Taming Master 126-139

ตอนที่ 126

 

Swaaah-.


ได้ยินเสียงน้ำอันสดใสที่แยกออกจากกัน


ทะเลที่เชื่อมต่อกับทางใต้ของทวีปโคโรน่าถูกเรียกว่า ‘ทะเลคอลลอน’


และในตอนนี้ในกลางทะเลคอลลอนมีเรือสามลำลอยอยู่เหนือน้ำ


เดิมที พวกมันเป็นเรือรบที่แล่นด้วยสัญลักษณ์ของอาณาจักรลัสเปล แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้เรือเกลเลี่ยนทั้งสามลำนั้นพรางตัวในฐานะพ่อค้าเรือ


ท่ามกลางพวกมัน มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนดาดฟ้าของเรือเกลเลี่ยนด้วยใบหน้าที่อ่อนล้า


“เอ่อ… เอ่ออ…”


ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเอียน


ใบหน้าของเอียนซีดจางเพราะอาการเมาเรืออย่างรุนแรง


บุ๊กค์ที่อยู่ข้างๆเขาเยาะเย้ยเอียน


บุ๊กค์-บุ๊กค์-บุ๊กค์!


“อะไรไอเวรนี่… พี่ยังไม่มีพลังมากพอที่โกรธแกตอนนี้ ดังนั้นไปไหนก็ไปซะ”


ขณะที่เอียนโบกมือราวกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ บุ๊กค์แสดงท่าทางสงบเสงี่ยมเมื่อเขาจ้องมองเอียน


บุ๊กค์!


“ตอนนี้แกสบายดีเพราะฉันเพิ่งจะอัญเชิญแกมา แต่อีกสักหน่อยแกอาจจะรู้สึกเมาเรือเหมือนกัน”


แม้จะมีคำแช่งของเอียน บุ๊กค์แสดงท่าทางหยิ่งราวกับว่าเขากำลังพูดว่าไม่มีทางที่เขาจะรู้สึกเมาเรือเหมือนเต่าทะเล


บุ๊-กค์-!


ในขณะที่ดูบุ๊กค์ที่คลานไปรอบๆดาดฟ้าและมีความตื่นเต้น เอียนก็ถอนหายใจอย่างหนัก


‘ไม่นะ ทำไมเกมบ้านี่ถึงมีอาการเมาเรือด้วยเนี่ย?’


เอียนเรียกหาลูกเรือที่ยืนอยู่ท้ายเรือ


“ขอโทษนะครับ”


“ครับ บารอน”


“อย่างไรก็ตาม คุณมีอะไรบางอย่างเหมือนกับยารักษาอาการเมาเรือไหมครับ?”


ถึงแม้ว่าเขาจะถาม แต่เอียนก็ไม่ได้คาดหวังนัก


‘ไม่มีทางที่จะเป็นสิ่งนั้น’


อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าลูกเรือพยักหน้าใช่มั้ย?


“อ่อครับ แน่นอน เรามีอยู่ครับ รอผมสักครู่นะครับ”


“ขะ ขอบคุณครับ”


ผิวของเอียนสว่างขึ้นเล็กน้อย


อย่างไรก็ตามเมื่อเขาตรวจสอบสิ่งที่ลูกเรือนำกลับมา ช่วยไม่ได้ที่สีบนใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอีกครั้ง


‘นี่ไม่ใช่… ขิงใช่ไหม?’


ขิงเป็นยารักษาอาการเมาเรือที่ลูกเรือใช้กันมาตั้งแต่อดีตเพื่อหลีกเลี่ยงอาการเมาเรือ


อย่างไรก็ตามสำหรับเอียนซึ่งกินอาหารของนักเรียนประถม ขิงไม่แตกต่างจากยาพิษ


ขณะมองไปที่เอียนซึ่งผิวของเขาดูแย่ลง ลูกเรือจึงถามด้วยความเป็นห่วง


“บารอน คุณโอเคไหม?”


“มะ ไม่ต้องกังวลและไปทำอะไรของคุณเถอะ”


สำหรับตอนนี้เขาได้รับขิงแล้ว แต่เนื่องจากเอียนยังไม่ได้เตรียมทางจิตใจ เขาจึงส่งคืนลูกเรือกลับไปและรู้สึกเจ็บปวด


‘ฉัน… ควรกินมันหรือไม่เนี่ย?’


อย่างไรก็ตาม จากนั้น


Splash-!


คลื่นลูกใหญ่ชนเขากับเรือและเรือก็โคลงเคลง


ในไม่ช้า เอียนรู้สึกจะอาเจียนขึ้นมาจากส่วนลึกภายในร่างกายของเขา


‘ฉันมีปัญหาละ!’


การอ้วกบนดาดฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะบารอนเป็นสิ่งที่เขาทำไม่ได้


ด้วยความแข็งแกร่งที่เขาสามารถรวบรวมได้เอียนก็วิ่งไปที่ห้องน้ำ


และหลังจากพยายามเล็กน้อย เขารู้สึกว่าอาการเมาเรือของเขาสงบลงเล็กน้อย


‘เฮ้อ อาการเมาเรือครั้งแรกของฉันในไคลัน ใครจะไปคิด…’


เมื่อเขาขึ้นมาบนดาดฟ้าเขาเห็นกัปตันลอว์เร้นท์ยืนอยู่ข้างนอก


“กัปตัน เราต้องไปอีกไกลแค่ไหนครับ?”


“อ่อ บารอน เราใกล้ถึงแล้ว ประมาณอีกครึ่งวันและเราน่าจะถึงที่นั่น”


เมื่อคำพูดครึ่งวัน เอียนก็หมดหวังอีกครั้ง


‘ฉัน… ต้องกินขิงหรอเนี่ย?’


ในท้ายที่สุด เอียนเคี้ยวขิงที่เขาได้รับจากลูกเรือและนั่งกลางลำเรือซึ่งมันสั่นคลอนน้อยที่สุด


อย่างไรก็ตาม การคลานไปด้วยใบหน้าอันซีดเซียว บุ๊กค์ที่เล่นบนดาดฟ้าอย่างตื่นเต้นก่อนหน้านี้จับตาเอียน


เอียนแสยะยิ้ม


‘ไหนว่าคลานอย่างตื่นเต้นไงล่ะ…’


ในขณะที่ดูบุ๊กค์ซึ่งเข้าหาด้านของเอียนด้วยสีหน้าซีดเซียว ด้วยเหตุผลแปลกๆเอียนก็เริ่มมีพลัง (?)


“บุ๊กค์”


บุ๊กค์…?


“เหนื่อยหรอ?”


บุ๊กค์-


“ฉันก็เหนื่อยเหมือนกัน…”


 


* * *


 


เรือเกลเลี่ยนทั้งสามลำสามารถมาถึงในบริเวณใกล้เคียงของเกาะปาสคาลได้ภายในครึ่งวัน


อย่างไรก็ตาม ต่อจากอาการเมาเรือของเขา ความยากลำบากใหม่ได้มาหาเอียน


“คุณกำลังจะบอกผมว่าผมต้องไปคนเดียวจากตรงนี้หรอครับ?”


“ไม่ใช่คนเดียวหรอก เนื่องจากจำนวนคนสูงสุดที่สามารถขึ้นไปบนเรือขนส่งแทรกซึมนั้นคือห้าคน ดังนั้นคุณจึงสามารถรับอีกสี่คนได้”


“…”


เอียนบ่นกับตัวเอง


‘ฉันหวังว่าฉันจะได้บัสเหมือนกับตอนทำเควสต์ฟักไข่กริฟฟินซะอีก…’


จำได้ว่าอัศวินเฮลเลี่ยมที่กำจัดมอนสเตอร์ที่มีเลเวลมากกว่า 150 ในเวสต์แลนด์เอียน เลียริมฝีปากของเขา


‘ก่อนอื่น ฉันต้องเอาซีเรียไปด้วย ดังนั้นเหลืออีกสามที่…’


เอียนเลือกพอลลีน


นี่เป็นเพราะไม่รวมกัปตันลอว์เร้นท์ ไม่มีลูกเรือบนเรือที่มีเลเวลสูงกว่าพอลลีนแล้ว


และเอียนจ้องมองไปทางลอว์เร้นท์ แต่ลอว์เร้นท์ส่ายหัว


“ไม่ใช่ผมบารอน ผมมีงานอื่นที่ผมต้องทำที่นี่”


“อืมม…”


ไม่รวมลอว์เร้นท์ เนื่องจากสมาชิกลูกเรือคนอื่นๆอยู่ในช่วงเลเวล 130-140 เอียนจึงเลือกลูกเรือสองคนที่ดูน่ากลัวที่สุด (?) ในบรรดาสมาชิกที่เขาเห็นและเข้าไปในเรือขนส่งแทรกซึม


‘ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่สู้เมื่อพวกเขาดูเหมือนอย่างนั้น’


นั่นคือพื้นฐานของเอียนสำหรับการเลือกลูกเรือของเขา


“นี่ครับ นี่คือแผนที่ของเกาะปาสคาล”


ลอว์เร้นท์ผู้ส่งแผนที่อธิบายรายละเอียดของเกาะปาสคาล


และโชคดีที่ตำแหน่งที่แน่นอนของคุกปาสคาลถูกทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่


“แต่กัปตัน ผมจะทำอะไรหลังจากที่ผมช่วยนักโทษได้? ผมจะไม่สามารถนำตัวนักโทษกลับมาในเรือขนส่งขนาดเล็กนี้ได้หรอกนะครับ?”


เอียนถามคำถามมีเหตุผลมาก


ลอว์เร้นท์พยักหน้าเมื่อเขาตอบ


“แน่นอน หลังจากที่คุณปล่อยนักโทษจำนวนมากที่ถูกขังอยู่ที่ไหนสักแห่งในคุก คุณเพียงแค่ต้องยิงแฟร์ขึ้นสู่อากาศ”


Iเอียนได้รับไอเทมที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหน้าไม้กลขนาดเล็กจากลอว์เร้นท์


 


ท่านได้รับไอเทม ‘แฟร์ของลอว์เร้นท์’

 


และลอว์เร้นท์พูดต่อ


“เมื่อมีสัญญาณ ผมจะไปรับคุณกลับมา”


“อ่อ เข้าใจแล้วครับ”


เอียนซึ่งมีความคิดคร่าวๆว่าเควสต์นี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร พยักหน้าและออกเรือ


ในขณะที่มองเอียนซึ่งอยู่ไกลออกไป ลอว์เร้นท์ก้มหัวลงเล็กน้อย


“ถ้างั้นผมภาวนาให้คุณสำเร็จในการต่อสู้นะครับ บารอน”


“ครับ…”


 


* * *


 


เอียนใช้ประโยชน์จากสัตว์เลี้ยงของเขาให้ดีที่สุด


มีสัตว์เลี้ยงสองตัวที่เอียนสามารถใช้บนเรือเพื่อสอดแนมได้


ตัวแรกคือพินสัตว์เลี้ยงของเอียนและอีกตัวคือสัตว์เลี้ยงของซีเรียไวเวิร์นสีฟ้า


“พินแกสามารถบินขึ้นไปและนำทางเราไปสถานที่ที่จะดีพอที่จะจอดเรือได้ไหม?”


เมื่อเอียนสั่ง พินส่งเสียงก่อนที่เขาจะบินขึ้นไปบนอากาศ


และพอลลีนที่เห็นเช่นนั้น แสดงอาการประหลาดใจ


“ไม่นะบารอน อย่างไรก็ตามนั่นคือ… กริฟฟินระดับ Legendary หรอครับ?”


ทันใดนั้น เอียนพยักหน้า


“อ่อใช่ ฉันได้รับมันมาโดยบังเอิญน่ะ”


เมื่อคำเหล่านั้น พอลลีนพยักหน้า


“อย่างที่คาดไว้กริฟฟินเจ๋งมาก ฉันมีโอกาสได้เห็นกริฟฟินที่พระราชากำลังเลี้ยงดูจากระยะใกล้ แต่ตัวนั้นยังไม่ใหญ่เท่านี้…”


กริฟฟินของราชานั้นแตกต่างจากพินของเอียนซึ่งน่าจะถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายของทรัพย์สินของราชวงศ์


เพราะอย่างนั้น การเติบโตของมันจึงช้า


เอียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก


‘หากขนาดของมันใกล้เคียงกันฉันอาจเข้าใจผิด ฉันควรระมัดระวังการเรียกพินต่อหน้า NPC ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรมากขึ้น’


ไม่ว่าจะยังไงก็ตามด้วยความช่วยเหลือของพินและไวเวิร์นสีฟ้า ปาร์ตี้ของเอียนสามารถเดินทางไปยังเกาะที่ถูกทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่และจอดเรือของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย


สถานที่ที่ปาร์ตี้ลงจอดนั้นหันไปทางด้านหลังบนชายฝั่งที่มีป่าทึบ


“มันต้องเป็นตรงนั้นแน่เลยค่ะ ลอร์ด”


ซีเรัยซึ่งลงจากเรือก่อนพูดขณะที่ชี้ไปยังป้อมปราการขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ระหว่างพุ่มหญ้า


และเอียนที่เห็นสิ่งนั้นก็แสดงอาการตกใจเล็กน้อย


‘ฉันคิดว่ามันจะถูกซ่อนไว้เพื่อให้มันหายาก แต่มันถูกเปิดอยู่’


ต่อจากนั้น ความรู้สึกกังวลเข้ามาสู่เอียน


‘เมื่อมันง่ายขนาดนี้จะมีกับดักอยู่เสมอ…’


พอลลีนที่ออกจากเรือต่อมาก็ได้พูด


“บารอน ผมคิดว่าการตัดข้ามป่านี้และการผ่านเข้าไปทางด้านหลังน่าจะใช้ได้ผล”


พอลลีนชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของแผนที่ด้วยนิ้วของเขาขณะที่เขาพูดต่อไป


“ขึ้นอยู่กับว่ารูปทรงจะแตกต่างกันอย่างไร ถ้าเราไปทางนี้ผมคิดว่าเราจะสามารถขึ้นไปบนกำแพงได้อย่างง่ายดาย”


เอียนชื่นชม AI อัจฉริยะของพอลลีนในขณะที่เขาเป็นผู้นำปาร์ตี้และเริ่มขึ้นไปบนป่า


 


* * *


 


ผลลัพธ์ของอีเว้นท์ราชาการโจมตีได้ออกมาแล้ว


และแน่นอน กิลด์โลตัสได้รับอันดับที่ 1 อย่างท้วมท้น


และคะแนนการโจมตีของกิลด์โลตัสคือ 500 คะแนนเต็มและคะแนนของการโจมตีอันดับที่ 2 เพียงแค่ 260 คะแนน ดังนั้นคะแนนจึงแตกต่างเกือบสองเท่า


ฟิโอลันและเฮิร์ซซึ่งนั่งตรงข้ามกันในคฤหาสน์เมืองได้รับรางวัลจากอีเว้นท์ราชาการโจมตีด้วยการแสดงออกอย่างมีความสุข


เพราะแน่นอนว่าแคปซูลซึ่งเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดอันดับ 1 ถูกส่งตรงไปยังที่อยู่ที่ได้รับแล้ว แต่นอกเหนือจากนั้นรางวัลอื่นๆก็ถูกส่งไปยังคฤหาสน์ของกิลด์ที่เกี่ยวข้อง


“ว้าว ชื่อเสียงกิลด์ 300,000 หน่วยและกล่องปริศนา นี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว”


เมื่อฟิโอลันพูด เฮิร์ซพยักหน้า


“ไม่ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย ฉันคิดว่ามันจะเป็นกล่องปริศนาต่อคน แต่ว่าพวกเขาให้มาสองกล่องแหนะ”


“ใช่ แต่อีกอันนึงเป็นกล่องไอเทม ขณะที่อีกอันเป็นกล่องทอง…”


เฮิร์ซเปิดข้อมูลของกล่องปริศนา


 


กล่องเวทมนตร์ปริศนา (ทอง)

 


กล่องที่มีปริมาณทองอยู่ระหว่าง 100 ~ 5 ล้านทอง


จำนวนจะไม่รู้จนกว่าจะเปิดออก


และใบหน้าของเขาเปล่งประกาย


“นี่มันไม่มากไปหรอ? ระหว่าง 100 ทองและ 5 ล้านทอง… ไม่ใช่ว่าช่องว่างมันใหญ่ไปหรอ?”


เมื่อเฮิร์ซบ่น ฟิโอลันยิ้มเมื่อเธอตอบ


“ไม่มีทางที่นายจะได้รับ 100 ทองใช่ไหมล่ะ?”


“ไม่นะ ถึงอย่างนั้น…”


“กล่องไอเทมดูเหมือนว่าจะไร้สาระกว่านั้น ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าคาร์วินจะได้รับขนมปังจากการเปิด”


“เขาเปิดมันแล้วหรอ?”


“ใช่ ดูเหมือนว่าเขาจะเปิดมันทันทีที่เขาได้รับมัน ถึงอย่างนั้นเพราะเขาได้รับทอง 1.3 ล้านจากกล่องทอง เขาก็มีความสุข”


เฮิร์ซกลืนน้ำลาย


‘ทอง 1.3 ล้าน… ถ้าฉันได้สิ่งนั้นมามาก ฉันก็คงไม่มีความปรารถนาอื่น’


เฮิร์ซดึงกล่องทองจากคลังของเขาก่อน


“ฟิโอลัน ฉันจะเปิดมันก่อน”


“โอเค ฉันจะเปิดหลังจากที่นายเปิด”


และเฮิร์ซวางมือที่สั่นของเขาบนกล่องปริศนา


“เปิด!”


เมื่อเขาทำอย่างนั้น แสงสีขาวท่วมกล่องปริศนาและมันลอยไปบนอากาศ


ดวงตาฟิโอลันและเฮิร์ซจับจ้องไปที่กล่อง


และ…


กริ๊ง-


 


ผู้เล่น ‘เฮิร์ซ’ ได้เปิด ‘กล่องเวทมนตร์ปริศนา’ และได้รับทอง 1,240 หน่วย

 


หลังจากเห็นข้อความระบบ เสียงกรีดร้องออกมาจากปากของเฮิร์ซ


“อ๊ากก!”


ฟิโอลันที่เห็นอย่างนั้นเป็นกังวลเพราะมันไม่ได้ดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องของคนอื่น แต่เธอก็ยังไม่สามารถหยุดเสียงหัวเราะที่ออกมาจากปากของเธออย่างต่อเนื่องได้


“ฮา ฮา ฮ่า เฮิร์ซนายไม่มีดวงจริงๆ ทอง 1,200 หน่วย ท่ามกลางเลข 100 และ 5 ล้าน นายได้รับหนึ่งพันสองร้อยได้ยังไง…”


และต่อจากนั้น ฟิโอลันเปิดกล่องของเธอ


ช่วยไม่ได้ที่เฮิร์ซจะสิ้นหวังมากกว่านี้


 


ผู้เล่น ‘ฟิโอลัน’ ได้เปิด ‘กล่องเวทมนตร์ปริศนา’ และได้รับทอง 3,974,505 หน่วย

 


นี่เป็นเพราะปริมาณของทองที่ฟิโอลันได้รับคือพันเท่ามากกว่าของเฮิร์ซที่ใกล้เคียงกับ 4 ล้านทอง


เฮิร์ซทรุดตัวลงกับพื้น


“ฮ่า…”


และฟิโอลันให้ความมั่นใจกับเฮิร์ซ


“ไม่เป็นไรหรอกน่าเฮิร์ซ…”


อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่ความมั่นใจของฟิโอลันที่ได้รับทองคำ 4 ล้านจะมีผล


“เวรเอ้ย พวกเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนระบบเงินเดือนสำหรับนักวางแผนเกม LB Sports “


“ห้ะ?”


“พวกเขาต้องทำบางอย่างเช่นกล่องเวทมนตร์เงินเดือนไคลันและให้เงินเดือนแบบสุ่มกับพวกเขา”


“…”


“บางอย่างเช่น 20,000 วอน ~ 10 ล้านวอน พวกเขาจำเป็นต้องได้รับเงินเดือนประมาณ 20,000 วอนเพื่อให้เสมอภาคกัน” 

 

 


ตอนที่ 127

 

คุกปาสคาลมีโครงสร้างที่ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ


เมื่อเส้นทางที่แบ่งออกสามทางที่ปรากฏขึ้นทันทีที่พวกเขาแอบเข้าไปในคุก เอียนคิดสักครู่หนึ่งก่อนที่จะพูด


“ไปเส้นทางที่ถูกต้องกันเถอะ”


เมื่อคำเหล่านั้น พอลลีนแสดงอาการกังวลเมื่อเขาถาม


“บารอนคุณรู้ทางหรอครับ?”


“แน่นอนว่าไม่”


“…?”


“ถ้าเราแยกกันไปแต่ละทาง เราจะพบเส้นทางที่ถูกต้อง”


ในคำพูดที่ไม่สนใจไยดีของเอียนทั้งปาร์ตี้ก็ส่ายหัว แต่เพราะว่าพวกเขาไม่มีแผนการที่ชาญฉลาด พวกเขาจึงไปตามคำพูดของเอียนในตอนนี้


อย่างไรก็ตามในไม่ช้าพวกเขาก็สามารถเข้าใจได้ว่านั่นเป็นตัวเลือกที่ผิด


“นี่… มันไม่ควรจะเป็นเขาวงกต ดังนั้นทันไม่เล็กเกินไปหรอ?”


เอียนพูดพึมพำสำหรับความรู้สึกของทุกคน


เส้นทางที่ถูกแบ่งออกมาปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง


เนื่องจากมีหลายกรณีที่เป็นไปได้มากเกินไป มันจึงกลายเป็นสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบทุกๆทางจนกว่าพวกเขาจะพบเส้นทางที่ถูกต้องอย่างที่เอียนกล่าว


“นั่งลงสักพักและคิดเกี่ยวกับมันสักหน่อยเถอะ”


เมื่อเอียนพูด พอลลีนถอนหายใจ


“จะมีอะไรเกิดขึ้นไหมถ้าเราคิดเกี่ยวกับมัน?”


“นั่นฉันไม่รู้”


เอียนวางบุ๊กค์ซึ่งอยู่บนหลังของเขาลง


ทันทีที่เขาเห็นบุ๊กค์ เอียนคิดบางอย่างออก


“อ่อ ถ้าเราต้องการจะหาทางผ่านสัญชาตญาณของเรา งั้นเราลองตามบุ๊กค์ไหม?”


คราวนี้ซีเรียที่เงียบมาตลอดได้ถาม


“บุ๊กค์หรอคะ? โอ้ เจ้าเต่าหัวโต!”


เมื่อซีเรียพูด บุ๊กค์ที่โผล่หัวออกมาจากกระดองจ้องไปที่ซีเรีย


จ้องงง~


อย่างไรก็ตาม ซีเรียไม่ได้กลัวอะไรเลยและพูดอีกครั้ง


“แต่เต่าตัวนี้มักจะพบเส้นทางที่ถูกต้องใช่ไหมคะ?”


“อืมม… บางครั้งเขาพบสิ่งต่างๆเช่นดันเจี้ยนที่ยังไม่ถูกค้นพบโดยไม่คาดคิด”


“อ่อ…”


เอียนคลานลงต่อหน้าของบุ๊กค์และพูด


“บุ๊กค์”


บุ๊กค์-


“ตอนนี้พี่หลงทางน่ะ”


เมื่อเขาพูดว่าเขาหลง บุ๊กค์เยาะเย้ยเขา


บุ๊-บุ๊กค์-


“หาทางที่ถูกต้องให้หน่อยสิบุ๊กค์ ถ้านายทำงานได้ดี ฉันจะให้มีตบอลเท่าที่นายต้องการเลย ว่ายังไงล่ะ?”


เมื่อเอียนตรวจสอบมีตบอลซึ่งเขาไม่เคยเสนอมาก่อน ตาทั้งสองของบุ๊กค์กลมโต


บุ๊กค์-!


เมื่อเขาเห็นท่าทางอย่างนั้น เอียนพึมพัมกับตัวเอง


‘หากเป็นกองมีตบอลซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษ บุ๊กค์จะได้กลิ่นมันและพบพวกมันทันที’


จากนั้น พอลลีนซึ่งฉลาดกว่าซีเลียมากเมื่อเปรียบเทียบก็ทำการคัดค้าน


“แต่เต่าตัวนี้จะรู้หรือไม่ว่าเขาต้องหาอะไร?”


“ไม่ แน่นอนว่าเขาอาจจะไม่รู้”


“ถ้างั้น…?”


“ผมมีความคิดอยู่”


เอียนหันความสนใจไปหาบุ๊กค์


“บุ๊กค์หาคนที่อยู่แถวนี้ให้ฉันหน่อย นายแค่ต้องหาสักคน”


บุ๊กค์-


ความตั้งใจของเอียนไม่สามารถเข้าใจได้ แต่อย่างใดก็ตามตอนนี้ทั้งปาร์ตี้ที่ตามบุ๊กค์ไปที่นำพวกเขาเริ่มเคลื่อนไหว


ประมาณ 10 นาทีผ่านไปเช่นนั้น?


ไม่ว่าจะผ่านความสามารถหรือโชคของบุ๊กค์ กลุ่มทหารที่สวมชุดเกราะที่มีสัญลักษณ์ของอาณาจักรไคม่อนแสดงอยู่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาในระยะไกล


“เขาจบลงด้วยการหาคนบางคน แม้ว่าเขาจะไม่พบนักโทษ… จากลักษณะของมัน ฉันคิดว่ามันคงเป็นการยากที่จะผ่านพวกเขาไปอย่างเงียบๆนะครับ บารอน”


เมื่อพอลลีนพูด เอียนพยักหน้า


“ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น”


เอียนมีจุดประสงค์เพื่อให้บุ๊กค์ค้นหาใครสักคน แน่นอนว่าสถานการณ์ที่ดีที่สุดคือถ้าเขาพบนักโทษ


อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถหานักโทษได้ตั้งแต่เริ่มต้นและนี่คือการพัฒนาที่เอียนเดาไว้


‘โอเค งั้นเราเริ่มกันเลยไหม?’


ทหารที่ตรวจสอบแล้วอยู่ประมาณเลเวล 130


โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะอยู่ในเลเวลที่สูงกว่าปาร์ตี้ แต่เนื่องจากเลเวลของพอลลีนสูงมาก เขาจึงตัดสินใจว่ามันจะคุ้มค่าที่จะต่อสู้กับพวกเขา


เนื่องจากเป็นการยากที่จะบอกว่าพลังการต่อสู้ของเอียนนั้นเป็นของผู้เล่นเลเวล 120 ต้นๆเช่นกัน


“ซีเรียอย่าเข้าโจมตีโดยตรง แต่ให้ความสำคัญกับการรักษาสัตว์เลี้ยง เข้าใจไหม?”


ซีเรียยิ้มเมื่อเธอพยักหน้า


“ค่ะ ลอร์ด!”


และเอียนก็พูดกับลูกเรือทั้งสองที่ติดตามอย่างเงียบๆจนกระทั่งบัดนี้


“เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้นจะมีคนหนึ่งหรือสองคนที่แยกออกไปเพื่อแจ้งเตือนคนอื่นเกี่ยวกับการบุกรุกของเรา คุณสองคนโปรดตามพวกเขาไปด้วย”


“เราแค่ต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่หนีใช่ไหม?”


เมื่อหนึ่งในลูกเรือพูด เอียนส่ายหน้า


“ไม่ ปล่อยให้เขาหนีไปและตามพวกเขาไปขณะที่นายทิ้งสัญลักษณ์ที่ที่นายไปด้วย”


นี่คือแผนการที่เอียนตั้งเป้าไว้


และนี่คือแผนที่เอียนเคยคิดไว้ตั้งแต่แรกที่พวกเขาแทรกซึมเข้าไปในคุก


เขาวางแผนที่จะติดตามทหารที่หลบหนีและค้นหาตำแหน่งที่นักโทษถูกขังอยู่


แม้จะไม่มี NPC ตัวไหนที่มีความสัมพันธุกับไคม่อนปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ ไม่มีทางที่จะใช้วิธีนี้ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขาบอกให้บุ๊กค์หาใครสักคน


ลูกเรือสองคนที่เข้าใจคำพูดของเอียนทันทีพยักหน้าขณะที่พวกเขาตอบ


“ครับบารอน!”


ในที่สุดพอลลีนที่เข้าใจสิ่งที่เอียนคิดก็พยักหน้า


“ตามที่คาดไว้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงได้รับความไว้วางใจจากพระราชา นั่นเป็นแผนการที่ดี”


และหลังจากนั้นไม่นาน การต่อสู้ได้เริ่มขึ้น


เอียนไม่สามารถอัญเชิญดุ๊กเดซึ่งขนาดตัวนั้นใหญ่เกินไปเนื่องจากพื้นที่ในคุกนั้นแคบเกินไป แต่หลังจากเรียกสัตว์เลี้ยงที่เหลือออกมา เขาก็พุ่งเข้าหาทหารทันที


“ผู้บุกรุก!”


และทหารที่พบกับปาร์ตี้ของเอียนก็ถูกโจมตีเช่นกันหลังจากนั้นไม่นาน


“ไล ฮัลลิ! ขุดพวกมันไปตรงกลาง!”


เพราะเขามั่นใจว่าถ้าทหารที่มีจำนวนมากกว่าพวกเขา มันจะกลายเป็นความรำคาญที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา เอียนคิดว่าเขาต้องทำให้สนามรบเป็นหลุมการต่อสู้ก่อน


กร๊าา-!


เป็นไปตามที่คาด ท่ามกลางสัตว์เลี้ยงของเอียน ตัวที่โดดเด่นมากที่สุดคือไล


 


สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้สร้างความเสียหายแก่ ‘ทหารเรือนจำแห่งปาสคาล’

พลังชีวิตของทหารเรือนจำแห่งปาสคาลลดลง 15,640 หน่วย

 


ไลทำให้ทหารตกใจซึ่งยุ่งเหยิงเพราะการโจมตีที่กระทันหัน


แม้ว่าพินที่บินไม่ได้ตามที่เขาต้องการเพราะความต่ำของเพดานนั้นไม่ได้มีส่วนรวมตามที่คาดไว้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ควบคุมสถานการณ์การต่อสู้ไว้ได้


หลังจากเทเวทจิตวิญญาณทั้งหมดของเขาไปข้างหน้า เอียนก็จ้องไปที่พอลลีน


‘ไหนลองดูสิว่าการต่อสู้ของทหารเลเวล 170 จะดีแค่ไหน?’


และพลังการต่อสู้ของพอลลีนที่เอียนตรวจสอบนั้นค่อนข้างล้นเหลือ


ด้วยความยิ่งใหญ่ของอัศวินแห่งราชอาณาจักรซึ่งหมุนหอกยาวไปรอบๆและโจมตีทหารเลเวล 130 เหมือนที่เขาทำกับเด็กๆ เสียงอุทานก็ออกมาจากปากของเอียนโดยอัตโนมัติก่อนที่เขาจะรู้ตัว


“โว้ว…”


‘ถ้าฉันมี NPC เช่นนั้นเป็นผู้ติดตาม…’


เขาไม่เพียงพอที่จะเปรียบเทียบกับเฮลเลี่ยม แต่ในรูปแบบของพอลลีนซึ่งอยู่ในเลเวลของเขา เอียนเลียริมฝีปากของเขา


อย่างไรก็ตาม จากนั้น


แสงสีเหลืองที่ติดอยู่ในหอกของพอลลีนนั้นเรืองแสงและพลังงานขนาดใหญ่ก็เริ่มพุ่งทะลุ


“ฮึบ!”


และในขณะที่พอลลีนแทงหอกของเขากระแทกกับพื้นดิน พลังงานสีทองก็พุ่งออกไปทุกทิศทาง


ตู้มมม-!


ระเบิดขนาดใหญ่ตามด้วยเสียงเงียบสงัด


นี่เป็นเพราะทหารอาณาจักรทุกคนที่ถูกโจมตีจาก AoE ที่กระจายออกไปจากปลายหอกของพอลลีนกลายเป็นแสงสีเทา


แน่นอนว่ามันเป็นสถานการณ์ที่การสู้รบระดับสูงขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่มีทหารที่มีพลังชีวิตสูงสุด แต่การทำลายล้างพวกเขาทั้งหมดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับฉากที่น่าประหลาดใจ


‘โกง… ไปไหมเนี่ย?’


เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าความเสียหายนั้นมากเพียงใด แต่ในขณะที่เอียนมองไปที่การประมาณคร่าวๆของพลังชีวิต 30,000 หน่วยของทหารที่ถูกฆ่า เขารู้สึกประหลาดใจ


และพอลลีนซึ่งเป็นคนที่ทำให้ฉากนี้เหลือเชื่อ ได้เข้าหาเอียนด้วยสีหน้าอาย


“เอ่อ… บารอน ผมฆ่าพวกมันหมดแล้ว ดังนั้นเราจะทำอะไรต่อครับ?”


เอียนซึ่งอยู่ในอาการงุนงงกลับมาสู่ความเป็นจริงด้วยเสียงของพอลลีน


และลูกเรือสองคนที่ยืนจับตามองเขาอย่างงุนงง


“บารอน ผู้คุมที่รอดชีวิตและวิ่งหนีหายไปแล้วครับ!”


“…”


เอียนซึ่งตกตะลึงกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดสักครู่หนึ่งก็หันความสนใจไปหาบุ๊กค์


และเขาถอนหายใจ


“เฮ้อ… บุ๊กค์ หาอีกครั้งสิ”


บุ๊กค์-


บุ๊กค์นำด้วยการแสดงออกอย่างล้นหลามด้วยความมั่นใจและปาร์ตี้ก็เริ่มตามบุ๊กค์ขณะที่พวกเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง


แผนของเขาผิดพลาดออกไปเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นเมื่อพบว่าพลังการต่อสู้ของพอลลีนนั้นเหลือเชื่อกว่าที่เขาคาดไว้มากซึ่งทำให้เขารู้สึกสบายใจ


 


* * *


 


บ้านของจินซุง


“โว้วว…!”


ในขณะที่ดูแคปซูลรุ่นใหม่ที่มาถึงอพาร์ทเมนต์สตูดิโอของเขาจินซุงก็แสดงออกด้วยความยินดี


“นายมีความสุขหรอ?”


ในบรรดาสามแคปซูลที่ได้รับเป็นรางวัลสำหรับอีเว้นท์ราชาการโจมตี หนึ่งเครื่องแรกที่ถูกส่งมาถึงบ้านของจินซุง


เนื่องจากขนาดและน้ำหนักของแคปซูลยากที่จะย้ายเพียงลำพัง ยูฮยอนได้มากับจินซุงไปที่บ้านของเขาเพื่อช่วยเขาติดตั้ง


ฮารินเป็นคนเสริม นอกจากนี้เมื่อเธอเดินเข้ามาพร้อมบอกว่าเธออยากรู้เกี่ยวกับแคปซูลรุ่นใหม่


“ใช่ ทำไมฉันจะไม่มีความสุขล่ะ? ขอบคุณฉันซะเพื่อนยาก”


“แน่นอนว่าต้องขอบคุณ ฉันก็ได้รับแคปซูลที่หรูหราแบบนี้เหมือนกัน ฮุฮุ”


หนึ่งในสองแคปซูลที่เหลือไปที่ยูฮยอนหัวหน้ากิลด์ ขณะที่เครื่องสุดท้ายไปหาฟิโอลันที่มีส่วนช่วยอย่างมากขณะที่ลงดันเจี้ยนกับเอียน


เพราะอย่างนั้นเขาจึงพูดเช่นนี้


ฮารินยังพูดด้วยสีหน้าอิจฉา


“โชคดีจัง ฉันหวังว่าอย่างน้อยฉันจะมีแคปซูลรุ่นเก่า…”


เมื่อคำเหล่านั้น ยูฮยอนแสดงท่าทางงุนงง


“ห้ะ? ฮารินเธอไม่มีแคปซูลหรอ?”


“ใช่ ฉันไม่มี”


“อย่างนั้นเธอถึงเล่นเกมที่ห้องแคปซูลตลอดเลยสินะ?”


จินซุงแสดงท่าทางค่อนข้างตกใจเช่นกัน


นี่เป็นเพราะพิจารณาจากที่เธอเล่นในห้องแคปซูล มันรู้สึกว่าฮารินมีเลเวลที่สูงอย่างมาก


“เอ๋… จริงหรอ? แต่ดูเหมือนว่าเธอจะมีเวลาเข้าสู่ระบบค่อนข้างนานหากพิจารณาจากเล่นเพียงในห้องแคปซูลเท่านั้น…”


เมื่อทั้งสองคนพูด ฮารินขำขณะที่เธอส่ายหน้า


“ไม่ ฉันไม่ได้ไปแค่ที่ห้องแคปซูล แต่มีสองแคปซูลที่บ้านลูกพี่ลูกน้องของฉัน ดังนั้นในระหว่างวันฉันมักจะไปและใช้มัน หนึ่งในนั้นคือของป้าฉัน ในระหว่างวันป้าของฉันไปทำงาน ดังนั้นเธอไม่อยู่บ้าน “


ในที่สุดทั้งสองก็เข้าใจ จินซุงและยูฮยอนพยักหน้า


“อัตราห้องแคปซูลนั้นสูงมาก นายอาจซื้อแคปซูลแทนการจ่ายเงินจำนวนมากและใช้หนึ่งแคปซูลในห้องแคปซูล สำหรับผู้เล่นที่เล่นหนักมากเช่นเรานั่นแหละ”


และขณะที่มองไปยังฮาริน จินซุงได้พูด


“ฮาริน ถ้างั้นเธออยากได้แคปซูลที่ฉันใช้ตอนแรกไหม?”


ในข้อเสนอสุดพิเศษของจินซุง ฮารินและยูฮยอนต่างก็ประหลาดใจเล็กน้อย


นี่เป็นเพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นรุ่นที่เก่ากว่า ถ้าจินซุงขายแคปซูลที่เขาใช้เป็นมือสองเขาก็ยังสามารถได้รับประมาณ 2-3 ล้านวอน


อย่างไรก็ตามสำหรับจินซุงผู้ที่มีความสุขมากเพราะแคปซูลรุ่นใหม่ที่มีมูลค่าหลายสิบล้านวอน 2-3 ล้านวอนที่เขาได้รับจากการขายแคปซูลมือสองไม่ได้รู้สึกว่ามันมากสักเท่าไหร่


‘มันจะมีประโยชน์มากขึ้นในการล่าเวลาที่ใช้ในการสอดแนมรอบๆและลองขายในตลาดมือสอง’


เป็นไปได้ว่าลักษณะที่น่ารำคาญของมันเป็นปัจจัยที่ใหญ่กว่า


ในขณะเดียวกันฮารินผู้ซึ่งลุกลี้ลุกลนอยู่ในข้อเสนอที่ไม่คาดคิดก็ถามกลับพร้อมกับแสดงออกอย่างลึกซึ้ง


“จริงหรอ? ให้ฉันจริงหรอ?”


สักพักหนึ่ง จินซุงครุ่นคิดเล็กน้อย แต่เขาพยักหน้าอย่างเท่ห์ๆ


“แน่นอนสิ เธอใช้มันเลยฮาริน”


เมื่อที่เขาทำอย่างนั้น ยูฮยอนที่ยืนอยู่ข้างเขาก็แกล้งกับจินซุงด้วยท่าทางซุกซน


“โอ้ ปาร์คจินซุง! นายไม่สนใจเพราะเธอเป็นแฟนสาวของนายใช่ไหมล่ะ?”


จินซุงสั่นเล็กน้อยกับคำว่าแฟนสาว แต่เขาปกปิดความอึดอัดใจด้วยเสียงหัวเราะที่น่าอาย


“ฮ่า… ฮาฮ่า…”


อย่างไรก็ตาม จากนั้นฮารินพูดบางสิ่งที่ไม่คาดคิด


“ฉันรู้สึกยินดีนะ แต่ตอนนี้ฉันคิดเกี่ยวกับมัน ฉันไม่คิดว่าฉันจะรับแคปซูลนี้ได้”


จินซุงและยูฮยอนที่งุนงงได้ถามพร้อมกัน


“ไม่นะ ทำไมล่ะ?”


“ทำไมหรอ?”


“อืมม นั่น… เป็นเหตุผลว่าทำไมเราไม่มีแคปซูลในบ้านเพราะว่าพ่อของฉันไม่ชอบที่ฉันเล่นเกม ไม่ใช่เพราะฉันไม่มีเงินพอที่จะซื้อมัน…”


“อ่อ…”


ด้วยคำพูดที่น่าสงสารของฮาริน จินซุงและยูฮยอนพยักหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ


โดยเฉพาะจินซุงพยักหน้าโดยเข้าใจอย่างมาก


‘ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้นดี’


ในมุมมองหนึ่ง เหตุผลที่จินซุงศึกษาต่อมหาวิทยาลัยอย่างไม่หยุดยั้งเพราะเขาต้องการที่จะหลุดพ้นจากพ่อแม่ของเขาที่เกลียดการเล่นเกม ดังนั้นจินซุงจึงเห็นอกเห็นใจเธออย่างมาก


“ถ้างั้นฉันควร… ขายมันใช่ไหม?”


จินซุงพึมพัม


ทันใดนั้น ฮารินเข้าหาด้านข้างของจินซุงแล้วดึงแขนของเขา


“ไม่นะ ไม่ต้องขายมัน”


“เอ่อ… ทำไมล่ะ?”


“เราแค่ปล่อยให้แคปซูลทั้งสองอยู่ในห้องของนาย ห้องนั้นใหญ่มาก ดังนั้นจึงมีพื้นที่เพียงพอ”


“อืมม? ฉันทำยังไงกับมันทั้งสองล่ะ? ฉันไม่สามารถเล่นสองตัวละครได้เพียงคนเดียวนะ”


เมื่อเขาถาม ฮารินกอดแขนของจินซุงและตอบกลับ


“ดังนั้นฉันจะมาที่นี่เพื่อเล่นเกมต่อจากนี้ไปแทน”


นอกจากนั้น เสียงที่เต็มไปด้วยความตกใจก็ปะทุออกมา


“อั๊ก!”


นั่นคือเสียงของยูฮยอน


“ไม่นะ ฮาริน ธะ เธอกำลังจะบอกว่าเธอจะมาที่บ้านจินซุงทุกวันเพื่อเล่นเกมหรอ?”


จินซุงก็ตกใจ


“เฮ้ ถ้าเธอมาแบบนี้… บ้านที่มีผู้ชายอยู่เพียงลำพัง…”


อย่างไรก็ตามต่อจากนั้น ช่วยไม่ได้ที่ทั้งสองคนจะพูดไม่ออก


นี่เป็นเพราะฮารินที่ยืนอยู่ด้านหน้าของจินซุงและมองหน้าเขา


“ทำไม ถ้าฉันทำอย่างนั้น? นายจะทำอะไรกับฉันงั้นหรอ?” 

 

 


ตอนที่ 128

 

ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้จุดศูนย์กลางของคุกปาสคาลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีทหารมากขึ้นเท่านั้นและฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งก็เริ่มปนกันอยู่ตรงกลางเช่นกัน


โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้คุมหัวหน้าหรือเจ้าหน้าที่ระดับ NPC ปรากฏตัว มีหลายกรณีที่พวกเขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจัดการกับคู่ต่อสู้


อย่างไรก็ตาม เอียนกำลังฮัมเพลง


“นักเก็บค่าประสบการณ์”


ด้วยเหตุผลแปลกๆ NPC ในคุกปาสคาลไม่ดรอปไอเทมหรือทองเลย


แต่พวกเขาก็ได้รับค่าประสบการณ์ถึงหลายเท่าของจำนวนที่จะได้รับจากมอนสเตอร์ทั่วไปที่อยู่ในเลเวลเดียวกัน


ขอบคุณสิ่งนั้น เอียนเลเวล 122 ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว


แม้จะมีการต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำอีกหลังจากการต่อสู้และยังไม่ถึงเป้าหมาย มันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เอียนอารมณ์ดี


‘ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการดูดกลืนของแคปซูลรุ่นใหม่นี้สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน ‘


อัตราการดูดกลืนความเป็นจริงเสมือนสำหรับแคปซูลรุ่นใหม่นั้นสูงกว่ารุ่นแคปซูลรุ่นเก่า 2%


อาจเป็นเพียงจินตนาการของเขา แต่เอียนรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของเขาเบาลงอย่างแน่นอน


‘ถึงแม้ว่าฉันจะกังวลเกี่ยวกับฮารินเล็กน้อยซึ่งอาจเล่นเกมอยู่ข้างฉัน…’


หลังจากเสร็จสิ้นการติดตั้งแคปซูล ยูฮยอนกลับบ้านแล้วในขณะที่ฮารินซึ่งบอกว่าเธอจะเล่นเกมแคปซูลรุ่นเก่าของจินซุงก่อนจะกลับ เพียงแค่นั้นก็เข้าสู่ระบบเข้าเกม


เป็นการกระทำที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่สนใจฮารินที่อยู่กับเขาในบ้านของเขาซึ่งเขาอยู่คนเดียวเสมอ


‘ถึงอย่างนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างมันให้ความรู้สึกดีกว่าตอนที่ฉันอยู่คนเดียว เราควรกินข้าวเย็นด้วยกันไหม?’


เมื่อเขาคิดไปเรื่อยๆและดำเนินการเควสต์ในอารมณ์ที่ดี เนื่องจากเหตุผลหลายประการ พอลลีนหยุดอยู่ในเส้นทางของเขาราวกับว่าเขาได้ค้นพบบางสิ่ง


“บารอน ผมคิดว่าในที่สุดเราก็เจอมัน”


และในขณะที่พวกเขาเปิดมุมประตูเหล็กยักษ์ที่กั้นทางเข้าสู่คุกก็จับตาเอียนด้วยเช่นกัน


ประตูเหล็กนั้นมีความสูงเกือบ 10 เมตรและข้างหน้ามี NPC ที่สวมเครื่องแบบพร้อมกับสัญลักษณ์ของอาณาจักรไคม่อนที่แสดงอยู่บนพวกเขาที่เดินไปมา


“ทหารระดับสูงสามคนรวมถึงผู้คุมอีกสองคน… พลังการต่อสู้นั้นแข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนค่ะ ลอร์ด”


เมื่อซีเรียพูด เอียนพยักหน้า


“นั่นก็จริง แต่ไม่ต้องเป็นห่วง”


เอียนยิ้มขณะที่เขาชี้ไปที่เพดาน


“เนื่องจากฉันสามารถอัญเชิญดุ๊กเดได้แล้ว และพินจะสามารถต่อสู้ได้ดีกว่าเดิม”


เมื่อพวกเขาเข้าไปยังตรงกลางของคุก พื้นที่ที่เปิดขึ้น


ลานชั้นในไม่เพียงเปิดขึ้น แต่มีโครงสร้างคล้ายกับโคลอสเซียมยักษ์ ดังนั้นสัตว์เลี้ยงของเขาจะสามารถแสดงจุดแข็งของตนเองได้


ขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น เอียนมั่นใจ


“พอลลีนเหมือนกับที่เราต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ ได้โปรดผูกศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดลงไป จากนั้นฉันจะจัดการศัตรูที่เหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วช่วยคุณออกไป”


“รับทราบครับบารอน”


ในขณะที่กำลังของไลแข็งแกร่งอย่างท่วมท้น พลังการต่อสู้ของเอียนในการต่อสู้ส่วนตัวก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเช่นกัน อย่างไรก็ตามความสามารถของเอียนก็ยิ่งส่องประกายมากขึ้นเมื่อเขาต่อสู้กับคู่ต่อสู้หลายคน


“และฉันคิดว่าจากนี้ไปเราอาจจะต้องขุดผ่านด้านหน้า…”


เมื่อเอียนพูด พอลลีนพยักหน้า


นาทีที่การสู้รบเกิดขึ้นในพื้นที่เปิดโล่งนี้ พวกเขาไม่สามารถซ่อนความจริงที่ว่าพวกเขาบุกเข้ามาในคุกได้


“ด้วยรูปลักษณ์ของมันอาจเป็นไปได้”


“ถ้าในกรณีนั้น การโจมตีพิเศษ!”


เอียนมอบแฟร์ที่เขาได้รับจากลอว์เร้นท์ให้กับลูกเรือทั้งสองคน


“ช่วงเวลาที่เราเจาะผ่านที่นี่ ฉันจะบุกเข้าไปข้างในและเริ่มดำเนินการปล่อยนักโทษแล้วได้โปรดยิงแฟร์นี้ขึ้นไปบนอากาศ”


“รับทราบครับบารอน”


เอียนอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมด ยกเว้นฮัลลิ


เขาวางแผนที่จะอัญเชิญฮัลลิอีกสักพักในภายหลัง เมื่อเขาบุกเข้าไปข้างใน


“ไปกันเถอะ”


พร้อมกับสัญญาณสั้นๆของเอียน ปาร์ตี้ได้เข้าสู่ตำแหน่งของตนเช่นเดียวกับที่พวกเขาทำมาจนถึงตอนนี้และเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว


“ไลฆ่าทหารก่อน!”


 


รับทราบครับเจ้านาย

 


เรคหายใจสกัดศัตรูก่อนและไลพุ่งเข้าหาหลังจากนั้นและเริ่มสังหารผู้คุมซึ่งพลังชีวิตได้ลดลงอย่างมาก


แคว๊กก-!


เกราะหนังที่ผู้สวมใส่สวมอยู่นั้นถูกฉีกขาดด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของไลและพอลลีนทำงานได้ดีในการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ระดับสูง NPC ซึ่งพลังการต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อเปรียบเทียบ


“Current Proliferation!”


ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามอยู่ในเลเวลที่สูงกว่าเอียนมาก ความเสียหายจาก Current Proliferation ไม่ได้มีประสิทธิภาพมาก แต่ผลกระทบ ‘เหน็บชา’ ยังยอดเยี่ยม


 


ท่านโจมตีเป้าหมายด้วย ‘Current Proliferation’ ท่านได้สร้างความเสียหาย 4172 หน่วยแก่ ‘ทหารเรือนจำแห่งปาสคาล’

‘ทหารเรือนจำแห่งปาสคาล’ ได้รับสถานะ ‘เหน็บชา’

การเคลื่อนไหวของ ‘ทหารเรือนจำแห่งปาสคาล’ ลดลง 30% และพวกเขาจะได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 50% จากการโจมตีประเภท ‘สายฟ้า’

ระยะเวลาคูลดาวน์ของ ‘Current Proliferation’ ถูกรีเซ็ต

 


สกิล Current Proliferation ถูกเรียกใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อจำนวนของฝ่ายตรงข้ามที่สูงขึ้นเนื่องจากจำนวนการชิ่งเพิ่มเติมเพิ่มขึ้น


ด้วยเท้าของเจ้าหน้าที่ที่ผูกติดอยู่กับการเปิดใช้งานของเหน็บชา การฆ่าฟันด้านเดียวก็เริ่มขึ้น


‘ฉันควรพลักดันเควสต์ให้สำเร็จหรือแค่ล่ามากกว่านี้ดีเนี่ย?’


เมื่อได้ค่าประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม มันถึงจุดที่เอียนคิดว่าจะออกนอกเควสต์สักเล็กน้อย


อย่างไรก็ตาม เอียนก็ไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างง่ายดายตั้งแต่แรกเช่นกัน


เขาคุ้นเคยกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของผู้คุมผ่านการต่อสู้ซ้ำๆและเหนือสิ่งอื่นใดเขามีความสมดุลที่ดีกับพอลลีนยิ่งเขาก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆกับเขาและการทำงานร่วมกันปรากฏขึ้นจากมัน


ยิ่งไปกว่านั้น…


 


สัตว์เลี้ยง ‘ดุ๊กเด’ ได้รับความเสียหายคริติคอล

พลังชีวิตของ ‘ดุ๊กเด’ ลดลง 8,764 หน่วย

 


เมื่อใดก็ตามที่พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยงลดลงเพราะว่าการโจมตีที่รุนแรง…


“ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง!”


พลังแฝงของซีเรีย ‘ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง’ ที่บัฟและช่วยเหลือจากด้านหลังก็ถูกใช้งาน


 


ผู้ติดตาม ‘ซีเรีย’ ได้ร่าย ‘ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง’

พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ดุ๊กเด’ ถูกฟื้นฟู 60% (47,398)

 


ดุ๊กเดที่กำลังแท้งค์ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ได้รับความเสียหายจากที่พวกเขาเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เลเวลสูงที่มีเลเวลมากกว่า 120 นั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากจากการฟื้นฟูของซีเลีย


แน่นอนว่ามีเวลาคูลดาวน์ 5 นาทีสำหรับการฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่นั้นก็ตามมันเป็นความช่วยเหลืออย่างมากสำหรับพลังการต่อสู้


 


ท่านได้สังหารทหารเรือนจำแห่งปาสคาล ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 134,215 หน่วย

ท่านได้สังหารทหารเรือนจำแห่งปาสคาล ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 321,132 หน่วย

 


ในขณะที่มองไปที่ฝ่ายตรงข้ามที่โดนจัดการในพริบตา ซีเรียก็ประหลาดใจ


“มันง่ายกว่ามากถ้ามีพินและดุ๊กเดในที่นี่”


โดยเฉพาะดุ๊กเดซึ่งพลังชีวิตใกล้เคียงกับ 80,000 หน่วยโดยการได้รับการฟื้นฟูของซีเรียและป้องกันไว้ พวกเขาจะสังเกตเห็นว่าการต่อสู้นั้นง่ายขึ้น


“ฉันบอกเธอแล้ว”


เอียนแสดงอาการพึงพอใจเมื่อเขาพยักหน้า


อย่างไรก็ตามจากนั้น


เสียงที่ดังของกลองเริ่มดังขึ้นจากภายในคุก


ตึง- ตึง- ตึง-


เมื่อนั้น ท่าทางของพอลลีนแข็งขึ้นเล็กน้อยและเขาถามเอียน


“ดูเหมือนว่าพวกเขาตรวจจับเราจากภายในแล้ว บารอนเราควรทำอย่างไรดีครับ?”


“อืมม…”


เอียนคิดสักครู่หนึ่ง


อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตื่นตระหนก


เนื่องจากมันจะแปลกกว่านี้หากพวกเขาไม่รู้จากภายในเมื่อการต่อสู้ที่มีเสียงดังเกิดขึ้นใกล้เคียง


‘มันเร็วไปหน่อย แต่ฉันควรเข้าไปข้างในเหมือนที่วางแผนไว้’


และเอียนเรียกพินมาและขึ้นบนหลังของมัน


เห็นเช่นนั้น ตาทั้งสองของซีเรียเบิกโพลงเล็กน้อย


“ลอร์ด ท่านวางแผนจะทำอะไรคะ?”


“ในขณะที่เธอซื้อเวลาด้านนี้ ฉันจะเข้าไปข้างในและช่วยเหลือนักโทษ เนื่องจากเมื่อใดก็ตามที่นักโทษได้รับการช่วยเหลือพลังการต่อสู้ของเราจะเพิ่มขึ้น”


พอลลีนพยักหน้าเมื่อเขาเห็นด้วย


“ถ้าเป็นไปตามที่คุณพูดบารอน งานนี้ก็จะถูกแก้ไขได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน”


เอียนวางแผนจะทิ้งไล เรคและดุ๊กเดไว้


นี่เป็นเพราะถึงแม้ว่าพอลลีนจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็กังวลเกินกว่าจะเข้าไปข้างในกับสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมด


‘น่าจะดีพอแล้วกับเพียงแค่ฮัลลิและพิน เนื่องจากความสามารถของพวกเขานั้นสูงที่สุด เนื่องจากเป้าหมายคือการช่วยชีวิตอยู่ดี’


เอียนซึ่งเตรียมการคร่าวๆเสร็จแล้วก็คุยกับพอลลีน


“พอลลีนได้โปรดลองและดึงความสนใจของพวกเขาให้ได้มากที่สุด”


“รับทราบครับบารอน อย่างไรก็ตามผมไม่รู้ว่าจะมีกองทหารกี่คนในนั้น…  คุณต้องช่วยนักโทษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ”


“โอเค เข้าใจแล้ว”


และพอลลีนเสริม


“ตราบใดที่ไคซาร์ได้รับการช่วยเหลือ สถานการณ์อาจจะยุติลง”


เอียนพยักหน้า


“ไคซาร์หรอ… ฉันจะลองหาดู”


เอียนที่อยู่บนหลังของพิน บินไปอย่างระมัดระวังที่ด้านล่างของกำแพงป้อมปราการคุก


เมื่อเขาทำอย่างนั้น พอลลีนตะโกนเสียงดัง


“ทหารราชวังพอลลีนแห่งอาณาจักรลัสเปลได้มาช่วยเหลือนักโทษแล้ว!”


เสียงตะโกนของพอลลีนดังก้องกังวานไปทั่วทั้งคุก


ในไม่ช้าความสนใจทั้งหมดของทหารก็หลั่งไหลมายังพอลลีน


‘ตอนนี้แหละ!’


เอียนซึ่งตรวจสอบดูว่าไล เรคและดุ๊กเดพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับพอลลีน รีบบินเข้าไปด้านในของคุกในขณะที่อยู่บนหลังของพอน


และในขณะที่มองดูหอนาฬิกาที่ติดตั้งทั่วทั้งคุก เอียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก


‘เฮ้อ ถ้าเราแทรกซึมผ่านอากาศมันคงเป็นเหมือนรังผึ้ง’


เมื่อพวกเขามาถึงเกาะปาสคาลเป็นครั้งแรก เขาครุ่นคิดอย่างจริงจังที่จะเข้าไปในคุกผ่านทางอากาศ


อย่างไรก็ตาม พินจะไม่สามารถแบกพวกเขาทั้งหมดได้ในครั้งเดียวและเนื่องจากเอียนมีความเสี่ยงที่ใหญ่เกินไปที่จะเข้าไปโดยตัวเขาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ลอง แต่หลังจากเข้าไปข้างในและดูรอบๆเขาก็สามารถตระหนักได้ว่าตัวเลือกไหนดี


“พินฉันคิดว่าทางนั้นนะ”


ตอนนี้เอียนค่อนข้างคุ้นเคยกับหลังของพิน


แม้ว่าความเร็วของพินจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ร่างกายของเขาค่อนข้างมั่นคง


Boom- Boom- Boom- Bbooo-!


ดูเหมือนว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นจากด้านหน้าขณะที่เสียงกลองและแตรดังออกมาจากในคุกอย่างต่อเนื่อง


เมื่อเกิดอย่างนั้นขึ้น เอียนและพินก็เผชิญกับศัตรูเช่นกัน


“พินลงไปด้านล่างที่สุดเท่าที่จะทำได้และปล่อยฉันลง!”


ไม่ว่าเขาจะเป็นกริฟฟินหรือไม่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ลักษณะของพินจะบินลงเนินในแนวดิ่งเมื่อโครงสร้างของเขาบินตรงโดยใช้ปีกของเขา


แต่การที่จะบินช้าลงในแนวทแยงมุมตอนนี้เมื่อตำแหน่งของพวกเขาถูกเปิดเผย เขาจะต้องโดนฝนธนูอย่างแน่นอน


Kku-ruk-!


พินร้องด้วยสีหน้ากังวล แต่เอียนซึ่งมาถึงที่ตั้งที่เขาต้องการ กระโดดลงมาจากด้านหลังของพินโดยไม่ลังเล


และในเวลาเดียวกัน เขาอัญเชิญฮัลลิ


“อัญเชิญฮัลลิ!”


โฮกกก-!


ฮัลลิซึ่งถูกอัญเชิญมาใกล้จุดที่เอียนตกลงมา รีบปีนขึ้นสิ่งก่อสร้างอย่างรวดเร็วและจับเอียนไว้บนหลังของเขา


Puck-!


มันไม่เหมือนไม่มีผลกระทบใดๆ แต่เอียนซึ่งประสบความสำเร็จในการขี่ฮัลลิกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างคงที่และแสดงอาการพึงพอใจ


เนื่องจากนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงไม่อัญเชิญฮัลลิจนถึงตอนนี้และเก็บเข้าไว้


“เยี่ยมไปเลย!”


ตาของเอียนจ้องไปด้านหน้า


ส่วนที่ลึกที่สุดของดันเจี้ยน


เขารู้สึกว่าถ้าเขาทำลายประตูหินนั้น ไคซาร์ก็จะอยู่ที่นั่น


“พินกันทหารไว้ไม่ให้พวกเขามาใกล้พวกเรา!”


ไม่ว่าจะมีทหารจำนวนเท่าไหร่ ในขณะที่พินใช้สกิลกระแทก มันคงยากสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใกล้


และทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนของทหารซึ่งจับกลุ่มจากทุกทิศทุกทางก็ดังขึ้นมา


“ผู้บุกรุก! ผู้บุกรุกพยายามจะไปที่พื้นที่ A!”


เมื่อเวลาที่เหมาะสม สกิลกระแทกของพินได้เทลงไปบนสมรภูมิ


Kwaaah-!


เอียนซึ่งตรวจสอบว่าทหารไม่สามารถเข้าใกล้ได้ง่ายๆและรีบยิงลูกบอลเวทของเขาไปที่ประตูหินอย่างต่อเนื่อง


Bang- Ba-bang-!


และด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่องของฮัลลิเช่นกัน ประตูหินยักษ์ก็เริ่มพังทลายในขณะที่กำลังระเบิด


Ku-reu-reung- Pu-ung-!


‘เอาล่ะมันไม่หนาอย่างที่ฉันคิด’


และในขณะที่เขาเดินผ่านประตูหิน กองหินขนาดยักษ์ถูกเปิดเผยภายในและมีชายลึกลับที่มีผมสีขาวปรากฏตัวซึ่งมีขาและแขนผูกติดอยู่นั่งตรงกลาง


พื้นหลังที่ให้ความรู้สึกราวกับว่ามอนสเตอร์บอสจะปรากฏขึ้นและสร้างบรรยากาศแปลกๆ


เอียนซึ่งเห็นอย่างนั้นรู้สึกมั่นใจ


‘คนนั้นต้องเป็นไคซาร์แน่นอน…!’


เอียนรับเข้าไปหาเขา


เขารู้สึกราวกับว่าการสิ้นสุดของเควสต์นั้นอยู่ต่อหน้าของเขา


‘ถ้ามันเหมือนกับคำพูดของเฮลเลี่ยม เขาบอกว่าเขาเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นถ้าฉันแค่ช่วยหมอนี่…!’


อย่างไรก็ตาม จากนั้นเสียงที่แปลกๆดังขึ้นใกล้ๆหูของเอียน


“โว้ว โว้ว รอสักครู่นะ มีอะไรน่าสนใจด้วย”


และมีร่างหนึ่งเดินออกมาจากเงามืด


เอียนหันมามองทิศทางนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ


ตึก- ตึก-


เสียงฝีเท้าที่ดังกึกก้องอยู่ในความเงียบ


ขณะที่พวกเขาออกมาจากความมืดสนิทร่างของพวกเขาถูกเปิดเผยออกมา แต่ร่างกายของพวกเขายังคงถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดงเข้ม


เอียนที่เห็นอย่างนั้น ถอนหายใจขณะที่เขาบ่น


“เหอะ ฉันสงสัยว่ามันจะจบลงได้ง่ายนิดหน่อย แต่ตามที่คาดไว้ไม่มีทางที่จะเป็นเช่นนั้น”


เอียนมองชายคนนั้นด้วยสายตาที่กังวล


เขาวางแผนที่จะออกจากสถานที่นี้ทันทีโดยใช้การบิดเบือนช่องว่างถ้าเขารู้สึกว่ามันไม่ดี


เนื่องจากเขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ดูแข็งแกร่งอย่างมากในสถานการณ์ที่เขามีเพียงแค่ฮัลลิ


ชายซึ่งเข้าหาเอียนและยืนอยู่ต่อหน้าเขาก่อนที่เขาจะรู้ตัว ดึงดาบออกจากเอวแล้วยกมันขึ้น


Seu-reu-reung-.


และด้วยเสียงที่ให้ภาพลวงตาเหมือนกำลังดัง เขาจึงถามเอียน


“แก… เป็นใครกันวะ?” 

 

 


ตอนที่ 129

 

ลูกเรือได้ยิงแฟร์ที่ได้รับมาจากลอว์เร้นท์ขึ้นไปบนฟ้า


ฟิ้วว- ตู้ม!


พลุได้ย้อมท้องฟ้าเป็นสีแดง


พลังจากฆ่าศัตรูทั้งหมดที่พุ่งมาหาเขา พอลลีนหันไปมองบนฟ้าเล็กน้อย


“อืมม… ดูเหมือนว่าบารอนจะช้านิดหน่อยนะ…”


มันประมาณ 10 นาทีแล้วตั้งแต่เอียนเข้าไปข้างในขณะที่ขี่พิน


แม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่บางอย่างน่าจะออกมาได้แล้ว แต่เมื่อยังไม่มีอะไรออกมาเลย พอลลีนก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย


“ไม่ต้องกังวลค่ะ ท่านพอลลีน ท่านลอร์ดไม่เป็นไรหรอกค่ะ”


คำพูดของซีเรียซึ่งสนับสนุนอย่างขยันขันแข็งจากด้านหลัง พอลลีนก็ยิ้มและตอบกลับ


“ฉันหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ…”


สายตาของเขาหันไปทางด้านในของคุก


‘เนื่องจากแฟร์ถูกยิงออกไปแล้ว กำลังเสริมจะมาที่นี่’


ถ้ากำลังเสริมมาแล้ว ข้อสรุปจะเกิดขึ้นไม่ว่าอะไรก็ตาม


‘เราต้องช่วยผู้ต้องขังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนหน้านี้…’


ในขณะที่มองไปที่กลุ่มทหารที่พุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง พอลลีนรีบควงหอกของเขา


 


* * *


 


“แก… เป็นใครวะ?”


“แกล่ะเป็นอะไร?”


เมื่อชายลึกลับถาม เอียนตอบด้วยน้ำเสียงสั้นๆ


เพราะสำหรับ NPC เขาจะหยิ่งด้วย เอียนเริ่มรุนแรง


To be honest, rather than his arrogance being the problem, the expression that he didn’t like that the opponent was raining down on his parade was more fitting.


ความจริงที่ว่าความเย่อหยิ่งของเขาจะก่อปัญหา การแสดงออกที่เขาไม่ชอบว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังถาโถมของเขาเหมาะสมยิ่งกว่า


อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดต่อไปของชายลึกลับ ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะตกใจเล็กน้อย


“จากการสังเกตของฉันจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าแกเป็นผู้เล่นที่มีความสัมพันธ์กับอาณาจักรลัสเปล แต่ได้เดินทางมาถึงเกาะปาสคาล แกได้รับเควสต์อาณาจักรจากพวกเขาใช่ไหม?”


อย่างแรก คำว่าผู้เล่น


และคำว่าเควสต์


หากเขาเป็น NPC คำสองคำนี้เขาจะไม่เคยใช้


ด้วยเหตุผลนั้น มันหมายความว่าฝ่ายตรงข้ามคือผู้เล่น


‘เวรเอ้ย อะไรวะเนี่ย? เป็นไปได้ไหมที่จะมีความซับซ้อนนี้…?’


ยิ่งไปกว่านั้นเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้เล่นของอาณาจักรศัตรู อาณาจักรไคม่อน


หากผู้เล่นจากค่ายของคู่ต่อสู้กำลังวางแผนที่จะแทรกแซงอย่างสมบูรณ์ มันจะกลายเป็นความตึงเครียดมาก


ก่อนอื่นเพื่อให้รู้ถึงความรู้สึกของคู่ต่อสู้ เอียนพูดอีกครั้ง


“ถ้างั้นแกอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าแกเป็นผู้เล่นที่มีความสัมพันธ์กับอาณาจักรไคม่อน… นี่คือเควสต์อาณาจักรสำหรับแกด้วยงั้นหรอ?”


ชายลึกลับเบะปาก


“และถ้าเป็นอย่างงั้นล่ะ?”


เอียนพูดอีกครั้งอย่างระมัดระวัง


ก่อนอื่น มันสำคัญที่สุดที่เขาจะต้องทำเควสต์ให้สำเร็จอย่างปลอดภัย


“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำด้วยวิธีที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่ายได้ยังไง? แม้ว่าเราจะไม่ต่อสู้ ถ้าเราแค่สามารถทำเควสต์ให้เสร็จได้ มันไม่ดีงั้นหรอ?”


แม้ในขณะที่เขาพูด เอียนก็กังวล


เนื่องจากเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเควสต์ของคู่ต่อสู้จะต้องต้านเขาไว้


อย่างไรก็ตามคำตอบของชายลึกลับนั้นอยู่นอกเหนือความคาดหวังของเอียน


“ความจริงแล้ว แม้ว่าฉันจะแค่ผ่านไปตอนนี้ มันก็ไม่มีผลต่อเควสต์ของฉัน…”


ดาบใหญ่ที่เขาถืออยู่ในมือของเขาชี้ไปที่กลางหน้าผากของเอียน


“แต่บางเหตุผล ฉันไม่อยากจะทำอย่างนั้น”


และคำสบถออกมาจากปากของเอียนโดยอัตโนมัติ


“เวรเอ้ย ฉันกำลังจะบอกนายว่าทำสถานการณ์ที่ได้ทั้งสองฝ่าย”


ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ในตอนนี้


เอียนได้เข้าสู่ท่าต่อสู้และตรวจสอบข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม


อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาใส่ข้อมูลทั้งหมดของเขาเป็นส่วนตัวเหมือนตัวเขาเอง เขาไม่สามารถตรวจสอบเลเวลหรือชื่อของเขาได้


“มันก็สักพักมาแล้ว เรามาสนุกกันหน่อยไหม?”


หลังจากเขาพูดเสร็จ เขาพุ่งเข้าหาเอียน


และเอียนโจมตีเขาด้วยฮัลลิเช่นกัน


นี่เป็นเพราะอาจจะเสียเกียรติของเขาด้วยเหตุผลบางอย่างที่แค่หนีไปทันทีด้วยการบิดเบือนช่องว่าง


‘เป็นไปได้ว่าเขาเป็นคนที่อ่อนแอกว่าที่ฉันคาดไว้’


อย่างไรก็ตามเอียนก็ตระหนักดีว่าความเป็นไปได้นั้นใกล้เคียงกับศูนย์


เคล้ง- เคล้ง-!


เมื่อคฑาของเอียนและดาบของคู่ต่อสู้กระทบกัน เสียงโลหะดังออกมา


 


ท่านได้รับการโจมตีโดยผู้เล่นจากอาณาจักรไคม่อน (ไม่ทราบ) และได้รับความเสียหาย

พลังชีวิตของท่านลดลง 12,985 หน่วย

 


และเอียนที่สำเร็จในการบล็อคการโจมตีหนึ่งครั้งของคู่ต่อสู้ รีบขึ้นไปบนหลังของฮัลลิ


‘อย่างที่คาดไว้เขาเป็นศัตรูที่ทรงพลัง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นอาชีพวอริเออร์…  ถ้าเป็นเช่นนั้นวิธีเดียวที่จะเอาชนะเขาได้คือความว่องไว’


“ฮัลลิ ผู้พิทักษ์แห่งสายลม!”


เมื่อเอียนสั่ง ฮัลลิร้องออกมาเสียงดัง


โฮกกกกก-


 


สัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ได้ใช้สกิล ‘ผู้พิทักษ์แห่งสายลม’

ความว่องไวของสัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ จะเพิ่มขึ้นเท่ากับค่าทั้งหมดของค่าสถานะการต่อสู้

ความว่องไวของสัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ จะเพิ่มขึ้น 5,725 หน่วย เป็นเวลา 2 นาที

 


ขอบคุณที่ได้เพิ่มเลเวลของเขาขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากใช้ผู้พิทักษ์แห่งสายลมความว่องไวของฮัลลิก็เกือบ 8,000 หน่วย


ดวงตาของคู่ต่อสู้เปล่งประกาย เมื่อเขาเห็นพลังงานสีขาวของลมซึ่งโอบรอบขาทั้งสี่ของฮัลลิ


“โอ้โห ฮัลลิคานหรอ สำหรับซัมมอนเนอร์ที่จับฮัลลิคานเป็นสัตว์เลี้ยงได้”


ณ ตอนนี้เลเวลของฮัลลิคานที่เป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการคือเลเวล 150


มันไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะต้องแปลกใจ


นี่เป็นเพราะผู้เล่นเลเวลสูงที่รู้จักกันในปัจจุบันอย่างเป็นทางการอยู่ที่เลเวล 140


อย่างไรก็ตามไม่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะประหลาดใจหรือไม่ เอียนก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย


“Current Proliferation!”


เอียนเริ่มยิง Current Proliferation และลูกบอลเวทไปหาชายลึกลับ


Pung- Pu-pung-!


อย่างไรก็ตาม ชายลึกลับหลีกเลี่ยงการโจมตีของเอียนได้อย่างง่ายดาย


‘อะไรวะเนี่ย? ดูเหมือนว่าจะเป็นอาชีพวอริเออร์ แต่ค่าสถานะความว่องไวค่อนข้างสูงเลย…’


คู่ต่อสู้ที่หลีกเลี่ยงการโจมตี รีบวิ่งเข้าหาเอียน


“Hwanleenchamgyuk!”


ดาบใหญ่ของชายลึกลับเปล่งแสงสีแดง


สัญชาตญาณของเอียนรู้สึกว่าเขาไม่ควรโดนมันโดยตรง


“ฮัลลิหลบมัน!”


และฮัลลิที่มีความสามารถในการสะท้อนกลับแบบหลอกลวงนั้นโชคดีที่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีนั้นได้


Baang-!


ดาบสีแดงที่คลุมรอบดาบใหญ่ของชายลึกลับนั้นถูกผ่าขึ้นไปในอากาศและตัดผ่านในขณะที่ตัดกำแพงหินอย่างประณีต


Jjuh-juh-juk-!


เอียนซึ่งเห็นกำแพงหินพังเป็นชิ้นๆราวกับว่าพวกมันเป็นเต้าหู้ก็ตกใจ


‘แม้ว่าลมหายใจหรือกระแทกมันก็ไม่มีพลังทำลายล้างเช่นนั้น…’


ระยะเวลาผู้พิทักษ์แห่งสายลมของฮัลลิคือ 2 นาที


เอียนผู้ตัดสินใจว่าเขาจะต้องชนะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กระโดดลงมาจากหลังของฮัลลิและพุ่งเข้าหาชายลึกลับทันที


และฮัลลิซึ่งคิดถึงความตั้งใจของเอียน หันกลับมาทางด้านหลังของชายลึกลับทันทีและเหวี่ยงอุ้งมือหน้า


เอียนและฮัลลิโจมตีอย่างรวดเร็วและจัดการชายคนนั้นด้านตรงข้ามกัน


Pu-ung-!


 


สัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ได้สร้างความเสียหายคริติคอลให้แก่ ‘วิญญาณแห่งความว่างเปล่า’

พลังชีวิตของ ‘วิญญาณแห่งความว่างเปล่า’ ลดลง 9,685 หน่วย

 


แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ชายลึกลับก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของฮัลลิที่ได้รับค่าสถานะสะท้อนที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อจนถึงจุดที่เกือบจะไม่สมเหตุสมผลและจากการโจมตีครั้งเดียว ไม่สามารถช่วยได้ที่เขาจะถูกโยนไปตรงที่ผนัง


และเอียนก็แสดงท่าทางที่สับสนเล็กน้อย


‘อะไรวะเนี่ย วิญญาณแห่งความว่างเปล่า? ทำไมชื่อเป้าหมายถึงเป็นอย่างนั้น? เขาไม่ใช่ผู้เล่นหรอ?’


ถ้าเขาเป็นผู้เล่น จากนั้นชื่อหรือถ้าข้อมูลของเขาถูกใส่ไว้แบบส่วนตัว คำว่า ‘ไม่ทราบ’ จะปรากฏขึ้นตามปกติ แต่เป็นชื่อแปลกๆที่เรียกว่าวิญญาณแห่งความว่างเปล่าโผล่ขึ้นมา เขาจึงตกใจ


และความจริงที่ว่าเขาถูกโยนไปที่กำแพงอย่างไม่คาดคิดเมื่อถูกการโจมตีของฮัลลิเป็นสิ่งที่น่าสงสัยเช่นกัน


‘หากเขาเป็นตัวฉกาจที่แข็งแกร่งที่เขาสามารถใช้พลังโจมตีได้มากก่อนหน้านี้ในฐานะอาชีพวอริเออร์ ร่างกายของพวกเขาก็ไม่ควรอ่อนแอเช่นนี้…’


ร่างของชายลึกลับผู้ติดอยู่ในกำแพงหลังจากถูกโจมตีโดยฮัลลิ ตอนนี้รู้สึกเหมือนร่างกายของนักเวทมืดหรือแอสซาซิน


เมื่อเอียนกำลังจะพยายามโจมตีอีกครั้งชายลึกลับผู้ปัดฝุ่นตัวเองออกและลุกขึ้นยืนยิ้มพร้อมพึมพำ


“แกดีกว่าที่ฉันคาดไว้ ฉันจะพูดแม้ว่ามันจะไม่ใช่ร่างหลักของฉัน แต่มันก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันถูกโจมตีอย่างช่วยไม่ได้”


อย่างไรก็ตาม เอียนไม่ได้มีเวลาที่จะตอบ


นี่เป็นเพราะเขาต้องการสร้างความเสียหายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่พลังแฝงของฮัลลิ ‘ผู้พิทักษ์แห่งสายลม’ จะหมดลง


“เรื่องของแกสิ!”


ลูกบอลถูกยิงออกจากคฑาของเอียน


และนั่นเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นหลังจากคำนวณเส้นทางการเคลื่อนที่ของชายลึกลับอย่างละเอียด


Ta-tat-!


ชายผู้ลึกลับผู้ซึ่งเคลื่อนไหวร่างกายของเขาเพื่อหลบหลีกลูกบอลที่บินมาหาเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเผชิญหน้ากับฮัลลิอีกครั้ง


โฮกก-!


ฮัลลิคำรามเสียงดังในขณะที่เขาฟาดด้วยอุ้งเท้าหน้า


อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ชายลึกลับไม่ได้ถูกโจมตีอย่างง่ายดายเช่นกัน


Chwaaak-!


เนื่องจากความว่องไวของฮัลลินั้นสูงมาก เขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ แต่มันจบลงด้วยการเพียงแค่ถากด้านข้างของเขา


ยิ่งไปกว่านั้น แทนที่ด้วยอาวุธของชายคนนั้นเจาะเข้าที่ไหล่ของฮัลลิ


 


สัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ถูกโจมตีโดย ‘วิญญาณแห่งความว่างเปล่า’ และพลังชีวิตลดลง 8,982 หน่วย

สัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ติด ‘สถานะเลือดออก’

พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ลดลง 2,196 หน่วย

 


การโต้กลับการโจมตีของชายคนนั้นยังคงไหลเหมือนน้ำอย่างต่อเนื่อง


เอียนที่ตรวจสอบร่างนั้นแสดงความประหลาดใจอย่างมาก


‘His skills… are the real deal.’


‘สกิลของเขา… เป็นของจริง’


เขาไม่แปลกใจกับความเสียหายที่ฮัลลิได้รับ


เนื่องจากพลังโจมตีประมาณ 9,000 หน่วยไม่ได้สุดยอดอะไรขนาดนั้น


อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของผู้ชายในตอนนี้เหมือนศิลปะจริงๆ


เขาหลีกเลี่ยงอุ้งเท้าหน้าของฮัลลิซึ่งมีปฏิกิริยาตอบโต้ใกล้ถึง 8,000 หน่วยด้วยจำนวนการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุดและแม้แต่ประสบความสำเร็จในการตอบโต้


‘อย่างไรก็ตาม เว้นแต่ค่าสถานะของเขาจะอยู่ในเลเวลที่ล้นเหลือ มันก็คุ้มที่จะลอง…!’


ในไคลัน ความแข็งแกร่งของผู้เล่นถูกตัดสินด้วยองค์ประกอบสองอย่าง


อย่างรกเห็นได้ชัดว่ามีค่าสถานะและสกิลพิเศษจำนวนมากที่ได้รับผ่านเลเวลที่ยอดเยี่ยมและไอเทมที่มีประสิทธิภาพที่ดี


และอีกอย่างความสามารถในการต่อสู้ของผู้เล่น


เอียนเดาว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้เล่นอาชีพวอริเออร์ที่มีเลเวลใกล้เคียงกับเขาและลงทุนจำนวนมากในพลังโจมตีของเขาเมื่อเปรียบเทียบกับพลังชีวิตและพลังป้องกัน


‘ถ้ามันเป็นความสามารถในการควบคุม ถ้างั้นฉันก็มีความมั่นใจพอที่จะไม่ตามหลังของเขา’


แต่หากเป็นผู้เล่นเลเวล 130 คนที่เป็นอันดับตัวเลขสองหลักในการจัดอันดับ มันคงจะยากที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขาแม้กระทั่งสำหรับเอียน


เนื่องจากมีข้อจำกัดเกี่ยวกับความแตกต่างทางค่าสถานะที่สามารถเอาชนะได้โดยการควบคุม


อย่างไรก็ตามหลังจากปะทะกับเขาเพียงครั้งเดียวเอียนจึงเพิ่มความมั่นใจ


“น่ารำคาญมากเพราะแกกำลังทำเควสต์ของฉันล่าช้า!”


เอียนเติมเต็มความโกรธของตัวเอง (?) และพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ของเขาอีกครั้งด้วยฮัลลิ


และเห็นการเคลื่อนไหวของเอียนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เขาอยู่เฉยๆเล็กน้อย ชายคนนั้นยิ้มเยาะในขณะที่เขาจับดาบของเขาไว้แน่น


“แกคงไม่คิดว่าฉันแสดงทุกอย่างไปหมดแล้วใช่ไหม?”


ชายคนนั้นพูดอีกครั้ง


“การโจมตีต่อเนื่อง…!”


เอียนรู้สึกภาพลวงตาราวกับว่าภาพของชายคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาออกมาทั้งสองข้างของเขา


‘อะ อะไรวะเนี่ย?’


และการโจมตีดาบของเขาโจมตีต่อไป


Bang- Ba-ba-bang-!


ตามที่คาดไว้ของสกิลชื่อการโจมตีต่อเนื่อง การโจมตีของเขาไม่ได้สร้างความเสียหายจำนวนมากในคราวเดียว แต่เหมือนกับสกิลของกระแทกของพิน  มันเป็น DoT


ข้อความของระบบเริ่มขึ้นมาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ


 


ท่านได้รับความเสียหายคริติคอลจาก (ไม่ทราบ)

พลังชีวิตของท่านลดลง 1,892 หน่วย

พลังชีวิตของท่านลดลง 1,827 หน่วย

พลังชีวิตของท่านลดลง 2,191 หน่วย

 


เอียนซึ่งเห็นจำนวนพลังชีวิตมหาศาลลดลงถึง 20-30,000 หน่วย ลดลงในชั่วพริบตา ก็ตกใจ


‘เฮ้อ ฉันดูถูกเขาเกินไปหรอ?’


อย่างไรก็ตามมันไม่เหมือนการเคลื่อนไหวของเขาที่แข็งตัวเพียงเพราะเขาเริ่มสับสน


ความรู้สึกควบคุมฝังอยู่ในร่างกายของเขาซึ่งคล้ายกับสัญชาตญาณของเขา ควบคุมฮัลลิและเอียนโดยอัตโนมัติ


Pung- Pu-pung-!


ในทางกลับกันหากปล่อยให้สกิลโดนอย่างถูกต้อง สกิลของเอียนและการโจมตีของฮัลลิก็เข้าเป้าได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน


 


พลังแฝงของสัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ถูกใช้งาน

‘วิญญาณแห่งการว่างเปล่า’ ติดสถานะ ‘สตั้น’ เป็นเวลา 1 วินาที

 


และโชคดีที่พลังแฝงของฮัลลิการต่อยถูกใช้งาน


และมันก็ไม่ใช่ว่าเอียนจะเสียโอกาสนี้ไป 

 

 


ตอนที่ 130

 

“ลูกบอลเวท!”


ลูกบอลเวทออกมาจากคฑาของเอียนและยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง


Pung- Pu-pung-!


เมื่อการโจมตีของฮัลลิดำเนินไปด้วยความแข็งแกร่ง พลังชีวิตของชายคนนั้นก็ลดลงกว่า 20,000 หน่วยในทันที


“เฮ้อ…”


เอียนซึ่งใช้เวทวิญญาณทั้งหมดของเขาออกมาทั้งหมดในไม่ช้าก็ถอยกลับไป


ต้องขอบคุณเวทจิตวิญญาณที่ได้รับการฟื้นฟูผ่านลูกบอลเวท เวทจิตวิญญาณของเขาจึงเพิ่มไปถึงครึ่งหลังจากนั้นไม่นาน แต่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้ตอบโต้


และชายลึกลับผู้ออกจากสถานะสตั้นในระยะเวลา 1 วินาทีจ้องมองเอียนด้วยสายตาที่ทิ่มแทง


“น่าประหลาดใจจริงๆ”


เมื่อคำเหล่านั้น เอียนตอบห้วนๆ


“อะไร?”


“ความจริงที่ว่าซัมมอนเนอร์สามารถแข็งแกร่งเช่นนี้ได้”


“…”


ซัมมอนเนอร์เป็นอาชีพที่สร้างขึ้นในภายหลังเมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพที่มีอยู่แล้ว


ความจริงที่ว่าเอียนได้มาถึงเลเวลมากกว่า 120 ในอาชีพซัมมอนเนอร์นั้นเป็นไปไม่ได้และเนื่องจากเอียนมีพลังการต่อสู้สูงกว่าเลเวล 120 ต้นๆทำให้ชานคนนั้นตกใจมาก


ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่าอาชีพซัมมอนเนอร์นั้นอ่อนแอในการ PvP ที่สุดในบรรดาอาชีพใหม่หรอ?


“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฉันก็ไม่ใช่กรณีที่เติบโตขึ้นจากสามัญสำนึกปกติเช่นกัน… ดังนั้นฉันจำเป็นต้องคิดถึงความเป็นไปได้ของมันที่ซัมมอนเนอร์จะแสดงพลังการต่อสู้ที่มากขนาดนี้?”


เอียนขมวดคิ้วเล็กน้อย


นี่เป็นเพราะแน่นอนว่าเขาแข็งแกร่ง แต่เขาคิดว่ามันไม่ถึงจุดที่เขาจะยกย่องตัวเองเช่นนั้น


‘สำหรับชายที่มีประสบการณ์ตายแล้ว ถ้าฉันมีไลและพินคงจะพูดว่า… อะไรนะ? สามัญสำนึกปกติหรอ?’


เอียนกลับมายืนอีกครั้ง


พลังชีวิตของเขาต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง ดังนั้นหลอดจึงกระพริบ แต่คู่ต่อสู้ก็เช่นกัน


“เอาชนะตัวเองและจัดการมันให้เสร็จเร็วๆ เส้นทางที่พี่คนนี้ต้องไปมันยุ่งนิดหน่อยน่ะ”


ด้วยคำพูดเหล่านั้น ชายลึกลับก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยท่าทางบิดเบี้ยว


“ฮ่าฮ่า เอาชนะตัวเองหรอ… ดูเหมือนว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดนะ”


“อะไรนะ?”


“คู่ต่อสู้ตรงหน้าแกตอนนี้ ไม่ใช่ฉัน”


เมื่อคำพูดไม่คาดคิดออกมาจากชายลึกลับ เอียนขมวดคิ้ว


“แกกำลังพูดอะไร?”


และชายลึกลับได้พูดต่อ


“สิ่งที่แกกำลังเผชิญหน้าอยู่เป็นแค่วิญญาณของฉัน”


“…?!”


“จะพูดไปแล้วน่าเสียดายจัง ฉันคิดว่าฉันจะสามารถจัดการซัมมอนเนอร์ที่น่าหัวเราะนี้ด้วยแค่วิญญาณของฉัน… ดูเหมือนว่าวันนี้จะจบลงแล้ว ฉันมีเควสต์ที่ต้องดำเนินการต่อเช่นกัน บายล่ะ”


เอียนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ


‘ลองคิดดูแล้ว ทั้งร่างของชายคนนั้นเปล่งแสงสีแดงเข้มอย่างต่อเนื่อง’


ตอนแรกในขณะที่เขาคิดว่ามันเป็นเพราะสกิลหรือบัฟ เขาจึงไม่สนใจมันมากนัก แต่หลังจากได้ยินคำพูดที่ว่ามันเป็นวิญญาณและมองมันอีกครั้ง เขาก็เริ่มเห็นจุดแปลกๆ


ณ จุดนั้น ดาบของชายลึกลับเหวี่ยงมาหาเอียนทันที


Ba-ang-!


ดาบได้ฟันอย่างรวดเร็ว


อย่างไรก็ตาม เอียนซึ่งยังคงตื่นตัวอยู่หลีกเลี่ยงการโจมตีของชายลึกลับ


เอียนขมวดคิ้ว


“ขี้ขลาด”


เมื่อเอียนกล่าวหา เขาแสยะยิ้ม


“ฉันจะผิดหวังถ้าแกโดนโจมตี”


และร่างของชายลึกลับเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ


“มันน่าเสียดายนะ แต่เราคงต้องจบกันแล้วล่ะวันนี้”


เอียนกระพริบตา


“เขาแค่ทำทุกอย่างตามที่เขาชอบ”


เอียนซึ่งกำลังวางแผนที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาและหยิบไอเทมที่ตกเนื่องจากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ อย่างไรก็ตามรู้สึกราวกับว่าเขาเสียเวลาขณะที่เขาดูวิญญาณที่กำลังหายไป


“ฮะฮะ… ขอบคุณนะมันสนุกมากเลย ดูเหมือนว่าฉันจะเจอแกอีกครั้งหนึ่งเร็วๆนี้”


เมื่อร่างของชายลึกลับหายไปในอากาศอย่างสมบูรณ์ เอียนแสดงท่าทางหดหู่


“อ๊ากก ถ้าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น แกก็ไม่ควรมาหาฉันตั้งแต่แรก!”


ในขณะที่เขาเสียเวลาและหมดพลังชีวิตของเขาไปโดยไม่ทำอะไรเลย มันเห็นได้ชัดในมุมมองของเอียนว่าเขาหงุดหงิด


อย่างไรก็ตามในทางกลับกันก็มีความอยากรู้อยากเห็นต่อคู่ต่อสู้


‘แต่มันเป็นอะไรกันแน่? เนื่องจากฉันไม่สามารถบอกได้ว่าพลังการต่อสู้ของร่างหลักวิญญาณนั่นมีเท่าไหร่…’


ถ้าร่างหลักนั้นแข็งแกร่งกว่าวิญญาณ ถ้างั้นเขาคงไม่ต่างจากที่เป็นผู้เล่นระดับสูงของอาณาจักรไคม่อน


เนื่องจากพลังของสกิลของชายลึกลับนั้นน่าทึ่งมากและสัญชาติญาณในการต่อสู้ของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก


เอียนก็รีบไปวิ่งไปที่ที่ไคซาร์ถูกผูกไว้


เขาได้รับการรบกวนที่ไม่คาดคิด แต่เควสต์คือสิ่งสำคัญอันดับแรกของเขา


“อืมม…”


อย่างไรก็ตามทันใดนั้นชายผมสีขาวผู้ซึ่งเงยหน้าขึ้นก่อนที่เอียนจะรู้ตัวและกำลังเฝ้าดูเขาก็พูดออกมา


 


กุญแจแขวนไว้หลังกำแพงหินเจ้าหนู

 


และทั้งสองมองกัน


ด้วยดวงตาสีฟ้าของเขาเอียนสะดุ้งเล็กน้อย


“กุญแจหรอครับ?”


 


ถูกต้อง เจ้าหนูจะต้องการมันเพื่อปลดล็อคเจ้านี่

 


ขณะที่เขาพูด ชายผู้นั้นสั่นก้อนโลหะหนักที่สวมมือเขาอยู่


 


เจ้าต้องรีบนำกุญแจมาแล้วล่ะ ไม่มีเวลาแล้ว

 


แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอก เอียรก็รีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว


นี่เป็นเพราะเขาเสียเวลาไปกับคนๆนั้นซึ่งไม่มีใครรู้จักตัวตนและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก


แกร๊ก-


และเมื่อมีการปลดล็อคขนาดใหญ่โดยใช้กุญแจที่เขานำมาก้อนโลหะก็หล่นลงมาที่พื้นพร้อมกับเสียงหนักแน่น


ตึง-


ชายคนนั้นกำและแบมือทั้งสองข้างซ้ำๆซึ่งกลายเป็นอิสระและพึมพำด้วยเสียงต่ำ


 


อืมม… มันก็สิบปีมาแล้ว…

 


เอียนถาม


“เอ่ออ ผมจะสามารถปลดโซ่ที่ผูกไว้รอบๆเอวคุณได้ยังไง?


มือทั้งสองของเขาเป็นอิสระ แต่ก็ยังมีโซ่โลหะพันอยู่รอบเอวของเขา


หลังจากได้ยินคำพูดของเอียน เขาแสยะยิ้มและจับโซ่ด้วยสองมือของเขา


Ooh-deu-deuk-.


ในขณะที่มองไปที่ชายผู้ซึ่งทุบโซ่ด้วยมือทั้งสองข้างอย่างน่าประหลาดใจและหลบหนีออกมาจากมัน เอียนก็แสดงออกอย่างงุนงง


‘อะไรกัน มีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่ด้วยหรอเนี่ย?’


ชายที่เข้ามาหาเอียนที่งุนงงได้ถามคำถามแก่เขา


 


เจ้าหนู ให้อาวุธที่เจ้ามีให้ฉันหน่อย ถ้ามันเป็นดาบจะดีที่สุดเลย

 


เอียนกลืนน้ำลายเสียงดัง


‘นี่ไม่ใช่การปล้นแบบใหม่หรอ?’


However, he couldn’t find the courage to talk back to the monster that crushed a metal chain with his bare hands.


อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีความกล้าหาญที่จะพูดคุยกับสัตว์ประหลาดที่บดโซ่โลหะด้วยมือเปล่าของเขา


“ระ รอสักครู่ครับ ผมน่าจะมีอยู่”


เขาจำได้ว่าเขามีดาบใหญ่ระดับ Legendary ที่เขาได้รับมาจากออร์วิลเมื่อไม่นานมานี้ ไม่เพียงแต่เขาจะเสียใจที่ได้ให้มัน มันเป็นไอเทมผูกบัญชีไม่ว่ายังไงก็ตาม


เอียนดึงดาบใหญ่ระดับ Unique จากคลังของเขาที่ปรากฎขณะที่เขาล่าเมื่อไม่นานมานี้และถือมันให้แก่เขา


 


เป็นดาบที่ค่อนข้างดีถ้ามันเป็นเช่นนี้

 


และชายที่พยักหน้าก่อนจะพูดกับเอียน


 


จากนี้ไปฉันจะดูแลมันเอง ดังนั้นออกไปและช่วยนักโทษคนอื่นซะ

 


“อะไรนะครับ…?”


เอียนซึ่งคิดว่าเขาจะสามารถดำเนินเควสต์ต่อไปได้ง่ายขึ้นนิดหน่อยผ่าน NPC ที่แข็งแกร่ง เขาก็แสดงออกอย่างงุนงงเมื่อเขาจ้องมองชายคนนั้น


อย่างไรก็ตามจากนั้น ประตูเหล็กตรงข้ามกับกำแพงหินที่เอียนเข้ามาเปิดขึ้นขณะที่ส่งเสียงดัง


ปัง-!


และมีชายปรากฏออกมา


เขาสวมรอยยิ้มเมื่อเขามองไปยังทั้งสองคนและออกมา


 


จิ๊ จิ๊ มีหนูแอบเข้ามา

 


ชุดเกราะสีเงินสลักด้วยสัญลักษณ์ของอาณาจักรไคม่อน


และดาบใหญ่ที่เปล่งแสงสีฟ้า


ขณะที่ชายสวมชุดเกราะสีเงินราโครมจ้องมองเอียนและยกดาบขึ้น ชายผู้ยืนนิ่งมาจนถึงตอนนี้ดึงดาบที่เขาได้รับจากเอียนและปิดกั้นเส้นทางของราโครม


 


คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน ราโครม

 


ชายคนนั้นราโครมแสยะยิ้มเมื่อไคซาร์พูดและตอบกลับ


 


มันแตกต่างจากสิบปีที่แล้วนะ แต่แกคิดว่าแกจะสามารถเผชิญหน้ากับฉันได้หรอไคซาร์

 


ถ้าไม่ใช่สิบแต่เป็นร้อยปี แกก็เอาฉันไม่ลงหรอกราโครม

 


หวึ่งง-!


ในเวลาเดียวกันกับที่การสนทนาของทั้งสองคนดำเนินต่อไป เสียงสะท้อนขนาดใหญ่ก็แข็งแรงพอที่จะทำให้คุกหินทั้งหมดสั่นสะเทือนกระจายออกไปพร้อมกับคนสองคนซึ่งเป็นศูนย์กลางของมันและเอียนก็ใช้โอกาสนั้นและรีบหนีออกมาจากคุกหิน


‘ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร แต่ก่อนอื่นมาช่วยนักโทษที่เหลือแล้วค่อยคิดเกี่ยวกับมัน’


และเมื่อเอียนหลบหนีมาข้างนอกคุกหินแล้ว ข้อความระบบแจ้งเตือนสถานการณ์ความคืบหน้าของเควสต์โผล่ขึ้นมา


กริ๊ง-


 


เควสต์ ‘ช่วยนักโทษสงคราม’

อัตราความคืบหน้า – 1/77 (1.29%)

อัตราความสำเร็จตามเงื่อนไขที่กำหนด – 1/2 (50.00%)

 


“หัวหน้าทีมลี เราต้องออกอากาศตอนนี้ ดังนั้นรีบเตรียมพร้อม!”


“ครับ เราเกือบจะเสร็จสิ้นการตั้งค่าแล้ว แต่เราจะส่งสิ่งที่ถ่ายโอนไปจาก LB อย่างที่เป็นอยู่โดยไม่ต้องมีการประมวลผลหรือไม่?”


“เวลาที่จะแก้ไขวิดีโอและเนื้อหาตอนนี้อยู่ที่ไหน? แค่ส่งมันทันทีที่เข้ามาผู้ชมที่อยากรู้เกี่ยวกับการอัปเดตครั้งที่ 2 จะรวมตัวกันที่ช่องทางที่ให้บริการได้อย่างรวดเร็วที่สุด”


YTBC เป็นบริษัทออกอากาศที่มีราคาหุ้นสูงที่สุดเมื่อเร็วๆนี้ท่ามกลางช่องรายการเกม


นี่เป็นวันที่คึกคักที่สุดในเดือนนี้สำหรับพนักงานในบริษัทกระจายเสียง


เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาได้รับตัวอย่างจาก LB Sports สำหรับการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งที่สองของเกม ‘ไคลัน’


ส่วนที่น่าสนใจคือโดยปกติแล้วในกรณีของวิดีโอตัวอย่างสำหรับเกม มันเป็นเรื่องปกติที่ภาพยนตร์วิดีโอที่บริษัทผู้ผลิตวิดีโอส่วนตัวส่งออก แต่วิดีโอตัวอย่างสำหรับการอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองนี้ใช้วิธีที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง


วิธีการนั้นก็คือวิดีโอเวอร์ชั่นต่างๆที่ถ่ายทำในมุมมองของ NPCs ภายในเกมที่เป็นศูนย์กลางของการอัพเดทครั้งที่ 2 จะถูกถ่ายทอด


วิดีโอที่ LB Sports ส่งออกไปยังบริษัทกระจายเสียงแต่ละแห่งล้วนแล้วแต่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ NPC ที่แตกต่างกันและเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกสำหรับวิธีการเช่นนี้ผู้ดำเนินการทางเศรษฐกิจของบริษัทกระจายเสียงก็สับสน


“เราจะเริ่มการออกอากาศใน 20 วินาที…!”


“โอเค! เริ่มนับถอยหลัง!”


“13… 12… 11…”


 


* * *


 


หากคิดว่าสงครามอาณาจักรครั้งแรกในรอบสิบปีจะเริ่มต้นด้วยการรบทางเรือ หัวใจของแกไม่สั่นไหวใช่มั้ย โรสเตอร์

 


ฉันคือพลเรือเอก ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะแสดงศักยภาพของกองทัพเรือของเราซึ่งเราได้ทำการขัดเกลาตั้งแต่นั้นมา

 


สิ่งที่ดูเหมือนจะง่ายเกี่ยวกับเรือรบจำนวนมากที่เติมทะลเต็มไปด้วยสีดำ และบนสมอของเรือรบสัญลักษณ์ของอาณาจักรไคม่อนนั้นประทับอยู่


 


โรสเตอร์ คุณบอกว่ามีเรือรบลัสเปลกี่ลำที่เข้ามาใกล้เกาะปาสคาลนะ?

 


เรือเกเลี่ยนสามลำครับพลเรือเอก

 


ผู้บัญชาการเรือยืนสง่างามอยู่กลางกองเรือขณะที่มันผ่าน้ำออกไป


ซูมมม-!


คนสองคนที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าได้แบ่งปันการสนทนาด้วยการแสดงออกที่ผ่อนคลาย


คนที่ยืนข้างหลังนิดหน่อยและได้รับคำพูดคือโรสเตอร์กัปตันกองเรือที่ 1 ของอาณาจักรไคม่อนและชายผมสีดำที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือฮาร์วินพลเรือเอกแห่งไคม่อน


 


เรือเกลเลี่ยนสามลำหรอ… นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชายที่เงียบมาจนถึงตอนนี้เคลื่อนไหวอย่างชัดเจน

 


เป็นไปได้มากว่าเป็นเพราะออราเคิลใช่ไหมครับ?

 


“โอ้…!”


มันเป็นตอนเย็นวันศุกร์ที่ร้อนแรง


ฮันซูผู้มาที่ร้านอาหารไก่เพื่อเฉลิมฉลองการไม่ทำงานล่วงเวลาเป็นครั้งแรก ออกมาร้องอุทานเมื่อเขาดูทีวีที่แขวนอยู่บนผนังของร้านอาหาร


“นั่นไม่ใช่ไคลันหรอ? วิดีโออะไรน่ะ?”


สำหรับเพื่อนที่ถามในขณะที่เขานั่งข้างเขาจิบเบียร์ ฮันซูตอบกลับอย่างรวดเร็ว


“นั่นสิ มันเป็นวิดีโอไคลัน มันคือช่อง YTBC เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังออกอากาศวิดีโอตัวอย่างสำหรับการอัปเดตครั้งที่สอง ดังนั้นฉันคิดว่ามันเป็นอย่างนั้นแหละมั้ง? “


มินกิวผู้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหันหน้าไปที่การสนทนาของคนสองคนแล้วจ้องไปที่ทีวี


“ฮ่า ดูเหมือนว่าจะเป็นฉากภาพยนตร์ประเภทหนึ่งเมื่อมองดูธงนั้นมันจะต้องเป็นเรือรบอาณาจักรไคม่อน”


เรือรบอันงดงามตระการตา


และในขณะที่ดูวิดีโอคุณภาพสูงของไคลันที่ใช้รายละเอียดเล็กน้อยของการต่อสู้อย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาลืมที่จะฉีกไก่ของพวกเขาและเริ่มถูกแช่ในวิดีโอ


“พวกเขาวางแผนที่จะต่อสู้กับกองทัพเรือกับอาณาจักรหรอ?”


“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น… เอ่อ ฉันเป็นประชาชนลัสเปล แต่ผลลัพธ์ของสงครามจะส่งผลกระทบต่อผู้เล่นปกติเช่นกันหรือไม่?”


“อาจจะไม่นะ? หากสมดุลถูกทำลายเกมจะน่าเบื่อ… ไม่มีทางที่บริษัทเกมจะทำให้เป็นเช่นนั้น “


เรือรบในหน้าจอค่อยๆเริ่มเข้ามาระหว่างเกาะจำนวนมากและหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มที่จะทอดสมอที่เกาะหนึ่ง


และการต่อสู้ได้เริ่มขึ้น


ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวมันไม่ได้เป็นแค่พวกเขา แต่สายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารไก่ต่างก็ติดอยู่ที่ทีวี 

 

 


ตอนที่ 131

 

ในไม่ช้า เกาะปาสคาลจะกลายเป็นความบ้าคลั่ง


ผ่านการต่อสู้ของไคซาร์และราโครมทั้งสองสิ่งมีชีวิตที่สุดยอดนั้นพื้นที่ทั้งหมดถูกพังลงเป็นเถ้าถ่าน


การได้รับโอกาสนั้น เอียนสามารถทำเควสต์ของเขาได้ง่ายขึ้น


Chul-kung-


“เอาล่ะ ออกมาทางนี้ทุกคน! ถ้าคุณลงไปทางทิศใต้เรือเกลเลี่ยนจะต้องจอดอยู่ที่นั่น!”


ในขณะที่เอียนเปิดประตูคุกด้วยกุญแจที่เขาได้รับหลังจากฆ่าผู้คุม นักโทษที่ถูกขังไว้ในห้องรุมออกมา


 


โอ้ ขอบคุณนะ

พระราชายังไม่ลืมพวกเรา!

 


เอียนซึ่งกำลังขี่ฮัลลิรีบไปรอบๆทุกมุมของคุกอย่างรวดเร็วขณะที่เขาช่วยนักโทษของอาณาจักรลัสเปล


เพื่อไปยังจุดศูนย์กลางของคุกพวกเขาจำเป็นต้องผ่านเส้นทางที่มีการติดตั้งที่ซับซ้อนเหมือนเขาวงกต แต่เนื่องจากโครงสร้างของพื้นที่ตรงกลางเป็นแบบวงกลมและง่ายกว่าในการเปรียบเทียบ ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่นานเพื่อค้นหานักโทษ


กริ๊ง-


 


เควสต์ ‘ช่วยเหลือนักโทษสงคราม’

อัตราความคืบหน้า – 52/77 (67.53%)

อัตราความสำเร็จตามเงื่อนไขที่กำหนด – 1/2 (50.00%)

 


ในขณะที่ดูข้อความที่โผล่ขึ้นมา เอียนก็พึมพำในใจ


‘สำหรับอัตราความก้าวหน้า ฉันรู้ว่ามันเป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนนักโทษที่ได้รับการช่วยเหลือ… แต่เงื่อนไขที่ต้องการคืออะไร? มีอะไรอีกบ้างที่นอกเหนือจากการช่วยเหลือไคซาร์?’


แม้ในขณะที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเอียนก็ตรวจสอบสถานการณ์ของสงครามอย่างต่อเนื่อง


ในตอนแรกเนื่องจากความอ่อนแอของพวกเขาในเชิงตัวเลขสถานการณ์สงครามดูไม่เอื้ออำนวย แต่ผ่านการเข้าร่วมของนักโทษที่ได้รับการช่วยเหลือและเรือเกลเลี่ยนทั้งสามลำสถานการณ์พลิกกลับ


ปัง- ปัง-!


เสียงปืนใหญ่ดังออกมาจากทุกทิศทุกทาง


“บุก! ยิงพวกขยะจนตาย!”


“ย๊าาา…!”


กองกำลังสนับสนุนของอาณาจักรลัสเปลเข้าไปในคุกอย่างท่วมท้นและต้องขอบคุณที่สิ่งนั้น แม้แต่เอียนซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่แยกออกมาก็สามารถหายใจได้สะดวก


‘เอาล่ะ ทุกคนประสบความสำเร็จในการบุกเข้าไปในพื้นที่ด้านในหรือไม่?’


เอียนหันกลับมามองดูใบหน้าของสัตว์เลี้ยง ซีเรียและพอลลีน


และสุดท้ายในขณะที่เขาตรวจสอบใบหน้าของลอว์เร้นท์กัปตัน เอียนรู้สึกโล่งใจเป็นครั้งแรก


‘เฮ้อ ใกล้จบแล้วสินะ?’


เอียนซึ่งมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือนักโทษอยู่พักหนึ่งตรวจสอบอัตราความคืบหน้าของเขาเล็กน้อย


 


อัตราความคืบหน้า – 72/77 (93.50%)

 


เหลือนักโทษอีกแค่ห้าคนเท่านั้น


เพียงแค่เอียนซึ่งสามารถผ่อนคลายได้เล็กน้อยในตอนนี้กำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกข้อความของระบบ (?) โผล่ขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง


 


เหตุการณ์ไม่ปกติ! กองกำลังสนับสนุนของอาณาจักรกำลังเข้าใกล้คุกปาสคาล

เวลาที่เหลือจนกว่ากองการสนับสนุนของ Kaimon Empire จะมาถึง – 00:12:54

ก่อนที่ฮาร์วินพลเรือเอกแห่งกองทัพเรือของอาณาจักรไคม่อนจะมาถึงที่คุกปาสคาลนักโทษทุกคนจะต้องอยู่บนเรือเกลเลี่ยนเพื่อให้บรรลุตามเงื่อนไขที่กำหนดทั้งหมด

 


ตัวตนของเงื่อนไขที่ต้องการที่เอียนไม่ทราบว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เควสต์สำเร็จถูกเปิดเผย


 


“… กองกำลังสนับสนุนของอาณาจักรไคม่อน? เราไม่ได้มาที่นี่อย่างลับๆหรอ?”


เอียนบ่นว่า ‘ไม่มีทางที่มันจะง่ายขนาดนี้’ หลายสิบครั้งกับตัวเขาเอง ในขณะที่เขาขึ้นไปบนหลังของฮัลลิและวิ่งไปอย่างบ้าคลั่งไปที่คุกสุดท้ายที่สามารถมองเห็นได้ที่ปลายทางเดิน


‘อ๊ากกก พวกเขาคาดหวังให้ฉันพาคนห้าคนขึ้นเรือภายใน 12 นาทีได้ยัง!?’


จะไม่มีปัญหาในการช่วยชีวิตพวกเขา


ปัญหาคือไม่ว่าเขาจะย้ายนักโทษออกจากคุกไปยังชายฝั่งทางใต้อย่างรวดเร็วเพียงใดเรือก็จอดทอดสมอและใช้เวลา 15 นาที


อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี


เอียนแค่ต้องกันกองกำลังสนับสนุนของไคม่อนด้วยตัวเอง


‘ฉันจะสามารถกันพวกเขาไว้ได้หรอ…?’


หากเขาต้องกันกองทัพเรือของอาณาจักรไคม่อนจากการไปถึงคุกปาสคาลเป็นเวลา 5 นาที นักโทษควรจะสามารถหลบหนีออกจากคุกได้อย่างปลอดภัยและขึ้นเรือเกลเลี่ยนที่ทอดสมอไว้ได้


‘เนื่องจากฉันไม่รู้ว่ากองกำลังสนับสนุนของคู่ต่อสู้ใหญ่ขนาดไหน’


ความจริงที่ว่าเป็นไปได้ว่าจะไม่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ในการรู้ขนาดของกองเรือสนับสนุน


เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่เอียนจะซื้อเวลาเพียงลำพังแม้ว่ากองเรือจะเป็นเพียงหนึ่งหรือสองลำก็ตาม


อย่างไรก็ตามจากนั้น


ความคิดดีๆโผล่มาในหัวของเขา


 


* * *


 


ไอ้ขี้ขลาด…!

ร่างกายของราโครมทรุดตัวลงอย่างช้าๆ


เอียนซึ่งเข้ามาใกล้ไคซาร์และราโครมอย่างใกล้ชิดการต่อสู้อย่างใกล้ชิดแทรกซึมจากด้านหลังและยิงลูกบอลเวทอย่างต่อเนื่อง


และผลของมันประสบความสำเร็จอย่างมาก


เนื่องจากพลังการต่อสู้ของไคซาร์และราโครมอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ถึงแม้น้ำหนักการโจมตีเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สถานการณ์สงครามจึงเปลี่ยนไปในทันที


แน่นอนความจริงที่ว่าความแข็งแกร่งของราโครมค่อนข้างจะเหนื่อยล้าเนื่องจากการต่อสู้ที่ยาวนานเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาทรุดตัวลงได้อย่างง่ายดาย


“ไอ้ขี้ขลาด ไอ้โง่ ตั้งแต่ตอนไหนที่ห้ามคนขี้ขลาดในสงคราม? ตราบใดที่คุณชนะนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”


หลังจากเยาะเย้ยที่ราโครมซึ่งกำลังจะตาย เอียนก็พูดกับไคซาร์อย่างเร่งด่วน


“ไคซาร์ช่วยผมหน่อย”


เมื่อเอียนพูด ไคซาร์ถามด้วยความงุนงง


ดูเหมือนว่าเขาจะผิดหวังที่เขาไม่สามารถจบด้วยการชนะในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่เหมาะสมเนื่องจากเสียงของเขาเบาลง


 


เจ้าหมายความว่าอะไร?

 


“เควส… ไม่สิ กองเรือของอาณาจักรไคม่อนจากทางตะวันออกกำลังพยายามลงจอด เราต้องปิดกั้นพวกเขาจนกว่านักโทษจะขึ้นเรืออย่างปลอดภัย”


เมื่อคำเหล่านั้น ตาทั้งสองของไคซาร์เบิกโพลงเล็กน้อย


 


ไม่นะ อาณาจักรไคม่อนรู้ได้ยังไงและเตรียมพร้อมการส่งกำลังเสริมล่ะ…?

 


“เนื่องจากขนาดค่อนข้างใหญ่จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะจัดการเพียงคนเดียว ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณไคซาร์”


แผนการที่เอียนคิดนั้นเป็นแบบนี้


หากเขาสามารถมีไคซาร์ซึ่งแข็งแกร่งจนพลังการต่อสู้ของเขาไม่สามารถเดาได้กับเขาเขาคิดว่ามีโอกาสชนะพอสมควร


กัปตันลอว์เร้นท์และและอัศวินพอลลีนด้วยกองกำลังสนับสนุนเช่นนั้น พวกเขาควรจะสามารถซื้อเวลากับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเพียงพอในฐานะกองเรือของไคม่อน


ไคซาร์พยักหน้าอย่างเต็มใจ


 


เอาล่ะ ฉันจะไป อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่มีดาบนอกจากอันนี้หรอ?

 


“อะไรนะครับ?”


ไคซาร์ยกดาบระดับ Unique ขึ้นมาเล็กน้อยซึ่งเขาได้รับจากเอียนขณะที่เขายิ้มอย่างเขินอาย


 


ตามที่เจ้าเห็น มันพังแล้ว

 


ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือดกับราโครมความทนทานของไอเทมนั้นได้หมดลงอย่างสมบูรณ์และหัก


เอียนแสดงท่าทางงุนงง


‘ไม่นะ ฉันไม่ได้ซ่อมมาก่อนดังนั้นจึงไม่มีความทนทานเหลืออยู่มาก… แต่มันก็ไม่ถึงจุดที่จะทำให้หมดลงอย่างรวดเร็ว…’


ในไคลัน ตราบใดที่ความทนทานของไอเทมไม่ได้หมดลงก็สามารถซ่อมแซมและใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้ามันหมดลงอย่างสมบูรณ์เพียงครั้งเดียวมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูมัน


อีกนัยหนึ่ง นั่นหมายความว่าดาบที่อยู่ในมือของไคลันกลายเป็นเศษโลหะที่ไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์แล้ว


‘เอ่อ… ถึงกระนั้นถ้าฉันวางไว้ในโรงประมูล มันเป็นไอเทมที่ฉันจะได้รับทองประมาณ 200,000 หน่วย…’


เสียงถอนหายใจออกมาจากปากของเอียนโดยอัตโนมัติซึ่งเสียเงินทันที


“เฮ้อ…”


อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะผิดหวังเพียงใดคนที่ผิดหวังในตอนนี้ไม่ใช่ไคซาร์แต่เป็นเอียน


เอียนเริ่มควานหาในคลังของเขา


‘ในบรรดาไอเทมที่เหลือมีดาบที่มีประโยชน์อยู่ไหม?’


อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะมองหามากเท่าไหร่ ดาบใหญ่ที่เขามีอยู่ในไอเทมของเขาก็คือไอเทมระดับ Legendary ที่เขาได้รับจากการต่อสู้กับออร์วิล ‘ดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืด’


‘เอ่อ อะไรวะเนี่ย ใครจะไปรู้ น่าจะมีวิธีบางอย่างสิ’


เมื่อดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืดเป็นไอเทมผูกกับบัญชี ไคซาร์ไม่สามารถใช้มันได้อย่างแน่นอน แต่เอียนหยิบไอเทมนี้ออกมาก่อน


“ผมมีสิ่งนี้ครับ…”


เอียนพูดจบประโยคของเขาในขณะที่เขายกดาบใหญ่ขึ้น


และตาทั้งสองของไคซาร์ที่เห็นไอเทมระดับ Legendary ที่ล้นทะลักด้วยความเย้ายวนใจส่องประกาย


 


โอ้… มันก็นานมาแล้วตั้งแต่ที่ฉันได้เห็นดาบที่ดีเช่นนี้

 


“แต่มันมีหนึ่งปัญหาครับ”


 


ปัญหาหรอ?

 


“ดาบนี้เป็นไอเทมที่ผูกบัญชีของผม คุณอาจจะไม่สามารถใช้มันได้ไคซาร์”


ตาทั้งสองของไคซาร์รู้สึกผิดหวัง


 


อืมม… ไม่มีทางจริงๆหรอ? หากเป็นดาบเล่มนั้นแน่นอนว่ามันจะไม่พังในการฆ่ามือใหม่ของไคม่อน…

 


เอียนตอบโดยไม่คิดมาก


“ยังมีวิธีครับ”


 


มันคืออะไรล่ะ?

 


“คุณแค่ต้องมาเป็นผู้ติดตามของผม เนื่องจากผู้ติดตามสามารถใช้ไอเทมที่ผูกบัญชีของผมได้”


 


โอ้ จริงหรอ?

 


“…?”


เอียนแสดงท่าทางงุนงง


‘จริงหรอเนี่ย? เขากำลังพูดอะไรอยู่ว่าเขาเต็มใจที่จะเข้ามาเป็นผู้ติดตามของฉันหรือว่าอะไร’


ไคซาร์เป็น NPC ที่มีความสำคัญจนถึงจุดที่หัวหน้ากองทหารองค์รักษ์ เฮลเลี่ยมยังกล่าวอีกว่าเขาเป็นคนที่จำเป็นอย่างยิ่งในการชนะสงคราม


นอกจากนี้เขายังแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจจนถึงจุดที่พลังการต่อสู้ของเขาถูกตรวจสอบด้วยตาทั้งสองข้างนั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้


ไม่มีทางที่เขาซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นขุนนางชั้นสูงหรืออัศวินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ของอาณาจักร สามารถเป็นผู้ติดตามของเอียนได้


อย่างไรก็ตามในขณะนั้นข้อความของระบบที่เอียนไม่เชื่อว่าโผล่ขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเขา


 


‘นักดาบไร้พ่ายไคซาร์’ ต้องการจะเป็นผู้ติดตามของท่าน

 


“…?”


เอียนหันหัวไปทางไคซาร์ด้วยท่าทางงุนงง


ไคซาร์กดดันเอียน


 


เจ้ากำลังทำอะไรอยู่แทนที่จะกดยอมรับมันล่ะ? ไม่มีเวลาแล้ว

 


“ไคซาร์ คุณไม่ใช่ขุนนางหรอครับ?”


เอียนคิดว่าไคซาร์จะเป็นขุนนางระดับสูงกว่าเขาแน่นอน


อย่างไรก็ตามการตอบสนองของเขาที่ตามมาคือไฮไลท์


 


ฉันเป็นสามัญชน

 


“…”


‘ไม่นะ สามัญชนประเภทใดที่พูดอย่างไม่เป็นทางการกับขุนนางอย่างเป็นธรรมชาติ?’


เอียนบ่นกับตัวเอง แต่เพื่อที่จะยอมรับข้อเสนอของไคซาร์อย่างรวดเร็วเขาก็ดึงตราประทับของลอร์ดออกมา


“คุณไม่สามารถย้อนกลับได้แล้วนะ”


เมื่อเอียนพูด ไคซาร์ตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจ


 


ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำได้ดีแค่ไหน

 


“ฮะ…”


เสียงถอนหายใจออกจากปากของเขาโดยอัตโนมัติ แต่ในขณะที่เขาไม่สามารถทิ้งโอกาสที่จะได้รับผู้ติดตามอย่างไม่น่าเชื่อเช่นเขา เขาก็ดำเนินการตามสัญญาทันที


หวึ่งงงง-


แสงที่ส่องออกมาจากผนึกที่เอียนถือบนมือของเขาและซึมเข้าไปในข้อมือของไคซาร์


 


ท่านได้รับ ‘นักดาบไร้พ่ายไคซาร์’ เป็นผู้ติดตาม

เมื่อผู้ติดตามไคซาร์ระดับความสามารถคือระดับ ‘Mythological สถานะปัจจุบันของเขาคือระดับ ‘Legendary’

สถานการณ์ปัจจุบันของผู้ติดตามของเอียน : 6/20

 


และเอียนที่ตรวจสอบข้อความระบบ ตะโกนออกมาด้วยความดีใจจากข้างใน


‘ระ ระดับ Mythological ? นี่มันบ้าไปแล้ว…!


เมื่อระดับความสามารถของซีเรียเป็นระดับ Heroic เขาจึงคาดหวังให้ระดับของไคซาร์อยู่ในระดับ Legendary แต่หลังจากตรวจสอบคำพูดที่เป็นระดับ Mythological จริงๆ มันเยี่ยมยอดจริงๆ


‘ค่าสถานะของเขาสูงขนาดไหนเนี่ย?’


ในขณะที่เขากำลังตรวจสอบค่าสถานะของไคซาร์ด้วยความดีใจ ไคซาร์ก็รีบคว้าดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืดที่ถือไว้ในมือของเอียนและร่างของเขาออกไปนอกคุกทันที


 


ท่านได้ให้ไอเทม ‘ดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืด’ แก่ผู้ติดตาม ‘ไคซาร์’

 


เมื่อตามด้วยข้อความระบบที่โผล่ขึ้นมา เอียนไม่สามารถึงจุดที่งุนงงจนไม่สามารถปฏิเสธได้


‘ไม่นะ ให้เขาหรอ นี่มันการขโมย มันคือการให้ตรงไหนเนี่ย!


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่มีเวลาสำหรับเอียนที่แม้แต่จะโกรธ


และด้วยไอเทมระดับ Legendary แลกกับที่เขาได้รับ NPC ระดับ Mythological ความจริงที่ว่ามันไม่น่าเสียดายเลย


 


ท่านลอร์ด ท่านพูดว่าไม่มีเวลาแล้ว รีบเร็ว

 


ในการตำหนิของไคซาร์ เอียนตามเขาด้วยอาการบูดบึ้ง


‘ไม่นะ ผู้ติดตามประเทศไหนเขาเป็นแบบนี้เนี่ย?’


เอียนตามไคซาร์ขณะที่เขายังบ่นกับตัวเอง


อย่างไรก็ตาม เอียนที่ตรวจสอบเลเวลของไคซาร์อย่างล่าช้า ช่วยไม่ได้ที่เขาจะตามหลังของเขาไปอย่างเงียบๆ


 


นักดาบไร้พ่ายไคซาร์ เลเวล 246 

 

 


ตอนที่ 132

 

“อืมม ดูสิใครมาไม่ใช่ไคซาร์หรอน่ะ?”


โรสเตอร์กัปตันกองเรือที่ 1 ของอาณาจักรไคม่อน


เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย


นี่เป็นเพราะเขาเห็นใบหน้าที่คาดไม่ถึงทันทีที่เขาลงจอดบนปาสคาล


“โฮะโฮะ ไม่ได้เจอกันนานโรสเตอร์”


ขณะจ้องมองที่แขนขวาของโรสเตอร์ที่ห้อยต่องแต่ง ไคซาร์ยิ้ม


โรสเตอร์ที่กลายเป็นแขนเดียวด้วยดาบของไคซาร์เมื่อสิบปีที่แล้ว เกลียดเขาอย่างไม่น่าเชื่อ


“ความจริงที่ว่าแกยืนอยู่ที่นี่… ต้องหมายความว่าเราช้าไปหนึ่งก้าว”


“ถูกต้อง ไม่ใช่แค่ก้าวเดียวแต่พวกแกมาช้ามาก”


“ช่างดาบตายแล้ว…”


โรสเตอร์พูดกับตัวเอง


ช่างดาบที่เขาพูดหมายถึงราโครมที่ถูกฆ่าโดยไคซาร์


และเอียนซึ่งมาถึงที่ชายหาดด้านหลังของไคซาร์อย่างล่าช้าก็ลงมาจากด้านหลังของฮัลลิ


เอียนที่หยุดอยู่ที่สมรภูมิแล้ว นำพินและไลมาด้วย


“อืมม ไอ้เด็กนั่นใครน่ะไคซาร์?”


เมื่อโรสเตอร์ถาม ไคซาร์แสยะยิ้มเมื่อเขาตอบ


“เขาเป็นเจ้าหนูลอร์ดของพวกเราน่ะ”


ใบหน้าของเอียนซึ่งได้ยินจากด้านหลังได้ย่นลง แต่มันไม่เหมือนกับไคซาร์ที่ให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆ


“…?”


โรสเตอร์จ้องไปที่เอียนด้วยความงุนงง


โดยไม่คำนึงถึงสิ่งนั้น ไคซาร์ถอดปลอกดาบของเขาออกแล้วยกขึ้น


Seu-reu-reung-!


ดาบใหญ่สีดำระดับ Legendary เริ่มส่องแสงสีขาวด้วยแสงพระอาทิตย์ที่สะท้อนบนมัน


โรสเตอร์จ้องไปที่ไคซาร์


“แม้ว่าจะเป็นแก มันก็มากเกินไปสำหรับแกที่จะเผชิญกับกองกำลังจำนวนมากขนาดนี้…”


อย่างไรก็ตาม ไคซาร์ไม่แสดงความสนใจและเดินไปข้างหน้าทีละก้าว


ตึง- ตึง-


และหลังจากยกดาบขึ้น เขาเหวี่ยงมันไปบนอากาศด้วยพลังทั้งหมดของเขา


ตู้มม-!


เสียงคล้ายกับการระเบิดออกมาหลังจากนั้น


ที่หาดทรายหน้ากองเรืออาณาจักรมีร่องขนาดใหญ่ขุดอยู่ด้านข้าง


ไคซาร์ยิ้ม


“ถ้าแกข้ามนี่มา แกจะต้องตายโรสเตอร์”


ขณะมองไปเช่นนั้น เอียนที่ยืนอยู่ด้านหลัง กลืนน้ำลายแทน


‘ผู้ติดตามของเราเต็มไปด้วยพลัง…!’


อย่างไรก็ตามจากนั้น ชายคนหนึ่งลงจากเรืออาณาจักรไคม่อนที่ทอดสมอลง


ดังนั้นไคซาร์และเอียนก็หันกลับมามองเขาตามธรรมชาติ


นี่เป็นเพราะไคซาร์รู้จักเขา ส่วนเอียนมันเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเขาช่างน่าทึ่งจริงๆ


‘อะไรวะเนี่ย ชายคนนั้นโคตรเท่ห์เลย!’


ชุดทหารเรือสีแดงสดและผมสีขาวที่เติบโตอย่างมีสไตล์เช่นเดียวกับหนวดสีขาว


เอียนมองดูเขาด้วยความสนใจในรูปแบบของชายคนนั้นซึ่งสามารถรู้สึกถึงออร่าจากระยะไกล


คนที่พูดก่อนภายในความเงียบคือไคซาร์


และแตกต่างจากอดีตจนถึงปัจจุบันสีหน้าของไคซาร์ดูจริงจังมาก


“ฮาร์วิน… ตามความจริงแม้แต่ว่าคุณก็มาหรอไอ้แก่ นี่วางแผนไว้หรอ”


เมื่อไคซาร์พูด โรสเตอร์โกรธ


“อย่าพูดอย่างไร้ความคิดไคซาร์ เขาเป็นพลเรือเอก”


“นั่นเป็นพลเรือเอกของนายที่ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”


ฮาร์วินเดินออกมาข้างหน้าอย่างช้าๆ


พอลลีน, ซีเรียและคนอื่นๆ ที่นำการต่อสู้ในคุกไปสู่ชัยชนะในช่วงเวลานั้นเช่นเดียวกับกองกำลังสนับสนุนของอาณาจักรลัสเปลรวมตัวกันด้านหลังเอียนทีละคน


สถานการณ์ปะทุขึ้น


เอียนหันไปมองกองทหารของอาณาจักรไคม่อนซึ่งดูเหมือนจะประมาณว่าเป็นพันคน


‘พวกเขามีมากมายจริงๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีกองทหารมากกว่าของเราประมาณสิบเท่า…’


สิ่งที่โชคดีคือเส้นทางสู่คุกจากชายทะเลนั้นไม่กว้างนัก ดังนั้นจะไม่มีสถานการณ์ที่ทหารจำนวนมากปะทะกันทันที


มันเป็นภูมิประเทศที่ไม่สามารถช่วยได้ที่จะเสียเปรียบ


ระหว่างนั้น เอียนจำไข่ของคาร์เซอุสซึ่งเขาเก็บไว้ในคลังได้อย่างดี


‘หากกองกำลังทั้งหมดนั้นถูกฆ่า จากนั้นไข่ของเทพมังกรอาจฟักออกมาได้’


และเป็นครั้งแรกที่เขาตรวจสอบข้อมูลของไข่ของคาร์เซอุส


 


* * *


 


ไข่ของคาร์เซอุส

เลเวล : 0


ประเภท : ไข่


ระดับ : Legendary (แฝง)


บุคลิกภาพ : ไม่ทราบ


ฟักไข่ (28%)


ไข่ที่คาร์เซอุสซึ่งเป็นเทพมังกรที่มีอยู่ในตำนานทิ้งไว้ข้างหลัง


ไข่ของคาร์เซอุสเริ่มฟัก


สำหรับมังกรสงครามคาร์เซอุสที่จะฟักออกจากไข่ มันต้องการความแข็งแกร่งของสงครามที่ทรงพลัง


เมื่อใดก็ตามที่ซัมมอนเนอร์ที่ครอบครองไข่เอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง คาร์เซอุสจะได้รับความแข็งแกร่งเล็กน้อยและในที่สุดก็ฟักออกจากไข่


มีการระบุอย่างชัดเจนว่าด้วยฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่ง แต่อัตราการฟักไข่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเขาเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์มากกว่าตอนที่เขาฆ่ามอนสเตอร์


สิ่งนี้สามารถบอกได้จากการดูที่อัตราการฟักไข่ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% เมื่อมันอยู่ในช่วงต้น 20% จนถึงก่อนที่การต่อสู้กับผู้คุมเรือนจำจะเสร็จสิ้น


เอียนเพิ่มความโลภ


‘ฉันรู้สึกว่าฉันแค่ต้องใช้เวลาอีก 5 นาที…  มันช่างน่าเสียดายที่แค่หนีไป…’


ในขณะที่เอียนกำลังคิดถึงเรื่องต่างๆ ฮาร์วินผู้เดินออกไปข้างหน้าค่อยๆเปิดปากของเขา


“ไคซาร์วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่น่าจดจำของแกนะ”


“ฮ่าฮ่า ไม่รู้สิ เราต้องมาดูกัน”


ฮาร์วินเบะปาก


“นิสัยของแกไม่เปลี่ยนไปเลย”


“ถ้าอย่างนั้นไอ้แก่ที่ลากสังขารและปรากฏตัวขึ้นมากำลังจะบอกว่าจะทำสงครามเต็มรูปแบบหรอ?”


แทนที่จะตอบกลับ ฮาร์วินยกมือขวาขึ้นตรง


“โจมตี! กำจัดพวกขยะไม่ให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว!”


“ย๊าาาา!”


เสียงของสงคราม


ตามด้วยสิ่งนั้น การต่อสู้ที่ดุเดือดเริ่มต้นขึ้น


นี่เป็นครั้งแรกที่เอียนได้ต่อสู้ในสงครามขนาดใหญ่เช่นนี้ เขาจึงรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นเล็กน้อย


“ดุ๊กเด ผูกพวกมันเท่าที่นายทำได้ด้วยหลุมอเวจี!”


Deu-reuk- Deu-reu-reuk-.


ดุ๊กเดที่พยักหน้าเมื่อเอียนสั่ง เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ


Thud- Thud-


และทันทีที่กองทหารของข้าศึกเข้ามาใกล้ ดุ๊กเดกางแขนทั้งสองข้างออกด้วยความแข็งแกร่ง


Kwaah-!


ลมของอเวจีก่อรูปขึ้นตรงกลางทั้งสองหมัดของดุ๊กเด


ประมาณการคร่าวๆดูเหมือนว่าจะมีทหารประมาณสิบคนถูกดูดเข้ามา


เลเวลค่าเฉลี่ยของทหารประมาณ 120-130 แต่ดูเหมือนว่าระดับของพวกเขาจะต่ำ ความต้านทานต่อผลสถานะของพวกเขาต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ


หลุมอเวจีของดุ๊กเดและ Current Proliferation ของเอียนดำเนินการต่ออย่างมีประสิทธิภาพกับคู่ต่อสู้เช่นนั้น


Za-zap- Za-za-zap-!


ทหารกองเรือจำนวนมากของอาณาจักรไคม่อนถูกผูกไว้ทันที


ตามที่เขาทำเป็นประจำ เอียนสั่งคำสั่งให้ลมหายใจของเรคพ่นเข้าไปในนั้น


อย่างไรก็ตามจากนั้น เงามืดซึ่งเร็วกว่าเอียนหนึ่งก้าว กระโดดขึ้นไปบนอากาศ


“ฮึบ!”


ตัวตนของเงาคือผู้ติดตามของเอียน ไคซาร์และหลังจากกระโดดลงไปตรงกลางของคู่ต่อสู้ซึ่งเท้าของเขาถูกมัดลงเขาก็ระเบิดความมืดในทุกทิศทาง


Baang-!


และเอียนรู้จักตัวตนของสกิลนั้นเป็นอย่างดี


‘นั่น นั่นเป็นพลังแฝงที่แนบมากับดาบที่ฉันให้เขา!’


มันเป็นผลเพิ่มเติมที่เรียกว่า ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ แนบมากับดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืด อาวุธระดับ Legendary ที่เอียนส่งต่อให้เขา


เมื่อการโจมตีด้วยการรุกล้ำแห่งความมืด มีผลเพิ่มเติมโดยมีโอกาส 30% ในการปล่อยความมืดในทุกทิศทางและผลนั้นน่ากลัว


 


ผู้ติดตาม ‘ไคซาร์’ ได้ใช้ ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ และสร้างความเสียหาย 27,598 หน่วยแก่ ‘ทหารของอาณาจักรไคม่อน’

เนื่องจากผลของ ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ พลังป้องกันของ ‘ทหารของอาณาจักรไคม่อน’ จะลดลง 30% เป็นเวลา 3 วินาที

 


พื้นฐานการรุกล้ำแห่งความมืดได้รับความเสียหาย 250% ของพลังการโจมตีของผู้ร่าย


ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผลของการลดพลังป้องกันเพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้ทหารของอาณาจักรไคม่อนเริ่มละลายเหมือนเนยบนกระทะร้อน


การโจมตีของไคซาร์เพิ่มเติม


ไคซาร์ที่เตร็ดเตร่อยู่กลางค่ายศัตรู ถือดาบใหญ่ด้วยมือทั้งสองข้างและสวดอย่างช้าๆ


“Pok-ryong-cham-!”


Bang- Ba-ba-bang-!


ควันจากดาบสีแดงสดแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทางโดยไคซาร์เป็นศูนย์กลาง


และตอนนั้น…


ปาร์ตี้ของทหารอาณาจักรไคซาร์กว่าหนึ่งโหลกลายเป็นควันดำและกระจายไปในอากาศ


เอียนอุทานก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว


“อ๊ะ…!”


ความรู้สึกสบายใจเมื่อมีข้อความระบบจำนวนนับไม่ถ้วนแจ้งให้เขาทราบถึงค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับทั้งหมดในครั้งเดียว!


คำพูดของไคซาร์ที่เข้าหูเอียนที่รู้สึกมีความสุข


“เอาล่ะ ลอร์ดของพวกเรา ไอนั่นมันดีจริงๆ”


เอียนตอบอย่างตรงไปตรงมา


“อะไรน่ะ?”


“สิ่งที่ใช้พังก้อนหิน มันคืออะไรท่านรู้ไหม ที่อเวจีอะไรสักอย่าง”


“…”


สิ่งเลวร้ายที่สุดคือไคซาร์ไม่เห็น Current Proliferation ของเขาซึ่งกระทบอย่างมีศิลปะและชื่นชมหลุมอเวจีของดุ๊กเด


ณ ตอนนั้น เอียนเกือบจะโมโห แต่ในขณะที่มองไปที่แถบค่าประสบการณ์ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นเขาก็ทำให้จิตใจเขาสงบ


‘ถูกต้อง ถึงกระนั้นอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เรียกฉันว่าเจ้าหนูลอร์ด’


หลังจากนั้น สายของแสงสีม่วงที่ดูดเข้าไปในคลังของเอียนทำให้เขากลับมามีความสุขอีกครั้ง


“ไล พิน! นั่นเป็นทางของเรา!”


 


รับทราบครับ

 


Kku-ruk- Kku-ruk-!


แม้ในขณะที่เอียนเผชิญหน้ากับทหารของอาณาจักร เขาก็มองไปในทิศทางของไคซาร์


และทุกครั้งที่เขาทำอย่างนั้น เขาต้องกลืนคำอุทานของเขาลง


‘ไม่มีสัตว์ประหลาดตัวไหนขนาดนี้แล้ว…’


Suh-guk-!


เมื่อดาบของไคซาร์แกว่งหนึ่งครั้ง ทหารอาณาจักรก็เปลี่ยนเป็นแสงสีเทาและหายไป


การโจมตีขั้นพื้นฐานของเขานั้นแข็งแกร่งเช่นกัน แต่หากการรุกล้ำแห่งความมืดระเบิดออกมาสองหรือสามครั้งต่อกันปาร์ตี้ก็จะถูกทำลายในทันที


‘ฉันไม่สามารถอยู่เฉยๆได้เช่นกัน’


มันเป็นเพราะบทบาทของไคซาร์นั้นน่าทึ่งมาก แต่เอียนก็ค่อนข้างโดดเด่นในการทำสงครามกับทหารในเลเวล 130 ในฐานะคู่ต่อสู้ของเขา


“ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง!”


และพร้อมกับซีเรียผู้สนับสนุนสัตว์เลี้ยงจากด้านหลังและพอลลีนผู้มีความอดทนอย่างไม่น่าเชื่อที่คาดว่าจะได้รับอัศวินจากอัศวินแห่งราชวงศ์ของอาณาจักรและขัดขวางคู่ต่อสู้จากด้านหน้า เขาเผชิญหน้ากับทหารของอาณาจักรไคม่อนอย่างราบรื่น


อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับสถานการณ์สงครามโดยรวมที่ดี


นี่เป็นเพราะจำนวนทหารของอาณาจักรไคม่อนนั้นสูงมาก


ในขณะที่กองทหารที่มีความแตกต่างของตัวเลขมากกว่าสิบเท่าดันกลับอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในที่สุดทหารของอาณาจักรลัสเปลก็เริ่มถูกผลักกลับทีละเล็กทีละน้อย


เอียนตรวจสอบเควสต์เล็กน้อย


‘มันควรจะเป็นเวลาที่นักโทษจะไปถึงเรืออย่างช้าๆแล้วตอนนี้…’


ดูเหมือนว่าความคิดของเอียนถูกอ่าน


ข้อความระบบที่เอียนรอคอยโผล่ขึ้นมาต่อหน้าเขา


กริ๊ง-


 


ท่านได้ประสบความสําเร็จเควสต์ ‘การช่วยเหลือนักโทษสงคราม (1)’

ระดับการเคลียร์ – A

ท่านได้รับคะแนนพิเศษ 2,000 หน่วย

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 24,859,000 หน่วย

ท่านได้รับชื่อเสียง 15,000 หน่วย

ท่านได้เพิ่มเลเวล ท่านได้ถึงเลเวล 124

 


ในข้อความที่แจ้งให้เขาทราบถึงเลเวลเพิ่มขึ้นของเขาที่เกิดขึ้นพร้อมกับค่ประสบการณ์จำนวนมหาศาล เอียนก็ยิ้มกว้าง


เขาได้เพิ่มเลเวล 2 เลเวลนับตั้งแต่มาที่เกาะปาสคาล


“ฮ่าฮ่า… ผู้ติดตามของเราเป็นเป็ดที่ออกไข่ทองคำ…!’


ความเศร้าโศกของเขาที่มีต่อผู้ติดตามซึ่งปฏิบัติต่อเขาอย่างเยือกเย็นและหายไปเหมือนหิมะและเขาก็ทำราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่จริง


เอียนต้องการหลบหนีจากศัตรูตอนนี้และกลับไปที่เรือ แต่เมื่อค่าประสบการณ์ในสายตาของเขารู้สึกเสียดาย เขาก็ไม่สามารถขยับเท้าได้ง่ายดาย


‘อ๊า… ฉันอยากจะสู้อีกนิด…’


อย่างไรก็ตาม การไตร่ตรองของเอียนไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อีก


นี่เป็นเพราะเควสต์ต่อไปนี้โผล่ขึ้นมา


กริ๊ง-


 


ช่วยเหลือนักโทษสงคราม (2)

เควสต์เชื่อม


ท่านประสบความสำเร็จในการพานักโทษสงครามขึ้นไปบนเรือ


อย่างไรก็ตาม กองทัพเรืออาณาจักรไคม่อนปรากฏขึ้นโดยไม่คาดคิดที่เกาะปาสคาล


หลบหนีจากพวกเขาและส่งตัวนักโทษกลับคืนสู่เมืองหลังของลัสเปลอย่างปลอดภัย


ระดับความยากเควสต์ : SS


เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จเควสต์การช่วยเหลือนักโทษสงคราม (1)


เวลาจำกัด : 10 วัน


รางวัล – คะแนนพิเศษ 2,000 หน่วย


เกียรติยศราชวงศ์ (ตามระดับการเคลียร์)


ชื่อเสียง (ตามระดับการเคลียร์)


ตอนที่ 133

 

วิดีโอตัวอย่างของการอัปเดตใหม่


สิ่งเหล่านั้นกำลังขับเคลื่อนเอฟเฟกต์ขนาดใหญ่


นี่เป็นเพราะมันไม่ใช่แค่บริษัทผู้ผลิตเกมรายใหญ่ห้าแห่ง แต่ LB Company ได้ส่งวิดีโอตัวอย่างออกมาจากมุมมองของ NPC ที่แตกต่างกันในแต่ละที่แม้แต่ในสถานที่เช่น บริษัทออกอากาศทางอินเทอร์เน็ตขนาดเล็ก


ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นจึงเลือกช่องต่างๆเมื่อพวกเขาดูและพวกเขาสามารถสัมผัสกับความบันเทิงในแบบของพวกเขาสำหรับแต่ละทาง


ความตื่นเต้นนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากการดูห้องสนทนาหลายร้อยห้องที่ถูกสร้างขึ้นในชุมชนที่เป็นทางการ


 


ว้าว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นสงครามขนาดใหญ่เช่นนี้

ทหารที่ดูเหมือนจะอยู่ในจำนวนหลายร้อยคน… อย่างไรก็ตามฉันได้ยินมาว่าเลเวลของทหารของอาณาจักรนั้นสูงมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในอาณาจักรไคม่อนหรืออาณาจักรลัสเปลจริงหรือไม่?

ใช่ จากที่ฉันรู้ ทหารทุกคนควรมีเลเวลอย่างน้อย 120 เช่นกัน ฉันเดาอย่างถี่ถ้วนว่าเจ้าหน้าที่หรืออัศวินน่าจะเป็นเลเวลมากกว่า 150 …

คำพูดของคนข้างบนถูกต้อง ฉันได้รับเควสต์อาณาจักรเมื่อเร็วๆนี้เป็นครั้งแรกและดำเนินการไปแล้ว แต่อัศวินผู้บริหารที่ให้เควสต์อาณาจักรกับฉันนั้นมีเลเวลประมาณ 170 มันเยอะมากอย่างแท้จริง

อะไรนะ จริงหรอ? ฉันล่ะอิจฉาคุณจริงๆ เควสต์อาณาจักร… ฉันเป็นผู้แพ้ที่ยังไม่แม้แต่จะสามารถถึงเลเวล 80…

เลเวลของฉันเป็นเพียงตัวเลขสองหลัก ฮ่าฮ่า ฉันเพิ่งได้รัเควสต์อาณาจักรเร็วๆนี้เพราะฉันโชคดีเล็กน้อย อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องใหญ่ หากวอริเออร์ที่อ่อนแออย่างฉันถูกบีบลงไปที่นั่น ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถพบหน้าจอสีดำได้ทันที

 


สำหรับการอัปเดตขนาดใหญ่ครั้งที่ 2 นี้มันไม่เหมือนกับการอัปเดตขนาดใหญ่ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นวิธีการปิดเซิร์ฟเวอร์ตามเวลาที่กำหนดและดำเนินการต่อ


เช่นเดียวกับวิดีโอตัวอย่างขนาดใหญ่ อีเว้นท์เฉพาะจะถูกเรียกใช้ที่ต่างๆและในขณะที่ส่งวิดีโอเหล่านั้น ไคลันโดยรวมจะเข้าสู่สถานะใหม่ตามธรรมชาติ


ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นสถานการณ์ที่เนื้อหาของการอัพเดตไม่ได้ถูกประกาศไว้ล่วงหน้า


เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดตใหม่สามารถพบได้โดยการดูวิดีโอตัวอย่างเท่านั้น ดังนั้นการบอกว่าผู้เล่นไคลันเกือบทั้งหมดมองดูในวิดีโอตัวอย่างไม่ใช่การพูดเกินจริง


อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับวิดีโอจำนวนมากที่ถูกบันทึกมีผู้ชมที่มากเสมอ


วิดีโอที่ผู้เล่นส่วนใหญ่สนใจสามารถสรุปได้ถึงสามเรื่อง


อย่างแรกคือวิดีโอที่มีจุดเริ่มต้นว่าเป็นหมอกของทวีปกลางที่ถูกนำออกและอาณาจักรลัสเปลและอาณาจักรไคม่อนนำกองกำลังของพวกเขาและผ่านสกายไฮแลนด์สำหรับทำสงครามเต็มรูปแบบ


อย่างที่สองคือวิดีโอของสงครามล้อมระหว่างกองทัพใหญ่ของอาณาจักรลัสเปลที่ก้าวเข้าสู่อาณาจักรไคม่อนผ่านทวีปทางเหนือและไคม่อนปกป้องกองทัพที่ปกป้องป้อมปราการยอครัมจากพวกเขา


อันสุดท้ายคือวิดีโอที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ของกองทัพเรือระหว่างสองอาณาจักรที่เกิดขึ้นในทะเลคอลลอนที่อยู่ทางใต้ของทวีป


เช่นนี้ การดูวิดีโอทั้งสามครั้งนั้นสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับวิดีโออื่นๆ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่ได้พิจารณาค่าย วิดีโอของสงครามทางทะเลของทะเลคอลลอนซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวามากที่สุดและความสวยงามของวิดีโอจะได้รับการชื่นชม บันทึกผู้ชมที่สูงที่สุดในบรรดาสามวิดีโอ


 


ฮ่า สำหรับของจริง ขีดจำกัดของความเป็นจริงเสมือนจะอยู่ที่ไหนกัน? ลองดูที่น้ำกระจายที่ด้านข้างของเรือ

นั่นสำคัญในตอนนี้จริงๆหรอ? ทหารคนนั้นเพิ่งกระโดดลงไปในทะเลและแม้กระทั่งว่ายน้ำ

เดี๋ยวก่อน แต่พวกเอียนที่กำลังต่อสู้ที่เกาะปาสคาลสักครู่หนึ่งไปที่ไหนกัน? ฉันไม่เห็นเขาในวิดีโอเลย

คุณพูดถูก แม้แต่เมื่อกี้เขายังขี่กริฟฟินไปรอบๆอยู่เลย

 


และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เอียนจะมีชื่อเสียง


ด้วยเลเวล 50 ช่วงลีคหน้าใหม่ตอนเริ่มต้น เนื่องจากวิดีโอแสดงบทบาทของเขาในสงครามดินแดนได้เผยแพร่สู่ YouCast เอียนซึ่งเริ่มมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงด้วยอีเว้นท์ราชาการโจมตีและวิดีโอตัวอย่างล่าสุด


ชื่อเสียงของเอียนได้ขยายไปถึงจุดที่ไม่ต่ำกว่าชื่อของผู้เล่นที่อยู่ภายใน 20 อันดับแรกของเซิร์ฟเวอร์เกาหลีก่อนที่เขาจะรู้ตัว


 


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่แวะเวียนเข้ามาในชุมชนอย่างเป็นทางการ มันถึงจุดที่คุณเป็นสายลับถ้าคุณไม่รู้เกี่ยวกับเอียน


 


เอียน พินและไลของเราไปไหนล่ะ? ฉันอยากเห็นพวกเขา… NPC ที่ช่อง YTBC 1 กำลังแสดงดูเหมือนว่าจะหายไปอย่างกระทันหัน เนื่องจากเอียนได้หายตัวไป

เฮ้ ไปที่ช่อง 3 มันเป็นกล้องมือแรกของเอียน

หูยจริงดิ? ฉันควรไปดูที่นั่น ขอบคุณนะ

 


โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากในส่วนแรกของวิดีโอนี้ ทุกการเคลื่อนไหวของเอียนถูกถ่ายไว้ทั้งหมดและแม้แต่ในแต่ละฉากที่เอียนจัดการสัตว์เลี้ยงของเขาก็กระจายออกไป ผู้เล่นยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับชื่อของสัตว์เลี้ยงของเอียน


ยิ่งไปกว่านั้น ไลและพินที่รับมือกับทหารเลเวล 130 เกือบเหมือนเด็กเมื่อพวกเขาแสดงพลังการต่อสู้ที่ท่วมท้น ช่วยไม่ได้ที่จะเป็นหัวข้อสำคัญในการสนทนาระหว่างผู้เล่นซัมมอนเนอร์


 


พวกนายรู้จักไลในบรรดาสัตว์เลี้ยงของเอียนป่าว นั่นเป็นหมาป่าโลหิตที่ปรากฏในลีกหน้าใหม่เมื่อนานมาแล้วที่วิวัฒนาการใช่ไหม?

ดูเหมือนว่าทุกคนจะคาดเดาว่าเป็นกรณีนั้น… แต่เราไม่สามารถแน่ใจได้ อย่างแรกฉันเห็นว่ามันไม่ได้ ไม่มีทางที่เขาจะวิวัฒนาการมันไปเป็นสัตว์เลี้ยงหมาป่าที่แข็งแกร่งจากหมาป่าธรรมดา

ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของคนข้างบน พูดตามตรงฉันยังเลี้ยงหมาป่าโลหิตด้วย ฉันไม่ได้โอ้อวด แต่ตอนนี้ฉันเลี้ยงจนเลเวลมากกว่า 90 และเป็นที่สัตว์เลี้ยงที่ฉันรัก แต่ก็ยังไม่มีความตั้งใจในการวิวัฒนาการ สำหรับการเป็นระดับ Rare ที่ขึ้นไปสู่เลเวล 90 … ฉันสงสัยว่าถ้ามันจะวิวัฒนาการได้จริงๆ…

โห หมาป่าโลหิตของนายโผล่ขึ้นว่าสามารถวิวัฒนาการได้หรอ? สำหรับฉันเร็วๆนี้ฉันจะวิวัฒนาการมัน มันโผล่ขึ้นมาว่าสามารถวิวัฒนาการได้จากระดับ Rare… TT

ใช่ อย่างน้อยมันก็โผล่ขึ้นว่าสามารถวิวัฒนาการได้สำหรับฉัน แม้ว่าปัญหาคือว่ามันไม่ได้มีความตั้งใจในการวิวัฒนาการอย่างแน่นอน… ถ้ามันโผล่ขึ้นว่าวิวัฒนาการเป็นไปไม่ได้เหมือนคุณแทน ฉันจะต้องเปลี่ยนหลังจากใช้มันเล็กน้อย แต่นี่เป็นเพียงความหวังที่ผิดพลาด

จะว่าไปแล้ว เลเวลของเอียนเท่าไหร่เนี่ย? ดูเหมือนว่าเขาจะเลเวลมากกว่า 110 แน่นอน… เป็นไปได้ไหมว่าเขาเกือบจะเลเวล 120 แล้ว?

ไม่ ไม่ อย่างไรก็ตามสัตว์เลี้ยงของเขาถึงเลเวล 120 แล้ว ไม่ว่าจะมากขนาดไหนก็คงไม่ถึง 115 หรอกมั้ง?

ไม่นะ ถ้างั้นคุณจะอธิบายพลังการต่อสู้นั่นได้ยังไง? ถึงจุดที่มันจะยากที่จะเชื่อแม้ว่าคุณจะพูดว่าเลเวล 130 นั้นแข็งแกร่งพอๆกันเลย

นั่น… ก็จริง

 


ทุกข้อสันนิษฐานที่มีต่อเอียนเริ่มแผลงฤทธิ์และเอียนซึ่งเป็นเทพในกระดานข่าวของซัมมอนเนอร์อยู่พักหนึ่งก็ค่อยๆกลายเป็นหัวข้อระหว่างผู้เล่นของอาชีพอื่น


เอฟเฟกต์ของตัวอย่างวิดีโอนั้นอลังการมาก


ในอีกด้านหนึ่ง เอียนซึ่งไม่รู้จริงเกี่ยวกับสถานการณ์นี้กำลังแสดงการต่อสู้ที่คล้ายคลึงกับการทรงตัวบนไต่เชือกและเหงื่อออกอย่างหนัก


การต่อสู้นั้นเสียเปรียบอย่างมากและเป็นการต่อสู้ที่อุตลุด อย่างไรก็ตามเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาต่อสู้โดยไม่หยุดพักประมาณสี่ชั่วโมงเพราะเหตุนี้


“Current Proliferation!”


Za-zap- Za-za-zap-!


Current Proliferation ของเอียนยิงใส่ทหารของอาณาจักรไคม่อน


อย่างไรก็ตามจากนั้น ข้อความระบบที่ไม่คาดคิดโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


 


ระยะเวลาอัญเชิญของจิตวิญญาณสายฟ้าระดับกลาง ‘จิ๊บ’ ได้รับการใช้จนหมดจึงถูกถอนตัวออก

จากนี้ไป สกิลจิตวิญญาณประเภทสายฟ้าไม่สามารถใช้ได้

 


“ห้ะ อะไรวะเนี่ย ผ่านไป 9 ชั่วโมงแล้วหรอ?”


ระยะเวลาอัญเชิญของจิ๊บ จิตวิญญาณระดับกลางนั้นคือ 9 ชั่วโมง


ข้อเท็จจริงที่จิ๊บถูกถอนออกหมายถึงการต่อสู้ 9 ชั่วโมงที่เริ่มจากคุกได้ผ่านไปแล้ว


‘เหอะ นี่มันน่ารำคาญ… ฉันคงต้องเรียนอีกสกิลนอกจาก Current Proliferation ได้แล้วมั้ง?’


มีเหตุผลว่าทำไมเอียนไม่เรียนรู้สกิลการโจมตีอื่นนอกจาก Current Proliferation ตลอดเวลานี้


นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องใช้สกิลเดียวตลอดเวลาเท่านั้นเพื่อเพิ่มความสามารถของสกิลอย่างรวดเร็วและนำ DPS ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นออกมา (DPS = ความเสียหายต่อวินาที)


ผลที่ได้คือเลเวลของ Current Proliferation อยู่ในช่วงเลเวล 9 แล้วในตอนนี้


เพราะเขาเหลืออีกเพียง 1 เลเวลจนกว่าเขาจะถึงเลเวลสูงสุดซึ่งเป็นเลเวล 10 เขาไม่ได้เรียนรู้สกิลการโจมตีอื่น แต่เขารู้สึกว่ามันช้าถึงจุดที่เขาต้องพิจารณาสกิลการโจมตีอื่นๆ


‘ความสามารถของมันก็เพิ่มขึ้นเท่ากับขนตาแล้วตอนนี้ยังไงก็ตาม… เนื่องจากมันไม่เหมือนกับพลังการทำลายระหว่างเลเวล 9 และเลเวล 10 จึงมีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นฉันควรมองหาสกิลอื่นเช่นกัน’


จนถึงเลเวล 90 สกิลใหม่ถูกสร้างขึ้นโดยหน่วยของ 30 เลเวล


อย่างไรก็ตามหลังจากเลเวล 100 เพื่อที่จะได้รับสกิลใหม่ เควสต์พิเศษที่จำเป็นในการเคลียร์หรือหนังสือสกิลใหม่จะต้องได้รับจากมอนสเตอร์


หรือนอกจากนี้ยังมีวิธีการเพิ่มเกียรติยศไปยังหอคอยอาชีพเฉพาะของพวกเขาและสกิลที่ซื้อในหอคอยด้วยเกียรติยศ


‘แต่ก่อนอื่นหลังจากฉันหลบหนีจากที่นี่ได้…’


เควสต์เชื่อมต่อไปนี้ยากอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับระดับความยากระดับ SS


เนื้อหาของเควสต์นั้นค่อนข้างง่ายเนื่องจากเขาต้องการนำเรือสามลำและกลับไปที่ท่าเรืออีสลัน แต่ถ้าพวกเขาบังเอิญถูกจับโดยกองทัพเรือของอาณาจักรไคม่อนซึ่งตามพวกเขาอย่างต่อเนื่องและโจมตีอย่างต่อเนื่อง ช่วยไม่ได้ที่จะทำเควสต์ล้มเหลวเช่นกัน


“บารอน ธงของอาณาจักรไคม่อนที่ด้านหน้ากราบขวา!”


เสียงตะโกนจากลูกเรือจากหน้าเรือ


เอียนรีบหันหน้า


“โอ้โห ฉันไม่รู้เกี่ยวกับการไล่พวกเราจากด้านหลัง แต่พวกเขาปรากฏตัวที่ด้านหน้าได้อย่างไร? เราต้องออกไปก่อน “


เอียนที่บ่นกับตัวเอง ไคซาร์ซึ่งอยู่ถัดจากเขาดุเขา


“เพราะเราไปผิดทางในขณะที่เรายังคงต่อสู้อยู่ ในขณะที่พวกเขาเดินตัดข้ามมาและเดินตรงมา ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผล”


เมื่อคำเหล่านั้น เสียงถอนหายใจออกมาจากปากของเอียนโดยอัตโนมัติ


“เฮ้อ…”


คำวิจารณ์ที่รุนแรงครั้งสุดท้ายของไคซาร์ติดหูของเอียน


“ทำงานหน่อยเจ้าหนูลอร์ด!”


 


* * *


 


ท้องฟ้าปลอดโปร่งโดยไม่มีเมฆสักก้อน


พร้อมกับคำทักทายของฤดูใบไม้ร่วงฤดูกาลของ “ท้องฟ้าสูงและม้าอ้วน” เทศกาลที่มหาวิทยาลัยเกาหลีก็เริ่มขึ้นเช่นกัน


และวันนี้เป็นวันแรกของเทศกาล


นักศึกษาของแผนกความเป็นจริงเสมือนกำลังยุ่งวุ่นวาย


“ยูฮยอน ตรงนั้นมีลังเบียร์ใช่ป่าว?”


“ครับพี่!”


“มานี่ยกมันไป!”


ในช่วงระยะเวลาของเทศกาล แผนกความจริงเสมือนตัดสินใจออกจากห้องบรรยายเปิดเป็นบาร์


เวลาเปิดของบาร์คือ 6 โมงในตอนเย็น


ด้วยเหตุนี้ นักศึกษาในแผนกต่างก็ยุ่งๆกันระหว่างวัน


“มินอา เธอได้ซื้อขนมขบเคี้ยวที่ฉันบอกให้ซื้อมาไหม?”


“ค่ะพี่ หนูเอาซุชุยและมิยังไปกับหนูด้วยและเพิ่งกลับมาจากห้างค่ะ”


“ดีมาก!”


หนึ่งในความดูแลบาร์ของแผนก VR คือคนที่แก่ที่สุดพี่เซวอน


หลังจากการระดมพลนักเรียนชายและจัดโต๊ะ รวมถึงการคลุมพื้นที่ยุ่งเหยิงด้วยเต็นท์สีขาวรูปแบบของบาร์ที่น่าเชื่อถือก็เริ่มปรากฏขึ้น


“ไง ยูฮยอน”


“ครับ?”


“ทำไมจินซุงถึงบอกว่าจะไม่มาเทศกาลล่ะ?”


บาร์แผนกเป็นอีเว้นท์ที่ทั้งแผนกเข้าร่วม แต่การมีส่วนร่วมไม่ใช่ข้อกำหนด


ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าร่วมนอกเหนือจากจินซุงจึงไม่มีปัญหากับเขาที่จะไม่มา


เนื่องจากเป็นระบบที่คนที่ไม่เข้าร่วมไม่สามารถรับส่วนแบ่งกำไรที่ได้จากบาร์ จึงไม่มียุติธรรมภายหลัง


อย่างไรก็ตามผู้คนที่ไม่ได้เข้าร่วมก็ไม่ได้ช่วยงานเตรียมบาร์ แต่อยู่ที่โรงเรียนและสนุกกับงานเทศกาล แต่เมื่อพวกเขาไม่เห็นจินซุงเลยเซวอนก็เลยถาม


“อืมม… ผมโน้มน้าวเขาแล้ว แต่เขาอาจจะมาพรุ่งนี้ก็ได้ครับ…”


“พรุ่งนี้หรอ? พรุ่งนี้ก็มีอีเว้นท์อีกครั้งงั้นหรอ?”


“การแข่งขัน E-sports เทียบกับแผนกต่างๆ ในบรรดาอีเว้นท์เกมที่นั่น จากสิ่งที่ผมรู้มีห้าอย่างที่จินซุงเล่นเหมือนคนพิการ”


เซวอนดีใจ


“อ่อ จริงหรอ? ถ้างั้นแผนกของเราสามารถตั้งเป้าหมายที่จะขายกล่องเหล้าแข็งในครั้งนี้ได้ไหม”


เซวอนซึ่งจำเหล้าแข็งที่เป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะการแข่งขัน E-Sports เลียริมฝีปากของเขา


“มั้งครับ? ถ้าจินซุงมา…”


“ถ้าเขาบอกว่าเขาจะมา ถ้างั้นเขาก็อาจจะมา เขาไม่ใช่คนที่จะไม่รักษาสัญญาใช่ไหมล่ะ?”


“นั่นก็จริงครับ”


“แต่เขาควรจะมาโรงเรียนในวันนี้และสนุกไปกับมัน ดีกว่าการที่จินซุงนอนพิการอยู่บ้าน”


เมื่อคำเหล่านั้น ยูฮยอนแสยะยิ้ม


“พี่รู้ด้วยหรอ?”


“ก็รู้นะ… แต่เขาทำอะไรใรไคลันล่ะ? เขาไม่ได้ปรากฏตัวในคฤหาสน์มากนัก”


ช่วงเวลาที่ยูฮยอนกำลังจะตอบ มินาซึ่งปรากฏตัวขึ้นทันทีจากด้านหลังได้พูดแทน


“พี่ไม่ได้ดูช่องเกมหรอ?”


“ห้ะ? ช่องเกมอะไรอ่ะ?”


“เป็นแค่ช่องเกมเฉยๆ อย่างเช่น YTBC หรือ ATN หรือ…”


“มันเกี่ยวกับอะไรน่ะ?”


และด้วยคำที่ไม่รู้จักจากปากของมินอา


“จินซุงกำลังเสริมบารมีแผนกของเราเมื่อเร็วๆนี้”


“เสริมบารมีแผนกของเรา? มันคืออะไรน่ะ? มันคงไม่เกี่ยวกับเสริมบารมีระดับประเทศอะไรสักอย่าง…”


ขณะที่ได้ยินทั้งสองคนสนทนากัน เสียงหัวเราะออกมาจากปากของยูฮยอน


เขาเข้าใจความหมายของคำพูดของมินอา


“มันตามที่ฉันพูดแน่นอนโอปป้า เขากำลังยกสถานะของแผนกของเรา ลอร์ดเอียน!” 

 

 


ตอนที่ 134

 

สรุปได้ว่าเควสต์ของเอียนสำเร็จเรียบร้อย


ในช่วงเวลาสุดท้ายที่มีความเสี่ยงกองกำลังทางทหารของอาณาจักรที่ประจำการอยู่ที่อีสลันออกมาพบกับเรือของเอียน


กองทัพเรือของไคม่อนซึ่งไล่ตามเอียน เลือกที่จะหันหัวเรือของพวกเขากลับในตอนนี้ก่อนและทันทีที่เอียนซึ่งเป็นห่วงว่าสงครามเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก


เหตุผลที่เอียนรู้สึกโล่งใจไม่ใช่เพราะอันตรายที่เกิดขึ้นจากสงครามเต็มรูปแบบ


‘เฮ้อ ถ้าสงครามเต็มรูปแบบเกิดขึ้นทันทีฉันจะต้องเล่นอีกกี่ชั่วโมงกันละเนี่ย?’


เวลาเล่นเกมต่อเนื่องของเอียนนานกว่า 38 ชั่วโมงแล้ว


แม้ตอนนี้เนื่องจากความเหนื่อยล้าที่เพิ่มขึ้น เขารู้สึกทั่วทั้งร่างกายของเขา ดวงตาของเขาถูกปิดไปครึ่งหนึ่ง


เอียนต้องการพักสายตาของเขาสักครู่หลังจากกลับมาที่เมืองหลวงและทำเควสต์ให้สำเร็จ


ซูมมมม-


ด้วยเรือเกลเลี่ยนที่เอียนเป็นหัวหน้ากองเรือของอาณาจักรลัสเปลก็สามารถมาถึงที่ท่าเรืออีสลันได้อย่างปลอดภัย


Clunk-.


สมอของเรือที่จอดเทียบท่าแล้ว เอียนก็นำร่างที่หนักอึ้งของเขาเดินออกจากเรือ


พอลลีนซึ่งออกมาก่อน แสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจขณะที่เขาดึงมือของเอียน


“ทำได้ดีครับบารอน คุณทำได้ดีจริงๆ”


เมื่อพอลลีนพูด เอียนพยักหน้าอย่างอิดโรยขณะที่เขาตอบ


“เฮ้อ นายทำได้ดีเช่นกันพอลลีน เรายังพยายามที่จะกลับมา”


เมื่อเอียนพูด ไคซาร์ที่อยู่ด้านหลังของเขาแสยะยิ้ม


“อะไรกัน สู้ไปเท่าไหร่ก็หมดแรงแล้วหรอ ตอนที่ข้าอายุเท่านี้ ข้ายังมีชีวิตชีวาแม้ว่าข้าจะสู้โดยไม่พักเลยสองสามคืน”


เมื่อไคซาร์ตำหนิ เอียนแสดงท่าทางงุนงง


‘เรามีความแตกต่างของอายุมากแค่ไหนสำหรับเขาที่จะพูดอย่างนั้น?’


นี่เป็นเพราะว่าดูจากภายนอกไคซาร์ดูเพียงอายุ 30 ต้นๆเท่านั้นเอง


ในการพบกันครั้งแรกของพวกเขา เขาไม่สามารถคาดเดาอายุได้เพราะเขามีผมยุ่งเหยิงสีขาวพันกัน แต่ตอนนี้ซึ่งเขามีเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม เขาดูเหมือนจะอายุเท่ากันกับเอียน


แม้กระทั่งผมสีขาวที่ยืดตรง แต่ออร่าของความลึกลับก็ยังปรากฏอยู่


“แล้วนายอายุเท่าไหร่ล่ะผู้ติดตาม? ดูเหมือนว่านายจะไม่มีความแตกต่างกับฉันมาก…’


เมื่อเอียนบ่น ไคซาร์ตอบด้วยหน้านิ่งๆ


“ข้าอายุ 120 ปีแล้ว”


“…?”


เมื่อเอียนจ้องที่ไคซาร์ด้วยสีหน้าไม่เชื่อ เขาแสยะยิ้มเมื่อเขาพูดต่อ


“เอ๊ะ อาจจะมีข้อผิดพลาดระยะ 5 ปี มันผ่านไปก็หลายสิบปีแล้วที่ฉันนับอายุของฉันอย่างคร่าวๆ”


ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะยอมรับมันด้วยสีหน้าที่ขมขื่น


“ขะ เข้าใจแล้ว…”


และเขาบ่นในใจ


“ใช่สิ มันเป็นเกม ดังนั้นมันเป็นไปได้…’


เอียนมองแววตาของผู้ติดตามของเขาที่คล้ายกับสัตว์ประหลาดในหลายๆทาง (?) เอียนส่ายหน้า


“ดูแลผู้ติดตามของนายต่อไปนะ เจ้าหนูลอร์ด”


“…”


พอลลีนที่เฝ้าดูคนสองคนทะเลาะกันอยู่ครู่หนึ่งก็หัวเราะขณะที่เขาพูด


“เอาล่ะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ไปที่เมืองหลวงกันเถอะ พระราชาน่าจะรออยู่”


เมื่อพอลลันพูด ทั้งสองคนพยักหน้าและเดินไป


“ครับ”


“ตามนั้นแหละ”


 


* * *


 


ณ เมืองหลวงของอาณาจักรลัสเปล


และที่สำคัญคือที่ทรงงานของราชาซีเรียส


ซีเรียสต้อนรับเอียนที่กลับมาอบอุ่นอย่างมาก


“โอ้! ทำดีมากท่านเอียน ข้าได้ยินมาว่าเจ้าทำงานได้ดีมาก”


“ครับท่านราชา พวกเราช่วยเหลือนักโทษทั้งหมดของปาสคาลและกลับมาแล้วครับ”


มันเป็นเช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องรายงานผลของเควสต์อาณาจักรร่างของเอียนนั้นเคลื่อนไหวด้วยตัวของมันเองโดยไม่ตามความต้องการของเขา


Chak- Cha-chak-!


ในขณะที่จ้องมองร่างกายของเขาที่แสดงความอ่อนโยนต่อพระราชาด้วยการมีระเบียบวินัย เอียนแทบไม่ทันรู้ตัวในใจของเขารอการทำเควสต์ให้เสร็จสมบูรณ์


‘ทำไมมารยาทของราชวงศ์จึงซับซ้อนอย่างงี้? ไม่มีเหตุผลสำหรับความสมจริงแบบนี้นะ…’


เมื่อเอียนเล่นเกมเขามองความสามารถในการวางแผนทั่วไปมากกว่ารายละเอียดที่ดี


ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขามีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องน่ารำคาญก็ตาม


“ในแผนของพวกเราที่ช่วยนักโทษของคุกปาสคาลครั้งนี้…”


เขายังเริ่มรายงานเนื้อหาของเควสต์ด้วยตัวเองตอนนี้!


เอียนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าจิตใจของเขาว่างเปล่าเขาไม่สามารถคิดอะไรได้เลย


‘ถึงกระนั้นเนื่องจากทุกอย่างทำให้ฉันเอง มันจึงเป็นความสะดวกสบาย…’


อย่างไรก็ตามมันเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากสำหรับเอียน แต่จริงๆแล้วมีผู้เล่นจำนวนมากที่กระตือรือร้นเกี่ยวกับรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบของไคลันซึ่งมีลักษณะนิสัยที่ผิด


“โดดเด่นน่าทึ่งจริงๆทำงานได้ดี ท่านทำได้ดีกว่าที่ข้าคาดไว้ท่านเอียน”


“ขอบพระคุณครับ ฝ่าบาท”


เซเลียสซึ่งได้ยินเนื้อหาทั้งหมดในรายงานของเอียนยิ้มอย่างแจ่มใสและมีการแจ้งเตือนให้เอียนทราบถึงความสำเร็จของเควสต์ที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา


กริ๊ง-


 


ท่านได้ทำเควสต์ ‘ช่วยเหลือนักโทษสงคราม (2)’ เสร็จสมบูรณ์

ท่านได้สำเร็จเควสต์เชื่อมทั้งหมด

ระดับการเคลียร์ – S

ท่านได้รับคะแนนพิเศษ 5,000 หน่วย

ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 42,349,000 หน่วย

ท่านได้รับชื่อเสียง 25,000 หน่วย

ท่านได้เพิ่มเลเวล ท่านถึงเลเวล 126

ท่านได้สำเร็จเควสต์เชื่อมของอาณาจักรครั้งแรก

เกียรติยศของท่านที่มีต่อราชวงศ์ของอาณาจักรลัสเปลเพิ่มขึ้น 1,000 หน่วย

 


แม้แต่ดวงตาทั้งสองของเอียนซึ่งเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า กลับมามีชีวิตเมื่อใดก็ตามที่รายชื่อรางวัลโผล่ขึ้นมา


‘มันเหนื่อย แต่เพิ่มเลเวลอย่างบ้าคลั่งในระดับเลเวล 120… ถ้ามันเยอะขนาดนี้ฉันคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะทำ’


เอียนยิ้มอย่างพึงพอใจ


อย่างไรก็ตาม ตาทั้งสองของเอียนที่ตรวจสอบรางวัลทุกอย่างที่เข้ามา เริ่มปิดตาลงอย่างข้าๆ


ความเหนื่อยล้าที่ถูกระงับด้วยความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขารุมเร้าในทันทีที่เขาเห็นคำว่า ‘เควสต์เสร็จสมบูรณ์’


‘อ่า… ฉันต้องนอนลงบนเตียงของฉันแล้ว…’


อย่างไรก็ตาม โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของเอียน เอียนก็เริ่มสูญเสียความคิดของเขาอย่างช้าๆ


 


ผลการวิเคราะห์สัญญาณร่างกายผู้เล่นเอียนถูกตัดสินว่าอยู่ในสถานะ ‘นอนหลับ’

ตามนโยบายการให้บริการเกมผู้เล่น ‘เอียน’ จะถูกบังคับออกจากระบบ

 


และเอียนก็ได้ยินเสียงของซีเลียสอย่างแผ่วเบา


“ท่านเอียน! คงสติไว้!”


 


* * *


 


ด้านหน้าของสตูดิโออพาร์ตเมนต์ของจินซุง


ฮารินกดออดอย่างระมัดระวัง


กริ๊ง-ก๊อง-!


อย่างไรก็ตามแม้หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่งไม่สามารถรู้สึกถึงร่องรอยแม้แต่น้อยจากบ้านของเอียน


‘ไอตูดหมึกหายไปไหนเนี่ย… เขาหลับอยู่หรอ? ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่อยู่บ้านตอนนี้นะ…’


ฮารินซึ่งได้ยินคำว่าบาร์จะเปิดที่แผนกความเสมือนจริงสำหรับงานเทศกาลโรงเรียนจะไปสนุกกับเพื่อนของเธอ


อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินว่าจินซุงไม่ได้ไปโรงเรียนวันนี้ เธอก็ลุกขึ้นจากจุดที่เทออยู่ทันทีแล้วมาที่บ้านของจินซุง


‘นี่มัน 3 ทุ่มแล้ว… เขายังหลับอยู่หรอเนี่ย?’


เพราะมันถูกตั้งค่าไว้แม้ว่าเขาจะเล่นเกมภายในแคปซูล ถ้าออดถูกกดการแจ้งเตือนก็จะเข้า แต่ความจริงที่ว่าไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่ามีบุคคลอยู่นั่นหมายความว่าจินซุงไม่ได้อยู่บ้านหรือ เขาหลับ


เมื่อจินซุงเป็นคนนอนหลับไม่ลึก ฮารินผู้ตัดสินใจว่าเขาออกไปไหนซักครู่หนึ่งก็เปิดล็อกประตูและเริ่มกดรหัสผ่าน


ติ๊ด- ติ๊-ติ๊ด-


หลังจากครั้งสุดท้ายที่พวกเขาตัดสินใจที่จะทิ้งแคปซูลอีกเครื่องไว้ที่บ้านของจินซุงและมีฮารินใช้มัน จินซุงก็บอกรหัสผ่านบ้านไว้กับฮารินเช่นกัน


ความจริงที่ว่าเธอกดออดแค่ครั้งเดียว ‘ตามมารยาท’


“ดูเหมือนว่าเขาจะออกไปสักพัก… อย่างน้อยฉันควรทำอาหารเย็นไว้มั้ย?”


Harin somehow felt like she had become a wife, and while humming, she entered Jinsung’s house.


ฮารินรู้สึกว่าเธอกลายเป็นภรรยาและในขณะที่กำลังฮัมเพลง เธอก็เข้าไปในบ้านของจินซุง


Bee-reep- Bee-ree-reep-!


เมื่อฮารินปิดประตู ประตูก็ล็อคโดยอัตโนมัติและไฟตรวจจับตรงทางเดินเปิดขึ้น


“จากสิ่งที่ฉันเห็นครั้งล่าสุดสำหรับคนที่อยู่คนเดียวเขาดูเหมือนจะซื้อสิ่งต่างๆมากมาย…”


ฮารินวางกระเป๋าลงมุมหนึ่งของห้องและตรงไปที่ห้องครัว


อย่างไรก็ตาม แสงสีฟ้าบนแคปซูลของเอียนที่เปิดอยู่จับตาของเธอ


‘ห้ะ…? นั่นเป็นแสงที่เปิดขึ้นเฉพาะถ้ามีคนอยู่ในแคปซูลนิ’


ฮารินที่แสดงท่าทางงุนงง ค่อยๆเข้าหาแคปซูลของเอียน


“ดูเหมือนว่าจะปิดเกมไปแล้ว… แต่ทำไมมันแบบนี้? แคปซูลรุ่นใหม่ทำงานผิดปกติหรอ?”


ฮารินบ่นขณะทีเธอกดปุ่มเปิดของแคปซูล


เมื่อเธอทำอย่างนั้น แคปซูลปล่อยเสียงฟู่ดังขึ้นเมื่อประตูเอียงขึ้นด้านบน


และหลังจากนั้นไม่นาน ฮารินกลืนน้ำลายก่อนจะรู้สึกตัว


เป็นเพราะจินซุงผู้ที่อยู่ในภาวะหมดสติ (?) อยู่ในแคปซูลได้หลับตาลงขณะที่ร่างกายของเขาเหยียดออกมา


“อะ อะไรกันเนี่ย? จินซุงทำไมนายหลับที่นี่แบบนี้?”


ฮารินลองเขย่าไหล่ของจินซุงและปลุกเขาตื่น


อย่างไรก็ตาม จินซุงไม่ขยับแม้แต่ปลายนิ้ว


ตาของเธอเบิกโพลงมากขึ้น


“จินซุงนายอาการไม่ดีหรอ? นายแน่ใจนะว่านายไม่ได้ป่วยจากการเล่นเกมมากเกินไปน่ะ”


เมื่อจินซุงไม่ตื่นขึ้นไม่ว่าเธอจะเขย่ามากแค่ไหน ฮารินที่คร่ำครวญก็คิดว่าอย่างน้อยเธอก็ต้องโทรไปที่ห้องฉุกเฉิน


อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่เธอเปิดสมาร์ทโฟนและกำลังจะกดหมายเลข…


คร๊อกกก ฟี๊-


ในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงกรนของจินซุงและขณะที่เทอยิ้ม ฮารินก็วางสมาร์ทโฟนของเธอลง


“Ha…”


“ฮ่า…”


เธอกลั้นขำไว้ ฮารินสอดมือไปที่คอของจินซุงและอีกข้างก็ยกเขาออกจากแคปซูล


“จินซุงถ้านายนอนแบบนี้นายจะหมอนรองกระดูกเคลื่อนนะ… ลุกขึ้น! นายต้องไปนอนบนที่นอนของนาย”


ฮารินยืนตรงเพื่อดึงจินซุงออกมาจากแคปซูล


อย่างไรก็ตามไม่มีทางที่ฮารินที่เป็นผู้หญิงจะสามารถดึงร่างกายของจินซุงออกมาอย่างง่ายดาย


‘อั๊ก นายหนักกว่าที่ฉันคิดนะนิ’


อย่างไรก็ตามจากนั้น


แขนของจินซุงที่วางไว้บนที่พนักแขนโอบรอบเอวของฮาริน


“เอ่อ… เอ้ย!”


ฮารินซึ่งเอนไปหาจินซุง สูญเสียจุดศูนย์ถ่วงของเธอทันทีและร่างของเธอทรุดตัวลง


ตึง-


นอกจากเสียงของอากาศที่ดังขึ้น ร่างของฮารินอยู่บนจินซุงเล็กน้อย


ใบหน้าที่ซีดเซียวของฮารินนั้นกลายเป็นสีแดงราวกับบีทรูท


‘อะ อะไรวะเนี่ย? เขาไม่ได้หลับหรอ?’


หลังจากนั้นไม่นานจากใบหน้าแดงสดใสของเธอและมองจินซุง เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเนื่องจากจินซุงกรนดังขึ้นอีกครั้ง


‘ไม่นะ นานแค่ไหนที่เขาเล่นเกมและหลับเช่นนี้?’


เพราะฮารินเห็นจินซุงปรากฏตัวขึ้นที่ช่อง YTBC เธอรู้ว่าเขากำลังทำเควสต์อาณาจักรขนาดใหญ่อยู่


เธอแค่คิดไม่ออกเลยว่าเขาไม่ได้ออกจากระบบเลยซักครั้งเกือบ 40 ชั่วโมง


“อืมม อะแฮ่ม”


ฮารินที่เคลียร์ลำคอของเธอ ยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นและลงไปในแคปซูลเล็กน้อย


ในขณะที่เธอทำเช่นนั้น หมอนอิงนุ่มๆของแคปซูลก็เปิดออกและร่างกายของเธอลื่นไปทางขวาถัดจากจินซุงและฮารินที่อยู่ในอ้อมแขนของจินซุงมากกว่าเดิมอย่างมั่นคง (?) ยิ้มอย่างเขินอาย


“ฮิฮิ… ฉันควรอยู่อย่างงี้สักพักดีมั้ย…?”


ฮารินกำลังจะกดริมฝีปากของเธอเล็กน้อยไปที่แก้มของจินซุงเมื่อเธอหยุดและหันหัวของเธอวางไว้บนหน้าอกของจินซุงแทน


เขาต้องการให้โอกาสแก่จินซุง (?)


‘ถึงกระนั้น ผู้ชายควรเริ่มจูบก่อน’


ฮารินที่แสดงรอยยิ้มอันพึงพอใจ หลับตาของเธอเล็กน้อย


เพราะเธอบอกกับครอบครัวของเธอแล้วว่าเธอจะสายไปหน่อยในวันเทศกาล เธอจึงเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง


และ…


แคปซูลรุ่นใหม่ของจินซุงสบายราวกับนอนบนเตียง 

 

 


ตอนที่ 135

 

“เพื่อให้เป็นเควสต์ที่แชร์กับกิลด์ทั้งหมด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นแบบนี้”


“ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเควสต์อาณาจักรและระดับความยากคือ SS”


ธงขนาดใหญ่ที่มีสัญลักษณ์ของอาณาจักรไคม่อนปักอย่างงดงามและอยู่ด้านล่างนั้น ธงของกิลด์ไททั่นกระพือไปตามนั้น


และที่หัวธง สมาชิกกว่าสองร้อยของกิลด์ไททั่นมุ่งหน้าไปยังที่ใดที่หนึ่ง


“เตรียมพร้อมนะเอมิลี่ เราใกล้ถึงทะเลทรายชิคาร์แล้ว”


“ค่ะ ชยาคราน”


เกราะโลหิตรวมถึงดาบใหญ่สองเล่มที่แขวนอยู่ที่เอวทั้งสองข้างของเขา


ชยาครานซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอาชีพวอริเออร์อันดับ 1 ในเซิฟเวอร์เกาหลี เข้าสู่ทะเลทรายชิคาร์


ทะเลทราบชิคาร์ซึ่งเลเวลเฉลี่ยของมอนสเตอร์ทั่วไปอยู่ในช่วง 130 ก็ยังถือว่าเป็นสถานที่ที่ไม่โหดร้ายสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ลังเลในฝีเท้าของชยาคราน


“ชยาคราน”


“มีอะไร”


“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับทะเลทรายชิคาร์เลย แต่นายคิดว่าเราจะสามารถผ่านทะเลทรายสกายที่จะปรากฏขึ้นหลังจากนี้ด้วยพลังการต่อสู้นี้ได้ไหม?”


เมื่อซีลรอนถาม ชยาครานคิดสักครู่หนึ่ง


“อืมม”


ทะเลทรายสกายเป็นพื้นที่ที่เอียนบุกเบิกด้วยกันกับทหารของอาณาจักรระหว่างทำเควสต์ฟักไข่กริฟฟิน


ทะเลทรายสกายเป็นพื้นที่ทะเลทรายกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบสกายไฮแลนด์


เมื่อเปรียบเทียบกับสกายไฮแลนด์มันเป็นพื้นที่ที่มีระดับต่ำกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่งที่เลเวลเฉลี่ยมากกว่า 150 ความกังวลของซีลรอนก็เพิ่มขึ้น


ในปัจจุบันเลเวลเฉลี่ยกลุ่มเดินทางของกิลด์ไททั่นอยู่ที่ 120 ปลายๆ


ชยาครานเป็นหัวหน้ากิลด์ที่เลเวลสูงอย่างไม่น่าเชื่อในเลเวลที่มากกว่า 140 และซีลรอนที่อยู่ที่ 2 ในการจัดอันดับอาชีพอัศวินก็อยู่ในเลเวลที่ยอดเยี่ยมที่เลเวล 130 ปลายๆ ถึงกระนั้นสกายไฮแลนด์ก็เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ตั้งแต่เลเวล 150 ช่วยไม่ได้ที่จะเป็นอันตราย


ชยาครานที่คิดเสร็จแล้วได้พูดอย่างช้าๆ


“แม้ว่าเราจะอ้อมออกไปเล็กน้อย เราก็ต้องฝ่าจุดนี้เพราะเราต้องผ่านมันเพื่อที่จะไปยังทวีปกลาง”


เอมีลี่ที่อยู่ข้างๆพวกเขาพูดด้วยท่าทางกังวล


“ฉันคิดว่าคงจะเป็นการดีกว่าที่จะข้ามชายแดนไปทางเหนือของทวีปแทน หากเป็นเช่นนั้นเราอาจถูกโจมตีโดยทหารของอาณาจักรลัสเปล แต่ฉันคิดว่าพวกเขาอาจอ่อนแอกว่ามัมมี่หรือพระที่ปรากฏในทะเลทรายสกายแทน…”


เมื่อเอมิลี่พูด ชยาครานส่ายหน้า


“ไม่สิ ถ้างั้นมันจะสายเกินไปและถ้าเราถูกจับโดยกิลด์ระดับสูงของลัสเปลขณะเดินอยู่ มันจะกลายเป็นปัญหาเอาได้”


“นั่นก็จริง”


ขณะที่เดินผ่านทางทะเลทรายที่เท้าของเขาจมลงถึงข้อเท้า ชยาครานคิดกับตนเอง


‘กิลด์แรกที่ก้าวเข้ามาในพื้นที่ของทวีปกลางจะต้องเป็นกิลด์ไททั่น’


นับตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อไคลันเปิดขึ้นครั้งแรก เขาได้ครอบครองเนื้อหาทั้งหมดเสมอ


เขาไม่ใช่ผู้เล่นคนแรกที่ได้เปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพวอริเออร์ แต่เป็นคนที่ถึงเลเวล 50 และสร้างหอคอยอาชีพวอริเออร์และเขายังผูกขาดพื้นที่จำนวนมากและรางวัล ‘ผู้ค้นพบครั้งแรก’ ของดันเจี้ยน


ชยาครานเป็นผู้เล่นที่รู้ดีกว่าคนอื่นว่า ‘การครอบครอง’ นั้นเป็นผลของ ‘กำไรที่ดี’ ที่มาจากในเกมยังไง


เพราะอย่างนั้นการอัปเดตขนาดใหญ่จึงเป็นโอกาสอีกครั้งของเขา


‘ต้องขอบคุณเควสต์อาณาจักรที่ฉันสำเร็จเมื่อสองวันที่แล้ว ฉันยังได้คะแนนพิเศษอีก 2,000 คะแนน เราจำเป็นต้องครองทวีปกลางอย่างรวดเร็วและรับผลประโยชน์จากเลเวลของกิลด์ด้วย’


และผู้เล่นคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวของเขาทันที


มันเป็นผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่เมื่อเร็วๆนี้ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาขนาดใหญ่ภายในชุมชน


และแม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วครู่หนึ่ง มันก็เป็นผู้เล่นที่เขาประดาบด้วยเมื่อเขาหยุดที่เกาะปาสคาลเพราะเควสต์


ในขณะที่คิดถึงเอียน ของชยาครานก็เบะปาก


‘เอียน… มันอาจจะดีถ้าฉันได้เจอเขาอีกครั้ง…’


ก่อนที่เขาจะพบเอียน ชยาครานคิดว่าอาชีพ ‘ซัมมอนเนอร์’ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นอาชีพ PvE ที่ไร้ประโยชน์เป็นพิเศษ


เนื่องจากซัมมอนเนอร์ส่วนใหญ่เขาพบมาจนตอนนี้อ่อนแออย่างมาก


อย่างไรก็ตาม เอียนนั้นแตกต่าง


แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับโคลนของเขาที่สามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงได้เพียงครึ่งเดียวของเขา แต่เขาก็ยังจนมุมให้แก่เอียนอยู่


‘มันคงจะดีถ้าฉันได้พบเขาที่ทวีปกลาง แน่นอนถ้าเราต้องต่อสู้อย่างตรงๆ เขาจะไม่เป็นคู่ที่เหมาะสมสำหรับฉันหรอก’


อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่ชยาคราจกำลังคิดผิดอยู่


เนื่องจากเอียนที่ชยาครานพบตอนนั้นก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์


ณ จุดนั้นในบรรดาสัตว์เลี้ยงของเอียนมีเพียงฮัลลิที่ต่อสู้ด้วย


เรียกได้ว่าเป็นบทลงโทษที่ไม่น้อยไปกว่าชยาครานซึ่งร่างกายหลักหายไป


ขณะที่ชยาครานคิดอยู่ก็ได้ยินเสียงใครบางคนจากปาร์ตี้กิลด์


“ศัตรูปรากฏตัวด้านหน้า!”


ชยาครานหันโดยสัญชาตญาณ


และสิ่งที่จับตามองของเขาคือกลุ่มมอนสเตอร์ที่เลเวล 140


“พวกเราจะเผชิญหนัากับพวกมัน ทุกคนอยู่ในรูปแบบการต่อสู้!”


เมื่อชยาครานพูด ผู้เล่นของกิลด์ไททั่นเคลื่อนไหวตามคำสั่ง


และร่างของชยาครานพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว


‘เร้าใจกันหน่อย…?’


“อะแฮ่ม…!”


จินซุงซึ่งตื่นจากการนอนหลับก็ตกใจเล็กน้อยกับความมืดอย่างมาก


นี่เป็นเพราะไม่ว่าจะเป็นตอนกลางดึก แสงไฟจากถนนควรลอดมานิดหน่อยก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเห็นหน้าของเขาสักหน่อย อย่างไรก็ตามมุมมองของเขาเป็นสีดำสนิท


“อ่อ ฉันหลับในแคปซูลเมื่อวานนิ?”


จินซุงซึ่งจำได้ว่าเขาอยู่ในแคปซูล รู้สึกถึงมือของเขาและหลังจากพบปุ่มเขาก็กดลงไปอย่างมั่นคง ขณะที่เขาพึมพำ


“ฉันจำได้คร่าวๆ… ทันทีที่เควสต์เสร็จสมบูรณ์ฉันคิดว่าฉันหมดสติในทันที…”


จินซุงที่ออกมาจากแคปซูล ยืดแขนทั้งสองข้างออก


“เอ่อออ แต่ตอนนี้กี่โมงแล้ว? รุ่งสาง?”


เขาตรวจสอบเวลามันเป็นเวลา 5 โมงเช้า


เมื่อเขาคิดถึงเวลาที่เขาหลับไปเมื่อวานนี้ เขาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้


“ถึงอย่างนั้น ฉันก็หลับไปมากกว่า 12 ชั่วโมง ไม่ต้องสงสัยเลยทำไมฉันรู้สึกสดชื่น…”


จินซุงจ้องไปที่แคปซูลรุ่นใหม่สักครู่หนึ่ง


การตกแต่งภายในของแคปซูลแบบเก่านั้นค่อนข้างสะดวกสบายเช่นกัน แต่รุ่นแคปซูลใหม่นั้นให้ความรู้สึกสดชื่นราวกับว่าเขานอนบนเตียงของเขาและตื่นขึ้นมา


Jinsung turned his gaze towards his bed that was in one corner of his room, and mumbled to himself.


จินซุงหันจ้องมองไปที่เตียงของเขาซึ่งอยู่ในมุมหนึ่งของห้องของเขาและพึมพำกับตัวเอง


‘ฉันควร… ทิ้งเตียงของฉันไหม?’


จินซุงไตร่ตรองอย่างจริงจัง


อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขารู้สึกว่าถ้าเขาทำอย่างนั้นเขาจะกลายเป็นคนพิการ (?) เขาจึงตัดสินใจที่จะเอาไว้ก่อน


จินซุงซึ่งต้องการตรวจสอบรางวัลของเควสต์ที่ประสบความสำเร็จตามสัญชาตญาณกำลังจะกลับเข้าไปในแคปซูลอีกครั้ง แต่ก็หยุดและยืนนิ่ง


นั่นก็เพราะว่าท้องของเขาร้อง


“อ่า… มันก็เป็นเวลาตั้งสองวันแล้วที่ฉันได้กิน…”


จินซุงปิดแคปซูลอีกครั้งและไปยังห้องครัว


ช่วงที่เขาตระหนักถึงความหิวโดยของเขา ความว่างเปล่าในท้องของเขาไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้


‘อืมม แต่นี่มันกลิ่นอะไร?’


จินซองซึ่งมองเข้าไปในกระเป๋าที่น่าสงสัยซึ่งอยู่ด้านบนของโต๊ะก็งุนงง


นี่เป็นเพราะมันมีกล่องอาหารกลางวันที่ยังคงมีความร้อนเล็กน้อย


นอกจากนั้นยังมีบันทึกที่เขียนด้วยลายมือน่ารักบนโน้ตโพสต์อิทขนาดเล็ก


 


สามารถทานซุปในขวดได้ในขณะที่ข้าวผัดนำไปอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 3 นาทีแล้วกินซะ!

 


“…”


จินซุงซึ่งอ่านบันทึกก็งุนงง


‘แม่หรอ? ไม่สิ ไม่มีทางที่แม่จะมาแล้วก็ไปเลย… แต่ถ้าแม่มาแล้วไปเลยก็ไม่มีทางเลยที่ฉันจะมีชีวิตอีกต่อไป…’


และอีกไม่นานเขาก็จำได้ว่าเป็นฮาริน


‘ดูเหมือนว่าฮารินจะมาแล้วก็ออกไป เธอเล่นเกมนิดหน่อยก่อนออกไปหรอ?’


ลองมาคิดดู เขารู้สึกว่าเขาได้กลิ่นน้ำหอมของฮารินเล็กน้อยในบ้านของเขา


แครก-


จินซุงที่ดึงเก้าอี้ออกและนั่งลง เปิดกล่องอาหารและเริ่มกิน


บนโน้ตนั่น มันบอกว่าให้อุ่นก่อนที่จะกิน แต่ข้าวผัดของฮารินนั้นอร่อยแม้ว่าจะกินโดยไม่ต้องทำอะไร


“ว้าว… นี่มันอร่อยจริงๆ!”


อาหารที่เขากินเป็นครั้งแรกใน 48 ชั่วโมงนั้นอร่อยมากและหลังจากกินกล่องอาหารกลางวันเสร็จในพริบตา จินซุงก็ยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเขานอนบนเตียงของเขา


จินซุงซึ่งหยิบสมาร์ทโฟนที่อยู่บนหัวเตียงของเขาได้ส่งข้อความหาฮาริน


 


ฮาริน ฉันกินแล้วนะ! ขอบคุณจริงๆ… T T ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ!

 


และก่อนที่เอียนจะวางสมาร์ทโฟนลง


ฮารินก็ได้ตอบกลับมา


 


ฉันคาดว่านายจะมารับฉันที่หน้าสถานีเวลา 3:30 ในตอนบ่ายนะ!

 


“…”


จินซุงที่เห็นข้อความก็งุนงง แต่จากนั้นเขาก็ยิ้มขณะที่พยักหน้า


“แน่นอน… ฉันได้รับอาหารแสนอร่อยขนาดนี้ ทำไมฉันถึงจะทำไม่ได้ล่ะ?”


จินซุงที่อยู่ในอารมณ์ที่ดีเท่าที่จะเป็นไปได้ เดินไปที่แคปซูลด้วยฝีเท้าเบาๆ


อีก 9 ชั่วโมงที่เหลือก่อนจะถึง 3:30 ในตอนบ่าย


 


* * *


 


ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งไคลัน

 


เอียนที่ได้ยินการแจ้งเตือนการเข้าสู่ระบบอย่างคุ้นเคยขณะที่เขาเข้าสู่เกมก็มองไปรอบๆ


‘มันเป็นห้องนอนส่วนตัวของลอร์ด เนื่องจากฉันถูกบังคับให้ออกจากระบบดูเหมือนว่าฉันถูกย้ายมาที่นี่’


เอียนที่ลุกขึ้น ก่อนอื่นเปิดหน้าต่างข้อมูลและเริ่มตรวจสอบรางวัล


สิ่งแรกที่จับตาของเขาคือชื่อเสียงของเขา


‘ฮ่า ชื่อเสียงของฉันมากกว่าเลข 7 หลักแล้ว’


ชื่อเสียงของเขาที่เขาสะสมมาจนตอนนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านหน่วย


เอียนแสดงท่าทางพึงพอใจ


‘ถ้ามันมากขนาดนี้ ฉันไม่ควรที่จะเลื่อนขึ้นฉายาเป็นไวส์เคาท์แล้วหรอ?’


จำนวนชื่อเสียงที่ใช้เมื่อเลื่อนขั้นจากบารอนเป็นไวส์เคาท์คือ 800,000 หน่วย


อย่างไรก็ตาม การเลื่อนขั้นตัวเองเมื่อเขามีชื่อเสียงประมาณ 800,000 หน่วยไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก


นี่เป็นเพราะถ้าชื่อเสียงที่ลอร์ดมีนั้นต่ำ ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามจะลดลงและความเชื่อมั่นของสาธารณะจะลดลงด้วย


ก่อนที่เขาจะทำเควสต์อาณาจักร ชื่อเสียงของเอียนไม่ได้มากกว่า 850,000 หน่วย


อย่างไรก็ตาม เพราะว่าเขายังเหลือค่าชื่อเสียง 200,000 หน่วย แม้จะเลื่อนขั้นตอนนี้ซึ่งเขามีชื่อเสียงมากกว่า 1 ล้านหน่วย เขารู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร


เอียนเปิดหน้าต่างข้อมูลและไปที่แท็บเลื่อนขั้นฉายา


‘เลื่อนขั้นกันเถอะ’


ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ฉายาไวส์เคาท์นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นแม้จะเป็นการเลื่อนขั้นไปยั


เมืองขนาดใหญ่ซึ่งเป็นระดับต่อไปหลังจากระดับของเมือง


เอียนกดปุ่มเลื่อนขั้นโดยไม่ลังเล


ตามดัวยข้อความระบบโผล่ขึ้นมา


เมื่อเขาเห็นว่ามันโผล่ขึ้นมาเป็นข้อความสีเขียว ดูเหมือนว่ามันเป็นข้อความที่ถูกส่งไปยังสมาชิกกิลด์ของเขาทั้งหมด


 


ผู้เล่น ‘ลอร์ด’ ฉายาของเอียนได้เลื่อนขั้นจาก ‘บารอน’ เป็น ‘ไวส์เคาท์’

เมื่อฉายาของท่านได้รับการเลื่อนขั้นให้สูงขึ้นชื่อเสียงของกิลด์ก็เพิ่มขึ้น 10,000 หน่วย

เมื่อฉายาของลอร์ดเพิ่มขึ้นความเชื่อมั่นสาธารณะของดินแดนเพิ่มขึ้น 5 หน่วย

 


ข้อความระบบแสดงรายการทั้งหมดในครั้งเดียว


และเมื่อข้อความสีเขียวจบลง ข้อความสีขาวที่ปรากฏขึ้นเฉพาะเอียนโผล่ขึ้นมา


 


เมื่อฉายาของท่านถูกเลื่อนขั้น จำนวนสูงสุดของ NPC ที่ท่านสามารถลงทะเบียนเป็นผู้ติดตามของท่านเพิ่มขึ้น 5 หน่วย

เมื่อฉายาของท่านเพิ่มขึ้น ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามของท่านเพิ่มขึ้น 5 หน่วย

 


เอียนผู้อ่านข้อความต่างก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นบางสิ่งบางอย่างหลังจากเห็นเนื้อหาที่ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามของเขาเพิ่มขึ้น


‘ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามของฉันปกติอยู่ที่เท่าไหร่กัน?’


เอียนเปิดหน้าต่างข้อมูลที่เป็นรายชื่อของผู้ติดตามและเริ่มตรวจสอบความซื่อสัตย์แต่ละคน


 


รายชื่อผู้ติดตาม (ความซื่อสัตย์)

ความซื่อสัตย์สูงสุดคือ 100 หน่วย


ซีเรีย

เลเวล : 110 / อาชีพ : ซัมมอนเนอร์ / ระดับ : Heroic


ความซื่อสัตย์ : 98


มัลลเลี่ยม

เลเวล : 107 / อาชีพ : วอริเออร์ / ระดับ : Rare


ความซื่อสัตย์ : 85


เทนพุส

เลเวล : 114 / อาชีพ : พระ / ระดับ : Common


ความซื่อสัตย์ : 82


เซริอุส

เลเวล : 109 / อาชีพ : นักเวทมตร์ / ระดับ : Unique


ความซื่อสัตย์ : 90


โรโรยเทน

เลเวล : 110 / อาชีพ : วอริเออร์ / ระดับ : Rare


ความซื่อสัตย์ : 85


ไคซาร์

เลเวล : 246 / อาชีพ : วอริเออร์ / ระดับ : Mythological


ความซื่อสัตย์ : 5


 


‘เป็นไปตามที่คาด ยิ่งคุณให้ความสนใจกับพวกเขามากเท่าไหร่ความซื่อสัตย์ยิ่งมากเท่านั้น…’


ผู้ติดตามที่เอียนให้ความสนใจมากที่สุดก่อนที่เขาจะแต่งตั้งไคซาร์คือซีเรียซึ่งมีระดับสูงสุด


และตามที่คาดเซริอุสซึ่งระดับสูงสุดถัดไปก็มีความซื่อสัตย์ตามซีเรีย


เอียนซึ่งเห็นอย่างนั้นเหมือนถูกต่อยภายใน


‘มันเป็นค่านิยมเล็กน้อยหรอ?’


ในขณะที่การสะท้อนตนเองเล็กน้อย (?) การแสดงออกของเอียนซึ่งตรวจสอบรายชื่อสุดท้ายของผู้ติดตาม ช่วยไม่ได้ที่จะหน้าบึ้งทันที


“…เป็นไปตามที่คาด เขาไม่ได้เรียกฉันแค่เจ้าหนูลอร์ดโดยไม่มีเหตุผล”


ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามใหม่ไคซาร์อยู่ที่ 5 หน่วย


Even this was Loyalty that formed because Ian was just promoted to Viscount, so his original Loyalty was at 0.


แม้แต่สิ่งนี้คือความซื่อสัตย์ที่เกิดขึ้นเพราะเอียนเพิ่งได้เลื่อนขั้นเป็นไวส์เคาท์ ดังนั้นความซื่อสัตย์ดั้งเดิมของเขาจึงอยู่ที่ 0 หน่วย


เอียนกังวลในทันที


‘ฉันควรทำอย่างไรถ้าไคซาร์ทำร้ายโดยบังเอิญ?’


หากความซื่อสัตย์ของเขาอยู่ที่ประมาณ 5 หน่วย มันเป็นค่าต่ำพอที่มันจะไม่แปลกถ้าเขาจะระเบิดใส่หลังของหัวของเอียนในระหว่างการล่า


หลังจากนั้นเหงื่อได้ไหลเต็มหลังของเอียน


‘ถ้าไคซาร์ระเบิดใส่หลังหัวของฉัน มันอาจจะจบเกมสำหรับฉันในตรงนั้น…’


ไคซาร์ผู้ติดตามที่น่ากลัวมากกว่าไข้ทรพิษ!


เอียนส่ายหน้าขณะที่เขาเดินไปเพื่อจะออกจากห้องของลอร์ด


แกร๊ก-


และขณะที่เขาเปิดประตูห้องนอน


“ไวส์เคาท์ ท่านอาการดีขึ้นหรือยังครับ?”


เอียนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและเอียนหันไปจุดที่เสียงมาตามธรรมชาติ


“หืมม?”


คนนั้นที่เรียกเอียนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพอลลีน


‘ทำไมพอลลีนถึงอยู่ที่นี่?’


เอียนถามพอลลีน ด้วยท่าทางสงสัย


“ท่านพอลลีน ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่ล่ะ…?”


เมื่อเอียนถาม พอลลีนแสดงมารยาทของเขาเล็กน้อย ขณะที่เขายื่นม้วนกระดาษที่ทำด้วยผ้าแดงไปยังเอียนอย่างสุภาพ


“นี่คือจดหมายที่พระราชาบอกให้มาให้แกท่านเมื่อท่านตื่นแล้ว”


และเมื่อเอียนรับมัน พอลลันพูดต่ออีกครั้ง


“และพระราชาให้คำสั่งกับกระผมให้รับใช้ท่านจากนี้ไป”


กึก-


พอลลีนแสดงให้เห็นถึงมารยาทของเขาอีกครั้งด้วยท่าทางที่มีระเบียบวินัย


ตามนั้น ข้อความระบบโผล่ขึ้นด้านหน้าของเอียน


กริ๊ง-


 


‘อัศวินสายฟ้าพอลลีน’ ต้องการจะกลายเป็นผู้ติดตามของท่าน 

 

 


ตอนที่ 136

 

หวึ่งง-


จินซุงซึ่งเป่าผมให้แห้งด้วยเครื่องเป่าผมเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาอย่างรวดเร็วแล้วออกจากบ้านเพื่อพบกับฮาริน


‘ตามที่คาดไว้ ฉันคิดว่ามันเป็นพรที่ได้เกิดมาเป็นผู้ชาย’


เวลาที่จินซุงพร้อมที่จะออกไปข้างนอกรวมถึงการอาบน้ำของเขาก็ใช้เวลาน้อยกว่า 15 นาที


ถ้าเขาเป็นผู้หญิงมันเป็นเวลาสั้นๆที่เขาจะไม่สามารถล้างฟองแชมพูทั้งหมดในเส้นผมของเขาได้เลย


หากเป็นเช่นนั้นจินซุงอาจไม่แม้แต่ขยับเท้าข้างในแคปซูลเลยแม้แต่น้อย


‘ดูเหมือนว่าอากาศค่อนข้างเย็นนะ…’


จินซุงที่ค้นตู้เสื้อผ้าของเขาและโยนเสื้อแจ็กเก็ตเขาถูกกดดันให้ซื้อในช่วงต้นปี เดินไปที่สถานีพร้อมกับเสียงฝีเท้าเบาๆ


ยังมีเวลาอีกเล็กน้อยจนกระทั่งถึงเวลาที่เขาควรจะได้พบกับฮาริน


“ฉันควรซื้อขนมปังครีมคัสตาร์ดระหว่างทางไปดีมั้ย?”


ทันใดนั้นเมื่อนึกถึงขนมปังครีมคัสตาร์ดที่ฮารินชอบ เขาก็เข้าไปในร้านเบเกอรี่ที่ปากซอยก่อนที่เขาจะมาถึงสถานี


ดิ๊ง- ดิ๊ง-


อย่างไรก็ตาม ณ สถานที่นั้นจินซุงสามารถพบกับคนที่ไม่คาดคิด


“จับได้แล้ว!”


ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากยูฮยอน


เขาวิ่งเข้าไปหายูฮยอนที่เจอที่ร้านเบเกอรี่ระหว่างทางไปโรงเรียน


“อะไรน่ะ? นายหมายความว่าไงว่าจับฉันไดัแล้ว? นายกำลังพูดถึงอะไรกัน?”


ขณะที่จ้องไปที่จินซุงที่ถามด้วยอาการงุนงง ยูฮยอนพูดต่อ


“ฉันจะลักพาตัวนายไปโรงเรียนไม่ว่าวันนี้จะเป็นอะไร อย่าคิดแม้แต่จะกลับบ้านอีกครั้ง”


ด้วยคำพูดที่มุ่งมั่นของยูฮยอน จินซุงยิ้ม


“ไม่ต้องห่วงเลย ฉันไปโรงเรียนแน่ล่ะ”


อย่างไรก็ตาม ความสงสัยของยูฮยอนไม่ได้หายไปอย่างง่ายดาย


“อย่าพูดให้ฉันขำหน่อยเลย นายคิดว่าฉันไม่รู้หรอ? ตามความจริงที่ว่านายมาที่ร้านเบเกอรี่เพราะขนมปังของนายหมดแล้ว นายจะหิวขณะที่นายเล่นเกม”


เหตุผลของยูฮยอนนั้นค่อนข้างชัดเจน แต่จินซุงปฏิเสธจริงจัง


“อ่อ ไม่นะ ฉันบอกนายแล้ว ฉันควรจะได้พบกับฮารินที่สถานี ฉันจะไปโรงเรียนกับฮาริน ไม่ต้องกังวล”


ดวงตาทั้งสองของยูฮยอนเบิกโพลง


“ห้ะ? นายจะไปเจอกับฮารินหรอ?”


และยูฮยอนเบะปาก


“น่ะ นี่นายออกมารับฮารินหรอ?”


จินซุงตอบดัวยอาการขมขื่น


“ชะ ใช่”


“โอ้…”


ยูฮยอนเข้าหาข้างๆหูของเอียนและถามอย่างระมัดระวัง


“พวกนายคบกันยังอ่ะ?”


“Hmm… That…”


“อืมม… นั่น…”


จินซุงแสดงอาการเขินอาย


ขณะนั้นยูฮยอนส่ายหน้าและเดาะลิ้น


“จิ๊ จิ๊ ตอบตามความจริงมาเร็วๆ”


“อะไรน่ะ?”


“นายเป็น…ขันทีใช่ไหม?”


ในการโจมตีของยูฮยอนที่เฉียบแหลมพอที่จะไปถึงหัวใจจินซุงกลายเป็นคนโง่เหมือนปลาทอง


“พูดงี้ได้ไง…!”


“นายปฏิเสธมันไม่ได้นะ”


“ไม่ มันเป็นเพราะฉันประหลาดใจมาก ทำไมนายถึงทำให้คนปกติเป็นขันทีล่ะ?”


“ไม่หรอก ถ้านายไม่ใช่ขันที ถ้างั้นทำไมนานถึงยังไม่สารภาพกับผู้หญิงที่สวยอย่างฮารินที่ปฏิบัติตัวอย่างดีกับนายสักทีล่ะ?”


สักครู่หนึ่ง จินซุงไม่สามารถหาคำที่จะตอบโต้กลับมาได้


“Ha, what to do with this stifling dude.”


“ฮ่า ฉันจะทำยังไงดี”


ขณะที่มองไปยังยูฮยอนที่ถอนหายใจราวกับว่ามันเป็นงานของเขาเมื่อพวกเขาออกจากร้านเบเกอรี่ จินซุงก็เต็มไปด้วยความโกรธ


“เฮ้ แล้วนายล่ะ? เรื่องของนายน่ะ เป็นโสดดีหรอ คนโสดไม่ควรเป็นแบบนั้นกับคนอื่นนะ”


คำพูดของจินซุงเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว ยูฮยอนแสดงรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ


“อะไรนะ? นายพูดว่าใครเป็นคนโสดนะ?”


“นายนั่นแหละ ฉันพูดถึงนายอยู่”


“วูฮู้”


ยูฮยอนที่สวมรอยยิ้มของผู้ชนะได้เดินนำหน้าและหัวเราะจินซุง


“พี่ไม่ได้เป็นคนโสดอีกต่อไปแล้วไอ้น้อง”


“…!”


นั่นเป็นคำพูดที่เหมือนกับสายฟ้าแลบ


อย่างไรก็ตามจากนั้น


จากที่ไกลออกไป เขาเห็นเงาที่คุ้นเคยวิ่งมาหาพวกเขา


“ยูฮยอน!”


เสียงราวกับหยดน้ำผึ้ง


จินซุงที่ตรวจสอบต้นเสียงก็ตกใจ


“มะ… ไม่มีทางใช่ไหม?”


“ฮุฮุ ฉันเพิ่งคบกับมินอาเมื่อสองวันที่แล้วจินซุง”


ชั่วครู่หนึ่งเมื่อรู้สึกถึงความสูญเสียที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนสึนามิ จินซุงหย่อนถุงขนมปังที่เขาถือไว้กับพื้น


ตุบ-


มินอาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานในแผนก VR เดียวกันและยูฮยอนที่เขาคิดว่าอยู่ในหน่วยเดี่ยวเดียวกันกับเขา ไม่พอใจเพียงแค่เป็นคู่และกลายเป็นแผนก CC


“…”


สำหรับจินซุงซึ่งยืนด้วยท่าทางงุนงง ยูฮยอนก็ทำตัวเหินห่างจากคำสุดท้ายทิ้งไป


“พี่ไปก่อนนะไอ้น้อง นายต้องมาโรงเรียนด้วยการจับมือฮารินนะ! นายห้ามกลับบ้าน!”


ยูฮยอนไม่ลืมคำขอของเขาจนกระทั่งจากไป


จินซุงพึมพำกับสีหน้าที่ไร้อารมณ์


“แกนะแก…”


 


* * *


 


ดวงตาทั้งสองของคาร์วินผู้รับผิดชอบการต้อนรับของกิลด์โลตัสได้จมลงไปกับการตรวจสอบใบสมัครทั้งหมดที่ซ้อนกันไว้สูง


“ว้าว อิทธิพลของวิดีโอตัวอย่างนั้นเยอะจริงๆ ไม่ว่าฉันจะมองยังไงก็ไม่สิ้นสุดสักที”


กิลด์โลตัสซึ่งได้รับอันดับค่อนข้างสูงในขณะนี้ ก็ได้รับจำนวนของการสมัครอย่างไม่มีสิ้นสุด


อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขาได้รับใบสมัคร 2,000 ใบ


The fact that they went as far as raising the level restriction to 90, which was quite high, was even more surprising.


ความจริงที่ว่ายิ่งพวกเขายิ่งเพิ่มเลเวลจำกัดเป็น 90 ซึ่งค่อนข้างสูงยิ่งแปลกใจมากขึ้น


“ฉันควรเพิ่มเลเวลจำกัดเป็นประมาณ 110 ดีไหม?”


ก่อนอื่นให้ตัดผู้เล่นทั้งหมดที่มีเลเวลต่ำกว่า 100 คาร์วินถอนหายใจอย่างต่อเนื่องในขณะที่ดูแอปพลิเคชั่นสำหรับจดหมายตอบรับซึ่งยังมีอีกหลายร้อยรออยู่


อย่างไรก็ตามเนื่องจากตัวของฮาร์วินเองซึ่งอยู่ในทีมผู้บริหารอยู่ในช่วงเลเวล 110 นั่นจะไม่ยุติธรรม


“ไหนดูสิ ที่เหลือของกิลด์ตอนนี้คือ…”


 


จำนวนคนในกิลด์โลตัส (225/250)

 


ก่อนที่ระบบอาณาเขตจะเปิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับว่าอันดับของกิลด์นั้นสูงหรือต่ำ จำนวนคนทั้งหมดของกิลด์ถูกจำกัดไว้ที่ 200 คนไม่ว่าจะยังไง


อย่างไรก็ตามด้วยการสร้างระบบฐาน เมื่อใดก็ตามที่มีฐานเพิ่มเติมที่ครอบครองโดยกิลด์ จำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุดที่สามารถรับได้ก็จะเพิ่มขึ้น


Of course, the maximum number of guild members expandable wasn’t just with the number of bases owned, but also applied with the rank.


แน่นอนว่าจำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุดที่สามารถขยายได้นั้นไม่ได้มีเพียงจำนวนฐานที่เป็นเจ้าของ แต่ยังใช้ได้กับอันดับ


ปัจจุบันฐานของกิลด์โลตัสนั้นอยู่ที่เดียวคือเมืองโลตัสที่อยู่ในระดับ ‘เมือง’


ฐานที่เป็นระดับเมืองเพิ่มจำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุด 50 คนและด้วยเหตุนี้จำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุดที่สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ในกิลด์โลตัสคือ 250 คน


“Since we’ll be able to merge Ollibus Village tomorrow or the day after as well…”


“เนื่องจากเราจะสามารถรวมหมู่บ้านโอลิบัสในวันพรุ่งนี้หรือวันต่อไปได้เช่นกัน…”


ถ้าหมู่บ้านโอลิบัสซึ่งเป็นระดับหมู่บ้านกลายเป็นฐานของกิลด์ จำนวนคนสูงสุดจะเพิ่มขึ้นอีก 25 คนและถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะค่อนข้างอีกยาวนาน


คาร์วินขยี้ที่มัวในขณะที่เขาเริ่มอ่านจดหมายทุกฉบับอย่างละเอียด


“เฮ้อ… ฉันควรขอให้ฟิโอลันช่วยในการสัมภาษณ์”


เมื่อพวกเขาผ่านการกรองเป็นครั้งสุดท้ายที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นในช่วงเลเวล 100-110 และมีความแตกต่างในเลเวลเช่นนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะคิดออกว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นที่เหมาะสมกับกิลด์หรือไม่ ถ้าพวกเขามีหนึ่งหรือสองเลเวลที่มากกว่า


ด้วยเหตุนี้การสัมภาษณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น


คาร์วินที่เหนื่อยล้าจากการสัมภาษณ์มากก็ถอนหายใจขณะที่เขาบ่น


“ช่วงนี้ฉันจะขึ้นไปที่กรุงโซลเพื่อให้พี่ๆเลี้ยงอาหารให้ฉันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”


“ปาร์คจินซุง ปาร์คจินซุงนิ!”


“โว้ว เขาคือเอียน! เอียนมาที่โรงเรียนของพวกเรา!”


ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกาหลี


และในหอประชุมขนาดใหญ่นั้นมีการจัด VR แคปซูลสิบอันไว้ตรงกลาง


That incredible cheer poured out to Jinsung, who went in and was preparing for the game.


กำลังใจที่เหลือล้นนั้นไหลออกมาสู่จินซุงผู้ที่เข้ามาและกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเล่นเกม


“พวกเขารู้ไอดีของฉันได้ยังไง?”


สำหรับจินซุงผู้ที่ยังไม่รู้ความจริงที่ว่าใบหน้าของเขาถูกขายให้เด่นชัดในการออกอากาศเกม มันเป็นสถานการณ์ที่งุนงง


“ฮ่า เพราะมันดังมากฉันสงสัยว่าฉันจะสามารถมุ่งเน้นไปที่เกมได้ไหม”


จินซุงบ่นขณะปิดฝาแคปซูล


วู้วววว-!


ความตื่นเต้นที่เหลือเชื่อสามารถรู้สึกได้แม้ในแคปซูลที่ปิดสนิท


แน่นอนว่ามันไม่เหมือนกับความตื่นเต้นของการแข่งขัน E-sports กับแผนกนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ


บางคนเริ่มจดจำใบหน้าของจินซุงที่โผล่ขึ้นมาบนหน้าจอหลักของหอประชุมและเมื่อถึงตอนนั้นบรรยากาศก็เริ่มทวีขึ้น


นักศึกษาแผนก VR ซึ่งกำลังนั่งอยู่ด้านหนึ่งของหอประชุม แสดงออกที่น่ายินดีเมื่อพวกเขาเริ่มดูการแข่งขัน


“เฮ้ ยูฮยอนการแข่งขันครั้งนี้คือหมายเลขอะไรอ่ะ?”


“ตอนนี้… เนื่องจากเราเอาชนะแผนกพลศึกษาและแผนกบริหารธุรกิจ มันเป็นแผนกที่สามน่ะ”


“ถ้างั้นถ้าเราแค่ชนะครั้งนี้มันก็จะเป็นรองชนะเลิศใช่ไหม?”


“ใช่ ฉันคิดว่างั้น”


“ฮ่า…”


เซวอนหันไปมองกล่องแห่งวิญญาณที่ซ้อนอยู่ด้านหนึ่งของหอประชุม


“งั้นเราสามารถดื่มได้มากมายใช่ไหมยูฮยอน?”


ยูฮยอนพยักหน้าขณะที่กำกำปั้นแน่น


“แน่นอน จากที่ฉันเห็น จินซุงมันยังไม่ได้อุ่นเครื่องเลย”


“อะไรนะ? จริงหรอ?”


ตอนนี้เกมที่จินซุงกำลังเล่นในฐานะตัวแทนของแผนก VR เป็นเกมประเภท AOS ที่ให้ความรู้สึกเหลือเชื่ออย่างไม่น่าเชื่อมาระยะหนึ่งแล้ว


เกม AOS เกมแรกที่มีระบบ VR นำมารวมเข้าด้วยกันคือ League of Chaos


เกม AOS เป็นเกมที่ดำเนินการตามวิธีการของผู้เล่นห้าคนในแต่ละทีมจบลงด้วยผู้เล่นทั้งหมดสิบคนและพวกเขาต้องโจมตีค่ายของฝ่ายตรงข้ามภายในแผนที่ที่กำหนด แต่ประเภท AOS ใน VR มีความรู้สึกแตกต่างจากเมื่อ มันเป็นเกม PC AOS ที่มีอยู่แล้ว


เมื่อเกม AOS เป็นเกม PC จึงมีข้อจำกัดเมื่อผู้เล่นควบคุมตัวละคร


ไม่ว่าผู้เล่นจะยอดเยี่ยมขนาดไหน ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเล่นเกมในขณะที่ใช้เมาส์และแป้นพิมพ์และไม่เกี่ยวข้องกับความสามารถของผู้เล่น มันเป็นโครงสร้างที่ถ้าพวกเขาใช้สกิลเดียวกันมันก็ช่วยไม่ได้ที่จำนวนความเสียหายเท่ากัน


อย่างไรก็ตาม AOS ใน VR ไม่ใช่อย่างนั้น


ด้วยการต่อสู้ใน VR ขึ้นอยู่กับการพัฒนาของการควบคุมพลังของบุคคลหนึ่ง องค์ประกอบของ ‘การควบคุม’ ทำหน้าที่สำคัญที่พวกเขาสามารถชนะได้ในการแข่งขัน 5 : 1


แม้ว่าพวกเขาจะต้องใช้สกิลการโจมตีเดียวกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการโจมตีและกำหนดเวลาความเสียหายของพวกเขา ความเสียหายที่ได้รับแตกต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ


และในการแข่งขันสองนัดสุดท้ายที่เพิ่งจัดขึ้น จินซุงแสดงความสามารถอย่างล้นเหลือของเขา


เขาแบกเกมที่เกี่ยวข้องกับคน 5 คนด้วยความแข็งแกร่งของเขาเอง


อย่างไรก็ตามตามคำพูดของยูฮยอนซึ่งคิดว่าเขายังไม่อุ่นเครื่องอย่างสมบูรณ์จนถึงตอนนี้ เซวอนก็จ้องมองไปที่หน้าจอด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง


“เอาล่ะ แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีด้านนี้ด้วยเช่นกัน จินซุง!”


ฝ่ายตรงข้ามในครั้งนี้คือแผนกวิทยาการคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่ง


อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณจินซุงที่แสดงความแตกต่างของความสามารถที่ล้นเหลือของเขาในการแข่งขันสองนัดสุดท้าย ไม่มีใครในแผนก VR กำลังคิดว่าจะแพ้


“ฉันกังวลเล็กน้อยเพราะซันจังก็เก่ง แต่จินซุงยังเก่งอย่างครอบคลุมและอื่นๆอีกมากมาย”


ด้วยเซวอนพูดด้วยความตื่นเต้น ยูฮยอนพยักหน้า


“นายพนันได้เลยว่าเขาเป็นเพื่อนที่ได้รับข้อเสนอให้เป็นโปรเพลเยอร์ที่เล่นในโรงเรียนมัธยมแน่นอน ถ้าตัดแม่ของเขาเขาออกไป…”


“…”


ในขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน เกมก็เริ่มต้นขึ้นและบรรยากาศของหอประชุมเริ่มลุกโชนมากขึ้น


ตำแหน่งของจินซุงในเกม AOS คือกลาง


เนื่องจากเขาเป็นผู้โจมตีหลักของทีมที่สามารถขึ้นหรือลงเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการในขณะที่เขาดูแลทีม มันเป็นตำแหน่งที่แสดงให้เห็นมากที่สุดในเกม AOS


และราวกับว่าเขาพยายามที่จะทำตามความคาดหวังของนักเรียนแผนก VR ภายในเวลาเพียง 3 นาทีของการเริ่มเกมจินซุงก็คว้าการสังหารแรกมาได้


 


Perfect blood! ผู้เล่น ‘จินซุง’ ของทีมอันเดดไดัรับการสังหารแรก!

 


นอกจากนั้นใบหน้าของจินซุงก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอครู่หนึ่งและเสียงเชียร์ออกมาจากทุกทิศทุกทาง!


อย่างไรก็ตาม นั่นเพิ่งแค่เริ่มต้น


“อะ อะไรวะเนี่ย? การเคลื่อนไหวแบบนั้นเป็นไปได้ยังไง?”


“ไม่นะ คนคนหนึ่งจะตอบสนองความเร็วแบบนั้นได้ยังไง? เขาเป็นคนหรอน่ะ?”


เสียงอุทานเต็มไปด้วยความประหลาดใจโผล่ขึ้นมาจากทุกที่


จินซุงแสดงความเป็นไปได้ในทางทฤษฎีเท่านั้นราวกับว่าเขากำลังกินไก่ขณะที่เขาเริ่มกดดันทีมฝ่ายตรงข้าม


 


Triple kill! ผู้เล่น ‘จินซุง’ กำลังอาละวาดอย่างมาก!

 


ฮีโร่ที่จินซุงกำลังเล่นอยู่นั้นเป็นรูปแบบสกิลที่มีความรู้สึกคล้ายกับส่วนผสมของนักเวทและแอสซาซินหากเปรียบเทียบกับอาชีพของเกม RPG


ด้วยสกิลการวาร์ปที่มีระยะเวลาคูลดาวน์ที่สั้น เช่นเดียวกับเวลาสกิลในการฟื้นฟูที่สามารถสร้างตัวแปรได้มากมาย


อย่างไรก็ตามเนื่องจากพลังชีวิตของมันน้อยอย่างมาก หากควบคุมพลาดเพียงเล็กน้อยก็เป็นตัวละครที่อ่อนแอที่สามารถตายได้เช่นกัน


‘อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่โดนโจมตีก็เท่านั้นแหละ’


ในขณะที่นึกถึงคำที่จินซุงใช้ในขณะที่พวกเขาเล่น League of Chaos ยูฮยอนก็แสยะยิ้ม


“โว้ว เขาปีนกำแพงนั่นแหละไปตรงนั้น!”


“ไม่นะ เขารู้ได้ยังไงไรว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นและยิงเดาๆหรอ? คุณแน่ใจหรือไม่ว่าเขาไม่ได้แฮ็กแมพน่ะ?”


จินซุงก่อกวนสมรภูมิเหมือนปลาที่เจอน้ำ


เกมกำลังเข้าสู่ช่วงกลางก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวและจากจุดฆ่าที่เขาเก็บมาจนถึงตอนนี้ จินซุงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อจนถึงจุดที่ไม่มีใครไม่สามารถแตะต้องเขาได้


 


Double kill! Triple kill-!

 


เมื่อใดก็ตามที่จินซุงยิงออกมา ผู้เล่นของแผนกวิทยาการคอมพิวเตอร์กลายเป็นแสงสีเทาอย่างไม่ต้องสงสัย


 


Quadra kill!

 


เมื่อข้อความ ‘Quadra kill’ ซึ่งปรากฏขึ้นเมื่อสี่ในห้าฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามถูกสังหารทีละตัวโผล่ขึ้นมานักเรียนของฝ่าย VR ได้ยืนขึ้นพร้อมกัน


ยูฮยอนตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น


“Penta Kill ไปเลย!”


และแสงสีขาวที่พุ่งออกมาจากมือทั้งสองของจินซุงทะลุผ่านด้านหลังคอของผู้เล่นฝ่ายวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เหลืออยู่ล่าสุดก่อนที่มันจะผ่านไป


 


Penta Kill! ‘จินซุง’ เขาคือตำนาน

 

 

 


ตอนที่ 137

 

การมีอยู่ของไคซาร์และพอลลีนนั้นเป็นข้อดีที่อยู่ใกล้กับ ‘สูตรโกง’ ในแพ็คเกจเกมที่มอบให้กับเอียน


อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา


“เราต้องไปต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดน… นายไม่ช่วยพวกเราหรอ?”


“ข้าไม่ต้องการ มันน่ารำคาญเกินไป”


ไคซาร์พิงบนศาลาในสวนหลังบ้านของคฤหาสน์เมืองและงีบหลับ


เพื่อเกลี้ยกล่อมเขา เอียนจึงใช้เหตุผลอย่างขยันขันแข็ง


“ไม่สิ ถ้าเขาเอาดินแดนของเราไป นายจะไม่สามารถนอนที่นั่นได้นะ เราไม่ต้องปกป้องมันหรอ?”


อย่างไรก็ตาม มันไม่เพียงพอในการเคลื่อนย้ายไคซาร์


“ไปสิ เจ้าหนูลอร์ด ไปเร็วๆและปกป้องจุดนอนของข้า”


“…”


เช่นเดียวกับพลาสเตอร์ที่แสดงในพิพิธภัณฑ์ เขาไม่ได้ขยับเขยื่อนจากท่าเดิมแม้แต่นิ้วเดียวเพราะเขายังคงนอนอยู่


ในท้ายที่สุด ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะยอมแพ้และไปต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดน


“เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วครับลอร์ด”


ถึงอย่างนั้นในขณะที่มองดูพอลลีนที่ทำตามคำสั่งของเขาอย่างซื่อสัตย์เอียนก็รู้สึกสบายใจ


‘ถูกต้อง อย่างน้อยฉันก็มีพอลลีน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่พอลลีนที่ช่วยก็อาจจะไม่มีกรณีที่เราแพ้ในสงครามดินแดนแล้ว’


เอียนผู้เบิกบานในความฝันว่าเขาจะกวาดล้างสงครามดินแดนด้วยฐานของทวีปกลางพร้อมกับไคซาร์ พยักหน้าด้วยสีหน้าผิดหวัง


“เอาล่ะ พอลลีนไปกันเถอะ”


 


* * *


 


มันเป็นสงครามการป้องกันดินแดนครั้งแรกในชั่วระยะเวลาหนึ่ง


กิลด์โลตัสประสบความสำเร็จในการปกป้องดินแดนของพวกเขาภายในเวลาเพียงสามนัดโดยไม่ทำให้มันนานนัก


กิลด์คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือกิลด์ที่อ่อนแอกว่ากิลด์โพลาริสเมื่อไม่นานมานี้และกิลด์โลตัสที่รวบรวมควมแข็งแกร่งมากมายในระหว่างนี้ ประสบความสำเร็จในการปกป้องโดยไม่ต้องใช้กำลังการต่อสู้ทั้งหมดของพวกเขา


ยิ่งไปกว่านั้นในวันที่สงครามดินแดนป้องกันสิ้นสุดลง ข้อกำหนดสำหรับหมู่บ้านโอลิบัสก็เกิดขึ้นและการรวมกันก็เกิดขึ้นเช่นกัน


 


คุณประสบความสำเร็จในการรวมหมู่บ้านโอลิบัส (ระดับ : หมู่บ้าน) เป็นดินแดนของกิลด์โลตัส

ท่านสามารถตัดสินใจชื่อของฐานได้ (หากคุณไม่ตัดสินใจเลือกชื่อ ชื่อ ‘โอลิบัส’ จะถูกเก็บไว้โดยอัตโนมัติ)

 


เอียนคิดว่าจะตั้งชื่ออะไรสักครู่หนึ่ง


เฮิร์ซที่เห็นอย่างนั้นได้พูด


“เฮ้ไม่ต้องหรอก ชื่อโอลิบัสดีอยู่แล้ว ดังนั้นทำไมนายต้องพยายามหาชื่อให้ให้มันล่ะ? นายพยายามจะให้ชื่อมันเหมือนบุ๊กค์หรอ?”


เมื่อเฮิร์ซพูด บุ๊กค์ที่นอนราบเหมือนท่อนไม้ หันมาจ้องเขา


จ้อง-


อย่างไรก็ตามเฮิร์ซไม่กลัวและเอียนก็เห็นด้วยอย่างตรงไปตรงมาขณะที่พยักหน้า


“เอาล่ะ ถ้างั้นเราจะทิ้งชื่อมันไว้แบบนี้แหละ”


เมื่อเขายืนยันชื่อเป็นโอลิบัส ข้อความของระบบก็โผล่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง


 


ต้องมีหัวหน้าหมู่บ้าน ‘โอลิบัส’

ได้โปรดเลือกผู้เล่นในบรรดาสมาชิกในกิลด์ของท่านที่จะกลายเป็นหัวหน้าของหมู่บ้านโอลิบัส

 


เอียนหันหน้าไปหาเฮิร์ซ


“นายต้องการทำมันไหม?”


เมื่อคำเหล่านั้น เฮิร์ซส่ายหน้าขณะที่เขาตอบ


“ไม่อ่ะ งั้นเอาไปให้พี่โครบาน อีกนิดหน่อยฉันถึงจะได้ฉายา เนื่องจากพี่โครบานเป็นคนเดียวที่มีฉายาในตอนนี้ ถ้าเราแต่งตั้งพี่คนนั้นให้เป็นหัวหน้าแล้ว เราจะสามารถเพิ่มโอลิบัสให้อยู่ในระดับเมืองได้ในไม่ช้าเช่นกัน”


“โอ้ นายยังไม่ได้รับฉายาหรอ?”


“ใช่ ฉันคิดว่าคงจะได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแหละ”


หลังจากเสร็จสิ้นการตั้งค่าที่มีขนาดเล็กลงอีกสองสามอย่างนอกเหนือจากนั้น พร้อมกับการแต่งตั้งโครบานในฐานะหัวหน้าหมู่บ้านของโอลิบัส ข้อความรางวัลก็โผล่ขึ้น


 


เมื่อขนาดฐานของกิลด์โลตัสขยายตัวชื่อเสียงของกิลด์ก็เพิ่มขึ้น 10,000 หน่วย

เนื่องจากมีสองฐานที่เป็นของกิลด์โลตัส เมืองโลตัสจึงถูกกำหนดให้เป็น ‘ฐานหลัก’

การค้าระหว่างเมืองโลตัสกับหมู่บ้านโอลิบัวได้รับการฟื้นฟู

คะแนนวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น 15 หน่วย

คะแนนเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 15 หน่วย

 


ในขณะที่มองไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตต่างๆที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอียนก็พึงพอใจ


‘เราลองตรวจสอบข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อเลื่อนขั้นเมืองขนาดใหญ่ดีไหม?’


และในขณะที่เขาเปิดแท็บข้อมูล ข้อกำหนดการเลื่อนขั้นเพื่อกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นมา


 


[กล่อง] ข้อกำหนดสำหรับสถานะการเลื่อนขั้นเป็น ‘เมืองขนาดใหญ่’


เลเวลของผู้เล่นหัวหน้าของฐานหลักจะต้องเป็น 130 หรือสูงกว่า


ฉายาของผู้เล่นหัวหน้าของฐานหลักจะต้องเป็น ‘ไวส์เคาท์’ หรือสูงกว่า


ต้องมีฐานอย่างน้อย 3 แห่งที่เกี่ยวข้องกับกิลด์


ฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิลด์ต้องเป็นระดับ ‘เมือง’ หรือสูงกว่า


ชื่อเสียงของกิลด์ต้อง 500,000 หน่วยหรือสูงกว่า


 


เฮิร์ซที่ตรวจสอบข้อกำหนดการเลื่อนขั้นกับเอียน ตรวจสอบพวกมันทีละอัน


“ขี้จุกจิกจัง อย่างแรกข้อกำหนดแรกคือ…”


เฮิร์ซหันไปมองที่เอียน


“นายต้องเลเวล 130 หรือสูงกว่านั้น ดันนั้นตอนนี้นายเลเวลเท่าไหร่ละ”


“127 ฉันคิดว่าใกล้จะ 128 เร็วๆนี้แหละ”


“…?”


เฮิร์ซซึ่งกำลังจะเรียกร้องว่าพวกเขายังไม่ได้ใกล้เคียงกับข้อกำหนดแรกของพวกเขาเลย แต่เขาก็แสดงออกอย่างงุนงง


“เฮ้ย มันไม่ได้นานเลยที่นายถึงเลเวล 120 ดังนั้นนายจะถึงเลเวล 127 ได้ยังไง? นายเพิ่มเลเวลยังไงกันแน่?”


และเอียนตอบด้วยอาการราวกับว่าไม่ได้เรื่องใหญ่อะไรนิ


“ฉันก็ทำเควสต์อาณาจักรวนๆไป… อย่างไรก็ตาม ฉันแค่ต้องถึงเลเวล 130 เร็วๆนี้ ดังนั้นมาคิดเกี่ยวกับข้อกำหนดอื่นแทนเถอะ”


เฮิร์ซแสดงท่าทางสับสนสักครู่หนึ่ง


“โอเค มันไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่ฉันงุนงงก็เพราะนาย…”


อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยอมรับสถานการณ์และพูดต่อ


“เนื่องจากนายเป็นไวส์เคาท์อยู่แล้ว พวกเราพึงพอใจกับข้อกำหนดที่สอง”


“โอเค”


“อืมม… ถ้าเรารวมข้อกำหนดที่สามกับสี่เข้าด้วยกัน เราต้องมีฐานสามแห่งที่ทั้งหมดเป็นระดับเมืองหรือสูงกว่า ดังนั้นถ้าเราแค่ขยายอีกหนึ่งแห่ง จากนั้นทั้งหมดก็จะเข้ารูป เนื่องจากโอลิบัสจะกลายเป็นระดับเมืองเร็วๆนี้”


เอียนพยักหน้าขณะที่ตอบกลับ


“ถูกต้องแล้ว สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการเพิ่มฐานของเราอีกครั้งและสิ่งที่สองที่เราต้องทำคือเพิ่มชื่อเสียงของกิลด์ของเรา ชื่อเสียงของกิลด์ของเราตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่แล้ว?”


“มันอยู่ที่ 420,000 หน่วย”


“อีก 80,000 หน่วย ทำสงครามกิลด์อีก 20 ครั้งพอมั้ย…?”


ในขณะที่ดูเอียนผู้พูดราวกับว่ามันไม่มีความสำคัญ เฮิร์ซแสดงอาการงุนงง


“เฮ้ ถ้ามันไม่ใช่ 20 ครั้งล่ะ แต่นายสามารถชนะติดต่อกันได้ 20 ครั้งมั้ยล่ะ?”


อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเอียน


“นั่น… เราแค่ต้องชนะ”


“…”


“และฉันยังมีอีกวิธีที่จะเพิ่มชื่อเสียงให้กิลด์ของเรา”


“วิธีอะไรน่ะ…?”


เอียนยิ้มเมื่อเขาพูด


“ก้าวหน้าไปสู่ทวีปกลาง”


“อะไรนะ…? นายต้องผ่านเวสต์แลนด์และทะเลทรายชิคาร์เพื่อไปที่นั่นนะ”


เมื่อเฮิร์ซถามกลับ เอียนค้นคลังของเขาขณะที่เขาดึงอะไรออกมา


และสิ่งที่อยู่ในมือของเขาคือม้วนกระดาษอันหรูหราที่ทำด้วยผ้าสีแดง


เมื่อเขาเปิดมันขึ้น เอียนพูดเสริม


“ถ้าอยู่กับทหารองครักษ์ของอาณาจักรก็เป็นไปได้”


 


* * *


 


“ท่านลอร์ด หัวหน้ากิลด์เรียกกำลังเรียกท่าน”


กิลด์โอ๊คลันที่แข่งขันอย่างดุเดือดกับกิลด์สเปนดอร์อันดับ 3 และ 4 ในการจัดอันดับกิลด์เซิร์ฟเวอร์ของเกาหลี


เพราะกิลด์ดาร์ครูน่าและกิลด์ไททั่นซึ่งครองอันดับ 1 และ 2 ได้เข้าร่วมกับอาณาจักรไคม่อน ในความเป็นจริงกิลด์โอ๊คลันไม่แตกต่างจากกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากิลด์ที่เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปล


และ ‘ลิ่มหลง’ หนึ่งในอันดับ 1 ในการจัดอันดับผู้เล่นอาชีพแอสซาซินก็ร่วมทีมกับกิลด์โอ๊คลัน


ในขณะที่เขาอยู่ในช่วงเลเวล 120 ต้นๆเขาจึงต่ำกว่า 10 เลเวลเมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นอันดับต้นๆในกิลด์โอ๊คลัน แต่ต้องขอบคุณความจริงที่ว่าเขาอยู่อันดับ 1 ในการจัดอันดับสำหรับทั้งอาชีพและเขาเกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณการต่อสู้ ลิ่มหล่งจึงเข้ารับตำแหน่งในฐานะผู้เล่นที่ค่อนข้างมีอิทธิพลแม้ในกิลด์โอ๊คลัน


“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปในทันที”


‘ซามูเอลจิน’ หัวหน้ากิลด์แห่งกิลด์โอ๊คลันเป็นผู้เล่นระดับสูงที่ปรากฏเป็นอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับอาชีพนักธนู


ถ้าสไตล์ของชยาคราน หัวหน้าของกิลด์ไททั่นและอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับของอาชีพวอริเออร์นั้นนำพากิลด์ด้วยการต่อสู้ที่เกิดจากธรรมชาติและความสามารถพิเศษ ถ้างั้นซามูเอลจินเป็นคนที่ตรงกันข้าม


ไม่ได้หมายความว่าเขามีสัญชาตญาณในการต่อสู้ที่ต่ำกว่า แต่ความสามารถในการเล่นเกมภายในความสามารถของซามูเอลจินทำให้เขาเป็นผู้นำที่นำกิลด์ของเขาโดยใช้ความเข้าใจและสติปัญญารวมทั้งกลยุทธ์ของเขา


และลิ่มหล่งได้รับเกียรติอย่างสูงจากซามูเอลจินซึ่งเป็นเช่นนี้และได้เข้าร่วม


นี่เป็นส่วนที่สามารถตระหนักได้เพียงแค่เห็นความจริงที่ว่าเขาให้ตำแหน่งหัวหน้าสำหรับหนึ่งในห้าฐานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิลด์โอ๊คลันกับลิ่มหล่ง


“จิน ฉันได้ยินว่านายกำลังหาฉันอยู่”


หลังจากค้นพบลิ่มหล่งผู้เข้ามาในคฤหาสน์ ซามูเอลจินก็ทักทายเขาด้วยท่าทีต้อนรับ


“โอ้ ลิ่มหล่งนายมาแล้วหรอ”


“นายคงไม่บอกว่าจะให้ออกไปสำรวจเป็นเวลาสองชั่วโมงต่อจากนี้หรอกนะ? มีอะไรเกิดขึ้นหรอ…”


เมื่อลิ่มหล่งพูด ซามูเอลจินส่ายหน้าขณะที่เขาพูด


“มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น ฉันแค่ได้รับข้อมูลบางอย่างมา”


“อะไรล่ะ…?”


“มันเป็นข้อมูลที่การสำรวจของกิลด์ดาร์ครูน่าและกิลด์ไททั่นที่เข้าใกล้ทวีปกลางแล้ว”


“…!”


เพื่อจะเข้าสู่ทวีปกลาง พวกเขาจำเป็นต้องผ่านทะเลทรายชิคาร์และสกายไฮแลนด์


นั่นไม่ต่างไปจากกิลด์ที่เข้าร่วมกับอาณาจักรไคม่อนเข้ามาจากทางตะวันออกหรือกิลด์ที่เข้าร่วมกับอาณาจักรลัสเปลที่เข้ามาจากทางตะวันตก


เนื่องจากทะเลทรายแผ่กระจายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดทั้งสองฝั่งของทวีปกลาง


“พวกเขาสามารถผ่านไปในช่วงเวลาอันสั้นได้ยังไง?”


“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าไปโดยกองกำลังแม้ว่าพวกเขาจะต้องรับมือกับความเสียหายบ้าง ไม่ว่าพลังการต่อสู้ของพวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะได้รับความเสียหายเล็กน้อย”


กิลด์โอ๊คลันได้ดำเนินการเตรียมการก่อนหน้าอย่างละเอียดเพื่อเข้าสู่ทวีปกลาง


พวกเขาเตรียมอาหารให้สมาชิกกิลด์ทุกคนให้ทนได้นานกว่าหนึ่งเดือนและในขณะเดียวกันพวกเขาก็ให้สิ่งของทั้งหมดที่พวกเขาเก็บไว้และตั้งค่าอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดของสมาชิกกิลด์ให้อยู่ในเลเวลสูงสุด


ในทางกลับกัน กิลด์ไททั่นหรือกิลด์ดาร์ครูน่าน่าจะเข้าไปทันทีหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่เสร็จสิ้น


“อืมม… ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรับมือกับความเสี่ยง “


ซามูเอลจินพยักหน้า


“ถูกต้อง ตัวเลือกของพวกเขาค่อนข้างดีเช่นกัน แต่หากมองในระยะยาวพวกเขาจะต้องเสียใจ”


ลิ่มหล่งถามด้วยอาการงุนงง


“ทำไมล่ะ? อย่างแรกถ้าอย่างน้อยพวกเขาเข้าไปในทวีปกลาง พวกเขาจะไม่สามารถเข้าไปยึดฐานในทวีปกลางได้ก่อนและจัดสรรทรัพยากรรวมถึงอาหารในที่นั่นหรอ?”


ซามูเอลจินยิ้มขณะที่เขาส่ายหน้า


“ไม่หรอก พวกเขาอาจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้”


“…?”


“พื้นดินในทวีปกลางนั้นแห้งแล้งอย่างมาก ในการจัดสรรทรัพยากรที่นั่นอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองสามเดือน”


อย่างไรก็ตามแม้จะมีคำอธิบายนั้น ลิ่มหล่งก็ยังมีคำถาม


“ตอนเหนือของทวีปนั้นเย็นและแห้งแล้งในตอนแรก อย่างไรก็ตามฉันจำได้ว่ามันสามารถจัดหาและจัดสรรทรัพยากรได้เล็กน้อยในแบบของตัวมันเอง…”


ซามูเอลจินส่ายหน้า


“ทวีปทางตอนเหนือและตอนกลางนั้นต่างกัน”


“…?”


“มันคล้ายกับภาวะมีบุตรยาก แต่ในทวีปทางตอนเหนือมี NPC ที่อาศัยอยู่ที่นั่น ในขณะที่ในทางกลับกันในทวีปกลางไม่มีอะไรแน่นอน”


ลิ่มหล่งซึ่งในที่สุดก็เชื่อมั่นในคำพูดของเขาอย่างสมบูรณ์ก็ได้พยักหน้า


“อ่ะฮ่า… ในกรณีนั้นจะเป็นปัญหาแน่นอน”


“เป็นไปได้มากที่สุด ทั้งพวกกิลด์ไททั่นและพวกดาร์ครูน่า พวกมันจะต้องทนทุกข์ทรมานนิดหน่อย ฮ่าฮ่า”


“งั้นคุณวางแผนจะเคลื่อนไหวยังไงในตอนนี้?”


ซามูเอลจินพูดต่อ


“เราจะเดินช้ากว่าแผนของเรา หากพูดตามจริงฉันเรียกหานายเพื่อพูดสิ่งนี้”


ลิ่มหล่งแสดงอาการงุนงงอีกครั้งหนึ่ง


ซามูเอลจินพูดต่อ


“อะไรน่ะ?”


“นี่เป็นเพราะกิลด์อื่นๆในค่ายลัสเปลเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้ยินข้อมูลที่ค่ายอาณาจักรไคม่อนมาถึงก่อน”


หลังจากพักหายใจ เขาก็ได้พูดต่อ


“เราจะตามหลังเส้นทางที่กิลด์อื่นสร้างขึ้นและลดความเสียหายที่ได้รับให้มากที่สุด ในขณะที่เข้าสู่ทวีปตอนกลาง นี่เป็นเพราะไม่ว่าเราจะเคลื่อนที่มาถึงจุดนี้เร็วแค่ไหน เราก็ไม่สามารถที่จะมาถึงเร็วกว่าพวกดาร์ครูน่าหรือไททั่น”


พูดง่ายๆว่าเขากำลังพูดว่าในสถานการณ์ที่กำไรแรกมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาไม่ควรหักโหมและใช้วิธีการที่พวกเขาสามารถผ่อนคลายได้มากขึ้นและลดความเสียหายให้น้อยที่สุด


อย่างไรก็ตามมีสองตัวแปรที่ซามูเอลจินไม่ได้คิดถึง


อย่างแรกคือการมีอยู่ของสินค้าใหม่ที่เรียกว่า ‘คะแนนพิเศษ’


อย่างที่สองก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าอาจมีผู้เล่นที่มาถึงทวีปกลางก่อนที่กิลด์ไททั่นและกิลด์ดาร์ครูน่า 

 

 


ตอนที่ 138

 

ภายในคฤหาสน์ราชวงศ์ของอาณาจักรลัสเปล ณ หอเวทย์มนตร์ของตระกูลราชวงศ์ที่มีนักเวทมนตร์ของตระกูลราชวงศ์อาศัยอยู่


และตรงหน้าหอคอยเวทมนตร์นั้นมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่และจุดนี้เป็นสถานที่ที่นักเวทมนตร์ของราชวงศ์ได้ทดสอบเวทมนตร์ขนาดใหญ่รวมถึงสถานที่ที่พวกเขาใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายแบบ AoE


และในปัจจุบัน ณ จุดนี้รวมถึงเอียนและสมาชิกสมาคมกิลด์ อัศวินองค์รักษ์หลายร้อยคนในตระกูลราชวงศ์ยืนอยู่ที่นั่น


“คุณกำลังพูดว่ามีเพียง 100 คนเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ใช่ไหม?”


“ถูกต้องครับ ท่านไวส์เคาท์เอียน”


“นั่นมันช่างลำบากนิดหน่อย…”


การเคลื่อนย้ายแบบ AoE เป็นเวทมนตร์ระดับสูงที่สามารถส่งหลายๆคนไปยังพิกัดที่กำหนดไว้ได้พร้อมกัน


ความจริงที่ว่ามันต้องการมานาจำนวนมหาศาลและเนื่องจากเมื่อใดก็ตามที่จำนวนคนที่ต้องเคลื่อนย้ายเพิ่มขึ้นหรือถ้าระยะทางไกลขึ้นเรื่อยๆมานาที่ต้องการจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ


“ถึงกระนั้น ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่เราพบพิกัดของสกายไฮแลนด์ในตอนนั้น”


เมื่อเฮลเลี่ยมพูด เอียนพยักหน้า


“ดีมากเลย เนื่องจากเป็นข้อได้เปรียบที่เราสามารถย้ายไปยังสกายไฮแลนด์ได้ในครั้งเดียว”


หลังจากเลื่อนขั้นเป็นไวส์เคาท์ แม้แต่เฮลเลี่ยมหัวหน้าของอัศวินแห่งราชวงศ์ของอาณาจักร เขาก็ต้องปฏิบัติต่อเอียนเหมือนขุนนาง


นั่นค่อนข้างพึงพอใจ


เอียนหันหน้ามองไปที่เฮิร์ซ


“ยูฮยอนตามรูปลักษณ์ของมัน ฉันคิดว่ามันจะเป็นการดีที่สุดที่จะอยู่กับคนประมาณ 10 คนจากกิลด์ของเรา”


“อืมม… จากนั้นคนส่วนที่เหลือจะต้องเข้าร่วมการสำรวจกับอาณาจักรและมาเป็นปาร์ตี้ที่สองใช่ไหม?”


หากมีการจำกัดจำนวน 100 คนในการเคลื่อนย้ายก็เป็นที่แน่ชัดว่ามันควรจะเป็นพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด


เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าอันตรายชนิดใดจะแฝงตัวอยู่ในทวีปกลาง


สมาชิกกิลด์ของกิลด์โลตัสที่สมัครเข้าร่วมการสำรวจนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเลเวล 110 แต่จากรูปลักษณ์ของมันเมื่อเทียบกับช่วงเลเวล 150 อัศวินแห่งราชวงศ์ของอาณาจักรมันเป็นความจริงที่ว่าพวกเขานั้นอ่อนแอ


เอียนวางแผนที่จะนำสองคนไปด้วยคือเฮิร์ซและฟิโอลันที่ใกล้เคียงหรือมากกว่าเลเวล 120


‘ถ้าฉันเข้าร่วมปาร์ตี้ที่ดีในครั้งนี้และไปที่นั่น ฉันจะสามารถได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก… แต่เนื่องจากไม่มีความหมายถ้าฉันแค่แข็งแกร่งขึ้นคนเดียวในตอนนี้’


เอียนและเฮิร์ซคัดเลือกสิบคนที่จะเข้าร่วมปาร์ตี้ในการเคลื่อนย้าย AoE อย่างรอบคอบ


นี่เป็นเพราะว่าถ้าคนเก่งทุกคนเข้าร่วมปาร์ตี้แรก จากนั้นจะไม่มีคนนำในปาร์ตี้ที่สอง


“นำพี่โครบานและคาร์วินไปนำปาร์ตี้ที่สองเถอะ”


เมื่อเอียนพูด โครบานพยักหน้า


“โอเค พวกเราจะทำอย่างนั้น”


“และนำทหารทั้งหมดที่มีเลเวลมากกว่า 100 ในบรรดาทหารในเมืองโอลิบัสและเมืองโลตัสเช่นกัน”


เมื่อคำเหล่านั้น โครบานถามกลับด้วยสีหน้ากังวล


“ถ้างั้นมันจะไม่เป็นอันตรายต่อเมืองหรอ?”


“ไม่หรอก เนื่องจากไม่มีเมืองไหนที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรไคม่อนรอบตัวเราอีกต่อไปแล้วตอนนี้ อย่างไรก็ตามพลังป้องกันของเมืองไม่ได้อ่อนแอแม้ว่าจะไม่มีอาณาเขต”


เมื่อทวีปทางตอนเหนือเปิดขึ้นครั้งแรก เนื่องจากกิลด์ที่เข้าร่วมกับอาณาจักรทั้งสองเข้ายึดฐานทั้งหมดในเวลาเดียวกัน มีอาณาเขตสองแห่งที่มีความร่วมมือกับอาณาจักรไคม่อนอยู่แม้กระทั่งบริเวณรอบๆเมืองโลตัส


อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปในที่สุดดินแดนทั้งหมดที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับอาณาจักรลัสเปลก็ถูกยึดครองโดยกิลด์ระดับสูงในเครืออาณาจักรลัสเปลหรือกลุ่มสำรวจของอาณาจักรลัสเปลและในที่สุดก็พบว่ามีสภาพคงที่แล้ว


คุณสามารถพูดได้ว่ามีบางสิ่งเหมือนชายแดนของอาณาจักรที่ก่อตัวขึ้นแม้ในภาคเหนือ


ในสถานการณ์แบบนี้ สงครามในดินแดนที่กิลด์โลตัสต้องระวังคือการท้าทายจากกิลด์ที่เข้าร่วมกับอาณาจักรลัสเปลเช่นกันที่ยังไม่มีอาณาเขต แต่พลังป้องกันของเมืองโลตัสได้มาถึงจุดหนึ่งแล้วที่มันสามารถบล็อคการท้าทายเช่นนั้นได้โดยไม่ยาก


เมื่อเอียนพูด โครบานพยักหน้าเมื่อเขาตอบกลับ


“เอาล่ะ ถ้างั้นรักษาตัวด้วยท่านไวส์เคาท์เอียน”


โครบานยิ้มขณะที่เขาตอบและสถานที่ที่ไม่เป็นระเบียบเล็กน้อยได้รับการจัดระเบียบอย่างรวดเร็วและแม่นยำ


“เอาล่ะ ถ้างั้นเราไปกันเลยไหม?”


เมื่อคนประมาณ 100 คนที่เข้าแถวในพื้นที่ว่าง เอียนจึงส่งสัญญาณไปยังหัวหน้านักเวทและจากนั้นก็เริ่มมีการวาดสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่


หวึ่งงงง-


เพราะมันเป็นฉากที่ยอดเยี่ยมที่สมาชิกของกิลด์โลตัสซึ่งไม่รวมถึงเอียนได้เห็นเป็นครั้งแรก ตาของพวกเขาเบิกโพลง


“โอ้ เท่ห์จัง”


เมื่อเฮิร์ซพูด เอียนหัวเราะออกมา


“มันจะไม่เท่ห์อีกสักครู่หนึ่ง”


“นายพูด…?”


อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะพูดจบ เฮิร์ซสามารถค้นพบได้ว่าเอียนหมายความว่าอะไร


Piiing-!


สายตาของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาวในขณะที่มันเริ่มหมุน


ในช่วงกลางของอาการวิงเวียนศีรษะที่เขาเป็นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เฮิร์ซกรีดร้อง


“อ๊ากกก นายควรบอกฉันก่อนน้า!”


และหลังจากนั้นไม่นาน


ปาร์ตี้ขั้นสูงของคน 100 คนที่อยู่ในที่โล่ง หายไปจากจุดราวกับภาพลวงตา


 


* * *


 


สถานที่ที่ปาร์ตี้ขั้นสูงได้หายตัวไปคือแท่นบูชาท้องฟ้าที่กริฟฟินกำลังฟักตัว


ปาร์ตี้ขั้นสูงของคน 100 คนเริ่มปรากฏตัวทีละคนบนแท่นบูชาและคนที่มาถึงก่อนคือเอียนและไคซาร์


“มันให้ความรู้สึกใหม่มากๆ ที่คิดว่าฉันจะเดินบนดินแดนนี้อีกครั้ง”


สำหรับไคซาร์ซึ่งมองไปรอบๆเขาและพูดด้วยเสียงเบาๆ เอียนถามด้วยความงุนงง


“ดูเหมือนว่านายจะเคยมาที่นี่มาก่อน”


คำพูดของเอียนน้อยขึ้นเรื่อยๆ


เอียนซึ่งรู้สึกกังวลเล็กน้อยหลังจากพูด ตรวจสอบปฏิกิริยาของไคซาร์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจอะไรมาก


“เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก่อนคำพิพากษาของพระเจ้าไคลันได้สร้างขึ้น ที่นี่เหมือนกับนรก”


“หืมมม…?”


“ทุกๆวันเป็นชุดของสงครามและลัสเปลกับไคม่อนพยายามที่จะกลืนกัน ผลที่ตามมาก็คือเมืองหลวงของพวกเขาก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน”


เอียนถามโดยไม่คิดมาก แต่หลังจากได้ยินเรื่องราวของไคซาร์เขาก็รู้สึกสนใจ


“แต่ผู้ติดตาม นายไม่ได้พูดว่านายเป็นคนธรรมดาหรอกหรอ? นายลงเอยเพื่อต่อสู้กับฝั่งของอาณาจักรลัสเปลได้ยังไง?”


หลังจากไคซาร์ถอดดาบออกแล้วถือมันขึ้น เขาก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับย่างก้าวขนาดใหญ่ในขณะที่เขาตอบ


“ข้าเป็นทหารรับจ้าง”


“ฉันเข้าใจละ”


อย่างไรก็ตามในตอนนั้น ขณะที่มองไคซาร์ที่กำลังจะกระโดดลงมาจากแท่นบูชา เอียนก็ตกตะลึง


“ไม่นะ ผู้ติดตาม! นายจะไปคนเดียวอย่างงั้นได้ยังไง? ฉันบอกนายแล้วว่านี่คือสกายไฮแลนด์”


เอียนได้สัมผัสกับความน่ากลัวของสกายไฮแลนด์แล้ว


เอียนซึ่งจำพัชเยาเสือยักษ์ช่วงเลเวล 180 และเทราโนด้อน กิ้งก่าที่ใกล้กับเลเวล 200 พยายามหยุดไคซาร์ แต่ไคซาร์ไม่เกรงกลัว


“เจ้าหนูลอร์ด เจ้ารู้ไหม?”


“อะไรอ่ะ?”


“เนื้อของพัชเยานั้นอร่อยมาก ข้าจะย่างให้เจ้าสักนิดในวันหลังละกัน”


“…”


ด้วยเสียงวืดด ไคซาร์กระโดดลงมาด้านนอกแท่นบูชาซึ่งสูงประมาณ 3-4 ชั้นของอาคาร


เอียนส่ายหัวและ ณ ตอนนั้นผู้คนทั้งหมดได้มาถึงที่แท่นบูชา


เฮลเลี่ยมเข้ามาหาเอียนขณะที่เขาถาม


“ไวส์เคาท์ครับ ไคซาร์ไปไหนแล้วครับ?”


เมื่อนั้นเอียนถอนหายใจ


“เขาบอกว่าเขาต้องการจะกินเนื้อพัชเยาน่ะ”


“…”


ไคซาร์ไม่ใช่คนที่เอียนจะสามารถควบคุมได้ แต่เมื่อเฮลเลี่ยมรู้ดีเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก


“แต่ว่าท่านเฮลเลี่ยม”


“ไปถามท่านไวส์เคาท์เลย”


“ไคซาร์… มันจะไม่เป็นอันตรายที่เขาไปคนเดียวใช่ไหมครับ?”


เอียนคาดการณ์ว่ากำลังของไคซาร์และเฮลเลี่ยมนั้นคล้ายคลึงกัน


เนื่องจากเขายังไม่สามารถตรวจสอบเลเวลของเฮลเลี่ยมได้มันจึงไม่แน่นอน แต่จากความสัมพันธ์และสถานการณ์ของทั้งสองคนเขาจึงสามารถคาดเดาได้เช่นนั้น


อย่างไรก็ตามจากสิ่งที่เอียนจำได้แม้แต่เฮลเลี่ยมก็เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังในสกายไฮแลนด์นี้ เขาจึงถาม


เฮลเลี่ยมที่รู้ถึงความคิดของเอียน หัวเราเมื่อเขาตอบกลับ


“อย่างน้อยก็อาจจะไม่มีสิ่งมีชีวิตที่อันตรายพอสำหรับไคซาร์หรือฉันในสกายไฮแลนด์ ผ่อนคลายเถอะ ครั้งที่แล้วฉันต้องปกป้องไข่กริฟฟิน ดังนั้นฉันจึงเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง”


“อ่อ…”


เฮลเลี่ยมซึ่งหันหลังไปออกคำสั่งให้ยังอัศวินที่ตั้งแถวกันก่อนที่พวกเขาจะรู้


“เราจะเข้าไปสู่ทวีปกลางให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้


 


* * *


 


“ฮ่าฮาฮาฮ่า!”


เสื้อคลุมสีดำยาวพอที่จะลากไปตามพื้นเช่นเดียวกับคฑาที่มีแสงสีดำในตอนท้ายที่ปล่อยพลังงานมืด


ฮานจิฮูนี่ย์ผู้เรียกตัวเองว่านักเวทมืดที่แข็งแกร่งที่สุด แสดงท่าทางที่กังวล ขณะที่เขาก้าวเท้าเข้าสู่ทะเลทรายสกายที่อยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา


‘คนแรกที่ค้นพบทะเลทรายสกายน่าจะเป็นฉันใช่มั้ย ฮาฮาฮ่า… ฉันสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในฐานะของผู้ค้นพบคนแรกของพื้นที่นี้’


ฮานจิฮูนี่ย์ซึ่งเดินไปข้างหน้า ทำใจให้สงบและตรวจสอบหน้าต่างข้อความ


และข้อความระบบโผล่ขึ้นมา


อย่างไรก็ตาม…


 


ท่านได้เข้าสู่ทะเลทรายสกาย

เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งของทะเลทรายการเคลื่อนไหวของท่านจึงช้าลง 1%

 


ฮูนี่ย์แสดงอาการงุนงง


“ฉัน… ไม่ใช่คนแรกหรอกหรอ?”


ในทันใดความรู้สึกสูญเสียก็เกิดขึ้น


“ไม่นะ ฉันมาตามเวลาการอัปเดตและได้รับเควสต์ลับเช่นนี้ แต่จะมีคนที่มาที่นี่ก่อนฉันได้ยังไงกัน?”


อย่างไรก็ตามทันใดนั้นเงาดำมืดคืบคลานเข้ามาและปรากฏขึ้นถัดจากฮูนี่ย์ที่บ่น


 


นายกำลังทำอะไรน่ะฮูนี่ย์? เจ้าแห่งความมืดกำลังรออยู่ ไม่มีเวลาแล้วนะ

 


“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องเร่งฉันบัลลัม”


น่าแปลกที่สิ่งที่ปรากฏขึ้นถัดจากฮูนี่ย์เป็นเรื่องไร้สาระของผีดิบของนักเวทมืดผู้หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในรูปของอัศวินแห่งความตาย


อย่างไรก็ตามจุดที่แตกต่างกันเล็กน้อยคือร่างของอัศวินแห่งความตายปกติเป็นแสงมืด ในขณะที่เงาที่ปรากฏถัดจากฮูนี่ย์นั้นเป็นแสงที่มืดและทองในเวลาเดียวกัน


“ฉันแค่ต้องหาหลุมศพโบราณของชิคาร์ใช่ไหม?”


เมื่อฮูนี่ย์พูด อัศวินแห่งความตาย ‘บัลลัม’ พยักหน้า


 


ถูกต้อง

 


“อยู่ที่ไหนล่ะ?”


 


ซากปรักหักพังโบราณของชิคาร์ นายต้องเข้าสู่ทวีปกลาง

 


ฮูนี่ย์พยักหน้า


“เข้าใจแล้ว รีบๆไปกันเถอะ”


อย่างไรก็ตาม บัลลัมที่เดินไปข้างหน้าก็หยุดทันที


 


ฮูนี่ย์ศัตรูปรากฏตัวขึ้นข้างหน้า

 


“ไม่ตลกหน่า พวกมันเป็นพระ”


เหมือนชื่อของพวกมัน พระเป็นมอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นในรูปของพระสงฆ์


แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นพระจริงหรือในคำอื่นๆคือมอนสเตอร์ที่เหมือนมนุษย์ แต่เป็นมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเหมือนมัมมี่


Seu-seuk- Seu-seu-seuk-


พระสงฆ์มากมายยิงจากภายในทะเลทราย


พระเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่เริ่มต้นจากเลเวล 130 และอยู่ในเลเวลสูงของเลเวล 140 ปลายๆ แต่ฮูนี่ย์ไม่ได้ดูเหมือนว่าเขาจะถูกข่มขู่แม้แต่น้อย


ในขณะที่อยู่ไม่สุขด้วยกำไลข้อมือสีดำที่อยู่บนข้อมือของเขา เขาตะโกนคำที่เริ่มต้น


“วิญญาณแห่งการแก้แค้นของผู้ตายที่ไม่พอใจ… ขอความเข้มแข็งจากทะเลทรายและอุทิศตัว!”


เมื่อเขาทำเช่นนั้นราวกับว่าพวกมันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตทรายในทะเลทรายก็ลอยขึ้นไปในอากาศและเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง


และนั่นก็กลายเป็นรูปแบบของทหารโครงกระดูกจำนวนมากและพวกมันก็เริ่มเต็มทะเลทราย


“ฮาฮาฮ่า เป็นไปตามที่คาด พลังแห่งความอมตะนี่มันดีจริงๆ”


ในขณะที่มองไปที่นักรบโครงกระดูกหลายร้อยตัวที่พุ่งเข้าหาพระ ฮูนี่ย์หัวเราะอย่างมืดมัว


การเล่นที่ทำให้รู้สึกเป็นเรื่องที่น่าอาย


อย่างไรก็ตาม อัศวินแห่งความตายบัลลัมทำให้เขามีส่วนร่วมในการเล่นของฮูนี่ย์


 


ถูกต้องเลยครับ พลังแห่งความอมตะนี่มันดีจริงๆ ฮูนี่ย์ กระผมเชื่อว่าท่านจะสร้างอาณาจักรแห่งความมืดได้แน่นอน

 


ฮูนี่ย์พยักหน้าด้วยท่าทางที่ตั้งใจแน่วแน่


“แน่นอนบัลลัม ฉันฮูนี่ย์จะบำรุงรักษาความอมตะและทำให้พื้นดินมืดมิดด้วยความมืด”


ในขณะที่เจ้านายสองคนและคนรับใช้ (?) จัดฉากละครอย่างจริงจังทหารโครงกระดูกของทะเลทรายที่ถูกอัญเชิญด้วยพลังแห่งอมตะนั้นได้เผชิญหน้ากับพระอย่างงดงาม


ฮูนี่ย์ดูภาพนั้นด้วยความยินดีเมื่อเขาเริ่มเคลื่อนไหว


และด้านหลังของเขา อัศวินแห่งความมืดบัลลัมตามเขามาอย่างเงียบๆ


อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้เลย


เร็วๆนี้จะมีภัยพิบัติที่น่าเหลือเชื่อ มีชื่อว่า ‘เอียน’ กำลังใกล้เข้ามาหาพวกเขา… 

 

 


ตอนที่ 139

 

เมื่อเทียบกับตอนที่พวกเขามาเดินทางกับเอียนเพื่อการฟักไข่กริฟฟิน เฮลเลี่ยมและอัศวินก็แข็งแกร่งขึ้น


และนั่นก็เหมือนกันสำหรับเอียนเช่นกัน


เขายังคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับพัชเยาซึ่งเลเวลมากกว่า 180 และเทราโนด้อนซึ่งใกล้เคียงกับเลเวล 200 แต่เขาได้ถึงจุดที่เขาสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองได้


ยิ่งไปกว่านั้นกับไคซาร์ซึ่งเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งจนถึงจุดที่ยากที่จะแยกแยะผู้ที่เหนือกว่าระหว่างเฮลเลี่ยมกับเขา ในการเข้าร่วมกับพวกเขาในแหล่งล่าที่น่ากลัวที่สกายไฮแลนด์ก็กลายเป็นดันเจี้ยนที่หอมหวานดุจน้ำผึ้ง


“ว้าว… เอียนนายล่าในสภาพแวดล้อมแบบนี้ตลอดเวลาเลยหรอ?”


ท่ามกลางความชื่นชม ฟิโอลันส่งความอิจฉาไปให้เขา


เอียนเกาหลังหัวของเขา


“ไม่นะ มันก็นานมาแล้วสำหรับฉัน…”


อย่างไรก็ตามข้อแก้ตัวของเอียน (?) ถูกปัดออกโดยคำพูดของเฮิร์ซ


“ไอ้นี่นิได้รับการฟาร์มที่สุดยอดแบบนี้อยู่คนเดียว… ไม่สงสัยเลยว่าทำไมนายถึงเพิ่มเลเวลได้ไว”


ฟิโอลันก็พยักหน้าขณะที่เห็นด้วย


“ฉันเห็นด้วย เอียนนี่มันมากเกินไป ได้โปรดมองกลับไปที่สมาชิกกิลด์สักหน่อยเถอะ”


“ถูกต้อง ถูกต้อง!”


ทันใดนั้นเอียนก็กลายเป็นลอร์ดที่เห็นแก่ตัวซึ่งไม่ได้ดูแลสมาชิกกิลด์ของเขา


“…”


อย่างไรก็ตามผ่านการล่าที่ราบรื่นของพวกเขา ปาร์ตี้ของเอียนเดินผ่านสกายไฮแลนด์ในไม่ช้าและเข้าใกล้ทวีปกลาง


หลังจากนั้นไม่นานมีม่านสีขาวปรากฏขึ้นต่อหน้าของปาร์ตี้


นั่นคือเส้นขอบมิติที่มองเห็นได้ทุกครั้งที่มีการข้ามพื้นที่


มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขามาถึงทวีปกลางแล้ว


ฟิโอลันที่เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าของมัน ถามเอียนด้วยสีหน้ากระวนกระวาย


“เป็นไปได้ไหมที่เราจะเป็นคนแรกน่ะ เอียน?”


“ใครจะไปรู้ หากกิลด์ยักษ์เคลื่อนตัวเร็วก็เป็นไปได้ว่าพวกเขามาถึงก่อน…”


และคนที่ตอบการสนทนาของคนสองคนคือไคซาร์ที่ปรากฏมาจากด้านหลัง


“เราน่าจะเป็นคนแรกเพราะไม่มีใครที่รู้สภาพทางภูมิศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ดีกว่าฉัน”


เมื่อคำเหล่านั้น เอียนพยักหน้าในใจของเขา


‘แน่นอน… เรามาถึงรวดเร็วอย่างมาก’


ส่วนจากทะเลทรายสกายไปยังแท่นบูชาท้องฟ้าเป็นทะเลทรายจึงสามารถมองเห็นขอบฟ้าที่ว่างเปล่าได้


อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาผ่านแท่นบูชาท้องฟ้าและเข้ามาใกล้กับทวีปกลาง หุบเขาหินก้อนใหญ่ก็เรียงตัวชิดกันและแน่นอนว่าถ้าไม่ใช่ไคซาร์ พวกเขาจะเสียเวลามากในการหาเส้นทางที่ถูกต้อง


“ถ้างั้น… เข้าไปดูกัน”


เอียนเดินด้วยก้าวใหญ่ๆ


เนื่องจากรางวัลผู้ค้นพบครั้งแรกนั้นถูกแบ่งปันกับสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันจึงไม่สำคัญว่าใครจะเข้ามาก่อน


และทันทีที่เอียนผ่านกระแสแห่งแสงสว่าง ข้อความของระบบก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าสมาชิกทุกคนของกิลด์โลตัส


กริ๊ง-


 


ท่านเป็นผู้คนพบของทวีปกลางคนแรก ‘ชิคาร์’

ชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 100,000 หน่วย

รางวัลที่ได้รับจากมอนสเตอร์ทั้งหมดในทวีปชิคาร์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (หากท่านเป็นผู้ค้นพบครั้งแรกของดันเจี้ยนรางวัลค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะทับซ้อนกัน)

ชื่อเสียงของกิลด์โลตัสเพิ่มขึ้น 100,000 หน่วย

 


เมื่อข้อความของระบบที่ไหลมาเทมา สมาชิกกิลด์ทั้งหมดรวมถึงเอียนต่างก็ยิ้ม


“ฮ่า เราได้เพิ่มชื่อเสียงให้กับกิลด์เป็นแสน! นอกจากนี้เรายังปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับการเลื่อนขั้นได้ในทันที”


เมื่อเฮิร์ซพูด เอียนพยักหน้า


“ดูเหมือนว่าเราจะไม่ต้องไปทำสงครามดินแดนอย่างน่ารำคาญแล้ว”


และประโยคที่ดึงดูดสายตาของเอียนก็คือรางวัลที่เพิ่มขึ้นสำหรับการล่าตามที่คาดไว้


นอกเหนือจากนั้นด้วยคำอธิบายที่เป็นมิตรว่าบัฟผู้ค้นพบคนแรกของดันเจี้ยนจะทับซ้อนกัน ดวงตาของเอียนก็เปล่งประกาย


‘ไปถึงเลเวล 130 กัน! ถัาฉันแค่เจอดันเจี้ยนเดียว ฉันจะถึงมันในทันที!’


เอียนหันไปมองไคซาร์ซึ่งเป็นบัสที่ยอดเยี่ยมและไคซาร์ที่ได้พบกับเอียนก็เงยหน้าขึ้น


“ทำไมนายถึงมองฉันหยาดเยิ้มขนาดนั้น เจ้าหนูลอร์ด”


เอียนดูเหมือนจะอารมณ์ดีแม้กระทั่งในคำพูดว่าเจ้าหนูลอร์ด ตอนที่เขาตอบขณะที่กำลังหัวเราะ


“นายไม่ต้องรู้หรอก ฮ่าฮ่า”


เอียนก็ดึงจดหมายที่เขาได้รับจากพระราชาออกมาแล้วอ่านมันอีกครั้ง


มันเพิ่งถูกเรียกว่าจดหมายราชวงศ์ แต่ในกรณีของเอียน มันก็คล้ายกับคำแนะนำเควสต์ที่เนื้อหานั้นได้รับการอธิบายอย่างละเมียดละไม


 


• การสำรวจโบราณสถานแห่งชิคาร์

ในโบราณสถานของชิคาร์นั้น ‘จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม’ ถูกซ่อนอยู่ที่นั่น


น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมทำให้การเติบโตของฐานของทวีปกลางเร็วขึ้นสองเท่าและจะลดเวลาที่ใช้ในการยึดฐานครึ่งหนึ่ง


เรามาเอาจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมก่อนอาณาจักรไคม่อนและใช้เป็นหลักในการยึดฐานมากขึ้น


ระดับความยากเควสต์ : SS


เงื่อนไขเควสต์ : ไม่ทราบ


เวลาจำกัด : ไม่มี


*ถ้าผู้เล่นของอาณาจักรไคม่อนได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ก่อน เควสต์จะล้มเหลว


 


‘จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมหรอ… มันบอกว่าไม่มีการจำกัดเวลา แต่มันเป็นโครงสร้างที่เราช่วยไม่ได้ที่จะเคลื่อนที่อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้’


เอียนถามไคซาร์


“นายรู้ไหมว่าโบราณสถานของชิคาร์อยู่ที่ไหน?”


เมื่อเอียนถาม ไคซาร์พยักหน้าโดยไม่ลังเล


“แน่นอน โบราณสถานของชิคาร์ตั้งอยู่ในใจกลางของทวีปกลาง”


“ถ้างั้นอะไรคือจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมล่ะ?”


การแสดงออกของไคซาร์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย


“อืมม? จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมหรอ… ฉันรู้จักโฮบดรีม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินชื่อว่าจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม”


เอียนผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็พยักหน้า


เนื่องจากแม้แต่ความจริงที่ว่าเขารู้ที่ตั้งของโบราณสถานก็ช่วยได้มากแล้ว


“เข้าใจละ”


ไคซาร์พูดด้วยอาการสงสัย


“ถ้างั้นไอเทมที่เรียกว่าจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เหลือเชื่องั้นหรอ?”


ตาทั้งสองของไคซาร์ลุกวาว


เมื่อเขาจ้องมองซึ่งคล้ายกับตอนที่เขาต้องการดาบใหญ่แห่งความมืดเฟนเรียร์ เอียนก็ตกใจขณะโบกมือของเขา


“มะ มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น มันเป็นไอเทมที่พระราชาบอกฉันมาให้หามัน”


“อ่อ… เข้าใจแล้ว”


มีเพียงแค่สิ่งนี้ที่หันความสนใจของเขาได้


ในขณะที่มองรูปแบบนั้น เอียนก็พึมพำกับตัวเอง


‘อย่างไรก็ตามเป็นไปได้ไหมที่ฉันจะหาไอเทมดีๆและมอบให้กับไคซาร์ ฉันจะเพิ่มความซื่อสัตย์ของเขาได้ไหม?’


เอียนรู้สึกอย่างยิ่งว่าเป็นไปได้


 


* * *


 


“ความจริงที่ว่ารางวัลผู้ค้นพบครั้งแรกไม่ได้ปรากฏขึ้นหมายความว่ามีบางคนก้าวเข้าสู่ทวีปตอนกลางก่อน”


เมื่อชยาครานพูด ซีลรอนที่ตามมาข้างหลังพยักหน้า


“ถูกต้องหัวหน้า ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาถึงเร็วกว่าเราได้ยังไง… แต่ดูเหมือนว่ามีผู้เล่นที่มาถึงก่อนแล้ว”


และเอมิลี่มี่ตามพวกเขามาได้พูดเสริม


“โอกาสที่จะเป็นกิลด์ดาร์ครูน่านั้นสูงสุดใช่ไหม?”


เช่นเดียวกับกิลด์ไททั่น กิลด์ดาร์ครูน่าส่งคนเดินทางไปยังทวีปกลางทันทีที่การอัพเดทครั้งใหญ่สิ้นสุดลง


ตามชื่อของพวกเขาในการเป็นกิลด์หมายเลข 1 ความคิดของเอมิลี่ก็ตรงไปตรงมา “อืมม… เรามาช้าไปหนึ่งก้าวเช่นกัน…”


ชยาครานขมวดคิ้วเล็กน้อย


เขารีบเร่งไปมากเพื่อที่จะก้าวไปสู่ทวีปกลางก่อนที่กิลด์ดาร์ครูน่า แต่ต้องคิดว่าเขามาช้าในที่สุดก็ทำให้เขาโกรธเล็กน้อย


“เราจะทำอะไรตอนนี้? มันจะเป็นการดีที่สุดสำหรับเราที่จะหาฐานและครอบครองมันก่อนหรือไม่?”


เมื่อซีลรอนพูด ชยาครานส่ายหน้า


“ไม่ เรามีบางสิ่งที่ต้องทำก่อนหน้านั้น”


ชยาครานเบะปาก


‘เราอาจสูญเสียบัฟผู้ค้นพบคนแรกของทวีปไปให้กิลด์ดาร์ครูน่า แต่เราควรจะได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ก่อน’


เหตุผลที่ทำให้ชยาครานมั่นใจนั้นง่ายๆ


นี่เป็นเพราะคนที่ได้รับเควสต์จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมนั้นคือเขา


เควสต์อาณาจักรนั้นแตกต่างจากเควสต์ปกติ ดังนั้นเควสต์เดียวกันจึงไม่ให้กับผู้เล่นหลายคน


และมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเควสต์ที่จะมีอีกอันหนึ่ง


กล่าวอีกนัยหนึ่งก็หมายความว่ากิลด์ดาร์ครูน่าไม่รู้ด้วยซ้ำถึงการมีอยู่ของจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม


‘ตราบใดที่เราแค่ได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเราสามารถพลิกกลับจากการสูญเสียที่ไม่ได้รับรางวัลผู้ค้นพบครั้งแรก’


นอกเหนือจากนั้น ในไม่ช้าอัศวินของอาณาจักรไคม่อนที่ถูกส่งไปช่วยเหลือพวกเขาโดยพระราชาไคมอนจะมาถึงทวีปกลางในไม่ช้า


ชยาครานหันกลับมาพูดกับซีลรอนและเอมิลี่


“เราจะไปที่ใจกลางของทวีปกลาง”


เมื่อนั้น เอมิลี่ถามกลับด้วยเสียงที่งุนงง


“ห้ะ? ถ้าเช่นนั้นความอุดมสมบูรณ์ของฐานที่ล้อมรอบอยู่ล่ะ?”


ซีลรอนก็จ้องไปที่ชยาครานด้วยสีหน้างุนงงและชยาครานพูดอีกครั้งหนึ่ง


“ตราบใดที่เราแค่พบกับจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมในโบราณสถานก่อน การฟื้นฟูฐานจะไม่เป็นปัญหาเลย”


ดูเหมือนว่ากิลด์แห่งอาณาจักรของศัตรูไม่ได้อยู่ในความคิดของชยาครานเลย


 


* * *


 


ฟู้ว ปัง ตู้ม!


นอกเหนือจากหลุมอเวจีที่ระเบิดออกมาจากแขนทั้งสองของดุ๊กเดแล้ว ลมหายใจของเรคก็ปกคลุมไปด้วยความรุนแรง


และการกระแทกของพินหลังจากนั้นมอนสเตอน์จำนวนมากก็กลายเป็นพายุทรายและหายไป


 


ท่านได้สังหารวิญญาณความอาฆาตของสงครามทะเลทราย ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 128,910 หน่วย

ท่านได้รับคะแนนพิเศษ 5 หน่วย

 


มอนสเตอร์ที่ปรากฎหลังจากเข้าสู่ทวีปกลางนั้นอ่อนแอกว่าพัชเยาและเทราโนด้อนที่ปรากฏในสกายไฮแลนด์


มอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวมักถูกเรียกว่า ‘วิญญาณความอาฆาตของสงครามทะเลทราย’ และรูปลักษณ์ของพวกมันนั้นเป็นของกลาดิเอเตอร์ที่ทำจากทราย


เลเวลของมอนสเตอร์อยู่ในช่วง 150 ต้นๆ


พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในเลเวลเดียวกันกับผู้คุมเรือนจำที่เอียนต่อสู้ในเกาะปาสคาลหลายครั้ง


‘ตามที่คาด การล่านี่มันสุดยอด!’


พวกมันเป็นมอนสเตอร์เลเวลต่ำกว่าพัชเยาและเทราโนด้อน แต่เมื่อจำนวนของพวกมันสูงกว่าหากเปรียบเทียบกับระดับความยากจึงไม่แตกต่างกันมากนัก


อย่างไรก็ตามเอียนมีความเชี่ยวชาญในการล่าฝ่ายตรงข้ามในจำนวนมาก เขาก่อกวนสมรภูมิเหมือนปลาที่พบน้ำ


“ซีเรีย ฮิลดุ๊กเดที!”


“ค่ะ ท่านลอร์ด!”


และต้องขอบคุณไคซาร์ที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อใดก็ตามที่ดูเหมือนว่ามันจะยากเกินไปและแก้ไขสถานการณ์ก่อนที่จะหายไปอีกครั้ง ปาร์ตี้ของเอียนก็สามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้โดยไม่ขัดข้อง


‘แต่คะแนนพิเศษคืออะไร? ฉันรวบรวมทีละเล็กทีละน้อยตั้งแต่เสร็จสิ้นเควสต์ครั้งสุดท้ายและตอนนี้ฉันมีเกือบ 20,000 หน่วยแล้ว’


คะแนนพิเศษเป็นสินค้าใหม่ที่เริ่มรวบรวมไว้ที่ด้านบนของคลังของเขา


ในตอนนี้ เขายังไม่รู้ว่าจะใช้สินค้านี้ได้ยังไง แต่เขามั่นใจว่ามันจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต


‘จะพูดไปแล้วถึงแม้ฉันจะต่อสู้ด้วยพิน แต่ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากนัก’


เอียนจ้องไปที่เฮลเลี่ยมเล็กน้อย


เมื่อเขาอัญเชิญพินครั้งแรก เขาก็ดึงเขาออกมาโดยไม่คิดอะไรมาก แต่ในขณะที่ล่าเขาจำได้ถึงการมีอยู่ของเฮลเลี่ยมและอัศวินของอาณาจักร


‘ฉันแค่เป็นห่วงเกินไปเหรอ? แต่แล้วอีกครั้ง…ใครจะคิดว่ามีไข่แฝดอยู่ในนั้น?’


ขณะที่เอียนคิดต่างๆนาๆ กลุ่มมอนสเตอร์ปรากฏขึ้นอีกครั้งตรงหน้าของเขา


และมอนสเตอร์ดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าก้อนค่าประสบการณ์ในสายตาของเอียน


“พอลลีน ซื้อเวลาจากด้านหน้าให้หน่อย!”


“ครับ ท่านลอร์ด!”


หลังจากกลายเป็นผู้ติดตาม ฉายาของเอียนที่พอลลีนเรียกก็เปลี่ยนไปด้วย


จากฉายา ‘ไวส์เคาท์’ เป็นฉายา ‘ลอร์ด’


ความซื่อสัตย์ของเขาก็สูงมากจนถึงขั้นที่ไม่สามารถเทียบได้กับของไคซาร์เพราะมันขึ้นไปแล้วประมาณ 80 หน่วย


ในขณะเดียวกันความซื่อสัตย์ของไคซาร์ก็ลดลง 1 หน่วย ในขณะเดียวกันและกลายเป็น 4 หน่วย


เสียงถอนหายใจออกจากปากของเอียนอีกครั้ง


‘มันคงจะดีถ้าฉันจะสั่งไคซาร์ได้ตามที่ฉันต้องการ…’


เพราะไคซาร์เคลื่อนไหวจริงๆตามที่เขาพอใจขณะที่เขาโผล่ไปรอบๆแผนที่ เอียนรู้สึกเหมือนว่าเขาสูญเสียค่าประสบการณ์


นี่เป็นเพราะแม้ว่ามันจะเป็นคนที่อยู่ในปาร์ตี้เดียวกันหรือผู้ติดตาม หากพวกเขาล่าในสถานที่ที่ห่างกันพวกเขาไม่สามารถแบ่งปันค่าประสบการณ์กันได้


และเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเกือบจะฆ่ามอนสเตอร์ที่ปรากฏขึ้นเสร็จสิ้น ราวกับว่าเขาได้อ่านใจของเอียน ไคซาร์ก็ปรากฏตัวในสายตาของเขา


“ข้าคิดว่าข้าเจอมันแล้ว ลอร์ด”


“หืมม…? นายเจอโบราณสถานหรอ?”


“ถูกต้อง”


และในขณะที่เขาตามหลังไคซาร์ สถาปัตยกรรมยักษ์ที่แผ่ลงมาเบื้องล่างหุบเขาสูงชันก็ปรากฏตัวขึ้น


และนั่นคืออาคารหินที่ยิ่งใหญ่ที่ชวนให้นึกถึงปิรามิด


จุดแตกต่างจากปิรามิดเล็กน้อยคือมียอดเขาเล็กๆหลายแห่งล้อมรอบยอดเขายักษ์


เอียนแสดงอาการดีใจ


“เอาล่ะ ถ้างั้นไปตรงนั้นกันเร็วๆเถอะ”


สมาชิกปาร์ตี้คนอื่นๆที่ฆ่ามอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ข้างหลังก่อนที่เขาจะรู้ตัวและเข้าหาพวกมันก็มองไปที่โบราณสถาน


อย่างไรก็ตามจากนั้น คำที่คาดไม่ถึงออกมาจากปากของไคซาร์


“อย่างไรก็ตาม มันมีปัญหาอยู่นะ ลอร์ด”


“มันคืออะไร?”


ไคซาร์ชี้ไปสักจุดหนึ่งเมื่อเขาพูดต่อ


“ตรงนั้นคือทางเข้า แต่ข้าเห็นบางคนเข้าไปในนั้นก่อนแล้ว”


“…?”


ตอนนั้นเอียนรู้สึกว่าทั้งโลกของเขาพังทลายลง


‘อะไรวะเนี่ย? มีคนมาถึงเร็วกว่าพวกเราได้ยังไง?’


แทนที่จะรู้สึกถึงวิกฤตที่ใครบางคนสามารถได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ได้ก่อน ความโกรธ (?) ที่เขาสูญเสียรางวัลผู้ค้นพบครั้งแรกของดันเจี้ยนก็ปกคลุมเขา


ต่อหน้าเฮลเลี่ยมซึ่งเข้าหาด้านข้างของเอียน เอียนจึงจ้องมองขณะที่พูด


“รีบไปกันเถอะ เราไม่สามารถเสียจอกศักดิ์สิทธิ์ไปได้”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม