Taming Master 106-125

ตอนที่ 106

 

ขณะที่เอียนกำลังสำรวจที่ราบสูงฟอลาสกับฮาริน การป้องกันของกิลด์โลตัสก็ผ่านไปอย่างราบลื่น


เป็นไปตามที่เอียนคาดกิลด์โพราริสได้ใช้พลังต่อสู้ของจนไปกว่าครึ่งในรอบที่3, 4, และ5


และเมื่อกิลด์โพราริสทำเช่นนั้น กิลด์โลตัสก็สู้กลับด้วยการใช้พลังต่อสู้เกือบทั้งหมดที่เก็บเอาไว้ยกเว้นเพียงแค่เอียนเท่านั้น


ยิ่งไปกว่านั้นการป้องกันนี้มันเป็นข้อได้เปรียบของกิลด์โลตัสอยู่แล้ว ไม่ว่ากิลด์โพราริสจะจ้างทหารรับจ้างมามากแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่จะชนะกิลด์โลตัสที่อยู่ระดับเดียวกันได้


สุดท้ายแล้วมันก็เป็นไปตามแผนของเอียน กิลด์โลตัสชนะสงครามดินแดนครั้งแรกได้ในรอบที่หกซึ่งเป็นรอบสุดท้าย


“เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ตอนนี้เราก็จะได้รับการป้องกันไปอีกสัปดาห์นึง”


ฟิโอลันพูด เฮิร์ซก็ยิ้มอย่างมีความสุขและตอบกลับ


“ในอีกสัปดาห์นึงฐานทัพทหารก็คงจะเป็นเลเวล3แล้ว และอาคารป้องกันที่เรากำลังสร้างก็คงจะใกล้สร้างเสร็จแล้ว ดังนั้นถึงจะเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งกว่ามาท้าสู้กับเราละก็เราก็น่าจะป้องกันได้แน่นอน”


ในไคลันเมืองที่ผ่านพ้นสงครามดินแดนมาได้จะได้รับสถานะป้องกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์


แต่มันก็มีข้อยกเว้น ก็คือถ้าหากพวกเขาไปโจมตีเมืองอื่นขณะที่อยู่ในระยะเวลาการป้องกันละก็การป้องกันก็จะหมดลงในทันทีแต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว มันเป็นแค่สิ่งที่เขาพูดขึ้นมาเฉยๆ


“นี่มัน…ฉันรู้สึกเหมือนพวกเราชนะได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลยฉันรู้สึกเขินยังไงไม่รู้”


เมื่อฟิโอลันพูดด้วยท่าทางเขินอาย เฮิร์ซก็พยักหน้า


“ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน มันเป็นสิ่งที่เอียนเป็นคนทำทั้งหมดสุดท้ายแล้วพวกเราก็ทำตามแผนเอียนหมดเลย ยังไงเธอก็ยังดีกว่าฉัน อย่างน้อยเธอก็เล่นใช้การโจมตีAoEในรอบสุดท้าย ในเมื่อฉันเป็นอาชีพอัศวินก็นี่แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย”


มันค่อนข้างลำบากสำหรับอาชีพระยะประชิดที่จะได้รับบทบาทสำคัญในการต่อสู้ป้องกันฐาน


โดยเฉพาะการต่อสู้ที่ชนะง่ายขนาดนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอึดอัดใจมากกว่าเดิม


กองกำลังของศัตรูจะต้องตีฝ่าทหารด้านนอกมาให้ได้ซะก่อนพวกอาชีพระยะประชิดถึงจะมีโอกาสได้สู้บ้าง แต่กิลด์โพราริสนั้นแทบไม่มีกองกำลังเหลืออยู่เลยพวกเขาจึงไม่สามารถตีฝ่าเข้ามาได้


“ยังไงก็เถอะ เนื่องจากเราชนะมาได้ทำให้อันดับกิลด์เราเพิ่มขึ้น2อันดับดังนั้นฉันจึงอารมณ์ดีมากเลยตอนนี้”


“มันก็จริง”


“แต่เมื่อไหร่ที่การป้องกันของเราหมดลงในอีกหนึ่งสัปดาห์ นายคิดว่าจะมีกิลด์อื่นเข้ามาโจมตีเราอีกมั้ย?”


“อืม…”


เมื่อฟิโอลันถาม เฮิร์ซก็คิดชั่วครู่แล้วค่อยๆตอบ


“ฉันคิดว่าโอกาสที่มันจะเกิดขึ้นก็สูงอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับสงครามดินแดนให้มากกว่าตอนแรก แต่เมืองของเรานี่น่าอยู่จริงๆ”


“เข้าใจแล้ว”


“และเมื่อการป้องกันของเราใกล้จะหมดลง เอียนบอกว่าให้พยายามประกาศสงครามดินแดนบ้าง…”


“ห๊าาา?”


ฟิโอลันที่กำลังคิดหาวิธีในการป้องกันเมืองอยู่ก็ตกใจเมื่อได้ยินคำของเฮิร์ซ


เฮิร์ซยังคงพูดต่อ


“พวกเราจะมีพลังต่อสู้เหลือไว้งั้นหรอ?”


เฮิร์ซยักไหล่พร้อมกับตอบ


“ก็มันเป็นสิ่งยังไม่ได้ตัดสินใจ และฉันคิดว่ามันน่าจะอันตราย…แต่เอียนก็พูดอีกว่าเขาคิดมาดีแล้วสินะ?”


ขณะที่อยู่ในสงครามดินแดน ถ้าหากกิลด์อื่นคิดจะมาประกาศสงครามกับกิลด์โลตัสละก็มันคงจะเป็นปัญหาไม่น้อย


เพราะว่าถ้าหากเกิดสงครามดินแดนสองแห่งพร้อมกัน สมาชิกกิลด์ที่เข้าร่วมกับสงครามอันใดอันหนึ่งแล้วจะไม่สามารถเข้าร่วมอีกอันได้


ฟิโอลันคิดครู่หนึ่งก็บ่นออกมา


“อืม..ก็คงต้องเชื่อใจท่านลอร์ดแล้วละ”


ฟิโอลันส่ายหัว เฮิร์ซก็หัวเราะออกมาอย่างเห็นด้วยในคำพูดของเธอ


“ใช่แล้ว แล้วสำหรับตอนนี้เราควรจะเริ่มล่าได้เผื่อสัปดาห์หน้าได้แล้ว ถ้าหากมันเป็นแบบนี้ต่อไปละก็ฉันรู้สึกว่าเอียนจะต้องตามเลเวลพวกเราทันแน่นอน”


เมื่อเขาพูดเช่นนั้น ฟิโอลันก็ยิ้มพร้อมกับตอบรับ


“ไม่ใช่ว่าเขาตามนายทันแล้วงั้นหรอ เฮิร์ซ?”


เฮิร์ซถอนหายใจออกมา


“ฉันยังมีเลเวลมากกว่าเขา1เลเวล คิดว่านะ…”


ฟิโอลันหัวเราะในใจแล้วพูดเสริม


“นายแน่ใจงั้นหรอ?”


 


* * *


 


ดันเจี้ยนที่เอียนได้ค้นพบเป็นคนแรกในที่ราบสูงฟอลาสนั้นมีชื่อว่า ‘เส้นทางสายโลหิต’


และตามชื่อของมันมันเป็นดันเจี้ยนที่มีทางตรงยาวมีลมพัดผ่าน และมีรอยเลือดเต็มไปหมด


เมื่อครั้งแรกที่พวกเขาเข้าดันเจี้ยนมา ฮารินก็ตัวแข็งเป็นหินไปเพราะว่าภาพที่เห็นมันน่าสยดสยองมาก แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นเธอก็กลับมาเป็นปกติในทันที


สำหรับตอนนี้ เพราะว่ามอนสเตอร์ปรากฏตัวไม่มากนักเหมือนอีกฟากหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามดันเจี้ยน


ยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางตรงนี้ไม่ได้กว้างมาก จึงสามารถล่าได้ปลอดภัยมากกว่าที่เขาล่าในพื้นที่ล่าเสียอีก


เพราะว่าโครงสร้างของทางตรงนั้นแคบมาก ถ้าหากมีดุ๊กเดสองตัวอยู่ด้วยกันพวกมันก็คงจะปิดทางได้ทั้งหมด ดังนั้นจนกว่าเอียนที่สู้อยู่แนวหน้ายังไม่ตายฮารินก็ไม่มีทางที่จะตายได้อย่างแน่นอน


ฮารินล่ากับเอียนไปทั้งๆแบบนั้นเป็นเวลาสักพักหนึ่งแล้วก็บ่นออกมา


“ทางตรงนี้มันยาวมากเลยนะเนี่ย”


เมื่อเธอพูด เอียนก็พยักหน้า


“เอาจริงๆแล้วถ้ามันไม่มีโครงสร้างที่จะให้ขึ้นไปได้บนหรือลงล่างได้เลย มันก็คงจะต้องเป็นทางตรงยาวแบบนี้แหละ”


“นั่นสิ ฉันหวังว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนไปสักหน่อย…สถานที่สว่างๆจะไม่มีเลยงั้นหรอ?”


เอียนตอบพร้อมกับบ่น


“อย่างแรกไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปให้สุดทางก่อนงั้นหรอถึงจะเห็นที่สว่างๆแบบนั้น? ยังไงก็เถอะฉันหวังว่ามันจะมีมอนสเตอร์ออกมาเยอะๆแต่ทำไมถึงมีมอนสเตอร์จำนวนน้อยขนาดนี้กันละ? ฉันอยากจะล่าให้ได้มากกว่านี้ในตอนที่ฉันยังได้ค่าประสบการณ์สองเท่าอยู่…”


ฮารินส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว


จากมุมมองของเธอแล้วระดับในการล่าเริ่มจะยากขึ้นแล้ว แต่ขณะที่มองไปยังเอียนที่บ่นออกมา เธอก็ถอนหายใจออกมา


“แค่นี้มันก็พอแล้ว จินซุง”


ฮารินดุเล็กน้อย จินซุงก็หันหน้าไปเพื่อที่จะตอบ


อย่างไรก็ตามก่อนที่เอียนจะเปิดปากพูด เขาก็ได้ยินเสียงคำรามที่คุ้นเคยจากส่วนลึกของดันเจี้ยนมันก็ทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก


Awoooo-!


มันไม่ใช่เสียงอื่นใดแต่เป็นเสียงของหมาป่า และมันก็คล้ายกับไลด้วย


บรรยากาศภายในสถานที่แห่งนี้มันก็น่าขนลุกอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินเสียงหมาป่าหอนออกมา ฮารินก็ตัวแข็งเล็กน้อย


“เฮ้ ดูเหมือนมอนสเตอร์จะมาเยอะขึ้นเพราะว่านายบ่นนะ”


ขณะที่มองไปยังฮารินที่ตัวติดกับเขาและมองไปรอบๆ เอียนก็ยิ้มออกมา


“ถ้าหากเธอคิดว่าพวกมันเป็นแค่ค่าประสบการณ์เธอก็จะไม่เป็นอะไรหรอก”


เอียนเตรียมพร้อมต่อสู้


จากลางสังหรณ์เขารู้สึกว่าเสียงมันมาจากส่วนที่ลึกเข้าไปในดันเจี้ยน เขารู้สึกว่ามันคงจะมีมอนสเตอร์จำนวนมากอยู่ที่นั่นแน่นอน


“ดุ๊กเด เตรียมพร้อมได้เลย!”


Deu-reuk- Deu-reu-reuk- .


เพราะว่าการที่มอนสเตอร์โผล่ออกมาเพียงตัวสองตัว เอียนจึงไม่สามารถใช้สกิลAoEของเขาได้และมันก็ทำให้เขาคันไม้คันมือมาก


“เรค พิน พวกนายก็ด้วย เมื่อฉันให้สัญญาณเตรียมใช้สกิลทันทีเลยเข้าใจมั้ย?”


เอียนพูดจบ สัตว์เลี้ยงทั้งสองก็ตอบพร้อมกัน


Grr- .


Kku-ruk- Kku-ruk-!


และไม่นาน จากเงาที่อยู่ส่วนลึกของถ้ำ ร่างของมอนสเตอร์ก็เริ่มจะปรากฏตัวให้เห็น


Grr- Grrr-!


ถึงกระนั้นเอียนเมื่อเห็นแต่ละตัวแล้วก็ถึงกับตกใจ


“เชี่ยอะไรเนี่ย พวกมันคือไล!”


ฮารินก็ประหลาดใจเหมือนกัน


“เอ๊ะ? สายพันธุ์เดียวกับไลก็ปรากฏตัวในพื้นที่ล่าด้วยงั้นหรอ?”


ชื่อ ‘หมาป่าเคราสีเลือด’ ปรากฏอยู่บนหัวของมอนสเตอร์มันเป็นสิ่งที่ยืนยันคำพูดของทั้งสอง


เอียนชูมือส่งสัญญาณให้ฮาริน


“ฮาริน ฉันคิดว่าคราวนี้เราจะต้องระวังให้ดี ถอยหลังไปอีกหน่อย”


“โอเค เข้าใจแล้ว”


เมื่อเอียนพูดอย่างไม่ลังเล ฮารินก็ถอยห่างออกไปเล็กน้อย


จนถึงตอนนี้มอนสเตอร์ที่ปรากฏออกมาในดันเจี้ยนมีเพียงแค่เยติและโทรลล์น้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่และเคลื่อนไหวได้เชื่องช้า ถ้าหากเอียนคอยระวังให้เธอจากด้านหน้ามันก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่นี่มันเป็นคนละเรื่องกันถ้าหากเป็นหมาป่าเคราสีเลือดละก็พวกมันมีการตอบสนองที่ดีมาก


ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันมีเยอะ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าพวกมันจะคอยหาโอกาสและโจมตีฮารินหรือไม่


ถ้าหากเธอโดนกัดสักครั้งและติดคริติคอลละก็ฮารินก็จะตายในทันที


‘ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันมีเลเวลประมาณ125 และพวกมันก็เป็นมอนสเตอร์ระดับRareทั้งหมด…’


เลเวลของพวกมันไม่ได้ต่างจากเยติเท่าไหร่ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ระดับของมันสูงกว่า


เอียนที่คอยดูแลสัตว์เลี้ยงของตนมาด้วยตัวเอง ก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าความต่างเพียงระดับเดียวก็สร้างความต่างของค่าสถานะมากแล้ว


‘มีทั้งหมดเจ็ดตัว…และระหว่างต่อสู้น่าจะมีตัวอื่นมาอีกแน่ๆ’


เอียนรู้สึกกังวลเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เข้ามาในที่ราบสูงฟอลาส


และเมื่อหมาป่าเห็นเอียนพวกมันก็รีบวิ่งเข้าใส่เขาทันที


“ดุ๊กเด ไปด้านหน้าก่อนเลย!”


เหมือนทุกครั้งที่มันทำ ดุ๊กเดขยับขึ้นไปด้านหน้าเพื่อหามุมที่ดีที่สุดในการร่ายสกิลหลุมอเวจี


และเอียนก็ยิงบอลเวทอย่างชาญฉลาดและบังคับให้พวกหมาป่าวิ่งแค่ฝั่งเดียวของทางตรงนี้


“ตอนนี้แหละ!”


เมื่อเอียนตะโกนขึ้น ดุ๊กเดก็อ้าแขนทั้งสองไปด้านหน้า


Kuoooh-!


และจากหมาป่าทั้งหมดเจ็ดตัว ห้าตัวเริ่มถูกดูดเข้ามาในระยะของหลุมอเวจี


“พิน เรค!”


เมื่อเอียนส่งสัญญาณสัตว์เลี้ยงทั้งสองก็ใช้สกิลAoEโดยไม่พลาดแม้แต่น้อย


Kwaaah-!


เอียนเมื่อเห็นว่าสกิลAoEทำงานได้ดีแล้ว ก็ขึ้นไปบนหลังของฮัลลิ


“ฮัลลิ ไล ไปกันเถอะ!”


เอียนที่อยู่บนหลังฮัลลิและไลก็วิ่งเข้าใส่หมาป่าสองตัวที่เหลืออยู่


 


สัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ใช้สกิล ‘ผู้พิทักษ์แห่งลม’ สัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ความว่องไวเพิ่มขึ้นตามค่าสถานะต่อสู้ที่เหลือทั้งหมด


 


พลังงานลมถูกดูดเข้ามาด้วยแสงสีขาวที่ปกคลุมฮัลลิและเอียนก็เริ่มที่จะปลิวหลุดไปจากหลังมัน


เอียนเกาะฮัลลิแน่น


เป็นเวลากว่าสองนาทีที่เขาพยายามจะไม่ตกไปจากหลังของฮัลลิที่เคลื่อนไหวอย่างกับลมกรรโชก เขาไม่สามารถหยุดกังวลได้แม้แต่น้อย


Kyaooh-!


เอียนใช้กำลังทั้งหมดไปที่ขาของตนเพื่อที่จะไม่ตกลงไป และยิงบอลเวทจากบนหลังของฮัลลิ


Pung- Pu-pung-!


และเขาที่ฟื้นฟูเวทจิตวิญญาณ เขาก็เรียกใช้สกิลCurrent Proliferationทันที


Za-Zap- Za-Za-Zap-!


ถึงจะอยู่บนหลังฮัลลิที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง มันก็ไม่มีทางที่เอียนจะโจมตีพลาด


Current Proliferationโดนเข้าหมาป่าเต็มๆและทำความเสียหายเพิ่มเติมออกมา และหลังจากเด้งไปหลายครั้งมันก็หายไปในอากาศ


 


‘หมาป่าเคราสีเลือด’ ติดสถานะ ‘เหน็บชา’ เวลาคูลดาวน์ของสกิล ‘Current Proliferation’ ถูกรีเซ็ต


 


ขณะเดียวกันกับที่เอียนยิงสกิลออกไป ฮัลลิก็เข้าถึงตัวเป้าหมายของตนแล้ว


Crunch-!


ฮัลลิกัดโดนเข้าข้อต่อไหล่ของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งฉีกผ่านคอของมันไป


 


สัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ทำความเสียหายคริติคอลแก่ ‘หมาป่าเคราสีเลือด’! พลังชีวิตของ ‘หมาป่าเคราสีเลือด’ ลดลง 8125 หน่วย


 


หมาป่าเคราสีเลือดมีพลังชีวิตและพลังป้องกันที่น้อยแต่มันก็มีเลเวล125 พวกมันจึงไม่ตายง่ายๆโดยการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง


‘เลเวลของพวกมันนี่ตัวปัญหาของจริงเลย’


เอียนประหลาดใจเล็กน้อย


เพราะว่าหมาป่าทั้งห้าตัวไม่สามารถหลบการโจมตีAoEได้แต่มันก็ยังมีชีวิตอยู่


ถ้าหากโดนพลังของลมหายใจของเรคและสกิลบดขยี้ของพินมันก็ค่อนข้างน่าตกใจอยู่เหมือนกัน


ถึงกระนั้นเอียนเห็นว่าชื่อของหมาป่ามันกระพริบถี่ขึ้น ก็ออกคำสั่งแก่ไลโดยไม่ลังเล


“ไล กระหายเลือด!”


มันเป็นเวลาที่เหมาะในการเรียกใช้สกิลกระหายเลือดที่สุด!


Grr-!


แสงออร่าสีแดงปกคลุมร่างของไล


 


สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ใช้สกิล ‘กระหายเลือด’ สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ พลังโจมตีและความว่องไวเพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา3นาที สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 40% เป็นเวลา3นาที จากนี้ไปเมื่อไหร่ก็ตามที่โจมตีศัตรูที่มีพลังชีวิตน้อยกว่า30% จะทำความเสียหายเป็นสองเท่า


 


ไลพุ่งเข้าใส่หมาป่าตรงหน้าอย่างไม่ลังเล


และเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วดุ๊กเดและเรครวมถึงพินก็เคลื่อนที่อย่างชาญฉลาดและขวางเส้นทางของหมาป่า


Kyaooh-!


พินคำรามจากกลางอากาศช่วยไลจัดการหมาป่าที่มีการตอบสนองที่สุดยอดไปทีละตัว


 


ท่านสังหาร ‘หมาป่าเคราสีเลือด’ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 142,300 หน่วย ท่านได้รับเหรียญทอง 4122หน่วยจาก ‘หมาป่าเคราสีเลือด’ ท่านได้รับ ‘ก้อนเลือด’


 


เอียนเมื่อเห็นไอเทมที่ชื่อว่า ‘ก้อนเลือด’ ที่เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกที่ได้มาจากหมาป่าที่ตกตายไปก็แสดงสีหน้าสงสัย


‘นี่มันอะไร? ไอเทมเควสต์งั้นหรอ?’

 

 

 


ตอนที่ 107

 

เขาไม่รู้แม้แต่น้อยเลยว่ามันคืออะไรเมื่อมองเพียงแค่ชื่อของมัน เพราะว่ามันไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากมายตอนที่เขาตรวจสอบไอเทม


อย่างไรก็ตามเขาเลิกสงสัยไปก่อนและกลับมาตั้งสมาธิกับการกวาดล้างหมาป่าพวกนี้ให้หมดเสียก่อน


และเขาก็สามารถฆ่าหมาป่า7ตัวโดยไม่ได้ยากเย็นอะไร


“เยี่ยม! ค่าประสบการณ์นี่มันดีจริงๆ


ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกว่าต้องตื่นตัวมากกว่าเดิม


เพราะว่าเมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ระดับCommonที่เขาสู้มาโดยตลอดนั้น เขารู้สึกได้เลยว่าพลังโจมตีและความว่องไวของหมาป่าเคราสีเลือดนั้นสุดยอดกว่ากันเยอะ


พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยงของเขาที่ลดจนอยู่ในระดับอันตรายแล้วถือว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดี


“ฮาริน ช่วยฮีลสัตว์เลี้ยงของฉันหน่อย”


“แน่นอน!”


เอียนตบปากของตัวเอง


‘ฉันน่าจะพาผู้ติดตามของฉันมาด้วย ถ้าหากว่าฉันมีซีเรียละก็เธอก็คงจะช่วยฮีลสัตว์เลี้ยงของฉันได้มากทีเดียว’


สกิลฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงและสกิลโคลนนิ่งของซีเรียจะมีประโยชน์อย่างมากในการล่า


แต่มันก็มีสาเหตุเบื้องหลังอยู่เช่นกัน


เพราะว่าพวกเขาต้องพาตำรวจของเมืองไปล่ามอนสเตอร์ใกล้ๆเมืองเพื่อที่จะเพิ่มประสบการณ์การล่าให้แก่ตำรวจเหล่านั้น


‘ครั้งหน้าฉันควรจะชวนซีเรียมาด้วย ในเมื่อมีผู้ติดตามเหลืออีกหลายคนอยู่แล้วพวกเขาก็น่าจะนำพวกตำรวจได้อยู่แล้ว’


ขณะที่เอียนกำลังคิดไปเรื่อย เขาก็ไม่ลืมที่จะใช้สกิลปฐมพยาบาลเรื่อยๆ


เพราะเมื่อเทียบกับสกิลฟื้นฟูของฮารินแล้ว มันก็ต่างกันราวฟ้ากับเหวแต่เมื่อไหร่ที่เขาล่าคนเดียวเขาก็ต้องการเพิ่มความเชี่ยวชาญสกิลเช่นกัน


เมื่อฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว เอียนก็ยืนขึ้น


“เอาละ พวกเราไปด้านในกันเลยดีมั้ย?”


“เอาสิ ไปกันเถอะ!”


เมื่อฮารินตอบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นซึ่งต่างจากท่าทางก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง เอียนถามเธอด้วยน้ำเสียงสงสัย


“หืม? ฮารินเธอได้อะไรดีๆมางั้นหรอ?”


ฮารินส่ายหน้าพร้อมกับตอบ


“ไม่หรอก แต่ฉันเลเวลเพิ่มขึ้น2เลเวลแล้วตั้งแต่ที่เข้าดันเจี้ยนมา แน่นอนว่าฉันมีค่าประสบการณ์มากกว่า90%อยู่แล้วก่อนเข้าดันเจี้ยนมา”


เอียนรู้สึกปวดท้องขึ้นมาเล็กน้อยเพราะว่าตอนนี้เอียนได้รับค่าประสบการณ์มาเพียง15%เท่านั้น


อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าความเร็วในการเพิ่มเลเวลของฮารินนั้นที่มีเลเวล93ต่างกับเอียนที่เลเวล116แน่นอน


‘มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับกิลด์ถ้าฮารินเลเวลเพิ่มขึ้น…’


เขาค่อนข้างผิดหวังที่เขาแบ่งค่าประสบการณ์ให้แก่ฮาริน แต่เพราะว่าเขาล่าได้เร็วขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการฮีลและบัฟของเธอ เขาไม่สามารถพูดได้ว่าเสียประโยชน์


คนทั้งสองเริ่มเดินเข้าไปในส่วนลูกของดันเจี้ยนต่อ


 


* * *


 


“ห้ะ? นี่มันอะไร?”


เมื่อเอียนหยุดเดินและยกมือขึ้นให้คนอื่นอยู่ด้านหลังตน ฮารินที่ตามหลังมาก็ถามด้วยความสงสัย


“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”


“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกแต่ทางมันตัน


เมื่อเอียนพูด เธอก็เดินขึ้นมาดูและหลังจากเห็นทางตรงมันกลายเป็นส่วนโค้งขวางเอาไว้ ดวงตาทั้งสองของฮารินก็เบิกโพลง


และเธอก็ว่าเอียน


“ทางตันมันคือปัญหาต่างหาก ไอบ้า”


“งั้นหรอ?”


เอียนเกาหลังหัวของตนพร้อมกับเดินไปยืนด้านหน้าทางตัน


“แต่ฉันคิดว่ามันไม่ได้โดนขวางไปตลอดหรอก”


“จริงหรอ?”


“ใช่แล้ว ถ้ามันเป็นทางตันงั้นกำแพงก็ต้องแคบลงเรื่อยๆ แต่นี่ถ้าดูที่กำแพงและเพดานแล้ว พวกมันดูไม่เหมือนทางตันทั่วๆไป”


“นายก็พูดถูก”


เอียนอธิบายออกมา ฮารินก็เดินไปที่กำแพงและดูทางที่ตันเช่นกัน


นอกจากความมืดแล้ว กำแพงมันก็เป็นสีดำที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด แต่เมื่อมองใกล้ๆแล้วกำแพงมันไม่เรียบ


มันถูกสร้างขึ้นในรูปแบบที่สมมาตรด้วยพื้นผิวที่ดูขรุขระที่ให้ความรู้สึกว่ามันถูกสร้างขึ้น


“โอ้ นี่มันโดนฝุ่นกลบเอาไว้หมดเลยนี่”


เมื่อฮารินวางมือบนกำแพงของทางตัน เมื่อเธอดึงมือกลับมามือของเธอก็เต็มไปด้วยฝุ่นสีดำ


และจุดที่ถูกปัดฝุ่นออกไปก็ทำให้เห็นชัดเจน ก็เห็นหินที่ถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อนและดูผุพัง


มันเป็นเรื่องที่แปลกนิดหน่อย แต่เอียนที่อยู่ตรงหน้าประตูหินขนาดใหญ่ก็ส่ายหน้าและบ่นออกมา


“อย่างที่คิดเอาไว้เลย…มันไม่มีที่ดันเจี้ยนจะมาตันแบบนี้ได้เพราะมันยังไม่มีบอสออกมาสักตัวเลย”


เมื่อเอียนพูด ฮารินก็พยักหน้า


“ใช่แล้ว แต่ฉันรู้สึกว่าเราจะต้องปัดฝุ่นออกก่อนเผื่อเราจะได้เห็นอะไรด้านใน


เมื่อเป็นเช่นนั้น เอียนก็หันหน้าไปหาบุ๊กค์ที่อยู่บนหลังของเขา


“บุ๊กค์ แกมีอะไรที่ไม่ใช่ปืนแรงดันมั้ย?”


เมื่อมันได้ยินคำพูดของเอียน บุ๊กค์ที่อยู่ด้านในกระดองก็โผล่หัวออกมาและทำท่าสงสัย


Bbook?


ขณะที่มองไปยังบุ๊กค์ที่ทำท่าไร้เดียงสา เอียนก็ส่ายหน้า


“มันน่าจะเร็วกว่าถ้าฉันถามพิน”


และเอียนก็ให้สัตว์เลี้ยงของพวกเขาถอยมาด้านหลังและให้ฮารินไปยืนไกลๆ


“พิน ลองใช้สกิลบดขยี้ของแกใส่ตรงนั้นหน่อย”


Kku-ruk- Kku-ruk-!


เมื่อเอียนสั่ง พินก็บินขึ้นไปบนอากาศเล็กน้อย เริ่มที่จะกระพือปีกใส่กำแพงหินตรงหน้าที่เต็มไปด้วยฝุ่น


Kwaaah-!


และก็เกิดคลื่นลมขนาดใหญ่ขึ้นตรงหน้าของพินมันพัดผ่านกำแพงหินไป


ฮารินถอยหลังมาอีกหลายก้าวเมื่อเธอหยีตาของเธอ


“ฟิ้ว ดูฝุ่นพวกนี้สิ”


มันก็เป็นเหมือนที่เธอพูด เพราะว่าเกิดหมอกฝุ่นหนาขึ้นมาด้านในทางแบบนี้


ทั้งปาร์ตี้หันหลังให้กับคลื่นฝุ่นและหลบไปจากทางโล่ง


เพราะว่าถ้าหากพวกเขาไม่หลบแล้วโดนฝุ่นเข้าไปเต็มๆ ตัวพวกเขาจะต้องเต็มไปด้วยฝุ่นอย่างกับถ่านแน่ๆ


และไม่นานเมื่อฝุ่นเริ่มจางหายไปแล้ว เอียนและฮารินก็เดินเข้าหากำแพงหินอีกครั้ง


“ว้าว นี่มันสุดยอดจริงๆ”


ฮารินอุทานออกมา


เนื่องสายลมอันรุนแรงของพินได้ปัดเป่าฝุ่นที่ติดอยู่กับกำแพงไปได้อย่างหมดจด และรูปร่างของกำแพงหินที่พวกเขาไม่อาจมองเห็นได้ก็ปรากฏ


และสิ่งที่เตะตาทั้งสองก่อนเป็นอันดับแรกก็คือสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ที่แต่ละด้านยาว4เมตร รูขนาดใหญ่ตรงกลาง


มันเป็นหินอ่อนที่ใสราวกับกระจกที่มีหมาป่าอ้าปากกว้างแกะสลักอยู่ตรงกลางตรงกำแพงหิน


“นี่มันคืออะไร?”


ฮารินถาม แต่เอียนก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกัน


“ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ดูเหมือนมันจะเป็นทางเข้าแท่นบูชาอะไรสักอย่าง..”


ขฯะที่พูดอยู่เอียนก็วางบุ๊กค์ที่ร้องบนหลังและก็ปวดเอวของตน


“โอ๊ย เอวฉัน อย่างแรกเราควรจะพักกันสักหน่อย”


ฮารินเมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนั้นก็ยิ้ม


“มันหนักขนาดนั้นเลยหรอ?”


“ก็ไม่ได้ขนาดนั้น…”


ทันทีที่บุ๊กค์ลงมาถึงพื้น มันก็โผล่หัวออกมาและเริ่มวิ่งไปรอบๆ


ฮารินหัวเราะและเรียกเอียน


“จินซุง”


“ว่าไง?”


“ไม่แน่นะ เหตุผลที่มันน้ำหนักขึ้น…”


บุ๊กค์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หยุดเดินและหันหน้ามาจ้องที่ฮาริน


Glare-!


ถึงจะเป็นฮารินเทพธิดาแห่งมีตบอลก็เถอะ มันก็ไม่อาจยกโทษให้เธอได้ถ้าหากเธอพยายามจะให้มันควบคุมอาหาร


ฮารินพูดต่อ


“มันอาจจะไม่ใช่เพราะว่ามันกินเยอะ แต่อาจจะเป็นเพราะมันไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็ได้?”


“หืม? ขาดการออกกำลังกาย?”


ฮารินพยักหน้าและพูดต่อ


“ใช่แล้ว ในเมื่อมันอยู่บนหลังของนายตลอด มันก็ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้เดินไปรอบๆบ้างเลย ถึงมันจะกินเยอะแต่ถ้านายให้มันออกกำลังกาย ฉันคิดว่าน้ำหนักของมันก็ไม่น่าจะเพิ่มขึ้น…”


“อืมม นั่นก็อาจจะจริง”


เอียนหันไปหาบุ๊กค์


“บุ๊กค์ แกคิดว่ายังไง? แกอยากจะกินเท่าไหร่ก็ได้แล้วออกกำลังสักหน่อยมั้ย?”


บุ๊กค์เมื่อมองไปที่เอียนก็หลับตาและทำท่าครุ่นคิด


Bboo-ook…


จริงๆแล้วบุ๊กค์ไม่ใช่เพียงแค่เต่าที่แสนโลภอย่างเดียว แต่มันก็ขี้เกียจแบบสุดๆเช่นกัน


มันก็รู้สึกสบายเหมือนกันเมื่อมันอยู่เพียงบนหลังของเอียน


มันมีความสุขเมื่อมันลงมาจากหลังของเอียนก็จริง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างถ้าหากเป็นเจ้านายปีศาจอย่างเอียนละก็ บุ๊กค์รู้สึกว่าเอียนจะให้ออกกำลังกายอย่างหนักแน่ๆ


บุ๊กค์คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงดี จึงเลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ไป


Bbook-!


เอียนส่ายหัวขณะที่บุ๊กค์คลานไปที่ไหนสักแห่ง


“เห็นมั้ย มันไม่คิดอยากจะออกกำลังด้วยซ้ำ ฉันมั่นใจเลย”


เมื่อเอียนที่รู้นิสัยของมันดีพูดตัดบท มันก็สะดุ้งไปชั่วขณะ


อย่างไรก็ตามมันทำเป็นไม่ได้ยินและเริ่มคลานต่อ


ฮารินทำท่าเซ็งเล็กน้อยและบ่นออกมา


“เอาจริงงั้นหรอเนี่ย…”


ทั้งสองพักกันสักพักเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ของตน


ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เอียนก็ยังคงจ้องไปที่หินอ่อนสีใสอย่างเอื่อยๆ


‘มันคืออะไรกันแน่นะ? ถ้าหากฉันรู้ความลับอะไรสักอย่างของแก้วหินอ่อนนี่ได้ ฉันรู้สึกว่ากำแพงหินมันจะเปิดออก..’


เอียนค่อยๆยืนขึ้นและจับไปที่กำแพง


และก่อนที่เขาจะรู้ตัวเขาก็วางมือของตนไว้บนหินอ่อนใส


ทันใดนั้นเองข้อความระบบที่อยู่เหนือความคาดหมายก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าเอียน


Ring-


 


ท่านสามารถใช้ไอเทม ‘โลหิต’ ได้ ท่าจะใช้หรือไม่?


 


สถานการณ์อันเหนือความคาดหมายนี้ เอียนก็ตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็ใช้โลหิคไปโดยไม่ลังเล


เพราะว่าเขาได้โลหิตมาค่อนข้างเยอะจากการฆ่าหมาป่าเคราสีเลือดไป


“ฉันจะใช้มัน”


ทันทีที่เอียนพูดโลหิตหนึ่งชิ้นจากหน้าอกของเอียนก็ถูกดูดเข้าไปในหินอ่อนสีใส


 


ท่านได้ใช้ไอเทม ‘โลหิต’ ‘หยกสีโลหิต’ ถูกฟื้นฟู 2% ปัจจุบันอัตราการฟื้นฟูของ ‘หยกสีโลหิต’: 2/100


 


เอียนเมื่อเห็นเช่นนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้


‘ที่แห่งนี้จะต้องเปิดขึ้นแน่ๆถ้ามันถูกเติมจนเต็ม’


อย่างแรกเอียนได้ใช้โลหิตทั้งหมดของตนโดยไม่มีข้อยกเว้น


 


‘หยกสีโลหิต’ ถูกฟื้นฟู 2% ‘หยกสีโลหิต’ ถูกฟื้นฟู 3%


 


อัตราการฟื้นฟูมันแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดของโลหิตเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจจากการที่เขาใช้โลหิตไปมากกว่า20อัน มันก็สามารถฟื้นฟูมาได้เพียง30%เท่านั้น


ฮารินเมื่อเห็นแสงสีแดงจากมือของเอียนถูกดูดเข้าไปไม่หยุดก็ดูเหมือนจะเริ่มสงสัยก็เลยเดินไปหาเขา


“จินซุง นายกำลังทำอะไรน่ะ?”


“อ่อ ฉันคิดว่าฉันเจอคำตอบแล้ว ฮารินมันมีโลหิตที่เธอได้มาระหว่างล่าใช่มั้ย?”


จินซุงเดาว่าฮารินก็น่าจะมีโลหิตในปริมาณที่เท่าๆกัน และเขาคิดว่าถ้าเขาใช้มันทั้งหมดมันก็จะสามารถเติมเต็มอัตราการฟื้นฟูได้ทั้งหมด


ถึงกระนั้น ฮารินก็ลังเลที่จะจอบ


“เอ่อ..นั่นมัน…จินซุง”


“อะไร?”


“ฉันมีพื้นที่ไม่พอสำหรับวัตถุดิบทำอะไรของฉัน ฉันก็เลยทิ้งโลหิตพวกนั้นไปหมดเลย…”


“…”


จินซุงสับสนเล็กน้อย แต่เขาตัดสินใจที่จะคิดไปในทางที่ดี


‘ไม่เป็นไรหรอกในเมื่อเราก็ได้บัฟผู้คันพบคนแรกอยู่แล้ว…มันก็คงจะโอเคถ้าเราล่าเยอะๆ คิดว่านะ’


ถ้าพวกเขากลับไปสักหน่อยจากที่ที่เขาผ่านมา หมาป่าเคราสีเลือดที่พวกเขาล่าไปก่อนหน้านี้ก็น่าจะเกิดใหม่หมดแล้ว


เอียนเรียกบุ๊กค์ที่คลานไปอยู่ตรงมุมหนึ่งของทางเดินและบิดตัวไปมา


“บุ๊กค์ ไปล่ากัน”


ถึงกระนั้นบุ๊กค์ก็ทำหูทวนลม


เอียนเมื่อเห็นเช่นนั้นก็บ่นพร้อมกับเดินไปหามัน


“เฮ้ แกหยิบอะไรขึ้นมากินกัน?”


มันไม่ใช่ทุกวันที่บุ๊กค์จะกินสิ่งที่เหมือนมอสที่โตในพื้นที่ล่าแบบนี้ เอียนก็เดินเข้าหามันโดยไม่คิดอะไร


อย่างไรก็ตามฮารินเดินไปหาบุ๊กค์ก่อนเอียน ก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจ


“จินซุง นี่มันหญ้าคาลล่าโลหิต!(หญ้าคาลล่าเป็นหญ้าที่ขึ้นในพื้นที่ที่มีดินเค็มจัด)”


“ห้ะ? มันคืออะไร?”


“It’s a cooking ingredient, but, how do I explain this…”


“มันเป็นวัตถุดิบทำอาหารแต่จะอธิบายยังไงดี…”


ฮารินคิดไปครู่หนึ่งและดูเหมือนจะคิดอะไรออกแล้วก็พูดต่อ


“อ่า นายรู้จักแคปไซซินใช่มั้ย? นายน่าจะเข้าใจว่ามันเป็นวัตถุดิบทำอาหารที่มีคุณสมบัติเหมือนกับแคพไซซินใช่มั้ย?”


[แคปไซซิน(Capsaicin) เป็นสารที่ทำให้พริกมีรสเผ็ดร้อน]


และเอียนก็ทำหน้าเหวอ


“อะไรนะ? แคปไซซินงั้นหรอ?”


จินซุงรู้ดีถึงความโหดร้ายของแคปไซซิน


เมื่อครั้งแรกที่เขาอยู่คนเดียว ขณะที่เขาทำต๊อกบ๊อกกิอยู่ เขาก็ได้ใส่แคปไซซินไปในปริมาณมากโดยไม่คิดอะไร


เขายังคงไม่ลืมความโหดร้ายของความเผ็ดที่เขาได้กินเลย


มันเป็นบางสิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจลืมได้เพราะทำให้เขาแสบตูดไปถึงเกือบสองวัน


“ฮาริน งั้นมันจะไม่เป็นไรงั้นหรอถ้ามันกินไปแบบนั้น?”


เอียนไม่ได้พูดสิ่งที่เขาจะพูดต่อ


เพราะว่าบุ๊กค์ที่กินแคปไซซินไปก็เริ่มที่จะกระโดดไปมา


ขณะที่ดูมัน ฮารินก็ถอนหายใจออกมา


“ฟู่ว ท้องของมันก็จะปั่นป่วนทันทีเมื่อกินไปเพียงใบเดียว….”


เอียนมองบุ๊กค์ด้วยความสงสารและเห็นใจ


“พี่คนนี้ก็บอกแล้วไงว่าอย่ากินอะไรมั่วๆ บุ๊กค์”


เสียงร้องอันน่าสงสารที่เขาไม่เคยได้ยินจากบุ๊กค์มาก่อนก็ได้ออกมาจากปากของมัน


Bboo-roo-roo-rook-!

 

 

 


ตอนที่ 108

 

YouCast เว็บไซต์วิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก


มุมบนซ้ายของหน้าเว็บYoucast มันจะมีอันดับที่เรียกว่า ‘อันดับความนิยมที่รวดเร็ว’


ฮันจุนพนักงานบริษัทอายุ30 มักจะดูYouCastก่อนนอนเป็นประจำก่อนที่เขาจะเข้านอนในทุกๆวัน


เพราะว่าเขามั่นใจว่าถ้าเขาดูYouCastทุกๆวันเขาจะต้องได้เจอกับวิดีโอที่น่าสนใจอย่างแน่นอน


ทีแรกฮันจุนดูเพียงวิดีโอที่ติดอันดับที่มียอดคนดูที่สูงเท่านั้นแต่บางครั้งเขาก็จะดูวิดีโอที่ขึ้นอยู่ในอันดับความนิยมที่รวดเร็วเพื่อที่เขาจะได้ดูวิดีโอใหม่ๆ


“เห้อ เหนื่อยจริงๆ”


ฮันจุนที่เหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนและปิดไฟก่อนที่เขาจะลงไปนอนบนเตียงและเปิดสมาร์ทโฟนของตนขึ้น


ความง่วงเริ่มครอบงำเขา แต่เขาก็ไม่คิดที่จะไม่ดูYouCastก่อนเขานอนเป็นอันขาด


“ไหนดูสิ ฉันอยากรู้จริงๆว่าวันนี้จะมีวิดีโอสนุกๆอะไรบ้าง”


ฮันจุนได้เปิดYouCastในหมวดอันดับความนิยมที่รวดเร็วด้วยการกดเพียงไม่กี่ครั้งและก็เลื่อนไปเรื่อยๆ


“หืม วิดีโอพวกนี้ฉันดูเมื่อวานเกือบหมดแล้ว…มันไม่มีอันใหม่บ้างเลยงั้นหรอ?”


เขาบ่นแต่ทันใดนั้นดวงตาทั้งสองก็เบิกออก


“หืม? อัตราการเพิ่มขึ้นของคนดู940%? มันคงไม่ใช่ข้อผิดพลาดอะไรหรอกใช่มั้ย?”


วิดีโอที่มีอัตรายอดคนดูที่เพิ่มขึ้นสูงขนาดที่ไม่อาจนำวิดีโออื่นมาเทียบได้


หัวข้อของวิดีโอมันยาวมาก และดูเหมือนจะเป็นเพราะว่ามันเป็นเวอร์ชั่นของทั่วโลกมันจึงถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษ


อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะว่ามันถูกแปลเป็นภาษาเกาหลีเรียบร้อยแล้ว


 


ไคลัน[1]


สงครามดินแดนระดับไดม่อน (โลตัสvsโพราริส)


ความบ้าคลั่งของซัมมอนเนอร์ ผู้เล่นเอียน (1vs30)


เซิฟเวอร์ – เกาหลี


 


ฮันจุนที่ได้อ่านชื่อวิดีโอแล้วก็แสดงความประหลาดใจออกมา


“ห้ะ? ดูเหมือนจะเป็นวิดีโอของไคลัน แต่มันเป็นความบ้าคลั่งของผู้เล่นซัมมอนเนอร์งั้นหรอ?”


ฮันจุนยิ่งสนใจมากขึ้นไปอีก


เพราะว่าจากชีวิตการทำงานของเขา เขาแทบไม่มีเวลาว่างระหว่างสัปดาห์เลยแต่ระหว่างวันหยุดเขาก็เป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่เล่นไคลันอยู่เสมอ


ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นผู้เล่นอาชีพซัมมอนเนอร์


เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นวิดีโอที่อัพโหลดขึ้นมาแล้วบอกว่ามันเป็นความบ้าคลั่งของผู้เล่นซัมมอนเนอร์มาก่อน ฮันจุนกดเข้าวิดีโอไปโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด


และวิดีโอก็ถูกตัดต่อมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นวิดีโอเลยทีเดียว


“โอ้ วิดีโอนี้โซจินเป็นคนตัดต่อสินะ”


ฮันจุนเมื่อเห็นคำว่า ‘จัดทำโดย โซจิน’ ตรงด้านล่างของวิดีโอก็เริ่มที่จะตื่นเต้นมากเข้าไปอีก


เพราะว่าเขารู้จักผู้อัพโหลดวิดีโอที่ชื่อโซจิน ที่ค่อนข้างดังเลยทีเดียว


“พวกเขาจะสู้30ต่อ1จริงๆงั้นหรอ?”


เมื่อวิดีโอเริ่มต้นขึ้น ฮันจุนก็จดจ่ออยู่กับมัน


และไม่นานราวกับเขาถูกดูดเข้าไปอยู่ในสมาร์ทโฟน เขาไม่สามารถที่จะละสายตาออกไปจากมันได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว


เขาไม่อาจพูดได้ว่ามันเป็นการเปลืองเวลาชีวิตของเขาเหมือนกับวิดีโออื่นๆที่เขาเห็นมา


“วะ ว้าวว…”


เขาไม่อาจเก็บความตื่นเต้นของตนเอาไว้ได้แม้แต่น้อย


ฮันจุนดูวิดีโอที่ยาวกว่า30นาทีโดยที่ไม่กดข้ามเลยแม้แต่ครั้งเดียวแถมเขายังกดเล่นอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว


ฮันจุนบ่นออกมาด้วยความงงงวย


“นี่…มันเป็นเรื่องจริงงั้นหรอ?”


สำหรับเขาที่เป็นซัมมอนเนอร์เลเวล50แล้ว วิดีโอการต่อสู้ในสงครามดินแดนของเอียนมันเป็นสิ่งที่น่าตกใจเป็นถึงที่สุด


จากที่เขาเห็นวิดีโอนี้กลบคำพูดของคำที่บอกว่า ‘ซัมมอนเนอร์เป็นอาชีพที่ห่วยที่สุดสำหรับการPVP’


จนกระทั่งเมื่อวันหยุดที่ผ่านมาเขาก็ยังคงตั้งคำถามกับตัวเองเกี่ยวกับอาชีพซัมมอนเนอร์เสมอและตั้งใจที่จะรีเซ็ตตัวละครของตน แต่เขาก็เปลี่ยนความคิดของตนไปในทันทีเมื่อเห็นเช่นนี้


‘เขามีสัตว์เลี้ยงทั้งหมดกี่ตัวกันแน่? หนึ่ง สอง…นี่กำลังจะบอกว่าเขาสามารถควบคุมสัตว์เลี้ยงห้าตัวได้แม่นยำขนาดนั้นเลยงั้นหรอ?’


บุ๊กค์ที่อยู่บนหลังของเอียนไม่ได้ถูกฮันจุนนับรวมเป็นสัตว์เลี้ยงของเอียนด้วย


เพราะเช่นนั้นแล้วเขาจึงนับได้ทั้งหมดห้าตัว


‘และสัตว์เลี้ยงที่ดูเหมือนเหยี่ยวตัวนั้นก็คล้ายๆกับกริฟฟินที่อยู่ในตำนานเลย…มันคงจะไม่ใช่กริฟฟินจริงๆหรอกใช่มั้ย?’


ครั้งแรกที่เขาดูวิดีโอเขาดูเพียงการต่อสู้ที่น่าทึ่งเท่านั้นและไม่มีโอกาสได้สงสัยในความสามารถในการควบคุมสัตว์เลี้ยงของเอียนเลย แต่เมื่อเขาดูอีกครั้งหนึ่งตาของเขาก็เริ่มที่จะจ้องมองไปยังสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว


‘สำหรับหมาป่าเคราสีเลือดมีผู้เล่นหลายคนแล้วที่วิวัฒนาการมันไปแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นฉันเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก แล้วนั่นใช่เสือขาวฮัลลิคานรึป่าว?’


ฮันจุนสับสนเป็นอย่างมาก


เขาไม่เคยเห็นซัมมอนเนอร์คนไหนที่มีคุณสมบัติที่จะติดอันดับได้มาก่อนเลย แต่เขาก็ไม่เคยเห็นความสามารถแบบนี้เช่นกัน


‘มันคงไม่ใช่พวก…ตัดต่อหรือแต่งขึ้นหรอกใช่มั้ย? หรือว่าจะเป็นพวกGMกัน?’


ขณะที่จินซุงกำลังคิดอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้วิดีโอก็ได้จบลงและเขาก็กดปุ่มดูอีกครั้งโดยไม่คิดอะไร


‘ฉันน่าจะลองดูคอมเมนต์สักหน่อย’


เขาเลื่อนลงมาและเริ่มที่จะอ่านคอมเมนต์ต่างๆ


คอมเมนต์มีหลายภาษาจากหลายประเทศ แต่พวกมันก็ถูกแปลกลับไปเป็นเกาหลีให้จึงไม่มีปัญหาสำหรับการอ่านแต่อย่างใด


KPI0900 – นี่มันบ้าไปแล้ว! นี่กำลังจะบอกฉันว่านี่คือซัมมอนเนอร์งั้นหรอ? นี่คิดว่าฉันจะเชื่องั้นหรอ? Holyaai – โกเลมสีฟ้าตัวนั้นมันคือตัวอะไรกัน? พอจะมีใครรู้ว่าสกิลที่ดูดผู้เล่นคู่ต่อสู้เข้าไปแบบนั้นมันคืออะไรมั้ย? CoCo1123 – กรี๊ด! ฉันมั่นใจเลยว่านั่นมันคือกริฟฟิน ฉันบอกเลยนะว่าฉันเคยเห็นมันมาก่อนมันถูกวาดอยู่ที่ปราสาทหลวงของอาณาจักรรัสเปล! KailanHolic -เทพซัมมอนเนอร์ พวกที่สู้กับซัมมอนเนอร์ตัวต่อตัวไปไหนหมด? ฉันอยากจะพามันไปลองฟัดดูจริงๆ พูดก็พูดเถอะคนๆนี้เลเวลเท่าไหร่กันแน่? ถึงจะเป็นเซิฟเวอร์เกาหลีที่เปิดตัวเป็นที่แรกแต่เขาสามารถที่จะฆ่าผู้เล่น30คนที่มีเลเวลประมาณ90กันหมดได้ง่ายขนาดนั้นได้ยังไง? Pts1120 – คนคอมเมนต์ด้านบน ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ซัมมอนเนอร์เป็นอาชีพที่เปิดตัวออกมาหลังจากที่ทุกเซิฟเวอร์เปิดกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเซิฟเวอร์เกาหลีที่เปิดเร็วที่สุดแต่อาชีพซัมมอนเนอร์มันก็ไม่ต่างกับเซิฟเวอรือื่นหรอก


 


มันมีคอมเมนต์มากกว่าหนึ่งร้อยอัน


ถ้าหากเอาคอมเมนต์ทุกอันมารวมกัน พวกเขาก็จะมีแต่ความตกใจและคำถาม


มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่อาจเชื่อเรื่องนี้ได้


ฮันจุนที่ได้อ่านคอมเมนต์ก็ช่วยไม่ได้นอกจากจะส่ายหัวของตนโดยอัตโนมัติ


‘มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ถ้าหากเป็นผู้เล่นที่เล่นอาชีพซัมมอนเนอร์มาสักนิดละก็พวกนั้นก็ควรจะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้’


สำหรับตัวเขาที่เป็นซัมมอนเนอร์ เขามีประสบการณ์ในการแพ้ผู้เล่นที่เลเวลน้อยกว่าเขาเกือบ5-10เลเวลในการPVP


เพราะเช่นนั้นแล้วเขาไม่เข้าใจพลังต่อสู้ของเอียนแม้แต่น้อย


ฮันจุนลุกขึ้นจากเตียงโดยฉับพลันและเปิดคอมพิวเตอร์ของตน


‘เห้อ…ฉันว่าจะนอนเร็วแต่นี่มันก็ดึกแล้ว’


ถ้าเขาไม่ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับผู้เล่น ‘เอียน’ เขารู้สึกว่าเขาจะหลับไม่ลงแน่นอน


เขานั่งอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์เสียงคลิ๊กเมาส์ที่อยู่ในมือของเขาก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง


 


* * *


 


“เสร็จแล้ว!”


จากหินอ่อนที่เอียนวางมือไว้มันก็เริ่มที่จะส่องแสงสีแดงออกมา


 


‘หยกสีโลหิต’ ถูกฟื้นฟู 100%


 


และแสงสีแดงที่เปล่งแสงออกมาจากหินอ่อนก็เริ่มที่จะปกคลุมไปทั่วทั้งประตูหินที่ขวางทางอยู่


ในท้ายที่สุดจากการไปรอบๆดันเจี้ยนและล่าโดยไม่หยุดพักมาเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็สามารถเพิ่มอัตราการฟื้นฟูจนถึง100%ได้สำเร็จ


 


ประตูแห่งโลหิตที่ถูกผนึกได้ถูกปลดผนึก


 


ข้อความระบบเด้งขึ้นมาตรงหน้าเอียนและฮาริน และประตูยักษ์ที่มีขนาดมากกว่า4×4เมตรก็ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ


เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วฮารินก็พูดออกมาโดยไม่รู้ตัว


“ว้าว..”


ในทางกลับกันสัญชาตญานของเอียนก็ทำงานขึ้นมาและดึงฮารินมาอยู่ด้านหลังของตน


“ฮาริน ถอยหลังไปพวกเราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน”


“เข้าใจแล้ว”


Keu-keung- Keu-keu-keung-


ประตูหินถูกเปิดออกจากซ้ายไปขวา เสียงดังก็มาจากทุกทิศทางและเอียนมองไปยังส่วนด้านในที่อยู่หลังประตูอย่างระวัง


และเอียนเมื่อดูข้างในแล้วก็เข้าสู้สถานะพร้อมต่อสู้ทันที


“ฮารินถอยหลังไกลๆเลย ฉันคิดว่ามันจะต้องมีมอนสเตอร์ระดับบอสอยู่ด้านในแน่นอน”


แสงสว่างส่องออกมาจากด้านใน


เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่อาจเห็นมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านในกำแพงแต่เงาของมันนั้นดูเหมือนกับหมาป่าขนาดใหญ่


สิ่งที่น่าสนใจก็คือมันเป็นหมาป่าที่ยืนสองขา


ไม่นานเมื่อแสงได้หายไปและรูปร่างของหมาป่าก็ถูกเปิดเผยออกมา


“ว้าว นั่นแวร์วูฟใช่มั้ย? เท่ห์จังเลย”


ฮารินอุทานออกมาด้วยความไร้เดียงสา แต่ขณะเดียวกันเหงื่อเย็นก็ไหลเต็มมือเอียนที่ตรวจสอบข้อมูลของมอนสเตอร์ตรงหน้าในทันที


 


เฟนเรียร์โลหิต – เลเวล 128 (ระดับHeroic)


 


‘เฟนเรียร์? ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันน่าจะเป็นระดับHeroicเพราะว่ามันเป็นมอนสเตอร์ระดับบอสแต่เลเวล128มันก็…’


เฟนเรียร์เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานที่ปรากฏอยู่ในตำนานเทพนอร์ส


มันไม่มีทางเลยที่มอนสเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นในชื่อของสิ่งมีชีวิตในตำนานที่จะอ่อนแอ


เอียนกังวลมากขึ้นไปอีก


‘แต่ในเมื่อมันเป็ฯหมาป่า ทำไมตัวมันถึงได้ใหญ่ขนาดนี้’


หมาป่าที่ดูเหมือนจะตัวใหญ่กว่าเสือขาวฮัลลิ มันมีขนสีแดงบนหลังราวกับเปลวเพลิงและด้วยดวงตาทั้งสองที่เป็นสีแดงเข้มมันดูเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งแบบสุดๆ


Keu-reu-reu- .


ดูเหมือนเฟนเรียร์จะเห็นเอียนเช่นกัน ดวงตาทั้งสองก็ลุกโชนและเริ่มที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย


มันขยับตัวด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความโมโห


เอียนเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ควบคุมสัตว์เลี้ยงของตนอย่างใจเย็น


“ดุ๊กเด ไปข้างหน้าหน่อย!”


Deu-reu-reuk- .


มันเริ่มเดินออกไปพร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น


และเฟนเรียร์ก็เริ่มวิ่งในเวลาที่ใกล้เคียงกัน


การเคลื่อนไหวของเฟนเรียร์มันรวดเร็วมาก และระยะห่างระหว่างพวกเขาก็ลดลงในทันที


‘ถ้าฉันพลาด ฉันก็คงจะต้องตายแน่ๆ’


เอียนขึ้นไปอยู่บนหลังของฮัลลิ


เพียงแค่มองก็รู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นความเร็วเหนือกว่าเอียนไปไกล


ในกรณีที่เฟนเรียร์ไม่สนใจสัตว์เลี้ยงและพุ่งเข้าหาเอียน มันก็ไม่มีทางที่เขาจะยืนหยัดอยู่ได้


อย่างไรก็ตามถ้าหากเขาขี่ฮัลลิมันก็จะเป็นคนละเรื่อง


“แกอย่าปล่อยให้มันหลุดไปได้!”


โชคดีที่ศัตรูที่เฟนเรียร์พุ่งเข้าใส่ก่อนก็คือดุ๊กเด


เอียนจ้องมองดูความเสียหายที่ดุ๊กเดได้รับจากการโจมตีของเฟนเรียร์


และฟันของเฟนเรียร์ก็ส่องแสงสีแดงกัดเข้าหน้าอกของดุ๊กเดเต็มๆ


Ba-bang-!


 


สัตว์เลี้ยง ‘ดุ๊กเด’ ได้รับความเสียหายคริติคอลจาก ‘เฟนเรียร์โลหิต’ สัตว์เลี้ยงดุ๊กเดพลังชีวิตลดลง 12740 หน่วย


 


เอียนเมื่อเห้นความเสียหายก็กลืนน้ำลาย


‘ถึงจะเป็นการโจมตีติดคริติคอลก็เถอะแต่ความเสียหายมันก็มากกว่าหมื่นหน่อยเลยทีเดียว…’


พลังชีวิตของดุ๊กเดที่มีเลเวลเกือบ120แล้วมีพลังชีวิตอยู่ที่6หมื่น


อย่างไรก็ตามถึงแม้พลังชีวิตของมันจะเยอะถ้าความเสียหายที่ได้รับมันก็ที่หมื่นสองละก็ มันก็จะตายหลังจากโดนโจมตีเพียงห้าครั้งเท่านั้น


สำหรับดุ๊กเดที่มีพลังป้องกันมากกว่า2500หน่วยแล้วมันเป็นพลังโ๗มตีที่สุดแสนจะบรรยาย


เอียนรีบสั่งให้ดุ๊กเดใช้หลุดอเวจี


“ดุ๊กเด หลุมอเวจี!”


ถ้าเขาใช้สกิลหลุมอเวจีตั้งแต่เริ่มมันก็มีความเสี่ยงที่เฟนเรียร์ซึ่งมีความว่องไวสูงมากจะหลบการโจมตีได้ ดังนั้นเขาจึงต้องให้มันโจมตีก่อนหนึ่งครั้งเพื่อที่เขาจะใช้สกิลได้


Kuoooh-!


และไม่ว่าความเร็วของเฟนเรียร์จะมากแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่จะหลบหลุมอเวจีที่เป็นสกิลAoEจากระยะนี้ได้อย่างแน่นอน


Kyaaoo-!


เฟนเรียรร์เริ่มที่จะถูกดูดเข้าไปในระยะของหลุมอเวจีมันก็ร้องโหยหวนออกมา


เอียนเมื่อยืนยันได้แล้วว่าเท้าของเฟนเรียร์ถูกตรึงไว้กับพื้นก็รีบสั่ง


“รุมมันเลย!”

 

 

 


ตอนที่ 109

 

เมื่อคำพูดนั้นออกมาจากปากของเอียน สัตว์เลี้ยงทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่เฟนเรียร์ทันที


คนแรกที่เข้าโจมตีเฟนเรียร์ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไล


Chomp-!


 


สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ทำความเสียหายคริติคอลแก่ ‘เฟนเรียร์โลหิต’ พลังชีวิตของเฟนเรียร์โลหิตลดลง 5876 หน่วย


 


เอียนเมื่อเห็นความเสียหายคริติคอลที่ทำไปประมาณ6พันหน่วย ก็หยีตาเล็กน้อย


‘หา…มันไม่ใช่มอนสเตอร์ประเภทพลังป้องกันแน่ๆ เลเวลของมันนี่น่ากลัวจริงๆ’


มันทำความเสียหายได้เพียง60%เท่านั้นเมื่อเทียบกับตอนที่ไลทำความเสียหายกับมอนสเตอร์ระดับCommonทั่วไปที่ทำได้เกือบ9พันหน่วย


ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เฟนเรียร์สวนการโจมตีกลับมา


Pu-puck-!


เฟนเรียร์สะบัดขาหน้าของมันไปทางไลที่กำลังกัดคอของมันอยู่


 


สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ โดนโจมตีโดย ‘เฟนเรียร์โลหิต’ พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ลดลง 9760 หน่วย พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ลดลง 8958 หน่วย


 


ไลปลิวไปในอากาศทันทีจากการโจมตีจากขาหน้าของเฟนเรียร์


Kkae-kkaeng-!


พลังชีวิตของไลลดลงเหลือต่ำกว่าสองหมื่นหน่วย


ไลเกือบตายจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว


‘ถ้ามันเกิดมันติดคริติคอลขึ้นมา มันต้องตายแน่ๆ!’


เอียนใจตกไปอยู่ตาตุ่มและรีบยกเลิกการอัญเชิญไลทันที


“ไล ยกเลิกการอัญเชิญ!”


และจากจิดที่ไลหายไป เรคและพินก็ระดมยิงสกิลAoEของพวกมัน


Kwaaah-!


Hwa-reu-reuk-!


พร้อมกันนั้นพลังชีวิตของเฟนเรียร์ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว


 


สัตว์เลี้ยง ‘พิน’ ใช้ความสามารถแฝง ‘บดขยี้’ พลังชีวิตของ ‘เฟนเรียร์โลหิต’ ลดลง 2439 หน่วย พลังชีวิตของ ‘เฟนเรียร์โลหิต’ ลดลง 2399 หน่วย พลังชีวิตของ ‘เฟนเรียร์โลหิต’ ลดลง 2501 หน่วย


 


สกิลบดขยี้จะทำความเสียหาย125%ของพลังโจมตีของมันในทุกๆ0.5วินาที หรือก็คือมันเป็นพลังทำลายล้างย่อมๆนี่เอง


ยิ่งไปกว่านั้น เรคก็ใช้สกิลลมหายใจของมันทับซ้อนเข้าไปอีกถึงแม้เฟนเรียร์จะมีเลเวลเกือบ130 มันก็ได้รับความเสียหายจำนวนมหาศาล


และเฟนเรียร์ที่โดนโจมตีจากสกิลอันแข็งแกร่งของสัตว์เลี้ยงทั้งสอง ชื่อของมันก็เริ่มกระพริบ


เอียนยิงบอลเวทและCurrent Proliferationออกมาจากระยะไกลๆ


Pung- Pu-pung-!


และสุดท้ายหลุมอเวจีของดุ๊กเดก็ระเบิดออก


Baaang-!


ชื่อของเฟนเรียร์กระพริบถี่ขึ้นกว่าเดิม


เอียนเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ก็ตะโกนออกมาอย่างมีความสุข


‘ถึงมันจะเป็นมอนสเตอร์บอส แต่พลังชีวิตของมันก็ไม่ได้เยอะ’


มันเป็นเรื่องปกติสำหรับมอนสเตอร์ระดับบอสที่ปรากฏในดันเจี้ยนหรือพื้นที่ล่าที่มีบางครั้ง พลังชีวิตของพวกมันมีเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับCommonโดยไม่เกี่ยวกับระดับของตัวมันเลย


ในกรณีที่เป็นบอสสายป้องกันหรือสายพลังชีวิต มันก็อาจจะดูเกินจริงไปหน่อยแต่ก็ต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะล้มมันได้


แน่นอนว่าพลังโจมตีของบดขยี้และลมหายใจมันแข็งแกร่งแต่เมื่อคิดดูแล้วเขาก็ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกดีตอนเห็นพลังชีวิตของเฟนเรียร์ลดลงอย่างรวดเร็ว


‘ฉันยกเลิกการอัญเชิญไลไป แต่พวกเราน่าจะจัดการกับมันได้ง่ายกว่าที่คิด’


สัตว์เลี้ยงได้ใช้สกิลAoEทั้งหมดใส่เฟนเรียร์อย่างโหดร้ายราวกับพวกเขาวางแผนที่จะจบการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว


อย่างไรก็ตามผลสโลว์ของหลุมอเวจีได้หมดลงแล้ว เฟนเรียร์ก็พุ่งขึ้นไปในอากาศและหลบการโ๗มตีทั้งหมด


Ta-tat- .


เฟนเรียร์ยืนด้วยสองขาของมัน แต่เมื่อมันวิ่งไปตามกำแพงของทางโล่งนี้มันใช้สี่ขาอย่างคล่องแคล่วและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดา


“พิน! ทางขวา-!”


เฟนเรียร์ได้ไปที่ด้านหลังของเรคก่อนที่มันจะรู้ตัวเสียอีก มันก็ยกอุ้งมือหน้าของมันที่ส่องแสงสีแดงออกมา


อย่างไรก็ตามหลังจากที่เห็นอุ้งมือหน้าของเฟนเรียร์ เอียนก็เบิกตากว้าง


‘นั่นมันอะไร?’


เพราะว่าจากอุ้งเท้าที่เฟนเรียร์ยกขึ้นมา กรงเล็บสีแดงที่ดูเหมือนจะยาวประมาณ1เมตรได้งอกออกมา


Chwaak-!


และในจังหวะถัดมา


เอียนทำได้เพียงงงงวยกับสิ่งที่ตนเห็น


 


สัตว์เลี้ยง ‘เรค’ ได้รับความเสียหายจาก ‘เฟนเรียร์โลหิต’ พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘เรค’ ลดลง 29,760 หน่วย


 


มันเป็นการโจมตีที่รุนแรงมากและมันยากที่จะเชื่อหลังจากที่เห็นด้วยตาตัวเอง


นอกจากนั้นมันยังไม่จบ


 


‘เฟนเรียร์โลหิต’ ดูดซับพลังชีวิตของ ‘เรค’ และฟื้นฟูพลังชีวิต 44,640 หน่วย


 


เฟนเรียร์ที่ใกล้ตายได้ฟื้นคืนกลับมาด้วยผลของดูดพลังชีวิต


เป็นการฟื้นคืนที่มีอัตราการฟื้นฟูที่เกือบ150%ของความเสียหายที่ทำได้เลยทีเดียว เอียนตกใจ


‘นี่มันมีมอนสเตอร์แบบนี้ด้วยงั้นหรอ?’


แน่นอนว่ามันไม่ได้เพิ่มพลังชีวิตจนเต็ม เพิ่มเพียงแค่44640หน่วยเท่านั้น


ถึงกระนั้นชื่อของมันก็ยังกระพริบอยู่ นั่นก็หมายความว่าพลังชีวิตของมันเหลือน้อยกว่าครึ่ง


อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ที่สัตว์เลี้ยงของเขาใช้สกิลไปจนเกือบหมดแล้ว เฟนเรียร์ก็ฟื้นคืนพลังชีวิตไปมากกว่า30%มันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายแบบสุดๆ


‘พวกเราเลี่ยงการโจมตีของมันให้มากที่สุด!’


เขามั่นใจว่าการโจมตีของเฟนเรียร์เมื่อสักครู่นี้เป็นความสามารถแฝง


ในเมื่อตอนที่มันโจมตีด้วยการโจมตีธรรมดา ผลของการดูดพลังชีวิตไม่ทำงาน


ถ้าหากการดูดพลังชีวิตมีผลในการโจมตีธรรมดาด้วย พวกเขาก็คงจะตายกันหมดแน่นอน


‘มันก็ช่วยให้โล่งใจได้นิดหน่อยละมั้ง?’


เอียนเรียกเรคกลับโดยไม่ลังเลอีกเช่นกัน


“เรค ยกเลิกการอัญเชิญ!”


ความสามารถแฝงของเรคเด่นในด้านการโจมตีแบบAoE


และเมื่อเทียบพลังโจมตีอันแข็งแกร่งของมัน ปฏิกิริยาตอบสนองของเรคนั้นถือว่าช้าทีเดียวดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เรคจะหลบการโจมตีของเฟนเรียร์ได้


มันไม่มีเหตุผลที่เขาจะอัญเชิญเรคเอาไว้ในเมื่อหากมันโดนโจมตีอีกเพียงครั้งหรือสองครั้งมันก็จะตายทันที


เอียนหันไปมองฮารินเล็กน้อย


ฮารินฟื้นพลังชีวิตให้แก่ดุ๊กเดจากระยะไกลอยู่


‘ถ้าฮารินคอยฮีลให้ละก็ ดุ๊กเดก็น่าจะสามารถยืนทนกับการโจมตีอันแข็งแกร่งนี้ได้แน่’


ตอนนี้สัตว์เลี้ยงที่เหลือของเขามีเพียง พิน, ฮัลลิ, ดุ๊กเด, และบุ๊กค์


‘พวกเราจะเร่งจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด พวกเราจะต้องจัดการมันก่อนที่มันจะฟื้นพลังชีวิต


ถ้าพวกเขาช้าและยื้อเวลาเอาไว้ และผลดูดพลังชีิวตของมันถูกเรียกใช้ขึ้นมาหนึ่งหรือสองครั้ง พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป


สัตว์เลี้ยงทั้งหมดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและแม่นยำตามที่เอียนสั่ง


โชคดีที่ความว่องไวของพินและฮัลลิไม่ได้แพ้ไปกว่าเฟนเรียร์เลยแม้แต่น้อย พวกมันสามารถหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย


เฟนเรียร์ตามล่าเอียนที่อยู่บนหลังของฮัลลิ แต่เวลาผ่านไปมันก็เปลี่ยนเป้าหมาย


มันเล็งไปที่ดุีกเดที่มีความเชื่องช้าก่อน


Kka-ka-kang-!


กรงเล็บของเฟนเรียร์กวาดเข้าใส่ร่างของดุ๊กเดและก็เกิดเสียงแผ่นเหล็กขูดกันออกมา


 


สัตว์เลี้ยง ‘ดุ๊กเด’ พลังชีวิตลดลง 6,760 หน่วย สัตว์เลี้ยง ‘ดุ๊กเด’ พลังชีวิตลดลง 7,312 หน่วย


 


โจมตีสองครั้งติด แต่โชคดีที่มันไม่ใช่ความเสียหายคริติคอลและฮารินก็รีบฟื้นฟูพลังชีวิตของดุ๊กเดทันที


และเอียนก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป


‘ถ้าหากมันเล็งฮารินเมื่อไหร่ ฮารินจะโดนเตะออกจากเกมไปในทันทีแน่นอน’


ฮารินนั้นซ่อนอยู่หลังดุ๊กเด มันเป็นเรื่องที่แน่นอนที่เฟนเรียร์จะสังเกตเห็นเธอ


เขาไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นแน่


ฮัลลิที่มีเอียนอยู่บนหลัง และพินก็พุ่งไปหาเฟนเรียร์อย่างรวดเร็ว


Puck- Pu-puck-!


พินที่ไปถึงเฟนเรียร์ก่อนก็ใช้เท้าหน้าของมันข่วนไปที่หลังหัวของเฟนเรียร์


และต่อจากนั้นฮัลลิก็จบเท้าของมันเข้าที่หน้าอกของเฟนเรียร์อย่างรุนแรงจนมันตัวหมุน


พร้อมกันนั้น เอียนก็ตะโกนออกมา


“ฮัลลิ ผู้พิทักษ์แห่งลม!”


เมื่อเอียนออกคำสั่ง ความสามารถแฝงของฮัลลิผู้พิทักษ์แห่งลมก็ทำงาน และความว่องไวของฮัลลิก็เพิ่มขึ้นในทันทีและโจมตีเฟนเรียรอย่างต่อเนื่อง


Bang- Ba-bang!


และข้อความระบบที่เอียนรอคอยก็เด้งขึ้นมา


 


ความสามารถแฝงของสัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ‘ตะปบ’ ทำงาน ‘เฟนเรียร์โลหิต’ ติดสถานะสตั้นเป็นเวลา 1 วินาที


 


‘เยี่ยม!’


ฮัลลิและพินโจมตีใส่เฟนเรียร์ที่ติดอยู่ในสถานะสตั้นอย่างไม่ปราณี


 


ทำความเสียหายแก่ ‘เฟนเรียร์โลหิต’ 7192 หน่วย ทำความเสียหายแก่ ‘เฟนเรียร์โลหิต’ 4823 หน่วย


ทำความเสียหายแก่ ‘เฟนเรียร์โลหิต’ 6859 หน่วย


 


และทันทีที่เฟนเรียร์หลุดจากสถานะสตั้น ฮัลลิก็ตะปบใส่อีกรอบจนมันติดสถานะอีกครั้ง


Bang-!


เอียนใช้เวทจิตวิญญาณที่เหลือของเขาทั้งหมดใส่เฟนเรียร์


บอลเวทสีม่วงและการโจมตีลมของพิน รวมถึงการโจมตีหลักของฮัลลิ ร่างใหญ่ของเฟนเรียร์ก็เริ่มที่จะสลายไป


Kyaooh-!


ดุ๊กเดเดินเข้าหาเฟนเรียร์ที่ร้องโหยหวนไม่หยุดและใช้กำปั้นอันใหญ่ของมันต่อยลง


Puck-!


โดยทั่วไปแล้วเฟนเรียร์ที่มีจุดเด่นเรื่องความเร็วไม่มีทางที่มันจะโดนดุ๊กเดโจมตีโดน แต่ตอนนี้มันโดนโจมตีจากทุกทิศทางและมันก็ติดผลสตั้นอีกมันจึงโดนเข้าไปเต็มๆ


Plop-!


และไม่นานร่างของเฟนเรียร์ก็กลายเป็นแสงสีเทาและหายไปในอากาศ


“เยี่ยมไปเลย!”


เอียนกำหมัดของตนแน่น


พักหลังมานี้เขาไม่เคยยกเลิกการอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาเลย แต่หลังจากที่เจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งเขาก็ต้องยกเลิกการอัญเชิญสัตว์เลี้ยงไปสองตัว เขารู้สึกหมดแรง


 


ท่านสังหาร ‘เฟนเรียร์โลหิต’ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 997,710 หน่วย


 


มันเป็นค่าประสบการณ์มหาศาลที่เกือบจะหนึ่งล้านหน่วย ถึงกระนั้นเอียนก็ไม่คิดว่ามันเป็นค่าประสบการณ์ที่เยอะ


“ฟู่ว เกือบไปแล้วมั้ยละ”


ถ้าเขาให้เวลาเฟนเรียร์อีกหน่อยละก็ เอียนคงจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่แน่นอน


ฮารินซ่อนตัวและได้ฟื้นฟูพลังชีวิตของดุ๊กเดจากมุมหนึ่ง ดูเหมือนเธอก็เครียดเช่นเดียวกัน เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและเดินเข้าหาเอียน


ฮารินพูดกับเอียนที่พักหายใจอยู่อย่างระวัง


“เห้อ จินซุง เราจะกลับกันเลยมั้ย?”


ฮารินรู้สึกว่าจินซุงกังวลมากกว่าเดิมโดยไม่ได้อะไรเพราะว่าตัวเธอ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกผิด


อย่างไรก็ตามถึงแม้จะจัดการกับมอนสเตอร์ระดับบอสได้แล้ว มันก็ไม่มีทางที่จินซุงจะกลับจนกว่าจะเห็นสุดทางของดันเจี้ยน


“ยัง มันยังมีทางไปต่อได้อยู่ พวกเราจะต้องไปจนถึงจุดสิ้นสุดของดันเจี้ยนก่อนที่เราจะกลับ”


ฮารินพูดออกมาด้วน้ำเสียงที่รุนแรง


“นายยกเลิกการอัญเชิญไลกับเรคไปแล้ว นายจะไม่สามารถอัญเชิญพวกมันได้ในทันทีใช่มั้ยละ?”


“ใช่แล้ว ฉันสามารถอัญเชิญมันได้หลังจากผ่านไป30นาที แต่ด้วยพลังต่อสู้ตอนนี้แล้ว พวกเราสามารถไปต่อและฆ่ามอนสเตอร์ระดับCommonได้ ไม่ต้องห่วง”


สุดท้ายแล้วฮารินก็ทำได้เพียงส่ายหัวกับเอียนที่สุดแสนจะดื้อรั้น


“ก็ได้…ถ้านายพูดแบบนั้น”


เอียนลงจากหลังของฮัลลิและเดินตรงไปที่ร่างที่พังทลายลงของเฟนเรียร์


และเขาก็วางมือไว้ด้านบนของมัน


จากความยากในการล่าของมันแล้ว เอียนก็หวังกับรางวัลเอาไว้สูงเช่นกัน


 


ท่านได้รับทอง 32,1451 หน่วยจาก ‘เฟนเรียร์โลหิต’ ท่านได้รับ ‘สร้อยคอเฟนเรียร์โลหิต’ ท่านได้รับ ‘จิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความแค้นของเฟนเรียร์’


 


หลังจากดูสร้อยคอที่ชื่อเขียนด้วยแสงสีม่วงแล้ว เอียนก็ยิ้มกว้างออกมา


เพราะว่าไอเทมที่เขาได้นั้นเป็นไอเทมระดับ Heroic


อย่างไรก็ตามตอนที่เอียนกำลังจะเปิดช่องเก็บของเพื่อที่จะดูไอเทมที่เขาได้นั้น


หินอ่อนสีแดงโลหิตที่อยู่บนมือของเอียนก็ลอยขึ้นมาบนอากาศและเริ่มที่จะส่องแสงประหลาดออกมา


และข้อความระบบก็ได้แจ้งเตือนขึ้นมาตรงหน้าพวกเขา


 


ท่านได้ปลดปล่อย ‘จิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความแค้นของเฟนเรียร์’ ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง


 


“ห้ะ..?”


หินอ่อนสีแดงที่อยู่บนมือของเอียนได้ลอยออกจากมือไปและเริ่มที่จะปรากฏร่างออกมา


ทั้งสองมองด้วยความสับสน


ต่อจากนั้นวิญญาณที่มีสีสันและสามารถมองทะลุไปได้ก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าของฮารินและเอียน

 

 

 


ตอนที่ 110

 

นี่มันที่ไหนกัน…?


 


“อะไรนะ…?”


 


แล้วเจ้าเป็นใครกัน? สับสนจริงๆ


 


เฟนเรียร์ตายเพราะถูกเอียนฆ่า


มันเป็นวิญญาณที่ปรากฏออกมาและพูดคุยกับเอียน


ข้างๆเขา ฮารินก็จ้องมองไปยังร่างนั้นอย่างตื่นเต้น


“ว้าว หมาป่าพูดได้ด้วย”


 


เมื่อฮารินพูดจบ เฟนเรียร์ก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมา


 


ข้าคือแชลลอส หัวหน้าผู้พิทักษ์สายเลือดโลหิต อย่าเอาข้าไปเทียบกับพวกชั้นต่ำพวกนั้น


 


เมื่อวิญญาณเฟนเรียร์พูดออกมา ฮารินก็ผงะ


“ขะ เข้าใจแล้ว…”


และเอียนที่ได้มองทั้งสองพูดกันก็แนะนำตัวเองด้วยท่าทางเกร็งๆ


“ฉันชื่อเอียน”


 


เอียน? เอียนเจ้าบอกว่า…


 


ก่อนที่เอียนจะพูดจบ เฟนเรียร์ที่แนะนำตัวเองว่าชื่อ ‘แชลลอส’ ก็เปิดปากพูดอีกครั้ง


 


งั้นเจ้าก็คือซัมมอนเนอร์


 


เมื่อได้ยินเช่นนั้นเอียนก็พยักหน้า


“ใช่แล้ว ฉันเป็นซัมมอนเนอร์”


แชลลอสมองรอบๆอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็จ้องไปที่ร่างที่แตกสลายของตนและมองไปยังเอียนอีกครั้ง


เอียนเครียดขึ้นมาเล็กน้อย


ยังไงเขาก็เป็นฆ่ามัน


อย่างไรก็ตามมันต่างจากที่เอียนคิดเอาไว้ เฟนเรียร์พูดในสิ่งที่ไม่คาดคิด


 


อืมม อย่างแรกข้าอยากจะบอกว่า ขอบคุณ


 


“…?”


 


ข้าแค่อยากขอบคุณเจ้าที่ช่วยข้าจากโซ่ตรวนแห่งความบ้าคลั่ง


 


แชลลอสพูดกับเอียนที่อึ้งจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา และแชลลอสก็พูดต่อ


 


ความแข็งแกร่งของข้าถูกผนึกเอาไว้ แต่ยังไงเจ้าก็ฆ่าข้าได้…ข้าเคารพความแข็งแกร่งของเจ้า


 


เมื่อเขาได้ยินว่าพลังถูกผลึกเอาไว้ เอียนก็ส่ายหน้า


‘ไม่จริงน่า ถ้าค่าสถานะถูกผลึกเอาไว้แล้วปกติเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?’


เอียนคิดไปไกลแล้วก็ส่ายหน้าเพื่อตอบกลับ


“ไม่ต้องขอบคุณหรอกแชลลอส”


แชลลอสหันไปมองสัตว์เลี้ยงที่ยืนอยู่ด้านหลังของเอียน


และหลังจากได้มองรอบนึงแล้ว เขาก็พูดต่อ


 


ถึงมันจะน่าผิดหวังไปหน่อยก็เถอะ


 


เอียนตอบกลับอย่างรวดเร็ว


“อะไรนะ?”


 


ถ้าหากมีสายเลือดของพวกข้าอยู่ในหมู่สัตว์เลี้ยงของเจ้าด้วยแล้ว ข้าก็คงจะสามารถช่วยเจ้าได้มากทีเดียว


 


“ช่วยอะไรงั้นหรอ?”


 


มันก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสายเลือด แต่ข้ามีพลังที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่สายเลือดของข้า


 


เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นมันก็มีสิ่งหนึ่งโผล่ขึ้นมาในห้วงความคิดของเขา


‘อย่าบอกนะว่า มันมีความเป็นไปได้ที่ฉันจะได้เบาะแสในการวิวัฒนาการไลจากเจ้านี่งั้นหรอ?’


จริงๆแล้วมันค่อนไปทางมั่นใจมากกว่าคาดเดา


เอียนรีบพูดออกมาทันที


“สัตว์เลี้ยงของฉัน ‘ไล’ เป็นหนึ่งในสายเลือดของนาย หมาป่าเคราสีเลือด”


 


เมื่อเอียนพูด แชลลอสก็เบิกตาทั้งสองขึ้นเล็กน้อย


 


หืม? จากในหมู่หมาป่าเครา ถ้าหากมีสายเลือดเดียวกันมันก็เป็นสายเลือดเดียวกับข้า ยังไงก็เถอะข้าไม่เห็นมันจากในหมู่สัตว์เลี้ยงของเจ้าเลย…


 


ตอนนี้ไลบาดเจ็บจากการต่อสู้กับแชลลอสที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง มันก็เลยถูกย้ายไปยังอีกมิติหนึ่ง


เอียนพูด


“ตอนนี้ไลติดสถานะยกเลิกการอัญเชิญอยู่ ถ้าหากนายรอประมาณ20นาทีได้ ฉันจะเรียกมันออกมา”


ในที่สุดแชลลอสก็เข้าใจจึงพยัหน้าออกมา


 


เข้าใจแล้ว นั่นถึงทำให้ข้าไม่เห็นมัน จริงๆแล้วข้าก็รู้สึกถึงสายเลือดของข้าอยู่เหมือนกันแต่เพราะว่าข้าไม่เห็นมันข้าก็เลยเพียงแค่สงสัย


 


“ใช่แล้วรออีกสักหน่อย ฉันจะอัญเชิญมันออกมา”


ต่างจากที่เอียนคิด เขาพยักหน้าและพูดต่อ


 


ถึงอย่างนั้นมันก็น่าผิดหวังอยู่ดี


 


เอียนหยีตาลงเล็กน้อย


“อะไรอีก? ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะเรียกมันออกมาในอีก20นาที”


 


เพราะว่าข้าจะหายไปก่อนหน้านั้น ก่อนที่ข้าจะไปยังโลกวิญญาณเวลาที่ข้าจะสามารถอยู่ที่นี่ได้ไม่เกิน10นาที ข้าเหลือเวล่อีกแค่9นาทีเท่านั้น


 


ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น เอียนก็ตกตะลึง


“…”


มันเป็นสถานการณ์ที่น่าอนาถใจ เอียนพยายามที่จะไม่พูดคำสบถออกมา


‘นี่มัน บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกเขาต้องสร้างเกมให้มันเป็นแบบนี้ด้วยเนี่ย?’


ขณะที่มองไปยังไลที่ไม่มีวี่แววว่าจะวิวัฒนาการเลยแม้แต่น้อยไม่ว่ามันจะเลเวลเพิ่มขึ้นขนาดไหนก็ตาม เอียนเคยคิดว่าเขาจะต้องเติมเต็มเงื่อนไขอะไรสักอย่างเสียก่อน


อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการที่เขาเจอเบาะแสได้จากสถานที่ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ได้ มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดเหลือเกิน


ขณะที่มองไปที่เอียนที่ถอนหายใจออกมา แชลลอสก็พูดขึ้น


 


ยังไงก็ตามในเมื่อเจ้าช่วยให้วิญญาณของข้าหลุดพ้นจากการคุมขังได้ ข้าก็ควรจะตอบแทนให้เหมาะสม


 


เมื่อเขาพูดจบ ข้อความระบบก็เด้งแจ้งเตือนเอียนว่าเขาได้รับบางอย่าง


 


ท่านได้รับไอเทม ‘Bloody Hole’


 


ชื่อของมันถูกเขียนด้วยสีม่วง แน่นอนว่ามันต้องเป็นไอเทมระดับHeroic


ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีทางที่อารมณ์ของเอียนจะดีขึ้นได้จากของเพียงแค่นี้


‘เห้อ แล้วฉันจะวิวัฒนาการไลยังไงละทีนี้…’


เพื่อที่จะตอบรับรางวัลที่เขาให้มาไม่ว่าเอียนจะอารมณ์เป็นยังไง เอียนก็ก้มหัวให้เล็กน้อย


มันเป็นการกระทำที่กลายเป็นเรื่องธรรมชาติที่ร่างของเอียนจะทำเองหลังจากเล่นไคลันมาจนถึงตอนนี้


“ขอบคุณมาก ฉันจะใช้มันอย่างดี”


 


มันเป็นไอเทมที่เป็นสัญลักษณ์ของสายเลือดโลหิต ข้าอยากให้เจ้าดูแลมันดีๆ


 


เขายังไม่ได้ตรวจสอบว่ามันคือไอเทมอะไร แต่เอียนก็พยักหน้า


“แน่นอน ฉันจะทำตามนั้น”


เอียนคิดว่าเขาหมดธุระที่นี่แล้วก็เดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับทางเดิน


ทันใดนั้นแชลลอสก็พูดขึ้นอีก


 


เอ่อ เจ้าอยากจะผ่านทางนี้ไปและออกอีกทางนึงงั้นหรอเอียน?


 


“หืมม..?”


เพราะว่าเขาไม่รู้ไม่ว่าทางเดินนี้จะมีทางเชื่อมไปที่อื่นอีกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น แต่เอียนก็พยักหน้า


“ใช่แล้ว พวกเรากำลังจะออกไปอีกฝั่งนึง”


เขาวางแผนที่จะเห็นจุดสิ้นสุดของดันเจี้ยนอยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้พูดโกหกอะไร


 


อย่างที่คิดไว้เลย เข้าใจแล้วถ้าอย่างนั้น เจ้าพอจะช่วยอะไรข้าหน่อยได้มั้ย?


 


การขอร้องจากNPCจะต้องเป็นเควสต์แน่นอน


เอียนตาลุกวาวขึ้นเล็กน้อย


‘ถ้าหากฉันได้เบาะแสเกี่ยวกับการวิวัฒนาการจากเควสต์นี้มันก็คงจะดี…’


“เค ไม่สิ ให้ช่วยอะไรล่ะ?”


เมื่อเอียนถาม แชลลอสก็พูดต่อทันที


 


ข้ามีน้องชายที่เป็นวิญญาณถูกขังเอาไว้เช่นกัน


 


และหน้าต่างเควสต์ก็เด้งขึ้นมา


Ring- .


 


*เฟนเรียร์โลหิต ‘แชลลอส’ ขอร้อง


เฟนเรียร์โลหิตผู้ปกป้องสายเลือดโลหิตได้เป็นอิสระจากการพันธนาการวิญญาณเอาไว้โดยท่านเป็นผู้ช่วยเหลือ


เขาขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก


อย่างไรก็ตามน้องชายของเขายังไม่ได้รับอิสระจากการพันธนาการวิญญาณและกำลังเจ็บปวด


จากข้อมูลที่ได้รับจากแชลลอส ให้ไปช่วยปลดปล่อยพันธสัญญาวิญญาณของ ‘โอวิลล์’ น้องชายของแชลลอสรวมถึงเป็นเฟนเรียร์อันธการ สายเลือดแห่งความมืด


ความยากเควสต์: S


เงื่อนไขเควสต์: ผู้เล่นจะต้องปลดปล่อยวิญญาณเฟนเรียร์โลหิต ‘แชลลอส’


เวลาจำกัด: ไม่จำกัด


รางวัล – ไม่ทราบ


 


ดวงตาทั้งสองของเอียนก็เบิกโพลงทันทีเมื่อเห็นหน้าต่างเควสต์เปิดออกมา


‘ระดับS? มันเป็นระดับSงั้นหรอ..?’


ความยากระดับนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นตั้งแต่ที่เล่นไคลันมา เอียนก็สับสน


‘ถ้าหากเป็นเควสต์ระดับS…ฉันคิดว่าฉันเคยอ่านมาจากบอรืดเมื่อไม่นานมานี้ว่าผู้เล่นเลเวล130ก็ยังทำเควสต์ล้มเหลวเหมือนกัน”


อย่างไรก็ตามการที่จะปฏิเสธมัน เขาก็เสียดายที่จะเสียโอกาสในการวิวัฒนาการเหมือนเมื่อครุ่นี้อีก


สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ลังเลและรับเควสต์นี้ทันที


‘ใช่แล้ว มันไม่มีเวลาจำกัดดังนั้นฉันก็น่าจะลองดูหน่อย’


“โอเค ฉันจะลองช่วยดู”


เมื่อเอียนรับเควสต์แชลลอสก็ดูสดใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด


 


ขอบคุณมากเอียน ข้าหวังว่าเจ้าจะปลดปล่อยน้อยชายของข้าที่ทรมาณกับการคุมขังมาเป็นระยะเวลากว่าศตวรรษได้


 


“แน่นอน…ฉันจะลองดู”


‘ถึงฉันจะไม่รู้ว่าฉันจะทำได้รึเปล่าก็เถอะ”


และแชลลอสก็พูดต่อ


 


ถ้าหากเจ้าเดินตามทางต่อไปอีกประมาณ10นาที เจ้าจะสามารถผ่านที่ราบสูงฟอลาสและออกไปด้านนอกได้


 


ที่ราบสูงฟอลาสที่เขาพูดถึงอยู่เป็นที่ราบสูงที่ไม่มีจุดจบได้คลี่ออกตรงหน้าเอียนก่อนที่เขาจะเข้ามาในนี้เสียอีก


 


ถ้าหากเจ้าออกไปด้านนอกแล้วมันก็จะเชื่อมต่อกับทางริมน้ำ และถ้าเจ้าตามทางน้ำไปทางเหนือมันก็น่าจะมีหมู่บ้านโอลิบัสอยู่ ผ่านไป100ปีแต่พื้นที่ไม่น่าจะเปลี่ยนไปมาก


 


เอียนตั้งใจฟังสิ่งที่แชลลอสพูด


มันไม่ได้มีอะไรที่ยุ่งยากขนาดนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องจด


 


เมื่อเจ้าถึงหมู่บ้านโอลิบัสแล้วหาคนที่ชื่อ ‘อิคาเอล’ เขาเป็นคนที่รู้ว่าน้องชายของข้าอยู่ที่ไหน


 


เอียนที่เต็มไปด้วยความสงสัยก็ถาม


“อิคาเอล? เขาเป็นมนุษย์รึป่าว?”


แชลลอสตอบ


 


ใช่แล้ว เขาเป็นเพื่อนมนุษย์เพียงคนเดียวของโอวิลและข้า


 


“เข้าใจแล้ว แต่ไม่ใช่ว่านายบอกว่าพวกนายถูกขังมามากกว่า100ปีแล้วงั้นหรอ? มนุษย์จะยังมีชีวิตอยู่ได้หรอ?”


เมื่อเอียนถาม แชลลอสก็พยักหน้าอย่างช้าๆ


 


เขายังมีชีวิตอยู่ เพราะว่า….


 


หลังจากเขาพักหายใจครู่หนึ่ง เขาก็ค่อยๆพูดออกมา


 


เขาเป็น ‘ผู้ที่เปลี่ยนชะตาตัวเอง’


 


* * *


 


เอียนและฮารินแยกกับแชลลอสและเดินจนถึงสุดทางของทางเดิน


“แต่จินซุง ไม่ใช่ว่ามันจะดีกว่างั้นหรอถ้าเราล่าที่นี่จนกว่าบัฟผู้ค้นพบคนแรกจะหมดลงน่ะ?”


ฮารินถามออกมา เอียนพยักหน้าพร้อมกับตอบกลับ


“ถูกแล้ว นั่นก็เป็นแผนที่ฉันวางเอาไว้ เขาบอกว่ามันมีที่ที่ชื่อหมู่บ้านโอลิบัสอยู่เมื่อเราออกจากที่นี่ ฉันก็จะไปที่นั่นและซื้อหินกลับเมืองรวมถึงฟื้นฟูตัวเองเสียก่อนแล้วค่อยออกมาล่าอีกที”


“เข้าใจแล้ว”


ประมาณ10นาทีผ่านไป ทั้งสองก็สามารถออกมาจากที่แห่งนี้ได้


“ว้าว! มันมีชายฝั่งจริงๆด้วย!”


พวกเราออกมาจากทางเดินก็เห็นเข้ากับทะเลจนสุดสายตา


เอียนก็ยินดีเช่นกัน


“ว้าว…นี่สร้างขึ้นมากระทั่งทะเลเลยงั้นหรอ?”


เพราะว่าทวีปโคโลน่า แผ่นดินที่พวกเขาเหยียบมาเป็นที่แรกในไคลันก็โดนปิดทั้งสามฝั่งของแผนที่ จึงยังไม่มีผู้เล่นคนไหนในไคลันเห็น ‘ทะเล’ เลยแม้แต่น้อยคนเดียว


ก่อนที่ทวีปตอนเหนือจะเปิดออก ทั้งสี่ฝั่งก็ถูกตัดออกไปตั้งแต่เริ่มแต่จากแพทช์ล่าสุดแผนที่ทางเหนือก็เปิดออก


ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่ทวีปตอนเหนือเชื่อมต่อกับทะเลถูกค้นพบโดยเอียนเป็นผู้แรก


และแน่นอนว่ารางวัลผู้ค้นพบคนแรกจะต้องเด้งขึ้นมาตรงหน้าเอียนและฮาริน


Ring- .


 


ท่านค้นพบ ‘ทะเล’ เป็นคนแรก ค่าชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 50,000 หน่วย ความสนิทกับประเภท ‘น้ำ’ เพิ่มขึ้น5%


 


เนื่องจากค่าความสนิทของเธอเพิ่มขึ้น ฮารินจึงเข้าใจวัตถุดิบอาหารทะเลมากขึ้น5%


ทั้งสองที่ได้รับค่าชื่อเสียงและค่าสถานะมาแบบฟรีๆแล้วก็เดินตามทางน้ำไปและไปทางเหนือขณะที่อารมณ์ดี


และเป็นอย่างที่แชลลอสบอก ไม่นานพวกเขาก็พบกับ ‘หมู่บ้านริมหาดโอลิบัส’


“โว้ว มันมีหมู่บ้านตั้งอยู่ในที่สงบๆแบบนี้จริงๆด้วย”


เอียนพูดกับตนเองออกมา ฮารินก็เห็นด้วย


“ยิ่งไปกว่านั้นหมู่บ้านนี้ก็ขนาดค่อนข้างใหญ่อีกด้วย”


เธอพูดออกมา มันก็มีบางสิ่งโผล่ขึ้นมาในความคิดของเอียนในทันที


‘หรือว่า ถ้าหากเป็นหมู่บ้านที่ยังไม่ถูกค้นพบ มันคงยังไม่ได้อยู่ในประเทศหรือกิลด์ไหนใช่มั้ย?’


ถ้าหากเป็นหมู่บ้านที่เป็นอิสระ นั่นก็หมายความว่าเขาสามารถลงทะเบียนที่นี่ให้กลายเป็นฐานใหม่ของกิลด์โลตัสได้


เอียนรีบตรวจสอบข้อมูลของหมู่บ้านโอลิบัสทันที


 


*โอลิบัส


ประเภท: หมู่บ้านริมหาด (อิสระ)


ระดับ: หมู่บ้าน


พื้นที่: 5582ตารางเมตร


ประชากร: 1995 คน


โอลิบัสเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของริมหาด


การต่อเรือและการตกปลาพัฒนาได้ดีในที่แห่งนี้


มูลค่าของดินแดน: 2758


ข้อมูลเชิงลึก (ขยาย)


 


‘อิสระ! มันเป็นอิสระจริงๆด้วย!’


เอียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น


เพราะว่าในหมู่ฐานอิสระที่ถูกค้นพบในทวีปตอนเหนือจนถึงตอนนี้มันก็ไม่มีที่ไหนที่มีขนาดใหญ่และพัฒนาได้เท่าอันนี้มาก่อน


ยิ่งไปกว่านั้นระดับของมันก็เป็นระดับ ‘หมู่บ้าน’ ถ้าหากพวกเขาได้ที่นี่มาละก็มันก็จะมีส่วนช่วยในกิลด์ได้มากทีเดียว


เอียนรีบดึงผนึกของลอร์ดออกมาจากช่องเก็บของทันที


“ยึดครองฐาน!”


อย่างไรก็ตามข้อความระบบที่ไม่คาดคิดก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าเอียนที่ยิ้มกว้างพร้อมกับอ้าแผ่นผนึกออกมา


 


ท่านไม่สามารถยึดครองหมู่บ้านริมหาด ‘โอลิบัส’ ได้เพื่อที่จะยึดครองหมู่บ้านริมหาด ‘โอลิบัส’ ท่าต้องผ่านเงื่อนไขทั้งหมด เงื่อนไขที่1. ท่านต้องมีเมืองที่มีระดับสูงกว่าระดับ ‘หมู่บ้าน’ (ผ่านเงื่อนไข) เงื่อนไขที่2 ท่านต้องมีกำลังทหารที่แข็งแกร่งกว่าในหมู่บ้าน (ไม่ผ่านเงื่อนไข) เงื่อนไขที่3 ค่าความพันธ์ของท่านกับคนในหมู่บ้านจะต้องมากกว่า 70% (ไม่ผ่านเงื่อนไข)

 

 

 


ตอนที่ 111

 

เอียนเมื่อดูข้อความระบบแล้วก็บ่นออกมาด้วยความเสียดาย


“เห้อ อย่างที่คิดไว้จริงๆมันไม่มีทางที่ฉันจะได้มันมาง่ายๆหรอก”


ฮารินเดินเข้าหาเขาขณะที่เขากำลังบ่น


“จินซุงนายกำลังทำอะไรอยู่หน่ะ?”


เธอถามออกมา เอียนก็ส่ายหน้าพร้อมกับตอบ


“อ่อ ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่คิดอะไรนิดหน่อย”


เอียนเดินทางต่อกับฮารินและเขาก็เทียบกำลังทหารของเมืองโลตัสและหมู่บ้านโอลิบัส


เขาไม่อาจได้รับมันฟรีๆ แต่เขาอยากได้หมู่บ้านที่เหมือนกับโบนันซ่าไม่ว่าจะยังไงก็ตาม


ก่อนที่กิลด์ใหญ่ๆจะมาเจอเข้า


‘อืม…กำลังทหารมันก็ไม่ได้ต่างกันมาก ดูเหมือนจะเป็นเพราะว่าระดับของหมู่บ้านต่ำเกินไป เลเวลของทหารก็เลยต่ำกว่าเมื่อเทียบกับจำนวน’


พลังต่อสู้ของทหารและNPCประเภทต่อสู้ของเมืองพวกเขาถูกสร้างขึ้นทั้งหมดและถูกรวมเข้ากับกำลังทหารของเมือง


หมู่บ้านโอลิบัสมีจำนวนทหารมากกว่าเมืองโลตัสประมาณสองเท่า แต่เลเวลของทหารและระดับก็ไม่ได้สูง พลังต่อสู้ของพวกเขาก็เลยคล้ายกัน


‘เงื่อนไขกำลังทหารพวกเราสามารถผ่านเงื่อนไขได้ในไม่กี่วันถ้าเราตั้งใจ..’


อย่างสุดท้ายเอียนจ้องมองไปยังข้อความที่เขียนว่า ‘เงื่อนไขที่3’


‘ ‘ค่าความสัมพันธ์กับคนในหมู่บ้านต้องมากกว่า70%’งั้นหรอ…’


มันมีหลายทางที่จะเพิ่มค่าความสัมพันธ์


สำหรับระดับเมืองเราสามารถซื้อของกับพวกเขาหรือช่วยพวกเขาได้ หรือก็สามารถทำเควสต์จากNPCในหมู่บ้านก็ได้


‘อย่างแรกฉันควรคิดเรื่องนี้หลังจากที่ฉันจัดการเควสต์ที่ได้มาให้เรียบร้อยก่อน ในเมื่อความสัมพันธ์ก็จะเพิ่มขึ้นจากเควสต์นี้เหมือนกัน’


ตอนนี้ค่าความสัมพันธ์ของเขากับหมู่บ้านโอลิบัสเกิน20%มานิดเดียว


เพราะว่าเขาไม่เคยเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับหมู่บ้านนี้มาก่อน เขาจึงไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่


‘ฉันควรจะหาวิธีที่มันดีที่สุดก่อนที่จะลองดู’


ขณะที่เอียนกำลังจัดเรียงความคิดของตนอยู่ ทั้งสองก็ได้มาถึงร้านขายของชำที่หมู่บ้านโอลิบัสแล้ว


“จินซุง ฉันจะจัดของก่อนนะ!”


“โอเค! ได้เลย”


จินซุงเปิดช่องเก็บของของตน


‘งั้นตอนที่ฮารินจัดไอเทมของเธออยู่ เราก็น่าจะตรวจสอบไอเทมที่ได้มาก่อนหน้านี้ด้วยดีกว่า”


เอียนตรวจสอบไอเทมระดับHeroicที่มีชื่อว่า ‘สร้อยคอของเฟนเรียร์โลหิต’ ก่อนเป็นชิ้นแรก


‘โอ้ สร้อยคออันนี้มันเหมาะกับแอซซาซินสุดๆ ฉันน่าจะขายมันได้ในราคาที่สูงมาก’


เอียนยิ้มอย่างสบายใจออกมาเมื่อเห็นว่าได้ไอเทมที่ดี แล้วเขาก็ตรวจสอบ ‘Bloddy Hole’ ที่เขาได้รับมาจาก ‘แชลลอส’ ต่อ


 


*Bloody Hole


ประเภท – เครื่องราง


ระดับ – Heroic


ข้อจำกัดการสวมใส่ – สามารถสวมใส่ให้แก่สัตว์เลี้ยงได้


ความคงทน – 55/55


คุณสมบัติ – ค่าสถานะต่อสู้ทั้งหมด +35%


เวลาคูลดาวน์ของความสามารถแฝงทั้งหมด -15%


*ถ้าหากสวมใส่ให้แก่สายพันธุ์ ‘หมาป่า’ พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นอีก 15%


*ถ้าหากสวมใส่ให้แก่สายพันธุ์ ‘หมาป่า’ ความเร็วเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้น 30%


*ไอเทมชิ้นนี้เป็นของผู้เล่น ‘เอียน’


ไอเทมชิ้นนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือขายให้แก่ผู้เล่นอื่นได้ และแม้ตัวละครจะเสียชีวิตไอเทมก็จะไม่ดรอป


(สามารถแลกเปลี่ยนได้เพียงครั้งแรกเท่านั้น)


เครื่องรางชิ้นนี้เป็นสิ่งที่เฟนเรียร์โลหิต แชลลอสสร้างขึ้นมาจากวิญญาณของตน


มันมีพลังอันมหาศาลอยู่ภายใน


 


เอียนเมื่อตรวจสอบข้อมูลดูแล้วก็ประหลาดใจมาก


เพราะว่ามันเป็นไอเทมประเภทที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน


‘นี่จะบอกว่ามันเป็นไอเทมสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอย่างนั้นหรอ?’


ถ้าหากเขาสงสัย เขาก็แค่ต้องยืนยันมันตอนนี้


เอียนอัญเชิญไลออกมาทันที


“อัญเชิญ ไล!”


เพราะว่าหลังจากที่เขาได้อ่านคุณสมบัติของไอเทมแล้วมันไอเทมของไลอย่างไม่ต้องสงสัย


Grr- Grrr-!


ดูเหมือนขณะที่เขายกเลิกการอัญเชิญอยู่นั้น ไลคงรู้สึกอึดอัดมันก็เลยเดินเข้าหาเอียนและร้องออกมาพร้อมกับเอาหัวมันถูกับเอียน


‘แต่ฉันจะสวมใส่มันยังไง?’


อย่างแรกเอียนนำBloody Holeออกมาจากช่องเก็บของและถือขึ้นมา


และเขาก็ใช้มันเหมือนไอเทมทั่วไป เพราะนี่เป้นครั้งแรกที่เขาได้ลอง


เมื่อเขาทำเช่นนั้น ข้อความระบบก็เด้งขึ้นมา


Ring-


 


โปรดเลือกสัตว์เลี้ยงที่จะสวมใส่ ‘Bloody Hole’


เอียนเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วก็พยักหน้า


‘อ่อ ฉันต้องทำแบบนี้นี่เอง’


หลังจากเอียนวางมือบนหัวของไล เขาก็ใช้ไอเทมอีกครั้ง


เมื่อเขาทำเช่นนั้นแล้ว ข้อความระบบก็ขึ้นมาอีกครั้ง


 


ไอเทม ‘Bloody Hole’ ถูกสวมใส่ให้แก่สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ (เพื่อที่จะยกเลิกการสวมใส่ ท่านเพียงแค่ใช้คำสั่ง ‘ยกเลิกการสวมใส่’ หลังจากเลือกสัตว์เลี้ยงแล้ว)


 


และBloody Holeที่อยู่บนมือของเอียนก็กลายเป็นสีแดงและลอยไปบนอากาศก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปในหน้าผากของไล


“โอ้โห มันสวมใส่แบบนี้นี่เอง”


แต่เดิมแล้ว Bloody Holeเป็นไอเทมที่มีขนาดเล็กมีรูปร่างเหมือนกับหินอ่อน แต่เมื่อมันถูกดูดเข้าไปในหน้าผากของไล มันก็กลายเป็นตราประทับเหมือนกับรอยสักอยู่บนหน้าผากของไลด้วยลวดลายที่สวยงาม


เอียนเปิดหน้าต่างข้อมูลของไล


และหลังจากตรวจสอบค่าสถานะที่เปลี่ยนไปของไล เอียนแสดงออกอย่างพึงพอใจ


‘นี่มันดีจริงๆ! แต่มันไม่มีทางที่จะหาไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยงอีกหรอ? ถ้าฉันไปโรงประมูลมันจะอยู่ที่นั่นไหม?’


ขณะเอียนคิดไปต่างๆนาๆ ฮารินเข้ามาใกล้เขา


ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจไอเทมที่ร้านขายของชำและจัดของเสร็จแล้ว เมื่อเธอแสดงอาการดีใจ


“จินซุง ฉันต้องไปแล้ว ดังนั้นฉันจะไปก่อนนะ”


เมื่อเธอพูด จินซุงพยักหน้า


“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักในวันนี้นะฮาริน”


ฮารินยิ้มอย่างสดใสเมื่อเธอตอบกลับ


“นายหมายความว่าไงทำงานหนักน่ะ? นายเป็นคนที่จริงจังจังนะ”


และหลังจากนั้นไม่นาน


จินซุงที่ส่งฮาริน ยืนขึ้นจากจุดที่เขาอยู่


มีงานอีกหลายงานที่ต้องทำให้เสร็จ แต่ก่อนอื่นเขาวางแผนที่จะหา NPC ที่ชื่อว่า ‘อิคาเอล’ ที่แชลลอสพูดถึง


“ถ้าฮารินไม่ไป ฉันจะรู้สึกแย่เล็กน้อยเกี่ยวกับการทำภารกิจเดี่ยว แต่มันก็ทำออกมาได้ดี”


ฮารินก็อยู่ที่นั่นกับเขาเมื่อเขาได้รับเควสต์จากแชลลอส แต่เพราะว่าเลเวลของฮารินต่ำเกินไป เธอจึงไม่สามารถรับเควสต์ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นบางสิ่งที่เขาเพิ่งพูด


เอียนกลับไปที่ทางเข้าของหมู่บ้านและเริ่มจาก NPC ที่เขาเห็นคนแรก เขาพูดกับพวกเขาทีละคนและเริ่มรวบรวมข้อมูล


“พี่ชายหน้าหล่อตรงนั้นน่ะ!”


“ฮุ ฮุ นายเป็นชายหนุ่มที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน แต่นายมีสายตาที่เฉียบคมสำหรับผู้คน มีอะไรหรอ?”


“อย่างไรก็ตาม คุณรู้จักคนที่ชื่อว่า ‘อิคาเอล’ มั้ยครับ?”


“อิคาเอลหรอ? อิคาเอล ห้ะ…ฉันไม่แน่ใจ มันดูเหมือนชื่อที่ฉันเคยได้ยินสักแห่ง แต่ฉันไม่รู้จริงๆ”


เอียนเป็นอันดับขุนนางด้วยฉายาบารอน แต่มันดูเหมือนพวกเขาเป็น NPC ของหมู่บ้านที่ไม่มีเชื้อชาติ พวกเขาจึงไม่สามารถเห็นได้ว่าเอียนเป็นขุนนาง


เพราะอย่างนั้น มันจึงง่ายที่จะรวมรวบข้อมูลโดยไม่มีแรงกดดัน


‘หืมมม… เขาอยู่ในหมู่บ้านใช่ไหม?’


ตอนนี้เขาเดินไปรอบๆ แต่เมื่อข้อมูลที่เขาต้องการไม่ได้ปรากฏ เอียนเริ่มฉุนเฉียวอย่างช้าๆ


‘อ๊า จริงจังป่ะเนี่ย เขาควรบอกที่อยู่ที่แน่นอนกับฉัน ฉันไม่รู้ว่าหมู่บ้านมันจะใหญ่ขนาดนี้!’


เขาเดินไปรอบๆประมาณ 40 นาทีอย่างงั้น?


ในที่สุดเอียนก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอิคาเอลจากผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหัวมุมหมู่บ้าน


“อิคาเอลเรอะ? ถ้าเป็นคนนั้น เขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆทางตะวันตกของหมู่บ้าน”


เอียนแสดงอาการสดใสขึ้นทันที


“ดูเหมือนจะมีกระท่อมหลายแบบที่ทางตะวันตกของหมู่บ้าน ดังนั้นคุณสามารถบอกได้ไหมว่าบ้านเป็นยังไง?”


“มันไม่มีอะไรยาก กระท่อมที่อิคาเอลอาศัยอยู่นั้นคือบ้านทางเหนือที่สุด”


“อ่อ ขอบคุณครับ!”


ตามจากข้อมูลที่เขาได้รับจากผู้อาวุโส เอียนตรงไปที่ตะวันตกของหมู่บ้าน


‘ดูเหมือนว่ามันจะเป็นหลังนั่น’


เอียนที่พบกระท่อมโดยไม่ยาก เปิดประตูบัานอย่างระมัดระวังและเข้าไป


แกร๊ก-


“มีใครอยู่ไหมครับ?”


เมื่อเขาเปิดประตูและเข้าไป ด้านหลังของผู้อาวุโสผมสีเทาจับตาของเอียน


เขานั่งที่โต๊ะของเขาและทำบางสิ่งอย่างขมักเขม่น


‘อะไรเนี่ย? เขาไม่ได้ยินฉันหรอ?’


เอียนเรียกผู้อาวุโสอีกครั้ง


“ขอโทษนะครับ อย่างไรก็ตามคุณคืออิคาเอลใช่ไหมครับ?”


เขาดูเหมือนจะได้ยินเสียงของเอียน เมื่อผู้อาวุโสหันมาอย่างช้าๆ


“อะ แฮ่ม ดูเหมือนนักท่องเที่ยวจะเข้ามา”


และเอียนที่มองตาของผู้อาวุโส ช่วยไม่ได้ที่เขาจะตกใจ


‘อะไรวะเนี่ย? เขาดูคล้ายกับกริปเปอร์เลย!’


 


* * *


 


“แสดงว่า… พูดง่ายๆมันก็เรียกได้ว่าเป็นอีเว้นท์ดันเจี้ยนโจมตีราชาหรอ?”


เมื่อฟิโอลันพูด เฮิร์ซพยักหน้า


“ใช่ เธอรู้การกระดานข่าวโจมตีในชุมชนใช่ไหม?”


“ใช่ แน่นอนว่าฉันรู้”


“ในกลุ่มระดับต่ำของกระดานข่าวโจมตี พวกเขากล่าวว่าพวกเขากำลังจะสร้างกระดานข่าวใหม่ที่เป็นอีเว้นท์พิเศษ เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาโพสต์การโจมตี พวกเขาจะประเมินหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์และตามลำดับที่แนะนำมากที่สุด พวกเขาจะได้รับรางวัล”


“รางวัลคืออะไร?”


“เธออาจจะตกใจเมื่อฉันบอกเธอ”


“…?”


เฮิร์ซหายใจเข้าก่อนที่เขาจะพูด


“เธอรู้ข่าวรูปแบบแคปซูลที่จะถูกปล่อยมาจาก LB Sports ใช่ไหม?”


“แน่นอนว่าฉันรู้ เมื่อเร็วๆนี้ทุกครั้งที่ฉันเปิดทีวีโฆษณาก็จะปรากฏขึ้นมาเสมอ”


หลังจากตอบกลับ ตาทั้งสองของฟิโอลันเบิกโพลง


“อ่อ… ดังนั้น นั่นคือรางวัล…?”


เฮิร์ซหัวเราะเมื่อเขาพยักหน้า


“อย่างไรก็ตามนั่นถูกต้อง รางวัลของอีเว้นท์นี้คือรูปแบบแคปซูลใหม่แน่นอน พวกเขากำลังจะเลือกอันดับที่ 10 และให้มันอย่างชัดเจน”


จากความคิดเห็นของอะแดปเตอร์รุ่นแรกๆ รูปแบบแคปซูลรุ่นใหม่ได้รับอนุญาติสำหรับประสบการณ์โลกใหม่อย่างแท้จริง


แม้จะมีราคาใกล้เคียงกับ 30 ล้านวอน แต่ก็ไม่มีคำว่าเสียและคำที่ว่าแคปซูลของความฝันของผู้เล่นไคลันทั้งหมดจะได้รับรางวัล ตาทั้งสองของฟิโอลันเปล่งประกาย


“คิ… ฉันต้องการมันจริงๆ”


“ฉันจะทำเช่นกัน”


“แต่นายบอกว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่นายต้องมีส่วนร่วมกับชื่อกิลด์ของนาย ไม่ใช่รายบุคคล ไม่มีทางที่พวกเขาจะให้สมาชิกทุกคนในกิลด์ได้รับแคปซูล…”


เฮิร์ซพยักหน้าเมื่อเขาเพิ่มคำอธิบาย


“ถูกตัอง . แน่นอนว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น สำหรับกิลด์อันดับที่ 1 พวกเขาจะได้รับแคปซูล 3 รุ่นใหม่และสำหรับสมาชิกกิลด์ทั้งหมดพวกเขาจะแจก ‘กล่องไอเทมปริศนา’ และสำหรับกิลด์ที่มีการจัดอันดับพวกเขาจะได้รับการเผยแพร่โดยอัตโนมัติ”


“ว้าว 3 เครื่อง? และกล่องปริศนา นายหมายความว่าคนหนึ่งจากอีเว้นท์สุดท้ายที่ผู้เล่นบางคนจะเปิดออกมาได้ไอเทมระดับ Legendary หรอ?”


“ถูกต้อง มันเป็นอย่างนั้นแน่นอน!”


อย่างไรก็ตาม ฟิโอลันที่ร่าเริง แสดงอาการเสียใจทันที


มันเป็นเพราะว่ามันมีรางวัลที่ใหญ่มาก เธอรู้สึกว่าทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้แน่นอน


“แต่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะสามารถเขียนการโจมตีหรืออะไรทำนองนั้นได้ดี คุณมั่นใจไหม? เฮิร์ซ?”


เป็นไปตามที่คาด เฮิร์ซส่ายหน้า


“ฉันค่อนข้างห่างไกลจากความพิถีพิถันและความละเอียดเช่นนี้…”


“ถ้างั้นเราควรทำอะไร?”


เมื่อฟิโอลันถาม เฮิร์ซยิ้มเมื่อเขาพูด


“เรามีลอร์ด”


และเมื่อเธอนึกถึงเอียน ฟิโอลันแสดงอาการสดใสขึ้นทันที


“อ่อ แน่นอน ถ้ามันเป็นเอียน…!”


“เธอเห็นครั้งที่แล้วใช่ไหม?”


“อะไรอ่ะ?”


“สมุดบันทึกที่เขาเขียนและจัดระเบียบเวลาคูลดาวน์ของอาคารภายในทั้งหมดโดยบอกว่าเขาดูแลกิจการภายใน”


“อ่อ… นั่น!”


ทั้งสองคนจำได้ว่าเห็นสมุดจดบันทึกของเอียนเต็มไปด้วยบันทึกของเขาที่ไม่บังเอิญและตกใจ


เริ่มจากเวลาที่ต้องใช้เวลาสำหรับทหารที่เข้ารับการฝึกฝนเพื่อเปลี่ยนเป็นเวลาที่ใช้ในการก่อสร้างให้เสร็จสมบูรณ์สำหรับแต่ละอาคาร บันทึกของเอียนนั้นเต็มไปด้วยการเขียน


มันเป็นบันทึกที่เต็มไปด้วยระดับของความหลงใหลที่สามารถนึกถึงงานที่ไม่ควรมีมนุษย์คนใดทำได้


เฮิร์ซพูดต่อ


“คิดว่ายังไงฟิโอลัน? เรายังมีโอกาสที่จะชนะใช่ไหม?”


ฟิโอลันพยักหน้าอย่างขะมักเขม้น


“แน่นอน!”


และด้วยเสียงที่มีความกระตือรือร้นสูง เธอจึงเสริม


“คราวนี้เมื่อเอียนกลับมาเราตัดสินใจที่จะท้าทายการเคลียร์อันดับ S ในดันเจี้ยนฟอลัน ฉันคิดว่าเราน่าจะสามารถทดลองและเขียนมันได้”


“ดีเยี่ยม”


เฮิร์ซและฟิโอลันจับมือกันอย่างเหนียวแน่น


“หนึ่งในสามแคปซูลจะเป็นของเอียนแน่นอน ขณะสองอันที่เหลือสามารถกลับมาหาหัวหน้ากิลด์และรองหัวหน้ากิลด์ใช่ไหม?”


เมื่อเฮิร์ซถาม ฟิโอลันพยักหน้าเมื่อเธอเห็นด้วย


“แน่นอน”


“ฮุฮุ ตอนนี้พวกเราแค่ต้องการโน้มน้าวเอียนอย่างดี”


ราวกับว่าเธอได้รับอันดับที่ 1 ในความจริงแล้ว ฟิโอลันแสดงอาการมีความสุข


“ฮิ! แคปซูลรุ่นใหม่ แม้แค่คิดถึงมัน มันทำให้ใจฉันพองโต”


และเฮิร์ซเสริม


“แต่นั่นมันจะแสดงไอคอนและสิ่งของภายในจริงๆหรอ?”


ตอนที่ 112

 

“ดังนั้น คุณจะบอกผมว่า… คุณเป็นพี่ชายฝาแฝดของกริปเปอร์หรอครับ?”


 


“ถูกต้อง โฮ่โฮ่ ข้าจะโกหกเจ้าทำไมล่ะ?”


 


อย่างไรก็ตาม เอียนไม่สามารถเชื่อได้


 


‘ไม่ กริปเปอร์ดูเหมือนเขาจะอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป แต่คุณปู่คนนี้เป็นพ่อมดภูเขา เป็นไปได้ยังไงกัน?’


ในการเรียกพวกเขาว่าฝาแฝด ความแตกต่างของอายุทางกายภาพของทั้งสองคนดูมากเกินไป


 


หากกริปเปอร์มีภาพลักษณ์ของชายวัยกลางคนที่ดูดี รูปลักษณ์ของอิคาเอลที่มีผมสีเทาและเคราสีขาวที่ยาวถึงเอวของเขาก็มีความรู้สึกคล้ายกับเทพเจ้าภูเขาที่จะปรากฏในเทพนิยายแน่นอน


 


เอียนแสดงอาการขมขื่น


 


“เปรียบเทียบกับกริปเปอร์… คุณดูแก่กว่า”


 


เมื่อเอียนพูด อิคาเอลหัวเราะลั่นเมื่อเขาตอบกลับ


 


“ชายคนนั้นไม่ใช่นักเวทมิติงั้นรึ? เนื่องจากเขาสามารถควบคุมเวลาได้ดั่งใจนึก เขาจึงได้รับผลกระทบน้อยลงตามกาลเวลา”


 


“อ่อ…”


 


ในที่สุดเอียนก็เข้าใจ


 


‘ไม่ต้องกังวล… นั่นมีเหตุผลบางอย่าง’


 


เอียนและอิคาเอลเริ่มคุยเรื่องต่างๆ


 


และในกระบวนการนั้น มิตรภาพของเอียนกับกริปเปอร์ก็ช่วยเขาได้อย่างมาก


 


‘ขอบคุณนะกริปเปอร์ มันเพิ่มความสัมพันธ์ของฉันกับอิคาเอลได้ง่ายมาก มันเป็นกำไรอย่างคาดไม่ถึง’


 


บทสนทนาของทั้งสองดำเนินต่อไป


 


“เพราะข้ามีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา ข้าจึงสามารถใช้ชีวิตที่ยืนยาวกว่าคนอื่นได้มาก อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถป้องกันตัวเองจากความชราได้”


 


“ผมเข้าใจแล้ว แต่มันไม่ใช่ความสามารถที่น่าทึ่งที่หลายๆคนปรารถนาอย่างแท้จริงหรอครับ? ผมหมายถึงพลังในการเปลี่ยนชะตากรรม”


 


เอียนที่ประจบสอพลอ อิคาเอลยิ้ม


 


“อาจเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากข้าได้รับภารกิจหนักหน่วงที่เหมาะสมกับพลังดังกล่าว มันไม่เป็นสิ่งที่ดีเพียงเท่านั้น”


 


อิคาเอลยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเขาพูดอีกครั้ง


 


“จะว่าไป เหตุผลอะไรที่เจ้ามาหาข้าล่ะ?”


เมื่อเขาถาม เอียนรีบอธิบายสถานการณ์ที่เขาพบเฟนเรียร์โลหิตเเชลลอสและความชื่นชอบที่เอียนได้รับจากเขา


 


เมื่อคำอธิบายสั้นๆจบลง อิคาเอลพยักหน้าและจัดการทุกสิ่ง


 


“ดังนั้น แชลลอสจึงได้รับการปลดปล่อย”


 


“ถูกต้อง”


 


“และเขาบอกเจ้าว่าข้าจะรู้เกี่ยวกับเบาะแสของออร์วิลหรอ?”


 


“ครับ”


 


“หืมมม…”


 


ราวกับว่าเขากำลังคิดเกี่ยวกับบางสิ่งเขาเงียบชั่วขณะ แต่ไม่ช้าก็พูดอีกครั้ง


 


“ก่อนอื่น ข้าควรขอบคุณเจ้า”


 


“อะไรนะครับ?”


 


“ข้าหมายถึงอิสระของแชลลอส เขาเป็นผู้กอบกู้หมู่บ้านนี้และเป็นเพื่อนสนิทของข้ามาเป็นเวลานาน”


 


เมื่ออิคาเอลก้มหัวเล็กน้อย เอียนก็ก้มหัวอย่างเท่าเทียมกัน


 


“และสำหรับการปลดปล่อยของออร์วิล… แน่นอนถ้าเป็นเจ้าซึ่งชนะแชลลอสที่ตาบอดด้วยความบ้าคลั่ง ดังนั้นเจ้าอาจทำให้ออร์วิลได้พักด้วยเช่นกัน”


 


และอิคาเอลเริ่มเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแชลลอสและออร์วิล


 


เมื่อคำที่เกี่ยวข้องกับเควสต์เริ่มขึ้น เอียนจดจ่อมากขึ้นขณะเขาฟังคำพูดของเขา


 


“ความจริงที่ว่าแชลลอสและออร์วิลเป็นฮีโร่ที่ช่วยหมู่บ้านนี่จากพ่อมดแห่งความมืดเมื่อนานมาแล้ว”


 


 


เรื่องราวมันก็นานมาแล้ว


 


เกี่ยวกับ 100 ปีที่แล้ว


 


มันเป็นเวลาเมื่อเรือผีที่น่าสงสัยมาจอดที่หมู่บ้านโอลิบัส


 


บนเรื่องผีนั้นเต็มไปด้วยเนโครแมนเซอร์และพ่อมดแห่งความมืดและพวกมันเริ่มทำลายหมู่บ้าน


 


อิคาเอลที่ล้มเหลวในการปกป้องหมู่บ้านด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองขอความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์สองคนของที่ราบสูงฟอลัส แชลลอสและออร์วิลและทั้งสองที่ยังคงความสัมพันธ์ฉันมิตรกับหมู่บ้านโอลิบัสและเต็มใจช่วยเหลืออิคาเอลและปกป้องหมู่บ้าน


 


อย่างไรก็ตามก่อนที่หัวหน้าของจอมเวทย์แห่งความมืดจะสิ้นชีวิต พวกเขาวางคำสาปแช่งเพื่อควบคุมวิญญาณของเฟนเรียร์สองตัวและทั้งสองก็ตาบอดด้วยความบ้าคลั่ง


ในขณะที่จิตสำนึกของแชลลอนและออร์วิลยังไม่ได้ถูกควบคุม พวกเขาก็เก็บตัวลงลึกเข้าไปในที่ราบสูงฟอลัสด้วยตนเอง


 


นี่เป็นเพราะหากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมความตั้งใจที่จะสังหารได้


 


และเวลาผ่านไปเช่นนั้นจนถึงตอนนี้


 


“ออร์วิลนั้นแข็งแกร่งกว่าแชลลอส ถ้าเจ้าไม่มั่นใจว่าจะกำจัดเขาได้ ข้าก็ไม่สามารถบอกเจ้าได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”


 


เอียนพึมพัม


 


“อืมมม…”


 


เหตุผลก็เพราะแชลลอสแข็งแกร่งอย่างมากเช่นกัน แต่เนื่องจากออร์วิลน่าจะแข็งแกร่งกว่าแชลลอส เขาจึงกังวล


 


‘เอาล่ะ เนื่องจากฉันไม่ได้คาดหวังว่าเควสต์ระดับ S จะง่ายต่อการเคลียร์’


 


อิเคลแสดงสีหน้ากังวลอย่างไม่น่าเชื่อขณะที่เขาพูดต่อไป


 


“ในกรณีที่ตราประทับของออร์วิลถูกปล่อยออกมาและเจ้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้และเขาถูกปล่อยมาสู่โลกในขณะที่ถูกครอบงำด้วยความบ้าคลั่ง จากนั้นก็เริ่มจากหมู่บ้านโอลิบัสมันน่าจะกลายเป็นการทำลายล้างอย่างมาก”


 


“ผมเข้าใจแล้ว”


 


“ข้ารู้สถานที่ที่เขาถูกกักตัวอยู่อย่างแน่นอน แต่ด้วยเหตุผลเหล่านี้ข้าจึงไม่สามารถบอกตำแหน่งของเขาได้อย่างง่ายดาย”


 


นี่เป็นเพราะว่าสำหรับอิคาเอลการปลดปล่อยของออร์วิลเพื่อนสนิทของเขานั้นสำคัญ แต่ความปลอดภัยของผู้คนในหมู่บ้านนั้นสำคัญยิ่งกว่า


 


เอียนถาม


 


“ถ้าเป็นเช่นนั้นผมต้องทำอะไรเพื่อให้คุณสามารถเชื่อผมได้หรอครับ? ไม่สิ ผมจะสามารถปราบออร์วิลได้ไหมครับ?”


 


“อืมมม…”


 


อิคาเอลหลับตาและครุ่นคิดสักครู่


 


“ก่อนอื่น เนื่องจากข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะแชลลอสได้หากมีบางสิ่งที่จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะสามารถผ่อนคลายได้…”


 


และทันทีที่เขาดูเหมือนจะคิดบางสิ่งได้ ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนจากจุดที่เขาอยู่


 


“อ่อ เจ้าพูดว่าเจ้าเป็นซัมมอนเนอร์ใช่ไหม?”


 


“ครับ แล้ว?”


 


“เมื่อไม่นานมานี้ผู้อาวุโสผู้มีสกิลในการอัญเชิญจากทวีปตะวันออกข้ามทะเลพร้อมกับเรือซื้อขายและมาที่นี่”


 


“โอ้…?”


เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ หัวของเอียนก็เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว


 


‘ทวีปตะวันออก? เรือซื้อขาย? มีความเป็นไปได้ไหมที่เกี่ยวข้องกับการอัพเดทใหม่ที่พวกเขากำลังทำอยู่ในเดือนหน้ามั้ย?’


 


การแสดงออกของเอียนเต็มไปด้วยความคาดหวัง


 


นี่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเขาจะได้รับสกิลพิเศษหรือโอกาสพิเศษสำหรับซัมมอนเนอร์ที่ยังไม่ได้เปิดตัว


 


“ถ้าเจ้าไปหาคนนั้นและเรียนรู้ความสามารถลึกลับนั้น ข้าคิดว่าข้าจะเชื่อในตัวเจ้าและบอกสถานที่ที่ออร์วิลถูกผนึก”


 


อิคาเอลลูบเครายาวของเขาหนึ่งครั้งแล้วจ้องที่เอียน


 


“เจ้าคิดยังไงล่ะ? คนนั้นมีแนวโน้มที่จะไว้วางใจในตัวเขาได้ในตำแหน่งหัวหน้า เจ้าจะลองไปพบเขาไหม?”


 


แน่นอนโดยไม่ลังเลสักนิดเดียว เอียนพยักหน้า


 


นอกเหนือจากความตั้งใจที่จะทำเควสต์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม มีโอกาสที่เขาจะได้รับสกิลใหม่ของซัมมอนเนอร์ ดังนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกที่ชัดเจน


 


“ครับ ผมจะลองไปพบกับเขา”


 


เมื่อเขาตอบกลับ อิคาเอลแสดงอาการพึงพอใจ


 


“ดี ดีมาก ขอบใจนะ คนนั้นชื่อว่า ‘แดมชอน’ ไปหาเขาและบอกเขาว่าฉันส่งเจ้ามาและถ้าเจ้าบอกเรื่องราวทั้งหมดให้เขา เขาอาจจะช่วยเหลือเจ้า”


 


* * *


 


เนื่องจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านโอลิบัสตั้งอยู่ในใจกลางของหมู่บ้านเขาจึงสามารถค้นพบได้โดยไม่ยาก


 


และข้างในบ้านของหัวหน้ามี NPC ค่อนข้างเยอะ แต่เอียนก็สามารถคิดได้ทันทีว่าใครคือแดมชอนที่อิคาเอลกำลังพูดถึงอยู่


 


‘เขาบอกว่าเขาข้ามมาจากทวีปตะวันออกและเขาก็สวมชุดฮันบกที่ทันสมัย [1]’


 


ดูเหมือนว่าทวีปตะวันออกในโลกของไคลันได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับบรรทัดฐานตะวันออกของพวกเขา


 


ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่า LB Sports ซึ่งเป็นผู้พัฒนาของไคลันเป็นบริษัทเกาหลี เขาจึงเป็น NPC ที่แต่งตัวดีสไตล์เกาหลี


 


ด้วยเหตุผลบางอย่าง เอียนรู้สึกถึงความเป็นมิตรและเข้าหาเขา


 


“คุณคือ…แดมชอนใช่ไหมครับ?”


 


นั่งข้างหน้าต่างและให้ลมพัดตัวเองในขณะที่เขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างเขาค่อยๆหันหน้าของเขาตามที่เอียนเรียก


 


“ถูกต้อง เจ้าเป็นใครล่ะ?”


 


เอียนก้มหัวเล็กน้อยและพูดต่อ


 


“อ่อ ผมเป็นซัมมอนเนอร์มีชื่อว่า ‘เอียน’ ครับ”


 


เมื่อพูดว่าซัมมอนเนอร์ ดูเหมือนว่าแดมชอนจะสนใจ ขณะที่เขาเปลี่ยนท่าทางที่กล้าแสดงออกมากขึ้น


 


“ข้าเข้าใจละ ดังนั้นเจ้าเป็นซัมมอนเนอร์ แต่ว่าเจ้ามีธุระอะไรที่เจ้าจะต้องมาหาข้าล่ะ?”


 


เอียนเริ่มอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขา


 


‘เอ่อ เนื่องจากฉันต้องพูดคำเดียวกันหลายครั้งมันน่ารำคาญนิดหน่อย’


 


อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นเควสต์ที่เขาอาจได้รับเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับวิวัฒนาการของไลและเขายังสามารถเพิ่มความสามารถที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อซัมมอนเนอร์ด้วย ดังนั้นเขาจึงเล่าเรื่องด้วยความจริงใจ


 


และโชคดีที่แดมชอนฟังเรื่องราวของเอียนด้วยความสนใจอย่างมาก


 


“พวกเขาเป็นวิญญาณที่น่าสงสารอย่างแท้จริง ข้าหมายถึงต้องได้รับความเจ็บปวดมากมายขนาดนั้นมานานกว่า 100 ปี”


 


“เป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมต้องการให้คุณช่วย แดมชอน”


 


เอียนซึ่งพูดได้เน้นไปที่คำพูดของเขามากขึ้นในขณะนี้เพราะเขาคิดว่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเควสต์จะออกมา


 


อย่างไรก็ตามต่างจากความคาดหวังของเขา ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดต่อไปของเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่เล็กน้อย


 


“อืม ในกรณีนี้เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังเกี่ยวกับความสามารถของซัมมอนเนอร์ในทวีปนี้ได้ไหม? ข้าจำเป็นต้องรู้ถึงความสามารถที่เจ้ามีเพื่อที่จะเข้าใจว่าส่วนไหนที่ข้าสามารถช่วยเจ้าได้”


 


‘โอ้ย อะไรวะเนี่ย ฉันต้องอธิบายอีกครั้งหรอ?’


 


เอียนรำคาญเล็กน้อย แต่เพราะมันเป็นเควสต์ที่คุ้มค่ากับความพยายาม เขาพยักหน้าโดยไม่มีคำพูดที่ไม่จำเป็น


 


ยิ่งไปกว่านั้นมีความจริงบางอย่างกับคำพูดของเขา


 


“แน่ แน่นอนว่ามันเยอะมาก…”


 


เอียนเริ่มอธิบายสั้นๆถึงความสามารถที่เขามี


 


อย่างไรก็ตามแตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดเป็นครั้งแรก มันค่อนข้างนานจากการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ


 


‘โอ้โห เหนื่อยมาก มันคงจะดีกว่าถ้าเขาให้ฉันต่อสู้แทน’


 


ถึงกระนั้นโชคดีที่แดมชอนพอใจอย่างไม่น่าเชื่อกับคำอธิบายของเอียน


 


แดมชอนซึ่งได้ยินคำอธิบายทั้งหมดของเขาก็อ้าปากพูดช้าๆ


 


“ข้าสามารถช่วยเจ้าได้อย่างแน่นอน”


 


ในขณะที่เขาได้ยินการตอบสนองในเชิงบวก การแสดงออกของเอียนสดใสขึ้นทันที


“โอ้ เป็นอย่างงั้นหรอ?”


 


แดมชอนพยักหน้า


 


“ถูกต้อง”


 


และเขาเสริม


 


“ความจริงแล้วในบรรดาความสามารถในการต่อสู้ที่ข้ามีไม่มีสิ่งใดที่จะช่วยเจ้าได้มาก”


 


เอียนซึ่งได้ยินจนถึงจุดนี้รู้สึกผิดหวังไปจนถึงวิญญาณ


.


อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินคำพูดต่อไปของเขา เขาก็สามารถคว้าความหวังมาได้


 


“อย่างไรก็ตาม ข้ามีความสามารถที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเจ้าในส่วนอื่น”


 


“…?”


 


เอียนกำลังจะถามเกี่ยวกับความสามารถนั้น แต่หน้าต่างระบบขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาทันที


 


กริ๊ง-


 


*ส่งต่อความสามารถของซัมมอนเนอร์ ‘แดมชอน’-


 


*เควสต์การเปลี่ยนอาชีพ อาชีพการสร้าง (ลับ)


 


แดมชอนซัมมอนเนอร์ที่มาจากทวีปตะวันออกมีความสามารถพิเศษ


 


ความสามารถพิเศษที่เขามีนั้นคือความสามารถในการสร้าง ‘เครื่องรางของขลัง’ และ ‘รูปแบบของคาถา’


 


ถ้าท่านเรียนความสามารถจากเขา ท่านจะสามารถสร้างเครื่องรางของขลังและรูปแบบของคาถาได้


 


นอกจากนี้เครื่องรางของขลังและรูปแบบคาถาจะเพิ่มความสามารถของสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างรวดเร็ว


 


เมื่อท่านได้รับการตอบรับเกี่ยวกับคุณสมบัติของท่าน ท่านจะเปลี่ยนอาชีพเป็น ‘นักพยากรณ์ (ผู้หยั่งรู้)’


 


ระดับความยากเควสต์ – ไม่ทราบ


 


รางวัล – เปลี่ยนอาชีพเป็นนักพยากรณ์ (ผู้หยั่งรู้)


 


ท่านจะยอมรับเควสต์นี้หรือไม่?


 


“ห้ะ…!”


 


เอียนอุทานออกมาก่อนที่เขาจะรู้ตัว


 


นี่เป็นเพราะเขารู้สึกประหลาดใจ


 


เขาได้รับการเปลี่ยนอาชีพสำหรับอาชีพการสร้างของเขาในสถานที่กับเวลาที่ไม่คาดคิดอย่างแท้จริงและเป็นแม้กระทั่งอาชีพลับ


 


เอียนยิ้มกว้าง


 


“ถ้าคุณจะสอนผม ผมจะเรียนอย่างขยันขันแข็ง”


 


และข้อความโผล่ขึ้นมา


 


        ท่านได้รับเควสต์การเปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพการสร้าง

 


แดมชอนพยักหน้าเมื่อเขาพูด


“เอาล่ะ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายแต่ถ้ามันเป็นซัมมอนเนอร์ที่ยอดเยี่ยมอย่างเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเรียนได้อย่างแน่นอน”


 


[1] ฮันบก = ชุดตามประเพณีของคนเกาหลี

 

 

 


ตอนที่ 113

 

“ไม่สิ การฟาร์มที่สุดยอดประเภทนี้มีอยู่ด้วยหรอ?”


อารมณ์ดีที่เอียนมีเมื่อเขาเริ่มเควสต์เปลี่ยนอาชีพ อาชีพการสร้างลับอย่างสมบูรณ์


เอียนเท่านั้นที่ล่าอย่างขยันขันแข็งด้วยตาที่โหลๆ ก่อนที่เขาจะรู้ตัว!


ไม่สิ มากกว่าการล่า มันเป็นสถานการณ์ที่การจับไม่สิ้นสุดที่เหมาะที่จะพูดแบบนั้นมากกว่า


‘มันเป็นความโล่งใจที่ฉันไม่มีขีดจำกัดในการจับต้องขอบคุณเครื่องประดับศีรษะของฉัน ถ้ามันเป็นซัมมอนเนอร์ปกติ พวกเขาจะต้องกลับและออกจากหมู่บ้านทุกครั้งเมื่อค่าความเป็นผู้นำของพวกเข้าเต็ม?”


เนื้อหาแรกของเควสต์การเปลี่ยนอาชีพเป็นภารกิจรวบรวมลูกแก้วจิตวิญญาณสีขาว 100 ลูก


ลูกแก้วจิตวิญญาณสีขาวเหล่านี้สามารถรับได้โดยการจับมอนสเตอร์ระดับ Common และพาพวกมันไปหาแดมชอนเพื่อให้มันกลายเป็นลูกแก้วจิตวิญญาณ แต่ไม่ว่าความน่าทึ่งของมอนสเตอร์ระดับ Common จะเป็นอย่างไร เอียนก็พยายามทำลายขีดจำกัดเพื่อจับพวกมัน 100 ตัว


ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่เขาบอกว่ายิ่งเลเวลของมอนสเตอร์ที่จับสูงก็ยิ่งดีต่อตัวละครของเอียน เขาเลยไม่ต้องการจับมอนสเตอร์เลเวลต่ำ


นั่นเป็นเหตุผลที่มอนสเตอร์ที่เอียนอยู่ในช่วงของการจับเป็นมอนสเตอร์ที่ทางตอนเหนือในเลเวล 120 ต้นๆ ที่พวกมันอาศัยอยู่บริเวณรอบๆหมู่บ้านโอลิบัส!


เนื่องจากการจับมอนสเตอร์เลเวลสูงมันไม่ง่ายแม้เพียงแค่การล่าแบบปกติ นี่ไม่ใช่อย่างอื่นนอกจากการฟาร์มอย่างไม่น่าเชื่อ


“จับ!”


 


        ท่านได้สำเร็จการจับ ‘ไอซ์โทลล์’

 


ขณะมองไปที่ไอซ์โทลล์ที่ถูกดูดเข้าไปในมือของเขา เอียนเช็ดเหงื่อที่หยดจากหน้าผาก


“ฟิ้ว… ทุกอย่างเกือบจะเสร็จแล้วใช่ไหม…?


เอียนเปิดรายการสัตว์เลี้ยงและนับจำนวนสัตว์ที่ถูกจับทีละตัว


หลังจากทำอย่างนั้น เขาส่ายหัวขณะถอนหายใจ


นี่เป็นเพราะภารกิจนี้ค่อนข้างยากแม้ว่าจะเป็นเอียนที่มั่นใจในการฟาร์ม เขาไม่ต้องการจะทำแบบนี้อีกเลย


‘มันไม่ใช่ว่าคุณจะแค่จับมอนสเตอร์เพื่อสิ่งนี้ แต่ฉันซื้อใจด้วยคำพูดของเขาแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังรับกรรมใช่ไหม…?’


เอียนตั้งความกังวลที่ไม่รู้จักกลับคืนมาและกลับไปทีหมู่บ้าน


“โอเค เรากลับกันเลยมั้ย?”


เอียนใช้หินย้อนกลับและกลับไปที่หมู่บ้านโอลิบัส


ถึงกระนั้นเมื่อเขาฟาร์มเสร็จแล้ว เขาก็รู้สึกพึงพอใจ


‘อย่างน้อยมันเป็นเพราะความรู้สึกที่คุ้มค่าที่การฟาร์มมันสนุก’


หลังจากเอียนปลอบใจจิตใจและร่างกายที่อ่อนล้าของเขาด้วยเหตุผลอันชอบธรรม เขาก็ไปหาแดมชอน


และหลังจากที่เจอเอียนที่กลับมาแล้ว แดมชอนถามด้วยสีหน้าแปลกๆ


“ไม่ ทำไมเจ้าไปนานจังล่ะ?”


เมื่อปฏิกิริยาที่คาดไม่ถึง เอียนแสดงอาการงุนงง


“ขอโทษนะครับ?”


‘ไม่สิ เขาคาดหวังว่าฉันจะทำมันเร็วกว่านี้ได้ยังไง? ถ้าฉันใช้เวลาสองวันในการจับ 100 ตัว นั่นก็เร็วแล้ว!’


อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นการเข้าใจผิดของเอียน


เนื่องจากแดมชอนไม่ทราบว่าเอียนมีสิ่งประดิษฐ์ที่กำจัดข้อจำกัดในการจับ เขาจึงคิดว่าเขากลับมาหลังจากจับได้ประมาณ 5-6 ตัวอย่างมาก


 


 


อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะรอนานแค่ไหนเขาก็ไม่กลับมา ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันแปลก


“เจ้าจับมาได้กี่ตัวล่ะ?”


“คุณหมายความว่ายังไงว่ากี่ตัว เห็นได้ชัดว่าผมจับมา 100 ตัว”


“…?”


เอียนยกเลิกการอัญเชิญของไลและบุ๊กค์ก่อนรวมถึงพินที่ถูกอัญเชิญทั้งหมดและส่งพวกเขากลับไป


และเขาเริ่มดึงมอนสเตอร์ของพื้นที่ภาคเหนือที่เขาจับได้ตามลำดับ


 


        ท่านได้อัญเชิญสัตว์เลี้ยง ‘ไอซ์โทลล์’

        ท่านได้อัญเชิญสัตว์เลี้ยง ‘เยติ’

        ท่านไม่สามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงได้มากกว่านี้เมื่อท่านขาดค่าความเป็นผู้นำ

 


เมื่อเขาดึงออกมาประมาณ 20 ตัวข้อความบอกว่าเขาขาดค่าความเป็นผู้นำโผล่ขึ้นมาและแดมชอนพยักหน้าขณะที่เขาพูด


“ค่าความเป็นผู้นำของเจ้าสูงอย่างมาก ที่สามารถจับมอนสเตอร์ 20 ตัวที่เลเวลมากกว่า 120… ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าใช้เวลาอย่างมาก”


แดมชอนซึ่งพูดเสร็จ ดูดซับจิตวิญญาณของมอนสเตอร์ที่เอียนดึงออกมาทีละตัวและเริ่มเปลี่ยนพวกมันเป็นลูกแก้วจิตวิญญาณ


และเมื่อใดก็ตามที่แดมชอนเอาไปตัวหนึ่ง เอียนก็อัญเชิญทีละตัวอย่างต่อเนื่อง


“โอ้โห?”


เมื่อสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ถูกอัญเชิญอย่างต่อเนื่องจากมือของเอียน แดมชอนซึ่งตาเบิกโพลง ดูราวกับว่าเขากำลังคาดหวังคำอธิบายบางอย่าง แต่เมื่อเอียนทำเป็นไม่สนใจและเขาพูดกลบเกลื่อน


“ผมมีสิ่งประดิษฐ์ ดังนั้นผมจึงไม่มีข้อจำกัดในการจับ”


“ขะ ข้าเข้าใจแล้ว”


เมื่อประมาณ 30 นาทีผ่านไป มอนสเตอร์ทั้งหมดที่เอียนจับมาได้กลายเป็นลูกแก้วจิตวิญญาณและเก็บไวเในตระกร้าของแดมชอน


เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น แดมชอนแสดงอาการพึงพอใจ


“ดีมาก พวกมันเป็นจิตวิญญาณที่มีคุณภาพดีอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าในกรณีนี้ เจ้าจะสามารถทำเครื่องรางได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ”


ตามด้วยคำพูดของแดมชอน ข้อความของระบบโผล่ขึ้นต่อหน้าของเอียน


กริ๊ง-


 


        ท่านได้สำเร็จเควสต์ ‘รวบรวมลูกแก้วจิตวิญญาณ’

        ท่านได้รับสกิล ‘ผนึกจิตวิญญาณ’

 


*ผนึกจิตวิญญาณ


ประเภท – สกิลใช้งาน


เลเวลสกิล – เลเวล 0


ความชำนาญ – 0%


ดูดซับมานา – ไม่มี


วิญญาณของสัตว์เลี้ยงที่ถูกจับนั้นจะถูกผนึกและเปลี่ยนเป็น ‘ลูกแก้วจิตวิญญาณ’


ขึ้นอยู่กับระดับของสัตว์เลี้ยงที่จะเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบ สีของลูกแก้วจิตวิญญาณจะถูกตัดสินและขึ้นอยู่กับความสามารถของมัน ปริมาณของเวทย์มนตร์ที่อยู่ภายในลูกแก้วนั้นจะถูกตัดสินเช่นกัน


*สัตว์เลี้ยงที่กลายเป็นลูกแก้วจะไม่สามารถเรียกคืนได้


*ลูกแก้วจิตวิญญาณเป็นวัตถุดิบพื้นฐานสำหรับสกิลการสร้างของนักพยากรณ์ทั้งหมด


*ใช้สกิล ‘เสริมกำลังจิตวิญญาณ’ ลูกแก้วจะสามารถเสริมให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น


 


เอียนที่อ่านข้อมูลสกิลทั้งหมดได้แสดงออกด้วยความสับสน


‘ถ้าฉันผนึกมอนสเตอร์ระดับ Rare หรือระดับ Unique แล้วลูกแก้วจะเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงินออกมาหรอ? นอกจากนี้สกิลเสริมกำลังวิญญาณอะไรวะเนี่ย เขาอาจจะบอกให้ฉันรู้ตอนนี้เลยใช่มั้ย?’


และนั่นเอง


ราวกับเขาอ่านความคิดของเอียน แดมชอนพูดต่อ


“เอาล่ะ เนื่องจากเจ้าเรียนว่าจะผนึกจิตวิญญาณยังไงแล้วตอนนี้ ข้าจะสอนเจ้าเกี่ยวกับการเสริมกำลังวิญญาณ”


“ครับ”


แดมชอนพูดต่อ


“ดูมือข้าดีๆ เนื่องจากข้าจะไม่แสดงให้เจ้าเห็นเป็นครั้งที่สอง”


เมื่อเขาพูดจบ เมื่อของเขาเริ่มขยับอย่างช้าๆ


แสงสีขาวส่องที่ปลายนิ้วของเขา


เอียนจ้องมองปลายนิ้วของแดมชอนด้วยมือทั้งสองแล้วขยับตาม


‘เขากำลังทำอะไรน่ะ?’


รัศมีของแสงที่เหลืออยู่หลังจากมือของแดมชอนขยับออกมาเป็นลวดลายที่ซับซ้อนและวาดอยู่บนอากาศ


และเมื่อรูปแบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ลูกแก้วจิตวิญญาณจะถูกนำเข้าไปอยู่ที่มุมทั้งห้าของรูปแบบ ราวกับว่ามันกำลังถูกดูดเข้ามา


‘ไม่มีทางที่ฉันจะต้องวาดมันออกมาด้วยตัวเองตอนนี้และทำอย่างนั้นใช่ไหม?’


นับตั้งแต่เขายังเด็ก เอียนไม่มีความคล่องแคล่วด้านนี้


ในช่วงเวลาศิลปะในโรงเรียนมัธยมเมื่อใดก็ตามที่เขาวาด เขาจะสร้างสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่รู้จัก ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะสามารถวาดรูปแบบที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน


ขณะที่เขาเหงื่อไหลออกมา แดมชอนเข้าหาเขาหลังจากเสร็จสิ้นการเสริมกำลังจิตวิญญาณก่อนที่เอียนจะรู้สึกตัว


“เจ้าคิดว่ายังไง จะลองสักหน่อยมั้ย? แน่นอน มันไม่ง่ายหรอก”


เอียนกลืนน้ำลายก่อนเขาจะรู้สึกตัว


‘ไม่นะ เขาคาดหวังให้ฉันทำสิ่งที่ซับซ้อนอีกครั้งได้ยังไง? ฉันจำอะไรไม่ได้เลย…’


ในขณะที่เอียนรู้สึกสับสนเพราะเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรและลังเล ทันใดนั้นแสงสีขาวก็เริ่มเปล่งประกายจากปลายนิ้วของเขา


‘เอ่อ… เอ่อ?’


และเช่นเดียวกับสถานการณ์เมื่อเขาได้รับฉายาขุนนางของเขาต่อหน้าราชา ไม่ใช่ว่าร่างของเขาขยับด้วยตัวเองหรอ!?


มือของเขาแสดงรูปแบบตามที่แดมชอนเพิ่งแสดงให้เขาเห็นเมื่อไม่นานมานี้


เอียนก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งใจเป็นครั้งแรก


‘ฟิ้ว… โล่งอกจัง ฉันกำลังจะยอมแพ้ในการทำเควสต์เมื่อผ่านไปครึ่งทางแล้ว’


ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดมือของเอียนผู้ได้รับความช่วยเหลือจากระบบ ได้ทำรูปแบบให้เสร็จสมบูรณ์และแดมชอนซึ่งกำลังเฝ้าดูอยู่ปรบมือด้วยความประหลาดใจ


“โฮะ โฮะ… เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากที่สิ่งนี้ให้สำเร็จได้ทันที! มันน่าประหลาดใจจริงๆ!”


และข้อความระบบโผล่ขึ้นมาต่อหน้าเอียน


กริ๊ง-


 


        ท่านได้สำเร็จเควสต์ ‘วาดรูปแบบเสริมกำลัง’

 


เอียนที่เห็นข้อความได้พึมพัมในใจ


‘ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยครั้งนี้… ดี ถึงอย่างนั้นมันก็ดี’


และข้อความที่แจ้งเตือนเขาที่เขาได้เรียนรู้สกิลปรากฎขึ้น


 


      ท่านได้รับสกิล ‘เสริมกำลังจิตวิญญาณ’

 


*เสริมกำลังจิตวิญญาณ


ประเภท – สกิลใช้งาน


เลเวลสกิล – เลเวล 0


ความชำนาญ – 0%


การดูดซับมานา – ไม่มี


อย่างน้อยสองลูกและสูงสุดห้าลูกแก้วจิตวิญญาณนำมารวมกันเพื่อเสริมให้เป็นลูกแก้วจิตวิญญาณระดับสูงหนึ่งลูก


ยิ่งความเชี่ยวชาญสูงขึ้นโอกาสที่จะล้มเหลวในการเสริมกำลังจะลดลงและโอกาสสำหรับลูกแก้วจิตวิญญาณที่มีระดับที่สูงกว่าและอีกระดับหนึ่งเวทจิตวิญญาณจะปรากฎเพิ่มขึ้น


*ถ้าเสริมกำลังล้มเหลว ลูกแก้วจิตวิญญาณทั้งหมดที่ถูกใช้จะหายไป


 


และลูกแก้วจิตวิญญาณที่เสร็จสมบูรณ์ที่ทำมาจากมือของเอียนตอนนี้หล่นลงมาทั้งหมดหนึ่งลูก


เอียนจ้องที่มันอย่างสงสัย


‘โอ้…มันเป็นลูกแก้วสีขาว แต่หลังจากเสริมกำลังมันมันก็เปลี่ยนเป็นลูกแก้วสีฟ้า’


เขาสำเร็จในการเพิ่มระดับของมัน


ต่อเอียนซึ่งจ้องมองลูกแก้วรอบๆด้วยความสงสัย แดมชอนพูดด้วยเสียงที่น่าพอใจ


“ทำได้ดีเอียน เจ้าเป็นซัมมอนเนอร์ที่โดดเด่นกว่าที่ข้าคิดไว้มาก”


ในทางกลับกันเอียนคิดว่ามันเป็นความโล่งใจเมื่อเควสต์เปลี่ยนอาชีพเสร็จง่ายกว่าสิ่งที่เขาคาดไว้


‘แน่นอน การจับนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่…’


“ขอบคุณครับแดมชอน ผมรู้สึกว่าผมได้รับความสามารถที่ยอดเยี่ยม”


“ยิ่งเจ้าคิดอย่างนั้น ข้าก็ยิ่งขอบคุณ”


“ตอนนี้ผมควรทำอะไรต่อครับ?”


เมื่อท่าทางของเอียนเต็มไปด้วยความตั้งใจ แดมชอนยิ้มเมื่อเขาตอบ


“ถ้ามันเป็นเช่นนี้ เจ้าจะต้องปฏิบัติตามพื้นฐานทั้งหมดเพื่อกลายเป็นนักพยากรณ์ ขอแสดงความยิมดีด้วยเอียน เจ้าได้รับสิทธิ์ในการเป็นนักพยากรณ์”


และข้อความระบบเริ่มโผล่ขึ้นมาต่อหน้าเอียน


 


      ท่านได้สำเร็จในการเป็นคนแรกที่เปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพการสร้าง ‘นักพยากรณ์ (ผู้หยั่งรู้)’

      ความสามารถใหม่ ‘ความคล่องแคล่ว’  ถูกสร้างขึ้น

      ความสามารถใหม่ ‘โชค’ ถูกสร้างขึ้น

      หน้าต่างสกิล ‘ระดับเริ่มต้นการสร้างเครื่องรางเลเวล 1 (ความชำนาญ 0%)’ ถูกสร้างขึ้น

      หน้าต่างสกิล ‘ระดับเริ่มต้นรูปแบบคาถาการสร้างเลเวล 1 (ความชำนาญ 0%)’ ถูกสร้างขึ้น

      ท่านได้เรียนรู้สกิลการใช้ขั้นพื้นฐาน ‘การสร้าง’

      เมื่อท่านได้พบกับอาชีพลับ ‘นักพยากรณ์’ ความสามารถ ‘ความคล่องแคล่ว’ และ ‘โชค’ จะเพิ่มขึ้นอย่างละ 30 หน่วย

 


เมื่อเขาอ่านข้อความระบบลงมา เอียนเต็มไปด้วยความสุข


‘อ๊า ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร… แต่การได้เห็นบางสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นทำให้ฉันอารมณ์ดี’


อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่จบ


 


        จากนี้ไป อาชีพกิลด์จะอนุญาตให้เปลี่ยนอาชีพเป็น ‘นักพยากรณ์’ จะถูกสร้างขึ้นในอาณาจักรลัสเปลและอาณาจักรไคม่อน

        ซัมมอนเนอร์ทุกท่านของทวีปโคโรน่าจะสรรเสริญท่าน

        ท่านได้รับชื่อเสียง 100,000 หน่วย

        จากนี้ไป เมื่อใดก็ตามที่ท่านล่ามอนสเตอร์ ไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยง ‘เครื่องราง’ และ ‘รูปแบบคาถา’ จะดรอปออกมา

 


“อุ้ย…”


หลังจากลืมความจริงที่ว่าแดมชอนอยู่ตรงหน้าเขา เอียนก็อุทานออกมา


มันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกเมื่อใดก็ตามที่มีข้อความค้นพบครั้งแรกและรางวัลโผล่ขึ้นมา แต่เมื่อเขารู้สึกว่าเขาจะลงไปอยู่ในประวัติศาสตร์ของไคลัน เขารู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ


ต่อเอียนซึ่งกำลังตรวจสอบหน้าต่างสกิลที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่และความสามารถที่เกี่ยวข้องกับอาชีพด้วยการแสดงออกอย่างมีความสุข แดมชอนก็พูด


“ในการที่จะเป็นนักพยากรณ์ที่โดดเด่นต้องมีการทดลองและข้อผิดพลาดมากมายรวมถึงความพยายาม เจ้าสามารถสร้างเครื่องรางและรูปแบบคาถาของอันดับที่สูงกว่าได้ดีกว่าความสามารถของเจ้า ดังนั้นจงอดทนและทุ่มเทให้กับตัวเอง”


สำหรับเอียน คำที่ได้ยินที่ยาวๆนั้นถูกบีบอัดเป็นคำเดียว


‘ดังนั้น ไม่ใช่ว่าเขาบอกฉันว่าให้ฟาร์มอย่างขยันขันแข็งใช่ไหม?’


เอียนพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่เอ่อล้นด้วยความมั่นใจ


“เมื่อพูดถึงการฟาร์ม ไม่สิ ความพยายามและความอดทน ผมมั่นใจ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ”

 

 

 


ตอนที่ 114

 

ในที่สุดเอียนก็ได้รับอาชีพการสร้างหลังจากใกล้จะถึงเลเวล 120


เอียนนำคำแนะนำของอิคาเอลและไปหาแดมชอนหลังจากเปลี่ยนอาชีพเป็นนักพยากรณ์อาชีพลับอย่างเสร็จสมบูรณ์ แต่ตอนนี้ เขาผัดวันที่จะกลับไปหาอิคาเอลไปชั่วขณะ


‘ฉันคิดว่าเควสต์จะดำเนินต่อไปแม้ว่าฉันจะกลับไปตอนนี้ แต่…’


ในการเผชิญหน้าออร์วิล เฟนเรียร์ที่แข็งแกร่งกว่าแชลลอส จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมมากขึ้น


ตามความเป็นจริงเนื่องจากเขาเพิ่งได้รับอาชีพการสร้างในตอนนี้ พลังต่อสู้ของเขาจึงไม่ได้เพิ่มขึ้น


‘ถ้าฉันจะกลับไปหาอิคาเอลเพื่อดำเนินการต่อไปอย่างรวดเร็วและกำหนดเวลาเควสต์ก็จะปรากฏขึ้น นั่นจะเป็นความเจ็บปวด…’


เอียนตัดสินใจที่จะกลับไปหาอิคาเอลหลังจากเขาสร้างไอเทมที่ดีของสัตว์เลี้ยงได้และสวมใส่พวกมันให้กับสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมด


‘เขาบอกว่าสัตว์เลี้ยงทั้งหมดสามารถสวมใส่เครื่องรางและรูปแบบคาถาแต่ละอันได้ใช้ไหม?’


เอียนเปิดแท็บคำอธิบายใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากการเปลี่ยนอาชีพและอ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับการสร้างอย่างละเอียด


เอียนที่อ่านคำอธิบายอย่างละเอียดประมาณ 10 นาที เปิดหน้าต่างสกิล


“เอาล่ะ เราควรลองมันเลยดีมั้ย? เริ่มจากเครื่องรางก่อน…”


เอียนทีใช้สกิลเกี่ยวกับการสร้างตกใจสักครู่หนึ่ง


‘อะไรวะเนี่ย? ฮันจิ [1]? พู่กัน? ฉันควรจะหาทั้งหมดนี้ที่ไหนกัน? พวกเขาขายของที่ร้านขายสินค้าทั่วไปหรือไม่?’


ในการทำเครื่องราง เขาต้องการไอเทมวัตถุดิบที่เรียกว่า ‘ฮันจิ’


เอียนรีบไปที่ร้านขายสินค้าทั่วไปในหมู่บ้านโอลลิบัสและตรวจสอบแคตตาล็อกการขาย


และโชคดีที่เขาสามารถซื้อไอเทมที่เขาต้องการได้


‘ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่ามีสิ่งต่างๆเช่นนี้ในเมื่อฉันไม่ได้ไปที่ร้านขายสินค้าทั่วไปเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งเท่านั้น?’


ไอเทมเช่น ‘ฮันจิ’ หรือ ‘พู่กัน’ ปรากฏในแคตตาล็อกการขายของร้านขายสินค้าทั่วไปหลังจากที่เอียนเปลี่ยนคลาสเป็นนักพยากรณ์ ดังนั้นข้อเท็จจริงที่ว่าเอียนได้เห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรกเป็นที่ชัดเจน


อย่างไรก็ตาม เอียนที่ซื้อไอเทมทั้งหมดที่เขาต้องการ พบมุมหนึ่งของหมู่บ้านและนั่งลง


และเขาได้ใช้สกิลการสร้าง


“การสร้าง!”


 


        ท่านได้ใช้สกิลการสร้าง

        เลือกไอเทมที่ท่านต้องการสร้าง

        ไอเทมในปัจจุบันที่สามารถสร้างได้ : เครื่องราง/รูปแบบคาถา

 


เอียนเลือกเครื่องรางตามแผนเดิมของเขา


“เครื่องราง”


เมื่อเขาทำอย่างนั้น ข้อความระบบดำเนินการต่อ


 


        ท่านจะสร้างไอเทม ‘เครื่องราง’ ใช่หรือไม่?

        ข้อกำหนดสำหรับการสร้างไอเทม : ฮันจิ (1) พู่กัน/แท่งหมึก

 


เอียนดูเหมือนจะรู้สึกหลงใหลและมีความสนใจในเนื้อหาการสร้างที่เขากำลังเผชิญหน้าเป็นครั้งแรก เนื่องจากเขาได้เข้าไปอยู่ในนั้นในเวลาไม่นาน


“ฉันจะสร้างมัน”


‘อืมมม… ถ้าฉันแค่อยู่เฉยๆ มันจะสร้างด้วยตัวมันเองใช่ไหม?’


อย่างไรก็ตาม ช่วยไม่ได้เอียนรู้สึกสับสนในเวลาต่อมา


นี่เป็นเพราะ เขาคิดว่าถ้าเขาใช้สกิลการสร้าง จากนั้นมือของเขาจะขยับด้วยตนเองและวาดเครื่องราง แต่ไม่เป็นไปตามที่คาดข้อความระบบโผล่ขึ้นมา


 


 


        โปรดวาดรูปแบบที่ท่านต้องการด้านบนของฮันจิ (ต้องวาดในครั้งเดียวโดยไม่ต้องยกพู่กันขึ้น)

        การสร้างเป็นไปได้ไม่ว่าชนิดของรูปแบบไหนจะถูกวาด (ระดับศิลปะและความจริงใจในรูปแบบการวาดจะสะท้อนให้เห็นถึงค่าสถานะของเครื่องราง)

เอียนสิ้นหวัง


‘อ๊าา… ฉันสามารถยกเลิกความอิสระนี้ได้ไหมเนี่ย? ฉันควรวาดอะไรกันแน่?’


เอียนซึ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งหยิบพู่กันขึ้นมาโดยไม่คิดอะไรมากและเริ่มวาดรูป (?) ที่ด้านบนของฮันจิ


และรูปวาดที่เขาวาดเสร็จใน 5 วินาทีคือเครื่องหมายซาวน่าที่เขาเห็นระหว่างทางไปโรงเรียนเมื่อเช้านี้


เมื่อเอียนยกพู่กันขึ้น ข้อความระบบโผล่ขึ้นมา


กริ๊ง-


 


        ทำให้เครื่องรางเสร็จสมบูรณ์เลยหรือไม่?

 


เขาไม่ชอบการออกแบบของรูปแบบจริงๆ แต่ตอนนี้ เอียนพยักหน้า


‘เนื่องจากมันเป็นการฝึกฝนอยู่แล้ว…’


“ใช่ ฉันทำเสร็จแล้ว”


เมื่อเอียนตอบกลับเสร็จ ข้อความระบบดำเนินการต่ออีกครั้ง


 


        ระดับศิลปะ : -10/ความจริงใจ : 1

        กรุณาเลือกลูกแก้วจิตวิญญาณที่จะสามารถใช้ในการสร้างเครื่องราง (ยิ่งระดับของลูกแก้วจิตวิญญาณที่ใช้มากเท่าไหร่ ระดับของเครื่องรางที่สร้างขึ้นก็จะสูงขึ้นเท่านั้น)

 


‘อืมมม…เนื่องจากลูกแก้วจิตวิญญาณที่ฉันมีในตอนนี้ทั้งหมดเป็นระดับ Common อย่างไรก็ตาม…’


เอียนสุ่มลูกแก้วจิตวิญญาณสามลูกจากคลังของเขาและยกพวกมันขึ้น


เมื่อเขาทำอย่างนั้น ลูกแก้วจิตวิญญาณสามลูกที่เอียนถืออยู่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องราง


หวึ่งงงง-


ขณะมองที่กระแสของแสงสีขาวที่ถูกดูดซับเข้าไปในเครื่องหมายซาวน่าที่วาดด้วยมือของเขาเอง เอียนกลืนน้ำลาย


กริ๊ง-!


 


        ท่านได้ล้มเหลวในการสร้างเครื่องราง

        ท่านต้องวาดด้วยความจริงใจมากกว่านี้

 


ตามด้วยข้อความที่โผล่ขึ้นมา ลูกแก้วจิตวิญญาณกลายเป็นผงและกระจายไปบนอากาศ


“อะไรกัน…?”


เอียนรู้สึกโกรธกับระบบของไคลัน เนื่องจากมันไม่ได้รับรู้ถึงสุนทรียภาพของเขา


“ไม่นะ อะไรกัน แกบอกให้วาดด้วยความจริงใจ…”


เช่นนั้น ความเจ็บปวดของเอียนในการเรียนวาดรูปได้เริ่มต้นขึ้น


 


* * *


 


“มัลเลี่ยม! ได้โปรดดูแลทางนั้นด้วย!”


“โอเค ซีเรีย”


“เซริอุสและฉันจะสนับสนุนนายจากด้านหลังด้วยกัน”


ธงด้วยคำว่า ‘โลตัส’ ถูกเขียนลงบนนั้น


และด้านล่างนั้น ผู้ติดตามห้าคนของเอียนเป็นผู้นำเกี่ยวกับสิ่งที่ดูเหมือนทหารจำนวนมากและพยายามเพื่อรักษาความปลอดภัยสาธารณะของเมือง


และผู้ติดตามที่นำพวกเขาทั้งหมดคือซีเรีย หนึ่งในคนที่เอียนแต่งตั้งเป็นผู้ติดตามของเขาคนแรก


ถ้าผู้เล่นด้วยฉายา ‘บารอน’ แต่งตั้งผู้ติดตาม พวกเขาต้องการเสนอชื่ออย่างน้อยหนึ่งคนและสูงสุดไม่เกินผู้ติดตามห้าคนในฐานะ ‘อัศวิน’ และเอียนได้เสนอชื่อซีเลียซึ่งค่าสถานะยอดเยี่ยมที่สุดในตอนนี้


เขาสามารถเสนอชื่อพวกเขาทั้งห้าเป็นอัศวิน แต่ให้ผู้ติดตามระดับ Common หรือระดับ Rare รู้สึกว่าจะสิ้นเปลือง


ต้องขอบคุณลำดับชั้นของผู้ติดตามของเอียนที่อยู่ในการควบคุมที่ดี ดังนั้นกฎระเบียบของตำรวจจึงได้รับการดูแลอย่างดี


แน่นอน ส่วนนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของเอียน


ส่วนที่โชคดีคือผู้ติดตามคนอื่นๆทำตามซีเลียซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เด็กกว่า


เหตุผลหลักเป็นเพราะค่าสถานะของซีเรียสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ติดตามคนอื่นๆ


และตัวละครของอาชีพซัมมอนเนอร์ ดูเหมือนว่าค่าความเป็นผู้นำของเธอสูง เธอค่อนข้างแน่วแน่


“เทนพุส ตอนนี้ยังคงมีพื้นที่ใดที่ยังไม่ถูกกำจัดในบริเวณนี้ไหม?”


เทนพุสเป็นชายหนุ่มผมบลอนด์ที่เป็นอาชีพพระ


เมื่อซีเรียถาม เทนพุสก้มหัวของเขาเมื่อเขาตอบ


“ถ้าเรากำจัดหุบเขาทูลันตอนนี้จากนั้นพื้นที่นี้จะเสร็จสมบูรณ์”


“ฉันเข้าใจแล้ว โรโรยเทนกลับมาจากการลาดตระเวนหุบเขาทูลันแล้วหรือยัง?”


แทนที่เทนพุส มีเสียงที่มาจากข้างหลังของพวกเขา


นั่นคือโรโรยเทน


“ใช่ ข้ากลับมาแล้วซีเรีย”


“เป็นยังไงบ้าง? เราจะสามารถต่อสู้ในพื้นที่นั้นด้วยพลังการต่อสู้ในปัจจุบันของเราได้ไหม?”


เมื่อเธอถาม โรโรยเทนพยักหน้า


“ได้สิ มันไม่แตกต่างจากฝั่งนี้เท่าไหร่”


“ฉันเข้าใจละ ถ้างั้นไปที่นั่นกันเถอะ”


อย่างไรก็ตาม โรโรยเทนพูดต่อหน้าเธอขณะที่เธอกำลังเดิน


“เอ่อ แต่ว่าซีเรีย ที่นั่นมีบางสิ่งที่ข้าต้องรายงาน”


“หืม?”


“ฉันค้นพบดันเจี้ยนในหุบเขาทูลัน”


เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ตาของซีเรียเบิกโพลง


“ดันเจี้ยนหรอ?”


“ใช่ เธอบอกพวกเราว่าถ้าเราค้นพบดันเจี้ยนไม่ต้องเข้าไปและให้รายงานก่อนแทน…”


ความจริงที่ว่าคำสั่งนั้นไม่ใช่คำสั่งของซีเรีย


เป็นคำสั่งของเอียนที่ให้แก่ซีเรีย


อย่างไรก็ตาม ซีเรียได้แสดงความรู้สึกมีความสุขเช่นเดียวกับเอียน


‘ท่านลอร์ดจะมีความสุขอย่างมากแน่ๆ!’


นี่เป็นเพราะเธอจำได้ถึงความรู้สึกที่เอียนมีความสุขมากๆหลังจากค้นพบดันเจี้ยนลับขณะการล่ากับเขาครั้งที่แล้ว


“ถ้างั้น วันนี้เราแค่ป้องกันที่ตั้งของกันเจี้ยนและกลับไปก่อน ฉันจะรายงานให้ท่านลอร์ดฟัง”


เมื่อซีเรียพูด ผู้ติดตามส่วนที่เหลือก้มหัวและตอบกลับ


“เป็นเกียรติที่ได้รับคำสั่งของท่าน”


 


* * *


 


“ฟิ้ว…”


เอียนเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผากและนอนลงบนพื้น


รอบตัวเขามีความล้มเหลวมากมายที่สร้างขึ้นจากมือของเขาที่แผ่กิ่งก้านสาขารอบตัวเขาด้วยความไม่เป็นระเบียบ


“ฮ่า… ความเจ็บปวดของการสร้าง…”


มันเป็นเวลาสองชั่วโมงตั้งแต่เขาเริ่มสร้างเครื่องราง


เอียนใช้ลูกแก้วจิตวิญญาณทั้งหมดหนึ่งร้อยที่เขาสร้างกับแดมชอนหมดแล้ว


“ถึงกระนั้นก็สำเร็จถึงห้าแผ่น ฉันค่อนข้างยินดี”


เขาพยายามหลายครั้งและรักษาเครื่องรางห้าแผ่นไว้ได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็อยู่ในอารมณ์ที่ดี


เอียนจัดวางเครื่องรางตามลำดับ


โลโก้ของบริษัทที่มีชื่อเสียงถูกวาดลงบนแผ่นเครื่องรางสองแผ่น ในขณะที่อีกสามแผ่นที่เหลืออยู่นั้น ตัวอักษรสามตัวของชื่อจินซุง [2] ที่เขียนด้วยตัวอักษรจีน


นั่นคือขีดจำกัดของความคิดสร้างสรรค์ของจินซุง


“อย่างน้อยฉันต้องไปโรงเรียนศิลปะ…”


ในกรณีนั้น เอียนเริ่มตรวจสอบค่าสถานะของเครื่องรางที่เสร็จสมบูรณ์ทีละอัน


 


*เครื่องรางทำขึ้นเอง (สามารถเปลี่ยนชื่อได้)


ประเภท – เครื่องราง (เสน่ห์)


ระดับ – Common


จำกัดการสวมใส่ – สามารถสวมใส่กับ ‘สัตว์เลี้ยง’ หนึ่งตัว


ความทนทาน – 55/55


ความสามารถ – พลังโจมตี +10% (-3%)


พลังชีวิต +3% (-1%)


สร้างเครื่องรางโดยนักพยากรณ์ฝึกหัด ‘เอียน’


เมื่อมันถูกสร้างขึ้นด้วยรูปแบบที่แปลกประหลาดความสามารถเต็มรูปแบบของมันไม่สามารถแสดงได้


 


“…”


เอียนที่ตรวจสอบความสามารถ เดาะลิ้นของเขา


“จิ๊ ลบส่วนนั้นเพราะว่าระดับศิลปะมันต่ำงั้นหรอ?’


ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนว่าเพราะลูกแก้วจิตวิญญาณที่ใช้ในการสร้างเป็นวิญญาณของมอนสเตอร์ที่เลเวลค่อนข้างสูง ความสามารถจึงดีกว่าที่เขาคาดไว้


“มันอาจจะยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย…”


เอียนแบ่งเครื่องรางที่เขาสร้างขึ้นด้วยมือของเขาให้กับสัตว์เลี้ยงของเขาอย่างเท่าๆกัน


แน่นอน มันมีปฏิกิริยาตอบโต้มา


บุ๊กค์-!


กรู๊ก- กรู๊- กรู๊- กรู๊ก- กรู๊ก!


บุ๊กค์และพินไม่ชอบการออกแบบและต่อต้านชั่วขณะ


อย่างไรก็ตาม มันไม่มีทางที่จะผ่านเอียนไปได้


เอียนที่เพิกเฉยต่อการต่อต้านของทั้งสองอย่างง่ายดาย ถอนหายใจและพึมพำ


“เฮัอ… ฉันต้องการทำรูปแบบคาถาเช่นกัน แต่ฉันใช้ลูกแก้วจิตวิญญาณไปหมดแล้ว!”


เอียนไม่มีทางเลือกที่ต้องเตรียมตัวที่จะไปล่า


ผลของมันเพิ่มค่าสถานะประมาณ 5-10% แต่ถึงกระนั้น ถ้ามันสามารถสวมใส่ให้กับสัตว์เลี้ยงทั้งหมดได้ หวังว่ามันจะดีกว่านี้สักเล็กน้อย


มันเป็นแผนของเอียนที่จะสวมใส่เครื่องรางและรูปแบบคาถาแต่ละอันให้สัตว์เลี้ยงทุกตัวของเขา


“ฉันต้องไปจับไอซ์โทลล์อีกครั้งหรอ? หรือเนื่องจากฉันกำลังสร้างอยู่ ฉันควรมองหามอนสเตอร์ระดับ Rare และลองสร้างมันขึ้นมาหรอ?”


อย่างไรก็ตาม เอียนที่เตรียมการล่าของเขาและออกจากหมู่บ้านโอลิบัสก็ตกใจหลังจากได้เห็นหน้าต่างข้อความที่เขาเห็นเป็นครั้งแรกของรูปแบบนี้โผล่ขึ้นมา


นี่เป็นเพราะข้อความที่มีชื่อว่า ‘ซีเรีย’ ถูกเขียนด้วยสีเขียวจับตาของเขา


‘ห้ะ? ผู้ติดตามก็สามารถส่งข้อความได้หรอ?’


เอียนเปิดหน้าต่างข้อความด้วยความตื่นเต้น


 


        ซีเรีย : ท่านลอร์ดคะ ขออภัยสำหรับการติดต่อท่านครั้งแรก ท่านไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ของเมือง

 


เอียนยิ้มและพูดพึมพำในข้อความที่รู้สึกได้ถึงความระมัดระวังของเธอ


“ไม่สิ ทำไมเธอถึงสุภาพจังล่ะ?”


และเขาส่งข้อความตอบกลับ


 


        เอียน : อ่อ ตอนนี้ฉันอยู่ข้างนอก หากฉันรู้ว่ามีวิธีการที่ดีแบบนี้อยู่ก็ไม่จำเป็นสำหรับฉันที่จะบอกให้เธอมาที่คฤหาสน์ของเมืองเพื่อรายงาน นับจากนี้เป็นต้นไปให้ส่งรายงานทั่วไปผ่านทางข้อความนะซีเรีย

        ซีเรีย : ค่ะ ไม่สิ ท่านลอร์ด! ฉันมีรายงานทั่วไปให้ท่านเป็นการส่วนตัวค่ะ!

        เอียน : แต่ว่าเกิดอะไรขึ้น?

        ซีเรีย : อ่อ… ระหว่างงานตำรวจในวันนี้ เราค้นพบดันเจี้ยนในหุบเขาทูลัน ฉันจำที่ท่านบอกได้ว่าถ้าเราค้นพบดันเจี้ยนไม่ต้องเข้าไปและให้รายงานก่อนค่ะ

 


รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเอียนหลังจากที่เขาเห็นข้อความนั้น


 


เพราะตามความเป็นจริงเขาเพิ่งได้รับความรู้สึกว่ารางวัลของผู้ค้นพบครั้งแรกสำหรับดันเจี้ยนในที่ราบสูงฟอลัสสูญเปล่า ดังนั้นความสุขของเขาจึงยิ่งใหญ่ขึ้น


‘ฉันไม่ได้คาดหวังไว้มาก…’


และเขาใช้สมองในการทำงานและวาวแผนการล่าอย่างรวดเร็ว


‘เนื่องจากมันจบลงแบบนี้ ฉันควรจะล่ามอนสเตอร์ระดับ Common ทั้งหมดและแค่จับมอนสเตอร์ระดับ Rare ที่อยู่ในดันเจี้ยน’


แม้ว่าเขาจับมอนสเตอร์ จำนวนค่าประสบการณ์ก็เทียบเท่ากับการล่า


อย่างไรก็ตาม เพราะว่ามันอาจจะใช้เวลานานถ้าเขาพยายามแค่จับพวกมันทั้งหมด เขาไม่มีความตั้งใจที่จะล่าอย่างไร้ประสิทธิภาพด้วยบัฟการค้นพบครั้งแรกบนหลังของเขา


เอียนรีบส่งข้อความตอบกลับ


 


        เอียน : โอ้ จริงหรอ? ทำได้ดีมากซีเรีย!

        ซีเรีย : ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรที่ฉันได้ทำจริงๆ อย่างไรก็ตาม โรโรยเทนเป็นคนที่พบดันเจี้ยนค่ะ

        เอียน : จริงหรอ? อย่างไรก็ตาม! ฉันจะไปที่นั่นตอนนี้

        ซีเรีย : ตอนนี้เลยหรอคะ?

        เอียน : ใช่ ทันทีตอนนี้! เธอสามารถให้ตำแหน่งฉันได้ไหม?

        ซีเรีย : ค่ะ ที่นี่… หุบเขาทูลัน ทางตะวันออก 156 ทางใต้ 879 ค่ะ!

 


เอียนที่ได้รับตำแหน่งดันเจี้ยนจากซีเรีย ดึงหินย้อนกลับออกมาโดยไม่ลังเล


‘เนื่องจากฉันจะล่าไปเรื่อยๆ มันจะดีกว่าถ้าได้รับค่าประสบการณ์คูณสองจากดันเจี้ยนใช่ไหม?’


เลเวล 120 นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม


เนื่องจากค่าประสบการณ์ที่กำหนดไปถึงเลเวล 120 จากเลเวล 119 นั้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนมันใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ถ้าเขาได้รับบัฟค้นพบดันเจี้ยนคนแรกและล่าประมาณสองวันเขารู้สึกว่าเป็นไปได้ที่จะเลเวลเพิ่มขึ้น


‘ฉันจะถึงเลเวล 120 และทำเครื่องรางและรูปแบบคาถาทั้งหมดให้เสร็จในระดับ Rare’


“ย้อนกลับ!”


หวึ่งงง-


เอียนใช้หินย้อนกลับ แสงสีน้ำเงินครอบร่างกายของเอียนและหลังจากนั้นร่างกายของเอียนถูกดูเข้าไปในอากาศ


 


[1] ฮันจิ = กระดาษเกาหลีแบบดั้งเดิมที่ทำด้วยมือจากต้นหม่อน


[2] แต่ละพยางค์ของชื่อจินซุงนับตัวอักษรภาษาเกาหลี ปาร์ค(1) จิน(2) ซุง(3) 

 

 


ตอนที่ 115

 

“อะไรนะ? ราชาดันเจี้ยนโจมตี?”


“ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังจะบอกนาย! จากที่ฉันเห็น นี่คืออีเว้นท์ที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์เพื่อนาย นี่คือประเภทของปาร์คจินซุง”


เมื่อยูฮยอนพูด ฮารินซึ่งอยู่ถัดจากเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย


“แน่นอน ฉันคิดเหมือนกันกับยูฮยอน! จินซุงนายเป็นเจ้าของสถิติที่ดีที่สุดของดันเจี้ยนฟอลัน เนื่องจากดันเจี้ยนฟอลันเป็นหนึ่งในดันเจี้ยนที่โด่งดังที่สุด ฉันคิดว่าถ้านายเขียนการโจมตี จากนั้นเราจะได้อันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”


ความจริงแล้วทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวเขาอย่างขยันขันแข็ง


เนื่องจากตาทั้งสองของจินซุงได้เห็นที่หน้าโฮมเพจแล้วซึ่งมีการอธิบายเนื้อหาของอีเว้นท์


ขณะมองไปที่จินซุงที่อ่านการแจ้งเตือนลงมาด้วยจิตวิญญาณที่ถูกดูดเข้าไปในหน้าจอ ยูฮยอนยิ้ม


“นายคิดว่ายังไง? มันน่าดึงดูดใช่ไหม?”


จินซุงพยักหน้าขณะที่เขาถามกลับ


“แต่ กำหนดเวลานี้… คือสิบวันที่เหลือจากตอนนี้? ใช่ไหม?”


เมื่อจินซุงพูด ยูฮยอนตอบ


“ใช่ ถูกต้อง”


“อืมมม…”


ขณะมองไปที่จินซุงที่จมอยู่ในความคิดของเขาทันใดนั้นยูฮยอนถามอย่างระมัดระวัง


“จินซุง อย่างไรก็ตามนายมีเควสต์ที่สำคัญบางอย่างที่นายกำลังทำอยู่ไหม?”


จินซุงพยักหน้า


เนื่องจากเป็นเควสต์ที่เขาสามารถได้รับเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับวิวัฒนาการของไล มันช่วยไม่ได้แต่มันก็สำคัญ


ในทางกลับกัน เมื่อจินซุงพยักหน้า ยูฮยอนแสดงท่าทางกังวลมาก


“เป็นเควสต์ที่ต้องใช้เวลานานไหม? ถ้าเราวางแผนโจมตีอย่างเหมาะสม เราต้องพิจารณาอย่างน้อย 3 วัน…”


ไม่ว่ายูฮยอนจะกังวลหรือไม่ จินซุงก็คำนวณเวลาที่ต้องใช้ในการทำเควสต์


‘ถ้าฉันแค่ต้องการฆ่าออร์วิลก็มันไม่น่าจะใช้เวลานานขนาดนั้น อย่างไรก็ตามหากมีบางส่วนของเควสต์ที่เชื่อมต่อด้วยกัน นั่นจะเป็นความเจ็บปวด…’


อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถยอมแพ้ให้กับแคปซูลรุ่นใหม่ได้


แทนที่จะใช้ฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายต่างๆของแคปซูลรุ่นใหม่ สิ่งที่เอียนต้องการมากที่สุดคือการซิงโครไนซ์เพิ่มเติม 2%


เนื่องจากมันจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการล่าของเอียนมากขึ้น


เอียนตัดสินใจเข้าร่วมอีเว้นท์ราชาการโจมตี แม้ว่าเขาต้องหยุดเควสต์ไปชั่วขณะก็ตาม


“โอเค เนื่องจากฉันก็ต้องการแคปซูลรุ่นใหม่ ฉันต้องทำสิ่งนี้ไม่ว่าอะไรก็ตาม”


เมื่อการตอบกลับเป็นบวก หน้าของยูฮยอนสดใสขึ้น


“ฟิโอลันบอกว่าให้ลองเคลียร์ระดับ S ในขณะที่เราร่วมอีเว้นท์การโจมตี อย่างไรก็ตามเมื่อนายกลับมาจากทำเควสต์เสร็จสิ้น นายคิดว่ายังไง เป็นไปได้ไหม?”


“หืมม… แน่นอน ถ้าเราแนบวิดีโอการเคลียร์ระดับ S ในดันเจี้ยนฟอลัน ฉันคิดว่าโอกาสในการชนะของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมีความหมาย”


สถิติที่ดีที่สุดของเอียนและฟิโอลันประมาณ 26~7 นาที


ระดับ S ของดันเจี้ยนฟอลันคือ 25 นาที


มันเป็นความแตกต่างเล็กๆน้อยๆที่ไม่ถึง 2 นาที แต่ตอนนี้พวกเขาถึงขีดจำกัดความเร็วในการเคลียร์แล้ว การพยายามลดอีก 2 นาทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย


‘ฉันควรจะฆ่าออร์วิลให้เร็วที่สุดและได้รับเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับวิวัฒนาการของไล ถ้าฉันสามารถวิวัฒนาการไลได้ การลด 25 นาทีไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้’


เขาได้รับแรงบันดาลใจอย่างมาก แต่จากแรงบันดาลใจเล็กน้อยที่ถูกสร้างขึ้นมามากขึ้น มันจะกลับมาทำร้ายจินซุงเอง


 


* * *


 


“ซีเรีย เธอเพิ่มเลเวลของไวเวิร์นสีน้ำเงินเล็กน้อยแล้วใช่ไหม?”


“อืมมม… มันอยู่ที่เลเวล 90 แล้ว ฉันเพิ่มมันค่อนข้างไวใช่ไหม? ฮิฮิ”


“ใช่สิ อุปกรณ์สวมใส่ของเธอทั้งหมดของไอเทมที่ฉันให้เธอครั้งที่แล้วดีล่ะสิ?”


“แน่นอน! เมื่อไม่นานมานี้ฉันได้รับแหวนระดับ Heroic ที่เพิ่มค่าความเป็นผู้นำของฉันมากเลยล่ะ”


ซีเรียโชว์แหวนที่ภาคภูมิใจที่เธอได้รับมา


‘ห้ะ? อะไรกันเนี่ย? มันดีสุดไปเลย!’


เอียนจำเป็นต้องใช้ความพยายามเพื่อรักษาการแสดงออกของเขา


“ชะ ใช่ มันดีจริงๆ สำหรับค่าความเป็นผู้นำของเธอเพิ่มขึ้น 15%…”


แน่นอนว่าแหวนแต่งงานที่เอียนสวมเป็นไอเทมที่ดีกว่า แต่เพราะว่าคุณสามารถสวมแหวนได้ในมือแต่ละข้าง เขาก็อยากได้แหวนของซีเรีย


‘ต้องอดทน…’


เขาไม่ใช่แค่กลายเป็นลอร์ดและจะเอาไอเทมของผู้ติดตามของเขา


ซีเรียผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้จับความคิดภายในของเอียน ยิ้มอย่างสดใสและพูดคุยต่อไป


“ใช่ ใช่! ตามที่คาด ฉันบอกท่านแล้วว่ามันเป็นไอเทมที่ดี!”


และเมื่อแหวนของเอียนจับตาของเธอ ซีเรียตาเบิกโพลงเมื่อเธอถาม


“โอ้ แต่แหวนอะไรที่ท่านใช้อยู่คะลอร์ด? มันสวยมากเลย! ชื่อไอเทมว่าอะไรหรอคะ?”


เอียนยิ้มอย่างช้าๆเมื่อเขาตอบ


“อ่อ นี่ มันเอ่อ มันเป็นแหวนแต่งงานของป่า…”


เมื่อได้ยินคำพูดว่าแหวนแต่งงาน ดวงตาทั้งสองของซีเรียกลายเป็นพร่ามัว


“แหวนแต่งงาน? ลอร์ดจากที่ฉันรู้ ท่านยังไม่ได้แต่งงานนิคะ”


ซีเรียจ้องไปที่เอียนด้วยน้ำตาคลอเบ้า!


เอียนไม่รู้เหตุผล แต่เหงื่อไหลเต็มหลังของเขา


“โอ้… นั่น… เธอสามารถบอกว่ามันเป็นแค่ไอเทมที่ดี ดังนั้นฉันจึงสวมมันไว้?”


ก่อนที่จะเข้าดันเจี้ยน


ในขณะที่ดูซีเรียที่มีด้านนี้กับเอียนในขณะที่เธอพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ผู้ติดตามคนอื่นๆแสดงออกด้วยความงุนงง


“ซีเรียมีด้านแบบนี้กับเธอหรือปล่าว?”


“ฉันไม่รู้ นี่ก็เป็นครั้งแรกตั้งแต่หลังสงครามดินแดนที่ท่านลอร์ดยังมาล่ากับพวกเราด้วย…”


มีการโต้เถียงขณะหนึ่งก่อนการล่าที่แท้จริงจะเริ่มขึ้น แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในดันเจี้ยน เอียนจ้องไปที่การเปลี่ยนแปลงครั้งแรก


และการล่าในดันเจี้ยนผ่านไปรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ


นี่เป็นเพราะมันไม่ใช่ดันเจี้ยนที่เลเวลสูงนัก


ดูเหมือนว่าเป็นเพราะพื้นที่ที่ค้นพบดันเจี้ยนนั้นเป็นสถานที่ที่ไม่ได้ลึกเข้าไปในทวีปทางเหนือและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเมืองโลตัส


มอนสเตอร์ที่ปรากฏคือการ์กลอยด์หิมะที่อยู่ในช่วงเลเวล 110 ซึ่งเอียนไม่ได้มีปัญหาใดๆกับการล่าพวกมันแม้แต่ตัวเดียว


ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเขามีผู้ติดตาม อีกนัยหนึ่ง มันช่วยไม่ได้ที่จะง่ายมากกว่าปอกกล้วยเข้าปาก


“ซีเรีย! เธอห้ามฆ่าทุกสิ่งที่เป็นระดับ Rare หรือมากกว่านั้น!”


“โอเคค่ะ!”


ท่ามกลางการ์กลอยด์หิมะหมายสิบตัว การ์กลอยด์ที่มีผิวขาว-ฟ้าเป็นช่วงๆปรากฏออกมา


นั่นเป็นมอนสเตอร์ที่ชื่อว่า ‘การ์กลอยด์น้ำแข็ง’ และเพราะว่าการ์กลอยด์น้ำแข็งเป็นมอนสเตอร์ระดับ Rare มันเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับเอียนที่จะทำลูกแก้ววิญญาณระดับสูง


“มัลเลี่ยม”


“ครับท่าน!”


“แค่ยืนข้างหน้าฉันและหาตำแหน่งที่การ์กลอยด์น้ำแข็งไว้ล่วงหน้าในขณะที่เราเคลื่อนที่”


“รับทราบครับ!”


ขณะที่การล่าดำเนินต่อไป ปาร์ตี้ของเอียนเริ่มเดินไปรอบๆดันเจี้ยนมากขึ้นอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว


เช่นนั้น การล่าในดันเจี้ยนดำเนินต่อไปมากกว่าสองวัน


 


* * *


 


“ฟิ้ว… ดูนี่สิ ฉันรวบรวมลูกแก้วจิตวิญญาณได้เท่าไหร่?”


เมื่อเอียนเปิดคลังของเขา ส่วนที่เหลือของการฟาร์มของเขาสำหรับสองวันเต็มพื้นที่


“อืมม ลูกแก้วจิตวิญญาณสีขาว 58 ลูก ลูกแก้วจิตวิญญาณสีฟ้า 16 ลูก นั่นลูกแก้ววิญญาณสีเขียว 3 ลูก”


ถ้ามันไม่ใช่สกิลวาดเส้นเดียวที่น่ากลัวของเอียน มันจะเป็นจำนวนของลูกแก้วจิตวิญญาณที่เขาสามารถสร้างไอเทมของสัตว์เลี้ยงที่เหลืออยู่ได้อย่างแน่นอน!


อย่างไรก็ตามแตกต่างจากเมื่อหลายวันก่อนเอียนก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ


เอียนมีบางอย่างที่เขาคาดหวัง


‘ฮุฮุ เป็นไปตามที่คาด ผู้คนต้องใช้หัวของพวกเขาหน่อย’


เอียนหัวเราะในขณะที่เขาจำเหตุการณ์เมื่อวานนี้


 


        เอียน : อย่างไรก็ตาม มีใครในกิลด์ที่มีเอกสาขาการออกแบบบ้างไหม?

        ฟิโอลัน : ห้ะ? ทำไมต้องเอกสาขาการออกแบบ?

        เฮิร์ซ : มันคืออะไร ทำไมนายถึงมองหาเอกสาขาการออกแบบตอนนี้ล่ะ?

        เอียน : อ่อ มันไม่มีอะไรหรอกแต่กิลด์ของพวกเราได้รับอันดับค่อนข้างสูงแล้วตอนนี้และฉันคิดว่าเราควรมีสัญลักษณ์ของกิลด์ หากมีสมาชิกของกิลด์ที่มีเอกสาขาการออกแบบ ฉันวางแผนที่จะขอให้ทำสัญลักษณ์ของกิลด์น่ะ

        คาร์วิน : อู้ว พี่เอียน! นั่นเป็นความคิดที่ดีจริงๆ ตามความเป็นจริง มันรบกวนฉันที่จะใส่สัญลักษณ์กิลด์ที่ไคลันเสนอตามค่าเริ่มต้น

        ฟิโอลัน : ไม่ตลกนะนิ ลองคิดดูสัญลักษณ์กิลด์ของพวกเรายังคงเป็นสัญลักษณ์รูปเพชรที่พวกเขามีให้ตามค่าเริ่มต้น

        มิชเยล : เอ่อ เอียน ฉันจะเรียนเอกสาขาการออกแบบ…

        เอียน : โอ้! มิชเยลจริงหรอ?

        เฮิร์ซ : โอ้! นายเรียนเอกสาขาการออกแบบหรอมิชเยล?

        คาร์วิน : มิชเยล แสดงพรสวรรค์เอาเลย!

        เอียน : ไม่ว่านายจะเป็นสมาชิกของกิลด์หรือไม่ หากนายทำการออกแบบที่ยอดเยี่ยม ฉันจะให้เสื้อคลุมพิเศษของนักเวทระดับ Heroic ที่ฉันได้รับเมื่อไม่นานมานี้

        มิชเยล : โอ้! จริงหรอ?

        เอียน : แน่นอน ดังนั้นมันจะเป็นอะไรไหมสำหรับฉันที่จะขอการออกแบบที่ยอดเยี่ยมน่ะ?

        มิชเยล : ไว้ใจฉันได้เลย!

 


เช่นนั้นเอียนตัดสินใจใช้สัญลักษณ์ของกิลด์ที่เขาได้รับจากมิชเยลกับเครื่องรางและรูปแบบคาถานับจากนี้เป็นต้นไป


‘มันหลอกความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของฉัน… แต่เนื่องจากฉันมอบเสื้อคลุมที่ดีให้เขาเป็นของขวัญ’


เอียนซึ่งอ้างเหตุผลในตนเองของเขาเสร็จแล้ว เปิดหน้าต่างกิลด์และแสดงสัญลักษณ์กิลด์ที่ด้านบนสุดที่เขาสามารถเห็นได้


‘คิ เป็นไปตามที่คาดเอกสาขาการออกแบบนั้นแตกต่าง’


ลวดลายนกอินทรีสีทองที่วาดด้วยพินซึ่งเป็นที่สัตว์เลี้ยงของเอียนเป็นบรรทัดฐานเป็นรูปร่างเท่ที่สมาชิกกลิด์ทุกคนชอบ


สัญลักษณ์ของอาณาจักรลัสเปลยังเป็นกริฟฟินแต่เนื่องจากรูปแบบของลัสเปลเป็นรูปแบบที่ร่างกายทั้งหมดของกริฟฟินถูกวาดลงไป ในขณะที่รูปแบบของกิลด์โลตัสถูกออกแบบด้วยส่วนหัวของพินที่ยกขึ้นและเปลี่ยนให้เป็นเวอร์ชั่นที่เรียบง่าย ดังนั้นพวกมันจึงดูไม่เหมือนกัน


เหนือสิ่งอื่นใดเอียนชอบความเรียบง่ายของลวดลาย


‘ถ้ามันซับซ้อน จากนั้นฉันจะไม่สามารถคัดลอกมันได้…’


ด้วยการแสดงออกที่มุ่งมั่น เอียนดึงชิ้นส่วนของฮันจิออกมาก่อนและเริ่มฝึกมองและคัดลอกลวดลาย


“ฟิ้ว…”


หลังจากฝึกมาได้ประมาณสามสิบนาที เอียนซึ่งสามารถวาดภาพได้ค่อนข้างเหมาะสม แสดงความพึงพอใจในขณะที่เขานอนลงตรงจุดนั้น


“เฮ้อ… เส้นทางของอาชีพการสร้างช่างยาวและยาก”


ทันใดนั้นเอียนก็รู้สึกถึงความยอดเยี่ยมของฮารินที่ยกระดับความสามารถในการทำอาหารไปเป็นเลเวล 5


“ถึงกระนั้นถ้ามันมากขนาดนี้ ความล้มเหลวก็จะไม่โผล่ขึ้นมาใช่มั้ย?”


มันดูเลอะเทอะเล็กน้อย แต่มันก็มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมซึ่งเทียบไม่ได้กับเครื่องรางที่เอียนวาดเมื่อสองสามวันก่อน


เมื่อมาถึงจุดนี้ เอียนอะลุ้มอล่วยและเริ่มสร้างไอเทม


 


        สำเร็จ! / ท่านได้สร้างเครื่องรางทำเอง (สามารถเปลี่ยนชื่อได้)!

– ระดับ : Common


        ยอดเยี่ยม! / ท่านได้สร้างเครื่องรางทำเอง (สามารถเปลี่ยนชื่อได้)!

– ระดับ : Rare


        สำเร็จ! / ท่านสำเร็จการสร้างรูปแบบคาถาทำเอง (สามารถเปลี่ยนชื่อได้)!

– ระดับ : Common


 


และข้อสรุปนั้นดีกว่ามาตรฐานที่เอียนคาดไว้


 


“อะ ฮา ฮ่า! ไม่ล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว…!”


ในขณะที่ระดับศิลปะของเขาขาดไปเล็กน้อย มีเครื่องรางสองชิ้นที่ค่าสถานะลดลงเล็กน้อย แต่อย่างน้อยก็ไม่มีสถานการณ์ใดที่เขาล้มเหลวและสูญเสียลูกแก้วจิตวิญญาณ


ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อข้อความ ‘ยอดเยี่ยม’ โผล่ขึ้นมาหนึ่งในสองของพวกมัน เอียนก็อารมณ์ดีอย่างไม่น่าเชื่อ


‘ไหนเรามาดูไอเทมที่ได้ยอดเยี่ยมหน่อยสิ?’


เอียนแสดงข้อมูลของไอเทม


 


*เครื่องรางทำเอง (สามารถเปลี่ยนชื่อได้)


ประเภท – เครื่องราง (เสน่ห์)


ระดับ – Rare


จำกัดการสวมใส่ – สามารถสวมใส่กับ ‘สัตว์เลี้ยง’ หนึ่งตัว


ความทนทาน – 55/55


ความสามารถ – พลังโจมตี +15% (+5%)


ความว่องไว +12% (+3%)


ฟื้นฟูพลังชีวิต +2% (+0.5%)


*ทุกความเสียหายที่โจมตีจะฟื้นฟูพลังชีวิต 3%


เครื่องรางสร้างขึ้นมาจากนักพยากรณ์ฝึกหัด ‘เอียน’


มันเป็นเครื่องรางที่งดงามที่สามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของกริฟฟินอันรุ่งโรจน์


 


“คิ…!”


เอียนรู้สึกประทับใจ


อีกครั้งหนึ่งที่ความสามารถๆมันดีไปจนถึงจุดที่เปรียบมิได้กับเครื่องรางที่เขาทำเมื่อหลายวันก่อนอย่างแท้จริง


ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเพราะผลของ ‘ยอดเยี่ยม’ มันถูกสร้างขึ้นเป็นไอเทมระดับ ‘Rare’ แม้ว่าจะถูกสร้างด้วยลูกแก้วจิตวิญญาณ


‘ขอบคุณนะมิชเยล!”


ที่คำว่า ‘เครื่องรางที่งดงาม’ ซึ่งเขียนไว้ในหน้าต่างข้อมูลในตอนสุดท้าย เขาก็รู้สึกประทับใจ


‘อืมม… ไอเทมระดับ Common มีสองความสามารถ แต่ไอเทมระดับ Rare มี 3 ความสามารถหรอ? นอกจากนี้ที่ด้านล่าง มีความสามารถแฝงได้ก่อตัวขึ้นเช่นกัน…’


เมื่อเขามีไฟแห่งความคลั่งไคล้ในการสร้าง เอียนที่ใช้ลูกแก้วจิตวิญญาณระดับ Common ทั้งหมด เปิดคลังของเขาอีกครั้ง


และด้วยการควานหา เขาหยิบลูกแก้วระดับ Rare ออกมาซึ่งเขามีไม่มาและยกพวกมันขึ้นมา


‘ถ้าฉันฝึกฝนมากขนาดนี้ ถ้างั้นฉันก็อาจจะใช้ลูกแก้วระดับสูงในตอนนี้ได้แล้วใช่ไหม?’


“ฮู้ว!”


เอียนที่หายใจออก จดจ่อกับความคิดทั้งหมดของเขาไปที่สุดปลายพู่กันแล้วก็วาดลวดลาย


เพราะว่าเขามีลูกแก้วจิตวิญญาณสีฟ้าเพียง 16 ลูกเท่านั้น ต่างจากลูกแก้วจิตวิญญาณสีขาวซึ่งเขามีมากกว่า 50 ลูก เร็วๆนี้เขาสามารถใช้ลูกแก้วจิตวิญญาณทั้งหมดและสำเร็จการสร้าง


แน่นอน เขาไม่ได้ทำล้มเหลวสักลูกและยังสำเร็จในการได้ ‘ยอดเยี่ยม’ อีกครั้งหนึ่ง


‘การสร้างนี่มันสนุกมากกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก’


แตกต่างจากหลายวันที่ผ่านมา เมื่อมันเริ่มไปได้ดี เอียนที่สนุกเมื่อเขาตรวจสอบประสิทธิภาพของไอเทมที่เขาสร้าง


ผลที่ได้คือความพึงพอใจอย่างมาก


“นี่คือสุดท้ายแล้วใช่ไหม?”


เอียนพึมพำในขณะที่เขาดึงลูกแก้วจิตวิญญาณสีเขียวออกมาซึ่งเขาสามารถหาได้เพียง 3 ลูกจากดันเจี้ยน


‘ยอดเยี่ยม ไปเลย!’


ยกพู่กันขึ้น นิ้วของเอียนสั่น


เนื่องจากไอเทมยอดเยี่ยมที่สร้างจากลูกแก้วจิตวิญญาณสีฟ้าถูกสร้างเป็นไอเทมระดับ ‘Unique’ ไอเทมที่สร้างด้วยลูกแก้วจิตวิญญาณสีเขียวจึงถูกสร้างเป็นระดับ Heroic


มันเป็นความตึงเครียดที่เหลือเชื่ออย่างมากคล้ายกับเมื่อมีการตรวจสอบเลขลอตเตอรี่ตัวสุดท้าย!


หลังจากกลืนน้ำลายหนึ่งครั้ง เอียนเริ่มวาดลวดลายบนฮันจิสีขาวอย่างช้าๆ


และหลังจากนั้นไม่นาน…


 


        ยอดเยี่ยม! / ท่านได้สำเร็จการสร้างรูปแบบคาถาทำเอง (สามารถเปลี่ยนชื่อได้)!

– ระดับ : Heroic


        เมื่อท่านได้สำเร็จการสร้างไอเทมที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับความเชี่ยวชาญของท่าน ความเชี่ยวชาญของท่านใน ‘การสร้าง’ จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

        เมื่อท่านสำเร็จการสร้างรูปแบบคาถาระดับ Heroic ระดับการสร้างฝึกหัดของท่าน จะเพิ่ม 1 เลเวล!

        ระดับการสร้างรูปแบบคาถาของท่านเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 2

 


ยังถือพู่กันด้วยมือที่สั่น เอียนสวมรอยยิ้ม


“อะ ฮา ฮ่า ระดับ Heroic!”


และหลังจากนั้นไม่นาน


ข้อความระบบสองสามบรรทัดปรากฏขึ้นมาเพิ่มเติม


 


        เมื่อท่านปรับปรุงรูปแบบอย่างต่อเนื่องทำให้ ‘ความคิดผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ’ ถูกใช้งาน

        ท่านได้รับ ‘รู้สึกถึงจิตวิญญาณ’ สกิลพิเศษของอาชีพ ‘นักพยากรณ์’

        รูปแบบที่เกี่ยวข้องได้ถูกลงทะเบียนเป็น ‘รูปแบบแฝง’

(ระดับรูปแบบ : Common)


        ท่านประสบความสำเร็จในการสร้าง ‘รูปแบบแฝง’ ที่สมบูรณ์แบบ โปรดตั้งชื่อสำหรับรูปแบบ

 

 

 


ตอนที่ 116

 

ตาของเอียนเบิกโพลงเล็กน้อย


‘รูปแบบแฝง? อะไรคือรูปแบบแฝง? ฉันอ่านมันแล้ว แต่ฉันไม่สามารถจำมันได้เลย?’


เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ‘รูปแบบแฝง’ ในตอนนี้ เอียนรีบเปิดแท็บข้อมูล


และเป็นไปตามที่คาด ถัดจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ‘รูปแบบแฝง’ มีเครื่องหมาย N ซึ่งหมายความว่ามันเป็นของใหม่


 


*รูปแบบแฝง


‘รูปแบบที่แฝง’ เป็นระบบที่ถูกเรียกใช้หากนักพยากรณ์ทำให้รูปแบบหนึ่งให้สมบูรณ์แบบซ้ำๆกันและเกิดผลลัพธ์ที่แน่นอน


เมื่อใดก็ตามที่นักพยากรณ์ที่ได้รับ ‘รูปแบบแฝง’ สร้างไอเทมที่มีรูปแบบที่เกี่ยวข้อง ชื่อของรูปแบบแฝงที่เกี่ยวข้องจะถูกเขียนขึ้นถัดจากชื่อของไอเทมและขึ้นอยู่กับระดับของรูปแบบแฝง ความสามารถแฝงจะเป็นแบบฟอร์มเพิ่มเติมในไอเทม


ประเภทของความสามารถแฝงเพิ่มเติมจะถูกตัดสินเมื่อรูปแบบแฝงถูกสร้างขึ้นครั้งแรกและระดับของรูปแบบที่สูงขึ้น มูลค่าก็จะเพิ่มขึ้น


*ยิ่งมีผู้เล่นที่ใช้ไอเทมที่มีรูปแบบแฝงมากเท่าไหร่ ระดับของรูปแบบที่เกี่ยวข้องก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น


ถ้าคุณกลายเป็นนักพยากรณ์ที่โดดเด่นและผู้คนใช้รูปแบบของคุณ ความสามารถของรูปแบบจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง


คำอธิบายนั้นใช้เวลาไม่นาน แต่เนื่องจากเนื้อหาภายในค่อนข้างซับซ้อน เอียนจึงสามารถเข้าใจเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์แบบหลังจากอ่านมันประมาณสองครั้ง


‘โดยพื้นฐานแล้วพวกเขากำลังบอกว่าประเภทของความสามารถที่จะได้รับจะถูกตัดสินเมื่อรูปแบบแฝงถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก’


เพื่อตรวจสอบรูปแบบแฝง เอียนเปิดรูปแบบของเขาที่เกิดขึ้นในหน้าต่างสกิลของอาชีพนักพยากรณ์


 


        โปรดตัดสินใจชื่อของรูปแบบ

 


เอียนซึ่งคิดเกี่ยวกับมันสักครู่หนึ่ง ก็พูดหลังจากนั้นไม่นาน


“ชื่อของมันคือโลตัส ฉันจะใช้ชื่อโลตัส”


 


        ‘โลตัส’ คือชื่อที่ถูกต้องของรูปแบบแฝงใช่หรือไม่?

 


“ใช่ ถูกต้อง”


หลังจากทั้งหมดรูปแบบถูกออกแบบมาสำหรับกิลด์โลตัสและด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดว่าชื่อเหมาะสมที่สุดก็จะเป็นโลตัส


และข้อความที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบ ‘โลตัส’ ที่เกิดขึ้นก็โผล่ขึ้นมา


 


*โลตัส


ประเภท – ความสามารถแฝง


ระดับ – Common


ค่าประสบการณ์ชื่อเสียง – 0%


(เมื่อถึง 100% มันจะถูกเลื่อนขั้นไประดับต่อไป)


คุณสมบัติแฝง – ค่าสถานะพลังการต่อสู้ทั้งหมด +100


นี่คือรูปแบบแฝงอันแรกของนักพยากรณ์ฝึกหัด ‘เอียน’


มันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกริฟฟิน


 


เอียนที่ตรวจสอบข้อมูลของรูปแบบและตรวจสอบไอเทมที่เขาเพิ่งทำมันอีกครั้ง


และเขาสามารถเห็นคุณสมบัติแฝง ‘ค่าสถานะการต่อสู้ทั้งหมด +100’ ถูกแนบไว้กับไอเทมทั้งหมด


‘ถ้ามันเกี่ยวกับ +100 ค่าสถานะการต่อสู้ มันไม่มีค่าจริงๆสำหรับฉันตอนนี้…’


เอียนคิดอย่างรวดเร็ว


‘โอ้ แต่มาลองคิดดู… นี่คือไอเทมที่ไม่มีข้อจำกัดเลเวล’


หากเขาคิดบนพื้นฐานของข้อมูลของไอเทมที่เขาทำผ่านการสร้างจนถึงปัจจุบันก็ไม่มีแนวความคิดเกี่ยวกับข้อจำกัดเลเวลในไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยง


 


แทนด้วยค่าสถานะคุณสมบัติทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นค่าเปอร์เซ็นต์


เนื่องจากข้อจำกัดในเลเวลที่เหมาะสมจะต้องปรากฏขึ้น หากมีค่าสถานะคงที่ที่แนบมาเพื่อที่ความสมดุลจะไม่พังทลาย


อย่างไรก็ตามผลเพิ่มเติมของรูปแบบแฝงปัจจุบันของเอียนคือรูปแบบโลตัสได้รับการเพิ่มเป็นค่าคงที่สำหรับค่าสถานะของสัตว์เลี้ยง


ค่าสถานะเพิ่มเติมประมาณ 100 อาจถือว่าแตกต่างกันอย่างมากกับสัตว์เลี้ยงของเอียนที่อยู่ในเลเวล 120 แต่มันต่างจากสำหรับสัตว์เลี้ยงเลเวลต่ำ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคิดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่มีเลเวล 10-20 ซึ่งเป็นเลเวลที่ต่ำที่สุด มันเป็นมาตรฐานที่เกือบจะเป็นสองเท่าของค่าสถานะของพวกมัน


เอียนรู้สึกว่ามันเป็นไอเทมที่เขาต้องการจริงๆหากว่าเขาจะเป็นผู้เล่นเลเวลต่ำเช่นกัน


‘ถ้าฉันใช้สิ่งนี้ได้ดี ฉันรู้สึกว่าฉันจะสามารถสร้างโชคได้’


ด้วยความคิดที่จะรวบรวมเปอร์เซ็นต์ของผู้เล่นมือใหม่ที่ยังไม่ได้อยู่ที่เลเวล 50 ได้ เอียนรู้สึกตื่นเต้น


‘ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเพิ่มระดับขึ้น ค่าสถานะก็ไม่ยิ่งจะเพิ่มขึ้นงั้นหรอ?’


ในตอนแรกสิ่งนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากระหว่างผู้เล่นที่ต่ำกว่าเลเวล 50 และในที่สุดผู้เล่นที่ใช้รูปแบบของเอียนจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณตามธรรมชาติ


‘แล้วระดับอาจจะพุ่งขึ้นเลยใช่ไหม?”’


เนื่องจากเป็นระบบที่มีผู้เล่นส่วนมากที่จะใช้มัน มูลค่าของรูปแบบจะสูงขึ้นและถูกจัดระดับ ดังนั้นการเพิ่มระดับจึงเป็นลำดับที่ชัดเจน


เขาไม่รู้ว่าจะมีค่าสถานะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนที่เมื่อไรก็ตามที่ระดับสูงขึ้น แม้ว่ามูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 100 เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 500 ก็จะกลายเป็นคุณสมบัติที่น่าเหลือเชื่อ


หากเป็นมาตรฐานที่ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นประมาณ 500 มันก็ถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดสำหรับแม้แต่เอียนที่จะใช้ในตอนนี้


“ฮาฮาฮ่า”


เอียนหัวเราะในขณะที่เขาเริ่มวางแผนที่จะดำเนินธุรกิจ


‘อย่างแรก เนื่องจากฉันไม่มีความคิดเกี่ยวกับราคา ลองลงทะเบียนสักครั้งด้วยวิธีการประมูล’


เอียนตรงไปที่โรงประมูลทันที


และเขาเลือกเครื่องรางระดับ Common และทำการประมูลในโรงประมูล


‘อืมม… เราลองเริ่มต้นที่ประมาณ 50,000 ทอง?’


50,000 ฟังดูถูกมาก แต่มันไม่ใช่เงินน้อยๆสำหรับผู้เล่นเลเวลต่ำ


‘ถ้าฉันลงทะเบียนมันและไปทำเควสต์ออร์วิลก่อนกลับมา มันอาจจะขายไปแล้วใช่ไหม?’


เขาไม่มีความคิดที่แน่ชัดว่าจะขายมันเท่าไร แต่เขารู้สึกว่าเขาแค่ต้องการเห็นราคาที่ถูกประมูลและปล่อยปริมาณที่แน่นอนในโรงประมูล


“เนื่องจากการเตรียมการทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ฉันแค่ต้องไปทำเควสต์ตอนนี้เลยใช่ไหม?”


อย่างไรก็ตามเอียนรู้สึกไม่แน่นอน


‘ฉันรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางสิ่ง…’


และหลังจากนั้นไม่นาน เขาสามารถจำได้ว่ามันคืออะไร


“อ่อ ฉันยังไม่ได้ตรวจสอบสกิลรู้สึกถึงจิตวิญญาณ”


ในขณะที่เขาทำการวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบแฝงและความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ในนั้น เขาลืมเกี่ยวกับสกิลรู้สึกถึงจิตวิญญาณที่เขาได้รับในเวลาเดียวกัน


เอียนเปิดสกิลรู้สึกถึงจิตวิญญาณ


 


*รู้สึกถึงจิตวิญญาณ


ประเภท – สกิลใช้งาน


เลเวลสกิล – เลเวล 0


ความเชี่ยวชาญ – 0%


ความสามารถแฝงสามารถมอบให้หนึ่งไอเทมสุ่มระหว่างสิ่งที่คุณสร้างขึ้นเอง


ในการใช้สกิล ‘รู้สึกถึงจิตวิญญาณ’ ต้องใช้ลูกแก้วจิตวิญญาณห้าลูกที่มีระดับเดียวกันหรือมีระดับสูงกว่าไอเทมที่กำหนดและหากล้มเหลวจะมีโอกาสที่ไอเทมจะถูกทำลาย


*ความสามารถแฝงที่สามารถมอบผ่านสกิลรู้สึกถึงจิตวิญญาณได้นั้นจำกัดอยู่ที่ความสามารถแฝงซึ่งได้รับจากไอเทมที่สร้างสำเร็จก่อนหน้านี้


*เมื่อความเชี่ยวชาญของสกิลเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะสำเร็จของรู้สึกถึงจิตวิญญาณจะเพิ่มขึ้นและในกรณีที่ล้มเหลว โอกาสที่ไอเทมจะถูกทำลายจะลดลงเช่นกัน


*รู้สึกถึงจิตวิญญาณสามารถลองได้สามครั้งต่อหนึ่งไอเทม


*ถ้าใช้รู้สึกถึงจิตวิญญาณกับไอเทมที่มีคุณสมบัติที่ได้รับผ่านรู้สึกถึงจิตวิญญาณ คุณสมบัติที่เดิมนั้นจะถูกลบและคุณสมบัติใหม่จะถูกสร้างขึ้น


 


“อืมมม…”


เอียนซึ่งอ่านเนื้อหาทั้งหมดของสกิลตกอยู่ในการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน


‘ฉันต้องการลองและใช้สกิลนี้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติอื่น…’


อย่างไรก็ตามเพราะมันจะเป็นสถานการณ์หากไอเทมแตกในขณะที่เขาพยายามโดยไม่มีจุดประสงค์ เขาก็ลังเลเล็กน้อย


‘ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอัตราความสำเร็จของรู้สึกถึงจิตวิญญาณนั้นเป็นอย่างไรและเพื่อที่จะใช้มัน ฉันจะต้องใช้สกิลหลายครั้งกับการสร้างไอเทมที่ฉันไม่ต้องการ’


ในท้ายที่สุด เอียนผัดครั้งที่จะใช้สกิลรู้สึกถึงจิตวิญญาณไว้ครั้งหน้า


“ถูกต้อง อย่างแรกต้องทำเควสต์ให้เสร็จ”


เขาต้องการทำเควสต์ให้เสร็จเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้และลองเคลียร์ดันเจี้ยนฟอลันระดับ S กับฟิโอลัน


ไม่มีเวลาเหลือมากแล้วก่อนอีเว้นท์ราชาดันเจี้ยนโจมตีจะเปิดขึ้น


‘แคปซูลรุ่นใหม่รอฉันก่อนนะ!’


เอียนซึ่งตื่นเต้นเพราะทุกอย่างที่เขาทำอยู่นั้นกำลังไปได้ดี เขามุ่งหน้าไปหาอิคาเอล


เขาต้องการเห็นสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งขึ้นของเขาในการต่อสู้ที่แท้จริงโดยเร็วที่สุด


 


* * *


 


“อืมมม…?”


ซัมมอนเนอร์คาโนเอลผู้แอบดูรอบๆโรงประมูล ค้นพบไอเทมที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนและจับจ้องที่มัน


“อะไรกัน? ไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยง? มีอะไรแบบนี้ด้วยหรอ?”


ขณะที่คาโนเอลพึมพัม รันมะที่ยืนข้างหลังเขา เข้าหาเขาและอธิบายมันให้เขาฟัง


“นายน้อยครับ พวกเขาพูดว่าไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยงเริ่มดรอปเพราะผู้เล่นบางคนในสองสามวันที่แล้ว อาชีพการสร้างที่เรียกว่า ‘นักพยากรณ์’ ที่ปรากฏขึ้นมาใหม่”


คาโนเอลถามด้วยอาการสนใจ


“นักพยากรณ์หรอ? อาชีพนั้นทำอะไรได้บ้างรันมะ?”


“อืมม ผมก็ไม่รู้เยอะ มันเป็นอาชีพที่สามารถสร้างเครื่องรางและรูปแบบคาถาของไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากยังไม่มีคนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนอาชีพ จึงยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลจำนวนมาก”


“โอ้โห อย่างนั้นหรอ?”


คราวนี้ รันมะถาม


“อย่างไรก็ตาม ไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยงโผล่ขึ้นในโรงประมูลหรอครับ?”


คาโนเอลพยักหน้า


“ใช่ มันอยู่นี่”


เมื่อได้ยินคำพูดของเขา รันมะแสดงความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง


‘อะไรที่นายน้อยพยายามจะซื้อในตอนนี้…’


เพราะมันค่อนข้างยากที่จะป้องกันไม่ให้เกิดแรงกระตุ้นในการซื้อของคาโนเอล รันมะรู้สึกกังวล


‘ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นของที่ยังไม่รู้จักดีพอและมันก็ยังไม่นานตั้งแต่มันปรากฏขึ้น ดังนั้นมันจึงเป็นไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีข้อมูลมากเช่นกัน…’


รันมะบังคับให้ทิ้งความคิดที่เป็นลางสังหรณ์ของเขาไว้และเข้าหาหน้าต่างข้อมูลการประมูลที่คาโนเอลกำลังดูอยู่


เมื่อเขาทำอย่างนั้น คาโนเอลที่อ่านหน้าต่างข้อมูลอย่างขยันขันแข็ง หันหน้าและพูด


“นายก็อยากเห็นมันใช่ไหม รันมะ?”


“ครับ นายน้อย”


และรันมะที่ตรวจสอบข้างบนของหน้าต่างข้อมูล ถอนหายใจอย่างโล่งอก


‘ฟิ้ว อย่างน่อยมันก็เป็นไอเทมที่เกิดจากวิธีการบิท’


เหตุผลที่รันมะโล่งอกนั้นเรียบง่าย


นี่เป็นเพราะมีหลายกรณีในไอเทมที่เกิดขึ้นพร้อมกับราคาคงที่ซึ่งมีการตั้งราคาที่ฟุ่มเฟือย แต่ด้วยไอเทมที่เกิดจากวิธีการบิทจึงเป็นราคาที่สมเหตุสมผลผ่านการแข่งขันของผู้คน


แม้ว่าผู้ค้าปลีกจะกำหนดราคาขั้นต่ำสูงมาก แต่วิธีการบิทเป็นระบบที่เหมาะสมโดยที่ราคาจะลดลงโดยอัตโนมัติหากไม่มีการบิทในช่วงเวลาหนึ่ง


รันมะเริ่มอ่านข้อมูลลงมาอย่างช้าๆ


 


*เครื่องรางโลตัสทำเอง (สามารถเปลี่ยนชื่อได้)


ประเภท – เครื่องราง (เสน่ห์)


ระดับ – Common


จำกัดการสวมใส่ – สามารถสวมใส่ ‘สัตว์เลี้ยง’ หนึ่งตัว


ความทนทาน – 55/55


คุณสมบัติ – พลังการโจมตี +11% (+3%)


ฟื้นฟูพลังชีวิต +2% (+0.5%)


*ค่าสถานะการต่อสู้ทั้งหมด +100


(นี่คือความสามารถแฝงของรูปแบบ ‘โลตัส’ / ระดับ : Common)


เครื่องรางถูกสร้างโดยนักพยากรณ์ฝึกหัด ‘เอียน’


มันเป็นเครื่องรางที่งดงามที่สามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของกริฟฟินอันรุ่งโรจน์


 


หลังจากอ่านข้อมูลไอเทมทั้งหมด ตาทั้งสองของเขาเบิกโพลง


‘อะไรวะเนี่ย คุณสมบัติของมันดีมากๆเลย!’


รันมะไม่ใช่อาชีพซัมมอนเนอร์ แต่เพื่อช่วยเหลือคาโนเอล นายน้อยที่เขารับใช้ เขามักศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับซัมมอนเนอร์


นั่นเป็นเหตุผลที่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยงที่เขาเห็นเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นไปได้ที่เขาจะตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง


‘ลองดูการจำกัดการสวมใส่… หากว่ามันสามารถสวมใส่กับสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัว ถ้างั้นหมายความว่ามันจะไม่มีอะไรที่เหมือนกับจำกัดการสวมใส่’


รันมะซึ่งกำลังคิดอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับมูลค่าของไอเทมนี้ คาโนเอลถามด้วยเสียงเบาๆ


“คิดว่ายังไงหรอรันมะ? ถ้ามันเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไอเทมที่ดีมากๆเลยงั้นหรอ?”


ดูเหมือนว่าใจของคาโนเอลจะไม่อยู่กับที่แล้ว


ก่อนอื่น รันมะทำให้คาโนเอลสงบลงและตรวจสอบราคาของไอเทม


 


*วันและเวลาการลงทะเบียน – 1 ชั่วโมง 17 นาทีที่ผ่านมา


ราคาซื้อทันที – (ไม่มี)


การบิดปัจจุบัน – 105,000 ทอง


เวลาที่เหลือจนจบการประมูล – 3 วัน


 


รันมะที่ตรวจสอบราคา ตกอยู่ในการไตร่ตรองราคาอย่างลึกซึ้ง


ถ้ามันเป็นราคาที่เกินจริง เขาจะสามารถตัดเขาออกและพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ถ้ามันเป็นประมาณ 100,000 ทอง ไอเทมนั้นดูเหมือนว่าจะถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าของมันจากสิ่งที่เขาเห็น


‘แน่นอน ยังเหลือเวลาอีกมาก แต่มันอาจจะไม่แย่ถ้าลองบิทดู’


มูลค่าเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นที่แนบมากับคุณสมบัติพื้นฐานนั้นดี แต่เขารู้สึกว่าค่าสถานะการต่อสู้ทั้งหมด +100% เป็นความสามารถแฝงที่ช่วยคาโนเอลได้เป็นอย่างดี


‘นายน้อยใกล้เลเวลประมาณ 60 แล้วตอนนี้ ปกติแล้ว ค่าเฉลี่ยค่าสถานะทั้งหมดของสัตว์เลี้ยงในช่วงเลเวล 60 มีค่าน้อยกว่า 2,000…’


ถ้าค่าสถานะการต่อสู้ของพวกมันทั้งหมดเพิ่มขึ้น 100 หน่วย มันหมายความว่ามีการเพิ่มขึ้นรวม 400 หน่วยและถ้าคำนวณเช่นนั้น พวกมันจะสามารถเห็นค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20%


รันมะซึ่งคิดในหัวของเขา หันความสนใจไปหาคาโนเอล


“นายน้อย เราบิทกันเถอะ”


และหลังจากได้ยินคำตอบรับเป็นบวก หน้าของคาโนเอลเปล่งประกายขึ้น


“โอ้ เยี่ยม! ตามที่คาดรันมะ นายมีสายตาที่ดีจากสิ่งที่ฉันเห็น มันดูเหมือนเป็นไอเทมที่ดีจริงๆในครั้งนี้!”


ขณะมองไปยังคาโนเอลที่มีความสุขเหมือนกับเด็ก รันมะส่ายหน้า


‘เฮ้อ… ถึงกระนั้นคราวนี้มันเป็นไอเทมที่ดี มันเป็นความโล่งอก’


หลังจากคิดเกี่ยวกับมันสักครู่ รันมะตัดสินใจราคาและบิท ราคาที่เขาใส่ลงไปคือ 125,000 ทอง เพิ่มประมาณ 20,000 ทอง

 

 

 


ตอนที่ 117

 

เอียนซึ่งกลับมาที่หมู่บ้านโอลิบัสอีกครั้งหลังจากพลิกผันหลายครั้งก็ไปที่บ้านของอิคาเอลทันที


อิคาเอลต้อนรับเอียนที่กลับมาอย่างอบอุ่น


“เยี่ยม ผมคิดว่าการเตรียมพร้อมเสร็จสิ้นแล้ว”


หลังจากตรวจสอบลวดลายที่จารึกไว้บนหน้าผากของไลแล้ว อิคาเอลก็แสดงความพึงพอใจ


“ใช่ ผมคิดว่าผมทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว”


เมื่อเอียนพูด อิคาเอลพยักหน้า


“ดีมากเอียน ข้าควรบอกเจ้าเกี่ยวกับที่อยู่ของออร์วิลได้แล้วตอนนี้”


อิคาเอลพักหยุดหายใจสักครู่และเอียนรออย่าใจจดใจจ่อสำหรับคำพูดต่อไป


เขาพูดต่อ


“ออร์วิลถูดผนึกไว้ที่ยอดเขาแสงจันทร์”


“ยอดเขาแสงจันทร์?”


“ถูกต้อง ยอดเขาแสงจันทร์อยู่ทางตอนใต้ที่สุดของที่ราบสูงฟอลัส”


อิคาเอลผู้ที่หยุดพักหายใจ พูดอีกครั้ง


“เจ้าไม่เคยเห็นยอดเขาที่อยู่สูงกว่าก้อนเมฆซึ่งแหลมจนไม่สามารถเทียบได้กับยอดเข้าอื่นๆใช่ไหมล่ะ?”


“อืมมม…”


มีสถานที่ที่เอียนสันนิษฐานว่าถูกต้อง


เขารู้สภาพภูมิศาสตร์ของที่ราบสูงฟอลัสได้ดีแล้วเพราะส่วนผสมในการทำอาหารของฮาริน


‘ฉันคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่ฮารินและฉันต้องหันหลังจากครั้งก่อนหลังจากพยายามขึ้นไปเพราะไม่มีเส้นทาง…’


แน่นอนว่าเขาสามารถขึ้นไปได้หากเขาขี่กริฟฟิน แต่ในเวลานั้นเพราะไม่มีเหตุผลที่จะขึ้นไปที่นั่น พวกเขาจึงผ่านมันไป


“ถ้างั้นถ้าผมไปที่นั่น ผมจะสามารถพบกับออร์วิลตรงนั้นหรอ?”


อิคาเอลส่ายหน้า


“ไม่ ไม่ใช่แน่นอน รอเดี๋ยวนะ”


หลังจากพูดแล้ว อิคาเอลก็ดึงก้อนหินเล็กๆที่เปล่งแสงสลัวออกมาจากหน้าอกของเขาแล้วส่งให้เอียน


“ถ้าเจ้าไปที่ยอดเขาและเข้าไปในจุดศูนย์กลางของพื้นที่เปิดโล่งที่ด้านบนสุดจะมีแท่นบูชาที่สูงประมาณเอวของเจ้า ถ้าเจ้าเอาหินก้อนนี้ไปไว้ตรงกลางของมัน พื้นที่อยู่รอบๆของยอดเขาจะยกขึ้น”


เอียนได้รับก้อนหินสีขาวจากอิคาเอลและยกมันขึ้น


สิ่งที่น่าสนใจคือที่เขาสามารถรู้สึกถึงน้ำหนักจากก้อนหินได้


“แต่เจ้ามีทางที่จะขึ้นไปไหม? มันไม่ง่ายที่จะขึ้นไปโดยการปีน”


เอียนพยักหน้า


เขามีพิน


“ครับ ผมมีวิธี ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น”


“ดี ดี”


“อย่างไรก็ตาม มีอะไรบ้างที่ผมควรระวังไว้?”


“อืมม… สิ่งที่เจ้าควรระวัง…”


หลังจากคิดเกี่ยวกับมันสักครู่หนึ่ง อิคาเอลพูด


“ก่อนอื่น เจ้าต้องให้ไปเร็วเท่าที่เป็นไปได้”


“ห้ะ?”


อิคาเอลชี้ไปที่ท้องฟ้า


เมื่อถึงเวลาเย็น พวกเขาสามารถเห็นดวงจันทร์ทรงกลมซึ่งลอยขึ้นสูงบนท้องฟ้าด้วยตัวของมันเอง


“นั่นเป็นเพราะสองวันต่อจากนี้ มันจะเป็นพระจันทร์เต็มดวงเมื่อเป็นพระจันทร์เต็มดวงความสามารถทั้งหมดของออร์วิลจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า”


“ผมเข้าใจแล้ว”


แน่นอนว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่จะเป็นภาระที่ต้องเผชิญเหมือนกันสำหรับค่าสถานะของเขาที่จะเพิ่มจำนวนสองเท่า


‘ฉันต้องสำเร็จสิ่งนี้ก่อนไม่ว่าอะไรก็ตาม’


อิคาเอลพูดต่อ


 


“อย่างไรก็ตาม อย่าไปในทันที แต่ไปหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันพรุ่งนี้”


“ผมคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อถึงคืนนี้ด้วยเช่นกัน”


เมื่อเอียนสันนิษฐาน อิคาเอลพยักหน้า


“ถูกต้อง ไม่จำเป็นว่าค่าสถานะของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นในเวลากลางคืน แต่เขามีความสามารถแฝงอยู่ซึ่งเขาสามารถใช้ได้เฉพาะในความมืด ถ้าเป็นไปได้จงต่อสู้กับเขาในเวลากลางวัน”


“ความสามารถอะไรที่คุณพูดถึง?”


“มันเป็นความสามารถที่เรียกว่า “การรุกล้ำแห่งความมืด” ที่จะเปลี่ยนร่างกายของเขาทั้งหมดเป็นหมอกสีดำสนิทหากออร์วิลเข้าสู่สถานะการรุกล้ำแห่งความมืด มันจะลบล้าง 70% ของการโจมตีที่ได้รับ”


“อ่อ…”


เอียนซึ่งได้ยินคำพูดเหล่านั้นบ่นกับตัวเอง


‘ฉันไม่รู้ว่าระยะเวลานานแค่ไหน แต่นี่ไม่ใช่สกิลหลอกลวงใช่ไหม? ฉันสามารถรับสกิลนี้ได้ที่ไหน การบุกรุกล้ำแห่งความมืดนี้หรืออะไรก็ตาม…’


เอียนซึ่งได้ยินเรื่องสำคัญอีกสองเรื่องที่เขาต้องระวังในภายหลัง ก่อนอื่นเดินไปที่ที่ราบสูงฟอลัสก่อน


เขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับเขาทันทีในตอนนี้ แต่เพราะเขาวางแผนที่จะขึ้นไปยังที่ตั้งและออกจากระบบเพื่อพยายามต่อสู้กับเขาทันทีหลังจากเข้าสู่ระบบในเช้าวันพรุ่งนี้


‘ออร์วิลหรืออะไรก็ตาม ฉันจะไปฆ่าเขาให้เร็วที่สุด’


 


* * *


 


“อะไรนะ? เทศกาลหรอ?”


“ใช่ เทศกาล


“สิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับฉันยังไง”


ขณะมองไปที่จินซุงซึ่งจ้องมองเขาด้วยท่าทางที่งุนงง ยูฮยอนแสดงอาการตกตะลึง


“นายหมายความว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับนาย เพื่อนยากนายไม่ได้เป็นนักเรียนที่โรงเรียนนี้หรือไง?”


จินซุงขมวดคิ้วเล็กน้อย


“การเข้าร่วมเป็นสิ่งนั้นจำเป็นด้วยหรอ? เวลาที่ฉันใช้ในการเข้าชั้นเรียนก็ทำให้ฉันเสียเวลาด้วยเช่นกัน ดังนั้นฉันต้องเข้าร่วมสิ่งนั้นจริงๆหรอ?”


เมื่อจินซุงบ่น ยูฮยอนสวมแสดงออกที่มีปัญหา


‘ฉันควรทำอะไร? ฉันไม่รู้เกี่ยวกับคนอื่น แต่ฉันต้องให้จินซุงเข้าร่วมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น…’


เทศกาลดำเนินไปเป็นเวลาสามวันและแม้ว่าจะมีสิ่งต่างๆมากมายเกิดขึ้นมีอีเว้นท์หนึ่งที่จินซุงต้องการ


นั่นคือการแข่งขัน E-sports ที่กำลังจะเปิดในวันที่สองระหว่างการแข่งขัน


การแข่งขัน E-sports เป็นอีเว้นท์ที่แผนกต่างๆได้รับการจัดอันดับตามคะแนนของพวกเขาด้วยเกมทั้งหมดสิบประเภทและมีพิธีมอบรางวัลขึ้นอยู่กับแผนกที่มีอันดับสูงสุดด้วยเงินรางวัลและผลประโยชน์ที่ได้รับนั้นค่อนข้างมาก


‘แม้ว่าเราจะไม่ได้รับรางวัล ความคาดหวังของอาจารย์ก็ค่อนข้างมากเช่นกัน…’


เท่าที่มันเป็นปีแรกที่แผนกก่อตั้งขึ้นอาจารย์หวังว่าการดำรงอยู่ของแผนก VR จะกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในโรงเรียนผ่านงานเทศกาล


ยูฮยอนเริ่มโน้มนาวเอียนอย่างช้าๆ


“พวกเขากำลังทำการแข่งขัน E-sports ในวันที่สองในเทศกาลนั้นและถ้าเราชนะที่นั่นแล้วจะมีส่วนหนึ่งของทุนการศึกษาสำหรับภาคเรียนถัดไป…”


ประมาณสิบนาทีผ่านไปเช่นนั้น


ในการชักชวนที่ยาวนานและต่อเนื่องของยูฮยอน ในที่สุดจินซุงก็สัญญาว่าจะมางานเทศกาลในวันที่สอง


‘ถึงกระนั้น เนื่องจากฉันสนใจในการแข่งขัน E-sport เล็กน้อย’


จากการได้ยินคำอธิบาย นั่นไม่มีแค่เกมเดียวในสิบอีเว้นท์รวมถึงไคลันที่จินซุงไม่ได้เล่น


ด้วยความตั้งใจที่จะเล่นเกมจากอดีตของเขาเป็นครั้งแรกในระยะหนึ่ง จินซุงก็ยอมรับข้อเสนอของยูฮยอน


หลังจากคิดในแง่บวกจริงๆแล้วเขาก็ตั้งตารอคอยมันอยู่


 


* * *


 


“คุณสามารถพูดได้ว่าความมืดทั้งหมดหายไปในประมาณนี้ใช่ไหม?”


เอียนซึ่งวิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ไคลันทันทีที่ชั้นเรียนตอนเช้าจบลง พึมพำเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าหนึ่งครั้ง


มันเป็นเวลาประมาณ 11 โมงเช้าและดวงอาทิตย์ก็ขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว


“โอเค”


ท่ามกลางสัตว์เลี้ยงของเขา เอียนอัญเชิญแค่พินสำหรับตอนนี้


“อัญเชิญพิน!”


Kku-ruk- Kkuk-kkuk-!


พินที่ถูกอัญเชิญ บินอย่างมีความสุขกับเอียนและนั่งลง


เนื่องจากตอนนี้เขามีขนาดใหญ่กว่าแม้แต่เอียนเขาไม่สามารถนั่งบนไหล่ของเขาหรืออะไรอย่างนั้นได้ แต่เอียนก็ยังคิดว่าพินน่ารัก


“พินช่วยพาฉันขึ้นไปข้างบนนั่นหน่อย”


Kku-ruk-!


เมื่อเอียนอยู่บนหลังของเขา พินเริ่มกระพือปีกอย่างระมัดระวัง


Flap- Flap-.


เขายังไม่ชำนาญในการขี่บนหลังของพิน แต่ถึงกระนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ท่าทางของเขาก็มั่นคงขึ้น


“พินนายต้องการจะลองบินให้เร็วกว่านี้สักนิดไหม?”


ราวกับว่าพินกำลังรอคำพูดของเอียนเขาเริ่มกระพือปีกเร็วขึ้นทีละเล็กทีละน้อย


“ฮึบ!”


เมื่อลมแรงพัดมาข้างหน้าเขา เอียนก็ลดท่าของเขาลงอย่างรวดเร็ว


‘ฟิ้ว พันเร็วจริงๆเมื่อเขาเริ่มได้รับความเร็ว’


เมื่อลมที่พัดมาจากทิศทางตรงกันข้ามแรงเกินไป เขาจึงคิดว่าเขาอาจจะตกลงเช่นนั้นได้เพียงเล็กน้อย


‘ถ้าฉันตกจากความสูงนี้ จากนั้นฉันจะตกลงไปตายทันที’


เอียนขยับสมดุลร่างกายของเขาไปที่ต่างๆเมื่อเขาลองที่จะปรับการขี่บนหลังของไล


และจากนั้นไม่นาน เขาก็สามารถวางเท้าลงบนพื้นบนยอดเขาที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ


“เมื่อคุณมองจากด้านล่างมันดูสูงมาก แต่การขึ้นมาที่นี่ตอนนี้มันค่อนข้างกว้างขวาง นั่นเป็นความโล่งอก”


จากมุมมองของเอียนที่เขาต้องการจัดการสัตว์เลี้ยงหลายตัว ไม่สามารถช่วยได้แต่อาจจะเสียเปรียบเพราะพื้นที่แคบ


มันยิ่งแย่มากขึ้นในสถานที่ซึ่งเป็นหน้าผาหนึ่งพันไมล์ หากพวกเขาแยกจากกัน


เอียนอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมด


และจากหน้าอกของเขา เขาดึงก้อนหินที่ได้รับมาจากอิคาเอล


‘ดังนั้นนี่คือกุญแจการปลดผนึกใช่ไหม?’


เอียนก้าวขึ้นไปยังจุดศูนย์กลางของพื้นที่ว่าง


และอย่างที่อิคาเอลพูดมีสิ่งที่คล้ายแท่นบูชาที่เตี้ยที่สุดในนั้น


และเมื่อเขาเข้าใกล้มันและตรวจสอบด้านบนสุดของมัน เอียนก็สามารถที่จะรู้ว่าสถานที่ที่ก้อนหินเข้าไปในทันที


‘มันต้องอยู่ที่นี่ใช่ไหม?’


ในขณะที่เขาวางไว้ในที่เล็กๆกลมๆเหมือนร่องหิน ก้อนหินกลิ้งและถูกดูดเข้าไปในสถานที่เหมือนรูเกลียวชนิดที่อยู่ตรงกลางแท่นบูชา


Keu-Keu-Keung-!


เมื่อเสียงเครื่องจักรกลดังขึ้นจากภายในแท่นบูชาเอียนก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย


อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาแสดงอาการงุนงง


“หืมมม…?”


อย่างไรก็ตาม จากนั้น…


แสงสีขาวเริ่มพุ่งออกมาจากภายในแท่นบูชา


 


        ผนึกของความมืดแห่งฟอลัสถูกใช้งาน

 


หวึ่งงงงง-!


‘อะไรวะเนี่ย? ผนึกไม่ถูกยกขึ้นแต่ถูกใช้งานหรอ?’


มีบางสิ่งแปลกเล็กน้อย แต่เอียนที่ตรวจสอบข้อความระบบและถอยหลังสองก้าว


“ทุกตัวเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้!”


เมื่อเขาทำอย่างนั้น ในเวลาต่อมา ปรากฏการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างสมบูรณ์เริ่มขึ้น


แกร๊ก- คะ-คะ-แคร๊ก-!


ใต้ฝีเท้าของเอียนเริ่มแตก


“อะไรวะเนี่ย?”


และยอดเขาที่สูงขนาดนี้ไม่ได้เริ่มพังทลายลงมาใช่มั้ย?


Thud- Thu-thud-!


ช่วยไม่ได้แต่อย่างแรกเอียนยกเลิกอัญเชิญดุ๊กเด


ไล เรคและฮัลลิสามารถอยู่บนหินที่พังทลายได้โดยไม่ตก แต่ในกรณีของดุ๊กเด ไม่เพียงแต่ความคล่องแคล่วที่ต่ำเกินไปที่จะทำเช่นนั้น แต่เขาขนาดใหญ่เกินไป


“ยกเลิกอัญเชิญดุ๊กเด!”


เอียนที่ยกเลิกอัญเชิญดุ๊กเด รีบขึ้นบนหลังของพิน


และเขาเฝ้าดูสัตว์เลี้ยงอย่างขยันขันแข็งที่กระโดดไปรอบๆอย่างเมามันบนแท่นบูชาที่ถล่ม


เพื่อที่จะยกเลิกอัญเชิญพวกมันในทันทีหากพวกมันดูเหมือนว่าพวกมันจะตกโดยอุบัติเหตุ


Ba-ang- Bang-!


เมื่อยอดเขายักษ์ทรุดตัวลงดังสนั่นและฝุ่นฟุ้งกระจายไปทุกทิศทาง


อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเช่นนั้น เอียนก็ไม่สามารถลืมความคิดเขาได้


‘เนื่องจากผนึกถูกยกขึ้น ออร์วิลน่าจะปรากฏจากที่ไหนสักที่แน่นอน!’


มันเป็นสถานการณ์ที่โล่งอกอย่างแท้จริงที่เขาสามารถนั่งบนพินได้


ในที่สุดช่วยไม่ได้เอียนที่จะถูกบังคับให้ต้องยกเลิกอัญเชิญเรคที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างฮัลลิหรือไลและตกอยู่ระหว่างก้อนหิน


‘เฮ้อ นี่เป็นปัญหาใหญ่ ที่จะต้องต่อสู้กับออร์วิลโดยไม่มีดุ๊กเดหรือเรค…’


และประมาณสิบนาทีผ่านไปอย่างนั้น?


ยอดเขาที่ทรุดตัวลงอย่างสมบูรณ์จนถึงจุดที่รูปร่างของมันไม่สามารถจดจำได้ กลายเป็นเนินเขายักษ์ที่ทำจากกองหิน


“พินเอาฉันลง”


และเอียนก็ลงมาจากหลังของพินและเดินลงมาเหยียบกองหิน


‘ไม่นะ แต่เมื่อไหร่ออร์วิลจะออกมา?”


มันเป็น ณ เวลานั้น


หวึ่งงงงง-!


เมื่อเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น ลำแสงสีม่วงที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อเริ่มถูกดูดเข้าไปในกองหิน


โฮกกกกก-


‘…?’


เอียนดูเหตุการณ์นั้นด้วยความงุนงง


นี่เป็นเพราะลำแสงที่ถูกดูดเข้ามาจากทุกทิศทุกทางแสดงภาพที่ยิ่งใหญ่เหมือนฝนดาวตก


ลำแสงที่รวมตัวกันอยู่กลางกองหินและก่อตัวเป็นทรงกลมยักษ์


และในขอบเขตของแสงยักษ์เงาดำเริ่มปรากฏขึ้นอย่างจางๆ


‘นั่นคือ… ออร์วิลหรอ?’


เมื่อเอียนเพ่งสายตาของเขาและตรวจสอบตัวตนของเงาดำในความสว่างของแสง รัศมีของแสงก็พุ่งออกมาในทุกทิศทางในขณะที่ปล่อยคลื่นเสียงดังออกมา


Ba-ang-!


ก้อนหินที่บินออกไปทุกทิศทุกทางเพราะระเบิดอย่างต่อเนื่องมาหาเอียนและสัตว์เลี้ยงของเขา


 


        ท่านได้รับผลกระทบ พลังชีวิตของท่านจะลดลง 970 หน่วย

        ท่านได้รับผลกระทบ พลังชีวิตของท่านจะลดลง 1225 หน่วย

 


มันไม่ใช่ความเสียหายจำนวนมาก แต่เมื่อพลังชีวิตของเขาลดลงก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มเอียนก็ขมวดคิ้ว


‘เวรเอ้ย อะไรวะเนี่ย?’


อย่างไรก็ตาม มันยังไม่จบ


Awhooo-!


อาวู้วววว-!


เงายักษ์ออกมาจากจุดที่กองหินแตกออกมา


เมื่อเสียงหอนของออร์วิลดังขึ้นไปในอากาศมีคลื่นกระแทกกระจายออกไปทุกทิศทาง


Pung-!


 


        ‘เฟนเรียร์มืดออร์วิล’ ได้ใช้ความสามารถแฝง ‘ส่งเสียงแห่งความมืด’

        เมื่อท่านได้รับผลจาก ‘ส่งเสียงแห่งความมืด’ พลังชีวิตของท่านจะลดลง 6718 หน่วย

 


เอียนตะโกนก่อนที่เขาจะตระหนักถึง


“ไม่นะ นี่มันความเสียหายประเภทบ้าอะไรกัน!?”


ไลได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว


เพราะว่าฮัลลิและพินไม่ได้มีร่างกายเหมือนกระดาษแบบไล พวกเขายังคงเหลือพลังชีวิตครึ่งหนึ่ง แต่พวกเขาก็ยังได้รับความเสียหายจำนวนมากอย่างแน่นอน


และท้ายที่สุด ข้อความระบบที่ยาวเพียงหนึ่งบรรทัดโผล่ขึ้นมา


 


        โลกถูกปกคลุมอยู่ในความมืด


 

 

 


ตอนที่ 118

 

“ไม่นะ อะไรกันนี่? ทำไมมืดทันทีเลยล่ะ?”


หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในทวีปทางเหนือเช่นเดียวกับเมืองที่กิลด์อันดับ 1 ครอบครอง เมืองดาร์ครูน่า


เมื่อท้องฟ้ามืดครึ้มในเวลากลางวันแม้กระทั่งก่อนเที่ยงทุกคนก็เริ่มสับสน


“เป็นไปได้ไหมว่าเควสต์อัปเดตขนาดใหญ่บางประเภทถูกเรียกใช้?”


“ไม่นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างน้อนข้อความของระบบก็จะโผล่ขึ้นมาใช่มั้ย? ไม่มีการเรียงลำดับข้อผิดพลาดของระบบบางอย่างเกิดขึ้นหรอกมั้ง?”


“อาจจะไม่ เพื่อนของฉันกำลังล่าอยู่ในทวีปทางใต้ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติที่นั่น”


จัตุรัสที่มีผู้เล่นมากกว่าร้อยคนมารวมตัวกันอยู่ในความโกลาหลและข้อสันนิษฐานทุกอย่างที่ปรากฎการณ์แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้น


“มันเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ครั้งที่สอง อาจจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นหรือป่าว?”


“เวรเอ้ย เพราะว่ามันมืดทันทีเลย ฉันรู้สึกไม่สบายใจ”


อย่างไรก็ตามความโกลาหลเป็นเพียงชั่วครู่


เมื่อเวลาผ่านไปและไม่มีอะไรเกิดขึ้นผู้เล่นก็กลับสู่กิจวัตรประจำวันในไม่ช้า


 


* * *


 


“ไม่นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะต้องมาในระหว่างวัน!”


เอียนบ่นต่ออิคาเอลซึ่งให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่เขา (?)


‘ความจริงแล้ว… แม้ว่าฉันจะรู้เรื่องนี้มาก่อนก็คงไม่มีวิธีการรับมือ’


Seu-seu-seu-.


ในขณะที่มองดูออร์วิลที่ปล่อยหมอกความมืดในขณะที่ส่งเสียงแปลกๆเอียนก็ค่อยๆขยับทีละก้าว


‘คงเป็นเรื่องยากที่จะชนะในปัจจุบันในสถานะนี้’


เขารู้สึกว่าเขาต้องการอัญเชิญดุ๊กเดและเรคอย่างน้อยก็เพื่อที่จะได้ต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่น่ากลัว


กร๊าาาาา-


ออร์วิลที่เข้าหาเอียนอย่างช้าๆ คำรามเมื่อเขาเห็นเอียน


อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบเลเวลของออร์วิล เอียนแสดงอาการงุนงงทันที


‘ห้า? อะไรกัน? เขาเลเวลเพียงแค่ 120 หรอ?’


ประสิทธิภาพของเขานั้นยอดเยี่ยมอย่างเหลือเชื่อ แต่ถ้าเขาเลเวลเพียงประมาณ 120 เอียนคิดว่าเขาสามารถต่อสู้กับเขาได้


อย่างไรก็ตามต่อจากนั้น ช่วยไม่ได้ที่เขาจะถอนหายใจออกมา


 


        เฟนเรียร์แห่งความมืดออร์วิล – ระดับ : Legendary

 


“…”


มอนสเตอร์ระดับ Legendary ที่ปรากฏเพียงสองครั้งบนพื้นที่จนถึงตอนนี้


ทันทีที่เขาเห็นคำว่า ‘Legendary’ มันมีผลกระทบที่ทำให้ออร์วิลซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าเขาทันใดนั้นดูแข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า


‘ไม่สิ ถึงกระนั้นพินของพวกเราก็ยังเป็นระดับ Legendary!’


เอียนกล่อยมันไปและเริ่มคิดทางที่จะเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่อยู่ต่อหน้าเขา


‘อย่างแรก ฉันต้องการประมาณ 20 นาทีไม่ว่ายังไงก็ตาม’


20 นาทีเป็นเวลาที่เขาสามารถอัญเชิญเรคและดุ๊กเดอีกครั้งได้ อย่างไรก็ตามออร์วิลไม่ได้ให้เวลาเอียนคิด


Kyaaooh-!


ออร์วิลผู้ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าสยดสยองไปในอากาศพุ่งเข้าหาเอียน


Ta-tat-!


หลบออร์วิลที่พุ่งเข้าหาเขาด้วยหมอกที่ส่องแสงสีดำแปลกๆเอียนก็รีบขึ้นไปบนหลังของฮัลลิ


“ไล นายอยู่ข้างหลังจนกว่าพลังชีวิตของนายจะฟื้นฟูเพียงพอ!”


 


ไลอยู่ในสถานการณ์อันตรายแต่เพราะว่ามันเป็นสถานการณ์ที่แม้แต่ตัวเดียวก็ไม่สามารถปล่อยไปได้ เขาไม่สามารถยกเลิกอัญเชิญได้


เอียรที่อยู่บนหลังฮัลลิ ยิงลูกบอลสายฟ้าใส่ออร์วิล


Za-zap- Za-za-zap-!


อย่างไรก็ตามเพราะความเร็วของลูกบอลสายฟ้านั้นช้าถ้าเปรียบเทียบ ออร์วิลสามารถหลีกเลี่ยงพวกมันได้อย่างง่ายดายและเขากางมือของเขาออกต่อหน้าเอียน


 


Kka-kang-!


ในขณะที่คฑาของเอียนและกรงเล็บอันยาวเหยียดของออร์วิลส่งผลให้เกิดเสียงเสียดสีที่ไม่สบายใจที่จะได้ยิน


Kka-ka-ka-kak-!


และขณะที่เอียนและออร์วิลเผชิญหน้ากัน พินที่ยืนข้างหลังไม่ได้อยู่เฉยๆอีกต่อไป


Kyaa-!


กรงเล็บหน้าของพินที่แหลมยาวและพุ่งเข้าโจมตีหลังของออร์วิล


Pung-!


หัวของพินที่เป็นรูปร่างเหมือนเหยี่ยว แต่ร่างกายของเขาคล้ายกับสิงโตขนาดใหญ่


เมื่อกรงเล็บข้างหน้าของพินเหมือนกับฝาหม้อโจมตี ร่างกายของออรวิลกระเด็นไปไกล


 


        สัตว์เลี้ยง ‘พิน’ ได้สร้างความเสียหายให้ ‘ออร์วิล’

        พลังชีวิตของออร์วิลลดลง 13,250 หน่วย

 


ในขณะที่มองดูออร์วิลที่ได้การโจมตีได้ง่ายกว่าที่เขาคาดไว้ เอียนเริ่มพบความมั่นใจอย่างค่อยเป็นค่อยไป


‘เยี่ยม ถ้ามันมากขนาดนั้น มันคุ้มค่าที่จะลอง’


เอียนหยิบคฑาของเขาขึ้นอีกครั้งและยิงลูกบอลเวทมนต์


ถ้ามันเป็นลูกบอลเวทซึ่งรวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับลูกบอลสายฟ้า เขาคิดว่าเขาอาจจะโจมตีออร์วิลโดน


หวึ่งงงง-!


ลูกบอลเวทสีม่วงที่ยิงออกมาจากคฑาของเอียนทำให้เส้นทางการพุ่งของออร์วิลพุ่งเข้าหาเอียนอีกครั้ง


‘เยี่ยม!’


อย่างไรก็ตามในขณะที่มองไปที่ลูกบอลที่บินมาหาเขา ออร์วิลคำรามดังขึ้นแทนที่จะหลบ


อาวู้ววววว-!


และข้อความระบบที่ทำให้เอียนตกอยู่ในความสิ้นหวังโผล่ขึ้นมา


 


        เฟนเรียร์แห่งความมืด ‘ออร์วิล’ ได้ใช้ความสามารถแฝง ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’

        ความรวดเร็วของออร์วิลเพิ่มขึ้น 50%

        จากนี้ไป การโจมตีของออร์วิลทั้งหมดจะเป็นความเสียหายคริติคอล

        จากนี้ไป ออร์วิลจะลบล้างความเสียหายทั้งหมด 70%

        ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ จะมีเวลา 3 นาที

 


เอียนรู้สึกตกตะลึงจนไม่มีคำพูดใดๆ


เขาไม่เคยเห็นบัฟที่บ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อน


‘ไม่นะ พวกเขาคาดหวังให้ฉันเผชิญหน้ากับสิ่งนี้ยังไง?’


และลูกบอลเวทมนต์ของเอียนก็ถูกดูดซับโดยหมอกสีดำที่ล้อมรอบออร์วิลราวกับว่ามันถูกดูดเข้าไป


 


        ผ่าน ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ ของออร์วิล ‘ลูกบอลเวท’ ถูกลบล้าง

 


สิ่งที่โชคดีก็คือเพราะปฏิกิริยาตอบสนองของฮัลลิและพินนั้นเร็วมาก พวกเขาไม่ตกหล่นจากออร์วิลมากเกินไปเมื่อมันมาถึงด้วยความเร็ว


และดูเหมือนว่าไลซึ่งไกลจากความสนใจของออร์วิล


ดูเหมือนจะเป็นเพราะเขาถูกครอบงำด้วยความบ้าคลั่ง ออร์วิลก็โจมตีเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้นซึ่งเขาคิดว่าเป็นศัตรู


Bang- Ba-bang-!


 


        สัตว์เลี้ยง ‘บุ๊กค์’ ได้รับความเสียหายคริติคอล

        พลังชีวิตของ ‘บุ๊กค์’ ลดลง 527 หน่วย

 


มันเป็นพลังโจมตีที่รุนแรงที่สร้างความเสียหายด้วยค่าที่เป็นตัวเลข 3 หลักแม้แต่บุ๊กค์ซึ่งมีพลังป้องกันที่มาก


‘แม้ว่าถ้าฉันแค่ได้รับการโจมตีหนึ่งครั้ง มันคือความตาย!’


โชคดีที่เขาสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้ในขณะที่ยืนหยัดอย่างมากเพราะออร์วิลพุ่งเข้าหาอย่างมั่วซั่ว ถ้าโอกาสที่เขาต้องต่อสู้กับมันในขณะที่เขาอยู่ในสถานะที่เป็น AI อย่างเหมาะสม มันอาจเป็นจุดจบสำหรับเอียน


“ฮัลลิ ผู้พิทักษ์แห่งสายลม!”


เพื่อที่จะคงอยู่จนถึงตอนสุดท้ายช่วงเวลาของสกิลการรุกล้ำแห่งความมืดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เอียนก็จับด้านหลังของฮัลลิอย่างแน่นหนา


หวึ่งงงง-!


ในขณะที่การตอบสนองของฮัลลิถูกขยายให้ใหญ่สุด แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชั่วครู่ฮัลลิก็เริ่มเอาชนะออร์วิลเมื่อมันมาถึงการตอบสนอง


“ฮัลลิ พยายามเว้นระยะห่างหน่อย!”


Grr-!


เพราะออร์วิลติดอยู่เหมือนกาวกับพวกมัน เขาจึงไม่สามารถใช้สกิลกระแทกของพินได้


นี่เป็นเพราะแม้แต่พันธมิตรที่อยู่ในระยะของสกิลกระแทกก็ได้รับความเสียหาย


เขาไม่รู้ว่าเขาจะใช้สกิลของฮัลลินี้เพื่อการหลบหนี แต่ตอนนี้เอียนรีบซื้อที่ว่างระหว่างออร์วิลกับเขา


และเมื่อเขาได้รับระยะห่างที่เพียงพอ เอียนสั่งคำสั่งให้พิน


“พิน กระแทก!”


และพินเริ่มกระพือปีก


Kwaaah-!


การโจมตี AoE แข็งแกร่งที่สุดของพิน กระแทกถูกใช้งาน พายุลมขนาดยักษ์โถมใส่ออร์วิลที่วิ่งเข้ามาอย่างเต็มที่


 


        ผ่าน ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ ความเสียหายจะถูกลบล้าง

        พลังชีวิตของออร์วิลลดลง 1745 หน่วย

        พลังชีวิตของออร์วิลลดลง 2301 หน่วย

        ผ่าน ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ ความเสียหายจะถูกลบล้าง

        ผ่าน ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ ความเสียหายจะถูกลบล้าง

 


มีความเสียหายมากมายที่ถูกลบล้างเนื่องจากระรุกล้ำแห่งความมืด แต่เนื่องจากเป็นการโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักเช่น DoT จึงไม่สามารถช่วยได้ออร์วิลได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก


และผลกระทบที่เอียนไม่เคยคิดมาก่อน แต่ลมแรงที่โหมกระหน่ำพร้อมกับสกิลกระแทกมีผลกับกองหินแตกที่ต่างๆ


ก้อนหินที่แตกเป็นชิ้นแหลมคมได้บินไปทางออร์วิลและสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย


Keu-reu-reu-reu-!


เอียนใช้สกิลทั้งหมดที่เขาสามารถใช้ได้และตอดพลังชีวิตของออร์วิล


โชคดีที่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีสกิลเช่นเฟนเรียร์โลหิตที่เขาสามารถดูซับพลังชีวิตหรือฟื้นฟู เนื่องจากเขาไม่มีเหตุการณ์ใดที่เขาสามารถฟื้นฟูได้


‘อีกนิดเดียว…!”


หากเขาใช้เวลานานกว่านี้อีกเล็กน้อย เขาจะสามารถอัญเชิญเรคและดุ๊กเดอีกครั้งและไลก็จะฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาเช่นกัน


เอียนกัดฟันของเขา


 


* * *


 


“อืมม…”


ขณะที่มองดูท้องฟ้าที่แปลกประหลาดซึ่งด้วยย้อมสีดำแม้ว่าดวงอาทิตย์จะขึ้น อิคาเอลก็ส่งเสียงดัง


“ข้าไม่อยากจะเชื่อ… ขณะ 100 ปีที่ผ่านมาออร์วิลกลายเป็นระดับ Legendary แล้วหรอ?”


ปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งและแปลกประหลาดสำหรับพวกเขาส่วนใหญ่ แต่สำหรับอิคาเอลมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น


เขารู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้


‘การรุกล้ำแห่งความมืด อาจจะเป็นนั่นแหละ’


มีเผ่าเฟนเรียร์ที่ประสบความสำเร็จทั้งสามพลัง เผ่าโลหิต เผ่าความมืดและเผ่าดวงจันทร์


และในบรรดาผู้นำของทั้งสามเผ่านั้น เฟนเรียร์ที่ได้รับพลังอันทรงพลังที่สุดจะดูดซับความแข็งแกร่งของสองเผ่าที่เหลือและจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งในรูปแบบที่เสร็จสมบูรณ์และการรุกล้ำแห่งความมืดนี้เป็นความสามารถแฝงที่สามารถได้รับหากทั้งสามกลุ่มเป็นรูปแบบที่สมบูรณ์


‘อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ตระกูลดวงจันทร์ตกต่ำไปเมื่อร้อยปีก่อน ไม่เคยมีเวลาที่รูปแบบที่สมบูรณ์เกิดขึ้น’


แม้ว่าพวกเขาจะขาดจุดแข็งที่แตกต่างกันหนึ่งในสาม แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงรูปแบบที่เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นในแง่หนึ่งมันก็เป็นที่ชัดเจนว่าทำไมรูปแบบที่สมบูรณ์ไม่ได้เกิดในเวลาเดียวกัน


“ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดถ้าออร์วิลมาถึงร่างที่สมบูรณ์แล้ว เอียนจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาด้วยพละกำลังของเขา…”


อิคาเอลปิดตาอย่างช้าๆ


ถ้าเอียนไม่สามารถบล็อคการโจมตีของออร์วิลได้ ถ้างั้นเขาต้องหาทางที่จะป้องกันออร์วิลที่ถูดปลดผนึกและหนีออกมาไม่ว่ายังไงก็ตาม


 


* * *


 


“เฮ้อ เฮ้อ…”


ร่างกายทั้งหมดของเอียนเต็มไปด้วยดินและบาดแผล


‘เวรเอ้ย… นี่ไม่มีทางที่จะชนะเมื่อเผชิญหน้ากับเขาเลย?’


หลอดพลังชีวิตของออร์วิลกระพริบเป็นสีแดง


พลังชีวิตของเขาต่ำกว่าครึ่ง


อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับออร์วิล สภาพของเอียนสาหัสกว่า


เมื่อพูดถึงพลังชีวิตของตัวเอง เอียนยังคงมีอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่เรคที่เขาสามารถอัญเชิญกลับมาได้แทบไม่ถูกโจมตีโดยออร์วิลและเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากยกเลิกอัญเชิญเขา ในขณะที่พลังชีวิตของดุ๊กเดก็หมดไปแล้ว ถูกเรียกคืนก่อนที่เขาจะสามารถยกเลิกอัญเชิญได้


พลังชีวิตของฮัลลิก็ใกล้หมดแล้ว ขณะที่พินที่อย่างน้อยสามารถบินอยู่บนท้องฟ้าได้นั้นมีความแข็งแกร่งมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีนัก


ส่วนที่มีความหวังมากที่สุดคือไลซึ่งน่าประหลาดใจที่ไม่ได้รับการโจมตีจากออร์วิลเลยและพลังชีวิตใกล้จะเต็มแล้ว


‘อีกไม่นานเวลาคูลดาวน์ของการรุกล้ำแห่งความมืดใกล้หมดลงแล้ว…’


เพราะออร์วิลไม่ได้อยู่ในสถานะการรุกล้ำความมืดในตอนนี้ พวกเขาจึงสามารถสร้างความเสียหายมากขึ้นให้กับมัน


หากหมอกมืดที่ลบล้างความเสียหาย 70% ของความเสียหายเริ่มปกคลุมร่างกายของออร์วิล จากนั้นก็จะไม่สามารถบอกอะไรได้เลย


‘ไปถึงจุดจบกันเถอะไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!’


เอียนปีนขึ้นไปบนกองหินและยิงลูกบอลเวทอย่างต่อเนื่องไปยังออร์วิลที่คำราม


เมื่อเขาทำอย่างนั้น ไล ฮัลลิและแม้กระทั่งพินทั้งหมดพุ่งเข้าหาออร์วิล


‘แม้หากมันจะเป็นจุดจบของสัตว์เลี้ยงของฉัน นั่นก็ไม่มีสิ่งที่ฉันสามารถทำได้แล้ว ฉันต้องฆ่าไอ้นั่นก่อน!’


หากสภาพการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้จนกว่าพวกเขาจะลดพลังชีวิตของออร์วิลลงทั้งหมด ด้านของเอียนก็จะถูกทำลาย


ถ้ามันเป็นกรณีนั้น มันอาจจะดีกว่าการเดิมพัน


Keu-ahhh-!


ออร์วิลผู้ส่งเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวพุ่งเข้าหาเอียนเพื่อเผชิญหน้ากัน


เมื่อเขาเห็นอย่างนั้น ตาของเอียนเบิกโพลงเล็กน้อย


‘นั่นหมายความว่าเป้าหมายของเขาคือฉันใช่ไหม…?’


นี่เป็นเพราะมันเป็นสถานการณ์ที่ดีกว่า ถ้าเขาเล็งเอียนมากกว่าสัตว์เลี้ยงอื่นๆของเขา


เนื่องจากเขายังมีบุ๊กค์ที่เป็นเกราะป้องกันที่เชื่อถือได้ของเขา


ความจริงแล้วเพราะออร์วิลที่ไม่มีความสามารถในการตัดสินใจที่เหมาะสม ไม่มีความคิดที่จะหลีกเลี่ยงบุ๊กค์และโจมตีเอียนนั่นคือเหตุผลที่เอียนสามารถยืนหยัดได้นาน


อย่างไรก็ตาม จากนั้นไม่นาน


ตาของเอียนที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อยถูกแต่งแต้มด้วยความตกใจ


‘อะไรกัน อะไรวะนั่น?’


นี่เป็นเพราะมวลสารมืดสองดวงที่ดูเหมือนลูกบอลเวทขนาดใหญ่เริ่มก่อตัวขึ้นบนสองเท้าด้านหน้าของออร์วิล


เพราะนี่เป็นรูปแบบการโจมตีที่เขาเห็นเป็นครั้งแรกเขาจึงตกใจ แต่เขาก็สามารถรู้สึกถึงพลังที่เหลือเชื่อภายในแม้ว่าเขาจะไม่โดนพวกมันโจมตี


“อ๊ากกกก-!”


เสียงตะโกนออกมาจากปากของเอียน


นี่เป็นเพราะดูเหมือนว่าจะยากที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีของออร์วิลในขณะนี้


ไม่ว่าการโจมตีนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนพลังชีวิตของบุ๊กค์นั้นอาจจะไม่หมดไปทั้งหมด แต่ถ้าเป็นการโจมตีในระยะเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะบล็อกด้วยบุ๊กค์มันก็เห็นได้ชัดว่าเอียนจะได้รับความเสียหายจำนวนมหาศาล


ในหลายกรณี ออร์วิลอยู่ไม่ไกลจากเขาก่อนที่เอียนจะสามารถใช้มือของเขาได้และลูกบอลแห่งความมืดกระแทกเข้ากับหลังของเอียน


Baaang-!


 


        ท่านได้รับความเสียหายคริติคอล

        พลังชีวิตของท่านลดลง 17,850 หน่วย

 


ความเสียหายจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นในทันที


หากไม่ใช่สำหรับบุ๊กค์ นั่นจะเป็นการโจมตีที่เขาจะตายทันที


เอียนหายใจออกและกลิ้งไปบนพื้น


“เฮ้อ…”


ฮัลลิและพินที่เห็นอย่างนั้น วิ่งไปหาเอียนเพื่อปกป้องเขา แต่เพราะพวกเขาอยู่ไกลเกินไปเมื่อเทียบกับออร์วิล พวกเขาไม่สามารถป้องกันเขาได้


เอียนปิดตาลง


‘อ่า… 24 ชั่วโมงของฉัน…’


เมื่อเขาคิดว่าจะตาย เป็นไปตามที่คาดสิ่งแรกที่โผล่ขึ้นมาในใจเขาคือไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ตลอด 24 ชั่วโมง


และสิ่งที่เขาคิดต่อไปคือการทำเควสต์ล้มเหลว


‘เวรเอ้ย เราต้องวิวัฒนาการไล แต่…’


อย่างไรก็ตาม จากนั้น


เงาที่ไม่คาดคิดพุ่งออกมาจากด้านหลังเอียนและป้องกันออร์วิล


เอียนที่เห็นอย่างนั้น ตะโกนออกด้วยความตกใจ


“ไอโง่ หลีกทางไปซะ!”


นี่เป็นเพราะตัวตนของเงาไม่มีใครอื่นนอกจากไล


ถ้าไลที่มีพลังชีวิตที่น้อยที่สุดท่ามกลางสัตว์เลี้ยงของเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีของออร์วิลโดยตรง มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะมีชีวิตรอด


กร๊าาาา-!


อย่างไรก็ตาม ไลไม่สนแม้กระทั่งคำสั่งของเอียนและเอียนต้องยกเลิกอัญเชิญไลเมื่อเขาไม่มีทางเลือก


ไม่นะ เขาพยายามจะทำอย่างนั้น


นี่เป็นเพราะตอนนี้เมื่อดุ๊กเดยังได้รับโทษที่เสียชีวิต หากไลยังได้รับโทษความเสียหายก็จะมากเกินไป


“ยกเลิกอัญเชิญไล!”


อย่างไรก็ตาม มีข้อความระบบที่แม้แต่เอียนก็ไม่สามารถเข้าใจได้โผล่ขึ้นมา!?


 


        ท่านไม่สามารถยกเลิกอัญเชิญ ‘ไล’ ได้

 


เมื่อเขาตกใจ เอียนแสดงอาการงุนงง


และเช่นนั้น หมาป่าทั้งสองก็พันกันอยู่บนอากาศ

 

 

 


ตอนที่ 119

 

ปัง-!


 


        สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้รับความเสียหายคริติคอล

        พลังชีวิตของ ‘ไล’ ลดลง 26,794 หน่วย

 


แน่นอน มันไม่เหมือนออร์วิลที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย


เนื่องจากไลก็กัดเขาอย่างสิ้นหวังเช่นกัน


อย่างไรก็ตามออร์วิลไม่ได้รับความเสียหายมากพอที่จะทำให้ตัวเองต้องตายอย่างแน่นอน ขณะที่ไลล้มตัวลงบนพื้นอย่างนั้นและกลายเป็นแสงสีเทา


“ไม่นะ ไลทำไมนายต้องทำอย่างนั้น… นายไม่สามารถชนะได้อีกแล้ว”


เอียนรู้สึกว่าเขากำลังร้องไห้อย่างไร้สาระ


ในท้ายที่สุดมันเป็นแค่เกม แต่ถึงกระนั้นก็เป็นเพราะความภักดีของไลนั้นค่อนข้างประทับใจ


ความไร้ประโยชน์ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว


‘อืมม แต่ทำไมข้อความระบบที่บอกว่าเขาตายไม่โผล่ขึ้นล่ะ?’


พลังชีวิตของไลเหลือ 0 อย่างแน่นอน


แผงคอสีแดงของเขาก็กลายเป็นแสงสีเทาและเขาก็แน่ใจว่ามันตาย แต่ข้อความไม่ปรากฏขึ้น


อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เอียนรู้สึกบางอย่างแปลกๆ


แทนที่จะมีข้อความแจ้งเตือนถึงความตายของมัน ข้อความของระบบที่แตกต่างจากนั้นก็โผล่ขึ้นมา


 


        พลังลับของ ‘หลุมโลหิต’ ถูกเปิดขึ้น

 


เอียนแสดงอาการงุนงง


‘อะไรกัน? หลุมโลหิตที่มันบอก… ฉันคิดว่ามันเวทมอนต์ที่ฉันได้รับมาจากเฟนเรียร์โลหิตแชลลอส’


มันเป็นไอเทมที่แชลลอสพูดว่าเป็นสัญลักษณ์ของสายเลือดโลหิต


เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาด เอียนเต็มไปด้วยความคาดหมาย


 


        พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ผ่านความแข็งแกร่งของหลุมโลหิต

 


กร๊าา-


และเมื่อเขาคิดว่ามันตาย ร่ายกายของไลเริ่มลอยขึ้นไปบนฟ้า


หวึ่งงง-!


และร่างกายของไลซึ่งย้อมด้วยสีเทา เริ่มเติทเต็มด้วยแสงสีขาวอย่างช้าๆ


นี่เป็นสถานการณ์ที่เอียนเคยเห็นมาหลายครั้งแล้วเช่นกัน


‘ไม่มีทาง…!’


เอียนรีบตรวจสอบสภาวะของไล


และหลังจากเห็นประโยคหนึ่งบรรทัดที่โผล่ขึ้นมาในแสงสีทอง เขาก็เปล่งเสียงแห่งความสุขออกมา


 


        วิวัฒนาการ

 


เอียนจ้องไปที่ออร์วิลที่จ้องมองไลจากระยะไกลด้วยความกังวล


‘แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาถูกโจมตีในขณะที่วิวัฒนาการและตายไป’


มันเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง


อย่างไรก็ตาม บางเหตุผลออร์วิลไม่ได้เคลื่อนไหวและมองร่างวิวัฒนาการของไลด้วยตาที่ว่างเปล่า


เช่นนั้นสักครู่หนึ่งสถานการณ์การปั่นประสาทยังคงดำเนินต่อไปและหลังจากนั้นไม่นานร่างกายของไลก็เปล่งประกายและแสงระเบิดออกมาในทุกทิศทาง


 


        หมาป่าสีเลือด ‘ไล’ ได้วิวัฒนาการเป็นเฟนเรียร์โลหิต

 


อาวู้ววววว-!


ซึ่งร่างของไลถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีแดง หอนไปบนอากาศและจ้องมองที่ออร์วิล


ชื่อของไลเปล่งแสงด้วยแสงสีม่วง


‘การวิวัฒนาการไประดับ Heroic โดยไม่ต้องผ่านระดับ Unique…!’


เอียนรู้สึกประทับใจ


เนื่องจากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เขาไม่มีเวลาเปิดหน้าต่างข้อมูลและเจาะลึกทุกอย่างทีละอย่าง แต่โดยการดูพลังที่รู้สึกได้จากไล เขาสามารถรู้สึกถึงความแข็งแกร่งได้อย่างแท้จริง


 


กร๊าาา-


หลังจากค้นพบไลซึ่งเข้ามาใกล้เขา ดวงตาของออร์วิลกลับมาสนใจอีกครั้ง


และเขาก็เริ่มเปล่งจิตวิญญาณที่ดุร้ายยิ่งกว่าเดิม


 


        แชลลอส… แชลลอสนั่นเป็นเจ้า…

 


เมื่อออร์วิลพูดเป็นครั้งแรก เสียงแหบพร้าทำให้เป็นเสียงเบาๆ


อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าประหลาดใจคือเสียงที่ไม่ใช่เสียงร้องของหมาป่า แต่เป็นเสียงที่เอียนสามารถเข้าใจได้ออกมาจากปากของไล


 


        ข้าไม่ใช่แชลลอสพี่ชาย

 


Kyaaoh-!


และเมื่อไลพูด แสงดวงตาของออร์วิลเปล่งแสงสีฟ้า


 


        ถ้างั้นก็ตายที่นี่แหละ!

 


Ta-tat-!


ออร์วิลปิดช่องว่างระหว่างไลกับเขาทันที


Bang- Ba-bang-!


อย่างไรก็ตาม แทนที่ไลจะหลบเขาก็ยังเห่าและเริ่มเผชิญหน้ากับออร์วิล


เท้าสองข้างของหมาป่าทำเสียงคล้ายกับการระเบิดและดวงตาทั้งสองของเอียนก็เบิกโพลงด้วยความไม่เชื่อ


‘ไม่นะ แม้ว่าไลจะได้รับการวิวัฒนาการ เขาก็ยังเป็นแค่ระดับ Heroic ดังนั้นเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนนะ?’


การสร้างความเสียหายที่เห็นในข้อความของระบบที่โผล่ขึ้นมาเช่นเดียวกับความสามารถในการต่อสู้ของเขาเกินพินหรือฮัลลิ


อย่างไรก็ตาม เอียนสามารถคิดได้ทันทีหลังจากเห็นไอคอนบัฟที่โผล่ขึ้นมาในหน้าต่างสถานะของไล


 


        บัฟ/แท่นบูชาของเฟนเรียร์ : ความสามารถการต่อสู้ทั้งหมด +150%

 


เท่านั้นเองแล้วมันยังอธิบายถึงความสามารถที่แข็งแกร่งไร้สาระของออร์วิล


‘ต้องเป็นบัฟที่จำกัดเฉพาะเฟนเรียร์ที่เปิดใช้งานในพื้นที่นี้เท่านั้น’


เอียนที่เข้าใจสถานการณ์ รีบสั่งคำสั่งให้พินและฮัลลิ


“พิน ฮัลลิ ช่วยไล!”


มันเป็นสถานการณ์ที่ได้รับบัฟเท่าๆกันทั้งไลและออร์วิลต่างก็เป็นเฟนเรียร์ ยิ่งไปกว่านั้นเลเวลของพวกเขาเหมือนกัน แต่อย่างใดเพราะออร์วิลเป็นระดับ Legendary ซึ่งเป็นอันดับที่สูงกว่าหนึ่งอันดับเมื่อเทียบกับของไล เขาตัดสินใจว่ามันจะยากสำหรับไลที่จะชนะ


และเมื่อฮัลลิและพินเข้าร่วม แม้แต่ออร์วิลที่เต็มไปด้วยความมั่นใจก็เริ่มถูกผลักดันทีละเล็กทีละน้อย


 


        ฮ่า ฉันไม่อยากจะเชื่อ…

 


ในเวลาไม่นานพลังชีวิตของออร์วิลก็เกือบจะถูกลดลงอย่างสมบูรณ์และหลักฐานของสิ่งนั้นคือชื่อของออร์วิลกระพริบอย่างรวดเร็ว


 


        สำหรับสายเลือดที่แท้จริงเป็นคนที่ตาบอดด้วยความบ้าคลั่ง ข้าไม่อาจยอมรับได้!

 


ตาทั้งสองของไลเริ่มเปล่งแสงสีแดง


และข้อความระบบดังขึ้นต่อหน้าของเอียน


 


        สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้ใช้ความสามารถแฝง ‘คำพิพากษาแห่งโลหิต’

        ค่าพลังชีวิตของไลที่ต่ำกว่าจะเพิ่มความสามารถทั้งหมดของเขาและถ้าพลังชีวิตของเขาลดลงต่ำกว่า 50% ความเสียหายทั้งหมด 50% ที่ทำกับฝ่ายตรงข้ามจะได้รับการฟื้นฟู

        ‘คำพิพากษาแห่งโลหิต’ มีระยะเวลา 5 นาที

 


Bang- Ba-bang-!


มันเป็นความสามารถแฝงของไลที่แม้แต่เอียนก็ไม่รู้


และการโจมตีผสานของสัตว์เลี้ยงทั้งสามตัว ในที่สุดออร์วิลก็ทรุดตัวลง


ตู้ม-


 


        ท่านได้สังหาร ‘เฟนเรียร์แห่งความมืดออร์วิล’ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 1,127,423 หน่วย

 


เมื่อข้อความระบบโผล่ขึ้นมา เอียนก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งใจเป็นครั้งแรก


“เฮ้อ นั่นไม่ใช่เรื่องตลกอย่างจริงจัง ฉันคิดว่าครั้งนี้ฉันกำลังจะตายอย่างช่วยไม่ได้…”


เอียนดูเหมือนจะหมดแรง เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ศพของออร์วิลอย่างช้าๆ


และเขาวางมือของเขาบนนั้น


 


        ท่านได้รับทอง 87,886 หน่วยจาก ‘เฟนเรียร์แห่งความมืดออร์วิล’

        ท่านได้รับ ‘ดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืด’

        ท่านได้รับ ‘จิตวิญญาณแห่งการแก้แค้นของเฟนเรียร์’

 


“ห้ะ…?”


หลังจากตรวจสอบชื่อของไอเทมที่เขาได้รับ ตาทั้งสองของเอียนเบิกโพลง


และบรราพวกมัน ตาของเอียนจับจ้องอยู่ที่ชื่อของไอเทมที่เรียกว่าดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืด


“ชื่อของมันเป็นสีแดง”


สีของชื่อไอเทมตัดสินระดับของมัน


และสีแดงเป็นสีเดียวกับไอเทมระดับ Legendary เหมือนกับเครื่องประดับศรีษะที่เอียนสวมอยู่บนหัวของเขา


‘ถ้าเป็นกรณีนั้น ถ้างั้น…!’


เอียนเปิดข้อมูลของไอเทม


 


*ดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืด


ประเภท – ดาบสองมือ


ระดับ – Legendary


จำกัดการสวมใส่ – ความแข็งแกร่งมากกว่า 650 หน่วย


มีเพียงอาชีพ ‘วอริเออร์’ เท่านั้นที่สามารถสวมใส่ได้


พลังโจมตี – 2585-3730 หน่วย


ความทนทาน – 175/175 หน่วย


คุณสมบัติ – ความสามารถการต่อสู้ทั้งหมด +85%


ความว่องไว +5


พลังแฝง


*การรุกล้ำแห่งความมืด


ในกรณีของการโจมตีมีโอกาส 30% สำหรับความมืดที่จะถูกปล่อยออกมาภายในรัศมี 5 เมตรรอบตัว ความมืดที่ปล่อยออกมาจะสร้างความเสียหายเทียบเท่ากับ 250% ของพลังโจมตีของคุณแก่ศัตรูและจะลดพลังป้องกันลง 30% เป็นเวลา 3 วินาที


*แผลลึก


จะไม่สามารถฟื้นฟูความเสียหาย 10% ของความเสียหายที่ได้รับจากดาบใหญ่ของเฟนเรียร์แห่งความมืดเป็นเวลา 30 นาที


*ผูกกับบัญชี


นี่คือไอเทมของผู้เล่น ‘เอียน’


ไอเทมนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนให้ผู้เล่นคนอื่นหรือขายและแม้ว่าตัวละครตาย มันจะไม่ดรอป


ดาบใหญ่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการแก้แค้นของแฟนเรียร์ในตำนาน


หากอยู่ในมือของนักรบผู้ยึดมั่นพวกเขาจะสามารถทะลุผ่านทุกสิ่งได้


 


“…”


เอียนแสดงอาการสลดใจ


คุณสมบัติของไอเทมได้แต่เพียงหัวเราะอย่างไร้สาระออกมา


แต่ปัญหาก็คือมันเป็นไอเทมที่เอียนไม่สามารถสวมใส่ได้


‘เหอะ… มันเป็นไอเทมพิเศษของอาชีพวอริเออร์…’


ยิ่งไปกว่านั้น เพราะว่าคุณสมบัติผูกกับบัญชี มันเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถขายมันได้อีกด้วย


‘เห็นได้ชัดว่าไอเทมระดับ Legendary ส่วนใหญ่จะลดลงตามผูกกับบัญชีและมันก็ถูกต้อง ถึงกระนั้นก็มีโอกาสที่ฉันจะใช้มันอย่างใดก็ตาม’


สำหรับตอนนี้ เอียนเอาความผิดหวังเขาออกไปและหยิบจิตวิญญาณแห่งการแก้แค้นของเฟนเรียร์ยกขึ้น


และเหมือนกับแชลลอส ข้อความระบบเริ่มโผล่ขึ้นมา


 


        ท่านได้ปลดปล่อย ‘จิตวิญญาณแห่งการแก้แค้นของเฟนเรียร์’ ที่ถูกครอบงำโดยความบ้าคลั่ง

 


ลูกแก้วสีดำที่เหลืออยู่บนมือเอียนลอยขึ้นบนอากาศและเริ่มทำเงาสีดำ


และตามที่แชลลอสพูด มีวิญญาณที่มีรูปร่างโปร่งแสงลอยไปลอยมา


ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือถ้าวิญญาณแห่งการแก้แค้นของแชลลอสมีหลายสี ถ้างั้นวิญญาณแห่งการแก้แค้นของออร์วิลก็จะเป็นสีเทาอ่อน


 


        ขอบใจเจ้านะมนุษย์

 


เมื่อออร์วิลพูด เอียนพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย


“ฉันเกือบตาย”


ออร์วิลพูดต่อ


 


        ข้าไม่สามารถเชื่อความจริงที่ว่าคนที่ช่วยชีวิตข้าให้พ้นจากความบ้าคลั่งเป็นมนุษย์

 


และเขาหันไปจ้องมองไลที่ยืนข้างเอียน


 


        เจ้าเป็นคนที่สืบทอดพลังแฝงหรือสายเลือดของแชลลอสหรอ?

 


ไลตอบ


 


        ใช่ ข้าสืบทอดพลังแฝงของเขา

 


ออร์วิลจ้องมองไลด้วยสายตาทิ่มแทง


และหลังจากนั้น เขาพูดอีกครั้ง


 


        เจ้า…แข็งแกร่ง บางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าแชลลอสในอดีต

 


สายตาของทั้งสองเฟนเรียร์พบกันกลางอากาศ


ที่ร่างของไลซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ ออร์วิลก็ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ


 


        โฮโฮ่ ดี ถ้าเจ้าสืบสายเลือด อย่างน้อยเจ้าต้องมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เช่นนั้น

 


ออร์วิลหันกลับมาหาเอียนและพูดต่อ


 


        มนุษย์ เจ้าชื่อว่าอะไร?

 


เอียนที่ได้รับความตกใจจากความจริงที่ไลพูดและแสดงท่าทางงุนงงก่อนที่เขาจะตอบ


“ผมชื่อเอียน”


 


        อ้อ เอียน ขอบใจเจ้านะ วิญญาณของข้าสามารถเป็นอิสระได้แล้ว ขอบใจนะ

 


“ไม่เป็นไรครับ”


เขาพูดอย่างนั้น แต่เอียนจ้องที่ออร์วิลด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง


‘เนื่องจากฉันวิวัฒนาการไลแล้ว ฉันสงสัยว่สฉันจะได้รับอะไรจากไอนี่’


สิ่งที่ออร์วิลมอบให้กับเขานั้นเป็นทรงกลมที่มีลักษณะคล้ายกับไอเทมที่แชลลอสมอบให้เอียนรวมถึงสิ่งที่ทำให้ไลสามารถวิวัฒนาการได้


 


        ท่านได้รับไอเทม ‘หลุมแห่งความมืด’

 


เอียนตอบพึมพัม


“นี่…”


ออร์วิลพูดอีกครั้ง


 


        นี่คือไอเทมที่แสดงถึงสายเลือดแห่งความมืด เท่าที่การสังเกตของข้าดูเหมือนว่าเจ้าจะได้รับไอเทมของสายเลือดจากแชลลอสแล้ว

 


เอียนพยักหน้า


“ใช่ครับ”


ออร์วิลจ้องมองไลที่ยืนตรงนั้นและยิ้ม


 


        บางที… อาจเป็นไปได้ว่าในความหมายที่แท้จริงของคำว่าเจ้าอาจกลายเป็นสายเลือดที่แท้จริงเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี

 


“หืมม…?”


เมื่อเอียนที่ไม่เจ้าใจสิ่งที่เขาพูด เอียงศรีษะของเขา ออร์วิลชี้ไปที่ไหนที่หนึ่ง


และนั่นมีวัตถุทรงกลมสีขาวบริสุทธิ์นั้นลอยอยู่บนอากาศ


“อะไรนั่น?”


 


        เจ้าจะรู้เมื่อเจ้าเห็นมันมนุษย์

 


ไอเทมทรงกลมเริ่มขึ้นไปบนฟ้าทีละน้อยและแสงที่ส่องสว่างจากกองหินที่ยุบตัวและเริ่มถูกดูดเข้าสู่ทรงกลม


“โอ้…”


มันยังไม่ถึงบ่าย 1 แต่ต้องขอบคุณออร์วิล ท้องฟ้าก็ยังมืดและวัตถุสีขาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าสีดำทำให้ระลึกถึงพระจันทร์เต็มดวงสีขาวสว่าง


 


        สำหรับครั้งแรกใน 100 ปี พลังทั้งสามได้รวบรวมในหนึ่งที่

 


เอียนที่ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดจ้องไปที่ออร์วิลด้วยอาการว่างเปล่าและออร์วิลหัวเราะ


‘อะไรวะเนี่ย? มันคืออะไร?’


อย่างไรก็ตาม จากนั้น


เสียงโหยหวนขนาดใหญ่ที่เทียบไม่ได้กับอะไรจากก่อนที่จะดังออกมาจากข้างเอียน


อาวู้ววว-!


เอียนผู้สะดุ้ง หันมามอง


และไลที่เริ่มเปล่งแสงไปทั่วทุกทิศ ยืนอยู่ตรงนั้น


 


        ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าครึ่ง แต่ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นของจริง

 


ออร์วิลพึมพัมด้วยเสียงที่เย้ยหยันตัวเอง


และแสงที่ทรงพลังจากทรงกลมสีขาวที่ลอยอยู่บนอากาศก็เริ่มเทลงบนไล


“โอ้โห…!


เอียนหยีตาเล็กน้อยด้วยแสงที่ทำให้มองไม่เห็น


อย่างไรก็ตาม ข้อความระบบที่เขาไม่สามารถเชื่อได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียนที่เปิดตาเล็กน้อย


 


        เฟนเรียร์โลหิต ‘ไล’ วิวัฒนาการเป็น ‘ราชันของเฟนเรียร์’ 

 

 


ตอนที่ 120

 

Ba-ang-!


ทันทีที่ข้อความที่ว่าวิวัฒนาการของไลนั้นดังขึ้นอย่างสมบูรณ์ การระเบิดครั้งใหญ่ของไลซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของมันและคลื่นสีขาวบริสุทธิ์ก็กระจายตัวออกไปทุกทิศทาง


“โห….”


เอียนรู้สึกว่าสมองของเขาว่างเปล่า


‘การวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง…’


ถ้าไปที่วิวัฒนาการเป็นระดับ Heroic วิวัฒนาการอีกครั้ง จากนั้นอย่างน้อยเขาจะเป็นระดับ Legendary


เอียนแสดงออกถึงความตื่นเต้นเนื่องจากมีข้อความระบบสองข้อความโผล่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง


 


        ไอเทม ‘หลุมแห่งโลหิต’ ถูกดูดซับโดยสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ และได้หายไป

        ไอเทม ‘หลุมแห่งความมืด’ ถูกดูดซับโดยสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ และได้หายไป

        ไอเทม ‘หลุมแห่งดวงจันทร์’ ถูกดูดซับโดยสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ และได้หายไป

 


สามรัศมีของแสงถูกดูดเข้าไปหาไล


และในที่สุด การมองเห็นทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีขาว


Chwaaak-!


ความมืดที่ปกคลุมพื้นที่นั้นอย่างสมบูรณ์หายไปและเอียนก็สามารถเห็นร่างของไลซึ่งปกคลุมไปด้วยแสงและมองไม่สามารถเห็นได้อย่างสมบูรณ์


สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของเขาก็คือหลังของเขาเหยียดตรงเมื่อเปรียบเทียบกับเฟนเรียร์ตัวอื่น กรงเล็บยาวและแหลมที่ยื่นออกมาจากเท้าหน้าของเขาและท้ายที่สุดความจริงที่ว่าร่างกายของเขาถูกเผาไหม้เหมือนกับว่าเขาถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟ


และเปลวไฟไม่ได้เป็นเพียงแสงสีแดงธรรมดา แต่เป็นสีขาวบริสุทธิ์


‘เขากำลังยืนอยู่บนสองเท้าแต่เรียกจะเขาว่าเป็นมนุษย์หมาป่า… ใบหน้าของเขายังเป็นหมาป่าโดยสมบูรณ์…’


ในขณะที่ชื่นชมร่างของไลซึ่งพัฒนาขึ้นมาอย่างน่าประทับใจ ข้อความระบบอันใหม่ก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน


 


        ท่านได้รับสัตว์เลี้ยง ‘ร่างสมบูรณ์’ เป็นครั้งแรก

        ท่านได้รับชื่อเสียง 100,000 หน่วย

 


‘ห้ะ? อะไรคือร่างสมบูรณ์?’


ได้ยินเสียงแหบของออร์วิลผ่านหูของเอียนซึ่งจิตของเขาอยู่ทั่วสถานที่เพราะมีเหตุการณ์ต่างๆมากมายเกิดขึ้นพร้อมกัน


 


        สวัสดีท่านลอร์ด

 


ในขณะที่เขาเป็นวิญญาณครึ่งล่างของร่างกายของเขาหายไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถคุกเข่าได้ แต่ออร์วิลก้มศีรษะของเขาอย่างสุภาพและแสดงความเคารพต่อไล


และข้อความแจ้งเตือนเอียนที่เขาสำเร็จเควสต์โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเขา


กริ๊ง-


 


        ท่านได้สำเร็จเควสต์ของเฟนเรียร์โลหิต ‘แชลลอส’

        ระดับการเคลียร์ – S

        ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 28,978,900 หน่วย

        ท่านได้รับทอง 279,000 หน่วย

 


เมื่อได้รับรางวัลเควสต์ระดับ S อย่างมหาศาล เอียนรู้สึกเหมือนเขาถูกล็อตเตอรี่


นี่เป็นเพราะถึงแม้ว่าเขาจะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่สิ่งที่เขาได้รับนั้นมากมายเมื่อเปรียบเทียบ


แน่นอนว่าเขาชอบรางวัลค่าประสบการณ์และทอง แต่ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอียนคือไลได้วิวัฒนาการสองครั้งด้วยความเร็วสูงสุดในครั้งเดียว


เอียนเปิดหน้าต่างค่าสถานะของไลด้วยยิ้มกว้าง


 


*ไล (ราชันแห่งเฟนเรียร์)


เลเวล : 120


ประเภท : สัตว์นักล่า


ระดับ : Legendary


บุคลิกภาพ : กล้าหาญ


ร่างสมบูรณ์


พลังโจมตี : 3,660


พลังป้องกัน : 1,458


ความว่องไว : 2,154


สติปัญญา : 1,214


พลังชีวิต : 51,022/51,022


 


*พลังแฝง


*ดูดซับพลังชีวิต


ความเสียหาย 25% ของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่ต่อสู้จะถูกดูดซับเป็นพลังชีวิตของเขาและหากทำความเสียหายคริติคอล 70% ของความเสียหายนั้นจะถูกดูดซับเป็นพลังชีวิตของเขา


*ความโกรธของเฟนเรียร์ (เวลาคูลดาวน์ 10 นาที)


จะเข้าสู่สถานะ ‘โกรธ’ เป็นเวลา 3 นาทีและความสามารถในการต่อสู้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 50% และโอกาสการโจมตีคริติคอลจะเพิ่มขึ้น 20%


เมื่อใดก็ตามที่ทำความเสียหายคริติคอลให้กับคู่ต่อสู้ เวลาคูลดาวน์ของ ‘ความโกรธของเฟนเรียร์’ จะลดลง 5 วินาที


*การรุกล้ำแห่งความมืด (เวลาคูลดาวน์ 30 นาที)


จะเข้าสู่สถานะ ‘การรุกล้ำแห่งความมืด’ เป็นเวลา 3 นาที


เมื่อเข้าสู่สถานะการรุกล้ำแห่งความมืด การโจมตีทั้งหมดจะเป็นการโจมตีคริติคอลและ 70% ของความเสียหายทั้งหมดจะถูกลบล้าง


ขณะที่อยู่ในการรุกล้ำแห่งความมืด การเคลื่อนไหวทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 50% (สามารถใช้ในความมืดเท่านั้น)


*ทายาทแห่งดวงจันทร์ (ติดตัว)


ถ้าได้รับแสงจันทร์ การเคลื่อนไหวทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 30% และ 3% ของพลังชีวิตสูงสุดจะถูกฟื้นฟูต่อวินาที


ราชันแห่งเฟนเรียร์เป็นผู้ปกครองของหมาป่าทั้งหมดและเป็นเพียงเฟนเรียร์ตัวเดียวในโลก


 


‘ว้าว…’


ความสามารถที่ชั่วร้ายนี้ทำให้เขาพูดไม่ได้และจากพลังแฝงอันเลิศเลอทุกอย่างไม่มีอันไหนสิ้นเปลือง


‘ตอนนี้ฉันสงสัยว่าฉันควรนอนระหว่างวันแล้วเล่นเกมตอนกลางคืน’


สกิลการรุกล้ำแห่งความมืดควรใช้ในความมืดเช่นเดียวกับสกิลติดตัวทายาทแห่งดวงจันทร์ซึ่งใช้ได้เพียงระหว่างตอนกลางคืนเท่านั้น


เพราะว่าทั้งสองพลังแฝงนั้นดีมาก เอียนกำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่าเขาควรเปลี่ยนเวลาที่เขาเล่นเกมหรือไม่


‘นอกเหนือจากการดูดซับพลังชีวิต พลังแฝงทั้งหมดที่เขามีก่อนที่จะวิวัฒนาการจะหายไป ถึงกระนั้นก็ดีเนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงอยู่…’


สกิลดูดซับพลังชีวิตที่ฟื้นฟูส่วนหนึ่งของความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากพลังชีวิตเป็นสกิลสำคัญที่เสริมให้ข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดของไลคือพลังชีวิตที่อ่อนแอของเขา


พลังชีวิตของเขาตอนนี้ประมาณ 50,000 หน่วยแต่มันก็ยากที่จะบอกว่ามันเพียงพอถ้าความจริงที่ว่าเขาเป็นระดับ Legendary และเลเวล 120 ถูกการพิจารณา ดังนั้นสกิลดูดซับพลังชีวิตจะครอบคลุมส่วนนี้


และเพื่อที่จะหาความหมายของ ‘ร่างสมบูรณ์’ ซึ่งเขาอยากรู้อยากเห็นเขาจึงเปิดแท็บความช่วยเหลือ


‘ร่างสมบูรณ์มาจากอะไร? แม้ว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายก็ตาม’


และ ‘ร่างสมบูรณ์’ ถูกสร้างขึ้นใหม่ในแท็บความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับการวิวัฒนาการ


 


*ร่างสมบูรณ์ของสัตว์เลี้ยง


มอนสเตอร์ทุกตัวมีร่างสุดท้าย


เมื่อมอนสเตอร์ที่ถูกจับ ประโยคที่ว่า ‘สามารถวิวัฒนาการได้’ หรือ ‘ไม่สามารถวิวัฒนาการได้’ ถูกเขียนในหน้าต่างข้อมูล แต่ถ้าหนึ่งในสองประโยคที่มีการเขียนก็หมายความว่ายังมีสายพันธุ์ที่มีระดับสูงกว่าอยู่อีกภายในสายพันธุ์เดียวกันกับมอสเตอร์นั้นๆ


ในกรณีของ ‘ไม่สามารถวิวัฒนาการได้’ จะมีเผ่าพันธุ์ที่มีระดับสูงกว่า แต่ก็หมายความว่าสัตว์ที่เกี่ยวข้องนั้นไม่สามารถวิวัฒนาการได้และในกรณีของ ‘สามารถวิวัฒนาการได้’ หมายความว่ามันสามารถวิวัฒนาการเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีระดับสูงกว่าได้


สุดท้ายในกรณีของ ‘ร่างสมบูรณ์’ หมายความว่าไม่มีเผ่าพันธุ์ที่สูงกว่าอื่นๆภายในเผ่าพันธุ์ที่เกี่ยวข้องที่สามารถวิวัฒนาการได้อีกแล้ว


ในคำอื่นๆตามความหมายของมอนสเตอร์ร่างสมบูรณ์คือมันเป็นสัตว์ระดับสูงสุดของสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง


‘ดังนั้นมันหมายความว่าไลได้วิวัฒนาการไปสู่ขั้นสูงสุดอย่างสมบูรณ์แบบที่เขาสามารถเป็นหมาป่าได้!’


เมื่อเขาคิดเสร็จ เขาก็อยากรู้อยากเห็นต่อระดับ ‘Mythological’ ซึ่งเป็นระดับที่ยังคงปกปิดอยู่ทุกทิศทาง


‘ถ้าไลเป็นระดับ Legendary เป็นร่างสมบูรณ์ในสายพันธุ์หมาป่า นั่นหมายความว่าไม่มีสัตว์ตัวไหนที่สามารถวิวัฒนาการเป็นระดับ Mythological หรอ?’


Orvil approached Ian, who was swamped by different thoughts.


ออร์วิลเข้าหาเอียนซึ่งคิดอะไรต่างๆนาๆ


 


        ถ้างั้น ข้าคิดว่าช่วงของข้ามันจบลงแล้ว มนุษย์ซัมมอนเนอร์

 


เมื่อออร์วิลพูด เอียนพยักหน้าและตอบกลับ


“โอเค ขอบคุณนะ”


 


        ข้าต่างหากที่ควรขอบคุณสำหรับการได้รับอิสระเป็นของขวัญ

 


เมื่อเขาพูด วิญญาณของออร์วิลหายไปในอากาศ


หลังจากออร์วิลหายไป เอียนหันหน้าไปหาไลอีกครั้ง


และเอียนที่คิดบางสิ่งได้ทันทีแล้วพูดกับไล


“แต่ว่าไลนายสามารถพูดได้ไง?”


เอียนจ้องไลด้วยตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย


ไลตอบสนองความหวังของเขา


 


        ครับนายท่าน

 


การแสดงออกของไลและวิธีการพูดคุยที่รู้สึกหยิ่งผยอง


อย่างไรก็ตามในสายตาของเอียนผู้ซึ่งเคยร่วมงานกับไลมาหลายครั้ง ตั้งแต่อายุยังน้อย (?) เขาแค่ดูน่ารัก


Rub-rub-


เอียนที่ลูบหัวไลหนึ่งครั้ง รีบใช้หินย้อนกลับ


สถานที่ที่เขาจะไปก็คือหมู่บ้านโอลิบัส


‘เนื่องจากอาจมีอะไรบางอย่างที่มาจากอิคาเอลผู้อาวุโสคนนั้น อย่างน้อยฉันควรไปเยี่ยมเขา’


ความจริงแล้วเควสต์นั้นดำเนินไปอย่างชาญฉลาด ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไปหาอิคาเอลอีกครั้ง แต่สัญชาตญาณของเอียนบอกให้เขาไปเยี่ยมอิคาเอลเพียงครั้งเดียวด้วยเหตุผลแปลกๆ


 


* * *


 


สิ่งแรกที่เอียนซึ่งไปถึงหมู่บ้านโอลิบัสได้ตรวจสอบข้อมูลของหมู่บ้าน


เอียนไม่ลืมเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้หมู่บ้านโลตัส


‘อืมมม… ความสัมพันธ์ของพวกเรามากกว่า 30% แล้ว’


เนื่องจากความสัมพันธ์เมื่อเขาพบครั้งแรกมันอยู่ประมาณ 20% มันเพิ่มขึ้นมากกว่า 10%


เพื่อที่จะทำให้หมู่บ้านโอลิบัสเป็นโลตัส เขาต้องเพิ่มมันให้สูงขึ้นประมาณ 70% ดังนั้นจึงดูเหมือนว่ามันยังค่อนข้างไกล แต่เอียนไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น


‘เนื่องจากฉันยืนยันว่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเควสต์ ฉันควรเปิดเผยที่ตั้งของหมู่บ้านต่อสมาชิกกิลด์และบอกให้พวกเขาทำเควสท์ที่นี่’


พวกเขาอาจจะไม่ได้รับอิทธิพลอย่างมากต่ออความสัมพันธ์เท่าเอียนที่เคยประสบความสำเร็จเควสต์ระดับ S แต่ถ้าสมาชิกกิลจำนวนมากได้เข้าร่วม เขาก็รู้สึกว่าพวกเขาสามารถเติมเต็ม 70% ได้อย่างรวดเร็ว


‘เงื่อนไขพลังของทหารในตอนนี้เกือบจะเสร็จแล้ว กองทหารที่อยู่ในการฝึกฝนจะต้องได้รับการจัดตั้งขึ้น’


เมื่อทำแผนคร่าวๆ อารมณ์ของเอียนก็ดีขึ้นและเสียงฝีเท้าเบาๆ เขาเดินไปที่บ้านของอิคาเอล


และอิคาเอลที่เจอเอียน ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น


ปฏิกิริยาแรกของอิคาเอลคือสิ่งนี้


“โฮะโฮะ จัดการกับผู้ปกครองของเฟนเรียร์ด้วยสัตว์เลี้ยงของเจ้า ยินดีด้วยนะเอียน”


“ขอบคุณครับ ต้องขอบคุณไล ผมก็สามารถทำเควาต์ให้สำเร็จได้ในหลายๆวิธี ผมโชคดีมากๆ”


เมื่อเอียนพูด อิคาเอลส่ายหน้าและยิ้มอย่างอบอุ่น


“ไม่ใช่เลย ทั้งหมดนี้คือความสามารถของเจ้า ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆบนโลกหรอก”


และอิคาเอลที่ถามเอียนต่างๆเกี่ยวกับการต่อสู้กับออร์วิล จู่ๆก็ปลี่ยนเรื่อง


“อ่อ จะพูดไปแล้วเอียน”


“ครับ?”


“จากที่ข้าได้ยินมาจากกริปเปอร์ เขาบอกว่าเจ้าก็เป็นขุนนางของอาณาจักรลัสเปล… ใช่ไหม?”


เอียนพยักหน้าและตอบ


“ครับผม แต่เกี่ยวอะไรกับมันหรอครับ…?”


แทนที่จะตอบ อิคาเอลดึงม้วนกระดาษที่ทำจากหนังสีแดงที่ม้วนขึ้นมาจากอกของเขาแล้วส่งให้เอียน


“นี่เป็นจดหมายที่ฉันส่งถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ามีเหตุผลที่จะไปที่พระราชวัง เจ้าจะให้สิ่งนี้กับท่านได้หรือไม่”


เอียนแทบบังคับให้เขาไม่ยิ้มได้


‘ฮ่าฮ่า! ตามที่คาดไว้ ฉันรู้ว่าจะต้องมีบางสิ่งที่จะปรากฏขึ้นมา!’


จดหมายจะถูกส่งไปยังราชา


แม้จะมองคร่าวๆ มันก็ทำให้ได้กลิ่นเควสต์ใหม่ของอาณาจักร


“แน่นอน ผมจะไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และส่งจดหมายให้ท่าน”


“ขอบคุณเจ้านะเอียน อย่างไรก็ตามมันเป็นจดหมายสำคัญอย่างมาก เจ้าต้องเป็นคนที่นำไปให้ท่านเป็นการส่วนตัว”


เอียนพยักหน้าและรับจดหมาย


“เข้าใจแล้วครับ”


และตามที่เอียนทำนายไว้ เควสต์อาณาจักรโผล่ขึ้นมาต่อหน้าเอียน


กริ๊ง-


 


*ความชื่นชอบของอิคาเอล


อิคาเอลกำลังประเมินคุณสูงอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากชนะออร์วิลที่ถูกปลุกขึ้นมา


เขาได้ทิ้งเอกสารสำคัญของอาณาจักรไว้กับคุณแล้ว


มอบเอกสารนี้ให้กับราชาของอาณาจักรลัสเปล


ระดับความยากเควสต์ : ไม่มี


เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ได้การยอมรับจากอิคาเอล


เวลาจำกัด : ไม่มี


รางวัล : ไม่ทราบ


 


‘ฉันชอบส่วนที่ไม่มีเวลาจำกัดมากที่สุด’


ก่อนอื่น เนื่องจากมีบางสิ่งที่เอียนจำเป็นต้องทำ เขาจึงไม่ได้ตั้งใจที่จะไปยังเมืองของอาณาจักรทันที


แคปซูลรุ่นใหม่ลอยอยู่ต่อหน้าของเอียน


‘ฉันควรติดต่อฟิโอลัน’


เอียนไปที่ลุ่มแม่น้ำฟอลัน 

 

 


ตอนที่ 121

 

“เอียน นายดูมั่นใจนะวันนี้”


ทั้งสองคนยืนอยู่ด้านหน้าของดันเจี้ยนฟอลัน


เมื่อฟิโอลันพูด เอียนยิ้ม


“ฉันมีกำลังเสริมที่ฉันสร้างไว้น่ะ”


“กำลังเสริม?”


เพราะว่าฟิโอลันไม่เคยเห็นเอียนพูดแบบนี้มาก่อน เธอแสดงออกถึงการตกใจเล็กน้อย


“ใช่ ฮุฮุ”


“มันคืออะไร?”


“ฉันจะแสดงให้เธอเห็นเมื่อเราเข้าไป”


ก่อนที่เอียนจะเข้าไปในดันเจี้ยน เขาตรวจสอบอันดับรายชื่อการเคลียร์ดันเจี้ยน


เพราะว่ามันนานมาแล้วตั้งแต่เขามาที่ฟอลัน เขาอยากรู้เกี่ยวกับสถิติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น


‘ไหนดูสิมีใครที่มาทำลายสถิติของฉันไหม?’


และเอียนที่ตรวจสอบสถิติแสดงอาการผ่อนคลาย


นี่เป็นเพราะหน้าต่างอันดับไม่ได้เต็มไปด้วยชื่อของเอียนเหมือนเมื่อก่อน แต่ชื่อของเอียนและฟิโอลันยังเฉิดฉายอยู่อันดับที่ 1


‘ยังคงมีความแตกต่างเกือบ 3 นาทีกับอันดับที่ 2 ฉันควรสร้างความแตกต่างที่เหมาะสมระหว่างเราในวันนี้’


เอียนหันความสนใจมาหาฟิโอลัน


“เธอสามารถเล่นห้ารอบต่อวันในวันนี้ได้ใช่ไหม?”


เมื่อเขาพูด ฟิโอลันพยักหน้าราวกับว่าเธอรอคำนี้อยู่


“แน่นอน ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะสามารถผูกขาดนายจากทุกคนได้ยังไง?”


ฟิโอลันขยิบตาเมื่อเธอพูด


เอียนยิ้มเมื่อเขาเริ่มเดิน และข้อความระบบที่แจ้งเตือนทั้งสองคนที่เข้าไปข้างในโผล่ขึ้นมาต่อหน้าทั้งสองคน


 


        ท่านได้เข้าสู้ดันเจี้ยน ‘หลุมศพของฮีโร่แห่งฟอลัน’

 


* * *


 


เอียนและฟิโอลันไม่เพียงแค่ผ่านดันเจี้ยนฟอลันครั้งเดียวหรือสองครั้ง


ยิ่งกว่านั้นทั้งสองคนได้ล่าหลายร้อยครั้งจนถึงตอนนี้และปรับตัวเข้าหากันผ่านสิ่งนั้น


ราวกับว่าพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาเป็นปาร์ตี้ที่มีสถิติสูงสุดในปัจจุบัน เอียนและฟิโอลันขยับอย่างเชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มต้น


ตามปกติเอียนจะใช้ฮัลลิทะลุผ่านหุบเขาอย่างรวดเร็วและเข้าไปในหลุมรุดหน้าไปยังช่วงหลัก ขณะที่ฟิโอลันใช้การเคลื่อนที่เว้นช่องว่างและตามเอียน


เมื่อถึงจุดนี้ มันไม่แตกต่างจากเมื่อก่อน


อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เอียนอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมด ตาของฟิโอลันเบิกโพลง


กร๊าา-


เธอได้เห็นไลที่รูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์


“เอียน ไลวิวัฒนาการหรอ?”


เอียนหัวเราะเมื่อเขาพยักหน้า


“ใช่ เขาวิวัฒนาการหลังจากเควสต์ของเราเมื่อเร็วๆนี้ เธอสามารถคาดหวังกับเขาได้นะ”


เอียนหันหน้าไปหาไล


“ไล กำจัดพวกมันให้สิ้นซาก”


 


        รับทราบครับท่าน

 


ในช่วงแรกซึ่งเป็นมอนสเตอร์ของหุบเขา เรคและพินกำจัดพวกมันในทันทีด้วยการโจมตีผสานของพวกมันเหมือนก่อน


พวกมันจัดการกับมอนสเตอร์ที่ออกมาจากหุบเขาแคบๆด้วยการใช้การโจมตี AoE ของพวกมัน


อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันใช้สกิล AoE ทั้งหมดเช่นนี้มาก่อน ช่วยไม่ได้ความเร็วในการล่าจะลดลงจนกว่าเวลาคูลดาวน์จะสิ้นสุดลง แต่เอียนวางแผนที่จะทิ้งส่วนนี้ให้กับไล


อาวู้วว-!


เสียงหอนของไลดังไปทั่ว


 


        สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้ใช้พลังแฝง ‘ความโกรธของเฟนเรียร์’

        ความสามารถการต่อสู้ทั้งหมดของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ จะเพิ่มขึ้น 50%

        อัตราการโจมตีคริติคอลของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ จะเพิ่มขึ้น 30%

 


เปลวเพลิงสีขาวที่ปะทุออกมาจากร่างของไลเริ่มเผาอย่างรุนแรงขึ้น


และทันทีที่เริ่มช่วงที่สอง ไลก็เริ่มกระโดดไปรอบๆ


“เอียน ฉันแค่ต้องปกป้องแท่นบูชาของฮีโร่เหมือนเมื่อก่อนหรอ?”


เมื่อฟิโอลันพูด เอียนส่ายหน้า


“ไม่ เธอแค่ต้องสู้ ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับแท่นบูชาและแค่ทำดาเมจ ฉันคิดว่าเราสามารถป้องกันไม่ให้พวกมันมาถึงที่นี่ได้”


ตามที่เอียนพูด


ราวกับว่าไลกำลังเผชิญหน้ากับเด็กๆ เขาเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่หลั่งไหลออกมาจากทุกทิศทุกทาง


“ถ้างั้นฉันจะใช้ม่านน้ำแข็งนะ”


“โอเค!”


เมื่อความสามารถการต่อสู้ทั้งหมดของไลที่มีค่าสถานะเหลือเชื่อเพิ่มขึ้น 50% แล้ว มันก็มีพลังการต่อสู้ที่มหาศาล


แคว่กก-!


เมื่อใดก็ตามที่ไลลงเล็บด้วยอุ้งเท้าหน้าขนาดใหญ่ มอนสเตอร์ที่มีพลังชีวิตอ่อนแออย่างสโนว์การ์กอยล์ก็ถูกฆ่าตายทันที


 


        สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ สร้างความเสียหายให้สโนว์การ์กอยล์

        พลังชีวิตของสโนว์การ์กอยล์ลดลง 20,795 หน่วย

        เมื่อสัตว์เลี้ยงไลโจมตีสร้างความเสียหายคริติคอลให้กับคู่ต่อสู้ เวลาคูลดาวน์ของพลังแฝง ‘ความโกรธของเฟนเรียร์’ ลดลง 5 วินาที

        ท่านได้สังหาร ‘สโนว์การ์กอยล์’

        ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 17,492 หน่วย

 


เวลาคูลดาวน์ของสกิลความโกรธของเฟนเรียร์คือ 10 นาที


และระยะเวลาของมันคือ 3 นาที


จากนั้นนั่นหมายความว่าเมื่อมันผ่านไปแล้วมันไม่สามารถใช้งานได้ 7 นาที แต่ต้องขอบคุณผลเพิ่มเติมที่แนบมากับความโกรธของเฟนเรียร์ ‘เวลาคูลดาวน์ 5 วินาทีถูกฟื้นฟูเมื่อใดก็ตามที่สร้างความเสียหายคริติคอล’ เขาสามารถฟื้นฟูได้เกือบทั้งหมด ของเวลาคูลดาวน์ใน 3 นาที


ในท้ายที่สุด มันหมายความว่าความสามารถมันสามารถใช้ได้ไม่มีจำกัด


“ไล ใช้การรุกล้ำแห่งความมืดหลังบอสออกมา”


 


        ข้าจะทำเช่นนั้นครับท่าน

 


ศักยภาพของไลนั้นดีมาก แต่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆของเอียนก็ทำหน้าที่ของตนได้ดีเช่นกัน


หากไม่รวมไลที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงคือพลังการต่อสู้ของพินที่เพิ่มเลเวลขึ้นมากและใกล้เคียงกับเลเวล 110


ราวกับว่าพินพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาก็เป็นสัตว์เลี้ยงในระดับ Legendary เขาก็ฆ่ามอนสเตอร์ที่เทออกมาโดยไม่เลือกปฏิบัติ


‘หากเป็นกรณีนี้ไม่มีเหตุผลที่จะรวบพวกมันก่อนที่จะฆ่าพวกมัน’


ราวกับว่าพวกเขากำลังกินข้าวโพดคั่วด้วยสายฟ้า ฟิโอลันก็รู้สึกงุนงงเมื่อเธอมองเอียนซึ่งได้จัดการแม้แต่ช่วงที่สองในทันที


“ฉันยังไม่แม้แต่จะร่ายถึงสามสกิล แต่ช่วงที่สองก็จบลงแล้ว”


ช่วงที่สองจบก่อนที่จะถึง 10 นาที


แม้แต่เอียนที่ตรวจสอบสถิติก็แสดงความพึงพอใจ


 


00:08:15

 


“เพียงเวลาที่เราลดลงจากที่นี่เป็นเวลามากกว่า 3 นาที แม้ว่าเราจะทำต่อไปเหมือนที่เราทำตามปกติมันก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะได้ระดับ S”


มันเป็นอย่างที่เอียนพูด


หากเขานึกถึงสถิติที่ใช้เวลา 13 นาทีถึงช่วงที่สองเมื่อเขาท้าทายสิ่งนี้กับฟิโอลัน มันเป็นความเร็วที่เร็วมากอย่างแท้จริง


“เหอะ… นายแน่ใจหรอว่าเราจะไม่ถึง 20 นาทีน่ะ?”


เวลาจำกัดสำหรับระดับ S คือ 25 นาที


อย่างไรก็ตามหากพวกเขาลดเวลาอย่างต่อเนื่องด้วยพลังเช่นนี้ พวกเขารู้สึกว่ามันเป็นไปได้ที่จะเคลียร์ภายใน 20 นาที


เอียนยิ้มและยืนขึ้นอีกครั้ง


“ลองดูมั้ยล่ะ?”


และระหว่างที่สองคนคุยกัน ช่วงที่สามได้เริ่มขึ้น


 


        ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง’ ตื่นขึ้นจากการหลับไหล

 


เอียนจัดการความคิดของเขา


‘แต่เดิมนี้เป็นช่วงที่ฉันต้องพึ่งพาการทำให้สตันที่ไม่มีที่สิ้นสุดของฮัลลิ แต่ตอนนี้ฉันน่าจะสามารถฆ่าพวกมันทีละตัวโดยไม่ต้องทำอย่างนั้น’


มันเป็นแผนที่เป็นไปได้ต้องขอบคุณพลังโจมตีของสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งมาก


ทันทีที่ยักษ์ปรากฏขึ้น เอียนก็เริ่มโจมตียักษ์ทางขวาซึ่งมีพลังชีวิตอ่อนแอที่สุดในสามตัวนั้น


“ดุ๊กเด ผูกมันไว้สองตัวด้วยหลุมอเวจีสักพักหนึ่ง!”


Deu-reu-reuk-!


เมื่อเอียนพูด ดุ๊กเดเคลื่อนไหวและใช้หลุมอเวจีที่เขาเก็บไว้และทั้งสองตัวติดอยู่ตรงระยะของหลุมอเวจี


“ฟิโอลันใช้เวทโจมตีเป้าหมายเดียวที่แข็งที่สุดที่เธอมีเลย!”


“โอเค!”


ถ้ามันเป็นมอนสเตอร์ธรรมดา เขาก็จะสามารถผูกมันไว้ได้นาน แต่เพราะยักษ์ทั้งสามนั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับรองบอส การต่อต้านต่อสถานะของพวกมันจึงแข็งแกร่ง ดังนั้นพวกมันจะได้รับการปลดปล่อยในไม่กี่นาที


เอียนใช้วิธีการทั้งหมดที่เขาทำได้และทุ่มการโจมตีของเขา


Bang- Ba-bang-!


วิวัฒนาการไลรวมถึงพินที่เพิ่มเลเวลขึ้นมาก


และในขณะที่เขาสวมใส่ไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงของเอียนซึ่งมีพลังในการต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้กำจัดยักษ์หนึ่งตัวในทันที


Thud-


 


        ท่านได้สังหาร ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง (ยัครัม)’

 


ทันใดนั้นหลุมอเวจีของดุ๊กเดก็ปะทุขึ้นและเอียนก็เปลี่ยนจุดสนใจของเขาไปยังยักษ์ตัวกลางขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นสิ่งที่คุกคามมากที่สุด


“เอียน! ไปด้านข้าง!”


เมื่อฟิโอลันพูด เขาไม่ลืมที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย


นี่เป็นเพราะพันธมิตรยังได้รับความเสียหายค่อนข้างมากหากพวกเขาถูกโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ AoE อย่างไม่เหมาะสม


Ba-ba-bang-.


เวทมนตร์น้ำแข็งของฟิโอลันชนกับยักษ์โดยตรงและเมื่อการใช้เวทมนตร์เสร็จสิ้น ไลซึ่งอยู่ใกล้กับด้านหน้ามากที่สุดก็พุ่งเข้าใส่ยักษ์ราวกับว่าเขากำลังรออยู่


Chwa-ra-rak-!


ไลซึ่งปิดช่องว่างระหว่างยักษ์กับเขาที่ดูเหมือนจะอยู่ห่างประมาณ 5 เมตรในชั่วขณะหนึ่งเจาะเข้าไปในเกราะของยักษ์และขุดเข้าไปในส่วนด้านใน


และเมื่อกรงเล็บยาวของไลเข้ามาในท้องของยักษ์ ยักษ์ก็ดูเหมือนจะเจ็บปวดเมื่อมันปล่อยเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวออกมา


Keu-aah-!


และเมื่อไลสัมผัสได้ถึงเส้นทางของมือขวาของยักษ์ซึ่งลงมาในช่วงเวลาต่อมา เอียนตะโกนด้วยเสียงเร่งด่วน


“ไลไปทางขวา!”


เอียนสั่งด้วยความหมายว่าให้ไลหลีกเลี่ยงการโจมตี แต่ด้วยเหตุผลแปลกๆบางอย่างไลก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตี


เขาไม่ได้ยกแขนขวาของเขาและบล็อคการโจมตีของยักษ์หรอ!?


 


        สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ถูกโจมตีโดยยักษ์แห่งความเกลียดชัง (คาราฮาน) และได้รับความเสียหายคริติคอล

        พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ลดลง 15,892 หน่วย

 


เขาบล็อคมัน แต่ไลซึ่งมีพลังป้องกันตัวเองไม่สูงพอ ช่วยไม่ได้ที่จะได้รับความเสียหายเล็กน้อย


เอียนงุนงง


‘เขาสามารถหลีกเลี่ยงมันได้แน่นอน ดังนั้นทำไมเขาถึงโดนโจมตีล่ะ?’


อย่างไรก็ตาม คำถามของเขามีเพียงชั่วครู่


ขณะมองไปยังการโจมตีต่อไปของไล ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะพยักหน้า


ไลฟื้นฟูความเสียหายทั้งหมดที่เขาได้รับทันทีผ่านการโจมตีสองสามครั้ง


มันเป็นพลังของพลังแฝง ‘การดูดซับพลังชีวิต’


‘ฉันลืมเรื่องการดูดซับพลังชีวิต แต่แล้วอีกครั้งในกรณีที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ถ้าเขาได้รับการสนับสนุน จากนั้นจะมีความเสียหายมากมายที่เขาจะเสียไป การตัดสินใจของไลถูกต้อง’


เช่นนั้น ปาร์ตี้ของเอียนและฟิโอลันสามารถเสร็จสิ้นช่วงที่สามทันที


 


        ท่านได้สังหารยักษ์แห่งความเกลียดชังทั้งหมด

 


ตามด้วยข้อความโผล่ขึ้นมา ฟิโอลันและเอียนหันมาเพ่งมองเวลาที่ผ่านไป


 


00:14:29

 


ฟิโอลันอ้าปากค้าง


“สถิติไร้สาระที่สามารถเป็นไปได้…”


ตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ที่ระดับ S ไม่ทำงาน


แน่นอนว่าพวกเขาจะสามารถเห็นการเคลียร์ใน 20 นาทีที่พวกเขาพูดในลักษณะที่ล้อเล่น


และในที่สุดบอสใหญ่แห่งฟอลันดันเจี้ยนก็เริ่มปรากฏตัวในตอนท้ายของดันเจี้ยน


 


        ขณะนี้นี้ฮีโร่แห่งฟอลันตื่นขึ้น

 


* * *


 


Deu-reu-reu-reu-reuk-


ห้องซ้อมที่ซึ่งเสียงของเครื่องแป้งดังกึกก้อง


เพื่อที่จะทำการบ้านในชั้นเรียนของเธอ ฮารินก็นวดแป้งอย่างขยันขันแข็ง


ในห้องซ้อมฮารินและเพื่อนสนิทของเธอเยจุงอยู่ด้วยกัน


“ฮารินเธอใกล้เสร็จหรือยัง?”


“ใกล้แล้ว ฉันแค่ต้องการเทมันลงกระทะและเอามันเข้าไปในเตาอบ แล้วเธอล่ะ?”


เยจุงยกแขนเธอขึ้นด้วยหน้าตายิ้มแย้ม


“ฉันเสร็จแล้ว!”


“เอ่อ เสร็จแล้วหรอ?”


“ห้ะ? เธอหมายถึงอะไรว่าเสร็จแล้ว เธอน่ะช้า”


เยจุงที่ดึงขนมปังของเธอออกมาจากเตาอบเดินเข้าไปหาฮารินหลังจากบรรจุหีบห่อให้ดูดี


และหลังจากดูมัฟฟินที่อยู่บนโต๊ะฝึกของฮาริน เธอก็ประหลาดใจ


“เฮ้ ไม่ต้องสงสัยเธอน่ะช้า”


“อะไรนะ”


“เธอทำมากกว่าฉันสองเท่าที่ฉันทำ ทำไมเธอทำเยอะจัง? เธอวางแผนที่จะให้ใครหรอ?”


เยจุงพูดโดยไม่คิดมาก แต่เมื่อฮารินลังเลเธอก็ใส่ท่าทางที่ซุกซน


“อะไรกันเนี่ย ดูเหมือนว่าเธอจะเอาไปให้ใครจริงๆนะเนี่ย?”


ฮารินโบกมืออย่างรวดเร็วและพูด


“มะ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น”


“เธอหมายถึงอะไรไม่ใช่แบบนั้น เพียงแค่มองฉันก็เห็นว่าจะเอาไปให้แฟนใช่ไหม? ไม่ต้องมาโกหกฉันเลย!”


ในขณะที่มองไปที่เยจุงผู้ตะคอกใส่เธอราวกับไฟไหม้อย่างรวดเร็ว ฮารินถอนหายใจ


“เยจุงจริงๆนะ ฉันมีปัญหานิดหน่อย”


เยจุงที่ตกใจเล็กน้อยเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดถึง ลังเลเมื่อเธอดึงเก้าอี้ที่อยู่ถัดจากฮารินและนั่งลง


“ปัญหาหรอ? ปัญหาอะไรล่ะ?”


และฮารินที่ลังเลชั่วครู่ เริ่มเล่าเรื่องของเธอ


ปัญหาของฮารินไม่ใช่อื่นใดนอกจากความสัมพันธ์กับจินซุง


เยจุงผู้ที่ได้ยินเรื่องราวของฮารินมาเป็นเวลานาน แสดงสีหน้าที่ดูงุนงงขณะที่เธอพูด


“ดังนั้นจินซุงที่เธอหมายถึง…คือผู้ชายจากแผนก VR ที่เธอกินข้าวด้วยครั้งที่แล้วหรอ? เธอเดทกับเขาหรอ?”


เมื่อถึงตอนนั้นฮารินสวมหน้าบูดบึ้งขณะที่เธอพยักหน้า


“ใช่…”


ในท่าทางของฮารินที่ซึ่งความน่ารักของเธอไม่สิ้นสุด เยจุงแทบจะไม่กลั้นเสียงหัวเราะที่เกือบจะระเบิดออกมาจากเธอ


“นี่เด็กโง่ มันเป็นเดทยังไง? ไม่เห็นจะเป็นอย่างนั้น เธอสองคนยังไม่ได้เดทกันเลย”


เมื่อคำพูดเหล่านั้น หน้าของฮารินน้ำตาคลอเบ้า


“ยะ… อย่างนั้นหรอ? ถ้างั้นฉันควรทำอะไรดี?”


เยจุงส่ายหน้า


“อ๊ะ ฮารินนี่ไม่เหมาะกับเธอจริงๆ ถ้าฉันเป็นแบบเธอนะ ฉันจะใช้ชีวิตอย่างเสเพลเลยเด็กน้อย”


เมื่อคำเหล่านั้น ฮารินจ้องไปที่เยจุง


“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ถ้าเธอมีความคิดดีๆถ้างั้นก็บอกฉันเร็วๆ ลีเยจุง”


ความจริงแล้ว เยจุงก็ไม่ได้น่าเกลียดเช่นกัน


ไม่ เธอมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามจนถึงจุดที่เธอไม่ได้อยู่ห่างไกลจากฮาริน


ยิ่งไปกว่านั้น ต่างจากฮารินซึ่งใกล้ชิดกับคนโง่ เธอไม่เคยเดทสักนิดเลย ดังนั้นฮารินจึงคาดหวังให้เยจุงแนะนำทางออกที่ดี


“อืมมม… ความคิดดีนี่…”


เยจุงที่หยุดพักหายใจสักครู่ พูดต่อ


“ขอให้เขาจับมือระหว่างทางกลับบ้านจากโรงเรียนเพราะเธอหนาว”


“อะไรนะ? มันตุลาคมแล้วไม่ใช่หรอ?”


“ตุลาคมมันใช่เรื่องใหญ่ที่ไหนล่ะ? ฉันสามารถทำมันกลางฤดูร้อนเลยแหละ”


“ไม่มีโอกาสนั้นอ่ะสิ”


“ทำไมล่ะ?”


หน้าของฮารินแดง


“มัน… น่าอาย”


“…”


เยจุงที่พูดไม่ออกสักครู่หนึ่งให้ข้อเสนออีกอันหนึ่ง


“ถ้างั้นอย่างงี้ล่ะ?”


“บอกฉันมา”


“ไปดูหนังอย่างหนังผีและเมื่อถึงฉากน่ากลัวแค่กอดเขา”


“มันยากไป…”


เยจุงผู้ให้คำแนะนำต่างๆก่อนที่จะเหนื่อยล้า ถอนหายใจขณะที่เธอพูด


“จากที่ฉันได้ยินมาจินซุงนั้น ฉันคิดว่าเขาเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยและไม่เคยออกเดทมาก่อนเลย”


ฮารินพยักหน้า


“ถูกต้อง นั่นอาจเป็นอีกกรณี”


“ยิ่งไปกว่านั้น เขาออกมาจากโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายของโรงเรียนชายล้วนใช่ไหม?”


ตาของฮารินโตขึ้นเล็กน้อย


“เธอ เธอรู้ได้ยังไง?”


นั่นเป็นสิ่งที่เธอจำได้จากการได้ยินจากจินซุงเมื่อนานมาแล้ว


ต่อหน้าฮารินที่งุนงง เยจุงโอบไหล่ของเธอเมื่อเธอพูดต่อ


“ฉันเห็นเพียงแวบแรกก็รู้แล้ว อย่างไรก็ตามถ้าเธอไม่ต้องการที่จะทนทุกข์อีกต่อไปเธอต้องเริ่มต้นก่อน ถ้าเธอทำตามที่ฉันบอกเธอมันจะได้ผลทั้งหมด!”


เยจุงพูดด้วยความมั่นใจ


ในทางตรงกันข้ามฮารินก็ยังไม่มั่นใจ


“ฉันจะไม่ถูกทิ้งโดยทำอย่างนั้นเหรอ?”


คำพูดเหล่านั้น เยจุงอสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเธอตอบ


“ผู้ชายแบบไหนที่จะบอกว่าเขาเกลียดเมื่อผู้หญิงสวยเหมือนเธอเข้าหาล่ะ?”


“ถึงอย่างนั้น…”


“นอกจากเขาจะเป็นขันที เธอก็จะประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”


ฮารินรู้สึกเย็นหลังวาบทันที


‘อย่างไรก็ตาม จินซุง… ไม่ใช่ขันทีใช่ไหม?’

 

 

 


ตอนที่ 122

 

ตามคำว่ายักษ์ ร่างกายของฮีโร่แห่งฟอลันที่โอ้อวดต่อหน้าของพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่อ


ความรุนแรงไร้สิ้นคิด บอสตัวสุดท้ายจองดันเจี้ยนเหวี่ยงกระบองของเขาไปรอบๆ


Bang- Bang-!


อย่างไรก็ตามเนื่องจากพิน ไลและฮัลลิกับเอียนที่ด้านหลังของมัน ทุกคนมีความว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อร่างกายที่เชื่องช้าของยักษ์ ช่วยไม่ได้ที่จะตีผ่านอากาศ


“ฟิโอลันเธอใกล้ร่ายเสร็จหรือยัง?”


“อีก 5 วินาที!”


ในขณะที่เวทมนตร์ของฟิโอลันระเบิดออกมาในเวลานี้ เอียนยังวางแผนที่จะยิงพลังแฝงของสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมดทันทีและเสร็จสิ้นการโจมตีดันเจี้ยน


เอียนนับเวลา


‘4… 3… 2…’


ทันทีที่มือทั้งสองของฟิโอลันที่ร่ายเวทมนต์เปล่งแสงสีฟ้า เอียนกระโดดออกจากหลังของฮัลลิและตะโกน


“โจมตี!”


เมื่อเขาทำอย่างนั้น สัตว์เลี้ยงที่เตรียมตัวเสร็จแล้วทุกตัวพุ่งเข้าชนยักษ์


แน่นอนยักษ์ไม่นิ่งเฉยและเพื่อที่จะตอบโต้มันบิดร่างกายของมันและดวงตาของเอียนก็ส่องประกาย


‘เป็นไปตามที่คาด…!


เอียนรีบตะโกนหาดุ๊กเด


“ดุ๊กเดรับการโจมตี!”


Deu-reu-reuk-


เพราะเขามีดุ๊กเดอยู่ด้านหลังแทนการแทงค์ในช่วงเวลานี้ พลังชีวิตของดุ๊กเดจึงเต็มเปี่ยม


และไม่ว่าการตอบโต้ของยักษ์จะแข็งแกร่งขนาดไหน ดุ๊กเดก็มีความอดทนพอที่จะต้านทานการโจมตีได้สองถึงสามครั้ง


ดูเหมือนว่ากระบองของยักษ์กำลังลอยมาหามัน ดุ๊กเดไขว้แขนสองข้างของเขาและเข้าสู่ท่าทางการป้องกัน


และเพื่อไม่ให้ถูกผลักกลับเขากางขาข้างหนึ่งออกไปข้างหลัง


ปัง-!


เสียงกระทบที่ดังพอที่จะทำให้ดันเจี้ยนทั้งหมดสั่นสะเทือนออกมา


 


        สัตว์เลี้ยง ‘ดุ๊กเด’ ได้รับความเสียหายคริติคอล

        พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ดุ๊กเด’ ลดลง 19,789 หน่วย

 


สำหรับการโจมตีครั้งเดียวที่สร้างความเสียหายของพละกำลังทั้งหมดของบอสดันเจี้ยนมันไม่ใช่ความเสียหายเล็กน้อย แต่สำหรับเอียนซึ่งเคยประสบกับการโจมตีที่ดุเดือดระหว่างการต่อสู้กับออร์วิลมันเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะ


‘อะไรกันเนี่ย มันสามารถต่อสู้กับเขาได้หลังจากโดนยิงมาสองสามครั้งก่อนหน้า’


เอียนจัดวางการเคลื่อนไหวของยักษ์แต่ละครั้งและทุกรูปแบบการโจมตีในหัวของเขาอย่างขยันขันแข็ง


มันเป็นกระบวนการที่จำเป็นเพื่อลดเวลาสถิติ แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันเป็นกระบวนการที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเขียนการโจมตีที่สมบูรณ์แบบสำหรับอีเว้นท์ราชาการโจมตี


‘ถูกต้อง ในสถานการณ์ที่ช่วงเวลาที่ผ่านมาถ้าดุ๊กเดรับการโจมตีประมาณสองครั้ง เราจะสามารถทำความเสียหายได้มากขึ้น ถ้าเราทำอย่างนั้นเราจะลดเวลาลงอีกประมาณ 20 วินาที’


เมื่อเขาตรวจสอบเวลาอย่างคร่าวๆ เอียนตรวจสอบหลอดพลังชีวิตของยักษ์


หลังจากใช้เวทมนต์ทั้งหมดที่เธอสามารถใช้ได้ ฟิโอลันเข้าหาเอียน


“เฮ้อ ฉันทำทุกอย่างที่ฉันทำได้แล้ว มันควรจะจบแล้วใช่ไหม?”


“ใช่ อาจจะ”


และตามที่ทั้งสองคนคุยกัน หลอดพลังชีวิตของยักษ์นั้นใกล้หมดแล้วและเหลือเพียงเศษไม้เท่านั้น


ดูเหมือนว่าสัตว์เลี้ยงของเอียนก็สังเกตเห็นสิ่งนั้น เมื่อพวกเขาเริ่มที่จะเทการโจมตีอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น


Ba-ba-bang-!


 


        สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ สร้างความเสียหายให้แก่ ‘ฮีโร่แห่งฟอลันที่ถูกลืม’

        พลังชีวิตของ ‘ฮีโร่แห่งฟอลันที่ถูกลืม’ ลดลง 25,798 หน่วย

 


ด้วยการระเบิดครั้งเดียวของไลซึ่งโจมตีอย่างเหมาะสม ในที่สุดร่างของยักษ์แห่งฟอลันก็เริ่มสลายไปอย่างช้าๆ


Thu-thu-thud-


 


        ท่านได้สังหาร ‘ฮีโร่แห่งหอลันที่ถูกลืม’

 


เอียนและฟิโอลันรีบไปดูเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว


 


00:19:35

 


มันเป็นสถิติที่น่าอัศจรรย์


เสียงอุทานออกมาจากปากของฟอโอลัน


“อ๊า! เสร็จดันเจี้ยนฟอลันใน 20 นาที!”


เอียนก็พอใจเช่นกัน


“ไม่ตลกนะเนี่ย ฉันรู้ว่าเราสามารถลดเวลาลงหลายนาทีแต่ฉันไม่คิดว่ามันจะลดลงถึง 30%”


เมื่อพิจารณาว่าอันดับสองอยู่ที่ประมาณ 30 นาทีมันเป็นที่จดจำได้ง่ายว่าสถิติของทั้งสองคนนั้นเหลือเชื่อเพียงใด


เอียนมองไปที่ศพของยักษ์


เมื่อร่างของยักษ์นั้นกลายเป็นผงอย่างสมบูรณ์และร่วงลงมาบนพื้น หน้าต่างผลลัพธ์การเคลียร์ของดันเจี้ยนจะปรากฏขึ้นทันที


ดวงตาของเอียนและฟิโอลันเต็มไปด้วยความคาดหวัง


นี่เป็นเพราะแม้ว่าจะแน่ใจแล้วว่ามันเป็นการเคลียร์ระดับ S ยิ่งผลลัพธ์ของพวกเขาดีขึ้นเท่าไหร่รางวัลก็จะยิ่งดีตามสัดส่วนแม้ว่าพวกเขาจะได้รับระดับ S ก็ตาม


และหน้าต่างข้อมูลที่ทั้งสองคนรอคอยฌผล่ขึ้นมาพร้อมด้วยเสียงแจ้งเตือน


กริ๊ง-


 


*หลุมศพของฮีโร่แห่งฟอลัน


เวลาจำกัด – 00:50:00


เวลาการเคลียร์ – 00:19:35


ระดับการเคลียร์ – SS


ได้รับค่าประสบการณ์ – 20,112,000 หน่วย


ได้รับทอง – 273,122 หน่วย


ได้รับไอเทม – ชิ้นส่วนเกราะของฮีโร่แห่งฟอลัน *20 หน่วย


 


ชัดเจนว่าฟิโอลันยิ้มกว้างแม้กระทั่งปากของเอียน


“ว้าว… ว้าวว…!”


เมื่อฟิโอลันเคลื่อนไหวจนจุดที่พูดไม่ออก เอียนยิ้มเมื่อเขาพูด


“ระดับ S แตกต่างจริงๆ คิดว่างั้นไหม?”


“ถูกต้อง ค่าประสบการณ์สำหรับระดับ A ประมาณ 13-14 ล้าน แต่สำหรับมันเกิน 20 ล้านจากการเพิ่มระดับ… รางวัลที่ได้รับทองกระโดดขึ้นเป็นสองเท่า”


เอียนพยักหน้า


“บ้าไปแล้ว ฉันยังสำเร็จชิ้นส่วนเกราะของฟอลันอีก ฮุฮุ…”


เมื่อเอียนพูด ฟิโอลันซึ่งตรวจสอบคลังของเธอ แสดงสีหน้างุนงง


“ห้ะ? ฉันก็สำเร็จ! อะไรกันเนี่ย?”


หลังจากตรวจสอบหน้าต่างรางวัลอีกครั้งหนึ่ง เธอพยักหน้าเมื่อเธอพึมพัม


“อ่อ… มันมี 20 ชิ้น”


จำนวนของชิ้นส่วนที่ต้องการสำหรับผลผลิตที่สมบูรณ์คือ 40 ชิ้น


เนื่องจากครึ่งหนึ่งของจำนวนชิ้นที่ต้องการได้รับในครั้งเดียว พวกเขาทำมันเสร็จโดยไม่คาดคิด


ฟิโอลันยิ้มจนปากถึงรูหู


“ถ้างั้น ลองพยายามอีกครั้งหนึ่ง”


เมื่อเอียนพูด ฟิโอลันถามกลับเมื่อเธอสงสัยว่าเขากำลังพูดเกี่ยวกับอะไร


“ห้ะ? ทำไมถึงพยายามอีกครั้ง? มันก็เป็นระดับ S แล้วนะ”


เมื่อนั้น เอียนเดาะลิ้นและพูดหยอกล้อ


“นี่ เธอยังเหลือหนทางอีกยาวไกลฟิโอลัน”


“สำหรับอะไร?”


“ดูหน้าต่างรางวัลดีๆ มันใช่ระดับ S ซะที่ไหน”


และหลังจากตรวจสอบระดับอีกครั้ง ตาของฟิโอลันเบิกโพลง


“ได้? นายพูดถูก มันไม่ใช่ S แต่คือ S สองตัว มีระดับนี้ด้วยหรอ?”


เอียนแสยะยิ้มเมื่อเขาตอบ


“ทำไมเธอมาถามฉันล่ะ? เมื่อมันอยู่ตรงหน้าของเธอน่ะ”


“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมรางวัลถึงกระโดดไปมาก ฉันคิดว่ารางวัลมันมากเกินไปสำหรับความแตกต่างแค่ระดับเดียว”


เอียนพูดต่อ


“ดังนั้น… ความจริงคือระดับ S สองตัว มันไม่ได้หมายความว่ามันยังมีระดับ S สามตัวหรอ?”


เมื่อคำที่ไม่คาดคิดของเอียน เธอตกใจ


“ไม่นะ สถิตินี้ยังไม่เพียงพอสำหรับนายหรอ?”


เช่นนั้น เอียนแสดงอาการเขินอายเมื่อเขาตอบ


“ไม่ มันยังไม่พอ ฉันรู้สึกมันเป็นไปได้ที่จะลดเวลาลงอีกนิดหนึ่ง…”


“อืมมม การตัดเวลาสำหรับระดับ S คือ 25 นาทีและดูเหมือนว่าการตัดสำหรับระดับ S สองตัวคือ 20 นาที ถ้างั้นฉันคิดว่าเราต้องเคลียร์ภายใน 15 นาทีเพื่อที่จะได้รับระดับ S สามตัว…”


ฟิโอลันจ้องไปที่เอียน


“นั่นจะเป็นไปได้หรอ?”


“ฉันเห็นบางส่วนที่เราสามารถลดเวลาได้อีกเล็กน้อย… แต่เราต้องพยายามเรียนรู้”


ตอนนี้ทั้งสองคนที่จัดการรางวัลของพวกเขาเสร็จสิ้นก็ออกจากดันเจี้ยน


และขณะที่ตรวจสอบสถิติที่น่าภูมิใจของพวกเขาที่จารึกไว้บนรายชื่ออันดับ พวกเขาแสดงอาการพึงพอใจ


อย่างไรก็ตามจากนั้น


เอียนพูดด้วยเสียงงุนงงทันที


“อ๊าก ฉันไม่ได้คิดเรื่องนี้… ฟิโอลันนี่เป็นเรื่องร้ายแรง!”


เมื่อเอียนพูด ฟิโอลันซึ่งตรวจสอบรางวัลอย่างมีความสุขที่เข้ามาข้างในอีกครั้ง หันหัวของเธอโดยสัญชาตญาณ


“ห้ะ? เรื่องร้ายแรงอะไร?”


เอียนพูดต่อ


“มันไม่มีไรหรอก แต่ค่าประสบการณ์ที่มาจากสิ่งนี้มันมากเกินไป…”


“อะไรนะ?”


ฟิโอลันซึ่งไม่เข้าใจสิ่งที่เอียนพูด แสดงท่าทางสับสนสักครู่หนึ่ง


อย่างไรก็ตาม เร็วๆนี้เธอก็สามารถเข้าใจความหมายของคำพูดของเอียนได้เช่นกัน


“อ่อ… อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพราะเลเวลของนายหรอ?”


เอียนพยักหน้า


“ใช่ ฉันไม่สามารถเพิ่มเลเวลได้แล้วตอนนี้ แต่ถ้าเราเข้าไปสักสามรอบ ฉันจะเลเวล 121 ดูเหมือนว่าฉันจะไม่สามารถเข้าห้าครั้งในวันนี้…”


และฟิโอลันแสดงอาการตกใจ


นั่นเป็นเพราะเธอไม่ได้คาดหวังว่าเลเวลของเอียนจะสูงอย่างนั้น


“ไม่ เอียนนายเลเวลเดียวกับฉันแล้วหรอ?”


“นั่นสิ ฉันแค่เล่นอย่างขยันขันแข็ง…”


เอียนพยักไหล่


ฟิโอลันส่ายหน้าเมื่อเธอเปิดหน้าต่างค่าสถานะของเธอ


เพราะว่าเธอก็เลเวล 120 เธอต้องการตรวจสอบจำนวนค่าประสบการณ์ที่เหลืออยู่ของเธอ


และหลังจากนั้นไม่นาน ฟิโอลันที่ตรวจสอบค่าประสบการณ์ของเธอ แสดงสีหน้าขมขื่น


“เอียน…”


“มีอะไร?”


“ถ้าฉัน… ทำอีกครั้งหนึ่ง เลเวลฉันจะเพิ่มแล้ว…”


เมื่อคำเหล่านั้น เอียนแสยะยิ้ม


“ดีมากฟิโอลัน ดูเหมือนว่าครั้งหน้าจะเป็นครั้งสุดท้ายในการโจมตีดันเจี้ยนฟอลันของพวกเรา”


“อืม…”


ฟิโอลันที่ถอนหายใจออกครั้งหนึ่งของโอกาสที่หอมหวานเช่นนี้


ขณะที่เห็นเธอทำอย่างนั้น เอียนเสริม


“เอ่อ ถ้าเธอต้องการเล่นมันอีกครั้ง จะลดเลเวลและกลับไป”


เขาหมายความว่าให้เธอไปจงใจตายครั้งหนึ่งแล้วลดไปเลเวลหนึ่งก่อนจะกลับมา


ฟิโอลันเข้าสู่ความโกรธและจ้องไปที่เอียน


“ถ้าฉันลดเลเวลลงและพักหนึ่งวันก่อนจะกลับมา นายอาจจะเพิ่มเลเวลและไม่สามารถเข้าไปได้อีก”


เอียนรู้เรื่องนั้น แต่ราวกับว่าเขาไม่ได้คิดอย่างนั้น เขาก็แสดงความกล้าหาญในขณะที่เขาเล่นสนุกกับฟิโอลัน


“อ่อ นั่นก็จริง”


ฟิโอลันทำหน้าบึ้งขณะที่เธอพึมพัม


“พูดอย่างนั้นจริงๆหรอน่ะ…”


 


* * *


 


หลังจากเสร็จสิ้นรักษาของเขาก่อนที่จะกลับเข้าไปในดันเจี้ยนอีกครั้ง เอียนย้อนกลับเข้าไปในความทรงจำของเขาอย่างถี่ถ้วนจากนี้และสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้


‘ถ้าฉันทำสิ่งนี้ในส่วนนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันจะสามารถลดเวลาได้อีกเล็กน้อย… สำหรับหลุมอเวจีของดุ๊กเด มันจะดีกว่าถ้าใช้ที่นี่ล่วงหน้าแทนที่จะเก็บไว้ เนื่องจากฉันคิดว่าในช่วงที่สาม มันควรจะสามารถควบคุมสมรภูมิได้แม้ว่าจะไม่มีหลุมอเวจีหรือยังไงก็ตาม’


ระหว่างนั้น ฟิโอลันกลับไปที่เมืองและหยิบโพชั่นบัฟกลับมาที่สามารถเพิ่มค่าสถานะของพวกเขาได้นิดหน่อย


เธอไม่ได้ลืมที่จะพบกับฮารินและนำอาหารระดับสูงกลับมา


“โอเค ทุกอย่างพร้อมแล้วเอียน ฉันคิดว่าเราได้ทำทุกสิ่งอย่างจริงจังเพื่อเตรียมความพร้อม”


เอียนพยักหน้า


“ทำได้ดี”


“จะว่าไปแล้ว มันน่าเสียดายที่เรามีเพียงโอกาสรอบเดียว”


“ไม่เป็นไรหรอก เนื่องจากเราแค่ต้องทำ 15 นาทีในครั้งนี้”


ทั้งสองคนที่เข้าไปในดันเจี้ยนครั้งสุดท้ายของพวกเขาตั้งใจแน่วแน่ว่าพวกเขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการในที่สุด


สถิติที่ทั้งสองคนได้รับนั้นใกล้อย่างแท้จริง


 


00:14:58

 


ด้วยแค่ 2 วินาทีที่เหลือ พวกเขาสามารถทำสถิติ 15 นาทีที่ดูเป็นไปไม่ได้อย่างแท้จริง


แลพตามที่ทั้งสองคนคาดไว้ ระดับของพวกเขาคือ S สามตัว


“เฮ้อ เฮ้อ เยี่ยมจริงๆฟิโอลัน”


“ฟิ้ว… ไม่นะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย… นายทำทุกอย่างเลย”


เมื่อถึงเวลาอันควรพวก เขาก็จะได้รับสร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ว่าอะไรก็ตาม เอียนและฟิโอลันก็พยายามโจมตียักษ์ด้วยวิธีการทางกายภาพกับคฑาที่พวกเขาถืออยู่


ทั้งสองคนไม่ได้เป็นอาชีพระยะใกล้ตั้งแต่ต้น เพื่อที่จะครอบคลุมส่วนของความเสียหายที่ขาดอย่างไรก็ตามพวกเขามีมานาที่น้อยหรือมีระยะเวลาคูลดาวน์สกิลของพวกเขา พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งวิธีการ


อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นรางวัลใหญ่พอสำหรับความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับตามมาร่างกายของทั้งสองคนก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ


และพวกเขาก็ยังสามารถได้รับฉายาที่ไม่คาดคิด


กริ๊ง-


 


        ท่านได้สร้างสถิติมหัศจรรย์ในดันเจี้ยน ‘หลุมศพของฮีโร่แห่งฟอลัน’

        ท่านได้รับฉายา ‘คนที่ท้าทายขีดจำกัด’

 


เอียนดูเหมือนว่าจะตื่นเต้นเมื่ออุทานออกมาจากปากของเขาโดยอัตโนมันอยู่


“โอ้เย้!”


และเขาตรวจสอบคุณสมบัติที่แนบมากับฉายาทันที


 


*คนที่ท้าทายขีดจำกัด


ระดับ – Heroic


        ยิ่งท่านทำลายสถิติของท่านในโจมตีดันเจี้ยนแห่งเวลา จำนวนค่าประสบการณ์ที่ท่านได้รับจะเพิ่มขึ้น 50%

        ชื่อเสียงที่ท่านได้รับเป็นระดับรางวัลของโจมตีดันเจี้ยนแห่งเวลาจะเพิ่มขึ้น 50%

        ค่าสถานะอาชีพทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 15%

 


และเอียนชอบฉายาที่เขาได้รับเป็นรางวัลมาก


ฟิโอลันที่ตรวจสอบฉายาได้พูด


“มันเรียกว่า ‘คนที่ท้าทายขีดจำกัด’ ฉันคิดว่ามันเป็นฉายาที่เหมาะกับจิตวิญญาณการท้าทายของนาย”


เมื่อคำเหล่านั้น เอียนยิ้ม


“เธอคิดงั้นหรอ? ฮุฮุ…”


“ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่พวกเขาสร้างชื่อได้ดีจริงๆนั่นคือ แต่จากการดูความจริงที่ว่าเราได้รับชื่อเล่นประเภทนี้หมายความว่าไม่มีตำแหน่งที่สูงกว่าสามเอสใช่มั้ย”


เอียนพยักหน้า


“อาจจะถูก ถ้ามีระดับสูงกว่านี้เราจะต้องเคลียร์ภายใน 10 นาที แต่บางทีถ้าเราไม่สามารถท้าทายให้เป็นระดับที่สูงกว่าได้ ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้เล่นที่ต่ำกว่า เลเวล 120 เพื่อสร้างสถิติที่สูงกว่านั้น”


“แม้แต่ 15 นาทีตอนนี้มันก็เป็นไปไม่ได้เลยเอียน…”


“ยะ อย่างนั้นหรอ?”


เอียนแสดงท่าทางเขินอายเมื่อเขาเกาหัว


ฟิโอลันจัดการรางวัลที่เธอได้รับและถามเอียน


“ตอนนี้นายต้องการไปอีกสองรอบที่เหลือใช่ไหมเอียน?”


“ใช่”


“แหะแหะ ฉันควรถ่ายรูปหน้าจอของหน้าต่างรางวัลนี้และลงมันในแชทกลุ่มของกิลด์”


เมื่อคำเหล่านั้น เอียนโบกมือเมื่อเขาจะหยุดฟิโอลัน


“อย่าทำอย่างนั้นนะ ขอร้องล่ะฟิโอลัน… มีเหตุผลที่เธอต้องทำห้ฉันลำบากใจอีกหรอ?”


“นายจะไปถึงเลเวลที่นายจะไม่สามารถเข้ามาที่นี่หลังจากวันนี้ อย่างไรก็ตามมันไม่เป็นไร”


“อ่า… ถึงอย่างนั้น…”


หลังจากเอียนที่เถียงกันอยู่สักครู่หนึ่งก็ส่งฟิโอลันไปเรียกเฮิร์ซ


และเขาออกจากระบบของไคลันสักครู่หนึ่งและออกจากแคปซูล


‘เนื่องจากสิ่งที่ฉันต้องการตอนนี้คือการวิเคราะห์โดยละเอียดสำหรับการโจมตี’


ตอนนี้เขาไม่สามารถเอ้อระเหยต่อสถิติได้


หากเป็นเช่นนั้นแม้ว่าจะใช้เวลาในการเคลียร์นานขึ้นเล็กน้อย มันสำคัญกว่าที่จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในดันเจี้ยนและวิเคราะห์มัน


ตั้งแต่นั้นมาเขาจะสามารถเขียนการโจมตีที่สมบูรณ์แบบ


“สำหรับตอนนี้เราจะจัดระเบียบข้อมูลที่ได้จากการพยายามจนถึงตอนนี้”


ดวงตาของเอียนเริ่มเปล่งประกาย


ด้วยเหตุผลบางอย่าง เอียนลุกโชนด้วยความตั้งใจที่แข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาท้าทายการเคลียร์ใน 15 นาที

 

 

 


ตอนที่ 123

 

อีเว้นท์ดันเจี้ยนโจมตีที่ LB Sports จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ


อันดับอีเว้นท์นี้ถูกตัดสินโดยใช้วิธีการคำนวณคะแนนที่เลือกโดย LB Sports


มาตรฐานนั้นตามส่วนถัดไป


 


*  1.จำนวนผู้เล่นที่เข้าร่วมทั้งหมด (สูงสุด 300 คะแนน)


2.คะแนนการประเมินกลุ่มผู้เล่น (สูงสุด 100 คะแนน)


3.คะแนนคณะกรรมการตัดสิน LB Sports (สูงสุด 100 คะแนน)


 


ด้วย 500 คะแนนเป็นคะแนนสูงสุดเท่าที่ทำได้ การจัดอันดับขึ้นอยู่กับการโจมตีด้วยคะแนนสูงสุดและมีความหลากหลายของมาตรฐานของการประเมินกลุ่มผู้เล่นและคณะกรรมการตัดสินที่ใช้สำหรับการให้คะแนน เช่นความเป็นไปได้จริงของความสามารถในการใช้การโจมตี ปริมาณของความจริงใจและความพยายามที่ทำให้เกิดความอ่านง่ายของมันและอื่นๆ


อย่างไรก็ตาม เป็นไปตามที่คาดไว้ส่วนที่สำคัญที่สุดคือจำนวนผู้เล่นที่เข้าร่วมที่ได้รับคะแนนมากที่สุด


สำหรับแผนการโจมตีที่มีผู้เล่นเข้าร่วมมากที่สุดจำนวนสูงสุดคือ 300 คะแนนและต่ำกว่านั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าร่วมเมื่อเปรียบเทียบกับแผนการโจมตีอันดับแรกจะได้รับคะแนนตามนั้น


มินอาซึ่งเพิ่งพบความบันเทิงในดันเจี้ยนโจมตีในช่วงที่จุดสุดยอดของความสนใจในอีเว้นท์ราชาการโจมตีนี้


แน่นอนว่ามันไม่ได้มีความสนใจในการโจมตี แต่เป็นข้อมูลหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาตามแผนโจมตี


“มันคงจะดีถ้ามีข้อมูลที่ดีมากมาย…”


มินอานักเรียนปี 1 ในแผนก VR ในมหาวิทยาลัยเกาหลีเป็นผู้เล่นเลเวลค่อนข้างสูง


ตอนนี้เธออยู่เลเวล 100 ต้นๆ


เหมือนกับผู้เล่นคนอื่นๆในช่วงเลเวล 100 ความสนใจที่มากที่สุดของเธอเมื่อไม่นานมานี้คือดันเจี้ยนฟอลัน


เมื่อเธอได้ลองดันเจี้ยนฟอลันเป็นครั้งแรก เธอล้มเหลวในการโจมตีทั้งห้าครั้งด้วยคะแนนที่ไม่เพียงพอซึ่งใกล้เคียงกับข้อกำหนด


ความจริงมีข้อผิดพลาดบางอย่างในความสามารถของเธอและขาดประสบการณ์สำหรับสิ่งนั้น แต่เมื่อคู่หูที่เธอท้าทายด้วยอยู่ในเลเวลที่ไม่แตกต่างจากเธอมากนัก มันจึงเป็นลำดับที่คาดไว้แล้ว


“ฉันจำเป็นต้องมีประสบการณ์เคลียร์อย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อหาคู่หูที่ดี… อาจจะมีการโจมตีดันเจี้ยนฟอลันจำนวนมากที่อัปโหลดในอีเว้นท์ราชาการโจมตีใช่ไหม? ถ้าอย่างน้อยฉันก็มองการโจมตีมันอาจจะดีขึ้นเล็กน้อย…”


เธอมีเวลาว่างค่อนข้างมากระหว่างชั้นเรียนของเธอ ดังนั้นมินอาจึงเปิดแล็ปท็อปของเธอในห้องแผนกและเริ่มมองหาการโจมตีที่เกิดขึ้นในกระดานข่าวอีเว้นท์


“เป็นไปตามที่คาด ดันเจี้ยนที่มีแผนการโจมตีมากที่สุดคือดันเจี้ยนฟอลัน สถานที่นี้ร้อนแรงที่สุด”


เนื่องจากเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้วตั้งแต่ไคลันได้เปิดตัว จึงมีผู้เล่นจำนวนไม่มากที่อยู่ที่เลเวล 100


มันเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วสำหรับผู้เล่นที่เริ่มมาตั้งแต่เปิดเกม แต่มันก็คงจะยากสำหรับผู้เล่นใหม่ที่จะมีเลเวลมากกว่า100


เพราะอย่างนั้นดันเจี้ยนฟอลันซึ่งรับผิดชอบค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ในเลเวล 100-120 ช่วยไม่ได้ที่จะเป็นความสนใจของผู้คน


“ไหนลองดูหน่อยสิ?”


หลังจากมองผ่านชื่อเรื่องของการโจมตีแบบนั้น ชื่อที่สะดุดตาเป็นพิเศษก็ดึงดูดความสนใจของเธอ


 


        ชื่อ – ดันเจี้ยนฟอลันนั้นง่ายที่สุด

        คำบรรยาย – ทุกอย่างที่เกี่ยวกับดันเจี้ยนฟอลันได้บอกโดยอันดับที่หนึ่งของการเคลียร์

        แนบวิดีโอการเคลียร์ 15 นาที

 


“วิดีโอการเคลียร์ 15 นาที?”


ตาทั้งสองของมินอาเบิกโพลง


“อันดับที่หนึ่งมาและเคลียร์ดันเจี้ยนงั้นหรอ? ไม่นะ จากสิ่งที่ฉันรู้ นี่คือดันเจี้ยนที่คุณไม่สามารถเข้าได้เมื่อคุณเลเวล 121”


สำหรับเธอที่ไม่เคยเห็นช่วงที่ 3 ภายในเวลาจำกัด 50 นาที สถิติ 15 นาทีนั้นดูไม่สมจริงเกินไป


ความจริงที่ว่าจากที่เธอรู้สึกสถิติ 15 นาทีนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับอันดับที่หนึ่ง


ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเพื่อยืนยันความถูกต้อง เมาส์ของมินอาก็เลื่อนไปทางชื่อของกระดานข่าว


คลิก-


และทันทีที่เธอเข้าไปในโพสต์ของกระดานข่าว เธอคลิกบน ‘วิดีโอการเคลียร์ 15 นาที’ ที่เธอสงสัยมากที่สุดก่อน


“ไหนลองดูสิ?”


อย่างไรก็ตาม ช่วยไม่ได้ที่เธอจะตกใจหลังจากนั้นไม่นาน


นี่เป็นเพราะเธอยังไม่ได้ลดเสียงบนแล็ปท็อปของเธอและเสียงดังที่ดังขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อไปทั่วห้องแผนก


นั่นคือ…


 


        ท่านได้เข้าสู่ ‘หลุมศพของฮีโร่แห่งฟอลัน’

 


เมื่อตัวละครหลักของวิดีโอเข้าสู่ดันเจี้ยน ข้อความระบบที่ดังขึ้นกระจายไปทั่วห้องแผนก


มินารู้สึกงุนงงมากจนเธอลดระดับเสียงของเธอลงอย่างรวดเร็ว


และเธอเต็มไปด้วยความอาย


‘อ๊า นี่มันน่าอายจริงๆ’


อย่างไรก็ตามต่างจากความอับอายของเธอ นักเรียนหลายคนที่อยู่ในห้องแผนกเพราะเป็นเวลาระหว่างชั้นเรียนของพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ที่นั่งของมินอาหลังจากได้ยินเสียงดังกล่าว


หากคุณเป็นผู้เล่นที่เล่นไคลัน ข้อความระบบของไคลันนั้นเป็นที่คุ้นเคยมาก


“เฮ้ ลีมินอา เธอก็เล่นไคลันเหมือนกันหรอ?”


“ใช่ จะว่าไปแล้ว แม้ว่าจะมีคนไม่มากที่ไม่ได้เล่นมันในแผนกของเรา”


เมื่อเพื่อนร่วมชั้นของเธอเดินเข้ามาหาเธอในขณะที่พูดคุยกัน มินอาแสดงอาการเขินอายเมื่อเธอเกาหัวของเธอ


“ใช่ ฉันก็เล่นไคลัน”


“เธออาชีพอะไรล่ะ?”


“ฉันเป็นนักเวท”


“โอ้ เธอเลเวลอะไรแล้ว?”


“ฉันพึ่งถึงเลขสามหลักเมื่อเร็วๆนี้เอง”


“ว้าว!”


เมื่อเลเวลของมินอาที่สูงอย่างคาดไม่ถึง ทุกคนต่างประหลาดใจ แต่เป็นผู้เล่นที่อยู่ในเลเวลสูงเช่นเดียวกับคนค่อนข้างทั่วไป พวกเขาก็หันความสนใจกลับไปที่วิดีโอที่เล่นอยู่ในแล็ปท็อป


“วิดีโออะไรน่ะ?”


“อ่อ มันเป็นวิดีโอดันเจี้ยนโจมตีฟอลันที่อัปโหลดสำหรับอีเว้นท์ราชาการโจมตี แต่ดูเหมือนว่าผู้เล่นอันดับแรกจะอัปโหลดมัน เห็นได้ชัดว่ามันประมาณ 15 นาที”


ด้วยคำพูดเหล่านั้นยูฮยอนก็อ้าปากค้าง เขาเป็นเพียงคนเดียวในหมู่คนที่อยู่รอบๆมินอาที่เคยเข้าไปในดันเจี้ยนฟอลันมาก่อน


“อะไรนะ? 15 นาทีหรอ?”


“ใช่สิ?”


“นั่นเป็นไปได้ด้วยหรอ?”


“ฉันไม่รู้ เราจะหาคำตอบด้วยการดูมันเลยตอนนี้”


เนื่องจากไม่มีโอกาสที่เพื่อนคนอื่นจะได้สัมผัสกับดันเจี้ยนฟอลัน พวกเขาจึงไม่รู้ว่าสิ่งที่คนสองคนพูดถึงคืออะไร แต่พวกเขาเริ่มดูวิดีโอด้วยการแสดงออกที่ตื่นเต้น


สายตาของทุกคนจ้องมองที่แล็ปท็อปของมินอาและวิดีโอก็เริ่มขึ้น


“ห้ะ? เฮ้พวก คนตรงนั้นไม่ใช่คนที่พวกเราเคยเห็นหน้ามาก่อนงั้นหรอ?”


“ใครอ่ะ? ผู้หญิงหรอ?”


“ไม่ใช่ๆ ผู้หญิงเป็นนักเวท แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นซัมมอนเนอร์”


เมื่อคำพูดเหล่านั้น มินอาจ้องไปที่ซัมมอนเนอร์


และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็สามารถคิดได้ว่าเธอเคยเห็นหน้านั้นมาจากที่ไหน


“นั่นไม่ใช่จินซุงหรอ?”


“…!”


“ถูกต้องเลย ปาร์คจินซุง”


“ใช่คนที่นั่งอยู่ข้างหลังสุดของห้องบรรยายตลอดและหลับใช่ไหม?”


“ใช่ นั่นแหละ”


เนื่องจากจำนวนคนในแผนก VR นั้นน้อยกว่า 50 คนต่อปีเล็กน้อย เพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่จึงสนิทกัน


อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับที่มีคนนอกคอกอยู่เสมอในกลุ่มใดคนหนึ่งในไม่กี่คนในแผนก VR คือจินซุง


นอกจากคู่หูรวมถึงยูฮยอนแล้ว พวกเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจินซุงเล่นไคลัน


ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเนื่องจากตัวละครหลักของวิดีโอถูกเปิดเผยว่าเป็นนักเรียนในสาขาวิชาเดียวกันความตื่นเต้นของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้น


และ 15 นาทีที่วิดีโอเล่นพวกเขาไม่สามารถละสายตาจากวิดีโอแม้แต่ครู่เดียว


 


* * *


 


“อะไรวะเนี่ย นายกำลังจะไปทำเควสต์อีกอันงั้นหรอ?”


“ใช่ ฉันได้เควสต์อาณาจักรมา”


“…”


เฮิร์ซผู้ดูแลกิจการภายในของเมืองถูกทิ้งโดยเอียนแสดงออกอย่างฉุนเฉียวหลังจากได้ยินคำพูดของเอียนโดยบอกว่าเขากำลังจะลงไปที่ทวีปทางใต้เนื่องจากเควสต์อาณาจักร


“เฮ้ ท่านลอร์ด กระผมรู้สึกว่าท่านจะทิ้งงานกิจการภายในให้กระผมทั้งหมดเลย…”


“ถึงกระนั้นฉันก็นำสิ่งที่จะช่วยให้กลับไปแก่เมืองนะเพื่อน สำหรับหมู่บ้านโอลิบัสด้วย”


เมื่อเอียนพูดซึ่งไม่มีส่วนไหนที่ผิด เฮิร์ซแสดงสีหน้าขมขื่นเมื่อเขาเลียริมฝีปาก


“นั่นก็จริง แต่…”


ยิ่งพวกเขามองหมู่บ้านโอลิบัสมากขึ้น เมืองชายทะเลลับที่เอียนพบในขณะที่ทำเควสต์ยิ่งมีค่ามากเท่านั้น


อันดับของหมู่บ้านนั้นเป็นเพียง ‘หมู่บ้าน’ แต่มันใหญ่กว่าอาณาเขตที่เหมาะสมที่สุดและเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบที่มีคุณค่าเกินกว่าเมืองโลตัสเมื่อดูหลายแง่มุมเช่นประชากรความปลอดภัยเป็นต้น


เนื่องจากสมาชิกกิลด์ของโลตัสได้ลงทุนอย่างมากในการสร้างความสัมพันธ์ของหมู่บ้านโอลิบัสและเมืองโลตัส พวกเขาจะสามารถรวมเข้าด้วยกันได้


“อย่างไรก็ตามเนื่องจากฉันวางแผนที่จะลงไปยังทวีปทางตอนใต้ในทันที หากมีบางสิ่งที่เราจำเป็นต้องพูดคุยกันก็พูดมาเลยตอนนี้”


“โอเค ไม่มีอะไรแล้วแหละ…”


เฮิร์ซที่พึมพัมและคิดอะไรบางอย่าง พูดอีกครั้งเมื่อเขาจำอะไรบางอย่างได้ทันที


“อ่อ ลองคิดดูวันนี้เป็นเริ่มต้นนิ”


“คืออะไร?”


“อีเว้นท์ราชาการโจมตีไง”


เมื่อคำเหล่านั้น เอียนพยักหน้า


“ถูกต้อง ฉันอัปโหลดโพสต์บนกระดานข่าวเมื่อไม่นานมานี้แล้ว”


เฮิร์ซถามอย่างระมัดระวัง


“นายคิดว่าเราจะอันดับอะไร?”


และเอียนแสยะยิ้มเมื่อเขาตอบอย่างสั้นๆ


“ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ? แน่นอนสิต้องที่ 1”


 


* * *


 


Whiiiing-.


กริ๊งงงง-


จินซุงผู้ที่พร้อมจะเข้านอนแล้วและได้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบโพสต์ของกระดานข่าวที่เขาอัพโหลดสำหรับอีเว้นท์ราชาการโจมตีแสดงอารมณ์ที่สับสนขณะที่มองสมาร์ทโฟนของเขาที่ดังขึ้นทันที


“ห้ะ? ไม่ควรจะมีใครโทรหาฉันนะ… ใครกันเนี่ย?”


ทุกวันนี้ฮารินโทรมาบางครั้ง แต่ตรวจสอบหมายเลขแล้ว มันเป็นชื่อที่ไม่รู้จัก


จินซุงครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่ง


“อาจจะเป็นเบอร์สินเชื่อ? ฉันควรรับหรือไม่รับดีเนี่ย?”


อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันค่อนข้างน่าผิดหวังที่จะไม่สนใจการรับสาย (?) เมื่อผ่านไประยะหนึ่งจินซุงหยิบสมาร์ทโฟนของเขาและรับสาย


‘ฉันควรถล่มพวกเขาด้วยคำสบถถ้ามันเป็นการโทรสแปม’


“ฮัลโหล?”


และอย่างที่คาดไว้เขาได้ยินเสียงที่ไพเราะและงดงามของผู้หญิงผ่านทางโทรศัพท์


 


        ค่ะ สวัสดีค่ะ นี่คือปาร์คจินซุงใช่ไหมคะ?

 


จินซุงขมวดคิ้วเล็กน้อย


‘เป็นไปตามที่คาดนี่เป็นการโทรสแปมหรอ?’


“ครับ มีอะไรหรอครับ?”


ในขณะที่จินซองผู้ซึ่งตัดสินใจว่าเป็นการโทรสแปมกำลังคิดว่าเขาจะสบถอย่างไร ได้ยินเนื้อหาที่ไม่คาดคิด


 


        อ่อ ดังนั้นคุณคือจินซุง ถ้างั้นไอดีผู้เล่นไคลันของคุณชื่อ ‘เอียน’ ใช่ไหมคะ?

 


จินซุงแสดงอาการงุนงง


‘อะไรวะเนี่ย? เธอรู้ได้ยังไง?’


จินซุงเคลียร์ลำคอก่อนจะตอบ


“อะแฮ่ม ครับ ผมคือเอียนแต่ว่าทำไมหรอครับ?”


จากนั้นเธอพูดต่อดัวยเสียงที่สดใส


 


        โอ้ ฉันพบถูกคนด้วย ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันเป็นผู้อัปโหลดของ YouCast เรียกฉันว่าโซจินนะคะ

 


“ขอโทษนะครับ?”


 


        อ่อ คุณไม่ได้ดู YouCast เป็นประจำใช่ไหมคะ?

 


เขาค่อนข้างรู้สึกว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับคนเร่ขายยา แต่เมื่อการสนทนาเกี่ยวกับไคลันออกมา จินซุงตัดสินใจที่จะพูดคุยกับบุคคลนี้มากขึ้นอีกเล็กน้อย


“ผมดูมันเป็นบางครั้ง แต่ผมไม่สนุกกับการดูมัน ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับผม…”


 


        มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ… แต่มีคนถ่ายภาพฉากการสู้รบในดินแดน 1:30 ที่คุณแสดงให้เห็นเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนและอัปโหลดมันและฉันประมวลผลอีกครั้งและอัปโหลดอีกครั้ง

 


เมื่อเธอพูด เอียนคิดอยู่ในหัว


‘จากสงครามอาณาเขต 1:30… เธอหมายถึงนัดแรกที่เราพบกับกิลด์โพราริสหรอ? อย่างแรกฉันควรได้ยินว่าธุระคืออะไร’


จินซุงพูดอีกครั้ง


“แล้ว?”


 


        ฉันได้รับผลกำไรค่อนข้างมากจากวิดีโอนั้น ดังนั้นฉันจึงต้องการแบ่งบางส่วนให้กับคุณเช่นกัน

 


“ห้ะ?”


และคำอธิบายของหญิงสาวที่แนะนำตัวเองว่าโซจินยังคงดำเนินต่อไปชั่วครู่


มันเป็นคำอธิบายโดยละเอียดที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่ถ้าได้รับการสรุปโดยตรงเนื้อหาจะเป็นอะไรเช่นนี้


เพราะเธอได้รับทุกอย่างจากการถ่ายทำรวมถึงลิขสิทธิ์ เธอจะไม่มีปัญหาแม้ว่าเธอจะไม่ได้แบ่งปันให้จินซุง แต่เนื่องจากเธอต้องการที่จะทำงานร่วมกับจินซุงอย่างต่อเนื่องเธอจึงติดต่อเขาเช่นนี้


มันเป็นข้อเสนอถามเขาว่าเขาจะไม่รังเกียจที่จะเซ็นสัญญาพิเศษกับเธอและทำงานกับเธอต่อไป


จินซุงแสดงอาการขมขื่นเล็กน้อย


‘ไม่นะ ผู้เข้าชมมากขนาดไหนที่เธอได้รับบนวิดีโอของ YouCast สำหรับที่เธอพูดว่าได้รับกำไรมหาศาล?”


เพราะว่าจินซุงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโครงสร้างกำไรของ YouCast เขาถามโซจินอีกครั้ง


“ถ้างั้นเงินเท่าไหร่ที่ผมจะได้รับจากส่วนแบ่งรายได้ที่คุณได้จากวิดีโอนี้”


เมื่อจินซุงพูด โซจินที่ครุ่นคิดสักครู่หนึ่งขณะที่เทอเงียบก็พูดอย่างระมัดระวัง


 


        ประมาณ… อย่างน้อยก็ 2 ล้านวอน มันประมาณ 10% ของรายได้ทั้งหมด

 


“…?”


จินซุงซึ่งแสดงออกอย่างประหลาดใจในทันใด ไม่สามารถพูดอะไรได้เลยในขณะที่เขาถือโทรศัพท์


‘อะไรวะเนี่ย 2 ล้านวอน? ถ้า 10% ของ 2 ล้านวอน เธอทำกำไรได้ประมาณ 20 ล้านวอต่อหนึ่งวิดีโอหรอ?’


โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำไรประมาณครึ่งหนึ่งของ 10 ล้านวอนและนั่นหมายถึงรายได้ 20 ล้านวอน แต่ถึงอย่างนั้นจินซุงก็ตกตะลึง


และเมื่อจินซุงเงียบไปสักพัก เสียงของโซจินดังขึ้นอีกครั้งผ่านโทรศัพท์


 


        ถ้าบังเอิญคุณคิดว่า 10% มันเค็มเกินไป เป็นที่ชัดเจนคราวนี้เพราะฉันไม่ได้ทำสัญญากับคุณและทำงานอัตราส่วนทางกฎหมายมีขนาดเล็ก แต่ถ้าคุณเริ่มทำงานกับฉันอย่างเป็นทางการประมาณ 30% จะกลับมาให้คุณเป็นส่วนแบ่งของคุณ ส่วนแบ่งของฉันจะอยู่ที่ประมาณ 20% และส่วนที่เหลือจะเป็นต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการโดย YouCast

 


อย่างไรก็ตามจ่างจากโซจินที่กังวล จินซุงไม่สามารถพูดอะไรออกมาอย่างมีความสุขในกำไรที่ไม่คาดคิด


นี่เป็นเพราะจินซุงหนึ่งในผู้เล่นอันดับสูงสุดของไคลัน 2 ล้านวอนไม่ได้เป็นเงินก้อนใหญ่ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเงินจำนวนมากจะมาด้วยการอัพโหลดวิดีโอเพียงหนึ่งรายการ


ไม่ว่าด้วยวิธีใด เขาแค่เล่นเกมแต่ไม่ได้คาดว่าเงิน 2 ล้านวอนจะปรากฏขึ้นมา


“ถ้าฉันจะทำสัญญากับเธอแล้วมันจะดำเนินต่อจากนี้ไปยังไง?”


เมื่อปฏิกิริยาตอบสนองเชิงบวกของจินซุง โซจินตอบกลับอย่างรวดเร็ว


 


        เมื่อใดก็ตามที่คุณเล่นเกมต่อจากนี้ไปคุณจะต้องเปิดใช้งานกล้องเครื่องเล่นที่ติดตั้งอยู่ในแคปซูลและเล่นเกม ทุกสัปดาห์คุณต้องโอนวิดีโอกล้องให้ฉันและฉันจะแก้ไขและอัปโหลดไปยัง YouCast หน้า YouCast จะถูกตั้งค่าด้วยชื่อของคุณ

 


ความคิดของจินซุงเริ่มแล่นอย่างรวดเร็ว


‘ดังนั้นไม่มีอะไรที่ฉันจะเสียนิ?’


ในการถ่ายโอนไฟล์สัปดาห์ละครั้งนั้นไม่ใช่งานที่ยากและนอกจากนั้นเขาต้องการเล่นเกมอย่างขยันขันแข็ง


โซจินพูดต่อ


 


        หากคุณอัปโหลดวิดีโออย่างต่อเนื่องเป็นประจำฉันคิดว่าคุณจะสามารถรับเงินได้ประมาณ 5 ล้านวอนทุกเดือน แน่นอนว่าฉันยังคาดหวังว่านี่จะเป็นมูลค่าต่ำสุด หากคุณเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงมากขึ้นในอนาคตจะมีช่องว่างสำหรับกำไรของคุณที่จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

 


จินซุงตะโกนออกมาด้วยความดีใจภายในตัวเขา


เหตุผลของความสุขของจินซุงก็ไม่มีอะไรอื่น


‘ด้วยสิ่งนี้ ฉันสามารถใช้ชีวิตขณะเล่นเกมตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของฉัน!’


แน่นอน แม้ว่าเขาจะขายไอเทมและไอเทมที่เขาได้รับในเกมมันก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่


อย่างไรก็ตาม ภายในเกมค่าใช้จ่ายของจินซุงก็ค่อนข้างสูงและเนื่องจากเขาใช้เงินทั้งหมดที่เขาเก็บไว้เพื่อซื้ออุปกรณ์ที่ดีกว่าหรือใช้สำหรับเนื้อหาภายในเกม ช่วยไม่ได้ที่ข้อเสนอแบบนี้จากโซจินจะรู้สึกน่าดึงดูดอย่างมาก


จินซุงกำลังจะตอบรับข้อเสนอของเธอในทันทีโดยไม่ลังเลและรู้สึกตื่นเต้น


‘แต่ถึงกระนั้น ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ทุกอย่างเพียงแค่คุยครั้งเดียว’


จินซุงเคลียร์ลำคอเมื่อเขาพูดต่อ


“อะแฮ่ม ฟังดูดีนะ ฉันไม่สามารถให้คำตอบที่แน่นอนได้ในตอนนี้ ดังนั้นฉันจึงต้องการพบเธอและพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่างๆเช่นเงื่อนไขของสัญญาโดยเฉพาะ”


และโซจินตอบกลับทันที


 


        เอาล่ะ! ตามจริงแล้วฉันต้องการขอความช่วยเหลือจากคุณ เวลาไหนที่ดีที่สุดสำหรับคุณหรอจินซุง?

 

 

 


ตอนที่ 124

 

ซองฮุนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมวางแผนของ LB Sports กำลังตรวจสอบการโจมตีของเอียนของผู้เล่นซึ่งแสดงการตอบสนองที่ร้อนแรงที่สุดสำหรับอีเว้นท์นี้


ความจริงแล้ว ดูเหมือนว่าเป็นการแสดงออกที่ ‘ชื่นชม’ มีความเหมาะสมมากกว่า ‘มองดู’


เนื่องจากตลอดเวลาที่ซองฮุนอ่านตลอดการโจมตี เขาก็ยังห่างไกลจากการประเมินและชื่นชมมันแทน


“ไม่นะ ชายคนนี้ทำอะไรได้บ้างเนี่ย?”


ระยะเวลารวมของอีเว้นท์ราชาการโจมตีคือสามวัน


เริ่มต้นจากผลลัพธ์ตอนนี้เมื่อผ่านไปสองวันเต็มแล้ว การโจมตีของจินซุงก็ขึ้นอันดับ 1 อย่างท่วมท้น


หลังจากบรรลุสถิติการเคลียร์ 15 นาทีกับฟิโอลันแล้ว จินซุงทดลองกับองค์ประกอบทั้งหมดของดันเจี้ยนโดยใช้เวลา 50 นาทีทุกครั้ง


เขาขุดผ่านดันเจี้ยนฟอลันอย่างทั่วถึงมันใกล้เคียงกับความหลงใหลในการทำสิ่งต่างๆ เช่นการวิเคราะห์ทุกๆรูปของมอนสเตอร์ที่ปรากฏ จำนวนของมอนสเตอร์ที่ปรากฏตามช่วง รูปแบบการโจมตี ฯลฯ


ดังนั้นด้วยสถิติที่ถูกสร้างขึ้นจินซุงวิเคราะห์สถิติขั้นต่ำและอื่นๆที่จำเป็นสำหรับการโจมตีดันเจี้ยนสำหรับแต่ละอาชีพและจัดระเบียบมันและส่วนนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาระเบิดจากผู้เล่นจำนวนมาก


จำนวนการโจมตีที่นับไม่ถ้วนถูกอัปโหลดไปยังกระดานข่าวอีเว้นท์ แต่ไม่มีการโจมตีที่มีรายละเอียดจนถึงจุดที่มันเกือบจะแปลกประหลาด (?) เหมือนการโจมตีของจินซุง


“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงได้อันดับที่ 1 ในการแนะนำอย่างเด่นชัดจริงๆ”


ในการโจมตีของจินซุงมีปัจจัยมากมายสำหรับผู้เล่นที่มีสเปคที่ดีอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อมูลจำนวนมากสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่ล้มเหลวในการโจมตีอย่างต่อเนื่อง


ถ้ามันเป็นผู้เล่นที่สนใจดันเจี้ยนฟอลัน ช่วยไม่ได้มันเป็นการโจมตีที่พวกเขาต้องอ่านอย่างดี


“ฉันไม่ได้บอกคุณหรอ? คนเขียนนี่มันแปลกจริงๆ ไม่มีข้อผิดพลาดเลย”


จำนวนการดูปัจจุบันมีมากกว่า 100,000 ครั้งสำหรับโพสต์กระดานข่าวของจินซุงและคำแนะนำมีมากกว่า 30,000 รายการ


เมื่อพิจารณาว่าจำนวนการดูสำหรับโพสต์กระดานข่าวอันดับที่ 2 คือ 70,000 และคำแนะนำนั้นมี 8,000 รายการซึ่งเป็นผลที่โดดเด่นอย่างแท้จริง


“ซองฮุนจะหมายความว่าพวกเราจะได้อันดับนี้หรอ? คำแนะนำของตำแหน่งการโจมตีอันดับที่ 2 คือ 23% ของอันดับที่หนึ่ง… ถ้าเรารอจนถึงวันสุดท้ายเช่นนี้จำนวนคะแนนแนะนำที่โพสต์ที่ 2 สามารถรับได้เพียง 70 คะแนนจาก 300”


ไฮอินซึ่งตรวจสอบโพสต์การโจมตีอื่นถัดจากซองฮุนที่กำลังบ่น


นี่เป็นเพราะอย่างที่เธอพูดไม่ว่าคะแนนโพสต์การโจมตีอื่นๆที่ได้รับจากการตัดสิน LB Sports และการประเมินผลกลุ่มผู้เล่นสูงแค่ไหนก็ไม่ต่างจากการบอกว่าอันดับ 1 ถูกตัดสินแล้ว


แม้ว่าอันดับที่ 2 จะได้รับ 100 คะแนนที่สมบูรณ์แบบทั้งในการประเมินกลุ่ม แต่คะแนนรวมของพวกเขาจะอยู่ที่ 270 คะแนนเท่านั้นและไม่มีทางที่พวกเขาจะชนะคะแนนแนะนำ 300 อันดับที่ 1


“ถึงอย่างนั้น… ตอนนี้เนื่องจากงานเป็นงานเราจะต้องทำ”


ขณะที่มองที่ซองฮุนผู้ตอบด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น ไฮอินส่ายหัวของเธอ


“โพสต์การโจมตีนั้นฉันยังเห็นก่อนหน้านี้ แต่เราช่วยไม่ได้ที่จะให้ 100 คะแนน ถึงแม้ว่าทีมวางแผนที่วางแผนออกมาสำหรับการเขียนโพสต์การโจมตีดันเจี้ยนฟอลัน ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะสามารถเขียนได้ดีกว่าคนๆนั้นไหม”


“…ฉันเห็นด้วย”


แน่นอนว่าคุณภาพของการโจมตีนั้นเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของเหตุผลว่าทำไมการโจมตีของจินซุงนั้นครองอันดับที่ 1 แต่มันก็เป็นเพราะพลังของชื่อการปลุกปั่นที่กล่าวว่าเคลียร์ภายในเวลา 15 นาทีและวิดีโอที่สามารถเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ


“กิลด์ของผู้เล่นเอียนคือกิลด์โลตัสใช่ไหม?”


“ใช่ไฮอิน”


ไฮอินเกาหัวของเธอเมื่อเธอพูดต่อ


“อย่างน้อยหาข้อมูลการติดต่อของหัวหน้ากิลด์โลตัสให้หน่อยสิ”


“เพื่ออะไร?”


“เพราะว่าฉันคิดว่ารางวัลอันดับที่ 1 จะถูกส่งไปที่นั่น”


ซองฮุนยิ้มเมื่อเขาพยักหน้า


“อ่อ ได้สิ”


 


* * *


 


ในขณะเดียวกันเอียนซึ่งได้เข้าสู่ไคลันก็มุ่งหน้าไปยังทวีปทางใต้ด้วยหัวใจที่สงบสุข


นี่เป็นเพราะด้วยผลลัพธ์ที่เขาตรวจสอบตอนเย็นเมื่อวานนี้ เขาคิดว่าเขาได้ครอบครองอันดับที่ 1 แล้วสำหรับอีเว้นท์เป็นความจริงที่ยอมรับได้


“ฉันควรซื้อหินย้อนกลับก่อนหน้านี้…”


เอียนบ่นเมื่อเขาค้นหาสิ่งของผ่านคลังของเขา


เมื่อเขาใช้เวลานานเช่นนี้เฉพาะในทวีปทางเหนือ เขาจึงไม่ได้มีหินย้อนกลับสำหรับทุกที่ในหมู่บ้านต่างๆของทวีปทางใต้


ซีเรียที่ตามหลังเขามาเมื่อเขาบ่นพึมพัมได้ยิ้มอย่างร่างเริงเมื่อเธอพูด


“เอ่อ ท่านลอร์ดคะ ถึงกระนั้นเนื่องจากท่านมากับฉัน ท่านจะไม่เบื่อใช่ไหมคะ?”


ขณะที่มองไปยังซีเรียซึ่งวิ่งเหยาะๆอยู่ข้างเขาและค้างอยู่ที่หน้าเธอทันที เอียนได้แต่ตกใจและพูดติดอ่าง


“อ๊ะ… นะ แน่นอนซีเรีย มันไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน”


ท่ามกลางผู้ติดตามของเขา เอียนพาแค่ซีเรียมากับเขาเพื่อไปที่ทวีปทางใต้


เหตุผลสำหรับเรื่องนั้นเพราะว่าท่ามกลางผู้ติดตามทั้งห้าคน ซีเรียเป็นคนที่ช่วยได้มากที่สุด


‘เนื่องจากมันเป็นเรื่องน่ารำคาญเล็กน้อยที่ต้องพาคนอื่นๆไปรอบๆด้วย… และพวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรไดัมากเช่นกัน’


แทนที่จะเป็นความสามารถในการต่อสู้ของเธอ พลังแฝงของซีเรียสกิลฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยได้ดีมากเมื่อล่า


‘ฉันรู้สึกเสียใจที่ไม่พาซีเรียไปกับฉันเมื่อฉันไปสู้กับออร์วิลตั้งหลายครั้ง’


ผู้ติดตามคนอื่นๆไม่สามารถแสดงพลังการต่อสู้เท่ากับหนึ่งในสัตว์เลี้ยงของเอียนและเสียชีวิตทันทีเมื่อพวกเขาพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง


อย่างไรก็ตามซีเรียสามารถให้ความช่วยเหลือได้มากในขณะที่รับบทบาทสนับสนุน


ถ้าเขามีความสามารถในการรักษาสัตว์เลี้ยงของซีเรีย จะไม่มีเหตุการณ์ที่ดุ๊กเดจะตายแน่นอน


“แต่ว่าลอร์ดคะ เราจะไปที่ไหนกันอ่ะคะ?”


เมื่อซีเรียถาม เอียนกระพริบตาและตอบกลับ


“ห้ะ? ฉันยังไม่ได้บอกเธอหรอว่าจะไปที่ไหนน่ะ?”


“ยังเลยค่ะ!”


“… ถ้างั้น เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนแต่เธอก็ยังจะบอกว่ามาด้วยเนี่ยนะ?”


“ค่ะ! เนื่องจากฉันรู้สึกดีในทุกที่ที่ท่านไป!”


“…”


ในขณะที่มองไปที่ซีเรียที่สร้างคำพูดอันตราย (?) ด้วยสีหน้าสดใส เอียนส่ายหัว


‘ถ้าฮารินมาเห็น มันอาจจะยากที่ฉันจะรอดไปได้ใช่ไหม?’


เมื่อเร็วๆนี้เอียนก็เริ่มตระหนักว่าความสัมพันธ์ของเขากับฮารินไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘เพื่อน’


แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถกำหนดประเภทของความสัมพันธ์ของมันได้…


“เรากำลังจะไปที่เมืองหลวงของลัสเปลน่ะซีเรีย”


“เมืองหลงของลัสเปลหรอคะ? ว้าว ถ้างั้นเรากำลังไปพบกับท่านราชาหรอคะ?”


อย่างไรก็ตาม เมื่อซีเรียทำท่าทางน่ารัก เอียนยิ้มและพยักหน้า


“ใช่ ถูกต้อง เรากำลังจะไปพบท่านราชากัน”


 


* * *


 


“เอมิลี่สิ่งที่เธอกำลังจะบอกคือทวีปกลางจะเปิดการอัปเดตครั้งใหญ่ครั้งที่สองหรอ?”


“นั่นแหละที่ฉันกำลังจะบอก ข้อมูลของฉันเชื่อถือได้ดังนั้นนายสามารถเชื่อข้อมูลนี้ได้นะ”


“ไม่นะ แต่มันอาจจะไม่ใช่ข้อมูลพิเศษได้หากมันเป็นแค่ข้อมูลว่าทวีปกลางกำลังเปิดตัว ข้อมูลที่เธอให้ฉันไม่ได้มีแค่นี้ใช่ไหม? ไม่มีอะไรที่เราสามารถหาได้อีกแล้วหรอ”


“แน่นอนว่ายังมีเนื้อหาที่สำคัญมากกว่านี้อยู่”


ณ พื้นที่ของเมืองกิลด์ไททั่นซึ่งเป็นที่ 2 ในการจัดอันดับกิลด์ของเซิร์ฟเวอร์เกาหลี


ซีลรอนรองหัวหน้ากิลด์ของกิลด์ไททั่นและเอมิลี่คนสนิทและหนึ่งในหัวหน้าสมาชิกที่สนทนากันอย่างเป็นส่วนตัว


“อะไรคือเนื้อหาที่สำคัญที่เธอพูดถึง?”


เอมิลี่พูดต่อด้วยเสียงอย่างลับๆ


“อย่างแรก นายอาจสันนิษฐานได้ว่าทวีปกลางนั้นถูกปกคลุมไปด้วยฐานที่ไม่มีเจ้าของเช่นเดียวกับทวีปทางตอนเหนือ”


“ถูกต้อง”


“สิ่งที่อาจถือได้ว่าเป็นข้อพิจารณาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ…”


หลังจากพักหายใจ เธอพูดต่ออย่างช้าๆ


“นั่นคือโซน PK ของทวีปกลาง”


“…โซน PK หรอ?”


“ใช่ โซน PK”


เงียบไปชั่วขณะ


คำว่าโซน PK นั้นเป็นคำที่สร้างความคิดได้มากมาย


มันเหมือนกับเกมต่างๆ แต่ ‘โซน PK’ นั้นเป็นเนื้อหาที่อ่อนไหวมาก


เนื่องจากหากเนื้อหานี้มีการใช้งานที่ไม่ดี ความสมดุลของเกมจะพังและยังมีอีกหลายกรณีที่เกมสูญเสียผู้เล่นทันที


“เมื่อเธอพูดว่าโซน PK นั่นหมายความว่าโทษที่คุณได้รับจากการฆ่าผู้เล่นจะหายไปหรอ?”


“ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ทั้งหมด หากคุณประสบความสำเร็จในการฆ่าผู้เล่นในทวีปกลาง จากนั้นแทนที่จะได้รับโทษ คะแนน ‘พิเศษ’ ของคุณจะเพิ่มขึ้นดูเหมือนว่าคุณสามารถเปลี่ยนคะแนนพิเศษเหล่านี้เป็นเกียรติยศและแลกเปลี่ยนสำหรับไอเทมได้เช่นกัน”


ทวีปโคโรน่าปัจจุบันแยกออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ


อาณาจักรไคม่อนครอบครองฝั่งตะวันตก ขณะที่อาณาจักรลัสเปลครอบครองฝั่งตะวันออก


เหตุผลที่ไม่มีข้อพิพาทใหญ่ระหว่างสองอาณาจักรศัตรูตลอดกาลนี้เป็นเพราะทวีปกลางเป็นดินแดนที่ถูกปิดกั้นอยู่หลังเวสต์แลนด์ซึ่งยังไม่เปิดให้เผยแพร่ในข้อพิพาทนั้น


เมื่อทวีปทางตอนเหนือเปิดตัว รูปแบบการติดต่อเริ่มปรากฏระหว่างทั้งสองอาณาจักร อย่างไรก็ตามเมื่อสงครามดินแดนที่ยังปรากฏขึ้นเป็นระยะกำลังยุติลง ความจริงที่ว่าทวีปกลางกำลังเปิดขึ้นในขณะที่โซน PK ไม่แตกต่างไปจากการบอกว่าพวกเขากำลังจะจุดฉนวน


“สำหรับพวกเขาที่จะไม่เพียงแต่จะลบบทลงโทษออกไปเท่านั้น แต่เพื่อให้รางวัลใหม่แก่เราเช่นกัน มันเป็นเนื้อหาที่เป็นระดับสูงแน่นอน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่รางวัลที่จะเสียไป”


“ถูกต้อง ฉันไม่สามารถรับข้อมูลได้ แต่จากสิ่งที่ฉันเพิ่งได้ยินโดยบังเอิญมีบางสิ่งที่เรียกว่า ‘ตราประทับราชวงศ์’ เช่นกัน”


น้ำเสียงของเอมิลี่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและใบหน้าของซิลรอนผู้ซึ่งสงบสติอารมณ์ของเขาจนถึงปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง


“ตราประทับราชวงศ์หรอ? ตราประทับของราชวงศ์ที่มีข้อกำหนดเพื่อที่จะได้รับการเลื่อนระดับเป็นระดับประเทศหรอ?”


เอมิลี่พยักหน้าเมื่อเธอตอบกลับ


“ถูกต้อง นั่นคือตราประทับราชวงศ์ คะแนนพิเศษนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีข้อกำหนดอื่นๆมารวมอยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งที่มันเป็น”


ซีลรอนค่อยๆพูดหลังจากที่เขาเงียบไปสักพัก


“ฮ่า ดูเหมือนว่ามันจะบ้าไปแล้ว ตราประทับราชวงศ์ เอ่อ… ทันทีที่เปิดทวีปกลาง เราจะต้องต่อสู้อย่างจริงจังราวกับไม่มีวันพรุ่งนี้ ดูเหมือนจะไม่มีเวลาออกไปล่าหรืออะไรก็ตาม”


“อาจจะคงไม่มีเหตุผลที่จะออกไปล่าเลย”


“ทำไมล่ะ?”


“ดูเหมือนว่าคุณจะสามารถได้รับค่าประสบการณ์ค่อนข้างมากแม้ว่าจะฆ่าผู้เล่นหรือ NPC ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาณาจักรศัตรู”


เท่าที่คนสองคนเป็นทั้งผู้เล่นอันดับสูง พวกเขาเริ่มคิดทันทีว่าการอัพเดทนี้จะมีผลต่อทิศทางการเล่นเกมของอนาคตในหัวของพวกเขาอย่างไร


“แม้ว่าสงครามจะเกิดขึ้น เนื่องจากทวีปที่มีอยู่ก่อนจะยังคงรักษาการตั้งค่า No-PK ไว้ แต่เขตเริ่มต้นจะไม่ตกอยู่ในอันตราย ในที่สุดเพื่อที่จะเข้าสู่ฝั่งตะวันตก พวกเขาจะต้องผ่านเวสต์แลนด์และทะเลทรายชิคาร์ ดังนั้นหากเส้นทางไม่สมบูรณ์มันจะเป็นสงครามระหว่างผู้เล่นอันดับสูงที่อยู่เหนือเลเวล 120”


เมื่อซีลรอนพูด เอมิลี่พยักหน้า


“ถูกต้อง”


“อืม… ในบรรดากิลด์ที่มีความสัมพันธ์กับอาณาจักรลัสเปล เป็นกิลด์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของกิลด์สเปนดอร์และกิลด์โอ๊คลันหรอ?”


ในปัจจุบันใน 5 อันดับแรกของเซิร์ฟเวอร์เกาหลี กิลด์ที่วิวาทกันในอันดับ 1 และอันดับ 2 กิลด์ดาร์ครูน่าและกิลด์ไททั่นทั้งคู่เข้าร่วมกับอาณาจักรไคม่อน


อย่างไรก็ตามกิลด์ที่ครองอันดับที่ 3 กิลด์สเปนดอร์และกิลด์โอ๊คลันรวมถึงกิลด์วาเลี่ยนทั้งสามกิลด์นั้นเข้าร่วมกับอาณาจักรลัสเปล ดังนั้นเพียงอิงจากการจัดอันดับจึงสรุปได้ยอดที่สมดุล


ซีลรอนลูบดาบใหญ่ของเขาซึ่งส่องแสงสีขาวเมื่อเขาพึมพัม


“ถ้าเราแค่รับโอกาสนี้ไว้ เราอาจจะสร้างหลักที่จะช่วยให้เราแซงกิลด์ดาร์ครูน่าได้”


“เห็นด้วยเราจำเป็นต้องรักษาฐานอย่างน้อยสามแห่งในทวีปกลางและรักษาตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ให้มั่นคงและในครั้งนี้เราต้องเอาชนะกิลด์ดาร์ครูน่าอย่างจริงจัง”


ความจริงที่ว่ากิลด์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาณาจักรลัสเปลไม่ได้อยู่ในหัวของทั้งสองคน


นี่เป็นเพราะเมื่อเปรียบเทียบกับกิลด์สองแห่งของอาณาจักรไคม่อนที่วิวาทกันระหว่างอันดับที่ 1 และ 2 กิลด์ของอาณาจักรลัสเปลนั้นขาดพลังในการต่อสู้อย่างมีนัยสำคัญ


“เราจำเป็นต้องได้รับการตราประทับราชวงศ์ก่อนไม่ว่าอะไรตาม มันยังห่างไกลกว่าที่เราจะสามารถเลื่อนตำแหน่งเป็นระดับประเทศได้ทันที แต่ไม่ว่าเราจะมีสิ่งนั้นหรือไม่ก็ตาม”


ซีลรอนและเอมิลี่เห็นอาณาจักรลัสเปลเป็นเพียงรากฐานสำหรับการเติบโตของกิลด์ของพวกเขา


เป้าหมายของพวกเขาคือกิลด์ที่อยู่ในเป็นความสัมพันธ์กับอาณาจักรเดียวกันกับพวกเขานั่นคือกิลด์ดาร์ครูน่า


“จะว่าไปแล้ว เอมิลี่หัวหน้ากิลด์ไปไหนฉันยังไม่ได้เห็นเขาเลย?”


ชยาครานเป็นหัวหน้ากิลด์ของไททันกิลด์รวมถึงเป็นผู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ในอาชีพวอริเออร์ของเซิร์ฟเวอร์เกาหลีเป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับ


เขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ซีลรอนนับถือในไคลัน


“ชยาครานชอบไปที่เมืองหลวงของอาณาจักรไคม่อนอ่ะ”


“เมืองหลวงหรอ? ทำไมที่นั่นล่ะ?”


“อืม อาจจะเป็นเพราะเควสต์อาณาจักร”


“เข้าใจละ เธอรู้ประเภทของเควสต์นั้นไหม?”


และเอมิลี่พูดต่อ


“ใครจะไปรู้ ฉันไม่แน่ใจแต่อาจจะเกี่ยวข้องกับการอัปเดตใหญ่มั้ง?” 

 

 


ตอนที่ 125

 

ขณะที่เขาไปที่เมืองหลวงซึ่งถือจดหมายที่เขาได้รับจากอิคาเอล เขาก็สามารถเข้าไปได้โดยไม่ยาก


หลังจากตรวจสอบการเขียนของอิคาเอลที่พิมพ์อยู่ด้านนอกของตัวอักษรสีแดง เจ้าหน้าที่พระราชวังให้เอียนผ่านทันที


‘อิคาเอลและกริปเปอร์ทั้งสองนักเวทนี้ต้องมีอิทธิพลต่อตระกูลราชวงศ์อย่างมาก’


อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปข้างในซีเรียก็ไม่สามารถไปต่อได้ ดังนั้นเอียนจึงได้พบกับราชาเพียงคนเดียว


และราชาซีเรียสต้อนรับเอียนอย่างอบอุ่น


“ท่านเอียน ไม่ได้พบกันนาน”


“เช่นกันครับ ท่านราชา”


“ใช่ แล้วเจ้านำจดหมายที่ท่านอิคาเอลส่งมางั้นรึ?”


“ครับ”


เมื่อซีเรียสยกมือ เฮลเลี่ยมซึ่งยืนอยู่ข้างราชาเข้าไปหาเอียนและนำจดหมายมา


และขณะที่มองไปยังซีเรียสซึ่งแกะจดหมายออกและอ่านมัน เอียนสะอึก


‘อะไรวะเนี่ย ทำไมท่าทางของราชากลับมาจริงจังอีกครั้ง? อะไรที่เขาวางแผนจะให้ฉันทำ…’


เขาคิดเอาเองว่าเควสต์จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อเห็นการแสดงออกอย่างจริงจัง เขารู้สึกกังวลยิ่งกว่าอะไร


ด้วยเสียงเบาๆ ซีเรียสพึมพัม


“ข้าเข้าใจละ ดังนั้นเขาอยู่ในเกาะปาสคาล เจ้าพูดว่า…”


หลังจากอ่านจดหมายทั้งหมด ซีเรียสหันความสนใจไปหาเอียน


“ท่านเอียน”


“ครับท่านราชา”


“อย่างไรก็ตาม เจ้ารู้จักสถานที่ที่เรียกว่าเกาะปาสคาลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ไหม?”


“เกาะปาสคาลหรอครับ…”


เอียนคิดและพยายามนึกสถานที่ที่มีชื่อว่าหมุ่เกาะปาสคาล


‘เกาะหรอ? ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง…’


อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะคิดสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่นั้นเลย


“ผมไม่แน่ใจครับท่านราชา”


และซีเรียสพูดต่อ


“ข้าเข้าใจแล้ว แต่อีกครั้งไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนไม่มีทางที่เจ้าจะไปประเทศศัตรู”


เมื่อคำเหล่านั้น เอียนหายใจเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ


‘ประเทศศัตรู? เขากำลังบอกฉันว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศศัตรูหรอ…? มันใช่ส่วนหนึ่งของอาณาจักรไคม่อนหรือป่าว?’


เอียนรีบเปิดแผนที่ไหล่ทวีปที่อยู่ด้านบนสุดของอินเทอร์เฟซของเขา


และเขาสามารถค้นพบที่ชื่อว่า ‘เกาะปาสคาล’ เหนื่อพื้นที่ของเกาะเล็กๆรวมกันไปทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งในทะเลทางใต้สุดของอาณาจักรไคม่อน


เอียนเริ่มกังวลมากขึ้น


นี่เป็นเพราะหากสัญชาติของเขาถูกค้นพบในขณะที่เขาอยู่ในประเทศศัตรูเขาอาจถูกแทงจนตายในไม่ช้า


เซรเรียสพูดต่อ


“เกาะปาสคาลประกอบด้วยหมู่เกาะต่างๆทั้งสิ้นสิบแปดเกาะและอิคาเอลกำลังพูดว่าเขาพบว่าในหมู่พวกมัน เกาะที่เรียกว่า ‘คุกปาสคาล’ ซึ่งเป็นคุกที่อาณาจักรไคม่อนสร้างขึ้น”


เอียนที่คิดไม่ออกว่าจะตอบอย่างไรฟังคำพูดของเขาอย่างเงียบๆ


“และมีนักโทษของสงครามคาลาเบียสเมื่อสิบปีที่แล้วซึ่งถูกขังอยู่ในสถานที่นั้นโดยคนของอาณาจักรไคม่อน”


คำว่าสงครามคาลาเบียสนั้นไม่คุ้นเคยเลย แต่อย่างใดเอียนมีลางสังหรณ์ว่าเขาจะได้รับเควสต์อะไร


‘นี่เป็นเควสต์สำหรับฉันที่จะไปช่วยนักโทษสงครามหรอ?’


ซีเรียสพูดต่อ


“คำพยากรณ์บอกว่าหมอกสีดำที่ถูกปกคลุมไว้รอบๆหุบเขาคาลาเบียสจะหายไป”


“หุบเขาคาลาเบียส…?”


เมื่อเอียนถาม ซีเรียสพยักหน้าและอธิบาย


“หุบเขาคาลาเบียสเป็นดินแดนแห่งความมืดที่ลึกลงไปอีกเล็กน้อยผ่านสกายไฮแลนด์ที่เจ้า เอียนไปเพื่อฟักไข่กริฟฟิน”


ทันทีที่เอียนได้ยิน มีอะไรบางอย่างที่เขาจำได้


‘อ่อ เขาต้องพูดถึงหุบเขาลึกที่แบ่งทวีปออกเป็นครึ่ง’


แต่แล้วคำถามก็เกิดขึ้น


‘บทบาทของหมอกดำมืดที่ปกคลุมเหนือหุบเขาคาลาเบียสน่าจะปิดกั้นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางของทวีปซึ่งยังไม่เปิด… แต่มันไม่ได้ถูกยกขึ้นหรอ?’


ต่างจากความคิดที่สับสนของเอียน ซีเลียสพูดต่อไป


“ในขณะที่หมอกที่ปกคลุมเหนือหุบเขาคาลาเบียสถูกยกขึ้น เราอาจจะต้องทำสงครามกับอาณาจักรไคม่อนอีกครั้ง ก่อนหน้านั้นเราต้องเอานักโทษสงครามกลับมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”


เฮลเลี่ยมที่ยืนอยู่ข้างเขาโดยไม่ได้พูด เสริมคำอธิบาย


“เราต้องช่วยอย่างน้อยที่สุดวอริเออร์ที่ชื่อว่า ‘ไคซาร์’ ท่านเอียน เขาเป็นหนึ่งในนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดที่เรามีในอาณาจักรลัสเปล ถ้าข้อมูลของอิคาเอลไม่ผิดเขาก็จะถูกคุมขังที่นั่น”


เอียนที่จัดการข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้ยินจากซีเรียสและเฮลเลี่ยมในหัวของเขา พูดอย่างช้าๆ


“อย่างไรก็ตาม วันที่หมอกของหุบเขาคาลาเบียสจะหายไปตามคำทำนายวันไหนหรอครับ?”


เอียนถามโดยไม่ได้คาดหวัง แต่น่าประหลาดใจ ซีเรียสพยักหน้าและตอบกลับ


“มันน่าจะสองสัปดาห์ต่อจากนี้ ตามคำทำนายระบุว่าหมอกของหุบเขาคาลาเบียสจะหายไป”


จากนั้น เอียนรู้สึกถึงข้อมูลที่ลอยอยู่ในหัวของเขารวมด้วยกันเหมือนปริศนา


‘สองสัปดาห์ต่อจากนี้…! นั่นเป็นวันอัปเดตใหม่สำหรับอัปเดตครั้งใหญ่ ทวีปกลางจะเปิดขึ้น!’


เมื่อพบข้อมูลที่ไม่คาดคิด การแสดงออกของเอียนก็เปล่งประกายเล็กน้อย


‘เมื่อทวีปกลางเปิดขึ้น อาณาจักรไคม่อนและอาณาจักรลัสเปลจะเชื่อมถึงกัน… จากนั้นจะเป็นสงครามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้’


เอียนซึ่งมีความรู้สึกว่าเขากำลังจะจัดการกับประเด็นสำคัญของการอัพเดทครั้งใหญ่รู้สึกยินดี


“อย่างไรก็ตามเอียน ข้าหวังว่าเจ้าจะไปที่เกาะปาสคาลและช่วยนักโทษ ว่ายังไงล่ะ เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำมันได้ไหม?”


ตามคำพูดของซีเรียส หน้าต่างเควสต์โผล่ขึ้นมาต่อหน้าเอียน


กริ๊ง-


 


        ช่วยนักโทษสงคราม

เร็วๆนี้ ราชาซีเรียสของอาณาจักรลัสเปลได้รับคำทำนายว่า ‘หมอกมืดของหุบเขาคาลาเบียส’ จะหายไป


หมอกสีดำเป็นข้อจำกัดที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากมหาสงครามคาลาเบียสเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วผ่านปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ


หากมีการยกเลิกข้อจำกัดนี้สงครามจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ระหว่างสองอาณาจักรอีกครั้งและซีเลียสก็คาดหวังให้คุณช่วยเหลือนักโทษของอาณาจักรลัสเปลที่ถูกจับเป็นเชลยก่อนหน้านั้น


ในหมู่พวกเขานักดาบที่มีชื่อว่า ‘ไคซาร์’ มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากเขาเป็นบุคคลที่ต้องการเพื่อนำอาณาจักรไปสู่ชัยชนะ


ภายในสองสัปดาห์ ช่วยนักโทษและกลับไปที่เมืองหลวงอย่างปลอดภัย


ระดับความยากเควสต์ : S


ข้อกำหนดเควสต์ : ผู้เล่นที่เป็นขุนนางของอาณาจักรลัสเปล


ผู้เล่นที่มีค่าความสัมพันธ์กับราชามากกว่า 500 หน่วย


เวลาจำกัด : 15 วัน (เวลาจำกัดในการช่วยนักโทษ)


รางวัล – คะแนนพิเศษ 2,000 หน่วย


เกียรติยศตระกูลราชวงศ์ (ขึ้นอยู่กับระดับการเคลียร์ จำนวนจะแตกต่างกันออกไป)


ชื่อเสียง (ขึ้นอยู่กับระดับการเคลียร์ จำนวนจะแตกต่างกันออกไป)


เอียนที่อ่านเนื้อหาทั้งหมดของ เควสต์แสดงสีหน้าแปลกๆหลังจากค้นพบคำศัพท์ใหม่


‘นอกเหนือจากสิ่งอื่นแล้ว คะแนนพิเศษคืออะไร?’


นี่เป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นคำว่า ‘คะแนนพิเศษ’ ซึ่งเขียนไว้ในแท็บรางวัล


อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะได้รับรางวัลอะไรเขาวางแผนที่จะทำเควสต์ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอียนจึงยอมรับเควสต์โดยไม่ลังเล


และถ้ามันเป็นเควสต์ระดับ S ที่เขาเคยเคลียร์มาก่อน เขามีความมั่นใจ


“ผมจะลองดูครับ ท่านราชา”


และเมื่อเอียนตกลง ซีเรียสแสดงท่าทางพึงพอใจเมื่อเขาพยักหน้า


“เป็นไปตามที่คาด ถ้ามันเป็นเจ้าท่านเอียน ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ล้มเหลวในการตอบสนองสิ่งที่ข้าคาดไว้”


ซีเรียสซึ่งหันความสนใจไปหาเฮลเลี่ยม พูดต่อ


“เฮลเลี่ยม โปรดให้เรือเกลเลี่ยนสามลำแก่ท่านเอียน”


เรือ ‘เกลเลี่ยน’ เป็นเรือขนาดใหญ่ที่มีดาดฟ้า 3-4 ชั้นที่เกิดจาก ‘กาเลีย’ ซึ่งมีการใช้งานในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในยุคกลาง


และมันเป็นเรือรบที่สร้างกองกำลังหลักของกองทัพเรือของอาณาจักรลัสเปล


เฮลเลี่ยมตอบด้วยเสียงที่แสดงถึงระเบียบวินัย


“รับทราบครับ ท่านราชา”


 


* * *


 


“มาทางนี้ครับ บารอนเอียน”


อีสลันเมืองริมทะเลทางใต้สุดของอาณาจักรลัสเปล


เอียนซึ่งมาถึงสถานที่แห่งนี้ทันทีผ่านการวาร์ปจากในเมืองหลวง แสดงออกอย่างงุนงง


‘อะไรวะเนี่ย มันเป็นไปได้ที่จะเคลื่อนย้ายแบบนี้ด้วยหรอ?’


นี่เป็นเพราะนักเวทของตระกูลราชวงศ์ใช้การเคลื่อนย้ายมวลสารและเคลื่อนย้ายเอียนทันที


หลังจากได้ยินว่าเขาจะต้องไปทางตอนใต้สุดของทวีปเพื่อขึ้นเรือเอียนซึ่งคิดว่ามันต้องใช้เวลาค่อนข้างนานจึงแสดงความพึงพอใจ


‘เวลาที่ฉันจะใช้เวลาไปไหนมาไหนเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองมากที่สุด แต่นี่เป็นการโล่งอก’


คนที่นำทางเอียนเป็นอัศวินระดับสูงของผู้ปกป้องราชวงศ์ของตระกูลราชวงศ์ที่เฮลเลี่ยมจัดหาให้


เขาชื่อว่าพอลลีน


เขาเกือบจะเลเวล 170


หลังจากตรวจสอบเลเวลของเขา เอียนก็ประหลาดใจ


‘ฉันควรไปกับเขา…’


ด้วยเสียงใสๆ เอียนเข้าร่วมสนทนากับพอลลีน


“มีเมืองเช่นนี้ด้วยหรอเนี่ย มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นมัน”


เมื่อคำเหล่านั้น พอลลีนแสดงอาการงุนงงเมื่อเขาถามกลับ


“นายบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่นายมาที่นี่หรอ? มันเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในทางตะวันตกของอาณาจักรเลยนะ”


เอียนแสดงอาการเขินอาย


“อ่อ มันต้องเป็นเพราะว่าผมมักจะไปตะวันออกหรือทางเหนือน่ะครับ”


โชคดีที่เวลาที่น่าอึดอัดใจ (?) ระหว่างทั้งสองคนนั้นไม่นานนัก


นี่เป็นเพราะท่าเรือที่กองทัพของอาณาจักรถูกส่งไปประจำการอยู่ไม่ไกลจากที่ที่พวกเขาถูกวาร์ปมา


ดูเหมือนว่าราชาทรงติดต่อกับพวกเขาแล้ว เนื่องจากเรือทั้งสามลำที่จะเคลื่อนไปกับเอียนก็อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมที่ท่าเรือ


กัปตันที่เจอปาร์ตี้ของเอียนและพอลลีนรวมถึงซีเรียได้เข้าไปหาพวกเขา


“ทำความเคารพ! ท่านมาถึงแล้ว บารอนเอียน”


เอียนซึ่งรู้สึกอึดอัดใจกับการเคารพคำนับของกัปตันได้ก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนที่จะตรวจสอบข้อมูลของเขาอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม


‘คนนี้ที่เรียกว่ากัปตัน… ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาดูน่าอัศจรรย์มากกว่าพอลลีน’


พื้นฐานของเขาสำหรับการที่ไม่มีใครอื่นนอกจากร่างกายที่ขรุขระและลักษณะของเขา


เขาเป็นเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือของอาณาจักรลัสเปลแต่รูปร่างหน้าตาของเขาเกือบจะกลายเป็นโจรสลัด


 


        ลอว์เร้นท์

เลเวล : 195


ตำแหน่ง : กัปตันคนที่ 3 ของกองเรืออีสลัน


 


‘…’


และเอียนไม่ได้พูดอะไร


เมื่อเขาตรวจสอบเลเวล 195 อันอุกอาจรูปร่างหน้าตาของเขาดูยิ่งโหดร้ายยิ่งกว่าเดิม


“ยะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเอียน”


เอียนที่จับมือกับกัปตันได้เดินขึ้นไปบนเรือ


และซีเรียผู้เดินตามหลังของเขา กระซิบที่หูของเอียนด้วยเสียงที่เบาๆ


“ลอร์ดคะ คนนั้นดูน่ากลัวนิดหน่อยนะคะ…”


เป็นไปตามที่คาด เอียนเห็นด้วยกับคำพูดของเธออย่างมาก


“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน…”


เช่นนั้น เอียนได้ขึ้นเรือเป็นครั้งแรกขณะเล่นไคลัน


นี่คือการเดินทางครั้งแรกของจินซุงในชีวิตของเขา


 


* * *


 


Keu-keu-keung-!


ชั้นใต้ดินของคุกซึ่งมืดและชื้น


ประตูเหล็กเปิดออกไปด้านข้างพร้อมกับเสียงโลหะที่ไม่สะดวกต่อการได้ยิน


“ไคซาร์มันยังไม่ถึงเวลาที่แกต้องยอมแพ้แล้วหรอ? ลัสเปลลืมแกไปแล้ว”


การนั่งอยู่กลางหินปูนเป็นคนที่มีขาและแขนถูกผูกไว้และชายผู้ติดอาวุธทั้งหมดในชุดเกราะสีเงินเข้าหาเขาเมื่อเขาเริ่มการสนทนา


ชายในชุดเกราะสีเงินชื่อราโครมและเขาเป็นหัวหน้าของอัศวินอาณาจักรไคม่อน


“ตลกละ มันไม่มีทางจะเป็นอย่างนั้น แค่ถึงแม้ว่ามันจะจริง ข้าก็ไม่สนใจหรอก”


ไคซาร์ตอบด้วยเสียงแหบห้าวขณะที่ยังคงนั่งอยู่และราโครมนั่งลงบนแท่นหินที่เพิ่งพิงอยู่ข้างเขา


“สิบปีผ่านไปและเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการทำนายว่าหมอกของหุบเขาคาลาเบียสจะหายไป”


“…!”


ตามคำทำนาย ไคซาร์ที่ไม่ได้ขยับเขยื้อนอยู่ครู่หนึ่งได้เงยขึ้นหน้าเล็กน้อย


ในขณะที่ผมหงอกของเขาซึ่งยาวขึ้นครอบคลุมทั้งใบหน้าของเขาการแสดงออกของเขาไม่สามารถมองเห็นได้อย่างเหมาะสม แต่มีแสงแปลกๆส่องออกมาจากดวงตาของเขาซึ่งมองเห็นได้ระหว่างเส้นผมของเขา


“สงครามนองเลือดจะเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง…”


ไคซาร์พึมพัมด้วยเสียงเยาะเย้ยตนเอง


ราโครมพูดอีกครั้ง


“ถ้าแกช่วยเรา แกอาจจะรวมทวีปโคโรน่าได้ด้วยโอกาสนี้นะไคซาร์”


ราโครมชักชวนไคซาร์ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า


อย่างไรก็ตาม ไคซาร์เพียงแค่แสยะยิ้ม


“อย่าทำให้ข้าขำหน่อยเลยราโครม สมรภูมินั้นไม่ใช่สถานที่ที่สามารถควบคุมได้ด้วยกำลังของเพียงคนเดียวหรือสองคนเท่านั้น”


และเขาก็เบะปาก


“หากว่าลัสเปลไม่มีข้า พวกเขายังมีเฮลเลี่ยมรวมถึงกริปเปอร์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่แกคิด”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม