องได้รับการยอมรับจากเขาอย่างสมบูรณ์
“…?”
คาซานดรายิ้มขณะที่เธอพูด
อย่างน้อยเธอจะต้องได้รับชัยชนะที่สมบูรณ์แบบในการต่อสู้แบบ 1: 1 เพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากเขา
ตอนที่ 216
เอียนซึ่งขึ้นไปบนชั้นที่ 10 ของหอคอยแห่งการลงโทษก็สามารถพบยันโคได้โดยไม่ยาก
นั่นเป็นเพราะตรงกลางของชั้นที่ 10 ซึ่งดูเหมือนคุกวงกลมขนาดยักษ์ เขาเห็นยันโคที่นั่งขัดสมาธิทันที
จุดที่น่าสนใจก็คือยันโคไม่ได้ถูกขังไว้
ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนกับบาร์เลย แต่ด้วยจุดที่ยันโคนั่งอยู่ตรงกลางมีเสาห้าต้นตั้งอยู่ในห้าทิศทางที่แตกต่างกัน
เอียนเข้าหายันโคอย่างระมัดระวัง
‘เขายังจำฉันได้อยู่ใช่ไหม?’
เนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีที่ผิดปกติก่อนที่จะมีการอัพเดทขนาดใหญ่ เอียนรู้สึกกังวลเล็กน้อย
‘อย่างไรก็ตาม… เนื่องจากเควสต์ยังคงอยู่…’
เอียนซึ่งตรงไปหายันโคได้พูดอย่างช้าๆ
“ยันโค ฉันแก้ไขคำขอของนายและกลับมาแล้ว”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเอียนจะพูดแล้ว ยันโคก็ไม่ได้ตอบสนองสักนิดเดียว
‘อะไรเนี่ย? เขาหลับงั้นหรอ?’
เมื่อเอียนสะกิดยันโค ตาของเขาก็เปิดขึ้น
“เจ้ากลับมาเร็วกว่าที่ข้าคาดไว้ซะอีก เอียน”
ในอีกความหมายหนึ่งคือยันโคยังจำเอียนได้อยู่
เอียนก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
‘เฮ้อ ดูเหมือนว่าแผนของฉันยังไปต่อได้โดยไม่ล้มเหลว’
ยันโคพูดต่อ
“เมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าแก้ไขคำขอของข้าได้แล้ว นั่นหมายความว่าเจ้าพบปัญหาว่าทำไมวิญญาณชั่วร้ายที่ปนเปื้อนเกิดขึ้นได้แล้วสินะ?”
เอียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆ ถูกต้อง ไม่เพียงแต่ฉันจะค้นพบเหตุผลสำหรับพวกมัน แต่ฉันได้ถอนรากถอนโคนมันด้วย”
เมื่อเอียนตอบ ดวงตาทั้งสองของยันโคเบิกโพลงและเอียนเริ่มอธิบายอย่างช้าๆ
“เหตุผลว่าทำไมอสูรเวทมนต์ถึงเริ่มปนเปื้อนนั้นมาจาก ‘หินแห่งความโกลาหล’ ”
เอียนอธิบายเหตุการณ์ที่เขาประสบมาอย่างคร่าวๆขณะแก้ไขเควสต์ของยันโค
และเมื่อคำอธิบายของเขาสิ้นสุดลง ในเวลาเดียวกันข้อความของระบบจะแจ้งให้เขารู้ถึงความสำเร็จของเควสต์
กริ๊ง-
ท่านประสบความสำเร็จในการเคลียร์ ‘คำขอของหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของอาณาจักรปีศาจยันโค l (เชื่อม)’
ระดับการเคลียร์ : SSS
ท่านได้รับชื่อเสียง 100,000 หน่วย
ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 157,688,900 หน่วย
ท่านได้รับหินเวทย์มนตร์ระดับกลาง 20 ก้อน
ท่านได้รับไอเทม ‘เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ’
เมื่อท่านได้รับระดับการเคลียร์ SSS ความสัมพันธ์ของท่านกับ ‘ยันโค’ เพิ่มขึ้น 5 หน่วย
และท่ามกลางข้อความของระบบที่โผล่ขึ้นมาทีละอย่าง สิ่งแรกที่จับตาเอียนคือ ‘เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ’ อย่างแน่นอน
‘ฮ่าา ในที่สุด! ในที่สุดฉันก็ได้เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจมาครอบครอง’
เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเอียนที่เป็นเช่นเดียวกับแก่นแท้ของเควสต์และงานมอบหมายทั้งหมดที่เขาต้องการเพื่อให้บรรลุ
เมื่อเป็นอย่างนั้น เอียนรู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์
ขณะนั้น ต่างจากเอียนซึ่งมีความสุข ยันโคพูดอย่างช้าๆอีกครั้งหนึ่ง
“อะแฮ่ม… ดังนั้นอุบัติเหตุแบบนั้น พลังของหินแห่งความโกลาหลนั้นจึงทำให้มีวิญญาณชั่วร้ายที่ปนเปื้อนสินะ…”
ยันโคพูดต่อไปในขณะที่รักษาท่าขัดสมาธิโดยไม่ขยับเขยื่อนแม้แต่น้อย
“ยังไงก็ตาม ต้องขอบคุณเจ้า ดูเหมือนว่าข้าจะลดโทษได้นิดหน่อย”
“…?”
เมื่อยันโคพูด เอียนถามกลับด้วยท่าทางงุนงง
“นายหมายความว่ายังไง? ลดโทษน่ะ?”
ยันโคยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“ตามที่เจ้าเห็น ตอนนี้ข้าถูกขังไว้ที่นี่ ข้าไม่สามารถออกจากสถานที่นี้เป็นเวลาอย่างน้อยสองเดือน แต่เมื่อเจ้าแก้ไขหนึ่งในความผิดของข้า ดูเหมือนว่าข้าจะสามารถออกจากสถานที่นี้ในอีกประมาณหนึ่งเดือน”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เอียนโบกมือไปรอบๆตัวยันโคและตรวจสอบสิ่งที่คล้ายโซ่
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรชนกับมือของเอียน
“ป่ะ? นายถูกขังอยู่หรอ? นายไม่สามารถยืนและออกจากที่นี่ได้งั้นหรอ?”
ยันโคยิ้มขณะที่เขาส่ายหน้า
“ถึงแม้ว่ามันอาจดูเหมือนข้างนอก ตอนนี้ข้าอยู่ในสถานะที่ข้าไม่สามารถขยับแม้แต่ขาเดียวได้”
“ห้ะ…?”
“ส่วนเดียวที่ข้าสามารถขยับได้ในตอนนี้ก็คือคอของข้า แม้ว่าข้าจะสามารถขยับได้เพียงเล็กน้อยเพียงเท่านั้น”
เอียนชี้ไปที่เสาที่ตั้งขึ้นรอบๆยันโคในขณะที่เขาถาม
“นั่นเกี่ยวกับเสาที่ตั้งอยู่รอบๆที่นี่ใช่ไหม?”
ยันโคตอบกลับ
“ถูกต้อง เสาเหล่านั้นปิดผนึกพลังงานปีศาจของข้าและควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายข้า”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เอียนดึงการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาที่อยู่บนหลังของเขาขณะที่เขาเหวี่ยงมันไปรอบๆ
Whoosh-.
“ถ้างั้นถ้าฉันทำลายพวกมันทั้งหมดล่ะ?”
ยันโคยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่เขาส่ายหน้า
“ถ้าอย่างนั้นเจ้ากับข้าทั้งคู่จะไม่สามารถพบได้ในวันพรุ่งนี้ ช่วงเวลาที่เจ้าโจมตีเสาเจ้าของหอคอยอาจจะผ่านประตูมิติและลงมาที่นี่”
“เจ้าของของหอคอย? มีเจ้าของหอคอยแห่งการลงโทษด้วยงั้นหรอ?”
ยันโคหรี่ตาขณะที่ตอบกลับ
“เขาคือลูซิก้า ปีศาจแห่งความเกลียดชังที่ครองอันดับที่ 15 ในการจัดอันดับของอาณาจักรปีศาจ เขาเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ เอียนที่ทำให้ข้ายอมจำนน เจ้าก็แข็งแกร่ง แต่เจ้าปีศาจนั้นทรงพลังเปรียบเทียบกับข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ”
เมื่อยันโคอธิบาย เอียนบ่นกับตัวเอง
‘ปีศาจแห่งความเกลียดชังหรืออะไรก็ตาม ฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อสู้กับเขาเช่นกันเมื่อชื่อของเขาก็ฟังดูน่ากลัวแล้ว’
ยันโคพูดต่อ
“ถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้า เจ้าก็ยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้”
“อืม เข้าใจแล้ว”
“ดังนั้นนี่มันน่าอายนิดหน่อย แต่ว่าเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำตามคำขอของข้าได้อีกสักครั้งไหม?”
และหน้าต่างของเควสต์เชื่อม ‘คำขอของยันโค’ ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน
กริ๊ง-
คำขอของหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของอาณาจักรปีศาจยันโค II (เชื่อม)
หนึ่งในนายพลที่ถูกเลือกทั้งสิบสองคนของอาณาจักรปีศาจ ยันโคก็ยังเป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูที่นำไปสู่อาณาจักรปีศาจ
ยันโคได้รับโทษ 100 วันจากผู้เฒ่าแห่งอาณาจักรปีศาจและถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษ
ความผิดของเขาคือเขาไม่ได้ทำตามคำสั่งที่เขาได้รับจากผู้เฒ่าแห่งอาณาจักรปีศาจได้อย่างถูกต้อง
เขาถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษเพราะความผิดของเขาที่ไม่ได้ป้องกันประตูโซน 120 ของอาณาจักรปีศาจจากสายพันธุ์อื่นและไม่ประสบความสำเร็จในการหาแหล่งที่มาของวิญญาณชั่วร้ายที่ปนเปื้อน
อย่างไรก็ตาม ประตูที่อยู่นอกโซน 50 ของอาณาจักรปีศาจนั้นเป็นสถานที่ที่ปีศาจระดับสูงไม่ได้ให้ความสนใจมากนักจนถึงตอนนี้และเนื่องจากเป็นกรณีนี้จึงเป็นเรื่องปกติที่คนอื่นๆจะสามารถผ่านประตู 120 ได้ ซึ่งเป็นประตูที่ไกลที่สุดในบรรดาทั้งหมด
นอกจากนี้ตามที่คาดไว้ปีศาจจำนวนมากล้มเหลวในคำมอบหมายให้ค้นหาแหล่งที่ทำให้อสูรเวทย์มนตร์ปนเปื้อนจนถึงตอนนี้ แต่พวกเขาไม่ได้รับการลงโทษอย่างหนัก
ในกรณีดังกล่าว ยันโคสันนิษฐานว่ามีความลับดำมืดบางส่วนเกี่ยวกับสาเหตุที่เขาถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษ
ช่วยยันโคแก้ไขข้อล่าวหาที่ผิดพลาดและนำเขาออกจากหอคอยแห่งการลงโทษ
ระดับความยากเควสต์ : SS
เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับจากหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูยันโค
ผู้เล่นที่ได้เคลียร์เควสต์ ‘คำขอของหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูยันโค I (เชื่อม)’ เรียบร้อยแล้ว
เวลาจำกัด : ไม่มี
รางวัล : หินเวทย์มนตร์ระดับต่ำ x30 หินเวทย์มนตร์ระดับกลาง x15
*ท่านจะสามารถรับ ‘ยันโค’ ปีศาจระดับสูงเป็นผู้ติดตาม (อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ใช้ได้กับผู้เล่นที่ได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจเท่านั้นและประสบความสำเร็จในการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ)
*หากว่าท่านปฏิเสธเควสต์ ความสัมพันธ์ของท่านกับ ‘หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูยันโค’ จะลดลงทันที
เนื่องจากเควสต์นี้มีเรื่องราวยาวนานที่สุดท่ามกลางหน้าต่างเควสต์ที่เขาเห็นมาจนถึงตอนนี้ เอียนจึงอ่านอย่างละเอียด
“ดังนั้น… ยันโค นายจะบอกว่านายถูกวางแผนใช่ไหม?”
ยันโคพยักหน้า
“ถูกต้อง ฉันถูกวางแผนหรือไม่ก็ฉันถูกสังเวยให้กับใครบางคน”
เอียนยักไหล่ขณะที่เขาตอบกลับ
“แน่นอน ฉันจะช่วยนาย แต่ว่ามีบางสิ่งที่ฉันสงสัย”
“คืออะไรรึ?”
เอียนชี้ไปที่เสาที่ล้อมรอบยันโคขณะที่เขาพูดต่อไป
“ประโยค 100 วัน นั่นหมายความว่านายต้องถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษนี้เป็นเวลา 100 วันใช่มั้ย?”
“ถูกต้อง”
“แต่ว่านั่นเป็นการลงโทษที่หนักใช่ไหม?”
สำหรับเอียนมันเป็นเนื้อหาที่เขาอยากรู้
นี่เป็นเพราะแม้แต่ในโลกมนุษย์ การลงโทษที่ต้องถูกขังอยู่ข้างหลังกรงเป็นเวลา 100 วันซึ่งไม่ต่ำกว่า 3 เดือนไม่สามารถมองเห็นว่ารุนแรงนัก ดังนั้นสำหรับปีศาจที่ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง อายุขัยที่ยาวนานกว่ามนุษย์ ดูเหมือนจะเป็นการลงโทษที่เบากว่าสำหรับเขา
อย่างไรก็ตาม เขาสงสัยเพราะมันอธิบายว่าเป็นการลงโทษอย่างหนักในหน้าต่างเควสต์
“อืม…ดูเหมือนว่าเจ้าไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับหอคอยแห่งการลงโทษนี้ แต่ว่ามันค่อนข้างสมเหตุสมผล”
“ห้ะ…?”
ยันโคยิ้มอย่างขมขื่นในขณะที่เขาพูดต่อไป
“สัดส่วนเวลาที่ปีศาจถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษ พวกเขาสูญเสียพลังปีศาจ”
ดวงตาของเอียนโตขึ้นเล็กน้อย
“นายเสียพลังงานปีศาจงั้นหรอ?”
ยันโคพยักหน้า
“ถูกต้องแล้ว หลังจากครบเป็นเวลา 100 วัน ข้าจะสูญเสียพลังปีศาจจำนวนมหาศาลซึ่งประมาณ 1/5 ของพลังปีศาจที่ข้าสะสมมาจนถึงตอนนี้”
เอียนแสดงท่าทางงุนงง
“มันหมายความว่ายังไง?”
ยันโคจ้องเอียนสักครู่ก่อนที่เขาจะพูดอีกครั้ง
“คิดว่าเจ้าไม่รู้เกี่ยวกับแนวคิดของพลังงานมืด ถึงแม้ว่าจะอ่อน ข้าก็รู้สึกถึงพลังงานปีศาจจากเจ้า แต่เจ้าได้แบกมันไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่ามันคืออะไร”
เอียนก็จำได้ว่าเขาได้ค่าสถานะที่เรียกว่า ‘พลังงานปีศาจ’
‘โอ้ใช่ ค่าสถานะที่จัดการกับความเสียหายจำนวนหนึ่งคือพลังงานปีศาจ’
เอียนยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับพลังงานปีศาจซึ่งเป็นค่าสถานะที่เขาได้รับเป็นรางวัลสำหรับการเป็นผู้ค้นพบอาณาจักรปีศาจครั้งแรก แม้จะมีการเรียกใช้มันในการต่อสู้จนถึงปัจจุบัน
“อ่อ ฉันจำได้แล้ว ฉันมีพลังงานปีศาจมากกว่า 2,500 หน่วยในตอนนี้”
หลังจากได้ยินเอียนพูด ยันโคอธิบายถึง ‘พลังงานปีศาจ’ ต่อ
“ใช่ เจ้ามีพลังงานปีศาจประมาณ 2,000 หน่วย แต่ก่อนที่ข้าจะเข้ามาในสถานที่นี้ ข้ามีจำนวนพลังงานปีศาจเกือบ 50,000 หน่วย”
เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เอียนสูดลมหายใจอย่างแรง
‘เฮือก! อะไรวะนั่น ถ้าเขามีพลังงานปีศาจ 50,000 หน่วย มันเป็นจำนวนที่เหลือเชื่อแม้ว่าอัตราการเปิดใช้งานจะแค่ 10%! หากคิดว่ามีความเสียหาย 50,000 หน่วยเข้ามาในครั้งเดียว มันน่ากลัวมาก…’
ยันโคพูดต่อ
“อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ข้าถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษ พลังงานปีศาจของข้า 100 หน่วยจะระเหยในแต่ละวัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่ข้าอยู่ครบเป็นเวลา 100 วัน ข้าจะสูญเสียพลังงานปีศาจจำนวนมหาศาล จำนวนถึง 10,000 หน่วย”
“…”
หลังจากที่เขาได้ยินมาถึงจุดนี้ แน่นอนเขารู้สึกว่าการลงโทษของยันโคนั้นรุนแรง
“ฉันจะเอานายออกมาให้เร็วเท่าที่จะทำได้”
เมื่อเอียนพูด ยันโคพยักหน้า
“ถูกต้อง ข้าต้องออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะรักษาพลังงานปีศาจของข้าแม้เพียงเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นส่วนที่ทำให้โกรธคือก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ ข้าเกือบจะถึงพลังงานปีศาจ 50,000 หน่วยแล้ว”
“พลังงานปีศาจ 50,000 หน่วย มีความหมายว่าอะไร?”
“มันมีความหมายมากเลยล่ะ”
ยันโคซึ่งพักหายใจสักครู่หนึ่งได้พูดอีกครั้ง
“หากว่าเจ้ามีพลังงานปีศาจมากกว่า 50,000 หน่วย ปีศาจระดับสูงสามารถได้รับสิทธิ์ในการท้าทายเพื่อกลายเป็นขุนนาง”
“…!”
หัวของเอียนเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว
‘ดังนั้น… มาจัดการความคิดกันเถอะ’
เริ่มจากเนื้อหาที่เขียนในหน้าต่างเควสต์ไปจนถึงเนื้อหาที่เขาได้ยินจากยันโค เขาจัดการมันไว้ในหัวของเขา
‘เมื่อฉันประสบความสำเร็จเควสต์เชื่อมในปัจจุบัน ฉันสามารถแต่งตั้งยันโคเป็นผู้ติดตามของฉันได้…’
มีข้อกำหนดว่าจะต้องเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ แต่เมื่อเอียนมีไอเทม ‘เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ’ มันก็เหมือนกับว่าตรงตามข้อกำหนดแล้ว
‘คาดเดาจากสิ่งที่ยันโคพูด พลังงานปีศาจในปัจจุบันของเจ้านี่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 46-47,000 หน่วยใช่ไหม?’
ยันโคบอกว่าก่อนที่เขาจะถูกคุมขังในหอคอยแห่งการลงโทษ พลังปีศาจของเขาเกือบ 50,000 หน่วยและเมื่อประมาณหนึ่งเดือนนับตั้งแต่ยันโคถูกคุมขัง เขาก็สามารถคำนวณได้โดยคร่าวๆ
‘ถ้าฉันช่วยชีวิตเจ้านี่ให้เร็วที่สุดจากที่นี่และพาเขาไปเป็นผู้ติดตามแล้ว ฉันจะได้รับปีศาจระดับขุนนางหลังจากช่วยเขาออกไปใช่ไหม?’
การแสดงออกของเอียนที่คิดมาถึงจุดนี้ทำให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น
“เอาล่ะ ยันโค!”
ในขณะที่มองเอียนผู้ซึ่งเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ทันใดนั้นยันโคแสดงสีหน้าแปลกๆ
“เจ้าเป็นอะไรกันน่ะ?”
เอียนยิ้ม
“ฉันจะเอานายออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเลย”
ขณะที่เอียนไล่ตามความต้องการของเขา ยันโคแสดงความสนิทมากขึ้น
“โอ้… มันเป็นคำขอที่น่าอาย แต่สำหรับเจ้าที่จะทำสิ่งที่มากมายให้ข้า ข้าจะตอบแทนความเมตตานี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
และอีกหนึ่งข้อความระบบโผล่ขึ้นมา
ความสัมพันธ์ของท่านกับปีศาจระดับสูง ‘ยันโค’ เพิ่มขึ้น 5 หน่วย
ในขณะที่ความสัมพันธ์กับ NPC มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความซื่อสัตย์ของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ติดตามเอียนก็ยิ้ม
“ยันโค ถ้างั้นฉันต้องทำอะไรก่อน?”
เมื่อเอียนถาม ยันโคตอบกลับทันที
“หากเจ้ามองไปรอบๆเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เจ้าจะสามารถค้นพบคฤหาสน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองได้”
“ห้ะ…?”
“สถานที่นั้นมี ‘เซราฟิม’ ปราสาทแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวรวมถึงพลังการต่อสู้ระดับสูงแม้ในหมู่ขุนนางอาศัยอยู่”
เอียนซึ่งได้ยินชื่อ ‘เซราฟิม’ เงยหน้าขึ้นมาในขณะที่เขาเปิดหน้าต่างเควสต์อย่างรวดเร็ว
‘เซราฟิม? ฉันได้ยินชื่อนี้มาจากไหนสักที่…’
และเขาสามารถค้นพบชื่อนั้นในเควสต์ ‘จุดเริ่มต้นของปีศาจ II’ ที่เขาได้รับจากอิเรียล
‘อ่ะฮ่า เขาเป็นคนที่ฉันต้องไปเจออยู่แล้ว!’
ยันโคพูดต่ออีกครั้ง
“เอียน ข้าหวังว่าเจ้าจะไปหาเซราฟิมเพื่อบอกเขาถึงความจริงที่ว่าข้าถูกขังอยู่ที่นี่และส่งต่อให้เขาถึงความจริงที่ว่าแหล่งที่ปนเปื้อนสัตว์วิเศษถูกกำจัดไปแล้ว”
“Then is that the end?”
“หลังจากนั้นเซราฟิมอาจจะจัดการกับสิ่งต่างๆด้วยตัวเขาเอง เอียน เจ้าอาจต้องทำงานบางอย่างให้เขา…”
หน้าของเอียนมุ่ยเล็กน้อย
‘แน่นอนว่าไม่มีทางที่เควสต์ระดับ SS จะจบลงอย่างง่ายดาย’
เอียนพยักหน้าขณะที่เขายืนขึ้น
“เอาล่ะ ยันโค ถ้างั้นฉันจะไปหาเขาและเริ่มเคลื่อนไหวทันที”
“ขอบคุณนะเอียน”
“แต่ว่า คฤหาสน์ที่เซราฟิมอาศัยอยู่…”
“หืม?”
เอียนถอนหายใจขณะที่เขาพูดต่อ
“นายไม่มีข้อมูลอื่นนอกเหนือจากเบาะแสที่ว่าเป็นคฤหาสน์ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวเลยหรอ?”
เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวนั้นกว้างอย่างมากจนถึงจุดที่มันมีขนาดเทียบเท่ากับการรวมโซนขนาดต่างๆของอาณาจักรปีศาจเข้าด้วยกัน
อย่างนั้นเอียนจึงถอนหายใจ
นี่เป็นเพราะเมื่อเขาทิ้งผู้ติดตามทั้งหมดของเขาไว้ที่ด้านนอกของป้อมปราการ มันก็ยิ่งยากที่จะหาในบริเวณกว้างเช่นนี้
“อ่า โชคร้ายหน่อยนะ…”
“อืม ช่วยไม่ได้ นอกจากหาอย่างขยันขันแข็ง”
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ายันโคจะจำบางสิ่งได้ในขณะที่เขาพูดอะไรบางอย่างกับเอียน
“อ่อใช่ เอียนทางที่เจ้าเข้ามาในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เจ้าได้เจอเฮสก้าหรือไม่?”
“เฮสก้า… นายหมายถึงปีศาจธรรมดาที่เป็นยามป้องกันทางเข้าประตูเมืองหรอ?”
ยันโคพยักหน้า
“ใช่ เขานั่นแหละ”
ในเวลาเดียวกัน คัมภีร์เล็กๆหล่นลงมาจากภายในหน้าอกของยันโคก่อนที่มันจะลอยไปข้างหน้าเอียน
ยันโคพูดต่ออีกครั้ง
“ถ้าเจ้าไปหาเขาด้วยเจ้านี่ เขาอาจจะช่วยเจ้าได้”
เอียนชื่นชมขณะที่เขาถาม
“โอ้โห ดูเหมือนว่าเฮสก้าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายงั้นหรอ?”
“อืม คล้ายๆแบบนั้นแหละ”
เอียนซึ่งรับคัมภีร์ที่เขาได้รับจากยันโคและเก็บมันไว้ในหน้าอกของเขา หันกลับมาโดยไม่มีความรู้สึกโหยหา
“ถ้างั้นฉันไปละนะ”
ยันโคตอบกลับด้วยเสียงที่หนักแน่น
“ข้าอวยพรให้เจ้าประสบความสำเร็จ เอียน”
เอียนยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงและรอก่อน เนื่องจากฉันจะแก้ไขทันทีและกลับมา”
เอียนซึ่งเดินออกมาจากหอคอยแห่งการลงโทษเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ
และขณะที่เอียนเดิน เขาหยิบหินสีแดงที่อยู่ในคลังของเขาและยกมันขึ้นมา
นั่นคือไอเทม ‘เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ’ ที่เขาได้รับจากยันโค
ตอนที่ 217
เอียนซึ่งหยิบ ‘เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ’ ออกมาเพื่อตรวจสอบข้อมูลของไอเทม
เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ
ประเภท : สินค้าเบ็ดเตล็ด
ระดับ : Rare
ความทนทาน : 50/50
ยาที่ทำโดยการปรับแต่งเลือดที่สะอาดของปีศาจจากสายเลือดบริสุทธิ์โดยไม่ต้องใช้เลือดจากสายพันธุ์อื่นผสมกันมาเป็นร้อยปี
หากสปีชีส์อื่นกลืนยาลงไป พวกเขาจะกลายเป็น ‘ครึ่งปีศาจ’ และจะสามารถใช้ความสามารถของปีศาจและมันก็เป็นไอเทมที่ขายในราคาแพงท่ามกลางมนุษย์มากมาย
อย่างไรก็ตามหากมนุษย์ที่ขาดความสามารถใช้มัน พวกเขาจะสามารถรับความสามารถของครึ่งปีศาจได้ แต่พวกเขาจะไม่สามารถรับความสามารถของปีศาจระดับสูงได้
นี่เป็นเพราะช่วงเวลาที่พวกเขากลืนเม็ดจิตวิญญาณของปีศาจจะมีการทดสอบภาชนะของพวกมัน
หากต้องการกลืนเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจและได้รับความสามารถของครึ่งปีศาจ ท่านจะต้องเตรียมใจให้พร้อม
ด้วยความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว ระดับปีศาจของท่านอาจเป็นปีศาจอันดับต่ำเลยก็ได้
*ขึ้นอยู่กับระดับปีศาจของผู้เล่นของอาณาจักรปีศาจที่ตัดสินครั้งสุดท้ายเมื่อการทดสอบของปีศาจจบลง พวกเขาจะสามารถได้รับคะแนนเพิ่มเติมสำหรับพลังงานปีศาจและค่าสถานะอัตราการเปิดใช้งานปีศาจพลังงานของพวกเขา
*ไอเทมนี้เป็นของผู้เล่น ‘เอียน’
มันไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือขายให้กับผู้เล่นคนอื่นและแม้ว่าตัวละครตาย มันก็จะไม่ดรอป
(สามารถแลกเปลี่ยนได้เพียงครั้งแรก)
ในบรรดาไอเทมที่ถูกจำแนกว่าเป็น ‘สินค้าเบ็ดเตล็ด’ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นไอเทมที่มีข้อมูลจำนวนมาก แต่เอียนอ่านทุกคำอย่างละเอียดถี่ถ้วน
นี่เป็นเพราะเนื้อหาทั้งหมดของอาณาจักรปีศาจนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
‘อืมม… ฉันคิดว่ามันเป็นไอเทมที่สามารถทำให้ฉันกลายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจได้ทันทีหากว่าฉันใช้มัน แต่มันซับซ้อนกว่าที่ฉันคิด ฉันควรไปรับข้อมูลจากยันโคสักนิดไหม?’
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเอียนจะถามยันโค แต่ก็ไม่มีทางที่ยันโคจะรู้เกี่ยวกับกระบวนการกลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ
เนื่องจากเขาเป็นปีศาจจากสายเลือดบริสุทธิ์ตั้งแต่ต้น
ก่อนที่เอียนจะใช้เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ เขาตรวจสอบสถานะทางกายภาพก่อน
เขาไม่รู้แน่ชัดว่าการทดสอบของปีศาจเป็นอย่างไร แต่เขาคิดว่าจะมีบางอย่างที่เหมือนการต่อสู้ในจินตนาการ
‘อืมม เราใส่อุปกรณ์ครบแล้ว เวลาคูลดาวน์สกิลทั้งหมดก็หมดลงแล้วเช่นกัน สัตว์เลี้ยงก็อยู่ในสถานะที่สามารถอัญเชิญพวกมันได้ทันที…’
เอียนซึ่งนั่งอยู่ตรงมุมใจกลางกลางของอาณาจักรปีศาจ กลืนน้ำลายขณะที่ถือเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ
‘ดังนั้นตามที่เขียนไว้ในข้อมูลไอเทม ถ้าฉันทำได้ดีในการทดสอบปีศาจหรืออะไรก็ตามเป็นไปได้หรือไม่ที่ฉันจะกลายเป็นราชาปีศาจในครั้งเดียว?’
เอียนใช้เลือดบริสุทธิ์ปีศาจด้วยการแสดงออกที่แน่วแน่
“ใช้งานไอเทม!”
เมื่อเขาทำอย่างนั้น ข้อความระบบสองสามอันโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน
ท่านประสบความสําเร็จในการใช้ไอเทม ‘เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ’
เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจได้ยึดร่างกายของท่าน
พลังปีศาจที่ทรงพลังได้เริ่มกลืนกินร่างกายของท่านทั้งหมด
ในเวลาเดียวกัน วิสัยทัศน์ของเอียนเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ
การทดสอบของปีศาจจะเริ่มต้นขึ้น
วิสัยทัศน์ของเอียนถูกกลืนกินโดยความมืดอย่างสมบูรณ์
* * *
ณ ทะเลรายชิคาร์
ทวีปกลางซึ่งเป็นชื่อที่รู้จักกันดีกว่าชื่อชิคาร์ ดูเหมือนว่าจะเติบโตไกลออกไปจากความสนใจของผู้เล่นจำนวนมากรวมถึงชุมชนนับตั้งแต่การอัปเดตครั้งใหญ่ครั้งที่ 3
แม้แต่สื่อเกมส่วนใหญ่ที่มุ่งเน้นไปที่ทวีปกลางก็หันมาสนใจอาณาจักรปีศาจมากกว่าและ 70% ของโพสต์ที่โพสต์ในกระดานข่าวรวมถึงกระดานข่าวโจมตีก็โพสต์ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรปีศาจ
เมื่อมองดูสถานการณ์เหล่านี้ดูเหมือนว่าทวีปกลางเกือบจะถูกลืมไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงในเกมนั้นแตกต่างกัน
ทวีปชิคาร์กลับคึกคักไปด้วยผู้เล่นมากกว่าเดิมเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนที่อาณาจักรปีศาจจะเปิดขึ้น
เนื่องจากการอัปเดตของอาณาจักรปีศาจ ผู้เล่นระดับสูงส่วนใหญ่ย้ายพื้นที่การล่าของพวกเขาไปยังอาณาจักรปีศาจ แต่ในช่วงเวลานั้นผู้เล่นระดับกลาง-ล่างยิ่งเพิ่มเลเวลและประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ทวีปกลาง
เมื่อพวกเขามีเลเวลมากกว่า 100 ผู้เล่าส่วนใหญ่จะย้ายฐานไปยังทวีปกลางอย่างช้าๆและตอนนี้ในเซิร์ฟเวอร์ไคลันของเกาหลี เลเวล 100 อยู่ในมาตรฐานสำหรับผู้เล่นระดับกลาง
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็หมายความว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เล่นเซิร์ฟเวอร์ไคลันของเกาหลีอยู่ในทวีปกลาง
ยิ่งไปกว่านั้น ความจริงที่ว่าผู้เล่นระดับสูงได้หลบหนีไปยังอาณาจักรปีศาจแทนได้ส่งผลดีในเมื่อทวีปกลางที่ซึ่งสงครามยังไม่สิ้นสุดได้กลับกลายเป็นสงบสุข
นั่นหมายความว่ามันกลายเป็นสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้เล่นทั่วไปที่ไม่สนใจสงครามกิลด์เพื่อล่า
ความจริงแล้ว ทวีปกลางอยู่ท่ามกลางการเพลิดเพลินไปกับความเจริญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
และเมืองไพโรซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ตรงกลางของทวีปได้เติบโตขึ้นอย่างมากจนถึงจุดที่ยากที่จะรับมือกับมันในตอนนี้
ระดับของเมืองยังคงเป็น ‘เมืองที่ยอดเยี่ยม’ แต่แม้ว่าพวกเขาจะต้องประกาศให้เป็น ‘อาณาจักร’ ในตอนนี้ มันก็เติบโตขึ้นจนถึงจุดที่ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งขาดและค่าสถานะเมืองทั้งหมดก็มีคุณสมบัติเกินไปแล้ว
หลังจากนั้น ฟิโอลันซึ่งเป็นลอร์ดแห่งเมืองไพโรก็ยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลากิน
แม้จะเป็นผู้เล่นระดับต้นๆที่เลเวลมากกว่า 170 เธอก็ไม่มีเวลาทำเควสต์ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรปีศาจและยังไม่เคยเข้าอาณาจักรปีศาจเลย
“เฮ้อ… ฉันดีใจนะที่เห็นเมืองเติบโต แต่…”
ฟิโอลันซึ่งกลับมาจากการนำทีมความปลอดภัยสาธารณะและล่ามาเกือบหนึ่งวันก็เดินกะเผลกไปที่ห้องทำงานของลอร์ดแล้วถอนหายใจ
“ฉันก็อยากจะไปอาณาจักรปีศาจเหมือนกัน…”
เมื่อใดก็ตามที่เธอเห็นไอเทมเสริมความแข็งแกร่งที่อัปโหลดไปยังกระดานข่าวของชุมชนเธอก็รู้สึกอิจฉาอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ช่วยไม่ได้ที่เธออยากจะรู้เกี่ยวกับเนื้อหาใหม่ๆ
เมื่อฟิโอลันหยุดพักชั่วขณะหนึ่งขณะที่บ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้และประตูสำนักงานเปิดออกเมื่อมีคนเข้ามา
Deu-reu-reuk-.
ฟิโอลันที่หันหน้าของเธอโดยอัตโนมัติ ยิ้มอย่างสดใสขณะที่เธอทักทาย ‘เธอ’ อย่างอบอุ่น
“โอ้ ฮาริน! เธอบอกว่าเธอมีที่ที่ต้องแวะ แต่เธอกลับมาแล้วเหรอ?”
ฮารินและฟิโอลันมักจะมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเร็วๆนี้พวกเขาสนิทกันมากขึ้น
นี่เป็นเพราะสมาชิกส่วนใหญ่ของกิลด์ได้หนีไปที่อาณาจักรปีศาจเพื่อเพลิดเพลินกับเนื้อหาใหม่ในขณะที่อีกสองคนที่เหลือได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
ฮารินพยักหน้าขณะที่เธอนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับฟิโอลัน
“ช่าย จินซุงบอกว่าเขาส่งอะไรมาให้ฉัน ดังนั้นฉันจึงกลับมาแล้วหลังจากไปพลาซ่า”
ดวงตาทั้งสองของฟิโอลันซึ่งได้ยินชื่อที่ไม่คาดคิดโตขึ้นเล็กน้อย
“เธอหมายถึงเอียนงั้นหรอ?”
“ใช่”
นี่เป็นเพราะแทบจะไม่มีกรณีใดที่เอียนซึ่งออกไปทำเควสต์ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรปีศาจก่อนคนอื่นจะมาปรากฏตัวที่เมืองไพโรหลังจากนั้น
“โห เอียนส่งอะไรมาให้เธอน่ะ? ไม่สิ ก่อนหน้านั้น เธอหมายความว่าอะไรที่เอียนส่งบางสิ่งมาให้เธออ่ะ?
เมื่อฟิโอลันพูด ฮารินยิ้มขณะที่เธอตอบกลับ
“ไม่มีอะไร เขาส่งผู้ติดตามมาน่ะ”
“อ่อ”
ฟิโลอันซึ่งพยักหน้าราวกับว่าเธอเข้าใจในที่สุดก็ส่ายหัวหลังจากนั้น
“ฉันอาจจะลืมว่าเอียนหน้าตายังไงแล้ว ถ้าเขาไม่ใช่สัญลักษณ์ของกิลด์เรา…”
ฮารินขำขณะที่ฟิโอลันบ่น
“ฉันเห็นหน้าเขาทุกวัน ดังนั้นฉันไม่มีทางลืมหรอก…”
ฮารินดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขณะที่แก้มทั้งสองของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยและในขณะที่มองเธอ ใบหน้าของฟิโอลันก็ซุกซนเล็กน้อย
“ฉันไม่อิจฉาหรอกนะ!”
“แหะๆ ฉันไม่ได้จะโชว์จริงๆนะ”
ฟิโอลันถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ สิ่งนี้ทำให้ฉันเศร้าจนถึงจุดที่ฉันคิดว่าฉันควรหาผู้ชายที่ไหนสักแห่งแล้วเริ่มออกเดทได้แล้ว…”
ฮารินหัวเราะขณะที่เธอตอบกลับ
“ในบรรดาสมาชิกกิลด์ของเรา ไม่มีคนดีที่เธอพอใจจนถึงมาตรฐานของเธอเลยหรอ ฟิโอลัน? “
เมื่อเธอพูด เสียงถอนหายใจออกมาจากปากของฟิโอลันอีกครั้ง
“เฮ้อ… ฉันไม่รู้อ่ะ อาจจะมีล่ะมั้ง”
ฟิโอลันที่บ่นไประยะหนึ่งหันมามองมือของฮารินในคราวนี้
เป็นเพราะฮารินกำลังหยิบบางสิ่งออกจากคลังของเธอ
“จะว่าไปแล้ว อะไรคือสิ่งที่เอียนส่งมาล่ะ?”
“รอแปป!”
และฟิโอลันซึ่งเห็นหีบห่อขนาดยักษ์ที่โผล่ออกมาจากคลังของฮารินกระพริบตาขณะที่เธอพูด
“นี่มันคืออะไรกัน?”
ฮารินแสดงท่าทางเขินอายขณะที่เธอตอบกลับ
“ฉันก็ไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร แต่เขาบอกว่ามันเป็นหินเวทย์มนตร์ บางอย่างที่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม… เขาบอกว่าเขาเสริมความแข็งแกร่งทุกอย่างจนถึงระดับที่ 5 แล้ว ดังนั้นเขาจึงส่งที่เหลือเพื่อให้กับสมาชิกของกิลด์ แต่ฉันไม่รู้วิธีใช้พวกมัน ดังนั้นฉันจึงเอาพวกมันมาถามเธอนี่แหละ “
“…!”
เมื่อฮารินพูด อาการของฮารินซึ่งซึมเศร้าจนถึงตอนนี้สดใสขึ้นทันที
“พะ พวกมันคือหินเวทย์มนตร์งั้นหรอ!?”
“ใช่ เขาบอกว่าพวกมันคือหินเวทย์มนตร์ แต่ว่า… ดูนี่สิ…”
ฮารินที่หยิบหินสีแดงเข้มหนึ่งอันที่อยู่ในหีบห่อออกมาตรวจสอบข้อมูลของไอเทมก่อนที่เธอจะพยักหน้า
“หินเวทย์มนตร์ มันเขียนไว้ว่า ‘หินเวทย์มนตร์ระดับต่ำสุด’”
ฟิโอลันซึ่งยืนขึ้นจากจุดที่เธออยู่และไปนั่งข้างฮาริน หลังจากที่เธอตรวจสอบข้อมูลของหินเวทย์มนตร์
“ว้าว! เอียนสุดยอดไปเลย!”
ฮารินพยักหน้าขณะที่เธอเห็นด้วย
“ฉันไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไร แต่ว่าแฟนฉันนั้นสุดยอดที่สุดเลย…!”
ฟิโอลันใส่ใจเล็กน้อยกับคำว่า ‘แฟน’ แต่เมื่อเธออารมณ์ดี เธอจึงตัดสินใจที่จะมองข้าม
“จะว่าไปแล้ว ฮาริน ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เข้าไปอ่านในชุมชนเลยงั้นหรอ? เธอไม่รู้จักหินเวทย์มนตร์ได้ยังไงกันเนี่ย?”
หินเวทย์มนตร์ทั้งหมดที่เอียนส่งให้ฮารินนั้นเป็นหินเวทย์มนตร์ที่มีระดับต่ำที่สุด แต่ในปัจจุบันหินเวทย์มนตร์เป็นไอเทมราคาแพงจนถึงจุดที่ราคาตลาดสำหรับพวกเขานั้นขึ้นอยู่กับผู้ขาย
เนื่องจากอุปทานยังขาดอยู่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับความต้องการ
แม้แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เข้าสู่อาณาจักรปีศาจก็ไม่สามารถทำให้ไอเทมทั้งหมดของพวกเขาถึงระดับที่ 5 ได้
ฟิโอลันรู้สึกตื่นเต้นมากที่เธออธิบายหินเวทย์มนตร์ให้กับฮารินและทั้งสองนั่งอยู่ในห้องทำงานของลอร์ดและเริ่มเสริมความแข็งแกร่งไอเทมของพวกเขาทีละชิ้น
* * *
‘การทดสอบของปีศาจ’ นั้นง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ
เช่นเดียวกับที่เอียนคาดไว้ มันทดสอบ ‘พลังการต่อสู้’ ของผู้เล่นที่ดูดซับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ
ในแง่หนึ่งมันเป็นความรู้สึกที่คล้ายกับการทดสอบของนักรบเซลามัส
อย่างไรก็ตามมันไม่เหมือนกันทั้งหมด
ความจริงที่ว่าเขาต้องการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ปรากฏตัวที่ละหนึ่งคนเหมือนกัน แต่แตกต่างจากการทดสอบของนักรบเซลามัสซึ่งเขาต้องการต่อสู้ด้วยสกิลทั้งหมดที่ถูกผนึกไว้ ในการทดสอบของปีศาจเขาสามารถใช้สกิลและสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเขา
นอกจากนี้ฝ่ายตรงข้ามที่ปรากฏในการทดสอบของปีศาจยังเป็นปีศาจที่อยู่ในเลเวลเดียวกัน
พวกมันเลเวลเหมือนกับเอียนอยู่ที่เลเวล 188
Bang- Ba-bang-!
กริ๊ง-
ท่านประสบความสำเร็จในการเอาชนะปีศาจลำดับที่ 17
ท่านได้รับเวลาพัก 5 นาที
หากว่าท่านต้องการสู้ต่อ แม้ว่าเวลาพัก 5 นาทียังไม่หมดไป ท่านสามารถดำเนินการต่อสู้ได้ทันที
เอียนตรวจสอบพลังชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาเล็กน้อยรวมถึงพลังชีวิตที่เหลืออยู่ของสัตว์เลี้ยงของเขา
‘พวกเขาจะเริ่มเพิ่มความแข็งแรงหรือยัง? คู่ต่อสู้ที่อยู่ในเลเวลเดียวกับฉันปรากฏตัวตลอดเวลา แต่ระดับความยากเพิ่มขึ้นทีละน้อยอย่างแน่นอน’
เอียนที่สูดหายใจเข้าลึกๆก็เข้าสู่การต่อสู้ครั้งต่อไปทันที
พลังชีวิตของเอียนและสัตว์เลี้ยงของเขาละลงกว่าครึ่ง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ
ตั้งแต่วินาทีที่ฝ่ายตรงข้ามปรากฏตัวขึ้นใหม่พลังชีวิตของเอียนและสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเขาจะเต็มอีกครั้งและเวลาคูลดาวน์ของสกิลทั้งหมดถูกรีเซ็ต
“ฉันจะดำเนินการต่อสู้ต่อ”
ปีศาจลำดับที่ 18 จะปรากฏตัวออกมา
Whoong-
พร้อมกับเสียงกังวาน ปีศาจก็ปรากฏขึ้นในขณะที่แยกพื้นต่อหน้าของเอียน
เอียนรีบตรวจสอบข้อมูลของปีศาจที่ปรากฏตัวออกมาและดวงตาของเขาเปล่งประกาย
‘ในที่สุด… ก็ปีศาจระดับสูงแล้วสินะ?’
ด้วยความกังวลยิ่งขึ้นเล็กน้อย เอียนเสริมความแข็งแกร่งในมือที่เขาถือหอกไว้
‘ฉันไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่อย่างน้อยฉันต้องเจอระดับขุนนาง’
ในขณะที่เอียนปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ปีศาจที่ปรากฏตัวก็ส่งเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวออกมา
Keuaaooh-!
และโดยไม่จำเป็นต้องบอกว่าใครเป็นคนแรกที่เริ่มก่อน ปีศาจและเอียนก็พุ่งเข้าหากันในเวลาเดียวกัน
ตอนที่ 218
หากเลเวลของพวกเขาเท่ากัน ผลลัพธ์ของการต่อสู้จะถูกตัดสินโดยความแตกต่างของความสามารถของพวกเขางั้นหรอ?
สรุปได้ว่า ไม่ใช่อย่างนั้น
นี่เป็นเพราะโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ไม่ใช่ผู้เล่น แต่เป็นมอนสเตอร์หรือแม้แต่ NPC ค่าสถานะของพวกมันไม่ได้มีสัดส่วนโดยตรงกับเลเวลของพวกมัน
ยกตัวอย่างเช่น สัตว์เลี้ยงที่เอียนเลี้ยงขึ้นมา
สมมติว่ามีสัตว์เลี้ยงสองตัวที่อยู่ในเลเวลเดียวกัน 100
เมื่อหนึ่งในสัตว์เลี้ยงเป็นหมาป่าเลือดแดง ระดับ Rare และอีกตัวหนึ่งคือราชาเฟนเรียร์ ระดับ Legenday แม้ว่าจะมีการประเมินอย่างคร่าวๆก็จะมีความแตกต่างในค่าสถานะมากกว่าสองเท่า
และนั่นเหมือนกับปีศาจเช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในเลเวลเดียวกัน แต่ระดับของปีศาจยิ่งสูง ค่าสถานะยิ่งพิเศษ
ปีศาจที่ปรากฏตัวเป็นคู่ต่อสู้ของเอียนก็มีเลเวล 188 เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม มันไม่เป็นอย่างนั้นสำหรับค่าสถานะของพวกเขา
ในกรณีของปีศาจ เนื่องจากความแตกต่างในค่าสถานะของพวกเขายิ่งสูงกว่าระดับของพวกเขา มีความแตกต่างทางค่าสถานะระหว่างปีศาจระดับต่ำและปีศาจระดับสูงที่ใกล้เคียงสามเท่า
อย่างที่เป็นในกรณีนี้ ปีศาจระดับต่ำที่เอียนพบเมื่อเขาเริ่มการทดสอบปีศาจเป็นครั้งแรกเป็นคู่ต่อสู้ที่ง่ายจนถึงจุดที่แม้แต่เอียนก็ตกตะลึง
เนื่องจากถึงจุดที่ลำดับที่ 5 ปรากฏตัว เขาสามารถเอาชนะได้ภายใน 10 วินาที
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะอยู่ในกลุ่มปีศาจระดับต่ำ แต่ตัวที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มปรากฏตัวและเริ่มจากตอนที่ปีศาจธรรมดาปรากฏตัว เอียนก็ไม่สามารถผ่อนคลายได้อีกต่อไป
และในตอนนี้ เขาเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูง
เอียนใช้ความสามารถทั้งหมดที่เขามี
‘ความจริงที่ว่าค่าสถานะของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่ระดับของ AI ก็เพิ่มระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน’
AI ของมอนสเตอร์หรือ NPC ในเกม VR นั้นพิจารณาได้ว่าเป็น ‘ความสามารถในการควบคุม’ ของผู้เล่น
พูดง่ายๆก็คือมันหมายถึงค่าสถานะของฝ่ายตรงข้ามและความสามารถในการควบคุมดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาสู้ต่อไป
“บักค์ เสียงคำรามแห่งเต่ามังกร!”
ก่อนการโจมตีของปีศาจฝ่ายตรงข้ามจะเข้าไปที่หลังของไล เขาเรียกใช้สกิลของบักค์
เสียงคำรามแห่งเต่ามังกรเป็นสกิล CC ที่ยั่วยุตรงข้ามชั่วคราวและชะลอการเคลื่อนไหวลง 40%
ด้วยเหตุนี้การเคลื่อนไหวของปีศาจจึงชะงักในทันทีและไลผู้ที่ฉวยโอกาสนั้นและกระโดดขึ้นไปบนอากาศ ฟันกรงเล็บยาวที่เท้าของเขาเข้าไปในช่องท้องส่วนล่างของปีศาจ
Shooove-!
Keu-eoook!
คาร์เซอุสพุ่งเข้าหาปีศาจที่ล้มลงไปพร้อมกับเปล่งเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวออกมา
Keu-rwa-rwa-rwa-rwa-!
คาร์เซอุสเปิดปากของเขาอย่างกว้างในขณะที่เขาฉีกผ่านไหล่ของปีศาจอย่างน่ากลัว
สัตว์เลี้ยง ‘คาร์เซอุส’ ได้สร้างความเสียหายคริติคอลให้แก่ ‘วิญญาณของปีศาจระดับสูง’
พลังชีวิตของ ‘วิญญาณของปีศาจระดับสูง’ ลดลง 39,877 หน่วย
การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาของเอียนได้โจมตีวิญญาณของปีศาจที่อยู่ในสถานะไร้การป้องกัน
Kwa-reu-reung-!
‘สายฟ้าแห่งการพิพากษา’ พลังแฝงของ ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ถูกเรียกใช้
จุดที่เอียนปักลงไปในฐานะจุดศูนย์กลางของหอก สายฟ้าหลายลูกก็พุ่งลงมาอย่างต่อเนื่องในทุกทิศทาง
Boom- Boo-boom-!
พลังชีวิตของ ‘วิญญาณของปีศาจระดับสูง’ ลดลง 9,870 หน่วย
พลังชีวิตของ ‘วิญญาณของปีศาจระดับสูง’ ลดลง 14,210 หน่วย
ในท้ายที่สุด ร่างกายของปีศาจเริ่มกลายเป็นทีเทา
กริ๊ง-
ท่านประสบความสําเร็จในการเอาชนะปีศาจลำดับที่ 25
เอียนหายใจเข้า
“เฮ้อ เฮ้อ-”
ในขณะที่มองไปที่ศพของปีศาจที่จางหายไปหลังจากกลายเป็นแสงสีเทา เขาก็คิดกับตัวเอง
‘ฉันคิดว่าฉันถึงขีดจำกัดแล้ว เนื่องจากฉันเสียพินไปในการต่อสู้ด้วย’
แน่นอนว่าแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่เข้าสู่สภาวะที่ไม่สามารถต่อสู้ได้ก็ฟื้นขึ้นมาเมื่อปีศาจตัวต่อไปปรากฏตัว
อย่างไรก็ตาม เอียนก็มั่นใจว่าหากปีศาจระดับขุนนางปรากฏตัวเป็นคู่ต่อสู้ของเขา เขาจะไม่สามารถชนะได้
‘หากผลของบัฟได้รับการเก็บไว้เมื่อฉันย้ายไปยังเฟสถัดไป ฉันจะสามารถทำอะไรบางอย่างกับการทับซ้อนของบัฟได้ แต่…’
เอียนซึ่งคิดอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลได้แสยะยิ้ม
เนื่องจากเวลาคูลดาวน์ของสกิลของเขาถูกรีเซ็ตและสัตว์เลี้ยงของเขาได้รับการฟื้นฟูเมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง เขาจึงสามารถใช้สกิล ‘บูชายัญ’ ได้ทุกครั้ง
อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่เป็นการรีเซ็ตเวลาคูลดาวน์เท่านั้น แต่เนื่องจากช่วงเวลาของผลของบัฟนั้นถูกรีเซ็ตด้วยเช่นกัน เขาจึงไม่สามารถซ้อนทับผลของบัฟได้
‘อย่างไรก็ตาม ฉันต้องไปให้ไกลเท่าที่ฉันทำได้’
ความจริงที่ว่าเขามาไกลขนาดนี้อาจต้องขอบคุณผลของสกิลบูชายัญ
เอียนอยู่ในตำแหน่งและรอคู่ต่อสู้ถัดไป
“ฉันจะดำเนินการต่อสู้ต่อ”
อย่างไรก็ตามข้อความระบบที่โผล่ขึ้นมาหลังจากการตอบสนองของเขาเป็นข้อความที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เอียนคาดการณ์ไว้
ท่านผ่านการทดสอบของปีศาจโดยสมบูรณ์
‘ห้องสอบ’ ถูกปิดตัวลง
ท่านได้ถูกย้ายไป ‘โซน 100 ของอาณาจักรปีศาจ’
‘ห้ะะะ…?’
ในเวลาเดียวกันกับที่ข้อความปรากฏขึ้น วิสัยทัศน์ของเอียนก็เปลี่ยนเป็นสีดำอีกครั้ง
เอียนรู้สึกแปลกๆ
‘อะไรวะเนี่ย? เป็นไปไม่ได้หรอที่จะได้ระดับขุนนางหรือสูงกว่าในครั้งเดียวผ่านเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ?’
ความรู้สึกพึงพอใจในการได้รับระดับของอาณาจักรปีศาจที่เป็นระดับที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจรวมถึงความรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถเผชิญหน้ากับปีศาจระดับขุนนางได้เกิดขึ้นภายในตัวเขา
‘ฉันผิดหวังเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยุติธรรม เนื่องจากที่ฉันเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายรู้สึกเหมือนถึงขีดจำกัดของฉันแล้ว’
พูดตามตรงเอียนจะไม่สามารถรู้ได้ว่าปีศาจระดับขุนนางหรือสูงกว่านั้นจะไม่ปรากฏในการทดสอบของปีศาจ
ขึ้นอยู่กับตามกรณี ความจริงที่ว่ามันเป็นไปได้ที่จะพบกับราชาปีศาจด้วยเลือดบริสุทธิ์แห่งปีศาจนั้นถูกต้อง
อย่างไรก็ตามด้วยเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจที่เอียนมีจึงเป็นไปไม่ได้
เนื่องจากเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจสร้างขึ้นด้วยเลือดของยันโคซึ่งเป็นปีศาจระดับสูงและเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจที่สร้างขึ้นด้วยเลือดของปีศาจระดับสูงไม่สามารถเรียกวิญญาณของปีศาจระดับสูงกว่าออกมาได้
พูดได้ว่าการจัดอันดับปีศาจระดับสูงที่เอียนได้รับในครั้งเดียวนั้นคือขีดจำกัดของระดับสูงสุดของอาณาจักรปีศาจที่ผู้เล่นจะได้รับก่อน
นี่เป็นเพราะไม่เพียงแต่จะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เล่นทั่วไปจะสามารถเอาชนะวิญญาณแห่งอาณาจักรปีศาจที่เป็นขุนนางหรือระดับราชาปีศาจได้ตั้งแต่ต้น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับเลือดของปีศาจที่มีระดับขุนนางหรือสูงกว่าทั้งหมด
เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจที่ผู้เล่นสามารถได้รับผ่านเส้นทางปกติเป็นสิ่งที่ทำด้วยเลือดของปีศาจธรรมดา
อย่างไรก็ตามวิสัยทัศน์ของเอียนซึ่งเป็นสีดำสว่างขึ้นทีละเล็กทีละน้อยและต่อหน้าของเอียน วิวของใจกลางเมืองแห่งความโกรธสว่างขึ้นมาอีกครั้ง
และต่อหน้าของเอียน ข้อความระบบใหม่เริ่มโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ
ท่านประสบความสําเร็จการทดสอบของปีศาจ
ระดับสุดท้าย : 25
ระดับแห่งอาณาจักรปีศาจของผู้เล่น ‘เอียน’ ถูกตั้งไว้เป็น ‘ปีศาจระดับสูง’
ท่านได้รับ ‘พลังงานปีศาจ’ 15,000 หน่วยเพิ่มเติมซึ่งเป็นค่าสถานะใหม่ของอาณาจักรปีศาจ
ท่านได้รับ ‘อัตราการเปิดใช้พลังงานปีศาจ’ 3% เพิ่มเติมซึ่งเป็นค่าสถานะใหม่ของอาณาจักรปีศาจ
ท่านประสบความสำเร็จในการกลายเป็น ‘ครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ’
ท่านเป็นคนแรกที่กลายเป็น ‘ครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ’
ท่านได้รับชื่อเสียง 500,000 หน่วย
ท่านได้รับอัตราการเปิดใช้พลังงานปีศาจเพิ่มขึ้น 2%
การต้านทานเวทย์มนตร์เพิ่มขึ้น 5%
“ฮ่า…!”
เสียงอุทานออกมาจากปากของเอียนก่อนที่เขาจะรู้ตัว
เขาได้รับระดับ ‘ปีศาจระดับสูง’ ซึ่งเขายังไม่เคยเห็นใครติดอันดับนอกเหนือจากยันโคทันที
เหนือสิ่งอื่นใดอย่างที่คาดไว้มันเป็นรางวัลแรกของผู้ประสบความสำเร็จที่ไม่สิ้นสุด
‘แต่ยันโคพูดว่าเขามีพลังงานปีศาจเกือบ 50,000 หน่วย… แต่ทำไมฉันให้แค่ 15,000 หน่วยเท่านั้นล่ะ’
เอียนคงไม่สามารถรู้ได้ แต่ค่า 15,000 เป็นพลังงานปีศาจน้อยที่สุดที่เขาต้องการเพื่อให้ปีศาจธรรมดาได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นปีศาจระดับสูง
“เอาล่ะ”
เอียนซึ่งยืนขึ้นจากจุดที่เขาอยู่ได้เดินอีกครั้ง
‘ตอนนี้ หลังจากฉันไปเจอเซราฟิม ฉันต้องไปหาเซอร์เวี่ยนและรับอาชีพลับสินะ?’
เอียนจัดการแผนในอนาคตของเขาขณะที่ตรงไปหาเฮสก้าซึ่งปกป้องทางเข้าของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
อย่างไรก็ตามจากมุมมองของเอียนซึ่งกำลังเดินอยู่ภาพติดตาสีแดงยังคงอยู่และกระจายออกไปอย่างเวียนศีรษะ
นั่นเป็นเช่นเดียวกับเครื่องหมายบางประเภทที่ปรากฏเพียงครั้งเดียวที่ได้รับระดับแห่งอาณาจักรปีศาจที่เป็น ‘ปีศาจระดับสูง’ หรือสูงกว่า
“ไม่มีเวลาที่จะมาพัก ไม่มีเวลาแล้ว!”
และต่อหน้าของผู้เล่นทั้งหมดที่เข้าสู่ระบบในอาณาจักรปีศาจข้อความโลกอันเดียวโผล่ขึ้นมา
กริ๊ง-
ผู้เล่น ‘เอียน’ เป็นคนแรกที่ประสบความสําเร็จในการกลายเป็น ‘ครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ’
* * *
เฮสก้าแสดงความสุภาพต่อเอียนในระดับที่สูงขึ้นซึ่งได้พบกับยันโคและกลับมา
แม้ว่าจะไม่ใช่เพราะตราประทับที่เขาได้รับจากยันโค แต่เพราะเอียนมีศักดินาเป็นปีศาจระดับสูง
เอียนพูดอย่างไม่เป็นทางการกับเฮสก้าอย่างสะดวกสบาย
“นายกำลังบอกว่าถ้าฉันขึ้นไปทางเหนือจากประตูตะวันออกอีกหน่อยคฤหาสน์ของเซราฟิมก็อยู่ที่นั่นใช่มั้ย?”
เฮสก้าพยักหน้า
“ใช่ครับ ท่านเอียน เนื่องจากเป็นคฤหาสน์ที่ดูน่าสนใจและมีหลังคาแหลม ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะพบครับ”
“โอเค เข้าใจแล้ว ถ้างั้นไว้เจอกัน”
“ครับท่าน”
เอียนซึ่งหันหลังกลับและกำลังจะกลับไปที่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว ดูเหมือนจะจำบางสิ่งได้เมื่อเขาหันหน้าไปหาเฮสก้าอีกครั้ง
“อ่อใช่ เฮสก้า”
“ครับ”
“ผู้ติดตามของฉัน… ฉันยังไม่สามารถพาพวกเขาเข้ามาข้างในได้ใช่ไหม?”
เฮสก้าพยักหน้า
“นั่น… ผมคิดว่ามันค่อนข้างยุ่งยากน่ะครับ ท่านเอียน”
เอียนเดาะลิ้น
“จิ๊ ช่วยไม่ได้”
“ขออภัยครับ”
และมีอย่างอื่นที่เอียนจำได้
“เฮสก้า นายรู้จักบางสิ่งที่เป็นไอเทมที่เรียกว่าสัญญาทาสไหม?”
เมื่อเอียนพูด ท่าทางของเฮสก้าเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเล็กน้อย
“สัญญาทาสหรอครับ?”
เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ใช่ ฉันได้มันมา แต่ไม่รู้ว่ามันใช้เพื่ออะไร บางทีอาจจะแค่ไปที่ตลาดค้าทาสในใจกลางเมืองและใช้มันงั้นหรอ?”
เฮสก้าตอบกลับ
“สัญญาทาสเป็นสิทธิพิเศษของปีศาจระดับสูงที่เป็นไปได้สำหรับการใช้งานเฉพาะในกรณีที่ท่านมีระดับแห่งอาณาจักรปีศาจของปีศาจระดับสูงหรือสูงกว่าและสัญญาทาสนั้นเป็นไอเทมที่หายากที่อนุญาตให้ใช้สิทธิ์ใดๆกับทาสได้ครั้งเดียว”
เอียนพยักหน้า
“ฉันรู้ แต่ฉันไม่รู้ว่าควรใช้ที่ไหนและอย่างไร ฉันมองไปรอบๆในตลาดทาสในขณะที่ผ่านมันไปก่อนหน้านี้ แต่ฉันไม่รู้จริงๆ”
เฮสก้าพูดต่อ
“อืมมม… เพราะว่าผมเป็นปีศาจระดับธรรมดา ผมไม่รู้จริงๆเพราะผมยังไม่เคยจ้างทาสมาก่อน อย่างไรก็ตาม ในความคิดของผม ผมไม่คิดว่ามันเป็นไอเทมที่ท่านปีศาจระดับสูงต้องการมาก หากท่านขายมันในโรงประมูล ท่านจะสามารถขายได้ในราคาที่สูงอย่างมาก ดังนั้นผมคิดว่าท่ารควรพิจารณาในการขายมันด้วย…”
อย่างไรก็ตาม เอียนยังไม่มีความตั้งใจที่จะขายสัญญาทาสออกไป
‘แม้ว่าฉันจะขายมันในราคาที่สูง แต่ราคานั้นจะสูงแค่ไหนกัน? สำหรับเงิน แม้จะมีเพียงออกมาจากเมืองและกิลด์ มันก็มากเกินไปแล้ว… ‘
มันเป็นงบดุลที่แสดงให้เห็นถึงสถานะที่ผ่อนคลายของลอร์ดชนชั้นกลาง
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว ขอบใจนะเฮสก้า”
เฮสก้ายิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“ไม่มีปัญหาครับ หากว่าท่านต้องการให้ผมช่วย เพียงแค่มาหาผม โอ้ และ… หากว่าท่านสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสัญญาทาส มันอาจจะดีที่จะไปถามเซราฟิมขณะที่ท่านไปพบกับเขา เนื่องจากเซราฟิมซึ่งเป็นระดับขุนนางมาเป็นหนึ่งร้อยปี เขาอาจจะมีทาสอย่างน้อยเป็นโหลเลยล่ะครับ”
ตอนที่ 219
กระดานข่าวของชุมชนอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรปีศาจกำลังอยู่ในความบ้าคลั่ง
กระดานข่าวนั้นเดิมมีชีวิตชีวาโดยการสร้างโพสต์ใหม่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้โพสต์นั้นถูกอัปโหลดไปยังจุดที่ทำให้นึกถึงห้องแชทแบบเรียลไทม์
และแน่นอนว่าแหล่งที่มาสำหรับเรื่องนั้นก็มาจากข้อความโลกที่เอียนอัพโหลด
ผู้เล่น ‘เอียน’ เป็นคนแรกที่ประสบความสําเร็จในการกลายเป็น ‘ครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ’
ข้อความนี้ทำให้ผู้เล่นต่างหาเอียนกัน
ไม่มีใครสักคนเห็นเอียนสักครั้งในอาณาจักรปีศาจเลยงั้นหรอ?
นายถามทำไมเนี่ย? อย่างน้อยนายต้องถามถึงวิธีการกลายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจไม่ใช่หรอ?
นั่นสิ
โห พวกนายยังไม่รู้อีกหรอ?
ห้ะ? ถ้างั้นนายรู้งั้นหรอ?
แน่นอนสิ
นายทำมันได้ยังไงอ่ะ? บอกฉันหน่อยสิ
มันเขียนไว้ในหน้าการโจมตีของโฮมเพจไคลันอย่างเป็นทางการว่าคุณสามารถกลายเป็นครึ่งปีศาจได้หากคุณได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ… แต่ยังไม่มีใครอ่านเลยงั้นหรอ?
เฮ้อ… ใครจะไม่รู้เรื่องนั้นล่ะ? ความจริงว่าเราต้องการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่เราสามารถได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจตั้งหาก
อ่อ…
ความจริงแล้วข้อมูล ‘เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ’ เป็นไอเทมที่จำเป็นสำหรับการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจได้ถูกเผยแพร่ผ่านทางโน้ตของนักพัฒนาแล้วในหน้าแรกของโฮมเพจ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางของการได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจปรากฏออกมา
พวกนายไม่ซื่อเกินไปหรอ? หากนายเป็นเอียน นายคิดว่านายจะเปิดเผยข้อมูลกับผู้เล่นคนอื่นฟังงั้นหรอ? ถ้าเป็นฉัน ฉันคิดว่าฉันจะปิดกั้นข้อมูลจากผู้เล่นคนอื่นด้วยทุกวิธีที่เป็นไปได้และเพียงแค่ลิ้มรสมันให้ได้มากที่สุด
เฮ้อ มันเป็นเพราะเราต้องการได้คำใบ้แม้แต่นิดเดียว เราไม่คาดหวังวิธีการ
แต่ว่านะ คนข้างบน ฉันไปล่าในโซน 112-115 มาหลายวันแล้ว โซนที่ฉันอยู่ในตอนนี้คือโซนที่ลึกที่สุดที่ถูกทำลายไปในขณะนี้ แต่ไม่มีแม่แต่คนเดียวที่บอกว่าพวกเขาได้เห็นเอียน
อืมม… จากความจริงที่ว่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของโซน 110 ยังคงอยู่ นั่นหมายความว่าไม่มีใครที่จะไปได้ไกลกว่าโซน 110 แต่แล้วเอียนจะอยู่ที่ไหนกัน?
เมื่อข้อความที่เอียนเป็นคนแรกที่เข้าสู่อาณาจักรปีศาจโผล่ขึ้นมาหรือแม้กระทั่งเมื่อข้อความที่ผู้เล่นคนอื่นเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งให้อุปกรณ์ของพวกเขาในระดับดีเยี่ยม กระดานข่าวก็ไม่ได้ลุกโชนเท่านี้
บางคนก็อิจฉาเอียนด้วยเช่นกัน แต่นั่นเป็นเป้าหมายที่ผู้เล่นคนอื่นสามารถบรรลุได้เมื่อเวลาผ่านไปและในกรณีนี้ มันก็จบลงด้วยแค่ความอิจฉา
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป
การเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีเพื่อได้รับอาชีพคู่ซึ่งเป็นแก่นแท้ของเนื้อหาของอาณาจักรปีศาจ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลใดๆในชุมชน
เมื่อมาถึงจุดนี้ซึ่งผ่านมาได้หนึ่งเดือนนับตั้งแต่อาณาจักรปีศาจเปิดตัว ช่วยไม่ได้ที่ผู้เล่นทั่วไปจะรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องนี้เพราะไม่ได้จับแม้แต่เบาะแสที่จะกลายเป็นอาชีพคู่
อย่างไรก็ตามจาก มันไม่ใช่ว่าจะมีใครบางคนพบเบาะแส แต่ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจเริ่มปรากฏตัวขึ้นมา
และคนที่ประหลาดใจคือผู้เล่นที่อยู่ในการจัดอันดับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นอันดับต้นๆที่อยู่ใน 100 อันดับแรกของการจัดอันดับจากจุดเริ่มต้นของไคลัน ช่วยไม่ได้ที่จะรังเกียจเอียนอย่างมาก
ในสายตาของพวกเขา เอียนเป็นผู้เล่นที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าผู้มาที่หลังซึ่งมีเลเวลต่ำกว่าพวกเขา
นี่เป็นเพราะเลเวลของเอียนไม่ได้ถูกเปิดเผยในรายชื่อการจัดอันดับสักครั้ง
เจ้าเอียน ฉันคิดว่าเขาโชคดีมากๆเลย
ถูกต้อง ไม่ว่าเขาจะบินหรือคลานสักเท่าไหร่ จากมุมมองของอาชีพใหม่และซัมมอนเนอร์ซึ่งมีความเร็วในการเพิ่มเลเวลยิ่งกว่านรกเช่นนั้น ไม่ว่าเราจะพิจารณาเลเวลของเขาสูงแค่ไหน เราก็คิดว่าเขาคงอยู่แค่เลเวล 160 อย่างน้อยเขาต้องใช้สูตรโกงบางอย่างเพราะเขาครอบครองเนื้อหาใหม่อย่างต่อเนื่องราวกับเดอะแฟลชเลย
ใช่ ใช่ ต้องมีอะไรบางอย่างแน่ แน่นอนว่าเขาโชคดีอย่างมากหรือเขาติดสินบนกับ LB Corps.
แต่ฉันอยากรู้ว่าเอียนผ่านอาณาจักรปีศาจได้ยังไง แม้แต่ผู้เล่นในการจัดอันดับที่ค่อนข้างมีชื่อในบรรดาอาชีพใหม่ก็ตายโดยไม่สามารถผ่านโซน 120 เมื่อพวกเขาเข้ามาสู่อาณาจักรปีศาจ…
อ่อ นั่นน่ะ… เมื่อดูการออกอากาศครั้งสุดท้าย หนึ่งในผู้ติดตามของเขานั้นเลเวลสูงอย่างมาก ดูเหมือนว่าเขาจะโชคดีได้ผู้ติดตามเลเวลสูงและไปรอบๆอาณาจักรปีศาจ
เอ่อ เจ้าเอียน ถ้าเขามาลานประลองสักครั้งหนึ่ง ฉันจะขยี้เขาให้เละเลย
คนข้างบน คิคิ ฉันไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ระหว่างสงความทวีปกลางครั้งก่อน ฉันเห็นเอียนเผชิญหน้ากับอิลาฮันและชยาครานสักครู่หนึ่ง แต่ความสามารถในการต่อสู้นั้นพอที่จะทำให้นายฉี่ราดเลยล่ะ
ไม่หรอก ฉันได้ยินมาจากอิลาฮันเป็นการส่วนตัว อิลาฮันไม่ได้สู้ด้วยพลังการต่อสู้ทั้งหมดของเขา พูดตามตรงมันเป็นเรื่องจริง มันสมเหตุสมผลหรอที่อาชีพวอริเออร์เลเวลแตกต่างกันถึง 20-30 เลเวลกับซัมมอนเนอร์จะสู้ได้อย่างสูสีน่ะ?
นั่นก็จริง แต่ว่า…
เมื่อบทบาทของเอียนเพิ่มมากขึ้น ความอิจฉาริษยาของเขาก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
นอกเหนือจากผู้เล่นในการจัดอันดับสองสามคนที่ต่อสู้กับเอียนตัวต่อตัวโดยตรง ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่อยู่ในอันดับต้นๆเชื่อว่าข่าวลือเกี่ยวกับความสามารถของเอียนนั้นเกินจริงมาก
และความจริงที่ว่าเอียนตั้งใจปกปิดค่าสถานะของเขาก็มีส่วนร่วมเช่นกัน
ในตอนแรกเขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของเขาเพราะมันน่ารำคาญ แต่หลังจากที่เขาสร้างเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการสร้างประเทศใหม่ เขาก็ปกปิดความสามารถของเขาอย่างถี่ถ้วน
เอียนพิถีพิถันจนถึงจุดที่เขาตั้งใจลดค่าความสามารถของเขาและทำให้แน่ใจว่าแม้แต่กิลด์โลตัสก็จะแพร่กระจายข่าวลือไปตามนั้น
ต้องขอบคุณสิ่งนั้นทำให้ภาพที่ผู้เล่นในการจัดอันดับมองเอียนว่าเป็น ‘ผู้เล่นที่โชคดีและไม่เก่งมากสำหรับพวกเขา’
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้มีผู้เล่นคนหนึ่งที่เฝ้าดูเอียนอย่างสม่ำเสมอ
* * *
คำขอของผู้บัญชาการทั่วไปของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว ll (ลับ) (เชื่อม)
โลลอสผู้บัญชาการทั่วไปของเมืองแห่งความโกรธได้รับการมอบหมายงานที่สำคัญจากผู้เฒ่าแห่งอาณาจักรปีศาจ
รับลูกน้องสองคนของโลลอสและกวาดล้างถ้ำแห่งความมืดที่อยู่รอบนอกของโซน 100 ของอาณาจักรปีศาจก่อนจะกลับมา
ระดับความยากเควสต์ : SS
เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในเควสต์ ‘คำขอของผู้บัญชาการทั่วไปของเมืองแห่งความโกรธ l (ลับ) (เชื่อม)
เวลาจำกัด : ไม่มี
รางวัล : เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ หินเวทย์มนตร์ระดับกลาง x5
*นี่เป็นเควสต์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
หญิงสาวสวยสวมเสื้อคลุมสีแดง
ราชาแห่งเปลวเพลิงรีเมียร์อ่านหน้าต่างเควสต์ที่โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเธอขณะที่แสดงอาการต่างๆ
“เฮ้อ ในที่สุดฉันก็เจอมัน”
และขณะที่เธอพึมพัมด้วยเสียงเบาๆ ถัดจากเธอ วิญญาณปีศาจปรากฎตัวขึ้นและหัวเราะ
คิคิ ยินดีด้วยรีเมียร์ ตอนนี้เจ้าจะสามารถใช้ความสามารถของปีศาจได้ในไม่ช้า แน่นอนว่าไม่ว่าเจ้าจะทำเควสต์สำเร็จเร็วแค่ไหนก็ตาม เจ้าจะไม่ใช่คนแรก คิคิคิ
เมื่อคาซานดราพูด คิ้วที่น่ารักของรีเมียร์ชนเข้าด้วยกัน
“เงียบไปเลยคาซานดรา ฉันรู้อยู่แล้วหน่า”
หลังจากรีเมียร์ได้ผ่านโซน 110 เป็นพันธมิตรกับผู้เล่นในการจัดอันดับคนอื่น เธอก็เดินอย่างรวดเร็วและมาถึงเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวก่อนใคร
นี่เป็นเพราะเธอมั่นใจว่าเธอจะสามารถหาเบาะแสของเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวได้
‘และฉันก็พบมันแล้วตอนนี้’
เมื่อมาถึงจุดนี้ มันราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม มีปัญหาเกิดขึ้น 5 นาทีก่อนที่เธอจะได้รับเควสต์ เธออ่านข้อความโลกว่าเอียนได้กลายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ
รีเมียร์ที่ไปรอบๆในขณะที่เผาผลาญจิตวิญญาณการแข่งขันของเธอโดยไม่ย่อท้อ ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่หลังจากความพยายามทั้งหมด
‘เฮ้อ เจ้าคนที่ชื่อเอียน อย่างน้อยฉันต้องการเห็นเจ้านั่นสักครั้ง’
หากความคาดคิดของเธอถูกต้อง เธอมั่นใจว่าเอียนซึ่งประสบความสำเร็จในการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจในตอนนี้ก็จะอยู่ในสถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
‘ซามูเอลจินกับมาร์ตินคิดว่าความสามารถของเอียนนั้นไม่มากนัก แต่ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันคิดว่าชยาครานตัดสินเอียนอย่างแม่นยำที่สุด’
เพราะก่อนรีเมียร์เข้าร่วมกับอาณาจักรลัสเปลค่อนข้างสนิทกับชยาครานหรืออิลาฮันซึ่งเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรไคม่อน เธอรู้จักกับซามูเอลจินหรือมาร์ตินซึ่งเป็นผู้เล่นในการจัดอันดับของลัสเปล
นั่นคือเหตุผลที่เมื่อเธอได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับเอียนในตอนแรก เธอได้ยินมันผ่านพวกเขาและนั่นเป็นเหตุผลที่เธอกำลังจะเข้าสู่อาณาจักรปีศาจ
‘ฉันต้องแก้ไขการความคิดทั้งหมดที่ฉันสร้างมาจากเอียน’
รีเมียร์จับคฑาที่ส่องประกายเล็กน้อยขณะที่เธอเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อดำเนินเควสต์ต่อไป
‘บางทียิ่งกว่าราชวงศ์ของอาณาจักรลัสเปลที่จะล่มสลายหรือแม้แต่กิลด์ไททั่น บุคคลที่สามารถช่วยฉันได้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายของฉันอาจเป็นเอียน’
* * *
บุ๊กค์- บู๊-บุ๊กค์-!
ณ ดันเจี้ยนลึกข้างนอกเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
เต่าหัวโตบางตัวนั้นเดินเตร็ดเตร่ไปรอบๆ
– บุ๊กค์ บู๊-บุ๊กค์! มีอาหารมากมายที่เต็มไปด้วยพลังในอาณาจักรปีศาจบุ๊กค์! พวกมันไม่อร่อยเลย แต่พวกมันยังทำให้พึงพอใจได้บุ๊กค์
เต่าหัวโตบุ๊กค์นั้นเดินทางไม่จบไม่สิ้นในอาณาจักรปีศาจด้วยความตะกละของมัน
เจ้านายของมันที่อัญเชิญมันมาเป็นเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เงียบหายไป
ต้องของคุณสิ่งนั้น บุ๊กค์วิ่งไปรอบๆอาณาจักรปีศาจอย่างสบายใจ
– ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันคิดถึงเจ้านายของฉันนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม ฉันชอบอิสระมากกว่าในตอนนี้บุ๊กค์
มันไม่ได้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก แต่เมื่อไม่นานมานี้บุ๊กค์เริ่มรู้สึกถึงจุดที่เอียนอยู่
มันสามารถรู้ทิศทางที่เอียนกำลังมุ่งหน้าไปโดยอัตโนมัติ
มันคิดถึงมีตบอลเป็นครั้งคราว ดังนั้นมันจึงอยากไปหาเอียน แต่มันคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา
‘เมื่อเจ้านายอัญเชิญฉัน ฉันจะไปหาเขาบุ๊กค์ ฉันควรรอจนถึงตอนนั้นบุ๊กค์’
แม้ว่าเอียนจะไม่อัญเชิญมัน แต่มันก็มีความสามารถที่จะไปตามหาเขา แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็มั่นใจว่ามันจะเสียอิสรภาพ
บุ๊กค์เป็นเต่าที่ฉลาดล้ำ
– เอ่อ ถึงอย่างนั้นฉันก็อยากจะพูดภาษามนุษย์ได้อย่างบักค์
ความจริงที่ว่าเหตุผลที่บุ๊กค์ดื้อรั้นก็เพราะความรู้สึกของเขาที่ด้อยกว่าบักค์
นี่เป็นเพราะจากมุมมองของบุ๊กค์ บักค์เป็นเต่าชั้นยอดที่พูดอย่างเท่ห์และมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเท่ห์
– เจ้านายเฮงซวย! รีบอัญเชิญฉันสักทีสิบุ๊กค์ เมื่อฉันกินสมุนไพรจำนวนมากเมื่อเร็วๆนี้ หัวของฉันก็ใหญ่ขึ้นและเปลือกของฉันก็กระชับขึ้นเช่นกัน ฉันต้องการที่จะแสดงมันให้เห็นอย่างรวดเร็วบุ๊กค์!
บุ๊กค์เต่าที่ต้องการความรักเริ่มขยับเท้าของเขาเมื่อเขาพบสมุนไพรอาณาจักรปีศาจอันแสนอร่อย
บุ๊กค์- บุ๊กค์- บุ๊กค์-
มันสามารถพูดภาษาของมนุษย์ได้ แต่ถึงกระนั้นเมื่อใดก็ตามที่มันเดิน มันก็จะตามด้วยเสียงบุ๊กค์
ดูเหมือนว่าท่าทางต่างๆของบุ๊กค์นั้นสร้างความรำคาญให้กับอสูรเวทย์มนตร์ระดับกลางที่กำลังงีบหลับอยู่ที่มุมห้องใต้ดินในขณะที่มันจ้องมองที่บุ๊กค์
จ้อง-
วัวที่ดูแข็งแกร่ง
หลังจากรู้สึกถึงการจ้องมองของอสูรเวทย์มนตร์ขนาดยักษ์ซึ่งมีลักษณะภายนอกเหมือนมิโนทอร์ที่ปรากฏในตำนานโบราณ บุ๊กค์หันหัวของเขาไปรอบๆ
บุ๊กค์-!
บุ๊กค์ซึ่งสบตากับมิโนทอร์โกรธทันที
– ฉันค่อนข้างอารมณ์ไม่ดีตอนนี้บุ๊กค์! ถ้าแกมีปัญหาอะไรกับฉันก็เข้ามาเลยบุ๊กค์! ฉันจะลงโทษแกเองบุ๊กค์!
– Pu-reung- Pu-reu-reung-!
อย่างไรก็ตามอสูรเวทย์มนตร์ระดับกลางที่น่าประหลาดใจทำสงครามจิตวิทยากับบุ๊กค์ ในไม่ช้าก็ปล่อยหางลงหลังจากนั้นไม่นานและค่อยๆหันหัวกลับไป
และบุ๊กค์ที่เห็นอย่างนั้นเริ่มเดินไปพร้อมกับการแสดงออกอย่างมีชัยชนะอีกครั้ง
– เจ้านี่เมินฉันหรอบุ๊กค์ ฉันควรรวบรวมพลังมากขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเต่าที่เท่ห์อย่างบักค์เช่นกัน
บุ๊กค์คิดว่าอสูรเวทย์มนตร์นั้นเมินมันเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของมันดูอ่อนแอ
และโดยสัญชาตญาณ บุ๊กค์รู้สึกว่าถ้ามันรวบรวมความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง มันอาจกลายเป็นเหมือนบักค์
– บุ๊กค์! ฉันเจออีกอันแล้วบุ๊กค์!
บุ๊กค์ผู้พบสมุนไพรของอาณาจักรปีศาจที่กำลังเติบโตในมุมของดันเจี้ยนในช่วงเวลาสั้นๆรีบวิ่งไปและหลังจากขุดขึ้นมาโดยรอบ เขาเริ่มเคี้ยวสมุนไพร
บุ๊กค์- บุ๊กค์-
และหลังจากนั้นไม่นาน กระดองของบุ๊กค์เริ่มเปล่งแสงสีฟัาออกมา
Whoong-.
อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะรู้เรื่องนี้หรือไม่ บุ๊กค์ก็มุ่งความสนใจไปที่การขุดและกินสมุนไพร
ตอนที่ 220
อึก-
เอียนซึ่งได้พบคฤหาสน์ของเซราฟิมผ่านความช่วยเหลือของเฮสก้า กลืนน้ำลายทันทีที่เขาเข้าไปทางประตูหน้า
‘ว้าว… คฤหาสน์อะไรกันเนี่ย? มันดูเหมือนปราสาทของราชาปีศาจเลย’
ในจุดที่เอียนเข้ามาในคฤหาสน์ของเซราฟิมรู้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นคฤหาสน์ที่เขาอาศัยอยู่คนเดียว อาคารที่มีขนาดเกือบเท่ากับปราสาทของลอร์ดที่อยู่ในเมืองโลตัสของทวีปทางตอนเหนือ
เอียนถูกข่มขู่ด้วยความยิ่งใหญ่และเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง
‘ถ้าฉันเข้าไปข้างในตามเส้นทางนี้ ฉันจะได้พบกับเซราฟิมใช่ไหม?’
เส้นทางถูกวางตามสวนในลักษณะที่คดเคี้ยว
สิ่งที่น่าสนใจคือภายในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวซึ่งมืดสนิทและเต็มไปด้วยแสงสลัวสีแดงเข้ม มีสวนที่สวยที่ไม่เหมาะกับมันอยู่ด้วย
ทิวทัศน์นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน แต่สร้างบรรยากาศที่เหมือนฝัน
เอียนหันหน้าของเขาไปหาคาร์เซอุสเล็กน้อยซึ่งตามมาทางด้านหลังของเขา
“คาร์เซอุส รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ข้างในไหม?”
คาร์เซอุสที่หยุดเดินปิดตาของเขาและจดจ่ออยู่กับตัวเองในไม่ช้าเขาก็ส่ายหัวอย่างช้าๆ
“อืม ข้าไม่แน่ใจเจ้านาย ข้าคิดว่ามีสิ่งที่เหมือนกับตราประทับที่ทรงพลังอยู่เหนือสวนแห่งนี้”
ภายในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เอียนเพิ่งจะมาพร้อมกับคาร์เซอุสในร่างมนุษย์ของเขาเมื่อเขาเคลื่อนไหว
นี่เป็นเพราะสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆของเขาโดดเด่นเกินกว่าที่ควร
“อืมม… อะไรวะเนี่ย? ความลึกลับที่ไร้เหตุผลนี้นั้นทำให้น่ากลัวนิดหน่อย”
เอียนพูดพึมพำในขณะที่เขาเริ่มเดินอีกครั้งและคาร์เซอุสเริ่มตามหลังของเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามจากนั้น เสียงที่ต่ำและหยาบกร้านผ่านเข้ามาถึงหูของทั้งสองคน
มนุษย์และมังกรรึ… การรวมตัวที่น่าสนใจซึ่งหาชมได้ยาก โอ้ เจ้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นครึ่งปีศาจ มันเป็นครั้งแรกในระยะเวลาที่ยาวนานที่ข้าได้เห็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ ฮ่าๆ
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เอียนหันหน้าของเขาและเขาเริ่มมองหาเจ้าของเสียงและเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากข้าอยู่ในที่ที่เจ้าไม่สามารถมองเห็นได้
เอียนซึ่งแสดงรอยยิ้มเจื่อนๆได้เกาหัวของเขาขณะที่เขาพูดไปบนท้องฟ้า
“ท่านคือเซราฟิมงั้นหรอ?”
ถูกต้อง ข้าคือเซราฟิม ผู้บัญชาการทหารคนที่สองของปราสาทแห่งเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เจ้ามาหาข้างั้นรึ?
เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ครับ ผมมาหาท่านเซราฟิม”
เพื่ออะไรล่ะ?
เอียนเปิดหน้าต่างเควสต์ของเควสต์ที่เขาได้รับจากอิเรียลอีกครั้งและเขาพูด
“ผมมาที่นี่เพราะว่าอิเรียลส่งผมมา ผมต้องการพูดคุยเกี่ยวกับปีศาจร้ายที่เป็นภัย”
…!
เมื่อเอียนพูด ในสวนของคฤหาสน์ได้เงียบสงบสักครู่หนึ่ง
และเซราฟิมพูดต่ออีกครั้ง
เจ้าเป็นแขกคนสำคัญมากกว่าที่ข้าคาดไว้ ข้าไม่คิดว่านี่เป็นปัญหาที่เราสามารถคุยกันเช่นนี้ได้ ดังนั้นเราคุยกันข้างในเถอะ
เมื่อคำพูดของเซราฟิมจบลงและเอียนก็กำลังโต้กลับอะไรบางอย่าง ไฟสีแดงก็เริ่มเปล่งประกายในรูปวงกลมใต้ฝ่าเท้าของเอียนและคาร์เซอุส
“นี่คืออะไร?”
คาร์เซอุสตอบกลับ
“ข้าคิดว่ามันคือวงเวทย์มนตร์”
“วงเวทย์มนตร์สามารถวาดจากระยะไกลได้งั้นหรอ?”
“ข้าไม่รู้…”
และร่างของทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนนั้นได้ลอยอยู่บนอากาศก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากนั้นไม่นาน
* * *
“ฮ่าๆ คงไม่มีใครรู้ว่ามีหนทางอื่นในการได้รับอาชีพคู่นอกเหนือจากวิธีการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจใช่ไหม?”
เขตทางเหนือของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
ชายที่ยืนอยู่หน้าดันเจี้ยนที่มืดมิดซึ่งอยู่นอกประตูทางเหนือในโซน 100 ของอาณาจักรปีศาจ แสยะยิ้มในขณะที่เขาพึมพำ
“แน่นอน เอียน ฉันรู้ว่าโชคและทักษะของนายนั้นยอดเยี่ยมมาก อย่างไรก็ตามฉันจะแสดงให้นายเห็นว่ายังมีกำแพงที่นายไม่สามารถเอาชนะไปได้”
ชายคนนั้นนำผู้ติดตามหลายสิบคนเข้ามาในดันเจี้ยน
ที่เอวของเขามีดาบใหญ่ที่ให้แสงสีน้ำเงินเปล่งออกมาและไอเทมนั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของนักดาบเวทมนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไคลัน
เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ‘อิลาฮัน’ หัวหน้ากิลด์ของกิลด์ดาร์ครูน่า
“หัวหน้าครับ การเตรียมการได้เสร็จสมบูรณ์แล้วครับ”
“เยี่ยมมาก”
อิลาฮันเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆจนถึงจุดที่เขาสันนิษฐานว่าเดิมอยู่ใกล้อันดับที่ 1 มากที่สุดในการจัดอันดับที่รวมผู้เล่นที่ตั้งค่าไว้เป็นส่วนตัวเข้าด้วยกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสงครามของทั้งสองอาณาจักรในทวีปกลางสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของอาณาจักรไคม่อน อิทธิพลของกิลด์ดาร์ครูน่าซึ่งมีพลังของอาณาจักรไคม่อนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในบรรดาวิดีโอที่อัปโหลดในชุมชนเมื่อไม่นานมานี้ มีวิดีโอของอิลาฮันที่ฝ่าวิหารของโฮลดรีมซึ่งเป็นดันเจี้ยนที่ยากที่สุดของทวีปกลาง
ในตอนนั้น วิดีโอดังกล่าวเป็นประเด็นที่ร้อนแรงอย่างมากและเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็เพราะอิลาฮันฝ่าดันเจี้ยนโดยไม่ใช่ด้วยพลังของปาร์ตี้กิลด์ แต่เป็นพลังของเขาเพียงอย่างเดียว
ฉากของผู้เล่นที่เจาะเข้าไปในดันเจี้ยนได้อย่างง่ายดายด้วยผู้ติดตามที่ใช้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเท่านั้น ช่วยไม่ได้ที่จะสร้างความชื่นชมจากผู้เล่นจำนวนมาก
เนื่องจากในตอนแรกวิหารของโฮลดรีมเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสถานที่ที่มีความเป็นไปได้ที่จะโจมตีหากมีปาร์ตี้ผู้เล่น 20 คนเต็มที่มีเลเวลมากกว่า 160
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความมั่นใจของอิลาฮันจึงสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
อย่างไรก็ตามมีเพียงสิ่งเดียวที่รบกวนเขาและสิ่งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเอียน
นี่เป็นเพราะคนที่มีประสบการณ์รู้ถึงความสามารถในการต่อสู้ของเอียนอย่างถูกต้องระหว่างการบุกโจมตีป้อมปราการไพโรนั้นไม่ใช่คนอื่นนอกจากอิลาฮัน
‘ฉันช้ากว่าเอียนเล็กน้อยในการเข้าสู่อาณาจักรปีศาจ แต่เนื่องจากฉันมีเควสต์ลับ… ฮ่าๆ’
ถ้าอิลาฮันสำเร็จเควสต์ที่เขากำลังดำเนินการอยู่ในตอนนี้ เขาเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นคนที่ไม่มีใครเทียบได้
‘ฮ่าๆ ครึ่งปีศาจจะไม่สามารถเอาชนะปีศาจที่แท้จริงได้’
แสงสีแดงความชั่วร้ายส่องประกายผ่านดวงตาทั้งสองของอิลาฮัน
* * *
สถานที่ที่เอียนหายตัวไปกับวงเวทย์มนตร์สีแดงคือห้องทำงานของเซราฟิม
ห้องทำงานของเซราฟิมมีการตกแต่งด้วยชิ้นงานที่ประณีตซึ่งชวนให้นึกถึงรูปแบบแฟนซีของยุคบาโรกและโรโคโคของยุโรป
ชายร่างมหึมานั่งอยู่บนแท่นหินกลางห้องนั้นและมองลงไปที่เอียน
เขาคือเซราฟิม
“เอาล่ะ เด็กๆ เจ้ากำลังบอกว่าเจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับปีศาจร้ายจากอิเรียลใช่ไหม?”
เมื่อเซราฟิมพูด เอียนพยักหน้า
“ใช่ครับ อิเรียลบอกผมว่าปีศาจร้ายจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงบอกให้ผมมาขอความช่วยเหลือจากท่าน เซราฟิม”
“อืมม ความช่วยเหลือของข้างั้นรึ…”
“ผมไม่รู้แน่ชัด แต่เธอบอกว่าความโกรธในอาณาจักรปีศาจจำเป็นต้องถูกต้านไว้เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบระหว่างโลกมนุษย์และอาณาจักรปีศาจ”
เซราฟิมพยักหน้าอย่างช้าๆ
“ถูกต้อง อิเรียล เด็กคนนั้นน่าหลงใหลอย่างแท้จริง เธอรู้สถานการณ์ภายในของอาณาจักรปีศาจได้อย่างไรจากสถานที่นั้น…”
เซราฟิมหลับตาอย่างช้าๆ
เขาเป็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นนักรบที่มีรูปร่างที่หยาบและใหญ่ แต่ภายในรูม่านตาสีฟ้าใสของเขามีภาพของนักปราชญ์ที่เต็มไปด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด
“อย่างไรก็ตาม เจ้ามาเวลาที่เหมาะเจาะพอดีเลย”
“ยะ… อย่างงั้นหรอครับ?”
เอียนถามกลับอย่างระมัดระวังขณะที่เขารอคำพูดต่อไปของเซราฟิม
‘ถึงเวลาที่เควสต์จะปรากฏขึ้นแล้วหรือยัง?’
และตามที่เอียนทำนายไว้ หน้าต่างเควสต์ก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
กริ๊ง-
จุดเริ่มต้นของปีศาจ lll (ลับ) (เชื่อม)
‘เซราฟิม’ คือ ‘ครึ่งปีศาจ’ รวมถึงปีศาจที่อยู่ระดับขุนนาง
เพราะเขาเป็นคนที่เป็นต้นกำเนิดวีรบุรุษของมนุษย์ก่อนที่เขาจะกลายเป็นปีศาจ เขาไม่ต้องการให้สงครามเต็มรูปแบบระหว่างอาณาจักรปีศาจและโลกมนุษย์เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้เมื่อปีศาจร้ายมีบทบาทสำคัญ พลังส่วนหนึ่งของอาณาจักรปีศาจกำลังวางแผนโจมตีโลกมนุษย์และพวกเขาก็เริ่มล้างอำนาจที่อยู่ตรงกันข้ามกับแผนนั้นทีละคน
พวกเขายังไม่แพร่กระจายอสูรเวทย์มนตร์ของพวกเขาไปยังปีศาจที่อยู่ในระดับขุนนางหรือสูงกว่า แต่ปีศาจระดับสูงสองคนตกอยู่ในแผนการของปีศาจร้ายและเริ่มถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษหรือถูกลอบสังหาร
ก่อนที่พลังของปีศาจร้ายจะเติบโตขึ้น พลังของปีศาจธรรมดาจะต้องรวมตัวกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และพลังที่สามารถต่อต้านพวกมันจะต้องก่อตัวขึ้น
ไปที่ ‘ป้อมปราการของปีศาจ’ ที่อยู่ในโซน 80 ของอาณาจักรปีศาจและถ่ายทอดความจริงนี้ให้กับราชาปีศาจ ‘ริคาร์โด้’
ระดับความยากเควสต์ : SS
เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในการทำเควสต์ ‘จุดเริ่มต้นของปีศาจ ll (ลับ) (เชื่อม)
เวลาจำกัด : 30 วัน
รางวัล : ?
*นี่เป็นเควสต์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
เอียนซึ่งอ่านเนื้อหาเควสต์ทั้งหมดได้พยักหน้าอย่างช้าๆ
‘มันเป็นเควสต์การเดินทางที่เรียบง่ายที่ฉันต้องหา NPC ในครั้งนี้เช่นกัน แน่นอนว่าการผ่านเข้าสู่โซน 80 จะไม่ง่ายซะทีเดียว’
ยิ่งไปกว่านั้น มีเวลาจำกัด 30 วัน
เวลาจำกัดนั้นไม่สั้น ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอที่จะกดดันเอียน
เอียนถามเซราฟิม
“ผมต้องไปที่ปราสาทเพื่อไปพบกับราชาปีศาจริคาร์โด้หรอครับ? “
เมื่อเอียนถาม เซราฟิมพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ถูกต้อง เจ้าจะต้องส่งจดหมายที่ข้ามอบให้เจ้าไปให้ท่าน”
ในเวลาเดียวกันกับที่คำพูดของเซราฟิมจบลง คัมภีร์สีเหลืองปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน
ท่านได้รับไอเทม ‘จดหมายของเซราฟิม’
เซราฟิมพูดต่ออีกครั้ง
“เจ้าไม่สามารถไปสายได้ แต่เนื่องจากไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องตรงเวลามากนักจึงเป็นการดีที่สุดที่จะเคลื่อนไหวหลังจากการเตรียมตัวอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าด้วยความสามารถในปัจจุบันของเจ้า โซน 80 จะเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมากสำหรับเจ้า”
เป็นไปตามที่คาดไว้ปีศาจระดับขุนนาง เซราฟิมล่วงรู้ระดับของอาณาจักรปีศาจจากการมองเพียงครั้งเดียว
เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ครับ ความจริงที่ว่าผมวางแผนที่จะเคลื่อนไหวหลังจากได้รับอาชีพคู่แล้ว”
“แน่นอนว่านั่นก็เป็นความคิดที่ดี หากเจ้าเป็นครึ่งปีศาจที่มีระดับของปีศาจระดับสูง เจ้าจะสามารถได้รับอาชีพคู่ได้โดยไม่ยากเช่นกัน”
เซราฟิมชี้ไปที่หอคอยที่ตั้งอยู่ด้านนอกหน้าต่างขณะที่เขาพูดต่อ
“สิ่งปลูกสร้างนั่นนั่นคือหอคอยอาชีพ ถ้าเจ้าไปที่นั่น เจ้าควรจะได้รับอาชีพคู่ตามที่เจ้าต้องการ”
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
เอียนตอบกลับ แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะได้รับอาชีพคู่จากหอคอยอาชีพ
‘ฉันควรไปโซน 107 ก่อนและไปพบกับเซอร์เวี่ยนที่ห้องปฏิบัติการ’
เมื่อนึกถึงการได้รับอาชีพลับจากเซอร์เวี่ยน เอียนเริ่มตื่นเต้นแล้ว
“อ้อ ท่านเซราฟิม”
“ว่าไง”
“ท่านรู้จักปีศาจระดับสูงที่ชื่อว่า ‘ยันโค’ ไหม?”
เมื่อเอียนถาม เซราฟิมแสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย
“แน่นอนว่าข้ารู้จักยันโค อย่างไรก็ตามเจ้ารู้จักเขาได้ยังไง?”
เอียนได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยันโคอย่างกระชับและอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง
แน่นอนว่าเอียนไม่ลืมที่จะแสดงความสามารถของตัวเองทีละเล็กทีละน้อยตามที่เขาบอก
‘เนื่องจากการสร้างความสัมพันธ์กับปีศาจระดับขุนนางจะเป็นการช่วยเหลือที่ดี’
เซราฟิมผู้ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดของเอียนแสดงยิ้มอันขมขื่นเมื่อเขาพูด
“เฮ้อ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว… เจ้ากำลังบอกว่ายันโคถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษก่อนที่ข้าจะรู้ตัวใช่มั้ย?”
“ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตามผมไม่เคยคิดเลยว่าผู้เป็นผู้บังคับบัญชาอันดับสองของปราสาทแห่งเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวจะไม่รู้ถึงเรื่องนี้”
เซราฟิมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูด
“นี่เป็นเพราะปีศาจร้ายได้ครอบงำเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวนี้ไปเกือบหมดแล้ว พวกเขาปิดตาและหูของข้า”
“ปีศาจร้ายน่ะหรอ?”
เซราฟิมพยักหน้าอย่างช้าๆ
“ถูกต้อง มันก็ตั้งนานแล้วตั้งแต่ราชาปีศาจไฮค่อนผู้ปราสาทได้ตกลงไปในหนทางของปีศาจร้ายเช่นกัน”
เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เอียนแสดงอาการตึงเครียด
‘อะไรวะเนี่ย? ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นไปได้ไหมที่ยันโคอาจจะไม่ได้รับการปล่อยตัว แม้ด้วยความแข็งแกร่งของเซราฟิมเช่นกัน?’
การปลดปล่อยของยันโคจะมีอิทธิพลต่อพลังการต่อสู้ของเอียนอย่างมาก
เนื่องจากยันโคเป็นปีศาจระดับสูงที่เป็นเลเวล 350 ถ้าเข้าร่วมกับพลังการต่อสู้ของเอียนเขาก็จะมีพลังการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยประมาณ 1.5-2 เท่า
และราวกับว่าเขาได้อ่านความคิดของเอียน เซราฟิมพูดต่อ
“อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ความจริงแล้ว ข้าจะสามารถปลดปล่อยยันโคจากหอคอยแห่งการลงโทษได้อย่างน้อยก็ด้วยพลังของข้า ดังนั้นอย่ากังวลไปเลย”
เอียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เฮ้อ โล่งอกไปที ผมคิดว่าผมต้องได้รับความช่วยเหลือจากเขาเพื่อที่จะไปให้ถึงโซน 80 ของอาณาจักรปีศาจอย่างปลอดภัย”
เซราฟิมพยักหน้า
“ข้าจะนำยันโคออกมาภายในสามวันโดยเร็วและช้าที่สุดห้าวัน เจ้าสามารถได้รับอาชีพคู่ภายในเวลานั้นและกลับมา”
“ผมจะทำอย่างนั้นครับ”
สมองของเอียนแล่นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่เขาลืมบางสิ่งบางอย่างยังคงอยู่ หลังจากนั้นไม่นานเอียนก็สามารถจดจำสาเหตุของสิ่งนั้นได้
‘อ่อใช่ ตลาดค้าทาส! ฉันควรถามเรื่องตลาดค้าทาสด้วย’
เขาไม่แน่ใจว่าบทบาทแบบไหนที่ทาสสามารถใช้ในอาณาจักรปีศาจ แต่ถึงกระนั้นการมีสักคนจะดีกว่าการไม่มีอะไรเลยอย่างแน่นอน
เอียนถามเซราฟิมทันทีเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตลาดค้าทาส
“ท่านเซราฟิม ก่อนที่เราจะไป มีอีกหนึ่งสิ่งที่ผมสงสัย”
“ว่ามา”
เอียนหยิบสัญญาทาสที่เขาเก็บไว้ในคลังของเขาออกมาและยกมันขึ้นมาในขณะที่เขาพูดต่อไป
“ผมต้องการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตลาดค้าทาสที่อยู่ในในกลางของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว”
เอียนหันไปหาเซราฟิม
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างเซราฟิมไม่ตอบสนองใดๆ
“ท่านเซราฟิม…?”
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาจับจ้องอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เขาก็ไม่ได้ตอบสนองแม้แต่นิดเดียวแม้เอียนว่าจะเรียกเขา
เอียนหันหน้าของเขาไปยังที่ที่สายตาของเขาอยู่
และที่ที่เซราฟิมจ้องมองอยู่คือสัญญาทาสที่อยู่ในมือของเอียน
‘อะไรกันเนี่ย? ทำไมเขาจึงจ้องมองสิ่งนี้อย่างตั้งใจล่ะ?’
เอียนเรียกเซราฟิมอีกครั้ง
“ท่านเซราฟิม!”
และเซราฟิมซึ่งตั้งสติแล้วรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขายิ้มอย่างอายๆ
“ฮะ ฮ่าๆ ขอโทษ ข้าใจลอยกับไอเทมที่เจ้าถืออยู่ในมือของเจ้าสักครู่หนึ่ง”
เอียนมองกลับไปกลับมาที่สัญญาทาสที่อยู่ในมือและที่เซราฟิมขณะที่เขาพูดพึมพำกับตัวเอง
‘เขาอ่านเนื้อหาที่เขียนในสัญญาจากระยะนั้นงั้นหรอ?’
และขณะที่เอียนเอียงคอ เซราฟิมพูดต่อ
“เจ้านี่โชคดีสุดๆไปเลย”
ตอนที่ 220
อึก-
เอียนซึ่งได้พบคฤหาสน์ของเซราฟิมผ่านความช่วยเหลือของเฮสก้า กลืนน้ำลายทันทีที่เขาเข้าไปทางประตูหน้า
‘ว้าว… คฤหาสน์อะไรกันเนี่ย? มันดูเหมือนปราสาทของราชาปีศาจเลย’
ในจุดที่เอียนเข้ามาในคฤหาสน์ของเซราฟิมรู้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นคฤหาสน์ที่เขาอาศัยอยู่คนเดียว อาคารที่มีขนาดเกือบเท่ากับปราสาทของลอร์ดที่อยู่ในเมืองโลตัสของทวีปทางตอนเหนือ
เอียนถูกข่มขู่ด้วยความยิ่งใหญ่และเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง
‘ถ้าฉันเข้าไปข้างในตามเส้นทางนี้ ฉันจะได้พบกับเซราฟิมใช่ไหม?’
เส้นทางถูกวางตามสวนในลักษณะที่คดเคี้ยว
สิ่งที่น่าสนใจคือภายในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวซึ่งมืดสนิทและเต็มไปด้วยแสงสลัวสีแดงเข้ม มีสวนที่สวยที่ไม่เหมาะกับมันอยู่ด้วย
ทิวทัศน์นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน แต่สร้างบรรยากาศที่เหมือนฝัน
เอียนหันหน้าของเขาไปหาคาร์เซอุสเล็กน้อยซึ่งตามมาทางด้านหลังของเขา
“คาร์เซอุส รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ข้างในไหม?”
คาร์เซอุสที่หยุดเดินปิดตาของเขาและจดจ่ออยู่กับตัวเองในไม่ช้าเขาก็ส่ายหัวอย่างช้าๆ
“อืม ข้าไม่แน่ใจเจ้านาย ข้าคิดว่ามีสิ่งที่เหมือนกับตราประทับที่ทรงพลังอยู่เหนือสวนแห่งนี้”
ภายในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เอียนเพิ่งจะมาพร้อมกับคาร์เซอุสในร่างมนุษย์ของเขาเมื่อเขาเคลื่อนไหว
นี่เป็นเพราะสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆของเขาโดดเด่นเกินกว่าที่ควร
“อืมม… อะไรวะเนี่ย? ความลึกลับที่ไร้เหตุผลนี้นั้นทำให้น่ากลัวนิดหน่อย”
เอียนพูดพึมพำในขณะที่เขาเริ่มเดินอีกครั้งและคาร์เซอุสเริ่มตามหลังของเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามจากนั้น เสียงที่ต่ำและหยาบกร้านผ่านเข้ามาถึงหูของทั้งสองคน
มนุษย์และมังกรรึ… การรวมตัวที่น่าสนใจซึ่งหาชมได้ยาก โอ้ เจ้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นครึ่งปีศาจ มันเป็นครั้งแรกในระยะเวลาที่ยาวนานที่ข้าได้เห็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ ฮ่าๆ
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เอียนหันหน้าของเขาและเขาเริ่มมองหาเจ้าของเสียงและเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากข้าอยู่ในที่ที่เจ้าไม่สามารถมองเห็นได้
เอียนซึ่งแสดงรอยยิ้มเจื่อนๆได้เกาหัวของเขาขณะที่เขาพูดไปบนท้องฟ้า
“ท่านคือเซราฟิมงั้นหรอ?”
ถูกต้อง ข้าคือเซราฟิม ผู้บัญชาการทหารคนที่สองของปราสาทแห่งเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เจ้ามาหาข้างั้นรึ?
เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ครับ ผมมาหาท่านเซราฟิม”
เพื่ออะไรล่ะ?
เอียนเปิดหน้าต่างเควสต์ของเควสต์ที่เขาได้รับจากอิเรียลอีกครั้งและเขาพูด
“ผมมาที่นี่เพราะว่าอิเรียลส่งผมมา ผมต้องการพูดคุยเกี่ยวกับปีศาจร้ายที่เป็นภัย”
…!
เมื่อเอียนพูด ในสวนของคฤหาสน์ได้เงียบสงบสักครู่หนึ่ง
และเซราฟิมพูดต่ออีกครั้ง
เจ้าเป็นแขกคนสำคัญมากกว่าที่ข้าคาดไว้ ข้าไม่คิดว่านี่เป็นปัญหาที่เราสามารถคุยกันเช่นนี้ได้ ดังนั้นเราคุยกันข้างในเถอะ
เมื่อคำพูดของเซราฟิมจบลงและเอียนก็กำลังโต้กลับอะไรบางอย่าง ไฟสีแดงก็เริ่มเปล่งประกายในรูปวงกลมใต้ฝ่าเท้าของเอียนและคาร์เซอุส
“นี่คืออะไร?”
คาร์เซอุสตอบกลับ
“ข้าคิดว่ามันคือวงเวทย์มนตร์”
“วงเวทย์มนตร์สามารถวาดจากระยะไกลได้งั้นหรอ?”
“ข้าไม่รู้…”
และร่างของทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนนั้นได้ลอยอยู่บนอากาศก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากนั้นไม่นาน
* * *
“ฮ่าๆ คงไม่มีใครรู้ว่ามีหนทางอื่นในการได้รับอาชีพคู่นอกเหนือจากวิธีการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจใช่ไหม?”
เขตทางเหนือของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
ชายที่ยืนอยู่หน้าดันเจี้ยนที่มืดมิดซึ่งอยู่นอกประตูทางเหนือในโซน 100 ของอาณาจักรปีศาจ แสยะยิ้มในขณะที่เขาพึมพำ
“แน่นอน เอียน ฉันรู้ว่าโชคและทักษะของนายนั้นยอดเยี่ยมมาก อย่างไรก็ตามฉันจะแสดงให้นายเห็นว่ายังมีกำแพงที่นายไม่สามารถเอาชนะไปได้”
ชายคนนั้นนำผู้ติดตามหลายสิบคนเข้ามาในดันเจี้ยน
ที่เอวของเขามีดาบใหญ่ที่ให้แสงสีน้ำเงินเปล่งออกมาและไอเทมนั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของนักดาบเวทมนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไคลัน
เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ‘อิลาฮัน’ หัวหน้ากิลด์ของกิลด์ดาร์ครูน่า
“หัวหน้าครับ การเตรียมการได้เสร็จสมบูรณ์แล้วครับ”
“เยี่ยมมาก”
อิลาฮันเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆจนถึงจุดที่เขาสันนิษฐานว่าเดิมอยู่ใกล้อันดับที่ 1 มากที่สุดในการจัดอันดับที่รวมผู้เล่นที่ตั้งค่าไว้เป็นส่วนตัวเข้าด้วยกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสงครามของทั้งสองอาณาจักรในทวีปกลางสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของอาณาจักรไคม่อน อิทธิพลของกิลด์ดาร์ครูน่าซึ่งมีพลังของอาณาจักรไคม่อนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในบรรดาวิดีโอที่อัปโหลดในชุมชนเมื่อไม่นานมานี้ มีวิดีโอของอิลาฮันที่ฝ่าวิหารของโฮลดรีมซึ่งเป็นดันเจี้ยนที่ยากที่สุดของทวีปกลาง
ในตอนนั้น วิดีโอดังกล่าวเป็นประเด็นที่ร้อนแรงอย่างมากและเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็เพราะอิลาฮันฝ่าดันเจี้ยนโดยไม่ใช่ด้วยพลังของปาร์ตี้กิลด์ แต่เป็นพลังของเขาเพียงอย่างเดียว
ฉากของผู้เล่นที่เจาะเข้าไปในดันเจี้ยนได้อย่างง่ายดายด้วยผู้ติดตามที่ใช้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเท่านั้น ช่วยไม่ได้ที่จะสร้างความชื่นชมจากผู้เล่นจำนวนมาก
เนื่องจากในตอนแรกวิหารของโฮลดรีมเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสถานที่ที่มีความเป็นไปได้ที่จะโจมตีหากมีปาร์ตี้ผู้เล่น 20 คนเต็มที่มีเลเวลมากกว่า 160
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความมั่นใจของอิลาฮันจึงสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
อย่างไรก็ตามมีเพียงสิ่งเดียวที่รบกวนเขาและสิ่งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเอียน
นี่เป็นเพราะคนที่มีประสบการณ์รู้ถึงความสามารถในการต่อสู้ของเอียนอย่างถูกต้องระหว่างการบุกโจมตีป้อมปราการไพโรนั้นไม่ใช่คนอื่นนอกจากอิลาฮัน
‘ฉันช้ากว่าเอียนเล็กน้อยในการเข้าสู่อาณาจักรปีศาจ แต่เนื่องจากฉันมีเควสต์ลับ… ฮ่าๆ’
ถ้าอิลาฮันสำเร็จเควสต์ที่เขากำลังดำเนินการอยู่ในตอนนี้ เขาเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นคนที่ไม่มีใครเทียบได้
‘ฮ่าๆ ครึ่งปีศาจจะไม่สามารถเอาชนะปีศาจที่แท้จริงได้’
แสงสีแดงความชั่วร้ายส่องประกายผ่านดวงตาทั้งสองของอิลาฮัน
* * *
สถานที่ที่เอียนหายตัวไปกับวงเวทย์มนตร์สีแดงคือห้องทำงานของเซราฟิม
ห้องทำงานของเซราฟิมมีการตกแต่งด้วยชิ้นงานที่ประณีตซึ่งชวนให้นึกถึงรูปแบบแฟนซีของยุคบาโรกและโรโคโคของยุโรป
ชายร่างมหึมานั่งอยู่บนแท่นหินกลางห้องนั้นและมองลงไปที่เอียน
เขาคือเซราฟิม
“เอาล่ะ เด็กๆ เจ้ากำลังบอกว่าเจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับปีศาจร้ายจากอิเรียลใช่ไหม?”
เมื่อเซราฟิมพูด เอียนพยักหน้า
“ใช่ครับ อิเรียลบอกผมว่าปีศาจร้ายจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงบอกให้ผมมาขอความช่วยเหลือจากท่าน เซราฟิม”
“อืมม ความช่วยเหลือของข้างั้นรึ…”
“ผมไม่รู้แน่ชัด แต่เธอบอกว่าความโกรธในอาณาจักรปีศาจจำเป็นต้องถูกต้านไว้เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบระหว่างโลกมนุษย์และอาณาจักรปีศาจ”
เซราฟิมพยักหน้าอย่างช้าๆ
“ถูกต้อง อิเรียล เด็กคนนั้นน่าหลงใหลอย่างแท้จริง เธอรู้สถานการณ์ภายในของอาณาจักรปีศาจได้อย่างไรจากสถานที่นั้น…”
เซราฟิมหลับตาอย่างช้าๆ
เขาเป็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นนักรบที่มีรูปร่างที่หยาบและใหญ่ แต่ภายในรูม่านตาสีฟ้าใสของเขามีภาพของนักปราชญ์ที่เต็มไปด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด
“อย่างไรก็ตาม เจ้ามาเวลาที่เหมาะเจาะพอดีเลย”
“ยะ… อย่างงั้นหรอครับ?”
เอียนถามกลับอย่างระมัดระวังขณะที่เขารอคำพูดต่อไปของเซราฟิม
‘ถึงเวลาที่เควสต์จะปรากฏขึ้นแล้วหรือยัง?’
และตามที่เอียนทำนายไว้ หน้าต่างเควสต์ก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
กริ๊ง-
จุดเริ่มต้นของปีศาจ lll (ลับ) (เชื่อม)
‘เซราฟิม’ คือ ‘ครึ่งปีศาจ’ รวมถึงปีศาจที่อยู่ระดับขุนนาง
เพราะเขาเป็นคนที่เป็นต้นกำเนิดวีรบุรุษของมนุษย์ก่อนที่เขาจะกลายเป็นปีศาจ เขาไม่ต้องการให้สงครามเต็มรูปแบบระหว่างอาณาจักรปีศาจและโลกมนุษย์เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้เมื่อปีศาจร้ายมีบทบาทสำคัญ พลังส่วนหนึ่งของอาณาจักรปีศาจกำลังวางแผนโจมตีโลกมนุษย์และพวกเขาก็เริ่มล้างอำนาจที่อยู่ตรงกันข้ามกับแผนนั้นทีละคน
พวกเขายังไม่แพร่กระจายอสูรเวทย์มนตร์ของพวกเขาไปยังปีศาจที่อยู่ในระดับขุนนางหรือสูงกว่า แต่ปีศาจระดับสูงสองคนตกอยู่ในแผนการของปีศาจร้ายและเริ่มถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษหรือถูกลอบสังหาร
ก่อนที่พลังของปีศาจร้ายจะเติบโตขึ้น พลังของปีศาจธรรมดาจะต้องรวมตัวกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และพลังที่สามารถต่อต้านพวกมันจะต้องก่อตัวขึ้น
ไปที่ ‘ป้อมปราการของปีศาจ’ ที่อยู่ในโซน 80 ของอาณาจักรปีศาจและถ่ายทอดความจริงนี้ให้กับราชาปีศาจ ‘ริคาร์โด้’
ระดับความยากเควสต์ : SS
เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในการทำเควสต์ ‘จุดเริ่มต้นของปีศาจ ll (ลับ) (เชื่อม)
เวลาจำกัด : 30 วัน
รางวัล : ?
*นี่เป็นเควสต์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
เอียนซึ่งอ่านเนื้อหาเควสต์ทั้งหมดได้พยักหน้าอย่างช้าๆ
‘มันเป็นเควสต์การเดินทางที่เรียบง่ายที่ฉันต้องหา NPC ในครั้งนี้เช่นกัน แน่นอนว่าการผ่านเข้าสู่โซน 80 จะไม่ง่ายซะทีเดียว’
ยิ่งไปกว่านั้น มีเวลาจำกัด 30 วัน
เวลาจำกัดนั้นไม่สั้น ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอที่จะกดดันเอียน
เอียนถามเซราฟิม
“ผมต้องไปที่ปราสาทเพื่อไปพบกับราชาปีศาจริคาร์โด้หรอครับ? “
เมื่อเอียนถาม เซราฟิมพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ถูกต้อง เจ้าจะต้องส่งจดหมายที่ข้ามอบให้เจ้าไปให้ท่าน”
ในเวลาเดียวกันกับที่คำพูดของเซราฟิมจบลง คัมภีร์สีเหลืองปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน
ท่านได้รับไอเทม ‘จดหมายของเซราฟิม’
เซราฟิมพูดต่ออีกครั้ง
“เจ้าไม่สามารถไปสายได้ แต่เนื่องจากไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องตรงเวลามากนักจึงเป็นการดีที่สุดที่จะเคลื่อนไหวหลังจากการเตรียมตัวอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าด้วยความสามารถในปัจจุบันของเจ้า โซน 80 จะเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมากสำหรับเจ้า”
เป็นไปตามที่คาดไว้ปีศาจระดับขุนนาง เซราฟิมล่วงรู้ระดับของอาณาจักรปีศาจจากการมองเพียงครั้งเดียว
เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ครับ ความจริงที่ว่าผมวางแผนที่จะเคลื่อนไหวหลังจากได้รับอาชีพคู่แล้ว”
“แน่นอนว่านั่นก็เป็นความคิดที่ดี หากเจ้าเป็นครึ่งปีศาจที่มีระดับของปีศาจระดับสูง เจ้าจะสามารถได้รับอาชีพคู่ได้โดยไม่ยากเช่นกัน”
เซราฟิมชี้ไปที่หอคอยที่ตั้งอยู่ด้านนอกหน้าต่างขณะที่เขาพูดต่อ
“สิ่งปลูกสร้างนั่นนั่นคือหอคอยอาชีพ ถ้าเจ้าไปที่นั่น เจ้าควรจะได้รับอาชีพคู่ตามที่เจ้าต้องการ”
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
เอียนตอบกลับ แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะได้รับอาชีพคู่จากหอคอยอาชีพ
‘ฉันควรไปโซน 107 ก่อนและไปพบกับเซอร์เวี่ยนที่ห้องปฏิบัติการ’
เมื่อนึกถึงการได้รับอาชีพลับจากเซอร์เวี่ยน เอียนเริ่มตื่นเต้นแล้ว
“อ้อ ท่านเซราฟิม”
“ว่าไง”
“ท่านรู้จักปีศาจระดับสูงที่ชื่อว่า ‘ยันโค’ ไหม?”
เมื่อเอียนถาม เซราฟิมแสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย
“แน่นอนว่าข้ารู้จักยันโค อย่างไรก็ตามเจ้ารู้จักเขาได้ยังไง?”
เอียนได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยันโคอย่างกระชับและอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง
แน่นอนว่าเอียนไม่ลืมที่จะแสดงความสามารถของตัวเองทีละเล็กทีละน้อยตามที่เขาบอก
‘เนื่องจากการสร้างความสัมพันธ์กับปีศาจระดับขุนนางจะเป็นการช่วยเหลือที่ดี’
เซราฟิมผู้ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดของเอียนแสดงยิ้มอันขมขื่นเมื่อเขาพูด
“เฮ้อ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว… เจ้ากำลังบอกว่ายันโคถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษก่อนที่ข้าจะรู้ตัวใช่มั้ย?”
“ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตามผมไม่เคยคิดเลยว่าผู้เป็นผู้บังคับบัญชาอันดับสองของปราสาทแห่งเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวจะไม่รู้ถึงเรื่องนี้”
เซราฟิมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูด
“นี่เป็นเพราะปีศาจร้ายได้ครอบงำเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวนี้ไปเกือบหมดแล้ว พวกเขาปิดตาและหูของข้า”
“ปีศาจร้ายน่ะหรอ?”
เซราฟิมพยักหน้าอย่างช้าๆ
“ถูกต้อง มันก็ตั้งนานแล้วตั้งแต่ราชาปีศาจไฮค่อนผู้ปราสาทได้ตกลงไปในหนทางของปีศาจร้ายเช่นกัน”
เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เอียนแสดงอาการตึงเครียด
‘อะไรวะเนี่ย? ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นไปได้ไหมที่ยันโคอาจจะไม่ได้รับการปล่อยตัว แม้ด้วยความแข็งแกร่งของเซราฟิมเช่นกัน?’
การปลดปล่อยของยันโคจะมีอิทธิพลต่อพลังการต่อสู้ของเอียนอย่างมาก
เนื่องจากยันโคเป็นปีศาจระดับสูงที่เป็นเลเวล 350 ถ้าเข้าร่วมกับพลังการต่อสู้ของเอียนเขาก็จะมีพลังการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยประมาณ 1.5-2 เท่า
และราวกับว่าเขาได้อ่านความคิดของเอียน เซราฟิมพูดต่อ
“อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ความจริงแล้ว ข้าจะสามารถปลดปล่อยยันโคจากหอคอยแห่งการลงโทษได้อย่างน้อยก็ด้วยพลังของข้า ดังนั้นอย่ากังวลไปเลย”
เอียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เฮ้อ โล่งอกไปที ผมคิดว่าผมต้องได้รับความช่วยเหลือจากเขาเพื่อที่จะไปให้ถึงโซน 80 ของอาณาจักรปีศาจอย่างปลอดภัย”
เซราฟิมพยักหน้า
“ข้าจะนำยันโคออกมาภายในสามวันโดยเร็วและช้าที่สุดห้าวัน เจ้าสามารถได้รับอาชีพคู่ภายในเวลานั้นและกลับมา”
“ผมจะทำอย่างนั้นครับ”
สมองของเอียนแล่นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่เขาลืมบางสิ่งบางอย่างยังคงอยู่ หลังจากนั้นไม่นานเอียนก็สามารถจดจำสาเหตุของสิ่งนั้นได้
‘อ่อใช่ ตลาดค้าทาส! ฉันควรถามเรื่องตลาดค้าทาสด้วย’
เขาไม่แน่ใจว่าบทบาทแบบไหนที่ทาสสามารถใช้ในอาณาจักรปีศาจ แต่ถึงกระนั้นการมีสักคนจะดีกว่าการไม่มีอะไรเลยอย่างแน่นอน
เอียนถามเซราฟิมทันทีเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตลาดค้าทาส
“ท่านเซราฟิม ก่อนที่เราจะไป มีอีกหนึ่งสิ่งที่ผมสงสัย”
“ว่ามา”
เอียนหยิบสัญญาทาสที่เขาเก็บไว้ในคลังของเขาออกมาและยกมันขึ้นมาในขณะที่เขาพูดต่อไป
“ผมต้องการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตลาดค้าทาสที่อยู่ในในกลางของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว”
เอียนหันไปหาเซราฟิม
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างเซราฟิมไม่ตอบสนองใดๆ
“ท่านเซราฟิม…?”
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาจับจ้องอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เขาก็ไม่ได้ตอบสนองแม้แต่นิดเดียวแม้เอียนว่าจะเรียกเขา
เอียนหันหน้าของเขาไปยังที่ที่สายตาของเขาอยู่
และที่ที่เซราฟิมจ้องมองอยู่คือสัญญาทาสที่อยู่ในมือของเอียน
‘อะไรกันเนี่ย? ทำไมเขาจึงจ้องมองสิ่งนี้อย่างตั้งใจล่ะ?’
เอียนเรียกเซราฟิมอีกครั้ง
“ท่านเซราฟิม!”
และเซราฟิมซึ่งตั้งสติแล้วรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขายิ้มอย่างอายๆ
“ฮะ ฮ่าๆ ขอโทษ ข้าใจลอยกับไอเทมที่เจ้าถืออยู่ในมือของเจ้าสักครู่หนึ่ง”
เอียนมองกลับไปกลับมาที่สัญญาทาสที่อยู่ในมือและที่เซราฟิมขณะที่เขาพูดพึมพำกับตัวเอง
‘เขาอ่านเนื้อหาที่เขียนในสัญญาจากระยะนั้นงั้นหรอ?’
และขณะที่เอียนเอียงคอ เซราฟิมพูดต่อ
“เจ้านี่โชคดีสุดๆไปเลย”
ตอนที่ 221
เรื่องราวที่เขาได้ยินจากเซราฟิมค่อนข้างยาว แต่ถ้าสรุปสั้นๆมันจะเป็นอย่างนี้
‘ไดซ์’ ปีศาจระดับขุนนางที่เป็นเจ้าของตลาดค้าทาสแห่งเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวกำลังมองหาสัญญาทาสอย่างเร่งด่วนและสำหรับผู้ที่นำสัญญาทาสมาให้เขา เขาประกาศว่าเขาจะเปิดชั้นล่างสุดของตลาดค้าทาสเพียงครั้งเดียว
โดยปกติมีกฎว่าชั้นล่างสุดของตลาดค้าทาสเปิดให้กับราชาปีศาจเท่านั้นและเปิดให้กับปีศาจที่มีระดับขุนนางหรือสูงกว่าปีละครั้งเพียงหนึ่งในสี่ของวัน
ชั้นล่างสุดของตลาดค้าทาสคือสถานที่ซึ่งมีการขายทาสจำนวนมากซึ่งหายากมากจนถึงจุดที่แม้แต่เซราฟิมซึ่งเป็นปีศาจระดับขุนนางก็ต้องการพวกเขา
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเซราฟิม เอียนรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่น่าอัศจรรย์ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีคำถาม
“ไม่สิ แต่ว่า… อะไรคือการที่จะให้โบนัสที่ยอดเยี่ยม? นอกจากนั้นปีศาจระดับขุนนางซึ่งเป็นเจ้าของตลาดค้าทาสก็ไม่ได้มีสัญญาทาสสักอันอยู่แล้วหรอกหรอ?”
เมื่อเอียนถาม เซราฟิมแสยะยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“เจ้ารู้เรื่องสัญญาทาสน้อยกว่าที่ข้าคาดไว้มาก”
“…?”
“ความสามารถของมันเองที่เป็นไอเทมสัญญาทาสนั้นมีค่าไม่มากนัก”
แต่เดิมประโยชน์ของสัญญาทาสคือไอเทมที่มีค่าสำหรับปีศาจที่เป็นปีศาจธรรมดาหรือต่ำกว่านั้น เนื่องจากไม่สามารถใช้ทาสได้
นอกจากนี้ยังมีข้อดีสำหรับปีศาจที่เป็นปีศาจระดับสูงหรือสูงกว่าซึ่งสามารถลดราคาของทาสที่พวกเขาต้องการจ้างครึ่งหนึ่ง แต่มันก็ไม่ถึงจุดที่ถือว่าน่าอัศจรรย์
“แล้ว?”
“อย่างไรก็ตาม สัญญาทาสนั้นหายากอย่างมาก”
“ห้ะ?”
“เพราะมันเป็นไอเทมที่มีเพียงสามชิ้นในทุกๆปีในอาณาจักรปีศาจ ความหายากของมันอยู่เหนือจินตนาการของเรา”
“หืมมม…?”
เป็นไอเทมที่ไม่อาจถือได้ว่าน่าทึ่ง แต่ด้วยความหายากเพียงอย่างเดียวคุณค่าของพวกมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามคำถามของเขายังไม่ได้รับการแก้ไข เอียนพูดอีกครั้ง
“อืมม… แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้าของตลาดค้าทาสซึ่งเป็นระดับขุนนางต้องการสัญญาทาสล่ะ? มันเป็นของที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาไม่ใช่หรอ?”
เซราฟิมหัวเราะขณะที่เขาตอบกลับ
“นั่นเป็นเพราะเขาเป็นพ่อที่น่าเบื่อและมีลูกสาวที่น่ารัก”
เมื่อได้ยินคำที่คาดไม่ถึง เอียนแสดงท่าทางงุนงง
“ขอโทษนะครับ…?”
“ไดซ์เป็นขุนนาง แต่ ‘ซาช่า’ ลูกสาวของเขายังคงเป็นปีศาจธรรมดาและสำหรับของขวัญวันเกิดยี่สิบปีของเธอ เธอบอกว่าเธอต้องการทาส”
ตอนนั้นสถานการณ์ในปัจจุบันเริ่มมีรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นในหัวของเอียน
‘ดังนั้น… เขาต้องการสัญญาทาสเพราะว่าเป็นของขวัญวันเกิดของลูกสาวของเขาสินะ?’
ตามคำอธิบายของเซราฟิม ‘ชั้นล่างสุดของตลาดค้าทาส’ เป็นสถานที่ที่มีค่าพอที่จะนำไปใช้งานได้จริง
‘และโอกาสที่จะเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวได้ก่อตัวขึ้น’
เอียนหันหน้าไปหาเซราฟิมอีกครั้ง
“ถ้างั้น ผมแค่ต้องไปหาไดซ์ใช่ไหมครับ?”
เมื่อเอียนพูดขณะที่เขย่าสัญญาทาส เซราฟิมพยักหน้า
“ถูกต้อง”
เอียนซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องทำรวมถึงเควสต์ของเขาได้เรียบเรียงความคิด
‘ก็น่าจะดีถ้าฉันผ่านทุกอย่างไปทีละอัน’
อย่างไรก็ตาม ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำสิ่งเหล่านี้อย่างมั่วซั่วแม้แต่น้อย
เอียนพูดกับเซราฟิมอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตาม เซราฟิม ท่านเคยไปชั้นล่างสุดของตลาดค้าทาสมาก่อนใช่ไหมครับ?”
“แน่นอน ข้าไปตลาดค้าทาสทุกๆปีที่ชั้นล่างสุดเปิดขึ้น”
เอียนยิ้มขณะที่เขาพูเด
“ถ้างั้นให้ขอมูลผมสักหน่อยสิ”
ในตอนแรกเซราฟิมคิดว่ามันน่ารำคาญอย่างมาก แต่เมื่อเอียนถามอย่างจริงจังเขาก็เริ่มพูดอย่างช้าๆ
และแตกต่างจากตอนแรก เมื่อเขาคิดว่ามันน่ารำคาญ แต่เขาอธิบายข้อมูลที่เขารู้เป็นรายละเอียดค่อนข้างมาก
“อย่างแรก ข้าจะบอกเจ้าถึงจุดที่สำคัญที่สุดในการเลือกทาสที่ดี”
“จุดที่สำคัญที่สุด?”
“นี่เป็นข้อมูลอย่างดีที่ทุกคนไม่เคยรู้จัก อย่าพลาดแม้แต่คำเดียวและจดจำมันไว้”
ข้อมูลชิ้นแรกที่เซราฟิมบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้คือยิ่งชั้นล่างเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้ทาสระดับสูง
มีคนไม่มากที่รู้เรื่องนี้เพราะนอกจากชั้นล่างสุดแล้วความแตกต่างนั้นมาก แต่นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญ
” ‘ชั้นล่างสุด’ ซึ่งเป็นพื้นที่ล่างสุด เป็นพื้นที่หลายระดับที่ประกอบด้วย 3 ชั้นและโดยธรรมชาติมีโอกาสสูงที่ทาสที่อยู่บนชั้นล่างสุดของทั้งสามเป็นทาสระดับสูงกว่า”
“ผมเข้าใจแล้ว นี่เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับผมอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามนี่เป็นข้อมูลอย่างดีงั้นหรอ? มันเป็นข้อมูลที่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่จะรู้ถ้าเขาเป็นปีศาจที่เคยใช้ตลาดค้าทาสมาก่อน…”
“นั่นไม่จริง นี่เป็นเพราะมีหลายกรณีที่พวกเขาไม่รู้วิธีแยกแยะทาสที่ดีแม้จะเคยใช้ทาสมาก่อนก็ตาม”
ข้อมูลที่เซราฟิมบอกเขาต่อไปคือวิธีแยกแยะข้อมูลของทาส
ตามที่เขาพูด ไม่มีวิธีหาระดับของทาสก่อนที่จะซื้อในตลาดค้าทาส
“หากเจ้าเป็นปีศาจระดับสูงกว่าหรือสูงกว่านั้น ใครๆก็สามารถตรวจสอบข้อมูลของทาสได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลเกือบครึ่งหนึ่งจะถูกซ่อนไว้จากเจ้า แต่เจ้าจะไม่สามารถตรวจสอบ ‘ระดับ’ ของทาสซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดจนกว่าเจ้าจะประทับตราสัญญา”
เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นเพราะมีราคาต่อยอดและราคาต่ำสุดที่กำหนดไว้สำหรับราคาคงที่ของทาส
เพราะถ้าราคาของทาสนั้นมีราคาอิสระขึ้นอยู่กับระดับและค่าสถานะของมัน ตลาดทาสจะเป็นไปตามหลักการของระบบเศรษฐกิจตลาดและเดินหน้าตามความต้องการของตัวเอง
อย่างไรก็ตามหากราคาของทาสระดับสูงและทาสระดับต่ำไม่แตกต่างกันมากนักจะไม่มีใครซื้อทาสระดับต่ำ
“ดังนั้นเมื่อตรวจสอบข้อมูลของทาสสิ่งที่ผู้ซื้อต้องตรวจสอบอย่างแน่นอนคือสายพันธุ์ของทาส”
“ผมเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าทาสจะไม่ใช่ปีศาจสินะ?”
“ไม่ใช่ มีปีศาจที่เป็นทาสเช่นกัน มีแม้กระทั่งปีศาจที่เป็นปีศาจระดับสูงหรือสูงกว่านั้น อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวหายากมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ต่างๆจากมิติอื่นมาเป็นทาส”
“ดูเหมือนแนวคิดที่คล้ายคลึงกับทาสสงครามมาจากสงครามรุกรานของอาณาจักรปีศาจ”
“เจ้าสามารถพูดได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ พวกเขาอาจถูกมองว่าเป็นทาสสงครามในอดีต”
“ทาสสงครามในอดีต?”
“ตอนนี้อาณาจักรปีศาจไม่ได้มีส่วนร่วมในสงครามรุกรานใดๆ แต่ในอดีตพวกเขาบุกเข้าไปในมิติต่างๆ เผ่าพันธุ์และมิติที่ยอมจำนนต่ออาณาจักรปีศาจในเวลานั้นกลายเป็นอาณานิคมของเรา เจ้าอาจพูดได้ว่าคนที่เข้ามาในฐานะทาสในขณะนี้คือสายพันธุ์ของมิติที่กลายเป็นอาณานิคมของพวกเราเมื่อนานมาแล้ว”
“ผมเข้าใจแล้ว ดังนั้นในกรณีที่โลกมนุษย์ยอมจำนนอย่างสมบูรณ์ในสงครามระหว่างอาณาจักรปีศาจและโลกมนุษย์ มนุษย์จะกลายเป็นทาสและปรากฏตัวในตลาดทาส”
“ถูกต้องแล้ว ตอนนี้ข้าอาจจะสนุกกับอำนาจของข้าในฐานะปีศาจ แต่โดยพื้นฐานแล้วข้าเป็นมนุษย์และในกรณีนี้ ข้าพยายามป้องกันไม่ให้เกิดสงครามมิติกับโลกมนุษย์ในตอนนี้”
“ผมเข้าใจแล้ว…”
“บทสนทนาของเราออกทะเลไปไกลแล้ว กลับไปที่จุดเริ่มต้นของการสนทนาของเราอีกครั้ง…”
เซราฟิมบอกเอียนถึงสองสายพันธุ์ที่มีโอกาสสูงสุดในการเป็นทาสระดับสูง
“หากคุณค้นพบมูนเอลฟ์หรือดาร์คแฟนท่อมหรือแม้แต่คาร์กอน เจ้าจะไม่เสียดายถ้าเจ้าทำสัญญากับพวกเขา”
“โอ้โห…”
ในขณะที่ดูเอียนผู้ซึ่งจดบันทึกสิ่งนี้ไว้อย่างขยันขันแข็ง เซราฟิมเสริมต่อ
“มูนเอลฟ์มีลักษณะของเอลฟ์ที่มีโทนสีผิวสีม่วงสดใสและเจ้าสามารถคิดว่าดาร์คแฟนท่อมเป็นผีที่มีลำตัวทึบแสงเกือบมืดทึบและสุดท้ายเรียกว่าครึ่งมังกรคาร์กอนเป็นมนุษย์ที่ดูเหมือนมังกร”
“มนุษย์ที่ดูเหมือนมังกร…? พวกเขาหน้าตาเป็นยังไง?”
“เจ้าจะรู้เมื่อเจ้าไปเห็นด้วยตัวเอง”
“…”
และข้อมูลที่เซราฟิมบอกเขาอย่างสุดท้ายคือสกิลของทาส
“เมื่อคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องมาทำสัญญาทาส พวกเขาจะเปรียบเทียบค่าสถานะการต่อสู้ของทาสโดยไม่จำเป็นและเลือกคนที่มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด แต่อย่าทำอย่างนั้น”
“หืมม…?”
เอียนรู้สึกเหมือนถูกต่อยอยู่สักครู่หนึ่ง
เป็นเพราะว่าถ้าเซราฟิมไม่พูดขึ้นมา เขารู้สึกว่าเขาคงจะทำอย่างนั้น
‘ฉันอาจเปรียบเทียบค่าสถานะการต่อสู้ของทาสทั้งหมดที่อยู่ในชั้นล่างสุดและเลือกค่าสถานะที่มีค่าสูงสุด…’
เอียนเกาหัวขณะที่เขาถามกลับ
“ทำไมล่ะครับ?”
“นี่เป็นเพราะการใช้ทาสเป็นพลังการต่อสู้ปกติในการต่อสู้นั้นเป็นตัวเลือกที่แย่ที่สุดอย่างแท้จริง เจ้าสามารถพูดได้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับศูนย์เลยล่ะ?”
“ทำไมครับ?”
“นี่เป็นเพราะโดยพื้นฐานแล้ว ไม่ว่าค่าสถานะการต่อสู้ของทาสจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ไม่มีทางที่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะปีศาจระดับสูงและอีกกรณีหนึ่ง พลังแฝงของทาสที่ทาสเพียงเท่านั้นจะมีนั้นน่าสนใจมากกว่า”
เอียนรู้สึกว่าสนใจมากขึ้น
‘อะไรกัน? เนื้อหาใหม่งั้นหรอ?’
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเพิ่มพลังการต่อสู้ที่ทรงพลัง แต่ก็มีวิธีอื่นอีกหลายวิธีที่จะทำให้พอใจโดยการเลือกผู้ติดตาม การจับสัตว์เลี้ยงเป็นต้น
ด้วยเหตุนี้เอียนจึงให้ความสนใจกับความจริงที่ว่ามีบางสิ่งที่พิเศษสำหรับเนื้อหาทาสเท่านั้น
“โอ้โห ท่านอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ?”
เซราฟิมพูดต่อ
“อย่างแรกในกรณีของมูนเอลฟ์ มีหลายกรณีที่พวกเขามีสกิลติดตัวแบบ AoE ที่มีเงื่อนไขซึ่งเกี่ยวข้องกับ ‘กลางคืน’ หรือ ‘พระจันทร์’ ”
ทันทีที่เขาได้ยินความสามารถของมูนเอลฟ์ มีบางคนที่เขาคิดถึงทันที
‘โอ้ ฉันจะสามารถได้รับบางสิ่งบางอย่างเช่นพลังแฝงของไลที่เป็น AoE งั้นหรอ?’
หากเป็นเช่นนั้น มันเป็นเรื่องที่แน่นอนว่ามันจะช่วยได้มาก
‘โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาณาจักรปีศาจซึ่งมีพระจันทร์สามดวง มันจะดีมากยิ่งขึ้น’
เซราฟิมพูดอีกครั้ง
“ในกรณีของดาร์คแฟนท่อม ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขานั้นมารวมกันอย่างแท้จริงคือ 0 แต่พวกเขามีความสามารถในการซ่อนตัวที่ทำให้ข้าพูดไม่ออก”
เอียนถามกลับด้วยท่าทางงุนงง
“ความสามารถในการซ่อนตัวทีความหมายอะไร ในเมื่อพวกเขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลย?”
ไม่มีที่ใดที่ดาร์คแฟนท่อมจะไปไม่ได้ นอกจากพลังงานปีศาจและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ พวกมันจะไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีใดๆเลย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพวกเขาสามารถทำให้ร่างกายโปร่งใสได้ในระยะเวลาหนึ่ง พวกเขาจึงมีความเชี่ยวชาญในการลาดตระเวนในพื้นที่ที่อันตราย”
เอียนซึ่งได้ยินถึงจุดนั้นได้เอียงคอ
‘แน่นอนว่ามันเป็นความสามารถที่ดี แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาขาดอะไรบางอย่างเมื่อเทียบกับมูนเอลฟ์…’
อย่างไรก็ตาม เซราฟิมยังพูดไม่จบ
“และในบรรดาดาร์คแฟนท่อมบางครั้งก็มีพลังแฝงที่เรียกว่า ‘ดินแดนแห่งความมืด’ และนั่นคือสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง”
“ ‘ดินแดนแห่งความมืด’ … ดูเท่ห์จังเลย”
“มันไม่ใช่แค่เท่ห์ หากดินแดนแห่งความมืดถูกร่ายจะเป็นระยะเวลาหนึ่ง การมองเห็นของศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในระยะจะหายไป อย่างมากมันแค่ประมาณ 15 วินาที แต่ในสนามรบขนาดใหญ่ความสามารถนี้เป็นผลกระทบอันทรงพลังที่สามารถพลิกกระดานได้เลย ยิ่งกว่านั้นมันจะละเว้นสถานะสภาพคงกระพันทั้งหมด”
การแสดงออกของเอียนเปลี่ยนไปครู่หนึ่ง
ในขณะที่เอียนรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าคนอื่น เขารู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของความสามารถนั้นทันที
‘มันเป็นความสามารถที่น่ากลัวอย่างแท้จริง หากความสามารถในการมองเห็นหายไปแบบ AoE ในระหว่างการต่อสู้ 15 วินาทีอาจจะรู้สึกเหมือนกับ 15 ปี’
ท้ายสุดคำอธิบายเกี่ยวกับพลังแฝงของคาร์กอนยังคงดำเนินต่อไป
“คาร์กอนเป็นเผ่าพันธุ์ที่ข้ายังไม่เคยใช้เป็นทาส แต่เขาเป็นคนที่เจ้าต้องทำสัญญาทันทีที่เจ้าพบพวกมัน”
เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ความคาดหวังของเอียรเพิ่มมากขึ้น
“พวกเขามีความสามารถประเภทไหนหรอครับ?”
เซราฟิมตอบกลับ
“ความสามารถในการบิดเบือนพื้นที่”
“อืมม…?”
“พวกเขาเป็นคนที่สามารถปิดและเปิดพื้นที่ได้ตามที่ต้องการ หากเจ้ามีพวกเขา เจ้าสามารถคิดว่ามันสามารถย่อพื้นที่ด้วยเวทย์มนตร์เป็นกลุ่ม”
“…”
“แน่นอนอาจมีบางสิ่งบางอย่างเช่นเวลาคูลดาวน์… แต่ถึงกระนั้นข้าเห็นพวกเขาใช้ความสามารถของพวกเขาอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดที่เจ้าไม่สามารถเข้าใจได้ ข้าจะไม่รู้เนื่องจากข้าไม่เคยใช้มันเป็นการส่วนตัว”
ในความคิดของเอียนซึ่งได้รับการจัดระเบียบข้อมูลเกี่ยวกับพลังแฝงของสายพันธุ์ที่แนะนำจนถึงปัจจุบันได้กลายเป็นสีขาวเหมือนแผ่นกระดาษสักครู่หนึ่ง
และภายในพื้นที่นั้นมีเพียงแค่ตัวอักษรหกตัวที่สะกด ค-า-ร์-ก-อ-น
‘เอาล่ะ คาร์กอน ฉันเลือกนาย!”
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนั้นเอียนก็ไม่รู้
ถึงความหายนะที่จะเข้าหาเขาในอีกหนึ่งในสี่ของวันต่อมา…
โดยปกติแล้วชีวิตไม่ได้ลื่นไหลอย่างที่เราปรารถนา
ตอนที่ 222
หลังจากได้ยินข้อควรระวังเพิ่มเติมจากเซราฟิมสองสามอย่าง เอียนก็มุ่งหน้าไปยังตลาดค้าทาสทันที
และไม่นานหลังจากที่เขามาถึง เขาก็สามารถพบกับไดซ์ เจ้าของตลาดค้าทาสได้โดยไม่ยาก
นี่เป็นเพราะเซราฟิมซึ่งเป็นคนรู้จักกับไดซ์ได้แจ้งกับไดซ์ล่วงหน้า
ไดซ์ซึ่งพบเอียนเป็นครั้งแรกได้ต้อนรับอย่างอบอุ่น
“โห ในขณะที่เขาพูดว่าปีศาจระดับสูงกำลังจะมาหา กระผมแค่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น… แต่ท่านเป็นครึ่งปีศาจ”
แตกต่างจากเซราฟิมซึ่งมีร่างกายขนาดใหญ่นิดหน่อย ไดซ์มีภาพลักษณ์เป็นผู้เฒ่าตัวเล็กๆ
อย่างไรก็ตาม ออร่าที่เขาส่งออกมานั้นไม่มีอะไรแปลก
ตามที่คาดไว้จากปีศาจระดับขุนนาง ออร่าที่กระจายออกไปจากเขานั้นมีพลังมากกว่าอย่างมาก
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อเอียน”
“โฮะโฮะ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นซัมมอนเนอร์… เป็นแขกสุดพิเศษจริงๆ”
ในขณะที่มองไปยังไดซ์ที่รู้ว่าเขาอาชีพอะไรภายในครั้งเดียว เอียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาพยักหน้าหลังจากนั้นไม่นาน
‘เขารู้เพราะคาร์เซอุสยืนอยู่ข้างๆฉันงั้นหรอ?’
เนื่องจากส่วนที่มีความสำคัญในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องนั้น เอียนก็หยิบสัญญาทาสออกจากคลังของเขาอย่างรวดเร็วและยื่นให้ไดซ์
“ผมนำไอเทมมาให้ครับ”
ไดซ์ยื่นมือออกไปหาเอียนทันทีและเมื่อเขาทำเช่นนั้น สัญญาที่อยู่ในมือของเอียนก็สะพัดในขณะที่มันบินไปหาไดซ์
และไดซ์ซึ่งได้รับและตรวจสอบสัญญา ยิ้มอย่างพึงพอใจ
“เอาล่ะ ไอเทมนั้นถูกต้อง กระผมแค่สงสัยว่าท่านได้ไอเทมหายากแบบนั้นมาได้อย่างไร แต่… อืม เพราะว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ”
ไดซ์ที่ได้รับของที่เขาต้องการแสดงยิ้มที่พอใจและฟันเหลืองของเขาปรากฏขึ้นเล็กน้อยระหว่างริมฝีปากของเขา
เอียนก็ยิ้มด้วยในขณะที่เขาพูด
“อืม ผมได้รับมาจากบางวิธีน่ะ”
ไดซ์แสยะยิ้ม
“ท่านโชคดีนะวันนี้”
หลังจากเขาพูดจบ ร่างกายเล็กๆของไดซ์ลอยขึ้นไปบนอากาศ
“ตามกระผมมา กระผมจะนำทางท่านไปยังชั้นล่างสุด”
เมื่อไดซ์เริ่มเคลื่อนไหวขณะที่ลอยอยู่บนอากาศ เอียนรีบตามหลังของเขาไป
หัวของเอียนซึ่งกำลังแล่นอย่างขยันขันแข็งเต็มไปด้วยข้อมูลที่เขาได้ยินจากเซราฟิมก่อนที่เขาจะมาที่นี่
* * *
Ziiing-.
พื้นที่ทางใต้สุดของโซน 100 อันกว้างขวางของอาณาจักรปีศาจ
และประตูมิติยักษ์ตั้งอยู่ในสถานที่นั้น
ประตูมิติสีแดงที่ลอยอยู่ด้วยตัวเองในภูมิประเทศที่เป็นเหมือนถิ่นทุรกันดารที่รกร้างเต็มไปด้วยแรงกดดันอย่างมาก
ดูเหมือนว่าจะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครสักคน แต่หลังจากนั้นไม่นานชายคนหนึ่งก็บินออกมาจากประตูมิติสีแดง
Baang-!
พร้อมกับเสียงที่ดังตู้มม ชายคนนั้นลอยไปข้างหลังค่อนข้างไกลและเขากลิ้งไปรอบๆพื้นสองสามครั้งก่อนที่เขาจะเดินโซซัดโซเซ
“เวรเอ้ย มันแข็งแกร่งมากเลย”
ชายผู้ที่ปัดฝุ่นเกราะของเขาซึ่งเกือบจะกลายเป็นผ้าขี้ริ้วและลุกขึ้นยืนก็คือชยาคราน หัวหน้ากิลด์แห่งกิลด์ไททั่น
“ดูเหมือนว่ามันจะลำบากกว่าที่คาดไว้”
เมื่อชยาครานเริ่มหันไปตามทางอย่างช้าๆ สมาชิกของกิลด์ไททั่นที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆก็กระโดดออกมาและช่วยเขา
คนที่กระโดดออกมาจากด้านหน้าและพยุงไหล่ของชยาครานคนแรกคืออัศวินโชติช่วงซีลรอน
“ชยาคราน เกิดอะไรขึ้น? นายกลับมาแบบมีชีวิตด้วยหรอ”
ตามคำพูดของเขาซึ่งแปลกๆนิดหน่อยซึ่งมีเจตนาอันน่าสงสัย ขึ้นอยู่กับว่าตีความได้อย่างไร ชยาครานขมวดคิ้วขณะที่เขาตอบ
“เจ้างั่ง แกไม่พอใจกับความจริงที่ว่าหัวหน้ากิลด์ของแกกลับมาแบบมีชีวิตงั้นหรอ?”
เช่นนั้น ซีลรอนสะดุ้งเล็กน้อยขณะที่เขาตอบ
“อ๊ะไม่ใช่ ทำไมนายเป็นแบบนี้อีกแล้วเนี่ย? นายรู้ดีว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึงใช่มั้ยล่ะ”
“ไอเว- แกนี่มัน”
และชยาครานซึ่งหยิบขวดน้ำออกจากคลังของเขาและดับความกระหายของเขาค่อยๆพูดอีกครั้ง
“นายจะเห็นว่าประตูมิตินี้เข้าสู่โซนช่วงเลขสองหลัก”
เมื่อชยาครานพูด สายตาของสมาชิกกิลด์ไททั่นทั้งหมดก็มารวมกันที่ปากของเขาและคำพูดของเขาก็ดำเนินต่อไป
“ตัวละครมีความแตกต่างเล็กน้อยจากประตูอื่นจนถึงตอนนี้”
“มันเป็นยังไง?”
“อย่างแรก มันไม่ใช่โครงสร้างที่หลายคนสามารถลองผ่านในเวลาเดียวกันได้”
ชยาครานระลึกถึงสิ่งมีชีวิตที่เหมือนสัตว์ประหลาดเล็กน้อยที่ร่างกายของมันอยู่ในประตูมิติขณะที่เขาพูดต่อไป
“ถึงแม้จะมีสิบคน ไม่สิ แม้จะมีคนเข้าไปร้อยคน ทุกคนที่เข้ามาก็จะเข้าสู่ห้องสอบที่แตกต่างกัน… และภายในห้องนั้น อสูรเวทย์มนตร์ระดับ Heroic จะโผล่ขึ้นมา”
สมาชิกกิลด์ทั้งหมดที่ฟังเรื่องราวของชยาครานกำลังจดจ่ออยู่กับการแสดงออกว่าราวกับว่าพวกเขาจะไม่พลาดแม้แต่คำเดียวของเขา
นั่นเป็นเพราะคำพูดของชยาครานซึ่งเป็นคนแรกที่ท้าทายประตูมิติของโซน 100 นั้นเป็นข้อมูลที่เหลือเชื่อ
ซีลรอนถามชยาคราน
“ถ้าอย่างนั้น หัวหน้า นายสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตนั้นได้ไหม?”
ชยาครานถามกลับด้วยท่าทางงุนงง
“นายคิดสิถ้างั้นฉันจะถูกโยนกลับมาที่นี่ทำไม? ฉันอาจจะต้องไปโซน 99 ไม่ใช่หรอ”
ซีลรอนหน้ามุ่ยขณะที่เขาตอบกลับ
“ไม่ใช่ เนื่องจากนายกลับมาแบบมีชีวิต… ถ้างั้นนายจะบอกว่าอสูรเวทย์มนตร์ส่งนายกลับมาหลังจากเอาชนะนายได้แล้วงั้นหรอ?”
ชยาครานส่ายหน้า
“ไม่ ฉันทรมานอย่างน่ากลัว ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะง่ายสำหรับฉัน อย่างไรก็ตามเมื่อพลังชีวิตของฉันลดลงต่ำกว่า 10% ฉันก็ถูกโยนกลับออกมาโดยอัตโนมัติ “
ราวกับว่าพวกเขาเข้าใจแล้วในที่สุดผู้เล่นของกิลด์ไททั่นรวมถึงซีลรอนพยักหน้า
“ผมเข้าใจแล้ว สิ่งมีชีวิตนั้นเป็นยังไง? ถึงอย่างนั้น ถ้าเป็นหัวหน้าก็คงจะสู้ได้อย่างสูสีใช่ไหม?”
เมื่อผู้เล่นหนึ่งคนพูดขึ้น ชยาครานยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่เขาส่ายหน้า
“ไม่ ฉันถูกโจมตีอย่างไร้ความปราณีด้วยความแตกต่างที่บ้าคลั่ง แม้กระทั่งในวินาทีสุดท้าย ฉันไม่สามารถลดพลังชีวิตของมอนสเตอร์ถึงจุดกึ่งกลางของมันได้เลย”
เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ผู้เล่นทั้งหมดกลืนน้ำลาย
ชยาครานงั้นหรอ?
เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดที่คว้าอันดับที่ 1 ใกล้เคียงกับอิลาฮันในลานประลองของอาณาจักรไคม่อนงั้นหรอ?
“ฉันจะท้าทายมันอีกครั้งหลังจากฉันเลเวลมากกว่า 200”
เมื่อชยาครานพูด ผู้เล่นคนอื่นพยักหน้าขณะที่พวกเขาเดินไปรอบๆ แต่ดวงตาของซีลรอนเปล่งประกายขณะที่จ้องไปที่ประตูมิติ
“ซีลรอน นายทำอะไรอยู่? จะไม่มาหรือไง?”
เมื่อชยาครานถาม ซีลรอนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
“นานบอกว่านายถูกโยนกลับออกมาหลังจากพลังชีวิตของนายเหลือ 10% สินะ”
“แล้ว?”
“ขณะที่เราอยู่ที่นี่ ถ้าฉันไม่ตาย ฉันต้องการเผชิญหน้ามันสักครั้งก่อนที่จะกลับออกมา”
เมื่อซีลรอนพูด ชยาครานแสยะยิ้ม
“ตามใจนายเถอะ”
หากว่าไม่มีการลงโทษ มันก็ไม่ได้เป็นความคิดที่แย่ที่จะรับรู้ถึงพลังของ ‘สิ่งมีชีวิต’ ที่อันตรายสักครั้งหนึ่ง
ชยาครานหยิบโพชั่นออกจากคลังของเขาขณะที่เขายื่นให้ซีลรอน
“ดื่มนี่ก่อนนายจะเข้าไป”
เช่นนั้น ดวงตาของซีลรอนเปล่งประกาย
“โอ้ ไอเทมหายาก!”
ชยาครานหัวเราะขณะที่เขาตอบกลับ
“นายไม่คิดหรอว่าอย่างน้อยนายจะต้องใช้ยาเพื่อทำอะไรบางอย่างก่อนที่นายจะออกมา? เมื่อนายต่อสู้เสร็จแล้วให้กลับไปที่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เราจะซ่อมอุปกรณ์ของเราในนั้น”
ดวงตาของซีลรอนเปล่งประกายขณะที่เขาพยักหน้า
“รับทราบครับหัวหน้า ขอบคุณสำหรับการพิจารณาของท่านครับ”
ซีลรอนซึ่งพูดจบ เดินเข้าไปในประตูมิติโดยไม่ชักช้าและสมาชิกปาร์ตี้กิลด์ไททั่นคนอื่นๆก็ไปตามทางของพวกเขาและเริ่มเคลื่อนตัวไปยังเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว
ชยาครานหันหน้าของเขาครู่หนึ่งและจ้องมองที่ด้านในของประตูมิติที่ซีลรอนหายไป
‘หากว่าการถึงเลเวล 200 ยังไม่เพียงพอ มันจะคุ้มค่าที่จะลองไหมถ้าอย่างน้อยฉันก็ได้รับอาชีพคู่…’
ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาส่วนมากที่เขาอ่อนล้าจากการเผชิญหน้ากับ ‘สิ่งมีชีวิต’ ได้กลับคืนมา เมื่อเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงของชยาครานเริ่มเบาลงทีละน้อย
และหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อปาร์ตี้กิลด์ไททั่นหายตัวไป หน้าประตูของโซน 100 ก็กลายเป็นความว่างเปล่าที่ซึ่งไม่มีใครสักคน
ตามจริงแล้วจนถึงโซน 110 ของอาณาจักรปีศาจ ด้านหน้าของประตูมิตินั้นมีความรู้สึกคล้ายกับฐานซึ่งมีผู้เล่นจำนวนมากรวมตัวกัน
เหตุผลที่ผู้เล่นเริ่มรวมตัวกันที่นั่นในตอนแรกเป็นเพราะจำนวนคนที่รอการเปิดประตูมิติที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันกลายเป็นจุดนัดพบที่ผู้เล่นแลกเปลี่ยนหรือก่อตั้งปาร์ตี้กับคนอื่นๆ
นี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นเพราะเป็นเขตนอกเมืองของอาณาจักรปีศาจที่ไม่มีแม้แต่ฐานเดียวหรือสถานที่เหมือนหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตามจำนวนผู้เล่นที่ผ่านโซน 110 นั้นมีจำนวนน้อยจนถึงจุดที่ยังไม่ถึงตัวเลขสามหลักและยิ่งไปกว่านั้น จำนวนผู้คนที่มาถึงโซน 100 ยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเป็นอย่างนั้น หน้าของประตูมิติของโซน 100 จึงเงียบ
Whiiing-.
ลมของอาณาจักรปีศาจที่มืดมนถูกพัดผ่านบริเวณรอบๆประตูมิติ
อย่างไรก็ตามจากนั้น…
Rustle-.
พุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ประตูมิติพลิ้วไหวและเงาเล็กๆก็พุ่งออกมาทันที
บุ๊กค์-
จากนั้นเต่าที่มีร่างอันมีชีวิตชีวาที่มีหัวใหญ่และขาสั้นปรากฎขึ้น
ตัวตนของเงานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบุ๊กค์
บุ๊กค์- บุ๊กค์- บุ๊กค์-
บุ๊กค์ซึ่งส่งเสียงบุ๊กค์เมื่อใดก็ตามที่เขาก้าวในขณะที่มันเดินเข้าหาประตูมิติอย่างช้าๆหันหน้าไปทางซ้ายและขวาอย่างขยันขันแข็งขณะตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้เคียง
บุ๊กค์ มนุษย์ทุกคนอาจจะกลับไปหมดแล้วใช่ไหมบุ๊กค์…?
บุ๊กค์ไม่ต้องการวิ่งหนีแม้แต่มนุษย์คนเดียว
นี่เป็นเพราะมันจะลำบาก ถ้ามันพบมนุษย์และพวกเขาจำมันได้ว่าเป็นเต่าที่มีชื่อเสียง
ครั้งที่แล้วมันค่อนข้างอันตรายในโซน 117 บุ๊กค์!
บุ๊กค์ปรากฏในวิดีโอการต่อสู้ของเอียนบ่อยครั้งและเนื่องจากรูปร่างหน้าตาของมันนั้นไม่มีใครเทียบได้ (?) มันเป็นมาสคอตสัตว์เลี้ยงเหมือนเอียนซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้เล่นหลายคน
ต้องขอบคุณสิ่งนั้น ในขณะที่เดินไปที่อาณาจักรปีศาจโดยไม่คิดอะไรมาก มีเวลาที่ทันได้จับมือกับแฟนๆและเกือบจะถูกลากกลับไปหาเอียน นับตั้งแต่นั้นมาบุ๊กค์หลีกเลี่ยงมนุษย์
สถานที่ที่ไม่มีมนุษย์… ฉันจะไปส่วนที่ลึกกว่านี้ของอาณาจักรปีศาจบุ๊กค์!
ด้วยเหตุนี้ บุ๊กค์ตรงไปที่ประตูมิติทีละก้าว
บุ๊กค์- บุ๊กค์- บุ๊กค์-
และในขณะที่มันเอาหัวของมันเข้าไปในประตูมิติของประตูสีแดง!
Thud-.
ในขณะที่ปล่อยเสียงทื่อออกมา หัวของบุ๊กค์นั้นถูกบล็อกโดยประตูมิติเมื่อมันกระเดนกลับมา
ในปรากฏการณ์ประหลาดที่มันไม่เคยพบเห็นมาก่อนจนถึงตอนนี้ บุ๊กค์แสดงท่าทางงุนงงอย่างมาก
บุ๊กค์! ประตูนี่มันพังบุ๊กค์! ทำไมถึงเป็นอย่างนี้บุ๊กค์?
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ยอมแพ้ไปทั้งอย่างนี้ บุ๊กค์พุ่งไปที่ประตูด้วยพลังทั้งหมดของมันอีกครั้ง
Boing-!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กลับมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่ดังกึกก้องไปทั่วหัวของมันนั้นเป็นเพียงข้อความระบบอันเดียว
ท่านไม่สามารถเข้าแผนที่ที่เจ้านาย ‘เอียน’ ยังไม่เคยเข้าได้
บุ๊กค์ซึ่งตรวจสอบข้อความแสดงท่าทางที่หงุดหงิดอย่างมาก
บุ๊กค์! เจ้าเจ้านายขี้เกียจ! กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย ยังไม่เคยเข้าที่นี่อีกงั้นหรอ?
อย่างไรก็ตาม บุ๊คก์ไม่ใช่เต่างี่เง่าที่เสียเวลากับกรณีที่ไม่ได้ผล
บุ๊กค์หันหน้าไปรอบๆและเริ่มเดินไปที่บางแห่งอีกครั้ง
บุ๊กค์- บุ๊กค์- บุ๊กค์-
ไลของเรายังอยู่ดีกินดีอยู่ใช่ไหมบุ๊กค์?
บุ๊กค์ทำหน้าที่โหยหา
ขณะที่เขาคิดถึงไล เขาก็คิดถึงหน้าของพินซึ่งให้มีตบอลแก่เขาในเวลาเดียวกัน
บุ๊กค์… ฉันคิดถึงเพื่อนๆที่อาจจะทนทุกข์ทรมาณจากเจ้านายชั่วร้ายบุ๊กค์…
บุ๊กค์แสดงออกอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าเดิมในขณะที่พูดพึมพำราวกับว่าเขาตัดสินใจแน่วแน่กับบางสิ่ง
รอก่อนนะบุ๊กค์ เมื่อฉันกลายเป็นเต่าที่เท่ห์มากกว่าบักค์ ฉันจะกลับไปบุ๊กค์
บุ๊กค์เริ่มก้าวเท้าอย่างเปล่าเปลี่ยวในวันนี้เช่นกัน
วันนี้ทั้งวัน กระดองที่ด้านหลังของเขารู้สึกหนักเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น