Rise of The Undead Legion 189-195

 Chapter 189 : บทเรียนของ Dikenz


” มาสิ อันเดตน้อย นายจะเข้าร่วมการโจมตีนี้ด้วย เราจะเดินหน้าในไม่ช้า เอาพวกของนายไปด้วย ! “


” ฉันสั่งให้ชุบชีวิตพวกนั้นจาก Dikenz อยู่แต่มันต้องใช้เวลา 7 วันก่อนที่จะพวกของฉันจะฟื้นคืนชีพ “


” Samael ช่วยอันเดตน้อยในเรื่องนี้ด้วย ” – ราชาสั่งการแล้วหายตัวไป


Samael ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น – ” ไปที่ดินของนายกันเถอะ ” – Samael ตัวพร่ากลายเป็นไอแล้วลอยออกไปนอกหน้าต่าง


เดฟ ได้ฉีกคัมภีร์วาร์ปแล้วโผลมาที่ลานของเมือง เขาวิ่งผ่านประตูเมืองมุ่งหน้าไปยังที่ดินของเขาต่อ


การสร้างสิ่งตึกต่างๆนั้นเสร็จสิ้นแล้ว ภูเขาได้ปรากฏขึ้นมาจากที่แต่ก่อนนั้นไม่มี ยอดเขารูปกรวยที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มีเสาน้ำแข็งโผล่ขึ้นมาราวกับเป็นโคมไฟคริสตัล ปรากฏว่าพวกน้ำแข็งและหิมะพวกนี้จะมีอยู่ตลอดไปราวกับป่า เดฟ ไปหยุดที่ร้านค้าและเห็นว่า Dikenz กำลังคุยกับ Samael อยู่


หน้าของ Dikenz แสดงสีหน้ากลัวออกมาและพยักหน้ารับฟังที่ Samael พูด


” Dikenz ” – เดฟ ทัก


” อ่ะ ลูกค้าคนโปรด ! เรื่องการเกิดใหม่น่ะ ฉันพร้อมแล้วและมันก็ไม่คิดเงินด้วย “


” จริงเหรอ ? ดี …” – เดฟ แปลกใจ – ” แล้วฉันก็ยังอยากซื้อยาฟื้นฟูด้วย “


” พวกนั้นก็ฟรีด้วย! “- Dikenz พูดขึ้นมา


เดฟ คิ้วขมวด – ” แล้วพวกอาวุธของ Doom Knight ล่ะ มันราคาเท่าไหร่ ? “


สีหน้าของ Dikenz ดูขมขื่นก่อนจะกัดฟันพูดขึ้น – “นายดูได้เลย ไม่คิดเงิน “


Dikenz ยังคงมองอย่างกังวลและยิ้มให้กับ Samael


เดฟ ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ นี่คือโอกาสที่เขาจะได้เอาคืน เขามักจะสงสัยเสมอว่าซอมบี้นี่ปั่นหัวเขาและตอนนี้เขาก็มั่นใจแล้ว เมื่อเขามีโอกาสเอาคืน เขาก็จะเอาคืนให้ถึงที่สุด


” เอาล่ะเพื่อน เอามาให้ฉันดูสิว่านายมีอะไรบ้าง ! ” – เดฟ พูดขึ้น


Dikenz ส่งรายชื่ออุปกรณ์ Doom Knight ให้กับ เดฟ ของที่ถูกที่สุดนั้นราคา 100,000 คะแนน


” โอ้ ทุกอย่างแพงจริงๆ ” – เดฟ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ


” เอ่อนายเห็น…”


” ฉันมั่นใจว่าเพื่อนซอมบี้ของเราจะมีส่วนลดให้ ” – Samael ขัดขึ้นมาแล้วมองไปยัง Dikenz ราวกับอีกฝ่ายเป็นเหยื่อ


” ใช่ ส่วนลด แน่นอน สัก….10% เป็นไง ? “


‘ บ้าเอ้ย ลด 10% ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ฉันยังซื้ออะไรไม่ได้เลย ฉันก็ดีใจแล้วที่ลูกน้องได้เกิดใหม่ฟรีๆแล้วฉันค่อยกลับมาเอาอุปกรณ์ Doom Knight ตอนที่มีคะแนนพอ คะแนนที่เยอะกว่าตอนนี้มากๆ ‘


” Dikenz นี่ถือว่าใจกว้างจริงๆ ลดราคาทั้งหมดเหลือแค่ 10% จากเดิมสำหรับ Kis’Shtiengbrah นี่มันลดสุดๆไปเลย ! ” – Sameal มองไปที่ซอมบี้ รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นจนเห็นฟัน


” ดะ—” – Dikenz กำลังจะพูดแต่ก็ต้องหยุดไปเมื่อมองไปที่ Samael เขาเงียบไปอีกครั้ง ตัวของเขาเหมือนกับหดลง เขาต้องเก็บความคิดของตัวเองเอาไว้กับตัว


เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกๆ – ” ใช่ แน่นอน ! ส่วนลดพิเศษสำหรับทุกอย่างเพื่อลูกค้าคนโปรด ! “


เดฟ ดีใจขึ้นมาทันที ด้วยส่วนลดขนาดนี้แล้วเขาก็สามารถซื้อของได้เป็นกระสอบ


” นอกจากค่าเกิดฟรีแล้วฉันยังต้องการยา ยา xp สำหรับ Doom Knight และยาฟื้นฟูเลือดกับมานาระดับสูง โอ้ แล้วก็คัมภีร์วาร์ป 200 อัน ! อีกอย่างแล้วเอาชุด Dunlord ให้ฉัน 90 ชุด นายก็รู้นิ ฉันต้องใช้พวกที่เกิดใหม่ทันที ดังนั้นก็จ้างคนงานให้มาสร้างตึกฉันด้วย โอ้และแน่นอนว่าส่วนลดของนายใช้กับการเกิดใหม่ของลูกน้องฉันด้วยก็ได้ ฉันมั่นใจ โอเคมั้ย ? ขอบคุณ Dikenz “


เดฟ ได้ทำให้ซอมบี้ที่ไม่มีหัวใจนั้นถึงกับปวดใจราวกับว่ามันมี แต่ Samael ยืนอยู่ตรงนั้นคอยยิ้มให้กับมัน ดังนั้น เดฟ จึงไม่ได้หยุดแค่นั้น


นี่เป็นโอกาสที่หายากและเขาก็คว้ามันไว้อย่างหน้าไม่อาย เขาได้ซื้อเกราะของ Doom Knight ทั้งชุด แม้ว่าเลเวลที่กำหนดขั้นต่ำนี้จะเป็น 400 ก็ตาม Dikenz นั้นแทบสลบตอนที่ เดฟ เพิ่มเกราะนี้เข้าไปในรายชื่อสิ่งที่เขาต้องซื้อ


เดฟ จบด้วยการจ่ายคะแนนไป 1.2 ล้านคะแนนแลกกับของจำนวนมาก หลังจากที่จ่ายเงินให้กับซอมบี้แล้วเขาก็เหลือคะแนนเพียงแค่ 2 แสนคะแนน เดฟ ขอบคุณ Samael สำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้แล้วออกจากบ้านไป เขารีบไปที่แคมป์ ตอนที่เขาไปถึงที่นั่นสิ่งก่อสร้างทั้งหมดที่นั่นก็สร้างเสร็จแล้ว สุสานของ Dunlord นั้นดูวิเศษ เดฟ เดินไปที่บันไดที่นำขึ้นไปยังประตูแล้วเดินเข้าไป ด้านในนั้นดูเย็นและสลัว คริสตัลขนาดเท่ากับมนุษย์ตั้งอยู่ที่ใจกลางห้อง


มีอักษรอียิปต์เขียนไว้ที่กำแพงบอกเล่าเรื่องราวในตำนานผ่านทางรูปภาพ เตาถ่านที่มุมห้องนั้นให้แสงลัวๆ


เดฟ จับไปที่คริสตัลใจกลางห้องและมุมมองของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้า


****


จุดเกิดของ Dunlord


คุณมี Dunlord 111 ตัวรอคอยการเกิดใหม่อยู่


ราคาสำหรับการเกิดใหม่ต่อตัว 200 คะแนน


คุณต้องการให้เกิดใหม่กี่ตัว ?


****


เดฟ ยิ้มออกมาแล้วเพิ่มตัวเลข 111 ลงไป


****


เวลาที่ทั้งหมดจะเกิดใหม่ : 111 วินาที


****


Stinger เกิดขึ้นมาก่อนเพื่อน


” Stinger ยินดีต้อนรับกลับมาเพื่อน ! ไปชุบชีวิตพวกอันเดตที่เหลือกันดีกว่าตอนที่เพื่อนนายกำลังเกิดใหม่ที่นี่ ! “


เดฟ โดดขึ้นหลังมนุษย์แมงป่องและเดินทางออกจากที่นั่นไป


พวกเขาเดินทางไปยังตึกต่อไปเรื่อยๆเพื่อชุบชีวิตพวกโจมตีใกล้, นักธนูและนักเวทย์


เขาแปลกใจเมื่อเห็นว่าพรีสและพาราดินนั้นเกิดขึ้นอยู่ในตึกของพวกโจมตีใกล้ด้วย เขาคิดว่าพวกนี้จะหายไปตลอดกาลแล้วและพวกนี้ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ไม่ใช่อันเดต ยอดเยี่ยม เดฟ ได้บอกตัวเองว่าให้ถาม Samael เรื่องนี้ Bud และ Spark เรียก Dunlord ของตัวเองออกมาแล้วตาม เดฟ ไป


เดฟ ขี่เข้าไปในป่าเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้มาถึงพื้นที่ที่มีแต่ความว่างเปล่าสีดำซึ่งใจกลางนั้นมีเพียงต้นไม้ที่ไร้ใบตั้งอยู่ใจกลางซึ่งดูไปแล้วก็น่ากลัวดี ดูเหมือนว่ามันจะแผ่ความบ้าคลั่งและความโกรธแค้นออกมา เดฟ ได้ทำการตรวจสอบต้นไม้นั้น


***


Head’s Black Willow


การกระทำทุกอย่างของความตายได้ดึงดูดธรรมชาติในที่แห่งนี้แต่ Dullahan นั้นได้ดึงสารอาหารของที่นี่ไป อันเดตที่ไร้หัวได้ฟื้นฟูพลังและอำนาจขึ้นมาโดยพักอยู่ที่รากของต้นไม้


ไม่มีอะไรเติบโตบนต้นไม้แห่งนี้และศพที่เน่าของสัตว์ที่เดินอยู่ใกล้ๆกับต้นไม้ก็มักจะถูกรากดึงลงไป สิ่งมีชีวิตที่ตายไปเพราะกิ่งก้านของต้นไม้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความตาย วิญญาณของพวกมันจะผูกมัดกับต้นไม้นี้


คำอธิบาย :ต้นไม้พวกนี้รู้จักกันดีว่าต้นไม้ปิศาจ มีข่าวลือว่าต้นไม้โบราณเหล่านี้สามารถไชรากเดินทางไปทั่วและเปลี่ยนป่านั้นให้มืดมิดและเป็นที่ที่ของปิศาจได้


***


เดฟ เดินเข้าไปตรวจสอบตามกิ่งก่อนจะเดินไปที่ลำต้น ด้านในเปลือกไม้นั้นเป็นคริสตัลที่คล้ายกับเส้นชีพจร เดฟ กดลงไปเพื่อชุบชีวิต Dog ขึ้นมา ต้นไม้นั้นสั่นก่อนที่ลำต้นจะแยกกลางออกจากกัน Dog โผล่ออกมา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเยื่อสีแดงที่ตกลงจากผิวก่อนจะถูกพื้นดินสูบลงไป


เขาถือหัวของเขาไว้ในแขน เขามองไปรอบๆจากนั้นก็เดินออกมาจากต้นไม้เล็กน้อย เขาใช้มือตบลงไปที่ดินก่อนที่จะมีกิ้งก่าของเขาโผล่ขึ้นมา


เดฟ ส่ายหน้า – ” ขี้อวด !ไปกันได้แล้ว Dog เราจะไปทำสงคราม “


เขาได้รวบรวมกองทัพของเขาแล้วเดินหน้าไปที่ร้านค้าของ Dikenz ที่ซึ่ง Samael ได้รอเขาอยู่


” เฮ้ Samael ฉันพร้อมแล้ว ฉันสงสัยว่านายรู้มั้ยว่าทำไมพรีสและพาราดินถึงได้เกิดมาพร้อมกับอันเดตของฉันด้วย ? “


” เพราะพวกนั้นมีตราของอันเดต ตรานี้เชื่อมต่อกับหัวใจแห่งความตาย มันก็เหมือนกับที่ Dunlord และกิ้งก่า ตราบใดที่หัวใจแห่งความตายยังอยู่ พวกนั้นก็ฟื้นคืนชี้พได้แม้ว่าจะตายไป แม้แต่โทรลของนายก็ยังมีตรานี้และจะชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ได้ ฐานะของมันเหมือนกับเรา พวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอันเดตแต่ก็ไม่ใช่อันเดตจริงๆ “


“น่าสนใจ ขอบคุณที่อธิบายให้ฟัง เราจะทำอะไรกันต่อ ? “


” ราชานำหน้าเราไปแล้วและนายก็จะไปกับฉัน ตำแหน่งในแผนที่ของนายน่ะมีประตูวาร์ป 4 ทางที่จะไปที่นั่นได้ ” – Samael ได้ส่งกระดาษสีเหลืองให้กับ เดฟ


[คุณได้รับพิกัดของประตูวาร์ปแห่งใหม่Southern Desert Gate(2225,-81) ]


เดฟ ได้ไปยังประตูวาร์ปและใส่พิกัดนี้ลงไป ประตูเปล่งแสงออกมาก่อนที่เขาจะเดินเข้าไป


ตอนที่เขาโผล่มาในที่แห่งใหม่นั้นเขาก็พบกับทะเลทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา


อันเดตนับแสนๆตัวยืนอยู่เป็นกองทัพล้อมรอบประตูวาร์ปเอาไว้


Samael ได้ปรากฏตัวขึ้นมา – ” ราชาสั่งการให้หน่วยทั้ง 4 ล้อมรอบและกำจัด Black Skull Order นี่คือหนึ่งในพวกนั้น “


” หน่วยฉัน, หน่วย Dagla, หน่วยของ Demneti และสุดท้ายก็หน่วยโจรที่นำโดยราชาเอง “


” เขาสั่งการหน่วยโจรด้วยตัวเองเลยเหรอ ?” – เดฟ ถาม


Samael หัวเราะ – ” ใช่ พวกนั้นก็แค่กลุ่มตัวสร้างปัญหาแต่ความสามารถและพลังของพวกนั้นน่ะปฏิเสธไม่ได้ พวกนั้นคือคนโปรดของราชา พวกนั้นเป็นคนของ Deadra ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนั้นเป็นหน่วยที่น่ากลัวที่สุดในดินแดนอันเดต Deadra เป็นผู้นำที่มีความสามารถ เขาได้ฝึกพวกนี้มาอย่างดีเพื่อให้พวกนี้แสดงความสามารถที่ดีที่สุดออกมา แม้ว่าตอนที่คนอื่นๆคิดว่าพวกนี้ไม่มีค่าก็ตาม “


เดฟ เห็นสีหน้าเศร้าบนใบหน้าของ Samael เขาได้เปลี่ยนเรื่อง – ” ไม่ใช่ว่าการโจมตีนี้มันชัดไปหน่อยรึไง ? ถ้า Black Skull Order เห็นเราเข้าไปใกล้ด้วยจำนวนที่เยอะแบบนี้ พวกนั้นก็สามารถใช้ประตูวาร์ปเพื่อหนีรึเปลี่ยนตำแหน่งสำนักงานไปที่อื่นก็ได้นิ “


” เราได้คิดเรื่องนั้นมาแล้ว Dagla จะร่ายเวทย์กันวาร์ปใส่ทั้งเขต ประตูวาร์ปจะถูกปิดการใช้งานซึ่งมีแต่อันเดตเท่านั้นที่ใช้งานมันได้ นี่คือวันสุดท้ายของพวกมันในโลกนี้ “


Sameal ยิ้มแล้วตะโกนขึ้น – ” อันเดต ! เดินหน้า ! “


พวกอันเดตต่างก็พากันตะโกนออกมาจนเกิดระเบิดคลื่นเสียงกระจายออกไปทุกทิศทาง


Dunlord ตัวหนึ่งโผล่มาจากพื้นและ Samael ก็กระโดดขึ้นขี่มัน – ” ไปที่ขบวนด้านหน้ากันเถอะ Kis’Shtiengbrah “


เดฟ เดินตามหลัง Samael ไปโดยมี Bud, Dog และ Spark ไปกับเขาด้วย พวกเขาได้เดินทางกันกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย


กองทัพทั้งสี่ได้มารวมตัวกันราวกับคลื่นล้อมรอบพื้นที่ที่มีขนาดสองเท่าของสนามฟุตบอล


เดฟ คิ้วขมวด เครื่องหมายบนแผนที่ของเขาได้บอกตำแหน่งไว้อย่างชัดเจนแต่มันไม่ได้มีอะไรที่นี่


ท้องฟ้ามืดครึ้มลงพร้อมกับเมฆดำที่มารวมตัวกันบนท้องฟ้า ลมได้พัดจนเกิดเสียงโหยหวนและคำรามราวกับโกรธเกรี้ยว สายฟ้าเริ่มดังขึ้นทำลายความเงียบ


” รึว่าพวกนั้นอยู่ใต้ดิน ?” – เดฟ พึมพำ


” ไม่ พวกนั้นใช้ภาพลวงตาในการปกปิดฐานตัวเอง เราไม่มีทางหาพวกนั้นเจอถ้าไม่มีข้อมูลที่นายให้มา ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น Dagla จะจัดการกับเวทย์พวกนั้นเอง “


ไกลออกไปนั้น เดฟ ได้เห็นร่างผอมแห้งร่างหนึ่งที่เดินออกมาซึ่งเดาไปแล้วน่าจะเป็น Dagla


ร่างนั้นยกคทาขึ้นและท้องฟ้าก็สั่นสะเทือน มิติฉีกออกรอบๆพื้นที่ว่างเปล่าและลมพัดออกมาจากภายใน


ลมนั้นกวาดเข้าไปในพื้นที่ที่ว่างเปล่าแล้วเผยให้เห็นโดมซึ่งแต่ก่อนนั้นเป็นเพียงทะเลทราย โดมนั้นสั่นไหวและมีคลื่นตามผิวของโดม จากนั้น้โดมก็ได้แตกออกเป็นชิ้นๆราวกับเศษแก้ว


วังที่ดูคล้ายจะทำขึ้นจะกระดูกสีดำได้ปรากฏขึ้นมาใจกลางทะเลทราย มันราวกับลอกมาจากวังกระดูกของดินแดนอันเดตอย่างสมบูรณ์


Samael ยิ้มออกมา – “มันต้องมีการนองเลือดแน่ๆ ! “


Chapter 190 : จับตาดู


” ตามฉันมา Kis’Shtiengbrah ” -Samael พูดขึ้นแล้วให้ Dunlord ของเขาเดินหน้าไปยังหน่วยโจร


ราชานั่งอยู่บนม้ากระดูกที่หน้าหน่วย ม้าตัวนี้แทนที่จะมีขนเหมือนม้าปกติกลับมีเปลวไฟสีแดงและเหลืองลุกไหม้ขึ้นมาแทน


” มา เด็กน้อย เข้าร่วมกับฉัน ” – ราชาพูดขึ้น ม้าของเขาก้มลงกับพื้นพร้อมกับเปลวไฟที่ปะทุออกจากกีบเท้า


เดฟ เร่ง Dunlord เดินหน้าไปข้างๆราชาและมองไปยังกำแพงสูงของวังกระดูกสีดำ ด้านบนกำแพงนั้นมีการเคลื่อนไหว อันเดตเดินขึ้นลงไปมาตามหอคอย นักเวทย์และนักธนูนั้นได้เล็งอาวุธเตรียมพร้อมที่จะโจมตี


เดฟ เงยหน้าขึ้นมองกำแพงที่ทำขึ้นจากกระดูกสีดำและสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีหน่วยอันเดตที่มีอาวุธเข้าโจมตีกำแพงเลย


ราชายกดาบในมือขึ้นแล้วตะโกนออกมา – ” พังประตูซะ ! “


ปากของ เดฟ อ้ากว้าง ราชาไม่ควรที่จะสั่งแบบนั้น มันจะถือเป็นการเอาตัวไปตาย !


เพื่อตอบรับคำสั่งของราชา Dagla ได้เหวี่ยงคทาเรียกวงเวทย์มาตรงหน้าตัวเองก่อนที่จะมีลำแสงที่ถูกยิงออกจากวงเวทย์ไปที่ประตูทำลายโล่กันบังให้กลายเป็นฝุ่น


แต่ Black Skull Order นั้นไม่ใช่ว่าจะเอาชนะได้ง่ายๆ ทรายระเบิดขึ้นมาจากตรงหน้ากำแพงพร้อมกับงูหินขนาดเท่ากับรถไฟโผล่มาจากใต้ดินและพุ่งเข้าใส่กองทัพอันเดต


เดฟ ได้ทำการตรวจสอบพวกมันดู


***


[Níðhöggr]


เลเวล : 600


ระดับ : Mythic


ความอันตราย : ☠☠☠☠


HP : 2,500,000


ดาเมจ : 300,000-350,000


ลดดาเมจ : 150,000


ดูดซับเวทย์ : 150,000


สกิล :


{Sand Storm : เรียกพายุทรายขึ้นมาป้องกันการโจมตีที่ไม่ใช่เวทย์ทั้งหมด พายุนี้จะลดดาเมจเวทย์ที่เข้ามา 20%}


{Quicksand : เปลี่ยนพื้นที่รอบๆตัวให้กลายเป็นทรายเพื่อลดความเร็วในการเคลื่อนที่ ถ้าเป้าหมายถูกทรายดูด เป้ามายจะถูกกำจัด }


{Sand Burial : ส่งคลื่นทรายโจมตีเป้าหมายทำดาเมจ 200% }


คำอธิบาย: Níðhöggr เป็นปรสิตที่กินรากของโลก สิ่งมีชีวิตพวกนี้เติบโตขึ้นมาอยู่ในร่างที่สมบูรณ์จาก Jurmongand


***


” นี่น่าจะเป็นปัญหา ” – เดฟ พึมพำ


” ฮาฮา !นายคิดว่าอันเดตจะมีเพียงแค่ทหารอันเดตพวกนี้รึไง ? ” – Samael พูดขึ้น


” Dagla เรียกพวกนั้นออกมา ” – ราชาพูดขึ้น เขาไม่ได้คิดว่า Níðhöggr เป็นภัยเลย Dagla ยิ้มด้วยความดีใจตอนที่ได้ยินคำสั่งนั้น


” Kis’shtingbrah นายกำลังจะได้เห็นเหตุผลว่าทำไมกองทัพอันเดตของเราถึงได้น่ากลัวนักและเหตุผลว่าทำไม Ash King ถึงไม่กล้าพอที่จะโจมตีเรา”


เสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้น มันเหมือนว่าจะดังขึ้นมาจากทั่วทุกที่ เสียงนี้แย่ยิ่งกว่าการเอาเล็บกรีดกระดานดำ เดฟ รู้สึกขนลุกและปวดหัวจนถึงกับต้องกุมขมับ


มิติถูกฉีกออกและมีมือขนาดเท่ากับปืนใหญ่โผล่ออกมาและจับเข้าไปที่ส่วนมิติที่ฉีกขาด กรงเล็บยาวได้โผล่มาจากอุ้งมือที่มีขนสีแดง


สิ่งมีชีวิตนั้นได้ดึงตัวเองผ่านรูมิติได้ก่อนจะแสดงความสูงที่เท่ากับกำแพงวังแต่มันดูผอมแห้ง ขนของมันนั้นแนบชิดติดกระดูก กระดูกซี่โครงและสันหลังนั้นเผยออกมาอย่างชัดเจนและมันเหมือนกับไม่มีอวัยวะภายในเลย มีเขากวางโผล่มาจากหัวของหมาป่า มีฟันที่เรียงรายระเกะระกะราวกับนิ้วที่คว้าจับบางอย่าง กลิ่นเหม็นคาวนั้นแผ่ออกมากวาดไปทั่วราวกับกลิ่นนี้มาจากโรงเชือด


สิ่งมีชีวิตนี้ได้กรีดร้องออกมาแล้วฉีกมิติให้เปิดกว้างออกอีกเพื่อให้พวกของตัวเองผ่านรอยฉีกมิตินี้มาได้


เดฟ ได้ตรวจสอบมันทันที


***


[Wendigo]


เลเวล : 660


ระดับ : Mythic


ความอันตราย : เป็นพันธมิตร


HP : 3,000,000


ดาเมจ : 300,000-350,000


ลดดาเมจ : 200,000


ดูดซับเวทย์ : 200,000


สกิล :


{Beast Roar : ลดเกราะของเป้าหมาย 20% และสร้างความกลัวขึ้นมา การโจมตีจากมันหลังจากที่ใช้สกิลนี้จะทำดาเมจเป็นสองเท่า }


{Voracity : กินเครื่องในของสิ่งมีชีวิตอื่นที่มันฆ่าเพิ่มเลือด 10% }


{Rupture : ใช้กรงเล็บตะปบเข้าใส่เป้าหมายทำดาเมจโดยตรง 100% ถ้าเป้าหมายตกอยู่ภายใต้ผลของความกลัวจาก {Beast Roar} งั้นสกิลนี้จะกำจัดเป้าหมายทันที }


คำอธิบาย : มันถูกสร้างขึ้นมาจากวิญญาณที่บิดเบี้ยวของสัตว์ที่ดุร้ายซึ่งครั้งหนึ่งเคยทรมานและอดตาย หลังจากที่ตายไปวิญญาณของมันได้สร้างร่างอันน่ากลัวนี้ขึ้นมา มันคือสัตว์ร้าย


***


มอนเตอร์สองกลุ่มพุ่งเข้าหากันและเข้าปะทะกันจนพื้นดินสั่นสะเทือน Níðhöggr ได้รัดเข้าที่อกของ Wendigo Wendigo เงยหน้าขึ้นแล้วกรีดร้องเสียงแหลมออกมาซึ่งได้ทำให้งูนั้นคลายตัวเปิดโอกาสให้มันฟาดอุ้งมือขนาดใหญ่เข้าใส่งู กรงเล็บนั้นเฉือนผ่านหินจนเกิดรอยแผลลึกขึ้นมา งูนั้นพลิกตัวและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด Wendigo อีกตัวเข้ามาแล้วคำรามใส่มันก่อนจะใช้กรงเล็บตะปบเข้าที่หัวของงูที่ได้รับบาดเจ็บและฟาดมันลงกับพื้น หมาป่าได้ใช้แขนฟาดเข้าใส่งูอีกครั้งจนเกิดรอยร้าวขึ้นมาที่ตัวงู


การต่อสู้นี้เหมือนกับการยำฝ่ายเดียว Wendigo เริ่มที่จะกัดงูผ่านผิวหนังที่เหมือนกับหินจนมีเลือดกระจายออกมาทั่วทุกที่ Wendigo ที่ได้ลิ้มรสเลือดของงูไปแล้วนั้นดูคลั่งยิ่งกว่าเดิมจนแรงและความเร็วที่มันมีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


ราวกับว่าการคลั่งของ Wendigo นั้นเป็นสัญญาณ ราชาได้ยกดาบขึ้นมาแล้วตะโกนขึ้น – ” ไป ! จัดการประตู ! “


อันเดตนับร้อยได้โผล่มาที่หน้าประตูนั้น ส่วนมากแล้วจะใส่เกราะของ Death Knight ที่ดูคล้ายกับของดินแดนอันเดตแต่มันมีหัวกะโหลกสีดำอยู่ที่ส่วนอก


อันเดตทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันที่หน้าประตูของวังกระดูกดำ


เดฟ คึกขึ้นมา เขาอยากที่จะไปสู้ด้วย


แม้ว่าสายตาของราชาจะจับจ้องอยู่ที่การต่อสู้แต่เขาก็ยังเห็นท่าทีลนลานของดาร์กที่อยู่ข้างกาย


” เด็กน้อย รอเวลา พวกนั้นคงมีลูกไม้อีกเยอะก่อนที่วันนี้จะจบลง “


ราชาหันไปหา Samael – ” กองกำลังภาคพื้นดินเข้าโจมตี ไปหาลูกสาวของเรามาและพาเธอกลับมาให้เรา “


Samael พยักหน้าตอบกลับก่อนจะหายตัวไป


” นายส่ง Samael ไปคนเดียวเลยเหรอ ? “


” อย่าห่วง Samael ห่วงตัวเองดีกว่า เราส่งเขาไปคนเดียวได้เพราะเขาเร็วที่สุดในดินแดนอันเดตและถือว่าหายตัวได้ เขาจะช่วยลูกสาวของฉันได้โดยที่พวกนั้นไม่รู้เลยว่าเธอโดนพาตัวออกมาแล้ว “


ในตอนที่การต่อสู้ที่ประตูวังนั้นระอุขึ้นนั้นก็ได้มีร่างขนาดใหญ่ได้พุ่งออกมาจากการต่อสู้โจมตีเข้าใส่อันเดตโดยไม่สนว่าเป็นมิตรรึศัตรู ตัวตนนั้นมันคือเผ่าพันธุ์ยักษ์ !


Chapter 191 : การลงมือของเดฟ


ขวานขนาดใหญ่วางพาดที่ไหล่ของยักษ์ เขาใส่กระโปรง,ไหล่และหมวกที่มีเขาเหล็ก ที่อกเขานั้นมีรูขนาดใหญ่ ในรูนั้นมีคริสตัลสีดำที่รัดด้วยโซ่มัดไว้กับอกของยักษ์


” ยักษ์ปนเปื้อนอีกตัว ! “


[Anti Bully] ของ เดฟ เริ่มส่องแสง Drahma กำลังมาแต่ราชาโบกมือและแสงจากเพชรนั่นก็ได้หายไปทันที


” Drahma ไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะยักษ์ตัวนี้ได้ ” – ราชาพูดขึ้นอย่างใจเย็น เขาโบกมืออีกครั้งและมีกองทรายพูนขึ้นมาก่อนจะเผยให้เห็นถึงอัศวินซึ่งโดนโซ่ล่ามเอาไว้ เดฟ จำอัศวินคนนี้ได้ Dog เคยจะปลุกอีกฝ่ายขึ้นมาและเกือบจะเป็นภัยต่อทีม อัศวินคนนี้ทรงพลังมากกว่า เดฟ มาก และไม่คิดจะยอมอ่อนข้อแม้แต่ตอนที่ราชาปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อใช้กฎแห่งอันเดตกับอัศวินคนนี้


” Kalel ครั้งนี้ได้เวลาพิสูจน์ตัวเองแล้วว่านายรับใช้ใคร ? ! “


” ฉันรับใช้ราชาแห่งความตายตั้งแต่นี้และตลอดไป ! ” – อัศวินตอบกลับด้วยท่าทีจริงใจ


ราชาพยักหน้าแล้วสั่งการออกมา – ” ฆ่ายักษ์นั่น อัศวินของราชา “


อัศวินเกราะขาวได้ทำความเคารพก่อนที่โซ่ที่ล่ามตามตัวได้ตกลงกับพื้นปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ จากนั้นอัศวินก็พุ่งเข้าใส่ยักษ์ตัวนั้น


” ทำไมนายถึงได้อยากฆ่ายักษ์ตัวนั้น ? เปลี่ยนเขาเป็นอันเดตของเราเหมือนกับ Kalel ไม่ได้เหรอ ? “


ราชาส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น – ” Kalel นั้นบ้าคลั่งแต่เขาไม่ใช่อันเดตที่ปนเปื้อน ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยในการทำลายความคิดของเขาและบังคับให้เขารับใช้เราแต่ความคิดและวิญญาณของยักษ์นั่นปนเปื้อนไปแล้ว ยักษ์นั่นรู้จักแค่การทำลายและความบ้าคลั่ง เราคงเมตตาให้กับ Drahma แล้วกับการที่ไม่ต้องเห็นเผ่าของตัวเองโดนทรมานและปนเปื้อนแบบนี้ ตอนที่ยักษ์นั่นถูกจัดการไป นายเข้าร่วมการต่อสู้เลยก็ได้ “


เดฟ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่นานเขาก็จะได้เข้าร่วมการต่อสู้ เขาจะได้ xp จำนวนมากจากการต่อสู้ซึ่งเพียงพอจะเลเวลเพิ่มขึ้นอีกหลายเลเวล ดังนั้นเขาจึงตั้งตารอ


Kalel เดินเข้าไปราวกับผีที่บ้าคลั่งผ่านฝูงอันเดตไป เขาหลบการโจมตีที่เข้ามาแล้วสะบัดพวกอันเดตที่กำลังสู้อยู่รอบตัวทิ้ง เขาถึงกับกระโดดข้ามฝูงอันเดตกลุ่มใหญ่ตีลังกาในอากาศอยู่หลายรอบ เขาเคลื่อนที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีพลาดเลยแม้แต่น้อย ยักษ์นั้นเห็นอันเดตเกราะขาวเข้ามาจึงได้เหวี่ยงขวานเข้าใส่อีกฝ่ายคิดจะผ่าอีกฝ่ายเป็นสองส่วน Kalel ดูเหมือนว่าจะหายไปชั่วขณะหนึ่งและขวานนั้นก็ได้สับเข้าใส่พื้นทราย Kalel ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งบนตัวขวานและวิ่งรวดเร็วดั่งกับแสงขึ้นไปที่ไหล่ของยักษ์ ยักษ์ได้ใช้มืออีกข้างตบใส่ Kalel แต่อัศวินเกราะขาวไม่ได้อยู่ในจุดที่มือนั้นตบลงไป สุดท้ายแล้วอัศวินก็เต้นไปรอบส่วนคอของยักษ์แล้วเหวี่ยงดาบเข้าใส่ตาของยักษ์ เลือดและของเหลวพุ่งกระจายออกมาโดยรอบพร้อมกับที่ยักษ์ต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด


Kalel ตีลังกากลับหลังถอยออกจากยักษ์ก่อนจะลงมายืนที่พื้น เขาไม่ได้หยุดนิ่งและพุ่งเข้าใส่ยักษ์ต่อด้วยดาบที่ฟันเฉือนเข้าใส่ตามข้อเท้าของยักษ์


ยักษ์ไม่อาจจะควบคุมขาตัวเองได้ก่อนจะล้มก้นจ้ำเบ้า


ในตอนที่ Kalel พุ่งกลับเข้าไปเพื่อฆ่ายักษ์นั้น เขาก็ได้หลบการโจมตีที่เข้ามาจากอันเดตตัวอื่นแล้วฟันเข้าใส่หัวของอันเดตที่โจมตีเข้ามา เขาวิ่งไต่อกของยักษ์เพื่อพุ่งเข้าใส่เพชรที่ฝังไว้ที่อก เขาหยุดไปชั่วขณะเพื่อปรับท่าก่อนจะโจมตีเข้าใส่เพชรนั่น


การโจมตีนี้ทำให้แสงสีดำระเบิดออกมา ยักษ์กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตายไปอย่างแท้จริง


เดฟ อึ้งกับความแข็งแกร่งของอัศวิน จากตอนที่อัศวินเกราะขาวได้ออกจากข้างกายราชาไปจนถึงการตายของยักษ์นั้นกินเวลาไม่ถึงนาที


” ฉันไม่คู่ควร ” – เขากระซิบตอนที่กลับมายืนอยู่ข้างราชาโดยไม่อยากที่จะคุกเข่า


” ไม่เลว ” – ราชาพูดขึ้นมาแล้วหันไปหา เดฟ – ” ไปได้แล้ว ได้เวลาแล้ว สู้เพื่อชัยชนะ ! “


เดฟ กลืนน้ำลาย หลังจากที่อัศวินได้แสดงทักษะออกมาเขาก็รู้ว่าเขาไม่อาจจะเอาชนะอีกฝ่ายได้


เดฟ ได้นำทีมของเขาผ่านประตูเข้าไปในวัง Death Knight ของอันเดตได้ทำการฆ่าพวกที่คอยปกป้องวังแห่งนี้ทิ้ง พวกลูกน้องของกะโหลกดำนั้นยังคงต่อสู้พร้อมกับถอยเข้าไปในวังลึกเข้าเรื่อยๆ


ด้านนอกวังกระดูกนั้นราชาได้มองไปยังเหล่าอันเดตที่เดินหน้าผ่านการป้องกันของพวกกะโหลกดำเข้าไป


Weddigo ได้ร่วมมือกับกองกำลังหลักในการบุกเข้าไปในวัง พวกนั้นได้พลิกความสมดุลในการต่อสู้ให้ฝ่ายอันเดตได้เปรียบ


ราชาพูดขึ้นมาเบาๆกับพื้นที่ที่อยู่ข้างกายก่อนจะมีโครงกระดูกขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา – ” ให้ฉันรับใช้อะไรดี ?”


” นายจำดาร์กที่ปล่อยนายออกจาก Storm Ladyrinth ได้รึเปล่า ?” – ราชาถาม


” ฉันไม่มีทางลืม ” – โครงกระดูกตอบกลับ


” ไปดูแลเขาจากเงา ช่วยเขาหากเขาตกอยู่ในอันตราย “


” ได้ตามต้องการ ” – โครงกระดูกนั้นโค้งให้ก่อนที่จะหายตัวไป


ราชามองดูการต่อสู้ด้วยท่าทีใจเย็น คนของเขาคืออันเดตที่จะลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้ สิ่งเดียวที่เขากังวลคือลูกสาวของเขาที่เป็นมนุษย์


Dagla ได้พา Doom Knight หลายตัวเดินหน้าพร้อมกับร่ายเวทย์เล็งเข้าใส่พวกนักเวทย์และนักธนูของอีกฝ่ายในหอคอย


ปรากฏว่าเวทย์ของ Dagla นั้นไม่ใช่แค่เพียงทำลายประตูหลักด้านนอกแต่ยังทำลายประตูหลักที่นำเข้าไปสู่วังด้านในด้วย ระหว่างประตูทั้งสองนั้นคือสวนที่มีอันเดตกะโหลกดำนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเพื่อป้องอันเดตที่บุกเข้ามา ถัดจากอันเดตกะโหลกดำเหล่านั้นคือประตูที่ถูกเปิดออกแล้ว


Kalel พุ่งออกมาจากประตูส่วนนอกทำการฆ่าศัตรูที่กำลังถอย เขาหยุดตอนที่อยู่ใกล้กับแนวป้องกันของอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่ามีนักเวทย์เลเวล 500 เดินออกมาจากประตูด้านใน เมื่อเห็นอีกฝ่าย Kelel ก็พุ่งเข้าใส่นักเวทย์ตั้งใจที่จะฆ่าทิ้ง


นักเวทย์ได้เหวี่ยงคทาก่อนจะมีคลื่นพลังสีดำครอบคลุมเหล่าอันเดตเอาไว้


[ คำสาปแห่งความอ่อนแอ !


ลดดาเมจ,ความเร็วในการเคลื่อนที่, ความเร็วในการโจมตีและเกราะ 20% เป็นเวลา 60 วินาที ]


Dagla ฮึดฮัดออกมาด้วยความไม่พอใจและบินขึ้นไปในอากาศ ชุดของเขาสะบัดไปตามแรงลม ลิซได้ยกคทากะโหลกของตัวเองขึ้นและเริ่มร่ายเวทย์


” บทเพลงอันขมขื่นเพื่อภาระในชีวิตที่หมดสิ้นไป แสงและชีวิตที่ตกลงสู่ความมืดมิด ความคิด,แรงและความกล้าดำดิ่ง ชะตาของยมทูตเพื่อทุกคน ! “


คำสาปของพวกกะโหลกดำนั้นหายไปทันทีโดยคลื่นพลังงานสีดำที่แผ่ออกไปทั่ววังราวกับคลื่นผ่านไปยังอันเดตต่างๆเพื่อเพิ่มพลังให้กับพันธมิตรและทำให้ศัตรูนั้นอ่อนแอลง


***


ในฐานะพันธมิตรและสมาชิกของดินแดนอันเดตคุณได้รับการอวยพรจากบทเพลงแห่งความตายของ Dagla


คุณได้เพิ่มคุณสมบัติเหล่านี้เป็นการชั่วคราว :


การฟื้นฟูเลือด 200%


ดาเมจกายภาพและเวทย์ 10%


ดาเมจที่ได้รับลดลง 5%


ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเคลื่อนที่เข้าหาศัตรู


เพิ่มดาเมจที่ทำต่อคู่ศัตรูที่ได้รับผลจากบทเพลงแห่งความตาย 10%


มีโอกาส 10% ที่จะฟื้นคืนชีพทันทีหากโดนฆ่า


พวกที่ไม่ใช่พันธมิตรและศัตรูจะได้รับผลดังนี้ :


ดาเมจที่ได้รับเพิ่มขึ้น 5%


ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ 10%


ลดการฟื้นฟูเลือด 20%


เป็นเวลา 180 วินาที


***


Kalel สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วดึงพลังความมืดที่ Dagla ให้มาเข้าหาตัว มันราวกับว่าเขาสูดพิษเขาไป ตาของเขาได้แสดงความหงุดหงิดออกมาและพุ่งเข้าใส่นักเวทย์ด้วยความหงุดหงิด


เดฟ ได้ใช้ {Spectral Skull} ทำลายอันเดตกะโหลกดำ 3 ตัวและตะโกนขึ้นมา – “ตาม Kalel ไป ! “


เขาได้ให้ Stinger ฝ่าฝูงอันเดตเข้าไปโดยมีลูกน้องตามไปด้านหลัง Dog ได้จุดไฟขึ้นที่แส้กระดูกของเขา Spark ได้ร่ายเวทย์และมีลูกไฟพุ่งออกจากมือโจมตีเข้าใส่ศัตรู


เดฟ ได้ใช้ {Aura} และทำการนำทัพ


มนุษย์แมงป่องนั้นเดินฝ่าอันเดตเลเวลต่ำบดขยี้ศัตรูตามทาง เดฟ ได้สลับมือทำท่านินจาก่อนจะใช้ {Dragon Ball} ทำลายฝูงอันเดตด้านหน้าไป


Bud ได้กลายเป็นควันดำและโผล่ขึ้นด้านหลังของศัตรู ผีดิบนั้นได้ใช้เขี้ยวของมันฉีกคอของศัตรูไปครึ่งหนึ่งจนมีของเหลวสีดำไหลออกมาจากแผล


พาราดินอยู่ทางปีกของศัตรูและร่ายเวทย์ฟื้นฟูเข้าใส่เพื่อทำดาเมจใส่ พรีสตามด้วยการฮีลแบบเป็นพื้นที่ลดจำนวนศัตรูได้เป็นจำนวนมาก


เดฟ ได้โดดลงจากหลัง Stinger และใช้ {Dragon Kick} พุ่งเข้าใส่อันเดตเลเวล 200 ราวกับกระสุน มังกรไฟก่อตัวขึ้นด้านหลังเขากลืนกันเหล่าศัตรูรอบๆไปหลายตัว


เดฟ ได้วิ่งไปหาอันเดตอีกกลุ่มแล้วใช้ {Approaching Dragon} โผล่มบนหัวของศัตรูที่เขาโจมตี เขาอยู่ใจกลางกลุ่มของศัตรูตอนที่สกิลหมดเวลาลง ดังนั้นเขาจึงหมุนตัวด้วยการใช้ {Infernal Tornado} ระเบิดศัตรูที่เหลือจนกลายเป็นเศษแสงไป


นักรบถือคทาเลเวล 400 เห็นความบ้าคลั่งของ เดฟ และได้มุ่งหน้าเข้ามาหาเขา เดฟ เห็นอีกฝ่ายที่โดดเข้ามาบนหัวเขา เขาได้ใช้ {Vertical Slash} หลบการโจมตีที่ฟาดเข้ามา


เขาได้ตะโกนขึ้น – ” Dunlord ! ยิง ! “


Dunlord ทั้งหมดได้ทำการยิงหน้าไม้ทั้งหมดพร้อมกันเปลี่ยนอันเดตเลเวล 400 นั้นให้กลายเป็นซาก


Kalel ได้ฝ่าเข้าไปในอันเดตระดับสูงของอีกฝ่ายและเข้าถึงประตูส่วนใน เมื่อพบว่าไม่มีศัตรูให้ฆ่าต่อเขาก็ได้เดินเข้าปในวังเพื่อหาศัตรูที่คู่ควรกับความแข็งแกร่งของเขา


” บัดซบเอ้ย อัศวินนี่โกงไปแล้ว ! ” – เดฟ สงสัยว่าเขาจะตาม Kalel ไปรึรออยู่ที่นี่เพื่อเก็บเลเวลเพิ่ม


” เหี้ยเอ้ย ! ” – เดฟ สบถออกมา เขายืนลูบหนวดตัวเองพร้อมกับปัดเถ้าที่เปื้อนตามตัว ตอนนั้นเองก็มีโซ่ทีมีลูกตุ้มขนาดใหญ่ได้ฟาดลงมาที่ เดฟ


ในตอนที่ เดฟ กำลังจะใช้ {Bastion} นั้น Death Knight คนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาและกันการโจมตีจากลูกตุ้มนั้นด้วยโล่


Death Knight นี้สูงกว่าเขาถึงสองเท่า ตามเกราะของ Death Knight นี้มีเถ้าเปรอะไปทั่ว


” ฉันบอกนายแล้ว ฉันคอยระวังให้นายตลอด ! ” – อีกฝ่ายยิ้ม


” Matalan ! “


” กำลังสู้อยู่อย่าวอกแวก อย่าลดการป้องกัน เอาล่ะ มาจัดการพวกนี้กันเถอะ “


Matalan พุ่งเข้าใส่อันเดตแมมมอธจนทำให้อีกฝ่ายเซ เดฟ พุ่งออกมาจากด้านหลัง Matalan แล้วโดดข้ามอีกฝ่ายต่อยเข้าใส่แมมมอธแต่มันไม่ได้สร้างดาเมจอะไร เดฟ ได้ลงไปยืนด้านหลังแมมมอธพร้อมกับ Matalan ที่เฉือนเปิดรอยแผลที่ท้องของแมมมอธจนมีของเหลวสีดำไหลออกมา


เดฟ ใช้ {Rising Dragon} ต่อยทำลายกรามของศัตรูทิ้ง แมมมอธโกรธขึ้นมาแล้วใช้งวงของมันวนรอบตัว เดฟ เดฟ โค้งตัวราวกับในหนังเพื่อหลบงวงที่พุ่งเข้ามา เขารู้สึกได้ถึงแรงลมที่พัดผ่านไปก่อนจะดีดตัวขึ้นมาเพื่อโจมตีตอบโต้


Matalan สลับการจับดาบในมือราวกับถือมีดแล้วแทงเข้าใส่ที่อกของแมมมอธจนทะลุถึงหัวใจ Matalan ลากดาบลงจนเฉือนอกของแมมมอธลงมาเรื่อยๆ แมมมอธได้ตายไปพร้อมกับเลือดและเครื่องในที่ไหลออกมา


” ไม่เลว ! ฉันจะไปแนวหน้า นายอยู่กับฉันแล้วก็ระวังตัวด้วย Kis’shtingbrah “


ในตอนที่ Matalan พูดจบ เดฟ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อเขา


” Kis’shtingbrah หยุด ! ” – Samael ได้ปรากฏตัวขึ้นมาใกล้ๆอุ้มเจ้าหญิงที่ไม่ได้สติ


” ออกจากปราสาทได้แล้ว ! ” – Samael ตะโกนขึ้นก่อนจะหายตัวไป


Matalan คิ้วขมวดแต่ก็ยังหันกลับแล้วเดินถอยออกมาจากการต่อสู้


ในตอนที่ เดฟ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็เห็น Kalel วิ่งออกมาจากประตูวังด้วยความเร็วสูง อัศวินนั้นไม่ได้สนใจศัตรูและทำเพียงแค่วิ่งออกมาจากประตูหลักเท่านั้น


ตอนนั้นเองก็มีแตรที่ด้านนอกดังขึ้น


กองทัพอันเดตเริ่มถอยกลับ การถอยนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีอันเดตเลยสักตัวที่ตื่นตระหนก พวกที่อ่อนแอที่สุดได้ออกมาจากประตูวังส่วนนอกก่อนโดยมี Doom Knight คอยประคองสถานการณ์กันไม่ให้ศัตรูเข้าโจมตีพวกที่กำลังถอยอยู่


Chapter 192 : พิรุธ


” Dunlord ลงใต้ดิน ! ทุกคนถอย ! ” – เดฟ สั่งการให้ถอยและรีบกลับไปหา Stinger หลังจากที่เขาโดดขึ้นหลังแล้วเขาจะสั่งให้ทำการหนีด้วยการกระจายตัวออกจากที่นั่น


ในตอนที่ เดฟ กำลังหนีนั้นวังด้านหลังของเขาก็สั่นไหว มีหนวดปิศาจคล้ายหนวดปลาหมึกโผล่ขึ้นมาตามกำแพงของวังแล้วพุ่งเข้าใส่เหล่าอันเดตกะโหลกดำ เมื่อไหร่ก็ตามที่หนวดนั่นสัมผัสกับอันเดตกะโหลกดำมันจะทำการดูดกลืนพวกนั้นเอาไว้แล้วเพิ่มขนาดของหนวดขึ้นไปอีก


” เหี้ยแล้วไงล่ะ ! ” – เดฟ สบถออกมา


หนวดเริ่มโผล่มาตามกำแพงมากขึ้นเลื่อยๆ กลืนกินเหล่าอันเดตและเริ่มขยายตัวขึ้นไปอีก


หนวดเส้นหนึ่งได้พุ่งมาทาง เดฟ


เดฟ แน่นิ่งไป {Vertical Slash} ยังคูลดาวน์อยู่และ {Bastion} ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ Stinger ยังคงวิ่งเขามาหาเขาแต่ Dunlord นั้นคงมาไม่ทัน


ก่อนที่หนวดนั่นจะสัมผัสตัว เดฟ มันก็ได้หยุดกลางอากาศ มีโครงกระดูกยักษ์ปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังเขาจับหนวดนั่นเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างกันไม่ให้มันโจมตีต่อ


” ไป ดาร์ก ! ” – โครงกระดูกนั้นพูดขึ้น


มันคือ Gashadokuro เดฟ รู้ทันทีและรีบวิ่งไปหา Stinger เขาตะโกนขอบคุณโครงกระดูกก่อนจะโดดขึ้นหลัง Stinger ไป


” ไป ! “


Stinger หันกลับแล้วโดดเพื่อหลบหนวดอีกอันที่พุ่งเข้ามา ขาทั้งหกของเขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วราวกับมีเครื่องจักรติดเอาไว้ เดฟ หันกลับไปดูและพบว่าโครงกระดูกนั้นกำลังยื้อหนวดนั้นไว้อยู่คอยฉีกหนวดนั้นออกจากกันจนมีเลือดสีดำกระจายออกมา Gashadokuro โยนเศษหนวดในมือทิ้งก่อนจะที่หายตัวไป


หนวดเริ่มโผล่มาจากกำแพงมากขึ้นเรื่อยๆ วังเริ่มจะถล่มลงเผยให้เห็นโครงกระดูกขนาดใหญ่ มันคือหัวกะโหลกสีแดงขนาดใหญ่ หนวดนั้นงอกออกมาจากปากและตาของมัน หัวกะโหลกนั่นได้กินอันเดตในวังทั้งหมดไปและแม้แต่พวกของดินแดนอันเดตที่โชคร้ายที่หนีไม่ทันด้วย


[Blood Skull Devourer]


เลเวล : 700


ระดับ : Lesser Infernal


ความอันตราย : ตายแน่นอน


HP : 13,000,000


ดาเมจ : 1,300,000-1,550,000


ลดดาเมจ : 1,200,000


ดูดซับเวทย์ : 1,200,000


สกิล :


{Insatiable: ตอนที่หนวดสัมผัสกับเป้าหมายที่เลเวลต่ำกว่ามัน 100 เลเวล เหยื่อจะถูกกำจัดทันทีและกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมันช่วยให้มันแข็งแกร่งขึ้น }


คำอธิบาย : Black Skull Order ได้สร้างสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ขึ้นมา พวกมันขับเคลื่อนด้วยความโหดร้ายเกลียดชังสิ่งมีชีวิตทั้งหมดด้วยความหิวของตน Blood Skulls Devourers นั้นไม่มีทางที่จะหยุดความหิวโหย


***


กำแพงรอบวังเริ่มแตกออกจากกัน หัวกะโหลกนั้นใช้หนวดของมันเคลื่อนที่ไปมาเพื่อกลืนกินทุกอย่างที่จับได้ ราชายังคงนั่งอยู่บนหลังม้าอย่างใจเย็น ข้างๆราชานั้นคืออัศวินเกราะขาวและ Samael ที่กำลังอุ้มเจ้าหญิงอยู่


ตอนที่ เดฟ มาถึงที่นั่น ราชาก็ได้ยิ้มให้กับเขา


” คิดยังไงกับการต่อสู้ครั้งแรกให้กับดินแดนอันเดต ? “


” น่าตื่นเต้นดี ” – เดฟ ยิ้ม – ” แต่เราจะทำยังไงกับมัน ? “


เดฟ ชี้ไปที่ยักษ์ที่กำลังเข้ามา แม้แต่ Wendigo ก็ยังต้องถอยออกมา


” นั่นเป็นหน้าที่ของฉัน อยู่ตรงนี้เถอะ “


ราชาได้มุ่งหน้าออกไปและค่อยๆผ่านอันเดตที่หนีออกมาพุ่งเข้าใส่หัวกะโหลก กองทัพอันเดตหันกลับไปมองรอคอยราชาของตนที่จะกำจัดสัตว์ประหลาดนั่น


เมฆดำเริ่มรวมตัวกันบนท้องฟ้าเพิ่มขนาดขึ้นจนสนามรบนั้นมืดมิดราวกับค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ ลมเริ่มหมดไปและความเงียบก็เข้าปกคลุมสนามรบ ราชายกดาบในมือขึ้นก่อนจะสับลงมาสร้างเส้นพลังสีดำพุ่งเข้าใส่หัวกะโหลก พลังงานนี้พุ่งออกไปเป็นเส้นตรงมุ่งหน้าไปยังวังกระดูกดำโดยไม่สนว่าจะมีอะไรต้านทาน


หัวกะโหลกนั้นหยุด ทุกคนถึงกับกลั้นหายใจสงสัยว่าการโจมตีนี้จะสร้างความเสียหายให้มันได้หรือไม่ ไม่นานครึ่งหนึ่งของหัวกะโหลกก็ได้ร่วงออกจากกัน ครึ่งหนึ่งตกลงไปที่พื้นทราย อีกครั้งนั้นตั้งอยู่กับที่โดยมีเลือดสีดำไหลออกมาบนพื้นทรายสีทอง


พื้นดินสั่นไหวอยู่นาน ทรายกระจายออกมารากับเป็นน้ำตก หัวกะโหลกที่เหลือนั้นโดนตัดออกเป็นสองส่วนค่อยๆร่วงหล่นออกจากกันโดยไม่มีวี่แววให้เห็นถึงวัง, มอนเตอร์รึการต่อสู้อีกต่อไป การมีอยู่ของพวก Black Skull Order ได้ถูกลบออกจากโลกนี้ไปแล้ว


เดฟ มองไปที่ราชาแล้วคิ้วขมวด ‘ บ้าเอ้ย ! ราชานี่โกงไปรึเปล่าวะ ? ‘


***


ในห้องสีขาวสักที่ในส่วนเซิฟเวอร์เกม ชายแก่ในชุดพ่อบ้านได้มองไปยังหน้าจอถึงเหตุการณ์หนึ่งที่ในที่สุดก็จบลง แก้มเขากระตุกอย่างต่อเนื่องแล้วมองดูการพูดคุยกันระหว่างสองตัวตนบนหน้าจอ


จอนั้นได้แสดงถึงห้องโถงนรกซึ่งทำขึ้นมาจากหินไฟและเสาหลายต้นที่ละลายตัวลงมา บัลลังก์หินภูเขาไฟนั้นตั้งไว้อยู่ที่ปลายห้อง


เดฟ คงรู้ทันทีถ้าได้เห็นว่าคนที่นั่งอยู่ที่บัลลังก์นั้นคือ Ash King ที่พื้นตรงหน้านั้นมีชายแก่หลังค่อมชุดเขียวถือไม้เท้ายืนอยู่ หน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่นและมีโหนกแก้มที่เด่นชัดข้างๆจมูก


ชายแก่ส่งแก้วที่เต็มไปด้วยเลือดให้กับ Ash King ดู


” นายท่าน ” – ชายแก่พูดขึ้น – ” ตามที่เราตกลงกันไว้ก่อนแล้ว นี่คือส่วนผสมสุดท้ายที่ทางโบสถ์จะช่วยท่าน “


Ash King โบกมือพร้อมกับแก้วที่ลอยเข้ามาในมือ


” ยอดเยี่ยม ! และไม่ต้องกังวลไป Vreek ฉันอาจจะปกครองปิศาจแต่ฉันไม่ได้มีนิสัยชั่วร้ายอะไร นายจะได้ปกครองดินแดนอันเดตหลังจากเรื่องทั้งหมดจบลงแต่นายมั่นใจนะว่าคนของนายจะรอดจากการทำลายหัวใจแห่งความตายได้ ? “


” ใช่ ฉันได้แทนที่คำสาปของหัวใจในตัวสมาชิกคนอื่นๆแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ได้ส่งผลอะไรเมื่อหัวใจนั่นโดนทำลาย มีแค่ดินแดนอันเดตเท่านั้นที่จะได้รับผล “


” บางทีแผนของเราอาจจะสำเร็จ ตอนนี้นายต้องการความช่วยเหลือของเราในการต่อต้านอันเดตที่สำนักงานนายรึเปล่า ? “


” ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ พวกที่ตายไปในทะเลทรายนั้นคือพวกเสียสละที่จำเป็นให้กับราชาอันเดตตายใจ เวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีดินแดนอันเดตคือตอนที่พวกนั้นเชื่อว่าเราพินาศไปแล้ว พวกนั้นจะระวังตัวกันน้อยลงซึ่งเปิดโอกาสให้เราได้สร้างความแปลกใจเมื่อบุกเข้าไปที่นั่น ” – ชายแก่หลังค่อมยิ้มแล้วพูดขึ้นมา


” ชั่วร้ายเช่นเคย ราชาอันเดตไม่ควรเป็นศัตรูกับนายเลย ” – Ash King พูดขึ้น


” นั่นถือว่าเป็นคำชม “


ชายแก่ในชุดทักซิโด้ปิดจอส่วนนั้นหลังจากที่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาวางแผนเอาไว้ เขาได้ลบบันทึกของเกมในส่วนการสนทนาระหว่าง Vreek กับ Ash King ทิ้งเพื่อให้มั่นใจว่าคนของดินแดนอันเดตจะไม่รู้เรื่องนี้


เบาะแสทั้งหมดของการกระทำของ NPC ระหว่างตอนที่เจ้าหญิงโดนลักพาตัวจาก Moria ก็ถูกลบทิ้งจากบันทึกเช่นกัน การต่อสู้ทั้งหมดของอันเดตกับพวกกะโหลกดำในทะเลทรายทางใต้นั้นก็ถูกซ่อนไว้จากระบบ


‘ ถ้าไม่มีบันทึกของการต่อสู้และเหตุการณ์ต่างๆ คนออกแบบก็จะไม่รู้ถึงการควบคุมของฉัน มันคงหลอกพวกนั้นไปตลอดไม่ได้แต่มันก็ยื้อเวลาได้นานพอที่แผนของฉันจะได้ผล จากนั้นทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่ความสมดุลอีกครั้ง ‘


ตาของชายแก่พร่ามัวไปชั่วขณะ เสียงแปลกๆดังขึ้นมาในห้อง ตอนแรกมันเบาแต่ก็ดังขึ้นจนสุดท้ายก็ได้ยิน มันคือเสียงหัวเราะของพ่อบ้านคนนี้นี่เอง


***


***


เควส A Call for Help เสร็จสิ้น !


xp +5,000,000


คะแนน +2,500,000


ชื่อเสียง +500


***


” โอ้ สวย ! เลเวล 300 ! และยังมีคะแนนอีก ! ” – เดฟ ตื่นเต้น – ” ฉันซื้อของจาก Dikenz ได้มากกว่าเดิมแล้ว ฉันหวังว่าส่วนลดนั่นจะยังมีอยู่นะ ฮี่ฮี่ “


ราชาอันเดตเก็บดาบก่อนจะมุ่งหน้ากลับมาหากองทัพอันเดต


” วันนี้เราชนะ ! ” – ราชาตะโกนขึ้นพร้อมกับอันเดตที่โห่ร้อง – ” อันเดต พวกกะโหลกดำไม่มีตัวตนอยู่แล้ว ! ตอนนี้เรากลับไปบ้านได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องระแวงพวกนั้นอีก ! “


ราชาโบกมือก่อนจะมีน้ำวนสีดำปรากฏขึ้นมา ราชาพาม้าเดินผ่านเข้าไป Abyssal Knight หลายคนเดินเข้าไปตามก่อนจะเป็นกองทัพที่เดินตามไปท้ายสุด


ตอนที่สมาชิกสุดท้ายของอันเดตได้เดินผ่านน้ำวนน้ำไป น้ำวนนั้นก็ได้หายไปจากทะเลทรายก่อนที่จะไม่มีวี่แววของอันเดตอีกเลยสักตัวพร้อมกับลมที่กลับมาพัดดังเดิม


เดฟ วางแผนที่จะถ่ายวิดีโอในการต่อสู้นี้ CNN คงอยากได้มันไปฉายในตอนที่อันเดตบุกโจมตีเต็มกำลัง มันจะเปิดมุมมองให้กับผู้เล่นถึงความแข็งแกร่งของดินแดนอันเดต พวกที่เรียกว่ากิลด์ใหญ่จะต้องคิดทบทวนอีกรอบก่อนจะเริ่มสงครามกับอันเดต


เดฟ ได้วาร์ปกลับมายังดินแดนอันเดต เขาคิดที่จะล็อคเอาท์และพักผ่อน เขาเล่นเกมมานานแล้ว เขาเริ่มเล่นตั้งแต่เควสของ โซว์ จนมาถึงการต่อสู้กับพวกกะโหลกดำแต่เขาหยุดไปตอนที่มีความคิดบางอย่างโผล่เข้ามาในหัว ‘ ตอนที่เราสู้ตะกี้ ฉันไม่ได้เห็นพวกสมาชิกระดับสูงเลย Drahma เคยพูดถึงเรื่องหนึ่งในพวกระดับสูงที่ชื่อ Vreek รึว่าสมาชิกระดับสูงของมันหนีจากสำนักงานไปตอนที่อันเดตเข้าโจมตี ? ‘ ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวของ เดฟ เขาเริ่มวิเคราะห์การต่อสู้ต่อทันที


‘Jura บอกว่าพวกนั้นตกลงกับ Ash King และโบสถ์ ทำไมถึงไม่มีใครมาช่วยพวกนั้นเลย ? แม้ว่าจะไม่มาช่วยพวกนั้นแต่ทำไมเราถึงได้เอาชนะได้ง่ายแบบนี้ ? ‘


‘ ฉันสงสัยว่าหัวกะโหลกแดงนั้นแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าพวกสมาชิกระดับสูงทุกคนของพวกกะโหลกดำได้รึเปล่า หัวกะโหลกนั่นอาจจะมีกลไกระเบิดตัวเองหากสำนักงานนั้นพินาศไป แล้วทำไมพวกหัวกะโหลกดำถึงได้ลักพาตัวเจ้าหญิงไปด้วย ? ทำไมไม่ฆ่าเธอเลย ? ‘


คำถามยังโผล่มาเรื่อยๆและเขาก็ไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจเลยสักคำถาม เดฟ เริ่มอึดอัด บางอย่างกำลังเกิดขึ้นแต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร


เขาได้ไปที่วังกระดูก เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปเขาก็ได้เดินขึ้นบันไดเดินไปยังห้องโถงแล้วยืนอยู่ตรงหน้าราชา


Samael, Dagla และ Dementi ก็อยู่ในห้องนั้นด้วย เดฟ ยืนรออย่างอดทนและได้ยินเรื่องที่พวกเขาพูดถึงการต่อสู้เมื่อตะกี้ Dementi ได้บอกจำนวนที่อันเดตได้ฆ่าและจำนวนคนที่เสียไปอยู่


เดฟ ได้ยินพวกนั้นพูดถึงความเสียหายก่อนจะคิ้วขมวด หัวใจแห่งความตายควรที่จะชุบชีวิตพวกนั้นกลับขึ้นมาได้


ในตอนที่เขากำลังจะถาม Samael นั้น Dagla ก็พูดขึ้น – ” การโจมตีทำให้เราเสียคนไปเยอะ หัวใจแห่งความตายจะชุบชีวิตพวกนั้นแต่มันต้องใช้เวลานานกว่าปกติ พวกกะโหลกดำมีวิธีทำให้พลังของหัวใจทำงานช้าลง มันเป็นเรื่องดีที่เราทำลายพวกนั้นได้ก่อนที่พวกมันจะพัฒนาวิธีนี้ขึ้นมา “


” ดาร์ก มานี่ นายมีเรื่องอะไรถึงได้มาที่นี่ ? ” – ราชาเรียก เดฟ


” ราชา ฉันไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ได้ยินเรื่องที่ Lord Dagla พูดตะกี้ ฉันมีความกังวลบางอย่าง “


เดฟ บอกทั้งสี่คนถึงความคิดของเขา คำถามที่ไม่ได้คำตอบทั้งหมดที่เขามีในหัวและทุกอย่างที่น่าสงสัย


ทุกคนตั้งใจฟังที่ เดฟ พูด ความกังวลและอึดอัดนั้นไม่ได้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของอันเดต


ราชาได้พูดขึ้น – ” ก็จริง คำพูดของนายฟังดูเป็นจริง Dagla ตรวจสอบความคิดของลูกสาวฉัน ถ้าพบอะไรน่าสงสัยก็บอกเราทันที Samael นายไปที่ Pharaoh’s Tomb แล้วหาว่าทางโบสถ์ทำพิธีถึงไหนแล้วกลับมารายงานด้วย Dementi ฉันอยากให้ดินแดนอันเดตตื่นตัวและพร้อมสำหรับการต่อสู้ทันทีที่แจ้ง “


” การต่อสู้ ? ” – Dementi พูดขึ้น – ” เราจะบุกไปที่ Pharaoh’s Tomb งั้นเหรอ ? “


” ไม่ ฉันรู้สึกแปลกๆว่าจะมีสงคราม Ash King คงไม่ปล่อยโอกาสที่จะโจมตีถ้าเขาเชื่อว่าเราอ่อนแอ เขาอาจจะคิดว่าเรากำลังลดการป้องกันหลังจากที่ทำลายพวกกะโหลกดำไปแล้ว “


” ฉันรู้จัก Vreek เขาไม่ใช่คนที่ฉันหวังว่าเขาจะตายได้ง่ายๆ ความกังวลของ Kis’Shtiengbrah ยืนยันได้ด้วยข้อสงสัยของฉัน Vreek ฉลาดเกินไปที่จะเสียวังนั่นไปโดยไร้เหตุผลดีๆ ฉันสงสัยว่าทำไมพวกกะโหลกดำถึงได้ยอมเสียสำนักงานของตัวเองไป แจ้งไปทาง Undead Frontier กับ Red Fortress ให้ตื่นตัว เรียก Abyssal Knight ทั้งหมดที่ยังไม่มีงานมาและให้พวกเขาไปประจำที่นั่น “


เดฟ ขอตัวก่อนจะล็อคเอาท์ออกมาเพื่อกินข้าวแล้วไปนอน


เช้าต่อมา เดฟ ตื่นขึ้นเพราะเสียงโทรศัพท์ เขางัวเงียมองไปที่จอแล้วเอาโทรศัพท์แนบหู


” โซว์ มีอะไร ? “


” เดฟ พ่อกลับมาบ้านแล้ว จำได้มั้ย เขาต้องการเจอนายตอนมื้อเย็นพรุ่งนี้ “


” ใช่ ฉันจำได้ แล้วเควสเธอไปถึงไหนแล้ว ? “


” อั๊ก อย่าย้ำสิ ฉันต้องเก็บเลเวลอีกเยอะ ฉันต้องไปช่วยราชินีน้ำแข็งสร้างอาณาจักร ดังนั้นฉันเลยต้องวิ่งไปมาตลอด แล้วนายล่ะมีอะไรใหม่บ้าง ? “


” หือ เมื่อวานฉันช่วยราขาอันเดตทำสงครามกับพวกกะโหลกดำ “- เขาไม่คิดจะเก็บน้ำเสียงโอ้อวดของตัวเองเลย


” บ้าเอ้ย ทำไมนายไม่เรียกฉัน ? นายก็รู้นิว่าฉันต้องเพิ่มเลเวล ! “


” เธอบอกฉันว่ามีเควสต้องไปทำ…แต่เอาจริงๆนะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันเลยไม่มีโอกาสจะเรียกเธอ “


” อั๊ก ช่างเถอะ ส่งวิดีโอการต่อสู้มา ฉันอยากเห็นว่านายจะเหมือนฮีโร่แค่ไหน “


” ได้ ฉันจะคัดลอกตอนที่ส่งวิดีโอไปให้ CNN เดี๋ยวอีกไม่นานฉันจะล็อคอินกลับเข้าไป แล้วเจอกัน ! ” – เดฟ วางสาย


เขาโทรสั่งอาหารและรีบไปอาบน้ำก่อนจะออกมารอ ตอนที่เขากินเสร็จเขาก็ล็อคอินกลับเข้าไป


เขาโผล่มาในเมืองอันเดต ในตอนที่เดินไปตามเมืองเขาก็เห็นว่ามันรกร้างไม่มีอันเดตอยู่เลยสักตัว เขาคิดว่ามันแปลก


‘ อันเดตไม่เคยนอนแล้วพวกมันไปไหนกันหมด ? มันน่าจะมีใครเดินอยู่บ้างสิ มันอย่างกับเมืองผีเลย ‘


ในตอนที่ เดฟ กำลังจะฉีกคัมภีร์วาร์ปไปที่ Red Fortress นั้นก็ได้มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา


***


ดินแดนอันเดตตกอยู่ภายใต้การโจมตี !


เข้าร่วมการต่อสู้ !


Death Knigiht Kis’Shtiengbrah ตอนนี้อยู่ภายใต้คำสั่งของ Du’Rhaza


รายงานตัวที่พิกัด (-881,-666) เพื่อรับคำสั่งต่อ


คุณได้เข้าสู่สงครามดินแดน การล็อคเอาท์รึออกจากพื้นที่การต่อสู้จะถือว่าทรยศ


ผู้ทรยศจะต้องเข้าสอบสวนโดยดินแดนอันเดตสำหรับการบกพร่องต่อหน้าที่ การลงโทษนั้นรวมไปถึงการถูกขับไล่และตีตราว่าเป็นศัตรูของอันเดต


การตายในการต่อสู้จะบังคับให้ผู้เล่นออกจากเกม 72 ชม.


***


” เหี้ยอะไรวะเนี้ย ! โดนโจมตี ?” – เดฟ วิ่งออกไปให้เร็วที่สุดมุ่งหน้าไปตามพิกัดในแผนที่ ยิ่งเขาเข้าไปใกล้ตำแหน่งนั้นเท่าไหร่เสียงการต่อสู้ก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น การระเบิดและแสงพุ่งออกมาเหนือกำแพเมือง อันเดตนับพันยืนอยู่บนกำแพงเมืองคอยโจมตีศัตรูที่อยู่นอกเมือง


เดฟ ไปที่พิกัดบนแผนที่และพบว่า Du’Rhaza กำลังสั่งการพวก Death Knight ด้วยความหงุดหงิด


Matalan เองก็ยืนรับคำสั่งอยู่ด้วย


Du’Rhaza เห็น เดฟ แล้วตะโกนออกมา – “Kis’Shtiengbrah ในที่สุดนายก็มา ! เร็วเข้า ฉันมีภารกิจสำคัญให้นาย ! “


Chapter 193 : ลอบทำลาย


” ภารกิจสำคัญ ? เกิดอะไรขึ้น ?” – เดฟ ถามขึ้นมา


” เราประมาทความดื้อด้านของ Ash King เกินไป ราชาอันเดตได้สั่งการให้ Abyssal Knight 4 คนคอยประจำที่ Red Fortress และ Undead Frontier แต่ Ash Kins ได้ปิดทางวาร์ปด้วยเวทย์ตัดกองกำลังเราไปกว่าครึ่ง ตอนนี้เขากำลังเดินหน้ามาที่เมืองพร้อมกับกองทัพหลักของเขาและโจมตีดินแดนอันเดต เราต้องป้องกันเมืองเอาไว้จนกว่าประตูวาร์ปจะใช้การได้ “


” 3 วันในเวลาจริงๆ “


” นายต้องการให้ฉันทำอะไร ? “


” Ash King ได้เอาปืนใหญ่ที่เป็นอาวุธโจมตีเมืองมาด้วย ฉันต้องการให้นายทำลายปืนใหญ่สักอัน ระวังด้วย มันมีปิศาจจำนวนมากอยู่ใกล้ๆปืนใหญ่ ติดตั้ง [Frozen Soul] ใต้ปืนใหญ่แล้วรีบหนีออกมาให้เร็วที่สุด “


Du’Rhaza ส่งถุงที่เต็มไปด้วยระเบิดให้กับเขา


” แต่ฉันคงอยู่ได้ไม่ถึงนาทีถ้าไปที่แนวหลังที่เต็มไปด้วยศัตรู “


” อันเดตจะเปิดฉากการโจมตีเพื่อดึงความสนใจให้นายทำลายปืนใหญ่ พยายามรอดกลับมาให้ได้จนถึงตอนนั้น ถ้านายไปเจอกับ Sworn Stalwart ก็หนีเลย ! “


” พวกนั้นเอา Sworn Stalwart มาด้วยเหรอ ? ” – เดฟ แทบลนลาน มันไม่มีทางที่เขาจะสู้กับ Sworn Stalwart ได้ แม้ว่าเขาจะเคยฆ่ามันมาหนึ่งตัวแต่หลักๆแล้วเป็นเพราะความช่วยเหลือจาก Samael และโชค


Kis’Shtiengbrah ตอนที่เราเริ่มโจมตีสวนกลับ มันจะไม่มีพวก Stalwart ไปยุ่งกับนาย นายแค่สนใจกับภารกิจนาย Orn กับ Gale รอนายอยู่ด้านนอกกำแพงเมือง Matalan จะไปกับนายด้วย เพื่ออันเดต ! “


” ตามฉันมา Kis’Shtiengbrah ” – Matalan พูดขึ้น


ด้านนอกประตูเมืองนั้นมีอันเดตเป็นแสนตัวยืนอยู่เรียงกัน


ไกลออกไปนั้นมี Sworn Stalwart 2 ตัวซึ่งใส่เกราะและมีโซ่อยู่ด้านหลัง หอคอยที่สูงเสียดฟ้าพร้อมกับมีสัญลักษณ์สีทองประดับเอาไว้ ที่บนหอคอยนั้นมีลานเปิด ใจกลางลานนั้นมีบัลลังก์ขนาดใหญ่และมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านบน ร่างนั้นไกลเกินไปที่ เดฟ จะตรวจสอบได้แต่จากขนาดชื่อสีแดงแล้วมันได้บอกแล้วว่านั่นคือ Ash King


” นายเห็นนั่นมั้ย ? ” – Matalan ขัดขึ้นมา


เดฟ มองไปตามที่ Matalan ชี้แล้วพบกับปืนใหญ่ที่วางเรียงกันชี้มาที่กำแพงเมือง ขนาดลำกล้องนั้นมีขนาดใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่าปืนใหญ่ที่ เดฟ เคยเห็นมาทั้งหมด ลำกล้องของมันกลืนช้างได้ทั้งตัวและแต่ละกระบอกนั้นมี Sworn Stalwart คอยเฝ้าอยู่พร้อมกับปิศาจเป็นร้อยๆตัว


” จำไว้ ปืนใหญ่พวกนั้นคือเป้าหมาย เราจะเข้าร่วมการต่อสู้ที่แนวหน้าและตอนที่อันเดตพุ่งออกไป เราจะใช้โอกาสนั้นแทรกซึมผ่านศัตรูเข้าไปทำลายปืนใหญ่ Lord Orn กับ Lord Gale เตรียมพร้อมที่แนวหน้าแล้ว นายขี่ Dunlord ของนายออกไปแต่ทีมอันเดตของนายน่ะไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะปะทะด้วย พวกนั้นคงตายเปล่า ดังนั้นอย่าเอาพวกนั้นไปทำภารกิจด้วย “


” ฉันเอา Dunlord ที่เหลือไปด้วยได้รึเปล่า ? “


” จำนวน Dunlord ในกองทัพมีจำกัด Dunlord ตัวอื่นของนายน่ะถูกส่งให้ไปเป็นพาหนะของอันเดตตัวอื่นแต่นายเรียก Dullaha และกิ้งก่าของเขามาได้ เขาจะมีประโยชน์กับภารกิจนี้ “


เดฟ เรียก Stinger กับ Dog พร้อมกับกิ้งก่าออกมาก่อนจะโดดขึ้นหลัง Stinger แล้วสั่งออกมา – ” เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว ! “


เดฟ และ Matalan ได้เดินแหวกกองทัพส่วนหลังไป มันมี Death Knight , นักธนูและนักเวทย์ยืนอยู่ในทัพด้านหลังเตรียมพร้อมที่จะสลับที่กับแนวหน้าทดแทนกองกำลังที่เสียไปจากการโจมตี


Orn กับ Gale กำลังสู้อยู่กับพานหะปิศาจ พาหนะของปิศาจนั้นคือกิ้งก่าสองหัวขนาดเท่ากับแรดยักษ์ หัวหนึ่งของกิ้งก่านั้นปล่อยสายฟ้าออกมา ส่วนอีกหัวนั้นพ่นไฟออกมาราวกับเครื่องพ่นไฟ


เดฟ ได้ทำการตรวจสอบคนที่ขี่มัน


[General Ludwig(ปิศาจ)]


เลเวล : 550


ระดับ : Epic


ความอันตราย : ☠☠☠☠


HP : 1,450,000


ดาเมจ : 200,000-300,000


ลดดาเมจ : 120,000


ดูดซับเวทย์ : 120,000


สกิล : ???


คำอธิบาย : นายพลปิศาจของกองพลน้อย


การปะทะกันระหว่างนายพลปิศาจกับ Doom Knight ทั้งสองได้ทำให้พื้นที่รอบๆเปิดโล่ง อันเดตตัวอื่นๆกำลังรับมือกับปิศาจเพื่อช่วยพวกของตัวเอง


นายพลปิศาจได้ใช้ดาบที่มีไฟลุกไหม้ฟาดเข้าใส่ Orn Orn ก้าวออกไปข้างๆเพื่อหลบดาบก่อนจะพุ่งเข้าใส่ด้วยแรงมหาศาลดึงเอานายพลตกลงมาจากพาหนะ กิ้งก่าสองหัวนั้นพยายามที่จะปกป้องเจ้านายของตนแต่ Gale ได้เข้าโจมตีมันด้วยการฟาดดาบใหญ่ของเขาใส่ที่หลังของกิ้งก่า จากการฟาดนี้ทำให้หลังของมันหักและถึงกับทำให้พื้นนั้นเป็นหลุมขึ้นมา


ปิศาจด้านนอกพยายามฝ่าการป้องกันของ Death Knight ทั้งสามตัวเพื่อเข้าไปช่วยหัวหน้าของมัน ปิศาจไม่กี่ตัวที่ผ่านวงล้อมมาได้และพุ่งผ่านอันเดตเข้าไปในการต่อสู้นั้น Gale เห็นแบบนั้นจึงใช้ดาบของตนแทงเข้าใส่กิ้งก่า กล้ามที่แขนของเขาบวมเปล่งขึ้นมาแล้วยกกิ้งก่าโยนเข้าใส่พวกปิศาจที่วิ่งเข้ามาอย่างเต็มกำลัง กิ้งก่าชนเข้ากับพวกปิศาจอย่างกับลูกโบว์ลิ่งทำให้พวกนั้นกระเด็นออกไป Gale หันกลับไปช่วย Orn ต่อสู้กับนายพลปิศาจเปลี่ยนเป็นการต่อสู้แบบ 2-1


นายพลปิศาจพยายามที่จะป้องกันตัวจาก Doom Knight ทั้งสองแต่ก็ต้องล้มเหลว ปิศาจตัวอื่นพยามเข้าไปช่วยและดึงหัวหน้าออกมาจากการต่อสู้นั้นก็มีแต่จะตายเพิ่ม ไม่นาน Gale กับ Orn ก็ฆ่านายพลปิศาจนั่นได้


เดฟ มองไปรอบๆ มันมีการต่อสู้แบบนี้อยู่อีกมากมายแต่โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าอันเดตจะได้เปรียบซึ่งทำให้เขาคิดว่ามันเป็นเพราะที่นี่คือบ้านของพวกเขา หัวใจแห่งความตายจะทำการชุบชีวิตอันเดตขึ้นมาได้อย่างไม่สิ้นสุด ดังนั้นการสูญเสียของอันเดตนั้นจึงถือว่าเป็นศูนย์ แม้แต่ตอนที่อันเดตตาย พวกเขาก็ยังฟื้นคืนชีพแล้วกลับมาเข้าร่วมการต่อสู้ได้ทันทีและปิศาจนั้นก็มีแต่จะเสียคนของมันไปเรื่อยๆ


Chapter 194 : Oops! Sorry Not Sorry!


เดฟ รู้ว่าเหตุผลที่ Ash King ทำการโจมตีตอนนี้นั้นเป็นความลับ ไม่งั้นแล้วการโจมตีนี้คงถือว่าโง่เง่าและเอาชีวิตมาตายรึอย่างน้อย Ash King ก็ต้องมั่นใจว่าเขาจะชนะ


Gale เดินเข้ามาหาและทำความเคารพ เดฟ


” Lord Kis’Shtiengbrah ปืนใหญ่จะทำการโจมตีอีกในไม่ช้า เราต้องรีบไปหยุดพวกมัน “


” ฉันรู้ ” – เดฟ มองไปยังปืนใหญ่ที่ใกล้ที่สุด มันห่างประมาณ 1 สนามฟุตบอลโดยมีปิศาจยืนอัดกันเป็นฝูงและยังมี Sworn Stalwart คอยคุ้มกันปืนใหญ่ด้วย แม้ว่า Dunlord จะมุดลงใต้ดินแล้วผ่านปิศาจกับ Sworn Stalwart ไปได้แต่ตอนที่โผล่มาก็ต้องโดนจัดการอยู่ดี


Dunlord ตัวหนึ่งโผล่มาตรงหน้าพวกเขาและมี Death Knight ที่ขี่อยู่บนหลังมันได้ทำความเคารพให้กับ เดฟ แล้วพูดขึ้น – ” จะมีสัญญาณแตรเริ่มการลงมือในไม่ช้า พวกนายควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อม “


” เอาล่ะ Matalan, Gale, Orn ไปกันเถอะ ! Dog รออยู่นี่ นายมันเด่นเกินไปตอนอยู่บนหลังกิ้งก่า “


Dog ยักไหล่


” นายไปสู้กับแนวหน้าก็ได้แต่อย่าโดนฆ่า ถอยกลับมาถ้าตกอยู่ในอันตราย “


Dog พยักหน้าแล้วเดินทางออกไปมุ่งหน้าไปยังแนวหน้า


ไม่นานก็มีเสียงแตรดังขึ้นไปทั่วสนามรบซึ่งเป็นสัญญาณสำหรับการโจมตีของอันเดด


ทหารม้าอันเดตพากันขี่สัตว์อสูรวิ่งออกมาจากเมืองและพุ่งเข้าใส่พวกปิศาจ หมูป่าแต่ละตัวที่พวกเขาขี่นั้นราวกับรถถัง


คนขี่เองก็สวมเกราะหนักพร้อมกับมีหอกยาว ความเร็วของหมูป่านั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่พวกเขาไปถึงแนวหน้าพวกเขาก็ได้เข้าปะทะกับปิศาจทำลายเส้นทางบางส่วนของมันไป


ในตอนที่การพุ่งนี้จบลงแตรก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง แนวหลังของอันเดตนั้นได้ทำการจับกลุ่มเป็นขบวนทัพรูปสี่เหลี่ยม


เดฟ เริ่มสงสัยว่าทำไมประตูเมืองถึงได้เปิดช่องว่างไว้แบบนั้นแต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นมาจากภายในเมือง Wendigo เป็นพันๆตัวพุ่งออกมาจากประตูเมืองและโดดเข้าใส่แนวรบของปิศาจ


กลองเริ่มถูกตีขึ้นจากแคมป์ปิศาจเพื่อตอบรับการปรากฏตัวของ Wendigo Sworn Stalwart เดินหน้าจากแนวทัพปิศาจมุ่งหน้าเข้าหา Wendigo พวก Sworn Stalwart นั้นเลเวลสูงกว่า Wendigo แต่พวกมันไม่ได้มีจำนวนมากเท่าอีกฝ่าย


Sworn Stalwart ที่คุ้มกันปืนใหญ่ที่ เดฟ เล็งอยู่นั้นก็ถูกส่งไปช่วยเพื่อนตัวเองในการรับมือกับพวก Wendigo


” ได้เวลาแล้ว !” – Gale พูดขึ้นมา


” ไปทางใต้ดิน หวังว่าการที่ Sworn Stalwart สู้อยู่กับ Wendigo นั้นจะทำให้ไม่มีใครเห็นเรา “


Stinger มุดตัวลงไปโดยมี Matalan, Orn และ Gale ตามมาติดๆบนหลัง Dunlord ของตน


ทั้งสี่เดินหน้าเป็นเส้นตรงผ่านแนวป้องกันของปิศาจไป ปิศาจบางตัวเห็นพื้นดินสั่นไหวแต่นั่นไม่ใช่เวลาที่พวกมันจะมาตรวจสอบเรื่องนี้


Stinger โผล่มาที่พื้นหินข้างๆปืนใหญ่ ทีมปิศาจประจำปืนใหญ่กว่า 20 ตัวต่างก็ต้องช็อกกับการปรากฏตัวขึ้นมาของอันเดตใจกลางกลุ่มพวกมัน


จากนั้น Orn และ Gale ก็ได้พุ่งเข้าใส่ปิศาจฆ่ามันไปทันที Matalan ตาม เดฟ ที่มุ่งหน้าไปที่ปืนใหญ่ไป ปิศาจเลเวลกลางๆยืนอยู่ที่ด้านหลังปืนใหญ่คอยปรับมุมและเล็งไปที่กำแพงเมือง


เดฟ เหวี่ยงดาบของเขาเข้าที่หัวของปิศาจและ Matalan ได้แทงดาบเข้าที่อกของปิศาจเพื่อจัดการมัน


” วางระเบิด ฉันจะระวังให้เอง เร็วเข้า ! “


ระเบิดเริ่มดังขึ้นมาในสนามรบแต่มันไม่ใช่เสียงจากปืนใหญ่ที่ทำการยิงแต่เป็นปืนใหญ่ที่ถูกทำลายต่างหาก เหล็กของปืนใหญ่กระเด็นออกไปและฆ่าปิศาจรอบๆ


ความสับสนเริ่มเข้ากลืนกินพวกปิศาจ


เดฟ รีบวางระเบิดเข้าใส่ที่ปืนใหญ่ ในตอนที่เขากำลังจะจุดระเบิดนั้นก็เกิดความคิดบ้าๆขึ้นมา


เขายิ้มออกมาก่อนจะตะโกน – ” Orn Gale !ขอเวลสัก 20 วินาที ! Matalan มาช่วยฉันจัดการเรื่องนี้ด้วย ! ” – เดฟ พูดขึ้น


เดฟ ได้ผลักปากกระบอกปืนใหญ่โดยมี Matalan คอยช่วย พวกเขาค่อยๆปรับมุมชี้ไปยังตึกแห่งใหม่ซึ่งคือหอคอยของ Ash King เดฟ ยิ้มออกมาก่อนจะเอากระสุนใส่เข้าไปที่ปลายกระบอกและลูบปากกระบอกปืนด้วยความพอใจ


” กินนี่ซะ ไอ้บ้า ! “


ปืนใหญ่ส่องแสงสว่างจ้าออกมาพร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น ไม่นานยอดหอคอยก็ถูกเป่าระเบิดไป ทั้งลานด้านบนนั้นกลายเป็นเพียงแค่เศษคริสตัลที่ยังเปล่งแสง จากนั้นในกลุ่มควันบนยอดหอคอยก็ได้ถล่มลงไป ตอนนั้นเองทุกอย่างในสนามรบเข้าสู่ความเงียบมองไปยังหอคอยส่วนที่เหลือด้วยความช็อก


***


คุณได้ทำลายบัลลังก์สงครามของ Ash King ด้วยอาวุธของพวกมันเอง


กำลังใจของอันเดตเพิ่มาขึ้น


ใน 60 นาทีเหล่าอันเดตจะได้รับผลดังนี้ :


ความสามารถทั้งหมดเพิ่มดาเมจ 20%


คุณได้รับคะแนน 5,000,000 คะแนน


ฉายาใหม่ : เกียรติแห่งอันเดต


ชื่อเสียง +100


เควสระดับสูงอันใหม่ปลดล็อค !


***


” เหี้ย ! ” – เดฟ ไม่รู้เลยว่าความคิดบ้าๆของเขาจะได้รับรางวัลด้วย เขาไม่ได้ xp มาซึ่งมันก็ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ว่าเขาฆ่า Ash King ได้รึเปล่า อันเดตทุกตัวในสนามรบจะมีออร่าสีแดงซึ่งเป็นบัฟจากการกระทำของ เดฟ Orn กับ Gale กำลังสู้กับพวกปิศาจที่เฝ้าปืนใหญ่แต่พวกเขาต่อสู้ได้ดีกว่าเดิมจากความสำเร็จของ เดฟ


” ไปกันเถอะ ! ฉันจะระเบิดปืนใหญ่ !


Orn กับ Gale พยักหน้าแล้วจับปิศาจที่กำลังสู้อยู่ด้วยนั้นโยนมันเข้าใส่ปิศาจที่กำลังจะแห่เข้ามา จากนั้นพวกเขาก็ได้สั่งการให้ Dunlord ของตนมุดลงไปในดิน


ในตอนที่ เดฟ กำลังจะตามพวกนั้นไปก็เกิดไฟนรกระเบิดขึ้นมาจากหอคอยส่วนที่เหลือ Ash King นั้นได้แสดงการคงอยู่ของตนออกมาผ่านร่างที่แท้จริงซึ่งเป็นปิศาจที่ตัวใหญ่พอๆกับซากหอคอย ปิศาจที่มองมายังทิศทางของ เดฟ


Ash King หงุดหงิดกับการที่ปืนใหญ่ถูกทำลายและการที่มีดาร์กยืนอยู่ข้างๆมัน


” แกอีกแล้วเหรอ ? ไอ้อันเดตเฮงซวย ! ฉันจะทำลายแกและดินแดนของแก ! “


เดฟ กลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก – ” Stinger พวก รีบออกจากที่นี่ได้แล้ว ! “


Chapter 195 : จัดการ !


ออร่าจากไฟนรกนั้นคลอบคลุมร่างของ Ash King เอาไว้ เขาเดินเข้ามาหา เดฟ พวกปิศาจที่โชคร้ายที่ขวางทางต่างก็โดนเผากลายเป็นเถ้าทันที


” อ่ะ เหี้ยละ ! “- เดฟ สบถออกมาในตอนที่ Ash King เดินเข้ามาใกล้


ราชาปิศาจได้สร้างหอกไฟขึ้นมาแล้วแทงเข้าใส่ เดฟ ก่อนที่หอกนั้นจะโดนตัว เดฟ นั้นราชาอันเดตได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางหมู่ควันและเหวี่ยงดาบรับหอกที่เข้ามาปัดการโจมตีออกไป มันมีเสียงเหล็กปะทะดังก้องและคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจนทุกคนรู้สึกได้ ไฟและควันกระจายตัวออกมาจากอาวสุธและทั้งสองก็ได้มองหน้ากัน สุดท้ายราชาอันเดตก็ได้ปัดหอกของราชาปิศาจทิ้งก่อนจะฮึดฮัดใส่ราชาปิศาจที่ตัวใหญ่กว่า


” เลือกคนที่มีขนาดเท่ากันหน่อยสิไอ้ขยะ ! “


เดฟ มองเปรียบเทียบความสูงของตนเองกับราชาอันเดต ราชานั้นสูงกว่าเขาไม่เยอะแต่ราชาปิศาจน่ะสูงกว่าเป็นสิบเท่า


” ในที่สุด ! ในที่สุดแกก็ปรากฏตัวออกมาไอ้ขี้ขลาด ! ” – ราชาปิศาจพูดขึ้นพร้อมกับลาวาที่กระจายออกมาจากปากในทุกคำที่พูด


ราชาปิศาจได้เหวี่ยงหอกแทงเข้าใส่ราชาอันเดต ราชาอันเดตจับตัว เดฟ เอาไว้ก่อนจะกระโดดเตะหอกนั้นทิ้งแล้วชูนิ้วกลางให้กับราชาปิศาจก่อนจะหนีไป


อาวุธของราชาปิศาจนั้นแทงลึกเข้าไปที่พื้นก่อนจะระเบิดอกมา ลาวานั้นกระจายตัวออกมารอบหอกพร้อมกับรอยแตกที่แผ่อกอมาจากแรงกระแทก ราชาปิศาจได้เดินเข้าไปหยิบเอาวุธออกมาก่อนจะฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ


ราชาอันเดตหัวเราะอย่างพอใจพร้อมกับเอาตัวดาร์กคนโปรดหนีไปและยังเยาะเย้ยเขาอีกด้วยซึ่งนั่นทำให้ราชาปิศาจกลายเป็นตัวตลก


นี่บ่งบอกได้ว่านั้นโง่กว่า สุดท้ายเมื่อดึงหอกออกมาจากพื้น Ash King ก็ได้ไล่ตามราชาอันเดตไปพร้อมกับโยนหอกไฟเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยมือทั้งสองข้าง


ราชาอันเดตยังคงหัวเราะและหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย การโจมตีนั้นล้วนแต่ตกลงไปที่พวกปิศาจเอง นี่ยิ่งทำให้ Ash King โกรธยิ่งขึ้นอีก มันทำให้เขาเกือบบ้าและไล่ตามราชาอันเดตต่อพร้อมกับพ่นไฟออกมาจากปากด้วย เดฟ ถูกลากไปด้วยในตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นโดยไม่อาจจะทำอะไรได้เลย ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนเพราะอันตรายที่ตามมาด้านหลัง ราชาอันเดตกันการโจมตีอีกอันก่อนที่จะบินขึ้นไปที่ด้านหน้าของ Ash King ราชาปิศาจสูดหายใจก่อนจะพ่นลำแสงไฟเข้าใส่ศัตรู ราชาอันเดตเหวี่ยงดาบเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือไฟที่ยิงเข้ามานี้เพื่อป้องกันตัวเองและดาร์กน้อยของเขาสร้างวงเวทย์ขึ้นมารอบตัว ไฟของปิศาจอาบไปทั่ววงเวทย์นั้นอยู่นาน ตอนที่ไฟดับลงนั้นราชาปิศาจและดาร์กก็ยังคงลอยอยู่บนอากาศไม่ได้ขยับรึเป็นอันตรายแต่อย่างใด


ราชาอันเดตได้เหวี่ยงดาบฟาดลงมาและตัดเป็นแนวขวางเข้าที่ท้องของ Ash King ลาวานั้นไหลออกมาจากรอยตัดนั้นและยิ่งทำให้ราชาปิศาจต้องหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ราชาปิศาจได้ยกมือขึ้นเหนือหัวก่อนจะมีลูกไฟก่อตัวขึ้นมา ราชาปิศาจร้องคำรามออกมาก่อนจะโยนลูกไฟนั้นเข้าใส่ราชาอันเดต


” หึหึ แกนี่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยนะ นี่แหละเลยทำให้แกแพ้ง่ายๆ ” – เสียงของราชาอันเดตดังขึ้นมาจากด้านข้าง


สิ่งต่อมาที่ เดฟ รู้คือเขานอนอยู่ที่ไหนสักที่พร้อมรู้สึกมึนๆที่หัว พื้นดินนั้นขยับไม่ว่าเขาจะพยายามลุกขึ้นยังไงก็ตาม ตอนที่เขารวบรวมสติแล้วลุกขึ้นนั่งเขาก็พบว่าเขาอยู่ด้านบนของวังกระดูก เขาเห็นสนามรบทั้งหมดและฟังก์ชันการขยายภาพก็ยังใช้งานได้ด้วย เขาเงยหน้าขึ้นและพบคริสตัลสีดำที่ลอยอยู่ด้านบนค่อยๆหมุนวนไปช้าๆ เส้นพลังที่มีออร่าสีดำเล็กน้อยแผ่ไปทั่วทั้งเมือง มันคือหัวใจแห่งความตาย ด้านล่างมันนั้นคือหลังคาที่มีไข่มังกรสีดำอยู่


ไกลออกไปนั้นราชาปิศาจยังคงตะโกนออกมาอย่างกับคนบ้าคอยฆ่าปิศาจเพื่อให้พวกของตนยังคงเดินหน้าเพื่อสู้กับพวกอันเดต


” นายทำลายหลักการของการต่อสู้ตอนที่ยิงเข้าใส่บัลลังก์ของ Ash King จากด้านล่างเขาซึ่งทำให้เขาอับอายด้วยปืนใหญ่ของเขาเอง ” – ราชาอันเดตหัวเราะ – ” อันเดตของฉันหัวเราะท้องแข็งจนเกือบสู้ไม่ได้ เรื่องนี้น่ะจะกลายเป็นตำนาน นายทำได้ดี ดาร์กน้อย “


เดฟ ยิ้มออกมา – ” ขอบคุณ ราชา ! “


” อีกไม่นานกองทัพของเราก็จะเอาชนะกองทัพของ Ash King ได้อย่างเช่นเคย ถ้านายไปสู้ที่แนวหน้าอีก ราชาปิศาจนั่นจะมาจัดการกับนายด้วยตัวเอง ดังนั้นนายควรอยู่ที่แนวหลังจะดีกว่า “


เดฟ พยักหน้าตอบรับ เขาได้ xp มาเยอะจากการทำลายปืนใหญ่พร้อมกับผลตอบแทนอื่นๆที่ได้จาการยิงปืนใหญ่เข้าใส่หอคอยของราชาปิศาจ ดังนั้นการไม่เข้าร่วมการต่อสู้จากนี้ไปและการที่จะไม่ได้ xp เพิ่มนั้นก็ไม่ได้เสียหายเท่าไหร่


ที่ส่วนหนึ่งของสนามรบที่ซึ่ง Wendigo กำลังได้เปรียบพวก Sworn Stalwart เพราะ Wendigo นั้นได้เปรียบเรื่องจำนวน


” แตร ! ” – ราชาอันเดตตะโกนออกมา


แตรบนกำแพงเมืองได้ส่งเสียงออกมาทันที กองทัพอันเดตได้ยกโล่และดาบขึ้นก่อนจะเดินหน้า ทั้งกองทัพไม่นานก็เริ่มเดินหน้ากันเป็นจังหวะที่มั่นคงโดยแต่ละก้าวนั้นทำให้พื้นดินต้องสั่นสะเทือน


อันเดตเดินผ่าน Wendigo 4 ตัวที่ล้อมรอบ Sworn Stalwart ตัวหนึ่งซึ่งได้เข้าล้อมโจมตีมัน Sworn Stalwart นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายและแข็งแกร่ง ถึงแม้จะทำการล้อมมันไว้แต่มันก็ยังสร้างความเสียหายให้กับผู้โจมตีได้แต่จำนวนยังไงก็เอาชนะความกล้าได้ ไม่นาน Sworn Stalwart ก็ถูกฉีกแขนขาของมัน Wendigo เข้าไปกินศพเพื่อฟื้นฟูเลือดตัวเองก่อนจะเข้าไปร่วมมือกับพวกตัวเองในการเอาชนะ Sworn Stalwart ตัวอื่น ฉากนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสนามรบ


กองทัพนั้นหลีกเลี่ยงการต่อสู้ระหว่าง Wendigo และ Sworn Stalwart พวกเขามุ่งหน้าไปหาพวกกองทัพปิศาจอื่นแทน พวกเขาเริ่มทำการฆ่าปิศาจฝ่าไปเรื่อยๆโดยการเหวี่ยงอาวุธออกเป็นจังหวะและโจมตีได้อย่างแม่นยำจนฆ่าปิศาจได้หลายพันตัวในการโจมตีแต่ละครั้ง


หอคอยขนาดใหญ่หลายแห่งที่คล้ายกับหอคอยที่โดน เดฟ ทำลายได้โผล่ขึ้นมา พวกมันถูกดึงขึ้นมาโดย Sworn Stalwart ที่ค่อยๆปรากฏกายขึ้นในสนามรบ


” หอคอยโจมตี ” – ราชาอันเดตพูดขึ้น – ” มันเป็นเรื่องยากกับการป้องกันพวกมันถ้าพวกมันมาถึงกำแพงได้ “


เดฟ ลูบหนวดและมองไปยังฉากนั้น มีเพียงแค่ Wendigo ที่สามารถรับมือกับ Sworn Stalwart ได้แต่ Wendigo ทั้งหมดนั้นต่างก็ยังคงยุ่งอยู่ในสนามรบ จากนั้นความคิดหนึ่งก็โผล่มาในหัวและเขาก็ยิ้มออกมาเหมือนกับครั้งที่แล้ว


” ราชา ฉันมีความคิดดีๆ เราจะใช้ Dunlord สั่งพวกเขาให้ขุดทางใต้ดินด้านล่างเส้นทางของหอคอย ตอนที่หอคอยนั้นมาถึงโพรงเหล่านั้นแล้ว พวกมันจะหล่นลงไปในหลุมนั้นแทน “


” ความคิดดี ! ” – ราชาหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง


Doom Knight ตัวหนึ่งถูกเรียกตัวมาปรากฎตัวตรงหน้าราชาเพื่อรับคำสั่ง


เดฟ สามารถมองเห็นทั่วสนามรบ Dunlord เป็นแสนตัวได้มุดตัวลงกับพื้นก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางของหอคอย


ตอนที่พวกนั้นไปถึงหอคอย Dunlord ก็ได้ทำการล้อมรอบมันไว้จากใต้ดินราวกับกำลังล้อมเหยื่อเอาไว้ Sworn Stalwart ตัวหนึ่งเห็นพื้นดินที่ผิดปกติและได้ฟาดแขนข้างหนึ่งลงมา มันยังคงฟาดลงมาที่พื้นดินเรื่อยๆราวกับตีกลองแต่ก็ไม่ได้พบกับความสำเร็จแต่อย่างใด Dunlord ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วและรีบถอยกลับมา


ไม่นานล้อของหอคอยแรกนั้นก็หักไปเพราะโพรงที่พื้น ตามที่ เดฟ คาดเอาไว้ น้ำหนักของหอคอยนั้นทำให้พวกมันตกลงมาใต้ดินทันที


ราชายิ้มออกมากับความสำเร็จของกลยุทธใหม่นี้แต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม


เดฟ หันกลับไปมองตามสายตาของราชาเพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไร


Ash King เงียบไปสักพักแต่จากนั้นก็ได้หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง มิติข้างกายนั้นบิดเบี้ยวพร้อมกับมีชายแก่หลังค่อมโผล่มายืนข้างกายเขา


” Vreek ” – ราชาปิศาจพึมพำขึ้นมา


ชายแก่ใช้ไม้เท้าเคาะไปที่พื้นส่งคลื่นกระจายออกมาทั่วสนามรบ พื้นดินนั้นมีหนวดโผล่ขึ้นมานับไม่ถ้วนพร้อมกับหัวกะโหลกแดงขนาดใหญ่ที่โผล่มาจากใต้ดิน Devourer ได้มุ่งหน้าเข้าหากองทัพอันเดต หนวดของพกวมันนั้นกลืนกินทุกอย่างที่พวกมันสัมผัสได้


” Samael ! ” – ราชาพูดขึ้นก่อนที่ Abyssal Knight จะปรากฏตัวขึ้นมา


” ราชา ! “


” เอา Dementi กับ Dagla ไปจัดการกะโหลกพวกนั้นให้ฉัน “


” ได้ตามคำสั่ง ! ” – Samael ตอบกลับก่อนจะหายตัวไป


เดฟ สับสนว่าทำไมราชาถึงได้ส่ง Samael ไปสู้กับสิ่งที่เขาหนีมาตอนที่เข้าโจมตีวังกระดูกดำ


ควันสีดำเคลื่อนไหวผ่านสนามรบ เดฟ จำได้ว่านั่นคือร่างหนึ่งของ Samael ควันนั้นเคลื่อนที่ไปยังกะโหลกที่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะพุ่งทะลุมัน ไม่นานกะโหลกนั้นก็กลายเป็นแค่หัวกะโหลกที่แห้งเหือด


Dagla เหวี่ยงคทาของตนสร้างวงเวทย์ดำยิงคลื่นพลังเข้าใส่กะโหลกแดงผ่ามันออกจากกัน Dementi ได้ใช้ธนูกระดูกของเธอยิงธนูออกไปรวดเร็วราวกับปืนกลเปลี่ยนกะโหลกเหล่านั้นกลายเป็นรังผึ้ง


” ราชาอันเดต ! ” – ราชาปิศาจหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง เขาตะโกนขึ้นมาดังก้องไปทั่วสนามรบ – ” แกจะไม่เป็นปัญหาให้ฉันอีกต่อไป ! นี่เป็นวันสุดท้ายที่แกจะได้อยู่ในโลกนี้ แกจะกลายเป็นแค่ศพเน่าๆ ! “


ในตอนที่ Ash King หัวเราะนั้นก็มีแสงส่องประกายอาบไปทั่วเมืองอันเดต เดฟ ต้องก้มหน้าเพื่อหลบแสง ตอนที่แสงนั้นจางไปก็ได้มีเสียงโน๊ตดนตรีดังขึ้น เขาได้เงยหน้าขึ้นมองและพบกับบางอย่างที่ส่องแสงเป็นประกายลอยอยู่ด้านบนวังกระดูก

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม