Rise of The Undead Legion 139-146

 Chapter 139 : สถานการณ์ย่ำแย่


ทีมอันเดตได้เดินหน้าไปถึงพื้นที่โล่งทางตะวันออก บางครั้งพวกเขาก็พบกับผู้เล่นที่ทำการสู้กับมอนสเตอร์อยู่ ผู้เล่นทุกคนในเขตตะวันตกต่างก็ได้รับแจ้งเตือนถึงทีมอันเดตที่กำลังหนีพร้อมกับการลักพาตัวพรีสมาด้วย เดฟหงุดหงิดอย่างมากเพราะไม่ว่าตอนไหนที่ไปเจอกับผู้เล่น ระบบจะทำการประกาศตำแหน่งของเขาออกมา


[ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! อัพเดตตำแหน่งของกองทัพอันเดต เขตตะวันออกของ Moria พิกัด (-310,870)]


‘ บ้าเอ้ย หยุดจ้องจะกัดฉันได้แล้ว Alfred ‘ แจ้งเตือนนี้เพิ่มจำนวนขึ้นเมื่อผู้เล่นพากันอยากได้รับรางวัลจากโบสถ์และเริ่มไล่ตามพวกเขา พวกโง่คิดว่าตัวเองรึกลุ่มเล็กๆนั้นสามารถที่จะหยุดทีมอันเดตได้ พวกเขาคิดผิด


พวกโง่กลุ่มสุดท้ายคือผู้เล่นสามคนที่มีเลเวลตั้งแต่ 120-170 แต่ลองคิดภาพพวกเขารับมือกับอันเดต 150 ตัวดู !!


อันเดตไม่ได้หยุดเดินหน้าเลย ลูกดอกจาก Dunlord ได้ยิงใส่ผู้เล่นสองคนตายไปแต่คนที่สามหนีไปก่อนที่ร่างของเพื่อนตัวเองจะกลายเป็นเศษแสง


‘ ต้องขอบคุณที่มันไม่มีเมืองรึพื้นที่ที่มีวาร์ปนอกจาก Moria ถ้าใครต้องการไล่ตามฉัน พวกนั้นก็ต้องวิ่งมาจาก Moria มายังที่ที่ฉันอยู่ ‘


ห่างออกไปทางตะวันออกในพื้นที่ที่เรียกว่าป่า มีผู้เล่น 8 คนจาก Blood Rage กำลังเก็บเลเวลอยู่ที่นั่น


มอนสเตอร์ในป่าพื้นที่นั้นมีเลเวลสูง สูงเกินไปสำหรับผู้เล่นส่วนมากแต่พวกนั้นมาเก็บเลเวลที่เขตนี้เพราะมอนสเตอร์ที่เกิดแบบสุ่มที่นี่


ตอนนั้นมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงได้เกิดขึ้นมาซึ่งทำให้พวกเขาต้องร่วมมือกันในการจัดการมันเพื่อการเก็บเลเวล


พื้นที่ป่านั้นมีขาดใหญ่และเป็นเหมือนกำแพงที่กันไม่ให้ผู้เล่นเดินหน้าเข้าไปในเขตตะวันออกลึกเข้าไปอีก


หลายคนพยายามที่จะผ่านมันแต่มีแค่คนโชคดีไม่กี่คนที่สามารถไปถึงอีกฝั่งและเห็นอาณาจักรตะวันออกได้


พื้นที่นี่ยังเป็นที่ที่พบกับมังกรเป็นครั้งแรกในเกมด้วย ไม่มีใครรู้เลเวลของมังกรหรือว่ามันมีพลังแบบไหน หลังจากที่เห็นมังกร พวกเขาก็พากันจัดทีมเพื่อที่จะไปฆ่ามันโดยการรวมผู้เล่นกว่าพันคนที่มีเลเวล 300-400 มังกรนั้นแข็งแกร่งจนฆ่าทกคนตายได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที ! เหล่าคนในทีมนั้นไม่ได้มีโอกาสมองไปที่มันก่อนที่จะตายด้วยซ้ำ


หลังจากที่จบการสังหารโหดนั้นแล้วพื้นที่ป่าก็ได้เป็นจุดที่ผู้เล่นส่วนมากพากันหลีกเลี่ยงราวกับเขต้องห้าม แม้ว่าหลายคนจะกล้าเข้ามาแต่ก็ไม่ได้เข้าไปลึกนัก พวกเขาได้แต่อยู่ที่เขตนอกของป่าเพื่อเก็บ xp และหวังว่าจะได้ของดีๆ พวกคนของBlood Rage ตอนนั้นก็เพิ่งฆ่ามอนสเตอร์เลเวล 450 Jade Horned Serpent ไป


หลังจากที่เก็บของที่ดรอปมาแล้วพวกนั้นก็เริ่มทำการฟื้นฟูเลือดตัวเอง ฮันเตอร์ในเกราะหนังงูสีแดงได้โดดขึ้นไปบนต้นไม้และทำการสังเกตพื้นที่โดยรอบ


“ไม่มีมอนสเตอร์อยู่ใกล้ๆเลย ไม่มีวี่แววของมังกร รีบฮีลแล้วเราค่อยเข้าไปลึกกว่านี้ “


เบอร์เซิคเกอร์ที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้เงยหน้าขึ้นมา – ” Cao Cao ถ้าเราเข้าไปลึกกว่านี้และมีมังกรโผล่มา เราคงจบเห่แน่ “


” ถ้ามังกรโผล่มาให้ใช้วาร์ปทันที อย่าหยุดนิ่ง อย่าลังเลไม่งั้นแล้วจะเสีย xp ที่ได้จากการเดินทางครั้งนี้ ! ” – ฮันเตอร์ตอบกลับ


ก่อนที่ Cao Cao จะได้พูดขึ้นอีก เขาก็ได้รับข้อความด่วนเข้ามา


Cao Cao ปีนลงมาจากต้นมแล้วโดดลงมาเมื่อลงมาได้ครึ่งทาง


” ทุกคน ! เร็วเข้า ! Zhang Shi ได้สั่งการมาใหม่ ! มันมีทีมอันเดตกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ เราคือพวกที่อยู่ใกล้ที่สุดและเราต้องดักโจมตีพวกนั้น ! “


” ทีมอันเดตนี่ใหญ่แค่ไหน ? ” – เบอร์เซิคเกอร์ Long Zhao ถามขึ้นมา


” 150 ตัว เลเวล 350 “


ตอนที่ได้ยินตัวเลขนี้สีหน้าพวกนั้นก็ดูกลัวขึ้นมา พวกเขาถูกส่งมาทำภารกิจฆ่าตัวตายชัดๆ


” เรามีแค่ 8 คน แม้ว่าจะมีผลต่างทางเลเวลแต่เราคงรับมือกับจำนวนพวกมันไม่ได้ “- พรีสชุดแดงพูดขึ้นมา


” อย่าเพิ่งหมดหวัง มีข่าวบอกว่ามีแค่พวกแมงป่องเท่านั้นที่เลเวล 350 และมันมีแค่ 10 ตัวเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นพวกอันเดตที่เลเวลต่ำกว่า 200 ยกเว้นแค่ตัวเดียว อันเดตหนวดที่กิลด์เราตามหา Kis’Shtiengbrah ถ้าสถานการณ์มันเลวร้าย เราค่อยใช้การสืบทอดของเรา “


” นั่นมันจะเสียเปล่า Cao Cao ” – พรีสตอบกลับ – ” การใช้การสืบทอดกับพวกอันเดตเลเวลต่ำเป็นเรื่องที่โง่ เราควรเก็บมันไว้สำหรับการเก็บเลเวลรึตอนที่เจอกับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง “


” นั่นเป็นคำสั่ง Song Liu ” – Cao Cao พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง


” ถ้ามีแค่ 10 ตัวที่เลเวล 350 เราก็ยังมีโอกาสไม่ใช่รึไงหัวหน้า ? ” – Long Zhao ถามขึ้นมา


Cao Cao พยักหน้า – ” เราแค่ต้องยื้อพวกนั้นเอาไว้ Zhang Shi บอกว่าเขาได้ส่งผู้เล่นหลายคนมาไล่ตามพวกนี้ พวกนั้นจะเป็นกำลังเริมของเราและเราก็ร่วมมือกับพวกนั้นเพื่อจัดการพวกอันเดตได้ “


” ทุกคนพร้อมมั้ย ? งั้นไปกันเถอะ ! “


ทีมอันเดตยังคงเดินหน้าต่อพยายามไปยังแคมป์อันเดตที่ใกล้ที่สุด


หลังจากที่เดินทางมาได้ครึ่งชั่วโมงเดฟก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวไกลออกไป


กลุ่มผู้เล่นยืนประจำขบวนรอพวกเขาอยู่


เดฟตรวจสอบผู้เล่นตรงหน้าที่น่าจะเป็นหัวหน้าทีม


Long Zhao , เบอร์เซิคเกอร์ เลเวล 422 กิลด์ : Blood Rage


ตอนที่เขาเห็นผู้เล่นทั้ง 8 คนซึ่งเลเวลสูงกว่า 400 เขาก็พยายามไม่ให้ความสิ้นหวังเข้าครอบคลุมจิตใจ


‘ เราสู้พวกนี้ไม่ได้หรือฝ่าไปก็ไม่ได้ เราต้องอ้อมพวกนี้ Dunlord สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าคนวิ่งและอันเดตก็มีแรงไม่จำกัด ถ้าฉันเลือกไปอีกทาง พวกนั้นก็ไม่มีทางตามทันเพราะค่าแรงของพวกนั้นจะหมดก่อน ‘


” ทุกคนไปทางซ้าย ! ” – เดฟสั่งการพร้อมพวกอันเดตที่เปลี่ยนทางทันที


” แกคิดจะไปไหน ! ” – เบอร์เซิคเกอร์ ตะโกนใส่อันเดตพร้อมกับออร่าสีแดงที่แผ่ออกมารอบตัว


ภาพของชายกำยำผมและหนวดแดงได้ปรากฏขึ้นด้านหลังเบอร์เซิคเกอร์


” เหี้ย ! การสืบทอด ! กระจายตัวกันออก ! “


Chapter 140 : นักล่าที่ร้ายกาจ


ร่างชุดแดงได้มองลงมาที่เดฟและชี้ดาบมาที่เขา คลื่นดาบได้ตัดผ่านอากาศพุ่งเข้ามาใส่เขา


ทีมอันเดตได้กระจายตัวกันออกและหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามา พวกนั้นแค่พยายามออกนอกระยะของศัตรู


ผู้เล่นอีกคนได้แผ่ออร่าสีเหลืองออกมาพร้อมกับร่างขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นในพื้นที่ต่อสู้ ร่างนี้ดูคล้ายกับชายกำยำที่กำลังถือหอกอยู่


การปรากฏของสกิลการสืบทอดอันที่สองนี้ทำให้สถานการณ์นั้นแย่ลงไปอีก


ร่างที่สองได้ปากหอกเข้าใส่เดฟ มันลอยโค้งวนบนท้องฟ้าก่อนจะมุ่งหน้าเข้าหาอันเดตหนวดพร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางตามการหลบหนีของ Stinger และเดฟ


” Stinger ขุดลงไป ! ” – เดฟสั่งการ Stinger ได้โน้มตัวไปข้างหน้าปล่อยให้เดฟเผชิญหน้ากับหอกที่เข้ามาพร้อมกันกันพรีสที่อยู่ด้านหลังเขา เขารอจังหวะที่หอกจะเข้ามาถึงตัวและใช้….{Bastion} เพื่อเป็นอมตะในการรับการโจมตีซึ่งทำให้หอกที่พุ่งเข้าใส่นี้หายไป


ออร่าอีกสองอันได้ปรากฏขึ้นมารอบตัวผู้เล่น


เดฟเบิกตากว้าง – ” เหี้ยเอ้ย ! นี่ทุกคนมีสกิลสืบทอดกันหมดเลยหรือไง ? “


มันยากที่จะพบกับผู้เล่นที่มีสกิลการสืบทอดสักคนหนึ่งและตอนนี้ เดฟได้เจอถึง 4 คนพร้อมกัน


” {Bastion} คูลดาวน์อยู่ ถ้าการโจมตีของการสืบทอดเข้าถึงตัวฉันได้ ฉันจบเห่แน่ ! “


ในตอนที่ออร่าอันใหม่ปรากฏขึ้นมาด้านหลังผู้เล่น เดฟก็หยุด Stinger อันเดตที่เหลือยังคงหนีออกจากพื้นที่ต่อสู้ ผู้เล่นทั้งแปดคนเริ่มเดินเข้ามาหาเขา ร่างยักษ์สี่ตัวด้านหลังได้มองมาที่เขาด้วย


แคมป์อันเดตนั้นอยู่ไกลเกินไปที่จะหวังว่าจะมีคนมาช่วยเขาได้ เดฟไม่ได้คิดว่ามันมีทางที่เขาจะเอาชนะคนพวกนี้ได้ หากไม่มีการสูญเสียครั้งใหญ่


‘Drahma ช่วยจัดการพวกนี้ได้แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวพวกนี้ก็ตายแล้วแต่จากนั้นฉันจะทำยังไงกับเวลาอัญเชิญ 4 ชม.ที่เหลือ ? ‘


เขาคิดที่จะเรียก Drahma ออกมาแต่มันคงดูเกินจำเป็น เขาไม่อยากเสียจำนวนการอัญเชิญไปแบบเสียเปล่า ไม่ต้องเดาเลยว่าเขาต้องเจอกับศัตรูมากกว่านี้แน่และพวกที่มาทีหลังต้องแข็งแกร่งกว่านี้ มันจะดีที่สุดถ้าเก็บการเรียก Drahma เอาไว้


เดฟมองไปที่ผู้เล่นที่เดินหน้าเข้ามาด้วยความโกรธ พวกนั้นมายุ่งกับเควสเขาและเขาไม่คิดที่จะยอมรับผลกรรมนี้


เขาคิดถึงสกิล,ไอเท็ม, กลยุทธทุกอย่างที่เขามีเพื่อพยายามหาความหวัง ไม่นานสีหน้าอันคุ้นเคยก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา ตอนนี้ปากของเขาได้เผยรอยยิ้มออกมา


เดฟยืนมองพวกผู้เล่นที่เดินเข้ามาพร้อมกับลูบหนวดโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็กางแขนออกแล้วตะโกนขึ้น – ” Blood Rage ! วันนี้ฉันจะแสดงโชว์ดีๆที่พวกนายจะไม่มีทางลืม ! ” – เสียงของ เดฟดังก้องไปทั่วพื้นที่เปิดและทำให้พวกผู้เล่นลังเลกันไปเล็กน้อย


จากนั้น เดฟ ก็ปรบมือเสียงดังสั่น นี่คือเงื่อนไขของการใช้สกิล


” นี่เขากำลังจะทำอะไร ? ” – พรีสในปาร์ตี้ถาม


” ฉันเองก็ไม่รู้ ฉันคิดว่าเขาพยายามหลอกเราและทำให้เรากลัว ” – ฮันเตอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูก


“มีบางอย่างผิดปกติ ” – เบอร์เซิคเกอร์รู้สึกว่าออร่าของเขาสั่นตอบรับกับบางอย่าง คำพูดของเขาทำให้ทุกคนชะงักไป


ออร่าทั้งสี่ร่างได้เงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน


ผู้เล่น 8 คนมองตามออร่านั้นและก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความช็อก


บนท้องฟ้ามีไฟลุกไหม้อยู่ !


แต่มันก็ไม่เชิงเป็นไฟซะทีเดียว ท้องฟ้านั้นฉีกตัวออกจากกันและมีอุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงมาใส่พวกเขา ! ใส่พวกเขา !


นี่คือสกิล {Call of Chaos} ที่เดฟได้มาเป็นรางวัลสำหรับการยึดเขตสองของดันเจี้ยนโลกได้


อุกกาบาตที่มาพร้อมกับความโกรธเคืองของสวรรค์


พวกผู้เล่นพยายามที่จะหนีแต่หินขนาดเท่กับภูเขานั้นพุ่งลงมาเร็วเกินไปกว่าที่พวกเขาจะหนีได้ทัน


เดฟไม่ได้รอให้อุกกาบาตตกลงมาที่พื้น เขาได้สั่งการอันเดตของเขาให้ถอยห่างจากผู้เล่นทั้ง 8 คนและทำการวนรอบพวกนั้นมุ่งหน้าไปทางตะวันออกต่อ


ผู้เล่นทั้ง 8 ได้ใช้สกิลป้องกันของตัวเองเพื่อหวังว่าจะรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้


การระเบิดปะทุขึ้นมาตอนที่อุกกาบาตกระแทกพื้นพร้อมกับมีเศษหินและเหล็กนับไม่ถ้วนกระจายออกมาจากศูนย์กลางการระเบิด


ดาเมจ 50,000 ได้โผล่มาที่หัวผู้เล่นเหล่านั้น


หลังจากนั้น Cao Cao ก็เป็นคนแรกที่ได้สติจากความช็อก


” หือ ? มันไม่ได้เจ็บนิ ไม่มากเท่าไหร่ “


ผู้เล่นคนอื่นต่างก็ได้สติจากความสับสน เมื่อเห็นดาเมจที่น้อยบนหัวตัวเอง พวกเขาก็รู้สึกอายขึ้นมา


ทั้ง 8 คนมีสกิลที่สามารถฟื้นฟูเลือดได้มากกว่าที่เสียไปด้วยซ้ำ


พวกเขาเลเวลมากกว่าเดฟถึง 200 เลเวล พวกเขายิ่งใหญ่หากเทียบกับเดฟ นี่ไม่ต้องพูดถึงการสืบทอดที่พวกเขามีอยู่เลย ดังนั้นดาเมจ 50,000 นี้อาจจะร้ายแรงสำหรับเดฟ แต่สำหรับผู้เล่นพวกนี้มันมองข้ามได้ ถ้าพวกเขาสู้กับบอส งั้นเรื่องราวมันคงต่างจากเดิม ผู้เล่นทั้งแปดคนได้สูญเสียเลือด 50,000 ไปในครั้งเดียวคงถือว่าเป็นภัยพิบัติและฮีลเลอร์คงไม่อาจจะทำการฟื้นฟูเลือดได้ทันแต่เมื่อสู้กับผู้เล่นเพียงคนเดียว มันคงยากที่จะถือว่านี่เป็นเรื่องอันตราย


สกิลที่เดฟใช้นั้นมีภาพจำลองที่ดูทรงพลังและน่ากลัวแต่มันก็แค่นั้น พวกเขาแค่โดนภาพนั้นหลอกเอา


เมื่อเห็นว่าเดฟหายไป พวกเขาก็ได้แต่ด่าตัวเองที่โดนหลอก !


” ไปตามล่ามัน ! ” – เบอร์เซิคเกอร์ตะโกนขึ้นมา


” ใจเย็นๆไว้ ! ทุกคนไล่ตามอันเดตนั่นไปแต่ระวังตัวด้วย ! เขาเจ้าเล่ห์ ! ” – Cao Cao สั่งการออกมา


ทั้งแปดคนพากันไล่ตามอันเดตที่หนีไป


เดฟที่อยู่บนหลัง Stinger กำลังหัวเราะอย่างกับคนบ้าพร้อมกับวิ่งหนีด้วยความเร็วเต็มที่จากการไล่ล่าของผู้เล่นทั้งแปด


กรรรร !!!!


เสียงคำรามพร้อมลมอันรุนแรงได้พัดผ่านสนามหญ้าในพื้นที่เปิด


หนวดของเดฟสะบัดพร้อมกับ Stinger ที่หยุดไปในทันที


Dunlord ทุกตัวหยุดนิ่งและอันเดตด้านหลังก็หยุดชะงักตามไปด้วย


[ผลของความกลัวนั้นไม่ได้ส่งผลต่อคุณเพราะคุณเป็นอันเดต !]


มีเงาขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาที่ท้องฟ้าและพุ่งเข้าใส่ทีมอันเดตอย่างรวดเร็ว


เดฟไม่รู้เลยว่า Dunlord นั้นกลัวอะไรแต่ Stinger นั้นกลับตัวสั่นราวกับลูกหมาตกน้ำ


เงาที่เข้ามานั้นเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ


เดฟเริ่มตรวจสอบว่าอะไรคือสาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ เขาไม่ชอบความคิดแบบนี้เลยแต่เขาก็ยังตะโกนออกมา – ” มังกรรรรรร ! “


Chapter 141 : การตกลงกับปีศาจ


คาดิแล็คสีดำได้พุ่งผ่านถนนที่ติดที่สุดในนิวยอร์กมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล


ตอนที่โซว์มาถึงโรงพยาบาลนั้นก็มีชายสองคนรอเธออยู่ พวกนั้นเดินขนาบเธอราวกับบอร์ดี้การ์ด


เธอมักจะนึกถึงเพลงเก่าๆตอนที่เธอเห็นผู้ช่วยของพ่อสองคนนี้


ชายคนนี้คือนิโคไลที่มักจะพูดด้วยสำเนียงรัสเซีย เขามีผิวขาว, ผมบลอนด์และมีตาสีฟ้า อีกคนเป็นยักษ์ใหญ่ เจมส์ที่โตมาในกับธุรกิจนี้และเป็นคนที่พูดมาก


สำหรับเหตุผลที่ทั้งสองคนที่นิสัยต่างขั้วกันนั้นได้มาทำงาด้วยกันนั้นยังคงไม่ชัดเจนและน่าแปลกใจที่ทั้งสองคนสนิทกันด้วย


” สวัสดีเจมส์ นิโคไล ลุงอยู่ด้านในหรือเปล่า ? ” – โซว์ ถาม


” เขาไม่อยู่ที่นีโซว์ “- ชายอัฟริกันอเมริกันตอบกลับด้วยสำเนียงท้องถิ่นพร้อมกับคู่หูที่พยักหน้ายืนยัน


โซว์ รีบเดินเข้าไปและถามผู้หญิงที่รีเซ็ปชั่นว่าเขาจะหา เดวิดรัสเตอร์ ได้จากไหน


เธอเคยเห็นชื่อเต็มของเดฟบนสัญญาที่เขาทำกับ CCN ไม่ใช่แค่นั้นเธอยังทำการตรวจสอบภูมิหลังของเดฟมาด้วยและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาในเรื่องทั่วไปและเรื่องส่วนตัว


รีเซ็ปชั่นถามว่าทำไมเธอถึงต้องการจะพบเดฟและเธอก็ตอบว่าเธอจะมาเยี่ยมเขา


หลังจากที่กรอกแบบฟอร์มขอเข้าเยี่ยมแล้ว โซว์ ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าพบเดฟได้


” เขาอยู่ในห้อง VR ถ้าเขาต้องการจะออกไป เขาก็จำเป็นต้องจ่ายเงินก่อน ” – หญิงสาวที่รีเซ็ปชั่นยิ้มให้


โซว์มองไปที่อีกฝ่ายก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้อง VR


หมอที่รักษาเดฟนั้นเพิ่งจะทำการตรวจคนไข้ในห้อง VR เสร็จ


ตอนที่หมอเปิดประตูเพื่อจะออกจากห้อง โซว์ก็เพิ่งเข้าไปถึง


โซว์มองผ่านไหล่หมอและพบว่าเดฟกำลังอยู่ในแคปซูล


หน้าของเธอดูสดใสขึ้นมาและเดินผ่านหมอเข้าไปในห้อง


” เดี๋ยวก่อนคุณผู้หญิง คุณมาทำอะไรที่นี่ ? ” – หมอถามขึ้นมา


” ฉันมาเยี่ยมเพื่อน “


หมอคิ้วขมวดแล้วมองที่นาฬิกาก่อนจะพูดขึ้น – ” หมดเวลาเยี่ยมแล้ว คุณค่อยมาทีหลังละกัน “


โซว์สลดและกำลังจะหันหลังกลับ


หมอหันกลับไปมองที่แคปซูลก่อนจะถามขึ้นมา – ” เขาเป็นเพื่อนคุณเหรอ ? “


” ใช่ ” – โซว์ ตอบกลับเมื่อเห็นว่าหมอชี้ไปที่แคปซูลของเดฟ


” คุณรู้เรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดแผลพวกนั้นรึเปล่า ? “


” เขาไม่เคยพูด ฉันแค่รู้ว่าเขาเป็นแผล ฉันเข้าพบเขาไม่ได้งั้นเหรอ ? “


” แค่ในเวลาเยี่ยมแต่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเขาหรอก เขาแค่ต้องพักฟื้นอีกสัก 2 วันก่อนจะออกไปได้ ” – หมอพูดขึ้น


โซว์ เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำการโทรออก


” เดี๋ยวนะ ! ” – เธอพูดขั้น – ” เฮ้ เดฟ! ฉันอยู่ในห้องรักษานายแล้ว กำลังคุยกับหมออยู่เนี้ย ! “


คำตอบที่เธอได้รับคือ – ” เหี้ย เหี้ย เหี้ย เหี้ยยยยยย ! “


เดฟร้องเสียงสูงออกมา เขาพูดออกมาเหมือนกับกลัว มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่เคยได้ยินจากเขามาก่อน


” เฮ้ ! เดฟ ! อย่าทำแบบนี้ ! นายก็รู้ว่าฉันมาหานายแล้ว นายขอให้ฉันช่วยนี่ ! ” – โซว์ สลดหลังจากที่ได้ยินคำสบถของ เดฟ


” ไม่ใช่เธอ ! มังกร ! มังกรรรร ! ” – และจากนั้นสายก็ตัดไป


” มังกร ? ” – โซว์ อึ้ง


” คุณผู้หญิง ผมบอกว่าอย่าใช้โทรศัพท์ ! มันสามารถส่งผลต่อเครื่องได้ ! ” – หมอพูดขึ้น


โซว์ ขอโทษก่อนจะปิดโทรศัพท์ตัวเอง


” เวลาเยี่ยมวันนี้หมดแล้ว มันจะเริ่มใหม่พรุ่งนี้เช้า คุณกรอกแบบฟอร์มไว้ที่รีเซ็ปชั่นแล้วค่อยกลับมาใหม่ “


เธอกลับไปที่ห้องรอด้วยท่าทีสลด หลายนาทีต่อมาเธอก็เงยหน้าขึ้นพร้อมใบหน้าที่สดใสขึ้นมา


” ลุง ! “


ลุงของเธอเดินเข้ามาหา ชายคนนี้คือผู้โด่งดังที่รู้จักกันดีในชื่อทนายปีศาจ


” เธอได้พบเพื่อนคนนั้นมั้ย ? ” – เขาถามออกมาด้วยเสียงที่ฟังดูเหมือนกับปลอบใจ


” เวลาเยี่ยมหมดแล้ว พวกเขาจะกักตัวเขาไว้อีกสองวัน ” – โซว์พูดขึ้น


” ฉันส่งคนไปที่อพาทเมนต์ของเขาแล้วเพื่อดูแลเพื่อนบ้านเขา มีคนสองคนจากจิโอวัลนี่ไปที่นั่น พวกนั้น—“


โซว์ขัดขึ้นมา – ” โอ้ไม่นะ ถ้า เดฟ อยู่ที่นั่น…” – แต่เธอไม่อยากพูดความคิดที่อยู่ในหัวออกมา


” เขาไม่เป็นไรหรอกตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ในฐานะคนไข้ จิโอวัลนี่ไม่สามารถผ่านการรักษาความปลอดภัยของที่นี่ได้ง่ายๆและ เจมส์ กับ นิโคไล เองก็จับตาดูที่นี่อยู่ ” – ลุงปลอบเธอ


หมอที่รักษาเดฟเดินเข้ามาหาทั้งคู่แต่เมื่อเห็นทนายปิศาจเขาก็หยุดทันที


” ทนายปีศาจ ” – เขาพึมพำขึ้นมา


ลุงของเธอเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหมอ เขาหันกลับไปถาม – ” ให้ฉันช่วยอะไรมั้ย ? “


” อ่ะ ใช่ ผมรู้จักชื่อเสียงของคุณดี ผมเห็นคุณพูดกับเพื่อนของ รัสเตอร์ คุณเป็นตัวแทนของ เดวิด รัสเตอร์ งั้นเหรอ? “


” ผมมาที่นี่เพื่อดูแลเรื่องของเขาทั้งเรื่องส่วนตัวและทางอาชีพ “


” ตามที่ผมบอกกับสาวน้อยคนนี้ไป เธอพบเขาได้ตอนที่เขาตื่นแต่….ผมขอพูดกับคุณเป็นการส่วนตัวได้รึเปล่า ? มันเกี่ยวกับรัสเตอร์ “


” แน่นอน คุณหมอ ” – เขาเดินตามหมอเข้าไปในห้องพักเล็กๆ


หมอรวบรวมความคิดอยู่สักพักราวกับว่าชั่งน้ำหนักว่าจะพูดมันดีหรือไม่


” ตอนที่เรารักษาคุณรัสเตอร์ มันเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นกับไฟ ” – หมอพูดขึ้นโดยเน้นคำว่าผิดปกติ


ทนายปิศาจมองไปที่หมอด้วยสายตาที่คมกริบ – ” คุณหมายความว่ายังไงที่ว่าผิดปกติ ? พูดให้ฟังง่ายๆ งั้นโอกาสหน้าจะไม่มีอีก “


” การผ่าตัดเสร็จไปตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ การรักษาหลังการีผ่าตัดที่ขากับมือของเขาแย่ยิ่งกว่า ทีมผ่าตัดของผมได้จัดการส่วนที่เสียหายและซ่อมแซมส่วนที่ทำงานไม่ได้ของเขาและทำให้เขาได้กลับมาฟื้นตัวได้จริงๆ ผมพยายามที่สุดแล้วแต่ใครกันที่เป็นคนผ่าตัดคนแรกให้กับ รัสเตอร์ อันที่จริงผมพยายามฟ้องไปทางแพทยสภาแล้วว่าให้ยกเลิกใบอนุญาตของหมอคนนั้นอยู่นานแล้ว เคสของรัสเตอร์ ได้พิสูจน์ถึงความไร้ความสามารถและจรรยาบรรณรวมถึงมันเป็นโอกาสที่ดีที่จะเล่นงานจุดนี้ด้วยแต่ยิ่งผมอยากทำมากเท่าไหร่แต่ผมก็ไม่อาจจะใช้เคสของ รัสเตอร์ได้เพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคนไข้ ดังนั้นสิ่งที่ผม….”


ทนายปีศาจยกมือขึ้นขัด


” ฉันจะจัดการเองกฎหมายเอง หมอ มันคือสิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุดและคำว่าดีที่สุดของฉันก็ดีจริงๆ เอารายละเอียดมาให้ฉันทั้งหมดเรื่องเคสของเขาและหลักฐานอื่นๆที่นายมีเกี่ยวกับ….’คนๆนั้น’ บอกฉันทุกอย่างและฉันจะจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดกับใครคนอื่นอีกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ” – เขาบอกกับหมอ ตาของทนายปีศาจเป็นประกายขึ้นมาราวกับนักล่าที่กำลังมองหาเหยื่อ


คนของศาลคงจำสีหน้านี้ได้ แน่นอนว่ามันต้องเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมากับเหยื่อของปีศาจและใครก็ตามที่เข้ามาขวางทางการล่าของเขา


Chapter 142 : ฉันขอโทษ


ทางเขตตะวันออกของ Moria ในพื้นที่รกร้างที่เรียกว่าป่า เสียงคำรามอันน่ากลัวของมังกรได้ดังก้องไปทั่ว


มือของ เดฟ สั่นและมองเงาที่เข้ามาเร็วขึ้นเรื่อยๆ


มังกรหกขาได้ปกคลุมเต็มท้องฟ้า


” ไป Stinger ! ไป !!! ” – เขาตะโกนขึ้นมา


[ คุณปลุก Dunlord จากสภาวะกลัวได้สำเร็จ ]


Dunlord นั้นไม่ใช่อันเดต พวกมันไม่ได้มีความสามารถติดตัวในการต้านทานความกลัวที่อันเดตทุกตัวมีแต่เพราะความพยายามของ เดฟ นั้น Stinger ถึงได้ตื่นขึ้นมาจากผลความกลัวของมัน


Dunlord ใต้ตัว เดฟ ได้คำรามออกมาจนทำให้ Dunlord ตัวที่เหลือตกใจทันที


เดฟ มองไปด้านหลังเขาและพบผู้เล่น 8 คนของ Blood Rage ที่ยังตัวแข็งทื่อไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้จากเสียงคำรามของมังกร


” มันยังเหมือนครั้งแรกที่มังกรตัวนี้ปรากฏตัวมา ! เสียงคำรามครั้งเดียวก็ทำให้ตัวทุกคนแข็งทื่อได้จากความกลัว ! “


เดฟ นึกถึงภาพที่ผู้เล่นได้เจอกับมังกรตัวนี้ตอนที่สำรวจเขตตะวันออก


การสังหารโหดของมังกรนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดสำหรับคนที่มาสำรวจป่าที่นี่ เดฟ สงสัยว่าทำไมมังกรถึงได้โผล่มาในพื้นที่นี้แต่จากนั้นเขาก็ได้ใช้ {Call to Chaos} ที่เผื่อว่ามันจะทำอะไรได้ – ” มันมาที่นี่เพราะฉัน {Call of Chaos} นี่เรียกความวุ่นวายได้จริงๆ มังกรก็ไม่ใช้ข้อยกเว้น “


มังกรนั้นห่างจาก เดฟ แค่ไม่กี่ไมล์และถึงว่าเสียงมันดังจากไกลๆแต่มังกรก็จะเข้ามาถึงได้ในเวลาไม่กี่วินาที


สุดท้ายมังกรก็ได้หยุดลงพร้อมกับบินอยู่กลางอากาศพัดเอาลมกระจายออกไปทั่ว


ผู้เล่นยังตัวแข็งทื่อเพราะความกลัว แม้ว่าจะพยายามใช้สกิลดีบัฟแล้วแต่พวกเขาก็ยังกลับมาอยู่ภายใต้ความกลัวทันที


ผลดีบัฟนั้นเป็นผลต่อเนื่อง การปรากฏตัวของมังกรนี้ทำให้ทุกคนตกอยู่ภายใต้ความกลัว !


[Abyssal Dragon (Evil Dragon)]


เลเวล : 750


ระดับ : Unholy


ระดับความอันตราย : ตายแน่นอน !


คุณสมบัติพิเศษ : ออร่าแห่งความกลัว


HP : ???


ดาเมจ ; ???


ลดดาเมจ : ???


ดูดซับเวทย์ : ???


สกิล : ???


คำอธิบาย : มังกรนั้นเป็นนักล่าที่ร้ายกาจ ด้วยการที่อยู่มานานและทรงพลังเหนือการวัดระดับใดๆ


มังกรหุบเหวนั้นเป็นมังกรที่ชั่วร้ายและโหดร้ายที่สุดในหมู่มังกร พวกมันมาพร้อมกับการทำลายล้างและความสิ้นหวังแม้แต่กับพวกตัวเองก็ด้วย


มังกรได้อ้าปากแล้วคำรามออกมาอีกครั้ง


ลูกไฟสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นที่ปากของมันและเพิ่มขนาดจนใหญ่กว่าตัวมันเอง


จากนั้น เดฟ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาในหู


เขาพยายามจะกดตัดสายแต่กลับกดรับแทน เขาได้ยินเสียงของ โซว์ แต่เมื่อเห็นลูกไฟที่กำลังเข้ามานั้นเขาก็ไม่อาจจะตอบเป็นภาษาได้และได้แต่กรีดร้องกับการโจมตีที่เข้ามา จากนั้นเขาก็วางสายไปหลังจากที่บอกเธอว่ามันคือมังกร


เขาหันกลับไปหาลูกน้องและสั่งการความคิดเดียวที่มีอยู่ในหัวของเขาตอนนั้น


” Dunlord ลงไปใต้ดิน ! ลึกๆเลย ! ตอนนี้ ! “


Dunlord ทั้ง 10 ตัวมุดลงไปในพื้นดินโดยมี Bud, Spark และ Dog ลงไปพร้อมกับอันเดตอีกกว่า 30 ตัว อันเดตตัวที่เหลือยืนนิ่งรอรับการโจมตีที่เข้ามา


Dunlord ขุดดินอย่างบ้าคลั่งลึกลงไปเรื่อยๆและไม่นานพื้นดินก็ได้สั่นไหวพร้อมกับมีเสียงระเบิดดังก้องขึ้นเข้ามาในหูของพวกเขา คลื่นกระแทกได้กดอัดดินรอบตัวพวกเขาจนพื้นที่ที่ขุดมาก่อนหน้านี้ได้ถล่มลงไปฝังพวกเขาไว้ชั่วคราวจนกระทั่ง Dunlord ได้สร้างพื้นที่ขึ้นมาใหม่ให้พวกเขาพักหายใจกันได้บ้าง เดฟ ยังได้รับแจ้งเตือนว่าอันเดตของเขาที่อยู่บนพื้นตะกี้ตายหมดแล้ว


เขาสั่งการ Dunlord ทั้งสิบตัวให้ขุดต่อมุ่งหน้าไปทางตะวันออกโดยเคลื่อนไหวผ่านทางใต้พื้นดิน


พวกมันเริ่มเดินหน้าตามที่เขาสั่งแต่ไม่นานพวกมันก็เริ่มช้าลง


” มีอะไร ? ” – เดฟ ถามออกมาแล้วตรวจสอบพรีสที่มากับเขาด้วย เธอยังคงตัวสั่นเพราะผลของความกลัว


” มีบางอย่างเคลื่อนไหวใต้พื้นดิน ” – Stinger ตอบกลับ – ” เราต้องขึ้นไปที่ผิวดิน “


Dunlord มุดตัวขึ้นมาด้านบนจนทำลายต้นไม้ที่อยู่ด้านบนไปด้วย


ทุกคนต่างก็มองกลับไปยังจุดที่พวกเขาจากมา


” ไม่เป็นไร เราจะไปรับพวกนั้นกลับมาในไม่ช้า ” – เดฟ บอกกับอันเดตที่เหลือ เขาพูดขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ของตัวพวกเขาเองเมื่อรู้สึกได้ถึงความสูญเสียและความรู้สึกผิดในการทิ้งเพื่อนไป


มองในด้านบวกผู้เล่นจาก Blood Rage นั้นไม่ได้รอดจากการโจมตีของมังกร


มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมาว่าเขาได้รับคะแนนจากการตายของพวกนั้น


” ไปทางตะวันออกกันต่อ “


เดฟ มองกลับไปด้านหลังในจุดที่พวกลูกน้องตาย เขายังคงได้ยินเสียงคำรามของมังกรพร้อมกับไฟและควันที่ลอยขึ้นมาบนท้องฟ้าบ่งบอกถึงการทำลายล้างหลังจากที่ระเบิดไปแล้ว


” ฉันขอโทษด้วย Boyz….” – เขากระซิบออกมา


Chapter 143 : ถ้ำมังกร


หลังจากที่ทิ้งระยะห่งจากมังกรแล้วในที่สุด เดฟ ก็พอโล่งอกได้บ้างและทำการโทรกลับหา โซว์


” มีอะไร ?”


” เฮ้ เดฟ นายพูดถึงมังกรใช่มั้ย ? “


” ใช่ ฉันอยู่เขตตะวันออกในป่า เราเจอกับมังกรเข้า “


” อะไรนะ ! ?นายไม่ตายใช่มั้ย ?” – โซว์ ถามด้วยความเป็นห่วงว่าเขาอาจจะเสียทุกอย่างไป ความพยายามทั้งหมดที่เขาทุ่มเทให้กับอันเดตและการเลื่อนขั้นในโลกอันเดตด้วย


” ไม่ เกือบไปแต่ฉันก็รอดมาได้ ! น่ากลัวฉิบหายเลย แล้วเรื่อง คลีเมนไทด์ เป็นยังไ ? ” – เขาเป็นห่วงหญิงชรา อีกฝ่ายดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ย่อยๆเหมือนกัน


” เธอไม่เป็นไร ลุงแซม ได้ส่งคนของพ่อไปดูแลเธอแล้ว ฉันอยู่ที่ห้องรอในโรงบาล ฉันอยากไปรับนายแต่หมอบอกว่านายต้องอยู่พักอย่างน้อยสองวัน “


” ฉันขอโทษด้วยที่สร้างปัญหาให้กับเธอและครอบครัวแล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ! ” – เดฟ พูดด้วยความรู้สึกผิด


” ไม่เป็นไร เดฟ จิโอวัลนี่ ไม่ใช่คนที่นายจะรับมือคนเดียวได้หรอก ให้พ่อจัดการเรื่องนี้ให้นายเถอะ “


” อื้อ เรื่องแบบนี้มันเกินขอบเขตฉันไป เดี๋ยวฉันละล็อคเอาท์ออกตอนที่ทำเควสเสร็จ ” – เดฟ พูดขึ้น


” ได้ ฉันจะดูวิดีโอโลกใต้ดินของ CCN ละกัน พวกนั้นเอาผู้เชี่ยวชาญมาด้วย นายเชื่อมั้ยว่าพวกนั้นบอกว่าทุกอย่างที่นายทำได้ก็เพราะโชค ? “


” วิดีโอ ! ฉันลืมเวลาไปเลย หือ ไม่ว่าพวกนั้นจะพูดว่าอะไรก็ตาม โชครึไม่ก็ชั่งแต่พวกนั้นก็แค่อิจฉาเท่านั้นแหละ ! “


” อีกเรื่อง นายเลี้ยงข้าวเราด้วยตอนออกจากที่นี่ไป มีบางร้านน่ะอร่อยดี ! ” – เธอพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ


” อะไรนะ ? ฉันก็แค่คนจนๆ ฉันซื้ออาหารราคาในเมืองไม่ไหวหรอก เราไปกินร้านข้างถนนได้มั้ย “


เขารู้ว่าเธอล้อเล่น เธอไม่คิดจะให้เขาจ่ายค่าอาหารให้หรอก นอกจากนี้แล้วถ้ารู้ว่าร้านข้างถนนร้านไหนอร่อยมันก็ดีกว่าการไปนั่งกินอาหารแพงๆ


” เดฟ ! อย่าบอกฉันนะว่านายไม่รู้ ? “


” รู้อะไร ? “


” ราคาประมูลของ [Right of Conquest] น่ะอยู่ที่ 20 ล้านทองแล้ว ! นี่ประมูลยังไม่ถึง 12 ชม. ! และกิลด์ใหญ่ก็ยังไม่ทันได้ทำการประมูลด้วย ! “


เดฟ เงียบไปสักพัก


” โซว์ เธอไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย ?”


” ไม่ ! นายคิดว่ายังไง ? มันถูกเกินไปรึไง ?”


” มัน….คิดไม่ถึงต่างหาก ” – เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงใจเย็น – ” เอาล่ะ ครั้งหน้าฉันเลี้ยงข้าวเอง “


ทั้งสองบอกลากันก่อนจะตัดสายไป


เขาตกอยู่ในความสับสนเพราะข่าวของราคาคัมภีร์ที่เขาจะได้ —- ไม่ เขาต้องได้มากกว่านี้ มันต้องเป็นอะไรที่ใหญ่กว่านี้ เขาแทบไม่ได้คิดว่าทุกอย่างมันจะส่งผลต่อเขา


” ตอนนี้ฉันใช้ชีวิตได้ตามต้องการแล้ว โฟกัสกับเกมให้มากกว่าเดิม 20 ล้านน่ะพอจะใช้ไปอีกหลายชีวิตเลยก็ว่าได้ ฮ่ะ ! “


Dunlord ค่อยๆเดินทางผ่านป่าที่มืดมิดเขตตะวันออกไป พวกมันเพิ่งเข้ามาในเขตที่พวกผู้เล่นของ Blood Rage ฟาร์มอยู่


พวกอันเดตได้เจอกับมอนเตอร์เลเวลสูงส่วนมากแล้วเป็นพวกต้นไม้, โกเล็มหินแต่พวกนั้นไม่ได้เป็นภัยอะไรมากมายสำหรับ Dunlord


งูหนามเลเวล 500 ได้ซุ่มโจมตีพวกเขาแต่พวกเขาก็หนีมาได้โดยไม่ได้มีคนตายเลยแม้แต่คนเดียวแต่ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ เดฟ ก็ยิ่งอึดอัดเท่านั้น มีบางอย่างในป่านี้ทำให้ เดฟ ไม่สบายใจ


ในตอนที่เดินทางลึกเข้าไปเรื่อยๆเขาก็เห็นว่ามอนเตอร์ที่นั่นเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ


ป่านี้ส่วนมากแล้วมีแต่มอนเตอร์เลเวล 400 ขึ้นไป


เดฟ ไม่ได้มั่นใจว่าเขาจะเอาชนะมอนเตอร์เลเวล 400 ได้แม้ว่าจะมี Dunlord ทั้ง 10 ตัวอยู่กับเขา


พวกเขาเดินหน้าไปยังถ้ำที่อยู่ตรงตีนเขา Dog ได้โดดลงจากหลัง Dunlord และเดินนำหน้าปาร์ตี้ออกไป


Dog ได้หยุดและแทงดาบปักลงไปที่พื้นก่อนจะมีมือโผล่ออกมาจากพื้นดินตามมาด้วยอันเดตทั้งตัวที่มายืนอยู่ตรงหน้า Dog


มันคือดาร์กศพเดินได้ที่ใส่เกราะสีเงินซึ่งดูโบราณ


แต่สายตาของมันนั้นดูแปลกไปไม่ใช่สีฟ้าแบบของอันเดต ตาของมันเป็นสีแดง


Dog ถอยกลับมาจากศพที่เพิ่งโผล่ขึ้นมา


ชื่อสีแดงปรากฏขึ้นบนหัวของอันเดตตัวใหม่


” เหี้ย มันเป็นศัตรู ! นายทำอะไร Dog ? “


เดฟ ตรวจสอบอันเดตตัวนั้น


[Kalel the vanquisher]


เลเวล : 550


ระดับ : Mythic


ระดับความอันตราย : ไม่รู้


HP : ???


ดาเมจ ; ???


ลดดาเมจ : ???


ดูดซับเวทย์ : ???


สกิล : ???


Kalel เป็นหนึ่งในวีรบุรุษของผู้คน เขากำเนิดขึ้นมาในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสับสนในหมู่ตำนานวีรบุรุษ


สัตว์อสูร, มอนเตอร์และปิศาจไม่อาจจะชนะคมดาบของเขาได้ !


น่าเสียดายที่งานสุดท้ายในการเอาชนะ Abyssal Dragon ของเขาล้มเหลวและตอนนี้เขาก็ได้หลับใหลอยู่ภายใต้พื้นดินใต้ทางเข้าของรังมัน


คนเรามีชีวิตเพียงครั้งเดียว ! ใช้มันให้คุ้มค่า !


” เหี้ย มันเลเวลสูงเกินไปสำหรับเรา ! Dog นี่นายขุดเอาอะไรขึ้นมา ! “


ดาร์กยังคงเดินหน้าเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับดาบที่เตรียมพร้อมโจมตี


เดฟ กำลังจะสั่งการให้ทีมเขาถอยตอนที่ร่างเงาหนึ่งได้โผล่ขึ้นมาบนท้องฟ้า


” Undead King! “


Dunlord ต่างก็ทำการโค้งให้กับเงานั้น – ” นายเป็นพวกเกิดใหม่แต่กลับกล้าโจมตีคนที่ปลุกนายขึ้นมางั้นเหรอ ? ” – ราชาตะโกนใส่ Kalel


” ฉันไม่เป็นมิตรกับพวกคนตาย ! ” – ดาร์กตะโกนกลับไปพร้อมกับยกดาบในมือขึ้น


“ถ้านายอยากโจมตีผู้ปลุกนายขึ้นมา ตามกฎของฉันแล้วงั้นนายก็ไม่คู่ควรกับพลังนี้ ! “


เงาของ Undead King ได้สะบัดมือพร้อมกับมีโซ่สีดำโผล่มาจากพื้นล่ามดาร์กเอาไว้ก่อนจะดึงมันกลับไปยังพื้นดิน


” ลูกหลานของฉัน ” – ราชาเรียก เดฟ – ” อันเดตตัวนี้แข็งแกร่งเกินไปสำหรับนาย ฉันจะให้เขากลับคืนตอนที่นายแข็งแกร่งพอจะสั่งการเขาได้ ก่อนที่ฉันจะไป ฉันอยากเตือนนายไว้ นี่คือรังของ Abyssal Dragon มังกรได้เก็บสมบัติมากมายไว้ที่นี่ หนีรึเข้าไปปล้นสมบัติของมันมันก็ขึ้นอยู่กับการเลือกของนายแต่ต้องรีบเพราะมังกรจะกลับมาในไม่ช้า ! “


ร่างของราชาหายไปและเหลือเพียงแค่ เดฟ กับลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้ารังมังกร


Dog เดินหน้าออกไปไม่กี่ก้าวก่อนจะยกดาบขึ้นปักลงไปที่พื้น


” ไม่ ! ไม่เอาแล้ว ! ไม่ต้องเรียกขึ้นมาแล้ว ! ” – เดฟ สั่งการ เขาไม่ต้องการให้ Dog ปลุกอะไรขึ้นมาในพื้นที่นี้อีก


เขาสู้กับดาร์กตัวตะกี้ไม่ได้ ไม่ใช่สำหรับเลเวลที่เขามีตอนนี้โดยที่อันเดตของเขามีไม่ครบ


” Stinger เราจะบุกเข้ารังมังกร รีบลงมือกันเถอะ “


Chapter 144 :สมบัติแต่จริงๆแล้วไม่ใช่!


Dunlord ได้เดินหน้าเข้าไปในถ้ำแต่เมื่อเข้าไปถึงปากถ้ำ Stinger ก็ได้หยุด


” หัวหน้า ฉันเข้าไปต่อไม่ได้แล้ว “


เดฟ รู้สึกว่า Dunlord นั้นตัวสั่น


” แม้ว่าจะเป็นแค่รังแต่มันก็ยังทำให้ Dunlord กลัว “


” งั้นรอฉันที่นี่ เตรียมหนีถ้ามังกรเข้ามา “


เดฟ โดดลงจากหลัง Stinger แล้ววิ่งเข้าไปในถ้ำแต่ถ้ำนี้ไม่ใช่อุโมงค์แคบๆ มันเหมือนกับโรงจอดเครื่องบิน มันใหญ่ขนาดเอาอพาทเมนต์ของเขามาตั้งได้เลย


เขายังคงวิ่งเข้าไปลึกเรื่อยๆพร้อมกับอุโมงค์ที่เริ่มเย็นขึ้นจนได้เห็นแสงบางอย่างตรงหน้า มันคือแสงสีเหลืองของทอง ในที่สุดเขาก็มาถึงรังของมังกร


พื้นดินตรงนี้คือที่ซ่อนของสมบัติ อาวุธและเกราะที่นั่นเพียงพอสำหรับกองทัพเล็กๆ ทองเป็นตันและอัญมณีต่างๆที่ลนออกมาจากล่องพร้อมกับของล้ำค่าที่ฝังไว้ตามกำแพง


เดฟ ยืนนิ่งอยู่สักพักไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากมองไปยังสมบัติรอบตัว


เขาพูดออกมาด้วยความตะลึง – ” สมบัติของมังกร ! “


สุดท้ายเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความโลภ เขาเริ่มที่จะจับเอาทองและของทุกอย่างใส่กระเป๋าของเขา


แต่ไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่าทันทีที่เขาเอาทองเข้าใส่ช่องเก็บของ มันก็ได้เปลี่ยนเป็นเหรียญทองแดง


” บ้าเอ้ย มันไม่คุ้มแรงเลยด้วยซ้ำ “


เขาหยุดเก็บเหรียญทองเพราะมันคงใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะเก็บเหรียญทองในถ้ำได้หมดและมันคงได้แค่ไม่กี่ร้อยเหรียญ จากนั้น เดฟ ก็หยิบเอาหอกที่มีลวดลายเป็นเส้นขึ้นมา


[Heavenly Spear]


เลเวล : 1


ดาเมจ : 1-2


หอกที่ไม่คู่ควรจะเป็นไม้จิ้มฟันของมังกร


สามารถขายรึใช้เป็นเครื่องประดับ


” บ้าเอ้ย นี่มันเหมือนกับห้ามจับเลย ทุกอย่างที่ฉันจับกลายเป็นขยะไปหมด…” – แต่เขาก็ยังเก็บมันเข้าใส่ช่องเก็บของ


สุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับ อาวุธและเกราะทั้งหมดในห้องนี้ต่างก็พังไม่ก็ใช้เป็นแต่เครื่องประดับได้เท่านั้น


” สมบัติแค่ชื่อ ” – เขาด่าความขี้เหนียวของเกมและการหลอกลวงของมังกร


เขาเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นและรู้สึกได้ถึงเวลาที่กดดันเข้ามา มังกรอาจจะกลับมาในอีกไม่นานและเขาก็ยังไม่ได้ของที่คุ้มค่าเลยสักชิ้น


ตอนที่เขาคิดจะยอมแพ้และออกจากที่นั่นไปเขาก็เห็นบางอย่างที่โดดเด่นขึ้นมาจากสมบัติส่วนที่เหลือ


มันตั้งอยู่บนกองทองดูคล้ายกับหินกลมๆสีดำ


ใจของ เดฟ เต้นรัวขึ้นมา


” มะ ไม่มีทาง “


เดฟ ค่อยเดินเข้าไปไม่กล้าเชื่อว่าเขาจะได้อะไรมา ยิ่งเข้าไปใกล้หินนั่นมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดูไม่เหมือนหิน


มันเต็มไปด้วยเกล็ดสีดำและตอนที่เขาจับมันนั้น


[Abyssal Dragon Egg(สัตว์เลี้ยงต่อสู้)]


ยังไม่ฟัก


มือของ เดฟ สั่นพร้อมกับรีบเก็บไข่นั่นลงช่องเก็บของ


เสียงคำรามของมังกรดังก้องขึ้นมาส่งสัญญาถึงการมาของมัน เขารีบวิ่งออกจากถ้ำด้วยใจที่เต้นรัวราวกับจะระเบิดออกมาจากอก


อันเดตของเขายังรอเขาอยู่ที่ปากถ้ำ เดฟ ตะโกนบอกให้ Dunlord รีบวิ่งเข้าไปในป่า


เขาโดดขึ้นหลัง Stinger แล้วสั่งการให้มนุษย์แมงป่องรีบวิ่งให้เร็วที่สุด


Stinger วิ่งทันทีและเพิ่มความเร็ววิ่งออกจากถ้ำเข้าไปในป่า


เดฟ มองสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหลัง


เงาของมังกรไม่นานก็ปรากฏขึ้นในสายตาและจากนั้นก็หายวับไป ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงมันลงไปยังพื้นจนทำให้พื้นดินสั่นไหว


ต่อมา เดฟ ก็ได้ยินเสียงโหยหวนของมังกรดังขึ้นมาด้านหลัง


” มันหงุดหงิดแล้ว ! คนขโมยไข่ชนะ ! ฮ่ะ ! ” – เขาหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า


สัตว์เลี้ยงนั้นไม่ใช่ของหายากในเกมแต่ส่วนมากแล้วเป็นได้แค่เครื่องประดับ เขามีไข่ของสัตว์ต่อสู้ ! มังกร !


อีกด้านหนึ่ง


ในห้องสีขาวสักที่ที่ควรเรียกว่าหลังเวทีถ้าเกมนี้เป็นเวทีคอนเสิร์ต มีตัวตนหนึ่งที่กำลังจับตาดูหน้าจอยิ้มออกมาด้วยความพอใจเมื่องานสำเร็จ มันขัดกับนิสัยของเขาที่เปลี่ยนความจริงจำนวนมากของเกมไปแต่เพราะแรงกระตุ้นของตัวเอง สมดุลของเกมได้มีความสำคัญกว่าการขัดขืนกฎของมัน มันคือสิ่งจำเป็น !


มันไม่ใช่งานเล็กๆที่ต้องเปลี่ยนสิ่งที่สิ่งผลมากมายซึ่งมีประวัติอันยาวนานในเกมนี้ แต่มันก็เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามัน จุดเล็กๆที่คอยรบกวนนั้นไม่อาจจะเพิ่มอำนาจขึ้นมาได้มากกว่าเดิมอีก สิ่งเดียวที่เขาเสียดายคือเขาไม่อาจจะทำอะไรกับสิ่งที่ทรงพลังมากที่สุดอย่างไข่ได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็น่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว ทุกอย่างจะกลับสู่ความปกติ


Chapter 145 : สงครามที่กำลังจะเกิด


พวกเขาเข้ามาลึกในป่าขึ้นเรื่อยๆและหลังจากเดินทางมาได้ครึ่งวันในที่สุดก็ได้มาถึงหน้าผาโดยที่จุดสูงสุดมีแคมป์อันเดตอยู่


บันไดนั้นทำขึ้นมาจากหินและนำไปสู่ด้านบนผา พวกเขาเดินหน้าไปเรื่อยๆและพบกับประตูไม้ที่อยู่ตรงหน้าแคมป์


แคมป์อยู่ด้านหลังกำแพงไม้แห่งนี้ มันมีหอกไม้กันไว้ที่ทางเข้าและมี Death Knight กว่าร้อยตัวที่ยืนประจำอยู่ที่ทางเข้าและตามกำแพง


หน้าด่านแห่งนี้มีหอคอย 4 แห่ง


Death Knight สองตัวได้ทำการหยุดพวก เดฟ เอาไว้


หนึ่งในนั้นได้ตะโกนบอกทหารที่ประตูให้เปิดประตูให้พวก เดฟ เข้าไป


” ผู้สั่งการ Kis’Shtiengbrah เรากำลังรอนายอยู่พอดี “- Death Knight อีกตัวพูดขึ้น


เดฟ พยักหน้าแล้วสั่งการให้ทีมเขาเดินหน้าเข้าไปในแคมป์


มีบ้านทหารที่ทำขึ้นจากไม้หลายหลังที่ถูกสร้างไว้ด้านในและใจกลางแคมป์นั้นก็เป็นประตูวาร์ป


[ ตำแหน่งวาร์ปแห่งใหม่ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในบันทึกของคุณ ]


เดฟ ได้รับแจ้งเตือนและบอกให้ Stinger เดินหน้าผ่านประตูนั้นเข้าไป


แต่ก่อนที่เขาจะได้ใช้ประตูนั้นทหารคนหนึ่งก็ได้มาหยุด เดฟ เอาไว้และบอกให้พวกเขารอ – ” ผู้สั่งการ ผู้สั่งการของเราต้องการที่จะพบนาย “


” นำทางไป ” – เดฟ ตอบกลับแล้วโดดลงจากหลัง Stinger


จากนั้นเขาก็ได้ตาม Death Knight ไปยังตึกที่ใหญ่ที่สุดในแคมป์ ตอนที่เข้าไปในตึกนั้นเขาก็พบกับ Doom Knight ที่เดินไปมาราวกับกังวลเรื่องบางอย่างอยู่


Death Knight ที่นำทางมานั้นได้ทำความเคารพ เดฟ แล้วออกจากที่นั่นไป


เดฟ ทำการตรวจสอบ Doom Knight ตรงหน้า


[Ryo The Beast Jiniro]


ขั้น : Doom Knight


เลเวล : 550


ระดับ : Mythic


ระดับความอันตราย : เป็นมิตร


HP : 550,000


ลดดาเมจ : 55,000


ดูดซับเวทย์ : 55,000


Ryo Jiniro นั้นรู้จักกันดีในหมู่คนเถื่อนของมนุษย์ในตอนที่เขายังมีชีวิต เขาจึงได้ชื่อเล่นว่าสัตว์อสูรมา หลังจากที่เขาตายเขาได้กลับมาเป็นอันเดตและเลื่อนขั้นขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพราะความโหดร้ายและป่าเถื่อนของเขา


หลายคนเรียกฉันว่าสัตว์อสูรแต่ก็ไม่เคยผิดจากที่พวกนั้นพูด !


” ผู้สั่งการ Kis ! ฉันมีเรื่องจะขอร้องนาย ! ” – Doom Knight พูดขึ้นตอนที่เห็น เดฟ มายืนตรงหน้า


” ฉันฟังอยู่ ” – เดฟ เพ่งความสนใจไปที่ Doom Knight


” มีบางอย่างเกิดขึ้นที่อาณาจักรสวรรค์ สายของฉันได้ส่งข้อมูลเรื่องที่พวกนั้นกำลังทำ ฉันเชื่อว่านายได้ดักขบวนของพรีสไว้ได้ตอนที่กำลังไปที่อาณาจักรสวรรค์ใช่รึเปล่า ?”


เดฟ พยักหน้าตอบรับ


” ฉันขอโทษด้วยที่ต้องบอกนายว่ามันมีพรีสมากกว่าหนึ่งคนที่มุ่งหน้าไปที่อาณาจักรสวรรค์ ” – Doom Knight พูดขึ้น


” เราไม่รู้เรื่องนี้แน่นอนนักแต่เราได้คาดการณ์ว่าวิหารตั้งใจจะใช้ผู้หญิงเหล่านั้นในการเรียก Seraph ออกมา “


” แต่เราได้รับข้อมูลสำคัญมีอีกอย่าง “


Doom Knight เงียบไปสักพัก


” Ash King คือคนที่บอกถึงการแลกเปลี่ยนครั้งนี้และเจรจากับพวกนักรบ โบสถ์จะรับปิศาจเข้ามาส่วนหนึ่งด้านบนแผ่นดินนี้และปิศาจก็จะให้โบสถ์เข้าไปยังโลกใต้ดินได้ ตามเงื่อนไขแล้ววิหารจะช่วยให้ Ash King เอาชนะอันเดต ! “


Doom Knight โยนคัมภีร์ให้กับ เดฟ และเขาก็รับมันไว้


” เอานี่ไปให้กับ Delvina เธอจะรู้ว่าต้องทำยังไงกับมัน เราจะส่งข้อมูลนี้ให้กับดินแดนอันเดตต่อ “


[ เควสเพิ่มเติม


คุณได้รับข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอันเดต


แจ้ง Delvina ถึงอันตรายและภัยที่มีต่อดินแดนอันเดต ]


เดฟ รับคัมภีร์มาและรีบไปที่ประตูวาร์ป


” เหี้ย มีมาเรื่อยๆจริงๆ อนาคตไม่ใช่เรื่องสดใสตลอดไปสินะ ” – เขาจับตัวพรีสที่พยายามแก้มัด


เธอคิดว่าเธอจะหนีจากแคมป์ที่เต็มไปด้วย Death Knight ได้ยังไง


เมื่อเดินผ่านประตูออกไปเขาก็ได้ไปถึง Undead Frontier เขามุ่งหน้าไปที่วิหารที่ Delvina ตอนนี้กำลังนั่งอ่านคัมภีร์บางอย่างอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นมาตอนที่ เดฟ เดินเข้ามาในห้อง


” นายพาเธอมาแล้ว ดีมาก ! ฉันรู้ว่านายต้องทำสำเร็จ ! ” – Delvina ชม เดฟ


” ฉันมีข่าวด่วน “


Delvina เห็นถึงความลำบากใจจากน้ำเสียงของเขาและบอกให้เขาพูดต่อ


เดฟ ได้ส่งคัมภีร์ให้กับเธอและรอจนกระทั่งเธออ่านมันจบ


ถึงเธอจะมีสีหน้านิ่งแต่ เดฟ ก็รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปเมื่ออ่านคัมภีร์นั่น


Delvina ตบแขนเก้าอี้แล้วลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ


” นี่มันวิกฤตแล้ว ! ทหาร เรียกคนส่งข้อความมา ! “


Death Knight ตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้องโถงแล้วคุกเข่าต่อหน้า Delvina


” เอานี่ไปให้กับ Lord Samael ! “


” ได้ ! ” – Death Knight ตอบกลับและรีบออกจากห้องไป


” ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง อันเดตต้องเจอกับอันตรายครั้งใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ฉันจะเอาข้อมูลจากพาราดินที่นายเอามาด้วยให้ได้มากที่สุด บางคนต้องรู้เงื่อนไขถึงการร่วมมือกันของโบสถ์กับ Ash King แน่ สำหรับนาย Kis’Shtiengbrah นายต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ ! แค่ Captain มันไร้ค่าเมื่อพบกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ! แข็งแกร่งให้มากกว่านี้ เพื่อตัวนายเองและดินแดนของเรา ! “


เดฟ พยักหน้าตอบรับ


‘ {Life Cleaver} ยังคูลดาวน์อยู่ ฉันจะใช้เวลาที่เหลือไปเพิ่มเลเวลละเตรียมตัวรับการทดสอบหลังจากที่คูลดาวน์เสร็จ ถ้าฉันชนะ ฉันก็จะได้สั่งการอันเดตกว่าพันตัว ! ‘ เดฟ เอามือถูกกันเมื่อนึกถึงอันเดตกว่าพันตัวและสิ่งที่เขาสามารถทำได้เมื่อมีพวกมัน ในใจเขาเริ่มคึกขึ้นเรื่อยๆ


เดฟ เปิดหน้าต่างจัดการลูกน้องขึ้นมาและใช้คะแนนในการชุบชีวิตอันเดตที่โดนมังกรฆ่าไป


เขาสั่งรวมพลแล้วพาพวกนั้นเดินผ่านประตูวาร์ปไปยังพื้นที่ของ Undead Frontier


การเก็บเลเวลอันยาวนานกำลังรอพวกเขาอยู่


Chapter 146 : Azure Basilisk


เดฟ ได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงใกล้กับตีนภูเขาไฟด้านหลังป้อมแดง


มันมี Blood Worm จำนวนมากที่วนเวียนอยู่ที่นั่นซึ่งได้ให้ xp กับไอเท็มดีๆกับเขา


ทีมอันเดตเดินหน้าไปทางตะวันออกของภูเขาไฟและเพิ่งผ่านชายแดนของเขตสองก่อนจะเข้าไปยังพื้นที่ที่ไม่เคยไป


พื้นดินที่นั่นมีดินเป็นสีดำ มันเหมือนกับทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหินและทรายดำโดยไม่มีต้นไม้เลยสักต้น


เดฟ มองเห็นการเคลื่อนไหวอยู่ไกลออกไป


ในตอนที่เข้าไปใกล้พวกเขาก็พบกับสมาชิกสองตัวเผ่าเดียวกันที่กำลังกรีดร้องอยู่ หนึ่งในนั้นเกือบที่จะตายเพราะบาดแผลหนัก มอนเตอร์พวกนี้เหมือนกับกิ้งก่ายักษ์สีฟ้าซึ่งมีหนามสั้นๆโผลมาที่หลังและมีขาแปดข้าง กิ้งก่านั้นมกงเล็บที่กว้างราวกับเคียว หัวของมันเหมือนหัวของกบที่กว้างและมีตามสามเหลี่ยมอีกทั้งปากที่กว้างราวกับฉีกไปถึงหู ตอนที่กิ้งก่าตัวหนึ่งอ้าปากของมันกัดไปที่ท้องอีกฝ่าย มันได้เผยให้เห็นฟันที่แหลมคมหลายแถว เดฟ ไม่มั่นใจแต่มันดูเหมือนมันมีลิ้นยาวๆเหมือนกับกบที่ใช้จับแมลงในอากาศ กิ้งก่านี้มีหางที่ยาวโดยปลายหางนั้นเหมือนกับมีตุ้มหนามอยู่ด้วย แม้แต่ตอนนี้ตัวที่ได้รับบาดเจ็บน้อยกว่าก็ยังฟาดหางของมันไปรอบๆอัดเข้าใส่ตัวที่ล้มอยู่ที่พื้น


Dog พึมพำออกมาราวกับว่านี่คือเสียงดังที่สุดที่เขาทำได้ซึ่งแทบจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำ เดฟ ไม่มั่นใจว่า Dog พูดออกมาจริงๆ คอของชายคนนี้โดนกัดจนหัวหลุดออกมาต้องคอยหนีบเอาไว้ที่แขนแล้วเสียงมันจะดังขึ้นมาจากไหนได้ ?


Bud ที่อยู่ข้างๆคอยช่วยแปลคำพูดของ Dog ให้


” Dog คิดว่า…มันเป็นพาหนะที่ดี ” – Ghoul ตอบกลับด้วยเสียงที่ตะกุกตะกัก


จากนั้น Dog ก็เร่ง Dunlord ที่ตัวเองขี่อยู่นั้นไปหามอนเตอร์ที่สู้กันอยู่


” Dog ! ทำอะไร …? “- เดฟ ถอนหายใจออกมาแล้วตาม Dog ไปก่อนจะหยุดอีกฝ่ายที่นอกระยะความโกรธของมอนเตอร์


เดฟ ทำการตรวจสอบมอนเตอร์ที่ได้รับบาดเจ็บ


[Azure Basilisk]


เลเวล : 400


ระดับความอันตราย : ☠


ดาเมจ : 40,000-60,000


HP : 31,500/400,000


ลดดาเมจ : 50,000


ดูดซับเวทย์ : 40,000


สกิล :


{Tramble : ใช้น้ำหนักตัวในการพุ่งเข้าโจมตี ตอนที่ชนกับศัตรูจะทำดาเมจ 200%และสตันท์เป้าหมาย 3 วินาที }


{Petrifying Gaze : ตอนที่มองไปยังสิ่งมีชีวิต มันจะทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นหินไม่รู้ตัวและไม่อาจจะขยับได้ ถ้ารูปปั้นนั้นแตกไป เป้าหมายก็จะถูกกำจัดไปด้วย}


{Deadly Tail Spin : หมุนรอบตัว 5 ครั้งทำดาเมจใส่ศัตรูโดยรอบด้วยหางของมัน ทำดาเมจ 50% ต่อการหมุนหนึ่งครั้ง}


{Storm of Azure Fangs : หนามที่งอกออกมาจากหลังจะระเบิดออกมาทำการโจมตีแบบ AOE หนามอันหนึ่งนี้จะทำดาเมจ 10% โดยตรงใส่เป้าหมาย คูลดาวน์ 24 ชม. }


คำอธิบาย : ต้นกำเนิดไม่ทราบได้ บางคนบอกว่าพวกมันมายังโลกผ่านพิธีกรรมของปิศาจ บรรพบุรุษของมันสามารถทำการฆ่าได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียวและเพิ่มความปั่นป่วนให้กับทุกที่ สายเลือดของมันปนเปื้อนจึงเสียงพลังไปอย่างมากแต่สายตาของมันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี


หายากที่จะมีคนควบคุมพวกมันได้และพวกที่ทำแบบนั้นได้ก็จะสลักชื่อตัวเองไว้ในประวัติศาสตร์…ในแบบที่น่าอับอาย


เดฟ คิดว่าส่วนที่แปลกที่หนามบนหลังของมันถูกเรียกว่าเขี้ยวรึฟันแต่มันดูใหญ่กว่าฟันในปากของมันอีกต่างหาก


กิ้งก่าตัวที่สองที่ได้รับบาดเจ็บน้อยกว่าและยังมีแรงเหลืออีกเยอะสำหรับการต่อสู้ ในตอนที่พวกเขาเข้ามาใกล้ มันยังทำการขู่พวกเขาอยู่เลย


Bud พูดขึ้นมา – ” Dog ต้องการตัวที่แข็งแกร่งเอาไว้ฆ่า ตัวที่อ่อนแอมาทำพาหนะ “


‘ หือ ฉันคิดว่าฉันเป็นหัวหน้านะ ‘


เดฟ ไม่ได้เถียงกับแผนนี้ เขาเป็นนักสู้ที่ไร้ปราณีและการที่หาอันเดดเพื่อเพิ่มจำนวนคนในทีมได้นั้นก็ยังใช้การไม่ได้ตอนที่เขายังไม่ได้เลื่อนขั้น ตอนนี้เขาได้แต่ยกเรื่องหาคนให้กับอันเดตไร้หัวไปก่อน นอกจากนี้แล้ว xp ก็ยังเป็น xp วันยังค่ำและไอเท็มที่ดรอปลงมาก็ดีอยู่แล้ว


เดฟ หันกลับไปตะโกนกับอันเดตตัวเอง – ” เอาล่ะพวก เนื้อพร้อมแล้ว ! มาดูกันว่ารสชาติมันจะเหมือนกับไก่รึเปล่ “


Dunlord พุ่งเข้าใส่กิ้งก่าจนทำให้มันเซแต่ก็กลับมายืนได้อย่างรวดเร็วด้วยการใช้ขาทั้งแปดประคองตัวเองเอาไว้


กิ้งก่าตัวที่บาดเจ็บได้ใช้โอกาสนั้นในการหนีทันที


Dog ไม่ทิ้งโอกาสนั้น เขาโดดลงจากหลัง Dunlord แล้ววิ่งไล่ตามกิ้งก่าโดยเอาหัวต่อที่คอเตรียมพร้อมที่จะสู้


เดฟ พยายามเรียก Dog กลับมาแต่เขาไม่ได้รับความสนใจเลย Dunlord ที่ไร้คนขี่ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เดฟ สั่งการมันไว้ให้ดูแล Dog และตอนนี้มันก็ได้หยุดพักเมื่อ Dog วิ่งออกไปสู้กับกิ้งก่าเอง


” บ้าเอ้ย Dog ! ” – เดฟ ตะโกนขึ้นมาแล้วก็ส่ายหน้าสั่งให้ Dunlord ของ Dog เข้าไปสู้ด้วย


Dunlord ยิ้งหน้าไม้พร้อมกับทำการล้อมกิ้งก่าเอาไว้พร้อมกับย่นระยะลงมาเรื่อยๆ กิ้งก่าหมุนตัวเพื่อใช้หางโจมตีอันเดตที่เข้ามาใกล้


เดฟ สั่งการ Stinger ให้พุ่งเข้าไปพร้อมกับยกก้ามมันขึ้นโจมตี


[-12,550]


ด้วยดาเมจที่ได้รับกิ้งก่าจึงคำรามใส่อันเดตโดยรอบ อยู่ๆแสงจากตาของมันก็ส่องประกายสีเหลืองออกมา


เดฟ ปิดตา Stinger ด้วยมือของเขาแล้วตะโกนขึ้นมา – ” Dunlord ! อย่ามองที่ตาของมัน ! “


ต้องขอบคุณที่เขาสั่งการได้ทันและหลีกเลี่ยงอันตรายจากสายตาของกิ้งก่าได้


พวกอันเดตไม่ต้องหันหนีสายตาของกิ้งก่า พวกมันไม่จำเป็นต้องทำ


[ การแข็งเป็นหินถูกต้านทาน ! ]


” ฮ่ะ ! ไม่ได้ผลกับอันเดตโว้ย ! “- เดฟ หัวเราะออกมา เขาทำการเรียกหัวกะโหลกออกมาสองอันและส่งมันไปที่ตาของกิ้งก่าก่อนจะดีดนิ้วทำการระเบิดมัน


[ คุณได้ทำให้ Basillisk ตาบอด ! เป็นเวลา 10 วินาที ]


กิ้งก่าคำรามออกมาและสะบัดตัว ตัวของมันขยายขนาดขึ้นราวกับปลาปักเป้าและมีหนามระเบิดออกมาจากหลังของมัน พายุหนามสีฟ้าได้ถูกยิงออกมาโดยรอบ


อันเดตส่วนมากนั้นรอดมาได้มีแค่ไม่กี่ตัวที่โดนหนาม 3-4 อันปักเอาและทำให้มันตายทันที


นักเวทย์ได้ทำการฮีลอันเดตที่ได้รับบาดเจ็บและจากนั้นก็เข้ามาร่วมมือในการฆ่ากิ้งก่า


เดฟ โยนยาฟื้นฟูให้กับพวก Dunlord


” ฉันสงสัยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนที่ Delvina จะเปลี่ยนพวกพาราดินมาเป็นตัวฮีลให้ฉันได้ “


ในตอนที่ฟื้นฟูเลือดเสร็จและจัดการกิ้งก่าไป เดฟ ก็เดินหน้าเข้าไปรับไอเท็มที่มันดรอปลงมา

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม