Rise of The Undead Legion 71-89
Chapter 71: Delvina The Warden
[ประกาศจากเซิฟเวอร์ บอสโลกตัวแรก Dalmadoth ถูกกำจัดแล้ว !]
[ กองกำลังปีศาจได้ถูกผลักดันกลับไปยังโลกใต้ดิน มันเป็นหน้าที่ของคุณในการจัดการสิ่งที่คุณเริ่ม ]
[ เขตโลกใต้ดินเขตที่สองจะเปิดใน 2 ชม.ตามเวลาเกม ]
[ผู้เล่น Lone Arrow ช่วยในการเอาชนะ Dalmadoth และกำจัดบอสโลกตัวแรก ]
[ โปรดชื่นชมกับนักผจญภัยที่กล้าหาญในสิ่งที่หลายคนทำไม่ได้ ! ]
” นี่มันบ้าอะไรวะ ? !!! “
เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นมาที่นอกดันเจี้ยน Dark Threading การประกาศของเซิฟเวอร์นี้ได้บอกว่าบอสโลกตัวแรกถูกเอาชนะแล้ว !
ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของโลกใต้ดินเพิ่งจะประกาศออกมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนแต่บอสโลกกลับถูกฆ่าแล้วเนี้ยนะ ?
นักธนูในชุดหนังจากทีม A ของ Devastators พูดขึ้นมา – ” เป็นไปได้มั้ยว่าเป็นบอสเลเวลต่ำ ? “
” ฉันไม่คิดแบบนั้น ตัวเช็คเลเวลด้านหน้าทางเข้าก็เลเวล 400 แล้ว เธอคิดว่าบอสจะเลเวลต่ำกว่ามันมั้ยล่ะ ? ” – สมาชิกอีกคนที่เป็นนักฆ่าสวมเกราะหนังสีดำพูดขึ้นมา
” ใครคือ Lone Arrow ? ” – หัวหน้ากิลด์ย่อยพูดขึ้นมา
” ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร ! มันคือเอลฟ์ฮันเตอร์ เธอน่ะคือคนที่ไปกับ Mr.Skeletal พวกเขาอยู่ในดันเจี้ยน Ice Palace ด้วยกัน ! แต่เธอน่ะเลเวลต่ำกว่า 100 แน่นอนในตอนนั้น ! “
บทสนทนาได้หยุดลงเพราะเสียงตะโกนที่ดังขึ้นมาจาก Valentine
” นี่นายหมายความว่าเขาจัดการฆ่าทั้งหมดน่ะสิ ! “
เขาคอยฟังข้อความที่พวกนั้นพูดคุยกันและสีหน้าที่บิดเบี้ยวไป
” เกิดอะไรขึ้น ? ” – Warlord พูดขึ้นมา
” ทีม C ที่เราส่งไปถูกฆ่าตรงหน้าบอส พวกนั้นเห็น Mr.Skeletal อยู่กับเอลฟ์ฮันเตอร์แต่มีบางอย่างผิดปกติ…”
Warlord เริ่มหงุดหงิดและถามขึ้นมา – ” นายหมายความว่ายังไง ? พูดมา ! “
” ทีม C ได้มีการถกเถียงกันแล้วแยกตัวกันออกก่อนที่จะพบบอสโลกตัวแรก พวกเขาได้เสียสมาชิกไป เมื่อไปถึงห้องบอส….อันเดตหนวดนั้นก็ทำให้พวกเขาโดนฆ่า — เดี๋ยวก่อน “
” ไอ้พวกโง่ !!!! ” – Warlord ตะโกนออกมา เขาเป็นหัวหน้ากิลด์ ความไม่เป็นมืออาชีพของทีม C นั้นต้องถูกจัดการหลังจากที่จบเรื่องนี้แล้ว นั่นคือสิ่งที่เขาคิด
ต้องได้รับการลงโทษ !
” หนึ่งในผู้เล่นของเราได้ตรวจสอบพวกบอสก่อนที่จะตาย…”
” พวกบอส ? ” – Warlord ถามขึ้นมา
” ใช่ นี่แหละคือส่วนที่ฉันสับสน มันมีบอสสองตัวที่นั่นและพวกมันก็สู้กันอยู่ตอนที่ทีม C ไปถึง ! การตายของทีม C เพราะสกิลของบอสตัวหนึ่งที่ชื่อว่า {Call to Arms} มันจะสร้างมอนสเตอร์ขึ้นมาในสนามรบเพื่อสู้กับผู้เล่น…”
” นี่ไม่ได้อธิบายอะไรได้เลย ! แล้วพวกเลเวลต่ำนั่นเอาชนะบอสได้ยังไง ? “
” ทีมพวกนั้นโดนฆ่าก่อนที่จะได้เห็นการต่อสู้จบลง…นายจำบอสจากดันเจี้ยนทะเลทรายทางใต้ได้มั้ย ? “
” Drahma น่ะเหรอ ? เขาน่าจะถูกลบออกจาเกมไปแล้วเพราะดันเจี้ยนเปลี่ยนไปนิ …”
” มันปรากฏตัวขึ้นที่นั่น ” – Valentine ตอบกลับด้วยสีหน้าสับสน
” มันเป็นไปได้ยังไง ! ” – Warlord พูดขึ้น – ” ฉันรอที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ไอ้อันเดตหนวดนั่นอาจจะกำลังมุ่งหน้าไปหาบอสตัวอื่น ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เราต้องลงมือกันแล้ว ! “
” ฉันมีข่าวร้ายกว่านี้จะบอก ! ” – Valentine พูดขึ้น
” อะไร ? ! ” – Warlock ตะโกนขึ้นมาบ่งบอกว่าไม่อาจจะยับยั้งความโกรธได้
” Blood Rage กับ Heaven’s Dawn กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ พวกเขาจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่ถึง 10 นาที ! “
” แล้วไง ? พวกนั้นทะเลาะกันอยู่ พวกนั้นคงไม่ได้สร้างปัญหาอะไรมาก เมื่อพวกนั้นเจอกัน พวกนั้นก็จะทะเลาะกันเอง ” – Warlord ตอบกลับ
” คนของเราส่งข้อมูลมา …พวกนั้นสงบศึกกัน อย่างน้อยก็จนกว่าอีเวนต์นี้จะจบ “
” มีอะไรแย่กว่านี้อีกมั้ย ? ! “
[ การควบคุมของปีศาจในเขตแรกในโลกใต้ดินถูกยกเลิก ! ]
[ เขตแรกถูกยึดไว้โดยพวกดินแดนอันเดต ! ]
[ ดังนั้นมอนสเตอร์ทุกตัวที่เกิดขึ้นมาในเขตแรกจะเป็นอันเดต ]
[ บอสตัวใหม่จะเกิดขึ้นแทน ! ]
[ เดินหน้าด้วยความระมัดรวะวัง ]
Warlord มองข้อมูลตรงหน้าด้วยความตะลึง
มันต้องมีเรื่องแย่กว่าเดิมเกิดขึ้นเสมอ
..
ไม่นานก่อหน้านี้
” หืม ดูนายมีความสุขดีนี่ นายได้อะไรมา ? ” – Lone Arrow ถามขึ้น
” เราได้ต่างหาก ! ” – เดฟแก้ประโยคแล้วส่งไอเท็มให้กับเธอ
[ Demon Buster ]
ประเภท : ธนู
ธนูโบราณที่สร้างขึ้นจากกระดูกหลังของ Great Gonola Shark
สายธนูมีความยืดหยุ่นสูงทำให้อาวุธนั้นทำดาเมจได้สูงและระยะที่ไกลกว่าเดิม
การใช้งาน : 1 โฟกัส/การโจมตี
ดาเมจ : 150-300
[ ช่อง ]
ความต้องการ : DEX 100, AGI 100, เลเวล 100
โบนัส : ระยะ +50
{ Triple Shot : ยิงธนูออกไปสามดอกในทีเดียว คูลดาวน์ 20 วินาที }
[ปิดผนึก]
[ปิดผนึก]
ดาเมจ +25% เมื่อโจมตีสิ่งมีชีวิตปิศาจ
สเกล : C-Dex, C-Agi
คลาส : Legendary
” ว๊าว ! ดาเมจของมันน้อยแต่ก็พอรับได้ ! นี่มันถือว่าเป็นอาวุธที่คิดดาเมจแบบแยกสเตตัส ! นายมั่นใจนะว่าอยากจะให้ฉัน ? ” – Lone Arrow พูดขึ้นพร้อมกับกอดธนูเอาไว้แน่น เธอไม่อยากส่งมันคืนแม้ว่าจะถามออกมาแบบนั้นก็ตาม
” เธอเก็บมันไว้ก็ได้ ฉันได้อย่างอื่นที่ดีกว่ามา ” – เขาพูดขึ้นแล้วส่งคำอธิบายจากหนังสือสกิลให้เธอดู
[ หนังสือสกิล ]
{Demon’s Call : ทำดาเมจ 5% จากเลือดเป้าหมายเป็นดาเมจโดยตรง มีโอกาส 10% ที่จะใช้ได้ผลกับมอนเตอร์ระดับบอส คูลดาวน์ 24 ชม.}
ระดับความหายาก : Unique
” โอ้ ดูดีนิแต่คูลดาวน์มันนานไปหน่อย ” – เธอพูดขึ้น – ” ถึงยังไงอาวุธก็ยังต้องเปลี่ยนแต่สกิลนี่ใช้ได้ตลอด ของที่เหลือมีอะไรอีก ? “
” หืม ฉันได้ของมาบ้าง รูนกับวัสดุสร้าง มีแก่นดันเจี้ยน เงินและของที่เกี่ยวกับเควส ” – เขาพูดแล้วส่งทุกอย่างให้เธอดู
” ลองดูว่ารูนใช้กับธนูเธอได้หรือเปล่า ฉันตรวจสอบมันไม่ได้ ” – เขาพูดขึ้น
Lone Arrow รับรูนมาและลองเอาใส่ช่องอาวุธดู
” มันบอกว่าเข้ากันไม่ได้…บางทีคงเป็นเพราะอาวุธ มันมีชื่อปราบปีศาจ ฉันเดาว่ามันคงใช้กับรูนปีศาจไม่ได้ เก็บมันกับพวกของอื่นๆไว้กับนายนั่นแหละ หลังจากนี้มันอาจจะมีประโยชน์ ” -เธอพูดขึ้น
เดฟ แบ่งเงินที่ได้มาให้กับเธอ
” ของสองอย่างมันผูกมัดกับผู้เล่น แก่นดันเจี้ยนกับไอเท็มเควส “
[ Broken Undead-King’s Helmet (ไอเท็มเควสพิเศษ) ]
แสดงของสิ่งนี้ให้กับเจ้าของร้านในดินแดนอันเดตเพื่อเริ่มต้นเควส
งั้นเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน….
เขาเก็บหมวกลงไปในช่องเก็บของ จากนั้นก็เอาก้อนกลมๆสีแดงที่เหมือนกับมีเส้นเลือดล้อมรอบมันส่งให้กับ Lone Arrow ดู
[ High-Grade Dungeon Core ]
สามารถปรับโครงสร้างของดันเจี้ยนได้
[ คุณอยากจะใช้มันหรือไม่ ? Y/N ]
เดฟกดเลือกใช่และหน้าจอของเขาก็เปลี่ยนไป ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นภูเขาได้ทั้งลูกจากมุมมองด้านบน
สนามต่อสู้ทีหลังภูเขาเริ่มสั่นไหว
พื้นดินเริ่มเปลี่ยนไป พื้นลาวาแตกออกและเสากระดูกก็ได้โผล่มาตามตำแหน่งต่างๆ
มีหลังคาโผล่ขึ้นมาที่ด้านบนของเสาและมีวิหารที่เหมือนกับกรีดโผล่ออกมา
ทันใดนั้นก็ศพกว่าพันตัวเกิดขึ้นมาแล้วลุกขึ้นเดินออกมาจากวิหาร พวกมันคืออันเดตตั้งแต่ระดับธรรมดาจนไปถึงระดับ Death Knight !
ภูเขาเริ่มสั่นไหวและหอคอยกว่าร้อยแห่งก็โผล่มาด้านนอกของภูเขาล้อมรอบเป็นวงกลม
ข้างๆหอคอยเหล่านั้นมีเกิดรูขึ้นมามากมายและสไลม์ที่ปิดรูพวกนั้นเอาไว้ด้วยตัวของพวกมัน พวกมันเปลี่ยนสีให้เข้ากับดิน ถ้าใครไม่มองดูดีๆคงไม่รู้และอาจจะเดินตกลงไป
หอคอยได้เปลี่ยนโครงสร้างของมัน มันมีหน้าต่างและแยกออกเป็นหลายชั้น
แต่ละชั้นนั้นมีอันเดต 10-20 ตัวเกิดขึ้นมา บางพวกเป็นนักเวทย์ บางพวกเป็นนักธนู
ด้านบนแต่ละหอคอยจะมีรูปปั้นที่ดูคุ้นตาสำหรับเดฟ
ถ้าเขาจำไม่ผิด เขาเห็นรูปปั้นที่เหมือนกันนี้ในห้องบอสลับที่ Deadra ถูกผนึกเอาไว้
มันคือ Undead King !
ออร่าสีดำแผ่ออกไปทั่วดินแดนราวกับน้ำท่วม ตอนที่เดฟหันกลับไปมองที่วิหาร เขาก็เห็นจุดสีดำที่เริ่มรวมตัวกันที่ใจกลางวิหาร
วิหารนี้คือได้สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา มันเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดสีดำปิดรูปร่างเธอเอาไว้
เธอได้ออกมาจากวิหารและมุมมองของเดฟก็กลับมาในจุดที่เขาอยู่
[ Delvina-The Warden ]
เลเวล 400
ระดับ – Sorceress ( Death Knight )
สกิล : ????
HP : ???
พลังป้องกัน : ????
หนึ่งในหน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ Lich ( Du’Raza )
Delvina มีชื่อเสียงขึ้นมาเพราวิธีจัดการกับเหยื่อ
เธอรับหน้าที่ในหน่วยการลงโทษของดินแดนอันเดต Delvina รู้จักกันดีว่าเป็นคนที่หัวรุนแรงที่สุดในหน่วย วิญญาณที่โชคร้ายที่กลายเป็นนักโทษของเธอนั้นต้องได้รับการทรมานไม่รู้จบ
” หืม ฉันเดาว่านั่นนายใช่มั้ย ? “- ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
เสียงของเธอนั้นต่ำและในเวลาเดียวกันก็ดูแข็งแกร่ง เธอพ่นลมใส่เดฟ ตอนที่เขาอ่านคำอธิบายของเธอ
” เธอหมายความว่าไง ? ” – เขาพยายามพูดเหมือนสุภาพบุรุษที่สุดต่อหน้านักทรมานสาวนี่
” นายคือคนที่ช่วย Du’Raza….เขาไม่เคยหยุดพูดเรื่องที่นายจัดการผู้พิทักษ์เลย …ฉันว่ามันค่อนข้างน่าประทับใจ การมีคนหนุ่มแบบนายที่ประสบความสำเร็จมากมายแบบนี้ ขยันเข้าไว้ อันเดตน้อย ” – เธอพูดขึ้นและเดินกลับไปยังวิหารโดยไม่สนใจทั้งคู่อีก
[ คุณได้ช่วยเหลือกในการเข้าควบคุมเขตแรกในโลกใต้ดิน +50,000 คะแนน ! ]
[ สำหรับทุกวันที่โลกใต้ดินเปิดและเขตแรกนั้นยังคงเป็นของคุณ คุณจะได้ +5,000 คะแนน ]
[ ผู้บุกรุกที่ตายในเขตแรกจะให้รางวัลกับคุณดังนี้ +50 คะแนน/การตาย ]
จำนวนคะแนนที่ได้มานี้ทำให้เดฟช็อก เขาไม่คิดว่าเขาจะได้ผลประโยชน์มากมายแบบนี้ !
” เฮ้ นายดูมีความสุขดีนี่ ” – Lone Arrow ถอยห่างจากเดฟเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
” แจ็คพ็อตแล้ว ! ” – เขาตะโกนขึ้นมา
” อะไร ? นายถูกหวยหรือไง ? ” – เธอถาม
” ดียิ่งกว่านั้นอีก ! คะแนนโคตรเยอะเลย ! ” – เขาตอบกลับ
” แล้วมันยังไง ? “
” มันคือค่าเงินที่ใช้ในดินแดนอันเดต เธอสามารถจะซื้ออุปกรณ์และยกระดับได้หากใช้มัน ! “
” ก็ดีสำหรับนาย เอาล่ะ บอกฉันมา ” – เธอมองไปที่ทางเข้าถ้ำ – ” เราจะทำยังไงกันต่อ ? ฉันไม่คิดว่าเราควรจะอยู่ที่นี่ต่อ มันยังมีเวลาอีกชั่วโมงครึ่งจนกว่าเขตที่สองจะเปิด พวกคนที่ตายไปแน่นอนว่าต้องบอกเพื่อนร่วมกิลด์ว่าเราอยู่ที่นี่แน่ “
” ใช่ ใช่ หืม ฉันยังใช้จบภารกิจไม่ได้ …และฉันกำลังหิวด้วย !!! ฉันต้องไปหาอะไรกิน ฉันจะกลับมาในอีกสักพักนะ ! ” – เขาพูดขึ้นแล้วทิ้งตัวละครให้อยู่นิ่งเอาไว้
” นี่มันบ้าอไร ! นายไม่ได้บอกอะไรเลย เราควรทำยังไงต่อ ! ” – Lone Arrow ตะโกนกับอันเดตหนวดที่ยืนนิ่ง
Chapter 72:สัญญา!
ด้านนอกดันเจี้ยน Dark Threading มี 6 คนที่ยืนอยู่ใจกลางของทั้งสามกองทัพ
พวกเขาคือหัวหน้าและมือขวาของแต่กิลด์
Devastators ส่ง Warlord กับ Valentine มา
Zhang Shi หัวหน้าของกิลด์ Blood Rage ทางจีนใส่ชุดหนังสีดำพร้อมกับดาบซามูไรคาดที่เอว มือขวาของเขาคือฮันเตอร์สาวที่สวมชุดสีเขียวหม่น
Wan Yi หัวหน้ากิลด์ Heaven’s Dawn ทางเกาหลีที่เป็นเบอร์เซิคเกอร์ มีขวานพาที่ไหล่ของเขาโดยมีรอยสีทองสลักเอาไว้ ข้างๆเขาเป็นพรีสทีสวมชุดสีเทาซึ่งคอยพึมพำอยู่ตลอด
” อะไรพวกนายมาที่นี่ ? นี่เป็นอาณาเขตของฉันรึว่าพวกนายอยากจะเริ่มการต่อสู้ ? ” – Warlord พูดขึ้น
” มันไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งแล้ว เรามาที่นี่เพราะโลกใต้ดิน ” – Wan Yi พูดขึ้น
ในฐานะหัวหน้ากิลด์ใหญ่แล้วเขาจำเป็นต้องแสดงจุดยืนออกมา เขาไม่มีทางกลับไปหากไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่โลกใต้ดินแม้ว่าต้องทำลายกิลด์ Devastators ก็ตาม
” ไม่จำเป็นต้องรีบ ” – Zhang Shi ขัดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
” เรารู้ว่านี่เป็นอาณาเขตของ Devastators และเราก็ไม่มีสิทธิแห่กันมาที่นี่หากไม่มีค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ ให้เราเข้าไปและการเข้าออกดันเจี้ยน Crimson Monastery จะเป็นของพวกนายสองเดือน เข้าฟรี ” – เขาพูดต่อ
Crimson Monastery เป็นดันเจี้ยนที่ให้ xp ดีสำหรับผู้เล่นเลเวล 300-400 ด้วยดันเจี้ยนนี้ Blood Rage จึงกลายเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งซึ่งมีเลเวลเฉลี่ยนในกิลด์สูงที่สุด
พรีสที่ยืนอยู่ข้างๆได้ขัดขึ้นมาและบอกข้อเสนอให้กับทาง Devastators – “เราเสนอสิทธิ 1 เดือนในการขุดเหมืองที่ Novigar Mining ให้กับ Devastators “
Warlord เกือบจะยอมรับข้อเสนอพวกนี้ อันที่จริงพวกมันดีอย่างมาก !
แค่การเข้าออกดันเจี้ยน Crimson Monastery ได้สองเดือนช่วยผู้เล่นในกิลด์หลายคนให้เลเวลสูงขึ้น นี่ไม่ต้องพูดถึงทรัพยากรจำนวนมากที่จะได้จาก Novigar Mining
” 4 เดือนสำหรับ Crimson monastery และสิทธิในการขุดเหมืองแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ Novigar Mining “
Wan Yi ที่เป็นหัวหน้าของ Heaven’s Dawn เดินออกมาโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัว – ” นายมั่นใจนะอยากจะทำแบบนี้ทั้งๆที่เรายอมอ่อนข้อให้แล้ว ! “
” เราจะตกลงกันที่นี่ ไม่ว่าพวกนายจะยอมรับรึปฏิเสธก็ตาม ” – Valentine พูดขึ้นอย่างใจเย็น
” Devastators นี่มักจะคิดว่าตัวเองสูงส่งจริงๆนะ ! พวกนายคิดว่าเราทั้งงอสงนี่เอาชนะการป้องกันที่น่าสมเพชของพวกนายไม่ได้หรือไง ? ” – Wan Yi คำรามออกมา
” อย่างแรกเลย มันไม่ได้การันตีนว่า Blood Rage จะยอมช่วยนายในการจัดการการป้องกันของเรา อย่างที่สองแม้ว่าพวกนายสองฝังจะร่วมมือกันแต่พวกนายก็ไม่อาจจะเข้าไปในเจี้ยนในสามวันนี้ได้ เรามีคนมากพอที่จะผลักดันให้พวกนากลับไปได้และที่นี่ก็เป็นบ้านเราด้วย ” – Valentine ยักไหล่
พื้นที่บ้านนั้นเป็นข้อได้เปรียบสำหรับ Devastators ที่ซึ่งผู้เล่นของ Devastators จะสามารถเกิดใหม่ได้ใกล้ๆกับดันเจี้ยนแห่งนี้ พวกเขาสามารถกลับมาสู้ต่อได้แต่สำหรับผู้เล่นจากเขตอื่นๆ พวกเขาต้องกลับไปเกิดใหม่ที่เขตตัวเอง
แต่สงครามแบบเทหน้าตักไม่ใช่สิ่งที่ใครหวังจะให้เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียหายแต่ยังทำให้การลงไปในดันเจี้ยนโลกนี้ยากกว่าเดิมอย่างมากด้วย
ถ้า Devastators ต้องสู้กับทั้งสองกิลด์ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ของพวกเขาแต่พวกเขาก็ไม่สามารถส่งผู้เล่นเลเวลสูงลงไปในดันเจี้ยนได้มากนัก พวกคนที่แข็งแก่รงต้องทำการป้องกันดันเจี้ยนนี้ไว้ ถ้าเป็นแบบนั้นทุกฝ่ายก็มีแต่เสียเพราะข้อจำกัดเรื่องเวลาของดันเจี้ยนโลก วิธีที่ดีที่สุดคือการประนีประนอม
Devastators จะยังได้ข้อตกลงดีๆจากเรื่องนี้แต่อีกสองฝ่ายนั้นก็ไม่ได้เสียอะไรมากนักโดยเฉพาะเมื่อพบว่าอาณาเขตในโลกใต้ดินนั้นสามารถยึดครองได้
Valentine เปิดฉากพูดออกมาก่อน – ” เราจะเลือกผู้เล่น 10,000 คนจากทุกกิลด์ในการลงไปในโลกใต้ดิน ห้ามมากกว่านี้ ทุกกิลด์จะมีข้อกำหนดแบบนี้หมด “
” ทำไม ? ” – Wan Yi ถามขึ้นมา
” มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ” – มือขวาของเขาพูดขึ้น
” เราเองก็เห็นด้วย ” – Zhang Shi พูดขึ้นมา
จากนั้น Warlord ก็ได้ส่งข้อความหา Valentine
” ทำไมถึงได้จำกัดผู้เล่นที่จะเข้าไป ? ” – Warlord ถาม
” นี่น่ะก็เพื่อให้พวกเขาเช็คดูว่าเราจะส่งผู้เล่นไปเยอะกว่าที่บอกรึเปล่า เราปล่อยให้พวกนั้นรุมเราตอนที่ดันเจี้ยนโลกเปิดไม่ได้ เราต้องแบ่งทีม A ถ้าไม่อยากถูกจัดการในทีเดียว “
” อืม มันน่าจะเป็นแบบที่พวกนี้ต้องการ การมีคนของเราใกล้กับพวกเขามากเกินไปจะทำให้พวกเขาต้องลนลาน….ฉันเดาว่าพวกเขาจะทิ้งคนไว้ที่นี่เพื่อคอยระวังเผื่อมีบางอย่างเกิดขึ้น “
” ใช่ เราก็ต้องระวังด้วย เราไม่ใช่พันธมิตรกันแต่มันไม่จำเป็นที่เราต้องสู้กับพวกเขา ฉันจะแจ้งสมาชิกในกิลด์ให้เว้นระยะห่างกับสองกิลด์นี้เอาไว้ ” – Valentine ตอบกลับ
” เอาละ เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วงั้นก็ Alfred ! ” – Valentine พูดขึ้นและ Alfred ก็ได้ปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขา
” เราอยากจะทำสัญญา ” – Valentine พูดขึ้น
Alfred ดีดนิ้วและมีสัญญาสีเหลืองปรากฏขึ้นในมือ
” ข้อตกลงว่ายังไง ? ” – Alfred ถาม
พวกนั้นบอกข้อตกลงของตัวเองและการลงโทษหากทำผิดสัญญาให้กับ Alfred
ข้อสรุปก่อนหน้านี้ต่างถูกบันทึกลงไป
ผู้นำทั้งสามกิลด์ได้เก็บแผ่นคัดลอกสัญญาเอาไว้เพื่อยืนยันการเจรจา
“ตอนนี้ก็ไปได้แล้ว ” – Warlord พูดขึ้น
พวกเขาต่างก็พากันแยกย้ายไปที่กิลด์ตัวเองและเริ่มคัดคนโดยนับมา 10,000 คนในแต่ละกิลด์เพื่อลงไปในดันเจี้ยน Dark Threading
***
เดฟรู้สึกแย่นิดหน่อยที่ทิ้ง Lone Arrow เอาไว้แต่ท้องเขาไม่ได้รู้สึกผิดไปด้วย
เขากินมาม่าและกลับไปที่คอมเพื่อเช็คข่าว
เมื่อล็อคอินเข้าไป เขาก็เกือบทำถ้วยตกเพราะช็อกกับข่าว
มันมีข่าวที่ว่าสามกิลด์อยู่ที่ทางเข้าของดันเจี้ยน Dark Threading และปรากฏว่าพวกเขาเพิ่งเจรจากันเสร็จพร้อมกับมีผู้เล่นกว่า 30,000 คนที่เข้ามาในดันเจี้ยน
พวกนี้พากันเดินต่อแถวกันมาเรื่อยๆจนถึงทางเข้าของโลกใต้ดิน
คอมเมนต์ในข่าวนี้ดูตะลึงกับจำนวนผู้เล่นที่เข้าไปในดันเจี้ยน อาชีพของผู้เล่นมากมายที่เยอะขนาดนี้ ทั้งสามกิด์ใหญ่นั้นไม่ได้ทำการทะเลาะกัน พวกเขาร่วมมือกัน
คอมเมนต์พูดถึงดันเจี้ยนโลก อธิบายสิ่งที่คนส่วนมากรู้อยู่แล้ว เขตและองค์ประกอบด้านในและการพ่ายแพ้ของบอสโลกตัวแรกโดยผู้เล่นเลเวลต่ำ
คำถามเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของบอสถูกถามขึ้นในทุกข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ถ้าพวกนี้รู้ว่าบอสตายเพราะความช่วยเหลือจาก Doom Knight เลเวล 550 พวกนี้คงต้องสับสนยิ่งกว่านี้อีก
” เฮ้ ! นี่พวกเขากำลังไปไหนกัน ? ! ” – เดฟพูดขึ้น
เขามองไปยังผู้เล่นกว่าสามหมื่นคนที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาที่เขาอยู่โดยไม่สำรวจที่อื่นเลยสักนิด
เมื่อมองไปยังความเร็วของคนพวกนั้น พวกนั้นจะไปถึงภูเขาในอีกชั่วโมงเดียวในเกม เดฟต้องกลับไปในเกมในเร็วที่สุด เมื่อดันเจี้ยนที่สองเปิดออก เขาก็สามารถเลือกเส้นทางหลบหนีได้
เดฟไม่ได้คิดที่จะสู้กับผู้เล่นที่มาจากสามกิลด์ใหญ่เพียงลำพัง
แม้ว่าจะมี Delvina บอสที่แข็งแกร่งอยู่ในวิหารแต่เธอก็ไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะทั้งสามกิลด์ได้ เธอเลเวลแค่ 400 เอง ผู้เล่นหลายคนจากสามกิลด์ใหญ่นี้เลเวลสูงกว่าเธออีก
” ฉันต้องรีบออกจากทั่นั่น ” – เดฟพูดขึ้นแล้วล็อคอินกลับเข้าไปในเกม
เมื่อกลับเข้ามา เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่พบ Lone Arrow
เดฟนิ่งไปสักพัก
เธอเป็นเอลฟ์…..เป็นมนุษย์…โอ้พระเจ้า นี่ฉันทำอะไรลงไป ?
เดฟตระหนักได้ว่าเขาได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ คนตายกับคนเป็นนั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้และเขาเพิ่งทิ้ง Lone Arrow ไว้ใจกลางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอันเดต….
Chapter 73: สู้กับทั้งโลก !
เดฟเริ่มทำการหาตัว Lone Arrow เขาไม่เคยเพิ่มเพื่อนเธอเอาไว้ ไม่งั้นแล้วเขาคงส่งข้อความส่วนตัวหาเธอเพื่อถามว่าเธออยู่ไหน
เมื่อเข้ามาวิหาร เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ที่ม้านั่งหินคุยกันอย่างมีความสุข
เดฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่าอันเดตไม่ได้ ‘ กิน ‘ Lone Arrow ไปและยังพูดคุยกับเธออยู่
เดฟขัดการพูดคุยนั้นโดยเรียก Lone Arrow
” มีปัญหาใหญ่แล้ว ” – เขาพูดขึ้น
” ฉันรู้ ฉันได้ยินจากเพื่อนแล้วว่ามีผู้เล่นกว่า 30,000 คนกำลังมาทางเรา ” – เธอพูดขึ้นอย่างใจเย็น
” มันเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงก่อนที่ทางเข้าที่สองจะเปิด พวกนั้นจะมาที่นี่ได้ทัน เราควรล็อคเอาท์ออกไปก่อน ” – เดฟพูดขึ้น
การล็อคเอาท์เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะ แม้ว่าเดฟจะพลาดโอกาสหลายๆอย่างในโลกใต้ดินแต่หากไม่มีความช่วยเหลือจาก Drahma งั้นเขาก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ การอยู่ที่นี่ต่ออาจจะทำให้เขาตายและเควสสืบทอดก็จะจบลงด้วย
” ฉันคุยกับเอลฟ์สาวแล้วและฉันรู้ความคิดนาย เอาจริงๆแล้วนั่นคือส่วนที่นายไม่ต้องกังวลเลย ” – Delvina พูดขึ้น
” เธอหมายความว่ายังไง ? ” – เดฟถามออกมาเพราะไม่รู้ถึงความหมายจากคำพูดเธอ
” Undead King ส่งอันเดตกลุ่มแรกมาเพื่อยื้อเอาไว้ ในช่วงที่รอกำลังเสริม เราต้องดูแลป้อมนี้เอาไว้ ถ้านายเดินหนีออกไปจากที่นี่จะถือว่านายเป็นกบฏ “
[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! ]
[ เควสพิเศษระดับ S
กองกำลังของ Undead King กำลังมา ! รักษาป้อมนี้เอาไว้และป้องกันมันจากผู้บุกรุก ความตายจะทำให้เควสสืบทอดล้มเหลวไปด้วย !
การหนีรึล็อคเอาท์มากกว่า 10 นาที(เวลาจริง) จะทำให้เควสสืบทอดล้มเหลวและเปลี่ยนความสัมพันธ์กับอันเดตให้เป็นศัตรู
คุณต้องรอดให้ได้ 4 ชม. !
การฆ่าผู้บุกรุกมานั้นจะให้คะแนนเป็นรางวัล 3 เท่า !
รางวัลพิเศษจะมีให้เมื่อเควสเสร็จสิ้น ! ]
เดฟดูรำคาญขึ้นมา ชัดแล้วว่าเกมบังคับเขาด้วยคำว่ารางวัลพิเศษ
” ว๊าว ! ” – Lone Arrow พูดขึ้นมา
” อะไร ? ” – เดฟถาม
” ฉันเพิ่งได้รับเควสโลก จัดการดันเจี้ยนโลกเขตแรกก่อน 4 ชม.จะให้รางวัลกับผู้เล่นมหาศาล ดูนี่สิ ” – Lone Arrow พูดขึ้นแล้วส่งภาพให้กับเดฟ
มันเป็นเดฟและด้านล่างภาพเขานั้นก็มีคำพูดเขียนเอาไว้
” เป้าหมายพิเศษ กำจัดอันเดตตัวนี้จะได้รับรางวัล +5 เลเวล, ทอง 25,000 ทองและสกิลพิเศษ { Undead-Bane Sunder} “
” บ้าเอ้ยยยยยย ! ตอนนี้ฉันถึงกับอยากฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ มันไม่ยุติธรรมเลย ! “
” เอ่อ มันไม่ใช่ปัญหา ทุกคนในเกมไล่ตามนายอยู่และนี่ก็แค่คำสั่งที่ย้ำขึ้นมาอีกครั้ง การฆ่านายจะทำให้พวกเขาโด่งดังแต่นายน่ะเลเวลยังไม่ถึง 100 ด้วยซ้ำ การที่มีคนทั้งเซิฟเวอร์มาไล่ตามนายนี่….มันก็ไม่ยุติธรรมจริงๆ ! ” – Lone Arrow พูดขึ้นหลังจากที่หัวเราะเสร็จ
” Alfred ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา
พ่อบ้านแก่โผล่มาตรงหน้าเดฟ
” ตอนนี้มันยุติธรรมยังไง ! ” – เดฟตะโกนใส่พ่อบ้าน
พ่อบ้านนั้นรู้สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้วและพูดออกมาอย่างใจเย็น – ” คุณได้ใช้ความช่วยเหลือจากสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเพื่อเปิดโลกใต้ดินและเดินทางเข้ามา ไม่ใช่แค่ความจริงที่ว่าคุณเป็นตัวละครเดียวที่เกี่ยวข้องกับอันเดตที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมากมายขึ้นมา การมีอยู่ของคุณนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลักๆในโลกของเกม ดังนั้นผมจึงตัดสินใจว่าจะกำจัดตัวตนของคุณแต่ผมไม่ได้ใจร้ายที่จะให้คุณสู้โดยไม่มีหนทาง ทุกอย่างในขอบเขตความสามารถมนุษย์ คุณจะมีโอกาสรอดกับการฆ่าครั้งนี้ ” – พ่อบ้านพูดขึ้น
เดฟถอนหายใจออกมาแล้วเริ่มลูบหนวด
เมื่อมองกลับไปที่พ่อบ้าน เขาก็ได้ถามออกมา – ” มันมี่ทางที่ฉันจะรับมือการต่อสู้เยอะแบบนี้ได้ ฉันหนีไม่ได้และสู้ไม่ได้ มันเหมือนกับเดินเข้าโรงเชือด…”
” ใครบอกว่านายสู้ไม่ได้ ? ” – Delvina ที่ซึ่งเดฟแทบจะลืมว่าอยู่ด้วยได้พูดขึ้นมา
” เลเวลฉันต่ำเกินไป ” – เดฟตอบกลับ
” ออร่าของนาย ? มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ฉันมีลูกน้องมากมายที่แข็งแกร่งกว่าฉํนยอู่และนายก็ไม่ได้เห็นฉันบ่นเรื่องความไร้ความสามารถในการสู้ของตัวฉันเอง “
เดฟ นึกถึงทีมของเขาและรู้สึกผิดที่พวกนั้นตายไป ถึงพวกนั้นจะอ่อนแอแต่ก็ช่วยเขาได้อย่างมกก
” ฉันให้ลูกน้องส่วนหนึ่งกับนายได้ ” – Delvina พูดขึ้นพร้อมกับมีหน้าต่างแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเดฟ
เขาได้อันเดตมากว่า 20,000 ตัว !
เหี้ยยยย ! เยอะจริงๆ ! มันมี Death Knight กว่า 20 ตัวด้วย !
Death Knight หลายตัวเลเวลอยู่ระหว่าง 400-450 แม้ว่ามันจะดูน่าทึ่งแต่เทียบกับกลุ่มผู้เล่นแล้ว มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนัก
เดฟรู้ว่ากิลด์ทั้งสามได้ส่งผู้เล่นฝีมือดีที่สุดมา ดังนั้น Death Knight 20 ตัวนี้จึงถือว่าเป็นทางที่ดีที่จะยื้อเวลาให้เขามีชีวิตต่อไปได้บ้างแต่การอยู่ให้ถึง 4 ชม.นี้มันเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม
” หืม ที่นี่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอันเดต ” – พ่อบ้านพูดขึ้นและมองไปรอบๆ
จากนั้นเขาก็ได้โบกมือ มีรอยแตกของมิติโผล่ออกมาและร้านค้าเล็กๆก็โผล่มาด้านนอกวิหาร
” คุณสามารถใช้คะแนนได้ก่อนที่จะสู้ ลูกน้องของคุณก็สามารถเรียกมาที่นี่ได้และคุณสามารถอัพเกรดอุปกรณ์ ท้าทายระดับ และเพิ่มระดับอันเดตของคุณ “- พ่อบ้านพูดขึ้นก่อนจะหายไปในอากาศ
” อ่ะ ! “- เดฟร้องออกมา
เขาอยากที่จะกลับไปที่ดินแดนอันเดต เมื่อเห็นว่ามีคะแนนกว่า 55,000 คะแนนที่รอให้เขาใช้อยู่
เดฟได้ไปหาเจ้าของร้านทันที มันยิ้มให้เขาแต่สีหน้าที่มันยิ้มก็ยังน่ากลัวอยู่ดี
” นายเอามันมาจากไหน ! ” – เจ้าของร้านพูดขึ้นในตอนที่ไอเท็มลอยออกมาจากช่องเก็บของของเดฟและเข้าไปในมือเจ้าของร้าน มันคือหมวกที่เขาดรอปมาได้
เดฟได้หมวกนี้มาตอนที่ช่วยฆ่าบอสตัวแรกในเขตนี้
” ฉันได้มันมาหลังจากที่ฆ่าปีศาจที่แข็งแกร่ง นายถามทำไม ? ” – เดฟพูดขึ้น
หมวกนี้เอาไว้ใช้สำหรับเควส ดังนั้นเดฟจึงลองกดมันเพราะความอยากรู้เพื่อที่จะเริ่มต้นเควส
” นายขายมันให้ฉันได้มั้ย ? ฉันจะให้คะแนนนาย 1,000 คะแนนเลย ! “
เดฟไม่คิดว่าชื่อไอเท็มที่มีชื่อของ Undead King นั้นจะแลกได้กับแค่ 1,000 คะแนน
” นายกล้าดียังไง ! ” – Delvina ตะโกนขึ้นมาจากวิหาร
หมวกได้ลอยออกจากมือเจ้าของร้านตกลงไปในมือของเธอ เธอลองดูมันดีๆและโยนมันกลับให้กับเดฟ
” อย่าทำมันหาย ! ถ้านายไปถึงระดับ Death Knight ได้ นายควรไปหา Andre ช่างตีเหล็กและถามเขาเรื่องนี้ ” – เธอพูดขึ้นแล้วหันกลับไปส่งสายตาโกรธๆให้กับเจ้าของร้าน – ” สำหรับนาย นายต้องตายเมื่อพบกับ Gallows ! “
[เควสลับ : Reforged Anew
หาช่างตีเหล็กอันเดต Andre และถามเขาเรื่องจุดกำเนิดของหมวกนี่ ]
” ไม่นะ ! ฉันไม่คิดว่าเด็กนี่จะรู้ค่าของมัน ฉันสาบานได้ ! ” – เจ้าของร้านพูดขึ้นด้วยความกลัว
เดฟ เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร้านนี้เกือบที่จะหลอกเขา ต้องขอบคุณที่มีบอสอยู่ข้างเขาแต่ตอนนี้เขาก็เริ่มลังเลว่าจะซื้อของจากร้านนี้ดีรึเปล่า
” อ่ะ ไม่ต้องกังวลเลยเพื่อน ฉันแค่ต้องการเอาหมวกนั่นเฉยๆ ฉันไม่รู้ว่านายเป็นเพื่อนของ Delvina ! เอางี้เป็นไง ฉันลดให้สัก 30% สำหรับของ 3 ชิ้นแรกที่นายซื้อจากฉัน ! ” – เจ้าของร้านมองมาที่เดฟด้วยรอยยิ้มแบบเดิม
” นายมีอะไรบ้าง เอามาดูสิ ” – เดฟพูดขึ้น เขาไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไปเพราะกองทัพผู้เล่นกำลังมุ่งหน้ามาหาเขาอยู่
ของชิ้นแรกที่เดฟสนใจคือยา xp มันมีแค่ 3 ขวดแต่ดูมีระดับสูงกว่ายาที่เขากินไปในครั้งที่แล้วโดยเฉพาะราคาของมัน
700 คะแนนต่อขวด
เดฟได้ซื้อมันทั้งสามขวดแล้วดื่มมันทันที
การเพิ่มเลเวลจะทำให้มีแสงส่องประกายออกมาจากตัวและเมื่อ Lone Arrow เห็นมันเธอก็พูดขึ้นมา – ” เฮ้ ! นี่มันโกงนี่นา ! “
” ผลดีของการเป็นอันเดตไงล่ะ ! ” – เดฟตอบกลับ
” สุดท้ายก็เลเวล 100 แล้ว ! “
อันที่จริงผลของยานี่ใช้ได้ตอนที่เลเวลของเดฟอยู่ที่ 80-100
นี่คือสิ่งที่ควรจะทำ
เดฟเปิดหน้าต่างจัดการโลกอันเดตขึ้นมาและมองไปที่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย มันเลเวล 120 เลเวลมากกว่าเดฟ 20 เลเวล แต่เดฟ รู้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาถ้าสู้กันแบบ 1 ต่อ 1
ก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ เดฟจำได้ว่าเขายังต้องเกราะ Black Knight Order ให้เต็มเซต เขาจะได้ใช้ผลจากเซตของมันได้และตอนนี้เมื่อมีคะแนนมากพอ เขาก็สามารถจัดการการต่อสู้ท้าทายตำแหน่งได้ง่ายๆด้วยอุปกรณ์พวกนี้
ที่หน้าต่างสั่งการนั้น เขาเห็นอีกอย่าง…
มันมีช่องอุปกรณ์ ไม่ใช่สำหรับเขาแต่สำหรับพวกลูกน้อง
” ฉันเลือกได้ด้วยซ้ำว่าพวกมันจะเป็นอาชีพอะไร ! เหี้ย พวกมันยังใส่อุปกรณ์ได้ด้วย ! ” – เดฟ พูดขึ้นเมื่อเห็นตัวเลือกอุปกรณ์ให้สวมใส่สำหรับอันเดตของเขา
” หืม อย่างน้อยอุปกรณ์เก่าของฉันก็ไม่ต้องเอาไปขาย ฉันน่าจะมีเงินมากพอจาก Lone Arrow ในการขายเพชร ดังนั้นฉันเลยไม่ใช่ว่าจะจน ฉันควรซื้อของดีๆให้กับลูกน้องบ้าง ! “
เดฟพูดขึ้นแล้วทำการค้นหาไอเท็มต่อ…..
Chapter 74: การเตรียมการขั้นสุดท้าย
Warlord ยกขวานพาดไหล่ตัวเองแล้วมองไปรอบๆถึงการเข้าออกดันเจี้ยนของ Devastators เขาเพิ่งจะจัดการงูปีศาจเสร็จ
พวกปีศาจโผล่ออกมาจากน้ำแล้วเข้าโจมตีพวกเขาที่ชายฝั่งที่ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขารอให้คนอื่นๆมารวมตัวกัน
เรือไม้สภาพโทรมๆจอดที่ริมบึง เพื่อที่จะข้ามไปให้ได้เร็วที่สุดเพื่อเข้าไปยังดันเจี้ยนโลก Devastators จำเป็นต้องข้ามแม่น้ำที่อันตรายนี้ไปด้วยเรือเหล่านี้
ผิวน้ำที่สั่นไหวไกลออกไปนั้นเป็นสัญญาณของมอนสเตอร์ในน้ำ บางทีอาจจะเรียกมันได้ว่าซากมอนสเตอร์ก็ได้
ถึงพวกเขาจะไม่ได้มีการป้องกันอะไรสำหรับมอนเตอร์ที่เข้าโจมตีแต่เรือนี้ก็ดีกว่าการที่ต้องว่ายน้ำไปเอง
แจ้งเตือนเกมโผล่มาตรงหน้าเขา เขาเปิดดูข้อความและหันไปหา Valentine
” นายคิดยังไงกับเรื่องนี้ Valentine ? “
[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! ]
[ เควสพิเศษระดับ A : ดินแดนอันเดตยังไม่ได้เข้าควบคุมดันเจี้ยนโลกเขตแรกได้อย่างสมบูรณ์
แสดงความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวออกมา กำจัดขุมกำลังอันเดตในพื้นที่เพื่อยึดครองเขตแรกเอาไว้เพื่อเพิ่มเวลาในการอยู่ในโลกใต้ดิน
คุณมีเวลา 4 ชม.ในการยึดพื้นที่
โบนัส : เป้าหมายพิเศษ
อันเดตหนวด (ภาพอยู่ด้านล่าง ) กำจัดเป้าหมายนี้
รางวัลสำหรับเควส : +5 เลเวล , 25,000 ทอ. สกิลพิเศษ {Undead-Bane Sunder} ]
” โชคร้ายหน่อย ” – Valentine พูดขึ้น
” ทำไม ? ” – Warlord ถาม
” เราอาจจะเสียการครอบครองประตูไปแล้ว “
Valentine เปลี่ยนสลับช่องพูดคุยและบอกกับคนที่อยู่นอกดันเจี้ยน
” ฟัง ! สมาชิกทุกคนป้องกันประตูเอาไว้เต็มกำลัง ห้ามให้คนอื่นเข้า ! “
” นายไม่ทำเกินไปหน่อยหรือไง ? เราทำสัญญาเอาไว้แล้วไม่ใช่รึไง ? กิลด์ไม่ได้ผิดสัญญาเลยนิ “
” ฉันไม่ได้กังวลเรื่องกิลด์ คิดดูสิ 5 เลเวลกับสกิลพิเศษ บวกกับรางวัลในการอยู่โลกใต้ดินเพิ่ม กิลด์อื่นอาจจะบอกให้ผู้เล่นลาออกแล้วเข้ามาในดันเจี้ยน Devastators ต้องเป็นคนที่จัดการอันเดตหนวดนั่น ! “
Warlord หันกลับไปและเห็นสิ่งที่ Valentine คาดการณ์เอาไว้ พวกกิลด์อื่นๆต่างก็พากันเร่งรีบขึ้นมา
” เราต้องเร็วกว่านี้ ทีม A ไปหาอันเดตบัดซบนั่นและฆ่าเขาซะ ยอมเสียทุกอย่างเพื่อเอามันมาให้ได้ “
ระบบเกมได้ตั้งค่าเรือให้ทุกคนใช้งานได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนใช้เรือ มันก็จะมีเรือลำใหม่ปรากฏขึ้นมา
ผู้เล่นต่างก็รีบพากันลงเรือและมุ่งหน้าไปยังภูเขาที่ไกลออกไป
ตอนนี้ชายฝั่งเต็มไปด้วยเรือมากมาย ทุกคนต่างก็แข่งกันเพื่อไปยังอีกด้านให้ได้ก่อนคนอื่น
Warlord และปาร์ตี้ยืนเรียงแถวที่ริมบึงโดยยังไม่เคลื่อนไหวอะไร พวกเขาแปลกใจกับกลุ่มผู้เล่นที่ยืนอยู่ที่ริมฝั่ง คนเป็นพันเดินวนไปรอบๆแทนที่จะไล่ตามเควสที่เซิฟเวอร์ได้ประกาศออกมา
ทันทีที่เรือมาถึงอีกฝั่ง Warlord ได้กระโดดลงจากเรือและเดินแหวกผู้เล่นออกไป ในที่สุดเขาก็มาอยู่ด้านหน้าได้และหยุดไป สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือสิ่งที่ไม่คาดคิดและไม่น่ายินดีที่สุด
หอคอยเป็นสิบแห่งโผล่ขึ้นมาในรูปแบบการป้องกันตรงหน้าทางเข้าถ้ำ
อันเดตมองลงมาที่ผู้เล่นผ่านช่องหน้าต่างและประตูหอคอย
หน้าต่างที่หอคอยเหล่านั้นชัดแล้วว่าเต็มไปด้วยเหล่าอันเดตระดับสูงพร้อมกับอาวุธที่ทรงพลัง พวกอันเดตยืนเรียงแถวกันอย่างกับกำแพงไม่เคลื่อนไหวโดยไม่ได้มีท่าทีอะไรต่อผู้เล่นที่เข้ามา มันก็แค่ยืนนิ่งและมองกลับมาเท่านั้น
พวกผู้เล่นต่างก็พากันตื่นเต้นกับ xp และของที่จะได้มา จากจำนวนศัตรูและเลเวลของพวกมันแล้ว ผู้เล่นหลายคนถึงกับกำอาวุธในมือแน่นจนเหงื่อชุ่มไปทั้งมือ
” รอที่นี่ก่อน ! ตั้งขบวน ! ” – Warlord สั่งการกระตุ้นผ่านช่องพูดกิลด์
กิลด์อื่นๆเองก็ทำเหมือนกัน พวกเขาจัดขบวนรบที่ริมฝั่งกันทันที
ไม่กี่นาทีริมฝั่งนั้นก็เต็มไปด้วยขบวนทัพผู้เล่นอัดแน่นกันเต็มไปหมด
หัวหน้ากิลด์ทั้งสองกิลด์ Zhang Shi กับ Wan Yi ได้ส่งสัญญาณให้กับ Warlock พวกเขากับรองหัวหน้าตัวเองได้เดินฝ่าขบวนทัพของ Devastators เข้าไปหา Warlock และ Valentine
หลังจากที่มาถึงตรงหน้า Zhang Shi ก็เริ่มพูด – ” เราต้องผ่านหอคอยพวกนี้ให้เร็วที่สุด ทางที่ดีที่สุดคือการโจมตีด้วยการส่งผู้เล่นที่เท่าๆกันในแต่ละกิลด์ออกไป “
Valentine ส่งข้อความหา Warlord ‘ พวกเขาพูดถูก กองกำลังแรกที่เข้าไปในเขตศัตรูจะได้รับความเสียหายมากที่สุดและอาจจะไม่ได้รางวัลอะไร กองกำลังผสมที่มีจำนวนเท่ากันในแต่ละกิลด์คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ‘
” ฉันเห็นด้วย เราจะส่งผู้เล่นเข้าไป 5,000 ตนและ 2,000 คนในทุกๆ 10 นาทีหลังจากนั้น ” – Warlord พูดขึ้นมา
Zhang Shi มองไปที่ Wan Yi แล้วพูดขึ้นมา – ” เราต้องร่วมมือกัน ฉันอยากให้ Blood Rage ไปยึดหอคอยและ Heaven’s Dawn เป็นแนวหน้า เราจะส่งกำลังเสริมไปในทุกๆส่วนและสลับกันเมื่อจำเป็น ” – Valentine พูดขึ้น
Valentine และ Warlord มองไปยังหัวหน้ากิลด์ทั้งสองที่ตอนนี้หน้านิ่งอยู่ มันเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ต่อทั้งสามกิลด์ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกัน ในระยะยาวแล้วมันอาจจะเป็นหนึ่งรึทั้งสามกิลด์ที่พินาศไปพร้อมกับกิลด์อื่นที่จะเข้ามาแทนที่
” หือ นายส่งคนเข้าไปแนวหน้าสิ ! เราจะเสียผู้เล่นเยอะกับแผนนั้น มากกว่ากิลด์นายอีก ” – Wan Yi พูดขึ้นมา
” ฉันจะนำแนวหน้าเพื่อรักษาชีวิตคนอื่นให้ได้มากที่สุด เราต้องการให้ Blood Rage ไปยึดหอคอย เราปล่อยช่องว่างด้านหลังไม่ได้เผื่อว่าจะโดนลอบโจมตีโดยเฉพาะถ้ายังมีศัตรูคนอื่นตามหลังเรามา ” – Valentine ตอบกลับ
Wan Yi ถึงกับยอมสงบลง ทุกคนรู้ว่า Valentine เป็นการ์เดี้ยนระดับท็อปของเกม การมีเขาอยู่ที่แนวหน้านั้นจะทำให้คนตายน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกิลสืบทอดที่เขามี
Valentine มีสกิลในการป้องกันผู้เล่นกลุ่มใหญ่พร้อมกันได้และตอนนี้สกิลนั้นก็พร้อมใช้งานแล้วด้วย
” เราจะเปิดฉากโจมตีแนวหน้าด้วยแทงค์และรับดาเมจจากอันเดตโจมตีไกล หน่วยโจมตีจะมีนักเวทย์ นักธนูและฮีลเลอร์คอยสนับสนุนโดยมีหน่วยปกป้องคอยระวังหลังให้ การโจมตีแนวหน้าจะมีโจรกับนักฆ่าคอยช่วยด้านปีกข้างๆ โจมตีหอคอยและกำจัดพวกนักธนู “- Valentine อธิบาย
” ฟังดูเป็นแผนที่ดี จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไปเจอกับบอสเข้า ? ” – Zhang Shi ถาม
” ถ้ามันไม่ได้เฝ้าทางเข้าไว้ เราก็ไม่ต้องสนใจมัน เราจะกลับมาได้หลังจากที่เขตนี้เป็นของเราแล้ว เราไม่ต้องเสียเวลากับบอสหรอก เวลาของเควสกำลังนับถอยหลังเรื่อยๆ “
” ฉันจะส่งคนกิลด์ฉัน 5,000 คนให้ไปร่วมมือกับนายแต่พวกเขาต้องรับคำสั่งจากคนของฉัน ” – Zhang Shi พูดขึ้น
” ฉันจะสั่งการแทงค์กับแนวหน้าเอง ” – Valentine พูดขึ้นอย่างใจเย็น
Wan Yi ฮึดฮัดออกมา เขาหงุดหงิดกับความคิดที่จะให้การ์เดี้ยนมาเป็นผู้นำการโจมตีแม้ว่าจะเป็นกองกำลังแทงค์ก็ตาม
” โอ้ มนุษย์ยางลบจะนำสินะ ? “
” เราจะเสียแทงค์น้อยลงถ้าฉันนำและอย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก ” – ในตอนที่เขาพูด Valentine ก็ได้มองไปที่ Wan Yi สายตานั้นแฝงความอาฆาต ฆ่าหรือไม่ฆ่าน่ะเครื่องจักรไม่ได้สนใจหรอก มันจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสร้างเส้นทางที่มันเลือกไว้แล้ว
อยู่ๆก็มีคำพูดขัดขึ้นมา – ” เรามีเป้าหมายเดียวกัน ตอนนี้เราต้องร่วมมือกัน มาสรุปและให้ความเคารพกันหน่อยเถอะ ” – Zhang Shi พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงใจเย็น
” ฉันขอให้ Sand Strom นำพวกโจรเพื่อไปกำจัดนักธนู ตกลงหรือเปล่า ? ” – Zhang Shi ผายมือให้กับผู้ช่วยของเขา
” ฉันได้ยินเรื่องเธอและผลงานเธอมา ” – Warlord มองไปที่นักฆ่า – ” เธอเป็นตัวเลือกที่ดีในการเข้าโจมตีหอคอย “
เธอพยักหน้าให้กับ Warlord ก่อนจะหายตัวไปจากสายตาแล้วเดินจากไป
Warlord กรอกตาใส่และมองไปที่มือขวาของกิลด์ Heaven’s Dawn ตามข่าวลือที่บอกมา รองหัวหน้าคนนี้คือคนที่อยู่เบื้องหลังอำนาจของกิลด์
” งั้นฉันจะนำพวกนักเวทย์เอง ” – ผู้เล่นข้างๆ Wan Yi พูดขึ้น
ถ้าเป็นผู้เล่นคนอื่นพูดแบบนี้ออกมา เขาคงไม่ได้รับการสนใจแต่ไม่ใช่ตัวละครที่มีการสืบทอดคลาส A แบบนี้ Star Mage
” ถ้าเราตกลงกันแล้ว งั้นก็เริ่มลงมือในอีก 3 นาที “
ผู้เล่นได้แบ่งกันเป็นกลุ่มและสร้างช่องพูดคุยออกมาในหน่วยของตัวเอง
เอาสั้นๆคำสั่งที่พวกเขาจะได้รับก็จะมาจากหัวหน้าตามหน่วยของพวกเขา
Valentine ได้นำทัพแนวหน้าออกไป ผู้เล่นพวกนี้มีเกราะ, อาวุธและเผ่าที่ผสมปนเปกันไปแต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากเพราะพวกเขาต่างก็เป็นแทงค์ เบอร์เซิคเกอร์ การ์เดี้ยนและนักสู้
ห่าธนูถูกยิงลงมาจากหอคอยแผ่ไปทั่วท้องฟ้าดำดิ่งลงมาใส่หน่วยแนวหน้า
นัเวทย์ตอบโต้ทันทีด้วยการใช้โล่, บัฟและสกิลควบคุมเพื่อลดดาเมจ ฮีลเลอร์รีบพากันทำงานทันที พวกเขาต่างก็ใช้พลังที่ตัวเองมีออกมาอย่างรวดเร็ว
กองทัพอันเดตที่พื้นดินในที่สุดก็ตอบโต้ พวกมันพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นราวกับคลื่นยักษ์ที่ถามโถมทำลายผู้เล่นไปได้มากมาย
ผลของความกลัวจากการที่เกมอัพเดตนี้แผ่ไปทั่วกองทัพในหมู่ผู้เล่นที่จิตใจอ่อนแอ บางคนถึงกับเซและล้มลงไป บางพวกโดนเหยียบและขบวนทัพก็เริ่มระส่ำระสาย
ด้วยความได้เปรียบจากการที่ไม่มีความกลัว พวกอันเดตยังคงเดินหน้าต่อ ถ้าแขนของมันขาดข้างหนึ่ง มันก็ยังเหลืออีกข้าง ถ้าพวกมันเสียฟันไป พวกมันก็ยังเดินหน้าต่อได้ มีแค่ความตายที่หยุดพวกมันได้
” คงขบวนทัพเอาไว้ ! แนวหน้าตึงกำลัง ยกโล่ขึ้น ! ” – Valentine ตะโกนขึ้นมา
ที่มือของเขามีบอลแสงขนาดเท่ากับหัวคทา เขายังคงตะโกนสั่งการให้การ์เดี้ยนใช้อาวุธตัวเองจัดการกับศัตรูทีเข้ามาและทำลายพวกมันให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ
Valentine ได้ใช้อีกสกิลที่สร้างชั้นหุ้มบางๆให้กับผู้เล่นลดดาเมจลงไปได้บ้าง
อันเดตหลายตัวนั้นเลเวลต่ำกว่า 300 แต่จำนวนของพวกมันทำให้กองทัพผู้เล่นเดินหน้าได้ช้าลง
ผู้เล่นที่โชคร้ายคนหนึ่งโดนโจมตีจนหลุดขบวนทัพ พวกมอนสเตอร์พากันรุมทึ้งเขาทันทีจนมีแต่เสียงร้องที่ดังขึ้นมา ไม่นานพวกมอนสเตอร์ก็พาแยกตัวกันออกโดยไม่มีวี่แววของผู้เล่นคนนั้นเหลืออยู่เลย แม้แต่เศษกระดูกก็ยังไม่มี
โครงกระดูกในหอคอยยังคงยิงธนูและหน้าไม้ออกมาไม่หยุด มันไม่ต่างอะไรจากพายุธนูเลย
” หอคอยยิงเราอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับพวกโจร ? ” – ผู้เล่นในหน่วยแทงค์ตะโกนขึ้นมา
ตามแผนแล้วหัวหน้ากิลด์ทั้งสามจะคอยพูดคุยกันและแบ่งปันข้อมูลกันอยู่ตลอด
” ส่งชุดสองเข้าไป ! ” – Warlord สั่งการออกมาและกองทัพผู้เล่นที่อยู่ที่ชายฝั่งก็ได้เดินหน้าเข้าไปสนับสนุนชุดแรก
” พวกโจรไปเจอกับ Death Knight เลเวล 400 เข้า Sand Strom คิดว่าคงใช้เวลา 5 นาทีในการจัดการมัน จากนั้นเราค่อยไปถึงหอคอยได้และเดินหน้าไปยังหอคอยอื่นต่อ ” – Zhang Shi รายงาน
” เวรเอ้ย ถ้ามี Death Knight อยู่ในแต่ละหอคอย เราคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชม.ในการฝ่าไปแต่ละที่ ฉันว่าเราส่งหน่วยโจรทั้งหมดที่มีไปช่วยจัดการบอสเลเวล 400 ที่นั่นกันเถอะ “
“ฉันเห็นด้วย “
” ฉลาดดี ฉันก็เห็นด้วย “
” เราเสียหน่วยโจมตีไป 5% เพื่อลดความสูญเสียและช่วยประหยัดเวลา เราจะโจมตีแค่ 6 หอคอยแทนที่จะเป็น 12 หอคอย ด้วยกำลังฮีลที่มี แทงค์สามารถรับดาเมจจากหอคอยที่เหลือได้นานพอจะไปถึงวิหารนั่นได้ ” – Wan Yi พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
” เราควรฆ่าทุกอย่าง การปล่อยศัตรูไว้ด้านหลังมีแต่จะโดนล้อม ” – Warlord พูดขึ้น
” ถ้าเราจะฆ่าทุกตัวในหอคอยพวกนั้น เราไม่มีทางทันเวลาที่จะทำเควสนี้หรอก ” – Wan Yi พูดขึ้น
” Wan Yi พูดมีประเด็น ” – Zhang Shi พูดขึ้นมา
” เอาล่ะ ทำตามแบบที่นายบอกละกัน Zhang Shi ส่งคำสั่งไปให้หน่วยโจรด้วย ฉันจะบอกกับ Valentine “
Warlock มองไปที่ขบวนทัพเสริมกับจุดที่กำลังต่อสู้อยู่ โอกาสที่จะทำเควสสำเร็จก่อนเวลาจะหมดนั้นกำลังนับถอยหลัง หน่วยจู่โจมกำลังสู้กับเวลา ถ้าการต่อสู้นี้ไม่จัดการให้เสร็จโดยเร็วไม่ได้ งั้นพวกเขาคงต้องใช้สกิลสืบทอดเพื่อผ่านมันไป
Chapter 75: ใส่ของ !
เดฟเลื่อนดูไอเท็มในร้านค้า เขาเปิดดูผ่านๆและตรวจสอบมันแล้วเอามาเทียบกัน สุดท้ายเขาก็ได้เลือกไอเท็มมาแล้วทำการซื้อมัน
[Gauntlets of the order of the Black Knights ]
ประเภท : ถุงมือ
คำอธิบาย : ชิ้นส่วนเกราะจากอัศวินที่ล้มตายไปนาน
พวกเขาสาบานที่จะสู้กับพวกผู้ร้ายและต้องตกตายไปด้วยความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของ Undead King ผู้ปกครองของดินแดนอันเดต
จุดจบของพวกเขาน่าอนาถ Undead King ได้สาปพวกเขาให้ลุกขึ้นมาเป็นอันเดต ดังนั้นพวกเขาจึงได้กลายเป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุด
ความต้องการ : เลเวล 60, Str 200, Agi 100, Dex 100
โบนัส : Vit +400, ต้านทาน +2%, ลดดาเมจ 200, ดูดซับเวทย์ 100
คลาส : Rare
[ Helmet of the order of the Black Knights ]
ประเภท : หมวก
คำอธิบาย : ชิ้นส่วนเกราะจากอัศวินที่ล้มตายไปนาน
พวกเขาสาบานที่จะสู้กับพวกผู้ร้ายและต้องตกตายไปด้วยความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของ Undead King ผู้ปกครองของดินแดนอันเดต
จุดจบของพวกเขาน่าอนาถ Undead King ได้สาปพวกเขาให้ลุกขึ้นมาเป็นอันเดต ดังนั้นพวกเขาจึงได้กลายเป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุด
ความต้องการ : เลเวล 60, Str 200, Agi 100, Dex 100
โบนัส : Vit +400, ต้านทาน +2%, ลดดาเมจ 200, ดูดซับเวทย์ 100
[ Cape of the order of the Fallen Black Knights ]
ประเภท : หมวก
คำอธิบาย : ชิ้นส่วนเกราะจากอัศวินที่ล้มตายไปนาน
พวกเขาสาบานที่จะสู้กับพวกผู้ร้ายและต้องตกตายไปด้วยความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของ Undead King ผู้ปกครองของดินแดนอันเดต
จุดจบของพวกเขาน่าอนาถ Undead King ได้สาปพวกเขาให้ลุกขึ้นมาเป็นอันเดต ดังนั้นพวกเขาจึงได้กลายเป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุด
ความต้องการ : เลเวล 60, Str 200, Agi 100, Dex 100
โบนัส : Vit +400, ต้านทาน +4%, ลดดาเมจ 300, ดูดซับเวทย์ 300
ด้วยอุปกรณ์ใหม่สามชิ้นนี้ ในที่สุด เดฟ ก็ได้ใส่เกราะเซ็ตนี้เต็มชุด
” สเตตัส ! “
[ชื่อ : Death Stroke
เลเวล : 100
เผ่า : มนุษย์ ( อันเดต)
Health : 27,000+(1,350)
Mana : 3,000 +(150)
Stamina( ค่าแรง ): ไม่จำกัด
Rage/Focus: 100
Intelligence 260 +(13)
Wisdom 310+(15.5)
Dexterity 260 (+13)
Agility 260 +(13)
Vitality 2,700
Strength 260 +(13)
Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 1,000
Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 2,000
Immunity ( ต้านทาน ) : 20% +(1)%
HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(0)
Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(0)
Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞
Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 1/วินาที
ฉายา : ฉันรู้ทุกอย่าง ! ]
…
” สวย ! “
ปกติแล้วการใส่เกราะเซตนี้จะทำให้ผู้ใส่ดูราวกับเป็นอัศวินแต่ด้วยผลจากแหวนที่เขามีทำให้เกิดภาพลวงตากับผู้ใส่ซึ่งได้ลบภาพของอุปกรณ์ที่ใส่อยู่ทั้งหมด
” ฉลาดเลือกดีนี่ มันเป็นของที่ลูกค้าต่างก็ชอบกัน ” – เจ้าของร้านโค้งให้
เดฟไม่ได้สนใจคำชมและเรียกทีมอันเดตของเขาออกมาก่อนจะมองดูพวกมัน พวกมันได้เลเวลเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ที่ประตูมายังโลกใต้ดิน ตอนนี้พวกมันเลเวลต่ำสุดอยู่ที่ 81 และ Bud เลเวลสูงสุดที่ 92
ได้เวลาที่จะใช้คะแนนกับพวกมันแล้ว หาอุปกรณ์ให้พวกมันใส่
Bud ถือว่าเป็นลูกน้องที่ดีอันที่จริงมันเป็น Ghoul แต่ช่างเถอะ มันมักจะอยู่ช่วยเดฟเสมอ
เขาเปิดหน้าต่างจัดการพวกลูกน้องขึ้นมาแล้วซื้อชุดเกราะเซตให้กับ Bud
” เฮ้ Bud นี่สำหรับแก เอาสิ ลองใส่ดู ” – เดฟบอกกับ Ghoul
Bud รับเกราะพวกนั้นมา ใช้เวลาสักพักกว่าที่มันจะใส่เสร็จ เกราะนั้นดูพังไปทันทีเข้ากับความเป็นอันเดตของมัน มันตัวสูงขึ้นและไหล่กว้างขึ้น หน้ากากสีดำและช่องที่หมวกนั้นทำให้มันดูแข็งแกร่งและชั่วร้ายขึ้นมา
เดฟหันไปหาลูกน้องตัวอื่นก่อนจะเรียกนักเวทย์เข้ามาหา
นี่คือนักเวท์ที่พัฒนาเป็นนักเวทย์ไฟระหว่างตอนที่สู้กับมนุษย์หมาป่าที่ดันเจี้ยน Dark Threading
” ต่อไปฉันจะเรียกแกว่า Sparky ก็แล้วกัน “
เขามองไปที่ร้านค้าอีกครั้งเพื่อหาไอเท็มที่เหมาะกับสเตตัสของมัน
เขาซื้อชุดยาวสีแดง หมวกนักเวทย์และคทาที่มีอัญมณีสีแดงให้กับมัน
ถึงมันจะมีแค่สามส่วนแต่มันก็ราคามากกว่าเกราะทั้งเซตอีก อุปกรณ์สำหรับพวกนักเวทย์น่ะราคามากว่าของของพวกโจมตีใกล้ มันคือความจริงของเกมนี้
เขาซื้อชุดกับอันเดตตัวที่เหลือตามอาชีพที่มันควรจะเป็น
เขาได้ใช้คะแนนไปทั้งหมด 12,000 คะแนนแต่เขาก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มา ทีมของเขาตอนนี้ถือว่าเป็นทีมที่ดูเจ๋งขึ้นมาบ้างแล้ว
Lone Arrow ไม่ได้ทำอะไร เธอแค่เดินไปรอบๆวิหาร เธอยืนรอตอนที่เดฟและอันเดตของเขาเดินออกมาจากประตู
ตอนที่เธอเห็นทีมอันเดต เธอก็มองไปที่เดฟด้วยสีหน้าสงสัย – ” นายใส่อุปกรณ์ให้กับอันเดตได้แล้วเหรอ ? “
“ใช่ ฉันเพิ่งเห็นตัวเลือกตะกี้นี้เอง “
เมื่อมองไปรอบๆ เดฟก็พบกับอันเดตที่ดูวุ่นวายแต่เขามองไปที่มุมหนึ่งซึ่งไม่ได้มีอะไรโดดเด่นที่ข้างๆวิหาร
ที่ใจกลางมุมนั้นมีร่างหนึ่งที่ยืนพิงกับเสาวิหารเอาไว้
เดฟเดินเข้าไปดูว่ามันคืออะไร ในตอนที่เขาข้ามเส้นวิหารไป ตัวละครนั้นก็เดินออกมาจากเสา เสื้อผ้าขาดๆที่เหมือนกับของหุ่นไล่กาที่ใส่ไว้กับร่างบางๆและผิวที่แนบกับกระดูกกับหน้าที่มีกล้ามเนื้อเล็กน้อย ตาสีเหลืองของมันมองมาที่เดฟ มันคือโครงกระดูกเหมือนกับเดฟ
เครื่องหมายตกใจสีเขียวบนหัวของมันกำลังกระพริบ
ผู้แนะนำ !
ในตอนที่เดฟกำลังจะถามนั้น ผู้แนะนำก็ฮึดอัดออกมา
” นายมีช่องโหว่มากมายในการป้องกันและการโจมตี มันน่าสงสัยนะที่นายเลเวลถึง 50 ได้ นี่คงไม่ต้องพูดถึง 100 เลย “
หยาบคายจริงๆ ! แต่ฉันไม่ได้มาหาเรื่อง นี่เป็นโอกาสที่ฉันจะได้สกิลมา
” ใช่ ฉันไม่ได้มีสกิลมากมายนัก ฉันหาใครสอนฉันไม่ได้ “
” ฉันสอนสกิลนายได้ถ้านายต้องการ ” – โครงกระดูกตอบกลับ
มันโบกมือและมีหน้าต่างแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเดฟ
[ คุณสามารถเรียนรู้สกิลได้ดังนี้
{Bulwark} (เลเวล 20)
{Charge} (เลเวล 30)
{Heroic leap} (เลเวล 40)
{Jeopardy} (เลเวล 50)
{Ground Breaker} (เลเวล 60)
{Warrior’s Will} (เลเวล 70)
{Lunge} (เลเวล 80)
{Bastion} (เลเวล 90)
{Concussive Blow}(สกิลไม้ตาย) ]
เดฟสบถออกมาเมื่อเห็นรายชื่อสกิล – ” เหยดดดด…. “
รายชื่อสกิลพื้นฐานสำหรับอาชีพสายแทงค์สามารถเข้าถึงได้เมื่อเลเวลเพิมขึ้น การมีสกิลพวกนี้แต่แรกจะทำให้ชีวิตในเกมเขาง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
ก่อนที่จะได้เปิดปากพูดถึงความยากลำบากของตัวเอง ระบบก็ได้ส่งแจ้งเตือนอันใหม่เข้ามา
[ เพราะอาชีพ Death’s Apostle สกิลเหล่านี้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง
{Bulwark} เปลี่ยนเป็น{Death’s Blessing}
{Charge} เปลี่ยนเป็น{Immortal Apparition}}
{Heroic Leap} เปลี่ยนเป็น{Death’s Descent}
{Ground Breaker} เปลี่ยนเป็น{Death Surge}
{Warrior’s Will} เปลี่ยนเป็น{Undying Will}
เดฟตรวจสอบสกิลใหม่ที่ได้รับมาทีละอันๆ เขาสนใจสกิลที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เพราะเขาไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
{Death’s Blessing}: ลดดาเมจเวทย์ที่ได้รับ 10% แบบติดตัว การใช้สกิลจะต้านทานเวทย์ได้ 2 วินาที คูลดาวน์ 5 นาที
{Immortal Apparition}: วาร์ปตัวเองไปยังตำแหน่งของเป้าหมายและระเบิดเวทย์แห่งความตายออกมาผลักเป้าหมายออกไปและสร้างดีบัฟกลัวกับศัตรู 2 วินาที คูลดาวน์ 2 นาที
{Death’s Descent}: กระโดดไปยังตำแหน่งเป้าหมาย ไม่สนใจสกิลควบคุมและทำดาเมจ 200% หากโจมตีสำเร็จ คูลดาวน์ 5 นาที
{Jeopardy}:สำหรับเลือดทุกๆ 10% ที่เสียไป เพิ่มการดูดซับเวทย์และลดดาเมจ 1% เมื่อเป้หมายเลือดต่ำกว่า 50% เพิ่มอัตราคริติคอล 5%
{Death Surge}: กระทืบพื้นสร้างคลื่นแห่งความตายออกไปจากตำแหน่งของผู้ใช้ ทำให้เป้ามายในพื้นที่ 5×5 จากผู้ใช้ช้าลง ถ้าเป้าหายอยู่ภายใต้ความกลัว เป้าหมายจะได้รับดาเมจ 300% คูลดาวน์ 30 วินาที
{Undying Will}: ลบผลของสกิลควบคุมจากผู้ใช้และบวกความต้านทาน 5% เป็นเวลา 2 วินาที คูลดาวน์ 2 นาที
{Sword Lung} :โยนดาบออกไปเป็นเส้นตรง 20 ม.แทงทะลุศัตรูและทำดาเมจ 250% ดาเมจจะลดลง 20% จากศัตรูที่โจมตีตัวต่อไป คูลดาวน์ 30 วินาที
{Bastion}: เป็นอมตะและต้านทานสกิลควบคุมได้ 3 วินาที ไม่สามารถใช้สกิลหรือขยับได้ระหว่างที่ใช้สกิลนี้ คูลดาวน์ 3 นาที
{Concussive Blow}: การโจมตีครั้งต่อไปที่สำเร็จนั้นจะทำดาเมจ 500% ใส่เป้าหมาย ถ้าเป้าหมายเลือดต่ำกว่า 20% ดาเมจจะเพิ่มขึ้นเป็น 750% และมีโอกาส 10% ที่จะสตันท์เป้าหมาย 5 วินาที คูลดาวน์ 20 นาที
” ดีขึ้น อันเดตน้อย ตอนนี้นายมีช่องโหว่ในการโจมตีและป้องกันน้อยลงแล้วแต่นายต้องฝึกให้หนักเพื่อเพิ่มพลังของสกิลที่มี “
เครื่องหมายตกใจบนหัวผู้แนะนำหายไป
เดฟเอามือลูบขมับตัวเองราวกับปวดหัวอยู่
” ทำไมฉันไม่ต้องทำเควสหรือฝึกเหมือนกับตอนที่ฉันได้ {Destructive Smash} มา ? ไอ้บ้านี่ยัดสกิลเข้ามาให้ฉันโดยไม่บอกอะไรเลย “
” ผู้แนะนำไม่มีเควสที่เกี่ยวข้องกับสกิลให้ เขาไม่ได้ต้องการให้นายฝึก ” -Lone Arrow ตอบกลับคำพึมพำของเขา
” หือ ฉันโชคดีสิงั้น ฝึกเพื่อเรียนรู้สกิลพวกนี้และการทำเควสคงต้องกินเวลาที่ฉันไม่มีไปอย่างมาก ” – เดฟพูดขึ้น
เดฟมองไปที่หน้าต่างยศแล้วยิ้มออกมา เขารอตอนนี้มานานแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่เขาใช้ตัวเลือกนี้ก็ตอนที่เขาท้าทายเอาตำแหน่งหัวหน้าทีมนี้มา
สำหรับคะแนน 1,000 คะแนนแล้ว เขาสามารถซื้อสิทธิ์ในการท้าทายคนยศใหญ่กว่าเขาได้หนึ่งยศ
[Undead Ascension
คุณได้ซื้อสิทธิ์ในการท้าทายหัวหน้าทีม 2705
Rioushak (โจร) ]
เดฟถูกวาร์ปออกไปแล้วปรากฏตัวที่ลาน มีโครงกระดูกตัวหนึ่งยืนอยู่ที่ใจกลางลาน มันหมุนมีดไปมาในมือและมองมาที่เดฟ
Chapter 76: Undead Captain!
มีกำแพงโผล่ขึ้นมาล้อมรอบเดฟ ตอนนี้รอบๆกลายเป็นสนามต่อสู้พร้อมกับที่นั่งมากมาย ที่นั่งเหล่านี้เต็มไปด้วยเสียงคำรามและกรีดร้องของอันเดตนับพันที่พากันโบกสะบัดอาวุธในมือ ด้านหลังทางเข้าสนามต่อสู้นั้นเป็นลานเปิดกว้าวง มีหอคอยด้านบนกำแพงสูงเพื่อยืนยันถึงตำแหน่งของสนามต่อสู้
เดฟได้ถูกส่งเข้ามาในเมืองของดินแดนอันเดต
ทั้งสองฝ่ายยืนอยู่คนละฝั่งของสนามต่อสู้ เดฟและ Rioushak พวกเขามองตากันด้วยความอาฆาตและมองหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย
เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา – ” สู้ ! “
เดฟได้ใช้{Immortal apparition} ห่อหุ้มตัวเองกลายเป็นเงา จากนั้นก็โผล่มาตรงหน้า Rioushak พร้อมกับการระเบิดของพลังแห่งความตาย โจรนั้นกระเด็นตกลงไปที่พื้นด้วยแรงจากการระเบิดนี้
[ ผลของความกลัวล้มเหลว ! ]
ก่อนที่โจรจะได้ลุกขึ้นมา เดฟก็ได้ใช้ {Sword Lunge} และอยู่ในท่าโยนหลาว ดาบนนั้นแทงทะลุออกไปจนสร้างรูอากาศขึ้นมา
ดาบได้ขยายขนาดขึ้นมาเท่ากับปีกเครื่องบินยิงเข้าใส่เป้าหมายราวกับสายฟ้าและเข้าโจมตีแบบ AOE
ความเร็วและขนาดของดาบนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบการโจมตีนี้ แม้ว่าจะมี {Dodge} ก็ตาม
{-422}
Rioushak กระเด็นออกไปแต่มันก็ยังเหลือเลือดอีกเยอะหลังจากที่รับดาเมจจาการโจมตีที่น่ากลัวนี้
เดฟไม่ได้หยุดพัก เขาได้ใช้{Stampede} พุ่งเข้าหาโจร ดาบในมือเขาได้กวาดออกไปข้างหน้า การโมตีที่พุ่งเข้ามานี้เฉือนไปที่อกของโจรและผ่านตัวมันออกไปราวกับรถไฟที่พุ่งผ่าน
{-1822}
{Stampede} เป็นสกิลที่ทำดาเมจได้สูงอยู่แล้วพร้อมกับทำให้เซ เดฟจึงสามารถทำดาเมจได้อีกทั่วด้วยการโจมตีซ้ำด้วย{Twin-Strike}
{-1223}
ด้วยการโดนโจมตีซ้ำ โจรพยายามที่จะรักษาสมดุลตัวเองแต่เดฟไม่ยอมให้ทำแบบนั้น เขายังคงกดดันอีกฝ่ายต่อ นี่คือส่วนหนึ่งของกลยุทธเขา สกิลจำนวนมากนั้นใช้ได้ผลโดยเฉพาะดีบัฟหลายอย่างๆ ผลของการเซนี้ทำให้สกิลส่วนมากไม่อาจจะใช้งานได้
โจรคำรามออกมาด้วยความหงุดหงิด มันไม่สามารถใช้สกิลได้เลยเมื่อเจอกับการโจมตีต่อเนื่องนี้ โจรนั้นเป็นตัวทำดาเมจที่สูงแต่ปืนใหญ่แก้วน่ะยังไงก็ถูกทำลายโดยง่าย
เดฟใช้{Spectral Bomb} และทำการระเบิดที่อกของโจร ผลจากการระเบิดนี้ทำให้โจรต้องกระเด็นออกไป เดฟถอยกลับมาเพื่อเพิ่มระยะห่างเตรียมการโจมตีขั้นต่อไป
เขาได้ใช้{Death’s Descent} กระโดดขึ้นสูงพอที่จะเห็นถนนรอบๆสนามต่อสู้ได้ จากนั้นก็ได้พุ่งลงมาที่พื้นดิน สกิลนี้ได้จบลงด้วยท่าแบบฮีโร่ที่เข่า เท้าและหมัดอัดลงไปที่พื้นจนทำให้หินแตกกระจายออกมา ดาบนั้นแทงลงไปพร้อมกับทำให้ศัตรูล้มลงไปกองที่พื้น
{-1285}
โจรทุบไปที่พื้นด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะลุกขึ้นมาพุ่งเข้าหาเดฟ พร้อมกับมีดในมือ ตาของมันแสดงความบ้าคลั่งออกมาโดยไม่สนดาเมจและการโจมตีที่ตัวเองได้รับ หากไม่มีเกราะและความสามารถของโจร ป่านนี้มันคงตายไปแล้ว
เดฟไม่ได้คิดจะหลบ เขาใช้ {Block} กันดาเมจจากมีด จากนั้นก็ตามด้วย {Counter} ทำดาเมจสะท้อนกลับไปและทำให้โจรต้องเซอีกครั้ง
{-250}
ไม่เปิดโอกาสให้โจรได้ฟื้นตัวหรือโจมตี
โล่ของเขาได้กลับเข้าไปในช่องเก็บของและแยกดาบออกเป็นสองเล่ม
เขาฟันออกมาเป็นรูปตัว x ด้วยสกิล{Double Slash} และใช้ {Soul Burn} ออกมาตามทันทีโดยทนรับผลการโดนดาเมจ 100/วินาทีพร้อมกับเลือดของเขาที่เริ่มลดลงไป
คลื่นพลังจาก {Soul Burn} ได้พุ่งเข้าใส่โจร เปลวไฟวนรอบตัวโจรเอาไว้พร้อมกับดาบรูปตัว x ที่พุ่งเข้ามา ความสามารถที่ถูกใช้รวมกันนี้ทำให้ดาเมจเพิ่มขึ้นมากไปอีก สกิลทั้งสองอัดเข้าใส่โจรพร้อมกับทำดาเมจที่สูงและผลการเผาไหม้ไปด้วย
{-1662}
โจรได้ใช้ {Vanish} หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เดฟไม่ได้คิดจะมองหาอีกฝ่าย เขากระทืบพื้นหินและตะโกนออกมาส่งคลื่นพลังงานออกไปโดยรอบ อากาศรอบตัวเขาดูดำทะมึนขึ้นมา {Death Surge} เป็นสกิลควบคุมพื้นที่ทำให้เกิดผลช้าและเพิ่มดีบัฟดาเมจด้วย
แน่นอน เพื่อรับมือการโดนโจมตีจากด้านหลังในตอนที่โจรหายตัว เขาจึงได้ใช้ {Death Surge} ออกมา
เดฟ โจมตีด้วย {Concussive Blow} พร้อมกับ {Twin Strike} ที่เพิ่งคูลดาวน์เสร็จ
{-6852}
{-4552}
” สวย ! “
เดฟยังคงได้เปรียบและทำการโจมตีโจรอย่างต่อเนื่อง
ใช้เวลาไม่กี่นาทีก่อนที่เดฟจะเอาชนะโจรได้ เดฟเดินเข้าไปจัดการโดยใช้ดาบทั้งสองข้างตัดหัวของโจรทิ้ง ร่างที่ไร้หัวของมันยืนนิ่งอยู่นานก่อนที่จะล้มลงไปกับพื้นราวกับหุ่นเชิดที่โดนตัดสาย
เดฟเสียเลือดไม่ถึง ¼ ในตอนที่สู้ จากนั้นเขาก็ถูกวาร์ปส่งกลับไปที่วิหารในเขตดันเจี้ยนโลก
[Undead Ascension
คุณได้เอาชนะหัวหน้าหน่วย Rioushak ได้ !
คุณได้ยกระดับจาก Skeleton Elite เป็น Undead Captain
คุณได้สั่งการกองทัพ 2705
คุณเลือกอันเดตระดับต่ำกว่า 10 ตัวได้ในเพื่อเพิ่มระดับของมัน
อันเดตที่ยกระดับขึ้นมานั้นจะสั่งการทหาร 10 ตัว
เพราะคุณท้าทายหัวหน้าตัวเองได้ ดังนั้นคนอื่นเองก็ท้าทายคุณได้ด้วย
+500 คะแนน
จงรับใช้ Undead King ด้วยความศรัทธา ]
เดฟอ่านแจ้งเตือนและมองไปที่ Bud, Sparky และพวกที่เหลือ เขาเปิดหน้าต่างขึ้นมาแล้วยกระดับยศพวกมัน
หน้าตาของพวกมันหลังจากที่ยกระดับเสร็จนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม
Bud ที่เป็นผีดิบตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เกราะแข็งแกร่งกว่าเดิมและมีหนามงอกออกมาจากเกราะ
ชุดของ Sparky นั้นดูเก่ากว่าเดิม มีควันที่ดูน่ากลัวไหลวนรอบตัวมัน คทาของมันยาวขึ้น สง่าขึ้นและมีเปลวไฟลุกไหม้ไปมาในอัญมณีในคทา
อันเดตอีก 8 ตัวที่เหลือนั้นดูแข็งแรงและกำยำมากขึ้น
อันเดต 10 ตัวใหม่ที่เพิ่มยศขึ้นมานี้มีลูกน้องยืนเรียงเป็นเส้นตรงด้านหลังมัน พวกนั้นเป็นอันเดตระดับต่ำที่โผล่มาด้านหลังพวกอันเดตเดิมในเวลาไม่กี่วินาที พวกอันเดตใหม่เว้นระยะห่างจากพวก Boyz(อันเดต 10 ตัวแรก) และจากนั้นก็ยืนนิ่งเรียงแถวกันด้านหลังก่อนที่จะยืนแถวตอน 10 แถวตรงหน้าเดฟ
ตอนนี้อันเดตในทีม เดฟมีทั้งหมด 110 ตัว
[คุณมีสิทธิเข้าท้าทายส่วนที่สองของเควสสืบทอด คุณอยากที่จะเริ่มหรือไม่ ? Y/N ]
งั้นเควสสืบทอดก็จะทำได้ต่อทุกครั้งที่ฉันยกระดับยศขึ้นมาได้
ถ้าฉันยอมรับการท้าทายนี้ มันจะส่งผลต่อภารกิจที่นี่จนกว่าพวกผู้เล่นจะมาถึงรึเปล่า ? การสู้กับพวกสามกิลด์ใหญ่เป็นเวลา 4 ชม.นี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวก็ได้….
เดฟตอบตกลงกลับไป
[ การท้าทายเควสสืบทอดถูกเลื่อนเพราะภารกิจตอนี้ คุณต้องทำภารกิจตอนนี้ให้เสร็จสิ้นก่อน ]
” บ้าเอ้ย ! ” – เดฟสบถออกมา
” มีอะไร ? ” – Lone Arrow ถามขึ้น
” ไม่มีอะไรสำคัญหรอก เธอรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก ? “
ก่อนที่ Lone Arrow จะได้ตอบ Delvina ก็โผล่มาจากในวิหารและเดินมาหาพวกเขา
เธอพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม – ” กองทัพมนุษย์กำลังเดินหน้าเข้ามาในถ้ำ พวกเขาโดนลดความเร็วโดยหน่วยธนูในหอคอยแต่คงใช้เวลาไม่นานกว่าพวกเขาจะมาถึงที่นี่ได้ “
” นานแค่ไหนกว่าพวกนั้นจะมาถึงที่นี่ ? ” – เดฟถาม
” อย่างมากก็ 2ชั่วโมง “
เดฟหันกลับไปมองที่วิหาร เขาตรวจสอบเวลาที่เหลืออยู่ในเควสตัวเอง
มันเหลือไม่ถึง 2 ชั่วโมง พวกผู้เล่นคงมากันไม่ทันและฉันก็ปลอดภัยแล้ว
เดฟส่ายหน้า เขาไม่ต้องกังวลอะไร
” Delvina ฉันจะหาหน่วยที่เธอให้ฉันได้ที่ไหน ? “
” เรียก Death Knight ของนายออกมาและพวกมันจะกลายเป็นลูกน้องที่นายอัญเชิญมา “
เดฟพยักหน้า
ในหน้าจอนั้นเขาเห็นไอคอน Death Knight 20 ตัว พวกมันใส่เกราะสีดำและมีรูปร่างเป็นมนุษย์ยกเว้นแค่ตาสีเขียวของมันที่ส่องแสงผ่านรูตรงตาออกมา
ที่หน้าจอบอกว่ามันเลเวล 400 ทั้งหมด แต่ละตัวนั้นมีลูกน้อง 1,000 ตัว
เดฟเรียก Death Knight ทั้ง 20 ตัวออกมาดูใกล้ๆ
เขารู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมกับการมีลูกน้องที่แข็งแกร่งแต่ถึงยังไงมันก็ยังทำให้เขาต้องขนลุก
Death Knight มากกว่า 80 ตัวที่ถูกส่งไปหยุดผู้เล่นที่เข้ามา ด้วยการที่มีอันเดตกว่า 20,000 ตัวคอยช่วย เขามั่นใจว่าพวกผู้เล่นคงทำให้เควสของเขาล้มเหลวไม่ได้
” ข่าวร้าย ! ” -Lone Arrow ขัดขึ้นมา
” อะไร ? “
” พวกนั้นใช้สกิลสืบทอด อันเดตหนวดหน้าตายลงเรื่อยๆและผู้เล่นจะมาถึงที่นี่ในอีก 1 ชั่วโมง “
” เหี้ยเอ้ยยยยยย ! “
Delvina เองตกใจกับข่าวนี้และได้สั่งการลูกน้องของเธอให้เตรียมการป้องกัน
” Delvina ถ้าเรารอพวกมนุษย์มาที่นี่ พวกนั้นจะจัดการเราได้ในเวลาไม่นาน ที่เดียวที่เราอาจจะยื้อพวกนั้นไว้ได้คือสะพานที่ข้ามแม่น้ำลาวา “
” ก็จริง ฉันได้สั่งให้หน่วยหน้าถอยไปที่สะพานแล้ว พวกเขาจะยืนอยู่ที่แม่น้ำลาวา มันน่าจะถ่วงเวลาพวกมนุษย์ได้บ้าง แต่ผู้ใช้การสืบทอดนั้นยากที่จะหยุดได้ “
” เราไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกเขา แค่ถ่วงเวลาเอาไว้ เมื่อกองทัพเสริมมาถึง พวกนั้นก็จะกำจัดผู้บุกรุกออกไปเอง “
เดฟสั่งการแยกกองกำลังของเขา เขาตั้งใจจะเอา Death Knights 10 ตัวและทีมของเขาไปที่สะพานเพื่อยื้อผู้เล่นคนอื่น อีก 10 ตัวจะอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันวิหารและเป็นกองกำลังเสริมหากจำเป็นต้องใช้
เมื่อสั่งให้ Death Knights ทั้ง 10 ตัวตามเขามา เขาก็เริ่มเดินหน้าตามอุโมงค์ที่นำไปสู่แม่น้ำลาวาและสะพานนั่น
Lone Arrow รีบตามเดฟไปด้วย
” นายจะไปไหน ? “
” ไม่เห็นหรือไง ? ฉันอยากเข้าไปดูใกล้ๆ “
” นายก็รู้ไม่ใช่เหรอไงว่าเราน่ะเลเวลต่ำที่สุดในดันเจี้ยนโลกนี้แล้ว ? “
” ไม่ต้องกังวล Lone Arrow ถ้ามันเกินมือเรา เราก็ค่อยถอยกลับมาที่นี่ “- เดฟยิ้มให้กับเธออย่างมั่นใจ
Chapter 77:ฆ่าหัวหน้ากิลด์!
เดฟได้สั่งการให้ Death Knight ที่ได้มาเดินหน้าด้วยความเร็วเต็มที่เพื่อไปดูแลที่สะพาน พวกนั้นเดินหน้าไปพร้อมกับอันเดตสิบตัวเดิมและลูกน้องของอันเดตทั้งสิบ – ” ฉันไม่คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดี ” – Lone Arrow พูดขึ้นมา
” ฉันบอกเธอแล้ว ฉันไม่ได้เอาตัวเองไปเสี่ยง ฉันมีเควสที่ห้ามล็อคเอาท์ออกไปหรือห้ามหนีจากการต่อสู้ มันอาจจะถือว่าเป็นการหนีถ้ารออยู่ที่นี่ ” – เดฟ พูดขึ้นมา
คำพูดของเขานั้นไมเข้ากับการกระทำเดฟดูเหมือนเด็กน้อยในวันคริสมาสต์ที่น่ารำคาญซึ่งเดินไปเดินมารอบโต๊ะ
ตอนที่พวกเขาไปถึงปากถ้ำใกล้กับแม่น้ำลาวา พวกเขาก็ได้ยินเสียงเหล็กที่ดังกระทบกันและเสียงตะโกนของผู้คน พวกเดฟยืนอยู่ที่ปากถ้ำปรับตัวเข้ากับความร้อนที่เข้ามาและกลิ่นเหม็นไม้จากลาวา จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆเดินไปที่สะพานอย่างระมัดระวัง
ตรงหน้าสะพานนั้นคือพื้นที่เปิดขนาดใหญ่ที่ซึ่งมีอันเดตนับพันที่คอยขวางที่นั่นเอาไว้ กองทัพอันเดตพากันหลีกทางให้กับเดฟและพวก
แสงและการระเบิดส่องประกายขึ้นมาที่ใจกลางกลุ่มซึ่งอยู่ส่วนที่ไกลสุดจากถ้ำข้างๆกับสะพานที่แนวหน้า
ผู้เล่นได้เปรียบในทุกวินาทีที่ผ่านไปและทำให้พวกอันเดตตายราวกกับหญ้าที่ล้มตายไป
เดฟเห็นแนวหน้าได้ชัดเจนจากตำแหน่งของเขา
ชายในเกราะชมพูเดินหน้าเข้ามาพร้อมกับรับมือกับ Death Knight สองตัวเพียงลำพัง
ทุกครั้งที่เขาโดนโจมตี แขนของเขาจะเด้งผลักพวกนั้นออกไปซึ่งทำให้เขาสามารถล่อ Death Knight ได้ง่ายๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้รับการโจมตี ตัวของเขาจะงออย่างกับลูกโป่งที่ทำการลดดาเมจไปด้วยได้
” นั่นคือ Valentine ! ” – Lone Arrow พูดขึ้นมา -” เขามีการสืบทอดคลาส A การสืบทอดยางลบ เขาทนรับดาเมจมหาศาลได้โดยรับผลจากมันเพียงเล็กน้อย การสืบทอดด้านการป้องกันที่ยอดเยี่ยม ” – ตาของเธอเป็นประกายราวกับว่ากำลังมองดูดาราอยู่
ข้างๆนั้นมีชายคนหนึ่งที่ทำการโจมตีโดยไม่สนใจใคร
เขาถือขวานเล่มใหญ่ในเกราะดำ เขามีรัศมีสีขาวรอบตัวซึ่งคอยทำดาเมจใส่อันเดตอยู่เรื่อยๆ ทุกการโจมตีจากเขานั้นจะทำดาเมจมหาศาล
มีภาพนักรบยืนอยู่ด้านหลังเขาที่สูงเกือบ 10 ม. ทำการเลียนแบบการโจมตีของเขาทุกครั้งโดยทำดาเมจแบบกระจายขึ้นมา
” คนที่มีการสืบทอดคลาส S Warlord ” – เดฟพูดขึ้น
เมื่อมองดูสถานการณ์โดยรอบ เดฟก็เห็นว่าผู้เล่นนั้นได้เปรียบและกองกำลังเสริมที่มาจากด้านหลังจะช่วยพวกเขาในการสร้างเส้นทางสู่วิหารได้ในเวลาไม่นาน
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น อาณาเขตอันดตก็จะถูกยึดไปโดยผู้เล่รและเดฟก็ต้องโดนฆ่าอย่างไม่ต้องสงสัย
Delvina แสดงสีหน้าจริงจังออกมา
” บริวารของ Undead King เราไม่อาจจะปล่อยให้ผู้บุกรุกยึดครองดินแดนของเราได้ ! สู้เพื่อสิ่งที่เป็นของเรา แม้แต่ความตายสำหรับราชาก็จะได้รับรางวัล ! ” – Delvina คำรามออกมาพร้อมกับแส้เลือดที่โผล่เข้ามาในมือ
{Battle Cry : +5% ดาเมจเป็นเวลา 20 นาที ดาเมจที่ได้รับ -5%}
” นี่เป็นบอส ! ” – Valentine พูดขึ้นมา -“ถอยกลับไปด้านหลัง ! สลับกับ Heaven’s Dawn “
พวกผู้เล่นที่แนวหน้ารีบถอยทันที
Heaven’s Dawn มีแทงค์และเบอร์เซิคเกอร์มาที่สุดในการโจมตีครั้งนี้ หากสู้กับบอสแล้ว พวกเขาถือว่าเหมาะที่สุดที่จะทำการฆ่าบอสได้ง่ายกว่าเดิม ตามคำสั่งของ Valentine พวกเขาได้เปลี่ยนตำแหน่งกันและ Heaven’s Dawn ก็ได้ขึ้นมาที่แนวหน้าแทน
พวกเขามีเลเวลสูงกว่า อุปกรณ์ที่ดีกว่าและเมื่อมองไปที่พวกนั้น พวกนั้นก็ฟื้นฟูเลือดมาจนเต็มและแข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับบอสอย่าง Delvina ได้
” เรื่องมันคงยุ่งเหยิงน่าดู ” – เดฟพูด
แม้ว่าจะพูดแบบนั้นแต่เดฟก็ไม่ได้มีท่าทีจะถอย
เดฟสั่งการให้ Death Knight สองตัวใช้ลูกน้อง 100 ตัวของมัน – ” แกกับแก เอาลูกน้องไปช่วย Delvina อย่าให้ใครผ่านเธอไปได้ ถ้าผู้เล่นเข้ามาในระยะความโกรธของเธอ ให้โจมตีพวกนั้นจากด้านข้าง “
” นายตั้งใจจะทำอะไร ? ” – Lone Arrow ถาม
” ผู้เล่นจะพยายามล่อ Delvina ด้วยการสลับการดึงความโกรธ ถ้าฉันปล่อยให้พวกเขาทำแบบนั้น พวกเขาก็จะฆ่าบอสได้และต่อมาคงเป็นเราที่ต้องตาย ถ้าฉันจัดการผู้เล่นที่คอยดึงค่าความโกรธของบอส บอสก็จะโจมตีแบบสุ่มซึ่งจะเป็นการทำลายพวกผู้เล่นไป ” – เดฟตอบกลับ
” พวกนาย ” – เดฟชี้ไปที่ Death Knight 8 ตัวที่เหลือ
” เอานักเวทย์กับนักธนูทั้งหมดของนายออกมาและพวกโจมตีไกลด้วย ให้พวกนั้นไปโจมตีที่แนวหลังของผู้เล่น อย่าให้พวกนั้นฮีลแนวหน้าได้และให้นักเวทย์ใช้เวทย์ที่ทำให้แนวหน้าอ่อนแอลงด้วย ” – เดฟเริ่มจัดกองทัพอันเดต
Death Knight ทั้ง 8 ตัวไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด พวกมันเรียกลูกน้องโจมตีไกลของตัวเองออกมาและพาพวกนั้นเดินหน้าตามคำสั่งของเดฟ
” ฉันควรจะสู้ด้วย ” – Lone Arrow พูดขึ้น
” อย่าฆ่าตัวตายเลย เมื่อเธอโจมตี เธอจะถูกนับว่าเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน เธอไม่ใช่อันเดตและถ้าเธอตาย เธอก็จะไปเกิดใหม่ด้านนอกเขตดันเจี้ยนโลก ” – เดฟเตือน Lone Arrow
” ไม่ต้องกังวล ถ้ามันดูหนักหนาขึ้นมา ฉันจะหนีออกมาและกลับมาที่นี่ ” – เธอพูดขึ้น
” ได้ ดูแลตัวเองด้วย ” – เดฟพูดแล้วเดินไปทางแนวหน้า
เขาไม่ได้คิดที่จะสู้ระยะใกล้กับผู้เล่นเลเวลสูงพวกนี้แต่ด้วยการใช้ {Spectral Bomb} และสกิลใหม่ของเขาอย่าง {Sword Lung} จะทำให้เขาสามารถช่วยพวกอันเดตได้บ้าง
Delvina ได้กลายเป็นภัยสำหรับพวกแนวหน้าเพราะอาจจะมีสกิลแปลกๆติดตัวที่แส้ขอเธอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอโจมตี มันจะทำให้ผู้เล่นต้องติดดีบัฟเลือดไหลเป็นเปอร์เซ็นต์และติดดีบัฟ{Grievous Wounds} ซึ่งจะลดผลของการฮีลลง 50%
ด้วยกลุ่มอันเดตที่ทำการโจมตีฮีลเลอร์ที่แนวหลัง พวกแนวหน้าจึงพากันล้มตายกันอย่างรวดเร็ว
” นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ! ฉันอยากได้ฮีล ! ” – แทงค์ที่ตอนนี้กำลังรับมือกับบอสอยู่ตะโกนขึ้นมาตอนที่ตัวเองใกล้ตาย
” ให้แทงค์เพิ่มค่าความโกรธตัวเองไว้ ! เราใช้วิธีสลับไม่ได้ ! ” – ชายที่สวมชุดหนังและขวานได้ตะโกนออกมา
เขายกขวานตัวเองขึ้นและเริ่มเพิ่มมานาใส่ขวาน เขากำลังชาร์จสกิลอยู่
ชายคนนี้มีออร่าของการเปลี่ยนร่างจากการสืบทอดของเทพนักฆ่าป่าเถื่อน
ร่างกายของเขานั้นมีพลังและรอยสักปรากฏขึ้นมารอบตัว
” นี่คือ Wan Yi หัวหน้ากิลด์ Heaven’s Dawn …..” – เดฟพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็ได้แอบใช้{Spectral Bomb} ไปใส่ Wan Yi
” นี่น่าจะทำให้เขาแปลกใจ “
{-0}
ระเบิดนี้ไม่ได้ทำดาเมจอะไรกับผู้เล่นเลเวลสูงแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เซและยกเลิกการโจมตีได้ด้วย
” เหี้ย ! สกิลนี้ ! ” – Wan Yi มองไปรอบๆและเห็นเดฟที่เพิ่งร่ายสกิลเสร็จ
ใจกลางฝูงอันเดตจำนวนมาก มันคงยากที่จะเห็นเดฟแต่ตอนนี้เมื่อเขาโจมตี Wan Yi เขาก็ได้เปิดเผยตำแหน่งตคัวเอง
Wan Yi ยิ้มและพุ่งเข้าหาเดฟโดยไม่สนใจบอสที่บ้าคลั่งอยู่
การฆ่าบอสอาจจะรออีกหน่อยได้ แต่การฆ่าอันเดตกระจอกงอกง่อยที่จะทองเป็นหมื่นและสกิลยูนีคอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
มือขวาของ Wan Yi เป็นคนมองสถานการณ์โดยรอบได้ดี ตอนที่เขาเห็น Wan YYi ไม่ได้สนใจขบวนทัพและพุ่งไปหา เดฟเขาก็ลนลานขึ้นคมาทันที
” นี่นายทำบ้าอะไร กลับมานี่ ! ” – เขาตะโกนออกมาแต่หัวหน้ากิลด์นั้นไม่ตอบกลับ เขาพุ่งไปใจกลางกองทัพศัตรูและทำลายขบวนทัพอันเดต
เดฟยิ้มออกมากับผู้เล่นที่โง่เง่าแบบนี้
ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเลือดของ Wan Yi ก็ลดลงต่ำกว่าครึ่ง
แม้ว่าจะใช้การเปลี่ยนร่างอยู่แต่ก็ไม่อาจจะทนการโจมตีเป็นพันจากด้านข้างได้
Wan Yi แค่ต้องโจมตีเดฟเพียงทีเดียวเพื่อฆ่าอันเดตผู้โด่งดัง แม้ว่าเขาจะต้องโดนเตะออกจากดันเจี้ยนโลกแต่มันก็ยังถือว่าคุ้ม
แต่เดฟนั้นไมได้โง่ขนาดนั้น เขาถอยกลับมาบังคับให้ผู้เล่นไล่ตามเขาไกลต่อไปอีกซึ่งทำให้สถานการณ์สำหรับอีกฝ่ายแย่ลงไปด้วย
มือขวาของ Heaven’s Dawn เริ่มหงุดหงิดและสั่งการปาร์ตี้ให้ตาม Wan Yi ไปเพื่อช่วยอีกฝ่ายเพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่มีการสืบทอดคลาส S ที่จำเป็นในดันเจี้ยนโลกนี้
” มานี่มาไอ้หนูสกปรก! ” – Wan Yi ตะโกนออกมาโดยใช้สกิลจัดการระเบิดอันเดตที่ล้อมรอบตัวเขาไว้
” จับให้ได้สิถ้านายทำได้ ” – เดฟตอบกลับ
Wan Yi มองไปรอบๆและเห็นว่าด้านหลังเขาว่าช่องว่างที่เขาสร้างขึ้นมาจากสกิลเมื่อกี้นี้มีอันเดตแห่เข้ามาเติมเต็มพวกเดิม
” บัดซบ ! ” – เขาหันกลับมาพยายามหาทางกลับไป เขารู้ว่าถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อไป ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่อาจจะฝ่าวงล้อมไปได้อีกแน่
” ไก่จริงๆเลย นายฆ่าคนกากๆแบบฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้นายเลือกที่จะถอยด้วย เอานี้ไปกินซะ ! ” – เดฟ พูดขึ้นและโยน {Spectral Ball} ใส่ที่หลังหัว Wan Yi
{-0}
มันมีแต่ทำให้ Wan Yi หงุดงิด เขาไม่สนจเส้นทางที่จะทำการหนี แม้ว่าจะเห็นพวกอันเดตที่พุ่งเข้ามาแต่เขาก็เลือกที่จะพุ่งเข้าใส่ เดฟ
เลือดของ Wan Yi ลดลงเร็วกว่าเดิมจากการโจมตีทั้งหมดจากนักธนู, Death Knight และดาบจากพวกโจมตีใกล้ มันทำให้เลือดเขาลดมาจนถึงจุดวิกฤตแต่เขาแค่ต้องโจมตี เดฟ เพียงครั้งเดียวเพื่อจบเรื่องนี้
ความโลภเป็นภัยต่อคน
” เอานี่ไปกินซะ ! ” – Wan Yi คำรามออกมา
เงาของหมีได้ปรากฏขึ้นด้านหลัง Wan Yi แล้วพุ่งตะปบเดฟ
{Bastion}
เดฟได้ใช้สกิลใหม่ที่เพิ่งได้มากันการโจมตีของอีกฝ่ายเอาไว้
แสงได้ห่อหุ้มตัวเดฟเอาไว้ ในเวลาเดียวกันมันก็ทำให้เขาขยับไม่ได้ สกิลนี้จะทำให้เป็นอมตะ 3 วินาทีแต่เดฟก็ไม่อาจจะโจมตีได้
Wan Yi ได้ใช้โอกาสนั้นเข้ามาใกล้ เขามั่นใจว่าตอนที่ผลของสกิลนี้จบลง เขาก็สามารถจบชีวต เดฟ ได้แม้ว่าเขาจะต้องตายหลังจากนั้นแต่มันก็คุ้ม
” ตายซะ ! ” – Wan Yi ตะโกนขึ้นมาแล้วเหวี่ยงขวานเข้าโจมตีต้องการผ่าเดฟเป็นสองส่วน
เดฟยิ้มออกมา
{Rising Strike!}
Wan Yi โจมตีได้แต่อากาศและชีวิตเขาก็ต้องจบลงด้วยการโจมตีจากอันเดตรอบๆ
[ +150 คะแนน ! ]
” คนที่ตายมีการสืบทอดคลาส S ” – เดฟมองไปยังผู้เล่นรอบๆแล้วพูดขึ้น — ” ยังเหลืออีกตั้งเยอะ “
Chapter 78:พลังของเทพสงคราม!
” Wan Yi เพิ่งถูกจัดการ เขาไปเกิดใหม่แล้ว ! “- Valentineตะโกนขึ้นมา
” ไอ้โง่เอ้ย ! ” – Warlord ตะโกนด่า
หัวหน้ากิลด์ที่มีการสืบทอดคลาส S ตายนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นี่ไม่ต้องคิดถึงการลงดันเจี้ยนโลกด้วยกันหรอก นี่เป็นบทลงโทษที่ไม่มีเหตุผลดีๆและมีแต่ทำให้มันแย่ลงเรื่อยๆ
แม้ว่าจะมีคนเยอะและจัดแผนมาอย่างดีแต่ก็ยังเสียคนไปจำนวนมากแต่หัวหน้ากิดล์นั้นต้องรับผิดชอบในการรักษาชีวิตตัวเองเพื่อกำลังใจและทำการสั่งการ มันเหมือนกับการเล่นหมากรุกที่ต้องเก็บคิงเอาไว้
” Zhang Shi เราต้องการกำลังเสริมที่แนวหน้า ! ” – Warlord ตะโกน
” ฉันไม่มีคนจะส่งไปให้นายแล้ว ฉันใช้คนทั้งหมดในการจัดการอันเดตที่หอคอยไปแล้ว นายคงไม่อยากให้พวกมันเข้ามาจัดการนายจากด้านหลังหรอก ใช่มั้ย ? ” – คำตอบนี้ดูจริงใจและเหมือนกับเยาะเย้ยไปในตัว
” เหี้ย เราต้องพึ่งตัวเองแล้ว ” – Warlord พูดขึ้น
Valentine ส่งข้อความหา Warlord – ” มันไร้ประโยชน์ที่จะไปขอคนจากเขา Warlord เขาน่ะรอฉวยโอกาสอยู่ เขาจะอาศัยตอนที่คนเราตายแล้วค่อยขึ้นมา “
“ทำไมเขาต้องเสี่ยงกับการเสียเควสไปด้วย ? “
” ด้วยการที่ Wan Yi โดนจัดการไป Heaven’s Dawn จะไร้ผู้นำ รองหัวหน้ากิลด์ Cao Cui มีความสามารถแต่อำนาจและสิทธิของเขาน่ะมีจำกัดหากไม่มีหัวหน้ากิดล์อยู่ด้วย พวก Blood Rage อยู่ในโซนปลอดภัยกว่าและกำลังสู้กับพวกนักธนูในหอคอยโดยมีการสูญเสียที่น้อย สุดท้ายกิลด์ของเขาก็จะเหลือคนเยอะที่สุด “
” บ้าเอ้ย นี่เขากะปาดหน้าเราเอาดื้อๆเลยหรือไง ! “
Valentine ขัดขึ้นมาด้วยการตะโกนใส่อันเดตที่พยายามจะโจมตีเขา หลังจากที่ชนอันเดตลงไปที่ลาวา เขาก็ได้กลับมาพูดคุยต่อด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น
” มันไม่มีเวลามาเล่นแล้ว เราต้องบังคับบอส ฉันมีแผนสำหรับหลังจากนี้ตอนที่พวก Blood Rage จะเดินหน้าขึ้นมา “
” สกิลเปลี่ยนร่างนายเหลือกี่นาที ? ” – Warlord ถาม
” เราเปลี่ยนร่างพร้อมกัน ดังนั้นเราจะเหลือเวลาประมาณ 57 นาที “
” นั่นเพียงพอให้เราจัดการบอสได้ จากนั้นเราค่อยจัดการพวกลูกน้องและทำตามแผน เท่าที่ฉันคิด หลังจากความโง่ของ Wan Yi และแผนบัดซบของ Zhang Shi ถูกจัดการแล้ว รางวัลทั้งหมดก็จะเป็นของเรา “
” เห็นด้วย งั้นก็ลงมือกันเลย ” – Valentine พูดขึ้น
..
Delvina จับตาดูการต่อสู้อยู่ที่สะพานและส่งกำลังเสริมเข้าไปเมื่อจำเป็น อันเดตที่พุ่งเข้าไปทำการป้องกันสะพานเอาไว้มีแต่ทำให้พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยเลือด
ความต่างระหว่างสองฝั่งนั้นชัดเจนไม่ใช่แค่ความต่างด้านรูปลักษณ์
อันเดตทำการสู้โดยคำรามบ้างเป็นบางครั้ง นอกจากเสียงอาวุธและเสียงของใบมีดที่กระทบกับเกราะแล้วผ่าลงไปที่เนื้อแล้วไม่มีเสียงอย่างอื่นเลย
ผู้เล่นนั้นกลับกัน พวกเขาต่างก็พากันตะโกน, กรีดร้องและด่าอกมา แน่นอนว่านั่นรวมถึงคำพูดที่ต้องตะโกนออกมาตอนที่ใช้สกิลด้วย
การใช้กลยุทธให้ตัวโจมตีไกลจัดการฮีลเลอร์นั้นเพิ่มจำนวนการตายของผู้เล่นได้อย่างมาก Delvina ค่อยได้เปรียบขึ้นมาเพราะเดฟ เธอเริ่มผลักดันผู้เล่นกลับไปได้บ้าง
หลังจากที่ Wan Yi ตาย Heaven’s Dawn ก็แย่ลงไปทันตา อัตราการตายของพวกเขาสูงที่สุดในบรรดาสามกิลด์และเมื่อมี่การสั่งการของผู้นำ แนวหน้านั้นจึงเริ่มไม่เป็นระบบกันมากขึ้น
แทงค์และตัวทำดาเมจของ Devastators คอยสลับกันที่สะพานก่อนหน้านี้ได้จับกลุ่มกันใหม่เป็นแนวกั้นที่สะพาน ภายใต้การสั่งการของ Valentine และ Warlord ขบวนที่ตั้งขึ้นมาก็เริ่มเดินหน้ากลับไปที่สะพานเข้าหา Delvina พวกเขาเพิ่มความเร็วในการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องจนมีความเร็วสูงสุดพร้อมกับเสียงโห่ร้อง
กองทัพของ Heaven’s Dawn อยู่ที่สะพานซึ่งตอนนี้ดูไม่เป็นระบบเอาซะเลย พวกเขาต้องหลีกทางให้กับกองทัพ Devastators ที่พุ่งเข้ามา บางคนตกลงไปที่ลาวาเลยก็มี
” นี่ Devastators ทำบ้าอะไร ! ” – ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาหลังจากที่เพื่อนตกสะพานไป
แต่ไม่มีใครสักคนที่ตอบกลับ
พวกนั้นยังคงพุ่งเข้าใส่บอสโดยไม่สนคนอื่นๆ
” หืม มันอาจจะได้ผล ” – เดฟพึมพำกับตัวเอง
Lone Arrow โผล่มาข้างๆเดฟด้วย {Blink} ของเธอ
” นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ! ” – เธอพูดขึ้น
” Wan Yi ตายแล้ว ตอนี้ Devastators กำลังพุ่งเข้าใส่ Delvina “
” พวกเขาพยายามบังคับบอส นี่มันโง่ชะมัด พวกเขาจะเสียคนไปเยอะ “
” จริงแต่มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเรา ฉันจะส่ง Death Knight ไปช่วย Delvina เพื่อจัดการกับ Devastators ฉันจะกลับไปที่นั่นด้วยและเธอยู่ที่นี่จนกว่า {Blink} จะคูลดาวน์เสร็จ “
Lone Arrow เม้มปาก – ” จ้า จ้า ฉันจะอยู่ที่นี่ ส่วนนายไปสนุกเถอะ “
Death Knight ภายใต้คำสั่งของเดฟ นั้นยังคงอยู่ในสภาพดีอยู่แต่พวกมันไม่เพียงพอที่จะหยุดทัพผู้เล่นในการต่อสู้แบบเผชิญหน้าได้
เดฟต้องการอาศัยช่วงที่ Delvina โมตีผู้เล่นเพื่อให้ได้เปรียบอีกครั้ง
Delvina มองไปที่ผู้เล่นที่พุ่งเข้ามา จากนั้นก็ได้โบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องมารวมตัวตรงหน้าเธอกลายเป็นทัพรูปสี่เหลี่ยม
อันเดตแนวหน้าตอนนี้เป็นกำแพงด้วยโล่ที่ยกขึ้นมาพร้อมกับหอกที่ชี้ออกจากช่องว่างระหว่างโล่ พวกนั้นเตรียมตัวที่จะรับการโจมตีอันหนักหน่วง
พวกผู้เล่นที่พุ่งเข้ามาปะทะกับแนวโล่จนทำให้เกิดเสียงระเบิดดังก้องพร้อมทั้งเสียงร้องต่างๆ ร่างกายหลายร่างได้กระเด็นไปจากการปะทะครั้งนี้ คนที่โชคร้ายกระเด็นเข้าไปถึงกองทัพอันเดตซึ่งมีแต่จะโดนฆ่าตายโดยเหล่าอันเดต
ด้วยผลจากความสับสนกับการพุ่งปะทะรวมกับผลความกลัวและความเจ็บจริงที่เพิ่มขึ้นมานี้ ที่ใจกลางสะพานตอนนี้ถือว่าเป็นนรกเลยก็ว่าได้
พวก Devastators ได้แสดงพลังและการร่วมมือกันที่น่าประทับใจออกมาแต่พวกทัพอันเดตยังรับมือไหวและ Devastators ตอนนี้ถูกถูกผลักดันกลับไป หอกของเหล่าอันเดตทิ่มแทงใส่ผู้เล่นและโล่ที่ตั้งขึ้นมานั้นก็เหมือนกับกำแพงเหล็กที่กันการเดินหน้าของผู้เล่นเอาไว้
Delvina ทำการโจมตีผู้เล่นที่เข้ามา ทุกการโจมตีของเธอนั้นจะโจมตีผู้เล่นได้ 4-5 คนลดเลือดพวกนั้นพร้อมกับดีบัฟ {Grievous Wounds} ที่ลดผลการฮีลลง 50% Death Knight ของเธอเข้าโจมตีผู้เล่นติดดีบัพฆ่าพวกนั้นก่อนที่จะได้ลบดีบัพทิ้งและได้รับการฮีล
อยู่ๆก็มีแสงประทุขึ้นมาในหมู่ผู้เล่น Devastators และภาพของสกิลสืบทอดของ Warlord ก็ได้โผล่ขึ้นมาพร้อมกับคำรามราวกับเทพสงราม นี่คือพลังเต็มที่ของการสืบทอดคลาส S ที่แสดงออกมา
Warlord ตะโกนออกมา – ” หมัดพระเจ้า ! ” – และโจมตีลงไปที่พื้นด้วยหมัดของเขา
คลื่นดินขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่พวกอันเดตจากจุดที่หมัดได้ต่อยลงไปกว้างพอๆกับตัวสะพาน กำปั้นสีทองนั้นครอบคลุมไปด้วยลวดลายและรูนเทพ
” เหี้ยเอ้ย ! “- เดฟมองไปยังการแสดงพลังของการสืบทอดคลาส S แล้วก็ต้องอึ้ง
กำปั้นพระเจ้าได้อัดเข้าใส่ทัพอันเดตแผ่ออกไปราวกับคลื่นระเบิดส่งผลไปไกลกว่าร้อยเมตรทำให้พวกอันเดตต่างก็พากันตกลงไปในลาวา
แค่สกิลเดียว Warlord ก็จัดการแนวโล่และฆ่า Death Knight ไปได้หลายสิบตัวและทำให้ Delvina เซด้วย
” ฆ่า ! ” – Warlord ตะโกนขึ้นมา
พวกผู้เล่นพุ่งเข้าไปจากช่องว่างที่เกิดขึ้นในแนวทัพอันเดต
เหี้ย สกิลนี่มันโหดชะมัด ฉันต้องไปช่วย Delvina ไม่งั้นคงจบเห่แน่ๆ
Delvina อยู่ที่ใจกลางสะพาน เธอสมกับเป็นบอสที่กันผู้เล่นไม่ให้เดินหน้าต่อและกลายเป็นเป้าการโจมตีของผู้เล่นนับร้อยๆคน
เดฟสั่งการ Death Knight ของเขาให้ไปจัดการฮีลเลอร์ที่แนวหลัง จากนั้นเขาก็ได้เอามือลูบหนวดและรวบรวมความคิดหาทางจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้และการทำเควสคลาส S ให้เสร็จ
Valentine เห็นท่าทีแปลกของอันเดตกลุ่มเล็กๆ Death Knights ที่เล็งไปที่ฮีลเลอร์แนวหลัง
” Whoo-Kungson ! นายกับ Heavy-Hitters ไปจัดการพกว Death Knights ที่โจมตีฮีลเลอร์ของเรา เร็วเข้า ไป ไป ไป ! “
เดฟเห็นการ์เดี้ยนเกราะชมพูสั่งการและเขาก็ยิ้มออกมา
Valentine ขนลุกขึ้นมาและใช้โล่กันการโจมตีจาก Death Knights สองตัว เขาจัดการตอบโต้ด้วยการสกิลฟาดโล่แล้วใช้ช่วงนั้นมองไปรอบๆ สายตาของเขามองมาที่อันเดตหนวดที่โดดเด่นจากพวกที่เหลือ
โดยทั่วไปแล้ว Valentine ไม่ได้หมดความมั่นใจและความเย็นชาภายใต้ความกดดันนี้แต่บางอย่างในตอนนี้มันพิเศษออกไป อันเดตตัวนี้กวนใจเขาเหมือนกับมีลางสังหรณ์ที่เตือนเขาอยู่แต่เขายังไม่รู้ถึงมัน อันเดตหนวดนี้ใส่เกราะสีดำซึ่งมันยังดงดูฉีกขาดและพังโดยมันเหนือกว่าเกราะสนิมที่อันเดตทั่วไปใส่
ยิ่งกว่านั้นคืออันเดตหนวดก็มองมาที่เขาพร้อมกับยิ้มและลูบหนวดของตัวเองด้วย
Chapter 79:อันเดตหนวดตาย ?
” งั้นคนเกราะชมพูก็เป็นคนสั่งการ ” – เดฟพึมพำกับตัวเอง
ชายคนนี้เป็นมืออาชีพ เก่งเรื่องกลยุทธ์และความเป็นผู้นำแต่ตอนนี้ฉันคิดหาทางกำจัดเขาไม่ได้
เดฟมองไปที่เวลาบนหน้าจอ 22 นาทีก่อนที่กองทัพจะมาถึงสะพานนี้
” Delvina กำลังรับมือกับผู้เล่นอยู่ พวกนั้นคงทำเควสไม่ทัน ฉันจะไปที่ด้านหลังวิหาร ตรงนี้ไม่มีอะไรที่ฉันต้องลงมือ “
{ หนึ่งใน Death Knight ของคุณโดนฆ่า }
” หือ ? มันแปลกๆแล้ว ! “
เขามองไปรอบๆและทำการรับ – ” … มันเหลืออยู่ประมาณ 9-10 ตัว “
จากนั้นก็มีความคิดที่แว๊บขึ้นมาในหัวเขา เดฟหันกลับไปและมองไปที่วิหาร
” เหี้ย ! พวกโจร ! “
” Delivina ! โจรของพวกนั้นแอบผ่านเราเข้าไปที่วิหาร ! ฉันจะกลับไป ! “
Delivina ตะโกนกลับมา – ” ไป ! กองทัพราขาใกล้มาถึงแล้ว ! “
จากนั้นเธอก็เริ่มฆ่าผู้เล่นเร็วขึ้นซึ่งดูเข้ากับความบ้าคลั่งที่เธอมี
เลือดของเธอลดลงต่ำกว่า 50% เดฟ รู้ว่าเธออาจจะยื้อไว้ไม่ไหว
เดฟ สั่งการให้ Death Knights ทั้งสิบตัวของเขาอยู่ช่วย Delvina
เขาวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่ทำด้ำพร้อมกับ Death Knights 5 ตัวผ่านทางอุโมงค์มุ่งหน้าไปที่วิหาร
ความคิดเดฟเริ่มปั่นป่วน
เขาน่าจะคิดได้และเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ ด้วย{Invisibility} และ {Stealth} โจรและนักฆ่านั้นสามารถผ่านสนามรบเข้าไปที่แนวหลังศัตรูได้รึอาจจะทำตามเป้าหมายได้
มันถือว่าเป็นโชคดีที่เขาทิ้ง Death Knights 10 ตัวอยู่ใกล้ๆธง ไม่งั้นแล้วคงเสียอาณาเขตนี้ไปโดยไม่มีคำเตือนใดๆ
ใช้เวลาไม่กี่นาทีเขาก็วิ่งมาถึงที่วิหาร
ตอนที่ไปใกล้ทางออก เขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ หัวใจเขาเต้นรัวขึ้นมาเรื่อยๆ
เดฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกตอนที่ออกจากอุโมงค์และมองไปที่วิหาร ธงของอันเดตยังอยู่ที่วิหาร
นักฆ่าเป็นร้อยล้อมวิหารเอาไว้แต่ผลการหายตัวได้หายไปแล้ว พวกนั้นถูกยื้อไว้โดยเหล่า Death Knights และกองทัพอันเดต
เมื่อเห็นอันเดตที่สู้กับผู้เล่นอยู่ เดฟก็สงสัยว่าพวกผู้เล่นฆ่า Death Knights หนึ่งตัวได้ยังไง
พวกนั้นอาจจะรุมโจมตีไปที่ Death Knight ตัวเดียวก็ได้
” ล้อมเอาไว้แล้วโจมตี ! ” – เดฟสั่งการ Death Knights 5 ตัวที่เขาเอามาจากสะพาน
Death Knight และกองทัพกำลังเดินทางมาและจะล้อมพวกผู้เล่นเอาไว้และโจมตีจากระยะไกล
จากนั้น Death Knights ที่มีลูกน้องตัวอื่นๆตามมานั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ผู้เล่น พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นเพราะความคลั่งในการปกป้องธง พวกเขาฉีกกระชากขบวนทัพของโจรจนแตกกระเจิง
เสียงของดาบปะทะกันดังก้อง เสียงตะโกนของผู้เล่นที่ตะโกนหากันพยายามรักษาความได้เปรียบเอาไว้และรับมือศัตรูชุดใหม่
ไม่กี่นาทีการต่อสู้ก็จบลง โจรคนสุดท้ายจากขวานของ Death Knight
อันเดตคำรามออกมาดังก้องเมื่อเอาชนะศัตรูได้
มันเกือบไปจริงๆ ฉันน่าจะอยู่ที่นี่ พวกผู้เล่นจะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในไม่ช้าและพวกเขาคงต้องหาทางอื่นอีก
..
ที่สะพาน ในที่สุดเลือดขีดสุดท้ายของ Delvina ก็หมดลงด้วยมือมือของ Warlord
เขามองไปที่เวลา ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 15 นาทีก่อนที่เควสจะจบ
” Valentine เราต้องรีบแล้ว ไปที่ธง ! ” – เขาพูดขึ้น
” ฉันเองก็เห็นด้วย ! “
” Devastators ! รวมกลุ่มแล้วฟื้นฟูเลือด ! “
ในตอนที่เขาพูดจบ Valentine ก็หันไปมองกิลด์ Blood Rage ที่แห่กันเข้ามาจากอุโมงค์พุ่งเข้ามาด้วยสีหน้ายินดี
” Zhang Shi จะทำอะไร ? ” – Warlord พึมพำออกมา
Valentine เบิกตากว้าง – ” Warlord ! ดูแลแนวหน้าแล้วไปที่ธงซะ ! ไป ไป ไป ! “
” Devastators ทุกคน เดินหน้าไปที่อุโมงค์เดี๋ยวนี้ ! “
Warlord ไม่ได้ลังเลเมื่อได้ยินคำพุดเพื่อน เขาเชื่อใจเพื่อนโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ
ผู้เล่นอาชีพนั้นจะไม่ตั้งคำถามในตอนที่สู้ พวกเขาไม่สนใจอันเดตที่เหลืออยู่แล้วิ่งผ่านพวกมันเข้าไปในอุโมงค์ด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่ทำได้
เมื่อมี Delvina อันเดตก็ไม่อาจจะต้านทานได้ พวกมันได้แต่เดินเตร็ดเตร่ไปทั่วอย่างไร้จุดหมายและเลือกเป้าหมายโจมตีแบบสุ่มๆ
” เกิดอะไรขึ้น Valentine ? ” – Warlord ทักมาถามในตอนที่วิ่ง
” Blood Rage สายของเราพบว่าพวกนั้นได้ให้นักฆ่าไปชิงธงแต่แผนนี้ล้มเหลว ดังนั้นพวกเขาจึงทิ้งหอคอยและส่งกองกำลังทั้งหมดให้มาแย่งธง ฉันคงไม่แปลกใจถ้าพวกนี้จะโจมตีเราด้วย “
” แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทำให้มันง่ายขึ้นสำหรับพวกนั้นหรือไง ? ถ้าเราพุ่งเข้าไป เราก็จะเสียผู้เล่นเพิ่ม เรายังไม่ทันได้ฟื้นฟูเลือดกันเลย บ้าเอ้ย ฉันเหลือเลือดแค่ 20% เอง ! “
” ตอนที่ไปถึงทางออก ฉันจะสร้างแนวป้องกันเอาไว้แล้วยื้อพวก Blood Rage นายเดินหน้าต่อด้วยกองกำลังครึ่งหนึ่งของเราไปชิงธงซะ “
” วาล นายจะรับมือกับ Zhang Shi ได้หรือเปล่า ? ” – Warlord ถาม
” 1-1 น่ะคงไม่ได้แต่ฉันทำให้เขาช้าลงได้ นายต้องจัดการกับพวกอันเดตแล้วเอาธงมา อีกอย่าง ฉันเห็นอันเดตหนวดที่สะพาน ถ้านายเอาธงมาไม่ได้ อย่างน้อยก็จัดการเขาซะ ! “
” เขาอยู่นี่ด้วยเหรอ ? ได้ เข้าใจแล้ว เขาต้องตาย “
Devastators พุ่งผ่านพวกอันเดตที่ป้องกันอุโมงค์แล้วแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่ต่อเพื่อยื้อ Blood Rage อีกกลุ่มพุ่งเข้าไปที่วิหาร
ร่างหนึ่งในชุดคลุมสีแดงเดินเข้าหาแนวป้องกันของ Devastators
” นี่มันหมายความว่ายังไง Valentine ? “
มันคือ Zhang Shi เขาสจัดการกับพวกอันเดตตรงหน้าเขาได้ง่ายๆ
” โอ้ สวัสดี Zhang Shi ยินดีที่ได้พบนายที่นี่ เราแค่คอยระวังหลังให้ นายก็ควรอยู่ด้วย อีกอย่างแล้วมีคนส่งข่าวมาบอกฉันว่านายส่งพวกโจรไปชิงธง แย่หน่อยนะที่มันล้มเหลว “
สีหน้าของ Zhang Shi เริ่มแดงกล่ำ
Valentine ส่ายหน้าเหมือนกับพ่อแม่ที่ผิดหวังตัวลูก – ” มันง่ายนะที่จะโทษว่าเป็นความผิดคนอื่นแต่ฉันคิดว่ามันคงเริ่มต้นจากผู้นำก่อน นายว่ามั้ย ? “
” งั้นนายก็รู้เรื่องแผนเรา ชัดแล้วว่ามันมีคนทรยศในหมู่พวกเรา ไม่ว่ายังไงก็ตามเราจะหาตัวมันแล้วกำจัดมันซะ “
Zhang Shi ที่ยังหน้าแดงกล่ำได้หันไปหาลูกกิลด์ตัวเอง – ” Blood Rage ! จัดการพวกนี้ ! เราทำตัวดีมามากพอแล้ว ! “
เขาหันกลับมาพร้อมกับลูกกิลด์ที่พุ่งเข้าหา Devastators ที่ป้องกันทางเข้าอยู่
‘ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายแล้ว Warlord ‘ Valentine คิดพร้อมกับเตรียมรับมือพวก Blood Rage ที่พุ่งเข้ามา
***
จากตำแหน่งของเขาที่วิหาร เดฟได้เห็นผู้เล่นของ Devastators ที่พุ่งเข้าใส่อันเดตของเขาอย่างบ้าคลั่ง
” เหี้ย นี่มันดูยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ 10 นาที เราแค่ต้องยื้อไว้ให้ได้ 10 นาที ! “
” Death Knights ตั้งแนว ! นักธนูกับนักเวทย์ ยิงได้เลย ! ” – เขาคำรามและสั่งประจำตำแหน่งอันเดตของเขา
ผู้เล่นได้พุ่งเข้ามาหาอันเดตอย่างไม่เกรงกลัวพุ่งชนเข้ากับพวก Death Knight
ที่สะพาน Delvina ได้จัดกองกำลังให้สร้างแนวป้องกันเอาไว้ เดฟพยายามเลียนแบบกลยุทธ์กำแพงโล่นี้แต่แนวป้องกันเขาก็ต้องพลังลงไปภายใต้การโจมตีของพวก Devastators
กลยุทธ์นี้ Delvina ใช้ได้ผลเพราะเธอมีข้อได้เปรียบอยู่หลายข้อ
เดฟได้คะแนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากผู้เล่นที่ตายไปด้วยฝีมือลูกน้องของเขาแต่กองทัพของเขานั้นตายไปเร็วกว่าผู้เล่น
[ หนึ่งใน Death Knight ของคุณถูกฆ่า ! ]
[ หนึ่งใน Death Knight ของคุณถูกฆ่า ! ]
[ หนึ่งใน Death Knight ของคุณถูกฆ่า ! ]
เวลานับถอยหลังลงเรื่อยๆและกองทัพของ เดฟ ยากที่จะยื้อไว้ได้
” เหี้ย ถ้าตายกันแบบนี้คงยื้อไม่ไหว ” – เดฟพึมพำหลังจากที่ลองคาดการณ์ดู
” ถอยไปที่เขตวิหารก่อน “
อันเดตค่อยๆถอยกลับมาที่วิหารและยื้อผู้เล่นที่บันไดที่นำไปสู่ทางเข้าวิหาร ด้านหลังพวกเขาเป็นประตูที่นำไปสู่ห้องโถงของวิหารที่มีธงสีเขียวปักไว้ที่ใจกลางห้อง
เสียงหนึ่งตะโกนใส่ เดฟ – ” ไอ้โครงกระดูก ! “
Warlord เห็น เดฟละกำลังฆ่าอันเดตเพื่อเปิดทางเข้ามาหาเขา
” นายต้องตายที่นี่ ! ” – Warlord ตะโกนขึ้นอีก
” เวรเอ้ย ! ” – เดฟสบถออกมาพร้อมกับรีบถอยทันที
แต่ Warlord ได้ใช้สกิลสืบทอดฆ่าอันเดตที่ขวางทางทิ้งด้วยการโจมตีแบบ AOE ทำดาเมจมหาศาล
สุดท้ายเขาก็ฝ่าแนวป้องกันสุดท้ายของ Death Knight ได้และมายืนตรงหน้า เดฟ พร้อมกับขวานในมอื, เกราะที่เต็มไปด้วยเลือดของอันเดตพร้อมกับหอบหายใจหลังจากที่โจมตีเสร็จ แต่การจะมาถึงที่นี่ได้เขาก็ต้องเสียบางอย่างไป เขาเหลือเลือดไม่ถึง 5% แต่มันก็ยังมากพอที่หัวหน้ากิลด์เลเวลสูงจะจัดการกับอันเดตระดับต่ำได้
เวลาเกือบจะหมดลงแล้ว เขาต้องการเวลาแค่ไม่กี่นาที !
เดฟไม่กล้าที่จะสั่ง Death Knight ให้หันกลับมาช่วยเขา ถ้าเขาทำแบบนั้นอันเดตที่คอยยื้อผู้เล่นอยู่จะตายไปและผู้เล่นก็จะแห่เข้ามาจัดการเขาและชิงธงไปได้
เขาต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเองแต่การโจมตีเพียงครั้งเดียวจาก Warlord ก็จบชีวิตเขาได้
” เรื่องแย่ๆจะกลายเป็นจริงแล้ว ! เหี้ยเอ้ย ! ” – เดฟสบถออกมาและโดดกลับไปที่ประตูวิหารก่อนที่จะสั่งการออกมา – ” Bud Spark คุ้มกันฉัน ! “
อันเดตระดับสูงสองตัวเข้าโจมตี Warlord อย่างไม่ลังเล
Bud พุ่งเข้าหา Warlord พยายามจัดการอีกฝ่าย
ความกล้าหาญกับการที่ Bud พุ่งเข้าใส่ Warlord นั้นสมควรได้รับเหรียญกล้าหาย โชคร้ายที่ Ghoul ระดับสูงโดนฆ่าทันทีด้วยการเหวี่ยงขวานเพียงครั้งเดียว Warlord เริ่มเดินหน้าจัดการอันเดตที่เหลือของเดฟต่อ
ตอนที่ Warlord จัดการอันเดตทุกตัวตรงหน้าได้ยกเว้นแค่เดฟ เขาก็มองมาที่อันเดตหนวดแล้วพูดขึ้น – ” ไม่มีที่ให้ซ่อนแล้ว ไม่มีที่ให้หนีแล้ว Mr.Skeletal นายน่าจะคุยกับเราตอนที่ยังมีโอกาส “
มือของเดฟสั่นเทา รัศมีสีแดงรอบตัว Warlord นั้นหมายความว่าเลือดของ Warlord นั้นเหลือน้อยไม่ถึง 5% แต่เดฟไม่ได้มีโอกาสที่จะทำดาเมจอีกฝ่ายได้เลย
นอกซะจากว่า….จะเสี่ยงแต่มันอาจจะได้ผล
เดฟวิ่งเข้าใส่ Warlord
” โง่ดีนี่ ! ” – Warlord เยาะเย้ยแล้วเหวี่ยงขวานเข้าใส่
เดฟได้ใช้ {Bastion}
ดาเมจถูกกันเอาไว้แต่ Warlord เป็นผู้เล่นมากฝีมือ เขารอและโจมตีอย่างแม่นยำตอนที่ 3 วินาทีของการเป็นอมตะหมดลง
เดฟใช้ {Vertical Strike} และหลบการโจมตี
Warlord ย่นยะระห่างด้วยการใช้ {Charge}
{Block}
เดฟกันดาเมจจากการพุ่งเข้าใส่แต่ก็ยังติดสตันท์ซึ่งทำให้เขาไม่อาจจะทำอะไรได้สกิลคล้าย {Warrior’s will} ถูกใช้ออกมาเพื่อลบสตันท์
” นายก็แค่ยื้อความตายไปได้นิดหน่อย ! “
Warlord ได้ใช้สกิลการสืบทอด {God’s Fist}
เดฟยิ้มออกมตอนที่หมัดนั้นเข้าโจมตี
ฉันซื้อเวลาที่ล้ำค่ามาได้ คนที่มีการสืบทอดจะได้เปรียบอย่างมากแต่นี่คงเจ็บน่าดู….
{-389,520}
[ คุณตาย ! ]
Chapter 80: ไปฝึกมาใหม่นะไอ้น้อง
Warlord คำรามออกมากับชัยชนะที่ได้พร้อมกับอันเดตหนวดที่หายไปภายใต้การโจมตีของเขา สุดท้ายผู้เล่นที่คนมากมายในเกมไล่ล่ามากที่สุด ผู้เล่นที่เปิดส่วนอีเวนต์ต่อไปได้ถูกฆ่าลง
มีผู้เล่นกี่คนกันที่พยายามหาตัวและฆ่าโครงกระดูกตัวนี้แต่กลับต้องตายด้วยลูกไม้ของเขา ?
แต่ Warlord ไม่ใช่หนึ่งในนั้น เขาเป็นผู้เล่นอาชีพ ผู้เล่นระดับแชมป์และหัวหน้ากิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม
Warlord หันหลับมาจากที่ที่เดฟตายมองไปที่ธง มันเป็นรางวัลที่สองจากอีเวนต์นี้ ชัยชนะจากการฆ่าอันเดตหนวดนี้มันน่าพอใจพอๆกับธงนี่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป
มันหมายความว่าดันเจี้ยนโลกเขตแรกนี้จะกลายเป็นของ Devastators ซึ่งระบบจะจัดการให้กับเขาเอง
ด้วยสิทธิของการพิชิตที่นี่ !
และ Devastators ก็สามารถตัดสินใจได้ว่าใครบ้างที่จะเข้ามาที่โลกใต้ดินได้บ้าง
มันจะมีดินแดนให้พิชิต, สมบัติที่จะได้รับมาและเกียรติยศ นี่ไม่ต้องพูดถึงการฟาร์มหา xp ในพื้นที่ที่เลเวลสูงกว่าที่อื่นในเกมตอนนี้ แค่นั้นก็เพียงพอให้ทุกกิลด์อยากที่จะแข่งขันกัน
บางอย่างทำให้เขาตะหงิดๆขึ้นมา มันราวกับว่าเขาลืมบางอย่างไปและสมองของเขาพยายามที่จะเตือนเขา
แต่มันคืออะไร ?
แม้ว่าจะตงิดใจแต่ Warlord ก็รู้สึกว่าเขากำลังรับคลื่นแห่งความสุขอยู่ อำนาจที่จะกำหนดโชคชะตาของผู้เล่นส่วนมากในเกม ไม่นานก็ไม่มีใครที่จะท้าทายอาณาเขตตะวันตกของ Devastators ได้
แต่ Warlord ก็ยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่ มันมีเสียงกระซิบในหัวที่พยายามบอกเขาบางอย่าง
จากนั้นก็มีความคิดโผล่เข้ามา แจ้งเตือนฆ่า ! เขาไม่ได้แจ้งเตือนฆ่าตอนที่โจมตีใส่โครงกระดูกนั้น !
มันเป็นความผิดพลาด ! เขาลืมไปได้ยังไง ? ที่สำคัญกว่านั้นแล้วลูกไม้นี่มันคืออะไร
ขนที่หลังคอเขาลุกชันขึ้นมา
เขาหันกลับมาและมองเห็นกรงเล็บที่ฟาดมาที่ด้านหลังเขา
เขาได้รับแจ้งเตือนที่น่ากลัวกลับมาแทน
[ คุณตาย ! ]
สายตาเขาเริ่มพร่ามั่ว สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือร่างที่ยืนอยู่บนศพของเขา
หน้าที่เหมือนมัมมี่ของโครงกระดูกได้มองมาที่เขาอย่างใจเย็นด้วยตาสีเขียวของมัน
จากนั้นแม้ว่า Warlord กำลังเปลี่ยนเป็นเศษแสงแต่เดฟกลับเปิดปากพูดขึ้นมา – ” ไปฝึกมาใหม่นะไอ้น้อง “
หน้าจอของ Warlord มืดลงไปทันที
[ คุณได้ตายในโลกใต้ดิน ]
[ คุณไม่อาจจะกลับเข้ามาในอีเวนต์นี้ได้อีก ]
[ คุณถูกห้ามเข้าออกเกมเป็นเวลา 72 ชม. ]
..
” เย้ ! ไม่ชนะก็กลับบ้านไปไอ้น้อง ! ” – เดฟถึงกับเต้นไปมา จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นก็มีภาพที่เขาไม่เคยเห็นโผล่ขึ้นมา
เดฟเยาะเย้ย Warlord ผู้เล่นเลเวลต่ำกลับไปสอนผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเกมให้ไปฝึกมาใหม่
ผู้เล่นที่เลเวลเพิ่งถึง 100 ได้เอาชนะหัวหน้ากิลด์ของ Devastators ได้ คำเยาะเย้ยนี้เหมือนกับคำท้าทาย หากดูจากสถานการณ์และเนื้อหาของการต่อสู้มาคิดแล้วมันถือว่าเป็นการเอาชนะในตำนาน บางทีอาจจะยิ่งกว่าตำนานเลยก็ว่าได้
เขายังมีวีดีโออยู่ด้วย….
ชัยชนะของเดฟและการกลับมาจากความตายนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะเปิดเผยจออกไป
มันเป็นผลจากสองสกิล
อย่างแรกคือสกิลติดตัวของอาชีพที่ส่งผลต่อสาวกของผู้ที่ตาย :
+10% ดาเมจตอนที่ใช้ดาบ
+10% ค่าการป้องกันเมื่อใช้โล่
Deny the Reaper:
เมื่อเลือดเหลือ 0 วิญญาณของ Death’s Apostle จะร่องลอย 5 วินาที ระหว่าง 5 วินาทีนี้ Death’s Apostle สามารถปฏิเสธความตายได้
เมื่อปฏิเสธความตาย Death’s Apostle จะกลับมายังตำแหน่งเดิมด้วย HP,SP และ MP ที่เหลือครึ่งหนึ่ง
หลังจากที่ปฏิเสธความตาย Death’s Apostle จะต้องตอบแทนความตายด้วยชีวิตที่เลเวลมากกว่าหรือต่ำกว่าเขา การกระทำนี้ต้องทำในเวลา 3 ชม.ของการปฏิเสธความตาย
คำเตือน – หากล้มเหลวความตายอาจจะส่งผลต่อจุดยืนของคุณและเกิดผลที่ไม่น่าพอใจตามมา
การฟื้นคืนชีพอยู่ในขอบเขตของชีวิตไม่ใช่ความตาย
Deny the Reaper ไม่ใช่การฟื้นคืนชีพแต่เป็นการปฏิเสธความตาย ดังนั้นจึงไม่มีผลที่ตามมาหรือผลจากความตายเมื่อใช้ {Deny the Reaper}
ข้อแม้ 1 : ถ้าเลือดของผู้ใช้เหลือ 0 ภายในเวลา 3 ชม.ในการใช้ {Deny the Reaper} ผู้ใช้จะถูกความตายดึงตัวไปตามปกติแต่จะเสียเลเวลของตัวละคร 10% พร้อมกับการเพิ่มเลเวลของศัตรู
ข้อแม้ 2 : ผู้ส่งสารความตายไม่ได้ข้ามแม่น้ำแห่งความตายโดยไม่มีเหตุผล ผู้ใช้ต้องชดใช้ ถ้าไม่ได้วิญญาณกลับไป งั้นทองหรือของอื่นๆก็พอรับได้ อีกอย่างแล้วต้องจ่ายค่าตอบแทนในช่วงที่วิญญาณหลุดจากตัว ( 5 วินาที )
{Deny the Reaper} ทำให้เขากลับมาจากความตายได้ ราคาของการกลับมานี้คือเลเวลจะลดลง 10 เลเวลหากเขาตายอีกครั้ง
เดฟ ได้สกิลที่สองมาจากหนังสือที่เขาได้มาหลังจากที่เขาช่วย Drahma ฆ่าบอสโลกตัวแรก Dalmadoth
{Demon’s Call : ทำดาเมจเป้าหมายโดยตรง 5% ไม่สนใจการป้องกันติดตัวใดๆ มีโอกาส 10% ที่จะใช้ได้กับบอสและ NPC คูลดาวน์ 24 ชม. ความหายาก : Unique }
และเพราะ Warlord เหลือเลือดไม่ถึง 5% สกิลนี้จึงฆ่าเขาทันที
ดาเมจโดยตรงนั้นถูกใช้ได้แม้ว่าเลเวลจะต่างกัน ไม่งั้นแล้วมันคงไม่ใช่ดาเมจโดยตรง ชัดแล้วว่ามันเป็นสกิลที่ไว้ใช้กับ PvP ได้ อีกอย่างแล้วมันยังมีโอกาสที่จะใช้ได้กับอย่างอื่นนอกจากผู้เล่นด้วย
เดฟสามารถใช้สกิลนี้และได้แต่คาดหวังแต่มันเป็นโอกาสเดียวของเขา ไพ่ตายอันเดียวที่เขามี ถ้าเขาใช้มันและ Warlord รับมือด้วยสกิลป้องกันที่กันดาเมจของ {Demon’s Call} เอาไว้ได้ งั้นทุกอย่างสำหรับเดฟก็คงจบสิ้น
ตามที่เดฟคาดการณ์มา การแสดงนี้จะสำเร็จก็เมื่อ Warlord ไม่ระวังตัวและเขาก็ทำการโจมตีจากด้านข้าง วิธีเดียวที่เขาจะทำแบบนี้คือต้องมีความมั่นใจมากพอ ให้ Warlord คิดว่าเขาฆ่าเดฟไปแล้วและได้ทุกอย่างไป
การพนันของเขาก็ต้องมีความเสี่ยง อย่างน้อยก็คือความคิดของ Warlord
ผู้เล่นกำลังฝ่าแนวป้องกันของอันเดตเข้ามา เมื่อพวกนั้นมาถึงวิหาร เขาก็คงต้องตาย
[ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! เวลาในการยึดครองดันเจี้ยนโลกหมดลงแล้ว การยึดครองของอันเดตในดันเจี้ยนโลกนั้นได้ถูกยืนยันโดยระบบ ! ]
[ กองทัพของ Undead King ได้มาถึงแล้ว ! ]
ด้านนอกประตูวิหารมีมิติที่ผันผวนเกิดเป็นประตูมิติขึ้นมา Death Knight เริ่มเดินผ่านประตูออกมา
จำนวนของมันเริ่มเพิ่มจำนวนจากพันและมากขึ้นเรื่อยๆจนพื้นดินเริ่มสั่นไหว
เดฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาทำได้ !
กองกำลังเสริมแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งส่วนล้อมวิหารเอาไว้เพื่อทำการป้องกันและอีกส่วนเดินหน้าไปที่อุโมงค์ที่นำไปสู่สะพาน
ตอนที่กองทัพสมทบมาถึงถ้ำ กองกำลังที่เหลือของ Delvina ที่ไร้ทิศทางจากการตายของเธอก็ได้รับคำสั่งอีกครั้ง พวกมันรวมกลุ่มใหม่และเริ่มทำการสู้อย่างมีประสิทธิภาพ
พวกอันเดตรวมทัพกันและผลักดันศัตรูกลับไป อันเดตจากวิหารและสะพานได้รวมตัวกันป้องกันประตูเอาไว้แล้วโมตีผู้เล่น ศัตรูที่เหลือนั้นต่างก็พ่ายแพ้ให้กับอันเดตเหมือนกับหมู่บ้านที่โดนน้ำป่าไหลท่วม
[ คุณได้ทำเควสพิเศษสำเร็จ !
คลาส S
เงื่อนไข : คุณเอาตัวรอดพร้อมกับรักษาธงเอาไว้ได้และป้องกันเขตจนกระทั่งกองทัพ Undead King มาถึง
รางวัล : เลเวล +5 ]
อีกอย่างแล้วระบบก็ยังให้รางวัลสำหรับผลงานที่เขาทำระหว่างเควสด้วย
[ ได้รับฉายา : ผู้ไม่ยอมแพ้ ตอนที่เลือดเหลือ 1%$ จะได้รับดาเมจ 0 เป็นเวลา 5 วินาที! คูลดาวน์ 1 ชม. ]
เสียงจากการต่อสู้จบลงและเดฟก็เดินออกมาจากในหมู่อันเดต
น่าแปลก เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเข้าใกล้อันเดต พวกมันจะหยุดและพยักหน้าให้กับเขา
[ เขตวาร์ปแห่งใหม่ถูกเพิ่มในแผนที่ของคุณ : Undead Legion Underworld Frontier
คุณสามารถใช้คัมภีร์วาร์ปและเดินทางมาที่นี่ได้ ]
เดฟ เดินมองหา Lone Arrow เขาขาดการติดต่อกับเธอในตอนที่สู้และท่ามกลางกองทัพอันเดต เขากังวลว่าเธอจะรอดหรือไม่ เธอจะโดนฆ่าทิ้งในเขตดันเจี้ยนโลกโดยอันเดตหรือเปล่า
หลังจากค้นหาอยู่หลายนาที เดฟก็ต้องยอมแพ้และเดินไปยังวิหารเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันหวังว่าเธอจะล็อคเอาท์ออกไป มันคงแย่ถ้าเธอตายและถูกไล่ออกจากโลกใต้ดิน
ในตอนที่เขาไปถึงวิหาร มันก็มีแจ้งเตือนกระพริบขึ้นมา
[ คุณได้ถูกอัญเชิญไปยังวังกระดูก 1 เวลาในการอัญเชิญที่จะเริ่มต้น : 3 วินาที ]
” หือ ? “
ตัวละครของเดฟหายไปและหน้าจอที่มืดลง ไม่นานก็มีแสงสว่างวาบเข้ามาในตาเขา
ตอนที่สายตากลับมาเป็นปกติ เขาก็ก้มลงมองที่เท้าตัวเอง เขายืนอยู่บนภาพวาดของนักรบและปีศาจที่กำลังต่อสู้กับปีศาจ
เดฟเงยหน้าขึ้น ภาพนี้ปกคลุมเต็มพื้นห้องโถงขนาดใหญ่ มีเสามากมายเรียงรายค้ำไว้ที่เพดาน มีมังกรและนกฟินิกส์ที่ถูกสลักเอาไว้ที่เสาพันรอบเสาจนถึงเพดาน
ที่ปลายห้องโถงนั้นมีบัลลังก์ตั้งเอาไว้ บัลลังก์นี้ทำขึ้นจากระดูกของสิ่งมีชีวิตต่างๆ กระดูกจัดเรียงกันจนผิวของบัลลังก์นี้เรียบพร้อมกับที่นั่งอีก 3-4 ที่นั่งซึ่งทำมาจากกระดูกที่ก่อตัวคล้ายกันต้นไม้สีดำ จากนั้นก็มีที่พักแขนที่ทำจากหัวกะโหลกและขาเก้าอี้ทีเป็นของจริงๆพร้อมกับกรงเล็บที่ยื่นออกมา
ที่บัลลังก์นั้นมีร่างในชุดเกราะดำนั่งเท้าคางอยู่ มืออีกข้างวางอยู่ที่หัวกะโหลกมนุษย์
เดฟเห็นแค่แสงสีฟ้าหม่นส่องประกายออกมาจากรูที่หมวกของอีกฝ่าย
[ The Undead King ]
เลเวล : ???
ระดับ : King
ขั้น : Unholy
ดาเมจ : ???
สกิล : ???
HP: ???
พลังป้องกัน : ???
คำอธิบาย : ราชาของเหล่าอันเดต….
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี้ย ? มันไม่ได้ให้คำอธิบายอะไรสักอย่างเลย แล้วตำนานเบื้องหลังมันอยู่ไหนกัน ?
ความคิดของเดฟถูกขัดโดยเสียงของราชา – ” เด็กน้อย เจ้าทำผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับข้า บอกความต้องการของเจ้ามาและข้าจะทำให้มันเป็นจริง “
หวานหมู ! ได้ไอเท็มเพิ่ม !
แต่ก่อนที่เดฟจะได้พูดอะไร ไอเท็มหน้าต่างก็ลอยออกมาจากช่องเก็บของ มันโผล่มาตรงหน้าเขาก่อนที่จะลอยเข้าไปในมือของ Undead King
[ Broken Undead-king’s Helmet ]
หลังจากที่ราชามองไปที่หมวกนั่นสักพัก เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกผิด เขามองมาที่ เดฟด้วยความเอ็นดูมากกว่าเก่า
” ดูเหมือนว่าโชคชะตาของเราจะผูกกัน เด็กน้อย ฉันยกชื่อ Kis’Shtingbrah ให้กับเจ้าและยอมรับเจ้าเป็นหนึ่งในลูกหลาน ตอนนี้งานของเจ้าคือการยืนยัน เจ้าต้องออกค้นหาเกราะของหมวกนี่ว่าอยู่ที่ไหน ตอนที่เจ้าพบมันแล้วก็แจ้งมาทันที ไปพร้อมกับคำอวยพรของข้า เด็กน้อย “
สายตาขอเดฟพร่ามัวลงอีกครั้ง
ตอนที่เขากลับมามองเห็น เขาก็ได้มองไปรอบๆและตอนนี้เขากลับมาที่จุดเกิดในดินแดนอันเดต
รอบๆตัวเขามีอันเดตระดับ Captian อยู่เป็นแสนๆตัว
[ คุณกลายเป็นมอนเตอร์ที่มีชื่อ : Kis’Shtingbrah !]
[คุณได้สิทธิดันเจี้ยนพิเศษ ! ]
มันมีตัวเลือกภารกิจอันใหม่เพิ่มเข้ามา
[รับใช้ด้วยการเฝ้าในฐานะบอสดันเจี้ยนเป็นเวลา 24 ชม. ( เลเวลของดันเจี้ยนต้องสอดคล้องกับคุณ )]
[เควสใหม่ใช้งานได้แล้ว ! ]
[เควสเนื้อเรื่อง !
ระดับ : SSS
ค้นหาเกราะของ Undead King
นี่คือเควสเนื้อเรื่องของเกม การกระทำของคุณจากภารกิจจะส่งผลต่อโลก !
หน้าที่แรก : หาตัว Andre the Forge Smith เพื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับเกราะของ Undead King ]
เดฟนิ่งไปเพราะความช็อก
” เควสเนื้อเรื่อง ” – เขาพึมพำกับตัวเองแล้วค่อยๆรวบรวมสติ
” อีกอันงั้นเหรอ ? ! บ้าไปแล้ว ! “
เขามีเควสเนื้อเรื่องอยู่อันหนึ่งแล้ว
เควสอันแรกที่เขาได้มาตอนที่ Deadra ได้บอกให้เขาฆ่า Undead King
จากนั้นงานแรกจากเควสการสืบทอดของเขาคือเขาต้องขึ้นเป็น Abyssal Knight ภายในเขตอันเดต ในตอนที่เขาทำเควสนี้อยู่เขาก็ยังทำเควสท้าทายจากการสืบทอดไปด้วย ทุกที่ล้วนแต่เป็นพื้นที่เลเวลสูง แน่นอนว่าต้องห้ามตายแม้แต่ครั้งเดียว
จากนั้นหลังจากที่เขาได้เป็น Abyssal Knight เขาก็จะได้รับภารกิจสุดท้ายจากความตาย การท้ายทายสุดท้ายในเควสการสืบทอด
และตอนนี้เขากลับได้เควสเนื้อเรื่องมาอีกอัน อันที่เขาปฏิเสธไม่ได้ด้วย อันนี้มาจาก Undead King ที่ให้เขาออกไปค้นหาเกราะเก่าๆทุกที่ในเกม
” มีงานเยอะจริงๆ ! ” – เขาบ่นออกมาแล้วส่ายหน้าสงสัยว่าเควสนี้จะทำให้เขาลำบากแค่ไหน
และจากนั้นก็มีแจ้งเตือนอีกอันโผล่ขึ้นมา
[ การท้าทายที่สองในการสืบทอดพร้อมแล้ว คุณจะเริ่มเลยหรือไม่ ? Y/N ]
อ่ะ มาถึงที่นี่ปุ๊ปก็มีงานให้ทำเลยสินะ
” ตกลง ! “
..
ในตึกหรูที่สูงที่สุดและหรูหราที่สุดในแมนฮัตตัน สาวน้อยผมม่วงคนหนึ่งกำลังหัวเราะคิกคักไปพร้อมกับอัพโหลดวิดีโอความยาวมากกว่า 12 ชม.
ชื่อวิดีโอที่อัพโหลดนี้คือ : ‘ Mr.Skeletal VS โลก ‘
Chapter 81: บทส่งท้าย V1
ไม่นานมานี้ในจักรวาลเกมจำลองมากมาย มีโลกจำลองหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมามีชื่อว่า Conquest…
ร่างหนึ่งในชุดพ่อบ้านสีดำเนคไทสีเทาจับตาดูเหตุการณ์ที่เกินจำเป็นมากเกินไปที่เขาจะสนใจและมีส่วนร่วมได้
ร่างนั้นพยักหน้าตอนที่เลือดของผู้เล่นคนหนึ่งเป็น 0 ราวกับว่าคาดการณ์ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน
ตอนนี้ระบบสามารถกลับมาสู่ความปกติและมีความวุ่นวายลดลง
ในการฉลองนั้น ร่างนั้นได้ส่งข้อความจากระบบว่า [คุณตาย !] ให้กับผู้เล่นคนนั้นพร้อมกับคำเตือนให้กับผู้เล่นไม่ให้เข้ามามีส่วนในเรื่องผิดปกตินี้อีก
ด้วยความพอใจ ร่างนั้นจึงได้หันไปสนใจเรื่องอื่น ไม่นานร่างนั้นก็เดินหน้าเข้าสู่พื้นที่ทำงานเพื่อจัดการงานต่างๆและการทำงานของระบบตามที่โค้ดได้วางเอาไว้
อยู่ๆร่างนั้นก็นิ่งไป เขายืนนิ่งตัวสั่นพร้อมกับตาที่มองไปทั่วและปากที่เริ่มขยับไปมาด้วยความโกรธ
เขากำหมัดแน่นและตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องไปทั่วระบบ – ” นี่แกทำอะไรลงไป ! ? “
ติดตามชมตอนต่อไป….
Chapter 82: ความโกรธของ Warlord!
“เหี้ยยยยยย ! บ้าเอ้ยยยยย ! เวรจริงๆ ! “
เสียงทุบกำแพงดังก้องไปทั่วอพาทเมนต์ทางตะวันตกของนิวยอร์ก เสียงทุบกำแพงนี้เริ่มขึ้นเมื่อหลายนาทีก่อน
ชายคนหนึ่งทุบไปที่พื้นห้องตัวเองราวกับสิงโตคลั่ง เขามองไปยังแคปซูลเกมที่เขาเพิ่งออกมาเมื่อตะกี้ด้วยความโกรธ การเติมเชื้อเพลิงอีกอย่างเขาไปในความโกรธนี้คือเขาไม่สามารถกลับเข้าไปในเกมได้อีกใน 24 ชม.ตามเวลาจริง
ชายคนนี้คือ Warlord หัวหน้าของกิลด์ที่แข็งแก่รงที่สุดในโลก Conquest กิลด์ Devastators หนึ่งในท็อปห้าผู้เล่นในเกม นักรบเลเวล 432
Warlord ที่ซึ่งเพิ่งถูกหยามด้วยการถูกจัดการโดยขยะเลเวล 100
มันเป็นการเหยียดหยาม
เขายอมรับได้ถ้าเขาได้ธงมาสำเร็จและได้เขตใหม่ในส่วนขยายนี้มาเป็นของ Devastators แต่นี่เขาไม่ได้ธงมา ความสูญเสียของโลกจริงกับในเกมนั้นไม่อาจจะคำนวณได้ เงินของกิลด์นั้นมาจากผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้น พวกเขาคงต้องปรึกษากันหากได้ยินถึงความล้มเหลวของเขา พวกนั้นคงต้องโทษใครสักคน Warlord คงกลายเป็นแพะรับปากหากเขายอมรับมัน
พวกเขาคงต้องคิดหาทางรับมือปัญหาที่ไม่ช้าจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่แค่ Warlor ที่ปฏิเสธว่าเขาต้องรับผิดชอบสำหรับเรื่องนี้ อย่างน้อยก็เพื่อตัวเขาเองแต่กฎของกิลด์เขียนไว้ชัดเจนและไม่อาจจะมองข้ามได้ เขาไม่เป็นตัวอย่างแย่ๆได้
Warlord หยิบโทรศัพท์และทำการโทรออกทันที
ผู้พัฒนา Conquest ต้องทำการสื่อสารระหว่างโลกจริงและโลกจำลองรวมไปถึงฟังก์ชันการทำงานต่างๆ มีหลายแอปพลิเคชั่นที่ทำการโทรออกมาจากในและนอกเกมได้ซึ่งล้วนแต่ถูกเอามาปรับใช้กับ Conquest
Warlord ได้ยินอีกฝ่ายรับสาย เขาไม่รีรอและตะโกนออกไปทันที – ” Valentine เป็นยังไงบ้าง ? “
ผู้เล่นนั้นจะได้ยินเสียงที่ขาดๆหายๆระหว่างการโทรกับโลกจริงเพราะมันมีความต่างเรื่องเวลาในเกม
Valentine ตอบกลับ ด้วยเสียงที่ฟังดูเหนื่อยล้า
” เรากำลังจะโดนจัดการ เกิดอะไรขึ้น ทำไมนายถึงโทรมาจากด้านนอก ? “
” รักษาคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่นายจะทำได้ “
” เราโดนต้อนจนมุม ไม่มีที่ให้ถอยแล้ว Warlord อันเดตแห่กันเข้ามาจากทุกทางและทุกอุโมงค์ ” เสียงลมหายใจบอง Valentine ดูหนักหน่วยซึ่งบอกผู้ฟังว่าผู้พูดนั้นพยายามที่สุดแล้ว
Warlord ได้ยินเสียงถอนหายใจสุดท้ายก่อนที่มันจะเงียบไป
ไม่นานเสียงของ Valentine ก็กลับมาซึ่งดูเครียดยิ่งกว่าเดิม – ” มันจบแล้ว ฉันเพิ่งตาย นายบอกว่านายออกมาเกิดใหม่งั้นเหรอ ? “
” ใช่ ฉันโดนเตะออกมา รอเวลากลับเข้าไปอยู่ เวลาห่านี่ ฉันอยากฆ่าคนขึ้นมาจริงๆ ! ” – Warlord ตอบกลับด้วยเสียงที่ดังขึ้น
” แต่ฉันเห็นนายเข้าไปในวิหารนิ เกิดอะไรขึ้นกับอันเดตหนวดนั่น ? “
” โอ้ ฉันฆ่ามันเขาแล้ว จากนั้นไอ้ห่านั่นก็โผล่มาด้านหลังฉันแล้วโจมตีฉันด้วยสกิลปีศาจอะไรสักอย่าง ฉันมีเลเวลเยอะกว่ามันตั้ง 200 แต่มันก็ยังฆ่าฉันได้อย่างกับฉันเป็นผู้เล่นใหม่ ” – Warlord บ่นออกมา คำพูดของเขาฟังคล้ายกับที่อันเดตหนวดได้ดูถูกเอาไว้
” ส่งวิดีโอมาให้ฉัน ฉันอยากเห็นสกิลนั่น ! ” – Valentine สั่ง เขาเป็นฝ่ายกลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดนี้
Warlord ตอบกลับไปด้วยคามโกรธ – ” บ้าเอ้ย ถ้าฉันไปเอาธงทันทีที่ฆ่าอันเดตหนวดนั่นได้ เราคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เฮงซวยแบบนี้ ไอ้ห่าอันเดตนั่น “
” มันก็แค่แพ้ครั้งเดียว Warlord ” – Valentine ขัดขึ้นมา – ” มันยังมีโอกาสอยู่—”
” นี่คือสิ่งที่นายคิดกับเรื่องเฮงซวยพวกนี้หรือไง วาล ? ! “- Warlord เถียงกลับ
” เขตนี้ยังมีอยู่ Warlord มันไม่ได้เป็นของผู้เล่นคนไหน มันยังมีโอกาสที่เราจะยึดมันมาได้ “
หน้าของ Warlord ดูเหม่อลอยไปสักพัก – ” ใช่ นายพูดถูก ผลไม้ก็ยังอยู่ที่ต้นอยู่ดี ! “
Valentine พูดต่อ – ” อีกอย่างแล้ว Blood Rage กับ Heaven’s Dawn ต่างก็ถูกจัดการก่อนเรา พวกน่าสงสาร พวกเขาไม่ได้อะไรกลับไปเลยจากการก่อกวนเราในโลกใต้ดิน เรายังมีสัญญากับพวกนั้นอยู่ ด้วยการให้พวกนั้นเข้าไปในโลกใต้ดินครั้งนี้ สัญญาก็การันตีให้เราและไม่ได้จำกัดในการเข้าดันเจี้ยนและเหมืองของพวกนั้นเป็นเวลาสองเดือนโดยไม่สนว่าผลลัพธ์ของโลกใต้ดินนี้จะออกมาเป็นยังไง “
Warlord หัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ” ฮี่ โอเค อย่างน้อยเราก็ยังได้อะไรกลับมาจากพวกห่านั้นบ้าง ” – ในฐานะหัวหน้ากิลด์ที่มีความสามารถแล้ว เขาจึงสงบสติอารมณ์ลงได้และหันไปสนใจเรื่องผลประโยชน์
” บอกทีม A กับ B ให้คุ้มกันประตูที่เข้าโลกใต้ดินเอาไว้ เราจะไม่ควบคุมมันแต่พวกเขายังคงไปฟาร์มหาของกับ xp ได้ “
” ไม่ ทำแบบนั้นไม่ได้ Warlord โลกใต้ดินตอนนี้มันปิดแล้ว “
” อะไรนะ ? ! “
” ใช่ ฉันเพิ่งได้ข้อความมาจากคนในดันเจี้ยน Dark Threading ที่ทางเข้า พวกนั้นบอกว่าประตูปิดไปแล้วและไม่เปิดอีกแต่จำได้ว่าระบบได้ประกาศมาว่าโลกใต้ดินสามารถเข้าออกได้จากตำแหน่งอื่นในเกม เราแค่ต้องหาที่นั่น “
” บ้าเอ้ย เอล่ะ จัดกลุ่มค้นหาทางเข้า อีกอย่างแล้วประกาศค่าหัวไอ้อันเดตหนวดนั่น ฉันอยากฆ่ามัน ประกาศค่าหัวยัยนักธนูนั่นด้วย เธอก็ต้องตายเหมือนกัน เธอบอกเราได้ว่าจะไปจัดการกับไอ้อันเดตนั่นได้ยังไงได้ “
” ทำเรียบร้อย ฉันต้องไปจัดการเรื่องโลกใต้ดินและหาข้อแก้ตัวหากมีการประชุมอีกครั้ง ” – Valentine พูดขึ้น
” ขอบคุณ วาล ” – Warlord ตัดสายและเข้าไปนั่งที่คอมเพื่อเช็คเรื่องการเงิน
แน่นอนข่าวนี้ได้ถูกปล่อยอกมาแล้ว ตอนนี้มันบอกว่าหุ้นของ Devastators นั้นตกลงเล็กน้อย หุ้นของ Blood Rage และ Heaven’s Dawn เองก็เช่นกัน
” ไอ้อันเดตเฮงซวยนั่นถึงกับส่งผลถึงหุ้นเลยทีเดียว ” – เขาพึมพำกับตัวเอง
เขาเปลี่ยนไปที่หน้าเว็บไซต์เกม มันมีคำประกาศที่สะดุดตาอยู่ในหน้าหลัก
[ ฮิตติดกระแสในเกม ! มาดูกันว่าทุกคนพูดถึงอะไรกัน !! เนื้อหาที่ติดกระแสในเกมตอนนี้ ! 100 ล้านวิว ! วิดีโอติดกระแส !! ]
Warlord คลิกเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น – “หือ โพสต์ไม่ถึงชั่วโมงแต่มีคนดูเป็นร้อยล้าน ฉันสงสัยจังว่ามันบันทึกอะไรเอาไว้ “
ตอนเริ่มต้นของวิดีโอนั้นเป็นตอนที่เริ่มต้นเควส มันมาจากหน้าจอของนักธนูเอลฟ์ ช่วงแรกที่เร่งความเร็วแสดงให้เห็นกลุ่มอันเดตที่เข้ามาในสายตาของเธอตอนที่เธออยู่ใกล้กับดันเจี้ยน Dark Threading นักธนูได้เข้าร่วมทีมกับอันดตและพวกเขาก็ได้ล่าเสือดำด้วยกันใกล้กับดันเจี้ยน
วิดีโอกลับมาเล่นด้วยความเร็วปกติตอนที่พวกนั้นเข้าไปในดันเจี้ยน
Mr.Skeletal แอบเดินลงไปตามบันไดดันเจี้ยนและซุ่มโจมตีผู้เล่นสองคน สกิลหัวกะโหลกของเขานั้นได้ผลักผู้เล่นสองคนให้เข้าไปในเส้นทางที่หมูป่าพุ่งเข้ามา หมูป่าได้ชนกับผู้เล่นทั้งสองให้ตกจากบันไดไป
” ดูชั่วแต่ก็ฉลาดดี ” – Warlord ยักไหล่ เขาเองก็เคยทำแบบเดียวกัน
วิดีโอยังเล่นต่อไปแสดงให้เห็นตอนที่พวกนี้เจอกับมนุษย์หมาป่า จากนั้นพวกนี้ก็ได้ไปถึงด้านล่างและเจอกับบอสที่นอนอยู่ที่นั่นขวางประตูเอาไว้
น่าผิดหวังที่วิดีโอได้ข้ามส่วนนี้ไป
” เหอะ ! “- เขาร้องออกมาด้วยความผิดหวัง – ” น่าจะรู้หรือไงว่ามันไม่น่าจะง่ายแบบนั้น “
บนหน้าจอ อันเดตหนวดได้ดึงมือเอลฟ์สาวไปกับเขาโดดเข้าประตูและเริ่มที่จะตกลงไป ตอนนี้อันเดตหนวดจับมือเธอเอาไว้แล้วตกลงไปในความมืดมิด
Warlord หัวเราะออกมาตลอดเวลาแต่สุดท้ายเขาก็ได้เห็นบางอย่าง
ช่วงต่อมาได้แสดงให้เห็นว่านักธนูและโครงกระดูกนั้นกำลังคุยอยู่กับ Ramsha
” พวกนั้นอาจจะได้เควสเดียวกันที่ให้ฆ่าปีศาจ ที่ NPC ได้ให้กับผู้เล่นทุกคนที่ไปถึงโลกใต้ดิน “
จากนั้นก็มีผู้เล่นอีกสองคนโผล่มา มันคือสองคนที่โชคร้ายที่ตกเหวไปก่อนหน้านี้ พวกนั้นเกิดใหม่แล้วรีบตามมา อันเดตหนวดและเอลฟสาวสวิ่งหนีจากผู้เล่นสองคนนั้นวิ่งไปยังปีศาจที่เฝ้าทางเข้าไว้อยู่
” พวกนั้นยังเป็นแค่พวกเลเวลต่ำเกินไปสำหรับที่นี่ ไม่มีสักคนที่จะผ่านไปได้ อันเดตที่เป็นลูกน้องก็ถูกทิ้งไว้ด้านบน พวกนั้นจะผ่านปีศาจนี่ไปได้ยังไง ? ”
Warlord ดูวิดีโอด้วยสีหน้าจริงจัง อันเดตหนวดได้เรียงอัศวินผีสองตัวเออกมาล่อปิศาจที่ทางเข้าเอาไว้ ส่วนเอลฟ์ได้บลิงค์หนีไปที่ส่วนปลอดภัยของถ้ำ จากนั้นอันเดตหนวดก็ได้วิ่งเข้าไปในถ้ำได้สำเร็จโดยปล่อยให้ผู้เล่นที่ไล่ตามมานั้นเข้าสู่ระยะความโกรธของปีศาจที่เฝ้าทางเข้า
Warlord ส่ายหน้าตอนที่อันเดตหนวดยืนอยู่ที่ด้านในถ้ำและหันกลับมามองที่ผู้เล่น – ” รอดูว่าศัตรูจะผ่านปีศาจเฝ้าทางยังไงงั้นเหรอ ? แกน่าจะเพิ่มความฉลาดสักหน่อยนะ Mr.Skeletal “
Warlord ยิ้ม เขากับ Valentine เคยเป็นแบบนั้นมานาน คนที่สนุกและไม่ต้องคอยตอบรับใคร ไม่ต้องรับผิดชอบ พวกเขาเล่นก็เพื่อความสนุกล้วนๆ
” สองคนนี้ก็ไม่ได้แย่นัก เราควรดึงเข้ากิลด์หลัก “
สองคนได้วิ่งเข้ามาในกึ่งกลางระยะโจมตีของปิศาจตอนที่อันเดตหนวดได้แสยะยิ้มให้ก่อนจะดีดนิ้ว
การระเบิดนั้นทำให้ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ถ้ำต้องเซและปีศาจก็ได้จัดการนักรบที่ชั่วร้ายไปด้วยลูกไฟสองลูก คนหนึ่งไม่อาจจะสลับความโกรธได้ ด้วยการที่เสียเพื่อนไป ผู้เล่นอีกคนก็โดนบดขยี้ตามไปในเวลาเพียงไม่นาน
Warlord จำรอยยิ้มของอันเดตนั้นไว้ในใจ – ” เจ้าเล่ห์ดี เย็นชาด้วย ลูกไม้ของเขาอาจจะใช้ได้ผลกับผู้เล่นแต่มันไม่ได้ผลกับบอส เขาจะจัดการกับบอสโลก Dalmadoth ยังไง ? “
วิดีโอเล่นต่อแสดงให้เห็นตอนที่สองคนเข้าไปในถ้ำ
หลังจากที่ออกจากถ้ำได้ไม่นาน พวกเขาก็ต้องมาพบกับฝูงแรดปิศาจที่พุ่งเข้าใส่พวกเขา
เอลฟ์ได้ถอยกลับมาตะโกนใส่อันเดตหนวดที่ยืนนิ่งด้วยท่าทีไม่ใส่ใจในเส้นทางที่แรดปีศาจพุ่งเข้ามา
อันเดตได้ยกมือขึ้นแสดงให้เห็นถึงอัญมณีสีฟ้า
มันเปล่งแสงออกมา แสงมันสว่างจนแสบตา ตอนที่แสงดับลงไปมันก็เกิดการฉีกขาดของมิติตรงหน้าอันเดตหนวด จากอีกด้านของการฉีกขนาดนั้นมีมือยักษ์ที่ดึงมิติให้เปิดออก ฝันร้ายของผู้เล่นได้ก้าวออกมาจากรอยฉีกขาดนั้น
Warlord ถึงกับต้องอุทานออกมา – ” ให้ตายสิ ! เขามีบอสเป็นสัตว์เลี้ยงด้วย ! “
เขามองดูบอสที่จัดการกับพวกมอนสเตอร์ได้อย่างง่ายดาย
” มันเลเวล 550 นี่อธิบายได้แล้วว่าบอสโลกที่สามารถจัดการทั้งกิลด์เราได้นั้นตายได้ยังไง อันเดตนี่เรียกบอสได้กี่ครั้ง ? แต่มันต้องมีขีดจำกัดสิ “
Warlord รวบรวมสติแล้วดูวิดีโอนั้นต่อ
จากวิดีโอนี้ชัดแล้วว่าหลายส่วนถูกตัดออก ส่วนที่เหลือแสดงให้เห็นตอนที่มอนสเตอร์อุ้มผู้เล่นทั้งสองคนผ่านที่ราบและข้ามบึงไปยังภูเขา บทสนทนาส่วนมากของผู้เล่นทั้งสองถูกตัดออก พวกเขาเข้าไปในถ้ำที่ภูเขาที่ซึ่งมีฝูงมอนสเตอร์เลเวลสูงมารวมตัวกัน ผู้เล่นทั้งสองเอาแต่สูบ xp ราวกับมันได้มาฟรีๆ
” หืม ส่วนแม่น้ำลาวาก็โดนตัดออกด้วย สงสัยแหะว่าทำไม เราไม่ได้พบอะไรที่มีประโยชน์ที่นั่นสักหน่อย “
จากนั้นทั้งสองก็มาถึงสนามต่อสู้และสู้กับฝูงศัตรูจนกระทั่งในที่สุดบอสของที่นี่ก็ปรากฏตัวและสู้กับบอสยักษ์ที่ถูกเรียกมา
การต่อสู้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งกลุ่มผู้เล่นของ Devastators ได้ออกจากอุโมงค์และเดินหน้าเข้าสู่สนามต่อสู้ สมาชิกของกลุ่มใหม่นั้นดูเก่งแต่พลังโดยรวมแล้วไม่ได้มากเท่าไหร่และพวกเขาก็ไม่เช้าใจการต่อสู้ด้วยกลยุทธ์อีก
” โอ้ใช่ ฉันลืมเรื่องพวกนี้ไปเลย ฉันต้องบอก Valentine ให้ตรวจสอบพวกนี้ แย่ที่สุดคงต้องไล่พวกนี้ออกไม่ก็ไปทำงานเล็กๆ “
อันเดตหนวดหลบการโจมตีจากมอนเตอร์และฮันเตอร์ของ Devastator ก็โจมตีมอนสเตอร์นั้นจนดึงความโกรธเข้าหาตัวเอง
Warlord ฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ เขาไม่อยากได้คนโง่แบบนี้ Devastator เองก็ไม่อยากได้เหมือนกัน
เพราะสมาชิกกิลด์นั่นโจมตีออกไปโง่ๆจึงทำให้ทั้งกิลด์ตกอยู่ในการต่อสู้ ตอนที่คนที่เหลืออยู่ในระยะความโกรธของบอส บอสก็ได้ใช้ {Call to Arms} เรียกมอนสเตอร์จำนวนเท่ากับผู้เล่นของ Devastator ออกมา ผู้เล่นจึงตายไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากที่พวก Devastator ตายไป การต่อสู้กับบอสก็จบลงด้วยชัยชนะของพวกอันเดตหนวด
Warlord เริ่มสงสัยขึ้นมา – ” เขาใช้บอสสู้กับบอส มันก็คงต้องโชคและเงื่อนไขต่างๆ “
Warlord เริ่มเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น วิดีโอนี้ได้อธิบายทุกอย่างแล้วรวมไปถึงการที่อันเดตเลเวลต่ำยึดที่นี่มาได้และแย่งมันไปจากมือของสามกิลด์ใหญ่ได้
Warlord ไม่ได้พอใจหนักแต่ทุกอย่างมันก็ดูมีเหตุผล สองคนนี้ได้สร้างปัญหาให้กับทุกคนแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะมีกี่ปัญหาที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมารึผลจากเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจทั้งในเกมและโลกจริงๆ
นอกซะจากว่าจะอยู่แบบเดิม งั้นพวกเขาก็คงโดนจัดการถ้าโผล่หน้าออกมา
Warlord หันกลับไปสนใจเรื่องกิลด์ เขาทำงานอยู่หน้าคอมแต่ถึงแม้จะทำใจแข็งแต่ไม่นานเขาก็หมดสมาธิ เขาเบื่อกับเรื่องกิลด์ตรงหน้า ความสงสัยที่มีตอนนี้ทำให้ความเชื่อมั่นเขาลดลง
เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ‘ ถ้าโชคชะตากำหนดให้เป็นแบบนี้เพราะโชคดีที่มันเรียกบอสออกมาได้….แล้วมันฆ่าฉันได้ยังไง ?
Chapter 83: จุดกำเนิดของอันเดต
เดฟโผล่กลับมาในถ้ำของเทพแห่งความตาย
เขาปัดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นซึ่งโผล่ขึ้นมาทิ้ง
[คุณได้รับบททดสอบการสืบทอดครั้งที่สอง
พูดคุยกับ Death เพื่อรับข้อมูลเพิ่ม ]
Death นั่งอยู่ที่ริมสระโดยเอาเท้าจุ่มน้ำและมองไปยังน้ำที่เป็นวงๆก่อนที่มันจะหายไป เธอเงยหน้าขึ้นมองเดฟที่เดินเข้ามา ก่อนที่เดฟจะได้เป็นหน้าของเธออีกด้วยซ้ำ พลังของสายตานี้ทำให้เกิดความกดดันขึ้นมาอย่างมาก
เดฟ จำตำนานญี่ปุ่นที่พูดถึงนักดาบผู้โด่งดังได้ เรื่องราวเกิดขึ้นตอนที่หากสายตาเขามองไปที่ใคร คนนั้นก็หัวขาดแล้ว
” ฮึ่ม นายยังไม่พร้อม ภารกิจของนายในการเพิ่มพลังยังช้าเกินไป นายจะไม่สามารถฆ่าราขาที่ขี้ขลาดนั่นได้ “
เดฟไม่เข้าใจเหตุผลในการฆ่าราชา เควสของ Deadra นั้นก็เหมือนกันกับเขาที่ได้แหวนวงนี้จาก Death ในการฆ่าราชา
Death ยกเท้าขึ้นมาและมองไปที่เดฟสักพัก เขาต้องตัวสั่นเพราะพลังที่แผ่ออกมาจากเงาของเธอ
” นี่นายสงสัยคำพูดของเทพธิดาหรือไง ? ” – เธอถามออกมาด้วยเสียงใสๆ
เดฟตอบกลับ – ” ฉันแค่ต้องการทำความเข้าใจ ราชานั่นไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอบอกไว้เลย ….”
เธอมองมาที่เขาอีกครั้งด้วยความอึดอัดอยู่สักพักแล้วพยักหน้า – ” ดีมาก งั้นฉันจะให้นายได้เห็น “
อยู่ๆพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในถ้ำอีกต่อไป พวกเขายืนอยู่ในมิติที่มืดมิดซึ่งรายล้อมไปด้วยหมู่ดาวหลากสีที่ระยิบระยับ ด้านล่างนั้นคือดาวเคราะห์สีฟ้าเขียวที่เต็มไปด้วยเมฆ โลกของ Conquest
เขาพยายามที่จะใจเย็นแต่ก็ไม่อาจจะละสายตาจากโลกที่หมุนวนตัวเองช้าๆได้
ความสูงไม่ใช่สิ่งที่เข้ากับเดฟได้เท่าไหร่นัก
ท้องของเขาเริ่มปั่นป่วน พื้นที่มองไม่เห็นนี้ที่พวกเขายืนอยู่นี้ได้ลดระดับลงไปที่ดาวเคราะห์นั้นด้วยความเร็วมากกว่าจรวดราวกับลิฟต์ที่ตกลงสู่นรก เขาแอบโล่งใจตอนที่อยู่ๆพวกเขาก็ได้หยุดลง
ด้านล่างพวกเขามีเมืองที่กำลังถูกโจมตีอยู่ กองทัพหลายพันทัพกำลังแบกสะพานวิ่งเข้ามา เครื่องโยนหินทำการโจมตีเข้าใส่เมือง การโจมตีค่อยๆทำให้กำแพงกลายเป็นเศษหิน เมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมารายล้อมไปด้วยภูเขาโดยมีปราสาทหินสีขาวตั้งอยู่ที่นั่น ปราสาทแห่งนี้ดูไปแล้วช่างยิ่งใหญ่
อยู่ๆมุมมองก็ถูกเพ่งไปที่ปราสาทเข้าไปยังหอคอยแห่งหนึ่ง
ด้านในหอคอยนั้นมี 9 คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ
ชายสีหน้านิ่งในชุดสีแดงทองยืนอยู่ที่หัวโต๊ะ อีก 5 คนยืนอู่ที่ด้านข้าง
หนึ่งในนั้นเป็นชายตัวใหญ่มองมายังชายที่หัวโต๊ะแล้วโค้งให้ – ” ขออภัย นายท่าน นี่…คือสิ่งที่เราต้องทำงั้นเหรอ ? ไม่มีทางอื่นหรือไง ? “
” Deadra …” – ราชามองมาที่อัศวินของตัวเองด้วยสีหน้าหงุดหงิดที่เข้ามาแทนที่แต่จากนั้นเขาก็หยุดและสลัดตัวเองจากความคลั่งไม่ให้ระบายอารมณ์ออกมา
เดฟอึ้งและคิดกับตัวเอง ‘ เหี้ย ! อัศวินนั่นคือ Deadra ! ‘
” พวกนายแต่ละคนให้คำปรึกษากับเรา เราไม่เห็นทางเลือกอื่นที่ดีกว่าในการสั่งการได้ นี่เป็นหน้าที่และภาระของเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องตัดสิน “
มันมีของสองอย่างบนโต๊ะที่หน้าราชา พวกคนที่ยืนอยู่รอบๆโต๊ะต่างก็พาหลบสายตาไม่มองไปยังสิ่งของนั่น
หนึ่งในนั้นเป็นหนังสือหนังโบราณ มีสัญลักษณ์เปลวไฟสีดำที่ลุกขึ้นมาถูกวาดเอาไว้ที่ปก พวกเขาได้เห็นคลื่นพลังที่แผ่ออกมาราวกับไฟนี้มีอยู่จริง
ข้างหนังสือนั้นคือมีด ด้ามจับนั้นเป็นทองและตกแต่งไว้อย่างดี ในทางกลับกันแล้วใบมีดกลับเป็นสีเทา มันมีคลื่นพลังที่สั่นไหวไปตามคมมีดราวกับว่ามีฟันเหล็กที่ดูดทุกอย่างไปรวมถึงแสงและสีด้วย
ราชามองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งแล้วสั่งการต่อ – ” Eleanor ผู้เป็นลูกสาวด้วยความเสียใจ นี่เป็นเพียงทางเดียว “
สาวน้อยที่มีคราบน้ำตาที่แก้มทั้งอันเก่าและใหม่ได้ขอร้องทั้งแปดคนให้ปล่อยเธอไป
” นี่คือบาปที่เราจำเป็นต้องทำ ฉันภาวนาให้วิญญาณของลูกให้อภัยเราด้วย พ่อและราชาอีกทั้งคนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ต้องทำตามหน้าที่ “
เขาใช้ปลายมีดสะบัดเฉือนคอลูกสาวตัวเองและจบชีวิตของเธอไป เลือดได้พุ่งออกมาในอากาศราวกับน้ำพุแล้วรดไปที่หน้าของราชาจนย้อมมันเป็นสีแดง ราชาถึงกับต้องสะดุ้งจากเลือดที่รดหน้าตัวเอง – ” เลือดนี้คือการหลั่งน้ำตา “
เขาใช้มีดแทงเข้าไปที่หัวใจของลูกสาวและใช้มือทั้งสองข้างดึงมีดผ่านซี่โครงจนมาถึงท้องแล้วผ่ากระดูกลงมา
” กระดูกหักไปแล้ว ” – น้ำตาเริ่มปริ่มที่ตาของเขาผสมกับเลือดที่รดใบหน้าของเขา
เขาล้วงเข้าไปในตัวลูกสาวแล้วดึงเอาหัวใจออกมาจากอกของเธอพร้อมกับเสียงอันน่ากลัว
ราชาสะอื้น เขาเงยหน้าขึ้นและต้องหยุดไปราวกับตะลึง – ” หัวใจสองดวง “
ในมือเขานั้นหัวใจเริ่มดำขึ้นและกระตุกขึ้นมา จากนั้นมันก็เริ่มเต้นด้วยจังหวะผิดปกติ
ร่างนั้นนอนอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับเลือดที่นองเต็มพื้น จากนั้นหนังตาก็เปิดขึ้นพร้อมกับดวงตาสีดำ
ชุดเกราะที่เธอสวมใส่นั้นหลุดออกจากตัวหล่นกระจายไปตามโต๊ะ ศพนั้นลุกขึ้นยืนที่โต๊ะและมองลงไปยังพวกคนที่อยู่รอบๆด้วยความหงุดหงิด
ทุกคนต่างก็ถอยออกจากโต๊ะในตอนที่ร่างนั้นลุกขึ้นยืนยกเว้นเพียงราชา
” พวกมนุษย์ ! หนังสือของฉัน….พวกแกกล้าดียังไง ! ? ” – คำพูดนี้ดังขึ้นมาจากร่างที่ถูกเฉือนคอไป
ราชาได้พูดขึ้นโดยไม่อาจจะมองตรงไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายได้ – ” อาณาจักรและคนของเราตกอยู่ในอันตราย ฉันได้สละลูกเพียงคนเดียวเพื่อเรียกท่านมาและยืมพลังท่านในการช่วยเรา ทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของเราเพียงคนเดียว “
” แกเรียกฉันมาแล้วผูกมัดฉันกับหนังสือเพื่อทำตามที่แกสั่ง โง่เง่า ! สัญญานั้นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะเข้าใจได้ แกเรียกหาความพินาศและความพินาศก็จะส่งผลต่ออาณาจักรของแก แม้ว่าจะมีทางอื่นแต่ฉันก็ไม่คิดจะให้สิ่งที่แกต้องการ ” – เธอหยุดและมองไปที่แต่ละคนรอบโต๊ะ ตาของเธอแสดงความหงุดหงิดออกมา ลมได้พัดผ่านเข้าไปในห้องจนทำให้ผมนั้นปลิวไปตามสายลมพร้อมกับกระดาษต่างๆ
” ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะได้รับพลังจากฉันในวันนี้ ! ” – เสียงนั้นดังขึ้นมาแปลกๆราวกับว่าเกิดจากเสียงหลายเสียงที่มาพูดร่วมกัน หลายคนต้องเอามือป้องหู มีคนหนึ่งถึงกับสลบลงไปที่พื้นพร้อมกับฟองที่ปุดมาที่ปาก
” ฉันไม่สนใจเรื่องมนุษย์ สุดท้ายทุกคนก็ต้องไปที่อาณาจักรของฉัน คืนหนังสือและยกเลิกการอัญเชิญนี้ ! ปล่อยฉันและดีใจซะที่วันนี้วิญญาณของพวกแกไม่ได้ระเบิดจากโลกและถูกชิงห้วงเวลาไป “
นี่เกินกว่าที่ Deadra จะรับไหว – ” ปีศาจชั่วร้าย ! แกไม่พูดมันจะดีกว่า ! ทำตามที่ต่อรองเอาไว้ ให้ความช่วยเหลือราชาของฉันที่ทำการเรียกแกมา ! “
” โง่เง่า ! ฉันเตือนไว้แล้ว ฉันจะพูดเป็นครั้งที่สอง ! ไม่มีใครที่ฉันจะให้ยืมพลังตามที่พวกแกต้องการ ! “
” งั้นแกก็ไม่มีประโยชน์กับเรา ! ” – ราชาพูดขึ้น เขาแทงมีดลงไปที่หัวใจสีดำในมือจนทะลุไปถึงมือตัวเอง สีหน้าเศร้า รู้สึกผิดและเสียใจเผยออกมาที่ใบหน้าของเขาโดยไม่แสดงแม้แต่ความเจ็บจากบาดแผลตัวเองเลย
” แกทำอะไรลงไป ! ” – ร่างนั้นคำรามออกมาด้วยเสียงนับหมื่นที่ดูน่ากลัวและสิ้นหวังก่อนจะมีสายลมอันรุนแรงพัดเข้ามาในห้อง
ราชาก้มลงมอง หนังสือที่โต๊ะสั่นไหวอย่างแรง จากนั้นมันก็นิ่งไป หนังสือนี้กลายเป็นสีดำก่อนจะดำทมิฬ มันดำเหมือนกับส่วนลึกสุดของโลกที่แม้แต่แสงก็ไม่อาจจะให้แสงสว่างได้ ตอนที่สัญลักษณ์ไฟบนปกนั้นได้กลายเป็นหัวกะโหลก ราชาก็ต้องช็อคและกลัวขึ้นมา
” ฉันจะพูดเป็นครั้งที่สาม ! พวกโง่ ! ด้วยชื่อฉัน บัลลังก์ฉัน พลังฉัน ขอให้เทพทุกตนตามฆ่าพวกแก ! นี่คือภัยพิบัติของพวกแก ! “
เดฟนั้นมองลงไปที่เมืองจากด้านบนฟ้า
เท่าที่เขาเห็นนั้นมีเงาเคลื่อนที่ผ่านอาณาจักรราวกับเมฆที่ปิดบังดวงอาทิตย์ จากนั้นมันก็เคลื่อนมืดขึ้นจนเหมือนค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว
จากที่หอคอยนั้นมีคลื่นระเบิดเกิดขึ้นมาแล้วแผ่ออกไปทุกทิศทางราวกับคลื่นซึ่งไม่ได้มีวี่แววว่าจะทำลายสิ่งใด
ไม่ว่าคลื่นนั้นจะผ่านไปที่ไหน คนและสัตว์จะล้มลงราวกับหุ่นเชิดที่โดนตัดเชือก ต้นไม้ทุกต้นเริ่มเน่า แม้แต่โครงสร้างของตึกก็ยังโดนทำลาย
ที่แห่งนั้นได้ตกอยู่ในความมืดมิดและความวุ่นวาย
จากนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นไหวพร้อมกับรูขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นมา ทั้งผืนดินสั่นคลอนและมีเสียงคำรามออกมา
จากนั้นพื้นดินส่วนนั้นก็ยุบลงไปเร็วขึ้นเรื่อยๆห่างออกไปจากตำแหน่งของเดฟ มันหายไปในความมืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า
แสงและผืนดินได้กลับมาโดยไม่มีวี่แววของสถานที่เดิมอีก โลกได้กลับมาเป็นปกติราวกับที่นั่นไม่เคยมีอยู่ ป่า ภูเขาและต้นไม้ได้กลับมาสู่ความสงบสุขภายใต้สายตาของเดฟ
” นี่คือการลงโทษและพวกเขาก็ถูกลบออกจากโลก ” – Death พูดขึ้น
” เธอยังอยู่ในตัวผู้หญิงคนนั้น ลูกสาวของราชา ? “
” ฉันถูกขังไว้ด้านใน ในดินแดนมนุษย์ “
” เป็นแบบนั้นได้ยังไง ? ” – เดฟถาม
” การอัญเชิญนั้นดึงฉันมาที่นี่ ” – เธอใช้มือชี้ที่ตัวเอง – ” การแทงที่หัวใจนั่นควรจะจบพิธีนี้ ปกติแล้วการจบพิธีแบบนั้นจะไร้พลังส่งผลต่อโลกนี้และทำให้ฉันได้กลับไป แต่ฉันไม่ใช่ปีศาจทั่วไปหรือคนนอก ฉันไม่ได้อยู่ในดินแดนนรก พลังของฉันไม่อาจจะถูกชิงไปจากตัวได้และฉันไม่อาจจะออกจากโลกนี้ได้ ตอนนี้ฉันถูกขังไว้ในร่างกายที่อ่อนแอ ฉันไม่อาจจะกลับไปอยู่ในร่างที่สูงส่งที่อยู่ในดินแดนแห่งเทพได้ “
เดฟลูบหนวดตัวเองและคิด – ” แต่ถ้าเธอได้หนังสือกลับไป เธอจะกลับร่างเดิมของตัวเองได้มั้ย “
” ใช่ ฉันต้องมีหนังสือเพื่อทำลายการผูกมัดและปล่อยตัวเองออกจากร่างนี้แต่ฉันไม่รู้ว่าหนังสือนั่นอยู่ไหน มันซ่อนตัวจากสายตาของฉัน มันถูกปกป้องโดยราชาจากพลังที่ฉันยังเหลืออยู่ “
” ฉันไม่ได้มีตัวเลือกมากนักสินะ ” – เดฟพูดขึ้นด้วยท่าทีหมดกำลังใจ
” นายมีแหวนของฉัน ด้วยแหวนของเทพแห่งความตาย หนังสือนั่นอาจจะรู้ว่านายคือคนที่ฉันเลือกและเผยตัวเองออกมา ตัวเลือกที่นายมีคือการฆ่าราชา หาหนังสือและเอากลับมาให้ฉัน “
เดฟต้องการทำเควสสืบทอดของตัวเองให้เสร็จแต่ Undead King เองก็แข็งแกร่ง เลเวลสูงกว่า 700 ซึ่งทำให้มันกลายเป็นบอสขั้น Unholy เดฟคงสู้กับบอสในเร็วๆนี้ไม่ได้
‘ ฉันขายมันได้นี่ ส่วนขยายนี่ฆ่าตัวตายเพื่อแลกกับเงินและตำแหน่งที่สูงในกิลด์สักกิลด์หนึ่งแต่หากไม่มีการสืบทอด มันก็ไม่มี Mr.Skeletal การผจญภัยและการค้นพบอีกต่อไป ฉันก็จะกลายเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ‘
เธอส่งก้อนเหล็กเล็กๆให้กับเดฟ – ” นี่จะทำให้หนังสือเผยตัวตนออกมาตอนที่นายอยู่ใกล้พอ “
เดฟมองไปที่มัน
เครื่องมือค้นหาของ Death มันดูเหมือนกับเข็มทิศเก่าๆแต่มันไม่ได้มีเครื่องหมายอะไร มันมีการทำงานแค่อย่างเดียวและมันก็ไม่ได้บอกด้วยว่าทิศเหนือทางไหนและมันก็ยังผูกมัดกับผู้เล่นด้วย
เดฟเก็บเข็มทิศนั้น เขาคงไม่ต้องใช้มันเร็วๆนี้
เทพธิดาแห่งความตายได้โบกมือ – ” เราเสร็จสิ้นเรื่องนี้แล้ว อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ! “
” รอก่อน ! แล้วเรื่องการท้าทายล่ะ—“
เดฟได้กลับมาที่วิหาร
[ ยินดีด้วยที่ทำการท้าทายแรกในส่วนที่สองเสร็จ : xp +100,000]
[ เลเวลเพิ่ม ]
[ เตือน : ความสามารถที่สองของแหวนได้ถูกปลดผนึกแล้ว ! { Life Cleaver }]
” หือ…? ! เย้ ! ไม่ต้องเจ็บตัวรึเกือบตายเลยแหะ ! “
มันน่าจะบอกว่าง่ายได้ ! เขาอดทนรอไม่ได้ที่จะดูว่าสกิลนี้มีความสามารถยังไง มันต้องมีอะไรพิเศษบ้างแหละ
ในตอนที่เขากำลังจะตรวจสอบมันนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เดฟไม่ได้เชื่อมต่อโทรศัพท์กับแคปซูลเกม
ตอนที่เขาลุกขึ้นจากแคปซูลและมองไปที่โทรศัพท์ เขาก็จำเบอร์โทรนั้นได้ นั่นคือ Lone Arrow
หวังว่าเขาจะไม่ต้องรู้สึกผิดกับมัน เขากดรับสายทันที
” เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ! “
เสียงกรีดร้องสูงๆดังขึ้นมาในหูและต้องทำให้เขาต้องปวดหัว เขามองไปที่โทรศัพท์แล้วดูว่ามันพลังหรือเปล่า เขาส่ายหน้าแล้วเอาโทรศัพท์มาแนบหูและได้ยินเสียงบ่นของ Lone Arrow
“….ดูที่เว็บข่าวสิ ! เร็วเข้า เร็วเข้า เร็ว ! ตอนนี้เลย ตอนนี้ ตอนนี้ ! รอก่อน รอ รอ ! ก่อนที่นายจะทำแบบนั้น นายต้องส่งวิดีโอชั่วโมงสุดท้ายของนายจากดันเจี้ยนโลกมาก่อน ได้โปรด ได้โปรด ฉัน ฉันต้องการ ฉันต้องการมันจริงๆ ได้โปรดและก็ขอบคุณด้วย ! “
เสียงนี้เหมือนกับในการ์ตูนชิปมังก์เลย
ทันทีที่เดฟล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์เกม เขาก็รู้เหตุผลว่าทำไม
” อ่ะ—- “
Chapter 84:น่าแปลกใจ!
สามกิลด์ใหญ่ Devastators, Heaven’s Dawn และ Blood Rage ได้ตั้งค่าหัวสำหรับค่าตำแหน่งและการตายของ Mr.Skeletal และแม้แต่เอลฟ์สาว Lone Arrow
มันไม่เหมือนกับค่าหัวก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้นั้นมีรางวัลที่น่าตกใจกว่า
1 ล้านดอลลาร์
ทั้งสามกิลด์ยังได้ประกาศอีกว่าถ้าเดฟยอมมอบตัวให้กับกิลด์ เขาจะได้เงินรางวัลและกลายเป็นสมาชิกกิลด์นั้นๆด้วย
แต่ถ้าเดฟยอมมอบตัวให้กับกิลด์ เขาก็ต้องกลายเป็นแค่ลูกกิลด์และทำงานให้กับพวกนั้น
การเล่นแบบโซโลนั้นเต็มไปด้วยความยาก โดดเดี่ยวและอันตรายแต่เมื่อผู้เล่นไปถึงเป้าหมายได้แล้ว ความรู้สึกพอใจที่ได้มานั้นก็ไม่มีอะไรมาเทียบได้ เดฟไม่อยากยอมแพ้ไปด้วยการยอมทำงานให้กับกิลด์ตลอดทั้งวัน
” เราเป็นที่ต้องการตัว ! ฉันอยากเห็นจังว่าจะมีใครที่มาล่าตัวเราบ้าง ! “
” พวกนั้นจะไล่ล่าเรา นายก็ควรระวังตัวเอาไว้ด้วย “
” ขอบคุณที่ห่วงนะแต่ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ “
” ฉันมีเรื่องต้องทำในเกม ไว้เจอกัน ” – เดฟพูดขึ้น
” ได้ ฉันเองก็ต้องไปตัดต่อวิดีโอเหมือนกัน ไว้เจอกัน “
Lone Arrow ฮัมเพลงไปด้วยพร้อมกับนั่งหน้าคอมคอยอ่านอีเมลของตัวเอง สุดท้ายก็มีข้อความใหม่โผล่ขึ้นมา เธอคลิกเข้าไปดูแล้วก็ต้องดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตื่นเต้น มันคือวิดีโอจาก เดฟที่เธอรอคอยอยู่
” ได้เวลาจัดการงานแล้ว ” – เธอพูดขึ้น
ด้วยความสงสัยเธอจึงกดเล่นวิดีโอนั้นอยู่หลายนาทีและเห็นการต่อสู้ระหว่างเดฟกับ Warlord
ตาของ Lone Arrow เบิกกว้างขึ้นมา
เดฟรับมือกับ Warlord แบบ 1 ต่อ 1 ที่เขตชิงธง ? !
วิดีโอนี้แสดงตอนที่ Warlord ตะโกนว่าจะฆ่าเดฟและมีการต่อสู้ที่วุ่นวายขึ้นมา หัวหน้ากิลด์ Devastators จัดการพวกอันเดตที่ขวางทางเขา จากนั้นเขาก็บอกกับเดฟว่าไม่มีที่จะหนีแล้ว
การต่อสู้แบบวิ่งไปด้วยระหว่างผู้เล่นสองคนนี้ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความต่างของเลวลนั้นชัดเจน เดฟได้ใช้สกิลเพื่อตอบโต้การโจมตีของ Warlord เอาไว้แต่เดฟก็ได้แต่ยื้อเวลาออกไปก็เท่านั้น เขามีตัวเลือกการใช้สกิลที่จำกัดและคู่ต่อสู้ของเขาที่เป็นนผู้เล่นฝีมือดีที่เล่นเกมนี้มานาน
Warlord ปล่อยการโจมตีออกมาด้วยสกิลการสืบทอด เดฟไม่อาจจะหลบหรือป้องกันการโจมตีนั้นไว้ได้ก่อนรับมันไปเต็มๆ ภาพหน้าจอกลายเป็นสีเทาและระบบแจ้งเตือนถึงการตายก็โผล่ขึ้นมา
Lone Arrow กอดเข่าตัวเองและสีหน้าเศร้าก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า เธอรู้สึกชอบทีมนี้ที่แพ้ให้กับผู้เล่นฝีมือดี เธอรู้ว่าไม่มีทางเลยที่เดฟจะเอาชนะผู้เล่นที่เลเวลมากกว่า 300 ได้แต่มันก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี ไม่ใช่แค่เพราะเดฟนั้นเป็นเพื่อนของเธอ เขายังด้อยกว่า ทุกคนอยากให้ฝ่ายเสียเปรียบเป็นฝ่ายชนะ มันทำให้คนเกิดความหวังกันได้
ความคิดของเธอบอกให้เธอดูวิดีโอต่อไปอีก ธงของดันเจี้ยนโลกนั้นยังคงปักไว้ที่เดิม มันไม่มีอะไรที่จะหยุด Warlord ในการชิงธงได้ก่อนที่เควสจะหมดเวลาลง
แต่พวกอันเดตเป็นฝ่ายชนะ พวกเขายังคุมเขตนี้เอาไว้และแจ้งเตือนจากระบบสำหรับการฆ่า เดฟ ได้ล่ะ ?
เดี๋ยวนะ ! วิดีโอยังเล่นต่อเดฟยังคงอยู่ในวิหารีมองไปที่ Warlord ผ่านหน้าจอสีเทา
Warlord หันกลับไปที่ธง
สีที่หน้าจอเริ่มกลับมา มีจุดๆหนึ่งที่ขยับ
เดฟกำลังขยับ! เขากลับมา !
เดฟค่อยๆเดินเข้าไปหา Warlord เข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาได้สะบัดมือและมีหัวของปีศาจโลผ่มาด้านหลัง Warlord มันอ้าปากของมัน Warlord หันกลับมาและตะโกนออกมาก่อนจะตามมาด้วยเสียงฉีกกระชากเนื้อ
” เหี้ย….. ! ” – Lone Arrow ยากที่จะคุมสติได้ พ่อเธอไม่ชอบให้เธอใช้คำพูดแบบนี้ พ่อถึงกับตั้งกฎไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอพูดหยาบคาย คอมที่บ้านจะบันทึกมันเอาไว้ เธอจะถูกหักเงินและก็จะไม่เหลือเงินไปซื้อของที่อยากได้
แต่คำที่เธอพูดออกมานั้นเธอพูดกับตัวเองเงียบๆ ‘ เขาจัดการ Warlord ได้ ! ‘
เดฟที่เลเวล 100 ได้ฆ่า Warlord เลเวล 432 ผู้เล่นอันดับหนึ่งในเกมลงได้ !
‘ ฉันต้องเอาวิดีโอนี้ไปเล่นทั้งหมด ‘
เธอจัดการตัดต่อวิดีโอให้ดูลื่นไหลมากขึ้นและตัดส่วนที่บกพร่องออกไป เธอถึงกับทำการปรับสีและแสงอีกทั้งยังใส่เสียงเอฟเฟ็คเพิ่มรวมไปถึงเพิ่มเพลงลงไปด้วย
เธอทำให้มันดูน่าตื่นเต้นกว่าเดิม สำหรับวิดีโอนี้แล้วมันต้องฮิตมากแน่ๆ !
เธอดีดนิ้วพร้อมกับอัพโหลดวิดีโอนี้ เธอรู้ว่าวิดีโออื่นๆอาจจะฮิตแต่วิดีโอนี้ต้องทำให้เซิฟเวอร์ล่มแน่ๆ
โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นและข้อความก็เด้งขึ้นมา
‘ ลองดูที่ส่วน 11:32 มันเป็นการแสดงที่ดี ‘
‘ ได้ ‘ เธอตอลกลับไปพร้อมกับไปดูส่วนตามที่ข้อความบอก
มันเป็นตอนที่เดฟล่อ Wan Yi ให้เข้ามาตาย
‘ เพื่อน ! นายจัดการหัวหน้ากิลด์ใหญ่ไปถึงสองคน !!! ‘
‘ ใช่ ฉันกำลังจะทำเควสใหญ่ ฉันคงหายไปสักพัก ‘
‘ ฉันก็เหมือนกัน ฉันต้องไปทำเควสการสืบทอดของตัวเองและเพิ่มเลเวลด้วย ‘
‘ ไว้เจอกัน ‘
ตาของ Lone Arrow เป็นประกายขึ้นมาตอนที่เห็นแจ้งเตือนที่หน้าจอ – ” วิดีโออัพเสร็จแล้ว ! “
เดฟนอนหลับไปก่อนจะตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส เขาเริ่มทำอาหารเช้าและจิบกาแฟ
เดฟมองไปที่กระดานข่าวของเว็บเกมและอ่านเนื้อหาต่างๆ มีผู้เล่นเลเวลต่ำหลายคนเกลียดพวกกิลด์ใหญ่ซึ่งมีแต่ดูถูกและด่าความสำเร็จของ Mr.Skeletal
นี่ทำให้อารมณ์ของเดฟดีขึ้น เดฟกินอาหารเช้าจนเสร็จก่อนจะล็อคอินกลับเข้าไปในเกมโผล่กลับมาที่เขตแรกของดันเจี้ยนโลกและจากนั้นก็มีแจ้งเตือนโผล่เข้ามาที่หน้าจอของเขา
[ ระบบได้คำนวณคะแนนเป็นรางวัลสำหรับการตายในเหตุการณ์นี้
เพราะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในเขตนี้ คุณจึงได้คะแนนไป 100%
คุณได้รับคะแนน 1,500,000 คะแนน
คุณยังได้รับ 5,000 คะแนนต่อวันสำหรับเขตแรกของดันเจี้ยนโลกที่ยังโดนอันเดตควบคุมไว้อยู่ ]
” โว๊ว ! “
Chapter 85: กลับสู่จุดเริ่มต้น
เดฟมองไปที่คะแนนในแผงสเตตัสตัวเอง เขามี 1,532,000 คะแนน มันมีคะแนนจำนวนมหาศาล
นี่มัน….โคตรเยอะเลย
เดฟเดินไปที่ร้านค้าทันที
ตาของเจ้าของร้านเป็นประกายเมื่อเดฟเดินเข้าไปในร้าน
” ให้ฉันช่วยอะไรดีคุณลูกค้าคนโปรด ! “
อ่ะ ฉันคงเป็นลูกค้าคนเดียวสินะ
” เอาของที่มีให้ฉันดูหน่อย ” – เดฟพูดขึ้น
” แน่นอน นี่ไง ! ” – ซอมบี้ได้ยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันสีเหลืองของมัน
เดฟเปิดดูไอเท็มผ่านๆทั้งยา อาหารและวัสดุสร้าง เขามองไปที่อาวุธ มันคงดีถ้าอัพเกรดดาบได้หรืออย่างน้อยก็มีอาวุธสำรองแต่มันไม่มีอะไรที่สะดุดตาเขา
” มีอาวุธดีกว่านี้มั้ย ? ” – เดฟถาม
” ของพวกนี้เป็นของพื้นฐานสำหรับพวกระดับ Captain ถ้านายต้องการเข้าถึงของที่ดีกว่านี้ก็ต้องเป็น Death Knight ” – ซอมบี้ยักไหล่
” เข้าใจแล้ว งั้นเอายาฟื้นฟู 50 อัน เซ็ตเกราะ Fallen Knight 50 ชุด ชุดนักธนู 30 ชุดพร้อมกับหน้าไม้ด้วยและชุดหนักเวทย์กับคทาอีก 20 ชุด “
” อ่ะ ได้เลย ! แต่นายจะเอาของพวกนี้ไปทำอะไร ? ” – ซอมบี้ถาม
” ไม่ต้องถาม รีบเอาของที่ฉันสั่งมา ! ” – เดฟพูดด้วยท่าทีหมดความอดทน
” ได้ครับ ได้ “
เดฟรับของมาก่อนจะจ่ายคะแนนไป ตอนออกจากร้านเขาเหลือคะแนนเพียงแค่ 882,.000 คะแนนเทานั้น
[ดีบัฟจากระบบ ! คุณมีของเกินน้ำหนัก ! ]
[ โปรดเคลื่อนย้ายของจากตัวคุณ ดีบัฟถึงหายไปและคุณก็สามารถเดินได้ปกติ ]
[ คุณมีน้ำหนักเกิน 500 กก. ]
[100/600]
” อ่ะ น้ำหนักจำกัดไว้ที่ 100 ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย “
เดฟพยายามจะเดินแต่ก็ขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เขาเรียกอันเดตของตัวเองมาที่ร้านค้าและส่งเกราะให้พวกนั้นทีละชุดๆ
พวกนั้นยืนนิ่งอยู่รอบตัว เดฟคอยถือเกราะและอาวุธที่เขาส่งให้พวกมัน ตาของอันเดตเป็นร้อยคู่ต่างก็มองมาที่เขา
เดฟเริ่มตะโกนด่าออกไป – ” พวกนายเป็นอะไร ? ใส่เข้าไปสิ “
ตอนที่เขาพูดจบก็มีเสียงแหบๆตอบกลับขึ้นมา – ” ไม่….มี….ใคร….เคย….ให้…ของ….เรา….มา ….ก่อน “
เดฟหันกลับไปมองอันเดตที่พูด
มันคือ Ghoul ที่สูงสองเมตรซึ่งมองมาที่เขา
” Bud ! นายพูดได้…? ” – เดฟถาม
” ใช่ “
งั้นพวกมันก็ฉลาดขึ้นตอนที่ยกระดับขึ้นมา
” ฉันไม่รู้ว่านายจะพูดได้ งั้นก็ดีเลย เพื่อน ! “
ไม่มีการตอบรับจาก Ghoul
” อ่ะ ใช่สิ เอล่ะ พวกนายกลับไปทำธุระตัวเอง Bud ยินดีที่ได้คุยกัน เพื่อน “
Bud อยู่ห่างจากด้านหลังของเดฟไม่กี่เมตรและ….ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากยืนนิ่ง
งั้นนี่ก็ไม่ได้ผล ฉันต้องบอกบทบาทของมันและให้หน้าที่กับพวก Boyz เดี๋ยวไว้ค่อยคิดทีหลัง
” นี่ใช้คะแนนไปเยอะเลยแต่ฉันคิดว่ามันน่าจะคุ้ม “
เดฟหันกลับมาหาพ่อค้า – ” ฉันจะหา Andre ได้จากที่ไหน ? “
” Andre ? เขาทำงานในเขต Death Knight นอกซะจากว่านายจะเป็น Death Knight นายไม่สามารถเข้าไปในเขตที่เขาทำงานได้…แต่ถ้ามีคะแนนแลกเปลี่ยน ฉันนัดเจอเขาให้นายได้ ” – พ่อค้าพูดพร้อมกับยิ้มออกมาแบบโลภๆ
เดฟ ด่าในใจ ‘ ไอ้โลภมาก ‘
” เท่าไหร่ ? ” – เดฟถาม
” 10,000 คะแนนสำหรับการนัดเจอ “
นี่ถือว่าเยอะ ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงก็เก็บมันมาไม่ได้ ตอนนี้เขามีคะแนนอยู่กับตัวเยอะแต่เขาไม่คิดที่จะจ่ายไปโดยไม่ต่อรอง
เดฟแสดงสีหน้าลำบากใจ – ” 10,000 ? บ้าไปแล้ว มันมากเกินไป “
” ได้ เพราะนายซื้อของฉัน ฉันจะลดให้ก็แล้วกัน 9,999 คะแนน “
เดฟคิ้วขมวดหนักขึ้นไปอีก เขารอและคิดว่าอีกฝ่ายคงพูดเล่นแต่ซอมบี้ไม่ได้ยิ้มเลยสักนิด
สุดท้ายซอมบี้นั้นก็ไม่ยอมลดราคาและเดฟก็ต้องจ่ายคะแนนที่มันต้องการไป
มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
[ Andre the Smith รอคุณอยู่ด้านในวิหารของเขตแรกดันเจี้ยนโลก คุณมีเวลา 10 นาทีก่อนที่ Andre จะออกจากที่นั่น ]
เดฟหันกลับและรีบไปที่วิหาร เขาเห็นอันเดตกล้ามโตยืนอยู่ที่กลางวิหารและข้างๆเขาก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง
Delvina !
” งั้นไอ้หนูนี่ก็คือคนที่ทำให้ทุกอย่างสั่นคลอน ดีที่ได้เห็นพวกสายเลือดใหม่ทำผลงานให้กับอาณาจักร ” – ชายคนนั้นพูด
” สวัสดี นายคงเป็น Andre แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง Delvina ? ฉันคิดว่าเธอถูก…”
” ตราบใดที่หัวใจแห่งความตายยังคงอยู่ เราจะไม่ตายจริงๆ ” – เธอยิ้มแล้วตอบกลับ
เดฟไม่รู้ว่าหัวใจแห่งความตายคืออะไรแต่เขาจำได้ว่าราชาได้แทงเข้าไปที่หัวใจที่เอามาจากตัวลูกสาวตัวเองด้วยมีดที่ดูน่ากลัว
เป็นไปได้มั้ยว่าหัวใจนั่นคือสิ่งที่เดฟตามหาอยู่ ?
เดฟเอาหมวกออกมาจากช่องเก็บของแล้วส่งให้กับช่างตีเหล็ก
” ฉันมาที่นี่เพื่อดูว่านายรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง “
Andre รับหมวกนั่นไปแล้วตรวจสอบดู เขาพลิกมันไปมาเพื่อดูทุกมุม
” เข้าใจแล้ว หมวกนี่ได้รับความเสียหายและใช้การไม่ได้ ฉันซ่อมมันได้หากนายหาส่วนที่เหลือกับวัสดุที่ฉันต้องใช้มา “
[ เควสหลัก (SSS)
Andre ได้เสนอตัวว่าจะซ่อมเกราะของ Undead King ถ้าคุณหาชิ้นส่วนที่เหลือต่อและเอาวัสดุที่จำเป็นมาให้กับเขา :
Bones of a King ( คุณต้องฆ่าเอง)
5 x Unicorn’s Horn
100 x Adamantine Filaments
Ramsha’s Blood (10 ลิตร)
100 x Silver Hydra’s Scales
1 x Black Dragon’s Heart ]
ตาของเดฟแทบถลนออกมาตอนที่เห็นรายชื่อของพกนั้น การหาเกราะส่วนที่เหลือก็ถือว่าแย่พอแล้ว
” นี่ตลกแล้ว ! “
” พวก เกราะนี่น่ะคือหนึ่งในเกราะที่ดีที่สุดในโลก มันทำขึ้นมาเพื่อราชา ฉันเป็นคนเดียวที่ซ่อมเกราะนี่ได้เพราะฉันเป็นคนทำมันขึ้นมาและฉันจะซ่อมมันได้ก็ต่อเมื่อนายมีของพวกนั้น “
เดฟถอนหายใจออกมา อีกเควสที่เขาเลเวลต่ำเกินไปที่จะทำมันได้
เดฟให้ Lone Arrow ไปซื้อ [Adamantine Filaments] และ [Unicorn’s Horn] จากห้องประมูลได้แต่เขารู้ว่าราคามันคงไม่ใช่น้อยๆ
สำหรับ [Bones of a King] มันคงเป็นเรื่องยาก นี่ไม่ต้องพูดถึง [Silver Hydra’s Scales] และ [Black Dragon’s Heart] มอนสเตอร์พวกนี้ยังไม่ถูกพบตัวในเกม นี่ไม่ต้องพูดถึงการล่าและหาของจากมัน
แต่สิ่งที่ทำให้เดฟสลดที่สุดคือเลือด [Ramsha’s Blood] มันเป็นผู้พิทักษ์ของโลกใต้ดิน
” นี่คือของที่ฉันต้องการ หามาให้ฉันแล้วฉันจะซ่อมมันให้ ถ้างั้นฉันขอตัว ฉันมีเรื่องต้องไปทำ “- Andre หันกลับแล้วเดินจากไป
Delvina มองมาที่เดฟด้วยท่าทีแปลกใจ
” ไม่ต้องกังวลเรื่องเกราะ นายยังเด็กและยังมีเวลาอีกเยอะที่จะทำตามเป้าหมาย นายน่าจะโฟกัสไปกับการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองและพัฒนาสกิล ฉันเตือนนายก่อนนะ ยศ Captain น่ะมีภารกิจมากกว่าเดิมเพื่อให้นายเพิ่มพลังและฐานะของตัวเอง “
เดฟขอบคุณกับคำแนะนำของ Delvina จากนั้นเขาก็หันกลับและมุ่งหน้าไปยังที่ที่ทีมอันเดตเขารออยู่
เมื่อเห็นไอคอนกระพริบขึ้นมาเดฟก็ได้ลองเปิดมันดู
[ ภารกิจป้องกันดันเจี้ยน
รับหน้าที่เป็นบอสหรือมินิบอสของดันเจี้ยน
ตำแหน่งของภารกิจที่ให้เลือกมีดังนี้ :
Dungeon of the Skeletal-Soul Bat (บอส)
Ice Palace Dungeon (บอส)
Mustakrakish’s Desert Palace (มินิบอส)
Desolate Temple (บอส)
]
นี่คือดันเจี้ยนที่เดฟเคยไปมาก่อนแต่ที่สะดุดตาก็คือตัวเลือกสุดท้าย
” นั่นคือดันเจี้ยนที่พาฉันลงมาในดินแดนอันเดต มันคือดันเจี้ยนที่ทุกอย่างเริ่มต้น “
สำหรับเดฟ การเห็นชื่อของดันเจี้ยนทำให้นึกถึงอดีต แม้ว่าเขาจะเพิ่งเล่นมาได้แค่ 2 อาทิตย์แต่มันมีความทรงจำมากมาย
เดฟได้เลือก Desolate Temple และมีแจ้งเตือนอีกอันโผล่ขึ้นมา
[ คุณได้เลือกที่จะถูกเรียกไปเป็นบอสของดันเจี้ยนที่ Desolate Temple
ภารกิจของคุณคือคุ้มกันดันเจี้ยนเป็นเวลา 24 ชม.(ในเกม)
สเตตัสของคุณจะถูกปรับชั่วคราวตามเลเวลของดันเจี้ยน
คุณยอมรับหรือไม่ ? Y/N]
” ทำไมจะไม่ล่ะ ทำให้ฉันเป็นบอส ! “
เดฟกดตกลงและหายไปจากเขตดันเจี้ยนโลกทันที
Chapter 86:ยินดีที่ได้พบนายที่นี่ !
เดฟโผล่มาที่ใจกลางห้องโถงที่สลัว เขาเคยมาที่นี่มาก่อนพร้อมกับ Bone Breaker และ Stainless Steel พวกเขาเปิดประตูลับบนกำแพงด้วยกัน ทางเข้าไปยังห้องลับที่ที่พวกเขาพบกับ Deadra
แต่ตอนนี้กำแพงที่มีประตูนั้นถูกกันเอาไว้ด้วยเศษหินและเสาที่หัก
ก่อนที่เขาจะได้ไปตรวจต่อ มันก็มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
[Kis’Shtingbrah The Ruthless
ตอนนี้คุณมีสเตตัสเทียบเท่ากับบอสตามระยะเวลาของภารกิจ
สเตตัสและสกิลของคุณจะถูกปรับชั่วคราว โปรดยืนยันและยอมรับการเปลี่ยนแปลง
คุณจะได้ 10 คะแนนต่อการตายของศัตรูแต่ละคนในดันเจี้ยนและ 100 คะแนนสำหรับศัตรูที่คุณฆ่าด้วยตัวเอง ]
[ Kis’Shtigbrah
ระดับ : บอส
เผ่า : อันเดต
HP : 250,000
MP: 50,000
แรง : ไม่จำกัด
โฟกัส : 100
Intelligence 260 +(200)
Wisdom 310+(200)
Dexterity 260 (+200)
Agility 260 +(200)
Vitality 25,000
Strength 260 +(200)
Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 2,000
Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 4,000
Immunity ( ต้านทาน ) : 20% +(5)%
HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(500)
Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(500)
Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞
Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 20/วินาที
ฉายา : ผู้โหดเหี้ยม
อาชีพและสกิลของคุณจะใช้การไม่ได้ระหว่างช่วงภารกิจ
คุณสามารถใช้สกิลเหล่านี้ได้ระหว่างทำภารกิจ
{ Call to Arms : เรียกลูกน้องออกมาจำนวนเท่ากับศัตรูที่เผชิญหน้า สูงสุด 10 ตัว ลูกน้องที่เยกออกมานั้นจะสุ่มตั้งแต่ระดับสูงจนถึงต่ำ}
{ Decimating slash : ทำดาเมจเป้าหมายเดียว 400% ของดาเมจอาวุธ (คูลดาวน์ 40 วินาที) }
{Shield Bash : ทำดาเมจโดยตรง 1,000 และส่งผลทำให้กระเด็น ถ้าผู้เล่นที่กระเด็นออกไปชนกับสิ่งแวดล้อมจะสตันท์ 2 วินาทีและรับดาเมจโดยตรงอีก 1,000 ถ้าผู้เล่นกระเด็นไปชนศัตรูคนอื่น ทั้งสองจะได้รับดาเมจโดยตรง 1,000 คูลดาวน์ 20 วินาที }
{War Cry : เพิ่มดาเมจของลูกน้อง 200% เป็นเวลา 60 วินาที }
{ Rage : สกิลติดตัว เมื่อเลือดลดลงต่ำกว่า 10% จะได้รับดาเมจเพิ่มขึ้น 200% }
{Boss Prestige : เพิ่มขนาดร่างกายและแผ่ออร่าที่ส่งผลความกลัว }
คุณจะรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รึเปล่า ? Y/N
เตือน : การตายจะรีเซ็ตตัวละครของคุณให้มีสเตตัสเหมือนก่อนหน้านี้แต่คุณจะไม่อาจยกเลิกภารกิจได้
คุณสามารถยกเลิกภารกิจได้ด้วยคะแนน 10,000 คะแนนแต่ชื่อเสียงของคุณในดินแดนอันเดตก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
]
” ทำไมจะไม่ลองดูล่ะ “
เดฟกดยอมรับและตัวละครของเขาก็เริ่มขยายขนาดขึ้น
ไม่นานร่างกายของเดฟก็สูงขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า
” เย้ ! ฉันอาจจะชินกับการตัวใหญ่แบบนี้ก็ได้ ” – เดฟมองไปที่สเตตัสใหม่ของตัวเองและพบว่าสกิลเดิมของเขากลายเป็นสีเทา – ” บ้าเอ้ย ไม่มีสกิลเดิมแม้แต่นิดเดียว ฉันรู้จุดอ่อนและจุดแข็งของมันแล้ว ตอนนี้ฉันต้องมาปรับตัวเข้ากับสกิลใหม่อีก “
” เดี๋ยวนะ “
เดฟเอามือถูหูตัวเองและพบว่าเขายังต่างหูที่ได้จาก Drahma อยู่
เขายังมีดาบที่แยกออกเป็นสองดาบอยู่และใช้ความสกิลของดาบได้ แหวนเองก็ยังใช้ได้ แม้ว่าเขาจะต้องกลับไปที่โลกใต้ดินตอนนี้แต่พวกมอนสเตอร์ที่นั่นก็ยังถือว่าเลเวลต่ำหากเทียบกับเขาตอนนี้
เดฟหันกลับมาตรวจสอบที่ดันเจี้ยน ดันเจี้ยนแห่งนี้เหมือนกับเขาวงกตที่เต็มไปด้วยโลงศพและหลุมศพเก่าๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเขาจึงเริ่มเดินไปรอบๆดันเจี้ยนโดยหวังว่าจะพบบางอย่างที่เขามองข้ามไปในตอนแรกที่เขาเข้ามาในดันเจี้ยนนี้
เดฟได้ออกจากห้องบอสที่ที่เขากิดมาและเริ่มสำรวจส่วนที่เหลือของดันเจี้ยน
มันมีฝูงอันเดตที่เดินไปมาตามทางเดิน หลายตัวเป็น Elite Skeletal รึไม่ก็เป็น Elite Undead
” ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก “
ตอนที่เดฟไปถึงห้องมินิบอสเขาก็พบกับ Lesser Death Knight เฝ้าอยู่ที่นั่น
[ Unnamed Lesser Death Knight
ระดับ : Savage
เลเวล: 250
HP: 250,000
ความอันตราย : เป็นมิตร
ยามผู้อ่อนแอผู้เฝ้าสุสานของอัศวินที่โดนขับไล่ ]
หืม ครั้งที่แล้วมันไม่ได้มีคำอธิบายแบบนี้นิ
” เฮ้ย พวก ” – เดฟพูดขึ้น
Lesser Death Knight หันกลับมามองที่เดฟ
” นายท่าน ! ให้ฉันรับใช้อะไรดี ? ” – Lesser Death Knight ถามด้วยความเคารพ
โอ้ งั้นเขาก็คิดว่าฉันมีตำแหน่งสูงกว่าแม้ว่าระดับของเขาจะสูงกว่าฉันก็เถอะ ฉันคิดว่ามันเพราะตอนนี้ฉันเป็นบอสอยู่
” บอกเรื่องดันเจี้ยนนี้ให้ฉันรู้ที “
” ได้ นายท่านคงต้องมาใหม่ ที่นี่คือจุดพักของบริวารเก่าที่เคยรับใช้ Undead King “
” ดูเหมือนคุกมากว่าจุดพักสำหรับสาวกนะ ” – เดฟพูดขึ้น
” นั่นก็จริง ราชาได้ขับไล่บริวารออกมา เรามาที่นี่เพื่อคุ้มกันที่นี่เพื่อที่บริวารนั่นจะหนีออกไปไม่ได้ “
ฉันเดาว่าเขาคงไม่รู้ว่า Deadra ได้ออกจากที่นี่ไปแล้ว
” ดีมาก ฉันจะไปดูรอบๆ ขยันทำงานเข้าไว้ ” – เดฟยกนิ้วโป้งให้กับอีกฝ่าย
” นายท่าน นั่นคือทางออกของดันเจี้ยน นายท่านอาจจะพบกับคนที่ผ่านไปมา มันอันตราย ” – Lesser Death Knight เตือนหลังจากที่เห็นว่าเดฟจะเดินไปทางไหน
” หือ แล้วไง ? ทำไมต้องรอให้คนเข้ามาเมื่อนายจัดการพวกเขาที่ประตูได้ ” – เดฟยักไหล่
” ฉันไม่เคยคิดถึงวิธีนั้นเลย นายท่านต้องการให้ไปกับท่านด้วยรึเปล่า ? “
” ได้ มาสิ “
เดฟและ Lesser Death Knight เดินไปยังทางเข้าของดันเจี้ยนด้วยกัน
เมื่อไหร่ก็ตามที่ไปเจอกับพวกอันเดต พวกนั้นจะมองบอสและมินิบอสที่เดินมาด้วยกันด้วยความแปลกใจ อันเดตต่างก็สงสัยแล้วพากันเดินตามมา
10 นาทีต่อมาพวกเขาก็มาอยู่ที่ทางออกดันเจี้ยนแต่มันไม่เหมือนกับตอนที่เดฟเข้ามา ตอนนี้มันมีกำแพงหมอกกั้นเอาไว้
เดฟจับไปที่กำแพงหมอกนั้นและมีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเขา
[ คุณพยายามที่จะออกจากดันเจี้ยน! ]
Lesser Death Knight พูดขึ้นมาด้วยท่าทีกังวล – ” นายท่าน ฉันว่าอย่าออกจากที่นี่เลย ดันเจี้ยนคอยปกป้องชีวิตเราเอาไว้ ถ้าเราออกจากที่นี่เราจะตายอย่างถาวร “
” งั้นมันมีผลดีอะไรกับการอยู่ในดันเจี้ยนนี้นอกจากได้คะแนนล่ะ ? “
” ดันเจี้ยนไม่ใช่แค่ให้คะแนนกับเรา เรายังได้พลังด้วย ดันเจี้ยนได้ดูดซับแก่นชีวิตของคนที่ตายที่นี่ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เล่นจำนวนหนึ่งตายไปในดันเจี้ยน ดันเจี้ยนจะให้แก่นชีวิตให้กับเราและเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น “
ฉันคิดว่าเขาคงหมายถึง xp ตอนที่พูดถึงแก่นชีวิต มันจะหมายความว่าดันเจี้ยนสามารถดูดซับ xp จากผู้เล่นได้แต่ฉันไม่มีทางได้ xp จากการฆ่าผู้เล่น
ในตอนที่เดฟคิดถึงกลไกดันเจี้ยนนั้น กำแพงหมอกก็ได้แยกออกจากกันพร้อมกับพรีสคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามา เขาหันหลังกลับไปมอง ดูเหมือนว่าเขาจะพาคนอื่นมาด้วย
” ฉันบอกนายแล้ว Fortress เธอน่ะพึ่งตัวเองได้น่า พวก ! “
เดฟขมวดคิ้ว เสียงนี้ฟังดูคุ้นๆ
ตอนที่พรีสหันกลับมาและเห็นฝูงอันเดตมองมาที่เขา เขาก็ตัวแข็งทื่อไปรอยยิ้มเขากลายเป็นยิ้มแห้งๆไปทันที
อันเดตตัวใหญ่สองตัวได้พาฝูงอันเดตที่มีชื่อสีแดงมา ตัวหนึ่งเป็นบอส อีกตัวเป็นมินิบอส
ร่างในชุดเกราะเดินเข้ามาชนพรีสที่ตัวแข็งทื่อจากด้านหลังและเริ่มบ่นออกมา – ” ให้ตายสิ Flanker ! ทำไมนายต้องมายืนนิ่งเหมือนไอ้โง่แบบนี้ ? “
เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวแข็งทื่อไป ผู้เล่นใส่เกราะนั้นก็ได้มองไปรอบๆห้องก่อนจะหยุดเหมือนกับกวางที่โดนหมายหัว
ฮันเตอร์คนหนึ่งโผล่มาจากประตูและผลักสองคนก่อนหน้า ผู้เล่นคนนี้เร็วกว่าสองคนเล็กน้อย ทันทีที่เห็นบอสกับมินิบอส เขาก็ถอยกลับไปทันที – ” หือ บะบาย ! “
” เดี๋ยวก่อน ! ” – เดฟพูดขึ้น
ตาของทั้งสามคนถลนออกมา
” มีคำพูดบอกว่าครั้งแรกอาจจะเพราะโชค ครั้งสองเป็นเรื่องบังเอิญ ครั้งสามนี่สิจงใจ ตัวร้ายนี่ดีแหะ ฉันว่าฉันก็ชอบทองเหมือนกัน ” – เดฟพูดพร้อมกับยิ้ม
” ทะทำไมบอสถึงพูดกับเรา ? ” – พรีสถาม
” ตัวร้าย ? ทอง ? ! ” – ชายในชุดเกราะถามพร้อมกับเกาหัวตัวเอง
” ชัดแล้วว่านั่นคือ Mr.Skeleta ดูที่หนวดเขาสิ ” – ฮันเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงอวดรู้
” เหอะ ทักษะฮันเตอร์ของนายก็ถือว่าดีอยู่นะ ” – เดฟยิ้ม
” เราควรฆ่าพวกนั้นเลยมั้ย ? “- Lesser Death Knight ถาม
” ไม่ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันว่าเราน่าจะหาประโยชน์จากพวก TNT ได้ “
เดฟยิ้ม นี่เป็นครั้งที่สามที่เขาเจอกับพวกนี้ สองครั้งแรกนั้นคือภารกิจแบบสุ่ม ครั้งนี้เขาได้เลือกจุดเกิดตัวเองแต่ก็ยังมาพบพวกนี้ที่นี่
มันมากกว่าคำว่าบังเอิญที่พวกนี้มาอยู่ในที่เดียวกันและเวลาเดียวกันกับ เดฟ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
พรีสและชายใส่เกราะคุยกัน
” อะไรคือ TNT ที่เขาเรียกเรา ? “
” เดี๋ยวนะ ถ้านี่คือ Mr.Skeletal แล้วทำไมเขาถึงตัวใหญ่…ใหญ่โคตรๆแบบนี้ได้ ? “
” TNT ที่ว่านี่ใช่ระเบิดมั้ย ? เจ๋ง เราน่ะคือระเบิด ! “
สองคนตีมือกันจนเสียงดังก้อง ฮันเตอร์กรอกตาใส่พวกนั้นพร้อมกับส่ายหน้าอยู่นาน
” ฉันตัวใหญ่อยู่แล้ว ” – เดฟตอบกลับด้วยรอยยิ้ม – ” และขอโทษด้วยนะที่มันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น มันหมายถึงพวกชื่อห่วยสามคน “
Pussy Flanker เลเวล 89 พรีส
Human Fortress เลเวล 86 แทงค์
Perfect Shot เลเวล 90 ฮันเตอร์
Chapter 87: ทำสัญญา
” แล้วพวกนายมาทำอะไรที่ดันเจี้ยนนี้กันล่ะ ? ” – เดฟถามพร้อมกับลูบหนวดไปด้วย
” นายจะไม่ฆ่าพวกเรางั้นเหรอ ? ” – Pussy Flanker ถามกลับ
” ยังไม่ใช่ตอนนี้ ” – เดฟพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
” หลังจากนี้ก็อย่าฆ่าเลย เพื่อน ฉันน่ะเป็นเพื่อนของนาย..” – Fortress รีบพูดขึ้นทันที
เดฟกรอกตาใส่ – ” เอาล่ะ อะไรทำให้พวกนายมาที่ดันเจี่ยนนี้ ? “
” เรามาช่วยชายคนนี้ทำเควส ” – Perfect Shot พูดขึ้นแล้วชี้ไปที่ Pussy Flanker – ” บิช็อปในเมืองหลวงได้บอกให้เขามาตรวจสอบที่นี่ ดังนั้นเราเลยพากันมาที่นี่ “
” มันแปลก ทำไมต้องเป็นดันเจี้ยนนี้และตอนนี้ด้วย ” – เดฟพูดขึ้น
” ฉันเพิ่งได้เควสมาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ฉันเลยทักไปหาเพื่อนและนัดเจอกันที่ทางเข้าดันเจี้ยน แต่พวก เราไม่คิดว่าจะมาเจอนายที่นี่ “
ครึ่งชั่วโมงก่อน ? มันเกือบจะตอนที่ฉันรับเควสบอสมาเลยนิ นี่ AI ของเกมทำแบบนี้เหรอ ?
Perfect Shot พูดขัดคนวามคิดของเดฟ – ” คนทั้งเกมกำลังตามหาตัวนายอยู่พวก “
‘ อ่ะ เหี้ยละ เงินล้านกับค่าหัวฉัน ! ฉันตายห่าแน่ถ้าพวกนี้บอกคนอื่นว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันน่าจะฆ่าพวกนี้แล้วจัดการมันให้เสร็จซะ ‘
ฮันเตอร์พูดต่อ – ” แต่เราไม่บอกใครหรอกนะว่านายอยู่ที่นี่…” – Perfect Shot หันกลับไปหาเพื่อนสองคนแล้วถาม – “…. ใช่มั้ยพวก ? “
” ใช่ ! เดี๋ยวนะ เราจะไม่แลกเขากับเงินงั้นเหรอ ? ” – Human Fortress เกาหัวอีกครั้ง
Perfect Shot มองไปที่ เดฟ และบอกกับเพื่อนสองคน – ” ไม่ เราไม่ทำ เราต้องการเขา “
” หือ ? ! ” – Human Fortress ตอบกลับ
” ไม่ เพื่อน เพื่ออะไร ? ” – พรีสร้องออกมา
” ใช่ ฉันเองก็สงสัย นายคิดว่านายต้องการฉันไปทำไมและเพื่ออะไร ? ” – เดฟถาม
” ก็ง่ายๆ ฉันยอมรับ ค่าหัวกับการแจ้งตำแหน่งของนายน่ะน่าสนใจแต่ฉันรู้ เนื่องจากที่นายทำเควสให้กับอันเดตและนายเองก็เป็นอันเดตด้วย นายต้องมีทางเข้าและออกโลกใต้ดิน พาเราเข้าไปในโลกใต้ดินเพื่อที่เราจะได้เพิ่มเลเวลและหาของ เราจะเก็บความลับของนายไว้ เราจะแบ่งส่วนแบ่งให้กับนายจากของที่เราได้มาจากโลกใต้ดินด้วย “
ชายคนนี้ฉลาด เขาคิดถึงผลระยะยาว ค่าหัวที่กิลด์ต่างๆตั้งขึ้นมานั้นถือว่าเยอะแต่พวกนั้นกลับน้อยนิดหากเทียบกับของที่อาจจะมีในโลกใต้ดิน
” อืม นั่นดูน้อยไปนะพวก อันที่จริงมันเกินกว่าจะคาดการณ์ได้และแม้ว่านายคิดว่ามันจะจริงแต่มันก็ยังมีปัญหาเล็กๆเกี่ยวกับแผนของนาย วิธีในการเข้าไปในโลกใต้ดินนั้นมีไว้แค่สำหรับอันเดตและมันมีผู้เล่นอันเดตแค่คนเดียวในเกม ดังนั้นนายจึงเข้าไปในโลกใต้ดินด้วยวิธีนั้นไม่ได้ ” – เดฟสรุปด้วยรอยยิ้ม
Perfect Shot มองไปที่เดฟด้วยสีหน้าสงสัย จากนั้นก็ยิ้มออกมาและส่ายหน้า – ” ที่นายต้องทำคือเอาคัมภีร์วาร์ปจากโลกใต้ดินให้กับเรา “
เดฟมองไปที่ฮันเตอร์พร้อมกับปากที่เปิดออก เขากำลังจะพูดความคิดของตัวเองแต่สุดท้ายก็ต้องปิดปากเงียบ เขาบอกมันออกมาไม่ได้ไม่งั้นจะดูเหมือนคนโง่
‘ โฮ่ ! ทำไมฉันไม่คิดแบบนั้น ! ฉันช่วย Lone Arrow เพื่อไปยังโลกใต้ดินด้วยวิธีนี้ได้ ‘
” เอาล่ะ…นั่นก็พอเป็นไปได้แต่ตอนที่นายไปถึงประตูโลกใต้ดิน นายจะถูกอันเดตฆ่าเอา “
” นั่นแหละคือส่วนที่เราต้องการนาย นาจะไปกับเราและพาเราผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัย นั่นคือตอนที่เราจะฝากชีวิตไว้กับนาย มันคือการเชื่อใจกันไงล่ะพวก “
เดฟคิดตามแต่ไม่เห็นข้อบกพร่องในเหตุผลของฮันเตอร์เลย เขารู้ว่าถึงแม้ว่าเขาจะเสี่ยงกว่ามากแต่เขาก็ต้องพึ่งสามคนนี้ในการเก็บความลับ
” ได้ นั่นอาจจะได้ผล ตอนนี้เราต้องมาคิดส่วนแบ่งของฉันแล้ว ” – เดฟเอามือถูกกันพร้อมกับตาที่ดูเป็นประกายแห่งความโลภ
” เอ่อ เขาตกลงง่ายเกินไปแล้ว ” – Pussy Flanker ตะลึงกับเรื่องทั้งหมด
Human Fortress พยักหน้าแล้วร้องออกมา – ” มันเป็นกับดัก ! “
ฉันเดาว่าถ้าเอากะโหลกไประเบิดใส่หัวเขา เขาคงไม่ดีขึ้นหรอก
” ไม่ใช่เลยเพื่อน ยิ่งฉันคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดูเข้าท่า โลกใต้ดินนั้นมีขนาดใหญ่ มีแค่เพียงลูกน้องไม่กี่ตัวที่ช่วยฉันในการสำรวจ นี่ไม่ต้องพูดถึงผู้ช่วยที่จะมาช่วยฉันหาของเพิ่มและทำให้ได้เงินเพิ่มขึ้น โชคร้ายหน่อยตอนนี้พวกนายเลเวลต่ำเกินไปสำหรับโลกใต้ดิน “
” แต่นายก็ลงไปได้นี่..”
เดฟขัดขึ้นมาเพื่อไม่ต้องฟังเรื่องไร้สาระเพิ่ม – ” มันมีเงื่อนไขพิเศษและฉันก็ได้รับการช่วยเหลือจากอันเดต มันจะไม่เป็นแบบนั้นซ้ำอีก “
‘ ฮึ่ม ราวกับว่าพวกนี้อยากทำตามการเดินทางอันสุดยอดของฉัน ‘
” แต่ถึงเราจะทำแบบนั้น ฉันก็ไม่เชื่อใจนาย บอกเลยว่าถ้าฉันช่วยนายให้ไปถึงโลกใต้ดิน นายก็ยังรายงานตำแหน่งของฉันเพื่อรับรางวัลตอนไหนก็ได้นิ “
Perfect Shot พยักหน้าแต่ก็พูดด้วยท่าทีมั่นใจ – ” ฉันเข้าใจประเด็นของนายแต่ฉันมีวิธีแก้ Alfred ! “
พ่อบ้าน AI ปรากฏตัวขึ้นมาระหว่างทั้งสองฝ่าย
” ให้ผมช่วยอะไรดี ? ” – พ่อบ้านถาม Perfect Shot หลังจากที่ส่งสายตาไม่พอใจไปที่เดฟ
” เราต้องการทำสัญญา ” – Perfect Shot พูดขึ้น
Alfred ตอบรับด้วยการโบกมือเผยให้เห็นสัญญา
” ข้อตกลงว่ายังไง ? ” – พ่อบ้านถามขึ้นมา
” เราต้องการเป็นคู่สัญญากับ เอ่อ….นายชื่อว่าอะไร ? ” – Perfect Shot ถามเดฟ
” อืม Alfred ชื่อตัวละครจำเป็นในการทำสัญญาหรือเปล่า ? ” – เดฟถามพ่อบ้าน
” ถ้าอยากที่จะทำสัญญา ชื่อนั้นคือสิ่งจำเป็นต้องใช้ เพราะตอนนี้คุณอยู่ในสภาพอันเดต คุณอาจจะใช้ชื่อของคุณตอนนี้ในการทำสัญญา การฝ่าฝืนสัญญานั้นจะส่งผลต่อตัวละครดั้งเดิมของคุณ “
” เอาล่ะ งั้นก็ใช้ Kis’Shtingbrah ละกัน ” – เดฟพูดขึ้น
Perfect Shot พยักหน้า – ” เอาล่ะสามคนเราจะไม่บอกตำแหน่งของนายหรือข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับ Kish-Kis’tingbrah ” – Perfect Shot ชี้ไปที่เดฟ – ” เพื่อผลกำไรจนกว่าเราจะตกลงที่จะยกเลิกสัญญาทั้งสองฝ่าย ในทางกลับกันเขาจะซื้อคัมภีร์วาร์ปไปยังโลกใต้ดินให้กับเราและพาเราผ่านอันเดตไปอย่างปลอดภัยเพื่อที่เราจะได้สำรวจและรวบรวมทรัพยากรในพื้นที่และที่อื่นๆที่เราไปถึง ในทางกลับกันแล้วเราจะให้ส่วนแบ่ง 20% ของเงินและค่าของของที่เราได้มาในโลกใต้ดินและตำแหน่งอื่นๆ ถ้าเขาเข้าร่วมในการสำรวจและรวบรวมของเขากับ เขาก็จะได้ส่วนแบ่งที่เท่าเทียบกันที่เรารวบรวมมาระหว่างที่เขาเข้าร่วมด้วย “
เดฟพูดกับ Alfred – ” ฉันยังมีข้อตกลงเพิ่ม ฉันจะให้คัมภีร์วาร์ปกับพวกเขาตอนที่พวกเลเวลถึง 200 หรือสูงกว่า คัมภีร์ที่พวกเขาได้จากฉันนั้นจะถูกใช้แค่สามอันในสัญญา คัมภีร์นั้นขายให้หรือคนอื่นใช้ไม่ได้นอกซะจากว่าฉันจะอนุญาต ฉันจะเอาคัมภีร์ให้พวกเขา 3 อันก่อน หลังจากนั้นพวกเขาต้องซื้อมันจากฉันอันละ 500 ทอง สุดท้ายฉันจะได้ 30% จากของที่พวกเขาได้มาจากโลกใต้ดินและสิทธิที่จะเข้าร่วมกับเควสที่พกวเขาพบอันไหนก็ได้ ” – เดฟพูดขึ้น
Human Fortress ค้านขึ้นมา – ” ตอนนี้นายโลภมากไปแล้ว พวก ! นั่นน่ะเป็นร้อยเท่าของราคาคัมภีร์วาร์ปปกติเลยนะ ! “
” คัมภีร์วาร์ปพวกนี้คือโอกาสที่นายจะได้เพิ่มเลเวลและหาของที่ไม่มีในที่อื่นในเกม นายจะเข้าใจค่าของมันว่ามากขนาดไหน ” – เดฟพูดขึ้น
” เราตกลง ” – Perfect Shot ตอบกลับในตอนที่ทั้งสองเถียงกัน
Perfect Shot ได้รับข้อความส่วนตัวจาก Pussy Flanker ‘ พวก เรายอมมากเกินไปแล้ว ไอ้ห่านี้พยายามเอาเปรียบเรา เปลี่ยนข้อตกลงที่เราตั้งเอาไว้ ! ‘
‘ ไม่ต้องกังวล ข้อตกลงนี้ก็ยังถือว่าเยอะสำหรับเรา จริงๆแล้วฉันกังวลว่าเขาอยากได้มากกว่านี้อีก ‘
‘ เราจะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างมาก การเข้าออกเขตที่คนอื่นยังเข้าไม่ได้นั้นหมายถึงการผจญภัย เควสและมอนสเตอร์ที่มากกว่าเดิม ‘
‘ 1 ล้านที่กิลด์อื่นเสนอให้มาไม่คุ้มค่าหรอกหากเทียบกับโลกใต้ดิน ‘
Alfred พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงฟังดูเป็นทางการ -” นี่คือข้อตกลงและผลของการฝืน ถ้าใครในสามคนนี้ติดต่อวิธีไหนก็ตามในการบอกตำแหน่งของ Kis’Shtingbrah ให้กับผู้เล่นคนอื่น ไอดีของทั้งสามคนจะโดนลบ การไม่บอกถึงของที่ได้มาจากในโลกใต้ดินเองก็มีผลเช่นกัน การลงโทษนี้จะใช้กับ Kis’Shtingbrah ถ้าเขาไม่ทำตามเงื่อนไขที่เขียนไว้ในสัญญาซึ่งคือการให้คัมภีร์วาร์ป 3 อันในการเคลื่อนย้ายไปยังดันเจี้ยนโลกฟรีๆและส่วนที่เหลือก็ตามราคาที่ตกลงกันไว้ ในเรื่องความต่างในความขัดแย้งของสัญญาหรือการแบ่งของนั้นพวกคุณสามารถเรียกฉันมาตัดสินได้ โปรดจำเอาไว้ถ้าไอดีโดนลบ เกมจะแบนคุณไม่ให้เล่นเกมนี้ได้อีก ทั้งสี่คนจะอยู่ในเกมเป็นเวลา 24 ชม.เพื่อให้มั่นใจว่าสัญญานี้ทำงานแล้ว “
เดฟได้ดูไปที่สัญญา
” คุณตกลงหรือเปล่า ? ” – พ่อบ้าถาม
” เราตกลง ” – Perfect Shot พูดขึ้นแล้วเซ็นชื่อ
อีกสองคนมองหน้ากันและยักไหล่ก่อนจะเซ็นสัญญา
เดฟเซ็นสัญญาลงไปและมีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเขา
[ คุณได้ผูกมัดสัญญากับผู้เล่น : Pussy-Flanker, Perfect Shot, Human Fortress ]
[ โปรดทำตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ในสัญญา การฝ่าฝืนจะทำให้ไอดีของคุณโดนลบ ! ]
Alfred ส่งสัญญาให้แต่ละคนก่อนจะหายไป
” แล้วพวกนายมาที่นี่เพื่อเควสอะไร ? ” – เดฟถาม
” โอ้ เรามาหาเกราะอกของ Undead King ” – Pussy Flanker พูดขึ้น
[ เควสหลัก ( SSS)
คุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเกราะของ Undead King ! คุณได้พบเบาะแสที่นำไปสู่เกราะอก ]
” เดี๋ยวนะ อะไรนะ ? “
‘ พวกสามตัวตลกนี่มาเกี่ยวข้องกับเควสหลักของฉันได้ยังไง ? ‘
Chapter 88: เควสแปลกๆ
” ข้อกำหนดของเควสคืออะไร ? ” – เดฟถามและมองไปยังสีหน้าสงสัยของทั้งสามคน เควสของเขาอยู่ระดับ SSS เป็นตัวเปลี่ยนเนื้อเรื่องของเกม หนึ่งในสามคนนี้ได้เควสที่เกี่ยวข้องกันมาซึ่งเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญได้
” เควสให้ตรวจสอบวิหารนี่ มันอยู่ระดั B เพราะบอสเลเวล 250 แต่เรามาพร้อมกับกลยุทธ์ที่…เดี๋ยวนะ นายเป็นบอสนี่ ! ” – Perfect Shot พูดขึ้นมา
” ใช่ “
” อืม บางทีนายอาจจะดรอปมันถ้าเราฆ่านาย — ฉันหมายถึงถ้านายตาย ” – Pussy Flanker พูดขึ้น
” ฉันไม่มีมันกับตัวและแม้ว่าฉันจะมีแต่ฉันก็สงสัยว่าพวกนายสามาคนจัดการฉันได้หรือเปล่า ” – เดฟ หัวเราะ
” หยุดเลย ไม่มีใครจะมาจัดการใครหอก เอาข้อมูลเควสมาให้ฉันดูหน่อย ” – Perfect Shot บอกกับ Pussy Flanker
[ Divine Undertaking (B)
ตรวจสอบซากของ Desolate Temple ใกล้กับ Moria City
เควสต่อเนื่อง
มีข่าวลือว่าอัศวินที่ถูกจองจำโดย Undead King ใน Desolate Temple มีข่าวลือว่าอัศวินผู้นั้นได้รับเกราะอกของ Undead King ก่อนที่ราชาจะหายตัวไป
หน้าที่ของคุณคือหาข้อมูลเกี่ยวกับเกราะอก ]
หืม งั้นก็หมายความว่า Deadra นั้นมีเกราะอกแต่ห้องของเขาโดนทำลายไปแล้วและฉันไม่เห็นเกราะแม้แต่นิดเดียวเลยในตอนนั้น
” ฉันไม่เห็นว่าเควสจะบอกให้เราฆ่าบอส ไปดูรอบๆเผื่อว่าจะเจออะไร ” – Perfect Shot พูดขึ้น
” เฮ้ย นาย นายรู้อะไรเกี่ยวกับเกราะอกบ้าง ? ” – เดฟหันกลับไปถาม Lesser Death Knight
Lesser Death Knight คิดสักพักก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น – ” ไม่ ฉันได้ใช้เวลาที่นี่มานานและไม่ได้เจอกับของแบบนั้นเลย ถ้าเจอะฉันคงต้องรายงาน “
” ไปดูรอบๆก่อน เราอาจจะพบบางอย่างก็ได้ ” – เดฟพูดขึ้นพร้อมกับความคิดที่แว๊บขึ้นมาในหัว
พวกเขาเดินเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อหาสิ่งที่ดูผิดปกติ
เดฟเดินเหม่อลอยราวกับมีเป้าหมายในหัว คนอื่นๆรีบตามเขาไปทันที
” เฮ้ย พวก นายเร็วเกินไปแล้ว ช้าลงหน่อยก็ได้ “- Human Fortress บ่นขึ้นมา
” ฉันรู้ว่าต้องไปดูที่ไหน มันดีกว่าต้องมาเสียเวลาไปหาทุกที่ ” – เดฟพูดขึ้น
พวกเขาได้มาถึงห้องบอสที่ที่เดฟเพิ่งเกิดเมื่อตะกี้ เดฟมองไปที่โลงศพหิน
คนอื่นๆออกค้นทั่วห้องและเห็นซากหินที่ปิดกำแพงเอไว้
” เราควรเข้าไปดูข้างใน ” – Perfect Shot ชี้ไปที่ซากหิน
” ไม่จำเป็น ฉันคิดว่าฉันเจอสิ่งที่เราตามหาแล้ว ” – เดฟยืนอยู่ใกล้โลงศพหินที่มีลูกหินสีดำและแดงวางอยู่รอบๆ
พวกเขาต่างก็เข้าไปดูในโลง
มันเป็นโลงศพหินที่ Bone Breaker ได้ [Ring of the Death God] มา
” นายแชร์เควสให้ฉันได้มั้ย ? ” – เดฟถาม Pussy Flanker
Pussy Flanker ลองทำการแชร์เควสแต่ก็ได้รับแจ้งเตือนกลับมา
[ คุณไม่สามารถแชร์เควสให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ ! ]
” อ่ะ ” – เดฟอุทานอกอมา
” เก็บมันขึ้นมา ” – เดฟบอกกับ Pussy Flanker
” มันเป็นจดหมาย ” – Pussy Flanker พูดขึ้นหลังที่คลี่ม้วนจดหมาย
[ เฮ้อ ฉันล้มเหลว
ฉันได้ลองแล้วแต่ก็ไม่อาจจะฆ่าราชาได้ ฉันทำให้เขาบาดเจ็บยังไม่ได้แม้แต่จะได้รับการอวยพรจากเทพความตายก็ตาม คัมภีร์นั้นทรงพลัง พลังของ Death Heart ได้ให้ความเป็นอมตะกับเขา แม้แต่ความตายก็ฆ่าเขาไม่ได้
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เราได้ขโมยเกราะหลายส่วนของเขามาเพื่อลดพลังของเขา ถ้านายหาชิ้นสวนนั้น นายจะไม่พบมันที่นี่ จงไปหาพวก Black Skull Order พวกนั้นคุ้มกันสิ่งที่นายตามหาอยู่
Black Skull Order เป็นนักบวชของเทพลับ พวกเขาเคยเป็นสมาชิกของดินแดนอันเดตแต่พวกเขาหักหลังราชาและเข้าร่วมกับกบฏ พวกเขาได้สร้างความเสียหายในหมู่คนตายและคนเป็น
สมาชิกของพวกนั้นเกลียดชังอันเดต ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ความช่วยเหลือของพวกนั้นไม่ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ พวกนั้นเป็นพวกเลวทราบแต่พวกเขาจะช่วยนายหากนายพิสูจน์ว่ามีประโยชน์สำหรับพวกนั้น อย่าเชื่อใจพวกนั้น !
สมาชิกของพวกนั้นซ่อนตัวไว้อย่างดี ทั้งหมดที่ฉันพบคือพวกนั้นมีฐานอยู่ในทะเลทรายทางใต้
เขียนโดยฉันเอง
Deadra อัศวินผู้จากไป ]
เรื่องราวเบื้องหลังน่าสนใจดีนิ
[A Call for Help (เควสต่อเนื่อง)
เควสอัพเดต !
คุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่เป็นไปได้ของ Black Skull Order ไปพูดคุยกับ Drahma เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม
+100,000 xp ]
[ ค่า xp ของคุณจะเพิ่มตอนที่คุณจบภารกิจบอสดันเจี้ยน ]
ดี นี่น่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเควสที่ Drahma ให้ฉันมา
” ฉันไม่เข้าใจ ใครคือ Deadra ? ” – Pussy Flanker ถามขึ้นมา – ” นี่หลุมศพเขาเหรอ ? ” – เขาพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่โลงศพหิน
เดฟไม่คิดแบบนั้น Deadra นั้นสูงกว่า 5 ม. โลงศพนี้มีขนาดปกติ นี่ไมต้องพูดถึงที่ว่า Deadra นั้นไม่เคยนอนที่นี่เลย เขาจาสงหายไปหลังจากที่โดน Undead King ในห้องลับฆ่าเอา
เดฟไม่ได้บอกข้อมูลนี้กับทั้งสามคน พวกนี้ต้องหาข้อมูลด้วยตัวเอง
“นายกลับไปคุยกับบิชอฟที่ให้ภารกิจนายได้แล้ว ” – Perfect Shot พูดขึ้น
” อื้อ ฉันก็คงต้องทำแบบนั้น “
” งั้นเราจะทำอะไรกันต่อ ? ” – Pussy Flanker มองไปที่เดฟ
” เราห้ามออกจากเกมเป็นเวลา 24 ชม.และฉันต้องติดกับการเป็นบอสที่นี่สักพัก “
” เขาจะไม่ทำอะไรเราใช่มั้ย ? นี่ถือเขาหลอกเราเข้ามาหรือเปล่า ! ” – Pussy Flanker พูดขึ้นและรีบถอยออกห่างจากเดฟ
” หุบปากไปเลย มันก็แค่ 24 ชม.ในเกม ฉันว่าเราน่าจะฟาร์มกันที่นี่จัดการพวกอันเดตที่นี่ซะ ” – Human Fortress พูดขึ้นมา
” ถ้าฉันต้องไปฉี่ล่ะ! ” Pussy Flanker บ่นออกมา
” อย่าคิดลองเชียว ฉันรู้ว่านายซื้อเครื่องเล่นแบบ V2 มา ฉันรู้ว่านายอยู่ได้ถึง 72 ชม. ” – Human Fortress ด่าออกมา
” V2 ? คืออะไร ? ” – เดฟถาม
” มันเป็นเครื่องเล่นแบบใหม่ แทนที่จะเป็นหมวก รุ่นนี้เป็นแคปซูลที่ให้นายนอนลงไป ของเจ๋งดี เพิ่งออกมา ราคาก็ถือว่าเยอะพอตัว ” – Perfect Shot พูดขึ้น
” เท่าไหร่ ? ” – เดฟถาม
” นายซื้อบ้านเล็กๆได้เลยล่ะจากราคาของมัน ” – Perfect Shot ตอบกลับ
” ใช่ ฉันต้องเก็บเงินเดือนตั้งสามเดือนเพื่อซื้อมัน ” – Pussy Flanker พูดด้วยสีหน้าปวดร้าว
เงินเก็บ 1 เดือนของไอ้นี่มากว่าค่าจ้างทั้งปีของฉันอีก หือ คนรวยแบบ Lone Arrow หรือไง ฉันนี่เจอแต่คนแบบนี้
“พอแล้ว ไปหาเก็บ xp กันดีกว่า ” – Human Fortress พูดออกมาด้วยท่าทีหมดความอดทน
” พวกนายไปสู้กับมอนสเตอร์ระหว่างกลับไปที่ทางออกก็ได้ ฉันจะไม่ไปยุ่งกับการเก็บ xp ของนาย แม้ว่าพวกมันจะเป็นลูกน้องฉันก็ตาม ” – เดฟบอกกับทั้งสามคน
” เอาล่ะ ไปตรวจทางเดินที่เราเดินผ่านมากันดีกว่าเผื่อว่าจะเจออะไรน่าสนใจ ” – Perfect Shot พูดขึ้นแล้วเดินนำเพื่อนสองคนออกจากห้องบอส
เดฟคิดว่าจะไปกับพวกนั้นแต่ก็สลัดความคิดนี้ทิ้ง มันรู้สึกแปลกๆที่ต้องไปสู้กับอันเดตตัวอื่น
ฉันควรไปสู้กับผู้เล่นคนอื่นที่เข้ามาในดันเจี้ยนจะดีกว่า โอกาสที่พวกนั้นจะไม่รู้ว่าฉันคือ Mr.Skeletal ก็น่าจะสูง ดังนั้นก็ไม่น่าเป็นไรและถ้ามีบางอย่างผิดปกติ ฉันก็จะใช้ 10,000 คะแนนเพื่อยกเลิกภารกิจแล้วออกจากที่นี่
เดฟเดินไปยังประตูดันเจี้ยนและรอวิญญาณที่โชคร้ายที่คิดจะมาฟาร์มที่ดันเจี้ยนของเขา
Chapter 89:การพบเจอที่ไม่คาดคิด!
ในวังแห่งหนึ่งของอาณาจักรทางตะวันตก Warlord นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะที่มีหลายสิบที่นั่งในห้องประชุมแห่งหนึ่ง
ผู้เล่นที่เขานัดพบนั้นคือผู้ลงทุนและผู้สนับสนุนกิลด์
Valentine เป็นผู้นำในการประชุมครั้งนี้ เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะลดความตึงเครียดที่ส่งตรงไปยังที่ Warlord จากความโกรธของสมาชิกคนอื่นๆ
” เรามาที่นี่เพื่อเจรจาเรื่องพฤติกรรมของหัวหน้ากิลด์ Warlord การกระทำที่กันไม่ให้กิลด์และผู้ลงทุนไม่ได้ผลกำไรจากการครอบครองทรัพยากร ” – ความโกรธของผู้พูดนั้นฟังได้จากน้ำเสียง Satan Slayer คือ CEO ของบริษัทที่ผลิตคอมพิวเตอร์และเครื่องมือเทคโนโลยี บริษัทของเขาได้ลงทุนไปเยอะกับ Devastators เขาต้องคอยทุนทุกข์อยู่ตลอดทุกครั้งที่ราคาหุ้นได้รับผลกระทบ
” มาใจเย็นๆกันก่อน Warlord ไม่ใช่คนผิดสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใต้ดิน Blood Rage คือพวกที่ผิด พวกนั้นหักหลังข้อตกลงของเราและพยายามที่จะเอาเปรียบเรา การกระทำนั้นทำให้ทุกคนซวยไปด้วย ” – Valentine พยายามทำให้ทุกคนใจเย็นลง
” ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น ! พวกนายก็ได้เห็นวิดีโอกันแล้ว ไอ้บ้านี้มีโอกาสที่จะคว้าเอาธง วิดีโอได้แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเขามีเวลาที่จะเอาธงและรับประกับชัยชนะแต่เขาไม่ทำและถึงกับโดนฆ่าโดยอันเดตเลเวลต่ำ เขาได้เปลี่ยนให้กิลด์นี้กลายเป็นตัวตลก ” – Satan Slayer พูดขึ้น คนส่วนมากรอบๆต่างก็พยักหน้ากับคำพูดนี้
Satan Slayer พูดถูก ถ้า Warlord คว้าเอาธงมา พวกเขาก็คงกลายเป็นเจ้าของเขตใหม่ไปแล้วซึ่งนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นที่อิจฉาของทุกคน
” ตัวของอันเดตนั่นล้มไปแล้วตอนที่เลือดเหลือ 0 ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะเกิดใหม่ได้ ปกติแล้วมันน่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เลเวลต่ำแบบนั้นจะฆ่าฉันตายในการโจมตีครั้งเดียว ” – Warlord พูดขึ้นพร้อมกับกัดฟันแน่น
” มันจบแล้ว อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ” – ผู้เล่นคนหนึ่งในชุดขาวได้พูดขึ้นมา เขาเป็นพรีสที่มีคทาไม้ดูธรรมดาวางพิงไว้ที่โต๊ะ
” สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเปลี่ยนมันไม่ได้หรอก ” – พรีสพูดขึ้น
” Rencha นายเสียมากที่สุดในหมู่พวกเรา ทำไมนายถึงต้องปกป้อง Warlord ด้วย ? ” – Satan Slayer ถามขึ้นมา
” ฉันไม่ได้ปกป้องใคร การเถียงกันเรื่องอดีตน่ะไม่เปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วหรอก เราต้องทำตอนนี้ให้ดีที่สุด เรามีสัญญา 3 เดือนในการเข้าออกดันเจี้ยนและเหมือง ด้วยสัญญาพวกนั้นเราจะได้เพิ่มเลเวลคนของเราได้ อีกอย่างยังเพิ่มความสนใจให้กับผู้เล่นเลเวลสูง พวกเขาอยากจะเข้ากิลด์เราเพื่อเข้าไปฟาร์มในดันเจี้ยนและเหมืองที่เราได้มา “
Satan Slayer กอดอกและพิงเก้าอี้ก่อนจะปิดปากไปด้วยความโกรธ
” เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเอลฟ์นั่น Lone Arrow น่ะ ? ” – Rencha เปลี่ยนเรื่อง
” ฉันพบเรื่องน่าสนใจตอนที่หาข้อมูลของเธอ ” -Valentine พูดขึ้น
ทุกคนโน้มตัวเข้าที่โต๊ะตั้งใจฟังคำพูดของ Valentine
” เธอน่ะแตะต้องไม่ได้ “
” อะไรนะ ? ! ” – ผู้เล่นบางคนถึงกับตะโกนกันขึ้นมา
” นายหมายความว่ายังไง ? ” – Rencha ถาม
” เรามี เอ่อ เรารู้ถึงตัวตนของเธอ ปรากฏว่าเธอน่ะมีเส้นสายกับบางคนในกิลด์ เราได้ดูภูมิหลังของเธอแล้ว เธอชื่อโซซิลวานาเธอเป็นลูกสาวของดันเต้ซิลวานา “
” ดันเต้ปีศาจที่เป็นพ่อค้าอาวุธนั่นน่ะเหรอ ? ! ฉันคิดว่าเขาโดนจับไปแล้วและต้องติดคุกอีก 20 ปี ” – Satan Slayer ชัดแล้วว่าไม่พอใจกับข่าวนี้
” นั่นก็แค่เรื่องที่น่าอาย เขาน่ะมีค่าในแวดวงคุก ทุกคนต่างก็อยากใช้คนแบบเขาไม่วาจะเป็นการเจรจาหรือปฏิเสธ “
” งั้นอันเดตหนวดนั่นก็เกี่ยวข้องกับเธอ บางทีอาจจะเป็นคนในครอบครัวเธอ ดังนั้นเขาเองก็คงแตะต้องไม่ได้ด้วย “
” ฉันสงสัยเรื่องนั้นอย่างมากซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เราไม่มีข้อมูลว่าเขาอยู่ที่ไหน เขามาจากไหนหรือว่าเขาอยู่กิลด์ไหนหรือกลุ่มไหน เราถึงกับตรวจสอบผู้เล่นสามคนที่อยู่ในวิดีโอแรกๆที่เขาโพสต์ขึ้นมาแต่เราก็ไม่พบข้อมูลที่แม่นยำอะไร มันเหมือนกับว่าอยู่ๆเขาก็โผล่มา มันเหมือนกับผู้เล่นใหม่ที่ไม่มีเส้นสายหรือคนหนุนหลัง ” – Valentine พูดจบก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
คนข้างๆ Valentine พูดด้วยน้ำเสียงหวานๆขึ้นมา – ” บางทีเขาอาจจะเป็น AI ก็ได้ สิ่งที่เกมสร้างขึ้นเพื่อทำลายสมดุล “
Valentine ส่ายหน้า – ” เราตรวจสอบพฤติกรรมและรูปแบบการพูดแล้ว ตามการตรวจสอบแล้วเขาเป็นคน ” “
” นี่เป็นแค่เขตแรกของดันเจี้ยนโลก มันยังมีมากกกว่านี้ เรายังค้นหาทางเข้าไปยังโลกใต้ดินในที่อื่นอยู่ เราต้องจ้าง It’s Just Business ในการแกะรอย Mr.Skeletal นั่น ผู้เล่นที่มีการสืบทอดคลาส S รับงานนี้ไปแล้ว “
พรีสพยักหน้า – ” ผู้มีการสืบทอดนักฆ่าแห่งเงา ต้องขอบคุณเธอเราถึงได้อาณาจักรตะวันตกมา ” – เขาทุบโต๊ะ – ” เราเคยจ้างเธอให้ฆ่าราชาคนเก่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเควสในการยึดอาณาจักรมาจนกลายเป็นฐานของเรา ถ้าจะมีใครแกะรอยอันเดตหนวดนั่นได้ งั้นก็คงต้องเป็นเธอโดยเฉพาะสกิลที่เธอมี “
” ถ้าไม่รู้ชื่อผู้เล่น ฉันคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แต่ใครจะไปรู้ บางทีนายอาจจะพูดถูกและเธอก็คงแกะรอยเขาได้แต่การฆ่าเขานั้นไม่คุ้ม ” – Warlord พูดขึ้น
Valentine พยักหน้า – ” การฆ่าอันเดตหนวดนั่นคือทางเลือกสุดท้าย ให้เขาเข้ากับเราจะดีกว่า ถ้าเขาเข้ากับเรา เขาก็จะหาวาร์ปยังโลกใต้ดินให้กับเราได้ เราจะได้เข้าไปก่อนคนอื่นและหาเส้นทางไปสู่ประตูใหม่ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคต จากการเข้าออกนี้แล้วและเวลาที่เราจะได้ยึดโลกใต้ดินไว้ในมือก็คงขึ้นอยู่กับเรื่องนี้ ! “
***
เดฟ ยังเฝ้าอยู่ที่ประตูดันเจี้ยน เขาหาวมาหลายชั่วโมงแล้ว
‘ บ้าเอ้ย นี่ 6 ชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครโผล่มาเลย น่าเบื่อจริงๆ ฉันอยากเลิกแล้วเนี้ย ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันน่าจะอยู่ในโลกใต้ดดินต่อ อย่างน้อยก็จะเจอมอนสเตอร์บ้าง ฉันจะล่าการ์กอยกับแรดปีศาจเพื่อที่จะเพิ่มเลเวลตัวเองโดยไม่ต้องเสี่ยงว่าตัวเองจะโดนฆ่า ‘
ในตอนที่คิดเสร็จ หมอกของดันเจี้ยนก็แยกออกและมีร่างสองร่างที่โผล่เข้ามา
พาราดินกับพรีส
เดฟเห็นผู้เล่นสองคนนี้ก่อนที่ทั้งสองคนจะเห็นเขา
” เพื่อน ฉันบอกนายเลย ไม่มีทางที่เขาจะกลับมาที่นี่แน่ เราแค่ต้องหาทางเพิ่มเลเวลตัวเอง การอยู่ที่นี่น่ะไร้ประโยชน์ ” – พรีสบอกกับพาราดิน
” ฉันจะไม่หยุดจนกว่าจะฆ่ามันได้ ไอ้ห่านั่นขโมยการสืบทอดของฉันไป นายคิดว่าฉันจะแค่ยืนดูเฉยๆเพื่อให้เขาได้อำนาจและชื่อเสียงไปหรือไง ? “- พาราดินด่ากลับและสอดส่องสายตาไปทั่ว
ปากของเดฟเริ่มแห้ง เขาจำผู้เล่นสองคนนี้ได้ทันทีที่เห็น
Stainless Steel, ไฮพรีส เลเวล 335
Bone Breaker, พาราดิน เลเวล 348
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น