Rise of The Undead Legion 168-174
Chapter 168 : จำนวน v พลัง
เดฟตระหนักได้ว่า โซว์ พูดถูก ระยะสองของมันได้เริ่มขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดมากมายที่จะเพิ่มขึ้นมา
เขาเงยหน้าขึ้นมองเท็งงุที่บินอยู่พร้อมกับมีขีดร่ายอีกอันที่โผล่มาบนหัวของมัน แต่อันนี้ยาวกว่าอันแรกมาก เท็งงุเริ่มเปล่งออร่าสีรแดงออกมาแล้วชักดาบออกจากฝัก ตาของเขาส่องประกายสีแดงพร้อมกับสายฟ้าที่แล่นผ่านภายใน
เท็งงุได้ตะโกนออกมาและมีเสียงดาบที่ดังขึ้นสี่รอบ
การตัดสี่ครั้งพร้อมกับเส้นพลังแสงสีแดงได้ถูกยิงออกมาที่พื้นกวาดจนไปถึงกำแพง
” หนี ! หนีออกจากเส้นพวกนั้น ! ” – เดฟสั่งการ
” ซาน ! “*- เท็งงุตะโกนขึ้น
ห้องนั้นสั่นแล้วแบ่งออกเป็นส่วนๆตามการตัดทั้งสี่ อันเดตและ Dunlord ที่อยู่ขวางเส้นทางเหล่านั้นได้ตายทันที Dunlord 4 ตัวและอันเดตอีกหลายสิบตัวตายไปทันที Pincher คือหนึ่งในพวกโชคร้ายที่ถูกฆ่าในการโจมตีนี้ โชคดีที่โซว์สามารถโดดหนีออกมาได้ทัน
เดฟอึ้ง เขาไม่รู้ว่าจะรอดการต่อสู้นี้ไปยังไง เขาอยากที่จะใช้การเรียก Drahma ที่เหลืออยู่เพื่อจัดการกับมินิบอสนี่
น่าแปลกใจตอนที่สกิลของเท็งงุสิ้นสุดลง เท็งงุก็ได้กลังลงมาคุกเข่าหอบหายใจที่พื้น
” ตอนนี้แหละ ! โจมตีเลย ! ” – เดฟสั่งการให้ Dunlord 11 ตัวที่เหลือเข้าโจมตีเท็งงุด้วยทุกอย่างที่มี เขาได้สั่งการให้พวกโจมตีใกล้ถอยกลับมาและให้นักเวทย์ทำการฮีลให้พวกมัน พรีสและพาราดินยังคงทำการฮีล Dunlord ที่ยังรอดอยู่แต่ผลจากพายุนี้ได้ลดผลการฮีลลงไปกว่าครึ่ง
เท็งงุคำรามออกมาแล้วห่อปีกเข้าด้วยกันพร้อมเสียงของสายฟ้าก่อนจะสะบัดปัดตัวพวก Dunlord ออกไป เลือดของเท็งงุตอนนี้เหลือเพียง 30% และมันก็ดูคลั่งยิ่งกว่าเดิม
จากนั้นเท็งงุก็เริ่มทำท่ามืออีกรอบ ออร่าไฟได้ปะทุขึ้นมารอบตัวและมีลูกบอลสี่ลูกปรากฏขึ้นมารอบตัวเขาราวกับดวงจันทร์ที่ลุกไหม้รอบดวงอาทิตย์
ใจของเดฟหล่นวูบพร้อมกับท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีและมีพายุที่ครอบคลุมทั้งห้อง จากนั้นก็มีขนเหล็กนับพันที่ถูกยิงกระหน่ำลงมา
” ไอ้ระยะที่สองเฮงซวย ! “
เดฟได้กระโดดขึ้นด้วย {Vertical Slash} หนีจากระเบิดของลูกไฟและขนเหล็กที่ถูกยิงลงมา
{Blink} ของโซว์นั้นยังคูลดาวน์อยู่แต่เธอก็มีลูกไม้อยู่อีก เธอดึงคันธนูแล้วเล็งธนูขึ้นแล้วลูกธนูก็ระเบิดทันทีที่ถูกปล่อยออกมาสร้างชั้นน้ำแข็งปกป้องเธอเอาไว้
สำหรับอันเดตแล้วมีไม่กี่ตัวที่รอดจากการโจมตีนี้ แม้แต่พรีสก็ยังได้รับบาดเจ็บหนักจากลูกไฟที่ระเบิดนี้ Dunlord สองตัวตายไปและเดฟก็เริ่มหมดหวังกับการที่จะเอาชนะเท็งงุตัวนี้ เขาเสียอันเดตไปกว่าครึ่งให้กับการโจมตีของเท็งงุ ส่วนที่เหลือที่รอดนี้เพราะการโจมตีนั้นไม่ได้โดนพวกนั้นโดยตรง
” โจมตีต่อ ! “
Dunlord ได้กลับไปโจมตีคอยยิงหน้าไม้ใส่เท็งงุที่บินอยู่แต่เท็งงุหลบลูกดอกได้อย่าง่ายดายแล้วพุ่งลงมาโจมตีด้วยดาบ อันเดตที่ไม่อาจจะรับมือได้ต่างก็ต้องตายไปจากคมดาบนี้
” เคลียร์ทาง ! ” – เดฟสั่งการและให้อันเดตใกล้ๆขยับออกจากทางไฟ เขาได้ใช้ {Sword Lunge} และทำให้เกิดลำแสงดาบที่ทำให้เท็งงุนั้นเซในตอนที่บินอยู่
เท็งงุเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งมาหาเดฟในความสูงระดับต่ำพร้อมกับดาบที่ถูกชักออกมาเล็งไปที่อกของเดฟ
เดฟ ใช้ {Double Edge} แต่เพราะเขาเพิ่งใช้ {Vertical Slash} ไปและมันยังคูลดาวน์อยู่ เขาจึงไม่มีทางที่จะหลบการโจมตีที่เข้ามาได้ ในตอนที่กำลังจะรับการโจมตีนี้ หนอนยักษ์ก็ได้โผล่ขึ้นมาแล้วกลืนทั้งเดฟและเท็งงุเข้าไปในปากของมัน จากนั้นก็ได้คายทั้งคู่ออกมาที่พื้นแล้วดำดิ่งกลับลงไปในพื้นดิน
เขาสามารถใช้ {Bastion} ได้แต่นั่นจะทำให้เป็นการเสียสกลิป้องกันที่มีคูลดาวน์นานๆไปแบบเปล่าๆ เลือดของเดฟยังเหลือเยอะและทนรับดาเมจจากสกิลนี้ได้
[-20,000]
เดฟกัดฟันแน่นจากความเจ็บปวดจากหนอนยักษ์
” ดึงมันไว้ ! อย่าให้มันบินขึ้นอีก ! ” – เดฟตะโกนขึ้นพร้อมกับ Dunlord ตัวที่ใกล้ที่สุดได้ใช้ก้ามมันหนีบเอาตัวเท็งงุเอาไว้ Stinger ได้โจมตีเท็งงุจากด้านหลังโดยใช้ก้ามเหล็กของมันหนีบปีกของเท็งงุเอาไว้ เท็งงุลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบากเพราะมี Dunlord สี่ตัวที่หนีบมันไว้อยู่ ตอนนี้มันอยู่ในท่าเตรียมพร้อมกับขีดร่ายที่โผล่ขึ้นมา
” ไม่มีอีกแล้ว ! “
เส้นแสง 4 เส้นปรากฏขึ้นมาเป็นสัญญาณถึงพื้นที่ที่การโจมตีนี้จะไปถึง
เดฟได้หลบจากเส้นแสงเหล่านั้นแล้วสั่งให้พวก Dunlord ปล่อยตัวเท็งงุแล้วทำการหลบการโจมตี
แต่ Stinger นั้นไม่ยอมปล่อยแม้ว่าเดฟจะสั่ง ก้ามของมันนั้นบีบหนักกว่าเดิมจนกระทั่งกระดูกของเท็งงุนั้นหัก เท็งงุร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ยังคงทำการโจมตีออกมาสำเร็จ เสียงคลิ๊กจากการเก็บดาบ 4 ครั้งและห้องที่แยกออกจากกันอีกครั้ง ครั้งนี้มีแค่ Stinger ที่ตาย ร่างกายของเขาได้กลายเป็นเศษแสงแต่ความพยายามครั้งสุดท้ายได้เปิดโอกาสให้กับทุกคน ตอนนี้เท็งงุไม่อาจจะบินได้อีกแล้ว
เดฟโกรธกับการเสียพาหนะของเขาไปแล้วพุ่งเข้าใส่เท็งงุ ในตอนที่วิ่งไปนั้นเขาได้ใช้สกิลที่ไม่เคยใช้มาก่อน {Zealot} สกิลระดับตำนานที่เขาได้มาจาก Drahma
ชุดเกราะของเขาได้เปล่งแสงสีแดงออกมาราวกับไฟนรก เกราและตัวเขาเพิ่มขนาดขึ้นพร้อมกับตัวละครของเขาที่มีความสูงและกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาเป็นสองเท่า
เดฟได้หยุดใช้รูน Azure Water แล้วได้รับแจ้งเตือน
[ ความวุ่นวายไม่สมดุล คุณจะเสียเลือด 1%/วินาทีเมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะนี้ ดาเมจ +300%]
เดฟไม่ได้สนใจแจ้งเตือนแล้วยังคงเดินหน้าเข้าหาเท็งงุที่ตอนนี้กำลังถอยกลับไปช้าๆ
เขาต่อยหน้าเท็งงุจนทำให้มันเซ เขาไมได้หยุดและต่อยซ้ำอีกครั้ง ถึงมีความต่างทางเลเวลที่ทำให้ เดฟทำดาเมจเท็งงุไม่ได้แม้ว่าจะมีดาเมจเพิ่มขึ้นมาก็ตาม พลังของหมัดนั้นยังทำให้เกิดผลการกระเด็นออกไป เท็งงุพยายามที่จะรับมือด้วยดาบแต่เดฟไม่ได้เปิดโอกาสให้กับอีกฝ่าย เขาได้ทำการเตะกวาดให้เท็งงุล้มลงไปกองกับพื้น
Dunlord ได้รุมโจมตีเท็งงุที่ล้มลงนั้น ตัวที่ใกล้ที่สุดได้ใช้ก้ามของมัน ส่วนพวกที่อยู่ใกล้ได้ใช้หน้าไม้ยิงเข้ามา
เลือดของเท็งงุลดลงมาเหลือแค่ 13%
โซว์เข้าโจมตีด้วย {Ice Shard Arrow Barrage} แช่แข็งตรึงมันไว้กับพื้น
เดฟได้กระโดดขึ้นไปบนตัวเท็งงุแล้วต่อยเข้าที่หัวมันสองหมัด เขาได้อ้าปากแล้วใช้ {Ray Of Flame} ยิงตรงเข้าใส่หน้าของเท็งงุ การระเบิดของไฟนี้ได้ทำให้ทั้งห้องสั่นลดเลือดเท็งงุไปอีกครึ่งหนึ่ง
การโจมตีนี้จะทำดาเมจโดยตรงและต้องขอบคุณที่เดฟได้เพิ่มดาเมจของตัวเองขึ้นมาด้วยรูนเขาจึงทำดาเมจโดยตรงได้ 60,000 พื้นดินรอบตัวเท็งงุนั้นละลายเพิ่มดาเมจเข้าไปอีก
เดฟโดดกลับยออกมาแล้วใช้สกิลโกงอีกอันของเขา {Demon’s Call}
[ สกิลล้มเหลว ]
” เหี้ย ! ” – เดฟหงุดหงิดทันทีแต่มันก็เป็นเรื่องปกติ สกิลนี้มีโอกาสแค่ 10% ที่จะใช้ได้ผลกับบอส
” อย่าให้มันออกจากพื้นที่ลาวา ! ” – เดฟสั่งแล้วถอยกลับ
เลือดของเดฟลดลงอย่างรวดเร็วจากผลพลังงานปั่นป่วนจากรูน ดังนั้นเขาจึงต้องเปิดใช้งาน [Azure Water Rune]
เท็งงุลุกกลับขึ้นมาและคิดที่จะหนีแต่ โซว์ โผล่มาด้านหลังมันแล้วยิง {Breaking Shot} ผลักมันกลับเข้าไปในพื้นที่ลาวา
มือของเท็งงุเริ่มขยับแต่ก่อนที่มันจะได้ใช้ท่าออกมานั้นเหล่า Dunlord ก็ได้ระดมโจมตีจนมันตายไป
[ เลเวลเพิ่ม ! ]
[ เลเวลเพิ่ม ! ]
เดฟ ได้รับแจ้งเตือนว่าเขาเลเวลเพิ่มขึ้นมาอยู่หลายครั้งและทรุดไปนั่งลงกับพื้น
” เหี้ย ยุ่งยากจริงๆ ! “
” เฮ้ เดฟ ว๊าว ฉันได้เลเวลตั้งเยอะแน่ ! ” – โซว์แปลกใจในตอนที่เลเวลขึ้นมาเป็น 150 จากการต่อสู้นี้
” ใช่ บอสนี่มันเอาเราซะเละเลย ฉันล่ะแทบไม่เชื่อเลยว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดนี้และนี่ก็ยังเป็นแค่มินิบอส ดันเจี้ยนนี้คงถือว่าเป็นความคิดที่แย่ “
” นายเพิ่งรู้รึไง ? ” – โซว์หัวเราะแล้วพูดขึ้น – ” แล้วนายมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ? “
เดฟมองไปที่ตัวแล้วพูดขึ้น – ” โอ้ นี่น่ะเหรอ ? นี่เป็นผลจาก {Zealot} มันจะเพิ่มเลือดกับดาเมจที่ฉันได้รับสองเท่า “
เดฟนับอันเดตที่เหลือแล้วแสดงสีหน้าขมขื่นออกมา – ” เราเสียคนไปมากกว่าครึ่ง…”
” ไปดูของกันดีกว่า ! ” – โซว์พยายามทำให้เดฟอารมณ์ดีขึ้น
” ใช่ ไอ้ห่านี่คงจะมีของดีๆให้เรา บ้าเอ้ย ฉันหวังว่าพวกอันเดตจะไม่ต้องเจอกับคู่ต่อสู้แข็งแกร่งแบบนี้อีก เหี้ย แล้วพวกอื่นจะเป็นยังไง “
” นายไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนั้นหรอก พวกนั้นมี 4 ทีม มันมี Dunlord 40ตัวและนักเวทย์อยู่อีกเยอะ ฉันคิดว่าพวกนั้นน่าจะทำได้ดีกว่าเรา “
” เธอพูดถูก ” – เดฟพูดขึ้นแล้วตรวจสอบแผงจัดการเพื่อดูอันเดตของเขา น่าแปลกใจที่วพกนั้นจบการต่อสู้แล้ว ทีมของ Bud กับ Dog นั้นกำลังทำการฟื้นฟูเลือดอยู่
แต่เมื่อเขามองไปที่จำนวนนั้น เดฟก็ใจหล่นวูบยิ่งกว่าเดิม – ” เหี้ย พวกนั้นเสียคนไปกว่าครึ่ง…ฉันคิดว่ามันยังมีอีกห้องจากนี้อีก ฉันไม่เชื่อว่าเราจะไปถึงบอสตัวสุดท้ายได้ “
” ใช่ เราค่อยกลับมาตอนที่แข็งแกร่งกว่านี้ ถ้าบอสตัวต่อไปนั้นเก่งไป เราค่อยวาร์ปออกมาจากดันเจี้ยน ” – โซว์ พูดขึ้น
” เธอพูดถูก ” – เดฟใช้มือแตะไปที่ศพของเท็งงุพร้อมกับมีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
[Skill Book Dragon Ball(Mythic)] x1
[Rift Maker(ไอเท็มเควส)] x1
[Warrior of the East(แบบร่าง)]
[War tengu’s Mask (ไอเท็มสืบทอด)]
[Stone Tablet] x1
1,000 ทอง
” ว๊าว ! ดูนี่สิ ” – เดฟเอาไอเท็มที่ได้มาให้โซว์ดู
” โอ้ ของดีนิ ! “
Chapter 169 : ตอนนั้นเขารู้ว่าเขา…..
[Dragon Ball Mythic]
ร่ายบอลไฟขนาดใหญ่กวาดทุกอย่างในเส้นทางและระเบิดทำดาเมจไฟ 10,000 หน่วย + 10*Int ในพื้นที่รอบๆระเบิดทำดาเมจไฟแบบกระจาย 5,000 ในพื้นที่ระยะ 5 ม. คูลดาวน์ 20 นาที ผู้ใช้จะได้รับการลดดาเมจ 80% ในตอนที่ร่าย เวทย์นั้นไม่อาจจะรบกวนรึถูกใบ้ได้
เรียนรู้ ? Y/N
” นี่มันเหมือนกับที่เท็งงุใช่นิ ” – เดฟพูดขั้น
” นายน่าจะเรียนรู้มันไว้ เดฟ มันใช้ได้กับสกิลไฟอื่นของนาย “
” เธอไม่อยากได้งั้นเหรอ ? ” – เดฟถาม
” ไม่ ฉันไม่มีค่า Int เยอะและได้สกิลมาสองอันแล้ว “
” ก็ได้ ” – เดฟกดตอบรับและเรียนรู้สกิล
[ คุณได้เรียนรู้ 10 สกิลจากหนังสือสกิล
ถ้าคุณอยากจะเรียนรู้สกิลเพิ่มจากหนังสือสกิลอื่นๆคุณต้องทำการยกเลิกหนึ่งในสกิลที่เรียนรู้มาเพื่อเปลี่ยนสกิล
ตอนนี้คุณได้เรียนรู้สกิลจากหนังสือสกิลดังนี้ :
Aura
Call of Chaos
Demon Call
Double edged
Dragon Ball
Ray of Flames
Spectral Skull
Stampede
Twin Strike
Vertical Slash
]
เดฟไม่ได้สนใจแจ้งเตือนในตอนนั้นและเช็คหน้าจอส่วนที่สอง
[Rift Maker]
นำชิ้นส่วนนี้ไปให้กับช่างตีเหล็ก พวกเขาอาจจะรู้จุดกำเนิดของมัน
” นี่มันไอเท็มเควส มันคือคันตาน่าของเท็งงุ ” – เดฟอธิบายกับโซว์
” ใช่ แล้วไอเท็มสืบทอดล่ะ ? “
[War tengu’s Mask]
คลาสนักดาบ
เมื่อใส่หน้ากากนี้แล้วความลับจะเป็นความลับ (ไม่อาจใช้ได้ถ้าผู้เล่นอยู่ในเควสการสืบทอดอย่างอื่นแล้ว)
” ใช่ นี่เป็นไอเท็มสืบทอดและมันก็เป็นเกรด B มันน่าจะขายทำเงินได้บ้าง ” – เดฟพูดขึ้น
” ใช่ เกรดมันก็ไม่ได้สูงเกินไปแต่มีผู้เล่นหลายคนที่ต้องการมัน แล้วไอเท็มชิ้นสุดท้ายล่ะ ? มันแบบร่างของเกราะเซ็ตรึไง ? “
” ใช่ ” – เดฟเอาแบบร่างให้กับโซว์ดู
[Warrior of the East Blueprint]
Fine Blood Silk 5 กก.
Ingots Dark Steel x 15
Infernal Gargoyle’s Heart
Dark Alligator’s Leather
ระดับช่างที่กำหนด : Smith Grandmaster
” เอาล่ะ มันคือแบบร่างอีกอัน ยังไงซะ โซว์ แล้วมีข่าวอะไรเรื่องเกราะเซ็ตคริสตัลรึเปล่า “
” คนในกิลด์บอกว่าเขาหาวัสดุในการสร้างไม่ได้ เขาจะบอกฉันตอนที่มีครบทุกอย่างแล้ว “
” เอาล่ะ ฉันจะลองคิดทีหลัง ฉันอาจจะทำการสร้างบางอย่างขึ้นมาเองได้ ” – เดฟมองไปที่อันเดตที่กำลังฟื้นฟูตัวขึ้นมา – ” เอาล่ะพวก เดินหน้ากันดีกว่า ! “
เขาขึ้นไปที่หลัง Dunlord และสั่งให้อีกตัวเป็นพาหนะให้กับโซว์
โซว์ขึ้นไปที่บนหลัง Dunlord แล้วพูดกับเดฟ – ” มันถือว่าเป็นการผลาญเงินเลยนะ มันต้องใช้วัสดุและวัตถุดิบมากมายเพื่อยกระดับช่างของตัวเอง “
” ฉันมีแบบร่างเยอะจากโลกใต้ดินและมันมีวัสดุมากมายที่สามารถหาจากที่นี่ได้ ฉันยังซื้อวัสดุสร้างระดับต่ำและแบบร่างที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มระดับช่างได้ จากนั้นตอนที่ฉันสร้างเกราะและไอเท็มของโลกใต้ดินด้วยตัวเองได้ ฉันก็สามารถขายมันได้ตามราคาที่ฉันต้องการและเป็นผู้ผลิตเพียงคนเดียวในตลาดกับเกราะเซ็ตพวกนี้ “
” นั่นถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดี ” – โซว์ให้กำลังใจเดฟ
” เฮ้ เดฟ นายว่าเราลืมบางอย่างไปรึเปล่า ?” – โซว์ถามพร้อมกับเอียงหัว
” เอาจริงๆฉันก็ไม่รู้นะ “
โซว์ดึงสายบังเหียนแล้วมองกลับไปที่ภูเขา
” เจดีย์ ! เรายังไม่ได้เช็คมันเลย! “
” เธอพูดถูก ” – เดฟเร่ง Dunlord ของตัวเองไปที่เจดีย์และสั่งอันเดตตัวอื่นๆให้อยู่กับที่ให้รออยู่ตรงนั้น
โซว์ได้ตามเดฟขึ้นไปที่ภูเขา ตอนที่ไปถึงเจดีย์แล้ว เดฟก็ได้โดดลงจากหลัง Dunlord แล้วเดินเข้าไปด้านใน
โซว์ได้เข้าไปด้านหลังและพวกเขาก็ได้พบกับที่พักของพระ มันมีธูปถูกจุดไว้และเตียงกับโต๊ะเล็กๆตั้งอยู่ด้านใน
” ว๊าว สำหรับบอสแล้วเขาอยู่ในที่ที่ดูธรรมดาดีนะ ” – โซว์พูดตลกขึ้นมา
” มันมีจดหมายอยู่ที่นี่ ” – เดฟหยิบจดหมายขึ้นมาจากโต๊ะ
มันเป็นจดหมายเก่าๆที่มีตัวหนังสือและเครื่องหมายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
” ฉันอ่านมันไม่ได้ ” – เดฟพูดขึ้น
โซว์เอาจดหมายไปจากเดฟแล้วมองดูก่อนจะพูดขึ้น – ” มันมีบางครั้งที่ผู้เล่นจะพบกับจดหมายที่ไม่เข้าใจได้แต่เราก็สามารถเอามันไปให้กับบรรณารักษ์ให้พวกเขาถอดข้อความออกมาให้ได้ นี่อาจจะเป็นไอเท็มเควส “
โซว์ส่งจดหมายคืนให้กับเดฟก่อนที่เขาจะเก็บมันไว้
เจดีย์แห่งนี้มีสามชั้นแต่ทางเข้าชั้นบนนั้นถูกปิดเอาไว้แน่น ทั้งสองคนยอมแพ้ก่อนจะเดินออกมาจากเจดีย์แล้วกลับไปหาพวกอันเดต พวกเขาได้มุ่งหน้ากลับไปยังห้องเดิม ตอนที่ไปถึงห้องกำแพงจากทางที่เพิ่งเข้ามาตะกี้ก็ได้ปิดลงแล้วมีประตูอีกบานที่เปิดขึ้นมาเป็นห้องสุดท้าย
” งัน้เราจะเข้าไปรึวาร์ปกลับดี ? ” – โซว์ ถาม
” เราอาจจะเข้าไปดูว่ามันเป็นยังไง ถ้ามันเก่งพอๆกับเท็งงุค่อยกลับออกมา ” – เดฟพูดขึ้นแล้วพา Dunlord ที่เหลือเดินเข้าไปในประตูที่เปิดออก
ทางเดินนั้นลาดลงและพวกเขาก็ได้เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ เดฟเห็นกระดูกกระจายตามพื้นดินอยู่ทุกระยะ ตอนที่เข้าใกล้ประตูห้องบอสนั้นพวกเขาก็ได้พบกับสุสาน กองไฟขนาดใหญ่ที่ถูกจุดขึ้นมาในห้องและที่พื้นก็มีศพเป็นร้อยๆของทหารและอัศวิน
” นี่ดูเหมือนว่าเป็นสนามรบ ” – โซว์พูดขึ้น
ศพเริ่มกระดิกและกระดูกที่ฉีกขาดออกจากตัว กระดูกนั้นขยับไปมาราวกับมีด้ายที่มองไม่เห็นคอยชัก พวกนั้นเริ่มก่อตัวเองเข้าหกากันสร้างกองกระดูกขนาดใหญ่ขึ้นมา
” ฉันไม่ชอบที่มันเป็นแบบนี้เลย ” – เดฟพูดขึ้น
” นายเป็นอันเดตไม่ใช่รึไง มันไม่น่าจะเป็น โอ้พระเจ้า ! ” – โซว์กรีดร้องออกมา กระดูกที่ศพทุกศพได้ฉีกขาดออกจากร่างกายเดิมแล้วไปต่อรวมกันสร้างโครงกระดูกขนาดใหญ่ขึ้นมา โครงกระดูกนี้สูงอย่างน้อย 50 ม.ตอนที่มันลุกขึ้นยืน มันเริ่มที่จะขยับกรามไปมา มันทำราวกับฟันนั้นยังไม่เข้าที่
[Gashadokuro]
เลเวล : 500
ระดับ : Mythic
ความอันตราย : ???
HP : 1,000,000
ดาเมจ : 60,000-80,000
ลดดาเมจ : 80,000
ดูดซับเวทย์ : 10,000
สกิล :
{Invisibility : สามารถที่จะหายตัวได้ช่วงเวลาหนึ่ง การโจมตีต่อไปหลังจากที่หายตัวหมดลงนั้นจะทำให้เป้าหมายตายทันที ( การโจมตีนี้ไม่ได้รับจากระดับภัยและจะโจมตีแบบสุ่ม )
{Indestructible : สำหรับเลือดทุกๆ 10% ที่เสียไปนั้นมันจะเข้าสู่ช่วงอมตะ 60 วินาที สกิลและเวทย์ไม่อาจจะทำดาเมจได้และต้านทานสกิลควบคุมทุกอย่าง }
{Bone Explosion : ระเบิดร่างกายบางส่วนทำดาเมจ 50,000 แบบ AOE }
คำอธิบาย
Gashadokuro เป็นสิ่งมีชีวิตยามค่ำคืน พวกมันถูกสร้างขึ้นจากร่างกายของคนตายที่เต็มไปด้วยความแค้นหลังจากที่ตายไปแล้ว บอกกันว่า Gashadokuro สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ผ่านการดื่มเลือดของเหยื่อ มีแค่ Omyouji ที่สามาถไล่มันไปได้ด้วยการใช้บทสวดเก่าๆ
” เอาล่ะ ฉันเดาว่ามันยังไม่สายไปที่จะวาร์ปหนี ไปจากที่นี่กันเถอะ ” – โซว์พูดขึ้น
” ฉันเดาว่าเธอพูดถูก เราไม่ได้มีพลังที่จะไปสู้กับมันได้ ” – เดฟพูดขึ้น
โครงกระดูกเอียงหัวเมื่อเห็นอันเดตที่เดินเข้ามา
” โอ้ มันมาแล้ว ! ” – โซว์พูดขึ้นแล้วดึงบังเหียนและรีบถอยกลับไป
ปากของโครงกระดูกอ้ากว้างก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงที่น่ากลัว – ” พวกแก พวกแกมาถึงที่นี่ได้ยังไง ? “
‘ มันไม่โจมตีเรา… ‘ เดฟรวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นมา – ” เราจากโลกภายนอก มาจากดินแดนอันเดต “
” อะไรคือดินแดนอันเดต ? ” – โครงกระดูกพูดพร้อมกับเข้ามาใกล้ทั้งสอง มันมองมาที่พวกเขาซึ่งดูเป็นฉากที่น่ากลัวแต่ไม่ได้โจมตีเข้ามา
เดฟเงยหน้าขึ้นมองแล้วตอบช้าๆ – ” มันเป็นที่ที่มีอันเดตมากมายพักอาศัยอยู่ เหมือนกับฉันและพวกคนที่มากับฉัน “
” ฟังดูแล้วเป็นที่ที่ดี…ฉันอยากจะเห็นมัน ฉันได้ถูกขังไว้ที่นี่มานานแล้ว นานมากๆ “
” อะไรที่หยุดนายไว้ ? ทำไมไม่ออกจากที่นี่ไปซะ ? ” – เดฟถาม
” ผู้พิทักษ์ Raijin กับ Fujin พวกนั้นปกครองที่นี่และเราต่างก็เป็นทาส ” – โครงกระดูกพูดขึ้น
” ไม่ ตราบใดที่นายเป็นอันเดต มันไม่มีใครปกครองอันเดตนอกจาก Undead King ” – เดฟพูดขึ้น
” ใครคือราชาคนนั้น ? ” – โครงกระดูกเริ่มมีท่าทีสนใจในเดฟและเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง
” เขาเป็นราชาที่ดีและมีเกียรติ เขาปฏิบัติต่อคนของเขาด้วยความยุติธรรม ทุกคนน่ะมีอิสระทำได้ตามต้องการและไม่มีใครที่ถือว่าเป็นทาส “
” ราชาที่ดี ” – โครงกระดูกพูดขึ้น – ” ฉันขอเป็นพวกกับเขาได้รึเปล่า? ฉันหวังว่าจะไม่ต้องใช้ชีวิตอมตะในกรงที่หาทางออกไม่ได้นี่ “
เดฟตะลึง เขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอีกฝ่ายยังไง
[ คุณได้สร้างความสนใจให้สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมาร่วมมือด้วย ดินแดนอันเดตจะรับพันธมิตรในนามของคุณ ตัวตนที่คุณรับมานั้นแข็งแกร่งเกินไปสำหรับทีมของคุณในตอนนี้
ตัวตนนี้จะอยู่ระดับ Doom Knight
คุณได้รับรางวัล +100,000 คะแนนสำหรับการรับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเข้ามาให้กับอันเดต]
” สวย ! ” – เดฟพูดขึ้น
โครงกระดูกเริ่มหายไปจากห้องและมีไอเท็มชิ้นหนึ่งตกลงมาจากจุดที่มันยืนอยู่
[Stone Tablet]
” งั้นเราก็ได้แต่จารึกไม่ได้ของอย่างอื่น ” – โซว์ พูดด้วยท่าทีสลด
” มันดีกว่าไม่ได้อะไร ” – เดฟตอบกลับแล้วได้รับแจ้งเตือนสองอันหลังจากที่พูดจบ
[หนึ่งในทีมของคุณได้เปลี่ยนบางคนให้เข้าร่วมกับดินแดนอันเดต +50,000 คะแนน]
[หนึ่งในทีมของคุณได้เปลี่ยนบางคนให้เข้าร่วมกับดินแดนอันเดต +50,000 คะแนน]
” ว๊าว ฉันคิดว่า Bud กับ Dog จะรับคนเข้าดินแดนอันเดต “
” นายหมายความว่ายังไง ? ” – โซว์ถาม
” ฉันเพิ่งได้รับแจ้งเตือนมาว่าพวกนั้นได้เปลี่ยนอันเดตเข้าฝ่ายเราและได้รับรางวัลสำหรับเรื่องนั้น “
” นายคิดว่าห้องพวกนั้นจะมีบอสแบบเดียวกันรึเปล่า ? ” – โซว์ถาม
” ใช่ บางทีน่ะนะ เอาล่ะ เราควรจะไปพบกับพวกนั้นในไม่ช้าจากนั้นก็จะรู้เอง “
ทั้งสองได้ทำการค้นหาตามพื้นที่สนามรบแต่ก็ไม่ได้พบอะไรน่าสนใจ พวกเขาเดินออกจากห้องกลับมายังห้องหลัก ตอนที่ไปถึงที่นั่นประตูก็ได้ปิดลงและทั้งห้องก็ได้สั่นพร้อมยกตัวขึ้น เพดานนั้นเปิดออกให้พวกเขาเข้าไปยังพื้นที่ใหม่ มันเป็นลานขนาดใหญ่ที่มีประตูเพียงแค่บานเดียว ด้านหลังประตูนั้นมีอีกห้อง เดฟเห็นว่ามี Dunlord และอันเดตตัวอื่นๆรอพวกเขาอยู่ที่นั่น มันคือทีมอันเดตที่เหลือของเขา
” ดี พวกนายผ่านมันมาได้ ! “- เดฟดีใจในตอนที่กลับเข้าไปรวมกลุ่ม เขารีบนับจำนวนดูและพบว่าเขามี Dunlord 33 ตัวและอันเดต 350 ตัวที่เหลืออยู่
พาราดินสองคนได้ตายไปและเหลืออยู่แค่ 11 คน
Bud ได้เดินเข้ามาหา เดฟและส่งจารึก 4 อันและรูน 2 ชิ้นให้กับเดฟ
[Beast Rune]
เพิ่มดาเมจที่ทำและได้รับ 1% สำหรับทุกๆ 30 วินาทีในการต่อสู้
[Sanguine Rune]
เพิ่มผลการเลือดออกให้กับอาวุธมีคม
การโจมตี 5 ครั้งแบบต่อเนื่องนี้จะทำดาเมจ 1% ของเลือดเป้าหมายตอนนั้นเป็นดาเมจเลือดไหล
” ขอบคุณมาก Bud ! ” – เดฟขอบคุณผีดิบ
” ฉันเดาว่าเราคงโชคดีที่มีหนังสือสกิลมาด้วย “- โซว์พูดขึ้น
” หนังสือ…Spark เอาไป….บอกว่าบอสไม่คิดมาก อันเดต แข็งแกร่ง…เขาให้ Dog 1 อันและฉันหนึ่งอัน…บอสไม่โกรธ ? “
เดฟคิ้วขมวด ‘ อันเดตเรียนรู้สกิลจากหนังสือสกิลได้ด้วยเหรอ ? ‘
เดฟมองไปที่ Spark แล้วเห็นว่าอันเดตนั้นได้พลิกหน้าหนังสืออย่างรวดเร็ว
” นายทำอะไร Spark ? ” – เดฟถาม
อันเดตหยุดพลิกหน้าหนังสือแล้วปิดหนังสือด้วยมือข้างเดียว เขามองมาที่เดฟแล้วพูดขึ้น – ” หัวหน้า ฉันคิดว่า Bud ต้องการใช้หนังสือสกิลที่เราได้มาเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง ฉันหวังว่าหัวหน้าจะยกโทษให้เพราะนี่เป็นวิธีทางเดียวที่เราจะรอดได้ “
” โอ้ งั้นนายก็พูดได้แล้ว ค่อนข้างคล่องด้วยแต่บอกฉันทีว่าทำไมนายถึงบอกให้ Dog ใช้หนังสือสกิลที่เขาพบ ? เท่าที่ฉันเห็นนะเขามาถึงที่นี่ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือสกิลเลยนิ “
” Dog พบหนังสือสกิลที่เกี่ยวข้องกับแส้ “
ในตอนที่เดฟหันกลับไปหา Dog มันก็ได้ซ่อนแส้ไว้ด้านหลังแล้วหันหน้าหนีทันที
เดฟ คิ้วขมวด
” ไม่เป็นไร การเอาสกิลทั้งหมดมาให้ฉันก็ไม่ใช่เรื่องดี การที่ลูกน้องเรียนรู้สกิลและใช้มันในการช่วยฉันในการต่อสู้มันก็คงดีกว่ามาก ” – เดฟบอกกับโซว์
ทีมอันเดตที่เหลือนั้นได้เดินหน้าเข้าไปยังประตูที่มีเพียงบานเดียวบนเวที มันดูเหมือนกับประตูที่พวกเขาเข้ามาในดันเจี้ยน ประตูนี้ได้เปิดเผยสิ่งที่อยู่ด้านในมัน มันเผยให้เห็นห้องโดมขนาดใหญ่ที่มีรูปปั้นพระและนักรบตะวันออกสลักไว้ที่กำแพง ในตอนที่อันเดตตัวสุดท้ายเข้าห้องมา ประตูนั้นก็ค่อยๆปิดลงและเสียงของปิศาจหัวเราะก็ดังก้องไปทั่ว
สายฟ้าและพายุได้พัดพาเข้าใส่ลานเผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดเท่ากับ Drahma สองตัว พวกมันคือตัวที่พวกเขาเห็นตรงทางเข้าดันเจี้ยน ครั้งนี้พวกมันไม่ใช่รูปปั้นแต่มีเนื้อหนัง, กล้ามเนื้อและกระดูก…
ตอนที่โซว์ได้เห็นเลเวลของมันแล้วปากของเธอก็อ้าค้างแล้วพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก – ” ดะ เดฟ…ฉันคิดว่ามันได้เวลาใช้คัมภีร์วาร์ปแล้ว “
” ใช่ เรื่องนั้น…” – เดฟเงยหน้าขึ้นมองมอนเตอร์ทั้งสองตัวแล้วพูดขึ้น – ” ฉันลองดูแล้ว พื้นที่นี่กันการวาร์ปน่ะ….”
Chapter 170 : That is gonna bruise tomorrow…
[Raijin]
เลเวล : 750
ระดับ : Holy
ความอันตราย : ตายแน่นอน
HP : 25,000,000
ดาเมจ : 150,000-200,000
ลดดาเมจ : 400,000
ดูดซับเวทย์ : 400,000
สกิล :
{Lighting Aura : สายฟ้ารอบตัวปกป้อง Raijin สุ่มทำการโจมตีออกจากออร่าโดยทำดาเมจโดยตรง 10% ของเลือดทั้งหมดที่เป้าหมายมีรวมถึงทำการสตันท์เป้าหมาย 5 วินาที ระยะเวลาสกิลนั้นจนกว่าจะยกเลิก }
{Thunder Drum : โจมตีด้วยกองรอบตัวเรียกสายฟ้าลงมา ตอนที่สายฟ้าโจมตีลงที่พื้นรึเป้าหมายนั้นจะทำให้เกิดผลมึนงงและตาบอด }
{El Thor : ท่าไม้ตายที่เรียกเอาสายฟ้าที่ทรงพลังลงมาฆ่าเป้าหมายทันทีที่โดน ไม่ว่าจะใช้สกิลอะไรในการป้องกันตัวเองก็ตาม การโจมตีนี้สามารถหลบได้แต่ไม่อาจจะกันรึป้องกันได้ }
{Brother of Storm : ถ้าพี่น้องคนใดคนหนึ่งตาย ตัวที่เหลือนั้นจะเข้าสู่โหมดคลั่ง ผู้เล่นมีเวลา 1 นาทีในการฆ่ามอนสเตอร์อีกตัวไม่งั้นแล้วฝ่ายโจมตีทุกคนจะตายทันที }
คำอธิบาย : Raijin บุตรแห่งสายฟ้า หนึ่งในสองพี่น้องที่มักจะถูกเรียกว่าบุตรแห่งพายุ เขาได้รับพลังในการมองเห็นอดีต, ปัจจุบันและอนาคต
[Fujin]
เลเวล : 750
ระดับ : Holy
ความอันตราย : ตายแน่นอน
HP : 25,000,000
ดาเมจ : 150,000-200,000
ลดดาเมจ : 400,000
ดูดซับเวทย์ : 400,000
สกิล :
{Flesh Tearing Wind: สร้างพายุขึ้นรอบตัว ลมนั้นจะค่อยๆลดเลือดศัตรูลง 1% ทุกๆวินาที ระยะเวลาสกิลนั้นจนกว่าจะยกเลิก }
{God of Wind Palm Strike : หมัดแห่งธาตุ ทำดาเมจ 200% ในพื้นที่รูปกรวย }
{God’s Wrath : เลือกเป้าหมายแล้วกระทืบเท่าทำดาเมจ 100% เป็นรูปกรวย เป้าหมายในพื้นที่นั้นจะถูกโยนขึ้นไปในอากาศ เป้าหมายหลักจะโดนโจมตีซ้ำตอนที่อยู่ในอากาศ ผลจากการโจมตีซ้ำนี้จะทำให้เป้าหมายตายทันที }
{Brother of Storm : ถ้าพี่น้องคนใดคนหนึ่งตาย ตัวที่เหลือนั้นจะเข้าสู่โหมดคลั่ง ผู้เล่นมีเวลา 1 นาทีในการฆ่ามอนสเตอร์อีกตัวไม่งั้นแล้วฝ่ายโจมตีทุกคนจะตายทันที }
คำอธิบาย : Raijin บุตรแห่งลม บอกกันว่าเขาคือคนสร้างพายุขึ้นมาทำให้เรือมากมายต้องจมลงไป
” ใช่ ฉันเดาว่าเราจบแล้ว ” – โซว์ พูดขึ้น – ” นอกซะจากว่านายจะเรียก Drahma ออกมาได้ ? “
” ฉันทำได้แต่พวกนี้ก็คงฉีกเขาเป็นชิ้นๆ “
พวกนั้นเดินไปดูยักษ์ทั้งสองตัวเพื่อหาทางแก้ปัญหา
” นายเห็นประตูด้านหลังพวกนั้นรึเปล่า ? ” – โซว์ชี้
” รูนั่นเหมือนพอดีกับจารึกที่เราเก็บมาเลย ” – เดฟตอบกลับ
” นายพูดถูกแต่มันอยู่ที่ใจกลางเขตความโกรธของพวกนั้น “
” เราลองใช้เหตุผลกับพวกนั้นดู๖…” – เดฟเสนอขึ้นมา
” นายคิดว่ามันจะได้ผลเหรอ ? “
เขายักไหล่ – ” ใครจะไปรู้ มันใช้ได้ผลกับโครงกระดูกตะกี้มาแล้วนิ “
เขาเร่ง Dunlord ให้เข้าไปใกล้กว่าเดิม ในตอนที่ Dunlord เข้าไปในระยะความโกรธของยักษ์ เดฟ ก็ได้พูดขึ้น – ” ฉันมาละ — ” – ประโยคถูกขัดด้วยการที่ Raijin นั้นเปลี่ยนร่างเป็นสายฟ้าแล้วหายตัวไป
” เหี้ย ! ” – เขาได้ใช้ {Vertical Slash} เพื่อกระโดดออกมาจากหลังของ Dunlord
Raijin โผล่มาตรงหน้า Dunlord แล้วโจมตีเข้าใส่ เสียงนั้นดังก้องไปทั่วทั้งห้องพร้อมกับสายฟ้าที่ระเบิดออกมาจากมือของ Raijin มันไม่มีอะไรเหลืออยู่ตรงนั้นเลยนอกจากเศษเสี้ยวของสายฟ้า
” Dunlord ยังแค่ทีเดียวเลย ” – เดฟ เริ่มลน
Fujin ได้พุ่งมาหาอันเดตและยื่นมืออกมา ลมรูปร่างเหมือนกับฝ่ามือได้ระเบิดออกมา Dog นั้นอยู่ในเส้นทางการโจมตีพอดี
Dog ตบไปที่หลังกิ้งก่าก่อนที่กิ้งก่าจะหายไป เขาไม่ได้มีเวลาที่จะหลบการโจมตีที่เข้ามา ดังนั้นเขาจึงบ่นบางอย่างที่ไม่อาจจะเข้าใจได้แล้วรับการโจมตีนั้นไว้ ลมได้อัดเข้ามาที่พวกอันเดตแล้วเป่า Dog และอันเดตด้านหลังทุกตัว
” เหี้ย ! นี่ต้องเสียขากับแขนไปบ้างล่ะในการเรียกพวกนี้กลับมา ” – เดฟบ่น
เดฟมองไปยังแผงจัดการอันเดตเพื่อส่งอันเดตกลับไปยังดินแดนอันเดตเหมือนกับที่ Dog ได้ทำแต่เขาก็ไม่พบอะไร
Raijinยืนบิดขาเข้าหากันแล้วประกอบมือในท่าสวดมนต์ สายฟ้าขนาดเท่ากับท่อนซุงได้ผ่าลงมาที่โซว์ เธอได้ใช้ {Ice Dome} เพื่อที่จะยื้อชีวิตตัวเองแต่ตอนที่แสงนั้นหายไป ส่วนที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่หลุมเท่านั้น
ไม่มีทางเลยที่เดฟจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้แต่เขาต้องการดูว่าสกิลของสองตัวนี้เป็นยังไงและรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดสำหรับครั้งหน้าในการลงดันเจี้ยนนี้
เดฟรู้สึกว่าลานนั้นสั่นไหว ตอนที่เขาหันกลับมาแล้วพบว่าFujinนั้นกำลังพุ่งมาทางเขา ยักษ์นั้นได้ต่อยเสียคางเดฟ แต่หมัดนั้นไม่ได้ถูกตัวเขาโดยมีแต่ลมที่ยกตัวเขาขึ้น เดฟได้ใช้ {Bastion} เพื่อกันดาเมจจากลม
Fujinกระทืบพื้นและมีลมก่อตัวขึ้นมาที่ใต้เท้าแล้วยกตัวเดฟขึ้นไปเผชิญหน้ากับยักษ์ มือของFujinนั้นพร่ามัวตอนที่ทำการโจมตีนับพันครั้งออกมา แรงของแต่ละการโจมตีนั้นพุ่งผ่านเดฟไปแล้วระเบิดออกที่ด้านหลังเขาเป่าไปทั่วทั้งห้อง แรงที่พัดขึ้นตัว เดฟขึ้นมานี้พัด เดฟขึ้นไปในอากาศซ้ำๆ Fujinยกเข่าขึ้นสูงแล้วเตะลงมาที่เดฟ
เดฟถูกอัดเข้ากับพื้นราวกับลูกบอล ตอนที่เด้งกลับขึ้นไปนั้นเขาก็ได้ไปเผชิญหน้ากับยักษ์อีกครั้ง ตอนนี้เขาพบว่ายักษ์กำลังทำท่าคลื่นเต่าอยู่
ตาของเดฟเปิดกว้างเมื่อเห็นแบบนั้น – ” คลื่นเต่ารึไง ? “
ลมได้ไปรวมตัวกันที่มือของFujinและพุ่งออกมาเข้าใส่เดฟ
[ คุณตาย ! ]
[ คุณจะเกิดใหม่ที่สุดสานที่ใกล้ที่สุดกับประตูวาร์ปในครั้งที่แล้วที่คุณใช้ ]
เดฟโผล่มาในป่าที่เต็มไปด้วยหลุมศพ น่าแปลกใจที่มีแสงเสียดแทงต้นไม้ส่องมายังสุสานนั้น มันเป็นตอนกลางวัน
” นี่ไม่ใช่โลกใต้ดิน “
เดฟเปิดแผนที่ เขาอยู่ในสุสานของ Moria เขาได้ทำการโทรหา โซว์
” เฮ้ โซว์ เธออยู่ไหน ? “
” ฉันถูกส่งกลับมาที่สุสานของเมือง Devi บอสนั่นโคตรเก่งเลย ….นายเห็นเลือดพวกมันมั้ย ? แล้วสกิลล่ะ ? เราจะสู้กับพวกมันยังไง ? “
” ฉันไม่คิดว่าเราควรกลับไปที่ดันเจี้ยนนั้น อย่างน้อยก็สักพัก เราลองเก็บเลเวลที่อื่นดูก็ได้ ” – เดฟพูดขึ้น
” ได้ ฉันต้องไปซ่อมธนูแล้วก็ยังต้องเอาของไปขาย ฉันจะไปเจอนายในอีกครึ่งชั่วโมง “
” ได้ ฉันจะรอ บอกฉันมาละกันก่อนที่จะใช้คัมภีร์วาร์ป ” – เดฟตัดสายแล้วนั่งทำการฟื้นฟูเลือดของตัวเอง
เขาดื่มยาฟื้นฟูและเปิดหน้าต่างจัดการ
” เหี้ย มันมีอันเดตที่ต้องเรียกกลับมาเยอะจริงๆ แม้แต่พาราดินกับพรีสก็ตายไปด้วย ” – เดฟบ่นออกมา
” เดวิดรัสเตอร์ ?”
เดฟตกใจและลุกขึ้นยืนหันไปหาคนพูด อีกฝ่ายนั้นเรียกชื่อเขา ไม่ใช่ชื่อตัวละครในเกมแต่เป็นชื่อจริงของเขา
” เหี้ย ! เธออีกแล้วเหรอ ? ทำไมเธอไม่ไปไกลๆฉันซะ ? “
ผู้หญิงที่พูดนั้นสวมเกราะหนังสีขาว เธอเป็นนักฆ่าขององค์กรหนึ่งที่ชื่อ….Mercy
“เดี๋ยวก่อน รอก่อน ได้โปรด ” – เด็กสาวพูดขึ้นแล้วค่อยเดินเข้าหา เธอยังเลเวลสูงกว่าเขาและเขาก็ไม่ได้มี Gale กับ Orn มาคอยปกป้องเขาด้วย ถ้า Mercy ต้องการที่จะฆ่าเขา มันคงไม่ยากสำหรับเธอที่จะทำแบบนั้นแต่มันได้มีประโยชน์ในการฆ่าเขา การเปิดอีเวนต์ตอนนี้ไม่ได้ขึ้นกับการกระทำของตัวละครอีกต่อไปและตอนนี้เดฟก็สามารถสนุกกับดินแดนอันเดตได้ตามต้องการแต่เธอยังไม่รู้เรื่องนี้
” เธอต้องการอะไร…คุณเจ้าหญิง? ” – เขาเน้นคำสุดท้าย
” ฉันคุยกับพ่อแล้วและเขาก็คุยกับไอ้โง่สองคนที่เขาส่งไป ‘ขอบคุณ’ สำหรับการช่วยเหลือของนาย ฉันมาที่นี่เพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงบาลวันนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น “- เธอพูดขึ้น
” ขอโทษน่ะไม่รับไว้หรอก ไปไกลซะ ” – เดฟตอบกลับ
” นายเลิกทำแบบนั้นกับฉันได้รึเปล่า ! “- เธอเริ่มตะโกนขึ้นมาซึ่งตัดกับบุคลิกของเธอ
” นายเป็นบ้าอะไรกันแน่ ? ” – เธอพูดต่อ
” ฉัน ? ฉันเป็นอะไร ? ” – เดฟต้องการที่จะระเบิดออกมาแต่เขาก็หยุดตัวเองก่อนจะตอบกลับ – ” ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอก ฉันไม่ต้องการยุ่งอะไรกับเธอ…”
” มันเป็นความผิดฉันเอง ฉันสาบาน ! มันควรจะเป็นการขอบคุณ พวกนั้นไม่ควรขู่นาย พวกนั้นควรที่จะช่วยเหลือนายและมันไม่เกี่ยวกับเงินสองหมื่นนั่นหรอก มันเหมือนกับการดูถูก ! “
เดฟ แสดงสีหน้าเย็นชาออกมาแล้วไม่อาจจะใจเย็นอยู่ได้
” ฉันไม่สน ! “
” นายทำเหมือนพวกงี่เง่า พ่อบอกฉันให้มาคุยกับนาย เขาต้องการพบนายและเชิญนายไปกินมื้อเย็น ” – เธอพูดขึ้น
เดฟ ถึงกับผงะไปเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น – ” ทำไมฉันต้องไปเจอกับหัวหน้ามาเฟียด้วย ไม่ต้องเอาเรื่องเจ้าพ่อมาขู่ฉันหรอก ฉันรู้เรื่องหรอกน่า “
” ใช่ เขาเป็นหัวหน้ามาเฟียกลุ่มเรา แม้แต่ซิลวาน่าก็ปกป้องนายไม่ได้ถ้าเราต้องการที่จะจัดการกับนาย ” “
นี่ใช่คำขู่รึเปล่า ? เดฟถึงกับขมวดคิ้ว
Mercy นั้นทำตัวเป็นโกรธเมื่อเห็นสีหน้าเขา – ” นายมีปัญหาอะไร ? เราพยายามของโทษและจัดการเรื่องระหว่างเราให้ดีขึ้น “
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมาอย่างใจเย็น- ” เราไม่ใช่คนแบบที่นายคิด เราจะได้เจอกันอีกในไม่ช้า “
จากนั้นเธอก็หายไป
อารมณ์ของเดฟดูสับสนหลังจากทีเธอหายไป เขาไม่ได้รู้สึกผิดกับการที่ดึงเธอออกมาจากรถในตอนนั้น ชีวิตคนน่ะสำคัญแต่การทำดีของเขากลับมาทำให้เขาต้องมีปัญหา
Chapter 171 : หลังจากที่ตายและการผจญภัยใหม่
” มาเฟียเฮงซวยกับการดูแลโง่ๆ ! เหี้ยเอ้ย ! ” – เดฟที่ทั้งกลัวและโกรธนั้นสบถออกมา
” นายช่วยพวกนั้นแต่พวกนั้นก็ยังอยากหาเรื่องนาย เหี้ยเอ้ย ! ” – เดฟตรวจสอบสภาพเกราะและถุงมือของเขา เขาพบว่ามันเสียหายจากการโจมตีที่ฆ่าเขาแต่มันไม่ได้หนักหนาอะไร มันไม่จำเป็นต้องเอาไปซ่อมทันที
เขามองไปรอบๆสุสานเพื่อหาทางออกก่อนจะเดินออกไปทั้งๆที่ยังโกรธและดูรำคาญอยู่ เขาไม่ได้อยากวาร์ปกลับไปที่ดินแดนอันเดตในตอนนี้ เขาต้องการที่จะเดินเล่นเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง
ในตอนที่เดินไปใกล้กับทางออก ผู้เล่นที่โชคร้ายที่เกิดมานั้นก็พบดาร์กที่เดินอยู่ในสุสาน
มันเป็นธรรมดาสำหรับผู้เล่นที่ต้องหงุดหงิดกับการที่ต้องโดนฆ่า เขาเป็นนักดาบเลเวล 220 ที่ซึ่งเก็บเลเวลอยู่ใกล้กับ Moria ตอนที่ Jade Horned Serpent เกิดมาตรงจุดที่เขาอยู่พอดี
เมื่อเห็นอันเดตที่เดินอยู่ในสุสาน นักดาบนั้นก็คิดจะระบายอารมณ์กับการเสีย xp ไป นักดาบได้ใช้ {Charge} และโจมตีดาร์กจากด้านหลังช
[-680]
[สตันท์ 2 วินาที]
” ดาเมจน้อยจัง ” – นักดาบสับสน ดาบของเขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่ต้องเอาไปซ่อมทันที สกิลของเขาก็ทำงาน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?
เขาได้ทำการตรวจสอบอันเดต
[Kis’Shtiengbrah]
เลเวล : 277
ระดับ : Epic
ขั้น : Death Knight
HP : 355,115/425,000
ลดดาเมจ : 9,0000
ดูดซับเวทย์ : 6,000
” เดทไนต์ แล้วมันมาทำอะไรที่นี่ ? ” *- นักดาบหันกลับเพื่อที่จะหนี เขาเกิดมาพร้อมกับเลือด 10% และยังไม่ได้ทำการฟื้นฟูก่อนทำการโจมตี
” นายคิดว่านายจะไปได้เฉยๆรึไง ? ” – เสียงอันโหดร้ายของดาร์กดังขึ้นมาด้านหลังนักดาบ
” ไม่อีกแล้ว ! มันไม่ยุติธรรมเลย ! ” – นักดาบโอดครวญออกมาแล้ววิ่งหนีจากอันเดต
เดฟได้ใช้ {Immortal Apparition} แล้วโผล่มาตรงหน้านักดาบก่อนที่จะทำให้อีกฝ่ายกรีดร้องอย่างกับเด็ก
[ ผลความกลัวสำเร็จ ]
เดฟ ได้ทำการกระทืบเท้าใช้ {Death Surge} และมีคลื่นเงาแผ่ออกไปใส่นักดาบที่กำลังหนี
[-33,115]
นักดาบนั้นกลายเป็นเศษแสงและถูกส่งไปเกิดใหม่อีกรอบ
[คะแนน +20 ]
” ฉันน่าจะกลับไปที่โลกใต้ดิน ” – เดฟพึมพำกับตัวเอง
เขาฉีกคัมภีร์วาร์ปและโผล่ไปที่ Undead Frontier เดฟ ได้เข้าไปหา Delvina เขาอยากรู้ว่าเขาต้องใช้คะแนนเท่าไหร่ในการชุบชีวิตพวก Dunlord
” สวัสดี Delvina ” – อารมณ์ของเดฟดูเหมือนจะไม่ดีเท่าไหร่
” นายเป็นอะไรมา อันเดตน้อย “
” ฉันเสียคนในทีมไปในดันเจี้ยน “
” นายตาย ? ” – Delvina ถาม
” ใช่ “
” โอ้ นายเสียซิงแล้ว ! ” – Delvina หยอก – ” นายไม่ต้องกังวลเรื่องตายหรอกตราบใดที่ Death Heart ยังคงอยู่กับอันเดต นายตายกี่ครั้งก็ได้ตามต้องการ หัวใจแห่งความตายจะเอาหัวใจอันเดตออกจากตัวกระตุ้นให้กล้าสู้ขึ้นมา แม้ว่านายจะตายแต่นายก็สามารถกลับคืนมาสู้ได้อีกครั้ง ! ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการตาย ฉันได้อ่านรายงานว่านายกำลังเริ่มสร้างค่ายในที่ของนาย นายสามารถเรียก Dunlord และ Dullahan กลับมาจากค่ายเหล่านั้นได้ มันไม่จำเป็นที่นายต้องมาหาฉันถ้านายอยากที่จะเรียกพวกนั้นกลับมา “
” แล้วมันราคาเท่าไหร่ ? “
” นายต้องจ่าย 10% ของราคาซื้อเพื่อดึงพวกนั้นกลับมา “
เดฟได้ทำการตรวจสอบหน้าต่างควบคุมและพบว่าเขาต้องใช้ 220,000 คะแนนเพื่อเรียกอันเดตทั้งหมดของเขากลับมารวมไปถึง Dunlord ด้วย
” ขอบคุณ Delvina ” – เดฟขอตัวแล้วฉีกคัมภีร์วาร์ปก่อนจะปรากฏตัวที่ดินแดนอันเดต
เดฟได้มุ่งหน้าไปยังตึกของ Dunlord และพบว่าคนงานนั้นยังคงก่อสร้างตึกใหม่อยู่
เขาได้ตัดสินใจไปที่ร้านค้าของ Dikenz ตอนที่เดฟเข้าไปในร้าน Dikenz ก็เห็นทันทีแล้วเริ่มเอามือถูกันด้วยตาที่เป็นประกาย
” อ่ะ ลูกค้าคนโปรด ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ ! “
” เฮ้ Dikenz ฉันอยากได้คนงาน “
” มันเป็นเรื่องง่ายๆถ้านายมีคะแนน “
” ฉันต้องใช้คะแนนเท่าไหร่เพื่อสร้างค่ายให้เสร็จในวันนี้ ? “
” โอ้ ประมาณ 70,000 คะแนนแต่ทำไมถึงต้องรีบด้วย ? ฉันบอกนายแล้วนิว่าจะเสร็จใน 7 วัน ” – Dikenz ถาม
” ฉันต้องการคนของฉันเพื่อที่จะได้กลับออกไปลาดตระเวนให้เร็วที่สุด “
” โอ้ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแต่มันต้องมีเรื่องอื่นที่นายชุบชีวิตพวกนั้นกลับมา “
เดฟ มองไปที่ซอมบี้ – ” นายพูดถึงเรื่องอะไร ? “
” นายเห็นราคาของแบรบร่างพวกนั้นที่เท่ากันรึเปล่า ? แม้ว่าจะเป็นตึกที่แตกต่างกันก็ตาม ? “
” ใช่ แล้วทำไม ? บอกมาสิพวก….”
” พวกตึกเหล่านั้นเป็นเพียงตึกธรรมดา การจะชุบชีวิตพวกนั้นจะต้องติดตั้งตัวเกิดใหม่ ไม่งั้นแล้วมันก็คงเป็นเพียงแค่ที่พักให้พวกนั้นอยู่ “
” ให้ตายสิ Dikenz ทำไมนายไม่บอกฉันก่อนหน้านี้ ? แล้วมันราคาเท่าไหร่ ? “
” ไม่มาก แค่ 20,000 “
เดฟเริ่มรำคาญขึ้นมา เขาเหลือคะแนนแค่ 450,000 กับการที่เขาและอันเดตจะกลับมารวมทีมกันอีกครั้ง
” ได้ เอาตัวชุบชีวิตมา “
” ได้ แล้วต้องการแบบไหน ? สำหรับ Dunlord, นักธนู, นักเวทย์หรือสำหรับพวกโจมตีใกล้ ? “
” อะไรนะ ? ฉันต้องซื้ออันละแบบเลยเหรอ ? “
” ทำไม ใช่ แน่นอนสิพวก ” – Dikenz ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
” งั้นนายต้องการให้ฉันสั่งตัวชุบแบบอื่นๆมั้ย ? มันไม่น่าจะกินเวลามากในการจะขนส่งพวกนั้น ” – Dikenz พูดต่อ
เดฟบ่นออกมา – ” นานเท่าไหร่ ? “
” ประมาณ 7 วัน “
” งั้นฉันก็ไม่ต้องการคนงานเพิ่ม สั่งเครื่องชุบให้ฉัน 4 อัน อันละประเภท ฉันจะกลับมาในอีก 7 วัน “
” ได้ “- Dikenz พูดขึ้นก่อนจะหักคะแนน เดฟ ไป 80,000 คะแนน
เดฟได้โทรหาโซว์ อีกครั้ง
เธอรับสาย – ” เฮ้ เดฟ เสร็จแล้วเหรอ ? “
” ไม่ ฉันยังชุบชีวิตพวกอันเดตไม่ได้ ฉันต้องรอไปทั้งอาทิตย์ ! โคตรจะยุ่งเลย “
” งั้นเราก็กลับไปโลกใต้ดินไม่ได้ เรายังแข็งแกร่งไม่พอถ้าไปเพียงลำพัง เราต้องหาที่เก็บเลวลใหม่ “
” อืมงั้นนายช่วยเควสการสืบทอดของฉันเป็นไง ? “
” ฉันคิดวาเธอต้องเลเวลอย่างน้อย 300 ถึงจะทำภารกิจได้ “
” ใช่ แต่มันยังมีเควสอื่นที่ไม่น่าจะยากที่จะทำสำหรับเราสองคน ” – โซว์ ตอบกลับ
” ได้ ฉันเอาด้วย แล้วเราจะไปพบกันที่ไหน ? “
” นายมีประตูวาร์ปอาณาจักรทางเหนือใช่มั้ย ? “
” ประตู Rager น่ะเหรอ ? ไม่ ฉันไม่เคยไปที่นั่น ครั้งเดียวที่ฉันไปทางเหนือคือตอนที่เราเจอกันและนั่นก็เป็นเพราะการวาร์ปสุ่มๆของเควสด้วย “
” ได้ งั้นไปเจอกันที่เมือง Devi ฉันจะให้คัมภีร์วาร์ปทางเหนือกับนาย เอา Orn กับ Gale ไปด้วย Ragers น่ะไมได้เป็นมิตรเท่าไหร่ “
” ได้ ” -เดฟวางสายและเดินไปเรียกคนคุ้มกันสองคนของเขามา
Chapter 172 : สไลด์
เดฟได้เดินผ่านประตูวาร์ปของป้อมหลังจากที่เพิ่มตำแหน่งเมืองหลวงของอาณาจักรตะวันตก เขาได้โผล่มาในลานกว้างพร้อมกับ Orn และ Gale อยู่ด้วย ทั้งสามได้ดึงความสนใจจากผู้เล่นแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าโจมตีเขา
เสียงของ โซว์ ดังขึ้นมาจากด้านหลังพวกเขา
” เฮ้ Mr.Skeletal สวัสดี Orn สวัสดี Gale “
” ว่าไง Lone Arrow “
” เอลฟ์สาว ” – Doom Knight ทั้งสองพูดขึ้นมา
เธอเดินเข้าไปหาทั้งสามแล้วส่งคัมภีร์วาร์ปให้กับเดฟ
” นายมีเพิ่มมั้ย ? สำหรับ Orn กับ Gale ล่ะ ? “
” มีสิ ” – โซว์พูดขึ้นแล้วส่งคัมภีร์วาร์ปให้กับ Doom Knight ทัร้งสอง
ทั้งสามได้ฉีกคัมภีร์วาร์ปและโผล่มาใกล้กับประตูวาร์ปอีกแห่ง ประตูแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเล็กๆในเขตภูเขาน้ำแข็ง
หิมะนั้นเต็มไปทั่วทั้งที่พื้นและหลังคาของตึก ลมหนาวได้พัดผ่านเข้าแต่แสงไฟก็ยังลอดอกมาตามหน้าต่างของบ้านและร้านรวงต่างๆ ความอุ่นของไฟก็ยังแผ่ออกมาจากประตูที่เปิดออก ผู้เล่นบางคนต่อแถวกันซื้อยาที่ร้าน เดฟได้ยินเสียงเพลงที่ดังขึ้นจากโรงอาหารแห่งหนึ่ง
แสงได้มารวมตัวกันพร้อมกับร่างของมนุษย์ที่โผล่ขึ้นมา โซว์ได้มาถึงแล้ว
” รอฉันเดี๋ยวนะ ” – โซว์พูดขึ้น
” เธอจะไปไหน ? ” – เดฟถามขึ้น
” ฉันมีบางอย่างต้องไปเอาที่ร้านขายยา เดี๋ยวกลับมา “
โซว์เดินออกไปที่ร้านขายยา
ตอนที่เธอกลับมานั้นเธอก็ได้ดื่มยาสีม่วงเข้าไป
” นั่นอะไร ? ” – เดฟถาม
” มันเป็นยาหยุดการแข็งตัว มันเพิ่มการฟื้นฟูแรงชดเชยสำหรับความหนาวเย็น ฉันซื้อมันมาเผื่อนายด้วย ” – เธอพูดขึ้น
” ขอบคุณแต่เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน อันเดตมีค่าแรงไม่จำกัด “
” งั้นแล้วเรื่องเควสของเธอล่ะ ? เราต้องทำอะไรกันต่อ ? ” – เดฟถาม
” ออกจากเมืองกันก่อน ” – โซว์ พูดขึ้นแล้วเดินไปยังทางออกของเมืองโดยมีอันเดตทั้งสามเดินตามเธอไป
ผู้เล่นเห็น Doom Knight ทั้งสองที่เดินออกไปพร้อมกับความกลัวที่เกิดขึ้นมาในใจ
การมีอยู่ของ Doom Knight ทั้งสองนี้สามารถขู่ผู้เล่นที่คิดจะทำอะไรโง่ๆได้
” มันเป็นเควสพื้นฐาน ฉันต้องเอาไอเท็มไปให้ใครบางคนที่ภูเขา มันมีเยติที่นั่นซึ่งมันยากที่ฉันจะสู้ได้ด้วยตัวเอง ฉันลองวิ่งผ่านพวกมันดูครั้งหนึ่งแล้วแต่พวกมันก็ยังไปดักหน้าแล้วฆ่าฉันได้ ฉันถึงกับของให้เพื่อนช่วยแต่พวกนั้นก็ผ่านเยติไปไม่ได้ “
” แล้วเลเวลเยติมันเท่าไหร่ ? “
” 250-300 มันไม่ได้ยากเกินไปใช่รึเปล่า ? ” – โซว์ถาม
” การที่มีฉันช่วยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่เราควรระวังตัวด้วย “
ตอนที่พวกเขาไปถึงที่ชายเมือง Gale ก็ได้พูดขึ้น
” หัวหน้า เราตามพวกนายไปต่อไม่ได้ “
” ขอบคุณมากพวก ” – เดฟพยักหน้าแล้วโบกมือลาพวกนั้น
Doom Knight ทั้งสองได้ทำความเคารพเดฟ แล้วพยักหน้าให้กับโซว์ก่อนจะหันกลับไปที่เมืองเพื่อใช้ประตูวาร์ป Orn กับ Gale นั้นมีหน้าที่ในการปกป้องเดฟจากผู้เล่นในตอนที่เขาอยู่ในเมืองเท่านั้น พวกนี้จะยังคงทำงานได้จนกว่าเขาจะเลวลสูงขึ้นกว่านี้และมีอุปกรณ์ที่ดีพอที่จะปกป้องตัวเองได้
” แย่หน่อยที่พวกนี้ช่วยเราไม่ได้ ไม่งั้นแล้วมันคงจะง่าย “
” แต่การมี Doom Knight สองตัวเลเวล 550 มาเป็นพี่เลี้ยงเราก็คงเป็นการทำลายเกม ” – เดฟพูดขึ้น
” แต่การมี Drahma พาเราเดินเล่นในโลกใต้ดินคงไม่ใช่แบบนั้นหรอกใช่มั้ย ? ” – โซว์หยอก
” Drahma เป็นข้อยกเว้น ” – เดฟกระแอมออกมาด้วยท่าทีอายๆ
โซว์กับเดฟได้ปีนขึ้นไปบนภูเขาซึ่งไม่นานก็ไม่อาจจะเห็นเมืองได้อีก
ทั้งสองคนได้เข้าไปยังผาที่มีทางเดินแคบๆ ค่า Agi ของ โซว์ นั้นทำให้เธอควบคุมตัวละครของเธอให้ปีนและเดินได้อย่างรวดเร็ว
เดฟกลับกัน เขาต้องค่อยๆเดินขึ้นไป ค่า Agi กับ Dex ของเขานั้นน้อยกว่า โซว์ แต่ค่า Str ที่เพิ่มขึ้นมานี้ทำให้เขจาสามารถใช้มือจับบางอย่างที่ตัวละครอ่อนแอกว่าไม่อาจจะทำได้ บางครั้งหินถึงกับแตกเลยก็มีแต่เดฟก็ใช้มืออีกด้านจับไปที่หินเพื่อดึงตัวเองขึ้นมาตอนที่เกือบตกลงไป
” ฮี่ ดูเหมือนว่านายจะไม่ชอบความสูงนะ ฉันจำได้ว่านายกรี๊ดเหมือนเด็กผู้หญิงในดันเจี้ยน ” – โซว์ แหย่
” ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดถึงเรื่องอะไร “
” ฮาฮา ! ” – โซว์หัวเราะออกมา
โซว เป็นคนแรกที่ไปถึงยอดเขา เธอรอเดฟให้ปีนขึ้นมา เดฟดึงตัวเองขึ้นมาที่ยอดเขาได้และมองไปรอบๆภูเขาน้ำแข็ง
” เอาล่ะ เราทำได้แล้ว ! ” – โซว์พูดขึ้น
” อะไร ? อยู่ไหน ? ที่ฉันเห็นมีแค่หิมะกับน้ำแข็งเท่านั้น “
” มองลงไปด้านล่างสิ ” – โซว์ชี้
ที่ด้านข้างนั้นมีลำน้ำที่แข็งตัวซึ่งไหลลงไปด้านข้างของภูเขา
” นั่นอะไร ? ” – เดฟถาม
” นายไม่เคยไปโลกบาดาลรึไง ? ” – โซว์ถาม
” ไม่ “
” งั้นนี่ก็จะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับนาย ! ” – โซว์ พูดขึ้นพร้อมกับดึงเดฟไปที่ริมผา
เดฟกรีดร้องออกมาตอนที่ตกลงไป
ตอนที่เดฟชนกับน้ำแข็ง ตัวของเขาก็ได้เด้งไปมาพร้อมกับหน้าที่ไถลไปตามทางแม่น้ำที่แข็งตัว
โซว์หัวเราะและกระโดดตามเดฟไป เธอเคยใช้แม่น้ำนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงตามเขาทันแล้วถึงกับแซงเขาด้วย
เดฟพยายามที่จะปรับสมดุลตัวเองพร้อมกับสบถออกมา
อยู่ๆเขาก็ได้ความคิดขึ้นมา เขาใช้มือกับเท้าผลักไปที่น้ำแข็งเหวี่ยงตัวเองขึ้นไปในอากาศก่อนจะใส่โล่ เขาวางขาทั้งสองข้างไว้ที่โล่และต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเขาสามารถรักษาสมดุลไว้ได้ง่ายๆและเขาถึงกับเร็วขึ้นกว่าเดิม
[คุณได้รับฉายาใหม่ : ผู้แบกโล่(เอกลักษณ์) โล่ของคุณตอนนี้สามารถใช้ทำอย่างอื่นนอกจากการกันได้ คุณจะเพิ่มความเสถียรตอนที่ใช้โล่ในการสไลด์ตามทางชัน ยินดีด้วยที่พบการใช้ประโยชน์จากโล่ ]
” ฮ่ะ ! ” – เดฟค่อนข้างดีใจกับฉายาใหม่ที่ได้มา มันไม่ได้ช่วยในการต่อสู้อะไรมากนักแต่มันก็ถือว่าเป็นฉายาที่ดี
“ฮือ ! ไม่แฟร์เลย ! ฉันเองก็อยากจะขี่ด้วย ! ” – โซว์พูดขึ้นพร้อมกับหันกลับไปมองที่เดฟ ที่เกือบไล่ตามทัน
” โดดขึ้นมา ” – เขายื่นมือไปให้โซว์แล้วดึงเธอขึ้นมาที่โล่ ด้วยการที่โซว์ขึ้นมาที่โล่แล้วจึงทำให้ความเร็วของพวกเขาเพิ่มขึ้นไปอีก
” นี่มันดีกว่าการไถลธรรมดาตั้งเยอะ “
” ฉันคิดว่าเรามีปัญหากันแล้วล่ะ ” – เดฟพูดขึ้น
” ปัญหา….? “
” ฉันไม่เห็นคันบังคับ ! เราจะหยุดมันยังไง ? ! “
” ไม่ต้องกังวล ด้านล่างมีหิมะอยู่เยอะ มันจะเป็นตัวกันให้เราหยุดตอนที่เราไปชนมัน ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก “
” ฉันเห็นว่าแม่น้ำมันสุดตรงไหนและมันไม่ได้มีแผงกั้นหิมะนี่ ! “
” ครั้งที่แล้วมันไม่ได้มีกำแพงนี่ ! เอาล่ะ งั้นก็เริ่มกังวลได้แล้ว ! ” – โซว์กรี๊ดออกมา….
Chapter 173 : แอบ
เศษน้ำแข็งกระเด็นออกจากโล่ด้วยความเร็วที่บอกได้ว่าแทบจะลอยขึ้นจากพื้น
” โซว์ ! เราต้องโดดไม่งั้นกลายเป็นสีแต่งกำแพงแน่ ” – เดฟพูดขึ้น
” ไม่ต้องกังวลเรื่องฉันหรอก ! ฉันใช้ {Blink} ได้ ! “
” ได้ ! งั้นก็คงไม่มีอะไร ! “
โซว์ได้ทำการบลิงค์หนีออกไปโดยตามมาด้วยเดฟ โล่นั้นยังคงไถลไปต่อจนกระทั่งชนกับกำแพงน้ำแข็งก่อนจะสร้างรอยร้าวขึ้นมาที่กำแพง
” เธอควรจะเตือนฉันเรื่องทางชันนี่ก่อนนะ ! “- เดฟบ่นออกมาตอนที่เดินไปเอาโล่ พื้นนั้นลื่นแต่เขากังเดินไปถึงกำแพงน้ำแข็งเพื่อดึงเอาโล่ออกมา
” โอ้ ไม่เอาน่า สนุกดีออก ! นายเคยเล่นเกมแข่งรถรึเปล่า ? “
” ฉันไม่ชอบเกมแนวแข่งรถ ” – เขาตอบกลับ
เธอส่ายหน้าเศร้าๆ – ” โอ้ เดฟ ช่างเถอะ “
” แล้วไงต่อ ? คนที่เธอต้องไปหาอยู่ที่ไหน ? “
” นายเห็นทางเดินนี้มั้ย ? ” – โซว์ ชี้ไปที่อุโมงค์น้ำแข็งด้านข้างกำแพง
” เราเดินเข้าไปในเขตเยติ มันจะมีเยติจำนวนมากและเราก็ต้องระวัง เราดึงมันมามากกว่า 2 ตัวไม่ได้ ” – โซว์เตือน
เดฟพยักหน้าแล้วตาม โซว์ ไปในอุโมงค์ สุดท้ายพวกเขาก็ได้พบกับหุบเขาเมื่อออกมาจากอุโมงค์แล้ว
” เราต้องข้ามหุบเขานี้แต่เราไปถึงอีกฝั่งไม่ได้ถ้าเราโดนเห็นตัว พวกเยติจะโยนก้อนหินใส่เราถ้าพวกนั้นเห็นเรา พวกนั้นจะแอบอยู่ตามด้านบนของหุบเขานี้ งั้นก็ดื่มนี่ซะ “
โซว์ได้เอายาสองอันให้กับเดฟ อันหนึ่งคือยาหายตัวและอีกอันคือยาเก็บเสียง
” ยาพวกนี้จะช่วยเราในการซ่อนตัวจากเยติด้านบน ถ้าเราวิ่งไปเจอเยติที่พื้นเข้า มันจะเห็นรอยเท้าเราที่พื้น การต่อสู้ที่นี่จะดึงความสนใจ “
เดฟดื่มยาเข้าไป ร่างกายของเขาโปร่งใสพร้อมกับรองเท้าที่กลายเป็นสีฟ้า โซว์ได้ดื่มยาและทั้งสองก็ได้เดินหน้าเข้าไปตามหุบเขาโดยวางแผนว่าจะหลบความสนใจนากเยติ
” เยติมันฟื้นฟูกันได้เร็ว พวกนั้นสามารถฟื้นฟูแขนขาตัวเองได้ในไม่กี่นาที เราต้องฆ่าพวกนั้นให้เร็วที่สุดไม่งั้นแล้วพวกมันจะร้องให้ตัวอื่นช่วย “
” ฉันมีดาเมจพอสมควรแต่การจัดการกับมอนสเตอร์เลเวล 250 มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฉันโดยเฉพาะถ้ามันมีการฟื้นฟูตัวเอง “
” เราใช้ไฟได้ ฉันจำได้ว่านายได้สกิลที่มีไฟ {Dragon Ball}และอันที่นายใช้เผาหน้าเท็งงุ “
” ใช่ แต่ {Ray of Flame} น่ะมันมีคูลดาวน์นานแต่ไม่ต้องกังวล กำปั้นของฉันก็มีไฟอยู่ด้วย ” – เดฟตอบ
” ดี ไฟนั้นกันการฟื้นฟูของมันแต่เราสู้มันไปตลอดไม่ได้ เราต้องแอบ นี่น่ะเป็นแค่เขตแรก เราต้องเดินหน้าต่อจนกว่าจะทำเควสเสร็จ “
” เธอหมายถึงคนที่เธอจะมาหาไม่ได้อยู่ที่นี่งั้นเหรอ ? ”
” ไม่ NPC เควสน่ะอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเยติและเราต้องฆ่าพวกนั้นทีละตัวๆ “
ยาหายตัวนั้นลดความเร็วในการเคลื่อนที่กว่า 50% ซึ่งทำให้พวกเขาเดินทางกันได้ช้า ตอนที่ทั้งสองไปถึงที่ปลายหุบเขา โซว์ ก็ได้หยุดแล้วชี้ขึ้นไป
” นายเห็นนั่นมั้ย ? “
เดฟมองไปที่เสาน้ำแข็งซึ่งเหยียดยาวขึ้นไป
” เราต้องปีนเสานั่นแต่มันมีเยติที่ลาดตระเวนด้านบน เราต้องปีนไปครึ่งทางและดูว่ามีเยติอยู่ตรงนั้นรึเปล่า ตราบใดที่ยาหายตัวยังทำงานอยู่ มันก็จะไม่ห็นเรา “
” ได้ แล้วเรารออะไรกันอยู่ ? “
” นายก่อนเลย ” – โซว์ยิ้มออกมา
เดฟยักไหล่แล้วเดินไปที่เสาแล้วมองไปยังด้านบนเพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีเยติอยู่ตรงนั้น
ตอนที่ปีนมาได้ครึ่งทางมันก็มีเยติตัวหนึ่งโผล่มาที่ด้านบนเสา เดฟได้ทำการตรวจสอบมันทันที
[Yeti]
เลเวล : 275
ระดับ : Epic
HP : 375,000
ดาเมจ : 20,000-30,000
ลดดาเมจ : 5,000
ดูดซับเวทย์ : -2,000
สกิล :
{Beast Roar: ทำให้ศัตรูในรัศมี 5 ม.ตกอยู่ในความสับสน }
{Hot Blood : เยติฟื้นฟูเลือด 1% ต่อวินาที}
{Chomp : ทำให้เกิดผลดีบัฟการกัดของน้ำแข็ง ทำให้เลือดของเป้าหมายถูกแช่แข็งและทำให้การฟื้นฟูแรงกายหยุดลงเป็นเวลา 60 วินาที การโจมตีที่ทำให้เกิดการกัดของน้ำแข็งนี้จะทำดาเมจเป็นสองเท่า }
คำอธิบาย : เยตินั้นเป็นสิ่งมีชีวิตในที่หนาวเย็น บ้านของมันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง มันดุร้ายและไม่ยอมให้ใครเข้ามาในเขตของมัน เลือดของเยตินั้นคือวัตถุดิบสำหรับยาฟื้นฟูที่ทรงพลัง คุณสมบัติของเลือดมันคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมพวกมันถึงได้ฆ่าได้ยากนัก
เยตินั้นมีสีขาวทั้งตัว มันมีแขนสี่ข้าง หน้าของมันเหมือนกับคนผสมกับคางคก ปากของมันเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม
” น่าเกลียดจริงๆ ! ” – เดฟพูดขึ้น
” ดูสิว่าใครเป็นคนพูด ” – โซว์ ตอบกลับ – ” ฉันคิดว่ามันน่ารัก ดูขนปุยๆของมันสิ ฉันล่ะอยากกอดมันชะมัด ! “
” เอาล่ะ เลิกล้อเล่นได้แล้ว เราต้องผ่านมันไป “
” มันน่าจะเดินออกไปในอีกสักพัก จากนั้นเราค่อยปีนขึ้นไป ” – โซว์ตอบกลับ
” ยาหายตัวจะหมดผลในไม่ช้า เธอมีเพิ่มอีกมั้ย ? “
” ไม่มีแล้ว ร้านน่ะไม่ได้มียาขายให้อีก ฉันหวังว่ามันจะออกไปก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์นะ ถ้าไมงั้นแล้วเราก็ต้องลงมาจากทางชันนั้นกันอีกรอบ “
โชคดีที่เยติหันกลับแล้วเดินออกไปก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์ พวกเขาได้ใช้โอกาสนั้นปีนขึ้นไปบนเสา เดฟได้เห็นเยติหลายตัวที่หลับใหลอยู่ยกเว้นเพียงไม่กี่ตัวที่เดินอยู่รอบๆเสา
ที่ฝั่งตรงข้ามกับส่วนที่เยติเดินไปเดินมานั้นมีกำแพงน้ำแข็งตั้งไว้อยู่
” เอาล่ะ เราต้องเดินผ่านกำแพงนั้นก่อนที่เยติจะกลับมา ” – โซว์ชี้ไปที่กำแพง
” เควสของเธอนี่ให้ปีนเยอะจริงๆ ” – เดฟบ่นแล้วมองไปที่กำแพงสูง
” ฉันรู้ว่านายไม่ชอบความสูงแต่มันเป็นทางเดียวนิ เอาล่ะ ฉันไปก่อน นายตามมาละกัน “
โซว์จับไปที่เศษน้ำแข้งที่ยื่นออกมาจากกำแพงแล้วเริ่มปีนขึ้นไป
เขาทำตามโซว์ ปีนขึ้นไปตามกำแพง
” ฉันคิดว่าเยติกำลังกลับมา ” – เดฟพูดขึ้น
” ใช่ มันเป็นเรื่องปกติ ” – โซว์พูดขึ้น – ” ถ้าเราเร็วพอมันก็คงไม่เห็นเรา “
” เราเอาแต่ปีนเขาตั้งแต่ออกจากเมือง ฉันยังไม่ได้ฆ่ามอนสเตอร์สักตัว เควสนี้มันน่าเบื่อชะมัด “
” มันเป็นเควสการสืบทอด มันเป็นการทดสอบค่า Dex กับ Agi ไม่ใช่ว่าเควสการสืบทอดของนายเกี่ยวข้องกับความตายรึไง ? “
” เราอยู่ด้านบนแล้ว เตรียมพร้อม ! ” – โซว์บอกกับเดฟ
ลมนั้นแรงจนเดฟต้องตะโกนออกมา – “ได้ ! “
โซว์ไปถึงด้านบนก่อนและรอเดฟ ลมนั้นแรงกว่าด้านล่างอย่างมาก
เดฟได้ลากตัวเองขึ้นมาที่ด้านบนในไม่กี่วินาทีต่อมา
เขาคิดว่ามันอาจจะมีทางลาดอีกรึไม่ก็พวกเขาก็ต้องลงไปด้านล่างอีก มันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีธารน้ำแข็งมากมายทั่วพื้นที่
เยตินั้นเดินไปมารอบๆในพื้นที่นั้น เดฟรีบนับดูและพบว่ามันมีอยู่ประมาณ 40 ตัว
” นี่คงกินเวลานานกว่าจะฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด แล้วความหนาวนี่อีก หนวดฉันจะเป็นน้ำแข็งแล้วเนี้ย ” – เดฟปัดน้ำแข็งที่เกาะหนวดที่มันก็แข็งตัวอีกรอบแทบจะทันที
โซว์หัวเราะออกมาเมื่อเห็นแบบนั้น
” เราไม่ต้องฆ่าพวกนี้ทั้งหมดหรอก เราแค่ต้องผ่านพวกนี้ไป ฉันเอาแต่ตายตอนที่ผ่านธารน้ำแข็งสองที่ตรงนั้น ” – โซว์ ชี้ – ” เยติพวกนี้แข็งแกร่งเกินไปสำหรับฉัน “
” ทำไมถึงไม่เอาคนอื่นมาช่วยเพิ่มล่ะ ?” เดฟถาม – ” เธอมีเพื่อนอยู่นิ “
” ไม่ใช่ทุกคนที่มีเวลาจะมาช่วยคนเลเวลน้อยแบบฉันหรอก คนเลเวลสูงส่วนมากก็ทำเควสไม่ก็ลงดันเจี้ยนให้กิลด์ ฉันพาเพื่อนเลเวล 200 มากับฉันได้บ้างแต่พวกนั้นก็ยังไม่ผ่านเยติพวกนี้ “
” อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าฉันมีประโยชน์กว่าเพื่อนของเธอ ? ” – เดฟถามพร้อมกับลูบหนวดที่เป็นน้ำแข็งของตัวเอง
” นายคือ Mr.Skeletal ไง ” – โซว์ ยิ้มให้เขา
” เอาล่ะ ไปกันเถอะ ทางโล่ง ฉันว่าเราคงเดินไปที่ธารนั่นได้ก่อนที่เราจะถูกเห็นตัว “
Chapter 174 : จัดการ !
เดฟกับโซว์ไปซ่อนตัวใกล้ๆกับธารน้ำแข็ง แม่น้ำแห่งนี้คือจุดสิ้นสุดของน้ำตกที่แข็งตัว
มันมีเยติที่เดินวนไปมาใจกลางแม่น้ำ จากที่ที่พวกเขายืนอยู่นั้นมีทางแยกออกไปซ้ายขวาไปยังทางเข้าที่แตกต่างกันไป ทางเข้าเหล่านี้มีแม่น้ำหลายเส้นที่ตัดผ่านและไปรวมตัวกันที่น้ำตก
” เอาล่ะ นี่เป็นเยติตัวแรกที่เราต้องจัดการ ” – โซว์พูดขึ้น
” ได้ ฉันจะแทงค์แล้วทำดาเมจ เธอคอยควบคุมแล้วก็อยู่ระยะไกลไว้ “
เดฟยิ้มให้ก่อนจะยกนิ้วโป้งแล้ววิ่งเข้าไปหาเยติ
เดฟได้ใช้ {Stampede} พุ่งเข้าชนกับเยติ
[-32,880]
เยติถึงกับเซแล้วคำรามใส่เดฟก่อนจะเหวี่ยงหมัดขนาดเท่ากับลูกบอลเข้าใส่เขา
เดฟใช้ {Block} รับหมัดที่พุ่งเข้ามาแล้วทำการเหวี่ยงดาบโจมตีสวน
[-17,300]
โซว์ใช้ {Penetrating Shot} ในตอนที่เยติจะโจมตีอีกครั้ง ธนูนั้นไปขัดจังหวะหมัดของเยติและเปิดโอกาสให้เดฟได้โจมตีเยติอีกรอบแทน
เยติตาแดงกล่ำและเริ่มที่จะสูดอากาศเข้าไปเพื่ออัดแน่นมันก่อนจะคายออกมา จากนั้นปากของมันก็อ้าขึ้นพร้อมกับลมอันรุนแรงที่ระเบิดออกมาจากสกิล {Beast Roar} คลื่นอากาศได้เป่าหิมะและน้ำแข็งรอบตัวกระจายออกมาเป็นคลื่น
เดฟได้ตกอยู่ในสภาวะสับสน เขาได้ใช้ {Undying Will} ทันทีก่อนจะก้าวออกไปด้านข้างได้ก่อนที่เยติจะพุ่งเข้ามาด้วย {Chomp} ใจของเขาหล่นวูบไปตอนที่เขี้ยวของเยติห่างจากคอเขาไปเพียงนิ้วเดียว เดฟหันกลับมาแล้วใช้ดาบฟันเข้าที่ไหล่ซ้ายของเยติแล้วหลบลูกเตะของเยติไปพร้อมกันด้วย
[+3,000]
เขาเปลี่ยนไปใส่ถุงมือและทุบหมัดเข้าหากันจนทำให้เกิดไฟระเบิดขึ้นมา
” ได้เวลาย่างแล้ว ! “
เดฟ ใช้ {Heroic Descent} กระโดดขึ้นแล้วใช้ {Twin Strike} พุ่งลงมาราวกับอุกกาบาต เขาได้ใช้ {Infernal Tempest} ทำให้ตัวละครของเขาหมุนราวกับลูกข่างต่อยเข้าใส่หน้าของเยติอย่างกับตีกลอง
[-35,115]
[-25,440]
[-15,888]
[-12,666]
[-10,333]
[-8,555]
” โว๊ว ! ” – โซว์ ช็อก – ” ดาเมจเยอะจริงๆ นายลดเลือดมันไป ¼ ด้วยคอมโบชุดเดียว “
เดฟได้ทำการตีลังกาเพื่อหลบหมัดที่พุ่งเข้าหาตัวและสร้างระยะห่างกับเยติ
” ในที่สุดฉันก็ได้สู้กับมอนสเตอร์ที่เลเวลพอๆกับฉัน “- เขายิ้มมออกมาอย่างมีความสุขแล้ววิ่งไปข้างหน้าหลบหมัดที่เข้ามาก่อนจะวิ่งเข้าหาแขนที่ยื่นออกมาของเยติ เขาจับแขนของมันเอาไว้เพื่อทรงตัวแล้วใช้มืออีกข้างต่อยเข้าใส่เยติ
เยติพยายามที่จะสลัดเดฟออกไปแต่เขาก็เกาะมันไว้แน่น
โซว์ได้ทำการยิงธนูเข้าที่ตาของเยติจนทำให้มันเซ
เดฟใช้ {Double Edge} แล้วหนีด้วย {Vertical Slash} ก่อนที่จะมีหนอนยักษ์พุ่งออกมาจากพื้นน้ำแข็ง
[-20,000]
เขาได้ใช้ {Aura} และ {Immortal Apparition} วาร์ปตัวเองไปด้านหลังเยติ
เยติตอนนี้ตกอยู่ภายใต้ผลของความกลัว เดฟกระทืบเท้าแล้วใช้ {Death Surge} ก่อนจะมีออร่าสีดำระเบิดออกมาจากเท้าของเดฟและทำดาเมจไป 93,000 หน่วย
เดฟวนรอบตัวเดฟโดยมีโซว์คอยขัดจังหวะของเยติ หมัดและธนูนั้นกระหน่ำเข้าใส่มอนสเตอร์จนกระทั่งพวกเขาสามารถฆ่ามันได้
” ฉันเลเวลเพิ่มแล้ว ! ” – โซว์ตะโกนออกมา
” ดี ฉันเองก็ได้ xp มาค่อนข้างเยอะ มาดูกันว่าเราจะได้อะไรมาบ้าง ฉันต้องรออีกสักพักเพื่อให้สกิลคูลดาวน์ก่อนจะไปสู้อีกครั้ง ” – เดฟเดินไปที่ศพเยติแล้วจับที่ตัวมันเพื่อเอาของ
[Yeti’s Blood(วัตถุดิบทำยาธรรมดา)] x1
[Yeti’s pelt(วัตถุดิบทำอุปกร์ธรรมดา)] x1
[Yeti’s antlers(วัตถุดิบทำอุปกรณ์)] x1
” เฮ้อ ของห่วย ” – เดฟบ่น
” นายหวังอะไร ? ที่นี่น่ะไม่ใช่โลกใต้ดินที่นายจะได้ฆ่ามอนสเตอร์เป็นคนแรกแล้วได้ของที่ดีที่สุดไปแต่ฉันได้ยินมาว่ามีผู้เล่นคนหนึ่งที่โชคดีที่ได้หนังสือสกิลจากการฆ่าเยติ ” – โซว์ยักไหล่
” หือ ฉันสงสัยแหะว่าเขาได้สกิลอะไรไป ไปกันต่อเถอะ “
ทรั้งสองคนเดินไปตามแม่น้ำน้ำแงลึกเข้าไปเรื่อยๆ โซว์ได้ดื่มยากันแช่แข็งไปอีกขวด
พวกเขาได้สู้และฆ่าเยติไปอีกตัว เดฟเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 289 ส่วนโซว์นั้นเลเวล 161
” เอาล่ะ ตัวนี้จะยากหน่อย มันมีเยติตัวหนึ่งที่นี่แต่ถ้าเราปล่อยให้มันใช้ {Beast Roar} มันจะทำให้ตรงนั้นถล่มและทำให้เราตาย ” – โซว์พูดขึ้นแล้วชี้ไปด้านบน
มันมีกองน้ำแข็งและมิมะด้านบนซึ่งน่าจะฝังพวกเขาได้
” งั้นเราล่อมันไปที่อื่นไม่ได้รึไง ? “
” ครั้งที่แล้วฉันก็ลองทำดูแล้ว ไอ้บ้านั่นมันเรียกพวกมามากกว่าเดิม ปาร์ตี้ของเราก็เลยต้องตาย คนอื่นเลยไม่คิดจะกลับมาที่นี่อีก “
” เอาล่ะ ….บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่หิมะถล่ม “
” มันก็ไหลลงมาตาทางชันนี้แล้วกวาดทุกอย่างไปด้วย น้ำแข็งกับหินจะโจมตีเป็นดาเมจโดยตรงดังนั้นสกิลป้องกันและการป้องกันเลยไร้ประโยชน์ “
” แล้วมันทำดาเมจเยติพวกนี้ด้วยรึเปล่า ? ” – เดฟถามพร้อมกับลูบหนวดตัวเอง ตาของเขามองไปรอบๆเพื่อตรวจสอบพื้นที่
” ฉันเองก็ไม่รู้ ตอนนั้นเรารอดได้ไม่นานพอที่จะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น “
” เอาล่ะ ฉันมีแผนที่ฉันคิดว่ามันจะได้ผล ถอยกลับไปหน่อย ฉันจะลองดูบางอย่าง เธอน่าจะกลับไปที่แม่น้ำแล้วหาที่คุ้มกัน “
โซว์พยักหน้าและวิ่งกลับไป เธอได้ออกจากพื้นที่แม่น้ำแล้วกลับไปซ่อนในทางเดินอีกทาง
เดฟวิ่งเข้าไปหาเยติทันที
” เฮ้ ! ไอ้ลูกบอลขนอ้วน ! “
เยติสับสนกับการที่อันเดตตะโกนเรียกตัวเองในตอนแรก จากนั้นมันก็เริ่มทุบอกตัวเองแล้วคำรามใส่อันเดตที่เข้ามาในเขตมัน
เดฟรู้สึกได้ถึงการสั่นไหวผ่านน้ำแข็งและหิมะ
มีเยติอีกสองตัวที่ปรากฏมาด้านหลังและวิ่งเข้าหาเดฟ พวกมันวิ่งมาด้วยขาและแขนของพวกมัน
เดฟโบกมือเรียกหัวกะโหลกออกมา
[ Spectral Skull เลเวลเพิ่มแล้ว คุณสามารถเรียกหัวกะโหลกออกมาได้ 4 อันในการร่ายเพียงครั้งเดียว หัวกะโหลกนี้จะอยู่ได้เพิ่มอีก 20 วินาทีก่อนที่จะระเบิด ]
” สวย “
หัวกะโหลกทั้งสี่นั้นก่อตัวขึ้นมาตรงหน้าเดฟ พวกมันมีขนาดใหญ่กว่าแต่ก่อนและแสงสีแดงของมันก็เริ่มหม่นลงไปด้วย
เดฟได้ให้หัวกะโหลกนั้นลอยไปที่เนินหิมะและทำการระเบิดมัน
ตอนที่มอนสเตอร์เห็นหิมะที่ถล่มลงมา พวกมันก็ได้คำรามแล้วรีบถอยกลับแต่มันไม่ได้เร็วพอ
โซว์กระโดดขึ้นจากที่กำลังแล้ววิ่งหนีไกลออกไปอีก
เดฟหน้าซีด เขาหันกลับแล้วิ่งลงมาเพื่อหนีจากหิมะที่กำลังถล่ม เขาหันคอกลับไปมองหิมะที่ถล่มลงมาซึ่งไล่หลังเขามาเรื่อยๆ
หิมะที่ถล่มลงมาจากยอดเขาทั้งสองด้านได้ชนกัน มันได้รวมตัวกันแล้วไหลลงมาต่อราวกับคลื่นพร้อมกับกวาดเอาเยติราวกับว่าพวกมอนสเตอร์นั้นเป็นเพียงแค่กิ่งไม้
คลื่นหิมะนั้นไหลลงมาเรื่อยๆเพิ่มความเร็วราวกับคลื่นสึนามิ
” มันก็เป็นความเสี่ยงที่คำนวณไว้แล้ว…แต่ฉันลืมว่าฉันไม่ได้เก่งเลข ! ” – เดฟหันกลับแล้ววิ่งลงมาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้แต่เขารู้ดีว่าเขาคงวิ่งหนีออกไปไม่ทันก่อนที่หิมะจะกลืนกินเขา
เดฟกรีดร้องอกมาในตอนที่หิมะไล่ตามมาทันแต่ก่อนที่เขาจะโดนหิมะกลืนไปนั้นเขาก็ได้ความคิด เขากระโดดขึ้นแล้วเปลี่ยนจากถุงมือเป็นดาบกับโล่ เขาคว้าเอาโล่ตอนที่อยู่กลางอากาศแล้วเหยียบขึ้นบนโล่แล้วทำเหมือนกับโต้คลื่นราวกับนักกีฬาโต้คลื่นมืออาชีพแม้ว่านั่นจะเพราะระบบเกมช่วยก็ตาม
โซว์นั้นเอามือทั้งสองข้างปิดปากเมื่อเห็นที่เดฟทำแบบนั้น
หิมะถล่มได้พาเดฟไปจนถึงจุดน้ำตก
เยติเห็นหิมะที่ถล่มลงมาแล้วเข้ามาตรวจสอบ เดฟให้พวกเยติเห็นเขาหรือโซว์ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องรีบวิ่งกลับขึ้นไปหาเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
เดฟได้วิ่งฝ่าหิมะที่ถล่ม เขาต้องเจอกับปัญหาในการเดินฝ่าหิมะ หลังจากที่เดินมาได้สักพักเขาก็พบว่าโซว์ยังหลบอยู่อย่างปลอดภัยและกำลังเดินหน้าขึ้นไปที่ยอดเขาต่อ ดังนั้นเขาจึงรีบเดินตามเธอขึ้นไป
โซว์พยักหน้าให้กับเดฟแล้วเดินนำหน้าเขาไป ในตอนที่เขากำลังเดินไปหาเธอนั้นก็เกิดหิมะระเบิดขึ้นมาพร้อมกับมีเยติตัวหนึ่งที่โผล่มาจากหิมะ มันสลัดตัวไปมาแล้วร้องออกมาเบาๆ ตอนที่เยติเห็นเดฟนั้นมันก็เริ่มทุบอกตัวเองอีกครั้งแล้วเดินหน้าเข้าหาเดฟ
เดฟได้ใช้ {Immortal Apparition} วาร์ปตัวเองหนีจากเยติก่อนที่จะมีเยติอีกตัวโผล่มาจากใต้หิมะขวางทางเขาไว้
เดฟใช้ {Death’s Descent} โดดหนีจากเยติตัวที่สอง ตอนที่เขาลงไปที่พื้นเขาก็ได้ใช้ {Stampede} หิมะและน้ำแข็งนั้นกระเด็นออกไปพร้อมกับตัวของเขาที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นมา
ตอนที่เดฟตามโซว์ทันเขาก็พูดขึ้นมา – ” มันกำลังจะมาเป็นฝูง เราต้องรีบหนี พยายามออกจากระยะความโกรธของมัน “
” จุดเควสฉันอยู่ใกล้ๆ เราต้องไปที่ทางชันนั่น มันจะมีทางเดินที่เราสามารถหนีจากเยติได้ “
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น