Taming Master 154-160

ตอนที่ 154

 

“เตรียมตัวต่อสู้! รีบเรียกสมาชิกกิลด์ทั้งหมดที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบมา เร็วๆ!”


เมื่อเอียนตะโกน ห้องสนทนาของกิลด์เริ่มสว่างขึ้นราวกับลุกเป็นไฟ


แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่จำนวนนักรบทะเลทรายดูเหมือนจะค่อนข้างสูง


‘ถ้ามันมาหลังจากยึดครองฐานแล้ว มันจะเป็นพลังการต่อสู้ที่เราจะสามารถเผชิญหน้าได้โดยไม่ต้องลำบากอะไรมาก แต่ต้องปกป้องมันขณะต่อสู้…’


ในสถานที่ที่เอียนจ้องมองมีคริสตัลยักษ์ที่ส่องแสงทำให้เปล่งแสงสีฟ้าลอยออกมา


นั่นคือ ‘บูลคริสตัล’ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของฐาน


เพื่อที่จะครอบครองฐาน กระบวนการของการแกะสลักลวดลายของกิลด์ลงในบูลคริสตัลนั้นเป็นสิ่งจำเป็น แต่แม้จะมีเวลาน้อยลงในการใช้จอกศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นสถานการณ์ที่พวกเขายังต้องการเวลาอีก 5 ชั่วโมง


ขณะที่มองไปยังนักรบทะเลทรายที่เข้ามาใกล้ เอียนได้อัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมดออกมา


“อัญเชิญ! ไล ฮัลลิ พิน”


และซีเรียซึ่งเข้ามาจากด้านหลังก็อัญเชิญดุ๊กเดและบลูไวเวิร์นของเธอ


ไลซึ่งถูกอัญเชิญออกมาได้พูด


 


การต่อสู้หรอเจ้านาย?

 


เมื่อไลถาม เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“ใช่ นายเห็นกลุ่มพวกมันตรงนั้นใช่ไหม?”


ขณะที่มองไปที่นักรบทะเลทราย ไลหอนเบาๆ


 


ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่สนุกเมื่อในเมื่อนานมาแล้ว

 


เมื่อไลพูด บักค์ที่ยืนอยู่ข้างเขา พูดด้วยอาการงุนงง


 


นายยังไม่ได้ลืมการต่อสู้อันดุเดือดที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหม?”

 


ไลพยักหน้า


 


แน่นอน อย่างไรก็ตาม เราพักกันนานกว่า 3 ชั่วโมง จะพักได้นานกว่านี้คือตอนที่เรานอนหลับ นั่นคือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ชักจะคันไม้คันมือละสิ

 


ไลพูดออกมาตามที่คาดไว้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่กับเอียนนานที่สุด


ไม่น่าแปลกใจที่บุ๊กค์กำลังจ้องมองฉันด้วยท่าทางที่น่าสงสาร ในขณะที่เอียนก็แสดงออกด้วยความยินดีอย่างไม่น่าเชื่อ


‘ฉันเลี้ยงดูไลได้ดีมากจริงๆ’


และหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อหัวหน้ากลุ่มของนักรบทะเลทรายเข้ามาใกล้ฐาน เอียนก็เริ่มสั่งคำสั่ง


“ยูฮยอน ก่อนอื่นนำคนอาชีพอัศวินที่เพิ่งเข้าสู่ระบบตอนนี้และดึงความสนใจก่อน!”


“โอเค”


และเอียนหันไปหาบักค์


“บักค์ ดูเหมือนว่านายต้องยืนอยู่ด้านหน้าสุดเลย”


 


รับทราบครับเจ้านาย

 


Thud- Thud-.


เมื่อบักค์เดินไปด้านหน้า ซีเรียก็สั่งคำสั่งให้ดุ๊กเดตามเขาไป


และเอียนเริ่มตีกลองยักษ์ที่มีสัญลักษณ์ของกิลด์โลตัสวาดไว้


เสียงของกลองดังขึ้นไปบนอากาศ


Thud- Thud- Thud-!


และหลังจากนั้นไม่นาน ผู้เล่นกิลด์ตัสทั้งหมดถูกบัฟ


 


กลองสงครามแห่งความกล้าหาญดังขึ้น

จิตวิญญาณฏารต่อสู้ของทหารทั้งหมดที่เป็นพันธมิตรของกิลด์โลตัสเพิ่มขึ้น 20%

ความสามารถการต่อสู้ของผู้เล่นทั้งหมดที่เป็นพันธมิตรของกิลด์โลตัสเพิ่มขึ้น 15% เป็นเวลา 20 นาที

 


เอียนซึ่งได้เรียกใช้ทุกอย่างรวมถึงบัฟกิลด์ตอนนี้เริ่มย้ายสัตว์เลี้ยงของเขาไปรอบๆอย่างวุ่นวาย


แน่นอนว่าการเรียกใช้บัฟทั้งหมดที่เขามีถือว่าเป็นสิ่งแรกในรายการของเขา


เนื่องจากขนาดของการต่อสู้ที่ใหญ่ขึ้น เอฟเฟกต์ AoE ที่ใหญ่ขึ้นจะมีมากขึ้นในการต่อสู้


“พิน เสียงคำรามแห่งราชา!”


ทันทีที่เอียนสั่ง พินที่บินขึ้นไปบนอากาศและร้องออกมาบนท้องฟ้า


Kyaaoh-!


 


สัตว์เลี้ยง ‘พิน’ ได้ใช้พลังแฝง ‘เสียงคำรามแห่งราชา’

ความว่องไวของพันธมิตรทั้งหมดในระยะ 50 เมตรจะเพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 10 นาที

ความเร็วการเคลื่อนที่ของศัตรูทั้งหมดภายในระยะ 50 เมตรจะลดลง 30% เป็นเวลา 10 นาที

 


ด้วยเสียงของพินเป็นการเริ่มต้นของการต่อสู้


แทนที่จะวิ่งเข้าไปในสนามรบด้วยตนเอง เอียนมองความคืบหน้าของการต่อสู้อย่างต่อเนื่องในขณะที่เขาเริ่มดำเนินการในสนามรบ


‘ความเสียหายที่ได้รับจะต้องลดลง เนื่องจากแค่การบล็อกไม่ได้หมายความว่ามันจะจบลง’


เมื่อเปรียบเทียบกับนักรบทะเลทรายก็มีรูปแบบการต่อสู้ที่เรียบง่าย แต่เนื่องจากเลเวลของพวกเขาเพียงอย่างเดียวนั้นสูงกว่าพลังการต่อสู้ทั่วไปของกิลด์โลตัสถึง 20 เลเวล สภาพของการต่อสู้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป


Clang- Claang-!


นักรบทะเลทรายขี่มาได้เหวี่ยงดาบของพวกเขาที่ส่องแสงสีขาวในทุกๆที่


Whoong-!


อันตรายจากพลังทำลายล้างของพวกมันนั้นสามารถรับรู้เพียงแค่ได้ยินเสียงและสมาชิกของสมาคมกิลด์โลตัสเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ในสภาวะที่ทรุดโทรมที่สุด


“ฟิโอลัน สนับสนุนทัพหน้าที!”


“ได้เลย!”


“คาร์วินอยู่ในตำแห่งของนายและพี่โครบานต้านพวกมันไว้ไม่ให้พวกมันเข้ามาใกล้คริสตัล!”


“โอเค!”


ถึงกระนั้นดูเหมือนว่าต้องขอบคุณบัฟที่ได้รับและเอียนสั่งการอย่างรวดเร็วและแม่นยำ กิลด์โลตัสต้านนักรบทะเลทรายได้ค่อนข้างดี


และแม้กระทั่งในการต่อสู้ครั้งนี้สัตว์เลี้ยงของเอียนก็มีบทบาทที่โดดเด่น


โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถของบักค์ที่เพิ่งได้รับคัดเลือกเข้ามาใหม่คือจุดที่พวกเขาตกตะลึง


 


พลังแฝงของสัตว์เลี้ยง ‘บักค์’ สกิลความสามารถผู้พิทักษ์แห่งทะเลทรายถูกใช้งาน

สัตว์เลี้ยง ‘บักค์’ ได้สร้างฟิล์มป้องกันที่สามารถดูดซับความเสียหายได้มากถึง 30% ของพลังชีวิตสูงสุดของเขาเป็นเวลา 20 วินาที

 


ตามความเป็นจริงแล้ว พลังชีวิตของบักค์ที่เหนือกว่าพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยมซึ่งมีค่าเกือบ 5,000 หน่วย เมื่อรวมบัฟของเขาเข้าด้วยกันแทบไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่ตอนที่เขาสร้างฟิล์มป้องกันผ่านสกิลติดตัวของเขา


 


สัตว์เลี้ยง ‘บักค์’ ได้สร้างความเสียหายคริติคอลให้แก่นักรบทะเลทราย

พลังชีวิตของ ‘นักรบทะเลทราย’ ลดลง 9,870 หน่วย

 


อย่างไรก็ตาม พลังโจมตีของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน


เขาทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมทั้ง สร้างความเสียหาย โจมตี และแท้งค์


เอียนมองศักยภาพของบักค์ด้วยสีหน้าพึงพอใจ


‘อาจเป็นเพราะเลเวลของเขาสูงเช่นเดียวกับระดับของเขา แต่แน่นอนว่าเขาจะดีกว่ามากเมื่อเทียบกับดุ๊กเด’


ยิ่งไปกว่านั้นต้องขอบคุณความสามารถของ ‘คำอวยพรของมังกรเต่า’ ที่ได้รับความเสียหายแทนเป้าหมายที่กำหนด ไลก็กระโดดไปรอบๆกลางสนามรบ


 


สัตว์เลี้ยง ‘บักค์’ ได้ใช้พลังแฝง ‘คำอวยพรของมังกรเต่า’ กับสัตว์เลี้ยง ‘ไล’

เป็นเวลา 2 นาที ‘บักค์’ จะได้รับความเสียหายแทน ‘ไล’ (‘บักค์’ จะได้รับ 150% ของความเสียหายเดิมและถ้าพลังชีวิตของเขาลดลงต่ำกว่า 10% สกิลจะปลดออกอัตโนมัติ)

 


เอียนตะโกนไปหาไล


“ไลเข้าไปข้างในและก่อกวนให้มากขึ้น!”


 


รับทราบครับเจ้านาย

 


แม้จะมีส่วนร่วมของเอียน แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่จะสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องในช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้


นั่นเป็นเพราะผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ในทวีปกลางมานานนับตั้งแต่มาถึง ดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยอย่างเต็มที่เมื่อพวกเขาวิ่งด้วยความสับสน


อย่างไรก็ตามเมื่อการต่อสู้ดำเนินไปผู้เล่นกิลด์โลตัสก็เริ่มมีความมั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆและจำนวนของนักรบทะเลทรายก็เริ่มลดลงทีละคน


อย่างไรก็ตามจากนั้น เอียนได้ยินเสียงที่คุ้นเคย


“คำอวยพรของพระเจ้า!”


 


สมาชิกกิลด์ ‘ฮาริน’ ได้ใช้สกิล ‘คำอวยพรของพระเจ้า’

ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น 20%

 


เมื่อได้ยินเสียงนั้น เอียนหันหน้าไปเล็กน้อย


และจุดนั้นคือฮาริน


เอียนตกตะลึงเล็กน้อย


“ห้ะ? ฮารินเธอก็มาที่นี่เหมือนกันหรอ?”


นี่เป็นเพราะเลเวลของฮารินนั้นต่ำเกินกว่าจะมาที่ทวีปกลาง


นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงบอกให้ฮารินอยู่ที่เมืองโลตัสและเขาคิดว่าเธอคงอยู่ที่นั่นแน่ๆ


While looking at a surprised Ian, Harin puffed out both her cheeks.


ขณะที่มองไปที่เอียนที่ตกตะลึง ฮารินยิ้ม


“เฮ้ ถ้าฉันไม่ตามมาเมื่อสมาชิกกิลด์ทุกคนกำลังเคลื่อนไหวจะมีวิธีให้ฉันมาที่นี่ไหมล่ะ? ถ้างั้นฉันก็ต้องได้อยู่คนเดียวอย่าน่าเบื่ออย่างน้อยเป็นเวลาหลายสัปดาห์เลย”


เอียนเกาหลังหัวขณะที่เขาบ่น


“ถึงอย่างนั้นมันก็อันตราย…”


ฮารินตีหลังของเอียนด้วยคฑาที่เธอถืออยู่ขณะที่เธอพูด


“ลืมมันไป ฉันจะดูแลตัวเอง ดังนั้นตั้งใจสำหรับการต่อสู้เร็วๆเข้า คาร์วินอยู่ในจุดที่อันตรายเล็กน้อยแล้วนั่น”


เมื่อฮารินพูด เอียนหันกลับไปและเขาสั่งฮัลลิ ไลและคาร์วินซึ่งพลังชีวิตเกือบจะถึงศูนย์


ขณะที่มองไปยังเอียนที่ขึ้นบนหลังของฮัลลิแทนและวิ่งไปรอบๆสนามรบอย่างบ้าคลั่ง ฮารินก็ส่ายหน้า


“เฮ้อ มันจะดีแค่ไหนถ้าเขาลงทุนแม้แต่หนึ่งในสี่ของพลังงานที่เขาใช้ในการเล่นเกมให้ฉัน”


ขณะที่มองไปยังฮารินที่กำลังบ่น ฟิโอลันซึ่งกำลังร่ายเวทมนตร์ถัดจากเธอก็ยิ้ม


“เธอไม่โลภเกินไปหรอฮาริน?”


เมื่อเธอพูด ฮารินก็ทำตาโต


“ไม่แม้แต่ครึ่งเดียว แต่หนึ่งในสี่นั้นก็โลภหรอ? นี่เธอก็เป็นเช่นกันหรอฟิโอลัน?”


ขณะที่มองไปยังฮารินที่น้ำตาคลอ ฟิโอลันก็ขำออกมา


“ดูเหมือนว่าเกือบ 100% ของชีวิตเอียนคือเกม แต่หนึ่งในสี่ของนั่นคือ 25% นั่นแหละความหมายว่าโลภ”


เมื่อฟิโอลันที่พูดด้วยเหตุผลที่ค่อนข้างโน้มน้าว (?) ช่วยไม่ได้ที่ฮารินจะเงียบไปสักครู่หนึ่ง


“ยะ อย่างงั้นหรอ?”


ถึงจะมีการรบกวนเล็กน้อย (?) แต่อย่างไรก็ตามในตอนท้ายของการต่อสู้ที่กินเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กิลด์โลตัสก็ประสบความสำเร็จในการต้านนักรบทะเลทรายโดยไม่ได้รับความเสียหายมากมาย


พวกมันสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก แต่จำนวนสมาชิกกิลด์ที่เสียชีวิตมีเพียงสามสิบคนเท่านั้นและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจำนวนที่ดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับที่คาดไว้ในตอนแรก


และเมื่อการต่อสู้จบลงในขณะที่มองไปที่รังสีสีม่วงที่ถูกดูดเข้าไปจากศพ ดวงตาทั้งสองของเอียนก็โตเล็กน้อย


‘ห้ะ? นับตั้งแต่สงครามอาณาเขตไม่มีกรณีไหนที่เกิดขึ้นเมื่อรังสีสีม่วงเกิดขึ้นแบบนี้’


เอียนรีบเปิดคลังของเขาและตรวจสอบข้อมูลของไข่ของคาร์เซอุส


 


ไข่ของคาร์เซอุส

อัตราการฟัก : 57%


 


และตาทั้งสองของเขาเบิกโพลง


“…!”


นี่เป็นเพราะเมื่อเขาตรวจสอบเมื่อสองสามวันก่อนอัตราการฟักไข่ซึ่งต่ำกว่า 40% ก็ขึ้นมาเกือบ 20%


‘ใช้เกณฑ์แบบไหนกันแน่? การต่อสู้แบบไหนที่ฉันต้องทำเพื่อให้อัตราการฟักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ‘


ขณะมองไปที่ไข่ของเทพมังกรที่เปล่งแสง เอียนรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรง


‘ถ้าอันนี้ฟักออกมา… ฉันควรได้เป็นผู้เล่นอันดับสูงแน่’


เอียนซึ่งตั้งความคาดหวังไว้กับเทพมังกร ในไม่ช้าเขาก็เริ่มบิดขี้เกียจ หลังจากที่วางไข่กลับเข้าไปในคลังของเขา


มันเป็นการต่อสู้ที่ใหญ่พอที่แม้แต่เอียนก็สามารถนับจำนวนการสู้รบขนาดใหญ่ได้นับตั้งแต่เข้ามาในทวีปกลาง ความเสียหายของสงครามก็ค่อนข้างใหญ่เช่นกัน


สุดท้ายเอียนผู้ตรวจสอบสถานะของบลูไวเวิร์นก็บ่นกับตัวเอง


‘จะว่าไปแล้ว เวลานั้นผ่านไปช้ามาก พึ่งจะเหลืออีก 4 ชั่วโมง…’


ในขณะที่หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคอื่นๆจนกว่าฐานจะเสร็จสมบูรณ์เอียนเริ่มรักษาสัตว์เลี้ยงของเขา


 


* * *


 


สนามรบที่ต่างๆซึ่งเงียบไปพักหนึ่งหลังจากทวีปกลางเปิดขึ้นในที่สุดก็เริ่มมีการสู้รบขนาดใหญ่


นี่เป็นเพราะกองกำลังติดตามทั้งหมดของกองทัพของทั้งสองอาณาจักรรวมตัวกันในทวีปกลางและกิลด์ระดับสูงก็เข้ามาด้วย


ต้องขอบคุณสิ่งนั้น หน้าหลักของชุมชนถูกฉาบด้วยบทความที่เกี่ยวข้องกับผลการต่อสู้ของทวีปกลางทุกวัน


 


กิลด์ดาร์ครูน่าที่นำโดยนักดาบเวทมนตร์ ‘อิลาฮัน’ ได้ปลดปล่อยความพ่ายแพ้ออกมา

หน้ากากของมาเจนต้า โต้เถียงว่าเป็นในการทำลายสมดุล

แนวป้องกันของกองทัพอาณาจักรลัสเปล นับถอยหลังจนกว่าจะจบสิ้น

 


จินซุงที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ขณะที่ทานซีเรียลบ่นขณะที่เขามองในชุมชน


“อืมม… แนวการป้องกันของกองทัพอาณาจักรไม่สามารถล่มสลายได้”


แม้ว่าพวกเขาจะต้านนักรบทะเลทรายที่จู่โจมในวงกว้าง แต่ก็มีการรุกรานของมอนสเตอร์ตัวเล็กๆแต่ในที่สุด กิลด์โลตัสก็สามารถประสบความสำเร็จในการครองฐาน


อย่างไรก็ตามตามที่คาดไว้เหตุผลสำคัญสำหรับการยึดฐานคือจอกศักดิ์สิทธิ์


หากไม่ใช่จอกศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็จะถูกโจมตีโดยกองทัพอาณาจักรไคม่อนก่อนที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จในการยึดฐาน


จินซุงผู้อ่านบทความต่อไปได้พูดพึมพำอีกครั้ง


“ตอนนี้ฉันควรจะทิ้งการป้องกันฐานไว้ที่ยูฮยอน แล้วออกไปที่แนวหน้าและช่วยป้องกันแนวรับ…”


ดังที่ได้กล่าวไว้ในบทความชุมชนหลัก พลังการต่อสู้ของอาณาจักรไคม่อนนั้นแสดงถึงความเหนือกว่าอย่างล้นหลาม


และในพื้นหลังนั้นมีไอเทมที่เรียกว่า ‘หน้ากากของมาเจนต้า’ ที่อิลาฮันครอบครอง


หน้ากากของมาเจนต้าสร้างนักรบทะเลทรายซึ่งเป็น NPC ที่เป็นกลางยืนเคียงข้างอาณาจักรไคม่อนและเนื่องจากพวกมันแพร่กระจายยุทธการกองโจรในสนามรบที่ต่างๆ กองทัพอาณาจักรลัสเปลเริ่มสูญเสียทุกการต่อสู้ที่พวกเขาต่อสู้


พลังการต่อสู้ของนักรบทะเลทรายต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพลังการต่อสู้ของกองทัพอาณาจักรลัสเปล แต่เมื่อพลังการต่อสู้ของลัสเปลและกองทัพอาณาจักรไคม่อนเสมอกันจุดนั้น ความเสียหายเพิ่มเติมจากนักรบทะเลทรายจะเพิ่มขึ้น


‘การป้องกันฐานสามารถพูดได้เฉพาะเมื่อแนวป้องกันยังไม่สลายไป ถ้าแนวป้องกันสลายไปและเราถูกทำให้โดดเดี่ยวกลางค่ายศัตรูแล้วจะไม่มีทางออกแน่นอน’


เอียนซึ่งรีบกินซีเรียลของเขาให้หมด รีบเข้าสู่แคปซูลของเขา


เขาไม่มีความตั้งใจที่จะสูญเสียฐานอย่างไร้ประโยชน์ที่เขาทำงานอย่างหนักเพื่อได้มา 

 

 


ตอนที่ 155

 

“เอาล่ะ ได้โปรดรวบรวมอยู่ที่นี่อย่างเป็นระเบียบการต่อสู้จะเริ่มขึ้นในไม่ช้า”


ที่ฐานแนวหน้าของฝั่งลัสเปลของทวีปกลาง มีฝูงของผู้เล่นที่เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปลที่รวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วมในการต่อสู้


การต่อสู้แนวหน้ามีอันตรายถึงจุดที่ค่อนข้างยากที่จะหลีกเลี่ยงจากความตาย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมผู้เล่นหลายคนมองหาสมรภูมิรบนี้


เหตุผลนั้นสามารถจัดได้เป็นสองส่วนและอย่างแรกตามที่คาดไว้เพราะจำนวนค่าประสบการณ์มหาศาลที่ยากที่จะได้รับผ่านเควสต์ปกติและอย่างที่สองเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้รับ ‘เกียรติยศของตระกูลราชวงศ์’ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับโบราณวัตถุหรือเควสต์ที่ดีเพื่อเป็นกำลังต่อสู้ในแนวหน้า


แน่นอนเพราะสำหรับผู้เล่นที่เป็นพันธมิตรกับกิลด์ขนาดใหญ่มีประโยชน์มากขึ้นในการต่อสู้ในขณะที่เข้าร่วมกับกิลด์ของพวกเขา ดังนั้นจึงมีคนไม่มากที่จะมา แต่สำหรับผู้เล่นที่ไม่มีกิลด์หรือเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์ขนาดเล็กมันก็ยากสำหรับพวกเขาในการเข้าสู่ทวีปกลาง แต่ก็ต้องมีมากกว่าเลเวล 100 มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะคิดว่าผู้เล่นส่วนใหญ่มารวมตัวกันที่ฐานแถวหน้านี้


และเนื่องจากมีฝูงชนจำนวนมากมารวมกัน เสียงแห่งความวุ่นวายจึงดังไปทั่ว


“เฮ้ แต่ถ้านายตายทันทีที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นล่ะ? จากนั้นนายก็จะสูญเสียเลเวลโดยที่ไม่สามารถได้รับชื่อเสียงหรือเกียรติยศเลยนะ?”


“นั่นอาจจะไม่เกิดขึ้น แต่ถึงแม้ว่านายจะต้องตายทันทีที่ตั้งแต่เริ่ม มันก็ไม่ใช่การสูญเสียครั้งใหญ่โดยเฉลี่ยนายจะได้รับชื่อเสียง 10,000 หน่วยและเกียรติยศ 1,000 หน่วย แม้กระทั่งจากการเข้าร่วม คนที่เล่นอาชีพวอริเออร์ที่ฉันรู้จักฆ่าทหารสองโหลเมื่อวานนี้คนเดียวและได้รับชื่อเสียงมากกว่า 50,000 หน่วยและฉันคิดว่าพวกเขาได้รับเกียรติยศเกือบ 10,000 หน่วยเช่นกัน?”


“เหอะ นายแน่ใจหรือว่าพวกเขาไม่ได้ตีอัศวินและไม่ใช่แค่ทหารน่ะ? นายกำลังบอกว่าพวกเขาแค่ฆ่าทหาร แต่ได้รับชื่อเสียงถึง 50,000 หน่วยอ่ะนะ?”


“ไม่นะ คนคนนั้นมีเลเวล 130 แต่พวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่สามารถสัมผัสอัศวินได้เลย พวกเขาบอกว่าอัศวินไคม่อนมีเลเวลเกือบ 140”


“ฮ่า ถ้างั้นชื่อเสียงที่ได้รับจากอัศวินจะเท่าไหร่กัน? พวกเขาอาจจะให้ค่าประสบการณ์มากมายด้วยใช่ไหม?”


และในขณะที่พวกเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆเป็นรายบุคคลและเอียนยังยืนหยัดอยู่ในหมู่ผู้เล่นอาณาจักรที่กำลังรอลงทะเบียนเป็นทหารรับจ้าง


‘อยากจะตะโกนออกมา การบวนการโคตรจะซับซ้อนเลย ฉันควรจะไปหาเฮลเลี่ยมดีไหมเนี่ย? ‘


หากเขาตรงไปหาเฮลเลี่ยม เขาอาจจะสามารถลงทะเบียนเป็นทหารรับจ้างได้อย่างรวดเร็ว แต่ค่ายทหารแนวหน้ากว้างเกินไปและปัญหาก็คือไม่มีทางที่จะค้นหาว่าเฮลเลี่ยมอยู่ที่ไหน


เอียนเกาหัวของเขาและหลังจากตรวจสอบแถวที่ยาวเหยียด เขาก็บ่นกับตัวเอง


‘อ๊าก ฉันต้องรออีกนานแค่ไหนเนี่ย? ฉันกำลังจะตายเพราะเสียเวลามากเลย’


อย่างไรก็ตามจากนั้น เสียงที่คุ้นเคยได้เรียกเอียน


“ขอประทานอภัยนะครับ… อย่างไรก็ตามท่านใช่ท่านไวส์เคาท์เอียนหรือไม่ครับ?”


เอียนหันหัวของเขาตามน้ำเสียงที่เรียกชื่อของเขาและในจุดนั้นมีอัศวินอยู่ในสังกัดของอาณาจักรลัสเปลที่จ้องมองเอียนขณะอยู่บนหลังม้า


เอียนตกตะลึงเล็กน้อย


‘ใครกัน? รู้จักฉันได้ยังไง?’


เอียนรู้สึกว่าเอียนเคยเห็นเขาที่ไหนสักแห่ง แต่เอียนจำไม่ได้จริงๆ


เอียนกำจัดความงุนงงของเขาและถามกลับ


“ใช่ครับ แต่… คุณเป็นใครครับ?”


และคำถามของเอียนได้ถูกแก้ไข


“อ่อ ท่านจริงด้วย ท่านไวส์เคาท์! ความจริงที่ว่าท่านจำผมไม่ได้ ผมผิดหวังเล็กน้อย ฮ่าฮ่า ผมชื่อ ‘วัลเตอร์’ ผู้ช่วยหัวหน้าของราชองครักษ์เฮลเลี่ยม เราได้มีส่วนร่วมในการล่าโฮลดรีมเมื่อสองสามวันก่อนด้วยกันไงครับ?”


เมื่อได้ยินคำอธิบาย เอียนเริ่มจำหน้าได้


ไม่สิ ความจริงที่ว่าแม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ เขาก็ต้องทำราวกับว่าเขาจำได้


‘เอาล่ะ ฉันโชคดีจริงๆ!’


หน้าของเอียนสดใสขึ้นและยื่นมือของเอียนไปต่อหน้าเขา


“อ่ะฮ่า ท่านวัลเตอร์! ฉันทำผิดพลาดใหญ่หลวง ทำไมฉันถึงจำไม่ได้กันนะ? อย่างไรก็ตามขอบคุณนะท่านวัลเตอร์ เราสามารถล่าได้อย่างง่ายดายในชั้นใต้ดินของดันเจี้ยน ฮ่าฮ่า!”


วัลเตอร์ลงจากม้าของเขาทันทีและในขณะที่จับมือเอียน เขาก็แสดงกิริยาของเขาและในทันใดสภาพแวดล้อมรอบๆของพวกเขาก็เริ่มมีปฏิกิริยา


“อะไรวะเนี่ย ผู้เล่นคนนั้นรู้จักกับอัศวินของตระกูลราชวงศ์ด้วย!”


“เขาเป็นใครกันแน่? นักจัดอันดับหรือคนมีชื่อเสียงที่อยู่ในกิลด์ใหญ่ ไม่มีทางที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขารู้จักอย่างใกล้ชิดกับอัศวินของราชวงศ์ ถ้างั้นไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนสำคัญมากเลยงั้นหรอ?”


“ยิ่งไปกว่านั้น อัศวินของราชวงศ์ได้เริ่มพูดกับเขาก่อน!”


ในขณะที่มีความอิจฉาต่อเอียนและข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับตัวตนของเขานั้นกระจายไปทั่ว ใครบางคนตะโกนเสียงดังออกมา


“ฉันรู้จักคนนั้น!”


“ใครกันล่ะ?”


“นายได้เห็นซัมมอนเนอร์ที่ออกมาจากวิดีโอตัวอย่างของการอัพเดทใหญ่มั้ยล่ะ คนนั้นแหละ!”


“ถูกต้อง เอียน นั่นคือเอียน!”


ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเอียนก็สะดุ้ง


อย่างไรก็ตามนี่เป็นอะไรที่ชัดเจน


เนื่องจากก่อนที่เอียนจะรู้ว่าความนิยมของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่มันเปรียบได้กับพวกอันดับสูงๆ


อย่างไรก็ตามเนื่องจากสัดส่วนของความนิยมของเขาส่วนใหญ่ถูกรวบรวมโดยผู้เล่นซัมมอนเนอร์หรือผู้เล่นอาชีพใหม่ในสนามรบซึ่งผู้เล่นเลเวลสูงที่สูงกว่ามาตรฐาน คนที่รู้จักเขาเพิ่งปรากฏตัวในภายหลัง


จำนวนผู้เล่นอาชีพที่สามารถเข้าสู่ทวีปกลางนั้นมีจำนวนน้อยนิดอย่างมาก


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของซัมมอนเนอร์ซึ่งมีปัญหาในการเพิ่มเลเวล จำนวนผู้เล่นที่มีความสามารถในการเข้าสู่ทวีปกลางสามารถนับได้เพียงสิบ


ไม่ว่าปฏิกิริยาของผู้คนจะเป็นอย่างไรเอียนก็กล้าแสดงออกและพูดคุยกับวัลเตอร์ต่อไป


“ท่านวัลเตอร์ อย่างไรก็ตามผมขออะไรคุณสักอย่างได้ไหม?”


“ได้โปรดบอกกระผม ถ้ามันเป็นสิ่งที่ผมทำได้ ผมจะทำมันแน่นอน”


เอียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยต่อปฏิกิริยาที่ได้รับมากกว่าที่คาด แต่ในไม่ช้าเขาก็พยักหน้า


‘มันชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของฉันกับอัศวินในราชวงศ์ของราชวงศ์นั้นสูงมาก ตั้งแต่ฉันทำเควสต์หลายครั้งจนถึงตอนนี้’


เร่ิมจากเควสต์การฟักไข่ของกริฟฟิน เอียนก็ได้ทำเควสต์อาณาจักรที่หนักหน่วงเช่นปฏิบัติการช่วยเหลือนักโทษสงคราม


โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเอียนได้ดำเนินการอัศวินอย่างสง่างามในซากปรักหักพังโบราณดันเจี้ยนของหลุมฝังศพของโฮลสตรีมความสัมพันธ์กับ Valtor ซึ่งปัจจุบันเขาอยู่ใกล้จะถึงจุดสูงสุด


“ฉันยังต้องการช่วยอัศวินที่แนวหน้าและต่อสู้ด้วย ฉันต้องการเผชิญหน้ากับศัตรูหลายคนเท่าที่ฉันทำได้ ท่านวัลเตอร์นำทางฉันไปหาหัวหน้าเฮลเลี่ยมหน่อยได้ไหมครับ?”


เขาพูดอย่างชาญฉลาดเพื่อที่เขาจะไม่ต้องรอและลัดคิวไปเลย


แน่นอนว่า วัลเตอร์ยิ้มขณะที่เขาพยักหน้า


“โอ้ จากที่ผมได้ยินมา ผมได้ยินมาว่ากิลด์โลตัสต้องปกป้องฐานของพวกเขาด้วยเช่นกัน แต่ต้องวิ่งไปช่วยที่ด้านหน้าเช่นนี้ เพื่อตระกูลแห่งราชวงศ์ความจงรักภักดีของท่านที่มีต่อพระราชานั้นยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ท่านไวส์เคาท์”


เอียนหัวเราะออกมาขณะที่เขาทำการกระทำที่หน้าด้านที่สุด


“ฮ่าฮ่า เมื่อแนวป้องกันด้านหน้าของอาณาจักรพังทลายฐานกิลด์ของเราจะเป็นอย่างไรกัน? ฉันจะเป็นหัวหน้าแนวหน้าในการต้านพวดไคม่อน”


วัลเตอร์แสดงอาการพึงพอใจขณะที่เขาพยักหน้า


“ฮ่า เป็นไปตามที่คาด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพระราชาถึงชอบท่านสินะ ตามกระผมมาท่านไวส์เคาท์ ผมจะนำท่านไปหาหัวหน้า หัวหน้าจะดีใจอย่างแน่นอน”


เอียนกัมหัวเล็กน้อยให้วัลเตอร์ขณะที่เขาแสดงความขอบคุณ


“ขอบคุณนะท่านวัลเตอร์”


เช่นนั้น เอียนพูดคุยสั้นๆกับอัศวินของตระกูลราชวงศ์วัลเตอร์และติดตามเขาไปข้างหลังเขาได้หายตัวไปในค่ายทหาร


ในจุดที่เขาหายตัวไปผู้เล่นที่เหลือบ่นว่าพวกเขาไม่พอใจ


“ว้าว การติดต่อส่วนบุคคลมีความสำคัญแม้ในเกมเช่นกัน… มันช่างน่าเศร้าขนาดนี้!”


“แต่ถึงกระนั้นไม่ว่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่มีชื่อมากเพียงใด บทบาทการทำงานของซัมมอนเนอร์ในสนามรบแนวหน้าที่ดุเดือดจะทำให้พวกเขาพาเขาออกไปได้อย่างไรกัน?”


“นั่นคือสิ่งที่ฉันพูด ความจริงที่ว่ามันยากที่จะเพิ่มเลเวลซัมมอนเนอร์อย่างไม่น่าเชื่อคือสิ่งที่ทุกคนรู้… เอียนคนนั้นไม่ได้อยู่ในรายชื่อการจัดอันดับ ดังนั้นเขาอาจจะแค่เลเวล 110ท”


“เฮ้อ เจ้านี่ไม่รู้จักมากเท่าไหร่ นายได้เคยดูวิดีโอการต่อสู้ของเอียนหรือยัง?”


“ไม่อ่ะ ฉันยังไม่ได้ดูเลยสักนิด มันไม่ชัดเจนหรอ? ฉันไม่ได้เคยเห็นซัมมอนเนอร์แค่ครั้งสองครั้งหรอกนะ”


อย่างไรก็ตาม เมื่อการโต้เถียงต่อเรื่องของเอียนเริ่มข้นขึ้น ผู้เล่รหญิงคนหนึ่งซึ่งยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันเปิดปากของเธอด้วยเสียงเบาๆ


และผลกระทบของคำพูดของเธอก็ค่อนข้างใหญ่


“ฉันไม่ได้เป็นคนรู้จักของเขา แต่ฉันเชื่อว่าอย่างน้อยเอียนอยู่ที่เลเวล 130”


หลังจากนั้นไม่นานเสียงของฝ่ายตรงข้ามก็ดังออกมาจากที่ต่างๆ


“ไม่หรอก คำพูดไร้สาระอะไรกัน? จากสิ่งที่ฉันรู้ผู้เล่นอันดับหนึ่งในปัจจุบันที่เล่นซัมมอนเนอร์ในการจัดอันดับคือเลเวล 122 หรืออะไรทำนองนั้น”


“สิ่งที่ฉันพูดอย่างแน่นอนคือมีผู้เล่นนักเวทมืดไม่เกินห้าคนที่มีมากกว่าเลเวล 130”


อย่างไรก็ตามตามคำพูดของเธอ หลังจากนั้นทุกคนไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปิดปาก


“ฉันคือซัมมอนเนอร์เลเวล 122 ในอันดับที่ 1 ของอันดับซัมมอนเนอร์และจากผลการดูวีดิโอการต่อสู้ของเอียนเขาแข็งแกร่งกว่าฉันมาก”


ผู้เล่นที่รวมตัวกันเพื่อพูดคุยกันจนถึงตอนนี้ก็แสดงรู้สึกที่งุนงง


“แต่ขื่อของเขาไม่โผล่ขึ้นในการจัดอันดับได้ยังไง…”


และเธอได้พูดต่อ


“เขาอาจตั้งค่าข้อมูลทั้งหมดของเขาจนถึงตอนนี้เป็นส่วนตัว 100% ไม่ได้มีผู้เล่นคนหรือสองคนที่ทำอย่างนั้นเป็นนักจัดอันดับอย่างไม่เป็นทางการไม่ใช่หรือไง?”


“น่ะ นั่น…”


คำนั้นสำหรับพวกเขาเป็นคำที่ยากที่จะเชื่อได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อข้อมูลตัวละครที่โผล่ขึ้นมาเหนือหัวของเธอเพิ่มน้ำหนักให้กับคำพูดของเธอผู้คนจ้องไปที่จุดที่เอียนหายไปจากการแสดงความอิจฉา


 


ลอว์เร้นท์ /เลเวล 122 / ซัมมอนเนอร์

 


* * *


 


ดังนั้น… นายกำลังบอกว่านายกำลังจะเป็นหัวหอกในสงครามที่จะแยกออกระหว่างอาณาจักร 1 ชั่วโมงจากนี้งั้นหรอ?

 


จินซุกนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะและกำลังโทรหาใครบางคนผ่านสมาร์ทโฟนของเขา


“ใช่ ถูกต้องแล้ว ฉันจะบันทึกกระบวนการต่อสู้ทั้งหมดด้วยกล้องภายในในแคปซูลเนื่องจากแคปซูลของฉันเป็นรุ่นใหม่ที่มีสเปคที่ดีที่สุดที่ออกมาได้ไม่นานคุณภาพอาจจะยอดเยี่ยม”


เสียงผู้หญิงที่ชัดเจนและยังคงได้ยินผ่านสมาร์ทโฟนของจินซุง


 


ยอดเยี่ยม ไม่น่าแปลกใจที่คุณภาพวิดีโอของดันเจี้ยนใต้ดินของโฮลดรีมครั้งล่าสุดนั้นดีมากเช่นกันและตามที่คาดไว้นายมีแคปซูลรุ่นใหม่ล่าสุด

 


“ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ฉันหวังว่าเธอจะทำวิดีโอได้อีกเช่นกันนะ โซจิน”


 


แน่นอน ไม่ต้องห่วง วิดีโอออกมาดีอยู่แล้ว นายก็รู้ความสามารถของฉัน

 


“แน่นอน ถ้างั้นเมื่อวิดีโอเสร็จแล้ว ฉันจะส่งให้เธอทันที”


จินซุงซึ่งคุยธุระเสร็จสิ้นกำลังจะวางสาย แต่โซจินก็พูดออกมาก่อน


 


อ้อใช่ จินซุง

 


“ครับ?”


 


ฉันควรจะอัปโหลดวิดีโอการเคลียร์ดันเจี้ยนของโฮลดรีมตอนไหนดี?

 


เมื่อได้ยินคำถามนั้น จินซุงก็ครุ่นคิดสักครู่หนึ่ง


‘อืมม… ถ้าวิดีโอเผยแพร่ไป มันอาจจะอันตรายนิดหน่อย เนื่องจากกิลด็ยักษ์จะให้ความสนใจกับฉันมากขึ้น…’


ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือเมื่อวิดีโอเผยแพร่ ความจริงที่ว่าจอกศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่กับจินซุงก็มีโอกาสเผยแพร่ไปด้วยกันเช่นกัน


แน่นอนว่าฉากที่พวกเขาได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์จะถูกแก้ไขและอัพโหลด แต่ถึงกระนั้นก็เป็นความจริงที่สามารถคาดเดาได้ตลอดเวลา


จินซุงได้พูดต่อ


“รออีกสักหน่อยนะ เนื่องจากมีข้อมูลที่ยังไม่รู้อยู่ข้างใน… ฉันคิดว่ามันน่าจะดีหลังจากประมาณสองสัปดาห์ ฉันจะติดต่อเธอไปอีกครั้ง”


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้นโซจินเดาะลิ้นของเธอ


 


จิ๊… ฉันอยากทำเพราะฉันต้องการอัปโหลดอย่างรวดเร็ว… ไม่เป็นไรฉันก็เข้าใจเช่นกัน ได้โปรดติดต่อฉันอีกครั้งเร็วๆนี้นะจินซุง!

 


“โอเค!”


จินซางผู้ซึ่งสิ้นสุดการโทรเปิดอินเทอร์เน็ตและค้นหารายการวิดีโอบน YouCast ที่รวมฉากการต่อสู้ของเขาไว้ก่อนที่เขาจะเริ่มดูการรับชม


มีวิดีโอเริ่มตั้งแต่น้อยสองแสนวิวไปถึงที่ใกล้ถึงประมาณสิบล้านวิว


จินซุงบ่นด้วยความพึงพอใจ


“เอาล่ะ ด้วยผู้ชมมากมายนี้ ฉันอาจจะได้เงินมากกว่าเดือนที่แล้วใช่ไหม?”


จินซุงตรวจสอบทุกวิดีโอด้วยยิ้มกว้าง


ต้องขอบคุณที่ส่งต่อวิดีโอการต่อสู้ไปยังโซจินค่อนข้างมาก ตอนนี้หากคุณค้นหาชื่อเอียนจะสามารถค้นหาได้เกือบยี่สิบวิดีโอ


“ฉันควรซื้ออะไรทันทีที่เงินเข้ามาในธนาคารของฉันดี? ตามที่คาดไว้ คุณจะได้รับเงินเพื่อใช้มัน!”


เมื่อนึกถึงสิ่งต่างๆด้วยเงินที่จะไหลเข้าบัญชีธนาคารจินซุงก็มีความสุข


อย่างไรก็ตาม คำถัดไปของจินซุงคือไฮไลท์


“ฉันควรจะเปลี่ยนชุดเกราะทั้งหมดของฉันให้เป็นไอเทมระดับสูงหรือไม่? หรือถึงเวลาที่ฉันจะต้องเปลี่ยนคฑาของฉัน? อืมม เนื่องจากลูกบอลเวทยังคงมีประโยชน์อยู่ มันน่าเสียดายเล็กน้อยถ้าจะเปลี่ยนมัน…”


ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาจะคิดเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์หรือย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่ดีกว่าด้วยเงินที่พวกเขาได้รับ แต่จินซุงแค่คิดว่าจะแลกเงินที่เขาได้รับมาเป็นไอเทมในเกม


ถ้าพ่อแม่ของเขาเห็นฉากนี้มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเก็บกู้กระดูกของเขา แต่จินซุงยิ้ม เมื่อเขาขยับเท้าของเขาหันไปทางแคปซูลอีกครั้ง


“ถึงกระนั้น อย่าใช้ทั้งหมด ฉันควรทิ้งไว้เล็กน้อยและอย่างน้อยก็ไปกินเนื้อวัวหรืออะไรกับฮาริน”


ถึงกระนั้น โชคดีที่ตอนนี้สัดส่วนของฮารินดูเหมือนจะอยู่ในใจของจินซุงเล็กน้อย 

 

 


ตอนที่ 156

 

สงครามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตลอดกาลในไคลัน


ไม่สิ นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ในไคลัน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสงครามที่ใหญ่ที่สุด แม้รวมถึงประวัติศาสตร์ของเกม VR ทั้งหมด


เพียงแค่นับจำนวนทหารในแต่ละฝั่งของทั้งสองฝ่ายมีประมาณ 30,000 คนในแต่ละด้าน


ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนของอัศวินที่ใกล้เคียงกับฝ่ายละ 1,000 คน มีผู้เล่นมากกว่า 1,000 คนที่เข้าร่วมสงคราม


และฉากที่มีขนาดใหญ่นี้ เมื่อนับจำนวนผู้คนสามารถเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่


“ฆ่าคนของอาณาจักรไคม่อนให้หมด!”


“ไม่มีการถอย! เชิดชูศักดิ์ศรีของนักรบลัสเปล!”


“วู้วววว!”


ผู้เล่นที่เข้าร่วมในการต่อสู้รู้สึกถึงความตื่นเต้นที่สุดในการต่อสู้ขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์จนถึงจุดที่รู้สึกเป็นจริง


“มันรู้สึกเหมือนกันฉันได้เข้าร่วมสงครามจริงๆ!”


“ไม่ตลกหน่า มันเหนื่อยกว่าการล่าในพื้นที่อีก แต่ก็มีความกังวลใจที่แตกต่างไปจากการล่าเช่นกัน!”


ตำแหน่งของผู้เล่นในสมรภูมินี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของทหารและอัศวิน


นี่เป็นเพราะว่าเลเวลของทหารอยู่ที่ประมาณ 110-130 ขณะที่เลเวลของอัศวินอยู่ที่ประมาณ 150-180


แน่นอนว่ายังมีผู้เล่นที่อยู่ในเลเวลที่ต่ำกว่าทหาร ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะเสียชีวิตทันที


Baaang-!


 


ท่านถูกโจมตีโดยตรงจากการโจมตีด้วยดาบของอัศวินของอาณาจักรไคม่อนและได้รับความเสียหายคริติคอล

พลังชีวิตของท่านลดลง 36,478 หน่วย

เมื่อพลังชีวิตของท่านหมดลง ท่านได้เสียชีวิต ท่านได้ออกจากสนามรบเรียบร้อย

 


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของนักเวทมนตร์หรือนักธนูซึ่งเป็นอาชีพที่มีพลังป้องกันต่ำแม้ว่าพวกเขาจะถูกโจมตีด้วยอัศวินระดับสูงเพียงครั้งเดียว ช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องจบเกมไปเช่นนี้


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะถูกโจมตีด้วยการโจมตีเดียวกัน ขึ้นอยู่กับพลังป้องกันของผู้ที่ถูกแรงโจมตีนั้นก็แตกต่างกันไปในหลายๆทาง


 


สัตว์เลี้ยง ‘บักค์’ ได้รับความเสียหายจากพลังแฝงของอัศวินแห่งอาณาจักรไคม่อน ทิ่มแทงวิญญาณ

พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘บุ๊กค์’ ลดลง 5,768 หน่วย

 


ความยิ่งใหญ่ของบักค์ซึ่งพลังป้องกันอยู่ใกล้กับ 4,000 หน่วยกำลังแสดงให้ประจักษ์


เมื่อมองดูข้อเท็จจริงที่ว่าเขาได้รับความเสียหายเพียง 5,000 หน่วย ถึงแม้ว่าเขาจะถูกโจมตีที่ไม่ใช่แค่การโจมตีปกติ แต่เป็นการโจมตีด้วยสกิล เอียนก็แสดงความพึงพอใจ


‘ฉันควรแนบคุณสมบัติการฟื้นฟูพลังชีวิตไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเครื่องรางที่ฉันจะมอบให้กับบักค์ แม้ว่ามันจะไม่ปรากฏบ่อยก็ตาม’


ถ้าเขามอบให้กับบักค์ซึ่งพลังป้องกันและพลังชีวิตสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เครื่องรางที่มีคุณสมบัติการฟื้นฟูระดับสูงติดอยู่จะเห็นได้ชัดว่าประสิทธิภาพของมันจะเยอะมากเลยทีเดียว


เพราะเขายังได้สร้างฟิล์มป้องกันทุกๆหนึ่งนาทีด้วยความสามารถติดตัวของเขา ถ้าเขามีคุณสมบัติในการฟื้นฟูที่ดี เขาก็รู้สึกว่าเขาสามารถกู้คืนพลังชีวิตทั้งหมดที่เขาสูญเสียไปในช่วงเวลาของฟิล์มป้องกันได้


‘เมื่อการต่อสู้จบลง ฉันควรฟาร์มเครื่องรางสัก 2-3 ชั่วโมง’


เพราะเขาไม่ได้พักจากการผลิตเครื่องราง เมื่อใดก็ตามที่เขามีโอกาสจนถึงตอนนี้เขาสามารถทำเครื่องรางที่อยู่เหนือระดับ Heroic ได้เช่นกัน


เขายังสวมใส่ไอเทมให้กับบักค์ซึ่งเหมาะสมในบรรดาเครื่องรางที่เขาสร้างขึ้นมาจนถึงตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ


เอียนซึ่งขี่อยู่บนหลังของบักค์ สั่งคำสั่งออกมา


“บักค์ ใช้คำอวยพรของมังกรเต่าให้กับไล!”


 


รับทราบครับเจ้านาย

 


และกระแสแห่งแสงสีทองที่พุ่งออกมาจากร่างของบักค์ยิงออกไปทางไลขณะที่มันย้อมเป็นสีเหลืองในอากาศ


 


สัตว์เลี้ยง ‘บักค์’ ได้ใช้พลังแฝง ‘คำอวยพรของมังกรเต่า’ ให้กับสัตว์เลี้ยง ‘ไล’

เป็นเวลา 2 นาที ‘บักค์’ จะได้รับความเสียหายแทน ‘ไล’ (‘บักค์’ จะได้รับ 150% จากความเสียหายเดิมและถ้าพลังชีวิตลดลดต่ำกว่า 10% สกิลจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ)

 


เอียนที่ตรวจสอบสกิลที่ถูกใช้งาน หันหน้าไปสั่งการซีเรีย


“ซีเรียให้ดุ๊กเดถอยหลังมานิดหน่อยและให้ความสนใจกับการใช้สกิลฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงกับบักค์!”


“ค่ะ ท่านลอร์ด!”


แม้ว่าจะเป็นบักค์เพราะพลังชีวิตของเขาลดลงในทันทีหากเขาได้รับความเสียหายที่ไลได้รับมาแทนในช่วงเวลาที่สกิลคำอวยพรของมังกรเต่าถูกเรียกใช้ อย่างน้อยพวกเขาจำเป็นต้องมุ่งเน้นสกิลการฟื้นฟูให้กับบักค์


และแม้ว่าเอียนจะไม่สั่งการเขา แต่ไลก็พุ่งเข้าใส่ในสนามรบและเริ่มสังหารศัตรู


 


สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้สร้างความเสียหายคริติคอลให้แก่ทหารแห่งอาณาจักรไคม่อน

พลังชีวิตของทหารแห่งอาณาจักรไคม่อนลดลง 27,638 หน่วย

ท่านประสบความสำเร็จในการสังหารทหารแห่งอาณาจักรไคม่อน!

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 198,079 หน่วย

ท่านได้รับชื่อเสียง 3,000 หน่วย

ท่านได้รับเกียรติยศ 500 หน่วยจากตระกูลราชวงศ์แห่งอาณาจักรลัสเปล

 


เอียนผู้ตรวจสอบข้อความระบบจำนวนมากที่โผล่ขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อใดก็ตามที่ไลฆ่าทหารก็ได้หันหัวของเขาอีกครั้งและมองไปรอบๆในสนามรบ


‘มันสำคัญมากที่เราต้องจับตาดู แต่เนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำการต่อสู้ไปสู่ชัยชนะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!’


ในฐานะที่เป็นจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเอียนที่เข้าร่วมในการต่อสู้คือการรักษาแนวหน้า เอียนมุ่งเน้นไปที่การลื่นไหลของสนามรบ


และจากที่ไกลๆ หลังที่คุ้นตาจับตาของเอียน


‘เอ่อ ทำไมเขาถึงอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว? เขาควรฟังสิ่งที่ฉันพูดสักนิด!’


หลังของตัวละครหลังไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไคซาร์


ไคซาร์อยู่ในสนามรบที่เอียนเข้าร่วมกับเขา แต่เมื่อเขาทำอย่างที่เขาพอใจ เขาไม่ฟังคำสั่งของเอียนเลย


เมื่อถึงจุดที่ถ้าเอียนบอกให้เขาเคลื่อนไหวไปทางทิศตะวันออก เขาก็เคลื่อนไหวไปทางตะวันตกโดยเจตนา


จนถึงจุดที่เขารู้สึกเหมือนว่าอัศวินของอาณาจักรทั่วไปที่เอียนมีความสัมพันธ์สูงและฟังคำพูดของเอียนได้ดีกว่าไคซาร์ซะอีก


‘เอ่อ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เนื่องจากค่าประสบการณ์และชื่อเสียงก็หลั่งไหลเข้ามา ฉันควรพึงพอใจกับของแค่นั้นไหมนะ’


เขารู้สึกราวกับว่าแม้แต่ไคซาร์ก็ถูกสอดแทรกเข้าไปในแนวรบด้านตะวันตกซึ่งกำลังพังทลายลงอย่างช้าๆความสมดุลจะกลับมาอีกครั้ง แต่ไคซาร์ตื่นเต้นต่อสู้กับอัศวินในแนวหน้าตรงกลาง


‘ฉันควรปรับให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของไคซาร์แทนและเคลื่อนไหวตามนั้น’


เอียนเรียกพินที่ใช้สกิลกระแทกกับทหารอยู่


“พินมานี่สิ!”


Kku-ruk- Kku-ruk-!


เมื่อเอียนสั่ง พินเข้าหาเขาด้วยความเร็วสายฟ้า


หลังจากเอียนลูบหัวพินสักพักหนึ่ง เขานั่งบนหลังของพินด้วยทักษะการเคลื่อนไหว


“ซีเรีย ฉันจะปล่อยให้เธออยู่ตรงนี้ พยายามที่ฮิลในขณะที่ฮิลบักค์และดุ๊กเดได้ดี ฮัลลิก็จะช่วยด้วย”


“ค่ะ ท่านลอร์ด ไว้วางใจให้ฉัน!”


เอียนก็ออกคำสั่งง่ายๆให้กับพอลลีนซึ่งต่อสู้อย่างขยันขันแข็งที่ด้านหน้า


“พอลลีนเนื่องจากการปกป้องสายนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าเข้าไปลึกเกินกว่าที่จะเจาะผ่านด้านหน้าและรักษาแนวเอาไว้”


พอลลีนพยักหน้าอย่างมีพลังขณะที่เขาตอบกลับ


“รับทราบครับ ท่านลอร์ด!”


เอียนซึ่งออกจากสนามรบไปยังผู้ติดตามที่เชื่อถือได้ของเขา บินขึ้นไปบนอากาศบนหลังของพินราวกับลูกศร


Kkyaaooh-!


ตามที่คาดหวังจากจักรพรรดิแห่งท้องฟ้าสีฟ้าพินร้องเสียงดังก้องดังขึ้น


เอียนมองลงไปที่สนามรบในขณะที่เขาเริ่มปล่อยบอลเวทและ Current Proliferation


อย่างขยันขันแข็ง


‘อย่างที่คาดไว้ ฉันไม่คิดว่าจะมีสกิลที่มีสถานะ AoE ใดที่มีประสิทธิภาพเท่ากับ Current Proliferation ในการต่อสู้ขนาดใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นถ้ามันเป็นการต่อสู้แบบนี้มันจะดียิ่งขึ้นไปอีก!’


เช่นนั้น เอียนเริ่มกำกับการต่อสู้ทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ


เขาไม่ได้ส่งคำสั่งไปยัง NPC หรือผู้เล่นโดยตรง แต่ในขณะที่เขาปล่อยสกิลดีบัฟหรือสกิลการโจมตีสถานะให้กับคนที่ถูกต้องในสถานที่ที่เหมาะสม เขาก็เริ่มคว้าทิศทางสนามรบในทางอ้อม


And the ones that felt threatened by Ian’s form first were the users of the Kaimon Empire.


และคนที่รู้สึกว่าถูกคุกคามโดยรูปแบบของเอียนก่อนคือผู้เล่นของอาณาจักรไคม่อนจักร


“อะไรวะนั่น? มีแม้แต่ NPC ที่ขี่กริฟฟินในประเภทการต่อสู้ของอาณาจักรลัสเปลด้วยหรอ?”


“อะไรวะเนี่ย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นแบบนั้นเช่นกัน นั่นเป็นคนขี่กริฟฟินจริงๆหรอ?”


ผู้เล่นที่ไม่รู้เกี่ยวกับเอียนจริงๆ คิดว่าเอียนซึ่งบินไปรอบๆบนอากาศและรบกวนการต่อสู้ทีละเล็กทีละน้อยก็คือ NPC แต่ก็มีผู้เล่นที่รู้จักเขาเช่นกัน


“ผู้เล่นนั่นคือเอียน! ฉันเคยดูวิดีโอของเขาที่ขี่กริฟฟินและปล่อยสายฟ้า!”


“ถูกต้อง! ถ้าได้รับการโจมตีจากลูกบอลสีม่วงนั่น มันจะค่อนข้างเจ็บเลยล่ะ ระวังมันด้วย!”


Pung-!


ผลกระทบของพลังการต่อสู้ของผู้เล่นคนหนึ่งที่มีต่อสมรภูมิรบขนาดใหญ่นี้ไม่สามารถช่วย ที่จะพูดได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ไม่ว่าใครจะเห็นเอียนก็คิดว่าเขาออกแรงมากมายในการต่อสู้โดยรวม


เอียนใช้พันธมิตรที่แข็งแกร่งของเขาอย่างถูกต้องและเขาแยกศัตรูที่คุกคามอย่างมีฝีมือและทำให้พวกเขายากที่จะแสดงความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่


ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไปเช่นนั้นสนามรบก็ค่อยๆเอนไปทางด้านข้างของอาณาจักรลัสเปล


ดูเหมือนว่าผู้เล่นที่เป็นพันธมิตรกับลัสเปลที่ยังมีชีวิตอยู่และต่อสู้อย่างขยันขันแข็งก็รู้สึกเช่นกัน เมื่อพวกเขาเริ่มพูดจากความตื่นเต้น


“ว้าว ในที่สุดเราก็จะชนะใช่ไหม?”


“ใช่สิ ฉันรู้สึกว่าพวกเราจะชนะกันจริงๆในวันนี้!”


“ฉันได้ยินมาว่าเราเพิ่งแพ้สามวันติดต่อกันนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น แต่เราจะชนะได้ยังไงในวันนี้?”


“นายไม่เห็นคนขี่กริฟฟินตรงนั้นหรอ? ฉันคิดว่าคนนั้นเก่งจริงๆ ต้องขอบคุณคนนั้น ฉันรอดมาได้ตั้งสองครั้งเพราะเขา”


“นายหมายความว่าอะไรคนนั้น? คนนั้นคือเอียนที่เป็นอันดับที่ 1 ของการจัดอันดับซัมมอนเนอร์ ถ้าฉันยังมีชีวิตอยู่ในตอนท้ายของการต่อสู้ ฉันก็คิดว่าอย่างน้อยจะได้ลายเซ็น”


“โอ้ จริงหรอ? คนนั้นคือเอียนที่นายคุยกันอ่ะนะ?”


ผู้เล่นมองไปยังเอียนที่บางครั้งก็ขี่พินและบินไปบนอากาศหรือบางครั้งก็ขี่ฮัลลิและไปรอบๆสนามรบด้วยสายตาอิจฉา


“เฮ้ ถ้าฉันดูไปที่เอียนแล้ว ฉันคิดว่าอาชีพซัมมอนเนอร์เป็นอาชีพที่โกงแน่ๆ แต่ทำไมมีแค่ข่าวซุบซิบกันในกระดานข่าวของซับมอนเนอร์ล่ะ?”


เมื่อผู้เล่นคนหนึ่งพูดขึ้น ผู้เล่นอัศวินที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของเขา ส่ายหน้าขณะที่ตอบกลับ


“ตอนนี้การเล่นนั้นดูง่ายสำหรับนายมั้ยล่ะ? ในขณะที่สัตว์เลี้ยงเองก็มี AI พวกมันต่อสู้จนถึงระดับแม้ว่านายจะปล่อยให้พวกมันอยู่ตัวเดียว แต่ถ้านายไม่ออกคำสั่งพวกมันอย่างสม่ำเสมอก็จะควบคุมไม่ได้มาก การควบคุมของเอียนนั้นช่างน่าอัศจรรย์ฉันเฝ้าดูเขาอยู่พักหนึ่ง แต่เขาไม่มีสัตว์เลี้ยงที่คลุกคลีอยู่ข้างบนฉันคิดว่าระดับของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างน้อยต้องระดับ Heoric”


เช่นนั้นหลังจากที่เอียนให้ความสนใจทั้งหมดของเขาโดยไม่เหลือและเดินไปรอบๆสมรภูมิอาณาจักรลัสเปลก็สามารถได้รับชัยชนะได้อย่างสมบูรณ์


ความจริงที่ว่านักรบทะเลทรายที่มีส่วนช่วยในชัยชนะของอาณาจักรไคม่อนไม่มากนักจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ถือว่าเป็นโชค แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เหมือนบทบาทของเอียน


“ฮูเร่! ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีชีวิตรอจนถึงจบการต่อสู้เลย!”


“แจ็คพอต! ฉันก็มีชีวิตรอด ฮ่าฮ่า!”


“เฮ้ พวกนานไม่แม้แต่จะถึงเลเวล 120 พวกนายรอดมาถึงตอนนี้ได้ยังไง?”


“แหะๆๆ ฉันตามหลังเอียนมา เอียนช่วยชีวิตฉันถึง 3 ครั้ง! เทพเจ้าเอียน!”


จำนวนผู้เล่นของอาณาจักรลัสเปลที่รอดชีวิตเมื่อสิ้นสุดการต่อสู้มีเพียงประมาณ 900 คนซึ่งประมาณ 30% ของ 3,000 คนที่เข้าร่วมการต่อสู้ในตอนแรก แต่จริงๆแล้วก็เป็นมาตรฐานที่เหลือเชื่อเช่นกัน


แม้ว่าจะเป็นค่ายที่ได้รับชัยชนะจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีกรณีใดที่ผู้เล่นกว่า 10% จะรอดชีวิตมาได้


กล่าวอีกนัยหนึ่งการต่อสู้ในวันนี้ถือได้ว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ


‘เราจะผลักดันการต่อสู้ในวันนี้ได้ไกลแค่ไหนกัน?’


เอียนเปิดแผนที่ของเขาและหลังจากตรวจสอบแนวหน้าที่เผชิญหน้าที่เกิดขึ้นใหม่และระยะห่างระหว่างจุดนั้นกับฐานแล้ว เอียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก


หากในกรณีที่พวกเขาแพ้ในวันนี้ ฐานก็จะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ


‘เอาล่ะ ถ้าเราสามารถชนะอย่างต่อเนื่องในอีกสองวันหรือมากกว่านั้นดูเหมือนว่าฐานของเราสามารถหลีกเลี่ยงโซนอันตรายได้’


หลังจากเอียนตรวจสอบความจริงที่ว่าความสามารถของเขาแสดงผลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คาดไว้ แม้ในการสู้รบขนาดใหญ่เขาก็พอใจอย่างไม่น่าเชื่อ


‘ค่าประสบการณ์นั้นยอดเยี่ยมเช่นกัน ฉันควรวิ่งเป็นทหารรับจ้างในแนวหน้าสองสามวัน’


อย่างไรก็ตามแผนการของเอียนซึ่งดูราบรื่น ไม่สามารถช่วยได้จะแตกเป็นเสี่ยงๆในวันถัดไป


 


* * *


 


เอียน: อะไรนะ? ฐานโดนโจมตีหรอ?

เฮิร์ซ: นั่นแหละที่ฉันจะบอกนาย ขณะที่นายไป นักรบทะเลทรายเข้ามาโจมตี จำนวนน้อยกว่าครั้งที่แล้ว แน่ดูเหมือนว่านายจะออกไป ความเสียหายเลยค่อนข้างมาก

เอียน: ไม่นะ เกิดขึ้นได้ไงเนี่ย? ในวันของการต่อสู้ เราห่างจากแนวหน้าถึง 3 กิโลเมตร ดังนั้นนักรบทะเลทรายจะมาหาเราได้ยังไง?

ฟิโอลัน: ดูเหมือนว่ากิลด์ดาร์ครูน่าจะเคลื่อนไหวนักรบทะเลทรายเป็นการส่วนตัว หรือไม่ก็หน้ากากของมาเจนต้าจะมีความสามารถพิเศษบางอย่าง…

เอียน: ความสามารถพิเศษ? ประเภทไหน…?

ฟิโอลัน: ยกตัวอย่างเช่นอัญเชิญนักรบทะเลทรายภายในระยะที่กำหนดไปยังสถานที่โดยเฉพาะ…?

เอียน: อ่อ มันเกินความคาดหมายของฉัน ถ้างั้นตั้งแต่พรุ่งนี้ ฉันก็ควรกลับไปที่ฐาน

เฮิร์ซ: ฉันคิดว่านั่นจะดีที่สุดนะ เนื่องจากไม่ว่านายจะอยู่ที่นี่หรือไม่ จะมีความแตกต่างก็ค่อนข้างมาก

 


การแสดงออกของเอียนที่เข้าไปในห้องแชทเพื่อคุยเกี่ยวกับชัยชนะในการต่อสู้ แต่กลับได้ยินข่าวที่ไม่คาดฝัน


“อ่า… หน้ากากของมาเจนต้าหรืออะไรก็ตาม ไม่มีวิธีดูรายละเอียนของไอเทมนั้นเลยหรอ? ฉันจะบ้าตาย”


ฐานทวีปกลางของกิลด์โลตัสกำลังสร้างอาคารอย่างรวดเร็วและอยู่ในช่วงกลางของการพัฒนา


ทรัพยากรและสินค้าที่จำเป็นในการสร้างอาคารเหล่านั้นแน่นอนว่าสิ่งต่างๆที่จัดหาผ่านเสาการค้าแห่งสงคราม


‘หากการโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่องดูเหมือนว่าเราจะต้องสร้างหอป้องกันก่อนไม่ใช่อาคารผลิต เราจะต้องลงทุนเพิ่มมากขึ้นในกำลังแรงงานเช่นกัน…’


แต่เนื่องจากจะสูญเสียมากเกินไปที่จะยกเลิกอาคารผลิตที่ถูกสร้างขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องจัดหาทรัพยากรเพิ่มเติมจากที่อื่น


หัวของเอียนเริ่มมีความซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาปิดหน้าต่างแชทและมุ่งหน้าไปยังฐาน


‘หากเป็นเช่นนี้ ในท้ายที่สุดหมายความว่าเราจะต้องดึงทรัพยากรจากทวีปทางเหนือ…’


เอียนซึ่งจัดการความคิดของเขาในไม่ช้าส่งข้อความส่วนตัวถึงใครบางคน


 


เอียน: ศาสตราจารย์ครับ ผมจินซุง อย่างไรก็ตาม คุณทำสิ่งนั้นที่ผมขอจากคุณก่อนหน้านี้เสร็จหรือยังครับ? 

 

 


ตอนที่ 157

 

ข้อความของจีนุกส่งมาทันทีหลังจากสองสามวินาทีตั้งแต่เอียนส่งข้อความของเขา


 


ลีจีนุก : เสร็จแล้วจินซุง ฉันกำลังคิดที่จะติดต่อเธออยู่พอดีเลย

เอียน : ครับ ศาสตราจารย์ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นสุดท้ายใช่ไหมครับ?

ลีจีนุก : การอัปเกรดเสร็จสิ้นเมื่อบ่ายวานนี้ เริ่มวันนี้เราสามารถรับลูกค้าได้แล้ว

 


สิ่งที่เอียนขอจากจีนุกนั้นไม่ใช่เรื่องอื่นนอกจากการอัพเกรดในพื้นที่การฝึกฝนของเมือง


ในตอนท้ายที่สุดของหลายๆเดือนนับตั้งแต่การสร้างสนามฝึกขึ้นเป็นครั้งแรก ในที่สุดมันก็ได้รับการอัพเกรดเป็นขั้นสุดท้าย


‘จุดเริ่มต้นของการฝึกฝนอาจกลายเป็นโบนันซ่าที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม้แต่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพก็ค่อยๆปล่อยออกมาและเวลาก็มาถึง’


พื้นที่ฝึกฝนเป็นสถานที่พิเศษที่สามารถยกระดับศักยภาพของสัตว์เลี้ยงได้อย่างรวดเร็ว


นั่นคือสกิลพิเศษของเอียนคือ ‘การฝึกฝน’ ที่ได้รับการยกเว้น


‘ฉันไม่รู้ว่ามันจะมีผลกระทบเท่าไร แต่อย่างน้อยในหมู่ซัมมอนเนอร์ มันช่วยไม่ได้ที่จะกลายเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด’


สำหรับซัมมอนเนอร์ ‘การวิวัฒนาการ’ ของสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ


ด้วยเหตุนี้เพื่อที่จะไขความลับที่เกี่ยวข้องกับวิวัฒนาการของสัตว์เลี้ยงได้มีการโต้แย้งเกิดขึ้นเป็นระยะๆบนกระดานข่าวสัตว์เลี้ยง


อย่างไรก็ตามยังไม่มีคนที่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างศักยภาพและวิวัฒนาการเกือบจะเหมือนกับที่เอียนทำ


อาจเป็นไปได้ว่ามีผู้เล่นที่ค้นพบ แต่ยังไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลอย่างเอียน แต่อย่างน้อยในชุมชนข้อมูลยังไม่ได้รับการเผยแพร่


ในเวลานี้ เมื่อเกือบจะไม่มีใครที่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างศักยภาพและวิวัฒนาการถ้าบทบาทของพื้นที่การฝึกฝนเป็นที่รู้จักกัน คลื่นขนาดมหึมาอย่างแท้จริงจะถาโถมเข้ามา


 


เอียน : ถ้างั้นสัตว์เลี้ยงที่สามารถรองรับในพื้นที่ฝึกฝนตอนนี้ประมาณเท่าไหร่ครับ ศาสตราจารย์?

ลีจีนุก : อืมมม… ดูเหมือนว่าสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่จะ 50 ตัว และขนาดกลางกับเล็กรองรับแต่ละขนาดประมาณ 100 ตัว ฉันขยายมันอย่างสมบูรณ์โดยใช้ที่ดินที่ได้รับจัดสรรทั้งหมดที่เธอมอบให้ฉัน

เอียน : โอ้ สัตย์เลี้ยงที่สามารถใช้งานได้มีจำนวนมากกว่าที่คาดไว้ ขอบคุณสำหรับความพยายามของศาสตราจารย์นะครับ

ลีจีนุก : ถ้างั้นเธอวางแผนที่จะเริ่มเผยแพร่ข้อมูลออกข้างนอกวันนี้งั้นหรอ?

เอียน : ครับศาสตราจารย์ ผมคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมในขณะนี้ ผู้เล่นที่เกือบจะค้นพบความลับของศักยภาพที่อาจจะมีอยู่แล้วและในไม่ช้าข้อมูลก็จะถูกเปิดเผยในชุมชน เราจะเปิดเผยข้อมูลก่อนหน้านี้และครอบงำตลาดล่วงหน้า อาจจะไม่มีเมืองที่มีพื้นที่ฝึกอบรมที่ได้รับการอัปเกรดเป็นระดับสูงสุดทุกที่ในไคลันก็ได้ครับ

 


การคำนวนของเอียนนั้นง่ายๆ


ถ้าเขาเผยแพร่ข้อมูลไปยังชุมชนที่มีความเกี่ยวพันของศักยภาพและวิวัฒนาการของสัตว์เลี้ยงยิ่งมีศักยภาพสูงเท่าใด ความสามารถของสัตว์เลี้ยงก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ สัตว์เลี้ยงภายในไคลันเกือบทั้งหมดจะรวมตัวกันที่เมืองโลตัส


หากเป็นเช่นนั้น โดยปกติเมื่อเมืองโลตัสเป็นจุดศูนย์กลางจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ใหญ่และจะมีสัตว์เลี้ยงที่จะเริ่มฝังรากและตั้งถิ่นฐานในเมือง


เมื่อเลเวลของมอนสเตอร์ในเมืองอยู่ที่ 70 ที่ต่ำสุดและสูงสุดที่เลเวล 100 พื้นที่ล่าจะมีเสน่ห์พอที่จะเรียกซัมมอนเนอร์ในระดับกลางได้เช่นกัน


 


ลีจีนุก : เอาล่ะ นักเรียนจินซุง ถ้างั้นเธอวางแผนที่จะโปรโมทยังไงล่ะ?

 


เอียนที่คิดอยู่สักครู่หนึ่ง ตอบอย่างสั้นๆ


 


เอียน : ผมจะดูแลมันเองศาสตราจารย์ แค่เตรียมรับลูกค้าอย่างละเอียดก็พอแล้วครับ

 


* * *


 


จินซุงผู้ซึ่งได้สนทนากับศาสตราจารย์ลีจินนุก ออกจากระบบจากเกมไปแล้วและออกมาจากแคปซูลของเขา


เขาวางแผนที่จะไม่เข้าสู่ระบบประมาณหนึ่งในสี่ของวันในตอนนี้


‘ลองคิดว่าฉันจะเขียนแผ่นจู่โจมเป็นครั้งแรกในระยะเวลาหนึ่งและเขียนบางสิ่งบางอย่างอย่างขยันขันแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้’


เอียนซึ่งเป็นผู้เปิดเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตเป็นอย่างครั้งแรก เริ่มทำการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงของเขา


การรวบรวมข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่มีวิวัฒนาการซึ่งเอียนไม่รู้ แต่ข้อมูลที่เผยแพร่นั้นมีความสำคัญอันดับแรก


‘สิ่งสำคัญที่สุดคือการเขียนเพื่อให้ดูดีที่สุดและเพื่อให้สามารถอ่านได้ง่าย’


แน่นอนว่ามันไม่ผิดที่แม้ว่าเขาจะเขียนข้อมูลว่าเมื่อศักยภาพ 100 หลังจากที่ครบตามข้อกำหนด พวกเขาจะวิวัฒนาการและพวกเขาต้องการที่จะเพิ่มเลเวลเมื่อศักยภาพของพวกเขาสูงเพื่อให้ความสามารถเติบโตขึ้นในระดับที่สูงกว่าในรูปแบบย่อมันจะเป็นข้อมูลที่เหลือเชื่อ แต่เขาก็ไม่พอใจกับมัน


เขาต้องการที่จะเขียนอะไรบางอย่างเช่นคัมภีร์ไบเบิลของซัมมอนเนอร์ สิ่งที่ถ้าคุณเป็นซัมมอนเนอร์คุณต้องอ่านอย่างน้อยหนึ่งครั้ง


เอียนวางแผนในการวิเคราะห์สัตว์เลี้ยงทั้งหมดและการวิวัฒนาการของพวกมันและจัดการทุกสิ่งที่เขาสามารถทำได้จากระดับของพวกมัน อัตราการเติบโตสูงสุดและต่ำสุดขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละระดับเพื่อให้ง่ายต่อการดู


‘ฉันจะโปรโมตลิงก์กระดานข่าวโดยโพสต์ไว้ที่ตอนท้ายของวิดีโอว่าโซจินจะทำการอัปโหลดและเนื่องจาก ID ของฉันก็มีชื่อเสียงเช่นกัน ถ้าฉันขายชื่อของฉันเพียงเล็กน้อยจำนวนผู้ชมอาจจะเพิ่มขึ้นทันที’


เอียนซึ่งนั่งอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ เริ่มค้นหาอย่างบ้าคลั่ง


 


* * *


 


ณ ฐานโลตัสในทวีปกลาง


ในค่ายทหารของศูนย์กลางฐาน ฟิโอลันและเฮิร์ซได้พูดคุยกันด้วยท่าทางที่จริงจัง


“อะไรนะ? ตอนนี้เรากำลังสร้างอาคารหลายหลัง แต่เราจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้อีกหรอ?”


“ใช่ฟิโอลัน นี่คือสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดคุยกับเอียนเกี่ยวกับหอการป้องกันเป็นหลัก เราตัดสินใจที่จะสร้างทุกสิ่งที่เราสามารถทำได้”


เมื่อเฮิร์ซพูด ฟิโอลันทำหน้างุนงงอย่างเหลือเชื่อ


“ไม่สิ ไม่มีปัญหาใหญ่ในการเริ่มก่อสร้าง แต่ถ้าเราทำแบบนี้ นายแน่ใจหรอว่าเราจะไม่สามารถทำสิ่งใดให้สำเร็จและเพียงผลาญทรัพยากรของเราไปเฉยๆ? ถ้าเป็นเช่นนั้น เราไม่สามารถทำอะไรได้เลยและเพียงแค่ล้มเหลว…”


กระบวนการสร้างอาคารในไคลันนั้นคล้ายกับของจริงอย่างมาก


ตัวอย่างเช่นเพียงเพราะมีการสร้างอาคารที่มีมูลค่า 5 ล้านทอง นั่นไม่ได้หมายความว่าจะมีเพียง 5 ล้านทองที่อยู่ตรงหน้าตั้งแต่ต้น


หากเพียงแค่มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างขั้นพื้นฐานก็สามารถเริ่มต้นการก่อสร้างได้ทุกเมื่อและหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตราบใดที่มีการครอบคลุมส่วนนั้น ตัวอาคารจะถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง


เนื่องจากกิลด์โลตัสมีทรัพยากรค่อนข้างน้อยจึงเป็นไปได้ที่จะเริ่มสร้างอาคารป้องกันทั้งหมดในเวลาเดียวกันเหมือนกับแผนของเอียน แต่เพราะมันไม่ถึงจุดที่พวกเขาสามารถทุ่มทรัพยากรอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ฟิโอลันจึงเป็นห่วง


เมื่อเธอพูด เฮิร์ซพยักหน้าขณะที่ตอบกลับ


“I’m also quite worried. However, after hearing what Ian said, it doesn’t seem like it’s completely impossible.”


“ฉันก็ค่อนข้างกังวล อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินเอียนพูด ดูเหมือนว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว”


ฟิโอลันดีใจเมื่อเธอถามกลับ


“จริงหรอ?”


“ใช่ ก่อนอื่นเรามีเสาการค้าแห่งสงครามเริ่มประมาณพรุ่งนี้ เราจะสามารถผลิตทหารทะเลทรายภาคพื้นดินและเมื่อเราเริ่มผลิตทหาร เราจะสามารถส่งคะแนนพิเศษจำนวนมากไปยังจุดที่มันจะหาที่เปรียบไม่ได้ “


“อืมม ฉันรู้สึกเหมือนว่ามันจะยังขาดอยู่แม้ในตอนนี้… แต่สำหรับตอนนี้เนื่องจากเราไม่เคยได้รับความเสียหายตามคำพูดของเอียน ลองดำเนินการกันเถอะ”


เนื่องจากมีหลายส่วนที่สมเหตุสมผลในเหตุการณ์ของเอียน ฟิโอลันจึงเห็นด้วยกับมันเช่นนั้น


และเฮิร์ซที่เห็นเธอทำอย่างนั้นก็แสยะยิ้มขณะที่เขาพยักหน้า


“โอเค ถ้างั้นเราเริ่มสร้างอาคารทันทีกัน”


อย่างไรก็ตาม ฟิโอลันนั้นมั่นใจ แต่เฮิร์ซก็ไม่สามารถคาดเดาธุรกิจขนาดใหญ่ที่เอียนคิดว่าเป็นรากฐานเหมือนกับเมืองทางเหนือได้


“แต่เอียนอยู่ที่ไหนในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย?”


เมื่อฟิโอลันถาม เฮิร์ซเกาหัวของเขาขณะที่เขาส่ายหน้า


“ฉะ ฉันก็ไม่แน่ใจ เขาเพิ่งบอกฉันว่าเขากำลังจะไปหาเงิน”


“…?”


อย่างนั้นในขณะที่คนสองคนกำลังขยายอาคารป้องกันของฐานอย่างขยันขันแข็งกับสมาชิกกิลด์


เอียนนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างขยันขันแข็งและพิมพ์บนแป้นพิมพ์


 


* * *


 


“โลเรน นายเห็นในชุมชนไหม?”


โลเรนเป็นผู้เล่นอันดับ 1 ของอันดับเลเวลซัมมอนเนอร์ในปัจจุบัน


เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิลด์ใดๆ แต่เธอเข้าร่วมกับ ‘ทีม’ ขนาดเล็กที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นซัมมอนเนอร์เพียงคนเดียว


ชื่อของทีมคือ ‘ซัมมอนเนอร์ทองคำ’ ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างไม่น่าเชื่อในชุมชนซัมมอนเนอร์


ซัมมอนเนอร์ทองคำเป็นทีมที่ประกอบไปด้วยสมาชิกซัมมอนเนอร์ทั้งหมดประมาณยี่สิบคนและพวกเขาเป็นคนที่ไม่ได้ทำ PVP หรือเควสต์ แต่ส่วนใหญ่แค่ PVE หรือแม้แต่ฆ่ามอนสเตอร์


พวกเขาทุกคนมีสกิลที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาและอันดับของพวกเขาก็สูงเช่นกัน ดังนั้นถึงจุดที่ซัมมอนเนอร์หลายคนต้องการเข้าร่วมทีมซัมมอนเนอร์ทองคำนี้ แต่มีบุคคลหนึ่งที่พวกเขาเป็นไอดอล


ชัดเจนว่านั้นคือเอียน


“มิลเลี่ยน มันคืออะไร?”


เมื่อโลเรนถาม เด็กหนุ่มที่ชื่อมิลเลี่ยนตอบอย่างรวดเร็ว


มิลเลี่ยนยังเป็นหนึ่งในผู้ติดอันดับสูงสุดในอันดับซัมมอนเนอร์ที่ใกล้เคียงกับเลเวล 120


“ชุมชนอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างสมบูรณ์ในตอนนี้ จนถึงจุดที่จำนวนผู้ที่เข้าสู่กระดานข่าวของซัมมอนเนอร์นั้นสูงมากจนเซิร์ฟเวอร์ล่ม”


เมื่อเขาพูด ดวงตาทั้งสองของโลเรนเบิกโพลงยิ่งกว่าเดิม


“อะไรนะ ต้องมีอะไรเกิดขึ้น ฉันเดานะ?”


มิลเลี่ยนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“นั่นก็คือเนื่องจากเอียนอัปโหลดส่วนของการโจมตีไปที่กระดานข่าว”


“…!”


เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น โลเรนยืนขึ้นทันที


“เอียนอัปโหลดส่วนของการโจมตีงั้นหรอ? นายได้อ่านเนื้อหาหรือยัง?”


“ฉันเพิ่งอ่านและมาที่นี่ ฉันไม่สามารถอ่านทั้งหมดได้นั่นคือเพราะมันเยอะมาก ฉันอ่านไปนิดหน่อย แต่คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเธออ่านก่อนจะดีกว่านะโลเรน… ฉันเหลือบดูมันประมาณคร่าวๆ แต่คุณภาพอย่างเดียวดีที่สุดตามที่คาดไว้กับเอียน!”


เมื่อมิลเลี่ยนพูด โลเรนยิ้มอย่างสดใสขณะที่เธอตอบ


“ขอบคุณมากนะมิลเลี่ยน ฉันจะออกไปตอนนี้และกลับมาหลังจากที่ฉันอ่านส่วนของการโจมตีเสร็จแล้ว!”


“ไปกันเล…”


ก่อนที่มิลเลี่ยนจะตอบเสร็จ ดูเหมือนว่าโลเรนจะออกจากระบบไปแล้ว


ขณะที่มองไปที่เธอ มิลเลี่ยนส่ายหน้า


“ตามที่คาดว่าเป็นหัวหน้า ฉันก็เป็นแฟนของเอียน แต่ฉันไม่สามารถทำแบบโรเลนได้”


เอียนไม่รู้เลย แต่เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว ตอนที่เวลาที่วิดีโอของเอียนเริ่มแพร่กระจายบน YouCast เป็นประจำแฟนๆของเอียนก็ถูกสร้างขึ้น


และหัวหน้าของแฟนคลับไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโลเรน


โลเรนติดต่อโซจินโดยตรงผู้อัปโหลดที่รับผิดชอบวิดีโอของเอียนเต็มรูปแบบและอัพโหลดพวกเขาและเธอก็มีแฟนคาเฟ่ของเอียนเป็นที่รู้จักและเธอก็ได้รับวิดีโอโดยตรงเช่นกัน


สำหรับโซจินความจริงที่ว่ามีแฟนคลับถูกสร้างขึ้นสำหรับเอียนนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจของเธอ ดังนั้นเธอจึงให้การสนับสนุนและจำนวนสมาชิกในแฟนคลับของเอียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก


ในขณะนี้จำนวนสมาชิกในแฟนคลับใกล้เคียงกับ 150,000 คน


จริงๆแล้ว ถ้าความจริงที่ว่าแม้แต่แฟนคลับของอิลาฮันหัวหน้ากิลด์ของกิลด์ดาร์ครูน่าที่รู้จักกันในชื่ออันดับที่ 1 ในการจัดอันดับแบบรวมกันนั้นไม่ได้อยู่ที่ 200,000 คน นี่เป็นจำนวนที่เหลือเชื่อ


“ฉันควรออกจากระบบอย่างรวดเร็วและวางที่อยู่ของชิ้นส่วนโจมตีบนกระดานข่าวของเลิฟลีอัน ใครบางคนจะใส่มันไว้แล้วหรือยังนะ?”


เลิฟลีอันคือชื่อของแฟนคลับของเอียน


ในภาษาอังกฤษคือเลิฟลีอัน


นั่นเป็นชื่อของโลเรน


“ถ้าพูดอย่างนั้นหมายความว่าตารางล่าสำหรับวันนี้จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติใช่ไหม?”


มิลเลี่ยนเปิดห้องแชทปาร์ตี้และตรวจสอบจำนวนคนที่เข้าสู่ระบบ


เขารู้สึกว่าคนอื่นๆได้ยินคำที่เอียนลงการโจมตีมาจากชุมชนแห่งหนึ่งจากที่ไหนสักแห่งแล้วออกจากระบบ


เนื่องจากสมาชิกทุกคนในซัมอนเนอร์ทองคำเป็นแฟนตัวยงของเอียนนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่เห็นได้ชัด


หลังจากอัปโหลดประกาศในห้องสนทนาซึ่งไม่มีใคร มิลเลี่ยนก็ออกจากระบบ


 


ประกาศ: กำหนดการล่าในวันนี้จะถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันถัดไป ทุกคนอ่านการโจมตีของเอียนอย่างระมัดระวังสิบครั้ง วันพรุ่งนี้และวิเคราะห์มันเพื่อการแบ่งปัน 

 

 


ตอนที่ 158

 

อย่างที่คาดไว้ ผลกระทบของการโจมตีที่เอียนอัพโหลดเข้าสู่ชุมชนนั้นมหาศาล


ก่อนที่จะถึงเวลา 30 นาทีก่อนที่มันจะถูกอัปโหลด มันจะถูกย้ายไปยังกระดานข่าวที่ดีที่สุดของการโจมตีที่ดีที่สุดและแม้กระทั่งก่อนหน้าหนึ่งในสี่ของวันผ่านไปมันก็ขึ้นไปอยู่ใน 10 อันดับแรกของกระดานข่าวที่ดีที่สุด .


นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถปรากฏขึ้นได้เนื่องจากในขณะเดียวกันกับที่เอียนอัพโหลดวิดีโอ YouCast เขาได้โปรโมทมันผ่านสมาชิกกิลด์อย่างมีชั้นเชิง แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียว


แม้ว่าพวกเขาจะโปรโมทมันอย่างดีในตอนแรกและมันก็รวบรวมกำลัง ถ้าคุณภาพของเนื้อหาที่อยู่ข้างในนั้นไม่ดี มันจะไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากถูกกลบไป


อย่างไรก็ตามการโจมตีของเอียนเป็นหนึ่งที่มีคุณภาพสูงกว่าส่วนการโจมตีใดๆที่เกี่ยวข้องกับซัมมอนเนอร์ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน


หลังจากที่เขาสร้างการโจมตีอย่างสมบูรณ์เพื่อให้อ่านได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจึงได้ถามโซจินซึ่งเป็นจบด้านการออกแบบเพื่อความชื่นชอบและความพิถีพิถันของเอียนผู้ทิ้งการแก้ไขขั้นสุดท้ายให้กับเธอ


และสำหรับผลที่ตามมาจากการโจมตีของเอียนโพสต์ก็ขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่ทุกครั้งที่มีการรีเฟรชกระดานข่าวของซัมมอนเนอร์หน้านั้นก็จะเปลี่ยนไป


 


ว้าว ฉันเพิ่งอ่านการโจมตีของเอียนอย่างดี แต่มีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงแสดงการเติบโตอย่างไม่น่าเชื่อในฐานะซัมมอนเนอร์ ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกแทรกอย่างจริงจังเป็นเพียงข้อมูลที่หอมหวานอย่างสมบูรณ์…

เห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับค่าศักยภาพ มีหลายคำที่เกี่ยวข้องกับมัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดสิ้นสุดของข้อพิพาทนั้นแล้ว เอียนยังจับภาพหน้าจอของความสามารถในการเติบโตของสัตว์เลี้ยงไลของเขาเองและพาพวกเขาไปยังระดับต่างๆก่อนทำสูตรตัวเลข ดังนั้นใครจะไปวิจารณ์ได้ล่ะ?

เอียนเป็นความหวังของผู้เล่นซัมมอนเนอร์อย่างแท้จริง ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันสามารถวิวัฒนาการไอซ์โกเลมของฉันได้เช่นกัน! ฉันมีอาการจิตแปรปรวนเพราะมันยังไม่วิวัฒนาการแม้จะอยู่ที่เลเวล 70 แต่สำหรับวิธีการแก้ปัญหาค่าศักยภาพ…

ทุกคน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะอยู่ที่นี่แบบนี้ แต่รีบไปที่เมืองโลตัสเห็นได้ชัดว่ารายชื่อการรอสำหรับจองพื้นที่ฝึกอบรมเต็มแล้ว ถ้าคุณมาสายใครจะรู้คุณอาจถูกผลักไปยังคนนับพันในรายชื่อการรอ

คนข้างต้น ดูเหมือนว่าคุณจะช้าไปนะ คนที่อยู่แถวนี้อาจวิ่งไปที่เมืองโลตัสแล้วและทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ที่นั่นหรือใส่ชื่อพวกเขาไว้ในรายชื่อรอการจอง

ในการวางแผนที่จะไปที่เมืองโลตัสตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นตาคุณในปีหน้า…

ไม่หรอก แต่มีเพียงพื้นที่ฝึกฝนในเมืองโลตัสเท่านั้นใช่ไหม? ทำไมทุกคนไปถึงเมืองโลตัสกัน?

อ่าา เมืองโลตัสไม่ใช่เมืองเดียวที่มีพื้นที่การฝึกฝน จากสิ่งที่ฉันได้พบมีหนึ่งที่สร้างขึ้นในทุกภูมิภาค อย่างไรก็ตามสถานที่ฝึกฝนอื่นๆยังไม่ได้เปิดใช้งานหลังจากที่สร้างขึ้น ดังนั้นระดับสถานที่จึงต่ำอย่างมาก

ความแตกต่างในประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับระดับสถานที่งั้นหรอ?

ใช่ แตกต่างกันอย่างใหญ่หลวงราวกับฟ้าและเหว… เมื่อฉันไปที่กระดานข่าวซัมมอนเนอร์ก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่ามีหมาป่าที่มีศักยภาพ 60 หน่วยไปถึง 100 หน่วย ภายในหนึ่งในสี่ของวันและวิวัฒนาการ ในทางกลับกันแม้ว่าคุณจะทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ทั้งวันไปที่สนามฝึกปกติศักยภาพของมันจะสูงขึ้นประมาณ 5 เท่านั้น

โห…

มันเป็นเพราะยิ่งระดับของสัตว์เลี้ยงต่ำยิ่งง่ายขึ้นต่อการเพิ่มศักยภาพของมัน

Hul.

โห

และมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ไม่สามารถฝึกฝนได้ในสถานที่ฝึกฝนระดับต่ำ

อ่อ… ถ้างั้นโกเลมและแมมมอธของฉันต้องไปที่เมืองโลตัสไม่ว่ายังไงก็ตาม

ถูกต้อง

 


สำหรับซัมมอนเนอร์ผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงกับคุณสมบัติ ‘วิวัฒนาการที่เป็นไปได้’ และได้รอทั้งวันทั้งคืนสำหรับวันที่มันจะวิวัฒนาการ มาพื้นที่ฝึกฝนของเมืองโลตัสที่อยู่ในระดับสูงสุดของสถานที่


ด้วยเหตุนี้ราคาทอง 100,000 ต่อชั่วโมงซึ่งไม่ใช่ราคาน้อยๆเลย ไม่มีเสียงใดที่บ่นเกี่ยวกับมัน


อย่างไรก็ตาม การร้องเรียนมาจากที่อื่น


 


ว้าว แล้วนี่ไม่ได้หมายความว่าซัมมอนเนอร์จะต้องสร้างตัวละครในอาณาจักรลัสเปลไม่ว่าจะยังไงงั้นหรอ?

นั่นคือสิ่งที่ฉันพูด นายกำลังจะบอกว่าซัมมอนเนอร์ในอาณาจักรไคม่อนจะทำอะไรในกรณีแบบนี้?

คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ซัมมอนเนอร์อาณาจักรไคม่อนควรมอบพื้นที่การฝึกฝนทั้งหมดให้แก่พวกเขาตั้งแต่เริ่มต้นอย่างน้อยในตอนนี้อย่างรวดเร็วและเพิ่มระดับสถานที่เนื่องพื้นที่ฝึกฝนของโลตัสซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดของสถานที่แล้ว จะไม่ดีไปกว่านี้แล้ว ดังนั้นพวกนายจะไม่ทำอย่างนั้นหรอ?

ไม่ๆ คนข้างต้น นายพลาดอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับเวลาที่มีสถานที่ฝึกฝนระดับสูงสุดปรากฏในอาณาจักรไคม่อน พื้นที่ฝึกฝนของเมืองโลตัสอาจจะเพิ่งสร้างใหม่ไปยังอาคารระดับสูงขึ้นแทน ดูเหมือนว่าคุณไม่เคยเห็นคนที่โพสต์เกี่ยวกับการข่าวปลอมของพวกเขาที่มีระดับสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้

นายหมายความว่าอะไร?

หลังจากที่เพิ่มระดับสถานที่จนสุดความสามารถและทำการซ้อนค่าประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ที่จะสร้างอาคารระดับสูงขึ้นใหม่แทน ในกรณีของปลอมที่ขึ้นมาในครั้งล่าสุดที่โพสต์นั้นมันก็จะกลายเป็น ‘อาวุธห้องปฏิบัติการ’

ฉันเข้าใจแล้ว!

 


ในขณะที่กิลด์โลตัสเป็นกิลด์ที่เป็นพันธมิตรกับลัสเปล เมืองก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเมืองที่เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปลเช่นกัน


ด้วยเหตุนี้เว้นแต่เมืองจะถูกยึด มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เล่นอาณาจักรไคม่อนจะใช้พื้นที่ฝึกฝนของกิลด์โลตัส


นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในกรณีของซัมมอนเนอร์มือใหม่ที่ยังไม่ได้เลเวล 30 พวกเขาเพียงแค่สร้างตัวละครใหม่ขึ้นมาแทนและยังมีซัมมอนเนอร์ที่ใช้โชคลาภและซื้อสินค้าเปลี่ยนอาณาจักรและเปลี่ยนสัญชาติของพวกเขาแทน


และมีคนคนหนึ่งที่เฝ้าดูสถานการณ์เหล่านี้ในขณะที่ยิ้มอย่างพึงพอใจ


“ฮ่าฮ่า เป็นไปตามที่คาด ปฏิกิริยานั้นดีกว่าที่ฉันคิดไว้”


แน่นอนว่านั่นคือเอียน


“ถ้าเป็นกรณีนี้ แม้ว่าเราจะต้องสร้างป้อมปราการบางแห่งตอนนี้ เงินของกิลด์ก็จะไม่ขาดใช่ไหม?”


เอียนซึ่งกำลังเรียกดูกระดานข่าวและหน้าต่างแชทอย่างต่อเนื่องยกสมาร์ทโฟนของเขาและโทรหาใครบางคน


เสียงเรียกเข้ามาตรฐานของสมาร์ทโฟนดังขึ้นและหลังจากนั้นไม่นานเสียงของชายผู้นั้นก็ดังขึ้น


นั่นคือศาสตราจารย์ลีจีนุก


“ศาสตราจารย์ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สถานการณ์ในเมืองเป็นยังไงบ้างครับ?”


 


ฮ่าฮ่า เธอหมายความว่ายังไงล่ะ จำนวนคนในรายการรอตอนนี้เต็มไปด้วยตัวเลขสี่หลักในขณะนี้

 


“และมีปัญหาไหมครับ?”


 


มีอย่างหนึ่ง

 


เมื่อคำพูดที่ว่ามีปัญหา ตาทั้งสองของจินซุงเบิกโพลงเล็กน้อย


“คืออะไรครับ…?”


 


เรามีพนักงานไม่พอ สมาชิกกิลด์ที่เหลืออยู่ในทวีปทางตอนเหนือกำลังช่วยกันอยู่ แต่จนถึงจุดที่มันไม่ใกล้จะพอแล้ว

 


เมื่อลีจีนุกพูด จินซุงก็เกาหัว


นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เขาไม่ได้คิดล่วงหน้า


“ศาสตราจารย์ ผมจะแต่งตั้งคนงานและปรับใช้การจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมไม่ได้คิดถึงส่วนนั้น”


 


โอ้ เธอจะทำอย่างนั้นหรอ? ถ้างั้นฉันก็ขอบคุณ

 


และเอียนก็มาถึงจุดที่ว่าทำไมเขาถึงโทรหาลีจินนุก


“อ่อ ศาสตราจารย์จริงๆแล้วมันมีเหตุผลที่แตกต่างกันว่าทำไมผมถึงโทรหาคุณ”


 


บอกมาสิ มันคืออะไร?

 


“ทันทีที่มีกำลังเสริมผมหวังว่าคุณจะไปที่เมืองโอลิบัสครับ ศาสตราจารย์”


 


โอ้โห ถ้าเป็นเมืองโอลิบัส เธอกำลังพูดถึงหมู่บ้านชายทะเลใช่ไหม?

 


“ใช่ครับ”


ศาสตราจารย์ลีจินุกเข้าใจถึงเจตนาของคำพูดของจินซุงในทันที


 


โอเค เข้าใจแล้ว ทันทีที่ทุกอย่างถูกจัดการ ฉันจะไปที่เมืองโอลิบัสและสร้างพื้นที่ฝึกฝนที่นั่นในทันที

 


เมืองโอลิบัสเป็นหมู่บ้านเดียวกับที่ซ่อนตัวอยู่ชายทะเลด้านตะวันออก


เนื่องจากพวกเขาซ่อนการมีอยู่ของเมืองภายนอกไว้อย่างสมบูรณ์จึงเป็นหมู่บ้านที่ไม่มีใครรู้ว่ามีอยู่นอกจากสมาชิกของกิลด์โลตัส แต่เขาไม่ได้วางแผนที่จะทิ้งมันไว้อย่างนั้น


‘หากอาณาเขตของเมืองโอลิบัสขยายออกไปอีกเล็กน้อย เราจะสามารถรักษาความปลอดภัยที่มากกว่าเมืองโลตัสได้ ดังนั้นเราควรสร้างบางสิ่งให้ใหญ่พอๆกับฟาร์มขนาดใหญ่ที่นั่น’


เนื่องจากอุปสงค์มีมากเกินจำเป็นต้องขยายอุปทานอย่างรวดเร็ว


เอียนซึ่งจัดการความคิดของเขาก็ค่อยๆพูด


“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ขอบคุณมากสำหรับความพยายามของคุณนะครับ ศาสตราจารย์ขอบคุณพวกเราพวกเราสามารถผ่านพ้นสิ่งกีดขวางครั้งใหญ่ได้”


เมื่อเอียนพูด ลีจีนุกหัวเราะขณะที่เขาตอบกลับ


 


ฮ่าฮ่า ถ้าทำงานหนักอย่างนี้ ฉันยินดีต้อนรับทุกที่ทุกเวลา ฉันสงสัยว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ฉันจะต้องพ้นจากการเป็นศาสตราจารย์ในตอนนี้

 


เมื่อลีจีนุกพูดเรื่องไม่เป็นไปตามคาด เอียนก็แสดงอาการงุนงง


“อะไรนะครับ?”


อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาได้ยินคำพูดต่อไปของเขา ช่วยไม่ได้ที่เขาจะพยักหน้าทันที


 


ทำไมเธอถึงประหลาดใจจังเลย? แม้ว่าฉันเพิ่งแลกเปลี่ยนทองคำที่ฉันได้รับเป็นค่าคอมมิชชันจากการบำรุงรักษาพื้นที่การฝึกฝนเป็นเงินถึงจุดที่ฉันสามารถทำมากกว่าเงินเดือนของฉัน 10 เท่าในฐานะอาจารย์ ตอนนี้ฉันจริงจังกับการลาออกจากตำแหน่งอาจารย์มากถึง 10%

 


จินซุงซึ่งเงียบไปชั่วครู่ตอบกลับด้วยเสียงที่หนักแน่น


“อย่างทำอย่างนั้นครับศาสตราจารย์ ถ้าคุณไม่อยู่ที่นี่ ถ้างั้นผมจะได้รับการขาดเรียนตลอด…”


 


 


* * *


 


เอียนซึ่งทำงานจำนวนมาก ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสมาชิกกิลด์ราวกับว่าเขากำลังกลับบ้านอย่างมีเกียรติในขณะที่เขากลับไปที่ฐาน


“เฮ้ นี่มันมหัศจรรย์จริงๆ นายคิดว่ายังไงล่ะ?”


“ไม่ตลกหน่า เราจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเงินทุนสักระยะหนึ่ง”


เอียนผู้ได้รับการต้อนรับทุกครั้งที่เข้ามาพร้อมกับเฮิร์ซและฟิโอลันในฐานะหัวหน้า เข้าค่ายทหารของฐานและเริ่มดูแลกิจกรรมภายในของฐานที่ถูกถอดออก


เพราะเฮิร์ซมักจะจัดการกับทุกอย่าง งานที่เอียนต้องทำคือตรวจสอบสถานการณ์ความคืบหน้าและวางแผนสำหรับแผนทางเทคนิคเพิ่มเติม


‘ข้อกังวลที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือถ้าแนวหน้าถูกผลักกลับเข้าไปใกล้ฐานของเราอีกครั้ง…’


วันรุ่งขึ้นเอียนก็จากไป


การต่อสู้ระหว่างอาณาจักรทั้งสองจบลงด้วยชัยชนะที่ท่วมท้นสำหรับอาณาจักรไคม่อนอย่างไม่ต้องสงสัย


ระยะทางที่เอียนทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างได้รับการฟื้นฟูภายในหนึ่งวันอีกครั้ง


แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเอียนจะจากไปในตอนนี้


นี่เป็นเพราะในขณะที่เอียนไป ความเสียหายที่ได้รับจากนักรบทะเลทรายนั้นค่อนข้างมาก ดังนั้นหากเกิดความเสียหายเพิ่มเติมเข้ามามันจะเป็นสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านโดยเอียน


ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่พวกเขาได้ใช้โชคลาภและเริ่มสร้างอาคารป้องกันและอาคารผลิตทั้งหมด การปกป้องฐานจึงต้องคำนึงถึงลำดับความสำคัญสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใด


‘และตามความเป็นจริงเพราะอาณาจักรไคม่อนไม่มีกองกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมเช่นกัน เราก็สามารถชนะได้ถ้าแม้แต่นักรบทะเลทรายหรือกิลด์ระดับสูงสองกิลด์เข้ามาสนับสนุนก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะด้วยความแข็งแกร่งของฉัน’


เอียนซึ่งจัดการความคิดของเขา พูดกับเฮิร์ซซึ่งตามเขาเข้าไปในค่ายทหาร


“ยูฮยอน ดูเหมือนว่าเราจะต้องเล่นเกมป้องกันสักพักหนึ่ง”


“ห้ะ? นายกำลังพูดอะไรอยู่ทันทีอีกแล้ว?”


“ฉันคาดว่าภายในสองสามวันนับจากนี้แนวป้องกันอาณาจักรจะถูกผลักกลับไปยังฐานของเรา”


เมื่อเอียนพูด ฟิโอลันที่มาสายแสดงสีหน้างุนงงขณะที่เธอถาม


“ห้ะ จริงหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเราแพ้อย่างต่อเนื่อง… แต่ดูเหมือนว่าตั้งแต่พรุ่งนี้กิลด์สเปนดอร์และกิลด์โอ๊คลันก็จะเข้าสู่สงครามด้วย ดังนั้นมันจะดีกว่าไหมถ้าเป็นเช่นนั้น?”


นั่นคือจุดที่ฟิโอลันพูด


เบื้องหลังว่าทำไมอาณาจักรลัสเปลจึงถูกผลักดันกลับด้านเดียว ในขณะนี้เพราะมีพลังของกิลด์ไททั่นและกิลด์ดาร์ครูน่าที่ปักหลักที่ทวีปกลางได้เร็วขึ้นและเริ่มสนับสนุนกองทหารของอาณาจักรไคม่อน


อย่างไรก็ตามปัญหาคือเมื่อเทียบกับกิลด์ไททั่นหรือกิลด์ดาร์ครูน่า ความแข็งแกร่งของกิลด์อันดับต้นฟของอาณาจักรลัสเปลนั้นมีความซื่อสัตย์ลดลงอย่างมาก


เอียนส่ายหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“แน่นอนเป็นไปได้ว่าเราอาจไม่แพ้ด้านเดียวเหมือนตอนนี้ แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในความจริงที่ว่ามันจะถูกผลักกลับ เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นโอ๊คลันหรือสเปนดอร์ เมื่อเทียบกับไททั่นหรือดาร์ครูน่าพลังการต่อสู้ของพวกเขาต่ำกว่ามาก”


เฮิร์ซพยักหน้าเมื่อเขาเห็นด้วย


“ถูกต้องจินซุง นอกจากนั้นเป็นไปได้สำหรับพวกนั้นที่มีไหวพริบเหมือนซามูเอลจินที่จะถอนตัวออก หากพวกเขาคิดว่าพวกเขาเริ่มถูกผลักกลับ”


เมื่อพูดถึงซามูเอลจิน เขาหมายถึงหัวหน้ากิลด์ของกิลด์โอ๊คลัน


ฟิโอลันถามเอียนด้วยสีหน้ากังวล


“ถ้างั้นนายคิดว่าเราควรทำอะไรเอียน?”


และเอียนก็หันกลับมามองคนสองคนขณะที่เขาพูด


“จากวิธีที่ฉันเห็น มันจะใช้เวลาประมาณสิบวันกว่าจะถึงแนวป้องกันเพื่อผลักกลับไป หากพวกเขารวดเร็ว พวกเขาอาจใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์และหากใช้เวลานานกว่านั้นจะใช้เวลาสองสัปดาห์”


สายตาของสมาชิกกิลด์ทุกคนที่อยู่ในค่ายทหารรวมถึงเฮิร์ซและฟิโอลันก็มุ่งเน้นไปที่ปากของเอียน


“เนื่องจากเราได้ขยายทรัพยากรของเราอย่างเพียงพอ สมาชิกกิลด์ทั้งหมดจะหยุดล่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์และรวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างกำแพงที่มั่นคง”


ฟิโอลันถามกลับก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว


“อะไรนะ?”


“ฉันกำลังพูดว่าให้ใช้ทองของกิลด์และขยายจำนวนพนักงานให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และถ้าเราขาดเราจะโพสต์โฆษณาที่ต้องการความช่วยเหลือในชุมชนและสร้างป้อมปราการที่ผ่านเข้าไปไม่ได้”


เฮิร์ซซึ่งเข้าใจสิ่งที่เอียนพูดแสดงอาการสนใจขณะที่เขาพูด


“อ่อ ดังนั้นเมื่อนายพูดว่าเราจะต้องเล่นเกมป้องกันนี่คือสิ่งที่คุณหมายถึงงั้นหรอ?”


เอียนพยักหน้า


“ถูกต้อง มาเล่นป้องกันกันเถอะจนถึงจุดที่เราจะสามารถต้านทุกอย่างได้ แม้ว่าแนวป้องกันจะถูกผลักกลับไปอย่างสมบูรณ์และมีเพียงฐานของเราที่ถูกแยกออกจากกลางค่ายศัตรู”


อย่างไรก็ตามถึงจุดนี้เอียนก็ไม่รู้ว่าคำเหล่านี้จะกลายเป็นความจริง 

 

 


ตอนที่ 159

 

หอคอยป้องกันแห่งทะเลทราย (เลเวล 1) เสร็จสมบูรณ์

ด้วยความสามารถในการก่อสร้างที่ยอดเยี่ยมของสถาปนิกที่มีทักษะ ความสามารถในการต่อสู้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 20%

ความสงบเรียบร้อยของฐานเพิ่มขึ้น 5 หน่วย

จากนี้ไป ‘หอคอยป้องกันเวทมนตร์’ สามารถสร้างได้แล้ว

ท่านต้องการตรวจสอบข้อมูลของหอคอยป้องกันแห่งทะเลทราย (เลเวล 1) หรือไม่?

 


เอียนซึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของหอคอยป้องกันที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวและตั้งขึ้นไปทางด้านหนึ่งของกำแพง อ่านข้อความที่โผล่ขึ้นมาพร้อมกับการก่อสร้างเสร็จในขณะที่เขาพยักหน้า


“ฉันจะตรวจสอบ”


เมื่อเขาทำอย่างนั้น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหอคอยป้องกันโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


กริ๊ง-


 


หอคอยป้องกันแห่งทะเลทราย

เลเวล 1 (0/98,500,000)


(ข้อกำหนดที่ต้องการเพื่อเพิ่มเลเวลยังไม่ครบ)


พลังโจมตี : 6,500 (+1,300)


พลังป้องกัน : 4,500 (+900)


พลังชีวิต : 200,000 (+40,000)


ความเร็วการโจมตี : 0.85 ต่อวินาที (+0.05)


พื้นที่การมองเห็น : 2,652 เมตร


พลังแฝง


*เครื่องยิงเหล็ก


เมื่อโจมตีด้วยเครื่องยิงเหล็กที่มีโอกาส 15% ที่จะไม่สนเกราะป้องกันของฝ่ายตรงข้าม 50%


พลังการทำลายล้างของเครื่องยิงเหล็กคือ 150% ของพลังโจมตีขั้นพื้นฐาน


เป็นอาคารป้องกันขั้นพื้นฐานที่สุดที่เผ่าทะเลทรายสามารถสร้างได้บนฐาน


แม้ว่าความเร็วในการโจมตีจะช้า แต่ถ้าโดนจะมีความเสียหายจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


 


“Keuh!”


 


หลังจากอ่านคำอธิบายแล้ว เสียงอุทานก็ออกมาจากปากของเอียน


นี่เป็นเพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นหอคอยป้องกันธรรมดาที่เชี่ยวชาญในการกำหนดเป้าหมายเดียวและมีความสามารถแฝงอยู่ ความสามารถของมันนั้นยอดเยี่ยม


‘ตามที่คาดไว้… มันเป็นหอคอยธรรมดา เป็นแบบนี้เพราะมันคือทวีปกลางงั้นหรอ?’


เมื่อแผนที่ที่ฐานสร้างขึ้นเองนั้นแตกต่างจากทวีปทางตอนเหนือตั้งแต่แรก แม้แต่หอคอยพื้นฐานก็มีความสามารถในการต่อสู้ที่เหลือเชื่อ


ยิ่งกว่าไปนั้น ต้องขอขอบคุณ NPC ซึ่งเป็นสถาปนิกผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการก่อสร้างเกือบทั้งหมดในเมืองทางตอนเหนือของทวีป พวกเขายังได้รับค่าสถานะเพิ่มเติม ดังนั้นมันจึงมีค่าสถานะที่เยอะมากที่เรียกว่าหอการป้องกันขั้นพื้นฐาน


“พวกเขาจะเสร็จสมบูรณ์ตามคำสั่งตอนนี้ใช่ไหม?”


เอียนพึมพำในขณะที่เขาสำรวจหอคอยป้องกันที่ถูกสร้างขึ้นตามกำแพง


และหลังจากนั้นไม่นาน ตามที่เขาพูด พวกเขาเริ่มจะแล้วเสร็จตามเข็มนาฬิกา


 


หอคอยป้องกันแห่งทะเลทราย (เลเวล 1) เสร็จสมบูรณ์

หอคอยป้องกันแห่งทะเลทราย (เลเวล 1) เสร็จสมบูรณ์

 


เอียนแสดงท่าทางพึงพอใจ


“เงินที่ใช้ไปไม่ได้สูญเปล่า!”


ด้วยความคิดที่ว่าตอนนี้พวกเขาสามารถต้านการโจมตีของนักรบทะเลทรายได้ แม้จะหลับตา แต่เสียงหัวเราะออกมาจากปากของเอียนอย่างต่อเนื่อง


ฟิโอลันซึ่งยืนอยู่ถัดจากเอียนและเฝ้าดูป้อมปราการที่สร้างเสร็จได้ถามกับเขา


“เอียน นายวางแผนที่จะสร้างหอคอยระดับสูงตอนนี้เลยมั้ย? ต้องขอบคุณสนามฝึกฝนทำให้เรามีเงินเพียงพอ…”


เอียนพยักหน้าเมื่อเขาตอบกลับ


“เราควรทำ ประสิทธิภาพของหอคอยป้องกันขั้นพื้นฐานเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังเป็นประเภทเป้าหมายเดียวและเหนือสิ่งอื่นใดความเร็วในการโจมตีนั้นช้า หากพวกมันมากันเยอะมากจะมีข้อจำกัดอย่างแน่นอน “


หอคอยเวทมนตร์ซึ่งเป็นหอคอยป้องกันที่อยู่เหนือหอคอยขั้นพื้นฐานเพียงหนึ่งขั้นก็คือหอคอยป้องกันที่สามารถโจมตีด้วยเวทมนต์ AoE


เนื่องจากพวกเขามีหอคอยประเภทเป้าหมายเดียวเพียงพอ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะสร้างหอคอยโจมตี AoE


เอียนพูดต่อ


“และในขณะที่เราสร้างหอคอยเวทย์มนตร์ที่เป็นองค์ประกอบ เราจะขยายกำแพงป้องกันให้กว้างขึ้นเช่นกัน ฉันคิดว่าเราจะต้องมีอย่างน้อยสามชั้นเพื่อให้กำแพงป้องกันนั้นเพื่อความสบายใจ”


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ดวงตาทั้งสองของฟิโอลันโตขึ้นเล็กน้อย


“สามชั้น? ถ้านายวางแผนที่จะทำอย่างนั้น ทรัพยากรและกำลังแรงงานที่จำเป็นต้องใช้จะเยอะมาก”


เอียนพยักหน้า


“ถูกต้อง เนื่องจากเราจะสร้างมันขึ้นมาสองเท่าจากผนังด้านนอก ปริมาตรก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่มีอยู่ก่อนหน้า อย่างไรก็ตามมันเป็นสิ่งจำเป็น ฉันมีความรู้สึกไม่ดีมากเกินไปในตอนนี้”


“เกี่ยวกับอะไร?”


“ฉันกำลังพูดถึงที่เราไม่รู้ว่าแนวป้องกันของอาณาจักรลัสเปลจะถูกผลักกลับไปได้ไกลแค่ไหน”


ฟิโอลันเกาหัวขณะที่เธอพูด


“ยังคงอาจจะไม่ถูกผลักกลับไปไกลกว่าเส้นที่ฐานของเรา ฉันคิดว่าเนื่องจากกิลด์อื่นกำลังสร้างแนวป้องกันบนแนวที่ฐานของเราตั้งอยู่ หากแนวป้องกันเกิดขึ้นที่นี่ เราควรจะสามารถต้านพวกเขาออกไปไม่ได้ไม่ใช่หรอ?”


อย่างไรก็ตามเอียนก็มองโลกในแง่ร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ


“ฉันไม่แน่ใจ…”


ฟิโอลันพูดอีกครั้งหนึ่ง


“แต่แม้ว่าเราจะจัดสรรทรัพยากร เราก็ขาดกำลังคนเพื่อที่จะขยายกำแพงเช่นกัน แม้ว่าเราจะใช้กำลังทั้งหมดที่เรามี ฉันก็คิดว่ามันต้องใช้เวลาถึงสองเดือน”


ความจริงที่ว่า เอียนก็กังวลส่วนนั้นมากที่สุด


เนื่องจากมีการจำกัดการดึงกำลังคนจากภายนอกโดยใช้เงิน


อย่างไรก็ตามจากนั้น เฮิร์ซซึ่งเพิ่งฟังการสนทนาของทั้งสองคนอย่างเงียบๆก็อ้าปากพูด


“จินซุง ฉันมีความคิดดีๆ”


ฟิโอลันและเอียนจ้องไปที่เฮิร์ซ ณ เวลาเดียวกัน


“ความคิดอะไร?”


เมื่อเอียนถาม เฮิร์ซยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


“ลองถามแฟนคลับของนายให้ช่วยสักนิดสิ”


“แฟนคลับ? นายกำลังพูดถึงอะไร?”


แทนที่จะเป็นเอียนซึ่งแสดงออกด้วยความงุนงงในขณะที่เขาไม่รู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ก็เป็นฟิโอลันเห็นด้วยอย่างกระตือรือร้นเมื่อเธอพูดเสียงดังขึ้น


“อ่อใช่ วิธีนั้น ถ้าเป็นพวกเขาล่ะก็ พวกเขาอาจจะยินดีที่จะช่วยพวกเรา”


“ฮ่าฮ่า ตราบใดที่เราเตรียมรางวัลเล็กๆไว้เพื่อตอบแทนการทำงานนั่นก็คือ”


ในขณะที่เฮิร์ซและฟิโอลันได้ทำแผนที่ออกมาอย่างตื่นเต้น เอียนซึ่งไม่รู้จริงเกี่ยวกับการมีอยู่ของแฟนคลับไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้นอกจากงุนงง


“อย่างไรก็ตาม เฮิร์ซนายบอกว่านายสามารถดูแลเรื่องกำลังคนได้งั้นหรอ?”


เฮิร์ซพยักหน้าอย่างมีพลังงาน


“ใช่ แน่นอน!”


เอียนแสดงออกที่น่าสงสัยเล็กน้อย แต่เมื่อเฮิร์ซพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาจึงตัดสินใจที่จะเชื่อใจเขา


“ดังนั้นกระบวนการในการสร้างพิมพ์เขียวสำหรับป้อมปราการเพื่อการป้องกันที่สมบูรณ์แบบก็ยังคงอยู่ในขณะนี้”


คราวนี้เฮิร์ซแสดงสีหน้าสับสนขณะที่เขาถามเอียนกลับ


“พิมพ์เขียวอะไร? เราจำเป็นต้องมีพิมพ์เขียวสำหรับการวางกำแพงด้านนอกด้วยหรอ? เราสามารถสแต็คมันได้”


เอียนส่ายหน้าขณะที่เขาตอบกลับ


“ไม่ๆ ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะสร้างกำแพงป้องกันแบบง่ายๆ เราจะทำให้มันเป็นเหมือนป้อมปราการ”


ฟิโอลันถามเอียนด้วยท่าทางตื่นเต้น


“ถ้าอย่างนั้นนายวางแผนที่จะวาดพิมพ์เขียวด้วยตัวเองเลยหรอเอียน?”


เอียนกระดิกนิ้วชี้ของเขา


“ไม่ๆ ทำไมฉันต้องวาดพิมพ์เขียวด้วยล่ะ?”


“ถ้างั้น?”


“เราต้องไปนำผู้เชี่ยวชาญมา”


“ผู้เชี่ยวชาญ?”


“ใช่ ศาสตราจารย์ลีจีนุกได้ขอเขาเรียบร้อยแล้ว”


เฮิร์ซแสดงสีหน้างุนงงเมื่อเขาถาม


“นายกำลังพูดอะไรเนี่ย?”


เอียนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ


“ศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมที่โรงเรียนของเราเป็นผู้เล่นไคลีนด้วย ศาสตราจารย์ลีจีนุกได้ไปเสนอข้อเสนอให้เขา”


“…”


“มันคือ VR แต่ถ้ามันเป็นงานที่เขาต้องวางแผนพิมพ์เขียวสำหรับป้อมขนาดใหญ่เช่นนี้ เขาบอกว่าเขาต้องการทำมันแน่นอนไม่ต้องกังวล”


“ฉะ ฉันเข้าใจแล้ว”


เฮิร์ซและฟิโอลันอาจประหลาดใจในรายละเอียดของเอียน


 


* * *


 


ณ ตรงกลางของเขตทะเลทรายทางตะวันออกของทวีปกลาง


ตรงกลางที่มีธงกิลด์ยักษ์สามใบกระพืออยู่ ชายสามคนนั่งอยู่หน้าโต๊ะกลมของค่ายทหารที่สร้างขึ้นชั่วคราว


พวกเขาแต่ละคนเป็นหัวหน้ากิลด์ของกิลด์ที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่งในอาณาจักรลัสเปล กิลด์สเปนดอร์และกิลด์โอ๊คลันรวมถึงกิลด์วาเลี่ยน


และการแสดงออกของทั้งสามคนนั้นรุนแรงอย่างมาก


“พลังการต่อสู้ของกิลด์ไททั่นและกิลด์ดาร์ครูน่านั้นแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้อย่างมาก พวกเรายังคงต้านไว้อยู่ แต่การสูญเสียของกิลด์ของเรานั้นมากเกินไป เราอาจต้องจบลงด้วยการมอบมากกว่า 2/3 ของทวีปกลาง ถ้าหากยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้”


ในคำพูดของซามูเอลจินผู้เป็นหัวหน้ากิลด์ของกิลด์โอ๊คลัน หัวหน้ากิลด์ของกิลด์สเปนดอร์มาร์ตินตอบกลับ


“แต่มันไม่มีวิธีการอย่างอื่นนิ? เราต้องต้านแนวหน้าไม่ว่ายังไงก็ตาม ใครจะไปรู้เราอาจจะสามารถได้รับโบราณวัตถุที่ใกล้กับหน้ากากของมาเจนต้าจากร้านค้าลึกลับ”


ร้านลึกลับนั้นเป็นพ่อค้า NPC ที่ปรากฏตัวในการสุ่มพิกัดทุกครั้งในทวีปกลาง


ไอเทมที่เอนเอียงการเดิมพันสามารถหาซื้อได้โดยใช้คะแนนพิเศษพิเศษจากเขาและเมื่อเร็วฟนี้มาร์ตินได้รับไอเทมดีๆจากพ่อค้าลึกลับ


ซามูเอลจินขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาตอบ


“นายโชคดีมาร์ติน แต่ว่าฉันไม่เคยได้ยินใครที่ได้รับโบราณวัตถุที่ดีจากร้านลึกลับเลย”


“นั่นก็จริง อืมม…”


รอยด์เฉินหัวหน้าของกิลด์วาเลี่ยนที่เพิ่งฟังการสนทนาของทั้งสองคนขณะที่เขาพูด


“ถ้างั้นวิธนี้ล่ะ?”


“วิธีอะไร?”


“จากสิ่งที่ฉันค้นพบ กิลด์ระดับสูงใน 50 อันดับแรกที่ยึดครองแนวหน้าซึ่งมีการแข่งขันต่ำเมื่อเปรียบเทียบกันและกำลังสร้างแนวป้องกัน หลังจากเราตั้งใจถอยกลับไปที่ฐานของพวกเขาและสร้างให้กลายเป็นแนวหน้า เราจะใช้กำแพงป้องกันและป้อมปราการของพวกเขาแล้วดำเนินการสงครามในโหมดป้องกันดีมั้ย?”


จากคำพูดของรอยด์เฉินซึ่งเป็นประเด็น ทั้งสองคนที่เหลือก็จมอยู่ในความคิดของพวกเขา


ความเงียบยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลานานและคนแรกที่เปิดปากของเขาคือซามูเอลจิน


“มันเป็นความคิดที่ดี แต่ฉันคิดว่ามันก็อันตราย”


รอยด์เฉินถามกลับ


“ทำไมล่ะ?”


“แม้ว่าพวกเขาจะเป็นกิลด์ที่ติดอันดับใน 50 อันดับต้นๆ แต่พลังการต่อสู้ของพวกเขาไม่มากใช่มั้ย? มันไม่เหมือนเข้าไปในอาคารป้องกันและป้อมปราการและโอกาสที่แม้ว่าพวกเขาจะครอบครองฐานชั่วคราวที่คิดว่าทิ้งและถอยถ้าพวกเขาล้มเหลวนั้นสูง พวกเขาอาจจะไม่สามารถเล่นบทบาทของแนวป้องกันของเราได้อย่างดีเช่นกัน จากสิ่งที่ฉันเห็นมีกิลด์ที่อยู่ใกล้กับด้านนอกอันดับ 100 ไม่ใช่ 50 อันดับแรก”


“อืมม…”


เป็นไปตามที่คาด คำพูดของเขาพิสูจน์ประเด็นนี้


ซามูเอลจินซึ่งจัดการความคิดของเขาสักครู่หนึ่ง พูดอีกครั้ง


“ในความคิดของฉัน”


“ว่าไง”


“ฉันคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าที่จะสร้างแนวป้องกันที่แข็งแกร่งด้วยพื้นที่กลางถึงหลังซึ่งฐานของกิลด์ที่อยู่ใน 10-20 อันดับแรกได้ก่อตัวขึ้นเป็นหลักและสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามแทน”


มาร์ตินซึ่งนั่งอยู่ที่นั่นอย่างไม่พูดอะไรพยักหน้าขณะที่เขาเห็นด้วยกับคำพูดของซามูเอลจิน


“ความคิดของฉันเหมือนกับของจิน เราจะไม่สามารถต้านการโจมตีของกองทัพของอาณาจักรและกิลด์ยักษ์ของไคลันที่มีแนวป้องกันที่กิลด์ใน 100 อันดับแรกที่สร้างขึ้น”


ยิ่งด้านหลังของพื้นที่เป็นที่ซึ่งฐานสามารถเติบโตได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบ กิลด์ที่สูงกว่าในการจัดอันดับได้ครอบครองอยู่แล้วตามธรรมชาติ ฐานของกิลด์ยักษ์ได้ก่อตัวขึ้นที่ด้านหลัง


เมื่อทั้งสองคนพูด รอยด์เฉินตกอยู่ในความขัดแย้ง


นี่เป็นเพราะมันเป็นความคิดเห็นที่ดูสมเหตุสมผล แต่มันก็เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวอย่างมากเช่นกัน


‘จะทำอย่างไร… ถ้าเราปล่อยให้ตอนนี้แทน กิลด์เล็กๆส่วนใหญ่ที่ปักหลักอยู่ที่แนวหน้าจะพังพินาศทั้งหมด…’


อย่างไรก็ตามตามที่คาดไว้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผลกำไรของตนเองและท้ายที่สุดรอยด์เฉินก็พยักหน้า


“ทำอย่างนั้นเถอะ มันช่วยไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่านี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”


ด้วยความยินยอมของรอยด์เฉิน ซามูเอลจินพยักหน้าขณะที่เขายิ้ม


“โอเค เราจะรับมันเมื่อทุกคนที่นี่เห็นด้วยและเริ่มพรุ่งนี้ เราจะเริ่มดึงสมาชิกกิลด์ที่สนับสนุนแนวหน้ามา”


มาร์ตินพยักหน้าขณะที่เขาพูด


“เราอาจไม่มีเวลาสร้างฐานป้องกันด้านหลัง หากแนวป้องกันพังเร็วเกินไป เราต้องดึงทัพของเราช้าๆ”


รอยด์เฉินพยักหน้า


“… ลองทำกันเถอะ” 

 

 


ตอนที่ 160

 

โลเรน : เราจะได้พบกับบุ๊กค์และไลไหม?

ฟิโอลัน : แน่นอน และนอกจากนี้เธอยังสามารถพบกับเอียน ยิ่งไปกว่านั้น เอียนบอกว่าเขาจะให้เครื่องรางที่เขาได้ผลิตให้กับคนที่มีเกียรติยศสูงเป็นการส่วนตัว

โลเรน : โอ้…! ถ้ามันเป็นเครื่องรางที่เอียนผลิตขึ้นเอง มันเป็นสิ่งที่ไม่แม้แต่จะขายเพราะมันไม่ได้อยู่ในโรงประมูล…!

 


หลังจากเรียนรู้สกิลการผลิต เอียนได้ทำเครื่องรางเมื่อใดก็ตามที่เขามีโอกาส


และเขาได้รวบรวมเครื่องรางที่มีความสามารถที่เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้ในโรงประมูลและขายพวกมันในราคาคงที่ แต่เมื่อความนิยมของพวกมันมากขึ้น ทันทีที่ลงขายในโรงประมูล พวกมันจะขายหมดทันที


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีเครื่องรางมากมายที่เอียนได้ทำไว้ การขายของเครื่องรางจึงได้รับความไว้วางใจอย่างสมบูรณ์กับผู้ติดตามของเอียน ซีเลีย ดังนั้นฟิโอลันจึงติดต่อกับซีเรียและแจกของกำนัลให้กับสมาชิกแฟนคลับล่วงหน้า


และของกำนัลนี้มีผลแน่นอน


 


ฟิโอลัน : ฮ่าๆ มีเครื่องรางที่เราได้กำหนดไว้ล่วงหน้าในกิลด์ของเรา มีแม้กระทั่งการออกแบบบุ๊กค์และออกแบบเครื่องรางของไลซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการจัดเตรียมในครั้งนี้

โลเรน : จะ จริงหรอ? พะ พวกเขามีผลิตภัณฑ์ใหม่?

ฟิโอลัน : ว่ายังไงล่ะโลเรน ถ้าเป็นเช่นนี้ หัวใจของสมาชิกเลิฟลีอันจะเคลื่อนไหวสักนิดใช่ไหม?

โลเรน : แน่นอน! อาจมีสมาชิกของแฟนคลับจำนวนมากที่จะมาร่วมงานแม้จะมีโอกาสเห็นใบหน้าของเอียนและเสียงบุ๊กค์ของบุ๊กค์ แต่สำหรับโอกาสที่จะได้รับเครื่องรางใหม่ที่เอียนได้ผลิตด้วยมือของเขาเอง…!

ฟิโอลัน : เอาล่ะ เป็นของไปตามคาด โลเรน! ถ้างั้นฉันจะเชื่อใจเธอหัวหน้า

โลเรน : ดูเหมือนว่าฉันจะต้องขอบคุณเธอแทน ฟิโอลัน เมื่อการปฏิวัตินี้สิ้นสุดลง ฉันจะเพิ่มอันดับสมาชิกของคุณ

ฟิโอลัน : เป็นเกียรติค่ะ หัวหน้า

 


นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฟิโอลันรู้ดีถึงสถานการณ์ของแฟนคลับของเอียนแบบนี้


นี่เป็นเพราะเธอก็เป็นสมาชิกของเลิฟลีอัน


มันเป็นแฟนคาเฟ่ที่เธอเข้าร่วมตั้งแต่แรกที่อยากรู้อยากเห็น แต่ตอนนี้เธอเป็นแฟนที่มีชื่อที่กระตือรือร้นเหมือนคนอื่นๆ


ฟิโอลันที่บรรลุเป้าหมายของเธอพึมพำด้วยสีหน้าพึงพอใจ


“ฮ่าฮ่า เป็นไปตามที่คาด ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันต้องออกมาดี”


หากสมาชิกของเลิฟลีอันต้องรวมตัวกัน พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับแรงงาน


เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ของแฟนคาเฟ่ยังรวมถึงผู้เล่นเลเวลสูง แม้ว่าจะมีผู้เล่นเลเวลต่ำที่มีปัญหาในการเข้ามาในทวีปกลาง พวกเขาจะสามารถได้รับความช่วยเหลือและเข้ามา


“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฉันต้องคุยกับเอียนเพื่อทำสิ่งนี้ในตอนนี้…”


อย่างไรก็ตามยังมีภูเขาอีกหนึ่งลูกที่เธอต้องการข้าม


มันเป็นความผิดของฟิโอลันที่ทำไปโดยพละการ


“ถึงกระนั้นมันก็เป็นวิธีการรับกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเขาอาจจะทำโดยไม่มีการบ่นมากใช่ไหม?”


ปัญหาคือเครื่องรางที่มีการออกแบบของบุ๊กค์และไล


นี่เป็นเพราะมันเป็นไอเทมที่ไม่มีอยู่ในตอนแรก


‘มันเป็นสิ่งที่ฉันพูดไปเองอย่างเป็นธรรมชาติเหรอ? ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างเครื่องรางด้วยการออกแบบของบุ๊กค์ใช่ไหม?’


ฟิโอลันแสดงท่าทางที่กระวนกระวายใจเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็ส่ายหัวแล้ววิ่งไปที่ค่ายทหารที่เอียนอยู่ด้วยขั้นตอนที่สั้นและรวดเร็ว


 


* * *


 


“ดังนั้น… เธอกำลังบอกว่าฉันมีแฟนคลับใช่ไหม?”


“นายจะถามกี่ครั้งล่ะเอียน? นั่นคือสิ่งที่ฉันบอกนาย”


“และแฟนคลับเหล่านั้นก็เต็มใจช่วยเหลือพวกเรา?”


“ใช่ ถูกต้อง”


เอียนถอนหายใจ


“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องวาดยันต์ตลอดทั้งวันจากนี้”


ในขณะที่ดูเอียนซึ่งเริ่มคิดบูดบึ้งกับความคิดที่ว่าเขาจะไม่สามารถมีส่วนร่วมในการล่าของกิลด์ที่มีกำหนดเริ่มต้นตั้งแต่เช้า ฟิโอลันแสดงรอยยิ้มเจื๋อนๆ


“ฮะ ฮ่าฮ่า… เนื่องจากนายล่าอย่างบ้าคลั่งตั้ง 2-3 วัน คิดดูสิเหมือนนายได้พักเลยนะ…”


เอียนหันหัวของเขาไปหาเฮิร์ซซึ่งนั่งไปทางขวาและกำลังคิกคักขณะที่เขาดูการสนทนาของทั้งสองคน


“ยูฮยอน”


“ว่าไง?”


“แนวหน้าถูกผลักไปอีกไกลแค่ไหน?”


เฮิร์ซซึ่งดึงแผนที่ออกมาจากหน้าอกของเขาและตรวจสอบบางสิ่งบางอย่างในชั่วครู่ตอบอย่างช้าๆ


“อืมม… มันถูกผลักกลับไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1500 เมตรเมื่อเทียบกับเมื่อฉันตรวจสอบเมื่อวานนี้เมื่อวานนี้”


เอียนขมวดคิ้วเล็กน้อย


“ฮ่า มันถูกผลักลงเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้ สภาพปัจจุบันของ NPC ที่ใกล้เคียงนักรบทะเลทรายหรือ NPC ที่เป็นกลางเป็นยังไงบ้าง? ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่มีการโจมตีเลยเหรอ?”


มี NPC ที่เป็นกลางจำนวนมากที่ไม่มีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับค่ายไหนอยู่ตามทวีปกลางในที่ต่างๆ


นักรบทะเลทรายก็เป็นหนึ่งในชนเผ่าต่างๆเช่นกัน แต่ด้วยหน้ากากของมาเจนต้า พวกเขากลายเป็นชนเผ่าที่เป็นมิตรกับอาณาจักรไคม่อน แต่นอกเหนือจากพวกเขายังมี NPC ที่ค่อนข้างเป็นกลางที่เป็นที่รู้จัก เช่นกลุ่มโจรหรือแม่หมอแมงป่อง


พวกเขายังคงอยู่ในเขตปลอดภัยจากกองทัพของอาณาจักรไคม่อน แต่เมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อใดที่พวกเขาจะถูกโจมตีโดยชนเผ่าที่เป็นกลาง เอียนก็ถาม


“ใช่ ไม่มี NPC ที่เป็นกลางที่ถูกค้นพบในบริเวณใกล้เคียง เราได้ต้านพวกเขาไปแล้วหนึ่งครั้งในขณะนี้และแม้ว่าการโจมตีจะกลับมา เนื่องจากเราได้สร้างป้อมปราการจำนวนมาก เราสามารถต้านการโจมตีขนาดเล็ก ดังนั้นไม่ต้องกังวล”


ตระหนักถึงความตั้งใจลับของเอียนในการพยายามหลบหนีจากหนองน้ำแห่งการฟาร์มด้วยข้ออ้างบางอย่าง ฟิโอลันช่วยอย่างรวดเร็ว


“ถูกต้อง เราสามารถต้านพวกเขาได้แม้ไม่มีนายเอียน ดังนั้นไม่ต้องกังวล”


“เฮ้อ…”


ในขณะที่มองเอียนผู้ถอนหายใจ ฟิโอลันเสริมคำพูดของเธอ


“ลองคิดดูสิว่านายกำลังพัฒนาความสามารถในการผลิตของนายสำหรับวันนี้และเพิ่มพลังงานให้กับนาย”


เอียนซึ่งคิดอะไรซักครู่ได้พูดอีกครั้ง


“ถ้างั้นฟิโอลัน”


“ว่าไง”


“โปรดดึงมิชเยลออกจากการล่าของกิลด์ในวันนี้”


ฟิโอลันถามกลับด้วยเสียงงุนงง


“ห้ะ? ทำไมมิชเยล? เวทไฟของมิชเยลช่วยได้มากเมื่อเราล่าแบบ AoE…”


อย่างไรก็ตาม เอียนต้องการมิชเยลอย่างแน่นอน


“ฉันต้องการมิชเยลเพื่อสร้างรูปแบบของบุ๊กค์และไล”


“…?”


“ถ้าฉันออกแบบสัญลักษณ์ จากนั้นการออกแบบของไลอาจจะเสร็จสมบูรณ์ด้วยให้ดูเหมือนลูกสุนัขที่ทรมานจากโรคเรื้อนของสุนัข”


“อ่อ ถ้ามันเป็นเหตุผลละก็”


ฟิโอลันซึ่งในที่สุดก็จำได้ว่ามิชเยลเป็นผู้ออกแบบที่สำคัญ พยักหน้าของเธอและเฮิร์ซซึ่งอยู่ถัดจากเธอก็แสยะยิ้มในขณะที่เขาพูดอะไรบางอย่าง


“ถ้านั้นใช้เวลาที่มีคุณภาพกับมิชเยล”


เอียนดึงวัสดุยันต์ออกจากคลังของเขาทีละอันขณะที่พยักหน้าเบาๆ


“เอาล่ะ”


 


* * *


 


หลังจากนั้น การดำเนินการป้องกันของฐานของกิลด์โลตัสดำเนินการต่อด้วยความเร็วสูง


กิจกรรมพิเศษ (?) ที่กระจายผ่านแฟนคลับของเอียนและกระจายอย่างรวดเร็วในชุมชนที่เป็นทางการและแม้แต่เนื้อหาที่ฟิโอลันไม่ได้กล่าวถึงแม้แต่ครั้งเดียวก็ถูกเผยแพร่อย่างไม่ถูกต้อง


อย่างเช่น…


 


เห็นได้ชัดว่าเครื่องรางที่มีการออกแบบของบุ๊กค์เป็นรุ่นจำกัดที่เอียนสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมอบให้กับผู้เล่นที่เข้าร่วมในการดำเนินการนี้!

คำที่ว่าผู้เล่นที่เข้าร่วมในการดำเนินการสร้างกำแพงจะได้เข้ากิลด์โลตัส!

 


… อะไรเช่นนี้


ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดฝูงชนจำนวนมากเริ่มรวมตัวกันที่ไซต์ที่มีการสร้างกำแพงป้องกันของกิลด์โลตัสและแม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแฟนคลับของเอียน แต่ก็แค่ล่าในบริเวณใกล้เคียงของทวีปกลางและอยากรู้อยากเห็น พวกเขามาหาฐานของกิลด์โลตัส


และในช่วงกลางของสถานที่ก่อสร้างเอียนได้แบ่งปันการสนทนาอย่างจริงจังกับใครบางคน


“ศาสตราจารย์ ดังนั้นคุณกำลังบอกว่าเราแค่ต้องสร้างส่วนนี้เหมือนวิธีนี้ใช่ไหมครับ?”


“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องดีที่เด็กคนหนึ่งเข้าใจคำแนะนำได้ดี เธอต้องปล่อยที่นี่แบบนี้เพื่อที่ว่าแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามา เธอก็สามารถแยกพวกมันออกได้อย่างง่ายดาย”


หนึ่งในสองคนคือเอียนและอีกคนคือศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมของมหาวิทยาลัยเกาหลีที่ได้รับคำเชิญจากศาสตราจารย์ลีจีนุก


“ผู้เชี่ยวชาญแตกต่างอย่างแท้จริงเลยนะครับศาสตราจารย์ ตราบใดที่มันจะเสร็จสมบูรณ์แบบนี้ ดูเหมือนว่าเราจะสามารถต้านได้แม้กระทั่งกองทัพขนาดใหญ่หนึ่งล้านคน”


“ฮ่าๆๆ ฉันชอบเธอจริงๆ เธอพูดว่าเธอเป็นนักเรียนของแผนก VR ใช่ไหม?”


“ใช่ครับ ศาสตราจารย์”


“เธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนวิชาเอกเป็นสถาปัตยกรรมเมื่อโครงการนี้จบลง? ฉันต้องการคนฉลาดและมีความสามารถเช่นเธอในฐานะนักเรียนของฉัน”


เอียนเช็ดเหงื่อของเขาขณะที่เขาตอบด้วยเสียงเบาๆ


“นั่น นั่นออกจะ…”


เนื่องจากเป็นสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบ มีปัญหาเล็กๆเกิดขึ้นที่ต่างๆและเงินมากมายของกิลด์โลตัสก็เริ่มหดตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ในขณะที่เอียนมองไปที่ป้อมปราการเขาไม่สามารถซ่อนถึงความพึงพอใจของเขาได้


‘ความเร็วในการก่อสร้างเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้ ดูเหมือนว่าเราจะสามารถก่อสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่แนวหน้าจะถูกผลักมาที่นี่’


เอียนขึ้นไปบนส่วนที่เป็นเนิน เขามองเห็นทุกสิ่งและมองไปที่กำแพงที่ต่อเนื่องกันเป็นแนวยาวไปทางทิศตะวันตก


และเขาก็เบะปาก


‘ฮ่าฮ่า ตอนนี้ถ้าเราสามารถวางเสาการค้าแห่งสงครามไว้ในกำแพง มันจะสมบูรณ์แบบ  ถ้ากำแพงด้านนอกตัวที่สองถูกสร้างขึ้นฉันรู้สึกว่ามันจะเข้ามาในระยะของเรามากพอ…’


มีความสำคัญอย่างมากของเสาการค้าแห่งสงครามที่เข้ามาในพื้นที่ภายในของฐาน


อย่างแรกก็คือโลตัสกิลด์สามารถผูกขาดข้อดีของเสาการค้าแห่งสงครามและอย่างที่สองแม้ว่าฐานจะล้อมรอบไปด้วยฝ่ายตรงข้ามและพวกเขาอยู่โดดเดี่ยว การจัดหาทรัพยากรจะสามารถเป็นไปได้


‘แม้ว่าเราจะยังคงทำสงครามป้องกันต่อไป แต่คะแนนพิเศษของเราก็จะกองพะเนินจนกระทั่งพวกมันล้น’


ในทวีปกลางเพื่อรับรางวัลในทุกการต่อสู้จะได้รับแต้มพิเศษ


แม้ว่า NPC ของศัตรูหรือผู้เล่นจะเผชิญหน้าของรางวัลรางวัลจะยิ่งใหญ่ขึ้น ดังนั้นนั่นหมายความว่าสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะจบลงทันทีเมื่อจัดหาทรัพยากรได้


‘การยึดฐานที่อยู่ใกล้กับเสาการค้าแห่งสงครามเป็นการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง’


ในเวลานั้นเขาเลือกฐานที่อยู่ใกล้เพราะมันง่ายที่จะยึด แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะใช้แบบนี้ได้


ในขณะที่เอียนกำลังคิดเรื่องนี้อยู่และเมื่อเขามองไปรอบๆสถานที่ก่อสร้างเขาได้ยินเสียงเรียกเขาจากด้านหลัง


“เอียน!”


เอียนหันกลับมามองอย่างระมัดระวังเพื่อที่เขาจะหันกลับมาและโลเรนซึ่งอยู่ด้านหลังของไวเวิร์นบินไปด้านข้างของเอียนอย่างรวดเร็ว


“อ่อ ว่าไงโลเรน”


ลอเรนที่กระโดดลงมาจากด้านหลังของไวเวิร์นจับมือของเอียนขณะที่เธอตอบ


“ใช่ ถูกต้อง! ฉันคือโลเรน นายรู้จักฉันได้ยังไง?”


ในขณะที่มองเธอเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยประกายระยิบระยับเอียนแสดงสีหน้าแปลกๆ


“ฮะ ฮ่าฮ่า ฉันจำเธอได้ โลเรน ฉันจะไม่รู้จักซัมมอนเนอร์อันดับ 1 ในอันดับซัมมอนเนอร์ได้อย่างไร? ฉันรู้จักโลเรนมานานแล้ว”


คำพูดของเอียนไม่ได้พูดไปงั้นๆ


เขารู้จักโลเรนตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว


มีแม้กระทั่งเวลาที่เขามองหาเธอ


‘ชื่อซัมมอนเนอร์ที่เห็นได้ชัดว่าได้รับข้อมูลเกี่ยวกับไข่ของสัตว์เลี้ยงก่อนคือโลเรน’


ความทรงจำของเอียนดีจนมาถึงจุดที่ไม่มีใครเทียบได้


นับตั้งแต่เมื่อนานมานี้ เขาได้จดจำชื่อที่เขาได้ยินมาชั่วครู่บนเรือที่ข้ามทะเลสาบอบีสมัล


และด้วยคำพูดของเขาที่เขารู้จักเธอ ดวงตาขนาดใหญ่ของโลเรนก็ยิ่งมีชีวิตชีวา


“ฉันไม่รู้จริงๆว่านายรู้เกี่ยวกับตัวฉันเอียน! การพูดแบบนี้นานหมายถึงอะไรฉันคืออันดับ 1 ของซัมมอนเนอร์ทุกคนรู้ความจริงว่าคุณอยู่อันดับที่ 1”


ในขณะที่มองเธอผู้ซึ่งจ้องมองไปที่ด้านข้างของเขาจนถึงจุดที่มันเป็นภาระเมื่อเธอพูดไปเรื่อยๆ เอียนแสดงสีหน้าพูดราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไร


“ยะ อย่างงั้นหรอ?”


ทันใดนั้นในขณะที่เขากำลังแบ่งปันการสนทนาชั่วขณะกับโลเรนอย่างนั้นและเดิน


ภาพเงาที่ผู้หญิงคุ้นเคยจากระยะไกลอย่างไม่น่าเชื่อจับจ้องเอียน


“ปาร์คจินซุง นายทำอะไรที่นี่ในตอนนี้…?”


และเขาไม่รู้เหตุผลว่าทำไม แต่ผิวของเอียนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม