Rise of The Undead Legion 71-89

 Chapter 71: Delvina The Warden


[ประกาศจากเซิฟเวอร์ บอสโลกตัวแรก Dalmadoth ถูกกำจัดแล้ว !]


[ กองกำลังปีศาจได้ถูกผลักดันกลับไปยังโลกใต้ดิน มันเป็นหน้าที่ของคุณในการจัดการสิ่งที่คุณเริ่ม ]


[ เขตโลกใต้ดินเขตที่สองจะเปิดใน 2 ชม.ตามเวลาเกม ]


[ผู้เล่น Lone Arrow ช่วยในการเอาชนะ Dalmadoth และกำจัดบอสโลกตัวแรก ]


[ โปรดชื่นชมกับนักผจญภัยที่กล้าหาญในสิ่งที่หลายคนทำไม่ได้ ! ]


” นี่มันบ้าอะไรวะ ? !!! “


เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นมาที่นอกดันเจี้ยน Dark Threading การประกาศของเซิฟเวอร์นี้ได้บอกว่าบอสโลกตัวแรกถูกเอาชนะแล้ว !


ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของโลกใต้ดินเพิ่งจะประกาศออกมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนแต่บอสโลกกลับถูกฆ่าแล้วเนี้ยนะ ?


นักธนูในชุดหนังจากทีม A ของ Devastators พูดขึ้นมา – ” เป็นไปได้มั้ยว่าเป็นบอสเลเวลต่ำ ? “


” ฉันไม่คิดแบบนั้น ตัวเช็คเลเวลด้านหน้าทางเข้าก็เลเวล 400 แล้ว เธอคิดว่าบอสจะเลเวลต่ำกว่ามันมั้ยล่ะ ? ” – สมาชิกอีกคนที่เป็นนักฆ่าสวมเกราะหนังสีดำพูดขึ้นมา


” ใครคือ Lone Arrow ? ” – หัวหน้ากิลด์ย่อยพูดขึ้นมา


” ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร ! มันคือเอลฟ์ฮันเตอร์ เธอน่ะคือคนที่ไปกับ Mr.Skeletal พวกเขาอยู่ในดันเจี้ยน Ice Palace ด้วยกัน ! แต่เธอน่ะเลเวลต่ำกว่า 100 แน่นอนในตอนนั้น ! “


บทสนทนาได้หยุดลงเพราะเสียงตะโกนที่ดังขึ้นมาจาก Valentine


” นี่นายหมายความว่าเขาจัดการฆ่าทั้งหมดน่ะสิ ! “


เขาคอยฟังข้อความที่พวกนั้นพูดคุยกันและสีหน้าที่บิดเบี้ยวไป


” เกิดอะไรขึ้น ? ” – Warlord พูดขึ้นมา


” ทีม C ที่เราส่งไปถูกฆ่าตรงหน้าบอส พวกนั้นเห็น Mr.Skeletal อยู่กับเอลฟ์ฮันเตอร์แต่มีบางอย่างผิดปกติ…”


Warlord เริ่มหงุดหงิดและถามขึ้นมา – ” นายหมายความว่ายังไง ? พูดมา ! “


” ทีม C ได้มีการถกเถียงกันแล้วแยกตัวกันออกก่อนที่จะพบบอสโลกตัวแรก พวกเขาได้เสียสมาชิกไป เมื่อไปถึงห้องบอส….อันเดตหนวดนั้นก็ทำให้พวกเขาโดนฆ่า — เดี๋ยวก่อน “


” ไอ้พวกโง่ !!!! ” – Warlord ตะโกนออกมา เขาเป็นหัวหน้ากิลด์ ความไม่เป็นมืออาชีพของทีม C นั้นต้องถูกจัดการหลังจากที่จบเรื่องนี้แล้ว นั่นคือสิ่งที่เขาคิด


ต้องได้รับการลงโทษ !


” หนึ่งในผู้เล่นของเราได้ตรวจสอบพวกบอสก่อนที่จะตาย…”


” พวกบอส ? ” – Warlord ถามขึ้นมา


” ใช่ นี่แหละคือส่วนที่ฉันสับสน มันมีบอสสองตัวที่นั่นและพวกมันก็สู้กันอยู่ตอนที่ทีม C ไปถึง ! การตายของทีม C เพราะสกิลของบอสตัวหนึ่งที่ชื่อว่า {Call to Arms} มันจะสร้างมอนสเตอร์ขึ้นมาในสนามรบเพื่อสู้กับผู้เล่น…”


” นี่ไม่ได้อธิบายอะไรได้เลย ! แล้วพวกเลเวลต่ำนั่นเอาชนะบอสได้ยังไง ? “


” ทีมพวกนั้นโดนฆ่าก่อนที่จะได้เห็นการต่อสู้จบลง…นายจำบอสจากดันเจี้ยนทะเลทรายทางใต้ได้มั้ย ? “


” Drahma น่ะเหรอ ? เขาน่าจะถูกลบออกจาเกมไปแล้วเพราะดันเจี้ยนเปลี่ยนไปนิ …”


” มันปรากฏตัวขึ้นที่นั่น ” – Valentine ตอบกลับด้วยสีหน้าสับสน


” มันเป็นไปได้ยังไง ! ” – Warlord พูดขึ้น – ” ฉันรอที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ไอ้อันเดตหนวดนั่นอาจจะกำลังมุ่งหน้าไปหาบอสตัวอื่น ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เราต้องลงมือกันแล้ว ! “


” ฉันมีข่าวร้ายกว่านี้จะบอก ! ” – Valentine พูดขึ้น


” อะไร ? ! ” – Warlock ตะโกนขึ้นมาบ่งบอกว่าไม่อาจจะยับยั้งความโกรธได้


” Blood Rage กับ Heaven’s Dawn กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ พวกเขาจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่ถึง 10 นาที ! “


” แล้วไง ? พวกนั้นทะเลาะกันอยู่ พวกนั้นคงไม่ได้สร้างปัญหาอะไรมาก เมื่อพวกนั้นเจอกัน พวกนั้นก็จะทะเลาะกันเอง ” – Warlord ตอบกลับ


” คนของเราส่งข้อมูลมา …พวกนั้นสงบศึกกัน อย่างน้อยก็จนกว่าอีเวนต์นี้จะจบ “


” มีอะไรแย่กว่านี้อีกมั้ย ? ! “


[ การควบคุมของปีศาจในเขตแรกในโลกใต้ดินถูกยกเลิก ! ]


[ เขตแรกถูกยึดไว้โดยพวกดินแดนอันเดต ! ]


[ ดังนั้นมอนสเตอร์ทุกตัวที่เกิดขึ้นมาในเขตแรกจะเป็นอันเดต ]


[ บอสตัวใหม่จะเกิดขึ้นแทน ! ]


[ เดินหน้าด้วยความระมัดรวะวัง ]


Warlord มองข้อมูลตรงหน้าด้วยความตะลึง


มันต้องมีเรื่องแย่กว่าเดิมเกิดขึ้นเสมอ


..


ไม่นานก่อหน้านี้


” หืม ดูนายมีความสุขดีนี่ นายได้อะไรมา ? ” – Lone Arrow ถามขึ้น


” เราได้ต่างหาก ! ” – เดฟแก้ประโยคแล้วส่งไอเท็มให้กับเธอ


[ Demon Buster ]


ประเภท : ธนู


ธนูโบราณที่สร้างขึ้นจากกระดูกหลังของ Great Gonola Shark


สายธนูมีความยืดหยุ่นสูงทำให้อาวุธนั้นทำดาเมจได้สูงและระยะที่ไกลกว่าเดิม


การใช้งาน : 1 โฟกัส/การโจมตี


ดาเมจ : 150-300


[ ช่อง ]


ความต้องการ : DEX 100, AGI 100, เลเวล 100


โบนัส : ระยะ +50


{ Triple Shot : ยิงธนูออกไปสามดอกในทีเดียว คูลดาวน์ 20 วินาที }


[ปิดผนึก]


[ปิดผนึก]


ดาเมจ +25% เมื่อโจมตีสิ่งมีชีวิตปิศาจ


สเกล : C-Dex, C-Agi


คลาส : Legendary


” ว๊าว ! ดาเมจของมันน้อยแต่ก็พอรับได้ ! นี่มันถือว่าเป็นอาวุธที่คิดดาเมจแบบแยกสเตตัส ! นายมั่นใจนะว่าอยากจะให้ฉัน ? ” – Lone Arrow พูดขึ้นพร้อมกับกอดธนูเอาไว้แน่น เธอไม่อยากส่งมันคืนแม้ว่าจะถามออกมาแบบนั้นก็ตาม


” เธอเก็บมันไว้ก็ได้ ฉันได้อย่างอื่นที่ดีกว่ามา ” – เขาพูดขึ้นแล้วส่งคำอธิบายจากหนังสือสกิลให้เธอดู


[ หนังสือสกิล ]


{Demon’s Call : ทำดาเมจ 5% จากเลือดเป้าหมายเป็นดาเมจโดยตรง มีโอกาส 10% ที่จะใช้ได้ผลกับมอนเตอร์ระดับบอส คูลดาวน์ 24 ชม.}


ระดับความหายาก : Unique


” โอ้ ดูดีนิแต่คูลดาวน์มันนานไปหน่อย ” – เธอพูดขึ้น – ” ถึงยังไงอาวุธก็ยังต้องเปลี่ยนแต่สกิลนี่ใช้ได้ตลอด ของที่เหลือมีอะไรอีก ? “


” หืม ฉันได้ของมาบ้าง รูนกับวัสดุสร้าง มีแก่นดันเจี้ยน เงินและของที่เกี่ยวกับเควส ” – เขาพูดแล้วส่งทุกอย่างให้เธอดู


” ลองดูว่ารูนใช้กับธนูเธอได้หรือเปล่า ฉันตรวจสอบมันไม่ได้ ” – เขาพูดขึ้น


Lone Arrow รับรูนมาและลองเอาใส่ช่องอาวุธดู


” มันบอกว่าเข้ากันไม่ได้…บางทีคงเป็นเพราะอาวุธ มันมีชื่อปราบปีศาจ ฉันเดาว่ามันคงใช้กับรูนปีศาจไม่ได้ เก็บมันกับพวกของอื่นๆไว้กับนายนั่นแหละ หลังจากนี้มันอาจจะมีประโยชน์ ” -เธอพูดขึ้น


เดฟ แบ่งเงินที่ได้มาให้กับเธอ


” ของสองอย่างมันผูกมัดกับผู้เล่น แก่นดันเจี้ยนกับไอเท็มเควส “


[ Broken Undead-King’s Helmet (ไอเท็มเควสพิเศษ) ]


แสดงของสิ่งนี้ให้กับเจ้าของร้านในดินแดนอันเดตเพื่อเริ่มต้นเควส


งั้นเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน….


เขาเก็บหมวกลงไปในช่องเก็บของ จากนั้นก็เอาก้อนกลมๆสีแดงที่เหมือนกับมีเส้นเลือดล้อมรอบมันส่งให้กับ Lone Arrow ดู


[ High-Grade Dungeon Core ]


สามารถปรับโครงสร้างของดันเจี้ยนได้


[ คุณอยากจะใช้มันหรือไม่ ? Y/N ]


เดฟกดเลือกใช่และหน้าจอของเขาก็เปลี่ยนไป ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นภูเขาได้ทั้งลูกจากมุมมองด้านบน


สนามต่อสู้ทีหลังภูเขาเริ่มสั่นไหว


พื้นดินเริ่มเปลี่ยนไป พื้นลาวาแตกออกและเสากระดูกก็ได้โผล่มาตามตำแหน่งต่างๆ


มีหลังคาโผล่ขึ้นมาที่ด้านบนของเสาและมีวิหารที่เหมือนกับกรีดโผล่ออกมา


ทันใดนั้นก็ศพกว่าพันตัวเกิดขึ้นมาแล้วลุกขึ้นเดินออกมาจากวิหาร พวกมันคืออันเดตตั้งแต่ระดับธรรมดาจนไปถึงระดับ Death Knight !


ภูเขาเริ่มสั่นไหวและหอคอยกว่าร้อยแห่งก็โผล่มาด้านนอกของภูเขาล้อมรอบเป็นวงกลม


ข้างๆหอคอยเหล่านั้นมีเกิดรูขึ้นมามากมายและสไลม์ที่ปิดรูพวกนั้นเอาไว้ด้วยตัวของพวกมัน พวกมันเปลี่ยนสีให้เข้ากับดิน ถ้าใครไม่มองดูดีๆคงไม่รู้และอาจจะเดินตกลงไป


หอคอยได้เปลี่ยนโครงสร้างของมัน มันมีหน้าต่างและแยกออกเป็นหลายชั้น


แต่ละชั้นนั้นมีอันเดต 10-20 ตัวเกิดขึ้นมา บางพวกเป็นนักเวทย์ บางพวกเป็นนักธนู


ด้านบนแต่ละหอคอยจะมีรูปปั้นที่ดูคุ้นตาสำหรับเดฟ


ถ้าเขาจำไม่ผิด เขาเห็นรูปปั้นที่เหมือนกันนี้ในห้องบอสลับที่ Deadra ถูกผนึกเอาไว้


มันคือ Undead King !


ออร่าสีดำแผ่ออกไปทั่วดินแดนราวกับน้ำท่วม ตอนที่เดฟหันกลับไปมองที่วิหาร เขาก็เห็นจุดสีดำที่เริ่มรวมตัวกันที่ใจกลางวิหาร


วิหารนี้คือได้สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา มันเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดสีดำปิดรูปร่างเธอเอาไว้


เธอได้ออกมาจากวิหารและมุมมองของเดฟก็กลับมาในจุดที่เขาอยู่


[ Delvina-The Warden ]


เลเวล 400


ระดับ – Sorceress ( Death Knight )


สกิล : ????


HP : ???


พลังป้องกัน : ????


หนึ่งในหน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ Lich ( Du’Raza )


Delvina มีชื่อเสียงขึ้นมาเพราวิธีจัดการกับเหยื่อ


เธอรับหน้าที่ในหน่วยการลงโทษของดินแดนอันเดต Delvina รู้จักกันดีว่าเป็นคนที่หัวรุนแรงที่สุดในหน่วย วิญญาณที่โชคร้ายที่กลายเป็นนักโทษของเธอนั้นต้องได้รับการทรมานไม่รู้จบ


” หืม ฉันเดาว่านั่นนายใช่มั้ย ? “- ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น


เสียงของเธอนั้นต่ำและในเวลาเดียวกันก็ดูแข็งแกร่ง เธอพ่นลมใส่เดฟ ตอนที่เขาอ่านคำอธิบายของเธอ


” เธอหมายความว่าไง ? ” – เขาพยายามพูดเหมือนสุภาพบุรุษที่สุดต่อหน้านักทรมานสาวนี่


” นายคือคนที่ช่วย Du’Raza….เขาไม่เคยหยุดพูดเรื่องที่นายจัดการผู้พิทักษ์เลย …ฉันว่ามันค่อนข้างน่าประทับใจ การมีคนหนุ่มแบบนายที่ประสบความสำเร็จมากมายแบบนี้ ขยันเข้าไว้ อันเดตน้อย ” – เธอพูดขึ้นและเดินกลับไปยังวิหารโดยไม่สนใจทั้งคู่อีก


[ คุณได้ช่วยเหลือกในการเข้าควบคุมเขตแรกในโลกใต้ดิน +50,000 คะแนน ! ]


[ สำหรับทุกวันที่โลกใต้ดินเปิดและเขตแรกนั้นยังคงเป็นของคุณ คุณจะได้ +5,000 คะแนน ]


[ ผู้บุกรุกที่ตายในเขตแรกจะให้รางวัลกับคุณดังนี้ +50 คะแนน/การตาย ]


จำนวนคะแนนที่ได้มานี้ทำให้เดฟช็อก เขาไม่คิดว่าเขาจะได้ผลประโยชน์มากมายแบบนี้ !


” เฮ้ นายดูมีความสุขดีนี่ ” – Lone Arrow ถอยห่างจากเดฟเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น


” แจ็คพ็อตแล้ว ! ” – เขาตะโกนขึ้นมา


” อะไร ? นายถูกหวยหรือไง ? ” – เธอถาม


” ดียิ่งกว่านั้นอีก ! คะแนนโคตรเยอะเลย ! ” – เขาตอบกลับ


” แล้วมันยังไง ? “


” มันคือค่าเงินที่ใช้ในดินแดนอันเดต เธอสามารถจะซื้ออุปกรณ์และยกระดับได้หากใช้มัน ! “


” ก็ดีสำหรับนาย เอาล่ะ บอกฉันมา ” – เธอมองไปที่ทางเข้าถ้ำ – ” เราจะทำยังไงกันต่อ ? ฉันไม่คิดว่าเราควรจะอยู่ที่นี่ต่อ มันยังมีเวลาอีกชั่วโมงครึ่งจนกว่าเขตที่สองจะเปิด พวกคนที่ตายไปแน่นอนว่าต้องบอกเพื่อนร่วมกิลด์ว่าเราอยู่ที่นี่แน่ “


” ใช่ ใช่ หืม ฉันยังใช้จบภารกิจไม่ได้ …และฉันกำลังหิวด้วย !!! ฉันต้องไปหาอะไรกิน ฉันจะกลับมาในอีกสักพักนะ ! ” – เขาพูดขึ้นแล้วทิ้งตัวละครให้อยู่นิ่งเอาไว้


” นี่มันบ้าอไร ! นายไม่ได้บอกอะไรเลย เราควรทำยังไงต่อ ! ” – Lone Arrow ตะโกนกับอันเดตหนวดที่ยืนนิ่ง


Chapter 72:สัญญา!


ด้านนอกดันเจี้ยน Dark Threading มี 6 คนที่ยืนอยู่ใจกลางของทั้งสามกองทัพ


พวกเขาคือหัวหน้าและมือขวาของแต่กิลด์


Devastators ส่ง Warlord กับ Valentine มา


Zhang Shi หัวหน้าของกิลด์ Blood Rage ทางจีนใส่ชุดหนังสีดำพร้อมกับดาบซามูไรคาดที่เอว มือขวาของเขาคือฮันเตอร์สาวที่สวมชุดสีเขียวหม่น


Wan Yi หัวหน้ากิลด์ Heaven’s Dawn ทางเกาหลีที่เป็นเบอร์เซิคเกอร์ มีขวานพาที่ไหล่ของเขาโดยมีรอยสีทองสลักเอาไว้ ข้างๆเขาเป็นพรีสทีสวมชุดสีเทาซึ่งคอยพึมพำอยู่ตลอด


” อะไรพวกนายมาที่นี่ ? นี่เป็นอาณาเขตของฉันรึว่าพวกนายอยากจะเริ่มการต่อสู้ ? ” – Warlord พูดขึ้น


” มันไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งแล้ว เรามาที่นี่เพราะโลกใต้ดิน ” – Wan Yi พูดขึ้น


ในฐานะหัวหน้ากิลด์ใหญ่แล้วเขาจำเป็นต้องแสดงจุดยืนออกมา เขาไม่มีทางกลับไปหากไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่โลกใต้ดินแม้ว่าต้องทำลายกิลด์ Devastators ก็ตาม


” ไม่จำเป็นต้องรีบ ” – Zhang Shi ขัดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า


” เรารู้ว่านี่เป็นอาณาเขตของ Devastators และเราก็ไม่มีสิทธิแห่กันมาที่นี่หากไม่มีค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ ให้เราเข้าไปและการเข้าออกดันเจี้ยน Crimson Monastery จะเป็นของพวกนายสองเดือน เข้าฟรี ” – เขาพูดต่อ


Crimson Monastery เป็นดันเจี้ยนที่ให้ xp ดีสำหรับผู้เล่นเลเวล 300-400 ด้วยดันเจี้ยนนี้ Blood Rage จึงกลายเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งซึ่งมีเลเวลเฉลี่ยนในกิลด์สูงที่สุด


พรีสที่ยืนอยู่ข้างๆได้ขัดขึ้นมาและบอกข้อเสนอให้กับทาง Devastators – “เราเสนอสิทธิ 1 เดือนในการขุดเหมืองที่ Novigar Mining ให้กับ Devastators “


Warlord เกือบจะยอมรับข้อเสนอพวกนี้ อันที่จริงพวกมันดีอย่างมาก !


แค่การเข้าออกดันเจี้ยน Crimson Monastery ได้สองเดือนช่วยผู้เล่นในกิลด์หลายคนให้เลเวลสูงขึ้น นี่ไม่ต้องพูดถึงทรัพยากรจำนวนมากที่จะได้จาก Novigar Mining


” 4 เดือนสำหรับ Crimson monastery และสิทธิในการขุดเหมืองแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ Novigar Mining “


Wan Yi ที่เป็นหัวหน้าของ Heaven’s Dawn เดินออกมาโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัว – ” นายมั่นใจนะอยากจะทำแบบนี้ทั้งๆที่เรายอมอ่อนข้อให้แล้ว ! “


” เราจะตกลงกันที่นี่ ไม่ว่าพวกนายจะยอมรับรึปฏิเสธก็ตาม ” – Valentine พูดขึ้นอย่างใจเย็น


” Devastators นี่มักจะคิดว่าตัวเองสูงส่งจริงๆนะ ! พวกนายคิดว่าเราทั้งงอสงนี่เอาชนะการป้องกันที่น่าสมเพชของพวกนายไม่ได้หรือไง ? ” – Wan Yi คำรามออกมา


” อย่างแรกเลย มันไม่ได้การันตีนว่า Blood Rage จะยอมช่วยนายในการจัดการการป้องกันของเรา อย่างที่สองแม้ว่าพวกนายสองฝังจะร่วมมือกันแต่พวกนายก็ไม่อาจจะเข้าไปในเจี้ยนในสามวันนี้ได้ เรามีคนมากพอที่จะผลักดันให้พวกนากลับไปได้และที่นี่ก็เป็นบ้านเราด้วย ” – Valentine ยักไหล่


พื้นที่บ้านนั้นเป็นข้อได้เปรียบสำหรับ Devastators ที่ซึ่งผู้เล่นของ Devastators จะสามารถเกิดใหม่ได้ใกล้ๆกับดันเจี้ยนแห่งนี้ พวกเขาสามารถกลับมาสู้ต่อได้แต่สำหรับผู้เล่นจากเขตอื่นๆ พวกเขาต้องกลับไปเกิดใหม่ที่เขตตัวเอง


แต่สงครามแบบเทหน้าตักไม่ใช่สิ่งที่ใครหวังจะให้เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียหายแต่ยังทำให้การลงไปในดันเจี้ยนโลกนี้ยากกว่าเดิมอย่างมากด้วย


ถ้า Devastators ต้องสู้กับทั้งสองกิลด์ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ของพวกเขาแต่พวกเขาก็ไม่สามารถส่งผู้เล่นเลเวลสูงลงไปในดันเจี้ยนได้มากนัก พวกคนที่แข็งแก่รงต้องทำการป้องกันดันเจี้ยนนี้ไว้ ถ้าเป็นแบบนั้นทุกฝ่ายก็มีแต่เสียเพราะข้อจำกัดเรื่องเวลาของดันเจี้ยนโลก วิธีที่ดีที่สุดคือการประนีประนอม


Devastators จะยังได้ข้อตกลงดีๆจากเรื่องนี้แต่อีกสองฝ่ายนั้นก็ไม่ได้เสียอะไรมากนักโดยเฉพาะเมื่อพบว่าอาณาเขตในโลกใต้ดินนั้นสามารถยึดครองได้


Valentine เปิดฉากพูดออกมาก่อน – ” เราจะเลือกผู้เล่น 10,000 คนจากทุกกิลด์ในการลงไปในโลกใต้ดิน ห้ามมากกว่านี้ ทุกกิลด์จะมีข้อกำหนดแบบนี้หมด “


” ทำไม ? ” – Wan Yi ถามขึ้นมา


” มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ” – มือขวาของเขาพูดขึ้น


” เราเองก็เห็นด้วย ” – Zhang Shi พูดขึ้นมา


จากนั้น Warlord ก็ได้ส่งข้อความหา Valentine


” ทำไมถึงได้จำกัดผู้เล่นที่จะเข้าไป ? ” – Warlord ถาม


” นี่น่ะก็เพื่อให้พวกเขาเช็คดูว่าเราจะส่งผู้เล่นไปเยอะกว่าที่บอกรึเปล่า เราปล่อยให้พวกนั้นรุมเราตอนที่ดันเจี้ยนโลกเปิดไม่ได้ เราต้องแบ่งทีม A ถ้าไม่อยากถูกจัดการในทีเดียว “


” อืม มันน่าจะเป็นแบบที่พวกนี้ต้องการ การมีคนของเราใกล้กับพวกเขามากเกินไปจะทำให้พวกเขาต้องลนลาน….ฉันเดาว่าพวกเขาจะทิ้งคนไว้ที่นี่เพื่อคอยระวังเผื่อมีบางอย่างเกิดขึ้น “


” ใช่ เราก็ต้องระวังด้วย เราไม่ใช่พันธมิตรกันแต่มันไม่จำเป็นที่เราต้องสู้กับพวกเขา ฉันจะแจ้งสมาชิกในกิลด์ให้เว้นระยะห่างกับสองกิลด์นี้เอาไว้ ” – Valentine ตอบกลับ


” เอาละ เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วงั้นก็ Alfred ! ” – Valentine พูดขึ้นและ Alfred ก็ได้ปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขา


” เราอยากจะทำสัญญา ” – Valentine พูดขึ้น


Alfred ดีดนิ้วและมีสัญญาสีเหลืองปรากฏขึ้นในมือ


” ข้อตกลงว่ายังไง ? ” – Alfred ถาม


พวกนั้นบอกข้อตกลงของตัวเองและการลงโทษหากทำผิดสัญญาให้กับ Alfred


ข้อสรุปก่อนหน้านี้ต่างถูกบันทึกลงไป


ผู้นำทั้งสามกิลด์ได้เก็บแผ่นคัดลอกสัญญาเอาไว้เพื่อยืนยันการเจรจา


“ตอนนี้ก็ไปได้แล้ว ” – Warlord พูดขึ้น


พวกเขาต่างก็พากันแยกย้ายไปที่กิลด์ตัวเองและเริ่มคัดคนโดยนับมา 10,000 คนในแต่ละกิลด์เพื่อลงไปในดันเจี้ยน Dark Threading


***


เดฟรู้สึกแย่นิดหน่อยที่ทิ้ง Lone Arrow เอาไว้แต่ท้องเขาไม่ได้รู้สึกผิดไปด้วย


เขากินมาม่าและกลับไปที่คอมเพื่อเช็คข่าว


เมื่อล็อคอินเข้าไป เขาก็เกือบทำถ้วยตกเพราะช็อกกับข่าว


มันมีข่าวที่ว่าสามกิลด์อยู่ที่ทางเข้าของดันเจี้ยน Dark Threading และปรากฏว่าพวกเขาเพิ่งเจรจากันเสร็จพร้อมกับมีผู้เล่นกว่า 30,000 คนที่เข้ามาในดันเจี้ยน


พวกนี้พากันเดินต่อแถวกันมาเรื่อยๆจนถึงทางเข้าของโลกใต้ดิน


คอมเมนต์ในข่าวนี้ดูตะลึงกับจำนวนผู้เล่นที่เข้าไปในดันเจี้ยน อาชีพของผู้เล่นมากมายที่เยอะขนาดนี้ ทั้งสามกิด์ใหญ่นั้นไม่ได้ทำการทะเลาะกัน พวกเขาร่วมมือกัน


คอมเมนต์พูดถึงดันเจี้ยนโลก อธิบายสิ่งที่คนส่วนมากรู้อยู่แล้ว เขตและองค์ประกอบด้านในและการพ่ายแพ้ของบอสโลกตัวแรกโดยผู้เล่นเลเวลต่ำ


คำถามเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของบอสถูกถามขึ้นในทุกข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้


ถ้าพวกนี้รู้ว่าบอสตายเพราะความช่วยเหลือจาก Doom Knight เลเวล 550 พวกนี้คงต้องสับสนยิ่งกว่านี้อีก


” เฮ้ ! นี่พวกเขากำลังไปไหนกัน ? ! ” – เดฟพูดขึ้น


เขามองไปยังผู้เล่นกว่าสามหมื่นคนที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาที่เขาอยู่โดยไม่สำรวจที่อื่นเลยสักนิด


เมื่อมองไปยังความเร็วของคนพวกนั้น พวกนั้นจะไปถึงภูเขาในอีกชั่วโมงเดียวในเกม เดฟต้องกลับไปในเกมในเร็วที่สุด เมื่อดันเจี้ยนที่สองเปิดออก เขาก็สามารถเลือกเส้นทางหลบหนีได้


เดฟไม่ได้คิดที่จะสู้กับผู้เล่นที่มาจากสามกิลด์ใหญ่เพียงลำพัง


แม้ว่าจะมี Delvina บอสที่แข็งแกร่งอยู่ในวิหารแต่เธอก็ไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะทั้งสามกิลด์ได้ เธอเลเวลแค่ 400 เอง ผู้เล่นหลายคนจากสามกิลด์ใหญ่นี้เลเวลสูงกว่าเธออีก


” ฉันต้องรีบออกจากทั่นั่น ” – เดฟพูดขึ้นแล้วล็อคอินกลับเข้าไปในเกม


เมื่อกลับเข้ามา เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่พบ Lone Arrow


เดฟนิ่งไปสักพัก


เธอเป็นเอลฟ์…..เป็นมนุษย์…โอ้พระเจ้า นี่ฉันทำอะไรลงไป ?


เดฟตระหนักได้ว่าเขาได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ คนตายกับคนเป็นนั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้และเขาเพิ่งทิ้ง Lone Arrow ไว้ใจกลางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอันเดต….


Chapter 73: สู้กับทั้งโลก !


เดฟเริ่มทำการหาตัว Lone Arrow เขาไม่เคยเพิ่มเพื่อนเธอเอาไว้ ไม่งั้นแล้วเขาคงส่งข้อความส่วนตัวหาเธอเพื่อถามว่าเธออยู่ไหน


เมื่อเข้ามาวิหาร เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ที่ม้านั่งหินคุยกันอย่างมีความสุข


เดฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่าอันเดตไม่ได้ ‘ กิน ‘ Lone Arrow ไปและยังพูดคุยกับเธออยู่


เดฟขัดการพูดคุยนั้นโดยเรียก Lone Arrow


” มีปัญหาใหญ่แล้ว ” – เขาพูดขึ้น


” ฉันรู้ ฉันได้ยินจากเพื่อนแล้วว่ามีผู้เล่นกว่า 30,000 คนกำลังมาทางเรา ” – เธอพูดขึ้นอย่างใจเย็น


” มันเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงก่อนที่ทางเข้าที่สองจะเปิด พวกนั้นจะมาที่นี่ได้ทัน เราควรล็อคเอาท์ออกไปก่อน ” – เดฟพูดขึ้น


การล็อคเอาท์เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะ แม้ว่าเดฟจะพลาดโอกาสหลายๆอย่างในโลกใต้ดินแต่หากไม่มีความช่วยเหลือจาก Drahma งั้นเขาก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ การอยู่ที่นี่ต่ออาจจะทำให้เขาตายและเควสสืบทอดก็จะจบลงด้วย


” ฉันคุยกับเอลฟ์สาวแล้วและฉันรู้ความคิดนาย เอาจริงๆแล้วนั่นคือส่วนที่นายไม่ต้องกังวลเลย ” – Delvina พูดขึ้น


” เธอหมายความว่ายังไง ? ” – เดฟถามออกมาเพราะไม่รู้ถึงความหมายจากคำพูดเธอ


” Undead King ส่งอันเดตกลุ่มแรกมาเพื่อยื้อเอาไว้ ในช่วงที่รอกำลังเสริม เราต้องดูแลป้อมนี้เอาไว้ ถ้านายเดินหนีออกไปจากที่นี่จะถือว่านายเป็นกบฏ “


[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! ]


[ เควสพิเศษระดับ S


กองกำลังของ Undead King กำลังมา ! รักษาป้อมนี้เอาไว้และป้องกันมันจากผู้บุกรุก ความตายจะทำให้เควสสืบทอดล้มเหลวไปด้วย !


การหนีรึล็อคเอาท์มากกว่า 10 นาที(เวลาจริง) จะทำให้เควสสืบทอดล้มเหลวและเปลี่ยนความสัมพันธ์กับอันเดตให้เป็นศัตรู


คุณต้องรอดให้ได้ 4 ชม. !


การฆ่าผู้บุกรุกมานั้นจะให้คะแนนเป็นรางวัล 3 เท่า !


รางวัลพิเศษจะมีให้เมื่อเควสเสร็จสิ้น ! ]


เดฟดูรำคาญขึ้นมา ชัดแล้วว่าเกมบังคับเขาด้วยคำว่ารางวัลพิเศษ


” ว๊าว ! ” – Lone Arrow พูดขึ้นมา


” อะไร ? ” – เดฟถาม


” ฉันเพิ่งได้รับเควสโลก จัดการดันเจี้ยนโลกเขตแรกก่อน 4 ชม.จะให้รางวัลกับผู้เล่นมหาศาล ดูนี่สิ ” – Lone Arrow พูดขึ้นแล้วส่งภาพให้กับเดฟ


มันเป็นเดฟและด้านล่างภาพเขานั้นก็มีคำพูดเขียนเอาไว้


” เป้าหมายพิเศษ กำจัดอันเดตตัวนี้จะได้รับรางวัล +5 เลเวล, ทอง 25,000 ทองและสกิลพิเศษ { Undead-Bane Sunder} “


” บ้าเอ้ยยยยยย ! ตอนนี้ฉันถึงกับอยากฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ มันไม่ยุติธรรมเลย ! “


” เอ่อ มันไม่ใช่ปัญหา ทุกคนในเกมไล่ตามนายอยู่และนี่ก็แค่คำสั่งที่ย้ำขึ้นมาอีกครั้ง การฆ่านายจะทำให้พวกเขาโด่งดังแต่นายน่ะเลเวลยังไม่ถึง 100 ด้วยซ้ำ การที่มีคนทั้งเซิฟเวอร์มาไล่ตามนายนี่….มันก็ไม่ยุติธรรมจริงๆ ! ” – Lone Arrow พูดขึ้นหลังจากที่หัวเราะเสร็จ


” Alfred ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา


พ่อบ้านแก่โผล่มาตรงหน้าเดฟ


” ตอนนี้มันยุติธรรมยังไง ! ” – เดฟตะโกนใส่พ่อบ้าน


พ่อบ้านนั้นรู้สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้วและพูดออกมาอย่างใจเย็น – ” คุณได้ใช้ความช่วยเหลือจากสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเพื่อเปิดโลกใต้ดินและเดินทางเข้ามา ไม่ใช่แค่ความจริงที่ว่าคุณเป็นตัวละครเดียวที่เกี่ยวข้องกับอันเดตที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมากมายขึ้นมา การมีอยู่ของคุณนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลักๆในโลกของเกม ดังนั้นผมจึงตัดสินใจว่าจะกำจัดตัวตนของคุณแต่ผมไม่ได้ใจร้ายที่จะให้คุณสู้โดยไม่มีหนทาง ทุกอย่างในขอบเขตความสามารถมนุษย์ คุณจะมีโอกาสรอดกับการฆ่าครั้งนี้ ” – พ่อบ้านพูดขึ้น


เดฟถอนหายใจออกมาแล้วเริ่มลูบหนวด


เมื่อมองกลับไปที่พ่อบ้าน เขาก็ได้ถามออกมา – ” มันมี่ทางที่ฉันจะรับมือการต่อสู้เยอะแบบนี้ได้ ฉันหนีไม่ได้และสู้ไม่ได้ มันเหมือนกับเดินเข้าโรงเชือด…”


” ใครบอกว่านายสู้ไม่ได้ ? ” – Delvina ที่ซึ่งเดฟแทบจะลืมว่าอยู่ด้วยได้พูดขึ้นมา


” เลเวลฉันต่ำเกินไป ” – เดฟตอบกลับ


” ออร่าของนาย ? มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ฉันมีลูกน้องมากมายที่แข็งแกร่งกว่าฉํนยอู่และนายก็ไม่ได้เห็นฉันบ่นเรื่องความไร้ความสามารถในการสู้ของตัวฉันเอง “


เดฟ นึกถึงทีมของเขาและรู้สึกผิดที่พวกนั้นตายไป ถึงพวกนั้นจะอ่อนแอแต่ก็ช่วยเขาได้อย่างมกก


” ฉันให้ลูกน้องส่วนหนึ่งกับนายได้ ” – Delvina พูดขึ้นพร้อมกับมีหน้าต่างแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเดฟ


เขาได้อันเดตมากว่า 20,000 ตัว !


เหี้ยยยย ! เยอะจริงๆ ! มันมี Death Knight กว่า 20 ตัวด้วย !


Death Knight หลายตัวเลเวลอยู่ระหว่าง 400-450 แม้ว่ามันจะดูน่าทึ่งแต่เทียบกับกลุ่มผู้เล่นแล้ว มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนัก


เดฟรู้ว่ากิลด์ทั้งสามได้ส่งผู้เล่นฝีมือดีที่สุดมา ดังนั้น Death Knight 20 ตัวนี้จึงถือว่าเป็นทางที่ดีที่จะยื้อเวลาให้เขามีชีวิตต่อไปได้บ้างแต่การอยู่ให้ถึง 4 ชม.นี้มันเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม


” หืม ที่นี่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอันเดต ” – พ่อบ้านพูดขึ้นและมองไปรอบๆ


จากนั้นเขาก็ได้โบกมือ มีรอยแตกของมิติโผล่ออกมาและร้านค้าเล็กๆก็โผล่มาด้านนอกวิหาร


” คุณสามารถใช้คะแนนได้ก่อนที่จะสู้ ลูกน้องของคุณก็สามารถเรียกมาที่นี่ได้และคุณสามารถอัพเกรดอุปกรณ์ ท้าทายระดับ และเพิ่มระดับอันเดตของคุณ “- พ่อบ้านพูดขึ้นก่อนจะหายไปในอากาศ


” อ่ะ ! “- เดฟร้องออกมา


เขาอยากที่จะกลับไปที่ดินแดนอันเดต เมื่อเห็นว่ามีคะแนนกว่า 55,000 คะแนนที่รอให้เขาใช้อยู่


เดฟได้ไปหาเจ้าของร้านทันที มันยิ้มให้เขาแต่สีหน้าที่มันยิ้มก็ยังน่ากลัวอยู่ดี


” นายเอามันมาจากไหน ! ” – เจ้าของร้านพูดขึ้นในตอนที่ไอเท็มลอยออกมาจากช่องเก็บของของเดฟและเข้าไปในมือเจ้าของร้าน มันคือหมวกที่เขาดรอปมาได้


เดฟได้หมวกนี้มาตอนที่ช่วยฆ่าบอสตัวแรกในเขตนี้


” ฉันได้มันมาหลังจากที่ฆ่าปีศาจที่แข็งแกร่ง นายถามทำไม ? ” – เดฟพูดขึ้น


หมวกนี้เอาไว้ใช้สำหรับเควส ดังนั้นเดฟจึงลองกดมันเพราะความอยากรู้เพื่อที่จะเริ่มต้นเควส


” นายขายมันให้ฉันได้มั้ย ? ฉันจะให้คะแนนนาย 1,000 คะแนนเลย ! “


เดฟไม่คิดว่าชื่อไอเท็มที่มีชื่อของ Undead King นั้นจะแลกได้กับแค่ 1,000 คะแนน


” นายกล้าดียังไง ! ” – Delvina ตะโกนขึ้นมาจากวิหาร


หมวกได้ลอยออกจากมือเจ้าของร้านตกลงไปในมือของเธอ เธอลองดูมันดีๆและโยนมันกลับให้กับเดฟ


” อย่าทำมันหาย ! ถ้านายไปถึงระดับ Death Knight ได้ นายควรไปหา Andre ช่างตีเหล็กและถามเขาเรื่องนี้ ” – เธอพูดขึ้นแล้วหันกลับไปส่งสายตาโกรธๆให้กับเจ้าของร้าน – ” สำหรับนาย นายต้องตายเมื่อพบกับ Gallows ! “


[เควสลับ : Reforged Anew


หาช่างตีเหล็กอันเดต Andre และถามเขาเรื่องจุดกำเนิดของหมวกนี่ ]


” ไม่นะ ! ฉันไม่คิดว่าเด็กนี่จะรู้ค่าของมัน ฉันสาบานได้ ! ” – เจ้าของร้านพูดขึ้นด้วยความกลัว


เดฟ เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร้านนี้เกือบที่จะหลอกเขา ต้องขอบคุณที่มีบอสอยู่ข้างเขาแต่ตอนนี้เขาก็เริ่มลังเลว่าจะซื้อของจากร้านนี้ดีรึเปล่า


” อ่ะ ไม่ต้องกังวลเลยเพื่อน ฉันแค่ต้องการเอาหมวกนั่นเฉยๆ ฉันไม่รู้ว่านายเป็นเพื่อนของ Delvina ! เอางี้เป็นไง ฉันลดให้สัก 30% สำหรับของ 3 ชิ้นแรกที่นายซื้อจากฉัน ! ” – เจ้าของร้านมองมาที่เดฟด้วยรอยยิ้มแบบเดิม


” นายมีอะไรบ้าง เอามาดูสิ ” – เดฟพูดขึ้น เขาไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไปเพราะกองทัพผู้เล่นกำลังมุ่งหน้ามาหาเขาอยู่


ของชิ้นแรกที่เดฟสนใจคือยา xp มันมีแค่ 3 ขวดแต่ดูมีระดับสูงกว่ายาที่เขากินไปในครั้งที่แล้วโดยเฉพาะราคาของมัน


700 คะแนนต่อขวด


เดฟได้ซื้อมันทั้งสามขวดแล้วดื่มมันทันที


การเพิ่มเลเวลจะทำให้มีแสงส่องประกายออกมาจากตัวและเมื่อ Lone Arrow เห็นมันเธอก็พูดขึ้นมา – ” เฮ้ ! นี่มันโกงนี่นา ! “


” ผลดีของการเป็นอันเดตไงล่ะ ! ” – เดฟตอบกลับ


” สุดท้ายก็เลเวล 100 แล้ว ! “


อันที่จริงผลของยานี่ใช้ได้ตอนที่เลเวลของเดฟอยู่ที่ 80-100


นี่คือสิ่งที่ควรจะทำ


เดฟเปิดหน้าต่างจัดการโลกอันเดตขึ้นมาและมองไปที่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย มันเลเวล 120 เลเวลมากกว่าเดฟ 20 เลเวล แต่เดฟ รู้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาถ้าสู้กันแบบ 1 ต่อ 1


ก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ เดฟจำได้ว่าเขายังต้องเกราะ Black Knight Order ให้เต็มเซต เขาจะได้ใช้ผลจากเซตของมันได้และตอนนี้เมื่อมีคะแนนมากพอ เขาก็สามารถจัดการการต่อสู้ท้าทายตำแหน่งได้ง่ายๆด้วยอุปกรณ์พวกนี้


ที่หน้าต่างสั่งการนั้น เขาเห็นอีกอย่าง…


มันมีช่องอุปกรณ์ ไม่ใช่สำหรับเขาแต่สำหรับพวกลูกน้อง


” ฉันเลือกได้ด้วยซ้ำว่าพวกมันจะเป็นอาชีพอะไร ! เหี้ย พวกมันยังใส่อุปกรณ์ได้ด้วย ! ” – เดฟ พูดขึ้นเมื่อเห็นตัวเลือกอุปกรณ์ให้สวมใส่สำหรับอันเดตของเขา


” หืม อย่างน้อยอุปกรณ์เก่าของฉันก็ไม่ต้องเอาไปขาย ฉันน่าจะมีเงินมากพอจาก Lone Arrow ในการขายเพชร ดังนั้นฉันเลยไม่ใช่ว่าจะจน ฉันควรซื้อของดีๆให้กับลูกน้องบ้าง ! “


เดฟพูดขึ้นแล้วทำการค้นหาไอเท็มต่อ…..


Chapter 74: การเตรียมการขั้นสุดท้าย


Warlord ยกขวานพาดไหล่ตัวเองแล้วมองไปรอบๆถึงการเข้าออกดันเจี้ยนของ Devastators เขาเพิ่งจะจัดการงูปีศาจเสร็จ


พวกปีศาจโผล่ออกมาจากน้ำแล้วเข้าโจมตีพวกเขาที่ชายฝั่งที่ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขารอให้คนอื่นๆมารวมตัวกัน


เรือไม้สภาพโทรมๆจอดที่ริมบึง เพื่อที่จะข้ามไปให้ได้เร็วที่สุดเพื่อเข้าไปยังดันเจี้ยนโลก Devastators จำเป็นต้องข้ามแม่น้ำที่อันตรายนี้ไปด้วยเรือเหล่านี้


ผิวน้ำที่สั่นไหวไกลออกไปนั้นเป็นสัญญาณของมอนสเตอร์ในน้ำ บางทีอาจจะเรียกมันได้ว่าซากมอนสเตอร์ก็ได้


ถึงพวกเขาจะไม่ได้มีการป้องกันอะไรสำหรับมอนเตอร์ที่เข้าโจมตีแต่เรือนี้ก็ดีกว่าการที่ต้องว่ายน้ำไปเอง


แจ้งเตือนเกมโผล่มาตรงหน้าเขา เขาเปิดดูข้อความและหันไปหา Valentine


” นายคิดยังไงกับเรื่องนี้ Valentine ? “


[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! ]


[ เควสพิเศษระดับ A : ดินแดนอันเดตยังไม่ได้เข้าควบคุมดันเจี้ยนโลกเขตแรกได้อย่างสมบูรณ์


แสดงความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวออกมา กำจัดขุมกำลังอันเดตในพื้นที่เพื่อยึดครองเขตแรกเอาไว้เพื่อเพิ่มเวลาในการอยู่ในโลกใต้ดิน


คุณมีเวลา 4 ชม.ในการยึดพื้นที่


โบนัส : เป้าหมายพิเศษ


อันเดตหนวด (ภาพอยู่ด้านล่าง ) กำจัดเป้าหมายนี้


รางวัลสำหรับเควส : +5 เลเวล , 25,000 ทอ. สกิลพิเศษ {Undead-Bane Sunder} ]


” โชคร้ายหน่อย ” – Valentine พูดขึ้น


” ทำไม ? ” – Warlord ถาม


” เราอาจจะเสียการครอบครองประตูไปแล้ว “


Valentine เปลี่ยนสลับช่องพูดคุยและบอกกับคนที่อยู่นอกดันเจี้ยน


” ฟัง ! สมาชิกทุกคนป้องกันประตูเอาไว้เต็มกำลัง ห้ามให้คนอื่นเข้า ! “


” นายไม่ทำเกินไปหน่อยหรือไง ? เราทำสัญญาเอาไว้แล้วไม่ใช่รึไง ? กิลด์ไม่ได้ผิดสัญญาเลยนิ “


” ฉันไม่ได้กังวลเรื่องกิลด์ คิดดูสิ 5 เลเวลกับสกิลพิเศษ บวกกับรางวัลในการอยู่โลกใต้ดินเพิ่ม กิลด์อื่นอาจจะบอกให้ผู้เล่นลาออกแล้วเข้ามาในดันเจี้ยน Devastators ต้องเป็นคนที่จัดการอันเดตหนวดนั่น ! “


Warlord หันกลับไปและเห็นสิ่งที่ Valentine คาดการณ์เอาไว้ พวกกิลด์อื่นๆต่างก็พากันเร่งรีบขึ้นมา


” เราต้องเร็วกว่านี้ ทีม A ไปหาอันเดตบัดซบนั่นและฆ่าเขาซะ ยอมเสียทุกอย่างเพื่อเอามันมาให้ได้ “


ระบบเกมได้ตั้งค่าเรือให้ทุกคนใช้งานได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนใช้เรือ มันก็จะมีเรือลำใหม่ปรากฏขึ้นมา


ผู้เล่นต่างก็รีบพากันลงเรือและมุ่งหน้าไปยังภูเขาที่ไกลออกไป


ตอนนี้ชายฝั่งเต็มไปด้วยเรือมากมาย ทุกคนต่างก็แข่งกันเพื่อไปยังอีกด้านให้ได้ก่อนคนอื่น


Warlord และปาร์ตี้ยืนเรียงแถวที่ริมบึงโดยยังไม่เคลื่อนไหวอะไร พวกเขาแปลกใจกับกลุ่มผู้เล่นที่ยืนอยู่ที่ริมฝั่ง คนเป็นพันเดินวนไปรอบๆแทนที่จะไล่ตามเควสที่เซิฟเวอร์ได้ประกาศออกมา


ทันทีที่เรือมาถึงอีกฝั่ง Warlord ได้กระโดดลงจากเรือและเดินแหวกผู้เล่นออกไป ในที่สุดเขาก็มาอยู่ด้านหน้าได้และหยุดไป สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือสิ่งที่ไม่คาดคิดและไม่น่ายินดีที่สุด


หอคอยเป็นสิบแห่งโผล่ขึ้นมาในรูปแบบการป้องกันตรงหน้าทางเข้าถ้ำ


อันเดตมองลงมาที่ผู้เล่นผ่านช่องหน้าต่างและประตูหอคอย


หน้าต่างที่หอคอยเหล่านั้นชัดแล้วว่าเต็มไปด้วยเหล่าอันเดตระดับสูงพร้อมกับอาวุธที่ทรงพลัง พวกอันเดตยืนเรียงแถวกันอย่างกับกำแพงไม่เคลื่อนไหวโดยไม่ได้มีท่าทีอะไรต่อผู้เล่นที่เข้ามา มันก็แค่ยืนนิ่งและมองกลับมาเท่านั้น


พวกผู้เล่นต่างก็พากันตื่นเต้นกับ xp และของที่จะได้มา จากจำนวนศัตรูและเลเวลของพวกมันแล้ว ผู้เล่นหลายคนถึงกับกำอาวุธในมือแน่นจนเหงื่อชุ่มไปทั้งมือ


” รอที่นี่ก่อน ! ตั้งขบวน ! ” – Warlord สั่งการกระตุ้นผ่านช่องพูดกิลด์


กิลด์อื่นๆเองก็ทำเหมือนกัน พวกเขาจัดขบวนรบที่ริมฝั่งกันทันที


ไม่กี่นาทีริมฝั่งนั้นก็เต็มไปด้วยขบวนทัพผู้เล่นอัดแน่นกันเต็มไปหมด


หัวหน้ากิลด์ทั้งสองกิลด์ Zhang Shi กับ Wan Yi ได้ส่งสัญญาณให้กับ Warlock พวกเขากับรองหัวหน้าตัวเองได้เดินฝ่าขบวนทัพของ Devastators เข้าไปหา Warlock และ Valentine


หลังจากที่มาถึงตรงหน้า Zhang Shi ก็เริ่มพูด – ” เราต้องผ่านหอคอยพวกนี้ให้เร็วที่สุด ทางที่ดีที่สุดคือการโจมตีด้วยการส่งผู้เล่นที่เท่าๆกันในแต่ละกิลด์ออกไป “


Valentine ส่งข้อความหา Warlord ‘ พวกเขาพูดถูก กองกำลังแรกที่เข้าไปในเขตศัตรูจะได้รับความเสียหายมากที่สุดและอาจจะไม่ได้รางวัลอะไร กองกำลังผสมที่มีจำนวนเท่ากันในแต่ละกิลด์คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ‘


” ฉันเห็นด้วย เราจะส่งผู้เล่นเข้าไป 5,000 ตนและ 2,000 คนในทุกๆ 10 นาทีหลังจากนั้น ” – Warlord พูดขึ้นมา


Zhang Shi มองไปที่ Wan Yi แล้วพูดขึ้นมา – ” เราต้องร่วมมือกัน ฉันอยากให้ Blood Rage ไปยึดหอคอยและ Heaven’s Dawn เป็นแนวหน้า เราจะส่งกำลังเสริมไปในทุกๆส่วนและสลับกันเมื่อจำเป็น ” – Valentine พูดขึ้น


Valentine และ Warlord มองไปยังหัวหน้ากิลด์ทั้งสองที่ตอนนี้หน้านิ่งอยู่ มันเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ต่อทั้งสามกิลด์ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกัน ในระยะยาวแล้วมันอาจจะเป็นหนึ่งรึทั้งสามกิลด์ที่พินาศไปพร้อมกับกิลด์อื่นที่จะเข้ามาแทนที่


” หือ นายส่งคนเข้าไปแนวหน้าสิ ! เราจะเสียผู้เล่นเยอะกับแผนนั้น มากกว่ากิลด์นายอีก ” – Wan Yi พูดขึ้นมา


” ฉันจะนำแนวหน้าเพื่อรักษาชีวิตคนอื่นให้ได้มากที่สุด เราต้องการให้ Blood Rage ไปยึดหอคอย เราปล่อยช่องว่างด้านหลังไม่ได้เผื่อว่าจะโดนลอบโจมตีโดยเฉพาะถ้ายังมีศัตรูคนอื่นตามหลังเรามา ” – Valentine ตอบกลับ


Wan Yi ถึงกับยอมสงบลง ทุกคนรู้ว่า Valentine เป็นการ์เดี้ยนระดับท็อปของเกม การมีเขาอยู่ที่แนวหน้านั้นจะทำให้คนตายน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกิลสืบทอดที่เขามี


Valentine มีสกิลในการป้องกันผู้เล่นกลุ่มใหญ่พร้อมกันได้และตอนนี้สกิลนั้นก็พร้อมใช้งานแล้วด้วย


” เราจะเปิดฉากโจมตีแนวหน้าด้วยแทงค์และรับดาเมจจากอันเดตโจมตีไกล หน่วยโจมตีจะมีนักเวทย์ นักธนูและฮีลเลอร์คอยสนับสนุนโดยมีหน่วยปกป้องคอยระวังหลังให้ การโจมตีแนวหน้าจะมีโจรกับนักฆ่าคอยช่วยด้านปีกข้างๆ โจมตีหอคอยและกำจัดพวกนักธนู “- Valentine อธิบาย


” ฟังดูเป็นแผนที่ดี จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไปเจอกับบอสเข้า ? ” – Zhang Shi ถาม


” ถ้ามันไม่ได้เฝ้าทางเข้าไว้ เราก็ไม่ต้องสนใจมัน เราจะกลับมาได้หลังจากที่เขตนี้เป็นของเราแล้ว เราไม่ต้องเสียเวลากับบอสหรอก เวลาของเควสกำลังนับถอยหลังเรื่อยๆ “


” ฉันจะส่งคนกิลด์ฉัน 5,000 คนให้ไปร่วมมือกับนายแต่พวกเขาต้องรับคำสั่งจากคนของฉัน ” – Zhang Shi พูดขึ้น


” ฉันจะสั่งการแทงค์กับแนวหน้าเอง ” – Valentine พูดขึ้นอย่างใจเย็น


Wan Yi ฮึดฮัดออกมา เขาหงุดหงิดกับความคิดที่จะให้การ์เดี้ยนมาเป็นผู้นำการโจมตีแม้ว่าจะเป็นกองกำลังแทงค์ก็ตาม


” โอ้ มนุษย์ยางลบจะนำสินะ ? “


” เราจะเสียแทงค์น้อยลงถ้าฉันนำและอย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก ” – ในตอนที่เขาพูด Valentine ก็ได้มองไปที่ Wan Yi สายตานั้นแฝงความอาฆาต ฆ่าหรือไม่ฆ่าน่ะเครื่องจักรไม่ได้สนใจหรอก มันจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสร้างเส้นทางที่มันเลือกไว้แล้ว


อยู่ๆก็มีคำพูดขัดขึ้นมา – ” เรามีเป้าหมายเดียวกัน ตอนนี้เราต้องร่วมมือกัน มาสรุปและให้ความเคารพกันหน่อยเถอะ ” – Zhang Shi พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงใจเย็น


” ฉันขอให้ Sand Strom นำพวกโจรเพื่อไปกำจัดนักธนู ตกลงหรือเปล่า ? ” – Zhang Shi ผายมือให้กับผู้ช่วยของเขา


” ฉันได้ยินเรื่องเธอและผลงานเธอมา ” – Warlord มองไปที่นักฆ่า – ” เธอเป็นตัวเลือกที่ดีในการเข้าโจมตีหอคอย “


เธอพยักหน้าให้กับ Warlord ก่อนจะหายตัวไปจากสายตาแล้วเดินจากไป


Warlord กรอกตาใส่และมองไปที่มือขวาของกิลด์ Heaven’s Dawn ตามข่าวลือที่บอกมา รองหัวหน้าคนนี้คือคนที่อยู่เบื้องหลังอำนาจของกิลด์


” งั้นฉันจะนำพวกนักเวทย์เอง ” – ผู้เล่นข้างๆ Wan Yi พูดขึ้น


ถ้าเป็นผู้เล่นคนอื่นพูดแบบนี้ออกมา เขาคงไม่ได้รับการสนใจแต่ไม่ใช่ตัวละครที่มีการสืบทอดคลาส A แบบนี้ Star Mage


” ถ้าเราตกลงกันแล้ว งั้นก็เริ่มลงมือในอีก 3 นาที “


ผู้เล่นได้แบ่งกันเป็นกลุ่มและสร้างช่องพูดคุยออกมาในหน่วยของตัวเอง


เอาสั้นๆคำสั่งที่พวกเขาจะได้รับก็จะมาจากหัวหน้าตามหน่วยของพวกเขา


Valentine ได้นำทัพแนวหน้าออกไป ผู้เล่นพวกนี้มีเกราะ, อาวุธและเผ่าที่ผสมปนเปกันไปแต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากเพราะพวกเขาต่างก็เป็นแทงค์ เบอร์เซิคเกอร์ การ์เดี้ยนและนักสู้


ห่าธนูถูกยิงลงมาจากหอคอยแผ่ไปทั่วท้องฟ้าดำดิ่งลงมาใส่หน่วยแนวหน้า


นัเวทย์ตอบโต้ทันทีด้วยการใช้โล่, บัฟและสกิลควบคุมเพื่อลดดาเมจ ฮีลเลอร์รีบพากันทำงานทันที พวกเขาต่างก็ใช้พลังที่ตัวเองมีออกมาอย่างรวดเร็ว


กองทัพอันเดตที่พื้นดินในที่สุดก็ตอบโต้ พวกมันพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นราวกับคลื่นยักษ์ที่ถามโถมทำลายผู้เล่นไปได้มากมาย


ผลของความกลัวจากการที่เกมอัพเดตนี้แผ่ไปทั่วกองทัพในหมู่ผู้เล่นที่จิตใจอ่อนแอ บางคนถึงกับเซและล้มลงไป บางพวกโดนเหยียบและขบวนทัพก็เริ่มระส่ำระสาย


ด้วยความได้เปรียบจากการที่ไม่มีความกลัว พวกอันเดตยังคงเดินหน้าต่อ ถ้าแขนของมันขาดข้างหนึ่ง มันก็ยังเหลืออีกข้าง ถ้าพวกมันเสียฟันไป พวกมันก็ยังเดินหน้าต่อได้ มีแค่ความตายที่หยุดพวกมันได้


” คงขบวนทัพเอาไว้ ! แนวหน้าตึงกำลัง ยกโล่ขึ้น ! ” – Valentine ตะโกนขึ้นมา


ที่มือของเขามีบอลแสงขนาดเท่ากับหัวคทา เขายังคงตะโกนสั่งการให้การ์เดี้ยนใช้อาวุธตัวเองจัดการกับศัตรูทีเข้ามาและทำลายพวกมันให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ


Valentine ได้ใช้อีกสกิลที่สร้างชั้นหุ้มบางๆให้กับผู้เล่นลดดาเมจลงไปได้บ้าง


อันเดตหลายตัวนั้นเลเวลต่ำกว่า 300 แต่จำนวนของพวกมันทำให้กองทัพผู้เล่นเดินหน้าได้ช้าลง


ผู้เล่นที่โชคร้ายคนหนึ่งโดนโจมตีจนหลุดขบวนทัพ พวกมอนสเตอร์พากันรุมทึ้งเขาทันทีจนมีแต่เสียงร้องที่ดังขึ้นมา ไม่นานพวกมอนสเตอร์ก็พาแยกตัวกันออกโดยไม่มีวี่แววของผู้เล่นคนนั้นเหลืออยู่เลย แม้แต่เศษกระดูกก็ยังไม่มี


โครงกระดูกในหอคอยยังคงยิงธนูและหน้าไม้ออกมาไม่หยุด มันไม่ต่างอะไรจากพายุธนูเลย


” หอคอยยิงเราอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับพวกโจร ? ” – ผู้เล่นในหน่วยแทงค์ตะโกนขึ้นมา


ตามแผนแล้วหัวหน้ากิลด์ทั้งสามจะคอยพูดคุยกันและแบ่งปันข้อมูลกันอยู่ตลอด


” ส่งชุดสองเข้าไป ! ” – Warlord สั่งการออกมาและกองทัพผู้เล่นที่อยู่ที่ชายฝั่งก็ได้เดินหน้าเข้าไปสนับสนุนชุดแรก


” พวกโจรไปเจอกับ Death Knight เลเวล 400 เข้า Sand Strom คิดว่าคงใช้เวลา 5 นาทีในการจัดการมัน จากนั้นเราค่อยไปถึงหอคอยได้และเดินหน้าไปยังหอคอยอื่นต่อ ” – Zhang Shi รายงาน


” เวรเอ้ย ถ้ามี Death Knight อยู่ในแต่ละหอคอย เราคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชม.ในการฝ่าไปแต่ละที่ ฉันว่าเราส่งหน่วยโจรทั้งหมดที่มีไปช่วยจัดการบอสเลเวล 400 ที่นั่นกันเถอะ “


“ฉันเห็นด้วย “


” ฉลาดดี ฉันก็เห็นด้วย “


” เราเสียหน่วยโจมตีไป 5% เพื่อลดความสูญเสียและช่วยประหยัดเวลา เราจะโจมตีแค่ 6 หอคอยแทนที่จะเป็น 12 หอคอย ด้วยกำลังฮีลที่มี แทงค์สามารถรับดาเมจจากหอคอยที่เหลือได้นานพอจะไปถึงวิหารนั่นได้ ” – Wan Yi พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม


” เราควรฆ่าทุกอย่าง การปล่อยศัตรูไว้ด้านหลังมีแต่จะโดนล้อม ” – Warlord พูดขึ้น


” ถ้าเราจะฆ่าทุกตัวในหอคอยพวกนั้น เราไม่มีทางทันเวลาที่จะทำเควสนี้หรอก ” – Wan Yi พูดขึ้น


” Wan Yi พูดมีประเด็น ” – Zhang Shi พูดขึ้นมา


” เอาล่ะ ทำตามแบบที่นายบอกละกัน Zhang Shi ส่งคำสั่งไปให้หน่วยโจรด้วย ฉันจะบอกกับ Valentine “


Warlock มองไปที่ขบวนทัพเสริมกับจุดที่กำลังต่อสู้อยู่ โอกาสที่จะทำเควสสำเร็จก่อนเวลาจะหมดนั้นกำลังนับถอยหลัง หน่วยจู่โจมกำลังสู้กับเวลา ถ้าการต่อสู้นี้ไม่จัดการให้เสร็จโดยเร็วไม่ได้ งั้นพวกเขาคงต้องใช้สกิลสืบทอดเพื่อผ่านมันไป


Chapter 75: ใส่ของ !


เดฟเลื่อนดูไอเท็มในร้านค้า เขาเปิดดูผ่านๆและตรวจสอบมันแล้วเอามาเทียบกัน สุดท้ายเขาก็ได้เลือกไอเท็มมาแล้วทำการซื้อมัน


[Gauntlets of the order of the Black Knights ]


ประเภท : ถุงมือ


คำอธิบาย : ชิ้นส่วนเกราะจากอัศวินที่ล้มตายไปนาน


พวกเขาสาบานที่จะสู้กับพวกผู้ร้ายและต้องตกตายไปด้วยความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของ Undead King ผู้ปกครองของดินแดนอันเดต


จุดจบของพวกเขาน่าอนาถ Undead King ได้สาปพวกเขาให้ลุกขึ้นมาเป็นอันเดต ดังนั้นพวกเขาจึงได้กลายเป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุด


ความต้องการ : เลเวล 60, Str 200, Agi 100, Dex 100


โบนัส : Vit +400, ต้านทาน +2%, ลดดาเมจ 200, ดูดซับเวทย์ 100


คลาส : Rare


[ Helmet of the order of the Black Knights ]


ประเภท : หมวก


คำอธิบาย : ชิ้นส่วนเกราะจากอัศวินที่ล้มตายไปนาน


พวกเขาสาบานที่จะสู้กับพวกผู้ร้ายและต้องตกตายไปด้วยความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของ Undead King ผู้ปกครองของดินแดนอันเดต


จุดจบของพวกเขาน่าอนาถ Undead King ได้สาปพวกเขาให้ลุกขึ้นมาเป็นอันเดต ดังนั้นพวกเขาจึงได้กลายเป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุด


ความต้องการ : เลเวล 60, Str 200, Agi 100, Dex 100


โบนัส : Vit +400, ต้านทาน +2%, ลดดาเมจ 200, ดูดซับเวทย์ 100


[ Cape of the order of the Fallen Black Knights ]


ประเภท : หมวก


คำอธิบาย : ชิ้นส่วนเกราะจากอัศวินที่ล้มตายไปนาน


พวกเขาสาบานที่จะสู้กับพวกผู้ร้ายและต้องตกตายไปด้วยความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของ Undead King ผู้ปกครองของดินแดนอันเดต


จุดจบของพวกเขาน่าอนาถ Undead King ได้สาปพวกเขาให้ลุกขึ้นมาเป็นอันเดต ดังนั้นพวกเขาจึงได้กลายเป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุด


ความต้องการ : เลเวล 60, Str 200, Agi 100, Dex 100


โบนัส : Vit +400, ต้านทาน +4%, ลดดาเมจ 300, ดูดซับเวทย์ 300


ด้วยอุปกรณ์ใหม่สามชิ้นนี้ ในที่สุด เดฟ ก็ได้ใส่เกราะเซ็ตนี้เต็มชุด


” สเตตัส ! “


[ชื่อ : Death Stroke


เลเวล : 100


เผ่า : มนุษย์ ( อันเดต)


Health : 27,000+(1,350)


Mana : 3,000 +(150)


Stamina( ค่าแรง ): ไม่จำกัด


Rage/Focus: 100


Intelligence 260 +(13)


Wisdom 310+(15.5)


Dexterity 260 (+13)


Agility 260 +(13)


Vitality 2,700


Strength 260 +(13)


Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 1,000


Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 2,000


Immunity ( ต้านทาน ) : 20% +(1)%


HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(0)


Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(0)


Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞


Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 1/วินาที


ฉายา : ฉันรู้ทุกอย่าง ! ]



” สวย ! “


ปกติแล้วการใส่เกราะเซตนี้จะทำให้ผู้ใส่ดูราวกับเป็นอัศวินแต่ด้วยผลจากแหวนที่เขามีทำให้เกิดภาพลวงตากับผู้ใส่ซึ่งได้ลบภาพของอุปกรณ์ที่ใส่อยู่ทั้งหมด


” ฉลาดเลือกดีนี่ มันเป็นของที่ลูกค้าต่างก็ชอบกัน ” – เจ้าของร้านโค้งให้


เดฟไม่ได้สนใจคำชมและเรียกทีมอันเดตของเขาออกมาก่อนจะมองดูพวกมัน พวกมันได้เลเวลเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ที่ประตูมายังโลกใต้ดิน ตอนนี้พวกมันเลเวลต่ำสุดอยู่ที่ 81 และ Bud เลเวลสูงสุดที่ 92


ได้เวลาที่จะใช้คะแนนกับพวกมันแล้ว หาอุปกรณ์ให้พวกมันใส่


Bud ถือว่าเป็นลูกน้องที่ดีอันที่จริงมันเป็น Ghoul แต่ช่างเถอะ มันมักจะอยู่ช่วยเดฟเสมอ


เขาเปิดหน้าต่างจัดการพวกลูกน้องขึ้นมาแล้วซื้อชุดเกราะเซตให้กับ Bud


” เฮ้ Bud นี่สำหรับแก เอาสิ ลองใส่ดู ” – เดฟบอกกับ Ghoul


Bud รับเกราะพวกนั้นมา ใช้เวลาสักพักกว่าที่มันจะใส่เสร็จ เกราะนั้นดูพังไปทันทีเข้ากับความเป็นอันเดตของมัน มันตัวสูงขึ้นและไหล่กว้างขึ้น หน้ากากสีดำและช่องที่หมวกนั้นทำให้มันดูแข็งแกร่งและชั่วร้ายขึ้นมา


เดฟหันไปหาลูกน้องตัวอื่นก่อนจะเรียกนักเวทย์เข้ามาหา


นี่คือนักเวท์ที่พัฒนาเป็นนักเวทย์ไฟระหว่างตอนที่สู้กับมนุษย์หมาป่าที่ดันเจี้ยน Dark Threading


” ต่อไปฉันจะเรียกแกว่า Sparky ก็แล้วกัน “


เขามองไปที่ร้านค้าอีกครั้งเพื่อหาไอเท็มที่เหมาะกับสเตตัสของมัน


เขาซื้อชุดยาวสีแดง หมวกนักเวทย์และคทาที่มีอัญมณีสีแดงให้กับมัน


ถึงมันจะมีแค่สามส่วนแต่มันก็ราคามากกว่าเกราะทั้งเซตอีก อุปกรณ์สำหรับพวกนักเวทย์น่ะราคามากว่าของของพวกโจมตีใกล้ มันคือความจริงของเกมนี้


เขาซื้อชุดกับอันเดตตัวที่เหลือตามอาชีพที่มันควรจะเป็น


เขาได้ใช้คะแนนไปทั้งหมด 12,000 คะแนนแต่เขาก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มา ทีมของเขาตอนนี้ถือว่าเป็นทีมที่ดูเจ๋งขึ้นมาบ้างแล้ว


Lone Arrow ไม่ได้ทำอะไร เธอแค่เดินไปรอบๆวิหาร เธอยืนรอตอนที่เดฟและอันเดตของเขาเดินออกมาจากประตู


ตอนที่เธอเห็นทีมอันเดต เธอก็มองไปที่เดฟด้วยสีหน้าสงสัย – ” นายใส่อุปกรณ์ให้กับอันเดตได้แล้วเหรอ ? “


“ใช่ ฉันเพิ่งเห็นตัวเลือกตะกี้นี้เอง “


เมื่อมองไปรอบๆ เดฟก็พบกับอันเดตที่ดูวุ่นวายแต่เขามองไปที่มุมหนึ่งซึ่งไม่ได้มีอะไรโดดเด่นที่ข้างๆวิหาร


ที่ใจกลางมุมนั้นมีร่างหนึ่งที่ยืนพิงกับเสาวิหารเอาไว้


เดฟเดินเข้าไปดูว่ามันคืออะไร ในตอนที่เขาข้ามเส้นวิหารไป ตัวละครนั้นก็เดินออกมาจากเสา เสื้อผ้าขาดๆที่เหมือนกับของหุ่นไล่กาที่ใส่ไว้กับร่างบางๆและผิวที่แนบกับกระดูกกับหน้าที่มีกล้ามเนื้อเล็กน้อย ตาสีเหลืองของมันมองมาที่เดฟ มันคือโครงกระดูกเหมือนกับเดฟ


เครื่องหมายตกใจสีเขียวบนหัวของมันกำลังกระพริบ


ผู้แนะนำ !


ในตอนที่เดฟกำลังจะถามนั้น ผู้แนะนำก็ฮึดอัดออกมา


” นายมีช่องโหว่มากมายในการป้องกันและการโจมตี มันน่าสงสัยนะที่นายเลเวลถึง 50 ได้ นี่คงไม่ต้องพูดถึง 100 เลย “


หยาบคายจริงๆ ! แต่ฉันไม่ได้มาหาเรื่อง นี่เป็นโอกาสที่ฉันจะได้สกิลมา


” ใช่ ฉันไม่ได้มีสกิลมากมายนัก ฉันหาใครสอนฉันไม่ได้ “


” ฉันสอนสกิลนายได้ถ้านายต้องการ ” – โครงกระดูกตอบกลับ


มันโบกมือและมีหน้าต่างแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเดฟ


[ คุณสามารถเรียนรู้สกิลได้ดังนี้


{Bulwark} (เลเวล 20)


{Charge} (เลเวล 30)


{Heroic leap} (เลเวล 40)


{Jeopardy} (เลเวล 50)


{Ground Breaker} (เลเวล 60)


{Warrior’s Will} (เลเวล 70)


{Lunge} (เลเวล 80)


{Bastion} (เลเวล 90)


{Concussive Blow}(สกิลไม้ตาย) ]


เดฟสบถออกมาเมื่อเห็นรายชื่อสกิล – ” เหยดดดด…. “


รายชื่อสกิลพื้นฐานสำหรับอาชีพสายแทงค์สามารถเข้าถึงได้เมื่อเลเวลเพิมขึ้น การมีสกิลพวกนี้แต่แรกจะทำให้ชีวิตในเกมเขาง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก


ก่อนที่จะได้เปิดปากพูดถึงความยากลำบากของตัวเอง ระบบก็ได้ส่งแจ้งเตือนอันใหม่เข้ามา


[ เพราะอาชีพ Death’s Apostle สกิลเหล่านี้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง


{Bulwark} เปลี่ยนเป็น{Death’s Blessing}


{Charge} เปลี่ยนเป็น{Immortal Apparition}}


{Heroic Leap} เปลี่ยนเป็น{Death’s Descent}


{Ground Breaker} เปลี่ยนเป็น{Death Surge}


{Warrior’s Will} เปลี่ยนเป็น{Undying Will}


เดฟตรวจสอบสกิลใหม่ที่ได้รับมาทีละอันๆ เขาสนใจสกิลที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เพราะเขาไม่เคยได้ยินมันมาก่อน


{Death’s Blessing}: ลดดาเมจเวทย์ที่ได้รับ 10% แบบติดตัว การใช้สกิลจะต้านทานเวทย์ได้ 2 วินาที คูลดาวน์ 5 นาที


{Immortal Apparition}: วาร์ปตัวเองไปยังตำแหน่งของเป้าหมายและระเบิดเวทย์แห่งความตายออกมาผลักเป้าหมายออกไปและสร้างดีบัฟกลัวกับศัตรู 2 วินาที คูลดาวน์ 2 นาที


{Death’s Descent}: กระโดดไปยังตำแหน่งเป้าหมาย ไม่สนใจสกิลควบคุมและทำดาเมจ 200% หากโจมตีสำเร็จ คูลดาวน์ 5 นาที


{Jeopardy}:สำหรับเลือดทุกๆ 10% ที่เสียไป เพิ่มการดูดซับเวทย์และลดดาเมจ 1% เมื่อเป้หมายเลือดต่ำกว่า 50% เพิ่มอัตราคริติคอล 5%


{Death Surge}: กระทืบพื้นสร้างคลื่นแห่งความตายออกไปจากตำแหน่งของผู้ใช้ ทำให้เป้ามายในพื้นที่ 5×5 จากผู้ใช้ช้าลง ถ้าเป้าหายอยู่ภายใต้ความกลัว เป้าหมายจะได้รับดาเมจ 300% คูลดาวน์ 30 วินาที


{Undying Will}: ลบผลของสกิลควบคุมจากผู้ใช้และบวกความต้านทาน 5% เป็นเวลา 2 วินาที คูลดาวน์ 2 นาที


{Sword Lung} :โยนดาบออกไปเป็นเส้นตรง 20 ม.แทงทะลุศัตรูและทำดาเมจ 250% ดาเมจจะลดลง 20% จากศัตรูที่โจมตีตัวต่อไป คูลดาวน์ 30 วินาที


{Bastion}: เป็นอมตะและต้านทานสกิลควบคุมได้ 3 วินาที ไม่สามารถใช้สกิลหรือขยับได้ระหว่างที่ใช้สกิลนี้ คูลดาวน์ 3 นาที


{Concussive Blow}: การโจมตีครั้งต่อไปที่สำเร็จนั้นจะทำดาเมจ 500% ใส่เป้าหมาย ถ้าเป้าหมายเลือดต่ำกว่า 20% ดาเมจจะเพิ่มขึ้นเป็น 750% และมีโอกาส 10% ที่จะสตันท์เป้าหมาย 5 วินาที คูลดาวน์ 20 นาที


” ดีขึ้น อันเดตน้อย ตอนนี้นายมีช่องโหว่ในการโจมตีและป้องกันน้อยลงแล้วแต่นายต้องฝึกให้หนักเพื่อเพิ่มพลังของสกิลที่มี “


เครื่องหมายตกใจบนหัวผู้แนะนำหายไป


เดฟเอามือลูบขมับตัวเองราวกับปวดหัวอยู่


” ทำไมฉันไม่ต้องทำเควสหรือฝึกเหมือนกับตอนที่ฉันได้ {Destructive Smash} มา ? ไอ้บ้านี่ยัดสกิลเข้ามาให้ฉันโดยไม่บอกอะไรเลย “


” ผู้แนะนำไม่มีเควสที่เกี่ยวข้องกับสกิลให้ เขาไม่ได้ต้องการให้นายฝึก ” -Lone Arrow ตอบกลับคำพึมพำของเขา


” หือ ฉันโชคดีสิงั้น ฝึกเพื่อเรียนรู้สกิลพวกนี้และการทำเควสคงต้องกินเวลาที่ฉันไม่มีไปอย่างมาก ” – เดฟพูดขึ้น


เดฟมองไปที่หน้าต่างยศแล้วยิ้มออกมา เขารอตอนนี้มานานแล้ว


ครั้งสุดท้ายที่เขาใช้ตัวเลือกนี้ก็ตอนที่เขาท้าทายเอาตำแหน่งหัวหน้าทีมนี้มา


สำหรับคะแนน 1,000 คะแนนแล้ว เขาสามารถซื้อสิทธิ์ในการท้าทายคนยศใหญ่กว่าเขาได้หนึ่งยศ


[Undead Ascension


คุณได้ซื้อสิทธิ์ในการท้าทายหัวหน้าทีม 2705


Rioushak (โจร) ]


เดฟถูกวาร์ปออกไปแล้วปรากฏตัวที่ลาน มีโครงกระดูกตัวหนึ่งยืนอยู่ที่ใจกลางลาน มันหมุนมีดไปมาในมือและมองมาที่เดฟ


Chapter 76: Undead Captain!


มีกำแพงโผล่ขึ้นมาล้อมรอบเดฟ ตอนนี้รอบๆกลายเป็นสนามต่อสู้พร้อมกับที่นั่งมากมาย ที่นั่งเหล่านี้เต็มไปด้วยเสียงคำรามและกรีดร้องของอันเดตนับพันที่พากันโบกสะบัดอาวุธในมือ ด้านหลังทางเข้าสนามต่อสู้นั้นเป็นลานเปิดกว้าวง มีหอคอยด้านบนกำแพงสูงเพื่อยืนยันถึงตำแหน่งของสนามต่อสู้


เดฟได้ถูกส่งเข้ามาในเมืองของดินแดนอันเดต


ทั้งสองฝ่ายยืนอยู่คนละฝั่งของสนามต่อสู้ เดฟและ Rioushak พวกเขามองตากันด้วยความอาฆาตและมองหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย


เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา – ” สู้ ! “


เดฟได้ใช้{Immortal apparition} ห่อหุ้มตัวเองกลายเป็นเงา จากนั้นก็โผล่มาตรงหน้า Rioushak พร้อมกับการระเบิดของพลังแห่งความตาย โจรนั้นกระเด็นตกลงไปที่พื้นด้วยแรงจากการระเบิดนี้


[ ผลของความกลัวล้มเหลว ! ]


ก่อนที่โจรจะได้ลุกขึ้นมา เดฟก็ได้ใช้ {Sword Lunge} และอยู่ในท่าโยนหลาว ดาบนนั้นแทงทะลุออกไปจนสร้างรูอากาศขึ้นมา


ดาบได้ขยายขนาดขึ้นมาเท่ากับปีกเครื่องบินยิงเข้าใส่เป้าหมายราวกับสายฟ้าและเข้าโจมตีแบบ AOE


ความเร็วและขนาดของดาบนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบการโจมตีนี้ แม้ว่าจะมี {Dodge} ก็ตาม


{-422}


Rioushak กระเด็นออกไปแต่มันก็ยังเหลือเลือดอีกเยอะหลังจากที่รับดาเมจจาการโจมตีที่น่ากลัวนี้


เดฟไม่ได้หยุดพัก เขาได้ใช้{Stampede} พุ่งเข้าหาโจร ดาบในมือเขาได้กวาดออกไปข้างหน้า การโมตีที่พุ่งเข้ามานี้เฉือนไปที่อกของโจรและผ่านตัวมันออกไปราวกับรถไฟที่พุ่งผ่าน


{-1822}


{Stampede} เป็นสกิลที่ทำดาเมจได้สูงอยู่แล้วพร้อมกับทำให้เซ เดฟจึงสามารถทำดาเมจได้อีกทั่วด้วยการโจมตีซ้ำด้วย{Twin-Strike}


{-1223}


ด้วยการโดนโจมตีซ้ำ โจรพยายามที่จะรักษาสมดุลตัวเองแต่เดฟไม่ยอมให้ทำแบบนั้น เขายังคงกดดันอีกฝ่ายต่อ นี่คือส่วนหนึ่งของกลยุทธเขา สกิลจำนวนมากนั้นใช้ได้ผลโดยเฉพาะดีบัฟหลายอย่างๆ ผลของการเซนี้ทำให้สกิลส่วนมากไม่อาจจะใช้งานได้


โจรคำรามออกมาด้วยความหงุดหงิด มันไม่สามารถใช้สกิลได้เลยเมื่อเจอกับการโจมตีต่อเนื่องนี้ โจรนั้นเป็นตัวทำดาเมจที่สูงแต่ปืนใหญ่แก้วน่ะยังไงก็ถูกทำลายโดยง่าย


เดฟใช้{Spectral Bomb} และทำการระเบิดที่อกของโจร ผลจากการระเบิดนี้ทำให้โจรต้องกระเด็นออกไป เดฟถอยกลับมาเพื่อเพิ่มระยะห่างเตรียมการโจมตีขั้นต่อไป


เขาได้ใช้{Death’s Descent} กระโดดขึ้นสูงพอที่จะเห็นถนนรอบๆสนามต่อสู้ได้ จากนั้นก็ได้พุ่งลงมาที่พื้นดิน สกิลนี้ได้จบลงด้วยท่าแบบฮีโร่ที่เข่า เท้าและหมัดอัดลงไปที่พื้นจนทำให้หินแตกกระจายออกมา ดาบนั้นแทงลงไปพร้อมกับทำให้ศัตรูล้มลงไปกองที่พื้น


{-1285}


โจรทุบไปที่พื้นด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะลุกขึ้นมาพุ่งเข้าหาเดฟ พร้อมกับมีดในมือ ตาของมันแสดงความบ้าคลั่งออกมาโดยไม่สนดาเมจและการโจมตีที่ตัวเองได้รับ หากไม่มีเกราะและความสามารถของโจร ป่านนี้มันคงตายไปแล้ว


เดฟไม่ได้คิดจะหลบ เขาใช้ {Block} กันดาเมจจากมีด จากนั้นก็ตามด้วย {Counter} ทำดาเมจสะท้อนกลับไปและทำให้โจรต้องเซอีกครั้ง


{-250}


ไม่เปิดโอกาสให้โจรได้ฟื้นตัวหรือโจมตี


โล่ของเขาได้กลับเข้าไปในช่องเก็บของและแยกดาบออกเป็นสองเล่ม


เขาฟันออกมาเป็นรูปตัว x ด้วยสกิล{Double Slash} และใช้ {Soul Burn} ออกมาตามทันทีโดยทนรับผลการโดนดาเมจ 100/วินาทีพร้อมกับเลือดของเขาที่เริ่มลดลงไป


คลื่นพลังจาก {Soul Burn} ได้พุ่งเข้าใส่โจร เปลวไฟวนรอบตัวโจรเอาไว้พร้อมกับดาบรูปตัว x ที่พุ่งเข้ามา ความสามารถที่ถูกใช้รวมกันนี้ทำให้ดาเมจเพิ่มขึ้นมากไปอีก สกิลทั้งสองอัดเข้าใส่โจรพร้อมกับทำดาเมจที่สูงและผลการเผาไหม้ไปด้วย


{-1662}


โจรได้ใช้ {Vanish} หายไปอย่างไร้ร่องรอย


เดฟไม่ได้คิดจะมองหาอีกฝ่าย เขากระทืบพื้นหินและตะโกนออกมาส่งคลื่นพลังงานออกไปโดยรอบ อากาศรอบตัวเขาดูดำทะมึนขึ้นมา {Death Surge} เป็นสกิลควบคุมพื้นที่ทำให้เกิดผลช้าและเพิ่มดีบัฟดาเมจด้วย


แน่นอน เพื่อรับมือการโดนโจมตีจากด้านหลังในตอนที่โจรหายตัว เขาจึงได้ใช้ {Death Surge} ออกมา


เดฟ โจมตีด้วย {Concussive Blow} พร้อมกับ {Twin Strike} ที่เพิ่งคูลดาวน์เสร็จ


{-6852}


{-4552}


” สวย ! “


เดฟยังคงได้เปรียบและทำการโจมตีโจรอย่างต่อเนื่อง


ใช้เวลาไม่กี่นาทีก่อนที่เดฟจะเอาชนะโจรได้ เดฟเดินเข้าไปจัดการโดยใช้ดาบทั้งสองข้างตัดหัวของโจรทิ้ง ร่างที่ไร้หัวของมันยืนนิ่งอยู่นานก่อนที่จะล้มลงไปกับพื้นราวกับหุ่นเชิดที่โดนตัดสาย


เดฟเสียเลือดไม่ถึง ¼ ในตอนที่สู้ จากนั้นเขาก็ถูกวาร์ปส่งกลับไปที่วิหารในเขตดันเจี้ยนโลก


[Undead Ascension


คุณได้เอาชนะหัวหน้าหน่วย Rioushak ได้ !


คุณได้ยกระดับจาก Skeleton Elite เป็น Undead Captain


คุณได้สั่งการกองทัพ 2705


คุณเลือกอันเดตระดับต่ำกว่า 10 ตัวได้ในเพื่อเพิ่มระดับของมัน


อันเดตที่ยกระดับขึ้นมานั้นจะสั่งการทหาร 10 ตัว


เพราะคุณท้าทายหัวหน้าตัวเองได้ ดังนั้นคนอื่นเองก็ท้าทายคุณได้ด้วย


+500 คะแนน


จงรับใช้ Undead King ด้วยความศรัทธา ]


เดฟอ่านแจ้งเตือนและมองไปที่ Bud, Sparky และพวกที่เหลือ เขาเปิดหน้าต่างขึ้นมาแล้วยกระดับยศพวกมัน


หน้าตาของพวกมันหลังจากที่ยกระดับเสร็จนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม


Bud ที่เป็นผีดิบตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เกราะแข็งแกร่งกว่าเดิมและมีหนามงอกออกมาจากเกราะ


ชุดของ Sparky นั้นดูเก่ากว่าเดิม มีควันที่ดูน่ากลัวไหลวนรอบตัวมัน คทาของมันยาวขึ้น สง่าขึ้นและมีเปลวไฟลุกไหม้ไปมาในอัญมณีในคทา


อันเดตอีก 8 ตัวที่เหลือนั้นดูแข็งแรงและกำยำมากขึ้น


อันเดต 10 ตัวใหม่ที่เพิ่มยศขึ้นมานี้มีลูกน้องยืนเรียงเป็นเส้นตรงด้านหลังมัน พวกนั้นเป็นอันเดตระดับต่ำที่โผล่มาด้านหลังพวกอันเดตเดิมในเวลาไม่กี่วินาที พวกอันเดตใหม่เว้นระยะห่างจากพวก Boyz(อันเดต 10 ตัวแรก) และจากนั้นก็ยืนนิ่งเรียงแถวกันด้านหลังก่อนที่จะยืนแถวตอน 10 แถวตรงหน้าเดฟ


ตอนนี้อันเดตในทีม เดฟมีทั้งหมด 110 ตัว


[คุณมีสิทธิเข้าท้าทายส่วนที่สองของเควสสืบทอด คุณอยากที่จะเริ่มหรือไม่ ? Y/N ]


งั้นเควสสืบทอดก็จะทำได้ต่อทุกครั้งที่ฉันยกระดับยศขึ้นมาได้


ถ้าฉันยอมรับการท้าทายนี้ มันจะส่งผลต่อภารกิจที่นี่จนกว่าพวกผู้เล่นจะมาถึงรึเปล่า ? การสู้กับพวกสามกิลด์ใหญ่เป็นเวลา 4 ชม.นี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวก็ได้….


เดฟตอบตกลงกลับไป


[ การท้าทายเควสสืบทอดถูกเลื่อนเพราะภารกิจตอนี้ คุณต้องทำภารกิจตอนนี้ให้เสร็จสิ้นก่อน ]


” บ้าเอ้ย ! ” – เดฟสบถออกมา


” มีอะไร ? ” – Lone Arrow ถามขึ้น


” ไม่มีอะไรสำคัญหรอก เธอรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก ? “


ก่อนที่ Lone Arrow จะได้ตอบ Delvina ก็โผล่มาจากในวิหารและเดินมาหาพวกเขา


เธอพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม – ” กองทัพมนุษย์กำลังเดินหน้าเข้ามาในถ้ำ พวกเขาโดนลดความเร็วโดยหน่วยธนูในหอคอยแต่คงใช้เวลาไม่นานกว่าพวกเขาจะมาถึงที่นี่ได้ “


” นานแค่ไหนกว่าพวกนั้นจะมาถึงที่นี่ ? ” – เดฟถาม


” อย่างมากก็ 2ชั่วโมง “


เดฟหันกลับไปมองที่วิหาร เขาตรวจสอบเวลาที่เหลืออยู่ในเควสตัวเอง


มันเหลือไม่ถึง 2 ชั่วโมง พวกผู้เล่นคงมากันไม่ทันและฉันก็ปลอดภัยแล้ว


เดฟส่ายหน้า เขาไม่ต้องกังวลอะไร


” Delvina ฉันจะหาหน่วยที่เธอให้ฉันได้ที่ไหน ? “


” เรียก Death Knight ของนายออกมาและพวกมันจะกลายเป็นลูกน้องที่นายอัญเชิญมา “


เดฟพยักหน้า


ในหน้าจอนั้นเขาเห็นไอคอน Death Knight 20 ตัว พวกมันใส่เกราะสีดำและมีรูปร่างเป็นมนุษย์ยกเว้นแค่ตาสีเขียวของมันที่ส่องแสงผ่านรูตรงตาออกมา


ที่หน้าจอบอกว่ามันเลเวล 400 ทั้งหมด แต่ละตัวนั้นมีลูกน้อง 1,000 ตัว


เดฟเรียก Death Knight ทั้ง 20 ตัวออกมาดูใกล้ๆ


เขารู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมกับการมีลูกน้องที่แข็งแกร่งแต่ถึงยังไงมันก็ยังทำให้เขาต้องขนลุก


Death Knight มากกว่า 80 ตัวที่ถูกส่งไปหยุดผู้เล่นที่เข้ามา ด้วยการที่มีอันเดตกว่า 20,000 ตัวคอยช่วย เขามั่นใจว่าพวกผู้เล่นคงทำให้เควสของเขาล้มเหลวไม่ได้


” ข่าวร้าย ! ” -Lone Arrow ขัดขึ้นมา


” อะไร ? “


” พวกนั้นใช้สกิลสืบทอด อันเดตหนวดหน้าตายลงเรื่อยๆและผู้เล่นจะมาถึงที่นี่ในอีก 1 ชั่วโมง “


” เหี้ยเอ้ยยยยยย ! “


Delvina เองตกใจกับข่าวนี้และได้สั่งการลูกน้องของเธอให้เตรียมการป้องกัน


” Delvina ถ้าเรารอพวกมนุษย์มาที่นี่ พวกนั้นจะจัดการเราได้ในเวลาไม่นาน ที่เดียวที่เราอาจจะยื้อพวกนั้นไว้ได้คือสะพานที่ข้ามแม่น้ำลาวา “


” ก็จริง ฉันได้สั่งให้หน่วยหน้าถอยไปที่สะพานแล้ว พวกเขาจะยืนอยู่ที่แม่น้ำลาวา มันน่าจะถ่วงเวลาพวกมนุษย์ได้บ้าง แต่ผู้ใช้การสืบทอดนั้นยากที่จะหยุดได้ “


” เราไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกเขา แค่ถ่วงเวลาเอาไว้ เมื่อกองทัพเสริมมาถึง พวกนั้นก็จะกำจัดผู้บุกรุกออกไปเอง “


เดฟสั่งการแยกกองกำลังของเขา เขาตั้งใจจะเอา Death Knights 10 ตัวและทีมของเขาไปที่สะพานเพื่อยื้อผู้เล่นคนอื่น อีก 10 ตัวจะอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันวิหารและเป็นกองกำลังเสริมหากจำเป็นต้องใช้


เมื่อสั่งให้ Death Knights ทั้ง 10 ตัวตามเขามา เขาก็เริ่มเดินหน้าตามอุโมงค์ที่นำไปสู่แม่น้ำลาวาและสะพานนั่น


Lone Arrow รีบตามเดฟไปด้วย


” นายจะไปไหน ? “


” ไม่เห็นหรือไง ? ฉันอยากเข้าไปดูใกล้ๆ “


” นายก็รู้ไม่ใช่เหรอไงว่าเราน่ะเลเวลต่ำที่สุดในดันเจี้ยนโลกนี้แล้ว ? “


” ไม่ต้องกังวล Lone Arrow ถ้ามันเกินมือเรา เราก็ค่อยถอยกลับมาที่นี่ “- เดฟยิ้มให้กับเธออย่างมั่นใจ


Chapter 77:ฆ่าหัวหน้ากิลด์!


เดฟได้สั่งการให้ Death Knight ที่ได้มาเดินหน้าด้วยความเร็วเต็มที่เพื่อไปดูแลที่สะพาน พวกนั้นเดินหน้าไปพร้อมกับอันเดตสิบตัวเดิมและลูกน้องของอันเดตทั้งสิบ – ” ฉันไม่คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดี ” – Lone Arrow พูดขึ้นมา


” ฉันบอกเธอแล้ว ฉันไม่ได้เอาตัวเองไปเสี่ยง ฉันมีเควสที่ห้ามล็อคเอาท์ออกไปหรือห้ามหนีจากการต่อสู้ มันอาจจะถือว่าเป็นการหนีถ้ารออยู่ที่นี่ ” – เดฟ พูดขึ้นมา


คำพูดของเขานั้นไมเข้ากับการกระทำเดฟดูเหมือนเด็กน้อยในวันคริสมาสต์ที่น่ารำคาญซึ่งเดินไปเดินมารอบโต๊ะ


ตอนที่พวกเขาไปถึงปากถ้ำใกล้กับแม่น้ำลาวา พวกเขาก็ได้ยินเสียงเหล็กที่ดังกระทบกันและเสียงตะโกนของผู้คน พวกเดฟยืนอยู่ที่ปากถ้ำปรับตัวเข้ากับความร้อนที่เข้ามาและกลิ่นเหม็นไม้จากลาวา จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆเดินไปที่สะพานอย่างระมัดระวัง


ตรงหน้าสะพานนั้นคือพื้นที่เปิดขนาดใหญ่ที่ซึ่งมีอันเดตนับพันที่คอยขวางที่นั่นเอาไว้ กองทัพอันเดตพากันหลีกทางให้กับเดฟและพวก


แสงและการระเบิดส่องประกายขึ้นมาที่ใจกลางกลุ่มซึ่งอยู่ส่วนที่ไกลสุดจากถ้ำข้างๆกับสะพานที่แนวหน้า


ผู้เล่นได้เปรียบในทุกวินาทีที่ผ่านไปและทำให้พวกอันเดตตายราวกกับหญ้าที่ล้มตายไป


เดฟเห็นแนวหน้าได้ชัดเจนจากตำแหน่งของเขา


ชายในเกราะชมพูเดินหน้าเข้ามาพร้อมกับรับมือกับ Death Knight สองตัวเพียงลำพัง


ทุกครั้งที่เขาโดนโจมตี แขนของเขาจะเด้งผลักพวกนั้นออกไปซึ่งทำให้เขาสามารถล่อ Death Knight ได้ง่ายๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้รับการโจมตี ตัวของเขาจะงออย่างกับลูกโป่งที่ทำการลดดาเมจไปด้วยได้


” นั่นคือ Valentine ! ” – Lone Arrow พูดขึ้นมา -” เขามีการสืบทอดคลาส A การสืบทอดยางลบ เขาทนรับดาเมจมหาศาลได้โดยรับผลจากมันเพียงเล็กน้อย การสืบทอดด้านการป้องกันที่ยอดเยี่ยม ” – ตาของเธอเป็นประกายราวกับว่ากำลังมองดูดาราอยู่


ข้างๆนั้นมีชายคนหนึ่งที่ทำการโจมตีโดยไม่สนใจใคร


เขาถือขวานเล่มใหญ่ในเกราะดำ เขามีรัศมีสีขาวรอบตัวซึ่งคอยทำดาเมจใส่อันเดตอยู่เรื่อยๆ ทุกการโจมตีจากเขานั้นจะทำดาเมจมหาศาล


มีภาพนักรบยืนอยู่ด้านหลังเขาที่สูงเกือบ 10 ม. ทำการเลียนแบบการโจมตีของเขาทุกครั้งโดยทำดาเมจแบบกระจายขึ้นมา


” คนที่มีการสืบทอดคลาส S Warlord ” – เดฟพูดขึ้น


เมื่อมองดูสถานการณ์โดยรอบ เดฟก็เห็นว่าผู้เล่นนั้นได้เปรียบและกองกำลังเสริมที่มาจากด้านหลังจะช่วยพวกเขาในการสร้างเส้นทางสู่วิหารได้ในเวลาไม่นาน


เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น อาณาเขตอันดตก็จะถูกยึดไปโดยผู้เล่รและเดฟก็ต้องโดนฆ่าอย่างไม่ต้องสงสัย


Delvina แสดงสีหน้าจริงจังออกมา


” บริวารของ Undead King เราไม่อาจจะปล่อยให้ผู้บุกรุกยึดครองดินแดนของเราได้ ! สู้เพื่อสิ่งที่เป็นของเรา แม้แต่ความตายสำหรับราชาก็จะได้รับรางวัล ! ” – Delvina คำรามออกมาพร้อมกับแส้เลือดที่โผล่เข้ามาในมือ


{Battle Cry : +5% ดาเมจเป็นเวลา 20 นาที ดาเมจที่ได้รับ -5%}


” นี่เป็นบอส ! ” – Valentine พูดขึ้นมา -“ถอยกลับไปด้านหลัง ! สลับกับ Heaven’s Dawn “


พวกผู้เล่นที่แนวหน้ารีบถอยทันที


Heaven’s Dawn มีแทงค์และเบอร์เซิคเกอร์มาที่สุดในการโจมตีครั้งนี้ หากสู้กับบอสแล้ว พวกเขาถือว่าเหมาะที่สุดที่จะทำการฆ่าบอสได้ง่ายกว่าเดิม ตามคำสั่งของ Valentine พวกเขาได้เปลี่ยนตำแหน่งกันและ Heaven’s Dawn ก็ได้ขึ้นมาที่แนวหน้าแทน


พวกเขามีเลเวลสูงกว่า อุปกรณ์ที่ดีกว่าและเมื่อมองไปที่พวกนั้น พวกนั้นก็ฟื้นฟูเลือดมาจนเต็มและแข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับบอสอย่าง Delvina ได้


” เรื่องมันคงยุ่งเหยิงน่าดู ” – เดฟพูด


แม้ว่าจะพูดแบบนั้นแต่เดฟก็ไม่ได้มีท่าทีจะถอย


เดฟสั่งการให้ Death Knight สองตัวใช้ลูกน้อง 100 ตัวของมัน – ” แกกับแก เอาลูกน้องไปช่วย Delvina อย่าให้ใครผ่านเธอไปได้ ถ้าผู้เล่นเข้ามาในระยะความโกรธของเธอ ให้โจมตีพวกนั้นจากด้านข้าง “


” นายตั้งใจจะทำอะไร ? ” – Lone Arrow ถาม


” ผู้เล่นจะพยายามล่อ Delvina ด้วยการสลับการดึงความโกรธ ถ้าฉันปล่อยให้พวกเขาทำแบบนั้น พวกเขาก็จะฆ่าบอสได้และต่อมาคงเป็นเราที่ต้องตาย ถ้าฉันจัดการผู้เล่นที่คอยดึงค่าความโกรธของบอส บอสก็จะโจมตีแบบสุ่มซึ่งจะเป็นการทำลายพวกผู้เล่นไป ” – เดฟตอบกลับ


” พวกนาย ” – เดฟชี้ไปที่ Death Knight 8 ตัวที่เหลือ


” เอานักเวทย์กับนักธนูทั้งหมดของนายออกมาและพวกโจมตีไกลด้วย ให้พวกนั้นไปโจมตีที่แนวหลังของผู้เล่น อย่าให้พวกนั้นฮีลแนวหน้าได้และให้นักเวทย์ใช้เวทย์ที่ทำให้แนวหน้าอ่อนแอลงด้วย ” – เดฟเริ่มจัดกองทัพอันเดต


Death Knight ทั้ง 8 ตัวไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด พวกมันเรียกลูกน้องโจมตีไกลของตัวเองออกมาและพาพวกนั้นเดินหน้าตามคำสั่งของเดฟ


” ฉันควรจะสู้ด้วย ” – Lone Arrow พูดขึ้น


” อย่าฆ่าตัวตายเลย เมื่อเธอโจมตี เธอจะถูกนับว่าเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน เธอไม่ใช่อันเดตและถ้าเธอตาย เธอก็จะไปเกิดใหม่ด้านนอกเขตดันเจี้ยนโลก ” – เดฟเตือน Lone Arrow


” ไม่ต้องกังวล ถ้ามันดูหนักหนาขึ้นมา ฉันจะหนีออกมาและกลับมาที่นี่ ” – เธอพูดขึ้น


” ได้ ดูแลตัวเองด้วย ” – เดฟพูดแล้วเดินไปทางแนวหน้า


เขาไม่ได้คิดที่จะสู้ระยะใกล้กับผู้เล่นเลเวลสูงพวกนี้แต่ด้วยการใช้ {Spectral Bomb} และสกิลใหม่ของเขาอย่าง {Sword Lung} จะทำให้เขาสามารถช่วยพวกอันเดตได้บ้าง


Delvina ได้กลายเป็นภัยสำหรับพวกแนวหน้าเพราะอาจจะมีสกิลแปลกๆติดตัวที่แส้ขอเธอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอโจมตี มันจะทำให้ผู้เล่นต้องติดดีบัฟเลือดไหลเป็นเปอร์เซ็นต์และติดดีบัฟ{Grievous Wounds} ซึ่งจะลดผลของการฮีลลง 50%


ด้วยกลุ่มอันเดตที่ทำการโจมตีฮีลเลอร์ที่แนวหลัง พวกแนวหน้าจึงพากันล้มตายกันอย่างรวดเร็ว


” นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ! ฉันอยากได้ฮีล ! ” – แทงค์ที่ตอนนี้กำลังรับมือกับบอสอยู่ตะโกนขึ้นมาตอนที่ตัวเองใกล้ตาย


” ให้แทงค์เพิ่มค่าความโกรธตัวเองไว้ ! เราใช้วิธีสลับไม่ได้ ! ” – ชายที่สวมชุดหนังและขวานได้ตะโกนออกมา


เขายกขวานตัวเองขึ้นและเริ่มเพิ่มมานาใส่ขวาน เขากำลังชาร์จสกิลอยู่


ชายคนนี้มีออร่าของการเปลี่ยนร่างจากการสืบทอดของเทพนักฆ่าป่าเถื่อน


ร่างกายของเขานั้นมีพลังและรอยสักปรากฏขึ้นมารอบตัว


” นี่คือ Wan Yi หัวหน้ากิลด์ Heaven’s Dawn …..” – เดฟพึมพำกับตัวเอง


จากนั้นเขาก็ได้แอบใช้{Spectral Bomb} ไปใส่ Wan Yi


” นี่น่าจะทำให้เขาแปลกใจ “


{-0}


ระเบิดนี้ไม่ได้ทำดาเมจอะไรกับผู้เล่นเลเวลสูงแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เซและยกเลิกการโจมตีได้ด้วย


” เหี้ย ! สกิลนี้ ! ” – Wan Yi มองไปรอบๆและเห็นเดฟที่เพิ่งร่ายสกิลเสร็จ


ใจกลางฝูงอันเดตจำนวนมาก มันคงยากที่จะเห็นเดฟแต่ตอนนี้เมื่อเขาโจมตี Wan Yi เขาก็ได้เปิดเผยตำแหน่งตคัวเอง


Wan Yi ยิ้มและพุ่งเข้าหาเดฟโดยไม่สนใจบอสที่บ้าคลั่งอยู่


การฆ่าบอสอาจจะรออีกหน่อยได้ แต่การฆ่าอันเดตกระจอกงอกง่อยที่จะทองเป็นหมื่นและสกิลยูนีคอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว


มือขวาของ Wan Yi เป็นคนมองสถานการณ์โดยรอบได้ดี ตอนที่เขาเห็น Wan YYi ไม่ได้สนใจขบวนทัพและพุ่งไปหา เดฟเขาก็ลนลานขึ้นคมาทันที


” นี่นายทำบ้าอะไร กลับมานี่ ! ” – เขาตะโกนออกมาแต่หัวหน้ากิลด์นั้นไม่ตอบกลับ เขาพุ่งไปใจกลางกองทัพศัตรูและทำลายขบวนทัพอันเดต


เดฟยิ้มออกมากับผู้เล่นที่โง่เง่าแบบนี้


ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเลือดของ Wan Yi ก็ลดลงต่ำกว่าครึ่ง


แม้ว่าจะใช้การเปลี่ยนร่างอยู่แต่ก็ไม่อาจจะทนการโจมตีเป็นพันจากด้านข้างได้


Wan Yi แค่ต้องโจมตีเดฟเพียงทีเดียวเพื่อฆ่าอันเดตผู้โด่งดัง แม้ว่าเขาจะต้องโดนเตะออกจากดันเจี้ยนโลกแต่มันก็ยังถือว่าคุ้ม


แต่เดฟนั้นไมได้โง่ขนาดนั้น เขาถอยกลับมาบังคับให้ผู้เล่นไล่ตามเขาไกลต่อไปอีกซึ่งทำให้สถานการณ์สำหรับอีกฝ่ายแย่ลงไปด้วย


มือขวาของ Heaven’s Dawn เริ่มหงุดหงิดและสั่งการปาร์ตี้ให้ตาม Wan Yi ไปเพื่อช่วยอีกฝ่ายเพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่มีการสืบทอดคลาส S ที่จำเป็นในดันเจี้ยนโลกนี้


” มานี่มาไอ้หนูสกปรก! ” – Wan Yi ตะโกนออกมาโดยใช้สกิลจัดการระเบิดอันเดตที่ล้อมรอบตัวเขาไว้


” จับให้ได้สิถ้านายทำได้ ” – เดฟตอบกลับ


Wan Yi มองไปรอบๆและเห็นว่าด้านหลังเขาว่าช่องว่างที่เขาสร้างขึ้นมาจากสกิลเมื่อกี้นี้มีอันเดตแห่เข้ามาเติมเต็มพวกเดิม


” บัดซบ ! ” – เขาหันกลับมาพยายามหาทางกลับไป เขารู้ว่าถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อไป ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่อาจจะฝ่าวงล้อมไปได้อีกแน่


” ไก่จริงๆเลย นายฆ่าคนกากๆแบบฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้นายเลือกที่จะถอยด้วย เอานี้ไปกินซะ ! ” – เดฟ พูดขึ้นและโยน {Spectral Ball} ใส่ที่หลังหัว Wan Yi


{-0}


มันมีแต่ทำให้ Wan Yi หงุดงิด เขาไม่สนจเส้นทางที่จะทำการหนี แม้ว่าจะเห็นพวกอันเดตที่พุ่งเข้ามาแต่เขาก็เลือกที่จะพุ่งเข้าใส่ เดฟ


เลือดของ Wan Yi ลดลงเร็วกว่าเดิมจากการโจมตีทั้งหมดจากนักธนู, Death Knight และดาบจากพวกโจมตีใกล้ มันทำให้เลือดเขาลดมาจนถึงจุดวิกฤตแต่เขาแค่ต้องโจมตี เดฟ เพียงครั้งเดียวเพื่อจบเรื่องนี้


ความโลภเป็นภัยต่อคน


” เอานี่ไปกินซะ ! ” – Wan Yi คำรามออกมา


เงาของหมีได้ปรากฏขึ้นด้านหลัง Wan Yi แล้วพุ่งตะปบเดฟ


{Bastion}


เดฟได้ใช้สกิลใหม่ที่เพิ่งได้มากันการโจมตีของอีกฝ่ายเอาไว้


แสงได้ห่อหุ้มตัวเดฟเอาไว้ ในเวลาเดียวกันมันก็ทำให้เขาขยับไม่ได้ สกิลนี้จะทำให้เป็นอมตะ 3 วินาทีแต่เดฟก็ไม่อาจจะโจมตีได้


Wan Yi ได้ใช้โอกาสนั้นเข้ามาใกล้ เขามั่นใจว่าตอนที่ผลของสกิลนี้จบลง เขาก็สามารถจบชีวต เดฟ ได้แม้ว่าเขาจะต้องตายหลังจากนั้นแต่มันก็คุ้ม


” ตายซะ ! ” – Wan Yi ตะโกนขึ้นมาแล้วเหวี่ยงขวานเข้าโจมตีต้องการผ่าเดฟเป็นสองส่วน


เดฟยิ้มออกมา


{Rising Strike!}


Wan Yi โจมตีได้แต่อากาศและชีวิตเขาก็ต้องจบลงด้วยการโจมตีจากอันเดตรอบๆ


[ +150 คะแนน ! ]


” คนที่ตายมีการสืบทอดคลาส S ” – เดฟมองไปยังผู้เล่นรอบๆแล้วพูดขึ้น — ” ยังเหลืออีกตั้งเยอะ “


Chapter 78:พลังของเทพสงคราม!


” Wan Yi เพิ่งถูกจัดการ เขาไปเกิดใหม่แล้ว ! “- Valentineตะโกนขึ้นมา


” ไอ้โง่เอ้ย ! ” – Warlord ตะโกนด่า


หัวหน้ากิลด์ที่มีการสืบทอดคลาส S ตายนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นี่ไม่ต้องคิดถึงการลงดันเจี้ยนโลกด้วยกันหรอก นี่เป็นบทลงโทษที่ไม่มีเหตุผลดีๆและมีแต่ทำให้มันแย่ลงเรื่อยๆ


แม้ว่าจะมีคนเยอะและจัดแผนมาอย่างดีแต่ก็ยังเสียคนไปจำนวนมากแต่หัวหน้ากิดล์นั้นต้องรับผิดชอบในการรักษาชีวิตตัวเองเพื่อกำลังใจและทำการสั่งการ มันเหมือนกับการเล่นหมากรุกที่ต้องเก็บคิงเอาไว้


” Zhang Shi เราต้องการกำลังเสริมที่แนวหน้า ! ” – Warlord ตะโกน


” ฉันไม่มีคนจะส่งไปให้นายแล้ว ฉันใช้คนทั้งหมดในการจัดการอันเดตที่หอคอยไปแล้ว นายคงไม่อยากให้พวกมันเข้ามาจัดการนายจากด้านหลังหรอก ใช่มั้ย ? ” – คำตอบนี้ดูจริงใจและเหมือนกับเยาะเย้ยไปในตัว


” เหี้ย เราต้องพึ่งตัวเองแล้ว ” – Warlord พูดขึ้น


Valentine ส่งข้อความหา Warlord – ” มันไร้ประโยชน์ที่จะไปขอคนจากเขา Warlord เขาน่ะรอฉวยโอกาสอยู่ เขาจะอาศัยตอนที่คนเราตายแล้วค่อยขึ้นมา “


“ทำไมเขาต้องเสี่ยงกับการเสียเควสไปด้วย ? “


” ด้วยการที่ Wan Yi โดนจัดการไป Heaven’s Dawn จะไร้ผู้นำ รองหัวหน้ากิลด์ Cao Cui มีความสามารถแต่อำนาจและสิทธิของเขาน่ะมีจำกัดหากไม่มีหัวหน้ากิดล์อยู่ด้วย พวก Blood Rage อยู่ในโซนปลอดภัยกว่าและกำลังสู้กับพวกนักธนูในหอคอยโดยมีการสูญเสียที่น้อย สุดท้ายกิลด์ของเขาก็จะเหลือคนเยอะที่สุด “


” บ้าเอ้ย นี่เขากะปาดหน้าเราเอาดื้อๆเลยหรือไง ! “


Valentine ขัดขึ้นมาด้วยการตะโกนใส่อันเดตที่พยายามจะโจมตีเขา หลังจากที่ชนอันเดตลงไปที่ลาวา เขาก็ได้กลับมาพูดคุยต่อด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น


” มันไม่มีเวลามาเล่นแล้ว เราต้องบังคับบอส ฉันมีแผนสำหรับหลังจากนี้ตอนที่พวก Blood Rage จะเดินหน้าขึ้นมา “


” สกิลเปลี่ยนร่างนายเหลือกี่นาที ? ” – Warlord ถาม


” เราเปลี่ยนร่างพร้อมกัน ดังนั้นเราจะเหลือเวลาประมาณ 57 นาที “


” นั่นเพียงพอให้เราจัดการบอสได้ จากนั้นเราค่อยจัดการพวกลูกน้องและทำตามแผน เท่าที่ฉันคิด หลังจากความโง่ของ Wan Yi และแผนบัดซบของ Zhang Shi ถูกจัดการแล้ว รางวัลทั้งหมดก็จะเป็นของเรา “


” เห็นด้วย งั้นก็ลงมือกันเลย ” – Valentine พูดขึ้น


..


Delvina จับตาดูการต่อสู้อยู่ที่สะพานและส่งกำลังเสริมเข้าไปเมื่อจำเป็น อันเดตที่พุ่งเข้าไปทำการป้องกันสะพานเอาไว้มีแต่ทำให้พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยเลือด


ความต่างระหว่างสองฝั่งนั้นชัดเจนไม่ใช่แค่ความต่างด้านรูปลักษณ์


อันเดตทำการสู้โดยคำรามบ้างเป็นบางครั้ง นอกจากเสียงอาวุธและเสียงของใบมีดที่กระทบกับเกราะแล้วผ่าลงไปที่เนื้อแล้วไม่มีเสียงอย่างอื่นเลย


ผู้เล่นนั้นกลับกัน พวกเขาต่างก็พากันตะโกน, กรีดร้องและด่าอกมา แน่นอนว่านั่นรวมถึงคำพูดที่ต้องตะโกนออกมาตอนที่ใช้สกิลด้วย


การใช้กลยุทธให้ตัวโจมตีไกลจัดการฮีลเลอร์นั้นเพิ่มจำนวนการตายของผู้เล่นได้อย่างมาก Delvina ค่อยได้เปรียบขึ้นมาเพราะเดฟ เธอเริ่มผลักดันผู้เล่นกลับไปได้บ้าง


หลังจากที่ Wan Yi ตาย Heaven’s Dawn ก็แย่ลงไปทันตา อัตราการตายของพวกเขาสูงที่สุดในบรรดาสามกิลด์และเมื่อมี่การสั่งการของผู้นำ แนวหน้านั้นจึงเริ่มไม่เป็นระบบกันมากขึ้น


แทงค์และตัวทำดาเมจของ Devastators คอยสลับกันที่สะพานก่อนหน้านี้ได้จับกลุ่มกันใหม่เป็นแนวกั้นที่สะพาน ภายใต้การสั่งการของ Valentine และ Warlord ขบวนที่ตั้งขึ้นมาก็เริ่มเดินหน้ากลับไปที่สะพานเข้าหา Delvina พวกเขาเพิ่มความเร็วในการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องจนมีความเร็วสูงสุดพร้อมกับเสียงโห่ร้อง


กองทัพของ Heaven’s Dawn อยู่ที่สะพานซึ่งตอนนี้ดูไม่เป็นระบบเอาซะเลย พวกเขาต้องหลีกทางให้กับกองทัพ Devastators ที่พุ่งเข้ามา บางคนตกลงไปที่ลาวาเลยก็มี


” นี่ Devastators ทำบ้าอะไร ! ” – ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาหลังจากที่เพื่อนตกสะพานไป


แต่ไม่มีใครสักคนที่ตอบกลับ


พวกนั้นยังคงพุ่งเข้าใส่บอสโดยไม่สนคนอื่นๆ


” หืม มันอาจจะได้ผล ” – เดฟพึมพำกับตัวเอง


Lone Arrow โผล่มาข้างๆเดฟด้วย {Blink} ของเธอ


” นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ! ” – เธอพูดขึ้น


” Wan Yi ตายแล้ว ตอนี้ Devastators กำลังพุ่งเข้าใส่ Delvina “


” พวกเขาพยายามบังคับบอส นี่มันโง่ชะมัด พวกเขาจะเสียคนไปเยอะ “


” จริงแต่มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเรา ฉันจะส่ง Death Knight ไปช่วย Delvina เพื่อจัดการกับ Devastators ฉันจะกลับไปที่นั่นด้วยและเธอยู่ที่นี่จนกว่า {Blink} จะคูลดาวน์เสร็จ “


Lone Arrow เม้มปาก – ” จ้า จ้า ฉันจะอยู่ที่นี่ ส่วนนายไปสนุกเถอะ “


Death Knight ภายใต้คำสั่งของเดฟ นั้นยังคงอยู่ในสภาพดีอยู่แต่พวกมันไม่เพียงพอที่จะหยุดทัพผู้เล่นในการต่อสู้แบบเผชิญหน้าได้


เดฟต้องการอาศัยช่วงที่ Delvina โมตีผู้เล่นเพื่อให้ได้เปรียบอีกครั้ง


Delvina มองไปที่ผู้เล่นที่พุ่งเข้ามา จากนั้นก็ได้โบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องมารวมตัวตรงหน้าเธอกลายเป็นทัพรูปสี่เหลี่ยม


อันเดตแนวหน้าตอนนี้เป็นกำแพงด้วยโล่ที่ยกขึ้นมาพร้อมกับหอกที่ชี้ออกจากช่องว่างระหว่างโล่ พวกนั้นเตรียมตัวที่จะรับการโจมตีอันหนักหน่วง


พวกผู้เล่นที่พุ่งเข้ามาปะทะกับแนวโล่จนทำให้เกิดเสียงระเบิดดังก้องพร้อมทั้งเสียงร้องต่างๆ ร่างกายหลายร่างได้กระเด็นไปจากการปะทะครั้งนี้ คนที่โชคร้ายกระเด็นเข้าไปถึงกองทัพอันเดตซึ่งมีแต่จะโดนฆ่าตายโดยเหล่าอันเดต


ด้วยผลจากความสับสนกับการพุ่งปะทะรวมกับผลความกลัวและความเจ็บจริงที่เพิ่มขึ้นมานี้ ที่ใจกลางสะพานตอนนี้ถือว่าเป็นนรกเลยก็ว่าได้


พวก Devastators ได้แสดงพลังและการร่วมมือกันที่น่าประทับใจออกมาแต่พวกทัพอันเดตยังรับมือไหวและ Devastators ตอนนี้ถูกถูกผลักดันกลับไป หอกของเหล่าอันเดตทิ่มแทงใส่ผู้เล่นและโล่ที่ตั้งขึ้นมานั้นก็เหมือนกับกำแพงเหล็กที่กันการเดินหน้าของผู้เล่นเอาไว้


Delvina ทำการโจมตีผู้เล่นที่เข้ามา ทุกการโจมตีของเธอนั้นจะโจมตีผู้เล่นได้ 4-5 คนลดเลือดพวกนั้นพร้อมกับดีบัฟ {Grievous Wounds} ที่ลดผลการฮีลลง 50% Death Knight ของเธอเข้าโจมตีผู้เล่นติดดีบัพฆ่าพวกนั้นก่อนที่จะได้ลบดีบัพทิ้งและได้รับการฮีล


อยู่ๆก็มีแสงประทุขึ้นมาในหมู่ผู้เล่น Devastators และภาพของสกิลสืบทอดของ Warlord ก็ได้โผล่ขึ้นมาพร้อมกับคำรามราวกับเทพสงราม นี่คือพลังเต็มที่ของการสืบทอดคลาส S ที่แสดงออกมา


Warlord ตะโกนออกมา – ” หมัดพระเจ้า ! ” – และโจมตีลงไปที่พื้นด้วยหมัดของเขา


คลื่นดินขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่พวกอันเดตจากจุดที่หมัดได้ต่อยลงไปกว้างพอๆกับตัวสะพาน กำปั้นสีทองนั้นครอบคลุมไปด้วยลวดลายและรูนเทพ


” เหี้ยเอ้ย ! “- เดฟมองไปยังการแสดงพลังของการสืบทอดคลาส S แล้วก็ต้องอึ้ง


กำปั้นพระเจ้าได้อัดเข้าใส่ทัพอันเดตแผ่ออกไปราวกับคลื่นระเบิดส่งผลไปไกลกว่าร้อยเมตรทำให้พวกอันเดตต่างก็พากันตกลงไปในลาวา


แค่สกิลเดียว Warlord ก็จัดการแนวโล่และฆ่า Death Knight ไปได้หลายสิบตัวและทำให้ Delvina เซด้วย


” ฆ่า ! ” – Warlord ตะโกนขึ้นมา


พวกผู้เล่นพุ่งเข้าไปจากช่องว่างที่เกิดขึ้นในแนวทัพอันเดต


เหี้ย สกิลนี่มันโหดชะมัด ฉันต้องไปช่วย Delvina ไม่งั้นคงจบเห่แน่ๆ


Delvina อยู่ที่ใจกลางสะพาน เธอสมกับเป็นบอสที่กันผู้เล่นไม่ให้เดินหน้าต่อและกลายเป็นเป้าการโจมตีของผู้เล่นนับร้อยๆคน


เดฟสั่งการ Death Knight ของเขาให้ไปจัดการฮีลเลอร์ที่แนวหลัง จากนั้นเขาก็ได้เอามือลูบหนวดและรวบรวมความคิดหาทางจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้และการทำเควสคลาส S ให้เสร็จ


Valentine เห็นท่าทีแปลกของอันเดตกลุ่มเล็กๆ Death Knights ที่เล็งไปที่ฮีลเลอร์แนวหลัง


” Whoo-Kungson ! นายกับ Heavy-Hitters ไปจัดการพกว Death Knights ที่โจมตีฮีลเลอร์ของเรา เร็วเข้า ไป ไป ไป ! “


เดฟเห็นการ์เดี้ยนเกราะชมพูสั่งการและเขาก็ยิ้มออกมา


Valentine ขนลุกขึ้นมาและใช้โล่กันการโจมตีจาก Death Knights สองตัว เขาจัดการตอบโต้ด้วยการสกิลฟาดโล่แล้วใช้ช่วงนั้นมองไปรอบๆ สายตาของเขามองมาที่อันเดตหนวดที่โดดเด่นจากพวกที่เหลือ


โดยทั่วไปแล้ว Valentine ไม่ได้หมดความมั่นใจและความเย็นชาภายใต้ความกดดันนี้แต่บางอย่างในตอนนี้มันพิเศษออกไป อันเดตตัวนี้กวนใจเขาเหมือนกับมีลางสังหรณ์ที่เตือนเขาอยู่แต่เขายังไม่รู้ถึงมัน อันเดตหนวดนี้ใส่เกราะสีดำซึ่งมันยังดงดูฉีกขาดและพังโดยมันเหนือกว่าเกราะสนิมที่อันเดตทั่วไปใส่


ยิ่งกว่านั้นคืออันเดตหนวดก็มองมาที่เขาพร้อมกับยิ้มและลูบหนวดของตัวเองด้วย


Chapter 79:อันเดตหนวดตาย ?


” งั้นคนเกราะชมพูก็เป็นคนสั่งการ ” – เดฟพึมพำกับตัวเอง


ชายคนนี้เป็นมืออาชีพ เก่งเรื่องกลยุทธ์และความเป็นผู้นำแต่ตอนนี้ฉันคิดหาทางกำจัดเขาไม่ได้


เดฟมองไปที่เวลาบนหน้าจอ 22 นาทีก่อนที่กองทัพจะมาถึงสะพานนี้


” Delvina กำลังรับมือกับผู้เล่นอยู่ พวกนั้นคงทำเควสไม่ทัน ฉันจะไปที่ด้านหลังวิหาร ตรงนี้ไม่มีอะไรที่ฉันต้องลงมือ “


{ หนึ่งใน Death Knight ของคุณโดนฆ่า }


” หือ ? มันแปลกๆแล้ว ! “


เขามองไปรอบๆและทำการรับ – ” … มันเหลืออยู่ประมาณ 9-10 ตัว “


จากนั้นก็มีความคิดที่แว๊บขึ้นมาในหัวเขา เดฟหันกลับไปและมองไปที่วิหาร


” เหี้ย ! พวกโจร ! “


” Delivina ! โจรของพวกนั้นแอบผ่านเราเข้าไปที่วิหาร ! ฉันจะกลับไป ! “


Delivina ตะโกนกลับมา – ” ไป ! กองทัพราขาใกล้มาถึงแล้ว ! “


จากนั้นเธอก็เริ่มฆ่าผู้เล่นเร็วขึ้นซึ่งดูเข้ากับความบ้าคลั่งที่เธอมี


เลือดของเธอลดลงต่ำกว่า 50% เดฟ รู้ว่าเธออาจจะยื้อไว้ไม่ไหว


เดฟ สั่งการให้ Death Knights ทั้งสิบตัวของเขาอยู่ช่วย Delvina


เขาวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่ทำด้ำพร้อมกับ Death Knights 5 ตัวผ่านทางอุโมงค์มุ่งหน้าไปที่วิหาร


ความคิดเดฟเริ่มปั่นป่วน


เขาน่าจะคิดได้และเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ ด้วย{Invisibility} และ {Stealth} โจรและนักฆ่านั้นสามารถผ่านสนามรบเข้าไปที่แนวหลังศัตรูได้รึอาจจะทำตามเป้าหมายได้


มันถือว่าเป็นโชคดีที่เขาทิ้ง Death Knights 10 ตัวอยู่ใกล้ๆธง ไม่งั้นแล้วคงเสียอาณาเขตนี้ไปโดยไม่มีคำเตือนใดๆ


ใช้เวลาไม่กี่นาทีเขาก็วิ่งมาถึงที่วิหาร


ตอนที่ไปใกล้ทางออก เขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ หัวใจเขาเต้นรัวขึ้นมาเรื่อยๆ


เดฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกตอนที่ออกจากอุโมงค์และมองไปที่วิหาร ธงของอันเดตยังอยู่ที่วิหาร


นักฆ่าเป็นร้อยล้อมวิหารเอาไว้แต่ผลการหายตัวได้หายไปแล้ว พวกนั้นถูกยื้อไว้โดยเหล่า Death Knights และกองทัพอันเดต


เมื่อเห็นอันเดตที่สู้กับผู้เล่นอยู่ เดฟก็สงสัยว่าพวกผู้เล่นฆ่า Death Knights หนึ่งตัวได้ยังไง


พวกนั้นอาจจะรุมโจมตีไปที่ Death Knight ตัวเดียวก็ได้


” ล้อมเอาไว้แล้วโจมตี ! ” – เดฟสั่งการ Death Knights 5 ตัวที่เขาเอามาจากสะพาน


Death Knight และกองทัพกำลังเดินทางมาและจะล้อมพวกผู้เล่นเอาไว้และโจมตีจากระยะไกล


จากนั้น Death Knights ที่มีลูกน้องตัวอื่นๆตามมานั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ผู้เล่น พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นเพราะความคลั่งในการปกป้องธง พวกเขาฉีกกระชากขบวนทัพของโจรจนแตกกระเจิง


เสียงของดาบปะทะกันดังก้อง เสียงตะโกนของผู้เล่นที่ตะโกนหากันพยายามรักษาความได้เปรียบเอาไว้และรับมือศัตรูชุดใหม่


ไม่กี่นาทีการต่อสู้ก็จบลง โจรคนสุดท้ายจากขวานของ Death Knight


อันเดตคำรามออกมาดังก้องเมื่อเอาชนะศัตรูได้


มันเกือบไปจริงๆ ฉันน่าจะอยู่ที่นี่ พวกผู้เล่นจะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในไม่ช้าและพวกเขาคงต้องหาทางอื่นอีก


..


ที่สะพาน ในที่สุดเลือดขีดสุดท้ายของ Delvina ก็หมดลงด้วยมือมือของ Warlord


เขามองไปที่เวลา ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 15 นาทีก่อนที่เควสจะจบ


” Valentine เราต้องรีบแล้ว ไปที่ธง ! ” – เขาพูดขึ้น


” ฉันเองก็เห็นด้วย ! “


” Devastators ! รวมกลุ่มแล้วฟื้นฟูเลือด ! “


ในตอนที่เขาพูดจบ Valentine ก็หันไปมองกิลด์ Blood Rage ที่แห่กันเข้ามาจากอุโมงค์พุ่งเข้ามาด้วยสีหน้ายินดี


” Zhang Shi จะทำอะไร ? ” – Warlord พึมพำออกมา


Valentine เบิกตากว้าง – ” Warlord ! ดูแลแนวหน้าแล้วไปที่ธงซะ ! ไป ไป ไป ! “


” Devastators ทุกคน เดินหน้าไปที่อุโมงค์เดี๋ยวนี้ ! “


Warlord ไม่ได้ลังเลเมื่อได้ยินคำพุดเพื่อน เขาเชื่อใจเพื่อนโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ


ผู้เล่นอาชีพนั้นจะไม่ตั้งคำถามในตอนที่สู้ พวกเขาไม่สนใจอันเดตที่เหลืออยู่แล้วิ่งผ่านพวกมันเข้าไปในอุโมงค์ด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่ทำได้


เมื่อมี Delvina อันเดตก็ไม่อาจจะต้านทานได้ พวกมันได้แต่เดินเตร็ดเตร่ไปทั่วอย่างไร้จุดหมายและเลือกเป้าหมายโจมตีแบบสุ่มๆ


” เกิดอะไรขึ้น Valentine ? ” – Warlord ทักมาถามในตอนที่วิ่ง


” Blood Rage สายของเราพบว่าพวกนั้นได้ให้นักฆ่าไปชิงธงแต่แผนนี้ล้มเหลว ดังนั้นพวกเขาจึงทิ้งหอคอยและส่งกองกำลังทั้งหมดให้มาแย่งธง ฉันคงไม่แปลกใจถ้าพวกนี้จะโจมตีเราด้วย “


” แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทำให้มันง่ายขึ้นสำหรับพวกนั้นหรือไง ? ถ้าเราพุ่งเข้าไป เราก็จะเสียผู้เล่นเพิ่ม เรายังไม่ทันได้ฟื้นฟูเลือดกันเลย บ้าเอ้ย ฉันเหลือเลือดแค่ 20% เอง ! “


” ตอนที่ไปถึงทางออก ฉันจะสร้างแนวป้องกันเอาไว้แล้วยื้อพวก Blood Rage นายเดินหน้าต่อด้วยกองกำลังครึ่งหนึ่งของเราไปชิงธงซะ “


” วาล นายจะรับมือกับ Zhang Shi ได้หรือเปล่า ? ” – Warlord ถาม


” 1-1 น่ะคงไม่ได้แต่ฉันทำให้เขาช้าลงได้ นายต้องจัดการกับพวกอันเดตแล้วเอาธงมา อีกอย่าง ฉันเห็นอันเดตหนวดที่สะพาน ถ้านายเอาธงมาไม่ได้ อย่างน้อยก็จัดการเขาซะ ! “


” เขาอยู่นี่ด้วยเหรอ ? ได้ เข้าใจแล้ว เขาต้องตาย “


Devastators พุ่งผ่านพวกอันเดตที่ป้องกันอุโมงค์แล้วแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่ต่อเพื่อยื้อ Blood Rage อีกกลุ่มพุ่งเข้าไปที่วิหาร


ร่างหนึ่งในชุดคลุมสีแดงเดินเข้าหาแนวป้องกันของ Devastators


” นี่มันหมายความว่ายังไง Valentine ? “


มันคือ Zhang Shi เขาสจัดการกับพวกอันเดตตรงหน้าเขาได้ง่ายๆ


” โอ้ สวัสดี Zhang Shi ยินดีที่ได้พบนายที่นี่ เราแค่คอยระวังหลังให้ นายก็ควรอยู่ด้วย อีกอย่างแล้วมีคนส่งข่าวมาบอกฉันว่านายส่งพวกโจรไปชิงธง แย่หน่อยนะที่มันล้มเหลว “


สีหน้าของ Zhang Shi เริ่มแดงกล่ำ


Valentine ส่ายหน้าเหมือนกับพ่อแม่ที่ผิดหวังตัวลูก – ” มันง่ายนะที่จะโทษว่าเป็นความผิดคนอื่นแต่ฉันคิดว่ามันคงเริ่มต้นจากผู้นำก่อน นายว่ามั้ย ? “


” งั้นนายก็รู้เรื่องแผนเรา ชัดแล้วว่ามันมีคนทรยศในหมู่พวกเรา ไม่ว่ายังไงก็ตามเราจะหาตัวมันแล้วกำจัดมันซะ “


Zhang Shi ที่ยังหน้าแดงกล่ำได้หันไปหาลูกกิลด์ตัวเอง – ” Blood Rage ! จัดการพวกนี้ ! เราทำตัวดีมามากพอแล้ว ! “


เขาหันกลับมาพร้อมกับลูกกิลด์ที่พุ่งเข้าหา Devastators ที่ป้องกันทางเข้าอยู่


‘ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายแล้ว Warlord ‘ Valentine คิดพร้อมกับเตรียมรับมือพวก Blood Rage ที่พุ่งเข้ามา


***


จากตำแหน่งของเขาที่วิหาร เดฟได้เห็นผู้เล่นของ Devastators ที่พุ่งเข้าใส่อันเดตของเขาอย่างบ้าคลั่ง


” เหี้ย นี่มันดูยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ 10 นาที เราแค่ต้องยื้อไว้ให้ได้ 10 นาที ! “


” Death Knights ตั้งแนว ! นักธนูกับนักเวทย์ ยิงได้เลย ! ” – เขาคำรามและสั่งประจำตำแหน่งอันเดตของเขา


ผู้เล่นได้พุ่งเข้ามาหาอันเดตอย่างไม่เกรงกลัวพุ่งชนเข้ากับพวก Death Knight


ที่สะพาน Delvina ได้จัดกองกำลังให้สร้างแนวป้องกันเอาไว้ เดฟพยายามเลียนแบบกลยุทธ์กำแพงโล่นี้แต่แนวป้องกันเขาก็ต้องพลังลงไปภายใต้การโจมตีของพวก Devastators


กลยุทธ์นี้ Delvina ใช้ได้ผลเพราะเธอมีข้อได้เปรียบอยู่หลายข้อ


เดฟได้คะแนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากผู้เล่นที่ตายไปด้วยฝีมือลูกน้องของเขาแต่กองทัพของเขานั้นตายไปเร็วกว่าผู้เล่น


[ หนึ่งใน Death Knight ของคุณถูกฆ่า ! ]


[ หนึ่งใน Death Knight ของคุณถูกฆ่า ! ]


[ หนึ่งใน Death Knight ของคุณถูกฆ่า ! ]


เวลานับถอยหลังลงเรื่อยๆและกองทัพของ เดฟ ยากที่จะยื้อไว้ได้


” เหี้ย ถ้าตายกันแบบนี้คงยื้อไม่ไหว ” – เดฟพึมพำหลังจากที่ลองคาดการณ์ดู


” ถอยไปที่เขตวิหารก่อน “


อันเดตค่อยๆถอยกลับมาที่วิหารและยื้อผู้เล่นที่บันไดที่นำไปสู่ทางเข้าวิหาร ด้านหลังพวกเขาเป็นประตูที่นำไปสู่ห้องโถงของวิหารที่มีธงสีเขียวปักไว้ที่ใจกลางห้อง


เสียงหนึ่งตะโกนใส่ เดฟ – ” ไอ้โครงกระดูก ! “


Warlord เห็น เดฟละกำลังฆ่าอันเดตเพื่อเปิดทางเข้ามาหาเขา


” นายต้องตายที่นี่ ! ” – Warlord ตะโกนขึ้นอีก


” เวรเอ้ย ! ” – เดฟสบถออกมาพร้อมกับรีบถอยทันที


แต่ Warlord ได้ใช้สกิลสืบทอดฆ่าอันเดตที่ขวางทางทิ้งด้วยการโจมตีแบบ AOE ทำดาเมจมหาศาล


สุดท้ายเขาก็ฝ่าแนวป้องกันสุดท้ายของ Death Knight ได้และมายืนตรงหน้า เดฟ พร้อมกับขวานในมอื, เกราะที่เต็มไปด้วยเลือดของอันเดตพร้อมกับหอบหายใจหลังจากที่โจมตีเสร็จ แต่การจะมาถึงที่นี่ได้เขาก็ต้องเสียบางอย่างไป เขาเหลือเลือดไม่ถึง 5% แต่มันก็ยังมากพอที่หัวหน้ากิลด์เลเวลสูงจะจัดการกับอันเดตระดับต่ำได้


เวลาเกือบจะหมดลงแล้ว เขาต้องการเวลาแค่ไม่กี่นาที !


เดฟไม่กล้าที่จะสั่ง Death Knight ให้หันกลับมาช่วยเขา ถ้าเขาทำแบบนั้นอันเดตที่คอยยื้อผู้เล่นอยู่จะตายไปและผู้เล่นก็จะแห่เข้ามาจัดการเขาและชิงธงไปได้


เขาต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเองแต่การโจมตีเพียงครั้งเดียวจาก Warlord ก็จบชีวิตเขาได้


” เรื่องแย่ๆจะกลายเป็นจริงแล้ว ! เหี้ยเอ้ย ! ” – เดฟสบถออกมาและโดดกลับไปที่ประตูวิหารก่อนที่จะสั่งการออกมา – ” Bud Spark คุ้มกันฉัน ! “


อันเดตระดับสูงสองตัวเข้าโจมตี Warlord อย่างไม่ลังเล


Bud พุ่งเข้าหา Warlord พยายามจัดการอีกฝ่าย


ความกล้าหาญกับการที่ Bud พุ่งเข้าใส่ Warlord นั้นสมควรได้รับเหรียญกล้าหาย โชคร้ายที่ Ghoul ระดับสูงโดนฆ่าทันทีด้วยการเหวี่ยงขวานเพียงครั้งเดียว Warlord เริ่มเดินหน้าจัดการอันเดตที่เหลือของเดฟต่อ


ตอนที่ Warlord จัดการอันเดตทุกตัวตรงหน้าได้ยกเว้นแค่เดฟ เขาก็มองมาที่อันเดตหนวดแล้วพูดขึ้น – ” ไม่มีที่ให้ซ่อนแล้ว ไม่มีที่ให้หนีแล้ว Mr.Skeletal นายน่าจะคุยกับเราตอนที่ยังมีโอกาส “


มือของเดฟสั่นเทา รัศมีสีแดงรอบตัว Warlord นั้นหมายความว่าเลือดของ Warlord นั้นเหลือน้อยไม่ถึง 5% แต่เดฟไม่ได้มีโอกาสที่จะทำดาเมจอีกฝ่ายได้เลย


นอกซะจากว่า….จะเสี่ยงแต่มันอาจจะได้ผล


เดฟวิ่งเข้าใส่ Warlord


” โง่ดีนี่ ! ” – Warlord เยาะเย้ยแล้วเหวี่ยงขวานเข้าใส่


เดฟได้ใช้ {Bastion}


ดาเมจถูกกันเอาไว้แต่ Warlord เป็นผู้เล่นมากฝีมือ เขารอและโจมตีอย่างแม่นยำตอนที่ 3 วินาทีของการเป็นอมตะหมดลง


เดฟใช้ {Vertical Strike} และหลบการโจมตี


Warlord ย่นยะระห่างด้วยการใช้ {Charge}


{Block}


เดฟกันดาเมจจากการพุ่งเข้าใส่แต่ก็ยังติดสตันท์ซึ่งทำให้เขาไม่อาจจะทำอะไรได้สกิลคล้าย {Warrior’s will} ถูกใช้ออกมาเพื่อลบสตันท์


” นายก็แค่ยื้อความตายไปได้นิดหน่อย ! “


Warlord ได้ใช้สกิลการสืบทอด {God’s Fist}


เดฟยิ้มออกมตอนที่หมัดนั้นเข้าโจมตี


ฉันซื้อเวลาที่ล้ำค่ามาได้ คนที่มีการสืบทอดจะได้เปรียบอย่างมากแต่นี่คงเจ็บน่าดู….


{-389,520}


[ คุณตาย ! ]


Chapter 80: ไปฝึกมาใหม่นะไอ้น้อง


Warlord คำรามออกมากับชัยชนะที่ได้พร้อมกับอันเดตหนวดที่หายไปภายใต้การโจมตีของเขา สุดท้ายผู้เล่นที่คนมากมายในเกมไล่ล่ามากที่สุด ผู้เล่นที่เปิดส่วนอีเวนต์ต่อไปได้ถูกฆ่าลง


มีผู้เล่นกี่คนกันที่พยายามหาตัวและฆ่าโครงกระดูกตัวนี้แต่กลับต้องตายด้วยลูกไม้ของเขา ?


แต่ Warlord ไม่ใช่หนึ่งในนั้น เขาเป็นผู้เล่นอาชีพ ผู้เล่นระดับแชมป์และหัวหน้ากิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม


Warlord หันหลับมาจากที่ที่เดฟตายมองไปที่ธง มันเป็นรางวัลที่สองจากอีเวนต์นี้ ชัยชนะจากการฆ่าอันเดตหนวดนี้มันน่าพอใจพอๆกับธงนี่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป


มันหมายความว่าดันเจี้ยนโลกเขตแรกนี้จะกลายเป็นของ Devastators ซึ่งระบบจะจัดการให้กับเขาเอง


ด้วยสิทธิของการพิชิตที่นี่ !


และ Devastators ก็สามารถตัดสินใจได้ว่าใครบ้างที่จะเข้ามาที่โลกใต้ดินได้บ้าง


มันจะมีดินแดนให้พิชิต, สมบัติที่จะได้รับมาและเกียรติยศ นี่ไม่ต้องพูดถึงการฟาร์มหา xp ในพื้นที่ที่เลเวลสูงกว่าที่อื่นในเกมตอนนี้ แค่นั้นก็เพียงพอให้ทุกกิลด์อยากที่จะแข่งขันกัน


บางอย่างทำให้เขาตะหงิดๆขึ้นมา มันราวกับว่าเขาลืมบางอย่างไปและสมองของเขาพยายามที่จะเตือนเขา


แต่มันคืออะไร ?


แม้ว่าจะตงิดใจแต่ Warlord ก็รู้สึกว่าเขากำลังรับคลื่นแห่งความสุขอยู่ อำนาจที่จะกำหนดโชคชะตาของผู้เล่นส่วนมากในเกม ไม่นานก็ไม่มีใครที่จะท้าทายอาณาเขตตะวันตกของ Devastators ได้


แต่ Warlord ก็ยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่ มันมีเสียงกระซิบในหัวที่พยายามบอกเขาบางอย่าง


จากนั้นก็มีความคิดโผล่เข้ามา แจ้งเตือนฆ่า ! เขาไม่ได้แจ้งเตือนฆ่าตอนที่โจมตีใส่โครงกระดูกนั้น !


มันเป็นความผิดพลาด ! เขาลืมไปได้ยังไง ? ที่สำคัญกว่านั้นแล้วลูกไม้นี่มันคืออะไร


ขนที่หลังคอเขาลุกชันขึ้นมา


เขาหันกลับมาและมองเห็นกรงเล็บที่ฟาดมาที่ด้านหลังเขา


เขาได้รับแจ้งเตือนที่น่ากลัวกลับมาแทน


[ คุณตาย ! ]


สายตาเขาเริ่มพร่ามั่ว สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือร่างที่ยืนอยู่บนศพของเขา


หน้าที่เหมือนมัมมี่ของโครงกระดูกได้มองมาที่เขาอย่างใจเย็นด้วยตาสีเขียวของมัน


จากนั้นแม้ว่า Warlord กำลังเปลี่ยนเป็นเศษแสงแต่เดฟกลับเปิดปากพูดขึ้นมา – ” ไปฝึกมาใหม่นะไอ้น้อง “


หน้าจอของ Warlord มืดลงไปทันที


[ คุณได้ตายในโลกใต้ดิน ]


[ คุณไม่อาจจะกลับเข้ามาในอีเวนต์นี้ได้อีก ]


[ คุณถูกห้ามเข้าออกเกมเป็นเวลา 72 ชม. ]


..


” เย้ ! ไม่ชนะก็กลับบ้านไปไอ้น้อง ! ” – เดฟถึงกับเต้นไปมา จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นก็มีภาพที่เขาไม่เคยเห็นโผล่ขึ้นมา


เดฟเยาะเย้ย Warlord ผู้เล่นเลเวลต่ำกลับไปสอนผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเกมให้ไปฝึกมาใหม่


ผู้เล่นที่เลเวลเพิ่งถึง 100 ได้เอาชนะหัวหน้ากิลด์ของ Devastators ได้ คำเยาะเย้ยนี้เหมือนกับคำท้าทาย หากดูจากสถานการณ์และเนื้อหาของการต่อสู้มาคิดแล้วมันถือว่าเป็นการเอาชนะในตำนาน บางทีอาจจะยิ่งกว่าตำนานเลยก็ว่าได้


เขายังมีวีดีโออยู่ด้วย….


ชัยชนะของเดฟและการกลับมาจากความตายนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะเปิดเผยจออกไป


มันเป็นผลจากสองสกิล


อย่างแรกคือสกิลติดตัวของอาชีพที่ส่งผลต่อสาวกของผู้ที่ตาย :


+10% ดาเมจตอนที่ใช้ดาบ


+10% ค่าการป้องกันเมื่อใช้โล่


Deny the Reaper:


เมื่อเลือดเหลือ 0 วิญญาณของ Death’s Apostle จะร่องลอย 5 วินาที ระหว่าง 5 วินาทีนี้ Death’s Apostle สามารถปฏิเสธความตายได้


เมื่อปฏิเสธความตาย Death’s Apostle จะกลับมายังตำแหน่งเดิมด้วย HP,SP และ MP ที่เหลือครึ่งหนึ่ง


หลังจากที่ปฏิเสธความตาย Death’s Apostle จะต้องตอบแทนความตายด้วยชีวิตที่เลเวลมากกว่าหรือต่ำกว่าเขา การกระทำนี้ต้องทำในเวลา 3 ชม.ของการปฏิเสธความตาย


คำเตือน – หากล้มเหลวความตายอาจจะส่งผลต่อจุดยืนของคุณและเกิดผลที่ไม่น่าพอใจตามมา


การฟื้นคืนชีพอยู่ในขอบเขตของชีวิตไม่ใช่ความตาย


Deny the Reaper ไม่ใช่การฟื้นคืนชีพแต่เป็นการปฏิเสธความตาย ดังนั้นจึงไม่มีผลที่ตามมาหรือผลจากความตายเมื่อใช้ {Deny the Reaper}


ข้อแม้ 1 : ถ้าเลือดของผู้ใช้เหลือ 0 ภายในเวลา 3 ชม.ในการใช้ {Deny the Reaper} ผู้ใช้จะถูกความตายดึงตัวไปตามปกติแต่จะเสียเลเวลของตัวละคร 10% พร้อมกับการเพิ่มเลเวลของศัตรู


ข้อแม้ 2 : ผู้ส่งสารความตายไม่ได้ข้ามแม่น้ำแห่งความตายโดยไม่มีเหตุผล ผู้ใช้ต้องชดใช้ ถ้าไม่ได้วิญญาณกลับไป งั้นทองหรือของอื่นๆก็พอรับได้ อีกอย่างแล้วต้องจ่ายค่าตอบแทนในช่วงที่วิญญาณหลุดจากตัว ( 5 วินาที )


{Deny the Reaper} ทำให้เขากลับมาจากความตายได้ ราคาของการกลับมานี้คือเลเวลจะลดลง 10 เลเวลหากเขาตายอีกครั้ง


เดฟ ได้สกิลที่สองมาจากหนังสือที่เขาได้มาหลังจากที่เขาช่วย Drahma ฆ่าบอสโลกตัวแรก Dalmadoth


{Demon’s Call : ทำดาเมจเป้าหมายโดยตรง 5% ไม่สนใจการป้องกันติดตัวใดๆ มีโอกาส 10% ที่จะใช้ได้กับบอสและ NPC คูลดาวน์ 24 ชม. ความหายาก : Unique }


และเพราะ Warlord เหลือเลือดไม่ถึง 5% สกิลนี้จึงฆ่าเขาทันที


ดาเมจโดยตรงนั้นถูกใช้ได้แม้ว่าเลเวลจะต่างกัน ไม่งั้นแล้วมันคงไม่ใช่ดาเมจโดยตรง ชัดแล้วว่ามันเป็นสกิลที่ไว้ใช้กับ PvP ได้ อีกอย่างแล้วมันยังมีโอกาสที่จะใช้ได้กับอย่างอื่นนอกจากผู้เล่นด้วย


เดฟสามารถใช้สกิลนี้และได้แต่คาดหวังแต่มันเป็นโอกาสเดียวของเขา ไพ่ตายอันเดียวที่เขามี ถ้าเขาใช้มันและ Warlord รับมือด้วยสกิลป้องกันที่กันดาเมจของ {Demon’s Call} เอาไว้ได้ งั้นทุกอย่างสำหรับเดฟก็คงจบสิ้น


ตามที่เดฟคาดการณ์มา การแสดงนี้จะสำเร็จก็เมื่อ Warlord ไม่ระวังตัวและเขาก็ทำการโจมตีจากด้านข้าง วิธีเดียวที่เขาจะทำแบบนี้คือต้องมีความมั่นใจมากพอ ให้ Warlord คิดว่าเขาฆ่าเดฟไปแล้วและได้ทุกอย่างไป


การพนันของเขาก็ต้องมีความเสี่ยง อย่างน้อยก็คือความคิดของ Warlord


ผู้เล่นกำลังฝ่าแนวป้องกันของอันเดตเข้ามา เมื่อพวกนั้นมาถึงวิหาร เขาก็คงต้องตาย


[ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! เวลาในการยึดครองดันเจี้ยนโลกหมดลงแล้ว การยึดครองของอันเดตในดันเจี้ยนโลกนั้นได้ถูกยืนยันโดยระบบ ! ]


[ กองทัพของ Undead King ได้มาถึงแล้ว ! ]


ด้านนอกประตูวิหารมีมิติที่ผันผวนเกิดเป็นประตูมิติขึ้นมา Death Knight เริ่มเดินผ่านประตูออกมา


จำนวนของมันเริ่มเพิ่มจำนวนจากพันและมากขึ้นเรื่อยๆจนพื้นดินเริ่มสั่นไหว


เดฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาทำได้ !


กองกำลังเสริมแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งส่วนล้อมวิหารเอาไว้เพื่อทำการป้องกันและอีกส่วนเดินหน้าไปที่อุโมงค์ที่นำไปสู่สะพาน


ตอนที่กองทัพสมทบมาถึงถ้ำ กองกำลังที่เหลือของ Delvina ที่ไร้ทิศทางจากการตายของเธอก็ได้รับคำสั่งอีกครั้ง พวกมันรวมกลุ่มใหม่และเริ่มทำการสู้อย่างมีประสิทธิภาพ


พวกอันเดตรวมทัพกันและผลักดันศัตรูกลับไป อันเดตจากวิหารและสะพานได้รวมตัวกันป้องกันประตูเอาไว้แล้วโมตีผู้เล่น ศัตรูที่เหลือนั้นต่างก็พ่ายแพ้ให้กับอันเดตเหมือนกับหมู่บ้านที่โดนน้ำป่าไหลท่วม


[ คุณได้ทำเควสพิเศษสำเร็จ !


คลาส S


เงื่อนไข : คุณเอาตัวรอดพร้อมกับรักษาธงเอาไว้ได้และป้องกันเขตจนกระทั่งกองทัพ Undead King มาถึง


รางวัล : เลเวล +5 ]


อีกอย่างแล้วระบบก็ยังให้รางวัลสำหรับผลงานที่เขาทำระหว่างเควสด้วย


[ ได้รับฉายา : ผู้ไม่ยอมแพ้ ตอนที่เลือดเหลือ 1%$ จะได้รับดาเมจ 0 เป็นเวลา 5 วินาที! คูลดาวน์ 1 ชม. ]


เสียงจากการต่อสู้จบลงและเดฟก็เดินออกมาจากในหมู่อันเดต


น่าแปลก เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเข้าใกล้อันเดต พวกมันจะหยุดและพยักหน้าให้กับเขา


[ เขตวาร์ปแห่งใหม่ถูกเพิ่มในแผนที่ของคุณ : Undead Legion Underworld Frontier


คุณสามารถใช้คัมภีร์วาร์ปและเดินทางมาที่นี่ได้ ]


เดฟ เดินมองหา Lone Arrow เขาขาดการติดต่อกับเธอในตอนที่สู้และท่ามกลางกองทัพอันเดต เขากังวลว่าเธอจะรอดหรือไม่ เธอจะโดนฆ่าทิ้งในเขตดันเจี้ยนโลกโดยอันเดตหรือเปล่า


หลังจากค้นหาอยู่หลายนาที เดฟก็ต้องยอมแพ้และเดินไปยังวิหารเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น


ฉันหวังว่าเธอจะล็อคเอาท์ออกไป มันคงแย่ถ้าเธอตายและถูกไล่ออกจากโลกใต้ดิน


ในตอนที่เขาไปถึงวิหาร มันก็มีแจ้งเตือนกระพริบขึ้นมา


[ คุณได้ถูกอัญเชิญไปยังวังกระดูก 1 เวลาในการอัญเชิญที่จะเริ่มต้น : 3 วินาที ]


” หือ ? “


ตัวละครของเดฟหายไปและหน้าจอที่มืดลง ไม่นานก็มีแสงสว่างวาบเข้ามาในตาเขา


ตอนที่สายตากลับมาเป็นปกติ เขาก็ก้มลงมองที่เท้าตัวเอง เขายืนอยู่บนภาพวาดของนักรบและปีศาจที่กำลังต่อสู้กับปีศาจ


เดฟเงยหน้าขึ้น ภาพนี้ปกคลุมเต็มพื้นห้องโถงขนาดใหญ่ มีเสามากมายเรียงรายค้ำไว้ที่เพดาน มีมังกรและนกฟินิกส์ที่ถูกสลักเอาไว้ที่เสาพันรอบเสาจนถึงเพดาน


ที่ปลายห้องโถงนั้นมีบัลลังก์ตั้งเอาไว้ บัลลังก์นี้ทำขึ้นจากระดูกของสิ่งมีชีวิตต่างๆ กระดูกจัดเรียงกันจนผิวของบัลลังก์นี้เรียบพร้อมกับที่นั่งอีก 3-4 ที่นั่งซึ่งทำมาจากกระดูกที่ก่อตัวคล้ายกันต้นไม้สีดำ จากนั้นก็มีที่พักแขนที่ทำจากหัวกะโหลกและขาเก้าอี้ทีเป็นของจริงๆพร้อมกับกรงเล็บที่ยื่นออกมา


ที่บัลลังก์นั้นมีร่างในชุดเกราะดำนั่งเท้าคางอยู่ มืออีกข้างวางอยู่ที่หัวกะโหลกมนุษย์


เดฟเห็นแค่แสงสีฟ้าหม่นส่องประกายออกมาจากรูที่หมวกของอีกฝ่าย


[ The Undead King ]


เลเวล : ???


ระดับ : King


ขั้น : Unholy


ดาเมจ : ???


สกิล : ???


HP: ???


พลังป้องกัน : ???


คำอธิบาย : ราชาของเหล่าอันเดต….


นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี้ย ? มันไม่ได้ให้คำอธิบายอะไรสักอย่างเลย แล้วตำนานเบื้องหลังมันอยู่ไหนกัน ?


ความคิดของเดฟถูกขัดโดยเสียงของราชา – ” เด็กน้อย เจ้าทำผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับข้า บอกความต้องการของเจ้ามาและข้าจะทำให้มันเป็นจริง “


หวานหมู ! ได้ไอเท็มเพิ่ม !


แต่ก่อนที่เดฟจะได้พูดอะไร ไอเท็มหน้าต่างก็ลอยออกมาจากช่องเก็บของ มันโผล่มาตรงหน้าเขาก่อนที่จะลอยเข้าไปในมือของ Undead King


[ Broken Undead-king’s Helmet ]


หลังจากที่ราชามองไปที่หมวกนั่นสักพัก เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกผิด เขามองมาที่ เดฟด้วยความเอ็นดูมากกว่าเก่า


” ดูเหมือนว่าโชคชะตาของเราจะผูกกัน เด็กน้อย ฉันยกชื่อ Kis’Shtingbrah ให้กับเจ้าและยอมรับเจ้าเป็นหนึ่งในลูกหลาน ตอนนี้งานของเจ้าคือการยืนยัน เจ้าต้องออกค้นหาเกราะของหมวกนี่ว่าอยู่ที่ไหน ตอนที่เจ้าพบมันแล้วก็แจ้งมาทันที ไปพร้อมกับคำอวยพรของข้า เด็กน้อย “


สายตาขอเดฟพร่ามัวลงอีกครั้ง


ตอนที่เขากลับมามองเห็น เขาก็ได้มองไปรอบๆและตอนนี้เขากลับมาที่จุดเกิดในดินแดนอันเดต


รอบๆตัวเขามีอันเดตระดับ Captian อยู่เป็นแสนๆตัว


[ คุณกลายเป็นมอนเตอร์ที่มีชื่อ : Kis’Shtingbrah !]


[คุณได้สิทธิดันเจี้ยนพิเศษ ! ]


มันมีตัวเลือกภารกิจอันใหม่เพิ่มเข้ามา


[รับใช้ด้วยการเฝ้าในฐานะบอสดันเจี้ยนเป็นเวลา 24 ชม. ( เลเวลของดันเจี้ยนต้องสอดคล้องกับคุณ )]


[เควสใหม่ใช้งานได้แล้ว ! ]


[เควสเนื้อเรื่อง !


ระดับ : SSS


ค้นหาเกราะของ Undead King


นี่คือเควสเนื้อเรื่องของเกม การกระทำของคุณจากภารกิจจะส่งผลต่อโลก !


หน้าที่แรก : หาตัว Andre the Forge Smith เพื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับเกราะของ Undead King ]


เดฟนิ่งไปเพราะความช็อก


” เควสเนื้อเรื่อง ” – เขาพึมพำกับตัวเองแล้วค่อยๆรวบรวมสติ


” อีกอันงั้นเหรอ ? ! บ้าไปแล้ว ! “


เขามีเควสเนื้อเรื่องอยู่อันหนึ่งแล้ว


เควสอันแรกที่เขาได้มาตอนที่ Deadra ได้บอกให้เขาฆ่า Undead King


จากนั้นงานแรกจากเควสการสืบทอดของเขาคือเขาต้องขึ้นเป็น Abyssal Knight ภายในเขตอันเดต ในตอนที่เขาทำเควสนี้อยู่เขาก็ยังทำเควสท้าทายจากการสืบทอดไปด้วย ทุกที่ล้วนแต่เป็นพื้นที่เลเวลสูง แน่นอนว่าต้องห้ามตายแม้แต่ครั้งเดียว


จากนั้นหลังจากที่เขาได้เป็น Abyssal Knight เขาก็จะได้รับภารกิจสุดท้ายจากความตาย การท้ายทายสุดท้ายในเควสการสืบทอด


และตอนนี้เขากลับได้เควสเนื้อเรื่องมาอีกอัน อันที่เขาปฏิเสธไม่ได้ด้วย อันนี้มาจาก Undead King ที่ให้เขาออกไปค้นหาเกราะเก่าๆทุกที่ในเกม


” มีงานเยอะจริงๆ ! ” – เขาบ่นออกมาแล้วส่ายหน้าสงสัยว่าเควสนี้จะทำให้เขาลำบากแค่ไหน


และจากนั้นก็มีแจ้งเตือนอีกอันโผล่ขึ้นมา


[ การท้าทายที่สองในการสืบทอดพร้อมแล้ว คุณจะเริ่มเลยหรือไม่ ? Y/N ]


อ่ะ มาถึงที่นี่ปุ๊ปก็มีงานให้ทำเลยสินะ


” ตกลง ! “


..


ในตึกหรูที่สูงที่สุดและหรูหราที่สุดในแมนฮัตตัน สาวน้อยผมม่วงคนหนึ่งกำลังหัวเราะคิกคักไปพร้อมกับอัพโหลดวิดีโอความยาวมากกว่า 12 ชม.


ชื่อวิดีโอที่อัพโหลดนี้คือ : ‘ Mr.Skeletal VS โลก ‘


Chapter 81: บทส่งท้าย V1


ไม่นานมานี้ในจักรวาลเกมจำลองมากมาย มีโลกจำลองหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมามีชื่อว่า Conquest…


ร่างหนึ่งในชุดพ่อบ้านสีดำเนคไทสีเทาจับตาดูเหตุการณ์ที่เกินจำเป็นมากเกินไปที่เขาจะสนใจและมีส่วนร่วมได้


ร่างนั้นพยักหน้าตอนที่เลือดของผู้เล่นคนหนึ่งเป็น 0 ราวกับว่าคาดการณ์ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน


ตอนนี้ระบบสามารถกลับมาสู่ความปกติและมีความวุ่นวายลดลง


ในการฉลองนั้น ร่างนั้นได้ส่งข้อความจากระบบว่า [คุณตาย !] ให้กับผู้เล่นคนนั้นพร้อมกับคำเตือนให้กับผู้เล่นไม่ให้เข้ามามีส่วนในเรื่องผิดปกตินี้อีก


ด้วยความพอใจ ร่างนั้นจึงได้หันไปสนใจเรื่องอื่น ไม่นานร่างนั้นก็เดินหน้าเข้าสู่พื้นที่ทำงานเพื่อจัดการงานต่างๆและการทำงานของระบบตามที่โค้ดได้วางเอาไว้


อยู่ๆร่างนั้นก็นิ่งไป เขายืนนิ่งตัวสั่นพร้อมกับตาที่มองไปทั่วและปากที่เริ่มขยับไปมาด้วยความโกรธ


เขากำหมัดแน่นและตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องไปทั่วระบบ – ” นี่แกทำอะไรลงไป ! ? “


ติดตามชมตอนต่อไป….


Chapter 82: ความโกรธของ Warlord!


“เหี้ยยยยยย ! บ้าเอ้ยยยยย ! เวรจริงๆ ! “


เสียงทุบกำแพงดังก้องไปทั่วอพาทเมนต์ทางตะวันตกของนิวยอร์ก เสียงทุบกำแพงนี้เริ่มขึ้นเมื่อหลายนาทีก่อน


ชายคนหนึ่งทุบไปที่พื้นห้องตัวเองราวกับสิงโตคลั่ง เขามองไปยังแคปซูลเกมที่เขาเพิ่งออกมาเมื่อตะกี้ด้วยความโกรธ การเติมเชื้อเพลิงอีกอย่างเขาไปในความโกรธนี้คือเขาไม่สามารถกลับเข้าไปในเกมได้อีกใน 24 ชม.ตามเวลาจริง


ชายคนนี้คือ Warlord หัวหน้าของกิลด์ที่แข็งแก่รงที่สุดในโลก Conquest กิลด์ Devastators หนึ่งในท็อปห้าผู้เล่นในเกม นักรบเลเวล 432


Warlord ที่ซึ่งเพิ่งถูกหยามด้วยการถูกจัดการโดยขยะเลเวล 100


มันเป็นการเหยียดหยาม


เขายอมรับได้ถ้าเขาได้ธงมาสำเร็จและได้เขตใหม่ในส่วนขยายนี้มาเป็นของ Devastators แต่นี่เขาไม่ได้ธงมา ความสูญเสียของโลกจริงกับในเกมนั้นไม่อาจจะคำนวณได้ เงินของกิลด์นั้นมาจากผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้น พวกเขาคงต้องปรึกษากันหากได้ยินถึงความล้มเหลวของเขา พวกนั้นคงต้องโทษใครสักคน Warlord คงกลายเป็นแพะรับปากหากเขายอมรับมัน


พวกเขาคงต้องคิดหาทางรับมือปัญหาที่ไม่ช้าจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่แค่ Warlor ที่ปฏิเสธว่าเขาต้องรับผิดชอบสำหรับเรื่องนี้ อย่างน้อยก็เพื่อตัวเขาเองแต่กฎของกิลด์เขียนไว้ชัดเจนและไม่อาจจะมองข้ามได้ เขาไม่เป็นตัวอย่างแย่ๆได้


Warlord หยิบโทรศัพท์และทำการโทรออกทันที


ผู้พัฒนา Conquest ต้องทำการสื่อสารระหว่างโลกจริงและโลกจำลองรวมไปถึงฟังก์ชันการทำงานต่างๆ มีหลายแอปพลิเคชั่นที่ทำการโทรออกมาจากในและนอกเกมได้ซึ่งล้วนแต่ถูกเอามาปรับใช้กับ Conquest


Warlord ได้ยินอีกฝ่ายรับสาย เขาไม่รีรอและตะโกนออกไปทันที – ” Valentine เป็นยังไงบ้าง ? “


ผู้เล่นนั้นจะได้ยินเสียงที่ขาดๆหายๆระหว่างการโทรกับโลกจริงเพราะมันมีความต่างเรื่องเวลาในเกม


Valentine ตอบกลับ ด้วยเสียงที่ฟังดูเหนื่อยล้า


” เรากำลังจะโดนจัดการ เกิดอะไรขึ้น ทำไมนายถึงโทรมาจากด้านนอก ? “


” รักษาคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่นายจะทำได้ “


” เราโดนต้อนจนมุม ไม่มีที่ให้ถอยแล้ว Warlord อันเดตแห่กันเข้ามาจากทุกทางและทุกอุโมงค์ ” เสียงลมหายใจบอง Valentine ดูหนักหน่วยซึ่งบอกผู้ฟังว่าผู้พูดนั้นพยายามที่สุดแล้ว


Warlord ได้ยินเสียงถอนหายใจสุดท้ายก่อนที่มันจะเงียบไป


ไม่นานเสียงของ Valentine ก็กลับมาซึ่งดูเครียดยิ่งกว่าเดิม – ” มันจบแล้ว ฉันเพิ่งตาย นายบอกว่านายออกมาเกิดใหม่งั้นเหรอ ? “


” ใช่ ฉันโดนเตะออกมา รอเวลากลับเข้าไปอยู่ เวลาห่านี่ ฉันอยากฆ่าคนขึ้นมาจริงๆ ! ” – Warlord ตอบกลับด้วยเสียงที่ดังขึ้น


” แต่ฉันเห็นนายเข้าไปในวิหารนิ เกิดอะไรขึ้นกับอันเดตหนวดนั่น ? “


” โอ้ ฉันฆ่ามันเขาแล้ว จากนั้นไอ้ห่านั่นก็โผล่มาด้านหลังฉันแล้วโจมตีฉันด้วยสกิลปีศาจอะไรสักอย่าง ฉันมีเลเวลเยอะกว่ามันตั้ง 200 แต่มันก็ยังฆ่าฉันได้อย่างกับฉันเป็นผู้เล่นใหม่ ” – Warlord บ่นออกมา คำพูดของเขาฟังคล้ายกับที่อันเดตหนวดได้ดูถูกเอาไว้


” ส่งวิดีโอมาให้ฉัน ฉันอยากเห็นสกิลนั่น ! ” – Valentine สั่ง เขาเป็นฝ่ายกลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดนี้


Warlord ตอบกลับไปด้วยคามโกรธ – ” บ้าเอ้ย ถ้าฉันไปเอาธงทันทีที่ฆ่าอันเดตหนวดนั่นได้ เราคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เฮงซวยแบบนี้ ไอ้ห่าอันเดตนั่น “


” มันก็แค่แพ้ครั้งเดียว Warlord ” – Valentine ขัดขึ้นมา – ” มันยังมีโอกาสอยู่—”


” นี่คือสิ่งที่นายคิดกับเรื่องเฮงซวยพวกนี้หรือไง วาล ? ! “- Warlord เถียงกลับ


” เขตนี้ยังมีอยู่ Warlord มันไม่ได้เป็นของผู้เล่นคนไหน มันยังมีโอกาสที่เราจะยึดมันมาได้ “


หน้าของ Warlord ดูเหม่อลอยไปสักพัก – ” ใช่ นายพูดถูก ผลไม้ก็ยังอยู่ที่ต้นอยู่ดี ! “


Valentine พูดต่อ – ” อีกอย่างแล้ว Blood Rage กับ Heaven’s Dawn ต่างก็ถูกจัดการก่อนเรา พวกน่าสงสาร พวกเขาไม่ได้อะไรกลับไปเลยจากการก่อกวนเราในโลกใต้ดิน เรายังมีสัญญากับพวกนั้นอยู่ ด้วยการให้พวกนั้นเข้าไปในโลกใต้ดินครั้งนี้ สัญญาก็การันตีให้เราและไม่ได้จำกัดในการเข้าดันเจี้ยนและเหมืองของพวกนั้นเป็นเวลาสองเดือนโดยไม่สนว่าผลลัพธ์ของโลกใต้ดินนี้จะออกมาเป็นยังไง “


Warlord หัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ” ฮี่ โอเค อย่างน้อยเราก็ยังได้อะไรกลับมาจากพวกห่านั้นบ้าง ” – ในฐานะหัวหน้ากิลด์ที่มีความสามารถแล้ว เขาจึงสงบสติอารมณ์ลงได้และหันไปสนใจเรื่องผลประโยชน์


” บอกทีม A กับ B ให้คุ้มกันประตูที่เข้าโลกใต้ดินเอาไว้ เราจะไม่ควบคุมมันแต่พวกเขายังคงไปฟาร์มหาของกับ xp ได้ “


” ไม่ ทำแบบนั้นไม่ได้ Warlord โลกใต้ดินตอนนี้มันปิดแล้ว “


” อะไรนะ ? ! “


” ใช่ ฉันเพิ่งได้ข้อความมาจากคนในดันเจี้ยน Dark Threading ที่ทางเข้า พวกนั้นบอกว่าประตูปิดไปแล้วและไม่เปิดอีกแต่จำได้ว่าระบบได้ประกาศมาว่าโลกใต้ดินสามารถเข้าออกได้จากตำแหน่งอื่นในเกม เราแค่ต้องหาที่นั่น “


” บ้าเอ้ย เอล่ะ จัดกลุ่มค้นหาทางเข้า อีกอย่างแล้วประกาศค่าหัวไอ้อันเดตหนวดนั่น ฉันอยากฆ่ามัน ประกาศค่าหัวยัยนักธนูนั่นด้วย เธอก็ต้องตายเหมือนกัน เธอบอกเราได้ว่าจะไปจัดการกับไอ้อันเดตนั่นได้ยังไงได้ “


” ทำเรียบร้อย ฉันต้องไปจัดการเรื่องโลกใต้ดินและหาข้อแก้ตัวหากมีการประชุมอีกครั้ง ” – Valentine พูดขึ้น


” ขอบคุณ วาล ” – Warlord ตัดสายและเข้าไปนั่งที่คอมเพื่อเช็คเรื่องการเงิน


แน่นอนข่าวนี้ได้ถูกปล่อยอกมาแล้ว ตอนนี้มันบอกว่าหุ้นของ Devastators นั้นตกลงเล็กน้อย หุ้นของ Blood Rage และ Heaven’s Dawn เองก็เช่นกัน


” ไอ้อันเดตเฮงซวยนั่นถึงกับส่งผลถึงหุ้นเลยทีเดียว ” – เขาพึมพำกับตัวเอง


เขาเปลี่ยนไปที่หน้าเว็บไซต์เกม มันมีคำประกาศที่สะดุดตาอยู่ในหน้าหลัก


[ ฮิตติดกระแสในเกม ! มาดูกันว่าทุกคนพูดถึงอะไรกัน !! เนื้อหาที่ติดกระแสในเกมตอนนี้ ! 100 ล้านวิว ! วิดีโอติดกระแส !! ]


Warlord คลิกเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น – “หือ โพสต์ไม่ถึงชั่วโมงแต่มีคนดูเป็นร้อยล้าน ฉันสงสัยจังว่ามันบันทึกอะไรเอาไว้ “


ตอนเริ่มต้นของวิดีโอนั้นเป็นตอนที่เริ่มต้นเควส มันมาจากหน้าจอของนักธนูเอลฟ์ ช่วงแรกที่เร่งความเร็วแสดงให้เห็นกลุ่มอันเดตที่เข้ามาในสายตาของเธอตอนที่เธออยู่ใกล้กับดันเจี้ยน Dark Threading นักธนูได้เข้าร่วมทีมกับอันดตและพวกเขาก็ได้ล่าเสือดำด้วยกันใกล้กับดันเจี้ยน


วิดีโอกลับมาเล่นด้วยความเร็วปกติตอนที่พวกนั้นเข้าไปในดันเจี้ยน


Mr.Skeletal แอบเดินลงไปตามบันไดดันเจี้ยนและซุ่มโจมตีผู้เล่นสองคน สกิลหัวกะโหลกของเขานั้นได้ผลักผู้เล่นสองคนให้เข้าไปในเส้นทางที่หมูป่าพุ่งเข้ามา หมูป่าได้ชนกับผู้เล่นทั้งสองให้ตกจากบันไดไป


” ดูชั่วแต่ก็ฉลาดดี ” – Warlord ยักไหล่ เขาเองก็เคยทำแบบเดียวกัน


วิดีโอยังเล่นต่อไปแสดงให้เห็นตอนที่พวกนี้เจอกับมนุษย์หมาป่า จากนั้นพวกนี้ก็ได้ไปถึงด้านล่างและเจอกับบอสที่นอนอยู่ที่นั่นขวางประตูเอาไว้


น่าผิดหวังที่วิดีโอได้ข้ามส่วนนี้ไป


” เหอะ ! “- เขาร้องออกมาด้วยความผิดหวัง – ” น่าจะรู้หรือไงว่ามันไม่น่าจะง่ายแบบนั้น “


บนหน้าจอ อันเดตหนวดได้ดึงมือเอลฟ์สาวไปกับเขาโดดเข้าประตูและเริ่มที่จะตกลงไป ตอนนี้อันเดตหนวดจับมือเธอเอาไว้แล้วตกลงไปในความมืดมิด


Warlord หัวเราะออกมาตลอดเวลาแต่สุดท้ายเขาก็ได้เห็นบางอย่าง


ช่วงต่อมาได้แสดงให้เห็นว่านักธนูและโครงกระดูกนั้นกำลังคุยอยู่กับ Ramsha


” พวกนั้นอาจจะได้เควสเดียวกันที่ให้ฆ่าปีศาจ ที่ NPC ได้ให้กับผู้เล่นทุกคนที่ไปถึงโลกใต้ดิน “


จากนั้นก็มีผู้เล่นอีกสองคนโผล่มา มันคือสองคนที่โชคร้ายที่ตกเหวไปก่อนหน้านี้ พวกนั้นเกิดใหม่แล้วรีบตามมา อันเดตหนวดและเอลฟสาวสวิ่งหนีจากผู้เล่นสองคนนั้นวิ่งไปยังปีศาจที่เฝ้าทางเข้าไว้อยู่


” พวกนั้นยังเป็นแค่พวกเลเวลต่ำเกินไปสำหรับที่นี่ ไม่มีสักคนที่จะผ่านไปได้ อันเดตที่เป็นลูกน้องก็ถูกทิ้งไว้ด้านบน พวกนั้นจะผ่านปีศาจนี่ไปได้ยังไง ? ”


Warlord ดูวิดีโอด้วยสีหน้าจริงจัง อันเดตหนวดได้เรียงอัศวินผีสองตัวเออกมาล่อปิศาจที่ทางเข้าเอาไว้ ส่วนเอลฟ์ได้บลิงค์หนีไปที่ส่วนปลอดภัยของถ้ำ จากนั้นอันเดตหนวดก็ได้วิ่งเข้าไปในถ้ำได้สำเร็จโดยปล่อยให้ผู้เล่นที่ไล่ตามมานั้นเข้าสู่ระยะความโกรธของปีศาจที่เฝ้าทางเข้า


Warlord ส่ายหน้าตอนที่อันเดตหนวดยืนอยู่ที่ด้านในถ้ำและหันกลับมามองที่ผู้เล่น – ” รอดูว่าศัตรูจะผ่านปีศาจเฝ้าทางยังไงงั้นเหรอ ? แกน่าจะเพิ่มความฉลาดสักหน่อยนะ Mr.Skeletal “


Warlord ยิ้ม เขากับ Valentine เคยเป็นแบบนั้นมานาน คนที่สนุกและไม่ต้องคอยตอบรับใคร ไม่ต้องรับผิดชอบ พวกเขาเล่นก็เพื่อความสนุกล้วนๆ


” สองคนนี้ก็ไม่ได้แย่นัก เราควรดึงเข้ากิลด์หลัก “


สองคนได้วิ่งเข้ามาในกึ่งกลางระยะโจมตีของปิศาจตอนที่อันเดตหนวดได้แสยะยิ้มให้ก่อนจะดีดนิ้ว


การระเบิดนั้นทำให้ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ถ้ำต้องเซและปีศาจก็ได้จัดการนักรบที่ชั่วร้ายไปด้วยลูกไฟสองลูก คนหนึ่งไม่อาจจะสลับความโกรธได้ ด้วยการที่เสียเพื่อนไป ผู้เล่นอีกคนก็โดนบดขยี้ตามไปในเวลาเพียงไม่นาน


Warlord จำรอยยิ้มของอันเดตนั้นไว้ในใจ – ” เจ้าเล่ห์ดี เย็นชาด้วย ลูกไม้ของเขาอาจจะใช้ได้ผลกับผู้เล่นแต่มันไม่ได้ผลกับบอส เขาจะจัดการกับบอสโลก Dalmadoth ยังไง ? “


วิดีโอเล่นต่อแสดงให้เห็นตอนที่สองคนเข้าไปในถ้ำ


หลังจากที่ออกจากถ้ำได้ไม่นาน พวกเขาก็ต้องมาพบกับฝูงแรดปิศาจที่พุ่งเข้าใส่พวกเขา


เอลฟ์ได้ถอยกลับมาตะโกนใส่อันเดตหนวดที่ยืนนิ่งด้วยท่าทีไม่ใส่ใจในเส้นทางที่แรดปีศาจพุ่งเข้ามา


อันเดตได้ยกมือขึ้นแสดงให้เห็นถึงอัญมณีสีฟ้า


มันเปล่งแสงออกมา แสงมันสว่างจนแสบตา ตอนที่แสงดับลงไปมันก็เกิดการฉีกขาดของมิติตรงหน้าอันเดตหนวด จากอีกด้านของการฉีกขนาดนั้นมีมือยักษ์ที่ดึงมิติให้เปิดออก ฝันร้ายของผู้เล่นได้ก้าวออกมาจากรอยฉีกขาดนั้น


Warlord ถึงกับต้องอุทานออกมา – ” ให้ตายสิ ! เขามีบอสเป็นสัตว์เลี้ยงด้วย ! “


เขามองดูบอสที่จัดการกับพวกมอนสเตอร์ได้อย่างง่ายดาย


” มันเลเวล 550 นี่อธิบายได้แล้วว่าบอสโลกที่สามารถจัดการทั้งกิลด์เราได้นั้นตายได้ยังไง อันเดตนี่เรียกบอสได้กี่ครั้ง ? แต่มันต้องมีขีดจำกัดสิ “


Warlord รวบรวมสติแล้วดูวิดีโอนั้นต่อ


จากวิดีโอนี้ชัดแล้วว่าหลายส่วนถูกตัดออก ส่วนที่เหลือแสดงให้เห็นตอนที่มอนสเตอร์อุ้มผู้เล่นทั้งสองคนผ่านที่ราบและข้ามบึงไปยังภูเขา บทสนทนาส่วนมากของผู้เล่นทั้งสองถูกตัดออก พวกเขาเข้าไปในถ้ำที่ภูเขาที่ซึ่งมีฝูงมอนสเตอร์เลเวลสูงมารวมตัวกัน ผู้เล่นทั้งสองเอาแต่สูบ xp ราวกับมันได้มาฟรีๆ


” หืม ส่วนแม่น้ำลาวาก็โดนตัดออกด้วย สงสัยแหะว่าทำไม เราไม่ได้พบอะไรที่มีประโยชน์ที่นั่นสักหน่อย “


จากนั้นทั้งสองก็มาถึงสนามต่อสู้และสู้กับฝูงศัตรูจนกระทั่งในที่สุดบอสของที่นี่ก็ปรากฏตัวและสู้กับบอสยักษ์ที่ถูกเรียกมา


การต่อสู้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งกลุ่มผู้เล่นของ Devastators ได้ออกจากอุโมงค์และเดินหน้าเข้าสู่สนามต่อสู้ สมาชิกของกลุ่มใหม่นั้นดูเก่งแต่พลังโดยรวมแล้วไม่ได้มากเท่าไหร่และพวกเขาก็ไม่เช้าใจการต่อสู้ด้วยกลยุทธ์อีก


” โอ้ใช่ ฉันลืมเรื่องพวกนี้ไปเลย ฉันต้องบอก Valentine ให้ตรวจสอบพวกนี้ แย่ที่สุดคงต้องไล่พวกนี้ออกไม่ก็ไปทำงานเล็กๆ “


อันเดตหนวดหลบการโจมตีจากมอนเตอร์และฮันเตอร์ของ Devastator ก็โจมตีมอนสเตอร์นั้นจนดึงความโกรธเข้าหาตัวเอง


Warlord ฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ เขาไม่อยากได้คนโง่แบบนี้ Devastator เองก็ไม่อยากได้เหมือนกัน


เพราะสมาชิกกิลด์นั่นโจมตีออกไปโง่ๆจึงทำให้ทั้งกิลด์ตกอยู่ในการต่อสู้ ตอนที่คนที่เหลืออยู่ในระยะความโกรธของบอส บอสก็ได้ใช้ {Call to Arms} เรียกมอนสเตอร์จำนวนเท่ากับผู้เล่นของ Devastator ออกมา ผู้เล่นจึงตายไปอย่างรวดเร็ว


ไม่นานหลังจากที่พวก Devastator ตายไป การต่อสู้กับบอสก็จบลงด้วยชัยชนะของพวกอันเดตหนวด


Warlord เริ่มสงสัยขึ้นมา – ” เขาใช้บอสสู้กับบอส มันก็คงต้องโชคและเงื่อนไขต่างๆ “


Warlord เริ่มเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น วิดีโอนี้ได้อธิบายทุกอย่างแล้วรวมไปถึงการที่อันเดตเลเวลต่ำยึดที่นี่มาได้และแย่งมันไปจากมือของสามกิลด์ใหญ่ได้


Warlord ไม่ได้พอใจหนักแต่ทุกอย่างมันก็ดูมีเหตุผล สองคนนี้ได้สร้างปัญหาให้กับทุกคนแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะมีกี่ปัญหาที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมารึผลจากเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจทั้งในเกมและโลกจริงๆ


นอกซะจากว่าจะอยู่แบบเดิม งั้นพวกเขาก็คงโดนจัดการถ้าโผล่หน้าออกมา


Warlord หันกลับไปสนใจเรื่องกิลด์ เขาทำงานอยู่หน้าคอมแต่ถึงแม้จะทำใจแข็งแต่ไม่นานเขาก็หมดสมาธิ เขาเบื่อกับเรื่องกิลด์ตรงหน้า ความสงสัยที่มีตอนนี้ทำให้ความเชื่อมั่นเขาลดลง


เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ‘ ถ้าโชคชะตากำหนดให้เป็นแบบนี้เพราะโชคดีที่มันเรียกบอสออกมาได้….แล้วมันฆ่าฉันได้ยังไง ?


Chapter 83: จุดกำเนิดของอันเดต


เดฟโผล่กลับมาในถ้ำของเทพแห่งความตาย


เขาปัดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นซึ่งโผล่ขึ้นมาทิ้ง


[คุณได้รับบททดสอบการสืบทอดครั้งที่สอง


พูดคุยกับ Death เพื่อรับข้อมูลเพิ่ม ]


Death นั่งอยู่ที่ริมสระโดยเอาเท้าจุ่มน้ำและมองไปยังน้ำที่เป็นวงๆก่อนที่มันจะหายไป เธอเงยหน้าขึ้นมองเดฟที่เดินเข้ามา ก่อนที่เดฟจะได้เป็นหน้าของเธออีกด้วยซ้ำ พลังของสายตานี้ทำให้เกิดความกดดันขึ้นมาอย่างมาก


เดฟ จำตำนานญี่ปุ่นที่พูดถึงนักดาบผู้โด่งดังได้ เรื่องราวเกิดขึ้นตอนที่หากสายตาเขามองไปที่ใคร คนนั้นก็หัวขาดแล้ว


” ฮึ่ม นายยังไม่พร้อม ภารกิจของนายในการเพิ่มพลังยังช้าเกินไป นายจะไม่สามารถฆ่าราขาที่ขี้ขลาดนั่นได้ “


เดฟไม่เข้าใจเหตุผลในการฆ่าราชา เควสของ Deadra นั้นก็เหมือนกันกับเขาที่ได้แหวนวงนี้จาก Death ในการฆ่าราชา


Death ยกเท้าขึ้นมาและมองไปที่เดฟสักพัก เขาต้องตัวสั่นเพราะพลังที่แผ่ออกมาจากเงาของเธอ


” นี่นายสงสัยคำพูดของเทพธิดาหรือไง ? ” – เธอถามออกมาด้วยเสียงใสๆ


เดฟตอบกลับ – ” ฉันแค่ต้องการทำความเข้าใจ ราชานั่นไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอบอกไว้เลย ….”


เธอมองมาที่เขาอีกครั้งด้วยความอึดอัดอยู่สักพักแล้วพยักหน้า – ” ดีมาก งั้นฉันจะให้นายได้เห็น “


อยู่ๆพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในถ้ำอีกต่อไป พวกเขายืนอยู่ในมิติที่มืดมิดซึ่งรายล้อมไปด้วยหมู่ดาวหลากสีที่ระยิบระยับ ด้านล่างนั้นคือดาวเคราะห์สีฟ้าเขียวที่เต็มไปด้วยเมฆ โลกของ Conquest


เขาพยายามที่จะใจเย็นแต่ก็ไม่อาจจะละสายตาจากโลกที่หมุนวนตัวเองช้าๆได้


ความสูงไม่ใช่สิ่งที่เข้ากับเดฟได้เท่าไหร่นัก


ท้องของเขาเริ่มปั่นป่วน พื้นที่มองไม่เห็นนี้ที่พวกเขายืนอยู่นี้ได้ลดระดับลงไปที่ดาวเคราะห์นั้นด้วยความเร็วมากกว่าจรวดราวกับลิฟต์ที่ตกลงสู่นรก เขาแอบโล่งใจตอนที่อยู่ๆพวกเขาก็ได้หยุดลง


ด้านล่างพวกเขามีเมืองที่กำลังถูกโจมตีอยู่ กองทัพหลายพันทัพกำลังแบกสะพานวิ่งเข้ามา เครื่องโยนหินทำการโจมตีเข้าใส่เมือง การโจมตีค่อยๆทำให้กำแพงกลายเป็นเศษหิน เมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมารายล้อมไปด้วยภูเขาโดยมีปราสาทหินสีขาวตั้งอยู่ที่นั่น ปราสาทแห่งนี้ดูไปแล้วช่างยิ่งใหญ่


อยู่ๆมุมมองก็ถูกเพ่งไปที่ปราสาทเข้าไปยังหอคอยแห่งหนึ่ง


ด้านในหอคอยนั้นมี 9 คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ


ชายสีหน้านิ่งในชุดสีแดงทองยืนอยู่ที่หัวโต๊ะ อีก 5 คนยืนอู่ที่ด้านข้าง


หนึ่งในนั้นเป็นชายตัวใหญ่มองมายังชายที่หัวโต๊ะแล้วโค้งให้ – ” ขออภัย นายท่าน นี่…คือสิ่งที่เราต้องทำงั้นเหรอ ? ไม่มีทางอื่นหรือไง ? “


” Deadra …” – ราชามองมาที่อัศวินของตัวเองด้วยสีหน้าหงุดหงิดที่เข้ามาแทนที่แต่จากนั้นเขาก็หยุดและสลัดตัวเองจากความคลั่งไม่ให้ระบายอารมณ์ออกมา


เดฟอึ้งและคิดกับตัวเอง ‘ เหี้ย ! อัศวินนั่นคือ Deadra ! ‘


” พวกนายแต่ละคนให้คำปรึกษากับเรา เราไม่เห็นทางเลือกอื่นที่ดีกว่าในการสั่งการได้ นี่เป็นหน้าที่และภาระของเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องตัดสิน “


มันมีของสองอย่างบนโต๊ะที่หน้าราชา พวกคนที่ยืนอยู่รอบๆโต๊ะต่างก็พาหลบสายตาไม่มองไปยังสิ่งของนั่น


หนึ่งในนั้นเป็นหนังสือหนังโบราณ มีสัญลักษณ์เปลวไฟสีดำที่ลุกขึ้นมาถูกวาดเอาไว้ที่ปก พวกเขาได้เห็นคลื่นพลังที่แผ่ออกมาราวกับไฟนี้มีอยู่จริง


ข้างหนังสือนั้นคือมีด ด้ามจับนั้นเป็นทองและตกแต่งไว้อย่างดี ในทางกลับกันแล้วใบมีดกลับเป็นสีเทา มันมีคลื่นพลังที่สั่นไหวไปตามคมมีดราวกับว่ามีฟันเหล็กที่ดูดทุกอย่างไปรวมถึงแสงและสีด้วย


ราชามองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งแล้วสั่งการต่อ – ” Eleanor ผู้เป็นลูกสาวด้วยความเสียใจ นี่เป็นเพียงทางเดียว “


สาวน้อยที่มีคราบน้ำตาที่แก้มทั้งอันเก่าและใหม่ได้ขอร้องทั้งแปดคนให้ปล่อยเธอไป


” นี่คือบาปที่เราจำเป็นต้องทำ ฉันภาวนาให้วิญญาณของลูกให้อภัยเราด้วย พ่อและราชาอีกทั้งคนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ต้องทำตามหน้าที่ “


เขาใช้ปลายมีดสะบัดเฉือนคอลูกสาวตัวเองและจบชีวิตของเธอไป เลือดได้พุ่งออกมาในอากาศราวกับน้ำพุแล้วรดไปที่หน้าของราชาจนย้อมมันเป็นสีแดง ราชาถึงกับต้องสะดุ้งจากเลือดที่รดหน้าตัวเอง – ” เลือดนี้คือการหลั่งน้ำตา “


เขาใช้มีดแทงเข้าไปที่หัวใจของลูกสาวและใช้มือทั้งสองข้างดึงมีดผ่านซี่โครงจนมาถึงท้องแล้วผ่ากระดูกลงมา


” กระดูกหักไปแล้ว ” – น้ำตาเริ่มปริ่มที่ตาของเขาผสมกับเลือดที่รดใบหน้าของเขา


เขาล้วงเข้าไปในตัวลูกสาวแล้วดึงเอาหัวใจออกมาจากอกของเธอพร้อมกับเสียงอันน่ากลัว


ราชาสะอื้น เขาเงยหน้าขึ้นและต้องหยุดไปราวกับตะลึง – ” หัวใจสองดวง “


ในมือเขานั้นหัวใจเริ่มดำขึ้นและกระตุกขึ้นมา จากนั้นมันก็เริ่มเต้นด้วยจังหวะผิดปกติ


ร่างนั้นนอนอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับเลือดที่นองเต็มพื้น จากนั้นหนังตาก็เปิดขึ้นพร้อมกับดวงตาสีดำ


ชุดเกราะที่เธอสวมใส่นั้นหลุดออกจากตัวหล่นกระจายไปตามโต๊ะ ศพนั้นลุกขึ้นยืนที่โต๊ะและมองลงไปยังพวกคนที่อยู่รอบๆด้วยความหงุดหงิด


ทุกคนต่างก็ถอยออกจากโต๊ะในตอนที่ร่างนั้นลุกขึ้นยืนยกเว้นเพียงราชา


” พวกมนุษย์ ! หนังสือของฉัน….พวกแกกล้าดียังไง ! ? ” – คำพูดนี้ดังขึ้นมาจากร่างที่ถูกเฉือนคอไป


ราชาได้พูดขึ้นโดยไม่อาจจะมองตรงไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายได้ – ” อาณาจักรและคนของเราตกอยู่ในอันตราย ฉันได้สละลูกเพียงคนเดียวเพื่อเรียกท่านมาและยืมพลังท่านในการช่วยเรา ทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของเราเพียงคนเดียว “


” แกเรียกฉันมาแล้วผูกมัดฉันกับหนังสือเพื่อทำตามที่แกสั่ง โง่เง่า ! สัญญานั้นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะเข้าใจได้ แกเรียกหาความพินาศและความพินาศก็จะส่งผลต่ออาณาจักรของแก แม้ว่าจะมีทางอื่นแต่ฉันก็ไม่คิดจะให้สิ่งที่แกต้องการ ” – เธอหยุดและมองไปที่แต่ละคนรอบโต๊ะ ตาของเธอแสดงความหงุดหงิดออกมา ลมได้พัดผ่านเข้าไปในห้องจนทำให้ผมนั้นปลิวไปตามสายลมพร้อมกับกระดาษต่างๆ


” ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะได้รับพลังจากฉันในวันนี้ ! ” – เสียงนั้นดังขึ้นมาแปลกๆราวกับว่าเกิดจากเสียงหลายเสียงที่มาพูดร่วมกัน หลายคนต้องเอามือป้องหู มีคนหนึ่งถึงกับสลบลงไปที่พื้นพร้อมกับฟองที่ปุดมาที่ปาก


” ฉันไม่สนใจเรื่องมนุษย์ สุดท้ายทุกคนก็ต้องไปที่อาณาจักรของฉัน คืนหนังสือและยกเลิกการอัญเชิญนี้ ! ปล่อยฉันและดีใจซะที่วันนี้วิญญาณของพวกแกไม่ได้ระเบิดจากโลกและถูกชิงห้วงเวลาไป “


นี่เกินกว่าที่ Deadra จะรับไหว – ” ปีศาจชั่วร้าย ! แกไม่พูดมันจะดีกว่า ! ทำตามที่ต่อรองเอาไว้ ให้ความช่วยเหลือราชาของฉันที่ทำการเรียกแกมา ! “


” โง่เง่า ! ฉันเตือนไว้แล้ว ฉันจะพูดเป็นครั้งที่สอง ! ไม่มีใครที่ฉันจะให้ยืมพลังตามที่พวกแกต้องการ ! “


” งั้นแกก็ไม่มีประโยชน์กับเรา ! ” – ราชาพูดขึ้น เขาแทงมีดลงไปที่หัวใจสีดำในมือจนทะลุไปถึงมือตัวเอง สีหน้าเศร้า รู้สึกผิดและเสียใจเผยออกมาที่ใบหน้าของเขาโดยไม่แสดงแม้แต่ความเจ็บจากบาดแผลตัวเองเลย


” แกทำอะไรลงไป ! ” – ร่างนั้นคำรามออกมาด้วยเสียงนับหมื่นที่ดูน่ากลัวและสิ้นหวังก่อนจะมีสายลมอันรุนแรงพัดเข้ามาในห้อง


ราชาก้มลงมอง หนังสือที่โต๊ะสั่นไหวอย่างแรง จากนั้นมันก็นิ่งไป หนังสือนี้กลายเป็นสีดำก่อนจะดำทมิฬ มันดำเหมือนกับส่วนลึกสุดของโลกที่แม้แต่แสงก็ไม่อาจจะให้แสงสว่างได้ ตอนที่สัญลักษณ์ไฟบนปกนั้นได้กลายเป็นหัวกะโหลก ราชาก็ต้องช็อคและกลัวขึ้นมา


” ฉันจะพูดเป็นครั้งที่สาม ! พวกโง่ ! ด้วยชื่อฉัน บัลลังก์ฉัน พลังฉัน ขอให้เทพทุกตนตามฆ่าพวกแก ! นี่คือภัยพิบัติของพวกแก ! “


เดฟนั้นมองลงไปที่เมืองจากด้านบนฟ้า


เท่าที่เขาเห็นนั้นมีเงาเคลื่อนที่ผ่านอาณาจักรราวกับเมฆที่ปิดบังดวงอาทิตย์ จากนั้นมันก็เคลื่อนมืดขึ้นจนเหมือนค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว


จากที่หอคอยนั้นมีคลื่นระเบิดเกิดขึ้นมาแล้วแผ่ออกไปทุกทิศทางราวกับคลื่นซึ่งไม่ได้มีวี่แววว่าจะทำลายสิ่งใด


ไม่ว่าคลื่นนั้นจะผ่านไปที่ไหน คนและสัตว์จะล้มลงราวกับหุ่นเชิดที่โดนตัดเชือก ต้นไม้ทุกต้นเริ่มเน่า แม้แต่โครงสร้างของตึกก็ยังโดนทำลาย


ที่แห่งนั้นได้ตกอยู่ในความมืดมิดและความวุ่นวาย


จากนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นไหวพร้อมกับรูขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นมา ทั้งผืนดินสั่นคลอนและมีเสียงคำรามออกมา


จากนั้นพื้นดินส่วนนั้นก็ยุบลงไปเร็วขึ้นเรื่อยๆห่างออกไปจากตำแหน่งของเดฟ มันหายไปในความมืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า


แสงและผืนดินได้กลับมาโดยไม่มีวี่แววของสถานที่เดิมอีก โลกได้กลับมาเป็นปกติราวกับที่นั่นไม่เคยมีอยู่ ป่า ภูเขาและต้นไม้ได้กลับมาสู่ความสงบสุขภายใต้สายตาของเดฟ


” นี่คือการลงโทษและพวกเขาก็ถูกลบออกจากโลก ” – Death พูดขึ้น


” เธอยังอยู่ในตัวผู้หญิงคนนั้น ลูกสาวของราชา ? “


” ฉันถูกขังไว้ด้านใน ในดินแดนมนุษย์ “


” เป็นแบบนั้นได้ยังไง ? ” – เดฟถาม


” การอัญเชิญนั้นดึงฉันมาที่นี่ ” – เธอใช้มือชี้ที่ตัวเอง – ” การแทงที่หัวใจนั่นควรจะจบพิธีนี้ ปกติแล้วการจบพิธีแบบนั้นจะไร้พลังส่งผลต่อโลกนี้และทำให้ฉันได้กลับไป แต่ฉันไม่ใช่ปีศาจทั่วไปหรือคนนอก ฉันไม่ได้อยู่ในดินแดนนรก พลังของฉันไม่อาจจะถูกชิงไปจากตัวได้และฉันไม่อาจจะออกจากโลกนี้ได้ ตอนนี้ฉันถูกขังไว้ในร่างกายที่อ่อนแอ ฉันไม่อาจจะกลับไปอยู่ในร่างที่สูงส่งที่อยู่ในดินแดนแห่งเทพได้ “


เดฟลูบหนวดตัวเองและคิด – ” แต่ถ้าเธอได้หนังสือกลับไป เธอจะกลับร่างเดิมของตัวเองได้มั้ย “


” ใช่ ฉันต้องมีหนังสือเพื่อทำลายการผูกมัดและปล่อยตัวเองออกจากร่างนี้แต่ฉันไม่รู้ว่าหนังสือนั่นอยู่ไหน มันซ่อนตัวจากสายตาของฉัน มันถูกปกป้องโดยราชาจากพลังที่ฉันยังเหลืออยู่ “


” ฉันไม่ได้มีตัวเลือกมากนักสินะ ” – เดฟพูดขึ้นด้วยท่าทีหมดกำลังใจ


” นายมีแหวนของฉัน ด้วยแหวนของเทพแห่งความตาย หนังสือนั่นอาจจะรู้ว่านายคือคนที่ฉันเลือกและเผยตัวเองออกมา ตัวเลือกที่นายมีคือการฆ่าราชา หาหนังสือและเอากลับมาให้ฉัน “


เดฟต้องการทำเควสสืบทอดของตัวเองให้เสร็จแต่ Undead King เองก็แข็งแกร่ง เลเวลสูงกว่า 700 ซึ่งทำให้มันกลายเป็นบอสขั้น Unholy เดฟคงสู้กับบอสในเร็วๆนี้ไม่ได้


‘ ฉันขายมันได้นี่ ส่วนขยายนี่ฆ่าตัวตายเพื่อแลกกับเงินและตำแหน่งที่สูงในกิลด์สักกิลด์หนึ่งแต่หากไม่มีการสืบทอด มันก็ไม่มี Mr.Skeletal การผจญภัยและการค้นพบอีกต่อไป ฉันก็จะกลายเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ‘


เธอส่งก้อนเหล็กเล็กๆให้กับเดฟ – ” นี่จะทำให้หนังสือเผยตัวตนออกมาตอนที่นายอยู่ใกล้พอ “


เดฟมองไปที่มัน


เครื่องมือค้นหาของ Death มันดูเหมือนกับเข็มทิศเก่าๆแต่มันไม่ได้มีเครื่องหมายอะไร มันมีการทำงานแค่อย่างเดียวและมันก็ไม่ได้บอกด้วยว่าทิศเหนือทางไหนและมันก็ยังผูกมัดกับผู้เล่นด้วย


เดฟเก็บเข็มทิศนั้น เขาคงไม่ต้องใช้มันเร็วๆนี้


เทพธิดาแห่งความตายได้โบกมือ – ” เราเสร็จสิ้นเรื่องนี้แล้ว อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ! “


” รอก่อน ! แล้วเรื่องการท้าทายล่ะ—“


เดฟได้กลับมาที่วิหาร


[ ยินดีด้วยที่ทำการท้าทายแรกในส่วนที่สองเสร็จ : xp +100,000]


[ เลเวลเพิ่ม ]


[ เตือน : ความสามารถที่สองของแหวนได้ถูกปลดผนึกแล้ว ! { Life Cleaver }]


” หือ…? ! เย้ ! ไม่ต้องเจ็บตัวรึเกือบตายเลยแหะ ! “


มันน่าจะบอกว่าง่ายได้ ! เขาอดทนรอไม่ได้ที่จะดูว่าสกิลนี้มีความสามารถยังไง มันต้องมีอะไรพิเศษบ้างแหละ


ในตอนที่เขากำลังจะตรวจสอบมันนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เดฟไม่ได้เชื่อมต่อโทรศัพท์กับแคปซูลเกม


ตอนที่เขาลุกขึ้นจากแคปซูลและมองไปที่โทรศัพท์ เขาก็จำเบอร์โทรนั้นได้ นั่นคือ Lone Arrow


หวังว่าเขาจะไม่ต้องรู้สึกผิดกับมัน เขากดรับสายทันที


” เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ! “


เสียงกรีดร้องสูงๆดังขึ้นมาในหูและต้องทำให้เขาต้องปวดหัว เขามองไปที่โทรศัพท์แล้วดูว่ามันพลังหรือเปล่า เขาส่ายหน้าแล้วเอาโทรศัพท์มาแนบหูและได้ยินเสียงบ่นของ Lone Arrow


“….ดูที่เว็บข่าวสิ ! เร็วเข้า เร็วเข้า เร็ว ! ตอนนี้เลย ตอนนี้ ตอนนี้ ! รอก่อน รอ รอ ! ก่อนที่นายจะทำแบบนั้น นายต้องส่งวิดีโอชั่วโมงสุดท้ายของนายจากดันเจี้ยนโลกมาก่อน ได้โปรด ได้โปรด ฉัน ฉันต้องการ ฉันต้องการมันจริงๆ ได้โปรดและก็ขอบคุณด้วย ! “


เสียงนี้เหมือนกับในการ์ตูนชิปมังก์เลย


ทันทีที่เดฟล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์เกม เขาก็รู้เหตุผลว่าทำไม


” อ่ะ—- “



Chapter 84:น่าแปลกใจ!


สามกิลด์ใหญ่ Devastators, Heaven’s Dawn และ Blood Rage ได้ตั้งค่าหัวสำหรับค่าตำแหน่งและการตายของ Mr.Skeletal และแม้แต่เอลฟ์สาว Lone Arrow


มันไม่เหมือนกับค่าหัวก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้นั้นมีรางวัลที่น่าตกใจกว่า


1 ล้านดอลลาร์


ทั้งสามกิลด์ยังได้ประกาศอีกว่าถ้าเดฟยอมมอบตัวให้กับกิลด์ เขาจะได้เงินรางวัลและกลายเป็นสมาชิกกิลด์นั้นๆด้วย


แต่ถ้าเดฟยอมมอบตัวให้กับกิลด์ เขาก็ต้องกลายเป็นแค่ลูกกิลด์และทำงานให้กับพวกนั้น


การเล่นแบบโซโลนั้นเต็มไปด้วยความยาก โดดเดี่ยวและอันตรายแต่เมื่อผู้เล่นไปถึงเป้าหมายได้แล้ว ความรู้สึกพอใจที่ได้มานั้นก็ไม่มีอะไรมาเทียบได้ เดฟไม่อยากยอมแพ้ไปด้วยการยอมทำงานให้กับกิลด์ตลอดทั้งวัน


” เราเป็นที่ต้องการตัว ! ฉันอยากเห็นจังว่าจะมีใครที่มาล่าตัวเราบ้าง ! “


” พวกนั้นจะไล่ล่าเรา นายก็ควรระวังตัวเอาไว้ด้วย “


” ขอบคุณที่ห่วงนะแต่ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ “


” ฉันมีเรื่องต้องทำในเกม ไว้เจอกัน ” – เดฟพูดขึ้น


” ได้ ฉันเองก็ต้องไปตัดต่อวิดีโอเหมือนกัน ไว้เจอกัน “


Lone Arrow ฮัมเพลงไปด้วยพร้อมกับนั่งหน้าคอมคอยอ่านอีเมลของตัวเอง สุดท้ายก็มีข้อความใหม่โผล่ขึ้นมา เธอคลิกเข้าไปดูแล้วก็ต้องดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตื่นเต้น มันคือวิดีโอจาก เดฟที่เธอรอคอยอยู่


” ได้เวลาจัดการงานแล้ว ” – เธอพูดขึ้น


ด้วยความสงสัยเธอจึงกดเล่นวิดีโอนั้นอยู่หลายนาทีและเห็นการต่อสู้ระหว่างเดฟกับ Warlord


ตาของ Lone Arrow เบิกกว้างขึ้นมา


เดฟรับมือกับ Warlord แบบ 1 ต่อ 1 ที่เขตชิงธง ? !


วิดีโอนี้แสดงตอนที่ Warlord ตะโกนว่าจะฆ่าเดฟและมีการต่อสู้ที่วุ่นวายขึ้นมา หัวหน้ากิลด์ Devastators จัดการพวกอันเดตที่ขวางทางเขา จากนั้นเขาก็บอกกับเดฟว่าไม่มีที่จะหนีแล้ว


การต่อสู้แบบวิ่งไปด้วยระหว่างผู้เล่นสองคนนี้ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความต่างของเลวลนั้นชัดเจน เดฟได้ใช้สกิลเพื่อตอบโต้การโจมตีของ Warlord เอาไว้แต่เดฟก็ได้แต่ยื้อเวลาออกไปก็เท่านั้น เขามีตัวเลือกการใช้สกิลที่จำกัดและคู่ต่อสู้ของเขาที่เป็นนผู้เล่นฝีมือดีที่เล่นเกมนี้มานาน


Warlord ปล่อยการโจมตีออกมาด้วยสกิลการสืบทอด เดฟไม่อาจจะหลบหรือป้องกันการโจมตีนั้นไว้ได้ก่อนรับมันไปเต็มๆ ภาพหน้าจอกลายเป็นสีเทาและระบบแจ้งเตือนถึงการตายก็โผล่ขึ้นมา


Lone Arrow กอดเข่าตัวเองและสีหน้าเศร้าก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า เธอรู้สึกชอบทีมนี้ที่แพ้ให้กับผู้เล่นฝีมือดี เธอรู้ว่าไม่มีทางเลยที่เดฟจะเอาชนะผู้เล่นที่เลเวลมากกว่า 300 ได้แต่มันก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี ไม่ใช่แค่เพราะเดฟนั้นเป็นเพื่อนของเธอ เขายังด้อยกว่า ทุกคนอยากให้ฝ่ายเสียเปรียบเป็นฝ่ายชนะ มันทำให้คนเกิดความหวังกันได้


ความคิดของเธอบอกให้เธอดูวิดีโอต่อไปอีก ธงของดันเจี้ยนโลกนั้นยังคงปักไว้ที่เดิม มันไม่มีอะไรที่จะหยุด Warlord ในการชิงธงได้ก่อนที่เควสจะหมดเวลาลง


แต่พวกอันเดตเป็นฝ่ายชนะ พวกเขายังคุมเขตนี้เอาไว้และแจ้งเตือนจากระบบสำหรับการฆ่า เดฟ ได้ล่ะ ?


เดี๋ยวนะ ! วิดีโอยังเล่นต่อเดฟยังคงอยู่ในวิหารีมองไปที่ Warlord ผ่านหน้าจอสีเทา


Warlord หันกลับไปที่ธง


สีที่หน้าจอเริ่มกลับมา มีจุดๆหนึ่งที่ขยับ


เดฟกำลังขยับ! เขากลับมา !


เดฟค่อยๆเดินเข้าไปหา Warlord เข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาได้สะบัดมือและมีหัวของปีศาจโลผ่มาด้านหลัง Warlord มันอ้าปากของมัน Warlord หันกลับมาและตะโกนออกมาก่อนจะตามมาด้วยเสียงฉีกกระชากเนื้อ


” เหี้ย….. ! ” – Lone Arrow ยากที่จะคุมสติได้ พ่อเธอไม่ชอบให้เธอใช้คำพูดแบบนี้ พ่อถึงกับตั้งกฎไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอพูดหยาบคาย คอมที่บ้านจะบันทึกมันเอาไว้ เธอจะถูกหักเงินและก็จะไม่เหลือเงินไปซื้อของที่อยากได้


แต่คำที่เธอพูดออกมานั้นเธอพูดกับตัวเองเงียบๆ ‘ เขาจัดการ Warlord ได้ ! ‘


เดฟที่เลเวล 100 ได้ฆ่า Warlord เลเวล 432 ผู้เล่นอันดับหนึ่งในเกมลงได้ !


‘ ฉันต้องเอาวิดีโอนี้ไปเล่นทั้งหมด ‘


เธอจัดการตัดต่อวิดีโอให้ดูลื่นไหลมากขึ้นและตัดส่วนที่บกพร่องออกไป เธอถึงกับทำการปรับสีและแสงอีกทั้งยังใส่เสียงเอฟเฟ็คเพิ่มรวมไปถึงเพิ่มเพลงลงไปด้วย


เธอทำให้มันดูน่าตื่นเต้นกว่าเดิม สำหรับวิดีโอนี้แล้วมันต้องฮิตมากแน่ๆ !


เธอดีดนิ้วพร้อมกับอัพโหลดวิดีโอนี้ เธอรู้ว่าวิดีโออื่นๆอาจจะฮิตแต่วิดีโอนี้ต้องทำให้เซิฟเวอร์ล่มแน่ๆ


โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นและข้อความก็เด้งขึ้นมา


‘ ลองดูที่ส่วน 11:32 มันเป็นการแสดงที่ดี ‘


‘ ได้ ‘ เธอตอลกลับไปพร้อมกับไปดูส่วนตามที่ข้อความบอก


มันเป็นตอนที่เดฟล่อ Wan Yi ให้เข้ามาตาย


‘ เพื่อน ! นายจัดการหัวหน้ากิลด์ใหญ่ไปถึงสองคน !!! ‘


‘ ใช่ ฉันกำลังจะทำเควสใหญ่ ฉันคงหายไปสักพัก ‘


‘ ฉันก็เหมือนกัน ฉันต้องไปทำเควสการสืบทอดของตัวเองและเพิ่มเลเวลด้วย ‘


‘ ไว้เจอกัน ‘


ตาของ Lone Arrow เป็นประกายขึ้นมาตอนที่เห็นแจ้งเตือนที่หน้าจอ – ” วิดีโออัพเสร็จแล้ว ! “


เดฟนอนหลับไปก่อนจะตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส เขาเริ่มทำอาหารเช้าและจิบกาแฟ


เดฟมองไปที่กระดานข่าวของเว็บเกมและอ่านเนื้อหาต่างๆ มีผู้เล่นเลเวลต่ำหลายคนเกลียดพวกกิลด์ใหญ่ซึ่งมีแต่ดูถูกและด่าความสำเร็จของ Mr.Skeletal


นี่ทำให้อารมณ์ของเดฟดีขึ้น เดฟกินอาหารเช้าจนเสร็จก่อนจะล็อคอินกลับเข้าไปในเกมโผล่กลับมาที่เขตแรกของดันเจี้ยนโลกและจากนั้นก็มีแจ้งเตือนโผล่เข้ามาที่หน้าจอของเขา


[ ระบบได้คำนวณคะแนนเป็นรางวัลสำหรับการตายในเหตุการณ์นี้


เพราะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในเขตนี้ คุณจึงได้คะแนนไป 100%


คุณได้รับคะแนน 1,500,000 คะแนน


คุณยังได้รับ 5,000 คะแนนต่อวันสำหรับเขตแรกของดันเจี้ยนโลกที่ยังโดนอันเดตควบคุมไว้อยู่ ]


” โว๊ว ! “



Chapter 85: กลับสู่จุดเริ่มต้น


เดฟมองไปที่คะแนนในแผงสเตตัสตัวเอง เขามี 1,532,000 คะแนน มันมีคะแนนจำนวนมหาศาล


นี่มัน….โคตรเยอะเลย


เดฟเดินไปที่ร้านค้าทันที


ตาของเจ้าของร้านเป็นประกายเมื่อเดฟเดินเข้าไปในร้าน


” ให้ฉันช่วยอะไรดีคุณลูกค้าคนโปรด ! “


อ่ะ ฉันคงเป็นลูกค้าคนเดียวสินะ


” เอาของที่มีให้ฉันดูหน่อย ” – เดฟพูดขึ้น


” แน่นอน นี่ไง ! ” – ซอมบี้ได้ยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันสีเหลืองของมัน


เดฟเปิดดูไอเท็มผ่านๆทั้งยา อาหารและวัสดุสร้าง เขามองไปที่อาวุธ มันคงดีถ้าอัพเกรดดาบได้หรืออย่างน้อยก็มีอาวุธสำรองแต่มันไม่มีอะไรที่สะดุดตาเขา


” มีอาวุธดีกว่านี้มั้ย ? ” – เดฟถาม


” ของพวกนี้เป็นของพื้นฐานสำหรับพวกระดับ Captain ถ้านายต้องการเข้าถึงของที่ดีกว่านี้ก็ต้องเป็น Death Knight ” – ซอมบี้ยักไหล่


” เข้าใจแล้ว งั้นเอายาฟื้นฟู 50 อัน เซ็ตเกราะ Fallen Knight 50 ชุด ชุดนักธนู 30 ชุดพร้อมกับหน้าไม้ด้วยและชุดหนักเวทย์กับคทาอีก 20 ชุด “


” อ่ะ ได้เลย ! แต่นายจะเอาของพวกนี้ไปทำอะไร ? ” – ซอมบี้ถาม


” ไม่ต้องถาม รีบเอาของที่ฉันสั่งมา ! ” – เดฟพูดด้วยท่าทีหมดความอดทน


” ได้ครับ ได้ “


เดฟรับของมาก่อนจะจ่ายคะแนนไป ตอนออกจากร้านเขาเหลือคะแนนเพียงแค่ 882,.000 คะแนนเทานั้น


[ดีบัฟจากระบบ ! คุณมีของเกินน้ำหนัก ! ]


[ โปรดเคลื่อนย้ายของจากตัวคุณ ดีบัฟถึงหายไปและคุณก็สามารถเดินได้ปกติ ]


[ คุณมีน้ำหนักเกิน 500 กก. ]


[100/600]


” อ่ะ น้ำหนักจำกัดไว้ที่ 100 ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย “


เดฟพยายามจะเดินแต่ก็ขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว


เขาเรียกอันเดตของตัวเองมาที่ร้านค้าและส่งเกราะให้พวกนั้นทีละชุดๆ


พวกนั้นยืนนิ่งอยู่รอบตัว เดฟคอยถือเกราะและอาวุธที่เขาส่งให้พวกมัน ตาของอันเดตเป็นร้อยคู่ต่างก็มองมาที่เขา


เดฟเริ่มตะโกนด่าออกไป – ” พวกนายเป็นอะไร ? ใส่เข้าไปสิ “


ตอนที่เขาพูดจบก็มีเสียงแหบๆตอบกลับขึ้นมา – ” ไม่….มี….ใคร….เคย….ให้…ของ….เรา….มา ….ก่อน “


เดฟหันกลับไปมองอันเดตที่พูด


มันคือ Ghoul ที่สูงสองเมตรซึ่งมองมาที่เขา


” Bud ! นายพูดได้…? ” – เดฟถาม


” ใช่ “


งั้นพวกมันก็ฉลาดขึ้นตอนที่ยกระดับขึ้นมา


” ฉันไม่รู้ว่านายจะพูดได้ งั้นก็ดีเลย เพื่อน ! “


ไม่มีการตอบรับจาก Ghoul


” อ่ะ ใช่สิ เอล่ะ พวกนายกลับไปทำธุระตัวเอง Bud ยินดีที่ได้คุยกัน เพื่อน “


Bud อยู่ห่างจากด้านหลังของเดฟไม่กี่เมตรและ….ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากยืนนิ่ง


งั้นนี่ก็ไม่ได้ผล ฉันต้องบอกบทบาทของมันและให้หน้าที่กับพวก Boyz เดี๋ยวไว้ค่อยคิดทีหลัง


” นี่ใช้คะแนนไปเยอะเลยแต่ฉันคิดว่ามันน่าจะคุ้ม “


เดฟหันกลับมาหาพ่อค้า – ” ฉันจะหา Andre ได้จากที่ไหน ? “


” Andre ? เขาทำงานในเขต Death Knight นอกซะจากว่านายจะเป็น Death Knight นายไม่สามารถเข้าไปในเขตที่เขาทำงานได้…แต่ถ้ามีคะแนนแลกเปลี่ยน ฉันนัดเจอเขาให้นายได้ ” – พ่อค้าพูดพร้อมกับยิ้มออกมาแบบโลภๆ


เดฟ ด่าในใจ ‘ ไอ้โลภมาก ‘


” เท่าไหร่ ? ” – เดฟถาม


” 10,000 คะแนนสำหรับการนัดเจอ “


นี่ถือว่าเยอะ ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงก็เก็บมันมาไม่ได้ ตอนนี้เขามีคะแนนอยู่กับตัวเยอะแต่เขาไม่คิดที่จะจ่ายไปโดยไม่ต่อรอง


เดฟแสดงสีหน้าลำบากใจ – ” 10,000 ? บ้าไปแล้ว มันมากเกินไป “


” ได้ เพราะนายซื้อของฉัน ฉันจะลดให้ก็แล้วกัน 9,999 คะแนน “


เดฟคิ้วขมวดหนักขึ้นไปอีก เขารอและคิดว่าอีกฝ่ายคงพูดเล่นแต่ซอมบี้ไม่ได้ยิ้มเลยสักนิด


สุดท้ายซอมบี้นั้นก็ไม่ยอมลดราคาและเดฟก็ต้องจ่ายคะแนนที่มันต้องการไป


มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา


[ Andre the Smith รอคุณอยู่ด้านในวิหารของเขตแรกดันเจี้ยนโลก คุณมีเวลา 10 นาทีก่อนที่ Andre จะออกจากที่นั่น ]


เดฟหันกลับและรีบไปที่วิหาร เขาเห็นอันเดตกล้ามโตยืนอยู่ที่กลางวิหารและข้างๆเขาก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง


Delvina !


” งั้นไอ้หนูนี่ก็คือคนที่ทำให้ทุกอย่างสั่นคลอน ดีที่ได้เห็นพวกสายเลือดใหม่ทำผลงานให้กับอาณาจักร ” – ชายคนนั้นพูด


” สวัสดี นายคงเป็น Andre แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง Delvina ? ฉันคิดว่าเธอถูก…”


” ตราบใดที่หัวใจแห่งความตายยังคงอยู่ เราจะไม่ตายจริงๆ ” – เธอยิ้มแล้วตอบกลับ


เดฟไม่รู้ว่าหัวใจแห่งความตายคืออะไรแต่เขาจำได้ว่าราชาได้แทงเข้าไปที่หัวใจที่เอามาจากตัวลูกสาวตัวเองด้วยมีดที่ดูน่ากลัว


เป็นไปได้มั้ยว่าหัวใจนั่นคือสิ่งที่เดฟตามหาอยู่ ?


เดฟเอาหมวกออกมาจากช่องเก็บของแล้วส่งให้กับช่างตีเหล็ก


” ฉันมาที่นี่เพื่อดูว่านายรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง “


Andre รับหมวกนั่นไปแล้วตรวจสอบดู เขาพลิกมันไปมาเพื่อดูทุกมุม


” เข้าใจแล้ว หมวกนี่ได้รับความเสียหายและใช้การไม่ได้ ฉันซ่อมมันได้หากนายหาส่วนที่เหลือกับวัสดุที่ฉันต้องใช้มา “


[ เควสหลัก (SSS)


Andre ได้เสนอตัวว่าจะซ่อมเกราะของ Undead King ถ้าคุณหาชิ้นส่วนที่เหลือต่อและเอาวัสดุที่จำเป็นมาให้กับเขา :


Bones of a King ( คุณต้องฆ่าเอง)


5 x Unicorn’s Horn


100 x Adamantine Filaments


Ramsha’s Blood (10 ลิตร)


100 x Silver Hydra’s Scales


1 x Black Dragon’s Heart ]


ตาของเดฟแทบถลนออกมาตอนที่เห็นรายชื่อของพกนั้น การหาเกราะส่วนที่เหลือก็ถือว่าแย่พอแล้ว


” นี่ตลกแล้ว ! “


” พวก เกราะนี่น่ะคือหนึ่งในเกราะที่ดีที่สุดในโลก มันทำขึ้นมาเพื่อราชา ฉันเป็นคนเดียวที่ซ่อมเกราะนี่ได้เพราะฉันเป็นคนทำมันขึ้นมาและฉันจะซ่อมมันได้ก็ต่อเมื่อนายมีของพวกนั้น “


เดฟถอนหายใจออกมา อีกเควสที่เขาเลเวลต่ำเกินไปที่จะทำมันได้


เดฟให้ Lone Arrow ไปซื้อ [Adamantine Filaments] และ [Unicorn’s Horn] จากห้องประมูลได้แต่เขารู้ว่าราคามันคงไม่ใช่น้อยๆ


สำหรับ [Bones of a King] มันคงเป็นเรื่องยาก นี่ไม่ต้องพูดถึง [Silver Hydra’s Scales] และ [Black Dragon’s Heart] มอนสเตอร์พวกนี้ยังไม่ถูกพบตัวในเกม นี่ไม่ต้องพูดถึงการล่าและหาของจากมัน


แต่สิ่งที่ทำให้เดฟสลดที่สุดคือเลือด [Ramsha’s Blood] มันเป็นผู้พิทักษ์ของโลกใต้ดิน


” นี่คือของที่ฉันต้องการ หามาให้ฉันแล้วฉันจะซ่อมมันให้ ถ้างั้นฉันขอตัว ฉันมีเรื่องต้องไปทำ “- Andre หันกลับแล้วเดินจากไป


Delvina มองมาที่เดฟด้วยท่าทีแปลกใจ


” ไม่ต้องกังวลเรื่องเกราะ นายยังเด็กและยังมีเวลาอีกเยอะที่จะทำตามเป้าหมาย นายน่าจะโฟกัสไปกับการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองและพัฒนาสกิล ฉันเตือนนายก่อนนะ ยศ Captain น่ะมีภารกิจมากกว่าเดิมเพื่อให้นายเพิ่มพลังและฐานะของตัวเอง “


เดฟขอบคุณกับคำแนะนำของ Delvina จากนั้นเขาก็หันกลับและมุ่งหน้าไปยังที่ที่ทีมอันเดตเขารออยู่


เมื่อเห็นไอคอนกระพริบขึ้นมาเดฟก็ได้ลองเปิดมันดู


[ ภารกิจป้องกันดันเจี้ยน


รับหน้าที่เป็นบอสหรือมินิบอสของดันเจี้ยน


ตำแหน่งของภารกิจที่ให้เลือกมีดังนี้ :


Dungeon of the Skeletal-Soul Bat (บอส)


Ice Palace Dungeon (บอส)


Mustakrakish’s Desert Palace (มินิบอส)


Desolate Temple (บอส)


]


นี่คือดันเจี้ยนที่เดฟเคยไปมาก่อนแต่ที่สะดุดตาก็คือตัวเลือกสุดท้าย


” นั่นคือดันเจี้ยนที่พาฉันลงมาในดินแดนอันเดต มันคือดันเจี้ยนที่ทุกอย่างเริ่มต้น “


สำหรับเดฟ การเห็นชื่อของดันเจี้ยนทำให้นึกถึงอดีต แม้ว่าเขาจะเพิ่งเล่นมาได้แค่ 2 อาทิตย์แต่มันมีความทรงจำมากมาย


เดฟได้เลือก Desolate Temple และมีแจ้งเตือนอีกอันโผล่ขึ้นมา


[ คุณได้เลือกที่จะถูกเรียกไปเป็นบอสของดันเจี้ยนที่ Desolate Temple


ภารกิจของคุณคือคุ้มกันดันเจี้ยนเป็นเวลา 24 ชม.(ในเกม)


สเตตัสของคุณจะถูกปรับชั่วคราวตามเลเวลของดันเจี้ยน


คุณยอมรับหรือไม่ ? Y/N]


” ทำไมจะไม่ล่ะ ทำให้ฉันเป็นบอส ! “


เดฟกดตกลงและหายไปจากเขตดันเจี้ยนโลกทันที



Chapter 86:ยินดีที่ได้พบนายที่นี่ !


เดฟโผล่มาที่ใจกลางห้องโถงที่สลัว เขาเคยมาที่นี่มาก่อนพร้อมกับ Bone Breaker และ Stainless Steel พวกเขาเปิดประตูลับบนกำแพงด้วยกัน ทางเข้าไปยังห้องลับที่ที่พวกเขาพบกับ Deadra


แต่ตอนนี้กำแพงที่มีประตูนั้นถูกกันเอาไว้ด้วยเศษหินและเสาที่หัก


ก่อนที่เขาจะได้ไปตรวจต่อ มันก็มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา


[Kis’Shtingbrah The Ruthless


ตอนนี้คุณมีสเตตัสเทียบเท่ากับบอสตามระยะเวลาของภารกิจ


สเตตัสและสกิลของคุณจะถูกปรับชั่วคราว โปรดยืนยันและยอมรับการเปลี่ยนแปลง


คุณจะได้ 10 คะแนนต่อการตายของศัตรูแต่ละคนในดันเจี้ยนและ 100 คะแนนสำหรับศัตรูที่คุณฆ่าด้วยตัวเอง ]


[ Kis’Shtigbrah


ระดับ : บอส


เผ่า : อันเดต


HP : 250,000


MP: 50,000


แรง : ไม่จำกัด


โฟกัส : 100


Intelligence 260 +(200)


Wisdom 310+(200)


Dexterity 260 (+200)


Agility 260 +(200)


Vitality 25,000


Strength 260 +(200)


Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 2,000


Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 4,000


Immunity ( ต้านทาน ) : 20% +(5)%


HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(500)


Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(500)


Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞


Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 20/วินาที


ฉายา : ผู้โหดเหี้ยม


อาชีพและสกิลของคุณจะใช้การไม่ได้ระหว่างช่วงภารกิจ


คุณสามารถใช้สกิลเหล่านี้ได้ระหว่างทำภารกิจ


{ Call to Arms : เรียกลูกน้องออกมาจำนวนเท่ากับศัตรูที่เผชิญหน้า สูงสุด 10 ตัว ลูกน้องที่เยกออกมานั้นจะสุ่มตั้งแต่ระดับสูงจนถึงต่ำ}


{ Decimating slash : ทำดาเมจเป้าหมายเดียว 400% ของดาเมจอาวุธ (คูลดาวน์ 40 วินาที) }


{Shield Bash : ทำดาเมจโดยตรง 1,000 และส่งผลทำให้กระเด็น ถ้าผู้เล่นที่กระเด็นออกไปชนกับสิ่งแวดล้อมจะสตันท์ 2 วินาทีและรับดาเมจโดยตรงอีก 1,000 ถ้าผู้เล่นกระเด็นไปชนศัตรูคนอื่น ทั้งสองจะได้รับดาเมจโดยตรง 1,000 คูลดาวน์ 20 วินาที }


{War Cry : เพิ่มดาเมจของลูกน้อง 200% เป็นเวลา 60 วินาที }


{ Rage : สกิลติดตัว เมื่อเลือดลดลงต่ำกว่า 10% จะได้รับดาเมจเพิ่มขึ้น 200% }


{Boss Prestige : เพิ่มขนาดร่างกายและแผ่ออร่าที่ส่งผลความกลัว }


คุณจะรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รึเปล่า ? Y/N


เตือน : การตายจะรีเซ็ตตัวละครของคุณให้มีสเตตัสเหมือนก่อนหน้านี้แต่คุณจะไม่อาจยกเลิกภารกิจได้


คุณสามารถยกเลิกภารกิจได้ด้วยคะแนน 10,000 คะแนนแต่ชื่อเสียงของคุณในดินแดนอันเดตก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย


]


” ทำไมจะไม่ลองดูล่ะ “


เดฟกดยอมรับและตัวละครของเขาก็เริ่มขยายขนาดขึ้น


ไม่นานร่างกายของเดฟก็สูงขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า


” เย้ ! ฉันอาจจะชินกับการตัวใหญ่แบบนี้ก็ได้ ” – เดฟมองไปที่สเตตัสใหม่ของตัวเองและพบว่าสกิลเดิมของเขากลายเป็นสีเทา – ” บ้าเอ้ย ไม่มีสกิลเดิมแม้แต่นิดเดียว ฉันรู้จุดอ่อนและจุดแข็งของมันแล้ว ตอนนี้ฉันต้องมาปรับตัวเข้ากับสกิลใหม่อีก “


” เดี๋ยวนะ “


เดฟเอามือถูหูตัวเองและพบว่าเขายังต่างหูที่ได้จาก Drahma อยู่


เขายังมีดาบที่แยกออกเป็นสองดาบอยู่และใช้ความสกิลของดาบได้ แหวนเองก็ยังใช้ได้ แม้ว่าเขาจะต้องกลับไปที่โลกใต้ดินตอนนี้แต่พวกมอนสเตอร์ที่นั่นก็ยังถือว่าเลเวลต่ำหากเทียบกับเขาตอนนี้


เดฟหันกลับมาตรวจสอบที่ดันเจี้ยน ดันเจี้ยนแห่งนี้เหมือนกับเขาวงกตที่เต็มไปด้วยโลงศพและหลุมศพเก่าๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเขาจึงเริ่มเดินไปรอบๆดันเจี้ยนโดยหวังว่าจะพบบางอย่างที่เขามองข้ามไปในตอนแรกที่เขาเข้ามาในดันเจี้ยนนี้


เดฟได้ออกจากห้องบอสที่ที่เขากิดมาและเริ่มสำรวจส่วนที่เหลือของดันเจี้ยน


มันมีฝูงอันเดตที่เดินไปมาตามทางเดิน หลายตัวเป็น Elite Skeletal รึไม่ก็เป็น Elite Undead


” ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก “


ตอนที่เดฟไปถึงห้องมินิบอสเขาก็พบกับ Lesser Death Knight เฝ้าอยู่ที่นั่น


[ Unnamed Lesser Death Knight


ระดับ : Savage


เลเวล: 250


HP: 250,000


ความอันตราย : เป็นมิตร


ยามผู้อ่อนแอผู้เฝ้าสุสานของอัศวินที่โดนขับไล่ ]


หืม ครั้งที่แล้วมันไม่ได้มีคำอธิบายแบบนี้นิ


” เฮ้ย พวก ” – เดฟพูดขึ้น


Lesser Death Knight หันกลับมามองที่เดฟ


” นายท่าน ! ให้ฉันรับใช้อะไรดี ? ” – Lesser Death Knight ถามด้วยความเคารพ


โอ้ งั้นเขาก็คิดว่าฉันมีตำแหน่งสูงกว่าแม้ว่าระดับของเขาจะสูงกว่าฉันก็เถอะ ฉันคิดว่ามันเพราะตอนนี้ฉันเป็นบอสอยู่


” บอกเรื่องดันเจี้ยนนี้ให้ฉันรู้ที “


” ได้ นายท่านคงต้องมาใหม่ ที่นี่คือจุดพักของบริวารเก่าที่เคยรับใช้ Undead King “


” ดูเหมือนคุกมากว่าจุดพักสำหรับสาวกนะ ” – เดฟพูดขึ้น


” นั่นก็จริง ราชาได้ขับไล่บริวารออกมา เรามาที่นี่เพื่อคุ้มกันที่นี่เพื่อที่บริวารนั่นจะหนีออกไปไม่ได้ “


ฉันเดาว่าเขาคงไม่รู้ว่า Deadra ได้ออกจากที่นี่ไปแล้ว


” ดีมาก ฉันจะไปดูรอบๆ ขยันทำงานเข้าไว้ ” – เดฟยกนิ้วโป้งให้กับอีกฝ่าย


” นายท่าน นั่นคือทางออกของดันเจี้ยน นายท่านอาจจะพบกับคนที่ผ่านไปมา มันอันตราย ” – Lesser Death Knight เตือนหลังจากที่เห็นว่าเดฟจะเดินไปทางไหน


” หือ แล้วไง ? ทำไมต้องรอให้คนเข้ามาเมื่อนายจัดการพวกเขาที่ประตูได้ ” – เดฟยักไหล่


” ฉันไม่เคยคิดถึงวิธีนั้นเลย นายท่านต้องการให้ไปกับท่านด้วยรึเปล่า ? “


” ได้ มาสิ “


เดฟและ Lesser Death Knight เดินไปยังทางเข้าของดันเจี้ยนด้วยกัน


เมื่อไหร่ก็ตามที่ไปเจอกับพวกอันเดต พวกนั้นจะมองบอสและมินิบอสที่เดินมาด้วยกันด้วยความแปลกใจ อันเดตต่างก็สงสัยแล้วพากันเดินตามมา


10 นาทีต่อมาพวกเขาก็มาอยู่ที่ทางออกดันเจี้ยนแต่มันไม่เหมือนกับตอนที่เดฟเข้ามา ตอนนี้มันมีกำแพงหมอกกั้นเอาไว้


เดฟจับไปที่กำแพงหมอกนั้นและมีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเขา


[ คุณพยายามที่จะออกจากดันเจี้ยน! ]


Lesser Death Knight พูดขึ้นมาด้วยท่าทีกังวล – ” นายท่าน ฉันว่าอย่าออกจากที่นี่เลย ดันเจี้ยนคอยปกป้องชีวิตเราเอาไว้ ถ้าเราออกจากที่นี่เราจะตายอย่างถาวร “


” งั้นมันมีผลดีอะไรกับการอยู่ในดันเจี้ยนนี้นอกจากได้คะแนนล่ะ ? “


” ดันเจี้ยนไม่ใช่แค่ให้คะแนนกับเรา เรายังได้พลังด้วย ดันเจี้ยนได้ดูดซับแก่นชีวิตของคนที่ตายที่นี่ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เล่นจำนวนหนึ่งตายไปในดันเจี้ยน ดันเจี้ยนจะให้แก่นชีวิตให้กับเราและเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น “


ฉันคิดว่าเขาคงหมายถึง xp ตอนที่พูดถึงแก่นชีวิต มันจะหมายความว่าดันเจี้ยนสามารถดูดซับ xp จากผู้เล่นได้แต่ฉันไม่มีทางได้ xp จากการฆ่าผู้เล่น


ในตอนที่เดฟคิดถึงกลไกดันเจี้ยนนั้น กำแพงหมอกก็ได้แยกออกจากกันพร้อมกับพรีสคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามา เขาหันหลังกลับไปมอง ดูเหมือนว่าเขาจะพาคนอื่นมาด้วย


” ฉันบอกนายแล้ว Fortress เธอน่ะพึ่งตัวเองได้น่า พวก ! “


เดฟขมวดคิ้ว เสียงนี้ฟังดูคุ้นๆ


ตอนที่พรีสหันกลับมาและเห็นฝูงอันเดตมองมาที่เขา เขาก็ตัวแข็งทื่อไปรอยยิ้มเขากลายเป็นยิ้มแห้งๆไปทันที


อันเดตตัวใหญ่สองตัวได้พาฝูงอันเดตที่มีชื่อสีแดงมา ตัวหนึ่งเป็นบอส อีกตัวเป็นมินิบอส


ร่างในชุดเกราะเดินเข้ามาชนพรีสที่ตัวแข็งทื่อจากด้านหลังและเริ่มบ่นออกมา – ” ให้ตายสิ Flanker ! ทำไมนายต้องมายืนนิ่งเหมือนไอ้โง่แบบนี้ ? “


เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวแข็งทื่อไป ผู้เล่นใส่เกราะนั้นก็ได้มองไปรอบๆห้องก่อนจะหยุดเหมือนกับกวางที่โดนหมายหัว


ฮันเตอร์คนหนึ่งโผล่มาจากประตูและผลักสองคนก่อนหน้า ผู้เล่นคนนี้เร็วกว่าสองคนเล็กน้อย ทันทีที่เห็นบอสกับมินิบอส เขาก็ถอยกลับไปทันที – ” หือ บะบาย ! “


” เดี๋ยวก่อน ! ” – เดฟพูดขึ้น


ตาของทั้งสามคนถลนออกมา


” มีคำพูดบอกว่าครั้งแรกอาจจะเพราะโชค ครั้งสองเป็นเรื่องบังเอิญ ครั้งสามนี่สิจงใจ ตัวร้ายนี่ดีแหะ ฉันว่าฉันก็ชอบทองเหมือนกัน ” – เดฟพูดพร้อมกับยิ้ม


” ทะทำไมบอสถึงพูดกับเรา ? ” – พรีสถาม


” ตัวร้าย ? ทอง ? ! ” – ชายในชุดเกราะถามพร้อมกับเกาหัวตัวเอง


” ชัดแล้วว่านั่นคือ Mr.Skeleta ดูที่หนวดเขาสิ ” – ฮันเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงอวดรู้


” เหอะ ทักษะฮันเตอร์ของนายก็ถือว่าดีอยู่นะ ” – เดฟยิ้ม


” เราควรฆ่าพวกนั้นเลยมั้ย ? “- Lesser Death Knight ถาม


” ไม่ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันว่าเราน่าจะหาประโยชน์จากพวก TNT ได้ “


เดฟยิ้ม นี่เป็นครั้งที่สามที่เขาเจอกับพวกนี้ สองครั้งแรกนั้นคือภารกิจแบบสุ่ม ครั้งนี้เขาได้เลือกจุดเกิดตัวเองแต่ก็ยังมาพบพวกนี้ที่นี่


มันมากกว่าคำว่าบังเอิญที่พวกนี้มาอยู่ในที่เดียวกันและเวลาเดียวกันกับ เดฟ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้


พรีสและชายใส่เกราะคุยกัน


” อะไรคือ TNT ที่เขาเรียกเรา ? “


” เดี๋ยวนะ ถ้านี่คือ Mr.Skeletal แล้วทำไมเขาถึงตัวใหญ่…ใหญ่โคตรๆแบบนี้ได้ ? “


” TNT ที่ว่านี่ใช่ระเบิดมั้ย ? เจ๋ง เราน่ะคือระเบิด ! “


สองคนตีมือกันจนเสียงดังก้อง ฮันเตอร์กรอกตาใส่พวกนั้นพร้อมกับส่ายหน้าอยู่นาน


” ฉันตัวใหญ่อยู่แล้ว ” – เดฟตอบกลับด้วยรอยยิ้ม – ” และขอโทษด้วยนะที่มันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น มันหมายถึงพวกชื่อห่วยสามคน “


Pussy Flanker เลเวล 89 พรีส


Human Fortress เลเวล 86 แทงค์


Perfect Shot เลเวล 90 ฮันเตอร์




Chapter 87: ทำสัญญา


” แล้วพวกนายมาทำอะไรที่ดันเจี้ยนนี้กันล่ะ ? ” – เดฟถามพร้อมกับลูบหนวดไปด้วย


” นายจะไม่ฆ่าพวกเรางั้นเหรอ ? ” – Pussy Flanker ถามกลับ


” ยังไม่ใช่ตอนนี้ ” – เดฟพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์


” หลังจากนี้ก็อย่าฆ่าเลย เพื่อน ฉันน่ะเป็นเพื่อนของนาย..” – Fortress รีบพูดขึ้นทันที


เดฟกรอกตาใส่ – ” เอาล่ะ อะไรทำให้พวกนายมาที่ดันเจี่ยนนี้ ? “


” เรามาช่วยชายคนนี้ทำเควส ” – Perfect Shot พูดขึ้นแล้วชี้ไปที่ Pussy Flanker – ” บิช็อปในเมืองหลวงได้บอกให้เขามาตรวจสอบที่นี่ ดังนั้นเราเลยพากันมาที่นี่ “


” มันแปลก ทำไมต้องเป็นดันเจี้ยนนี้และตอนนี้ด้วย ” – เดฟพูดขึ้น


” ฉันเพิ่งได้เควสมาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ฉันเลยทักไปหาเพื่อนและนัดเจอกันที่ทางเข้าดันเจี้ยน แต่พวก เราไม่คิดว่าจะมาเจอนายที่นี่ “


ครึ่งชั่วโมงก่อน ? มันเกือบจะตอนที่ฉันรับเควสบอสมาเลยนิ นี่ AI ของเกมทำแบบนี้เหรอ ?


Perfect Shot พูดขัดคนวามคิดของเดฟ – ” คนทั้งเกมกำลังตามหาตัวนายอยู่พวก “


‘ อ่ะ เหี้ยละ เงินล้านกับค่าหัวฉัน ! ฉันตายห่าแน่ถ้าพวกนี้บอกคนอื่นว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันน่าจะฆ่าพวกนี้แล้วจัดการมันให้เสร็จซะ ‘


ฮันเตอร์พูดต่อ – ” แต่เราไม่บอกใครหรอกนะว่านายอยู่ที่นี่…” – Perfect Shot หันกลับไปหาเพื่อนสองคนแล้วถาม – “…. ใช่มั้ยพวก ? “


” ใช่ ! เดี๋ยวนะ เราจะไม่แลกเขากับเงินงั้นเหรอ ? ” – Human Fortress เกาหัวอีกครั้ง


Perfect Shot มองไปที่ เดฟ และบอกกับเพื่อนสองคน – ” ไม่ เราไม่ทำ เราต้องการเขา “


” หือ ? ! ” – Human Fortress ตอบกลับ


” ไม่ เพื่อน เพื่ออะไร ? ” – พรีสร้องออกมา


” ใช่ ฉันเองก็สงสัย นายคิดว่านายต้องการฉันไปทำไมและเพื่ออะไร ? ” – เดฟถาม


” ก็ง่ายๆ ฉันยอมรับ ค่าหัวกับการแจ้งตำแหน่งของนายน่ะน่าสนใจแต่ฉันรู้ เนื่องจากที่นายทำเควสให้กับอันเดตและนายเองก็เป็นอันเดตด้วย นายต้องมีทางเข้าและออกโลกใต้ดิน พาเราเข้าไปในโลกใต้ดินเพื่อที่เราจะได้เพิ่มเลเวลและหาของ เราจะเก็บความลับของนายไว้ เราจะแบ่งส่วนแบ่งให้กับนายจากของที่เราได้มาจากโลกใต้ดินด้วย “


ชายคนนี้ฉลาด เขาคิดถึงผลระยะยาว ค่าหัวที่กิลด์ต่างๆตั้งขึ้นมานั้นถือว่าเยอะแต่พวกนั้นกลับน้อยนิดหากเทียบกับของที่อาจจะมีในโลกใต้ดิน


” อืม นั่นดูน้อยไปนะพวก อันที่จริงมันเกินกว่าจะคาดการณ์ได้และแม้ว่านายคิดว่ามันจะจริงแต่มันก็ยังมีปัญหาเล็กๆเกี่ยวกับแผนของนาย วิธีในการเข้าไปในโลกใต้ดินนั้นมีไว้แค่สำหรับอันเดตและมันมีผู้เล่นอันเดตแค่คนเดียวในเกม ดังนั้นนายจึงเข้าไปในโลกใต้ดินด้วยวิธีนั้นไม่ได้ ” – เดฟสรุปด้วยรอยยิ้ม


Perfect Shot มองไปที่เดฟด้วยสีหน้าสงสัย จากนั้นก็ยิ้มออกมาและส่ายหน้า – ” ที่นายต้องทำคือเอาคัมภีร์วาร์ปจากโลกใต้ดินให้กับเรา “


เดฟมองไปที่ฮันเตอร์พร้อมกับปากที่เปิดออก เขากำลังจะพูดความคิดของตัวเองแต่สุดท้ายก็ต้องปิดปากเงียบ เขาบอกมันออกมาไม่ได้ไม่งั้นจะดูเหมือนคนโง่


‘ โฮ่ ! ทำไมฉันไม่คิดแบบนั้น ! ฉันช่วย Lone Arrow เพื่อไปยังโลกใต้ดินด้วยวิธีนี้ได้ ‘


” เอาล่ะ…นั่นก็พอเป็นไปได้แต่ตอนที่นายไปถึงประตูโลกใต้ดิน นายจะถูกอันเดตฆ่าเอา “


” นั่นแหละคือส่วนที่เราต้องการนาย นาจะไปกับเราและพาเราผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัย นั่นคือตอนที่เราจะฝากชีวิตไว้กับนาย มันคือการเชื่อใจกันไงล่ะพวก “


เดฟคิดตามแต่ไม่เห็นข้อบกพร่องในเหตุผลของฮันเตอร์เลย เขารู้ว่าถึงแม้ว่าเขาจะเสี่ยงกว่ามากแต่เขาก็ต้องพึ่งสามคนนี้ในการเก็บความลับ


” ได้ นั่นอาจจะได้ผล ตอนนี้เราต้องมาคิดส่วนแบ่งของฉันแล้ว ” – เดฟเอามือถูกกันพร้อมกับตาที่ดูเป็นประกายแห่งความโลภ


” เอ่อ เขาตกลงง่ายเกินไปแล้ว ” – Pussy Flanker ตะลึงกับเรื่องทั้งหมด


Human Fortress พยักหน้าแล้วร้องออกมา – ” มันเป็นกับดัก ! “


ฉันเดาว่าถ้าเอากะโหลกไประเบิดใส่หัวเขา เขาคงไม่ดีขึ้นหรอก


” ไม่ใช่เลยเพื่อน ยิ่งฉันคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดูเข้าท่า โลกใต้ดินนั้นมีขนาดใหญ่ มีแค่เพียงลูกน้องไม่กี่ตัวที่ช่วยฉันในการสำรวจ นี่ไม่ต้องพูดถึงผู้ช่วยที่จะมาช่วยฉันหาของเพิ่มและทำให้ได้เงินเพิ่มขึ้น โชคร้ายหน่อยตอนนี้พวกนายเลเวลต่ำเกินไปสำหรับโลกใต้ดิน “


” แต่นายก็ลงไปได้นี่..”


เดฟขัดขึ้นมาเพื่อไม่ต้องฟังเรื่องไร้สาระเพิ่ม – ” มันมีเงื่อนไขพิเศษและฉันก็ได้รับการช่วยเหลือจากอันเดต มันจะไม่เป็นแบบนั้นซ้ำอีก “


‘ ฮึ่ม ราวกับว่าพวกนี้อยากทำตามการเดินทางอันสุดยอดของฉัน ‘


” แต่ถึงเราจะทำแบบนั้น ฉันก็ไม่เชื่อใจนาย บอกเลยว่าถ้าฉันช่วยนายให้ไปถึงโลกใต้ดิน นายก็ยังรายงานตำแหน่งของฉันเพื่อรับรางวัลตอนไหนก็ได้นิ “


Perfect Shot พยักหน้าแต่ก็พูดด้วยท่าทีมั่นใจ – ” ฉันเข้าใจประเด็นของนายแต่ฉันมีวิธีแก้ Alfred ! “


พ่อบ้าน AI ปรากฏตัวขึ้นมาระหว่างทั้งสองฝ่าย


” ให้ผมช่วยอะไรดี ? ” – พ่อบ้านถาม Perfect Shot หลังจากที่ส่งสายตาไม่พอใจไปที่เดฟ


” เราต้องการทำสัญญา ” – Perfect Shot พูดขึ้น


Alfred ตอบรับด้วยการโบกมือเผยให้เห็นสัญญา


” ข้อตกลงว่ายังไง ? ” – พ่อบ้านถามขึ้นมา


” เราต้องการเป็นคู่สัญญากับ เอ่อ….นายชื่อว่าอะไร ? ” – Perfect Shot ถามเดฟ


” อืม Alfred ชื่อตัวละครจำเป็นในการทำสัญญาหรือเปล่า ? ” – เดฟถามพ่อบ้าน


” ถ้าอยากที่จะทำสัญญา ชื่อนั้นคือสิ่งจำเป็นต้องใช้ เพราะตอนนี้คุณอยู่ในสภาพอันเดต คุณอาจจะใช้ชื่อของคุณตอนนี้ในการทำสัญญา การฝ่าฝืนสัญญานั้นจะส่งผลต่อตัวละครดั้งเดิมของคุณ “


” เอาล่ะ งั้นก็ใช้ Kis’Shtingbrah ละกัน ” – เดฟพูดขึ้น


Perfect Shot พยักหน้า – ” เอาล่ะสามคนเราจะไม่บอกตำแหน่งของนายหรือข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับ Kish-Kis’tingbrah ” – Perfect Shot ชี้ไปที่เดฟ – ” เพื่อผลกำไรจนกว่าเราจะตกลงที่จะยกเลิกสัญญาทั้งสองฝ่าย ในทางกลับกันเขาจะซื้อคัมภีร์วาร์ปไปยังโลกใต้ดินให้กับเราและพาเราผ่านอันเดตไปอย่างปลอดภัยเพื่อที่เราจะได้สำรวจและรวบรวมทรัพยากรในพื้นที่และที่อื่นๆที่เราไปถึง ในทางกลับกันแล้วเราจะให้ส่วนแบ่ง 20% ของเงินและค่าของของที่เราได้มาในโลกใต้ดินและตำแหน่งอื่นๆ ถ้าเขาเข้าร่วมในการสำรวจและรวบรวมของเขากับ เขาก็จะได้ส่วนแบ่งที่เท่าเทียบกันที่เรารวบรวมมาระหว่างที่เขาเข้าร่วมด้วย “


เดฟพูดกับ Alfred – ” ฉันยังมีข้อตกลงเพิ่ม ฉันจะให้คัมภีร์วาร์ปกับพวกเขาตอนที่พวกเลเวลถึง 200 หรือสูงกว่า คัมภีร์ที่พวกเขาได้จากฉันนั้นจะถูกใช้แค่สามอันในสัญญา คัมภีร์นั้นขายให้หรือคนอื่นใช้ไม่ได้นอกซะจากว่าฉันจะอนุญาต ฉันจะเอาคัมภีร์ให้พวกเขา 3 อันก่อน หลังจากนั้นพวกเขาต้องซื้อมันจากฉันอันละ 500 ทอง สุดท้ายฉันจะได้ 30% จากของที่พวกเขาได้มาจากโลกใต้ดินและสิทธิที่จะเข้าร่วมกับเควสที่พกวเขาพบอันไหนก็ได้ ” – เดฟพูดขึ้น


Human Fortress ค้านขึ้นมา – ” ตอนนี้นายโลภมากไปแล้ว พวก ! นั่นน่ะเป็นร้อยเท่าของราคาคัมภีร์วาร์ปปกติเลยนะ ! “


” คัมภีร์วาร์ปพวกนี้คือโอกาสที่นายจะได้เพิ่มเลเวลและหาของที่ไม่มีในที่อื่นในเกม นายจะเข้าใจค่าของมันว่ามากขนาดไหน ” – เดฟพูดขึ้น


” เราตกลง ” – Perfect Shot ตอบกลับในตอนที่ทั้งสองเถียงกัน


Perfect Shot ได้รับข้อความส่วนตัวจาก Pussy Flanker ‘ พวก เรายอมมากเกินไปแล้ว ไอ้ห่านี้พยายามเอาเปรียบเรา เปลี่ยนข้อตกลงที่เราตั้งเอาไว้ ! ‘


‘ ไม่ต้องกังวล ข้อตกลงนี้ก็ยังถือว่าเยอะสำหรับเรา จริงๆแล้วฉันกังวลว่าเขาอยากได้มากกว่านี้อีก ‘


‘ เราจะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างมาก การเข้าออกเขตที่คนอื่นยังเข้าไม่ได้นั้นหมายถึงการผจญภัย เควสและมอนสเตอร์ที่มากกว่าเดิม ‘


‘ 1 ล้านที่กิลด์อื่นเสนอให้มาไม่คุ้มค่าหรอกหากเทียบกับโลกใต้ดิน ‘


Alfred พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงฟังดูเป็นทางการ -” นี่คือข้อตกลงและผลของการฝืน ถ้าใครในสามคนนี้ติดต่อวิธีไหนก็ตามในการบอกตำแหน่งของ Kis’Shtingbrah ให้กับผู้เล่นคนอื่น ไอดีของทั้งสามคนจะโดนลบ การไม่บอกถึงของที่ได้มาจากในโลกใต้ดินเองก็มีผลเช่นกัน การลงโทษนี้จะใช้กับ Kis’Shtingbrah ถ้าเขาไม่ทำตามเงื่อนไขที่เขียนไว้ในสัญญาซึ่งคือการให้คัมภีร์วาร์ป 3 อันในการเคลื่อนย้ายไปยังดันเจี้ยนโลกฟรีๆและส่วนที่เหลือก็ตามราคาที่ตกลงกันไว้ ในเรื่องความต่างในความขัดแย้งของสัญญาหรือการแบ่งของนั้นพวกคุณสามารถเรียกฉันมาตัดสินได้ โปรดจำเอาไว้ถ้าไอดีโดนลบ เกมจะแบนคุณไม่ให้เล่นเกมนี้ได้อีก ทั้งสี่คนจะอยู่ในเกมเป็นเวลา 24 ชม.เพื่อให้มั่นใจว่าสัญญานี้ทำงานแล้ว “


เดฟได้ดูไปที่สัญญา


” คุณตกลงหรือเปล่า ? ” – พ่อบ้าถาม


” เราตกลง ” – Perfect Shot พูดขึ้นแล้วเซ็นชื่อ


อีกสองคนมองหน้ากันและยักไหล่ก่อนจะเซ็นสัญญา


เดฟเซ็นสัญญาลงไปและมีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเขา


[ คุณได้ผูกมัดสัญญากับผู้เล่น : Pussy-Flanker, Perfect Shot, Human Fortress ]


[ โปรดทำตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ในสัญญา การฝ่าฝืนจะทำให้ไอดีของคุณโดนลบ ! ]


Alfred ส่งสัญญาให้แต่ละคนก่อนจะหายไป


” แล้วพวกนายมาที่นี่เพื่อเควสอะไร ? ” – เดฟถาม


” โอ้ เรามาหาเกราะอกของ Undead King ” – Pussy Flanker พูดขึ้น


[ เควสหลัก ( SSS)


คุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเกราะของ Undead King ! คุณได้พบเบาะแสที่นำไปสู่เกราะอก ]


” เดี๋ยวนะ อะไรนะ ? “


‘ พวกสามตัวตลกนี่มาเกี่ยวข้องกับเควสหลักของฉันได้ยังไง ? ‘



Chapter 88: เควสแปลกๆ


” ข้อกำหนดของเควสคืออะไร ? ” – เดฟถามและมองไปยังสีหน้าสงสัยของทั้งสามคน เควสของเขาอยู่ระดับ SSS เป็นตัวเปลี่ยนเนื้อเรื่องของเกม หนึ่งในสามคนนี้ได้เควสที่เกี่ยวข้องกันมาซึ่งเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญได้


” เควสให้ตรวจสอบวิหารนี่ มันอยู่ระดั B เพราะบอสเลเวล 250 แต่เรามาพร้อมกับกลยุทธ์ที่…เดี๋ยวนะ นายเป็นบอสนี่ ! ” – Perfect Shot พูดขึ้นมา


” ใช่ “


” อืม บางทีนายอาจจะดรอปมันถ้าเราฆ่านาย — ฉันหมายถึงถ้านายตาย ” – Pussy Flanker พูดขึ้น


” ฉันไม่มีมันกับตัวและแม้ว่าฉันจะมีแต่ฉันก็สงสัยว่าพวกนายสามาคนจัดการฉันได้หรือเปล่า ” – เดฟ หัวเราะ


” หยุดเลย ไม่มีใครจะมาจัดการใครหอก เอาข้อมูลเควสมาให้ฉันดูหน่อย ” – Perfect Shot บอกกับ Pussy Flanker


[ Divine Undertaking (B)


ตรวจสอบซากของ Desolate Temple ใกล้กับ Moria City


เควสต่อเนื่อง


มีข่าวลือว่าอัศวินที่ถูกจองจำโดย Undead King ใน Desolate Temple มีข่าวลือว่าอัศวินผู้นั้นได้รับเกราะอกของ Undead King ก่อนที่ราชาจะหายตัวไป


หน้าที่ของคุณคือหาข้อมูลเกี่ยวกับเกราะอก ]


หืม งั้นก็หมายความว่า Deadra นั้นมีเกราะอกแต่ห้องของเขาโดนทำลายไปแล้วและฉันไม่เห็นเกราะแม้แต่นิดเดียวเลยในตอนนั้น


” ฉันไม่เห็นว่าเควสจะบอกให้เราฆ่าบอส ไปดูรอบๆเผื่อว่าจะเจออะไร ” – Perfect Shot พูดขึ้น


” เฮ้ย นาย นายรู้อะไรเกี่ยวกับเกราะอกบ้าง ? ” – เดฟหันกลับไปถาม Lesser Death Knight


Lesser Death Knight คิดสักพักก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น – ” ไม่ ฉันได้ใช้เวลาที่นี่มานานและไม่ได้เจอกับของแบบนั้นเลย ถ้าเจอะฉันคงต้องรายงาน “


” ไปดูรอบๆก่อน เราอาจจะพบบางอย่างก็ได้ ” – เดฟพูดขึ้นพร้อมกับความคิดที่แว๊บขึ้นมาในหัว


พวกเขาเดินเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อหาสิ่งที่ดูผิดปกติ


เดฟเดินเหม่อลอยราวกับมีเป้าหมายในหัว คนอื่นๆรีบตามเขาไปทันที


” เฮ้ย พวก นายเร็วเกินไปแล้ว ช้าลงหน่อยก็ได้ “- Human Fortress บ่นขึ้นมา


” ฉันรู้ว่าต้องไปดูที่ไหน มันดีกว่าต้องมาเสียเวลาไปหาทุกที่ ” – เดฟพูดขึ้น


พวกเขาได้มาถึงห้องบอสที่ที่เดฟเพิ่งเกิดเมื่อตะกี้ เดฟมองไปที่โลงศพหิน


คนอื่นๆออกค้นทั่วห้องและเห็นซากหินที่ปิดกำแพงเอไว้


” เราควรเข้าไปดูข้างใน ” – Perfect Shot ชี้ไปที่ซากหิน


” ไม่จำเป็น ฉันคิดว่าฉันเจอสิ่งที่เราตามหาแล้ว ” – เดฟยืนอยู่ใกล้โลงศพหินที่มีลูกหินสีดำและแดงวางอยู่รอบๆ


พวกเขาต่างก็เข้าไปดูในโลง


มันเป็นโลงศพหินที่ Bone Breaker ได้ [Ring of the Death God] มา


” นายแชร์เควสให้ฉันได้มั้ย ? ” – เดฟถาม Pussy Flanker


Pussy Flanker ลองทำการแชร์เควสแต่ก็ได้รับแจ้งเตือนกลับมา


[ คุณไม่สามารถแชร์เควสให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ ! ]


” อ่ะ ” – เดฟอุทานอกอมา


” เก็บมันขึ้นมา ” – เดฟบอกกับ Pussy Flanker


” มันเป็นจดหมาย ” – Pussy Flanker พูดขึ้นหลังที่คลี่ม้วนจดหมาย


[ เฮ้อ ฉันล้มเหลว


ฉันได้ลองแล้วแต่ก็ไม่อาจจะฆ่าราชาได้ ฉันทำให้เขาบาดเจ็บยังไม่ได้แม้แต่จะได้รับการอวยพรจากเทพความตายก็ตาม คัมภีร์นั้นทรงพลัง พลังของ Death Heart ได้ให้ความเป็นอมตะกับเขา แม้แต่ความตายก็ฆ่าเขาไม่ได้


แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เราได้ขโมยเกราะหลายส่วนของเขามาเพื่อลดพลังของเขา ถ้านายหาชิ้นสวนนั้น นายจะไม่พบมันที่นี่ จงไปหาพวก Black Skull Order พวกนั้นคุ้มกันสิ่งที่นายตามหาอยู่


Black Skull Order เป็นนักบวชของเทพลับ พวกเขาเคยเป็นสมาชิกของดินแดนอันเดตแต่พวกเขาหักหลังราชาและเข้าร่วมกับกบฏ พวกเขาได้สร้างความเสียหายในหมู่คนตายและคนเป็น


สมาชิกของพวกนั้นเกลียดชังอันเดต ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ความช่วยเหลือของพวกนั้นไม่ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ พวกนั้นเป็นพวกเลวทราบแต่พวกเขาจะช่วยนายหากนายพิสูจน์ว่ามีประโยชน์สำหรับพวกนั้น อย่าเชื่อใจพวกนั้น !


สมาชิกของพวกนั้นซ่อนตัวไว้อย่างดี ทั้งหมดที่ฉันพบคือพวกนั้นมีฐานอยู่ในทะเลทรายทางใต้


เขียนโดยฉันเอง


Deadra อัศวินผู้จากไป ]


เรื่องราวเบื้องหลังน่าสนใจดีนิ


[A Call for Help (เควสต่อเนื่อง)


เควสอัพเดต !


คุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่เป็นไปได้ของ Black Skull Order ไปพูดคุยกับ Drahma เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม


+100,000 xp ]


[ ค่า xp ของคุณจะเพิ่มตอนที่คุณจบภารกิจบอสดันเจี้ยน ]


ดี นี่น่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเควสที่ Drahma ให้ฉันมา


” ฉันไม่เข้าใจ ใครคือ Deadra ? ” – Pussy Flanker ถามขึ้นมา – ” นี่หลุมศพเขาเหรอ ? ” – เขาพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่โลงศพหิน


เดฟไม่คิดแบบนั้น Deadra นั้นสูงกว่า 5 ม. โลงศพนี้มีขนาดปกติ นี่ไมต้องพูดถึงที่ว่า Deadra นั้นไม่เคยนอนที่นี่เลย เขาจาสงหายไปหลังจากที่โดน Undead King ในห้องลับฆ่าเอา


เดฟไม่ได้บอกข้อมูลนี้กับทั้งสามคน พวกนี้ต้องหาข้อมูลด้วยตัวเอง


“นายกลับไปคุยกับบิชอฟที่ให้ภารกิจนายได้แล้ว ” – Perfect Shot พูดขึ้น


” อื้อ ฉันก็คงต้องทำแบบนั้น “


” งั้นเราจะทำอะไรกันต่อ ? ” – Pussy Flanker มองไปที่เดฟ


” เราห้ามออกจากเกมเป็นเวลา 24 ชม.และฉันต้องติดกับการเป็นบอสที่นี่สักพัก “


” เขาจะไม่ทำอะไรเราใช่มั้ย ? นี่ถือเขาหลอกเราเข้ามาหรือเปล่า ! ” – Pussy Flanker พูดขึ้นและรีบถอยออกห่างจากเดฟ


” หุบปากไปเลย มันก็แค่ 24 ชม.ในเกม ฉันว่าเราน่าจะฟาร์มกันที่นี่จัดการพวกอันเดตที่นี่ซะ ” – Human Fortress พูดขึ้นมา


” ถ้าฉันต้องไปฉี่ล่ะ! ” Pussy Flanker บ่นออกมา


” อย่าคิดลองเชียว ฉันรู้ว่านายซื้อเครื่องเล่นแบบ V2 มา ฉันรู้ว่านายอยู่ได้ถึง 72 ชม. ” – Human Fortress ด่าออกมา


” V2 ? คืออะไร ? ” – เดฟถาม


” มันเป็นเครื่องเล่นแบบใหม่ แทนที่จะเป็นหมวก รุ่นนี้เป็นแคปซูลที่ให้นายนอนลงไป ของเจ๋งดี เพิ่งออกมา ราคาก็ถือว่าเยอะพอตัว ” – Perfect Shot พูดขึ้น


” เท่าไหร่ ? ” – เดฟถาม


” นายซื้อบ้านเล็กๆได้เลยล่ะจากราคาของมัน ” – Perfect Shot ตอบกลับ


” ใช่ ฉันต้องเก็บเงินเดือนตั้งสามเดือนเพื่อซื้อมัน ” – Pussy Flanker พูดด้วยสีหน้าปวดร้าว


เงินเก็บ 1 เดือนของไอ้นี่มากว่าค่าจ้างทั้งปีของฉันอีก หือ คนรวยแบบ Lone Arrow หรือไง ฉันนี่เจอแต่คนแบบนี้


“พอแล้ว ไปหาเก็บ xp กันดีกว่า ” – Human Fortress พูดออกมาด้วยท่าทีหมดความอดทน


” พวกนายไปสู้กับมอนสเตอร์ระหว่างกลับไปที่ทางออกก็ได้ ฉันจะไม่ไปยุ่งกับการเก็บ xp ของนาย แม้ว่าพวกมันจะเป็นลูกน้องฉันก็ตาม ” – เดฟบอกกับทั้งสามคน


” เอาล่ะ ไปตรวจทางเดินที่เราเดินผ่านมากันดีกว่าเผื่อว่าจะเจออะไรน่าสนใจ ” – Perfect Shot พูดขึ้นแล้วเดินนำเพื่อนสองคนออกจากห้องบอส


เดฟคิดว่าจะไปกับพวกนั้นแต่ก็สลัดความคิดนี้ทิ้ง มันรู้สึกแปลกๆที่ต้องไปสู้กับอันเดตตัวอื่น


ฉันควรไปสู้กับผู้เล่นคนอื่นที่เข้ามาในดันเจี้ยนจะดีกว่า โอกาสที่พวกนั้นจะไม่รู้ว่าฉันคือ Mr.Skeletal ก็น่าจะสูง ดังนั้นก็ไม่น่าเป็นไรและถ้ามีบางอย่างผิดปกติ ฉันก็จะใช้ 10,000 คะแนนเพื่อยกเลิกภารกิจแล้วออกจากที่นี่


เดฟเดินไปยังประตูดันเจี้ยนและรอวิญญาณที่โชคร้ายที่คิดจะมาฟาร์มที่ดันเจี้ยนของเขา



Chapter 89:การพบเจอที่ไม่คาดคิด!


ในวังแห่งหนึ่งของอาณาจักรทางตะวันตก Warlord นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะที่มีหลายสิบที่นั่งในห้องประชุมแห่งหนึ่ง


ผู้เล่นที่เขานัดพบนั้นคือผู้ลงทุนและผู้สนับสนุนกิลด์


Valentine เป็นผู้นำในการประชุมครั้งนี้ เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะลดความตึงเครียดที่ส่งตรงไปยังที่ Warlord จากความโกรธของสมาชิกคนอื่นๆ


” เรามาที่นี่เพื่อเจรจาเรื่องพฤติกรรมของหัวหน้ากิลด์ Warlord การกระทำที่กันไม่ให้กิลด์และผู้ลงทุนไม่ได้ผลกำไรจากการครอบครองทรัพยากร ” – ความโกรธของผู้พูดนั้นฟังได้จากน้ำเสียง Satan Slayer คือ CEO ของบริษัทที่ผลิตคอมพิวเตอร์และเครื่องมือเทคโนโลยี บริษัทของเขาได้ลงทุนไปเยอะกับ Devastators เขาต้องคอยทุนทุกข์อยู่ตลอดทุกครั้งที่ราคาหุ้นได้รับผลกระทบ


” มาใจเย็นๆกันก่อน Warlord ไม่ใช่คนผิดสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใต้ดิน Blood Rage คือพวกที่ผิด พวกนั้นหักหลังข้อตกลงของเราและพยายามที่จะเอาเปรียบเรา การกระทำนั้นทำให้ทุกคนซวยไปด้วย ” – Valentine พยายามทำให้ทุกคนใจเย็นลง


” ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น ! พวกนายก็ได้เห็นวิดีโอกันแล้ว ไอ้บ้านี้มีโอกาสที่จะคว้าเอาธง วิดีโอได้แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเขามีเวลาที่จะเอาธงและรับประกับชัยชนะแต่เขาไม่ทำและถึงกับโดนฆ่าโดยอันเดตเลเวลต่ำ เขาได้เปลี่ยนให้กิลด์นี้กลายเป็นตัวตลก ” – Satan Slayer พูดขึ้น คนส่วนมากรอบๆต่างก็พยักหน้ากับคำพูดนี้


Satan Slayer พูดถูก ถ้า Warlord คว้าเอาธงมา พวกเขาก็คงกลายเป็นเจ้าของเขตใหม่ไปแล้วซึ่งนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นที่อิจฉาของทุกคน


” ตัวของอันเดตนั่นล้มไปแล้วตอนที่เลือดเหลือ 0 ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะเกิดใหม่ได้ ปกติแล้วมันน่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เลเวลต่ำแบบนั้นจะฆ่าฉันตายในการโจมตีครั้งเดียว ” – Warlord พูดขึ้นพร้อมกับกัดฟันแน่น


” มันจบแล้ว อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ” – ผู้เล่นคนหนึ่งในชุดขาวได้พูดขึ้นมา เขาเป็นพรีสที่มีคทาไม้ดูธรรมดาวางพิงไว้ที่โต๊ะ


” สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเปลี่ยนมันไม่ได้หรอก ” – พรีสพูดขึ้น


” Rencha นายเสียมากที่สุดในหมู่พวกเรา ทำไมนายถึงต้องปกป้อง Warlord ด้วย ? ” – Satan Slayer ถามขึ้นมา


” ฉันไม่ได้ปกป้องใคร การเถียงกันเรื่องอดีตน่ะไม่เปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วหรอก เราต้องทำตอนนี้ให้ดีที่สุด เรามีสัญญา 3 เดือนในการเข้าออกดันเจี้ยนและเหมือง ด้วยสัญญาพวกนั้นเราจะได้เพิ่มเลเวลคนของเราได้ อีกอย่างยังเพิ่มความสนใจให้กับผู้เล่นเลเวลสูง พวกเขาอยากจะเข้ากิลด์เราเพื่อเข้าไปฟาร์มในดันเจี้ยนและเหมืองที่เราได้มา “


Satan Slayer กอดอกและพิงเก้าอี้ก่อนจะปิดปากไปด้วยความโกรธ


” เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเอลฟ์นั่น Lone Arrow น่ะ ? ” – Rencha เปลี่ยนเรื่อง


” ฉันพบเรื่องน่าสนใจตอนที่หาข้อมูลของเธอ ” -Valentine พูดขึ้น


ทุกคนโน้มตัวเข้าที่โต๊ะตั้งใจฟังคำพูดของ Valentine


” เธอน่ะแตะต้องไม่ได้ “


” อะไรนะ ? ! ” – ผู้เล่นบางคนถึงกับตะโกนกันขึ้นมา


” นายหมายความว่ายังไง ? ” – Rencha ถาม


” เรามี เอ่อ เรารู้ถึงตัวตนของเธอ ปรากฏว่าเธอน่ะมีเส้นสายกับบางคนในกิลด์ เราได้ดูภูมิหลังของเธอแล้ว เธอชื่อโซซิลวานาเธอเป็นลูกสาวของดันเต้ซิลวานา “


” ดันเต้ปีศาจที่เป็นพ่อค้าอาวุธนั่นน่ะเหรอ ? ! ฉันคิดว่าเขาโดนจับไปแล้วและต้องติดคุกอีก 20 ปี ” – Satan Slayer ชัดแล้วว่าไม่พอใจกับข่าวนี้


” นั่นก็แค่เรื่องที่น่าอาย เขาน่ะมีค่าในแวดวงคุก ทุกคนต่างก็อยากใช้คนแบบเขาไม่วาจะเป็นการเจรจาหรือปฏิเสธ “


” งั้นอันเดตหนวดนั่นก็เกี่ยวข้องกับเธอ บางทีอาจจะเป็นคนในครอบครัวเธอ ดังนั้นเขาเองก็คงแตะต้องไม่ได้ด้วย “


” ฉันสงสัยเรื่องนั้นอย่างมากซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เราไม่มีข้อมูลว่าเขาอยู่ที่ไหน เขามาจากไหนหรือว่าเขาอยู่กิลด์ไหนหรือกลุ่มไหน เราถึงกับตรวจสอบผู้เล่นสามคนที่อยู่ในวิดีโอแรกๆที่เขาโพสต์ขึ้นมาแต่เราก็ไม่พบข้อมูลที่แม่นยำอะไร มันเหมือนกับว่าอยู่ๆเขาก็โผล่มา มันเหมือนกับผู้เล่นใหม่ที่ไม่มีเส้นสายหรือคนหนุนหลัง ” – Valentine พูดจบก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย


คนข้างๆ Valentine พูดด้วยน้ำเสียงหวานๆขึ้นมา – ” บางทีเขาอาจจะเป็น AI ก็ได้ สิ่งที่เกมสร้างขึ้นเพื่อทำลายสมดุล “


Valentine ส่ายหน้า – ” เราตรวจสอบพฤติกรรมและรูปแบบการพูดแล้ว ตามการตรวจสอบแล้วเขาเป็นคน ” “


” นี่เป็นแค่เขตแรกของดันเจี้ยนโลก มันยังมีมากกกว่านี้ เรายังค้นหาทางเข้าไปยังโลกใต้ดินในที่อื่นอยู่ เราต้องจ้าง It’s Just Business ในการแกะรอย Mr.Skeletal นั่น ผู้เล่นที่มีการสืบทอดคลาส S รับงานนี้ไปแล้ว “


พรีสพยักหน้า – ” ผู้มีการสืบทอดนักฆ่าแห่งเงา ต้องขอบคุณเธอเราถึงได้อาณาจักรตะวันตกมา ” – เขาทุบโต๊ะ – ” เราเคยจ้างเธอให้ฆ่าราชาคนเก่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเควสในการยึดอาณาจักรมาจนกลายเป็นฐานของเรา ถ้าจะมีใครแกะรอยอันเดตหนวดนั่นได้ งั้นก็คงต้องเป็นเธอโดยเฉพาะสกิลที่เธอมี “


” ถ้าไม่รู้ชื่อผู้เล่น ฉันคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แต่ใครจะไปรู้ บางทีนายอาจจะพูดถูกและเธอก็คงแกะรอยเขาได้แต่การฆ่าเขานั้นไม่คุ้ม ” – Warlord พูดขึ้น


Valentine พยักหน้า – ” การฆ่าอันเดตหนวดนั่นคือทางเลือกสุดท้าย ให้เขาเข้ากับเราจะดีกว่า ถ้าเขาเข้ากับเรา เขาก็จะหาวาร์ปยังโลกใต้ดินให้กับเราได้ เราจะได้เข้าไปก่อนคนอื่นและหาเส้นทางไปสู่ประตูใหม่ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคต จากการเข้าออกนี้แล้วและเวลาที่เราจะได้ยึดโลกใต้ดินไว้ในมือก็คงขึ้นอยู่กับเรื่องนี้ ! “


***


เดฟ ยังเฝ้าอยู่ที่ประตูดันเจี้ยน เขาหาวมาหลายชั่วโมงแล้ว


‘ บ้าเอ้ย นี่ 6 ชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครโผล่มาเลย น่าเบื่อจริงๆ ฉันอยากเลิกแล้วเนี้ย ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันน่าจะอยู่ในโลกใต้ดดินต่อ อย่างน้อยก็จะเจอมอนสเตอร์บ้าง ฉันจะล่าการ์กอยกับแรดปีศาจเพื่อที่จะเพิ่มเลเวลตัวเองโดยไม่ต้องเสี่ยงว่าตัวเองจะโดนฆ่า ‘


ในตอนที่คิดเสร็จ หมอกของดันเจี้ยนก็แยกออกและมีร่างสองร่างที่โผล่เข้ามา


พาราดินกับพรีส


เดฟเห็นผู้เล่นสองคนนี้ก่อนที่ทั้งสองคนจะเห็นเขา


” เพื่อน ฉันบอกนายเลย ไม่มีทางที่เขาจะกลับมาที่นี่แน่ เราแค่ต้องหาทางเพิ่มเลเวลตัวเอง การอยู่ที่นี่น่ะไร้ประโยชน์ ” – พรีสบอกกับพาราดิน


” ฉันจะไม่หยุดจนกว่าจะฆ่ามันได้ ไอ้ห่านั่นขโมยการสืบทอดของฉันไป นายคิดว่าฉันจะแค่ยืนดูเฉยๆเพื่อให้เขาได้อำนาจและชื่อเสียงไปหรือไง ? “- พาราดินด่ากลับและสอดส่องสายตาไปทั่ว


ปากของเดฟเริ่มแห้ง เขาจำผู้เล่นสองคนนี้ได้ทันทีที่เห็น


Stainless Steel, ไฮพรีส เลเวล 335


Bone Breaker, พาราดิน เลเวล 348

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม