Taming Master 208-214

ตอนที่ 208

 

เอียนและเซอร์เวี่ยนเข้ากันได้ค่อนข้างดี


เหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะนั่นคือลักษณะของทั้งสองมีความคล้ายคลึงกัน


พวกเขาศึกษาและวิเคราะห์สัตว์เลี้ยงอย่างไม่รู้จบ


เพียงแค่หัวข้อเดียวนี้ การสนทนาของคนสองคนสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สิ้นสุด


แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลักษณะที่เซอร์เวี่ยนแก้ไขความอยากรู้ของเอียน


“ดังนั้นเซอร์เวียน คุณกำลังบอกว่ามีบางสิ่งที่มีอยู่ในรูปแบบที่คล้ายกันกับ ‘ศักยภาพ’ อยู่ในอสูรเวทย์มนตร์เช่นกันใช่ไหม?”


 


ถูกตัอง ไม่แตกต่างกันมากนักในบริบทที่มากกว่ากับอสูรเวทย์มนตร์และสัตว์เลี้ยงที่เจ้าจัดการจนถึงตอนนี้

 


“แล้วมันแตกต่างกันยังไงหรอครับ?”


 


อืมม…

 


เซอร์เวี่ยนซึ่งลูบเคราได้พูดอย่างช้าๆ


 


อย่างแรกความจริงที่ว่าพวกมันมี ‘พลังงานปีศาจ’ และแม้ว่าพวกมันจะอยู่ในเลเวลเดียวกัน ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันนั้นยอดเยี่ยมกว่าสัตว์เลี้ยงปกติประมาณ 10-15% อย่างไรก็ตามเนื่องจากขาดสติปัญญา พวกมันจะควบคุมได้ยากขึ้น

 


เอียนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาถาม


“คุณหมายความว่าอะไรที่ว่าพวกมันขาดสติปัญญา? ถ้างั้น… คุณจะหมายความว่าพวกมันอาจจะไม่เข้าใจคำสั่งของผมงั้นหรอ?”


เซอร์เวี่ยนส่ายหัวทันทีขณะที่เขาตอบกลับ


 


ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น พวกมันตอบสนองเร็วขึ้นและแน่นอนกว่าสัตวเลี้ยงปกติเมื่อพูดถึงคำสั่งที่แม่นยำ อย่างไรก็ตามปัญหาคือพวกมันไม่มีความยืดหยุ่นใดๆในเมื่อเจ้าเป็นซัมมอนเนอร์ที่น่าทึ่ง เจ้าอาจจะรู้ดี แต่ถึงแม้ว่าซัมมอนเนอร์จะไม่ออกคำสั่งให้กับสัตว์เลี้ยงที่มีสติปัญญาดีเยี่ยม ไม่ใช่ว่าพวกมันจะไม่ต่อสู้ด้วยตัวเองงั้นหรือ? ในทางกลับกันก็เป็นการดีที่จะคิดว่าอสูรเวทย์มนตร์ค่อนข้างขาดความกระตือรือร้นและความยืดหยุ่นเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงปกติ

 


พูดง่ายๆก็คือเขาหมายความว่า AI ของพวกมันลดลงเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป


สิ่งนี้สามารถเป็นจุดอ่อนที่สำคัญอย่างยิ่งกับซัมมอนเนอร์คนอื่นๆ แต่สำหรับเอียนก็ไม่ใช่อย่างนั้น


‘เป็นไปได้ที่พวกมันจะปรับสไตล์การต่อสู้ของฉันให้ดีขึ้นแทน’


สไตล์ของเอียนคือให้คำสั่งแก่สัตว์เลี้ยงของเขาทีละตัวในขณะที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำ


สำหรับเอียน การต่อสู้เป็นกระบวนการที่เขาต้องการใช้ขั้นตอนเยอะที่มีความแน่นแฟ้นโดยไม่มีช่องว่างใดๆและไปถึงผลลัพธ์ที่เขาต้องการ


สำหรับเอียนซึ่งต้องการให้การเคลื่อนไหวของสัตว์เลี้ยงทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเพื่อความพึงพอใจ การขาด AI สำหรับสัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตนัก


‘อสูรเวทย์มนตร์… หรอ ยิ่งฉันเรียนรู้เกี่ยวกับพวกมัน ฉันยิ่งชอบพวกมันมากขึ้น’


อสูรเวทย์มนตร์ที่ปรากฏในโซน 100-110 มีระดับของพลังที่แตกต่างจากอสูรเวทย์มนตร์ที่ปรากฏในโซน 110-120


ในกรณีนี้มันเป็นสถานการณ์ที่ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะดำเนินการต่อไปด้วยการล่าที่ยากขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาหยุดพัก เอียนก็มักจะพูดคุยกับเซอร์เวี่ยน


‘ในช่วงเวลาที่ฉันอยู่กับเซอร์เวี่ยน ฉันควรซึมซับความรู้ทั้งหมดของชายชราคนนี้ให้เป็นของฉัน’


แน่นอนว่าเอียนยังมีหนังสือภาพของอสูรเวทย์มนตร์ที่เซอร์เวี่ยนเขียนเอง แต่มันก็รู้สึกต่างออกไปอีกเมื่อได้ยินคำอธิบายของนักเขียนหรือผู้แต่งมากกว่าที่เขาจะอ่านบันทึกที่ทำไว้ในหนังสือ


ปาร์ตี้ของเอียนที่ดำเนินการผ่านแผนที่ทีละน้อยอย่างนั้น ในที่สุดก็สามารถมาถึงโซน 107 ได้ซึ่งเป็นที่ที่ห้องปฏิบัติการของเซอร์เวี่ยนตั้งอยู่


“เซอร์เวี่ยน ที่ตั้งของห้องปฏิบัติการของคุณอยู่ที่ไหน? โซน 107 นี่ดูเหมือนกับเขาวงกตมาก”


แตกต่างจากโซน 108 ซึ่งเป็นพื้นที่เปิด โซน 107 มีโครงสร้างเหมือนถ้ำที่แคบและซับซ้อน


ในขณะที่มองเอียนซึ่งถามเส้นทาง เซอร์เวี่ยนก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ


 


โครงสร้างของโซน 107 นั้นซับซ้อนอย่างมาก ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาจึงทำให้มันเป็นโครงสร้างนี้ แต่เป็นเพราะโครงสร้างที่ซับซ้อนนี้ฉันจึงสร้างห้องปฏิบัติการของฉันไว้ที่นี่

 


“ทำไมล่ะ?”


 


เป็นเพราะข้าสามารถอยู่ภายใต้เรดาร์ของปีศาจได้ง่ายมาก ปีศาจระดับสูงไม่ชอบข้า เมื่อข้าเป็นเพียงครึ่งปีศาจ แต่แข็งแกร่งกว่าปีศาจระดับขุนนาง มีความจำเป็นต้องซ่อนห้องปฏิบัติการของข้าด้วยความตั้งใจ

 


เซอร์เวี่ยนเดินผ่านทางเดินอย่างเชี่ยวชาญในขณะที่เขาเริ่มนำทางปาร์ตี้ของเอียนไปยังห้องปฏิบัติการ


เอียนตามหลังของเซอร์เวี่ยนขณะที่เขาส่ายหน้า


‘เฮ้อ… มันจะกว่าง่ายในการท่องจำหนังสือภาพทั้งเล่มของอสูรเวทย์มนตร์หรืออะไรก็ตามแทนการจดจำเส้นทางนี้ หากฉันถูกขอให้หาทางกลับออกไปโดยลำพังโดยไม่มีเซอร์เวี่ยน ฉันจะสามารถทำได้หรือไม่? ‘


เอียนยังคงพยายามจดจำเส้นทางให้ได้มากที่สุดและในขณะที่เขาทำเช่นนั้น เซอร์เวี่ยนก็สามารถมาถึงห้องทดลองของเขาได้


แน่นอนว่าเป็นห้องปฏิบัติการ แต่มันเป็นภาพที่ใกล้เคียงกับ ‘ซากปรักหักพัง’


 


เรามาถึงแล้วเอียน ที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่ห้องปฏิบัติการของข้า

 


เอียนหัวเราะขณะที่เขาถามกลับ


“ทำไมคุณถึงพูดว่ามันเป็นอดีตล่ะ?”


เช่นนั้น เซอร์เวี่ยนตอบกลับด้วยท่าทางขมขื่น


 


ตามที่เจ้าเห็น มันพังทลายไปแล้วใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้มันกลายเป็นภาพที่จะเหมาะกับการใช้เป็นลานขยะแทนซะแล้ว

 


เมื่อท่าทางขมขื่นของเซอร์เวี่ยนค่อนข้างน่ารัก เอียนจึงหัวเราะ


“อย่างไรก็ตาม มันค่อนข้างน่าอัศจรรย์”


 


อะไรนะ?

 


“ตั้งแต่จากทางเข้าของโซน 107 ดูเหมือนว่าเราจะมาถึงที่นี่ประมาณ 30 นาที แต่เราไม่เจออสูรเวทย์มนตร์แม้แต่ตัวเดียว”


 


อ่อหรอ?

 


“เป็นไปได้ยังไงกัน?”


เซอร์เวี่ยนอธิบายด้วยความภาคภูมิใจ


 


นั่นเป็นเพราะโซน 107 เดิมทีแล้วเหมือนสวนหลังบ้านของฉัน มันเป็นเพราะเราเพิ่งผ่านทางลัดที่อสูรเวทย์มนตร์มักจะไม่ผ่านและเข้ามาข้างใน

 


เอียนพยักหน้าขณะที่เขาคิดกับตัวเอง


‘ในหลายๆวิธี ฉันจะทำเควสต์นี้ได้อย่างง่ายดายต้องขอบคุณเซอร์เวี่ยน มันถึงจุดที่ฉันกังวลแทนเพราะทุกอย่างราบรื่นเกินไป’


ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ปาร์ตี้ก็มาถึงบ้านร้างที่ถูกปลอมแปลงเป็นห้องทดลองและเอียนก็เดินเข้าไปข้างใน


 


ระวังด้วยเอียน ไม่มีใครรู้ว่ามอนสเตอร์ประเภทไหนจะอยู่ข้างในห้องปฏิบัติการ

 


“หืมม…?”


เซอร์เวี่ยนเตือนเขาอีกครั้ง


 


หนึ่งในเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดที่ว่าทำไมเราไม่พบอสูรเวทย์มนตร์ในทางของเราที่นี่ ความจริงที่ว่าเพราะการมีอยู่ของห้องปฏิบัติการของฉัน

 


“ทำไมล่ะครับ?”


 


มันเป็นเพราะมันชัดเจนว่าอสูรเวทย์มนตร์จำนวนมากที่จะได้กลิ่นหินแห่งความโกลาหลที่อยู่ในห้องปฏิบัติการของข้า มันจะเข้าไปข้างใน

 


“อะแฮ่ม… สิ่งที่เรียกว่าหินแห่งความโกลาหล มันเป็นสสารที่อสูรเวทย์มนตร์ชอบใช่ไหมครับ?”


เซอร์เวี่ยนซึ่งครุ่นคิดสักครู่หนึ่งได้ตอบกลับหลังจากนั้นไม่นาน


 


แทนที่จะเป็นสารที่อสุรเวทย์มนตร์ชอบ… หากเปรียบเทียบกับมนุษย์ เจ้าอาจคิดว่ามันเป็นสารที่คล้ายกับยาเสพติด มันทำลายร่างกายของเรา แต่มันเป็นสารที่มีระดับการเสพติดสูงอย่างมาก

 


เอียนซึ่งเข้าใจคำพูดของเซอร์เวี่ยนทันที เริ่มเข้าห้องปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง


และแน่นอนว่าก่อนที่เขาจะเข้ามาได้เพียง 3 นาที ปาร์ตี้ของเอียนก็สามารถพบกับอสูรเวทย์มนตร์ระดับกลางที่สร้างขึ้นจากพวกมันประมาณห้าหรือหกตัว


เอียนเริ่มสั่งคำสั่งทันที


“เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง! เราแค่ต้องทำตามที่เราทำมาจนถึงตอนนี้ อย่างแรกบักค์ก้าวไปข้างหน้า! “


เมื่อเขาทำอย่างนั้น ซีเรียซึ่งอยู่ข้างๆเขาได้อัญเชิญดุ๊กเดทันทีและตามหลังของบักค์ไป


และด้วยการเคลื่อนไหวดังกล่าว สัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามของเอียนเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและแม่นยำ


ขณะที่ลอยอยู่บนอากาศ เซอร์เวี่ยนผู้เฝ้าดูเอียนทำอย่างนั้น พึมพำด้วยเสียงเบาๆ


 


ความสามารถในการบังคับบัญชาสัตว์เลี้ยงของเขานั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่งทุกครั้งที่ฉันดูเขา

 


เป็นไปตามที่คาดแหล่งที่มาของการปนเปื้อน อสูรเวทย์มนตร์ที่ปรากฏในห้องทดลองล้วนเป็นอสูรเวทย์มนตร์ที่มีการปนเปื้อนในระดับสูง


มันเป็นเพราะพวกมันยังเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งจุกจิกมากขึ้นที่จะเผชิญเช่นกัน


“ไล นายไปซุ่มโจมตีอสูรเวทย์มนตร์ สัตว์เลี้ยงกับผู้ติดตามคนอื่นไปต่อสู้กับฉัน เนื่องจากพวกมันวอกแวกอย่างง่ายดายเพราะความบ้าคลั่งของพวกมัน ประสิทธิภาพของการตลบหลังพวกมันจะดีขึ้นกว่าเดิม”


 


กร๊า- กร๊าา-! รับทราบครับเจ้านาย!

 


ดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าของอาณาจักรปีศาจ 365 วันเสมอ


ต้องขอบคุณสิ่งนั้น พลังแฝงของไลนั้นเปล่งประกายอย่างมากนับตั้งแต่เข้าสู่อาณาจักรปีศาจ


นั่นเป็นหนึ่งในพลังแฝงของราชันแห่งเฟนเรียร์ ทายาทแห่งดวงจันทร์


พลังแฝงของ ‘ทายาทแห่งดวงจันทร์’ เป็นสกิลแบบพาสซีฟคุณภาพสูงที่ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 30% และให้พวกเขาฟื้นฟูพลังชีวิต 3% ของพลังชีวิตสูงสุดทุกวินาทีเมื่อได้รับแสงจันทร์


อย่างไรก็ตาม จำนวนดวงจันทร์ที่เพิ่มขึ้นบนท้องฟ้าของอาณาจักรปีศาจไม่ได้เป็นเพียงหนึ่ง แต่เป็นสามและน่าประหลาดใจ ผลของทายาทแห่งดวงจันทร์ถูกนำไปใช้เป็นการทับซ้อนกัน


สกิลติดตัวอยู่ในอันดับต้นๆที่ถูกเพิ่มเป็นสามเท่านั้นอาจถูกพิจารณาว่าเป็นการโกงได้


การเคลื่อนไหวของ Ly เพิ่มขึ้น 90% ในขณะที่เขาอยู่ในอาณาจักรและพลังชีวิตของเขาก็ฟื้นฟูขึ้น 9% ทุกวินาที


อย่างน้อยในขณะที่อยู่ในอาณาจักรปีศาจ ไลก็ได้แสดงพลังการต่อสู้ที่ไม่ได้ด้อยกว่าแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับคาร์เซอุส


 


กร๊าา-! ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นของเลือดของอสูรเวทย์มนตร์

 


ไลผู้ที่กระโจนไปรอบๆอย่างบ้าคลั่ง เอียนเริ่มทำความสะอาดห้องปฏิบัติการโดยเริ่มจากทางเข้า


‘เฮ้อ แม้ว่าจะใช้เวลาสักครู่ แต่เราต้องดำเนินการให้ปลอดภัย ดูเหมือนว่าสถานที่นี้จะเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถฆ่าเราได้ทันทีด้วยความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว’


ถ้าเขาเพียงแค่เคลียร์ห้องปฏิบัติการนี้และทำเควสต์เชื่อมทั้งหมดให้สำเร็จ เขาจะสามารถได้รับอาชีพคู่


เมื่อเป็นเช่นนั้น มันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพลังการต่อสู้ของเอียนจะแข็งแกร่งในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เขาจะเข้าไปในอาณาจักรปีศาจที่ลึกขึ้นได้


‘เอาล่ะ ระมัดระวังอีกหน่อยและผ่านที่นี่กัน’


เอียนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มากที่สุดของเขาและเริ่มตามล่าอสูรเวทย์มนตร์ที่รุมห้องปฏิบัติการทีละตัวและในที่สุดเขาก็สามารถเข้าไปในส่วนสำคัญของห้องปฏิบัติการได้


และเมื่อเขามาถึงแกนกลาง เซอร์เวี่ยนซึ่งเฝ้าดูการต่อสู้ของเอียนชั่วครู่หนึ่งโดยไม่พูดอะไรเลย ในที่สุดก็พูดออกมา


 


เอียน เจ้าเห็นแสงสีฟ้าที่รั่วไหลออกมาระหว่างรอยแตกของประตูนั่นตรงนั้นใช่ไหม?

 


เมื่อเซอร์เวี่ยนพูด เอียนมองไปที่ตรงนั้นทันทีและพบกับแสงสีฟ้า เอียนพยักหน้า


“ครับ ผมเห็นอยู่ ผมควรไปตรงนั้นหรอ?”


เซอร์เวี่ยนพยักหน้า


 


เปิดประตูนั่นและเข้าไปข้างใน ข้างในนั้นจะมีหินแห่งความโกลาหลที่ข้าได้รวบรวมไว้ก่อนที่นี่จะกลายเป็นซาก

 


เอียนค่อยๆเข้าใกล้ประตู


“แต่สิ่งนั้นเรียกว่าหินแห่งความโกลาหล เป็นไอเทมที่ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของผมหรือตัวผมเองใช่ไหม?”


เมื่อเอียนถาม เซอร์เวี่ยนพยักหน้าขณะที่เขาอธิบาย


 


ถูกต้อง ไอเทมนั้นเป็นสิ่งที่มีปฏิกิริยากับ ‘พลังงานปีศาจ’ เท่านั้น ไม่มีอะไรที่เจ้าต้องกังวลเกี่ยวกับมัน

 


“ผมเข้าใจแล้ว”


 


เนื่องจากเป็นไปได้ว่าอสูรเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาอสูรที่เจ้าเจอมาจนถึงตอนนี้อยู่ในนั้น ข้าคิดว่าเจ้าต้องระวังสิ่งนั้น

 


“รับทราบครับเซอรเวี่ยน”


เมื่อเซอร์เวี่ยนเตือน เอียนหยุดและกำจัดอสูรเวทย์มนตร์ทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆก่อน


เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่อยู่ภายในซึ่งยากต่อการจัดการที่จะโผล่ออกมา เขาได้ทำการกำจัดอสูรเวทย์มนตร์ข้างนอกก่อน


“เอาล่ะ เราเข้าไปข้างในกันเลยไหม?”


เอียนซึ่งเปิดประตูแง้มค่อยๆดึงประตูเปิดออก


เมื่อเขาทำอย่างนั้น แสงสีฟ้าที่สว่างจนถึงจุดที่แสบตาและภายในพื้นที่กว้างมีขนาดเท่ากับห้องประชุมขนาดเล็ก อสูรเวทย์มนตร์ขนาดใหญ่ขดอยู่ในนั้น


ด้วยขนาดที่เกือบจะเทียบเท่ากับคาร์เซอุส มันเป็นนกยักษ์ที่ปกคลุมด้วยขนสีดำสนิท


เอียนซึ่งจ้องมองขณะหนึ่งและได้รับความกดดันอย่างรุนแรงก็ถอยกลับไปหนึ่งก้าว เมื่อเขาเข้าสู่สถานะการต่อสู้และเซอร์เวี่ยนซึ่งอยู่ถัดจากเขา ขยี้ดวงตาสองข้างของเขาขณะที่มองไปที่นกยักษ์


 


มะ ไม่น่าเชื่อ!

 


เอียนซึ่งได้ยินเซอร์เวี่ยนพูดแสดงท่าทางงุนงงขณะที่เขาถาม


“ทำไมคุณถึงพูดว่าไม่น่าเชื่อกัน?”


เซอร์เวี่ยนค่อยๆพูดด้วยท่าทางงุนงง


 


นี่มัน…! เป็นอสูรเวทย์มนตร์ที่ฉันได้รับเมื่อหลายพันปีก่อนในตอนท้ายของความพยายามมีชื่อว่า ‘รัคเยล’

 


“รัคเยล…?”


เอียนซึ่งยังคงแสดงออกอย่างงุนงง เซอร์เวี่ยนเพิ่มคำอธิบายของเขา


 


ในหัวข้อของอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง มันเป็นหนึ่งในอสูรที่หายากเป็นอสูรเวทย์มนตร์ในระดับ Legendary

 


เอียนถามกลับด้วยการแสดงออกที่กระวนกระวายใจเล็กน้อย


“หากว่ามันเป็นอสูรระดับสูง มันต้องแข็งแกร่งมากใช่ไหม?”


อย่างไรก็ตามการตอบสนองที่กลับไปที่คำถามของเอียนคือสิ่งที่ไม่คาดคิดอย่างสมบูรณ์


 


ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่งของมัน เอียน

 


“ถ้างั้น?”


ขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน ดวงตาทั้งสองของรัคเยลซึ่งหลับอยู่ต่อหน้าหินแห่งความโกลาหลค่อยๆเปิดขึ้น


 


จิตวิญญาณของรัคเยลเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมในการสร้างอสูรเวทย์มนตร์ขึ้นมาใหม่ในระดับ Legendary!

 

 

 


ตอนที่ 209

 

เมื่อได้ยินคำที่คาดไม่ถึง เอียนงุงงเป็นอย่างมาก


“พวกมันเป็นวัสดุที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างอสูรเวทย์มนตร์ขึ้นมาใหม่… คุณกำลังพูดอะไรหรอ?”


 


ถูกต้อง รัคเยลนั้นเป็นสายพันธุ์ที่หายากหากว่าเจ้าไม่จับมันตอนนี้ ไม่มีทางรู้ว่าเจ้าจะได้พบมันอีกครั้งเมื่อไหร่

 


“…!”


สีหน้าของเอียนเปลี่ยนไปเป็นอาการโลภ


‘เอ่อ… นี่จะเป็นการสูญเปล่าถ้าฉันเสียโอกาส ฉันควรทำยังไงดี?’


อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาอยากจะจับมันสักเท่าไหร่ มันไม่ใช่สถานการณ์ที่เอียนจะสามารถจับอสูรเวทย์มนตร์ได้


นอกเหนือจากการไม่รู้ว่ามีการสร้างกลไกแบบใดขึ้นมาอีก เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวัตถุดิบที่เรียกว่ารัคเยลมีความหมายแบบใด แต่จากคำพูดของเซอร์เวี่ยนเพียงอย่างเดียวเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความสำคัญของมอนสเตอร์ชนิดนี้


‘เฮ้อ… แกควรปรากฎตัวหลังจากที่ฉันได้รับอาชีพคู่แล้ว ทำไมแกถึงมาปรากฏตัวตอนนี้กัน?’


อสุรเวทย์มนตร์คือสัตว์เลี้ยงที่คุณสามารถจับได้ก็ต่อเมื่อคุณมีเลือดของครึ่งปีศาจและมีอาชีพคู่ ซัมมอนเนอร์ปีศาจ


อย่างไรก็ตาม เอียนไม่สามารถยอมแพ้ได้อย่างง่ายดาย


Kyaaooh-!


รัคเยลกระพือปีกขนาดใหญ่ของมันขณะที่มันค่อยๆลอยขึ้นอย่างช้าๆ


และเอียนซึ่งสบตากับมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ได้รีบตรวจสอบข้อมูลของมัน


‘ฉันไม่เห็นอะไรเป็นพิเศษ แต่มันเป็นอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงที่มีเลเวล 320…’


เอียนจับการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาอย่างเหนียวแน่น


“เซอร์เวี่ยน มันมีจุดอ่อนตรงไหนไหม?”


เมื่อเอียนถาม เซอร์เวี่ยนตอบกลับทันที


 


มันเป็นมอนสเตอร์ที่ไม่มีจุดอ่อน แต่มีบางอย่างที่เจ้าต้องระวังไว้

 


“มันคืออะไร?”


หลังจากเอียนส่งบักค์และคาร์เซอุสไปข้างหน้าและซื้อเวลาให้เขา เขาฟังคำพูดของเซอร์เวี่ยนอย่างตั้งใจ


 


เมื่อไหร่ก็ตามที่พลังชีวิตของรัคเยลเหลือ 15% ปีกของมันจะเผาไหม้

 


“บอกให้เร็วกว่านี้หน่อยสิครับ! การต่อสู้จะเริ่มขึ้นแล้ว!”


เมื่อเอียนเร่ง เซอร์เวี่ยนอธิบายต่ออย่างทันที


 


ปีกของมันจะเผาไหม้เป็นเวลา 5 นาที แต่ขณะที่ปีกของมันเผาไหม้ รัคเยลจะรอดพ้นจากการโจมตีเวทย์มนตร์ทั้งหมด และในขณะที่มันเผาไหม้เปลวเพลิงสีฟ้ามันจะรอดพ้นต่อการโจมตีทางกายภาพ

 


“สีของเปลวไฟเปลี่ยนไปมาใช่ไหม?


 


ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่างไรก็ตามข้าคิดว่ามันเป็นแบบสุ่ม

 


เอียนซึ่งได้ยินอย่างนั้นได้พุ่งเข้าหารัคเยลโดยไม่ลังเล


‘เพื่อเผชิญหน้ากับสัตว์เลี้ยงระดับสูงเลเวล 320 การเสียสละจำนวนหนึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้’


จนถึงตอนนี้อย่างน้อยเขาก็ยังคงรักษาพลังการต่อสู้ของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่สูญเสียแม้แต่ผู้ติดตามหรือสัตว์เลี้ยงคนเดียว แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เลเวล 320


‘โดยการพยายามต่อสู้โดยไม่ต้องเสียสละ เราอาจจะโดนสังหารหมู่แทน’


เอียนเริ่มควบคุมสัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามอย่างสงบ


‘และมอนสเตอร์ตัวนั้น ฉันไม่สามารถฆ่ามันได้’


เอียนยังไม่ยอมแพ้กับภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ของ ‘การจับ’ รัคเยล


 


* * *


 


“เฮ้อ ในที่สุดฉันก็เข้ามาในอาณาจักรปีศาจได้สินะ?”


ชายคนหนึ่งที่มีคันธนูยาวแขวนอยู่บนหลังของเขา


ชายผู้สวมชุดเกราะหนังสีขาวมองไปรอบๆโซน 128 ของอาณาจักรปีศาจที่หน้าประตูทางเข้า


เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซามูเอลจิน


เขาเป็นหัวหน้ากิลด์ของกิลด์โอ๊คลันที่ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่อาณาจักรปีศาจ เป็นเวลาค่อนข้างนานตั้งแต่การอัพเดทขนาดใหญ่เปิดขี้น


เป็นคนที่ติดอันดับท็อป 10 ของการจัดอันดับโดยรวม นี่เป็นผลงานที่น่าละอายอย่างไม่น่าเชื่อ


อย่างไรก็ตาม เขามีเหตุผลพอกับสิ่งนี้


‘แม้ว่าผู้จัดอันดับส่วนใหญ่จะหนีไปที่อาณาจักรปีศาจ แต่ฉันก็ไม่รู้เลยว่าไคม่อนจะแข็งแกร่งขนาดนั้น’


ณ ฝั่งตะวันตกของทวีปตอนกลาง


แนวหน้าการป้องกันของอาณาจักรลัสเปลที่แกว่งไปมาอย่างต่อเนื่องได้ผูกซามูเอลจินไว้จนถึงขณะนี้


ในตอนแรกดูเหมือนว่ากลยุทธ์ในการจัดตั้งกลุ่มและผลัดกันป้องกันค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แต่ในที่สุดก็เกิดการแตกแยกและซามูเอลจินผู้มีส่วนร่วมมากที่สุด ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสนับสนุนการป้องกันต่อไป


‘เฮ้อ ฉันเข้ามาช้านิดหน่อย แต่เป็นไปตามตารางที่แน่นเอี๊ยด ฉันควรจะสร้างความแตกต่างที่เกิดขึ้นบ้าง’


ซามูเอลจินรู้สึกรังเกียจมาร์ตินอย่างมากซึ่งไม่สนใจแนวหน้าของการป้องกันอย่างสมบูรณ์และก้าวเข้าสู่อาณาจักรปีศาจด้วยตนเอง


‘มาร์ติน ตามที่คาดไว้มีเลศนัยเกินกว่าจะลงเรือลำเดียวกันกับเขาได้อย่างต่อเนื่อง’


ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถมองมุมมองเดียวกันกับมาร์ตินได้ ขณะที่ซามูเอลจินกัดฟันของเขาขณะที่เขาเดินอย่างช้าๆ


‘รีบไปรับอาชีพคู่ก่อน ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครได้รับมัน ดังนั้นฉันจะต้องรับมันอย่างรวดเร็ว’


อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าเนื่องจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาชีพคู่นั้นยังไม่ปรากฏออกมา มันอาจถูกพิจารณาว่าเป็น ‘ความกล้าหาญที่บ้าบิ่น’


 


รัคเยลนั้นแข็งแกร่ง


เข้ากับฉายา ‘อสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง’ ของมัน


มันแสดงให้เห็นถึงค่าสถานะที่เหนือกว่าเมื่อมันทำให้เอียนต้องดิ้นรน


‘ทำไมไอ้นกบ้านี่แข็งแกร่งจัง?’


ยิ่งไปกว่านั้นเลเวล 320 ขณะที่พลังปีศาจของมันคลั่ง เนื่องจากหินแห่งความโกลาหลพลังทำลายล้างของมันนั้นมากมายอย่างแท้จริง


“เวรเอ้ย ปีกของมันเริ่มเผาไหม้อีกแล้ว! ถอยกลับมา!”


เมื่อเอียนตะโกน สัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามของเขาถอยหลังกลับมาทันที


เปลวไฟที่ถูกปล่อยออกมาจากปีกของรัคเยลไม่เพียงแต่ให้ภูมิคุ้มกันของรัคเยล แต่มันก็ยังสร้างความเสียหาย AoE ชั่วคราว พวกเขาทำได้แค่เพียงต้องหลบมันก่อน


ปีกของรัคเยลเปล่งประกายสีฟ้าขณะที่มันเริ่มเผาไหม้


Hwa-reu-reuk-


เอียนได้ตรวจสอบสีของไฟที่เผาไหม้


‘ห้ะ ทำไมมันเป็นสีฟ้าอีกแล้วล่ะ?’


ระดับความยากของการต่อสู้นั้นยากลำบากอย่างมาก แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันปล่อยเปลวไฟสีฟ้าออกมา มันเป็นสถานการณ์ที่พวกเขาไม่สามารถทำสิ่งอื่นได้อย่างแท้จริง


นี่เป็นเพราะนอกเหนือจากพลังแฝงของสัตว์เลี้ยง การโจมตีกำลังหลักของเอียนก็คือการโจมตีทางกายภาพ


ขณะที่ปีกของรัคเยลปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีฟ้า เอียนไม่สามารถสร้างความเสียหายได้


“เวรเอ้ย มีสมาธิในการหลบมากที่สุด! แค่พินและคาร์เซอุสสร้างความแตกต่างเล็กน้อยในขณะที่คุณทำความเสียหาย!”


ตอนนี้ ปาร์ตี้ของเอียนเต็มไปด้วยตัวสร้างความเสียหายประเภทกายภาพ


เนื่องจากเป็นกรณีนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่คาร์เซอุสได้แปลงเป็นร่างมนุษย์ของเขา


เนื่องจากเมื่อเขาอยู่ในร่างมนุษย์ เขาสามารถรับบทเป็นนักเวทย์มนตร์ที่น่าทึ่งได้


Baaang-!


พินและคาร์เซอุสโจมตีใส่รัคเยล แต่รัคเยลไม่แม้แต่กระพริบตาขณะที่โจมตีบักค์และดุ๊กเดอย่างต่อเนื่อง


‘มันอาจจะติดสารเสพติดที่เรียกว่าหินแห่งความโกลาหลซึ่งเป็นเหตุผลที่มันเคลื่อนไหวแบบนั้น’


การโจมตีของรัคเยลซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่สนใจการป้องกันหรือปกป้องตนเองได้ดำเนินต่อไป


เอียนตอดพลังชีวิตของรัคเยลที่ละเล็กน้อย


‘มันเริ่มจะหมดลงช้าๆสำหรับไฟนรกนี่…’


เอียนตรวจสอบแถบพลังชีวิตของรัคเยล


แถบพลังชีวิตของรัคเยลลดลงต่ำกว่าครึ่งแล้ว


‘เฮ้อ ในที่สุดแถบพลังชีวิตบ้านี่ก็กระพริบ’


เอียนดึงสติและเขาเริ่มสนใจการต่อสู้มากยิ่งขึ้น


นี่เป็นเพราะแม้ว่าเขาจะไปถึงเป้าหมายของเขาเกือบจะสำเร็จ แต่นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เขาอาจไม่สนใจแม้แต่กระทั่งในวินาทีสุดท้าย


Kyaaooh!


รัคเยลอ้าปากของมันขณะที่มันส่งเสียงอันน่าหวาดกลัว


และเมื่อมันทำอย่างนั้น สักครู่หนึ่งข้อความระบบโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


 


อสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง ‘รัคเยล’ ร่ายพลังแฝง ‘เสียงกรีดร้องแห่งความมืด’

พลังชีวิตของท่านลดลง 26,849 หน่วย

เนื่องจากพลังงานปีศาจของอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง ‘รัคเยล’ ท่านได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 10,500 หน่วย

พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ลดลง 29,847 หน่วย

พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘บักค์’ ลดลง 12,983 หน่วย

 


สำหรับการโจมตี AoE ที่ไม่ได้ใช้เวลาคูลดาวน์นานเมื่อเทียบกับสกิลอื่นๆจำนวนความเสียหายที่สร้างขึ้นนั้นค่อนข้างรุนแรง


เอียนกัดฟันขณะที่เขาเริ่มสั่งการร่ายสกิลฟื้นฟู


“นักบวช เริ่มการเพิ่มพลังชีวิตของพวกที่รับความเสียหายอยู่ด้านหน้าก่อน! ซีเรียฟื้นฟูพลังชีวิตของบักค์ต่อไป”


“ครับ ท่านลอร์ด! แต่ว่าดุ๊กเดเหลือพลังชีวิตไม่มากแล้ว… ผมควรช่วยบักค์ก่อนดีไหม?”


เอียนเจ็บปวดหัวใจ แต่เขาพยักหน้าโดยไม่ลังเล


“ทำเลย เนื่องจากเราต้องรักษาพลังการต่อสู้ของเราไว้ก่อน!”


“รับทราบครับ!”


ในที่สุด เมื่อการโจมตีของรัคเยลดำเนินต่อไป ช่วยไม่ได้ที่พลังชีวิตของดุ๊กเดจะหมดลงและพลังชีวิตของบักค์ก็ยังคงอยู่ในสภาพใกล้ตาย


“ไคซาร์ รักษาพลังชีวิตของนายในขณะที่หลบอีกเล็กน้อย! ภูมิคุ้มกันทางกายภาพของมันจะถูกปล่อยออกมาภายในเวลาประมาณ 30 วินาทีจากนี้!”


“เข้าใจแล้วเจ้าหนูลอร์ด นายต้องรีบเตรียมตัวเหมือนกัน”


“เตรียมตัว? เตรียมตัวอะไร?”


“ข้าบอกเจ้าว่าเตรียมตัวพุ่งเข้าไปด้วยหอกที่อยู่ในมือเจ้านั่นไง!”


เอียนซึ่งลังเลสักครู่หนึ่งจากคำพูดของไคซาร์ ในไม่ช้าเขาก็หยิบการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาและลุกขึ้น


‘ถูกต้อง มันอาจจะอันตรายสักหน่อย แน่ฉันควรออกไปด้วยตัวเอง ประสิทธิภาพในการล่าของฉันในอาณาจักรปีศาจจะลดลงครึ่งหนึ่ง ถ้าฉันต้องทิ้งสัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามของฉันไปครึ่งหนึ่งและมีชีวิตอยู่เพียงลำพัง’


อสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงรัคเยลกระพือปีกที่ลุกไหม้ของมันขึ้นไปที่ต่างๆเมื่อมันต่อสู้กับเอียนอย่างหมดรูป


เช่นเดียวกับที่คาดไว้ เอียนใช้เวลาเกือบหนึ่งในสี่ของวันในขณะที่เขากำลังต่อสู้กับรัคเยล


และในที่สุด เขาเริ่มเห็นจุดจบของการต่อสู้นี้


Baaang-!


ขณะที่โล่ความเสียหายกายภาพถูกสร้างขึ้นโดยเปลวไฟสีฟ้าหายไป เอียนและไคซาร์พุ่งเข้าไปราวกับว่าพวกเขากำลังรออยู่แล้ว


Chwa-ra-rak-!


และหลังจากการโจมตีอย่างดุเดือดของไล หลังจากนั้นแถบพลังชีวิตของรัคเยลได้ลดลงไปเกือบหมด


Ky-aeeeek-!


นกสีดำรัคเยลสั่นคลอนไปด้วยความเจ็บปวด


ในขณะนั้น เมื่อการสู้รบสิ้นสุดลงด้วยการตายของรัคเยลเช่นนั้น เอียนก็สั่งสัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามของเขากลับมาทันที


“ทุกคนถอยกลับ!”


มันเป็นเสียงตะโกนอย่างกะทันหันที่ไม่ได้คาดคิด แต่สัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามของเอียนถอยกลับอย่างรวดเร็ว


 


มีอะไรเกิดขึ้นครับเจ้านาย!?

 


“ถ้าเราต้านแบบนี้ไปอีกนิด เราก็จะสามารถฆ่าเจ้าสัตว์ประหลาดนี่ได้สำเร็จ “


ต่อหน้าไคซาร์และไลซึ่งถามด้วยความงุนงง เอียนเข้าหารัคเยลด้วยก้าวใหญ่ๆหลังจากตอบกลับ


“เจ้านั่น ฉันวางแผนว่าจะจับมันโดยยังมีชีวิตอยู่”


ท่าทางของเอียนซึ่งตอบกลับการกัดฟัน เซอร์เวี่ยนถามด้วยความประหลาดใจในครั้งนี้


 


ไม่ได้หรอก เจ้าจะสามารถฝึกอสูรเวทย์มนตร์ได้ยังไงในเมื่อเจ้าไม่มีแม้แต่เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ?

 


อย่างไรก็ตาม เอียนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของเซอร์เวี่ยนขณะที่เขาหัวเราะรัคเยล


“ฮิลเลอร์ มุ่งเน้นสกิลการฟื้นฟูมาที่ฉัน!”


“รับทราบ!”


“รับทราบครับ ท่านลอร์ด!”


เอียนมองไปที่บักค์เล็กน้อยซึ่งถอยกลับไป ขณะที่มันทำตามคำสั่ง


“ซีเรีย เธอฟื้นฟูพลังชีวิตของบักค์ให้เต็มและบักค์ นายดูฉันไว้และหากว่าดูเป็นอันตราย ร่ายสกิลคำอวยพรแห่งเต่ามังกรใส่ฉันทันที เข้าใจไหม?”


บักค์แสดงสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อย แต่มันพยักหน้าขณะที่มันรับคำสั่งของเอียน


 


รับทราบครับเจ้านาย ระวังตัวด้วย

 


ขณะที่มองมนุษย์ที่พุ่งเข้าไปเพียงคนเดียว รัคเยลร้องโวยวายออกมาอย่างดุเดือดและเริ่มมีรับท้าทายอย่างบ้าคลั่งของเอียน

 

 

 


ตอนที่ 210

 

การต่อสู้ทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นในอาณาจักรปีศาจนั้นเป็นสงครามขนาดใหญ่


นี่เป็นเพราะถ้าคุณไม่ได้เป็นนักจัดอันดับระดับสูงอย่างเอียน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะล่าด้วยตัวเอง


จำนวนผู้เล่นที่สามารถเล่นโซโล่ในอาณาจักรปีศาจนั้นมีประมาณ 10 ถึง 20 คนรวมถึงเอียน


ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เล่นที่มีตัวละครที่มีพลังการต่อสู้แข็งแกร่ง แต่ถ้าชื่อเสียงของพวกเขาต่ำ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเล่นโซโล่


นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าชื่อเสียงของพวกเขาต่ำในที่สุดก็สอดคล้องกับความจริงที่ว่าตำแหน่งขุนนางของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำและถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะหมายถึงแง่มุมเชิงปริมาณและคุณภาพของผู้ติดตามที่พวกเขาสามารถใช้งานได้


นี่เป็นกรณีของ ‘คาเซล’ ผู้เล่นวอริเออร์ในช่วงเลเวล 180 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 8 ในการจัดอันดับอย่างเป็นทางการ


อย่างน้อยในกรณีของเขา เนื่องจากเขาสามารถนับเป็นสามอันดับแรกตามพลังการต่อสู้ของตัวละครของเขา มันเป็นไปได้ที่เขาจะเล่นโซโล่ในโซน 120-130


อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่อสูรเวทย์มนตร์ระดับกลางปรากฏขึ้น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะล่าด้วยตัวเองและดังนั้นในที่สุดเขาก็ล่าด้วยตัวเองในโซน 120


“โห ดูตรงนั้นสิ เขาคิดคาเซล”


“ห้ะ! นายพูดถูก! แม้ว่านักจัดอันดับเลขหนึ่งหลักก็ไม่สามารถผ่านโซน 120 ได้งั้นหรอ?”


“ฉันไม่แน่ใจ ถ้าเป็นคนอย่างคาเซล ถ้าเขาร่วมงานกับผู้จัดอันดับคนอื่นมันคงเป็นไปได้แน่นอน เขาต้องมาที่นี่เพื่อเล่นโซโล่”


“เอ่อ… น่าประทับใจ”


จากจุดเริ่มต้น เขามีชื่อเสียงในไคลันสำหรับการเป็นผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและเขาเป็นผู้เล่นที่ติดการต่อสู้ที่เพียงแค่ล่าตลอดทั้งวัน


จนถึงจุดที่ผู้เล่นหลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องลึกลับที่เขาติดใน 10 อันดับแรกจนถึงตอนนี้เมื่อเขาไม่ได้เข้าร่วมกิลด์หรือไม่ยอมรับเควสต์ใดๆ


Kwa-deu-deuk-!


ขวานยักษ์ของคาเซลบดขยี้หัวอสูรเวทย์มนตร์ยระดับต่ำของอาณาจักรปีศาจ ลาโคม


 


ท่านประสบความสําเร็จในการสังหารอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำ ‘ลาโคม’

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 2,549,800 หน่วย

ท่านได้รับ ‘หินเวทย์มนตร์ระดับต่ำ’

 


รอยยิ้มอันเล็กน้อยของคาเซลซึ่งอ่านข้อความระบบที่โผล่ขึ้นมา


“โอเค ในที่สุดฉันก็ได้เพิ่มมาหนึ่งชิ้น”


คาเซลรวบรวมหินเวทย์มนตร์อย่างขยันขันแข็ง


เขาล่าอย่างซ้ำไปซ้ำมา คาเซลมีความมั่นใจมากกว่าใครสำหรับเขา การฟาร์มหินเวทย์มนตร์เป็นเพียงกระบวนการเพื่อย้ายไปยังแผนที่ถัดไป ‘เพียงลำพัง’


 


ท่านประสบความสําเร็จในการเสริมความแข็งแกร่ง ‘ขวานแห่งมังกรเพลิง’

ไอเทม ‘ขวานแห่งมังกรเพลิง’ ถูกเสริมความแข็งแกร่งจาก +4 เป็น +5

 


ทันทีที่ข้อความปรากฏขึ้น คาเซลก็กำมือทั้งสองของเขา


“ในที่สุด…!”


และเวลานั้น ข้อความโลกดังขึ้นทั่วทั้งอาณาจักรปีศาจ


 


ผู้เล่น ‘คาเซล’ ประสบความสําเร็จในการเสริมความแข็งแกร่ง +5 และได้รับอุปกรณ์ระดับดีเยี่ยม

 


เมื่อเห็นประโยคใหม่ ‘อุปกรณ์ระดับดีเยี่ยม’ โผล่ขึ้นมา ดวงตาทั้งสองของคาเซลโตขึ้นเล็กน้อย


และหลังจากตรวจสอบคุณสมบัติดีเยี่ยมที่เกิดขึ้นมาใหม่ เขาสามารถยิ้มกว้าง


“ฮาฮาฮาฮ่า ฉันต้องเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่ง +5 แน่นอน!”


คาเซลก้าวเข้ามาในอาณาจักรปีศาจภายในหนึ่งสัปดาห์ นับตั้งแต่เปิดอาณาจักรปีศาจเปิดขึ้นและจนถึงตอนนี้ เขาได้อยู่ที่นี่เกือบตลอดเวลาในขณะที่เขาล่าอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำ


ในกรณีของเขา เนื่องจากเขาจำไม่ได้ว่าได้เห็นข้อความโลกของคนอื่นที่ประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งให้สูงถึง +5 เขาจึงคิดว่าเขาเป็นคนแรก


และรวมถึงผู้เล่นคนอื่นเช่นกัน


“ว้าว พวกเขาบอกว่าคาเซลนั้นเป็นราชาแห่งการฟาร์มที่แท้จริง เขาไปถึงการเสริมความแข็งแกร่งขั้นที่ 5 แล้ว”


“บ้าไปแล้ว ฉันถึงแค่ขั้น 3 เอง”


“ฮ่า… จะว่าไปแล้วหากว่าถึงการเสริมความแข็งแกร่งขั้นที่ 5 ดูเหมือนว่าจะมีอะไรเพิ่มมาที่เรียกว่าระดับดีเยี่ยมแนบไว้ โคตรเท่ห์เลยจริงๆ”


ในขณะที่รู้สึกถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของผู้เล่นรอบตัวเขา คาเซลยักไหล่ของเขา


‘ฮ่าฮ่า จะไม่ได้รับรสชาติอย่างนี้เลยถ้าฉันไม่ฟาร์ม’


และความจริงที่ว่าคาเซลตั้งไว้ข้อมูลของเขาเป็นส่วนตัว ไม่มีใครรู้ แต่เขาเป็นผู้เล่นอาชีพลับ


มันเป็นอาชีพลับที่มีค่าซึ่งทำให้ปัจจุบันคาเซลเพียงแค่เล่นโซโล่และการฟาร์มอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


ชื่อของอาชีพลับที่คาเซลมีคือ ‘นักรบผู้โดดเดี่ยว’


‘ฮ่าฮ่า ฉันอาจจะไม่สามารถเข้าในอาณาจักรปีศาจลึกกว่านี้ แต่เนื่องจากฉันไม่ได้ตามหลังใครจากการฟาร์มที่นี่’


ลักษณะที่เด่นที่สุดของนักรบผู้โดดเดี่ยวคือสกิลการโกงที่เพิ่มพูนค่าสถานะของเขาและเพิ่มจำนวนค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับจากศัตรูยิ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนคู่ต่อสู้ที่เขาเผชิญหน้าเพียงลำพัง


อย่างไรก็ตามมีข้อเสียด้วยเช่นกัน หนึ่งในผลเพิ่มค่าประสบการณ์จะใช้กับค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากการล่าเพียงอย่างเดียวและอีกอย่างหนึ่งคือไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือ NPC ขณะที่บุคคลหนึ่งเข้าสู่ปาร์ตี้ของเขา สกิลติดตัวของเขาจะหายไป


แน่นอนว่ามันเป็นความสมบูรณ์แบบที่เหมาะสมกับฉายาที่เรียกว่า ‘นักรบผู้โดดเดี่ยว’


‘หลังจากที่ฉันเสริมความแข็งแกร่งให้อุปกรณ์ของฉันถึงขั้นที่ 5 ฉันควรลองเข้าโซน 119 ดู’


คาเซลซึ่งชื่นชมคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของเขาในขณะที่เขาหยุดพักลุกขึ้นยืนอีกครั้งและเริ่มต่อสู้


‘เนื่องจากฉันเป็นคนแรกที่มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ผู้สื่อข่าวจะจับจ้องแน่นอนและขอสัมภาษณ์ใช่ไหม?’


คาเซลยิ้มอย่างสดใส


ในขณะที่คิดถึงความจริงที่ว่าชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในหน้าหลักของชุมชนทางการสองสามวัน เขาก็รู้สึกพึงพอใจ


“เอาล่ะ เอาหินเวทย์มนตร์ทั้งหมดมา ไอ้โง่!”


ผู้เล่นทั่วไปจ้องที่ขวานที่ส่องแสงของคาเซลด้วยสายตาที่อิจฉา


อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่ามีผู้เล่นลึกลับที่ตั้งค่าทุกอย่างรวมถึงอุปกรณ์ แม้แต่เครื่องประดับชิ้นสุดท้ายของเขาเสริมความแข็งแกร่งจนถึง +5


 


* * *


 


“บักค์ เตรียมพร้อมในการให้คำอวยพรแห่งเต่ามังกร!”


 


รับทราบครับเจ้านาย

 


เอียนฟันลูกไฟสีดำที่ออกมาจากปากของรัคเยลด้วยหอกของเขา


Bang- Ba-bang-!


ขณะที่เอียนฟันลูกไฟสีดำทั้งหมดที่บินไปในทิศทางของเขาอย่างต่อเนื่อง รัคเยลก็บินขึ้นไปบนอากาศขณะที่เปล่งเสียงคำรามเต็มไปด้วยความโกรธ


Kyaaoh!


ในเวลาเดียวกัน รัคเยลอ้าปากอันกว้างของเขาเข้าหาเอียน


Hwa-reu-reuk-!


เปลวไฟที่คล้ายกับลมหายใจของมังกรถูกพ่นออกมาจากปากของรัคเยลและเอียนก็รีบกลิ้งออกไปอย่างเร่งด่วนขณะที่เขาพูดกับบักค์


“ตอนนี้แหละ!”


 


รับทราบ!

 


เมื่อเขาทำอย่างนั้น ร่างกายของบักค์เปล่งแสงสีทองและโซ่สีทองเชื่อมไปหาเอียน


Whoong-!


โซ่สีทองพันรอบเอวของเอียนก่อนที่เปลวไฟของรัคเยลจะมาถึงเขาและในทันทีโล่ป้องกันสีเหลืองก็เกิดขึ้นรอบตัวเอียน


Bang- Ba-ba-bang-!


และไฟที่กระทบโล่ป้องกันก็กระจายออกมาเมื่อมันหายไปในอากาศ


Kyaaak-!


รัคเยลโกรธและเอียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก


“เฮ้อ ถ้ามันช้าไปนิดเดียว มันอาจจะเป็นปัญหาที่ร้ายแรง”


สกิลคำอวยพรแห่งเต่ามังกรเป็นสกิลที่ทำให้บักค์ได้รับความเสียหายแทนเป้าหมายที่เชื่อมต่อกับเขาด้วยระยะเวลาคงที่ ดังนั้นบักค์จึงดูดซับความเสียหายที่เกิดจากลมหายใจของรัคเยลแทน


แน่นอนว่ามันได้รับความเสียหายที่มีมากกว่าที่เอียนจะได้รับ บักค์ก็ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง


อย่างไรก็ตามซีเรียที่รออยู่ได้รักษาบักค์ทันทีอีกครั้งและผลลัพธ์คือพวกเขาป้องกันการโจมตีของรัคเยลไว้ได้


 


เนื่องจากผลกระทบของ ‘คำอวยพรแห่งเต่ามังกร’ พลังแฝงของสัตว์เลี้ยงบักค์ ความเสียหาย 107,368 จะถูกดูดซับ

สัตว์เลี้ยงบักร์ได้รับความเสียหาย 138% เป็นจำนวน 148,167 หน่วย

ผู้ติดตามซีเรียใช้พลังแฝง ‘ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง’ และฟื้นฟูพลังชีวิตของบักค์

พลังชีวิตของบักค์ถูกฟื้นฟู 148,167 หน่วย

 


มันได้ปล่อยอีกสกิลหนึ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง


ต้องขอบคุณสิ่งนั้น เอียนสามารถรอดพ้นจากสกิลอันแข็งแกร่งของรัคเยลได้


“เฮ้อ เฮ้อ”


เอียนหายใจหนักมากเมื่อเขาหายใจเข้าขณะที่เขาจ้องไปที่รัคเยล


“แกทำให้พี่คนนี้ประหลาดใจนะเนี่ย แกกล้าใช้ 2 สกิลหลังจากใช้ไปสกิลหนึ่งเลยงั้นหรอ?”


เมื่อเขาพูดอย่างนั้น รัคเยลกระพือปีกลงมาหาเอียน


และจากนั้น


ขนของรัคเยลเริ่มเผาไหม้เป็นสีฟ้า


เมื่อนั้น ดวงตาทั้งสองของเอียนเปล่งประกาย


‘โอเค! ฉันจะบดขยี้แกอีกครั้ง!’


เมื่อขนของรัคเยลเผาไหม้เป็นสีฟ้านั้นเป็นหลักฐานว่ามันคือสถานะ ‘ภูมิคุ้มกันความเสียหายประเภทกายภาพ’


ทันทีที่เขาเห็น เอียนเริ่มโจมตีกลับ


Puck- Pu-puck-!


หอกของเอียนที่โค้งคดเคี้ยวไปมาทำให้สายฟ้าที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างไร้ความปราณีเจาะเข้าไปในรอยต่อปีกของรัคเยล


 


ท่านได้สร้างความเสียหายคริติคอลให้แก่อสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง ‘รัคเยล’

พลังชีวิตของรักเยลลดลง 0 หน่วย

 


มีเหตุผลโดยปกติว่าทำไมการโจมตีของเอียนเริ่มขึ้นทันทีที่รัคเยลอยู่ในสถานะภูมิคุ้มกันความเสียหายทางกายภาพ


นี่เป็นเพราะพลังชีวิตของรัคเยลได้ลดลงไปสู่สถานะที่แถบวัดไม่สามารถมองเห็นได้และหากได้รับการโจมตีของเอียนไปสองครั้งหรือมากกว่านั้น แน่นอนว่ารัคเยลจะตาย


‘การโจมตีครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่การโดนโจมตียังคงเจ็บปวดอยู่ใช่ไหม?’


การโจมตีทั้งหมดที่เอียนสร้างเมื่อเขาเหวี่ยงหอกและโจมตีรัคเยลนั้นเป็นการโจมตีทางกายภาพ


พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่ารัคเยลในสภาพภูมิต้านทานความเสียหายทางกายภาพอยู่ในสถานะที่มันไม่สามารถตายได้ไม่ว่าเอียนจะโจมตีมันมากแค่ไหนก็ตาม


Kaek-! Ki-aeek-!


รัคเยลซึ่งเริ่มได้รับการโจมตีจากหอกของเอียนหอกอย่างไร้ความปราณีก็เปล่งเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวออกมา


คาร์เซอุสซึ่งมองฉากนั้นอยู่ได้พูดกับบักค์


 


บักค์ดูนั่นสิ… มันดูคุ้นเคยเนอะ

 


เช่นนั้น บักค์พยักหน้าขณะที่มันตอบกลับ


 


ใช่สิ ข้านึกถึงเจ้าที่ชื่อว่ายันโคทันทีเลย

 


ดวงตาทั้งสองของคาร์เซอุสเริ่มสั่นไหว


 


เจ้านายของพวกเราจะไม่ตีเราอย่างนั้นใช่ไหม?

 


บักค์ส่ายหัวและตอบกลับ


 


ไม่มีทางที่เขาจะทำอย่างนั้น ฉันเป็นเต่าที่นิสัยดี ฉันไม่มีเหตุผลที่ได้รับการโจมตีอย่างนั้นจากเจ้านาย

 


เหมือนกัน ฉันก็เป็นมังกรที่นิสัยดีมากก

 


แม้แต่ไลซึ่งยืนอยู่ข้างพวกเขาก็ค่อนข้างเห็นด้วย


 


ฉันก็… เป็นเฟนเรียร์ที่นิสัยดี

 


ต่างจากสัตว์เลี้ยงที่ตัวสั่นด้วยความกลัว การต่อสู้ระหว่างเอียนและรัคเยลยังคงดำเนินต่อไป


สัตว์เลี้ยงหันหน้าหนีจากรัคเยลอย่างเงียบๆ


มีเพียงคาร์เซอุสที่ส่งสายตาสงสารขณะที่เขาให้คำแนะนำหนึ่งอย่าง


 


รีบยอมแพ้ซะเจ้าอสูรเวทย์มนตร์ ข้าไม่เคยเห็นสถานการณ์ที่เจ้านายของเราจะยอมแพ้ในสิ่งที่เขาต้องการ

 


ผ่านไปประมาณ 15 นาทีตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น


เปลวไฟสีน้ำเงินที่พันรอบร่างของรัคเยลนั้นหายไปและเอียนก็รีบถอยกลับไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาเล็งไปที่รัคเยลด้วยหอกของเขา


เอียนบ่นด้วยเสียงที่ผสมกับความฉุนเฉียวเล็กน้อย


“แกนี่ไม่ยอมง่ายๆจริง แกใกล้จะตายอีกครั้งแล้วนะ”


มันอาจจะดูเหมือนฉากการต่อสู้ธรรมดาจากภายนอก แต่ความจริงนั้นไม่ใช่


Keu-reuk- Keu-reu-reuk-!


รัคเยลกระพือปีกของมันอย่างอ่อนแรงขณะที่มันมองไปที่เอียน


“เอาล่ะ พอกันแค่นี้แหละ”


ไม่สามารถพูดอะไรได้ รัคเยลกระพือปีกของมันราวกับว่ามันโกรธ


เอียนตะโกนคำร่ายไปหารัคเยลที่เป็นเช่นนั้น


“จับ!”


รังสีของแสงที่ออกมาจากปลายนิ้วมือของเอียนเริ่มพันรอบร่างกายขนาดยักษ์ของรัคเยล


มันเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียด


‘ได้โปรดเถอะ…!’


ความจริงที่ว่าเอียนนั้นตะโกนคำร่ายจับนับไม่ถ้วนจนถึงตอนนี้


และในอดีต ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะล้มเหลวในการจับมอนสเตอร์ที่เขาคิดจะจับจนถึงปัจจุบัน


อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีนี้ ไม่เคยมีสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้ ดังนั้นปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิดขึ้น


 


เลือดบริสุทธิ์ของปีศาจไม่มีอยู่ภายในร่างกายของท่าน

จนกว่าท่านจะได้รับเลือดของปีศาจ ท่านไม่สามารถจับมอนสเตอร์ที่มีพลังงานปีศาจได้

ท่านล้มเหลวในการจับอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง ‘รัคเยล’

 


ตามด้วยข้อความระบบ รังสีของแสงได้หายไป


ตอนนี้มันเป็นครั้งที่สิบห้าแล้วที่มองความพยายามของเอียนและจากปากของคนที่กำลังดูอยู่เสียงอุทานก็ออกมา


เซอร์เวี่ยนส่ายหน้าขณะที่เขาบ่น


 


ข้าได้อธิบายแล้วว่าจนกว่าเจ้าจะกลายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ เจ้าจะไม่สามารถจับอสูรเวทย์มนตร์ได้…

 


มันมาถึงจุดที่รัคเยลซึ่งร่างกายทั้งร่างสั่นเหมือนใบไม้แอสเพนที่น่าสงสาร


ทุกคนเหลือบมองเอียนด้วยการแสดงออกที่ดูเหมือนจะพูดว่า ‘ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหยุด’ แต่เอียนก็จับหอกของเขาแน่นอีกครั้ง


“ดูเหมือนว่าแกจะยังไม่พอสินะ”


ดูเหมือนว่าการเลือกคำของเขาจะค่อนข้างไม่เหมาะสม แต่ไม่มีใครสามารถจัดการกับคำพูดของเอียน


“เฮ้ย โจมตีฉันอีกครั้งสิ มาสู้กัน”


ในการยั่วยุของเอียน ดวงตาทั้งสองของรัคเยลซึ่งถูกปิดลงครึ่งหนึ่งก็จ้องมองเขาอย่างรุนแรงอีกครั้ง


ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่รัคเยลที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างกระทันหันก็ก้มหน้าต่อหน้าเอียน


และดวงตาทั้งสองข้างของเซอร์เวียนที่เบิกโพลงกำลังมองดูฉากนั้นก็เบิกโพลงกว่าเดิมถึงสองเท่า


 


ไม่นะ นี่มัน…!

 


สถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้แต่เขาในฐานะคนที่ค้นคว้าอสูรเวทย์มนตร์มานานนับร้อยปีก็ไม่เชื่อ


อย่างไรก็ตาม เอียนพยักหน้าราวกับว่าไม่มีอะไรจะต้องแปลกใจจริงๆเมื่อเขาพึมพำ


“เอาล่ะ คิดได้ดีแล้ว มันจะยากขึ้นเรื่อยๆสำหรับเราทั้งคู่ แม้ว่าแกจะต้องทนอีกต่อไป”


รัคเยลที่ใช้พลังงานหมดฟุบลงตรงข้างหน้าเอียนและในขณะนั้นข้อความของระบบโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


 


อสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง ‘รัคเยล’ ต้องการจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เลือดของปีศาจไม่ได้อยู่ภายในร่างกายของท่าน ท่านจะไม่สามารถอัญเชิญรัคเยลได้

ท่านจะยังยอมรับ ‘รัคเยล’ เป็นสัตว์เลี้ยงของท่านหรือไม่?

 


เอียนเบะปากเล็กน้อย

 

 

 


ตอนที่ 211

 

‘ฮ่าๆ บรรลุเป้าหมาย!’


แน่นอนว่าการตอบกลับของเอียนเป็นเชิงบวก


นี่เป็นเพราะเขาไม่ได้วางแผนที่จะอัญเชิญรัคเยลและใช้มันในการต่อสู้


“ฉันยอมรับมันเป็นสัตว์เลี้ยง!”


Whoong-!


นอกเหนือจากคำตอบของเอียนแล้ว ร่างกายขนาดยักษ์ของรัคเยลก็กลายเป็นแสงสีแดงและรวมตัวกันในอากาศ หลังจากนั้นไม่นานมันก็ถูกดูดเข้าไปในมือของเอียน


เป็นการต่อสู้นองเลือดอย่างไม่น่าเชื่อที่เอียนได้ต่อสู้กับรัคเยลเพียงอย่างเดียวมาเกือบ 10 ชั่วโมง


ในท้ายที่สุด เอียนชนะและเขาได้รับสิ่งที่เขาต้องการ


เซอร์เวี่ยนซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งตอนนี้ได้พึมพัม


 


เฮ้อ เจ้ากำลังบอกว่าคำตอบที่ข้าไม่สามารถหาได้ด้วยการวิจัยนับร้อยปีคือเจ้าแก้ไขด้วยความรุนแรง…

 


เอียนตอบด้วยเสียงที่แสดงถึงอารมณ์ดีของเขาเมื่อเซอร์เวี่ยนพึมพัม


“มันเคลื่อนไหวด้วยความตั้งใจจริงของผม”


เซอร์เวียนพูด


 


ความตั้งใจจริง… ความตั้งใจจริงงั้นหรอ เจ้าจริงจังกับการเอาชนะอย่างจริงจัง หากเป็นนกปกติแทนที่จะเป็นอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูง มันจะสูญเสียขนทั้งหมดไปโดยไม่เหลือเลย

 


อย่างไรก็ตามในขณะที่คนสองคนพูดคุยกัน ข้อความที่ไม่คาดคิดเริ่มปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน


 


ท่านประสบความสำเร็จในการฝึกฝนมอนสเตอร์ที่เป็นไปไม่ได้สำหรับท่านที่จะจับมัน

ท่านปลดล็อคผนึกเงื่อนไขของอาชีพลับ

อาชีพลับของท่าน ‘เทมมิ่งมาสเตอร์’ พัฒนาไปอีกหนึ่งระดับ

ระดับของอาชีพ ‘เทมมิ่งมาสเตอร์’ พัฒนาจากระดับ 2 ไปสู่ระดับ 3

ท่านได้รับสกิลลับใหม่ ‘การสนทนา l’

ท่านได้รับสกิลลับใหม่ ‘บูชายัญ l’

 


เอียนซึ่งเห็นอย่างนั้นได้หยุดคุยกับเซอร์เวี่ยนและอ่านข้อความทันที


‘ระดับของอาชีพลับพัฒนางั้นหรอ?’


ข้อมูลที่อยู่ในหัวของเอียนกำลังถูกปรับใหม่พร้อมกับข้อความที่เขาเพิ่งตรวจสอบ


‘ฉันเดาว่าอาชีพลับเทมมิ่งมาสเตอร์อย่างน้อยต้องเป็นระดับที่ 3’


เหตุผลที่เอียนสันนิษฐานว่าระดับของเทมมิ่งมาสเตอร์นั้นเป็นระดับที่ 3 นั้นง่ายมาก


อาชีพลับที่เอียนสามารถได้รับในตอนแรกคือ ‘นักฝึกมังกร’ นั้นเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นอาชีพลับระดับ 3


แม้จะอยู่ในระดับเดียวกัน ความแตกต่างของการจัดอันดับระหว่างอาชีพนั้นมีอยู่ ดังนั้นเทมมิ่งมาสเตอร์ซึ่งโอ๊คเลย์บอดว่าเป็นระดับที่สูงกว่านักฝึกมังกรซึ่งคำนวณได้อย่างน้อยต้องอยู่เหนือระดับ 3


‘เอาล่ะ ถ้าเราจัดการสิ่งนี้ แนวคิดของอาชีพระดับสูงที่โอ๊คเลย์พูดถึง มันเป็นการตัดสินใจตามมาตรฐานของระดับสูงสุดที่เป็นไปได้ในการพัฒนาใช่ไหม?’


ถ้ามันไม่ใช่แนวคิดนี้ ความจริงที่ว่าเทมมิ่งมาสเตอร์ซึ่งเป็นอาชีพลับระดับ 2 จนถึงตอนนี้เป็นอาชีพที่อันดับสูงกว่านักฝึกมังกรซึ่งเป็นอาชีพลับระดับ 3 นั้นไม่สมเหตุสมผล


อย่างไรก็ตามมีโอกาสน้อยที่โอ๊คเลย์จะบอกข้อมูลเท็จแก่เอียน


‘ฉันได้ยินมาว่านักเวทย์มนตร์เปลวเพลิงรีเมียร์ได้พัฒนาอาชีพของเธอให้เป็นราชาแห่งเปลวเพลิงผ่านเควสต์อาชีพพิเศษ อย่างไรก็ตามในกรณีของเทมมิ่งมาสเตอร์ คุณต้องทำตามเงื่อนไขพิเศษแทนที่จะทำเควสต์เพื่อให้มันพัฒนาขึ้นสินะ? นี่มันช่างสับสนจริงๆ’


อย่างไรก็ตามมีบางส่วนที่เอียนรู้มาผิด


นักเวทย์มนตร์เปลวเพลิงซึ่งเป็นอาชีพลับในอดีตของรีเมียร์และราชาแห่งแห่งเปลวเพลิงซึ่งเป็นอาชีพปัจจุบันของเธอจริงๆแล้วมีเพียงชื่อที่คล้ายกัน แต่พวกมันไม่ใช่อาชีพที่พัฒนามาจากกันและกัน


รีเมียร์แค่เปลี่ยนอาชีพใหม่เป็นอาชีพระดับสูงผ่านเควสต์


ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือมันเป็นเพียงความจริงที่ว่าเงื่อนไขในการรับเควสต์เพื่อเปลี่ยนอาชีพให้เป็นราชาแห่งเปลวเพลิงคือการได้รับอาชีพที่เรียกว่านักเวทย์มนตร์เปลวเพลิง


อย่างไรก็ตาม รีเมียร์ได้เข้าใจสิ่งนี้เนื่องจากเธอได้พัฒนาไปสู่อาชีพระดับที่สูงกว่าระดับเดิมของเธอและนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นกรณีนี้


ไม่มีกฎใดที่จะไม่มีอาชีพอื่นเช่นเดียวกับเทมมิ่งมาสเตอร์ที่มันพัฒนาตัวเองในระดับของมัน แต่อย่างน้อยก็แน่ใจว่ามันเป็นอาชีพที่พัฒนาได้อีก


‘อย่างแรก ฉันต้องตรวจสอบสกิลใหม่ที่ฉันได้รับเล็กน้อยและตอนนี้ฉันมีหลายอย่างที่ฉันต้องจัดการ’


เมื่อวิธีการล่าของเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสกิลลับใหม่ที่เขาได้รับ เอียนรีบเริ่มทำความสะอาดห้องปฏิบัติการ


เขาต้องการที่จะเสร็จสิ้นเควสต์การทำให้บริสุทธิ์ของยันโคและเควสต์ของเซอร์เวี่ยนอย่างรวดเร็วและตรวจสอบสกิลใหม่ที่เขาได้รับ


เอียนหันหน้าไปหาเซอร์เวี่ยน


“เซอร์เวี่ยน ผมจัดการที่เหลือต่อได้หรือยัง?”


เมื่อเอียนถาม เซอร์เวี่ยนซึ่งคิดอะไรบางสิ่งบางอย่างได้ประหลาดใจขณะที่เขาตอบกลับ


 


เจ้าจะจัดการที่เหลือ เจ้าหมายความว่าอะไร?

 


“คุณขอให้ผมกำจัดอสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนที่อยู่ในห้องปฏิบัติการ ผมถามเพื่อให้ผมสามารถกวาดล้างพื้นที่ที่เหลือทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว”


เซอร์เวี่ยนประหลาดใจขณะที่เขาพูด


 


โห เจ้าไม่คิดว่าเจ้าควรพักสักนิดงั้นหรอ?

 


“ผมไม่เป็นไร ผมต้องการพักหลังจากผมเสร็จจากที่นี่ให้เร็วๆ”


 


โห พลังของวัยรุ่นนั้นดีจริงๆ… ไม่สิ พลังอันล้นเหลือนี้ไม่สามารถอธิบายได้กับคำว่าวัยรุ่น

 


เซอร์เวียนซึ่งอยู่ในความหวาดกลัวที่ความแข็งแกร่งอันไร้ขีดจำกัดของเอียน ชี้ไปตรงพื้นที่ที่อสูรเวทย์มนตร์ยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป


และผู้ติดตามและสัตว์เลี้ยงของเอียนซึ่งนั่งและพักผ่อนอย่างสบายขณะที่เอียนต่อสู้กับรัคเยลก็ช่วยไม่ได้ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งการล่าอย่างขุมนรกอีกครั้งในตอนนี้


 


อั๊ก… ข้าชอบดูเจ้านายต่อสู้มากกว่า

เฮ้อ ถึงอย่างนั้นในเมื่อเราพักกันค่อนข้างนานแล้ว ข้ารู้สึกมีพลังขึ้นมา

 


พวกมันบ่น แต่สัตว์เลี้ยงเริ่มเคลื่อนไหวตามคำสั่งของเอียนโดยไม่มีการเรียกร้องใดๆเช่นกัน


และผู้ติดตามที่มีความซื่อสัตย์สูงสุดต่อเอียน เนื่องจากชื่อเสียงอันสูงส่งของเขาก็เชื่อฟังคำสั่งของเอียนตรงตามที่เขากล่าวไว้โดยไม่ได้บ่น


มันเป็นจุดที่แม้แต่ไคซาร์ก็มีค่าความซื่อสัตย์มากกว่า 30 แล้ว


“เอาล่ะ พวกมันเหลือไม่มากแล้ว! เข้มแข็งไว้อีกหน่อย!”


ผู้ติดตามและสัตว์เลี้ยงย้ายไปตามการให้กำลังใจของเอียนโดยไม่มีข้อบกพร่องและเมื่อเวลาผ่านไปประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง ในที่สุดข้อความระบบก็ระบุว่าพวกเขาได้ฆ่าอสูรเวทย์มนตร์ที่อยู่ในห้องปฏิบัติการหมดแล้ว


กริ๊ง-


 


ท่านประสบความสำเร็จในการสังหารอสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนทั้งหมดที่อยู่ใน ‘ห้องปฏิบัติการที่พังทลายของเซอร์เวี่ยน’ (375/375)

ท่านได้บรรลุเงื่อนไขทั้งหมดในการเคลียร์เควสต์ ‘จุดเริ่มต้นของการเล่นแร่แปรธาตุสัตว์วิเศษ (ลับ) (เชื่อม)’ แล้ว

หา ‘เซอร์เวี่ยน’ และพูดคุยกับเขา

 


ทันใดนั้นเอียนก็รู้สึกผ่อนคลาย ขณะที่เขานั่งลงไปที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ตรงมุมห้องปฏิบัติการ


แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องแยกย้ายและตามหาเขา เซอร์เวี่ยนก็ลอยอยู่ข้างๆเอียน


เอียนหันหน้าไปหาเซอร์เวี่ยน


“เซอร์เวี่ยน ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกกำจัดหมดแล้ว”


เมื่อเอียนพูด เซอร์เวี่ยนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับด้วยท่าทางพึงพอใจ


 


ฮ่าฮ่า ทำได้ดีเอียน เจ้าเป็นคนที่โดดเด่นกว่าที่ข้าคาดไว้มาก เจ้ามีทั้งความขยันหมั่นเพียรและ… ข้าชอบเจ้า

 


ขณะที่เซอร์เวี่ยนพูดจบ ข้อความเสร็จสิ้นเควสต์โผล่ขึ้นมา


กริ๊ง-


 


ท่านประสบความสำเร็จในการเคลียร์เควสต์ ‘จุดเริ่มต้นของการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ (ลับ) (เชื่อม)’

ระดับการเคลียร์ : SSS

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 57,989,900 หน่วย

ท่านได้รับชื่อเสียง 400,000 หน่วย

เซอร์เวี่ยนเริ่มเชื่อในตัวท่าน

 


เอียนจำเป็นต้องใช้ความพยายามในการรักษาการแสดงออกของเขา


‘ฉันคิดว่าฉันใช้เวลาส่วนมากไปในการต่อสู้กับรัคเยล ระดับการเคลียร์ของฉันจะอยู่ประมาณระดับ A ซะอีก’


เวลาที่เอียนใช้เพื่อดำเนินเควสต์นั้นนานกว่าเวลามาตรฐานอย่างแน่นอน


อย่างไรก็ตามเนื่องจากเซอร์เวี่ยนได้เฝ้าดูการต่อสู้ของเอียนอย่างต่อเนื่องในขณะที่ติดตามเขาและในกระบวนการนั้นก็เห็นว่าเขาประสบความสำเร็จในการจับรัคเยล เขาจึงได้รับระดับที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ


เอียนก้มหัวเล็กน้อยให้เซอร์เวี่ยนขณะที่เขาตอบกลับ


“ขอบคุณสำหรับคำชมที่มากเกินไป ผม เอ่อ… ผมแค่จัดการอสูรเวทย์มนตร์ออกไปอย่างขยันขันแข็งเอง”


 


เจ้าก็ถ่อมตัวเกินไป

 


เมื่อเซอร์เวี่ยนตอบกลับอย่างเฉียบแหลม เอียนสั่นเล็กน้อย แต่เขาส่ายหัวทันทีด้วยท่าทางกล้าหาญ


“ไม่มีทางครับ ผมเป็นแบบนี้เสมอ”


 


 


เควาต์จุดเริ่มต้นของการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์นั้นเป็นเควสต์ลับรวมถึงเป็นเควสต์เชื่อม หลังจากนั้นหน้าต่างเควสต์ใหม่ก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


กริ๊ง-


 


จุดเริ่มต้นของการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ ll (ลับ) (เชื่อม)

ซัมมอนเนอร์ปีศาจเซอร์เวี่ยน เอลฟ์ครึ่งปีศาจคนแรกได้ยอมรับในความเป็นผู้นำของท่านซึ่งมีคุณสมบัติของซัมมอนเนอร์


เขากลัวความสามารถในการต่อสู้ของท่านและตอนนี้จะเริ่มการทดสอบครั้งที่สอง


คุณสมบัติที่สองที่เซอร์เวี่ยนคิดว่าซัมมอนเนอร์ต้องมีคือความสามารถในการจับสัตว์เลี้ยง


หลังจากจับอสูรเวทย์มนตร์อย่างน้อย 3 ตัว จงกลับมาหาเซอร์เวี่ยน


ระดับความยากเควสต์ : S


เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ผ่านการทดสอบแรกของเซอร์เวี่ยน


ผู้เล่นที่เป็น ‘ครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ’


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล : หินแห่งความโกลาหล x10 หินเล่นแร่แปรธาตุระดับต่ำ x10


ท่านจะยอมรับเควสต์หรือไม่?


 


เอียนผู้อ่านเนื้อหาเควสต์ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย


‘อะไรวะเนี่ย? เงื่อนไขเควสต์คือผู้เล่นที่เป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ ถ้าฉันต้องการดำเนินการต่อ จากนั้นฉันต้องไปหายันโคก่อนน่ะสิ?’


ในขณะที่กำจัดอสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนทั้งหมดในห้องปฏิบัติการ เขาพบแหล่งที่มาของวิญญาณชั่วร้ายที่ปนเปื้อน


เพราะในกรณีนี้ ถ้าเขาเพิ่งไปที่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวในขณะนี้และมองหายันโค เอียนสามารถได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจมาอยู่ในมือของเขาและกลายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ


‘โอเค ถ้างั้นในตอนนี้หลังจากฉันหลับ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องไปเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวก่อน ในเมื่อฉันมีตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจ ฉันอาจจะไม่ต้องไปต่อสู้กับผู้พิทักษ์ประตูโซน 100 ใช่ไหม?’


ขณะที่เอียนครุ่นคิด เซอร์เวี่ยนพูดออกมาทันที


 


เพื่อทดสอบคุณสมบัติของเจ้าอีกเล็กน้อย ข้าจะให้งานเจ้าในการไปจับ

 


“ห้ะ?”


 


ข้าจะให้งานที่เจ้านะต้องจับอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำ เมื่อเจ้าได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจและกลายเป็นครึ่งปีศาจ

 


เอียนหรี่ตาขณะที่เขาถามกลับ


“แล้ว?”


 


แต่เมื่อข้าได้เห็นฉากที่เจ้าจับรัคเยลซึ่งเป็นอสูรเวทย์มนตร์ระดับสูงในสถานะที่เจ้ายังไม่ได้รับพลังของครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ งานที่ให้ไปจะไปมีความหมายอะไร?

 


“…?”


เอียนแสดงท่าทางงุนงง ข้อความระบบโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง


 


ท่านประสบความสำเร็จในการเคลียร์เควสต์ ‘จุดเริ่มต้นของการเล่นแร่แปรธาตุอสูรเวทย์มนตร์ ll (ลับ) (เชื่อม)’

 


ในตอนนั้น เขาพูดออกมาว่า “เอ๋?” ก่อนที่เขาจะรู้ตัว


 


ระดับการเคลียร์ : SSS

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 35,482,300 หน่วย

ท่านได้รับชื่อเสียง 200,000 หน่วย

ท่านได้รับไอเทม ‘หินแห่งความโกลาหล’ 10 ชิ้น และไอเทม ‘หินเล่นแร่แปรธาตุเวทย์มนตร์ระดับต่ำ’ 10 ชิ้น

 


เอียนรู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์


‘อะไรวะเนี่ย? ฉันโชคดีจัง’


เขาเคลียร์เควสที่เชื่อมโยงหนึ่งในนั้น ในบรรดาไอเทมที่เขาได้รับเป็นรางวัล เขาไม่รู้ว่า ‘หินเล่นแร่แปรธาตุเวทย์มนตร์ระดับต่ำ’ ใช้ยังไง แต่เขาตัดสินใจถามเซอร์เวี่ยนในภายหลัง


เนื่องจากตอนนี้ในสถานการณ์ มันสำคัญกว่าที่เควสต์จะดำเนินต่อไปยังไง


“เซอร์เวี่ยน ถ้างั้นให้ผมทำอะไรต่อหรอครับ?”


เมื่อเอียนถาม เซอร์เวี่ยนขมวดคิ้วขณะที่เขาตอบกลับ


 


เจ้าถามเพราะไม่รู้จริงๆงั้นหรอ?

 


“ขอโทษนะครับ?”


 


แน่นอนว่าเจ้าต้องได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจน่ะสิ

 


“อ่อ…”


 


หากเจ้ากลับมาหลังจากได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจและเปลี่ยนเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ ข้าจะมอบเควสต์ต่อไปให้กับเจ้า ข้าไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไร แต่ถ้าเป็นเจ้าเอียน เจ้าอาจจะได้มันภายในสองสามเดือน

 


คำพูดที่ว่า ‘ผมคิดว่าผมจะได้รับในวันพรุ่งนี้ล่ะมั้ง?’ เกือบจะหลุดออกมาจากปากของเอียน แต่เขากลั้นไว้ได้


‘เนื่องจากมันไม่ช้าแม้ว่าฉันจะบอกเขาหลังจากได้รับมาก่อน’


เซอร์เวี่ยนพูดต่อ


 


เมื่อเจ้าได้รับเลือดบริสุทธิ์ของปีศาจ ข้าจะทำให้ห้องปฏิบัติการกลับมาปกติอีกครั้ง

 


“คุณไม่ได้พูดว่าคุณไม่สามารถออกแรงได้เพราะคุณอยู่ในสถานะวิญญาณงั้นหรอ?”


 


แน่นอนว่านั่นเป็นความจริง

 


“แล้วได้ยังไง…?”


 


มีวิธีที่ข้าจะซ่อมห้องปฏิบัติการได้แม้ว่าข้าจะไม่เคลื่อนไหวเป็นการส่วนตัว

 


ในขณะที่เซอร์เวียร์ส่ายนิ้วของเขาปีศาจระดับต่ำก็โผล่ออกมาจากมุมห้องปฏิบัติการ


“ไม่ได้พบกันนานครับเจ้านาย”


เอียนซึ่งมองกลับไปกลับมาที่เซอร์เวี่ยนและปีศาจด้วยสีหน้าแปลกๆ เซอร์เวี่ยนยักไหล่ของเขาขณะที่เขาพูด


 


ตามที่เจ้าเห็น ข้ามีผู้ช่วย

 

 

 


ตอนที่ 212

 

เอียนซึ่งสำเร็จเควสต์เซอร์เวี่ยนได้เข้าสู่ระบบกลับเข้ามาสู่ไคลันอีกครั้งหลังจากออกจากแคปซูลและพักผ่อน


“ในที่สุดฉันก็ไปที่เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวได้แล้วสินะ?”


ก่อนที่จะตรงไปเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เขาคิดว่าเขาต้องการเวลารักษาตัวเองสักนิด


‘มีไอเทมมากมายและฉันก็ต้องตรวจสอบสกิลใหม่ที่ฉันได้รับมา…’


เนื่องจากเขาได้ล่าอสูรเวทย์มนตร์จำนวนหนึ่งในช่วงเวลานี้ มันจึงเป็นสถานการณ์ที่เขารวบรวมหินเวทย์มนตร์จำนวนหลายร้อยก้อน


เขารวบรวมหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำสุดมาแล้วกว่าสามร้อยก้อนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเห็นว่าเขามีหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำ 36 ก้อนและแม้แต่หินเวทย์มนตร์ระดับกลางถึง 3 ก้อน เอียนก็แสดงออกอย่างพึงพอใจ


หินเวทย์มนตร์ระดับต่ำสุดและหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำนั้นเป็นไอเทมที่มีระดับแตกต่างกันอย่างชัดเจน


“เฮ้อ ฉันรู้สึกเหมือนฉันได้ฆ่าอสูรเวทย์มนตร์ระดับกลางหลายร้อยตัวด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าระดับของหินเวทย์มนตร์ยิ่งสูงขึ้นเท่าไหร่ อัตราการดรอปก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”


เอียนเปิดข้อมูลของหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำก่อน


 


หินเวทย์มนตร์ระดับต่ำ

ประเภท : สินค้าเบ็ดเตล็ด


ระดับ : ไม่มี


ความทนทาน : 50/50


สมบัติที่หายากและมีค่าที่มีพลังงานบริสุทธิ์สูงของอาณาจักรปีศาจ อุปกรณ์สามารถสร้างความแข็งแกร่งได้หากใช้หินเวทย์มนตร์


*หินเวทย์มนตร์สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ที่ต่ำกว่าการเสริมความแข็งแกร่ง +10


*โอกาสของความประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งอุปกรณ์นั้นต่ำและในกรณีที่การเสริมความแข็งแกร่งล้มเหลว ระดับการเสริมความแข็งแกร่งจะลดลง 0-2 ระดับ


 


‘ดูเหมือนว่าการเสริมความแข็งแกร่งระดับที่ 10 นั้นจะเป็นข้อจำกัดของหินวิเศษระดับต่ำและแตกต่างจากหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำสุด ระดับจะลดลงแม้ว่าในกรณีที่การเสริมความแข็งแกร่งล้มเหลว จากนั้นหินเวทย์มนตร์ระดับกลางจะเป็นไอเทมที่สามารถใช้งานได้ถึงการเสริมความแข็งแกร่งระดับที่ 15 ใช่ไหม?’


เอียนผู้ค้นพบสิ่งต่างๆเสร็จ เปิดข้อมูลของหินเวทย์มนตร์ระดับกลาง


 


หินเวทย์มนตร์ระดับกลาง

ประเภท : สินค้าเบ็ดเตล็ด


ระดับ : ไม่มี


ความทนทาน : 50/50


พลอยที่มีเวทย์มนตร์ที่ได้รับการเสริมสมรรถนะสูงซึ่งจะมีเพียงปีศาจที่อยู่ในระดับกลางหรือสูงกว่าที่จะมีเท่านั้น


อุปกรณ์สามารถสร้างความแข็งแกร่งได้หากใช้หินเวทย์มนตร์ระดับกลาง


*หินเวทย์มนตร์ระกับกลางสามารถใช้กับอุปกรณ์ที่การเสริมความแข็งแกร่งต่ำกว่า +15


*โอกาสของความประสบความสําเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งอุปกรณ์นั้นต่ำมากและในกรณีที่การเสริมความแข็งแกร่งล้มเหลว ระดับการเสริมความแข็งแกร่งจะลดลง 1-3 ระดับ


 


‘หืมม? ถ้าฉันล้มเหลวในการเสริมความแข็งแกร่งของหินเวทย์มนตร์ระดับกลาง จากนั้นระดับการเสริมความแข็งแกร่งอาจจะลดลง 3 ระดับ’


กล่าวอีกนัยหนึ่ง นั่นหมายความว่าแม้ว่าเขาจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ถึงการเสริมความแข็งแกร่งระดับที่ 14 หากล้มเหลวที่อย่างมากเกิดขึ้น เขาก็จะลงไประดับที่ 11 อีกครั้ง


‘ฉันไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะต้องใช้หินเวทย์มนตร์ระดับกลางกี่ก้อนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งเป็นระดับที่ 15’


เอียนตัดสินใจลองเสริมความแข็งแกร่งการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาให้เพิ่มขึ้นในตอนนี้


“เนื่องจากไม่ใช่ว่าไอเทมของฉันจะถูกทำลายสักหน่อย เมื่อฉันมีหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำสุดพอ ถึงแม้ว่าระดับการเสริมความแข็งแกร่งจะลดลงไปนิดหน่อย ฉันก็สามารถนำมันกลับมาที่ระดับ 5 ได้อีกครั้ง”


หลังจากหายใจเข้า เอียนหยิบหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำออกมาและใช้มันกับการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา


“ฮึบ!”


 


ท่านประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ได้เสริมความแข็งแกร่งจาก +5 เป็น +6

ผลลัพธ์ของการเสริมความแข็งแกร่ง

พลังโจมตี : 2730-3008 → 2912-3208


ค่าสถานะการต่อสู้ทั้งหมด +225 → ค่าสถานะการต่อสู้ทั้งหมด +240


ความเป็นผู้นำ +300 → ความเป็นผู้นำ+320


ความสัมพันธ์ +225 → ความสัมพันธ์ +240


 


เอียนซึ่งประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งระดับที่ 6 ด้วยการลองเพียงครั้งเดียว ตรวจสอบผลลัพธ์ของการเสริมความแข็งแกร่งด้วยการแสดงออกที่พึงพอใจ


“ฮ่า พลังโจมตีสูงสุดไปถึง 3,000 กว่า! ฉันสงสัยว่าค่าสถานะของการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชานั้นเป็นอย่างไรก่อนที่ฉันจะเสริมมัน”


เอียนหยิบสมุดของเขาและตรวจสอบค่าสถานะที่เขาเขียนลงไป


“พลังการโจมตีสูงสุดซึ่งอยู่ที่ 2,005 ในตอนแรกได้ขึ้นไปถึง 3,208 ตอนนี้ฉันมั่นใจว่าแม้ว่าระดับการเสริมความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น มันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 10% ของค่าสถานะเริ่มต้น”


เอียนตรวจสอบค่าสถานะอื่นๆทั้งหมด เนื่องจากเขาตื่นเต้นมากและเขาค้นพบความจริงที่ว่ามันถูกนำไปใช้ในลักษณะเดียวกันกับค่าสถานะทั้งหมด


“เยี่ยมๆ ถ้างั้นเราเสริมความแข็งแกร่งจนถึง 10 กันเลยไหม?”


เอียนหายใจเข้าอีกครั้งและใช้งานหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำ


“ได้โปรด!”


อย่างไรก็ตาม โชคของเอียนไม่ได้ดีอีกต่อไป


 


ท่านล้มเหลวการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ระดับการเสริมความแข็งแกร่งของไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ลดลงจาก +6 เป็น +4

 


“…”


ตรงกันข้ามกับการเสริมความแข็งแกร่งที่ประสบความสำเร็จซึ่งมันถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองและส่องสว่าง เมื่อมันล้มเหลวแสงสีเทาที่เปล่งประกายออกมา


เอียนรู้สึกว่าเขากำลังจะร้องไห้


“เฮ้อ มันจะลดลง 2 ระดับได้ยังไงกันและในครั้งเดียวด้วย…”


อย่างไรก็ตามเพราะว่าเขามีหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำหนึ่งร้อยกว่าก้อน การกลับไปเสริมความแข็งแกร่งระดับ 5 นั้นไม่ยาก


“มาดูกันว่าใครจะชนะ!”


เอียนเริ่มใช้หินเสริมความแข็งแกร่ง


 


ท่านประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ได้เสริมความแข็งแกร่งจาก +4 เป็น +5

ท่านล้มเหลวการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ระดับการเสริมความแข็งแกร่งของไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ได้คงอยู่ที่ +5

ท่านประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ได้เสริมความแข็งแกร่งจาก +5 เป็น +6

 


เช่นนั้น เมื่อเขาเหลือหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำเพียง 2 ก้อนจาก 36 ก้อน เขาก็สามารถทำให้ไอเทมการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาบรรลุถึงการเสริมความแข็งแกร่งระดับ +9 โชคดีที่การเสริมความแข็งแกร่งประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง


‘ฮ่าๆ ทำไมการใช้พลังด้านจิตใจถึงใช้พลังงานมากกว่าตอนฉันล่ากันล่ะเนี่ย?’


จำนวนหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำที่เขาเหลือคือ 2


เอียนเริ่มรู้สึกขัดแย้งกัน


‘จะทำอย่างงี้จริงๆหรอ?’


มือของเอียนซึ่งถือหินเวทย์มนตร์สั่นสะเทือนเหมือนคนไข้ที่มีอาการมือสั่น


‘ไม่สิ ถ้าฉันลดไป 2 ระดับ… ฉันอาจจะร้องจริงๆนะเนี่ย’


เอียนตามปกตินั้นยังห่างไกลจากการเป็นคนที่ไม่กล้าตัดสินใจ แต่สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่กับเอียน


และไคซาร์ซึ่งยืนมองเขาอยู่ข้างๆได้พูด


“เจ้าหนูลอร์ด ทำไมเจ้าต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องแบบนี้ มันไม่เหมือนกับเจ้าเลย”


เช่นนั้น เอียนปล่อยมือจากด้ามจับทันที


“เจ้าผู้ติดตาม ลองคิดดูสิ ถ้าไอเทมที่ฉันเสริมความแข็งแกร่งนั้นเป็นอาวุธของนาย นายคิดว่านายจะสบายใจได้หรอ?”


“อะแฮ่ม…”


มันเป็นสถานการณ์ที่พลังโจมตีของอาวุธกลับไปกลับมาระหว่าง 200-300 หน่วยหรือจากแค่การเสริมความแข็งแกร่งครั้งเดียว ม่านตาของไคซาร์ที่คิดเรื่องนั้นสั่นเล็กน้อย


“ข้าขอโทษเจ้าหนูลอร์ด ข้าไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วน”


“เฮ้อ… ทำใจให้สงบ”


เอียนซึ่งทำใจให้สงบ พูดอีกครั้ง


“เอาล่ะ ไปกันเลย! มันเป็นแค่ชีวิตใช่ไหมล่ะ? ถ้าฉันล้มเหลว ฉันก็แค่ล้มเหลว!”


ในที่สุดเอียนซึ่งประสบความสำเร็จในการทำให้ใจสงบ ยกหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำและปิดตาของเขาด้วยมือข้างซ้าย


“เจ้าหนูลอร์ด ทำไมเจ้าต้องปิดตาในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าสงบใจแล้ว?”


“หุบปาก!”


เอียนปิดตาอย่างแน่นหนาและเขาได้ใช้หินเวทย์มนตร์ 2 ก้อนที่เหลือ เริ่มจากก้อนแรก


เนื่องจากถ้าเขาประสบความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งด้วยหินเวทย์มนตร์ก้อนแรก เขาก็จะไปถึงการเสริมความแข็งแกร่งระดับที่ 10 หินเวทย์มนตร์ก้อนสุดท้ายจึงไม่ต้องใช้


อย่างไรก็ตาม โชคร้าย หินเวทย์มนตร์ระดับต่ำทั้ง 2 ก้อนเปล่งแสงสีขาวขณะที่พวกมันหายไป


 


ท่านล้มเหลวในการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ระดับของการเสริมความแข็งแกร่งของไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ลดลงจาก +9 เป็น +8

ท่านล้มเหลวในการเสริมความแข็งแกร่งไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ระดับการเสริมความแข็งแกร่งของไอเทม ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ คงอยู่ที่ +8

 


ผลลัพธ์ของความพยายามทั้งคู่เกิดจากความล้มเหลวทั้งหมด


อย่างไรตาม เอียนถอนหายใจอย่างโล่งอก


“เฮ้อ ถึงอย่างนั้นมันก็ลดลงแค่ 8 โล่งอก…”


เอียนซึ่งเกือบจะสลายเมื่อแสงสีเทาเปล่งออกมาก็โล่งใจหลังจากเห็นว่ามันยังคงรักษาไว้ที่ระดับที่ 8


ไคซาร์ซึ่งเฝ้าดูเขา ปลอบใจเอียน


“ถึงอย่างนั้น อย่างน้อยเจ้าก็ได้เสริมความแข็งแกร่งมาถึงระดับที่ 8 เจ้าหนูลอร์ดตอนนี้เสริมให้อาวุธข้าบ้าง”


เมื่อไคซาร์พูด เอียนพยักหน้าอย่างอ่อนแรง


“แน่นอน เนื่องจากฉันมีหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำสุดจำนวนมาก ฉันจะเสริมทุกอย่างให้เป็นอย่างน้อยระดับที่ 5”


เอียนใช้หินวิเศษระดับต่ำสุดลงบนอุปกรณ์ของไคซาร์ในขณะที่เขาพึมพำภายในใจ


‘ตอนนี้จนกว่าฉันจะมีกองหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำอย่างน้อย 50 ก้อน ฉันไม่ควรแม้แต่จะมองมัน… ตามที่คาดไว้การเสริมไอเทมไม่ดีต่อสุขภาพจิตเลย’


 


* * *


 


“เอาล่ะ ในที่สุดเราก็เข้าสู่อาณาจักรปีศาจได้แล้ว!”


ชายกระโดดลงจากประตูมิติขณะที่เขากำหมัดอย่างแน่นหนา


คันจิฮูนี่ย์ยิ้มอย่างสดใสขณะที่เขามองไปที่คาโนเอลซึ่งตามหลังเขามา


“ในที่สุดเราก็เข้ามาในอาณาจักรปีศาจ ถึงอย่างนั้นมันก็ใช้ระยะเวลานานนิดหน่อยกว่าที่ฉันคาดไว้”


เช่นนั้น คาโนเอลยิ้มขณะที่ตอบกลับ


“นั่นเป็นเพราะฉันเป็นภาระ หากนายทำเควสต์ต่อไปด้วยตัวนายเอง นายจะต้องได้เข้าเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นฉันจึงเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้”


เกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่อาณาจักรปีศาจเปิดขึ้น


และเมื่อคาโนเอลพูด หากว่าฮูนี่ย์ทำอะไรด้วยตัวเอง เขาอาจจะก้าวเข้ามาตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้ว


“ฮ่าๆ มันไม่เป็นไร นักเวทย์มนตร์มืดที่สุดยอดของไคลันไม่สามารถไปไหนหลังจากได้ยินคำขอความช่วยเหลือจากคนอื่นหรอกจริงไหม?”


“ฮ่า อย่างที่คาดไว้ฮูนี่ย์ ฉันไม่มีใครนอกจากคุณที่จะหันไปหา”


“ฮาฮาฮ่า จากนี้ไปพี่แค่เชื่อฮูนี่ย์ผู้นี้ก็พอ”


ฮูนี่ย์ค่อยๆมองไปรอบๆ


และเขาพบกับกลุ่มแรกซึ่งเป็นอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำจากที่ไกลๆ


“พี่เราเคลื่อนไหวกันไปช้าๆดีไหม?”


เมื่อฮูนี่ย์พูด คาโนเอลถามกลับด้วยคำพูดอ้อมค้อม


“เราควร… แต่นายวางแผนว่าเราจะทำอะไรก่อนล่ะ?”


“อืมม… เราควรไปถึงโซน 120 ใช่ไหม?”


สถานที่ปัญจุบันที่ทั้งสองคนอยู่คือโซน 129 ของอาณาจักรปีศาจ


เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างยาวและขรุขระจนถึงโซน 120 คาโนเอลจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย


“เอ๋? นายวางแผนที่จะทำเควสต์ก่อนหรอ? นายไม่คิดว่าจะดีที่สุดหรอที่ใช้เวลาสักนิดให้คุ้นชินกับที่นี่?”


คำพูดของคาโนเอลก็มีจุดยืนเพียงพอ แต่ฮูนี่ย์ส่ายหน้าขณะที่กระดิกนิ้ว


จากจุดเริ่มต้น เขาไม่ได้บอกว่าพวกเขาควรจะผ่านโซน 120 เพื่อทำเควสต์


“ไม่ใช่หรอกพี่ ก่อนที่เราจะทำเควสต์ มีบางสิ่งที่เราต้องทำก่อน”


“มันคืออะไร?”


ฮูนี่ย์ยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


“เราต้องไปหาพี่เอียน เราต้องอยู่กับเขาเพื่อให้ได้ประโยชน์มากขึ้น”


“พี่เอียนอ่ะหรอ?”


ฮูนี่ย์พยักหน้า


“ฉันไม่รู้เลยว่าพี่ทำอะไรอยู่ แต่เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่เข้ามาในอาณาจักรปีศาจภายใน 3 นาทีหลังจากที่มันเปิดขึ้น มันอาจเป็นไปได้ว่าเขาทำให้ปีศาจกลายเป็นผู้ติดตามของเขาไว้แล้วกำลังสั่งพวกมัน”


“…”


เมื่อคิดถึงเหตุผล คำพูดของฮูนี่ย์ก็ไม่สมเหตุสมผล


เนื่องจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อชุมชนโดย LB Corp. พวกเขาจะไม่สามารถแม้แต่จะดูที่นิ้วเท้าของปีศาจจนกว่าพวกเขาจะเข้าไปในโซน 100


อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง คาโนเอลรู้สึกท่วมท้นอย่างรุนแรงด้วยความรู้สึกว่าเรื่องตลกของฮูนี่ย์อาจเป็นความจริง


‘พี่นั้นดูเหมือนกับคนที่เกิดมาเพื่อเล่นเกม’


คาโนเอลก็อยากจะเจอเอียนซึ่งทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่คุ้นเคยกับเกมมากขึ้น


“แน่นอน ไปกันเถอะ เนื่องจากพลังการต่อสู้ของฉันแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ฉันก็ช่วยเหลือได้ ถ้าเรารวมจุดแข็งของเราเข้าด้วยกัน เราจะสามารถผ่านโซน 120 ได้”


หลังจากคาโนเอลพูดเสร็จ เขาหันหน้าและมองไปด้านซ้ายเล็กน้อย


“ใช่ไหม ออเด็น?”


และในจุดนั้นมังกรดำตัวเล็กที่ยังไม่โตเต็มที่ก็ปล่อยลมหายใจผ่านจมูกของมันไปยังคาโนเอล


“กร๊าา-“

 

 

 


ตอนที่ 213

 

จากโซน 107 ของอาณาจักรปีศาจที่ห้องปฏิบัติการอยู่จนถึงโซน 100 ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของพวกเขาคือเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว ปาร์ตี้ของเอียนผ่านมาได้อย่างง่ายดาย


โดยพื้นฐานแล้ว ยิ่งเลขน้อยลงมอนสเตอร์ของอาณาจักรปีศาจยิ่งแข็งแกร่งขึ้น


อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวเลขหลักหน่วยเปลี่ยนไป มันก็ไม่ถึงจุดที่มันจะยากสำหรับพวกเขาจริงๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่ตัวเลขหลักสิบเปลี่ยนไป มันเป็นระบบที่พวกมันเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระยะหนึ่ง


เนื่องจากเป็นกรณีนี้ ด้วยพลังการต่อสู้ของเอียนที่บุกทะลุผ่านโซน 107 โดยไม่มีปัญหาใดๆ พวกเขาสามารถผ่านโซน 100 ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน


ยิ่งไปกว่านั้นความจริงที่ว่าเขาใช้หินเวทมนตร์ทั้งหมดของเขาและเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้นก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน


‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ของเขาซึ่งได้กลายเป็นอาวุธที่เหมือนสัตว์ประหลาดที่มีพลังโจมตีกว่า 3,000 หน่วย แทงทะลุผิวหนังของอสูรเวทย์มนตร์ราวกับว่าเขากำลังตัดเต้าหู้


‘และสกิลที่ฉันเพิ่งได้รับนั้นก็เหลือเชื่อตามที่คาดไว้เช่นกัน’


หลังจากที่เอียนประสบความสำเร็จในการเพิ่มระดับของ ‘เทมมิ่งมาสเตอร์’ หนึ่งระดับ เขาได้รับสกิลลับสองอย่าง


สกิล ‘การสนทนา I’ ซึ่งเป็นหนึ่งในนั้น มีฟังก์ชั่นใกล้เคียงกับสกิลสารพัดประโยชน์ในขณะที่ ‘บูชายัญ I’ อีกอันหนึ่ง มีคุณสมบัติของสกิลช่วยเหลือการต่อสู้


อย่างไรก็ตาม สกิลทั้งสองนั้นเหมือนกันกับสกิลที่ช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของเอียนอย่างมาก


เอียนดูสกิล ‘การสนทนา l’ เป็นอย่างแรก


 


การสนทนา l

ประเภท : สกิลติดตัว


เลเวลสกิล : เลเวล 0


ความชำนาญ : 0%


เวลาคูลดาวน์ : ไม่มี


ระยะเวลา : ไม่จำกัด


(ในกรณีที่ระยะห่างระหว่างสัตว์เลี้ยงกับผู้อัญเชิญมากกว่าระยะการควบคุมของผู้อัญเชิญจะมีการจำกัดเวลา 300 นาที หากสัตว์เลี้ยงยังคงอยู่นอกการควบคุมของผู้อัญเชิญ หลังจากเวลาหมดลง สัตว์เลี้ยงจะถูกบังคับยกเลิกการอัญเชิญ)


เงื่อนไขสำหรับการใช้ : นี่เป็นสกิลติดตัวที่สามารถใช้กับสัตว์เลี้ยงที่มีค่าความสัมพันธ์สูงสุดกับผู้อัญเชิญของพวกเขาเท่านั้น


ผู้อัญเชิญที่เชี่ยวชาญสามารถสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างลึกซึ้ง


หากสกิลการสนทนาของท่านพัฒนาเกินขีดจำกัด ผู้อัญเชิญจะสามารถจัดการสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้ในที่ที่พวกเขาไม่อยู่ด้วยเช่นกัน


นอกจากนี้ แม้ว่าผู้อัญเชิญจะต้องออกจากระบบ สัตว์เลี้ยงของพวกเขาสามารถอยู่ในสถานะที่ถูกอัญเชิญในช่วงเวลาที่กำหนด


*ยิ่งความชำนาญของ ‘การสนทนา I’ สูงขึ้นเท่าใดระยะเวลาควบคุมของสัตว์เลี้ยงก็จะยิ่งสูงขึ้น รวมถึงเวลาที่สัตว์เลี้ยงจะอยู่นอกระยะเวลาควบคุมก็นานขึ้น


*เมื่อความสามารถของ ‘การสนทนา I’ ถึงศักยภาพสูงสุดแล้ว สกิล ‘การสนทนา II’ อาจเปิดขึ้น


 


เพียงแค่มอง เนื้อหาของสกิล ‘การสนทนา l’ นั้นยากที่จะเข้าใจ


อย่างไรก็ตาม เอียนซึ่งมีความเข้าใจในระดับสูงของผู้อัญเชิญมากกว่าคนอื่นๆก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าจะใช้สกิลได้อย่างไรและตรงประเด็นทันทีที่เขาอ่านเนื้อหาของสกิล


‘หากว่าคุณอ่านมันโดยไม่คิดมาก คุณสามารถเข้าใจมันเหมือนกับสกิลติดตัวที่เพิ่มขอบเขตการควบคุมสัตว์เลี้ยง แต่คุณค่าที่แท้จริงของสกิลนี้ไม่ได้อยู่ที่นั่น’


ระยะที่ผู้อัญเชิญสามารถควบคุมสัตว์เลี้ยงได้นั้นมีสัดส่วนตามค่าสถานะของ ‘ค่าความเป็นผู้นำ’


อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่ามันไม่ได้มีความหมายมากนัก


นั่นเป็นเพราะว่าระยะการควบคุมนั้นก็เพียงพอแล้ว


ระยะสูงสุดที่เอียนสามารถควบคุมสัตว์เลี้ยงของเขานั้นอยู่ที่เกือบ 800-900 เมตรและแม้แต่เอียนก็แทบจะไม่เคยมีกรณีใดๆที่เขาใช้ระยะทั้งหมดนี้และเป็นผู้นำการต่อสู้


ในอีกความหมายหนึ่ง มันหมายความว่าระยะที่เพิ่มมากขึ้นนั้นไม่ได้ช่วยในการต่อสู้


‘ตั้งแต่แรก มันยากที่จะเห็นคู่ต่อสู้อยู่ไกลเป็นกิโลเมตรด้วยตาเปล่า ดังนั้นทำไมถึงต้องส่งสัตว์เลี้ยงออกไปไกลและควบคุมพวกมันล่ะ’


ในกรณีนี้ ความสามารถหลักของสกิลนี้แตกต่างกัน


‘ความสามารถที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงเคลื่อนที่ได้แม้หลังจากผู้อัญเชิญออกจากระบบ นี่คือฟังก์ชั่นที่หอมหวานอย่างแท้จริง’


สกิลนี้มีความสามารถในการอนุญาตให้สัตว์เลี้ยงอยู่นอกขอบเขตการควบคุมของผู้อัญเชิญหรือเมื่อผู้อัญเชิญไม่ได้เข้าสู่ระบบเกมเพื่อต่อสู้ต่อไปเป็นเวลาสูงสุด 300 นาที


สำหรับเอียนซึ่งพบว่าแม้กระทั่งเวลาที่ผ่านไปสำหรับสถานการณ์ที่เขาต้องการออกจากเกมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเมื่อเขานอนหลับหรือกิน สกิลนี้นำเสนอความสามารถที่เหมือนกับสมบัติที่เหลือเชื่อ


‘ตอนนี้แม้ว่าฉันจะนอนบนเตียงของฉัน สัตว์เลี้ยงของฉันจะสามารถเพิ่มเลเวลได้!’


เอียนนึกถึงเวลาที่เขาใช้เลี้ยงดูเทพมังกรคาร์เซอุสจากเลเวล 1


เนื่องจากเขาเพียงแค่เพิ่มเลเวลคาร์เซอุสโดยไม่สามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้เนื่องจากเขาขาดความเป็นผู้นำ ในตอนนี้เลเวลสัตว์เลี้ยงของเอียนนั้นค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตัวละครของเอียน


เนื่องจากมีความแตกต่างอย่างน้อย 3 เลเวลจนถึงสูงสุด 15 เลเวล


อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถนี้ มันจะเป็นช่วงเวลาที่สัตว์เลี้ยงจะได้ทันเลเวลของเอียนอีกครั้ง


‘ฉันจะใช้งานพวกมันให้หนักเลย’


เอียนครุ่นคิด


‘สำหรับตอนนี้ หลังจากที่ฉันทำเควสต์เสร็จแล้ว ฉันควรกำหนดพื้นที่ล่าให้กับสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว’


เอียนพึมพัมกับตัวเอง


ไคซาร์เข้าหาเอียนซึ่งคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆขณะที่หัวเราะ


“ดูเหมือนว่าเราใกล้จะจบโซน 101 แล้ว”


เมื่อไคซาร์พูด เอียนพยักหน้า


“ใช่ เราจะสามารถเข้าโซน 100 ได้ก่อนที่ฉันจะออกจากระบบในวันนี้หากว่าเราโชคดี”


ไคซาร์ซึ่งพูดคุยกับเอียนได้ยกดาบใหญ่ของเขาขึ้นและยื่นมันไปหาเอียน


“แต่ว่าเจ้าหนูลอร์ด เจ้าไม่สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับดาบใหญ่ของข้าอีกสักนิดหรอ? เพิ่มให้มันถึงขั้นที่ 8 เหมือนหอกของเจ้า”


“ฉันขาดหินเวทย์มนตร์ หลังจากเมื่อฉันมีหินเวทย์มนตร์เยอะๆ ฉันจะทำให้นายเอง”


“อย่าโกหก ข้าเห็นเจ้าเอาหินเวทย์มนตร์ระดับต่ำ 5 ก้อนใส่ลงในกระเป๋าของเจ้า”


“… ยังไงก็ตาม ไม่ใช่ตอนนี้ ไว้วันหลัง”


“จิ๊”


“ไปตรงนู้นและช่วยไลกับบักค์แทน นายจะมาสบายแบบนี้ได้ยังไงในเมื่อนายแข็งแกร่งที่สุด?”


“ก็ได้เอียน แต่ว่าเจ้าต้องเสริมความแข็งแกร่งให้ดาบของข้าเมื่อเราไปถึงเมื่อแห่งความโกรธไม่ว่ายังไงก็ตาม”


เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“อ่ะ ก็ได้ ดังนั้นรีบไปทำงานเจ้าผู้ติดตาม”


ไคซาร์ซึ่งตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าเขาจะเสริมความแข็งแกร่งให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างกับสายฟ้า เอียนส่ายหน้า


‘เฮ้อ ไคซาร์นั้นโลภไอเทมมากกว่าผู้เล่นหลายคน ถึงอย่างนั้นฉันควรจะรู้สึกสบายใจใช่ไหมที่ความซื่อสัตย์ของเขาเพิ่มขึ้นทีละน้อยทุกครั้งที่ฉันเสริมอุปกรณ์ของเขา…?’


ไคซาร์ก็ยังมีพลังการต่อสู้ที่ดีที่สุดในปาร์ตี้


สำหรับความซื่อสัตย์ของไคซาร์ซึ่งเป็นอย่างนั้นได้เพิ่มขึ้นทางอ้อมนั้นหมายความว่าพลังการต่อสู้ของเอียนก็จะเพิ่มขึ้นด้วย


แน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินคำพูดของเอียน แต่ไคซาร์ก็โจมตีคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง เนื่องจากหากความซื่อสัตย์ของเขาเพิ่มขึ้นและเขาสามารถใช้กลยุทธ์ได้ เขาจะกลายเป็นพลังการต่อสู้ที่น่าทึ่งยิ่งขึ้น


‘จะว่าไปแล้ว เมื่อไหร่ฮัลลิจะกลับมาต่อสู้ได้กันนะ?’


เอียนเปิดหน้าต่างสัตว์เลี้ยงและตรวจสอบสถานะของฮัลลิ


 


สัตว์เลี้ยงฮัลลิ – ระดับ : Legendary / สถานะ : ไม่สามารถต่อสู้ได้ (เวลาที่เหลือ : 02:49:23)

 


ฮัลลิอยู่ในสถานะที่เขาไม่สามารถอัญเชิญได้อีกประมาณ 3 ชั่วโมง


อย่างไรก็ตาม ฮัลลิไม่ได้อยู่ในสถานะไม่สามารถต่อสู้ได้จากการได้รับความเสียหายระหว่างการต่อสู้


เอียนได้ใช้ ‘การบูชายัญ l’ สกิลลับใหม่ที่เขาได้รับมาใส่ฮัลลิ ดังนั้นนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่สามารถอยู่ในสถานะต่อสู้ได้


‘ข้อเสียการลดลง 1 เลเวลนั้นเยอะ แต่ว่าไม่มีบัฟแบบนี้ในบรรดาคนที่ฉันมีอยู่’


สกิล ‘บูชายัญ I’ เป็นสกิลที่สัตว์เลี้ยงของผู้อัญเชิญที่ครอบครองนั้นถูก ‘บูชายัญ’ ตามชื่อที่ระบุไว้และสำหรับเวลาที่กำหนดจะมีการบัฟมหาศาลให้กับทีมทั้งหมด


มีข้อมูลสกิลออกมาเหมือนกันดังนี้


 


บูชายัญ l

ประเภท : สกิลใช้งาน


เลเวลสกิล : เลเวล 0


ความเชี่ยวชาญ : 0%


เวลาคูลดาวน์ : 320 นาที


ระยะเวลา : 300 นาที


เงื่อนไขสำหรับการใช้ : สัตว์เลี้ยงที่ถูกอัญเชิญอยู่ในปัจจุบันหรืออาจจะเป็นไปได้ที่จะใช้กับผู้อัญเชิญเอง


ไม่สามารถใช้กับผู้เล่นคนอื่นหรือ NPC หรือสัตว์เลี้ยงของผู้เล่นคนอื่น


การบูชายัญของสัตว์เลี้ยงตามมาด้วยความเศร้าโศกและความโกรธในเวลาเดียวกันให้กับปาร์ตี้


ปาร์ตี้จะได้รับบัฟที่ทรงพลังตามพลังการต่อสู้ของสัตว์เลี้ยง (หรือตัวสัตว์เลี้ยงเอง)


ความเร็วของการเคลื่อนที่ : + (เลเวลของสัตว์เลี้ยงที่ถูกบูชายัญ/3)%


เวลาคูลดาวน์ : – (เลเวลของสัตว์เลี้ยงที่ถูกบูชายัญ/5)%


ความสามารถการต่อสู้ : + (พลังการต่อสู้ของสัตว์เลี้ยงที่ถูกบูชายัญ/2)%


*ตัวที่ได้รับการบูชายัญจะได้รับบทลงโทษเหมือนกับเวลาที่พวกเขาตายในสมรภูมิ


*บัฟนี้จะได้รับแก่ผู้อัญเชิญเอง สัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่พวกเขาครอบครอง รวมถึงผู้ติดตาม (ไม่ได้ให้แก่ผู้เล่นคนอื่นหรือ NPC ที่อยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน)


*หากความสามารถในการบูชายัญถูกใช้กับผู้อัญเชิญด้วยตัวเองแทนที่จะเป็นสัตว์เลี้ยง ผู้อัญเชิญจะลอยไปรอบๆสมรภูมิในสภาพวิญญาณในช่วงระยะเวลาของการต่อสู้ (ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถโจมตีได้เมื่ออยู่ในสถานะวิญญาณและไม่สามารถใช้สกิลใดๆได้)


เมื่อสถานะทางจิตวิญญาณสิ้นสุดแล้ว ผู้อัญเชิญจะถูกนำออกจากเกมโดยอัตโนมัติและเหมือนกับว่าพวกเขาจะตาย พวกเขาจะไม่สามารถเข้าสู่เกมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง


นอกจากนี้ หากผู้อัญเชิญใช้ความสามารถบูชายัญใส่ตัวเอง ประสิทธิภาพของบัฟทั้งหมดและระยะเวลาจะถูกนำมาใช้เป็นสองเท่า


*ยิ่งความสามารถของ ‘บูชายัญ I’ สูงขึ้นเท่าใดประสิทธิภาพบัฟก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อยและระยะเวลาจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก


*เมื่อสกิล ‘บูชายัญ l’ ถึงความเชี่ยวชาญสูงสุด สกิล ‘บูชายัญ ll’ จะเปิดขึ้น


 


มากพอๆกับที่ต้องสูญเสีย มันเป็นสกิลที่มีบัฟที่น่าทึ่งกว่าสกิลอื่นๆ


เอียนใช้สกิลบูชายัญใส่ฮัลลิเพื่อลองดูและเขาเห็นผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมจากพลังของมัน


‘ในช่วงเวลา 5 ชั่วโมงของบัฟ มันรู้สึกเหมือนว่าพลังการต่อสู้ของฉันแข็งแกร่งขึ้นถึงสองเท่า’


ฮัลลิเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชี่ยวชาญในการตอบสนองและในขณะที่สัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามคนอื่นๆได้รับ 50% ของค่าสถานะทั้งหมดของฮัลลิซึ่งเป็นแบบนี้ ประสิทธิภาพของมันเหลือเชื่อมาก


แม้แต่บักค์ซึ่งที่มีการตอบสนองช้าที่สุดก็สามารถมีการตอบสนองที่สูงกว่ามอนสเตอร์ขั้นกลางถึงขั้นสูงได้


‘ยิ่งไปกว่านั้น เวลาคูลดาวน์ของสกิลทั้งหมดลดลง 34% ความเร็วการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 56.6%’


เนื่องจากฮัลลิเลเวล 170 ประสิทธิภาพ 34% ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของค่าถูกนำไปใช้เพื่อลดเวลาคูลดาวน์และความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขาเพิ่มขึ้นถึง 56.6% จากหนึ่งในสามของค่า


‘บทลงโทษของการลดลง 1 เลเวลนั้นมาก แต่ก็ยังเป็นความสามารถที่ฉันจะใช้ทุกครั้งแล้ว’


มันเป็นสกิลที่เขาจำเป็นต้องใช้เมื่อเขาอยู่ในการต่อสู้ระดับบอสที่เขาเผชิญหน้ากับบอสที่ยากที่จะจัดการหรือเมื่อเขาอยู่ในสงครามดินแดนที่สำคัญ


เอียนจัดความคิดของเขาและมองไปรอบๆสัตว์เลี้ยงที่อยู่กลางการต่อสู้กับอสูรเวทย์มนตร์


“เราจะพักกัน 2 ชั่วโมงทันทีที่เราฆ่าพวกมันทั้งหมด!”


เมื่อเอียนพูด สัตว์เลี้ยงชื่นชม


 


โอ้ ฉันคิดว่าเจ้านายนั้นกินอะไรแปลกๆแน่ๆเลย!

ไม่มีทาง เราล่าแค่เพียง 5 ชั่วโมง แต่เราได้พัก 2 ชั่วโมงเต็มๆ!

เป็นไปไม่ได้

 


อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เอียนพยายามพักผ่อนไม่ใช่เพราะเขาต้องการอย่างแท้จริง


เป็นเพราะความคิดของเขาที่ต้องการเข้าสู่โซน 100 หลังจากระยะเวลาที่ฮัลลิไม่สามารถสู้ได้


‘เนื่องจากไม่สามารถบอกได้ว่าอันตรายอบบไหนจะอยู่ในโซน 100 ด้วย…’


เอียนหยิบและถือการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาที่เขาอยู่บนหลังขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้า


“กำจัดพวกมันทั้งหมดเร็วๆและไปพัก!”


สัตว์เลี้ยงซึ่งได้รับความแข็งแกร่งจากการตะโกนของเอียน จุดประกายจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขามากขึ้นเมื่อพวกเขาเริ่มล่าอสูรเวทย์มนตร์


 


รับทราบเจ้านาย!

 


คาร์เซอุสพูดอย่างป่าเถื่อนขณะที่มันสูดลมหายใจ


 


เอาล่ะ ข้าจะย่างพวกมันเป็นบาร์บีคิว!

 

 

 


ตอนที่ 214

 

ก่อนที่ใครๆจะรู้ตัว มันเป็นเวลา 30 วันแล้วตั้งแต่อาณาจักรปีศาจเปิดขึ้น


ความสนใจของผู้เล่นในอาณาจักรปีศาจเพิ่มมากขึ้นจนถึงจุดที่กระดานข่าวแยกต่างหากที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรปีศาจถูกสร้างขึ้นในชุมชนไคลันอย่างเป็นทางการ


ตอนนี้ แม้แต่ผู้เล่นอันดับต้นๆที่ดีที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการรับเควสต์ที่เกี่ยวข้องและเข้าสู่อาณาจักรปีศาจและด้วยเหตุนี้จำนวนผู้เล่นที่เข้าสู่อาณาจักรปีศาจจึงสูงกว่าสองหมื่นคน


ยิ่งไปกว่านั้นเพราะยันโคผู้ปกป้องจุดที่จะเข้าสู่โซน 119 ถึงโซน 120 ได้พ่ายแพ้ มีผู้เล่นกว่าพันรายที่เข้าสู่ช่วงโซน 110


ความจริงที่ว่านอกเหนือจากเอียนแล้วยังไม่มีผู้เล่นคนใดรู้ถึงการดำรงอยู่ของหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูที่ดูแลโซน 120


อย่างไรก็ตาม ประตูของโซน 120 ไม่ได้เปิดอยู่เสมอไป


 


เกิดอะไรขึ้นกับที่นี่กัน? ในที่สุดฉันก็ไปถึงโซน 121 ในวันนี้และเข้าไปในโซน 120 แต่มีผู้พิทักษ์ประตูที่อยู่ปลายสุดโซน 120

ห้ะ? นายกำลังพูดถึงอะไร? ฉันเพิ่งผ่านโซน 120 มาเมื่อวานนี้และฉันอยู่ระหว่างกลางการล่าในโซน 119 แล้ว

นี่เป็นปัญหาที่จริงจัง ผู้พิทักษ์ประตูจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูของโซน 120 ในตอนเช้านี้

ห้ะ…? เป็นอย่างนั้นได้ยังไงอ่ะ?

คนข้างบน นายตามหลังข้อมูล ความจริงที่ว่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูมีอยู่แล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้จัดอันดับหลายคนก็มาถึงโซน 110 ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากหัวหน้ผู้พิทักษ์ประตูมีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ จึงไม่มีใครสามารถผ่านเข้ามาได้ พวกเขาบอกว่าผู้จัดอันดับที่เก่งที่สุดกำลังจัดตั้งกลุ่มจู่โจมเพื่อฆ่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของโซน 110 … คิดว่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูจะปรากฏในโซน 120 เช่นกัน

อ๊ากก! ถ้างั้นคนที่เข้ามาช้าจะไม่สามารถผ่านโซน 120 ได้แล้วงั้นหรอ?

ถูกต้อง ไม่เพียงแต่ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่หากว่านายใช้หินย้อนกลับและกลับไปที่หมู่บ้าน นายจะไม่สามารถกลับไปพื้นที่ล่าเดิมได้อีกครั้ง

เฮ้อ… ไม่มีใครสามารถฆ่าผู้พิทักษ์ประตูได้เลยหรอ?

มันเลเวล 350 หรืออะไรสักอย่าง ดังนั้นใครจะฆ่ามอนสเตอร์แบบนั้นได้กันล่ะ? พวกเขาอาจจะต้องนำปาร์ตี้แบบเต็มกำลังผู้เล่นระดับสูง 20 คนเพื่อจัดการมัน…

ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้น แม้ว่ามันจะเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในช่วงเลเวล 350 แต่ฉันก็รู้สึกเหมือนว่ามีผู้เล่นเพียงสี่ในห้าจาก 10 อันดับแรกที่รวบรวมมา พวกเขาจะสามารถฆ่ามันได้

มันจะง่ายหรอถ้าผู้เล่นสี่หรือห้าจาก 10 อันดับแรกมารวมกัน?

อืม… ฉันว่านั่นก็ยากอยู่นะ

 


ในตำแหน่งที่ยันโคหายตัวไป หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูคนใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้น


ด้วยเหตุนี้ ราคาของหินวิเศษระดับต่ำซึ่งดรอปจากโซน 120 ขึ้นไปเท่านั้น เริ่มพุ่งสูงขึ้น


แน่นอนว่าเอียนซึ่งไม่ได้สนใจอะไรมากในราคาตลาดของหินเวทย์มนตร์ เพียงแค่ละลายหินเวทย์มนตร์ของเขาทั้งหมดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งอาวุธของเขาทันทีที่เขาได้รับ


“เฮ้อ ฉันล้มเหลวในการไปถึงการเสริมความแข็งแกร่งระดับที่ 10 อีกแล้ว”


พร้อมด้วยข้อความที่ระบุว่าการเสริมความแข็งแกร่งล้มเหลว เอียนก็รู้สึกผิดหวังเมื่อเขามองไปที่การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาซึ่งหยุดอยู่ที่การเสริมความแข็งแกร่งระดับที่ 9


“ร้องออกมาดังๆเลย ข้าขอให้เจ้าเสริมความแข็งแกร่งให้อาวุธข้าด้วย แต่เจ้าเอาแค่เสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง”


เอียนรับปากกับไคซาร์ซึ่งบ่นอยู่ข้างเขา


“เมื่อฉันทำให้หอกเสริมความแข็งแกร่งถึงระดับที่ 10 ฉันจะให้หินเวทย์มนตร์ระดับต่ำทั้งหมดของฉันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาวุธนายเลย อดทนไว้ก่อน”


“อะแฮ่ม ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็…”


ในขณะที่เอียนทะเลาะกับไคซาร์ ปาร์ตี้ก็สามารถเข้าไปในส่วนลึกของโซน 100 ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว


และหลังจากนั้นไม่นาน ป้อมปราการขนาดยักษ์ปรากฏตัวต่อหน้าของเอียน


“โอ้ ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ตรงนั้น”


เมื่อเอียนพึมพัม พอลลีนซึ่งตามหลังเขามาอย่างเงียบๆตอบกลับ


“เหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ ท่านลอร์ด นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นป้อมปราการในอาณาจักรปีศาจ”


เมื่อพบจุดหมายของเขา เท้าของเอียนก็เริ่มเร็วขึ้นและเมื่อเขาเข้าใกล้มันมากขึ้น เสียงอุทานก็ออกมาจากปากของสมาชิกปาร์ตี้


ป้อมปราการยักษ์ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการยื่นออกมาจากที่ต่างๆ แสดงให้เห็นภาพของป้อมปราการปีศาจที่ดูเหมือนจะมีอยู่จริงในนรกเท่านั้น


“ฮ่า ดูเหมือนว่าเราจะมาถึงอาณาจักรปีศาจแล้วจริงๆ”


เมื่อเอียนพูด ซีเรียซึ่งอยู่ข้างๆเขาพูดออกมาอย่างระมัดระวัง


“ท่านลอร์ด นี่คืออาณาจักรปีศาจจริงๆค่ะ”


เช่นนั้น เอียนแสดงท่าทางเขินอายขณะที่เกาหัว


“อ่า… ชะ ใช่สิ”


ปาร์ตี้ที่เดินไปตามขอบป้อมปราการเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวสามารถค้นพบทางเข้าซึ่งนำไปสู่ด้านในตอนท้ายของการเดินเร็วๆประมาณ 10 นาที


ทางเข้าถูกปิดกั้นโดยประตูป้อมปราการขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนจะสูงประมาณ 10 เมตรได้อย่างง่ายดายและด้านหน้าของมันปีศาจที่ดูหยาบกร้านปกป้องอยู่


‘ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นยาม…’


เอียนซึ่งตรวจสอบข้อมูลของปีศาจ กลืนน้ำลายขณะที่เข้าหาพวกเขาอย่างระมัดระวัง


นี่เป็นเพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นยาม แต่เลเวลของปีศาจนั้นใกล้เคียงกับ 300


“เอ่อ อะแฮ่ม”


เมื่อเอียนซึ่งเข้าหาพวกเขา มองไปที่ยามที่อยู่ด้านหน้าเอียน


“เจ้าเป็นใคร? นี่ไม่ใช่สถานที่ที่นอกจากปีศาจจะเข้าได้อย่างง่ายดาย”


เมื่อหนึ่งในปีศาจพูดขึ้น ดวงตาของเอียนมองขึ้นลง


เอียนถอนหายใจอย่างโล่งอกภายในใจ


‘เฮ้อ ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่ได้โจมตีทันที ฉันกังวลว่าพวกเขาอาจจะแกว่งหอกของพวกเขาก่อนที่ฉันจะได้แสดงตราประทับให้พวกเขาได้ดู’


เอียนตรวจสอบข้อมูลของปีศาจที่พูดกับเขาอีกครั้ง


 


นายพลของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวเฮสก้า / เลเวล : 325

 


เอียนค่อยๆพูด


“ผมชื่อเอียน ผู้เล่นที่ได้รับคำขอร้องมาจากยันโค หนึ่งในสิบสองผู้ถูกเลือกของอาณาจักรปีศาจ”


เมื่อเอียนพูด การแสดงออกของเฮสก้าที่แสดงใบหน้าที่ไม่น่าเชื่อเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง


“หืมม…! เจ้ามนุษย์ เจ้ารู้จักยันโคได้อย่างไร?”


เอียนขี้เกียจในการอธิบายเนื้อหาของเควสต์โดยละเอียด ในตอนนี้เขาหยิบตราประทับออกจากคลังของเขา


“ผมรู้สึกว่ามันอาจจะยาวถ้าอธิบายทั้งหมด ดังนั้นผมจะแสดงให้นายเห็นตราประทับของปีศาจที่ผมได้รับมาจากยันโค”


เฮสก้าซึ่งได้รับตราประทับของปีศาจที่เอียนถืออยู่ แสดงท่าทางประหลาดใจมากกว่าเก่า


“ไม่นะ นี่มัน… ตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจ!”


พร้อมกับคำพูดของเฮสซึ่งงุนงง พวกทหารปีศาจที่คอยปกป้องทางเข้าเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวก็ก้มหัวไปหาเอียนทันที


“ข้าไม่ได้แสดงความเคารพต่อขุนนาง ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้ข้า…”


เมื่อเขาพูด เอียนแสดงท่าทางงุนงงยิ่งกว่าพวกเขา


‘หืมม? สิ่งนี้มันเป็นไอเทมที่ดีขนาดนั้นเลยหรอ?’


เอียนนั้นไม่รู้อย่างแท้จริง แต่ว่าตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจนั้นไม่ใช่ไอเทมที่จะได้รับกันง่ายๆ


ความจริงแล้ว ตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจซึ่งเอียนมองว่าเป็นไอเทมที่ใครๆก็สามารถได้รับเมื่อพวกเขาเอาชนะหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตู เป็นไอเทมที่สามารถได้รับหากได้รับ ‘การยอมรับ’ ที่เหมาะสมจากปีศาจที่อย่างน้อยระดับหนึ่ง


เอียนซึ่งรู้สึกว่าทุกอย่างราบรื่น เดินเข้าประตูด้านในของป้อมปราการโดยไม่ชักช้า


“ถ้างั้นผมสามารถเข้าไปข้างในได้แล้วใช่ไหม?”


เมื่อเอียนถาม เฮสก้าพยักหน้าทันที


“ใช่ครับ ท่านสามารถเข้าไปได้เลยครับ”


เอียนตรงเข้าไปข้างในประตูทันทีที่เข้าได้ยินการตอบกลับและผู้ติดตามของเอียนก็ตามเอียนไป


อย่างไรก็ตามจากนั้น เฮสก้าหยุดเอียน


“รอก่อนครับ!”


“หืมม…?”


เฮสก้ากันไคซาร์ซึ่งตามหลังของเอียนด้วยหอกขณะที่พูดต่อ


“มีเพียงแค่ท่านเอียนที่สามารถเข้าไปด้านในได้”


ขณะที่เขางุนงงเล็กน้อย เอียนถามกลับ


“พวกเขาคือผู้ติดตามของผม ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”


“ไม่ได้ครับ เนื่องจากคนที่ได้รับการยอมรับจากยันโคคือท่านเอียน ไม่ใช่ผู้ติดตามของท่าน”


“จิ๊…”


เอียนค่อนข้างหงุดหงิด แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากเข้าไปในขณะที่ทิ้งผู้ติดตามของเขาไว้ข้างนอก


“ไคซาร์ เดี๋ยวฉันกลับมาขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้านายเห็นอสูรเวทย์มนตร์อ่อนแอก็ล่าอย่างระมัดระวังเลย”


“เข้าใจแล้วเจ้าหนูลอร์ด ข้าจะล่าอสูรเวทย์มนตร์ยันตัวสุดท้ายในพื้นที่นี้เลย”


“บลัฟกันหรอ”


ไคซาร์แข็งแกร่ง แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะล่าอสูรเวทย์มนตร์ที่อยู่ในอันดับกลางขึ้นไปโดยปราศจากสัตว์เลี้ยงของเขา เอียนก็แสยะยิ้ม


เฮสก้าให้ความระมัดระวังมากขึ้นต่อเอียนซึ่งมุ่งหน้าไปยังด้านในของประตูป้อมปราการ


“อ่อ อย่างสุดท้าย ข้าต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ก่อนอื่น ยันโคไม่ได้เป็นหนึ่งในนายพลทั้งสิบสองที่ถูกเลือกแล้วตอนนี้ ข้าก็โอเคกับมัน แต่คนในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวอาจจะอ่อนไหว โปรดระวังคำพูดของท่านด้วย”


“เข้าใจแล้ว”


“และถ้าท่านมองหายันโค เขาจะอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษที่ตั้งอยู่ใจกลางของเมือง”


เอียนซึ่งได้ยินชื่อหอคอยแห่งการลงโทษ แสดงท่าทางงุนงงขณะที่เขาพึมพัมในใจ


‘หอคอยแห่งการลงโทษ? มันให้ความรู้สึกเหมือนกับคุก… อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าฉันจะต้องไปหายันโคก่อน’


หลังจากเอียนก้มหัวให้เฮสก้า เขาเดินอีกครั้ง


“ขอบคุณสำหรับข้อมูล ถ้างั้นผมไปล่ะ”


และข้อความระบบโผล่ขึ้นมาต่อหน้าเอียน


กริ๊ง-


 


ท่านเป็นคนแรกที่ค้นพบ ‘เมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว’

ชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 500,000 หน่วย

ท่านได้รับฉายา ‘พลเมืองอาณาจักรปีศาจ’

จากนี้ไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ราคาของไอเทมทั้งหมดที่สามารถซื้อได้ในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวจะลดลง 15%

ค่าความสัมพันธ์ของพลเมืองของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวเพิ่มขึ้น 10 หน่วย

 


* * *


 


เอียนซึ่งเข้ามาข้างในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว ตรงไปที่ใจกลางทันทีตามที่เฮสก้าแนะนำ


อย่างไรก็ตามไม่มีเหตุผลที่เอียนต้องรีบ เบามองไปรอบๆเมืองขณะที่เขาเดินอย่างช้าๆ


แต่บรรยากาศของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวนั้นโดยทั่วไปเงียบสงบจนถึงจุดที่ไม่แตกต่างจากเมืองของมนุษย์มากนัก


‘จะว่าไปแล้ว มีปีศาจจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อที่ฉันไม่ได้เห็นจากด้านนอก’


มีปีศาจทุกประเภทเริ่มต้นจากขนาดยักษ์และด้วยการแสดงออกที่ดูหยาบที่ชวนให้นึกถึงโกเลมถึงปีศาจที่มีคุณสมบัติที่สะอาดเหมือนคนที่ดูดีและแม้กระทั่งคนที่สวยงามอันเหลือเชื่อจนถึงจุดที่จับตาของเขา


อย่างไรก็ตาม เอียนไม่เพียงแต่ตรวจสอบรูปลักษณ์ภายนอกของปีศาจ


เขาตรวจสอบข้อมูลแต่ละอย่างและทุกคนที่เขาผ่านมา


‘ปีศาจส่วนใหญ่ที่สามารถเห็นได้จากที่นี่คือปีศาจระดับต่ำ เลเวลของพวกเขาประมาณกลางๆถึงปลายๆ 200…’


แม้ว่าบางครั้งเขาจะเห็นปีศาจทั่วไปที่มีเลเวล 300 ต้นๆ แต่มันก็ไม่ใช่จุดที่เอียนรู้สึกประหลาดใจ


‘พอฉันเห็นอย่างนี้ ฉันรู้สึกได้อย่างแน่นอนว่ายันโคนั้นยอดเยี่ยมแม้แต่ในหมู่ปีศาจ’


และเมื่อเขาสังเกตสมาชิกแต่ละคนเขาก็สามารถค้นหาความจริงแบบใหม่ได้เช่นกัน


‘ไม่ได้มีเพียงปีศาจที่อยู่ในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว’


แน่นอนว่านอกเหนือจากเอียนแล้วยังไม่มีมนุษย์คนใดคนหนึ่ง แต่บางครั้งเขาก็เห็นครึ่งปีศาจหรือแม้แต่เอลฟ์หรือเผ่าพันธุ์ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่น่าสนใจซึ่งเขายังไม่เคยเห็นมาก่อน


‘นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมปีศาจไม่สนใจฉัน แม้ว่าฉันจะผ่านพวกเขาไปสินะ?’


ขณะที่คิดเรื่องต่างๆ เอียนเดินอย่างต่อเนื่อง


‘ดูเหมือนว่ามีเนื้อหาจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อแม้ในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว ดังนั้นเมื่อฉันทำเควสต์ของฉันเสร็จแล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งและมองไปรอบๆแต่ละมุม ฉันจะหมกมุ่นกับเนื้อหาทั้งหมดที่ฉันสามารถทำได้’


เอียนซึ่งเดินแบบนั้นประมาณสามสิบนาทีและมาถึงใจกลางก็สามารถพบ ‘หอคอยแห่งการลงโทษ’ ได้อย่างง่ายดาย


เนื่องจากหอคอยยักษ์ที่สูงที่สุดในใจกลางของเมืองนั้นคือหอคอยแห่งการลงโทษ


‘อืมม แต่บรรยากาศที่นี่น่าสนใจเล็กน้อย แตกต่างจนถึงตอนนี้ มันเกือบจะเป็นพื้นที่คล้ายตลาดเช่นกัน…’


ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเข้าไปในหอคอยแห่งการลงโทษ เอียนมองไปรอบๆในขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง


‘อะไรวะเนี่ย? นี่มันเหมือนกับ… ตลาดทาส?”’


อย่างไรก็ตามจากนั้น ข้อความระบบผู้ค้นพบคนแรกก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียนอีกครั้ง


กริ๊ง-


 


ท่านค้นพบ ‘หอคอยแห่งการลงโทษ’ เป็นคนแรก

ชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 100,000 หน่วย

ท่านได้รับไอเทม ‘สัญญาทาส’

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม