Rise of The Undead Legion 147-153
Chapter 147 : สัตว์เลี้ยง
[Basilisk skin]
[Basilisk Claws]
[Basilisk eyes(ของใช้งาน)]
[Venom (รูน)]
200 ทอง
เขาตรวจสอบรูนสีฟ้าที่ได้มา
[Venom (รูน)]
เพิ่มพิษให้กับอาวุธ
ทำดาเมจพิษ 10% ของดาเมจอาวุธเป็นเวลา 5 วินาที
มีโอกาส 20% ที่ศัตรูจะติดพิษ
” โอ้ ของดี ! ” – เขาอ่านคำอธิบายรูนแล้วใช้มันกับถุงมือของเขา
ถุงมือของเขาส่องแสงสีฟ้าออกมาพร้อมกับมีเครื่องหมายเล็กที่ฝังตัวลงไปในถุงมือ
หลังจากที่แสงนี้ดับลงเขาก็หันไปดูว่า Dog เป็นยังไงบ้าง
” Dog บ้าเอ้ย ! นี่ไอ้บ้านั่นไปไหนแล้ว? ! “
จากคำถามของ เดฟ Bud ก็ได้ตอบกลับ – ” นั่น….กำลังมา ” – Ghoul ชี้ไป
” นายบอกได้เหรอ ? “
” กิ้งก่า….กลิ่น…กำลังมา…”
” กิ้งก่านั่นกำลังกลับมา ? ” – เดฟ สับสน
Bud พยักหน้า
กิ้งก่าโผล่มาจากจุดที่ Bud ชี้ราวกับหัวรถไฟที่ควบคุมไม่ได้มุ่งหน้ามาหาทีมอันเดต
” เหี้ย ! เตรียมหน้าไม้เอาไว้ ! เตรียมรับการพุ่งชน ! “
แต่จากนั้น Dog ก็ปรากฏตัวขึ้นมาบนหลังของกิ้งก่าราวกับคาวบอย
Dog นั้นเหมือนกับสนุกกับเรื่องนี้ เขาใช้มือข้างหนึ่งจับตัวกิ้งก่าเอาไว้และมืออีกข้างที่ประคองคอที่บน…คอของตัวเอง
อยู่ๆกิ้งก่าก็หยุดวิ่งแต่ก็ยังเดินหน้าเข้ามาหาทีมอันเดตต่อพร้อมกับใช้ขาทั้งแปดข้างของมันกางออกไปกับพื้นใช้ทรายเป็นตัวเบรคความเร็วของมันเอาไว้
ตอนที่กิ้งก่าได้หยุดไป Dog ก็ได้โดดลงมาแล้วลูบตัวมันราวกับเอ็นดู
” เชื่อง ! ” – Bud ประกาศออกมาหลังจากที่สื่อสารกับ Dog อยู่สักพัก
‘นี่มันทำได้ยังไง ? ‘ เดฟ สับสน Dog ไม่ได้มีสกิลที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์เลย
‘ฉันเดาว่ามันทำตามที่มันอยากทำ…รวมไปถึงการขี่ม้าแบบคาวบอยด้วย บ้าเอ้ย ฉันล่ะอิจฉาชะมัด ‘
เดฟ เข้าไปดูกิ้งก่าใกล้แต่มันคำรามใส่เขายกหางของมันขึ้นพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่เขาด้วย อยู่ๆ Dod ก็ต่อยเข้าที่ปากของมันจนมันสะบัดหัวและยอมสงบลง
[Azure Basilisk (เชื่อง)]
เลเวล : 200
ระดับความอันตราย : เป็นมิตร
ดาเมจ : 20,000-30,000
HP : 200,000
ลดดาเมจ : 20,000
ดูดซับเวทย์ : 20,000
สกิล :
{Tramble : ใช้น้ำหนักตัวในการพุ่งเข้าโจมตี ตอนที่ชนกับศัตรูจะทำดาเมจ 200%และสตันท์เป้าหมาย 3 วินาที }
{Petrifying Gaze : ตอนที่มองไปยังสิ่งมีชีวิต มันจะทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นหินไม่รู้ตัวและไม่อาจจะขยับได้ ถ้ารูปปั้นนั้นแตกไป เป้าหมายก็จะถูกกำจัดไปด้วย}
{Deadly Tail Spin : หมุนรอบตัว 5 ครั้งทำดาเมจใส่ศัตรูโดยรอบด้วยหางของมัน ทำดาเมจ 50% ต่อการหมุนหนึ่งครั้ง}
{Storm of Azure Fangs : หนามที่งออกมาจากหลังจะระเบิดออกมาทำการโจมตีแบบ AOE หนามอันหนึ่งนี้จะทำดาเมจ 10% โดยตรงใส่เป้าหมาย คูลดาวน์ 24 ชม. }
คำอธิบาย : ต้นกำเนิดไม่ทราบได้ บางคนบอกว่าพวกมันมายังโลกผ่านพิธีกรรมของปิศาจ บรรพบุรุษของมันสามารถทำการฆ่าได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียวและเพิ่มความปั่นป่วนให้กับทุกที่ สายเลือดของมันปนเปื้อนจึงเสียงพลังไปอย่างมากแต่สายตาของมันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี
‘งั้นมันก็เชื่อแล้ว มันเป็นพาหนะของ Dog แต่มันถูกปรับลงตั้งเยอะ อ่ะ ฉันเดาว่ามันคงโกงเกินไปถ้ายังเลเวลเท่าเดิม’
” ดีมาก Dog ! “- เดฟ ชมลูกน้องที่ไร้หัวของตัวเอง
แต่ Dog เหมือนกับไม่รู้เลยว่าเขาชมรึมองมาที่มัน มันเดินผ่านไปยังศพกิ้งก่าอีกตัว
” Dog นายจะทำอะไร ? ” – เดฟ เดินตามไปด้วยความสงสัยว่าอันเดตของเขาต้องการที่จะทำอะไรอีก เขาเอาไอเท็มมาหมดแล้ว งั้น Dog จะทำอะไร ?
Dog คุกเข่าลงไปแล้วใช้มือของมันล้วงเข้าไปในศพกิ้งก่าอยู่สักพักก่อนจะเกิดเสียงฉีกขาดของเนื้อและกระดูกซึ่งได้ทำให้ เดฟ รู้สึกอึดอัดอยู่นิดๆ
‘ นี่มัน…น่าอึดอัดชะมัด เขากำลังทำอะไร ? การฆ่าก็เป็นอีกเรื่องนะแต่ต้องมาชำแหละศพด้วยเหรอ พวก มันใจร้ายเกินไปแล้ว ‘
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่สักพักกับศพกิ้งก่า Dog ก็ได้ดึงเอาของบางอย่างออกมาจากศพของมัน
ตอนที่ Dog ลุกขึ้นยืนพร้อมกับแสดงของที่เต็มไปด้วยเลือดและเศษเนื้อของกิ้งก่านั้น มันคือกระดูกสันหลังของกิ้งก่า
Dog เหวี่ยงมันไปมาอย่างแรงจนทำให้กระดูกสันหลังนั้นเหมือนกับแส้ มันทำให้เกิดเสียงกระดุก ลั่นพร้อมกับเลือดที่กระจายออกมา
อาวุธ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือแส้กระดูกกิ้งก่า แต่ความยาวและความยืดหยุ่นของมันถือว่าเข้าท่า ข้อต่อแต่ละอันนั้นคมและที่ปลายแส้นั้นมีหนามที่เหมือนกับลูกตุ้มอยู่ด้วย +
” เอ่อ….อาวุธของ Dog ” – Bud พูดขึ้นมา
Dog เดินกลับไปหากิ้งก่าของตัวเองก่อนจะขึ้นไปนั่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เดฟ แค่ยืนอยู่เฉยๆและมองตาม Dog ไป
เขาส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมา – ” ไอ้นี่มันโคตรจะเจ๋งเลย ” – มันไม่มีอย่างอื่นให้ชมได้อีก
ในตอนที่เดินกลับมาหา Stinger และคิดตามพฤติกรรมของซอมบี้ที่ไร้หัว เขาก็ยังคงยิ้มแล้วโดดขึ้นหลัง Stinger แล้วมุ่งหน้าลึกเข้าไปในทะเลทรายเพื่อเก็บเลเวลกันต่อ
เดฟ ได้ออกมาจากเกมตอนที่เขาเลเวล 240 การเก็บเลเวลนี้กินเวลา 24 ชม.ในเกมแต่กินเวลาแค่ 8 ชม.ในความเป็นจริง
เขาเปิดแคปซูลออกมาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียง
พยาบาลเห็น เดฟ ลุกขึ้นนั่งและออกไปเรียกหมอ
ท้องของ เดฟ เริ่มร้องขึ้นมา
” ฉันต้องไปหาอะไรกิน ” – เดฟ พึมพำขึ้นมา
ประตูห้อง VR เปิดออกและหมอก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม
” รัสเตอร์ พักผ่อนเป็นยังไงบ้าง ?”
” น่าพอใจ ” – เดฟ ตอบกลับแล้วพูดต่อ – ” ฉันไปหาอะไรกินได้ที่ไหน ? ฉันหิวแล้ว “
” มันจะมีคนเอาอาหารมาให้ทีหลัง อีกอย่างแล้วมีคนรอพบนายอยู่ “
” โอ้ ต้องเป็น โซว์ แน่ๆ ! “
Chapter 148 : เลื่อนขั้น Death Knight
” ฉันจะให้พยาบาลพานายไปที่ห้องส่วนตัว คนที่มาเยี่ยมนายจะไปที่นั่น “
พยาบาลสาวสองคนได้เข้ามาและค่อยๆย้าย เดฟ ไปที่รถเข็น เขาพอใจกับการบริการแบบนี้ เขามักจะรู้สึกดีกับผู้หญิงในเครื่องแบบ พวกเธอเข็นเขาไปยังห้องส่วนตัวและค่อยๆอุ้ม เดฟ ลงไปที่เตียงแล้วออกจากห้องไป
โซว์ กับ ลุงแซม ได้เข้ามาในห้อง
” เดฟ ! นายดูเหมือนมัมมี่เลยนะ ! ” – โซว์ แปลกใจกับผ้าพันแผลที่มือและขาของ เดฟ
” ว่าไง นายดูดีนิ หมอบอกว่านายต้องพักอีก 2 วัน ฉันทิ้งคนไว้ใกล้โรงบาลกับด้านในเอาไว้แล้ว “
” อีกอย่างมีบางเรื่องที่ฉันต้องไปจัดการ หมอบอกฉันเรื่องผิดปกติที่พบระหว่างการผ่าตัดของนาย”
” ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง คุณซิลวาน่า เธอก็ด้วย โซว์ “- เดฟ พูดขึ้น พวกนี้ไม่ได้ติดหนี้อะไรเขาแต่กลับพยายามที่จะปกป้องเขาและ คลีเมนไทด์
” ไม่ต้องคิดมาก งั้นเราขอตัว โซว์ เธอยังไม่ได้นอนเลย เธอน่าจะไปพักบ้าง เราค่อยกลับมารับ เดฟ ตอนที่เขาออกจากโรงบาลได้แล้ว “
” ได้ “
โซว์ บอกลา เดฟ แล้วกลับไปพร้อมกับลุงของเธอ
เดฟ นอนอยู่ในห้องเพียงลำพัง เขาถูกห้ามไม่ให้กลับเข้าไปในเกมเป็นเวลา 8 ชม.เพื่อที่จะพักผ่อน
เขาเปิดทีวีแล้วเปลี่ยนไปที่ช่อง CCN
เดฟ ดูการผจญภัยของตัวเองผ่านทีวีและตื่นเต้นที่จะได้ดูผลงานของตัวเอง เขาสนใจว่า Valentine กับ White Ghost จะพูดว่ายังไงบ้าง
เขาไม่ได้สนใจกับการที่สองคนนี้บอกว่าความสำเร็จของเขานั้นเป็นเพราะโชคแต่ทั้งสองก็ยังบอกว่าโชคนั้นไม่ได้เข้าข้างเขาเสมอ
เดฟ เริ่มเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆในตอนที่อยู่ในห้อง
อาหารของโรงบาลนั้นเต็มไปด้วยของที่ไร้รสชาติถึงเขาจะชอบเยลลี่ที่นี่ก็เถอะ พยาบาลบอกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการที่ให้สารอาหารที่เพียงพอและดีซึ่งจะช่วยในการฟื้นฟูตัวของเขา
เวลายังคงผ่านไปช้าๆ ในที่สุดหมอก็อนุญาติให้เขาล็อคอินกลับเข้าไปในเกมได้อีกครั้งในตอนที่เกือบถึงเวลาฉายการผจญภัยรอบสองของเขา เดฟ รู้ว่าตอนนั้นเกือบถึงเวลาที่สกิลเขาจะคูลดาวน์เสร็จแล้ว
ในตอนที่เขาสนใจรายการทีวีโดยหลักๆแล้วเป็นเพราะ Warlord 1และ Zhang Shi ที่เข้ามาเป็นผู้วิจารณ์แต่ถึงยังไงการเลื่อนขั้นในโลกอันเดตก็สำคัญกับเขามากกว่าการจะคอยฟังคนอื่นพูดเกี่ยวกับการผจญภัยในอดีตของเขา นอกจากนี้เขาก็คงได้แต่ดูวิดีโอของตัวเองซ้ำเท่านั้น
เดฟ ล็อคอินกลับเข้าไปในเกมแล้วโผล่กลับมาที่ Undead Frontier
เดฟ เช็คคูลดาวน์สกิลตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่า {Life Cleaver} นั้นเหลือคูลดาวน์แค่ไม่กี่นาที
” ตอนที่ฉันเลื่อนขั้นเสร็จ ฉันจะได้ใส่ของ Death Knight ที่ซื้อมาจากร้านได้สักที “
เดฟ กดเปิดส่วนควบคุมและใช้ 10,000 คะแนนสำหรับสิทธิในการท้าทาย Death Knight
[ การเลื่อนขั้นอันเดต ]
คุณได้ซื้อสิทธิและจะถูกส่งไปท้าทายหัวหน้าทีม 501
หัวหน้าทีม : Death Knight Mathalan
คุณต้องการที่จะท้าทายกับหัวหน้าคุณตอนนี้หรือไม่ ? Y/N]
เดฟ กดตกลงและถูกส่งไปยังสนามต่อสู้
มันมีกำแพงสูงและที่นั่งโดยรอบ
เดฟ ได้ยินเสียตะโกนและคำรามของอันเดตนับหมื่นตัวที่กรีดร้องและเชิดชูราชา มันทำให้เขาต้องตื่นเต้นตามไปด้วย
หอคอยของวังอันเดตตั้งอยู่ด้านหลังสนามต่อสู้คอยปกคลุมทุกอย่าง
ด้านบนของจุดสูงสุดที่หอคอยวังกระดูกนั้นมีคริสตัลสีดำรูปร่างเหมือนเพชรหมุนตัวช้าๆแผ่ออกร่าแห่งความตายให้กับดินแดนอันเดต
และด้านล่างมันนั้น เดฟ ก็พบกับ 7 คนที่มองมาที่เขา
เดฟ รู้จักแค่ไม่กี่คน Dagla, Samel และตัวราชาเอง…..
” คนอื่นที่เหลือคงต้องเป็น Abyssal Knight “
ความคิดของ เดฟ ถูกขัดตอนที่เห็นว่าเสียงของอันเดตรอบๆนั้นกลายเป็นเสียงเดียวกัน
KIS. SHTING. BRAH!
KIS. SHTING. BRAH!
KIS. SHTING. BRAH!
..
” อันเดตรักนาย อันเดตน้อย ” – ร่างหนึ่งที่โผล่มาจากความมืดพูดขึ้น
เดฟ หันกลับมาและพบกับ Death Knight ในเกราะดำเดินเข้ามาหาเขา เกราะของอัศวินนี้นี้ปิดตั้งแต่หัวจรดเท้า เหล็กนั้นดูดกลืนแสงไปราวกับหุบเหวนรกที่ไม่สะท้อนแสงกลับมาเลยแม้แต่น้อย
ด้านหลังรูปตัว T ตรงหมวกนั้นมีสายตาที่น่ากลัวซึ่งทำให้ เดฟ ขนลุกขึ้นมา
ที่แขนข้างหนึ่งของ Death Knight ถือโล่ใหญ่ที่ปิดได้ทั้งตัวถ้าเขาก้มตัวลง
ดาบใหญ่ในมืออีกด้านนั้นแสดงให้เห็นถึงความดุดันและความรุนแรง บางครั้งมันยังเผยให้รู้สึกถึงคามเจ็บปวดและการสูญเสียของเหยื่อมันด้วย
[Matalan of Ash]
ขั้น : Death Knight
เลเวล : 350
ระดับ : Epic
ระดับความอันตราย : เป็นมิตร
HP : 350,000
ลดดาเมจ : 35,000
ดูดซับเวทย์ : 35,000
คำอธิบาย : Matalan ตายอย่างวีรบุรุษหลังจากที่ช่วยเมืองของตัวเองและทุกคนจาก Sworn Stalwart ที่อาละวาด
เขาตายด้วยการโดนเผาเป็นเถ้าจากไฟของ Stalwart และจากเถ้านั้นเขาก็ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา จากนั้นเขาก็รู้จักกันในนามอัศวินที่เกิดจากเถ้า เขาได้เข้าร่วมกับอันเดตและเลื่อนขั้นขึ้นมาจากความกล้าและความแข็งแกร่งของตัวเอง
ไม่มีไฟไหนที่เผาไหม้ความมุ่งมั่นของฉันได้
” เรื่องดีนิ ” – เดฟ ประทับใจกับภูมิหลังของ Death Knight ตัวนี้
” Kis’Shtiengbrah ถึงฉันอยากจะเห็นนายนำหน่วยของตัวเองแต่ฉันคงไม่ออมมือให้ ” – Death Knight เตือน
เสียงที่ดังราวกับสายฟ้าดังขขึ้นมา – ” สู้ ! “
เดฟ ได้ใช้สกิล {Life Cleaver} พร้อมกับฟองจากน้ำนรกที่ก่อตัวขึ้นมารอบตัวพวกเขา
เคียวได้ปรากฏขึ้นมาบนหัวของ Death Knight
เดฟ แค่ต้องเอาตัวรอดให้ได้ 2 นาทีเพื่อให้สกิลนี้ทำงานก่อนจะเลื่อนขั้น
เดฟ เริ่มการต่อสู้ด้วย {Death Descent} กระโดดขึ้นแล้วพุ่งเข้าใส่ Death Knight ราวกับดาวตก
Chapter 149 : เถ้าสู่เถ้า
Matalan ยกโล่ขึ้นเพื่อรับการโจมตีจาก {Death Descent} ที่ เดฟ ใช้มา จากนั้นเขาก็ปัด เดฟ ออกไปด้วยโล่ของเขาและพุ่งเข้าใส่ เดฟ ตอนที่เขาฟื้นตัวได้แล้วแต่ เดฟ ได้สลับอุปกรณ์จากถุงมือมาใช้ดาบและโล่ก่อนจะใช้ {Block} เพื่อหยุดการโจมตีของอีกฝ่าย เขากระเด็นออกไปและอาศัยแรงจากการปัดนี้ตีลังกากลับหลังเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างตัวเองกับ Matalan
Matalan เดินออกไปด้านข้างๆ วนรอบตัว เดฟ เพื่อมองหาช่องว่าง อยู่ๆเขาก็หายตัวไป
เดฟ มองไปรอบๆแต่ไม่ได้เห็นเบาะแสว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ใด
” อย่าลดการป้องกัน ! ” – เสียงตะโกนดังขึ้นจากด้านบน เดฟ เงยหน้าขึ้นมองและพบว่า Matalan กำลังดำดิ่งลงมาพร้อมกับจับดาบด้วยมือทั้งสองข้างชี้มาที่หัวของ เดฟ
เดฟ เอียงตัวหลบไปด้านข้างก่อนที่การโจมตีนั้นจะทำให้พื้นแตกออก
” เกือบไปแล้ว ! “
เดฟ ได้ใช้ {Stampede} พุ่งเข้าใส่ Matalan
Matalan ใช้โล่รับมือการชนแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องกระเด็นออกมา
เดฟ ใช้ {Sword Lunge} เพื่อสร้างดาบขนาดใหญ่ขึ้นมาโจมตีแต่ Matalan ไม่ได้รับดาเมจใดๆ
” อ่อนแอ ! ” – Matalan ท้าทายแล้วใช้โล่ตัวเองอัดเข้าใส่ เดฟ
[-11,200]
เลือด 1/3 ของเขาหายไปในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เดฟ ไม่ได้ตะลึง เขาแค่ยิ้มออกมาก่อนจะกระทืบพื้นใช้ {Death Surge} Matalan นั้นช้าลงทำให้ เดฟ ใช้สกิลโจมตีได้อีกรอบ {Ray of Flame}
เปลวไฟที่บิดเบี้ยวได้โผล่มาที่ปากของ เดฟ ให้แสงสว่างในนรกที่พวกเขาสู้กันอยู่ {Ray of Flame} ได้พุ่งเข้าใส่โล่ของ Matalan ที่ยกขึ้นมากันได้ในตอนสุดท้ายพอดี
สกิลนี้ทำดาเมจโดยตรง ดังนั้นค่าดาเมจจึงยังโผล่ขึ้นมาบนหัวของ Matalan แม้ว่าจะถูกกันด้วยโล่ก็ตาม
[-2,2000]
{Ray of Flame} ระเบิดขึ้นในตอนที่ปะทะ เปลวไฟที่กระจายนั้นถึงกับทำให้พื้นละลาย เพราะ Matalan นั้นไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้ดังปกติเพราะผลดีบัฟทำให้ช้าจาก {Death Surge} เขาจึงเริ่มรับดาเมจจากพื้นที่ละลายไป
[-5,000]
[-5,000]
[-5,000]
[-5,000]
Matalan เสียเลือดไปจำนวนมากในแต่ละวินาที เดฟ ได้กลับไปใส่ถุงมืออีกครั้งแล้วใช้ออร่าของมัน
ไฟได้ปะทุออกมาเปลี่ยนทุกอย่างในรัศมี 20 ม.กลายเป็นเปลวไฟ
เลือดของ Matalan ค่อยลดลงมาทีละ 1% ต่อทุกๆวินาที สกิลนี้ใช้งานได้ 20 วินาที ด้วยเลือดของ เดฟ ที่เหลือแค่ 6,000 และนี่ก็ยังเป็นดาเมจโดยตรง ดังนั้นการต้านทานจึงไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ผลดีบัฟช้าจาก {Death Surge} ในที่สุดก็หมดลงแต่ เดฟ ยังคงจับตาดูเวลานับถอยหลังแล้วโยน {Spectral Skull} ออกไปใส่ Matalan เพื่อทำให้เขาได้พยายามกักไว้ในพื้นที่เปลวไฟให้ได้นานที่สุด พื้นที่ที่ละลายใต้เท้า Matalan เริ่มแข็งตัว เดฟ ได้ใช้หมัดขวาโจมตีอัดเข้าในใส่โล่ของ Matalan ปล่อยเปลวไฟออกมาจากถุงมือ โล่ที่แดงกล่ำเพราะความร้อนตอนนี้มีสีแดงสดยิ่งกว่าเดิม
Matalan เหวี่ยงดาบเข้าใส่ เดฟ เดฟ เริ่มหลบแต่เขากลับยกมือขวาขึ้นมากันแทนเมื่อรู้ว่าเขาไม่อาจจะหลบได้ทัน ดาบนั้นได้เฉือนตามแขนของเขาแต่ไม่ได้ทำดาเมจมากมายอะไรนัก เขาช็อกที่ใช้หมัดนี้กันการโจมตีได้ผลแต่เขาไม่ได้มีสกิลอะไรตอบโต้
Matalan เตรียมที่จะใช้โล่โจมตีอีกครั้ง
เดฟ ก้าวออกไปข้างๆเพื่อหลบโล่ที่ฟาดเข้ามาก่อนจะใช้หมัดเสยเข้าใส่ Matalan จนทำให้เปลวไฟกระจายไปทั่วหน้า
เดฟ ยังคงขยับก้าวไปรอบตัว Matalan อย่างต่อเนื่องและทำการโจมตีอยู่ตลอดเพื่อให้อีกฝ่ายเสียสมดุลและไม่อาจจะเล็งรึโจมตีออกมาได้
หลังจากที่โจมตีต่อเนื่อง 5 ครั้ง {Ramp Up} ก็ทำงาน หมัดของเขาตอนนี้มีเปลวไฟพุ่งออกมา
[ คุณได้ทำให้คู่ต่อสู้อยู่ในสภาวะร้อนเกินไป ศัตรูจะเสียเลือด 500/วินาทีจนกว่าผลนี้จะหยุดทำงาน]
” ฮ่ะ ! โบนัสเพิ่ม สวย ! ” – เดฟ ยิ้มออกมาแล้วทำการโจมตีอีกครั้ง
ดีบัฟความร้อนนี้ทำให้ Matalan ราวกับโดนเปลวไฟกลืนกินแต่เขาก็ไม่ได้ดูสิ้นหวัง ไม่สิ ตอนนี้เขาดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเมื่อมีเปลวไฟลุกไหม้รอบตัวและคลั่งขึ้นมาจริงๆ
” ฉันเกิดจากไฟและเถ้า ! นี่คือทั้งหมดที่นายมีแล้วรึไง ?” – เขาเหวี่ยงดาบพร้อมกับมีพลังงานเสี้ยวสีดำที่ยิงออกมาใส่ เดฟ
เดฟ ใช้ {Double Edged} และ {Vertical Slash} เพื่อหลบพลังงานสีดำนี้กับหลบสกิลตัวเองตอนที่พื้นระเบิดขึ้นมา Minhocao ได้โผล่มาจากใต้พื้นดินแล้วกลืน Matalan ลงไปก่อนที่จะคายอีกฝ่ายออกมา
[-22,000]
ในตอนที่ Matalan ยังอยู่ในอากาศ เดฟ ได้ใช้ {Demon’s Maw} เพื่อเรียกใบหน้ายักษ์ออกมากัด Matalan ลดเลือดไปถึง 5% ของเลือดทั้งหมดก่อนที่อีกฝ่ายจะตกลงมาที่พื้น
[-17,500]
เดฟ ปรบมือเข้าด้วยกันสร้างเสียงดังราวกับฟ้าผ่า ท้องฟ้าได้ลุกไหม้และมีอุกกาบาตตกลงมาที่สนามต่อสู้
ค่าดาเมจอีกค่าโผล่มาที่หัวของ Matalan ลดเลือดของเขาลงไปอีกแต่เขาก็ยังลุกขึ้นมาได้และเผชิญหน้ากับ เดฟ – ” ไม่พอ ไม่ใกล้เคียงเลย ! “
{Aura} หมดเวลาเพราะมานาของ เดฟ ได้หมดลงแล้ว
เดฟ ยิ้มแล้วทุบหมัดทั้งสองข้างเข้าด้วยกันจนมีเปลวไฟระเบิดออกมาถุงมือ
เดฟ ได้ใช้ {Immortal Apparition} โผล่ไปที่หน้า Matalan จากนั้นก็ใช้ {Infernal Tornado} เพื่อหวังว่าจะทำให้ Matalan ซื้อเวลาได้บ้าง
แต่เขาก็ตระหนกัได้ว่า {Infernal Tornado} ไม่ได้ทำให้ Matalan เซ อีกฝ่ายยังคงทำการโจมตีเข้ามาอยู่ !
‘ เหี้ย เกราะระดับสูงสินะ ! ‘
เดฟ หงุดหงิดก่อนจะใช้ {Bastion} ในการกันดาเมจจากการโจมตีของ Matalan
ปกติแล้ว {Bastion} จะทำให้เขาอยู่ในท่าป้องกันเป็นอมตะได้ 3 วินาที ดังนั้นเขาจึงแปลกใจตอนที่ {Infernal Tornado} ไม่ได้ถูกยกเลิก การโจมตีนั้นยังคงดำเนินต่อไปทำดาเมจ Matalan ต่อไปเรื่อยๆและทำให้เกิดดีบัฟความร้อนต่อเนื่อง
เกราะของ Matalan นั้นเกือบทำให้ เดฟ ตกที่นั่งลำบาก
อยู่ๆ เดฟ ก็หยุดและก้าวถอยกลับมาทิ้งระยะห่างกับคู่ต่อสู้
Matalan มองเขาด้วยสีหน้าสงสัยพร้อมกับผิดหวังเล็กน้อย
เดฟ ยิ้มออกมา – ” เป็นการต่อสู้ที่ดี ขอบคุณ “
เคียงได้ตัดผ่านคอของ Matalan ก่อนที่จะเหลือแต่ร่างที่ไร้หัวยืนอยู่กับที่
ฝูงอันเดตรอบๆพากันคำราม, ตะโกนและชื่นชมผู้ที่ชนะการต่อสู้
มีแจ้งเตือนโผล่มาที่ตรงหน้า เดฟ
[ การเลื่อนขั้นของอันเดต !
คุณได้เอาชนะหัวหน้าหน่วย Matalan of Ash ได้ !
ตอนนี้คุณได้เลื่อนขั้นจาก Captain เป็น Death Knight !
คุณได้บัญชาการหน่วย 501
คุณเลือกอันเดตระดับสูง 100 ตัวขึ้นมาเป็น Captain ได้ !
อันเดตที่เลื่อนขั้นขึ้นมานั้นจะสั่งการทหารของตัวเอง 100 ตัว !
คุณได้สิทธิในการเข้าไปยังวังกระดูก !
เพราะคุณสามารถท้าทายเพื่อเลื่อนขั้นได้ คนอื่นเองก็ทำได้เช่นกัน
รับใช้ราชาด้วยความเชื่อมั่น
+5,000 คะแนน ]
” เยี่ยม ! ” – เดฟ ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ – ” เพิ่มขึ้นอีกพัน ลืมกองทัพคนเดียวไปได้แล้ว !
มีแจ้งเตือนสองอันโผล่มาเพิ่ม
[ การสืบทอดของคุณได้พัฒนาไปอีกขั้น
คุณคิดจะท้าทายต่อไปหรือไม่ ? Y/N]
[Undead King เรียกคุณเข้าพบ
คุณมีเวลา 10 นาที ! ]
” ฉันจะไปหาราชาก่อน ! ” – เดฟ รับการเรียกตัวและหายไปจากสนามต่อสู้
Chapter 150 : ราชาผู้ใจกว้าง
เดฟ โผล่มาที่วังกระดูกยืนอยู่ในห้องโถงเพื่อเข้าพบราชา ราชามองอย่างเอ็นดูมาที่ เดฟ จากบัลลังก์ของเขาเหมือนกับพ่อที่มองมาที่ลูก
” นายคงได้ยินมาแล้วว่าราชาปิศาจกับทางโบสถ์จะร่วมมือกัน ! “
เดฟ พยักหน้า
” สองฝ่ายนั้นไม่ได้เชื่อใจกัน มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่พวกนั้นจะร่วมมือกันได้ นายเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องดีและเป็นสิ่งจำเป็นที่นายต้องรับใช้ราชาของนายและปกป้องเผ่าของตัวเองจากปิศาจและโบสถ์ นายต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ไปเรื่อย ! “
” ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อต่อต้านศัตรูของเรา ! ” – เดฟ ตอบกลับ
” ตอนที่ฉันมองนาย ดาร์กน้อย ฉันนึกถึงลูกหลานคนหนึ่งของฉัน เขากล้าหาญและแข็งแกร่ง เหมือนกับนาย เขาเลื่อนขั้นขึ้นมาและประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน เขาเป็นผู้มีความเชื่อก่อนที่ตายและหลังจาก…. ฉันปฏิบัติต่อเขาเหมือนตัวฉันเองและรับปากว่าจะยกลูกสาวให้แต่เมื่ออาณาจักรเผชิญกับภัยครั้งใหญ่ ฉันได้ผิดคำพูดและได้รับผลในเรื่องนั้น “
” ฉันไม่มีความคิดที่จะหักหลังดินแดน !” – เดฟ พูดขึ้นด้วยท่าทีเด็ดขาด
” ฉันไม่สงสัยในเรื่องนั้น แม้ว่านายจะเป็นคนของ Death ก็ตาม ! “
ความคิดของ เดฟ หยุดนิ่งไปจากคำพูดของราชา
เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจรึต้องการที่จะอธิบายอะไร – ” งั้นนายก็รู้ ? “
” ใช่ ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่นายก้าวเท้าเข้ามาในดินแดนอันเดตแล้วแต่ไม่ต้องกังวล ฉันเห็นนายแล้ว ฉันจับตาดูการกระทำของนายและการที่นายปฏิบัติต่อคนของเรา นายไม่เหมือนคนอื่น ไม่มีแบ่งแยก นายคือหนึ่งในพวกเราและฉันก็เลือกนายที่จะมาเป็นผู้สืบทอดจากฉัน “
เดฟ มองเข้าไปในตาราชา – ” นายไม่กลัวว่าฉันจะหักหลังนายเหมือนกับที่ Deadra ทำรึไง ?”
” Deadra น่ะโง่ ” – ราชามองผ่านหน้าต่างวังออกไปที่พระจันทร์
” การหักหลังเพื่อความรัก การรักใครนั้นเป็นผลเสียของเรา คนที่นายเจอนั้นอยู่ในร่างของเธอ ฉันรับปากว่าจะเอาเธอกลับมาเพื่อ Deadra แต่เขาไม่เชื่อในตัวฉัน เขาขอให้พวก Black Skull Order ช่วยและพวกนั้นก็รับปากเขาว่าจะช่วยชีวิตเธอขึ้นมาได้ พวกกลุ่มนั่น ! คนบ้าที่ยอมหักหลังพวกตัวเองและเข้ากับพวกนั้นเพื่อเป้าหมายที่ไม่อาจจะทำได้ มันราวกับว่ามันไม่เพียงพอกับสภาวะอันเดตนี่ ! “
ราชาดูหงุดหงิดขึ้นมาในตอนนั้น จากนั้นเขาก็กลับมาใจเย็นดังเดิมก่อนจะมองมาที่ เดฟ
” ฟังดูเหมือนว่านายจะไม่ชอบชีวิตของอันเดต ” – เดฟ พูดขึ้น
” ไม่ ฉันอยู่ในสภาพนี้มานานและไม่อยากที่จะเปลี่ยนมัน “
เดฟ เงียบไป
ตอนนั้นมีอุปกรณ์ค้นหาที่สั่นขึ้นมา
Bood of Death อยู่ใกล้ๆ
แสงได้ปรากฏขึ้นมาที่ไหล่ของราชาเผยให้เห็นถึงหนังสือที่ลอยอยู่
” นายเห็นมันด้วยเหรอ ? ” – ราชาถามเมื่อมองไปยังจุดที่ เดฟ มอง
” ใช่ “
” ฉันเดาว่า Death สั่งให้นายเอาหนังสือนี่ไปให้กับเธอ ” – ราชาจับหนังสือนั้น
เดฟ เงียบไป
” นายต้องการมันรึเปล่า ?” – ราชาถาม
เดฟ พยักหน้า
” งั้นรับไว้ ” – ราชาพูดขึ้นแล้วโยนหนังสือไปตกที่ตรงหน้าเท้า เดฟ
เสียงราชายังคงพูดต่อด้วยความเศร้า – ” ฉันไม่ต้องการให้ Death เอาลูกหลานของฉันไปอีก เอาหนังสือนี่ให้กับเธอและขอให้เธอคืน Elanor ของฉันมา “
” ถ้านายไม่ต้องการหนังสือนี่ งั้นนายทำไมไม่คืนมันให้กับเธอล่ะ ก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้น ก่อนที่ Deadra จะกลายเป็น…..”
ราชาเงียบไปก่อนจะพูดขึ้น – “ฉันฆ่าลูกสาวตัวเองเพื่อสิ่งที่ฉันคิดว่าจำเป็น หลังจากนั้นฉันก็ตกอยู่ในความคุ้มคลั่งและความเจ็บจากการสูญเสีย ฉันต้องการให้ Death ได้รับผลจากการปฏิเสธที่จะไม่ช่วยฉัน สำหรับการเสียสละชีวิตลูกสาวฉันไปเปล่าๆ จนกระทั่งฉันได้เสีย Deadra ไป จนตอนนั้นฉันถึงได้รู้ค่าของของที่ฉันเสียไป ตอนนี้หนังสือนั่นไม่ได้มีความหมายอะไรกับฉันแล้ว “
” ฉันเข้าใจแล้ว ” – เดฟ พูดพร้อมกับหยิบหนังสือขึ้นมา
[ คุณได้รับ Book of Death ]
” ฉันมันโง่และ Deadra ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน อันเดตเริ่มแข็งแกร่งและทรงพลังมากขึ้นอย่างรวดเร็วแต่มันก็ไร้ความหมาย ฉันผิดคำพูดกับเขาและในทางกลับกันเขาเองก็หักหลังฉันเหมือนกัน เกียรติได้ผูกมัดเราทั้งสองเอาไว้ มีแค่ตอนที่ฉันเป็นอันเดตฉันถึงได้รู้ว่าไม่ได้มีอะไรสำคัญเลย เกียรติ, เงินทองและอำนาจล้วนแต่ได้มาง่ายๆด้วยพลังของอันเดตแต่พวกมันกลับไร้ค่าสำหรับฉัน ดินแดนนี้ทรงพลังขึ้นแต่ฉันกลับว่าเปล่า “
” แล้ว Abyssal Knight คนอื่นๆล่ะ พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวนายรึไง ?” – เดฟ ถาม
” พวกเขาเองก็เป็นลูกของฉัน อันเดตทุกคนคือลูกของฉันแต่ฉันก็ยังอยากที่จะพบลูกสาว บอก Death ทีให้คืนเธอมาให้กับฉัน “
” ได้ ” – เดฟ พูดขึ้น
” เอาล่ะ บอกมาทีว่านายได้อะไรที่มีค่ามาจากรังมังกร ? “
” สมบัตินั้นไม่ใช่สมบัติเลยสักนิด ไม่มีสักชิ้นที่มีค่าแม้แต่ทองแต่ฉันได้สิ่งหนึ่งมาที่มีค่า ไข่มังกร “
” ฉันขอดูได้มั้ยว่านายได้อะไรมาบ้าง ? ” – ราชาถาม
ใช้เวลาอยู่หลายนาทีกว่าที่ เดฟ จะเอาอาวุธและเกราะหลายชิ้นออกมาวางไว้ที่หน้าราชาแต่ราชาก็ยังรอให้ เดฟ เอาอาวุธและเกราะทั้งหมดออกมาก่อนที่สุดท้าย เดฟ จะเอาไข่มังกรออกมา
” Ander ” – ราชาตะโกนขึ้นมาพร้อมกับช่างตีเหล็กที่โผล่มาในห้องโถงคุกเข่าให้กับราชา
” เรียกฉันงั้นเหรอ ? “
” เอาของพวกนี้ไปซ่อมเพื่ออันเดตน้อยนี่ พวกมันเคยเป็นอุปกรณ์ที่ดีแต่ได้รับความเสียหายเพราะมังกรและเวลา “
” ได้ตามต้องการ ! ” – ช่างตีเหล็กได้รวบรวมของทั้งหมดแล้วออกจากห้องไป
ราชาโบกมือและไข่ก็ได้ปรากฏขึ้นในมือของเขา
” สำหรับอันนี้แล้ว ไข่ของ Abyssal Dragon สิ่งมีชีวิตดำมืดและชั่วร้ายตามลักษณะนิสัยของมัน คิดจากการควบคุมและลักษณะนิสัยของมันแล้วยากที่จะรับมือได้แต่การฟักมันขึ้นมาจะมีพันธะซึ่งเหมาะที่จะเป็นพาหนะของราชา…รึแม้แต่เทพ “
ใจของ เดฟ หล่นวูบเมื่อคิดว่าราชาจะเอาไข่นี้ไปจากเขา
ราชาพูดต่อ – ” แต่มันต้องใช้พลังงานมืดจำนวนมากเพื่อทำให้มันเติบโต ฉันจะวางมันใกล้กับหัวใจของ Death เพื่อหวังว่าพลังงานรอบหินนั้นจะทำให้ไข่ฟักในไม่ช้า นายต้องอยู่ด้วยตอนที่มังกรฟักออกมาจากเปลือกเพื่อที่จะสร้างพันธะ “
เดฟ แปลกใจกับความใจกว้างของราชา
” ทำไม ? ” – เดฟ ถาม
” นายคือคนของฉัน ” – ราชาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น – ” ไม่ต้องกังวล รับความใจกว้างนี้ไว้ซะ ตอนนี้ก็ไปได้แล้ว เอาลูกสาวของฉันกลับมาจากเงื้อมมือของ Death ! “
เดฟ พยักหน้าและกดยอมรับการทดสอบของ Death แล้วหายไปจากห้องโถง
เขาโผล่มาที่ถ้ำของ Death เธอนั่งอยู่ที่ริมบ่อน้ำโดยเอาขาจุ่มลงไปในน้ำ
” นายกลับมาแล้ว ” – Death พูดขึ้นด้วยเสียงที่ไร้อารมณ์
” ใช่และฉันก็เอาหนังสือของเธอกลับมาด้วย ” – เขาล้วงมันออกมาให้กับเธอ
” ฉันคิดว่าคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ นายได้มันมายังไง ? ” – เธอถามพร้อมกับรับหนังสือไป
” ฉันขอมันมา ราชาบอกให้ฉันคืนมันให้กับเธอ “
Death แปลกใจแต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ
” ในที่สุดฉันก็ได้มันคืน ” – เธอกระซิบด้วยท่าทียินดี
เธอมองมาที่ เดฟ – ” นายไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบในตอนนี้ต่อแล้ว แค่เอาหนังสือกลับมาก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ! “
[ ยินดีด้วย ! คุณได้ผ่านการทดสอบ
แหวนของคุณจะอัพเกรด
สกิลใหม่จะถูกเพิ่มเข้ามาในคลัง
]
” นายต้องการที่จะไปตามเส้นทางของดาบอยู่รึเปล่า ? ” – Death ถาม
” ฉันไม่ใช่พวกที่ใช้เวทย์ การสู้ระยะใกล้มักจะเป็นสิ่งที่ฉันชอบมากกว่า ” – เขาตอบกลับ
” งั้นฉันจะให้พลังกับนายเพื่อปลุกและควบคุมอันเดต ตอนที่นายพูดจบแล้ว แม้ว่าตอนนี้นายจะมีพลังในการปลุกอันเดตขึ้นมาแต่ผลลัพธ์นี้อาจจะดียิ่งกว่าเดิม ” – Death พูดขึ้น
[ คุณได้เลือกเส้นทางในการสืบทอดของ Death
การสืบทอดของ Death เปลี่ยนไป
เส้นทางนักรบของ Death ปลดล็อค
จากนี้หายว่าจะตายแต่เควสในการหาการสืบทอดของ Death ก็ไม่หายไป ]
[ ความตายจะไม่ส่งผลต่อตำแหน่งในดินแดนอันเดต
ความตายจะไม่ขับไล่คุณจากดินแดนอันเดต
การตายในดินแดนอันเดตรึโลกใต้ดินจะไม่ส่งผลต่อเควสรึการเปิดอีเวนต์อันเดต]
” ขอบคุณพระเจ้า ! สุดท้ายฉันก็ตายในเกมได้โดยไม่ต้องเสียทุกอย่างไป ” – เดฟ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกจากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
” ขอบคุณ ฉันมีอีกเรื่องที่จะถามเธอ “
” มีอะไร ?” – Death ถาม
” ราชาขอลูกสาวของเขาคืน “
” ได้ ฉันไม่ต้องการร่างนี้อีกแล้ว นายยังมีอีกสองการทดสอบ หลังจากที่นายเป็น Abyssal Knight ได้นายถึงจะได้รับการสืบทอดทั้งหมด “
แสงได้ส่องประกายจากตัวของเธอก่อนที่เธอจะหายจากถ้ำไป
ร่างกายของเขาเองก็ส่องแสงออกมาด้วยและเขาก็ได้กลับมายังดินแดนอันเดต ครั้งนี้เขาอยู่ตรงหน้าประตูของวังกระดูก
” ได้เวลามาทดสอบอุปกรณ์ Death Knight กันแล้ว ! “
Chapter 151 : SUIT UP!
เกราะ Death Knight นั้นเป็นแบบพื้นฐานสำหรับ Death Knight ทุกตัว
มันมีตัวเลือกการออกแบบให้ด้วยและเกราะก็จะปรับตัวให้เข้ากับอันเดตแบบต่างๆแต่ค่าสเตตัสและโบนัสพื้นฐานก็ยังคงเดิม
เกราะนี้ถูกหลอมขึ้นมาโดยเหล็กทมิฬ สีของมันเป็นสีน้ำเงินทึบที่จะดูเป็นสีประกายดำเมื่อมองจากมุมต่างๆ
หมวกทรงสูงที่มีขนตั้งแต่หน้าจนถึงหลัง เกราะส่วนหน้านั้นดูน่ากลัวราวกับปิศาจ ตัวตนของผู้ใส่จะถูกซ่อนไว้ภายใต้หมวกสีฟ้าซึ่งมีเพียงรูปตัว T ที่เปิดตรงตาเท่านั้น
ส่วนอกนั้นมีหัวกะโหลกโผล่ออกมา ตาของมันเปล่งแสงสีฟ้าออกมาเหมือนกับที่หมวก
เดฟ มักคิดเสมอว่า Death Knight นั้นดูดีรึแม้แต่ดูน่าเกรงขามเมื่อใส่เกราะชุดนี้ เขาตื่นเต้นและอยากเห็นว่าตัวเองจะดูเป็นยังไงเมื่อใส่เกราะนี้ทั้งเซ็ต
นี่ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะเพิ่มสเตตัสอะไรของเขาขึ้นมาบ้าง ถึงเกราะจะดูดียังไงแต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่ได้ดีมากมายอะไรนักแล้วจะใส่เกราะพวกนั้นไปทำไม ด้วยความคิดที่ว่าเกราะนี้จะเพิ่มสเตตัสของเขามายังไงบ้างนั้นก็ทำให้เขาต้องถูมือกัน
เขารอเวลานี้มานาน เขาเอาเกราะออกมาจากช่องเก็บของและตรวจสอบมันทีละชิ้นๆ
[Death Knight Armor(เกราะอก)]
ประเภท : เกราะอก
คำอธิบาย : เกราะอกของ Death Knight ที่ให้การปกป้องที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใส่แต่มันหนักเกินไปสำหรับคนในการใส่มันในการต่อสู้ มีแค่อันเดตที่มีแรงและค่าแรงกายเพียงพอเท่านั้นที่จะใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ได้
Death Knight คือกระดูกสันหลังของกองทัพอันเดต Death Knight ตัวเดียวสามารถเผชิญหน้าได้กับมนุษย์นับสิบที่เลเวลเท่ากันได้
ข้อกำหนด : เลเวล 200, Str 200, Agi 100, Dex 100
โบนัส : Vit +10,000
มานา +500
ต้านทานดาเมจ +5%
กันดาเมจ +2,000
ดูดซับเวทย์ +1,000
[ ช่อง ]
[ ช่อง ]
คลาส : Rare
[Death Knight Armor(เกราะตัว)]
ประเภท : เกราะตัว
คำอธิบาย : เกราะอกของ Death Knight ที่ให้การปกป้องที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใส่แต่มันหนักเกินไปสำหรับคนในการใส่มันในการต่อสู้ มีแค่อันเดตที่มีแรงและค่าแรงกายเพียงพอเท่านั้นที่จะใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ได้
Death Knight คือกระดูกสันหลังของกองทัพอันเดต Death Knight ตัวเดียวสามารถเผชิญหน้าได้กับมนุษย์นับสิบที่เลเวลเท่ากันได้
ข้อกำหนด : เลเวล 200, Str 300, Agi 200, Dex 200
โบนัส : Vit +7,500
มานา +500
ต้านทานดาเมจ +5%
กันดาเมจ +2,000
ดูดซับเวทย์ +1,000
สกิลติดตัว {Dark Vision} ได้อัพเกรดเป็น { Night Visoon}
[ ช่อง ]
คลาส : Rare
[Death Knight Armor (ถุงมือ)]
ประเภท : ถุงมือ
คำอธิบาย : เกราะอกของ Death Knight ที่ให้การปกป้องที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใส่แต่มันหนักเกินไปสำหรับคนในการใส่มันในการต่อสู้ มีแค่อันเดตที่มีแรงและค่าแรงกายเพียงพอเท่านั้นที่จะใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ได้
Death Knight คือกระดูกสันหลังของกองทัพอันเดต Death Knight ตัวเดียวสามารถเผชิญหน้าได้กับมนุษย์นับสิบที่เลเวลเท่ากันได้
ข้อกำหนด : เลเวล 200, Str 300, Agi 200, Dex 200
โบนัส : Vit +2,500
ต้านทานดาเมจ +5%
กันดาเมจ +2,000
ดูดซับเวทย์ +1,000
สกิลติดตัว {Quick Hands } ทำให้สลับอาวุธได้เร็วขึ้น
[ ช่อง ]
คลาส : Rare
[Death Knight Armor(เกราะขา)]
ประเภท : เกราะขา
คำอธิบาย : เกราะอกของ Death Knight ที่ให้การปกป้องที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใส่แต่มันหนักเกินไปสำหรับคนในการใส่มันในการต่อสู้ มีแค่อันเดตที่มีแรงและค่าแรงกายเพียงพอเท่านั้นที่จะใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ได้
Death Knight คือกระดูกสันหลังของกองทัพอันเดต Death Knight ตัวเดียวสามารถเผชิญหน้าได้กับมนุษย์นับสิบที่เลเวลเท่ากันได้
ข้อกำหนด : เลเวล 200, Str 300, Agi 200, Dex 200
โบนัส : Vit +5,000
มานา +500
ต้านทานดาเมจ +5%
กันดาเมจ +2,000
ดูดซับเวทย์ +1,000
สกิลติดตัว {Poise} เพิ่มการทรงตัวและลดผลของการกระเด็นลงไปอย่างมาก
[ ช่อง ]
คลาส : Rare
[Death Knight Armor(ผ้าคลุม)]
ประเภท : ผ้าคลุม
คำอธิบาย : เกราะอกของ Death Knight ที่ให้การปกป้องที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใส่แต่มันหนักเกินไปสำหรับคนในการใส่มันในการต่อสู้ มีแค่อันเดตที่มีแรงและค่าแรงกายเพียงพอเท่านั้นที่จะใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ได้
Death Knight คือกระดูกสันหลังของกองทัพอันเดต Death Knight ตัวเดียวสามารถเผชิญหน้าได้กับมนุษย์นับสิบที่เลเวลเท่ากันได้
ข้อกำหนด : เลเวล 200, Str 300, Agi 200, Dex 200
โบนัส : Vit +5,000
มานา +500
ต้านทานดาเมจ +5%
กันดาเมจ +2,000
ดูดซับเวทย์ +1,000
{Magic Eater} ลดการโจมตีเวทย์ 5% ให้กับผู้ใช้
[ ช่อง ]
คลาส : Rare
” โว๊ว โบนัสพวกนี้สุดยอดจริงๆแต่ฉันต้องเพิ่มค่า Str เพื่อที่จะใส่มันได้ “
เขาใช้โบนัสสเตตัสเพิ่ม Str ของตัวเองจนสุดท้ายก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะใส่เกราะเซ็ตนี้
เขามองลงไปตามแขน, ขาและตรวจสอบการเคลื่อนไหวและการมองเห็นของตัวเอง
เขาตรวจสอบแผงสเตตัสของตัวเอง
คุณได้ใส่เกราะ Death Knight ครบทั้งเซ็ต
โบนัสเซ็ต :
HP +10,000
ต้านทานดาเมจ +5%
Str +300
Dex +100
Int +100
Agi +100
Wis +100
” เยี่ยม ! โบนัสของเกราะนี้โคตรสุดยอดเลย ! ” – เกราะของ Death Knight นี้ไม่เหมือนกับเกราะของผู้เล่นคนอื่นในเกม มันโดดเด่นจริงๆ มันเพิ่มค่า Str กับ Vit มหาศาลและมันจะมีประโยชน์สำหรับเขาไปอีกหลายเลเวล
มีพวกระดับสูงในเลเวลต่ำกว่า 400 แค่ไม่กี่คนที่จะมีเกราะเทียบเท่ากับที่เขาใส่อยู่ได้ ด้วยอุปกรณ์ที่เขาใส่นี้มันมากกว่าผู้เล่นส่วนมากในเลเวลเท่ากับเขา
” สเตตัส ! “
[
ชื่อ : Death Stroke
เลเวล : 222
เผ่า : มนุษย์ ( อันเดต)
Health : 422,200
Mana : 5,500 +(275)
Stamina( ค่าแรง ): ไม่จำกัด
Rage/Focus: 100
Intelligence 360 +(18)
Wisdom 410+(20.1)
Dexterity 360 (+18)
Agility 360 +(18)
Vitality 42,220
Strength 560 +(18)
Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 6,000
Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 9,000
Immunity ( ต้านทาน ) : 30%
ชื่อเสียง : 800
HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(0)
Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(0)
Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞
Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 1/วินาที
ฉายา : ฉันรู้ทุกอย่าง !
นักวางแผนระดับสูง !
]
” สุดยอด ! อืม ฉันยังมีรูน Chaos ที่ได้จากเหมืองมาอยู่ บางทีมันอาจจะใส่ช่องของเกราะได้….”
ในอีกด้านหนึ่ง
” ซ่อมเสร็จแล้วเหรอ ?” – ผู้พัฒนาคนหนึ่งถามโปรแกรมเมอร์เรื่อง AI
” ใช่ ทำการรีเซ็ต Alfred แล้ว อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาไปอีกสักพักกว่าที่เขาจะเพี้ยนอีก “
” ใช่ นี่มันเหนื่อยชะมัด เราแค่ทำการแก้โค้ด ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เราน่าจะลดส่วนการทำงานของเขา “
” ไม่ มันใช้ได้ผลกับทางรัฐบาล สวนมากก็เป็นทางกองทัพ นอกจากนี้แล้วพวกนั้นก็จ่ายเงินเพื่อให้ได้รับการบริการพิเศษด้วย เราไม่ได้มีงบที่จะใช้มันหรอกนะ “
” หือ….ฉันแค่ล้อเล่น ! นั่นเรื่องจริงงั้นเหรอ ? ลดการทำงานของ AI งั้นเหรอ ? พวกนักบำบัดรึไง ? ! “
” ใช่ จริงๆแล้วไม่ได้เรียกว่านักบำบัดหรอก พวกกนั้นมีชื่ออยู่หลายชื่อ มีแค่ไม่กี่คนในโลกนี้และแน่นอนว่าไม่ใช่อาชีพทางการแพทย์ พวกนั้นคือคนที่เรียนจบมาด้านคอมพิวเตอร์และพวกสายการเมืองด้วยแต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นการรักษาแบบ AI พวกนั้นเริ่มใช้หลังจากที่กฎหมาย GAI ร่างผ่าน “
” หือ การรักษาแบบ AI น่าเหลือเชื่อ ความจริงนี่มัน….บันเทิงยิ่งกว่าที่คิดอีกเว้ย “
Chapter 152 : รูน Chaos
เดฟ ทำการใส่รูนที่ได้จากเหมืองลงไปที่ละอันๆจนครบทั้ง 5 ชิ้น ตอนที่ใส่เสร็จนั้นมันก็ได้มีแสงสีแดงส่องประกายออกมา
[พลังงานปั่นป่วนไม่สมดุล]
[ร่างกายของุณจะได้รับผลจากพลังงานที่มากเกินไปจากรูน !
ดาเมจ +300%
HP -1%/วินาที ]
เดฟ รู้สึกว่าร่างกายนั้นกำลังถูกเผาราวกับว่าเขาหลอมรวมกับพลังที่มากล้นเกินไป มันทำดาเมจเขาเป็นวินาที
เขารีบใส่รูน Azure Water ใส่เข้าไปในช่องที่สองของเกราะอกทันที
แสงสีแดงรอบเกราะเริ่มหม่นลงและได้รับแจ้งเตือนใหม่ขึ้นมา
[ รูน Azure Water ลดดาเมจที่เกิดจากพลังงานปั่นป่วน
ผลตอนนี้ : +50% ให้กับค่าคุณสมบัติและสกิลทุกอย่าง
รูน Azure สามารถหยุดการทำงานได้ตามต้องการ]
” งั้นรูน Chaos ก็เพิ่มพลังงานแต่มันจะลดเลือดเราช้าๆ การเพิ่มรูน Azure เข้าไปจะลบดาเมจจากรูน Chaos “
เดฟ ประทับใจโบนัสจากรูนและอยากที่จะลองโบนัสที่เพิ่มเข้ามานี้
” ฉันจะไปหาอาวุธกับโล่ ถุงมือของ Sworn Stalwart เป็นอาวุธที่ดีแต่ดาเมจคงที่จนกว่าฉันจะปลดล็อคมันได้ ฉันต้องการบางอย่างที่ทำดาเมจได้มากกว่านี้ “
เดฟ ได้ไปที่ร้านค้า ซอมบี้เจ้าของร้านตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อเห็น เดฟ
” ลูกค้าคนโปรดของฉัน ! ยินดีต้อนรับ ! ” – ซอมบี้กางแขนยิ้มจนเห็นฟันทอง….พร้อมกับฟันเน่าๆด้วย
เดฟ ส่ายหน้า – ” เพื่อน ฉันเป็นลูกค้าแค่คนเดียวของนาย อย่างน้อยจนกว่าส่วนโลกนี้จะเปิด ช่างเถอะ ฉันต้องการอุปกรณ์ เอาของมาดูหน่อย ! “
” แน่นอน แน่นอน ! ได้หมดสำหรับลูกค้าคนโปรดของฉัน ! “
เดฟ พบกับหน้าต่างสำหรับอุปกรณ์และไอเท็มในร้าน เขาเลื่อนลงมาดูจนพบบางอย่างที่เขาต้องการ
” ฉันจะเอา [Tower Shield] กับ [Death Knight’s Greatsword] ” – เดฟ บอกกับซอมบี้
” เลือกได้ดี เลือกได้ดีฉันบอกเลย ” – พ่อค้าพูดขึ้นทันที
หลังจากที่จ่ายคะแนนไป 20,000 คะแนนสำหรับสินค้าเขาก็ได้รับดาบกับโล่มา
เดฟ ตรวจสอบใบมีดของดาบ
[Death Knight’s Greatsword]
ประเภท : อาวุธ
ดาบที่ฆ่าชีวิตมามากมายและกระหายเลือดอยู่ตลอด
ดาเมจ : 2,500-3,000
ข้อกำหนด : Str 400, Agi 250, Dex 250, เลเวล 200, ตำแหน่ง Death Knight
โบนัส :
{Mountain Cleaver: การโจมตีแบบรีเซ็ต สามารถใช้ได้ทันที่หลังจากที่โจมตีด้วยดาบจากทิศทางไหนก็ได้ ถ้าโจมตีได้เวลา มันจะไม่สนใจค่าพลังป้องกันของเป้าหมายและทำดาเมจเพิ่มอีก 100% คูลดาวน์ 30 วินาที }
{Embrittle : โจมตีศัตรูแบบต่อเนื่องลดเกราะ 2% ต่อการโจมตี สูงสุด 10 ครั้ง ตอนที่สกิลนี้ซ้อนทับกันสูงสุดถ้าการโจมตีต่อไปสำเร็จมันจะทำลายเกราะของศัตรูลดพลังป้องกัน 50% จนกว่าจะซ่อมแซมเกราะนั้น สกิลติดตัว }
สเกล : อิงตาม Str (ในรูปแบบดาบเดียว)
คลาส : Epic
เขาทำการตรวจสอบโล่
[Death Knight’s Tower Shield]
โล่ที่เหมือนกับแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ มันได้ให้พลังป้องกันและค่าลดดาเมจจาการโจมตีและต้านทานเวทย์มนต์ดำได้
ข้อกำหนด : Str 400, เลเวล 200, ตำแหน่ง Death Knight
โบนัส :
{Block : บล็อกการโจมตีทางกายภาพและเวทย์ของเป้าหมายโดยกันดาเมจทั้งหมด คูลดาวน์ 10 วินาที }
{Shield Bash : ทำให้ศัตรูเซและทำให้เกิดการกระเด็นออกไป ทำดาเมจ 50% ของดาเมจอาวุธ คูลดาวน์ 30 วินาที }
{Shield Charge : ฟาดโล่ผลักการโจมตีที่เข้ามาและทำให้ศัตรูสตันท์ 2 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที }
{Dark Eater : เปลี่ยนเวทย์ดำ 30% เพิ่มพลังป้องกันชั่วคราว 5% คูลดาวน์ 30 วินาที }
ลดดาเมจ 2,500
ดูดซับเวทย์ 3,000
คลาส : Epic
” หืม มันไม่ได้มีความสามารถในการสะท้อนรึตอบโต้เลยนิ “
” เฮ้ นาย มีโล่อื่นอีกมั้ย ? ฉันหาโล่ที่อันเล็กกว่านี้หน่อย “
“มีๆแต่ไม่รับคืนโล่นั้นนะ ” – เจ้าของร้านพูดขึ้น
สายตาแห่งความได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับพ่อค้าที่หยิบโล่ออกมาให้กับ เดฟ
” อันนี้น่าจะเหมาะกับนายดี ! ” – พ่อค่าเสนอขึ้นมา
[Death Knight’s Kite Shield]
ประเภท : โล่
โล่เบาสำหรับอัศวินที่ต้องการความว่องไวในการต่อสู้ มันมีความต้านทาน, พลังป้องกันและความสามารถในการรับมือที่ดี
ข้อกำหนด : Str 200, เลเวล 200, ตำแหน่ง Death Knight
โบนัส :
{Block : บล็อกกาโจมตีทางกายภาพและเวทย์ของเป้าหมายโดยกันดาเมจทั้งหมด คูลดาวน์ 10 วินาที }
{Deflect : การโจมตีไร้ผลและเตรียมที่จะใช้ {Counter Bash} }
{Counter Bash : ตอบโต้การโจมตีหลังจากที่ใช้สำเร็จ ทำดาเมจ 10% ของดาเมจที่ต่อต้านได้เป็นดาเมจโดยตรง }
ลดดาเมจ 1,000
ดูดซับเวทย์ 1,000
คลาส : Epic
” อันนี้ดีแหะ ! ” – เขาจ่ายเงินไปอีก 10,000 คะแนน
” ทำไมถึงไม่รวมเป็นส่วนเซ็ตด้วยเลย ? ” – เดฟ แปลกใจที่ดาบกับโล่นั้นไม่ได้รวมเป็นเซ็ตของ Death Knight
” ดาบกับโล่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเซ็ต พวกมันเป็นก็แค่ชื่อแต่พวกมันมีพลังของตัวมันเอง ” – ซอมบี้ตอบกลับ
” เออใช่ Dikenz ฉันขอดูรายชื่ออุปกรณ์ของ Doom Knight หน่อยได้มั้ย ?” – เดฟ พูดออกมาเพราะกับซอมบี้เพื่อที่เขาจะได้ขอดูอุปกรณ์สำหรับ Doom Knight เขาจะได้วางแผนและเตรียมตัวสำหรับการเลื่อนขั้นครั้งหน้า
” ได้ แต่ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกนะ ” – ซอมบี้ตอบกลับ
” เท่าไหร่ ? “
” ไม่มากหรอก แค่ล้านเดียว “
” นี่มันปล้นกันชัดๆ ! ” – เดฟ ได้ซื้อของไปเยอะให้กับลูกน้องเขาแล้วตั้งพันชุด !
” นั่นแค่ดูเฉยๆนะ ! “
” ไม่ งั้นก็ช่างมันเถอะ ! ” – เดฟ เดินออกจากร้านไปพร้อมกับฉีกคัมภีร์วาร์ปก่อนจะปรากฏตัวขึ้นที่ Undead Frontier
” ได้เวลาอัพเกรดทีมแล้ว ! “
เดฟ เปิดหน้าต่างการจัดการขึ้นมาและเลือกอัพเกรดลูกน้องเก่าขึ้นมาก่อน
เขาได้เลือกอันเดตระดับสูง 10 ตัวเก่าที่มีแต่แรกเลื่อนขั้นขึ้นเป็น Captain พร้อมกับให้เลือกจัดการกับทีมของพวกมันเอง
Chapter 153 : กองพัน
อันเดตที่เลื่อนขั้นขึ้นมาได้นั้นมีลักษณะภายนอกที่เปลี่ยนไป
Bud นั้นมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น, ไหล่กว้างขึ้นและความสูงที่เพิ่มขึ้น สภาพเหมือนลิงของ Ghoul ตอนนี้ได้หายไปแล้ว ตอนนี้เขายืนตัวตรงและดูราวกับพวกคนชั้นสูง
Spark เริ่มมีหัวกะโหลกขึ้นมาเต็มๆโดยปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ชุดของเขาจากที่สกปรกนั้นได้ดูสะอาดและหรูหรามากกว่าเดิม
Dog ตอนนี้มีออร่าสีดำแผ่ออกมาและเกราะของเขาก็ดูหนักและดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
ในตอนที่ เดฟ เดินผ่าน Dog และมองไปที่แส้ใกล้ๆกับหัวที่ปกติแล้วมันจะถือหัวราวกับถือลูกรักบี้ไว้ใต้แขน อยู่ๆแส้ที่ทำจากกระดูกสันหลังนั้นก็เริ่มส่งเสียงคลิ๊กดังขึ้นมาก่อนจะเปลี่ยนขนาดกระดูกเท่ากับดาบเล่มหนึ่ง ไม่นานกระดูกนั้นก็เริ่มขยายตัวออกไปจนเปลี่ยนเป็นแส้ในท้ายที่สุด Dog เริ่มทำการเปลี่ยนอาวุธจากแส้เป็นดาบกลับไปกลับมา
เดฟ หยุดมองเหตุการณ์นี้แต่ไม่นานเขาก็ตัดสินใจขัดขึ้นมา – ” Dog ! หยุดเล่นกับ…อ่ะ ไม่สิ ไม่ ไม่ ! ฉันจะไม่พูดแบบนั้น ! “
” ช่างเถอะ Dog นายทำได้ตามใจ “
นอกจากเรื่องบ้าบอของ Dog แล้ว เดฟ รู้สึกดีใจกับการเติบโตของกองทัพเขา – ” ฮี่ ฉันล่ะสงสารกับพวกที่มาเจอกับเราจริงๆ ! ๐”
หลังจากที่ดูทีมของตัวเองเขาก็ได้กลับไปยังที่ทำงานของตัวเอง
” ดี ! ฉันจะไปหา Delvina เราจะเดินทางตอนที่ฉันกลับมา “
ตอนที่เขาเข้าไปในวิหาร Delvina นั่งอยู่บนบัลลังก์ของเธอพร้อมกับอัศวิน 13 คนในเกราะดำคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ
อัศวินเหล่านั้นมีรูนกะโหลกบนหมวกของพวกเขา
ที่ด้านขวาของ Delvina มีผู้หญิงคนหนึ่ง ใบหน้าของเธอนั้นมีผ้าดำปิดอาไว้ เขารู้ว่าเธอคือใคร เธอคือพรีสที่เขาจับตัวมา
” Kis’Shtiengbrah นายกลับมาแล้ว ยอดเยี่ยม ! ยินดีด้วยที่ได้เป็น Death Knight พวกนี้คือพาราดินของนาย พวกนี้จะรับใช้อันเดต อีกอย่างแล้ว Du’Rhaza ได้ทิ้งบางอย่างไว้ให้นายด้วย ” – เธอพูดขึ้นพร้อมกับโยนคัมภีร์ให้กับ เดฟ
” ขอบคุณ Delvina ” – เดฟ ทำการตรวจสอบอัศวินและพรีสสาว
[Unholy Paladin]
เลเวล : 250
HP : 300,000
ดาเมจ : 15,000-20,000
ลดดาเมจ : 4,000
ดูดซับเวทย์ : 3,500
บริวารของอันเดตที่ถูกตีตราให้รับใช้อันเดต พวกนี้จะไม่มีความคิดของตัวเอง ถึงพวกนี้จะมีชีวิตแต่ก็ไม่ได้ดีกว่าอันเดตที่ไม่มีสมองเลย
[Unholy Priestess]
ฝ่าย : อันเดต
เลเวล : 200
HP : 200,000
ลดดาเมจ : 0
ดูดซับเวทย์ : 0
สกิล :
{Mass Heal : ฮีลเป็นพื้นที่ 30 ม. ฟื้นฟูเลือดของเป้าหมาย 20% ทันที }
{Restoration : สกิลเป้าหมายเดียว ฟื้นฟูเลือดของเป้าหมาย 1% ต่อวินาที }
กำเนิดขึ้นมาเพื่อโบสถ์และเติบโตมาเพื่อรับใช้ สาวน้อยบริสุทธิ์ที่ได้รับพรสัมผัสสวรรค์
เธอถูกเปลี่ยนให้รับใช้อันเดตซึ่งห่างไกลจากจุดประสงค์ของเธอแต่ดีกว่าการต้องกลายเป็นเครื่องบูชายัญให้กับ Ash King
” Delvina ฉันอยากได้คนเพิ่ม ฉันจะรับคนเข้ากองทัพได้ยังไง ? “
” ตามที่ฉันบอกนายไปก่อนหน้านี้ ถ้านายอยากรับคนเพิ่ม นายต้องมีคะแนนมากพอและซื้อพวกนั้น “
” โอ้ใช่ ใช่ๆ ! ฉันจะลองทำดู ! “
เดฟ มีคะแนนกว่า 2 ล้านคะแนน เขาได้ซื้อ Dunlord 89 ตัวซึ่งทำให้เขาเหลือคะแนน 3 แสนนิดๆ
เขาได้สั่ง Dunlord ให้ทุกตัวให้ทำตัวเป็นพาหนะให้กับพวก Captain ที่ยกระดับขึ้นมายกเว้นแค่ Dog ที่มีกิ้งก่าของตัวเองแล้วและ เดฟ ก็ไม่ได้อิจฉาเลยแม้แต่น้อย เขาไม่….จริงๆแล้วก็มีนิดๆ
” Du’Rhaza ชอบความคิดที่นายใช้ Dunlord เป็นพาหนะ เขาถึงกับสั่งอานให้กับพวกมันด้วย นายจะได้อาน 100 อันฟรีๆจากร้านค้าเป็นของขวัญจากราชา ” – Delvina ยิ้ม
” ทำไมฉันซื้อ Dullahan เพิ่มไม่ได้ ? “
” Dullahan ไม่ใช่พวกทั่วไป พวกมันไม่อาจจะซื้อได้และพบได้แค่พวกที่พัฒนาขึ้นมา นายต้องหาพวกที่โดนตัดหัวที่ซึ่งมีความโกรธและความรู้สึกผิดในอดีตของตัวเอง Dullahan ของนายสามารถชุบชีวิตพวกนั้นให้นายได้และพวกมันจะตื่นขึ้นมาในฐานะ Dullahan แต่ระวังด้วย Dullahan ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่นายหวังอยากจะพบ “
‘ งั้นก็มีแค่ Dog ที่จะหา Dullahan ให้ฉันเพิ่มได้ จนตอนนี้เขายังไม่ได้ชุบชีวิตอะไรอย่างอื่นนอกจากโครงกระดูกระดับต่ำและดาร์กที่ฆ่าเราได้ถ้าราชาไม่เข้ามาช่วย ‘
” ขอบคุณ Delvina ” – เดฟ บอกลาและไปที่ร้านค้าเพื่อไปยังลาน
เดฟ เปิดคัมภีร์ที่ Delvina ให้เขามาแล้วอ่านจดหมาย
‘ ผู้สั่งการป้อมแดง Death Knight Kis’ Shtiengbrah
ยินดีด้วยที่ได้เป็น Death Knight และได้รับหน่วยของนาย
ตอนนี้นายเป็นหนึ่งใน Death Knight พันคนภายใต้คำสั่งของฉันแล้ว ฉันหวังว่าจะได้เห็นสิ่งที่เยี่ยมยอดจากนายได้
Du’Rhaza ‘
[ คุณได้ถูกเพิ่มในหน่วยของ Du’Rhaza
ตัวเลือกภารกิจใหม่ได้ถูกเพิ่มลงในบันทึกของคุณ
ในฐานะ Death Knight แล้วคุณได้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอันเดต
คุณได้เป็นหัวหน้าของเขต (-3333,-6666)
ตัวเลือกใหม่ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในการทำงานของคุณ
การจัดการดินแดน
คุณสามารถสร้างสนามซ้อมให้กับหน่วยของคุณและที่พักให้กับตัวเองได้
คุณต้องการวัสดุในการสร้าง
วัสดุส่วนมากพบได้ในร้านค้ารึหาได้ตามพื้นที่เอง
]
เดฟ ได้ฉีกคัมภีร์วาร์ปและกลับไปยังป้อม ทีมของเขานั้นทำตัวราวกับเพื่อนและโผล่มาด้านหลังเขา
เขาได้นำทีมของเขาไปทางตะวันออกและเข้าไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทรายดำที่พวกเขาได้พบกับกิ้งก่าครั้งแรก
” เขตสามของดันเจี้ยนโลกอยู่ด้านหน้าเลยเขตนี้ไป “
ทีมของ เดฟ นั้นมี1,200 คน เดฟ ได้เดินนำหน้าสุดโดยอยู่บนหลัง Stinger และมี Bud อยู่ด้านซ้าย Dog ตามมาด้านหลังบนหลังของกิ้งก่า
ด้านหลังผู้นำทั้งสี่คือพวก Captain ที่อยู่บนหลัง Dunlord โดยตามมาด้วยอันเดตที่เหลือ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น