Taming Master 187-193

ตอนที่ 187

 

ชั้นเชิงของสมาชิกผู้บริหารของอาณาจักรไคม่อนที่ชักนำให้เกิดความขัดแย้งภายในผู้เล่นของอาณาจักรลัสเปลทำได้ดีมาก


การทะเลาะวิวาทที่เริ่มแพร่กระจายไปทั่วชุมชนเริ่มใหญ่ขึ้นจนถึงจุดที่ไม่สามารถควบคุมได้และมันถูกเผยแพร่ไปทั่วไคลัน


พลังของกิลด์ของอาณาจักรลัสเปลนั้นแข็งแกร่ง แต่เมื่อมองไปที่อาณาจักรทั้งหมดพลังการต่อสู้ของผู้เล่นเลเวลกลาง – สูง อาจถือได้ว่าเป็นจุดแข็งที่เกือบจะเป็นรากฐานของอาณาจักร


พูดง่ายๆคือพลังของกิลด์ไม่สามารถได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นกลางได้ อาณาจักรลัสเปลเริ่มสั่นคลอนจากรากของมัน


มีบางกรณีที่ในหมู่ผู้เล่นที่เป็นพันธมิตรกับกิลด์ระดับสูง มีบางคนที่ผิดหวังและเดินออกไปจากกิลด์ของพวกเขา


บทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เริ่มออกมาจากสื่อต่างๅรวมทั้งชุมชนอย่างเป็นทางการ


 


ความสมดุลที่น่ากระวนกระวายของไคม่อนและลัสเปลเริ่มพังทลาย

ในเซิร์ฟเวอร์ไคลันของเกาหลี สองประเทศยักษ์ใหญ่จะล่มสลายเป็นครั้งแรกในโลกหรือไม่?

 


ในตอนแรกมีคนจำนวนมากบอกว่าสื่อเขียนบทความที่เร้าใจเกินไป


พวกเขาสงสัยว่าอาณาจักรยักษ์คือลัสเปลจะล่มสลายอย่างง่ายดายได้เช่นไร


อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนจำนวนมากเริ่มทำนายการล่มสลายของลัสเปล


กองกำลังสัมพันธมิตรของอาณาจักรไรม่อนซึ่งได้รับโอกาส เริ่มโจมตีทางด้านตะวันออกด้วยความเร็วอย่างมาก


เนื่องจากความเร็วนั้นเร็วมากจนถึงตอนนี้มันช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ฐานของทวีปหลายสิบแห่งที่เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปลได้ถูกยึดโดยอาณาจักรไคม่อนในทันที


และกองกำลังพันธมิตรของอาณาจักรไคม่อนได้แยกยุทธศาสตร์เมืองไพโรออกไปตั้งแต่ต้น


ความคิดที่ว่าหากพวกเขาโจมตีอย่างต่อเนื่องในที่สุดพวกเขาก็จะสามารถยึดครองได้ แต่การทำเช่นนั้นเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนั้นมากเกินไป


สรุปเป็นคำเดียวคือกลยุทธ์ ‘ซี่โครงไก่’ นั้นถูกต้องที่สุด


การดำรงอยู่ของพวกเขาเหมือนกับเนื้อซี่โครงของไก่ เนื่องจากมีเนื้อสัตว์น้อยเกินไปที่จะเป็นปัญหาการกิน แต่มันก็ไม่ได้ดีที่จะให้มันกับคนอื่นเช่นกัน


การทิ้งอาณาเขตของศัตรูไว้ด้านหลังของพวกเขาเองอาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่อาณาจักรไคม่อนนั้นเคลื่อนไหวอย่างดุดัน


 


เมื่อประมาณหนึ่งเดือนผ่านไปเช่นนั้น เกือบ 80% ของดินแดนต่างๆถูกยึดไปอยู่ในมือของอาณาจักรไคม่อนและแนวหน้าถูกต้านไปด้านหลังซึ่งเป็นที่ตั้งของกิลด์ใหญ่ของอาณาจักรลัสเปล


ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ากิลด์ใหญ่ของลัสเปลจะล่มสลายทันที แต่พวกเขาก็ยังคงอดทนอยู่


นี่เป็นเพราะถ้าทวีปกลางทั้งหมดได้ไปอยู่ในมือของอาณาจักรไคม่อน จากนั้นทวีปตะวันออกซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ของอาณาจักรลัสเปลจะตกอยู่ในอันตรายต่อไปและอยู่ในตำแหน่งของกิลด์ใหญ่หลายแห่งระดับเมืองในเขตชานเมืองของทวีปและพื้นที่ภาคเหนือพวกเขาจำเป็นต้องต้านมันด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด


และในช่วงเวลานั้นเอียนและกิลด์โลตัสเริ่มขยายอาณาเขตของตนในทวีปกลางทีละเล็กทีละน้อย


พวกเขาครอบครองหลายฐานที่ล้อมรอบเมืองไพโร


 


* * *


 


ณ สำนักงานลอร์ดของเมืองไพโร


เอียนและเฮิร์ซรวมถึงฟิโอลัน ลอร์ดของเมืองไพโรกำลังนั่งคุยกัน


“จินซุง ถ้านายใช้ชื่อเสียงทั้งหมดของนาย นายจะเพิ่มฉายาขุนนางได้สูงแค่ไหน?”


เมื่อเฮิร์ซถาม เอียนใช้เวลาสักครู่เพื่อตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลของเขาเริ่มคำนวณชื่อเสียงของเขาอย่างขยันขันแข็ง


“อืมม เนื่องจากฉันมีชื่อเสียง 5.2 ล้านแล้วตอนนี้…”


ฟิโอลันงุนงงอย่างมากขณะที่เธอถามกลับ


“ห้ะ? 5.2 ล้าน? ไม่สิ นายทำอะไรกันแน่ถึงเก็บเยอะขนาดนั้น?”


“นี่เป็นความคิดของฉัน… ฉันอาจรวบรวมชื่อเสียงประมาณ 200,000 หน่วยจากมังกรของฉันที่ปล่อยลมหายใจของเขาออกไปในสงครามปิดล้อมที่เราได้เจอกับกองกำลังพันธมิตรเมื่อสองเดือนที่แล้ว”


“ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากฉันได้ไปโจมตีรอบๆทวีปกลางและล่า ถ้าดูจากตรงนั้น 5.2 ล้านหน่วยก็ไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไหร่”


นับตั้งแต่ความขัดแย้งทางศีลธรรมของกิลด์ของลัสเปลโผล่ออกมา ประชาชนทั่วไปคิดว่าเอียนและกิลด์โลตัสจะแก้แค้นพวกเขาไม่ว่าจะใช้วิธีการแบบใด แต่น่าแปลกใจที่กิลด์โลตัสไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย


พวกเขาพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเขาอย่างเงียบๆในใจกลางของทวีปกลาง


และในช่วงเวลานั้น เอียนโผล่ไปรอบๆกลางทวีปราวกับมันเป็นบ้านของเขาในขณะที่เขาเพิ่มเลเวลอย่างต่อเนื่อง


นี่เป็นเพราะตอนนี้ เมื่อนักจัดอันดับส่วนใหญ่ที่เป็นพันธมิตรกับไคม่อนถูกรวมตัวกันที่แนวหน้าในโซนตะวันออก แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรไคม่อนก็ตามไม่มีผู้เล่นคนไหนที่สามารถหยุดยั้งเอียนได้


ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากเลเวลของเอียนเกือบ 170 แล้ว NPC ไคม่อนที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถหยุดเอียนได้


ไม่ว่าจะเป็นดันเจี้ยนหรือพื้นที่ล่า เอียนก็ไล่ล่าทุกสิ่งที่เขาเผชิญหน้าและหากมีผู้เล่นอาณาจักรไคม่อนหรือ NPC อยู่ในพื้นที่ล่า เขาก็สังหารพวกเขาโดยไม่เลือกปฏิบัติ


ผลที่ตามมาก็คือเขาได้รวบรวมชื่อเสียงจำนวนมหาศาล


“แม้แต่ในเกมคนรวยก็รวยขึ้นในขณะที่คนจนก็ยากจนลง”


“แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เป็นวลีสำหรับบางคนไม่ได้มีทุกสิ่งที่ไปตามทางของพวกเขาจะถูกต้องกว่างั้นหรอ?”


เอียนเพิกเฉยต่อทั้งสองคนที่บ่นอย่างเบาๆในขณะที่เขาเปลี่ยนชื่อเสียงให้เป็นข้อกำหนดการเลื่อนขั้น


และเขาก็พูดอย่างช้าๆหลังจากนั้น


“เนื่องจากฉันต้องการ 1.2 ล้านเพื่อที่จะกลายเป็นมาร์ควิสและ 2 ล้านเพื่อที่จะกลายเป็นดยุค (Duke) ดูเหมือนว่าฉันจะขึ้นไปถึงดยุคได้ในครั้งเดียว อย่างไรก็ตามเนื่องจากฉันมีชื่อเสียงเหลือน้อยเกินไปเมื่อฉันขึ้นไป สำหรับดยุคมันไม่มีเหตุผลที่จะกลายเป็นดยุคเลย”


เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เฮิร์ซเกาหัวขณะที่เขาพูด


“เอ่อ ดังนั้นก็เป็นดยุคหลังจากมาร์ควิสสินะ”


“ใช่เจ้างั่ง แต่ทำไมนายถึงถามแบบนั้น?”


“ฉันคิดว่านายอาจจะสามารถเลื่อนขั้นฉายาของนายเป็น ‘อาร์คดยุค’ ได้”


“อาร์คดยุค?”


เมื่อเอียนถามกลับ ฟิโอลันได้ตอบแทน


“ถ้านายเลื่อนขั้นฉายาของนายเป็นอาร์คดยุค เราสามารถรวมเมืองของกิลด์โลตัสของเราและประกาศเป็น ‘ดยุค (Dukedom)’ ได้”


“อืมมม…”


เฮิร์ซยิ้มเมื่อเขาเสริมต่อ


“เป็นครั้งแรกในไคลันที่เราสามารถเป็นดยุค (dukedom) ได้”


ปัจจุบันมีทั้งหมดเจ็ดเมืองที่กิลด์โลตัสครอบครองอยู่


เมืองโลตัสและเมืองโอลิบัสในทวีปทางตอนเหนือและรวมถึงเมืองไพโร พวกเขายังมีอีกห้าเมือง


อแน่นอนว่าเมืองที่เหลือในทวีปกลางที่ไม่รวมไพโรมีความเสี่ยงที่จะถูกยึดเมื่อใดก็ตามพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกมัน แต่อย่างใดก็ตามผลกำไรที่พวกเขาจะได้รับจากการสร้างทั้งหมด 7 เมืองนั้นเยอะมาก


หากพิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่ากิลด์ไททั่นและกิลด์ดาร์ครูน่าที่แก่งแย่งอันดับที่หนึ่งและสองในการจัดอันดับกิลด์โดยรวม ไม่ได้มี 15 เมืองที่พวกเขาครอบครองอยู่ มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ


ต้องขอบคุณที่กิลด์โลตัสได้ทำตามข้อกำหนดเกือบทั้งหมดเพื่อที่จะกลายเป็น ‘ดยุค (Dukedom) คนแรกในไคลัน ถ้าเอียนแค่ได้รับฉายา ‘อาร์คดยุค’


มันจะไม่ใช่กิลด์โลตัสแต่จะกลายเป็น ‘ดยุคแห่งโลตัส’


อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของเอียนไม่ได้เป็นไปในเชิงบวก


“ถ้าฉันไปรวบรวมเพื่อหาชื่อเสียงประมาณหนึ่งเดือน มันก็น่าจะเกินกว่าที่ฉันจะได้รับอาร์คดยุค อย่างไรก็ตามฉันยังไม่มีความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น”


เมื่อเอียนพูด ดวงตาของฟิโอลันโตขึ้นขณะที่เธอถามกลับ


“ทำไมล่ะ? ความจริงที่ว่าเรากลายเป็นดยุคก็หมายความว่าเราจะเป็นประเทศ เราสามารถรับพลังที่ไม่มีใครเทียบได้มาก่อนนะ”


อย่างแรกเมื่อพวกเขากลายเป็นชนชาติ คุณภาพของผู้คนและพลังทางทหารที่พวกเขาสามารถฝึกฝนตัวเองเปลี่ยนแปลงได้


มันจะเป็นไปได้ที่จะสร้างสถานที่ที่สามารถเลี้ยงดูอัศวินที่เหมือนกับสถาบันการศึกษาของอัศวินและเนื้อหาต่างๆของหอคอยเวทมนตร์หรือหอคอยป้องกันพิเศษจะเปิดขึ้น


ฟิโอลันกำลังพูดถึงสิ่งนั้น


อย่างไรก็ตาม เอียนส่ายหน้า


“เมื่อเราประกาศตัวเองว่าเป็นดยุค ลูกศรของไคม่อนที่มุ่งไปที่การรวมกลุ่มของทวีปจะกลับมาหาเราอีกครั้ง เธอรู้เหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่ขยายจำนวนฐานในทวีปตอนนี้ใช่มั้ยล่ะ”


รวมเจ็ดเมือง และในปัจจุบันกิลด์โลตัสได้รับการจัดอันดับที่ 11 ในการจัดอันดับกิลด์


ความจริงแล้ว ร่างนี้เป็นร่างที่เอียนสร้างขึ้นมาอย่างชาญฉลาด


เขาไม่ได้เพิ่มดัชนีใดๆที่อาจปรากฏขึ้นภายนอก


มันจะถูกต้องหากพิจารณาว่าเป็นการลดความตระหนักต่อกิลด์โลตัสจากกิลด์ระดับสูงของไคม่อน


เนื่องจากกิลด์โลตัสที่ถูกมองจากภายนอกนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเป็นภัยคุกคามต่อไททั่นหรือกิลด์ดาร์ครูน่า


เอียนพูดอย่างช้าๆ


“ตอนนี้เป็นเวลาที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งภายในจนกระทั่งกองทัพอาณาจักรไคม่อนอยู่ตรงหน้ามิวรัน เราจะเพิ่มความแข็งแกร่งของเราอย่างต่อเนื่องและรอโอกาส”


คราวนี้ฟิโอลันถาม


“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?”


เอียนมองไปที่ฟิโอลัน


“เราจะนำกองทหารทั้งหมดที่เรารวบรวมได้จนถึงตอนนั้นและกลับไปที่เมืองโลตัส”


“…?”


เมืองโลตัสที่เขาพูดถึงคือฐานในทวีปทางเหนือที่กิลด์โลตัสได้รับเป็นที่แรก


หลังจากคำพูดที่ไม่คาดคิดของเอียน ทั้งสองคนจ้องดูที่ปากของเขาในเวลาเดียวกัน


เอียนพูดต่อ


“เราจะกลับไปยังเมืองโลตัสและกลืนเมืองทั้งหมดของกิลด์ที่เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปลที่อ่อนแอลงในบริเวณใกล้เคียงและเราจะประกาศเป็นดยุค”


นี่เป็นครั้งแรกที่เอียนอธิบายภาพขนาดยักษ์ของเขาที่เขาคิดอย่างต่อเนื่องตลอดสองเดือนที่ผ่านมา


“และผู้เล่นของอาณาจักรลัสเปลที่จะล่มสลายในไม่ช้า เราจะเข้ามามีส่วนร่วมในพวกเขาทั้งหมด เนื่องจากเหนือสิ่งอื่นใดเรามี ‘การแสดงความบริสุทธิ์’ ”


เฮิร์ซพยักหน้าอย่างชัาๆด้วยท่าทางงุนงง


“ถูกต้อง เราเป็นกิลด์เดียวที่ยืนหยัดต่อสู้กับกองกำลังพันธมิตรไคม่อนที่อยู่ตรงกลางของทวีปกลาง”


“ใช่ เราแค่ต้องรักษาภาพนั้นไว้ก่อนแล้วเราจะสร้างประเทศใหม่ในทวีปทางตอนเหนือ”


คำพูดของเอียนที่หลั่งไหลออกมาโดยไม่หยุดพักผ่อน ฟิโอลันรู้สึกหนาวสั่นทั่วร่างกายของเธอ


“ว้าว… ฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดไปไกลขนาดนั้น จนถึงตอนนี้ฉันคิดว่าเหตุผลที่เรารวบรวมกำลังไว้เพื่อแทงหลังกองกำลังของไคม่อน”


เฮิร์ซเห็นด้วยกับฟิโอลัน ถึงอย่างนั้นก็ยังงุนงง


“ฉะ ฉันด้วย…”


ฟิโอลันพูดอีกครั้ง


“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าเราจะประกาศเป็น ‘ดยุค’ ในเวลาที่ไม่คาดคิดและวางแผนเพื่อพลิกสถานการณ์พร้อมกับกองทหารที่เรารวบรวมมาจนถึงตอนนี้…”


เอียนยิ้ม


ตั้งแต่ต้นเขามีความคิดเช่นเดียวกับฟิโอลันเช่นกัน


‘อย่างไรก็ตามถ้าเป็นเช่นนั้น แม้ว่าเราจะกลายเป็นดยุค เราก็จะกลายเป็นประเทศในเครือที่เป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อลัสเปล’


มันเป็นโอกาสทองในการหนีออกจากรั้วของอาณาจักรและยกระดับประเทศขึ้นมา


เอียนคิดว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่พระเจ้ามอบให้


ยิ่งไปกว่านั้น มีอีกหนึ่งเหตุผล


‘ถ้าเราแทงหลังกองทัพสัมพันธมิตรของอาณาจักรไคม่อนด้วยความแข็งแกร่งที่เราได้รวบรวมมาจนถึงตอนนี้ เราแค่จะช่วยพวกหัวใส สเปนดอร์และโอ๊คลัน ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ใช่ไหม?’


หากอาณาจักรล่มสลายก็จะไม่แตกต่างไปจากพวกเขา การก่อตั้งกิลด์ครั้งแรกล้มเหลวเช่นกัน


แน่นอนในบรรดาพวกเขา เขาวางแผนที่จะใช้เส้นทางเดียวกับกิลด์วาเลี่ยน


เอียนพูดกับทั้งสองคน


“ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเราจะต้องเพิ่มพลังการต่อสู้ของเราต่อไป แต่เราต้องซ่อนมันไว้ นายจะเห็นว่าเป้าหมายของเราคือการลดค่าให้มากที่สุดจากบุคคลภายนอก”


เฮิร์ซและฟิโอลันพยักหน้าในเวลาเดียวกัน


“โอเค ฉันเข้าใจว่านายหมายถึงอะไร ดูเหมือนว่าเราจะต้องทำให้ทุกคนในกิลด์เงียบสงบเช่นเดียวกัน”


“ถ้าเป็นแผนของเอียน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแผนใช้เวลาค่อนข้างนาน”


และเอียนเสริม


“เอ้อ มีบางสิ่งที่ฉันนึกขึ้นได้”


“มันคืออะไร?”


เอียนเบะปาก


“ซามูเอลจินจะขอความช่วยเหลือในไม่ช้า”


เฮิร์ซเริ่มพูด


“ห้ะ? ไอ้บ้าที่คลั่งเกียรติอย่างนั้นอ่ะนะจะขอความช่วยเหลือ?”


เอียนยิ้ม


“เนื่องจากเรายังไม่ได้ต่อสู้จนถึงตอนนี้ เขาอาจคิดว่าเราไม่รู้สถานการณ์ที่แน่นอนหรือเขาอาจจะลองทำข้อตกลงกับเรา”


ฟิโอลันถามเอียนด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความโกรธ


“ถ้างั้นนายวางแผนที่จะตอบว่ายังไง?”


“เราต้องบอกว่ามันยากเพียงพอแล้วที่เราจะปกป้องเมืองไพโร พวกเขาจะทำอะไรจากนั้นเมื่อเราบอกว่าเราไม่มีพลังที่จะให้ล่ะ?”


อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นคำตอบของเอียน แต่ฟิโอลันก็ไม่ได้แสดงออกอย่างพอใจ


“แค่นั้นหรอ?”


เมื่อเธอถาม เอียนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


“ไม่มีทาง เราจะแก้แค้นให้มากกว่าที่เราได้รับ”

 

 

 


ตอนที่ 188

 

เอียนซึ่งไปล่าทุกวันเป็นเวลาสองเดือน เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่เขาใกล้เคียงกับเลเวล 170


อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นรายอื่นไม่ได้อยู่เฉยๆเช่นกัน


เลเวลของผู้เล่นที่ลงการจัดอันดับมีมากกว่า 170


ข้อมูลของเอียนยังคงเป็นแบบส่วนตัว ดังนั้นชื่อของเขาจึงไม่ได้อยู่ในการจัดอันดับ แต่ถ้าเขาเปลี่ยนตัวเองลงในรายชื่อการจัดอันดับด้วยเลเวลปัจจุบันของเขา สามารถเดาได้ว่าเขาจะอยู่ในอันดับที่ 10-15


หากผู้จัดอันดับคนอื่นๆที่ซ่อนข้อมูลของพวกเขาไว้เป็นส่วนตัวเช่นเดียวกับเอียนถูกคำนวณด้วยเช่นกัน เขาจะอยู่ในอันดับที่ 15-20


‘อืมม… ถึงอย่างนั้น ฉันก็ขึ้นมาเยอะแล้วในตอนนี้’


แม้ว่าเขาจะอยู่ใน 20 อันดับแรก แต่มันก็เป็นสถานการณ์ที่เขาไม่ได้มีความแตกต่างถึง 5 เลเวลในตอนนี้กับผู้จัดอันดับที่ 1 และ 2


เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าเขาสร้างและเริ่มตัวละครใหม่ในสถานการณ์ที่ผู้เล่นอันดับต้นๆมีเลเวลประมาณ 100-110 มันเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก


ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากเอียนไม่รวมถึงเลเวลของลอเรนซึ่งอยู่ในอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับซัมมอนเนอร์อย่างเป็นทางการนั้นอยู่ในช่วงเลเวล 140 กลางๆ ถึงแม้จะอยู่ในกลุ่มซัมมอนเนอร์เดียวกันก็ตาม เขาอาจถูกมองว่าไร้คู่แข่งอย่างแท้จริง


‘ตอนนี้เลเวลของคาร์เซอุสมากกว่า 140 … ถึงเวลาที่ฉันจะไปทำเควสต์อาชีพแล้ว’


เนื่องจากขีดจำกัดเลเวลของเควสต์เชื่อมของนักรบเซลามัสซึ่งเป็นเควสต์ลับคือ 200 มันยังห่างไกลและเอียนกำลังวางแผนที่จะเคลียร์เควสต์ทั้งหมดที่เขายังไม่ได้ทำภายในครั้งเดียว


‘ตอนนี้ฉันคิดแล้วมันน่าสนใจจริงๆอาจเป็นเพราะ Taming Master เป็นอาชีพลับ แต่กระบวนการเพิ่มเลเวลของฉันจนถึงตอนนี้แตกต่างจากเส้นทางการพัฒนาทั่วไปจริงๆ’


โดยทั่วไป เมื่อเลเวลมากกว่า 50 ผู้เล่าจะได้รับเควสต์ในหอคอยของอาชีพที่เกี่ยวข้อง


และในขณะที่แก้ปัญหาเควสต์เหล่านั้นทีละอัน พวกเขาก็เพิ่มเลเวลขึ้นอย่างช้าๆ แต่ในกรณีของเอียนที่เขาทำเควสต์และเหตุการณ์แปลกๆทุกประเภท เขาจบลงด้วยการไม่ทำเควสต์อาชีพใดๆจากหอคอยอาชีพเลย


‘ฉันจะทำเควสต์อาชีพให้หมด ฉันควรเพิ่มค่าความเป็นผู้นำของฉัน’


แม้จะทำทุกอย่างเท่าที่เขาจะทำได้เพื่อเพิ่มความเป็นผู้นำของเขาในช่วงเวลานั้น เอียนก็สามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงได้เพียงหนึ่งตัวหลังจากที่เขาอัญเชิญคาร์เซอุส


เมื่อใดก็ตามที่เควสต์อาชีพถูกเคลียร์ ค่าสถานะอาชีพที่เกี่ยวข้องจะได้รับเป็นรางวัล ดังนั้นสำหรับเอียนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด


‘เอาล่ะ แต่ว่าฉันใกล้ถึงที่นั่นหรือยัง?’


เอียนเงยหน้าและมองไปที่ธงที่สะบัดจากไกลๆ


และเขายิ้ม


“ถึงเวลาแก้แค้นแล้ว”


เอียนมองไปหาคาร์เซอุส


“โมจิลพร้อมแล้วใช่ไหม?”


เมื่อเอียนพูด คาร์เซอุสพยักหน้า


“ถ้าเจ้าขอให้ข้าสู้ ข้าก็พร้อมเสมอ”


อย่างไรก็ตาม จุดที่ผิดปกติก็คือร่างมนุษย์ที่คาร์เซอุสได้ใช้กลายร่างไม่ได้เป็นร่างปกติของเขา


รูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นต้นฉบับของเขาของนักดาบผมสีดำที่มีหน้าตาที่เฉียบคมได้เปลี่ยนเป็นร่างของนักธนูที่มีรูปลักษณ์ที่บอบบางกว่า


และรูปลักษณ์ภายนอกนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากร่างซามูเอลจิน


คาร์เซอุสกลายร่างเป็นร่างซามูเอลจิน


ไคซาร์ได้พูดอะไรบางอย่างออกมา


“เฮ้ เจ้ามังกร เจ้ารู้แม้แต่วิธีใช้ธนูงั้นหรอ?”


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น คาร์เซอุสจ้องไปที่ไคซาร์


“แน่นอน ไม่มีอาวุธไหนที่ข้าไม่รู้วิธีใช้มัน”


ในขณะที่มองไปที่คาร์เซอุสผู้ซึ่งแสดงออกอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ เอียนก็ดึงอาวุธที่ถืออยู่บนหลังของเขาออกมา


อาวุธนั้นไม่ใช่หอกหรือธนู แต่เป็นดาบใหญ่


นั่นเพื่อซ่อนตัวตนของเอียน


“ถ้างั้น… เราเริ่มกันเลยไหม?”


เอียนและไคซาร์รวมถึงคาร์เซอุส


สถานที่ที่ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปนั้นไม่ใช่ที่อื่นนอกจากกิลด์สเปนดอร์


หลังจากทำให้คาร์เซอุสกลายร่างเป็นซามูเอลจินหัวหน้ากิลด์ของกิลด์โอ๊คลัน แผนของเอียนคือการสร้างความหายนะให้กับค่ายของกิลด์สเปนดอร์และสร้างการแบ่งแยกระหว่างสองกิลด์


ขณะที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า ไคซาร์ถามเอียน


“แต่ว่าเจ้าหนูลอร์ด หากพวกนั้นไม่ใช่คนโง่ พวกเขาจะเข้าใจว่ามีอะไรแปลกๆ ดังนั้นพวกเขาจะตกหลุ่มได้อย่างง่ายดายงั้นหรอ?”


เอียนแสยะยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


“ตามจริงแล้วฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะตกหลุมพรางเพราะเรื่องนี้เช่นกัน”


“ถ้างั้น?”


“ฉันแค่ต้องการที่จะปล่อยมันออกมาและสร้างความหายนะให้ฝ่ายเป็นการชั่วขณะ”


ขณะที่จ้องไปที่ธงของกิลด์สเปนดอร์ เอียนพูดต่อ


“หากพวกเขาตกหลุมมันและการแบ่งแยกเกิดขึ้นมันยากกว่า เนื่องจากแนวรับแนวหน้าจะแตกง่ายเกินไป”


เอียนประเมินว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 4 เดือนถึงครึ่งปีเพื่อให้อาณาจักรลัสเปลล่มสลาย


‘หากลัสเปลล่มสลายเร็วเกินไป เราจะไม่มีเวลามากในการพัฒนาความแข็งแกร่งของเรา’


เพราะเป็นกรณีนี้ เอียนกำลังวางแผนที่จะทำให้พวกเขาโกรธอย่างมากในขณะที่ป่วนไปรอบๆก่อนจะวิ่งหนี


“วันนี้เป็นสเปนดอร์ พรุ่งนี้จะเป็นโอ๊คลัน”


แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงค่ายของกิลด์โอ๊คลัน แผนก็คือให้คาร์เซอุสมีบทบาทภายนอกเป็นมาร์ติน หัวหน้าของกิลด์สเปนดอร์


 


* * *


 


Thud- Thud- Thud-!


ปราสาทของลอร์ดของกิลด์โอ๊คลัน


และคนที่นั่งอยู่ที่ห้องของลอร์ดซึ่งเป็นจุดสูงสุดในปราสาทซา มูเอลจินหรี่ตาของเขาแคบลงด้วยเสียงที่สั่นสะเทือนขณะที่เขายืนขึ้น


“อะไรวะเนี่ย? ใครมันทำอะไรแบบนี้…!”


อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดต่อไปอีก


Gulp-.


ในขณะที่เปิดประตูห้องของลอร์ดเปิดกว้าง มาร์ตินก็ก้าวเข้าไปข้างใน


และทันทีที่เขาเดินเข้าไป เขาก็ทุบลงบนโต๊ะในห้องของลอร์ด


Bang-!


“ซามูเอล นายคิดว่านายกำลังทำอะไรอยู่!”


ในขณะที่มองมาร์ตินซึ่งโกรธเป็นควัน เมื่อเขาระเบิดด้วยความโกรธ ซามูเอลจินซึ่งงุนงงเบิกตากว้าง


“ไม่นะ มาร์ติน เกิดอะไรขึ้น? ฉันไปทำอะไร…?”


ซามูเอลจินสับสนอย่างมาก แต่เขาตอบอย่างใจเย็น มาร์ตินก็ตัดสินใจและพูดต่อไป


“เมื่อเย็นวานนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้คุมค่ายทหารในเมืองของเราถูกสังหารหมู่”


เช่นนั้น ดวงตาทั้งสองของซามูเอลจินเบิกโพลงขณะที่เขาถามกลับ


“ห้ะ? แต่แน่นอนว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆจากค่ายไคม่อนเมื่อวานนี้ตอนเย็น…”


มาร์ตินพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“ใช่น่ะสิ เนื่องจากคนที่ฆ่าทหารของเราไม่ใช่อาณาจักรไคม่อน”


“ห้ะ? ถ้างั้นใครทำอย่างนั้นกันล่ะ…!”


มาร์ตินชี้นิ้วไปที่ซามูเอลจินขณะที่เขาพูด


“นายแน่ๆ ทหารและผู้เล่นที่รอดชีวิตบอกว่าเป็นหน้าของนาย ซามูเอลจิน”


 


* * *


 


เมื่อเขาทำแผนนี้เป็นครั้งแรกเพื่อที่จะเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังที่สุด เอียนก็มาพร้อมกับไคซาร์และคาร์เซอุสและเริ่มปั่นไปรอบๆทั้งสองค่ายไปมา


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีปัญหาไม่มากนัก เขาจึงมาพร้อมกับผู้ติดตามทั้งหมดของเขาแทนการโจมตีขนาดเล็กและเขาก็สั่งการพวกเขาอย่างเป็นระบบ


เอียนจ้างผู้ติดตามจำนวนมากจากศูนย์ทรัพยากรมนุษย์มาจนทุกวันนี้และด้วยเหตุนี้ถึงแม้จะมีเพียงผู้ติดตามของเขาเท่านั้น เขาก็สามารถสร้างการโจมตีขนาดยี่สิบคนได้


หลังจากตั้งค่าห้องแชทที่ผู้ติดตามสามารถอยู่ได้ เอียนก็ให้คำสั่งอย่างเป็นระบบ


 


คราวนี้นักธนูถอยก่อนและตามที่พวกเราทำจนถึงตอนนี้ แค่ไปรอบๆข้างนอกและฆ่าพวกมัน!

 


เป้าหมายของเอียนไม่ใช่ว่าจะพังทั้งสองกิลด์


นั่นเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำด้วยพลังการต่อสู้ของเอียนคนเดียว


Ping- Ping-!


ลูกศรบินทะลุผ่านคอของทหารยามและผู้เล่นที่เฝ้าอยู่ด้านนอกค่ายทหารกิลด์อย่างโหดเหี้ยม


 


หมอรักษาคนบาดเจ็บและคนที่ไม่เป็นไร ยิงธนูก่อนเพื่อไม่ให้ถูกล้อม!

 


เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้คือรบกวนทั้งสองกิลด์จนกว่าพวกเขาจะเหนื่อยและมันก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก


มันเป็นครั้งที่ห้าแล้ว


กองทหารด้านหลังของสเปนดอร์และโอ๊คลันได้รับความช่วยเหลืออย่างไร้ประโยชน์โดยที่ไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่ครั้งเดียว


อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขานั้นอ่อนแอ


พลังการต่อสู้ส่วนใหญ่ของพวกเขาได้รับการลงทุนในแนวหน้าเพื่อต่อต้านกองกำลังพันธมิตรของอาณาจักรไคม่อนและในตอนท้ายสมาชิกกิลด์และทหารนั้นอยู่ในเลเวลที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบคนที่อยู่ที่นั่น


แต่การดึงกองกำลังหลักไปด้านหลังเพียงเพราะเอียนนั้นเป็นไปไม่ได้


หากพลังการต่อสู้ของทั้งสองกิลด์ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในแนวหน้าของกองกำลังพันธมิตรลัสเปลถอนกำลังแนวป้องกัน แนวหน้าของกองกำลังพันธมิตรของอาณาจักรลัสเปลซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าพังทลายทันที


ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เนื่องจากเอียนรบกวน สเปนดอร์และโอ๊คลันตกอยู่ในภาวะที่ลำบากและเอียนสามารถนำสิ่งที่รบกวนจิตใจพวกเขาเกี่ยวกับกิลด์ทั้งสองเข้าไปในหัวใจของพวกเขาได้อย่างแท้จริง


 


* * *


 


“เฮ้อ เฮ้อ… น้องพี่ไม่ไหวแล้ว เราพักกันสักหน่อยไหม?”


“เข้าใจแล้วครับพี่ ถ้างั้นพักสักหน่อยเราค่อยเดินต่ออีกครั้ง”


หลังจากสงครามปิดล้อมทั้งหมดของเมืองไพโรเสร็จสิ้น ฮูนี่ย์ได้รับอิสรภาพมาครึ่งหนึ่งจากไคซาร์


แม้ว่าตามจริงแล้วแทนที่จะได้รับอิสรภาพ ไคซาร์แค่สูญเสียความสนใจในฮูนี่ย์


‘ฮึบ เมื่อฉันได้รับพลังของผู้อมตะ ฉันจะไปฆ่าเจ้าไคซาร์ก่อนเลย!’


การตัดกุญแจมือที่ผูกเขาไว้กับไคซาร์เป็นความท้าทายครั้งแรกที่ฮูนี่ย์ต้องทำให้เสร็จ


และฮูนี่ย์ก็มั่นใจ


นี่เป็นเพราะเมื่อสิ้นเดือนแห่งความพยายามอย่างสิ้นหวัง เขาก็เห็นจุดจบของเควสต์ผู้อมตะ


แน่นอนว่าฮูนี่ย์ยังไม่รู้เกี่ยวกับเลเวลของไคซาร์ซึ่งตอนนี้มากกว่า 260 ไปแล้ว


คาโนเอลซึ่งนั่งถัดจากฮูนี่ย์ได้พูด


“คิ ถึงอย่างนั้นต้องของคุณน้องชาย ฉันเลเวล 130 แล้ว”


“ฮ่าฮ่า ฉันเลเวลมากกว่า 160 แล้ว พี่ชาย”


ตั้งแต่คาโนเอลซื้อไอเทมคำมั่นสัญญาของราชาแห่งความมืดให้ฮูนี่ย์ทั้งสองก็สนิทกันอย่างมาก


ฮูนี่ย์เรียกว่าคาโนเอลซึ่งอายุแก่กว่าประมาณสามปีว่าพี่ ขณะที่คาโนเอลเรียกฮูนี่ย์ว่าน้องชาย ขณะนั้นพวกเขากลายเป็นความสัมพันธ์แบบพี่ชายน้องชาย


รวมไปถึงนักรบแห่งความตายบัลลัมซึ่งอยู่ข้างๆฮูนี่ย์เสมอ ทั้งสามคนนี้เป็นที่พึ่งของกันและกันขณะที่แบ่งปันเควสต์ผู้อมตะเมื่อพวกเขาเอาชนะการเดินทางที่โหดร้ายไปได้


“นั่นแหละ แต่ฉันคิดว่าความสามารถในการควบคุมของพี่นั้นดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเช่นกัน”


“ต้องขอบคุณนายนั้นแหละ”


เขาขี้โม้นิดหน่อย แต่ฮูนี่ย์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในไคลันที่เอียนยอมรับ


แน่นอนว่าความสามารถในการพูดนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสามารถในการควบคุมที่ไม่รวมค่าสถานะและไอเทม


และคาโนเอลซึ่งเป็นคนที่จริงจังกับเกมที่ไม่ได้เล่นอย่างเดียว ได้รับการสอนจากฮูนี่ย์และค่อยๆได้รับความสามารถนั้น


ทั้งสองคนที่ซ่อมข้าวของเสร็จในขณะที่พักอยู่ประมาณสิบนาทีก็เริ่มเดินต่อในดันเจี้ยน


“บัลลัม ฆ่าโครงกระดูกนักธนูที่อยู่ด้านหลังให้ที!”


 


รับทราบฮูนี่ย์

 


“ยงย๋ง ลมหายใจ!”


Kyaaooh-!


ตอนนี้ทั้งสองคนทำงานร่วมกันได้ค่อนข้างดี ในตอนแรกแทนที่จะเป็นสมาชิกในปาร์ตี้ คาโนเอลก็มีชีวิตเหมือนกับกระเป๋าสัมภาระของฮูนี่ย์


อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่กระเป๋าสัมภาระอีกต่อไป


และประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านไปเช่นนั้น


ในตอนท้ายของดันเจี้ยนที่ยาวเหยียดปรากฏขึ้นในที่สุด


“เฮ้อ เราอาจจะพบดันเจี้ยนที่ถูกต้องแล้วใช่ไหม?”


จ้องมองที่คาโนเอลผู้พูดด้วยเสียงสั่น ฮูนี่ย์หายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะพยักหน้า


“อาจจะอย่างงั้น คราวนี้ต้องไม่ผิดพลาด”


Stomp- Stomp-.


ฮูนี่เดินช้าๆแล้ววางมือลงบนแผ่นหินที่วางไว้ที่ท้ายดันเจี้ยน


และเขาหลับตาในขณะที่เขาวางลูกบอลคริสตัลที่มีพลังของผู้เป็นอมตะผนึกไว้บนแผ่นหิน


และคาถาที่จะทำให้แผ่นเหล็กดังขึ้น ออกมาจากปากของฮูนี่ย์


“พลังแห่งความมืด… จงตื่นขึ้น!”


Whoong-!


เมื่อคำพูดของฮูนี่ย์สิ้นสุดลง เสียงดังกังวานกึกก้องไปทั่วดันเจี้ยน


ภายในลูกบอลคริสตัลสีดำ แสงน้อยๆก็เริ่มที่จะรั่วไหลออกมาและทั้งสองคนกลั้นหายใจขณะที่พวกเขาดูฉากนั้น


หลังจากนั้นไม่นาน หลังจากแสงที่กระจายออกมาเป็นคลื่น ควันดำก็ปรากฏขึ้นและเริ่มสร้างรูปร่างยักษ์


 


เจ้ามีสิทธิ์ที่จะเป็นราชาแห่งความมืด!

 


ได้ยินเสียงที่ดังและแปลกมากพอที่จะดังไปทั่วทั้งดันเจี้ยนและในเวลาเดียวกันก็มีหน้าต่างเควสต์โผล่ขึ้นมาต่อหน้าฮูนี่ย์


กริ๊ง-


 


ราชาแห่งความมืดผู้เป็นอมตะ (เควสต์เชื่อมลับ)

หนึ่งพันปีก่อน มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดเพื่อปลุกพลังแห่งราชาผู้เป็นอมตะผู้สร้างอาณาจักรของอมนุษย์ในใต้ดิน


ท่านปฏิบัติเควสต์ทั้งหมดที่ได้รับจากวิญญาณแห่งผู้อมตะอย่างมีเกียรติและท่านได้รับการยอมรับให้ท้าทายราชาแห่งความมืดให้กลายเป็นผู้อมตะคนต่อไป


คราวนี้ ปลุกผู้อมตะซึ่งหลับอยู่ในชั้นที่ 100 ของดันเจี้ยนและควบคุมให้เขาปฏิรูปเป็นราชาแห่งความมืด


ระดับความยากเควสต์ : SSS


เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับจากจิตวิญญาณของผู้อมตะ


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล : เปลี่ยนอาชีพเป็นนักเวทย์มนตร์มืด (ราชาแห่งความมืด)


(รางวัลอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับอาชีพของผู้เล่นที่เข้าร่วมในเควสต์)


 


อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าของฮูนี่ย์ผู้อ่านเนื้อหาเควสต์ด้วยความโกลาหล ประโยคของระบบอีกหนึ่งประโยคก็โผล่ขึ้นมาอีก


 


เควสต์จะแชร์อัตโนมัติกับ ‘เอียน’ ผู้เล่นที่สร้างความสัมพันธ์เจ้านายและข้ารับใช้

 


“…?”

 

 

 


ตอนที่ 189

 

หลังจากเสร็จสิ้นการปั่นป่วน เอียนซึ่งกลับไปยังเมืองไพโรและอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมอุปกรณ์ของเขา ก็ตกตะลึงหลังจากเห็นข้อความระบบที่ไม่คาดคิด


 


เควสต์ของ ‘ฮันจิฮูนี่ย์’ ได้แชร์ผ่านความสัมพันธ์เจ้านายกับข้ารับใช้

ท่านจะตรวจสอบข้อมูลเควสต์หรือไม่?

 


เอียนซึ่งอ่านข้อความแสดงท่าทางงุนงง


‘อะไรวะเนี่ย ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับใช้กับเด็กคนนี้? เป็นเพราะไคซาร์เป็นผู้ติดตามของฉัน ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับข้ารับใช้ของผู้ติดตามจึงสามารถใช้กับฉันได้ด้วยเช่นกัน?’


เอียนซึ่งพึมพำกับตัวเอง แสยะยิ้มในขณะที่เขาเปิดข้อมูลเควสต์


เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นเควสต์ที่ดีหรืออะไรทำนองนั้น


“ตรวจสอบเควสต์”


กริ๊ง-


 


-ราชาแห่งความมืดผู้เป็นอมตะ (เควสต์เชื่อมลับ)


ระดับความยากเควสต์ : SSS


ความต้องการของเควสต์ : ผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งผู้อมตะ


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล – ชื่อเสียง 200,000 หน่วย และกล่องอุปกรณ์นักอัญเชิญระดับ Legendary


(รางวัลอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับอาชีพของผู้เล่นที่เข้าร่วมในเควสต์)


 


ดวงตาของเอียนที่อ่านหน้าต่างเควสต์ได้เบิกโพลง


“เอ่อ… อะไรวะเนี่ย?”


เควสต์เชื่อมลับพร้อมระดับความยากระดับ SSS!


แม้แต่เอียนก็ยังเห็นระดับความยากระดับ SSS เพียงครั้งเดียว


‘ระดับความยากนั้นเหมือนกับเควสต์เชื่อมของเซลามัสซึ่งมีข้อจำกัดในเลเวล 200!’


ยิ่งไปกว่านั้น ‘กล่องอุปกรณ์นักอัญเชิญระดับ Legendary’ นั้นน่าดึงดูดมากๆ


เนื่องจากระดับของไอเทมถูกตั้งค่าเป็นระดับ Legendary และยิ่งไปกว่านั้นก็หมายความว่าเขาสามารถได้รับไอเทมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพซัมมอนเนอร์ได้


“นี่… มันน่าเหลือเชื่อ”


เอียนผู้ได้รับเควสต์คุณภาพสูงจากสถานที่ที่ไม่คาดคิดฟรี ยิ้มกว้าง


“ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันไม่อาจมองข้ามได้!”


เอียนเปิดรายชื่อเพื่อนและส่งข้อความหาฮูนี่ย์ทันที


 


เอียน : ฮูนี่ย์ นายทำอะไรอยู่ตอนนี้? มันก็นานมาแล้วที่พี่คนนี้ไม่ได้เจอหน้านาย

 


และหลังจากนั้นไม่นาน ฮูนี่ย์ได้ตอบกลับ


 


ฮูนี่ย์ : เอ่อ… เจ้าปีศาจศัตรู!

 


เอียนยิ้มขณะที่เขาส่งข้อความอีกครั้ง


 


เอียน : ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ? มาเรียกฉันว่าปีศาจศัตรู คำพวกนั้นควรเรียกเจ้านายของนายงั้นหรอ?

ฮูนี่ย์ : เจ้านายหรอ ไอเวร! ใครเป็นเจ้านายของฉัน?

เอียน : ทำตัวเหมือนที่นายไม่รู้ พี่ของนายไม่ใช่หรอ? ข้อความของระบบเพิ่งแจ้งให้เรารู้


ฮูนี่ย์ : …

เอียน : ลืมมันไปเถอะและแค่บอกสถานที่ที่นายอยู่มา ดูจากระดับความยากคือระดับ SSS นายไม่สามารถทำคนเดียวได้แน่

ฮูนี่ย์ : มันไม่ใช่อย่างนั้น! ฉันสามารถทำได้ด้วยตัวเอง!

เอียน : ตลกจริงๆ ฉันได้รับเควสต์ที่มีระดับความยากระดับ SSS เพียงครั้งเดียว แต่ข้อ จำกัดเลเวลคือ 200 นายจะทำสิ่งนี้ด้วยตัวเองได้ยังไง? หยุดการพูดคุยเล็กน้อยและรับข้อเสนอซะ

ฮูนี่ย์ : เอ่อ… เอ่ออออ

เอียน : ถ้าไม่รับข้อเสนอ อย่ามาอ้อนวอนทีหลังแล้วกัน

 


มันเป็นเควสต์ร่วมยังไงก็ตาม ถ้าเอียนใช้ความพยายามนิดหน่อยการหาที่ตั้งของเควสต์ก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่


‘จิ๊ ไม่ต้องการความช่วยเหลืองั้นหรอ?’


อย่างไรก็ตาม เอียนซึ่งรู้สึกถึงเงาของความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขา ตัดสินใจที่จะช่วยฮูนี่ย์และหลังจากนั้นไม่นาน ฮูนี่ย์ก็ส่งข้อความถึงการยอมจำนน


 


ฮูนี่ย์ : เฮ้อ โอเค… เนื่องจากถ้ามีคนอย่างนายมาช่วยอัตราความสำเร็จของเควสต์ก็จะเพิ่มขึ้น

เอียน : คิดได้ดีเด็กน้อย พี่คนนี้จะดูแลนายอย่างดีต่อจากนี้ไป

ฮูนี่ย์ : หึ มันอยู่ที่ทวีปกลาง 477,6543 มาสิ

เอียน : โอเค นายเตรียมพร้อมการต่อสู้ไว้ เนื่องจากดูเหมือนว่าเราจะเผชิญหน้าพวกนั้นไม่ง่ายนัก

 


เอียนรีบเตรียมการต่อสู้ให้เสร็จและมุ่งหน้าไปยังพิกัดที่ฮูนี่ย์บอกเขา


เอียนเคลื่อนไหวด้วยตนเอง แต่ในขณะที่เขาอยู่กับผู้ติดตามของเขา มันก็ดูราวกับว่าปาร์ตี้กำลังเคลื่อนไหว


“ฉันไม่รู้ว่ามีสถานที่แบบนี้ในทวีปตอนกลางด้วย”


เมื่อพวกเขาเข้าใกล้พิกัดที่ฮูนี่น์มอบให้พวกเขา สีของทรายทะเลทรายก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเทา


และเมื่อพวกเขาเข้าไปลึกขึ้น ทรายสีเทาเปลี่ยนเพื่อให้รู้สึกเหมือนพื้นซีเมนต์ตั้งแต่เริ่ม


ในขณะที่ดูเอียนมองไปรอบๆและราวกับว่าเขาประหลาดใจ ไคซาร์พูด


“ที่นี่… มันคือดินแดนแห่งผู้อมตะ”


เมื่อไคซาร์พูด เอียนถามกลับทันที


“ห้ะ? ผู้ติดตาม มีบางสิ่งที่นายรู้เกี่ยวกับผู้อมตะหรือไม่? ดูเหมือนว่านายไม่เคยรู้มาก่อนเลย”


ไคซาร์พยักหน้าอย่างชัาๆ


“มันเป็นความทรงจำที่ฉันไม่มีในตอนแรก แต่เมื่อมองไปที่ทิวทัศน์ของสถานที่แห่งนี้ พวกมันเริ่มกลับมาทีละนิด”


เอียนกดดันไคซาร์


“พูดทุกอย่างที่นายจำได้มา มันอาจจะดีถ้าเรามีข้อมูลสักเล็กน้อย”


เช่นนั้น ไคซาร์เริ่มอธิบายอย่างช้าๆ


“ถ้าเราเริ่มพูดถึงข้อสรุป ผู้อมตะนั้นเป็นพันธมิตร”


“ห้ะ? นายกำลังพูดอะไรกัน?”


“อะแฮ่ม…”


ดูเหมือนว่าความทรงจำที่เขาจำได้ในทันทีนั้นทำให้สับสนขณะที่ไคซาร์ถูคางของเขาในขณะที่เขายังคงอธิบายอย่างช้าๆ


“ผู้อมตะเป็นชื่อของราชาแห่งความมืดที่จัดการอมนุษย์เหมือนแขนขาของเขา สีที่แท้จริงของเขานั้นชั่วร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามเมื่อพันปีก่อนมนุษยชาติและอมนุษย์ยืนอยู่ข้างเดียวและต่อสู้กับปีศาจ”


“ปีศาจ?”


“ถูกต้อง ปีศาจ นายสามารถเรียกพวกเขาว่าดยุคแห่งปีศาจได้”


“โอ้โห…”


ไคซาร์ถูคางของเขาเบาๆขณะที่เขาจำอดีตได้


“ฐานหลักของอันเดดอาจเรียกว่าใต้พิภพ แต่ไม่ว่ายังไงความจริงที่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องปกป้องดินแดนแห่งนี้ก็เหมือนกับมนุษย์ เนื่องจากปีศาจพยายามที่จะยึดครองมิตินี้”


ไม่ใช่เอียน แต่ผู้ติดตามคนอื่นๆก็ฟังเรื่องราวของไคซาร์ด้วยความสนใจ


“และในระหว่างกระบวนการที่มนุษย์และอมนุษย์กำลังร่วมมือกันชั้น ‘นักเวทย์มนตร์มืด’ ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก นายสามารถพูดได้ว่ารากฐานของนักเวทย์มนตร์มืดในปัจจุบันเป็นผู้อมตะ”


ไคซาร์ยกดาบและชี้ไปข้างหน้าเขา


และตรงจุดนั้น ข้างในหมอกยอดแหลมที่ดูแปลกประหลาดตั้งอยู่


“จุดนั้นตรงที่ผู้อมตะกำลังหลับอยู่และตอนนี้ที่ฉันคิดเกี่ยวกับมัน มนุษย์ที่เรียกว่าฮูนี่ย์ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฉัน ดูเหมือนจะเป็นนักเวทย์มนตร์มืดที่มีทักษะไม่น้อยเลยทีเดียวที่จะได้รับการยอมรับจากผู้อมตะ”


“…”


เอียนรู้สึกผิดต่อฮูนี่ย์


‘จิ๊ ถึงเขาจะเป็นผู้ติดตามของฉัน แต่ถูกสัตว์ประหลาดแบบนี้จับเขามา… เด็กผู้น่าสงสาร’


เมื่อไคซาร์เริ่มให้ความสนใจอีกครั้ง ดูเหมือนว่าวันที่ฮูนี่ย์จะได้รับอิสรภาพขยายตัวออกไปอีกครั้ง


ในขณะที่เอียนและไคซาร์กำลังพูดถึงเรื่องต่างๆ ปาร์ตี้ก็ทะลุผ่านหมอกและมาถึงด้านหน้าของยอดเขา


และตรงจุดนั้น ฮูนี่ย์ซี่งรอเอียนได้ยืนอยู่ตรงนั้น


“ไม่ได้เจอกันนาน เอียน”


อย่างไรก็ตามทันใดนั้นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆฮูนี่ย์รีบวิ่งไปจับมือของเอียน


“เอียน ผมเป็นแฟนคลับ!”


 


* * *


 


ในขณะเดียวกัน ในพื้นที่นอกชายแดนของทวีปกลางอีกแห่งหนึ่ง


ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกับจุดที่เอียนและฮูนี่ย์มาถึงเควสต์ของพวกเขา เสื้อคลุมของผู้หญิงคนหนึ่งสะบัดขณะที่เธอเดิน


ด้วยเสื้อคลุมที่หรูหรา ผู้หญิงคนนั้นถือไม้เท้าที่มีรูปร่างแปลกๆซึ่งมีรอยแดงอยู่ข้างหนึ่ง


เธอคือนักเวทย์เพลิงรีเมียร์ผู้โด่งดังจากการได้อันดับที่ 1 ในการจัดอันดับของอาชีพนักเวทย์มนตร์


ก่อนหน้านี้ มีช่วงเวลาที่เธอได้รับเลือกโดยซามูเอลจินและเข้าร่วมกับกิลด์โอ๊คลันในไม่ช้า แต่ขณะนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น


เนื่องจากรีเมียร์เป็นผู้เล่นที่มีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งอย่างมากนับตั้งแต่ทวีปกลางเปิดขึ้น เธอจึงออกจากกิลด์และเริ่มเล่นโซโล่อีกครั้ง


“วิหารแห่งดวงอาทิตย์ควรอยู่ใกล้ที่นี่…”


หลังจากตรวจสอบพิกัดที่เธอเขียนอย่างละเอียดและพิกัดที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ รีเมียร์เงยศีรษะของเธอ


“อะไรวะเนี่ย? ต้องเป็นจุดนี้สิ…”


เธอเริ่มหงุดหงิดอย่างช้าๆ


เมื่อเธอเคลียร์เควสต์ลับด้วยระดับความยากระดับ SSS ตลอดระยะเวลาหลายเดือน จุดสุดท้ายของเควสต์ซึ่งเธอสามารถรับรางวัลของเธอเพื่อเคลียร์เควสต์ได้ไม่มีที่ใดในสายตาของเธอ


อย่างไรก็ตามทันใดนั้น เงาขนาดยักษ์ก็เริ่มโผล่หัวและอย่างนั้น รีเมียร์เงยหัวขึ้นแล้วมองขึ้นไปบนฟ้า


และดวงตาทั้งสองของเธอซึ่งไร้อารมณ์ก็เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย


“มะ มังกร?”


เช่นเดียวกับคำที่หลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กๆของเธอ สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่เติมเต็มรูม่านตาของรีเมียร์นั้นเป็นมังกรแน่นอน


มันเป็นมังกรแดงที่ปกคลุมด้วยเกล็ดสีแดงซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าร่างกายของมันถูกเผาไหม้


ด้วยจิตวิญญาณราวกับว่าเธอจะยิงเวทย์มนตร์ในทันที รีเมียร์ยกไม้เท้าของเธอขึ้น แต่มังกรก็ไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับเธอ


มังกรที่ค่อยๆเข้ามาหาเธอช้าๆนั่งลงเบาๆ


มันค่อยๆพูด


 


เจ้ามาเพื่อค้นหาวิหารแห่งดวงอาทิตย์สินะ

 


ด้วยเสียงของมังกรซึ่งมีพลังมากพอที่จะให้ความรู้สึกว่าโลกกำลังสั่นสะเทือน รีเมียร์รู้สึกว่าหัวของเธอว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ช้าเธอก็กลับสู่ความเป็นจริงและพูด


“ถูกต้อง ฉันได้รับการเรียกของเทพแห่งดวงอาทิตย์และมาที่นี่”


ในขณะที่มองดูรีเมียร์ผู้พูดโดยไม่ถูกข่มขู่แม้แต่นิดเดียวที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนที่เขาเป็นมังกรยักษ์ เขาก็ยิ้มอย่างอบอุ่น


 


แน่นอนว่าเจ้าเป็นมนุษย์ประเภทที่ฉันคาดหวังว่าเฮลเลน่าจะเลือก

 


ทันทีที่คำพูดของเขาจบลงร่างยักษ์ของมังกรแดงก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวและขนาดของมันก็ค่อยๆหดตัวลง


Whoong-


พร้อมกับเสียงกังวานของชายคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้ารีเมียร์


ด้วยผมสีแดงสด เขาเป็นคนหล่อหน้าตาดี


เขาได้พูด


“ข้าคือราโนเอล มังกรแห่งดวงอาทิตย์ที่สืบทอดพลังของเฮเลน่า”


เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไปในอากาศและในเวลาเดียวกันแสงสีขาวสว่างก็เริ่มกระจายออกมาจากมือของเขา


“…!”


รังสีของแสงที่ยิงออกมาจากมือของเขากระจายบนท้องฟ้าและรีเมียร์ดูภาพนั้นด้วยดวงตาที่ประหลาดใจ


หลังจากนั้นไม่นาน


เมื่อแสงที่ปกคลุมพื้นที่สีขาวนั้นหายไปต่อหน้าต่อตารีเมียร์ซึ่งคิดว่ามันเป็นเพียงกลางทะเลทรายได้มีวิหารขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น


ราโนเอล มังกรแห่งดวงอาทิตย์ยิ้มขณะที่เขาอ้าปาก


“ขอแสดงความยินดีกับการกลายเป็นราชาแห่งเปลวเพลิง”


เมื่อคำพูดของราโนเอลสิ้นสุดลง ร่างกายทั้งหมดของรีเมียร์เริ่มถูกไฟลุกเป็นไฟสีแดงสด


อย่างไรก็ตาม รีเมียร์ไม่ได้รู้สึกร้อน


“ในที่สุด… ก็จบแล้วงั้นหรอ?”


ขณะที่คิดถึงการเดินทางที่ยาวนานเธอยิ้มอย่างสดใส และข้อความของระบบก็เริ่มปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ


 


ท่านประสบความสําเร็จในการเคลียร์เควสต์ ‘พลังของเทพแห่งดวงอาทิตย์’

ท่านได้รับชื่อเสียง 300,000 หน่วย

ท่านได้รับ ‘คฑาของเทพแห่งดวงอาทิตย์’

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 82.5 ล้านหน่วย

ท่านได้เพิ่มเลเวล ท่านถึงเลเวล 177

ท่านสามารถเปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพลับ ‘ราชาแห่งเปลวเพลิง’ ท่านจะเปลี่ยนอาชีพหรือไม่?

 


รีเมียร์ซึ่งอ่านข้อความของระบบที่ผุดขึ้นอย่างระมัดระวัง พยักหน้าขณะที่พูด


“ฉันจะเปลี่ยนอาชีพ”


ขณะที่เธอทำเช่นนั้น เปลวไฟสีแดงสดที่ปกคลุมอยู่รอบๆรีเมียร์ถูกดูดเข้าไปในหัวใจของเธอ


Whoong-!


 


ท่านเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จจาก ‘นักเวทย์มนตร์เพลิง’ ไปเป็นอาชีพที่สูงกว่า ‘ราชาแห่งเปลวเพลิง’

และหลังจากนั้นไม่นาน


ต่อหน้าของผู้เล่นทั้งหมดที่เข้าสู่ระบบในทวีปกลาง มีข้อความระบบหนึ่งข้อความปรากฏขึ้นอีก


 


ตำนานแรกของทวีปกลางได้ตื่นขึ้น

 

 

 


ตอนที่ 190

 

เป็นไปตามที่คาดสถานที่ที่ผู้อมตะ ราชาแห่งความมืดกำลังนอนหลับพลังงานเยือกเย็นที่ออกมาภายในยอด


เลเวลเฉลี่ยของมอนสเตอร์ที่ปรากฏในยอดอยู่ระหว่าง 150-170 และเมื่อพิจารณาว่าเป็นดันเจี้ยนลับในทวีปกลาง มันต้องอยู่ด้านล่าง


อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีจำนวนมอนสเตอร์มากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับดันเจี้ยนอื่นๆระดับความยากก็ยากขึ้น


ลักษณะของดันเจี้ยนส่วนใหญ่ที่เต็มไปด้วยอันเดด


‘นี่มันดันเจี้ยนแจ็กพอตจริงๆ’


อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้ดีสำหรับทุกคน


เมื่อลักษณะของเอียนได้รับการปรับให้เหมาะกับการล่าเป็นกลุ่มและการต่อสู้หลายต่อหลายครั้ง ดันเจี้ยนเช่นนี้ซึ่งเลเวลเฉลี่ยต่ำกว่าและจำนวนทั้งหมดอยู่ในระดับสูงจึงเป็นบริเวณล่าที่ดีที่สุดสำหรับเขา


ในทางตรงกันข้ามสำหรับอาชีพแอสซาซินที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ 1: 1 นี่น่าจะเป็นพื้นที่ล่าที่เลวร้ายที่สุด


“ฮูนี่ย์ อย่าพยายามที่จะโลภเกี่ยวกับการสร้างความเสียหายและพยายามดึงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะนายพยายามที่จะสร้างความเสียหายเส้นแบ่งจะพังลงและประสิทธิภาพของการล่าก็ลดลงเช่นกัน”


เมื่อเอียนบ่น ฮูนี่ย์ขมวดคิ้ว


“จิ๊ เข้าใจแล้วหน่า”


หลังจากตรวจสอบแถบความเสียหายของสมาชิกในปาร์ตี้ที่เปิดในมุมมองของเขา ฮูนี่ย์ก็อ้าปาก


นี่เป็นเพราะ DPS แน่นอน แต่ถึงแม้จะมองดูความเสียหายสะสม เขาก็ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความเสียหายที่เอียนทำ


DPS เป็นตัวย่อของความเสียหายต่อวินาทีและในคำอื่นๆมันเป็น ‘ความเสียหายโดยเฉลี่ยต่อศัตรูต่อวินาที’


ฮูนี่ย์มองเอียนในขณะที่เขาบ่นกับตัวเอง


‘สัตว์ประหลาดตัวนั้นได้รับความแข็งแกร่งในช่วงเวลานี้มากแค่ไหน? จากสิ่งที่ฉันรู้ความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีของผู้ติดตามไม่ควรรวมอยู่ใน DPS …’


ซัมมอนเนอร์เป็นที่รู้จักในอาชีพที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อ PVE อย่างไรก็ตามนักเวทย์มนตร์มืดก็เป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามเช่นกัน


เมื่อเป็นอย่างนี้ ฮูนี่ย์ก็พยายามโลภและพยายามต่อสู้กับเอียนด้วยความเสียหายที่ทำได้ แต่เนื่องจากมีความแตกต่างอย่างล้นหลามเขาจึงยอมแพ้อย่างหมดจด


เมื่อเขาคิดว่าเขาเป็นคนที่มาจากดินแดนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ความภาคภูมิใจของเขาก็ไม่เจ็บปวด


‘อย่างที่คาดไว้ ฉันต้องเอาพลังแห่งผู้อมตะไว้ในมือของฉัน’


ฮูนี่ย์ผู้ตัดสินใจไม่สนใจการแข่งขันกับเอียนจนกระทั่งเขากลายเป็นราชาแห่งความมืดได้ควบคุมโครงกระดูกของเขาอย่างรวดเร็วและรวบรวมมอนสเตอร์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วแผนที่


และคาโนเอลดูทั้งสองคนล่าด้วยปากที่อ้าค้าง


‘ว้าว ดูค่าประสบการณ์ของฉันที่เพิ่มขึ้นสิ นี่มันเป็นการบัสอย่างแท้จริง’


สิ่งที่คาโนเอลกำลังทำอยู่ก็คือเพื่อให้ตรงกับช่วงเวลาที่เอียนเรียกใช้สกิล AoE ของเขาและพ่นลมหายใจของยงยองอีกครั้งหนึ่งบนการโจมตีของเขา


แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเมื่อเทียบกับลมหายใจที่เรคของเอียนปล่อยออกมาก็ไม่เท่ากับพลังครึ่งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ


“หลุมอเวจี!”


Kuoooh-!


เมื่อความสามารถในการควบคุมของซีเลียเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในขณะที่การล่ากับเอียนเธอจึงเรียกใช้หลุมอเวจีของดุ๊กเดในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม


และเมื่อใดก็ตามที่หลุมอเวจีถูกเรียกใช้สกิลการจัดการของ AoE จะครอบคลุมไปถึงจุดนั้นโดยไม่ต้องสงสัย


Baaang-!


 


ท่านได้สังหารนักเวทย์มนตร์แห่งความมืด

ท่านได้สังหารนักดาบเวทย์มนตร์แห่งความมืด

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 1,547,989 หน่วย

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 1,772,534 หน่วย

 


ในขณะที่ดูค่าประสบการณ์ที่เพิ่มเป็นล้าน แม้จะแบ่งออกเป็นหลายส่วน เอียนก็ยังยิ้มด้วยความพึงพอใจ


‘ก่อนที่เราจะพบกับผู้อมตะหรืออะไรก็ตาม ดูเหมือนว่าฉันจะถึงเลเวล 170 ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี’


ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ในการเพิ่มเลเวลนั้นมากมายและเพราะในกรณีนี้เมื่อใดก็ตามที่เขาได้เพิ่มเลเวล เขาจะพึงพอในในแต่ละครั้ง


โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลขสิบหลักเปลี่ยนไป เขามีความสุขมากกว่าเมื่อเขาแค่เพิ่มเลเวล


ช่วยบอกได้ไหมว่ารู้สึกยังไงเมื่อเขาเพิ่มไปชั้นต่อไป?


“ชั้นที่เท่าไหร่แล้วตอนนี้?”


เมื่อเอียนถาม ฮูนี่ย์ตอบกลับทันที


“ชั้น 36 แล้ว”


คาโนเอลที่อยู่ข้างเขาส่ายหัวในขณะที่เขาพูดพึมพำ


“เฮ้อ นายคิดว่ามีทั้งหมดกี่ชั้นเนี่ย? เราไปถึงชั้นที่ 50 แล้วมันจะจบใช่ไหม?”


เอียนแสยะยิ้มขณะที่เขาพูด


“ฉันรู้สึกว่าอาจจะมีมากกว่านั้น แต่ถ้ามันขึ้นอยู่กับฉัน ฉันหวังว่าจะมีมากถึง 100 ชั้น”


“ห้ะ? ทำไมล่ะ?”


“มันยากที่จะหาพื้นที่ล่าที่ดีขนาดนี้ เรามีแม้แต่บัฟผู้ค้นพบครั้งแรกในตอนนี้ ขณะที่ทำเควสต์เสร็จสิ้น ค่าประสบการณ์ของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นมันจึงดี”


เมื่อเอียนพูด คาโนเอลแสดงสีหน้าหวาดกลัวและฮูนี่ย์ก็ส่ายหัวไปมา


ในขณะที่ควบคุมอันเดดอย่างขยันขันแข็ง ฮูนี่ย์พึมพำกับตัวเอง


‘ไม่มีทางที่จะมี 100 ชั้นหรอก… มันจะไม่เป็นอย่างนั้น มันน่ากลัวเกินไปที่จะคิดอย่างนั้น’


อย่างไรก็ตาม มันจะกลายเป็นอย่างนั้น


 


* * *


 


“อ๊าก ฉันไปไม่ไหวแล้ว! ไม่ไหวแล้ว!”


ฮูนี่ย์ซึ่งฆ่ามอนสเตอร์ตัวสุดท้ายที่อยู่บนแผนที่ นั่งลงตรงที่เขายืนอยู่


“เฮ้อ… เอียน นายคิดว่าจะพักสักหน่อยก่อนจะไปต่อไหม?”


คาโนเอลนั่งลงถัดจากฮูนี่ย์และเขามองขึ้นไปหาเอียนทั้งน้ำตา


เอียนแสยะยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


“ทำไมพวกนายอ่อนแอจัง? ฉันรู้สึกว่ามันเพิ่ง 10 ชั่วโมงตั้งแต่เราเริ่มล่าจนถึงตอนนี้เอง”


ขณะที่พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมานานกว่าสิบชั่วโมงในระหว่างการล่า เอียนก็ยิ่งใกล้ชิดกับคาโนเอลและพูดกับเขาอย่างสบายใจ


เนื่องจากคาโนเอลมีความแตกต่าง 5 ปีกับเอียนเช่นกันจึงไม่ต้องลังเลเลย


“…”


คาโนเอลและฮูนี่ย์ที่พูดไม่ออกทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความเงียบงันและคำพูดของเอียนยังคงดำเนินต่อไป


“ถ้างั้นเราจะพักกันสักหน่อย เนื่องจากเราไม่รู้ว่ามีกี่ชั้นจึงควรพักสักครู่ เราไม่รู้ว่าชั้น 100 จะเป็นจุดจบหรือไม่?”


ชั้นที่ทั้งสามคนอยู่คือชั้นที่ 87


ในคำพูดที่ว่าชั้นที่ 100 อาจยังไม่จบ ทั้งสองคนก็ประหลาดใจ


“ไม่มีทาง…! มันจะไม่เป็นอย่างนั้น! เมื่อฉันมองจากข้างนอก มันไม่ได้สูงขนาดนั้น!”


“ถูกต้อง มันไม่สมเหตุสมผลเลย…”


ความหวังเดียวสำหรับทั้งสองคนคือหลังจากผ่านชั้น 50 แล้วแผนที่ก็เล็กลงเรื่อยๆ


เนื่องจากความจริงที่ว่าแผนที่มีขนาดเล็กลงนั่นหมายความว่าพวกเขากำลังไปถึงส่วนที่แหลมของยอดเขา


“เอาล่ะ ถ้าพวกนายพักผ่อนกันแล้ว ไปอย่างรวดเร็วกันเถอะ เราต้องฆ่าผู้อมตะหรืออะไรก็ตามก่อนที่เราจะเข้านอนวันนี้ไม่ใช่หรอ?”


ถึงกระนั้น ฮูนี่ย์ผู้ได้รับกำลังจากคำว่าผู้อมตะก็ลุกขึ้นยืนทันที


“ถูกต้องแล้ว เราต้องฆ่าผู้อมตะ นายไม่รู้ว่ากี่เดือนที่ฉันต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเจ้านั่น”


อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าคาโนเอลยังคงไม่ฟื้นพลังใดๆเพราะเขาจับขาที่สั่นขณะที่เขายืนขึ้นอย่างช้าๆ


“อั๊ก… อั๊ก…”


ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง


ในตอนท้ายเมื่อปาร์ตี้ปีนขึ้นไปโดยไม่หยุดพัก พวกเขาก็สามารถไปถึงชั้นที่ 100 ได้


โชคดีที่ไม่มีเส้นทางที่จะขึ้นไปได้และจตุรัสเวทย์มนตร์ขนาดใหญ่ก็ถูกวาดไว้ข้างหน้าพวกเขา


ฮูนี่ย์ซึ่งเข้ามาใกล้จตุรัสเวทมนตร์ดึงของที่มีรูปร่างแปลกๆที่ทำจากไม้จากคลังของเขาและยกมันขึ้น


ฮูนี่ย์ผู้ยกสิ่งของที่ไม่รู้จักที่เรียกว่าคฑาสั้นๆและยาวเกินกว่าจะเรียกว่าไม้กายสิทธิ์ เดินไปที่ศูนย์กลางของจตุรัสเวทย์มนตร์แล้ววางไอเทมนั้นลงบนพื้น


“เอาล่ะ นายกำลังจะอัญเชิญผู้อมตะใช่ไหม?”


เมื่อเอียนถาม ฮูนี่ย์ตอบกลับ


“แทนที่จะเรียกว่าอัญเชิญ… ฉันควรเรียกว่าปลุกเขาล่ะมั้ง?”


และฮูนี่ย์ผู้ก้าวออกจากจตุรัสเวทมนตร์ก็เริ่มที่จะท่องคาถาออกมาด้วยท่าทางที่จริงจัง


 


ผู้อมตะ ราชาแห่งความมืด ทายาทของท่านผู้ได้เตรียมการทั้งหมดได้มาถึงแท่นบูชาแห่งความมืดแล้ว

 


จากความจริงที่ว่าเสียงของเขาดังขึ้นทุกทิศทางในขณะที่เขาท่อง มันดูเหมือนว่าระบบจะควบคุมร่างกายของฮูนี่ย์แต่ในขณะที่เขาแสดงให้เห็นหลายรูปแบบที่เขาเข้าถึงในบทบาทของเขาด้วยทัศนคติที่จริงจังเช่นนั้น ไม่มีความรู้สึกแตกต่าง


“อย่างไรก็ตาม ฉันบอกนายแล้ว เขาเป็นคนที่น่าประหลาดใจ”


เอียนกับคาโนเอลมองเห็นภาพนั้นในระยะใกล้ๆ หลังจากนั้นไม่นานจตุรัสเวทมนตร์ที่ถูกจารึกลงบนพื้นอย่างซับซ้อน หมอกเริ่มรั่วไหลออกมา


Whoong- Whooong-!


และในแต่ละจุดยอดของเส้นที่ลากเข้าไปในตารางเวทย์มนตร์ แสงก็เริ่มรวมตัวเป็นทรงกลมก่อนที่แสงนั้นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า


“โอ้…”


ฮูนี่ย์ผู้กลับมารู้สึกก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวและกำลังดูฉากนั้น อุทานด้วยเสียงเบาๆ เอียนและคาโนเอลก็ดูด้วยความสนใจ


หลังจากนั้นไม่นาน


แสงที่พุ่งขึ้นสู่อากาศเริ่มสร้างประตูมิติขนาดใหญ่ขึ้นมาหนึ่งช่อง


“ดูเหมือนว่าเราต้องเข้าไปในนั้นใช่ไหม?”


ช่วงเวลาที่ฮูนี่ย์กำลังจะตอบคำถามของเอียน เสียงจะดังขึ้นบนอากาศ


 


เจ้าเคยเห็นความตายที่แท้จริงและโลกแห่งความมืดหรือไม่?

 


เสียงที่เย็นชาและแหบนั้นดังกึกก้องไปทั่วทั้งแผนที่


 


ถ้าเจ้าผ่านการทดสอบของข้า ข้าจะให้พลังทั้งหมดของข้าแก่เจ้า

 


และเมื่อเสียงดังขึ้นประตูแห่งความมืดก็กลืนปาร์ตี้ทั้งหมด


 


* * *


 


Seuaaah-


เสียงลมฟังดูน่าหดหู่และแปลกประหลาดกว่าที่เคยได้ยินมาก่อน


ปาร์ตี้ที่ตกลงไปในพื้นที่ซึ่งปกคลุมไปด้วยความมืดได้มองไปรอบๆขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึง


“อะไรวะเนี่ย เราต้องต่อสู้ในสถานที่เช่นนี้ที่เราไม่เห็นอะไรเลยงั้นหรอ?”


เมื่อฮูนี่ย์พูด ซึ่งไม่ชัดเจนว่าพูดถึงใคร เอียนตอบกลับในไม่ช้า


“รวมกันไว้ นี่คือเควสต์ที่มีระดับความยากไม่น้อยกว่า SSS นี่คือระดับความยากที่มันจะไม่แปลกถ้านายเสียชีวิตทันทีภายในระยะเวลาอันสั้น”


เมื่อเอียนเตือน ฮูนี่ย์และคาโนเอลจดจ่อมากขึ้นและระวังรอบๆตัว


เมื่อพวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับความมืด พวกเขาเริ่มเห็นทีละเล็กทีละน้อย


และได้ยินเสียงนั้นอีกครั้งอย่างมีมารยาท


 


คนที่พูดคือ ‘คันจิฮูนี่ย์’ หรือป่าว?

 


“ถูกต้อง”


เมื่อการโจมตีที่ไม่คาดคิด (?) เสียงหัวเราะเกือบออกมาจากปากของเอียน แต่หลังจากกลั้นไว้อย่างหวุดหวิดเขาก็พึมพำกับตัวเอง


‘ใช่สิ ไอดีของเจ้านั่นคือคันจิฮูนี่ย์ ทำไมฉันถึงไม่คุ้นเคยกับสิ่งนั้นแม้ว่าฉันจะได้ยินหลายครั้งแล้วก็ตาม?’


บาทสนทนาของทั้งสองคนดำเนินต่อไป


 


เพื่อท้าทายการทดสอบของข้าด้วยพลังการต่อสู้มากมายนี้ ข้าจะคิดถึงความกล้าหาญที่น่าชื่นชมเพียงอย่างเดียว

 


ด้วยเสียงนั้นซึ่งดูเหมือนจะล้อเลียนเขา ฮูนี่ย์ตอบกลับ


“ฉันคิดว่าฉันต้องผ่านการทดสอบของคุณด้วยพลังการต่อสู้น้อยที่สุดเพื่อที่จะได้เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริง นี่คือความภาคภูมิใจของฉันในฐานะนักเวทย์แห่งความมืด”


ในขณะที่มองดูฮูนี่ย์ซึ่งพูดคำที่คาดว่าจะเป็นตัวละครหลักใน B-list อนิเมชั่นโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเขา เอียนและคาโนเอลรู้สึกประหลาดใจ


‘โธ่เอ้ย ทำไมต้องทำให้พวกเราอายด้วยเนี่ย?’


คราวนี้ มันเป็นที่ชัดเจนว่าเขาไม่ได้ถูกควบคุมโดยระบบ


เอียนกำมือแล้วปล่อยมือทั้งสองข้างไปมาในขณะที่เขาสงบลงเพียงเล็กน้อย


ต่างจากเขา ฮูนี่ย์นั้นเล่นตามบทบาทไป 100%


 


ฮาฮาฮาฮ่า! มนุษย์ช่างน่าขบขัน ข้าชอบเจ้า ไม่น่าแปลกใจที่ข้ารู้สึกว่านี่จะเป็นการแข่งขันที่สนุกสนาน

 


เมื่อคำพูดของผู้อมตะสิ้นสุดลง หมอกสีเทาจากภายในความมืดก็เริ่มเข้าหาปาร์ตี้


รังสีของแสงนั้นมืดสลัวจนยากที่จะบอกได้ว่ารูปร่างแบบไหน ได้เปลี่ยนเป็นรูปร่างของนักเวทย์โครงกระดูกยักษ์หลังจากนั้นไม่นาน


ด้านบนของกระดูกบางๆมีเสื้อคลุมสีม่วงพันอยู่รอบตัวมัน


สิ่งที่มีรูปแบบที่แปลกประหลาดเช่นนี้ทำให้เกิดความกลัวต่อใครก็ตามที่เห็น มันทำให้นึกถึงหนึ่งในลิชคิง


เขาขยับกรามผอมบางของเขาอย่างช้าๆขณะที่คำราม


 


เอาล่ะ จากนี้ไป ข้าจะทดสอบเจ้าเพื่อดูว่าเจ้ามีความสามารถจริงๆที่จะกลายเป็นราชาแห่งความมืด!

 


ในขณะเดียวกัน เอียนซึ่งจ้องมองที่รูปร่างของผู้อมตะอย่างถี่ถ้วน ถอนตัวสัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่เขาอัญเชิญออกมายกเว้นไล


และเขาอัญเชิญคาร์เซอุสซึ่งไม่ได้อัญเชิญออกมาจนถึงตอนนี้


 


Keuoooh!

 


ขณะที่เขาเพิ่มความเป็นผู้นำของเขาขึ้นมานิดหน่อย เขาก็สามารถอัญเชิญคาร์เซอุสและไลได้ในเวลาเดียวกัน


และผู้อมตะซึ่งค้นพบมังกรยักษ์นั้นได้มองดู

 

 

 


ตอนที่ 191

 

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวลือที่ไม่ทราบสาเหตุเริ่มแพร่กระจายออกไป


นั่นคือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอาชีพลับที่เชื่อมโยงกับวีรบุรุษที่มีอยู่เมื่อพันปีก่อนในโลกของไคลัน


และจุดเริ่มต้นของข่าวลือนั้นคือข้อความที่โผล่ขึ้นมาเป็นข้อความของโลกโดยกล่าวว่า ‘ตำนานแรกของทวีปกลางได้ตื่นขึ้นแล้ว’


ผู้เล่นหลายคนสงสัยและเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับตำนานของทวีปกลางเกี่ยวกับเรื่องนี้และนักจัดอันดับคนหนึ่งระบุว่าพวกเขากำลังทำเควสต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น มันกลายเป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม


และชาวเน็ตที่ประกาศตัวเองว่าเป็นผู้สืบสวนไซเบอร์ ในที่สุดก็สามารถเปิดเผยได้ว่าใครเป็นตำนานคนแรก


ความจริงแล้วมันอาจเป็นสิ่งที่ไม่ยากเกินไป


นี่เป็นเพราะรีเมียร์เป็นชื่อผู้เล่นที่โด่งดังและเธอก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในกลุ่มที่ตั้งค่าตัวละครของเธอเป็นสาธารณะ


ความจริงที่ว่าอาชีพของเธอเปลี่ยนจากนักเวทย์มนตร์เพลิงมาเป็นราชาแห่งเปลวเพลิงถูกถ่ายหน้าจอภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งในสี่ของวันและอัพโหลดไปยังเว็บไซต์


 


พวกนาย ตำนานของทวีปกลางหรืออะไรก็ตาม ถ้านายเพิ่งได้อาชีพลับ มันเป็นไปได้ไหมที่จะเปลี่ยนตารางชีวิตของนาย?

ฝันไปเถอะไอ้โง่ แกคิดว่าแกยิ่งใหญ่เพียงแค่มีอาชีพลับงั้นหรอ? มันสำคัญมากกว่าที่แกจะมีอาชีพที่เหมาะกับแกที่สุด

แต่ว่านะมันไม่ใช่แค่อาชีพลับ แต่เป็นอาชีพลับเชื่อมต่อกับตำนานของทวีปกลาง ฉันไม่คิดว่านายจะคิดว่ามันเป็นแบบเดียวกับอาชีพลับปกติ

คำพูดของคนข้างบนถูกต้อง ผู้คนไม่รู้จริงๆแต่เห็นได้ชัดว่ามีระดับที่มีอยู่แม้กระทั่งสำหรับอาชีพลับเช่น สไนเปอร์,เบอร์เซิกเกอร์,เอนชานจ์เตอร์และอื่นๆที่หลายคนรู้ว่าเป็นระดับที่ 1 ของอาชีพลับ

ถูกต้อง ฉันเชื่อว่าอาชีพเดิมของรีเมียร์คือ ‘นักเวทย์มนตร์เพลิง’ นั้นเป็นระดับที่ 2 ของอาชีพลับ

โอ้ ถ้างั้นราชาแห่งเปลวเพลิงต้องเป็นระดับที่ 3 ของอาชีพลับใช่ไหม?

เราไม่แน่ใจ แต่อาจจะใช่?

ว้าว ถ้าเช่นนั้นในท้ายที่สุด เราควรจะได้อาชีพลับไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม? ใครมันที่โพสต์ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีอาชีพลับอยู่เมื่อไม่นานมานี้กันนะ?

เฮ้อ… ฉันก็เชื่อคำพูดนั้น นี่คือที่เราจะต้องลบตัวละครของเราและเพิ่มเลเวลมันขึ้นมาอีกครั้งงั้นหรอ?

ไม่ๆ อย่ารีบร้อน พวกเขาบอกว่ามีระดับสำหรับอาชีพลับอยู่ แต่อาชีพลับของระดับที่ 1 ที่อยู่รอบตัวนายจริงๆนั้นไม่แตกต่างจากอาชีพปกติและดูเหมือนว่ามันจะดีขึ้นเล็กน้อยจากระดับที่ 2 แต่นายไม่จำเป็นต้องมีอาชีพลับในระดับที่ต่ำกว่าเพื่อที่จะได้อาชีพลับในระดับที่สูงขึ้น

โอ้ จริงหรอ? ดังนั้นมันเป็นไปไดัสำหรับผู้เล่นอาชีพปกติที่จะได้รับระดับที่ 3 ของอาชีพลับเหมือนกับรีเมียร์งั้นหรอ?

ใช่ ถ้านายได้รับเควสต์ที่เกี่ยวข้องสักที่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้

โอ้…!

 


มีหลายกรณีที่ข้อมูลที่โผล่ขึ้นมาต่อหน้าผู้เล่นทุกคนผ่านข้อความโลกนั้นเกี่ยวข้องกับการอัพเดทขนาดใหญ่


เนื่องจากเป็นกรณีนี้ผู้เล่นหลายคนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งนี้อย่างถี่ถ้วนและข้อพิพาทเกี่ยวกับอาชีพลับซึ่งเป็นปัญหาที่ร้อนแรงไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถูกลืมไปจึงถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากนิทรา


 


พวกนาย แต่ว่าฉันจะตรวจสอบระดับของอาชีพลับของฉันได้ยังไง?

นั่น… จากที่ฉันรู้ วิธีการตรวจสอบนั้นยังไม่เปิดเผย ทำไมล่ะ? นายมีอาชีพลับงั้นหรอ?

ใช่ ฉันมีอาชีพลับ แต่ว่า…

โอ้! มันคืออะไร? มันคืออะไรหรอ?

โอ้ ฉันได้กลิ่นของช้อนเงิน! อาชีพลับเขาพูด!

อ่อ ฉัน… เปลี่ยนอาชีพวันอื่นน่ะ แต่ชื่อของอาชีพคือนักบวชแห่งแสงหรืออะไรทำนองนั้น

ฮ่า อะไรวะนั่น เขาบอกว่านักบวชแห่งแสงน่ะ

ห้ะ มีอะไรผิดงั้นหรอ? มันไม่ใช่อาชีพลับหรอ?

ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นระดับที่ 1 แน่นอน แต่ว่านักบวชแห่งแสง…

ฉันคิดว่าฉันเคยเห็นนักบวชแห่งแสงอย่างต่ำก็ 150 ครั้งขณะที่ล่าจนถึงตอนนี้

เหมือนกัน

 


เมื่อความสนใจของผู้เล่นเริ่มรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ หัวข้อก็เติบโตขึ้น


LB Sports ซึ่งเป็นผู้พัฒนาของไคลันได้อัพโหลดวิดีโอตัวอย่าง 13 คลิปลงบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในครั้งเดียว


วิดีโอแต่ละรายการมีเวลาค่อนข้างนาน 50 นาที ในขณะที่แต่ละอันมีเรื่องราวชีวิตของวีรบุรุษของไคลันแต่ละคน


จากด้านของบริษัท LB พวกเขาเพิ่งเปิดเผยวิดีโอที่สิบสามคลิปโดยไม่มีแม้แต่ข้อความหรือคำอธิบายใดๆแต่ปฏิกิริยาของผู้เล่นปะทุออกมา


 


ว้าว นี่มันสุดยอดไปเลย พวกเขาสามารถทำสิ่งนี้ให้เป็นภาพยนตร์ได้

ไม่หรอก ระดับนี้ไม่ได้เป็นวิดีโออยู่แล้ว? มันให้ความบันเทิงมากกว่าภาพยนตร์ดีๆที่อยู่บนหน้าจอเมื่อเร็วๆนี้อีกใช่ไหม? และไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับคุณภาพของมัน

โคตรเท่ห์เลย จากที่ฉันดู ดูเหมือนว่าวิดีโอเหล่านี้เกี่ยวข้องกับวีรบุรุษของทวีปกลางหรืออะไรทำนองนั้น…

ฉันเริ่มดูวิดีโอทันทีที่อัปโหลดและเพิ่งดูวิดีโอทั้งหมดเสร็จ แต่ฉันคิดว่านี่เป็นเหยื่อที่เกี่ยวข้องกับอาชีพลับ

โอ้ จริงหรอ? นายดูมันทันหมดแล้วหรอ?

ใช่ แต่ฉันตระหนักว่าไม่ใช่วีรบุรุษของทวีปกลาง แต่เป็นวีรบุรุษของทวีปที่มีบทบาทอย่างมากในสมัยโบราณ จากลักษณะของมัน มีห้าคนจากทวีปกลางและสามคนจากตะวันออกและตะวันตก และสองคนจากทางเหนือ มันรวมเป็นสิบสามคนได้อย่างนี้

เนื่องจากทวีปกลาง ตะวันออกและตะวันตกอยู่ในดินแดนสุดท้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทวีปโคโรน่า หากเรารวมมันเข้าด้วยกัน เราสามารถจัดระเบียบมันเพื่อให้มีทั้งหมดสิบเอ็ดคนจากทวีปโคโรน่าและอีกสองคนจากทวีปมะละกาตอนเหนือ

โห ขอบคุณสำหรับข้อมูล

ต้องของคุณผู้หยั่งรู้ เราค้นพบข้อมูลที่สดใหม่ออกมา

 


และที่มุมขวาบนของหน้าจอสำหรับแต่ละวิดีโอที่โพสต์ ชื่อของวิดีโอนั้นถูกซ่อนด้วยตัวอักษรขนาดเล็ก แต่ชื่อเหล่านั้นเหมือนกันดังต่อไปนี้


รีเพย์กลาดิเอเตอร์ยามสนธยา – วีรบุรุษที่ถูกลืมของมะละกา

โอ๊คเลย์นักฝึกมังกร – การต่อสู้นองเลือดของหมูบ้านพิลาเนีย

สิตธัตถะราชาแห่งเปลวเพลิง – นักล่าปีศาจและสิตธัตถะ

ผู้อมตะราชาแห่งความมืด – หุบเขาแห่งความตาย

 


* * *


 


ผู้อมตะที่ได้พบคาร์เซอุส จ้องไปที่เอียนด้วยสายตาที่ประหลาดใจ


 


เจ้า… เจ้าคือวีรบุรุษที่ลงมาจากทวีปทางเหนืองั้นรึ?

 


“…?”


เอียนซึ่งไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้อมตะกล่าว กระพริบตาทั้งสองของเขาเมื่อเขาถามกลับ


“นายกำลังพูดเกี่ยวกับอะไร?”


อย่างไรก็ตาม เขาไม่สนใจคำพูดของเอียน ผู้อมตะพูดต่อ


 


อืมมม… ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ใช่ซัมมอนเนอร์แห่งทวีปทางเหนือ แต่เจ้ามีมังกรของ ‘เขา’ ได้ยังไงกัน?

 


เอียนซึ่งสนใจในสิ่งที่อมตะจะดรอปมากกว่าที่จะจำความทรงจำของเขา หมุนหอกของเขาและยิงลูกบอลสายฟ้าของเขา


Pang-!


“เข้ามาสิ เนื่องจากเราไม่มีเวลาแล้ว”


เช่นนั้น ผู้อมตะได้คำราม


 


เจ้ามนุษย์ต่ำต้อย ข้าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจว่าการดำรงอยู่ของเจ้านั้นไร้ค่าแค่ไหน

 


ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นจบลง ฮูนี่ย์และเอียนรวมถึงผู้อมตะพุ่งเข้าหากันในเวลาเดียวกันและคาโนเอลเข้าร่วมการต่อสู้ในขณะที่ศึกษาสถานการณ์อย่างลับๆ


Bang- Ba-bang-!


ผู้อมตะบล็อกเวทมนตร์แห่งความมืดที่ฮูนี่ย์ยิงออกมาด้วยการเคลื่อนไหวด้วยมือเพียงข้างเดียว กางมือออกไปบนอากาศในขณะที่เขาเริ่มร่ายคาถาอัญเชิญออกมา


 


สิงห์ วิญญาณแห่งโลก ตอบสนองต่อการเรียกของราชาแห่งความมืด!

 


เมื่อคำพูดของเขาเสร็จสิ้น พลังงานสีม่วงเริ่มปะทุขึ้นที่ต่างๆ บนแผนที่มืดดำและในจุดนั้นเงาดำหนึ่งหรือสองตนปรากฏขึ้น


และเอียนซึ่งค้นพบสิ่งนั้น พูดกับฮูนี่ย์ด้วยการแสดงออกที่น่าสนใจ


“โอ้ โครงกระดูกนั้นคล้ายถ่านหินที่นายอัญเชิญมาจากผู้อมตะ”


โครงกระดูกที่ฮูนี่ย์อัญเชิญนั้นแตกต่างจากโครงกระดูกสีขาวที่นักเวทย์มนตร์มืดคนอื่นๆอัญเชิญเมื่อมันเป็นสีดำและเอียนก็รู้สึกทึ่งเสมอ


ฮูนี่ย์ขมวดคิ้วขณะที่เขาตอบกลับ


“ถ่านหิน? นายเคยเห็นถ่านหินที่เรียบและมันวาวเหมือนอย่างนั้นงั้นหรอ?”


“มันเงาหรอ พวกมันแค่ดูไม่แข็งแรง”


แม้ในขณะที่ทั้งสองทะเลาะวิวาท พวกเขาก็ขยับร่างกายอย่างต่อเนื่อง


และหลังจากนั้นไม่นาน ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่เสียงของผู้อมตะและปาร์ตี้ของฮูนี่ย์ที่เปลี่ยนเป็นเสียงระเบิดในสมรภูมิ


ผู้อมตะไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ที่สามารถเผชิญหน้าได้อย่างผ่อนคลาย


จุดที่ลำบากที่สุดเกี่ยวกับผู้อมตะคือแม้ว่าพวกเขาจะต้องดิ้นรนและลดพลังชีวิตของเขา หากเขาดูดซับอันเดดที่เขาอัญเชิญออกมา เขาก็ฟื้นพลังชีวิตอีกครั้ง


นี่เป็นสกิลที่นักเวทย์มนตร์มืดหลายคนมี แต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนของอันเดดที่นักเวทย์มนตร์มืดสามารถอัญเชิญได้


เพราะในกรณีนี้ มันไม่ได้เป็นสกิลที่พวกเขาสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ไม่จำกัด ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่ผู้อมตะนั้นแตกต่างกัน


ผู้อมตะอัญเชิญอันเดดอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีที่สิ้นสุดไม่ว่าพวกเขาจะฆ่าพวกเขาออกไปมากเพียงใดและด้วยเหตุนี้ฮูนี่ย์และเอียนก็ทรมานอย่างมาก


“ไม่สิ เวรเอ้ย ถ้าเป็นอย่างนี้ จะฆ่าเขาได้ยังไงล่ะ?”


เมื่อฮูนี่ย์บ่น เอียนตอบกลับสั้นๆ


“ไม่ใช่ว่าทั้งหมดนั้นคือค่าประสบการณ์หรือไง?”


“…นายจริงจังเกินไปแล้ว”


เอียนเหลือบมองไปที่แถบพลังชีวิตของผู้อมตะ


เขาฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่โชคดีที่ดูเหมือนว่ามันมีเวลาคูลดาวน์ของความสามารถของเขาเพราะถ้าพวกเขาดูภาพรวม เขาก็รู้สึกว่าพลังชีวิตของเขาลดลงทีละน้อย


‘อึก ถ้าเราขาดแม้แต่การสร้างความเสียหายเพียงนิดเดียว เราจะไม่สามารถฆ่าเขาได้เลย’


หากจำนวนความเสียหายที่สร้างโดยปาร์ตี้ของเอียนนั้นน้อยกว่าค่าพลังชีวิตที่ฟื้นฟูที่ผู้อมตะดูดซับจากอันเดดนั้น ผู้อมตะจะคงสภาพพลังชีวิตไว้เต็ม


เอียนซึ่งจดจ่อกับความคิดทั้งหมดของเขาในขณะที่เขาต่อสู้กับผู้อมตะ ทันใดนั้นก็ส่งข้อความถึงฮูนี่ย์


 


เอียน : เฮ้ ฮูนี่ย์ นายยังมีความสามารถที่นายเคยใช้กับฉันมานานแล้วในช่วงลีกหน้าใหม่ใช่มั้ย?

 


ฮูนี่ย์ตกตะลึงเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบกลับอย่างสงบทันที


 


ฮูนี่ย์ : นายพูดถึงอะไร?

เอียน : อันนั้นน่ะ ที่เป็นสกิลสะท้อนความเสียหาย

ฮูนี่ย์ : อ่อ การแก้แค้นแห่งความตายงั้นหรอ?

 


Pang-!


เอียนรีบหลบลำแสงสีม่วงที่พุ่งมาที่พื้นและส่งข้อความอีกครั้ง


 


เอียน : ใช่ นั่นแหละ

 


ครู่หนึ่งดวงตาของทั้งสองคนสบกันชั่วครู่และในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าใจว่าพวกเขาต้องการการเคลื่อนไหวแบบใด


เอียนรีบสั่งคำสั่งให้ไลกับคาร์เซอุส


“คาร์เซอุส ถอยหลังมานิดหน่อยและไลไปกับฉัน”


จนถึงตอนนี้ คาร์เซอุสซึ่งพลังชีวิตและการป้องกันดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน มันกำลังเล่นบทบาทของผู้สร้างความเสียหาย โจมตี แท้งค์ อยู่ด้านหน้า แต่เอียนก็ดึงเขากลับมาอย่างกล้าหาญ


และสัตว์เลี้ยงของเขาก็เคลื่อนไหวตามคำสั่งของเอียนทันทีโดยไม่ต้องสงสัยเลย


 


รับทราบนายท่าน

ตามประสงค์

 


เอียนและไลรีบวิ่งไปที่ด้านใดด้านหนึ่งของผู้อมตะและฮูนี่ย์สั่งโครงกระดูกของเขากลับมา ขณะที่เขาส่งข้อความสั้นๆถึงเอียน


 


ฮูนี่ย์ : นายสามารถโจมตีครั้งสุดท้ายได้ใช่ไหม?

เอียน : แน่นอน!

 


สกิลการล้างแค้นแห่งความตายนั้นเป็นสกิลที่โกงอย่างมากที่จะส่งกลับความเสียหายที่ผู้รับได้รับกลับไปให้ผู้โจมตี


อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงไม่มีนักเวทย์มนตร์มืดจำนวนมากที่ใช้สกิลนี้ในการต่อสู้จริง


‘ด้วยการควบคุมของฮูนี่ย์ เขาอาจจะกะเวลาที่ถูกต้องได้ใช่ไหม?’


การแก้แค้นแห่งความตายใช้เวลาสั้นอย่างมาก แม้จะเป็นวินาทีที่สั้นเพราะมันจะต้องใช้ในช่วงเวลาที่แน่นอน เมื่อความเสียหายได้รับการจัดการเพื่อให้เอฟเฟกต์สามารถใช้งานได้ มันเป็นสกิลขี้จุกจิก


ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้รับความเสียหายเสียชีวิตในการโจมตีครั้งเดียวเอฟเฟกต์สกิลจะไม่ถูกเรียกใช้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถใช้มันกับสัตว์เลี้ยงของเขาได้จนถึงปัจจุบัน


เนื่องจากโครงกระดูกของฮูนี่ย์พังโดยไม่สามารถทนการโจมตีของผู้อมตะได้แม้แต่ครั้งเดียว


 


ฮ๊ากกก! เจ้ามนุษย์ดูเหมือนว่าเจ้าจะสูญเสียความกลัวไปทั้งหมดซะแล้ว!

 


ในขณะที่มองเอียนและไลที่พุ่งเข้าหาเขา ผู้อมตะได้เหวี่ยงมือทั้งสองของเขาที่ไหม้เป็นสีม่วง


อย่างไรก็ตาม ไลและเอียนที่เชี่ยวชาญเรื่องการสะท้อนกลับ หลีกเลี่ยงการโจมตีของเขาอย่างง่ายดาย เนื่องจากพวกเขาสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องในช่องว่างของผู้อมตะ


‘ยังหรอก ฉันต้องการการโจมตีที่แรงกว่านี้’


ในไคลัน เมื่อผู้เล่นใช้หนึ่งรูปแบบการโจมตี AI ของมอนสเตอร์ระดับบอสได้ศึกษารูปแบบนั้น


เพราะในกรณีนี้ มันเป็นเรื่องยากที่จะให้เขาใช้วิธีการโจมตีระดับความแรงที่สูงขึ้นและเอียนต้องการใช้การแก้แค้นแห่งความตายกับสกิลที่แรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


จากนั้น การเคลื่อนไหวของผู้อมตะเริ่มเปลี่ยนไป


Kooooh-!


เอียนซึ่งจับพลังความมืดที่เริ่มก่อตัวขึ้นบนปลายของคฑา ส่งสัญญาณสั้นๆไปถึงฮูนี่ย์และฮูนี่ย์พยักหน้าขณะที่เขาเตรียมพร้อมที่จะใช้เวทมนตร์


‘เวลาร่ายคือ 1.5 วินาที เนื่องจากมันใช้เวลาอีกประมาณ 0.5 วินาทีสำหรับการเรียกใช้…’


เอียนเห็นโอกาสและพุ่งไปหาคฑาที่ของผู้อมตะและราวกับว่าเขากำลังรอคอยอยู่เปลวไฟสีฟ้าก็เปล่งประกายออกมาจากคฑา


 


คุฮาฮ่า! ตายซะเจ้ามนุษย์!

 


และในเวลาเดียวกันนั้นแสงหนึ่งดวงที่มาจากปลายมือของฮูนี่ย์ที่พุ่งออกมา พุ่งเข้าหาเอียนอย่างรวดเร็ว 

 

 


ตอนที่ 192

 

Bang-!


 


ท่านได้รับความเสียหายคริติคอลจากราชาแห่งความมืดผู้อมตะ!

พลังชีวิตของท่านลดลง 86,772 หน่วย

 


เอียนรับการโจมตีของผู้อมตะด้วยร่างกายของเขา


ในขณะที่เขารับความเสียหายจำนวนมหาศาลจากเกือบ 100,000 หน่วยจากการโจมตีหนึ่งครั้ง พลังชีวิตของเอียนลดเกือบต่ำสุด


‘เฮ้อ ฉันประหลาดใจที่ความเสียหายนั้นมากกว่าที่ฉันคาดไว้ โชคดีที่ฉันยังไม่ตาย’


 


คุฮาฮาฮ่า เจ้าโง่!

 


อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่านั่นยังไม่จบ


สกิลการแก้แค้นแห่งความตายของฮูนี่ย์ประสบความสำเร็จการเรียกใช้ในเวลาที่เหมาะสม


พลังงานสีดำปะทุออกมาจากร่างของเอียน


Pung-!


ผู้อมตะแสดงท่าทางงุนงงเป็นครั้งแรกตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น


 


นะ นี่…!

สกิลของผู้เล่นคันจิฮูนี่ย์ ‘การแก้แค้นแห่งความตาย’ ได้ถูกใช้งานและความเสียหาย 562% ที่ได้รับย้อนกลับไปหาศัตรู

ราชาแห่งความมืดผู้อมตะได้รับความเสียหาย 487,658 หน่วย!

 


หลังจากเห็นจำนวนของความเสียหายที่โผล่ขึ้นมาด้วยข้อความระบบ เอียนอ้าปากค้างก่อนที่จะรู้สึกตัว


‘ว้าว นี่มันบ้าไปแล้ว! 480,000? นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นความเสียหายมากกว่า 200,000 ผ่านการโจมตีครั้งเดียว!’


ไม่ว่ามอนสเตอร์ระดับบอสจะชื่ออะไร ในขณะที่พวกมันสร้างความเสียหายได้เกือบ 500,000 หน่วยในทันที เขาก็สูญเสียพลังชีวิตไปครึ่งหนึ่ง


และจากผลกระทบนั้น ร่างกายของผู้อมตะจึงเซ


เอียนรีบออกคำสั่งไปยังคาร์เซอุสและไลและสั่งให้พวกเขาจัดการการโจมตีที่ตามมา ในขณะที่เขาถอยกลับเล็กน้อย


เขาประสบความสำเร็จในการเรียกใช้การแก้แค้นแห่งความตาย แต่ตามที่คาดไว้ มันเสี่ยงอย่างมากที่พลังชีวิตเหลือน้อย


ในขณะที่มองที่ฮูนี่ย์ซึ่งก้าวไปข้างหน้าและจัดการกับอันเดดของเขา เอียนก็พึมพำกับตัวเอง


‘ฉันไม่คิดว่าปัจจัยการเพิ่มความเสียหายของเขาจะมาถึงจุดนี้ในช่วงลีกหน้าใหม่ ดังนั้นเขาต้องยกระดับความสามารถของเขาเป็นตันตั้งแต่นั้นมา’


จากสิ่งที่เอียนจำได้ เมื่อเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากการแก้แค้นแห่งความตายในช่วงลีกหน้าใหม่ปัจจัยการเพิ่มความเสียหายนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของจำนวนเดิม


เขาเพิ่มพลังของสกิลได้เกือบสองเท่า


‘ถ้าฉันจบด้วยการแข่งขัน PVP กับเขาในภายหลัง อย่างน้อยฉันควรระมัดระวังสกิลนี้’


ในขณะเดียวกัน ผู้อมตะที่เหลือพลังชีวิตแม้แต่ 10% ก็เริ่มการต่อสู้ครั้งสุดท้ายและในขณะที่หลีกเลี่ยงสกิล AoE ของผู้อมตะที่พุ่งออกมาในทุกทิศทางโดยการหลบไปที่ต่างๆ เขาก็ฟื้นฟูพลังชีวิต


เอียนมีสกิลการปฐมพยาบาลของเขาที่เขายกระดับความชำนาญอย่างขยันขันแข็งโดยไม่หยุดพักนับตั้งแต่เขาได้เลเวล 10 จนถึงปัจจุบัน


 


ท่านได้ใช้สกิล ‘การปฐมพยาบาล’

พลังชีวิตของท่านจะฟื้นฟู 1.25% ต่อวินาทีด้วยการฟื้นฟูพลังชีวิต 537 หน่วย เป็นระยะเวลา 30 วินาที

 


เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าเมื่อเขาเรียนรู้สกิลการปฐมพยาบาลเป็นครั้งแรกซึ่งอัตราการฟื้นฟูร้อยละ 0.2 และอัตราการฟื้นฟูอยู่ที่ประมาณ 10 หน่วย เขาได้พัฒนาไปอย่างมาก


ยิ่งไปกว่านั้น เพราะเอียนยังมีผู้ติดตามอาชีพนักบวชอีกสองคน พลังชีวิตของเขากลับคืนสู่ระดับสูงสุดหลังจากนั้นไม่นาน


“มาจบกันเถอะ!”


เอียนซึ่งเสร็จสิ้นการฟื้นฟูของเขา เหวี่ยงหอกของเขาเมื่อเขาพุ่งเข้าหาผู้อมตะอย่างรวดเร็ว


อัศวินแห่งความตายที่ผู้อมตะอัญเชิญได้บล็อคทางของเอียน แต่เอียนไม่สนใจพวกมันขณะที่เขาหลบพวกมัน


‘เนื่องจากมันจะจบ หากว่าเราฆ่าเจ้านี่ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม!’


อัศวินแห่งความตายที่ผู้อมตะอัญเชิญจะแข็งแกร่งกว่าอัศวินแห่งความตายที่นักเวทย์มนตร์มืดอัญเชิญ


แม้ว่าจะเป็นเอียน พวกมันมีพลังการต่อสู้ที่ดีพอที่จะเกินกว่าที่เขาจะสามารถต่อสู้ได้มากกว่าสองหรือสามตัว


ดังนั้นหากเขาเสียเวลาขณะเผชิญหน้ากับอัศวินแห่งความตาย ผู้อมตะจะฟื้นฟูพลังชีวิตของเขา มันจะกลายเป็นเรื่องยาก


“คาร์เซอุส เตรียมพ่นลมหายใจ!”


 


รับทราบครับนายท่าน

 


หลังจากคาร์เซอุสเหวี่ยงหางยักษ์ของเขาและกำจัดอันเดดที่พุ่งเข้าหาเขา เขาก็เริ่มหายใจเข้า


และผู้อมตะซึ่งเห็นอย่างนั้นรู้สึกถึงวิกฤต


 


เจ้ามังกรน่ารังเกียจ!

 


พลังงานมืดเริ่มวนไปรอบๆร่างกายของผู้อมตะและนั่นก็กลายเป็นเกราะป้องกันเมื่อมันห่อหุ้มร่างกายของเขา


และผู้อมตะกางมือออกไปยังอัศวินแห่งความตายตรงหน้าเขา


ร่างของอัศวินแห่งความตายลอยขึ้นไปบนอากาศ


“ไม่มีทางที่ฉันจะให้มันเกิดขึ้น!”


เอียนซึ่งคิดว่าเขาพยายามดูดซับอัศวินแห่งความตายและฟื้นฟูพลังชีวิตของเขา ขยับร่างกายของเขาพร้อมกันในเวลาเดียวกับไล


Ta-tat!


และการโจมตีของพลังต่อสู้รวมของทั้งสองพุ่งเข้าไปในอัศวินแห่งความตายที่อยู่ในสภาพที่ไม่มีการป้องกัน


Chwa-ra-rak-!


Ba-bang-!


 


พลังแฝงของราชาแห่งความตายผู้อมตะ สกิลดูดพลังชีวิตถูกยกเลิก

 


ขณะที่มองไปยังข้อความระบบที่โผล่ขึ้นมา ฮูนี่ย์ยกนิ้วให้


“สวย!”


หากพวกเขาช้าแม้แต่น้อย สกิลนั้นก็จะถูกเรียกใช้และพลังชีวิตของผู้อมตะก็จะได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งไว้ได้


หากระยะห่างระหว่างพวกเขานั้นยิ่งมากขึ้นไปอีกเล็กน้อยหรือหากความเร็วในการตอบสนองช้าลงนิดหน่อยก็จะเกิดสถานการณ์ที่น่าท้อใจขึ้นมา


 


Keuaaack-!

 


ผู้อมตะซึ่งรู้สึกถึงบางสิ่งแปลกๆ ตาทั้งสองเบิกโพลงขณะที่เขาตะโกนออกมาอย่างน่าสยดสยอง


 


Keuaaohh!

 


คาร์เซอุสซึ่งบินเข้ามาใกล้เพื่อที่เขาจะได้เดินไปใกล้ๆ ปล่อยลมหายใจอันทรงพลังของเขาออกมาทางจมูกของเขา


Hwa-reu-reuk-.


พลังแห่งการทำลายล้างจากลมหายใจซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมังกรและโดยพื้นฐานแล้วเหมือนกับการเคลื่อนไหวที่โหดร้ายสำหรับพวกเขานั้นช่างน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง


 


สัตว์เลี้ยง ‘คาร์เซอุส’ ได้ใช้พลังแฝง ลมหายใจของมังกร

สัตว์เลี้ยง ‘คาร์เซอุส’ ได้สร้างความเสียหายคริติคอลให้แก่ราชาแห่งความมืดผู้อมตะ

พลังชีวิตของราชาแห่งความมืด ‘ผู้อมตะ’ ได้ลดลง 157,989 หน่วย

 


Chiiiik-!


ผู้อมตะซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานจากลมหายใจของมังกรสีม่วง ละลายลงตรงจุดที่เขายืน


 


Keuaaoh!

 


ขณะที่คาร์เซอุสกระพือปีกอันใหญ่โตของเขา เขาคำรามไปบนท้องฟ้าและรวมถึงผู้อมตะ อันเดดทั้งหมดที่เขาอัญเชิญได้กลายเป็นควันขณะที่พวกมันหายไปในอากาศ


 


คิดว่า… ฉันจะต้องทนทุกข์ทรมาน…

 


และเสียงระบบแจ้งเตือนที่เอียนและฮูนี่ย์รออยู่ดังขึ้น


กริ๊ง-


 


ท่านประสบความสำเร็จในการสังหารวิญญาณของ ‘ราชาแห่งความมืดผู้อมตะ’

ระบบมิติแห่งความมืดพังทลายลง

 


เมื่อข้อความโผล่ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ความมืดที่ล้อมรอบพวกเขาในทุกทิศทางค่อยๆเริ่มที่จะลอยขึ้นและได้เห็นรูปแบบของชั้นที่ 100 ของยอดที่พวกเขาเห็นก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในประตูมิติ


อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือวิญญาณที่ย้อมด้วยความมืดที่ลอยอยู่ในจุดที่ประตูมิติอยู่


ฮูนี่ย์และเอียนค่อยๆเข้าหาเขา


 


โฮะโฮะ น่าประหลาดใจยิ่งนัก ข้าคิดว่าจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างช่วยเหลือไม่ได้

 


การต่อสู้ค่อนข้างเจ็บปวดที่จะบอกว่าช่วยไม่ได้ แต่ก็ยังเป็นความจริงที่ว่าพวกเขาทำสิ่งต่างๆได้ง่ายกว่าที่คาดไว้ ทั้งสองคนพยักหน้า


ฮูนี่ย์พูดกับผู้อมตะ


“ฮ่าฮ่า ถ้างั้นท่านยอมรับผมแล้วใช่ไหม?”


ขณะที่มองไปยังฮูนี่ย์ซึ่งสวมบทบาทอีกครั้ง เอียนสะดุ้งเล็กน้อย


‘ถึงอย่างนั้น ฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มชินกับสิ่งนี้แล้ว…’


ขณะที่เอียนส่ายหัว การสนทนาระหว่างทั้งสองคนดำเนินต่อไป


 


ใช่ เจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสานต่อพลังของข้า

 


“ฮ่าฮ่า ผมจะเป็นราชาแห่งความมืดและสร้างชื่อผู้อมตะให้รู้จักไปอย่างกว้างขวาง”


 


ดีมาก เจ้ามนุษย์ ข้าชอบอย่างนั้น ในฐานะราชาแห่งความมืด อย่างน้อยที่สุดเจ้าจะต้องมีจิตวิญญาณ ข้าจะคาดหวังจากเจ้ามาก

 


ผู้อมตะกางมือบางๆของเขาไปยังฮูนี่ย์และพลังงานมืดสนิทที่เกิดขึ้นที่ปลายนิ้วของเขาเริ่มที่จะโอบรอบร่างของฮูนี่ย์


Whoong-!


เช่นนั้น ข้อความระบบดังขึ้น


กริ๊ง-


 


ท่านประสบความสําเร็จในการเคลียร์เควสต์ ‘ราชาแห่งความมืดผู้อมตะ’ (เควสต์เชื่อมลับ)

ระดับการเคลียร์ : S

ท่านได้รับชื่อเสียง 300,000 หน่วย

ท่านได้รับไอเทม ‘พลังแห่งผู้อมตะ’

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 82.5 ล้านหน่วย

ท่านได้เพิ่มเลเวล ท่านถึงเลเวล 167

ท่านสามารถเปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพลับ ‘ราชาแห่งความมืด’ ท่านจะเปลี่ยนอาชีพหรือไม่?

 


ฮูนี่ย์ซึ่งตรวจสอบข้อความของระบบที่กระจายออกมาต่อหน้าของเขาได้หัวเราะออกมาดังๆ


“คุฮาฮาฮ่า!”


เอียนซึ่งอยู่ถัดจากเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย


“รีบๆทำเควสต์ให้เสร็จ นายต้องจบมันเพื่อที่ฉันจะได้รับรางวัลด้วย เข้าใจไหม?”


โฮสต์หลักของเควสต์จำเป็นต้องเสร็จสิ้นการรับรางวัลเควสต็ทั้งหมดเพื่อให้ผู้เล่นที่แชร์เควสต์ได้รับรางวัลด้วย


ฮูนี่ย์ซึ่งเดาะลิ้นเมื่อเอียนดุ พูดอีกครั้งหนึ่ง


“จิ๊ หยุดทำลายบรรยากาศได้แล้ว เมื่อการดื่มด่ำเป็นสิ่งที่ดี “


หลังจากมองที่ผู้อมตะครั้งหนึ่งซึ่งเขายังคงยืนนิ่งอยู่ต่อหน้า ฮูนี่ย์ได้พูดต่อไป


“ผมจะเปลี่ยนอาชีพเป็นราชาแห่งความมืด”


ในขณะเดียวกันเมื่อคำพูดเหล่านั้นสิ้นสุดลงพลังงานแห่งความมืดที่ห่อหุ้มร่างกายของฮูนี่ย์สร้างพายุทอร์นาโดที่ดุเดือดขึ้นมา เมื่อมันถูกดูดเข้าสู่หัวใจของเขา


Whoong-!


 


ท่านเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จจากอาชีพลับ ‘นักเวทย์มนตร์แห่งความมืด’ เป็นอาชีพระดับที่สูงกว่า ‘ราชาแห่งความมืด’

 


และหลังจากนั้นไม่นาน


ต่อหน้าของผู้เล่นทั้งหมดที่เข้าสู่ระบบในทวีปกลาง ข้อความระบบหนึ่งอันโผล่ขึ้นมาเหมือนเมื่อตอนรีเมียร์เปลี่ยนอาชีพเป็นราชาแห่งเปลวเพลิง


 


ตำนานที่สองของทวีปกลางได้ตื่นขึ้น

 


* * *


 


เมื่อฮูนี่ย์ได้รับรางวัลของเขาเสร็จแล้ว เวลาที่น่าพอใจในการรับรางวัลของพวกเขาก็มาถึง เอียนและคาโนเอลซึ่งเคลียร์เควสต์กับเขา


“ฮาฮ่า ถึงเวลาเปิดกล่องที่ไม่ได้เปิดมานานแล้วสินะ?”


หลังจากตรวจสอบ ‘กล่องอุปกรณ์ซัมมอนเนอร์ระดับ Legendary’ ซึ่งอยู่ในมุมหนึ่งของคลัง เอียนก็ยิ้มกว้าง


และเขาก็หันหน้าไปทางคาโนเอลซึ่งอยู่ถัดจากเขาด้วย


“เฮ้ เนื่องจากนายก็เป็นซัมมอนเนอร์ นายก็ได้รับกล่องอุปกรณ์ใช่ไหม?”


อย่างไรก็ตาม แตกต่างจากความคาดหวังของเอียน คาโนเอลส่ายหัว


“มะ ไม่ใช่? รางวัลของผมนั้นแตกต่าง”


“ห้ะ?”


เอียนแสดงออกด้วยสีหน้างุนงงและฮูนี่ย์ผู้ไม่เกี่ยวข้องกับซัมมอนเนอร์ก็จ้องไปที่คาโนเอลด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสนใจ


“เอ่อ… ผมได้รับต่างหูของความเป็นผู้นำและผมก็ได้รับเควสต์บางอย่าง”


เอียนถามตามสัญชาตญาณอีกครั้ง


“อะไรนะ? ต่างหูของความเป็นผู้นำ?”


“ใช่ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะดี มันไม่มีคุณสมบัติอะไรแนบมา มันมีเพียงแค่ค่าความเป็นผู้นำ 1,500 หน่วย”


“…”


คำว่า ‘ส่งมอบ’ เพิ่มขึ้นมาในหัวของเอียน แต่เขาไม่ลืมความมีเหตุผลของเขาในขณะที่เขาพยักหน้า


“ฉัน… เข้าในแล้ว ถ้างั้นเควสต์อะไรล่ะ?”


คาโนเอลยิ้มอย่างสดใสขณะที่เขาพูด


“อ่อ เควสต์? ผมจะแชร์มันกับนายด้วย รอเดี๋ยวนะ!”


“มะ ไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้…!”


เอียนซึ่งงุนงงได้โบกมือ แต่การแชร์ของคาโนเอลนั้นเร็วกว่าเขาไปก้าวหนึ่ง


คาโนเอลแชร์เควสต์กับทั้งเอียนและฮูนี่ย์


กริ๊ง-


 


ประสงค์ของนักฝึกมังกรโอ๊คเลย์ (เควสต์เชื่อมลับ)

หนึ่งพันปีก่อนในหุบเขาพริลาเนียที่ล้อมรอบทางตอนเหนือของทวีปมะละกา รังของนักฝึกมังกรอยู่ที่นั่น


อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของการต่อสู้นองเลือดกับกองทัพของมังกรชั่วร้ายคาลิฟาร์ พวกมันทำลายล้างและไม่เหลือนักฝึกมังกรคนใดคนหนึ่งที่อยู่ในโลกนี้


ไปตามหาวิญญาณของโอ๊คเลย์ซึ่งหลงทางอยู่ในทวีปมะละกา (ทวีปทางเหนือ) และผ่านการทดสอบของเขา


ระดับความยากเควสต์ : SSS


เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับโดยวิญญาณแห่งผู้อมตะ


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล : ชื่อเสียง 200,000 หน่วย กล่องอุปกรณ์ซัมมอนเนอร์ระดับ Legendary


(รางวัลอาจจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับอาชีพของผู้เล่นที่เข้าร่วมในการทำเควสต์)


 


ดวงตาของเอียนโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นหน้าต่างเควสต์


‘ห้ะ? นี่เป็นภารกิจที่คุ้นเคยเล็กน้อย’


อย่างไรก็ตาม ต่างจากนั้น ทันทีที่เขาเห็นรางวัลเดียวกันกับเควสต์ของผู้อมตะเขาตัดสินใจที่จะยอมรับเควสต์นี้


“ฉันยอมรับเควสต์นี้!”


อย่างไรก็ตาม เอียนวางแผนที่จะเกาะคาโนเอลเช่นกัน


 


นี่เป็นเควสต์ที่ท่านเคยทำไปแล้วก่อนหน้านี้

ท่านล้มเหลวในการยอมรับเควสต์ที่แชร์มา

 


“เวรเอ้ย…”


นอกจากหัวใจที่ผิดหวังของเขา เอียนคิดถึงโอ๊คเลย์ซึ่งไม่ผิดที่เขาบ่น


“ฮึ่ม ตาแก่นั่น ระดับความยากก็เปลี่ยนเป็น SSS ดังนั้นมันมากเกินไปที่จะให้ฉันทำอีกครั้งใช่ไหม?”


ในขณะเดียวกัน ฮูนี่ย์ซึ่งอ่านเควสน์ได้ตาเบิกโพลงขณะที่เขาหันหน้าไปทางคาโนเอล


“พี่ พี่ได้รับแจ็คพอตแล้ว!”


คาโนเอลถามกลับด้วยความงุนงง


“อืมม? จริงหรอ? มันเป็นเควสต์ที่ดีอย่างน่าประหลาดใจงั้นหรอ?”


ฮูนี่ย์เริ่มอธิบายกับคาโนเอลซึ่งถามด้วยท่าทางที่บริสุทธิ์


“อ่อพี่ ผมบอกพี่แล้วให้พูดอย่างสบายๆกับผม”


“ฉะ ฉันหรอ?”


ฮูนี่ย์พูดต่อไปอีกครั้งกับคาโนเอลที่ทำสีหน้าขมขื่น


“พี่ พี่ไม่ได้เข้าสู่ชุมชนไคลันเมื่อเร็วๆนี้ใช่ไหม?”


“ใช่ ไม่สิ ใช่ ฉันไม่คิดอย่างนั้น”


“ถ้าพี่เคลียร์เควสต์เชื่อมนี้ นายจะสามารถได้รับอาชีพลับด้วยเช่นกัน มันเป็นเควสต์ของโอ๊คเลย์ซึ่งเป็นหนึ่งในสองวีรบุรุษของทวีปมะละกา”


“โอ้ ฉันไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่มันเท่ห์ไปเลย!”


“…”


ในขณะที่ฟังการสนทนาของทั้งสองคนที่ฟังดูเหมือนว่าพวกเขามีสกรูหลวมที่ไหนสักแห่ง เอียนเลียริมฝีปากของเขา


“อึก ช่างเป็นอะไรที่แย่ที่ฉันต้องละทิ้งกล่องอุปกรณ์และชื่อเสียงไป 200,000 หน่วย แน่นอนว่ามันจะเป็นเควสต์ที่ให้ค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาล”


เอียนบ่นขณะที่เขาถามผู้อมตะซึ่งให้เควสต์


“เฮ้ แต่ว่าตาแก่โอ๊คเลย์บอกฉันครั้งสุดท้ายว่าเขาจะวางกรรมของเขาลงและจากไป เขายังอยู่ในมะละกางั้นหรอ?”


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ผู้อมตะซึ่งแสดงสีหน้างุนงงได้ถามกลับ


 


หืมม… จะ เจ้ารู้จักโอ๊คเลย์ได้ยังไง?

 


เมื่อผู้อมตะพูด เอียนอธิบายการเผชิญหน้าของเขากับโอ๊คเลย์อย่างคร่าวๆและผู้อมตะก็แสดงออกด้วยความประหลาดใจ


 


โฮ่ ไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อเจ้ารับมือกับมังกร ข้าคิดว่าเจ้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่… ลองมาคิดดู ข้ารู้สึกถึงพลังของอิเรียลจากเจ้าเช่นกัน

 


เอียนแสดงท่าทางราวกับว่าเขาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ เอียนก็กระพริบตาทั้งสองข้าง


‘ใครคืออิเรียลวะนั่น? ฉันรู้สึกเหมือรเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง…’


ผู้อมตะซึ่งหยุดอยู่ครู่หนึ่ง จ้องที่ดวงตาทั้งสองของเอียนขณะที่เขาพูดอีกครั้ง


 


ดูเหมือนว่าเจ้าจะต้องรับคำขอจากข้านะ เจ้ามนุษย์

 


“ห้ะ?”


เอียนรู้สึกงุนงงกับคำสั่งที่ฉับพลันว่าเขามีคำขอ แต่เขาก็ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจมากขึ้นหลังจากได้เห็นเควสต์ที่โผล่ขึ้นมา


กริ๊ง-


 


จุดเริ่มต้นของปีศาจ (ลับ)

ราชาแห่งความมืดผู้อมตะกล่าวว่าเขาเริ่มรู้สึกถึงการปรากฏตัวของปีศาจในที่ต่างๆและในทวีปตอนกลางในขณะนี้


เพื่อให้โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อพันปีก่อนไม่ซ้ำรอยต้องมีการค้นพบสาเหตุของมันก่อนและความแข็งแกร่งของวีรบุรุษของทวีปจะต้องถูกรวมเข้าด้วยกัน


อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่วีรบุรุษทุกคนที่ปรากฏตัวและตอนนี้เป็นเวลาสำหรับรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปีศาจ


ไปหาอิเรียลผู้ดูแลป่าแห่งความรักและได้รับข้อมูลจากเธอ


ระดับความยาก : S


เงื่อนไขเควสต์ : ซัมมอนเนอร์ที่มีจิตวิญญาณของเทพมังกร


มาสเตอร์การอัญเชิญระดับ 1


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล : ?


*นี่คือเควสต์ที่เกี่ยวข้องกับ ‘เงาของมังกรชั่วร้ายคาลิฟาร์ (ลับ)’ เควสต์ที่ท่านมีอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 


ตอนที่ 193

 

เควสต์ผู้อมตะและราชาแห่งความมืด


คนที่ได้รับผลกำไรมากที่สุดจากเควสต์นี้คือคาโนเอล


เนื่องจากคาโนเอลได้รับเควสต์วีรบุรุษของทวีปซึ่งคนอื่นๆต้องทนทุกข์ทรมานอย่างสุดขีดเพื่อจะได้รับเพียงแค่ของเล็กๆน้อยๆซึ่งเป็นเควสต์ของฮูนี่ย์


ถ้าเป็นเช่นนั้น มันเป็นเรื่องที่ไม่แม้แต่จะสูญเสียในส่วนของเขาที่จะใช้โชคและซื้ออุปกรณ์ให้ฮูนี่ย์ตามที่เขาต้องการ


“คิ ฮูนี่ย์ ฉันจะกลายเป็นเหมือนคุณปู่ที่อยู่ในวิดีโอชุมชนนั้นหรือไม่?”


เมื่อคาโนเอลพูด ฮูนี่ย์ได้ตอบกลับ


“อาจจะไม่หรอกมั้ง? นักฝึกมังกรงั้นหรอ อะไรที่เท่ห์อย่างนั้น พี่เอียนไม่อิจฉาใช่ไหม?”


เมื่อทั้งสามคนสนิทกันมากในขณะที่ทำเควสต์นี้พวกเขาจึงเรียกกันว่าพี่และน้อง ขณะที่พวกเขาคุยกันอย่างสบายๆ


มันแปลกเล็กน้อย แต่เอียนก็ไม่ได้เกลียดทั้งสองคน


ยิ่งไปกว่านั้น เอียนยืนยันว่าพวกเขายังคงล่าต่อไปจนกว่าบัฟผู้ค้นพบครั้งแรกของดันเจี้ยน ‘ยอดเขาแห่งความมืด’ จะสิ้นสุดลง ความสัมพันธ์ของพวกเขาซึ่งกันและกันเพิ่มขึ้นมากขึ้น


“ฉะ ฉันไม่อิจฉาหรอก ฉันพอใจกับอาชีพลับนี้แล้ว”


เมื่อเอียนพูด ฮูนี่ย์พยักหน้า


“ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ว่านายอาจจะมีอาชีพลับที่น่ามหัศจรรย์ เนื่องจากถ้าไม่เป็นอย่างนั้น การพัฒนาที่ผิดปกตินี้จะไม่สมเหตุสมผล”


เอียนซึ่งกวากล้างกองทัพอันเดดเลเวลสูงที่อยู่ภายในยอดเขาออกไป ตอนนี้ก็ผ่านมาถึงเลเวล 170 แล้ว


เขามีเลเวลที่สูงกว่านักเวทย์มนตร์มืดซึ่งเป็นอาชีพที่รู้จักกันในเรื่องความเร็วในการเพิ่มเลเวลอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับของอาชีพนั้น


คำว่าผิดปกติทำให้รู้สึกสมเหตุสมผลเมื่ออธิบายถึงความเร็วการเจริญเติบโตนี้


ทั้งสามคนมาถึงที่เมืองไพโรหลังจากนั้นไม่นาน


“เฮ้อ มันเป็นครั้งแรกที่ฉันห่างจากเมืองไปสักพักหนึ่ง ฉันต้องจัดการบางอย่างที่ปราสาทของลอร์ดหลังจากที่ฉันไปขายไอเทม นายทั้งสองคนจะทำอะไร?”


เมื่อเอียนถาม คาโนเอลมองไปที่ฮูนี่ย์เล็กน้อยและฮูนี่ย์ตอบกลับขณะที่เขาแสยะยิ้ม


“ฉันก็จะไปซ่อมแซมอุปกรณ์เล็กน้อยและจากนั้นตามพี่คาโนเอลไปทวีปทางเหนือ เขาเป็นพี่ที่น่าสงสาร ดังนั้นราชาแห่งความมืดคนนี้ควรจะไปช่วยเขา”


“ใช่เลย…”


เนื่องจากเป็นเควสต์ที่เอียนได้ดำเนินการไปแล้ว เขาจึงไม่สามารถรับข้อเสนอแชร์เควสต์ได้ แต่ฮูนี่ย์ก็สามารถรับข้อเสนอการแชร์เควสต์ของคาโนเอลได้


เมื่อเป็นอย่างนั้น ค่าที่ว่าเขาจะช่วยก็ไม่ได้ผิด แต่มันเป็นกรณีที่ฮูนี่ย์ก็ได้รับกำไรเช่นกัน


“อย่างไรก็ตาม ไว้เจอกันที่หลัง”


“โอเค!”


และเมื่อเอียนกำลังจะหันกลับไป คาโอเอลลังเลขณะที่พูดกับเอียน


“พี่เอียน ผมรู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริง ต้องขอบคุณพี่ ผมคิดว่าในที่สุดผมก็ได้เรียนรู้สองสามสิ่งในตอนนี้ พี่เป็นครูของผมอย่างแท้จริง”


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เอียนยิ้ม


ในขณะที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ เอียนจู้จี้คาโนเอลโดยไม่หยุดพัก


‘ฉันคิดอย่างจริงจังว่าฉันกำลังพัฒนาเซลล์มะเร็งในขณะที่ดูคนหัวทึบนี้’


ในท้ายที่สุด เขาไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับทางกายภาพของเขาเช่นการควบคุมหรือความเร็วในการตอบสนอง แต่เขาได้พัฒนาส่วนที่ใช้ได้จริง


‘ถึงอย่างนั้น เนื่องจากอย่างน้อยเขาก็สามารถใช้ทักษะได้พอประมาณแล้วตอนนี้’


เอียนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


“แน่นอน เมื่อเราเจอกันครั้งหน้า ถ้านายยังเป็นแบบนี้อยู่อีก ฉันจะขับไล่นายเจ้าหนู”


“อะ โอเค…”


ในตอนท้ายของการถากถากสักครู่ เอียนซึ่งแยกทางกับทั้งสองคนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว


‘ต้องขอบคุณเควสต์หอคอยอาชีพที่ฉันกลับมาทำอีกครั้ง แต่สิ่งที่ฉันได้รับนั้นยังคงเป็นเควสต์จำนวนมาก’


อย่างแรกเขาได้รับชื่อเสียงและค่าประสบการณ์จำนวนมากและเขาได้รับเควสต์ลับใหม่ที่อยู่นอกเหนือจากนั้น


แม้แต่สิ่งนี้ก็ทำให้การค้าขายทำกำไรได้ แต่ไอเทมที่ออกมาจากกล่องไอเทมระดับ Legendary ค่อนข้างดี


ชื่อของไอเทมนั้นคือ ‘แหวนของจิตวิญญาณแห่งราชา’


มันไม่ได้เพิ่มค่าความเป็นผู้นำของเขาเป็นจำนวนมากเช่นต่างหูแห่งความเป็นผู้นำที่คาโนเอลได้รับ แต่มันมีคุณสมบัติค่าสถานะความผู้นำที่เหมาะสมและที่สำคัญที่สุดคือมีคุณสมบัติที่หอมหวานแนบไว้อยู่


‘เนื่องจากมีค่าความเป็นผู้นำเพียงเล็กน้อยเมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่ามันเป็นไอเทมระดับ Legendary ฉันรู้สึกผิดหวัง แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามคุณสมบัติที่หอมหวานแนบอยู่’


คุณสมบัตินั้นเป็นสิ่งที่ลดการใช้ค่าความเป็นผู้นำของสัตว์เลี้ยงกับความซื่อสัตย์สูงสุดและความสัมพันธ์ 15%


ต้องขอบคุณสิ่งนั้น แม้ว่าจะอัญเชิญคาร์เซอุส เอียนก็สามารถอัญเชิญไล บักค์และฮัลลิได้แล้ว


ถ้าเขาแค่เพิ่มเลเวลหนึ่งหรือสองเลเวล เขารู้สักว่าเขาสามารถแม้แต่อัญเชิญพินแทนที่ฮัลลิ


“เอาล่ะ เราเริ่มทำเควสต์ใหม่กันเถอะ”


หลังจากขายไอเทมของเขาแล้ว ในท้ายที่สุดเอียนก็นำแหวนที่เขาใช้เข้าไปในโรงประมูลและออกจากตลาดการซื้อขาย


ตามที่คาดหวังจากเมืองที่มีการพัฒนาที่เร็วที่สุดและรวมผู้คนในทวีปกลางมากที่สุด ตลาดของเมืองไพโรนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย


เพื่อดำเนินการตามเควสต์ของเขา เอียนจึงเปิดข้อมูลเควสต์อีกครั้งและอ่านอย่างช้าๆ


“ฉันต้องไปหาอิเรียล… แต่ว่าจะไปป่าแห่งความรักอีกครั้งได้ยังไง?”


ป่าแห่งความรักเป็นพื้นที่ที่อยู่เหนือกาลเวลาและอวกาศ


มันเป็นสถานที่ที่การปรับเปลี่ยน ‘เขตข้อมูลที่แตกต่าง’ น่าจะเหมาะสมที่สุด


หลังจากนั้นไม่นานเอียนจำได้ถึงเส้นทางที่จะไปป่าแห่งความรักได้ เขาถอนหายใจออกมา


“เฮ้อ ฉันต้องไปที่หอคอยเวทมนต์ของกริปเปอร์อีกครั้ง”


เพื่อที่จะไปป่าแห่งความรัก เขาต้องช่วยเหลือกริปเปอร์


อย่างไรก็ตามจากนั้นไลซึ่งตามอีกมาได้ถามเขา


 


เจ้านายครับ ก่อนหน้านั้น ทำไมท่านถึงไม่ติดต่อหาเธอก่อน?

 


เมื่อไลพูดคำที่ไม่คาดคิด เอียนถามกลับทันที


“ห้ะ? นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? ฉันจะติดต่อกับอิเรียลได้ยังไง?”


ไลส่ายหัวขณะที่เขาตอบกลับ


 


ก่อนที่ท่านจะออกมาจากป่าแห่งความรัก ผมจำได้ว่าเธอให้ลูกบอลคริสตัลแห่งการสื่อสารกับท่านมาครับ

 


“…!”


เอียนซึ่งเพิ่งจะนึกถึงการมีอยู่ของลูกบอลคริสตัลแห่งการสื่อสาร ปรบมือขณะที่เขาเปิดคลังของเขา


“จริงสิ! ฉันยังมีอันนี้อยู่นิ?”


 


ถูกต้องครับเจ้านาย

 


เอียนดูเหมือนจะได้พบไลที่น่าสรรเสริญในขณะที่เขาลูบหลังหลังของไล


“ฮ่า ไล นายนี่ฉลาดจริงๆ”


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ไลแสดงท่าทางภูมิใจ


อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าไคซาร์จะไม่ชอบบรรยากาศที่เป็นมิตรในขณะที่เขาทำให้เสียด้วยเสียงห้วนๆ


“จากที่ข้าเห็น มันไม่ใช่ว่าไลฉลาดหรอก แต่ว่าเจ้าหนูลอร์ด เจ้าน่ะโง่เอง”


 


เอียนสามารถมาถึงป่าแห่งความรักอย่างง่ายดายและเร็วกว่าที่เขาคาดไว้


ลูกบอลคริสตัลที่อิเรียลมอบให้เขาไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติในการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังเป็นคุณสมบัติที่อนุญาตให้สร้างพอร์ทัลที่เปิดเส้นทางสู่ป่าแห่งความรักอีกด้วย


เอียนซึ่งมาถึงป่าแห่งความรักเป็นครั้งแรกในระยะเวลาหนึ่ง ดูเหมือนจะจำฝันร้ายของเขาได้เมื่อร่างกายทั้งหมดของเขาสั่นไหว


“ที่นี่… เป็นไปตามที่คาด มันเป็นสถานที่ที่ไม่พึงประสงค์”


เมื่อเอียนพูด ไคซาร์ซึ่งมองไปรอบๆแผนที่ พยักหน้าเห็นด้วย


“ข้าเห็นด้วย นี่เป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกไม่ดีอย่างแน่นอน ข้าคิดว่ายอดเสาอันอึกทึกของผู้อมตะนั้นมีรสนิยมมากกว่าและดีกว่ามาก”


“…”


เอียนซึ่งจ้องที่ไคซาร์สักครู่หนึ่ง ส่งความเห็นอกเห็นใจไปให้เขา


‘อย่างน้อยฉันก็หลบหนีจากการเป็นโสดได้แล้วในตอนนี้ แต่ผู้ติดตามของเรายังคงอยู่คนเดียวตลอดไปงั้นหรอ?’


ไคซาร์นั้นยังบริสุทธิ์ที่ปกป้องความรักอันบริสุทธิ์ของเขามากว่าพันปีแล้ว


ไคซาร์ไม่เคยแบ่งปันเรื่องราวนั้นกับเอียน แต่ถึงแม้จะมองจากสายตาที่สั่นเทา เอียนก็เดาได้


‘เนื่องจากไคซาร์บอกว่าเขามีบทบาทอย่างขันแข็งแม้กระทั่งเมื่อพันปีก่อน นั่นหมายความว่าเขามีอายุอย่างน้อยหนึ่งพันปี…’


Stomp- Stomp-.


เส้นทางที่นำไปหาอิเรียลนั้นเหมือนกับเมื่อเขาไปที่ป่าแห่งความรักเมื่อนานมาแล้วและสีหน้าของไคซาร์ก็ตึงขึ้นเรื่อยๆ


เนื่องจากไคซาร์ผู้ซึ่งสุกงอมกว่าการอยู่คนเดียวตลอดกาลมากกว่าเอียนที่ผ่านมาป่าแห่งความรักนั้นเป็นสถานที่ที่เหมือนนรกจริงๆ


“เจ้าหนูลอร์ด”


“มีอะไรเจ้าผู้ติดตาม?”


ไคซาร์ดึงดาบออกมาแล้วชี้ไปที่ฝูงกวางอยู่อีกฟากหนึ่งของป่าที่กำลังผ่านไปตามที่เขาถาม


“เราควรล่าสักเล็กน้อยก่อนไปดีไหม?”


“…”


“ไม่ใช่ว่านายคันไม้คันมือใช่ไหม?”


“มะ ไม่ใช่หรอก…”


เอียนเหงื่อแตกขณะที่เขาพึมพัมกับตัวเอง


‘หากไคซาร์ต้องทำเควสต์จับคู่ที่ฉันต้องทำในตอนนั้น ภูตินั้นคงต้องบอกลาโลกนี้ในทันที’


เอียนยังจำชื่อของภูติผู้ซึ่งแสดงให้เขาเห็นว่าบางคนต้องใช้โชคทั้งหมด


เขาไม่ได้เลวร้ายอย่างไคซาร์ แต่วิชเซนเป็นผู้อาวุโสที่มีชีวิตที่อยู่คนเดียวตลอดเป็นเวลา 150 ปี


‘วิชเซน… เขากำลังทำอะไรอยู่นะตอนนี้? พวกเขายังไม่เลิกกันใช่ไหม?’


แม้ว่าพวกเขาจะเลิกกันก็ตาม อิเรียลก็จะพาพวกเขากลับมาหากันอีกครั้งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น


เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นป่าแห่งความรักที่ซึ่งความรักเอ่อล้น


ไม่รวมคนๆหนึ่งที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการฆาตกรรม


“เจ้าหนูลอร์ด ไม่อยากจะลองกินเนื้อยูนิคอร์นมั่งหรอ?”


“เอ่อ ไม่ล่ะ ฉันรู้สึกว่ารสชาติมันจะแย่…”


แน่นอนว่าแตกต่างจากอดีตเพราะเอียนปัจจุบันแข็งแกร่ง ถ้าเขาต้องการล่ายูนิคอร์นตอนนี้มันเป็นไปได้แล้ว


ยูนิคอร์นอยู่ในช่วงเลเวล 170 และเอียนได้ล่ามอนสเตอร์หลายตัวที่แข็งแกร่งกว่าพวกมัน


อย่างไรก็ตาม มีปัญหาที่แตกต่างกัน


นั่นคืออิเรียล NPC สมัยโบราณซึ่งเป็นเลเวลที่เอียนไม่สามารถคาดการณ์ได้


‘ถ้าเราทำอะไรยุ่งเหยิงที่นี่ต้องอย่าลืมเควสต์ อิเรียลอาจฆ่าเราแทน ไม่สิ ถ้าไคซาร์และอิเรียลเริ่มต่อสู้ มีเพียงฉันในฐานะผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ข้างๆ ฉันก็จะได้รับบาดเจ็บ’


เอียนซึ่งทำให้ไคซาร์สงบลงอย่างหวุดหวิด เดินอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


ป่าแห่งความรัก… เป็นไปตามที่คาด มันเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมาก


 


* * *


 


สำหรับเกมปกติ มีหลายกรณีที่ทีมพัฒนาไม่สามารถติดตามความเร็วการเล่นเนื้อหาของผู้เล่นได้


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของผู้เล่นเกาหลีที่ทำให้ทีมพัฒนาจากทั่วทุกมุมโลกสั่นสะเทือนด้วยความกลัวในความเร็วการเล่นเนื้อหาเกม


อย่างไรก็ตาม LB Sports รวมถึงไคลันนั้นแตกต่าง


ตั้งแต่ LB Sports ได้เปิดตัวไคลัน พวกเขาได้ทำการอัปเดตขนาดใหญ่เป็นประจำทุกๆหกเดือน แต่ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือสิ่งใหม่ๆถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ที่เนื้อหาที่มีอยู่เดิมไม่ได้ถูกเล่นจนหมด


ในขณะที่ผู้เล่นกำลังเพลิดเพลินกับเนื้อหาที่กว้างขวางของไคลันอย่างเมามัน เวลานั้นมาถึงพวกเขาอีกครั้งโดยไม่ต้องสงสัยและผู้เล่นรวมตัวด้วยความคาดหวัง


เนื่องจากการมีเนื้อหาล้นเกินนั้นเป็นสิ่งที่น่ายินดีสำหรับนักเล่นเกม


และ LB Sports ก็ไม่ได้ทิ้งความคาดหวัง


สองสัปดาห์ก่อนครึ่งปีจะจบลง พวกเขาโรยเหยื่อไปรอบๆที่เรียกว่า ‘วีรบุรุษแห่งทวีปโบราณ’ ก่อนที่พวกเขาจะเปิดเผยกำหนดการอัพเดทอย่างเป็นทางการในวันนี้ซึ่งเป็นหนึ่งสัปดาห์ก่อนการอัพเดท


 


ว้าว นี่มันบ้าไปแล้ว ฉันยังไม่แม้แต่จะไปที่ทวีปกลางเลย แต่มีอะไรใหม่ๆมาอีกแล้วงั้นหรอ?

ฉันก็ด้วย ฉันคิดว่าฉันกำลังจะไปทวีปใหม่ได้แล้ว แต่ก็มีบางอย่างมาอีกแล้ว

ฮ่าๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงรักไคลัน ไม่มีเกมอื่นที่มีเนื้อเรื่องจำนวนมากเกินกว่าจะทำ แม้ว่าคุณจะเล่นทั้งวันนอกเหนือจากเกมนี้

ใช่มั้ยล่ะ? เพื่อนของฉันทิ้งการต่อสู้อย่างสมบูรณ์และเพียงทำอาชีพการผลิต แต่พวกเขาบอกว่ายังมีอะไรให้ทำอีกมาก

ฮ่า ในอัตรานี้ มันถึงจุดที่ผู้เล่นจะรู้สึกเหนื่อยแทน

นายหมายความว่ายังไงที่จะรู้สึกเหนื่อยแทน นายเพียงแค่ต้องทำมากพอที่จะสนุกกับมัน แตกต่างจากเกมอื่นๆ นายไม่สามารถบ้าคลั่งเพื่อลองและสัมผัสเนื้อหาทั้งหมดในเกมนี้

ฉันเห็นด้วยกับคนด้านบน เมื่อฉันเล่นเกมอื่นมาก่อน ฉันไปถึงระดับมาสเตอร์ทั้งอาชีพการต่อสู้และอาชีพการผลิตของฉัน แต่ในไคลัน ฉันไม่แม้แต่จะคิดว่าจะทำเช่นนั้นได้

 


ชื่อของการอัปเดตขนาดใหญ่นี้คือ ‘สงครามมิติ’


มีคำอธิบายสั้นๆว่ารวมทั้งอาณาจักรปีศาจ ประตูของโลกหลายมิติจะเปิดออกตามลำดับและผ่านสถานที่เหล่านั้น พวกเขาจะต่อสู้กับชนเผ่าของโลกมิติอื่นๆ


พื้นที่ที่เปิดเผยออกมามีเพียง ‘อาณาจักรปีศาจ’ และนอกเหนือจากการไม่กล่าวถึงว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดและจะดำเนินการต่ออย่างไร มันถูกอธิบายด้วยวิธีที่ไม่ตั้งใจอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ผู้เล่นก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง


นั่นเป็นเพราะไม่มีอย่างอื่นนอกจากวิดีโอทีเซอร์ 50 นาที


ภายในนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘อาชีพคู่’ ที่สามารถรับเพิ่มเติมได้ในอาณาจักรปีศาจสำหรับแต่ละอาชีพข้างในนั้น


แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน เนื่องจากเป็นเนื้อหาที่มีให้เฉพาะผู้เล่นที่ ‘มีความแข็งแกร่งพอที่จะสำรวจอาณาจักรปีศาจ’ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ผู้เล่นหลายคนที่ไม่สามารถได้รับอาชีพพิเศษจนถึงตอนนี้ได้กลายเป็นกระตือรือร้น


 


ว้าว… อาชีพแบบไหนกันนะ?

อันไหนล่ะ?

มีสกิลบางอย่างที่ทำให้สิ่งที่คล้ายสายฟ้าสีแดงผ่าลงมาเหมือนสายฝน อาชีพที่ใช้นั้นน่ะ

จากที่ดูแล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นอาชีพที่สอดคล้องกับนักเวทย์มนตร์

ฮ่า มันเท่ห์เป็นบ้า!

นั่นก็เท่ห์สำหรับฉันเช่นกัน แต่ฉันรู้สึกตกใจหลังจากเห็นอาชีพวอริเออร์ที่มีดาบห้าอันลอยอยู่บนอากาศขณะที่พวกเขาต่อสู้ นี่เป็นภาพที่น่าตกใจอย่างแท้จริง

พวกนาย ฉันเป็นซัมมอนเนอร์ แต่ทำไมดูเหมือนว่าซัมมอนเนอร์นั้นไม่มีอาชีพที่เกี่ยวข้องเลยล่ะ?

จริงหรอ? ถ้านายพูดอย่างนั้นก็คงจริงแหละ

ไม่ใช่ มันปรากฏตัวขึ้นครู่หนึ่งในช่วงกลาง ดูเหมือนว่าทุกคนพลาดไปเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา ฉันสังเกตเห็นว่าพวกเขาฝึกสัตว์เวทย์มนตร์ที่ปรากฏในอาณาจักรปีศาจและต่อสู้

อ่อ ตอนที่นายพูดฉันเพิ่งนึกขึ้นได้

จิ๊ ทำไมบริษัท LB แบกแยกซัมมอนเนอร์อีกแล้ว?

ฮ่าๆๆๆ คนข้างบน ฉันคิดว่าในตอนเริ่มต้นของการอัพเดทจะมีคนมากมายที่ขอให้ซัมมอนเนอร์ได้รับการอัพเกรด แต่เมื่อเทพเอียนปรากฏออกมา ทุกคนก็จะเงียบหายไป

ฮ่าๆๆ ฉันเห็นด้วย ฉันรู้สึกว่าเอียนจะฝึกบางอย่างที่บ้าๆอีกครั้งและปรากฎออกมา

 


เช่นนั้น ภายในความคาดหวังและการคาดเดาของผู้เล่นหลายๆคน วันที่อัปเดตเริ่มใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม