Taming Master 168-174

ตอนที่ 168

 

เอียนดีใจเมื่อเขาถาม


“โอ้ เป็นคนที่นายรู้จักด้วยงั้นหรอบักค์?”


เมื่อเอียนถาม บักค์พยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


 


ฉันรู้จักพวกเขาดี อย่างไรก็ตามเซลามัสไม่ใช่ชื่อของคน

 


“ถ้างั้น?”


บักค์พูดต่อ


 


มันเป็นชื่อของหนึ่งในชนเผ่าที่เป็นกลางของทวีปกลางโบราณ

 


เอียนซึ่งครุ่นคิดสักครู่หนึ่งได้ถามอีกครั้ง


“พวกเขาเหมือน… นักรบทะเลทรายงั้นหรอ?”


คราวนี้ไคซาร์ตอบกลับ


“ถูกต้องเจ้าหนูลอร์ด หากชื่อของเผ่านักรบทะเลทรายที่ช่วยอาณาจักรไคม่อนในตอนนี้คือ ‘มาเจนต้า’ เจ้าสามารถคิดได้ว่ามันเป็นเผ่าทะเลทรายอื่นที่เรียกว่า ‘เซลามัส’  ซึ่งมีอยู่ก่อนเช่นกัน”


“…!”


ดวงตาทั้งสองของเอียนเบิกโพลง


เนื่องจากถ้าเขาสามารถได้รับโบราณวัตถุที่คล้ายกับ ‘หน้ากากของมาเจนต้า’ จากแท่นบูชาแห่งเซลามัส มันจะเป็นความช่วยเหลือที่มากมาย


เอียนพูดอีกครั้ง


“ถ้างั้นมีอะไรเหมือนกับหน้ากากของเซลามัสหรืออะไรบางอย่างมั้ย?”


ไคซาร์ซึ่งรู้ถึงความคิดของเอียน แสยะยิ้มขณะที่ตอบกลับ


“ฮุฮุ โชคร้ายนะ คงไม่มีอะไรแบบนั้นกรอก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าผู้คนในเซลามัสถูกกำจัดไปนานแล้ว”


เอียนเดาะลิ้น


“จิ๊ เกือบจะดีแล้วเชียว แต่ทำไมนายถึงบอกว่าเป็นสถานที่ที่ฉันจะสนใจ?”


“ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีโบราณวัตถุที่นำความแข็งแกร่งของชนเผ่าที่เป็นกลางเช่นหน้ากากของมาเจนต้า เจ้าอาจพบโบราณวัตถุอื่นที่มีความสามารถแตกต่างกันไป”


เมื่อไคซาร์พูด เอียนพยักหน้าขณะที่เขาคิดกับตัวเอง


‘แต่แล้วหากว่ามันเป็นสถานที่ที่ฉันค้นพบครั้งแรก อย่างน้อยอาจจะได้รางวัลผู้คนพบครั้งแรก’


และบักค์ได้พูดเพิ่มเติม


เนื้อหาของมันก็เพียงพอแล้วที่จะล่อลวงเอียน


 


และในบรรดาชนเผ่ากลางที่ทรงพลังซึ่งปกครองเหนือทวีปกลางโบราณ เผ่าเซลามัสเป็นชนเผ่าเพียงกลุ่มเดียวที่ประกอบด้วยซัมมอนเนอร์

 


หัวของเอียนหันไปหาบักค์


“อะไรนะ จริงหรอ?”


และเขาจ้องไปที่ไคซาร์เล็กน้อย


“เจ้าผู้ติดตาม ทำไมไม่บอกฉันถึงข้อมูลที่สำคัญขนาดนี้?”


อย่างไรก็ตาม ไคซาร์แค่พยักไหล่เท่านั้น


 


* * *


 


“เอาล่ะ จากนี้ไปแล้วแต่พวกนายแล้ว! ผู้ที่ต้องการอยู่ข้างหน้าและต่อสู้กับกองทัพอาณาจักรไคม่อนสามารถไปที่ค่ายทหารที่นั่นและสมัครเป็นทหารรับจ้างและถ้าไม่เป็นเช่นนั้น มันจะเป็นการดีที่สุดที่จะมอบความไว้วางใจของพวกนายไว้ในเมืองที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักร”


ในคำพูดของหัวหน้าอัศวินของปาร์ตี้ตระกูลราชวงศ์ที่ยืนเป็นแถวก็เริ่มแยกย้ายกันไปที่ต่างๆ


พวกเขาเป็นกำลังเสริมของอาณาจักรลัสเปลที่เดินทางออกจากทวีปตะวันออกและมาถึงทวีปกลาง


และผู้เล่นของอาณาจักรลัสเปลที่มาถึงทวีปกลางโดยการเข้าร่วมกลุ่มของกำลังเสริมก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างวุ่นวาย


“โฮ่ ในที่สุดก็เข้ามาในทวีปกลาง!”


คาโนเอลซึ่งออกจากปาร์ตี้แสดงความพึงพอใจขณะที่เขามองไปรอบๆตัว


“ฮ่า เป็นทะเลทรายที่โรแมนติค ฉันได้ยินมาว่ามอนสเตอร์ในทวีปกลางให้ค่าประสบการณ์จำนวนมาก ดังนั้นนั่นหมายความว่าฉันแค่เพิ่มเลเวลที่เหลือใช่ไหม?”


คาโนเอลยิ้มเมื่อเขาหันหน้าไปทางมังกรแดงที่อยู่ข้างๆเขา


“ยงยง นายก็ชอบที่นี่ใช่มั้ย?”


มังกรตัวนั้นคือยงยงซึ่งถือได้ว่าเป็นจิตวิญญาณของคาโนเอล


Keu-reu-reu-reu-!


มังกรพยักหน้าอย่างมีความสุขและขณะที่ลูบหัวมังกร คาโนเอลก็พึมพัม


“อืมมม แต่ฉันไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริเวณล่าที่นี่… ฉันต้องออกจากระบบและดูในชุมชนก่อนหรือไม่?”


อย่างไรก็ตามจากวิสัยทัศน์ของคาโนเอล ชายสองคนเดินออกไปขณะที่พวกเขาพูดคุย


คาโนเอลฟังบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างตั้งใจ


นี่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเขาจะได้รับข้อมูลที่เขาตั้งการจากพวกเขา


“นายกำลังจะไปทำอะไร? นายจะไปลงสมัครเป็นทหารรับจ้างและสู้ในแนวหน้าหรอ?


“ทำไมคุณถึงพูดเรื่องโง่ๆแบบนี้? เรากำลังแพ้การต่อสู้กับไคม่อนในตอนนี้ ดังนั้นการเข้าร่วมการต่อสู้ที่แนวหน้าคือการฆ่าตัวตาย”


“ถึงกระนั้นฉันได้ยินมาว่ารางวัลนั้นดีจริงๆ ดังนั้นมันไม่แย่ที่จะเข้าร่วม”


“นายไม่รู้หรือว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนแรกอาจเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อเราถูกผลักกลับมากเกินไป ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้รับรางวัลมากมายเช่นกัน”


ขณะที่ฟังทั้งสองคนพูดคุยกัน คาโนเอลพยักหน้าในใจ


‘อืมม… ฉันได้ยินมาว่าเราแพ้ในสงคราม แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะรุนแรงกว่าที่คาดไว้มาก’


บทสนทนาของทั้งสองคนพูดต่อไป


“อืมมม… จริงหรอ?”


“ฉันกำลังบอกคุณว่าเป็นอย่างนั้น”


“ถ้างั้นนายจะไปทำอะไร?”


“ฉันกำลังคิดว่าจะไปเมืองของกิลด์ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังและปลอดภัยที่จะล่าใกล้ๆนั้น”


“โอ้โห ฟังดูดีเหมือนกัน แต่ฉันต้องไปเมืองไพโรสักครั้ง ไปที่นั่นกันก่อนเถอะ”


“เมืองไพโร? อ่อ นายกำลังพูดถึงเมืองของกิลด์โลตัสใช่มั้ย ฉันก็อยากไปที่นั่น แต่นั่นอันตรายนิดหน่อย”


“ทำไมล่ะ?”


“กองทัพอาณาจักรไคม่อนอาจยึดฐานส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆได้ในตอนนี้ มันจะไม่เป็นไรถ้าเราโชคดีและไม่วิ่งเข้าไปในกองทัพของอาณาจักร… แต่ถ้าเราเจอพวกเขา เราจะจบลง ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความตายที่น่ากลัวทันที”


“อืมมม… อย่างนั้นหรอ?”


คาโนเอลที่กำลังฟังบทสนทนาของคนสองคนเริ่มขยับเท้า


มันเป็นเพราะเขาได้ตัดสินใจในปลายทางของเขา


‘ถูกต้อง ฉันจะลืมได้อย่างไร! ฉันมาถึงทวีปกลาง ดังนั้นฉันไม่สามารถไปพบกับไอดอลของฉันไม่ได้! ‘


ไอคอลที่คาโนเอลพูดถึงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเอียน


หลังจากคาโนเอลดูวิดีโอการต่อสู้ของเอียนบน YouCast เขาก็กลายเป็นแฟนคลับของเอียนโดยสมบูรณ์


ความสามารถการต่อสู้ของเอียนที่เขาสามารถครองสนามรบได้ในขณะที่จัดการสัตว์เลี้ยงของเขาได้อย่างอิสระ ค่อนข้างเป็นความคิดของเขาเกี่ยวกับสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบ


‘เอาล่ะ ดูเหมือนว่าฉันแค่ต้องการรู้ว่าเมืองไพโรอยู่ที่ไหนตอนนี้!’


หลังจากค้นพบผู้เล่นอัศวินที่เดินผ่านหน้าเขา คาโนเอลเดินเข้าหาเขาด้วยเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็ว


แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นที่มีรูปร่างหน้าตาที่สะอาดเมื่อพวกเขามาถึงทวีปกลาง เกราะของเขาถูกปกคลุมด้วยทรายอย่างสมบูรณ์


แม้เพียงแค่มองเขา เขาก็รู้สึกได้ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่เคยอยู่ในทวีปกลางมานานแล้ว


“ขอโทษนะครับ แต่ขอถามอะไรบางอย่างได้ไหมครับ?”


“ได้สิ”


“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แต่ผมสงสัยว่าคุณรู้ทิศทางที่จะไปที่เมืองไพโรหรือป่าวครับ”


เมื่อคาโนเอลพูด ชายผู้มองดูรูปร่างหน้าตาของเขาสวมท่าทางที่ดูงุนงงเมื่อเขาถามกลับ


“เมืองไพโรงั้นหรอ? นายพูดถึงเมืองของกิลด์โลตัสใช่ไหม?”


“ครับ ใช่ครับ”


“อืมมม… เลเวลของนายต่ำไปน่ะ…”


ชายที่จ้องเลเวลและ ID ของคาโนเอล


 


ซัมมอนเนอร์คาโนเอล – เลเวล 100

 


เมื่อคาโนเอลซึ่งตกตะลึงได้ลังเลใจ ชายคนนั้นพูดต่อ


“ถึงกระนั้น อุปกรณ์สวมใส่ของนายก็อยู่ในระดับสูง ตราบใดที่นายมีอำนาจในการควบคุม ฉันคิดว่านายจะสามารถไปถึงที่นั่นได้”


สำหรับคาโนเอลซึ่งเป็นทายาทของ SH Electronics ในชีวิตจริงอุปกรณ์ระดับสูงในเลเวล 100 ของเขาคือราคาของหมากฝรั่งสำหรับเขาและมันอาจจะเห็นได้ชัด แต่เขาได้ฉาบทุกส่วนของเขาด้วยไอเทมชั้นยอด


คาโนเอลยิ้มอย่างสดใสขณะที่เขาพูด


“อ่อ โล่งอก การควบคุมของฉันก็ไม่แย่หรอก ฮุฮุ”


ชายคนนั้นซึ่งแสยะยิ้ม ชี้ไปตามนิ้วของเขาในขณะที่เขาเริ่มอธิบาย


“ตรงไปทางนั้น…”


Seu-reu-reuk-.


“อะ อะไรน-?”


เอียนซึ่งกำลังเดินกลายเป็นคนสับสนหลังจากเห็นทรายใต้ฝ่าเท้าของเขา


“ไคซาร์นายแน่ใจนะว่าเราสามารถไปทางนี้อ่ะ?”


ไคซาร์พยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับด้วยอาการที่ก็ไม่ได้เรื่องใหญ่อะไรนิ


“ได้สิ ทำไมข้าต้องโกหกเจ้า?”


ไคซาร์ซึ่งพูดจบ เดินไปข้างหน้าพร้อมกับก้าวใหญ่ๆ


และหลังจากนั้นไม่นาน ช่วยไม่ได้ที่ตาทั้งสองของเอียนจะโตขึ้น


Swaaah-!


นั่นเป็นเพราะทรายเป็นรูปร่างคล้ายกระแสน้ำวนในขณะที่มันดูดไคซาร์


และไคซาร์หายตัวไปอย่างสมบูรณ์จากจุดที่เขาอยู่


การแสดงออกที่เขาจมลงไปในพื้นดินชัดเจนมากขึ้นเล็กน้อย


“ฮึก!”


ขณะที่เอียนงุนงง บักค์ซึ่งอยู่ข้างเขาได้พูด


 


เจ้านาย ข้ารู้สึกถึงความแข็งแกร่งของไคซาร์จากข้างในนี้ ข้าคิดว่านั่นเป็นทางเข้าของแท่นบูชาที่ไคซาร์พูดถึง

 


“นะ นายคิดแบบนั้นหรอ?”


เพราะฉากที่เขาถูกทรายกลืนก็น่าตกใจ เท้าของเขาไม่ขยับอย่างง่ายดาย แต่เอียนก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ


“มันไม่ใช่ว่ามีมอนสเตอร์ในทะเลทรายที่แปลกประหลาดอยู่ข้างใต้และฉันจะลงเอยด้วยการโดนกินหรืออะไรสักอย่างใช่มั้ย?”


และก่อนที่เอียนจะก้าวห้าก้าว…


“อ๊ากกก-!”


ตามด้วยเสียงร้อง ร่างกายของเอียนถูกดูดเข้าไปในทราย


พอลลีนและซีเรียซึ่งตามหลังเขาก็เริ่มเดิน


Seu-seu-seuk-.


หลังจากนั้นไม่นานกองทรายที่กลืนกินทั้งปาร์ตี้กลับสู่สภาพสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น


 


‘แท่นบูชาแห่งเซลามัส’ ซึ่งมีประวัติการอัญเชิญโบราณได้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรก

ชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 10,000 หน่วย

ความสามารถการต่อสู้ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 หน่วยอย่างถาวร

ความเป็นผู้นำและความสัมพันธ์ของท่านเพิ่มขึ้น 50 หน่วยอย่างถาวร

 


พร้อมกับเสียงของข้อความระบบที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เอียนก็ตกลงไปในถ้ำที่มืดและเป็นความลับ


Thud-.


 


เนื่องจากการตกอยู่ในสถานะที่ไม่มีการป้องกัน พลังชีวิตของท่านจึงลดลง 175 หน่วย

 


เอียนที่ดิ่งลงสู่พื้นดินหลังจากที่ถูกปกคลุมอย่างสมบูรณ์ในทรายบ่นกับตัวเอง


“อ๊า สิ่งนี้มันจะต้องเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจและไม่เอื้ออำนวยแน่เลย?”


อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากปากที่บ่นของเขา เขาก็ยิ้ม


เนื่องจากรางวัลที่เขาได้รับในฐานะผู้ค้นพบคนแรกดีกว่าที่เขาคาดไว้


‘มันเป็นของขวัญจากเหล่าทวยเทพ! ฉันไม่รู้อะไรเลย แต่ความเป็นผู้นำและความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวก็เหมือนน้ำผึ้งแล้ว’


เมื่อปาร์ตี้ทั้งหมดรวมตัวกันหลังจากนั้น เอียนเริ่มเดินอีกครั้ง


“ไคซาร์ นี่เป็นสถานที่แท่นบูชาที่นายพูดถึงใช่ไหม?”


เมื่อเอียนถาม ไคซาร์พยักหน้าโดยไม่ลังเล


“ถูกต้อง นี่เป็นสถานที่ที่ฉันพบโดยบังเอิญในขณะที่เดินไปในสมรภูมิรบ”


เมื่อไคซาร์นำทาง ปาร์ตี้ก็เริ่มเดินไปด้านในอย่างช้าๆและถ้ำลับที่มืดมิดก็เริ่มสว่างขึ้นทีละเล็กละน้อย


‘อืมมม มันดูเหมือนว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน…’


อย่างไรก็ตามจากนั้น ข้อความระบบที่ไม่ต้องรับก็โผล่ขึ้น


 


นี่คือพื้นที่ใต้ดินที่ปิดสนิทที่มีออกซิเจนจำกัด

การเคลื่อนไหวของท่านลดลง 10% และพลังชีวิตของท่านลดลง 0.1% ต่อวินาที

พลังชีวิตของท่านลดลง 127 หน่วย

 


เอียนขมวดคิ้ว


“อะไรวะเนี่ย คุณสามารถตายได้ผ่านการขาดออกซิเจน?”


หาก 0.1% ของพลังชีวิตของเขาลดลงต่อวินาที นั่นหมายความว่าพลังชีวิตของเขาจะลดลงอย่างสมบูรณ์ในเวลาประมาณ 17 นาที


แน่นอนว่าเขาสามารถทนได้ผ่านไอเทมหรือสกิลในการฟื้นฟูพลังชีวิต แต่เนื่องจากพลังชีวิตของทุกคนลดลงจึงไม่มีข้อผิดพลาดเลยว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงอย่างไม่น่าเชื่อ


ไคซาร์หัวเราะเอียน


“นายขาดการฝึกฝน. ฉันไม่ได้รับความเสียหายใดๆกับออกซิเจนมากมายแค่นี้”


และในบรรดาสมาชิกปาร์ตี้ มีเพียงไคซาร์ที่ยังดีอยู่


เอียนส่ายหน้า


‘ตามที่คาดเจ้าสัตว์ประหลาด’


ขณะที่พวกเขาเข้ามาอย่างช้าๆในขณะที่จัดการกับความสำคัญของพลังชีวิตของพวกเขาถ้ำลับก็กว้างขึ้นทีละน้อย


หลังจากนั้นไม่นานพื้นที่โล่งก็ปรากฏต่อหน้าต่อตาของปาร์ตี้และในระหว่างนั้นรูปปั้นทองสำริดขนาดยักษ์ก็ตั้งอยู่


รูปปั้นดูเหมือนมอนสเตอร์งูที่ลอยขึ้นไปในอากาศราวกับว่ามันกำลังปีนขึ้นไปและข้างหน้าเป็นผู้เฒ่าที่มีดาบใหญ่บนหลังของเขา


เอียนถามไคซาร์ด้วยท่าทางงุนงง


“ผู้ติดตาม นายรู้จักผู้เฒ่าคนนั้นมั้ย?”


ไคซาร์พยักหน้า


“แน่นอนว่าฉันรู้จักเขา”


ไคซารซึ่งพักหายใจเลยก็น้อย  ยิ้มขณะที่เขาพูดอย่างช้าๆ


“เจ้าสามารถบอกได้ว่าเขาเป็นผู้เฒ่าเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่หลังจากเผชิญหน้ากับข้าด้วยดาบ” 

 

 


ตอนที่ 168

 

ตามคำพูดของไคซาร์ เอียนมองผู้อาวุโสใหม่


‘หากพวกเขารอดชีวิตหลังต่อสู้กับไคซาร์ นั่นหมายความว่าพวกเขาอยู่ในเลเวลเดียวกันใช่ไหม?’


ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นคนที่น่ากลัวและเอียนก็ตรวจสอบเวลาคูลดาวน์สกิลของเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถเริ่มต่อสู้ได้ทันที


อย่างไรก็ตามแตกต่างจากเอียนที่ระวัง ไคซาร์เข้าหาผู้อาวุโสด้วยการก้าวยาวๆและพูดกับเขา


“ไม่ได้เจอกันนานครับผู้เฒ่า”


และผู้เฒ่าที่ไคซาร์จ้องมองเล็กน้อยขณะที่เขาพูด


 


เจ้าตัวร้ายพูดให้ดีๆหน่อย ข้ายังมีชีวิตอยู่งั้นหรอ? ข้าตายแล้ว ข้าจะไม่เป็นผีถ้าข้าไม่ตายด้วยมือของเจ้าเมื่อสิบปีก่อน

 


ในขณะที่เขามองเขาบ่น ไคซาร์แสยะยิ้ม


“อ่อ อย่างงั้นหรอ?”


ในขณะที่ทั้งสองพูดคุย เอียนเดินเข้ามาใกล้ทั้งสองจนเขาจะอยู่ตรงหน้าพวกเขาและสายตาของผู้เฒ่าหันไปหาเอียน


 


ใครคือเจ้าเด็กนั่น? เจ้าเป็นศิษย์หรือเปล่า? อ่า นั่นอาจจะไม่ใช่ นั่นคือเนื่องจากเจ้าจะไม่ได้รับเป็นซัมมอนเนอร์ในฐานะศิษย์

 


ไคซาร์ซึ่งหัวเราะออกมาได้ตอบกลับสั้นๆ


“เขาเป็นเจ้าหนูลอร์ดที่ข้ารับใช้”


เอียนท้วงด้วยเสียงเบาๆ


“นายเรียกฉันว่าลอร์ดแทนได้ไหม?”


“ฉันไม่อยากเรียก เจ้าอ่อนแอเกินไป”


“…”


ไคซาร์ชี้ไปที่ผู้อาวุโสขณะที่เขาพูดอีกครั้ง


“เมื่อเจ้าแข็งแรงพอๆกับผู้เฒ่าแล้ว ข้าจะพิจารณาดู”


“อะแฮ่ม…”


เอียนเหลียวมองไปทางผู้เฒ่าและเขาได้พบกับดวงตาทั้งสองข้างของผู้เฒ่าซึ่งก็มองเขาด้วยเช่นกัน


เอียนพูดกับผู้เฒ่า


“ท่านชื่ออะไรครับ?”


 


นายเรียกใครว่าท่าน? ข้าเป็นผู้พิทักษ์แห่งเผ่าเซลามัส อิคริบ จะว่าไปแล้วสำหรับเจ้าที่เป็นลอร์ดด้วยไคซาร์เป็นผู้ติดตาม การคิดสิ่งนั้นเป็นไปได้ แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดกับเจ้าโง่นี่ได้ยังไง แต่เจ้าค่อนข้างมีทักษะ

 


“…”


อิคริปส์พูดอย่างรวดเร็วโดยไม่พัก


คำว่า ‘คุณเพียงแค่ต้องจ่ายส่วยไอเทมระดับ Legendary 1 ชิ้น’ อยู่ที่ปลายลิ้นของเขา แต่เขาแทบกลืนพวกเขากลับก่อนที่จะพูด


“อะไรก็แล้วแต่… แต่ท่านก็เป็นซัมมอนเนอร์ใช่ไหมครับ?”


อีคริปส์จะโกนออกมาขณะที่เขาตอบกลับ


 


ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่ท่าน! เรียกข้าว่าอีคริปส์! มันคือชื่ออันทรงเกียรติ

 


เอียนถอนหายใจขณะที่เขาพูด


“อ๊ะ เข้าใจแล้วอีคริปส์ แค่ตอบผมมา”


 


ถูกต้อง ข้าเป็นซัมมอนเนอร์ อย่างไรก็ตาม ข้าเป็นนักรบที่กล้าหาญเช่นกัน

 


เมื่ออีคริปส์พูด เอียนแสดงอาการงุนงง


‘อะไรวะเนี่ย? เขากำลังจะบอกว่าอาชีพคู่สามารถเป็นไปได้งั้นหรอ?’


ช่วงเวลาที่เอียนซึ่งแสดงความสนใจกำลังจะถามอะไรบางอย่าง ไคซาร์ได้พูดก่อน


“อีคริปส์ เจ้าคิดว่ายังไง?”


 


เกี่ยวกับอะไรล่ะ?

 


“ข้ากำลังถามว่าเจ้าหนูลอร์ดของเรา เจ้าคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะเผชิญกับการทดสอบของเซลามัสหรือไม่”


เห็นได้ชัดว่าเอียนซึ่งไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูดจึงจ้องมองไปมาที่ทั้งสองคนด้วยท่าทางที่ตะลึงและหลังจากนั้นไม่นานอีคริปส์ก็พูดอย่างช้าๆ


 


อืมมม แน่นอน…

 


คำพูดของอีคริปส์ที่มองขึ้นและลงที่เอียนอย่างต่อเนื่อง


 


แน่นอนเขาจะดีกว่าคนที่โง่เขลาเหมือนเจ้า เขาไม่พอใจ แต่มันก็คุ้มค่าที่จะให้โอกาสเขาถ้ามาตรฐานของเขาเป็นแบบนี้

 


ไคซาร์ยิ้มและแสดงสีหน้าว่าเขาไม่รู้เหตุผล เอียนถามพอลลีนซึ่งยืนอยู่ข้างเขา


“พอลลีนนายเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดมั้ย?”


อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่พอลลีนจะรู้


“ไม่ครับ ผมไม่ทราบ”


อย่างไรก็ตามจากนั้น ทันใดนั้นหน้าต่างแจ้งเตือนเควสต์โผล่ขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเอียน


กริ๊ง-


 


บททดสอบเผ่าเซลามัส (เควสต์ลับเชื่อมต่อกัน)

ชนเผ่าที่เป็นกลางหลายคนมีอยู่ในทวีปกลางโบราณ


แม้แต่ในหมู่พวกเขาก็คือเซลามัสซึ่งเป็นเผ่าที่มีพลังเหลือเชื่ออยู่ด้านบนถูกกำจัดหลังจากต่อสู้กับยักษ์มนุษย์ที่มีลักษณะคล้ายเทพเจ้าที่ติดเชื้อกับคำสาปแห่งอมตะและเพียงผู้นำยังคงอยู่แท่นบูชาใต้ดิน


อีคริปส์ผู้พิทักษ์เผ่าเซลามัสได้ค้นพบศักยภาพที่จะฟื้นรัศมีแห่งเซลามัสและสง่าราศีของซัมมอนเนอร์ในตัวคุณ


เขาวางแผนที่จะทดสอบท่าน


หากท่านผ่านการทดสอบทั้งหมดของเขา ท่านสามารถได้รับพลังของเผ่าเซลามัสซึ่งถูกฝังอยู่ในผืนทรายของทวีปกลาง


ระดับความยากของเควสต์ : SS


เงื่อนไขเควสต์


ผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่ได้รับคะแนนพิเศษจำนวนมากในทวีปกลาง


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล : หนังสือสกิลที่มีวิสัยทัศน์ของเซลามัส (สุ่ม)


ไอเทมคำพิพากษาของจิตวิญญาณราชา (อาวุธสุ่ม)


 


เอียนอ่านอย่างละเอียดผ่านหน้าต่างเควสต์


อย่างไรก็ตามตามความเป็นจริงแม้จากในบรรทัดแรกที่อ่านว่ามันเป็นเควสต์ลับและเชื่อมต่อกัน เอียนก็คิด


‘จากการอ่านนั้นฉันไม่รู้เลยว่ารางวัลคืออะไร แต่แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อใช่ไหม?’


อีคริปส์พูดอย่างช้าๆกับเอียน


 


ซัมมอนเนอร์จากทวีปตะวันตก ท่านจะยอมรับการทดสอบของเซลามัสหรือไม่?

 


เสียงและวิธีการพูดของเขาหนักแน่นกว่าครั้งก่อนๆ


เอียนพยักหน้าทันที่ขณะที่เขาตอบกลับ


“อืมมม ผมจะลองดู”


 


* * *


 


“เวรเอ้ย ฉันควรทำยังไงเพื่อเอาชนะเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น? “


ฮูนี่ย์ซึ่งคุยเรื่องใหญ่กับไคซาร์และบุกออกจากเมืองไพโรนั้นกำลังวิ่งผ่านดันเจี้ยนในบริเวณใกล้เคียงขณะที่เขาล่าอย่างขยันขันแข็ง


‘อย่างไรก็ตามมันจะยากที่จะขึ้นไปอีก 1 เลเวลเช่นนี้… ค่าประสบการณ์ที่ฉันได้รับขณะที่เข้าร่วมในสงครามปิดล้อมกับเอียนก็เหมือนกับน้ำผึ้งจริงๆ’


เมื่อวานนี้


ฮูนี่ย์ประสบความสำเร็จในการรวบรวมพลังงานมืดทั้งหมดที่อยู่ในมงกุฎโฮลดรีมที่ไคซาร์ใส่ไว้ในป้ายไม้


และเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพ เขาได้ท้าทายไคซาร์


อย่างไรก็ตามผลที่ได้คือการพ่ายแพ้อย่างท่วมท้นถึงจุดที่น่าอายที่จะพูดถึง


ฮูนี่ย์พยายามบังคับให้ทำลายสัญญาโดยใช้ชื่อเสียง 100,000 หน่วยที่เขาเก็บออมไว้เป็นไพ่ตาย แต่ไม่มีทางที่จะไดัผล


นั่นเป็นเพราะตั้งแต่แรก การทำลายสัญญาหัวหน้าและสัญญาคนรับใช้เป็นไปได้พร้อมกับชื่อเสียง 100,000 หน่วย หากไคซาร์ต้องการ


บัลลัมซึ่งอยู่ข้างๆฮูนี่ย์พูดกับเขา


 


วิธีเดียวคือการได้รับพลังแห่งอมตะทั้งหมดฮูนี่ย์ ท่านไม่สามารถเอาชนะไคซาร์ด้วยวิธีปกติ

 


เมื่อบัลลัมพูด ฮูนี่ย์พยักหน้า


อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถทำเควสต์ผู้อมตะได้ทันที


เนื่องจากสามวันที่ไคซาร์ให้เขานั้นสั้นเกินไปที่จะเริ่มเควสต์ผู้อมตะ


มันเป็นเพราะเขาใช้วิธีการสุ่มการล่าแบบนี้


“เมื่อเมืองไพโรปลอดภัย ฉันควรให้เอียนเข้าไปเกี่ยวข้องและพาเขาไปทำเควสต์ผู้อมตะกับฉัน”


บัลลัมพยักหน้าเห็นด้วย


 


ครับ นั่นเป็นความคิดที่ดี ถ้าลอร์ดเอียนช่วย มันจะง่ายมากที่จะประสบความสำเร็จเควสต์

 


“แต่ถ้าเอียนช่วยน่ะนะ…”


อย่างไรก็ตามทันใดนั้นเด็กผู้ชายคนหนึ่งจ้องมองฮูนี่ย์ซึ่งบ่นในขณะที่เขาพูดกับบัลลัม


นั่นเป็นซัมมอนเนอร์และมังกรแดงและพวกเขาก็ต่อสู้กับแมงป่องทรายที่ดูเหมือนจะเป็นเลเวล 130


ฮูนี่ย์ซึ่งสนใจเข้าหาเขาอย่างช้าๆ


“เขากำลังทำอะไร? ทำไมซัมมอนเนอร์เลเวล 100 อยู่ตรงทวีปกลางอย่างนั้น?”


แม้จะมองจากที่ไกลๆ เขาก็สามารถควบคุมและต่อสู้ได้ไม่ดี


แน่นอน ในขณะที่ซัมมอนเนอร์คนเดียวที่เขาได้เห็นเมื่อไม่นานมานี้คือเอียนมาตรฐานของฮูนี่ย์จึงสูง


อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าซัมมอนเนอร์ที่อยู่ข้างหน้าเขาแปลกๆก็ไม่ผิด


บัลลีมเอียงหัว


 


ข้าไม่แน่ใจ… อย่างไรก็ตาม มังกรนั่นดูเหมือนกับมังกรที่ลอร์ดเอียนมี มันแค่เล็กกว่า

 


ในขณะเดียวกันเด็กที่มีปัญหาซึ่งทั้งสองคนกำลังเฝ้าดูอยู่นั้นไม่มีใครอื่นนอกจากคาโนเอล


“ยงยง ฉันคิดว่าเราจะโจมตีที่หางก่อน!”


โฮกก-!


“ฉันจะพยายามบล็อคการโจมตีจากด้านหน้าเอง!”


คาโนเอลต่อสู้กับแมงป่องยักษ์อย่างหนักจนถึงจุดที่เขาไม่รู้ว่าฮูนี่ย์เข้าใกล้เขาจนเขาอยู่หลัง


อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานก็พบบางสิ่ง ดวงตาของฮูนี่ย์เบิกโพลง


“นะ นั่น!”


บัลลัมถามด้วยอาการงุนงง


 


มีอะไรฮูนี่ย์?

 


“บัลลัม นายเห็นเข็มขัดนั่นไหม?”


เมื่อนั้น บัลลัมหันไปจ้องทางเข็มขัดที่คาโนเอลสวมใส่


 


…!

 


“นั่นใช่ไหม? นั่นคือคำมั่นสัญญาของราชาแห่งความมืดแน่นอน!”


คำมั่นสัญญาของราชาแห่งความมืดเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นสำหรับฮูนี่ย์เพื่อดำเนินการต่อในเควสต์ผู้อมตะ


‘ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมคนอย่างเขาถึงสวมใส่ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นนักเวทมืด แต่…’


ฮูนี่ย์ดึงคฑาที่แขวนไว้ที่หลังของเขาโดยไม่ลังเล ขณะที่พุ่งเข้าหาแมงป่อง


เมื่อนั้น บัลลัมซึ่งงุนงง ถามโดยประหลาดใจ


 


ทำอะไรน่ะฮูนี่ย์!

 


ฮูนี่ย์ร่ายเวทมนตร์มืดขณะที่เขาตะโกน


“เราจำเป็นต้องช่วยผู้ชายคนนั้นก่อนที่เราจะถามใช่มั้ยล่ะ?”


 


* * *


 


Whoong-


Thu-thud- Keu-keu-keung-!


พร้อมกับเสียงคลื่นต่ำและเสียงเสียดแทรกดังไปทั่ว ก้อนหินที่ด้านหลังของพื้นที่โล่งกว้างถูกย้ายไปด้านข้างเมื่อมีพื้นที่ใหม่ปรากฏขึ้น


อีคริปส์เดินอย่างช้าๆขณะที่เขาเข้าไป


 


เข้ามาสิเอียน

 


“ครับ”


เอียนซึ่งตามหลังอีคริปส์โดยไม่คิดมาก ช่วยไม่ได้ที่จะงุนงงหลังจากนั้นไม่นาน


กริ๊ง-


นี่เป็นเพราะตามด้วยเสียงแจ้งเตือนข้อความระบบที่ไม่คาดว่าจะโผล่ขึ้นมา


 


ท่านได้เข้าสู่อาณาเขตแรกของการทดสอบของเซลามัส

นี่เป็นพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงไม่สามารถเรียกได้

สัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่ถูกเรียกจะถูกถอนออก

ความสามารถของอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นไร้ความสามารถ

สกิลที่ถูกครอบครองทั้งหมดจะถูกผนึก

สามารถใช้ได้เฉพาะอุปกรณ์และสกิลที่มอบให้ภายในเส้นทางการทดสอบของเซลามัส

 


มันเป็นการลงโทษที่ชั่วร้ายอย่างแท้จริงที่มือและเท้าของเขาถูกมัดเข้าด้วยกัน


แม้ว่าส่วนอื่นๆจะถูกตั้งไว้ การลงโทษที่ไม่สามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขานั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อเอียน


‘ไม่สิ พวกเขาคาดหวังให้ซัมมอนเนอร์ทำอะไรโดยปราศจากสัตว์เลี้ยงงั้นหรอ?’


เอียนจ้องไปที่อีคริปส์ด้วยท่าทางงุนงง


“อะไร… กัน?”


เมื่อเอียนถามซึ่งเต็มไปด้วยหลายๆความหมาย อีคริปส์ยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


 


เจ้าหมายความว่าอะไร ‘อะไรกัน’ น่ะ? มันเป็นอย่างที่คุณเห็นในตอนนี้ เผ่าเซลามัสของเรายอมรับว่าเป็นนักรบที่แท้จริง เมื่อพวกเขารู้วิธีที่จะหลบหนีผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือสัตว์เลี้ยง

 


“อะไรวะเนี่ย…”


เอียนซึ่งเปิดหน้าต่างสกิลของเขาและหน้าต่างไอเทมด้วยท่าทางที่ตกตะลึง ช่วยไม่ได้นอกจากจะถอนหายใจ


สกิลทั้งหมดของเขาถูกปิดผนึกและค่าสถานะทั้งหมดของไอเทมของเขาแทนที่ด้วย 0


เอียนพูด


“ไม่สิ ท่านคาดหวังให้ซัมมอนเนอร์ทำอะไรโดยไม่มีสัตว์เลี้ยงใช่ไหม?”


อีคริปส์ยิ้มขณะที่เขาพูดต่อ


 


นั่นคือสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า สำหรับข้อมูลของเจ้า ข้าก็เป็นซัมมอนเนอร์ แต่ข้าผ่านการทดสอบทั้งหมดโดยมีบทลงโทษทั้งหมดนี้

 


อีคริปส์ซึ่งพูดจบ เดินไปพื้นที่ข้างหลัง


เอียนแทบจะกลั้นคำสบถที่จะหลุดออกมาจากปากของเขาไม่อยู่ ในขณะที่เขาระงับความโกรธของเขา


‘นั่นมีเพียงแกที่ทำได้ เนื่องจากแกเป็น NPC ที่ผู้พัฒนาสร้างขึ้นมา!’


และทันทีที่เขาจากไปม่านสีฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เมตรก็เกิดขึ้นกับสถานที่ที่เอียนยืนอยู่ตรงกลาง


‘เป็นวิธีการที่คล้ายกันหรอ เมื่อเราต้องผ่านหอคอยมิติเพื่อพบกับกริปเปอร์?’


เอียนซึ่งสภาพร่างกายไม่แตกต่างจากร่างเปลือยเปล่า ผ่อนคลายอย่างช้าๆและเริ่มเตรียมตัวต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่จะปรากฏขึ้นในไม่ช้า


อย่างไรก็ตามจากนั้น ข้อความระบบโผล่ขึ้นมา


 


ท่านสามารถเลือกอาวุธหนึ่งอย่างที่จะใช้ในเกตเวย์นี้

 


ในบรรดาข้อความที่เขาเห็นหลังจากเข้ามาในพื้นที่อันวุ่นวายนี้ มันเป็นข้อความเชิงบวกครั้งแรกที่ปรากฏ


อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อมาเอียนซึ่งแสดงออกถึงความสดใส ช่วยไม่ได้ที่จะบึ้งอีกครั้ง


 


อาวุธชนิดต่างๆอยู่ในแต่ละกล่องและจนกว่าท่านจะเลือกหนึ่งชิ้น ท่านจะไม่ทราบเนื้อหาของพวกมัน

 


จากข้อความ กล่องทั้ง 5 ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน


‘จะมีระบบที่โหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร’


เขาเจ็บปวดใจ แต่ไม่มีวิธีอื่น เอียนค่อยๆวางมือลงบนกล่องหนึ่ง

 

 

 


ตอนที่ 170

 

เอียนซึ่งวางมือบนกล่องที่สามก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง


‘แน่นอนเพราะมันเป็นการสุ่มอย่างสมบูรณ์ ถึงกระนั้นมันก็คงจะดีถ้ามีอะไรอย่างธนูหรือคฑาปรากฎขึ้นมา’


เอียนซึ่งครุ่นคิดเสร็จสิ้นก็พยักหน้า


“แน่นอนว่าฉันจะเอาอันนี้แหละ”


 


เลือกอาวุธสำเร็จแล้ว

 


ตามข้อความ อาวุธก็ลอยขึ้นบนอากาศ


อย่างไรก็ตาม โชคไม่ดีเพราะไม่ใช่หนึ่งในอาวุธที่เอียนต้องการ


‘อะไรกัน? ดาบใหญ่?’


ดาบใหญ่สีดำซึ่งเปรียบดั่งกับดาบใหญ่ของเฮลเลี่ยมปรากฏต่อหน้าของเอียน


เมื่อเอียนจับดาบใหญ่ ข้อความระบบก็โผล่ขึ้น


 


ท่านได้เลือกอาวุธ ‘ดาบพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

 


และตามด้วยข้อความนั้นแสงสีขาวสว่างก็แทรกซึมดาบใหญ่ซึ่งมีสีดำเมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ชัดเจน


เอียนก็สูดลมหายใจเข้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว


“ฟืด!”


มันเป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของดาบใหญ่นั้นสวยอย่างมาก


ลวดลายสีทองที่ถูกฝังลงในใบมีดสีขาวนั้นให้ความรู้สึกหรูหรามาก


เอียนตรวจสอบข้อมูลของไอเทมโดยสัญชาตญาณ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวัง


นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติทั้งหมดนั้นถูกผนึก


อย่างน้อยสิ่งเดียวที่โชคดีคือพลังโจมตีของอาวุธยังคงมีอยู่


‘พลังโจมตี 1500 หน่วยงั้นหรอ? มันบ้าไปแล้ว อย่างน้อยต้องเป็นไอเทมระดับ Legendary’


และในขณะที่เอียนมีความคิดเช่นนั้น วิญญาณของอีคริปส์ก็ปรากฏขึ้นถัดจากเอียน


 


เจ้าได้เลือกดาบใหญ่ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะสามารถใช้ดาบพิพากษากับร่างกายที่ดูอ่อนแอได้หรือไม่ แต่เจ้านั้นโชคดี

 


เอียนหันไปจ้องอีคริปส์ขณะที่เขาถาม


“ผมต้องทำอะไรต่อจากนี้?”


อีคริปส์พูดต่อ


และเขาอธิบายค่อนข้างยาว


 


นักรบของเผ่าเซลามัสของเรานั้นถูกแบ่งออกเป็นห้าระดับขึ้นอยู่กับความสามารถในการต่อสู้ อันดับที่ต่ำที่สุดคือระดับ D และจากที่นั่นขึ้นไปตามลำดับ C, B, A และ S

 


หลังจากหยุดพักหายใจ เขาพูดต่อ


 


เริ่มต้นในตอนนี้ นักรบเซลามัสในจินตนาการที่มีสภาพเดียวกันกับเจ้าจะปรากฏขึ้น เริ่มจากระดับ D นักรบที่สูงกว่าหนึ่งอันดับจะปรากฏตามลำดับ

 


เอียนถาม


“ถ้าเป็นคนที่มีระดับเดียวกันกับผม นั่นหมายความว่าความสามารถในการต่อสู้ของเราเหมือนกันใช่ไหมครับ?”


อีคริปส์พยักหน้า


 


นักรบเซลามัสที่ถูกตั้งค่าให้มีค่าสถานะเหมือนกันทุกอย่างกับเจ้าจะปรากฏขึ้น

 


เอียนถอนหายใจอย่างโล่งอกภายในใจ


‘หากค่าสถานะของเราเหมือนกัน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ออกมา ฉันจะบดขยี้มัน’


เอียนไม่เคยคิดว่าเขาจะตามหลังใครใน VR เมื่อมันมาถึงการควบคุมมันก็มั่นใจว่าเขาจะทำได้


“เข้าใจแล้วครับ ไดโปรดอธิบายต่อ”


อีคริปส์พูดอีกครั้ง


 


ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะนักรบอันดับสูงสุดได้อย่างไร แต่ระดับที่เจ้าประสบความสำเร็จในการชนะนั้นจะถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับของเจ้าและหลังจากนั้นเกตเวย์จะจับคู่กับระดับความยากตามลำดับนั้น

 


“ผมเข้าใจแล้วครับ”


เอียนรู้สึกปรารถนาที่จะชนะจากส่วนลึกภายในใจของเขา


‘หากฉันไม่ใช่ระดับ S แล้ว ใครจะได้รับระดับ S กันล่ะ?’


เขาลืมไปแล้วว่าต้องคำนึงถึงโทษที่เขาเลือกดาบใหญ่มาซึ่งเขาแทบจะไม่เคยใช้มาก่อน


เขาแค่รู้สึกสนใจกับสภาพการต่อสู้ใหม่ที่เขาไม่เคยพบมาก่อน


‘เนื่องจากฉันเคยใช้ดาบใหญ่ในเกม VR อื่นมาก่อนเช่นกัน’


อีคริปส์พูดต่ออีกครั้ง


 


สำหรับตอนนี้ ข้าจะอธิบายต่อไปที่เกตเวย์ถัดไปหลังจากที่เจ้าได้รับการจัดอันดับ

 


“เข้าใจแล้วครับ”


เมื่อท่าทางของเอียนเต็มไปด้วยความมั่นใจ อีคริปส์แสยะยิ้มขณะที่เขาพูด


 


โชคดีนะ ข้าหวังว่าการไตร่ตรองของไคซาร์จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง

 


เมื่อเอียนหันศีรษะไปเล็กน้อย เขาเห็นไคซาร์ซึ่งกำลังเฝ้าดูเขาด้วยความสนใจจากภายนอกลานประลอง


‘หากว่าฉันไม่สามารถผ่านระดับที่ต่ำ ไคซาร์จะเมินฉันมากกว่าที่เขาเป็นใช่ไหม?’


ในทางกลับกัน เมื่อความคิดที่ว่าทัศนคติของไคซาร์อาจเปลี่ยนไปเล็กน้อย หากอย่างน้อยเขาก็ได้รับระดับ S เอียนก็ไล่ตามความประสงค์ของเขามากยิ่งขึ้น


 


เริ่มได้

 


วิญญาณของอีคริปส์หายไป เมื่อมีแสงสีน้ำเงินปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ


และทันทีที่แสงก่อรูปและกลานเป็นชายวัยกลางคน


เขาถืออาวุธเช่นเดียวกันกับเอียน


‘ฉันแค่ต้องจัดการเขาใช่ไหม?’


เอียนเบะปากขณะที่เขาจับดาบใหญ่อย่างแน่นหนา


และในเวลาต่อมา เขาพุ่งไปดั่งลูกธนู


‘การโจมตีครั้งแรกนำไปสู่ชัยชนะอย่างไม่มีที่สิ้นสุด’


เพราะน้ำหนักที่หนักของดาบใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมมัน เว้นแต่มือทั้งสองถูกนำมาใช้


เอียนงอหลังของเขาเหมือนคันธนูและเขาเหวี่ยงดาบใหญ่ซึ่งดึงขึ้นจากด้านหลังไหล่ขวาของเขา


Cla-ang-!


ดาบใหญ่ทั้งสองปะทะกัน ตามด้วยเสียงที่หนักแน่น


นักรบเซลามัสบล็อคดาบของเอียนอย่างผ่อนคลายขณะที่เขาพยายามจะโต้กลับ


‘ฉันรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น’


เมื่อพูดถึงการโจมตีใดๆที่ใช้ดาบใหญ่ ช่วยไม่ได้ที่การเคลื่อนไหวจะมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


นั่นเป็นสาเหตุที่ถ้าคุณไม่ระวังการโจมตีทั้งหมดของคุณ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกโจมตีจากการโต้กลับ ดังนั้นมันจึงเป็นอาวุธที่ยากต่อการรับมือ


นักรบเซลามัสที่ยกดาบของเขาขึ้นและบล็อคการโจมตีของเอียน ทันใดนั้นโจมตีไปที่อกของเอียน


Cla-cla-cla-clang-!


เอียนบิดดาบของเขาเล็กน้อยซึ่งแกว่งไปมาและผลักดาบของคู่ต่อสู้ออกไป


“ฮึบ!”


ในวินาทีต่อมาพร้อมกับเสียงตะโกนสั้นๆ เอียนก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศ


เขาบังคับให้ดาบใหญ่ที่ถูกกดลงไปในพื้นดินและเอียนซึ่งใช้ท่ากระโดด หลบดาบในลักษณะที่ผ่อนคลายขณะที่เขาเคลื่อนไหวหลังนักรบเซลามัส


‘ตาฉันล่ะ!’


ตอบโต้การโจมตีด้วยการตอบโต้การโจมตี


เอียนผู้ซึ่งร่อนลงมาเบาๆ เหวี่ยงดาบใหญ่ซึ่งเป็นแนวราบลงสู่พื้น


Chwa-reu-reuk-!


เขาขยับร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว แต่นักรบเซลามัสซึ่งมีรอยแผลยาวอยู่ด้านข้างของเขาขมวดคิ้วขณะที่เขาฟื้นท่าทางของเขาอีกครั้ง


และเอียนก็ยังกำดาบของเขาอีกครั้ง ในขณะที่เขาเริ่มให้ความสนใจกับคู่ต่อสู้


‘ฉันไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากเท่าที่ฉันหวังไว้ ดูเหมือนว่าเนื่องจากเขาใช้ค่าสถานะของฉันอย่างที่เป็นอยู่ การตอบสนองของเขาค่อนข้างสูง’


ในบรรดาความสามารถการต่อสู้ การตอบสนองของเอียนนั้นสูงที่สุด


และความเหมาะสมของค่าสถานะนั้นการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ของเขานั้นคล่องแคล่วอย่างเหลือเชื่อ


Stomp- Stomp-


เอียนและนักรบเซลามัสเคลื่อนตัวทีละน้อยโดยก้าวเท้าไปด้านข้างเล็กๆน้อยๆเมื่อพวกเขามองหาจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม


ในขณะที่นักรบเซลามัสไม่แสดงอารมณ์ การแสดงออกของเอียนนั้นตึงเครียดอย่างมาก


นั่นเป็นเพราะเขาได้ต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวกับการควบคุมแบบนี้และไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบใดๆ


ไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการทำเควสต์หรือไม่ เอียนก็สนุกกับการต่อสู้นี้ด้วยตัวเอง


Sweeeek-!


การจู่โจมผ่านความเงียบชั่วขณะ การโจมตีด้วยดาบของนักรบเซลามัสลอยเข้ามา


มือทั้งสองของเอียนซึ่งตอบสนองอย่างรวดเร็วพบกับการโจมตีของคู่ต่อสู้เมื่อพวกเขาเริ่มพลัดกันโจมตีในที่ต่างๆ


Clang- Cla-clang- Clang-!


การโจมตีและการป้องกันดำเนินต่อไป


อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การสู้รบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เอียนค่อยๆเริ่มค้นหาท่าทางของเขา


ในขณะที่มองไปที่คู่ต่อสู้ของเขาซึ่งเดินหน้าต่อไปด้วยท่าทีเคลื่อนไหวอย่างมีคุณภาพกับดาบใหญ่ของเขา เอียนก็เบะปากเล็กน้อย


‘แกทำพลาดแล้ว’


ต้องขอบคุณคู่ต่อสู้ของเขาที่มีแนวโน้มการต่อสู้แบบป้องกัน เอียนสามารถหาร่องของเขาได้ง่ายกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบ


เอียนกระดิกนิ้วไปที่คู่ต่อสู้


“นายวางแผนที่จะทำการป้องกันไปเรื่อยๆอย่างนี้ใช่ไหม? นายควรลองโจมตีฉันในตอนนี้ดูสิ”


ในขณะที่คู่ต่อสู้ในจินตนาการของเขาไม่มีอารมณ์ใดๆ เขาไม่คิดว่าการยั่วยุของเขาจะใช้งานได้จริง แต่ดูเหมือนว่าในเวลานี้เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาเริ่มพุ่งมาหาเขา


จับดาบใหญ่ด้วยมือข้างเดียว เอียนจับดาบลงกับพื้น


มันเป็นสถานการณ์ที่ดูเหมือนว่าเขาจะถูกโจมตีโดยตรงถ้าเขาไม่ยกดาบขึ้นอย่างรวดเร็วและสกัดกั้นการโจมตี แต่เอียนก็ผ่อนคลาย


‘เดิมพันสักหน่อยไหม?’


เอียนหันไปจ้องมองดาบสีขาวที่พุ่งไปที่หน้าผากของเขา เอียนจึงกระโดดไปข้างหน้า


“…!”


ดูเหมือนว่านักรบเซลามัสรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยต่อการกระทำที่ไม่คาดคิด เนื่องจากการแสดงออกของเขาสั่นไหวเล็กน้อย แต่เขาเหวี่ยงดาบลงโดยไม่ลังเล


Whoong-!


อย่างไรก็ตาม ช่วยไม่ได้ที่ดาบใหญ่จะปล่อยเสียงที่ว่างเปล่าออกไป


“ช้าไปพวก!”


เอียนซึ่งหลีกเลี่ยงดาบที่หล่นลงมาจากนักรบเซลามัส ได้หมุนดาบใหญ่ของเขาด้วยพลังการต่อสู้ทั้งหมดของเขา


Whoong-!


ในขณะที่ถือดาบใหญ่ด้วยมือขวาของเขา เขาเหวี่ยงดาบด้านข้างด้วยกำลังทั้งหมดของเขา


มันเป็นการโจมตีที่อันตรายโดยไม่มีการหนุนหลังและเมื่อเขาล้มเหลวในการโจมตี เขาจะแสดงจุดอ่อนทั้งหมดของเขา


อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาโจมตีสำเร็จ เรื่องราวจะเปลี่ยนไปทันที


Koo-deu-deuk- Bang-!


ดาบใหญ่ที่เอียนถืออยู่ได้พุ่งชนนักรบเซลามัสโดยตรง


ในสถานะที่ไม่มีการป้องกันอย่างสมบูรณ์นักรบเซลามัสโดนการโจมตีขนาดใหญ่เข้าเต็มๆ


“อะเฮือก!”


แม้แต่การปล่อยดาบที่เขาถืออยู่ เขาก็นอนลงไปบนพื้นราวกับโกหกเช่นนั้น


เอียนยิ้มขณะที่เขายกดาบและเล็งไปที่คู่ต่อสู้ของเขา


“นายควรใช้ดายใหญ่อย่างนี้”


เนื่องจากการเคลื่อนไหวของมันมีขนาดใหญ่มันไม่ง่ายเลยที่จะประสบความสำเร็จในการเข้าจู่โจม แต่เมื่อการโจมตีครั้งใหญ่เข้าเป้า อาวุธที่สามารถสร้างความเสียหายได้มหาศาลก็คือดาบใหญ่


หากเป็นการโจมตีแบบเดียวกับที่เอียนเพิ่งจะประสบความสำเร็จ เขาสามารถทำความเสียหายได้มากกว่าสิบเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายที่เขาสร้างขึ้นตามค่าสถานะเดิม


เอียนจ้องไปที่คู่ต่อสู้ขณะที่เขาพึมพัม


“เฮ้ นายน่ะยังเหลือพลังชีวิตอยู่นิ ยังจะนอนอยู่อย่างนั้นหรือไง?”


ทันทีที่เอียนพูดจบ นักรบเซลามัสค่อยๆยืนขึ้น


อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เปลี่ยนเป็นแสงจางๆและหายไปในอากาศและในจุดนั้น วิญญาณของอีคริปส์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง


Clap- Clap- Clap-.


อีคริปส์ที่ปรากฏขึ้นในขณะปรบมือของเขา พูดด้วยการแสดงออกที่น่าพอใจ


 


ช่างน่าแปลกใจมาก ฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริงเพราะประสาทสัมผัสการต่อสู้ของเจ้ามากกว่าที่ฉันคาดไว้

 


เอียนตอบด้วยความยินดี


“ฮุฮุ ดาบใหญ่นั้นเป็นอาวุธที่มีเสน่ห์อย่างแท้จริง”


เมื่อเขาพูด อีคริปส์ยิ้มกว้างขณะที่เขาตอบกลับ


 


โอ้ลูกชาย เจ้ารู้อะไรมั้ย ดาบใหญ่คืออาวุธที่เจ้าสามารถเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของนักรบผู้กล้าหาญ

 


ในขณะที่มองไปที่ดาบใหญ่ที่แขวนอยู่บนหลังของอีคริปส์ เอียนก็หัวเราะกับตัวเอง


‘ตอนนี้ที่ฉันมองดูมัน อาวุธของชายคนี้คือดาบใหญ่’


อีคริปส์พูดต่อ


 


นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมดาบถึงเรียกว่าราชาของอาวุธทั้งหนึ่งพัน เนื่องจากดาบนั้นเป็นอาวุธที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอาวุธ

 


เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“ถูกต้องครับ ผมเห็นด้วย”


หลังจากนั้นไม่นาน ดาบใหญ่ที่อยู่ในมือของเอียนก็หายตัวไปในอากาศเหมือนภาพลวงตา


เมื่อนั้น เอียนแสดงท่าทางตื่นเต้นขณะที่เขาถาม


“โอ้โห อาวุธของผมจะเปลี่ยนไปแต่ละครั้งงั้นหรอ?”


อีคริปส์พยักหน้า


 


ถูกต้อง เจ้าผิดหวังงั้นหรอที่เจ้าจะไม่ได้ใช้ดาบใหญ่?

 


อีคริปส์คิดว่าอาวุธหลักที่เอียนใช้คือดาบใหญ่


แต่แล้ว มันเป็นเพราะเอียนใช้ดาบใหญ่อย่างช่ำชอง


อย่างไรก็ตาม เอียนไม่ได้ผิดหวังไปซะทั้งหมด


“ไม่ครับ มันก็สนุกดี”


อีคริปส์ที่คิดว่าความมั่นใจของเอียนเป็นบลัฟจึงหัวเราะออกมา


 


เรามาดูกันว่าเจ้าจะสามารถรักษาความเชื่อมั่นนั้นต่อไปได้ไหม

 


อีคริปส์หายไปในอากาศขณะที่หัวเราะเสียงดังและในจุดของเขา กล่องดำทั้งห้ากล่องก็เริ่มปรากฏอีกครั้ง


ตามด้วยข้อความระบบที่โผล่ขึ้นต่อหน้าของเอียน


 


ท่านประสบความสําเร็จในการปราบนักรบเซลามัสระดับ D

เมื่อท่านประสบความสำเร็จในการปราบพวกเขาอย่างท่วมท้นในระยะเวลาอันสั้น ท่านก็กระโดดข้ามเป็นระดับ C

 


“…?”


เมื่อข้อความไม่ได้เป็นไปตามที่คาด ดวงตาทั้งสองของเอียนโตขึ้น


ข้อความระบบออกมาต่อเนื่อง


 


ได้โปรดเลือกอาวุธที่ท่านจะใช้ในการต่อสู้ ไม่รวมอาวุธที่ท่านใช้ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

 


เอียนบ่นกับตัวเอง


‘แกหมายความว่ายังไงให้เลือก แกไม่แสดงให้ฉันเห็นว่าพวกมันคืออะไร’


อย่างไรก็ตาม ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะประหลาดใจต่อจากนั้น


นี่เป็นเพราะกล่องดำกลายเป็นลมและในจุดของพวกมัน อาวุธชนิดต่างๆปรากฏขึ้น

 

 

 


ตอนที่ 171

 

ดวงตาที่เปล่งประกายของคาโนเอลกำลังดูฮูนี่ย์


‘เขาเป็นคนที่มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นนักเวทย์มืดที่แข็งแกร่งเช่นนี้! ‘


ฮูนี่ย์สูญเสียความรู้สึกของตัวเองในขณะที่เขาถูกซ่อนอยู่ภายใต้เงาของเอียนหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเงาของผู้ติดตามของเอียน ไคซาร์


อย่างไรก็ตามตามจริงแล้วฮูนี่ย์เป็นหนึ่งในจอมเวทย์มืดที่แข็งแกร่งที่สุดในเซิร์ฟเวอร์เกาหลี


เลเวลของฮูนี่ย์นั้นคือ 145


เขามีความสามารถในการกำจัดแมงป่องทรายประมาณเลเวล 130 ในไม่ช้า


แน่นอนพลังการต่อสู้ของอัศวินแห่งความตายบัลลัมเลเวล 170 ซึ่งอยู่ถัดจากเขาก็มีบทบาทเช่นกัน


ฮูนี่ย์พูดกับคาโนเอล


“ทำไมเลเวลน้อยๆอย่างนายถึงมาที่ทวีปกลางล่ะ? มันอาจจะเพิ่มเลเวลเร็วกว่าโดยหาปาร์ที่ในทวีปทางเหนือและเคลียร์ดันเจี้ยน”


“ห้ะ? แต่ค่าประสบการณ์ที่นี่มอบให้นั้นมากกว่าสิ่งที่คุณได้รับมากกว่า 10 เท่าในทวีปทางตอนเหนือ”


“ไม่หรอก นั่นเป็นเพียงเมื่อนายมีชีวิตอยู่และล่าอย่างถูกต้อง มองไปที่นายต่อสู้มันเหมือนกับว่านายกำลังเดินบนน้ำแข็งบางๆ นายอาจตายทุกครั้งที่เพิ่มค่าประสบการณ์ของนาย 1% อ่า ไม่สิ นายจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้ด้วยหรอ?”


ด้วยคำพูดเย็นชาของฮูนี่ย์ที่ทิ่มแทง คาโนเอลสะดุ้งเล็กน้อย แต่เขาฟื้นความสงบของเขาในไม่ช้าหลังจากนั้นและตอบกลับ


“ฉันไม่แข็งแกร่งเหมือนนาย แต่ยังฉันเพิ่มค่าประสบการณ์ของฉันค่อนข้างนิดหน่อยในขณะที่มาถึงที่นี่”


ฮูนี่ย์จ้องคาโนเอลด้วยความสงสัย


‘อืมมม… ฉันไม่เชื่อจริงๆหลังจากที่ฉันเห็นเขาต่อสู้กับแมงป่องทราย…’


อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ ฮูนี่ย์พยักหน้าก่อนที่จะพูดต่อ


“ถ้าอย่างนั้นฉันก็โล่งอก”


สายตาของฮูนี่ย์หันกลับไปหาคำมั่นของราชาแห่งความมืดที่คาโนเอลสวมใส่ไว้ที่เอวของเขา


“นายได้เข็มขัดนั่นมาจากไหน?”


เมื่อฮูนี่ย์พูด คาโนเอลซึ่งตรวจสอบเข็มขัดของเขาเพียงครั้งเดียว ยักไหล่ของเขาขณะที่เขาตอบกลับ


“อ่อ สิ่งนี้ ฉันเข้าร่วมดันเจี้ยนโจมตีหุ่นเชิดของผู้อมตะก่อนวันที่ฉันมาที่นี่”


การจ้องมองของฮูนี่ย์เริ่มสั่นไหวเล็กน้อย


“แล้ว… ยังไง?”


ดันเจี้ยนหุ่นเชิดของผู้อมตะนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในบรรดาผู้เล่น


มันเป็นดันเจี้ยนที่ผู้เล่นระหว่างเลเวล 80-100 มักจะไปและเพราะมอนสเตอร์หลักคือทหารโครงกระดูกซึ่งให้ค่าประสบการณ์จำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับพลังการต่อสู้ที่อ่อนแอของพวกมันจึงเป็นที่นิยม


โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเวทย์มืด เนื่องจากมีเควสต์ที่เกี่ยวข้องมากมายเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นหลักสูตรที่พวกเขาต้องการผ่านอย่างแท้จริง


และฮูนี่ย์รู้ว่ามอนสเตอร์ระดับ Epic ที่ปรากฏขึ้นในชั้นสุดท้ายของดันเจี้ยนหุ่นเชิดดรอปเข็มขัด ‘คำมั่นของราชาแห่งความมืดซึ่งคาโนเอลสวมใส่อยู่’


‘อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะได้รับคำมั่นของราชาแห่งความมืดจากที่นั่นเป็นอัตราเดียวกับการชนะการจับสลาก… อัตราการดรอป 0.1% ไม่ใช่หรือไง?’


ฮูนี่เคลียร์ดันเจี้ยนหุ่นเชิดของผู้อมตะหลายสิบครั้ง อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาคิดว่ามันเป็นไอเทมที่เขาไม่เคยได้รับแม้จากความพยายามของเขา แต่ซัมมอนเนอร์กลับได้รับมัน เขาเริ่มเจ็บใจ


อย่างไรก็ตามตอนนี้มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของคาโนเอล


“มันเป็นเมจโครงกระดูกที่ชั้นสุดท้ายที่ฉันล่ามั้ง? ฉันได้รับมันหลังจากล่าโครงกระดูกเลเวล 75 มันดูเท่ห์จริงๆใช่ไหม?”


ในขณะที่คาโนเอลคุยเกี่ยวกับเข็มขัดในขณะที่เขายิ้มอย่างสดใส ฮูนี่ย์เกือบจะทรุดตัวลงบนพื้นในขณะที่เขาสูญเสียความแข็งแรงในขาของเขา


“คะ โครงกระดูกแค่ให้มันกับนายงั้นหรอ?”


คาโนเอลพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“ใช่ มันมอบให้ฉัน ฉันไม่คิดว่าจะได้รับไอเทมระดับ Legendary จากม็อบธรรมดาเช่นกัน… แต่อย่างไรก็ตามฉันมีความสุขจริงๆ”


ฮูนี่ย์กำหมัดของเขาก่อนที่เขาจะตระหนักถึง


‘เด็กเวรนี่ ฉันควรฆ่าเขาหรือไม่…?’


โดยบังเอิญ ทวีปกลางเป็นเขต PK ซึ่งเป็นไปได้ที่จะสังหารผู้เล่นโดยไม่ได้รับการลงโทษใดๆและฮูนี่ย์เริ่มพิจารณาอย่างจริงจัง


‘ถ้างั้นเข็มขัดนั่นสามารถดรอปได้ใช่ไหม?’


อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของคาโนเอล เขาต้องแก้ไขแผนของเขา


“ในเวลานั้น นักเวทย์มืดในปาร์ตี้บอกให้ฉันขายมัน แต่ฉันสังเกตเห็นว่ามันมีคุณสมบัติที่ผูกไว้กับบัญชี ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถขายได้”


“อ่อ ฉันเข้าใจแล้ว…”


คำว่ามันเป็นไอเทมที่ผูกบัญชีหมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะแลกเปลี่ยน แต่มันก็เป็นไอเทมที่ไม่ได้ดรอปเพียงเพราะตาย


‘ฉันเห็นมันอยู่ในโรงประมูล ดังนั้นฉันคิดว่ามันไม่ใช่ไอเทมที่ผูกกับบัญชี… แต่ดูเหมือนว่าจะมีการสุ่มคุณสมบัติ’


ภายในของฮูนี่ย์รู้สึกเสียใจกับตัวเอง


‘อ่าา ถ้าฉันมีมัน ฉันสามารถเริ่มเควสต์ของผู้อมตะได้ทันที…’


ในขณะเดียวกันคาโนเอลที่ไม่รู้ความจริงที่ว่าคำพูดที่เขาเพิ่งพูดไปช่วยชีวิตเขาไว้ พูดด้วยความตื่นเต้น


“ฉันรู้ว่ามีเหตุผลที่คำมั่นของราชาแห่งความมืดมีราคาแพง ฉันรู้สึกว่าหลังจากสร้างความเสียหายให้กับสกิลของฉันแล้วจะแข็งแกร่งขึ้นและความเร็วในการร่ายของฉันก็เร็วขึ้นด้วยเช่นกัน”


และฮูนี่ย์จ้องเขม็ง


‘โห… ไอโง่นั่น ฉันควรฆ่าเขาดีมั้ย?’


เหตุผลที่ทำให้คำมั่นของราชาแห่งความมืดมีราคาแพงเพราะมันมีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้ความเร็วในการร่ายเวทย์มนตร์มืดเร็วขึ้น 2 เท่า


ในคำอื่นๆ สำหรับคาโนเอลที่เป็นซัมมอนเนอร์ มันหมายความว่ามันเป็นไอเทมที่ไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์


‘นี่คือ ‘ไอโง่ที่ไม่รู้แม้แต่เกม’ บัฟที่ฉันได้ยินมา…’


มันเป็นสิ่งที่แพร่กระจายในหมู่คอเกมอย่างเป็นตำนาน


ความเชื่อโชคลางที่ยิ่งไม่รู้วิธีเล่นเกมยิ่งโชคดีขึ้นเมื่อมีไอเทมดรอป ฮูนี่ย์ก็สามารถเชื่อได้ในที่สุด


ตามที่คาดไว้… มันเป็นอย่างนั้น ฉันไม่ได้มีไอเทมใดมาก่อนจนกระทั่งตอนนี้เพราะฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญ’


ในขณะที่มองดูฮูนี่ย์ผู้มีอาการซึมเศร้า คาโนเอลพูดอย่างระมัดระวัง


“ว่าแต่ ID ของคุณคืออะไร?”


เนื่องจากข้อมูลของฮูนี่ย์เป็นแบบส่วนตัวเหมือนกับเอียนชื่อเล่นของเขาจึงไม่ถูกเปิดเผย


ฮูนี่ย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา


“นายจะทำอะไรถ้ารู้ ID ของฉันกันล่ะ?”


“ถึงกระนั้น คุณก็เป็นผู้ช่วยชีวิตของฉัน ดังนั้นอย่างน้อยฉันจึงต้องการรู้ ID ของคุณและนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นนักเวทย์มืดที่แข็งแกร่งในขณะที่เล่นเกมนี้จนถึงตอนนี้”


ในขณะที่เขาพูดการแสดงออกของฮูนี่ย์ที่กลายเป็นความภาคภูมิใจในการชมอย่างใดอย่างหนึ่งก็สว่างขึ้นอีกครั้ง


“ฮาฮาฮ่า นายมีสายตาที่ดี ฉันคือคันจิฮูนี่ย์”


ดูเหมือนว่าบัลลัมรู้สึกละอายใจด้วยเหตุผลแปลกๆบางอย่างกับคำพูดของฮูนี่ย์ในขณะที่เขาหันหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย


 


ฉันไม่รู้จริงๆว่าคำว่า ‘คันจิ’ หมายถึงอะไร แต่เมื่อใดก็ตามที่ฉันได้ยินคำนั้น ฉันจะขนลุก ฮูนี่ย์

 


เมื่อบัลลัมพูด ฮูนี่ย์ยักไหล่ตามที่เขาตอบ


“มันเป็นเพราะมันยอดเยี่ยมมากบัลลัม”


 


ยะ อย่างงั้นหรอ… มันก็อาจจะถูกถ้านายว่าอย่างนั้น

 


และดวงตาทั้งสองของคาโนเอลเปล่งประกาย


“โอ้… เป็นไปตามที่คาด ID ของคุณก็เท่ห์เช่นกัน”


เมื่อคำที่ใส่ซื่อของคาโนเอล ฮูนี่ย์ก็ส่งเสียงหัวเราะดังๆ


“ฮาฮาฮ่า ตอนนี้ฉันมองดูนาย นายดูเหมือนมีอะไรบางอย่าง”


“ฮุฮุ ขอบคุณ”


อายุจริงๆของคาโนเอลนั้นคือ 15 ปี


เหตุผลที่ทำให้เขาคุยกับฮูนี่ย์รู้เรื่องเพราะเขาอายุเท่านี้


คาโนเอลพูดอีกครั้ง


“อย่างไรก็ตาม ฮูนี่ย์ต้องการเข็มขัดนี้หรอ?”


เมื่อคาโนเอลพูด ฮูนี่ย์พยักหน้าขณะที่เขาถอนหายใจ


“ใช่ ฉันมีเควสต์ลับที่ตอนนี้ฉันอยู่ช่วงกลาง แต่ฉันสามารถทำมันต่อไปได้หากฉันมีเข็มขัดนั้น”


คาโนเอลพยักหน้าขณะที่ตอบกลับ


“อืมมม… สำหรับสถานการณ์นั้น”


คาโนเอลซึ่งคิดถึงบางสิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พูดกับฮูนี่ย์อีกครั้ง


“ฮูนี่ย์”


“ว่าไงคาโนเอล”


“เมื่อคุณช่วยชีวิตฉันอย่างงดงามกลางทะเลทรายอย่างนี้ ฉันจะตอบแทนคุณ”


“ยังไงล่ะ…?”


สายตาของฮูนี่ย์สั่นต่อหน้าคาโนเอลและคาโนเอลพูดอย่างช้าๆ


“เข็มขัดนี้ ฉันจะซื้ออันใหม่จากโรงประมูลให้คุณ”


“…!”


สำหรับฮูนี่ย์ซึ่งล่าแม้แต่การประหยัดเงินในการซื้อโพชั่น มันเป็นข้อเสนอที่น่าตกใจที่เขาไม่สามารถจินตนาการได้


ฮูนี่ย์จับมือของคาโนเอลทันที


“ลูกพี่!”


 


* * *


 


อาวุธห้าชนิดที่ลอยอยู่ต่อหน้าของเอียนคือมีดสั้นคู่, คฑา, สนับมือ, คันธนูและหอกยาว


เอียนแสดงท่าทางงุนงง


‘อะไรวะเนี่ย? อาวุธมาตรฐานที่สุดไม่ได้อยู่ที่นี่’


ไม่มีดาบซึ่งเขาคิดว่าเป็นอาวุธที่จะปรากฏอย่างแน่นอน


เอียนครุ่นคิด


‘ถ้าฉันเลือกธนูครั้งนี้ ฉันจะไม่สามารถใช่ระหว่างเลเวลที่ยากขึ้นได้อีก…’


ธนูเป็นอาวุธที่เขามั่นใจมากที่สุด แต่สำหรับเอียนซึ่งกำลังวางแผนที่จะผ่านระดับที่สูงที่สุด มีความจำเป็นต้องเก็บธนูไว้


เอียนถามอีคริปส์


“หลังจากประสบความสำเร็จในระดับนี้ ผมจะเลือกระหว่างสี่อาวุธที่ยกเว้นอาวุธที่ผมเลือกในครั้งนี้หรือไม่ครับ?”


อีคริปส์ส่ายหน้า


 


ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น อาวุธ 5 ประเภทที่ไม่รวมอาวุธที่เจ้าเลือกจะปรากฏขึ้นโดยการสุ่มอีกครั้ง

 


เอียนขมวดคิ้วเล็กน้อย


‘ถ้างั้นหมายความว่าในระดับต่อไป ธนูนั้นอาจจะไม่ปรากฏออกมา…’


เนื่องจากมีอาวุธที่แตกต่างหลากหลายจนถึงจุดที่อาวุธทั้งสิบแปดที่ใช้ในศิลปะการต่อสู้ของจีนมีอยู่ในไคลัน โอกาสที่จะไม่ปรากฎตัวในการเลือกครั้งต่อไปจึงไม่ต่ำ


‘แน่นอนว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะคว้ามันเมื่อฉันสามารถใช้งานได้จริง’


ในที่สุดเอียนก็ยื่นมือออกไปหาธนู


Whoong-!


เมื่อเสียงก้องกังวานดังลั่น ธนูก็พุ่งเข้าหามือของเอียนราวกับว่ามันกำลังถูกดูดเข้าไป


 


ท่านได้เลือกอาวุธ ‘ธนูพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

 


เช่นเดียวกับดาบพิพากษา ธนูก็มีรูปลักษณ์ที่สวยงามและหรูหราเช่นกัน


เอียนเลียริมฝีปากขณะที่มองไปที่นั่น


‘มันคงจะดีถ้าเจ้านี่มันออกมาเป็นรางวัลเควสต์ของฉัน’


เนื่องจากคุณสมบัติในไอเทมถูกปิดผนึกเขาไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่เขามีความรู้สึกว่ามีความสามารถเพิ่มขึ้นมากมายอย่างแน่นอน


และพร้อมกับที่สั่นสะเทือนที่ปรากฏบนอากาศ


อีคริปส์หัวเราะเบาๆขณะที่เขาหายไป


 


ถ้างั้น ข้าภาวนาให้เจ้าจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้

 


และเมื่อเงาของมนุษย์สีน้ำเงินที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นในจุดของเขา เอียนก็ดึงลูกธนูออกมาอย่างรวดเร็วแล้ววางไว้ที่หัวธนู


 


นักรบเซลามัสระดับ B จะปรากฏขึ้น

การต่อสู้จะเริ่มใน 3 วินาทีต่อจากนี้

 


“ฮึบ”


เอียนซึ่งสูดลมหายใจ ดึงสายธนูอย่างช้าๆขณะที่เขาเล็งไปที่นักรบเซลามัส


 


3… 2… 1…

 


และทันทีที่ข้อความแจ้งว่าการต่อสู้เริ่มดังขึ้นเขาก็ปล่อยธนูทันทีและก็กระโดด


Piiing-!


ลูกศรฉีกไปในอากาศในขณะที่มันบินอย่างรวดเร็ว


ลูกศรบินตรงไปที่หัวของนักรบเซลามัส แต่คู่ต่อสู้ก็ยิงลูกธนูออกไป


Saaeek-!


ลูกธนูพุ่งเข้าหากันในอากาศโดยนักรบเซลามัสและบินผ่าน… อย่างไรก็ตามลูกศรทั้งสองไม่ได้พุ่งทะลุเป้าและแยกออกไปในอากาศ


และทั้งสองคนที่กลิ้งไปในทิศทางที่ต่างกันและหลีกเลี่ยงลูกธนูก็เล็งไปที่กันและกันอีกครั้ง


Ping-.


Piiing-!


ลูกศรบินไปหากันและกันอย่างต่อเนื่อง


ไม่มีแม้แต่ลูกศรเดียวที่โดน แต่ช่องว่างระหว่างทั้งสองนั้นเล็กลงเรื่อยๆ


‘เขาคาดการณ์การยิงและหลีกเลี่ยงพวกมันค่อนข้างดี ความว่องไวของร่างกายคนนี้สูงมากจนยากที่จะยิงโดนเขา’


ทั้งสองเดินไปข้างหน้าทีละเล็กทีละน้อยขณะที่พวกเขายิงธนูออกไปเรื่อยๆและเอียนก็ใช้สมองให้ทำงาน


‘อัตราความแม่นยำและความสามารถในการหลีกเลี่ยงของเราอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน… ฉันคิดว่าความสามารถในการยิงที่รวดเร็วของฉันดีขึ้นเล็กน้อย’


เอียนวิเคราะห์คู่ต่อสู้ของเขาอย่างเท่ห์ๆ


‘ถ้าเป็นเช่นนั้นฉันควรจะได้ผลลัพธ์ที่ฉันดีกว่า’


หลังจากจัดระเบียบความคิดของเขาแล้ว เอียนก็รีบนำพวกมันออกมาใช้ทันที


Tat-!


ทันใดนั้นเขาคุกเข่าลงที่พื้นในมุมหนึ่งของลานประลองขณะที่เขายืนอยู่ในท่าที่เหมาะสม


ในขณะที่มองไปที่การกระทำที่ไม่คาดคิดของเอียนนักรบเซลามัสก็แสดงท่าทางสับสนในไม่ช้า แต่เขาก็โจมตีอีกครั้งหลังจากนั้น


นี่เป็นเพราะไม่มีโอกาสง่ายกว่าตอนนี้ที่จะโจมตีเอียนที่หยุดในจุดเดียวและนั่งลงตรงนั้น


Piing-!


อย่างไรก็ตาม เอียนไม่ได้ทำท่าโดยไม่คิดอะไรเลย


‘ด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดที่ฉันสามารถเคลื่อนไหวได้…!’


เอียนผู้เพ่งความสนใจไปที่ปลายสุดของมันยิงธนูที่วางไว้ที่หัวธนู


และลูกศรที่เขาดึงออกมาในเวลาไม่นานก็เริ่มบินตามรอยนั้น

 

 

 


ตอนที่ 172

 

‘ไปเลย!’


ทันทีที่ลูกศรออกจากสายธนู เอียนก็รู้สึกมั่นใจจากความรู้สึกที่เขารู้สึกด้วยปลายนิ้วของเขา


‘ถ้าฉันไม่สามารถเอาชนะชายคนนี้ด้วยความเร็วได้ อีกวิธีที่ถูกต้องในการเพิ่มอัตราความแม่นยำและความสามารถในการยิงอย่างรวดเร็ว’


ความจริงที่ว่ามันยากที่จะเล็งและยิงเป้าเคลื่อนที่นั้นเป็นความจริงที่ชัดเจน


ยิ่งไปกว่านั้นหากเป้าหมายคือลูกศรที่บินด้วยความเร็วสูงกว่า 200 กม. / ชม. ไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติม


อย่างไรก็ตาม เอียนกำลังคิดว่าจะยิงธนูที่พุ่งเข้าหาเขา


Bang-!


เมื่อลูกธนูที่เต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งได้พบกันในอากาศ แผนเหล่านั้นก็กลายเป็นจริง


เขาไม่สามารถสร้างความเสียหายคริติคอลได้ แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งอันทรงพลังซึ่งติดอยู่กับลูกธนู นักรบเซลามัสที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยจึงส่งเสียงคร่ำครวญออกจากปากของเขา


“อึก…”


อีคริปส์ที่กำลังดูฉากนั้นจากพื้นที่ด้านนอกของลานประลองก็กำลังจ้องมองเอียนด้วยสีหน้าสนใจ


 


โอ้ ไม่คิดว่าเขาจะใช้กลยุทธ์อย่างนั้น

 


มันเป็นวิธีที่ไม่สามารถแม้แต่จะพยายาม ถ้าไม่มีความกล้าและความมั่นใจเพียงพอ


ความจริงแล้วนอกเหนือจากแรงดึงดูด ลานประลองไม่มีปัจจัยอื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อวิถีลูกศรและเนื่องจากเป็นเกม VR ที่มีความใจกว้างมากกว่าความเป็นจริงเมื่อมันมาถึงการตัดสินการยิง มันเป็นวิธีการที่เป็นไปได้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าทักษะการยิงธนูของเอียนคือจนถึงจุดที่พวกเขานั้นกำลังเล่นกล


Ping- Pi-ping-!


เอียนก็ยิงธนูออกมาอย่างต่อเนื่อง


เมื่อเขาไม่ขยับร่างกายแม้แต่ก้าวเดียว อัตราความแม่นยำของเขาเพิ่มขึ้นถึงร้อยเท่า แต่ความเร็วในการยิงของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก


แน่นอนว่าเอียนยังไม่สามารถยิงธนูของศัตรูได้ทั้งหมด 100% แล้วปล่อยพวกมันทิ้ง


อย่างไรก็ตามเขาประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นครึ่งหนึ่งของพวกมันและที่เหลือเขากำลังหลบหลีกพวกมันโดยการบิดร่างกายของเขาหรือหลีกเลี่ยงพวกมันด้วยการเคลื่อนไหวน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้


เนื่องจากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต้องขอบคุณความสามารถที่คล้ายกันของพวกเขา การต่อสู้ของทั้งสองคนที่จะเรียกได้ว่าเริ่มเอนเอียงไปทางฝั่งของเอียนมากขึ้นเรื่อยๆ


ไคซาร์ที่เฝ้าดูการต่อสู้เงียบๆได้พูดกับอีคริปส์


“เจ้าคิดอะไรอีคริปส์?”


เมื่อไคซาร์ถาม อีคริปส์ค่อยๆพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับสั้นๆ


 


ดูเหมือนว่าข้าจะต้องยอมรับมันในครั้งนี้

 


และร่างของอีคริปส์ที่ลอยอยู่ในอากาศก็เริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ


 


ดูเหมือนว่าตาของข้าใกล้เข้ามาแล้ว ข้าควรเตรียมพร้อม

 


หลังจากจ้องมองไปมาที่อีคริปส์และเอียน ไคซาร์ยิ้มในขณะที่เขาเริ่มดูการต่อสู้อีกครั้ง


 


* * *


 


“อืมมม ดังนั้นนี่คือป้อมปราการที่ต้านการโจมตีของกิลด์ดาร์ครูน่าครั้งสุดท้ายใช่มั้ย?”


ณ ป้อมปราการป้องกันของเมืองไพโร


ชายคนหนึ่งซึ่งยืนห่างจากกำแพงป้องกันเล็กน้อยเริ่มเดินไปที่ป้อมปราการอย่างช้าๆ


ดูเหมือนว่าเขาได้ตั้งค่าทั้งหมดของเขาให้เป็นส่วนตัวเนื่องจากไม่มีข้อมูลโผล่ขึ้นมา


นอกเหนือจากนั้นในขณะที่เขาสวมเสื้อผ้าเป็นชาแมนมืดและแม้กระทั่งหน้ากากสีดำ เขาก็ซ่อนตัวตนของเขาไว้อย่างสมบูรณ์และด้วยการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเขาจึงละลายเข้าไปเป็นฝูงชน


“ฉันต้องเข้าไปข้างในและดูที่โครงสร้าง…”


ทุกคนได้รับอนุญาตให้เข้าสู่เมืองไพโรตราบใดที่คุณยังเป็นผู้เล่นของอาณาจักรลัสเปล


อย่างไรก็ตามป้อมปราการป้องกันที่สร้างขึ้นจากกำแพงป้องกันสูงสามชั้นควบคุมการเข้าอย่างเข้มงวด


มันเป็นมาตรการที่นำมาใช้เพื่อให้โครงสร้างภายในของป้อมปราการที่สร้างขึ้นอย่างซับซ้อน เพื่อการป้องกันนั้นไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อภายนอก


ในการเข้าไปในป้อมปราการคุณจะต้องเป็นสมาชิกของกิลด์โลตัสหรือคุณต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้ากิลด์เฮิร์ซ


อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าชายผู้นี้ไม่แยแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ในขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้กำแพงโดยไม่ลังเล


และหลังจากนั้นไม่นาน


Seu-reu-reuk-.


ราวกับว่าร่างกายของมนุษย์ละลายไปในความมืดเขาก็โปร่งใส


เขาใช้ความสามารถซ่อนซึ่งถือได้ว่าเป็นความสามารถที่เป็นตัวแทนของแอสซาซิน


หลังจากหายตัวจากการใช้ซ่อนเขาก็ปีนป่ายอย่างรวดเร็ว


‘ฉันต้องระวังเรื่องการมองเห็นหอคอยป้องกันด้วยความสามารถของเครื่องตรวจจับ’


ท่ามกลางหอคอยป้องกันนั้นมีหอคอยหลายแห่งที่มีความสามารถในการตรวจจับที่สามารถรับรู้การล่องหนได้เช่นกัน


เนื่องจากหอคอยป้องกันมีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับกำลังต่อสู้ของพวกเขา โดยปกติจะไม่ถูกสร้างขึ้นมากนัก แต่ถึงกระนั้นเพราะพวกเขาถูกวางไว้ทั่วป้อมปราการเมืองไพโรการเคลื่อนไหวของเขาจึงระมัดระวังอย่างมาก


‘พวกเขาสามารถเตรียมพลังป้องกันในระดับนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้นได้ยังไง?’


ด้วยการเคลื่อนไหวที่ชำนาญชายผู้นั้นได้ขุดผ่านแต่ละมุมของป้อมปราการในขณะที่เขาเริ่มจำโครงสร้างเข้าไปในดวงตาของเขา


การเคลื่อนไหวในการซ่อนร่างของเขาในสถานที่ที่สายตาของยามไม่สามารถเข้าถึงได้เมื่อใดก็ตามที่ระยะเวลาของการล่องหนของเขาสิ้นสุดลงเป็นความว่องไวและเงียบสงบเหมือนแมวเข้าซอย


‘อืมม… ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าไปไม่ได้ไม่ว่าฉันจะใช้วิธีการแบบไหนก็ตาม”


หลังจากประสบความสำเร็จในการตรวจสอบป้อมปราการทั้งหมดนอกเหนือจากสถานที่สองแห่งที่ล้อมรอบไปด้วยหอคอยที่ตรวจจับได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เขาก็กระโดดออกจากป้อมปราการด้วยเสียงฝีเท้าอันเงียบสงบ


Ta-tat-!


ชายคนนั้นกระโดดลงมาจากที่สูงโดยไม่ลังเล


มันเป็นความสูงที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อจนถึงจุดที่มันยากที่จะหลบหนีจากความตายทันที ถ้าเขากระแทกพื้นแบบนั้น แต่เขาแสดงออกอย่างผ่อนคลาย


อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน


Seu-reu-reuk-.


หมอกสีดำพุ่งพรวดออกมาจากร่างของชายผู้หล่นลงและทันใดนั้นเขาก็กลายร่างเป็นอีกา


Caw- caw-!


อีกาที่มีขนสีดำนั้นมันดูมันวาวมันปีกของมันพุ่งเข้าหาความมืดในขณะที่มันหายไปอย่างไม่รีบร้อน


 


* * *


 


ในขณะที่เอียนใช้ธนูซึ่งเป็นอาวุธที่เขามั่นใจมากที่สุด เขาจึงสามารถเอาชนะนักรบเซลามัสระดับ B ได้อย่างง่ายดาย


 


ท่านประสบความสำเร็จในการปราบนักรบเซลามัสระดับ B

เมื่อท่านประสบความสำเร็จในการปราบพวกเขาอย่างท่วมท้นในระยะเวลาอันสั้น ท่านก็กระโดดข้ามเป็นระดับ A

 


คู่ต่อสู้ที่เขาเผชิญหน้าต่อไปหลังจากกระโดดข้ามเป็นระดับ A ด้วยความแตกต่างอย่างท่วมท้นก็ไม่ใช่ใครนอกจากอีคริปส์


เอียนหรี่ดวงตาของเขาขณะที่เขาถาม


“อืมมม… ท่านเป็นระดับ S งั้นหรอ?”


เมื่อเอียนถาม อิคริปส์พยักหน้า


 


ถูกต้องแล้ว เอียน

 


แม้จะมีการจัดอันดับการต่อสู้จบแล้ว ‘ธนูพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ยังคงอยู่ในมือของเอียน


และเหนือไหล่ของอีคริปส์ ดาบพิพากษาจะส่องแสงสีขาวสว่าง


เอียนจ้องมองไปที่ธนูพิพากษาในมือของเขาและดาบใหญ่พิพากษาของอิคริปส์ขณะที่เขาพูดอีกครั้ง


“ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขเดิม”


อีคริปส์พยักหน้า


 


เจ้าฉลาดดีนิ

 


Whoong-.


ในขณะที่มองเขาร่ายรำดาบใหญ่ที่แขวนอยู่บนหลังของเขาแล้วเหวี่ยงไปมาในอากาศเอียนก็เหงื่อออก


‘อะไรวะเนี่ย? ค่าสถานะความแข็งแกร่งของเขาสูงขนาดไหน ที่เขาจะสามารถแกว่งได้อย่างง่ายดายด้วยมือข้างเดียว?


อีคริปส์พูดต่อ


 


นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย มันจะเป็นการต่อสู้ที่ข้าชนะในตอนจบไม่ว่ายังไงก็ตาม

 


“…?”


 


ไม่ว่าเจ้าจะมีประสาทสัมผัสในการต่อสู้ที่ดีเพียงใด มันไม่เพียงพอที่จะเอาชนะความแตกต่างเลเวลระหว่างเจ้ากับข้าด้วยลูกเล่น

 


จากข้อมูลของอีคริปส์ที่โผล่ขึ้นมาเหนือหัวของเขาทันทีที่เขาพูดเสร็จ เอียนก็กระพริบตาและตะลึง


 


อีคริปส์ (ซัมมอนเนอร์) – เลเวล 250

 


มันเป็นเลเวล 250 แรกที่เขาเห็นหลังจากไคซาร์


เอียนแทบจะกลั้นคำสบถที่จะออกมาไม่ได้


‘อะไรวะเนี่ย เขาควรจะให้เควสต์ที่ฉันสามารถผ่านได้ มันจะมีฉากที่ไม่สมดุลอย่างนี้ได้ยังไงกัน?’


เช่นเดียวกับคำพูดของอีคริปส์ไม่ว่าเอียนจะบินไปและคลานไปมากแค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะเอาชนะความแตกต่างเลเวลตั้ง 100


เอียนถอนหายใจขณะที่เขาพูด


“มันก็ตามที่ท่านพูด การต่อสู้ครั้งนี้เห็นผลแล้ว… ยังมีเหตุผลที่จะต้องสู้อีกหรอ?”


อีคริปส์หัวเราะขณะที่เขาตอบกลับ


 


การต่อสู้ครั้งนี้ถูกตัดสินแล้ว แต่ยังมีเหตุผลที่เจ้าต้องสู้อยู่

 


“มันคืออะไรครับ?”


 


ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าเอาชนะข้าที่นี่ ตราบใดที่เจ้าได้รับการยอมรับจากข้า เจ้าจะได้รับคุณสมบัติสำหรับระดับ S

 


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น อาการความผิดหวังของเอียนสดใสขึ้นเล็กน้อย


“โอ้ ถ้าอย่างนั้น…!”


 


เพื่อความแม่นยำมากขึ้น ข้าอาจจะบอกว่ามันไม่ใช่การรับรู้ของข้า แต่เป็นการยอมรับของบรรพบุรุษ

 


“ไม่ว่ายังไงผมจะทำมัน ผมจะทำให้ดีที่สุด”


เอียนหมุนคนธนูที่อยู่ในมือของเขาเป็นวงกลมขณะที่เขายิ้ม


และความมั่นใจล้นเกินขนาด อีคริปส์ก็แสดงออกด้วยความพึงพอใจขณะที่เขาตอบกลับ


 


เอาล่ะ ถ้างั้นเราเริ่มกันเลยมั้ย?

 


ทันทีที่อิคริปส์พูดจบ เวลาแจ้งเตือนนับถอยหลังของการต่อสู้ก็ดังขึ้น


 


3… 2… 1…

 


เอียนดึงสายธนูทันที


Piiing-!


เมื่อลูกศรของเอียนออกจากสายธนูเมื่อเริ่มต้น การต่อสู้ของทั้งสองก็เริ่มขึ้น


 


ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถอบอุ่นร่างกายของฉันเป็นครั้งแรกเมื่อนานมาแล้ว

 


อีคริปส์เหวี่ยงดาบใหญ่กลับไปกลับมาในขณะที่เขาตอบโต้ลูกศรของเอียน


เช่นเดียวกับที่อีคริปส์คาดการณ์ความแตกต่างของการต่อสู้ระหว่างเอียนกับเขานั้นล้นหลามอย่างแน่นอน


อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเอียนจะยอมให้การโจมตีของเขาไปถึงตัวเขาได้อย่างง่ายดาย


Whoong-!


นั่นเป็นเพราะเมื่อมันมาถึงการต่อสู้กับใครบางคนที่มีความแข็งแกร่ง ค่าสถานะของเอียนที่ซึ่งความสามารถในการต่อสู้ของเขาถูกสะสมไว้ในค่าสถานะความว่องไวเปล่งประกาย


Bang-!


เมื่อดาบใหญ่ของอีคริปส์กระทบพื้นลานประลอง เสียงดังก็ดังขึ้นและก้อนหินที่แตกกระจายก็บินไปทุกทิศทุกทาง


Ting- Ti-ting-!


เอียนได้หลบหลีกอีคริปส์ซึ่งพุ่งเข้าใส่เขาขณะที่เขาวางลูกธนูสองลูกไว้ที่สายธนูพร้อมกันก่อนยิง


เมื่อต้อฝรักษาระยะห่างที่คงที่ในขณะที่ต้องต่อสู้ กลยุทธ์ในการวางลูกธนูสองลูกหรือมากกว่านั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่เอียนก็ไม่ได้ใช้


นั่นเป็นเพราะสิ่งนี้ทำให้อัตราความแม่นยำลดลงอย่างมาก


อย่างไรก็ตามเมื่อต้องต่อสู้ในระยะอันสั้นเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่แตกต่าง


เอียนมีความสามารถในการโจมตีเป้าหมายที่อยู่ด้านหน้าเขาได้ 1-2 เมตร แม้ว่าเขาจะวางลูกธนูสองอันหรือสามลูกไว้ที่สายธนู


Ta-tang-!


ในขณะที่ลูกศรของเอียนชนกับดาบของอีคริปส์เสียงโลหะก็ดังขึ้นและเขาก็พูดขณะทำหน้าบึ้งเล็กน้อย


 


ใช้กลกระจอกจังเอียน

 


เอียนเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องขณะที่เขาตอบกลับสั้นๆ


“ใช่สิ อย่างไรก็ตามมันยังเป็นสกิลระดับสูง”


การรุกและการป้องกันของทั้งสองนั้นดำเนินไปอย่างดุเดือดนานกว่า 10 นาที


เอียนต่อสู้กับคู่ต่อสู้ได้ดีซึ่งเขามีเลเวลต่างกัน 100 เลเวล


ความสามารถในการควบคุมพิเศษของเอียนมีอิทธิพลมากที่สุด เหตุผลว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเป็นไปได้ แต่ก็มีเหตุผลอื่นเช่นกัน


อย่างแรกเนื่องจากพวกเขาไม่มีอุปกรณ์อื่นนอกเหนือจากอาวุธของแต่ละคนและไม่สามารถใช้สกิลใดๆนอกเหนือจากการโจมตีขั้นพื้นฐานได้ ต้องขอบคุณที่ความสามารถในการควบคุมอันบริสุทธิ์ของเขาเปล่งแสงได้มากกว่าเดิม


อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป เอียนจึงโดนอีคริปส์โจมตี


Bang-!


“อีก-!”


จากแค่การโจมตีเดียวของอีคริปส์ เอียนถูกผลักกลับมาอย่างสมบูรณ์ก่อนที่เขาจะกลิ้งไปตามพื้นดิน


มันไม่ได้เป็นทักษะที่ใหญ่พอๆกับที่เอียนแสดงเมื่อต่อสู้กับนักรบเซลามัสระดับ D แต่เนื่องจากค่าสถานะของอีคริปส์สูงมาก ความเสียหายของการโจมตีด้วยฟาดระยะสั้นจึงเยอะมาก


ในขณะที่มองที่แถบพลังชีวิตของเขาซึ่งเริ่มกะพริบ เอียนก็บ่น


“ทำไมท่านถึงแข็งแกร่งเช่นนี้กัน?”


อีคริปส์จับดาบของเขาอย่างแน่หนาขณะที่เขาจ้องไปที่ไคซาร์เล็กน้อย


 


ข้าอาจจะอ่อนแอกว่าเจ้านั่น

 


และอีคริปส์พุ่งเข้าหาอีกครั้ง


ในขณะที่มองจิตวิญญาณของเขาซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนเอียนก็ถอนหายใจ


‘เป็นไปตามที่คาด เขาอ่อนให้ฉันจนถึงตอนนี้’


ในขณะที่อีคริปส์แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ปราบเอียนลง


จากมุมมองของเอียน อีคริปส์สามารถยุติการต่อสู้ได้ทันที


อย่างไรก็ตาม เขายังคงให้เอียนอยู่ในขอบเขตที่จำกัดและไม่ได้ดำเนินการโจมตีต่อไป


พวกเขาต่อสู้กันอีกประมาณสิบนาที


เอียนรู้สึกเหมือนกำลังเล่นกับเขาอยู่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้อารมณ์เสียอย่างสมบูรณ์


นี่เป็นเพราะเขาเคลื่อนไหวร่างกายอย่างบ้าคลั่งขณะต่อสู้แบบตัวต่อตัวโดยไม่ต้องยืมความแข็งแกร่งของสัตว์เลี้ยงเป็นครั้งแรก


มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งกับความรู้สึกที่เขากำลังจะพ่ายแพ้


อย่างไรก็ตามเมื่อเอียนรู้สึกถึงพลังงานจากที่อื่นเข้าสู่ในร่างกายของเขา ตาของเขาเบิกโพลง


‘อะไรอีกล่ะคราวนี้?’


เช่นนั้น ข้อความระบบสองสามอันโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


 


นักรบเซลามัสโบราณได้ยอมรับความสามารถในการต่อสู้ของท่านแล้ว

ศักยภาพของท่านที่ถูกคุมขังอยู่ภายในตัวท่านได้รับการปลดปล่อย

ความสามารถในการต่อสู้ทั้งหมดของท่านเพิ่มขึ้น 50%

 

 

 


ตอนที่ 173

 

“ดังนั้น… นายกำลังจะบอกว่ามันไม่บังเอิญใช่ไหม?”


เมื่อซามูเอลจินถาม ลิ่มหล่งพยักหน้า


“ถูกต้องจิน จากป้อมปราการการป้องกันเมืองทั้งหมดที่ฉันเคยเห็นมาจนถึงตอนนี้ พวกเขามีมาตรฐานการป้องกันที่พิเศษที่สุด”


“อะแฮ่ม…”


“เป็นที่เข้าใจได้เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าพลังป้องกันของพวกเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน”


เมื่อลิ่มหล่งพูด ซามูเอลจินขมวดคิ้ว


“นายแน่ใจหรือว่านายมองทุกที่อย่างละเอียดแล้ว?”


“อืมม คุณสามารถพูดได้ว่าฉันตรวจสอบประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ของสถานที่นั้น ฉันไม่สามารถเข้าใกล้สถานที่สองแห่งที่หอคอยตรวจจับได้ถูกสร้างขึ้นใกล้กัน”


ซามูเอลจินหลับตาโดยไม่พูดอะไรและลิ่มหล่งรอคำพูดต่อไปของเขา


และหลังจากนั้นไม่นาน ซามูเอลจินพูดต่ออีกครั้ง


“ถ้างั้นลิ่มหล่ง นายคาดการณ์อีกต่อไปอีกกี่วันนับจากนี้ว่าเมืองไพโรจะสามารถอยู่ต่อไปได้?”


“อืมมม…”


ลิ่มหล่งนึกถึงระดับของหอคอยป้องกันที่สร้างขึ้นภายในป้อมปราการและพื้นที่ในขณะที่เขาจมอยู่ในความคิดของเขา


และพูดอย่างช้าๆ


“ฐานทั้งหมดในพื้นที่นั้นในไม่ช้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของกองทัพอาณาจักรไคม่อนตอนนี้”


“ใช่หรอ?”


“ผมเดาว่าวันนั้นประมาณสองวันนับจากนี้…”


ซามูเอลจินพยักหน้า


“เป็นไปตามที่คาด ความคิดของนายคล้ายกับฉัน”


ลิ่มหล่งพูดต่อ


“หากเป็นเช่นนั้นอาจมีการโจมตีครั้งใหญ่ในเมืองไพโรเป็นเวลาประมาณสามวัน”


ลิ่มหล่งจับแผนที่ที่อยู่ด้านบนของโต๊ะกลมด้วยมือของเขาขณะที่เขาพูดต่อไป


“เมื่อลักษณะทางกายภาพของภูมิประเทศตะวันออกของเมืองไพโรมีความทนทานจึงเป็นการยากที่จะโจมตีผ่านทางนั้น ดังนั้นการโจมตีจะเข้าทางทิศตะวันตก ทิศใต้และทิศเหนือมากที่สุด”


ลิ่มหล่งหลับตาซักครู่แล้วก็ลูบคาง


‘จำนวนหอคอยป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ แต่ฉันก็เห็นด้วยเช่นกันหอคอยป้องกันรถถังระดับสูงซึ่งฉันไม่สามารถหาเกรดได้ ‘


‘จำนวนหอคอยป้องกันมีความสำคัญ แต่ผมก็เห็นป้อมปราการป้องกันระดับสูงซึ่งผมไม่สามารถหาระดับได้”


ลิ่มหล่งเปิดตาอีกครั้งและจ้องมองกัน


“ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถอยู่ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ มันเป็นไปได้มากที่พวกเขาจะอยู่ได้ประมาณสองสัปดาห์อย่างมากที่สุด”


ตามคำพูดของลิ่มหล่ง ดวงตาทั้งสองของซามูเอลจินเบิกโพลง


“ไม่สิ นายกำลังบอกว่ากิลด์โลตัสจะมีทรัพยากรเพียงพอที่จะอยู่ได้แม้กระทั่งหนึ่งสัปดาห์ของการโจมตีทั้งหมดของกองทัพอาณาจักรไคม่อนงั้นหรอ?”


เกียรติของซามูเอลเจ็บปวด


แม้แต่กิลด์ของเขาและกิลด์สเปนดอร์ซึ่งเป็นกิลด์ที่ครองตำแหน่งสูงสุดในบรรดากิลด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เข้าร่วมกับอาณาจักร ไม่ได้มีความมั่นใจเพียงพอที่จะใช้เวลานานกว่าสามวันในการต้านโจมตีทั้งหมดของกองทัพอาณาจักร


ยังไม่ได้บอกว่าพวกเขาสามารถใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากที่สุดสองสัปดาห์


ด้วยน้ำเสียงที่งุนงงเล็กน้อย ซามูเอลจินพูด


“มันยากที่จะเชื่อ แต่ถ้ามันเป็นจริง นี่จะเป็นปัญหาใหญ่”


คราวนี้ลิ่มหล่งแสดงท่าทางงุนงง


“ปัญหา… ใหญ่? ทำไมล่ะ? มันจะไม่ง่ายสำหรับพวกเราที่จะต้านพวกเขาในอนาคต หากกิลด์โลตัสใช้เวลานานและระเบิดพลังทางทหารของคู่ต่อสู้ทิ้งไว้สักหน่อยงั้นหรอ?”


เมื่อลิ่มหล่งพูด ซามูเอลจินแสยะยิ้มขณะที่เขาส่ายหัว


“ลิ่มหล่ง”


“…?”


“นายสามารถตรวจสอบอันดับของกิลด์โลตัสตอนนี้ได้ไหม?”


ตามคำพูดของซามูเอลจิน ลิ่มหล่งรู้สึกสับสน แต่เขาก็เปิดรายการการจัดอันดับและตรวจสอบอันดับของโลตัสกิลด์ทันที


และเขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากงุนงง


 


กิลด์โลตัส – อันดับ : 37

 


“นี่มัน…?”


อันดับของกิลด์โลตัสซึ่งแน่นอนว่าอยู่นอก 100 อันดับแรก แม้กระทั่งก่อนที่พวกเขาจะต่อสู้กับกิลด์ดาร์ครูน่าได้กระโดดขึ้นไปสูงถึง 40 อันดับสูงสุด


การไม่ประหลาดใจกับสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้สำหรับลิ่มหล่ง


ซามูเอลจินซึ่งหยุดพักหายใจสักครู่ พูดอีกครั้ง


“กิลด์โลตัสเติบโตมากกว่าสองเท่าผ่านการต่อสู้กับกิลด์ดาร์ครูน่าเพื่อชัยชนะ นี่ต้องขอบคุณค่าประสบการณ์และคะแนนพิเศษรวมถึงชื่อเสียงที่พวกเขาได้รับในขณะที่ฆ่าทหารกิลด์ดาร์ครูน่า 5,000 คน”


ลิ่มหล่งบ่นกับตัวเองโดยไม่รู้สึกตัว


“เป็น… ไปไม่ได้”


ซามูเอลจินยิ้มอย่างข่มขื่น


“ฉันก็คิดอย่างนั้น แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าสองเท่าของเดิมนั้นไม่สมเหตุสมผลความจริงที่ว่ากิลด์โลตัสได้ต่อต้านกองกำลังของกิลด์ดาร์ครูน่าถึง 5,000 ก็ไม่สมจริงเช่นกัน”


ความจริงแล้ว กิลด์โลตัสไม่ได้เติบโตขึ้นทันทีเพื่อเข้าถึงอันดับที่ 37 จากรางวัลที่พวกเขาได้รับจากกิลด์ดาร์ครูน่า


แน่นอนว่ามันเป็นความจริงที่ว่าชัยชนะของการต่อสู้เพื่อป้องกันนั้นได้กลายเป็นพลังการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ในระหว่างนี้พวกเขาได้ยกระดับของเมืองของเมืองโลตัสขึ้นมาและทำให้มันกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ได้รับจากพื้นที่การฝึกฝน พวกเขามีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในเมืองที่พวกเขามี


ลิ่มหล่งถามซามูเอลจิน


“ถ้าอย่างนั้นซามูเอล คุณคิดว่ากิลด์โลตัสจะเติบโตจนถึงจุดที่พวกเขาจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อกิลด์ของเราหรือไม่?”


ซามูเอลจินพยักหน้า


“เพียงแค่ดูที่อัตราการเติบโตของพวกเขาในตอนนี้ มันจะไม่แปลกถ้าคุณไม่มีความคิดแบบนั้นใช่ไหม?”


“อืมมม…”


“หากในกรณีที่กิลด์โลตัสต่อต้านกองทัพอาณาจักรไคม่อนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ไม่สิ สองสัปดาห์ พวกเขาจะสามารถได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับที่พวกเขาได้รับในขณะที่ต่อต้านกิลด์ดาร์ครูน่าในครั้งนี้ “


ลิ่มหล่งซึ่งได้ยินทุกอย่างแสดงท่าทางรุนแรง


‘ซามูเอลก็ถูก ไม่สิ กิลด์โลตัสจะเติบโตอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่พวกเขาประสบความสำเร็จในการป้องกัน’


หากพวกเขาจะต่อต้านกองกำลังพันธมิตรของอาณาจักรไคม่อนเป็นเวลาสองสัปดาห์แม้ว่ากิลด์โลตัสจะต้องสูญเสียเมืองไพโร พวกเขาจะได้รับคะแนนพิเศษและค่าประสบการณ์เพียงพอรวมถึงชื่อเสียงไปจนถึงจุดที่มันไม่มีการรับของเสีย


“นายคิดว่าทำไมฉันถอขออาสาสมัครระดับสูงอย่างนายไปสอดแนม ลิ่มหล่ง?”


ลิ่มหล่งพยักหน้า


“มันเป็นการสอดแนมที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน”


ซามูเอลพูดต่อ


“โครงสร้างของป้อมปราการเมืองไพโร… นายนำมันกลับมาไว้ในหัวของนายด้วยใช่มั้ย?”


“ตามความเป็นจริง ผมจัดการมันเล็กน้อยและจดลงไป”


ซามูเอลแสดงท่าทางพึงพอใจขณะที่เขาจ้องไปที่ลิ่มหล่ง


“บันทึกความทรงจำทั้งหมดของนายให้มากที่สุดและไม่แม้ว่านายจะเสี่ยงต่อการสอดแนมอีกสองสามครั้งถ้านายต้องการ ได้โปรดสร้างแผนที่ป้อมปราการภายใน”


“…!”


ดวงตาทั้งสองของลิมหลงผู้รู้ถึงความตั้งใจของซามูเอลจินโตขึ้น


“ไม่มีทาง…?”


ซามูเอลจินพยักหน้า


“ฉันวางแผนจะมอบให้กับกิลด์ไททัน”


ลิ่มหล่วแสดงออกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน


“ถึงกระนั้น ไม่มากเกินไปหรอ?”


อย่างไรก็ตามการแสดงออกของซามูเอลนั้นรุนแรง


“เราจำเป็นต้องตัดพวกเขาออกก่อนที่พวกเขาจะเติบโตมากขึ้น”


ลิ่มหล่งขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็พยักหน้า


“รับทราบครับหัวหน้า”


 


* * *


 


ค่าสถานะเพิ่มเติม 50% ที่เอียรได้รับผ่านการปลดปล่อยศักยภาพของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก


Pung- Pu-pung-!


ความจริงที่ว่าพลังระเบิดที่พุ่งออกมาจากปลายลูกธนูนั้นแข็งแกร่งมากจนไม่สามารถเทียบได้ก่อนหน้านี้แน่นอน แต่ตอนนี้ค่าสถานะความคล่องแคล่วของเขาอย่างน้อยก็สูงกว่าของอีคริปส์


เอียนก็สามารถต่อสู้กับอีคริปส์ได้เกือบเท่ากัน


 


พลังการต่อสู้ของเจ้าน่าประหลาดใจมาก เอียน

 


อีคริปส์สูญเสียพลังชีวิตไปครึ่งหนึ่งและแถบพลังชีวิตของเขาก็กระพริบ


เขาชื่นชมประสาทสัมผัสการต่อสู้ของเอียนอย่างแท้จริง


“บัฟนี้เรียกว่าปลดปล่อยศักยภาพหรืออะไรก็ตาม… ฉันไม่รู้ว่ามันใช้งานได้นานแค่ไหน แต่ฉันต้องจบการต่อสู้ภายในระยะเวลานั้น”


เมื่อเอียนพูด อีคริปส์หัวเราะออกมา


 


ความปรารถนาของเจ้าในการชนะอย่างน้อยก็น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล เนื่องจากบัฟนั้นจะไม่หายไปจนกว่าการต่อสู้ระหว่างเจ้ากับข้าจะจบลง

 


แม้ว่าทั้งสองคนพูดคุยกัน พวกเขาก็ไม่ได้พักจากการต่อสู้


อีคริปส์พุ่งไปข้างหน้าอย่างขะมักเขม้นในขณะที่แกว่งดาบใหญ่ของเขา


อย่างไรก็ตาม เอียนเพิ่มระยะห่างระหว่างเขากับอีคริปส์ในขณะที่เขาทำความเสียหายอย่างต่อเนื่อง


Ting- Ting-!


ในขณะที่ลูกศรของเอียนที่พุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว อีคริปส์ก็ยกดาบใหญ่ของเขาขึ้นมา


 


นี่คือสุดท้ายเอียน หากเจ้าสามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ ข้าจะยอมรับการชนะของเจ้า

 


“…!”


หากสภาพการต่อสู้ในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป มันเป็นสถานการณ์ที่เอียนจะได้รับผลประโยชน์อย่างช้าๆ


‘เมื่อฉันได้พบมุมที่สมบูรณ์แบบที่จะชนะ… อย่างที่คาดไว้มันไม่มีทางที่มันจะจบเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย’


เขาไม่รู้ว่าจะโจมตีแบบไหน แต่เอียนก็ยิงธนูออกไปโดยไม่เหลือเพื่อหยุดยั้งการโจมตีของอีคริปส์


Ping- Pi-ping-!


อีคริปส์ซึ่งยกดาบใหญ่ของเขาขึ้นมาต่อหน้าและป้องกันลูกศร ขณะที่เขาเปล่งเสียงโห่ร้อง


 


ฮ๊ากก!

 


และในขณะนั้นร่างกายของอีคริปส์สั่นและในกระบวนการนั้น ร่างของเขาก็เริ่มแยกออกมามากขึ้นเรื่อยๆ


ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเอียนก็หวาดกลัวขณะที่เขาขยับร่างกาย


‘อะไรวะเนี่ย เขาใช้สกิลการลอกแบบ? ไม่สิ มันแตกต่างกันบ้างที่จะเรียกมันว่าร่างแยกแบบ… เขาใช้การเคลื่อนไหวความเร็วสูงที่คุณเห็นในหนังสือหรือภาพยนตร์เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้งั้นหรอ?’


หลังจากนั้นไม่นานร่างของอีคริปส์ซึ่งแบ่งออกเป็นสาม ยกดาบขึ้นพร้อมกันและพุ่งไปหาเอียน


 


ฮึบบ!

 


เอียนปล่อยคำสบถภายในใจออกมาขณะที่เขาดึงลูกธนูออกมาแล้วยกขึ้น


‘ไม่สิ ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้สกิล! ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะใช้ความสามารถแปลกๆแบบนั้นเหรอ?’


อย่างไรก็ตามเอียนรู้ดีกว่าคนอื่นๆไม่ว่าเขาจะบ่นมากแค่ไหนก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเขาจึงขยับร่างกายของเขาอย่างวุ่นวาย


‘เวรเอ้ย มันยากพอที่จะโจมตีแม้แต่คนเดียวถ้าเขาเคลื่อนไหวแบบสุ่ม ดังนั้นพวกเขาคาดหวังอะไร?


ต้องขอบคุณที่ทำให้ตัวเขาเองเว้นระยะห่างมากที่สุด เขายังคงมีระยะห่างประมาณ 20 เมตร แต่ระยะทางแบบนั้นสั้นพอที่จะทำให้มันลดลงในทันที


เอียนปล่อยสายธนูโดยไม่ชักช้า


“เวรเอ้ย ฉันจะยิ่งทุกอย่างเลย!”


เอียนเริ่มยิงอย่างรวดเร็วเป็นครั้งที่สอง


Ping- Ping- Ping-!


มันจะเป็นการดีที่สุดถ้าเขาโจมตีทั้งสามร่างของอีคริปส์ซ้ำอย่างแม่นยำด้วยลูกธนูเพียงสามลูก แต่เอียนซึ่งตัดสินใจว่าใกล้เคียงกับเป็นไปไม่ได้ ก็ยังยิงลูกธนูต่อไป


Ping- Ping-!


แม้มันจะดูเหมือนว่าเขาโจมตีร่างแยกแบบได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ลูกศรของเอียนก็ผ่านเงาอย่างไร้ค่าเมื่อมันบินผ่าน


เอียนไม่เพียงแต่ยืนนิ่งในขณะที่เขายิงพวกมัน แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของอีคริปส์ที่ใช้สกิลร่างแยกได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่าและช่วยไม่ได้ที่ระยะห่างระหว่างอีคริปส์และเอียนจะน้อยลงเรื่อยๆ


มันกลายเป็นสถานการณ์ที่ผันผวนอย่างแท้จริง


‘อ๊าก โดนทีเถอะ!’


เอียนดึงสายธนูโดยไม่พัก ขณะที่อีคริปส์ลดระยะห่างระหว่างพวกเขาอย่างต่อเนื่องในขณะที่เขาควบคุมพวกเขาอย่างชำนาญ


อย่างไรก็ตามจากนั้น ร่างแยกเคลื่อนไหวรวดเร็วทันที


“…!”


และในเวลานั้น เขารู้สึกถึงพลังงานที่เย็นชาอยู่ข้างหลังเขา


เอียนบิดเอวของเขาอย่างระมัดระวังขณะที่เขาขว้างลูกศรที่เขาถือไว้ข้างหลังเขา


Puck-!


เสียงทื่อดังขึ้นและนั่นก็หมายความว่าลูกธนูที่เอียนขว้างไปติดบางอย่าง


เอียนรีบวางลูกธนูใหม่ใส่คันธนูของเขาแล้วยิงมันออกไป


Bang-!


เมื่อพลังระเบิดที่หัวลูกศรพุ่งออกมาเสียงคำรามดังขึ้น


Whoong-!


พร้อมกับเสียงที่ดังกึกก้องที่สั่นสะเทือนทั้งลานประลอง ร่างแยกที่พุ่งเข้าหาเอียนก็กลายเป็นควันสีขาวและหายไป


‘ฉัน… ยิงเขาโดนหรอ’


เอียนก้าวถอยหลังไปข้างหลังอย่างระมัดระวังขณะที่เขาเพิ่มระยะห่างระหว่างอีคริปส์กับเขา


อย่างไรก็ตาม เวลาต่อมา ข้อความระบบที่โผล่ขึ้นบอกถึงชัยชนะของเอียน


กริ๊ง-


 


ท่านประสบความสำเร็จในการปราบนักรบเซลามัสระดับ S ‘อีคริปส์’

อัปเดตหอเกียรติยศของเซลามัสแล้ว

ชื่อผู้เล่น ‘เอียน’ ถูกจารึกไว้ในจุดสูงสุดของหอเกียรติยศเซลามุส

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 15.6 ล้านหน่วย

ท่านได้รับชื่อเสียง 300,000 หน่วย

ท่านได้เพิ่มเลเวล ท่านถึงเลเวล 151

 

 

 


ตอนที่ 174

 

แน่นอนสำหรับอีคริปส์ แต่สำหรับไคซาร์ซึ่งเป็นบุคคลที่นำเอียนมาที่แท่นบูชาผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์


อีคริปส์ที่ถูกทำลายกลายเป็นแสงสีฟ้าและปรากฏในจุดเดียวกันอีกครั้ง ในขณะที่เอียนตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลของเขาในขณะที่ยิ้ม


ไคซาร์ที่หันกลับมามองทั้งสองคนค่อยๆพูด


“ช่างน่าประหลาดใจมากเอียน ถ้าคิดว่ามันเป็นไปได้ที่คุณจะพ่ายแพ้ผู้เฒ่าคนนั้น”


เมื่อเห็นความสามารถในการต่อสู้ของเอียน ไคซาร์แสดงออกถึงความประหลาดใจอย่างแท้จริง เนื่องจากอีคริปส์เป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งเพียงไม่กี่คนที่ไคซาร์ยอมรับ


เอียนพูดกับไคซาร์ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง


“ฮุฮุ เห็นหรือยังว่าฉันเก่งแค่ไหน อย่ามาดูถูกฉันอีก เจ้าผู้ติดตาม”


“อืมม…”


ไคซาร์แสดงสีหน้าให้เห็นว่าเขาไม่พอใจ


อย่างไรก็ตาม เอียนพึงพอใจในเส้นทางของตัวเอง


เนื่องจากเขาหนีออกมาจากการเย้ยหยันได้


“หึ ขี้จุกจิด”


อีคริปส์ที่เปิดเผยตัวเองอย่างสมบูรณ์อีกครั้งได้เข้าหาเอียน


 


น่าประหลาดใจมาก ข้าแสดงความเคารพต่อความสามารถในการต่อสู้ของเจ้า

 


ในขณะที่มองดูอีคริปส์ซึ่งวิธีการพูดครั้งแรกเปลี่ยนไปเอียนก็ยิ้มด้วยความยินดี


“ขอบคุณครับ ผมโชคดีเฉยๆ”


เอียนแสดงความคิดเห็นที่ถ่อมตน


‘เควสต์ยังไม่จบ ฉันต้องเพิ่มความสัมพันธ์ให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้’


นี่เป็นเหมือนสัญชาตญาณของนักเล่นเกมที่มีความซับซ้อนมากกว่า


 


โฮะโฮะ ข้าไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่อย่างใดก็ตามเจ้าได้ผ่านการทดสอบครั้งแรกในฐานะระดับ S ขอแสดงความยินดีด้วย

 


เมื่อคำพูดของอีคริปส์สิ้นสุดลง ข้อความของระบบที่แจ้งเตือนให้เอียนทราบว่าเควสต์เสร็จสมบูรณ์แล้วโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเขา


กริ๊ง-


 


ท่านประสบความสำเร็จการทำเควสต์ ‘บททดสอบของเผ่าเซลามัส (1)’

ระดับการเคลียร์ : SS

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 12.25 ล้านหน่วย

ท่านได้รับชื่อเสียง 100,000 หน่วย

ท่านได้รับ ‘คัมภีร์เวทย์การมองเห็น’ ของเผ่าเซลามัส

ท่านได้รับ ‘กล่องอาวุธแห่งการพิพากษา’

 


เอียนผู้ตรวจสอบข้อความรีบเปิดคลังและตรวจสอบรางวัลของเขาและในวินาทีต่อมาเขาก็ขมวดคิ้วทันที


“ไม่นะ อีคริปส์นี่มันมากเกินไปหรือป่าวครับ?”


อีคริปส์เอียงคอขณะที่เขาตอบกลับ


 


เจ้าหมายความว่ายังไง?

 


“อย่างน้อยท่านควรให้ผมเลือกประเภทของอาวุธ!”


คัมภีร์เวทมนตร์ที่เอียนได้รับนั้นเป็นไอเทมที่อนุญาตให้เขาได้รับสกิลการมองเห็นของเผ่าเซลามัส ในขณะที่กล่องอาวุธแห่งคำพิพากษาซึ่งได้รับการแนะนำจากชื่อของมันเป็นสิ่งที่อนุญาตให้เขาได้รับหนึ่งในอาวุธ ‘การพิพากษา’ แบบสุ่ม


ในขณะที่มองเอียนซึ่งน้ำตาจะไหล อีคริปส์ส่ายหัวอย่างช้าๆ


 


อะแฮ่ม… นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ เนื่องจากเป็นสมบัติที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ…

 


ความจริงที่ว่าอีคริปส์นั้นไม่แตกต่างกันมากนัก


หากเขาต้องการตำหนิใครสักคน เขาควรจะตำหนิทีมพัฒนา เนื่องจากจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหากเขาตำหนิอีคริปส์


เอียนถอนหายใจขณะที่เขาหยิบคัมภีร์เวทย์ออกมาก่อน


‘ฉันสงสัยว่าสกิลประเภทอะไรจะออกมา’


มุมปากเอียนซึ่งงับคัมภีร์เวทย์ในมือของเขาม้วนตัวขึ้นอีกครั้ง


เขาบ่น แต่อย่างน้อยในขณะที่เขาใช้ไอเทมรางวัลแบบสุ่ม ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้น


“เปิด!”


เอียนอ้าปากและจากนั้น ข้อมูลของสกิลใหม่ที่ได้รับโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


กริ๊ง-


 


ความประสงค์ของนักรบเซลามัส

ประเภท : สกิลใช้งาน


เลเวลสกิล : เลเวล 0


ระดับสกิล : Legendary


ความชำนาญ : ไม่มี


สิ่งที่ต้องจ่าย : ไม่มี


เวลาคูลดาวน์ : 30 นาที


เป็นเวลา 20 นาที ค่าสถานะการต่อสู้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 40% และเลือกค่าสถานะที่ไม่ใช่ค่าสถานะต่อสู้นำมารวมกัน


นอกจากนี้ในช่วงเวลาของ ‘ความประสงค์ของนักรบเซลามัส’ ความสามารถของอาวุธทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น ’15 เลเวล’ และการร่ายอาจได้รับเอฟเฟกต์การชดเชยการต่อสู้ที่เกิดขึ้นผ่านการเพิ่มระดับความสามารถของอาวุธ


*ช่วงเวลาของ ‘ความประสงค์ของนักรบเซลามัส’ จะไม่มีสกิลอื่นที่สามารถใช้ได้


*เงื่อนไขการได้มาของสกิล : มีเพียงซัมมอนเนอร์ที่ได้รับการยอมรับจากเผ่าเซลามัสเท่านั้น


 


หลังจากอ่านสกิลอย่างถี่ถ้วนหัวของเอียนก็กลายเป็นความสับสนเล็กน้อย


‘มันเป็นสกิลที่ดีแน่นอน… แต่ฉันจะต้องใช้มันอย่างชาญฉลาดจริงๆ’


อย่างแรก ระดับสกิลคือ Legendary


นี่เป็นสกิลระดับ Legendary อันแรกที่เอียนครอบครอง


และความเหมาะสมของอันดับมันมีบัฟเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่ง


‘เพื่อเพิ่มค่าสถานะการต่อสู้ 40% และเปลี่ยนสถานะที่ไม่ได้ต่อสู้ให้กลายเป็นค่าสถานะการต่อสู้…’


ค่าสถานะที่ไม่ใช่การต่อสู้ของเอียนนั้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อ


เพราะเขาฟาร์มและผลิตเครื่องรางเมื่อใดก็ตามที่เขามีเวลานับตั้งแต่เขาได้รับอาชีพการผลิต แม้ว่าเขาจะลบค่าสถานะอาชีพของเขา เช่นค่าความสัมพันธ์เป็นต้น เขาได้รับค่าสถานะอื่นๆเช่น ความชำนาญ โชค ความอดทน ฯลฯ


ค่าตัวเลขของพวกเขาเพียงอย่างเดียวไม่สูง แต่เนื่องจากมีหลายประเภทที่แตกต่างกัน ดังนั้นถ้าเขารวมพวกมันทั้งหมดความสามารถนั้นจะไม่ถูกมองข้าม


‘ลองดูสิ ถ้าฉันเพิ่มพวกมันทั้งหมด…’


เอียนเริ่มเพิ่มค่าสถานะของเขาอย่างขยันขันแข็งทีละอันและหลังจากเขาตรวจสอบผลลัพธ์ เขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ


‘ถ้าฉันเพิ่มมันทั้งหมดและรวมกับประสาทสัมผัสของฉัน มันจะใกล้เคียงกับค่าสถานะปัจจุบันของฉันเป็นสองเท่า’


ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาสามารถเปลี่ยนสถานะเหล่านั้นให้เป็นพลังโจมตีหรือพลังป้องกันเมื่อต้องการวิธีการใช้ไม่มีที่สิ้นสุด


อย่างไรก็ตามเอฟเฟกต์เพิ่มเติมที่ถูกเขียนไว้ข้างใต้นั้นเป็นเรื่องหลอกลวงมากกว่าบัฟค่าสถานะ


‘ความเชี่ยวชาญของอาวุธทุกชนิดจะเพิ่มขึ้น 15 เลเวล’


กล่าวอีกนัยหนึ่งนั่นหมายความว่าแม้ว่าเขาจะใช้อาวุธที่เขาถืออยู่เป็นครั้งแรก เขาจะได้รับความสามารถเลเวลปานกลางเลเวล 5 โดยพื้นฐาน


นี่เป็นเพราะความชำนาญแบ่งออกเป็นสี่ขั้นตอนคือระดับเริ่มต้น ระดับกลาง ระดับสูงและในที่สุดก็เป็นมาสเตอร์และแต่ละขั้นนั้นประกอบด้วย 10 เลเวล


‘แม้จะมีสกิลนี้เพียงอย่างเดียว แต่มันก็เหมือนกับเหตุผลที่ทำให้ฉันมาที่นี่’


จากการตัดสินของเอียนสกิลนี้เป็นสกิลบัฟที่ยิ่งใหญ่ที่เขายังไม่เคยเห็นมาก่อนจนถึงตอนนี้


‘มากกว่าสกิลบัฟ ฉันควรจะเรียกมันว่าสกิลการเปลี่ยนค่าหรือไม่?’


คราวนี้เอียนหันมามองด้านล่างของคัมภีร์


 


ในช่วง ‘ความประสงค์ของนักรบเซลามัส’ จะไม่สามารถใช้สกิลอื่นได้

 


เช่นเดียวกับความสามารถบัฟดีที่ ต้องมีบทลงโทษที่หนักหนา


เป็นเวลา 20 นาทีที่สถานะของความประสงค์ของนักรบเซลามัสจะหมดลง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถใช้สกิลใดๆอาจมีความสำคัญอย่างแท้จริง


‘ก่อนที่ฉันจะใช้สกิลความประสงค์ของนักรบเซลามัส อย่างแรกฉันจะต้องใช้สกิลบัฟอื่นๆของฉันก่อน ดังนั้นฉันจะต้องจัดการสกิลเวลาคูลดาวน์ให้ดีขึ้น…’


หากเขาใช้สกิลความประสงค์ของนักรบเซลามัสก่อนโดยบังเอิญ เขาจะต้องเข้าสู่สนามรบโดยไม่ได้รับบัฟอื่นๆเป็นเวลา 20 นาที


เอียนใช้ความคิด


‘อาจหมายความว่าฉันไม่สามารถอัญเชิญหรือถอนสัตว์เลี้ยงตัวไหนๆเป็นเวลา 20 นาทีก็ได้เช่นกัน?’


จนถึงตอนนี้ ถ้าเขาเห็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในสถานการณ์อันตรายในระหว่างการต่อสู้ เขาจะปกป้องสัตว์เลี้ยงของเขาเสมอโดยถอนพวกเขาออก


อย่างไรก็ตามถ้าเขาอยู่ในสถานะความประสงค์ของนักรบ เขาจะไม่สามารถถอนสัตว์เลี้ยงของเขาได้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์แห่งความตาย


‘อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือแม้ว่าจะมีการพิจารณาการลงโทษ ฉันจะไม่สามารถทำสิ่งอื่นได้นอกจากใช้สกิลนี้’


เอียนเข้าใจถึงการใช้สกิลนี้อย่างแม่นยำ


ในการทำให้ซัมมอนเนอร์อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้พวกเขาสามารถมีบทบาทอย่างแข็งขันในการต่อสู้นั่นคือบทบาทของสกิลนี้


แตกต่างจากอาชีพอื่นๆ ซัมมอนเนอร์สามารถใช้อาวุธทุกชนิดได้อย่างอิสระ


ซัมมอนเนอร์เป็นอาชีพเดียวที่สามารถใช้อาวุธทุกชนิดโดยไม่มีการลงโทษ แต่ในทางกลับกันมันเป็นอาชีพเดียวที่ไม่มีอะไรเหมือนอาวุธพิเศษที่พวกเขาสามารถได้รับการชดเชยกับอาชีพอื่นๆ


แน่นอนว่าไม่มีสกิลการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะของอาวุธและหากเป็นเช่นนั้นการไร้ความสามารถในการใช้สกิลนั้นไม่ได้เป็นโทษอย่างมากเมื่อมาถึง ‘การต่อสู้ส่วนตัวของซัมมอนเนอร์’


อีคริปส์ถามเอียนซี่งกำลังครุ่นคิด


 


เจ้าคิดอะไรนานจัง?

 


เอียนซึ่งกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีการใช้สกิลอย่างเมามันรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาตอบกลับ


“อ่อ ผมกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีการใช้สกิลใหม่ที่ผมได้รับระหว่างการต่อสู้ครับ”


 


อืมม… ข้าเข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่เจ้าต้องทำ ข้าต้องการให้เจ้ารีบหน่อย

 


เอียนซึ่งเพิ่งจำได้ว่าเควสต์นี้เป็นเควสต์ที่เชื่อมโยงกันก็เกาหัวของเขา


“อ่อ เข้าใจแล้วครับ รอสักครู่นะครับ”


เอียนซึ่งจัดการความคิดของเขาเกี่ยวกับสกิลอย่างคร่าวๆดึงกล่องอาวุธออกมาในครั้งนี้


‘มันจะดีที่สุดถ้าธนูออกมาจากเจ้านี่…’


เอียนซึ่งวางมือไว้บนกล่อง พูดด้วยเสียงเบาๆ


“เปิด”


ขณะที่เขาทำเช่นนั้นกล่องที่บรรจุด้วยลวดลายที่ดูหรูหราลอยไปในอากาศและในขณะที่ปล่อยกระแสทองคำออกมามันก็เปิดออก


กริ๊ง-


 


ท่านได้เปิด ‘กล่องอาวุธพิพากษา’

ท่านได้รับ ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’

การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา

ประเภท : หอก


ระดับ : Legendary


จำกัดการสวมใส่ : นักรบเซลามัสระดับ S


พลังการโจมตี : 1825-2005 หน่วย


ความทนทาน : 105/105


คุณสมบัติ : ความสามารถการต่อสู้ทั้งหมด +150


ความเป็นผู้นำ +200


ความสัมพันธ์ +150


พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่ถูกอัญเชิญจะเพิ่มขึ้น 15% ในขณะที่พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 35%


*Sensitivity


*ความไวแสง


หากสร้างความเสียหายคริติคอลกับคู่ต่อสู้ หนึ่งในพลังแฝงตัวของสัตว์เลี้ยงที่ถูกอัญเชิญจะมีโอกาสถูกเรียกใช้ 20%


(ความสามารถที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกใช้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายจะไม่ถูกเรียกขึ้นมา)


*สายฟ้าแห่งการพิพากษา


การโจมตีมีโอกาส 10% ที่จะเรียก ‘สายฟ้าแห่งการพิพากษา’


‘สายฟ้าแห่งการพิพากษา’ จะสร้างความเสียหายได้มากขึ้นด้วย ‘เวทย์จิตวิญญาณ’ ที่สูงกว่าและด้วยจุดที่สายฟ้าถูกเรียกว่าเป็นมาตรฐานความเสียหาย 50% จะถูกสร้างกับฝ่ายตรงข้ามภายในรัศมี 5 เมตร


*นี่เป็นไอเทมของผู้เล่น ‘เอียน’


ไอเทมนี้ไม่สามารถถ่ายโอนไปยังผู้เล่นรายอื่นหรือถูกขายและแม้ว่าตัวละครจะตายก็ไม่ดรอป


นี่คืออาวุธของจิตวิญญาณแห่งราชาที่ปกป้องเผ่าเซลามัสโบราณ


ในบรรดาอาวุธทั้งหมดของจิตวิญญาณของราชานี่เป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและมีค่าที่สุด


 


‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ เปล่งแสง


ในขณะที่ถือหอก เอียนอ่านข้อมูลของไอเทม


‘นี่… มันถึงจุดที่ฉันต้องเพิ่มระดับการใช้หอกตั้งแต่ตอนนี้’


ความจริงแล้วคุณสมบัติเพิ่มเติมที่แนบมานั้นคล้ายคลึงกับ ‘สนับมือเหล็กของซัมมอนเนอร์โบราณ’ ที่เอียนใช้มานานแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ


ส่วนที่เพิ่มพลังชีวิตและพลังโจมตีของสัตว์เลี้ยงที่อัญเชิญนั้นก็คล้ายกันและคุณสามารถพิจารณาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ความไว’ ซึ่งสามารถเรียกใช้พลังแฝงของสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นความสามารถในการคัดลอกที่สมบูรณ์แบบ


อย่างไรก็ตามพลังการโจมตีขั้นพื้นฐานของอาวุธนั้นเยอะมากจนถึงจุดที่ไม่สามารถเทียบได้กับสนับมือและในขณะที่เขาต้องการเรียกสายฟ้าแห่งการพิพากษาในทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันถึงจุดที่ร่างกายของเขาคันไปทั่ว


‘รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสไตล์ของฉันเช่นกัน’


เช่นเดียวกับหอกงูซึ่งเป็นอาวุธที่มีชื่อว่า ‘งู’ เมื่อปลายดาบโค้งงอเหมือนงูใบมีดหอกซึ่งงออย่างสวยงามในรูปของสายฟ้าฟาดดึงดูดเอียนอย่างสมบูรณ์แบบ .


อีคริปส์ซึ่งเข้ามาหาเอียนก็พูด


 


เอียน เจ้านี่โชคดีจริงๆ

 


เอียนที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูดกระพริบตาทั้งสองเมื่อเขาถามกลับ


“ขอโทษนะครับ? ท่านหมายความว่ายังไงครับ?”


อีคริปส์พูดต่อ


 


อาวุธที่เจ้าถืออยู่ตอนนี้น่ะ

 


“…?”


 


มันเป็นอาวุธระดับ Legendary ที่รู้จักกันในชื่ออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาอาวุธของการพิพากษา เจ้าสามารถคิดว่ามันเป็นอาวุธที่แสดงถึงคำพิพากษา

 


เอียนแสดงสีหน้าใหม่ขณะที่มองหอก


‘นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมชื่อของอาวุธชนิดนี้ไม่ได้ถูกกล่าวถึงแยกจากกันเช่นดาบการพิพากษาหรือธนูการพิพากษางั้นหรอ?’


Whoong- Hoong-!


เอียนซึ่งหมุนหอกไปรอบๆ พยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ


“มันให้ความรู้สึกเหมือนได้รับอาวุธที่น่าทึ่งฉันจะใช้มันอย่างดี”


อีคริปส์ยิ้มขณะที่เขาพูด


 


แน่นอนว่าหอกนั้นเป็นอาวุธที่ยังคงมีพลังเหลือเชื่อ แต่ถ้าเจ้าผ่านประตูสุดท้ายเช่นกันเจ้าอาจได้รับความสามารถเพิ่มขึ้นอีกสองเท่า

 


“…!”


เอียนรู้สึกว่าเขาจะไฟลุกมากยิ่งขึ้น


‘ถ้าฉันได้รับความสามารถเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ ฉันจะสามารถก้าวไปสู่ขั้นต่อไปได้’


ในขณะที่ดูเอียนที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ อีคริปส์ยิ้ม


 


เนื่องจากเจ้าได้รับไอเทมที่ดีในตอนนี้ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องส่งเจ้าไปยังที่ถัดไป

 


เอียนตอบด้วยเสียงที่ล้นไปด้วยความมั่นใจ


“แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ผมจะพยายามผ่านมันไป”


อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมาเอียนอดไม่ได้ที่จะต้องประหลาดใจอย่างมาก


 


อย่างไรก็ตามเจ้าจะไม่สามารถท้าทายได้ในขณะนี้

 


“ห้ะ? ทำไมล่ะ…?”


 


นี่เป็นเพราะประตูระดับ S ไม่ใช่ที่นี่

 


“…?”


หน้าต่างการแจ้งเตือนเควสต์ใหม่โผล่ขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของเอียนผู้ซึ่งแสดงออกด้วยความงุนงง


กริ๊ง-


 


บททดสอบของเผ่าเซลามัส (เควสต์เชื่อมลับ)

ท่านได้รับการยอมรับจากอีคริปส์ผู้พิทักษ์เผ่าเซลามัสในฐานะนักรบระดับ S ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดและคุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


ตอนนี้ท่านต้องท้าทายเควสต์ที่ไม่มีใครเคยท้าทายมาก่อน หากท่านปลุกมังกรบินของแท่นบูชาแห่งเผ่าเซลามัส พวกมันจะนำทางท่าน


ระดับความยากเควสต์ : SSS


ข้อกำหนดเควสต์ : นักรบเซลามัสที่ได้รับการยอมรับจากอีคริปส์


ผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่มีเลเวลมากกว่า 200


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล : วิวัฒนาการของอาวุธ ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’


จัตุรัสเวทย์มนตร์ ‘การอัญเชิญของจิตวิญญาณแห่งราชา’

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม