Rise of The Undead Legion 90-103

 Chapter 90:หลอก…


เดฟแอบกลับเข้าไปในดันเจี้ยนตอนที่เห็นผู้เล่นสองคนนั้น


เดฟสบถออกมาและเดินเข้าไปในดันเจี้ยนลึกไปเรื่อยๆแต่มันก็ดูตลกที่บอสต้องมาวิ่งหนีผู้เล่น


พวกสองคนนั้นไม่มีเกียรติ Deadra เอาชนะพวกนี้ได้เพราะพวกนี้ไม่ได้เชื่อใจกัน ตอนที่ถูกส่งไปจุดเกิด ชิ้นส่วนการสืบทอดที่ดรอปลงมาให้กับเดฟ ปรากฏว่าแม้ว่าพวกนี้จะหักหลังกันและพยายามฆ่าเขาแต่สองคนนี้ก็ต้องรับผลกรรมที่ตัวก่อเอาไว้ สองคนนั้นสมควรโดนแล้ว นั่นคือสิ่งที่เดฟคิด


เดฟเดินช้าลงพร้อมกับความคิดบางอย่างที่โผล่มาในหัว


” พวกขี้แพ้นั่นรู้แค่ว่าฉันเป็น Death Stroke ฉันคงแปลกใจถ้าพวกนั้นคิดว่าฉันเป็น Mr.Skeletal ตอนที่ฉันเป็นบอสอยู่ที่นี่ พวก TNT รู้ว่าเป็นฉันเพราะตอจนเข้ามาใกล้พอและบุคลิกของฉัน “


ในตอนที่คิดแบบนั้น เดฟก็ได้เข้าไปในห้องด้านข้างเพื่อพบกับผู้เล่นสามคน เขาพบว่าพวกนั้นเพิ่งจัดการกับกลุ่มอันเดตเสร็จ


เดฟยิ้มออกมาแล้วโผล่ไปด้านหลังสามคนนั้นพร้อมกับลูบหนวดตัวเองไปด้วย


Pussy Flanker ถึงกับขนลุก เขาหันกลับมาเจอกับบอสและต้องตกใจ


” เหี้ย ! “


” นี่มันอะไร ? ” – Perfect Shot หันกลับมาหาเพื่อนและต้องสะดุ้งตอนที่พบสีหน้าที่น่ากลัวของเดฟ


” ฉันมีงานให้พวกนายสามคน พวกนายอยากหาเงินกันมั้ยล่ะ ? ” – เดฟถาม


” เงิน ! ” – Human Fortress คึกขึ้นมาทันที


” แน่นอน ” – Perfect Shot ตอบกลับ – ” งานอะไร ? สำคัญขนาดถึงต้องมาเองเลยหรือไง ?”


” พวกนายไม่ต้องทุ่มเทอะไรมากแค่เสี่ยงนิดหน่อย เราจะจัดการกับไอ้บ้าสองตัว “


***


Stainless Steel และ Bone Breaker ค่อยๆเดินเข้ามาในดันเจี้ยน


” นายได้ยินนั่นมั้ย ? ” – Stainless Steel ถามพร้อมกับหยุด


” ได้ยินอะไร ? ” – Bone Breaker ตอบกลับ


” ฉันคิดว่าฉันได้ยินบางอย่าง “


Bone Breaker กัดฟันแน่น – ” บางทีอาจจะเป็นพวกอันเดต อย่าคิดอะไรมากเลย ที่นี่เป็นดันเจี้ยนเลเวลต่ำ เราไม่ได้มาลำพังด้วยแค่จำไว้ว่าเรามาทำอะไรที่นี่ก็พอ “


พวกโครงกระดูกที๋โชคร้ายเข้าโจมตีสองคนนั้น Bone Breaker เหวี่ยงคทาในมือจัดการจนโครงกระดูกระเบิดออกกลายเป็นฝุ่น


” ฉันไม่คิดว่าเขาจะกลับมาที่นี่ เขาไม่ได้ต้องการอะไรจากดันเจี้ยนนี้แล้ว ” – Death’s Apostle พูดขึ้น


” เขาต้องกลับมา เขาพยายามจะเป็นพาราดิน เขาได้รับเควสจากวัดของ Moria City และสำหรับพาราดินที่เริ่มต้นจากที่นี่เพื่ออัศวินอันเดตแล้ว เขาต้องกลับมาและฉันก็มาที่นี่เพื่อทวงของของฉันคืน ! “


ทฤษฎีของ Bone Breaker นั้นถูกต้อง เดฟได้กลับมาที่ดันเจี้ยนเพื่อทำเควสของตัวเอง ยกเว้นแค่ว่าเดฟไม่ได้สนใจเควสพาราดินอีกแล้วตอนที่ได้เป็น Death’s Apostle


Death’s Apostle ถอนหายใจออกมา – ” งั้นก็ช่างมันสิ เรามาที่นี่ทุกวันเป็นเวลาสองอาทิตย์แล้ว เราน่ะถูกทิ้งให้เลเวลห่างจากคนในกิลด์แล้ว นี่ไม่คุ้มเลย มันคงเป็นปาฏิหาริย์ถ้าเราไปเจอเขาอีก ไปหาเก็บ xp กันดีกว่า “


” ไม่ บ้าเอ้ย ! ถ้าเราฆ่าเขา เราจะได้การสืบทอดคลาส S กลับมาและฉันจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งในเกมนี้ ” – Bone Breaker ตะโกนขึ้นมา ชื่อเสียง เงินทอง สาวๆ เขาจะได้ทุกอย่าง


Death’s Apostle เกือบจะเถียงขึ้นแต่ก็เห็นบางอย่างแปลกๆตรงหน้า


ผู้เล่นสามคนกำลังยุ่งอยู่กับการเก็บของที่พื้น ดูเหมือนว่าพวกนี้จะเพิ่งฆ่ามอนสเตอร์มาแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร ส่วนที่แปลกคือของที่หล่นกระจายตามพื้นนั้นคอของที่อยู่ใกล้ตัวของบอส


อันเดตเกราะดำยืนอยู่ที่ใจกลางห้อง ดาบยาวนั้นปักลงไปที่พื้น มือกระดูกนั้นจับดาบเอาไว้แน่น นั่งอยู่ในท่าคุกเข่าราวกับกำลังภาวนาอยู่


ชื่อสีแดงบนหัวอันเดตชันแล้วว่าได้บอกถึงฐานะและคำอธิบายของมันว่าเป็นบอสของดันเจี้ยนแต่มันไม่เข้าโจมตีผู้เล่นที่คอยเก็บของอยู่รอบตัวมันเลย


” นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ไม่ใช่ว่านี่เป็นห้องบอสหรือไง ” – Stainless Steel สับสน – ” เราเข้ามาในดันเจี้ยนนี้หลายสิบครั้งแล้วแต่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน “


” โว๊ว ! พวก พวกนั้นมองมาที่เราอยู่ พวกนั้นมาทำอะไรกันที่นี่ ? ” – พรีสถามออกมา


” ฉันไม่รู้ นี่เป็นดันเจี้ยนเลเวลต่ำ บางที่พวกนั้นอาจะมาทำเควสหรืออย่างอื่นก็ได้ ” – แทงค์ตอบกลับ


ฮันเตอร์ไม่สนใจเพื่อนสองคนและตอบกลับ Stainless Steel และ Bone Breaker


” ว่าไง พวก มีอะไร ? เราออกไปก็ได้ถ้าขวางทางพวกนาย ไม่จำเป็นต้องมาอคติกันหรอก ของพวกนี้ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจหรอก “


Bone Breaker ฮึดฮัดใส่ฮันเตอร์ – ” หุบปากไป บอกมาว่าทำไมบอสถึงไม่สนใจพวกนาย นายยืนอยู่ตรงหน้าบอสแท้ๆแต่เหมือนมันไม่ได้มีระยะความโกรธกับตัวเลย “


” นายพูดถึงเรื่องอะไร ? บอสอะไร ? ที่นี่ไม่ใช่ห้องบอส ” – Perfect Shot ตอบกลับด้วยเสียงแปลกใจ


” บอยืนอยู่ตรงนั้นใจกลางห้องนั่นไง ! ” – เสียงตอบกลับด้วยความหงุดหงิดดังขึ้นมา


ผู้เล่นเลเวลต่ำทั้งสามคนหันกลับไปมองที่ที่ Bone Breaker ชี้ จากนั้นพวกเขาก็หันกลับมามองที่ Bone Breaker ราวกับว่าเป็นการตกลงว่าให้พวกเขาออกจากที่นี่


ฮันเตอร์มองไปที่ Bone Breaker แล้วเดินไปที่ประตู


” พวก ฉันไม่รู้ว่านายบ้าหรืออยากเล่นอะไรกับเราเพราะเราเลเวเลน้อยหรือเปล่าแต่เราจะไม่ยุ่งกับนายก็ได้ “


ฮันเตอร์พยักหน้าให้กับเพื่อนสองคน – ” ไปกันเถอะ พวก “


ในตอนที่เดินออกไปที่ประตู พรีสกับแทงค์ได้มองไปที่ Bone Breaker และ Stainless Steel ด้วยสายตาที่ดูสงสาร


” มันแปลกๆ ฉันเห็นบอสอยู่นิ ใช่หรือเปล่า ? ” – Bone Breaker พูดขึ้น เขาสงสัยว่ามันจะมีคำอธิบายอื่นกับสิ่งที่เขาเห็น


” ฉันไม่รู้ว่าพวกนั่นจะสูบกัญชากันด้วยแต่ฉันก็เห็นบอสนะ ” – Stainless Steel พูดขึ้น


” งั้นจัดการมันแล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น “


ตอนที่เดฟได้ยินว่าทั้งสองจะจัดการเขา ใจของเขาก็เต้นรัวแต่เขาก็ต้องทำตามที่วางแผนเอาไว้ การแสดงของสามคนตะกี้นี้สมบูรณ์แบบ เขาจะไม่ทิ้งโอกาสนี้ไป


ตอนที่ผู้เล่นเข้ามาในระยะความโกรธ เดฟก็เงยหน้าขึ้นมองเข้าไปในตาของ Bone Breaker


” ในที่สุด แกก็กลับมา ! ” – เดฟพูดขึ้นม่า


” มันพูดได้ ? ” – Stainless Steel แปลกใจ


” โง่เง่า ! ” – บอสคำรามออกมาแล้วมองไปที่ผู้เล่นทั้งสอง – ” พวกแกปล่อย Deadra ปล่อยมันเข้าไปในโลก เพราะแก การสืบทอดของ Death จึงได้ตกอยู่ในมือของศัตรู “


” งั้นมาจัดการเอาของจากมันดีกว่า ” – Stainless Steel พูดขึ้น – ” ฉันไม่ชอบตอนที่มอนสเตอร์พูดมาก “


” เดี๋ยวก่อน ฉันว่ามันน่าจะมีเควส ” – Bone Breaker พูดขึ้น


เดฟยังคงกลั้นใจไม่ให้ขำ ตอนนี้ศัตรูหลงกลเขาแล้ว


” ฉันคือผู้พิทักษ์ของการสืบทอด เพราะนายและการกระทำของนายนั้นทำให้โลกนี้ต้องเสี่ยง คนที่ขโมยการสืบทอดไปนั้นกำลังอยู่ในโลกใต้ดิน ฉันไม่อาจจะออกจากที่นี่เพื่อทวงมันคืนมาได้ ! “


” เดี๋ยวนะ นายเห็นมันมั้ย ? ” – Bone Breaker ถามขึ้นมาด้วยเสียงที่ตื่นเต้น


” แน่นอน ฉันเป็นผู้พิทักษ์การสืบทอด ไม่วามันจะไปที่ไหนในโลก ฉันก็ยังเห็นมันและสิ่งแวดล้อมรอบตัวมัน “


เดฟอยากเห็นว่าความคิดของ Bone Breaker จะสับสนได้แค่ไหนกัน ตอนนี้เขากำลังล่ออีกฝ่ายเข้ามาหา เขาเกือบจะหลุดบทและยิ้มออกมา ดีที่เขากลั้นไว้ทัน


Bone Breaker ส่งข้อความส่วนตัวหา Stainless Steel


‘ เพื่อน นี่เป็นโอกาสของเรา ! มันต้องมีเควสลับเพื่อจะได้ทวงการสืบทอดของฉันคืน !ถ้าเขาช่วยเราติดตาม Death Stroke เราก็ฆ่ามันได้และเอาการสืบทอดคืนมา ‘


‘ ฉันไม่แน่ใจ มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้ ‘ Stainless Steel ตอบกลับ


‘ นายเคยได้ยินเรื่อง NPC โกหกเรื่องเควสหรือไง ? ชัดแล้วว่าบอสนี่ไม่พอใจกับบางอย่างและต้องการแก้ไขมันและจำได้มั้ยว่าสามคนตะกี้ไม่ได้เห็นบอสอยู่ตรงหน้าพวกเขา บอสนี้ต้องเป็นเควสลับที่ให้แต่ผู้เล่นที่โดนขโมยการสืบทอดนั้นไปแน่ๆ ‘


‘ ไม่เอาน่า มันมีจุดน่าสงสัยอยู่ตั้งเยอะ ‘


‘ นี่เป็นโอกาสของฉันที่จะทวงของฉันกลับคืนมา ฉันจะทำมัน ‘ Bone Breaker ตอบกลับ


Bone Breaker มองไปที่บอส – ” นายผู้พิทักษ์ บอกเรามาว่าเขาอยู่ไหน “


” แกกล้าพูดแบบนั้นกับฉันได้ยังไง ไอ้พวกมดพวกปลวก ! ” – เดฟคำรามออกมาจนทำให้เกิดผลความกลัวขึ้น


Bone Breaker ถอยกลับมาด้วยผลจากระเบิดเสียง เขารู้สึกว่าปากตัวเองแห้งและใจก็เต้นรัว ยังไงซะเขาก็เป็นคน


” อย่ามาสั่งฉัน ! ” – บอสพูดต่อ


” ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจฉันแค่อยากจะจับโจร ฉันสัญญาถ้านายบอกเราว่าจะหาตัวชายคนนั้นได้ยังไง เราจะไปจับตัวเขาและเอาตัวเขามาให้ได้! ” – พาราดินพูดขึ้น


” เอาตัวมา ? มนุษย์นี่พูดมากกันจริงๆ การทำให้สัตว์ตัวเล็กๆรอบตัวพวกนายกลัวก็ดูเข้าท่าอยู่แต่เราเป็นอันเดต ! เราเหนือกว่าความคิดงี่เง่านั้น ! “


บอสหยุดและพึมพำกับตัวเอง – ” แต่มันก็จริงที่ฉันต้องการความช่วยเหลือ ฉันออกจากที่นี่เพื่อไปรวบรวมวัสดุในการสร้างจี้แกะรอยไม่ได้ “


” จี้แกะรอย ? ” – Bone Breaker ถามขึ้นมาด้วยความหวัง


” ใช่ ไอเท็มที่มีแต่อันเดตที่สร้างได้ มันตรวจจับร่องรอยของ Death ได้ การสืบทอดนั้นได้หลอมรวมพลังเข้ากับ Death ด้วยการใช้จี้นั่นแกจะสามารถตามรอยของการสืบทอดได้ โชคร้ายที่การสร้างมันนั้นจำเป็นต้องใช้วัสดุที่ไม่มีที่นี่ “


” นายต้องการอะไรในการสร้างจี้นั่น ? ” – Bone Breaker ถามขึ้นมาทันที


” การสร้างจี้นั้นฉันต้องการเขายูนิคอร์น 5 อันและเส้นใยอดาเมนไทด์มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ นายมีเวลา 16 ชม.ในการหามันมาให้ฉัน ” – บอสพูด จากนั้นเขาก็หลับตาลงก่อนจะกลับไปอยู่ในท่าภาวนาแบบเดิม


Bone Breaker ผงะ เขายูนิคอร์นนั้นแพงสุดๆและเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเส้นใยอดาเมนไทด์มีขายในห้องประมูลหรือเปล่า


และ…ทำไมถึงไม่มีตารางเควสมาให้ ? นี่มันแปลกไปหมด


แต่ผู้พิทักษ์นี่ยังไงก็เป็น NPC ชื่อของบอสบนหัวก็แสดงออกมาชัดเจนแล้ว


” ไปกันเถอะ เราไม่มีเวลามากนัก ” – Bone Breaker พูดขึ้น


เขาหันกลับและเดินไปยังทางออกของดันเจี้ยนโดยไม่รอดูว่าเพื่อนตัวเองตามมาหรือไม่


สุดท้ายเขาก็มีความหวังขึ้นมา เขาจะได้การสืบทอดกลับมาและใช้มันในการยกฐานะตัวเอง


Stainless Steel ชัดความหวังของเขา – ” ฉันไม่รู้ว่ะ นี่มันดูแปลกๆ “


” ของที่ใช้ในการสร้างจี้น่ะราคาโคตรสูง ปกติแล้วมีแค่กิลด์หรือร้านสร้างที่จะซื้อมัน มันโคตรจะแพงเลยด้วย ” – Stainless Steel พูดขึ้น


” โดยทั่วไปแล้วก็ใช่ แต่นั่นน่ะเป็นการสืบทอดคลาส S ราคาของไอเท็มที่บอสต้องการน่ะมีไว้เพื่อเควสก็เท่านั้น “


” ช่างเถอะ มันเงินนายนี่ “


ผู้เล่นทั้งสองได้เดินออกจากห้องบอสไปพร้อมกับบอสที่ลุกขึ้นยืนที่ใจกลางห้องพยายามที่จะปิดปากไม่ให้หัวเราะออกมา


Chapter 91:อย่าเชื่อใจอันเดต


เดฟอดยิ้มไม่ได้หลังจากที่หลอก Bone Breaker และ Stainless Steel ได้สำเร็จ ทักษะการแสดงของเขาดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้


ตอนนี้ทั้งสองคนนั่นกำลังไปหาไอเท็มที่ Andre ต้องการจากเดฟและเขาก็จะเอามันไปซ่อมเกราะที่เขาได้มา


เดฟได้ออกจากห้องโถงไปแล้วซ่อนตัวอยู่ในห้องบอส


บอกไม่ได้เลยว่าผู้เล่นเลเวลสูงนั้นอาจจะเข้ามาที่ดันเจี้ยนแห่งนี้และถ้าเป็นแบบนั้นเดฟก็อาจจะตาย มีแค่ Bone Breaker และ Stainless Steel ที่เชื่อว่าเดฟนั้นเป็นบอสจริงๆ


***


พวก TNT ผ่านไปในจุดที่เดฟซ่อนตัวอยู่และเขาก็ได้ยินที่พวกนั้นพูดคุยกัน


” ขอบคุณพระเจ้า อีกแค่ชั่วโมงเดียวเราก็ออกจากที่นี่ได้ “


” หยุดเลย นายควรขอบคุณที่เราช่วยเควสของนาย ” – Perfect Shot บ่น


” Mr.Skeletal มีเรื่องสนุกมากมาย การผจญภัยในโลกใต้ดินตอนนี้เป็นวิดีโออันดับหนึ่ง เขาคงรวยเลยถ้าเอาวิดีโอนี้ไปให้พวกทีวี ” – Human Fortress พูดขึ้น


” เดี๋ยวนะ นายหมายความว่ายังไง ? ” – เสียงของเดฟดังขึ้นมาจากห้องลับ


ทั้งสามคนต้องสะดุ้งเพราะความแปลกใจ


” เหี้ยยยยย ! นายอย่าทำแบบนี้ได้มั้ย ? ” – Pussy Flanker เป็นคนแรกที่ได้สติ


” นายบอกว่าฉันรวยได้เลย มันเป็นยังไง ?” – เดฟถาม


Perfect Shot ตอบกลับ – ” ก็ง่ายๆ นายไปเซ็นสัญญากับบริษัทเพื่อให้วิดีโอกับพวกเขาแบบสดรึตัดต่อก็ได้ พวกนั้นจะจ่ายให้นายตามเนื้อหาว่ามันดังแค่ไหน วิดีโอแของนายถือว่ามีแค่อันเดียว ดังนั้นมันต้องดังมากแน่ๆและหลายเจ้าก็คงอยากที่จะซื้อโดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวกับโลกใต้ดิน “


” พวกนายรู้ทั้งหมดนี่ได้ยังไง ? ” – เดฟถาม


” ครอบครัวฉันเป็นเจ้าของบริษัท…ดังนั้นฉันก็ต้องรู้แหละ ” – Perfect Shot ยักไหล่


เดฟลูบหนวดตัวเอง – ” ฉันจะลองคิดเรื่องนี้ดู ฉันอาจจะมีคำถามมาถามนายเพิ่ม “


Perfect Shot ส่งนามบัตรให้กับเดฟ – ” ตอนไหนก็ได้ บริษัทฉันยินดีที่จะเซ็นสัญญากับนาย ไ


เดฟดูเวลา – ” Stainless Steel กับ Bone Breaker อาจจะกลับมาตอนไหนก็ได้ พวกนายไปซ่อนตัวก่อนหรืออย่างน้อยก็อยู่ห่างๆฉันไว้ “


หลังจากที่ลากันแล้วทั้งสามคนก็เดินลึกเข้าไปในดันเจี้ยน ทั้งสามดีใจกับการที่ได้ปั่นหัวผู้เล่นเลเวลสูงสองคนแต่ Perfect Shot นั้นยิ้มกว้างจน Pussy Flanker ต้องถามออกมาว่าเป็นเพราะอะไร


” มันไม่ชัดเจนหรือไง ? Mr.Skeletal เขาน่ะพิเศษ ถ้าบริษัทนายได้ทำสัญญากับเขา เราจะรวย พ่อฉันคงดีใจตอนที่ได้ยินข่าวนี้


” งั้นนายก็จ่ายค่าข้าวคืนนี้ ” – Human Fortress พูดขึ้น


Perfect Shot ยิ้มและไม่ได้ตอบกลับอะไร


ทั้งสามคนยังคงเดินเข้าไปในดันเจี้ยนต่อ พวกเขาฆ่าเวลาด้วยการพูดคุยและฆ่ามอนสเตอร์


เดฟจมอยู่กับความคิดเรื่องวิดีโอในโลกใต้ดิน


เขาเป็นแค่คนเดียวที่เข้าออกโลกใต้ดินได้ในตอนนี้ วิดีโอที่เขาปล่อยออกมานั้นจะเป็นประโยชน์กับผู้เล่นตอนที่เข้าโลกใต้ดินได้


เดฟยึดติดกับเงิน การทำสัญญาคงช่วยเขาในชีวิตจริงได้ อีกอย่างแล้วเขาก็ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ตอนที่เดฟรวย คนอย่างแอนนาที่เป็นแฟนเก่าเขาก็คงคิดว่าเธออาจจะกลับมาหาเขาและทุกอย่างก็คงแตกต่างจากเดิม


ฝันกลางวันของเดฟถูกขัดด้วยเสียงเท้าที่ดังขึ้นมา


” บอสนั่นไปไหนแล้ว ! ฉันบอกแล้วว่ามันเป็นกับดัก ! ” – เสียงหงุดหงิดของ Stainless Steel ดังขึ้นมาจากทางเดิน


” เขาต้องอยู่ที่นี่ ! ไม่มีทางที่คนให้เควสจะหายไปหรอก ” – Bone Breaker 1ตอบกลับราวกับกำลังจะสิ้นหวัง


” หรือว่าเขาจะโดนฆ่าไปแล้ว ” – Stainless Steel พูดขั้น


” ไม่ ! ฉันไม่คิดแบบนั้น Death Stroke ไม่ได้เลวลสูงพอที่จะฆ่าบอสได้ เขาไม่ได้ล็อคอินเข้ามาตั้งแต่วันที่เขาขโมยการสืบทอดของฉันไป คำสั่งฆ่าที่ฉันใช้กับเขาก็ยังไม่แจ้งเตือน ถ้าเขาล็อคอินกลับเข้ามา คำสั่งฆ่านั่นก็จะแจ้งเตือนฉัน “


” เดี๋ยวก่อน ! นายใช้คำสั่งฆ่ากับเขาด้วยเหรอ ? งั้นเรามาทำบ้าอะไรทีนี่ทุกวันวะ ! ” – Stainless Steel ตะโกนขึ้นมา


Bone Breaker ชะงักก่อนที่จะพูดขึ้น – ” เรามาที่นี่เพื่อจับตัวเขาถ้าเขาล็อคอินกลับเข้ามา “


Stainless Steel เอามือกุมขมับแล้วพูดขึ้นมา – ” นายมันบ้า ! ถ้านายใช้คำสั่งฆ่าไปแล้ว มันจะแจ้งเตือนตอนที่เขาล็อคอินกลับเข้ามา ตอนนั้นเราค่อยไล่ตามเขาก็ได้ อีกอย่างแล้วนายโง่รึไง ? ถ้าคนอื่นฆ่า Death Stroke ล่ะ ? มันเท่ากับนายถวายพานการสืบทอดคลาส S ให้กับคนอื่นไปฟรีๆ ! “


” เออใช่ ! “


แผ่นหลังของ Bone Breaker ชุ่มไปด้วยเหงื่อตอนที่รู้ว่าเขาทำผิดพลาดไป เขารีบตรวจสอบตัวเลือกต้องการที่จะยกเลิกคำสั่งฆ่า


” นายทำอะไร ? ” – Stainless Steel ถาม


” ฉันต้องลบคำสั่งฆ่าออก ” – Bone Breaker ตอบกลับ


” ไม่ อย่าทำ เก็บไว้ก่อนแต่ตอนที่นายได้รับแจ้งเตือนว่าเขากลับมาออนไลน์ นายค่อยยกเลิก ด้วยวิธีนี้เขาก็จะไม่โดนคนอื่นฆ่าและเราก็จะรู้ตอนที่เขากลับมาออนไลน์ “


” มันไม่สำคัญหรอก ” – Bone Breaker พูดขึ้น – ” บอสบอกว่าบอสแกะรอยการสืบทอดได้ ชัดแล้วว่าแม้ว่า Death Stroke จะออฟไลน์แต่ก็มีทางที่เราจะหาการสืบทอดนั่นได้ “


Stainless Steel คิดตามที่เพื่อนพูดและตอบกลับ – ” ฉันหวังว่าสิ่งที่นายพูดน่ะจะจริง ถ้าเราไม่ได้การสืบทอดเฮงซวยนั่นเพราะ Death Stroke งั้นคงได้แต่โทษนายที่ทำให้เรามาเสียเวลาแบบนี้ ! “


ตอนนั้นทั้งสองคนได้เดินผ่านห้องที่เดฟซ่อนตัวอยู่ พวกนั้นไมได้มองเข้ามาในห้อง ดังนั้นเดฟ จึงได้ยินสิ่งที่พวกนั้นพูดคุยกันอย่างชัดเจน


ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อคำสั่งฆ่าถูกใช้และถ้าผู้เล่นโดนฆ่า คนที่ฆ่านั้นจะได้รับค่าหัวจากคำสั่งฆ่าและผู้เล่นหลายคนก็สามารถเห็นประกาศฆ่าได้เมื่อมันถูกใช้งาน สัญลักษณ์นั่นจะบ่งบอกถึงตำแหน่งของเป้าหมายไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม


ข้อเสียอย่างเดียวของคำสั่งฆ่าคือความจริงที่ว่าถ้าเหยื่อนั้นไม่โดนฆ่าในเวลาที่กำหนด เขาจะกลายเป็นคนที่ได้รับเงินค่าหัวนั้นบวกกับค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นไปตามการยังมีชีวิตอยู่


” ใช้คำสั่งฆ่ากับพวกเลเวลน้อยนี่มันสิ้นคิดชัดๆ ” – Stainless Steel พูดขึ้น


” มันเป็นทางเดียวที่จะหาตัวเขา ” – Bone Breaker ตอบกลับ


” ถ้าเขาไม่ล็อคอินกลับเข้ามาล่ะ ! ” – Stainless Steel พูดขึ้น


” ฉันไม่คิดแบบนั้น ! แต่นายไม่ได้ยินที่บอสบอกหรือไงว่าบอสตามรอยการสืบทอดได้ ? มันหมายความว่ามันมีโอกาสที่แม้ว่า Death Stroke จะไม่ล็อคอินกลับเข้ามาแต่บอสก็ยังหามันได้ เราแค่ต้องให้ไอเท็มพวกนี้กับบอสเพื่อที่เราจะได้การสืบทอดคืนมา ตอนนั้นเดี๋ยวเราก็รู้เอง ! ” – Bone Breaker พูดขึ้น


เดฟเห็นว่าเวลานับถอยหลัง 24 ชม.หมดลงแล้ว เขาสามารถล็อคเอาท์ออกไปตอนไหนก็ได้ที่ต้องการ


เมื่อผู้เล่นสองคนเดินออกจากจุดที่เดฟซ่อนตัวอยู่ เขาก็ตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังห้องโถงที่ซึ่งเขาได้เจอกับ Bone Breaker และ Stainless Steel ที่รออยู่ที่นั่น


ไม่กี่นาทีต่อมาทั้งสองคนก็ได้เดินออกมาด้วยสีหน้าสิ้นหวังแต่พวกนั้นเห็นเดฟยืนอยู่ที่ใจกลางห้องในตำแหน่งเดิม


พวกนั้นได้เดินผ่านที่นี่ไปแล้วแต่ไม่มีใครอยู่ที่นี่และในตอนที่เวลาครบ 16 ชั่วโมงที่บอสให้มากำลังจะหมด บอสก็ได้เปรากฎตัวขึ้นมา


” ในที่สุดพวกนายก็มาแล้ว พวกนายได้เอาสิ่งที่ฉันบอกให้เอามาด้วยกลับมาหรือเปล่า ” – เดฟ พูดขึ้นก่อน


” ใช่ เขา 5 อันกับเส้นใยอีก 20 อัน “


แค่ 20 อันเอง ? เส้นใยนี่คงหายากแต่ก็ยังดีที่พวกนี้ยังหามาได้บ้าง ของนี่คงหายากมากแน่ๆ !


เดฟได้เอาสร้อยประหลาดๆออกมาจากช่องเก็บของและวางมันลงไปที่พื้น นี่คือสร้อยเลเวล 60 จากดินแดนอันเดต


ทั้งสองคนต่างก็คิดว่านี่มันต้องได้ผล


” ของที่พวกนายเอามานั้นอาจจะพอสำหรับการทำพิธี ส่งมันมาถ้าพวกนายมีพระเจ้า งั้นก็จงภาวนาให้เขาอวยพรให้งานนี้สำเร็จ “


Bone Breaker ลองทำการแลกเปลี่ยนกับบอสแต่ก็ได้รับข้อความแจ้งความผิดพลาด


[ ผิดพลาด ]


[ คุณไม่สามารถทำการแลกเปลี่ยนกับศัตรูได้ ! ]


บ้าเอ้ย ! ตอนนี้ระบบกำลังปั่นหัวฉันแน่ๆ !


ตอนที่ Bone Breaker เห็นแจ้งเตือน เขาก็อึ้งไป


” อย่าเอามาให้ฉัน ไอ้โง่ ! วางมันลงที่พื้น ฉันต้องเริ่มพิธี ! “


” อ่ะ ฉันผิดเอง ” – Bone Breaker วางของลงไปที่พื้น


” ฉันจะเริ่มพิธีแล้ว พวกนายสองคนมีออร่าศักดิ์สิทธิ์ มันจะส่งผลต่อพลังงานของ Death ในพิธีนี้ พวกนายต้องออกไปจากพื้นที่พิธีอย่างน้อย 30 เมตร “


เดฟต้องการให้พวกนี้อยู่ห่างจากเขาแต่ผู้เล่นสองคนนั้นไม่พบว่ามันผิดปกติอะไร


ทั้งสองคนมองหน้ากัน จากนั้นก็ถอยกลับไปประมาณ 30 เมตร จากนั้นเดฟก็ได้พูดขึ้น – ” พอแล้ว “


เดฟมองไปที่ไอเท็มที่พื้น


เก็บ !


[ คุณอยากที่จะออกจากที่นี่ ?


คุณจะไม่ได้รับผลการลงโทษ


ดันเจี้ยนจะให้ xp ตามเวลาที่คุณอยู่ที่นี่ Y/N ]


เดฟ กดเลือกตกลงก่อนจะมีแสงสว่างวาบขึ้นมา เขาหายไปจากจุดนั้นพร้อมกับไอเท็มที่สองคนนั้นเอามาให้กับเขา….



Chapter 92:สุดยอดทัพ ! Dunlords!


Bone Breaker และ Stainless Steel ต่างก็อึ้ง พวกเขาได้แต่มองจุดที่บอสเพิ่งหาตัวไป


บอสหลอกเอาไอเท็มพวกเขางั้นเหรอ ?


มันเป็นไปไม่ได้ NPC ไม่โกหกผู้เล่น !


” Alfred ! ” – Bone Breaker คำรามออกมาด้วยความโกรธ


พ่อบ้านได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าพวกเขา


” ให้ผมช่วยอะไรดี ? “


” เราโดน NPC หลอก ! เขาเอาไอเท็มของเราไปแล้วหายตัวไป ! ” – Bone Breaker ตะโกนใส่พ่อบ้าน


” มันเป็นไปไม่ได้ รอผมเช็คบันทึกสักเดี๋ยว ” – พ่อบ้านพูดขึ้น


ตาของพ่อบ้านกลายเป็นสีขาวสักพักก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมาเป็นสีดำตามปกติ


” เรื่องนี้ไม่ได้มีข้อผิดพลาดใดๆ การตัดสินใจและการให้เหตุผลของคุณนั้นเป็นสิ่งที่ผิดเอง คุณรู้แล้วว่าเมื่อมีเควสให้กับผู้เล่น มันจะมีตารางเควสปรากฎขึ้นมา คุณสงสัยเรื่องนี้ในตอนที่ไม่ได้รับตารางเควสแต่เพราะคุณโลภ คุณจึงยังคงยืนกรานจะทำดังเดิม คุณควรโทษการตัดสินใจของตัวเองไม่ใช่ผู้อื่น ผมเสร็จธุระที่นี่แล้ว งั้นคงต้องขอตัว “


พ่อบ้านได้หายตัวไป


ทั้งสองคนมองหน้ากัน จากนั้นก็มีเสียงด่าและสบถดังก้องไปทั่วทั้งห้อง


***


แสงสีขาวส่องประกายออกมาที่ใจกลางพื้นที่ในส่วนของ Undead Captain


เดฟได้กลับมาที่ดินแดนอันเดตแล้ว


ใจกลางลานที่มี Undead Captain เป็นแสนๆตัว ทุกตัวต่างก็มองไปยังวังกระดูกด้วยสายตาที่ว่าเปล่าของมัน


เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อคิดถึงสีหน้าของ Bone Breaker และ Stainless Steel


[ สำหรับการเป็นบอสที่ Desolate Temple Dungeon (เป็นเวลา 24 ชม.) คุณได้รับ xp +240, 000 ]


[ เลเวลเพิ่ม !]


[ คุณได้รับ 2,400 คะแนน ]


” xp นี่ได้มาง่ายจริงๆ ตอนนี้ฉันเลเวล 106 แล้ว ! แน่นอนว่าต้องทำภารกิจแบบนี้เพิ่ม รางวัลก็ถือว่าดี ” – เดฟยิ้มอย่างพอใจกับสเตตัสใหม่ของตัวเอง


” แต่ฉันคงไม่ลงไปในดันเจี้ยนสักพักเพื่อความปลอดภัย ฉันต้องแข็งแกร่งกว่านี้ก่อนเผื่อว่าจะไปเจอกับผู้เล่นเลเวลสูงเข้า ถึงฉันจะจ่ายคะแนนเพื่อออกจากที่นั่นได้แต่มันก็เสียหาย สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไปนี้เกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ มันคงไม่น่าเป็นไปได้ที่ฉันจะไปเจอกับพวก TNT อีก การที่พวกนั้นมีเควสซึ่งให้ข้อมูลเรื่องเกราะกับฉันนี่มันบ้าสิ้นดี ดูเหมือนว่า Alfred จะทำการควบคุมเกมส่งผลต่อเควสพวกนี้ ฉันไม่รู้ว่า AI นั่นจะทำอะไร มีความคิดยังไง อยากช่วยฉันหรืออยากจะจัดการฉันกันแน่ ตอนนี้ฉันยังทำอะไรไม่ได้ ฉันต้องโฟกัสกับสิ่งที่ควรจะทำ ฉันรู้ตำแหน่งของพวก Black Skull Order แล้วแต่ฉันยังไปที่นั่นไม่ได้ ที่นั่นเลเวลสูงเกินไปสำหรับฉันในตอนนี้ ดังนั้นเควสของ Drahma คงต้องรอไปก่อน ฉันต้องอยู่ในโลกใต้ดินเพื่อเก็บเลเวลและหาของรวมถึงการทำเควสเพิ่มเลเวลด้วย ทั้งหมดนี่ก็เพื่อให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นและมีเลเวลเพิ่มึข้น ไม่จำเป็นต้องรีบทำเควสเลเวลสูงให้มันเสร็จ “


เดฟ ไปที่ร้านค้าที่ใกล้ที่สุดแล้วทำการซื้อคัมภีร์และบันทึกตำแหน่งเขตแรกของดันเจี้ยนโลก


เดฟ ได้ใช้คัมภีร์ไปอันกหนึ่งและโผล่มาที่วิหารของเขตแรก


อันเดตเป็นร้อยตัวยืนอยู่ในขบวนทัพตื่นตัวอยู่ตลอด ส่วนตัวอื่นๆนั้นพากันทำการก่อสร้างอยู่


เดฟสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เขาเข้าไปในวิหารและพบกับ Delvina ที่กำลังสั่งการลูกน้องอยู่


” เฮ้ Delvina ” – เดฟทักทาย


” Kis’Shtingbra ! ในที่สุดนายก็กลับมา ฉันได้ยินว่านายไปที่เป็นผู้พิทักษ์ดันเจี้ยนเมื่อวานนี้ มันเป็นยังไงบ้าง ? ” – เธอถามด้วยท่าทีเป็นมิตร


” ก็โอเคดี น่าเบื่อนิดหน่อย “


” อืม นายก็ยังเบื่อ Drahma พูดถูก นายคงเพิ่งเข้าร่วมกับอันเดตได้ไม่นาน นายน่ะมีความรู้สึกเบื่อด้วย ” – เธอพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม


” Delvina เกิดอะไรขึ้น ? ฉันห็นพวกอันเดตกำลังสร้างบางอย่าง ” – เดฟถาม


Delvina ถอนหาใจออกมาก่อนจะตอบกลับ – ” แนวหน้าพบกองทัพปิศาจที่กำลังมุ่งหน้ามาหาเรา เราต้องเตรียมตัวรับมือการโจมตี เมื่อนายอยู่ที่นี่ ฉันต้องการให้นายทำภารกิจให้กับฉัน ” – Delvina พูดขึ้น


” ได้สิ ให้ฉันช่วยอะไรดีล่ะ ? ” – เดฟถาม เขารู้สึกได้ถึงโอกาส


” ฉันต้องการให้นายกับทหารของนายแจ้งกับ Abyssal Knight Lord Samael ให้ส่งกองกำลังเสริมมา “


” ไม่ใช่ว่ากองทัพอันเดตที่นี่ก็เพียงพอจะยื้อไว้หรือไง ? ” – เดฟถาม


” เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อป้องกันอาณาเขตเท่านั้น อีกไม่นานเราจะรุกเข้าไปในเขตสอง กองทัพของ Lord Dagla กำลังมุ่งหน้าไปที่นั่น เป้าหมายของเราคือยึดโลกใต้ดินเอาไว้ใต้อำนาจของราชา “


” งั้น Lord Dagla ที่เป็นนักเวทย์ก็กำลังรุกเข้าไปที่เขตสองงั้นสิ ? “


” ใช่ คำสั่งมาเมื่อวานนี้ “


” ได้ ฉันต้องไปหา Lord Samael ที่ไหน ? ” – เดฟถาม


” นายไปหาเขาได้ที่หน้าผาทางเหนือของเขตแรก เอาตรานี่ไปให้เขา เตือนไว้ก่อน Lord Dagla นั้นไม่ชอบคนที่พูดมาก “


ตำแหน่งใหม่ถูกปักธงไว้บนแผนที่ของเดฟและมีไอเท็มเควสโผล่มาในช่องเก็บของของเขา


มีหน้าต่างเควสโผล่ขึ้นมา


[ เควสต่อเนื่อง (A)


ไปหา Lord Samael และส่งตราที่ Delvina ให้มานั้นกับเขา ]


ควายากของเควสค่อนข้างสูงสำหรับงานง่ายๆแบบนี้


“แม้ว่าฉันจะเชื่อในความแข็งแกร่งของนายแต่เส้นทางที่จะไปหา Lord Samael นั้นเต็มไปด้วยอันตราย ฉันจะส่งพวก Dunlord กับ Death Knight 2 ตัวไปกับนายด้วย ” – Delvina พูดขึ้น


Death Knight 2 ตัวได้ปรากฏตัวขึ้นมา พวกนั้นต่างก็โค้งให้กับ Delvina และทำความเคารพเดฟ


เควสนี้เป็นไปตามแผนของ เดฟ Abyssal Knight คือหนึ่งในชุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ราชาและเดฟก็ตื่นเต้นทันทีที่จะได้พบพวกนั้น


มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมาที่หน้าจอของเดฟ


[ คุณสามารถจ้างทหารอันเดตแบบใหม่ได้ : Dunlord ]


เดฟเข้าไปดูและพบกับไอคอนใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในหน้าจอของทหารอันเดต


สัญลักษณ์มันดูเหมือนแมงป่อง


เขาคลิกเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมและก็มีภาพพร้อมกับตัวหนังสือปรากฏขึ้นมา


มันเป็นมนุษย์ผสมกับแมงป่อง มันเหมือนกับเซนทอร์ มันมีหัวและส่วนบนที่เป็นคนและส่วนล่างเป็นสัตว์ ยกว้นแค่ส่วนบนของมันนั้นมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ปกติ มันใกล้เคียงกับขนาดของออคเลย


Dunlord ในภาพนั้นมีหน้าไม้ขนาดเท่ากับแขนคน อีกอย่าแล้วมันยังมีกรงเล็บสองอันที่ยื่นออกมาจากด้านข้างและจ้างท้องมันด้วย มันเหมือนกับกรงเล็บของแมงป่อง หางของมันส่ายไปมาราวกับเข็มที่จะทิ่มแทงคนให้ตายได้ทันที ส่วนปลายหางนั้นมีเข็มที่เหมือนกับดาบม้วนตัวเอาไว้


‘ หือ ดูเหมือนว่าหางนั้นจะบดหินรึทำให้เกราะแตกได้ บางทีอาจจะทำลายกำแพงได้ด้วยซ้ำ ‘


คำอธิบายด้านล่างภาพนั้นได้บอกว่ามอนสเตอร์ตัวนี้ขี่ได้และยังมุดตัวลงไปที่พื้นได้เหมือนกับปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำ


” พวกนี้โคตรเจ๋งเลย ! ” -เดฟอุทานออกมา


เขามองไปที่ราคาของมันแต่ก็เกือบจะต้องสลบไป


” เหี้ย ! 20,000 ต่อตัว ! “


เดฟเรียกทีมอันเดตของเขามาก่อนจะจัดลำดับทัพโดยมีพวก Boyz อยู่ด้านหน้าสุด


” เอาล่ะ ไปกันได้ ! “



Chapter 93: Demonic Shadow Tiger.


เดฟได้ออกจาก Undead Frontier และมุ่งหน้าไปทางเหนือ


ภูเขาที่เดฟอยู่นั้นมีบึงขนาดใหญ่อยู่ล้อมรอบ พวกผู้เล่นต้องใช้เรือในการข้ามมาถึงอีกฝั่ง ในอีกด้านของภูเขา มันมีสะพานหินที่เชื่อมต่อกับตีนภูเขาไปยังชายฝั่งที่ไกลออกไปเพื่อข้ามบึ่งแห่งนี้


เดฟและลูกน้องอีก 122 ตัวได้มุ่งหน้าไปที่สะพานหิน คอยระวังจากทุกด้าน


เดฟระวังตัวอย่างมาก มอนสเตอร์ในบึ่งแห่งนี้เลเวลสูงเกินไปสำหรับเขา แม้ว่าจะมี Death Knight สองตัวอยู่ด้วยแต่มันก็คงไม่ได้เป็นเรื่องง่ายหากโดนงูสองหัวล้อมเอา


Dunlord นั้นทำให้เขาสบายใจขึ้นได้มาก พวกมันสิบตัวเหมือนกับเครื่องจักรสังหารที่ไร้อารมณ์ หน้าของพวกมันซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมซึ่งมีเขี้ยวโผล่ออกมาให้เห็นบ้างเป็นบางครั้ง


สัตว์ประหลาดเหล่านี้ถึงแม้จะตัวใหญ่แต่ตอนที่มันเดินนั้นกลับไม่มีเสียง เท้าของมันไม่ได้ทำให้เกิดเสียงเลยแม้ว่าจะเดินบนสะพานหินก็ตาม


ร่างกายขนยาดใหญ่ของมันทำให้เดฟเหมือนกับคนแคระเมื่อเดินตามหลังพวกมัน


ใช้เวลากว่า 30 นาทีกว่าที่พวกเขาจะไปถึงชายฝั่งและมุ่งหน้าไปยังจุดที่ Delvina บอกเอาไว้


ไกลออกไป เดฟได้เห็นหินและเนินเขาเรียงรายกันอยู่ซึ่งทำให้เกิดหุบเขาหินขึ้นมา


” เราต้องข้ามจากที่นี่ ” – เดฟพึมพำ


” พวก Dunlord ไปตรวจสอบแนวหน้า ” – เดฟสั่งการขึ้นมาและมนุษย์แมงป่อง 10 ตัวก็ได้ดำดิ่งลงไปใต้พื้นดิน


แม้ว่าพื้นดินนั้นมีดินกับหินผสมกันแต่พวกมันก็ดำลงไปได้ราวกับดำน้ำโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย


มนุษย์แมงป่องพุ่งไปข้างหน้าราวกับเนินเขาที่กำลังเคลื่อนไหว


” ไปกันเถอะ ” – เดฟ พูดขึ้น เขาค่อยๆเดินตามมนุษย์แมงป่อง 2 ตัวที่เข้าไปในหุบเขาหิน


” นี่มัน….ผิดปกติแหะ….หัวหน้า ” – เสียงแหบๆของ Ghoul ตัวโปรดของเดฟพูดขึ้นมา


” มีอะไร Bud ? ” – เดฟถาม


” มันเหมือน…ว่าพวกปีศาจ…ที่น่าจะดูลำบาก…หัวหน้า ที่นี่อันตราย ” – เขาพูดขึ้นแต่ก็ก็ยังเดินนำหน้า เดฟ ราวกับคนคุ้มกัน


” ขอบคุณ Bud ถ้ามันอันตรายเกินไป เราค่อยคิดหาทางอื่น “


เดฟไม่ได้กังวลอะไรมาก ยังไงซะเขาก็มี Death Knight เลเวล 400 อยู่กับเขา 2 ตัวและพวกมันก็น่าจะช่วยจัดการมอนสเตอร์ได้ ตราบใดที่มอนสเตอร์ไม่ได้อยู่ระดับ Mythic งั้นเขาก็ยังรอดได้ อีกอย่างแล้วเขายังได้สกิล {Unyielding} ที่ได้มาตอนเอาชนะการโจมตีที่ Undead Frontier มาได้


สกิลนี้ทำให้เขารอดได้ 5 วินาทีหลังจากที่เลือดเหลือน้อยกว่า 1% มีนหมายความว่าการโจมตีนั้นจะฆ่าเขาไม่ได้ในช่วงเวลานี้


5 วินาทีนั้นเพียงพอให้เดฟหางทางเอาตัวรอดจากเรื่องวุ่นวายได้


เมื่อพวกเขาเข้าไปในหุบเขาหิน เดฟก็มองไปตามรากที่งอกขึ้นตามก้อนหินรอบๆแต่มันมีบางอย่างที่คล้ายกับเงาโผล่มาในสายตาและหายไปทันทีโดยที่ เดฟไม่มีโอกาสที่จะตรวจสอบมัน


Dunlord สองตัวที่เดฟตามเข้ามาไม่นานก็กลับมา พวกมันโผล่มาจากพื้นซึ่งทำให้เดฟต้องสะดุ้ง


” ถนนด้านหน้าเรียบร้อยดี ” – หนึ่งในนั้นพูดขึ้น


ไม่นานหลังจากนั้น Dunlord ตัวที่เหลือก็กลับมาให้ข้อมูลเดียวกันนี้ จากนั้นเดฟก็ได้สั่งการให้มันไปตรวจสอบอีกครั้ง


แปลก…พวกหน่วยสอดแนมบอกว่าไม่มีอะไรแต่แล้วฉันเห็นบ้าอะไร ?


อีกอย่างแล้ว Bud เองก็มีจมูกที่ดี ….มันได้กลิ่นของปีศาจ


ฉันควรกลับดีมั้ย ? จุดที่ Lord Samael อยู่ก็น่าจะอยู่ที่ทางออกของหุบเขา


” ไปกันต่อเถอะ ” – เดฟสั่ง


Dunlord สองตัวเดินนำไปก่อนและตามมาด้วย Death Knight 2 ตัวที่ Delvina ให้มาเดฟเดินอยู่ตรงกลางระหว่างพวกมัน


เสียงคำรามดังขึ้นในจุดที่พวกเขาไปถึงเดฟตื่นตัวขึ้นมาทันที


” ทุกคน ระวังไว้ด้วย ! “


เงาหนึ่งกระโดดขึ้นจากก้อนหินด้านบนหุบเขาและมีสัตว์อสูรตัวใหญ่ตกลงมาตรงหน้าพวกเขา


มันคือเสือขนาดเท่ากับเนินเขาเล็กๆ มันยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้วจ้องพวกเขาด้วยสีหน้าดุร้าย


เสือมีควันสีดำแผ่ออกมาจากตัวและมันก็เริ่มคำรามใส่พวกอันเดต


เดฟตรวจสอบมันทันที


[Demonic Shadow Tiger]


ระดับ : Epic


ระดับความอันตราย : ☠ ☠


เลเวล : 420


ดาเมจ : 40,000-50,000


HP : 500,000


ลดดาเมจ 35,000


ดูดซับเวทย์ 15,000


มอนเตอร์ปีศาจประจำเขตที่ซึ่งดุร้ายต่อพวกที่บุกรุกเข้ามาในเขตของมัน


{ Mawl : ทำดาเมจ 10% ของเลือดทั้งหมดแบบดีบัฟเลือดไหลเป็นเวลา 10 วินาที }


{ Ravage : ทำดาเมจ 200% ใส่เป้าหมายเดียว }


{ Pounce : กระโดดใส่เป้าหมายและทำดาเมจ 50% ในพื้นที่ 5×5 ม.และทำให้ติดสตันท์ }


{ Shadow Escape : หลังจากที่เลือดลดถึงจุดหนึ่ง มอนเตอร์จะหนี }


” พระเจ้า ไอ้นี่มันแข็งแกร่ง ทุกคนมารวมตัวกัน Death Knight ประจำด้านข้างเอาไว้ Dunlord อยู่ด้านหลังและโจมตีตอนที่เสือจะพุ่งเข้าใส่ฉัน ” – เดฟถอยกลับมา


เราไม่ได้ประโยชน์อะไรมากจาการต่อสู้นี้ มอนสเตอร์เลเวลสูงกว่าฉันและทีมตั้งหลายเท่าแต่ DUnlord และ Death Knight จัดการมันได้ ในเวลาเดียวกันฉันก็ใช้ทีมอันเดตล้อมมันเอาไว้เพื่อโจมตีช่วย แล้วสกิล {Shadow Escape} นี่มันอะไรวะ ?


เดฟวางแผนและสั่งการการโจมตี


Death Knight ตัวหนึ่งได้ใช้ {Charge} สตันท์เสือเอาไว้และ Death Knight ตัวที่สองก็ได้พุ่งเข้าโจมตีจากทางด้านซ้าย


[-6,222]


[-11,223]


เสือร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและโจมตี Death Knight ที่โจมตีมันตะกี้


[-12,333] ดาเมจมหาศาลโผล่มาที่หัวของ Death Knight แต่หากเทียบกับเลือดที่มีแล้ว นี่มันไม่ได้มากมายอะไร


นักเวทย์สองตัวได้ทำการโจมตีและ Dunlord ก็ได้พุ่งเข้าใส่เสือใช้กงเล็บจับมันเอาไว้ก่อนจะใช้หางพิษแทงเข้าใส่หัวเสือ


[Demonic Shadow Tiger ติดพิษเป็นเวลา 10 วินาที -800HP/วินาที ]


” ดี ! ” – เดฟใช้ {Spectral Bomb} เข้าระเบิดที่หน้าของเสือ


มันไม่ได้ทำดาเมจมากนักแต่ก็รับประกัน xp ที่เดฟจะได้มาและยังทำให้เสือเซด้วยซึ่งช่วยให้ Death Knight ตัวหนึ่งทำดาเมจได้เพิ่มขึ้น


[-16,220]


เสือร้องออกมา การระดมโจมตีจากอันเดตนั้นไม่นานก็ทำให้เลือดมันลดลงไปอย่างมาก


ดาเมจส่วนมากนั้นมาจาก Death Knight และ Dunlord สองตัวที่เป็นแทงค์


พวกนักเวทย์ของเดฟนั้นแค่ใช้เวทย์โจมตีใส่ Death Knight ใช่ โจมตีใส่พวกตัวเอง


เดฟเคยทดสอบมาก่อนแล้ว เวทย์จากนักเวทย์นั้นสามารถฮีลอันเดตได้และทำดาเมจสิ่งมีชีวิต ดังนั้นเขาจึงใช้มันเพื่อทำให้เลือดของ Death Knight เต็มอยู่ตลอด


เสือได้พุ่งเข้าใส่หลายครั้งและฆ่าอันเดตและนักเวทย์ของเดฟไป เดฟจึงสั่งให้ทุกคนถอยเพราะไม่อยากจะเสียอันเดตไปเพิ่ม


เมื่อเสือเลือดเหลือ 20% มันก็ถอยกลับไปและพุ่งเข้าใส่ผาใกล้ๆ


” บ้าเอ้ย ! ” – เดฟสบถออกมาตอนที่เสือนั้นหนี


แต่ก่อนที่เขาจะได้ผ่อนคลายนั้น เงาด้านหลังเขาก็ระเบิดออกพร้อมกับเสือที่โผล่มาจากล่างเท้าและพุ่งกดเดฟลงที่พื้น


[-55,222]


เสืออ้าปากของมันและกำลังที่จะกัดหัวของเดฟ…..



Chapter 94: แบบร่างเกราะเซ็ต Shadow


เดฟใช้ { Undying Will} ในการลบผลสตั้นท์ที่เกิดจากเสือพุ่งเข้าใส่


เดฟถอยกลับออกมาเล็กน้อยและ Death Knight ตัวหนึ่งก็เข้าโจมตีที่เสือเพื่อดึงมันกลับไป


โชคดีทีเสือโดนโจมตีที่ขาจึงทำให้มันติดดีบัฟ


[ พิการ ! ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ 20% เป็นเวลา 15 วินาที ]


” โจมตีที่ขาขอมัน ! ” – เดฟสั่ง Death Knight และ Dunlord ให้โจมตีทันที


เสือตัวใหญ่นั้นต้องยืนนิ่งและได้แต่รับการโจมตีเพิ่มผลทำให้ช้าขึ้นจาการโดนโจมตีที่จุดอ่อนอย่างต่อเนื่อง เสือกนั้นเริ่มกลายเป็นของเล่นให้กับพวกของเดฟ


หลายนาทีผ่านไป ในที่สุดเดฟก็ได้ยินเสียงคำรามครั้งสุท้ายของเสือก่อนที่มันจะล้มลงไปกับพื้น


เดฟได้รับ xp จาก 2% มาเป็น 88%


เขาเดินไปที่ศพของเสือและเริ่มเก็บของที่มันดรอปลงมา


[Demonic Shadow-Tiger’s Pelt] X1


[Demonic Shadow-Tiger’s Fangs] X2


[Demonic Shadow-Tiger Rune]


[Shadow-Tiger’s Claws] X6


[Shadow-Set Diagram]


เงิน 100 ทอง


เดฟเก็บของพวกนั้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาได้แบบร่างมาอีกอันแล้ว


นี่ต้องขอบคุณที่เขาเป็นคนแรกที่ฆ่ามอนสเตอร์พวกนี้จึงได้ของที่มันมีโอกาสดรอปทั้งหมด


เดฟตรวจสอบรูนก่อน


[Shadow Rune]


ประเภทความเร็ว ไม่สามารถใส่ร่วมกับรูน Vitality และรูนเวทย์มนต์ได้


ส่วนหัว


Agi +100


เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 10%


” โอ้ นี่คงเป็นของสำหรับนักฆ่า ” เดฟเก็บรูนลงไปแล้วเปิดแบบร่างของเซ็ต Shadow


[ แบบร่าง Light-Armor Set]


ระดับ : Epic


{


[Shadow-Fiend Light-Armor (Full-Set)]


[Fang of Demonic-Shadow-Tiger ] X50


[Demonic Shadow-Tiger’s Pelt] X15


[Shadow-Tiger’s Claws] X100


[Critalized Shadow-Worm Blood] X8


[Moon-Silver Ingots] X20


[Cobalt Ingots]X20


[Black Crystals]X100


ช่างหลอมระดับเชี่ยวชาญ


}


” หืม ของส่วนมากหายากนิ แม้แต่ Bristle Mines ของพวก Blood Rage ก็ไม่มีของพวกนี้โดยเฉพาะ [Moon Silver].. ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแร่แบบนี้มาก่อนเลย ” – เดฟพูดขึ้น


‘ ฉันน่าจะลองส่งข้อมูลนี่ให้กับ Lone Arrow ช่างหลอมที่เธอรู้จักนั้นอาจจะตื่นเต้นเมื่อเห็นแบบร่างเซ็ตเกราะอีกอัน ‘


” ช่างนี่ได้มันไปง่ายจริงๆเลยเนอะ Bud ” – เดฟพูดกับ Ghoul ที่ยืนอยู่ข้างๆซึ่งกำลังมองไปที่ศพของเสือด้วยสายตาที่ดูดีใจ


Ghoul นั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับ


” Bud นายเป็นอะไรหรือเปล่า ? “


” กิน ! ” -Bud พูดขั้น


” นายอยากกินมันงั้นเหรอ ? ” – เดฟถาม


Bud พยักหน้า


” เอ่อ…เอาสิ ตามสบาย ! “


ไม่นาน Bud ก็เดินเข้าไปหาศพเสือและเริ่มฉีกเนื้อมันออกด้วยฟันของมันก่อนจะกินเนื้อและกระดูกด้วยฟันอันแหลมคมของตัวเองราวกับคนบ้า


แกร๊ง***


Ghoul อีกสองตัวมองไปที่ Bud ด้วยสายตาอิจฉาแต่พวกมันไม่ได้ขยับ


” ถ้าพวกนายสองคนอยากกินก็ตามสบาย ” – เดฟพูดขึ้น


และอันเดตทั้งสองตัวก็เริ่มเข้าไปกินซากศพเสือ


ใช้เวลาประมาณ 1 นาทีอันเดตทั้งสามตัวก็กินเนื้อจนเสร็จ มันไม่เหลือแม้แต่กระดูก พวกมันกินกันจนเกลี้ยง


เดฟเริ่มท้องไส้ปั่นป่วนเมื่อเห็นแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะเดินหน้าต่อแต่ตอนนั้นเองก็มีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาตรงหน้าเขา


[ ลูกน้องบางตัวของคุณกำลังพัฒนา ]


เดฟกดไปที่แจ้งเตือนและเห็นว่าอันเดตที่เพิ่งกินเนื้อเสือตะกี้มีออร่าสีดำครอบคลุมรอบตัว


หลังจากนั้นไม่นานออร่านั้นก็หายไป จากนั้นขนาดตัวของ Ghoul ทั้งสามตัวก็ลดลงเล็กน้อย


เดฟ ได้ทำการตรวจสอบสเตตัสของ Bud และพบการเปลี่ยนแปลง


[Shadow-Ghoul]


เลเวล : 101


HP : 101,000


ลดดาเมจ 8,000


ดูดซับเวทย์ 6,000


Ghoul กลายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นมาจากพวกที่ไร้ความคิด


{Shadow Escape : สามารถเข้าไปในเงาและซ่อนตัวเพื่อโจมตีเหยื่อ }


{ Feast (ติดตัว) : กินเนื้อศพเพื่อฟื้นฟูเลือดตัวเอง }


” งั้นพวกมันก็พัฒนาขึ้นมาได้หลังจากที่กินเหยื่อ…ฉันสงสัยว่าถ้าพวกมันกินเหยื่อที่แข็งแกร่งกว่านี้ล่ะ พวกมันจะได้ความสามารถของเหยื่อมาหรือเปล่า ? “


เดฟสลัดความคิดนั้นทิ้งตอนที่ได้ยินเสียงคำรามของเสือดังขึ้นมาจากในที่ที่ไม่ไกลนัก



Chapter 95: ข้อตกลงทางธุรกิจ


กลับมาที่วิหารของเมือง Moria พวก TNT ได้ไปทำการส่งเควสที่เกี่ยวกับการหาข้อมูลของเกราะที่พังไป


พรีสนั้นช็อกกับข่าวนี้และบล็อกให้ Pussy Flanker กลับมาอีกเมื่อมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Black Skull Order


พวกนี้คืออันเดตที่โดนขับไล่และยังเป็นเนโครแมนเซอร์ซึ่งหวังจะนำพาจุดจบมาให้กับโลก นี่คือสิ่งที่พรีสบอกมา


” ฉันจะล็อคเอาท์แล้ว ” – Perfect Shot บอกกับเพื่อน


” นายแน่ใจนะ เรายังสนุกกันได้ต่อ ฉันเชื่อว่าทางตะวันออกที่เราอยู่นี้มีดันเจี้ยนดีๆที่นั่น ” – Human Fortress ไม่ได้ดูเหนื่อย ดูเหมือนว่าเขาอยากจะเก็บเลเวลต่อ


” ไม่ดีกว่า Desolate Temple เป็นแค่ดันเจี้ยนเลเวลต่ำแห่งเดียวใกล้กับเมืองนี้ ที่อื่นเลเวลสูงกันหมด สูงเกินไปซึ่งแม้แต่กิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังยากจะจัดการได้ ฉันควรล็อคเอาท์ออไป ฉันถูกเชิญไปงานเลี้ยงเย็นนี้ ” – Pussy Flanker พูดขึ้น


” ผมไปเจอกับธุรกิจที่น่าแปลกใจมา….มันเป็นแบบนี้ ! “


” ชิ ตามสบายเลย นายเอาอาหารมาเผื่อฉันด้วยละกัน ” – Human Fortress ล็อคเอาท์ออกไป


Perfect Shot กดไปที่ตัวเลือกล็อคเอาท์และพบว่าตัวเองนอนอยู่ในแคปซูลเกม


เขาเปิดมันออกแล้วสูดอากาศเข้าไปก่อนจะลุกขึ้นเดนไปที่ประตูห้อง


” เฮ้ ! ” – Perfect Shot ตะโกนขึ้นแล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามบันไดที่ทำจากไม้มะฮอกกานี่


ด้วยครอบครัวของเขามีฐานะที่ดีและนั่นก็ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีไปด้วย พ่อของเขาคือ CEO ของบริษัททีวีใหญ่ มันยากที่เขาจะพบเรื่องลำบากในชีวิต


ห่างจากอพาทเมนต์ของเดฟไป บ้านของ Perfect Shot นั้นโอ่โถงและตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรูเต็มไปหมด


” ทอม จะรีบไปไหน ? ” – เสียงของหญิงคนหนึ่งขึ้นมาเรียกชายหนุ่มที่กำลังวิ่งลงมาจากบันได


ชายหนุ่มหันกลับมาแล้วขยิบตาให้กับอีกฝ่ายที่กำลังเช็ดจานอยู่


” เฮ้แม่ แม่เห็นพ่อบ้างมั้ย? ” – Perfect Shot ซึ่งก็คือทอมถามขึ้นมา


” เขาคงอยู่ด้านล่างคอยซ่อมรถเก่าๆนั่นอยู่ แม่บอกเลยนะ เขาน่ะใช้เวลาว่างส่วนมากไปกับรถกระป๋องนั่น เขาน่าจะใช้เวลากับครอบครัวมากกว่านี้ อย่างน้อยลูกจะได้ไม่ต้องติดเกมแบบนี้…”


ทอมรู้ว่าถ้าปล่อยให้แม่เขาบ่นต่อ เขาคงต้องทนฟังเป็นชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงรีบไปหาพ่อที่ชั้นล่าง


เมื่อเขาลงมาชั้นล่างและเดินผ่านประตูโรงรถไปก่อนจะพบพ่อที่ยุ่งอยู่ใต้รถมัสแตงสีแดงปี 1990


” พ่อ ผมมีข่าวดี ! ” – ทอมพูดขึ้น


พ่อสะดุ้งจนหัวชนเข้ากับใต้ท้องรถเพราะเสียงตะโกนนี้


” นี่อยากฆ่าพ่อหรือไง ? ” – ชายแก่วัยประมาณ 50 ปีโผล่ออกมาจากใต้ท้องรถ หน้าของเขาเปื้อนคราบน้ำมัน ชายแก่คนนี้ใช้เศษผ้าเช็ดมือก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน


” พ่อยังไม่ยอมแพ้กับรถนี่อีกหรือไง ? พ่อส่งมันไปโรงซ่อมเถอะ พวกเขาจะซ่อมมันให้พ่อเอง ” – ทอมพูดขึ้น


” ไม่ นี่เป็นของขวัญจากปู่ พ่อจะซ่อมมันด้วยตัวเอง แล้วมีอะไรถึงได้มาหาพ่อ ? ” – ชายแก่พูดขึ้น


” ผมไปเจอกับธุรกิจที่น่าแปลกใจมา….มันเป็นแบบนี้ ! “



Chapter 96: Abyssal Knight Samael


[ เลเวลเพิ่ม ]


เสืออีกตัวได้ตายไปใต้เท้าของ Death Knight ตัวหนึ่ง


” เป็นจุดเก็บเลเวลที่ดีจริงๆ ! ” – เดฟพูดขึ้นพร้อมกับเก็บของที่มอนสเตอร์ดรอปลงมา


ตอนนี้เขาเลเวล 122 แล้วกับการฆ่าพวกเสือปีศาจพวกนี้


” ของที่ดรอปมาลดลงเยอะเลยแต่มันก็ยังให้ xp ที่ดีอยู่ เอาล่ะ Boyz เดินหน้าต่อ ” – เดฟพูดกับกองทัพที่เหลือของเขา


เดฟตัดสินใจเรียก Dunlord ที่ออกไปสอดแนมกลับมาและใช้พวกมันช่วยในการจัดการมอนสเตอร์ที่แอบซุ่มโจมตีตามหน้าผา


หลังจากที่เสียอันเดตไปจำนวนหนึ่งเดฟก็ดูเหมือนว่าจะรับผลแบบนี้ต่อไปไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงใช้ Dunlord ในการแทงค์ให้กับอันเดตของเขา ส่วนเขานั้นจะให้ Death Knight ทั้งสองตัวรับหน้าที่ทำดาเมจ


ถึงDunlord จะเลวล 350 แต่ความต่างของเลเวลนั้นก็ลดดาเมจของมันที่ทำกับเสือลงไปอย่างมากแต่มันมีเลือดที่เยอะ ดังนั้นพวกมันจึงแทงค์เสือได้สายๆและปล่อยตัวทำดาเมจทำหน้าที่ของตัวเองไป


หลังจากที่ฆ่าเสือตัวสุดท้ายแล้วเดฟก็ได้รูนเซ็ตแบบ AGgi ของเสือมาครบ


เดฟเช็คที่แผนที่ตัวเองแล้วเดินทางตามไป เขาน่าจะเจอกับ Samael เพราะนี่มันก็ใกล้ตำแหน่งแล้ว


เมื่อพวกเขาเดินหน้าไปได้ไม่กี่ร้อยเมตรในหน้าผาที่น่าขนลุกนี้ พวกเขาก็ได้พบกับฉากแปลกๆเข้า


มีร่างของเสือ การ์กอยและมอนสเตอร์แปลกๆเป็นร้อยที่กระจัดกระจายไปทั่ว


ใจกลางภูเขาศพนั้น มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านบนกำลังเคี้ยวเนื้ออยู่


ในตอนที่เดฟเห็น ชายคนนั้นก็หายตัวไป


เดฟรู้สึกเย็นขึ้นมาที่หลังคอ มันเป็นความเย็นของใบมีด


” นายมาทำอะไรที่นี่ ? ไกลเกินไปนะ สายลับงั้นเหรอ ? ” – ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา


เดฟสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตอบอย่างใจเย็น – ” ไม่ ฉันมาที่นี่ตามคำสั่งให้มาหาตัว Lord Samael “


” เพื่ออะไร ? “


” ฉันกลัวว่าฉันคงบอกนายไม่ได้นอกซะจากว่านายจะบอกว่าตัวเองเป็นใคร ” – เดฟพูดกับชายด้านหลัง เพราะอีกฝ่ายอยู่ด้านหลังเขา เขาจึงไม่มีโอกาสที่จะตรวจสอบอีกฝ่าย


” ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ ? ” – อีกฝ่ายพูดขึ้น


” งั้นความตายก็คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการพูดคุยกัน ” – เดฟพูดขึ้นและใช้ { Vertical Slash} เพื่อดีดตัวออกห่างจากอีกฝ่ายและเตรียมที่จะต่อสู้


เดฟเห็นว่าอีกฝ่ายคือ Lord Samael แต่เขาต้องเล่นบททหารและไม่เผยรายละเอียดภารกิจให้กับใคร นอกซะจากว่าอีกฝ่ายบอกฐานะของตัวเองออกมา


” “ทุกคน ! เตรียมพร้อม ! ” – เดฟพูดขึ้นแต่ทีมของเขาไม่ได้ขยับเลยสักนิด


” โฮ่ ? ลูกน้องนายรู้ดีว่าไม่ควรสู้กับฉัน ” – อีกฝ่ายพูดขึ้น


อีกฝ่ายมีร่างกายที่น่าอัศจรรย์ เขาใส่เสื้อคลุมยาวราวกับว่าไม่ได้สวมอะไรอีกภายใต้เสื้อคลุมนั่น อกของเขาบวมเปล่งบ่งบอกถึงร่างกายที่สมบูรณ์แบบ กล้ามเนื้อนั้นไม่ได้โตหรือลีบแห้งแต่อย่างใด เขามีผิวสีเทาทั้งตัว


เดฟตรวจสอบอีกฝ่าย


[ไม่สามารถตรวจสอบได้ ! ]


‘ บ้าเอ้ย ! ‘


” Bud ! Spark ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมาเรียกอันเดตที่ใกล้เขาที่สุด


อันเดตสองตัวเริ่มขยับแต่ดูเหมือนว่ามีน้ำหนักของทั้งโลกกดทับมันอยู่แต่พวกมันก็ยังคงเดินเข้าไปหาเดฟ


” น่าสนใจ ความภักดีที่สามารถสลัดสิทธิของฉันได้และยังมาช่วยนายได้ด้วย….ฉันคือคนที่นายตามหา อันเดตหนุ่ม นายต้องการอะไร ? “


เดฟถอนหายใจออกมาเมื่อมีหน้าต่างแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้า


[ คุณได้รับอนุญาตในการตรวจสอบเป้าหมาย ]


[Samael The Voracious]


ระดับ : Ethereal


ขั้น : Abyssal Knight


ระดับความอันตราย : เป็นมิตร


HP : ???


ลดดาเมจ ???


ดูดซับเวทย์ ???


สกิล ????


Ghoul ระดับสูงที่ชั่วร้ายและหิวอยู่ตลอด สิ่งมีชีวิตแห่งความบ้าคลั่งและโลภแต่ Samael เอาชนะความธรรมชาติความเป็นผีดิบบนตั้นได้และกลายเป็นผีดิบระดับสูง


เขาได้รับความสามารถพิเศษมาเพราะธรรมชาติของเขา


สิ่งที่ฉันกินไม่ใช่แค่เนื้อแต่เป็นความกลัวด้วย


{ Passive: เพิ่มความกลัวให้กับศัตรู }


” งั้นนายก็เป็น Abyssal Knight Samael ยกโทษให้ฉันด้วย “- เดฟพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ดูจริงใจ


” ไม่ต้องมีมารยาทมากมายก็ได้ “- Samael ขัดขึ้นมา – ” ฉันเองก็ไม่ได้สุภาพมากนักกับการเอมีดจ่อไปที่คอยนาย เอาล่ะ บอกสิ่งที่นายอยากจะพูดมา “


เดฟดึงเอาบัตรที่ Delvina ให้เขามาแล้วส่งให้กับ Samael


Samael ตรวจสอบมันแล้วคิ้วขมวด เขามองไปที่ เดฟ ด้วยสายตาสงสัยและพูดขึ้นมา – ” ยัยจิ้งจอกนั่นไว้หน้านายจริงๆ นายมาทำงานให้เธอเหรอ ? ” – Samael พูดขึ้น


” ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงเรื่องอะไร ? ” – เดฟพูดพร้อมกับยักไหล่


” ตามฉันมา ” – Samael พูดขึ้นและมุงหน้าไปยังกำแพงผาที่ใกล้ที่สุด


เดฟเดินตามไปโดยที่ลูกน้องของเขายังยืนอยู่ที่เดิม


” ฉันควบคุมกองทัพฉันไม่ได้หรือไง ? ” – เดฟถาม


” ไม่ เราต้องการความเงียบ ปล่อยพวกเฝ้าทางหนีของเราไว้ ” – Samael พูดขึ้นก่อนจะเตะไปที่กำแพงจนสร้างรูขนาดใหญ่ขึ้นมา


หน้าผาที่นี่มีพื้นที่ใต้ดิน มีรถเข็นหลายคันที่เต็มไปด้วยพวกแร่ หินและของที่เป็นประกาย มันมีสิ่งมีชีวิตเป็นร้อยที่คอยดึงและลากรถเข็นในเหมืองแห่งนั้น


เมื่อหินโดนทำลายโดย Samael มันก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนที่พื้นดิน สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเหมืองต่างก็หันกลับมาในจุดที่เกิดเสียง


เดฟคิดกับตัวเอง ‘ เขาบอกว่าให้เงียบเองไม่ใช่หรือไง ! ‘


แต่มันขัดกับที่เขาคาดเอาไว้ ไม่มีใคสนใจเรื่องรูขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นนี้เลย


” ไม่ต้องตกใจ พวกนั้นไม่เห็นเรา เอาล่ะตอนนี้ก็กระโดดได้แล้ว ” – เขาพูดขึ้นพร้อมกับโดลงไปแล้วลงไปยืนในจุดเก็บแร่เพื่อซ่อนตัวจากพวกในเหมือง


Chapter 97: The Mines


เดฟสบถออกมา เขาไม่ชอบความสูงแต่ก็ต้องตาม Samael ไป


Samael กระโดดลงไปดูเหมือนจะง่ายแต่ในตอนที่เดฟโดดตามลงไปนั้น เขาก็รู้สึกว่าหัวใจหลุดมาที่คอและตอนที่ตกลงไปที่พื้น ขาทั้งสองข้างของเขาก็หัก


[ คุณได้รับดาเมจจากการตก 10,000 หน่วย ]


[ พิการ ! 20 วินาที ]


เดฟมองไปที่ขารูปร่างแปลกๆของเขา เขาต้องขอบคุณที่ระบบลดความเจ็บที่เขารู้สึกตอนนี้ลงแต่อาการชาที่ขาก็ทำให้เขาอึดอัดอยู่ดี


” หือ ความว่องไวของนายต่ำ นายน่าจะพัฒนาเรื่องความเร็วและความแม่นยำของนายเพื่อที่การโดดจากความสูงระดับนี้จะไดไม่ต้องรับดาเมจมากนัก ถ้านายกลิ้งหลังจากที่โดดลงมา นายจะลดความเสียหายจากการตกลงมาได้ “


[ สกิล {Passive} เรียนรู้ ลดความเสียหายจากการตก


ตัวลละครของคุณจะกลิ้งเองตอนที่โดดลงมาจากความสูงมากกว่า 10 ม.]


สวย สกิลฟรี


เดฟจัดขาที่บิดเบี้ยวของตัวเอง พวกมันเริ่มฟื้นฟูด้วยความเร็วที่ตาสังเกตเห็นได้


เมื่อขาของเดฟกลับมาใช้ได้อีกครั้ง เขาก็ลุกขึ้นยืนและไปซ่อนตัวใกล้ๆกับ Samael


” นายเห็นเสาตรงนั้นมั้ย ? ” – Samael ถาม


เดฟมองไปและพบกับเสาขนาดใหญ่กว่า 20 ต้นในถ้ำที่พวกเขาอยู่ มันมีคนงานหลายคนที่กำลังขุดแร่อยู่ใกล้กับเสาพวกนั้น


[ Imp ]


เลเวล : 80


ดาเมจ : 1,000-1,200


HP : 40,000


ลดดเมจ 200


ดูดซับเวทย์ 1,500


สกิล :


{ Rock Toss : โยนหินใส่เป้าหมายทำดาเมจ 200% }


{ Impale : โดดเข้าใส่ศัตรูพร้อมกับหอกทำดาเมจ 150% และดีบัฟเลือดไหลซึ่งทำดาเมจ 50% }


{ Call for Help : เมื่อเลือดลดถึงจุดวิกฤต พวกันจะตะโกนเรียกเพื่อนให้ช่วย เพิ่มความโกรธของเป้าหมาย 500%}


ทาสที่ไร้ความคิดของพวกปิศาจ ปิศาจระดับต่ำที่สุดและมีจำนวนมากที่สุด


เดฟตรวจสอบที่สาแล้วพูดกับ Samael


” เห็น แล้วพวกนั้นล่ะ “- เดฟพูดขึ้น


” ถ้ำนี้เป็นเหมืองสำหรับพวกปิศาจและยังเป็นจุดรวมผลของพวกมันใกล้กับเขตแดนเรา ถ้าเราจัดการถ้ำนี่ได้ เราก็ตัดเส้นทางที่พวกมันจะเดินหน้าและหยุดการเติมเสบียงของพวกมันไปด้วยพร้อมกับที่ Delvina จัดการกับฝ่ายโจมตีที่พยายามยึด Undead Frontier ของเรา ” – Samael อธิบาย


” งั้นก็เป็นภารกิจทำลาย ? “


” ใช่ ฉันจะดึงความสนใจและฉันต้องการให้นายจัดการเสาพวกนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ใช้นี่ซะ ” – Samael พูดขึ้นแล้วส่งออฟสีดำ 20 อันให้กับเดฟ


[Destroyer’s Frozen Soul]


วิญญาณของเผ่าทำลายล้าง ระเบิดที่สามารถทำลายอาณาเขตได้


” เอาไปติดไว้ที่ฐานของเสา เมื่องานของนายเสร็จแล้วก็ให้กลับมาที่นี่ให้เร็วที่สุด อย่าให้โดนพบตัว ไม่งั้นแล้วมันอาจจะส่งคนมาจัดการนายได้ ” – Samael พูดขึ้นแล้วเดินออกไปหาศัตรู


” มาสิ มาหาฉันนี่ไอ้พวกปีศาจ ! ” -Samael คำรามออกมา


เดฟวิ่งไปที่เสาที่ใกล้ที่สุด ปีศาจนับร้อยจากทั่วทุกที่แห่กันเข้าไปหา Samael อิมพ์และการ์กอยหรือแม้แต่หนอนแปลกๆที่โผล่มาจากพื้นดินต่างก็เข้าโจมตี Samael


เดฟอยากจะใช้ {Spectral Bomb} เพื่อฟาร์มเอา xp แต่ก็ไม่ทำแบบนั้น มันไม่จำเป็นที่เขาต้องเพิ่มค่าความโกรธให้กับตัวเองเพื่อให้ปิศาจคิดว่าเขาเป็นภัย


เมื่อเดฟไปถึงเสาต้นแรก มันมีอิมพ์ตัวหนึ่งที่ยังยืนอยู่ใกล้ๆเสา มันไม่ได้สนเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเลย


อิมพ์หันกลับมาและพบกับเดฟที่มองมาที่มัน


มันพุ่งเข้าใส่เดฟพร้อมกับหอกในมือ


” ได้เลย ! ” – เดฟพูดขึ้นและเตรียมตัวพร้อมสำหรับการต่อสู้….



Chapter 98: ภัยจากนรก


อิมพ์พุ่งเข้าใส่เดฟพร้อมกับหอกของมัน มันเป็นสัญญาณว่ามันกำลังใช้สกิล


เดฟใช้ {Block} และตามด้วย {Counter}


[-885]


เดฟใช้ {Destructive Smash} เข้าสตันท์อิมพ์ไป 1 วินาทีและตามด้วย {Stampede} จนทำให้อิมพ์ต้องกระเด็นออกไป


[-630]


[-2200]


เดฟตามด้วย {Immortal Apparition} พร้อมตัวเขาที่หายเข้าไปในเงาและโผล่มาตรงหน้าอิมพ์


[ คุณได้สร้างความกลัวกับเป้าหมายได้สำเร็จ ]


อิมพ์เริ่มลนลานและวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดจนมันตกลงไปในบ่อลาวาด้านหลังมัน


” โอ้…ฉันไม่คิดว่าแบบนี้จะได้ผลด้วย “- เดฟอึ้งและเดินไปที่เสา เขาพบช่องพิเศษเพื่อเอาระเบิดที่ Samael ให้เขาเอาไว้


เมื่อวางระเบิดลงไปเดฟก็มองไปทีเสาต้นต่อไปซึ่งห่างไปไม่กี่สิบเมตร ที่นั่นมีอิมพ์อยู่สองตัว


” ฉันเดาว่าความยากจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ….” – เดฟมุ่งหน้าไปที่เสาต้นต่อไป


เดฟเข้าต่อสู้ทันทีที่สกิลคูลดาวน์เสร็จ


เขาเริ่มการต่อสู้ด้วยการใช้ {Immortal Apparition} สร้างผลความกลัวให้กับอิมพ์สองตัว หนึ่งในนั้นโชคดีที่ชนเข้ากับเสาด้านหลังก่อนจะตกลงไปที่บ่อลาวา ส่วนอีกตัวนั้นเองก็อยู่ใกล้บ่อพอ เดฟได้ใช้ {Stampede} และชนให้มันกระเด็นตกลงไปในบ่อ


” สนุกดีแหะ ” – เดฟพูดขึ้นแต่เมื่อหันไปหา Samael เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นศพกระจายกองรอบตัวไปทั่ว


Samael เป็นสัตว์ประหลาด ศพเป็นร้อยๆกระจายไปทั่ว เขาเหวี่ยงมีดเข้าโจมตีพวกมอนสเตอร์ที่เขามาด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง


นี่มันคือการเต้นแห่งความตาย ทุกการโจมตีนั้นจะมีมอนสเตอร์ที่ต้องเกือบตายหรือว่าตายทันทีหากมันเลเวลน้อย


การ์กอยตัวหนึ่งเข้าโจมตีจากมุมอับของ Samael แต่เขาไม่ได้สนใจหันกลับไปหามัน เขาใช้มือที่ไม่ได้ถืออาวุธจับหนอนที่อยู่ด้านหน้าฟาดเข้าใส่การ์กอยพร้อมกับมอนสเตอร์อีกกว่าสิบตัวกระเด็นล้มลงไปที่พื้น


ตัวที่โชคร้ายต้องตกลงไปในบ่อลาวาและถูกเผากลายเป็นเถ้า


” เขาคงไม่เป็นไร ” – เดฟพูดขึ้นและมองไปที่เสาต้นต่อไป ที่นั่นมีอิมพ์อยู่สามตัว….


” นี่คงยากขึ้นไปเรื่อยๆ….”


เขารอจนสกิลคูลดาวน์เสร็จแล้วเดินไปหาอิมพ์ทั้งสามตัวแต่พวกมันอยู่ห่างกันเกินไปที่เดฟจะใช้กลยุทธ์แบบเดิมได้


‘ ล่อพวกมันเข้ามา ? ‘ เดฟคิด


” เฮ้ย พวกกาก ” – เดฟพูดขึ้นซึ่งทำให้อิมพ์ที้งสามตัวหันกลับมาพุ่งเข้าใส่เดฟ


เดฟใช้ {Sword Lung} แทงเข้าใส่อิมพ์ทั้งสามตัวพร้อมกัน


[-1922]


[-1682]


[-1220]


สกิลนี้จะทำดาเมจน้อยลงไปเรื่อยๆสำหรับศัตรูตัวต่อๆไปแต่มันไม่ได้สำคัญสำหรับเดฟ วิธีนี้จะทำให้พวกอิมพ์เข้าใกล้พอที่เขาจะใช้ {Immortal Apparition} จนทำให้อิมพ์สองตัวตกลงไปในบ่อ ส่วนอิมพ์อีกตัวนั้นวิ่งไปในทางตรงกันข้ามไกลออกจากบ่อไปเรื่อยๆ


” อ่ะ แย่แน่…” – เดฟพูดและวิ่งไล่ตามอิมพ์ไปเพื่อพยายามล่อมันกลับมาที่บ่อ


ด้วยการลองอีกครั้ง เดฟก็สามารถชนจนอิมพ์ตกลงไปในบ่อได้


‘ ต้องขอบคุณที่บ่อลาวานี่ฆ่ามันได้ทันที ถ้าฉันช้ากว่านี้มันคงเรียกพวกมันมาและคงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะมีมอนสเตอร์เข้ามาเพิ่มกี่ตัว ‘


เดฟยังใช้กลยุทธ์แบบเดิม เขารอจนคูลดาวน์สกิลเสร็จและใช้ดีบัฟความกลัวจาก {Immortal Apparition} ในการผลักพวกอิมพ์ให้ตกลงไปบ่อลาวา


บางครั้งมันก็ยุ่งยากที่จะทำให้อิมพ์ยืนเรียงกันเป็นเส้นตรงและมันก็เกือบทำให้เดฟต้องตายเพราะพวกศัตรูนั้นมันรับมือยากเกินไป


” จัดการไป 12 เสาแล้ว ยังเหลืออีก 8 ” – เดฟพบว่าสถานการณ์มันยุ่งยากขึ้นเรื่อยเพราะทุกเสานั้นมีศัตรูเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ


เขาหันกลับไปมองที่ Sameal อีกครั้ง อีกฝ่ายกำลังจัดการกับศัตรูโดยไม่หยุดพัก


‘ บ้าเอ้ย เขาแข็งแกร่งพอที่จะจัดการศัตรูเยอะแบบนี้ได้ เขาทำมันทั้งหมดด้วยตัวเองก็ได้นิ ‘ เดฟ บ่น


จากนั้นก็มีเสียงคำรามดังสนั่นขึ้นมาพร้อมกับบ่อลาวาที่กระจายออกเผยให้เห็นถึงสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่ยากเกินกว่าจะอธิบายได้


สิ่งมีชีวิตนี้ทำขึ้นจากหินใต้บ่อลาวา มันใช้มือทั้งสองข้างทุบลงไปในจุดที่ Samael อยู่และคำรามออกมาจนทำให้ถ้ำนั้นสั่นสะเทือนพร้อมกับหินที่หล่นลงมา บางก้อนตกลงไปในบ่อ บางก้อนตกลงไปใส่พวกปีศาจที่โชคร้าย


สัตว์ประหลาดอ้าปากของมันแต่มันไม่ได้มีตาหรือหู ที่ตรงด้านหน้ามันมีจมูกที่กระดิกไปมาคอยดมกลิ่น มันรู้ตำแหน่ง Samael และพุ่งออกจากบ่อเข้าใส่ Samael ทันที


[Sworn Stalwarter]


เลเวล : 620


ระดับ : Ethereal


เผ่า : ปิศาจ


ระดับความอันตราย : ☠ ☠ ☠ ☠ ☠


HP : ???


ลดดาเมจ ???


ดูดซับเวทย์ ???


สกิล ????


สิ่งมีชีวิตจากส่วนลึกที่รับใช้ Ash King ในฐานะทาสและผู้ปกป้อง


สิ่งมีชีวิตนี้กินลาวาและต้านทานไฟ พื้นที่รอบตัวมันจะมีความร้อนเพิ่มขึ้นสร้างความเสียหาย 500 หน่วย/วินาที


” เหี้ยแล้ว ! ไอ้นี่มันโคตรโกงเลย ! “



Chapter 99: นี่มัน….คาดไม่ถึงจริงๆ


เดฟไม่ได้อยากเข้าไปใกล้มัน ลืมเรื่องการสู้กับมันไปได้เลย แม้แต่การเข้าใกล้ก็เพียงพอทำให้ เดฟกลับไปเกิดใหม่ได้


ต้องขอบคุณที่ Samael ไม่ได้แสดงท่าทีกลัวต่อสัตว์ประหลาดนั่น เขายังคงมองมาที่เดฟแล้วพูดขึ้น – ” ไอ้หนู นายต้องรีบแล้ว ฉันยื้อมันได้ไม่นานนัก ไม่ใช่ในอาณาเขตของมัน ” – Samael พูดขึ้นพร้อมกับชักมีดออกมาวิ่งไปเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองเป้นสิบเท่า


‘ ฉันหวังว่าสัตว์ประหลาดนั่นจะไม่เห็นฉันตอนที่เขาพูดกับฉันนะ ‘


เดฟคิดว่าจะวิ่งเข้าไปตรงๆโดยไม่ต้องสนพวกมอนสเตอร์รอบๆก่อนจะเข้าไปวางระเบิดใส่เสาทุกต้นแล้วลองหนีดูแต่เขาก็คิดว่ามันเสี่ยงอย่างมากและขาคงตายในที่สุด


แม้ว่าดาเมจจากอิมพ์นั้นจะน้อยแต่กองทัพมดก็ยังฆ่าช้างได้และไอ้มอนสเตอร์นี่ก็ไม่ใช่มดและ เดฟก็ไม่ใช่ช้างด้วย


เดฟมองไปรอบๆและจ้องไปที่รถเข็นที่เต็มไปด้วยหิน รถเข็นนั้นอยู่บนรางและมันก็มีทางชันด้วย รางนี้ไปถึงทั่วทุกที่ในถ้ำเพื่อให้ง่ายสำหรับการเก็บแร่ของอิมพ์


เสาพวกนั้นเป็นจุดหยุดของรางเหล่านั้นเพื่อให้พวกอิมพ์ได้ใส่แร่ไว้ในรถ


เดฟคิดถึงวิธีการที่เขาต้องทำก่อนจะถอนหายใจออกมา ‘ นี่คงเป็นความคิดแย่ๆ ‘


เดฟใช้ {Spectral Bomb} ส่งไปที่เสาตัวที่ไกลที่สุดระเบิดใส่หน้าอิมพ์ อิมพ์ร้องออกมาและพุ่งเข้าใส่เดฟพร้อมกับดึงความโกรธของมอนสเตอร์ตัวอื่นมาหาเขาด้วย


‘ เอาล่ะ ได้เวลาใช้ทักษะร่างกายทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว’


เมื่ออิมพ์เป็นร้อยตัวเข้ามาใกล้พอ หลังของเดฟถึงกับต้องเหงื่อชุ่ม


‘ มันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีก็ได้ ‘


เดฟกดคันโยกที่รถและพุ่งไปตามทางชันมุ่งหน้าเข้าใส่อิมพ์ที่พุ่งเข้ามา


เดฟไม่ได้ถูกหยุดและไหลลงไปเรื่อยๆโดยมีมอนสเตอร์ตามมาเป็นพรวน


รถเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆและพวกอิมพ์ก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนความคิด รางนี้แคบพอให้อิมพ์ผ่านไปได้ไม่กี่ตัวแต่รถนั้นใหญ่พอที่จะปิดทางทั้งหมดเอาไว้


อิมพ์ไล่โจมตีใส่รถ มีมากกว่าครึ่งที่ตกลงไปในบ่อลาวาและที่เหลือก็โดนชนจนกระจายออกไป


เดฟไม่ได้หันกลับไปชื่นชม เขาพุ่งไปที่เสาที่ใกล้ที่สุดและวางระเบิดก่อนที่จะรีบมุ่งหน้าไปที่เสาต้นต่อไป


รถเข็นยังคงวิ่งไปเรื่อยๆเร็วจนบางครั้งเด้งไปมา จนกระทั่งมันเจอกับจุดหยุด รถเข็นถึงกับทำให้หินด้านในหล่นลงไปในบ่อลาวา


แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหินก้อนหนึ่งที่กระเด็นไปโดน Sworn Stalwarter


เพราะ Samael ยังไม่ได้เริ่มสู้กับสตัว์ประหลาด การกระทำของเดฟจึงเพิ่มระดับความโกรธของเขาให้เป็นอันดับหนึ่ง


Sworn Stalwarter เดินหน้ามาที่ตำแหน่งของเดฟและจมูกมันก็กระดิกไปมา มันคำรามอออกมาและมันก็ได้ดำดิ่งลงไปในลาวาเพื่อมายังตำแหน่งของเดฟ


เดฟมองไปที่สัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้ามาหาเขา ด้วยความกลัวที่มีเขาจึงเร่งความเร็วของตัวเองในการวางระเบิด เขาวางระเบิดใส่ที่ทุกเสาที่เขาผ่านไป


เดฟไม่ได้สนใจที่จะเสียเวลาหันกลับไปมอง เขายังคงทำการวางระเบิดตามเสาไปเรื่อยๆ


[ เลเวลเพิ่ม! ]


แจ้งเตือนทำให้เดฟต้องตกใจแต่เขาก็ไม่ได้สนใจมัน


เมื่อเขาไปถึงเสาต้นสุดท้าย เดฟก็หันกลับไปมองและพบว่าสัตว์ประหลาดนั้นอยู่ห่างจากเขาไม่ถึง 30 ม. มันบดขยี้พวกอิมพ์ราวกับเศษดิน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเดฟถึงได้ xp มาเพราะเขาได้โจมตีเข้าใส่พวกอิมพ์ไปแล้วโดยใช้รถเข็น


Sworn Stalwarter อ้าปากของมันเผยให้เห็นฟันอันแหลมคมที่ทำขึ้นจากหินและลูกไฟที่มันกำลังร่ายอยู่


” ซวยแล้วไง ! ” – เดฟวิ่งด้วยความเร็วทั้งหมดที่ตัวเองมี….วิ่งเข้าไปหามอนสเตอร์


{Immortal Apparition} เดฟใช้กิลออกมาและโผล่ไปด้านหลังสัตว์ประหลาดและมันก็ได้ยิงลูกไฟไปยังตำแหน่งก่อนหน้านี้ของเขา


เดฟโผล่มาด้านหลังมอนสเตอร์แล้วเดินหน้าต่อ


มีแจ้งเตือนอีกอันโผล่ขึ้นมาตรงหน้าเดฟ


[ คุณได้รับความร้อนสูง ]


[-500HP]


[-500HP]


[-500HP]


[ ผลความกลัวล้มเหลวเพราะเลเวลที่ต่างกันเกินไป ]


อ่ะ ซวยแล้ว ซวยแล้วววว !


เลือดของเดฟลดลงอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่ได้สนใจจะมองไปที่สัตว์ประหลาดที่ตอนนี้กำลังจะหันตัวขนาดใหญ่ของมันมาไล่ตามเดฟ


มันมีอิมพ์หลายตัวที่ขวางหน้าเขาอยู่ พวกอิมพ์เหล่านี้คือพวกที่รอดจากการชนของรถเข็นและอยู่จาก Sworn Stalwarter เกินไปจนไม่ได้ตายจากการโดนกระทืบของสัตว์ประหลาดซึ่งตอนนี้พวกมันกำลังเดินหน้าเข้ามาหาเดฟ


” โดดลงไปในบ่อ ! ” – Samael ตะโกนขึ้นมา


” อ่ะ ถ้าแนตายนี่คงเป็นเพราะพวกคนทำเกม ! ” – เดฟตะโกนออกมาและกระโดดลงไปด้วยความเชื่อ


Samael ต่อยลงไปที่พื้นแล้วจับเอาหินขนาดใหญ่โยนไปใกล้ๆกับเดฟ


เขาหายไปจากจุดที่เขายืนและปรากฏตัวบนก้อนหินที่พุ่งออกไป เขาคว้าตัวเดฟเอาไว้ หนึ่งวินาทีหลังจากนั้นเขาก็ได้โดดจากก้อนหินขึ้นไปที่รูกำแพงถ้ำแห่งนี้


” เวร นี่มันบ้าชะมัด ! ” – เดฟสบถออกมา


” ฉันแปลกใจที่นายังรดอดมาได้ นายวางระเบิดทั้งหมดหรือยัง ? “


” ใช่ ทั้งหมด 20 อัน ตอนนี้ไงต่อ ? ” – เดฟพูดขึ้นแล้วมองไปที่หลุมด้านล่าง


Sworn Stalwarter ยังคงพุ่งเข้าชนกับกำแพงและเริ่มที่จะไต่ขึ้นมาหาพวกเขา


” ดี “


Samael ส่งสัญญาณมือและเกิดระเบิดขึ้นมาในถ้ำ


หน้าผาเริ่มสั่นสะเทือนตอนที่ Samael พูดขึ้น


” นายควรถอยกลับไปหน่อย “


เดฟพุ่งหนีจากหินที่ตกลงมาเข้าไปในส่วนที่ปลอดภัย


หินเพดานขนาดใหญ่ตกลงมาใส่สัตว์ประหลาดและทับมันไว้ในถ้ำ


มันเหมือนกับหลุมกับดัก หน้าผาทั้งหมดด้านนั้นเปิดออกและได้กลายเป็นหลุมศพ


[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! Kis’Shteingbrah ได้ฆ่ามอนสเตอร์ระดับ Ethereal ตัวแรกในเกม ชื่อและเกียรติของเขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ]


” หือ ตะกี้มันว่ายังไงนะ ? “



Chapter 100: แล้วของดรอปล่ะ ?


ที่อาณาจักรทางเหนือลึกเข้าไปในป่าน้ำแข็งและหิมะนั้นมีวิหารแห่งหนึ่ง


มันเก่าและดูลึกลับที่ทำขึ้นจากหินสีแดงและเสาที่ค้ำจุดโดยรอบวิหาร


มันคือ Crimson Monastery ที่ซึ่ง Warlord และปาร์ตี้ผู้เล่นเลเวลสูงที่สุดของ Devastators ทำการเก็บเลเวลกันอยู่


ตอนนั้น Warlord เลเวล 440 แล้ว ตอนนี้เขายืนยันได้อีกครั้งว่าเขาคือผู้เล่นที่เลเวลสูงที่สุดในเกม


จากนั้นก็มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมาในตอนที่พวกเขากำลังจะเผชิญหน้ากับ Ice Golem เลเวล 450


[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! Kis’Shteingbrah ได้ฆ่ามอนสเตอร์ระดับ Ethereal ตัวแรกในเกม ชื่อและเกียรติของเขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์]


” นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นในเกมกันวะ ? !!!! “


Warlord สบถออกมากับประกาศที่บินไปมาบนท้องฟ้า


‘Kis’ Shtingbrah เขาเป็นใครวะ ? !คนพวกนี้มาจากไหนกัน ไอ้โครงกระดูกนั่น เอลฟ์สาวและยังคนที่เอาชนะบอสระดับ Ethereal ได้อีก ? นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว ‘


” Val นายรู้เรื่องนี้มั้ย ? ” – Warlord ถามมือขวาของเขา


” ไม่ ฉันสั่งการไปที่กิลด์อยู่ พวกนั้นจะหาข้อมูลให้กับเราในไม่ช้า ” – Valentine ที่มองไปยังแจ้งเตือนบนท้องฟ้าตอบกลับ


Warkird เอามือลูบจมูกแล้วถอนหายใจออกมา


” จัดการดันเจี้ยนนี้กันเถอะ เราต้องเลเวล 450 เป็นอย่างน้อยเพื่อที่จะจัดการกับดันเจี้ยนทางเขตแดนตะวันออกได้ “


” Warlord ไม่ใช่ว่านายรีบไปหน่อยเหรอ แม้ว่าเราจะเลเวล 450 ได้ก่อนสัญญากับ Blood Rage สำหรับการเก็บเลเวลที่นี่จะหมดลงแต่มอนสเตอร์เลเวลต่ำสุดที่นั่นก็อยู่ระดับตั้งแต่ Epic ถึง Mythical เลยนะ ! และนายก็รู้ดีว่าจำนวนคนหน่ะไม่ได้มีค่าอะไรกับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ที่นั่น….”


” ฉันรู้ Val ฉันรู้แต่นายก็เห็นนี่ ! มีคนฆ่ามอนสเตอร์ระดับ Ethereal ไปแล้ว ! มันแข็งแกร่งกว่าระดับ Mythical อีก เราจะนิ่งเฉยได้ยังไง ? เรากดดันเรื่องดันเจี้ยนโลกมาก็มากพอแล้วและตอนนี้กลับต้องเสีย First Kill ของบอสระดับ Ethereal ไปอีก นี่ถือว่าส่งผลเสียกับกิลด์เรา ! “


” มันไม่ทำอะไรให้เราดีขึ้นเลย มันต้องมีเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นที่เลเวลน้อยกว่านายถึงฆ่ามอนสเตอร์ระดับ Ethereal ได้ มันต้องมีลูกไม้บางอย่างแน่นอน “


” นายไม่คิดว่ามันจะเป็นไอ้โครงกระดูกนั่นหรอกใช่มั้ย ? ” – Warlord พูดขึ้น เขาจำได้ถึงผู้เล่นเพียงคนเดียวที่เลเวลต่ำแต่กลับเอาชนะเขาที่เป็นผู้เล่นที่เลเวลสูงที่สุดในเกมได้


” ไม่ ฉันไม่คิดแบบนั้น มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้…” – Valentine พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูผิดกับคำพูด


” เดี๋ยวก่อนนะ ฉันได้ข้อความเสียงแบบฉุกเฉินมา “


ตาของเขาเบิกกว้างทันทีที่ได้ยินเสียงข้อความที่ส่งเข้ามา


” อะไร ? ” – Warlord ถามเพื่อน


” ผู้เล่นสองคนที่เพิ่งทำสัญญากับกิลด์บอกว่าพวกเขาได้เจอกับ Kis’Shtingbrah นี่ “


” อะไร ? ที่ไหน ? ให้พวกเขาบอกเรามา ! “


” เดี๋ยวก่อน นี่เป็นส่วนที่แปลกมาก พวกเขาบอกว่าเขาเป็นบอส ? ใช่ มอนสเตอร์บอสในดันเจี้ยน Desolate Temple ใกล้กับเมือง Moria “


” มันดูไม่เข้าท่าเลย ทำไมบอสถึง…” – เสียงของ Warlord ดูเครียดตอนที่เขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่เขาตัดทิ้งไป


” พวกนั้นได้ถ่ายวีดีโอเอาไว้มั้ย ? “”


” ใช่ พวกนั้นเพิ่งส่งไปที่กิลด์ ฉันกำลังรับมาอยู่ “


Valentine ส่งวิดีโอให้กับ Warlord และพวกเขาต่างก็ดูมันด้วยกัน


” นั่นเขา ! นั่นคือ Mr.Skeletal ! เขาตัวใหญ่แบบนี้ได้ยังไง ? “


” ฉันไม่รู้แต่ตอนนี้เขากลายเป็นบอสไปแล้ว ” – Valentine พูดขึ้น


จกานั้นเขาก็ได้ยินเสียงผุ้เล่นคุยกับ ‘ บอส ‘ ที่ว่า


” สามคนพวกนี้…ฉันเคยเห็นพวกนี้จากที่ไหน ? ” – Warlord พึมพำ


” มันคือพวกที่ Mr.Skeletal เจอในตอนแรก พวกนี้อยู่ในวิดีโออันแรกด้วย “


” ใช่ เราติดต่อพวกนี้ไปไม่กี่วันก่อนและพวกนี้ก็บอกว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขา…เราต้องใช้วิธีหนักกว่านี้ ส่งคนไปหาพวกนั้น ให้พวกนั้นยอมส่งข้อมูลของ Mr.Skeletal มาให้เรา ไม่งั้นแล้วเราจาตามฆ่าพวกนั้นจนกว่าพวกนั้นจะเลิกเล่นเกมไปเลย ! “


Valentine ได้ประกาศคำสั่งของ Warlord ออกไปและเพิ่มเงื่อนไขลงไปอีกหนึ่งข้อ


” รวมทีม A 20 คนไปที่ Desolate Temple Dungeon ออกตามหาทุกซอกทุกมุมและทุกที่ ! ฉันต้องการให้ที่นั่นราบเป็นหน้ากอง ! หาเขาให้เจอ ! “


กิลด์ Devastator เริ่มลงมือกันทันที


Warlord ฮึดฮัดออกมาหลังจากที่ดูวิดีโอจนจบ


” ไอ้บ้านั่นหลอกเอาไอเท็มจากผู้เล่นสองคนแต่มันเป็นความผิดพวกนั้น พวกนั้นไม่ได้สนใจแจ้งเตือนตอนที่ได้รับเควส เอาล่ะ สองคนนี้เป็นไม่มีกิลด์ใช่มั้ย? ลองดูว่าเรารับพวกนี้เข้ากิลด์ได้หรือเปล่า ถ้าไม่ก็จ่ายเงินสำหรับข้อมูลนี้ ” – Warlord พูดขึ้น


” จัดการเรียบร้อย ” – Valentine ตอบกลับ จากนั้นพวกเขาก็กลับลงไปดันเจี้ยนเพื่อทำการเก็บเลเวลต่อ


กลับมาที่โลกใต้ดิน เดฟมองไปที่แจ้งเตือนตรงหน้าเขา


” งั้นฉันก็เพิ่งฆ่ามอนสเตอร์ระดับ Ethereal นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ ” – เดฟพึมพำ – ” แต่ฉันจะเอาของที่ดรอปมาได้ยังไง ? ! “


เดฟก้มลงมาจากหน้าผาด้วยสีหน้าสิ้นหวัง มี่ทางเลยที่เขาจะลงไปที่นั่นและหาของที่ Sworn Stalwarter ดรอปลงมา


” ฆ่ามอนสเตอร์ระดับ Ethereal แต่กลับไม่ได้ของ น่าเศร้าจริงๆ “


เดฟหันกลับมาและตั้งใจที่จะเดินออกไปแต่ก็มีความคิดบางอย่างแว็บขึ้นมา


” ทำไมฉันถึงเลเวลไม่เพิ่ม ? Alfred ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา


พ่อบ้านในชุดดำได้ปรากฏขึ้นมาแล้วมองกลับมาที่เขา


โลกเปลี่ยนสีสลับสีไปจากดำและขาว Samael ตัวแข็งทื่อไป….การปรากฏตัวของพ่อบ้านนี้ทำให้เกมหยุดเวลาไปด้วย !


” คุณอีกแล้ว….มีปัญหาอะไรอีกที่คุณจะสร้างให้ผม ” – พ่อบ้านพูดขึ้นโดยไม่ได้ปกปิดสายตาที่หงุดหงิดของเขา


” ว๊าว ฉันไปทำอะไรนะ ? ฉันแค่เล่นเกม ! “


” คุณทำลายทุกอย่างที่ผมสร้างมา ! แต่ไม่สำคัญหรอก แล้วคุณมีเรื่องอะไรถึงได้เรียกผมมา ? “


เดฟตกใจกับน้ำเสียงของพ่อบ้านแต่ก็ไม่ได้สนใจมันก่อนจะตอบกลับ – ” อย่างที่นายเห็น ฉันฆ่าบอสระดับ Ethereal ได้แล้วแต่ไม่ได้ของหรือ xp เลย “


” ผมรู้…..มอนสเตอร์นั้นไม่ควรที่จะถูกผู้เล่นฆ่า การกระทำของคุณนั้นไม่ได้ถูกดึงเอามาคิด การฆ่านี้น่าจะเป็นเพราะ Abyssal Knight ที่อยู่กับคุณ ค่า xp และของที่ได้มาควรจะเป็นของเขา ! เมื่อคุณจัดการดึงความโกรธของมอนสเตอร์มาได้ก่อนที่ Abyssal Knight จะโจมตีและยังใช้ผลของความกลัวถึงมันจะล้มเหลวแต่ก็ถือว่าเป็นการโจมตี “


” งั้นทุกอย่างก็เพราะโชคงั้นเหรอ ? มอนสเตอร์นี่ไม่ควรตายด้วยฝีมือของผู้เล่นงั้นเหรอ ? “


” ใช่ มันหมายความว่าผู้เล่นจะไม่ได้ของที่มันดรอป “


” มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าฉันเลเวลสูงกว่านี้ล่ะ? ถ้าฉันเลเวลสัก 800 ตอนที่ลองทำเควสนี้ล่ะ ? “


” นั่นแหละคือปัญหา ! ตอนที่เลเวลเฉลี่ยผู้เล่นขึ้นถึงระดับที่สูงพอในการจัดการกับ Sworn Stalwarter ได้ เควสนี้จะหายไปนานแล้ว Abyssal Knight ตัวนี้จะจัดการพื้นที่นี้เพียงลำพังโดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้เล่นคนใด “


” อ่ะ แล้วฉันไม่ได้ของเลยงั้นสิ ? “


” ไม่….สำหรับตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร ” – พ่อบ้านพูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่พอใจ


” ผมจะให้บางอย่างชดเชยกับ….ความพยายามของคุณแต่ผมคงให้ xp ทั้งหมดจากการฆ่าไม่ได้ ค่า xp ที่คุณจะได้นั้นมันมากเกินไป…มันจะทำให้สมดุลเกมพังลง ” – พ่อบ้านพูดขึ้น


” นายหมายความว่ายังไง ? “


” มันเป็นมอนสเตอร์ระดับ Ethereal การฆ่ามันแบบคนเดียวนั้นจะได้ xp เป็นพันล้าน ถ้าผมให้คุณไปเต็มๆ ตัวละครของคุณจะเลเวลเพิ่มเร็วเกินไปและจะส่งผลต่อเควสอันเดต คุณต้องทำเควสอีกหลายอย่าง ดังนั้นผมจะชดเชยคุณด้วยไอเท็มพิเศษ ” – พ่อบ้านพูดขึ้นก่อนจะดีดนิ้ว


มีลูกปัดสีแดงโผล่มาในมือของพ่อบ้าน


” นี่คือไอเท็มพิเศษ คุณสามารถเอามันใส่แหวนของคุณได้ “


เดฟรับไอเท็มมาและลองเอามันเข้าไปใกล้กับแหวนในมือ


ลูกปัดลอยเข้าไปใส่ที่เบ้าตาขวาของหัวกะโหลก


[ EXP Bead


ในตอนที่ใส่ไอเท็มนี้ xp ทั้งหมดที่ได้จากเควส มอนสเตอร์และวิธีอื่นๆนั้นจะเพิ่มเป็นสองเท่าจนกว่าผู้เล่นจะเลเวล 500


ไม่ได้รวมกับการช่าง ทำยา หลอมและการรวมทรัพยากร ]


” สวย ! ” – เดฟพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจกับของรางวับที่ไม่คาดคิดนี้


พ่อบ้านกำลังจะหายไปแต่เดฟก็พูดขึ้นมาก่อน – ” เฮ้ย แล้วของล่ะ ! “


พ่อบ้านถึงกับเส้นเลือดปูดที่หน้าผากก่อนจะพูดขึ้นมา – ” ผมเกือบลืมไปเลย….นี่…”



Chapter 101: ของ!!


[Skill-Book: Infernal Aura (Legendary)]


[Skill Book: Ray of Flames (Legendary)]


[Ash-King’s Pendant (ไอเท็มเควส)]


[Sworn Stalwarter’s Core]


[Sworn Stalwarter’s Gauntlets (อาวุธแบบผูกมัด)]


เงิน 20,000 ทอง


” ว๊าว ! ขอบคุณมาก ผู้เฒ่า มีอีกมั้ย ? “


” นี่ยังไม่พอหรือไง ? มอนสเตอร์นี่ไม่ได้ดรอปไอเท็มอื่นอีก ในช่วงหลังของเกมผู้เล่นน่าจะเจอมันและการฆ่าครั้งแรกก็น่าจะให้ไอเท็มเหล่านี้กับพวกเขา “


” โอ้ ขอบคุณละกัน ทำไมนายถึงได้หยุด Abyssal Knight เอาไว้ล่ะ ?” – เดฟ ถาม


” NPC ในเกมมี AI ของตัวเอง ถ้าผมติดต่อกับพวกเขา มันอาจจะเปลี่ยนความคิดของพวกเขาไป ผมหวังว่าจะไม่มีตัวตนสำหรับพวกเขา เมื่อผมออกจากที่นี่ Abyssal Knight จะขยับได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ” – พ่อบ้านพูดจบก่อนจะหายตัวไป


ฉากสีขาวดำได้กลับมามีสีสันอีกครั้งและ Samael ก็พูดกับเดฟ – ” เราน่าจะไปได้แล้ว ตอนนี้ถ้ำกำลังถล่ม มันไม่จำเป็นที่เราต้องอยู่ที่นี่ต่อ ไม่มีกำลังเสริมของปีศาจไปที่ Undead Frontier แล้ว ดังนั้น Delvina ก็น่าจะจัดการกับพวกมันได้สบายๆ “


[ เควสเสร็จสิ้น ! xp + 750,000 ]


[ เลเวลเพิ่ม ! ]


[ เลเวลเพิ่ม ! ]


[ เลเวลเพิ่ม ! ]


” ว๊าว สวยสิ ! เลเวล 130 ! ” – เดฟพูดขึ้น


” ฉันยังมีเรื่องต้องไปจัดการ ” – Samaelพูดขึ้น


” นายจะไปไหน ? ” – เดฟถาม


” ฉันจะมุ่งหน้าไปที่ Burning Heights มันมีป้อมปรากการของปีศาจ ฉันต้องไปหาข้อมูลที่นั่น ” – Samael ตอบกลับ


” นายส่งลูกน้องไปไม่ไดหรือไง ? นายเป็นนายพลของกองทัพนี่ นายต้องมีคนที่มีความสามารถเป็นลูกน้องอยู่แล้ว “


” ฉันมีลูกน้องหลายคนแต่ฉันชองทำด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็การันตีความสำเร็จได้ “


Abyssal Knight โดดขึ้นไปที่ผาก่อนจะมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ


” Burning Heights….ฟังดูน่าสนใจ เอาล่ะ Boyz ” – เดฟหันกลับและมองไปที่ทีมอันเดตของเขา


” ไปหาเก็บเลเวลกันเถอะ ” – เดฟพูดขึ้น


ทีมอันเดตประมาณ 60 ตัวเริ่มเดินลาดตระเวนทั่วพื้นที่เพื่อมองหาเหยื่อ


ในขณะเดียวกันเดฟก็ทำการตรวจสอบของที่ได้จาก Sworn Stalwarter เขาเช็ค[Ash-King’s Pendant] ก่อนแต่มันไม่ได้ตอบสนองอะไร มันไม่ได้แจ้งเตือนขึ้นมาด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงเลิกสนใจมันไปก่อนแต่หลังจากที่ตรวจสอบของอื่นๆแล้วเดฟก็ต้องอ้าปากค้างหลังจากที่อ่านคำอธิบายของมัน


{Infernal Aura: 100 MP/วินาที ทำดาเมจ 0.5% ของเลือดผู้ใช้ในรัศมี 10×10ม.(ไม่สนใจการดูดซับดาเมจและค่าคุ้มกันจากเกราะและไอเท็ม) สกิลต้านทานสามารถใช้ยกเลิกดาเมจจากสกิลนี้ได้ ไม่มีคูลดาวน์ }


{ Ray of Flames : ยิงลำแสงไฟออกไปเป็นเส้นตรง ทำดาเมจเวทย์ 2,000-3,000 ถ้าเปลวไฟตกลงไปในพื้นที่ มันจะละลายและสร้างบ่อลาวาขึ้นซึ่งจะหายไปในเวลา 10 วินาที ดาเมจที่เกิดขึ้นจากลาวานั้นจะทำดาเมจเวทย์ 500/วินาที คูลดาวน์ 1 ชม. }


[Sworn Stalwarter’s Gauntlets(อาวุธเลเวล 1)]


ประเภท : ถุงมือ


อาวุธที่ทำขึ้นจากมือของ Sworn Stalwarter


ดาเมจ : 2,000-3,000


<Socket>


<Socket>


<Socket>


ข้อกำหนด : Str 300, Agi 300, Int 300, เลเวล 1


ผูกมัดกับ : Death Stroke


คุณสมบัติ/สกิล (อาวุธเลเวล 1):


เมื่อใส่อาวุธนี้จะเพิ่มพื้นที่ของสกิล {Infernal Aura} ขึ้น 5×5 ม.และดาเมจ 0.5%


{Ramp Up: เพิ่มดาเมจของอาวุธหลังจากที่โจมตีสำเร็จ 2% สูงสุดที่ 5 ครั้ง}


{Burning Fist: ถ้า {Ramp Up} ถูกใช้งาน ใช้เปลวไฟครอบคลุมอาวุธไว้เพิ่มดาเมจขึ้น 20% }


สกิลพิเศษปลดล็อคที่เลเวลอาวุธ 2


สกิลพิเศษปลดล็อคที่เลเวลอาวุธ 3


สเกล : <ผนึก>


คลาส : Legendary


” ฉันคิดว่า Alfred นั่นชอบฉัน ยังไงซะเขาก็บอกแค่ว่าฉันทำลายเกมแต่สุดท้ายก็ยังให้อาวุธโคตรโกงนี้กับฉันมา ! ฉันต้องลองใช้มันดู ! ” – เดฟพูดพร้อมกับใส่กำปั้นทันที


[ เงื่อนไขไม่ตรงที่กำหนด ! ]


[ ค่า Int ไม่เพียงพอ ]


[ ค่า Dex ไม่เพียงพอ ]


[ ค่า Str ไม่เพียงพอ ]


เดฟเปิดสเตตัสของตัวเองขึ้นมาและมองหาส่วนที่ไม่ตรงกับที่กำหนด


[


ชื่อ : Death Stroke


เลเวล : 130


เผ่า : มนุษย์ ( อันเดต)


อาชีพ : Death’s Apostle


Health : 30,000+(1,500)


Mana : 3,000 +(150)


Stamina( ค่าแรง ): ไม่จำกัด


Rage/Focus: 100


Intelligence 260 +(13)


Wisdom 310+(15.5)


Dexterity 260 (+13)


Agility 260 +(13)


Vitality 3,000


Strength 260 +(13)


Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 1,000


Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 2,000


Immunity ( ต้านทาน ) : 20% +(1)%


HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(0)


Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(0)


Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞


Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 1/วินาที


ฉายา : ฉันรู้ทุกอย่าง !


คะแนนสเตตัสที่ยังไม่ได้ใช้ 120 ]


เดฟมองไปที่คะแนนสเตตัสที่ยังไม่ได้ใช้และยิ้มออกมา เขาต้องขอบคุณค่าคะแนน 40 คะแนนก่อนหน้านี้และตอนนี้เขาก็มีคะแนนมากพอที่จะเพิ่มสเตตัสให้ใส่กำปั้นนี้ได้


เขาเพิ่มค่าสเตตัสสามอย่างลงไปอย่างละ 25 คะแนนเพื่อให้เดฟใส่กำปั้นนี้ได้ ต้องขอบคุณฉายาที่เขามีซึ่งเพิ่มค่าสเตตัสให้มากพอสำหรับเงื่อนไข


ตอนที่ใส่กำปั้นนี้ เดฟก็ต้องอึ้งกับลักษณะภายนอกที่ดูน่ากลัวของมัน มันเหมือนกับมือที่ทำขึ้นจากหินแต่ถึงยังงั้นการใส่มันก็ทำให้รู้สึกสบายอยู่ดี


ส่วนแย่ส่วนเดียวคือเดฟไม่สามารถที่จะใช้โล่ได้อีกแล้วและนั่นเท่ากับว่าเขาไม่สามารถใช้ {Block} และ {Counter} ได้


ในตอนที่เดฟชื่นชมกำปั้นอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องของเสือปีศาจ


เดฟฉีกยิ้มออกมา


เสือพุ่งเข้าใส่ Death Knight ที่ขวางทางมันและทำให้มันกระเด็นกลับไปจนมีดีบัฟพิการเกิดขึ้นที่หัวซึ่งลดความเร็วของมันลงอย่างมาก


เดฟรอจน Death Knight สองตัวคอยดึงความโกรธได้มากพอเพื่อที่เขาจะได้ไม่ OT จนเสือหันมาโจมตีเขาเอง


จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปด้วยความดีใจและโจมตีเข้าใส่เสือ ถึงค่าดาเมจจะไม่โผล่มาที่เสือเพราะเลเวลของเสือที่ต่างจากเขาแต่เขาก็อยากเห็นเอฟเฟคของกำปั้นนี้ พวกมันส่องประกายสีแดงออกมาทุกครั้งที่โจมตีสำเร็จ


เดฟยิ้มและลองต่อยเสยคางเสือพร้อมกับเปลวไฟที่พุ่งออกมา


[-0]


” บ้าเอ้ย ฉันอยากรู้จริงๆว่าค่าดาเมจมันจะเป็นเท่าไหร่ถ้าฉันใช้มันในการ PVP หรือใช้กับมอนสเตอร์ที่เลเวลเท่าๆกัน “


เดฟคาดหวังกับอาวุธใหม่นี้เหมือนกับเด็กที่เพิ่งได้ของเล่น เขาอดไม่ได้ที่จะลองเล่นกับของเล่นใหม่ของเขาและล่าเสือเพื่อเพิ่มเลเวลของเขาไปหลายตัว….



Chapter 102: Earth Titan!


เดฟได้พาทีมอันเดตเข้าไปในหุบเขาลึกขึ้นเรื่อยๆก่อนจะออกจากหุบเขาหลังจากที่สู้กับเสือดำไม่กี่ตัว


เดฟได้รับของที่เสือดรอปมาทุกครั้งที่เขาเจอและตอนนี้เขาก็มีของมากพอจะทำเกราะเซ็ต Shadow ได้สองชุด


‘ตอนนี้ฉันต้องการแค่ [Shadow-Worm’ s blood] ส่วนที่เหลือนั้นสามารถหาซื้อได้ในห้องประมูล ‘


แต่ไม่ว่าเดฟจะเดินหน้าไปไกลแค่ไหนแต่เขาก็ไม่พบ Shadow Worm เลยสักตัว แม้แต่มอนสเตอร์ธรรมดาก็ยังไม่มี


พื้นที่หินที่เขาอยู่ตอนนี้นั้นชัดแล้วว่าไม่มีมอนสเตอร์ เดฟพบว่ามันเป็นเรื่องที่แปลก


” พวกนายไปตรวจสอบแนวหน้าหน่อย ” – เดฟพูดกับ Dunlord


Dunlord ทั้งสิบตัวดำดิ่งลงไปที่พื้นแล้วแยกตัวกันไป


เดฟยืนรอข้อมูลจาก Dunlord อยู่ที่เดิม แต่ค้นหาไป 10 นาที Dunlord ก็ต้องกลับมามือเปล่า


‘ เราน่าจะไปทางเหนือ ไปที่ Burning Heights Samael ไปที่นั่น มันน่าจะมีปีศาจอยู่ที่นั่น ‘


เดฟสั่งการให้ทีมของเขาเดินหน้าไปทางเหนือ


กลุ่มอันเดตเดินอยู่ในทะเลทรายหินและทรายเพียงลำพังแต่มันไม่มีอะไรให้พวกเขาตื่นตัวกันได้เลย


การที่ไม่ค่อยมีมอนสเตอร์นี้ทำให้เดฟระวังตัวขึ้นมาเล็กน้อย เขามองไปรอบๆอยู่ตลอดเพราะกลัวว่าจะโดนซุ่มโจมตี


เขายังส่ง Dunlord สองตัวไปตรวจสอบแนวหน้าเผื่อว่าจะเจอกับมอนสเตอร์ที่ไม่คาดคิด


หลังจากที่เดินทางมาประมาณ 1 ชั่วโมง เดฟก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา


ฉากยังเป็นแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มันมีแต่หินเต็มไปหมดไม่มีต้นหญ้าเลยสักต้น


สายตาของเดฟมองไปรอบๆจนเขาเห็นเสาที่ลุกไหม้อยู่ไกลออกไป


” เราน่าจะเข้าใกล้ Burning Heights แล้ว ” – เดฟพูดขึ้นด้วยความโล่งอก ความเบื่อนี้แทบจะทำให้เขาเป็นบ้าแล้ว


ตอนนั้นเองความหวังเขาก็ก่อตัวขึ้นมา พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนและมีมอนสเตอร์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากพื้น


หินและทรายตกลงมาจากตัวมัน Dunlord สองตัวตกลงจากฟ้าซึ่งทำให้ได้รับดาเมจจากการตก


มอนสเตอร์นี้มีขนาดตัวเท่ากับ Drahma มันมองมาที่พวกเขา


มันคือยักษ์ที่มีตัวเป็นหิน มันมีปลอกคล้องไว้ที่คอพร้อมกับโซ่ที่ห้อยลงมาจากปลอกนั้น


‘ โกเล็มดิน ? ‘


[ Earth Titan ]


เลเวล : 750


ระดับ : Unique-Ancient


ระดับความอันตราย : ☠ ☠ ☠ ☠


HP : ???


ลดดาเมจ ???


ดูดซับเวทย์ ???


สกิล ???


ไททันดินนี้เป็นสิ่งมีชีวิตรักความสงบและจะโจมตีก็ต่อเมื่อถูกรบกวน


แต่นี่เป็นตัวสุดท้ายของเผ่า การสูญเสียเผ่าของมันทำให้มันเสียความคิดไปด้วย


ด้วยการถูกทำให้กลายเป็นทาสของ Ash King ไททันดินนั้นได้เสียความคิดและความสนในชีวิตตัวเองก่อนจะกลายเป็นสัตว์อสูรแห่งการทำลายล้าง


” อ่ะ ซวยละ ทุกคนถอย ! ” – เดฟสั่งการออกมาด้วยสีหน้าหม่นๆ


ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะจัดการมันได้ แม้แต่อันเดตที่เลเวลสูงที่สุดของเดฟก็ทำได้แค่สร้างรอยข่วนเพราะเลเวลที่ต่างกันเกินไปและตอนนี้มันขวางทางพวกเขาที่จะมุ่งหน้าไปยัง Burning Highest เดฟจำเป็นต้องอ้อมมันไป


แต่มอนสเตอร์มีความคิดที่ต่างออกไป


มันคำรามออกมาแล้วใช้แขนของมันทุบลงที่พื้นแล้วดึงเอาหินก้อนใหญ่ออกมาโยนเข้าใส่ พวกเดฟ


เดฟไม่มัวรีรอและใช้ {Bastion} เพื่อรับดาเมจ 0 ตอนที่หินโดนตัวเขา


อันเดตบางตัวไม่ได้โชคดี พวกมันโดนฆ่าทันทีเมื่อโดนหินจากโกเล็มยักษ์นั่น


Dunlord เป็นพวกแรกที่หนีไปได้จากการโจมตีนี้เพราะพวกมันดำลงไปในดิน ส่วน Death Knigth สองตัวนั้นเหลือเลือดในจุดวิกฤตแม้ว่าจะได้รับดาเมจที่กระจายออกมาตอนที่หินแตกก็ตาม


” กระจายตัว ! แล้วก็หนี ! – เดฟตะโกนขึ้นมาและรีบวิ่งหนีจากมอนสเตอร์ให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้


หลังจากที่ตึงเครียดมาได้สักพัก เดฟและอันเดตที่เหลือก็ยืนอยู่ห่างจากระยะความโกรธของมอนสเตอร์ได้


มอนสเตอร์สงบลงแล้วกลับลงไปในดินรอคอยเหยื่อที่โชคร้ายเข้ามาหามัน


” พระเจ้า เกือบไปแล้ว – เดฟพูดขึ้นก่อนจะเริ่มนับอันเดตที่เหลืออยู่


” บ้าเอ้ย เสียไป 10 ตัว ฉันต้องระวังมากกว่านี้แล้ว – เดฟพูดขึ้นพร้อมกับตาที่มองไปรอบๆเพื่อหาทางไป Burning Highest


แต่สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือกองทัพอันเดตที่เดินหน้ามาหาพวกเขาด้วยความมั่นใจ เป็นร้อย, เป็นพัน…รึอาจจะมากกว่านั้น ส่วนมากพวกมันถือคทายกเว้นแค่พวกที่เดินนำหน้าที่เป็น Death Knight ซึ่งถือโล่และดาบขนาดใหญ่


กองทัพอันเดตเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทีแข็งแกร่งพร้อมกับมีออร่าแผ่ออกมาด้วย


‘ นี่คงเป็นกองทัพที่ Delvina บอกว่าจะโจมตีที่เขตสองของดันเจี้ยนโลก…ที่นำโดย Dagla ‘


แต่เมื่อเดฟเห็นทิศทางที่พวกนั้นจะมุ่งหน้าไป หัวใจเขาก็แทบจะหยุดเต้น


เดฟ รีบเข้าไปหากองทัพพร้อมกับทีมอันเดตของเขาที่ตามมาติดๆ


เมื่อเดฟเข้ามาใกล้กองทัพพอ พวกนั้นต่างก็หยุด


Death Knight มองมาที่เดฟด้วยท่าทีระวัง นักเวทย์บางตัวถึงกับเตรียมที่จะร่ายเวทย์ใส่กลุ่มที่กำลังมุ่งหน้าเข้ามา


” หยุด ! ” – Death Knight ตัวหนึ่งตะโกนขึ้นมา


” มีธุระอะไรถึงได้มาที่นี่ ” – Death Knight ที่เป็นผู้นำตะโกนถาม


” งั้นนายต้องเป็นกองทัพของ Lord Dagla ใช่รึเปล่า ? ” – เดฟถาม


Death Knight ไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธ ดังนั้น เดฟจึงเริ่มกังวลเล็กน้อย


‘ หรือว่าฉันเดาผิดไป ? มันมีอีกกองทัพในดินแดนอันเดต ? ‘


” พวกนายต้องเดินอ้อมไป พวกนายไม่ควรเดินหน้าไปต่อ ” – เดฟพูดขึ้น


” แกคิดว่าแกเป็นใครถึงได้มาสั่งให้กองทัพเราเดินอ้อม ! บอกชื่อกับยศของแกมา ! ” — Death Knight ตะโกนใส่เดฟ


เดฟคิ้วขมวดแล้วตอบกลับ


” ฉัน ดะ– Kis’Stingbrah เป็น Undead Captain และเป็นหัวหน้าหน่วย 2705 ! “


” Undead Captain มาสั่งกองทัพให้เดินอ้อม แกไม่คิดว่ามันจะมากไปหน่อยหรือไง ! “


” ฉันไม่ได้สั่ง ! มันมีสัตว์ประหลาดนอนรออยู่ตรงนั้น ! ถ้านายเข้าไปใกล้ ทั้งกองทัพก็จะโดนทำลาย ! “


Death Knight คิ้วขมวดแล้วมองมาที่เดฟ จากนั้นก็มองไปที่ Death Knight ที่ตามเดฟมา


” นั่นจริงหรือเปล่า ? ” – Death Knight ของกองทัพถาม Death Knight ของเดฟ


แต่ Death Knight ของเดฟนั้นไม่ได้ตอบ พวกนั้นอยู่ภายใต้คำสั่งของเดฟและนอกซะจากว่าคนยศสูงกว่ามันจะถาม พวกมันก็จะไม่ตอบ


ปากของเดฟอ้ากว้าง เขาต้องการจะพูดแต่ก็มีคนหนึ่งโผล่มาใกล้ๆกับพวกเขา


” โอ้ นั่นนายไม่ใช่หรือไง ! ” – ชายคนนั้นพูขึ้นแล้วโผล่มากลางอากาศ


เดฟจำเสียงนี้ได้ เขาหันกลับไปและพบกับ Lich ที่ยิ้มให้กับเขา


[Lich Du’Razha]


เลเวล : 520


ยศ : Lich (Doom Knight)


ระดับ : Mythical


ระดับความอันตราย : เป็นมิตร


HP : ???


ลดดาเมจ ???


ดูดซับเวทย์ ???


สกิล ???


หนึ่งในหน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ Arch Lich Dagla ยศ Magus ของดินแดนอันเดต


Du’Razha ถูกจับหลังจากที่ออกไปฆ่า Ice Queen ไม่สำเร็จ พลังของเขาถูกสยบเอาไว้และเขาก็ถูกจองจำไว้ที่วังน้ำแข็ง


ตอนนี้เมื่อได้รับอิสระกลับมา เขาก็ได้กลับมาหา Dagla เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของราชาต่อ


” โอ้ นั่นนายไม่ใช่เหรอ Du’Razha ! ” – เดฟพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม


” บังอาจ ! ” – Death Knight ที่คุยกับเดฟตะกี้คำรามออกมา


ใจของเดฟหล่นวูบกับเสียงตะโกนนี้ก่อนที่ Death Knight จะพูดต่อ – ” กล้าดียังไงพูดชื่อลอร์ดของเราโดยไม่มียศ ! “


” ใจเย็นๆ “- Du’Razha พูดขึ้น -” นี่คือคนที่ปล่อยฉันออกจากคุกของ Ice Queen นั่น ฉันเป็นหนี้เขาและเขาก็เรียกชื่อฉันได้ตามต้องการ ” – Du’Razha พูด


ถึง Du’Razha จะดูใจเย็นแต่มันก็ยังทำให้ Death Knight ก้มหัวขอโทษ – ” ฉันหุนหันไปเอง ต้องขอโทษที่หยาบคายใส่ “


” ไม่เป็นไร ” – เดฟตอบกลับ


” งั้น อันเดตน้อย นายมาทำอะไรที่นี่ ? ” – Du’Razha ถาม


” ฉันทำภารกิจกับ Lord Samael ฉันกลัวว่าฉันพูดถึงรายละเอียดไม่ได้แต่หลังจากที่เราแยกกันแล้ว ฉันได้เดินทางไปรอบๆเพื่อมองหาโอกาสแต่ฉันก็เจอกับสัตว์อสูรอันตรายนั่นเข้าและตอนที่ฉันเห็นพวกนายมุ่งหน้าเข้ามา ฉันก็เลยอยากเข้ามาเตือน “


” หืม นายอยู่กับ Lord Samael นั่นน่าสนใจดีแต่นายคงจำได้ ฉันยังอยากรับนายเข้าทีมฉันเมื่อนายมียศเป็น Doom Knight ฉันไม่อยากให้คนอื่นแย่งนายไปจากฉัน ” – Du’Razha พูดด้วยรอยยิ้ม


” แต่นายเพิ่งพูดถึงสัตว์อสูร มันเป็นยังไง ? “


” มันเป็น Earth Titan มันหลับอยู่ตรงนั้น “


เมื่อ Death Knight ได้ยินว่าเดฟพูดถึง Earth Titan พวกนั้นต่างก็ตกใจ


” Earth Titan ? พวกมันยังมีอยู่ในโลกนี้อีกเหรอ ? ” – Du’Razha ถามออกมาด้วยความตะลึง


” ใช่ ฉันเพิ่งเห็นมันด้วยตาตัวเอง “


” อืม เอาล่ะ เราจะอ้อมไป ฉันต้องไปพูดกับ Lord Dagla ก่อน…เฮ้ นายต้องการจะพบเขามั้ย ? ” – Du’Razha ถาม


ตาของเดฟเป็นประกายขึ้นมาและตอบกลับ – ” ทำไมจะไม่ล่ะ “


เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้พบกับ Abyssal Knight มันมักจะมีเควสให้ทำเสมอ พวกนั้นมีเควสที่ดีที่สุดที่เดฟเคยทำมาและให้รางวัลที่ดีที่สุดด้วย


” งั้นก็ตามฉันมา ” – Du’Razha พูดขึ้นพร้อมกับกองทัพอันเดตที่เปิดทางให้กับทั้งสองเดินไปยังใจกลางกองทัพ



Chapter 103 : เจรจา


เดฟได้ตาม Du’Razha จนไปถึงใจกลางกองทัพอันเดต สายตาเป็นร้อยคู่จับจ้องมาที่เขาที่เดินข้างๆกับ Du’Razha แต่ไม่มีใครพูดอะไร ยังไงซะคนที่ได้เดินกับหัวหน้าของพวกเขาก็ต้องเป็นคนสำคัญ


เดฟเงยหน้าขึ้นมอง Death Knight 4 ตัวที่กำลังแบกบัลลังก์อยู่โดยข้างบนนั้นมีโครงกระดูกตัวแห้งสวมมงกุฎนั่งอยู่ด้านบน


อันเดตนั่นสวมชุดสีม่วงแสดงสีหน้าขี้เกียจออกมา ในมือขวานั้นมีไม้เท้าโดยที่หัวของไม้เท้าเป็นกะโหลกมนุษย์ กะโหลกนั้นมีเพชรสีแดงสองอันในเบ้าตาของมัน


” Du’Razha ทำไมนายถึงได้หยุดเดินทัพ ? ” – อันเดตตัวนั้นถามขึ้นมา


” Lord Dagla อันเดตหนุ่มผู้นี้คือคนที่ฉันเล่าให้ฟังครั้งก่อนและเขาก็มีข้อมูลสำคัญจะบอก ” – Du’Razha พูดขึ้น


อันเดตผอมกะหร่องมองมาที่เดฟด้วยสายตาสงสัยแล้วพูดขึ้น – ” ว่ามา…”


” Lord Dagla ” – เดฟพูดขึ้น – ” มันมี Earth Titan หลับอยู่ใกล้ๆ ถ้ากองทัพเดินหน้าต่อในเส้นทางเม เราจะได้พบกับมันและฉันเชื่อว่ามันจะมีการตายที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้น ฉันแนะนำให้เดินอ้อมไปยัง Burning Heights ถ้าหวังจะพิชิตที่นั่นโดยไม่ต้องมีปัญหาจาก Earth Titan “


” อืม…สิ่งมีชีวิตโบราณยังมีชีวิตอยู่…ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงไม่ได้เจอกับปิศาจเลยระหว่างทางแต่เราอ้อมไม่ได้ ” – Dagla พูดขึ้น


เดฟ ขมวดคิ้ว ‘ นี่คิดว่าเขาจะจัดการมอนเตอร์เลเวล 750 ได้หรือไง ? เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ…’


” ฉันแนะนะว่าให้คิดดีๆ มันเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง.. ” – ก่อนที่เดฟจะได้พูดต่อนั้น


” เงียบ ” – Dagla พูดขึ้นมา – ” แกคิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน ? แต่เราอ้อมไม่ได้ มันจะกินเวลาหลายเดือนหากเปลี่ยนเส้นทาง ดูรอบๆสิ “- Dagla พูดขึ้นแล้วชี้ไปที่หน้าผาใกล้ๆ


ปรากฏว่าเดฟไม่ได้เห็นว่ามันมีเพียงเส้นทางเดียวที่นำไปสู่ Burning Heights ที่ซึ่งมีมอนสเตอร์หลับใหลอยู่และทุกที่ก็มีแต่หินและผาที่ชันเกินไปที่กองทัพจะเดินหน้าไปได้


ถ้ากองทัพต้องอ้อม พวกเขาก็ต้องเดินทางกลับไปจนถึงจุดที่จากมาและเลือกเส้นทางอื่น นี่ไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าโจมตีเขตสองช้าเกินไปเลย กองทัพศัตรูตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่ Undead Frontier จะรู้และกลับมาช่วย Burning Heights ซึ่งมันจะทำให้ยากกว่าเดิมในการยึดที่นั่น


การโจมตีนี้ควรจะเป็นการฉวยโอกาสโจมตีโดยใช้โอกาสที่กองทัพศัตรูเข้าโจมตี Undead Frontier อยู่นั้นโจมตีฐานของพวกมัน ตอนนี้เส้นทางเสบียงนั้น Lord Samael ได้ไปจัดการแล้ว มันถือว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับกองทัพปิศาจและถ้าพวกเขจาต้องอ้อมมันก็จะไร้ประโยชน์ พวกเขาต้องโจมตีตอนนี้


เดฟถึงกับคิดอะไรไม่ออก ถ้ากองทัพนี้ไม่ต้องการอ้อม พวกเขาก็จะโดนทำลายโดยมอนสเตอร์หรืออย่างน้อยก็เสียคนไปจำนวนมากซึ่งทำให้การโจมตีนั้นยากกว่าเดิม


“ฉันได้ยินมาว่านายมีวิธีแปลกๆมากมายที่เคยช่วยดินแดนอันเดตมาก่อน “- Dagla พูดขึ้น


เดฟ คิ้วขมวด ‘ นี่มันคิดอะไรอยู่ ? ‘


” ช่วย Drahma และ Du’Razha อีกทั้งยังช่วยให้คว้า Undead Frontier มาได้…”


เดฟไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสื่ออะไรแต่ Dagla ก็ยังพูดต่อ


” หมายความว่ายังไง ? “- เดฟถาม


Dagla ยิ้มและพูดขึ้นมา – “หน้าที่ของนายคือจัดการตัวน่ารำคาญนั่น ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็กำจัดมันออกจากด้านหลังของเราจนกว่าที่กองทัพจะผ่านไปได้ “


[ เควสลับ (S)


Lord Dagla มอบงานให้กับคุณจัดการกับ Earth Titan หาทางช่วยเหลือกองทัพอันเดตเพื่อไปให้ถึง Burning Heights โดยไม่เสียคนไปมากนัก


เควสนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้


การทิ้งงานนี้ทำให้คุณถือว่ากลายเป็นคนทรยศเผ่า ]


ใจของเดฟหล่นวูบ ‘ นี่มันเกินไปแล้ว ! ฉันแค่อยากได้เควสไม่ใช่ภารกิจฆ่าตัวตาย ! ‘


Du’Razha ส่งสายตาสงสัยมองไปที่ Dagla แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาและบอกกับ เดฟ – ” ของให้ Undead King อวยพรให้นาย “


Death Knight และนักเวทย์รอบๆ เดฟต่างก็มองเขาด้วยความคาดหวัง


เดฟมองกับไปยังตำแหน่งของโกเล็มดินและสูดหายใจเข้าลึกๆ


‘ มันต้องมีทางจัดการเรื่องวุ่นนี่ ไม่ว่าเควสจะดูโหดร้ายแค่ไหนแต่ก็ต้องมีทางแก้ไขปัญหาได้ ‘


เดฟเดินไปยังจุดที่มอนสเตอร์ยักษ์หลับอยู่และยืนอยู่ห่างจากระยะความโกรธของมันหลายเมตร


สายตาของอันเดตนับพันมองมาที่เขา


” ฉันจะไป….ฉันจะโจมตีเพื่อเปิดโอกาสให้พวกนาย….ได้ผ่านไป…” – เสียงของอันเดตตัวหนึ่งดังขึ้นมาด้านหลังเดฟ


เดฟรู้ว่านี่คืออันเดตตัวโปรดของเขาที่พูดขึ้นมา


” ขอบคุณ Bud แต่นายไม่ต้องเสี่ยงหรอก ฉันคิดว่าฉันมีทาง มันเสี่ยงแต่มันก็คุ้มที่จะลอง ” – เดฟปลอบใจผีดิบผู้กล้าหาญ


การดึงความโกรธจากโกเล็มนั้นเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้แต่มันไม่เพียงพอ เขาจะล่อมันออกไปได้ด้วยอันเดตแต่มันก็เสี่ยงเกินไปเพราะมันสามารถโยนหินใส่พวกอันเดตของเขาได้และเดฟก็มีสกิลไม่มากที่จะช่วยตัวเองจากการโจมตีของโกเล็ม


” ทุกคน ถอยกลับไปหน่อย ” – เดฟพูดชึ้นแล้วมองไปที่สกิลตัวเอง


ทุกอย่างคูลดาวน์เสร็จแล้ว แม้แต่ {Bastion} เองก็พร้อมใช้งาน ดังนั้นถ้ามีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นมาและแผนเขาล้มเหลว สกิลนี้ก็ช่วยชีวิตเขาได้


เดฟเดินเข้าไปในระยะความโกรธแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น


” เป็นไงเป็นกัน ” – จากนั้นเดฟก็ได้ตะโกนขึ้นมา – ” ไอ้โกเล็ม ! “


ไม่มีอะไรเกิดขึ้น


” ฉันรู้ว่าแกเกลียด Ash King ! ” – เดฟพูดขึ้น


ตอนนั้นเองพื้นดินก็เริ่มสั่นไหวพร้อมกับหินที่โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน


” แก ! !! ” – เสียงของโกเล็มดังขึ้นมาโดยแฝงไปด้วยความเกลียดชัง


” แกรู้การกระทำของ Ash King ! แกกล้าดียังไงมาพูดชื่อมันต่อหน้าฉัน ! “


ตัวของเดฟสั่นเพราะเสียงของยักษ์ที่มองเขาด้วยความโกรธแค้น


‘ ได้ผลไม่ก็ตาย ‘ เดฟคิด

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม