Rise of The Undead Legion 154-160

 Chapter 154: Demonic Painted Dogs


อันเดตกว่า 1,200 ตัวเดินหน้าไปยังทะเลทรายสีดำของโลกใต้ดินและเข้าไปยังเขตสามของดันเจี้ยนโลก พวกเขาได้ฆ่ากิ้งก่ามากมายระหว่างทางได้รับ xp และของจำนวนมาก


เดฟ หยุดที่เนินทรายเพื่อสำรวจรอบๆตัว ไม่ต้องออกปากเตือน Dunlord ทั้ง 10 ตัวก็โผล่มาจากพื้นตรงหน้าเขา ที่บนหลังของมันคือพวก Captain ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งขึ้นมา


” หน่วย 7 พบกับกิ้งก่าและมอนเตอร์อื่นๆ พวกนั้นตายมาหลายวันแล้วแต่เราไม่พบคนร้าย เรายังพบกับกลุ่มกิ้งก่าระหว่างทางด้วย ” – Captain ซอมบี้รายงานขึ้นมา


เดฟ พยักหน้า – ” ดี ทุกหน่วยรวมตัว เราจะมุ่งหน้าไปทางตะวันออก “


เดฟ ตรวจสอบของที่ได้มาจากการฆ่ากิ้งก่าชุดล่าสุด


[Basilisk Eyes(ใช้งาน)]


ตอนที่โยนใส่เป้าหมายรึตำแหน่งมันจะระเบิดออกมาส่งผลในระยะ 10 ม.


สิ่งมีชีวิตในระยะจะได้รับผลการแข็งเป็นหินช้าๆจนกลายเป็นรูปปั้น


เป้าหมายที่เลเวลมากกว่า 50 เลเวลรึต่ำกว่า 400 เลเวลจะถูกกำจัดถ้ารูปปั้นนั้นพังทลาย


เป้าหมายเลเวลสูงกว่าผู้ใช้จะได้รับดาเมจโดยตรง 25% ถ้าโดนโจมตีตอนที่แข็งเป็นหิน


ไม่ได้ผลซ้ำสองกับเป้าหมายเดิม


ไม่สามารถใช้กับบอสได้


ผลการแข็งเป็นหินนี้สามารถลบได้ด้วยสกิลล้างดีบัฟ


เขาได้มันมากว่า 40 อัน


เขาหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจ – ” ตานี่มันดีจริงๆ ” – เขาเก็บหนังและเขี้ยวของกิ้งก่ามาได้เยอะจนทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกิน เขาย้ายมันไปเก็บที่กระเป๋าซึ่งคาดไว้ข้างๆอาน กระเป๋าหนังนี้ถือว่าเป็นของที่มีประโยชน์อย่างมากมันเหมือนกับมีช่องเก็บของเพิ่มเข้ามาให้


เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวไกลออกไป เดฟ ก็ยกหมัดขึ้นเพื่อให้สัญญาณกับลูกน้องตัวเองให้หยุด


ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนจากพื้นดิน


” อันตรายกำลังมา ” – Bud ได้พัฒนาวิธีพูดของตัวเองขึ้นแต่ก็ยังมีเสียงที่ฟังยากอยู่ดี


อยู่ๆกิ้งก่ากว่า 10 ตัวก็โผล่มาพุ่งเข้าใส่พวกเขา


” ทุกคนเตรียมพร้อม ! “


Bud แนะนำขึ้นมา – ” มีมากกว่านี้…..ไม่ใช่แค่กิ้งก่า “


เดฟ ตระหนักได้ว่ากิ้งก่าพวกนี้ไม่ได้เข้าโจมตี พวกมันที่พุ่งเข้ามานี้ต่างก็พากันแยกทางออกตรงตำแหน่งของพวกเขา พวกมันอยู่ในสภาวะลนลานเหมือนกับกลัวบางอย่าง


ฝูงกิ้งก่าหนีบางอย่างเพราะกลัว ? เขารู้สึกแย่กับเรื่องนี้ ด้านหลังกิ้งก่าที่วิ่งหนีมานั้นมีฝูงมอนเตอร์ที่โดดไปมาที่เนินทรายจนทำให้ทรายดำกระจายไปทั่ว เมื่อมองไปแล้วมอนเตอร์พวกนี้มีจำนวนมากสุดลูกหูลูกตาราวกับเส้นขอบฟ้า


” เยอะเกินไป ! “


พวกเขาคงต้องโดนชนโดยพวกมอนเตอร์ที่วิ่งเข้ามาและการวิ่งหนีคงไม่ใช่ตัวเลือก


มอนเตอร์พวกนี้เร็วกว่า Dunlord ด้วยซ้ำ นี่ไม่ต้องคิดถึงพวกอันเดตที่เหลือเลย


มันมีมอนเตอร์ด้านหลังสุดที่เหมือนกับหมาซึ่งมีขนเป็นหย่อมๆราวกับเพิ่งกัดกับหมาตัวอื่นเสร็จ แทนที่จะมีหัวเดียวพวกมันกลับมีหัวหมากว่า 3 หัวที่สีหน้าเผยให้เห็นถึงความคลั่งและหัวของมันก็คอยกัดทุกอย่างที่ขวางหน้าพวกมันรวมถึงกัดกันเองด้วย


สุดยอดจริงๆ พวกเขามาเพื่อฟาร์มกับกิ้งก่าแต่กลับต้องเจอกับฝูงมอนเตอร์หมาแบบนี้


หลังจากที่กิ้งก่าวิ่งผ่านพวกเขาไปฝูงหมานั้นก็เริ่มหันมาหาอันเดต หมาพวกนี้กลับสนใจอันเดต ดูเหมือนว่าพวกมันจะกินอันเดตได้ด้วย


” รูปแบบสี่เหลี่ยม ! ” – เดฟ ตะโกนขึ้นมา


พวกอันเดตทำการหันหน้าออกไปทั้ง 4 ทางโดยด้านหน้าสุดนั้นยืนเรียงแถวหน้ากระดานซ้อนกันสองแถวโดยมี Dunlord ยืนคั่นกลาง ที่ใจกลางขบวนสี่เหลี่ยมนี่มีพวกนักธนู, นักเวทย์, ฮีลเลอร์และพวกกองกำลังเสริมแนวหน้า


เดฟ, Dog และ Bud ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันที่ใจกลางขบวนหันหน้าเข้าหามอนเตอร์ที่เข้ามา กิ้งก่าของ Dog นั้นโดดไปมาแต่ Dog ก็ยังเอาหัวไปแนบหูมันและพึมพำบางอย่างเพื่อให้มันใจเย็นลง


ไม่นานทันทีที่มอนเตอร์ตัวหนึ่งเข้ามาในระยะ เดฟ ก็ได้ทำการตรวจสอบทันที


[Underworld Painted Dog]


เลเวล : 250


ระดับความอันตราย : ปกติ


HP : 50,000


ลดดาเมจ : 5,000


ดูดซับเวทย์ : 0


สกิล : ไม่มี


สิ่งมีชีวิตที่ป่าเถื่อนซึ่งเป็นสิ่งที่พวกนักล่ากลัวมากที่สุด พวกมันสามารถรวมกลุ่มเพื่อล้อมเหยื่อที่แข็งแกร่งกว่าและตัวใหญ่กว่าได้ พวกมันจะค่อยๆลดแรงและพลังของเหยื่อไปจนกว่าพวกมันจะจัดการได้


การล่าเหยื่อที่แข็งแกร่งกว่าส่วนมากแล้วจะสร้างความเสียหายให้กับพวกมันแต่ด้วยอัตราการสืบพันธุ์ที่สูงจึงชดเชยเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย


” มาเลยไอ้พวกหมา !” – เดฟ ตะโกนออกมา


Dog หันกลับ ตอนนี้หัวของเขาติดอยู่กับคอเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้แล้ว


” ไม่ใช่นาย พวกหมานั่นต่างหาก !” – เดฟ ชี้ไปพร้อมร่ายหัวกะโหลกขึ้นมาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ Dog พยักหน้าด้วยความพอใจ


เดฟ ยกมือขึ้น – ” Dunlord เตรียมตัวระดมยิง ! “


ในตอนที่พวกหมาเข้ามาในระยะหน้าไม้ เดฟ ก็ได้ลดมือลง


” ยิง ! “


ลูกดอกถูกยิงออกไปทะลุพวกหมาราวกับตัวมันทำขึ้นจากกระดาษ


หมาตัวแรกที่โดนยิงนั้นตายทันที ลูกดอกยังคงแทงทะลุหมาตัวที่วิ่งตามมันมา หมาพวกที่อยู่หน้าสุดได้กลายเป็นศพให้พวกของตัวเองคอยย่ำ


” เติมลูกดอก ! ยิง ! “


Dunlord ได้ยิงเข้าใส่หมาที่เข้ามาอีกครั้ง


” หน่วยโจมตีไกล ! ยิงได้ตามใจ ! “


เดฟ ได้ใช้ {Sword Lunge} และยิงดาบออกไปสร้างพื้นที่เปิดขึ้นมาในแนวโจมตีแต่ไม่นานพื้นที่นั้นก็ถูกปิดด้วยการแห่กันเข้ามาของพวกมอนเตอร์หมา


ลูกดอกที่บินและผลจากสกิลได้โจมตีเข้าใส่หมาที่แห่กันเข้ามา ลดจำนวนของพวกมันลงไปเรื่อยๆ


ฝูงหมาชนกับแนวหน้าของอันเดตผลักพวกเขากลับมาหลายก้าว


Dunlord ที่อยู่ด้านหน้านั้นเหมือนกับเครื่องบดเนื้อที่คอยจัดการหมาที่พุ่งเข้ามา Stinger ใช้คีบของตัวเองคอยตัดตัวหมาที่พุ่งผ่านเข้ามาได้


ฝูงหมาเริ่มทำการล้อมพวกเขาเอาไว้


กำแพงอันเดตตอนนี้สามารถยื้อเอาไว้ได้


” เอาเลยพวก ! เพื่ออันเดต ! “


Chapter 155 : สถานการณ์ย่ำแย่


มอนเตอร์นั้นไม่อาจจะฝ่าการป้องกันของอันเดตได้


Dunlord นั้นรับมือกับการโจมตีขอพวกหมาได้แต่พวกที่แข็งแกร่งน้อยกว่านั้นได้รับดาเมจกันบ้าง


” เปลี่ยน ! ” – เดฟ สั่งการและอันเดตแนวหน้าก็ได้สลับกับพวกที่อยู่ด้านหลังได้อย่างราบรื่น นี่ทำให้อันเดตที่ได้รับดาเมจนั้นกลับมาฟื้นฟูตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมจะกลับไปลุยอีกครั้ง


” ฮีลพวกที่ได้รับบาดเจ็บ ! “


นักเวทย์ได้ทำการโจมตีและสาปใส่พวกนั้นเพื่อทำการฟื้นฟูให้


พาราดินที่มาด้วยเริ่มใช้เวทย์และบัฟให้กับ Dunlord ซึ่งทำให้เลือดค่อยๆเพิ่มขึ้นมาช้าๆ


ขีด xp ของ เดฟ เพิ่มขึ้นแบบมองเห็นด้วยตาเปล่าในทุกๆการฆ่า แม้ว่า xp ส่วนหนึ่งจะแบ่งไปให้กับอันเดตแต่การฆ่าเป็นร้อยตัวต่อนาทีนั้นก็ทำให้ได้ xp ได้อย่างต่อเนื่อง


หมาตัวหนึ่งได้โดดข้ามพวกของมันและแนวป้องกันชั้นแรกมาได้ มันถูกฆ่าทันทีก่อนที่จะได้ทำการโจมตีออกมาแต่จากนั้นก็มีตัวอื่นที่เริ่มใช้วิธีเดียวกัน มันสร้างความกดดันให้กับทีมอันเดตอย่างมาก พวกโจมตีไกลต้องทำหน้าที่สองอย่างทั้งโจมตีและทำการฮีลไปด้วย


‘ บ้าเอ้ย พวกมันเรียนรู้ได้ ! ‘


” อย่าเปิดช่องว่าง ! เตรียมแนวป้องกันชั้นที่สาม ” – เดฟ ได้โยนไอเท็มบางอย่างใส่พวกมอนเตอร์รอบๆทีมของเขา มันคือ [Basilisk Eye]


ตอนที่ตานั้นตกลงไปที่พื้นแสงสีเหลืองก็ระเบิดออกมาแช่แข็งหมาที่อยู่ในระยะ


พวกหมาด้านหลังนั้นพุ่งเข้าชนกับพวกที่กลายเป็นรูปปั้นจนตัวของเพื่อนตัวเองแตกและตายไป


กิ้งก่าของ Dog นั้นตัวบวมขึ้นมาก่อนที่หนามบนหลังจะระเบิดยิงเข้าใส่พวกหมาราวกับห่าฝนฆ่าพวกที่ได้รับบาดเจ็บไปได้หลายตัว


Dunlord ได้จัดการหมาหลายตัวที่โดดขึ้นมาด้วยหางของพวกมัน


เดฟ ได้ใช้ {Aura} ด้วยมานาของเขาที่เพิ่มขึ้นมาจากเกราะ Death Knight จึงสามารถใช้สกิลนี้ได้นานกว่าเดิมและมันก็ทำดาเมจต่อวินาทีได้มากกว่าเดิมด้วยเพราะดาเมจนี้อิงจากค่าเลือดของเขา


ผลของสกิลได้แผ่จากตัว เดฟ อาบไปทั่วที่มีอันเดตแต่ไม่ได้ทำอันตรายอะไรแต่ถึงยังไงไฟนั่นก็ได้ทำดาเมจกับพวกหมาเผามันกลายเป็นเถ้าได้


พวกหมาเรียนรู้ที่จะหลบจากการโจมตีของ เดฟ


” Dog ตามฉันมา ส่วนที่เหลือประจำตำแหน่งไว้ ! “


ด้วย {Aura} ที่ยังคงทำงาน เดฟ ได้สั่งให้ Stinger วิ่งออกไปและทำการวนรอบภายในขบวนพร้อมกับโยนตากิ้งก่าออกไปด้วย


{Aura} นั้นเป็นสกิล AOE ที่ดีซึ่งลดจำนวนผู้โจมตีลงไป เดฟ เหมือนกับคบไฟที่วิ่งผ่านฟางแห้ง ในตอนที่เขาเดินวนรอบขบวนด้านในนั้นหมาจำนวนมากก็เริ่มถูกเผาจนลดความกดดันให้กับพวกอันเดตได้อย่างมาก


Dog ตามมาด้านหลัง Stinger คอยสะบัดแส้ของตัวเองจัดการพวกหมาที่เข้ามาใกล้ในระยะ


อันเดตได้ใช้โอกาสที่ เดฟ กับ Dog สร้างให้นั้นในการฟื้นฟูตัวเองคอยเปลี่ยนตำแหน่งพวกแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อให้โอกาสได้พัก


ฮีลเลอร์ได้ใช้มานาของตัวเองหมดไปอย่างรวดเร็วและสกิล {Aura} ของ เดฟ ก็จะคงอยู่ได้อีกไม่นาน


เดฟ เริ่มได้รับดาเมจมากขึ้นเมื่อมีหมาเริ่มโดดเข้ามาใส่เขาพุ่งผ่านไฟของสกิลเพื่อเข้ามากัดเขา


เขาสามารถจัดการมันด้วยดาบและกันตัวอื่นด้วยโล่ได้แต่มันมีหมาจำนวนมากเกินไป


” ไอ้พวกเฮงซวย ! ” – เดฟ ด่าออกมา


เขาได้ใช้ {Immortal Apparition} ในการโดดออกจากหลัง Stinger และตกลงไปใจกลางกลุ่มมอนเตอร์


หมานั้นตกอยู่ภายใต้ผลของดีบัฟกลัวจากสกิล {Immortal Apparition} มันวิ่งหนีจากตัว เดฟ แต่ เดฟ ได้ใช้ {Death Surge} ทำดาเมจ 300% ใส่พวกมอนเตอร์ที่หนีไป


ด้วยดาบใหม่ที่ได้มาและโบนัสจากเกราะทำให้ เดฟ ทำดาเมจได้มากกว่า 30,000 ใส่หมาทุกตัวที่อยู่ในระยะ 10 ม.จากผลของ {Death Surge}และไฟจาก {Aura} แต่การแห่กันเข้ามาของมอนเตอร์นั้นก็ไม่ได้ช้าลงไปเลย มันแห่กันเข้ามาเรื่อยๆจนสถานการณ์เริ่มดูย่ำแย่


{Double Edged}


Minhocao โผล่ออกมาอีกครั้งและ เดฟ ก็โดดถอยกลับไปด้วย {Death’s Descent} หนีจากการกลืนของหนอนยักษ์


เดฟ ลงไปยืนในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยมอนเตอร์และเริ่มจัดการโจมตีพวกมัน


‘ โลกใต้ดินนี่ไม่ใช่ที่ที่ดีเท่าไหร่ ! แล้วพวกหมาฝูงนี้มันมาจากไหนกันวะ ! ‘


เดฟ ได้ใช้ {Stampede} และสร้างเส้นทางในการกลับไปหาทีมตัวเองก่อนจะขึ้นไปที่หลัง Stinger เพื่อทำการฟื้นฟูตัวเอง อีกไม่นานมานาของเขาก็หมดลงและ {Aura} เองก็จะหยุดทำงานไปด้วย


เดฟ หาทางออกจากสถานการณ์นี้ไม่ได้ มันมีมอนเตอร์เยอะเกินไปและคอยเข้ามาโจมตีเร็วเกินไปด้วย


มันไม่มีทางเลือกอื่นให้เขาอีก


” วันนี้เป็นวันที่ดีที่จะตาย ! แต่ฉันจะกลับไปเกิดโดยลากพวกแกไปด้วย ! “


Chapter 156 : ศัตรูของศัตรู


พวกอันเดตเริ่มตายกันไปเรื่อยๆเพราะการฮีลนั้นไม่อาจจะชดเชยดาเมจที่เข้ามาได้


พวกหมานั้นไม่ได้สนใจความสูญเสียของพวกมัน พวกมันยังคงทำการโจมตีต่อโดยกระโดดเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว


มันคำรรามออกมาราวกับเสียงหัวเราะของไฮยีน่ากลบเสียงของดาบและเวทย์ไป


กิ้งก่าของ Dog นั้นได้ทำให้หมาหลายตัวแข็งเป็นหินด้วยสายตาของมันและ Dog ก็ทำลายรูปปั้นเหล่านั้นด้วยแส้ของเขา


แม้ว่าจะมีความพยายามของ Dog และ เดฟ แต่พวกเขาก็ยังตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย


เดฟ ไม่เห็นทางออก เขาแค่ต้องสู้จนกว่าทุกอย่างจะจบ


เดฟ ทำการฟื้นฟูอยู่สักพักก่อนจะกลับไปสู้กับพวกมอนเตอร์ต่อทำลายกระดูกและฉีกเนื้อของมันจนไม่นานเกราะของเขาก็ถูกย้อมเป็นสีแดง


เมื่อไหร่ก็ตามที่มานาเขาฟื้นฟูขึ้นมาเพียงพอเขาจะใช้ {Aura} ในการเผาพื้นที่รอบๆเพื่อกำจัดพวกหมาทิ้งและลดความกดดันให้กับพวกอันเดตที่เหลือ


มันมีผาอยู่ด้านหลังพวกเขา พวกหมานั้นไม่ได้โจมตีพวกเขาจากทุกทิศทาง


” เคลื่อนที่ไปที่ผา ! ” – เดฟ สั่งการให้อันเดตฝ่าวงล้อมของหมาไป


ห้าหน่วยแรกได้ฝ่าฝูงหมาไปได้เพราะ Dunlord และคีบของพวกมันทีคอยบดขยี้มอนเตอร์ที่ขวางทาง


เดฟ ตามหน่วยที่เหลือไปยืนอยู่ข้างๆหน้าผา


เขาได้ใช้ {Aura} ในการเผาหมาที่แห่กันเข้ามาระหว่างช่องว่างของสองกลุ่ม


ส่วนที่สองของทีม เดฟ ได้เข้ามารวมกับกลุ่มแรกใกล้กับหน้าผา เมื่อกลับมารวมตัวกันแล้วอันเดตและ Dunlord ก็รีบก่อตัวเป็นครึ่งวงกลมเพื่อรับมือกับมอนเตอร์ที่แห่กันเข้ามาโดยมีผาอยู่ด้านหลัง เดฟ รีบสั่งการให้อันเดตที่มีเลือดไม่ถึง 50% สลับเข้ามาในครึ่งวงกลมเพื่อทำการฟื้นฟู


Dunlord นั้นก็คอยสลับกันไปเรื่อยๆเพื่อให้พรีสและพาราดินทำการฟื้นฟูเลือดให้กับมัน


มันดูท้าทายมากกว่าสำหรับพวกหมาในการเผชิญหน้ากับ Dunlord รึโดดข้ามเข้ามาในแนวป้องกันอันเดตได้แต่จิตใต้สำนึกในการฆ่าของมันก็ยังคงทำงานคอยลดเลือดของ Dunlord ลงไปเรื่อยๆ มันคงขึ้นอยู่กับเวลาก่อนที่ Dunlord จะตายไปและเมื่อเกิดเรื่องนั้นขึ้นพวกอันเดตที่เหลือคงตายตามไปด้วย


” เอาหน่อยพวก ! ฆ่าพวกมันให้ได้มากที่สุดที่เราทำได้ ! คืนนี้เราจะลากมันลงนรกด้วย ! “


” กรรรรรร !!! “


อันเดตเผชิญหน้ากับพวกหมาที่เข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว


พื้นดินเริ่มสั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหว


” มีมาอีก ? มาเลย พวกเฮงซวย ! ” – มันไม่ใช่ว่าการที่มีมอนเตอร์หมาพวกนี้มาเพิ่มจะทำให้สถานการณ์นั้นแย่ลงไป


จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของกิ้งก่า


กลุ่มกิ้งก่าขนาดใหญ่ได้พุ่งเข้ามาที่หน้าผา


” บัดซบ ตอนมีเยอะก็เยอะจริงๆ ! “


แต่น่าแปลกใจที่ตอนที่กิ้งก่าเข้ามาใกล้นั้นเขาก็ได้เห็นชื่อของมันเป็นสีเหลืองแทนที่จะเป็นสีแดงที่แสดงถึงความเป็นศัตรู


” อย่าโจมตีพวกมัน ” – เดฟ สั่งการในตอนที่ Dunlord เล็งหน้าไม้ไปที่กิ้งก่าที่วิ่งเข้ามา – ” ดูก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น “


เขาสั่งการให้ทีมของเขาฆ่าพวกหมาต่อไป


กิ้งก่าตัวแรกได้พุ่งเข้าไปใจกลางกลุ่มของหมาซึ่งมีตัวสีดำและมีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นอย่างเห็นได้ชัด มันอ้าปากของมันแล้วยิงล้นออกมาจัดการหมาตัวที่โชคร้ายไปได้หลายตัว จากนั้นมันก็ดึงลิ้นกลับมาคอยเหวี่ยงลิ้นไปมาใส่พวกหมาราวกับกระสุน


กิ้งก่าตัวอื่นเข้าไปยืนข้างๆกิ้งก่าตัวสีดำและเริ่มทำให้พวกหมานั้นกลายเป็นหินด้วยตาของมัน


” กิ้งก่าพวกนี้กำลังช่วย สนับสนุนพวกนั้น ! ” – เดฟ สั่ง นักเวทย์และนักธนูเริ่มทำการช่วยพวกกิ้งก่าด้วยเวทย์คอยช่วยกิ้งก่าที่โดนหมาล้อมเอาไว้ให้สลัดตัวออกมาได้


การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปอยู่สักพักจนกิ้งก่าเริ่มเหนื่อยและรับดาเมจมากขึ้นเรื่อยๆ เดฟ สั่งให้พาราดินทำการฮีลกิ้งก่าพวกนั้นพยายามทำให้พันธมิตรใหม่รอดไปได้นานที่สุด


พฤติกรรมของพวกกิ้งก่านี้ดูมีเหตุผลสำหรับ เดฟ แม้ว่ากิ้งก่านั้นจะแข็งแกร่งกว่าหมาหากเทียบเป็นตัวๆแต่ไม่ว่าตัวเดียวจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ก็แพ้ได้หากโดนรุมด้วยจำนวนจำนวนหนึ่ง เดฟ รู้เรื่องนี้จากประสบการณ์ของเขาแต่เขาอยู่อีกฝั่งที่ใช้พวกอันเดตในการรุมคนอื่นและนั้นทำให้กิ้งก่าเข้ามาช่วย เดฟ ตอนที่พวกเขาเผชิญหน้ากับพวกหมา เขาได้เปิดโอกาสให้กับกิ้งก่าในการแก้แค้น


กิ้งก่านั้นได้รับความสูญเสียมานานจาการล่าของพวกหมาเหล่านี้และตอนนี้มันก็ได้โอกาสในการเอาคืน


พวกหมานั้นไม่อาจจะทนได้นานเมื่อต้องรับมือกับอันเดตและการโจมตีจากกิ้งก่า ในตอนหนึ่งก็เริ่มมีพวกหมาที่เปลี่ยนท่าทีจากดุดันกลายเป็นลนลานแทน พวกมันต่างก็กระจายตัวแล้ววิ่งหนีออกไปพยายามหนีและร้องโอดครวญออกมากับความพ่ายแพ้ครั้งนี้


เดฟ ตะโกนออกมาแล้วหันไปมองฝูงกิ้งก่าโดยไม่มั่นใจว่าจะเกดอะไรขึ้นต่อเมื่อไม่มีศัตรูอื่นอยู่ด้วยแล้ว


Dog เร่งกิ้งก่าของตนให้เดินหน้าจนกระทั่งกิ้งก่าของเขานั้นจมูกไปชนกับกิ้งก่าตัวสีดำ


กิ้งก่าสองตัวมองหน้ากันสักพักและดูเหมือนว่าจะสื่อสารกันได้ในระดับหนึ่ง หลังจากที่ร้องใส่กันสักพักก็ได้มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา


[ ศัตรูของศัตรูคือมิตร เพราะคุณได้สู้และช่วยเหลือ Basillisk ในการต่อสู้กับพวก Painted Dog ตอนนี้พวกมันจึงถือว่าคุณเป็นพันธมิตร ชื่อเสียงของคุณกับ Basillisk เพิ่มขึ้น : เป็นมิตร


Basillisk ได้รับความเสียหายอย่างมากจาก Painted Dog และเกือบที่จะสูญพันธุ์ พวกมันกำลังค้นหาที่พักที่ปลอดภัย


Basillisk ได้ให้คุณในการขี่พวกมันเข้าต่อสู้ถ้าคุณช่วยพวกมันหาที่ที่ปลอดภัยที่พวกมันจะสามารถเอาตัวรอดและสืบพันธุ์ได้ ]


‘ฉันจะไปหาที่อยู่ให้มันที่ไหนได้ ? มันไม่ใช่ว่าฉันจะเก็บที่ใส่กระเป๋าได้สักหน่อย….’


เดฟ เปิดหน้าต่างจัดการและเปิดส่วนการจัดการที่ดินซึ่งเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้ตอนที่เขาขึ้นมาเป็น Death Knight


เดฟ ช็อกกับจำนวนที่ดินที่ราชาให้เขามา พันเอเคอร์ !


[ ที่ดินของคุณเหมาะสำหรับ Basillisk


คุณต้องการส่งพวกมันไปยังดินแดนของคุณหรือไม่ ? Y/N ]


เดฟ กดตกลงและฝูง Basillisk กว่า 20 ตัวก็หายไปซึ่งเดาว่าคงถูกย้ายไปยังที่ดินของเขาโดยเกม


เดฟ ได้ลองนับพวกอันเดตที่รอด


” พวกหมาเฮงซวย ! พวกหมานั่นฆ่านักเวทย์ไป 30 คนและพวกโจมตีใกล้ 200 คน ต้องขอบคุณที่ Dunlord ไม่ตายเลยสักตัว ! “


หลังจากที่จัดขบวนใหม่และทำการฮีลแล้ว เดฟ ก็ได้สั่งให้พวกอันเดตไปเก็บของที่ได้จากมอนเตอร์ที่ตายไป


” เอาล่ะพวก ! เดินหน้าต่อได้ ! “


พวกอันเดตที่เหลือยังคงเดินหน้าต่อไปทางตะวันออกที่ซึ่งเขาหวังว่าจะได้พบกับเขตสามของดันเจี้ยนโลก


Chapter 157 : บางอย่าง


พวกเขาเดินหน้ากันต่อไปยังทางตะวันออกของโลกใต้ดิน ตำแหน่งของเขตดันเจี้ยนต่อไปน่าจะอยู่ใกล้ๆ


พวกเขาพบกับฝูงหมาอยู่หลายฝูงแต่ไม่มีเลยสักฝูงที่มีจำนวนมากเท่ากับที่พวกเขาเจอมาก่อนหน้านี้โดยอย่างมากก็มีแค่ไม่กี่ร้อยตัวในแต่ละฝูง


พวกเขาผ่านมันมาได้ง่ายๆและฆ่าพวกมันทุกตัวได้ทั้ง xp และได้แก้แค้นไปด้วย


xp นั้นแบ่งกันระหวางอันเดต ดังนั้น เดฟ จึงไม่ได้รับ xp มามากมายนักแต่มันก็ถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการค่อยเพิ่มเลเวลเพราะเขาไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงเหมือนกับผู้เล่นคนอื่น


เลเวลของ เดฟ มาถึง 270 แล้ว เขาเกือบขึ้นถึงผู้เล่นพวกที่เลเวลสูงได้อย่างรวดเร็ว


ทีมอันเดตเดินหน้าต่อเข้าไปในทะเลทรายคอยปีนผ่านเนินทรายไปเรื่อยๆ


ตอนที่อยู่บนยอดเนินทราย ฉากเปิดโล่งก็เผยให้เห็นว่ามีอะไรอยู่เบื้องล่างบ้าง


” ไปอยู่ด้านล่าง ! !” – เดฟ สั่งการอันเดตของเขาให้ไปซ่อนหลังเนินทราย


เดฟ ค่อยๆเดินขึ้นมาบนเนินและมองดูว่ามีอะไรอยู่ด้านหน้าบ้าง


มันมีเมืองที่มีขนาดใหญ่โตโผล่ขึ้นมากลางทะเลทราย เมืองนี้ดูโบราณและทำให้รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของมัน


มันถูกล้อมรอบด้วยกำแพงที่สูงอย่างน้อย 30 ม.และหนากว่า 10 ม.


ทุกๆ 100 ม.จะมีหอคอยเฝ้าระวังที่มีไฟถูกจุดขึ้นมาบนยอดหอคอย


ดูจากไกลๆแล้วเมืองแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวา บ้านหลายหลังมีไฟให้เห็นลอดออกมาผ่านหน้าต่างและใจกลางเมืองนั้นก็มีพีระมิดขนาดใหญ่ตั้งอยู่


พีระมิดนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่ดูฟุ่มเฟือย มันมีชั้นของทองบนเคลือบที่บนผิวหินและยอดด้านบนก็มีเพชรสีแดงประดับเอาไว้


” มันต้องเป็นเขตสามแน่ ฉันต้องรายงานเรื่องนี้แต่ต้องทำการสอดแนมก่อน หน่วย 4,5,6 ไปรอบๆเมืองหาตำแหน่งทางเข้าทั้งหมด ถ้าพบกับพวกเฝ้าระวังไม่ต้องเข้าไปสู้ ” – เดฟ สั่งการและมีสามหน่วยที่แยกตัวออกไป


Bud เร่ง Dunlord ของตัวเองให้เข้าไปใกล้ เดฟ


” ฉันเข้าไป ดู และรายงานจำนวน ….กองทัพ ศัตรูและอาวุธ “


” นายแฝงตัวเข้าไปได้เหรอ ?” – เดฟ เงยหน้าขึ้นมอง Bud ที่มีตัวขนาดใหญ่ตั้งแต่หัวจรดเท้า


” ใช่ ” – Bud ตอบกลับ จากนั้นตัวของเขาก็เริ่มเบลอจนกลายเป็นควัน


” Shadow Ghoul ” – เดฟ ตบหน้าผากตัวเองเพราลืมว่า Ghoul ของเขาได้กินเสือเงาเข้าไปและได้ความสามารถในการหายตัวมา


” ได้ Bud ระวังตัวด้วย “


Bud ยิ้มก่อนจะหายตัวไปจากตัว Dunlord กลายเป็นควันสีดำแล้วพุ่งไปที่เมืองอย่างรวดเร็ว


ในตอนที่ เดฟ รออันเดตของเขาตรวจสอบนั้นก็มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา


[ เวลาสำหรับการประมูลได้หมดลง !


110,000,000 ทองได้ถูกเพิ่มเข้าในบัญชีของคุณ ! ]


เดฟ มองไปที่แจ้งเตือนอยู่สักพัก


ตอนนี้ความคิดของเขายังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะตัวเลขที่เขาได้เห็น


” 1 2 3 …9 หลัก…..มัน….110 ละ…โอ้….โอเค…”


ผลของความช็อกนั้นยังไม่หายไปจนกระทั่งมีโทรศัพท์เข้าและเขาก็กดรับไปโดยไม่รู้ตัว


” เดฟฟฟฟฟฟ ! นายเลี้ยงข้าว ! “


” อื้อ ได้ ได้ บอกฉันมาที ใครได้มันไป ? ฉันยังทำบางอย่างอยู่และไม่มีโอกาสไปตามข่าว เดวิส รึเปล่า ? “


” ไม่ ไม่ เป็นพวกใหม่ ! พวกนี้น่ะบ้ามาก ราคาตอนแรกหยุดอยู่ที่ 70 ล้านแต่พวกนั้นกลับเพิ่มขึ้นมาเป็น 100 ล้านเลย พวก Blood Rage ต้องการที่จะซื้อมันด้วยการเพิ่มทีละ 1 ล้านแต่พวกมันก็เพิ่มขึ้นทีเดียวเป็น 110 ล้านเลย “


” พวก ? พวกนี้เป็นใคร ? มันต้องเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่จะมีเงินเยอะขนาดนั้น “


” ใช่ มันเป็นบริษัททางยุโรป พวกนั้นได้ลงทุนไปเยอะและได้ใช้โอกาสตอนที่ซื้อสิทธินี้ในการประกาศกับทุกคนว่ากำลังรับสมัครผู้เล่นเพื่อพิชิตเขตตะวันออก การยึดนี้จะเริ่มใน 1 อาทิตย์จากนี้ บ้าเอ้ย พวกนั้นถึงกับบอกให้ผู้เล่นจากกิลด์อื่นมาร่วมมือด้วย พวกนั้นรับปากว่าจะให้รางวัลก้อนใหญ่ให้กับคนที่เข้าร่วมการโจมตี นายต้องล็อคอินเข้าไปดูในเว็บ คำโฆษณาของพวกนั้นมีอยู่ทั่วทุกที่ “- โซว์ พูดออกมาในอึดในเดียว


” ได้ ได้ ฉันจะไปดู ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการก่อน “


” ได้ เดฟ แต่นายรับปากว่าจะพาฉันไปด้วยแต่นายก็ยังไปเล่นสนุกคนเดียว ” – โซว์ โอดครวญ


” ไม่ใช่เธอบอกรึไงว่าเธอรอให้เควสการสืบทอดเธอเสร็จก่อน ? “


” ใช่ เรื่องนั้น ฉันได้เบาะแสบางอย่างมากแต่ฉันต้องเลเวลอย่างน้อย 300 ก่อนและฉันก็ยังเลเวลไม่ถึง 150 ด้วยซ้ำ มันโคตรยากเลยกับการเก็บเลเวลคนเดียว แม้แต่จะมีปาร์ตี้แต่มันก็ห่วย ผู้เล่นส่วนมากต้องการไปแค่ดันเจี้ยนเท่านั้น ไม่คิดจะไปล่าตามพื้นที่เปิดและทุกครั้งที่ลงปาร์ตี้ดันเจี้ยนก็เจอแต่พวกโง่ ไม่มีความเป็นทีมเลยและทุกครั้งหนึ่งในนั้นก็ทำให้เราโดนฆ่า ! “


” ได้ ฉันจะพาเธอมาด้วยครั้งหน้า ถ้าเป็นแค่ xp ฉันไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร ฉันเลเวล 270 แล้ว มันคงไม่ยากที่จะเพิ่มเลเวลเธอขึ้นในโลกใต้ดิน เธอยังมีคัมภีร์ที่ฉันให้เธอไปมั้ย ?”


” ใช่ ยังมีอยู่ “


” ดี ตอนที่ฉันจบการเดินทางครั้งนี้ฉันจะพาเธอไปเก็บเลเวล “


” ครั้งหน้า ? ด้วยความเร็วระดับนี้นายคงยึดทั้งโลกใต้ดินไว้ได้อีกไม่นาน ! ” – โซว์ แซว


” ฉันจะรับอีกสาย โซว์ ฉันต้องวางแล้ว “


” โอ้ ใช่ คุณนายรัสเตอร์ รึเปล่า ? “


” ไม่ ฉันกำลังคุยกับเธออยู่นี่ไง ” – เดฟ แซวกลับเมื่อรู้ว่าคำพูดของเธอหมายถึงอะไร


โซว์ แปลกใจเมื่อได้ยินแบบนั้นและ เดฟ ก็วางสายไป โซว์ หน้าแดงขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกจุกอยู่ที่คอ


เดฟ รับสายที่สองและรู้ว่าเป็นใครเมื่อเห็นเบอร์ที่คุ้นเคย


” ราฟ ไอ้บ้า ในที่สุดนายก็จำได้สักทีว่านายมีเพื่อน “


” โอ้ เพื่อน เป็นยังไงบ้าง ?”


” ก็ดี แล้วทำไมถึงโทรมาได้ ? “


” เอ่ แอนนา บอกว่าเธอเจอนายที่โมย่าเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนและคุยกับนายเรื่องรวมรุ่น “


เดฟ คิ้วขมวดเมื่อเพื่อนเขาพูดถึงแฟนเก่าตัวเอง – ” ใช่ แล้วยังไง ? ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันไม่ไป “


” ไม่ เพื่อน นายต้องไป มีเรื่องใหญ่กำลังเกิดขึ้น “


” อะไร ? ไม่ใช่ว่ามันเดือนหน้ารึไง ? “


” ไม่ นายจะเห็นหัวหน้ากิลด์ตกลงจะช่วยทางกิลด์ยุโรปในการยึดเขตตะวันออก “


” แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการรวมรุ่น ? “


” รอเดี๋ยวนะ เรื่องคือการยึดเขตตะวันออกนั้นต้องกินเวลานานอย่างน้อยก็หนึ่งเดือนและมีเราหลายคนไม่ได้มีเวลาจะไปรวมรุ่นถ้าต้องหมกตัวอยู่ในเกม ทุกคนเลยตกลงว่าจะเลื่อนเวลารวมรุ่นเข้ามา ศุกร์หน้าฉันจะไปรับนายที่โมย่า “


” เพื่อน ฉันบอกนายแล้วว่าฉันไม่อยากไปงานเลี้ยงกับพวกที่เอาแต่ใส่เสื้อผ้าหรูและคุยกันเรื่องว่าทำอะไรเมื่อปีที่แล้ว นายก็รู้จักฉันนิ ฉันเข้าสังคมไม่เก่ง “


” ไม่ ฉันจะเป็นคู่หูให้นายเอง นายก็รู้จัก วาเนสซ่า ฉันได้ยินว่าเธอทิ้งแฟนเธอแล้วและฉันก็ได้ยินว่าเธอมีของคืนให้นายแต่เพราะนายก็รู้ว่าใครตัวติดกับนายตลอด เธอเลยไม่มีโอกาสจะเข้าใกล้นายเลย “


” วาเนสซ่า ? นายมั่นใจเหรอ ? ” – เดฟ ไม่เชื่อหูตัวเอง


” ใช่ พวก ตอนนั้นนายน่ะฮ็อตจริงๆ นายว่าไงล่ะ ? “


” ฉันต้องคิดดูก่อน….วาเนสซ่า เลยนะพวก ? นายมั่นใจนะ ? “


” ฮ่ะ ใช่ ไว้เจอกันในอีก 6 วัน เพื่อน ! “


ในตอนที่ ราฟ วางสายไป เดฟ ก็เห็นการเคลื่อนไหวที่ประตูเมือง


” ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น ! “


Chapter 158 : บริการรับส่ง


กลุ่มคนชุดดำได้เดินออกมาจากประตูเมือง ชายในชุดขาวถูกพวกนั้นอุ้มออกมา เดฟ มองไปที่พวกนั้นโดยยืนอยู่ที่ทะเลทราย จากนั้นชายในชุดขาวก็เริ่มเต้นรำ


เขากำลังท่องบทสวดบางอย่าง


พื้นดินเริ่มสั่นไหวและสฟิงค์หินก็ได้โผล่ขึ้นมาจากพื้น


มันดูคล้ายกับสฟิงค์ของอียิปต์ มันสวมที่คลุมหัวสีขาว มันมีร่างกายเป็นสิงโตและหางเป็นงู, หน้าเป็นผู้หญิง


เดฟ ที่อยู่ไกลออกมานั้นได้ข้อมูลของสิ่งมีชีวิตนั้น เขาไม่ได้อยากจะเสี่ยงที่จะเข้าไปใกล้แล้วเผยตัวตนของเขาออกมาเพื่อตรวจสอบมัน


สฟิงค์สลัดทรายออกจากตัวของมันและเดินเข้าไปใกล้กลุ่มคนพวกนั้น


ชายที่สวมชุดขาวหยุดเต้นแล้วสะบัดมือพูดกับคนรอบตัวเขา


ทั้งสี่คนได้เอาคนที่โดนล่ามโซ่เดินเข้าไปหาสฟิงค์


สฟิงค์นั้นงับพวกนั้นเอาไว้ก่อนที่จะโยนเข้าที่ปากตัวเอง


พิธีได้จบลง พวกคนชุดดำได้ถอยกลับไปที่เมืองโดยแบกชายชุดขาวไปด้วย สฟิงค์เดินวนรอบตัวเองอยู่หลายครั้ง จากนั้นมันก็เริ่มฝั่งตัวลงไปในทรายจนกระทั่งมันหายไปจากสายตา


” นั่นมันมอนเตอร์ที่อันตราย ‘


มันอาจจะมีพวกแบบนี้อีกในพื้นที่นี้


บางทีมันอาจจะอยู่ใต้เท้าพวกเขาก็ได้


ทีมสอดแนมที่ส่งออกไปนั้นได้กลับมารายงาน พวกนั้นได้รายงานเกี่ยวกับจำนวนทหารที่อยู่ประจำกำแพงและจำนวนหน้าไม้ต่างๆที่ติดตั้งตามกำแพง มันยังมีคูน้ำอยู่ตรงหน้ากำแพงด้วย


Bud ได้โผล่กลับมาแล้วรายงานสิ่งที่เขาพบ – ” ปิศาจมากมาย…พรีส ทำพิธี “


‘ ถ้าพรีสของโบสถ์อยู่ที่นี่ งั้นมันต้องเป็นที่ที่พวกนั้นกับปิศาจจะอัญเชิญ Seraph ฉันคงให้พวกนั้นทำแบบนั้นไม่ได้แต่เราก็เข้าไปไม่ได้ ทีมของเราจะโดนทำลายถ้าเข้าใกล้ประตู ฉันต้องแจ้งเรื่องนี้กับ Delvina รึ Du’ Rhaza ‘


” ขอบคุณมาก Bud เราต้องกลับไป ที่นี่ไม่อาจที่จะยึดได้หากไม่มีอุปกรณ์รึอาวุธ “


เดฟ ได้นำทีมของเขาเดินหน้าออกจากเมืองและกลับไปยังทะเลทรายสีดำ


มันอาจจะมีความลับอื่นของพื้นที่นี้และเขาต้องการที่จะตรวจสอบทุกอย่างก่อนที่จะกลับไปยังป้อมแดง


บางครั้งเขาก็ได้พบกับฝูงหมาเข้าและใช้โอกาสนั้นในการเพิ่มเลเวลของตัวเอง


เดฟ ได้เก็บเลเวลอยู่กว่า 12 ชม.ในเกมจนเลเวลของเขาขึ้นเป็น 275 ตอนนี้การหา xp นั้นยากกว่าเดิมสำหรับการเพิ่มเลเวล


หลังจากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้ากลับไปที่ป้อมแดงและ เดฟ ก็ได้ไปยังตึกหลักของป้อมเพื่อเข้าพบกับ Du’Rhaza เมื่อพบว่าอีกฝ่ายกำลังอ่านคัมภีร์ตามปกติ เดฟ ก็ได้เข้าไปขัด


” Du’Rhaza ฉันมีข่าวจะบอก “


ลิซวางคัมภีรน์ลงไปและรอให้ เดฟ พูด


” ฉันเจอเมืองทางตะวันออกของป้อมแดง “


เดฟ รายงานลิซถึงจำนวนศัตรูและการป้องกันของเมืองนั้น เขายังบอกลิซเกี่ยวกับสฟิงค์และพิธีกรรมรวมไปถึงโอกาสเป็นไปได้ที่มันจะเกี่ยวข้องกับ Ash King ด้วย


” นายทำได้ดี ฉันจะแจ้งเรื่องนี้ไปที่หัวหน้าเพื่อเตรียมการโจมตี เราไม่อาจจะให้ Seraph ถูกเรียกออกมาได้ “


Du’Rhaza ได้เรียก Death Knight เข้ามาและสั่งการให้ไปบอกเรื่องนี้กับดินแดนอันเดต


” อีกเรื่อง ราชาเรียกตัวนายเข้าพบ “


” ได้ ” – เดฟ ฉีกคัมภีร์วาร์ปแล้วไปปรากฏตัวตรงหน้าวังกระดูกอีกครั้ง


ดินแดนอันเดตนี้มีโครงสร้างที่น่าแปลกใจ หลายตึกนั้นดูงดงามและมีรายละเอียดอย่างดี มันห่างไกลจากคำว่าเมืองแห่งความตาย


อันเดตเดินอยู่ตามท้องถนน, ทำธุระของตัวเอง ร้านค้าเปิดขายของต่างๆ, ลูกค้าที่เข้าออกตามร้านคอยซื้อหาอาวุธและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตของพวกเขา


เดฟ เดินลึกเข้าไปในเมืองและได้ไปถึงวังกระดูกที่ใจกลางเมืองแห่งนี้


Doom Knight สองคนได้เฝ้าอยู่ที่ประตูของวังกระดูก


หนึ่งในนั้นได้สั่งการให้เปิดประตูให้กับ เดฟ แล้วหลีกทางให้เขาเข้าไป


เดฟ เดินไปตามบันไดวนของวังกระดูกจนถึงชั้นบนและเข้าห้องบัลลังก์ไป


ราชานั่งอยู่ที่บัลลังก์รอคอย เดฟ อยู่


” นายทำตามที่รับปากเอาไว้ ” – ราชาพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม


“เสียงนายฟังดูเหมือนจะมีปัญหา มันเกี่ยวกับที่ Death คืนลูกสาวให้กับนายรึเปล่า ? “


” ไม่ เธอคืนลูกสาวฉันกลับมาจริงแต่เธอเปลี่ยนไปจากเดิม “


เด็กสาวคนหนึ่งได้เดินเข้ามาในห้องโถง เธอสวมชุดสีเงินและมีมงกุฎสีทองที่หัว ผมของเธอเป็นสีดำพาดถึงบ่า เธอมีใบหน้าที่สละสวยแต่ก็ยังมีความโกรธที่แสดงออกมา


” มีอะไรราชา ? นี่อยากจะขังฉันไปตลอดกาลเลยรึไง พ่อ ? “


‘ นี่คือลูกสาวของราชางั้นเหรอ ? เธอไม่ใชอันเดตนิแล้วเธอก็โกรธอยู่ด้วย ‘


” ลูก ลูกก็รู้ดีว่าพ่อให้ลูกออกจากที่นี่ไม่ได้ เรามีศัตรูมากมายและพวกนั้นก็จะทำทุกอย่างเพื่อทำร้ายเรา ลูกจะปลอดภัยที่นี่ในเขตนี้ “


” หนูไม่ต้องการที่จะติดอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ด้วยอันเดตที่เต็มไปทั่วทุกที่และนายก็ไม่ใช่พ่อฉันแล้ว ! พ่อฉันตายไปนานแล้ว ! “- สีหน้าของเธอดูเย็นชาขึ้นมา


[Eleanor of Arotsa]


ขั้น : Epic


ระดับความอันเตราย : เป็นมิตร


เลเวล : 350


HP : 350,000


ลดดาเมจ : 35,000


ดูดซับเวทย์ : 35,000


สกิล : ???


เจ้าหญิงของราชาผู้ล่วงลับนามว่า Arotsa


‘งั้นก็หมายความว่าเธอแตกต่างออกไป’


” ลูก พ่อทำสิ่งที่พ่อต้องทำ ! มันเพื่ออาณาจักรของเรา “


“พ่อฆ่าหนูด้วยมือพ่อเอง ! พ่อแลกชีวิตหนูกับอะไร ? เพื่อกลายเป็นแบบนี้น่ะเหรอ ? หนูเกลียดพ่อ ! หนูไม่อยากเป็นพวกเดียวกับอันเดต ! “


เดฟ ไม่อาจจะไปขัดการพูดคุยระหว่างพ่อลูกได้


ราชาได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในอดีต เขารู้และ เดฟ เองก็รู้ถึงมันด้วย


” ลูกไม่อยากอยู่กับพวกเราสินะ ? ลูกไม่กลัวความโหดร้ายของพวกที่มีชีวิตรึไง ? “


” พ่อคงลืมไปแล้วว่าวันหนึ่งพ่อเองก็เป็นคน หนูไม่ได้อยากที่จะเป็นเจ้าหญิง มันมีแต่นำพาเรื่องน่าเศร้าเข้าหาตัว แล้ว Deadra อยู่ที่ไหน ? “


ราชากำหมัดแน่นแต่ เดฟ ได้พูดแทนก่อนที่ราชาจะได้ตอบ


” ฉันขอตอบแทน Deadra ตายไปในการต่อสู้ “


เดฟ พยายามช่วยราชาไม่ให้บอกความจริงว่าตัวราชาเองนี่แหละที่ฆ่าคนรักของเธอด้วยตัวเอง


” อะไรนะ ? เกิดอะไรขึ้น ?” – Eleanor มองไปที่ เดฟ


” เขาหาทางที่จะนำเธอกลับมา เขาเป็นคนที่กล้าหาญและควรจะจดจำเอาไว้ ” – เดฟ ตอบกลับ


เจ้าหญิงดูเศร้าแล้วพูดขึ้นมา – ” นี่เป็นโชคชะตาของคนที่มองหาเกียรติยศ พ่อ ความตาย พวกเขาต่างก็ตายเพื่อความหยิ่งทะนงและเกียรติของตัวเอง ความต้องการที่จะยึดครองอาณาจักรและดินแดน มันทำไปเพื่ออะไรกัน ? เพื่อเสียสละคนที่ตัวเองรัก ? พ่อเข้าใจหนูผิดแล้ว หนูไม่ใช่พวกเดียวกับความตายและไม่คิดที่จะเป็นด้วย หนูต้องการเป็นมนุษย์ที่มีลูกหลาน, แก่เฒ่าและตายแบบคน ! ชีวิตของอันเดตนั้นไม่ใช่สำหรับหนู พ่อ ปล่อยหนูไป “


” ลูกออกไปได้แต่พ่อแค่อยากรับรองความปลอดภัยของลูก Kis’Shtiengbrah พาเธอไปยังดินแดนที่นายจากมา Moria มันมีพวกที่รับใช้เราที่นั่น พวกนั้นจะคอยดูแลลูกและปกป้องลูก “


” ไม่ ! หนูต้องการใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ! หนูต้องการที่จะรู้จักกับมนุษย์ไม่ใช่มีแต่ต้องได้รับการปกป้องจากพวกอันเดต ! “


” พวกนั้นไม่ใช่อันเดต….พวกนั้นเป็นคน ” – ราชาพูดขึ้น


เจ้าหญิงชี้ไปที่ เดฟ – ” แล้วเขาล่ะ ? หนูไม่ต้องการให้ศพแบบนี้อยู่ใกล้ตัวหนู “


” เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีค่า พ่อเชื่อใจเขาในเรื่องความปลอดภัยของลูกแต่พ่อมีงานอื่นสำหรับเขา เขาแค่จะพาลูกไปที่นั่น จากนั้นเขาก็จะกลับออกมา “


เจ้าหญิงมองไปที่ เดฟ ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเผยท่าทีไม่พอใจออกมา – ” เขาก็แค่อันเดตอีกตัว “


เดฟ ขมวดคิ้ว เขายกมือขึ้นพร้อมกับแหวนที่ส่องแสงออกมาก่อนที่ตัวเขาจะถูกห่อหุ้มด้วยออร่าสีดำแล้วเปลี่ยนเป็นร่างคน เกราะ Death Knight สั่นไหวก่อนจะเปลี่ยนเป็นเกราะสีเงินที่สดใสขึ้นมาแทน


เขาได้เปลี่ยนจากอันเดตมาเป็นพาราดินศักดิ์สิทธิ์


ระบบได้แจ้งเตือนขึ้นมาตรงหน้า เดฟ


[คำสั่งฆ่า ! ]


[ ผู้เล่น Bone Breaker ได้ประกาศฆ่าคุณ ค่าหัว 10,000 ทอง คุณต้องรอดเป็นเวลา 7 วัน ถ้าไม่ได้มีการฆ่าใน 7 วันนี้คุณจะได้รับรางวัล 10% จากฆ่าหัวสำหรับทุกวันที่รอดไปได้ ]


‘ ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ฉันล่ะอยากเห็น Bone Breaker มาฆ่าฉันที่นี่จริงๆ ‘


เดฟ มองไปที่เจ้าหญิงแล้วพูดขึ้นมา – ” นี่เป็นคนพอสำหรับเธอรึยัง ? “


” ฮึ่ม ! ก็พอได้ ตอนนี้ก็พาฉันออกจากที่นี่ได้แล้ว ! “


[ราชาได้ให้งานกับคุณในการพาลูกสาวไปยังดินแดนของมนุษย์


ที่หมาย : ที่พักของ Dutch Brook ใน Moria ]


เดฟ พยักหน้ากับราชาและส่งคัมภีร์วาร์ปให้กับเจ้าหญิง เขาได้ฉีกมันออกก่อนที่เธอจะทำตามแล้วทั้งคู่ก็ได้ไปปรากฏตัวที่ Moria ทันที


Chapter 159 : พบกันอีกครั้ง


” Steel ! นายอยู่ไหนน่ะเพื่อน ? “


” เก็บเลเวลกับปาร์ตี้ใน Crimson Monastery นายมีอะไร ? “


” Death Stroke นั่นน่ะล็อคอินกลับเข้ามาในเกมแล้ว เขาอยู่ใน Moria มาช่วยฉันจัดการมันหน่อย “


” คงได้ ฉันฮีลให้ปาร์ตี้ฉันอยู่ ฉันกำลังจะขึ้นเป็นสมาชิกหลักของกิลด์ Devastators ฉันคงทำเรื่องนี้พังไม่ได้ นายเลเวล 360 แล้ว ไม่ใช่ว่านายคงไม่มีปัญหาอะไรกับการจัดการพวกเลเวลน้อยไม่ใช่รึไง ฆ่าเขาแล้วเอาไอเท็มกลับมา จากนั้นเราค่อยไปทำเควสการสืบทอดด้วยกัน “


” ก็ได้ ฉันว่าพวก Devastators คงรู้สึกผิดกับการไล่ฉันออกมาตอนที่ฉันเอาสกิลการสืบทอดนี่ไปให้ดู “


” พวก เอาจริงๆนะนั่นน่ะเป็นความผิดของนาย ปาร์ตี้ของนายโดนฆ่าอยู่หลายครั้งเพราะวิธีที่นายเล่น นายคิดถึงแต่ตัวเอง พวกที่ฉันเล่นด้วยตอนนี้เป็นมืออาชีพ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันมั่นใจว่าตอนที่นายได้การสืบทอดกลับมา พวกเขาก็จะเชิญนายเข้ากิลด์เองรึไม่ก็นายก็ค่อยเข้ากิลด์อื่น “


” ใช่ ฉันกำลังไปที่ Moria ฉันจะบอกนายตอนที่จัดการเสร็จละกัน “


” โชคดี ” – Stell ตัดสายไป


พาราดิน ฮึดฮัดออกมา – ” เฮงซวย ! “


Bone Breaker อยู่ที่สันเขาใกล้กับเมืองของ Devastators เขาใช้คัมภีร์วาร์ปไปที่เมืองเพื่อที่จะได้ใช้ประตูวาร์ป เขาได้เพิ่มรหัสพื้นที่ของ Moria จ่ายค่าธรรมเนียมในการวาร์ปจากประตู


ไกลออกไปเขาได้เห็นตัวหนังสือว่า ‘ฆ่า ! ‘ ขนาดใหญ่บนท้องฟ้าลอยอยู่ นี่คือเครื่องหมายของคำสั่งฆ่า มันได้แสดงถึงตำแหน่งของเหยื่อให้ทุกคนได้เห็น


Bone Breaker ยิ้มออกมาแล้ววิ่งไปหาเป้าหมายทันที


***


เดฟ และ Eleanor ได้โผล่มาที่ Moria และเขาก็ได้เห็นคำประกาศสั่งฆ่าบนหัวเขา เขารู้ว่า Bone Breaker อีกไม่นานก็จะไล่ตามเขามาแน่ นี่ยังไม่รวมถึงผู้เล่นคนอื่นๆที่คงจะหันมาสนใจกับเงิน 10,000 ทองฟรีๆบนหัวเขา


เดฟ ไม่ได้สนใจมัน ยังไงซะเขาก็อยู่ในเมือง เขาปลอดภัยในเวลา 1 ชม.ซึ่งผู้เล่นคนไหนก็ไม่อาจจะโจมตีเขาในเมืองได้


ถ้าผู้เล่นโจมตีเขาในเมือง ทหารของเมืองก็จะโผล่มาแล้วช่วย เดฟ ในการสู้กับพวกนั้น ทหารนั้นจะเลเวลมากกว่าฝ่ายโจมตี 50 เลเวลและพวกทหารมักจะมากันทีละ 3 ตัว


นั่นถือว่าเท่ากับหาเรื่องตายหากกล้าสร้างปัญหาขึ้นมาในเมือง เดฟ ได้พา Eleanor ไปยังจุดที่แสดงบนแผนที่ของเขา มันเป็นแมนชั่นด้านในเมืองซึ่งน่าจะเป็นที่พักของ Eleanor


ทางเหนือของเมืองนั้นมีแมนชั่นสามชั้นพร้อมกับสวนที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูง


ตอนที่พวกเขาเข้าไปใกล้ประตูนั้นพาราดินคนหนึ่งก็ได้เดินเข้ามาหาพวกเขาจากฝั่งตรงข้าม


เดฟ เอียงหัวเล็กน้อย เขาจำพาราดินคนนี้ได้ถึงจะใส่เกราะที่คุณภาพต่ำกว่าตอนที่ เดฟ เห็นอีกฝ่ายครั้งล่าสุดก็ตาม


เดฟ หัวเราะ เขาคือเหตุผลที่ทำให้พาราดินคนนี้ต้องใส่เกราะถูกๆ หลังจากที่เขาหลอก Bone Breaker กับเพื่อนให้หาของให้เขา พวกนี้ก็ขาดเงินไปและต้องขายเกราะของตัวเองเพื่อที่จะชดเชยเงินในคำสั่งประกาศฆ่า


” นายเลเวล 275 ได้ยังไง ? ! ” – Bone Breaker ช็อกอย่างเห็นได้ชัด


” นายต้องการอะไรเพื่อน ? ” – เดฟ เดินไปด้านหน้า Eleanor เพื่อปกป้อง NPC จาก Bone Breaker


” ไอ้ห่านี่ นายขโมยเควสฉันไป “


” ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงเรื่องอะไร นายควรไปซะตอนที่ยังมีโอกาส “


” ไอ้บ้านี่ นายลืมแล้วรึไงที่เป็นฉันเองที่ช่วยนายเก็บเลเวลตอนที่นายเพิ่งเล่น ตอนนี้เลิกพูดไร้สาระแล้วเอาไอเท็มคืนฉันมา ! “


เดฟ เมินอีกฝ่าย เขาเดินไปที่ประตูแมนชั่นแล้วเคาะประตู Bone Breaker หงุดหงิดขึ้นมาในตอนที่เห็นว่า เดฟ นั้นเมินตัวเอง เขาเดินตามแล้วดึง เดฟ กลับมาหาเขา


เดฟ คิ้วขมวดแต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร Alfred ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา


” การกระทำนี้ถือว่าเป็นการล่วงเกิน ผมแนะนำให้คุณเอามือออกจากผู้เล่นคนอื่น นี่เป็นแค่คำเตือน ครั้งหน้าจะมีทหารมาจัดการกับคุณ ! “


” นี่นายพูดบ้าอะไร Alfred ! ไอ้นี่มันขโมยของฉันไป ! “


พ่อบ้านมองไปที่ เดฟ ก่อนที่ตาข้างหนึ่งจะกระตุก เขานิ่งไปสักพักก่อนที่จะกลับเป็นปกติดังเดิม


เดฟ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Alfred มันราวกับว่า AI ของมันทำงานผิดปกติ


Alfred ได้พูดขึ้นมา – ” ผู้เล่นนี้ไม่ได้ทำผิดกฎอะไร การสูญเสียการสืบทอดนั้นเป็นเพราะการกระทำของคุณเอง หากกระทำผิดกฎมากกว่านี้จะมีทหารมาจัดการกับคุณ “


จากนั้น AI ก็ได้หายตัวไป


Bone Breaker ดึงดาบออกมาและเตรียมที่จะโจมตี เดฟ พาราดินนั้นไม่ได้ฟังสิ่งที่ Alfred บอกเอาไว้เลยรึบางทีเขาอาจจะโง่ก็ได้


” แม้ว่านายจะเลเวล 275 จริงๆแต่ฉันก็ยังจัดการนายได้และเอาการสืบทอดของฉันกลับคืนมาก่อนที่พวกทหารจะโผล่มา ! “


เอาล่ะ งั้นคงเป็นทั้งสองอย่าง ทั้งไม่ฟังแล้วก็ยังโง่ด้วย


Bone Breaker เริ่มด้วย {Shoulder Dash} พยายามที่จะชนให้ เดฟ เสียสมดุล เดฟ ได้ก้าวออกไปข้างๆแล้วใช้ {Spectral Skull} หัวกะโหลกสองอันได้เปล่งแสงสีขาวออกมาแล้วระเบิดเข้าใส่ด้านข้างของ Bone Breaker จนทำให้อีกฝ่ายเซ Bone Breaker ได้โจมตีใส่ เดฟ ก่อนและทำให้ชื่อของเขาเป็นสีแดง


เดฟ แปลกใจที่อนิเมชันของระเบิดกะโหลกนี้ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันไม่ได้เปล่งแสงสีแดงออกมาแล้ว


แหวนนั้นคงเปลี่ยนอนิเมชันของมันไป


เดฟ ใช้ {Stampede} ทำให้ Bone Breaker ไถลไปกับพื้นจนกระทั่งชนกับกำแพง


” มาสิ นายหาเรื่องเองนะ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ตอนแรกฉันไม่รู้เรื่องการสืบทอด นายเองนี่แหละที่ดึงฉันเข้าไปที่ Desolate Temple ฉันคงออกมาแล้วถ้านายบอกให้ฉันออกมาแต่แรก นายกลับพยายามฆ่าฉันเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพราะนาย ตอนนี้ก็ไปไกลๆได้แล้วแต่ตอนนี้คงสายไปแล้ว อยู่ตรงนั้นแหละ ตอนนี้ทหารมาแล้ว “


ทหารได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าประตูแมนชั่นและโจมตีใส่ Bone Breaker ฆ่าเขาไปทันที


เดฟ ไม่ได้สนใจที่จะรอดูอีกฝ่ายตายด้วยซ้ำ เขาแค่พาเจ้าหญิงเดินผ่านประตูแมนชั่นเข้าไปทันทีที่ประตูเปิด


” เจ้าหญิง เราได้เตรียมการต้อนรับให้คุณ มันจะมีงานเลี้ยงในนามของคุณเพื่อแนะนำคุณให้กับคนในเมืองนี้ ราชาของเราได้ให้หน้าที่กับเราเพื่อช่วยคุณในสิ่งที่คุณต้องการ “


Eleanor ไม่ได้สนใจชายที่เดินเข้ามาก่อนจะเดินตรงเข้าไปในแมนชั่นโดยไม่ได้พูดอะไรกับ เดฟ อีก


‘ ชิ สูงส่งจริงๆเลยนะเธอเนี้ย ราชาคงอยู่ดีกว่านี้ถ้าไม่มีเธอ ‘


[คุณได้ทำหน้าที่ที่ราชาให้มาเสร็จสิ้น +100 คะแนน]


พ่อบ้านหันกลับมาหา เดฟ


” แล้วนายเป็นใคร ?”


” ฉันมีหน้าที่พาเจ้าหญิงมาที่นี่ “


” งั้นนายคงไม่มีธุระอะไรที่นี่แล้ว เชิญออกไปด้วย พื้นที่นี่ห้ามให้คนธรรมดาเข้ามา ” – พ่อบ้านฮึดฮัดแล้วมองมาที่ เดฟ


” ได้ตามต้องการ ” – เดฟ ได้เดินออกจากแมนชั่นมา


‘ ฉันน่าจะพักก่อน ฉันเล่นมานานแล้ว ฉันต้องไปพักบ้าง พรุ่งนี้ก็ถึงวันออกจากโรงบาลแล้ว ฉันต้องหาที่อยู่ใหม่ให้กับตัวเองด้วย ‘


Chapter 160 : Let”s spend some cash


เดฟ ได้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลอันยาวนานทั้งคืน วันนี้เขาจะออกจากโรงบาลแล้ว เขาจะได้หนีจากหมอและอาหารแย่ๆของที่นี่ได้สักที หลังจากที่กินอาหารที่ไม่มีรสชาติแต่เต็มไปด้วยสารอาหารของโรงบาลมื้อสุดท้ายแล้วพยาบาลก็ได้มาบอกเขาว่ามีคนมาเยี่ยมแต่ก่อนที่เขาจะได้ออกจากโรงบาลนั้นเขาต้องทำการเปลี่ยนผ้าพันแผลด้วย


พยาบาลได้เอาผ้าพันแผลอันเก่าออกเผยให้เห็นผิวหนังสีชมพู จากนั้นเธอก็ได้เอาผ้าพันแผลอันใหม่มาใส่ที่ขากับมือเขา


เดฟ ได้ขยับมือไปมาเพื่อตรวจสอบนิ้วของเขาและพบว่าการเคลื่อนไหวนั้นสบายมากกว่าเดิมและที่สำคัญแล้วมันไม่เจ็บ ขาของเขาก็ดูดีขึ้นเช่นกัน เขาถึงกับงอนิ้วโป้งเท้าได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดแล้ว


เดฟ ใส่เสื้อผ้าก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาเดินไปรอบๆห้องและพบว่าเขาขยับได้ง่ายกว่าเดิม ขาที่หายไปของเขาตอนนี้ได้กลับมาเป็นปกติแล้ว เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปพบกับคนที่มาเยี่ยมเขา


โซว์ เดินไปมาในห้องรอ เดฟ อยู่ เธอใส่กางเกงยีนส์และเสื้อสีฟ้า


ตอนที่เธอเห็น เดฟ เธอก็ยิ้มออกมาทันที


” เดฟฟฟ ! ” – โซว์ ตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเห็นเขาจนไม่รู้ตัวตอนที่กรี๊ดออกมา


” เฮ้ ใจเย็นๆหน่อย ! นี่โรงบาลนะ ! ” – เดฟ แหย่เธอ


” โอ้ ขอโทษที ขอโทษ ! ” – เธอมองไปรอบๆแล้วทำการขอโทษ จากนั้นก็มองมาที่เขา – ” นายดูดีกว่าเดิมเยอะเลย ! ออกจากที่นี่กันเถอะแต่เราควรไปไหนก่อน? “


” ฉันคิดว่าจะหาที่อยู่ใหม่ บางทีคงต้องไปคุยกับตัวแทนหาบ้าน “


” คนเพิ่งรวยแล้วอยากใช้เงินสินะ เข้าใจแล้ว ” – เธอหยอก เดฟ


เดฟ ยักไหล่ – ” ก็จริง ฉันไม่อยากหมกตัวอยู่ในอพาทเมนต์เก่าๆนั่นนี่นาโดยเฉพาะเมื่อฉันซื้อบ้านที่อยู่สบายกว่านี้ได้ “


” พ่อเดฟคนรวย ฉันหวังว่านายจะไม่ลืมเพื่อนเก่าแบบฉันนะ ” – เธอเดินนำหน้าเขาไปที่รถของเธอ


ตอนที่ เดฟ ขึ้นรถมานั้น โซว์ ก็ได้เร่งเครื่องก่อนจะขับเข้าไปในตัวเมืองทันที


” บ้าเอ้ย โซว์ ช้าลงหน่อย ! ที่ฉันอยู่ในสภาพนั้นก็เพราะรถนี่แหละ ! “


” ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันรู้ว่าฉันทำอะไร เดฟ นายได้เงินจากเกมเยอะเลย ฉันมั่นใจว่ามันคงพอที่นายจะใช้ชีวิตสบายไปอีกนาน นายจะทำอะไร ? นายจะหยุดเล่นเกมมั้ย? “


” ฉันไม่หยุดเล่นหรอก มันเป็นเกมที่ดีและฉันรู้สึกเหมือนมีชีวิตมากว่าการดูมันเฉยๆ ! ! “


โซว์ ตัดหน้ารถซีดานสีดแดงก่อนจะชูนิ้วกลางให้กับอีกฝ่ายก่อนจะด่าออกมาอยู่หลายครั้งว่าอีกฝ่ายขับช้าเกินไป


” เหี้ย โซว์ ! ทำไมเธอถึงขับเอง ! ใช้ขับแบบอัตโนมัติสิ ! “


” อย่าเยี่ยวราดล่ะ เดฟ ขับแบบอัตโนมัติมันช้าเกินไป “


” ฉันดีใจนะที่นายจะเล่นต่อ 100 ล้านน่ะเป็นเงินก้อนโตเลยนะ….” – โซว์ พูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักพัก


” เงินไม่ใช่ทุกอย่าง นายก็รู้นิ ” – โซว์ กำพวงมาลัยแน่นขึ้น – ” ถ้าคนรวยกับคนจนไปตกอยู่ในทะเลทรายแต่ไม่มีอาหารรึน้ำ พวกเขาก็มีปัญหาเหมือนกัน “


” เธอพูดถึงเรื่องอะไร ? ” – เดฟ สับสน นี่ไม่เหมือนกับตัว โซว์ เลย เธอไม่ใช่คนที่ซีเรียสแบบนี้และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องเปรียบเปรยแน่


” ที่ฉันจะสื่อคือเงินน่ะเป็นแค่ของที่หาที่อยู่และอาหารให้นาย มันก็แค่ของ ฉันโตมาพร้อมกับทุกอย่างที่ฉันต้องการแต่บางครั้งฉันก็ตระหนักได้ว่ามันก็แค่สิ่งของ ฉันมองหาอย่างอื่น บางอย่างที่ทำให้ชีวิตฉันมีค่ามากกว่าเดิม “


‘ ขับเร็ว 120 ไมล์/ชม.ในเมืองนี้ไม่ตื่นเต้นพอสำหรับเธอรึไง ? ‘ เดฟ คิดในใจ


” สิ่งที่นายสร้างมาในเกม ดินแดนอันเดตและทั้งหมด นั่นเป็นบางอย่างที่ฉันพยายามทำ ฉันแค่ต้องการทำบางอย่างที่มันใหม่แล้วก็สนุก “


” ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูด รถบรรทุก รถบรรทุก ! ” – เดฟ ตะโกนออกมา


โซว์ หักหลบรถบรรทุกตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย


” ที่ฉันจะสื่อคือเงินน่ะเป็นสิ่งที่ซื้อสิ่งของได้ซึ่งทำให้มันไร้ค่า ถ้านายใช้เงินในการทำให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้นมันก็เป็นเรื่องดีแต่ถ้านายเปลี่ยนไปเป็นคนละคนที่เป็นพวกบ้าเงินเหมือนกับพวกผู้หญิงที่เราเจอที่ผับ งั้นมันจะดีกว่าถ้านายไม่มีเงิน “


‘ ฉันไม่รู้เลยว่า โซว์ จะคิดแบบนี้ เธอคิดว่าฉันจะเป็นพวกหลงในเงินรึไง ‘


” พ่ออยากให้นายไปกินมื้อเย็นตอนวันศุกร์ ” – เสียงของ โซว์ ดูประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง


” วันศุกร์ กี่โมง ? “


จากนั้นเขาก็จำได้ว่าวันศุกร์เป็นวันที่จัดงานรวมรุ่น


” นายคงไม่ติดธุระอะไรใช่มั้ย ? ” – โซว์ เลี้ยวก่อนที่จะหยุดรถทันที


” จริงๆแล้วฉันมีบางอย่างต้องไปทำในคืนนั้น “


โซว์ โยนกุญแจให้กับคนรับรถก่อนจะเดินเข้าไปในตึก


” ได้ ฉันว่าก็น่าจะพอได้นะ “


” นี่ออฟฟิศของ คาเรน เธอเป็นเพื่อนกับครอบครัวเราและสามารถหาที่พักดีๆในเมืองได้ “


” ดี “


ทั้งสองเดินเข้าไปในออฟฟิศ พวกเขาได้พบกับ คาเรน และ เดฟ ก็ต้องแปลกใจกับความเป็นมิตรของผู้หญิงคนนี้


เธอให้พวกเขาดูแบบบ้านต่างๆ


โซว์ พบเพนท์เฮาส์แห่งหนึ่งที่มีวิวที่สวยงาม


บ้านที่ราคา 10 ล้านน่ะเป็นบ้านที่โคตรจะแพงเลย


” มันไม่ใหญ่เกินไปหน่อยรึไง ? ” – เดฟ ถาม


” ไม่ มันน่าจะพอได้อยู่ เราจะได้เพิ่มห้องออกกำลังกายแล้วก็บาร์เล็กๆเอาไว้ ห้องนั่งเล่นก็น่าจะมี…”


โซว์ เริ่มพูดความคิดในการตกแต่งบ้านออกมา


คาเรน มองทั้งสองคนพร้อมรอยยิ้มกว้าง เธอชอบเห็นคู่รักที่คอยออกแบบบ้านของตัวเองบวกกับเธอยังได้รับค่าคอมในส่วนนี้ด้วย


” มันเป็นที่ที่ดีที่จะได้อยู่ร่วมกัน ” – คาเรน พูดขึ้น


โซว์ หน้าแดงขึ้นมาเมื่อรู้ว่าพวกเขาเหมือนกับคู่รักที่กำลังจะซื้อบ้านใหม่


เดฟ กระแอมออกมาแล้วถาม คาเรน ว่าพวกเขาไปดูบ้านได้รึเปล่า


คาเรน ขับรถพา เดฟ ไปยังตึกแห่งหนึ่งโดยมี โซว์ ขับตามมา หลังจากที่จอดรถที่โรงรถแล้วพวกเขาก็ได้ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 60 ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้ชมห้อง


นี่คือส่วนที่กำลังทำการตกแต่งใหม่ซึ่งเสร็จไปแค่ครึ่งเดียว กระป๋องสีและเครื่องมืออื่นๆยังวางอยู่เต็มไปหมดแต่หน้าต่างขนาดใหญ่นั้นทำให้ทั้งสองได้เห็นวิวที่งดงามของเมือง


” วิวตอนกลางคืนน่ะสวยมาก คุณสามารถเห็นทั้งแมนฮัตตันจากที่นี่ได้ ” – คาเรน บอกคุณสมบัติของบ้านออกมาซึ่งไม่ได้พูดเกินจริงไปเลย


โซว์ นั้นไม่อาจจะปิดความตื่นเต้นที่มีได้


” ดูนั่นสิ ” – โซว์ ชี้ไปที่ตึกหลังหนึ่ง – ” นั่นน่ะคือที่ที่ฉันอยู่ ถ้านายมีกล้องส่องทางไกลนะ นายน่ะเห็นห้องฉันด้วย ” – โซว์ พูดขึ้น


” นี่อ่อยฉันรึไง ? ” – เดฟ หยอก


” ไม่ ! ห้ามแอบดู ! ” – เธอหน้าแดงขึ้นมาทันที


” งั้น พวกคุณคิดว่าไง ? ” – คาเรน ถามขึ้นมาซึ่งแน่นอนว่านี่ทำให้ โซว์ หน้าแดงยิ่งกว่าเดิมและ เดฟ ก็ถึงกับต้องกระแอมออกมา


” ฉันคิดว่าฉันจะซื้อมัน ” – สุดท้ายเขาก็พูดออกมา


เดฟ ได้ทำสัญญาและปิดการซื้อ เขาบอกเจ้าของห้องว่าตั้งใจจะซื้อด้วยเงินสดแต่เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนเงินในเกมให้เป็นเงินจริงก่อน


” สีและงานอื่นๆจะเสร็จภายในอาทิตย์นี้ ฉันแนะนำคนออกแบบตกแต่งภายในได้ถ้าคุณสนใจ “- คาเรน พูดต่อ


” ฉันจะจำไว้ ” – เดฟ มั่นใจว่า โซว์ คงจะช่วยในเรื่องนี้


” แล้วอาทิตย์นี้นายคิดจะไปอยู่ที่ไหน ? ฉันไม่คิดว่านายควรจะกลับไปที่อพาทเมนต์เดิม แม้ว่าจะมีคนของพ่อคอยเฝ้าให้ก็ตาม” – โซว์ พูดขึ้นมา


” ไม่ ฉันว่าฉันจะไปพักที่โรงแรม “


” งั้นฉันก็รู้จักโรงแรมดีๆที่อยู่ใกล้ๆ นายจะได้ห้องที่มีแคปซูลเกมให้ด้วย “


” ดี เราน่าจะไปด้วยกัน คาเรน ขอบคุณ ฉันจะมาพบคุณตอนที่ทุกอย่างใกล้เสร็จละกัน ” – เขากับ โซว์ ได้ลงลิฟต์ไปที่ชั้นจอดรถ จากนั้นก็ได้มุ่งหน้าไปที่โรงแรม เขาต้องการที่จะกลับเข้าไปในเกมให้เร็วที่สุด เขามีเรื่องมากมายที่ต้องไปทำในเกม

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม