Rise of The Undead Legion 175-181
Chapter 175 : ชายแก่ขี้หงุดหงิด
โซว์กับเดฟได้เดินขึ้นไปตามทางชันนั้นโดยมีเยติไล่ตามมาด้านหลัง
” ตรงนั้น ! ” – โซว์ชี้ไปที่รอยแตกบนกำแพงที่ใหญ่พอให้คนๆหนึ่งเข้าไปได้
พวกเขาเบียดตัวเข้าไปผ่านทางเข้าแล้วเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ
” นี่เป็นถ้ำน้ำแข็ง คนที่ฉันต้องการเจออยู่อีกด้านหนึ่ง ! ” – โซว์ดีใจขึ้นมา
เดฟหยุดแล้วหันกลับมา เขามองกลับไปที่ทางเข้า
” ทำไมนายถึงหยุดล่ะ เดฟ ? “
” ฉันอยากดูว่าเยติจะเข้ามาได้รึเปล่า “
” ทางเข้ามัรนเล็กเกินไปสำหรับพวกนั้น ” – โซว์พูดขึ้น
เยติตัวหนึ่งโผล่มาที่ทางเข้า มันบังแสงที่สาดเข้ามาแล้วคำราม มันเริ่มทำการทุบน้ำแข็งเพื่อขยายทางเข้า ทุกการโจมตีนั้นจะทำให้ทางเข้านั้นกว้างยิ่งขึ้น
ถ้ำนี้วางแนวเป็นเส้นตรง
” พวกนั้นจะเข้ามาได้ในอีกไม่นาน ไปกันเถอะ ฉันหวังว่าที่นี่จะมีทางออก ” – เดฟหันกลับมาแล้วพวกเขาก็พากันวิ่งเข้าไปในถ้ำกันต่อ
เสียงของแข็งปะทะกันดังขึ้นมาก้องไปทั่วทั้งถ้ำ
” พวกนั้นผ่านทางเข้ามาแล้ว ” – เดฟพูดขึ้นเบาๆ
ทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อจนมาพบกับจุดที่เหมือนกับทางตัน
” แล้วไงต่อ ?! ” – เดฟมองไปรอบๆโดยหวังว่าจะได้เจออะไรบ้าง
” เครื่องหมายมันอยู่บนเส้นทางนี้ ฉันไม่เห็นทางอื่นที่นำขึ้นไปด้านบนเลย ” – โซว์พูดขึ้นด้วยเสียงที่ดูกังวล
เสียงของเยติเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จากนั้นเดฟก็ได้กดมือไปที่กำแพงน้ำแข็ง
” ฉันคิดว่าฉันทำลายน้ำแข็งตรงนี้ได้ ถอยออกไปก่อน ” – เขาบอกกับโซว์
เดฟง้างหมัดแล้วต่อยลงไปที่น้ำแข็งไฟรูกรวยได้ปะทุออกมาแล้วอาบไปทั่วน้ำแข็งราวกับคลื่น เขาต่อยอีกครั้งจนเกิดรอยแตกขึ้นมาแต่มันก็ยังคงแข็งอยู่และเขาต้องโจมตีต่อเพื่อที่จะทำลายมัน เขาได้ใช้ {Aura} คลื่นไฟได้อาบไปทั่วน้ำแข็งและทำให้มันละลาย ไอน้ำระเบิดออกมาจากถ้ำน้ำแข็งและระบายลมร้อนออกไปที่ทางเข้า
เดฟยังคงต่อยไปที่กำแพงต่อ ทุกการโจมตีนั้นจะเกิดเสียงระเบิดก้องไปทั่วทั้งถ้ำ
” ซวยแล้ว ! เยติมาแล้ว ! ” – โซว์พูดขึ้น
เยจติสามตัวยังคงทะเลากันเองอยู่เพื่อให้ตัวเองผ่านมาจากช่องนั้นให้ได้ก่อน
” ฉันต้องการเวลาอีกสักหน่อย ! ” – เดฟตะโกน
โซว์ ได้ใช้ {Ice Shard Barrage} มือของเธอขยับอย่างรวดเร็วแล้วยิงธนูน้ำแข็งเข้าใส่เยติทำให้พวกมันช้าลงไป
เยติตัวหนึ่งหลุดออกมาได้แล้วใช้มือของมันปัดธนูที่พุ่งเข้ามาโจมตี
” บัดซบ ! ” – โซว์สบถออกมาและยิง {Ice Dome} เข้าใส่เยติเพื่อให้มันช้าลงไป
เดฟได้ใช้ {Infernal Tornado} และหมุนตัวก่อนที่หมัดของเขาจะทะลุกำแพงไปได้ การโจมตีแบบหมุนนั้นจบลง กำแพงได้พังลงไปแล้ว ไอน้ำได้ระเบิดออกไปในอีกด้าน ทางเดินใหม่ได้เปิดขึ้นมาเผยให้เห็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งโดยที่ใจกลางนั้นมีปล่องซึ่งมีควันลอยออกมา
” โซว์ ! ไปกันได้แล้ว ! ” – เดฟพูดขึ้น
ด้วยเส้นทางที่ถูกเปิดออกมา อุโมงค์นี้จริงเริ่มสั่นและไม่สามารถรับน้ำหนักไว้ได้อีก มันจะฝังพวกเขาเอาไว้ถ้าพวกเขาไม่หนีออกจากที่นั่น
” มาแล้ว ! “
เธอได้วิ่งผ่านเดฟแล้วออกจากถ้ำไป
เดฟตามหลังเธอไปก่อนจะหันกลับมาโบกมือ หัวกะโหลกสี่อันได้ปรากฏขึ้นมาลอยอยู่ภายในถ้ำเดิม ในที่สุดเยติก็หลุดจากโดมน้ำแข็งของโซว์มาได้และพุ่งตามมาพร้อมกับคำรามเมื่อเห็นเหยื่อที่กำลังหนี
เดฟยิ้มก่อนที่จะดีดนิ้วระเบิดหัวกะโหลก เขามองดูก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ฝังเยติไว้ในถ้ำนั้น
พวกเขาต่างก็เลเวลเพิ่มขึ้นกันทันที
โซว์ถึงกับหัวเราะ – ” สวย เดฟ แต่นายควรปิด {Aura} ของนายก่อน นายน่ะทำให้ทุกอย่างรอบตัวละลาย “
เดฟทำตามที่เธอบอก
” เกือบไปแล้ว ยังไงซะเธอควรให้เพื่อนสักคนยอมเสียสละตัวเองเพื่อทำให้หิมะถล่มเพื่อให้คนที่เหลือสามารถจัดการเยติได้และเธอก็จะไม่ได้ติดอยู่ที่จุดนี้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีก “
” นายพูดถูก ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อน “
” มันคือการเสียสละ โซว์ “
ตอนที่พวกเขาไปถึงประตู โซว์ก็ได้ทำการเคาะ
” ใคร ?ท” – เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านใน
” ฉันเป็นฮันเตอร์ ฉันได้ยินมาว่าคุณช่วยฉันทำบางอย่างได้ ” – โซว์ พูดขึ้น
” ฉันไม่มีเวลาให้เธอ ไปไกลๆซะ ! ” – เขาตอบกลับ
” ฉันมีชิ้นส่วนของ True Ice ” – โซว์พูดขึ้น
พวกเขาต่างก็ได้ยินเสียงเคลื่อนย้ายของบางอย่างและประตูที่เปิดออกมา
ชายแก่เปิดประตูออกมาโดยเขาใส่ชุดที่มีขนสัตว์เหมือนกับเอสกิโม มีหอกสามง่ามพาดไว้ที่หลังของเขา
” True Ice ! เอามาให้ฉันดูหน่อย ” – ชายแก่พูดขึ้น
โซว์ เอาคริสตัลที่รูปร่างเหมือนเพชรให้กับชายแก่ ชายแก่ถอดถุงมือแล้วจับมันไว้ในมือ
“มันคือ True Ice ! “
” เข้ามา เข้ามา ! ” – ชายแก่เชิญ โซว์ เข้ามาในห้องแต่เมื่อเห็นเดฟเขาก็ผงะแล้วล้มลงไป
” อะ…อันเดต ! อันเดตมาทำอะไรที่นี่ ! “
ชายแก่พยายามลุกขึ้นยืนแล้วดึงหอกออกมาเตรียมท่าป้องกัน
” เขาเป็นเพื่อนฉัน ! ” – โซว์พูดโดยไปยืนคั่นกลางระหว่างทั้งสองคน
ชายแก่ลดหอกลงไปเล็กน้อยแต่ก็ยังคงมองอย่างระมัดระวังมาที่เดฟ
” ราชินีน้ำแข็งนั้นเกลียดอันเดต ทำไมเธอถึงอยู่กับพวกนี้ ? ” – เขาถาม
” การมีเพื่อนเป็นอันเดตมันเกี่ยวอะไรกับราชินีน้ำแข็ง ? ” – โซว์พูดขึ้น
” ทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกับราชินีน้ำแข็ง ! เธอต้องการน้ำแข็งนี่เพื่อปลุกเธอจากการหลับใหลและมันก็เป็นอันเดตนี่แหละที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้น ! ” – ชายแก่พูดขึ้น
” งั้นเหรอ ? ” – เดฟ พูดขึ้น – ” ไม่ใช่ว่าราชินีน้ำแข็งของนายจับ Du’Rhaza ไปขังไว้แล้วค่อยๆลดพลังของเขา…ใครบอกกันว่าราชินีน้ำแข็งน่ะเป็นคนถูก ! ” – เดฟปกป้องอันเดต เขาเหลืออดกับการที่ผู้เล่นเกลียดเขาเพราะเผ่าของตัวละครและตอนนี้ก็ยังเป็น NPC อีก
” ไร้สาระ ! ราชินีของเราไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับอันเดต ! มันเป็นพวก Black Order ที่ขังเธอไว้ ! “
” เดี๋ยวนะ ! นายหมายถึง Black Skull Order งั้นเหรอ ? ” – เดฟถามชายแก่
” ใช่ พวกมัน พวกคนตายโสมม พวกมันหลอกราชินีของเราและขังเธอไว้ ตอนนี้เธออยู่ภายใต้เวทย์ซึ่งมีเพียง True Ice เท่านั้นที่จะปลดปล่อยเธอได้ “
” เธออยู่ไหน ? ” – โซว์ถาม
” เธอถูกขังไว้ใกล้ๆกับดันเจี้ยน มันเป็นดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ พวก Black Skull Order ได้ใช้ดันเจี้ยนนั้นเป็นฐานปฏิบัติการหลังจากที่จับราชินีของเราไป ฉันลองช่วยเธอมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ล้มเหลวและเกือบจะตายไปหลายรอบ ” – ชายแก่พูดด้วยความเศร้า
” ฉันได้เควสแล้ว เดฟ มันระดับ A “
” ฉันจะช่วยด้วย ไม่ต้องกังวล “
” ไม่ ! ” – ชายแก่ขัดขึ้นมา – ” ไม่มีอันเดตตัวไหนที่เข้าใกล้ราชินีฉันได้ ! เธอทนทุกข์มามากพอแล้ว ! “
” ใจเย็นๆน่าเพื่อน ฉันกำลังล่าพวก Black Skull Order อยู่ พวกมันหักหลังราชาอันเดตและฉันก็ได้รับคำสั่งมาให้กำจัดพวกมัน “
” งั้นฉันจะไปกับนายด้วย ถ้านายต้องการที่จะช่วยราชินี นายต้องการความรู้ในเรื่องพื้นที่และพลังของฉัน…และฉันก็ไม่เชื่อใจอันเดต “
” ตามใจละกัน “
” พร้อมรึยัง ? ” – ชายแก่ถามโซว์
โซว์หันกลับมาหาเดฟ – ” ฉันต้องพักผ่อน เราอยู่ในเกมมานานแล้ว “
” เธอพูดถูก “
” เรายังไม่พร้อม เราจะกลับมาแล้วไปกับคุณทีหลัง ” – โซว์บอกชายแก่อย่างสุภาพ
” ได้ งั้นฉันจะรออยู่ที่นี่ “
Chapter 176 : ช่วยเหลือ
เดฟล็อคเอาท์ออกมาจากเกมแล้วลุกขึ้นจากแคปซูลเพื่อมาแปรงฟัน เขานอนหลับอย่างกับเด็กในคืนนั้น ตอนที่ตื่นขึ้นมาจากเตียงที่แสนสบายแล้วเขาก็พบกับเพดานที่ดูไม่คุ้นเคยก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
” มันนานแล้วนะที่ฉันได้หลับสบายขนาดนี้ “
เดฟลุกขึ้นก่อนจะไปอาบน้ำแล้วสั่งอาหารก่อนจะโทรหาโซว์ หลังจากที่สายติดเพียงไม่กี่ครั้งความเงียบก็ได้ถูกทำลายลง
” ฮัลโหล ? “
” เฮ้ โซว์ ยังนอนอยู่รึเปล่า ? “
” ใช่ นี่กี่โมงแล้ว ? ” – เธอถาม
” 10 โมงเช้าแล้ว เราต้องไปทำเควสของเธอต่อ ! “
” ให้ฉันนอนต่ออีกหน่อย…”
” ฉันมีเรื่องอื่นต้องไปทำแต่ฉันยังติดอยู่ในนรกน้ำแข็งในเควสของเธอ “
เงียบบบบบ
” ได้ ขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงไปอาบน้ำแล้วก็กินข้าว จากนั้นฉันจะล็อคอินกลับเข้าไป “
” ฉันจะรอละกัน ” – เดฟวางสายก่อนจะล็อคอินกลับเข้าไปในเกม
ลมได้พัดผ่านร่างกายเขา ถ้าเขาไม่ใช่อันเดตเขาคงต้องขนลุกเพราะความหนาวเย็นนี้แน่ เดฟลูบหนวดของตัวเองอยู่สักพักแล้วมองไปรอบๆเพื่อตรวจสอบพื้นที่ กระท่อมของชายแก่นี้อยู่ใจกลางหุบเขา
เดฟได้เดินไปยังอุโมงค์ที่ถล่มที่พวกเขาเข้ามา เมื่อพบว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเขาก็เดินไปรอบๆจนพบกับทางที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ทางนี้ห่างจากอุโมงค์ไปแค่ไม่กี่เมตร เขาไม่พบกับทางอื่นที่นำออกจากที่นี่ เขาสรุปได้ว่านี่เป็นทางนำไปสู่ดันเจี้ยนตามที่ชายแก่บอกมา
ดาร์กลูบหนวดตัวเองแล้วตัดสินใจ เขาเดินตามทางนั้นลงไปอย่างระวัง เขาตรวจสอบทุกก้าวที่เดินเพื่อหากับดักและศัตรู หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีเดฟก็พบกับมอนสเตอร์ตัวแรก
หมาป่าเทาเหลืองที่มีชื่อเสียงกำลังหลับอยู่บนก้อนหิน มันมีขนาดใหญ่กว่าหมาป่าทั่วไปถึง 10 เท่า
ตอนที่เดฟเข้าไปในระยะความโกรธของมัน หมาป่าก็ได้ตื่นขึ้นและมองมาที่เขาด้วยท่าทีแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่มองเขาได้ไม่นานหมาป่าก็วางหัวของมันไว้ที่ขาตามเดิมแล้วทำการหลับต่อ
เดฟจึงได้ทำการตรวจสอบหมาป่า
[Amarok]
เลเวล : 450
ระดับความอันตราย : ปกติ
HP : ???
ดาเมจ : ???
ลดดาเมจ : ???
ดูดซับเวทย์ : ???
สกิล : ???
คำอธิบาย :
Amarok เป็นคู่หูของผู้นำที่แข็งแกร่งแต่โชคชะตาทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกันและหมาป่านี้ก็ยังรอคอยวันที่จะได้พบกับเพื่อนของตนเองอีกครั้ง
” น่าเศร้าแหะ…”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง
” ก็จริง “
เดฟหันกลับไปและพบว่ามันเป็นชายแก่คนเดิม
” Amarok เป็นเพื่อนของราชินี เขาเฝ้าทางเข้าดันเจี้ยนเอาไว้ตั้งแต่ที่เธอถูกเอาตัวไป ฉันเคยลองช่วยเธอมาแล้วแต่ฉันผ่านชั้นแรกของดันเจี้ยนไม่ได้ Black Skulll Order ได้จับตัวเธอไว้แล้วดึงพลังของเธอ มันมีสิ่งมีชีวิตมากมายที่ถูกขังไว้ด้านใน พวกนั้นอันตราย “
ตอนนั้นเดฟก็ได้รับโทรศัพท์
” เฮ้ เดฟ ! นายอยู่ไหน ? ” – เธอถามขึ้นมา
” เฮ้ โซว์ มันมีทางอยู่ข้างบนบ้าน เดินลงมาแล้วเธอจะเจอกับเรา “
” เรา ? “
” ใช่ มีชายแก่อยู่ที่นี่กับฉันด้วย “
” ได้ กำลังไป ! ” – โซว์ วางสายทันที
” ดาร์ก…ฉันไม่เชื่อใจนาย ” – ชายแก่พูดขึ้น – ” แต่ถ้านายอยากจะช่วยราชินีของฉันจริงๆ ฉันจะถือว่าติดหนี้นาย “
” ไม่ต้องคิดมากหรอก “
เดฟเห็นโซว์แล้วโบกมือให้กับเธอ โซว์เห็นหมาป่าก่อนที่จะหยุดนอกระยะความโกรธของมัน
” ทำไมมันถึงไม่โจมตี ? ” – โซว์ถาม
” มันเป็นมิตร เธอพร้อมรึยัง ? “
” อื้อ “
” เอาล่ะ ผู้เฒ่า ไปกันเถอะ “
พวกเขาเดินตามทางเดินไปพร้อมกับหมาป่าที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วมองไปที่ทั้งสาม มันนั่งลงก่อนที่จะหอนออกมา
” มันบอกให้เราโชคดี ” – ชายแก่พูดขึ้น
หลังจากนั้นสักพักชายแก่ก็ได้พูดขึ้น – ” รอที่นี่ หินน้ำแข้งนี่คือโกเล็มน้ำแข็ง เราต้องทำลายมัน “
ชายแก่ดึงเอาหอกออกมาจากหลังก่อนจะดึงที่ด้ามจับของมัน
หัวหอกสามง่ามโผล่ออกมาจากตัวหอกและด้ามที่ยืดออกมา
หัวหอกนั้นติดไฟด้วย
” โอ้ ไอเท็มชิ้นนี้เปลี่ยนร่างได้เหมือนกับ [Sword of Mercy] เลย…”
” [Sword of Mercy] ? นายรู้จักอาวุธของโรงงานได้ยังไง ? “
” เอ่อ…ฉันเจอมันที่ศพของคนๆหนึ่งในวังน้ำแข็ง…” – เดฟตอบกลับ
” งั้นเขาก็ตายแล้ว…ปกป้องอาวุธพวกนั้นไว้ดีๆ มันเป็นของเพื่อนรักฉัน “
” ได้ ” – เดฟกระแอมออกมาด้วยความอาย ผู้พิทักษ์ดันเจี้ยนวังน้ำแข็งตายเพราะเขาช่วย Du’Rhaza ฆ่าผู้พิทักษ์
” เอาล่ะ ใช้ไฟทำลายโกเล็ม เล็งไปที่แก่นของมัน เพราะไม่ว่ามันจะได้รับดาเมจแค่ไหนก็ตามหากแก่นไม่โดนทำลายมันก็ฟื้นตัวขึ้นได้ “
ชายแก่เดินเข้าไปใกล้ๆกินแล้วก้าวเข้าไปในระยะความโกรธก่อนที่หินจะสั่นแล้วเปลี่ยนเป็นหินรูปร่างมนุษย์กำยำสูงกว่าคนปกติสองเท่า
เดฟได้ทำการตรวจสอบโกเล็มทันที
[Ice Golem]
เลเวล : 250
HP : 250,000
ดาเมจ : 25,000-35,000
ลดดาเมจ : 1,000
ดูดซับเวทย์ : 15,000
สกิล :
{Ice Storm : โกเล็มน้ำแข็งปล่อยออร่าความเย็นออกมาลดการฟื้นฟูค่าแรงของศัตรูลง 1% ในทุกๆ 10 วินาที }
{Ice Spikes : โกเล็มฟาดมือขวาลงที่พื้นปล่อยน้ำแข็งออกมาในพื้นที่รูปกรวยทำดาเมจ 50%}
คำอธิบาย :
โกเล็มน้ำแข็งเป็นสิ่งมีชีวิตเวทย์มนต์ที่แข็งแกร่งในพื้นที่หนาวเย็น พวกมันต้านทานน้ำและเวทย์น้ำแข็งได้ทุกแบบแต่พวกมันอ่อนแอต่อไฟและการโจมตีโดยตรง
ถ้าพวกมันถูกทำลาย พวกมันสามารถฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาใหม่ได้หากมีเวลามากพอนอกซะจากว่าแก่นของมันถูกทำลาย
เดฟได้ใช้ {Stampede}
โกเล็มเห็นเดฟแล้วยกมือขนาดเท่ากับท่อนซุงขึ้นฟาดเข้าใส่เดฟ แต่ {Stampede} นั้นไม่ได้สนใจการสตันท์รึเกราะของอีกฝ่าย
ตอนที่ดาร์กได้ชนเข้ากับโกเล็ม ดาเมจสองอันก็โผล่ขึ้นมาบนหัวของทั้งคู่
[-36,888] นั้นโผล่มาบนหัวของโกเล็ม
ส่วนเดฟได้รับแจ้งเตือนว่าได้รับดาเมจ [-11,500]
โกเล็มมีรอยแตกไปทั่วทั้งตัวและเดฟก็พบกับแก่นสีดำขนาดเท่ากับหมดที่ใจกลางอกของโกเล็ม
มอนสเตอร์ตัวนี้ตกอยู่ภายใต้การสตันท์ 2 วินาทีและเดฟก็ได้ใช้โอกาสนั้น อย่างแรกเขาได้เหวี่ยงมือเรียกหัวกะโหลก 4 อันออกมาแล้วดีดนิ้วระเบิดมันเข้าที่อกของโกเล็มจนทำให้มันเซ จากนั้นเขาก็ได้ใช้ {Sword Lunge} สร้างดาบแสงขนาดใหญ่ฟันไปที่อกกับแก่นของโกเล็มแล้วถอยกลับมา
โกเล็มนั้นเซไปเพราะการโจมตีจากดาบ มันพยายามลึกขึ้นยืนก่อนที่ร่างน้ำแข็งของมันจะแตกออกจากกันพร้อมกับเศษแก่นที่แตกออกไปด้วย
เดฟเลเวลเพิ่มขึ้นตอนที่โกเล็มนั้นตาย
” ง่ายแหะ ” – เดฟพูดขึ้น
” นายโชคดี แก่นตัวนี้อยู่ที่อกของมัน บางครั้งก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น เอาล่ะ ไปกันต่อ ” -ชายแก่พูดขึ้น
เดฟเก็บของที่โกเล็มดรอปมาแล้วรีบเดินตามเอลฟ์กับชายแก่ไป
Chapter 177 : เดาสิว่าใครกลับมา
พวกเขาเดินตามทางไปรอบๆและสู้กับโกเล็มน้ำแข็งที่เจอ
หลังจากที่สู้กับโกเล็มตัวแรกมา เดฟก็คิดว่าโกเล็มนั้นฆ่าได้ง่ายและให้ xp เยอะ แต่เมื่อเขาสู้กับโกเล็มอีกตัวเพียงลำพัง มันก็ยากจนเหลือเชื่อที่จะหาแก่นของมัน ตอนนั้นเดฟก็โชคดีทำแขนมันแตกออกเผยให้เห็นแก่นที่ฝังไว้ด้านในได้แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำลายมันนั้นโกเล็มก็เปลี่ยนแก่นไปไว้ที่อื่นแล้วซ่อนมันไว้อีกครั้งซึ่งยื้อการต่อสู้นี้ให้นานออกไปอีก
สิ่งที่ทำให้เดฟหงุดหงิดมากที่สุดคือคำพูดของชายแก่ ทุกครั้งที่เดฟไม่อาจจะทำลายแก่นของเกเล็มได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ชายแก่ก็จะเริ่มเยาะเย้ยเขา เดฟเถียงไม่ได้เพราะชายแก่เพียงโจมตีครั้งรึสองครั้งก็ฆ่าโกเล็มได้แล้ว ตอนที่ชายแก่สู้นั้นเขาจะโดดขึ้นแล้วแทงหอกออกไปสองครั้ง การโจมตีครั้งแรกเพื่อทำลายน้ำแข็งที่ปกคลุมแก่นเอาไวและการโจมตีครั้งที่สองก็เพื่อทำลายมัน มันเหมือนกับชายแก่รู้ว่าแก่นนั้นอยู่ที่ไหน
ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าพวกเขาจะไปสุดทางเดินที่ซึ่งพวกเขาได้เห็นประตูเหล็กกันทางเอาไว้อยู่
” นี่คือทางเข้าดันเจี้ยน ” – ชายแก่พูดขึ้นมาเบาๆ
” แล้วยังไงต่อ ? เราจะเข้าไปยังไง ?” – เดฟถาม
ชายแก่ไม่ได้ตอบและค่อยๆเดินไปที่ประตู เขาก้มตัวลงแล้วใช้หอกแตะไปที่แท่งเหล็กอันหนึ่งที่ประตู ประตูนี้ได้ส่งเสียงเสียดสีกันแล้วดีดตัวขึ้น ชายแก่เดินเข้าไปพร้อมกับบอกพวกเขาให้เดินตามเข้าไปด้วย
[คุณได้พบดันเจี้ยนใหม่ : Frozen Abyssal
มอนสเตอร์ตัวแรกที่ถูกฆ่าในดันเจี้ยนจะดรอปของที่ดีที่สุด
xp ทั้งหมดเป็นสองเท่า 7 วันในดันเจี้ยน (เวลาในเกม) ]
” ของที่ยังไม่ได้ถูกแย่งไปกับดันเจี้ยนที่ยังไม่รู้จัก หายากแหะ ดันเจี้ยนส่วนมากอยู่ในพื้นที่เปิดซึ่งพวกกิลด์ใหญ่ยึดไปแล้ว ” – เดฟแปลกใจ
” นี่เป็นดันเจี้ยนแห่งความตาย เควสสืบทอดน่ะยังไงก็อันตราย เมื่อผู้ถือเควสทำเควสเสร็จแล้วบอสมันก็จะไม่เกิดอีก ” – โซว์พูดขึ้นแล้วเดินตามชายแก่ไป
ถัดจากประตูนั้นเป็นทางเดินหินยาว ในตอนที่พวกเขาเดินไปตามทางเดินนั้นแสงมันจะสลัวลงในทุกๆก้าว ทางเดินนี้มีทางแยกที่เหมือนกับเขาวงกต ชายแก่ไม่ได้คิดอะไรมากและเดินนำพวกเขาไปด้านหน้าเรื่อยๆ
ทางเดินนี้มีห้องขังอยู่ข้างๆ กรงห้องขังนั้นเป็นสนิมและพังไป พวกที่อยู่ด้านในคือศพของทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์ที่ถูกแช่แข็ง
สายตาอันเดตทำให้เขามองเห็นที่มืดได้ราวกับมันเป็นตอนกลางวันแต่กับชายแก่นั้นไม่ได้เหมือนกัน เขาได้จุดตะเกียงที่ห้อยไว้ตรงเอวขึ้นมาก่อนที่แสงสีฟ้าจะส่องสว่างพื้นที่รอบตัวเขา
” มันไม่เสี่ยงรึไงที่ใช้ไฟ ?” – เดฟถามด้วยท่าทีระวัง
” นายไม่รู้อะไรเลย ! นี่คือไฟน้ำแข็ง มอนสเตอร์จะไม่เห็นแสงจากมัน เราปลอดภัยตรานบใดที่ไม่ส่งเสียงดังมากเกินไป ตามฉันมา ฉันรู้เส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดไปหาชั้นผู้พิทักษ์ “
” ได้….ผู้เฒ่าโง่ ” – เดฟพูดส่วนสุดท้ายเบาๆ
” ทำไมนายต้องทำแบบนั้นล่ะ เดฟ ? ” – โซว์ ถาม – ” พูดเรื่องแย่ๆกับ NPC และผู้เฒ่านี่น่ะไม่ใช่แบบนายเลยนะ “
” เธอไม่เห็นที่เขาคุยกับฉันรึไง ? ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบอันเดตแต่เขาทำตัวดีกว่านี้ก็ได้แล้วท่าทีนี่มันอะไรกัน ? อย่างกับเขารู้ทุกอย่าง เขาบอกว่าเขาไม่เคยผ่านชั้นแรกไปเลยแล้วดูเขาสิ ทำตัวอย่างกับหัวหน้า ” – เดฟบ่นแล้วมองไปที่แผ่นหลังของชายแก่
” ว๊าว NPC นี่ทำให้นายดูแย่สินะ ” – โซว์ยิ้ม
” ไม่….ใช่ คนออกแบบเกมนี่ทำให้พวกนั้นเป็นเหมือนคนเกินไป ” – เดฟอดไม่ได้ที่จะยอมรับ
ทั้งสองยังคงคุยกันต่อเรื่องโครงสร้างของดันเจี้ยนและกลไกลต่างๆด้วยเสียงเบาๆพร้อมกับเดินตามชายแก่ไป
” เฮ้ ! ผู้เฒ่า ! มันมีมอนสเตอร์กำลังมาทางเรา หมาน้ำแข็งสามหัว ” – เดฟพูดขึ้นมาเบาๆเพราะชายแก่เหมือนจะไม่เห็นมัน
” เซอร์เบอรัสน้ำแข็ง ! ถ้ามันเห็นเราเข้ามันจะเรียกพวกมา ตามฉันมา ฉันรู้จักทางอ้อม “
ชายแก่เข้าไปในห้องขังห้องหนึ่งและรอให้ดาร์กกับเอลฟ์เดินตามมา
ตอนที่พวกเขาอยู่ด้านในนั้นเขาก็ได้กดอิฐบนกำแพงก่อนที่กำแพงจะเริ่มเปิดทางออก
เดฟได้ยินเสียงเท้าที่กระทบกับพื้น มอนสเตอร์นั้นคงได้ยินเสียงกำแพงและกำลังมาตรวจสอบที่นี่
” เร็วเข้า ” – ชายแก่พูดขึ้น
ตอนที่เดฟเข้าไปนั้นชายแก่ก็ได้กดไปที่กำแพงและมันก็ปิดตัวลง เขาได้ยินเสียงของมอนเตอร์ผ่านทางกำแพงและไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงอุ้งเท้าของมันเดินจากไป
” ทางนี้ไกลกว่าทางที่ฉันคิดจะไปแต่มันก็ปลอดภัย “
ชายแก่แตะไปที่ตะเกียงทำให้มันสว่างมากกว่าเดิม
ทางที่พวกเขาอยู่ตอนนี้กว้างและสูงกว่าเดิม ห้องขังเองก็ใหญ่กว่าทางเดินตะกี้ เดฟค่อยๆเดินเข้าไนห้องขังห้องหนึ่ง เขาได้พบกับศพขนาดใหญ่ที่นอนอยู่ที่พื้น มันคือเผ่าเดียวกับ Drahma พวกยักษ์
แต่นี่เป็นศพของพวกที่ยังไม่โตเต็มวัยไม่ได้ใหญ่เท่ากับ Drahma ผิวของยักษ์นี้แห้งผากหากมองผ่านชุดหนังเก่าๆ ตาของมันเบิกกว้าง สีหน้าน่ากลัวโดยมีสีระบายไว้ที่หน้า ข้อมือและข้อเท้ามีโซ่ล่ามเอาไว้และที่อกก็ถูกฉีกจนเห็นซี่โครง
” นายทำอะไรน่ะ เดฟ ? ” – โซว์ถามแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อดูว่าเขาสนใจอะไรและในตอนที่เธอเห็นฉากที่น่ากลัวนี้เธอก็ได้เอามือทั้งสองข้างปิดปากเอาไว้
[เควสอัพเดต A Call for Help
คุณได้ค้นพบศพของยักษ์
Drahma รู้สึกได้ถึงเผ่าของเขาผ่านการเชื่อมต่อของเพชร
Drahma จะถูกเรียกมายังตำแหน่งของคุณในอีก 10 วินาที ]
มีแสงส่องประกายขึ้นมาสาดไปทั่วทางเดินดึงความสนใจจากมอนสเตอร์น้ำแข็งในระยะ อันที่จริงพวกมันหอนออกมาด้วยความโกรธมากกว่า มอนสเตอร์ทุกตัวในชั้นนั้นได้มารวมตัวกันเพราะแสง เสียงหอนของหมาป่าและเสียงเท้าของมอนสเตอร์เริ่มดังก้องไปทั่วดันเจี้ยน
” โอ้ซวยละ ! ” – เดฟสบถอออกมาแล้วจับเอาเพชรที่ลอยอยู่นั้นเพื่อจะปิดแสงเอาไว้แต่ก็ไม่สำเร็จ
” เกิดอะไรขึ้น ! ” – ชายแก่มองไปรอบๆด้วยท่าทีกลัว – ” ปิดมัน ! เราจะโดนล้อม ! “
เดฟเงยหน้าขึ้นมองเพดานและหน้าซีดลงไปเมื่อตระหนักได้ว่า Drahma จะถูกเรียกเข้ามาในคุกแห่งนี้ เขาวิ่งออกจากห้องขังนั้นแล้วโยนเพชรไปที่ทางเดินที่ใหญ่กว่า
” เกิดอะไรขึ้นน่ะ เดฟ ? ” – โซว์ถามด้วยความกลัว
” Drahma ! เขากำลังมา ! ” – เดฟพูดขึ้น – ” และเขาก็โกรธมากๆด้วย ! “
แสงของเพชรส่องประกายมากกว่าเดิมและเริ่มสั่นและแตกออก
มือขนาดใหญ่สองอันได้โผล่มาจากมิติก่อนที่จะเริ่มฉีกมิติออก เสียงคำรามอันดังสั่นซึ่งเพียงพอจะปลุกคนตายได้ดังขึ้นมาจากมิติที่กำลังฉีกขาดและ Drahma ก็ได้โผล่มา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและผิวของเขาก็แดงกล่ำ
อุณหภูมิในห้องนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากความร้อนของตัวยักษ์ มันราวกับเตาหลอม น้ำแข็งเริ่มระเหยเมื่อสัมผัสกับผิวของ Drahma เขาตัวใหญ่กว่าห้องนี้มากแต่เขาลดขนาดตัวลง
” เกิดอะไรขึ้น ? ! ” – ชายแก่ถามขึ้นมาตอนที่วิ่งหนีจากยักษ์
หลังจากที่ Drahma ลดขนาดตัวแล้วเขาก็ยังตัวใหญ่อยู่ดี ทุกก้าวที่เขาเดินจะทำให้ห้องนั้นสั่นไหว
Drahma ไม่แม้แต่จะทักทายเดฟ เขาเดินไปที่ห้องขังทีมีศพของยักษ์นอนอยู่
ตอนที่เขาเห็นร่างนั้นเขาก็โหยหวนออกมาแล้วฟาดไปที่กรงขังด้วยหลังมือ เขากอดร่างนั้นเอาไว้ที่อกแล้วร้องไห้ออกมา เสียงร้องของเขาทำให้ทั้งห้องสั่นสะเทือน
เดฟแค่มองดูฉากนี้ เขาพูดอะไรที่ช่วยอีกฝ่ายไม่ได้
” เกิดอะไรขึ้น เดฟ ? ” – โซว์ถาม
” Drahma เป็นคนสุดท้ายของเผ่า Black Skull Order ได้ทดลองกับเขาตอนที่เขาเป็นทาส ยักษ์นั่นก็โดนแบบเดียวกันและนั่นทำให้ Drahma เศร้า “
” มันต้องเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาแน่ ” – โซว์พูดด้วยความสงสาร
” ใช่ ความคลั่งของ Drahma ได้ปลุกเขาและช่วยให้เขารอดจากการทรมานมาได้แต่พวกที่เหลือในเผ่านั้น…พวกนั้นไม่ได้แข็งแกร่งแบบเขา ยักษ์ตัวอื่นน่ะยังเด็กอยู่ “
ตาของโซว์เริ่มมีน้ำตาขึ้นมาแล้วรีบละสายตาหนีจากฉากนั้น
” พวกมันกำลังมา ” – โซว์พูดขึ้น
เดฟหันกลับไปแล้วพบกว่ามีหมาน้ำแข็งสามตัวกำลังวิ่งมาหาพวกเขาแต่คงต้องใช้เวลาอีกหลายวินาทีก่อนที่จะมาถึง เขาได้ใส่ถุงมือและเตรียมรับการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น
” Kis’Shtiengbrah ฉันขอบคุณสำหรับการหาเผ่าของฉัน “
เดฟหันกลับไปและพบว่า Drahma นั้นลุกขึ้นยืน เขาได้วางศพลงกับพื้นแล้ววางมือไว้ที่ศพ โซ่ไฟได้โผล่มาจากใต้ดินห่อร่างนั้นเอาไว้ก่อนที่ร่างนั้นจะโดนเผาเป็นเถ้า
” ทำไมนายถึงได้ทำแบบนั้น ?” – เดฟสับสน – ” นายขอให้ราชาชุบชีวิตเขากลับมาเป็นอันเดตก็ได้ “
” ฉันไม่อยากให้เขาทรมานในฐานะอันเดต… Kis’Shtiengbrah ฉันยอมรับในตัวตนอันเดตแต่ฉันไม่อยากให้มันต้องเกิดขึ้นกับใครอื่น “
Drahma เหวี่ยงอาวุธของตัวเองแล้วพูดขึ้น – ” ฉันรู้สึกโกรธ อันเดตน้อย และฉันไม่คิดว่าฉันจะยับยั้งตัวเองได้อีก ถอยออกไป ฉันไม่อยากทำร้ายนาย “
เส้นเลือดที่แขนของ Drahma นั้นเต้นไปมา ชัดแล้วว่าเขาพยายามควบคุมตัวเอง อุณหภูมิของตัวเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมจนมีไอน้ำลอยออกมาจากตัว
Drahma กระทืบพื้นแล้ววิ่งออกไป
” เขยิบหนี ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา
โซว์ รีบวิ่งออกจากทางแต่เดฟต้องดึงแขนชายแก่ที่กำลังอึ้งอยู่ออกมาเพื่อให้หลีกทางจากทางวิ่งของยักษ์
Drahma พุ่งออกไปด้วยความแค้น กระบองเขาหมุนไปมาพร้อมกับสีหน้าที่จะต้องฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้า
เดฟได้ยินเสียงกระทืบเท้าของยักษ์ที่ไกลออกไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงโอดครวญของมอนสเตอร์และเสียงหักของกระดูก…..
Chapter 178 : คุกน้ำแข็ง
ทั้งดันเจี้ยนนั้นสั่นไหวในทุกก้าวสและทุกการโจมตีจาก Drahma เดฟ ได้ยินเสียงร้องของความเจ็บปวดและการทำลายไกลขึ้นไปเรื่อยๆ
” เราควรตามเขาไป ” – เดฟพูดขึ้น
โซว์พยักหน้าแล้วเดินตามเขาไป
” ไอ้นั่นมันอะไรกัน ?” – ชายแก่ถามขึ้นมา
” เขาเป็นเพื่อนฉันและเขาคือเหตุผลที่ฉันมาช่วยนายในการช่วยราชินี นานมาแล้ว Black Skull Order ได้จับตัวเขาแล้วทรมานเขามาหลายสิบปี ตอนนี้ได้เวลาที่จะชดใช้แล้ว “
พวกเขาเดินตามไปและต้องตะลึงกับภัยที่ Drahma ได้สร้างขึ้นมา ศพของหมาและโกเล็มน้ำแข็งกระจายเต็มไปทั่วพื้น น้ำแข็งและเลือดนั้นระเบิดไปทั่วทางเดินราวกับที่นั่นปูด้วยพรมแดง
หมาน้ำแข็งตัวหนึ่งหนีจากการโจมตีของ Drahma ได้นั้นได้เข้ามาโจมตีพวกเขา
[Ice Cerberus]
ระดับ : Savage
เลเวล : 200
HP : 50,000
ดาเมจ : 5,000-6,000
ลดดาเมจ : 10,000
ดูดซับเวทย์ : 15,000
คำอธิบาย : เซอร์เบอรัสน้ำแข็งคือหมาล่าเนื้อที่โหดร้ายและอันตราย พวกมันยากที่จะเชื่องได้เพราะนิสัยตามธรรมชาติของมันแต่เมื่อถูกควบคุมไว้พวกมันสามารถเป็นยามชั้นดีได้
หมาล่าเนื้อสามหัวนี้มีปลอกคอที่มีเพชรสีดำคล้องไว้รอบคอในแต่ละหัว
หมาได้โดดเข้าใส่ เดฟ และพยายามลิ้มรสอันเดต เดฟใช้หลังมือฟาดมันกลับและทำให้มันกระเด็นตกลงไปที่พื้น
[-16,158]
มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วเข้าโจมตีอีกครั้ง
” รอเดี๋ยว ! กดมันลง ! ” – ชายแก่ตะโกนขึ้นมา
” อะไรนะ ? “
” จับมันไว้ ! “
เดฟ หลบการพุ่งเข้ามาของหมาแล้วพุ่งเข้าใส่พร้อมกับกางแขนออกรัดท้องของมันไว้
หมาร้องออกมาและกัดเข้าที่เดฟด้วยหัวทั้งสามของมัน
[-0]
[-0]
[-0]
” ยังไงต่อ ? ” – เดฟถาม เขารู้สึกว่ามันตลกกับการปล่อยให้หมาทั้งสามหัวกัดเข้าซ้ำๆแบบนี้
โซว์หัวเราะเมื่อเห็นฉากนี้ ส่วนชายแก่นั้นค่อยๆเดินเข้ามาใกล้หมาสามหัวพร้อมกับหอกที่เตรียมพร้อมโจมตี
” รัดมันไว้ “
ชายแก่แทงเข้าที่ตัวหมาซึ่งทำให้เดฟตกใจ ถ้าชายแก่ต้องการที่จะฆ่ามันทำไมถึงให้ เดฟ รัดมันไว้ด้วยแต่แทนที่จะโจมตีหอกของชายแก่กลับชี้ไปที่เพชรสีดำที่คอของหมาตัวหนึ่งและทำลายเพชรนั่นราวกับเศษแก้ว ชายแก่ได้แทงเข้าไปอีกสองครั้งซึ่งได้ทำลายเพชรส่วนที่เหลือไป
” นายปล่อยมันได้แล้ว อันเดต “
เดฟได้ทำการปล่อยหมา หมานั้นลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนจะแสดงสีหน้าสับสนออกมาแล้ววิ่งหนีไป
” เกิดอะไรขึ้น ? ” – โซว์ถามขึ้นมา
” พวกสิ่งมีชีวิตจากน้ำแข็งนั้นไม่ได้โหดร้ายแต่กำเนิด ส่วนมากแล้วพวกมันจะเป็นมิตร “
” สิ่งมีชีวิตน้ำแข็งเป็นมิตร ? เยติน่ะเกือบฆ่าเรา ! ” – โซว์ขัดขึ้นมา
” พวกเธอบุกรุกอาณาเขตของมันแล้วจะไปอยากได้อะไรตอบแทน ? แต่ฉันพูดถึงหมาน้ำแข็งกับโกเล็มน้ำแข็ง พวกมันถูกบังคับให้ทำแบบนี้ ” – ชายแก่หยิบเอาเศษเพชรขึ้นมาจากพื้น
” Black Skull Order ใช้เวทย์มนต์ปิศาจเพื่อควบคุมสัตว์อสูรที่น่าสงสารพวกนี้ แม้แต่แก่นโกเล็มก็ยังปนเปื้อน ตอนนี้พวกมันก็เป็นแค่สัตว์อสูรที่ไร้ความคิด ถ้าฉันทำได้ฉันจะลองพยายามปลดปล่อยมันแทนที่จะฆ่ามัน ” – ชายแก่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
” ไปกันต่อเถอะ เราไม่ต้องการให้ Drahma นำเราไปไกล ถ้ามันมีมอนสเตอร์ที่เขาไม่ได้ฆ่ามาอีก เราจะได้สู้กับพวกมันด้วยตัวเอง “
ในตอนที่พวกเขาเดินทางกันต่อไปตามทางเดินนั้นพวกเขาก็พบกับโกเล็มน้ำแข็งอีกครั้ง
” อย่างบอกนะว่านายอยากให้ฉันจับมันไว้ด้วย ?” – เดฟพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
” ไม่ เราต้องฆ่ามัน แก่นที่ปนเปื้อนน่ะระดับสูงเกินไป “
ชายแก่เดินหน้าไปหาโกเล็มและหลบแขนที่ฟาดเข้ามา เขาวิ่งขึ้นไปตามแขนของโกเล็มแล้วแทงเข้าที่คอของมันสองรอบ
ชายแก่ดีดตัวออกมาจากโกเล็มด้วยการตีลังกาก่อนจะลงมายืนที่พื้นได้ในตอนที่โกเล็มนั้นล้มลงไป
” เต็มสิบ ! “- โซว์ ปรบมือให้กับท่าของชายแก่ เดฟถึงกับต้องส่ายหน้า
พวกเขาเดินไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมงและอารมณ์ของเดฟ ก็ต้องสลดลงเรื่อยๆ มอนสเตอร์ตามทางเดินนั้นมีหลายชนิดทั้งแมมมอธ โกเล็มและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
” นายบอกว่าที่นี่มี 6 ชั้นงั้นเหรอ ?” – เดฟถาม
” ฉันเชื่อว่าเป็นแบบนั้นแต่นี่ก็แค่พื้นที่คุก ฉันอ่านจากบันทึกมาว่าชั้นร่างน่ะเป็นห้องสมุด เราคงจะใกล้ไปถึงตัวผู้พิทักษ์ของชั้นนี้แล้ว มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง มันเกือบฆ่าฉันได้ในครั้งที่แล้วที่ฉันมาถึงที่นี่ “
ในอีกฝั่งของทางเดินนั้นประตูบานใหญ่ได้ถูกพังออกไป ด้านหน้าประตูไปนั้นเป็นถ้ำน้ำแข็ง
ส่วนที่เหลืออยู่ของประตูนั้นห้อยเศษไม้กระจายอยู่หน้าทางเข้า ตอนที่พวกเขาเดินผ่านเข้าไปในถ้ำพวกเขาก็พบกับศพของมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ มันดูคล้ายกับเสือเขี้ยวดาบแต่มันใส่เกราะเหล็กแทนที่จะเป็นขน มีเศษเกราะมากมายที่งอและหลุดออกมาพร้อมมับเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลของมัน
” สัตว์ประหลาด…” – ชายแก่พูดขึ้น
เดฟไม่รู้ว่าชายแก่พูดถึงเสือนี่รึ Drahma กันแน่
ในอีกฝั่งของห้องนั้นมีประตูอยู่อีกบานที่ซึ่งก็พังไปแล้วเช่นกัน
” เฮ้อ ไม่มีของเลย เดฟ “
” เราไม่ได้ฆ่ามัน มีแต่ Drahma ที่เก็บของได้ นอกซะจากว่ามันเกี่ยวข้องกับเควสของเธอ…? ” “ไม่ ไม่เกี่ยว รีบตาม Drahma ไปกันเถอะ เราจะได้ช่วยเขาแล้วก็ได้ของด้วย “
ชายแก่เข้าไปใกล้ๆศพของเสือเขี้ยวดาบแล้วถอนหายใสจออกมา เขานั่งยองๆลงไปพร้อมกับใช้ตะเกียงไล่ตรวจตามตัวของมัน เขาได้เปิดตะเกียงออกแล้วเทไฟน้ำแข็งลงบนตัวเสือ ไฟสีฟ้าแผ่ไปทั่วตัวของเสือราวกับไฟที่หิวโหยแล้วลามไปอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีสิ่งที่เหลืออยู่ก็มีแค่เปลวไฟสีฟ้าที่ส่องแสงเท่านั้น
ชายแก่เอาตะเกียงเข้าไปใกล้ๆกับไฟก่อนที่ไฟนั้นจะโดดเข้ามาในตะเกียง เขาลุกขึ้นยืนแล้วนำทางต่อไปยังพื้นที่ต่อไป
ด้านหลังประตูที่พังนั้นเป็นบันได มันมีหินส่องแสงที่ถูกฝังไว้ตามกำแพงคอยให้แสงสว่างกับบันได บันไดบางขั้นนั้นพังไปแล้วซึ่งมีรอยเท้าขนาดเท่าของ Drahma ฝังเอาไว้ด้วย
บันไดนั้นนำไปสู่ทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่ขนาดเท่ากับตู้คอนเทนเนอร์ น้ำแข็งในถ้ำแห่งนี้แต่ละก้อนนั้นเป็นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์
” คุกอีกที่…” – เดฟพึมพำออกมา
” ใช่…แต่มอนสเตอร์พวกนี้ยังมีชีวิตอยู่ “
เดฟเข้าไปใกล้กับนักโทษตัวหนึ่ง มันเป็นโทรลที่มีขนของสีแดงและจมูกสีแดงที่ใหญ่โต กล้ามเนื้อของโทรลนี้บวมเปล่งแสดงถึงพลังของมัน
แต่สิ่งที่ทำให้เดฟต้องกลัวก็คือตอนที่ตาของโทรลนั้นขยับ
Chapter 179 : นี่คือเมืองของโทรล !!!
เดฟ ได้ทำการตรวจสอบมอนเตอร์
[Ice Troll]
ระดับ : Epic
เลเวล : 250
HP : 300,000
ดาเมจ : 15,000-30,000
ลดดาเมจ : 5,000
ดูดซับเวทย์ : 2,000
สกิล :
{Ice Domain : เปลี่ยนพื้นที่รอบตัวให้กลายเป็นน้ำแข็ง ผลดีจากสกิลนี้คือเพิ่มความเร็วในการโจมตี, การฟื้นฟูและเพิ่มค่าการป้องกัน 50% เป็นเวลา 30 วินาที ขอบเขตน้ำแข็งนี้เป็นสกิลติดตัวตอนที่โทรลอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำแข็ง }
{Ice Pillars : เรียกเสาน้ำแข็งขึ้นมาจากพื้นดินทำดาเมจ 20,000 เสาน้ำแข็งนี้ยากที่จะทำลายได้ }
{Subjugate : ขโมยเลือด, การลดดาเมจ, ดูดซับเวทย์ของเป้าหมายในตอนนั้น 10% เป็นเวลา 10 วินาทีเพื่อเพิ่มพลังให้กับโทรล สำหรับเลือดทุกๆ 1% ที่เสียไปนั้นในตอนที่สกิลนี้ทำงาน การโจมตีของโทรลจะเพิ่มขึ้นมา 1%}
คำอธิบาย : โทรลนั้นรูจักกันดีว่ามีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง พวกมันสามารถเอาตัวรอดได้ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายและอาศัยอยู่ในที่ที่อันตรายที่สุดในโลก
” สกิลพวกนี้เจ๋งเป็นบ้า “
ในตอนที่ เดฟ พูดจบนั้นเขาก็ได้ยินเสียงโทรลร้องขึ้นมาอีกครั้งจากน้ำแข็งที่แช่ตัวมันอยู่
” ฉันควรปล่อยเขาดีมั้ย ? ” – เดฟ ถามกับชายแก่
” เอ่อ ฉันว่าไม่จะดีกว่า “
” พวกมันเป็นศัตรูรึเปล่า ? ” – เดฟ ถอยกลับมา
” ไม่เชิง ” – ชายแก่พึมพำ – ” มัน….น่ารำคาญมากกว่า “
” ถ้ามันไม่ได้เป็นศัตรูเราก็ปล่อยมันไว้แบนบนี้ไม่ได้ ดูมันสิ มันน่ารักจะตาย ! “
เดฟ มองไปที่ โซว์ สักพักก่อนจะกรอกตาใส่
” นายต้องการอะไร ฉันไม่ยุ่งด้วยนะ จำไว้ว่าถ้านายปล่อยมันออกมาแล้วนายต้องรับผิดชอบมันด้วย ” – ชายแก่บ่น
” ได้ แล้วในกรณีเลวร้ายที่สุดจะเกิดอะไรขึ้น ? ถ้าโทรลเป็นศัตรูขึ้นมาฉันจะเปลี่ยนให้มันเป็น xp ฉันต้องการ xp อีกนิดก็จะเลเวล 290 แล้ว “
เดฟ กดมือไปที่กำแพงน้ำแข็ง กำปั้นของเขาได้ปล่อยไฟอันร้อนแรงออกมา ในตอนที่กำปั้นนั้นแตะไปที่กำแพง ไอน้ำก็ได้ระเบิดออกมาและเกิดรอยแตกขึ้นที่กำแพง น้ำแข็งค่อยๆละลายแต่ เดฟ ไม่ต้องการที่จะโจมตีน้ำแข็งเพราะกลัวว่ามันอาจจะทำให้โทรลบาดเจ็บและกลายมาเป็นศัตรูกับเขา เขาได้ใช้ {Aura} และแผ่คลื่นไฟออกไปเพิ่มอัตราการละลายให้มากกว่าเดิม น้ำแข็งนั้นได้กลายเป็นไอน้ำเป่ากระจายตัวออกมา
ในตอนที่น้ำแข็งละลายออกจากหน้าของโทรลนั้น เดฟ ก็ได้ปิด {Aura} เพื่อไม่ต้องการให้อีกฝ่ายได้รับอิสระทันที โทรลยิ้มออกมาและเริ่มสะบัดตัว น้ำแข็งรอบตัวมันเริ่มแตกออกเร็วขึ้นปลดปล่อยมันออกจากการคุมขัง โทรลน้ำแข็งได้กระโดดไปมาและเต้นไปรอบๆพร้อมกับร้องออกมาด้วยความดีใจ
” เขาดูดีใจนะ ” – เดฟ ถอยกลับมาเพราะไม่รู้ว่าโทรลนั้นจะกลายเป็นศัตรูหรือไม่แต่ก็เตรียมตัวไว้จะดีกว่า
โทรลมองไปรอบๆเพื่อมองหาบางอย่าง มันวิ่งไปยังกำแพงอีกแห่งแล้วพุ่งเข้าชน โทรลกระเด็นกลับมาแต่กำแพงนั้นกลับมีรอยแตกขนาดใหญ่
” มันจะทำอะไร ? ” – โซว์ ถาม
” มันกำลังจะปล่อยโทรลอีกตัว ดูสิ ที่นี่ทั้งหมดน่ะคือคุกแช่แข็งโทรล “
โทรลส่ายหน้าด้วยความสับสนก่อนจะลุกขึ้นยืน ดาเมจจากการกระแทกนี้ไม่ได้มากมายอะไรสำหรับโทรล มันฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว โทรลกระทืบพื้นจนมีเศษน้ำแข็งลอยตัวขึ้นมา เขาได้พุ่งเข้าไปที่เสาน้ำแข็งเพื่อทำลายมาจากตรงส่วนต้น จากนั้นโทรลก็ได้ใช้มันเป็นคทาน้ำแข็งไป เขาหัวเราะออกมาด้วยความดีใจก่อนจะเดินไปหาเป้าหมายต่อ
โทรลใช้เวลาน้อยกว่า เดฟ ในการปล่อยโทรลอีกตัว ตอนที่โทรลสองตัวถูกปล่อยออกมานั้นพวกมันก็เริ่มเต้นและร้องออกมา โทรลตัวที่สองทำตามโทรลตัวแรกด้วยการใช้เสาน้ำแข็งไปช่วยเพื่อนของมัน
” พวกมันเป็นปัญหาของนายละ ” – ชายแก่พูดด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์
” ทำไม ? พวกนี้ก็ดูเหมือนว่ากำลังสนุก นายรู้มั้ยว่าสนุกคืออะไร ผู้เฒ่า ? ” – เดฟ ยิ้มให้กับชายแก่
” หยุดเรียกฉันว่าผู้เฒ่าเลย ฉันอายุแค่ 330 ปี ! ฉันชื่อ Jura ! “
“ได้ Jura ก็ได้ ทำไมนายถึงไม่ชอบที่พวกนี้กำลังสนุก ? “
” นายจะรู้เองในไม่ช้า ” – ชายแก่บ่น
ไม่นานโทรล 8 ตัวก็ได้เดินกลับมาหาทั้งสามคน ตัวที่มีขนสีแดงได้เดินเข้ามาหา เดฟ แล้วยืนอยู่ตรงหน้า เดฟ มันมองไปที่เพื่อนก่อนจะชี้มาที่ เดฟ มันพูดคำที่ไม่อาจจะเข้าใจได้ออกมาก่อนที่จะเริ่มร้องออกมา
โทรลทั้งหมดได้ทำการร้องตามแล้วพุ่งเข้าใส่ เดฟ การวิ่งของพวกมันทำให้พื้นดินต้องสั่นไหว เดฟ พยายามที่จะหลบพวกโทรลที่พุ่งเข้ามาแต่เขาก็ไม่ได้เร็วพอ โทรลได้ทำการล้อม เดฟ เอาไว้ก่อนที่จะจับเขา พวกมันยกตัวเขาขึ้นและจากนั้นก็รับเขาไว้ พวกมันทำแบบนี้ซ้ำๆราวกับฉลองอยู่
ตอนแรก เดฟ แปลกใจแต่เขาก็หัวเราะออกมา
” ฮาฮา ! ดูเหมือนว่านายกำลังสนุกนะ ! ” – โซว์ พูดขึ้น
โทรลตัวหนึ่งได้ยินที่เธอพูดแล้วหันกลับไปอุ้ม โซว์ แล้วโยนเธอเข้าไปสนุกด้วยกัน
ตอนที่โทรลกำลังจะไปจับ Jura ชายแก่ก็ได้ถอยออกมาซึ่งทำให้โทรลต้องแสดงสีหน้าสับสนออกมา
โทรลยิ้มและกระทืบพื้น เสาน้ำแข็งโผล่มาด้านหลัง Jura ชายแก่พยายามที่จะหนีแต่โทรลก็กระทืบพื้นอีกครั้ง เสาอีกแท่งได้ขวางทางเขาเอาไว้ โทรลหัวเราะอย่างพอใจแล้วกระทืบพื้นต่อขัง Jura ไว้ในกรงน้ำแข็ง จากนั้นเขาก็จับชายแก่เข้ามาอยู่ในวงล้อมโทรลด้วย
” บ้าเอ้ย ! ” – Jura บ่นออกมาในตอนที่โทรลโยนทั้งสามคนขึ้นลงฉลองกับการที่พวกมันถูกปล่อยตัวออกมา
โทรลตัวแรกร้องออกมาแล้วชี้ไปที่ประตูอีกด้านของถ้ำ โทรลทุกตัวร้องออกมาแล้วเริ่มวิ่งไปที่ทางออกพร้อมกับโยนทั้งสามขึ้นลงไปมาด้วย
” ฮาฮา ! สนุกดีแหะ ! ” – เดฟ หัวเราะ
” สูงอีก ! ” – โซว์ ตะโกน
” พวกโทรลบัดซบ ! ” – Jura บ่นออกมา
Chapter 180 : ตำนานของโทรลน้ำแข็งและ….สะพาน
กลุ่มโทรลได้นำทางไปจนสุดทางเดิน มันไม่ได้มีโทรลที่ถูกขังไว้ในถ้ำนั้นอีก ก้อนน้ำแข็งส่วนมากนั้นว่างเปล่าไปแล้วแต่มันก็ยังมีเลือดที่ถูกแช่แข็งอยู่ไว้ภายใน
โทรลได้หยุดและวางทั้งสามคนลง พวกมันได้เดินเข้าไปที่เลือดนั้นแล้วลองดมกลิ่นดู โทรลขนแดงร้องโหดยหวนออกมาก่อนที่โทรลตัวอื่นจะร้องตาม จากนั้นพวกมันก็ทุบอกแล้วแสดงความโกรธออกมา พวกมันรวมกลุ่มกันก่อนจะร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันแล้ววิ่งออกไปขางหน้า
” ทำไมพวกมันถึงทิ้งเราไว้แบบนี้ ?” – โซว์ ถามขึ้นมา
” เลือดนั้นคงเป็นเลือดของโทรล โทรลน่ะรักพวกพ้อง ตัดสินจากพฤติกรรมและจำนวนเลือดตรงนี้แล้วตัวที่โดนขังไว้ที่นี่คงตายไปแล้ว ตอนนี้พวกมันกำลังไปสืบสวนสาเหาตุการตาย ” – Jura อธิบายออกมา
” ความรักของโทรล ? น่ารักดีแหะ ! แต่ฉันคิดว่าพวกมันคงวิ่งเข้าไปหาเรื่องมากกว่า….”
” ฉันไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับโทรลทั่วไป กลุ่มโทรลน้ำแข็งน่ะเป็นแบบนี้เพราะมีเหตุผล อย่างน้อยก็ในหลายๆส่วน “
ทั้งสามคนวิ่งตามโทรลไปและต้องแปลกใจว่าโทรลนั้นเคลื่อนที่ได้เร็วแค่ไหน
ถ้ำแห่งนี้เหยียดยาวออกไปและจบลงที่เหวที่กว้างใหญ่
” ระวัง ช้าลงหน่อย ” – เดฟ พูดขึ้น
พวกเขาได้หยุดที่ปากเหว ที่ตีนสะพานนั้นทำขึ้นมาจากน้ำแข็งซึ่งเชื่อมทั้งสองฝั่งเอาไว้แต่สะพานนี้พังไปแล้ว บางส่วนตรงใจกลางนั้นหายไป ที่อีกด้านของสะพานนั้นมีประตูเหล็กตั้งเอาไว้อยู่
โทรลได้เดินงุ่มง่ามไปที่ปลายสะพานพร้อมกับร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ เดฟ ได้ยินเสียงร้องโหยหวนและเมื่อมองไปที่ปลายเหวเขาก็พบว่า Drahma กำลังปีนขึ้นมาจากอีกด้านของเหวอยู่
” Drahma ไปทำอะไรด้านล่าง ? “- โซว์ ถาม
” เขาคงหนักเกินไปสำหรับสะพานแล้วตกลงไปแต่เขารอดจากการตกได้ยังไง ? ” – เดฟ พูดขึ้น
Drahma ปีนขึ้นมาด้วยการใช้มือต่อยไปที่กำแพงแล้วดึงตัวเองขึ้นมา เขาไต่ขึ้นมาเรื่อยๆแล้วจับสะพานน้ำแข็งไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะเหวี่ยงตัวเองขึ้นมา ส่วนสะพานที่เขาเหยียบนั้นเริ่มแตกออกก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปที่ประตูเหล็ก
Drahma ต่อยประตูเหล็กนั้นสองรอบแต่ก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เขาได้เอากระบองของตัวเองเหวี่ยงใส่ประตูราวกับตีกลอง เขาต้องทุบถึงสามรอบถึงระเบิดประตูได้ Drahma มองผ่านประตูเข้าไปแล้วเห็นนทางเดินเหล็กที่มีขนาดเล็กกว่าตัวเขา เขาจึงได้ลดขนาดตัวลงอีกรอบ ตอนนี้ Drahma สูง 1/10 จากเดิมแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความแข็งแกร่งของเขาจะลดลงเลย
ในตอนที่เดินเข้าไปในประตูนั้นก็ได้มีงูน้ำแข็งโผล่มาจากใต้เท้าของเขาแล้วเข้าโจมตี Drahma มันรัดรอบตัวเขาตั้งแต่เข่าจนถึงคอตรึงแขนของเขาเอาไว้แต่ Drahma ยกแขนขึ้นสลัดการรัดของงูได้ก่อนจะโยนมันลงไปที่พื้น เขาได้ฟาดกระบองลงทุบหัวของงูก่อนที่จะคำรามแล้ววิ่งออกไปอีกครั้ง ไม่นานก็ได้มีเสียงคำรามและโหยหวนดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกระดูกที่หัก Drahma คงไปจัดการกับพวกมอนเตอร์อีกรอบ
” แล้วไงต่อ ? เราจะข้ามไปยังไง ? ” – โซว์ ถามขึ้น
เดฟ มองขึ้นไปที่สะพานอีกด้านแล้วพูดขึ้นมา – ” มันน่าจะมีทางอื่น ผู้เฒ่าบอกว่ามันมีอีกทางเดินที่เราสามารถไปได้ เราน่าจะกลับไปทางนั้น “
“เราข้ามไปเลยดีมั้ยอย่างกระโดดไปเลย ? ” – โซว์ ถามด้วยท่าทีกลัว
” ฉันไม่คิดงั้น อย่างน้อย {Immortal Apprition} กับ {Death’s Descent} ก็ไปไม่ถึง” – เดฟ ตอบกลับเธอตรงๆ
โซว์ ส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา
โทรลขนแดงเกาหัวอยู่สักพักก่อนจะร้องออกมา
” พวกนั้นจะทำอะไร ?”
โทรลตัวหนึ่งได้เดินเข้ามาหา เดฟ แล้วชี้ไปที่คทาน้ำแข็งของมันก่อนจะชี้ไปที่ เดฟ เดฟ ไม่เข้าใจว่าโทรลจะสื่ออะไรจึงได้ตอบกลับด้วยการส่ายหน้า
เดฟ สาบานเลยว่าโทรลน่ะกรอกตาใส่เขาก่อนที่จะยกคทาน้ำแข็งขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่อีกด้านของสะพาน โทรลยิ้มแล้วชี้มาที่ เดฟ ก่อนจะชี้กลับไปที่อีกด้านของสะพาน
” ไม่ ! ไม่มีทาง ! ไม่มีใครโยนดาร์กคนนี้ข้ามเหวได้ ! ” – เดฟ พูดพร้อมกับถอยออกมาแต่โทรลนั้นไม่ได้สนใจคำพูดของเขาแล้วจับตัว เดฟ เอาไว้
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นก่อนที่ เดฟ จะไปถึงอีกด้านของสะพานได้….ด้วยการเอาหน้าลง
[-1,000]
” บ้าเอ้ย ! ” – เดฟ สบถออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนปัดเนื้อปัดตัว เขามองไปยังอีกด้านที่เขาลอยมาแล้วก็ต้องแปลกใจกับความแม่นยำและแรงของโทรล
” ฉันด้วย ! ฉันด้วย ! ” – โซว์ ร้องออกมาแล้วเต้นไปรอบๆราวกับเด็กที่อยากขึ้นเครื่องเล่น
โทรลอุ้มเธอขึ้นมาแล้วโยนเธอไปเหมือนกับลูกบอล โซว์ ถึงกับกางแขนออกเหมือนกับปีกราวเธอบินผ่านเหวมาก่อนจะลงมายืนที่พื้นได้
เดฟ สบถออกมาตอนที่เห็นเอลฟ์ลอยเข้ามาหาเขา เขากางแขนออกแล้วรับ โซว์ เอาไว้ เธอชนเข้ากับเขาก่อนจะกลิ้งไปตามพื้นน้ำแข็ง สุดท้ายทั้งคู่ก็ไปกองกันที่ประตู
” สนุกดีแหะ ! ” – โซว์ ตะโกนขึ้นก่อนจะเด้งตัวไปมาบนอกของ เดฟ
” ไม่ใช่สำหรับฉัน ! ลุกไปได้แล้ว ! ” – เขาบ่นออกมาแล้วผลัก โซว์ ออกจากตัว
โซว์ เม้มปากใส่เขาและลุกขึ้นมายืน
ต่อมาโทรลพยายามที่จะจับ Jura เพื่อจะโยนชายแก่มาอีกฝั่งแต่ด้วยการที่สองคนแรกโดนโยนออกไปแล้ว เขาจึงรีบหลบการจับของโทรลอยู่หลายครั้ง
Jura วิ่งมาที่ปลายสะพานก่อนจะมัดเชือกเข้ากับหอกแล้วโยนมันออกไป หอกปักเข้าไปที่น้ำแข็งด้านบนประตู จากนั้นชายแก่ก็ทำการดึงเชือกเพื่อเช็คว่าเขาจะโหนไปได้หรือไม่ จากนั้นเขาก็โหนตัวไปแล้วมองกลับมาที่โทรลด้วยรอยยิ้ม
” แล้วพวกโทรลล่ะ ? พวกนั้นจะโยนกันมาเองด้วยมั้ย? “
” อ่ะ ไม่มีทาง ! มันไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก ! ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วรีบถอยกลับไม่คิดที่จะเสี่ยงรับเผื่อว่าจะมีโทรลถูกโยนมาจริงๆ
โทรลตัวหนึ่งอุ้มเพื่อนมันขึ้นแต่ก็ต้องยอมแพ้แล้ววางเพื่อนลง มันตระหนักได้ว่าเพื่อนน่ะตัวหนักเกินไป โทรลขนแดงเริ่มคำรามใส่โทรลตัวอื่นๆแล้วกระทืบเท้าไปที่สะพาน เสาน้ำแข็งงอกขึ้นมาเป็นแนวนอนปิดช่องว่างระหว่างสะพานที่พังไปได้
เมื่อเห็นแบบนั้นโทรลตัวอื่นก็เริ่มทำตาม สุดท้ายแล้วเหวทั้งสองฝั่งก็เชื่อมต่อกัน น้ำแข็งที่งอกขึ้นมานี้ไม่ได้สวยมากนัก ผิวมันไม่ได้เรียบแต่ก็ยังใช้งานได้ ทันทีที่สร้างสะพานเสร็จพวกโทรลก็พากันเดินข้ามาอย่างพอใจ
” ทำไมไม่ทำแบบนั้นตั้งแต่แรก ? ” – เดฟ ถามขึ้นมาเมื่อคิดถึงตอนที่เขาถูกโยนข้ามมา
” พวกนี้เป็นโทรล นายจะไปคาดหวังอะไร ? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่อยากยุ่งกับพวกนั้น ฉันพยายามเตือนนายแล้ว ” – Jura หัวเราะ
เดฟ ถอนหายใจออกมา – ” งั้นก็ไปกันต่อเถอะ “
พวกโทรลที่ตามมานั้นวิ่งขึ้นแซงหน้าเขาโดยเอาคทาน้ำแข็งมันลากไปกับพื้นซึ่งทำให้เสียงมันหนวกหูมากกว่าเดิม
” พวกนี้วุ่นวายกันจริงๆ ” – สีหน้าของ Jura ดูขมขื่นในตอนที่พวกโทรลวิ่งผ่านไป
พวกเขาเดินผ่านประตูเข้ามายังอีกห้องที่ทำขึ้นมาจากน้ำแข็งโดยถังทรงกระบอกวางเรียงไว้ที่กำแพง มีของเหลวสีเขียวเปรอะไปทั่วพื้น มันไหลออกมาจากถังพวกนั้นตอนที่ถังพวกนั้นแตกออก บางทีอาจจะเป็นฝีมือของ Drahma ที่มุมห้องนั้นมีถังใบหนึ่งที่ยังมีสภาพดีอยู่ สิ่งที่ลอยอยู่ด้านในนั้นคือสิ่งมีชีวิตลูกผสม มันเป็นกิ้งก่าตัวน้อยที่มีหัวเป็นงู,ขาแมงมุมและหางแมงป่อง
ห้องต่อมาก็เหมือนกับห้องแรก พวกเขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตอื่นในห้องต่อๆไป บางห้องนั้น ‘ตกแต่ง’ ต่างกันออกไปซึ่งแทนที่จะเป็นถังแก้วแต่กลับเป็นรูที่พื้น มีโซ่สนิมเปื้อนเลือดและหอกเหล็กห้อยอยู่ตามน้ำแข็ง
” น่ากลัว ! ที่นี่มันบ้าอะไรกัน ? ” – โซว์ รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที
” เธอเห็นของพวกนี้ในหนังสยองขวัญอยู่ตลอดแหละ มันคือห้องของปิศาจ ” – เดฟ พูดขึ้น
เขาเดินไปยังถังใบหนึ่งและอยู่ๆสิ่งมีชีวิตด้านในก็ได้พุ่งตัวเข้าชนถังจนทำให้ เดฟ กรีดร้องแล้วโดดหนีออกมา สิ่งมีชีวิตด้านในนั้นสลัดตัวไปมาอยู่หลายรอบก่อนที่จะหยุดนิ่งไป
โซว์ เข้าไปก้มดูก่อนที่จะหัวเราะออกมา “
” ไอ้นั่นคงโดดใส่หน้านายแล้วทำให้นายกลัวสินะ ! “
” ช่างมัน ! ฉันไม่คิดนิว่ามันยังมีชีวิตอยู่ …” – เขาป้องกันตัวเองแล้วพยายามเข้าไปตรวจสอบสิ่งมีชีวิตนั้น – ” เฮ้ ไอ้นั่นมันะเพิ่งตาย “
” ได้ยังไง ? ” – โซว์ เข้ามาดูด้วยแล้วเข้าไปตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
” มันอาจจะมีไว้เพื่อทำให้ผู้เล่นกลัวและฉันก็เป็นคนโดน ไอ้พวกนักพัฒนาเฮงซวย ไปกันต่อดีกว่า ” – เดฟ พูดขึ้น
Jura ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังและมองไปยัง ‘ เครื่องมือ’ ที่ห้อยอยู่ที่กำแพงแต่พวกเขาก็ยังได้ยินที่ชายแก่พูดกับตัวเอง
” นายหญิง ฉันหวังว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฉัน Jura ผู้ศรัทธากำลังจะไปช่วย “
” นั่นเศร้าแหะ รีบไปกันเถอะ ” – โซว์ กระซิบกับ เดฟ
” ได้ “
พวกเขาเดินหน้ากันเร็วขึ้นผ่านห้องต่างๆที่มีถังสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด บางห้องนั้นมีร่างของคิเมร่าที่เพิ่งถูกฆ่า บางทีอาจจะเป็นฝีมือของ Drahma ไม่ก็พวกโทรล ยิ่งพวกเขาเดินหน้ามากเท่าไหร่ก็พบว่าคิเมร่านั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาได้หยุดลงที่ประตูเหล็กซึ่งถูกพังลงไปโดยมันนำไปสู่อีกห้องหนึ่งแต่พื้นห้องนี้เป็นเหล็ก มันมีถังเพียงแค่ใบเดียวที่แตกออกแล้วตั้งไว้อยู่ใจกลางห้องแต่ถังนี้ใหญ่กว่าถังเก่าๆที่พวกเขาพบอยู่หลายเท่า ประตูที่ถูกพังนั้นอยู่อีกฝั่งของห้อง ตอนนี้ Drahma นั้นอยู่ไหนก็ไม่รู้
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากภายในห้องซึ่งเกิดจากการต่อสู้ด้านหลังถังนั่น มันเป็นพวกโทรลที่กำลังต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับคิเมร่าตัวขนาดเท่ากับช้าง
” ทำไมมินิบอสยังมีชีวิตอยู่ถ้า Drahma ผ่านห้องนี้ไปแล้ว ? ” – โซว์ สงสัย
ชายแก่ยกหอกขึ้นมาแล้วหมุนที่ด้ามก่อนจะมีหัวหอกโผล่ออกมา
” บางทีสัตว์ประหลาดนี้ยังคงหลับอยู่ในถังและยักษ์นั่นก็ไม่ได้สนใจ ไม่ก็สัตว์ประหลาดตัวนี้กลัวที่จะสู้กับยักษ์ ” – Jura พูดขึ้น เขาชี้ไปที่พื้นแล้วพบว่าพื้นเหล็กนั้นบุบลงเป็นรอยเท้า – ” ชัดแล้วว่าเขาผ่านที่นี่ไป เรายังมาถูกทาง “
เดฟ ได้ทำการตรวจสอบคิเมร่ายักษ์
[Monstrosity (หมายเลขทดลอง 5547) ]
ระดับ : Epic
เลเวล : 280
HP : 235,111/400,000
ดาเมจ : 25,000-35,000
ลดดาเมจ : 12,000
ดูดซับเวทย์ : 13,000
สกิล :
{Poison Strike: ใช้หางโจมตีโดยทำให้ติดพิษ 30 วินาทีและทำดาเมจ 100% พิษนั้นซ้อนทับกันได้ 5 ครั้งโดยทำการเริ่มต้นเวลาใหม่ทุกครั้งที่ซ้อนทับ แต่ชั้นของพิษนั้นทำดาเมจ 5,000 หน่วยเป็นเวลา 30 วินาที }
{Bone Crush : รัดรอบตัวเป้าหมายทำดาเมจ 200% และทำให้เกิดดีบัฟหนึ่งอย่าง { Disarm} รึ {Crippled} }
{Spider Web: ใช้ไยแมงมุมตรึงเป้าหมาย 10 วินาที }
” ดูเหมือนว่าโทรลกำลังสนุก ” – โซว์ พูดขึ้น
โทรลหลายตัวนั้นติดพิษโดยมีฟองออกมาจากปาก ตัวอื่นยังคงถูกตรึงไว้ด้วยใยพยายามดิ้นให้หลุดออกมาได้แต่ตัวที่เหลือนั้นกำลังอัดกับคิเมร่าอยู่ คทาน้ำแข็งของพวกมันถูกฟาดเข้าใส่ด้านข้างอย่างแรง คิเมร่าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่โดนฟาด
” เราควรไปช่วยพวกนั้น “- เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับใช้ {Stampede}
Chapter 181 : Plants vs Zombie
เดฟ พุ่งเข้าชนกับคิเมร่าแล้วสตันท์มันไป 2 วินาที
[-16,000]
เขาได้ใช้ {Aura} แล้วเริ่มโจมตีกระหน่ำใส่คิเมร่าที่สตันท์อยู่
ทันทีที่สตันท์หมดเวลาลงแล้วคิเมร่าก็ได้กวาดหาง เดฟ ก้าวออกไปข้างๆเพื่อหลบการโจมตีและใช้ {Infernal Tornado}
[-12,555]
[-10,555]
[-8,555]
โซว์ เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยการใช้ {Piercing Arrow} เล็งไปที่หัวของคิเมร่า มันแทงทะลุตาข้างหนึ่งจนทำให้เกิดดีบัฟตาบอด
โทรลยังคงอัดมอนเตอร์ไปเรื่อยๆและใช้ {Ice Pillar} ยิงหอกน้ำแข็งขึ้นจากพื้นแทงเข้าที่ท้องของคิเมร่า
แม้ว่าการโจมตีทั้งหมดจะมาจากคนอื่นแต่ {Infernal Tornado} นั้นทำให้ เดฟ สร้างระดับเป็นภัยอันดับสูงของคิเมร่าได้ง่ายๆจนทำให้มันโฟกัสมาโจมตีเขา
เดฟ หลบการโจมตีที่เข้ามาด้วย {Immortal Apprition} ตอนที่เขาลงมายืนที่พื้นผลของความกลัวก็ทำให้คิเมร่านั้นวิ่งออกไปด้วยความกลัว เดฟ กระทืบพื้นใช้ {Death Surge} และมีพลังสีดำถูกยิงออกมาจากใต้เท้าของเขาพุ่งเข้าใส่คิเมร่าจนทำให้มันเซและทำดาเมจให้กับมัน
โซว์ โจมตีด้วย {Binding Arrow} ตรึงคิเมร่าไว้กับที่ ในตอนที่คิเมร่านั้นสตันท์ เดฟ ก็โจมตีด้วย {Sword Lunge} เข้าโจมตี พลังงานดาบแสงได้ฟาดเข้าใส่ตัวคิเมร่าลดเลือดของมันลงไปอีก
เลือดของคิเมร่าลดลงจนถึงจุดวิกฤต มันพยายามที่จะพุ่งเข้าใส่ เดฟ แต่เขาก็ก้าวหลบไปข้างๆแล้วโจมตีด้วย {Decimating Smash} โทรลได้ทำการล้อมคิเมร่าเอาไว้แล้วโจมตีลดเลือดคิเมร่าหมดได้อย่างรวดเร็ว
[ เลเวลเพิ่ม ! ]
เดฟ ต้องการ xp อีกแค่เล็กน้อยที่จะถึงเลเวล 290 การตายของคิเมร่านั้นเพียงพอที่จะได้ตามที่เขาต้องการ
หลังจากที่ชนะแล้วเหล่าโทรลก็พากันดีใจ มันพากันเต้นแล้วร้องเชียร์กันออกมา
[Gauntlets of the Stalwart ของคุณเลเวลเพิ่มขึ้นแล้ว ความสามารถใหม่ปลดล็อค]
“สวย ! ” – เดฟ ตรวจสอบความสามารถใหม่ของถุงมือทันที
{Rising Dragon: การโจมตีใกล้ครั้งต่อไปหลังจากที่ใช้สกิลคือการต่อยเสยคางทำให้ศัตรูลอยขึ้นไปในอากาศ ทำดาเมจธาตุไฟ 200% สกิลนี้มีโอกาส 30% ทำให้ติดไฟ }
” สกิลดีจริงๆ ! “
เดฟ ปัดแจ้งเตือนออกจากหน้าจ่อแล้วเดินไปที่ศพ
[Lab Key] x1
[Poison Potion] x1
10 ทอง
” ของพวกนี้มันอะไรกัน ?” – เดฟ บ่นออกมา
” นายได้อะไร ? ” – โซว์ ถาม
” เธอดูเองสิ ” – เดฟ เอาของให้กับ โซว์ ดู
” ปกตินิ นี่ไม่ใช่โลกใต้ดินนะ คิเมร่าก็ไม่ใช่มอนเตอร์เลเวลสูง “
เขาหยิบกุญแจขึ้นมาแล้วตรวจสอบมัน
[Lab Key]
กุญแจเหล็กที่ใช้ไว้เปิดประตูห้องทดลอง
” ฉันเดาว่าเราคงไม่ต้องใช้มันแล้ว Drahman น่ะเปิดประตูให้เราแล้ว ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วมองไปที่ประตูที่ถูกพังลงไป
” เราน่าจะเข้าไป “- เดฟ พูดแล้วมองไปที่พวกโทรลที่กำลังฉลองกันอยู่
” พวกโทรลที่โดนพิษน่าสงสารจัง ” – โซว์ พูดขึ้นแล้วมองไปที่โทรลสองตัวที่ยังคงนอนสลบอยู่ที่พื้น
ก่อนที่จะมีคนได้พูดอะไรนั้นโทรลขนแดงก็ได้เดินไปหาพวกของมันสองตัวที่หลับอยู่บนพื้นแล้วใช้คทาฟาดเข้าที่หัวของทั้งสอง โซว์ อึ้งกับพฤติกรรมอันโหดร้ายนี้แต่ก็ต้องแปลกใจที่โทรลทั้งสองตัวลุกขึ้นมานั่งได้ราวกับว่าพวกมันหลับไป พวกมันแค่ยิ้มแล้วลูบหัวตัวเองก่อนจะชี้หน้ากันแล้วหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า ไม่นานหลังจากที่โทรลมารวมกลุ่มกันอีกครั้งแล้วร้องออกมาราวกับเรียกกำลังใจ พวกโทรลได้เดินหน้ากันต่อผ่านประตูที่ถูกพังลงด้วยการไม่เป็นระเบียบอย่างเช่นเคยก่อนจะหายไปจากสายตาพกวเขา
นอกประตูนั้นเป็นบันไดวนที่ทำด้วยหินซึ่งมีรอยเท้าขนาดใหญ่ฝังอยู่ที่ใจกลางบันไดในแต่ละขั้น Drahma คงเดินผ่านบันไดนี้ไปยังชั้นต่อไป พวกเขาเดินตามรอยเท้านั้นลงไปเรื่อยๆ บันไดได้นำไปสู่ห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ ต้นไม้และเถาวัลย์ในห้องนั้นขึ้นเต็มไปทั่วทั้งกำแพง, พื้นรึแม้กระทั่งเพดาน
เถาวัลย์พวกนี้มีหนานที่แหลมคมซึ่งมีดอกไม้สีชมพูที่ปลาย พวกมันคล้ายกับตัวล่อแมลงที่คอยกินแมลงวันและแมลงตัวเล็กต่างๆแต่ดอกไม้พวกนี้ใหญ่พอที่จะกลืนแมวรึหมาเข้าไปได้
” ต่อจากนี้ก็ระวังตัวด้วย ฉันไม่เห็นพวกโทรลแล้ว พวกมันอาจจะนำหน้าเราไปแล้วแต่ฉันรู้สึกว่าต้นไม้พวกนี้จะโดดใส่เราถ้าเราไม่ระวัง ” – เดฟ พูดขึ้น
Jura หมุนหอกเปลี่ยนหอกเป็นหอกไฟ
” พวกนี้คือต้นไม้กินน้ำแข็ง ไฟคือวิธีที่ดีที่สุดในการฆ่ามันแต่ถ้าไม่เหยียบรากมันจนปลุกมันเข้า มันก็จะไม่ทำร้ายนาย ” – Jura ค่อยเดินหน้าช้าๆระวังไม่ให้ไปแตะจุดสำคัญของต้นไม้ โซว์ และ เดฟ เดินตามหลัง Jura ไปในทุกๆก้าว
ไม่นานทั้งสามก็ได้ยินเสียงต่อสู้กัน โทรลได้เข้าสู้กับต้นไม้ โทรลงบางตัวโดนเถาวัลย์รัดเอาไว้ราวกับมัมมี่ โทรลตัวที่เหลือพยายามช่วยเพื่อนตัวเองด้วยการเอาคทาฟาดไม่ก็กัดไปที่เถาวัลย์ พวกโทรลทำอะไรไม่ได้เพราะน้ำแข็งที่พวกมันเรียกออกมานั้นโดนต้นไม้กินไปซึ่งมีแต่ทำให้พวกต้นไม้แข็งแกร่งขึ้น
” ไปช่วยพวกนั้นกันเถอะ ” – โซว์ พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
เดฟ เดินเข้าไปหาโทรลตัวที่ใกล้ที่สุดแล้วจับเอาเถาวัลย์อันหนึ่งไว้ ถุงมือของเขาได้ปล่อยไฟออกมาจนทำให้เถาวัลย์นั้นหดตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว ต้นไม้รู้สึกได้ถึงอันตรายและมารวมตัวกันที่ เดฟ คอยเข้าโจมตีเขา ดอกไม้หลายอันบานออกแล้วปล่อยของเหลวออกมาผ่านเขี้ยวที่แหลมคมพยายามที่จะลอบโจมตี เดฟ
เดฟ ได้ใช้ {Aura} และทำให้ต้นไม้พวกนั้นต้องถอยจากผลของการเผาไหม้จากสกิล
” ง่ายดีแหะ ” – เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับปิดการใช้ {Aura}
ในตอนที่เขาพูดจบนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือนก่อนจะมีรอยแตกเปิดออกแล้วมีเถาวัลย์สีเขียวขนาดเท่ากับต้นไม้โผล่มาจากใต้พื้นดิน มันมีปากที่กว้างซึ่งเต็มไปด้วยฟันอันแหลมคมที่ปลายเถาวัลย์
เถาวัลย์ได้พ่นของเหลวออกมารอบๆ มันมองมาที่ เดฟ และคบไฟที่ทำให้มันเจ็บปวดด้วยความแค้น
รากของต้นไม้บางส่วนเป็นเถ้าไปแล้ว พวกมันคือรากที่ เดฟ เผาด้วยสกิล {Aura} ของเขา
[Ice-Borne Plant]
ระดับ : Epic
เลเวล : 280
HP : 250,000
ดาเมจ : 15,000-20,000
ลดดาเมจ : 1,000
ดูดซับเวทย์ : 15,000
สกิล :
{Toxic Smoke : คายแก๊สพิษออกมาเพื่อทำดาเมจพิษเป็นเวลา 20 วินาที ทำดาเมจพิษ 2,000 หน่วย/วินาที }
{Meat Grinder : กลืนเหยื่อเข้าไปและเคี้ยวสุดแรงทำดาเมจ 100% และทำดาเมจเลือดไหล 200% เป็นเวลา 10 วินาที}
{Earthly Embrace : รัดรอบตัวเป้าหมายทำดาเมจ 200% จนกว่าเป้าหมายจะขาดอากกาศหายใจ การขาดอากาศหายใจนี้จะทำให้เป้าหมายอยู่ในภาวะมึนงง 10 วินาที }
คำอธิบาย : ต้นไม้กินน้ำแข็งนี้กลายพันธุ์ขึ้นมาจากต้นไม้ที่ถูกปรับเปลี่ยนพันธุกรรมให้กินน้ำแข็งเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น พวกมันต้านทานการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับน้ำและดินได้ดีแต่เพราะพวกมันยังเป็นต้นไม้ พวกมันจึงอ่อนแอต่อไฟ
” เอาล่ะ ขนมอีกตัว ! พวกแก ! โทรล ! ถอยไป ! พิษจะจัดการพวกแกเอา ! ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วพุ่งเข้าหาต้นไม้พร้อมกับใช้ {Aura} เดฟ เริ่มการโจมตีแบบเดิมด้วย {Stampede}, {Twin Strike},{Immortal Apparition} และ {Death Surge} คอมโบนี้ลดเลือดมอนเตอร์ไปกว่า ¼
” คอมโบสวย ! ” – โซว์ ตะโกนออกมาแล้วยิงธนูเข้าใส่เถาวัลย์
เดฟ หลบการโจมตีของต้นไม้แล้วทดสอบสกิลใหม่ {Rising Dragon} ร่างของดาร์กนั้นได้ทำการงอเข่าพร้อมกับมือขวาที่งอลงมาอยู่ที่ซี่โครงก่อนจะพุ่งตัวขึ้นเสยคางของต้นไม้และมีไฟวนในรูปร่างของมังกร
[มอนเตอร์มีขนาดใหญ่เกินไปที่จะกระเด็นขึ้นไปได้ ! ]
ร่างของ เดฟ กลับลงมาที่พื้นแล้วพบว่ามอนเตอร์นั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับใบหน้าที่ติดไฟ
เดฟ ไม่ได้สนใจแจ้งเตือนแล้วต่อยเข้าไปอีกสองหมัด
โทรลเข้าร่วมการต่อสู้และโจมตีด้วยคทาของมันแต่แทนที่จะทำดาเมจ เถาวัลย์กลับฟื้นตัวขึ้นแทน เดฟ เห็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คทาน้ำแข็งโดนตัวมอนเตอร์ มอนเตอร์จะทำการดูดซับน้ำแข็งเอาไว้
” โทรล หยุดโจมตี ! ” – เดฟ สั่งการออกมาทำให้พวกโทรลต้องแปลกใจก่อนจะถอยออกไป – ” โซว์ โจมตีมันด้วยไฟ ! “
” ได้ ! “
โซว์ ได้ใช้ {Bomarda} จุดไฟที่ธนูของเธอแล้วยิงเข้าใส่ต้นไม้
ลูกธนูพุ่งเข้าไปในรูเปิดของต้นไม้แล้วระเบิดขึ้นมาถึงดาเมจจะไม่มากแต่ก็ทำให้ต้นไม้นั้นเซได้
เดฟ ได้ใช้ {Infernal Tornado} กับทุกส่วนที่ถูกทำลายของต้นไม้ทำให้เกิดไฟลุกขึ้นมา
[ คุณได้ทำให้เกิดการเผาไหม้ ]
ต้นไม้เริ่มมีไฟลุกและเสียเลือด 500 หน่วย/วินาที ต้นไม้ได้คายแก๊สสีม่วงออกมาใส่ เดฟ โซว์ เองก็ได้รับดาเมจไปด้วยเพราะอยู่ใกล้เกินไป
” พิษ ! พวกมีชีวิตถอยออกไป ! ” – เดฟ พูดขึ้น
ต้นไม้ได้พุ่งเข้าใส่ เดฟ อีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ตอบโต้เร็วพอและโดนกินไปทั้งตัว ต้นไม้ได้ใช้เขี้ยวของมันฝังเข้าใส่ตัว เดฟ พร้อมกับมีเสียงเคี้ยวกระดูกดังขึ้นมาด้วย
[ ในฐานะเผ่าอันเดตแล้วผลการเลือดออกล้มเหลว ]
” ไอ้ต้นไม้เฮงซวย ฉันจะแสดงให้ดูว่าทำไมแกไม่ควรกินดาร์ก ! ” – เดฟ สบถออกมาด้านในและเลือกใช้ {Dragon Ball}
ท้องของ เดฟ โดนฟันกัดอาไว้แต่มือของเขายังเคลื่อนที่ได้และใช้สกิลออกมา ไฟเริ่มรวมตัวกันที่มือของเขาพร้อมกับ {Aura} ที่เปิดใช้งาน ลูกไฟขนาดเท่ากับลูกบอลได้ระเบิดขึ้นมาในท้องของต้นไม้
ต้นไม้นั้นตัวบวมขึ้นมาอย่างกับลูกโป่งและคาย เดฟ ออกมาพร้อมกับเปลวไฟจนทำให้ เดฟ กลิ้งไปกับพื้น
[-180,778]
เดฟ นอนราบอยู่กับพื้น ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมาดู ต้นไม้นั้นก็ตายไปแล้ว เดฟ ไม่คิดว่าดาเมจจะสูงขนาดนี้
” นั่นมันอะไร ? ” – โซว์ เองก็แปลกใจ
” บางทีอาจจะเป็นคริติคอล ” – เดฟ ตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืน
เถาวัลย์ทั้งห้องเริ่มแห้งเหี่ยวและนั่นก็เป็นครั้งแรกที่สภาพทั้งห้องได้ถูกเปิดเผยออกมา
” ดูนั่น ” – โซว์ ชี้
มีรูปปั้นน้ำแข็งเรียงอยู่ที่กำแพง พวกนั้นคือนักรบที่ถืออาวุธต่างๆ
” รูปปั้นพวกนี้ดูเหมือนมีชีวิต ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วพยายามตรวจสอบรูปปั้นตัวหนึ่งแต่การตรวจสอบก็ล้มเหลว
Jura เดินเข้าไปใกล้ – ” นักรบน้ำแข็งพวกนี้คือคนที่รับใช้ราชินีจนกระทั่งพวก Black Skull Order ได้จับพวกเขามาและพยายามทำให้พวกเขาเป็นทาส เพื่อปกป้องตัวเอง ราชินีจึงให้พรกับพวกเขาเปลี่ยนพวกเขาเป็นน้ำแข็ง มีแค่ราชินีเท่านั้นที่จะยกเลิกมันได้ “
เดฟ พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปเก็บของจากต้นไม้
” ยังมีอีกหลายชั้นที่ต้องสู้ก่อนที่จะไปถึงตัวราชินีของนาย เราต้องรีบ Drahma นำหน้าเราไปไกลแล้ว “
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น