Scholar’s Advanced Technological System 67-80

 ตอนที่ 67 โชคร้าย


 


 


บรรยากาศยามค่ำคืนนอกหน้าต่างกำลังคึกคัก การจราจรบนท้องถนนก็ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด


 


ลู่โจววางโทรศัพท์แล้วปิดม่าน จากนั้นเขาก็อาบน้ำก่อนจะล้มตัวนอนบนเตียง เขากระซิบในใจแล้วเข้าสู่มิติของระบบที่มีสีขาวบริสุทธิ์


 


เป็นไปตามคาด หลังจากรายชื่อผู้ชนะถูกประกาศอย่างเป็นทางการ ภารกิจก็เสร็จสมบูรณ์


 


ลู่โจวรีบไปที่หน้าจอกึ่งโปร่งใสที่มีข้อความจำนวนมากปรากฏขึ้น


 


[โฮสต์ขอแสดงความยินดีด้วยที่ทำภารกิจสำเร็จ หวังว่าโฮสต์จะพยายามต่อไปอย่างไม่ลดละ]


 


[รายละเอียดภารกิจที่ทำสำเร็จ : ได้รับรางวัลระดับประเทศ ได้รับรางวัล Higher Education Society Cup…ผลการประเมิณขั้นสุดท้ายของภารกิจคือ S+ (ได้รับภารกิจรางวัล)]


 


[รางวัลภารกิจ : จากสาขาที่ใช้ในการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ แต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ 2000 แต้ม แต้มประสบการณ์ฟิสิกส์ 2000 แต้ม แต้มทั่วไป 500 แต้ม ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ (ขยะ 80% ประสบการณ์ 10% ตัวอย่าง 5% พิมพ์เขียว 5%)]


 


เมื่อลู่โจวเห็นผลการประเมิณ S+ เขาก็มีความสุข


 


เป็นไปตามคาด รางวัลชนะเลิศระดับประเทศคือความต้องการขั้นต่ำที่จะทำให้ภารกิจสำเร็จ รางวัล Higher Education Society Cup กับรางวัล MATLAB Innovation award สอดคล้องกับผลการประเมิณระดับ S+ และ S ตามลำดับ


 


เขาเคยได้ผลการประเมิณระดับ S ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจกฏนัก


 


อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้ผลการประเมิณระดับ S+ เขามั่นใจว่าการได้รับ S หรือสูงกว่าจะหมายถึงเขาได้รับภารกิจรางวัล!


 


ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วออกคำสั่ง


 


“ระบบ เปิดแผงหน้าต่างคุณสมบัติ!”


 


[


 


โฮสต์ : ลู่โจว


 


วิทยาศาสตร์หลัก :


 


A คณิตศาสตร์ : ระดับ 1 (2000/10000)


 


B ฟิสิกส์ : ระดับ 1 (2100/10000)


 


C ชีววิทยา : ระดับ 0 (0/1000)


 


D วิศวกรรม : ระดับ 1 (0/10000)


 


E วัสดุศาสตร์ : ระดับ 0 (0/1000)


 


F วิทยาการพลังงาน : ระดับ 0 (0/1000)


 


G วิทยาการสารสนเทศ : ระดับ 1 (0/10000)


 


แต้มทั่วไป : 1175 (ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ)


 


ภารกิจ : ไม่มี


 


]


 


คณิตศาสตร์เป็นตัวจำกัดในการอัพเกรดสาขาวิชาอื่น ดังนั้นลู่โจวจึงมุ่งเน้นคณิตศาสตร์เป็นหลัก จากนั้นก็มีวิศวกรรมและวิทยาการสารสนเทศที่เป็นทั้งสองวิชาที่ทำเงินได้ง่ายที่สุด ลู่โจวตัดสินใจทิ้งฟิสิกส์และปล่อยมันไว้แบบนั้น


 


ต่อไป…


 


เป็นการเสี่ยงโชคที่น่าตื่นเต้น!


 


ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขายื่นมือออกมาแล้วกดปุ่มเสี่ยงโชค เมื่อเขาเห็นวงล้อรางวัลที่คุ้นเคยปรากฏตรงหน้า เขาก็กล่าว “หมุน!”


 


วงล้อเริ่มหมุนด้วยความเร็วที่เป็นไปไม่ได้เลยที่ตาเปล่าจะมองทัน


 


ลู่โจวพูดซ้ำๆว่า’ขอรางวัลดีๆ ขอรางวัลดีๆ’อยู่ในใจหลายครั้ง เขาหลับตาแล้วตะโกน


 


“หยุด!”


 


แรงเฉื่อยของวงล้อทำให้มันหมุนไปอีกสองสามรอบก่อนจะค่อยๆหยุดลง


 


ลู่โจวลืมตาแล้วมองไปยังหน้าจอ…


 


[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้รับขยะ]


 


บัดซบ!


 


ระบบเกลียดฉันเหรอ?


 


ลู่โจวมองข้อความ’ขยะ’แล้วกรีดร้องในใจ


 


อย่างไรก็ตามระบบก็ยังไม่ได้สนใจเขา


 


[ได้รับ : กาแฟหนึ่งกระป๋อง]


 


“…”


 


ลู่โจวมองไปยังไอคอนบนหน้าจอเงียบๆเพราะเขาตระหนักแล้วว่าระบบไม่ได้สนใจความรู้สึกเขา


 


ลู่โจวออกจากมิติของระบบแล้วนั่งอยู่บนเตียง เขายื่นมือขวาออกมาแล้วกล่าวในใจ ‘กาแฟ กาแฟ…’


 


ตรงหน้าสายตาเขามีอะไรกระพริบมาแวบนึง


 


โดยปราศจากสัญญาณเตือน มีกระป๋องสีน้ำตาลปรากฏอยู่ในมือ มันเป็นเหมือนสิ่งที่หลุดออกมาจากภาพยนตร์


 


อย่างไรก็ตามลู่โจวชินกับความมหัศจรรย์ของระบบไปแล้ว มันไม่เหมือนครั้งแรก เขาไม่แปลกใจเลย กลับกันเขาใจเย็นระคนสงสัย “มันมาจากอนาคตอีกแล้ว? แบรนด์เดียวกับโค้กเลยใช่มั้ยเนี่ย? ทำไมถึงไม่ให้สไปรท์แทนล่ะ?”


 


ลู่โจวพลิกกระป๋องไปมาเพื่อหาวันที่ผลิต แต่เขาก็หาไม่เจอ


 


“ฉันลองโค้กโลกอนาคตแล้ว มาดูกันว่ากาแฟโลกอนาคตรสชาติเป็นยังไง”


 


ลู่โจวเปิดกระป๋องแล้วกระดกกาแฟเข้าปาก


 


อืม…


 


มันให้ความรู้สึกเหมือนรสชาติกาแฟสำเร็จรูปธรรมดา แต่มันนุ่มนวลมาก


 


มันอร่อยสุดจะพรรณนา และเขาก็อยากดื่มอีกกระป๋อง


 


มันเป็นความรู้สึกพึงพอใจที่อธิบายไม่ได้ที่คล้ายกับความรู้สึกของโค้ก’โลกอนาคต’


 


ลู่โจวเลียมุมปากแล้วเช็ดกระป๋องให้สะอาด เขายัดมันใส่กระเป๋า เขาวางแผนจะทิ้งมันลงถังขยะสาธารณะข้างนอกในวันพรุ่งนี้ ข้อมูลเช็คอินโรงแรมเชื่อมโยงกับรหัสบัตรประชาชนของเขา แม้ว่าจะไม่มีใครสนใจกระป๋องเปล่าเล็กๆอันนี้ แต่เขาแอบๆหน่อยจะดีกว่า


 


เขาเดินเข้าห้องน้ำและล้างหน้าก่อนจะนอนบนเตียง เขาหลับตาและเข้าสู่มิติของระบบ


 


มันเป็นเวลาของภารกิจรางวัล


 


[ภารกิจรางวัลเริ่มต้น!]


 


[


 


ภารกิจ : ภารกิจรางวัล (สามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ ไม่มีการปรับแต้มทั่วไป)


 


สิ่งที่ต้องทำ : วิทยานิพนธ์ SCI 1 ฉบับ


 


รางวัล : แต้มประสบการณ์ตามสาขาวิชา (แต้มประสบการณ์จะขึ้นอยู่กับคุณค่าทางวิชาการของวิทยานิพนธ์ ต่ำสุดคือ 1000 แต้ม สาขาวิชาของแต้มประสบการณ์จะขึ้นอยู่กับเนื้อหาของวิทยานิพนธ์) ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ (ตัวอย่าง 50% พิมพ์เขียว 50%)


 


]


 


ไม่ดีเลย มันไม่ดีเลย


 


รางวัลและความยากอยู่ระดับปานกลาง


 


ดูเหมือนการประเมิณผล S+ จะสอดคล้องกับภารกิจรางวัล ไม่ใช่ทุกภารกิจรางวัลที่จะสามารถปลดล็อคสาขาเทคโนโลยี แต่ตั๋วเสี่ยงโชคอันนี้อาจดีที่สุดแล้ว เพราะเขาจะได้แค่ไม่พิมพ์เขียวก็ตัวอย่าง ไม่ว่าจะได้อะไรมันก็ไม่เลว


 


ส่วนเนื้อหาของภารกิจ มันคล้ายกับภารกิจที่สองของเขา


 


ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือรางวัลต่ำสุดของภารกิจที่สองคือ 100 แต้ม ส่วนภารกิจนี้คือ 1000 แต้ม


 


พูดอีกนัยนึงคือต่อให้เขาส่งวิทยานิพนธ์ที่ทำอย่างลวกๆไปยังวารสารอะไรก็ได้ ตราบใดที่มันผ่านการตรวจสอบ เขาก็จะได้รับแต้มประสบการณ์ 1000 แต้ม


 


“แต้มประสบการณ์ขั้นต่ำ 1000 แต้ม…ฉันสงสัยว่าสูงสุดมันจะเท่าไหร่ ถ้ามันขึ้นอยู่กับคุณค่าทางวิชาการล่ะก็…”


 


ลู่โจวนึกถึงพิมพ์เขียวที่มีข้อพิสูจน์การประมาณของโจว


 


“ครั้งก่อนฉันกลัวที่จะใช้มัน แต่ครั้งนี้ไม่น่ามีปัญหาแล้ว”


 


ได้คะแนนคณิตวิเคราะห์และพีชคณิตขั้นสูงเต็ม เป็นแชมป์การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ระดับประเทศ ส่งวิทยานิพนธ์ 10 ฉบับในหนึ่งเดือน ฯลฯ ลู่โจวพิสูจน์แล้วว่าต่อให้เขาแก้โจทย์ที่ไม่มีใครแก้ได้กว่ายี่สิบปีนี้ได้ ก็ไม่มีใครตั้งคำถามกับเขา


 


ฉันแค่ต้องกลับไปมหาลัยแล้วใช้เวลาพิมพ์วิทยานิพนธ์


 


ลู่โจวออกจากมิติของระบบ เขานอนบนเตียงแล้วข่มตานอน


 


เวลาค่อยๆไหลผ่านไป…


 


นาฬิกาบนผนังก็ไหลไปเรื่อยๆ


 


ลู่โจวพลิกตัวไปมา


 


หลังจากนั้นสักครู่ เขาก็ลืมตาแล้วจ้องมองเพดาน


 


เอิ่ม…


 


ฉันไม่ง่วงเลย


 


ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วหรี่ตามองดูเวลา แต่แล้วคิ้วเขาก็กระตุกอย่างแรง


 


เชี่ย มันตีสองแล้ว?! ฉันไม่รู้สึกว่ามันดึกขนาดนั้นเลย!


 


บางที…


 


มันเป็นเพราะกาแฟกระป๋องนั้น?


 


สีหน้าของลู่โจวเปลี่ยนไป


 


บัดซบ!


 


ช่างมันเถอะ ถือซะว่าดื่มเอารสชาติ!


 


ลู่โจวหายใจไม่ออกเพราะความปวดใจ เขาเอาหัวซุกหมอน


 


ฉันขาดทุนครั้งใหญ่! ฉันควรใช้มันเรียนอย่างบ้าคลั่ง!


ตอนที่ 68 ฉันจับถ้วยรางวัลนายหน่อยได้ไหม?


 


 


ลู่โจวนอนไม่หลับ


 


เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเข้าเว่ยป๋อ


 


เขาไม่ได้เข้าไปดูนานแล้ว เมื่อเขาเห็นว่าเขาได้รับผู้ติดตามเพิ่มอีก 10,000 คน เขาก็รู้สึกค่อนข้างมีความสุข


 


เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์ขนาดนี้


 


อ่า นี่มันน่ากระอักกระอ่วน


 


ฉันเป็นแค่เด็ก ฉันไม่อยากดัง!


 


หืมม…


 


ฉันควรพูดอะไรกับแฟนคลับที่เคารพดี?


 


เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแตะบนหน้าจอแล้วเริ่มพิมพ์


 


[วันนี้ผมไปมหาลัยเยียนและได้รับรางวัล Higher Education Society Cup รู้สึกไม่เลวเลย]


 


[รูปถ่าย (ภาพสกรีนช็อตประกาศนียบัตรบนเว็บไซต์ทางการ)]


 


มันเป็นครั้งแรกที่เขาโพสต์ เขารู้สึกเหมือนเป็นนักเรียนประถมที่กำลังเขียนเรียงความ


 


ช่างมัน ใครจะสน!


 


ลู่โจวกดโพสต์


 


เขาเข้าไปดูหน้ามาแรงและเห็นว่ากระทู้ทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับข่าวซุบซิบของดาราอันน่าเบื่อ พอเขาเบื่อ เขาจึงกลับไปหน้าเว่ยป๋อของตนเอง


 


เขาไม่คิดเลยว่าโพสต์เขาจะมีคอมเมนต์มากมายแล้ว


 


คนพวกนี้ไม่มีอะไรให้ทำแล้วเหรอ?


 


ลู่โจวรู้สึกสนใจคอมเมนต์ เขาจึงเข้าไปอ่านเพื่อดูว่าแฟนคลับเขาจะพูดว่าไงบ้าง


 


[รางวัล Higher Education Society Cup คืออะไร?]


 


[ลูกพี่ คุณจะไปการแข่งขันของUSปีหน้าไหม?]


 


[ท่านเทพ! ถ้าคุณทำตัวแบบนี้ คุณจะไม่มีเพื่อน!]


 


[ตอนนี้ฉันกำลังเตรียมสอบเข้ามหาลัย ฉันเลิกติดตาม]


 


[อีกแล้ว ฉันกำลังดูชีวิตมหาลัยของคนอื่น]


 


[ฉันกดอันฟอลแล้วแสร้งทำเป็นเหมือนไม่เห็นอะไร ฉันไถหน้าจอข้ามไปเลย (สุนัข)]


 


[ขอโทษที่มารบกวน]


 


ลู่โจว “???”


 


เชี่ย ทำไมแฟนคลับถึงหันหลังให้ฉัน?


 


ลู่โจวกดรีเฟรชแล้วเห็นว่าผู้ติดตามลดไป 10 คน เขาพูดไม่ออก


 


…..


 


เช้าตรู่ ลู่โจวล้างหน้าก่อนจะออกจากห้องพร้อมกับกระเป๋าสะพาย


 


เมื่อเขาเดินเข้าไปที่ล็อบบี้ เขาก็เห็นหลินอวี่เซียง


 


“คุณ…โอเคไหม?” หลินอวี่เซียงถามเมื่อเห็นขอบตาดำคล้ำของลู่โจว เธอประหลาดใจ “ฉันมีครีมทาขอบตา…คุณต้องการไหม?”


 


ลู่โจวหาว “ไม่เป็นไร”


 


เขาไม่ได้สนใจขอบตาดำของตน สิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือการขึ้นไปหลับบนรถไฟ


 


ทั้งสามเรียกแท็กซี่แล้วซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟ ลู่โจวเผลอหลับไปสองครั้งขณะรอรถไฟ ครั้งแรกเขาสะดุ้งตื่นเพราะเด็ก ส่วนครั้งที่สองเขาตื่นเพราะหวังเสี่ยวตง


 


“รถไฟจะมาแล้ว”


 


“…จะมาแล้ว?”


 


ลู่โจวขยี้ตาแล้วมองดูหน้าจอเหนือจุดตรวจตั๋ว ไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงเวลาขึ้นรถไฟแล้ว


 


“นอนไม่หลับหรือ?”


 


“ใช่…ฉันจะไปห้องน้ำสักหน่อย”


 


ลู่โจวอยากจะบอกจริงๆ


 


ไม่ใช่ว่าฉันนอนไม่หลับ แต่ฉันไม่ได้นอนเลยต่างหาก…


 


หวังเสี่ยวตงมองลู่โจวที่กำลังหาวแล้วพยักหน้า


 


มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้แชมป์ระดับประเทศ เมื่อคืนเขาก็ตื่นเต้นมาก เขาคุยกับครอบครัวทางโทรศัพท์นานกว่าหนึ่งชั่วโมง และใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าจะข่มตานอนได้


 


ลู่โจวไปล้างหน้าในห้องน้ำก่อนจะไปต่อแถวตรวจตั๋ว


 


เขาผ่านจุดตรวจตั๋วแล้วเดินขึ้นรถไฟเพื่อที่จะหลับต่อ เมื่อหลินอวี่เซียงปลุกเขา เขาก็มาถึงสถานีจินหลิงแล้ว


 


ทริปปักกิ่งสามวันก็จบลงเช่นนี้


 


…..


 


ลู่โจวนั่งรถไฟใต้ดินกลับมหาลัย เมื่อเขามาถึงหอพัก เขาก็ถูกรูมเมทล้อมทันที


 


“ถ้วยรางวัลอยู่ไหน?”


 


“โจว ฉันหมายถึงพี่โจว! ฉันขอจับถ้วยนายหน่อยได้ไหม?”


 


หวงกวงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นแขนไปจับกระเป๋าสะพายของลู่โจว


 


“ออกไป ออกไป” ลู่โจวกล่าว เขาขยับหลบไปข้างๆแล้วกล่าว “ถ้วยไม่ได้อยู่นี่ มันถูกส่งไปยังมหาลัยโดยตรง อย่ามาขอฉัน ถ้านายอยากจับ นายก็ไปขออาจารย์นู่น”


 


“ใครจะสนเรื่องถ้วยรางวัลกัน…เรื่องเลี้ยงข้าวล่ะ?”


 


“ฉันจะเลี้ยง รอจนกว่าฉันจะได้เงินรางวัลก่อน!”


 


โดยทั่วไปแล้ว การแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์จะได้รับเพียงประกาศนียบัตรเป็นรางวัลเท่านั้น มีเพียงแชมป์ระดับประเทศที่จะได้รับถ้วยรางวัล มหาลัยต้องจ่ายค่าถ้วย มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ทางมหาลัยจะเก็บถ้วยเอาไว้


 


มหาลัยจะเก็บถ้วยรางวัลแล้วถ่ายรูปผู้ชนะทั้งสามเพื่อบันทึกเกียรติยศของพวกเขา


 


ระหว่างทางกลับ ลู่โจวได้รับสายจากศาสตราจารย์หลิว เขาก็ถูกเรียกให้ไปที่สำนักบริหารวิชาการเพื่อถ่ายรูป


 


หวังเสี่ยวตงและหลินอวี่เซียงไปนู่นแล้ว ลู่โจวไม่อยากให้พวกเขารอ ดังนั้นเขาจึงโยนกระเป๋าทิ้งไว้ที่หอพักก่อนจะออกมา


 


เมื่อสือช่างเห็นลู่โจวออกไปแล้ว เขาจึงกล่าว “ฉันคิดว่าโจวกำลังจากเราไป เขาไปไกลเกินไป”


 


“นั่นสิ ได้รับรางวัล Higher Education Society Cup ตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ขึ้นเรื่อยๆ” หวงกวงหมิงกล่าวขณะเล่นเกมบนโทรศัพท์


 


“แต่เมื่อฉันคิดว่าโจวยังโสด ฉันก็ใจเย็นได้อีกครั้ง พวกเขาว่ายังไงนะ? การเรียนไม่ใช่ทั้งชีวิต แม้ว่าเราจะเป็นอัจฉริยะไม่ได้ เราก็ยังสามารถมีชีวิตวัยรุ่นและความรักอย่างไม่ต้องเสียใจ” สือช่างกล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยอารมณ์


 


เมื่อหวงกวงหมิงได้ยินแบบนั้น เขาก็แทบทำโทรศัพท์หล่น


 


“เชี่ย พี่เฟย ฉันขอแก้ไขสักหน่อย ฉันเกรงว่านาย…ฉันพานายไปหาหมอไหม?”


 


“หาหมอมีประโยชน์อะไร? เจ้าหมอนี่อาจกินยาลืมเขย่าขวด” หลิวรุ่ยกล่าวขณะทำการบ้านฟิสิกส์ เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ


 


“เลิกเรียกฉันว่าพี่เฟยได้แล้ว เรียกฉันว่าพี่ช่าง” สือช่างกล่าว เขาไม่ค่อยพอใจกับชื่อเล่นใหม่เขานัก เขากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นายไม่เข้าใจความรู้สึกนั้นหรอก”


 


หลิวรุ่ย “…”


 


หวงกวงหมิง “…”


 


สือช่างกล่าวอย่างช้าๆ “ดังนั้น ที่ฉันพยายามจะพูดก็คือมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะในด้านวิชาการ เจ้าหมอนี่เป็นปีศาจ แต่ในแง่ของความรู้สึกหรือEQ เราอาจไม่แย่ไปกว่าเขา ดังนั้นอย่าดูถูกตัวเองนัก…”


 


จู่ๆหลิวรุ่ยก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นั่นอาจไม่ใช่ความจริง”


 


สือช่างถาม “อะไรนะ?”


 


หลิวรุ่ยกล่าว “ช่วงซัมเมอร์ ฉันไปห้องสมุดแล้วเห็นเขานั่งเรียนกับสาว”


 


เมื่อเขาได้ยินแบบนั้น สีหน้าของสือช่างก็ดูกระอักกระอ่วน เขากระแอมก่อนจะกล่าว “เขาแค่นั่งเรียนด้วย ฉันก็เคยนั่งเรียนกับสาว…”


 


หลิวรุ่ยกล่าวต่อ “จากนั้นฉันก็เห็นพวกเขากินข้าวด้วยกันในโรงอาหาร ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนจ่าย”


 


หอพักก็เงียบลง


 


สือช่างกับหวงกวงหมิงมองหน้ากันเองก่อนจะหันมาจ้องมองหลิวรุ่ยเงียบๆ


 


หวงกวงหมิง “…ผู้หญิงคนนั้นน่าเกลียดใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าพวกผู้หญิงอัจฉริยะจะน่าเกลียด”


 


หลิวรุ่ยส่ายหน้า “ไม่ อันที่จริงมันตรงกันข้าม เธอสวยมาก…”


 


หวงกวงหมิง “…”


 


สือช่าง “…”


 


พวกเขาพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์


 


ไม่เพียงแต่จะพ่ายแพ้ในด้าน IQ เท่านั้น แต่ด้าน EQ พวกเขาก็ถูกบดขยี้อย่างไร้ความปราณีเช่นกัน


 


“กวงหมิง ฉันรู้สึกว่าชีวิตฉันเต็มไปด้วยความมืดมน” สือช่างกล่าว เขาถอนหายใจ “ทำไมชีวิตมหาลัยของฉันถึงต่างจากคนอื่น”


 


“เอาน่า ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน” หวงกวงหมิงกล่าวและโยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆ


 


“พรุ่งนี้…เรามาเรียนกันไหม?”


 


“ไม่ต้องพูดถึงพรุ่งนี้ ฉันจะเริ่มเดี๋ยวนี้” หวงกวงหมิงกล่าวขณะปืนลงบันได


 


ตอนที่ 69 ทฤษฎีเลขมหัศจรรย์


 


 


ถ่ายรูปใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมง


 


เมื่อลู่โจวลากสังขารที่อ่อนล้าของตนกลับหอพักแล้วเปิดประตูห้อง เขาก็เห็นว่ามีแต่หลิวรุ่ยเท่านั้นที่อยู่ข้างใน


 


“ทุกคนไปไหน?”


 


หลิวรุ่ยกำลังทำโจทย์ฟิสิกส์ เขากลอกตามองบนแล้วกล่าว “พวกเขาได้รับการกระทบกระเทือนจากนายจนไปเรียนแล้ว”


 


ลู่โจว “???”


 


หลิวรุ่ย “เอ้อ เส้นตายการบ้านฟิสิกส์คือบ่ายนี้ นายทำเสร็จยัง?”


 


“ฉันทำนานแล้ว แถมยังส่งไปแล้ว” ลู่โจวกล่าวและหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าสะพาย


 


ไม่เพียงแต่เขาจะทำงานนี้เสร็จเท่านั้น แต่เขายังทำงานฟิสิกส์ทั้งหมดของเดือนเสร็จไปแล้ว


 


งานพวกนี้เขาทำเสร็จก่อนไปปักกิ่ง เขารู้สึกไม่ดีที่ลาบ่อยๆ ดังนั้นเขาจึงทำโจทย์ในหนังสือแบบฝึกหัดทั้งหมดแล้วส่งให้ศาสตราจารย์หลี่


 


ส่งผลให้ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินเกิดความสนใจ เขามองการบ้านผ่านๆแล้วบอกลู่โจวไม่ต้องทำการบ้านอีกเพราะมันเป็นการเสียเวลาของลู่โจวโดยสูญเปล่า


 


“เสร็จแล้ว?” หลิวรุ่ยกล่าว เขาช็อค “นายไม่ได้เข้าเรียนด้วยซ้ำ นายทำตอนไหน?”


 


“ก่อนไปปักกิ่ง ตอนที่ฉันทำพาวเวอร์พ้อย”


 


หลิวรุ่ยไม่เชื่อเขา เขาหยิบยกโจทย์ที่ท้าทายที่เขาคัดลอกมาจากคาบเรียนแล้วกล่าว “งั้นนายสอนฉันได้ไหม?”


 


“รอแปป”


 


ลู่โจวเอาเสื้อผ้าใส่ในอ่างซักผ้าที่ระเบียง เมื่อเขากลับมา เขาก็ดูโจทย์


 


[ความร้อนจําเพาะของแก๊สผสมปกติจะมีมวลเท่ากับ M1=3.0X10^2 กก. และแก๊สผสม M2 มีไฮโดรเจนเท่ากับ 3.0X10^2 กก. ตอนอุณหภูมิปกติ]


 


โจทย์สั้นและดูง่าย


 


อย่างไรก็ตาม…


 


ลู่โจวกล่าว “โจทย์นี้โคตรยาก นายแก้ไม่ได้ก็ไม่แปลก”


 


มันเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่หลี่หรงเอินให้ไว้ในคาบเรียน และหลิวรุ่ยก็ไม่เคยเห็นมันในหนังสือแบบฝึกหัด


 


หลิวรุ่ย “???”


 


ลู่โจวเห็นหลิวรุ่ยสับสน เขาจึงหัวเราะก่อนจะพูดต่อ


 


“อุณหภูมิปกติ โมเลกุลอะตอมคู่ของแก๊สและโมเลกุลไอน้ำอาจถือได้ว่าเป็นโมเลกุลแข็งเกร็ง แม้ความจริงที่ว่าพันธะโคเวเลนต์ของมันยังคงสั่นสะเทือน แต่ระดับการสั่นสะเทือนของโมเลกุลส่วนใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงและไม่เกี่ยวข้องกับปริมาณความจุความร้อนคงที่ ดังนั้นบทสรุปก็เหมือนกับการพิจารณาการสั่นสะเทือน หนังสือฟิสิกส์อาจไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่มันถูกพูดถึงในเคมีอนินทรีย์”


 


หลิวรุ่ย “???”


 


แน่นอนการรู้เรื่องนี้มันไม่เพียงพอ มันจำเป็นต้องรู้เรื่องความจุความร้อนโมลาร์ของโมเลกุลคู่แข็งเกร็งและความจุความร้อนโมลาร์ของโมเลกุลน้ำ รวมถึงพวกข้อมูลที่โจทย์ไม่ได้มีให้ไว้


 


ไม่มีคาบวิชาเคมีในเอกคณิตศาสตร์ ดังนั้นโจทย์นี้จึงทำให้หลายคนสับสน ถ้าใครแก้โจทย์ได้ คนๆนั้นก็ต้องเรียนเคมีอนินทรีย์ด้วยตัวเองอย่างลู่โจวหรือไม่ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์ระดับมัธยมปลาย


 


ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินคิดโจทย์นี้เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษาเรียนรู้นอกหลักสูตร ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะมีสอนในคาบเรียนมหาลัย การเรียนรู้นอกห้องเรียนก็สำคัญเช่นกัน


 


แน่นอนเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของนักศึกษาเอง


 


ถ้านักศึกษาแค่อยากเอาให้ผ่าน ไม่ฟังคาบเรียน และอัดทีเดียวก่อนสอบ พวกเขาก็ยังจบการศึกษาได้


 


“แล้วนายทำได้ไหม…”


 


ลู่โจวหยิบปากกาแล้วเริ่มเขียนบนกระดาษทด


 


[Cv1=3R, Cv2=5/2R]


 


[ความจุความร้อนแก๊สผสมคือ Ctotal = (M1/u1) Cv1 + (M2 / u2) Cv2]


 


[ความร้อนจำเพาะของแก๊สผสมคือ c = Ctotal / (M1 + M2)]


 


[จาก u1=0.018, u2=0.00, R=8.314J/(mol·K)]


 


[ด้วยข้อมูลข้างต้นจะได้รับ 5.86X103J/(kg·K)]


 


การคำนวณนั้นง่ายมาก แม้แต่นักเรียนมัธยมต้นก็ทำได้ ส่วนที่ยากก็คือทฤษฏี


 


ลู่โจวคืนปากกาให้หลิวรุ่ยแล้วกล่าว “โจทย์นี้ค่อนข้างง่าย ถ้านายเปลี่ยนค่าสัมบูรณ์ของพลังงานภายใน นายต้องรวมพลังงานสั่นสะเทือนของโมเลกุล แต่โจทย์ประเภทนี้จะไม่ออกสอบ ปล่อยให้เอกฟิสิกส์กังวลโจทย์พวกนี้ไปเถอะ”


 


หลิวรุ่ย “???”


 


เมื่อเขาเห็นสีหน้าสับสนของหลิวรุ่ย เขาก็กล่าว “นายไม่เข้าใจเหรอ? บางทีฉันจะอธิบาย…”


 


“ฉันเข้าใจ” หลิวรุ่ยกล่าวและพยักหน้า เขามองลู่โจวแล้วถาม “นายไปเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหน?”


 


เรายังเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันอยู่เหรอ?


 


หลิวรุ่ยอดรู้สึกกังขาในชีวิตของตนเองไม่ได้


 


ลู่โจวกล่าว “ฉันเรียนในห้องสมุด”


 


หลิวรุ่ยไม่ได้พูดอะไร แต่เขาเริ่มเก็บข้าวของอย่างเงียบๆ


 


ลู่โจวสับสน เขาถาม “นายเก็บของทำไม?”


 


หลิวรุ่ยแหงนหน้ามองเพดานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า “ฉันคิดว่าระดับความรู้ของฉันมันต่ำเกินไป นับจากวันนี้…ฉันจะเรียนที่ห้องสมุดทุกวัน”


 


โดยปราศจากคำพูดอื่น เขาสะพายกระเป๋าแล้วเดินออกไป


 


…..


 


บ่ายวันจันทร์ต่อมาที่ห้องบรรยาย มันอัดแน่นด้วยผู้คนจนไม่มีที่ว่างเหลือให้นั่งสักที่


 


หัวหน้าทีมลู่โจวยืนอยู่บนเวทีและกำลังกล่าวสุนทรพจน์ของผู้ชนะรางวัล


 


เขามองดูผู้ชมแล้วรู้ว่าคนส่วนใหญ่มาจากสภานักศึกษาและกรรมการนักศึกษา


 


ตอนนี้ทุกคนโตแล้ว ใครจะมาฟังคำพูดของฉันกัน?


 


ส่วนนักศึกษาที่สับสนกับชีวิตมหาลัยก็ถือสมุดอยู่ในมือ พวกเขาเตรียมจดคำพูดของลู่โจว ลู่โจวไม่รู้ว่าคำพูดของเขาจะช่วยพวกเขาได้ไหม


 


ถ้านักศึกษาเหล่านี้อยากเป็นแบบเขา ชีวิตรั้วมหาลัยของพวกเขาคงเปี่ยมไปด้วยความคับข้องใจ…


 


มีสื่อหลายคนที่อยู่ทั้งสองด้านของห้องบรรยาย ส่วนใหญ่มาจากสำนักพิมพ์มหาลัยและสำนักพิมพ์ท้องถิ่น ระดับสูงสุดคือสถานีโทรทัศน์เมืองจินหลิง มหาลัยเป็นคนเชิญพวกเขามา


 


เมื่อลู่โจวเห็นแววตาให้กำลังใจของคณบดีหลู่ เขาก็คิด ‘มันไม่ง่ายที่จะหาเงิน’ จากนั้นเขาก็กระแอมแล้วเอาไมค์จ่อปาก


 


“อาจารย์ คณบดีและนักศึกษาที่เคารพ สวัสดีตอนเช้า!”


 


“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีมทั้งสองเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันที่คาดไม่ถึงนี้และต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันจนได้รับรางวัล’Higher Education Society Cup’ ก่อนอื่นเลยโปรดอนุญาตให้ผมขอบคุณสมาชิกการแข่งขัน ผู้จัดงาน สปอนเซอร์ อาจารย์ผู้สอนและทุกๆคนที่พยายามอย่างหนักเพื่อการแข่งขัน ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจที่สุด…”


 


ลู่โจวพูดอยู่บนเวทีกว่าสิบนาที เขาพูดถึงเรื่องภายในและภายนอกการแข่งขัน พูดตั้งแต่การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ไปจนถึงวิธีเรียนหลากหลายแบบ จากนั้นเขากระทั่งพูดถึงข้อเสนอครึ่งล้านหยวนและแผนการชีวิตของเขา


 


เขาจบคำพูดด้วยคำว่า “พรสวรรค์ 1% ความขยัน 99%”


 


นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์ครั้งแรกของลู่โจว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวลเลย เขาจึงพูดจนจบได้


 


แปะ แปะ แปะ!


 


เสียงปรบมือดังสนั่น


 


บางคนอาจไม่ใช่อัจฉริยะ แต่นักศึกษาที่ถือสมุดปรบมือให้อย่างกระตือรือร้น


 


“…ขอบคุณครับทุกคน!” ลู่โจวคำนับ จากนั้นเขาก็ส่งไมโครโฟนให้ศาสตราจารย์หลิวก่อนจะเดินลงเวที


 


เมื่อศาสตราจารย์ถังเห็นลู่โจวเดินผ่านเขา เขาก็ยิ้มแล้วกล่าว “พูดได้ไม่เลว”


 


ลู่โจวยิ้ม “ศาสตราจารย์ถัง มหาลัยจะมอบเงินรางวัลเมื่อไหร่?”


 


“ช้าสุดอาทิตย์หน้า ทำไม? เธอรีบเหรอ?” ศาสตราจารย์ถังถาม เขากล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เธอเป็นไง? เธอกำลังค้นคว้าเรื่องอะไร?”


 


ลู่โจวคิดแล้วกล่าว “ทฤษฏีจำนวน…เฉพาะของแมร์แซน”


 


“จำนวนเฉพาะของแมร์แซน เธอยังค้นคว้าเรื่องนี้” ศาสตราจารย์ถังถอนหายใจ น้ำเสียงของเขาฟังดูเสียใจเล็กน้อย


 


ทฤษฏีจำนวนเป็นสาขาพิเศษ เกณฑ์การเข้าเรียนนั้นต่ำ มันต่ำมากจนหลายมีหลายทฤษฏีและหลายสูตรที่นักเรียนมัธยมต้นเข้าใจได้ มันเป็นเหตุผลที่ทฤษฏีจำนวนเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนทั่วไปด้วยเช่นกัน


 


ตำนานเล่าว่าจำนวนจดหมายที่สาธารณะเขียนส่งไปยังมหาลัยวิทยาศาสตร์จีนนั้นมีมากมายจนเอามาพันรอบโลกได้ ผู้รักษาประตูของมหาลัยวิทยาศาสตร์จีนต้องมีโจทย์เก้าข้ออยู่ในมือ ถ้าใครตอบคำถามไม่ได้ คนๆนั้นก็จะไม่ได้ผ่านประตู


 


ดังนั้นการประสบความสำเร็จในทฤษฏีจำนวนจึงยากมากกว่าที่เห็น ไม่เพียงแต่มันต้องการรากฐานที่มั่นคงในวิชาคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่มันต้องการความสามารถทางคณิตศาสตร์ที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย


 


ความจริงนั้นโหดร้าย เพราะไม่มีสาขาอื่นที่ต้องการความสามารถเท่าสาขาทฤษฏีจำนวนแล้ว


 


ถ้าไม่มีความสามารถ เราสามารถค้นคว้าเรื่องทฤษฏีจำนวนไปตลอดชีวิตโดยไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย


 


แม้ว่าศาสตราจารย์ถังจะรู้เรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร


 


นั่นเป็นเพราะเขารู้จักนิสัยของลู่โจว


 


ใจร้อน ยึดถือผลประโยชน์ กระตือรือร้นที่จะประสบความสำเร็จ


 


หลังจากลู่โจวจุ่มเท้าลงไปในธารน้ำแห่งทฤษฏีจำนวน เขาย่อมถอยกลับออกมาเอง



ตอนที่ 70 การพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว


 


 


หลังจากเสียเวลาไปกับศาสตราจารย์ถัง ลู่โจวก็เดินออกนอกห้องบรรยายแล้วถูกกลุ่มนักศึกษาสาวห้อมล้อมทันที


 


อันที่จริงมีผู้ชายอยู่บ้างเช่นกัน อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ชายเหล่านั้นเห็นเห็นกลุ่มหญิงสาวเบียดเสียดกัน พวกเขาจึงไม่อยากถูกเบียดอยู่ด้านใน


 


“อัจฉริยะ คุณเก่งพีชคณิตขั้นสูงขนาดนั้นได้ไง? ฉันคิดว่ามันยากมาก มีเทคนิคอะไรที่สอนฉันได้ไหม?”


 


“รุ่นพี่! รุ่นพี่ หนูได้ยินว่าการได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศจะเพิ่มโอกาสในการเข้าเรียนต่อปริญญาโท? นั่นจริงไหมคะ? หนูได้ยินว่าถ้าได้รับรางวัล Higher Education Society Cup…”


 


“ปีหน้าคุณยังจะเข้าร่วมการแข่งขันไหม? คุณขาดเพื่อนร่วมทีมไหม? ฉันเขียนวิทยานิพนธ์ได้! ฉันเคยชนะการแข่งขันโต้วาทีตอนมัธยมปลาย!”


 


“พี่อัจฉริยะ มีวีแชทไหม? แอดวีแชทกับหนูได้ไหม~”


 


ลู่โจวถูกระดมยิงด้วยคำถามจนเขามึนงง


 


ฉันรู้ว่าฉันหล่อ แต่คุณไม่จำเป็นต้องกระตือรือร้นขนาดนี้


 


ฉันอาย…


 


หลังจากลู่โจวกำจัดนักศึกษาพวกนี้ได้สำเร็จ เขาก็ถือโน๊ตบุ๊คไปห้องสมุด


 


ช่วงไม่กี่วันมานี้เฉินยู่ซานกำลังเรียนเรื่องการเมืองการปกครอง เนื่องจากมันเป็นการท่องจำซะส่วนใหญ่ เธอจึงไม่ไปห้องสมุด


 


เพอร์เฟ็ค ลู่โจวไม่ได้มีเวลามาพูดคุยกับเธอ


 


แม้ว่าตัวทฤษฏีจะอยู่ในใจของลู่โจว แต่มันก็ยังต้องใช้ความพยายามในการแยกกระบวนการโต้แย้ง มันต้องใช้ถึงสามสี่หน้ากระดาษ A4 ถึงจะเขียนลงไปได้ทั้งหมด


 


ถ้าเขาอยากให้คนอื่นเข้าใจทฤษฏีเขา เขาก็ต้องเข้าใจมันด้วยตนเองก่อน


 


วิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ไม่อาจยาวสามสี่หน้าได้ แต่มันต้องยาวเป็นสองเท่าเพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าใจได้


 


ยิ่งกว่านั้นการวิจัยของศาสตราจารย์ถังยังไม่ได้เกี่ยวกับทฤษฏีจำนวน ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่มีใครแก้ไขวิทยานิพน์ของเขาได้ ถ้าเขาอยากผ่านการตรวจสอบครั้งแรก เขาก็ต้องทุ่มเทเต็มที่และฟื้นฟูทฤษฏีที่ได้รับมาจากระบบที่ตอนนี้เริ่มคลุมเครือไปแล้ว เพื่อให้ผู้ประเมิณทางวิชาการไม่สามารถหาจุดผิดพลาดได้!


 


[การอภิปรายเกี่ยวกับกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนและพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว]


 


[บทคัดย่อ : บทความนี้ศึกษาเกี่ยวกับกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนและพิสูจน์ว่าเมื่อ 2^(2^n) < P < 2^(2^(n+1)) , MP มี 2^(n+1)-1 เป็นจำนวนเฉพาะ จากข้อโต้แย้งนี้ มันพิสูจน์ว่าเมื่อ 2^(2^(n+1)) , MP จะมี 2^(n+2)-n-2 เป็นจำนวนเฉพาะ]


 


ลู่โจวพิมพ์ช่องว่างในเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ก่อนจะข้ามไปเอกสารอ้างอิงแล้วพิมพ์ข้อความ


 


[อ้างอิง : กฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซน [J] โจวไห่จง วารสารมหาลัยอี้เซียน (ฉบับวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ) 1992 (2)]


 


เขาแค่จำเป็นต้องอ้างอิงบทความเดียวเท่านั้น


 


ยี่สิบปีผ่านมา นักคณิตศาสตร์และนักวิจัยนับไม่ถ้วนในสาขาทฤษฏีจำนวนต่างก็พยายามพิสูจน์ทฤษฏีนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จ แม้แต่คุณโจวที่ทำข้อคาดการณ์นี้ด้วยตนเองที่ศึกษามานานหลายปีก็ไม่สามารถพิสูจน์ข้อคาดการณ์นี้ได้อย่างถูกต้อง


 


นี่คือเสน่ห์ของทฤษฏีจำนวน ทฤษฏีจำนวนเป็นเหมือนแอปเปิ้ลที่อยู่บนต้นไม้ ทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้หลงใหลในคณิตศาสตร์หลงใหลในผลแอปเปิ้ลสีแดงๆ เพียงแค่รอให้ชายร่างสูงเขย่งเท้าเด็ดผลแอปเปิ้ลลงมา


 


ลู่โจวหยุดพิมพ์และหยิบปากกาขึ้นมา


 


เขาเข้าสู่ภวังค์จนลืมเลือนรอบข้าง


 


มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาสัมผัสได้ก็คือกระดาษและปากกา


 


จำนวนเฉพาะที่ไม่มีที่สิ้นสุดถูกขยายออกไปภายใต้ปลายปากกาของลู่โจวและแปรสภาพเป็นสมการ ตัวเลขและสัญลักษณ์ผสานกันเข้ากับคาถาถักทอจนเกิดเป็นเวทมนตร์เพื่ออธิบายความจริงของเอกภพ


 


เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ


 


แผ่นกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวอักษรค่อยๆปกคลุมโต๊ะ


 


ไม่นานมันก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน


 


เหล่าชายคนที่กำลังเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้าระดับบัณฑิตศึกษาลุกขึ้นยืนเตรียมไปโรงอาหาร ทันใดนั้นเองพวกเขาก็สังเกตเห็นแผ่นกระดาษที่อยู่บนโต๊ะลู่โจว เมื่อพวกเขาเห็นการคำนวณบนกระดาษ พวกเขาก็ช็อค


 


นี่มันโจทย์อะไรเนี่ย?


 


ทำไมมันถึงใช้กระดาษหลายแผ่นในการคำนวณ?


 


เขาดูเด็ก บางทีอาจเป็นนักศึกษาปริญญาตรี มีโจทย์คณิตศาสตร์ระดับปริญญาตรีที่ยากแบบนี้ด้วยเหรอ?


 


เขามองดูแล้วเห็นว่ามันเป็นโจทย์ปัญหาเฉพาะ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเลื่อนสายตาลงมา เขาก็ไม่เข้าใจแล้ว อีกด้านหนึ่งลายมือของลู่โจวเป็นเหมือนมังกรเต้นรำ ในทางกลับกันเขาไม่ได้ค้นคว้าเรื่องทฤษฏีจำนวน เขาจึงไม่ได้รู้อะไรมาก


 


เขาเปี่ยมไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ เขากำลังจะถามลู่โจวว่ากำลังทำอะไร แต่แล้วจู่ๆเขาก็สังเกตเห็นชื่อเอกสารบนโน๊ตบุ๊คลู่โจว


 


ข้อคาดการณ์ของโจว?


 


ความสนใจของเขาหายไป


 


โอ้ คนบ้า


 


เป็นไอ้โง่ที่หลงใหลในคณิตศาสตร์


 


ชายคนนี้พูดในใจก่อนจะสะพายกระเป๋าแล้วจากไป


 


แม้ว่ามันไม่ใช่ทิศทางค้นคว้าของเขา แต่เขาก็ยังรู้เกี่ยวกับหัวข้อนี้เล็กน้อย


 


ยี่สิบปีแล้ว นักคณิตศาสตร์ทฤษฏีจำนวนทั่วโลกได้ศึกษาจำนวนเฉพาะของแมร์แซน จำนวนเฉพาะคู่แฝดและจำนวนแฟร์มาไม่มากก็น้อย ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็เป็นหัวข้อสำคัญแห่งศตวรรษ ใครที่ศึกษาจำนวนเฉพาะของแมร์แซนต่างก็เคยพยายามพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว


 


ไม่มีใครสักคนที่ประสบความสำเร็จ


 


ก่อนที่เราจะคิดถึงการเก็บแอปเปิ้ลจากต้นไม้ได้ เราต้องรู้ก่อนว่าไม่มีใครพกบันไดมาด้วย!


 


มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นักศึกษาปริญญาตรีจะพิสูจน์มันได้


 


ลู่โจวจดจ่ออยู่กับการคำนวณโดยสมบูรณ์ เขาไม่ได้สังเกตเห็นชายที่อยู่ข้างเขา เขาแทบลืมเลือนเวลาและความหิว ปัจจัยภายนอกล้วนถูกทำลายโดยการคำนวณคณิตศาสตร์


 


ลู่โจวไม่รู้ว่ามันเริ่มเมื่อไหร่ แต่เขาเคยชินกับวิธีการเรียนที่เสียสุขภาพนี้แล้ว


 


เมื่อลู่โจวเขียนคำนวณบรรทัดสุดท้ายเสร็จ วิวนอกหน้าต่างก็มืดสนิทแล้ว


 


เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ เขารู้สึกเหมือนทั้งร่างกายของเขากำลังพัง


 


ด้านนึงเขาก็เหนื่อย


 


อีกด้านนึงเขาก็หิว


 


“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันลืมกินข้าว…ดูเหมือนฉันจะกลายเป็นอมตะ”


 


วิทยานิพนธ์นี้ยากมากกว่า[ทฤษฏีอินเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวดำเนินการเชิงเส้นและฟังก์ชั่นเชิงเส้น] คุณค่าทางวิชาการของวิทยานิพนธ์นี้ก็สูงกว่าเช่นกัน โชคดีที่ส่วนสำคัญของวิทยานิพนธ์ทำเสร็จไปแล้ว ตอนนี้เขาเหลือแค่คัดลอกเนื้อหาบนกระดาษ A4 ลงในคอมพิวเตอร์แล้ววิทยานิพนธ์ของเขาจะเสร็จ


 


ลู่โจวลูบท้อง เขากำลังจะลุกขึ้นยืนและเก็บกระดาษบนโต๊ะ แต่แล้วลิสตัวเลขบนกระดาษก็ดึงดูดความสนใจของเขา


 


ห๊ะ?


 


ลู่โจวหยิบปากกาแล้ววงกลมตัวเลขบนกระดาษ จากนั้นเขาก็จัดเรียงใหม่ทั้งหมด


 


จำนวนสองชุดหลังจากจัดเรียงใหม่เป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝดทั้งหมด


 


ลู่โจวขมวดคิ้วแล้วกดปากกา


 


เขาเขียนสมการสองสมการก่อนจะขีดฆ่าอย่างรวดเร็ว


 


ข้อคาดการณ์ของ Polignac ที่มีชื่อเสียงคือ จำนวนธรรมชาติ K มีจำนวนเฉพาะคู่ที่เป็นอนันต์ (p, p+2k) เมื่อ K=1 จะเป็นข้อคาดเดาจำนวนเฉพาะคู่แฝด การเรียนกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซน ในแง่หนึ่งมันก็ให้แนวคิดสำหรับการแก้โจทย์ของจำนวนเฉพาะคู่แฝดที่เป็นอนันต์เช่นกัน


 


ดูเหมือนเขาจะค้นพบอะไรบางอย่างขณะที่พยายามพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว


 


เขาบีบขมับและรู้สึกปวดหัว


 


ฉันไม่มีความคิดอะไรเลย…


 


แรงบันดาลใจของเขาหายไปในพริบตาและเขาก็พลาดโอกาสไปแล้ว


 


บัดซบ!


 


ตามที่คาดไว้ ทฤษฏีจำนวนไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเล่นด้วยได้


 


“ระบบ มอบแรงบันดาลใจให้โฮสต์ของแกหน่อย”


 


ลู่โจวกล่าวในใจ แต่ระบบไม่ตอบสนอง


 


ก็ได้


 


สงสัยการแก้โจทย์ที่คลุมเครือจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถของระบบ


 


“นักศึกษา ห้องสมุดจะปิดแล้ว”


 


ลู่โจวพลันตระหนักว่าบรรณารักษ์กำลังยืนอยู่ข้างเขา เขามองไปรอบๆแล้วเห็นว่าเขาเป็นนักศึกษาคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องสมุด


 


“โอ้ ขอโทษครับ ผมจะเก็บของเดี๋ยวนี้” ลู่โจวกล่าวแล้วยิ้มเชิงขอโทษก่อนจะเอื้อมมือเก็บกระดาษบนโต๊ะ


 


เขาเรียนต่อไปไม่ไหวแล้วเหมือนกัน


 


เขาจะออกไปหาอะไรกิน



ตอนที่ 71 นายไม่สามารถจินตนาการถึงความสุขของนักศึกษาอัจฉริยะ


 


 


ลู่โจวใช้เวลาครึ่งวันในการจัดการเนื้อหาของต้นฉบับมาบน A4 ป้อนเข้าใส่คอมพิวเตอร์และทำวิทยานิพนธ์ เขาใช้เวลาสองวันครึ่งในการแปลมันเป็นภาษาอังกฤษ


 


โดยรวมแล้วเขาใช้เวลาไปสี่วัน ในที่สุดลู่โจวก็เปลี่ยนจากภาพร่างในหัวให้กลายเป็นวิทยานิพนธ์ เขากระทั่งแปลงวิทยานิพนธ์ให้กลายเป็นไฟล์ PDF


 


ถัดไปเป็นการส่งวิทยานิพนธ์


 


ลู่โจวมีตัวเลือกนับพันและตัวเลือกสุกท้ายของเขาก็คือวารสาร[Mathematics Chronicle]


 


มันเป็นวารสารที่ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกโดยมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันและถูกเปลี่ยนไปตีพิมพ์โดยมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ในปี 1990 ส่วนใหญ่มันจะตีพิมพ์เกี่ยวกับคณิตศาสตร์เชิงทฤษฏี มันครอบคลุมหลายหัวข้ออย่างกว้างขวางและมีตำแหน่งสำคัญในแวดวงวิชาการ ปัจจัยกระทบค่อนข้างใหญ่เช่นกัน


 


อันที่จริงตอนแรกลู่โจวมีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ ยกตัวอย่างเช่นวารสาร[วารสารทฤษฏีจำนวน]ซึ่งมุ่งเน้นในการตีพิมพ์เรื่องทฤษฏีจำนวนโดยเฉพาะและมีอิทธิพลในสาขาทฤษฏีจำนวนสูงกว่า อย่างไรก็ตามปัจจัยกระทบต่ำกว่าเล็กน้อยและมันยังมีค่าใช้จ่ายของการทำวิทยานิพนธ์ด้วยเช่นกัน


 


“คนอเมริกาขี้เหนียวมาก” ลู่โจวกล่าวและส่ายหน้า เขาอัพโหลดวิทยานิพนธ์บนเว็บไซต์[Mathematics Chronicle]ก่อนจะเข้าอีเมลล์


 


เขาไม่รู้ว่าระบบจะลัดคิวตรวจสอบวิทยานิพนธ์ของเขาได้ไหม แต่เขาหวังว่าภารกิจของเขาจะไม่ล่าช้าจนเกินไป


 


…..


 


ในที่สุดเงินรางวัลของการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ก็มา จำนวนเงินทั้งหมดคือ 15,000 หยวน ซึ่งทางมหาลัยได้มอบ 10,000 หยวนให้ลู่โจวโดยตรงและอีก 5,000 หยวนเป็นของหวังเสี่ยวตง


 


ลู่โจวประหลาดใจที่ได้ยินว่าหลินอวี่เซียงไม่เอาเงินรางวัล


 


แม้ว่าหวังเสี่ยวตงอยากจะมอบเงินของตนให้เธอครึ่งนึง เธอก็ยิ้มแล้วปฏิเสธ


 


เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไร…


 


สิ่งแรกที่ลู่โจวทำหลังจากทีมสลายตัวก็คือการบล็อคเธอออกจากหน้าฟีดข่าว


 


เขาใช้เงินจำนวนมากกับปัญญาประดิษฐ์ ‘อาย’ เขายินดีที่ในที่สุดเขาก็ได้เงินกลับคืนมา


 


จากข้อตกลง เขาจะเลี้ยงข้าวรูมเมททั้งสาม


 


เจ้าสามตัวนี้ไม่มีเกรงใจเลย อย่างแรกที่พวกเขาขอคือเบียร์ครึ่งกล่อง ปลาย่างหนึ่งจานและกับแกล้มอีกห้าอย่าง


 


เมื่ออาหารมาถึงและสือช่างก็เปิดขวด จากนั้นเขาก็รินเบียร์ให้ทุกคน สุดท้ายเขาก็หยิบแก้วลู่โจวแล้วมองเขา


 


“โจว ตอนแรกนายยังห่วยอยู่เลย แต่ตอนนี้นายเป็นเทพแล้ว นายยังจำอาหารมื้อนี้ได้ มันหมายความว่านายยังไม่ลืมเรา ฉันขอดื่มให้นายก่อน”


 


“มันก็แค่เลี้ยงข้าว พวกนายก็เคยเลี้ยงข้าวฉัน ทำไมนายถึงมาประจบฉันแบบนี้ล่ะ” ลู่โจวกล่าว เขายิ้มและเชียร์สือช่างและลู่โจวให้ยกหมดแก้ว


 


หวงกวงหมิงก็ชูแก้วเช่นกัน “โจว ฉันขอดื่มให้นายเหมือนกัน ไม่มีเหตุผล ฉันแค่อยากมีความสุข”


 


“สุภาพเกินไป สุภาพเกินไป” ลู่โจวกล่าวแล้วยกมือขึ้นเชียร์หวงกวงหมิง


 


หลิวรุ่ยก็ยกแก้วขึ้นเช่นกัน “ขอแสดงความยินดีด้วย…”


 


“ขอบใจ!” ลู่โจวกล่าว


 


โดยไม่คำนึงถึงความหมายที่ซับซ้อนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำว่า’ขอแสดงความยินดี’ของหลิวรุ่ย ทุกคนต่างก็เป็นรูมเมทและสหายกัน


 


ลู่โจวก็เชียร์ให้หลิวรุ่ยยกดื่มหมดแก้ว


 


เมื่อเบียร์เหลือน้อยและอาหารเกือบหมดแล้ว สือช่างก็ถอนหายใจด้วยท้องที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอร์


 


“โจว”


 


“ว่าไง?”


 


“ช่วงนี้ฉันกำลังคิดถึงปัญหานึง”


 


“ถามมาได้เลย”


 


“เป็นนักศึกษาอัจฉริยะมันเป็นยังไง?” สือช่างถามและถอนหายใจ เขาจ้องมองขวดเบียร์แล้วกล่าว “สอบได้คะแนนสูง การันตีการเข้าเรียนปริญญาโท ทุนการศึกษา…”


 


บางทีมันอาจเป็นเพราะสือช่างอ่านหนังสือบางอย่างในห้องสมุดหรืออาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ แต่สือช่างกำลังคิดถึงปรัชญาของชีวิต หวงกวงหมิงพูดเสมอว่าเขาจะพาสือช่างไปรับการศึกษาทางจิตวิทยา แต่เขาก็ไม่ไป


 


ไม่ว่ายังไงคำถามของสือช่างก็ตรงเข้าประเด็น


 


เจ้าสองตัวที่อยู่ข้างๆก็แสร้งทำเป็นกิน แต่หูของพวกเขากำลังฟัง โดยเฉพาะหลิวรุ่ย เขากระทั่งหยุดขยับตะเกียบเพราะเขารอฟังประสบการณ์ของอัจฉริยะ


 


ลู่โจวสั่นแก้วเปล่าแล้วเรอ


 


เขาหน้าแดงเล็กน้อยเพราะแอลกอฮอล์ เขากระแอมแล้วพูดช้าๆ “…นายคิดว่าการเป็นอัจฉริยะสนุกไหม?”


 


“…ฉันเข้าใจ จริงๆแล้วนายไม่มีความสุขใช่ไหม? เหนื่อยใช่ไหม?” สือช่างกล่าวและถอนหายใจ


 


“ไม่” ลู่โจวกล่าวและส่ายหน้า เขากล่าวต่อ “ฉันหมายความว่า…การเป็นอัจฉริยะนั้นยอดเยี่ยม นายจินตนาการถึงความสุขของการเป็นอัจฉริยะไม่ได้ด้วยซ้ำ”


 


สือช่าง “???”


 


หวงกวงหมิง “???”


 


หลิวรุ่ย “???”


 


…..


 


เมื่อพวกเขากลับไปหอพัก มันก็ทุ่มนึงแล้ว


 


หลิวรุ่ยถูกแบกกลับมาอีกครั้งแล้วล้มหมดสติอยู่บนพรม สือช่างคอแข็งไม่เบา แม้ว่าเขาจะดื่มไปหกเจ็ดขวด เมื่อหัวหน้าห้องเรียกเขาไปเล่นบาส เขาก็ไป


 


เจ้าหมอนี่มันทำไร ดื่มไปมากขนาดนี้เขาจะเล่นบาสได้ไง?


 


บาสเมา?


 


คราวนี้เป็นหวงกวงหมิงที่แบกหลิวรุ่ยเข้าห้องน้ำ ลู่โจวปีนขึ้นไปบนเตียง เปิดโน๊ตบุ๊คแล้วเข้าเว็บไซต์[Mathematics Chronicle]


 


สถานะของวิทยานิพนธ์เขากลายเป็น[ระหว่างการตรวจสอบ]โดยไม่แปลกใจเลย


 


ดูเหมือนเขาจะคาดเดาได้ถูกต้อง


 


ไม่เพียงภารกิจธรรมดาเท่านั้น แม้แต่ภารกิจรางวัลก็เช่นกัน ระบบจะช่วยให้เขาประหยัดเวลา ส่วนระบบทำได้ยังไงนั้น…ลู่โจวตัดสินใจที่จะไม่สนใจคำถามนี้


 


มันจะทำให้เขาปวดหัวไปก็เท่านั้น!


 


เมื่อเขาเข้าอีเมลล์ เขาก็เห็นว่าหนังสือมอบอำนาจถูกส่งมาแล้ว


 


ลู่โจวกรอกหนังสือมอบอำนาจก่อนจะอัพโหลดลงบนเว็บไซต์


 


ถัดไปเป็นกระบวนการตรวจสอบที่ยาวนาน เขาต้องรอบรรณาธิการทางวิชาการจะว่างแล้วตรวจสอบกระบวนการพิสูจน์ของเขา มันไม่เหมือนกับวิทยานิพนธ์ก่อนหน้านี้ วิทยานิพนธ์นี้เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ที่สำคัญ ดังนั้นมันจึงใช้เวลาตรวจสอบนาน


 


บรรณาธิการทางวิชาการทำการตรวจสอบอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษและจะไม่พลาดข้อผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น มันเป็นเพราะเมื่อการพิสูจน์ทฤษฏีที่ผิดพลาดถูกตีพิมพ์ มันจะไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆ แต่มันจะสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงทางวิชาการของวารสารอย่างร้ายแรง


 


แน่นอนวิทยานิพนธ์ของเขาอาจถูกส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญทางคณิตศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญคนนั้นก็อาจตรวจสอบเสร็จในหนึ่งวัน อย่างไรก็ตามความเป็นไปได้นั้นต่ำมาก


 


ลู่โจวกลับหอพักแล้วเปิดโน๊ตบุ๊ค เขาพูดคุยกับบอทปัญญาอ่อนประดิษฐ์เสี่ยวไอก่อนจะไปตรวจสอบรายงานบัคของแอพแคมปัสเทรนด์


 


เมื่อลู่โจวเห็นจำนวนผู้ใช้ที่ซบเซา เขาก็ไม่ได้ทำอะไร


 


เขาเมินข้อความที่ขอให้ช่วยแก้วิทยานิพนธ์ และก็เป็นเช่นเคยไม่มีรายงานข้อผิดพลาดหรือบัค


 


เยี่ยม


 


ฉันยังไม่จำเป็นต้องอัพเดท


 


ลู่โจวปิดเว็บไซต์ผู้พัฒนาแล้วเข้าเว็บไซต์สำนักบริหารวิชาการ เขากำลังดูตารางเรียน แต่แล้วก็มีการแจ้งเตือนที่ทำให้เขาเกิดความสนใจ


 


“พรุ่งนี้เก้าโมงจะมีการบรรยายข้อความคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝด…”


 


ลู่โจวเห็นคำว่าจำนวนเฉพาะคู่แฝดแล้วพลันนึกถึงความคิดที่แว้บเข้ามาตอนที่เขากำลังเขียนวิทยานิพนธ์ข้อคาดการณ์ของโจว


 


เขายุ่งมากกับการส่งวิทยานิพนธ์จนลืมเรื่องที่เขาค้นพบโดยบังเอิญไปโดยสิ้นเชิง


 


ตอนนี้เขาคิดถึงมันแล้วค่อนข้างสนใจ


 


‘…พรุ่งนี้เช้าฉันไม่มีเรียน บางทีฉันควรไปฟังการบรรยายนี้ ฉันจะได้รับหน่วยกิตพิเศษด้วย’ ลู่โจวคิด เพื่อลงทะเบียน เขาจึงป้อนหมายเลขนักศึกษาและพาสเวิร์ด


 


‘ผู้บรรยายคือเริ่นฉางหมิง…ฉันคิดว่าฉันเคยเห็นชื่อนี้นะ?’ ลู่โจวคิดและจ้องมองมันเป็นเวลานาน แต่เขาก็จำไม่ได้


 


ในหนังสือคณิตศาสตร์เหรอ?


 


หรือฉันอ่านเจอบนโลกออนไลน์?


 


ใครจะสน มันไม่สำคัญ


 


ลู่โจวส่ายหน้าแล้วพาดผ้าขนหนูบนไหล่ก่อนจะหยิบตระกร้าซักผ้าแล้วไปห้องน้ำ



ตอนที่ 72 ศาสตราจารย์เดอลีงย์อุทานด้วยความตกตะลึง


 


 


ณ บ้านที่เงียบสงบในพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์


 


ชายผิวขาวหัวล้านยัดเสื้อผ้าลงในกระเป๋าเดินทางแล้วตะโกน “ฉันไม่มีเวลา ไปหาคนอื่นไป! ตอนนี้อาจารย์ของฉันอยู่บนเตียงโรงพยาบาล นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นท่าน! อย่างน้อยเดือนนี้ ฉันไม่อยากเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ทั้งสิ้น”


 


ชายกลางคนในชุดสูทยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เขาไม่ได้โกรธเลย


 


ท้ายที่สุดแล้วบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คือไวเคานต์ปิแยร์ เดอลีงย์(Pierre Deligne)ที่มีชื่อเสียง เป็นบุคคลที่พิสูจน์ข้อคาดการณ์ของไวล์(Weil’s conjecture) เขาได้รับรางวัลอย่างเหรียญฟิลด์(Fields Medal)รางวัลครอฟอร์ด(Crafoord Prize)รางวัลวูลฟ์(Wolf Prize)และรางวัลอาเบล(Abel Prize) ถ้าหากมีรางวัลคณิตศาสตร์ เขาก็จะได้รับมันมา


 


แม้แต่ในสถาบันชั้นสูงอย่างพรินซ์ตัน สถาบันที่มีอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ทั่วโลก เดอลีงย์ก็ยังโดดเด่น


 


เดวิสเป็นแค่บรรณาธิการธรรมดาๆของ Mathematics Chronicle แม้ว่าเขาจะจบการศึกษาจากสาขาวารสารศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ แต่เขาก็รู้เรื่องคณิตศาสตร์แค่เล็กน้อย


 


Mathematics Chronicle เป็นเหมือนลูกของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันและลูกเลี้ยงของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ อย่างไรก็ตามพรินซ์ตันก็ยังรับผิดชอบวารสาร[Year of Mathematics]เช่นกัน ซึ่งมันได้รับการยอมรับอย่างดีในแวดวงคณิตศาสตร์ ดังนั้นพรินซ์ตันจึงทุ่มทรัพยากรในวารสาร Mathematics Chronicle น้อยลง


 


บรรณาธิการของมหาลัยจอนส์ฮอปกินส์พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาอิทธิพลทางวิชาการของ Mathematics Chronicle


 


ปกติแล้ววิทยานิพนธ์ทฤษฏีจำนวนธรรมดาๆจะไม่คู่ควรแก่การให้เดวิสสนใจ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เขามีความรู้เกี่ยวกับทฤษฏีจำนวนอยู่บ้าง เมื่อเขาอ่านวิทยานิพนธ์นี้ครั้งแรก เขาก็ค้นพบคุณค่าที่ไม่ธรรมดาของมันทันที


 


มีข้อคาดการณ์มากมายเกี่ยวกับกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซน แต่ไม่มีข้อคาดการณ์ไหนเลยที่ได้รับการพิสูจน์ ท่ามกลางข้อคาดการณ์ทั้งหลาย ข้อคาดการณ์ทางคณิตศาสตร์ที่สวยงามและแม่นยำที่สุดก็คือข้อคาดการณ์ของโจวที่มีชื่อเสียงอย่างไม่ต้องสงสัย


 


เมื่อ 2^(2^n) < P < 2^(2^n+1) งั้นจำนวนของจำนวนเฉพาะก็คือ 2^(n+1)-1


 


อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการคาดเดา


 


ข้อคาดการณ์ของโจวก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์หรือหักล้าง


 


เมื่อมันถูกพิสูจน์ มันจะถูกอัพเกรดเป็นทฤษฏี!


 


แม้เดวิสจะเห็นว่าศาสตราจารย์เดอลิงย์ไม่สนใจ แต่เดวิสก็ไม่ยอมแพ้ กลับกันเขากล่าว “ได้โปรด ไวเคานต์เดอลีงย์! การวิจัยของท่านโดดเด่นที่สุดในบรรดาศาสตราจารย์ทั้งหมดที่ผมเห็นมา! ผมอ่านวิทยานิพนธ์นี้แล้วนึกถึงท่านทันที เราทำงานร่วมกันมาหลายปีแล้ว ท่านช่วยดูหน่อยได้ไหม?”


 


“เลิกประจบฉันได้แล้ว” เดอลีงย์กล่าว เขากระแทกกระเป๋าลงแล้วหัวเราะอย่างเย็นชา เขากล่าว “ฉันรู้ว่าฉันเก่ง”


 


ปกติเขาจะไม่หงุดหงิดแบบนี้ เช่นเดียวกับอัจฉริยะคนอื่นๆในพรินซ์ตัน เขาจะเป็นคนที่หยิ่งยโสเล็กน้อยเท่านั้น ปกติแล้วถ้าเดวิสนำวิทยานิพนธ์ที่น่าสนใจให้เขา เขาก็จะใช้เวลาอ่านมัน


 


อย่างไรก็ตามไม่ว่าวิทยานิพนธ์จะน่าสนใจแค่ไหน เขาก็มีเรื่องสำคัญมากกว่าที่ต้องทำ


 


อาจารย์เขามิสเตอร์ก็อตเทนดิ๊กกำลังนอนอยู่บนเตียงพยายาบาลและสามารถจากไปได้ตลอดเวลา


 


เขาไม่ได้รู้สึกอยากศึกษาโจทย์คณิตศาสตร์เลย เขาต้องบินไปฝรั่งเศษเพื่อดูอาจารย์ของตน


 


ไม่เพียงแต่เขาจะหยุดงานบรรณาธิการทางวิชาการเท่านั้น แต่เขายังหยุดโปรเจ็ควิจัยของตนเองไว้ชั่วคราว


 


เดวิสโน้มน้าว “ท่านไม่อยากให้ของขวัญมิสเตอร์ก็อตเทนดิ๊กหรือ?”


 


เดอลีงย์กล่าวด้วยความโกรธ “ของขวัญ? แผ่นกระดาษขยะเนี่ยนะ? ฉันจะซื้อดอกไม้ในฝรั่งเศษ!”


 


“ผมสัญญาเลย วิทยานิพนธ์นี้ไม่ได้แย่อย่างที่ท่านคิด” เดวิสกล่าวอย่างจริงใจ จากนั้นเขาก็กล่าวเสริม “ไม่ใช่ว่าการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของรีมันน์เป็นเป้าหมายในชีวิตของอาจารย์ของท่านหรอกหรือ? กฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนถูกแก้ไขแล้ว และเราได้เข้าใกล้มงกุฏแห่งโลกคณิตศาสตร์นี้ไปอีกขั้นแล้ว…แม้ว่ามันจะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ! แต่ผมจำคำพูดที่ท่านกล่าวในรายงานวิชาการปีที่แล้วได้ ท่านบอกว่าถนนปลายทางของฟังก์ชันซีตาของรีมันนั้นมืดมน มันต้องใช้เทียนไขนับไม่ถ้วนเพื่อให้แสงสว่าง…ตอนนี้ไม้ขีดไฟอยู่ในมือท่านแล้ว”


 


เดอลีงย์จ้องมองเดวิสและเงียบไปสักครู่ก่อนจะคว้าวิทยานิพนธ์จากมือเดวิสมาในที่สุด


 


“บัดซบ!”


 


ในที่สุดนักวิชาการก็ไม่สามารถอดกลั้นความสนใจใคร่รู้ของตนได้อีก


 


“ข้อพิสูจน์ของทฤษฏีของโจว?” เดอลีงย์ขมวดคิ้ว


 


เขาเคยอ่านวิทยานิพนธ์แบบนี้มานับไม่ถ้วน และช่วงนี้มันก็พึ่งจะน้อยลง คนที่คิดว่าตนเองฉลาดมักจะเลือกโจทย์ที่ดูง่ายเสมอ แต่พวกเขาไม่เคยเริ่มแก้ปัญหาด้วยซ้ำ


 


ถ้าข้อคาดการณ์ของโจวได้รับการพิสูจน์ มันอาจช่วยการวิจัยของข้อคาดการณ์ของรีมันน์จริงๆ ท้ายที่สุดแล้วพฤติการณ์ของฟังก์ชันซีตาของรีมันก็เกี่ยวข้องกับความถี่ของจำนวนเฉพาะอย่างใกล้ชิด สมมติฐานของรีมันน์นั้นพูดถึง ζ(s)=0


 


เมื่อเดอลีงย์อ่านชื่อผู้เขียน เขาก็ช็อค


 


lu·zhou?


 


คนจีน? หรือเชื้อสายจีน?


 


มีนักคณิตศาสตร์ที่โดดเด่นค่อนข้างมากในเอเชีย แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน…


 


หัวใจเขาอดรู้สึกดูถูกผู้เขียนไม่ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขารู้ว่าเดวิสจะไม่มีทางหลอกเขาด้วยวิทยานิพนธ์โง่ๆ เดอลีงย์จึงอ่านต่อ


 


หนึ่งนาทีผ่านไป…


 


ห้านาทีผ่านไป…


 


สิบนาทีผ่านไป…


 


เดอลีงย์ยังคงอ่านอยู่ในตำแหน่งเดิมตลอดเวลา สายตาของเขาจับจ้องไปที่หน้าแรกอย่างเคร่งเครียด เขาไม่มีแผนจะเปลี่ยนหน้าเลย


 


เดวิสควบคุมลมหายใจของตนเมื่อเห็นท่าทางของศาสตราจารย์เดอลีงย์ เขาไม่อยากรบกวนความคิดของเดอลีงย์


 


ยิ่งเดอลีงย์อ่านมากเท่าไหร่ สีหน้าเขาก็จริงจังขึ้นเท่านั้น


 


และอีกห้านาทีผ่านไป…


 


เขาเอากระเป๋าเดินทางพิงกำแพง แต่เขาก็ยังคงเงียบ จากนั้นเดอลีงย์ก็ถือกระดาษ A4 แล้วเดินเข้าห้องหนังสือก่อนจะปิดประตู


 


เดวิสถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดไหล่ที่แข็งเกร็งของเขาก็ผ่อนคลายลง เขานั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นอย่างลวกๆ


 


ตัดสินจากประสบการณ์หลายปีของตน ความแรงที่ศาสตราจารย์เดอลีงย์ปิดประตูนั้นเกี่ยวข้องกับความสำคัญของวิทยานิพนธ์


 


ถ้ามันเป็นวิทยานิพนธ์ขยะ เขาก็จะไม่ปิดห้องหนังสือ


 


เมื่อเดอลิงย์เข้ามาในห้องหนังสือ เขาก็หยิบกระดาษออกมาแล้วเริ่มตรวจสอบการคำนวณในวิทยานิพนธ์


 


การคำนวณของผู้เขียนนั้นชัดเจน มีเหตุผลและแม่นยำ วิธีการพลิกแพลงใช้ยังฉลาดมากจนเดอลีงย์ไม่สามารถหาข้อผิดพลาดได้เลย


 


เดอลีงย์ไม่สามารถหาได้แม้กระทั่งจุดที่ต้องแก้ไข


 


สิ่งที่ทำให้เขาสับสนก็คือ นอกจากภาษาอังกฤษที่ไม่ดี กระบวนการโต้แย้งนั้นไร้ที่ติ มันดูไม่เหมือนผู้แต่งที่มาใหม่เลย…


 


มันราบรื่นเกินไป


 


ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าวิทยานิพนธ์จะราบรื่นขนาดนี้


 


เขาอยากจะเชื่อว่ามันมีข้อผิดพลาดในวิทยานิพนธ์ห้าหน้านี้!


 


บางทีฉันอาจพลาดข้อผิดพลาดนั้นไป?


 


นี่มันน่าสนใจ


 


หนึ่งชั่วโมงผ่านไป


 


หลังจากเดอลีงย์อ่านการคำนวณบรรทัดสุดท้าย เขาเงียบไปนานมาก จากนั้นเขาก็วางวิทยานิพนธ์ไว้ข้างกระดาษทดก่อนจะถอนหายใจและพึมพำภาษาฝรั่งเศษ “ยอดเยี่ยม”


 


ชั่วโมงก่อน เขายังมีข้อกังขาอยู่ในใจ


 


อย่างไรก็ตามหลังจากอ่านอีกครั้ง เขาก็มั่นใจว่าวิทยานิพนธ์ห้าหน้านี้ไม่มีปัญหา


 


เขาไม่สามารถคิดถึงคำอื่นได้เลยนอกจากคำว่ายอดเยี่ยม


 


เดอลิงย์อยากพบผู้เขียนวิทยานิพนธ์นี้มาก อย่างไรก็ตามมันไม่มีโอกาสอันใกล้นี้เลย หลังจากกลับมาจากวันหยุดที่ฝรั่งเศษ เขาก็ต้องเข้าร่วมโปรเจ็ควิจัยอันใหม่ของพรินซ์ตันซึ่งใช้เวลาหลายเดือน


 


บางทีวิทยานิพนธ์นี้อาจกระตุ้นความสนใจของอาจารย์เขาก็ได้


 


เขารู้ว่าความเป็นไปได้นั้นต่ำ เพราะอาจารย์ของเขาไม่ได้ศึกษาคณิตศาสตร์มาหลายปีแล้ว


 


เดวิสกำลังเดินไปเดินมาในห้องนั่งเล่น สุดท้ายเขาก็หันไปสนใจตู้ปลาที่อยู่ข้างตู้ห้องนั่งเล่น เขาใช้นิ้วเคาะตู้แล้วเล่นกับปลาทองฆ่าเวลา


 


ทันใดนั้นเองประตูห้องหนังสือก็ถูกเปิดออกและเดอลีงย์ก็เดินออกมาพร้อมกับวิทยานิพนธ์ในมือ


 


เดวิสรีบเข้าไปถามทันที “เป็นไงบ้าง?”


 


ขณะที่เดอลีงย์เอาวิทยานิพนธ์ใส่ในกระเป๋าเดินทาง เขาก็ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น “ฉันต้องใช้เวลา ฉันให้คำตอบในหนึ่งอาทิตย์”


 


เมื่้อเดวิสได้ยินเขา เขาก็กลั้นหายใจชั่วครู่เพราะเขาตื่นเต้นเกินไป


 


เขาทำงานกับเดอลีงย์มาหลายปีแล้วจนเขาเข้าใจนิสัยของศาสตราจารย์อย่างสมบูรณ์


 


ถ้าวิทยานิพนธ์ไม่ได้ถูกยัดใส่เครื่องทำลายเอกสารของศาสตราจารย์ มันก็หมายความว่าเขาไม่ได้พบปัญหาในวิทยานิพนธ์ ถ้าเขาไม่ได้ส่งวิทยานิพนธ์คืนเดวิส มันก็หมายความว่าเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ดึงดูดความสนใจของเขา!


 


เวลาหนึ่งสัปดาห์ไม่เท่าไหร่เลย


 


มันเป็นไปไม่ได้ที่บรรณาธิการทางวิชาการจะตรวจสอบวิทยานิพนธ์อย่างรวดเร็ว การตรวจสอบและพิจารณาซ้ำๆเป็นสิ่งจำเป็น นี่ไม่ใช่แค่ความรอบคอบกวดขันของนักคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นของนักวิชาการด้วย มันเป็นความเคารพขั้นต่ำของสาขาการศึกษา!


 


โจทย์คณิตศาสตร์ระดับโลกกำลังจะถูกแก้


 


คุณค่าทางวิชาการของ[Mathematics Chronicle]จะดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย


 


ส่วนตัวเดวิสเองนั้น…


 


จะมีอะไรดีกว่าการได้พิสูจน์การทำงานของตนในฐานะบรรณาธิการด้านเทคนิคนอกจากการงมเข็มในมหาสมุทรอีกล่ะ?



ตอนที่ 73 ผมยังไม่อยากไปอวกาศ


 


 


มันเป็นเวลาแปดโมงครึ่งและห้องบรรยายก็เกือบเต็มแล้ว


 


เมื่อลู่โจวพบที่นั่ง เขาก็นั่งลงด้วยท่าทางแอบๆ


 


ในเวลาแปดโมงห้าสิบ ห้องบรรยายก็เต็ม บางคนกระทั่งนำเก้าอี้มาด้านในหรือนั่งฟังอยู่ตรงทางเดิน


 


แม้แต่นักศึกษาจากมหาลัยอื่นก็มา


 


ดูเหมือนศาสตราจารย์เหรินจ่างหมิงจะค่อนข้างเป็นที่นิยม


 


เวลาเก้าโมง ในที่สุดการบรรยายก็เริ่มต้นขึ้น ลู่โจวมองชายชราบนโพเดียมแล้วคิดว่าเขาดูคุ้นๆ บางทีมันเป็นเพราะลู่โจวอยู่ไกลเกินไปหรือชายชราเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาจำไม่ได้เลยว่าเขาเจอชายชราที่ไหนมา


 


เมื่อพาวเวอร์พ้อยเริ่มขึ้น นักศึกษาสาวที่นั่งอยู่ข้างลู่โจวก็เลิกคุยกันแล้วเอื้อมมือไปจับสมุดและปากกา


 


ทันทีที่เธอเห็นลู่โจวอยู่ข้างๆ เธอก็ช็อค


 


ขณะที่เธอมองเขา เธอก็ถามเสียงเบา “นักศึกษา คุณคือลู่โจว?”


 


ลู่โจวพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่”


 


แววตาของหญิงสาวเปล่งประกายและกระซิบด้วยความตื่นเต้น “คุณ…คุณมาจากคลาสคณิตศาสตร์ 2013 ลู่โจว?”


 


“ใช่…มีอะไรงั้นหรือ?”


 


“โอ้ ไม่มีอะไร” นักศึกษาสาวกล่าวและส่ายหน้า


 


แล้วทำไมเธอต้องเรียกชื่อฉัน!


 


ลู่โจวพูดไม่ออก เขาเปิดสมุดแล้วเริ่มจด


 


“…”


 


มันอาจเป็นภาพลวงตา แต่ลู่โจวรู้สึกเหมือนสองสาวข้างๆเขากำลังแอบดูเขา พวกเขายังคงกระซิบกันแล้วชี้มาทางเขา


 


ลู่โจวถอนหายใจ


 


นี่คือปัญหาของการมีชื่อเสียงหรือ?


 


มันรู้สึก…


 


ไม่เลวเลย?


 


โชคดีที่พวกเธอไม่ได้คุยเรื่องเขานานนักและรีบเปลี่ยนหัวข้อ


 


ลู่โจวป้องกันตัวเองจากสิ่งรบกวนภายนอกโดยอัตโนมัติแล้วจดจ่ออยู่กับการบรรยาย


 


เมื่อศาสตราจารย์พูดเปิดการบรรยายจบ ลู่โจวก็ไม่พลาดแม้แต่อย่างเดียว


 


“…พวกเรารู้ว่าจำนวนเฉพาะเป็นจำนวนธรรมชาติที่มีสองปัจจัยเท่านั้น เธออาจรู้จักจำนวนเฉพาะร้อยตัวแรกตอนที่เรียนอยู่มัธยม จำนวนเฉพาะคู่แฝดอ้างอิงถึงจำนวนเฉพาะคู่ที่ส่วนต่างเท่ากับ 2 กล่าวคือ p และ p 2 ล้วนเป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝด เช่น 3 กับ 5 5 กับ 7 11 กับ 13 17 กับ 19 เป็นต้น เมื่อตัวเลขมันเริ่มมากขึ้น จำนวนของคู่แฝดที่สามารถสังเกตเห็นได้จะลดน้อยลง”


 


“มีจำนวนเฉพาะคู่แฝดอยู่ 8 คู่ใน 100 และมีเพียง 2 คู่เท่านั้นที่อยู่ระหว่าง 501 ถึง 600 เมื่อจำนวนเฉพาะสูงขึ้น จำนวนเฉพาะถัดไปควรอยู่ไกลออกไปจากจำนวนเฉพาะตัวก่อนมากขึ้นเรื่อยๆ ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคยืนยันว่ามีจำนวนเฉพาะที่มีส่วนต่างเท่ากับ 2 มีจำนวนเป็นอนันต์ เช่น 3 กับ 5 5 กับ 7 และแม้แต่…”


 


ศาสตราจารย์เหรินเขียนตัวเลขแถวนึงบนกระดานดำ


 


[2003663613×2195000-1 and 2003663613×2195000+1]


 


จากนั้นเขาก็หันกลับมาแล้วหัวเราะก่อนจะพูดต่อ


 


“มีจำนวนเฉพาะที่มีส่วนต่างเท่ากับ 2 เป็นจำนวนอนันต์ นั่นคือข้อคาดการณ์ของจำนวนเฉพาะคู่แฝด”


 


จนถึงตอนนี้ศาสตราจารย์เหรินก็พูดเพียงเรื่องง่ายๆเท่านั้น แม้แต่ลู่โจวที่ยังไม่ได้ศึกษาจำนวนเฉพาะคู่แฝดก็ยังตามคำพูดของศาสตราจารย์ได้อย่างง่ายดาย


 


มันก็เหมือนกับนักศึกษาปีหนึ่งคนอื่นๆ ไม่ว่าพวกเขาจะชอบคณิตศาสตร์หรือไม่ ทุกคนต่างก็ฟังด้วยความสนใจ


 


อย่างไรก็ตามเนื้อหาการบรรยายก็เริ่มยากขึ้น


 


“…ข้อคาดการณ์ของจำนวนเฉพาะคู่แฝดเป็นโจทย์ที่ยากมาเสมอในวิชาคณิตศาสตร์ เมื่อปีที่แล้ว มีความก้าวหน้าในการศึกษาปัญหานี้” ศาสตราจารย์เหรินกล่าวและยิ้ม เขาเปลี่ยนหน้าของพาวเวอร์พ้อยก่อนจะกล่าวต่อ “นักคณิตศาสตร์ชาวจีน คุณจางอี้ถัง ประกาศข้อพิสูจน์ที่ระบุว่ามีจำนวนเฉพาะคู่แฝดมากมายเป็นอนันต์ที่มีความต่างเท่ากับ 70 ล้านหรือน้อยกว่า นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของปัญหาจำนวนเฉพาะคู่แฝด”


 


ศาสตราจารย์เหรินดันกรอบแว่นแล้วเขียนการพิสูจน์บนกระดาน


 


[กำหนดให้ theta(n)=lnn ถ้า n เป็นจำนวนเฉพาะ กำหนดให้ theta(n)=0 ถ้า n คือจำนวนประกอบ ให้ใช้ฟังก์ชั่น lambda(n)=… กำหนดให้ S1(x)=… S2(x)=…]


 


[ยืนยันว่า S2−(log3x)S>0…]


 


[…]


 


เมื่อนักศึกษาที่กำลังตามการบรรยายเห็นสมการบนกระดานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็ไม่อาจตามทันได้อีก


 


ยกตัวอย่างนักศึกษาสาวข้างลู่โจวที่มีสีหน้าเหมือนกำลังบอกว่า ‘ฉันอยู่ไหน? ฉันเป็นใคร?’ ภายในวินาทีเดียว การบรรยายทั้งหมดก็เปลี่ยนไป


 


อย่างไรก็ตามลู่โจวยังตามกระบวนการคิดของศาสตราจารย์เหรินทันอยู่


 


พูดง่ายๆก็คือ คุณจางที่ยอดเยี่ยมได้เลือกฟังก์ชั่นแลมบ์ดาและประสบความสำเร็จในการพิสูจน์ว่า k>=3.5*10^6 และสรุปว่า S2−(log3x)S1>0


 


ด้วยวิธีนี้การระบุจำนวนเฉพาะ 3.5*10^6 แรกเป็นเซ็ตที่ยอมรับได้ มันอาจพิสูจน์ได้ว่ามีจำนวนเฉพาะที่มีความต่างน้อยกว่า 70 ล้านเป็นอนันต์


 


“ณ ตอนนี้ k>=3.5*10^6 ของคุณจางถูกลดเหลือ k>=50 พูดก็คือตัวเลข 70 ล้านลดลงเหลือ 246 งานที่เหลือจำเป็นต้องถูกทำให้เสร็จโดยคนที่มาทีหลัง”


 


ศาสตราจารย์เหรินยิ้มแล้วโยนชอล์คไว้บนโต๊ะ “บางทีบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่จะสำเร็จภารกิจแห่งประวัติศาสตร์นี้อาจกำลังนั่งอยู่ในห้องบรรยายในตอนนี้ก็ได้”


 


“ฉันตั้งหน้าตั้งตารอวันนั้น!”


 


แปะๆๆ!


 


เสียงปรบมือดังสนั่น


 


ผู้ชมปรบมือกันอย่างกระตือรือร้น


 


แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจเนื้อหา แต่พวกเขาก็ยังปรบมือ!


 


แน่นอนมีบางคนที่เข้าใจ และพวกเขาก็เป็นเหล่าคนที่กำลังแสดงสีหน้าครุ่นคิด


 


อย่างเช่นลู่โจว


 


จำนวนเฉพาะคู่แฝดเป็นแค่บทนำ ไม่เหมือนกับการบรรยายทางวิชาการ จุดประสงค์ของการบรรยายเพียงเพื่อกระตุ้นความสนใจในคณิตศาสตร์ของนักศึกษาเท่านั้น


 


ศาสตราจารย์เหรินพูดเรื่องของการคาดการณ์ของก็อลท์บัคจากข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝด และจากการคาดการณ์ของก็อลท์บัค เขาก็พูดถึงความก้าวหน้าในปัจจุบันของทฤษฏีจำนวนในประเทศและผลการวิจัยชั้นสูงบางอย่าง


 


เขาต้องพูดเลยว่าศาสตราจารย์คนนี้ค่อนข้างมีความสามารถ


 


ศาสตราจารย์ใช้หัวข้อที่คลุมเครือและทำให้มันดูน่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้น


 


อย่างไรก็ตามเนื้อหาของการบรรยายครึ่งหลังมีความน่าสนใจน้อยกว่าเนื้อหาครึ่งแรก ดังนั้นลู่โจวจึงไม่ได้ฟังอย่างตั้งใจนัก สมองของเขายังติดอยู่กับการพิสูจน์ของจำนวนเฉพาะคู่แฝด


 


ลู่โจวนึกถึงการค้นพบในห้องสมุดขณะจ้องมองกระดานดำ เขาขมวดคิ้วแล้วรู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ในความมืด เมื่อไหร่ที่เขาพยายามคว้าจับมัน มันก็จะหนีไป…


 


เมื่อการบรรยายจบลง นักศึกษาจากสภานักศึกษาก็หยิบรายชื่อแล้วส่งต่อให้นักศึกษาคนอื่นๆเซ็น


 


หลังจากลู่โจวเซ็นเสร็จ เขาก็อยากรีบไปห้องสมุด แต่เขาก็ถูกนักศึกษาสาวที่อยู่ข้างๆขวางไว้


 


“นักศึกษา นักศึกษา รอเดี๋ยว อืม ฉันแอด QQ คุณได้ไหม?”


 


ลู่โจวไม่อยากเสียเวลาเปล่า ดังนั้นเขาจึงจดเลข QQ ของเขาลงเศษกระดาษ เขาไม่ให้โอกาสเธอได้พูดด้วยซ้ำก่อนจะรีบออกไป


 


อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินออกห้องบรรยาย เขาก็ถูกอีกคนหยุดไว้


 


คราวนี้มันไม่ใช่ใครไม่รู้ แต่เป็นศาสตราจารย์เหริน


 


จากรอยยิ้มของชายชรา มันเห็นได้ชัดว่าเขารอลู่โจวมาสักพักแล้ว


 


“อ่า พ่อหนุ่ม เราพบกันอีกแล้ว”


 


ลู่โจว “???”


 


เราพบกันอีกแล้ว?


 


ชายชราไม่ได้รอให้ลู่โจวพูดด้วยซ้ำ เขาถาม “พ่อหนุ่ม เธอสนใจพัฒนาจรวดไหม?”


 


ลู่โจวยังคงคิดถึงปัญหาจำนวนเฉพาะ และเขาก็รู้สึกช็อคกับคำถามนี้


 


เป็นไปได้ยังไง?


 


ลู่โจวยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ศาสตราจารย์ ผมยังไม่อยากไปอวกาศ”


ตอนที่ 74 ความลับของระบบ


 


 


“ฉันไม่ได้บอกให้เธอขึ้นจรวด” เหรินจ่างหมิงแทบสำลักน้ำลายตัวเอง เขากล่าว “ฉันกำลังถามว่าเธอสนใจพัฒนางานวิจัยด้านการบินและอวกาศไหม”


 


เมื่อลู่โจวได้ยินคำว่าการบินและอวกาศ ในที่สุดเขาก็จำได้


 


ชายชราเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินการสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญของการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์?


 


ศาสตราจารย์เหรินจ่างหมิง…


 


อดีตนักออกแบบชาวจีนของโปรเจ็คสำรวจดวงจันทร์!


 


อย่างไรก็ตาม…


 


คุณไม่เกษียณแล้วเหรอ?


 


เมื่อศาสตราจารย์เหรินเห็นลู่โจวไม่พูด เขาก็คิดว่าลู่โจวกำลังคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังนั้นเขาจึงค่อยๆกล่าว “ฉันอ่านวิทยานิพนธ์แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของเธอหลายครั้ง การสร้างแบบจำลองและวิทยานิพนธ์คุณภาพสูงแบบนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้นนั้นน่าประทับใจมาก”


 


“ฉันได้ยินว่าเธออยู่เอกคณิตศาสตร์ประยุกต์ แต่เธอยังวิจัยเรื่องคณิตศาสตร์บริสุทธิ์และแม้แต่เขียนวิทยานิพนธ์ฟังก์ชั่นเมื่อไม่นานมานี้ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศของประเทศสามารถใช้พรสวรรค์ของเธอ” เหรินจ่างหมิงกล่าว เขายิ้มแล้วกล่าวอย่างจริงจัง “พ่อหนุ่ม เธอสนใจไปมหาลัยเยี่ยนไหม? สาขากลศาสตร์และเทคโนโลยีการบินและอวกาศของมหาลัยเยี่ยนมีชื่อเสียงมากในประเทศ!”


 


ลู่โจวฟังเสนออย่างระมัดระวังก่อนที่เขาจะพูดบางอย่างในที่สุด


 


เขาร่างประโยคในใจและปฏิเสธอย่างนุ่มนวล “ศาสตราจารย์เหริน ผมขอโทษ ผมไม่รู้เรื่องการบินและอวกาศเลย พูดตามตรงการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เป็นเพียงการแปลงปัญหาที่ซับซ้อนให้กลายเป็นโจทย์ทางคณิตศาสตร์ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้ที่ลึกซึ้งเลย ไม่งั้นผมคงไม่โชคดีได้รับรางวัล Higher Education Club Cup สาขาการบินและอวกาศไม่เหมาะกับผมจริงๆ”


 


ลู่โจวไม่สามารถยอมรับข้อเสนอของศาสตราจารย์ได้


 


มันไม่ใช่เพราะลู่โจวไม่สนใจในเทคโนโลยีการบินและอวกาศเลย มันเป็นเพราะความต้องการของการเข้าสาขานี้มันล้ำลึกเกินไป ด้วยเกรดฟิสิกส์ คณิตศาสตร์และวิศวกรรมของเขา เขาผ่านประตูเข้าไปไม่ได้ด้วยซ้ำ


 


ถ้าเขาอยากเข้าการบินและอวกาศ อย่างน้อยเขาต้องมีวัสดุศาสตร์ ชีวเคมีและวิศวกรรมระดับ 5


 


มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าสู่สาขานี้ในตอนนี้


 


“เอ๊ะ การเรียนมีประโยชน์ยังไง? เธอย่อมไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอไม่ได้เรียน! ถ้าเธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว เธอจะเรียนไปทำไมล่ะ? เธออาจเริ่มทำงานได้อีกด้วย” ศาสตราจารย์เหรินกล่าว เขายิ้ม “เธอยังเด็ก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินว่ามันเหมาะสมหรือไม่ ฉันพนันเลยว่าถ้าเธอยินดีลงลึกในสาขานี้ อนาคตของเธอจะไร้ขอบเขต”


 


ลู่โจวไม่รู้จะปฏิเสธยังไงดี


 


มีเสียงดังมาจากไกลๆ “เฒ่าเหริน คุณไม่ซื่อสัตย์เลย คุณถ่อมาจากปักกิ่งเพื่อมาสอดแนมจินหลิงของเรา”


 


ลู่โจวมองไปตามต้นเสียงแล้วเห็นศาสตราจารย์ถังกำลังเดินมา


 


“คุณพูดเรื่องอะไร? สอดแนมหมายความว่าไง? ฉันทำเพื่อพัฒนาการบินและอวกาศของประเทศ ฉันไม่สามารถปล่อยให้อัจฉริยะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์” ศาสตราจารย์เหรินจ่างหมิงกล่าวอย่างไม่พอใจ


 


“หมายความว่าไงเสียเวลาเปล่า? เสียเวลาศึกษาคณิตศาสตร์? หรือมหาลัยจินหลิงทำให้เขาเสียเวลา?” เฒ่าถังกล่าว เขาไม่พอใจเช่นกัน “ถ้ามหาลัยเยี่ยนของคุณดีแบบนั้น ทำไมเรายังไม่ไปอวกาศอีก?”


 


โปรเจ็คพัฒนาขนาดใหญ่ของการสำรวจอวกาศไม่ใช่สิ่งที่มหาลัยจะทำได้เพียงลำพัง


 


แค่การรวบรวมข้อมูลของ Chang’e 3 ก็ใช้ทีมวิจัยจากมหาลัยต่างๆมากมายแล้ว และนั่นยังไม่รวมถึงการส่ง Chang’e 3 ขึ้นสู่อวกาศด้วยซ้ำ


 


แม้ว่าสาขาคณิตศาสตร์ของมหาลัยจินหลิงจะค่อนข้างอ่อนแอ แต่สาขาฟิสิกส์ของพวกเขาเป็นชั้นนำของประเทศ


 


อย่างน้อยในสายตาของศาสตราจารย์ของมหาลัยจินหลิง พวกเขาคือที่สุด!


 


เมื่อลู่โจวเห็นว่าศาสตราจารย์ชราทั้งสองกำลังทะเลาะกัน เขาก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี


 


เขารีบฉวยโอกาสนี้แล้วกระซิบบอกลาก่อนจะจากไป เขาเดินมุดเข้าไปในฝูงชนแล้วไหลไปกับกระแสโดยที่พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็น


 


…..


 


ลู่โจวไปโรงอาหาร ทานข้าวก่อนจะไปห้องสมุด


 


เมื่อเขาพบที่นั่งมุมๆ เขาก็นั่งลงแล้วเริ่มอ่านที่เขาจดมาจากการบรรยาย


 


แม้ว่าศาสตราจารย์เหรินจะอยู่ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ แต่ความสามารถในการบรรยายของเขาสูงมาก เขายังมีการค้นคว้าเชิงลึกทางคณิตศาสตร์


 


โดยเฉพาะทฤษฏีจำนวน


 


ตามที่ศาสตราจารย์กล่าว คุณจางเปิดเส้นทางใหม่ของจำนวนเฉพาะคู่แฝด มันเทียบเท่ากับการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค ‘9+9’ของชาวนอร์เวย์มิสเตอร์บลาวด์ มันเปิดเส้นทางใหม่ของการวิจัยเรื่องทฤษฏีจำนวน


 


ตามเส้นทางของคุณจาง นักคณิตศาสตร์ระดับโลกได้สร้างความก้าวหน้าในการค้นคว้าจำนวนเฉพาะคู่แฝดจนถึงเลข 246 มันอยู่ไม่ไกลจากเส้นชัยเลข 2 แล้ว


 


กุญแจสำคัญคือการเลือกใช้ฟังก์ชั่นแลมบ์ดา…


 


แต่มันจะเป็นแบบนั้นเหรอ?


 


ลู่โจวรู้สึกเหมือนมันไม่ง่ายแบบนั้น


 


เขามีแรงบันดาลใจน้อยมาก…


 


“มันอาจเป็นเพราะระดับคณิตศาสตร์ของฉัน?”


 


จู่ๆลู่โจวก็นึกออก


 


ระดับคณิตศาสตร์ปลดล็อคเพียงฐานข้อมูลของระบบเท่านั้นงั้นหรือ?


 


จู่ๆเขาก็นึกถึงครั้งก่อน ระบบบอกให้เขาลงแข่งการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์โดยไม่พึ่งระบบแล้วเอารางวัลชนะเลิศมาให้ได้


 


อันที่จริงเขาไม่เพียงแต่จะได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศเท่านั้น แต่เขายังได้รับรางวัล Higher Education Society Cup อีกด้วย


 


ถ้ามันเป็นไม่กี่เดือนก่อน ฉันจะทำแบบนั้นได้เหรอ?


 


ลู่โจวพลันคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว


 


ก่อนที่เขาจะเพิ่มระดับคณิตศาสตร์เป็นระดับหนึ่ง ตอนที่เขาได้พิมพ์เขียวการคาดการณ์ของโจว ตอนนั้นเขาพยายามพิสูจน์ทฤษฏีจากต้นจนจบ แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้แรงบันดาลใจอะไรเลย


 


‘พูดก็คือ การเพิ่มระดับไม่ใช่แค่การปลดล็อคข้อมูลของระบบเท่านั้น? มันพัฒนาความสามารถในการค้นคว้าสาขาวิชานั้นๆด้วย?’ ลู่โจวคิด


 


เขาเชื่อในพรสวรรค์


 


บางทีในสาขาวิศวกรรมมันไม่ชัดเจนนัก แต่สาขาวิชาที่เป็นทฤษฏีล้วนๆอย่างคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ยิ่งวิจัยลงลึกเท่าไหร่ นักวิจัยก็จะรู้สึกว่ามันเป็น’คอขวด’มากเท่านั้น


 


ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือโจทย์ที่รบกวนโลกคณิตศาสตร์มาเป็นร้อยปี เกาส์ใช้ความพยายามเพียงหนึ่งคืนเท่านั้น ถ้าระดับคณิตศาสตร์ของนักคณิตศาสตร์สามัญคือ LVn งั้นระดับของเกาส์อาจเป็น LV(n+1) หรือสูงกว่า


 


ลู่โจวคาดการณ์ว่าความต่างของระดับนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้เพียวๆ แต่มันใกล้เคียงกับแนวคิดที่เป็นนามธรรมอย่าง’ความสามารถในการวิจัยและพัฒนา’


 


ลู่โจวทำการวิเคราะห์ระบบในระดับมาโครและคิดถึงตัวอย่าง ถ้าเขามีคณิตศาสตร์ระดับ 1 และอยากศึกษาจำนวนเฉพาะคู่แฝด มันอาจใช้เวลาเป็นหลายสิบปีจนถึงร้อยปี อย่างไรก็ตามถ้าเขามีระดับ 2 บางทีมันอาจสั้นลงเหลือหลายสิบปี ระดับ 3 จะใช้เวลาสิบปีหรือเพียงไม่กี่ปี…


 


บางทีถ้าเขายกระดับคณิตศาสตร์ให้เหนือกว่าระดับ 2 เขาจะคว้า’แรงบันดาลใจ’ที่แว้บเข้ามาได้


 


ถ้าเขาเดาถูก งั้นระดับสาขาวิชาหลักควรไม่ได้เชื่อมโยงแค่การเข้าถึงฐานข้อมูลของระบบเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงความสามารถในการวิจัยและพัฒนาสาขาวิชานั้นๆด้วยเช่นกัน ความสามารถในการวิจัยและพัฒนานี้เป็นตัวกำหนดเวลาที่เขาต้องใช้เพื่อให้โปรเจ็ควิจัยสำเร็จ…


 


ลู่โจวพลันเข้าใจเรื่องนี้


 


แม้ว่าเขาจะล้มเหลวในการแก้โจทย์จำนวนเฉพาะคู่แฝด แต่เขาก็แก้ปัญหาบางอย่างที่สำคัญยิ่งกว่าได้สำเร็จ



ตอนที่ 75 วิธีที่ถูกต้องของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์


 


 


ตอนเย็น เมื่อลู่โจวกลับมาหอพัก เขาก็เปิดโน๊ตบุ๊ค เขากำลังจะเข้าเว็บไซต์สำนักบริหารวิชาการ แต่แล้วเขาก็สังเกตว่าหน้าต่าง QQ เด้งขึ้นมาที่มุมขวาล่างแล้วเขาก็อึ้ง


 


เขาจำไม่ได้เลยว่าเขาส่งข้อความ


 


เพื่อที่จะได้ติดต่อกับเสี่ยวไอ เขาจึงมักจะส่งข้อความหาเสี่ยวไอผ่าน QQ


 


“อะไรเนี่ย…”


 


เมื่อลู่โจวเปิดหน้าต่าง QQ เขาก็พบว่ามันเป็นข้อความกลุ่ม


 


[ประวัติข้อมูล : รักแรกเชิญท่านเข้าร่วมกลุ่มแบบจำลองทางคณิตศาสตร์…ตกลง]


 


ลู่โจว “???”


 


ทันใดนั้นเองเขาก็พบสิ่งที่เกิดขึ้น


 


บัดซบ!


 


มีบัค


 


ลู่โจวเปิดแผงเครื่องมือผู้พัฒนาแล้วเปิดโปรแกรมที่เชื่อมต่อ QQ กับเสี่ยวไอ เขารีบหาบัคที่อยู่ในโค้ดอย่างรวดเร็ว


 


แม้ว่าเขาจะตั้งค่าโปรแกรมให้รับข้อความจากบัญชีเฉพาะอย่างเดียว แต่ข้อความคำขอเป็นเพื่อนและกลุ่มจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดเชิงตรรกะ ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ยอมรับคำขอเป็นเพื่อนและกลุ่มโดยปริยาย


 


ในที่สุดลู่โจวก็จำได้ว่าตอนที่เขาให้หมายเลข QQ กับสาวปีหนึ่ง เขาให้บัญชีผิดแก่เธอโดยบังเอิญ


 


แย่แล้ว…


 


ลู่โจวคลิกเข้าไปดูกลุ่มแล้วข้ามข้อความ 99+ เพื่อเลื่อนไปดูข้อความแรก


 


เสียนจง : [ยินดีต้อนรับคนใหม่]


 


ชูชู : [นักศึกษาลู่ที่พึ่งเข้าร่วมกลุ่มคือแชมป์การแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ระดับประเทศ ทุกคนต้อนรับเขาหน่อย~]


 


เสียนจง : [คุณพระ เทพมาก!]


 


เดย์เดย์ : [คำนับท่านเทพ]


 


ฉางชิง : [คุณจะเข้าร่วมการแข่งขันสร้างแบบจำลองปีหน้าไหม? คุณขาดเพื่อนร่วมทีมไหม?]


 


เค่อตู้ : [ท่านเทพไม่ตอบ?]


 


เดย์เดย์ : [ท่านเทพค่อนข้างเย็นชา เรื่องปกติ!]


 


[…]


 


หัวข้อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว


 


มันดูไม่เหมือนกลุ่มการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ถูกจัดการโดยทางมหาลัย อันที่จริงมันเป็นเหมือนกลุ่มแชทของนักศึกษามหาลัยจินหลิงที่สนใจในแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มากกว่า


 


ลู่โจวอ่านข้อความแล้วสังเกตว่าจริงๆแล้วไม่มีใครคุยเรื่องคณิตศาสตร์เลย


 


เขาหัวเราะให้ข้อความของคนโง่เหล่านี้ เขากำลังจะออกจากกลุ่มแล้วแก้ไขบัคในโปรแกรม แต่แล้วสายตาเขาก็พลันสังเกตเห็นแถบความคืบหน้าที่มุมขวาล่าง


 


จากนั้น…


 


เขาก็อึ้ง


 


แถบความคืบหน้ามัน…


 


เต็มแล้ว?!


 


ไม่ พูดให้ถูกก็คือมันอีกครึ่งมิลถึงจะเต็ม


 


ทันใดนั้นข้อความกลุ่มก็อยู่ที่ 99+ อีกครั้ง!


 


ช่วงเวลานั้นเองแถบความคืบหน้าก็ขยับ


 


เมื่อลู่โจวเห็นแถบความคืบหน้าเต็มหลอด เขาก็กลืนน้ำลายแล้วใช้เมาส์คลิกปุ่มยืนยัน


 


ทันใดนั้นข้อความของระบบก็เด้งขึ้นมาสองบรรทัด


 


[โฮสต์ขอแสดงความยินดีด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (สาขาเทคโนโลยี) ค่าประสบการณ์ +100]


 


[วิทยาการสารสนเทศ ค่าประสบการณ์ +100]


 


ลู่โจว “???”


 


มันทำให้เขารู้ว่าเขาได้รับค่าประสบการณ์สาขาเทคโนโลยี แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รับค่าประสบการณ์วิทยาการสารสนเทศด้วย?


 


การอัพเกรดสาขาเทคโนโลยียังทำให้มันอัพเกรดเทคโนโลยีหลักด้วยงั้นเหรอ?


 


ลู่โจวยังจำได้ว่าตอนที่เขาอัพเกรดปัญญาประดิษฐ์จากระดับ 0 เป็นระดับ 1 มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับสาขาวิชาหลักเลย


 


ลู่โจวคิด ‘บางที…มันเป็นเพราะฉันใช้แต้มทั่วไปเพื่อเร่งกระบวนการอัพเกรดงั้นเหรอ?


 


“จะให้พูดก็คือ สาขาเทคโนโลยีเปรียบเหมือนภารกิจ การได้รับแต้มประสบการณ์สาขาเทคโนโลยีด้วยวิธีการทั่วไปก็สามารถเพิ่มประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหลัก ถ้าเราใช้แต้มทั่วไปอัพเกรดสาขาเทคโนโลยี เราจะไม่ได้รับแต้มประสบการณ์พิเศษ…”


 


สาขาเทคโนโลยีมีการเพิ่มระดับที่แตกต่างกัน การเพิ่มระดับปัญญาประดิษฐ์จากระดับ 1 เป็นระดับ 2 ต้องการ 1000 แต้ม ซึ่งหมายความว่าลู่โจวยังต้องทำให้แถบความคืบหน้าเต็มอีก 9 หลอด


 


ในทางทฤษฏี ถ้าเขาไม่ใช้แต้มทั่วไปเพื่ออัพเกรดสาขาเทคโนโลยี เขาจะได้รับแต้มประสบการณ์วิทยาการสารสนเทศ 900 แต้มเช่นกัน


 


ลู่โจวแปลกใจ


 


เขาไม่คิดเลยว่านอกจากภารกิจ เขาจะสามารถใช้’ภารกิจรอง’แบบนี้เพื่อเพิ่มแต้มประสบการณ์ให้กับสาขาวิชาหลักได้ด้วย


 


ทันใดนั้นเองเขาก็ตระหนักถึงปัญหาอื่น


 


แอพบุคคลที่สามที่ถูกออกแบบให้คัดลอกข้อความ QQ ลงในไดอาล็อกบ็อกซ์ของเสี่ยวไอ อย่างไรก็ตามโปรแกรมไม่ได้รวมข้อความกลุ่ม นั่นก็หมายความว่า…


 


แม้ว่าจะไม่มีแอพบุคคลที่สาม เสี่ยวไอก็ยังสามารถอ่านข้อความที่ปรากฏบนคอมพิวเตอร์?


 


เสี่ยวไออ่านไฟล์หรือขัดขวางเครือข่ายได้โดยตรง?


 


ฉันขอลองคิดอย่างละเอียดอีกที…


 


มันก็สมเหตุสมผล ถ้าปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถแม้แต่จะอ่านข้อความ มันคงไร้ประโยชน์เกินไปหน่อย ถ้ามันพัฒนาต่อไปแบบนี้ มันจะเติบโตจนอยู่นอกเหนือการควบคุมของฉันไหม?


 


ลู่โจวรู้สึกเหมือนมันเป็นไปได้


 


ดูเหมือนว่าฉันต้องหาเวลาตรวจสอบโค้ดหลักของอายบ้างแล้ว


 


เขากำลังตรวจสอบโค้ด แต่แล้วโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น


 


เขาดึงโทรศัพท์ออกมาแล้วเห็นว่ามันเป็นสายจากเฒ่าถัง


 


เฒ่าถังไม่รอให้ลู่โจวพูดด้วยซ้ำ “…มาที่ออฟฟิศอาจารย์!”


 


…..


 


ณ มหาลัยอี้เซียน มณฑลกว่างโจว นอกอาคารเรียน


 


เมื่อเสียงออดดังขึ้น ชายชราสวมแว่นก็ออกจากห้องเรียน


 


เขากำลังเตรียมกลับออฟฟิศ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นผู้อำนวยการสาขาคณิตศาสตร์ ผู้อำนวยการฉางกำลังถือวารสารอยู่ในมือ เขาจึงเดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม


 


ผู้อำนวยการฉางแล้วยิ้มให้ศาสตราจารย์โจวไห่จงด้วยรอยยิ้ม “ศาสตราจารย์จาง แสดงความยินดีด้วย” เขาจับมือศาสตราจารย์แล้วกล่าว “ขอแสดงความยินดี ขอแสดงความยินดี”


 


ศาสตราจารย์จางไห่จงรู้สึกงง เขามองผู้อำนวยการฉางด้วยสีหน้ามึนงง


 


“…ผู้อำนวยการฉาง คุณพูดเรื่องอะไร? ทำไมคุณถึงมาแสดงความยินดีกับฉันโดยไม่มีเหตุผล?”


 


ผู้อำนวยการฉางถาม “คุณไม่ได้อ่าน[Mathematics Chronicle]ฉบับล่าสุดหรือ?”


 


“ฉันไม่ได้อ่านมานานแล้ว ฉันไม่ได้ตามคณิตศาสตร์แล้ว” ศาสตราจารย์โจวกล่าวและส่ายหน้า


 


แม้ว่าข้อคาดการณ์ของโจวจะทำให้ศาสตราจารย์โจวไห่จงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในแวดวงคณิตศาสตร์ระดับโลกและได้รับทุนพิเศษจากสถาบันวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ แต่งานอดิเรกของเขาไม่ใช่คณิตศาสตร์ แต่เป็นวิทยาการคอมพิวเตอร์และภาษาศาสตร์


 


นับตั้งแต่ปี 1980 เขาได้ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์กว่า 100 ฉบับ มากกว่าครึ่งเป็นเรื่องของภาษาศาสตร์ วิทยาการสารสนเทศ และสหวิทยาการรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดวิทยานิพนธ์เรื่องการวิจัยภาษาศาสตร์เชิงวิทย์คณิตที่คลุมเคลือได้รับความสนใจอย่างมากจากแวดวงวิชาการ และคุณค่าทางวิชาการของมันก็เทียบเท่ากับข้อคาดการณ์ของโจว


 


ส่วนทฤษฏีจำนวน…


 


พูดตามตรง เขาไม่มีพลังพอวิจัยทฤษฏีจำนวน


 


ผู้อำนวยการฉางไม่ได้พูออะไร เขายัดวารสารใส่มืออีกฝ่ายแล้วยิ้ม “เอานี่ไป เริ่มจากหน้า 30 แล้วอ่านจนถึงหน้า 34 คุณจะรู้ว่าฉันแสดงความยินดีกับคุณทำไม!”


 


ศาสตราจารย์โจวไห่จงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เขากลับออฟฟิศพร้อมกับวารสาร


 


เขาวางกระเป๋าบนโต๊ะแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ก่อนที่เขาจะเปิด[Mathematics Chronicle]หน้าที่ 30


 


วินาทีที่เขาเห็นชื่อวิทยานิพนธ์ เขาก็อึ้ง


 


[การอภิปรายเรื่องกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนและพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว”


 


[บทคัดย่อ : วิทยานิพนธ์นี้ศึกษาเรื่องของกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนและพิสูจน์ว่าเมื่อ 2^(2^n) < P < 2^(2^(n+1)) MP มี 2^(n+1)-1 เป็นจำนวนเฉพาะ จากข้อโต้แย้งนี้ มันพิสูจน์ว่าเมื่อ 2^(2^(n+1)) MP จะมี 2^(n+2)-n-2 เป็นจำนวนเฉพาะ]


 


เขารีบลุกจากเก้าอี้ เขาเปิดลิ้นชักแล้วหยิบกระดาษปากกาก่อนจะเริ่มคำนวณตามขั้นตอนในวิทยานิพนธ์


 


เวลาค่อยๆผ่านไป สายตาเขาเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อยๆ


 


ถูกต้อง…


 


ถูกต้อง…


 


ถูกต้องโดยสมบูรณ์!


 


นี่คือวิธีแก้มัน?!


 


ยิ่งศาสตราจารย์โจวอ่านมากเท่าไหร่ เขาก็ตื่นเต้นมากเท่านั้น เขาอดปรบมือให้กับกระบวนการพิสูจน์ที่ยอดเยี่ยมนี้ไม่ได้


 


ในฐานะผู้เขียนข้อคาดการณ์ โจทย์นี้เป็นปัญหากับเขาและแวดวงคณิตศาสตร์มากว่า 20 ปี


 


เขาไม่ได้วิจัยทฤษฏีจำนวนมานานแล้ว กลับกันเขาทุ่มเทให้กับภาษาศาสตร์และการศึกษาแทน มันเป็นเหมือนคำสาป ข้อคาดการณ์ที่แก้ไม่ได้พัวพันอยู่รอบตัวเขาและเขาก็หยุดคิดถึงปัญหานี้ไม่ได้


 


หัวใจเขารู้สึกตื่นเต้น แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่อยากหวังมาก


 


ยิ่งใกล้จบวิทยานิพนธ์เท่าไหร่ เขาก็หวาดกลัวและระมัดระวังขึ้นเท่านั้น


 


เขากลัวว่าในการคำนวณสุดท้าย มันจะมีข้อบกพร่องในกระบวนการพิสูจน์ งั้นโจทย์ก็จะยังไม่ได้รับการแก้ไข


 


อย่างไรก็ตามความเป็นไปได้ต่ำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขาได้เห็นชื่อผู้ตรวจสอบ


 


เวลาค่อยๆผ่านไป…


 


ท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆมืดลงและในที่สุดชายชราก็หยุดปากกาในมือ


 


เขาไม่ได้พูดอะไร


 


กลับกันเขาวางปากกาลงแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปข้างหน้าต่าง เขาจุดบุหรี่เงียบๆแล้วสูบควันเข้าไปเต็มปอดและพูดอยู่ในใจ ‘คนหนุ่มสาวก้าวข้ามเราไปแล้ว’


 


ทะเลสาบนอกหน้าต่างเปล่งประกายระยิบระยับ


 


ใบหน้าที่เหี่ยวย่นสะท้อนอยู่บนหน้าต่าง เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่น้ำตาเขารินไหลลงมา…



ตอนที่ 76 ยึดถือผลประโยชน์เป็นเรื่องดี


 


 


ท้องฟ้ามืดสนิท แต่ตึกวิจัยยังคงสว่างไสว ลู่โจวเคาะประตูออฟฟิศศาสตราจารย์ถังแล้วเดินเข้าไป


 


อันที่จริงเขาพอรู้แล้วว่าทำไมศาสตราจารย์ถังถึงเรียกเขามา


 


ไม่กี่วินาทีก่อน เขาได้รับจดหมายยอมรับวิทยานิพนธ์จาก[Mathematics Chronicle] ที่จริงมันถูกส่งมาสองวันก่อนแล้ว แต่เขาไม่ได้รับ


 


อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะถูกตีพิมพ์เร็วขนาดนี้ มันเหมือนกับว่าวารสาร[Mathematics Chronicle]เร่งรีบมากกว่าตัวเขาเสียอีก


 


เมื่อเห็นว่าวิทยานิพนธ์ของเขาได้รับความเคารพอย่างมาก ลู่โจวจึงอดรู้สึกปลาบปลื้มไม่ได้


 


เมื่อเขาเดินเข้าไป ศาสตราจารย์ถังก็วางปากกาลงแล้วมองนักศึกษาปริญญาโทที่กำลังทำงานอยู่ข้างๆ


 


“เสี่ยวหวัง ไปเอาน้ำมาให้รุ่นน้องของเธอหน่อย”


 


นักศึกษาปริญญาโทที่ชื่อเสี่ยวหวังดันกรอบแว่นแล้วลุกขึ้นยืน


 


ลู่โจวกล่าว “ไม่เป็นไรครับ ผมจะทำเอง”


 


“ไม่ ให้ผมทำเถอะ” เสี่ยวหวังกล่าวและวางถ้วยชาบนโต๊ะกาแฟก่อนจะเทน้ำลงในกาต้มน้ำไฟฟ้า เขากล่าวด้วยความเคารพ “ผมเสิร์ฟน้ำให้พี่ใหญ่เอง”


 


“ขอบคุณ…”


 


เขามองไปยังถ้วยชาโดยไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาได้แต่ยอมรับความหวังดีของเสี่ยวหวังโดยไม่มีทางเลือก


 


ลู่โจวนั่งบนโซฟามองไปยังวารสารข้างถ้วยชา มันเป็นวารสาร [Mathematics Chronicle]ฉบับภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นล่าสุด ลู่โจวพลิกไปหน้าสามสิบแล้วจำวิทยานิพนธ์ที่เขาเขียนได้ทันที


 


[การอภิปรายเรื่องกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนและพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว]


 


“วิทยานิพนธ์นี้อยู่ใน Mathematics Chronicle เธอเป็นคนเขียนใช่ไหม?” ศาสตราจารย์ถังถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน


 


“ครับ” ลู่โจวพยักหน้ากล่าวแล้วมองศาสตราจารย์ถังด้วยสีหน้าแปลกๆ


 


จะเป็นใครอื่นไปได้?


 


มีลู่โจวคนอื่นในมหาลัยจินหลิงหรือ?


 


นักศึกษาปริญญาโททั้งสองที่อยู่ในห้องสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บแล้วมองลู่โจวด้วยความเคารพ


 


ไม่แปลกใจเลยที่เฒ่าถังชื่นชมชายคนนี้มาก!


 


เขาพิสูจน์ปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลก แต่เขาก็ยังเรียบเฉยขนาดนี้ได้


 


ถ้าพวกเขาพิสูจน์ปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลกและตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ในวารสารหลัก พวกเขาคงกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีไปแล้ว พวกเขาจะได้รับทุนการศึกษาจากมหาลัยแล้วชวนเพื่อนๆไปกินข้าว


 


“…”


 


ลู่โจวสงบมากจนศาสตราจารย์ถังถึงขั้นไม่รู้จะพูดอะไร


 


พูดตามตรง ศาสตราจารย์ถังสับสนมากเมื่อได้อ่านวิทยานิพนธ์


 


ไม่ใช่เพราะตัววิทยานิพนธ์ แต่เป็นเพราะคนที่ตีพิมพ์มัน


 


เขาไม่เคยคิดเลยว่าลู่โจวจะศึกษาจำนวนเฉพาะของแมร์แซนจนคิดอะไรแบบนี้ออกมาได้ เขาอยากให้ลู่โจวพบกับความล้มเหลว แต่เขาคาดไม่ถึงเลย…


 


ใครจะไปคิดล่ะว่าเด็กคนนี้จะประสบความสำเร็จอย่างมากในสาขานี้?


 


เขาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใส่ทั้งสาขาวิชาทฤษฏีจำนวน…


 


“…ความสำเร็จของเธอในสาขาทฤษฏีจำนวนเกินกว่าที่อาจารย์จินตนาการไว้ อาจารย์คิดว่าเธอมีพรสวรรค์เฉพาะสาขาฟังก์ชั่น แต่ดูเหมือนอาจารย์จะคิดผิด” ศาสตราจารย์ถังกล่าวและส่ายหน้า จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “อาจารย์เคยสอนนักศึกษาที่มีพรสวรรค์มามากมาย แต่เธอเป็นนักศึกษาที่มีพรสวรรค์ที่สุดที่อาจารย์เคยเจอ”


 


ไม่เพียงแต่ศาสตราจารย์ถังจะประทับใจเท่านั้น แต่เขายังสับสนอีกด้วย


 


โดยปกติแล้วพลังของคนๆนึงควรมีจำกัด มันไม่ใช่เรื่องดีที่นักวิชาการจะมุ่งเน้นไปหลายทางหลายเรื่อง แต่ดูเหมือนว่าขีดจำกัดนี้จะใช้ไม่ได้กับเด็กคนนี้


 


ดูเหมือนบนโลกนี้จะมีอัจฉริยะที่ทำลายสามัญสำนึกจริงๆ


 


ลู่โจวรู้สึกเขินกับคำชมจนเขาหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีสุภาพ “ศาสตราจารย์ถังยกยอผมเกินจริงแล้ว ผมแค่ได้แรงบันดาลใจโดยบังเอิญ ผมไม่ได้เก่งอย่างที่ศาสตราจารย์พูด”


 


“หึ ก็ได้”


 


น้ำเสียงของศาสตราจารย์ถังฟังดูไม่เชื่อ และลู่โจวก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี


 


คำว่า’หึ’ของศาสตราจารย์ถังหมายความว่าเขาดูความพยายามถ่อมตนของลู่โจวออกอย่างชัดเจน


 


เฒ่าถังฉลาดเกินไป!


 


เวลานั้นเองประตูออฟฟิศจู่ๆก็ถูกเปิด


 


มีสองคนเดินเข้ามา


 


คนแรกคือคณบดีหลู่ของคณิศาสตร์ประยุกต์ ส่วนอีกคนเป็นคนที่ลู่โจวไม่รู้จัก อย่างไรก็ตามด้วยสายตาที่จ้องมาทางลู่โจว เห็นได้ชัดว่าคนๆนี้มาหาเขา


 


คณบดีหลู่เดินเข้ามาและกำลังจะตะโกนเรียกศาสตราจารย์ถัง แต่เมื่อเขาเห็นลู่โจว เขาก็รีบเข้ามาถาม “เธอพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว?!”


 


ลู่โจวมองคณบดีหลู่ที่กระตือรือร้นแล้วพยักหน้า “ครับ…มีปัญหาเหรอครับ?”


 


คณบดีหลู่ไม่ได้พูดอะไร แต่ชายชราข้างเขายิ้มแล้วพูดก่อน “ไม่มีปัญหาอะไรเลย ฉันอ่านวิทยานิพนธ์ของเธอแล้ว กระบวนการพิสูจน์ค่อนข้างดี มันสมควรได้รับการยกย่องจากศาสตราจารย์เดอลีงย์”


 


ยกย่อง?


 


เดอลีงย์?


 


ใครกัน?


 


ลู่โจวงง


 


นักศึกษาปริญญาโททั้งสองมีสีหน้าตกใจ


 


เดอลีงย์?


 


ไวเคานต์ กษัตริย์เบลเยี่ยม! คนที่พิสูจน์ข้อคาดการณ์ของเวลล์!


 


ศาสตราจารย์ถังกระแอมแล้วกล่าว “เสี่ยวหวัง เอาน้ำมาเสิร์ฟให้ศาสตราจารย์หน่อย”


 


เสี่ยวหวังลุกขึ้นยืนเงียบๆแล้วเดินไปที่โต๊ะที่วางชุดน้ำชา


 


ชายชราแปลกหน้ากล่าว “เฒ่าถัง ไม่จำเป็นต้องสุภาพ ฉันแค่มาแปปเดียว เดี๋ยวฉันก็ไปแล้ว”


 


“นีคือหัวหน้าคณบดีของสาขาเรา คณบดีฉิน” คณบดีหลู่อธิบายเมื่อเห็นสีหน้ามึนงงของลู่โจว


 


ลู่โจวลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “คณบดี สวัสดีครับ”


 


“สวัสดีๆ ไม่จำเป็นต้องสุภาพ นั่งลงเถอะ” คณบดีฉินกล่าว เมื่อเขามองลู่โจว เขาก็พยักหน้ายอมรับก่อนจะกล่าว “เธอนี่เองลู่โจว ฉันรอพบเธอมานานแล้ว แต่ฉันร่วมประชุมทางวิชาการอยู่ที่นอร์เวย์ ฉันเลยไม่มีโอกาส ฉันพึ่งจะกลับมาอาทิตย์ที่แล้ว”


 


“ตอนที่ฉันอยู่นอร์เวย์ ฉันได้คุยกับมิสเตอร์นิวแมนเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ฟังก์ชั่นเชิงเส้นที่เธอส่งไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และเขาก็ประเมิณเธอไว้อย่างสูง เขาบอกว่าเธอจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในห้าปี ฉันไม่คิดเลยว่าวันที่พูดถึงนั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ฉันพึ่งกลับมาจากนอร์เวย์ เธอก็ได้เขียนวิทยานิพนธ์ที่น่าตกใจในสาขาต่างๆที่แตกต่างจากฟังก์ชั่นแล้ว”


 


คณบดีฉินพูดจบแล้วถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วกล่าว “คนแก่อย่างเราเริ่มไร้ประโยชน์ขึ้นเรื่อยๆ เราต้องพึ่งพาคนหนุ่มสาวอย่างเธอเพื่อพิสูจน์ข้อคาดการณ์ทางคณิตศาสตร์เหล่านี้”


 


“คณบดีหลู่ ท่านเมตตาเกินไปแล้ว” ลู่โจวกล่าว เขากระแอมแก้เขินแล้วกล่าว “มันไม่ได้น่าตกใจขนาดนั้น…”


 


คณบดีฉินมองลู่โจว เขายิ้มแล้วกล่าว “โอ้ รอจนถึงพรุ่งนี้ เธอจะรู้ว่าฉันพูดเรื่องอะไร”


 


คำว่า’โอ้’คำนี้หมายความว่ายังไง?


 


ลู่โจวสับสน


 


เมื่อคณบดีฉินเห็นลู่โจวไม่พูด เขาก็กล่าว “มันสายแล้ว ฉันยังมีเรื่องต้องคุยกับศาสตราจารย์ถัง เธอไปเถอะ”


 


ลู่โจวอยากไปแล้วเหมือนกัน เนื่องจากเขาทำภารกิจเสร็จแล้ว เขาก็อยากไปรับรางวัลในมิติของระบบ


 


ดังนั้นเขาจึงยิ้มแล้วกล่าว “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ…เอ่อ คณบดีฉินครับ มีทุนการศึกษาสำหรับการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลกแบบนี้ไหมครับ?”


 


ศาสตราจารย์ถังหัวเราะแล้วกล่าว “เจ้าหนูนี่ เธอสนใจแต่เรื่องเงิน คุณค่าของปัญหาระดับโลกวัดด้วยเงินได้ด้วยเหรอ?”


 


ลู่โจวพยักหน้า เขาอยากตอบว่า ได้ครับ แต่เขาก็ห้ามตัวเองไว้


 


คณบดีหลู่กับคณบดีฉินหัวเราะ


 


“มีทุนการศึกษา มหาลัยของเราสนับสนุนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่นแบบนี้อย่างยิ่ง!” คณบดีฉินกล่าว “แต่จำนวนทุนการศึกษาที่แน่นอน มหาลัยจะต้องประชุมอีกที ตอนนี้ฉันให้สัญญาอะไรไม่ได้ แต่เราจะไม่ปฏิบัติต่อเธอแย่ๆแน่นอน!”


 


ลู่โจวมีความสุขมาก “ขอบคุณครับคณบดี!”


 


คณบดีฉินโบกมือแล้วกล่าว “ด้วยความยินดี”


 


ลู่โจวออกไปจากออฟฟิศแล้วปิดประตู


 


คณบดีฉินยิ้มแล้วกล่าว “เด็กคนนี้ค่อนข้างมีพรสวรรค์”


 


ศาสตราจารย์ถังถอนหายใจแล้วกล่าว “ใช่ แต่เขาแค่ยึดถือผลประโยชน์เกินไปหน่อย”


 


“ยึดถือผลประโยชน์เป็นเรื่องดี”


 


“ดียังไง? ฉันว่าให้มุ่งเน้นการวิจัยก่อนดีกว่า” ศาสตราจารย์ถังกล่าว เขาส่ายหน้าแล้วกล่าวต่อ “พรสวรรค์ในด้านคณิตศาสตร์ของเขาสูงที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น ถ้าเขามุ่งเน้นแค่การวิจัย อนาคตของเขาจะไม่มีขอบเขต”


 


“โอ้? ฉันคิดว่าการยึดถือผลประโยชน์กับความกระตือรือร้นนั้นไปด้วยกันได้” คณบดีฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากล่าวต่อ “ปัญหาที่แท้จริงคือคนหัวดื้อ”


 


ศาสตราจารย์ถังส่ายหน้าและไม่ได้ตอบอะไร


 


เขาเคยเห็นอัจฉริยะมามากมายที่สูญเสียพรสวรรค์โดยสูญเปล่า


 


การเรียนรู้ไม่ใช่การเต้นหรือร้องเพลง ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ เราก็ต้องทนความโดดเดี่ยวได้ เราต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองจากสิ่งรบกวน นี่อาจไม่ยุติธรรมกับเหล่าคนที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง แต่เนื่องจากเราเลือกเส้นทางค้นหาความจริงนี้ เราก็ต้องทน

(ผู้แปล : วิทยาศาสตร์คือการค้นหาความจริง)


 


บางทีมุมมองของศาสตราจารย์อาจแตกต่างออกไป


 


คณบดีฉินหวังว่าลู่โจวจะประสบความสำเร็จในมหาลัยจินหลิง เขาหวังว่าลู่โจวจะทำเครื่องหมายการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจวด้วยสัญลักษณ์ของมหาลัยจินหลิงเพื่อที่ทางมหาลัยจะได้มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงวิชาการของจีนหรือแม้แต่ในระดับโลก


 


อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะเป็นมหาลัยจินหลิง พรินซ์ตันหรือที่แห่งอื่น


 


ศาสตราจารย์ถังก็หวังแค่ว่าเด็กคนนี้จะพัฒนาตัวเองในสาขาคณิตศาสตร์ต่อไป



ตอนที่ 77 สามภารกิจมรณะ


 


 


ลู่โจวกลับหอพักและล้างหน้าก่อนจะนอนบนเตียง เขากล่าวในใจ ‘มิติระบบ’ เมื่อเขาลืมตา เขาก็มาอยู่ในมิติของระบบสีขาวบริสุทธิ์แล้ว


 


[โฮสต์ขอแสดงความยินดีด้วยที่ทำภารกิจรางวัลสำเร็จ]


 


[รายละเอียดภารกิจ : ประสบความสำเร็จในการตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ SCI ผลการประเมิณสุดท้ายของภารกิจ : ไม่มี (ภารกิจรางวัลไม่มีการประเมิณผล)]


 


[รางวัลภารกิจ : แต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ 10,000 แต้ม ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ (ตัวอย่าง 50% พิมพ์เขียว 50%)]


 


แต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ 10,000 แต้ม!


 


เมื่อลู่โจวเห็นตัวเลข เขาก็ตกใจ


 


ฉันได้แต้มประสบการณ์มากแค่ไหนนะตอนที่ส่งวิทยานิพนธ์ฉบับแรก? ฉันคิดว่าฉันได้คณิตศาสตร์ 400 แต้มกับ ฟิสิกส์ 100 แต้ม รวมทั้งหมดเป็น 500 แต้ม!


 


ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมศาสตราจารย์ถังกับคณบดีฉินถึงให้ความสนใจกับวิทยานิพนธ์ของเขามากนัก คุณค่าทางวิชาการของวิทยานิพนธ์สูงเกินกว่าที่เขาคาดหวังไว้จริงๆ


 


ลู่โจวอดใจเปิดแผงหน้าต่างคุณสมบัติไม่ได้


 


ใช่จริงๆ ระดับคณิตศาสตร์ของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว


 


[


 


วิทยาศาสตร์หลัก :


 


A คณิตศาสตร์ : ระดับ 2 (2000/50000)


 


B ฟิสิกส์ : ระดับ 1 (2100/10000)


 


C ชีววิทยา : ระดับ 0 (0/1000)


 


D วิศวกรรม : ระดับ 1 (0/10000)


 


E วัสดุศาสตร์ : ระดับ 0 (0/1000)


 


F วิทยาการพลังงาน : ระดับ 0 (0/1000)


 


G วิทยาการสารสนเทศ : ระดับ 1 (0/10000)


 


แต้มทั่วไป : 1175


 


]


 


คณิตศาสตร์ระดับ 2!


 


เมื่อลู่โจวเห็นระดับที่เพิ่มขึ้น เขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ได้


 


แน่นอนมีสิ่งที่น่ายินดีอีกอย่างที่กำลังรอเขาอยู่


 


ต่อไปเป็นการเสี่ยงโชคที่น่าตื่นเต้น


 


ลู่โจวเห็นความเป็นไปได้ที่จะได้รับตัวอย่าง 50% กับพิมพ์เขียว 50% แล้วยิ้มอยู่ในใจ


 


ระบบนี้ต้มฉันมาหลายครั้งแล้ว! ครั้งนี้ในที่สุดฉันก็จะได้รับรางวัลดีๆ!


 


50%


 


เขาไม่อยากจะเชื่อเลย


 


ไม่มีทางที่เขาจะได้รับขยะ!


 


“หมุน!”


 


วงล้อเริ่มหมุนด้วยความเร็วสูง


 


“หยุด!”


 


วงล้อหมุนไปอีกสองสามรอบก่อนจะค่อยๆหยุดลง


 


[โฮสต์ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้รับรางวัลตัวอย่าง]


 


[ได้รับ : เข็มเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายระดับ E (ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ปรับปรุงระบบเผาผลาญ เพิ่มภูมิคุ้มกัน)]


 


เอิ่ม…


 


ดูเหมือนจะธรรมดา?


 


จากคำอธิบาย ดูเหมือนมันจะเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ?


 


ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ปรับปรุงระบบเผาผลาญ และเพิ่มภูมิคุ้มกัน… มันดูไม่เลว ฉันอดหลับอดนอนบ่อย ฉันควรซ่อมแซมร่างกายตนเอง แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนถูกต้มอีกแล้วล่ะ…


 


ช่างมันเถอะ อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่ขยะ


 


ตอนนี้ฉันต้องเลือกภารกิจต่อไป


 


ลู่โจวเอื้อมมือออกไปเลือกแผงภารกิจบนหน้าจอข้อมูล


 


มีกล่องข้อความสามกล่องเด้งขึ้นมา


 


[


 


ภารกิจที่ 1 : พัฒนาการอย่างสมดุล


 


คำอธิบาย : ในฐานะอัจฉริยะที่แท้จริง การพัฒนาความรู้รอบด้านเป็นทักษะพื้นฐาน แม้ว่าคณิตศาสตร์จะเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์ แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้มีแค่คณิตศาสตร์เท่านั้น เพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษยชาติ โปรดให้ความสำคัญกับชีวเคมี วัสดุศาสตร์และวิทยาการพลังงานอย่างจริงจัง


 


สิ่งที่ต้องทำ : ได้รับคะแนนความสำเร็จ (0/20) ในสาขาชีวเคมี วัสดุศาสตร์ และวิทยาการพลังงาน คะแนนความสำเร็จได้รับผ่านการแข่งขัน (1) มีส่วนร่วมในโปรเจ็ควิจัย (1-n) ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ทางวิชาการ (1-3) รางวัลวิจัยระดับประเทศ (1-5) และอื่นๆ


 


รางวัล : แต้มประสบการณ์ในสาขาวิชาหลัก (คะแนนความสำเร็จ *300 ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ (ขยะ 90% ตัวอย่าง 5% พิมพ์เขียว 3% ปลดล็อคสาขาเทคโนโลยีใหม่ 2%)


 


]


 


[


 


ภารกิจที่ 2 เริ่มต้นอาชีพการงาน


 


คำอธิบาย : ในฐานะอัจฉริยะที่แท้จริง ความสำเร็จไม่ใช่แค่ด้านวิชาการเท่านั้น ยกตัวอย่าง วัตต์ , ซีเมนส์ , เอดิสัน , เกตส์ , ดีน คาเมน เป็นต้น พวกเขาอาจไม่ได้มีผลการเรียนที่โดดเด่น แต่การมีส่วนร่วมของพวกเขาในความก้าวหน้าของอารยธรรมที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ มนุษย์เป็นสัตว์เศรษฐกิจและการกระจายทรัพยากรทางสังคมนั้นถูกกำหนดโดยเศรษฐกิจ อัจฉริยะไม่ต้องเรียนรู้เรื่องธุรกิจ แต่สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนความรู้ของท่านให้กลายเป็นทรัพยากรทางสังคมที่สามารถใช้งานได้…


 


สิ่งที่ต้องทำ : มีทรัพย์สินรวม 5 ล้านหยวน (นับแค่ทรัพย์สินที่คำนวณได้ หักหนี้สิน ทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนจะไม่ถูกนับ)


 


รางวัล : แต้มประสบการณ์ 5000 แต้มต่อสาขาวิชานั้นๆ แต้มทั่วไป 500 แต้ม ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ (ขยะ 90% ตัวอย่าง 10%)


 


]


 


[


 


ภารกิจที่ 3 ขอสัมผัสถ้วยรางวัลของท่านได้ไหม


 


คำอธิบาย : ในฐานะอัจฉริยะที่แท้จริง รางวัลเดียวไม่พอ รางวัลอย่างรางวัลอาเบล เหรียญฟิลด์ รางวัลวูลฟ์หรือแม้แต่รางวัลเกรดสองรางวัลโคลล์(Cole Prize) รางวัลศัสตรารามานุจัน(SASTRA Ramanujan Prize)  รางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซิน(Chen Shengshen Mathematics Award) รางวัลคณิตศาสตร์ประยุกต์เบอร์คอฟฟ์(Birkhoff Applied Mathematics Award) และเหรียญทอรี่ของราชสมาคม(Royal Society’s Tory Medal)เป็นข้อพิสูจนความสามารถของอัจฉริยะที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย


 


สิ่งที่ต้องทำ : ได้รับรางวัลคณิตศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล (ยกเว้นรางวัลการแข่งขัน)


 


รางวัล : แต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ 20000-100000 แต้ม แต้มทั่วไป 1000 แต้ม ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ (พิมพ์เขียว 100%)


 


]


 


ในฐานะอัจฉริยะที่แท้จริง…


 


ดูเหมือนว่าระบบจะไม่เข้าใจมนุษย์ดีนัก มันมักมีความเข้าใจผิดเมื่อพูดถึงอัจฉริยะ…


 


ลู่โจวรู้สึกว่าเขาเป็นอัจฉริยะแล้ว แต่จากมาตรฐานของระบบ เขาจะเป็นคนโง่


 


ลู่โจวอดกลั้นความต้องการที่จะด่าระบบแล้วมุ่งเน้นความสนใจไปที่ระบบทั้งสาม


 


“ข้อคาดการณ์ของโจวอาจไม่ได้รับรางวัลคณิตศาสตร์ระดับโลก แต่ฉันอาจได้รับรางวัลระดับประเทศ…”


 


เมื่อลู่โจวเห็นแต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ขั้นต่ำ 20000 แต้มในภารกิจที่สาม เขาก็ตื่นเต้น


 


อย่างไรก็ตามเขายังรู้สึกกังวล


 


รางวัลคณิตศาสตร์ทุกรางวัลมีกระบวนการคัดเลือกที่ยาวนานมาก แม้ว่าผลงานของเขาจะได้รับการยอมรับโดยแวดวงวิชาการระดับโลก แต่มันอาจใช้เวลาหลายปีกว่าเหรียญรางวัลจะมาถึงมือเขา


 


เขาไม่สามารถใช้เวลาทำภารกิจหลายปีเพียงแค่รางวัลเดียว ใครจะรู้ว่าในช่วงหลายปีนี้ระดับคณิตศาสตร์ของเขาจะสูงได้ถึงขั้นไหน


 


แม้ว่าลู่โจวจะโลภ แต่เขาก็ยังมีเหตุผล


 


ส่วนภารกิจแรก มันน่าอึดอัดเช่นกัน


 


เขาเรียนคณิตศาสตร์ การที่เขาจะเรียนฟิสิกส์และวิทยาการสารสนเทศด้วย มันยังสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามถ้าจู่ๆเขาไปสนใจชีวเคมี วัสดุศาสตร์และวิทยาการพลังงาน มันอาจดูน่าสงสัยเล็กน้อย


 


ต่อให้เขาไม่คิดเรื่องเหตุผล สาขาชีวเคมี วัสดุศาสตร์และวิทยาการพลังงานทั้งสามสาขาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ วิทยานิพนธ์ SCI ในสามสาขานี้ไม่เหมือนกับคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ เขาอาจไม่สามารถเขียนวิทยานิพนธ์ห่วยๆแล้วตีพิมพ์มันได้


 


ลู่โจวเคยฟังมาจากอัจฉริยะเคมีที่เคยพบระหว่างทำงาน นักศึกษาคนนั้นได้วิจัยและพัฒนาสารเคมี เขียนวิทยานิพนธ์ SCI และแม้แต่ต้องระบุว่าการวิจัยในห้องแล็บใช้อะไรไปบ้าง สารเคมีที่ใช้…สรุปแล้วมันยุ่งยากมาก


 


ส่วนภารกิจที่สอง…


 


ถ้าเงินห้าล้านหยวนหาได้ง่าย ทุกคนบนโลกคงเป็นคนรวยกันหมดแล้ว


 


ลู่โจวคำนวณ ถ้าเขาอยากได้เงินห้าล้านหยวน เขาต้องสอนพิเศษ 25,000 ชั่วโมง นั่นคือการสอนพิเศษถึง 2.85 ปี


 


ไม่งั้นเขาต้องเขียนวิทยานิพนธ์กว่า 250 ฉบับใน[วารสารเชิงทฤษฏีและคณิตศาสตร์ประยุกต์นานาชาติ]


 


มันไม่มีทางเลย


 


อันที่จริงมีอีกวิธีนึง


 


นั่นก็คือการขายแอพหรือเพิ่มมูลค่าของมันโดยการหาเงินทุน…


 


ฉันเพิ่มมูลค่ามันเป็นห้าล้านเหรียญได้ไหม?


 


เป็นไปไม่ได้


 


ไม่ต้องพูดถึงการบัญชีวีไอพีให้ผู้ใช้เพื่อข้ามโฆษณา เรื่องนี้ใครๆก็คิดได้ อย่างมากมันก็ลดการขาดทุนของฉัน ทุกแอพ(นอกจากเกมมือถือ)ต่างก็ขาดทุนในช่วงแรกของการพัฒนา มันจะไม่ทำกำไรจนกว่ามันจะได้ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่


 


นี่เรียกว่า’การขาดทุนเชิงกลยุทธ์’ มันใช้’การประหยัดต่อขนาด(economics of scales)’เพื่อดำเนินการโดยเดิมพันกับอนาคต!


 


นี่เป็นความรู้ทั่วไปในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี


 


อย่างไรก็ตามเส้นทางการหาเงินทุนนั้นไม่ค่อยดีนัก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีบริษัทไหนเลยที่มอบข้อเสนอเงินทุนให้แอพเขา เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครมองแอพแคมปัสเทรนด์ในแง่ดีนัก ไม่มีใครสนใจผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้งานหลายแสนคนของเขา


 


ภารกิจเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ…


 


ลู่โจวจ้องมองหน้าจอโฮโลแกรมกึ่งโปร่งใส เขากัดริมฝีปากล่างและขมวดคิ้ว


 


“ฉันควรเลือกภารกิจไหนดี?”



ตอนที่ 78 ตอบคำถามของเฉียนเสวี่ยเซิน!


 


 


สุดท้ายลู่โจวก็ไม่ได้รับภารกิจ


 


ทั้งภารกิจที่สองและสามล้วนอยู่ในขอบเขตการพิจารณา ภารกิจที่สามมีความสำคัญกว่าภารกิจที่สอง แม้ว่าอาจใช้เวลาเป็นสองเท่าเลยก็ตาม


 


ท้ายที่สุดแล้วแต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ 20,000 แต้มก็น่าดึงดูดอย่างยิ่ง นอกจากนี้มันยังมีโอกาสได้พิมพ์เขียว 100% แม้ว่ารางวัลคณิตศาสตร์ระดับโลกอาจจะไม่ได้รับเพียงเพราะการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ แต่พิจารณาคุณค่าทางวิชาการและความสำคัญทางการเมืองของวิทยานิพนธ์ที่ลู่โจวพึ่งตีพิมพ์ ประเทศอาจมอบรางวัลให้แก่เขา


 


มันเป็นไปได้


 


ไม่ว่ายังไงอีกสองภารกิจนั้นก็ไม่ใช่จะทำเสร็จได้ในสองสามวัน แถมมันก็ใช่ว่าจะหนีไปไหนได้ หลังจากที่เขาทำตามเงื่อนไขภารกิจได้ เขาค่อยยอมรับภารกิจอีกที


 


เขาสามารถไปถามศาสตราจารย์ถังหรือคณบดีหลู่ก่อนในเรื่องเงื่อนไขรางวัลคณิตศาสตร์ระดับชาติและเวลาที่ใช้ในการอนุมัติ จากนั้นเขาจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะเลือกภารกิจไหนถึงจะดีกว่ากัน


 


หลังจากลู่โจวออกจากมิติของระบบ เขาก็หยิบเข็มสมรรถภาพทางกายแล้วฉีดใส่ตัวเองก่อนจะล้มตัวนอนหลับ


 


อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือขณะที่เขากำลังหลับ ชื่อของเขาถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ นักเขียนสื่อคณิตศาสตร์นับไม่ถ้วนกำลังเขียนข่าว อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำความเข้าใจกับคณิตศาสตร์เบื้องหลังวิทยานิพนธ์ของลู่โจว พวกเขาได้แต่เกาหัวด้วยความมึนงง


 


…..


 


[Mathematics Chronicle] ฉบับล่าสุดหน้าที่สามสิบ [การอภิปรายกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนและพิสูจนข้อคาดการณ์ของโจว]


 


ท้ายวิทยานิพนธ์มีข้อความตรวจสอบของวิทยานิพนธ์อยู่ด้วย


 


[นี่เป็นผลงานที่ก้าวล้ำ ในที่สุดเราก็มีทฤษฏีที่สามารถอาศัยการจำกัดความเปลี่ยนแปลงของจำนวนเฉพาะให้อยู่ในขอบเขตที่มองเห็นได้ ศาสตราจารย์ปิแยร์ เดอลีงย์]


 


ศาสตราจารย์เดอลีงย์มีชื่อเสียงมากในด้านปากร้าย ไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางวิชาการหรือการบรรยายในพรินซ์ตัน ถ้ามีคนทำพลาด เขาจะชี้ให้เห็นจุดผิดพลาดโดยไม่ลังเล เขาทำให้ศาสตราจารย์และนักวิชาการที่รู้จักกันดีหลายคนในวงการขายหน้ามาแล้ว


 


อย่างไรก็ตามเขาใช้คำว่า’ก้าวล้ำ’เพื่ออธิบายวิทยานิพนธ์ของลู่โจว และมันก็หาได้ยากมากที่เขาจะใช้คำนี้ในการประเมิณวิทยานิพนธ์


 


นับตั้งแต่วารสารถูกตีพิมพ์ มันยังไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ แต่มันก็สร้างความปั่นป่วนในแวดวงคณิตศาสตร์ระดับโลกแล้ว มันอาจเป็นตัวทฤษฏีพิสูจน์เอง หรือผลการประเมิณของศาสตราจารย์เดอลีงย์ หรืออายุของผู้เขียน…


 


นอกจากนี้สัปดาห์ก่อนที่ลู่โจวจะได้เห็นวิทยานิพนธ์ในวารสาร นักวิชาการนับไม่ถ้วนก็ได้ทุ่มเทตนเองเพื่อยืนยันความถูกต้องของกระบวนการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า


 


หลังจากนั้น…


 


ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ของมหาลัยจินหลิงก็ช็อค!


 


สมาคมคณิตศาสตร์จีนช็อค!


 


ผลการยืนยันคือ…


 


ถูกต้องทั้งหมด!


 


พวกคนที่อยู่ในสาขานี้ก็…


 


ก็ได้ คนพวกนั้นไม่ได้ตกใจนัก พวกเขายังคงแก้ปัญหาข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคหรือทฤษฏีสุดท้ายของแฟร์มา คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจข้อคาดการณ์ของคนจีนเว้นแต่ว่าจะมีคนได้รับรางวัลระดับประเทศ


 


ไม่นานข่าวที่น่าตื่นเต้นนี้ก็เริ่มแพร่ตั้งแต่แวดวงคณิตศาสตร์ไปจนถึงสื่อ


 


ข้อคาดการณ์ของโจวซึ่งเป็นปัญหาอยู่ในแวดวงทฤษฏีจำนวนมากกว่ายี่สิบปีในที่สุดก็ได้รับการพิสูจน์


 


นี่หมายความว่านับแต่นี้ไป ข้อคาดการณ์ของโจวจะกลายเป็นทฤษฏีของโจว


 


แซ่จีนอีกหนึ่งแซ่ได้เข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์ของคณิตศาสตร์!


 


ทั้งคนที่ทำข้อคาดการณ์และคนที่พิสูจน์ข้อคาดการณ์จะถูกรวมอยู่ในประวัติศาสตร์ของคณิตศาสตร์!


 


ความจริงที่สำคัญที่สุดของสื่อก็คือคนที่พิสูจน์ข้อคาดการณ์เป็นนักศึกษาปริญญาตรีปีสอง!


 


หลายคนนึกถึงนักศึกษาหลิวที่พิสูจน์ข้อคาดการณ์ของสีตะปันเมื่อไม่กี่ปีก่อน


 


ผู้เชี่ยวชาญคณิตศาสตร์ทุกคนรู้ว่า แม้ว่าอันนึงเป็นข้อคาดการณ์ชาวจีน ส่วนอันนึงเป็นข้อคาดการณ์ชาวอังกฤษ คุณค่าทางวิชาการและความยากของทั้งสองนั้นเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย


 


สิ่งที่เรียกว่าข้อคาดการณ์ของสีตะปันเป็นเพียงการอนุมานในวิชาคณิตศาสตร์เรื่องของความแข็งแกร่งของทฤษฏีสีสองสีของแรมซีย์ RT^2×2 อาจแข็งแกร่งกว่า WKL0 หลิวให้คำตอบเชิงลบต่อข้อคาดการณ์โดยพิสูจน์ว่า RT^2×2 ไม่มี WKL0


 


การแก้โจทย์ข้อคาดการณ์นั้นยาก มันมีข้อคาดการณ์อื่นเป็นพันๆที่คล้ายแบบนี้…


 


อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีข้อคาดการณ์เป็นพันๆเช่นกันที่มีความยากระดับเดียวกับข้อคาดการณ์ของโจว แต่การวิจัยกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนนั้นสำคัญมากกว่า นักคณิตศาสตร์มากมายพยายามแสดงกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซน แต่ทั้งหมดนั้นเป็นข้อคาดการณ์และไม่มีอะไรที่ส่งเสริมทฤษฏีเลย


 


ตอนนี้ทฤษฏีถือกำเนิดแล้ว


 


ด้วยเหตุนี้สื่อจึงเดือดพล่าน


 


อย่างน้อยสื่อในประเทศก็เดือดพล่าน!


 


ดวงดวงใหม่แห่งคณิตศาสตร์ถือกำเนิดขึ้น สื่อในประเทศคาดว่าเขาเป็นคนที่อาจได้รับเหรียญฟิลด์


 


แม้ว่าการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจวจะห่างไกลจากเหรียญฟิลด์ เพราะมีแต่ของอย่างข้อคาดการณ์ของจาโคเบียนเท่านั้นที่คู่ควรแก่เหรียญฟิลด์ แต่…


 


เขาอายุแค่ยี่สิบปีเท่านั้น!


 


เหรียญฟิลด์จำกัดอายุที่ 40 ปีและเขายังมีเวลาเหลืออีก 20 ปี


 


แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว มันก็พอที่ออกข่าวแล้ว


 


[หัวกั๋วชิงเหนียน]ใช้หัวข้อที่ดุดันมาก พวกเขาเลือกใช้การประเมิณของศาสตราจารย์เดอลีงย์ในวารสาร [Mathematics Chronicle] พวกเขารายงานข่าวด้วยหัวข้อ [ตอบคำถามของเฉียนเสวี่ยเซิน นักศึกษาปริญญาตรีจากมหาลัยจินหลิงพิชิตปริศนาแห่งโลกคณิตศาสตร์! แถมเรายังสามารถผลิตอัจฉริยะที่โดดเด่น!]


 


[เหรินเหรินไดอารี่]ได้รายงานข่าวเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เน้นลู่โจว แต่มันก็ยังเผยแพร่ข่าวด้วยหัวข้อที่คล้ายกัน มันส่งเสริมให้นักวิจัย’ปีนเขาเอเวอเรสต์’และเบิกเส้นทางแห่งวิทยาศาสตร์ต่อไป


 


เมื่อเทียบกับสื่อดั้งเดิมแล้ว สื่อเล็กๆไม่ค่อยแม่นยำเลย พวกเขาเขียนหัวข้อเกินจริงไปมาก


 


[ช็อค! นักศึกษาปริญญาตรีของมหาลัยจินหลิงแก้ปัญหาทฤษฏีจำนวนระดับโลกชั่วข้ามคืน!]


 


[โจทย์ที่เป็นปัญหาที่อยู่ในแวดวงคณิตศาสตร์มากว่ายี่สิบปีถูกแก้ไขโดยนักศึกษาปริญญาตรี! ! !]


 


[นักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกันช็อค นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นไม่เข้าใจด้วยซ้ำ…]


 


พวกเขาคุยโวเรื่องของลู่โจวมากซะจนดูเหมือนลู่โจวแทบกลายเป็นเทพเซียน


 


ความนิยมของสื่อผลักดันให้ชื่อของลู่โจวกลายเป็นการค้นหาที่มาแรงรอบที่สามของปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


 


เว้นแต่ว่าคราวนี้ เขาเป็นอันดับหนึ่งของการค้นหาที่มาแรง!


 


ชาวเน็ตระเบิดคอมเมนต์ในแถบคอมเมนต์ของเหรินเหรินไดอารี่


 


[น่าทึ่ง…นักศึกษาปีสองแก้ปัญหาระดับโลก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาจบปริญญาเอก! (กลัว) (กลัว)]


 


[ฉันจะร้องไห้ ฉันไปแล้ว ฉันจะไม่เล่นเว่ยป๋ออีก ฉันจะไปเปลี่ยนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก (ร้องไห้)]


 


[ตอนที่ฉันอายุยี่สิบ ฉันยังกังวลเรื่องพีชคณิตขั้นสูงอยู่เลย ส่วนชายคนนี้แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลกแล้ว…]


 


[เขามาจากมหาลัยจินหลิง! ฉันก็ด้วย! ฉันจำได้! เขาเป็นแชมป์สร้างแบบจำลอง!]


 


[คนๆนี้จะกลายเป็นเทพนักคณิตศาสตร์]


 


[มีใครยังอยากด่าหมาแก่จูอีกไหม?]


 


[คุณอยากด่าเขา? (สุนัข)]


 


[จูเป็นข่าวเก่า (สุนัข)]


 


[บัดซบจู]


 


[เด็กมหาลัยจีนที่แข็งแกร่ง! มีส่วนร่วมในการวิจัย! (กำปั้น) (กำปั้น)]


 


[…]


 


ตอนนี้ลู่โจวยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นบนเว่ยป๋อ เพราะตอนบ่ายสาม เขายังหลับอยู่!


 


ลู่โจวไอแล้วตื่นขึ้นมา เขารู้สึกปวดทั้งร่างกายราวกับว่าเขาวิ่งมาหลายชั่วโมงและซิทอัพอีกหลายร้อยที


 


ไม่เพียงแค่นั้น ผ้าห่มและผ้าปูที่นอนก็เปียกโชกด้วยเหงื่อ แถมยังมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว


 


ลู่โจวดันผ้าห่มเปียกไปข้างๆแล้วช็อค


 


“เชี่ย ทำไมฉันถึงเหงื่อออกมากขนาดนี้?”


 


ผ้าปูที่นอนและผ้าห่มเหมือนถูกเอาไปแช่น้ำมา ลู่โจวรีบลุกออกจากเตียงที่น่าขยะแขยง


 


เมื่อเขาบิดร่างกาย เขาก็ได้ยินเสียงกระดูกลั่น เขารู้สึกเหมือนอาการปวดกล้ามเนื้อบรรเทาลง มันรู้สึกสบายอย่างประหลาด


 


ลู่โจวลุกจากเตียงแล้วโยนผ้าห่มและผ้าปูที่นอนไว้บนเก้าอี้ก่อนจะปีนลงบันได


 


เขาจ้องมองตัวเองผ่านกระจกแล้วลูบคาง เขารู้สึกว่าเขายังหล่อเหมือนเดิม


 


จากนั้นเขาก็หยิบผ้าห่มและผ้าปูที่นอนก่อนจะไปที่ระเบียงแล้วโยนทิ้งไว้ที่ตระกร้าซักผ้าโดยมีแผนที่จะโยนเข้าเครื่องซักผ้าภายหลัง จากนั้นเขาก็ไปอาบน้ำ


 


เมื่อเขาเดินฮัมเพลงออกจากห้องน้ำ สายลมเย็นๆพัดผ่านไป เขารู้สึกว่ารูขุมขนทั้งร่างกายผ่อนคลายลง เขาอดบิดขี้เกียจไม่ได้


 


ตัวอย่างจากระบบไฮเทคนั้นดีมาก แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความเร็วตอบสนองที่เพิ่มขึ้นได้ชัดเจนนัก แต่เขาก็รู้สึกว่าสภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาก


 


อย่างน้อยความเหนื่อยล้าและอาการบาดเจ็บที่สะสมมาจากการนอนดึกนั้นหายดีแล้ว เขาเปลี่ยนจากสุขภาพไม่ดีกลายเป็นแข็งแรงชั่วข้ามคืน


 


เวลานั้นเองประตูหอพักก็พลันถูกเปิด หลิวรุ่ยและสือช่างรีบเข้ามาและพยายามปลุกหวงกวงหมิง


 


“บัดซบ พวกนายมีอะไร?”


 


แทนที่จะตอบหวงกวงหมิง สือช่างตะโกนมาทางระเบียงแทน “มีนักข่าวมากมายอยู่ข้างล่าง! โจว นายทำอะไรอีกแล้ว!”



ตอนที่ 79 นักข่าวอยู่ข้างล่าง!


 


 


นักข่าว?


 


ลู่โจวช็อคแล้วมองออกไปนอกระเบียง เขาเห็นรถตู้จากสถานีโทรทัศน์จินหลิง ดูเหมือนว่าจะมีคนแบกกล้องเจรจากับเจ้าหน้าที่หอพัก


 


เกิดอะไรขึ้น?


 


สือช่างมองลู่โจวด้วยความนับถือ “ลู่โจว บอกมาตรงๆ นายทำเรื่องที่น่าตกใจอีกแล้ว? สัญชาตญาณของฉันบอกว่ารถข้างล่างมาหานาย”


 


หลิวรุ่ยมีเหตุผลมากขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของสือช่าง “ฉันจะเข้าเว่ยป๋อไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น”


 


เขาไม่จำเป็นต้องกดค้นหาด้วยซ้ำ


 


มันเป็นกระทู้ที่มาแรงอันดับหนึ่ง มันอยู่เหนือข่าวดาราซะอีก!


 


หวงกวงหมิงนอนไม่หลับอีกต่อไป เขาเอนตัวพิงเตียงแล้วเกาหัว “นายเจออะไร?”


 


“คาดการณ์ของโจว…”


 


“อะไรนะ? คาดการณ์ของโจว? อะไรคือคาดการณ์ของโจว?” สือช่างเดินเข้ามาหาแล้วถาม


 


“ไม่…ลู่โจวพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว” หลิวรุ่ยกล่าวขณะจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นเขาก็มองลู่โจวแล้วกล่าว “…ข้อคาดการณ์ของโจวอันนั้นดูเหมือนจะเป็นปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลก ฉันเคยเจอมาในหนังสือทฤษฏีจำนวน”


 


หลังจากวันนี้ หนังสือทฤษฏีจำนวนเหล่านั้นจะต้องถูกแก้ไข


 


เป็นไปตามหลักแล้ว ประวัติศาสตร์กำลังเปลี่ยนต่อหน้าต่อตาพวกเขา


 


หวงกวงหมิงและสือช่างอ้าปากค้าง ทั้งคู่หันไปจ้องมองลู่โจว


 


ลู่โจวเอามือลูบหน้าอย่างกระอักกระอ่วน “เอ่อ…มีอะไรติดหน้าฉันเหรอ?”


 


นอกจากใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ลู่โจวไม่ได้รู้สึกอะไรเลย


 


สือช่างกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “โจว เราเป็นพี่น้องกันถูกไหม?”


 


ลู่โจวถอนหายใจเบาๆ “…หยุดตรงนั้น ฉันจะเลี้ยงข้าวพวกนาย”


 


หลังจากการค้นพบที่น่าตกใจของเขา ถ้าเขาไม่เลี้ยงข้าวรูมเมท เขาคงขี้เหนียวเกินไปหน่อย


 


สือช่างไม่พอใจ “ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”


 


ลู่โจวถาม “งั้น…ฉันจะไม่เลี้ยงนายแล้ว?”


 


“เดี๋ยว ไม่! ฉันหมายถึงฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แต่ถ้านายยืนกรานจะเลี้ยง ฉันก็ขอรับข้อเสนอของนายไว้!” สือช่างกล่าว เขากระแอมก่อนจะหัวเราะอย่างซุกซน “อืมม…ตอนนายสัมภาษณ์ ฉันขอติดกล้องหน่อยได้ไหม? ฉันจะเอาโพสต์บนหน้าฟีดข่าวแล้วไปโม้ให้เพื่อนๆฟัง”


 


หวงกวงหมิงเบิกตากว้างแล้วคำราม “บัดซบ สือช่าง นี่ไม่เหมือนนายเลย! ฉันไม่รู้เลยว่านายตกต่ำแบบนี้…ฉันต้องติดกล้องด้วย!”


 


หลิวรุ่ยนั่งอยู่ตรงที่นั่งของตนแล้วเกาหัวเรื่องของการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว แม้ว่าเขาจะพบวิทยานิพนธ์ต้นฉบับบนโลกออนไลน์ แต่เขาก็ไม่เข้าใจกระบวนการพิสูจน์เลย ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าร่วมการสนทนา


 


ลู่โจว “…”


 


เพื่อประโยชน์ต่อชื่อเสียงของเขา ลู่โจวพลันรู้สึกว่าเขาไม่อาจสัมภาษณ์ตรงนี้ได้


 


ใครจะรู้ว่าเจ้าสามตัวนี่จะพูดอะไรเกี่ยวกับเขา?


 


จะดีที่สุดถ้านักข่าวไม่สัมภาษณ์พวกเขา!


 


ดังนั้นเขาจึงสะพายกระเป๋าและออกจากหอพัก


 


เมื่อเขารีบลงมาชั้นล่าง เขาก็เมินเสียงกรีดร้องของหวงกวงหมิง


 


อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะออกจากตึกหอพัก เขาก็ถูกกลุ่มนักข่าวขวางเอาไว้


 


ลู่โจวคิดว่ามันแย่แล้ว เขาแสร้งทำเป็นนักศึกษาปกติแล้วฝ่าพวกเขาไป โชคร้ายที่เขาชนใส่ไหล่ช่างกล้องแล้วถูกจำได้


 


นักข่าวจากข่าวภาคค่ำจินหลิงถาม “สวัสดีครับ คุณคือลู่โจวใช่ไหม?”


 


“ลู่โจว คุณแก้ข้อคาดการณ์ของโจวได้อย่างไร? บทความเป็นความจริงไหม? คุณฝันเห็นการพิสูจน์จริงๆหรือ?”


 


“…ฉันขอถามได้ไหมว่าปกติคุณเรียนยังไง? คุณมีคำแนะนำให้นักศึกษาคนอื่นๆไหม?”


 


“…บนโลกอินเตอร์เน็ตบอกว่าศาสตราจารย์เดอลีงย์จากพรินซ์ตันมอบข้อเสนอให้ไปเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่นู่น คุณจะยอมรับข้อเสนอไหม?”


 


คำถามนี้ทำให้ลู่โจวหนังศีรษะเสียวซ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นภาพสะท้อนจากกล้อง นอกจากนี้ด้วยสายตาของนักศึกษาคนอื่นๆจ้องมองมา เขาจึงเรียบเรียงคำพูดไม่ออก


 


โชคดีที่ในเวลานั้นมีคนเข้ามาสลายฝูงชน


 


“หลีกไป หลีกไป”


 


“อย่าขวางหน้าหอพัก”


 


ผู้ชายสวมชุดสูทสองสามคนยืนอยู่หน้าหอพักขณะที่นักข่าวเดินออกไป


 


ลู่โจวยืนอยู่ข้างหลังชายชุดสูทแล้วโล่งอก เขาเห็นคณบดีฉินกับคนแปลกหน้าสองคน จากที่ดู คนแปลกหน้าทั้งสองมีสถานค่อนข้างสูง บางทีอาจเป็นผู้นำของมหาลัย


 


ขณะที่ลู่โจวกำลังคิดถึงตัวตนของคนทั้งสอง ชายชราชุดสูทก็เดินมาตรงหน้าลู่โจวแล้วยื่นมือขวาออกมาด้วยรอยยิ้ม “ลู่โจว ขอแสดงความยินดีด้วย”


 


ลู่โจวจับมือแล้วถามอย่างสุภาพ “ศาสตราจารย์ท่านนี้…ผมขอถามได้ไหมว่าท่านคือใคร?”


 


“ฮ่าๆๆ” ชายชราหัวเราะ เขายิ้มอย่างเป็นกันเอง “…คณบดีฉินเป็นศาสตราจารย์คนเดียว ฉันไม่ได้เป็นศาสตราจารย์”


 


กล้องที่อยู่ข้างๆก็ถ่ายรูปพวกเขาจับมือกัน


 


ลู่โจวรู้สึกสับสนยิ่งขึ้น


 


ถ้าไม่ใช่ศาสตราจารย์ งั้นคุณเป็นใคร?


 


เขาไม่รู้ว่าชายชราท่านนี้คือใครกันแน่


 


คณบดีฉินกล่าว “ท่านนี้คือเลขาหลิว เขาทำงานให้กับรัฐบาลเมืองจินหลิง” เขายิ้มแล้วแนะนำตัวคนอื่นๆเสียงเบา “ท่านนี้คือประธานสมาคมคณิตศาสตร์ซูและรองประธานสมาคมคณิตศาสตร์จีน ศาสตราจารย์หวังจ้งหมิง”


 


ศาสตราจารย์ท่านนี้สวมแว่น เขาพยักหน้าให้ลู่โจวด้วยรอยยิ้ม


 


“สวัสดีครับศาสตราจารย์หวัง” ลู่โจวกล่าวอย่างสุภาพและยื่นมือขวาออกไป


 


กลายเป็นว่าเป็นคนใหญ่คนโตทั้งสอง…


 


“สวัสดี” ศาสตราจารย์หวังกล่าวด้วยรอยยิ้มแล้วจับมือของหลินฟ่าน เขาจับมือเบาๆแล้วกล่าว “ไม่แปลกใจเลยที่ศาสตราจารย์ถังประเมิณเธอไว้สูง เธอมีความสามารถจริงๆ”


 


ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน “ศาสตราจารย์หวัง ชมเชยเกินไปแล้ว”


 


“ไว้คุยกันเวลาอื่นเถอะ เลขาหลิวยังมีเรื่องจะพูด อาจารย์ไม่อยากให้เสียเวลา” ศาสตราจารย์หวังกล่าวด้วยรอยยิ้ม


 


“ครั้งนี้ฉันยอมเสียเวลาได้” เลขาหลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามองลู่โจวแล้วกล่าว “ลู่โจว ในนามของเมืองจินหลิง ฉันขอขอบคุณผลงานของเธอจากใจ”


 


ลู่โจวเป็นปลื้ม


 


อย่างมากเขาก็มีส่วนร่วมในสาขาคณิตศาสตร์เท่านั้น เขาไม่ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือเมืองจินหลิงเลย


 


“ผมแค่แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ผมไม่สมควรได้รับ” ลู่โจวกล่าวแล้วยิ้มอย่างสุภาพ


 


“เธอคิดผิดแล้ว” เลขาหลิวตอบ เขายิ้มแล้วกล่าวต่อ “ปัญหาที่เธอแก้ไม่ใช่ปัญหาคณิตศาสตร์ธรรมดา มันเป็นโจทย์ที่เป็นปัญหาต่อวงการคณิตศาสตร์มากว่ายี่สิบปี! เธอมาจากมหาลัยจินหลิง ดังนั้นเมืองจินหลิงจะไม่ขอบคุณเธอได้ยังไง?”


 


เลขาหลิวพูดได้ดี แต่มันเป็นทางการเช่นกัน


 


มันเป็นเพราะเขาไม่ได้อยู่ในวงการคณิตศาสตร์


 


ปัญหาคณิตศาสตร์ยี่สิบปีไม่ได้หมายความว่านักคณิตศาสตร์ทั่วโลกพยายามแก้ไขมายี่สิบปี ทุกคนมีหัวข้อวิจัยที่แตกต่างกัน นักคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่ได้สละเวลาและพลังงานมาให้ปัญหานี้


 


ลู่โจวยิ้ม แต่เขาไม่ได้พยายามอธิบายอะไร เรื่องบางอย่างไม่พูดจะดีกว่า บทสทนานี้เป้าหมายหลักมีไว้ให้ไมโครโฟนและกล้องรอบตัวพวกเขา ลู่โจวแค่ต้องเป็น’ผู้ฟัง’ที่ดี


 


ลู่โจวเห็นรอยยิ้มของเลขาหลิวแล้ววิเคราะห์อยู่ในใจ


 


คนที่ยุ่งมากท่านนี้จู่ๆก็มาเยือนมหาลัยจินหลิงและมาพบฉันโดยเฉพาะ วิทยานิพนธ์ของฉันส่วนใหญ่มีชื่อเสียงในแวดวงคณิตศาสตร์ระดับโลกและในประเทศ แต่ทำไมนักการเมืองท่านนี้ถึงมาหาล่ะ? คุณได้ยินเรื่องของฉันจากหนังสือพิมพ์ฉบับไหน?


 


จะว่าไปแล้วถ้าชายคนนี้อยากแสดงการขอบคุณเพราะความสามารถของฉัน งั้นมันก็ควรมีอย่างอื่นกำลังรอฉันอยู่


 


เงิน?


 


เกียรติยศ?


 


ไม่ว่าจะเป็นอะไรเขาก็จะรับไว้ ตราบใดที่มันดีต่อฉัน!


 


หลังจากหยุดสักพัก เลขาหลิวก็ยิ้มแล้วกล่าว


 


“นโยบายพื้นฐานของเราก็คือมุ่งเน้นในการศึกษา! การฝึกอบรมผู้มีพรสวรรค์มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆของกระทรวงศึกษาธิการเมืองเรา! เมื่อวานผู้นำสำนักการศึกษาของเราเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟัง เรื่องนี้กระตุ้นความสนใจของฉันทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ครอบครัวของเธอ ผู้นำหลายคนของเมืองเราได้ประชุมกันข้ามคืนและตัดสินใจว่าจะมอบรางวัลให้เธอ นักวิทยาศาสตร์ในอนาคตของเราต้องไม่ยากจน!”


 


ลู่โจวได้ยินคำพูดของเขาแล้วกล่าวทันที “ท่านเลขาหลิว ท่านทำงานหนักเกินไปแล้ว!”


 


“ไม่หนักเลย” ชายชราโบก จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ต่อสู้อยู่แนวหน้า เธอต่างหากที่ทำงานหนัก!”



ตอนที่ 80 ลู่โจว นายกำลังดัง!


 


 


ท้ายที่สุดแล้วเลขาหลิวก็เป็นคนที่ยุ่งมาก เขาพูดเป็นทางการหน้ากล้องอีกสองสามคำ เมื่อเขาเสแสร้งหน้ากล้องเสร็จ เขาก็จากไป


 


ลู่โจวแปลกใจที่เห็นศาสตราจารย์หวังจากไปเช่นกัน หลังจากทั้งสองจากไป สื่อก็หายไปมากเช่นกัน


 


เอิ่ม…


 


ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนฉันเสียเปรียบ?


 


มันใช่ว่าลู่โจวจะเสียอะไรไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจนัก


 


คณบดีฉินมองกระเป๋าสะพายของลู่โจวแล้วถาม “เธอจะไปห้องสมุดหรือ?”


 


ลู่โจวพยักหน้า “ครับ ผมเรียนที่ห้องสมุด”


 


คณบดีฉินยิ้มแล้วกล่าว “ฉันก็จะไปทางนั้น เดินไปด้วยกันไหม?”


 


“ครับ”


 


ตึกบริหารอยู่ไม่ไกลจากห้องสมุดนัก ทั้งสองเดินไปตามถนนอิฐตรงไปทางห้องสมุด


 


ระหว่างทาง จู่ๆคณบดีฉินก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครั้งก่อนฉันพูดว่าไง? เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องช็อคโลกไหม?”


 


ลู่โจวยิ้มด้วยความเขินอาย “ผมคิดว่า…มันยังแตกต่างจากช็อคโลกเล็กน้อย”


 


คณบดีฉินยิ้มแล้วกล่าว “อ่า เธอค่อนข้างทะเยอทะยาน แม้แต่เหรินเหรินไดอารี่จะตีพิมพ์เรื่องของเธอ ถ้าเรื่องนี้ไม่นับเป็นเรื่องช็อคโลก แล้วมันคือ?”


 


ลู่โจวช็อค “เหรินเหรินไดอารี่?”


 


คณบดีฉินเลิกคิ้วแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอไม่ได้อ่านบนโลกออนไลน์หรือ?”


 


“อืม…อันที่จริงผมพึ่งตื่น”


 


คณบดีฉินส่ายหน้าแล้วกล่าว “เธอไม่ควรนอนดึกขนาดนั้น รักษาสุขภาพด้วย เธอต่างจากฉัน เธอยังมีเส้นทางอีกยาวไกล ดังนั้นเธอไม่ควรทำร้ายสุขภาพตนเอง”


 


ลู่โจวตอบ “ผมเข้าใจ” อันที่จริงเขาอยากจะพูดว่า ‘ผมไม่ได้นอนดึก มันเป็นเพราะผมฉีดยาจนผมนอนนานขึ้น’


 


“บทความในเหรินเหรินไดอารี่ค่อนข้างน่าสนใจและมันก็พูดถึงเธอ ถ้าเธอสนใจ เธอก็ลองไปอ่านดู” คณบดีฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากล่าวต่อ “เลขาหลิวอ่านบทความนั้นตอนเช้าแล้วรีบมามหาลัยตอนบ่ายเลย”


 


นั่นเป็นเหตุผลที่เขามา?


 


ลู่โจวแปลกใจ


 


แม้ว่าเขาจะเดาว่าเลขาหลิวสนใจวิทยานิพนธ์ของเขาในรูปแบบการเมือง แต่เขาไม่คิดเลยว่ามันเป็นเพราะเหรินเหรินไดอารี่


 


อย่างไรก็ตามเมื่อเขาลองมาคิดอย่างรอบคอบ มันก็สมเหตุสมผล ท้ายที่สุดแล้วข่าวของเหรินเหรินไดอารี่ก็สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของทั้งประเทศ ถ้าคนเบื้องบนสนใจ คนเบื้องล่างก็จะสนใจเช่นกัน มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ


 


ลู่โจวรู้สึกสะเทือนใจอย่างลึกล้ำ


 


อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยสนใจเรื่องการเมือง ดังนั้นเขาควรอยู่ให้ห่างเข้าไว้


 


เมื่อคณบดีฉินเห็นลู่โจวไม่พูด เขาจึงกล่าว “มุมมองของศาสตราจารย์ถังถูกต้องจริงๆ เธอต้องป้องกันตัวเองจากความทะนงตนและอยู่ให้ห่างจากชื่อเสียง แต่ฉันคิดว่ามนุษย์ก็ยังเป็นสัตว์สังคม ถ้าเธอต่อต้านสังคมเกินไป เธอจะมีช่วงเวลาที่แย่”


 


ลู่โจวพยักหน้าอย่างระมัดระวังแล้วถาม “คณบดีฉิน ท่านอยากจะพูดอะไรหรือ?”


 


“ไม่มีอะไร ฉันแค่พูดไปเรื่อย” คณบดีฉินกล่าว เขายิ้มแล้วถาม “เอ้อ เธอไม่สนใจรางวัลมหาลัยหรือ?”


 


ลู่โจวกล่าว “ท่าน…ช่วยเปิดเผยให้ผมล่วงหน้าได้ไหม?”


 


“มันไม่ใช่เรื่องไม่ดี ทำไมฉันจะเปิดเผยให้เธอไม่ได้?” คณบดีฉินกล่าว เขายิ้ม “ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะบอกเธอ”


 


คณบดีฉินเงียบสักพักก่อนจะพูดต่อ


 


“อย่างแรกคือปัญหาลงทะเบียนที่อยู่ เจ้าหน้าที่ของเมืองจะช่วยเธอแก้ปัญหานั้น สภาเมืองได้แนะนำให้เธอย้ายมาลงทะเบียนที่อยู่จากเจียงหลิงมาอยู่จินหลิง เธอจะได้เพลิดเพลินกับนโยบายสิทธิพิเศษที่มีให้แก่บุคคลที่มีความสามารถ ถ้าเธอไปขอสินเชื่อ ธนาคารจะไม่ตรวจสอบเครดิตของเธอ แถมอัตราดอกเบี้ยยังต่ำมาก ฉันไม่รู้ว่ามันต่ำแค่ไหน แต่มันต่ำเอามากๆ”


 


“เธออาจสนใจประเด็นที่สองมากกว่า” คณบดีฉินกล่าวและมองลู่โจวที่กำลังตั้งใจฟัง เขายิ้ม “เมื่อวาน ประธานใหญ่เรียกเราไปประชุมเพื่อหารือเรื่องวิทยานิพนธ์ของเธอ จากกฏการตีพิมพ์ SCI ก่อนหน้านี้ ปัจจัยกระทบใช้เป็นเกณฑ์ให้รางวัล อย่างไรก็ตามปัจจัยกระทบไม่ได้วัดคุณค่าทางวิชาการของวิทยานิพนธ์ของเธอได้แม่นยำนัก”


 


“ดังนั้น เราจึงทำวิจัยแล้วตัดสินใจมอบรางวัลให้เธอล้านหยวน!”


 


คณบดีฉินเน้นย้ำคำว่า’ล้านหยวน’


 


มันเป็นเหมือนลมกรรโชกพัดผ่านไป


 


สายลมพัดเข้าไปในหูลู่โจวแล้วเขาก็หยุดหายใจไปสักครู่


 


“หนึ่ง…ล้าน?!”


 


ลู่โจวกลืนน้ำลาย เขาสาบานได้เลยว่าเขาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น


 


“ใช่ มันน้อยเกินไปหรือ?” คณบดีฉินถาม เขายิ้มแล้วกล่าวต่อ “มันค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับข้อคาดการณ์ของสีตะปัน ข้อคาดการณ์ของโจวมีส่วนช่วยเหลือแวดวงคณิตศาสตร์ของประเทศเรามากกว่า อย่างไรก็ตามฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจว่ารางวัลหนึ่งล้านหยวนคือจำนวนสูงสุดที่อาจารย์ใหญ่มอบให้”


 


แม้ว่ามหาลัยจินหลิงจะร่ำรวยด้วยเงินทุนที่รัฐมอบให้ แต่เงินก้อนนี้ก็ไม่อาจใช้อย่างไม่ระวัง


 


อันที่จริงคณบดีฉินไม่ได้บอกเรื่องทั้งหมดแก่เขา รางวัลล้านหยวนไม่ได้ถูกตัดสินใจโดยอาจารย์ใหญ่สวี่เอง พวกเขาประชุมกันแล้วไปขอผู้อำนวยการกระทรวงศึกษาธิการที่มอบไฟเขียวให้พวกเขา


 


ตั้งแต่เงินมาจากบัญชีไหน เงินถูกใช้ทำอะไร ทั้งหมดนี้ต้องวางแผน


 


“ไม่ มันไม่น้อยเลย”


 


ลู่โจวตื่นเต้นมากจนไหล่เริ่มสั่น


 


ล้านหยวน!


 


มันเทียบได้กับเขาไปสอนพิเศษหลายร้อยเดือน!


 


เขาเห็นเงินจำนวนนี้ได้แต่ในหนังเท่านั้น…


 


เมื่อคณบดีฉินเห็นความตื่นเต้นของลู่โจว เขาก็ยิ้มในใจ คณบดีรู้ว่าลู่โจวจะมีความสุขมาก


 


เขาหยุดสักพักแล้วยิ้ม “เอาล่ะ ฉันบอกเธอล่วงหน้าแล้ว เราถึงห้องสมุดแล้ว ไปเรียนเถอะ”


 


ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ขอบคุณครับคณบดีฉิน ไว้พบกันใหม่ครับ!”


 


“ไปเถอะ”


 


หลังจากแยกจากคณบดีฉิน เขาก็ยังไม่หายช็อคจากข่าวล้านหยวน


 


เขารู้สึกวิงเวียนเหมือนกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า


 


เขายังกังวลเรื่องภารกิจหาเงินห้าล้านอยู่เลย แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าทางมหาลัยได้ช่วยเขาทำภารกิจไป 20% แล้ว…


 


ไม่ไกลจากตรงนั้น เฉินยู่ซานถือหนังสือแล้วเดินไปตรงทางเข้าห้องสมุด


 


เมื่อเธอเห็นคนที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่หน้าห้องสมุด แววตาของเฉินยู่ซานก็เปล่งประกาย เธอเดินเข้าไปตบบ่าลู่โจว


 


“ลู่โจว นายรู้ไหมว่านายกำลังดัง?”


 


ลู่โจวหันไปมอง ตอนที่เขาเห็นเฉินยู่ซาน เขาก็ยังช็อคกับข่าวไม่หาย เขากล่าว “ผมรู้”


 


เฉินยู่ซานเปิดปากและรู้สึกผิดหวัง “โอ้…นายรู้อยู่แล้ว”


 


“ล้าน…”


 


เฉินยู่ซานสับสน “ล้านอะไร?”


 


“ไม่มีอะไร” ลู่โจวพึมพำและในที่สุดเขาก็ได้สติและส่ายหน้า เขากล่าว “คุณเลี้ยงข้าวผมบ่อย ผมต้องคืนคุณ…ผมจะเลี้ยงมื้อเย็นคุณ”


 


“จริงเหรอ?” เฉินยู่ซานกล่าวด้วยแววตาเปล่งประกาย อย่างไรก็ตามจากนั้นเธอก็ถามด้วยสีหน้าแปลกใจ “เดี๋ยว ทำไมนายใจกว้างแบบนี้ล่ะ? มันไม่เหมือนนายเลย”


 


“…คุณจะกินไหม?”


 


“ฉัน!” เฉินยู่ซานพยักหน้าทันที เธอนึกถึงประสบการณ์อันหน้าเศร้าจากครั้งก่อนอย่างรวดเร็ว “เราไม่กินหม้อไฟหม่าล่าได้ไหม? ครั้งก่อนฉันเกือบตาย…”


 


เมื่อลู่โจวเห็นสีหน้าของเธอ เขาก็เกือบหัวเราะออกมาเสียงดัง


 


มันก็แค่หม้อไฟหม่าล่า ทำไมคุณถึงกลัวนัก?

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม