Rise of The Undead Legion 132-138
Chapter 132 : หัวกะโหลกเต็มไปหมด
เขาโบกอมือพร้อมกับหัวกะโหลกสองอันโผล่ขึ้นมา
ในตอนที่เขาหลบการโจมตีจากปีศาจ เดฟได้ส่งหัวกะโหลกทั้งสองอันผ่านกำแพงกระจกและได้มีหัวกะโหลก 16 อันโผล่มาจากรอบๆห้อง เดฟสั่งหัวกะโหลกครึ่งหนึ่งเข้าโจมตีเดฟและอีก 8 อันกลับเข้าไปในกำแพง
การโจมตีจากกะโหลกนี้ทำให้ปีศาจเซโดยรวมไปถึงหัวกะโหลกที่โผล่มาจากำแพงด้วย หัวกะโหลก 64 อันที่โผล่มาในกำแพงแต่ละด้าน เดฟอาศัยช่วงนี้ในการหนีการไล่ตามจากปีศาจไปยังอีกด้านของห้อง เขาเริ่มเปลี่ยนทิศฝูงกะโหลกใช้บางส่วนโจมตีปิศาจ เขาดูคล้ายกับนักบรรเลงที่คอยชี้ไม้และโบกมือและดีดนิ้ว
ไม่นานเขาถึงกับไม่เห็นปีศาจเมื่อมองลอดผ่านฝูงหัวกะโหลกแต่เขาก็ได้ยินเสียงมันร้องออกมาด้วยความคลั่งดังยิ่งกว่าเสียงระเบิดที่เขาส่งเข้าโจมตีมัน
หัวกะโหลกนี้ไม่ได้ทำดาเมจเลยแม้แต่หลักเดียวแต่มันทำให้ปิศาจเซได้
เดฟยิ้มออกมาและมองดูเวลานับถอยหลังพร้อมกับใช้หัวกะโหลกเหล่านี้เป็นเครื่องป้องกัน
ในตอนที่วินาที่สุดท้ายหมดลง เขาก็ได้สั่งหัวกะโหลกให้ถอยออกมาจากทางที่คั่นกลางระหว่าง เดฟกับปีศาจ
จำนวนหัวกะโหลกที่เพิ่มขึ้นมาในทั้งสองด้านนี้น่ากลัว ปิศาจมองไปที่หัวกะโหลกเหล่านั้นด้วยท่าทีสับสนแต่ในตอนที่มันเห็นปิศาจที่อยู่อีกด้าน ความสับสนของมันก็หายไปและก็ได้คำรามออกมาก่อนจะพุ่งเข้าใส่เดฟ
เดฟยิ้มออกมาพร้อมกับลูบหนวดแล้วกางแขนทั้งสองข้างออกราวกับต้อนรับปีศาจอยู่
ปีศาจพุ่งเข้าใส่เดฟด้วยความคลั่ง อยู่ๆเคียวบนหัวของมันก็เหวี่ยงลงมาตัดหัวของปีศาจออกในทันที
ร่างกายที่ไร้หัวล้มลงกับพื้นและหยุดอยู่ตรงใต้เท้าของเดฟ
มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
[ xp +15,000,000 ! ]
[ เลเวลเพิ่ม ! ]
[ เลเวลเพิ่ม ! ]
[ เลเวลเพิ่ม ! ]
เลเวลของเดฟเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต้องขอบคุณ xp ที่เพิ่มขึ้นมาจากลูกปัดที่ Alfred ให้เขามา ตอนนี้ตัวละครเขาเลเวลเพิ่มขึ้นถึง 66 แลเวล ! ตอนนี้เลเวลเขากระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 216 ในทีเดียว !
นี่คือผลดีของการฆ่ามอนสเตอร์เลเวลสูงที่ xp เป็นของเขาคนเดียว ไม่ต้องมาคอยมารับ xp จากการสนับสนุน นี่เป็นของเขาเต็มๆ
ร่างกายของปีศาจเริ่มสลายไปเหลือของทิ้งไว้เพียงสองอย่าง
[Demon General’s Token]
[Immature Pygmy of Fire]
มันดูแล้วน่าสนใจแต่ของอย่างที่สองนั้นทำให้เขาตื่นเต้น
[Immature Pygmy of Fire]
ไฟที่สามารถสร้างการทำลายล้างได้แต่เมื่อมันเติบโตมันสามารถเปลี่ยนเป็นตัวตนแห่งไฟของความวุ่นวายซึ่งแรงพอที่จะเผาทั้งโลกได้ !
การเติบโต 33%
” นี่อาจจะทำให้ปีศาจมันคลุ้มคลั่งจนแม้แต่ราชาของมันก็ไม่ต้องการมันอีกต่อไป “
ทั้งห้องเริ่มสั่นไหวและภาพใบหน้าของปิศาจไฟที่ดุร้ายก็ได้ปรากฏขึ้นมาในห้องโดยมันมองมาที่เดฟ
ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นในตัวเขา เดฟถึงกับผงะออกมา เขาตรวจสอบมันโดยไม่รู้ตัว
[Avatar of the Ash-King]
เลเวล : 900
ระดับความอันตราย : ตายแน่นอน !
???
ขนหลังคอเขาลุกขึ้นมาในตอนที่ปิศาจตรงหน้าเริ่มพูด
” แกได้เอาสิ่งที่ไม่ใช่ของแกไป ไอ้แมลง ! ฉันจะเอาของฉันกลับคืนมาไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตามด้วยความเจ็บปวดและความทรมานทางวิญญาณของแก !!!! ”
ถ้าตัวละครเขามีการทำงานแบบปกติของร่างกายทั่วไป งั้นเรื่องนี้คงจบไม่สวย
ใบหน้าของปีศาจได้คำรามออกมาแล้วอ้าปากพุ่งเข้าใส่เดฟ กลืนกินเขาไปในทีเดียว เขามีเวลาแค่หลับตาโดยไม่อาจจะต่อต้านมันได้แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขายังอยู่ในห้องเดิม การโจมตีนี้แค่เป็นภาพจำลอง ปิศาจได้หายไปโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับเขา
มันเป็นลูกไม้ที่เด็กทั่วๆไปเคยใช้แกล้งเพื่อน
หัวใจเดฟกลับไปเต้นปกติเมื่อตระหนักได้ว่าเขาหนีจากภัยพิบัติได้แล้ว
” นั่นคือ Ash King ….”
เดฟสูดลมหายใจเข้าลึกๆและตรวจสอบของที่เขาได้มาจากปีศาจ
[Demon General’s Token]
Ramsha ผู้พิทักษ์แห่งโลกใต้ดินอยากแลกเปลี่ยนของชิ้นนี้ ไปพบกับ Ramsha เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งนี้
” หือ สำหรับระยะเวลาที่เขาได้เป็นผู้พิทักษ์ของโลกใต้ดินมา เขาได้ฆ่าปีศาจและมอนสเตอร์อื่นๆไปจำนวนมาก เขาต้องเก็บของดีๆไว้แน่และฉันก็จะเอาไอ้นี่ไปแลกกับเขา “
เดฟมองไปรอบๆและพบกล่องแปดเหลี่ยมที่ตอนนี้วางไว้บนพื้นหินขัดเงาที่ตำแหน่งเดิม
” แล้วจะจัดการกับไอ้นี่ยังไง ? “
Chapter 133 : CONQUEST RIGH
เดฟยังมีกุญแจอยู่แต่ก่อนที่เขาจะได้ลองสอดมันเข้าไปในรูทั้งแปดอีกครั้งเขาก็ทำการคิดทบทวน
‘ ฉันต้องใช้กุญแจอย่างน้อย 8 อัน…..คัดลอกผ่านกระจกได้รึเปล่า ? ‘ เดฟ หันไปที่กำแพงก่อนที่จะโยนกุญแจเข้าไป
กุญแจได้เด้งออกมาจากผิวกระจก
” หือ เดาว่ามันง่ายเกินไปหน่อยแหะ ” – เขาหันกลับมาที่กล่อง เขาเห็นว่าเมื่อหันกลับไปกระจกจะสะท้อนว่าเขากำลังถือกุญแจเอาไว้แต่ตัวกล่องนั้นไม่ได้แสดงภาพออกมาในกระจกเลย
เดฟเดินเข้าไปใกล้กล่องเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้บังกระจกจากกล่อง จากนั้นเขาก็ยืนข้างๆเพื่อในตอนที่ใส่กุญแจเข้าไปในรูหนึ่งของกล่อง ภาพสะท้อนของเขาจะได้ดูเหมือนว่าสอดกุญแจเข้าไปในรูทั้งแปดของกล่อง
ในตอนที่เดฟบิดกุญแจนั้น กล่องก็ได้เปิดออก ด้านในนั้นมีของสองอย่าง อย่างแรกเป็นรูนสีฟ้าที่ต่างจากรูนแห่งความวุ่นวาย
เดฟได้ตรวจสอบมันดู
[Azure water Rune ( Legendary)]
รูนทรงพลังที่พบกับการปนเปื้อนจากพลังงานปั่นป่วนซึ่งทำให้พลังของมันลดลงไป
สามารถใช้กับเซ็ต Chaos Rune เท่านั้นถึงจะได้ผลดีที่สุด
” งั้นนี่ก็เป็นวิธีรับมือผลเสียจากรูน Chaos ฉันคิดว่ามันน่าจะถูกทิ้งไว้ที่นี่เพื่อจำกัดแรงของพลังงานปั่นป่วนในพื้นที่นี้ “
ของอย่างที่สองนั้นเป็นซองจดหมายที่ห่อไว้อย่างดี ในตอนที่เดฟเปิดมันนั้นก็ได้มีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเขา
[ สิทธิแห่งการพิชิต !
อาณาจักรตะวันออก
อาณาจักรแห่งสวรรค์ ! ]
มันมีการแจ้งเตือนตามขึ้นมาอีกอัน
[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ : ยินดีให้กับ Kis’Shtiengbrah สำหรับการได้สิทธิในการพิชิตอันแรกของเขตตะวันออก !]
” ไม่มีทาง ! “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทีมนักพัฒนาของเกมถอนหายใจออกมาพร้อมกับพิงหลังที่เก้าอี้และจิบกาแฟด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวและหม่นๆ เขาดื่มเขาดื่มมันเป็นกาแฟดำเพราะถ้าเขาดื่มแบบที่เขาชอบ ท้องของเขาจะปั่นป่วน งานนี้ไม่ได้คุ้มค่าเท่าไหร่ แม้ว่าจะดูดีแต่มันเครียด ! และมีปัญหามากมาย ! Conquest เป็นเกมที่มีระบบขนาดใหญ่รึบอกได้ว่าโคตรจะใหญ่เลย
เขาได้แต่รับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยวิธีรับมือทั่วไปและมันไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะทั้งหมดคือความรับผิดชอบของเขา
AI ที่จัดการกับ AI ทั่วไปนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระบบอย่างเกม Conquest เกมนี้มีขนาดใหญ่อย่างมากซึ่งจะทำงานไม่ได้เลยถ้าขาด AI เข้ามาช่วยจัดการในบ้างด้านเพื่อช่วยผู้เล่นในเรื่องระบบของเกม AI ส่วนมากในเกมนั้นทำงานอยู่เบื้องหลัง
เขาส่ายหน้าแต่ช่วงหลังๆมันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัว AI หลักของเกมรึที่เขาเรียกมันว่า Alfred ที่ถูกเขียนโค้ดมาให้เน้นความสมดุลของตัวเกมและกลไกของเกม ระดับการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นคือสิ่งจำเป็นในการสร้าง AI นี้ขึ้นมาเพื่อให้มีความสมจริงของมนุษย์มากยิ่งขึ้น หากไม่มีมันรึเทียบได้กับ AI ทั่วไป ตัว AI นี้คงไม่สามารถเน้นการทำงานหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดรึบางทีอาจจะทำแบบนั้นไม่ได้
แต่ไม่ว่า AI จะมีระดับสูงแค่ไหนแต่มันก็ยังไม่ใช่มนุษย์อยู่ดี มันมักจะมีความขัดแย้งของโค้ดซึ่งแสดงออกมาทางคำพูดและพฤติกรรมของ AI แม้ว่าจะไม่ค่อยมีความผิดปกติแต่แน่นอนว่าทุกๆช่วงเวลาทีมช่างมักจะต้องเข้ามาตรวจสอบและทำการรีเซ็ตมันใหม่เพื่อเป็นการปรับปรุง AI
หลังๆมานี้บางอย่างมักจะแจ้งเตือนขึ้นมา ตัว AI ช่วงนี้มักจะแจ้งเตือนข้อผิดพลาด AI ได้ผิดพลาดหรือการพัฒนาตัวเอง ทีมได้ทำการตรวจสอบโค้ดและทำการเขียนโค้ดขึ้นมาดูแลเป็นอาทิตย์แต่สุดท้ายปัญหาการปรับตัวเองของ AI ก็ยังกลับมาอยู่ดี
มีบางอย่างได้ไปเปลี่ยนแปลงโค้ดตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ต้องใช้เวลาเท่ากับนักพัฒนาคนหนึ่งทำงานทั้งชีวิตในการแก้ไขมันแต่พวกเขาก็ยังหาต้นตอของปัญหาไม่พบ พวกเขาได้แต่แก้ไปตามอาการหลังจากที่เกิดปัญหาขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แน่นอนว่าฝ่ายบัญชีมักจะตั้งคำถามถึงการทำงานของพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาแค่ต้องรอให้ครบ 5 ปีก่อนจะลาออกเพื่อให้ได้รับเงินชดเชย จากนั้นเขาก็จะไปหางานอย่างอื่นทำโดยไม่ต้องมาเครียดแบบนี้
Chapter 134 : วุ่นวายเกินไป
เดฟถือซองจดหมายด้วยมือที่สั่นและอ่านมันอีกครั้ง ตอนที่อ่านครั้งแรกนั้นเขายังไม่เข้าใจมัน มันมีหลายอย่างเข้ามาในหัวของเขา
สิทธิของการยึดครอง ! นี่มันมหาศาล ! มันจะเกิดการตอบโต้มากมาย ตอนนี้อาจจะเกิดการพูดคุยกันในทุกช่องทางที่เกี่ยวข้องกับเกมแล้วก็ได้
ในตอนที่เขากำลังจะเก็บซองจดหมายนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
” นายได้มันมาจากไหน ? ! นายได้มันมายังไง ? ! ” – เสียงของ โซว์ ดังขึ้นมา เสียงของเธอทำให้ เดฟปวดหู !
” บ้าเอ้ย Lone เควส โอเคมั้ย ? เควส ไอ้นี่มันคงสร้างปัญหาให้ฉันแน่ๆ “
” นายหมายความว่าไง ? ” – โซว์ ถาม
” พวกกิลด์อื่นจะไม่หยุดจนกว่าพวกเขาจะได้คัมภีร์นี่ไปเป็นของตัวเอง ไอ้นี่น่ะมันมีค่ามากว่าการเข้าออกโลกใต้ดินรึดินแดนอันเดตอีก คัมภีร์นี้คือกุญแจสู่อาณาจักรตะวันออก ใครที่ได้มันไปจะได้ประตูวาร์ปทุกแห่ง,คนและการก่อตั้งกองทัพตะวันออก, ตำแหน่งและแผนการสำหรับฐานและที่มั่น, รายชื่อทรัพยากรต่างๆในเขตและทุกอย่างที่ประกาศนี่ก็เพื่อช่วยศัตรู คนที่มีมันน่ะจะได้ปกครองเขตนี้ มันให้ฐานะทางสังคม, การเงินและการควบคุม นั่นคือสิ่งที่ฉันจำได้ ฉันยังไม่ได้ศึกษามันดีๆ มันจะทำให้ทุกคนในเกมอยากได้มัน เอาไปจากฉัน ฉันตกที่นั่งลำบากแล้ว “
โซว์ เงียบฟังอยู่นานจนเขาคิดว่าสายตัดไปแล้ว จากนั้นเธอก็ได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ดูตื่นเต้น – ” แต่นายก็ปลอดภัยในโลกใต้ดิน ไม่มีใครไปหานายรึสิทธินั่นได้ถูกมั้ย ? “
” ตอนนี้ก็ใช่แต่มันไม่ได้มีค่าอะไรกับฉัน มันก็แค่ต้นตอของปัญหา ” – เดฟพูดขึ้น
” งั้นกำจัดมันซะ ! ขายมัน ! ” – โซว์ พูดขึ้น
” นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด ฉันคงต้องคุยกับ Perfect Shot “
” ฉันได้รับสายจากเพื่อนใน Devastators พวกรู้ว่าฉันติดต่อหานายได้ “
“ฉันจะทำการประกาศเรื่องสิทธินี่ให้ “
” ดี พวกนั้นจะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที “
” แล้วคุยกัน ” – เดฟวางสายแล้วกดโทรอีกเบอร์
” Perfect ” – เดฟถาม
” ว่าไงพวก ! นายจะส่งวิดีโอที่นายได้ [Right of Conquest] มาหรือไง ? “
” ประมาณนั้น ฉันจะส่งวิดีโอให้นาย ฉันตัดสินใจจะเอาสิทธินี่ไปประมูล ฉันจะบันทึกการประกาศเรื่องการประมูล คิดว่านายจะให้พ่อฉายวิดีโอนี่ได้มั้ย ? “
” เพื่อน ! นายจะขายสิทธิในการยึดครองอาณาจักรเหรอ ? ! หือ เดี๋ยวนะ…ฉันไม่คิดแบบนั้น การยึดครองอาณาจักรจะกินเวลานานและมีขั้นตอนอีกเยอะ ใช่ ฉันเข้าข้างนาย การขายมันคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว “
” เหอะ ฉันรู้ว่านายจะเข้าใจ Perfect ใช่สิ คนเราคิดว่ามันเหมือนกับการยกมงกุฎให้แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ มันเป็นโอกาสในการยึดครองอาณาจักร คัมภีร์นี้แค่ให้คำอนุญาตจากระบบและความช่วยเหลือ มันต้องใช้ทรัพยากร,คนและเวลาจำนวนมาก มันจะมีการทำงานอีกเยอะและฉันคงทำไม่ได้แล้วยังไม่ต้องการยุ่งกับเรื่องนี้ด้วย “
” ฉันเห็นด้วย มันไม่ได้สนุกเลยสักนิด อย่างน้อยก็สำหรับคนแบบเรา เอาล่ะพวก มันไม่น่ามีปัญหาอะไรกับการประกาศของนายในส่วนท้ายวิดีโอการผจญภัยหรอก ฉันจะให้พ่อรับรองมันและจัดการเรื่องที่เหลือให้นายเอง “
” ขอบคุณมาก ไว้เจอกัน “
” ได้ ไว้เจอกัน “
เดฟเดินไปยืนที่หน้ากระจกก่อนจะเรียกหัวกะโหลกออกมาส่งเข้าไปในกำแพงเพื่อเพิ่มจำนวนมัน
สุดท้ายเขาก็มีหัวกะโหลกนับร้อยอันด้านหลังเขา กองทัพหัวกะโหลกนั้นมองไปที่กำแพงตรงหน้าเขา
เขากระทืบพื้นพร้อมกับใช้ {Death Surge}
เงาได้แผ่ออกจากใต้เท้าเขาแล้วปีนขึ้นมาที่ขา, ท้องก่อนจะห่อหุ้มตัวเขาไว้ราวกับออร่าแห่งความตาย เขาดูคล้ายกับนักบุญในตำนานของคริสยกเว้นแค่รัศมีสีทองรอบตัวเขาที่ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดแทน
จากนั้นเขาก็ทำการถ่ายวิดีโอ
” สิทธิการยึดครอง ” – เดฟพูดกับตัวเองในกระจก
” การจะได้มัน พวกนายต้องแข่งกันเพื่อให้ได้มันมา “
” แต่มันใช่เรื่องป่าเถื่อนอย่างการต่อสู้ “
” วันนี้ตอนเวลา 22.00 น.ของชิ้นนี้จะถูกวางประมูล ไม่ว่าใครในเกมก็สามารถที่จะประมูลมันได้ “
เดฟ สะบัดมือพร้อมกันคัมภีร์ที่หายไป ผลของ {Death Surge} ได้หมดเวลาลงก่อนที่เขาจะดีดนิ้วให้หัวกะโหลกทุกอันนั้นเปล่งแสงออกมาแล้วระเบิดออกราวกับพลุไฟ
วิดีโอได้จบลง
เดฟทำการเช็ควิดีโอประกาศและตัดสินใจว่ามันคือสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ เดฟได้ออกจากห้องแปดเหลี่ยมและมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องหลักซึ่งที่มีอันเดตของเขารออยู่
” เอาล่ะพวก เราต้องเก็บกวาดกันแล้ว ! มันยังมีพวกหนอนอยู่รอบๆด้านหลังกำแพง จัดการเคลียร์ที่นี่เพื่อที่จะได้ออกไปให้เร็วที่สุด “
เดฟกระโดดขึ้นหลัง Stinger และทีมของเขาก็ได้มุ่งหน้าออกไปเพื่อเคลียร์มอนสเตอร์ต่อ
เขานำทีมค้นหาตามเหมืองเพื่อตามหา Blood Worm ตัวที่เหลือ
หลังจากที่เดินทางไปทั่วทั้งเหมือง เขาก็พบว่ามีอีกหลายเส้นทางที่นำลึกเข้าไปในเหมืองอีก
มันคือเส้นทางที่เกิดจากหนอนซึ่งซุ่มโจมตีพวกเขาแต่หลังจากที่ตรวจสอบดูแล้ว เขาก็พบว่าเส้นทางเหล่านั้นถูกปิดด้วยหินเลือดของถ้ำไปแล้ว
เขาทำการเดินตรวจไปทั่วจนกระทั่งมั่นใจว่าเหมืองนี้ไม่เหลือมอนสเตอร์และคนเหมืองมาขุดแร่ที่นี่ได้แล้ว
ในตอนที่โผล่ออกมาจากเหมืองสางจากดวงจันทร์ได้สาดลงมาจนเขาต้องยกมือขึ้นป้องตาตัวเองไว้
” เหยื่อ ! ” – Bud พูดขึ้นแล้วชี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเหมือง
หนอนเลือดจำนวนหนึ่งได้พุ่งเข้ามาหาพวกเขา
” เตรียมพร้อมไว้ ! ” – เดฟตะโกนแล้วเริ่มการสังหารโหดกันอีกรอบ
ตอนที่ Perfect Shot ได้วิดีโอไป เขาก็ได้ทำการดาวน์โหลดแล้วดูมัน หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาพร้อมกับส่ายหน้า
” ฉันต้องจ่ายให้เขาล่วงหน้าสำหรับวิดีโอนี้ “
Perfect Shot ส่งวิดีโอกลับไปให้พ่อตัวเองเพื่อยืนยันการจ่ายเงินก่อนจะส่งไปให้ทีมตัดต่อ
เดฟที่อยู่บนหลัง Stinger เดินหน้ากลับไปยัง Red Fortress เขาได้รับแจ้งเตือนเควสเสร็จสิ้นไม่นานหลังจากที่ออกจากพื้นที่รอบเหมืองมา เขายิ้มกว้างออกมาในตอนที่มุ่งหน้ากลับไป
พวกเขาได้เดินข้ามสะพานเข้าไปยังป้อมก่อนจะมุ่งหน้าไปยังตึกที่ใหญ่ที่สุดในป้อมปราการ
เดฟเข้าไปในห้องโถงซึ่งมีโต๊ะยาวตั้งอยู่ใจกลางห้อง โต๊ะนี้ดูคล้ายกับเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ ห้องโถงได้รับการตกแต่งใหม่โดยมีรูปปั้นและภาพของ Undead King ประดับอยู่เต็มไปหมด
” Du’Razha ! ” – เขาทักทาย Doom Knight ที่กำลังอ่านคัมภีร์บางอย่างอยู่
” Kis’Shtiengbra นายกลับมาเร็วดีนิ ภารกิจเป็นยังไงบ้าง ที่เหมืองเคลียร์พวกมอนสเตอร์เสร็จหรือยัง ? “
” ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เหมืองจัดการเรียบร้อย นายส่งคนเหมืองไปที่นั่นได้เลย มันมีบางพื้นที่ที่หินขวางทางอยู่ซึ่งฉันไม่อาจจะเข้าไปได้ “
” มันไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เราจะส่งอันเดตเข้าไปในเหมือง เราต้องการหินเลือดพวกนั้นสำหรับดินแดนอันเดต ส่วนแบ่งของนายจะถูกส่งมาที่นี่ นายสามารถแลกเปลี่ยนมันกับดินแดนอันเดตรึแลกเปลี่ยนมันกับ Ramsha โดยตรงได้เลย ” – Du’Razha พูดขึ้น
” ฉันได้ส่วนแบ่งด้วยเหรอ ? ” – เดฟตะลึง
” นายคือผู้สั่งการของป้อมแดง หุ้นของนายรวมถึงพื้นที่ในเหมืองด้วย ดังนั้นเป็นธรรมดาที่นายจะได้ส่วนแบ่งจากหินพวกนั้น “
Du’Razha หัวเราะกับสีหน้าของเดฟ
” แล้ว Orn กับ Gale ไปไหนแล้ว ? “- เดฟถาม
” ด้านหลังนาย ” – Du’Razha พูดขึ้น
เดฟหันกลับไปมองและพบ Doom Knight สองตัวปรากฏตัวขึ้นมามองมาที่เขาด้วยสีหน้าสงสัย
” เราจะดินทางไปยังโลกของคนเป็น ” – เดฟพูดขึ้น
” เราจะปกป้องนายจนกว่าเราจะตายแต่ถ้านักฆ่านั่น…” – ก่อนที่ Orn จะพูดจบ เดฟก็ขัดขึ้นมา
” ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้เราจะไปที่อื่น บางที่ที่คนน้อยกว่า
” เดี่ยวนะ Kis’Shtiengbra ” – Du’Razha หยุดเดฟ
” นายแข็งแกร่งกว่าครั้งที่แล้วที่ฉันพบนายเยอะเลย นายจะเลื่อนยศมั้ย ? นายสามารถทำได้หลายอย่างตอนที่นายขึ้นเป็น Death Knight ” – Du’Razha พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
Du’Razha รับปากกับเขาไว้ว่าจะรับเขาเข้าหน่วย เขาจะได้เป็นหัวหน้าทีมที่มีลูกน้อง 10 ล้านตัว
” ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ! ” – เดฟ เปิดหน้าต่างกองทัพและพบว่าเขามีสิทธิขึ้นเป็น Death Knight ได้แล้ว เขาแค่ต้องเอาชนะ Death Knight ในสนามต่อสู้เพื่อเลื่อนขั้นตัวเอง
แต่ด้วยความต่างของเลเวล ปกติแล้วมันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเดฟที่เลเวล 216 จะสามารถเอาชนะ Death Knight เลเวล 300+ ได้
‘ เมื่อวานฉันต้องรอจนกว่าเลเวลจะ 300 ก่อนที่จะขึ้นท้าทายการเลื่อนขั้นแต่ตอนนี้ฉันรู้ว่าฉันเอาชนะ Death Knight ได้แล้วด้วย {Life Cleaver} ถ้าฉันอดทนและระวังพอ แย่หน่อยที่สกิลนี้ไม่ได้ผลกับระดับ Mythic รึสูงกว่านั้นไม่งั้นแล้วการเลื่อนขั้นคงง่ายกว่าเดิมเยอะ ! ‘
เขามองไปที่ Du’Razha แล้วพยักหน้า – ” ฉันจะไปท้าทาย Death Knight หลังจากที่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ “
เขาเอาคัมภีร์วาร์ปออกมาแล้วฉีกมันออกเพื่อเปิดการทำงานหลังจากที่ส่งให้กับ Doom Knight ทั้งสองตัวด้านหลังเขา
Chapter 135 : เกินจะรับไหว !
เดฟโผล่มาที่ Moria
เขาไม่ได้ต้องการจะมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงของ Devastators เพราะเขารู้ว่าตอนที่วิดีโอที่ Perfect Shot ได้ถูกฉาย มันจะมีนักฆ่ามากมายที่มาไล่ตามเขาโดยเฉพาะพวกจาก Blood Rage และ Heaven’s Dawn อีกอย่างแล้วมันยังมี Mercy ที่ซึ่งเดฟไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นักด้วย
เดฟโผล่มาที่ใจกลางเมืองที่ห่างไกลและเดินไปยังห้องประมูลโดยมี Doom Knight สองตัวที่เดินตามราวกับคนคุ้มกัน
ห้องประมูลนี้อยู่ห่างจากไกลจากคำว่าสง่าและสวยงามเหมือนกับสำนักงานของ Devastators
ตอนที่อันเดตทั้งสามได้เข้าไป NPC สองตัวที่คุ้มกันหน้าประตูก็ลนลานและตัวแข็งทื่อไปทันที
เดฟเดินผ่านพวกนั้นโดยไม่ชายตามองอีก
มันมีผู้เล่นสองคนที่ทำการซื้อของในห้องประมูลอยู่ ตอนที่พวกนั้นเห็นอันเดต พวกนั้นก็อึ้งแต่หลังจากนั้นก็รู้ว่านี่คือ Mr.Skeletal หนึ่งในนั้นได้เริ่มอัดวิดีโอ เดฟและอีกคนทำการส่งข้อความ
ตอนที่เดฟไปถึงเคาเตอร์สีหน้าของผู้ดูแลก็ซีดขาวทันที
” ฉันมีของจะเอาขึ้นประมูล “- เดฟพูดขึ้น
ผู้ดูแลทำการรวบรวมสติและทำงานอันคุ้นเคยของตนทันที
” อยากจะเอาอะไรขึ้นประมูล “
เดฟกดไปที่คัมภีร์สิทธิในการยึดครองให้กับ NPC และบอกให้เริ่มทำการประมูลตอน 22.00 น.
อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาประมูล
NPC รับไอเท็มมาแล้วทำการตรวจสอบมันก่อนจะมองมาที่เดฟ
” ถ้านายต้องการ เราทำการประกาศจากเซิฟเวอร์แจ้งให้ทุกคนรู้ถึงไอเท็มนี้ว่าจะเอาขึ้นประมูลได้ นี่คือไอเท็มพิเศษอย่างมาก มันสมควรได้รับการดูแลแบบพิเศษ “
” ค่าบริการเท่าไหร่ ? “
” เราจะหัก 1% จากราคาที่จบประมูล ฉันอาจจะเพิ่มการบริการอย่างการรับประกันทางกฎหมายและการเก็บเงินไว้ด้วย…เผื่อว่ามีปัญหากับผู้ที่ชนะการประมูล “
” เอาแบบนั้นแหละ ” – เดฟพูดขึ้น
[ประกาศจากเซิฟเวอร์ : Right of Conquest อาณาจักรทางตะวันออก( อาณาจักรสวรรค์)ได้ถูกนำขึ้นประมูล
เปิดเริ่มต้น 1 G
การประมูล Right of Conquest สามารถทำได้ที่ประมูลใดก็ได้ ]
ในตอนที่เดฟตั้งใจจะออกจากห้องประมูลไป เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นมา
” เดี๋ยว ! “
เขาหันกลับมาพร้อมกับขมวดคิ้ว
” Mercy “
มันเป็นนักฆ่าชุดขาว Doom Knigth ทั้งสองได้ชักดาบออกมา พวกเขาจำนักฆ่าในชุดขาวนี้ได้ เธอเกือบจะฆ่าเจ้านายของพวกเขา พวกเขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก !
แต่เดฟยกมือขึ้นห้ามทั้งสองเอาไว้
‘ เธอมาที่นี่เร็วแบบนี้ได้ยังไง ? ‘
เดฟมองไปที่ผู้เล่นสองคนที่ตามเขาออกมาจากห้องประมูล พวกนั้นมองกลับมาที่เขาอย่างกังวลเหมือนกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิดก่อนจะหันกลับไปมอง Mercy
” เธอต้องการอะไร ? ” – เขาถามด้วยท่าทีหมดความอดทนพร้อมกับคัมภีร์วาร์ปที่ปรากฏขึ้นในมือ
” ครั้งที่แล้วที่เราเจอกัน นายรู้ว่าฉันเป็นใคร นายเป็นใครกันแน่ ? และนายรู้จักฉันได้ยังไง ? “
เดฟพูดด้วยเสียงเย็นชา – ” ฉันไม่สนที่จะตอบคำถามจากคนที่พยายามจะฆ่าฉันโดยเฉพาะคนแบบเธอ “
” นี่มันหมายความว่าอะไร ? นายคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหนกัน ? ฉันไม่รู้จักนาย นายคิดบ้าอะไรอยู่ถึงได้มาตัดสินฉันและทำราวกับว่าตัวเองดีกว่าฉัน ? ! ” – Mercy ตะโกนขึ้น เธอโกรธจากคำพูดของเดฟ
เดฟส่ายหน้าระงับความโกรธของตัวเองแล้วตอบกลับด้วยการกัดฟันแน่น – ” วันที่ 6 มกราคม เฟอรารี่สีแดง ผ่านเที่ยงคืนมาแล้วที่ถนนในโมย่ารัฐเพนซิวาเนีย นั่นคือที่ฉันรู้เกี่ยวกับเธอ “
เด็กสาวแสดงสีหน้าช็อกออกมา – ” ฉัน….นะ….นั่นเป็นนายเหรอ…? “
เดฟพยักหน้า
” ฉะ…ฉันรู้ว่าฉันผิดแต่พ่อฉันแก้ไขมันแล้ว เขาจ่ายค่าตอบแทนให้นายแล้วสำหรับสิ่งที่นายทำ มันเป็นความผิดของฉัน ตะ..”
” ค่าตอบแทน ? ! เธอส่งลูกน้องมาขู่ฉันด้วยปืน ในโรงบาล ! ฉันเสียงาน ! ฉันพิการเพราะเธอ ! เงิน 20,000 จะมาตอบแทนได้มั้ย ? เธอคิดว่านั่นเป็นรางวัลรึไง ? เพื่ออะไร ? ! ฉันต้องเสียมือไปเพื่อช่วยเจ้าหญิงเฮงซวยรึไง ? เพื่อเป็นคนพิการและต้องเจ็บปวดมาตลอดเพราะความเมาของเธองั้นเหรอ ? บ้าเอ้ย ! เอาเงิน 20,000 ของเธอกลับไปสิแล้วเอาชีวิตฉันกลับคืนมา ! แต่เธอทำไมได้เพราะเงินน่ะซื้อทุกอย่างไม่ได้ เธอมันไอ้พวกลูกคุณหนูที่ไม่รู้จักความ ! “
เขาแทบคลั่ง, ตาเบิกกว้างและตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล เขาทนรับมามากทั้งคำดูถูก, เหยียดหยามและการกดขี่ ความโกรธนี้ได้ถูกระบายออกมา
เด็กสาวตกใจตอนที่เขาตะโกนกลับใส่เธอ เธอน่ะเป็นเจ้าหญิงจริงๆและไม่มีใครเคยด่าเธอหรือดุกับการกระทำของเธอ
” นั่น…นั่นไม่จริง ! นายโกหก ! “
เขาฮึดฮัดออกมา – “ใสซื่อจริงๆ ” – เขาสายหน้า – ” ช่างเถอะ คุณเจ้าหญิง ถ้าเธออยากรู้ก็ไปถามลูกน้องเธอสิ ตอนนี้ไปไกลจากฉันได้แล้ว “
เขาฉีกคัมภีร์วาร์ปก่อนจะหายตัวไปทิ้งเธอยืนตัวสั่นที่นั่น
Mercy ช็อกจากคำพูดและคำด่าของเขาแต่เธอก็รวบรวมสติได้และสายตาที่แสดงความโกรธออกมา
เธอหันไปหาผู้เล่นสองคนซึ่งยังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะเดินไปหาพวกนั้น
” พวกนายอัดวิดีโอเมื่อกี้ไว้รึเปล่า ” – เสียงของเธอฟังดูเย็นชาซึ่งแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่เรื่องน่าดีใจถ้าพวกเขาทำให้เธอไม่พอใจ
หนึ่งในนั้นพยักหน้า
” ลบมันซะ ” – เธอสั่งขึ้นมา
ผู้เล่นคนนั้นทำตามทันทีด้วยการโบกมือลบส่วนวิดีโอนั้นทิ้ง
ผู้เล่นอีกคนมองไปที่นักฆ่าอันดับหนึ่งในเกม
” ฉันรู้ว่าพวกนายเป็นใคร ถ้าฉันได้ยินเสียงซุบซิบเรื่องนี้ที่ไหน ฉันจะไปหาพวกนายสองคนและทุกครั้งที่พวกนายเกิดใหม่ ฉันจะอยู่ที่นั่น พวกนายเข้าใจมั้ย ? “
ทั้งสองคนพยักหน้าด้วยความกลัว
Mercy ล็อคเอาท์ออกไป
ในนิวยอร์ก ผู้หญิงรูปร่างหน้าตาสวยคนหนึ่งในวัย 20 ต้นๆได้ตื่นขึ้นมาจากเครื่อง VR ที่เธอนอนอยู่ เธอจัดผมให้ตรงก่อนจะมัดผมแล้วนั่งลงที่ขอบแคปซูล
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งแล้วเดินออกจากห้องลงไปที่ชั้นล่าง เธอมีรูปร่างแข็งแรงแต่ก็มีส่วนโค้งเว้าจนทำให้หนุ่มๆพากันสนใจแต่สีหน้าที่เย็นชาของเธอก็มักจะทำให้พวกนั้นอยู่ห่างอยู่เสมอ
เธอเดินลงบันไดมาที่ชั้นแรกเข้ามายังห้องนั่งเล่น ชายวัยกลางคนนั่งอยู่ที่โซฟากำลังดูทีวีพร้อมกับมีซิการ์และแก้วไวน์อยู่ด้วย
” แคทลิน ลูกล็อกเอาท์ออกมาเร็วนี่ ลูกได้หัวไอ้โครงกระดูกนั่นมั้ย ? “
” พ่อ…เราต้องยกเลิกสัญญา “
” ทำไมแบบนั้นหล่ะเจ้าหญิง ? “
” อันเดตนั่นคือคนจากอุบัติเหตุรถชน “
ชายคนนั้นสำลักไวน์พร้อมกับไอออกมาก่อนที่จะลุกขึ้นนั่ง
” พระเจ้า ! คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ! “
เขาเงียบไป
Mercy มองพ่อของเธอคบคิด เขาเคยบอกเธอว่าห้ามบอกใครว่าเธอคิดอะไรอยู่ หลังจากนั้นพ่อก็มองมาที่เธอด้วยรอยยิ้ม
” นี่อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ เรารู้ว่าเขาเป็นใคร เรามีประวัติและความสัมพันธ์กับชายคนนี้ เงินน่ะแลกเปลี่ยนกันได้ เราแค่ยื่นข้อเสนอที่เขาไม่อาจจะปฏิเสธได้ “
” หนูกลัวว่ามันคงเป็นไปไม่ได้อย่างน้อยถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ” – แคทลิน พูดขึ้น
” ลูกพูดถึงเรื่องอะไร ? “
” ถาม บ็อบ กับ เซบาสเตียน ดู “
เขามองมาที่เธอพร้อมกับทำท่าคิดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
” เรียกบ็อบมา นายด้วย เข้ามาที่ห้องนั่งเล่น เดี๋ยวนี้ ” – เสียงของเขาดูแข็งและไม่พอใจ
ในอีกด้าน เซบาสเตียนชายที่เดฟเคยคุยด้วยถึงกับขนลุก
เขาอยู่ที่นี่มานานและรู้ถึงอารมณ์ของหัวหน้า นี่คงไม่ใช่การพูดคุยที่ดีแน่
ไม่นาน ‘ คนคุ้มกัน ‘ สองคนในชุดสูทสีดำก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
ไม่กี่นาทีต่อมาก็มีเสียงหงุดหงิดดังก้องไปทั่วทั้งบ้าน – “พวกแกมันเฮงซวย ! “
Chapter 136: เรื่องใหญ่
ชายสองคนในชุดดำขับรถมุ่งหน้าไปยังเมืองหนึ่งในเพนซิวาเนีย – ” แกกับเรื่องโง่ๆของแก บ็อบ แกจะทำลายทุกอย่างของฉันเลยใช่มั้ย ไม่เป็นไร บอสไม่รู้หรอก ที่แกบอกมา เป็นไงล่ะเขารู้แล้ว ! และมันไม่ได้ไม่เป็นไรเลย ! “
” ไม่เอาน่าพวก ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ? โอกาสจะมีมากแค่ไหนกับการที่เธอจะไปเจอไอ้บ้านั่นใน Conquest ? “
” แกต้องทำตามที่บอสบอกมา เอาเงินให้ไอ้บ้านั่น ! ตอนนี้เขาใหญ่โตแล้วและแม้แต่บอสก็ยังอยากได้เขาเข้าพวก ! มันคงเป็นปาฏิหาริย์ถ้าแกไม่ได้ไปนอนอยู่ก้นทะเล ! “
บ็อบพึมพำบางอย่างออกมาและพูดต่อด้วยเสียงอันดัง – ” นายก็ได้ยินที่บอสบอกมา เอาเด็กนั่นมาพบเขาให้เร็วที่สุด ! “
” แกพูดเรื่องอะไร ? ! อย่าคิดจะเปลี่ยนเรื่องที่แกทำพังเอาไว้ ! “
” บ้าเอ้ย…ฉันจะบอกว่าบอสน่ะไม่ทำแบบนั้นกับคนของตัวเองหรอก “
เซบาสเตียน หันกลับไปมองที่ บ็อบ
” บ้าอะไรกัน ! มันดูเข้าท่าแล้ว ! ฉันไม่ใช่เพื่อนของแก ฉันเป็นพี่เลี้ยง! แกเป็นใคร หลานเขารึไง ? “
กลับมาที่ป้อมปราการสีแดง เดฟ ได้หลับตาลงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง
จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับขนที่กลุกไปทั้งตัว
” เหี้ย ! ฉันกัดปากตัวเองเนี้ย ! “
เขาไม่ได้มีสติเต็มร้อยเท่าไหร่ตอนที่พบกับ Mercy เขาโกรธที่เขาถูกลืมไปว่าบอดี้การ์ดสองคนของเธอนั้นรู้จักเขาและหาตัวเขาได้ พวกนั้นปะติดปะต่อคนในโลกออนไลน์กับชีวิตจริงได้
เดฟ รีบกดโทรหา โซว์
” Lone ฉันตกที่นั่งลำบากแล้ว “
” มีอะไร เดฟ ? เสียงนายดูกังวลนะ นายจะไปสู้กับพวกบอสโดยไม่มีฉันรึไง ? ” – Lone Arrow แหย่
” บอสเหรอ อ่ะใช่ น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ ” – เขาส่ายหน้ากับตัวเอง ตอนนั้นเขาก็นึกว่า Mercy นั้นเป็นสมาชิกกิลด์ It’s Just Business กิลด์ที่ดูแลโดยมาเฟีย
” ฉันทำพัง ฉันเผยตัวตนจริงให้กับคนอื่นที่ฉันไม่ควรจะทำ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น…”
เธอฟังคำอธิบายทั้งหมดจาก เดฟ โดยไม่ขัดอีกซึ่งนั่นไม่ได้ปกติสำหรับเธอ – ” นั่นไม่ดีเลยนะ เดฟ ” – น้ำเสียงเธอนั้นไม่ได้ทำให้ เดฟ กังวลน้อยลงเลย เธอพูดต่อ – ” ออกจากบ้านเดี๋ยวนี้และมาที่เมือง พวกนั้นไม่เสี่ยงที่จะข้ามเขตหรอก “
” ฉันไม่อยากให้มันเดือดร้อนถึงพวกเธอ ฉันแค่ต้องการความช่วยเหลือ ฉันอยู่ในเมืองแล้ว ในโรงบาลแต่มีคนที่ฉันรู้จักอาจจะตกอยู่ในอันตรายถ้าพวกมาเฟียนั่นไล่ตามฉัน “
” ส่งที่อยู่ของเพื่อนนายมาแล้วฉันจะขอให้พ่อส่งคนไปดูแลเพื่อนนาย ลุงแซม กับฉันจะไปรับนายที่โรงบาล เตรียมตัวเอาไว้ ” – เธอวางสายทันที
” บ้าเอ้ย ตอนนี้ โซว์ กับครอบครัวเธอเข้ามาเกี่ยวด้วยแล้ว ฉันเกลียดมันจริงๆแต่ฉันก็ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ ทำไมฉันไม่หุบปากเอาไว้นะ ! “
กลับมาที่บ้านในแมนฮัตตัน สาวผมม่วงได้ล็อคเอาท์ออกมาจากแคปซูลเกมและกดโทรศัพท์ของเธอ
” ลุงแซม ลุงรู้มั้ยว่าพ่ออยู่ไหน ? “
” เขาทำธุระอยู่ในเมือง ทำไม ?”
โซว์ บอกข้อมูลทั้งหมดที่ เดฟ บอกให้เธอฟัง
เขาคิ้วขมวด – ” เรื่องชักยุ่งแล้วแต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว เราต้องจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไปรับเขาที่โรงพยาบาล ฉันจะส่งคนไปที่โมย่าเพื่อดูแลเพื่อนของเขา “
” ได้ มันคือ คุณคลีเมนไทด์ ที่เป็นเพื่อนบ้านของเขา “
” ได้ ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง ไปเจอฉันที่โรงบาลในครึ่งชั่วโมง “
โซว์ วางสายแล้วรีบไปที่โรงรถ เธอมองไปรอบๆพยายามตัดสินใจว่าจะเอารถคันไหนไปดี
“รถนี่สีเข้ากับกระเป๋าฉันดี เอาคันนี้แหละ ! ” – เธอตบรถคาดิแล็คสีดำ
โทรศัพท์ของ โซว์ ดังขึ้นตอนที่ขับไปที่แมนฮัตตัน
” ว่าไงพ่อ ! ” -โซว์ พูดขึ้น
” โซว์ เกิดอะไรขึ้น? “
” พ่อคุยกับ ลุงแซม เรื่อง เดฟ รึยัง ? “
” ใช่ พ่อส่งคนไปดูแลเพื่อนของเขาที่เพนซิวาเนียแล้ว “
” ขอบคุณมากพ่อ “
” พ่อล่ะประหลาดใจจริงๆที่ลูกทุ่มเทขนาดนี้เพื่อช่วยเด็กนี่ เขาต้องจุดไฟให้ลูกแน่ๆเลย “
โซว์ ได้แต่ได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อก่อนจะเถียงขึ้นมา – ” พ่อ ! เขาเป็นแค่เพื่อน “
” เอาล่ะ ! พ่ออยากพบเพื่อนของลูกจริงๆ ตอนที่พ่อจัดการธุระเสร็จ ลูกเอาเขาไปกินมื้อเย็นที่บ้านด้วย ” – ดันเต้ ตัดสายทันที
โซว์ อึ้งกับคำสั่งของพ่อแต่จากนั้นเธอก็จำภารกิจของเธอได้และเร่งความเร็วขึ้นทันทีเมื่อนึกถึงความอันตรายที่ เดฟ อาจจะพบ
บ็อบ และ เซบาสเตียน มาถึงที่อพาทเมนต์เก่า
” นี่แหละ ” – บ็อบ พูดขึ้น
” ไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ “
พวกเขาเข้าไปในอพาทเมนต์และเดินไปที่ชั้นสอง เซบาสเตียน เคาะประตูและยืนรออยู่ด้านนอก
หลังจากเคาะไปหลายครั้งแต่ไม่มีคนตอบกลับ บ็อบ ก็เริ่มหมดความอดทน
” หลีกไป ! “
เขาถีบประตูเข้าไปทันที
” เฮ้ย ! จำที่บอสบอกได้มั้ยว่าอย่าบังคับรึขู่เขา ! “
” มันก็แค่ประตู ” – บ็อบพูดขึ้นพร้อมกับยักไหล่
พวกเขาเข้าไปให้อง กลิ่งเน่าของขยะลอยเข้ามาที่จมูกของพวกเขา
” นี่ทำให้ฉันนึกถึงกล่องรองเท้าที่เราเคยอยู่เลย ” – บ็อบ พูดขึ้น
” เขาไม่อยู่ที่นี่ “
” จะรอมั้ย ? ” – ชายอีกคนถาม
” ไม่ ขยะนี่ไม่ได้เอาไปทิ้งหลายวันแล้ว ฉันคิดว่าเขาคงไม่อยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว “
” ฉันว่าเพื่อนบ้านน่าจะรู้บ้าง เราน่าจะลองถามพวกเขาดู “
เซบาสเตียน ยิ้ม – ” ลองไปคุยกับเธอและเพื่อนบ้านอื่นๆก่อนจะไล่ไปจนถึงยัยแก่ “
ในตอนที่สองคนเดินออกจากห้องนั้นพวกเขาก็พบกับชายสองคนที่ทางเดินมองมาที่พวกเขา
บ็อบ และ เซบาสเตียน ได้เอามือไปใกล้กับปืน
หนึ่งในสองคนมาใหม่ได้พูดขึ้น – ” บอกบอสพวกแกว่าเด็กนี่อยู่ภายใต้การปกป้องของซิลวาน่า เข้าใจมั้ย ? ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ! “
” ไปกันเถอะ ! ” – เซบาสเตียน บอกกับ บ็อบ
บ็อบ เดินออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจและกำลังจะพูดบางอย่าง
” ไปกันเถอะ ! ” – เซบาสเตียน เสียงแข็งขึ้นมาพร้อมกับจับแขนของ บ็อบ
” เราจะปล่อยไอ้เด็กนี่ไปแบบนี้งั้นเหรอ ? ” – บ็อบ พูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่พอใจก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่าง ตอนนี้อารมณ์ของพวกเขาไม่ได้มีผลต่อการทำงานและการตัดสินใจ
” บอสคงไม่พอใจแน่ “
” เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหากับพวกอื่น บ็อบ นี่ก็ถือว่าได้ผลแล้ว เรารู้ว่าเด็กนั่นเป็นใคร บอสจะได้คุยกับซิลวาน่า “
***
เมื่อรู้ว่า โซว์ ได้ส่งคนไปดูแล คลีเมนไทด์ แล้วเขาก็เริ่มสบายใจขึ้นมาก่อนจะหันกลับมาสนใจเรื่องในเกมต่อ
เดฟ คิดเรื่องการเลื่อนขั้นของตัวเองแต่เขาก็จำได้ว่า {Life Cleaver} นั้นคูลดาวน์อยู่ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องรอไปก่อน
เดฟ เปิดประตูวาร์ปแล้วเดินผ่านประตูไปยัง Undead Frontier
เขาไปที่วิหารและพบกับ Delvina ที่นั่งค้ำคางอยู่ที่บัลลังก์ของเธอ
” Delvina ฉันมีบางอย่างให้เธอช่วย “
” ให้ฉันช่วยอะไรอันเดตน้อย ? “
” มีหน่วยพิเศษสำหรับการฮีลอันเดตรึเปล่า ?” – เดฟ ถาม
” ฮีลน่ะเป็นคุณสมบัติของมนุษย์และเผ่าแสง อันเดตเราน่ะไม่สามารถใช้การฮีลแบบนั้นได้ “
” ทีมของฉันบางส่วนทำการฮีลได้เมื่อทำการโจมตีด้วยเวทย์ นั่นไม่ใช่การฮีลรึไง ? “
” ใช่ มันคือเวทย์สาป อันเดตน่ะอยู่กับมนต์ดำและสิ่งที่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตจะส่งผลกลับกันต่ออันเดต “
” ได้ คำสาปได้ผลกับอันเดตแต่มันไม่ได้ผลกับ Dunlord มันมีวิธีในการฮีลพวกมันมั้ย ?? “
” Dunlord นั้นคือพวกฝ่ายมืดแต่พวกมันไม่ใช่อันเดต ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยพลังชีวิต ถ้านายต้องการที่จะทำการฟื้นฟู Dunlord รึสิ่งมีชีวิตอื่นในทีมของนาย นายต้องหาพวกฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ จับพวกนั้นมาเป็นทาสซะ “
” นั่นคงจะได้ผล ฉันจะหาพวกนั้นได้จากไหน ? “
” พอดีเลย ฉันมีงานให้นายทำที่จะได้รับพวกนักโทษพวกนี้ “
” ว่ามาเลย ” – จมูกของ เดฟ กระดิกเหมือนได้กลิ่นของเควส
” มีการเคลื่อนไหวของวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังวางแผนทำเรื่องใหญ่อยู่ หัวหน้าพรีสหญิงได้เดินทางจาก Moria มายังอาณาจักรตะวันออกพร้อมกับกลุ่มนักบวชและทหาร พรีสนี้เป็นคนเดียวที่สามารถปลุกนางฟ้าในตำนานที่ซ่อนอยู่ที่นั่นได้ “
” ราชาไม่หวังว่าจะมีสิ่งมีชีวิตแบบนั้นตื่นขึ้นมาอีกครั้งทั้งในโลกใต้ดินและด้านบนด้วย “
” โจมตีขบวนพวกนั้น ฆ่ารึจับกลุ่มนักบวชและนักรบของวิหารศักดิ์สิทธิ์แต่พรีสนั้นต้องเอาตัวมาเป็นๆ ฉันจะเอาเธอมาทำบางอย่าง “
เดฟ รู้สึกได้ถึงความดีใจจากใบหน้าของเธอ ‘ เธอเป็นหัวหน้าของฝ่ายทรมาน ฉันล่ะสงสารพรีสที่ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของเธอจริงๆ ‘
[ เควสใหม่ (C)
จับและทำลายพวกนั้น !
Delvina ได้ให้งานกับคุณในการโจมตีขบวนเดินทัพของวิหารศักดิ์สิทธิ์ระหว่างทางมายังอาณาจักรตะวันออก
ข้อกำหนด : จับกุมพรีสเพื่อทำการสอบสวน
โบนัส : จับสมาชิกคนอื่นมาใช้ได้ตามสะดวก]
เดฟ พยักหน้าให้กับ Delvina และมุ่งหน้ากลับไปที่ประตูวาร์ป
Chapter 137: สัมภาษณ์
เดฟ ได้ใช้ประตูวาร์ปกลับไปที่ Moria อีกครั้ง ครั้งนี้เขาไปพร้อมกับลูกน้องด้วย เพราะเขาได้รับเควสจาก Delvina มา Orn กับ Glae จึงไม่อาจจะไปกับเขาได้
กองกำลังอันเดตกว่าร้อยตัวได้เดินทางผ่านประตูวาร์ปจนทำให้ยามของเมืองตกใจพร้อมกับระฆังที่ดังก้องไปทั่วทั้งเมือง
[ อีเวนต์ ! กลุ่มอันเดตได้บุกรุกเข้าเมือง Moria ! วิหารศักดิ์สิทธิ์จะให้รางวัลกับผู้ล่นในการกำจัดภัยนี้ ! “
‘ฉันไม่เคยทำให้เกิดอีเวนต์มาก่อน บางทีฉันอาจจะทำให้เกิดอีเวนต์เพราะเอาอันเดตกลุ่มใหญ่มากับฉันด้วย ‘
” เดินหน้าไปที่ประตู ! เต็มกำลัง ! ” – เขาสั่งการอันเดตของเขา
ทีมอันเดตของ เดฟ รีบไปที่ประตูเมือง เมือง Moria นี้เป็นเขตเริ่มต้นสำหรับผู้เล่นใหม่ ปกติแล้วมันจะไม่มีผู้เล่นเลเวลสูงในเมืองนี้ มันไม่ได้มีอะไรดีกับการมาสู้กับยาม พวกนั้นไม่ได้แข็งแกร่งแต่ก็ยังยื้อเวลาได้นานเพียงพอให้ผู้เล่นมารวมตัวกันและเป็นภัยต่อทีมเขาได้
ยามในท้องถนนไม่ได้พยายามที่จะหยุดพวกเขา พวกนั้นกลัวอันเดต ถึงพวกนั้นจะรวบรวมความกล้าเพื่อโจมตีอันเดตถ้าอันเดตไปทำอย่างอื่นนอกจากเดินไปที่ประตูเมือง
สุดท้ายประตูเมืองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าและพวกเขาก็เดินผ่านออกไปโดยไม่ได้สู้กับใคร
เดฟ มองไปที่ตัวแสดงเควสบนแผนที่ของเขา มันกำลังขยับไปทางตะวันออก
” เราจะไล่ตามพวกวิหารที่มุ่งหน้าไปทางตะวันออก ออกไปสอดแนมด้วย ! เราจะเดินหน้าเต็มที่จนกว่าจะเห็นพวกนั้น ! “
อันเดตได้ตั้งขบวนวิ่งตามหลัง Dunlord ไป
ผู้เล่นที่ทำการล่ามอนเตอร์อยู่นอกเมืองนั้นตกใจกับการปรากฏตัวของอันเดต พวกนั้นได้ยินคำประกาศจากเซิฟเวอร์แต่ไม่รู้ว่าอันเดตได้ออกจากเมือง Moria มาแล้ว…
ผู้เล่นบางคนวิ่งหนีเข้าไปในป่าเพราะกลัวว่าจะไม่มีโอกาสรอดแตหลายคนยืนนิ่งคอยรับมือพวกอันเดตหลังจากที่ได้รับบัฟแล้ว
แต่ทีมอันเดตไม่ได้สนใจพวกนั้น พวกอันเดตวิ่งผ่านไปโดไม่มองพวกนั้นด้วยซ้ำ
ไม่ว่าการปรากฏตัวของ เดฟ ครั้งไหนๆก็ตามจะทำให้เกิดการตอบโต้ครั้งใหญ่ของกิลด์ต่างๆ ผู้เล่นพากันแจ้งไปยังกิลด์ตัวเองถึงตำแหน่งของ เดฟ และพากันหากำลังเสริมจากผู้เล่นเลเวลสูงของกิลด์ให้มุ่งหน้ามาที่นี่ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ส่วนไหนของเกมก็ตาม
แต่ เดฟ กะเวลาทำภารกิจอย่างดี ในตอนที่ทีมอันเดตได้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกตามคำสั่งของเขา เหตุการณ์ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมก็ได้เกิดขึ้นทั้งในเกมและนอกเกม มันคือเวลาเกือบสองทุ่ม
ไม่ใช่แค่การประมูล [Right of Conquest] ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแต่ CNN ก็ยังทำการฉายวิดีโอของการบุกเบิกส่วนที่สองของโลกใต้ดินด้วย !
ผู้เล่นในเกมได้หยุดสิ่งที่ตัวเองทำอยู่และปรับเวลาของตัวเองให้เท่ากับโลกความจริงและรอคอยสองเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้เล่นบางคนถึงกับไปรวมตัวกันที่ท้องถนนและดูผ่านแว่นตาจำลองของตัวเอง คนอื่นได้รวมตัวกันที่บาร์, ห้างรึพื้นที่เปิดอื่นๆ หลายบ้านได้กลายเป็นสถานที่เพื่อดูวิดีโอที่กำลังจะฉายนี้ สื่อพากันตอบรับเรื่องนี้ไม่ต่างจากกีฬาโอลิมปิกเลย
ช่องทีวีตามสื่อนั้นจะเอาภาพอันเดตหนวดที่มีโลโก้ของ CNN ด้านหลังขึ้นฉาย
ผู้บรรยายสาวผู้โด่งดังปรากฏตัวขึ้นบนจอพร้อมรอยยิ้มสดใส เธอประกาศว่าวิดีโอของเกมจะฉายที่นั่นเป็นที่แรกและจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยวิเคราะห์รายละเอียด
CNN ตัดต่อวิดิโอยาวกว่า 18 ชม.มาเหลือ 4 ชม.โดยมีรูปแบบการเล่นเกมและส่วนต่างๆ พวกเขาจะทำการฉาย 1 ชม.ในแต่ละคืนเป็นเวลา 4 คืนติดต่อกัน แต่ละคืนนั้นวิดีโอจะมีผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์และท่าทีของแฟนๆและผู้ชมช่องทางต่างๆขึ้นแสดง ท่าทีของผู้ชมจะถูกบันทึกไว้โดยทีมรายงานของ CNN ด้วยการออกสัมภาษณ์รึตรวจดูที่ต่างๆ
” ไอ้นั่นมันจากตัวอย่างนี่นา ” – บีสเทมเมอร์ ตะโกนขึ้นมา
” เขารอดจากผู้เล่นเลเวล 750 ได้ตอนที่เขาเลเวล 150 ชิ ! ” – พาราดินชุดขาวพูดขึ้น
” นั่นมันเกินไปแล้ว ! ” – คนแคระสาวอุทานออกมาเมื่อเห็น เดฟ สู้กับ Sworn Stalwart
ตอนท้ายชั่วโมงในฉากสุดท้ายของโลกใต้ดินและมีเสียงผู้ประกาศดังขึ้นบอกให้ผุ้ชมรอฟังข้อความจาก Mr.Skeletal ฉากก็ได้เปลี่ยนไปแสดงให้เห็นตัวอันเดตหนวดเอง กองทัพหัวกะโหลกด้านหลังเขามองมาที่ผู้ชม เขามองมาที่ผู้ชมได้สักพักแล้วยกซองจดหมายขึ้นมาก่อนจะเปิดให้ดูเนื้อหาแล้วพูดขึ้น ตอนที่อันเดตพูดจบมันก็ถึงตาผู้เชี่ยวชาญที่จะมาคอมเมนต์ตามส่วนต่างๆของวิดีโอ
CNN ได้เชิญแขกพิเศษสองคนมาร่วมคอมเมนต์วิดีโอนี้
” สวัสดีตอนเย็นชาวเกม Conquest ทั้งหลาย ฉันมีคนพิเศษมากับฉันเพื่อพูดคุยถึงวิดีโอของ Mr.Skeletal ในโลกใต้ดิน ก่อนอื่นให้โปรดต้อนรับ โทมัสบอลวิน ! รึที่รู้จักกันในเกมว่า Valentine ! “
กล้องตัดไปที่ผู้เล่นผู้หญิงที่กำลังตะโกนและแสดงตาที่เป็นประกาย
Valentine พยักหน้าให้กับพิธีกรและยิ้มออกมาให้กับผู้ชม
” ผู้เชี่ยวชาญคนที่สองของเราคือ ปาร์คซง ที่มาจากโซล เขารู้จักกันดีว่าเป็นพรีสฝีมือดีในเกมและยังเป็นมือขวาของกิลด์ Heaven’s Dawn ด้วย White Ghost ! “
เด็กหนุ่มที่นั่งตรงข้ามกับ Valentine ได้พยักหน้าให้กับพิธีกรแล้วแสดงสายตาใจเย็นราวกับมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
” งั้น คุณ Valentine คุณคิดยังไงกับวิดิโอนี้ ? “
Valentine เงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา – ” โดยรวมแล้วน่าประทับใจ ซูซาน อันเดตยังคงใจเย็นและแสดงการตัดสินใจที่ฉลาดออกมาในตอนที่สู้กับมอนเตอร์และเควสเพื่อที่จะมีเลเวลสูงขึ้นกว่าเดิมทั้งเขาและทีมของเขา การเจอกับ Sworn Stalwart นั้นทำให้ผู้เล่นแทบทุกคนตัวแข็งทื่อได้ เขาได้แสดงความกล้าในการเอาชนะมันและทำเควสของตัวเองสำเร็จ แม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนว่าเขาเก่งเรื่องการวางกลยุทธแต่ความสามารถในการควบคุมอันเดตของเขาและการใช้ความสามารถในความได้เปรียบต่างๆก็น่าประทับใจโดยเฉพาะการควบคุมและการวางตำแหน่งกองกำลังตัวเองเพื่อเผชิญหน้ากับศัตรู “
” อ่ะ คุณคิดว่าอันเดตนี่เก่งสินะ Valentine คุณมีอะไรจะพูดกับอันเดตคนนี้รึเปล่า คุณ White Ghost ? ” – พิธีกรถาม
” ผมเห็นด้วยกับ Valentine แต่เราอย่างลืมองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จของอันเดตนี่ ” – White Ghost หยุดไปสักพัก – ” โชค ! “
พิธีกรแปลกใจและมองไปที่ Valentine ราวกับว่าคาดหวังให้เขาไม่เห็นด้วย ตอนที่ชายหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธ เธอก็เร่งให้ ปาร์คซง พูดต่อด้วยการพยักหน้าและแสดงสีหน้าสงสัยออกมาก่อนจะพูดขึ้น – ” งั้นพูดรายละเอียดต่อได้มั้ย คุณปาร์ค “
” คุณก็ได้เห็นแล้ว ซูซาน เราต่างก็ได้เห็นมัน เขาน่ะโชคดี ในบ้านเกิดฉันสิ่งที่เรียกว่าโชค, กรรมรึลิขิตนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินเส้นทางและคุณภาพของชีวิตคน มันมีคำพูดบอกว่ายิ่งคนเรามีโชคเท่าไหร่ยิ่งดี โชคน่ะได้ช่วยเหลืออันเดตนี่ในหลายๆครั้ง ยกตัวอย่างก็ตอนที่เขาสู้กับ Sworn Stalwart แต่ ! ” – ปาร์คซง พูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ลุ้น
ผู้ชมต่างก็พากันโน้มตัวเขามาและรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
” โชคของคนไม่ใช่ว่าพึ่งได้ตลอด วันหนึ่งมันก็ต้องหมดไป ” – ปาร์คซง ถอนหายใจออกมา – ” เมื่อถึงเวลาเราจะได้เห็นอันเดตนี่ล้มเหลวเพราะโชคของเขาช่วยเขาในตอนวิกฤตไม่ได้และเขาก็ไม่มีมาตรการรับรองเพราะไม่มีกิลด์ไหนที่จะคอยช่วยเขาในตอนนั้น สุดท้ายเขาก็เห็นได้แค่คนๆเดียว แค่คนๆเดียวที่มี NPC อยู่รอบตัว “
” คุณมีความเห็นว่ายังไง Valentine ? “
” สิ่งที่ ปาร์คต บอกมานั้นปฏิเสธไม่ได้ อันเดตหนวดนี้ไม่ได้มีกิลด์ไหนคอยสนับสนุน นี่ถือว่ารุนแรงซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุการตายและการตกต่ำของเขา ความรุ่งโรจน์ของเขาที่เราเห็นมาหลายอาทิตย์แน่นอนว่าต้องสิ้นสุดลง ตอนที่โลกใต้ดินเปิดออกให้กับทุกคน เขาจะเป็นได้แค่ความทรงจำเท่านั้น “
” คุณอธิบายได้รึเปล่า ?” – พิธีกรถาม
” ได้ ซูซาน โลกใต้ดินนั้นกว้างขวางและอันตราย สำหรับผู้เล่นทุกคนอันเดตนี้เป็นนักสำรวจคนแรก เขาจะมีโอกาสมากมายแต่ก็ยังต้องรับความเสี่ยงมากมายไปด้วย ไม่ว่าจะไปที่ไหนรึจะทำอะไร เขาจะเป็นคนแรกที่ได้เรียนรู้และรับประสบการณ์รวมถึงการทดสอบจากโลกใต้ดิน มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่วันหนึ่งเขาจะพลาด มันต้องใช้ความกล้าอย่างมากในเส้นทางที่ยังไม่เคยมีใครไปถึงและอันเดตนี้ก็เดินอยู่ในความมืดมิดมานานแล้ว “
” ดูเหมือนว่าแขกของเราจะไม่ได้หวังอะไรมากกับเรื่องนี้แต่อย่างน้อยใน 3 คืนต่อไปนี้เราจะได้สนุกกับผลงานของเขา ! อีกอย่างแล้ว ! เราต่างก็รู้ว่ามีการประมูลสิทธิการยึดครองอาณาจักรตะวันออกอยู่ที่จะเริ่มในไม่กี่ชั่วโมง คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้ ? “- พิธีกรถาม
” ชายคนนั้นมีการรับรู้แปลกๆ ” – Valentine พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม – ” เขาเอาของขึ้นประมูลด้วยการเริ่มที่ 1 ทอง ของชิ้นนั้นสามารถเปลี่ยนสมดุลของเกมได้หากมันตกอยู่ในหนึ่งในสามกิลด์ใหญ่แต่เขาเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลเวลต่ำมาร่วมกับเรื่องนี้ด้วย “
” คุณคิดว่าทำไมอันเดตถึงได้ทำแบบนี้ ? ” – พิธีกรถาม
ปาร์ค ตอบกลับ – ” ผมคงบอกไม่ได้ว่าผมรู้ว่าทำไมแต่ผมเดาได้ว่าเขาพยายามดึงความชื่นชอบและการสนับสนุนจากผู้เล่นเลเวลต่ำแต่ผมก็ได้ยินมาว่าราคาล่าสุดของมันก็อยู่ที่ 17 ล้านแล้วและมันยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “
” นั่นเป็นตัวเลขที่มหัศจรรย์เลย ! ” – พิธีกรพูดขึ้น
” ไม่เชิง ซูซาน ไม่ใช่กับของสิ่งนี้ ราคาของไอเท็มนี้ไม่ต้องเดาเลยว่าต้องเพิ่มสูงกว่านี้แน่ พวกที่มีเงินยังไม่เข้าร่วมประมูล ” – Valentine พูดขึ้น
” Valentine มีข่าวลือว่า Devastators ต้องการให้อันเดตนี่เข้าร่วมกิลด์ นั่นเป็นความจริงรึเปล่า ? ” – พิธีกรถาม
” ผมไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ” – Valentine พูดขึ้น
” ดูเหมือนว่าเวลาเราจะหมดลงแล้ว เราจะได้พบแขกคนใหม่สองคนในวันพรุ่งนี้เพื่อพูดคุยถึงเนื้อหาในวิดีโอกันต่อ ! ไว้เจอกันพรุ่งนี้เวลาเดิม ! ” -พิธีกรตัดจบรายการพร้อมกับโฆษณาที่ถูกฉายขึ้นมา
ในตอนที่ทุกอย่างกำลังเกิดขึ้นนี้ เดฟ และทีมอันเดตของเขานั้นได้พบกับขบวนรถของพวกวิหารศักดิ์สิทธิ์เข้าให้แล้ว
Chapter 138 :จัดการ!
เดฟได้ทำการตรวจสอบพาราดินของวิหาร
[Paladin]
เลเวล : 200
HP : 200,000
ดาเมจ : 10,000-12,000
ลดดาเมจ : 2,000
ดูดซับดาเมจ : 2,500
คนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ พาราดินที่ทำตามคำสั่งสอนของวิหารในการปกป้องดินแดนและผู้คน
เดฟ ตื่นเต้นทันทีเมื่อเห็นพาราดินที่เลเวลใกล้เคียงกับเขา – ” ในที่สุดฉันก็หาอะไรที่พอสู้ด้วยตัวเองได้ ! ไม่จำเป็นต้องซ่อนอยู่ด้านหลัง Dunlord แล้ว ! “
ในตอนที่สั่งการให้ทีมมุ่งหน้าเข้าใกล้พาราดิน พวกนั้นก็ได้หยุดและหันกลับมารับมือการโจมตีพร้อมกับปล่อยให้เกวียนหนีไปก่อน
พาราดินหันม้ากลับมาก่อนจะก้มตัวลงเพื่อชี้หอกออกมาก่อนจะมีเสียงแตรดังขั้นแล้วพุ่งเข้าใส่พวกกลุ่มอันเดตที่มุ่งหน้าเข้ามา
” จัดการพวกมัน ! ” – เดฟ ตะโกนพร้อมกับ Dunlord ทั้ง 10 ตัวนั้นได้ยืนเรียงหน้ากระดานกัน
พวกนั้นได้ยิงหน้าไม้เข้าใส่ม้าก่อนจะวิ่งเข้าใส่พวกพาราดินราวกับกระทิงคลั่ง
ตอนนั้นพื้นที่ตรงนั้นเต็มไปด้วยเสียงของสงครามรวมถึงเสียงกรีดร้องของทั้งคนและสัตว์
พาราดินนั้นเทียบกับ Dunlord เลเวล 350 ไม่ได้ พวกที่โชคดีที่ไม่ได้หล่นจากม้าตัวเองต้องมาพบจุดจบด้วยน้ำมือของมนุษย์แมงป่อง
พวกที่โชคร้ายที่รอดจากการโจมตีชุดแรกได้นั้นได้มุ่งหน้าเข้ามาหาเดฟ แต่ Stinger กลับยื่นก้ามของมันออกมาหนีบคอของพาราดิน หัวของม้าขาดออกพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมา ม้าที่ไร้หัวนั้นยังคงเดินหน้าต่อและล้มลงเมื่อบนกับพาหนะของเดฟ แต่ Stinger ไม่ได้สนใจการชนนี่และเดินหน้าต่อ
การตายของม้านี้ทำให้เขาต้องตะลึง พาราดินกลิ้งไปกับพื้นพร้อมกับเกราะที่ส่งเสียงดังขึ้นมา
เดฟยิ้มแล้วโดดลงมาจากหลัง Stinger ก่อนจะต่อยไปที่พาราดิน หมัดของเขานั้นมีไฟปะทุขึ้นขึ้นมาก่อนจะเผาพาราดินนั้น
[-2880]
เดฟแปลกใจกับดาเมจที่ตัวเองทำได้ พาราดินนั้นมีค่าลดดาเมจ 2,000 หน่วย หมัดของเดฟนั้นน่าจะทำดาเมจได้แค่ 200-300 เท่านั้น
” อ้อใช่ ดีบัฟ ! ” – เขานึกถึงดาเมจที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อศัตรูนั้นเซ
Dog เอาหัวกลับไปต่อที่คอในตอนที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เขาดูคลั่งยิ่งกว่าเดิม แสงสีเขียวในตานั้นตอนนี้เข้มข้นขึ้นจนราวกับแสงจากไฟหน้ารถ เขาพุ่งเข้าใส่พาราดินแบบตรงๆ
อันเดตที่เหลือนั้นได้ทำการล้อมพาราดินที่เหลือเหมือนกับสัตว์ที่หิวโหยก่อนจะเกิดการสังการโหดขึ้น
Dunlord ยังคงทำการโจมตีพวกพาราดินต่อไป
เดฟได้ไปเผชิญหน้ากับพาราดินอีกคน เขาหลบการโจมตีเหมือนกับนักมวยคอยหลบคทาที่พาราดินฟาดมาและต่อยกลับคืนเมื่อมีโอกาสราวกับนักมวยจริงๆที่เต้นไปมารอบเหยื่อ
[ {Ramp Up} ทำงาน ! ดาเมจเพิ่มขึ้น 10% ! ดาเมจอาวุธ 20% เปลี่ยนเป็นดาเมจไฟ ! ]
หมัดของ เดฟ ได้กลายเป็นลูกไฟ มันราวกับมีลูกไฟสองลูกได้ถูกจุดขึ้นมาในยามค่ำคืน
ทุกหมัดนั้นจะมีไฟเข้าเผาพาราดินและทุกครั้งพาราดินจะได้รับดาเมจจากไฟเผาลดเลือดไปเรื่อยๆ
บางครั้งพาราดินก็ทำการโจมตีเดฟได้ คทาของเขานั้นทำให้เดฟต้องกระเด็นกลับไป
นี่มีแต่ทำให้เดฟอยากสู้เพิ่มขึ้นและพุ่งกลับเข้าไปราวกับพวกต่อสู้ข้างถนน
[ ความชำนาญของ Gauntlet of the Sworn Stalwart เพิ่มขึ้น !
สกิลปลดล็อค {Flame Tornado} ]
เดฟไม่ได้อ่านคำอธิบายสกิล เขาแค่ใช้มันทันที แขนของเขากางออกพร้อมกับตัวที่เริ่มหมุนราวกับลูกข่างไฟพุ่งเข้าใส่พาราดิน
หมัดของเดฟอัดเข้าใส่พาราดินอย่างรวดเร็วและทุกครั้งที่หมัดอัดเข้าไปพร้อมกับเปลวไฟ ค่าดาเมจก็จะโผล่ขึ้นมาจากหัวพาราดิน
[-1200]
[-1000]
[-800]
[-600]
[-400]
[-200]
[-0]
[-0]
[-0]
ในตอนที่เดฟหยุดหมุนนั้นเขาก็เห็นว่าเกราะสีขาวของพาราดินนั้นโดนเผาจนกลายเป็นสีดำและแตกไปหลายจุด
” สกิลดีนิ ! “
เดฟยิ้มออกมาแล้วทำการโจมตีต่อ
เขาไม่รู้เลยว่าเขาได้ออกห่างจากทีมของเขาและถูกล้อมด้วยพาราดินสามคน
เขาไม่ได้มีโอกาสในการจัดการพาราดินตรงหน้าเพราะอีกฝ่ายยังคงเหลือเลือดกว่า 40,000
เดฟยิ้มออกมาและใช้สกิล {Double Edged}
พื้นดินรอบตัวเขาเริ่มสั่น เดฟ รีบหนีออกมาจากเส้นทางด้วย {Immortal Apparition}
ในตอนที่เดฟหายตัวไป Minhocao ได้โผล่มาจากพื้นแล้วกลืนกินพื้นที่ไปพร้อมกับพาราดินทั้งสาม
Minhocao ได้คายพาราดินกลับมาก่อนจะดำดิ่งกลับลงไปที่พื้นแต่การโจมตีนี้ได้ทำดาเมจไป 22,000 ตอนที่มันหายไป มันก็เหลือทิ้งไว้แต่รูขนาดใหญ่เอาไว้
เดฟโผล่กลับมาใกล้ๆกับพาราดินและ Dunlord ที่ซึ่งกำลังต่อสู้กันอยู่แต่พาราดินนั้นกลับหนีเขาแทนตอนที่เดฟปรากฏตัวขึ้น
{Immortal Apparition} ได้ถูกใช้งานซึ่งทำให้ศัตรูกลัวขึ้นมา
” แกจะไปไหน ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา เขากระทืบพื้นพร้อมกับใช้ {Death Surge}
สกิลนี้เป็นสกิลพื้นฐานของแทงค์ซึ่งเขาได้มาจากอาชีพ Death’s Apostle
ถ้าศัตรูหนีเพราะผลความกลัวงั้น {Death Surge} จะทำการโจมตีได้ 300% ดาเมจมหาศาลได้โผล่มาที่หัวของพาราดิน
[-4850]
เดฟไล่ตามพาราดินที่หนตีแล้วตะโกนขึ้นมา – ” Bud Dog Spark ! พวกแกกับ Dunlord 3 ตัวไล่ตามเกวียนไปและหยุดไม่ให้พวกนั้นหนี ! แต่อย่าฆ่าพีรส ภารกิจของเราคือจับเธอเอาไว้ ! “
อันเดตทั้งสามตัวพยักหน้าและเดินอกอไป Dog นั้นกลับมาหนีบหัวตัวเองอีกครั้ง มันกลับไปนั่ง Dunlord พร้อมกับจับบังเหียน
ปกติแล้วเดฟจะไม่ส่งอันเดตไปทำภารกิจให้เขาตอนที่พวกมันมีเลเวลต่ำกว่าศัตรูแต่อันเดตที่เขาสั่งออกไปทำงานนั้นจะได้มีประสบการณ์ในการรับมือกับอันตราย บวกกับพวกมันจะได้ xp กับการจัดการพวกทหารด้วย
” ไปได้เลยพวก ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา
ตอนที่มันเหลือพาราดินแค่ 15 ตัว เดฟก็บอกให้พวกศัตรูหยุด
” ใครเป็นหัวหน้าพวกแก ? ” – เขาตะโกนถามพาราดินที่สิ้นหวัง
หนึ่งในนั้นตอบกลับ – ” ฉันเอง ! “
” ผิด ! ฉันสั่ง ยอมแพ้รึตาย ! ” – เดฟพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
” เราคือบริวารของวิหาร เราจะไม่ยอมแพ้ให้กับอันเดต ! “- พาราดินตอบกลับ
” ฆ่ามันซะ ! ” – เดฟสั่งการ Dunlord สองตัวจับตัวพาราดินผู้โชคร้ายก่อนจะฉีกออกเป็นสองส่วน
” ใครรองจากเขา ? แก ? ยอมแพ้รึตาย ! “
” ไม่มีทาง ! ” – พาราดินถุยน้ำลายลงไปที่พื้นแล้วยกอาวุธพุ่งเข้าใส่เดฟ
” จัดการซะ ! “
ครั้งนี้ Dunlord ได้จับแขนขาพาราดินคนนั้นฉีกออกจากกันจนทำให้เลือดกระจายเต็มพื้นไปหมด
” ใครต่อ ? ! ฉันจะทำแบบนี้จนกว่าพวกแกทุกคนจะยอมแพ้รึกลายเป็นเศษเนื้อ ! การตายแต่ละครั้งจะยิ่งทรมานและน่ากลัวกว่าพวกแรกๆ ” – เดฟเล่นบทคนร้าย พาราดินคนต่อไปในแถวถูกฉีกตรงหว่างขา
” ครอบครัวของคนพวกนี้จะสาปแช่งพวกแกจนกว่าอาณาจักรจะทำการตัดสินว่าพวกแกมีโทษ จะเลือกมีชีวิตต่อเป็นนักโทษรึตาย พวกแกเลือกได้ถูก แทนที่จะยอมทิ้งเกียรติและความดี การยอมแพ้ฉันจะไว้ชีวิตพวกแก บางทีพวกแกอาจจะหาโอกาสหนีได้ในสักวันหนึ่ง การปฏิเสธฉันจะทำให้พวกแกต้องตายวันนี้ จากนั้นฉันจะปลุกพวกแกขึ้นมาเป็นอันเดตอีกเพื่อรับใช้ฉัน ! ” – เดฟประกาศออกมาก่อนที่ชายพวกนั้นจะทิ้งอาวุธและคุกเข่าลง
[พาราดินได้ยอมแพ้ พวกเขารับฟังคำสั่งของคุณ เพิ่มพาราดินในการควบคุมา 13 ตัว]
[ลูกน้องของคุณมีมากเกินไป การเพิ่มจำนวนลูกน้องนั้นต้องเลื่อนขั้น]
[การเพิ่มจำนวนลูกน้องนั้นต้องผ่านการท้าทาย Death Knight ภายใน 72 ชม.]
Bud, Dog และ Spark ขี่ Dunlord กลับมาพร้อมกับเกวียน
ตอนที่พวกนั้นหยุดลง ม่านของเกวียนก็ได้เปิดออกเผยให้เห็นพรีสสาวในชุดขาวที่ดูตกใจกลัว
” ออกมานี่ ” – เดฟสั่งการ
เด็กสาวเปิดประตูแล้วเดินลงมา เธอตัวสั่นเพราะความกลัวเมื่อเห็นอันเดตรอบตัว
เธอมีหน้าตาที่สละสลวย ชุดของเธอนั้นสะอาดและมงกุฎรอบหัวเธอก็ยังมีเพชรประดับเอาไว้
[Holy Priestess]
ฝ่าย : วิหาร
เลเวล : 1
HP : 100
เตือน : เกิดจากวิหารศักดิ์สิทธิ์และเติบโตมาเพื่อรับใช้มัน สาวน้อยผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ที่ได้รับการอวยพรจากสัมผัสสวรรค์
เธอพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ใสราวกับระฆัง – ” นายต้องการอะไรกับฉัน ? “
ก่อนที่เขาจะได้ตอบก็ได้มีการประกาศขึ้นมา
[Holy Priestess ของวิหารได้ถูกอันเดตจับกุม ! ]
[วิหารจะให้รางวัลสำหรับคนที่ช่วยเธอได้ ! ตำแหน่งล่าสุดของเธออยู่ใกล้กับ Moria เขตตะวันออกพิกัด (-300,800)]
เดฟคิ้วขมวดทันทีแล้วสบถด่า Alfred บอกว่า AI นี่ทำให้เควสยุ่งยากกว่าเดิม
‘ แต่ช่างเถอะ เควสนี้จะเสร็จตอนที่ฉันกลับไปที่ดินแดนอันเดต ‘
เขาเอาคัมภีร์วาร์ปออกมาและฉีกมันแต่แทนที่มันจะหายไป มันกลับมีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมาแทน
[ คัมภีร์วาร์ปตอนนี้ไม่อาจจะใช้การได้ ! ตอนนี้ได้มีประกาศออกไปแล้ว ! คุณต้องส่งพรีสสาวในส่วนแคมป์อันเดตที่ใกล้ที่สุด ตำแหน่งแคมป์อันเดตที่ใกล้ที่สุดนั้นอยู่บนแผนที่ของคุณ ]
” ไอ้บ้า Alfred ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา
เขาจับแขนของพรีสและลากเธอขึ้นหลัง Stinger พรีสเองก็กรีดร้องด้วยความกลัว
” เหี้ย แคมป์นั่นไกลชะมัด ! “
เดฟสั่งการให้อันเดตของเขาดูแลพวกพาราดินและขนขึ้นหลัง Dunlord
” เอาล่ะพวก ! เราจะไปทางตะวันออก ! เดินทางได้ ! “
กองทัพอันเดตได้เดินหน้าเข้าสู่เขตตะวันออกที่ยังไม่ได้รับการสำรวจด้วยความเร่งรีบ !
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น