Scholar’s Advanced Technological System 53-66
ตอนที่ 53 ได้รับเงินกู้
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวเห็นเรื่องที่ประหลาดขนาดนี้ มีคนให้เงินเขา และเขาก็ต้องรับ
โอเค อันนั้นมันอาจเกินจริงไปเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ต่างกัน
ตามนโยบายจากกระทรวงศึกษาธิการ พวกเขาสามารถมอบเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้แก่นักศึกษามหาลัย มหาลัยจะมอบเงินกู้ให้ด้วยอัตรา 1:1 เช่นกัน
ยกตัวอย่าง ถ้าลู่โจวได้รับเงินกู้ 100,000 หยวน ตามนโยบาย มหาลัยจะสนับสนุน 50,000 หยวนและกระทรวงศึกษาธิการจะสนับสนุนอีก 50,000 หยวน เงินจะปลอดดอกเบี้ยหนึ่งปีและหลังจากนั้นมันจะมีดอกเบี้ยเล็กน้อยเท่านั้น อัตราดอกเบี้ยนั้นต่ำกว่าเงินกู้ของธนาคารอย่างมาก อันที่จริงมันต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อเสียอีก!
แน่นอนนี่ไม่ได้หมายความว่าลู่โจวจะกู้ยืมเงินได้แค่ 100,000 หยวน
ทางมหาลัยจะกำหนดจำนวนเงินกู้โดยขึ้นอยู่กับต้นแบบของโปรเจ็คและหนังสือยื่นคำร้อง
เงินจะไม่เข้าบัญชีส่วนตัวของเขา กลับกันมันจะเข้าบัญชีบริษัทโดยตรง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจใช้จ่ายอย่างไม่ระวัง เขาสามารถใช้เงินก้อนนี้เพื่อชำระค่าใช้จ่ายทางธุรกิจเท่านั้นจนกว่าเงินกู้จะถูกชำระ
มันเป็นความช่วยเหลืออันใหญ่หลวงสำหรับลู่โจว การเปิดแอพนั้นผลาญเงินของเขามาก เงินในบัญชีของเขาไหลเป็นน้ำ เขาบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาจะอยู่รอดถึงสิ้่นปีไหม
การเปิดบัญชีของบริษัทนั้นง่ายมาก ใครจะไม่ต้องการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยกัน!
ปัญหาก็คือทั้งสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์กับสาขาคณิตศาสตร์ต่างก็อยากให้ทุนในโปรเจ็ค
สาขาคณิตศาสตร์อ้างว่าโควต้าเงินกู้ของสาขาไม่มีที่ลง พวกเขาเสนอเงินกู้ให้ 500,000 หยวน ถ้าจำเป็น พวกเขามอบเพิ่มได้อีก เพราะยังไงก็ไม่มีโปรเจ็คอื่นที่พวกเขาสนใจอยู่แล้ว
สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์มีโปรเจ็คเยอะมาก โค้วต้าของพวกเขาก็ใช้ไปเยอะ พวกเขามอบให้ได้มากสุด 200,000 หยวน อย่างไรก็ตามพวกเขามีคนที่มีความสามารถ มันไม่มีปัญหาอะไรในโปรเจ็คที่ศาสตราจารย์แก้ไขไม่ได้ พวกเขาต่างก็เป็นศาสตราจารย์ที่ทำงานให้คำปรึกษาให้บริษัทใหญ่ๆ
แน่นอนว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก
ใจลู่โจวเอนเอียงไปอย่างหลัง เพราะเขาจะได้ไม่ต้องใช้แต้มทั่วไปมากนัก นอกจากนี้ทุกอย่างไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน อย่างไรก็ตามคณบดีสาขาคณิตศาสตร์อยู่ตรงหน้าเขา เขาย่อมไม่อาจฉีกหน้าเขาได้ ไม่งั้นเขาคงอยู่สาขาคณิตศาสตร์ได้ยาก
แล้วถ้าทั้งสองสาขาร่วมมือกันล่ะ…
ลู่โจวคิดว่านอกจากหล่อและซื่อสัตย์ จุดแข็งที่สุดของเขาก็คือการรู้ตัวเอง แม้ว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะ แต่เขาก็แหกกฏไม่ได้
อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้
ถ้าทั้งสองสาขาร่วมมือกันจริง พวกเขาคงไม่รอฟังคำแนะนำของเขาแน่นอน พวกเขาก็คงลงมือทำเลยเหมือนกับตอนจัดทีมอัจฉริยะของการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์
คณบดีทั้งสองไม่ได้พูดถึงการร่วมมือกัน มันต้องหมายความว่ามันร่วมมือกันยาก!
ลู่โจววิเคราะห์อย่างมีเหตุผล เขาเดาว่านี่ไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรีเท่านั้น แต่มันมีค่าอย่างแท้จริง ถ้าหากสาขาไหนมีโปรเจ็คที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะรู้สึกภูมิใจระหว่างการประชุมประจำปี
“คณบดีจาง ผมขอโทษ” ลู่โจวกล่าวเชิงขอโทษ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ “โค้ดของ Campus Train เขียนเสร็จแล้ว ผมอัพเดทคนเดียวไหว คณบดีหลู่กำลังเสนอสิ่งที่ผมต้องการ”
แม้ว่าเขาจะปฏิเสธคณบดีจาง แต่เขาก็ยังพยายามพูดให้ดูอ่อนที่สุด
อย่างไรก็ตามดูเหมือนลู่โจวจะคิดมากไปเพราะคณบดีหลู่ไม่ได้สนใจมากนัก เขาแค่ดูผิดหวัง
“โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว…อีกเรื่อง ถ้าเธอมีคำถามเรื่องวิทยาการคอมพิวเตอร์ เธอก็มาถามอาจารย์ได้ตามสบาย”
แต่อย่าคิดว่าสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จะจัดหาศาสตราจารย์มาเป็นที่ปรึกษาให้คุณ ทุกคนต่างก็ยุ่ง ไม่มีใครมีเวลาว่างนัก ถ้าคุณอยากได้ความช่วยเหลือจากเรา คุณก็ให้หัวหน้าสาขาคณิตศาสตร์มาขอร้องด้วยตนเอง
แน่นอนถ้าคุณหาศาสตราจารย์หรือนักศึกษาปริญญาโทมาช่วยเหลือได้ ไม่มีใครห้ามคุณ
“ขอบคุณครับ!” ลู่โจวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ฉันไม่ได้ช่วยเธอด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ! เอ้อ ให้ความสำคัญกับการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ถ้าเธอไม่ได้ที่หนึ่ง งั้นก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า ฉันไม่รู้จักเธอ!” คณบดีจางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนโบกมือแล้วกล่าว “ฉันยุ่งอยู่ ฉันต้องไปแล้ว”
“กลับดีๆล่ะ” คณบดีหลู่กล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส “ฉันไม่ไปส่งนะ”
“ฮ่าๆ ดูสิว่าคุณมีความสุขแค่ไหน”
ความสัมพันธ์ส่วนตัวของทั้งคู่ค่อนข้างดี พวกเขามักพูดหยอกกันเล่น
จางจงเจี๋ยเดินจากไป คณบดีหลู่หยุดชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “เอ้อ ลู่โจว อาจารย์มีหนังสือยื่นคำร้องอยู่ เอากลับไปกรอกแล้วเอามาให้อาจารย์ที่ออฟฟิศพรุ่งนี้”
“ครับ!”
คณบดีหลู่พอใจมากกับความกระตือรือร้นของลู่โจว เขาพยักหน้าแล้วเตือนลู่โจว
“อีกเรื่อง แม้ว่าโปรเจ็คนี้จะเป็นไอเดียที่ดี แต่อย่าลืมงานจริงๆของเธอล่ะ”
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ต้องห่วงครับ ผมเรียนหลักสูตรปีสองกับปีสามแล้ว อาจารย์ทดสอบผมได้ตอนนี้เลย”
“โอ้ อาจารย์ไม่ได้ห่วงเรื่องการเรียนของเธอ ใครบอกว่าอาจารย์กำลังพูดเรื่องนั้น?” คณบดีหลู่กล่าวแล้วหัวเราะ จากนั้นเขาก็พูดติดตลก “อาจารย์ไม่ได้สนเรื่องอื่น อาจารย์แค่มีกฏอยู่ข้อนึง เธอควรตีพิมพ์วิทยานิพนธ์เรื่องนึงในวารสารหลักในปีนี้ ถ้าอาจารย์ไม่เห็นวิทยานิพนธ์ของเธอ อาจารย์จะยึดทุนการศึกษา”
ลู่โจว “…”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคณบดีหลู่ทำไปเพื่อประโยชน์ของเขา แต่ลู่โจวก็ยังรู้สึกอยากด่าคนอยู่ดี!
…..
เงินกู้ 500,000 หยวนช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนของลู่โจว อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องใช้เงินค่ากินเพื่อโปรเจ็คที่มีราคาแพงนี้
ตอนแรกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีผู้ใช้มากขนาดนี้ แค่ผู้ใช้หมื่นคนเขาก็พึงพอใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเลยว่าแอพของเขาจะมีชื่อเสียงในหมู่นักศึกษามหาลัย
แน่นอนนี่หมายความว่าเขาต้องยอมทิ้งกลุ่มผู้ใช้ไปส่วนนึง เนื่องจากชื่อ[Campus Train]ไม่ได้ดึงดูดคนที่ไม่ใช่นักศึกษามหาลัย ฟีเจอร์หลายอย่างไร้ประโยชน์ต่อประชาชนทั่วๆไป
จนถึงตอนนี้จำนวนการดาวน์โหลดของ[Campus Train]มาถึง 200,000 แล้ว และยอดซื้อตั๋วสำเร็จก็มีถึง 310,000 ใบ
มันเป็นช่วงเวลาที่นักศึกษาส่วนใหญ่กลับมามหาลัย ดังนั้นผู้ใช้งานแอพจึงเยอะขึ้นเป็นเงาตามตัว
บริษัทได้จดทะเบียนแล้ว มันใช้เวลาสามวันในการดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด เงินก็เข้าสู่บัญชีเขาแล้ว และลู่โจวก็จ่ายเงินค่าอัพเกรดเซิฟเวอร์ทันที
ถ้าเขาอยากรักษาผู้ใช้เอาไว้ เขาก็ต้องทำให้ผู้ใช้พอใจ แอพไม่ควรกระตุก ผู้ใช้จะรำคาญถ้าพวกเขารีเฟรชหน้าแอพแล้วไม่ได้ตั๋ว ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเขาอาจไปใช้แอพอื่นแทน
ลู่โจวเปิดแผงผู้พัฒนาแล้วมองดูยอดดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้น
ในอีกไม่กี่วัน แอพสโตร์ของแอนดรอยจะปล่อยข้อเสนอสำหรับแอพฟรี เรื่องนี้จะทำให้มีผู้ใช้ใหม่ๆมาใช้แอพเขา หลังจากนั้นช่วงเวลาที่นักศึกษากลับมามหาลัยก็จะจบลงประมาณ 10 กันยา จากนั้นเขาจะได้รู้ว่าจะมีผู้ใช้เท่าไหร่ที่ใช้งานแอพสม่ำเสมอ
“ขั้นตอนต่อไปคือการอัพเดทและบำรุงรักษา ฉันมีเงินจ้างโปรแกรมเมอร์สองคน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ควรมีปัญหา”
ลู่โจวบิดขี้เกียจแล้วจ้องมองหน้าจอต่อ ทันใดนั้นเองเขาก็เห็นการแจ้งเตือนรายงานบัคที่ยังไม่ได้อ่านมากมาย
นี่เป็นปัญหาใหญ่ เขาต้องจริงจัง
ลู่โจวตื่นตัว เขานั่งตัวตรงทันทีแล้วกดขยายหน้าการแจ้งเตือน
“รายงานบัค…ทำไมถึงมีรายงานบัคมากขนาดนี้? ไหนดูซิ”
[คุณช่วยดูวิทยานิพนธ์ของผมได้ไหม? วีแชทของผมคือ…]
[โปรดช่วยเขียนวิทยานิพนธ์ให้ฉันด้วย วีแชท…]
[การสุ่มของเว่ยป๋อมันไม่น่าไว้ใจ ฉันไม่สนใจ มันไม่เป็นธรรม]
ลู่โจว […]
เวรเอ้ย!
ทำไมพวกคุณถึงตามฉันมาถึงนี่? เป็นกลุ่มคนที่น่ากลัวจริงๆ!
ตอนที่ 54 นักศึกษาที่อ่อนแอ
“โจว หลิวรุ่ย สือช่าง จักรพรรดิแห่งหอพัก 201 กลับมาแล้ว!”
หวงกวงหมิงกล่าวขณะถือกระเป๋าเดินทางเดินเข้ามา
หลิวรุ่ย “ไสหัวไป”
สือช่างลูบมือ “นายคันใช่ไหม? มา ฉันจะกระทืบนายให้”
ลู่โจวหันหน้าไปมองแล้วกล่าว “สือช่าง เอาถุงเท้าในลิ้นชักนายให้หวงกวงหมิงใส่ที”
เมื่อหวงกวงหมิงได้ยินเรื่องถุงเท้าของสือช่าง เขาก็เปลี่ยนน้ำเสียงทันทีแล้วร้องขอความเมตตา “ได้โปรด อย่า! ฉันไม่ยอม!”
หลิวรุ่ยตื่นตระหนกเช่นกัน “บัดซบ โจว นายชั่วเกินไปแล้ว!”
ถุงเท้าของสือช่างเป็นอาวุธเคมีที่ฆ่าคนได้นับพัน!
ลู่โจวรู้ตัวทันทีว่าเขาพูดอะไร แต่มันสายไปแล้ว
เป็นไปตามคาด สือช่างไม่พอใจ
ทำไมพวกเขาต้องยกเรื่องถุงเท้าเขามาพูดด้วย?
เจ้าพวกนี้ไม่เคารพหัวหน้าหอพักอย่างเขาเลย?
สือช่างตบโต๊ะแล้วกล่าว “นายพยายามจะพูดอะไร? ถุงเท้าฉันเหม็น? ฉันพึ่งซักเมื่อสองวันก่อน!”
สองวันก่อน!
สีหน้าของทั้งสามเปลี่ยนไปทันที
อย่างไรก็ตามสือช่างไม่ได้สังเกต เขาเปิดลิ้นชักราวกับว่าเขาพยายามพิสูจน์อะไรบางอย่าง
หลิวรุ่ย “…”
ลู่โจว “…”
หวงกวงหมิง “…”
บรรยากาศในหอพักเริ่มน่ากระอักกระอ่วน…
มันเหม็น
ด้วยสายตาสามคู่ที่จ้องมองมา สือช่างก็ค่อยๆสูญเสียความมั่นใจ
โดยไม่ต้องพูดอะไรอื่น เขากระแอมเบาๆก่อนจะเดินตรงไปซักถุงเท้าในห้องน้ำ
…..
รูมเมทคนสุดท้ายกลับหอพัก 201 แล้ว ชีวิตนักศึกษาปีสองของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น ห้องที่วังเวงและว่างเปล่าก็กลับมาวุ่นวายเหมือนดั่งอดีต
“LOLกำลังเปิดตัวแชมป์เปี้ยนตัวใหม่ นายได้ดูเทลเลอร์ไหม? โคตร OP”
“ในเซิฟเวอร์ NA มันมาแล้ว มันกากมาก”
“ไม่มีทาง! เดี่ยว 1-1 ฉันป่าว? ถ้านายแพ้ นายต้องเรียกฉันว่าพ่อ!”
“ได้ ฉันเล่นกาเรน นายจะเล่นอะไรก็เล่น”
“ไอ้โง่!”
“…”
ถ้านี่เป็นตอนไม่กี่เดือนก่อน ลู่โจวก็อาจจะเข้าร่วมการโต้เถียงที่ดุเดือดนี้ อย่างไรก็ตามความสุขของการเรียนทำให้เขาหันหลังให้กับ LOL
เขามาถึงขั้นตอนสุดท้ายของภารกิจของระบบแล้ว เขาเหลือบอสอีกตัวเท่านั้นให้จัดการ
บอสตัวนั้นก็คือ[การออกแบบวงจรรวม]ที่ยากเวอร์
หนังสือออกแบบวงจรนั้นผิดมนุษย์มนา สายวงจรจาก metal1 ไปจนถึงการวาด metalN ฟลิปฟล็อปนับไม่ถ้วนและ inter-layer channels มันทรมาณมาก!
จากข่าวลือ สาขาอิเล็กทรอนิกส์ของมหาลัยจินหลิงมีศาสตราจารย์หัวล้านมากที่สุด ถ้าเราอยากรู้ระดับความสามารถของศาสตราจารย์ เราแค่ดูจำนวนเส้นผมบนหัวก็พอ ลู่โจวรู้แล้วว่าต้นเหตุของการหัวล้านคืออะไร
จำนวนเนื้อหาของการออกแบบชิปนั้นกว้างใหญ่เกินไป มันไม่มีทางเลยที่นักศึกษาปริญญาตรีจะเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่านี่จะเป็นหนังสือเรียนเบื้องต้น ลู่โจวก็ยังรู้สึกกดดันมาก
แน่นอนสาขานี้มีศักยภาพที่ดี
การออกแบบวงจรรวมไม่ใช่จุดแข็งที่เหมาะกับประเทศ ช่องว่างความสามารถค่อนข้างใหญ่ นอกจากนี้ในสาขานี้มีจุดแข็งเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่แข็งแกร่งซึ่งส่งผลให้คนที่มีความสามารถมากมายเลือกที่จะย้ายไปต่างประเทศ เงินเดือน 500,000 หยวนไม่ใช่ปัญหาเลยถ้าเป็นคนที่เชี่ยวชาญในการออกแบบวงจรรวม
โปรเจ็คการออกแบบวงจรรวมนั้นใหญ่มาก แต่ละขั้นตอนมีกระบวนการที่ยุ่งยาก แถมไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนไหนก็อาจถือได้ว่าเป็นโปรเจ็ควิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทุกขั้นตอนของสายผลิตคือโอกาสในการทำงาน
ในทางกลับกันด้วยความยากลำบากในการหางาน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่บรรลุมาตรฐานที่ต้องการ เพื่อที่จะมีส่วนร่วมในห้องแล็บการออกแบบวงจรรวม อย่างน้อยก็ต้องมีปริญญาเอก
หวงกวงหมิงกำลังเล่นLOL แต่จู่ๆเขาก็เห็นลู่โจวกำลังอ่านหนังสือ จากนั้นเขาก็ถาม “ลู่โจว ลีคไหม? หลิวรุ่ยถ่วงเกินไป ฉันแบกไม่ไหวถ้าไม่มีแก๊งของนาย”
หลิวรุ่ยไม่ได้ตอบสนอง กลับกันเขาเริ่มฮัมเพลงแก้เขิน
ลู่โจวคิดแล้วกล่าว “อีกสองสามวันฉันค่อยเล่น ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่”
สือช่างที่กำลังเล่นท็อปเลนกล่าว “เชี่ย ครั้งก่อนนายบอกจะเล่นหลังสอบ แต่จนถึงตอนนี้นายก็ยังไม่ได้ล็อคอินเลย”
หวงกวงหมิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “โจว ถ้านายเป็นแบบนี้ นายจะเสียเพื่อนนะ!”
“ไม่มีเพื่อน? เป็นไปไม่ได้” ลู่โจวกล่าวและส่ายหน้า จากนั้นเขาก็กล่าวเสริม “พวกเราเรียนคลาสเดียวกัน คณิตวิเคราะห์ 3 พีชคณิตเชิงเส้น สมการเชิงอนุพันธ์สามัญ ฟังก์ชันเชิงซ้อน…”
“พี่ใหญ่ลู่ หยุดพูด” สือช่างกล่าวและปล่อยเมาส์ทันที เขาหันหน้ามาแล้วขอร้องลู่โจว “ทันทีที่ฉันเห็นนาย ฉันก็รู้ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดชีวิต…นายต้องให้ฉันยืมโน๊ตนาย!”
ลู่โจวหัวเราะ
โอ้ ช่างเป็นนักศึกษาที่อ่อนแอเหลือเกิน
หลิวรุ่ยถูกฆ่าและถูกส่งมาน้ำพุเกิด ขณะที่เขาเอนตัวพิงเก้าอี้ เขาก็ถาม “นายไม่ได้เป็นเพื่อนลู่โจวเพราะนายเห็นรูปน้องสาวเขาหรอกเหรอ?”
ลู่โจว “ไปไกลๆเลย!”
เขาไม่มีอะไรพูดกับสัตว์กลุ่มนี้
เมื่อลู่โจวได้ยินเสียงสกิลในLOLถูกใช้อย่างเร่งรีบ เขาก็ไม่อาจสงบใจได้
สุดท้ายเขาก็เลิกทดสอบความแข็งแกร่งของตนเอง เขาเก็บข้าวของและเดินออกจากห้องไปพร้อมกับกระเป๋าสะพาย
ตอนนี้เป็นวันที่ 1 กันยาแล้ว เหลือสองวันเท่านั้นถึงจะถึงวันที่สาม นักศึกษาปีหนึ่งจำนวนมากจะหลั่งไหลเข้ามาในมหาลัยในวันนั้น กิจกรรมทั้งหมดและการเรียนทบทวนจะเกิดขึ้นในคืนนั้น นอกจากนี้นักศึกษาที่เตรียมสอบเข้าก็จะพยายามเรียนให้ถึงที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่มีหวังที่จะหาห้องเรียนว่างๆเลย
มันเหลือเวลาอีกไม่มากนักที่เขาจะเรียนแบบเงียบๆได้แบบนี้
และบังเอิญ ลู่โจวเหลือแคปซูลสมาธิอันเดียวเท่านั้น เขาไม่รู้ว่ามันจะพอให้เขาอ่านหนังสือ[การออกแบบวงจรรวม]จนจบไหม
หลังจากทานมื้อค่ำ ลู่โจวก็นั่งในห้องเรียนว่างๆแล้วทานแคปซูลสมาธิอันสุดท้าย เขาวางแผนจะจดจ่อกับหนังสือในมือด้วยสภาวะสมาธิขั้นสูง
สายวงจรค่อยๆเด่นชัดขึ้นในหัวและเลเยอร์ของแผงวงจรก็แผ่ออกมา
เขาค้นพบความสามารถนี้ตอนที่เขาเรียนโทโพโลยี เมื่อเขามีสมาธิมากๆ เขาจะสามารถใช้จินตนาการเชิงพื้นที่เพื่อ’ดู’ภาพสามมิติในใจ มันเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด แต่ความละเอียดของจินตนาการนั้นแม่นยำมาก เขาสามารถเห็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ทุกเส้นและฟลิปฟล็อปทุกตัว
แน่นอนการเข้าสู้สภาวะนี้มีผลข้างเคียงมาก มันจะเร่งความเหนื่อยล้าของสมอง แม้ว่ามันจะไม่ลดระยะเวลาส่งผลของแคปซูลสมาธิให้เหลือน้อยกว่าห้าชั่วโมง แต่มันก็ทำให้เขาง่วงมากหลังจากผ่านห้าชั่วโมงไปแล้ว
ดังนั้นเขาจึงใช้แคปซูลสองอันไปแล้วเพื่อเรียนการออกแบบวงจรรวม นี่เป็นแคปซูลที่สาม
นอกจากนี้มันยังเป็นแค่เนื้อหาเบื้องต้น มันเพียงอธิบายหัวข้อพอสังเขปเท่านั้นอย่างโค้ด RTL การสังเคราะห์วงจรและเวลาคงที่ RC ส่วนครึ่งหลังเป็นการเดินวงจรซึ่งไม่ใช่ความรู้หลักด้วยซ้ำ
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆจนใกล้ถึงเที่ยงคืน ลู่โจวจ้องมองหนังสือหน้าสุดท้ายแล้วถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ฟุบลงบนโต๊ะ
เขากระซิบเสียงเบาโดยใช้แรงเฮือกสุดท้าย “เข้าสู่…พื้นที่ระบบ”
ทันใดนั้นเองโลกทั้งใบก็หมุนแล้วเขาก็ถูกรายล้อมด้วยพื้นที่สีขาวบริสุทธิ์ จิตสำนึกของเขาแยกออกจากโลกแห่งความเป็นจริงทันทีแล้วย้ายเข้ามาสู่มิติของระบบ
มันแปลกมาก โลกภายนอกเขาปวดหัวมาก แต่หลังจากเข้าสู่โลกสีขาวบริสุทธิ์ อาการปวดหัวของเขาก็เหมือนจะหายไป
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลามาถนอมความรู้สึกนี้ เขาก้าวไปข้างหน้าทันที เขาวางมือไว้บนหน้าจอกึ่งโปร่งใสและจ้องมองมัน
“ระบบ แสดงความคืบหน้าของภารกิจ!”
[ภารกิจ 30/30]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่สำเร็จภารกิจรางวัลแรก มอบรางวัลภารกิจสองเท่า หวังว่าท่านจะพยายามต่อไป!]
ตอนที่ 55 โปรดอย่าใช้ทรัพยากรของระบบกับคำถามปัญญาอ่อน
[รายละเอียดภารกิจที่ทำสำเร็จ : สำเร็จภารกิจ (30/30) การประเมิณขั้นสุดท้าย : ไม่มี (ภารกิจรางวัลไม่มีการประเมิณ)]
[รางวัลภารกิจ : 2000 แต้มประสบการณ์ต่อสาขาวิชาใดก็ได้ที่ท่านเลือก (รางวัลคูณสอง) ปลดล็อคสาขาเทคโนโลยี : ปัญญาประดิษฐ์ ระดับ 0]
2000 แต้มประสบการณ์!
ลู่โจวสูดหายใจลึกๆแล้วครุ่นคิด จากนั้นเขาก็มอบ 1000 แต้มประสบการณ์ให้กับสาขาวิศวกรรมโดยไม่ลังเล
ค่าประสบการณ์สำหรับเพิ่มระดับวิทยาการสารสนเทศและคณิตศาสตร์คือ 10000 ทั้งคู่ เอาแต้มประสบการณ์ไปใส่ให้สาขาวิชาทั้งสองก็ไม่มีประโยชน์ ในหมู่สาขาวิชาหลักๆ วิศวกรรมถูกใช้อย่างกว้างขวางที่สุด
ตั้งแต่วิศวกรรมซอร์ฟแวร์ไปจนถึงวิศวกรรมโยธา ตั้งแต่นาโนชิปไปจนถึงโปรเจ็คระดับชาติ ทั้งหมดถูกรวมอยู่ในขอบเขตอันกว้างขวางของวิศวกรรม แม้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวิชาอื่นที่ขึ้นอยู่กับทฤษฎี วิศวกรรมก็ยังต้องพึ่งพาทฤษฎีจากวิชาอื่น แต่มันก็ใช้ได้จริงมากที่สุดเช่นกัน
นอกจากนี้เมื่อการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น การยกระดับวิศวกรรมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนที่เหลืออีก 1000 แต้มประสบการณ์ เขาเททั้งหมดให้กับฟิสิกส์
เขาไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ มันเป็นเพราะคลาสฟิสิกส์ของเขากำลังจะเริ่มเทอมนี้
ยืนยันการเลือก!
มีแสงสีขาวกระพริบวาบและมีข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอกึ่งโปร่งใส
[หมายเหตุ : วิศวกรรม ระดับ 0 -> ระดับ 1 ฟิสิกส์ ระดับ 0 -> ระดับ1]
ลู่โจวเห็นข้อความแล้วอดใจเปิดดูแผงคุณสมบัติไม่ได้
[
โฮสต์ : ลู่โจว
วิทยาศาสตร์หลัก :
A คณิตศาสตร์ : ระดับ 1 (0/10000)
B ฟิสิกส์ : ระดับ 1 (100/10000)
C ชีววิทยา : ระดับ 0 (0/1000)
D วิศวกรรม : ระดับ 1 (0/10000)
E วัสดุศาสตร์ : ระดับ 0 (0/1000)
F วิทยาการพลังงาน : ระดับ 0 (0/1000)
G วิทยาการสารสนเทศ : ระดับ 1 (0/10000)
แต้มทั่วไป : 775
ภารกิจ : ไม่มี
]
เหมือนอย่างครั้งที่แล้ว เขาเพิ่มระดับสองสาขาวิชาพร้อมกัน!
ลู่โจวมองดูแผงคุณสมบัติแล้วมีความสุขมาก
ตอนนี้สาขาวิชาที่เหลือเลขศูนย์มีเพียงชีวเคมี วัสดุศาสตร์และวิทยาการพลังงาน ในระยะสั้นๆเขาอาจไม่ได้ใช้วิชาเหล่านี้ ดังนั้นมันจึงไม่ได้สายเกินไปที่จะอัพเกรดวิชาเหล่านี้เมื่อมีภารกิจที่เหมาะสม
ตอนนี้ความสำคัญอันดับหนึ่งคือการทำความเข้าใจกับสาขาเทคโนโลยีที่ปลดล็อค!
ลู่โจวมองดูหน้าจอข้อมูลกึ่งโปร่งใสก่อนจะกระแอมแล้วออกคำสั่ง
“ระบบ อัพเกรดเทคโนโลยีสาขา ปัญญาประดิษฐ์!”
[อัพเกรดสาขาเทคโนโลยี’ปัญญาประดิษฐ์’เป็นระดับ 1 จำเป็นต้องใช้แต้มทั่วไป 100 แต้ม ยืนยัน?]
“ยืนยัน!”
ลู่โจวตอบโดยไม่ลังเล
แสงไฟสีขาวกระพริบวาบอีกครั้งและไม่นานแต้มทั่วไปของเขาก็ลดลง 100 แต้ม เขาเหลืออยู่ 675 แต้ม
ในแถบสาขาเทคโนโลยี ระดับของปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขึ้นจากระดับ 0 เป็นระดับ 1 (0/1000)
มันคล้ายกับตอนยกระดับวิชาหลัก มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ
ลู่โจวคิดว่าจะมี’ข้อมูลความรู้มหาศาลไหลเข้าสู่สมอง’ตามมาด้วย’การตระหนักรู้ในพริบตา’ อย่างไรก็ตามดูเหมือนสมองของเขาจะไม่ได้มีความรู้แปลกๆที่เขาไม่เคยเห็น
ไอค่อน USB ลอยอยู่เหนือหน้าจอข้อมูลกึ่งโปร่งใส
ลู่โจวเดินเข้าไปแล้วอ่านข้อความที่อยู่ถัดจากไอค่อน
[โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ – ไม่มีชื่อ (ระดับ1) (ยังไม่ถูกใช้)]
[คำอธิบาย : เมื่อเสียบ USB โปรแกรมจะถูกคัดลอกลงในอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ‘ไม่มีชื่อ’จะถูกย้ายไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ต้องการ 1TB โปรแกรมสามารถพัฒนาตนเองผ่านการเรียนรู้ ความเร็วในการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับความแรงของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และข้อมูลภายนอกที่ถูกมอบให้ เมื่อตอบสนองความต้องการของการอัพเกรดจะเพิ่มระดับปัญญาประดิษฐ์โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้สามารถใช้แต้มทั่วไปเพิ่มระดับได้เช่นกัน]
ลู่โจวเห็นคำอธิบายนี้แล้วคิดหนัก
แม้ว่าคำอธิบายที่ระบบมอบให้นั้นจะเข้าใจได้ยาก แต่มันก็ง่ายมากที่จะตีความด้วยการเปรียบเทียบ
สิ่งที่ถูกเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์’ไม่มีชื่อ’ก็เหมือนกับระบบมอบไข่ให้เขา เขาสามารถเลี้ยงดูมันให้เป็นระดับ 2 ระดับ 3 หรือแม้แต่ระดับที่สูงกว่านั้น ในขณะเดียวกันมันก็สามารถถูกใช้เป็นวัตถุดิบวิจัยหรือแก่นสำคัญของโค้ด
แน่นอนปัญญาประดิษฐ์ก็อยู่ในขอบเขตวิทยาการสารสนเทศ ดังนั้นเขาต้องเพิ่มระดับวิทยาการสารสนเทศก่อนเพื่อที่จะสามารถอัพเกรดปัญญาประดิษฐ์ด้วยแต้มทั่วไป
“เข้าใจแล้ว ไอ้เจ้าสาขาเทคโนโลยีมีระบบที่อัพเกรดได้อย่างอิสระ” ลู่โจวกล่าว เขานึกถึงคำแนะนำของระบบอันเก่าและลูบคางไปพลาง
“แล้วสาขาเทคโนโลยีพันธุศาสตร์ที่ระบบพูดถึงล่ะ? วิธีการอัพเกรดคือการถอดรหัสพันธุกรรม? หรือเก็บตัวอย่างพันธุกรรม? เป้าหมายสูงสุด…คือการลบทีโลเมียร์ในDNA? บรรลุชีวิตนิรันดร์? หรือสร้างสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่…”
มันไม่สมเหตุสมผล เขาจะเข้าใจเองหลังปลดล็อคเทคโนโลยีนี้
ตอนนี้เขายังเด็ก ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องอายุ
‘ตอนนี้ฉันต้องหาบ้านให้ปัญญาประดิษฐ์ระดับ 1 อันนี้ ฉันไม่อาจใช้คลาวด์เซิฟเวอร์หรือโน๊ตบุ๊คมือสองของฉันแน่นอน…ฉันว่าฉันต้องมีคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่’ ลู่โจวคิด
ต่อไป…
ขั้นตอนการเลือกภารกิจที่น่าตื่นเต้น
ลู่โจวสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วอธิษฐาน เขาเอื้อมมือไปแตะแผงภารกิจ
“จงมา ภารกิจ SSSR!”
เขาไม่รู้ว่าเขาจะได้ภารกิจอะไร
ตราบใดที่ภารกิจไม่บัดซบเกินก็พอ!
[
ภารกิจ 1 : สุขภาพคือทุกสิ่ง
คำอธิบาย : แม้ว่าโฮสต์จะขี้เกียจ แต่ระบบก็ยังแนะนำให้ท่านออกกำลังกาย ออกกำลังกายด้วยเป้าหมายการเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด!
สิ่งที่ต้องทำ : เดิน 50 กิโลเมตร สควอซ 2000 ครั้ง วิดพื้น 2000 ครั้ง
รางวัล : 1000 แต้มประสบการณ์อิสระ 500 แต้มทั่วไป ตั๋วเสี่ยงโชค 1 ใบ (ขยะ 95% ตัวอย่าง 5%)
]
[
ภารกิจ 2 : การสืบพันธ์ุมีความสำคัญมากกว่าการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
คำอธิบาย : หาแฟนทันที
สิ่งที่ต้องทำ : ผู้หญิงที่มีความเข้ากันได้ 60 หรือมากกว่า สร้างความสัมพันธ์
รางวัล : 2000 แต้มทั่วไป ตัวอย่าง : เข็มเพิ่มความถึก (ระยะเวลาส่งผล 5 ชั่วโมง ประสิทธิภาพของเซลล์กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 50% อัตราเผาผลาญเพิ่มขึ้น 100%)
]
[
ภารกิจ 3 : โปรดอย่าใช้ทรัพยากรของระบบกับคำถามปัญญาอ่อน
คำอธิบาย : อีกหนึ่งสัปดาห์ การแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์จะเริ่มต้นขึ้น โฮสต์ที่ขี้เกียจจะอยากใช้แต้มทั่วไปเพื่อแก้คำถามปัญญาอ่อน
สิ่งที่ต้องทำ : ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ใช้ความช่วยเหลือของระบบ เป็นผู้ชนะอันดับที่หนึ่งของการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์
รางวัล : ตัดสินจากหัวข้อของโจทย์การแข่งขัน (แต้มประสบการณ์รวม 4000 แต้ม) แต้มทั่วไป 500 แต้ม ตั๋วเสี่ยงโชค 1 ใบ (ขยะ 80% ประสบการณ์ 10% ตั๋วอย่าง 5% พิมพ์เขียว5%)
]
ภารกิจแรกไม่เลว แล้วภารกิจที่สองคืออะไรเนี่ย?
ทำไมระบบถึงสนใจเรื่องความโสดของเขานัก?
นั่นหมายความว่า…
ฉันเหลือภารกิจให้เลือกแค่ภารกิจเดียว?
ลู่โจวโกรธระบบมาก เขาถอนหายใจแล้วเลือกภารกิจที่สาม
ตอนที่ 56 คุณต้องมอบรากฐานที่ดีให้ลูกของคุณเสมอ
ลู่โจวออกจากมิติของระบบแล้วจิตสำนึกของเขาก็จมอยู่ในความมืด
ชั่วพริบตาเขาก็ตระหนักว่าก่อนที่เขาจะเข้ามิติของระบบ เขาพึ่งทานแคปซูลสมาธิอันสุดท้าย…
เมื่อเขาตื่นขึ้นมา มันก็เป็นเช้าวันต่อมาแล้ว
นี่แตกต่างจากที่เขาเรียนโต้รุ่งก่อนหน้านี้ คุณภาพการนอนหลับครั้งนี้ไม่เลวเลย เขาตื่นขึ้นมาแต่เช้า เขากระทั่งใช้หนังสือเป็นหมอน
มีโชคร้ายอย่างนึงก็คือหน้าสุดท้ายของหนังสือ[การออกแบบวงจรรวมเบื้องต้น]เปรอะเปื้อนด้วยน้ำลาย
โชคดีที่มันไม่ชัดเจนเกินไป ด้วยอากาศที่ร้อนในปัจจุบัน มันจะแห้งในสองนาที
“ชีวิตการเรียนทั้งวันทั้งคืนแบบนี้มันน่ากลัวจริงๆ” ลู่โจวกล่าวขณะบิดหลังแก้ปวด
มันเจ็ดโมงเช้าแล้ว มีคนไม่มากนักที่อยู่ในอาคารเรียน เขามองออกนอกหน้าต่างแล้วเห็นผู้คนกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง
ผ้าเช็ดตัวและแปรงสีฟันของลู่โจวอยู่ในกระเป๋าแล้ว ดังนั้นเขาจึงไปอาบน้ำก่อนแล้วเดินไปโรงอาหารภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า
เขาซื้อซาลาเปาสองลูกและนมถั่วเหลืองอย่างเคย จากนั้นเขาก็นั่งอยู่ที่มุมโรงอาหาร ขณะที่เขากำลังทาน เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา
ก่อนอื่นลู่โจวเข้าเว่ยป๋อ หน้าการค้นหาที่มาแรงล้วนเป็นข่าวของดารา เขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ จำนวนผู้ติดตามของเขาดูไม่เปลี่ยนไปนัก อันที่จริงมันเหมือนกับตอนที่เขายังอยู่ติดกระแสซึ่งมีอยู่หมื่นกว่า
ลู่โจวอ่านข่าวคร่าวๆก่อนจะปิดเว่ยป๋อ เขาเข้าแพล็ตฟอร์มผู้พัฒนาแอพและประหลาดใจที่พบว่า’Campus Train’มีผู้ใช้กว่าห้าแสนคนแล้ว แถมมันยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าไม่เลว แต่เขาต้องทำงานให้หนักขึ้นเพราะเทียบกับซอร์ฟแวร์การจองบุคคลที่สามอันอื่น จำนวนผู้ใช้ของเขาน้อยนิดมาก!
ลู่โจวทานซาลาเปาเงียบๆ ตาเขาปรือจนแทบหลับอยู่รอมร่อ จากนั้นเขาก็ขยับนิ้วโป้งและเปิดวีแชทเพื่อที่จะดูหน้าฟีดข่าว
[สือช่าง : ส่งต่อ : แจ้งเวลาการแข่งขันบาสเกตบอลมหาลัยรอบเซมิไฟนอล]
หืม…
เขาไม่สนใจ แต่เขาก็ยังกดไลค์เพื่อบอกเป็นนัยๆว่าเขาอ่านแล้ว
ขณะที่ลู่โจวกัดซาลาเปา เขาก็ไถฟีดต่อ
[หลินอวี่เซียง : การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ยากมาก การแข่งขันใกล้เริ่มแล้ว ฉันต้องอ่านหนังสือทั้งคืนน~ (พยายาม)]
เธอยังโพสต์รูปหนังสือเช่นกัน
ลู่โจว “…”
ฉันอยากบล็อคผู้หญิงคนนี้…
ช่างมันเถอะ ไว้ฉันจะทำหลังจบการแข่งขัน
…..
วิทยาเขตเต็มไปด้วยโคมไฟและธงสีสันสวยงาม มีริบบิ้นหลากสีห้อยอยู่ตามต้นอู่ถง สภาพแวดล้อมมีชีวิตชีวาราวกับงานเทศกาล
มีรถนับไม่ถ้วนขับมาส่งนักศึกษาที่หน้ามหาลัยและมีนักศึกษานับไม่ถ้วนกำลังลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียน พ่อแม่กำลังลากกระเป๋าเดินทาง ช่วยลูกๆกรอกแบบฟอร์ม ซื้อซิมการ์ด ทำความสะอาดหอพัก ฯลฯ มันเพียงแปดโมงเช้าเท่านั้น แต่ถนนหน้าหอพักก็ถูกปิดกั้นโดยสมบูรณ์
ลู่โจวเดินบนลู่วิ่งและเฝ้ามองฝูงชนอยู่ไกลๆ เขาคิดย้อนกลับไปตอนที่เขาเข้ามหาลัยครั้งแรก ในเวลานั้นแม่เขาเข้าโรงพยาบาล ส่วนพ่อก็ดูแลแม่ เขานั่งรถไฟหลายร้อยกิโลและเข้าสู่เมืองที่ไม่คุ้นเคยด้วยตนเอง
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเดินทางไกลๆ
เมื่อมองย้อนกลับไป เวลามันผ่านไปเร็วมาก แปปๆก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว
ไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ในฝูงชน
หนึ่งในนั้นเป็นเจ้าอ้วนอู๋ เขาสวมเสื้อยืดเทเลคอม เขากำลังจัดการทีมนักศึกษาทำงานด้วยเหงื่อท่วมตัว พวกเขากำลังแนะนำผู้ปกครองให้ไปร้านเทเลคอม ทุกครั้งที่มหาลัยเปิด เขาจะยุ่งเสมอ สภานักศึกษาจะยุ่งอยู่กับการต้อนรับนักศึกษาใหม่ ในขณะที่เขายุ่งอยู่กับการหาเงิน
อีกคนก็คือหลินอวี่เซียง เธอสวมชุดสีขาวล้วนและนั่งอยู่ที่แผนกต้อนรับนักศึกษาใหม่ เธอยิ้มแล้วยื่นเอกสารให้นักศึกษาหนุ่มด้วยแก้มเป็นสีแดง
ในฐานะรองประธานสภานักศึกษา เธอกำลังทำงานกับสมาคมนักศึกษาและกลุ่มคณะกรรมการเยาวชน พวกเขาทำงานที่ไม่มีใครอยากทำ เธอค่อนข้างใจสู้เลยทีเดียว
ลู่โจววิเคราะห์คร่าวๆในใจ
เขาไม่คุ้นเคยกับการดำเนินงานของสภานักศึกษา เขารู้เรื่องนี้ก็เฉพาะตอนที่หัวหน้าคลาสโม้เรื่องนี้ให้เขาฟัง
หลิวอวี่เซียงสังเกตเห็นลู่โจว เธอยิ้มบางๆให้เขาแล้วโบกมือทักทาย
ลู่โจวพยักหน้าทักทายกลับ เขาไม่ได้อยู่นานนักก่อนจะกลับหอพัก
เมื่อเขามาถึงหอพัก สือช่างก็เป็นกังวล
“ลู่โจว เมื่อคืนนายไม่ได้กลับมาที่หอ? นายไปไหนมา? นายไม่รับสายฉัน”
ลู่โจววางกระเป๋าไว้บนโต๊ะแล้วตอบแบบส่งๆ “ฉันอ่านหนังสือทั้งคืน”
หลิวรุ่ยกำลังอ่านหนังสือฟิสิกส์ เขาบ่น “…นายเก่งเกินไป”
หวงกวงหมิงกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เขาถอนหายใจแล้วกล่าว “เขาไม่ได้เป็นอัจฉริยะ เขาเป็นเทพ…โจว เมื่อคืนนายถึงสวรรค์ไหม?”
“ใช่เกือบแล้ว พอมหาลัยเปิด ฉันคงไม่อยู่จนดึกแบบนี้” ลู่โจวพูดไปหาวไป เขานั่งบนเก้าอี้แล้วเปิดโน๊ตบุ๊คก่อนจะเข้าเว็บJDเพื่อหาโน๊ตบุ๊คที่เหมาะสม
หลังจากจ่ายค่าเรียน เขาก็ยังเหลือเงินอีก 40,000 หยวน มันไม่ใช่ปัญหาถ้าจะซื้อโน๊ตบุ๊คที่ราคาต่ำกว่า 20,000 หยวน USBปัญญาประดิษฐ์ยังคงแน่นิ่งอยู่ในมิติของระบบ เขาวางแผนจะซื้อโน๊ตบุ๊คแล้วรีบติดตั้งUSB
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดเลยว่าคำพูดของเขาจะทำให้รูมเมทอีกสองคนประหลาดใจ
สือช่างช็อค “บัดซบ นายหมายความว่าไงหลังมหาลัยเปิดนายจะไม่อยู่ดึกแบบนี้? นี่หมายความว่าตลอดช่วงซัมเมอร์…”
หวงกวงหมิงกลืนน้ำลาย เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เขาก็หยุดเล่นโทรศัพท์
หลิวรุ่ยหัวเราะอย่างน่าสังเวช “นายพึ่งรู้? ฉันไม่เข้าใจหนังสือที่เขาอ่านด้วยซ้ำ”
สีหน้าเขาสื่อประมาณว่า ‘ตอนนี้นายรู้แล้วใช่ไหมว่าช่วงซัมเมอร์ฉันกดดันมากแค่ไหน?’
หวงกวงหมิง “…”
สือช่าง “…”
ทั้งสองไม่ได้พูดอะไร แต่พวกเขาแสดงสีหน้าเห็นใจต่อหลิวรุ่ย
ลู่โจวกำลังท่องเว็บ เขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของรูมเมท ในที่สุดเขาก็เลือก HP Zbook15 ที่ถูกเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
พูดตรงๆ มันไม่ใช่’อัลตร้าบุ๊ค’ แต่มันเป็น’โมบายเวิร์คสเตชั่น’มากกว่า ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพของมันสูงกว่าโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์อย่าง’โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง’หรือ’ซูเปอร์โน๊ตบุ๊ค’เสียอีก มันมีความสามารถในการประมวลผลภาพกราฟิกที่สูงมาก
แน่นอนประสิทธิภาพสูงก็หมายถึงราคาที่สูง เขาเลือกรุ่นท็อปสุดซึ่งทำให้เขาเสียเงิน 25,000 หยวนและมันก็ไม่ได้ใช้เล่นเกมด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามเมื่อลู่โจวนึกถึงUSBปัญญาประดิษฐ์ในมิติของระบบ เขาก็กดปุ่มซื้ออย่างไม่เต็มใจ
“บัดซบ ระบบไฮเทคนี่เรื่องมากจริง…”
เขาไม่มีทางเลือกอื่นเพราะเขาต้องมอบรากฐานที่ดีให้แก่’ลูก’ปัญญาประดิษฐ์ของเขา
ถ้าเขาเลือกโน๊ตบุ๊คห่วยๆ เขาอาจเปลี่ยนจากปัญญาประดิษฐ์เป็นปัญญาอ่อน
เงินในบัญชีเขาเหลือ 10,000 หยวนทันที มันกลับมาสู่สภาพเดิมตอนแรก
ส่วนเงิน 500,000 หยวนในบัญชีบริษัท ลู่โจวได้แต่มองดู มันไม่ใช่เพราะเขาใช้ไม่ได้ แต่เขาเป็นคนซื่อสัตย์ เขาไม่มีทางทำให้ประวัติด่างพร้อย
บางทีมหาลัยอาจไม่รู้ก็ได้?
ฮ่าๆ ใครจะหลอกตัวเองแบบนั้นกัน สำหรับบริษัทขนาดเล็กประเภทนี้ บัญชีจะถูกจัดการจากอาจารย์วิชาสถิติ เมื่อเขาลงทะเบียนบริษัท มันจะช่วยให้เขาประหยัดเงินเล็กน้อย เพราะเขาไม่ต้องจ้างนักบัญชีมืออาชีพ
ถ้าการใช้จ่ายครั้งใหญ่ครั้งแรกของเขาเป็นการซื้อคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์ เขาจะทำให้คณบดีหลู่ผิดหวังในตัวเขาแน่นอน
“ฉันหวังว่าเด็กน้อยคนนี้จะมีความสุขกับบ้านคอมพิวเตอร์หลังนี้ เพราะฉันไม่มีปัญญาซื้อของที่แพงกว่านี้แล้ว” ลู่โจวถอนหายใจแล้วปิดโน๊ตบุ๊ค
ตอนที่ 57 ปัญญาประดิษฐ์อาย(eye)
ไม่กี่วันต่อมา ลู่โจวเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์อย่างกังวลใจ เขากระทั่งหยุดงานสอนพิเศษชั่วคราว
แม้ว่ามันจะน่าเสียดาย แต่คุณหยางก็แสดงความเข้าใจทางโทรศัพท์ เธอตกลงให้เขามาสอนพิเศษต่อหลังวันที่ 12 ส่วนหานเมิ่งฉี สาวน้อยคนนี้ค่อนข้างเศร้า แต่เธอก็ยังบอกลู่โจวให้ทำให้ดีที่สุดในการแข่งขัน
ด้วยเหตุนี้ลู่โจวจึงลบสิ่งลบกวนทั้งหมดแล้วอุทิศตัวเองอย่างเต็มที่กับการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์
การฝึกฝนแบบออนไลน์ตอนนี้กลายเป็นการฝึกแบบออฟไลน์แล้ว ศาสตราจารย์หลิวค่อนข้างรับผิดชอบ เขาไม่เพียงแต่จะหยุดโปรเจ็คของตนเองและหาห้องเรียนให้พวกเขาเท่านั้น เขายังให้คำแนะนำวิธีทำโจทย์แก่พวกเขาด้วย
รอบการฝึกที่เคยเป็นสัปดาห์ละครั้งก็เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ละสามวัน ฝึกแบบกลุ่มสองวันและฝึกด้วยตัวเองอีกหนึ่งวัน พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องทำโจทย์ด้วยกรอบเวลาการแข่งขันเท่านั้น แต่ความยากของโจทย์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกันจนมันมีระดับความยากเดียวกับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ แม้ว่าลู่โจวไม่ได้วางแผนจะอยู่ดึกเกินไป แต่เขาก็ไม่อาจทำแบบนั้นได้
โชคดีที่สัปดาห์แรกของมหาลัยไม่มีเรียน ดังนั้นเขาจึงมีเวลาว่างมาก
สามวันหลังสั่งซื้อทางโลกออนไลน์ พัสดุก็ถูกส่งมาที่หอพัก
ลู่โจวไปห้องสมุดทุกวันเพื่อเรียนแบบจำลอง เมื่อเขากลับมาที่หอพัก เขาก็เซ็นรับของแล้วนำพัสดุขึ้นไปบนหอ
เมื่อเขากลับมาถึงห้อง เขาก็เห็นรูมเมททั้งสามกำลังเล่นLOLกันอยู่ สมาชิกสภานักศึกษา หลี่เทา ที่อยู่ห้องข้างๆก็ยืนอยู่ด้านหลังหวงกวงหมิง
เจ้าหนูนี่ตัวเล็กสวมแว่นตาและชอบเล่นวีดีโอเกม นอกจากLOLแล้ว เขายังเล่นเกมระดับ AAA ของต่างประเทศอีกมากมาย เขากระทั่งมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอยู่ในหอ เขาเล่นเกมอย่าง Battlefield , Call of Duty , Dead Island ฯลฯ อย่างไรก็ตามเกมเหล่านี้ล้วนเป็นนักฆ่าการ์ดจอ ไม่มีทางที่โน๊ตบุ๊คจะเล่นเกมพวกนี้ได้
เมื่อเขาเห็นพัสดุของลู่โจว ดวงตาเขาก็เปล่งประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาเดินเข้ามาหา
“โอ้ ลู่โจว นายซื้อโน๊ตบุ๊ค? มันเป็นการ์ดจออะไร?”
ลู่โจวกำลังแกะกล่อง เขาพูด “N card”
หลี่เทายืนอยู่หลังลู่โจว เขามองดูลู่โจวแกะกล่องแล้วกล่าว “N card? นี่คือโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง? GTX 970 กำลังจะเปิดตัว ทำไมนายไม่รออีกไม่กี่วันล่ะ?”
ขณะที่ลู่โจวกำลังติดตั้งUSB เขาจึงยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ได้ ข้อมูลการสร้างแบบจำลองจะมาในไม่กี่วัน ฉันรอจนการ์ดจอตัวใหม่เปิดตัวไม่ไหว เพราะฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะขายที่ไหน”
“นั่นคือ GTX 960 รึเปล่า?”
ลู่โจวคิดแล้วกล่าว “K2100M”
เมื่อหลี่เทาได้ยินแบบนั้น เขาก็ช็อค
มันคืออะไร?
ไม่ใช่ว่าการ์ดจอ Nvidia มีแค่สองประเภทเหรอ? การ์ดจอระดับล่างคือ GT ส่วนการ์ดจอระดับสูงคือ GTX ทุกคนกำลังพูดถึงสองรุ่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินการ์ดจอที่ชื่อรุ่นขึ้นต้นด้วยตัว K
หลี่เทาพลันรู้สึกถึงความไม่ปกติ เขาพูดไม่ออก ขณะที่เขายืนอยู่หลังลู่โจว เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเริ่มค้นหาการ์ดจอ
การ์ดจอ ส่วนใหญ่ถูกใช้กับโมบายเวิร์กสเตชั่น…
หลี่เทาข้ามคำอธิบายเหล่านี้ไป เพราะเขาไม่สามารถทำความเข้าใจกับมันได้ ขณะที่เขามองดูราคา เขาก็ช็อค
เชี่ย! แพงกว่า GTX 970 เป็นพันหยวน!
โคตรรวย!
หลี่เทามองลู่โจวและเหมือนได้รับแรงบันดาลใจ
ไม่แปลกใจเลยว่าเขาเป็นอัจฉริยะ เขาถึงกับอยากเล่นLOLด้วยการ์ดจอระดับสูงแบบนี้
ลู่โจวไม่ได้สนใจสิ่งที่เจ้าหนูนี่คิด เขาติดตั้งระบบปฏิบัติการ ทดสอบฮาร์ดแวร์แล้วถือโน๊ตบุ๊คใหม่ขึ้นเตียง
ลู่โจวแอบดูรูมเมท เมื่อเขาเห็นว่าหลี่เทากลับไปสนใจหวงกวงหมิงแล้ว ลู่โจวจึงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วแอบกระซิบ “USB USB” และจินตนาการถึงไอคอน USB ที่อยู่เหนือหน้าจอขึ้นมูลกึ่งโปร่งใส
โดยปราศจากคำเตือน มือขวาของเขาจู่ๆก็มีวัตถุที่เย็นๆแข็งๆ
เช่นเดียวกับสองสามครั้งก่อน USB ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่ามาอยู่ในมือของเขา
“…”
ลู่โจวไม่เสียเวลาเปล่า เขาเสียบ USB ลงไป
พริบตาต่อมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาช็อค
วินาทีที่เขาเสียบ USB หน้าจอโน๊ตบุ๊คก็กลายเป็นสีดำหยั่งกับติดไวรัส หลังจากนั้นพัดลมก็เริ่มหมุนอย่างรวดเร็วราวกับว่าฮาร์ดแวร์ถูกผลักดันไปจนถึงขีดสุด
“มันไม่พังใช่ไหม?”
ลู่โจวรีบหยิบคู่มือขึ้นมา เขาอ่านแล้วเห็นว่าโน๊ตบุ๊คมีพื้นที่ 2TB แรม 16GB และCPUระดับแนวหน้า
โน๊ตบุ๊คเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของลู่โจวรู้สึกกังวลและขอบคุณปนๆกัน
เขาขอบคุณที่เขาไม่ได้ใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าติดตั้งสิ่งนี้ ไม่งั้นโน๊ตบุ๊คเก่าเขาคงระเบิดเป็นชิ้นๆ!
ในที่สุดหน้าจอโน๊ตบุ๊คก็กระพริบวาบ แสงสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นและพัดลมที่หมุนอย่างหนักก็หยุดลง
ทันใดนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้ลูกตาของลู่โจวแทบถลนออกมา
USB ในโน๊ตบุ๊คหายไป
ถูกต้อง! เขาเห็นกับตาว่ามันหายไป!
มันกลายเป็นเถ้าถ่ายแล้วลอยหายไป
“เชี่ย…อะไรเนี่ย? มันเป็นของที่ย่อยสลายโดยอัตโนมัติอะไรแบบนั้นเหรอ? หลังจากดาวน์โหลดเสร็จ มันก็สลายตัวกลายเป็นโมเลกุลแก๊ส?”
ลู่โจวพยายามวิเคราะห์ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน เขาก็ไม่เข้าใจ
เมื่อข้อมูลถูกโอนย้ายเสร็จ ฮาร์ดแวร์ USB ก็ย่อยสลายโดยอัตโนมัติ นี่เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือระดับความรู้ของเขา
จากนั้นโน๊ตบุ๊คก็ถูกรีสตาร์ท ระบบปฏิบัติการวินโดว์ 7 อันเดิมถูกเปลี่ยนไป มันกลายเป็นระบบปฏิบัติการกึ่งกราฟิกกึ่งบรรทัดคำสั่งที่คล้ายกับลีนุกซ์
ลู่โจวมองหน้าจอ เขาคิด ‘ทำไมระบบไม่บอกฉันว่าจะลบระบบปฏิบัติการของโน๊ตบุ๊ค ฉันจะได้ไม่ต้องไม่ต้องพยายามเปล่า…’
เขาวางมือบนคีย์บอร์ดและกำลังจะเล่นกับปัญญาประดิษฐ์อันนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
มีข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
[ยินดีต้อนรับสู่ปัญญาประดิษฐ์’ไร้ชื่อ’ ท่านต้องการกำหนดชื่อเองหรือไม่? Y/N]
ลู่โจวลังเลก่อนจะกด Y แล้วกดเอนเทอร์
[โปรดป้อนชื่อใหม่ของท่าน]
ฉันควรตั้งชื่อยังไงดี?
นิ้วของลู่โจวลูบกับคีย์บอร์ด เขาขมวดคิ้วคิด
เขาลังเลมาก เมื่อไหร่ที่เขาต้องตั้งชื่อไอดีเกม เขาก็ต้องมาคิดเป็นเวลานาน
อืม…
อืม…
สมองของลู่โจวกระพริบวาบ นิ้วเขาเริ่มขยับ เขาพิมพ์ตัวอักษรสามตัวบนคีย์บอร์ด
อาย(eye)!
ชื่อภาษาจีนคือเหยียน(眼) อ่านออกเสียงว่าไอ(ai)!
มันหมายความว่าโลกดิจิทัลไม่สามารถมองเห็นด้วยดวงตา!
ความรักและความสงบสุขของมนุษยชาติขึ้นอยู่กับแกแล้ว!
แม้ว่าชื่อจะค่อนข้างสั้น แต่ลู่โจวก็อดชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ของตนเองไม่ได้
ส่วนชื่อเล่นของแก ฉันจะเรียกแกว่าเสี่ยวไอ!
หน้าจอสีฟ้าอ่อนกระพริบวาบ กล่องข้อความโต้ตอบเด้งขึ้นมากลางจอ
[กำหนดชื่อสมบูรณ์ ปัญหาประดิษฐ์เสี่ยวไอยินดีรับใช้]
ตอนที่ 58 กัปตันแบบจำลอง
ลู่โจวดูระบบปฏิบัติการที่ปัญญาประดิษฐ์มอบให้เขาโดยสังเขป
พูดตามตรง เขาผิดหวังเล็กน้อย
วิธีการใช้คล้ายกับลีนุกซ์ ข้อดีอย่างเดียวของมันคือมันเข้ากันได้กับทั้งซอร์ฟแวร์ของวินโดว์และลีนุกซ์ มันสามารถใช้ได้ทั้งเมาส์และป้อนคำสั่งลงในไดอาล็อกบอกซ์ที่อยู่กลางหน้าจอ
ในแง่ของการเข้าอินเตอร์เน็ต มันมีเบราเซอร์ที่ไม่รู้จักอยู่ในตัว มันสามารถเรียกดูเว็บและดาวน์โหลดซอร์ฟแวร์ มันไม่ต่างอะไรกับระบบปฏิบัติการวินโดว์เลย
ข้อเสียงของระบบปฏิบัติการนี้คือมันใหญ่เกินไป มันกินเนื้อที่ไป 1TB มันเกือบกินเนื้อที่ทั้งหมดของโน๊ตบุ๊คเขา!
ท้ายที่สุดแล้วลู่โจวก็ยังไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้ใช้ทำอะไรได้
มันดูเหมือนมีไดอาล็อกบอกซ์อีกอันอยู่ที่มุมขวาล่าง มันเหมือนจะเป็นกล่องแชทของ’เสี่ยวไอ’
มันเหมือนเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่เราไว้คุยบน QQ
อย่างไรก็ตามความฉลาดของเสี่ยวไอทำให้ลู่โจวเป็นกังวล เขาลองทดสอบและออกคำสั่งง่ายๆ เขาบอกให้เธอเปิดโฟลเดอร์และรันโปรแกรม มันสามารถรันโปรแกรมที่เขาพิมพ์บอกได้สำเร็จโดยอัตโนมัติโดยไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตามการใช้งานแบบนี้เขาสามารถทำได้โดยการป้อนคำสั่งลงไป ดังนั้นมันจึงเหมือนไร้ประโยชน์
ส่วนการสนทนาแบบปกติ เสี่ยวไอพูดได้แต่คำทักทาย เมื่อมันเป็นประโยคยากๆ เธอก็มักจะถามว่า ‘…คืออะไร’
มันเหมือนกับเป็นทารกน้อยที่เรียนรู้วิธีพูด
อย่างไรก็ตามมันดีกว่าทารก เขาแค่อธิบายเพียงครั้งเดียว เธอก็เข้าใจและจะไม่มีวันลืม
ลู่โจวยังไม่ค้นพบการใช้งานแบบอื่น อย่างน้อยก็ตอนนี้
ขณะที่เขาเอนตัวพิงกำแพงที่อยู่ด้านหลัง เขาก็ถอนหายใจแล้วคิด ‘ไอสิ่งที่เรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ระดับหนึ่งคือแค่นี้? ฉันว่าฉันต้องรอจนกว่ามันจะเป็นระดับสอง’
มันแย่กว่า DisBelief ของ google เสียอีก มันกระทั่งแย่กว่าโปรแกรม Deep Blue เมื่อสิบปีก่อนด้วยซ้ำ
แน่นอนลู่โจวรู้ว่าเปรียบเทียบแบบนี้มันไม่ยุติธรรม อดีตมีเครื่องเซิฟเวอร์นับพันให้การสนับสนุนและทำงานด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คของเขาย่อมไม่อาจเอาไปเทียบกับพลังประมวลผลแบบนั้นได้
มันก็เหมือนกับคน ไม่ว่าเราจะมีกระบวนการคิดที่ม่ประสิทธิภาพแค่ไหน ถ้าเรามีเซลล์สมองไม่พอ เราก็ยังปัญญาอ่อน
เอิ่ม…
ตอนนี้เสี่ยวไอไม่ต่างจากคนปัญญาอ่อนเลย
เขาทำได้แต่รอเปลี่ยน’สมอง’ที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเครื่องเซิฟเวอร์อะไรแบบนั้น
อย่างไรก็ตามเรื่องนั้นมันยังห่างไกล โน๊ตบุ๊คสามารถรองรับกับเสี่ยวไอระดับหนึ่ง เขาสามารถรอจนกว่าเสี่ยวไอจะระดับสอง เขาค่อยอัพเกรดฮาร์ดแวร์
ลู่โจวนั่งไขว่ห้างบนเตียงแล้วเริ่มศึกษาวิธีอัพเกรดปัญญาประดิษฐ์
พูดง่ายๆ เขามีสองทาง
ทางที่หนึ่งคือใช้แต้มทั่วไป อัตราการแลกเปลี่ยนระหว่างแต้มทั่วไปกับแต้มประสบการณ์ของสาขาเทคโนโลยีคือ 1:1
ส่วนอีกวิธีคือการพึ่งพาการเรียนรู้ของเสี่ยวไอขณะที่เขาค่อยๆสะสมแต้มประสบการณ์ที่จำเป็นอย่างช้าๆให้เสี่ยวไออัพเกรด
เสี่ยวไอเหมือนจะมีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองระดับหนึ่ง ลู่โจวแค่ต้องแบ่งพลังการประมวลผลส่วนนึงเพื่อให้เธอเรียนรู้ตัวตนเองและโปรแกรมจะเพิ่ม’แถบความก้าวหน้าทางปัญญา’โดยอัตโนมัติ
ตามคำแนะนำของเสี่ยวไอ เมื่อแถบความคืบหน้าเต็มแถบนึง ค่าประสบการณ์สาขาเทคโนโลยีของปัญญาประดิษฐ์จะเพิ่มขึ้น 100
พูออีกอย่างก็คือ ถ้าเขาจัดสรรพลังการประมวลผลทั้งหมดเพื่อเรียนรู้ด้วยตนเองแล้วรอให้แถบประมวลผลเต็มสิบแถบ สาขาเทคโนโลยีของเขาก็จะอัพเกรด
ช่างเป็นวิธีการอัพเกรดที่ช้าเหลือเกิน…
ลู่โจวจ้องมองหน้าจอครู่นึง เขาไม่เห็นแถบความคืบหน้าขยับเลยด้วยซ้ำ
“คอมพิวเตอร์ราคาสองหมื่นหยวนไม่เพียงพอสำหรับเรื่องนี้? เสี่ยวไอจำเป็นต้องใช้พลังในการประมวลผลหนักมาก…” ลู่โจวอดบ่นเกี่ยวกับสถานการณ์ไม่ได้
ถ้าเขาปล่อยมันทิ้งไว้ลำพัง มันอาจต้องใช้เวลาเป็นชาติกว่าจะคืบหน้า
ถ้าลู่โจวไม่กังวลเรื่องโปรแกรมนี้หลุดไปหรือมันเกิดผลที่ตามมาที่คาดการณ์ไม่ได้ เขาคงอัพโหลดลงคลาวด์เซิฟเวอร์ของอาลีบาบาไปแล้ว
ส่วนตอนนี้ เขาก็ได้แต่พึ่งพาวิธี AFK
ฉันควรอ่านหนังสือสักสองเล่มเกี่ยวกับการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อดูว่ามันมีทางลัดไหม ด้วยวิธีนี้บางทีฉันอาจเพิ่มความเร็วของเสี่ยวไอได้
เผื่อในกรณีที่มีคนพยายามเปิดคอมพิวเตอร์ของเขา เขาจึงตั้งพาสเวิร์ดของปัญญาประดิษฐ์เสี่ยวไอ
หลังทำเสร็จ เขาก็ทิ้งโน๊ตบุ๊คไว้บนเตียง เมื่อเขาเก็บข้าวของเรียบร้อย เขาก็สะพายกระเป๋าแล้วออกห้องไป
มันเป็นการฝึกครั้งสุดท้ายสำหรับการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ แถมศาสตราจารย์หลิวยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องพูด ส่วนใหญ่มันเกี่ยวกับข้อบังคับของการแข่งขัน กฏ และเรื่องอื่นๆที่จำเป็นต้องให้ความสนใจ
มันเป็นการฝึกครั้งสุดท้าย หลินอวี่เซียงมาค่อนข้างเร็ว ไม่เพียงแต่เธอจะไม่มาสายเท่านั้น แต่เธอยังเป็นคนแรกที่มาด้วยเช่นกัน หวังเสี่ยวตงคิดตารางงานอยู่ที่ห้องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเขาจึงมาสายเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าอัจฉริยะจบหลักสูตรส่วนใหญ่ของปีสามไปแล้วตั้งแต่ปีสอง คนอื่นยังเลือกวิชาเอกอยู่เลย ส่วนเขาเตรียมพร้อมสำเร็จการศึกษาแล้ว
หลังจากทุกคนมาถึง ศาสตราจารย์หลิวยิ้มแล้วเดินไปบนโพเดียม
“พวกเธอไม่ใช่เด็กแล้ว ดังนั้นอาจารย์จะไม่เน้นเรื่องความปลอดภัย อาจารย์จะพูดเรื่องกฏการแข่งขันแบบย่อๆและเรื่องที่ต้องระวัง”
“ระยะเวลาการแข่งขันคือ 72 ชั่วโมง จำเป็นต้องส่งวิทยานิพนธ์ที่สมบูรณ์ในเวลานั้น พวกเธอต้องอยู่จนดึก ดังนั้นอาจารย์แนะนำให้พวกเธอนอนหลับพักผ่อนให้ดีก่อน จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผู้รับผิดชอบในการเขียนแบบจำลองและวิทยานิพนธ์หลับได้แค่วันที่สองเท่านั้น คนเขียนโปรแกรมจะไม่ได้นอนในคืนที่สองและได้นอนคืนที่สามไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น พวกเธอต้องร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีมและทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จ”
“การสร้างแบบจำลอง การเขียนโปรแกรม การเขียนวิทยานิพนธ์ ทุกขั้นตอนล้วนสำคัญ อาจารย์ก็พูดมามากแล้ว อาจารย์ขอไม่พูดซ้ำ”
“อีกปัญหาคือวินัย ในกรอบเวลาของการแข่งขัน แต่ละทีมจะห้ามไม่ให้สื่อสารกับทีมอื่น และห้ามไม่ให้สื่อสารกับอาจารย์เช่นกัน เธอสามารถใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดหรือหาดูข้อมูล แต่เธอไม่สามารถส่งข้อความหาคนอื่น”
อันที่จริงกฏนี้ไม่ได้ถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ทีมที่อ่อนแอบางทีมก็จะให้อาจารย์มาดูเนื้อหา แต่ไม่มีทีมไหนเลยที่จะให้อาจารย์มาทำโจทย์ให้ตรงๆ มหาลัยดีมีอาจารย์ที่ซื่อสัตย์ แต่มหาลัยห่วยๆบางที่นั้น…
อาจารย์อาจย่ำแย่กว่านักศึกษาซะอีก
ประโยคนั้นไม่ได้พูดเกินกว่าความเป็นจริงเลย การสอนและการทำด้วยตัวเองนั้นเป็นสองเรื่องที่ต่างกัน ท้ายที่สุดแล้วเนื้อหาของการสร้างแบบจำลองนั้นก็กว้างเกินไป แม้แต่ศาสตราจารย์ก็ไม่สามารถทำได้ทุกข้อ
“อาจารย์ แล้วถ้าหนูค้นหาคำตอบบนไป่ตู้ล่ะ?” หลินอวี่เซียงยกมือถาม
ศาสตราจารย์หลิวหัวเราะ “เธอก็ลองดูว่าเจอไหม”
เมื่อลู่โจวได้ยินคำพูดของนาง เขาก็หัวเราะในใจ
คนที่ถามคำถามอะไรแบบนี้เป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการสร้างแบบจำลอง ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกของการถูกครอบงำด้วยคำถามที่โคตรยาก พวกเขายังคิดว่านี่มันคล้ายกับคณิตศาสตร์โอลิมปิกอีก
ถ้าเราได้รับข้อมูลลูกค้าของบริษัทโทรคมนาคมและขอให้ออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าตามข้อกำหนด เราจะไปค้นหาคำตอบได้ที่ไหน? คำถามบางอย่างเกี่ยวข้องกับสปอนเซอร์ของการแข่งขัน ถ้าแบบจำลองที่ถูกออกแบบมาดีพอ สปอนเซอร์ก็อาจนำมันไปใช้ ไม่มีคำตอบไหนที่เราจะค้นหาได้
หลินอวี่เซียงลดแขนลงมาพร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อยด้วยความอับอาย
ศาสตราจารย์หลิวหยุดชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “ปัญหาอีกอย่างคือผู้นำทีม มันไม่มีข้อกำหนด มหาลัยของเราได้รับการยอมรับแบบลับๆให้เป็นอันดับแรกๆของรายชื่อผู้ชนะในฐานะกัปตัน แต่นี่เป็นแค่ชื่อเรียกปลอมๆ มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย จากการแข่งขันครั้งก่อนๆ กัปตันส่วนใหญ่จะเป็นคนเขียนวิทยานิพนธ์และรับผิดชอบในการประสานงานเพื่อนร่วมทีมเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตามเธอสามารถแต่งตั้งกัปตันได้ตามปี พวกเธอคิดว่าไง?”
หวังเสี่ยวตงดันกรอบแว่น “ให้ลู่โจวเถอะ ผมไม่สนใจ”
หลินอวี่เซียงพยักหน้า เธอย่อมไม่มีความเห็น
“เธอคิดว่าไง?” ศาสตราจารย์หลิวถามและมองดูลู่โจวด้วยรอยยิ้ม
“ผม…ไม่มีความเห็น”
เพื่อนร่วมทีมอีกสองคนไว้ใจลู่โจวมาก ถ้าเขาปฏิเสธมันคงไม่จริงใจไปหน่อย ดังนั้นเขาจึงตกลง
ศาสตราจารย์หลิวยิ้มแล้วพยักหน้าก่อนจะกล่าวต่อ
“เมื่อถึงเวลา มหาลัยจะจัดรถบัสโรงเรียนไปส่งพวกเธอที่วิทยาเขตเก่าเพื่อแข่งขันและจัดเตรียมที่พักชั่วคราวให้เธอ”
“สุดท้ายอย่าลืมขอใบอนุญาตจากอาจารย์ของเธอแล้วเขียนเหตุผลการลาไว้ให้ชัดเจน ส่วนการเรียนที่พลาดไปในช่วงการแข่งขัน พวกเธอต้องหาทางชดเชยเอง”
“มีสงสัยตรงไหนอีกไหม? ถ้าไม่มีพวกเธอก็แยกย้ายกันได้”
ตอนที่ 59 เธออยากได้ใบลา? ให้ฉันทดสอบก่อน
ในช่วงการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มีคาบฟิสิกส์อยู่สองคาบ
ลู่โจวรู้สึกว่ามันคงเป็นความประทับใจที่ไม่ดีที่จะไม่เข้าเรียนตั้งแต่คาบแรก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปส่งใบลาด้วยตนเองเพราะเขาไม่อยากรบกวนหัวหน้าห้อง
จากข้อมูลเรียนที่ได้รับจากฝ่ายวิชาการ อาจารย์ฟิสิกส์ชื่อหลี่หรงเอิน เขาเป็นศาตราจารย์เฒ่าที่มีคุณสมบัติสูง เมื่อลู่โจวพบเบอร์ของอาจารย์ เขาก็โทรหาเพื่อยืนยันว่าอาจารย์อยู่ในออฟฟิศก่อนจะมุ่งหน้าไปหา
ลู่โจวเคาะประตูห้องก่อนจะเดินเข้าไป เขายื่นใบลาบนโต๊ะแล้วอธิบายเหตุผล
“ขอลางั้นเหรอ?” ศาสตราจารย์หลี่กล่าว เขาถอดแว่นแล้วอ่านใบลา “เธอชื่อลู่โจวใช่ไหม?”
“ครับ” ลู่โจวกล่าวและพยักหน้า
ศาสตราจารย์หลี่ยิ้มแล้วกล่าว “โอเค งั้นฉันจะทดสอบเธอสักสองข้อ ถ้าเธอตอบได้สักข้อ ฉันจะอนุมัติใบลาของเธอ”
นี่คือ?
ลู่โจวอึ้ง
“อะไร? กลัว?” หลี่หรงเอินถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ครับ” ลู่โจวกล่าว เขาสงบใจตัวเองแล้วส่ายหน้า “ศาสตราจารย์ เชิญถามมาได้เลยครับ”
“คำถามแรก เอานี่ไป” หลี่หรงเอินกล่าวแล้วส่งกระดาษ A4 ให้ลู่โจว เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เขียนเท่าที่ต้องการ ฉันอยากเห็นขั้นตอน”
อาจารย์กระทั่งเตรียมโจทย์มาพร้อมเลยเหรอ?
ลู่โจวรู้สึกว่าชายคนนี้คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่งั้นทำไมโจทย์ถึงถูกปริ้นส์ลงบนกระดาษ A4 ล่ะ?
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไรอีก เขารับกระดาษ A4 แล้วเริ่มอ่านโจทย์
[ครึ่งชีวิตของยูเรเนียม 238 ในเรือดำน้ำนิวเคลียร์คือ 4.5×10^9 ปี มีความน่าจะเป็น 0.7% ที่ยูเรเนียม 234 จะเสื่อมสลาย ซึ่งจะปลดปล่อยโฟตอนพลังงานสูง มีโอกาส 93% ซึ่งจะถูกดูดซับโดยแผ่นเหล็กของเรือดำน้ำ ในปี 1981 เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียตได้ตรวจจับพลังงานแรงสูงที่อยู่ห่างจากแหล่งพลังงานนิวเคลียร์ 1.5 เมตร (ถือว่าแหล่งพลังงานเป็นจุด) พื้นที่เกิดเหตุเชิงบวกของอุปกรณ์คือ 22 ซม.^2 ประสิทธิภาพคือ 0.25% (กราฟสัญญาณสี่ร้อยครั้งต่อรูป) 125 สัญญาณต่อชั่วโมง
1 จงหาอายุเฉลี่ยของแกนยูเรเนียม 238 (ln2 = 0.693)
2 จงหามวลของยูเรเนียม 238 ในเรือดำน้ำ (หน่วยกิโลกรรม เลขนัยสำคัญ 2)
]
ลู่โจวอ่านโจทย์เสร็จแล้วถอนหายใจอยู่ในใจ
ไม่แปลกใจเลยว่าเขาถึงได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน’สี่ศาสตราจารย์สิสิกส์ปีศาจ’ โจทย์อะไรเนี่ย!
พูดตามตรง คาบฟิสิกส์แรกคือจันทร์หน้า ทำไมเธอถึงถามโจทย์ฟิสิกส์นิวเคลียร์แบบนี้?
“เธออยากนั่งไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะยืน”
ลู่โจวหยิบปากกาและกระดาษจากศาสตราจารย์หลี่ เขายืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานและขมวดคิ้วคิดหนัก
ฟิสิกส์ไม่ใช่จุดแข็งฉัน
อย่างไรก็ตามหลังจากโต้รุ่งช่วงซัมเมอร์ เขาก็ไร้เทียมทาน!
ห้านาทีผ่านไป ลู่โจวก็ผ่อนคลายก่อนจะเริ่มลงมือเขียน
[กฏการสลายตัว : N=N0e^(-λt)
ความสัมพันธ์ระหว่างค่าคงที่การสลายและครึ่งชีวิตคงที่คือ N0/2=N0e^(-λT1/2) ซึ่ง T1/2=ln2/λ
]
ลู่โจวเขียนสมการทั้งสองแล้วดวงตาเปล่งประกาย
เขาเปลี่ยนโจทย์ฟิสิกส์ให้กลายเป็นโจทย์พีชคณิตขั้นสูงได้สำเร็จ
ขั้นต่อไป เขาก็แค่ต้องแก้โจทย์
ส่วนแรก!
ปากกาขยับอยู่บนกระดาษ A4 อย่างรวดเร็ว
[(1) อายุเฉลี่ยของนิวไคลด์กัมมันตรังสีคือ t=∫λNtdt/N0=…=1.1443T1/2
แทนข้อมูลเป็น T=6.49*10^9 ปี
]
ศาสตราจารย์หลี่มองดูกระดาษ A4 ด้วยคิ้วที่เลิกขึ้นแล้วเหมือนมีอะไรแอบแฝงในแววตา
ลู่โจวไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของศาสตราจารย์หลี่ เขาจดจ่อกับโจทย์เกินไปเมื่อเริ่มตอบขั้นตอนต่อไป
[จากข้อมูลที่ให้ไว้ จำนวนโฟตอนพลังงานสูงที่เกิดขึ้นจากการสลายตัวของ U234 ตอนเวลา dN·n0=n0λNdt]
ให้ประสิทธิภาพของโฟตอนผ่านแผ่นเหล็กเป็น n1 และจำนวนโฟตอนผ่านแผ่นเหล็กในเวลา dt เป็น dN1=n0λNdt·n1
จำนวนโฟตอนที่เข้าสู่เครื่องตรวจจับ…
จำนวนสัญญาณที่ถูกสร้าง…
คำนวณจำนวนยูเรเนียม 238 ในเรือดำน้ำ…
]
ลู่โจวแทนข้อมูลทั้งหมดแล้วคำนวณจำนวนยูเรเนียม 238 เป็น N = 7.456×10^25
อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังเตรียมแทนค่า N เพื่อคำนวณมวลและระเบิดศัตรูครั้งสุดท้าย จู่ๆศาสตราจารย์หลี่ก็พูด
“โอเค ฉันจะนับว่าเธอผ่าน”
ลู่โจว “???”
เขาไม่มีความสุขเลย
คุณหมายความว่ายังไงที่คุณจะนับว่าฉันผ่าน?
ฉันทำมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว คุณรอให้ฉันแก้โจทย์เสร็จก่อนค่อยพูดไม่ได้เหรอ?
“ศาสตราจารย์ ผมยังไม่เสร็จ…”
“นักเรียนมอต้นก็ทำขั้นตอนนี้ให้เสร็จได้” หลี่หรงเอินกล่าว เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “แต่ถ้าเธอต้องการ เธอก็ทำให้เสร็จได้”
อารมณ์แก้โจทย์ถูกทำลาย ลู่โจวพูดไม่ออก
แต่โรคย้ำคิดย้ำทำของเขาก็ทำให้เขาทำโจทย์จนเสร็จ
คำตอบ M = 29.634 กิโล เลขนัยสำคัญสองคือ 30 กิโล
ขั้นตอนถูกต้อง แน่นอนว่าคำตอบก็ต้องถูกต้อง
ลู่โจวเขียนเครื่องหมายจุดฟูลสต็อปลงไปเมื่อทำโจทย์เสร็จ
“เธออยากได้ยินโจทย์สองไหม?” หลี่หรงเอินถามด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าลู่โจวจะอยากบอกว่า ‘ไม่’ แต่เขาก็จำได้ว่าศาสตราจารย์ยังไม่ได้เซ็นใบลาเลย เขาจึงตะโกน “พูดมาเลยครับ”
หลี่หรงเอินหัวเราะแล้วกล่าว “ไม่ต้องกังวล โจทย์ที่สองง่ายมาก แค่บอกกฎของอุณหพลศาสตร์ข้อที่สองก็พอ”
เมื่อลู่โจวได้ยินโจทย์นี้ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาคิดว่าศาสตราจารย์จะมอบคำถามที่เป็นไปไม่ได้ให้แก่เขาเพื่อให้เขาแพ้และทำลายอีโก้ของเขา เขาไม่คิดเลยว่าศาสตราจารย์หลี่จะปล่อยเขาไป
โดยปกติแล้วมันจะมีกฎของอุณหพลศาสตร์ข้อที่สองที่แตกต่างกันอยู่สองอย่าง หนึ่งคือสมการเคลวินที่โด่งดัง อีกหนึ่งคือการแสดงความคิดที่ถูกเอ่ยถึงในวิทยานิพนธ์ปี 1850 ของรูด็อล์ฟ เคลาซีอุส
ส่วนของคีแนน มันพึ่งมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้
ลู่โจวอ่านหนังสือมาอย่างระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงไม่พลาด
“สำหรับระบบที่มอบพลังงาน องค์ประกอบของวัตถุและพารามิเตอร์ มันมีภาวะสมดุลที่มั่นคง ภาวะอื่นๆสามารถบรรลุกระบวนการผันกลับได้เสมอ” ลู่โจวกล่าวขณะท่องบทความนี้อย่างง่ายดาย
“ไม่เลว” หลี่หรงเอินกล่าวและพยักหน้ายอมรับ
หนังสือเรียนที่ใช้ในวิชาฟิสิกส์ไม่ได้พูดถึงบทความที่อยู่ในขั้นสูงขึ้น นักศึกษาที่ไม่สนใจฟิสิกส์จะไม่มีทางรู้บทความนี้
ลู่โจวท่องได้แม้แต่บทความที่คลุมเครือนี้ มันพิสูจน์แล้วว่าเขาเข้าใจหนังสือเรียน[ฟิสิกส์ระดับมหาลัย]ทั้งหมด
หลังจากการตรวจสอบครั้งนี้ หลี่หรงเอินก็ยืนยันได้ว่าไม่มีหลักสูตรฟิสิกส์ระดับปริญญาตรีอันไหนที่ใช้สอนลู่โจวได้อีก
เฒ่าถังคงไม่ได้โม้ เด็กคนนี้มีพรสวรรค์!
ที่จริงไม่ว่ายังไงเขาก็เซ็นใบลาให้ เขาก็แค่ล้อเล่น
เนื่องจากเมื่อวาน เขาได้เซ็นใบลาสำหรับการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ไปเป็นโหลๆ เซ็นเพิ่มอีกคนก็ไม่ใช่ปัญหา
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ตอบ เขาก็แค่ต่อว่าลู่โจวสักเล็กน้อย แต่เขาก็ยังเซ็นอยู่ดี
หลี่หรงเอินเซ็นชื่อก่อนจะเอารายชื่อออกมาจากลิ้นชัก เขาขีดฆ่าสองครั้งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงผู้อาวุโส
“ลู่โจว”
“ครับ?”
“เธอมีแผนเรียนปริญญาโทไหม?”
ลู่โจวคิดแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “ครับ”
ใครจะรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น?
อย่างไรก็ตามสัญชาตญาณของศาสตราจารย์หลี่นั้นอ่อนแอกว่าของศาสตราจารย์ถัง เขาไม่ได้ยินความไม่แน่นอนในน้ำเสียงของลู่โจว กลับกันเขาแค่พยักหน้าแล้วกล่าวต่อ
“สาขาฟิสิกส์ของมหาลัยจินหลิงเราคือหนึ่งในที่สุดของประเทศ พูดอย่างถ่อมตน แม้จะเทียบกับมหาลัยปักกิ่ง เราก็อยู่เทียบเคียงกัน แต่ฟิสิกส์ยิ่งยวด ระบบอิเล็กทรอนิกส์ การออกแบบวัสดุ มันไม่ดีเท่าเรา เราคือที่หนึ่ง ถ้าเธอสนใจฟิสิกส์ เมื่อจบการศึกษา เธอก็มาที่ห้องแล็บท่อนาโนคาร์บอนของเรา เรามองหานักคณิตศาสตร์ที่มีพรสวรรค์อยู่เสมอ”
นี่มัน…
เขาจะสื่อว่าฉันควรสมัครไปเป็นนักศึกษาปริญญาโทของเขาใช่ไหม?
ลู่โจวหัวเราะ เขาพึ่งปีสอง มันยังห่างไกลจากปริญญาโท
แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นความเมตตาของอาจารย์
ลู่โจวกล่าวอย่างจริงใจ “ขอบคุณครับศาสตราจารย์”
หลี่หรงเอินยิ้มแล้วพยักหน้า “เอาล่ะ รับใบลาคืนและก็ไปได้แล้ว ถ้าทำได้ เธอควรสมัครการแข่งขันแบบนี้ให้มากขึ้น ถ้าเธออยากเรียนปริญญาโท เธอก็ควรใส่ใจเรื่องพวกนี้ หรือเธอจะรอจนกว่าจะถึงปีสามแล้วมาถามฉันหรือศาสตราจารย์ถังได้ตามต้องการ”
ลู่โจวยิ้มแล้วแสดงความขอบคุณ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก เขารับใบลาที่ได้มาอย่างยากลำบากแล้วเดินออกห้องไป
ตอนที่ 60 การแข่งขันระดับประเทศเริ่มต้นขึ้น!
วันที่ 12 กันยายน การแข่งขันถูกจัดขึ้นตามกำหนด!
วันก่อนแข่ง ลู่โจวและคนอื่นๆก็ขึ้นรถบัสโรงเรียนและเดินทางจากวิทยาเขตใหม่ไปยังวิทยาเขตเก่า พวกเขาจะอาศัยอยู่ในหอพักชั่วคราวที่มหาลัยจัดหาให้
ที่นอนกับหมอนถูกจัดเตรียมไว้ให้ ดังนั้นนักศึกษาจึงต้องผ้าห่มไปเท่านั้น บางคนไม่ได้เอาผ้าห่มมาด้วยด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันก็กินเวลาเพียง 72 ชั่วโมงเท่านั้น เวลานอนเฉลี่ยของนักศึกษาแต่ละคนจึงน้อยกว่า 10 ชั่วโมงเสียอีก
ยกตัวอย่างเช่นลู่โจวเป็นต้น
งานเขาหนักสุด เพราะเขาต้องทำงานส่วนใหญ่ให้เสร็จ เขาจะได้นอนเพียงเล็กน้อยในคืนที่สองเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน สิ่งแรกที่เขาทำเมื่อเขาย้ายเข้ามาในหอพักใหม่ก็คือการนอนอยู่บนเตียงแล้วพยายามนอนให้หลับ
เขาต้องฝืนตัวเองนอน
เมื่อลู่โจวตื่นขึ้นมาตอนตีห้า เขาก็นอนบนเตียงจนถึงเจ็ดโมงก่อนจะไปทานอาหารเช้า เขาพบกับหวังเสี่ยวตงและหลินอวี่เซียงก่อนที่ทุกคนจะมุ่งหน้าไปยังห้องคอมพิวเตอร์ที่ทางมหาลัยจัดเตรียมไว้ให้
จากข้อมูลการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ มีนักศึกษามหาลัยมากกว่า 70,000 คนจาก 23,347 ทีมที่มาจากมหาลัย 1338 แห่ง มีทีมจาก 33 หัวเมือง เขตปกครองตนเอง(รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า)และสหรัฐอเมริกา ทุกคนคลิกเข้าเว็บไซต์การแข่งขันในเวลาเดียวกันและดาวน์โหลดโจทย์
การแข่งขันได้รับการสนับสนุนร่วมกันจากแผนกอุดมศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและสถาบันอุตสาหกรรมและคณิตศาสตร์ประยุกต์ประเทศจีน ดังนั้นมันจึงเข้มงวดและยุติธรรม อิทธิพลมันน้อยกว่า’แชลเลนเจอร์คัพ(Challenger Cup)’ แต่รางวัลมันให้ความรู้สึกมีค่ามากกว่า’แชลเลนเจอร์คัพ’
เจ็ดโมงครึ่ง ทั้งสิบทีมก็มานั่งอยู่ในห้องคอม
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกใช้โน๊ตบุ๊คของตนเองเพื่อตอบโจทย์ แต่พวกเขาก็นำโน๊ตบุ๊คมาที่ห้องคอมพิวเตอร์ ท้ายที่สุดแล้วไวไฟ(wifi)ในห้องคอมพิวเตอร์กับห้องสมุดก็อนุญาตให้นักศึกษาดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์ออนไลน์ได้ฟรี พวกเขาคาดว่าจะเอาชนะการแข่งขันแบบนี้โดยใช้ทรัพยากรบนไป่ตู้
เมื่อศาสตราจารย์หลิวเข้ามา เขาก็ยิ้มแล้วกล่าวทักทายศิษย์ทั้งสามคนของเขา เขาไม่ได้พูดเรื่องการแข่งขัน กลับกันเขาถามพวกเขาว่าหลับดีไหมหรือหอพักเป็นยังไงแทน จากนั้นเขาก็เดินออกห้องคอมพิวเตอร์ ขับรถบัสโรงเรียนแล้วกลับไปทำโปรเจ็คของตนเอง
ณ เวลาแปดโมง มีเสียงกริ่งดังขึ้น
ทุกคนรีบเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้วโหลดโจทย์
โจทย์ถูกแบ่งเป็นสี่คำถามใหญ่ ABCD ซึ่ง AB นั้นมีไว้ให้นักศึกษาปริญญาตรี ส่วน CD นั้นเป็นของนักศึกษาปริญญาโท ทุกทีมต้องเลือกโจทย์หนึ่งโจทย์ ทีมจะได้รับรหัสเอ็มดีห้าจากเว็บไซต์ทางการ พวกเขาต้องอัพโหลดวิทยานิพนธ์ในรูปแบบ PDF และผ่านการตรวจสอบเอ็มดีห้า
โดยทั่วไปแล้ว เนื่องจากพวกเขามีเวลาเลือกโจทย์เพียงครึ่งชั่วโมง ทุกคนจึงรีบร้อนอ่านโจทย์กัน
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นโจทย์ พวกเขาก็ตะลึง
“โจทย์ A เป็นการออกแบบและควบคุมเส้นทางการลงจอดของยานอวกาศ Chang’e 3…โจทย์ B คือการออกแบบโต๊ะพับได้! เชี่ย! โจทย์ปีนี้มันอะไรกันเนี่ย?”
“โจทย์เหล่านี้แตกต่างจากโจทย์ที่เราซ้อมมา!”
“ฉันได้ทำโจทย์ที่คล้ายๆกันในไม่กี่วันก่อน มันเป็นการออกแบบการออกตัวของจรวดเสินโจว…แต่ฉันไม่คิดว่าโจทย์นั้นจะออกแข่ง…ฉันประมาทเกินไป!”
“เวนเอ้ย ไม่ใช่ว่านายได้พีชคณิตขั้นสูง 95 คะแนนรึไง? ทำอะไรสักอย่างสิ!”
“ฉันเรียนพีชคณิตขั้นสูง ไม่ใช่วิทยาการจรวด!”
“การออกแบบโต๊ะ…มันคืออะไร? ไม่ใช่ว่ามันมีแค่สี่ขาเหรอ? พับเก็บได้…เราลองเพิ่มสปริงหลังขา?”
ห้องคอมพิวเตอร์ค่อนข้างมีชีวิตชีวาและมันก็เห็นได้ชัดว่านักศึกษามีปัญหากับโจทย์เหล่านี้เพราะพวกเขาไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
อย่างไรก็ตามนักศึกษาบางคนแตกต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่นหลัวรุ่นตงจากห้องลู่โจวกำลังคุยกับเพื่อนร่วมทีมเงียบๆ
และหลิวรุ่ย…เจ้าหนูนี่เหมือนค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพราะเขาอ่านโจทย์จบแล้วและกำลังมอบหมายหน้าที่ให้กับเพื่อนร่วมทีม
หวังเสี่ยวตงดูโจทย์ทั้งสองแล้วขมวดคิ้ว
ท้องฟ้าเหมือนจะถล่มลงมา
ทั้งสองโจทย์เกี่ยวข้องกับฟิสิกส์
โจทย์แรกเกี่ยวข้องกับการคำนวณวิถีอวกาศซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้โจทย์ด้วยความรู้ฟิสิกส์ระดับมัธยมปลาย ดูผิวเผิน โจทย์ที่สองดูง่าย แต่อันที่จริงมันก็ไม่ได้ง่ายไปกว่าโจทย์แรก มันเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์การเคลื่อนที่แบบไดนามิกของขาโต๊ะ วิเคราะห์ความเค้นของวัสดุและปัญหาอื่นอีกเพียบ มันไม่ได้ต้องการแค่ความรู้การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่มันยังต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับกลศาสตร์รวมไปถึงวัสดุศาสตร์
อย่างไรก็ตาม
‘อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์’ลู่โจวในกลุ่มนั้นเป็นแค่นักศึกษาปีสอง เขาพึ่งเริ่มเรียนฟิสิกส์
พวกเขาต้องเลือกโจทย์ที่ง่ายกว่า
โจทย์แรกนั้นถ้าไม่มีความรู้ด้านฟิสิกส์มันเป็นไปไม่ได้เลย พวกเขาต้องลองเปลี่ยนโจทย์ที่สองให้เป็นโจทย์ทางคณิตศาสตร์โดยใช้แหล่งข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ต
หวังเสี่ยวตงมองลู่โจว “เราควรเลือกโจทย์ B ไหม?”
ลู่โจวส่ายหน้า “เลือกโจทย์ A”
“โจทย์ A?” หวังเสี่ยวตงถาม เขาขมวดคิ้ว “คุณแน่ใจ?”
“ผมเรียนฟิสิกส์ระดับมหาลัยแล้ว แม้ว่าฟิสิกส์การบินและอวกาศจะดูเหมือนซับซ้อน แต่เนื้อหาครอบคลุมอยู่ในสามบทเท่านั้น” ลู่โจวกล่าว เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะมองไปรอบๆแล้วกล่าว “นอกจากนี้ ดูสิว่ามีกี่ทีมที่เลือกโจทย์ B”
เนื่องจากโจทย์ A ดูน่ากลัว มันย่อมเป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่ทีมส่วนใหญ่จะเลือกโจทย์ B ลู่โจวรู้ว่าบนภูเขามีเสือ แต่เขาก็ยินดีที่จะขึ้นภูเขาเผชิญหน้ากับเสือ!
แน่นอนลู่โจวเลือกแบบนี้ก็เพราะเขามั่นใจในโจทย์ A
หวังเสี่ยวตงพยักหน้าและย่อมเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังประโยคสุดท้ายของลู่โจว
“โอเค งั้นคุณต้องทำแบบจำลอง”
“รับทราบ”
อัจฉริยะทั้งสองมีความเห็นเป็นเอกฉันท์
หลินอวี่เซียงมองดูเพื่อนร่วมทีมแล้วถามอย่างอ่อนแอ “ฉัน…ช่วยอะไรได้บ้าง?”
หวังเสี่ยวตงยิ้มบางๆให้เธอ เขากำลังจะบอกว่า ‘ฉันจะทำทุกอย่าง’ แต่แล้วลู่โจวที่กำลังยุ่งกับการเขียนบนกระดาษ A4 ก็ขัดจังหวะหวังเสี่ยวตงและกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “เอาน้ำกับอาหารมา ขอบคุณ”
การเขียนโปรแกรม การเขียนวิทยานิพนธ์และการสร้างแบบจำลอง งานทั้งสามนี้ถูกจัดสรรแล้ว แถมสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการก็คือคนส่งอาหาร
ลู่โจวคิด ‘อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รางวัลฟรีๆ’ อย่างน้อยเขาก็ต้องให้ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรสักอย่าง
หวังเสี่ยวตง “…”
หลินอวี่เซียงไม่ได้โอดครวญ กลับกันเธอพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นแทน “โอเค ฉันจะทำ!”
ขอได้เปรียบของการใช้คนๆเดียวทำทั้งแบบจำลองทางคณิตศาสตร์และเขียนวิทยานิพนธ์ก็คือมันช่วยลดปัญหาในการสื่อสาร
ในเวลาเดียวกัน ในฐานะกัปตัน ลู่โจวสามารถออกคำสั่งหวังเสี่ยวตงที่รับผิดชอบในการเขียนโปรแกรม
ดังนั้นมันจึงไม่มีความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมทีมเลย!
มันมีคำถามย่อยอยู่สามหัวข้อ
(1) กำหนดตำแหน่งการลงจอดฝั่งไกลและฝั่งใกล้ของดวงจันทร์ นอกจากนี้กำหนดความเร็วและตำแหน่งของ Chang’e 3
(2) กำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดของ Chang’e 3 และการควบคุมที่ดีที่สุดของหกขั้นตอน
(3) ทำการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและวิเคราะห์ความอ่อนไหวของการออกแบบเส้นทางลงจอดและควบคุมกลยุทธ์ของคุณ
“ส่วนต่อไปคือบทสรุป ส่วนนี้สามารถปล่อยทิ้งไว้จนกว่าวิทยานิพนธ์จะเขียนเสร็จ มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์โจทย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งหมดของการสร้างแบบจำลอง มันเป็นหัวใจหลักของวิทยานิพนธ์” ลู่โจวบ่นพึมพำขณะกัดปากกาเบาๆและนิ้วเคาะคีย์บอร์ด เขาเขียนโครงร่างของวิทยานิพนธ์และเริ่มกำหนดหัวใจสำคัญของวิทยานิพนธ์โดยขึ้นอยู่กับการคำนวณของตน
[โจทย์ 1 เพื่อให้ได้ตำแหน่งการลงจอดฝั่งใกล้และไกลของดวงจันทร์ รวมไปถึงขนาดและทิศทางที่สอดคล้องกับความเร็วของ Chang’e 3 ก่อนอื่นเราต้องใช้ฟิสิกส์ของนิวโตเนียนรวมกับเงื่อนไขที่รู้แล้วของการคำนวณ การเคลื่อนที่ของ Chang’e 3 ในช่วงชะลอความเร็วถูกแบ่งเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้นแบบแปรผันสม่ำเสมอ ใช้ MATLAB เพื่อออกแบบโปรแกรมเพื่อคำนวณซ้ำในช่วงชะลอความเร็ว…]
[โจทย์ 2 เพื่อยืนยันวิถีลงจอดที่ดีที่สุดของ Chang’e 3 และการควบคุมที่ดีที่สุดของหกขั้นตอน ใช้เชื้อเพลิงให้น้อยที่สุดเป็นเป้าหมาย ใช้พารามิเตอร์ที่โจมย์ให้ไว้ ใช้ MATLAB เพื่อระบุสิ่งกีดขวางบนแผนที่ระดับความสูงดิจิตอล เพื่อบรรลุการระบุสิ่งกีดขวางและตำแหน่งจุดลงจอด จำลองโหมดลงจอดที่เหมาะสมที่สุด…]
[วิเคราะห์ข้อผิดพลาดหรือกลยุทธ์การควบคุมวิถีลงจอดที่ถูกออกแบบในส่วนสอง ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องร่างตัวแปรที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่อาจสร้างความผิดพลาด…]
ลู่โจวเข้าสู่สมาธิ เขาใช้สมาธิทั้งหมดอยู่กับโจทย์
หลังจากวิเคราะห์โจทย์ เขาก็รู้สึกเหมือนสมองเขาชัดเจนขึ้น แม้แต่โครงร่างทั่วไปทั้งหมดของวิทยานิพนธ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ
ที่เหลือก็คือการแปลงเค้าโครงให้เป็นโจทย์ทางคณิตศาสตร์…
สำหรับทีมส่วนใหญ่ พวกเขาจะทำวิทยานิพนธ์หลังจากเขียนโปรแกรมและทำแบบจำลอง แต่สำหรับลู่โจว เขาสามารถทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน!
นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของทีมพวกเขา!
ตอนที่ 61 โต้รุ่ง 72 ชั่วโมง
เมื่อหวังเสี่ยวตงทำขั้นตอนสุดท้ายเสร็จ เขาก็เปิดดูข้อมูลแล้วมองลู่โจว “โปรแกรมคำนวณพิกัดฝั่งใกล้และไกลของดวงจันทร์ ความเร็วและทิศทางของ Chang’e 3 เสร็จแล้ว ให้ฉันส่งให้คุณทางอีเมลล์ไหม?”
ลู่โจวที่กำลังเขียนอยู่ไม่เงยหน้ามามองด้วยซ้ำ “ส่งมาให้ใน QQ ผมก็พอ”
หวังเสี่ยวตง “โอเค ขั้นต่อไปคือ?”
“…วงโคจรของดาวเทียมรอบดวงจันทร์ ข้อมูลเส้นทางลงจอดทางเรขาคณิตและพารามีเตอร์ทั้งหมดอยู่นี่แล้ว คุณต้องทำพล็อต” ลู่โจวตอบ เขาโยนกระดาษ A4 ที่มีตัวหนังสือเต็มไปหมดบนโต๊ะของหวังเสี่ยวตงแล้วเริ่มคำนวณของตนเองต่อ
หวังเสี่ยวตงมองดูข้อมูลบนกระดาษแล้วสังเกตว่าลู่โจวได้เปลี่ยนซอร์ฟแวร์ MATLAB ไปเป็นซอร์ฟแวร์ SAS ที่เป็นมืออาชีพมากกว่าในเรื่องของการทำแมพปิ้งข้อมูล เขาตอบโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ “โอเค”
ทั้งสองทำงานร่วมกันอย่างเงียบๆแล้วกำลังต่อสู้ในสาขาที่ตนเองเชี่ยวชาญ
ประมาณเกือบเที่ยง หลินอวี่เซียงก็เดินเข้ามาในห้องคอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ เธอวางถุงพลาสติกที่มีข้าวไก่อบเครื่องเทศสองชุดและกาแฟสองกระป๋องลงบนโต๊ะ
“อัจฉริยะ ถึงเวลากินข้าวแล้ว!”
หวังเสี่ยวตงลุกขึ้นหยิบจาน เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณ”
หลินอวี่เซียงย่อมยิ้มตอบ จากนั้นเธอก็เดินไปข้างๆลู่โจวแล้วกล่าว “นี่ของคุณ”
ลู่โจวตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ “ทิ้งไว้นั่นแหละ ผมจะกินหลังคำนวณส่วนนี้เสร็จ”
“ตกลง!”
สามทุ่ม หลินอวี่เซียงก็หาวแล้วกลับไปหอพัก หวังเสี่ยวตงกลับไปประมาณสี่ทุ่ม เนื่องจากเขาเป็นกำลังหลักของพรุ่งนี้ เขาจึงต้องหลับพักผ่อนให้ดี
ณ เวลานี้ นอกจากลู่โจว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เหลืออยู่ในห้องคอมพิวเตอร์
อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์หลัวรุ่นตงและหลิวรุ่ยก็อยู่เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาอัจฉริยะทางสถิติปีสามอยู่ข้างหลิวรุ่ยอีกด้วย
ทีมของพวกเขามีองค์ประกอบที่พิเศษ กัปตันรับผิดชอบด้านเขียนโปรแกรมและส่วนหนึ่งของแบบจำลอง แต่ไม่ได้คำนวณ การสร้างแบบจำลองส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของหลิวรุ่ยที่ถูกกำกับโดยอีกคนที่เขียนวิทยานิพนธ์
นักศึกษาอัจฉริยะทางสถิติปีสามถาม “นั่นเป็นคนที่อยู่หอพักนายใช่ไหม?”
หลิวรุ่ยพยักหน้า “ใช่”
นักศึกษาอัจฉริยะทางสถิติกล่าวอย่างลวกๆ “หมอนี่สุดยอด ฉันดูเขาแบบผ่านๆตอนที่ฉันไปห้องน้ำ เขาเลือกโจทย์ A พวกเขาจะมีคู่แข่งน้อยกว่าเรามาก”
หลิวรุ่ยถามอย่างสงสัย “งั้นทำไมเราไม่เลือกโจทย์ A ล่ะ?”
หลิวรุ่ยแก้โจทย์ B มาสักพักแล้ว เขารู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลย
นักศึกษาอัจฉริยะทางสถิติกล่าวอย่างหยาบคาย “เพราะปีนี้ฉันมีพวกนาย นายคิดว่าฉันอยากเลือกโจทย์ B เหรอ?”
หลิวรุ่ย “…”
ชายอีกคนในทีม “…”
ตอนตีสาม มีคนเพียงห้าคนเท่านั้นที่เหลืออยู่ในห้องคอมพิวเตอร์
ตอนตีสี่ มีเพียงลู่โจวเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มสาดส่องผ่านหน้าต่าง ในที่สุดลู่โจวก็เขียนคำนวณบรรทัดสุดท้ายเสร็จ
เมื่อหวังเสี่ยวตงเปิดห้องคอมพิวเตอร์แล้วเดินเข้ามา เขาก็ถาม “เสร็จแล้ว?”
“เสร็จแล้ว…” ลู่โจวกล่าว เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะกล่าว “เขียนแบบจำลองพื้นฐานเสร็จแล้ว ที่เหลือคือโปรแกรม เขียนแผนผัง และวิเคราะห์จุดอ่อนไหวโดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงในซิมูเลชั่น พอคุณทำเสร็จ ผมจะเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์”
หวังเสี่ยวตงพยักหน้าแล้วกล่าว “เข้าใจแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
“ตกลง”
ลู่โจวนวดขมับ ส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกนอกห้องคอมพิวเตอร์
เปรียบเทียบกับการโต้รุ่งช่วงซัมเมอร์ นี่มันไม่เท่าไหร่เลย
ลู่โจวจำไม่ได้ว่าเขากลับหอพักยังไง เขาแค่จำได้ว่าเขาเปิดประตูและเข้านอนโดยไม่ถอดเสื้อผ้าออกด้วยซ้ำ
เมื่อเขาตื่นขึ้นมา มันก็มืดแล้ว
ลู่โจวนั่งอยู่บนเตียงและขยี้ผมที่ยุ่งเหยิงของตน จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อดูเวลา
เขาจำได้ว่าเขากลับมาที่หอพักประมาณหกโมงเช้า
“ฉันหลับไปสิบสองชั่วโมง…”
ครั้งต่อไปที่เขาสามารถนอนหลับก็คือหลังการแข่งขันจบ
ลู่โจวไปห้องน้ำชำระตัวเองก่อนจะมุ่งตรงไปห้องคอมพิวเตอร์
เมื่อเขามาถึงห้องคอมพิวเตอร์ หวังเสี่ยวตงก็กำลังเขียนโปรแกรมบรรทัดสุดท้ายแล้ว
หลินอวี่เซียงไม่อยู่ แต่เธอซื้ออาหารทิ้่งไว้ให้ อาหารยังคงอุ่นๆอยู่ บางทีเธอคงจากไปได้ไม่นาน
ลู่โจวเปิดถุงพลาสติกแล้วกำลังจะหยิบตะเกียบ แต่แล้วเขาก็เห็นเศษกระดาษในถุง
เขาค่อยๆคลี่กระดาษออกอย่างช้าๆ
[พยายามให้เต็มที่ ~ ^.^ ~]
ลู่โจว “…”
ลู่โจวขยำกระดาษจนกลายเป็นลูกบอลแล้วโยนมันทิ้งลงถังขยะก่อนจะแกะตะเกียบใช้แล้วทิ้งแล้วเริ่มกินข้าว
เมื่อเขาทานข้าวเย็นเสร็จ เขาก็ไปล้างหน้าที่ห้องน้ำแล้วทิ้งกล่องอาหารระหว่างทาง
เมื่อเขากลับมา หวังเสี่ยวตงก็ดันแว่นตา เขาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “ฉันเขียนโปรแกรมเสร็จแล้ว ฉันส่งโค้ดที่ฉันใช้สำหรับโจทย์ทั้งสามไปให้ใน QQ ของคุณแล้ว ฉันจะกลับมาตอนตีสาม คุณต้องทำวิทยานิพนธ์”
“โอเค ตั้งนาฬิกาปลุกด้วย อย่าลืม”
“ทราบแล้ว” หวังเสี่ยวตงพยักหน้าแล้วเดินจากไป
ลู่โจวเป็นนักวิ่งไม้สุดท้าย เขานั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์แล้วบิดขี้เกียจ
มันทุ่มนึงแล้ว พวกเขายังมีเวลา 37 ชั่วโมงจนกว่าจะถึงเวลาส่งวิทยานิพนธ์
ภายใน 37 ชั่วโมง เขาต้องสรุปกระบวนการคำนวณทั้งหมด แนวคิดการสร้างแบบจำลอง กระบวนการและคำตอบของโจทย์ทั้งสาม ทั้งหมดนี้อยู่ในวิทยานิพนธ์ 20-30 หน้า
ไม่ว่าแบบจำลองจะสวยงามแค่ไหนหรือโปรแกรมจะฉลาดแค่ไหน ผู้ตัดสินก็จะตัดสินโดยการนำเสนอวิทยานิพนธ์เท่านั้น ถ้าผู้ตัดสินไม่อาจทำความเข้าใจกับวิทยานิพนธ์ได้ งั้นรางวัลก็คงหมดหวังแล้ว
ดังนั้นขั้นตอนสุดท้ายจึงไม่อาจทำอย่างฉาบฉวย!
ลู่โจวเข้าสู่โหมดทำงานและลืมเลือนเวลาโดยสมบูรณ์ สมาธิทั้งหมดจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ การพิมพ์และความคิดของเขากำลังทำงานด้วยความเร็วแสง
บทคัดย่อและคีย์เวิร์ดต้องเขียนในหน้าเดียวตามรูปแบบที่กำหนดไว้ ลู่โจวแก้ไขบทคัดย่อและนั่นมันก็แทบไม่ได้ตัดอะไรออกเลย
ไม่มีใครรู้กระบวนการคิดของแบบจำลองได้ดีกว่าเขาแล้ว ดังนั้นขั้นตอนนี้จึงง่ายดายมาก
ถัดไปเป็นกระบวนการถกเถียงและให้เหตุผลอันยุ่งยาก นี่คือส่วนหลักของวิทยานิพนธ์ทั้งเล่ม แม้ว่ามันจะไม่ได้ใช้พื้นที่มากนัก แต่มันเป็นส่วนที่ใช้เวลาทำนานที่สุด
เหตุผลหลักไม่ใช่แค่มันเกี่ยวข้องกับแนวคิดแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เท่านั้น มันยังเกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมอีกด้วย
ลู่โจวไม่ได้มีปัญหากับคณิตศาสตร์ แต่เขาจำเป็นต้องสื่อสารกับคนเขียนโปรแกรมสำหรับส่วนของโปรแกรม
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ดวงอาทิตย์ลับฟ้าไปและโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง มันส่องสว่างผ่านเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง
เมื่อคืนนี้จบลง ลู่โจวก็ทำส่วนสุดท้ายของส่วนคำตอบของโจทย์เสร็จแล้ว
เขาบิดขี้เกียจแล้วจ้องมองวิทยานิพนธ์ด้วยดวงตาปรือๆ เขาหาวขณะพูดกับตัวเอง
“…ถัดไปเป็นอ้างอิงและภาคผนวก ในที่สุดมันก็ใกล้เสร็จแล้ว”
ลู่โจววางมือทั้งสองข้างบนคีย์บอร์ดแล้วคัดลอกชื่อเอกสารอ้างอิง
[
…การวิเคราะห์และการออกแบบวิถีการเลี้ยวด้วยแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ (C) การประชุมทางวิชาการครั้งที่สองของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีสำรวจอวกาศสมาคมการบินและอวกาศหัวกว๋อประเทศจีน 2005
…การวิจัยเกี่ยวกับการตรวจจับและการหลีกเลี่ยงอุปสรรคการนำคนไปสัมผัสพื้นผิวดวงจันทร์ การกลับมาจากอวกาศและการรับรู้ระยะไกล 2014 35: 11-19
…
]
โดยรวมแล้ว เขาอ้างถึงวิทยานิพนธ์จีนหกฉบับ และวิทยานิพนธ์ภาษาอังกฤษอีกหนึ่งฉบับ
สำหรับขั้นตอนสุดท้าย ลู่โจวคัดลอกโค้ดของหวังเสี่ยวตงลงในภาคผนวก
หวังเสี่ยวตงยืนอยู่หลังลู่โจว เขาดันแว่นแล้วมองไปยังข้อความบนหน้าจอแล้วถาม “เสร็จแล้ว?”
“ใช่ เสร็จหมดแล้ว ช่วยผมตรวจหาข้อผิดพลาดหน่อย ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดก็แปลงมันเป็นไฟล์ PDF ได้เลย” ลู่โจวกล่าวและลุกจากเก้าอี้ เขาสะบัดหัวที่วิงเวียนแล้วกล่าว “ผมจะไปนอน ผมมอบงานตรวจสอบเอ็มดีห้าและอัพโหลดให้คุณ”
“ไปพักเถอะ” หวังเสี่ยวตงกล่าว เขาหยุดสักครู่ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “เดินระวังๆด้วย อย่าสะดุดอะไรเข้าให้ล่ะ”
“อืม” ลู่โจวพยักหน้าแล้วกล่าว จากนั้นเขาก็เดินออกห้องคอมพิวเตอร์ไป
ตอนที่ 62 ถ้านายไม่ทำพลาด ฉันคงดูถูกนาย
หลังจากทำงานมามากกว่า 30 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องในสภาวะสมาธิสูง ลู่โจวก็ผลักดันมาจนถึงขีดจำกัด
เมื่อเขากลับมาที่หอพักชั่วคราว เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นเคย เมื่อเขาหัวถึงหมอน เขาก็เริ่มเข้าสู่ห้วงความฝัน
กว่าเขาจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว
ลู่โจวหยิบโทรศัพท์แล้วมองดูเวลา มันห้าโมงครึ่งแล้ว
“เวลานอนของฉันสลับกัน ดูเหมือนอีกสองวันข้างหน้าฉันต้องปรับเวลานอนใหม่”
เนื่องจากไม่มีใครมาขัดจังหวะเวลานอน เขาจึงตระหนักว่าเขาหลับไปนานมาก…
มีสายที่ไม่ได้รับหลายสิบสายแสดงอยู่บนหน้าจอ มันมาจากเฉินยู่ซาน เพื่อนร่วมทีม ศาสตราจารย์หลิว ที่ปรึกษาและรูมเมทเขา
ลู่โจวเปิดวีแชทและส่งข้อความตอบพวกเขาไปเพื่ออธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่ได้รับสาย
เมื่อเขาส่งข้อความเสร็จ เขาก็สะพายกระเป๋า เขากำลังจะเอากุญแจไปคืน แต่แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
มันเป็นสายจากเฉินยู่ซาน
เมื่อเขารับสาย น้ำเสียงหวานใสก็ดังขึ้นมา “ลู่โจว! นายรู้สึกยังไงบ้าง?”
ลู่โจว “ผมไม่เป็นไร”
เฉินยู่ซานถามทันที “ฉันได้ยินมาว่าโจทย์ปีนี้ยากมาก นายเลือกโจทย์ไหน?”
ลู่โจว “โจทย์ A เป็นโจทย์เกี่ยวกับ Chang’e 3”
เฉินยู่ซานได้ยินคำตอบของลู่โจวแล้วเปิดตาด้วยความประหลาดใจ “นายเลือกโจทย์นั้น? นายเข้าใจโจทย์เหรอ?”
ลู่โจวคิดเล็กน้อยแล้วตอบ “มันไม่เป็นไร แม้ว่าการนำเสนอโจทย์อวกาศจะน่ากลัว แต่มันก็ไม่ได้ยากที่จะแปลงโจทย์ให้เป็นปัญหาทางคณิตศาสตร์”
“นายไม่คิดว่ามันยากนี่เอง” เฉินยู่ซานถอนหายใจ เธอกล่าว “ฉันมีรูมเมทที่เข้าร่วมการแข่งขันปีนี้เช่นกัน เธออยากได้อันดับหนึ่งและได้รับโอกาสเข้าโครงการเรียนปริญญาเอกโดยไม่ต้องสอบเข้า แต่ทันทีที่เธอเห็นโจทย์ เธอก็ตะลึง”
การแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์สามารถช่วยให้ติดโครงการเข้าเรียนปริญญาเอกโดยไม่ต้องสอบเข้า
ลู่โจวประหลาดใจ
ไม่แปลกใจเลยที่หลินอวี่เซียงหน้าด้านให้พวกเราแบกเธอ
เข้าใจแล้ว มันก็สมเหตุสมผล
ลู่โจวถาม “เธอเลือกโจทย์ข้อไหน?”
เฉินยู่ซาน “โจทย์ B โจทย์โต๊ะพับ”
โชคร้ายอะไรอย่างนี้
ลู่โจวคิดในใจ
อย่างน้อยเจ็ดทีมในห้องคอมพิวเตอร์ก็เลือกโจทย์ B เขาไม่รู้เกี่ยวกับอีกสามทีมที่เหลือ แต่มันเป็นไปได้ว่าลู่โจวเป็นทีมเดียวในห้องที่เลือกโจทย์ A
“แล้วคุณรู้สึกยังไงกับโจทย์นี้?”
“มันยากมาก มันเกี่ยวข้องกับกลศาสตร์โครงสร้างและการยศาสตร์ ในระยะสั้นมันลำบากและยุ่งยากมาก เธอบ่นเรื่องโต๊ะโง่ๆนี่ให้ฉันฟัง” เฉินยู่ซานถอนหายใจ เธอกล่าวเสริม “โจทย์พวกนี้ยังปกติ การออกแบบฟาร์มหมูและการออกแบบตู้เก็บยา ฉันไม่พูดแล้ว นายไปหาอะไรกินเถอะ นายคงพึ่งตื่น ฉันจะไปปลอบรูมเมทฉันสักหน่อย”
“ตกลง ไว้เจอกัน”
ขณะที่ลู่โจววางสาย เขาก็เห็นข้อความจากหลินอวี่เซียง เธอบอกว่าตรวจสอบเอ็มดีห้าและวิทยานิพนธ์อัพโหลดเสร็จแล้ว เธอกับหวังเสี่ยงตงกลับมหาลัยแล้ว และในอนาคตเขาไปขอความช่วยเหลือจากเธอได้ตามสะดวก เธอบอกอีกเช่นกันว่าเธออยากเลี้ยงข้าวเขาเพื่อแสดงความขอบคุณ
ลู่โจวคิดแล้วตอบ [ด้วยความยินดี]
การแข่งขันจบลงแล้ว แม้ว่าเธอจะถ่วงทีม เธอก็ยังนับได้ว่าเป็น’คนส่งอาหาร’และเธอก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน
ไม่มีประโยชน์ที่จะบ่นเกี่ยวกับเธอ
รถบัสมหาลัยออกไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าถึงมีรถรอบต่อไป
หอพักวิทยาเขตเก่าค่อนข้างทรุดโทรม ลู่โจวไม่ได้อาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้ามาสามวันแล้ว เขาไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่วิเดียว
เขาสะพายกระเป๋าแล้วเดินไปทางหน้ามหาลัย เขาทานบะหมี่ก่อนจะขึ้นรถไฟกลับวิทยาเขตใหม่
…..
“หนึ่ง สอง หนึ่ง…หนึ่ง สอง หนึ่ง…”
“ขยับแขนให้มากกว่านี้! ขยับขาให้มากกว่านี้! ขยับ ขยับ ขยับ!”
เสียงตะโกนดังมาจากสนาม กลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งกำลังได้รับการฝึกฝนจากอาจารย์
ลู่โจวมองไปยังกลุ่มหนุ่มสาวที่มีพลังเหลือล้นแล้วถอนหายใจ เขาคิดถึงการเป็นเด็ก จากนั้นเขาก็เดินไปหอพัก
เมื่อเขากลับมาถึงหอพักแล้วเปิดประตู สัตว์สามตัวก็มารุมล้อมตัวเขา
“โจว เป็นไงบ้าง?”
“นายมั่นใจว่าทำได้ดีไหม? หลิวรุ่ยบอกเขาทำพลาดอีกแล้ว”
“ฉันทำพลาดจริงๆ” หลิวรุ่ยกล่าว เขายิ้ม “ทำไมพวกนายไม่เชื่อฉัน? ฉันเห็นโจทย์ทั้งสอง ฉันก็อึ้งแล้ว ฉันคิดว่าโจทย์สองดูง่ายกว่าเล็กน้อย คนเขียนโปรแกรมกับคนสร้างแบบจำลองทีมฉันเป็นคนแบกฉัน ถ้าได้รางวัลระดับจังหวัดฉันก็พอใจแล้ว”
สือช่างขัดจังหวะเจ้าหมอนี่อย่างหมดความอดทน “โอเคๆ เจ๋งมาก ถ้านายไม่ทำพลาด ฉันคงดูถูกนาย หลีกไป ฉันกำลังพูดกับโจว”
หวงกวงหมิงเดินเข้ามาแล้วถาม “โจว นายทำได้ไหม? โจทย์ A ยากไหม?”
ลู่โจวกล่าวอย่างลวกๆ “พอได้…หลิวรุ่ย แล้วนายล่ะ?”
“ยากเกินไป…โจทย์จำนวนมากไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคณิตศาสตร์” หลิวรุ่ยกล่าวและส่ายหน้า
นั่นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์หรือการเขียนโปรแกรม มันก็เป็นแค่เครื่องมือในการแก้ปัญหา แนวคิดหลักของการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์คือรางวัลของเหล่าผู้ที่ใช้คณิตศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติได้ดี
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมรางวัลระดับประเทศถึงมีค่า
มันแตกต่างจากการสอบคณิตศาสตร์ แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ไม่ได้มีเนื้อหาให้พูดคุยมากนัก
รูมเมทสองคนของลู่โจวมีแผนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในปีถัดไป ดังนั้นพวกเขาจึงยิงคำถามออกมามากมาย เมื่อเขากำจัดสัตว์พวกนี้ไปได้ในที่สุด เขาก็ปีนขึ้นบันไดแล้วเปิดโน๊ตบุ๊คบนเตียง
เขาทิ้ง AFK ไปนานมาก ถ้าแถบความคืบหน้าไม่ขยับเลย เขาคงเดือด
อย่างไรก็ตามเมื่อลู่โจวเปิดโน๊ตบุ๊คแล้วมองดู เขาก็โกรธมาก
บัดซบ!
แถบความคืบหน้าขยับแค่กระจึ๋งเดียวเท่านั้น!
เครื่องจักรบัดซบ! เสียค่าไฟโดยเปล่าประโยชน์!
ลู่โจวโกรธ เขาปิดโน๊ตบุ๊คทันที จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือเขียนโปรแกรมสองเล่มแล้วไปห้องสมุด
…..
หลังจากการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์จบลง ในที่สุดลู่โจวก็มีเวลาผ่อนคลาย
เขามีหนังสือสองเล่มอยู่กับตัวทุกวัน [โครงสร้างข้อมูล(Data structure)] กับ [กระบวนทัศน์การเขียนโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์(Artificial intelligence programming paradigm)] เขาจะให้ความสนใจกับคลาสคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ส่วนคลาสอื่นเขาจะเรียนด้วยตนเอง
นี่คือข้อดีของมหาวิทยาลัย เขาเป็นผู้ควบคุมเวลาของตนเอง
นอกจากคณบดีหรือศาสตราจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ส่วนใหญ่จะสนใจการสอนเท่านั้น ส่วนใหญ่พวกเขาจะเช็คชื่อของคนในคลาส แต่พวกเขาไม่สนใจว่านักศึกษาจะทำอะไรในห้อง ตราบใดที่พวกเขาไม่ขัดจังหวะการสอนก็พอ
ลู่โจวอยู่ทั้งในห้องเรียนและเรียนในห้องสมุด ไม่งั้นเขาก็จะเล่นอยู่กับปัญญาประดิษฐ์เสี่ยวไอ ด้วยเหตุบังเอิญลู่โจวจึงค้นพบว่าการพูดคุยกับเสี่ยวไอพัฒนาแถบความคืบหน้าได้ไวและมีประสิทธิภาพมากกว่าการอยู่ห่างจากคอมพิวเตอร์
ดังนั้นลู่โจวจึงเขียนโปรแกรมเล็กๆในไพทอน เขาเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระหว่างเสี่ยวไอกับQQ จากนั้นเขาก็ลงทะเบียนหมายเลข QQ ในนามของเสี่ยวไอแล้วตั้งชื่อว่า ‘อาย(eye)’
ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถใช้โทรศัพท์ส่งข้อความหาเสี่ยวไอ โปรแกรมอ่านข้อความไพทอนและเข้าสู้ไดอะล็อกบอกซ์ของเสี่ยวไอ
นี่เทียบเท่ากับการใช้เครื่องมือแชทบุคคลที่สามเพื่อทำการคุยกับเสี่ยวไอทางอ้อม เสี่ยวไอสามารถควบคุมโมบายเวิร์คสเตชั่นได้อย่างสมบูรณ์ เขาจึงสามารถใช้สิ่งนี้ควบคุมโน๊ตบุ๊คจากระยะไกล
เขาสามารถบอกให้เสี่ยวไอรันโปรแกรมและเสี่ยวไอก็จะทำตามคำสั่งเขา
ยกตัวอย่าง ถ้าเขาบอกเสี่ยวไอให้ปิดเครื่อง เสี่ยวไอก็จะปิดเครื่องโน๊ตบุ๊คเขา
ลู่โจวรู้สึกว่ามันค่อนข้างเจ๋งไม่เบา
แน่นอนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เขาได้เพิ่มรหัสล็อคให้กับโปรแกรมไพทอน เสี่ยวไอจะอ่านข้อความที่ถูกส่งมาจากเขาคนเดียวเท่านั้น
ดังนั้นถ้ามีคนพบบัญชี QQ ของเสี่ยวไอ พวกเขาก็ยังไม่อาจทำความเสียหายอะไรได้
ท้ายที่สุดแล้วเสี่ยวไอสามารถระบุบัญชีของลู่โจวได้คนเดียวเท่านั้น
ตอนที่ 63 รางวัลระดับประเทศเป็นอย่างน้อย!
เมื่อเวลาผ่านไป ลู่โจวยังคงรักษากิจวัตรประจำวันไว้เหมือนเดิมในขณะที่รอผลการแข่งขัน
ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันเสาร์ เขาจะอยู่ในหอพัก ห้องเรียนและห้องสมุด ในวันอาทิตย์เขาจะไปหาญาติของเฉินยู่ซานเพื่อสอนพิเศษ
ภายใต้การช่วยเหลือของลู่โจว คะแนนคณิตศาสตร์ของหานเมิ่งฉีก็ดีขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ ตอนแรกคะแนนเธอย่ำแย่มาก แต่ตอนนี้เธอสามารถตามความก้าวหน้าของหลักสูตรมัธยมปลายได้ทันและสามารก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
อีกอย่างคือแอพแคมปัสเทรน
ลู่โจวไม่ได้ให้ความสนใจกับแอพของตน ถ้ามันไม่ใช่เพราะการแจ้งบัคเป็นครั้งคราว ลู่โจวคงลืมไปแล้วว่าเขาเปิดบริษัทเล็กๆด้วยเงินกู้ครึ่งล้านหยวน
หลังจากช่วงเวลาที่พีคที่สุดของการกลับมามหาลัย จำนวนผู้ใช้แอพแคปปัสเทรนก็อยู่ที่สองล้านคน จากนั้นจำนวนผู้ใช้ก็หยุดตัวลงเหมือนกับสระน้ำนิ่ง
มันเป็นเรื่องปกติ นักศึกษาแบบไหนกันที่จะซื้อตั๋วรถไฟในช่วงภาคเรียน?
ค่าเช่าคลาวด์เซิฟเวอร์ทุกเดือนเป็นเงินหลายพันเหรียญ แต่นี่เป็นช่วงเวลาปกติ ถ้าเป็นช่วงเดือนมิถุนายน กันยายน ธันวาคม มกราคมหรือกุมภาพันธ์ ราคาของค่าเซิฟเวอร์จะเพิ่้มขึ้่นสองเท่า
พูดตามสัตย์ ลู่โจวไม่มีความคิดเลยว่าจะหาเงินจากแอพได้ยังไง นี่เป็นความพยายามเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกและเขาก็สับสนมาก
แผนเดินของเขาคือการเพิ่มจำนวนผู้ใช้แอพแล้วหาเงินทุนหรือขายมันให้กับบริษัทใหญ่
ณ ตอนนี้ไม่มีบริษัทแม้แต่บริษัทเดียวที่สนใจแอพของเขา อย่างไรก็ตามมีบริษัทสรรหาบุคลากรมากมายมาหาเขา
แม้ว่าฐานผู้ใช้หนุ่มสาวจะมีคุณภาพสูง แต่กลุ่มผู้ใช้’เปิดใช้’บางเวลาเท่านั้น คุณค่าจึงต่ำ…นี่เป็นสิ่งที่ลู่โจวเรียนรู้เมื่อเขาพยายามติดต่อคนร่วมทุนบนอินเตอร์เน็ต
เป็นไปตามคาด มันยากเกินไปที่คนๆเดียวจะเปิดบริษัทด้วยตัวคนเดียว
เขาไม่มีประสบการณ์หรือพลังงาน
ลู่โจวกำลังใคร่ครวญว่าเขาควรใช้เงิน 500,000 หยวนเพื่อจ้างผู้จัดการมืออาชีพ อย่างไรก็ตามปัญหาคือผู้จัดการคนไหนกันที่อยากจะทำงานในบริษัทที่ไม่มีแม้แต่สำนักงาน?
เอิ่ม…
คำถามนี้ยังไม่มีคำตอบ
ลู่โจวพักเรื่องบริษัทไว้ก่อน ไม่ว่ายังไงผู้ใช้ก็ไม่ใช้งาน แถมยังไม่มีทางทำให้พวกเขาใช้งานด้วย
ในที่สุดต้นเดือนตุลา จู่ๆลู่โจวก็ได้รับการแจ้งพรีเซ้นจากศาสตราจารย์หลิว ในที่สุดเขาก็หยุดเป็นกังวล
ปกติแล้วการได้รับการแจ้งพรีเซ้นหมายความว่าอย่างน้อยมันก็เป็นรางวัลชนะเลิศระดับมณฑล
ตามกฏของการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ แต่ละเขตการแข่งขันจะส่งรางวัลชนะเลิศไปยังคณะกรรมการการจัดการแข่งขันแห่งชาติ ตามมาตรฐานทั่วไป คณะกรรมการการจัดการแข่งขันแห่งชาติจะจ้างผู้เชี่ยวชาญเพื่อก่อตั้งคณะกรรมการประเมิณผลแห่งชาติ รางวัลชนะเลิศและรางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศจะถูกคัดเลือกจากคณะกรรมการนี้
รางวัลชนะเลิศระดับประเทศจะได้รับการพิจารณาให้เป็นรางวัลพิเศษเช่นกัน มันเหมือนกับ Higher Education Society Cup หรือ Matlab Innovation Award
(ผู้แปล : ขอทับศัพท์ละกันครับ)
Higher Education Society Cup นั้นเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติมาก
ถ้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศถูกเพิ่มเป็นเครดิตในการเข้าปริญญาเอก งั้น Higher Education cup ก็จะเป็นตัวการันตีการเข้าปริญญาเอก
ลู่โจวไม่ได้สนใจ Higher Education cup มากนัก เป้าหมายของเขาคือรางวัลชนะเลิศอันดับประเทศ ถ้าเขาทำไม่ได้ เขาเกรงว่าเขาต้องรอจนถึงปีหน้ากว่าเขาจะทำภารกิจสำเร็จ ไม่งั้นเขาก็ต้องใช้แต้มทั่วไปเพื่อยกเลิกภารกิจ
ลู่โจวไม่เสียเวลาเปล่า เขาเปิดโน๊ตบุ๊ค เสียบ USB แล้วเริ่มเตรียมพาวเวอร์พ้อยสำหรับพรีเซ้นงาน
เวลานั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูมากจากนอกห้อง หวงกวงหมิงที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเปิดประตู
มันเป็นหัวหน้าห้องเถียนจวิน เขาถามขณะถือรายชื่ออยู่ในมือ “หลิวรุ่ยอยู่ในห้องไหม?”
“อยู่!” หลิวรุ่ยกล่าว เขากำลังซักผ้าอยู่ที่ระเบียง เมื่อเขารีบกลับเข้ามาในห้อง เขาก็ถีบกะลามังซักผ้าของหวงกวงหมิงออกไปก่อนจะรีบถามหัวหน้าห้อง “มีอะไร เกิดอะไรขึ้น?”
อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องอะไร
ในตอนเช้าเพื่อนร่วมทีมของหลิวรุ่ยได้พูดถึงรางวัลรองชนะเลิศระดับมณฑล หลิวรุ่ยไม่คิดมาก เพราะเขาแค่ลองหาประสบการณ์เพื่อที่เขาจะได้เข้าแข่งอีกครั้งในปีหน้าและพยายามสู้เพื่อรางวัลระดับประเทศ
“ขอแสดงความยินดีด้วย” หัวหน้าห้องกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาดึงเกียรติบัตรออกมาแล้วกล่าว “รางวัลรองชนะเลิศระดับมณฑล!”
เมื่อหวงกวงหมิงได้ยิน เขาก็เลิกเล่นโทรศัพท์แล้วตะโกน “เชี่ย หลิวรุ่ย นายมันบ้า”
สือช่างตาม “ไอ้บ้า ไอ้บ้า รองชนะเลิศระดับมณฑล นายเกือบได้รางวัลชนะเลิศแล้ว!”
“ในห้องเรามีใครได้รางวัลอีก?” หลิวรุ่ยถามและรีบหันไปมองทางลู่โจว
“ฉันคิดว่าเป็นหลัวรุ่นตง เขาได้รางวัลชนะเลิศระดับมณฑล” เถียนจวินกล่าว เขายิ้มแล้วกล่าวต่อ “รางวัลรองชนะเลิศก็ดีมากแล้ว มันดีกว่านักศึกษาโง่ที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันมากนัก!”
“ไม่ๆ ฉันแค่โชคดี ฮ่าๆ” หลิวรุ่ยตอบอย่างถ่อมตนแม้ว่าในใจของเขาจะมีความสุขมากก็ตาม
แม้ว่าหลิวรุ่ยจะอิจฉา แต่เขาก็พูดอะไรไม่ได้มากเกี่ยวกับอัจฉริยะหลัว ดังนั้นในใจของหลิวรุ่ยจึงไม่เกิดความผันผวนมากนัก
สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือลู่โจวไม่ได้รับรางวัล!
นักศึกษาอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเอกคณิตศาสตร์ไม่ได้รับแม้แต่รางวัลชมเชย!
อะไรกันนี่!
นี่ทำให้หลิวรุ่ยมีความสุขมากกว่ารางวัลที่เขาได้เสียอีก
ไม่ ฉันไม่สามารถหัวเราะเสียงดัง
หลิวรุ่ยกระแอมแล้วทำเหมือนกับว่าเขาเป็นห่วงมาก “แล้วโจวล่ะ? นายพลาดเกียรติบัตรของเขารึเปล่า?”
“เขาไม่ได้อยู่ในรายชื่อ ฉันไม่แน่ใจ…”
เถียนจวินไม่เห็นลู่โจวอยู่ในรายชื่อ ลู่โจวเป็นนักศึกษาอัจฉริยะ ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบเพิ่มอีกสองครั้ง แต่เขาก็ยังไม่เจอชื่อลู่โจว เขาถาม “โจว ทำไมนายไม่ถามที่ปรึกษาล่ะ? บางทีรายชื่อของฉันอาจมีไม่ครบ…”
“นั่นสิ ทำไมโจวถึงไม่มีในรายชื่อ มันไม่สมเหตุสมผลเลย” สือช่างกล่าวพลางพยักหน้า
แม้ว่าสือช่างจะโกรธแค้นกับคำพูดของลู่โจวอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังนับถือความสามารถของหมอนี่
อันที่จริงเถียนจวินพูดถูก รายชื่อของเขาไม่สมบูรณ์
รายชื่อที่ถูกมอบให้เขามาจากอาจารย์ที่รับผิดชอบในการฝึกอบรมการแข่งขัน มันมีแค่ทีมที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ทางการของมหาลัยเท่านั้น
ลู่โจวไม่ได้รับการจัดการโดยทางมหาลัย เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมฝึกอบรมพิเศษที่จัดการโดยคณะ ชื่อของเขาย่อมไม่อยู่ในรายชื่อ
“นายไม่ต้องหาหรอก” ลู่โจวกล่าวขณะค้นหาเนื้อหามาทำพาวเวอร์พ้อย
รางวัลของเขาเดี๋ยวสุดท้ายก็มาเอง เขาไม่เร่งรีบ และเขาไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนี้ถึงกังวลนักกับการได้เห็นกระดาษแผ่นนึง
สือช่างเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของลู่โจวแล้วเข้าใจผิด “ไม่นะ! แล้วถ้าเกิดรายชื่อผิดจริงๆล่ะ?!”
หวงกวงหมิงเห็นด้วย เขาพูด “นั่นสิ แม้แต่หลิวรุ่ยก็ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ นายจะไม่ได้รางวัลได้ไง?”
หลิวรุ่ยโกรธมากและดูหมิ่นหวงกวงหมิงในใจ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าหลิวรุ่ยจะคิดยังไง เขาก็ยังแสร้งทำเหมือนกับเห็นด้วยกับพวกเขา
“ไม่เป็นไรจริงๆ” ลู่โจวกล่าวและส่ายหน้า เขากล่าวเสริม “รางวัลจะถูกส่งมาไม่ช้าก็เร็ว”
เถียนจวินสับสน “ไม่ช้าก็เร็ว?”
ลู่โจวตอบ “ใช่” เขาเปิดเบราเซอร์แล้วเข้าไปที่อีเมลล์ “ศาสตราจารย์หลิวแจ้งให้ฉันทราบถึงการพรีเซ้นงานแล้ว เกียรติบัตรจะถูกส่งมาเร็วๆนี้ ฉันเลยไม่รีบ”
ดูเหมือนความเข้าใจจะถูกเข้าใจผิดไปไกล
บรรยากาศในหอพักเงียบไปสามวินาที
ในที่สุดสือช่างก็กล่าวด้วยความตกใจ “เชี่ย! ลู่โจว นายบ้ามาก!”
หวงกวงหมิงเอาแขนโอบไหล่ลู่โจว “ชนะเลิศอันดับหนึ่งระดับมณฑล! นายต้องได้รับรางวัลระดับประเทศแน่! เลี้ยงข้าวเราด้วยลู่โจว!”
ลู่โจวปัดแขนอีกฝ่ายเหมือนปัดยุง เขาเอาหน้าถอยออกห่าง “ไปไกลเลย ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว ฉันไม่ใช่เกย์ ฉันต้องทำพาวเวอร์พ้อย ไว้เราคุยกันเรื่องเลี้ยงข้าวหลังจากที่ฉันได้รับเงินรางวัล!”
หัวหน้าห้องเถียนจวินถอนหายใจแล้วปิดรายชื่อ เขายิ้มแล้วกล่าว “ฉันบอกแล้ว ฉันรู้ว่าลู่โจวจะได้รับรางวัลชนะเลิศ! ฉันเดาว่าศาสตราจารย์หลิวคงมีมัน เอาล่ะ งั้นฉันขอตัวก่อน”
หลิวรุ่ย “…”
หลิวรุ่ยยิ้มอย่างไม่เต็มใจแม้ว่าจริงๆแล้วเขาอยากจะร้องไห้ก็ตาม
ในที่สุดฉันก็รู้สึกดีกับตัวเองสักครั้ง แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นหายไปแล้ว…
ตอนที่ 64 การพรีเซ้นระดับมณฑล
การพรีเซ้นวันนี้จัดที่วิทยาเขตของคู่แข่งมหาลัยจินหลิง มหาลัยตง ผู้ตัดสินเป็นนักวิชาการที่ทรงเกียรติจากแวดวงการบินและอวกาศที่มีสมญานามที่น่าประทับใจอย่าง ประธานสมาคมวิจัยเทคโนโลยีการบินและอวกาศเจียงซู หรือศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาลัยในแวดวงการบินและอวกาศ
ในระยะสั้น มันมีบรรยากาศกดดันหนักหน่วง
หลิวอวี่เซียงนั่งอยู่ที่เลานจ์ของมหาลัยตง เธออ่านกระดาษ A4 ที่มีเนื้อหาเป็นวิทยานิพนธ์ซ้ำไปซ้ำมาในขณะที่หวังเสี่ยวตงกับลู่โจวพูดคุยกันถึงเรื่องความเป็นไปได้ของคำถามที่ผู้ตัดสินจะถามในระหว่างพรีเซ้น หลินอวี่เซียงนั่งอยู่ข้างๆและกำลังรู้สึกงงงวย เธอเตรียมพร้อมที่จะรินน้ำชาให้พวกเขา
การพรีเซ้นวิทยานิพนธ์จะดำเนินการโดยลู่โจวเป็นหลัก หวังเสี่ยวตงจะทำหน้าที่เป็นคนสนับสนุน แต่ลู่โจวก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก
คำถามการสร้างแบบจำลองที่ต้องใช้สิบประโยคในการอธิบาย หวังเสี่ยวตงจะรวมมันเป็นประโยคเดียว คำถามการเขียนโปรแกรมง่ายๆ เขาจะอธิบายมันเป็นสิบประโยคแทน เขามีความสามารถ แต่เขาสื่อสารได้ไม่เก่ง ระดับฝีมือของเขาสูง แต่มันใช้จริงไม่ได้
หลินอวี่เซียงไร้ประโยชน์กว่านั้นอีก ปกติเธอจะเป็นเด็กส่งของ ตอนแรกเธอบอกว่าเธอจะรับผิดชอบในการพรีเซ้นงาน อย่างไรก็ตามถ้ามีคนถามเธอถึงวิธีคำนวณพิกัดการลงจอด เธอก็ทำได้แต่จ้องมองเพื่อนร่วมทีมด้วยแววตาเหมือนลูกหมา
เป็นไปตามคาด ลู่โจวต้องพึ่งตัวเอง
ลู่โจวแบกมาทั้งการแข่งขัน ตอนนี้มันถึงเวลาที่เขาจะต้องแบกการพรีเซ้นด้วย
พาวเวอร์พ้อยนั้นเรียบง่าย เขาแค่คัดลอกเนื้อหามาจากวิทยานิพนธ์
ลู่โจวฝึกซ้อมการพรีเซ้นมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเมื่อขึ้นไปบนเวทีเขาจึงไม่ตื่นตระหนกเลย
ขั้นตอนการพรีเซ้นถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการอธิบายวิทยานิพนธ์ ส่วนที่สองเป็นการตอบคำถามของผู้ตัดสิน มันใช้เวลาสประมาณแปดนาทีต่อรอบและส่วนใหญ่เป็นการทดสอบความถูกต้องของวิทยานิพนธ์เพื่อดูว่าเป็นผู้เขียนวิทยานิพนธ์ตัวจริงหรือไม่
ลู่โจวรีบนำเสนอพาวเวอร์พ้อยและอธิบายกระบวนการแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ในขั้นตอนที่สองผู้ตัดสินผู้เชี่ยวชาญถามคำถามสองข้อและลู่โจวก็ตอบคำถามโดยไม่มีปัญหาอะไร
สุดท้ายศาสตราจารย์อาวุโสที่เป็นประธานสมาคมวิจัยเทคโนโลยีการบินและอวกาศเจียงซูก็ยิ้มแล้วยกนิ้วโป้งให้เขา จากนั้นประธานท่านนั้นก็ส่งสัญญาณให้เพื่อบอกว่าการพรีเซ้นจบลงแล้ว ลู่โจวจึงสามารถจากไปได้
เมื่อลู่โจวกลับมาจากเวทีและเดินผ่านกัปตันทีมพรีเซ้นทีมต่อไป เขาก็โล่งอก
หลินอวี่เซียงเดินมาและกล่าวอย่างตื่นเต้น “กัปตัน คุณเก่งมากที่ศาสตราจารย์คนนั้นถึงกับยกนิ้วให้!”
ลู่โจวตอบ “มันอาจทำเป็นพิธีก็ได้ใช่ไหม?”
หลินอวี่เซียงกล่าว “ไม่มีทาง!” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงมีความสุข “เมื่อพวกคุณกำลังเตรียมตัว ฉันแอบมองการพรีเซ้นของคนอื่น ศาสตราจารย์มีสีหน้าเหมือนเดิมมาตลอด แต่พอเป็นคุณ ท่านก็เปลี่ยนสีหน้า!”
เธอสังเกตด้วย?!
ลู่โจวครุ่นคิดอย่างจริงจัง
สุดท้ายเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “บางที…มันอาจเป็นเพราะว่าผมหล่อเกินไป”
หวังเสี่ยวตง “…”
หลินอวี่เซียง “…”
พวกเขาขึ้นรถมหาลัยกลับวิทยาเขต
ลู่โจวสังเกตว่าหลัวรุ่นตงไม่มีความสุขนัก บางทีเขาคงพรีเซ้นได้ไม่ดี เพราะเขาไม่ได้พูดกับเพื่อนร่วมทีมเลย
ส่วนคนอื่น พวกเขาส่วนใหญ่กำลังพูดถึงการพรีเซ้น
“พรีเซ้นของนายเป็นไงบ้าง?”
“ก็ดี แต่คำถามที่ศาสตราจารย์ถามมันยากเกินไป”
“นั่นสิ มันเหมือนกับเขาพยายามลงโทษเราที่เราเลือกโจทย์ B”
“ตลกแล้ว นายคิดว่าเขาจะไม่ทรมาณเราที่เลือกโจทย์ A เหรอ? อย่างมากเขาก็ถามคุณเรื่องมิติของโต๊ะ แต่เขาถามเราถึงวิธีบินขึ้นอวกาศ!”
“ไม่ว่ายังไงการพรีเซ้นก็เป็นแค่การยืนยันว่าวิทยานิพนธ์เป็นตัวเราเขียนจริงๆ มันไม่ได้เพิ่มคะแนนพิเศษให้กับการแข่งขัน ดังนั้นตราบใดที่นายผ่านก็พอแล้ว”
“ฉันคิดว่ามันยังส่งผลอยู่บ้าง ฉันได้ยินมาว่าจำนวนรางวัลระดับประเทศมีจำกัดและพวกเขาจะนำการพรีเซ้นไป…”
ลู่โจวไม่ได้เข้าร่วมการสนทนา กลับกันเขานอนบนเก้าอี้แล้วหลับตา
กว่ารถบัสโรงเรียนจะกลับมาถึงวิทยาเขตของมหาลัยจินหลิง มันก็เกือบห้าโมงเย็นแล้ว
เมื่อลู่โจวกลับมาถึงหอพัก เขาก็ไม่ทันได้วางกระเป๋าลงด้วยซ้ำ พวกรูมเมททั้งสามก็มาล้อมตัวเขา
หวงกวงหมิงถามคนแรก “โจว พรีเซ้นเป็นไงบ้าง? นายได้รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ?”
ลู่โจวตอบอย่างคลุมเครือ “ก็ดี”
เขาไม่คิดเลยว่าไอ้เจ้าสามตัวนี้จะแยกย้ายกันหลังได้ยินแบบนั้น
หลิวรุ่ย “ใจเย็น”
หวงกวงหมิง “ใจเย็น เขาได้เลี้ยงข้าวเราแน่นอน”
สือช่าง “‘ก็ดี’ของลู่โจวก็เหมือนกับ’ทำพลาด’ของรุ่ย เราเข้าใจแล้ว”
หลิวรุ่ยไม่พอใจ เขาตบโต๊ะแล้วกล่าว “เชี่ย ทำไมนายถึงย้อนกลับมาหาฉัน?”
ลู่โจว “???”
…..
รายชื่อผู้ชนะถูกเปิดเผยแล้ว
มันไม่มีอะไรแปลกใจเลย เขาได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ!
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความคาดหวังของลู่โจว ภารกิจยังไม่สำเร็จ
หลังจากเขาได้ยินเรื่องของรางวัล เขาก็เข้าสู่มิติของระบบหลายครั้ง แต่ภารกิจยังอยู่ในระยะ [กำลังดำเนินการ]
บางทีฉันต้องมีเกียรติบัตร?
แต่ภารกิจวิทยานิพนธ์ครั้งก่อนสำเร็จก่อนมันผ่านกระบวนการตรวจสอบเสียอีก
เมื่อลู่โจวกำลังสงสัยว่าระบบเล่นแง่ ศาสตราจารย์หลิวก็โทรมาหาเขาแล้วบอกให้เขาไปที่ออฟฟิศ
ขณะที่เขาเดินไปออฟฟิศศาสตราจารย์หลิว ลู่โจวก็สับสน
เมื่อศาสตราจารย์หลิวเห็นลู่โจวเดินเข้ามา เขาก็ยิ้มแล้วสังสัญญาณให้เขานั่งลง
“ผลงานของทีมเธอได้รับการคัดเลือกจากผู้ตัดสินระดับประเทศ เธอได้รับเชิญให้ไปปักกิ่งเพื่อรับการสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ไปคุยกับเพื่อนร่วมทีมแล้วเก็บข้าวของ เธอจะออกนอกรั้วมหาลัยในสามวัน อาจารย์จะส่งพวกเธอที่สถานีรถไฟ”
มีเพียงรางวัลชนะเลิศระดับประเทศเท่านั้นที่จะได้รับการสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ หลังจากการสัมภาษณ์ ผู้ตัดสินจะประกาศผู้ชนะ Higher Education Society Cup และ Matlab Innovation Award การคัดเลือกรางวัลทั้งสองจะไม่ถูกแบ่งเป็นโจทย์ AB มันมีเพียงกลุ่มปริญญาตรีและกลุ่มสายอาชีพเท่านั้น นี่หมายถึงผู้ชนะเลิศที่แท้จริงกับรองชนะเลิศ
“การสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ? หมายความว่าผมต้องพรีเซ้นอีกครั้ง?” ลู่โจวถาม เขาตกตะลึง
ทำไมการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ถึงยุ่งยากแบบนี้?
“ใช่ เตรียมพาวเวอร์พ้อยและทำการแก้ไขสักเล็กน้อย คราวนี้เป็นมหาลัยเยียนปักกิ่ง และเธอจะได้รับการสัมภาษณ์โดยคณะกรรมการการจัดการแข่งขันแห่งชาติ!” ศาสตราจารย์หลิวเซี่ยงผิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาดื่มชาก่อนจะกล่าว “ทำให้ดีที่สุดแล้วกลับมาพร้อมกับรางวัล Higher Education award”
เขามีความมั่นใจกับทีมนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหัวหน้าทีม เด็กคนนี้ทำให้เขาพึงพอใจมาก
บางทีมันเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์ หรือเขาถ่อมตน หรือเขาฟังความเห็นของคนอื่น แม้ว่านิสัยของเขาจะมีความบกพร่องอยู่บ้าง แต่อย่างที่เฒ่าถังกล่าว ข้อดีมันกลบข้อเสีย
เมื่อศาสตราจารย์เห็นสีหน้าไม่เต็มใจของลู่โจว เขาก็วางขวดสูญญากาศลง เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทำไม? เธอไม่พอใจหรือ? มหาลัยจะจ่ายค่าตั๋วและส่งเธอไปเที่ยวในปักกิ่งสามวัน ถ้าอาจารย์เป็นเธอนะ อาจารย์คงมีความสุขมาก!”
เข้าใจแล้ว…
มันเป็นเพราะการแข่งขันยังไม่จบลง ดังนั้นระบบจึงตัดสินว่าภารกิจยังไม่สำเร็จ?
กล่าวอีกนัยนึง การได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศเป็นเพียงเงื่อนไขพื้นฐานของภารกิจ?
ถ้าฉันอยากได้รับผลการประเมิณภารกิจที่ดีขึ้น ฉันก็ต้องได้รับรางวัลที่ดีกว่าเดิม
ถ้าใช้ตรรกะนี้ รางวัล Matlab Innovation award ควรสอดคล้องกับการประเมิณผลระดับ S ส่วนรางวัล Higher Education cup award ที่เป็นสัญลักษณ์ของแชมป์…การประเมิณผลคือ S+!
ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะมองศาสตราจารย์หลิวแล้วกล่าว “ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปแจ้งเพื่อนร่วมทีม!”
ศาสตราจารย์หลิวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไปเถอะ อย่าลืมขอใบลาด้วยล่ะ”
ตอนที่ 65 รับการสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และไม่นานมันก็เป็นวันรับการสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญในปักกิ่ง
ทางมหาลัยคืนค่าตั๋วรถไฟให้ แต่ค่าโรงแรมนั้นไม่ใช่
ทั้งสามมาปักกิ่งโดยขึ้นรถไฟ และทุกคนก็จองโรงแรมใกล้กับมหาลัยเยียนจิง
พวกเขาไม่ได้คุยกันอีกคืนนั้น
ทั้งสามวางแผนจะพบกันวันถัดไปตอนแปดโมงเช้าในห้องนั่งเล่นของมหาลัยเยียนจิงซึ่งอยู่นอกห้องสัมภาษณ์
เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็เห็นคนพลุกพล่านแล้ว ไม่เพียงแต่จะมีทีมแข่งเท่านั้น แต่ยังมีนักข่าวที่มาสัมภาษณ์ทีมแข่งด้วย
ลู่โจวไม่อยากปรากฏในทีวี เขาจึงหาที่ไกลๆหน่อยแล้วนั่งลง เขาหยิบวิทยานิพนธ์ฉบับคัดลอกออกมาแล้วเริ่มเตรียมตัวครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้เริ่มอ่านอักษรตัวแรก เขาก็ได้ยินบทสนทนาใกล้ๆ
“…ผู้เชี่ยวชาญได้เลือกตัวผู้ชนะก่อนการสัมภาษณ์เสียอีก การสัมภาษณ์ก็แค่การทดสอบความถูกต้องของวิทยานิพนธ์ของคุณ” ไม่ไกลจากตรงนั้น คนที่ดูเหมือนอัจฉริยะเอนตัวพิงเก้าอี้แล้วกล่าวกับเพื่อนร่วมทีม “ฉันมาที่นี่สามครั้งแล้ว”
ผู้ฟังประหลาดใจ “ตกลงผู้ชนะถูกเลือกแล้ว?”
“พวกเขาเขียนสคริปต์แถลงข่าวไปแล้ว!” อัจฉริยะกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ท่านเทพ คุณมาจากไหน?”
“อู๋ต้าวโข่ว”
ทุกคนเผยสีหน้าชื่นชม
อัจฉริยะของอู๋ต้าวโข่วนั้นแตกต่างจากที่อื่น!
ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศสามครั้ง มันน่าประทับใจมาก!
บางทีชายคนนี้อาจจะได้รับรางวัล Higher Education Society Cup?!
แต่มหาลัยอู๋ต้าวโข่วคล้านเกินกว่าจะมาเข้าร่วมการแข่งขันการสร้างแบบจำลองระดับประเทศ เพราะพวกเขาสนใจแค่การแข่งขันภายในมหาลัยเท่านั้น
แต่สุดท้ายพวกเขาก็เข้าร่วมการแข่งขัน…
ลู่โจวนั่งอยู่ใกล้ๆและมีความประหลาดใจถูกเขียนไว้บนใบหน้า
นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?
เขาคิดว่าการสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญจะคล้ายกับการพรีเซ้น เขาไม่รู้เลยว่าเขามาที่นี่เพื่อแสดงตัวเท่านั้น เขาใช้เวลาสามวันในการแก้ไขพาวเวอร์พ้อย สรุปไม่มีใครสนใจพาวเวอร์พ้อยด้วยซ้ำ
ลู่โจวไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
แม้ว่าเขาจะมีที่นี่เพื่อแสดงตัวเท่านั้น แต่เขาก็ยังได้อะไรกลับไปบ้างใช่มั้ย? สุดท้ายแล้วอัจฉริยะทั่วประเทศมารวมกันอยู่ที่นี่ ถ้าเขาหาเพื่อนระดับนี้ได้ มันจะช่วยเขาในเรื่องความก้าวหน้าทางอาชีพในอนาคต…
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงทฤษฏีและมันก็ใช้ไม่ได้กับชีวิตจริงเสมอไป
อัจฉริยะต่างก็เย่อหยิ่ง กลุ่มคนที่เย่อหยิ่งจะไม่สามารถหาเพื่อนได้ เพราะพวกเขาคุยกันดีๆไม่ได้ด้วยซ้ำ
หลินอวี่เซียงรู้สึกไม่สบายใจและอึดอัดใจเมื่อได้นั่งอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนี้
เธอเคยติดอยู่ระหว่างสองอัจฉริยะ อย่างไรก็ตามตอนนี้มีอัจฉริยะเป็นสิบๆคนอยู่รอบตัวเธอ ในฐานะนักศึกษาโง่ เธอรู้สึกถึงความเข้ากันไม่ได้และเธอก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล!
รอยยิ้มหวานและไร้เดียงสาของเธอเริ่มฝืนๆและผิดธรรมชาติ
ลู่โจวกำลังอ่านวิทยานิพนธ์ในมือเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ที่กำลังมาถึง แต่แล้วก็มีนักข่าวสาวมาพร้อมกับตากล้อง
“สวัสดีค่ะ คุณคือลู่โจวใช่ไหม?”
เมื่อหลินฟ่านเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นไมโครโฟน เขามีความสงสัยอยู่ในใจ แต่เขาก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ครับ”
“ฉันมาจากปักกิ่งไดอารี่ ฉันขอสัมภาษณ์คุณได้ไหม?”
“ได้ครับ คุณอยากถามอะไร?”
“ขอบคุณค่ะสำหรับความร่วมมือ” นักข่าวสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวต่อ “คุณรู้สึกยังไงเกี่ยวกับการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์?”
ลู่โจวคิดแล้วกล่าว “ก็พอได้”
นั่นคือทั้งหมดที่เขากล่าว
“…” นักข่าวสาวยิ้มอย่างสุภาพแล้วถามต่อ “ก็พอได้? คุณรู้สึกว่าโจทย์มันยากไหม?”
“มันก็…โอเค” ลู่โจวกล่าว
จบ!
ฉันเกือบพูดว่า’ก็พอได้’อีกครั้งแล้ว
ลู่โจวยกย่องความฉลาดของตนอย่างเงียบๆ
นักข่าวสาว “…”
หลังจากลู่โจวส่งนักข่าวไปได้ในที่สุด เขาก็เตรียมสงบใจลงแล้วอ่านวิทยานิพนธ์ แต่แล้วก็มีชายคนนึงเดินมาหาอีก
ชายคนนั้นสวมชุดสูทที่โดดเด่นและดูมีการศึกษา ลู่โจวคิดว่าเขาดูดีเลยทีเดียว เขามีบรรยากาศคล้ายกับหวังเสี่ยวตง แต่รุนแรงกว่า
เมื่อมีผู้ชายหล่อเดินมา แววตาของหลินอวี่เซียงก็เปล่งประกาย เธอใช้โทรศัพท์เป็นกระจกเพื่อเล่นหน้าม้า
จุดที่น่ากระอักกระอ่วนก็คือชายคนนี้ไม่ได้มองเธอเลย เขาไม่เห็นแม้แต่หวังเสี่ยวตงอยู่ในสายตา เขาจับจ้องอยู่ที่ลู่โจวเพียงคนเดียว
“นายคือลู่โจวใช่ไหม?”
ลู่โจวเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าว “…คุณคือ?”
“เหว่ยเหวิน จากมหาลัยเยียน” เหว่ยเหวินกล่าวและยื่นมือออกมา เขากล่าวต่อ “ฉันเห็นวิทยานิพนธ์ของคุณใน [ทฤษฏีอินเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวดำเนินการเชิงเส้นและฟังก์ชั่นเชิงเส้น] มันเขียนได้ดีมาก”
ลู่โจวยิ้มแล้วจับมือ “คุณสุภาพเกินไป”
“ไม่จำเป็นต้องถ่อมตน” เหว่ยเหวินกล่าวและปล่อยมือลู่โจว จากนั้นเขาก็กล่าว “แน่นอน วิทยานิพนธ์ของคุณอาจจะดี แต่ฉันเป็นผู้ชนะการแข่งขันนี้”
ลู่โจว “???”
หลังจากเหว่ยเหวินกล่าวจบ เขาก็หันหลังกลับแล้วจากไป
ขณะที่ลู่โจวมองแผ่นหลังของชายคนนี้ เขาก็สับสน
อะไรเนี่ย? เขาถ่อมาหาเขาเพื่อจับมือแล้วพูดจาไร้สาระเนี่ยนะ?
และฉันก็ดันใช้เวลาทั้งหมดนี้วิเคราะห์ว่าทำไมเขาถึงมา
ฉันเป็นคนปกติคนเดียวที่อยู่ที่นี่เหรอ?
ลู่โจวส่ายหน้าแล้วตรวจสอบวิทยานิพนธ์ของตนต่อ แต่เวลานั้นเองเสียงออดก็ดังขึ้น
การพรีเซ้นเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
…..
ในห้องสัมภาษณ์ ผู้ตัดสินนั่งอยู่ที่โต๊ะผู้ตัดสินอย่างมืออาชีพ
ลู่โจวรู้สึกมึนกับสมญานามของพวกเขาแล้ว
เขาเล่นพาวเวอร์พ้อยตามแผน
การพรีเซ้นพาวเวอร์พ้อยก็จบลง
ลู่โจวกำลังรอคำถามจากคณะกรรมการการจัดการแข่งขันอย่างกระวนกระวาย แต่แล้วหนึ่งในชายชราที่นั่งอยู่ตรงกลางก็เปิดปากพูด
“คุณเห็นโอกาสอะไรในการลงจอดบนดวงจันทร์?”
อะไรนะ?
คำถามนี้เกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์เหรอ?
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ลังเลเลย เขาตอบทันทีอย่างฉะฉาน
“มันมีความหมาย”
“มีความหมายยังไง? ฉันคิดว่ามันเสียเงินเปล่า” ชายชรากล่าว เขาถามต่อ “ไม่นานมานี้ ฉันได้คุยเรื่องนี้กับเพื่อนเก่า ในแถบชนบทของประเทศหลายแห่ง เด็กๆไม่มีโต๊ะเรียนด้วยซ้ำ ค่าใช้จ่ายในการลงจอดดวงจันทร์คือหมื่นล้านเหรียญต่อปี เทียบกับอเมริกาหรือรัสเซีย มันมีความหมายแค่ไหนเชียว?”
ลู่โจวมองชายชราด้วยสายตาแปลกๆ เขาไม่รู้ว่าชายชราหมายความว่ายังไงถึงถามคำถามแบบนี้ เขากำลังถามถึงอนาคตของเทคโนโลยีการบินและอวกาศ? คุณค่าทางวิทยาศาสตร์ของการลงจอดดวงจันทร์? หรือโปรเจ็คอวกาศเพิ่มจิตวิญญาณของชาติ?
เขาไม่แน่ใจ
ลู่โจวแอบสังเกตผู้ตัดสินคนอื่นแล้วเห็นว่าพวกเขากำลังเฝ้าดูด้วยความสนใจอย่างยิ่ง
เมื่อหลินอวี่เซียงเห็นหัวหน้าทีมของเธอไม่ได้พูด เธอจึงอดรู้สึกกังวลไม่ได้ อย่างไรก็ตามหวังเสี่ยวตงยืนอยู่หลังลู่โจวโดยไร้อารมณ์ บางทีเขาอาจคิดว่าหัวหน้าทีมจะมีคำตอบหรือไม่ก็เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเหมือนกัน
ลู่โจวคิดเล็กน้อยแล้วเปิดปากพูด
“ท่านคิดว่ากำแพงเมืองจีนมีความหมายไหม?”
คิ้วของชายชราเลิกขึ้น เขาไม่คาดหวังกับคำตอบเลย เขายิ้มแล้วกล่าว “แน่นอนว่ามันมีความหมาย มีคนจีนคนไหนบ้างที่ไม่เห็นด้วย?”
“นั่นเป็นปัจจุบัน แต่ในอดีตล่ะ?” ลู่โจวถามด้วยรอยยิ้ม เขามองชายชราแล้วกล่าว “กว่าพันปีที่แล้ว ผู้คนมากมายคัดค้านการเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์และยกเลิกโปรเจ็คที่ยิ่งใหญ่มากมาย ฮ่องเต้ฉือจิ้งถังถูกวิพากษ์วิจารณ์มากว่าพันปีเพราะเรื่องนี้ ตอนนี้ถ้าเราคิดว่ามันเสียเงินเปล่าและคิดว่าขีปนาวุธกับดาวเทียมก็เพียงพอแล้ว เราจะไม่ถูกคนรุ่นถัดไปวิพากษ์วิจารณ์เช่นกันหรือ? มันเหมือนกับเรายอมแพ้ต่อจักรวาล?”
โต๊ะของผู้ตัดสินนิ่งเงียบไป
แม้ว่าหลินอวี่เซียงจะกลั้นหายใจ แต่เธอก็ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า หวังเสี่ยวตงยังคงไร้อารมณ์ แต่เขากำหมัดแน่น
ชายชรามองลู่โจวแล้วพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆ ใช่แล้ว! คำตอบที่ดี!”
จบแล้ว?
ลู่โจวไม่อยากจะเชื่อ ผู้ตัดสินคนนี้ปล่อยเขาไปจริงๆ
แล้ววิทยานิพนธ์ล่ะ? ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องของวิทยานิพนธ์หรือ? ทำไมขั้นตอนสำคัญถึงถูกข้ามไป? กลับกันเขาดันถูกถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องแทน
เขาไม่เชื่อว่าชายชราจะไม่รู้ความหมายที่อยู่เบื้องหลังของการบินและอวกาศ
หลังจากผู้ตัดสินส่งสัญญาณให้ลู่โจวออกไป ลู่โจวก็หยิบUSBของตนแล้วออกไปจากห้องพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมทั้งสอง
ก่อนที่เขาจะจากไป เขาก็เหลือบมองป้ายชื่อของชายชรา
เขาช็อค
เหรินจ่างหมิง!
แน่นอนชื่อไม่ได้ทำให้เขากลัว แต่เป็นสมญานามที่อยู่ท้ายชื่อต่างหาก
อดีตนักออกแบบชาวจีนของโปรเจ็คสำรวจดวงจันทร์!
หลังจากลู่โจวและเพื่อนร่วมทีมออกจากห้อง เหรินจ่างหมิงก็มองชายชราข้างเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เฒ่าหวัง คุณพอใจกับคำตอบนี้ไหม?”
“โอ้ ทำไมคุณถึงยกบทสนทนาของเรามาพูดบนเวทีล่ะ? นักศึกษาจะรู้อะไร? เขาก็แค่หลงตัวเอง” หวังจ้งอี้กล่าว แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่จากสีหน้าของเขา ดูเหมือนเขาจะปากไม่ตรงกับใจ
หวังจ้งอี้หยุดแล้วถาม “นักศึกษาคนนั้นชื่ออะไร?”
เหรินจ่างหมิงเปิดฝากขวดสูญญากาศแล้วจิบน้ำร้อนก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ลู่โจว”
หวังจ้งอี้ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ฉันคิดว่าฉันเคยได้ยินชื่อเขามาก่อน…”
…..
เมื่อทั้งสามกลับโรงแรมในตอนบ่าย พวกเขาก็รวมตัวกันอยู่หน้าทีวีห้องลู่โจว
ผู้ชนะจะถูกประกาศทางทีวี
ดูเหมือนการสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญมีไว้แค่ให้ทีมไปแสดงตัวเฉยๆจริงๆ ผู้ชนะถูกตัดสินก่อนเริ่มสัมภาษณ์ ไม่งั้นมันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตัดสินผู้ชนะในเวลาอันสั้นแบบนี้
พวกเขาไม่มีเวลาแลกเปลี่ยนความเห็นกันด้วยซ้ำ!
“มันคงดีมากถ้าเราได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ” หลินอวี่เซียงกล่าวขณะดูทีวี เธอกระซิบ “ฉันเห็นอัจฉริยะมากมายอยู่ในห้องนั่งเล่น”
“ใช่” หวังเสี่ยวตงกล่าวและพยักหน้า เขาเสริม “ฉันเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาสองสามคนในห้องนั่งเล่น”
“คุ้นหน้า?” ลู่โจวถาม
“ใช่” หวังเสี่ยวตงพยักหน้า เขากล่าวด้วยใบหน้าปราศจากอารมณ์ “ฉันเห็นพวกเขาที่งานประกวดการเขียนโปรแกรมนักศึกษามหาลัยแห่งชาติเมื่อปีที่แล้ว”
ไม่แปลกใจเลย!
งั้นนี่ก็เป็นการรวมตัวกันของอัจฉริยะจริงๆ
ลู่โจวพยักหน้าและจ้องทีวีต่อ
การแข่งขันอย่างการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มีผู้ชมน้อย ดังนั้น CCTV จึงไม่ได้ใช้เวลารายงานมากนัก กลับกันพวกเขาจะแทรกระหว่างข้อความข่าวแทน
“บ่ายวันนี้การสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญครั้งสุดท้ายของการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ได้รับข้อสรุปแล้ว มีนักศึกษาปริญญาตรีและนักศึกษาวิทยาลัยอาชีพมากกว่า 70,000 คนในประเทศและมีรางวัลชนะเลิศระดับประเทศกว่า 300 รางวัล”
“จากรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ 300 รางวัล มีรางวัลพิเศษสองรางวัล รางวัล Higher Education Society Cup และรางวัล the Matlab Innovation Award”
มาแล้ว
ลู่โจวกำหมัดแน่น เขากลั้นใจมองบนหน้าจอ
ช่วงเวลาตัดสินของผลประเมิณภารกิจของฉันมาถึงแล้ว!
รายชื่อผู้ชนะถูกประกาศออกมาแล้ว
ผู้ที่ได้รับรางวัล Higher Education Society Cup ระดับปริญญาตรีคือ…
ลู่โจว หวังเสี่ยวตง หลินอวี่เซียง(มหาวิทยาลัยจินหลิง)!
ตอนที่ 66 แชมป์ระดับประเทศ!
ผู้ที่ได้รับรางวัล Higher Education Society Cup ระดับปริญญาตรีคือ…
ลู่โจว หวังเสี่ยวตง หลินอวี่เซียง(มหาวิทยาลัยจินหลิง)!
คนอื่นๆในมหาลัยไม่ได้ตื่นเต้นนัก แต่หอพัก 201 มีความสุขมาก
“เชี่ย ลู่โจวแม่งบ้า!”
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม? อย่าเรียกเขาว่าโจว ต้องเรียกเขาว่าพี่โจว!”
“ใช่ๆ…”
หลิวรุ่ยมองหวงกวงหมิงกับสือช่างแล้วปิดโทรศัพท์ เขาแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะทำการบ้านฟิสิกส์ต่อ
รางวัล Higher Education Society Cup!
โดดเด่นเหนือนักศึกษามหาลัยกว่า 70,000 คน!
อ่า…
ลู่โจวอยู่คนละระดับกับหลิวรุ่ยแล้ว
ประตูหอพักถูกเปิดออกแล้วหัวหน้าห้องเถียนจวินก็รีบเข้ามาข้างใน ที่ตามหลังเขามาอย่างใกล้ชิดก็คือสมาชิกคณะกรรมการนักศึกษาหลี่เทาและอัจฉริยะหลัวรุ่นตง
เถียนจวินเดินเข้ามาแล้วตะโกน “เชี่ย สหายนายเห็นไหม? มหาลัยของเราได้รางวัล Higher Education Society Cup!” เขาพยายามหาลู่โจว แต่เขาก็ไม่พบ
หลัวรุ่นตงถาม “โจวอยู่ไหน?”
สือช่างยิ้มอย่างมีความสุขราวกับว่าเขาเป็นคนได้รางวัลเสียเอง “เขาอยู่ในปักกิ่ง เขาจะกลับมาพรุ่งนี้”
หลี่เทากล่าว “พี่โจวบ้าเกินไป ฉันสงสัยว่าเขาจะเข้าร่วมการแข่งขันปีหน้าเช่นกัน บางทีเขาน่าจะแบกฉันได้”
หลี่เทาเล่นวีดีโอเกมมากเกินไปเมื่อเทอมก่อน ส่งผลให้เกรดพีชคณิตขั้นสูงปลายภาคของเขานั้นย่ำแย่ ถ้าเขาขอให้ลู่โจวแบกเขาในการแข่งขัน เขาคงได้รับใบการันตีเข้าเรียนปริญญาโท
นั่นคือ Higher Education Society Cup เชียวนะ!
มหาลัยจินหลิงได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศหลายต่อหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้แชมป์
หลิวรุ่ยกล่าว “ไปไกลเลย นายสนับสนุนเขาตั้งแต่เริ่มไหม? นายไม่มีสิทธิ์พูด ออกไปรอข้างนอกเลย”
หวงกวงหมิงกล่าว “พี่รุ่ย ทำไมตานายถึงเป็นสีแดง(ด้วยความอิจฉา)? นายต้องการยาไหม?”
หลิวรุ่ย “…”
เขาอยากทุบตีใครบางคน
…..
[…]
[ผู้ที่ได้รับรางวัล MATLAB Innovation Award ระดับปริญญาตรีคือ เหว่ยเหวิน ชุ่ยจิง หยางว่านหง(มหาวิทยาลัยเยียนจิง)]
“เป็นไปได้ยังไง!”
เหว่ยเหวินลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธแล้วจ้องมองทีวี
รองชนะเลิศ…
กลายเป็นว่าฉันได้รับรางวัลรองชนะเลิศ…
ในสถานที่จัดงาน เขาได้ค้นหาคู่ต่อสู้ที่เขาคิดว่าแข็งแกร่งทั้งหมดแล้ว
อัจฉริยะที่ได้รับรางวัลระดับประเทศสามครั้งจากอู๋ต้าวโข่ว หรือทีมดั้งเดิมที่เป็นแชมป์เมื่อสิบสามปีก่อน หรือนักศึกษาจากมหาลัยจินหลิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมะเร็งโลกวิชาการ…
เหว่ยเหวินคิดว่าวิทยานิพนธ์ของลู่โจวนั้นย่ำแย่
ลู่โจวเป็นคนที่ไม่น่าได้รับรางวัลที่สุด อย่างไรก็ตามเขากลับเป็นแชมป์
เหว่ยเหวินยอมรับว่าลู่โจวแข็งแกร่ง ลู่โจวกระทั่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ศาสตราจารย์จาก Courant ของมหาลัยนิวยอร์ก เหว่ยเหวินไม่มั่นในในความสามารถการสร้างแบบจำลองของลู่โจว แต่ในด้านคณิตศาสตร์ ลู่โจวแข็งแกร่งกว่าเขา
อย่างไรก็ตามการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เป็นการแข่งขันแบบกลุ่มกึ่งๆการแข่งขันการวิจัยทางวิชาการแบบกลุ่ม มันไม่ใช่การสอบแข่งขันทางคณิตศาสตร์! การสร้างแบบจำลอง การเขียนโปรแกรม และการทำวิทยานิพนธ์จะถูกแบ่งงานกันอย่างเคร่งครัด ถ้ามีสักคนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ส่วนอื่นๆก็จะล้มเหลวตาม
เหว่ยเหวินเห็นเพื่อนร่วมทีมของลู่โจวแล้วไม่ได้ถือว่าเขาเป็นภัยคุกคาม
การเขียนโปรแกรมเป็นยอดฝีมือ แต่อย่างมากเขาก็เป็นยอดฝีมือเกรดสอง ไม่ใช่ยอดฝีมือชั้นนำ ส่วนเพื่อนร่วมทีมหญิง เธอไร้ประโยชน์มากจนเขาดูเธอออกในทันที
ผิวเผินมันเป็นการแข่งขันแบบ 3v3 แต่จริงๆแล้วมันเป็น 3v1.9
เหว่ยเหวินเห็นทีมอีกฝ่ายแล้วมั่นใจว่าอย่างมากอีกฝ่ายก็ได้แค่รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ
อย่างไรก็ตาม…
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตรงข้ามกับที่เขาคาดหวังไว้
แชมป์ไม่ได้เป็นของเขา หรือทีมที่เขาถือว่าเป็นภัยคุกคาม แต่มันกลับเป็นของคนๆนั้น..
เมื่อข่าวจบลง ใบหน้าที่หล่อเหลาของเหว่ยเหวินก็เปี่ยมไปด้วยความเหยียดหยัน เขากัดริมฝีปากเล็กน้อยแล้วกลับไปนั่งบนเก้าอี้
เมื่อเทียบกับรางวัล Higher Education Society Cup รางวัล MATLAB Innovation award ก็แค่รางวัลปลอบใจของผู้แพ้ ในอดีตเคยมีรางวัล IBM-SPSS Innovation award ซึ่งมันก็เป็นสิ่งเดียวกัน มันหมายความว่าการเขียนโปรแกรมของคุณดี แต่การสร้างแบบจำลองของคุณยังแย่กว่าผู้ชนะเล็กน้อย รอบหน้าก็พยายามให้มากขึ้น…
คนส่วนใหญ่จะมีความสุขกับรางวัลนี้
อย่างไรก็ตามสำหรับเขา รางวัลอื่นนอกจากแชมป์นั้นไร้ความหมาย
หญิงสาวที่มีผมหน้าม้านั่งอยู่ข้างเขาแล้วจ้องมองทีวี ทั้งสองต่างก็นิ่งเงียบ
หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที จู่ๆเหว่ยเหวินก็พูด
“…เสี่ยวเจียง เอาคอมพิวเตอร์ให้ฉันหน่อย”
“โอเค” ชุ่ยเจียงกล่าวและพยักหน้า เธอเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบเอาโน๊ตบุ๊คก่อนมาก่อนจะเอามาให้กัปตัน
เหว่ยเหวินรับโน๊ตบุ๊คแล้วเข้าไปยังเว็บไซต์ทางการ
วิทยานิพนธ์ของผู้ชนะเลิศจะถูกแสดงต่อสาธารณะบนเว็บไซต์ มันจะถูกใช้เป็นตัวอย่างเพื่อให้คนอื่นๆนำไปเรียนรู้และบอกผู้แพ้ว่าทำไมถึงแพ้ มันเป็นการให้สาธารณะตรวจสอบความยุติธรรมของการแข่งขันด้วยเช่นกัน
วิทยานิพนธ์ของลู่โจวอยู่อันดับแรกและเหว่ยเหวินก็พบมันอย่างรวดเร็ว
เขาดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์ของผู้ชนะเลิศแล้วเปิดไฟล์ PDF เหว่ยเหวินขมวดคิ้วขณะจ้องมองหน้าจอ เขาอ่านตั้งแต่คำแรกจนถึงภาคผนวกอย่างละเอียด
“…”
เขาเงียบไปครึ่งชั่วโมงก่อนจะคลายใจและถอนหายใจ
“ฉันแพ้แล้ว…”
มันอาจมีกรณีโชคดีในการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ถ้าศาสตราจารย์ที่ตรวจสอบชอบวิทยานิพนธ์ แม้ว่าวิทยานิพนธ์จะธรรมดา แต่มันก็ยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศหรือแม้แต่รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ
อย่างไรก็ตามการคัดเลือกของรางวัล’Higher Education Society Cup’ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่หนึ่งของประเทศ โชคไม่ได้มีอยู่จริง วิทยานิพนธ์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงทุกชิ้นจะถูกตรวจสอบโดยผู้ตัดสินทุกท่าน
ผู้ตัดสินที่นั่งอยู่ตรงกลางคือใคร? เขาคืออดีตหัวหน้านักออกแบบรัฐบาลจีนของโปรเจ็คสำรวจดวงจันทร์ ตัวเขามีอิทธิพลต่อการออกแบบ Chang’e 3 ไม่มีใครแล้วที่มีความรู้ด้านการบินและอวกาศมากกว่าเขา
เหว่ยเหวินอ่านวิทยานิพนธ์ของลู่โจวจบแล้วมั่นใจสิ่งหนึ่ง
ด้านการเขียนโปรแกรมนั้นเขาบอกไม่ได้ บางทีเขาอาจดีกว่า แต่ด้านการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เขาแพ้ โดยไม่ต้องสงสัยส่วนวิทยานิพนธ์เขาก็แพ้เช่นกัน
เหว่ยเหวินสังเกตว่าการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์กับกระบวนการคิดของวิทยานิพนธ์นั้นเหมือนกัน
ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าลู่โจวทำทั้งสร้างแบบจำลองและวิทยานิพนธ์ด้วยตนเอง
แม้ว่าจะมีทีมอ่อนๆบางทีมที่ใช้กลยุทธิ์หนึ่งคนแบกทีม แต่ไม่เคยมีทีมไหนเลยที่ได้รับรางวัล Higher Education Society Cup โดยใช้กลยุทธ์หนึ่งคนแบกทีม
เวลาในการแข่งขันมีสามวันเท่านั้น และมันต้องเป็นแบบจำลองและวิทยานิพนธ์คุณภาพสูง แค่คนๆนึงทำงานเดียว พวกเขาก็เหนื่อยแล้ว คนที่ทำงานทั้งสองอย่างเป็นคนเสียสติแน่นอน คนๆนั้นต้องเสียสละเวลาทานข้าวและเวลานอนเพียงเพื่อรับประกันคุณภาพของแบบจำลองและวิทยานิพนธ์
อย่างไรก็ตามชายที่ชื่อลู่โจวทำทั้งสองอย่างนั้นเป็นความจริง
เจ้าหมอนี่เป็นสัตว์ประหลาด…
เหว่ยเหวินกัดปากจนเป็นสีฟ้า
มันไม่ใช่เพราะความอิจฉา
มันเป็นเพราะเขารู้สึกอัปยศโดยอีกฝ่าย
“นายจะทำอะไรต่อ?” ชุ่ยจิงกล่าวขณะยืนอยู่ด้านหลังเขา
เขาเงียบไปชั่วครู่
“ฉันไม่ได้วางแผนจะทำอะไร มันเป็นแค่ความพ่ายแพ้เท่านั้น”
เหว่ยเหวินวางโน๊ตบุ๊คแล้วลุกขึ้นยืน
ในสายตาเขา ความหดหู่และความเศร้าใจนั้นได้หายไปแล้ว แต่วิญญาณการต่อสู้กำลังลุกโชนขึ้นมาแทน
การได้แข่งขันกับคู่ต่อสู้แบบนี้เป็นสิ่งที่ดี
นี่เป็นเพียงความพ่ายแพ้ครั้งเดียว
ครั้งหน้าฉันจะไม่แพ้แน่นอน!
เหว่ยเหวินเงียบไปแปปนึงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆและกล่าวอย่างใจเย็น “อย่าลืมว่าฉันยังมีการแข่งขันของอเมริกาในเดือนกุมภา!”
ชุ่ยจิงยืนอยู่ด้านหลังเขาแล้วยิ้มบางๆ
นี่แหละเหว่ยเหวินที่เธอรู้จัก
ชายที่ไม่เคยยอมแพ้
“โอเค”
…..
คืนนี้ลู่โจวรับโทรศัพท์มากมาย
คนจากหอพัก 201 ก็เรียกเขาว่า “พี่โจว พี่โจว” แล้วขอให้เขาเลี้ยงข้าว
นี่เป็นเวลาเดียวเท่านั้นที่สัตว์ฝูงนี้นับถือลู่โจวเยี่ยงนี้
คณบดีจางโทรมาแสดงความยินดีกับลู่โจวเช่นกัน จากนั้นเขาก็เริ่มชมเชยตัวเองและบอกว่าลู่โจวเป็นเหมือนเขาตอนหนุ่มๆ
เมื่อได้ยินคณบดีจางพูดแบบนั้น ลู่โจวก็ตะลึง
ถ้าชายคนนี้ไม่ใช่ศาสตราจารย์ ลู่โจวคงวางสายไปแล้ว
มีคนจากมหาลัยโทรมาหาเขาเช่นกัน
คณบดีหลู่ ศาสตราจารย์ถังและศาสตราจารย์หลิว
ศาสตราจารย์หลิวไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนแล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ทำได้ดีมาก รางวัล Higher Education Society Cup! มหาลัยของเราได้รางวัลชนะเลิศระดับประเทศสองรางวัลและมีสองทีมที่ไปปักกิ่งได้ อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้รับรางวัล Higher Education Society Cup!”
ศาสตราจารย์หลิวพูดมาจนถึงตอนนี้ เขาก็กล่าวชื่นชมลู่โจวอย่างจริงใจ “เธอค่อนข้างแข็งแกร่ง อาจารย์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะชนะเลิศโดยไม่ได้พยายามหนักขนาดนั้น ปีหน้าก็ไปชิงรางวัล O award ของการแข่งขันของอเมริกามาซะ”
รางวัล O award เป็นชื่อย่อของผู้ชนะเลิศดีเด่นซึ่งเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน รางวัล F จะถูกเลือกจากรางวัล M (รางวัลชนะเลิศ) จากนั้นรางวัล O award ระดับโลกก็จะถูกเลือกจากรางวัล F อย่างมากมันก็มีรางวัล O award เพียง 20 รางวัลเท่านั้น
รางวัล O Award ยังมาพร้อมกับรางวัลจากสมาคมและบริษัทต่างๆเช่นกัน ดังนั้นมันจึงเทียบเท่าได้กับรางวัล Higher Education Society Cup แม้ว่าชื่อจะคล้ายกัน แต่การปฏิบัติแตกต่างกันมาก ยกตัวอย่างเช่นดับเบิ้ลซีเกลลงทุน 10,000 เหรียญเป็นโบนัสให้ผู้ชนะเลิศรางวัล O award อย่างไรก็ตามมันมีไว้ให้ทีมอเมริกาเท่านั้น…
“มันไม่ใช่แค่ผม ถ้าไม่มีการเขียนโปรแกรมจากหวังเสี่ยวตง ผมคงไม่ชนะ” ลู่โจวกล่าวแล้วยิ้มอย่างถ่อมตน
“โอ้ ใช่แล้ว” ศาสตราจารย์หลิวกล่าว เขายิ้มแล้วกล่าวต่อ “มหาลัยพร้อมมอบโบนัสหมื่นเหรียญให้เธอแล้ว อาจารย์ใหญ่พึ่งพูดกับอาจารย์ทางโทรศัพท์และขอความเห็นจากอาจารย์ เขาบอกว่าเนื่องจากกัปตันลู่โจวทำทั้งแบบจำลองและวิทยานิพนธ์ เธอควรได้รับเงินทั้ง 10,000 หยวนเอง อย่างไรก็ตามจากที่เธอพูดมา อาจารย์ว่าอาจารย์ควรแบ่งเงิน 10,000 หยวนนี้ให้เธอกับหวังเสี่ยวตงคนละครึ่ง
เมื่อได้ยินแบบนั้น ลู่โจวก็ไม่มีความสุข
“อาจารย์ ผมคิดอย่างรอบคอบแล้ว” ลู่โจวกล่าว เขากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แม้ว่าความพยายามของหวังเสี่ยวตงจะโดดเด่น แต่ผมคิดว่าถ้าไม่มีผมทำงานต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง เราคงไม่ได้เป็นแชมป์ ดังนั้น…”
“ฮ่าๆๆๆๆ เลิกแสร้งทำได้แล้ว” ศาสตราจารย์หลิวกล่าว เสียงหัวเราะของเขาขัดจังหวะลู่โจว “ศาสตราจารย์ถังพูดถูก เธอไม่ซื่อตรงเลยจริงๆ”
ลู่โจวเห็นว่าศาสตราจารย์มองเขาออก ดังนั้นเขาจึงกระแอมแล้วกล่าว “งั้น…อย่างมากก็ให้เขาหนึ่งในสาม ครึ่งนึงไม่ค่อยยุติธรรม ตอนที่ผมเขียนวิทยานิพนธ์ คืนที่สองผมไม่ได้นอนเลย”
“อาจารย์แค่พูดเล่น อาจารย์ใหญ่สวี่บอกว่าเงินก้อนนี้ทั้งหมดจะเป็นของเธอ ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงไป” ศาสตราจารย์หลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากล่าวเสริม “ถ้าเธอเบื่อปักกิ่ง เธอก็รีบกลับมา”
ลู่โจวถาม “ผมจะขึ้นรถไฟพรุ่งนี้ มีเรื่องด่วนไหมครับ?”
“ไม่มีเรื่องด่วน อาจารย์แค่อยากถ่ายรูปเธอ”
ถ่ายรูป?
รูปเกียรติบัตรจากรางวัลก็อยู่บนโลกออนไลน์เช่นกัน ทำไมฉันต้องถ่ายรูปเพิ่มด้วย?
ลู่โจวถามด้วยความสงสัย “รูปอะไรครับ?”
ศาสตราจารย์หลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เราจะได้ติดรูปของเธอบนถ้วยรางวัลบนผนังไง!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น