Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม 79-105
ICSS บทที่ 79: 79
ทันทีที่พูดออกไป ชูหยิชานก็รู้สึกเขินเล็กน้อยที่จะต้องนวดให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอแต่เธอก็ยังเลิกคิดไม่ได้ อย่างไรซะเมื่อคิดว่าหนิงเทียนหลินไม่ได้ให้หมอนวดนวดก็เพราะต้องมาช่วยเธอ ตอนนี้เขาเหนื่อยมากและช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ค่อยดี
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ อีกฝ่ายก็อาจจะได้รับบริการอยู่บนเตียงไปแล้ว
“เธอ…จะช่วยนวดให้ฉันเหรอ?”
หนิงเทียนหลินถึงกับตกตะลึงและพูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งสาวสวยอย่างชูหยิชานจะมาเสนอตัวที่จะนวดให้เขา ถ้าเพื่อนผู้ชายคนอื่นรู้เข้าพวกเขาจะต้องอิจฉาจนเป็นบ้าแน่ๆ!
“ทำไมเหรอ? ไม่มั่นใจในตัวฉันเหรอ? ฝีมือฉันก็ไม่ด้อยกว่าหมอนวดคนอื่นเลยนะ ช่วงปิดเทอม 2 เดือนนี้ ฉันศึกษามาอย่างดีว่าจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ยังไง”
ชูหยิชานคิดว่าหนิงเทียนหลินไม่เชื่อในเรื่องฝีมือของเธอจึงรีบพูดออกไปเพื่อยืนยัน
“ฉันไม่ได้ไม่เชื่อเธอ” หนิงเทียนหลินถึงกับต้องหัวเราะออกมาแต่หัวใจกลับเต้นแรงมากแล้วก็รู้สึกสับสน ทีสาวสวยยังกล้าเลยแล้วกับผู้ชายอย่างเขามีอะไรที่จะต้องอาย ในเวลาเดียวกันก็รีบตอบออกมาทันที
“โอเค! ฉันเพิ่งเคยไปโรงอาบน้ำของเธอครั้งแรกและไม่รู้ว่ามีบริการอะไรบ้าง แค่นั่นแหละ อย่างที่เธอเพิ่งบอก
ไอ้บริการนวดแบบราชวงศ์ 588 หยวนนี่มันเป็นยังไงเหรอ? ขอฉันลองหน่อยสิ ว่าพวกราชวงศ์เขารู้สึกกันยังไง อีกอย่างก็อยากจะเห็นฝีมือของเธอด้วยว่ามันจะดีอย่างที่เธอว่าหรือเปล่า”
หลังจากที่พูดจบ หนิงเทียนหลินไม่ได้โกรธแต่รอว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าอย่างไร
“หา! บริการนี่เหรอ?” เมื่อชูหยิชานได้ยินเธอก็ร้องออกมาทันที
“มีอะไรเหรอ? ทำไม? เธอเพิ่งบอกไม่ใช่เหรอว่าที่ร้านมีบริการนี้ด้วย?”
แน่นอนหนิงเทียนหลินรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงกรี๊ดออกมา เขาพยายามที่จะไม่ขำและพูดอย่างจริงจัง
“ใช่ ใช่…แต่…” หน้าของชูหยิชานออกจะบิดเบี้ยวแต่ดวงตากลับเป็นประกายแล้วเธอก็พูดออกมา
“โอเค งั้นนายจะได้เห็นฝีมือฉันกับบริการแบบราชวงศ์นี้”
“จริงเหรอ?” ครั้งนี้กลับเป็นหนิงเทียนหลินเองที่ถูกหลอก เขาไม่ใช่คนโง่ ที่โรงอาบน้ำเขาเดาว่าบริการนวดแบบราชวงศ์ 588 หยวนน่าจะเป็นบริการพิเศษ
แต่ตอนนี้ชูหยิชานกลับยอมตกลง!
“แน่นอน ฉันพูดจริง” ชูหยิชานหัวเราะ
“วันนี้นายช่วยฉันไว้ ฉันทำให้ทุกอย่างแหละ อีกอย่างฉันไม่เคยนวดมหาเศรษฐีด้วย ถ้านายไม่รู้สึกสบายก็อย่ามาโทษกันนะ”
ชูหยิชานมุ่งมั่นมากว่าหนิงเทียนหลินเป็นประเภทที่รวยมากๆ คนที่รวยแบบนั้นต้องเคยผ่านการนวดมามากมายแล้วแน่ๆ ถึงแม้เธอจะมั่นใจในฝีมือการนวดของตัวเองมาก แต่เธอก็คงเทียบชั้นกับพวกหมอนวดเก่งๆไม่ได้หรอก ยังห่างกันเยอะ
ดังนั้นเธอจะลองดูก่อนและถ้าเขารู้สึกไม่สบาย เขาก็จะมาโทษเธอไม่ได้นะ
“ฉันจะโทษเธอได้ยังไงล่ะ” หนิงเทียนหลินยิ้ม เขาก็เขินเหมือนกัน มันจะรู้สึกยังไงนะที่ได้ลองนวดจริงๆ
“ดีแล้ว” ชูหยิชานพยักหน้า
“นายไปอาบน้ำก่อนแล้วใส่กางเกงขาสั้นมาแล้วนอนรอที่เตียงเลย ฉันจะนวดแบบราชวงศ์ให้นาย”
“นวดเลยไม่ได้เหรอ? ทำไมต้องอาบน้ำด้วย? ฉันก็เพิ่งอาบมาจากโรงอาบน้ำไง” หนิงเทียนหลินอยากที่จะนวดตอนนี้เลยและรู้สึกว่าการอาบน้ำเป็นเรื่องเสียเวลา
“นั่นมันตั้งนานแล้ว นายไปสู้มามีแต่เหงื่อแล้วนี่นายจะต้องนวดก็ต้องลงน้ำมัน” ชูหยิชานคิดว่าดีกว่าถ้าจะอาบน้ำจึงแนะนำไปแบบนั้น
“ก็ได้ๆ”
“งั้นก็โอเค”
หนิงเทียนหลินไม่ได้คิดเรื่องนี้และทำได้เพียงทำตามอย่างที่ชูหยิชานบอก แต่เขาไม่ได้พูดเรื่องบ้าๆที่เขาคิดออกไปว่าจะให้เขาอาบคนเดียวหรือเราสองคนมาอาบพร้อมกัน เขามั่นใจมากว่าถ้าเขาพูดออกไปแบบนั้น ชูหยิชานจะต้องไปทันทีแน่ๆ
ถ้าชูหยิชานกระหายเงินจริงๆ เรื่องแบบวันนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น เธอสามารถหาคนรวยๆมาคอยเลี้ยงดูเธอได้เลยแล้วก็ไม่ต้องไปนวดหรือทำงานหนักๆอีกเลย ถึงแม้หนิงเทียนหลินจะไม่เคยนวดแต่เขาก็รู้ว่าการนวดต้องใช้แรงเยอะมาก
ถ้าเขาสนใจชูหยิชานจริงๆเขาก็ควรจะค่อยเป็นค่อยไป และอีกอย่างตอนนี้มันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว!
10 นาทีต่อมา
หนิงเทียนหลินก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ท่อนบนเปลือยเปล่า สวมแค่กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ และเพราะความฟิตของร่างกายได้รับการพัฒนามาอย่างดี กล้ามเนื้อหน้าอกจึงเพิ่มขึ้นมาและเอวก็ตั้งตรง ร่างกายเต็มไปด้วยการระเบิดของพลัง
เพียงแค่มองแวบเดียว หัวใจของชูหยิชานก็เต้นแรง เธอไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายที่สวยงามแบบนี้จะซ่อนอยู่ในท่าทางธรรมดาๆของหนิงเทียนหลิน และความเป็นชายของเขาก็แข็งแกร่งมากๆ
“นอนลงบนเตียงเลย” ชูหยิชานแก้มแดงระเรื่อพร้อมทั้งหันหัวไปทางอื่น ไม่กล้าที่จะมอง อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
“อื่ม” หนิงเทียนหลินไม่ได้ลังเล ทุกอย่างอยู่ที่นี่แล้ว เขาก็ทำได้แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย เขาก้าวเท้าออกไป ก้าวขึ้นไปบนเตียงที่แสนหนุ่มและก้าวขึ้นไปนอนอย่างที่ชูหยิชานสั่ง
หลังจากนั้นก็ขึ้นไปบนเตียงด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆนิดหน่อยแล้วนั่งคุเข่าลงที่ข้างกายหนิงเทียนหลินพร้อมทั้งถือถาดไว้ในมือด้วย โดยมีขวด 2-3 ขวดอยู่ในถาดด้วยแล้ววางลงบนเตียง
“นี่คือน้ำมันหอมละเหยที่ฉันเพิ่งให้คนเอามาให้ มันช่วยเรื่องความสดชื่นแล้วฉันจะทาให้นาย” แล้วเธอก็เปิดขวด บีบครีมน้ำนมออกมาและนวดวนอยู่ในมือแล้วลูบลงไปที่ร่างของหนิงเทียนหลิน
“สิ้นหวัง!”
หนิงเทียนหลินรู้สึกอ่อนเหลว มือที่แสนนุ่มวางลงมาที่แผ่นหลังของเขาและหลังจากนั้นสักพักเธอก็ทาวนไปจนทั่วแผ่นหลังของเขา ทาอย่างแผ่วเบาเหมือนแค่แตะเฉยๆและน้ำมันก็นุ่มมากๆซึ่งทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจเล็กน้อย
”ฉันอยากให้มันแรงขึ้นอีกหน่อย”
เมื่อมือของชูหยิชานทาบลงบนคอของหนิงเทียนหลิน เขาก็พูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบา หลังจากนั้นหลิงเทียนหลินก็รู้สึกถึงแรงที่พอดีกดเข้าที่คอของเขา ไม่แรงไม่เบาเกินไป แต่รู้สึกสบายกำลังดี
“แล้วการนวดล่ะ?”
“ถ้ายังไม่พอดี ฉันจะเพิ่มแรงให้”
เมื่อชูหยิชานเห็นว่าหนิงเทียนหลินแข็งแร็งมากๆ เธอจึงใช้แรงเยอะและรู้สึกว่าเขาน่าจะทนได้
“ใช่”
“กำลังดีแล้ว” หนิงเทียนหลินแสดงถึงความสบาย
“งั้นฉันจะกดแรงนะ”
ชูหยิชานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตราบใดที่หนิงเทียนหลินพอใจ ในเวลาเดียวกันมือของเธอก็เลื่อนลงไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่สะโพกของหนิงเทียนหลิน ในเวลานี้เธอเหงือออกไปหมดและเสื้อก็เปียกไปหมดจนทำให้ติดอยู่กับร่างกาย
ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้พวกเขาก็จะสวมชุดที่เป็นผ้าบางๆและตอนนี้ชุดชั้นในสีแดงอยู่ที่ข้างในก็เห็นได้ชัดมาก นอกจากนี้มันยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
มีเทียนหอมตั้งอยู่คู่หนึ่ง เทียนหลินนอนอยู่บนเตียงจึงมองไม่เห็น
“ทีนี้จะให้นวดขาหรือว่าท้องดี?”
ชูหยิชานเก็บมือและหายใจเข้าและถามหนิงเทียนหลินออกไป
“ขาแล้วกัน” หนิงเทียนหลินไม่กล้าที่จะหันตัวกลับเพราะตอนนี้น้องชายเขาตั้งตะหง่าชูชันอย่างมากแต่ถูกกดไว้อย่างดีด้วยเตียงนุ่ม การนอนอยู่บนเตียงแบบนี้ก็โอเคแล้ว ถ้าเขากล้าหันกลับมานอนหงายชูหยิชานจะต้องเห็นน้องชายเขาที่กำลังตั้งตะหง่าแน่ๆ
ICSS บทที่ 80: ฉันทำต่อไม่ได้แล้ว
“ได้”
“งั้นฉันนวดต้นขาก่อนแล้วกัน”
ชูหยิชานตอบและเลื่อนลงไปที่ก้นของหนิงเทียนหลิน โดยเฉพาะเมื่อนิ้วของเธอแตะเข้าที่ต้นขาของหนิงเทียนหลิน เขารู้สึกได้ว่าดูเหมือนมือของอีกฝ่ายจะมีไฟฟ้าสถิตทำให้ทั่งร่างของเขาถึงกับสะดุ้งและหัวใจเขาเต้นรัวมาก
จั๊กจี้อย่างไม่น่าเชื่อ
“พอแล้ว!”
ต่อจากนั้นชูหยิชานกดลงไปที่กล้ามเนื้อต้นขา โดยเฉพาะมือของชูหยิชานที่นวดกลับไปกลับมาที่ด้านในกล้ามเนื้อขาของเขา เขารู้สึกว่าตราบใดที่อีกฝ่ายยังเลื่อนลงไปเรื่อยๆ เขาก็อาจจะเก็บกดน้องชายไว้ไม่อยู่แล้ว
แต่มันห่างไปแค่นิ้วเดียว มันก็เหมือนกับสั่นสะเทือนแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ผ่านจุดนั้น
จนกระทั่งมือของชูหยิชานเลื่อนผ่านเข่าของเขาไปจนเขาต้องกลั้นหายใจอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าจะมีความสุขหรือผิดหวังดี
และมือนี้ก็เลื่อนลงไปที่เท้าและไม่กลับขึ้นมาอีก
“โอเค หลังนวดเสร็จแล้ว ทีนี้ก็ด้านหน้าแล้ว”
หลังจากที่นวดด้านหลังไปแล้ว ชูหยิชานก็บอกหนิงเทียนหลิน พร้อมทั้งบิดไม้บิดมือเล็กน้อย การนวดให้หนิงเทียนหลินที่ร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้มันเหนื่อยจริงๆ
“โอ้”
หนิงเทียนหลินตอบแต่สีหน้ากลับเปลี่ยนไปและเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะหันกลับไปหรือเปล่า เพราะเขามั่นใจ 100% เลยว่าถ้าเขาหันกลับไปไอ้แท่งที่แข็งอยู่ข้างล่างเขาจะต้องจั้งตะหง่าเป็นเสาขึ้นมาแน่ๆและชูหยิชานจะต้องเห็นได้ในทันที แต่เมื่อไม่มีการขยับหันกลับ อีกฝ่ายจึงทำอะไรไม่ได้
“ไม่ต้องสนใจนะ! ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! เธอไม่ต้องสนใจหรอก! ฉันยังใส่เสื้อผ้าอยู่!”
หนิงเทียนหลินหันหัวและตัวกลับมาพร้อมทั้งนอนหงายหน้าขึ้นมา
“อะไรกันเนี่ยยยย!”
แน่นอนว่าชูหยิชานที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆหนิงเทียนหลินร้องกรี๊ดขึ้นมา เธอไม่ได้ตาบอดนะ เธอจะไม่เห็นแท่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเธอนี่ได้ยังไงแล้วหน้าเธอก็แดงด้วยความเขินขึ้นมาทันที และในเวลาเดียวกันปฎิกิริยาแรกก็คือ
“ใหญ่จัง!”
เวลาที่เธอนวดใครก็จะมีผู้ชายบางคนที่มีอาการแข็งตัวขึ้นมา แต่ส่วนใหญ่ก็จะอายุ 40 หรือ 50 แล้ว พวกเขาไม่เหมือนหนิงเทียนหลินเลยสักนิด ซึ่งนี่น่าจะประมาณ 17-18 ซม. ได้เลย หนิงเทียนหลินไม่รู้เลยว่าน้องชายเขาใหญ่ขึ้นมากเพราะคุณลักษณะทางกายภาพที่เพิ่มมากขึ้นพลังการต่อสู้ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
“พระเจ้า!”
ครั้งนี้ที่หนิงเทียนหลินหันกลับมาเขาก็ได้เห็นร่างกายของชูหยิชานในทันที ปฎิกิริยาแรกคือการพยายามกลืนน้ำลายลงคอในทันที!
ในเวลานี้ร่างกายของชูหยิชานเปียกชุ่มไปหมดด้วยเหงื่อและเสื้อผ้าก็แนบติดกับร่างกายไปหมดแล้ว ทั้งคอ, ต้นขา, แขนและเสียงนุ่มไพเราะต่างก็มีเสน่ห์ไปหมดเลย โดยเฉพาะชุดชั้นในสีแดงที่เห็นได้ชัดจากเสื้อยืดสีขาวนั่น ผมยาวสวยที่มัดเป็นห่างม้าไว้ด้านหลัง นี่ยิ่งทำให้หนิงเทียนหลินอยากจะเข้าไปมองใกล้ๆเข้าไปกว่านี้อีก!
โดยเฉพาะในเวลานี้ที่ขาเธองอเพราะนั่งคุกเข่าอยู่และเธอก็นั่งอยู่ข้างๆใกล้ๆหนิงเทียนหลินเลย ดวงตาอันมีเสน่ห์ของเธอจ้องมาที่ร่างกายด้านล่างของหนิงเทียนหลิน ปากเล็กอ้าออกเล็กน้อยด้วยความตกใจเพราะจุดสำคัญของหนิงเทียนหลิน ช่างกระตุ้นใจดีจริงๆ
“นาย…นายทำแบบนี้ได้ยังไง…”ความอายแล้วแต่กลับ
หลังจากนั้นไม่นานชูหยิชานก็พูดออกมาด้วยความตกใจ หน้าเธอดูจะเขินๆพร้อมทั้งมองมาที่หนิงเทียนหลินอย่างอายๆด้วย
“ฉันก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่มันก็เป็นไปเอง”
หนิงเทียนหลินไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง นี่ก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่ได้รับการกระตุ้นร่างกายมันก็จะต้องตอบสนองแบบนี้แหละ โดยเฉพาะเมื่อเป็นชูหยิชานสาวที่สวยขนาดนี้
“ฉัน…ฉันไม่ได้…”
ชูหยิชานเอามือปิดตาพร้อมทั้งหันหลังไปแล้วนอนก้มลงไปกับเตียงและเพราะท่านี้ทำให้หนิงเทียนหลินเห็นร่างกายที่บอบบางของเธอได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะขาอ่อนที่หนิงเทียนหลินเห็นได้อย่างชัดเจน
“พระเจ้า”
หนิงเทียนหลินถึงกับกลืนน้ำลายเข้าไปอีกทีและข้างล่างยิ่งแข็งมากขึ้นไปอีก
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันเหนื่อยแล้วและมันร้อนมากเลย ฉันจะไปอาบน้ำแล้วนะ”
ชูหยิชานหาข้ออ้างและรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป เธอรู้ดีว่านี่เป็นปฎิกิริยาปกติของหนิงเทียนหลินแต่เขาก็ควรที่จะปิดไว้สิ มันใหญ่ขนาดนั้นเลยนะ! ไม่รู้หรือไงว่ามันทำให้คนอื่นเขากลัว!
“น่าเศร้าจริงๆ นวดแบบราชวงศ์ ทำไม่ได้เหรอ…”
หนิงเทียนหลินจ้องไปที่ไอ้แท่งที่ตั้งอยู่ด้านล่างแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เปราะบางมาก เขากลัวว่าทุกอย่างมันจะจบลงตรงนี้แล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น เวลาแบบนี้เขาก็คงจะได้แสดงพลังไปแล้ว
แต่สำหรับชูหยิชานเขาทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
ถึงแม้เขาจะไม่ได้สารภาพรัก แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาหลงรักแบบสุดๆ เขาไม่สามารถลืมความไร้เดียงสา, บริสุทธิ์, มีเสน่ห์ และความตกตะลึงเมื่อครั้งที่เขาได้เจอกับเธอเป็นครั้งแรกในชั้นเรียนเมื่อปีที่แล้วได้เลย
พูดได้เลยว่าเธอคือจุดอ่อนของเขาเลย เขาไม่อยากที่จะทำลายความประทับใจที่เธอเพิ่งจะรู้สึกกับเขา
บางทีครั้งนี้เธออาจจะโกรธจริงๆ เธอไม่ได้พูดอะไรมากแต่เขากลัวว่าความสัมพันธุ์ระหว่างเขากับเธอจะต้องจบลงตรงนี้ เขารู้ดีว่าชูหยิชานไม่ได้เป็นผู้หญิงแบบนั้นที่ชื่นชมความร่ำรวยมากกว่ารักที่บริสุทธิ์ อีกอย่างเธอไม่ได้รู้สึกยากลำบากเลยสักนิด
เมื่อเห็นเธอตอนนั้นเขาอยากที่จะให้วันนี้เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ
“สตาร์วอร์ส นายคิดว่าคะแนนของชูหยิชานเป็นเท่าไรกัน?”
ทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็คิดถึงปัญหานี้แล้วก็รู้สึกตื่นเต้น ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเขาจะถูกบังคับหักไป 100 อันดับแล้วน้องชายเขาจะหายไป 100 ปีหรือเปล่า แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าถ้าคะแนนของชูหยิชานไม่ถึง 80 จริงๆ เขาก็จะยอมจ่ายเพื่อให้เธอได้ “คะแนนที่สูงขึ้น” ไม่ว่ามันจะแพงแค่ไหน ตราบใดที่เขาต้องการเขาก็จะยอม
“ถ้าอยากรู้ก็ต้องแลกด้วยคะแนนวิญญาณสักหน่อยนะ”
คำตอบจากสตาร์วอร์สทำให้หนิงเทียนหลินอยากจะด่าออกมา
“ทำไมต้องใช้คะแนนด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนที่แล้วไม่เห็นต้องใช้เลย? นายก็บอกฉันเองได้นิ!”
ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อ 2-3 ชั่วโมงก่อน เขาก็คงจะยอมแลกด้วยแต่ตอนนี้เขาไม่มีพลังงานเหลืออยู่เลยเพราะเมื่อหัวค่ำเขาเพิ่งจะแลกเป็นเงินหยวนไปหมดแล้ว แต่มันก็แค่ไม่เท่าไร
“ตอนนั้นฉันพอใจที่จะบอก” สตาร์วอร์สตอบ
“งั้นตอนนี้นายก็ต้องพอใจที่จะบอกด้วย!”หนิงเทียนหลินรู้ว่าทำตัวไม่มีเหตุผลกับอีกฝ่าย แต่เขาต้องการที่จะชนะ
“ไม่มีอารมณ์” สตาร์วอร์สปฎิเสธออกมาตรงๆ
“งั้นรอก่อนเถอะ! ฉันจะไปหาพลังงานมาแลกกับนายเอง!” หนิงเทียนหลินอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทุกอย่างต้องใช้คะแนนพลังงาน
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ชูหยิชานก็เดินออกมาจากห้องน้ำแต่เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้ามีเพียงผ้าขนหนูที่ห่อตัวไว้ยาวประมาณเข่า ผมเปียกที่ระอยู่ตรงไหล่และคอขาดั่งหงษ์ขาว ใช่ นี่มันช่าง****เหลือเกิน
“เทียนหลิน ฉันแค่รู้สึกอาย ฉัน…ฉันทำต่อไม่ได้”
ประโยคแรกของชูหยิชานคือการกล่าวขอโทษกับหนิงเทียนหลิน เพราะเธอรู้ดีว่าจะโทษหนิงเทียนหลินไม่ได้เลยเพราะเธอยั่วเขาเองและสัญญาว่าจะนวดแบบราชวงศ์ให้ ซึ่งเธอทำต่อไม่ได้จริงๆ
ICSS บทที่ 81: จริงเหรอ?
“ไม่เป็นไร”
“ฉันมีธุระเหมือนกัน เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอกด้วย”
ในระหว่างที่ชูหยิชานอาบน้ำ ในเวลานั้นหนิงเทียนหลินก็เปลี่ยนชุดและรู้สึกว่ามันคงจะดีกว่าที่จะออกไปตอนนี้ ร่างกายเขากำลังรู้สึกร้อนรุ่มและแบบนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองอาจจะทำอะไรขึ้นมาก็ได้
ในความคิดเขาชูหยิชานแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ เขาไม่อยากที่จะใช้ความรุนแรงกับเธอ แค่อยากให้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ!
อีกอย่างหลังจากเรื่องมากมายวันนี้เขามั่นใจมากว่าเขาต้องได้อยู่ในหัวใจของอีกฝ่ายแน่ๆแค่ยังไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหน เขาจะคุยเรื่องนี้ทีหลัง เรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลา
เขาไม่ใช่คนที่เดินหน้าไม่ได้แต่สำหรับบางคนเขาก็ไม่อยากที่จะเดินจากไปไหนและไม่อยากที่จะปล่อยไปด้วย
“นาย…จะออกไปข้างนอกเหรอ?”
เมื่อชูหยิชานได้ยินแบบนั้นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปและเธอคิดว่าหนิงเทียนหลินโกรธเธอ บรรยากาศแบบนั้นมันก็ไม่ค่อยเหมาะที่จะเดินหนีออกไปเท่าไร ในเมื่อเธอเป็นคนบอกเองว่าจะนวดให้เขา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไงตราบใดที่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ การพูดเล่นตลกกันก็น่าจะสมควรมากกว่า
นี่คือสิ่งที่เธอพูดตอนที่เธอเข้าไปฝึกงาน
แต่ตอนนี้เธอรู้สึกอายจริงๆ ของหนิงเทียนหลินมันใหญ่เกินไป ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็จะต้องข้ามมันไปให้ได้สิ
“ใช่ พอดีเพื่อนฉันเพิ่งโทรมาและฉันจะออกไปหน่อย”
หนิงเทียนหลินโกหก เขาไม่มีเพื่อนในเมืองจินเปยเลย แม้แต่เพื่อนที่โรงเรียนหรือชั้นเดียวกันก็ตาม ไม่มีใครที่เขาจะคุยด้วยได้มากนัก คนที่เขาจะนับเป็นเพื่อนด้วยก็คงจะเป็นเพื่อนร่วมหอแค่นั้นแหละ
ส่วนคนอื่นๆก็แค่ทั่วๆไป
“นาย…ไม่ได้โกรธใช่ไหม? เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”
ชูหยิชานก็ยังไม่อยากจะเชื่อยู่ดี หลังจากเรื่องทุกอย่างนี่มันบังเอิญเกินไปและเขาก็จะออกไปทันทีที่เธอเดินออกมาเลย
“ไม่โกรธเลย” หนิงเทียนหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ได้โกรธอะไรเธอเลย ไม่ต้องกังวลนะ”
หนิงเทียนหลินมองอย่างจริงจังไปที่ชูหยิชานแล้วจึงโบกมือด้วยรอยยิ้ม
“ไปก่อนนะ เจอกันที่โรงเรียน”
เมื่อพูดจบโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ เขาก็หันหลังทันที เปิดประตูและเดินออกไป
“ได้ เจอกันที่โรงเรียน”
สายตาสุดท้ายของหนิงเทียนหลินทำให้ชูหยิชานถึงกับต้องหน้าแดง
เขาไม่ได้โกรธใครและเขาก็ไม่ได้โกรธเธอด้วย มันหมายความแบบนั้นใช่ไหม แต่ในเวลานี้เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่เธอรู้สึกถึงความหอมหวานอยู่ในใจ
“ฮึ? อะไรเนี่ย?”
แต่เมื่อเวลาที่เธอพร้อมกำลังจะเอนตัวลงนอน เธอก็สังเกตว่าที่ข้างหัวเตียงมีบึกเงินสีแดงซึ่งทั้งหมดเป็นแบงค์ 100 หยวน จึงรีบหยิบขึ้นมาแล้วก็เจอว่ามีกระดาษเขียนด้วยหมึกสีดำวางอยู่ด้วย
“หยิชาน ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องใช้เงิน นี่นะเงินหนึ่งล้าน เก็บเอาไว้แล้วถ้ามันไม่พอเธอก็มาบอกได้ แต่ถ้ามันพอแล้วก็เอาไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองด้วยนะ”
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนแกร่งและไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับฉัน แต่เงินนี้ฉันไม่ได้ให้เธอเฉยๆ เมื่อเธอเรียนจบแล้วหาเงินได้ มันก็ไม่สายที่เธอจะหามาคืนฉัน”
“อีกอย่าง นี่เบอร์โทรศัพท์ฉันนะ ถ้าพวกที่โรงอาบน้ำหรือชายแก่ที่กลืนกุญแจมาหาเรื่องเธอดึกๆ อย่าเปิดประตูแต่ให้โทรหาฉันและฉันบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้แล้วด้วย คงจะไม่มีปัญหาอะไร”
“เธอเก็บคีย์การ์ดไว้เพราะในอนาคตห้องนี้คือห้องของเธอ เมื่อไรก็ตามที่เธออยากจะกินอาหารดีๆ อาบน้ำหรือว่ายน้ำหรืออื่นๆก็ทำได้เลย แต่ชวนฉันด้วยนะถ้าจะจัดมื้อใหญ่ ฉันยินดีจะเป็นเพื่อนกินข้าวด้วย”
เมื่อได้อ่าน น้ำตาก็เอ่อล้นในตาของชูหยิชานและหลังจากนั้นเธอก็ห้ามตัวเองต่อไปไม่ได้จนต้องร้องได้ออกมา น้ำตาเปียกชุ่ม
เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องร้องไห้แต่เธออยากจะร้องมันออกมาและอยากจะร้องให้กับวันที่มันน่าขับข้องใจที่เธอต้องทรทรมานอย่างที่ผ่านมา
ไม่มีใครรู้ว่าเธอพยายามหาเงินมากแค่ไหน เธอต้องถูกรังแก, ถูกทำร้าย, โดนดูถูก แม้แต่ตอนเรียนมัธยมในระหว่างปิดภาคเรียนเธอต้องไปทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างเพื่อหาค่าเรียน ต้องไปแบกอิฐอยู่ตั้งหลายเดือน!
เรื่องพวกนี้เธอไม่เคยพูดให้ใครฟัง แต่เก็บไว้ในใจมาเป็นเวลานาน
เวลานี้เมื่อมันแตกออกมามันก็เกินจะควบคุมได้ เธอร้องไห้ไม่หยุดจนหลับไปพร้อมน้ำตาที่เปียกหมอนชุ่มไปหมด
“เทียนหลิน ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆ”
เธอไม่เคยคิดที่จะแฟนเพื่อมาช่วยปลอบใจ หรือแม้แต่เพื่อรับฟังเรื่องทุกข์ใจใดๆของเธอ แต่ยังไงไม่รู้เธอยังไม่เจอคนที่เธอชอบและเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองชอบแบบไหนกันแน่แต่ในเวลานี้เธอไม่รู้ตัวเลยว่าประตูสู่หัวใจของเธอได้เปิดออกแล้ว ในใจเธอเหมือนมีแสงสว่างและความอบอุ่นเกิดขึ้นมาแล้ว
…
ไนท์คลับโกลเด้น
ในเวลาตี 3 เป็นเวลาที่คนแน่นที่สุดของร้าน ชายหญิงกว่าร้อยคนเต้นเพลงของดีเจกันอย่างเมามันอยู่ที่พื้นที่เต้นรำ สาวสวยมากมายที่อยู่บนเวทีต่างก็แต่งตัวด้วยชุดโชว์เนื้อโชว์หนังกันมากมาย ทำให้เลือดสูบฉีดดีจริงๆ
โดยเฉพาะหญิงสาวที่สูงที่สุดทั้ง 3 คนที่อยู่ในชุดหนังตัวสั้นและรองเท้าบูททรงสูง ที่กำลังเต้นอยู่กับเสาพร้อมทั้งใช้ต้นขาหนีบเสาไว้และกระโดดมันช่างดูเซ็กซี่จริงๆ
“นี่เป็นคลับกลางคืนในตำนานเลยนะ”
หนิงเทียนหลินมาถึงที่นี่ได้สามนาทีแล้ว ตอนที่เขาออกมาจากโรงแรมแวนด้าก็ห้าทุ่มแล้ว ในเวลานี้จะกลับไปที่โรงเรียนก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะผู้จัดการหอก็คงจะล็อคประตูไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนั้นเขาจึงต้องหาที่อื่นไปแทน
ประเด็นคือตอนนี้หนิงเทียนหลินไม่มีความง่วงเลย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนมา 3 วันแล้วก็ตาม เขายังรู้สึกพลังงานเต็มเปี่ยมอยู่เลย เขาไม่ได้เดินไปไหนไกลเลยแล้วเมื่อเขาเห็นที่นี่ก็ลังเลอยู่สักพักแต่ก็เดินเข้ามา
เขาอยู่มา 19 ปีแล้วแต่ไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อนเลย เต่เขาเคยได้ยินว่ากลางคืนจะมีพวกไนท์คลับเปิดอยู่แต่จะปิดเวลากลางวัน และในนี้จะมีอะไรน่าสนใจมากมายเต็มไปหมด
ที่นี่เขาจะได้เห็นคนมากมายหลายบุคลิกจริงๆ!
หนิงเทียนหลินที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกแต่กลับรู้สึกตื่นเต้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาเพิ่งเข้ามาที่นี่ได้เพียง 3 นาทีแล้วเขาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ในนี้มีแต่เพลงที่ร้อนแรง, หุ่นสุดเซ็กซี่, ผู้ชายและผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความต้องการ, ยา, ปืน, และอื่นๆที่เขายังไม่เคยเห็นแล้ว
ตอนนี้เขานอนเอนอยู่บนโซฟา ในมือถือแก้วไวน์อยู่และมองไปที่ผู้คนที่กำลังเต้นกับอยู่ที่ฟลอร์เต้นรำด้วยความเบื่อหน่ายและคิดว่าถ้าอีก 10 นาทียังไม่มีอะไรน่าสนใจเขาจะออกไปจากที่นี่แล้ว
สถานที่แบบนี้มันเสียงดังจนน่าปวดหูเกินไป เขาชอบอยู่กับความเงียบมากกว่า
“จริงเหรอ? แน่ใจนะว่าอ่านมาถูกอ่ะ?”
พื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ให้คนเข้ามาได้อย่างฟรีๆและข้างในจะเป็นพื้นที่ที่มาเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ ในเวลานี้เด็กหนุ่มที่มีรอยสักรูปหมาป่าสีเทาผลักประตูเปิดเข้ามาและกระซิบที่ข้างหูของชายวัยกลางคน
ทันใดนั้นสีหน้าของชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนไปในทันทีและแสดงถึงความอับอายขึ้นมาทันที
ICSS บทที่ 82 : แล้วยาของนายล่ะ?
“แน่ใจครับ ผมเห็นมาชัดเจนเลยครับ! ชายคนนั้นเหมือนกับผู้ชายในโรงอาบน้ำที่เจอเมื่อบ่ายวันนี้เลยครับ” ชายที่มีรอยสักรูปหม่าป่าสีเทายืนยันอย่างชัดเจน
“ไปดูให้แน่ใจอีกที”
ชายวัยกลางคนที่หน้าซีดนี่ไม่ใช่ใครอื่น คือชายร่างกำยำที่หนิงเทียนหลินทำให้กลัวที่โรงอาบน้ำ หัวหน้าของเขาคือชายหัวโล้นที่ในเวลานี้ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล มีหลายคนที่ต้องเดือดร้อน
เพราะหนิงเทียนหลินแต่สุดท้ายแล้วหนิงเทียนหลินก็ขู่ที่จะฆ่าเขา!
ชายคนนี้จำเขาได้แน่ๆ!
วันนี้คนของพวกนี้เพิ่งจะกลับมาจากกรมตำรวจและคนที่พวกเขาโยนข้อหาคดีฆาตกรรมไป เป็นเด็กอายุ 15 ปี ตอนนี้เขากำลังคุยกันว่าจะให้เงินชดเชยกับที่บ้านเด็กคนนั้นยังไง
“โอเคครับพี่”
ชายคนนั้นค่อนข้างจะผอมบางค่อยๆเดินผ่าน
ประตูเล็กๆออกไป วันนี้เขาก็อยู่ที่นั้นด้วยเขาจึงจำหน้าตาของหนิงเทียนหลินได้อย่างดี หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาอีกรอบและพยักหน้าไปทางชายวัยกลางคน
“แน่ใจครับ!”
“ลูกพี่! ใช่คนนั้นแน่ๆ! ตอนนี้เขากำลังดื่มอยู่ด้วย”
น้ำเสียงพูดอย่างรีบร้อนและเร่งรีบ
“มันมาทำอะไรที่นี่ว่ะ?”
“แค่มาดื่มมั้งครับ?”
สีหน้าของฮาดรอนหวาดกลัวและตกใจ สิ่งแรกที่เขาคิดคืออีกฝ่ายรู้ว่าเขาอยู่ที่นี้เลยตั้งใจที่จะมา แต่เมื่อคิดเรื่องความเป็นไปได้นี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะพวกเขาเข้ามาทางหลังร้านและไม่มีใครที่น่าจะรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่
อีกอย่างพวกเขาก็ทำตามที่อีกฝ่ายสั่งไว้แล้ว แล้วอีกฝ่ายจะมาเขาที่นี่ด้วยเรื่องอะไร?
“น่าจะใช่ครับ เขามานั่งอยู่ที่นี่สักพักแล้ว แค่มาดื่มแล้วก็มองไปที่ฟลอร์เต้นรำ ไม่มีอย่างอื่นเลย ถ้าเขาอยากจะมีเรื่องกับเราจริงๆเขาก็น่าจะมาที่นี่ในตอนเช้าแทน” เด็กหนุ่มลองเดา
“งั้นเหรอ”
“ผมคิดว่าแบบนั้น” ชายที่เห็นหนิงเทียนหลินเป็นคนแรกพยักหน้า
“ถ้าเป็นแบบนั้น ครั้งนี้ก็อย่าปล่อยมันไป!”
เด็กหนุ่มอีกคนพูดด้วยความเกรี้ยวกราด
“ใช่ อย่าปล่อยมันไป! พวกเราก็อยู่ที่นี่กันหมด!” สายตาของฮาดรอนเปลี่ยนไปและความคิดของเขาก็แจ่มชัดขึ้นมาทันที
“แต่อีกฝ่ายมันแข็งแกร่งมากเลยนะ และพวกเราไม่น่าสู้เขาได้ด้วย…”
“ดื่ม…”
“ดื่ม…”
ฮาดรอนพูดคำนี้วนไปซ้ำๆแล้วเขาก็มองขึ้นมา มองไปที่ชายรุ่นน้องที่อยู่ถัดจากเขาไปแล้วมองไปข้างหน้า
“ไอ้รถตู้ นายยังมียาอยู่หรือเปล่า?”
“ไม่มีครับ เฮีย…”
“เดี๋ยวนี้ผมเอามาใช้กับผู้หญิงหลายคน ของเลยหมด…”
ไอ้รถตู้ตัวเล็กมากสูงเพียงแค่ 160 เซนติเท่านั้นเองและดูจะดื้อรั้นหน่อยๆ แม้แต่เดี๋ยวนี้สาวสวยมากมายก็ชอบที่จะใช้ยา และผู้หญิงที่มาในสถานที่แบบนี้ก็ไม่อายและไม่คิดที่จะฟ้องเขาถ้ามีเรื่องอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นด้วย
“โอ้! มึงใช้ยาไปกับเรื่องพรรณนั้นหมดแล้วเหรอ!”
ฮาดรอนตะโกนออกมาด้วยความโกรธจถึงขนาดเตะเขาออกไป แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไอ้รถตู้ก็รีบพูดออกมาทันทีว่า
“พี่ยานั่นหมดแล้วแต่มีบางคนที่มียานะครับ
พวกพ่อค้ายาไง”
“พวกพ่อค้ายาพวกนี้ยังมียานอนหลับอีกเพียบเลยแต่ในบางครั้งก็ทำให้คนเห็นภาพหลอนด้วย
พี่ก็รู้เรื่องยาพวกนี้ดีนิครับ”
“จะอันตรายไหมนะ?” ฮาดรอนขมวดคิ้ว
ถ้าใช้ยาพวกนี้อย่างถูกวิธีอีกฝ่ายจะล้มลงและหลับไปเลยและถึงขนาดมีเซ็กด้วยได้เลย แต่บางคนก็ถึงกับเสียสติและถอดเสื้อผ้าออกและแสดงนิสัยประหลาดๆออกมาได้เลยอย่างไรก็ตามเขาก็รู้ด้วยว่าตราบใดที่ยังใช้ยาอยู่ อีกฝ่ายก็จะหลับไปหลายชั่วโมงและมีอาการผันผวนทางจิตใจ
“งั้นก็ดีเลย! วิเศษไปเลย เวลาไม่เคยรอใคร
ถ้าพลาดโอกาสนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้แก้แค้นอีกเมื่อไร!”
ฮาดรอนพยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้อีกฝ่ายไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่และมันง่ายมากที่จะจัดการ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นยังไง! ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายทำให้เขากลัวจนสุดหัวใจ
“นายรู้ว่าต้องทำยังไงใช่ไหม? จำไว้ด้วย ครั้งนี้ต้องใช้ยาเยอะๆเอาให้ล้มทั้งยืนเลยนะ!”
ฮาดรอนพูดกับไอ้รถตู้ เขารู้ดีว่าไอ้รถตู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ดี
“ได้ครับลูกพี่ เชื่อใจได้เลย วันนี้มันไม่มีทางที่จะรอดไปได้แน่ๆ”
ฮาดรอนเลียปากอย่างหมายมั่น ความคิดเรื่องยานี่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น!
…
“เรียนแขกทุกท่าน ทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ผมอยากจะแจ้งข่าวดีกับทุกคน วันนี้เป็นวันเกิดหัวหน้าของเรา และตอนนี้หัวหน้าของเราอยากที่จะฉลองกับทุกคน คืนนี้เราจะแจกเบียร์
1,000 ขวดสำหรับทุกคนให้ได้ดื่มกันฟรีๆเลย!พนักงานบริการจะเสริฟเบียร์ให้กับทุกคนเพื่อเป็นการขอบคุณที่ให้การสนับสนุนเรามาตลอด!”
เมื่อหนิงเทียนหลินนั่งมาเกือบจะสิบนาทีแล้ว เสียงดังของดีเจบนเวทีก็ประกาศก้องไปทั่วทั้งร้านและในเวลาเดียวกัน ทั่วทั้งร้านก็มีเสียงร้องก้องดีใจด้วยความตื่นเต้นเต็มไปหมด
เพราะเสียงตะโกนพวกนี้ทำให้หนิงเทียนหลินไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไรมากนัก แต่ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นพนักงานเสริฟหลายคนที่กำลังถือถาดใส่เบียร์ฟรีเพื่อนำมาบริการลูกค้าอยู่ด้วย มีลูกค้ามากมายที่รับเบียร์เหล่านั้นไปดื่มด้วย
“คุณค่ะ เชิญรับเบียร์ไปได้เลยค่ะ”
หลังจากนั้นสักพัก หนิงเทียนหลินก็หยิบแก้วเบียร์และแก้วน้ำส้มมาวางไว้ตรงหน้า เขาไม่ได้ดื่มเบียร์มากนักแต่ดื่มน้ำส้มมากกว่า เขาชอบรสชาติของน้ำส้มมากกว่าเบียร์มาก
“อึก!”
“อึก!”
เพียงไม่กี่อึกเขาก็ดื่มน้ำส้มจนหมด
“โอเค ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าไนท์คลับมันเป็นยังไง”
ประมาณสองนาทีต่อมา เขาก็อยากที่จะลุกออกไปจากที่นี่แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้นร่างกายทั้งร่างของเขาก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาพร้อมทั้งล้มลงที่โซฟาข้างๆเขา
“เรียบร้อย! ลูกพี่! ยาออกฤทธิ์แล้ว!”
ที่ชั้นบนมีคน 2-3 คนที่จับตามองหนิงเทียนหลินด้วยความสนใจเป็นพิเศษและทันทีที่เห็นท่าทางของหนิงเทียนหลินก็รีบวิ่งลงมาชั้นล่างทันทีเพื่อมาเจอกับฮาดรอน
“สลบไปแล้วเหรอ?” ฮาดรอนถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“เกือบแล้วครับ เริ่มจะเซแล้วก็ไม่ได้สติแล้วครับ”
หลายคนกลับเข้ามาด้วยความตื่นเต้น
“ดีมาก! งั้นรออีกสักหน่อย!”
“เมื่อมันฟื้นก็ลากมันมาและบอกให้มันรู้ว่าคืนนี้มันจะต้องโดนแก้แค้นแล้ว!”
สายตาขอฮาดรอนไร้ซึ่งความปราณีใดๆ วันนี้เขาต้องอธิบายเรื่องที่หัวหน้าทั้งสองถูกหนิงเทียนหลินคนนี้เล่นงาน! มันรุนแรงจนอาจจะพิการได้เลย! อย่างน้อยก็โยนมันให้เป็นอาหารปลาก็แล้วกัน!
“ใจเย็นพี่ ทุกคนกำลังรออยู่นะ!”
“ไอ้คนนี้มันเจ๋งจริงๆ ผมต้องใส่ยาเท่ากับ 10 คนเลย! ถ้าเป็นคนธรรมดาคงอยู่ได้ไม่เกินครึ่งนาทีหรอก แค่ 10 วินาทีก็ล้มแล้ว! แต่ไอ้คนนี้ต้องใช้เวลาตั้ง 3 นาทีกว่าจะล้ม!”
ในเวลานี้ไอ้รถตู้รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
ถ้ายานี้ใช้ได้ผลกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไป เธอคนนั้นต้องตายแน่!
ICSS บทที่ 83 :ปลาเยอะมากเลย!
“ปัง!”
ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ดวงตาของหนิงเทียนหลินกลายเป็นสีแดงเลือดไปแล้ว ชั่วขณะหนึ่งที่เขาเคยถูกพวกโจรรัดคอจนตายเพราะต้องการที่จะเห็นความยุติธรรมและที่สุสานของเขาเองเขากลายเป็นซอมบี้เพื่อที่จะฆ่าโจรพวกนั้น และยังตอนที่เขาช่วยชีวิตหลินเจียอี้จากน้ำมือของพวกแก๊งอีกจนทำให้เขาต้องฆ่าปลามากมายอยู่สักพักเลยทีเดียว!
ฉากเหตุการณ์ต่างๆเหมือนในหนังฉายขึ้นมาในใจเขา
“ปลา!”
“ปลาเป็นๆ!”
“ปลาเยอะๆเลย!”
ทันใดนั้น หนิงเทียนหลินไม่ได้ขยับไปไหนแต่ยืนตรงอยู่กับที่ ตรงหน้าเขาทุกอย่างกลายเป็นปลาไปหมด ทีละตัวแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ปลาตัวใหญ่กำลังแหวกว่ายอยู่บนฟลอร์เต้นรำ! และในมือของเขาเขาไม่รู้ว่าเมื่อไรที่กริซสีฟ้าใสมาปรากฎอยู่ในมือเขา
“ปลา! ปลาพวกนี้จำเป็น! ฉันต้องฆ่า! ฉันอยากที่จะอัพเกรด!”
ร่างกายของหนิงเทียนหลินระเบิดออกด้วยเสียงอันดังลั่น จากเวทีเขากระโดดตรงไปที่ฟลอร์เต้นรำ โบกกริซที่อยู่ในมือไปมาและทัดใดนั้นก็มีเลือดนอง! หัวของเด็กเสริฟหลุดลงไปกองกับพื้น!
และในไม่ช้าก็มีหัวที่ 2 หัวที่ 3…
“อะไรเนี่ย!”
“ใครทำอะไรกระเด็นใส่ฉันเนี่ย!”
สาวผมแดงที่กำลังเต้นอยู่อย่างเขินอาย อยู่ดีๆก็รู้สึกมีน้ำอะไรกระเด็นมาโดนที่คอ เธอคิดว่ามีใครทำเครื่องดื่มกระเด็นมาโดนเธอ ในเวลาเดียวกันเธอก็แตะไปที่แขนก็เจอคราบอะไรเหนียวๆ
เมื่อมองเข้าไปดีๆจึงเห็นว่าเป็นสีแดงเลือด
“อะไรเนี้ย! ดื่มสีแดงด้วย!”
หญิงสาวไม่ได้ตอบโต้อะไร เธอคิดว่าอีกฝ่ายทำน้ำมะเขือเทศกระเด็นใส่เธอจึงรีบหันไปมองอย่างเร็วและเตรียมที่จะด่าออกมาแต่ก็ต้องถูกรบกวนจากความรู้สึกเย็นๆที่คอพร้อมเลือดมากมายที่ไหลออกมาจากเธอ คอของเธอเริ่มที่จะโป่งออกมาและเริ่มเกิดรอยแยกเล็กๆขึ้นมา
ในสายตาของเธอมันเต็มไปด้วยความสยอง
“ฆ่า! มีคนกำลังฆ่ากันอยู่!”
ในไม่ช้าก็มีบางคนเริ่มจะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นบนฟลอร์เต้นรำและตะโกนออกมา ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ภายในเวลาแค่ 3 วินาที มี 5 คนแล้วที่ล้มลงไปนอนบนกองเลือด แต่กริซในมือของหนิงเทียนหลินก็ยังไม่ยอมหยุด ในสายตาของเขาพวกนี้ไม่ใช่คนแต่เป็นปลามากมาย! ปลาตัวใหญ่!
เขาอยากที่จะฆ่าปลา เขาอยากที่จะเก็บพลังงาน เขาอยากที่จะอัพเกรด!
“อะไรเนี่ย!”
แล้วก็เกิดเสียงกรีดร้องดังออกมาจากฟลอร์เต้นรำและทุกคนก็รีบวิ่งไปที่ทางออกทันที บางคนเริ่มที่จะวิ่งชนกันโดยไม่สนใจใคร ต่างวิ่งเหยียบกันไปมา บรรยากาศแห่งความหวาดกลัวกระจายตัวไปทั้งฟลอร์เต้นรำ
แม้แต่บนเวทีของดีเจ, บนเสาเต้นรำของสาวๆนักเต้น, และแขกที่นั่งดื่มต่างก็พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและรีบวิ่งออกท่างเวทีด้านหลังไป พวกเขาต่างก็คิดอยู่อย่างเดียวคือต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่!
“พี่ใหญ่! ไอ้หมอนั่นมันบ้าไปแล้ว! ผมไม่รู้ว่ามันเห็นภาพหลอนอะไร สารหลอนประสาทคงทำให้เขาอยากจะฆ่า! และตอนนี้มันก็ฆ่าอย่างบ้างคลั่งเลย! น่าจะมีคนถูกมันฆ่าไปเป็นโหลแล้วแน่ๆ!”
แน่นอนว่าเขาเห็นว่าหนิงเทียนหลินกำลังฆ่าคน เขารู้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป จึงรีบวิ่งตรงเข้าไปและตะโกนรายงานฮาโดโกะ ด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ!
แม้แต่หน้าเขาก็ออกจะซีดด้วยซ้ำไป!
ชีวิตมากมายพวกนั้น! พวกเขาเคยทำอะไรแบบนี้มาตั้งหลายปีแต่กลับไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนเลย!
“อะไรนะ!”
พวกลูกน้องต่างก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่ง เปิดประตูออกไปและเห็นเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่ฟลอร์เต้นรำและเขาก็สังเกตเห็น เด็กหนุ่มที่กำลังคลุ้มคลั่งที่โบกกริซไปทั่วพร้อมทั้งไล่ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง!
และนี่คนตายไปเป็นสิบแล้วนะ! เป็นสิบๆแล้ว!
“มันจบแล้ว…”
“มันจบแล้ว…”
นี่เป็นเรื่องใหญ่แล้ว! มีคนตายไปเป็นสิบแล้วและไนท์คลับของเขาต้องโดนรัฐบาลสั่งปิดแน่ๆ! พวกนั้นต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ! พวกเขาต้องติดคุกหัวโตไปตลอดชีวิตแน่ๆ
“บ้าไปแล้ว! มันบ้าไปแล้วแน่ๆ!”
คนกว่าสิบคนไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของหนิงเทียนหลิน พวกเขาเห็นแต่ความหวาดกลัวสะท้อนออกมา! เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่ากริซของหนิงเทียนหลินทั้งคมและรุนแรงมาก ไม่มีคอของใครอยู่ที่เดิมเลย!
“พี่ใหญ่ ไป รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ! อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว! ไม่รู้ว่าไอ้หมอนี่จะมาฆ่าเราเมื่อไร ถ้าเรามัวแต่ดูมันอยู่แบบนี้เราต้องตายกันหมดแน่ๆ!”
ในเวลานี้ ไอ้รถตู้ตะโกนเสียงดังไปที่หูของฮาดรอน
ในเวลานี้ขาของเขาสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นกลัว ภาพหลอนที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นเพราะฝีมือเขาเอง เขาเอาชีวิตของชายคนนี้มาเล่นแต่ประเด็นสำคัญตอนนี้คือการหนีออกไปจากที่นี่และเอาชีวิตรอดจากเรื่องหายนะนี้!
ถ้าอีกฝ่ายฆ่าคนที่อยู่ข้างล่างในไม่ช้าก็คงจะขึ้นมาฆ่าพวกเขาแน่ๆ! ตอนนี้ที่นี่อันตรายมากๆและต้องรีบหนีออกไปทันที!
“ใช่แล้ว! จริงด้วย! อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว! ออกไปจากที่ไนท์คลับก่อนเถอะ!”
สีหน้าของฮาดรอนมีแต่ความกลัว เขารู้ดัวยว่าอีกฝ่ายกำลังคลั่งและทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเมื่อเด็กหนุ่มคนนี้ได้รับการฝึกมาอย่างดีและมีความแข็งแกร่งที่ดีเยี่ยม เขากล้าที่จะพูดได้เลยว่าพวกนี้ไม่มีใครเป็นศัตรูของอีกฝ่ายเลย!
คนมากมายมารวมกันอยู่ที่นี่และต่างก็ถูกฆ่าทีละคนๆ!
“ว้าย!”
ฝูงชนต่างกรีดร้องและรีบวิ่งไปที่ประตูหลังของไนท์คลับ ทุกครั้งที่พวกเขามาจะต้องเข้าและออกจากทางนี้เสมอ
และการฆ่าข้างล่างก็ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง!
“ล็อค! ทำไมประตูล็อคล่ะ!”
“เปิดประตู เปิดประตูที!”
ในเวลานี้พวกแขกที่อยากจะหนีออกทางประตูหน้าและฮาดรอนที่อยากจะหนีออกทางประตูหลังต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เพราะประตูถูกล็อคจากข้างใน! ไม่ว่าจะพยายามเปิดแค่ไหนก็เปิดไม่ออก!
“ชนเลย! ชนประตูไปเลย!”
ประตูหน้าเป็นประตูกระจก แขกหลายคนจึงรีบหยิบเก้าอี้กขึ้นมาและทุบเข้าไปที่กระจกโดยตรง พวกเขาแค่อยากที่จะหนีออกไปตอนนี้! แต่เรื่องที่แปลกคือไม่ว่าพวกเขาจะทุบไปมากแค่ไหนประตูก็ไม่ขยับเลย ไม่ว่าจะแรงแค่ไหนประตูก็ไม่แตก!
ไม่ใช่ทุกคนที่แข็งแกร่งไปหมด!
พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าประตูที่ไนท์คลับเป็นประตูแบบนิรภัย!
แต่สิ่งที่แปลกไปกว่านั้นคือถ้าพวกเขายืนอยู่ข้างนอก พวกเขาก็จะเห็นว่าไนท์คลับในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาด้วยมือใหญ่ ทุกคนที่อยู่ข้างในจะสามารถมองออกมาข้างนอกได้แต่ถ้าอยู่ข้างนอกจะไม่สามารถมองเห็นไนท์คลับได้เลย!
เหมือนว่าไนท์คลับได้หายไปจากโลกนี้ไปเลย!
“ทุบเลยๆ! ทำไมมันถึงไม่แตกเนี่ย!”
ลูกน้องหลายคนถึงกับต้องตกตะลึงด้วยความช็อค ประตูนี้ไม่เคยล็อคมาก่อนเลยแต่ตอนนี้มันจะมาถูกล็อคแน่นขนาดนี้ได้ยังไง ลางสังหรณ์ไม่ดีพุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของพวกเขาจนทำให้ขนหัวลุกไปหมดแล้ว แต่ในมือของพวกเขาต่างก็มีมีดและขวานพร้อม จึงเหวี่ยงลงไปที่ประตูเหล็กเข้าอย่างจัง
“ปัง!”
“ปัง!”
แต่เมื่อขวานสัมผัสไปที่ประตูเหล็ก มันกลับเกิดเป็นเสียงอู้อี้ ไม่ว่าจะทุบไปแรงแค่ไหนก็ไม่มีแม้รอยขีดข่วนเกิดขึ้นเลย พวกเขาไม่รู้เลยว่าแผ่นเหล็กของประตูที่ทุบลงไปนั้นมันแข็งแรงอย่างมาก!
ICSS บทที่ 84:การแก้แค้น!
“หน้าต่าง!”
“ใช่ มีหน้าต่างนิ! กระโดดออกจากหน้าต่างกันเถอะ!”
บางคนที่รู้จักไนท์คลับอย่างดีก็จะรู้ว่าจริงๆแล้วมีหน้าต่าง 2-3 บานที่สามารถผ่านออกไปข้างนอกได้ เมื่อเห็นว่าทุบประตูให้แตกไม่ได้ พวกเขาจึงเบนเข็มไปที่หน้าต่างแทน
ที่ประตูหน้าพวกเขาไม่กล้าที่จะเดินผ่านเพราะมันต้องข้ามฟลอร์เต้นรำ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นโลกแห่งความตายไปหมดแล้ว!
“โอ้!”
ทุกคนรีบพุ่งตัวไปที่หน้าต่างอย่างไม่ลังเลและไม่นานเลยก่อนที่มือเขาจะแตะไปที่ตำแหน่งของหน้าต่างแต่น่าแปลกที่ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงแค่กำแพงหนา!
“ไม่นะ!”
“ทำไมไม่มีล่ะ!”
“ฉันจำได้ว่ามันอยู่ตรงนี้นิ!”
สีหน้าของฮาดรอนเปลี่ยนไปทันทีเพราะเขาจำได้อย่างชัดเจนว่ามีหน้าต่างอยู่ตรงนี้ ตราบใดที่พวกเขาเดินไปบาร์เหล็กนี้พวกเขาก็จะสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้! แต่ตอนนี้ทำไมกลับหาไม่เจอล่ะ!
พื้นก็อยู่ตรงนี้ มือจับก็ยังอยู่ตรงนี้ งั้นหน้าต่างก็ต้องอยู่ตรงนี้สิ!
“พี่ฮาดรอน…พี่ฮาดรอน…มีบางอย่างผิดปกติแล้วล่ะ!”
ทุกคนต่างก็รู้สึกเย็นเยือกกันไปหมดและพวกเขาต่างก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ก็พูดไม่ได้ว่ามีอะไรผิดปกติ ดูเหมือนจะมีมือล่องหนที่คอยควบคุมทุกอย่างอยู่!
“พี่ฮาดรอน ขอยืมโทรศัพท์หน่อย…เราออกไปไม่ได้! ผมอยากจะโทรศัพท์หน่อย…แต่ไม่มีสัญญาณเลย!”
ลูกน้องกำลังถือโทรศัพท์ของเขาอยู่แต่มีสีหน้าที่ค่อนข้างจะหวาดกลัวเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าเคยใช้โทรศัพท์ที่นี่มาแล้วกี่ครั้งแต่ทำไมครั้งนี้ถึงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย!
“ของฉันด้วย!”
“ไม่มีสัญญาณสักขีดเลย!”
ต่อมาคนอีกหลายคนก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยเหมือนกันแต่ก็ไม่มีสัญญาณเหมือนกัน! และทันใดนั้นทั่วทั้งร่างของทุกคนก็ต้องขนลุกโดยเฉพาะเมื่อนึกถึงว่าอีกห้องหนึ่งมีแต่กองศพที่นอนกองอยู่เต็มไปหมดด้วย
“กำแพง!”
“ทุบกำแพงเลยแล้วกัน!”
หัวของฮาดรอนรู้สึกชาไปเล็กน้อยแต่ในเวลานี้เขาทำได้แค่ออกคำสั่งออกมาดื้อๆ เขารู้ดีว่าถ้าวิธีนี้ไม่ได้ผลมันก็มีอีกแค่ทางเดียวนั่นคือสู้กับอีกฝ่ายไปเลย จัดการฆ่าหนิงเทียนหลินซะเลย!
แต่ด้วยความโหดร้ายของอีกฝ่ายทำให้เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้!
“อาฟา นายแข็งแรงงั้นช่วยฉันเอาค้อนมาทุบทีสิ! ทุบไปที่กำแพงเลย!”
กำแพงทำจากอิฐและไม่มีเหล็กเลย งั้นมันก็คงไม่ยากที่จะทุบให้พัง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาใช้ค้อนหนักๆทุบและคนพวกนี้ก็แข็งแรงกันทุกคน!
“ดีเลย!”
ในสายตาของทุกคน ผู้ชายที่แข็งแรงกำลังใช้ค้อนทุบไปที่กำแพง
“โอ้!”
ทุกคนต่างก็ต้องปวดหูเพราะเสียงอันดังลั่นนี้ ความแข็งแรงของอาฟาทำให้กำแพงแตกได้จริงๆแต่คนพวกนี้กลับรู้สึกหนาวไปถึงหัวใจเมื่อได้เห็นผลที่ตามมา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องรอยแตกเลย กำแพงไม่มีรอยด้วยซ้ำ!
“มันจบแล้ว…”
ทุกคนต่างก็มองหน้ากับไปมาด้วยสายตาแห่งความตื่นตะหนก
…
“รีบเลย!”
“โทรศัพท์โทรออกไม่ได้ได้ยังไงเนี่ย!”
ในเวลาเดียวกันทุกคนก็รีบกรูกันเข้ามาที่ล็อบบี้พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในมือแต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือมันไม่มีสัญญาณเลยสักขีด ไม่ต้องพูดถึงการโทรออกเลยแต่ฟังก์ชั่นอื่นก็กลับใช้ไม่ได้ด้วย
บางคนอยากที่จะถ่ายวีดีโอเหตุการณ์ในวันนี้ แต่ฟังก์ชั่นกล้องต่างๆก็ใช้งานไม่ได้ด้วย!
มือถือที่ถืออยู่ในมือแต่กลับไม่ต่างอะไรกับก้อนอิฐเลย!
“มาแล้ว!”
“เขามาทางนี้แล้ว!”
“รีบหนีเร็ว!”
แค่ 3 นาทีต่อมา ฝูงชนที่ยืนอยู่ใกล้ประตูต่างก็มีท่าทีที่แตกต่างออกไปเพราะร่างของปีศาจหนิงเทียนหลินได้มาปรากฎอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว และแทนที่จะค่อยๆเข้ามาเขากลับถือกริซและรีบวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง!
ตอนนี้ที่ฟลอร์เต้นรำมีศพไม่น้อยกว่าร้อยศพนอนกองอยู่นอกจากนี้ที่เวทีและที่ทางเดินก็มีศพกองอยู่ไม่ต่างกัน!
“หนีเร็ว! หนี!”
“เร็วเข้า! สู้มันเลย!”
“มันมีแค่คนเดียวกับกริซหนึ่งอันเอง! จะมีอะไรที่ต้องกลัวล่ะ!”
ในเวลานี้ ไม่มีใครมีเสียงอะไรออกมาเลยต่างก็เงียบสงบกันหมด จึงได้ยินเสียงของใครบางคนก้องออกมา
“ใช่! จะกลัวอะไร! มันมีแค่คนเดียวเอง! เรามีกันตั้งหลายคน!”
“ใช่! จัดการมันเลย!”
“ใช่ ลุยมันด้วยกันเลย!”
มีเพียงแต่พวกผู้ชายที่พูดออกมาแต่พวกผุ้หญิงที่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ต่างก็เงียบไม่พูดอะไร
“ฉับ!”
เพียงแค่หนิงเทียนหลินไม่ได้ให้เวลาพวกเขาได้พิจารณาอะไรกันอีกเลย ร่างทั้งร่างลอยลิ้วเข้ามาในฝูงชนในเวลาเพียงไม่ถึง 5 วินาที พร้อมด้วยมือที่กวัดแกว่ง และ 3 คนก็ต้องล้มลงไปนอนในกองเลือด รวมทั้งคนที่ก่อนหน้านี้อยากที่จะสู้กับหนิงเทียนหลินด้วย
เก้าอี้ในมือยังไม่ทันที่จะร่วงหล่นเลยแต่คอของเขาก็กลับถูกเฉือนเปิดอ้า เลือดไหลพุ่งออกมา!
ความเร็วของหนิงเทียนหลินช่างเร็วเหลือเกินจนคนพวกนี้ไม่ทันที่จะได้
ต่อสู้อะไรเลย!
“ฆ่า”
“ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง”
“นี่เป็นฆ่าเพื่อฉลอง!”
ในใจของหนิงเทียนหลินเต็มไปด้วยความคิดเรื่องปลา ปลาตัวใหญ่ๆเป็นๆ เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่และเขาไม่ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของระบบการต่อสู้ที่ดังก้องอยู่ในใจเขาเลย ในใจของมันทุกคนในโลกนี้คือปีศาจ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดมันไร้ค่าต้องฆ่าทิ้ง!
วันนี้จะเป็นงานฉลองการฆ่าของหนิงเทียนหลิน!
“อะไรกัน ไม่ๆๆๆๆๆ!”
ในไม่ช้าก็มีอีกเสียงกรีดร้องขึ้นมาแต่ไม่ช้าเสียงกรีดร้องก็ต้องกลายเป็นเสียงร้องด้วยความอนาถ และหลังจากนั้น 2 นาทีเสียงกรีดร้องก็หายไปอย่างไม่มีร่องรอย
ทั่วทั้งห้องกลับเงียบขึ้นมาอีกครั้ง
และที่พื้นก็มีศพกว่าร้อยศพนอนกองกันอยู่! มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง พวกเขาส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 18-30 เท่านั้นเอง
“จัดการ!”
“จัดการ!”
“ยังมีปลาเหลืออยู่เลย!”
หนิงเทียนหลินมีภาพอยู่ในหัว ยังเหลือปลาว่ายอยู่ในไนท์คลับอีกตั้ง 20-30 ตัว และพวกมันก็มารวมกันอยู่ตรงนี้แล้วด้วย ดวงตาของเขาเปล่งประกายแล้วเขาก็วิ่งตรงเข้าไปพร้อมด้วยกริซในมือ
“พี่ใหญ่!”
“นี่ ไอ้เด็กนั่นมาแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินเนื้อตัวเปื้อนไปด้วยเลือดที่มาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนยมฑูตจากนรก พวกลูกน้องต่างก็มีสายตาที่หวาดกลัว พวกเขาไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวขนาดนี้มาก่อนเลย ถึงแม้ในมือของพวกเขาจะถือทั้งไม้และมีดแต่ขาของแต่ละคนกลับอ่อนยวบไปหมด!
อีกฝ่ายช่างน่ากลัวอะไรแบบนี้!
“ว้าว!”
หนิงเทียนหลินไม่ให้โอกาสพวกเขาได้โต้ตอบเลย พวกเขาวิ่งหนีไปได้ 7-8 เมตร ในสายตาของพวกเขาต่างก็ได้เห็นคนร่วงลงไปมากมาย
ทันใดนั้นก็มีรายที่ 2 และรายที่ 3
“ฉับ!”
“ฉับ!”
คนพวกนี้ไม่เหมือนแขกที่ล็อบบี้ที่ต่างก็มีมีดอยู่ในมือแต่ต่างก็นิ่งอึ่งกันไปสักพักและก็ล้มลงไปนอนจมกับกองเลือด ฮาดรอนก่อนที่เขาจะตายเขาก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนแบบนี้แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง! เขาแตะผมของอีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ในเวลานี้พวกเขาต่างก็รู้สึกสงสารตัวเองที่จะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ไม่งั้นอีกฝ่ายก็คงจะแค่ดื่มแล้วก็จากไปตามทาง
ICSS บทที่ 85: ภาพหลอน
“ฉันฆ่าคนพวกนี้เหรอ…?”
“ฉันฆ่าคนมากขนาดนี้เลยเหรอ!”
เมื่อหนิงเทียนหลินตื่นขึ้นมา แค่วันเดียวกลับตาลปัตรไปหมดทั้งในฮอลล์, ที่ฟลอร์เต้นรำ, ที่เวที มีคนตายเต็มไปหมด! กองกันอย่างแน่นหนาอยู่ด้วยกัน เขาไม่รู้ว่ามันเยอะแค่ไหน แต่เมื่อดูจากปริมาณเลือดก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
“380 ศพ!”
“นายฆ่าคนไปทั้งหมด 382 ศพในเวลาแค่ 18 นาที!”
สตาร์วอร์สไม่ได้ตอบคำถามหนิงเทียนหลิน แต่เขาพูดออกมาเหมือนเรื่องตลกและรายงานตัวเลขจำนวนที่แท้จริงออกไปและถึงขนาดพูดว่า
“ยินดีด้วยนะเจ้านาย นายเพิ่งเก็บคะแนนพลังงานได้ 427 คะแนน
นายอยากจะอัพเกรดหรือว่าแลกเป็นของดีล่ะ?”
“ฉันทำ! ฉันทำจริงๆงั้นเหรอ! 382 คนเลยนะ!”
หนิงเทียนหลินรู้สึกเขินเล็กน้อย เขาแทบจะไม่ได้ยินคะแนนพลังงานที่ระบบการต่อสู้บอกเขามาเลยด้วยซ้ำ ความสนใจทั้งหมดของเขาพุ่งไปที่ประโยคที่ระบบการต่อสู้บอกเท่านั้น ฆ่าไปทั้งหมด 382 คน!
“ฉันฆ่าคนไป 382 คน เป็นคนที่ไม่ได้มีความแค้นอะไรกันฉันเลยเนี่ยนะ!”
“แต่…แต่ฉันกำลังฆ่าปลานะ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง!”
หนิงเทียนหลินจำได้อย่างชัดเจนว่าในเวลานั้นตรงหน้าเขามีแต่ปลาเต็มไปหมดและมีแต่พวกปลาตัวใหญ่ๆที่กำลังแหวกว่ายไปมาไม่มีคนเลยสักคนเดียว! ถ้าเขารู้เขาก็คงไม่ทำแบบนี้หรอก! คนพวกนี้ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเขาเลย!
“ไม่มีความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรมหรอก” สตาร์วอร์สพยักหน้า
“แต่ตอนนี้หายเมาแล้วสินะ!”
ปัง!
ในหูของหนิงเทียนหลินได้ยินเสียงระฆังและกลองดังก้อง อยู่ดีๆเขาก็รู้สึกหัวหมุนไปหมดและสายตาก็เริ่มเบลอ
แต่หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็เริ่มที่จะชัดเจน
แต่ในเวลาต่อมาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือศพคนมากมายที่ยังกองอยู่บนฟลอร์เต้นรำ ทั้งๆที่เพลงก็ยังดังอึกทึกไปหมดอยู่เลยและทุกอย่างก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมในตำแหน่งเดิมทุกอย่าง
ตรงหน้าเขามีขวดวางอยู่และที่นั่งของเขาก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เขายังนั่งพิงอยู่ที่ที่นั่งไม่ได้ขยับไปไหน อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าที่สนามด้านหลังเต็มไปด้วยศพซึ่งก็คือพวกคนที่ทำให้เขาเห็นภาพหลอน คนที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ คนที่อยากจะฆ่าเขา
“ภาพหลอน”
“ทุกอย่างมันก็แค่ภาพหลอน!”
หนิงเทียนหลินดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเพราะในแหวนอวกาศของเขา มีดพลังการต่อสู้ของเขาก็ยังเลือดไหลอยู่!
“นายผิดแล้ว”
“ไม่ใช่แค่ภาพลวงตาแต่ยังเป็นเรื่องจริง!” ระบบการต่อสู้พูด
“เครื่องดื่มที่นายเพิ่งดื่มไปมีบางคนใส่ยาลงไปด้วย เลือดที่มีดของนายเป็นเลือดจริง เป็นเลือดของพวกคนที่กลัวนายไง พวกมนุษย์!”
“คนที่ตายเป็นไม่ใช่ภาพลวงตา”
“ถูกวางยางั้นเหรอ?” หนิงเทียนหลินตัวแข็งทื่อและนึกย้อนไปถึงตอนที่ดื่ม
น้ำผลไม้ไปตอนนั้น หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกง่วงขึ้นมาแต่ก็กลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากแล้วคนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาก็กลายเป็นปลาไปหมด!
“เป็นฝีมือของฮาดรอน คนที่นายเจอที่โรงอาบน้ำ! พวกเขาวางยาในน้ำของนาย ยาวิเศษที่ไนท์คลับนี้นำเข้ามาขาย”
สตาร์วอร์สอธิบายถึงเหตุผลตรงๆ “ฉันบอกนายแล้วว่านายต้องรุนแรงและอย่าให้คนอื่นได้มีโอกาสมาแก้แค้นนาย แต่นายก็ไม่ฟัง ถ้าตอนนั้นนายฆ่าไอ้ลูกพี่ไปซะ ตอนนี้นายก็คงจะไม่ได้ดื่มน้ำนี่เข้าไปหรอก!”
“เพราะนายไม่ฆ่างูไปซะ แม้นายก็จะไม่ตายแต่นายจะต้องทรมาน! เพราะงั้นนายจึงต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบวันนี้ไง”
สตาร์วอร์สพูดด้วยน้ำเสียงพอใจและหนิงเทียนหลินรู้สึกว่าสตาร์วอร์สดูเหมือนจะมีความสุขกับการตายครั้งนี้อย่างมาก
“ในเมื่อนายรู้ว่ามันมายาอยู่ แล้วทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ?” หนิงเทียนหลินมั่นใจ 100% ตราบใดที่ระบบการต่อสู้อยากจะช่วย มันสามารถที่จะปลุกเขาในตื่นได้ภายในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยวิธีมากมายหลายพันวิธี
“ทำไมฉันต้องบอกนายด้วยล่ะ?” ระบบการต่อสู้หัวเราะออกมาทันที
“ถ้าฉันบอกนาย ฉันก็ไม่ได้รู้สิว่านายจะจัดการพวกศัตรูอย่างไร! และฉันจะห้ามไม่ให้เจ้านายตัวเองเก็บพลังได้ยังไงล่ะ? จะให้ห้ามเหรอ?”
“ถึงแม้มันจะเป็นภาพลวงตา แต่มันก็ต่างจากภาพลวงตาอื่นๆเพราะเนื้อหาภายในที่เกิดขึ้นจริงๆคือสิ่งที่ฉันเป็นคนควบคุมเอง ถ้าฉันอยากให้ใครรอด คนนั้นก็จะรอด ถ้าฉันอยากให้ใครตาย คนนั้นก็จะต้องตาย!”
“งั้นทุกอย่างที่นายรู้สึกในภาพลวงตาเป็นเรื่องจริงแต่คนบริสุทธิ์และคนที่ไม่เกี่ยวข้องพวกนี้ไม่ได้เป็นอะไรเลยสินะ”
“นายไม่คิดว่ามันแปลกหรอ ไม่ว่านายจะทรงอำนาจมากแค่ไหนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าคนทั้งหมด 382 ในนี้ ถึงแม้มันจะเป็นแค่ภาพลวงตาแต่พวกนี้ก็มีขาที่จะหนีได้ ใช่! แต่ทุกคนต้องมาตายที่นี่วันนี้!”
ระหว่างที่สตาร์วอร์สพูด หนิงเทียนหลินก็เข้าใจในทันทีว่าอะไรเป็นยังไง
“ใช่ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าคนทั้งหมดในเวลาแค่ 10 วินาทีหรือ 1 นาที มันต้องมีใครหนีไปได้แน่ๆ
แต่ในภาพลวงตานี้ทั้งร้านเต็มไปด้วยศพมากมาย โดยเฉพาะที่ประตูที่นอนกันเป็นกอง!”
“ฝีมือนายเหรอ?”
ไม่ว่าหนิงเทียนหลินจะโง่ขนาดนั้น เขาก็รู้ว่าระบบการต่อสู้จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยแน่ๆและปิดช่องทางการหนีของทุกคนทุกทาง! เขายังจำตอนที่คลานออกมาจากหลุมศพวันนั้นได้ดีและเป็นเพราะระบบการต่อสู้ที่ช่วยเขาให้ออกมากหลุมศพ
“ใช่ ฉันเอง”
สตาร์วอร์สไม่ได้ปิดบังเลยแต่กลับพูดออกมาอย่างกล้าหาญ
“ฉันแค่ใช้ภาพหลอนของนายมาทำให้พวกเขาเห็นภาพหลอนไปด้วยแค่นั้นเอง เป้าหมายในการทำแบบนี้ก็แค่เพื่ออยากจะเห็นว่านายจะทำยังไงหลังจากที่นายฆ่าผู้บริสุทธิ์พวกนี้ที่อยู่ตรงหน้านาย! และสิ่งที่ฉันคิดไว้ก็ไม่แย่เท่าไร นายยังมีความรู้สึกสงสารและความรู้สึกผิดอยู่ และนายก็รู้สึกผิดกับการตายของพวกเขา”
คำพูดของสตาร์วอร์สทำให้หนิงเทียนหลินสับสน ในความคิดของเขาระบบการต่อสู้นี้ช่างเลือดเย็นและไร้ความปราณีแต่ส่วนที่ใหญ่ที่สุด ก็ยังมีความรู้สึกต่อการตายของคนพวกนี้และไม่มีใครที่จะละเลยพวกเขาได้อย่างจริง
“ในตอนท้ายของราชวงศ์หมิง จักรพรรดิ์ถูกสังหารที่ภูเขาถ่านหิน แต่สิ่งที่เขาพูดในประโยคสุดท้ายคือ
“ฉันมีประชาชนที่มีความคิดลบและบรรพบุรุษที่มีความคิดเชิงลบ””
“มันมีตัวอย่างของเรื่องนี้มากมายและฉันไม่อยากที่จะบอกนายทุกเรื่อง ไม่มีใครเลือดเย็นได้อย่างแท้จริงหรอกและฉันไม่อยากที่จะปลูกฝังให้นายกลายเป็นเครื่องจักรในการฆ่าในอนาคต”
“มันก็แค่การฆ่า ในอนาคตนายจะต้องสูญเสียตัวตนให้กับจักรวาลโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคือใคร ฉันทำเรื่องนี้ในวันนี้เพื่อที่จะให้นายรู้ว่านายเป็นใครและในอนาคตนายควรจะต้องห่วงเรื่องอะไรยังไงล่ะ?”
ICSS บทที่ 86: 427 คะแนน
ประโยคสุดท้ายของสตาร์วอร์สพูดออกมาด้วยอาการเมา โดยมีเสียงระฆังและเสียงกลองดังก้องอยู่ในหูของหนิงเทียนหลิน
“ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงครอบครัวที่สุด พ่อแม่ น้องสาว พวกเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของนายแต่ฉันหวังว่าสักวันนายจะเป็นที่นับถือของทั่วทั้งจีนและโลกทั้งโลกจะเป็นสิ่งที่นายห่วง”
“ครั้งนี้ฉันไม่ปล่อยให้นายฆ่าผู้บริสุทธิ์เพราะสุดท้ายแล้วนายจะจากโลกนี้ไปและไปสู่จักรวาลที่กว้างไกลไปจากประเทศจีนแห่งนี้ โลกแห่งนี้เป็นรากฐานของจักวาล บ้านเกิดของนายก็อยู่ในจักวาลด้วย!”
“ถ้าไม่มีพวกเขานายบ้านของนายคือจักวาล รากฐานก็เปล่าประโยชน์
นายพร้อมที่จะเป็นคนที่ไร้รากฐานไหมล่ะ?”
“ถ้านายสูญเสียตัวตนไปเพราะการฆ่า ด้วยความแข็งแกร่งของนายแบบนี้โลกทั้งโลกจะต้องถูกนายทำลายแน่ๆ สักวันนายจะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไล่ล่าและร่องลอยอยู่ในจักรวาล บ้านนาย บ้านเกิดของนาย แล้วคนของนายล่ะ?”
“ในอนาคตรูปแบบและวิสัยทัศน์ของนายจะเป็นจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาว คนในครอบครัวจะต้องถูกลงโทษถ้าทำอะไรผิดพลาด คนที่ไม่ทำผิดพลาดจะอยู่อย่างสันติและมั่นคง โดยเฉพาะคนของจีนต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกันหมด”
“ฉันอยากจะฝึกให้นายเป็นคนมีเมตตา,ชอบธรรม,รับผิดชอบ,เลือดร้อนและสู้ด้วยความโหดร้าย! ความเลือดเย็นหรือเลือดร้อนไม่ใช่แค่เรื่องการฆ่า”
“มีคนมากมายที่ฆ่าโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งมันจะเป็นการทำลายธรรมชาติอย่างแท้จริง!”
“ประเด็นคือฉันเชื่อว่าในวันที่โลกต้องเจอกับหายนะนายจะลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อโลกและสู้เพื่อบ้านเกิดของตัวเองได้! แทนที่จะเลือดเย็นไม่สนใจ
แต่เปลี่ยนเป็นลุกขึ้นมาสู้เคียงข้างแทน!”
คำพูดของระบบการต่อสู้ทให้หนิงเทียนหลินถึงกับเงียบและแม้แต่ประโยคสุดท้ายก็ทำให้เขาประหลาดใจไปด้วย เขาจึงถามออกไป
“นายหมายถึงว่าในอนาคตจะต้องมีความยากลำบากครั้งใหญ่งั้นเหรอ?”
แต่เขารู้ดีว่าระบบการต่อสู้ไม่มีวันที่จะบอกอะไรแน่ๆ เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกัน
“มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่นายจะต้องมากังวลตอนนี้”
“ตอนนีนายพัฒนาพลังการต่อสู้ไปมากและเป็นคนที่จะไม่ขายวิญญาณให้กับการฆ่า! ถ้าไม่เป็นแบบนี้เมื่อโลกถึงคราวหายนะ นายจะเสียตัวตนไปกับการฆ่าอย่างหน้ามืดตามัวและทำลายโลกซะเอง!”
ในเวลานี้ระบบการต่อสู้แสดงถึงความอวดดีในน้ำเสียง
“แต่ฉันไม่ใช่เวอร์จิ้นของนาย ถึงแม้คนพวกนี้จะเป็นคนในบ้านเกิดของนายของจักรวาลในอนาคต แต่พวกเขาก็รังแกนาย ถ้านายทนได้งั้นนายก็จะสุดยอดมากเลย เมื่อมันถึงเวลาที่ต้องจัดการ นายก็ต้องจัดการ”
“เข้าใจแล้ว”
หนิงเทียนหลินพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณ” ไปพร้อมๆกันในเวลานี้เขาได้คำตอบอย่างที่ใจต้องการแล้ว กลายเป็นว่าระบบการต่อสู้นี้ไม่ได้รู้จักแค่เพียงการฆ่า แต่ก็ยังเป็นมิตรที่ดีด้วย
หนิงเทียนหลินไม่อยากที่จะเป็นเพียงเครื่องจักรสังหารแน่นอน!
“ได้” ระบบการต่อสู้พยักหน้าด้วยเหมือนกัน
มันรู้ดีว่ามีความรักที่ยิ่งใหญ่และคำพูดมากมายแต่มันได้ข้ามผ่านกาแล็คซี่และดาวเคราะห์มามากมาย ได้เห็นคนมาก็เยอะแยะ ได้ฟังคำต่างๆมามากมายนับไม่ถ้วนและรู้ดีว่า
“เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อประชาชน เพื่อคนที่รักและเป็นห่วง การใช้ชีวิตเพื่อคนที่รัก”
คือสิ่งที่เป็นอมตะผู้ที่ทรงอำนาจในจักรวาลต่างก็ทำแบบเดียวกัน!
คนจำนวนมากหมดหวังที่จะปกป้องครอบครัว,ตระกูลและแม้แต่บ้านเกิดของตัวเอง
พวกเขาสิ้นหวัง เมื่อพวกเขาได้ไปยืนอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของจักรวาล พวกเขาไม่มีแม้กระทั่งเผ่า, ครอบครัว หรือแม้แต่บ้านเกิดด้วยซ้ำ ช่างเป็นความโดดเดี่ยวเสียจริงๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าความโดดเดี่ยวนี้เกิดขึ้นเพราะตัวพวกเขาเอง มันก็จะถูกทำลายและเสียตัวตนไปกับการฆ่าและความคิดของพวกเขาจะลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่มีทางที่จะเพิ่มพลังในการต่อสู้ได้เลย
“ใช่”
หนิงเทียนหลินไม่อยากที่จะกลายเป็นคนประเภทนั้น ในเรื่องแบบนี้มันดีกว่าที่หัวใจจะยังมีความรู้สึกอยู่ พร้อมกันนั้นเขาก็คิดถึงเรื่องที่ระบบการต่อสู้เพิ่งจะพูดไป
“ฉันเพิ่งจำได้ว่านายบอกว่าคะแนนวิญญาณของฉันขึ้นไปสูงกว่า 400 คะแนนเลยเหรอ?”
หนิงเทียนหลินได้ยินไม่ชัดได้ยังไง แต่ตอนนี้สมองของเขาชัดเจนแล้ว
“427 คะแนน!”
“ตอนนี้นายมีคะแนนพลังงานเยอะเลย นายอยากจะอัพเกรดหรือแลกของจากประตูแห่งการแลกเปลี่ยนไหมล่ะ?” ในที่สุดระบบการต่อสู้ก็ถามออกมา
“427 คะแนนงั้นเหรอ?”
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน! ฉันไม่ได้ฆ่าคนบริสุทธิ์พวกนั้นนะ แล้วคะแนนจะเยอะแบบนั้นได้ยังไง!” หนิงเทียนหลินถามออกมาด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้!” ระบบการต่อสู้พูดออกมา
“ฉันเพิ่งบอกไปไงว่าภาพหลอนก็คือภาพหลอน แต่ภาพหลอนที่ฉันสร้างขึ้นมาคือเรื่องจริงในภาพหลอน มันคือภาพหลอนในความจริงและทั้งสองก็ผสมเข้าด้วยกัน”
“ถึงแม้ในความเป็นจริงพวกเขาจะไม่ได้ถูกฆ่า แต่เรื่องพวกนี้ก็เกิดขึ้นจริงในภาพหลอน จะคนบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ก็ถูกนับเป็นคะแนนหมดแหละ”
“งั้นมันก็ไม่ถูกต้องสิ” หนิงเทียนหลินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย หลังจากทุกอย่างนี่เป็นเรื่องดีที่ได้เพิ่มพลังของตัวเอง และภาพหลอนก็คือภาพหลอน
แต่เขาก็ยังมีข้อสงสัย “แต่ฉันจำได้ว่านายบอกว่าแค่ตอนนี้ที่ฉันเห็นภาพหลอน คนทั้งหมด 382 คนต้องถูกฆ่าแต่ทำไมถึงเป็นคะแนนพลังงาน 427 คะแนน ไม่ใช่ว่าหนึ่งคน หนึ่งคะแนนเหรอ?”
“หนึ่งคนหนึ่งคะแนนแต่นั่นก็เป็นแค่ค่าเฉลี่ย ผู้คนต่างก็มีความแข็งแกร่ง, ความอ่อนแอและวิญญาณที่แตกต่างกันไป คนส่วนใหญ่ที่ถูกฆ่ายังเป็นวัยรุ่นและพลังของพวกเขาก็แข็งแกร่งมาก คะแนนมันก็เลยเยอะกว่าค่าเฉลี่ย”
“และถ้าในอนาคตนายฆ่าคนที่ทรงพลังมากๆ คะแนนพลังงานที่นายจะได้บางทีก็ถึง 12 คะแนนเลยนะ!” สตาร์วอร์สอธิบาย
“โอ้” หนิงเทียนหลินพยักหน้า ใช่แล้ว ร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน แล้วคะแนนสำคัญจะเท่ากันได้ยังไง
“งั้นบอกฉันมาเลยว่านายจะใช้คะแนนพลังงาน 427 นี้ยังไง? จะอัพเกรดหรือแลกของดี?” ระบบการต่อสู้ถาม
“ใช้คะแนน 300 คะแนนเพื่ออัพเกรดและส่วนที่เหลือเก็บเอาไว้ก่อน!”
หนิงเทียนหลินแบ่งคะแนนออกโดยไม่ลังเล ตอนนี้เขาอยากที่จะได้ขวานโบราณจริงๆ แต่เขาก็จำได้อย่างชัดเจนด้วยว่าขวานโบราณนี้ไม่ต้องใช้คะแนนแลก แต่ต้องใช้ระดับแทน
ในเวลานี้อุปกรณ์ในระดับกลาง-สูง ขวานโบราณสไปค์ ต้องใช้ระดับที่ 15
หนิงเทียนหลินต้องไต่ระดับก่อน ยังมีคะแนนพลังงานไม่พอแต่คะแนนในการอัพเกรดไม่สูงเท่าไร!
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ได้อัพเกรด ตอนนี้อยู่ในระดับที่ 11 แล้ว”
“ติ่ง ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ได้อัพเกรด ตอนนี้อยู่ในระดับที่ 12 แล้ว”
การอัพเกรด 2 ครั้งทำให้หนิงเทียนหลินขึ้นไปอยู่ในระดับที่ 12 และนี่คือสิ่งที่เขาคาดไว้แล้ว ตอนนั้นเขาฆ่าปลาไปได้มากกว่า 200,000 ตัวในเวลาแค่ 3 วันและเก็บคะแนนพลังงานได้กว่า 200 คะแนนซึ่งทำให้เขาขึ้นจากระดับ 6 มาที่ระดับ 10 ข้ามมา 4 ระดับเลย
ก็ไม่แย่เท่าไรที่คะแนนสำคัญนี้ทำให้เขาได้เลื่อนขึ้นมาอีก 2 ระดับ
ส่วนที่เหลืออีกกว่า 100 คะแนนเขาจะเก็บไว้ใช้ทีหลัง
และคะแนนสำคัญนี้มันก็ยากที่จะพูด ถ้าเขาฆ่าปลา 3 วันอย่างต่อเนื่อง
เขาจะเก็บคะแนนได้กว่า 200 คะแนน ถ้าอยากจะเก็บให้ได้ 1,000 คะแนน ก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือน ต้องใช้เวลาและความพยายามที่จะอัพเกรดอย่างหนักมาก!
ICSS บทที่ 87: อยากจะกิน!
“โอเค ไปกันเถอะ”
“ศพของฮาดรานอยู่ที่สนามข้างหลัง นายช่วยจัดการทีนะ”
หนิงเทียนหลินไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่ต่อแล้ว กองศพพวกนี้ทำให้เขาอยากจะอ้วกและตอนนี้มันก็ตี 3 แล้วและใกล้ที่จะตี 5 แล้ว เขาต้องรีบไปโรงเรียนแล้วตอนนี้
“ว่าไง?”
ในเวลานี้อยู่ดีๆหนิงเทียนหลินก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวภายในหูของเขา หลังจากนั้นสักพักเจ้าร้อยขาก็ค่อยๆคลานออกมาจากหูเขา
“นายตื่นแล้ว”
หนิงเทียนหลินถือมันไว้ด้วยมืออีกข้างและมองไปที่เจ้าตัวที่มีขนาดประมาณนิ้วก้อย ตอนแรกมันก็ดูตลกดี หลังจากที่ดื่มเลือดเขาไปเมื่อครั้งที่แล้วมันก็หลับไปตั้ง 3 วัน และนี่ก็ถึงเวลาที่มันจะคลานออกมาแล้ว
“นาย…อยากจะกินศพพวกนั้นไหม?”
หลังจากนั้นจิตใจของหนิงเทียนหลินก็ส่งเสียงครวญครางถึงความคิดนี้โดยไม่มีเสียงใดๆเปล่งออกมาแต่เขากลับรู้สึกอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายอยากจะทำอะไร ไอ้ตัวเล็กขนาดเท่านิ้วก้อยกินศพพวกนั้น!
“อืม” มีอีกความคิดเข้ามาอีกแล้ว
“โอเคๆ!”
โดยไม่รอหนิงเทียนหลินตอบรับใดๆ เจ้าตัวเล็กนี่ก็รีบกระโดดลงจากมือของหนิงเทียนหลิน รอยอยู่ในอากาศสักพักแล้วรีบตรงไปที่สนามด้านหลัง และในใจของหนิงเทียนหลินก็เกิดภาพขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ
ถึงแม้จะมีกำแพงกั้นอยู่แต่ภาพในใจเขาก็จัดเชนเหมือนกับได้เห็นด้วยตาตัวเองเลยไม่มีผิด!
“เร็วมากเลย!”
หนิงเทียนหลินตกใจมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าไอ้ตัวเชื่องช้าแบบนี้จะทำอะไรได้เร็วขนาดนี้ มันแค่ตรงเข้าไปที่หูของศพแล้วมุดเข้าไปข้างใน
“ว้าว! ว้าว!”
ในสายตาที่ตกตะลึงของหนิงเทียนหลิน ศพถูกดูดเข้าไปด้วยความเร็วที่มองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่เห็นและหลังจากนั้นไม่นานก็เหลือแค่ผิวหนัง แต่ไม่นานหนักชั้นผิวหนังพวกนั้นก็หายไปไม่เหลือร่องรอย
“มันยังไม่มีฟันไม่ใช่เหรอ? แล้วมัน…”
หนิงเทียนหลินรู้ดี แต่อย่างไรก็ตามไอ้ตัวเล็กนั่นก็เพิ่งเกิดและยังไม่มีฟันด้วย! งั้นมันจะกินทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อของศพเข้าไปได้ยังไงกัน!
“ถึงมันจะยังไม่มีฟันแต่น้ำย่อยในปากของมันก็มีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงกระดูกเลยแม้แต่หินมันก็กินได้ในทันทีเลยและยิ่งมันโตขึ้นมากเท่าไร น้ำย่อยพวกนี้ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นๆตามไปด้วย”
“มันก็เหมือนกรดในกระเพาะของพวกเด็กเล็กๆนั่นแหละ ไม่ต้องแปลกใจไปหรอก””
ระบบการต่อสู้ก็ออกมาอธิบายเหตุผลในเรื่องนี้
“ว้าว!”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีศพที่ 2 และที่ 3 ตามมา ทำให้หนิงเทียนหลินต้องมองด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาทีแต่ไอ้ตัวร้อยขานี้กินศพไปมากกว่าโหลแล้วแต่ก็ยังเหลืออีก 1
นอกจากนี้ขนาดตัวของมันก็เปลี่ยนจากเดิมที่ตัวเท่านิ้ก้อยเป็นยาวกว่า 56 ซม. แล้ว และแทนที่จะเป็นตัวสีขาวนมเหมือนตอนแรกก็กลายเป็นตัวสีน้ำตาลไปแล้วในตอนนี้
แม้แต่ฟันก็เริ่มงองออกมา งอกเลยออกมาจนเห็นจากปากได้อย่างชัดเจน
ขาที่ตัวก็เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยจากเดิมที่มีแค่ 2 ขาตอนนี้ก้เพิ่มมาอีก 2 ขาจนตอนนี้มีทั้งหมด 4 ขาแล้ว
“มันจะกินหมดเหรอ?”
หนิงเทียนหลินไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายถึงมันแล้ว เขาไม่เคยคิดว่าไอ้ตัวนี้จะกินศพได้มากมายขนาดนี้! นี่ถ้าให้เสือกิน มันก็คงไม่กินได้เร็วขนาดนี้หรอก!
“หมดเหรอ?” สตาร์วอร์สหัวเราะ “สักวันหนึ่งที่มันจะได้ข้ามจักรวาล ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์เป็นร้อยๆเลย นั่นยังน้อยไป ทั่งกาแล็กซี่มันก็กินได้หมด!
แล้วจะไม่หมดได้ยังไง?”
“พื้นที่ในท้องของมันมีไม่จำกัดหรอก!”
“ไอ้ตัวร้อยขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่หายากในจักรวาล อย่ามองมันด้วยมุมมองแบบโลกของนายเอง”
“และในฐานะเจ้านายในจักรวาลแห่งนี้ยังมีสิ่งมีชีวิจอีกหลายประเภทที่กินได้เยอะแบบมัน แค่มันตวัดลิ้นก็กลืนโลกนายได้ทั้งใบแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หนิงเทียนหลินก็ไม่อยากที่จะพูดอะไรต่ออีกแล้ว เรื่องพวกนี้มันไกลกว่าตัวเขามาก ตอนนี้เขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วหรืออย่างช้างที่เขาเห็นในสวนสัตว์ตอนที่เขายังเด็กๆ
แต่เขาไม่เคยเห็นวาฬที่ยาวเป็นสิบๆเมตร นี่ไม่ต้องพูดถึงไอ้ตัวพันขา สิ่งมีชีวิตในจักรวาลหลายดาวเคราะห์แบบนี้เลย
“งั้นตอนนี้มันมีพลังในการต่อสู้เท่าไรแล้ว?”
หนิงเทียนหลินมีความคาดหวังเล็กน้อยแต่เขาจำได้ในตอนนั้นว่าระบบการต่อสู้เคยบอกว่าพลังในการต่อสู้ของไอ้ตัวนี้จะสามารถแลกเปลี่ยนกับร่างกายของเขาได้สักวิธี พลังในการต่อสู้ของมันจริงๆแล้วก็คือพลังในการต่อสู้ของเขาด้วย!
ยิ่งมันทรงพลังมากเท่าไร มันก็ยิ่งช่วยเขาได้มากเท่านั้น!
“40 คะแนน” สตาร์วอร์สตอบกลับมาพร้อมทั้งอธิบายไปด้วยในคราวเดียวกัน “พลังในการต่อสู้ของมันก็จะเท่ากับจำนวน ‘ขา’ ของมันด้วย 1
‘ขา’ จะเท่ากับพลังในการต่อสู้ 10 คะแนน”
“จาก 2 ตอนนี้ก็กลายเป็น 4 แล้ว ก็เท่ากับ 40 คะแนน”
“40 คะแนน!” หัวใจหนิงเทียนหลินกระโดดขึ้นมาทันที เขาคิดว่ามันน่าจะเป็น 5 หรือ 6 และเมื่อถึง 10 คะแนนมันก็คงจะตายแต่ไม่มีทางแตะไปถึงที่ 40 แน่ๆ! เขาเพิ่งจะขึ้นมาในระดับที่ 10 ภายในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเอง นี่ยังไม่นับรวมเรื่องอุปกรณ์นะ แค่พลังในการต่อสู้ทางกายภาพอย่างเดียวก็ 40 แล้ว
เจ้าตัวเล็กนี่เทียบกับร่างกายของเขาได้เลยนะเนี่ย!
อย่างไรก็ตามเรื่องที่น่าตกใจที่สุดก็คือคะแนน 40 ของพลังในการต่อสู้นี้เทียบได้กับร่างกายของเขาเองด้วยและเพื่อการใช้งานของเขาเอง ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับพลังในการต่อสู้ของเขาเอง ถ้านับรวมอุปกรณ์ด้วยแล้ว มันก็เกือบจะร้อยคะแนนเลยใช่ไหม?
“ฉันจำที่นายพูดได้ว่าฉันใช้พลังในการต่อสู้ของมันได้ ฉันจะทำได้ยังไง?”
หนิงเทียนหลินอยากจะลองตอนนี้เลย เหตุการณ์แบบไหนที่จะทำให้เขาแบ่งพลังในการต่อสู้กับเจ้าตัวเล็กนี่ได้ล่ะ?
“แน่นอน”
“พลังในการต่อสู้ของมันเปลี่ยนให้เป็นพลังในการต่อสู้ของนายได้”
สตาร์วอร์สพยักหน้าและอธิบายต่อ “นายแค่ต้องควบคุมตัวอ่อนไอ้ร้อยขานี้ให้เข้ากับร่างกายของนายด้วยจิตใจของนายเอง พลังงานทั้งตัวของมันจะสะท้อนไปที่แขนขาของนายและพลังในการต่อสู้ของนายก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย”
“และพลังในการต่อสู้นี้ก็จะช่วยเพิ่มคุณลักษณะทางกายภาพของนายด้วย ทั้งทางกายภาพ, ความแข็งแกร่ง, ความว่องไวและวิญญาณด้วย และมันเทียบไม่ได้กับระดับของอุปกรณ์ด้วย”
“ตัวอย่างเช่น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นายจะใช้อุปกรณ์ทางกายภาพของระดับที่ต่ำกว่าในคุณลักษณะทางกายภาพที่ระดับที่ 12 ได้ แต่ถ้ายังฝืนใช้พลังในระดับนั้นร่างกายของนายจะต้องระเบิด!”
“แต่ตราบใดที่นายผสานเข้ากับแมนซุลุ คุณลักษณะทางกายภาพของนายก็สามารถไปแตะที่ระดับ 15 ได้เลยในครั้งเดียว ในเวลานี้นายก็สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายของชาวจีนได้เลย!”
หนิงเทียนหลินตัวแข็งทื่อตามด้วยความรู้สึกมีความสุขมาก นี่ไม่ใช่เหตุผลสำหรับการใช้อุปกรณ์ในเกมเพื่อลดระดับเหรอ! อุปกรณ์ที่ปกติแล้วต้องขึ้นระดับ 50 ถึงจะใช้ได้ แต่ตราบใดที่ผสานเข้ากับหวานซุ มันก็สามารถใช้ได้ในระดับที่ 45 แล้ว!
แบบนี้ไม่เพียงแต่พลังในการต่อสู้ที่จะสามารถเพิ่มได้อย่างไม่มีจำกัด ยิ่งคุณภาพของอุปกณ์สูงมากเท่าไร พลังในการต่อสู้ก็จะยิ่งเพิ่มได้มากขึ้นเท่านั้น!
ICSS บทที่ 88: ยาโง่ๆ!
“รวมพลัง!”
โดยไม่ลังเล หนิงเทียนหลินก็ใช้จิตใจของเขาเพื่อควบคุมการผสานของเจ้าตัวนี้กับตัวเขาทันทีและรวมเข้ากับความคิดของเขา เขาเห็นว่าร่างกายของเจ้าตัวร้อยขาหายไปในทันทีและรวมเข้ากับร่างกายของเขา
การหายไปนี้ไม่ได้หายไปแบบหายแวบแต่เป็นการหายไปแบบการส่งข้ามมิติ! ผสานกันเข้าไปในทันที!
เดิมแล้วเขาอยู่ห่างจากเจ้าตัวร้อยขาประมาณ 10 เมตรแต่กลับมาปรากฎตัวบนตัวเขาได้ในทันที
“ไม่ต้องเดาหรอก!”
ในเวลานี้ เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมา “เจ้าตัวร้อยขานี่ผูกอยู่กับชีวิตของนาย ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน แม้จะห่างกันไปคนละกาแล็กซี่แต่นายก็ยังสามารถผสานกับมันได้ในทันที”
“นายคือเจ้าของร่าง นายจะไม่ถูกแยกออกจากพื้นที่และระยะทางเลยสักนิด!”
หนิงเทียนหลินรู้สึกมีความสุขมาก ในกรณีนี้เขาก็จะช่วยอะไรได้อีกมากมาย! ถ้าสักวันเจ้าตัวร้อยขานี้มีพลังในการต่อสู้สูงๆ เขาก็สามารถปล่อยให้มันเพิ่มพลังในการต่อสู้ด้วยตัวมันเองได้
และเมื่อไรที่เขาต้องใช้ เขาก็ผสานกับมันได้ในทันที!
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
หนิงเทียนหลินพยักหน้าแต่ก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อย ถ้าเจ้าตัวร้อยขานี้ออกมาเร็วกว่านี้ เขาก็คงไม่ต้องใช้คะแนนพลังงานพวกนี้ในการอัพเกรดหรอกแต่เอาไปแลกเป็นขวานโบราณได้แล้ว!
มีหลายสิ่งที่ต้องพูดและเขาอาจพร้อมแล้ว!
“ไปกันเถอะ”
โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก หนิงเทียนหลินเดินตรงไปและเดินออกประตูของไนท์คลับออกไป เมื่อเขาเดินออกไปหมอกที่มองไม่เห็นก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งไนท์คลับทันที
หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป
รอยเลือดหายไป, พื้นที่เละเทะก็หายไป และของที่พังเสียหายมากมายก็ถูกทำลายไปจนหมด
ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิมเหมือนเมื่อตอนที่หนิงเทียนหลินเดินเข้ามาเพียงแค่ผู้คนมากมายที่ตอนนี้ได้หายไปหมดแล้วเหมือนกับว่าคนพวกนั้นได้หายไปอยู่อีกช่วงเวลา อีกห้วงอวกาศหนึ่งอย่างไงอย่างงั้นเลย
…….…
“ไอ้คนนั้นมันก็แค่เลวเห็นๆอยู่ว่าเราต้องชนะแต่มีไอ้โง่ 2 คนที่ทำนอกแผน จะสู้กับคน 3-5 คนได้ยังไง! ฉันถูกไอ้พวกบ้านั้นเล่นงานเลย! ตำแหน่งที่ฉันหวังว่าจะได้ก็เลยชวดเลย!”
ในเวลา 6.30 ในตอนเช้า หนิงเทียนหลินค่อยๆเดินเข้าประตูโรงเรียนและได้ยินบางคนที่กำลังบ่นอยู่ข้างๆเขา
เขาเดินมาเกือบจะ 2 ชั่วโมงแล้ว ตลอดทางเขาได้แต่คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้
เขารู้สึกเหมือนกำลังฝันกลับไปกลับมาตลอด
ชายที่เพิ่งฟื้นจากความตายได้กลับมายืนหน้าประตูโรงเรียนอีกครั้ง เขาได้แต่ขำกับเรื่องพวกนี้ ในเมื่อสวรรค์มอบชีวิตให้เขาอีกครั้งเขาจะใช้ชีวิตนี้อย่างมีความสุขแน่นอน!
“แม่ง! มันทำให้ฉันเสียไปตั้งหลายคะแนน”
“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นเรื่องของครอบครัวทั้งหมด!” อีกคนที่อยู่ข้างๆเขายังคงบ่นต่อไป
“ใครกันที่ทำให้ทั้งคืนมีเพียงสามคนเท่านั้นที่เรียกว่าสองคน อินเทอร์เน็ตคาเฟ่นั่งติดต่อกันตั้งห้าครั้ง จะมีเพื่อนร่วมทีมที่ลดลงได้อย่างไร!” คนสุดท้ายก็ยังบ่นต่อไปเรื่อยๆ
ในเวลานี้ทั้ง 3 คนกำลังยืนรอที่หน้าร้านแพนเค้ก เพื่อรอแพนเค้กผลไม้ที่สังไว้ รอบตามีรอยคล้ำเล็กน้อยและผมก็ดูจะยุ่งๆ ด้วยประสาทรับกลิ่นของหนิงเทียนหลินในตอนนี้ทำให้เขาได้กลิ่นของทั้ง 3 คน กลิ่นควันบุหรี่เหม็นไปหมด
อย่าไปคิดมากเลย ก็รู้อยู่ว่าทั้ง 3 คนนี้เพิ่งจะกลับมาจากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่อยู่มาทั้งคืน
และเขาก็รู้ด้วยว่าเรื่องที่กำลังพูดคุยกันอยู่นี้คงจะเกี่ยวกับเกมส์ LOL
ไม่มีอะไรมาก! และเกมส์นี้หนิงเทียนหลินก็เคยเล่นมาแล้วด้วยเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ได้เชี่ยวชาญแต่ก็เคยเล่นมาบางเลยรู้ว่ากฎกติกามันเป็นยังไง
ทันทีที่เขาเดินเข้ารั้วโรงเรียนเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องห่วงเรื่องอะไรอีกแล้ว เขาจำไม่ได้แล้วว่าในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมานี้เขาได้ฆ่าคนไปมากแค่ไหนแล้ว!
“ช่างมันเถอะ นี่ก็แค่วันเปิดเทอมวันแรก ก็ต้องมีบางคนแหละที่อยู่ทั้งคืนเหมือนพวกเรา เราชอบเกมส์ LOL มากจริงๆในชั้นเรียน, ในโรงเรียนหรือแม้แต่ในจีนก็มีคนที่ชอบไม่น้อย” ในครั้งนี้คนที่พูดเป็นคนแรกถึงกับถอนหายใจออกมา ทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกแปลกๆ
“ฮีโร่งั้นเหรอ จะเล่นตัวไหนดีนะ”
หนิงเทียนหลินยิ้ม ก้าวเดินต่อเพื่อเข้าไปในโรงเรียน
และนี่มันก็เพิ่งจะแค่ 6.30 เองและหนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่าโรงเรียนสะอาดมาก มีนักเรียนหลายคนที่กำลังถือไม้กวาดและที่กวาดผงไว้ในมือเพื่อทำความสะอาดทางเดิน และก็มีอีกมากมายที่กำลังแบกบันได, ถือป้าย, เลือกตำแหน่งบนกรอบประตูและไม้ต่างๆ พร้อมที่จะแขวน
หนิงเทียนหลินมองเหตุการณ์นี้และอ่านป้ายที่กำลังแขวนอยู่ที่เขียนว่า “ยินดีต้อนรับนักเรียนใหม่”
นี่ย้ำเตือนให้เขานึกได้ว่าวันนี้ไม่ได้มีแค่เด็กเก่าที่จะเริ่มเรียนแต่ยังเป็นวันที่พวกรุ่นน้องและเด็กใหม่จะเริ่มเข้าเรียนด้วย!
พวกนิสัยเสียพวกเดิมๆและเหยื่อรายใหม่มาถึงแล้ว!
ICSS บทที่ 89: นั่นเขานิ!
ในชั่วโมงเรียนเช้าหนิงเทียนหลินได้ยินพวกขี้เซาบางคนบ่นง่วงนอน
ถึงแม้วิญญาณของเขาจะไปไกลกว่าคนปกติมาก เขาก็ยังไม่เข้าใจวิชาภาษาอังกฤษและพวกตัวเลขอยู่ดี ทำไมเขาต้องเรียนอะไรพวกนี้ในโรงเรียนด้วยเนี่ย
เพราะจากวิถีชีวิตปกติของเขาแล้วเขาคงไม่มีทางที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตอยู่แล้ว และถึงแม้เขาจะเรียนเรื่องพวกนี้ไปแต่ถ้าไม่ได้ใช้ก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี
งั้นเขาเลยหลับตลอดเช้าเลย
5-6 วันแห่งความวุ่นวายทำให้เขาหลับในทันทีที่ฟุบลงไปกับโต๊ะ กว่าที่เขาจะตื่นก็เป็นเวลาอาหารกลางวันแล้วและเป็นเพื่อนร่วมหอเขาที่ชื่อชิเซียวจุนที่เป็นคนปลุก
“เทียนหลิน นายนี่หลับเก่งจริงๆนะ! เห็นหลับตลอดเช้าเลย”
“เมื่อคืนออกไปขโมยวัวมาหรือไง?” ชิเซียวจุนพูดติดตลก
“ขโมยวัวงั้นเหรอ! ฉันฆ่าคนมาทั้งคืนต่างหาก” หนิงเทียนหลินหัวเราะ
ในหอมีกันทั้งหมด 6 คน แต่ชิเซียวจุนคนนี้สนิทกับเขาที่สุด และส่วนคนอื่นๆก็แค่เฉยๆ
แต่ก็มีคนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกกับหนิงเทียนหลินเท่าไร
ชายคนนั้นชื่อหวังน่าน เป็นลูกชายของหัวหน้าเหมืองถ่านหินชานซีแต่ก็ไม่ใช่เหมืองถ่านที่ใหญ่โตอะไรแต่ก็มีมูลค่าสุทธิมากกว่าหนึ่งร้อยล้านหยวน
ไม่นานก่อนที่ภาคเรียนแรกจะเริ่มและหวังน่านต้องเสียเงินไปกว่า 3,000 หยวนที่เก็บไว้ในตู้ล็อคเกอร์ ด้วยเหตุผลบางอย่างเขามั่นใจมากว่าหนิงเทียนหลินเป็นคนเอาไป เรื่องนี้จึงถูกรายงานไปยังที่ปรึกษา
โดยปกติแล้วเงิน 3,000 หยวนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับคนแบบเขาเลยและมันคงจะไม่เป็นเรื่องถ้าเงินนี้ถูกพวกโจรข้างถนนขโมยไปแต่มันกลายเป็นอีกเรื่องเลยเมื่อเงินหายในหอพักแบบนี้ ถ้าเขาไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โดยการเอาไปบอกที่ปรึกษา คนอื่นก็คงไม่คิดว่าเขาเป็นคนทำหรอก!
หวังน่านไม่ใช่คนประเภทที่จะไปยุ่งด้วย!
โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้นแต่เขาก็รายงานเรื่องหนิงเทียนหลินกับที่ปรึกษาโดยตรง และหลังจากนั้นคนทั้งหอก็เริ่มที่จะสืบสวนและแม้แต่ รปภ. ของมหาลัยก็มาพาตัวหนิงเทียนหลินไปสอบสวนอย่างหนัก
ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานอะไร มันก็เป็นแค่การทะเลาะวิวาทเท่านั้นแต่ชื่อเสียงของหนิงเทียนหลินในชั้นเรียนก็เสียหายได้ในทันที ในตอนนั้นทุกคนมองว่าเขาเป็นโจรไปหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะจิตใจที่แข็งแกร่งของหนิงเทียนหลิน ไม่งั้นในตอนนั้นเขาคงทำเรื่องที่ไม่คาดคิดไปแล้ว
แต่ตั้งแต่ตอนนั้นมาเขาและหวังน่านก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ถึงแม้เขาจะเป็น
รูมเมทกันแต่เขาก็ไม่ได้ชำระแค้นอะไร
“จริงเหรอ!”
“นายไปฆ่าคนมาทั้งคืน”
“ใครฝันว่าฆ่าใครงั้นเหรอ?” ชิเซียวจุนยังคงเหน็บอยู่
“แหม นี่มันเที่ยงแล้วนะ ไปกินข้าวกันเถอะ อยากกินก๊วยเตี๊ยวไก่แล้ว!”
“ฉันคิดถึงรสชาติก๊วยเตี๊ยวไก่เจ้าหน้าประตูมาตลอดปิดเทอมหน้าร้อนเลย”
“ฉันด้วย” หนิงเทียนหลินพยักหน้า เพราะก๊วยเตี๊ยวไก่หน้าประตูราคาแค่ 8 หยวนแต่รสชาติอร่อยเด็ดมากเลย ทั้งเผ็ดและถึงรสชาติมากจริงๆ
“ไปกันเถอะ” ชิเซียวจุนยิ้ม
…
มหาวิทยาลัย ใต้ต้นไม้
“ยินดีต้อนรับเด็กใหม่ทั้งหลายสู่สาขาวิชาภาษาต่างประเทศ”
ภายใต้ป้ายยังมีแยกไปอีก 3 โต๊ะที่เชื่อมต่อกัน มีผู้หญิง 4 คนและผู้ชายอีก 2 คนกำลังนั่งอยู่ด้านหน้า พูดคุยและหัวเราะอยู่ด้วยกัน พวกเขาต่างก็ได้รับมอบหมายให้ช่วนต้อนรับเด็กใหม่จากสาขาวิชาภาษาต่างประเทศ พวกเขานั่งอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ชั่วโมงเรียนเช้าแล้ว
“ว้าว! หลิวปิว ดูดิโคตรสวยเลยอ่ะ!”
ผู้ชาย 2 คนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่ในสาขาวิชาภาษาต่างประเทศไม่ค่อยจะมีอะไรงามๆมากนัก และถึงแม้ในคณะจะมีผู้ชายมากมายแต่พวกเขาก็ถูกส่งมา และในเวลานี้ผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านขวาก็จ้องเขม้นไปที่สาวสวยที่กำลังเดินอยู่ที่ถนนและพร้อมทั้งตบไปที่มือของหลิวปินในเวลาเดียวกัน
และนอกจากสาวสวยคนนี้ ก็ยังมีสาวร่างสูงที่สวมชุดสุดหรูอีกที่ซึ่งเห็นแวบแรกก็รู้เลยว่าไม่ใช่เสื้อผ้าธรรมดาๆ
“สวยจริงๆด้วย!”
“สวยกว่าหลิวเหมยเหมยของเราอีกอ่ะ!”
หลิวปินยังล้อเล่นกับผู้หญิงที่นั่งข้างๆเขาอยู่พร้อมทั้งมองไปที่เหวินหยาน แต่เพียงแค่มองแวบเดียวก็เกือบจะทำให้เขาหยุดหายใจ
อีกคนที่สวมชุดเสื้อสีขาวแขนสั้นพร้อมด้วยกางเกงหลวมใหญ่สีม่วงอ่อนและรองเท้าแตะหุ้มส้นสีแดง มัดผมหางม้าก็เดินเข้ามา ทั้งคู่ช่างอ่อนเยาว์และสวยมีเสน่ห์อย่างมาก ทำให้พวกเขาต่างก็จ้องตาเป็นมัน
“กำลังมาแล้วๆ!”
“เดินมาที่โต๊ะเราแล้ว!”
หลิวปินหัวใจเต้นรัวเมื่อรู้ว่าสาวคนนี้จะต้องเป็นเด็กปีหนึ่งที่มาจากสาขาวิชาภาษาต่างประเทศแน่ๆ ดวงตาของเขาเป็นประกายและถึงขนาดต้องลุกขึ้นมาจากเก้าอี้และมองจ้องไปที่สาวคนนั้น เขายิ้มอย่างจริงใจ “มารายงานตัวหรือเปล่า?”
“คุณอาเป็นแม่ของน้องเหรอครับ สวยมากเลย”
หลิวปินรีบกล่าวทักทายทั้ง 2 คนและพยายามที่จะแสดงสีหน้าสดใส เขารู้ดีว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้างความประทับใจแรก ผู้ชายที่นั่งข้างๆหลิวปินเตือนเขาให้มองสาวสวยและในเวลาเดียวกันก็รีบลุกขึ้นเพื่อทักทายพวกเขา
ก็แค่เป็นเรื่องที่ครอบครัวของหลิวปินสอนมานานแล้วและเขาจำได้อย่างขึ้นใจว่าให้กล่าวทักทายเป็นอย่างแรก!
“ขอบคุณนะ”
เด็กสาวไม่ได้พูดอะไรและหญิงวัยกลางคนก็หัวเราะออกมา ในวัยนี้พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องหน้าตาแล้วแต่ก็ยังพูดเสริมออกไป
“ฉันไม่ใช่แม่หรอกค่ะ ฉันเป็นแค่อานะค่ะ”
เธออยากที่จะบอกว่าเป็นพี่เลี้ยงแต่เมื่อคุยกันแล้ว เธอก็กลายเป็นคุณอาแทน
“โอ้ ขอโทษด้วยนะครับคุณอา ยกโทษให้ผมด้วย มาชำระค่าเรียนหรือเปล่าครับ?”
“น้องเป็นเด็กปีหนึ่งของสาขาวิชาภาษาต่างประเทศหรือเปล่า?”
หลิวปินหันไปสนใจที่เด็กสาวแทนเพราะเธอคือคนที่เขาสนใจมากกว่า
“ใช่ค่ะ” อีกฝ่ายพยักหน้าและตอบออกมา
“นายดูแลจัดการเรื่องนี้งั้นเหรอ?” น้ำเสียงนุ่มนวลและฟังสบาย
“ใช่” หลิวปินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“ขอชื่อด้วยนะครับ? เอาเอกสารด้วยได้ไหมครับ?”
“ฉันชื่อหลินเจียอี้” เด็กสาวตอบ และในเวลาเดียวกันคุณอาพี่เลี้ยงก็รีบหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าสีแดงใบใหญ่แล้วส่งให้
“หลินเจียอี้ ชื่อเพราะมากเลย” หลินปินแอบเก็บไว้ในใจเงียบๆ พร้อมกันนั้นก็รับเอกสารมา หยิบปากกาขึ้นมาจากโต๊ะและเริ่มที่จะลงทะเบียน และสุดท้ายเขาก็ถามออกมา “มีเบอร์โทรศัพท์หรือเปล่า?”
“เป็นเด็กใหม่หรือว่าเด็กเก่าล่ะ? นี่ต้องใช้ในการลงทะเบียนด้วย”
เพราะอยู่ต่างเมืองจึงมีเด็กใหม่หลายคนที่เปิดเบอร์ใหม่เพื่อเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามในฐานะแบบเธอ หลินเจียอี้ไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก เธอเลยบอกเบอร์โทรศัทพ์ของเธอไปตรงๆ
แต่หลิวปินกลับมีความสุขมากเพราะไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลนี้ลงไปในเอกสารด้วยเลย ตอนนี้ด้วยวิธีนี้เขาจึงได้เบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายมาด้วย เดี๋ยวสักพักเขาก็จะเซฟเบอร์นี้ลงโทรศัพท์
“หา? นั่นเขานิ!”
ระหว่างที่หลินเจียอี้กำลังลงทะเบียน เธอเกิดความรู้สึกเบื่อจึงหันมองไปรอบๆแต่แค่แวบเดียวก็ทำให้เธอต้องรู้สึกตกใจ เหมือนว่าเธอได้เห็นบางอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อแล้วก็เกิดความรู้สึกมีความสุขขึ้นมา!
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความสุขนี้มันมาจากไหนกัน!
ICSS บทที่ 90: รุ่นพี่ค่ะ
“เทียนหลิน ปิดเทอมหน้าร้อนนายไปไหนมา ฉันโทรหาไม่ติดเลยแล้วก็ไม่เห็นนายออน QQ เลยด้วย มันยากจริงๆเลยที่จะชวนนายมาเล่น LOL?”
ถนนสินธุ
นี่เป็นถนนที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเสฉวน มันเต็มไปด้วยต้นมะเดื่อและอยู่ใกล้กับทางเข้าโรงเรียนจึงมีคนมากมายที่เดินผ่านทางนี้ หนิงเทียนหลินและชิเซียวจุนค่อยๆเดินมาตามถนนเส้นนี้พร้อมทั้งพูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่อยๆ
“นายโทรมาหาฉันด้วยเหรอ?”
หนิงเทียนหลินถามและแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาไม่แน่ใจว่าข่าวเรื่องการตายของเขากระจายไปมากน้อยแค่ไหน และเพราะเรื่องเอกสารที่สถานีตำรวจท้องถิ่นแต่ทางโรงเรียนยังไม่มีเอกสารตัวนี้
เรื่องเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยเขาได้เยอะเลย
สิ่งที่หนิงเทียนหลินกังวลอยู่ตอนนี้คือพ่อแม่เขาจะโทรมาแจ้งที่ปรึกษาเรื่องการตายของเขาเลยทำให้ไม่ได้มาเรียน แต่ด้วยเหตุผลที่พ่อแม่เขาไม่รู้เบอร์โทรของทางโรงเรียนเลย นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเบอร์โทรของที่ปรึกษาเลย เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อทางโรงเรียนเห็นว่าเขาไม่ได้มาเรียนเลยก่อนที่จะโทรแจ้งทางบ้านเพื่อขอข้อมูล
วันนี้ชิเซียวจุนโทรหาเขาแต่ไม่ติด ถ้าติดเขาก็กลัวว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดโปงออกมา แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก เขาก็จะอ้างว่าเขามีปัญหากับทางครอบครัวนิดหน่อย พวกท่านเลยบอกว่าเขาตายไปแล้วเพราะไม่อยากจะยอมรับว่ามีลูกชายแบบเขา
“ใช่”
“ทักนายไปเป็นพันข้อความและทางคิวคิวก็ไม่มีข้อความอะไรแจ้งมาด้วย” ชิเซียวจุนบ่นออกมา
“ฉันเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่แล้ว พอดีมันถูกระงับไปสักพัก และเรื่อง QQ ฉันยุ่งอยู่ที่บ้านทั้งวัน ฉันก็เลยไม่มีเวลามาเล่น QQ” หนิงเทียนหลินพูดไปเรื่อยเปื่อย
“โอ้” ชิเซียวจุนไม่ได้ถามว่าที่บ้านยุ่งเรื่องอะไร หรือแม้แต่ QQ ก็ไม่มีเวลามาเล่นเนี้ยนะ “งั้นพอกินข้าวเสร็จไปเล่นเกมส์ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่กันไหม เราไม่ได้เล่นมาสักพักแหละคันไม้คันมือไปหมดเลย”
“นายไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่เล่น LOL ที่บ้านกับเล่นที่ร้านเกมส์มันไม่เหมือนกัน ที่บ้านมันไม่ได้บรรยากาศเลย!” ชิเซียวจุนพูด
“ร้านอินเตอร์เน็ต…”
“สวย! โคตรสวยเลยว่ะ!”
ชิเซียวจุนเตรียมที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องหยุดในทันทีแต่เสียงหัวใจกลับเต้นแรงกว่าอีกเพราะในเวลานี้สาวสวยกำลังเดินตรงเข้ามาให้พวกเขาด้วยใบหน้าแสนสวยพร้อมรอยยิ้ม
“พอฉันมาถึงโรงเรียนก็มีสาวสวยเดินเข้ามาทักทายฉันเลยเหรอเนี่ย?”
ชิเซียวจุนตกตะลึงไปกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอจนหัวใจเขารู้สึกคันเล็กๆ แต่เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหนิงเทียนหลินที่ยืนอยู่ข้างเขาทำหน้าขมวดคิ้วไปแล้ว
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! มาเจอกันอีกได้ยังไงเนี้ย!”
หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วพร้อมด้วยสายตาที่ดูจะอึดอัดเล็กน้อย วันก่อนเขาขังเธอไว้ข้างนอกตั้งหลายชั่วโมงและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกลับไปกี่โมง เขาคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากนั้นแค่ 24 ชั่วโมงพวกเขาก็จะได้มาเจอกันอีก
“หวัดดี! ได้เจอกันอีกแล้ว!”
หลินเจียอี้กระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าหนิงเทียนหลินพร้อมทั้งจับมือหนิงเทียนหลินเพื่อทักทายไปด้วย ในเวลาเดียวกันนั้นเธอก็โบกมือให้
ชิเซียวจุง
“ไง หวัดดี”
“หวัดดีฮะ” ชิเซียวจุงตื่นเต้นมาก เขาอายุ 19 แล้วแต่ก็ไม่เคยมีสาวสวยขนาดนี้เข้ามาทักทายพูดคุยกับเขามาก่อนเลย ถึงแม้นี่จะเป็นแค่การทักทายก็เถอะ
“เจอกันอีกแล้ว” หนิงเทียนหลินไม่มีทางเลือกนอกจากทำหัวตรงๆ
เขาไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีก ในเวลาแค่ 5-6 วัน นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่พวกเขาได้เจอกัน
“เจียอี้นี่เพื่อนร่วมชั้นเรียนคุณใช่ไหม?” ในเวลานี้คุณอาพี่เลี้ยงเดินเข้ามาพอดีและเห็นหนิงเทียนหลิน ก็เลยจำได้ว่านี่คือคนที่ได้เจอที่
ตลาดปลาเมื่อวันก่อน
“คือใช่ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นมัธยมแต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาลัยด้วย”
ในครั้งนี้หลินเจียอี้ก็โกหกอีก
“คุณอาค่ะกลับไปก่อนก็ได้นะคะ ถ้ามีเขาอยู่ช่วยหนูก็ไม่ต้องกวนคุณอาแล้วค่ะ”
“ค่ะ ก็ได้ค่ะ”
“ยังไงซะเราก็มาลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว งั้นก้ได้ค่ะ”
“งั้นขอให้สนุกนะคะและเดี๋ยวกลับมาตอนกลางวัน ฉันจะทำของอร่อยไว้รอนะคะ”
คุณอาพี่เลี้ยงหัวเราะออกมา หน้าที่ของเธอตอนนี้ก็คือการส่งหลินเจียอี้มารายงานตัวที่โรงเรียน ปกติแล้วหลินเจียอี้จะมาคนเดียวแต่เธอไม่มั่นใจเลยตามมาด้วย
“ค่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณอา” หลินเจียอี้ยิ้มและโบกมือลาคุณอาพี่เลี้ยง แล้วมองส่งเธอกลับไป
“สวัสดีครับคุณอา” หนิงเทียนหลินไม่ได้พูดแต่ชิเซียวจุนที่ยืนอยู่ข้างเขาทั้งโบกมือและยิ้มส่ง ต่อหน้าสาวสวยตรงหน้าเขาต้องสร้างความประทับใจซะหน่อย
“หวัดดีฮะ ฉันชื่อชิเซียวจุนและเทียนหลินเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนและเป็นรูมเมทกันด้วย” ชิเซียวจุนรีบที่จะแนะนำตัวเองในทันที
“ไม่คิดเลยว่าเธอกับเทียนหลินจะเป็นเพื่อนเรียนมัธยมมาด้วยกัน”
“เทียนหลินไม่เคยบอกเลยว่ามีเพื่อนมัธยมสวยขนาดนี้”
“เขาชื่อเทียนหลินนี่เอง!” หลินเจียอี้แอบจำชื่อไว้ในใจ ถึงแม้เธอจะเคยเจอเขามา 3 ครั้งแล้วและถึงขนาดที่อีกฝ่ายเคยช่วยชีวิตเขาไว้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่รู้ชื่อของอีกฝ่ายอยู่ดีและก็ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ถามด้วย
“ใช่”
“หวัดดีค่ะ ฉันชื่อหลินเจียอี้และฉันเป็นเพื่อนเรียนมัธยมกับเทียนหลินแต่ฉันต้องซ้ำชั้นไปปีหนึ่งเลยต้องมาสอบเข้าเรียนมหาลัยอีกรอบในปีนี้”
ตอนนี้หลินเจียอี้พูดได้แต่เรื่องโกหก อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินไม่ได้พูดอะไรและยังได้เห็นท่าทางเขาในวันนี้ ที่ยืนอยู่ข้างๆชิเซียวจุน
“พี่ชิมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”
“มาหาอะไรกินน่ะ ตรงประตูมีร้านก๊วยเตี๊ยวไก่เจ้าอร่อยอยู่”
ชิเซียวจุนไม่อยากจะคุยเรื่องไร้สาระมากนัก เขาอยากจะคุยเรื่องรายละเอียดของสาววัย 18 คนนี้แทนและเขารอที่จะคุยเรื่องนี้แทบไม่ไหว แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่าหลินเจียอี้เพิ่งจะมาถึงและดูเหมือนจะยังไม่ได้กินอะไร จึงรีบถามออกไปทันที
“หลินเจียอี้ เธอยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม ถ้างั้นเราไปกินด้วยกันไหม ก๊วยเตี๊ยวไก่ร้านนั้นอร่อยมากเลยนะ”
“ได้ๆ” หลินเจียอี้รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันเพิ่งมาที่นี่เลยยังไม่ค่อยคุ้นกับที่นี่เท่าไรและไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อยหรือไม่อร่อย เมื่อพี่ชิเซียวจุนแนะนำแบบนี้ฉันก็อยากลองกินนะ”
พร้อมกันนั้นเขาก็ยิ้มออกมาโดยไม่สนใจสายตาของหนิงเทียนหลินเลย เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธอะไร แต่เขาก็ยังรู้สึกคาใจว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนเรียนมัธยมกันแบบไหนกัน? เธอรู้แค่ว่าอีกฝ่ายชื่อว่าเทียนหลินแต่กลับไม่รู้จักนามสกุลของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องเรียกพี่หรอก” ชิเซียวจุนไม่เคยถูกเรียกแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะจากสาวสวยแบบนี้เลยทำให้เขารู้สึกเขินหน่อยๆ
“ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเทียนหลิน งั้นก็เป็นเพื่อนฉันด้วยเหมือนกัน ฉันจะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนในกลุ่มที่หลังจะได้มีทั้งเด็กใหม่และเด็กเก่า”
“เธอเพิ่งมาถึงที่นี่และก็คงจะยังไม่คุ้นกับที่นี่ ไม่ใช่แค่เรื่องกินแต่เรื่องที่ช้อปปิ้งด้วย งั้นฉันจะบอกแหล่งขายของราคาถูกๆน่ารักๆให้นะ”
“จะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ” หลินเจียอี้โบกมือปฎิเสธ
“นายเป็นพี่ ในเมื่อนายไม่อยากให้ฉันเรียกแต่ฉันก็จะเรียนพี่ว่าพี่เซียวจุนอยู่ดีนะ ใช่ไหม รุ่นพี่ค่ะ”
คำพูดของหลินเจียอี้หวานปานน้ำผึ้งจนทำให้หัวใจของชิเซียวจุนเต้นรัว มีเพียงหนิงเทียนหลินที่มองทั้ง 2 คนอย่างเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ICSS บทที่ 91: มันไม่จบหรอก!
“อร่อยจริงๆด้วย นี่น่าจะเป็นก๊วยเตี๊ยวไก่ที่อร่อยที่สุดเลย ที่เคยกินมาก่อนหน้านี้ก็ไม่อร่อยเท่านี้เลย”
หนิงเทียนหลินมองไปที่หลินเจียอี้ที่ทั้งกินและพูดไปพร้อมๆกันแต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่มากินกับพวกเขาด้วยแน่ๆ ยังไงซะนี่มันก็แค่ร้านเล็กๆหน้าโรงเรียน บรรยากาศก็ไม่ได้ดีอะไรและก็ไม่ได้สะอาดอะไรขนาดนั้นด้วย
หลินเจียอี้คนนี้เป็นลูกสาวของนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง หลินซวงแห่งเมืองจินฉวน ซึ่งน่าจะมีในกระเป๋ามากกว่า 10,000 หยวน แล้วเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะมากินอาหารในร้านเล็กๆแบบนี้? ที่นั่งทั้งร้านมีไม่กี่สิบตัวเองและพื้นที่ก็คับแคบและก็แออัดมากด้วย
เขาแค่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาที่นี่แต่เธอก็ดูน่ารักมากทีเดียว
“ก็ โอเค”
“ฮ่า ฮ่า”
ชิเซียวจุนหัวเราะออกมา “รสชาติของก๊วยเตี๊ยวไก่ร้านนี้ทำให้ฉันนึกถึงตลอดช่วงปิดเทอมหน้าร้อนเลย” แล้วเขาก็หยิบหัวหอมที่วางอยู่ข้างๆแล้วยัดเข้าปากไป
ถ้ากินก๊วยเตี๊ยวไก่แล้วไม่มีหัวหอม รสชาติก็จะหายไปเลยทันที
“เทียนหลิน หลังจากกินเสร็จนายช่วยพาฉันไปดูตึกสาขาวิชาภาษาต่างประเทศของเราหน่อยได้ไหม? ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน” หลินเจียอี้มองมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตามุ่งหวังแล้วกินต่อ แต่ในความรู้สึกของเธอก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ตกลง
ท่าทางของอีกฝ่ายเธอเคยเห็นมาบ้างแล้ว
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตึกสาขาวิชาภาษาต่างประเทศอยู่ที่ไหน แล้วเดี๋ยวฉันต้องไปกับเพื่อนต่อด้วย”
หนิงเทียนหลินปฎิเสธออกไปตรงๆเพราะเขาไม่อยากที่จะติดต่ออะไรมากกับผู้หญิงร่ำรวยคนนี้ที่พูดแต่เรื่องโกหก อีกอย่างเขาก็คิดว่าในชีวิตนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เจอผู้หญิงคนนี้อีก ไม่ใช่มาเจอกันอีกหลังจากนั้น 24 ชั่วโมง ว่าจะได้มานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้
“ไม่ว่างเหรอ? เราจะทำอะไรกันเหรอ? ตอนบ่ายไม่มีเรียนนะ!”
อย่างที่เราต่างก็รู้ ชิเซียวจุนจ้องมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ สาวสวยขนาดนี้มาชวนไปข้างนอก จะปฎิเสธได้ยังไงกันเนี่ย?
“นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าหลังกินข้าวเสร็จนายจะไม่ไปเล่นเกมส์ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นิ?”
หนิงเทียนหลินอยากที่จะฆ่าชิเซียวจุนจริงๆ มันจำเป็นต้องมาพูดอะไรตอนนี้ด้วยเหรอ?
“นาย!” ชิเซียวจุนถึงกับพูดไม่ออกเหมือนกับว่าเพิ่งได้เจอหนิงเทียนหลินเป็นครั้งแรก สาวสวยมาชวนไปข้างนอกแต่เขากลับอยากจะออกไปเล่นเกมส์แทนงั้นเหรอ! สาวสวยมันสำคัญมากกว่าเกมส์นะเว้ย! เขานี่โง่จริงๆ!
“…” หลินเจียอี้ก็พูดไม่ออกเช่นกัน แน่นอนเธอรู้ว่านี่มันเกมส์อะไร นี่เป็นเกมส์ที่ดังที่สุดในตอนนี้ ถึงขนาดว่าเธอก็มีบัญชีเกมส์นี้ของตัวเองด้วยเหมือนกันแต่โดยไม่ได้คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะปฎิเสธเธอเพื่อไปเล่นเกมส์แทนแบบนี้!
“นี่…หนิงเทียนหลิน เราเลื่อนเล่นเกมส์ไปก่อนก็ได้ ยังไงซะหลินเจียอี้ก็มาโรงเรียนเป็นครั้งแรกและตึกสาขาวิชาต่างประเทศ ก็ไม่ได้หายากอะไรด้วยก็แค่…”
คนแบบชิเซียวจุนจะไม่รู้ได้ยังไงว่าตึกสาขาภาษาต่างประเทศอยู่ตรงไหน ที่ตึกนั่นเป็นสถานที่ที่มีปริมาณชายและหญิงไม่สมดุลกันเลย แต่มีสาวสวยเยอะมากทำให้เขาชอบไปที่นั่น หวังว่าจะได้เจอสาวสวยสักคน 2 คนมาตกหลุมรักเขาบ้าง
“นายรู้ว่าตึกสาขาภาษาต่างประเทศอยู่ที่ไหน นายก็พาเธอไปเองสิ!”
หนิงเทียนหลินโยนไปที่ชิเซียวจุนโดยตรงและเตะเข้าที่ขาเขาที่อยู่ใต้โต๊ะ พยายามทำให้เพื่อนเห็นด้วยกับเขา “นายไปที่ตึกสาขาภาษาต่างประเทศกับเธอแล้วกัน ฉันจะไปที่คาเฟ่แล้วพอนายกลับมาเราค่อยเล่นเกมส์ด้วยกัน”
“อะไรนะ!”
“ดีเลย! ดีเลย! ฉันจะพาเจียอี้ไปเอง! นายไปจองที่ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ให้ฉันด้วยนะ!”
ชิเซียวจุนรู้สึกเขินเล็กน้อย คนแบบเขากับสาวสวยแบบเธอจะไปด้วยกันได้ไหมนะ? เธอสวยโคตรๆ! บวกกับท่าทางของหนิงเทียนหลิน ทำให้เขารีบตอบออกไปในทันที! เขารู้ได้เลยว่าหนิงเทียนหลินพยายามที่จะเลี่ยงจะผู้หญิงคนนี้ และร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หน้าโรงเรียนต้องจองที่เพราะมันดังมากด้วย!
นี่เป็นร้านที่ดังมากซึ่งมีคนเข้าไปเล่นในแต่ละครั้งมากกว่า 500 คน!
และเป็นเรื่องดีเลยเพราะเขาต้องการแบบนี้!
“เจียอี้ ฉันจะพาเธอไปเอง ที่นี่มันถิ่นฉันเลย ไม่เหมือนเขาที่อยู่แต่ร้านเกมส์ทั้งวันเลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย” ชิเซียวจุนให้ความร่วมมือกับหนิงเทียนหลินเป็นอย่างดีและเจียอี้ตอนนี้ก็ถูกเรียกด้วยชื่ออย่างเดียวแบบสนิทสนาม
“อะ….โอ้ ก็ได้”
หลินเจียอี้อยากที่จะปฎิเสธ คนที่เธอตั้งใจเลือกไว้ไม่ใช่ชิเซียวจุนแต่เป็นหนิงเทียนหลิน แต่เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้เธอต้องมาเรียนแต่เช้าและเธอก็ไม่ได้อยู่หอด้วยจึงต้องรู้ให้ได้ว่าตึกสาขาภาษาต่างประเทศอยู่ที่ไหนก่อนเลยต้องใช้โอกาสนี้ เธอถามเรื่องของหนิงเทียนหลินจากชิเซียวจุนเอาก็ได้ซึ่งก็อาจจะได้เบอร์โทรมาด้วยซ้ำ!
หนิงเทียนหลินชอบไปร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่งั้นเหรอ? เธอไม่อยากจะเชื่อเลย!
คนแบบเขาจะไปอยู่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แล้วเล่นเกมส์ทั้งวันได้ยังไงกัน! ต้องเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงที่จะออกไปกับเธอแน่ๆ!
ทันใดนั้นมีคนไม่กี่คนที่คุยกันโดยไม่พูดอะไรเลยและพวกเขาก็เปิดกว้างมาก หลังจากกินอาหารพวกเขาก็แยกย้ายกันไป
…
“มีแต่คนมาร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เพื่อเล่นเกมส์ LOL …”
เมื่อหนิงเทียนหลินเดินเข้ามาและมองไปรอบๆ 8 จาก 10 คนกำลังเล่นเกมส์ LOL ไม่เพียงแค่เกมส์เท่านั้นที่กำลังดัง เขาเลือกนั่งบริเวณที่คนไม่เยอะมากนักและก็อดไม่ได้ที่จะสมัครบัญชีเกมส์ LOL ของตัวเองขึ้นมาบ้าง
สมัครและเลือกฮีโร่ที่ชอบ ต้องกาเลนเท่านั้น
กาเลนมีเลือดมากมายและผิวหนังที่หนาและไม่มีใครกล้าที่จะสู้กับเขาเลยเมื่อเขาชักดาบออกมา! หนิงเทียนหลินชอบบุคลิคที่กล้าหาญนี้
แค่ 5 นาทีผ่านไป
“2บี กาเลน นายจะเล่นไหม? ช่วยเร่งมือหน่อยได้ไหมว่ะ! เฮ้! เลือดเยอะจนน่ากลัวเลยนะเนี่ย!”
ที่หน้าจอ เพื่อนร่วมทีมพิเชง โพลิซวูแมนบ่นตัวละครในเกมของหนิงเทียนหลิน ตอนนี้ตราบใดที่กาเลนยังอยู่อันดับต้นๆ เขาจะต้องได้ 2 หัวแน่ๆ! มาเพื่อฆ่าเท่านั้น! แต่การต่อสู้ครั้งนี้ต้องล่าช้าเพราะหนิงเทียนหลินแต่เขาก็ช่วยไม่ได้เลยวางสายไปก่อน!
หนิงเทียนหลินไม่พูดอะไรและรู้สึกโกรธนิดหน่อย
“แหม กาเลนนี้มันงี่เง่าจริงๆ! เขาถูกจับอีกแล้ว! ไม่มีตาหรือไงว่ะ! ไอ้ 2บีโว้ย!”
ภายใน 7 นาที ยาสุโอะเพื่อนร่วมทีมอีกคนบ่นหนิงเทียนหลิน ในเวลานี้ตัวละครในเกมส์ “กาเลน” ของหนิงเทียนหลินตายไป 4 รอบแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงปัดดาบแบบนั้น ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่จับเขาล่ะ?
“กาเลนนี่งี่เง่าจริงๆ โง่สุดๆไปเลย!”
ในเวลาคนแรกที่เล่น “ปิป ซิตี้ โพลิซวูแมน” พิมพ์ข้อความเพิ่มลงไปในหน้าจออีก
อย่างไรก็ตาม หนิงเทียนหลินก็ยังไม่บ่นอะไรแต่สีหน้าเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
“นายนี่มันอ่อนเปลี้ยจริงๆไอ้กาเลน จะเล่นแบบคนแก่แล้วก็ตายอีกเหรอไง! แกนี่มันเครื่องจักรไร้ประสิทธิภาพจริงๆ! กลับไปเรียนอนุบาลใหม่ไป๊! น่าเบื่อจริงๆ!”
10 นาทีต่อมา ตัวละครในเกมส์ของหนิงเทียนหลินตายมา 6 รอบแล้ว แต่ละครั้งไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำ! เพื่อนร่วมทีมอีกคนบ่นเขา และในเวลานี้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นอีกมากมายก็เริ่มที่จะด่าเข้ามาเพิ่ม
ถึงขนาดที่มีคนหนึ่งด่าออกมาเสียงดังตรงหน้าจอ “ไอ้ 2บี กาเลนนี่มันต้องเป็นสายแน่ๆ ในเวลาไม่ถึง 10 นาที แม่งตายไป 6 รอบแล้ว แถมฆ่าไม่ได้สักรอบ ถูกฆ่า 1 รอบ โดนตีไป 2 รอบอีก! โง่งี่เง่าจริงๆ! ตีเลยสิ!
ในเวลานี้หน้าของหนิงเทียนหลินเปลี่ยนสีด้วยความโกรธ ไม่ใช่แค่เรื่องเกมส์ที่เล่นแต่ที่ด่ากันมากกว่า! เขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะต้องโมโหเด็กใหม่กันขนาดนี้! และเขาทนไม่ได้อีกแล้วจึงพิมพ์ด่าลงไปในหน้าจอ
“พวกนายนี่มันไร้ค่าจริงๆ! ไอ้พวกโง่!”
ICSS บทที่ 92: ปลั๊กอินโกง!
“รู้สึกหัวร้อน เหี้ยอะไรนักหนา นี่มันก็แค่เพราะสายมันหลุดไม่ใช่เหรอ! ยังไงก็ตามนายต้องแพ้แน่ๆ พวกนายกลัวว่าตัวเองจะแพ้สินะ?”
เมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินตอกหน้ากลับ เพื่อนร่วมทีม 3 ใน 4 จึงโต้ตอบกลับมา!
“ไอ้หนู รีบกลับบ้านกินนมเลยไป๊” มีคนหนึ่งพูด
“ใช่เลย ไม่ต้องมาเล่นเกมส์พวกนี้เลยนะ!” อีกคนพูดต่อ “วันนี้เล่นได้ทุเรศมาก ฉันถึงกับแพ้ไปตั้ง 6 รอบเลย แถมยังสู้ได้ห่วยอีกต่างหาก!”
“ติ่ง!”
“ในฐานะเจ้านายของระบบการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล นายเล่นเกมส์ได้ห่วยขนาดนี้ได้ยังไงกัน!”
“ตอนนี้ภารกิจเริ่มแล้ว อย่างแรกเลยนะเกมส์ถูกกำหนดไว้แล้ว ตอนนี้เพื่อนร่วมทีมของนายพร้อมที่จะยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว งั้นเอาชัยชนะไปปาใส่หน้าพวกเขาได้เลย! พร้อมกันนั้นใช้พลังการต่อสู้ระเบิดเพื่อจัดการหุบปากเพื่อนร่วมทีมพวกนี้ซะเลย ให้รู้ไปเลยว่าอย่ามาหยาม!”
“รางวัลก็ คือ ทุกครั้งที่นายฆ่าเพื่อนร่วมทีมที่ปากมาก นายจะได้คะแนนสำคัญ 1 คะแนนเป็นรางวัล! ทั้งเกมส์จะได้รางวัลทั้หงหมด 10 คะแนน! ถ้าทำไม่สำเร็จ จะถูกหักคะแนนสำคัญ 100 คะแนน”
“ภารกิจที่ 2 ในเมื่อเล่นเกมส์อยู่แล้ว เราควรที่จะตั้งเป้าที่จะชนะทีละเกมส์และชัยชนะครั้งนี้ต้องทำด้วยความรวดเร็ว! ตั้งแต่นี้ไป เจ้านายต้องชนะให้ได้ 100 ศึก ชนะไปเรื่อยๆทุกรอบจำกัดเวลาภายใน 20 นาที!”
“รางวัลของภารกิจ คือ สำหรับศัตรู 100 ตัวใน 100 ศึกจะได้รางวัลเป็น 1 คะแนน และถ้าภารกิจไม่สำเร็จจะถูกหัก 100 คะแนน”
ตอนที่หนิงเทียนหลินถูกด่าและกำลังจะวางสายและเลิกเล่นแล้ว เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูของเขาซึ่งทำให้เขาหัวใจเต้นรัวและปฎิกิริยาเกือบจะเดือดเลือดพล่าน
มันจะเป็นไปได้ยังไง!
ระดับเขาจะนำทีมเอาชนะในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไง! เพื่อนร่วมทีมที่ถูกฆ่าจะออกจากฐานไม่ได้! ในเกมส์ LOL ทักษะของฮีโร่ไม่มีตัวไหนโกงคน 1 ต่อ 5 ได้หรอกนะ!
แล้วยังต้องชนะติดต่อกัน 100 ครั้งอีก เขาเป็นน้องใหม่แล้วจะชนะติดกัน 100 เกมส์ได้ยังไงกัน! และแต่ละเกมส์มีเวลาแค่ 20 นาทีเอง แค่เรื่องเวลาก็ยอมแพ้แล้วเนี่ย…
ถ้าเป็นจริงอย่างที่ระบบการต่อสู้พูดงั้นมันจำเป็นด้วยเหรอที่จะต้องหักคะแนนพลังงานของเขาไป 100 คะแนน เปลี่ยนกฎไม่ได้หรือไงเนี่ย!
“ไม่ได้! ระบบการต่อสู้ทำแบบนั้นไม่ได้นะ! มันเป็นไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงภารกิจที่ยังทำไม่สำเร็จ”
หนิงเทียนหลินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและคิดออกมาอย่างจริงจัง
“ฆ่าเพื่อนร่วมทีมเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไงที่จะฆ่าเพื่อนร่วมทีม? ข้อมูลในเกม LOL มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบนั้น! นอกจากซะว่านายจะเปลี่ยนข้อมูลของเกมส์ลีกออฟเลเจนด์! เปลี่ยนข้อมูลงั้นเหรอ?”
“เปลี่ยนข้อมูล…”
เมื่อคิดเรื่องนี้สายตาของหนิงเทียนหลินก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนอื่นที่จะใช้เปลี่ยนข้อมูลในเกมส์ LOL เพราะเรื่องแบบนี้จะถูกเทนเซ็นต์สกัดกั้นไว้ทันที เมื่อถึงเวลานั้นชื่อก็จะถูกแบนและการขึ้นอันดับก็จะสูญเปล่า!
แต่เขาไม่เหมือนหนิงเทียนหลิน!
ในระบบของประตูแห่งการแลกเปลี่ยน แค่การปลั๊กอินไปอย่างเดียวก็มีหุ่นยนต์อัจฉริยะขั้นสูงด้วย!
เรื่องการปลั๊กอินไปไม่ใช่อะไรง่ายๆสำหรับเขาเลย!
“เปิดระบบการแลกเปลี่ยน โซนเทคโนโลยี!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หนิงเทียนหลินรีบเปิดระบบประตูแห่งการแลกเปลี่ยนแล้วหาเทคโนโลยีขั้นสุดยอดมากมาย ภายในเวลาแค่นาทีเขาก็เจอเข้ากับ “การบุกรุกรหัส” คำแนะนำข้างบนสามารถช่วยให้เข้าไปในฐานข้อมูลของเทคโนโลยีได้มากมายพร้อมทั้งแก้ไขข้อมูล, ทำสำเนา, สร้างข้อมูลโดยอัตโนมัติและอื่นๆได้อีกด้วย
และการบุกรุกรหัสนี้ก็แยกเป็น “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก”, “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะระดับกลาง”, การบุกรุกรหัสอัจฉริยะขั้นสูง” และอื่นๆอีก หนิงเทียนหลินอ่านคะแนะนำคร่าวๆและเลือกไปที่ “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก”…
เพราะเทคโนโลยีนี้มันมีอยู่แล้วในอารยธรรมระดับเก้าของจักรวาล ล้ำหน้ากว่าของโลกไปเป็นร้อยๆปี ทำให้การปรับเปลี่ยนข้อมูลของลีกออฟเลเจนด์เป็นเรื่องที่ง่ายมาก
“คะแนนที่ใช้แลก: คะแนนพลังงาน 3 คะแนน”
หนิงเทียนหลินมองไปที่คะแนนสำคัญที่ต้องใช้ในการแลกที่ด้านหลัง แค่ 3 คะแนนเอง เขาไม่ลังเลเลยที่จะแลก “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก”
นี้ในทันที แล้วหลังจากนั้นในแวนอวกาศของเขาก็ปรากฎลูกบอลสีเขียว ที่มีพื้นผิวนุ่มและมีข้อมูลมากมายวิ่งล้อมรอบอยู่ด้วยความเร็วขึ้นมา
“แค่นำเจ้าสิ่งที่ไปครอบบริเวณที่มีกระแสไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต”
ในใจของหนิงเทียนหลินก็ปรากฎคำแนะนำในการใช้เจ้า
“การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก” ขึ้นมา โดยไม่ลังเลเขาก็หยิบมันออกมาจากแหวนอวกาศ ถือมันไว้ในมือขวาแล้วแตะไปที่เมาส์โดยตรง
“โอ้!”
ทันใดนั้น ลูกบอลสีเขียวก็หายไป และหนิงเทียนหลินรู้สึกว่ามันได้เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทางเมาส์นี้แล้ว หลังจากนั้นก็เครือข่าย…
“ติ่ง!”
ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที คอมพิวเตอร์ของหนิงเทียนหลินก็แสดงคำว่า
“การบุกรุกสำเร็จแล้ว” แล้วไม่กี่วินาทีต่อมาการโต้ตอบก็ปรากฎขึ้นที่มุมด้านขวาล่างของคอมพิวเตอร์ แสดงข้อมูลว่า
“จากคำขอของผู้ใช้งาน ข้อมูลของ LOL ได้ถูกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติไปเป็นสร้างปลั๊กอิน ชื่อรหัสคือ ‘ศูนย์’”
“เปิดใช้งานการปลั๊กอินแล้ว”
พร้อมกันนั้นการปลั๊กอินนี้ก็ถูกเปิดใช้งานอย่างอัตโนมัติพร้อมกับที่มันถูกสร้างขึ้นมาเลย
“ว้าว!”
หลังจากนั้นคำพูดมากมายก็แสดงขึ้นมาที่อินเตอร์เฟซลีกออฟเลเจนด์ของหนิงเทียนหลิน “ปลั๊กอิน ‘ศูนย์’ ท่านสามารถใช้ได้อย่างที่ต้องการ ท่านแค่ต้องพิมพ์ความต้องการที่หน้าจอด้วยตัวอักษรภาษาจีนแล้วท่านก็จะสามารถสร้างข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ”
“โอเค”
สายตาของหนิงเทียนหลินเปล่งประกายขึ้นมาในทันที เขาไม่คิดว่าทุกอย่างจะรวดเร็วขนาดนี้ ตั้งแต่แลกคะแนนจนถึงการสร้างการปลั๊กอินใช้เวลาไม่ถึงนาทีเลย!
“และมันก็ใช้ได้ไม่ยากเลยด้วย…”
หนิงเทียนหลินอ่านคำแนะนำการใช้งานอย่างระมัดระวังและรู้ดีว่าอยากให้ผลลัพท์มันออกมาเป็นยังไง ก็เพียงแค่พิมพ์ความต้องการลงไปที่หน้าจอด้วยตัวอักษรภาษาจีน
“ยังไงอ่ะ? ฉันมีเพื่อนร่วมทีมตั้งเยอะ แล้วจะต้องทำยังไง!”
“ไอ้ไก่อ่อนเอ่ย รีบเลิกเล่นไปเลยนะ ออกไปเลย รีบไสหัวออกจากเกมส์ไปเลยนะไม่งั้นเจอดีแน่! เป็นหง่อยหรือไงว่ะ! ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย! ทุเรศว่ะ!”
ไม่นานก่อนที่หลินเทียนหลินจะเริ่มใช้การปลั๊กอิน เพื่อนร่วมทีมอีกคนก็ส่งคำด่ามาให้เขา
ตอนนี้เพื่อนร่วมทีมทั้ง 4 ต่างก็กรนด่าในความอ่อนหัดเรื่องเกมส์ของหนิงเทียนหลินกันหมด!
“ฉันจะทำยังไงดี! นายจะตายที่ฐานไม่ได้นะเว้ยไม่งั้นพ่อจะจัดการนายแน่ๆ!”
“ไอ้อ่อนเอ่ย!”
หนิงเทียนหลินขาดสติและด่าออกไป พร้อมกันนั้นก็พิมพ์ลงไปที่หน้าจอเกมส์ว่า “ส่งผ่าน, ส่งผ่านอะไรก็ได้ที่นายต้องการ ไม่มีเวลาจำกัด!”
“เพิ่งพลังของทักษะ อี ‘การตัดสิน’ ไปอีก 10,000 เท่า! ครอบคลุมทั้งหน้าจอเลย! ไม่มีเวลาจำกัด! ให้นาน 10,000 วินาทีไปเลย!”
“พลังไม่มีจำกัด เลือดไม่มีจำกัด!”
“ปราการป้องกันของฉันจะต้องไม่มีวันพังทลาย!”
…
ทันทีที่หนิงเทียนหลินป้อนคำพวกนี้ลงไปที่หน้าจอ เพื่อนร่วมทีมทั้ง 4 ต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน “บ้าไปแล้ว! ไอ้นี่มันบ้าไปแล้วเว้ย!”
“ไอ้ไก่อ่อนชัดๆ!”
“อย่าไปว่ามันสิ มันสติไม่ค่อยดีเท่าไรนะ!”
“ไอ้บ้านี่มันจะทำอะไร มันโคตรทุเรศเลยว่ะ! จะบอกว่าไงดีว่ะ? นี่คือผลลัพท์ของกลุ่มเราเหรอว่ะ? ฮ่าฮ่า เราทำให้เพื่อนร่วมทีมบ้าไปแล้ว!”
“เก็บภาพหน้าจอ! นี่ต้องเป็นเรื่องของไอ้ไก่อ่อนที่ขำที่สุดในเกมส์
LOL เลยว่ะ! ฮ่าฮ่า!”
ในเวลาที่พวกเขาต่างก็กำลังเหน็บแนม ทันใดนั้นหน้าจอก็กลายเป็น
สีดำและฮีโร่ทั้งหมดก็เริ่มที่จะฟื้นคืนชีพกลับมา
ICSS บทที่ 93: การระเบิดของฐานทัพศัตรู
“ตาย!”
“ตายได้ไงว่ะ!”
เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินต่างก็จ้องไปที่หน้าจออย่างไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ไม่มีการสู้ใดๆเลย บางตัวได้แต่เดินไปมาในป่า บางตัวก็หมอบอยู่กับพื้น และต่างก็ไม่มีใครสู้กับศัตรูเลย พวกเขาเลยตาย!
แต่พวกเขาก็พยายามอย่างหนัก วินาทีต่อมาแสงจากดาบลมกรดสีเหลืองสูงตระหง่านก็กระจายไปทั่วทั้งหน้าจอ! แสงอันสว่างนี้จ้าเข้าตาของพวกเขาอย่างจัง!
“อะไรว่ะ!”
“นี่มันเรื่อง****บ้าอะไรกันว่ะ!”
หัวใจของคนทั้ง 4 ต่างก็สั่นระรัวและพวกเขาเล่นเกมส์นี้มาเกือบจะ 2 ปีแล้วยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย! แสงสว่างจากดาบส่องไปทั่วหน้าจอ มันจะเป็นไปได้ยังไง!
“นั่นกาเลนนิ!”
“นั่นมันฝีมือของกาเลน!”
ไม่ช้าทั้ง 4 ก็เห็นเพื่อนร่วมทีม กาเลนที่เพิ่งจะถูกพวกเขาด่าไป กำลังหมุนไปทั่วฐานทัพของตัวเอง สุ่ยเฉวียน พร้อมทั้งโบกดาบใหญ่ที่เปล่งประกายไปทั่วตั้งแต่ฝั่งของตัวเองและในไม่ช้าก็ครอบคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอ!
“โอ้ พระเจ้า!”
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!”
“พลังขอกาเลนปกคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอเหรอ รอฉันเดี๋ยวนะ!”
3 ใน 4 คนนี้อยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่และในเวลานี้ต่างก็โวยวายกันด้วยความบ้าคลั่งและมีคนหนึ่งลุกขึ้นมาจากที่นั่งทันที ผลักเก้าอี้ไปด้านหลังและตะโกนออกมา
“โปร!”
“มองหาทุกคนที่กำลังเล่นโปร! ลีกออฟเลเจนด์ถูกเจาะ! ฝีมือของกาเลนครอบคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอเลย! ขอเวลาฉันเดี๋ยว!”
“ว้าว!”
จากเสียงตะโกนของเขาทำให้คนทั่วทั้งร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หันมาสนใจที่เขาแต่ส่วนใหญ่จะมองเหมือนเขาเป็นไอ้โง่ โปรเหรอตลอกแหละ ลีกออฟเลเจนด์จะมีโปรได้ยังไง!
นี่เป็นเกมส์ของเทนเซ็นต์ บริษัทเกมส์ที่โด่งดังไปทั่วโลกจะโดนเจาะได้ยังไง!
ไม่มีทาง เป็นโปรแน่ๆ!
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนบางคนที่ยังสงสัยอยู่ พวกเขาต่างก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าจอของเขาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะ 2 คนที่นั่งข้างๆเขาต่างก็หันหัวเพื่อที่จะหันไปดูจอได้อย่างตรงๆแต่เพียงแค่แวบเดียวพวกเขาก็ต้องรีบหยิบแว่นขึ้นมาใส่ทันที!
เพราะพวกเขาเห็นว่ากาเลนที่อยู่ในวงล้อมของฐานบิดตัวและโบกดาบใหญ่ไปมาแล้วทั่วทั้งจอก็เต็มไปด้วยแสงสีเหลืองของดาบ!
หลังจากนั้นก็มีประโยคเพิ่มขึ้นมาอีก 2-3 ประโยคปรากฎขึ้นมาที่หน้าจอ
“ทุกคนจะได้รับการฟื้นคืนชีพทันทีหลังจากที่ตาย”
“ฐานของกาเลนโจมตีพลังเพิ่มอีก 10,000!”
“กาเลนเป็นอมตะ!”
คำพูดที่เร่งด่วนเหล่านี้แต่การนับถอยหลังก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มากกว่า 30 วินาทีที่ผู้คนมากมายที่ได้รับการชุบชีวตจากน้ำพุแห่งการเกิดใหม่
ถึงแม้มันจะถูกตั้งไว้ว่าให้ชุบชีวิตในทันทีเลยแต่ความเร็วในการตอบสนองของข้อมูลมากมายก็ยังถูกจำกัดด้วยฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ของเครื่องจักรและไม่มีใครช่วยอะไรได้ เวลาเกือบ 3 วินาทีที่คนพวกนี้จะได้รับการชุบชีวิตจากน้ำพุแห่งการเกิดใหม่
แต่ในทันทีร่างของพวกเขาก็ต้องเจอเข้ากับเจี้ยนกวงตัวมหึมาและถูกฆ่าในทันที!
อย่างไรก็ตามหนิงเทียนหลินก็ยังจำได้ว่าภารกิจแรกที่ระบบการต่อสู้ให้มาคือ “ทุกครั้งที่มีการฆ่าเพื่อนร่วมทีม นายจะได้คะแนนพลังงานนิดหน่อยเป็นรางวัล และหลังจากที่ชนะนายจะได้คะแนนพลังงาน 10 คะแนน” น่าเสียดายที่ภารกิจนี้จำกัดอยู่แค่ที่เกมส์นี้ ส่วนอีก 99 เกมส์ไม่นับรวมด้วย
หลังจากนี้จะไม่มีรางวัลสำหรับการฆ่าเพื่อนร่วมทีมแต่การฆ่าศัตรู 100 ตัวก็จะได้คะแนนพลังงานนิดหน่อย
ดังนั้นหนิงเทียนหลินจึงรอที่จะให้พวกเขาค่อยๆฟื้นคืนชีพไม่ไหวเพราะในระดับปัจจุบันนี้ต้องใช้เวลา 30 วินาทีในการฟื้นคืนชีพแต่ละครั้ง เวลาพวกนี้หมายถึงคะแนนวิญญาณและเขาไม่อยากที่จะต้องเสียมันไป!
“ใช่เลย!”
“โปร!”
“ใช่ โปร จริงๆด้วย!”
“โปร เหรอเจ๋งไปเลย!”
“ฝีมือของกาเลนครอบคลุมไปเต็มหน้าจอเลย! ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
อีก 2 คนที่อยู่ถัดจากเขารีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที ตะโกนด่าอย่างเมามันพร้อมทั้งจ้องไปที่หน้าจอเขม้นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“มันคือ โปร!”
“ไอ้กาเลนมันใช้ โปรจริงๆด้วย!”
หลังจากนั้น คนไม่กี่คนที่เดินเข้ามาก็ได้เห็นภาพบนหน้าจอและต่างก็ต้องประหลาดใจ
“ว้าว!”
ในเวลานี้พวกคนมากมายที่เพิ่งพูดดูถูกก็ต้องหยุดเกมส์ที่กำลังเล่นอยู่
ในตอนนี้และรีบเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคนมีแค่คนเดียวพูดเรื่องปลั๊กอินก็คงไม่ค่อยน่าเชื่อแต่ตอนนี้มีคน 7-8 คนที่กำลังพูดเรื่องนี้อยู่มันจึงคุ้มที่จะเข้ามาดูเอง!
“คุณอา มันฟื้นคืนชีพจริงๆด้วย! อย่าเพิ่งนับถอยหลังสิ!”
“ฉันเชื่อว่าฉันจะฆ่าได้อีก!”
เขาเพิ่งจะเห็นคนไม่กี่คนพร้อมกับคำพวกนั้นบนหน้าจอแล้วก็ต้องตะโกนออกมาอีกครั้ง! แถมยังอธิบายอีกว่า “แค่เพราะที่กาเลนพูดไว้บนหน้าจอว่าทุกคนจะได้รับการชุบชีวิตทันทีหลังจากที่ตายแล้วพวกนั้นก็ได้รับการชุบชีวิตจริงๆด้วย!”
“แถมใช้เวลาไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ!”
ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างและเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีโปรในเกมส์นี้และยังเป็นการปลั๊กอินที่แย่มากๆด้วย!
“นายจะต้องเซฟไอ้นี่และรอให้มันออนไลน์ด้วยนะ!”
“ LOL ได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว!”
ชายคนนั้นตัดสินแล้วในใจแต่เขาไม่สังเกตเลยว่าคนรอบๆตัวเขาต่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพคอมพิวเตอร์เขากันอย่างมากมาย!
เรื่องแบบนี้ต้องมีผลกระทบกับอินเตอร์เน็ตอย่างมากเลยแน่ๆ!
“พี่ชายเอาไอ้ โปร นี่มาจากไหนกันล่ะ? ช่วยบอกทีสิ”
พร้อมกันนั้นก็มีข้อความปรากฎขึ้นมาที่หน้าจอของหนิงเทียนหลินซึ่งถูกส่งมาจากคนที่เล่นเป็นยาสุโอะเหมือนกับว่าเขาลืมไปแล้วว่าเพิ่งจะแช่งให้หนิงเทียนหลินไปตายซะอยู่หยกๆ แล้วแบบนี้หนิงเทียนหลินจะสนใจเขาทำไมกันล่ะ? แล้วถ้ามายืนอยู่ตรงหน้าเขาป่านนี้ก็คงจะถูกฆ่าตายไปแล้วแน่ๆ!
ในเวลาเดียวกัน
“แถวบี!”
“กาเลนนี้อยู่ที่แถวบี!”
“บ้าจริง! รอให้ได้รายงานก่อนเถอะ!
แน่นอนคู่ต่อสู้ของหนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่าทุกคนต่างก็ตายในน้ำพุ พร้อมกันนั้นสีหน้าเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปและเขาก็เริ่มที่จะด่ากราดลงในหน้าจอสาธารณะอยู่สักพักในระหว่างที่ขู่หนิงเทียนหลินว่าจะรายงานเรื่องนี้
“ยกเว้นไอ้กาเลน ทุกคนเงียบให้หมด!”
หนิงเทียนหลินไม่สนใจพวกนั้นและไม่ได้อยากจะเจอพวกนั้นด้วย เขาเยาะเย้ยออกมา “รายงานงั้นเหรอ?”
“น่าแปลกที่จะรายงานเรื่องที่เป็นประโยชน์!”
เขาใช้เทคโนโลยีที่โลกไม่รู้จักมาหลายปี ด้วยเทคโนโลยีของเทนเซ็นต์ในตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรวจจับเจอ!
หลังจากที่ได้เห็นคำพวกนี้ เพื่อนร่วมทีมพยายามที่จะด่าเข้าไปในช่องสนทนาอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะคำพูดที่เขาพิมพ์ไม่แสดงบนหน้าจอเลยสักคำและเขาก็มองไม่เห็นมันด้วย!
…
“คือเวลาใกล้จะหมดแล้ว!”
ตอนที่หนิงเทียนหลินใช้ โปร มันก็ผ่านไป 16 นาทีแล้ว อย่างไรก็ตามเขาจำได้ว่าระบบการต่อสู้จำกัดเวลาไว้สำหรับเกมส์ทั้งหมดของเขา เขาเชื่อว่าการต่อสู้ที่รวดเร็วเป็นการต่อสู้ที่แข็งแรงที่สุด
งั้นจึงกำจัดแต่ละเกมส์ที่ 20 นาที ถ้าเวลาหมดแม้แต่หนิงเทียนหลินก็จะแพ้ไปด้วย!
3 นาทีต่อมาหนิงเทียนหลินได้ฆ่าเพื่อนร่วมทีมไป 68 ครั้งแล้ว ครั้งละ 4 คนก็เท่ากับฆ่าไปแล้วทั้งหมด 272 คน! ก็จะได้คะแนนสำคัญ 272 คะแนนด้วย และฆ่าศัตรูไป 68 ครั้ง ครั้งละ 5 คนซึ่งก็เท่ากับฆ่าไปแล้ว 340 คน! ได้คะแนนสำคัญ 3 คะแนน
ในอีกแง่หนึ่งถ้าภารกิจนี้สำเร็จจากจำนวนการฆ่าเขาก็จะได้คะแนนพลังงาน 275 คะแนน
“ฐานทัพของศัตรูระเบิดแล้ว!”
เมื่อเกมส์เหลือเวลาอีกแค่ 15 วินาทีจะครบ 20 นาที หนิงเทียนหลินก็พิมพ์คำพวกนี้ลงไปที่หน้าจอ ทันใดนั้นหน้าจอของการระเบิดของฐานท้องถิ่นก็ปรากฎขึ้นมาและที่หน้าจอก็มีคำว่า “ชนะ” แสดงขึ้นมาตัวใหญ่เลย!
ICSS บทที่ 94: 200 คะแนนจากในเกมส์!
“ติ่ง!”
“ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ทำภารกิจที่ 1 สำเร็จ!”
ฆ่าเพื่อนร่วมทีมไปทั้งหมด 272 คน 1 คะแนนสำหรับแต่ละคน ได้คะแนนพลังงาน 272 คะแนน ฆ่าศัตรูไป 340 คน 1 คะแนน สำหรับ
100 คน ได้คะแนนพลังงาน 3 คะแนน ภารกิจสำเร็จ ได้คะแนนพลังงานเพิ่มอีก 10 คะแนน”
“ได้คะแนนสำคัญทั้งหมด 285 คะแนน”
เมื่อคำว่า “ชนะ” ปรากฎที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จิตของหนิงเทียนหลินก็ได้ยินเสียงของระบบการต่อสู้ดังขึ้นมาและเขาก็เห็นว่าคะแนนพลังงานของเขาไปแตะที่ 412 คะแนนแล้ว!
หลังจากที่ฆ่าไปมากกว่า 300 คนในไนท์คลับ เก็บคะแนนพลังงานได้ 127 คะแนน
“เยี่ยมเลย!”
หนิงเทียนหลินรู้สึกตื่นเต้นมากและคะแนนพลังงานที่เขาได้จากภารกิจนี้ก็ไม่น้อยไปกว่าคะแนนพลังงานที่เขาได้จากการฆ่าคนจริงๆเลย! ในเวลาแค่ไม่กี่นาทีก็เก็บคะแนนพลังงานได้ 285 คะแนนแล้ว และเขารู้ว่านี่ยังเป็นแค่คะแนนเล็กน้อย รอให้ได้รางวัลของภารกิจที่ 2 ก่อนเถอะ!
“ข้างล่างนี้คือชัยชนะต่อเนื่องนับร้อยครั้ง สำหรับทุกศัตรู 100 คนที่ถูกฆ่าจะได้คะแนนพลังงานนิดหน่อย!”
สายตาของหนิงเทียนหลินเปล่งประกายขึ้นมาแล้วจึงเริ่มที่จะเล่นอีกครั้ง หลังจากไม่กี่นาทีผ่านไปเขาก็กดเขาไปที่เกมส์และในครั้งนี้เขาเลือกกาเลน เมื่อเทียบกับคะแนนสำคัญแล้วงั้นขั้นตอนของเกมส์ก็ไม่สำคัญเลยสักนิด ไม่สำคัญเลยว่าเขาจะเลือกใครมา
“กาเลน!”
“ยิ่งใหญ่สุดๆ!”
“เรา 3 คนลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ นั่งยองๆมองวิวสวยๆและสู้เพื่อเลือด!”
“โอเค!” กษัตริย์ผู้ป่าเถื่อนพูดออกมา ดึงอาวุธออกมาแล้วลุกขึ้น
“ฝีมือทักษะของกาเลนเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เท่าและครอบคลุมไปทั่วทั้งแผนที่! เมือ 20 นาทีที่แล้ว!”
“น้ำพุของศัตรูหายไปแล้ว”
แต่ในเวลานี้กรอบข้อความปรากฎขึ้นมาที่หน้าจอ ทำให้เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินต่างก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“กาเลนมึงกล้ามาเลยนะ?” คนหนึ่งพูดอย่างข่มขู่
“พวกแกทุกคนตายหลังจากถูกชุบชีวิตทันที” แต่หนิงเทียนหลินไม่สนใจเขาเลยสักนิดและพิมพ์ลงไปที่หน้าจอโดยตรง
“ทุกคนงี่เง่าหมดยกเว้นกาเลน!”
หนิงเทียนหลินมั่นใจมากว่าเมื่อฝีมือของเขาเปิดเผยออกไปจะต้องมีการตบจออย่างแรงแน่ๆ เพื่อนร่วมทีมของเขาอาจจะดีกว่า หลังจากทุกอย่าง การชนะ อีกฝ่ายอาจจะต้องมาทักทายยกย่องเขาเลย
คำพวกนี้สมควรที่จะได้เห็นจริงๆ
“ใช่แล้ว!”
“ฉันคุยไม่ได้จริงๆ!”
เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินอยากที่จะถามเขาว่าเขาบ้าหรือเปล่าแต่พิมพ์ลงไปแค่ไม่กี่คำแต่มันก็ไม่ได้แสดงขึ้นมาเลยสักนิด เลยอดไม่ได้นอกจากตกตะลึงแต่แล้วก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องปิดกั้นการคุยกับเขาแน่ๆเลย ใช่ไหม?
“โอ้!”
ในเวลานี้ ทักษะอีของกาเลนในน้ำพุถูกเปิดออกมาแล้ว ทันใดนั้นลำแสงของดาบสูงตระหง่านก็ปกคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอแล้วเพื่อนร่วมทีมของเขาก็ได้เห็น “เฟิร์สบลัด!” ที่หน้าจอของพวกเขา
“ดับเบิ้ลคิว!”
“ทริปเปิ้ลคิว!”
…
“เกิดอะไรขึ้น!”
“ทำไมฉันถึงตายล่ะ!”
“ลำแสงของดาบนี่มันอะไรกัน!”
ศัตรูทั้ง 5 ได้รับการชุบชีวิตจากน้ำพุ แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบโต้ตัวละครในเกมส์ของพวกเขาก็ตายอีกครั้งและน้ำพุก็ถูกครอบคลุมไปด้วยลำแสงของดาบ หลังจากการฟื้นคืนชีพเขาก็ถูกดาบนี้รัดคออีกรอบ!
“อะไรเนี่ย!”
“เกิดอะไรขึ้นว่ะ!”
“นี่จะไม่ให้คนอื่นเล่นเลยหรือไงว่ะ!”
ศัตรูทั้ง 5 ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นและอยากที่จะใส่เครื่องหมาย “??” ลงไปที่หน้าจอแต่มันก็ไม่แสดงขึ้นมาเลยสักนิดและเขาก็ไม่เห็นคำที่พิมพ์ลงไปด้วยซ้ำ แต่หลังจากนั้น 10 วินาทีใครบางคนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“โปร!”
“อีกฝ่ายใช้โปร!”
เขาอยากที่จะแก้คำสาปแต่พิมพ์ลงไปไม่ได้ เขาเลยตะโกนออกมาในโลกความเป็นจริง “โปร!”
“อีกฝ่ายกำลังใช้โปร!”
นอกจากนี้เสียงของเขาก็ดังมากๆด้วยและดังกระทบผู้เล่นรอบๆในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ทันที ทุกคนต่างก็รีบวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นและเพียงแค่แวบเดียวก็ทำให้พวกเขาสนใจได้ในทันที! หน้าจอเต็มไปด้วยลำแสงของดาบ!
ตัวละครในเกมส์ของเขาถูกรัดคอทันทีที่ได้รับการชุบชีวิต!
“ใช่เลย!”
“มันคือ โปร จริงๆด้วย!”
ฝูกชนต่างก็ตระโกนออกมาและพร้อมกันนั้นพวกเขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปและตัดสินใจที่จะถ่ายวีดีโอซึ่งจะนำไปโพสลงออนไลน์แล้วมันต้องดังมากแน่ๆด้วย!”
“พี่ชาย นายมาจากไหน?”
เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินรู้ได้ในทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและรีบพิมพ์มาถามหนิงเทียนหลินทันที เขาอยากที่จะเก่งเรื่องการปลั๊กอิน! เขายังอยู่ในระดับบรอนซ์อยู่เลย ให้เวลาเขา 1 หรือ 2 วันแล้วเขาจะเป็นปรมาจารย์ได้เลยล่ะ!
น่าเสียดายที่เขาพบว่าคำพูดที่เขาพิมพ์ลงไปไม่แสดงขึ้นมาที่จอเลยสักนิด
ช่วยอะไรไม่ได้เขาทำได้เพียงแค่จ้องไปที่หน้าจอ เฝ้าดูกาเลนฆ่าแล้วฆ่าอีก!
“น่าเบื่อจริงๆ”
เหตุการณ์นี้อยู่ไปนาน 2-3 นาทีและหนิงเทียนหลินเริ่มรู้สึกเบื่อ มีเพียงกาเลนเท่านั้นที่บิดตัวไปมาในน้ำพุของตัวเอง โบกดาบไปมาและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีกลเม็ดเพิ่มเติมเลยและเขาก้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังรีบคำนวนอยู่ในหัวว่าใน 20 นาทีนี้เขาจะได้คะแนนพลังงานเท่าไร
“การฟื้นคืนชีพในทันทีแต่การตอบโต้ที่เร็วที่สุดของเซิร์ฟเวอร์ก็ยังต้องใช้ 3 วินาทีอยู่ดี ก็จะชุบชีวิตได้ 20 คนใน 1 นาที 5 คนในแต่ละครั้งซึ่งก็เท่ากับ 1,000 คน!
“1 นาทีได้ 1 คะแนน 20 นาทีก็จะได้ 20 คะแนน!”
สายตาของหนิงเทียนหลินเปล่งประกายเพราะนี่เป็นแค่เกมส์ ระบบการต่อสู้มอบหมายภารกิจนี้ให้เขาว่าต้องชนะ 100 ครั้งติดต่อกัน นอกจากนี้นี่เป็นแค่เกมส์แรก ยังเหลืออีก 99 เกมส์ สุดท้ายแล้วเมื่อจบ 99 เกมส์ เขาจะได้คะแนนพลังงาน 1,980 คะแนน!
บวกกับของเดิมอีก 412 คะแนน ก็หมายความว่าคะแนนพลังงานของเขาก็จะแตะที่ 2,000 คะแนน!
“2,000 คะแนน!”
“ทำอะไรได้เยอะเลยนะนั่น!”
หนิงเทียนหลินลดขนาดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงแล้วเปิดหนังที่หน้าจอดูแทน เพียงแต่ว่าใจเขาไม่ได้อยู่ที่หนังเลยแต่กลับเข้าไปที่ประตูแห่งการแลกเปลี่ยนของระบบการต่อสู้แทนและเริ่มที่จะหาสิ่งที่เขาต้องการ หลายสิ่งเลยด้วย
หลังจากผ่านไป 5-6 นาทีเขาจึงเข้าไปในเกมส์อีกครั้ง เมื่อเกมส์กำลังจะครบ 20 นาทีเขาจึงพิมพ์ “ฐานของศัตรูระเบิดแล้ว” ลงไปที่หน้าจอโดยตรง
“ติ่ง เกมส์นี้ฆ่าศัตรูไปได้ทั้งหมด 1,980 คน นายจะได้คะแนนสำคัญ 19 คะแนน ถ้าภารกิจสำเร็จ คะแนนสำคัญนี้จะถูกรวมเข้าด้วยกัน”
พร้อมกันนี้ในจิตของหนิงเทียนหลินก็ได้ยินเสียงของระบบการต่อสู้ดังขึ้นมา แนะนำว่าคะแนนวิญญาณพวกนี้จะต้องชนะทั้งหมด 100 เกมส์ถึงจะได้รับคะแนนเหล่านี้
และหนิงเทียนหลินก็ไม่ลังเลและเริ่มเกมส์ที่ 3, 4 และ 5 ต่อไปทันที…
ICSS บทที่ 95: เราทั้ง 3 คน
“โปร! LOL เจอโปร!”
“โปรในเกม LOL ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์! ทุกคนมันบ้าไปแล้ว!”
ด้วยการเล่นอย่างต่อเนื่องของหนิงเทียนหลิน รอบที่ 5 ใช่แล้วนี่ผ่านมาเกือบจะ 2 ชั่วโมงแล้ว บางคนก็ได้ถ่ายวีดีโอและโพสลงออนไลน์หรือในเวปไซต์เกมส์ที่โด่งดังและทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของประชาชนกลุ่มใหญ่!
เกมส์ LOL ถูกสร้างมาหลายปีแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่เกิดเกิดขึ้นมาก่อนเลย! เคยมีการโปรแต่ก็เป็นเพียงแค่ภาพรวมเท่านั้น มันแค่สามารถเห็นตำแหน่งของผู้เล่นทั้งหมดได้ที่หน้าจอและพวกเขาก็ถูกบล็อคทันทีหลังจากที่มันปรากฎขึ้นมา! มันเรียกว่า แฮกแมพ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีโปรอยู่จริงๆ จะเล่นอะไรอย่างที่ต้องการก็ได้! ทุกคนที่เห็นวีดีโอนี้จะรู้สึกว่านี่เป็นโปรที่เจ๋งมาก คนอื่นๆนอกจากเขาก็เห็นแมพกันหมดงั้นมันก็ง่ายมากที่จะขึ้นอันดับสูงสุดและมีเงินที่ไม่จำกัดได้!
นอกจากนี้โพสต์ที่ปรากฏบนอินเทอร์เน็ตถูกเพิ่มโดยผู้ดูแลไปยังตำแหน่งที่ร้อนที่สุดหลังจากผ่านไปสักครู่เพราะพวกเขาได้รับการยืนยันแล้ว วีดีโอในโพสนี้เป็นเรื่องจริง! และโพสอีก 4 อันก็ปรากฎขึ้นมาอีกหลังจากนั้น ระบุว่าการเปิดยังคงดำเนินอยู่! ยังไม่ถูกบล็อค ไม่ได้ถูกปิดกั้น!
เรื่องแบบนี้เป็นปรากฏการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในเกมส์ LOL เลยจริงๆ!
อีกอย่างที่ตอบโต้กับโพสพวกนี้ เกือบครึ่งของผู้คนต่างก็ถามว่าโปรนี้มาจากไหน! มันมีโปรที่เจ๋งขนาดนี้ได้ยังไง! พวกเขาก็อยากได้เหมือนกัน!
ในเวลาเดียวกัน
สำนักงานใหญ่ของเทนเซ็นต์
“รู้เรื่องโปรนี้หรือเปล่า?”
“แก้ไขเรื่องระบบบั๊คหรือยัง?”
“ต้องรีบปิดบัญชีนี้ทันทีเลย!”
คำถามมากมายหลั่งไหลออกมาจากปากของผู้จัดการแผนกเพราะเขารู้ดีว่าถ้ายังหาช่องโหว่ของโปรนี้ไม่ได้มันจะต้องสร้างความเสียหายให้กับลีกออฟเลเจนด์แน่ๆ! ถ้าโปรนี้ถูกแพร่ออกไปสู้สาธารณะใครกันที่จะเล่นเกมส์ได้อย่างสบายใจ!
จะต้องลบโปรนี้ให้ได้ฆ่าได้ก็ฆ่า!
ใครก็ตามที่ได้เทคโนโลยีโปรนี้ไปก็เหมือนได้ครองโลกนี้! ถึงแม้จะมี
นักเล่นที่เก่งกาจเข้ามาก็ทำอะไรไม่ได้แถมจะถูกฆ่าตายภายในเวลาไม่กี่วินาทีได้เลย!
โปรนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของเกมส์ LOL นี้เลยจริงๆ! และในอดีต เขาจำไม่ได้เลยว่ามีกี่เกมส์แล้วที่ถูกปล่อยมาในจีนแล้วต้องหายไปเพราะสาเหตุจากโปร เรื่องแบบนี้จะต้องไม่มีวันเกิดขึ้นกับเกมส์ LOL ที่เขาเป็นคนดูแลอยู่เด็ดขาด!
“ยังทำอะไรไม่ได้เลยครับ!”
“ยังหาไม่เจอเลยว่าโปรนี้มาจากไหน บัญชีนี้ยังถูกปิดอยู่เลย มันไม่อยู่ในฐานข้อมูลของเราเลยเราก็เลยบล็อคไม่ได้”
ช่างเทคนิคตอบคำถามออกมาด้วยหน้าเศร้าๆ
นี่ผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้ว ในอดีตช่องโหว่จะต้องถูกตรวจพบและได้รับการแก้ไขในทันทีแต่ตอนนี้แม้แต่ร่องรอยของโปรก็ยังหาไม่ตรวจไม่พบแถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายแก้ไขข้อมูลได้ยังไง
“หัวหน้าครับ คนที่ค้นคว้าและพัฒนาเรื่องโปรนี้จะต้องเป็นเซียนคอมพิวเตอร์แน่นอน” ในตอนจบช่างเทคนิคพูดเสริมออกมาอีก
“เซียนเหรอ?”
“พูดแบบนี้นายจะยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ!”
“ฉันให้เวลานายอีก 3 ชั่วโมงและถ้านายยังทำไม่ได้นะ โบนัสทั้งหมดของนายจะต้องถูกยกเลิก!”
หัวหน้าพูดออกมาและเดินออกไปจากห้องไป เขายังคงมั่นใจในตัว
ลูกน้องของตัวเองอยู่ ยังไงซะพวกเขาก็คือ DEV ที่มีความสามารถในการรักษาข้อมูลมากที่สุดในจีน พวกเขามั่นใจมากและในจีนก็ไม่ได้มีแบบพวกเขามากนัก
…
“เทียนหลินทำไมเหยียดหยามกันขนาดนี้ว่ะ! แบบนี้ไม่ต้องมาเล่นเกมส์อีกเลยนะ”
มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อมาทันทีหลังจากที่หนิงเทียนหลินเล่นเกมส์ที่ 7
ชิเซียวจุนก็เข้ามาในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่พอดีและได้เห็นว่าหนิงเทียนหลินกำลังดูหนังอยู่แต่เขาไม่ได้เปิดหน้าจอลีกออฟเลเจนด์ขึ้นมา ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ดึงเก้าอี้ที่อยู่ด้านซ้ายออกมานั่ง
“ทำแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย”
“เหยียดหยามเกมส์ของฉันแบบนี้ได้ยังไง!”
“นี่นายออกจากน้ำพุไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
หนิงเทียนหลินยอมรับเรื่องนี้แต่แทนที่จะมองกลับไป เขากลับจ้องไปที่หน้าจอบนคอมพิวเตอร์และดูหนังต่อไป เกมส์เขายังรันต่อไปเรื่อยๆ
แค่ 3 นาทีในเกมส์ เขาเพียงแค่พิมพ์คำพูดลงไปไม่กี่คำในนาทีแรกแล้ววางสายไป
โปรจะฆ่าคนอื่นจนตายและเขาไม่ต้องทำอะไรเลย
“แค่ฝีมือของนายยังไปถึงระดับซิลเวอร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ! ฉันรู้น่า” ชิเซียวจุนพูดเหน็บแนมแบบไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่จำเป็นต้องเล่นกับหนิงเทียนหลินเลย ระดับเกมส์ของอีกฝ่ายทั้งๆที่เขาสอนไปแล้วด้วยซ้ำ
ตราบใดที่เขายังเล่นแบบนี้อยู่ พวกเขาไม่มีทางชนะหรอก!
“ฮ่า ฮ่า”
หนิงเทียนหลินไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยิ้มเฉยๆ ในเวลานี้เขาเจอว่าที่ด้านขวาของเขามีขวดชาเขียวมาสเตอร์ก่องวางอยู่จึงหันหัวไปและเห็นว่าหลินเจียอี้ก็ดึงเก้าอี้และมานั่งที่ด้านขวาของเขาด้วย
“เธอมาได้ยังไง?”
หนิงเทียนหลินขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมาในสถานที่แบบนี้ แบบร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่
“ทำไมฉันจะมาไม่ได้ล่ะ?”
“ฉันก็เล่น LOL เหมือนกันนะ”
“นายบอกว่าตัวเองเทคนิคดีใช่ไหม งั้นสอนฉันหน่อยได้ไหม ฉันเล่นแพ้ตลอดเลย”
หลินเจียอี้ยิ้มพร้อมทั้งมองจ้องไปที่สายตาของหนิงเทียนหลินที่อยู่ตรงหน้า
ในช่วง 2 ชั่วโมงนี้เธอได้ถามข้อมูลของหนิงเทียนหลินมาจากชิเซียวจุนหมดแล้ว ไม่เพียงแค่นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์ หรือแม้แต่ว่าเขาชอบใส่กางเกงในสีอะไร
เธอในตอนนี้เหลือแค่ไม่รู้ว่าน้องชายของหนิงเทียนหลินยาวแค่ไหน!
เพียงแต่ว่าหนิงเทียนหลินที่ออกมาจากปากของชิเซียวจุนไม่เหมือนที่เธอรู้จักเลย มันแตกต่างกันมาก
จากปากของชิเซียวจุน หนิงเทียนหลินก็เป็นเด็กธรรมดาๆที่เขินอายเวลาได้คุยกับผู้หญิงแต่ในความคิดของเธอ อีกฝ่ายช่างกล้าหาญถึงขนาดที่กล้าจะฆ่าคนอื่นแล้วแบบนี้จะมาอายเวลาที่ได้คุยกับผู้หญิงได้ยังไงกัน!
เวลาคุยกับเธอไม่เห็นเขาจะเขินอายเลย!
นอกจากนี้เธอไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองเล่นเกมส์เป็นยังไงเธอเพียงแค่อยากจะนั่งกับหนิงเทียนหลิน
“ใช่เลยเทียนหลิน ฉันว่าเรา 3 คนมารวมทีมแล้วเล่นด้วยกันไหม ถ้าเราแพ้ เราก็แพ้ด้วยกัน”
“ยังไงซะระดับของพวกเราก็คงต่ำกว่านี้ไม่ได้แล้วแหละ”
หนิงเทียนหลินยังไม่ได้พูดอะไรแต่เป็นชิเซียวจุนที่เป็นฝ่ายพูดเอง
เล่นเกมส์กับสาวสวยจะสนใจอะไรกับเรื่องชนะหรือแพ้กันล่ะ?
“ถ้าแพ้ก็คือแพ้” หนิงเทียนหลินพูด “มาดูกันว่าวันนี้ใครคือเซียนตัวจริง” พร้อมกันนั้นเขาก็หันไปเอนตัวไปที่หูของชิเซียวจุนและพูดออกมา
เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังชิเซียวจุนเรื่องโปรเลยและมันง่ายมากที่จะละเลยและพูดไปง่ายๆว่าจ่ายเงินซื้อมา ซึ่งก็เป็นเหตุผลว่าทำไมในอนาคตถึงจะเอามาใช้อีกไม่ได้เพราะมันจะถูกบล็อค
“นายพูดจริงหรือเปล่า?”
สายตาของชิเซียวจุนมุ่งมั่น ปากอ้างกว้าง เรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง
“จริงสิ”
“ฉันจ่ายเงินซื้อมาตั้ง 2,000 เหรียญ!”
หนิงเทียนหลินโกหกและเปิดหน้าจอเกมส์ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
ที่หน้าจอ พายุดาบทีทรงพลังของกาเลนก็สาดไปทั่วหน้าจอและที่กึ่งกลางของหน้าจอ เรื่องราวของกาเลนแพร่กระจายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ICSS บทที่ 96: จะบอกไหม?
“จริงเหรอ! เรื่องจริง งั้นเหรอ!”
สายตาของชิเซียวจุนเปล่งประกายและน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว!
“ชูว์!”
“เบาเสียงลงหน่อย!”
“กลัวคนพวกนี้ได้ยิน” หนิงเทียนหลินพูดติดตลกแลัวแกล้งทำเป็นบ่น
“ถ้านายกังวลเรื่อง ID ก็สร้างขึ้นมาใหม่เลย ระดับ 100 เป็นของนาย นายจะได้เป็นราชาเลยนะ!”
“โอเค!” ชิเซียวจุนทำตัวเหมือนโจร หันหัวไปมาแล้วพูดออกมา
“งั้นฉันไปสร้าง ID ใหม่เอาให้ประวัติไร้พ่ายไปเลยใครเห็นเป็นต้องกลัว! พอถึงเวลานั้นฉันก็จะไม่ต้องใช่ โปร อีกต่อไป!”
“มีอะไรเหรอ?” ในเวลานี้หลินเจียอี้เห็นทั้งสองคนทำลับๆล่อๆกันเลยเริ่มที่จะถาม เธอก็เพิ่งจะมองมาที่หน้าจอของหนิงเทียนหลินเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรหรอก”
“ฉันซื้อ โปรมาน่ะ มาลองใช้ดู”
หนิงเทียนหลินไม่ได้บอกความจริง หลังจากนั้นจึงบอกให้ทั้ง 2 เข้ามาเล่นและแอดพวกเขาเป็นเพื่อน พร้อมทั้งเริ่มที่จะเล่นแล้ว
“ได้เลย!”
“เจ๋ง!”
“เขาเก่งจริงๆด้วย!”
ไม่กี่นาทีต่อมา ชิเซียวจุนก็ได้เห็นพลังของโปรเพราะหนิงเทียนหลินอยากที่จะฆ่าคนเพื่อที่จะเก็บคะแนนพลังงานทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะได้ฆ่าฮีโร่ของอีกฝ่ายเลยสักนิด แต่หนิงเทียนหลินก็เปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นฮีโร่โดยตรงไปเลยพร้อมทั้งเงินที่มีไม่จำกัด ทั้ง 2 ตรงเข้าไปที่ด่านมังกรและได้สู้กับมังกรทันที
เพื่อที่จะรับประกันว่ามังกรไม่ได้ตายด้วยฝีมือของกาเลน เขาถึงขนาดเล็งเป้าไปพวกศัตรูฮีโร่เท่านั้น ไม่ใช่ปีศาจ!
“เจ๋ง!”
ไม่นานก็หมดเวลา 20 นาทีและทั้ง 3 ก็ชนะในเกมส์แรก หลินเจียอี้ก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วย เธอไม่เคยรู้เลยว่าสามารถเล่นเกมส์แบบนี้ก็ได้ด้วย!
แล้วก็ตามมาด้วยเกมส์ที่ 2 และ 3 จนถึงเกมส์ที่ 10 เวลาผ่านมา 4-5 ชั่วโมงแล้ว มันเริ่มจะดึกแล้วประมาณทุ่มแล้ว
“ขอบฟ้าอันกว้างใหญ่คือที่รักของฉัน…”
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของหลินเจียอี้ก็ดังขึ้นมาและหลังจากที่คุยเรียบร้อย เป็นสายจากคุณอาพี่เลี้ยงของเธอเพื่อที่จะเตือนเธอว่าให้กลับมาทานข้าวที่บ้านและเธอก็มองที่นาฬิกา นี่เพิ่งจะหนึ่งทุ่มเองและเมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินยังปฎิเสธอยู่ บอกว่าจะกลับไปกินกับเพื่อนร่วมชั้น
คุณอาพี่เลี้ยงไม่ได้บังคับอะไรเธอจึงบอกเธอว่าให้รีบกลับบ้านด้วย
“ฉันหิว ฉันจะออกไปหาอะไรกินหน่อย”
หนิงเทียนหลินเปิดฝีมือของเขาให้รันอยู่ เขาจึงไม่ต้องทำอะไรมากนักและในตอนนี้เขาก็กำลังดูหนังอยู่ด้วย แต่นี่ก็เป็นเวลาอาหารแล้ว เขาจึงลุกขึ้นและถามอีก 2 คนว่า “จะกินอะไรไหม? ฉันจะไปซื้อมาให้”
“ซอสเบคอนกับเกี๊ยวเนื้อ ขอน้ำเย็นด้วย” ชิเซียวจุนพูดออกไปตรงๆ ในเวลาเดียวกันเขาก็ยื่นมือออกไปเพื่อที่จะหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า เป็นเรื่องปกติของเขาที่จะฝากให้เพื่อนซื้อข้าวให้และเขาก็จะฝากเงินไปเลย
อย่างไรก็ตาม สายตาของเขาก็ยังจ้องไปที่หน้าจอสักพักและก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่
“ฉันด้วย” หลินเจียอี้ไม่รู้ว่าจะกินอะไร เธอเลยสั่งตามแบบของชิเซียวจุน
“โอเค” หนิงเทียนหลินหันหลังแล้วเดินออกไปและร้านเบคอนและเนื้ออยู่แค่ข้างๆเนี่ยเอง และเขาจะรับเงินจากชิเซียวจุนได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้การเงินเขาฝืดเคืองอยู่
เพียงแค่ 10 นาทีต่อมาเมื่อเขากลับมาจากซื้ออาหาร เขาก็เห็นว่าตรงที่นั่งของเขามีคนอื่นเข้ามานั่นแทนแล้ว ชิเซียวจุนเถียงกับคนนั้นและถึงขนาดผลักกันด้วย หลินเจียอี้รู้สึกกลัวนิดหน่อย เธอยืนอยู่ด้านข้างและดวงตาเริ่มจะเป็นสีแดง
รีบเดินเข้าไปทันที
“นี่มันโปรใช่ไหม? เจ๋งสุดๆไปเลย บอกฉันมาเลยนะว่าเอามาได้ยังไงไม่งั้นนายไม่รอดไปได้แน่ๆ! วันนี้เพื่อนๆฉันยังพูดถึงเรื่องนี้กันใหญ่
นายได้โปรนี้มาได้ยังไง บอกมาเลยนะ!”
“ใช่แล้ว บอกมาเลย เร็วๆ ไม่งั้นวันนี้นายไม่ได้ออกไปจากที่นี่แน่ๆ!”
“อย่ามาถ่วงเวลา รีบบอกมาเร็วๆ!”
ก่อนที่หนิงเทียนหลินจะไปถึง เขาได้ยินเสียงตะโกนจากหลายคนและแม้แต่ตอนที่เดินผ่านฝูงชน เขาก็เห็นคนที่กำลังถือบุหรี่อยู่ในมือชี้ไปที่
ชิเซียวจุน บุหรี่สีแดงร้อนๆกำลังจะถูกจี้ไปที่หน้าของชิเซียวจุน
“ฉันบอกไปหมดแล้วไง เราไม่รู้ว่าจะเอาโปรนี้มาจากไหน เราแค่ใช้มันเฉยๆ”
ในตอนนี้ชิเซียวจุนได้แต่โต้เถียงแต่น้ำเสียงของเขาไม่ได้ทรงพลังเลย คนพวกนี้ยืนล้อมรอบเขาและทำให้เขารู้สึกกลัวนิดหน่อย และเขาก็ยังเห็นอีกว่าในแก๊งนี้มีอย่างน้อยก็ 6-7 คนเลยทีเดียว
“พอเลย! ฉันเพิ่งเห็นว่านายใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้และเข้าไปดูแบบเต็มหน้าจอ ฉันเลยได้เห็นทุกอย่าง!”
ในเวลานี้ มีอีกคนที่พูดขึ้นมา
“โอ้! ดูเหมือนฉันคงจะต้องเพิ่มสีสันให้นายหน่อยแล้วนะ นายว่าไหม!”
เด็กหนุ่มคนที่พูดเป็นคนแรกกระซิบออกมาและในเวลาเดียวกัน บุหรี่ท่ำลังไหม้อยู่ในมือเขาก็ลอยไปอยู่ที่หน้าของชิเซียวจุน ทันใดนั้นก็ทิ้งรอยดำไว้บนหน้าของชิเซียวจุน รอยไหม้แล้วก็ตกลงที่พื้น
กลายเป็นว่าคนพวกนี้เห็นภาพที่หน้าจอของชิเซียวจุนไม่นานหลังจากที่หนิงเทียนหลินเดินออกไปแล้วก็เริ่มสงสัยในทันที โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาเห็นว่าจำนวนเงินของตัวละครในเกมส์ของเขากลายเป็น 9,999,999
และในทันทีก็รู้เลยว่าชิเซียวจุนกำลังใช้การปลั๊กอิน!
หลังจากนั้นชิเซียวจุนก็ใช้คอมพิวเตอร์ของหนิงเทียนหลินเพื่อเล่นเกมส์และหลังจากที่พิมพ์ข้อความว่า “มองเห็นได้แบบภาพเต็ม” ฐานของศัตรูก็จะมองเห็นได้ ซึ่งก็ยืนยันความคิดของพวกเขามากขึ้นไปอีก
คนพวกนี้ก็เป็นแฟนตัวยงของ LOL ด้วยแต่พวกเขาไม่ใช่นักเรียน
แต่เป็นเด็กๆที่อยู่ใกล้ๆนี้ ยังไงซะที่นี่ก็เป็นร้านอินเตอร์เน็ตที่รองรับคนได้จำนวนมาก และคนกลุ่มนี้ก็มาที่นี่เพื่อชิลแค่นั้นเพราะที่นี่มันง่ายมากที่จะได้เจอสาวๆมหาลัย
บางทีอาจจะมีได้มีบางอย่างเกิดขึ้นได้!
“หยิบขึ้นมาแล้วเอาบุหรี่มาให้ฉัน!”
เด็กหนุ่มพูดเสียงเย็นชากับชิเซียวจุน เขาต้องคิดว่าการบอกเรื่องโปรหรือเรื่องร่างกายสำคัญกว่ากัน! และเมื่อตอนนี้มีคนากมายยืนล้อมรอบเขาจะต้องสร้างอำนาจให้ตัวเอง ถึงแม้ชิเซียวจุนจะหยิบมันขึ้นมาให้เขา เขาอยากให้อีกฝ่ายกินก้นบุหรี่เข้าไป
“ฉันจะแจ้งตำรวจ!” ชิเซียวจุนพูดได้แค่นี้หลังจากที่เห็นสถานการณ์
“งั้นก็แจ้งเลย!” ใครบางคนพูดเยาะเย้ยออกมา “ก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าตำรวจจะมาเร็วกว่าที่จะเราเอาบุหรี่นี่ยัดปากนายแล้วหนีไปก่อนหรือเปล่า!”
“หมับ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ มือใหญ่ที่ทรงพลังก็คว้าหมับเข้าที่ด้านหลังคอของเขาทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะโต้ตอบเลย เขาก็ถูกกดลงไปอย่างแรงจนหน้าผากกระแทกลงไปที่ด้านข้างของโต๊ะคอมพิวเตอร์
“ปัง!”
โต๊ะของคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดเสียงที่ดังขึ้นไปอีกและโต๊ะกระจกก็แตกลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที หน้าผากของอีกฝ่ายมีเลือดไหลออกมาและเขาก็สลบไปในทันที และถึงแม้จะจับคอมพิวเตอร์ไว้แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะล้มไปได้ทุกเมื่อ
“หมับ!”
หลังจากนั้นไม่นานหนิงเทียนหลินก็ยืดมือทั้งสองข้างและจับเข้าที่หัวของอีกสองคนและบีบอย่างแรง เหมือนบีบลูกแตงโมแล้วจับทั้งคู่มาชนกัน ทันใดนั้นหัวของทั้งสองก็เริ่มมึนงงและกลิ่งลงไปกองกับพื้น
ICSS บทที่ 97: เลียให้สะอาด!
“หมับ!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเหวี่ยงหมัดมาเพื่อที่จะชกเขา หนิงเทียนหลินก็หัวเราะพร้อมทั้งยื่นมือออกไปโดยตรงเพื่อที่จะจับเข้าที่หมัดของอีกฝ่าย
“กร๊อบ!”
เสียงกร๊อบ ข้อมือของเขาโดนหนิงเทียนหลินหักอย่างจัง! แต่หลังจากนั้น หนิงเทียนหลินเห็นว่าอีกฝ่ายไม่รู้ว่าไปเอาปากกามาจากไหน
ถึงแม้มันจะแค่ปากกาเจลธรรมดา แต่ด้านที่ไม่ได้สวมปลอกก็พุ่งตรงมาหน้าของหนิงเทียนหลิน ถ้ามันโดนเข้าตอนนี้ก็จะต้องกลายเป็นรูแผลลึกที่หน้าเขาแน่ๆ!
“อ้ากกกกกกกกก!”
ทันใดนั้น เสียงร้องโหยหวนก็ดังออกมาจากปากของอีกฝ่าย ความเจ็บปวดจากข้อมือที่หักและนิ้วที่ถูกทำให้พิการไม่ได้ทำเขาเป็นลมไปในทันที แต่คนๆนี้ยังทนได้แม้จะต้องกุมมือเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด!
“ไอ้คนนี้…เป็นนักเรียนไม่ใช่เหรอ?”
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นขึ้นในระหว่างที่เกิดไฟฟ้าดับ แม้จะแค่ภายใน
10 วินาทีแต่ทั้ง 4 ก็ลงไปนอนกองที่พื้นเรียบร้อยแล้ว ฝูงชนที่เข้ามามุงเหตุการณ์ก็รีบกระจัดกระจายออกไปทันทีและกลับไปที่นั่งของตัวเองพร้อมทั้งมองมาที่หนิงเทียนหลินอย่างหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาเล่นงานพวกเขาด้วย
ไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะกลายเป็นคนที่โหดร้ายได้ขนาดนี้! ทั้งน่ากลัวและรุนแรงอีกด้วย! เห็นได้ชัดว่าทั้ง 4 คนนั้นบาดเจ็บหนักพอตัวอยู่เหมือนกัน!
ในเวลานี้มีคนหนึ่งที่พึมพำกับตัวเองด้วยความหวาดกลัว
“อะไรกัน ดูเหมือนฉันจะเคยเจอเขานะ”
“ใช่ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักเรียนชีววิทยาชั้นปีที่ 2 เราเคยเลยเรียนวิชาทั่วไปด้วยกัน”
คนส่วนใหญ่ที่มาร้านอินเตอร์เน็ตร้านนี้จะเป็นนักเรียน ดังนั้นจึงมีบางคนที่จำหน้าหนิงเทียนหลินได้ในทันทีเพียงแค่ไม่รู้ชื่อเท่านั้นเองเพราะก่อนหน้านี้หนิงเทียนหลินก็เป็นเด็กธรรมดาๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น
“ฉันไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้…เพียงแค่พริบตาเขาก็จัดการไป
4 คนเลย มันสุดยอดมากๆเลย” คนหนึ่งพูดขึ้นมาอีก
แม้แต่ชิเซียวจุนที่อยู่กับหนิงเทียนหลินมาตลอดก็มองมาที่เพื่อนตัวเองด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ หนิงเทียนหลินทำทุกอย่างต่อหน้าต่อตาเขาเลย! พวกเขาอยู่ด้วยกันมาทั้งปีแต่เขาไม่เคยเห็นหนิงเทียนหลินสู้กับใครมาก่อนเลย!
นอกจากนี้ครั้งที่แล้วที่หวังน่านใส่ร้ายว่าหนิงเทียนหลินเป็นคนขโมยเงินไปแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ!
กลายเป็นว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนที่โหดร้ายมากจริงๆ!
แต่ปฎิกิริยาของเขาเป็นปกติและเขารู้สึกว่าคนพวกนี้สมควรโดนแล้ว
มีเพียงหลินเจียอี้ที่เคยเห็นหนิงเทียนหลินฆ่าคนมาแล้ว เขาฆ่าพวกโจรไป 5 คนในพริบตาทั้งๆที่อีกฝ่ายมีปืนอยู่ในมือด้วยซ้ำ!
ตอนนี้คนธรรมดาทั้ง 4 คนนี้ไม่รอดแน่ๆ!
“หยิบก้นบุหรี่แล้วก็ที่เขี่ยบุหรี่มาให้ฉันด้วยก่อนที่จะไป! แล้วเอามันใส่เข้าปากไปซะ!”
หนิงเทียนหลินมองไปรอบๆแล้วจึงหยิบที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาจากโต๊ะ ดูๆแล้วน่าจะมีก้นบุหรี่มากกว่า 10 อันและก็มีขี้บุหรี่เยอะเลย ตอนนี้พวกนั้นได้สติแล้ว แต่เขาก็ยังสร้างบาดแผลให้พวกเขาอยู่ดี
“ถ้าไม่กินเข้าไปฉันจะหักมือพวกแกให้ไม่เหลือแม้แต่กระดูกเลย”
หนิงเทียนหลินพูดอย่างเย็นชา ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาได้เห็นมาเยอะแล้วว่ากับคนพวกนี้ต้องใช้การข่มขู่และความรุนแรงด้วยถึงจะเป็นวิธีจัดการที่ดีและเหมาะกับพวกนี้ที่สุด
“ฉันๆ ฉันจะกิน”
“พวกเราจะกินๆ”
พวกเขาเห็นเท้าของอีกฝ่ายเริ่มขยับแต่ด้วยใบหน้าที่ลังเลก็ยังหยิบก้นบุหรี่จากที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาและใส่เข้าปากไป พวกเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ!
ไอ้คนที่ข้อมือและนิ้วหักเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีเลย!
“อ้วก!”
ทันทีที่ก้นบุหรี่เข้าไปในปาก พวกเขาก็อ้วกออกมาทันที ก้นบุหรี่ไม่ใช่ผลไม้อร่อยๆ! เขาเกรงว่าตัวเองจะต้องปวดท้องไปอีกหลายวันเลยแน่ๆ
“ถ้ากล้าที่จะคายออกมาก็รู้นะว่าผลจะเป็นยังไง” หนิงเทียนหลินมองไปที่เขาด้วยสายตาเยือกเย็น
“โอเคๆ”
ทั้ง 2 รู้สึกคลื่นไส้มากและต่างก็มีสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไรนักเหมือนกำลัง
กินขี้เข้าไปแต่ก็ต้องกัดฟันไว้แล้วกลืนมันเข้าไปอย่างยากลำบาค
ถ้าเขากลืนก้นบุหรี่เข้าไปก็แค่ปวดท้องไม่กี่วันแต่ถ้าไม่กินเข้าไปทั้งมือและนิ้วจะต้องเจ็บปวดอย่างมากซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะทนได้เลย!
“นาย เปิดขวดน้ำนี้และเอาก้นบุหรี่ให้มันกินด้วย!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกลื่นเข้าไปแล้ว หนิงเทียนหลินก็สั่งให้หนึ่งในพวกนั้นเปิดขวดชาเขียวที่หลินเจียอี้ซื้อมาให้เขาแล้วชี้ไปที่คนที่สลบนอนอยู่ที่พื้น
ชายคนนี้ทำให้การกลืนก้นบุหรี่หยุดชะงั้นไปได้หน่อย ถึงแม้ตอนนี้เขาจะสลบอยู่แต่เขาก็ไม่รอดไปได้ง่ายๆแน่!
“ได้”
อีกฝ่ายพยักหน้า มีคนมากมายกำลังดูอยู่เขารีบกำก้นบุหรี่เต็มกำมือแล้วยัดเข้าไปในปากของเพื่อน แล้วเปิดขวดชาเขียวกรอกเข้าไปในปากเพื่อที่เพื่อนดื่มเข้าไป
ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งหนิงเทียนหลินจริงๆเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรที่เขาเองก็ไม่กล้าที่จะนึกภาพเลย
“พอแล้ว!”
“ตานายแล้ว!”
“นายกินในนี้ให้หมดเลยนะ!”
ในเวลานี้หนิงเทียนหลินหยิบที่เขี่ยบุหรี่มาจากอีกโต๊ะและครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากครั้งแรกมากนัก ครั้งนี้หันไปหาชายอีกคนที่ข้อมือและนิ้วหักแหลกเหลว
เพียงแค่ว่าตอนนี้เหตุผลที่เขาต้องตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิดก็เพราะปากกาในมือของอีกฝ่าย ถ้ามันแทงเข้ามาที่หน้าของเขาจริงๆ เขาจะต้องเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิตแน่ๆ! คนแบบนี้จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก!
ดังนั้นถึงแม้เขาจะบาดเจ็บอย่างหนักแล้วแต่เขาก็ต้องกินก้นบุหรี่เข้าไปอยู่ดี!
ในเวลานี้อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรมากเพราะเขารู้ว่าในกรณีนี้มันก็คงเปล่าประโยชน์ที่จะพูดอะไร! จึงหยิบก้นบุหรี่ขึ้นมาและกลืนเข้าไป! ไม่ว่าจะกินอะไรลงท้องไปก็ห้ามคายออกมาเด็ดขาด
แต่ในตาของเขากลับเติมไปด้วยความโกรธแค้น
“ใส่น้ำลงไปหน่อย ล้างขี้บุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่แล้วดื่นมันซะ!”
หนิงเทียนหลินไม่สังเกตเห็นความโกรธแค้นในสายตาของอีกฝ่ายได้ยังไงแต่กลับหัวเราะเย้ยในใจและในเวลาเดียวกันก็เทชาเขียวลงไปในที่เขี่ยบุหรี่และใช้ปากกาเจลคน แล้วจึงให้อีกฝ่ายดื่มน้ำขี้บุหรี่ให้หมด!
โกรธแค้นงั้นเหรอ? ตอนนี้แกจะไปทำอะไรฉันได้!
เพื่อที่จะได้รู้ตัว เขาทำให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าตัวเองได้ทำพลาดอะไรลงไป!
“อร่อยใช่ไหม! ดื่มไปให้หมด!”
สายตาของอีกฝ่ายกำลังจะพล่ามัวด้วยไฟแค้นแต่ก็ยังเก็บมันไว้ เขาถือที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาและยกดื่มทั้งหมดลงไป
“เลียซะ! จำไว้ เอาให้สะอาด!”
เมื่อได้เห็นเหตุการณ์นี้ หนิงเทียนหลินถึงกับหัวเราะในใจ เขาจึงเปิดปากและบอกให้อีกฝ่ายใช้เลียที่เขี่ยบุหรีด้วย
ICSS บทที่ 98: 14 กรกฎาคม ทั้งคืน
“อร่อย! ฉันจะเลียให้หมดเลย!”
ใครๆต่างก็เห็นว่าสายตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อเขาพูดออกไป เขาก็ต้องกัดฟันจนแน่น เขาต้องเกลียดเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างมากจริงๆ มันเดาไม่ยากเลยว่าเขาต้องคิดหาวิธีที่จะแก้แค้นหลังจากนี้แน่ๆ!
เรื่องนี้จะต้องไม่จบง่ายๆแน่!
เมื่อมีคนถูกรังแกเขาจะมีความรู้สึก 2 อย่าง หนึ่งคือโมโหและเขาอยากที่จะแก้แค้นในอนาคตและอีกอย่างคือต้องอดทนเพราะไม่กล้าที่จะออกไปห้ามด้วยซ้ำ และตอนนี้พวกคนที่กำลังถูกหนิงเทียนหลินกดขี่ก็เป็นพวกคนที่สมควรจะโดนแล้ว
“เร็วๆหน่อย! ถ้ายังชักช้าอยู่ฉันจะเอายัดใส่ปากนายเอง!”
หนิงเทียนหลินไม่ใช่คนโง่แล้วเขาจะไม่สังเกตเห็นได้ยังไงแต่สำหรับเขาวันนี้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมยังไงก็ตาม เขาก็จะทำจนกว่าจะพอใจ! และถ้ายังขัดขืนต่อไปก็ไม่ต้องกินแล้วแต่เขาจะฆ่ามันเอง!
เขาไม่สนใจว่าตอนนี้ตัวเองจะมีชีวิตมากแค่ไหน!
“ดูดให้หมด”
ไม่นานชายคนนี้ก็เลียที่เขี่ยบุหรี่ต่อหน้าคนมากมายและไม่นานเขาก็เลียส่วนที่เหลือทั้งหมดจนสะอาดเหมือนเพิ่งล้างมาเลย
“ดี” หนิงเทียนหลินพยักหน้าและหัวเราะเยาะไปที่พวกเขาทั้ง 4
“ในเมื่อพวกนายเชื่อฟังเป็นอย่างดี งั้นเอาเงินให้เจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ไป 10,000 เป็นค่าความเสียหายภายในร้านนี้!”
หนิงเทียนหลินรู้ว่า 10,000 หยวนนี้พอกับค่าความเสียหายแน่นอน
ยังไงซะภายในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นี้ก็มีเพียงแค่โต๊ะคอมที่เสียหาย คอมพิวเตอร์ไม่ได้รับความเสียหายอะไร แต่เขาจะไม่ยอมจ่ายด้วยเงินตัวเองแน่นอนถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงก็ตาม
“10,000 เหรอ?”
“ทำไมถึงเยอะขนาดนั้นเลยล่ะ!”
หลายคนถึงกับผงะ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่นักเรียนแล้วแต่เป็นคนที่มีงานทำแล้วก็ตามแต่เงิน 10,000 หยวนก็ไม่ใช่เงินน้อยๆสำหรับพวกเขาอยู่ดี และที่สำคัญที่สุดคือพวกเขารู้สึกผิดและถูกซ้อมอย่างหนักแล้ว แล้วยังต้องมาเสียเงินอีกเหรอ!
ไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ
“ไม่เยอะหรอก แล้วถ้าพวกนายไม่จ่ายว่าฉันก็จะทำให้จ่ายเอง!”
หนิงเทียนหลินไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องคุยกับคนพวกนี้ เพราะจากสิ่งที่พวกนี้ทำวันนี้ทำให้พวกมันต้องชดใช้! ไม่เพียงแค่เห็นว่าชิเซียวจุนอยู่คนเดียวแต่ยังรังแกหลินเจียอี้ด้วย
ถ้าอยากที่จะเข้ามาถามเรื่องการโปร! อย่างน้อยก็ควรจะถามกันดีๆ!
“เร็วเข้า ให้เวลา 1 นาทีหยิบบัตรเครดิตออกมาแล้วให้เจ้าของร้านรูดไปซะ! ไม่งั้นก็รู้นะว่าผลมันจะเป็นยังไง” หนิงเทียนหลินอยากที่จะให้พวกนี้เลือดตกยางออก ไม่งั้นคนพวกนี้คงไม่หลาบจำ มันดีกว่าแค่การขู่ธรรมดาๆ
อีกอย่างอีกฝ่ายก็มีเงิน เขาจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงในเมื่อมันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับระบบการต่อสู้
“ก็ได้! พวกเราจะจ่ายให้!”
สุดท้ายแล้วคนพวกนั้นก็ตัดสินใจที่จะจ่ายเงิน 10,000 หยวน ยังไงซะพวกเขาก็ได้เงินเฉลี่ยวันละ 2,000 หยวนอยู่แล้วไม่งั้นพวกเขาคงไม่พอจ่าย หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกไปจากร้านอินเตอร์เน็ตนี้
และตอนที่เขากำลังเดินออกไป ชายคนที่ถูกหนิงเทียนหลินบังคับให้เลียที่เขี่ยบุหรี่ก็หันมามองหนิงเทียนหลินด้วยสายตาที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นเด็กในร้านก็เดินเอาน้ำ 3 ขวดมาให้พวกหนิงเทียนหลินพร้อมทั้งกล่าวขอบคุณไปพร้อมๆกันด้วย เพราะถ้าไม่ได้เงิน 10,000 หยวนนั่นเป็นค่าชดเชยเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง เขาคงจะต้องถูกหักเงินเดือนแน่ๆ!
“เทียนหลิน นายเป็นพวกที่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
กลับไปนั่งที่โต๊ะคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ชิเซียวจุนก็ยังมองเพื่อนร่วมหอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่ออยู่ จากเหตูการณ์เมื่อกี้เขากลัวมากจริงๆและอีกฝ่ายถูกซ้อมจนเลือดตกยางออกด้วย! เขาไม่เคยมีประสบการณ์การต่อสู้อะไรแบบนี้เลย
“ไม่มีอะไรเปลี่ยนนิ”
“นายยังไม่เคยเห็นฉันสู้มาก่อนเลยนะ”
ความสนใจของหนิงเทียนหลินในตอนนี้กลับไปที่เกมส์อีกครั้งพร้อมทั้งยิ้มให้ชิเซียวจุน เรื่องแบบนี้จะมาอธิบายกันได้ยังไงล่ะ? อีกอย่างเขาอยากสร้างความประทับใจกับชิเซียวจุน ใช่แล้วเขาแข็งแกร่งมากๆแต่เขาก็ไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อน
ยังไงซะในอนาคตเรื่องแบบนี้ก็คงจะต้องได้เจอกันบ่อยๆ
“เออ ก็จริงนะ”
ชิเซียวจุนตัวแข็งแต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ถึงแม้เขากับหนิงเทียนหลินจะอยู่หอเดียวกันมาเป็นปีแต่เขาก็ไม่เคยเห็นหนิงเทียนหลินสู้มาก่อนเลย งั้นนี่อาจจะเป็นความแข็งแกร่งปกติของเขาก็ได้
และหลินเจียอี้ที่อยู่ข้างๆเขาก็พูดออกมาเบาๆ “ใช่เลย!”
“กลายเป็นว่าที่โรงเรียน เวลาเล่นต่อสู้ ฉันก็ไม่มีโอกาสได้แสดงอะไรมากนัก”
เธอเคยเห็นหนิงเทียนหลินฆ่าคนอย่างโหดร้ายมาด้วยตาตัวเองแล้ว
เธอจึงเชื่อมั่นมากว่าเหตุการณ์เล็กๆเมื่อกี้เขารับมือได้อย่างง่ายดาย
“รีบกินกันเถอะ อาหารที่ฉันซื้อมาเย็นหมดแล้ว”
เมื่อพูดจบเขาก็หยิบเบคอนซอสออกมาและวางน้ำไว้ด้านข้าง
…
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง
“เทียนหลิน จะกลับหรือยัง? จะกลับไปที่หอไหม?”
“อยู่ทั้งคืนไหม?”
ชิเซียวจุนจื่นเต้นกับการเล่นมาก เพียงแค่เล่นมาไม่กี่ชั่วโมงเขาก็แตะที่ระดับ 3 ของซิลเวอร์แล้วและก็ไต่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วขนาดนี้เขาคิดไปถึงระดับโกลด์แล้วด้วยซ้ำ
ดังนั้นไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกถึงความง่วงเลยแถมยังชวนให้หนิงเทียนหลินอยู่ทั้งคืนอีกต่างหาก
“ได้ เล่นทั้งคืนไปเลย”
หนิงเทียนหลินตัดสินใจไปนานแล้วว่าจะไม่เดินออกจากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่จนกว่าจะเล่นครบ 100 เกมส์ นี่เพื่อคะแนนของเขาซึ่งมันดีมาก! 100 เกมส์ แต่ละเกมส์ 20 นาที ทั้งหมดก็ 2,000 นาที,
35 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นซึ่งมากกว่าวันครึ่ง
เมื่อบวกความล่าช้าอื่นๆเข้าไปด้วย มันก็จะต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน
งั้นพรุ่งนี้เขาจะไม่เข้าเรียน เขาจะต้องสู้ให้จบ ทุกอย่างก็เพื่อคะแนน!
แล้วเรื่องเรียนล่ะ? อาจารย์จะเช็คชื่อหรือเปล่า?
“หลินเจียอี้ จะอยู่ทั้งคืนไหม?” ชิเซียวจุนถามหลินเจียอี้อีกครั้ง
“หา? ทั้งคืนเหรอ?” ถึงแม้หลินเจียอี้จะเป็นลูกเศรษฐี แต่เธอก็ไม่เคยอยู่
ค้างคืนและไม่เคยเล่นเกมส์ทั้งคืนในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มาก่อนเลย
“ตอนที่เธอคุยโทรศัพท์ ฉันไต่อันดับขึ้นอีกแล้วนะ”
เธอรู้ดีว่าในใจเธอคิดยังไง เธอจึงหยิบโทรศัพท์และโทรหาคุณอา
พี่เลี้ยงและสุดท้ายเธอก็ต้องโกหกออกไปอีกครั้ง
คืนนี้
จากปฎิทินแสงอาทิตย์คือวันที่ 1 กันยายน
วันที่ 14 กรกฎาคม ในปฏิทินจันทรคติ เป็นวันที่ประตูนรกจะถูกปิด
“ว่าไง?”
นี่ก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว หนิงเทียนหลินเพิ่งจะเล่น LOL เสร็จและทันใดนั้นก็เห็นผู้ชาย 2 คนเดินเข้าประตูมา, จ่ายเงินและหลังจากที่คุยเรื่อง
วิธีการที่เคาร์เตอร์เสร็จ พวกเขาก็นั่งลงที่เก้าอี้และเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
“ทำไมฉันรู้สึกว่า 2 คนนี้แปลกๆนะ?”
หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วเพราะความรู้สึกของ 2 คนนี้มันแปลกมากๆแต่ก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไรหรือแปลกยังไง
ICSS บทที่ 99: ผี
“ลมหายใจ! 2 คนนี้ไม่มีลมหายใจเลย!”
ลมหายใจของคน จะมากหรือน้อยแต่มันก็ต้องมีซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอกว่าคนนั้นยังมีชีวิตแต่ 2 คนนี้ไม่มี! ตอนนี้ประสาทสัมผัสของหนิงเทียนหลินแรงกว่าคนปกติมากและเขาไม่เคยผิดเรื่องนี้เลย!
“ผี!”
อดไม่ได้ที่จะเกิดคำๆหนึ่งขึ้นมาในใจของหนิงเทียนหลิน ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไป และในใจเขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเหตุการณ์การตายของตัวเองในวันนั้น การที่ได้เจอกับหยินเชาไต้ฟู และเขารู้ดีว่าในโลกนี้มีผี อย่างน้อยก็ที่โลกใบนี้!
การล่องลอยของผีจากที่หยินเชาไต้ฟูบอกมา มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย!
ใน 5,000 ปีของจีน เพิ่งจะช่วย 50-60 ปีหลังนี่เองที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เข้ามาทำให้ทฤษฎีเรื่องผีจมหายไปกับแม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์ ส่วนที่เหลือก็เป็นไปตามสมัยนิยม แม้แต่บรรพบุรุษของจักรพรรดิฉินและจักรพรรดิฉินจักรพรรดิในอดีตจะปิดผนึกไทชานเมื่อเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น!
ก็เหมือนภูเขาวูไทในมณฑลซานซี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา ที่นั่นจะมีชางหมิงฮอลล์ที่มีโคมไฟชางหมิงเป็นจำนวนมาก ที่บรรจุไว้อย่างหนาแน่เป็นหมื่นๆอันเกือบจะเต็มพื้นที่ของชางหมิงฮอลล์เลยทีเดียว
โคมไฟชางหมิงพวกนี้จะไม่เคยถูกเอาออกไปไหนแต่พระจะจุดมันขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทุกวันๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในชางหมิงฮอลล์นี้จะมีพระอาจารย์อ่านพระคัมภีร์อยู่ตลอดเวลา คอยอวยพรให้คนที่จุดโคมไฟชางหมิง คอยชำระบาปให้พวกเขาและขอให้หลังจากความตายจงเป็น “ผี” ที่ดี
และในชางหมิงฮอลล์นี้ถ้าอยากจะได้โคมไฟที่ยาวๆ ก็จะต้องจ่ายค่าธูปบูชา 10 ล้านหยวน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้! เพราะในตำแหน่งนี้จะมีพวกเศรษฐีนับไม่ถ้วนและคนที่ทรงอำนาจจองไว้หมดแล้ว
ถ้ามองใกล้ๆก็จะเห็นว่าที่โคมไฟจะมีชื่อและวันเกิดของเจ้าของติดไว้ด้วย และคนพวกนี้ต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงของยุคนั้นๆด้วย
ทั้งหลี่เจียเฉิง, กุยเฉินหยิง, หวังจ้าวจิ และอื่นๆ ที่จะเห็นได้ทุกที่
คนพวกนี้นอกจากรวยแล้วยังทรงอำนาจ พวกเขามีข้อมูลและแหล่งข่าวมากกว่าคนปกติธรรมดาหรือเปล่า?
พวกเขาต่างก็เป็นคนโง่ที่ใช้เงินไปกับเรื่องพวกนี้หรือเปล่า?
บางทีอาจจะบอกได้ว่าพวกเขาก้แค่จ่ายเงินไปเพื่อความสบายใจ ยังไงซะพวกเขาแต่ละคนที่สำเร็จได้แบบทุกวันนี้ก็คงต้องมีสติมากอยู่ เป้าหมายของการทำแบบนี้ก็เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดที่มีอยู่ในใจ แต่ถ้าเดาไม่ผิดบางทีพวกเขาได้ข่าวอะไรผ่านช่องทางที่คนธรรมดาไม่รู้ล่ะ?
มันต้องมากกว่าเรื่องฮวงจุ้ย แต่เจ้าหน้าที่ผู้สูงศักดิ์เกือบทั้งหมดมีเงาของคนหนึ่งหรือสองคนที่อยู่ด้านหลังพวกเขาและยิ่งพวกเขารวยมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งเชื่อมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่ในหลักสูตรสถาปัตยกรรมของมหาวิทยาลัยยังมีสอนเรื่องพวกนี้เลย มันถูกเรียกว่า “ฮวงจุ้ย” ซึ่งอธิบายเรื่องความสำคัญของฮวงจุ้ยในตึกอาคารโดยเฉพาะ เช่นเมื่อไรที่ควรจะขุดดิน, ในทิศทางไหนและต้นไม้แบบไหนที่ไม่ควรปลูก
อีกหนึ่งตัวอย่างก็คือพนักงานที่ฟ็อกคอนน์ที่ฆ่าตัวตายที่เซินเจิ้นเมื่อปีที่แล้ว
ปีนั้นมีพนักงานมากกว่า 10 คนที่ฆ่าตัวตายทุกวัน วันละคนมากกว่า
10 วันและทุกคนต่างก็ตายกลางดึกทั้งนั้น! คำอธิบายอย่างเป็นทางการจากโรงงานคือ “เกิดจากความเครียดทำให้ฆ่าตัวตาย!”
ใครๆต่างก็รู้ว่ามีโรงงานมากมายในฟ็อกคอนน์ในเมืองจีน ซึ่งไม่น้อยกว่า 10 โรงงาน ทำไมถึงเกิดเรื่องแค่ที่โรงงานในเซินเจิ้นเท่านั้นล่ะ? ทุกวันมีคนฆ่าตัวตาย ตายกันไปเป็นสิบๆคน!
และซึ่งปกติไม่มีเรื่องแบบนี้ แตพวกเขากลับเลือกที่จะมาทำให้ช่วง 10 วันนั้น!
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น บอสของฟ็อกคอนน์ กัวไทหมิงก้ไปที่เซินเจิ้นเพื่อจัดการเรื่องนี้และเรื่องนี้ก็มีวิธีเดียวที่จะจัดการได้และนั่นคือการเชิญพระมาจากเขาวูไทเพื่อจับผีและปีศาจและทำให้วิญญาณได้ข้ามไป!
เรื่องแบบนี้หาอ่านได้จากอินเตอร์เน็ตของปีที่แล้ว!
อีกอย่างที่น่าแปลกคือหลังจากที่พระทำพิธีเสร็จจนกลับไปแล้วเรื่องแบบนี้ก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย ในที่สุดเรื่องการฆ่าตัวตายกว่า 10 วันก็จบลง โรงงานที่เซินเจิ้นได้ทำการบูรณะใหม่เพื่อความสบายใจ
ในสายตาของคนอื่นเรื่องผีสางและปีศาจอาจจะเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ที่ไม่ค่อยจะน่าเชื่อเท่าไรแต่ในความคิดของบางคนที่ทรงอำนาจ พวกเขาก็มีความคิดว่าเรื่องพวกนี้มันน่าเชื่อถือเกินกว่าที่จะไม่เชื่อ
คนรุ่นเก่าๆ 5-6 คนจาก 10 คนสามารถบอกถึงเรื่องที่ไม่มีคำอธิบายพวกนี้ที่พวกเขาเคยเจอมากับตัวได้ แต่ในทุกวันนี้ทั่วทั้งจีน ในทุกๆวันและทุกๆนาทีมีคนออกมาบอกว่าพวกเขาได้เจอกับผีและปีศาจแต่กลับไม่มีใครเชื่อพวกเขาเลย
และหนิงเทียนหลินเองเชื่ออย่างสุดใจว่าในโลกนี้มีเรื่องแบบนี้แน่นอนเพราะตัวเขาเองก็เพิ่งจะกลับมาจากโลกแห่งความตายเอง!
“คิดไม่ถึงเลยว่าผีพวกนี้จะเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ LOL ด้วย!”
หนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่าหลังจากที่พวกเขาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ พวกเขาก็เล่นเกมส์ลีกออฟเลเจนด์ด้วยเหมือนกันและดูจากฝีมือแล้วไม่น่าจะใช่ครั้งแรกด้วย
“โอ้”
ในเวลานี้หนึ่งในพวกนั้นหันหัวมา สายตาจ้องตรงมาที่หนิงเทียนหลินเพราะเขารู้สึกว่าสายตาของหนิงเทียนหลินจ้องมาที่พวกเขาตั้งแต่เข้าร้านมาแล้ว!
“ถูกจับได้แล้ว!”
ทันใดนั้นหัวใจของหนิงเทียนหลินก็หล่นฮวบ ถึงแม้เขาจะเพิ่งกลับมาจากหยินเชาไต้ฟู แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับผีในร่างของมนุษย์ เขาทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ฮ่าฮ่า” แล้วหันหัวกลับมาทำเป็นเลิกจ้องที่พวกเขา
เพราะเขารู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายเริ่มจะโมโหแล้ว
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมีเรื่องกับพวกนั้นตอนนี้ งั้นไม่มีเรื่องด้วยจะดีกว่า
หลังจากที่เห็นว่าหนิงเทียนหลินไม่ได้จ้องมาที่พวกเขาแล้ว คนที่สูงที่สุดก็หันหัวกลับไปสนใจอยู่ที่เกมส์ลีกออฟเลเจนด์ต่อ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจแต่เขาก็มองหน้าเตือนหนิงเทียนหลินไปแล้ว
“สตาร์วอร์ส 2 คนนั้นเป็นผีใช่ไหม?”
คนเดียวที่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องกับเขาได้ก็คือระบบการต่อสู้ หนิงเทียนหลินจึงถามเขาไปในใจ
“ใช่” คำตอบของสตาร์วอร์สช่วยยืนยันเข้าไปอีก
“ใช่สินะ!” หนิงเทียนหลินขยิบตาอย่างลับๆ
“แล้วฉันเห็นพวกเขาได้ยังไง?”
“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นผีในโลกไม่ใช่เหรอ?”
หนิงเทียนหลินรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย เหตุผลก็เพราะผีเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาจนผีไม่สามารถที่จะเข้าสิงเขาได้และแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเห็นพวกผีได้นิ
“นายมีดวงตาของหยินและหยางและมันก็ใช้งานได้ดีด้วย และนั่นคือเหตุผลที่นายเห็นพวกเขา”
“ตอนนี้พวกเขากำลังเล่นเกมส์โดยมีแสงแดดและแน่นอนว่าพวกเขามีตัวตน ไม่งั้นเกมส์คงจะเล่นตัวมันเองไม่ได้และพวกนั้นก็คงจะไม่ได้มาหลอกคนในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แน่ๆ!”
หนิงเทียนหลินพยักหน้า กลายเป็นว่า 2 คนนั้นตั้งใจที่จะเข้ามาที่นี่จึงถามออกไป “แล้วพลังในการต่อสู้ล่ะ?”
“2 คนนั้นมีพลังในการต่อสู้เท่าไร?”
หนิงเทียนหลินอยากที่จะรู้ถ้าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากัน เขาหรือผี 2 ตัวนั้นใครกันแน่ที่จะชนะ!
ICSS บทที่ 100: ฆ่ามันซะ!
“2 คนนี้ไม่ใช่ผีธรรมดา แต่เป็นยมฑูต!”
ระบบการต่อสู้อธิบายต่อ “วันนี้วันที่ 14 กรกฎาคมตามปฏิทินจันทรคติ ประตูจะปิด วิญญาณทั้งหมดที่ตายภายใน 3 ปีจะถูกพาขึ้นมาอย่างนับไม่ถ้วนในวันนี้และจะได้กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องบนโลกเป็นเวลา
2 ชั่วโมง”
“ยมฑูต 2 คนนี้เป็นหนึ่งในผู้คุม”
“พลังในการต่อสู้สูงสุดคือ 103 และอีกคนก็ 105”
ระบบการต่อสู้คำนวนและรายงานพลังการต่อสู้ของชาย 2 คนนี้ออกมาแต่นี่กลับทำให้หนิงเทียนหลินถึงกับตะลึง “พลังในการต่อสู้ 100 กว่าคะแนนพวกนี้ร่วมอาวุธแล้วหรือยัง แล้วอาวุธหรือเครื่องมืออะไรที่พวกเขาใช้?”
หนิงเทียนหลินได้ยินชัดเจนว่าระบบการต่อสู้ใช้คำว่าพลังในการต่อสู้
“สูงสุด” ซึ่งเป็นพลังในการต่อสู้ที่สูงที่สุดของชาย 2 คนนี้! น่าจะรวมถึงอุปกรณ์, อาวุธและอะไรพวกนั้นด้วย
“แน่นอนอยู่แล้ว!” ระบบการต่อสู้ตอบกลับมา
“งั้นนายรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาใช้เครื่องมือหรืออาวุธอะไร?”
หนิงเทียนหลินไม่เห็นอาวุธอะไรที่ข้างตัวพวกเขาเลย หรือว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช้อาวุธ
“นายไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องพวกนั้นหรอก” ระบบการต่อสู้ตอบอย่างเย็นชา “ฉันบอกนายแล้วไงว่าในโลกนี้, ในจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้
ฉันมองไม่เห็นแต่ก็ไม่ได้บอกว่าฉันจะไม่รู้ว่าอาวุธของพวกเขาอยู่ในระดับที่ 8 ฉันบอกได้เลย!”
“ตราบใดที่ฉันอยากจะรู้ ก็ไม่มีอะไรในจักรวาลนี้จะซ่อนจากฉันได้!”
น้ำเสียงของระบบการต่อสู้เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจซึ่งทำให้
หนิงเทียนหลินรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ธรรมดาเข้าไปอีกก็ได้! เขาไม่รู้ว่าทำไมในหยินเชาไต้ฟูเขาถึงถูกเลือก อย่างไรก็ตามเขารู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะแบบนี้เขาจะสามารถรู้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้ก่อนที่จะสู้กันด้วยซ้ำว่ามันจะสูงหรือต่ำกว่าของเขา!
นี่ยังทำให้เขาได้เลือกตัดสินใจอย่างถูกต้องที่สุดด้วย!
“103 เหรอ?”
“105 เหรอ?”
หนิงเทียนหลินรีบคำนวนความแตกต่างระหว่างพลังในการต่อสู้ของตัวเองกับอีกฝ่ายทันที ตอนนี้เขาอยู่ในระดับที่ 12 และพลังในการต่อสู้อยู่ที่ 48 คะแนนและเมื่อรวมเข้ากับเจ้าตัวร้อยขามันก็จะขึ้นไปที่ 88 คะแนน นอกจากนี้กริซก็บวกคะแนนพลังงานให้เขาเข้าไปอีก 6 คะแนน
แหวนอวกาศบวกพลังในการต่อสู้ให้เขาได้อีก 7 คะแนน
“ผิดแล้ว!”
“ตอนนี้แหวนอวกาศไม่ใช่ 7 แต่เป็น 12 คะแนน!”
ในเวลาเดียวกันเสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาและแก้สิ่งที่หนิงเทียนหลินคิดให้ถูกต้อง “ในวันนั้นระดับของนายอยู่แค่ที่ระดับ 6 เลยมีพลังในการต่อสู้อยู่ที่ 7 คะแนนแต่ตอนนี้นายอยู่ที่ระดับ 12 แล้ว”
“คุณลักษณะทางร่างกายของนายก็เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าจากวันนั้น พลังในการต่อสู้ของนายก็เลยได้เพิ่มโบนัสจากเจ็บเป็น 13 แทน”
“ฉันเคยบอกนายแล้วไงว่าแหวนอวกาศนี่ไม่ใช่แหวนอวกาศธรรมดาๆ มันจะพัฒนาไปพร้อมๆกับคุณลักษณะทางร่ายกายของนายไปเรื่อยๆ!
นายไม่เห็นเหรอว่าพื้นที่เก็บของของมันใหญ่ขึ้นกว่าตอนเริ่มแรกขึ้นมาก? เห็นไหม?”
หนิงเทียนหลินถึงกับตัวแข็ง จมความคิดลงไปกับแหวนและใช่เลย เขาจำได้ว่าพื้นที่เก็บของเดิมมีแค่ประมาณ 5-6 ตรม. เองแต่ตอนนี้มันขยายออกไปเป็น 12-13 ตรม. มากกว่าขนาดเดิมตั้ง 2 เท่า!
วันนี้เขาไม่ได้สังเกตเลยถ้าไม่ได้เช็คดู!
“งั้นก็พูดได้ว่าพลังในการต่อสู้ปัจจุบันของฉัน บวกเข้ากับของเจ้าตัวร้อยขา บวกเข้ากับกริซและแหวนอวกาศ ฉันก็แตะที่ 107 คะแนนแล้วสิ! ถึงแม้ฉันจะไม่ใช้อาวุธ แต่ใช้แค่ร่างกายตัวเองเพื่อจัดการ 2 คนนั้น ก็ยังสูงกว่าอยู่ดีนิ!”
สายตาของหนิงเทียนหลินตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยเพราะนั่นหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวยมฑูต 2 คนนั้นเลยสักนิด! แล้วก็เกิดความคิดเรื่องความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา เขาจึงรีบถามออกไป
“กริซของฉันทำร้ายร่างกายคนพวกนั้นได้ไหม?”
ยังไงซะคนกับผีก็ไม่เหมือนกัน จะโจมตีอย่างที่ต้องการไม่ได้ พวกเขาไม่มีร่างกายด้วยซ้ำ พวกเขาก็แค่การรวมตัวกันของหยิน และมีดธรรมดาๆไม่มีทางที่จะทำอะไรผีได้แน่ๆ
“ทำได้!”
ระบบพลังต่อสู้ตอบออกมา “อาวุธพลังการต่อสู้สู้สร้างมาจากรัศมีของสวรรค์และโลกพลังวิญญาณอีกมากมาย แค่ผีธรรมดาๆจะจัดการไม่ได้ได้ยังไง? แม้แต่อาวุธพลังการต่อสู้ในระดับต่ำที่สุดก็ยังเป็นไปได้เลย”
“เจ๋งไปเลย!” ดวงตาของหนิงเทียนหลินเปล่งแสงแพรวพราว ตราบใดที่เขาสามารถโจมตีได้ เขาก็สู้ได้! นั่นก็หมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวผีพวกนี้เลยด้วยซ้ำ!
“ติ่ง!”
“ภารกิจออกมาแล้ว ในเมื่อตอนนี้เจ้านายอยากที่จะสู้กับผีพวกนี้อยู่แล้ว งั้นก็ฆ่าเจ้ายมฑูต 2 ตัวนี้เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งซะเลย!”
ถ้าภารกิจสำเร็จจะได้รางวัลเป็นคะแนนพลังงาน 300 คะแนน”
“ถ้าภารกิจล้มเหลว จะถูกหักคะแนนสำคัญ 1,000 คะแนน”
ในเวลานี้เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูของหนิงเทียนหลิน ทำให้เขาตกตะลึงและตามมาด้วยความช็อค “ฆ่ายมฑูต 2 คนนี้เหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง! พวกเขาเป็นยมฑูตของหยินเชาไต้ฟูเลยนะ!”
“อีกอย่างทำไมถ้าทำสำเร็จถึงได้คะแนนพลังงานแค่ 300 คะแนนเองล่ะ? แต่ถ้าล้มเหลวกลับถูกหักไปตั้ง 1,000 คะแนนแน่ะ? คะแนนพลังงานของฉันยังไม่ถึง 1,000 คะแนนด้วยซ้ำ!”
“ตอนนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเกี่ยวกับเรื่องอนาคตนะ ถ้าภารกิจล้มเหลวฉันก็สามารถหักคะแนนพลังงานที่นายจะได้ในอนาคตได้!” ระบบการต่อสู้พูด “แล้วยมฑูตของหยินเชาไต้ฟูมันยังไง นายก็ฆ่าพวกเขาได้
ฉันรับรองได้เลยไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลยสักนิด!”
“หน้าที่ก็คือให้นายฆ่าพวกเขา อย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้!”
น้ำเสียงของระบบการต่อสู้พยายามที่จะกระตุ้นหนิงเทียนหลิน ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้เขาก็แค่อยากที่จะให้หนิงเทียนหลินเติมโตในการฆ่าและได้ตั้งหลักในจักรวาล ไม่มีวิธีอื่นเลยนอกจากการฆ่าและเก็บพลังในการต่อสู้ไปเรื่อยๆ!!
“แล้วจะให้เริ่มเมื่อไร?”
หลังจากนั้นสักพักหนิงเทียนหลินก็หายใจเข้าลึกๆและถามออกไป เขารู้ดีว่าภารกิจที่ระบบการต่อสู้มอบหมายมาให้ไม่ใช่อะไรที่จะต่อรองได้เลยสักนิดและไม่มีทางเลยที่จะยกเลิกภารกิจ
เพื่อที่จะให้ได้คะแนนพลังงาน 1,000 คะแนน เขาจะต้องฆ่า 2 คนนี้!
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอากริซออกมาไว้ในมือตอนนี้
“เวลาเที่ยงคืน ประตูผีจะถูกปิดและพวกเขาจะอยู่ที่นี่ได้ 2 ชั่วโมง
1 ชั่วโมงเท่ากับ 2 ชั่วโมง นั่นก็คือพวกเขาจะต้องกลับก่อนตี 4 และในครั้งนี้พวกเขาก็จะต้องกลับไปสู่กลุ่มของผี”
“ในกลุ่มนี้จะมีผีเป็นร้อยๆตัวเลย”
“การที่ฉันให้นายทำเรื่องนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุผลนะเพราะการฆ่ายมฑูตพวกนี้ไม่ใช่การฆ่าที่ดี ซึ่งมันจะสร้างประโยชน์ให้นายอย่างมาก”
ระบบการต่อสู้อธิบาย “แต่มันเป็นเรื่องดีจริงๆ นายแค่ต้องทำก่อนที่ตัวเองจะได้รู้เหตุผล!”
“ประโยชน์เหรอ?”
หนิงเทียนหลินครางอยู่นาน “โอเค!”
“ฉันจะทำ!”
“แต่ก่อนจะตี 4 ฉันมีอีกเรื่องที่ต้องจัดการและเมื่อเรื่องนี้จบ การฆ่าผีพวกนี้ก็จะทำให้ฉันมั่นใจมากยิ่งขึ้น!”
หนิงเทียนหลินลืมตาขึ้นมาและตัดสินใจอย่างแน่วแน่!
ICSS บทที่ 101: แลกเปลี่ยนดวงตาหยินและหยาง
“เนตรหยินหยาง! ฆ่าพวกนั้นต้องมีสิ่งนี้!”
หนิงเทียนหลินไม่ใช่คนโง่ เขามองพวกนั้นไม่เห็นแล้วจะฆ่าพวกนั้นได้ยังไงกัน! ความละเลยเล็กๆน้อยๆก็สามารถทำให้พวกเขาหนีไปได้
มีเพียงดวงตาแห่งหยินและหยางเท่านั้นที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นไปได้!
“ต้องใช้คะแนนพลังงานเท่าไร?”
หนิงเทียนหลินขี้เกียจเกินกว่าจะเข้าไปค้นหาในระบบ มีของเป็น
สิบๆล้านชิ้น ถึงแม้จะมีชั้นของเงื่อนไขอยู่ที่หน้าจอก็ตามแต่ก็ต้องใช้เวลากว่า 10 นาทีก็อาจจะยังหาไม่เจอเลย ถ้าบอกชื่อได้ระบบการต่อสู้ก็จะบอกคำตอบให้
“98”
“เนตรแห่งหยินหยางนี้แค่เพียงทำให้ผู้คนมองเห็นผีแต่ไม่ได้เพิ่มพลังในการต่อสู้อะไรก็เลยไม่ต้องใช้คะแนนอะไรมากนัก” ระบบการต่อสู้อธิบายต่อ
“แลกเลย!” หนิงเทียนหลินมีความสุขมากเลย เขาไม่ได้มีคะแนนเยอะอะไรแต่เขาก็ยังมีตั้ง 412 คะแนน แค่ 100 คะแนนเขาแลกได้อยู่แล้ว!
“การแลกสำเร็จ!”
ภายในแค่ครึ่งวินาที ระบบการต่อสู้ก็ส่งสัญญาณว่าเขาทำสำเร็จแล้ว และในทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็รู้สึกว่ามีน้ำเย็นๆไหลเข้ามาในตาของเขา ดูน่าขนลุกแต่กลับรู้สึกสบายขึ้นมาก
หลังจาก 3 นาทีเต็มๆความรู้สึกนี้ก็หายไปในพริบตา
“เรียบร้อย!”
หนิงเทียนหลินรู้สึกยินดีมาก แล้ว “เขา” ก็หันหัวกลับไปมองที่ยมฑูตทั้ง 2 เขาอยากที่จะเห็นว่าเมื่อมีดวงตาแห่งหยินและหยางแล้วกับตอนที่ไม่มีดวงตาหยินและหยางจะต่างกันหรือเปล่า แต่กลับไม่มีอะไรแตกต่างเลย!
นอกจากนี้สายตาของเขาในตอนนี้ก็บอกได้เลยว่ามองไปอย่างไม่เกรงกลัวอีกแล้ว ในเมื่อเขารู้แล้วว่าพลังในการต่อสู้ของอีกฝ่ายไม่ได้ดีเท่าเขางั้นเขาจะมีอะไรที่ต้องกลัวล่ะ! อีกอย่างพวกเขาจะต้องสู้กันถึงตายอยู่แล้ว จากภารกิจของระบบในการต่อสู้แสดงว่าพวกเขาไม่ได้เป็นมิตรอยู่แล้วด้วย
“กลายเป็นว่าไม่แตกต่างเลย!”
ในสายตาของหนิงเทียนหลิน รูปร่างของอีกฝ่ายก็ยังเหมือนเดิมแต่ร่างกายของชาย 2 คนนี้กลับเป็นควันหนาๆ, สีเทา-น้ำตาลและเป็นกลุ่มก้อน ถึงแม้ว่าจะแตะต้องไม่ได้ หนิงเทียนหลินก็มั่นใจมากว่ายมฑูตพวกนี้จะต้องหนาวและกลัวมากแน่ๆ!
หลังจากที่เขาตายในวันนั้นและดวงวิญญาณได้กลับมาที่โลก เขามีเพียงความรู้สึกเดียวคือความหนาว!
นั่น มันหนักหนามากๆ!
“ว้าว!”
และด้วยความสนใจของหนิงเทียนหลินก็ทำให้ยมฑูตหันกลับมามองเขาด้วยสายตารุนแรงเพราะเขารู้สึกได้ถึงความอึดอัดอย่างมาก เพียงแค่
แวบเดียวก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วเพราะในเวลานี้ชายคนหนึ่งได้จ้องเขามาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเดินเข้าประตูมาแล้ว และยิ่งไม่เกรงใจและไม่สนใจเข้าไปอีก
“เขาเห็นความแตกต่างของเราหรือเปล่า?”
ยมฑูตนี้มองอย่างโมโหมาที่หนิงเทียนหลิน เขาไม่ได้คิดว่าคนๆนั้นจะมองเขาแล้วมองเขาอีก จ้องมาที่เขา! ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้
ทันทีที่เกิดความคิดนี้ขึ้นมา ใจเขาก็หายแวบ นี่เป็นครั้งแรกสำหรับเขา
2 คนที่ออกมาทำเรื่องอะไรแบบนี้ ในวันที่ 14 กรกฎาคมของแต่ละปี กลุ่มของผีจะถูกส่งมาที่โลก ในระหว่างนั้นพวกเขาก็จะไปเยี่ยมญาติพี่น้องและมาที่นี่เพื่อเล่นเกมส์ลีกออฟเลเจนด์สัก 2-3 ชั่วโมง
หยินเชาไต้ฟูไม่ใช่นรกในแบบที่มนุษย์จินตนาการคิด ที่นั่นจะมีเมืองต่างๆ, มีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, มีอินเตอร์เน็ตคาเฟ่, มีโทรศัพท์มือถือและอะไรอีกมากมาย
เขาสามารถที่จะฝึกเล่นเกมส์ที่นั่นได้เลยแต่ไม่ใช่ที่โลก!
มันก็แค่ว่าทั้งคนและผีต่างก็มีเส้นทางที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่สามารถที่จะสื่อสารถึงกันและกันได้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกมาทันทีที่ต้องการ
วิญญาณปกติในเวลาปกติจะออกมาเจอแสงอาทิตย์ไม่ได้
วิญญาณในโลก 90.9% ก็จะแอบหลบซ่อนไม่ยอมรายงานตัวกับรัฐบาลท้องถิ่น
“นายพล ชายคนนั้นจับเราได้และเอาแต่จ้องเราไม่เลิกเลย!”
ชายคนนั้นเห็นว่าหนิงเทียนหลินยังคงมองอยู่ เขาถึงกับขมวดคิ้วและต้องมองไปรอบๆและถามเพื่อนออกไป
เพื่อนของเขาสนใจในเรื่องเกมส์ลีกออฟเลเจนด์มากกว่าที่เขาคิด เขาอุทิศตัวเองให้กับเกมส์ไปแล้ว เขาไม่ได้เห็นหนิงเทียนหลินมองมาที่พวกเขาและเมื่อเขาได้ยินคำถามจากเพื่อน เขาก็ไม่ได้หันหน้าออกมาจากจอคอมพิวเตอร์ ยะซุโอะกำลังควบคุมกำลังเสริมเนื่องจากกลัวว่าจะพลาด
เขาพูดออกมาโดยตรงโดยไม่หันกลับมามอง “แล้วเราจะจับเราได้ยังไง? เดี๋ยวนี้ไม่ได้มีคนที่มีดวงตาหยินและหยางอยู่แล้ว!”
“อีกอย่างถ้าเขาจับเราได้เราก็พังแน่ๆ เราจะต้องโดนรายงานไปทางรัฐบาลท้องถิ่นแน่ๆที่เราไม่รับผิดชอบและมาเล่นเกมส์ในระหว่างทำงานแน่ๆจริงไหม? แค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งจะกลัวอะไรล่ะ!”
“พ่อมดที่มาจากภูเขาวูไทไงและเขาไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเราต้องเจอปัญหายังไงที่เขาไปติดต่อกับรัฐบาลท้องถิ่น! เดี๋ยวนี้ทั่วทั้งจีนก็แทบจะไม่มีใครที่สามารถสื่อสารกับรัฐบาลท้องถิ่นได้แล้ว
“ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย!”
“เร็วเข้าๆแล้วตั้งกองทัพขึ้นมา อย่ารอให้เขามาจัดการจนลุกไม่ขึ้น!”
เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องหนิงเทียนหลินเลยแถมยังรีบบอกให้เพื่อนกลับมาเล่นเกมส์เร็วๆด้วย ในใจเขาเรื่องเกมส์สำคัญกว่าเรื่องอื่นใดทั้งนั้น!
“โอ้”
ชายคนนั้นตอบ แต่ก็หันหัวกลับมาอย่างแรงและมองไปที่หนิงเทียนหลินอีกครั้งและพบว่าอีกฝ่ายได้หันหัวกลับไปแล้ว ไม่ได้มองมาที่เขาอีก เขาจึงพูดว่า “สงสัยคงเป็นแบบนั้น” แล้วหันกลับไปสนใจที่เกมส์ตามเดิม
เมื่อพวกเขาทั้ง 2 หันกลับไปสนใจเกมส์อย่างจริงจัง ตอนนี้พวกเขายังเหลือเวลาและจะเสียไปอีกไม่ได้แล้ว
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง
“เซียวจุน ฉันเริ่มจะง่วงแล้วเดี๋ยวขอออกไปรับลมหน่อยนะ”
หนิงเทียนหลินลุกขึ้นและยืดเหยียดแขนออกไปเล็กน้อย เขาเริ่มเกมส์ไปกว่า 10 นาทีแล้วและอีกเกมส์เขายังไม่ได้เริ่มเพราะเขากลัวว่ามันจะต้องใช้เวลารอนานกว่า 20 นาที
ในภารกิจสุดท้าย ระบบการต่อสู้กำหนดไว้ว่าแต่ละรอบจะต้องไม่เกิน 20 นาที ไม่งั้นเขาจะถูกพิจารณาว่าแพ้!
“โอเค”
“ดีเลย”
นี่เกือบจะตี 4 แล้วซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะเริ่มง่วงได้ง่ายๆหลังจากที่นั่งมาทั้งคืน ชิเซียวจุนรู้สึกงงนิดหน่อยแต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะเปิดลีกออฟเลเจนด์อีกเกมส์แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้การปลั๊กอิน
หลังจากที่เขาชนะมาทั้งคืน เขาก้อยากที่จะเปลี่ยนกลเม็ดบ้าง
หลินเจียอี้กำลังดูทีวีอยู่ ดูซีรี่ย์เกาหลีและกำลังสนุกเลย
“ว้าว!”
หนิงเทียนหลินดันเก้าอี้กลับเข้าไปและเดินออกมาเพราะในเวลานี้ยมฑูตทั้ง 2 เพิ่งจะเดินออกไปได้เกือบ 30 วินาทีแล้ว ถึงแม้ระบบการต่อสู้จะบอกตำแหน่งให้เขารู้แต่เขาก็กลัวว่าเขาจะพลาดโอกาส
ภารกิจนี้จะต้องชนะเท่านั้น ห้ามแพ้เด็ดขาด! ต้องทำให้แน่ใจว่าได้ฆ่ายมฑูต 2 คนนั้น!
ไม่งั้นเขาจะสร้างศัตรูในหยินเชาไต้ฟูเพิ่มขึ้นแน่ๆ บางทีครั้งหน้าที่ประตูผีปิดเขาจะต้องเดือดร้อนแน่ๆ! และอาจจะซีเรียสไปอีกถ้ามีใครไปรายงานรัฐบาลท้องถิ่นของหยินเชาไต้ฟูเรื่องเขา
“นั่นไง! เดินเข้าตรอกไปแล้ว!”
ทันทีที่หนิงเทียนหลินเดินออกประตูร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มา เขาก็เห็นว่ายมฑูต 2 คนนั้นได้เดินเข้าตรอกไปและหนึ่งในพวกเขาไม่รู้ว่าระฆังจะดังเมื่อไรและมันจะต้องสั่นดัง “ดิ่งๆ” เหมือนเป็นการเรียกอะไรบางอย่าง
ICSS บทที่ 102: ต้นไทร
“เมื่อไร!”
“เมื่อไร!”
เสียงเพลงแสนหวานและแผ่วเบาแต่ดูเหมือนจะเป็นเสียงที่มหัศจรรย์, สั่นสะเทือนและดูแปลกมากในท้องฟ้ายามค่ำคืนในเวลาตี 4 และ
หนิงเทียนหลินรู้สึกรางๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณลักษณะทางกายภาพของเขาที่ดีกว่าคนปกติธรรมดา เขาก็คงจะไม่ได้ยินเสียงเพลงนี้แน่ๆ!
เสียงนี้ดูเหมือนจะมีผลกับหัวใจของคน!
“นี่เป็นอาวุธเวทมนต์ที่เรียกว่าระฆังวิญญาณ แต่จะถูกใช้เพื่อรวบรวมวิญญาณ ไม่ว่าวิญญาณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเรียกได้ในทันทีนอกนั้นก็เปล่าประโยชน์!”
ระบบการต่อสู้อธิบายเพิ่มในเวลานี้และกล่าวเสริมในตอนสุดท้าย หนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่ามีวิญญาณปรากฎขึ้นมาจากทุกด้าน ยืนอยู่ข้างๆยมฑูต 2 คนนี้ เหมือนกับว่ายืนอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว
และในไม่ช้าพวกเขาก็ยืนเรียงเป็นแถวแบบเรียงหนึ่งเรียบร้อย
“ไม่ได้ผลแน่ๆ! มีวิญญาณเยอะมาก แบบนี้ฉันจะฆ่าวิญญาณ 2 ตัวนั่นได้ยังไง!”
หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วลึก เขาไม่ได้คาดคิดว่าพวกวิญญาณที่กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องจะถูกเรียกกลับมายืนอยู่ข้างยมฑูต 2 คนนี้เร็วขนาดนี้ เขาวางแผนว่าจะใช้ข้อได้เปรียบจากเวลานี้และเขาเพิ่งจะคิดได้ว่าจะคุยกับชาย 2 คนนี้ยังไง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องง่ายๆนี้จะเริ่มไม่ง่ายแล้ว
“จะฆ่าไม่ได้ได้ยังไง!” ระบการต่อสู้เปล่งเสียงออกมา
“ยมฑูตนี้จะฆ่าวิญญาณพวกนี้ทุกตัว สนใจเรื่องวิญญาณทั้ง 100 ดวงไหมล่ะ?
“วิญญาณพวกนี้ก็แค่ทรงพลังในด้านวิญญาณ แต่พลังในการต่อสู้ของแต่ละตัวน้อยกว่า 15 ด้วยซ้ำ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายเลยสักนิด!”
หนิงเทียนหลินตัวแข็งและถามออกมาในทันที
“นายหมายถึงจะให้ฉันฆ่าวิญญาณทั้งหมดเลยเหรอ?”
หลังจากนั้นหัวใจของเขาก็เต้นรัวเกินอันตราปกติไปมาก ความคิดนี้มันบ้ามากๆ นี่มันวิญญาณตั้งร้อยดวงนะ ไม่ใช่คนร้อยคนนะ! หนิงเทียนหลินยังไม่เคยสู้กับวิญญาณมาก่อนเลย! เขาไม่รู้ว่าพวกนี้ทำอะไรได้บ้าง
ความเข้าใจในเรื่องวิญญาณของเขาก็แค่ 7 วันตอนที่เขาเป็นวิญญาณอยู่ในหยินเชาไต้ฟู!
“ถ้านายคิดว่าจะมีทางที่นายทำไม่ได้” เสียงของระบบการต่อสู้ฟังดูน่าขำ ทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกว่าดูเหมือนมันจะต้องมีผลที่ตามมาแน่ๆ
“และฉันบอกแล้วว่ามันจะดีกับนายเองหลังจากที่ได้ฆ่าวิญญาณพวกนี้”
สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับระบบการต่อสู้ยังไม่ได้บอก
“โอเค ฉันจะทำ!” หนิงเทียนหลินโหดร้ายและไร้ความปราณี ในเวลาเดียวกันนั้นก็เปิดประตูแห่งการแลกเปลี่ยนเพื่อหาบางอย่างเพื่อแลกเปลี่ยน แล้วจึงค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาวิญญาณพวกนี้ แผนมันเปลี่ยนไปแล้วและความตั้งใจของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว
“วิญญาณ 100 ดวงมาถึงแล้วและเราก็ไปได้แล้ว”
เสียงเฉียบดังออกมาจากตรอกและเขาก็กำลังจะไปแล้ว ในมือของพวกเขาต่างก็ถือกุญแจไปสู่หยินเชาไต้ฟูไว้ด้วย ตราบใดที่ยังถือกุญแจอยู่ พวกเขาจะไปโผล่ที่ถนนอุยก๋วนในหยินเชาไต้ฟูได้ในทันที
“ตายซะ!”
ในเวลานี้ในคืนที่เงียบสงบ ก็มีเสียงบางอย่างดังออกมาทันทีในระยะที่ห่างออกไปจากพวกเขาประมาณ 100 เมตรพร้อมันนั้นก็มีระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นจากระยะ 100 เมตรออกมาจากเงามืดและก็มาจากข้างหลังพวกเขาที่ห่างออกไป 2-300 เมตรอีก ซึ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง
เหมือนกึ่งทรงกลมที่ครอบคลุมพื้นที่ภายใน 500 เมตรนี้
แดนกักขัง!
หนิงเทียนหลินเพิ่งจะแลกมันมากจากระบบการแลกเปลี่ยน ไอ้เจ้าสิ่งนี้ทำให้เขาต้องเสียคะแนนพลังงานไปตั้ง 50 คะแนน
แดนกักขัง ก็เหมือนกับชื่อของมันใช้เพื่อกักขังด้านหนึ่งของโลกและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหลังจะไม่สามารถหนีออกไปไหนได้เลย! เหมือนเป็นที่กักขังอะไรสักอย่าง
ตอนนี้หนิงเทียนหลินพร้อมที่จะฆ่าวิญญาณมากกว่าร้อยดวงพร้อมกันแล้ว เขาเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว อย่างน้อยที่สุดเขาไม่สามารถปล่อยให้พวกนี้หนีไปได้เลยก่อนที่เขาจะเริ่ม! ไม่งั้นคงจะเป็นปัญหาแน่ที่จะจัดการวิญญาณสักดวง!
แดนกักขังก็มีทั้งดีและไม่ดี ด้านที่ดีเราจะสามารถกักขังได้ทั้งกาแล็กซี่และสนามดวงดาวเป็นเวลานานนับไม่ถ้วนตั่นก็ต้องใช้คะแนนพลังงานที่ไม่จำกัดด้วย นั่นคือเรื่องง่ายๆที่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำได้
แดนกักขังที่เขาเพิ่งจะแลกมาเป็นเกรดที่ต่ำที่สุด เขากักขังได้แค่ในระยะ 500 เมตรเท่านั้นและมันจะคงอยู่แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
แต่เวลาครึ่งชั่วโมง หนิงเทียนหลินก็รู้สึกว่ามันเพียงพอที่จะใช้ฆ่าวิญญาณทั้งหมดนี้แล้ว!
“ปึง!”
ในเวลาเดียวกัน ครึ่งนาทีต่อมาหัวหน้ายมฑูตก็กำกุญแจไว้ในมือแล้วประตูเล็กๆก็ก่อตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาและเดินเข้าไปในประตูเล็กๆนั้น พวกเขาจะต้องไปปรากฎตัวที่ถนนอุยก๋วนในหยินเชาไต้ฟูในทันที
“อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?”
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือหลังจากนั้นเกือบ 30 วินาที ประตูเล็กๆอย่างที่เขาตั้งใจไว้ก็ไม่ปรากฎขึ้นมาจนเขาต้องขมวดคิ้ว พร้อมกันนั้นเขาก็หันหัวมามองที่เพื่อนและความหมายของคำถามนั้นปรากฏชัดในตัวเอง
“ทำไมมันไม่เปิด?”
ยมฑูตอีกคนก็รู้สึกงงไปด้วย ไม่ใช่ว่าพวกเขามาที่นี่แค่ครั้งหรือสองครั้งและยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย
“ตายซะ!”
“ตายซะ!”
พร้อมกันนี้ไม่ไกลนักก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา ในคืนที่เงียบสงัดนี้ทำให้มันฟังได้อย่างชัดเจนและพร้อมกันนั้นเสียงหัวใจของยมฑูตทั้ง 2 ก็ดังรัวเป็นกลองเลยทีเดียว
“นายนี่เอง!”
ไม่นานยมฑูตทั้ง 2 และวิญญาณทั้ง 100 ก็เห็นร่างของคนปรากฎขึ้นมา โดยเฉพาะหยินเชาที่เพิ่งเห็นหนิงเทียนหลิน เขาก็ต้องขมวดคิ้วและความรู้สึกไม่ดีก็เกิดขึ้นมาในใจของเขา
ความรู้สึกรางๆว่าเรื่องกุญแจที่ผิดพลาดก็น่าจะเกิดขึ้นเพราะเด็กหนุ่มคนนี้!
“ฉันเอง” หนิงเทียนหลินตอบด้วยรอยยิ้ม
“ท่านยมฑูตอุตส่าห์มาถึงโลกแต่ทำไมกลับกันเร็วจังล่ะ? อยู่ต่ออีกหน่อยสิ!”
“นายจับพวกเราได้จริงๆด้วย!”
เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่หนิงเทียนหลินเรียกเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“นายจับเราได้ตั้งแต่ตอนที่เราเดินเข้าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เลยเหรอ?”
“ใช่” หนิงเทียนหลินพยักหน้า ไม่ได้ปิดบังเลย
“ดูเหมือนว่านายจะมีเนตรหยินหยางสินะ เราประเมินนายต่ำไปจริงๆ!”
ด้วยเสียงที่ตะโกนเรียก พวกเขาและวิญญาณพวกนี้ต่างก็ซ่อนตัว คนปกติจะหาพวกเขาไม่เจอเลย
“ฮ่าฮ่า” หนิงเทียนหลินหัวเราะอย่างแผ่วเบา
“ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีเนตรหยินหยางหรือเปล่า ฉันมาเพื่อบอกพวกนายว่าวันนี้พวกนายจะกลับไปที่หยินเชาไต้ฟูไม่ได้”
“ทำไม?”
“ที่กุญแจใช้ไม่ได้เป็นเพราะนายใช่ไหม?”
ยมฑูตอีกคนเดินออกมาในเวลานี้พร้อมทั้งขมวดคิ้วและถามหนิงเทียนหลินออกไป
แม้แต่วิญญาณที่อยู่หลังพวกเขาต่างก็จ้องมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตาสงสัย พวกเขาต่างก็เป็นคนธรรมดาที่ตาย ตอนที่พวกเขายังมีชีวิต พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีคนแบบหนิงเทียนหลินที่สามารถมองเห็นพวกเขาได้
แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความสงสัยและไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายเลยสักนิด
“ใช่”
“ฉันทำเอง” หนิงเทียนหลินพยักหน้า
“ไม่มีอะไรหรอกแค่ว่าวันนี้มีบางคนมอบภารกิจให้ฉันมาและขอให้ฉันฆ่าพวกนายให้หมด!”
ICSS บทที่ 103: ฆ่า!
“ฮ่าฮ่า!”
เหมือนกับว่าพวกเขาได้ยินเรื่องตลกที่น่าขำที่สุด เมื่อยมฑูตทั้ง 2 ได้ยินสิ่งที่หนิงเทียนหลินพูดออกมาแล้วต่างก็มองหน้ากันและกัน พร้อมทั้งหัวเราะออกมา “นายหมายถึงว่านายจะฆ่าพวกเรางั้นเหรอ? และวิญญาณพวกนี้ด้วยงั้นเหรอ?”
“นายรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดเรื่องอะไร?”
“แม้แต่เจ้าแห่งสวรรค์แห่งภูเขาหลงหูถ้ามาอยู่ที่นี่ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดเรื่องอะไรแบบนี้เลย!”
“มันขึ้นอยู่กับนายงั้นเหรอ?”
ยมฑูตทั้ง 2 มองหนิงเทียนหลินเหมือนเป็นคนบ้า รู้สึกว่าพวกเขากำลังพูดเหมือนในหนังสือการ์ตูน เขาจะมีความสามารถฆ่าวิญญาณได้สักกี่ดวง? ทั้ง 2 รู้สึกขำ!
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเหมือนเป็นตัวแทนของยมฑูตทั้งหมดและการฆ่าพวกเขาก็เหมือนกับการมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในหยินเชาไต้ฟู!
เจ้าหน้าที่จะต้องไปปล่อยให้เด็กหนุ่มนี่รอดไปได้แน่ๆ และคิงหยานเลาต้องไม่เก็บเขาไว้แน่ๆ!
“วิ้งงงงงงงง!”
เขาเพียงแค่เยาะเย้ยกับคำถามของพวกเขาและคำตอบสำหรับพวกเขาก็คือกริซสีขาวเงิน ที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นแต่กริซในการต่อสู้นี้ยาวไม่ถึง 5 นิ้ว และร่างกายของหนิงเทียนหลินก็พุ่งตรงเข้ามาพร้อมเสียงตะโกน!
“อาวุธเวทมนต์! ทำไมมันอยู่ในมือเขา! ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงกล้าพูดแบบนี้!”
ทั้ง 2 ต่างก็ต้องประหลาดใจเพราะในยุคนี้อาวุธเวทมนต์ในโลกนี้หายากมากแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีมันก็จะถูกเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และอาวุธที่เป็นเวทมนต์แบบนี้ก็ยิ่งหายากเข้าไปอีก
อาวุธเวทมนต์ อย่างไรก็ตามมันโจมตีร่างกายของพวกเขาได้!
พวกเขาไม่กลัวปืนหรืออาวุธอื่นๆบนโลกนี้ แม้ระเบิดจะมาระเบิดอยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาก็แค่หัวเราะแต่อาวุธนี้มันไม่เหมือนกัน นี่มันเป็นอะไรที่สามารถฆ่าพวกเขาได้จริงๆ!
“วิ้งงงงงงงงง!”
ทั้ง 2 ไม่ลังเลเลย พวกเขารีบยืดแขนและแสดงไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์ออกมาในมือของแต่ละคน ดวงตาแสดงความภูมิใจพร้อมทั้งมองหนิงเทียนหลินวิ่งตรงเข้ามา
ไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์นี้สีดาและยาวประมาณ 1 เมตร พร้อมด้วยขนของแมลงและสัตว์อะไรบางอย่างประดับอยู่ที่ไม้ด้วย นี่เป็นอาวุธพื้นฐานที่รัฐบาลหยินเชาไต้ฟูจะมอบให้ยมฑูตทุกคน เหมือนกระบองสำหรับพวกตำรวจที่เอาไว้สู้กับอาชญากร
ถึงแม้มันจะไม่ใช่อาวุธเวทมนต์ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าอาวุธเวทมนต์ที่ระดับต่ำที่สุด
“โอ้!”
ความเร็วของหนิงเทียนหลินเร็วมาก ห่างไปอีกแค่ 10 เมตรโดยใช้เวลาไม่ถึงวินาที พร้อมทั้งโบกกริซไว้ในมือ เขาพุ่งตรงมาที่คอของยมฑูตที่อยู่ด้านซ้าย พลังที่แรงกล้าทำให้เกิดเสียงดังแหวกอากาศ
วันนี้คุณภาพร่างกายของหนิงเทียนหลินสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้สามารถเล่นได้ไม่ว่าจะเป็นอะไร! นอกจากนี้เหตุผลที่เขาเลือกที่จะโจมตียมฑูตที่อยู่ด้านซ้ายก่อนเพราะพลังในการต่อสู้ของเขาสูงที่สุด แตะที่ 105 คะแนน ซึ่งใกล้กับ 107 คะแนนที่สุด ซึ่งห่างกันแค่ 2 คะแนนเอง
ส่วนอีกคนมีพลังในการต่อสู้อยู่ที่ 103 คะแนนซึ่งห่างกับเขาอยู่
4 คะแนน
ตราบใดที่คนๆนี้ถูกจัดการไปซะ เขาก็จะสามารถรู้สึกได้ว่าเขาจะไม่ถูกวิญญาณทั้งหมดจัดการ ร่วมทั้งยมฑูตอีกคนด้วย! พร้อมกันนั้นการฆ่าวิญญาณอื่นๆก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก!
“อะไรกัน!”
ยมฑูตที่อยู่ด้านซ้ายตกใจกลัว เขาไม่ได้คาดคิดไว้เลย ความเร็วของเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาช่งเร็วเหลือเกินแทบจะทำอะไรไม่ทันเลย! ทั้งๆที่เขาเตรียมตัวไว้นานแล้วด้วยซ้ำ!
โชคดีที่ไม้กายสิทธิ์และกริซของอีกฝ่ายเข้ามาปะทะกันพอดี ทำให้บล็อคการฆ่าไว้ได้ ร่างกายของเขาทั้งร่างเมื่อปะทะเข้ากับแรงอันมหาศาลของหนิงเทียนหลินเขาก็ถึงกับยืนไม่มั่นคงจนต้องเดินถอยหลังไป 2-3 ก้าวและล้มลงกับพื้น
แม้แต่ไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์ในมือเขาก็ยังสั่นและตกลงด้านข้าง
“ตู้มมมม!”
หนิงเทียนหลินไม่ได้หยุดมือเลย เขาพุ่งตัวเข้าไปทันทีและกำลังที่จะฆ่าอีกฝ่าย! แม้แต่ไม้กายสิทธิ์อีกอันก็โบกตรงมาที่ร่างเขา!
“ปัง!”
พร้อมกันนั้นยมฑูตที่ล้มลงไปที่พื้น ทันใดนั้นก็ยิงแสงออกมา หนิงเทียนหลินเพียงแค่รู้สึกว่าวิญญาณของเขาถูกช็อตแต่มันก็เป็นเพียงแค่แสงแวบ แต่กริซในมือของเขายังแทงอยู่ที่คอของอีกฝ่าย
“มันเป็นไปได้… การโจมตีทางจิตไม่ได้ผลได้ยังไง!”
ทันทีที่ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของยมฑูต ที่คอเขาก็รู้สึกเย็นๆและพลังงานชีวิตจำนวนมากก็ไหลอย่างรวดเร็วออกมาแตะที่กริซและที่คอ ภายในไม่กี่วินาทีก็ไม่มีพลังในดวงตาของเขาอีกและปิดสนิทไปตลอดกาล
“การโจมตีทางจิตไม่เป็นผลเพราะความสามารถทางจิตวิณญาญของฉันสูงกว่านายไงล่ะ! มันสูงกว่าตอนที่นายใช้ฝีมือลึกลับอีก!”
คุณลักษณะทางกายภาพปัจจุบันของหนิงเทียนหลินแข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติทางจิตวิญญาณที่แม่นยำมาก แหวนอวกาศและกริซช่วยเพิ่มพลังได้มาก โดยเฉพาะแหวนอวกาศซึ่งเน้นไปที่ด้านจิตวิญญาณมากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นพลังในการต่อสู้ที่ระบบการต่อสู้รายงานมาไม่ใช่แค่พลังในการต่อสู้รวมแต่ยังคุณลักษณะทางร่างกายด้วยก็ถูกอธิบายถึงรายละเอียด ว่าพลังมากแค่ไหน, รายละเอียดของความว่องไว, ทางด้านจิตใจและทางกายภาพ ร่ายยาวออกมา
แม้แต่อาวุธของอีกฝ่าย, ทักษะปริศนาประเภทไหนก็อธิบายออกมาอย่างละเอียด
ดังนั้นหนิงเทียนหลินจึงพร้อมที่จะโฟกัสไปที่วิญญาณเพื่อที่จะป้องกันการโจมตีทางจิตใจของอีกฝ่าย!
“ปัง!”
แต่ในเวลาเดียวกัน ไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์ก็ตกลงมาที่เขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาอยากที่จะฆ่าอีกคนด้วยการระเบิดซะเลย!
“ปัง!”
ร่างกายของหนิงเทียนหลินบินขึ้นไปโดยไม่ตั้งใจและหลิงกงก็ช่วยไม่ได้ที่วิญญาณจะไหลออกมาและล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง พลังในการต่อสู้ของทั้ง 2 ต่างกันแค่ 4 คะแนนและเพราะจากการระเบิดอย่างแรงนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถป้องกันได้อย่างเต็มที่
ไม่นานมือของหนิงเทียนหลินก้ปรากฎยาเอนกประสงค์ สีเขียวเข้มขึ้นมาซึ่งเพิ่งจะดึงออกมาจากแหวนอวกาศ ยานี้กลิ้นเหมือนยาทั่วๆไปในโลกนี้ โดยไม่ลังเลเขาก็รีบกรอกใส่ปากในทันที
ดื่มเข้าไปในทันที
และชั่วขณะหนึ่งหนิงเทียนหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจากการที่อวัยวะภายในสั่นสะเทือน แล้วก็หายไปในทันทีและแม้แต่พลังงานที่เพิ่งใช้ไปก็ถูกเติมเต็มในทันที
ยาฟื้นคืนชีพซึ่งซ่อมแซมการบาดเจ็บและเติมเต็มร่างกายในทันทีเป็นวิธีการรักษาที่ง่าย ตอนที่หนิงเทียนหลินเตรียมพร้อมที่จะเริ่ม เขาก็แลกมันออกมาจากประตูแห่งการแลกเปลี่ยนด้วยคะแนนพลังงาน 10 คะแนน แต่สำหรับยารักษาขั้นสูงที่มากกว่านี้เขาไม่ได้แลกมาเพราะในแผนเดิมเขาคิดถึงแค่สิ่งนี้และในวันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา
“ปัง!”
หลังจากการปลดปล่อยนี้หนิงเทียนหลินก็รีบลุกขึ้น หมุนตัวและกระโดดขึ้นมาจากพื้นพร้อมทั้งกริซที่อยู่ในมือ แทงอย่างรุนแรงเข้าไปที่ยมฑูต อีกคนหลังจากนั้นหนึ่งนาทีก็แทงกริซเข้าไปที่คอของเขาและปล่อยให้เขาตายอย่างช้าๆ!
“ต่อไปก็ตาพวกนาย!”
ตั้งแต่ที่ยมฑูตถูกฆ่าต่อหน้าพวกวิญญาณมากมาย หนิงเทียนหลินก็จะปล่อยพวกเขาไปไม่ได้แล้ว ในสายตาที่หวาดกลัวของเหล่าวิญญาณ เขากระโดดเหมือนกับเสือเข้าหาฝูงชนพร้อมทั้งเปิดแหวนแห่งการฆ่า 10 นาทีต่อมาก็ไม่เหลือวิญญาณในโลกนี้อีกเลย
ICSS บทที่ 104: พลอยโมรา
“ติ่ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะเจ้านายที่ทำภารกิจส่วนที่เพิ่มมาได้สำเร็จและจะได้รับรางวัลเป็นคะแนนสำคัญ 500 คะแนน”
ตอนที่หนิงเทียนหลินฆ่าวิญญาณทั้งหมดเรียบร้อย เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูทำให้เขาตกตะลึง “ภารกิจเสริมเหรอ?”
“มันเยอะมาก!”
ก่อนหน้านี้หนิงเทียนหลินก็ทำภารกิจสำเร็จไปมากมายแล้วแต่ทั้งหมดก็จะได้รับแค่รางวัลเท่านั้น ไม่เคยมีรางวัลเพิ่มเติมเลยสักนิด เขาคาดว่าที่ครั้งนี้ได้ก็น่าจะเพราะวิญญาณทั้งร้อยได้ถูกฆ่าไปด้วย
“คะแนนสำคัญสำหรับภารกิจเดิมก็คือ 300 คะแนน หลังจากที่ปริมาณถูกเพิ่มขึ้น 200 คะแนนก็เลยถูกเพิ่มเข้ามา!”
หนิงเทียนหลินรู้สึกพอใจเล็กน้อยเพราะคะแนนพลังงาน 200 คะแนนนี้ก็ไม่ได้มากเกินไป เดิมเขาคิดว่าจะได้คะแนนพลังงานแค่ 300 คะแนนเท่านั้น
“วิ้งงงงงงง!”
ระหว่างที่หนิงเทียนหลินกำลังคำนวนคะแนนสำคัญของตัวเองอยู่นั้น อยู่ดีๆโลกรอบตัวเขาก็ถูกปกคลุ่มไปด้วยพลังงานปริศนา ชั่วขณะหนึ่งวิญญาณทั้งหมดที่อยู่บนพื้น รวมทั้งยมฑูตทั้ง 2 คนนั้นด้วยต่างก็หดตัวอย่างเร็วเร็วและต่อเนื่อง
ในดวงตาที่ตกตะลึงของหนิงเทียนหลินเพียงแค่พริบตาวิญญาณเป็นร้อยๆดวงก็รวมตัวกันเป็นผลึกคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
สีขาวเหมือนหมอก เพียงแต่ขนาดที่แตกต่างกัน
“สตาร์วอร์สนายทำเหรอ?”
ในพื้นที่นี้เพราะแดนกักกัน มันเลยเป็นไปไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตอื่นจะผ่านเข้ามาภายในช่วง 30 นาทีนี้ได้ดังนั้นนอกจากที่หนิงเทียนหลินจะตกตะลึง แต่ที่มากกว่านั้นคือเขาพุ่งความสงสัยไปที่ระบบการต่อสู้
“จำในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ได้ไหมที่ฉันบอกนายว่าหลังจากที่ฆ่า
พวกวิญญาณเสร็จ นายจะได้รับรางวัลที่คาดไม่ถึง” ในเวลานี้ ระบบการต่อสู้ไม่ได้บอกออกมาตรงๆแต่อธิบายต่อ
“ทุกอย่างที่มีชีวิตสามารถให้พลังงานกับนายได้”
“วิญญาณถึงแม้จะถูกเปลี่ยนร่างไปแล้วหลังความตายแต่ใครบอกกันว่าวิญญาณพวกนี้ไม่ใช่อีกรูปแบบหนึ่งของชีวิตล่ะ? มันก็เหมือนน้ำที่ละเหยเป็นก๊าซน่ะแหละแต่ก๊าซพวกนี้ก็ยังมีน้ำอยู่”
“ผลึกขนมเปียกปูนพวกนี้เรียกว่าผลึกหยินที่ถูกสร้างมาจากพลังหยินของสวรรค์และโลกที่อยู่ในวิญญาณพวกนี้และผสมเข้ากับพลังงานของวิญญาณเอง พวกมันคืออีกรูปแบบหนึ่งของแก่นแท้
ปกติแล้วผลึกหยินพวกนี้จะไม่ปรากฎออกมา เจ้านายยังไม่มีประสบการณ์ นายยังรวมมันไม่ได้เลย”
“พวกมันถูกสร้างมาเพื่อนาย”
“งั้นเพื่อเป็นการตอบเทน ฉันจะคิดค่านำส่งนายสำหรับผลึกนี้ 10% และคะแนนพลังงานที่เหลือคือสิ่งที่นายจะได้รับในครั้งนี้”
เมื่อได้ยินดังนี้ หนิงเทียนหลินก็เข้าใจความหมายในทันทีและถามออกไป
“นายหมายถึงผลึกนี้ก็คือคะแนนสำคัญ นายจะคิดค่าบริการ 10% เหรอ?”
“ใช่”
“มันหมายความตามนั้นแหละ” ระบบการต่อสู้พยักหน้า
“โอเค!” หนิงเทียนหลินเห็นด้วยในทันทีและไม่มีอะไรที่ไม่น่าพอใจ
ตอนแรกเขาไม่ได้คิดว่าการฆ่าวิญญาณพวกนี้จะได้คะแนนสำคัญด้วย เขาคิดว่าคะแนนสำคัญนี้จะได้รับจากภารกิจนั่นคือก๊าซคะแนนสำคัญ 500 คะแนน แต่ตอนนี้จากสิ่งที่ระบบการต่อสู้พูดออกมาเขายังจะได้อีกเยอะเลย!
“งั้นจะดูดผลึกหยินนี้เข้าไปยังไง?” ปกติแล้วหนิงเทียนหลินจะฆ่าชีวิตและเปลี่ยนเป็นคะแนนสำคัญได้โดยตรง เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
“ไม่จำเป็นหรอก” ระบบการต่อสู้ส่ายหน้า “ในประตูแห่งการแลกเปลี่ยนนายจะแลกคะแนนสำคัญได้อัตโนมัติ นายจะแลกตอนนี้เลยไหม?”
“แลกเลย” หนิงเทียนหลินมองไปที่พื้นและตอบออกมา
“ว้าว!”
เมื่อเสียงเขาเงียบลงก็มีมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นคลุมไปทั่วทั้งพื้นและวิญญาณกว่า 100 ดวงที่อยู่บนพื้นก็หายวับไปในทันทีและเสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูของหนิงเทียนหลิน “การแลกเปลี่ยนสำเร็จแล้ว”
“คะแนนพลังงานเท่าไร?” หนิงเทียนหลินรีบถามออกมาทันที
“ทั้งหมดแลกคะแนนพลังงานได้ 820 คะแนน ลบไป 10% เป็นค่าบริการ ก็จะเหลือ 738 คะแนน” ระบบการต่อสู้รายงาน
“738 คะแนน! เยอะจัง!” หนิงเทียนหลินมีความสุขมาก เขาไม่เคยคิดว่าผลึกหยินพวกนี้จะมีค่ามากขนาดนี้! ทุกครั้งที่เขาฆ่าคนจริงๆ เฉลี่ยแล้วเขาก็จะได้คะแนนพลังงานแค่นิดหน่อยเอง
“วิญญาณ 102 ดวงนี้ให้คะแนนเขาตั้ง 738 คะแนนแน่ะ!”
นี่มากกว่าเกือบจะ 7 เท่าแน่ะ! อีกอย่างนี้ขนาดว่าหักค่าบริการไปด้วย
แล้วนะเนี่ย!
“ผลึก 2 อันสร้างมาจากยมฑูตทั้ง 2 จะแลกได้คะแนนทั้งหมด 248 คะแนน ส่วนผลึกอื่นๆที่สร้างมาจากวิญญาณธรรมดาจะแลกได้ 572 เลยรวมเป็น 820 คะแนน!”
“ถูกหักค่าบริการไป 10% ก็จะเหลือ 738 คะแนน”
ระบบการต่อสู้อธิบาย “ผลึกหยินจะบรรจุเต็มไปด้วยพลังหยินของสวรรค์และของโลก นี่เป็นเหตุผลพื้นฐานว่าทำไมคะแนนสำคัญถึงเยอะนัก และยมฑูตทั้ง 2 ก็ได้มีส่วนร่วมมากมายด้วย”
หนิงเทียนหลินพูด “โอ้” แล้วก็ไม่ได้สนใจประเด็นนี้อีกแล้วแต่กลับเกิดความคิดในใจและรีบคำนวนคะแนนพลังงานที่เขามีตอนนี้อย่างเร็ว
“คะแนนสำคัญเดิมของเขาคือ 412 คะแนน ใช้ 100 คะแนนเพื่อแลกดวงตาแห่งหยินและหยาง 50 คะแนนเพื่อต้นไทร 10 คะแนนเพื่อยาฟื้นฟูร่างกาย นั่นก็น่าจะเป็น 252 คะแนน!
“ได้อีก 500 คะแนนจากภารกิจ ซึ่งรวมเป็น 752 คะแนน!”
“บวกกับคะแนนปัจจุบันอีก 738 คะแนน งั้นก็จะรวมเป็น 1,490 คะแนน!”
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับระบบการต่อสู้ “เปิดข้อมูลของฉันที”
ว้าว!
ทันทีที่เขาพูดออกมาม่านแสงสีเขียวก็ปรากฎขึ้นมาตรงหน้าเขาและมีเพียงหนิงเทียนหลินคนเดียวที่มองเห็น
“ชื่อ: หนิงเทียนหลิน”
“บ้านเกิด: ทางช้างเผือก, โลก, จีน”
“ระดับ: 12 และอีก 60%”
“พันธมิตรการต่อสู้ที่มีอยู่: ยังไม่แน่ใจ”
“ยอดเงินในบัญชี: 9,652 หยวน”
“คะแนนสำคัญ: 1,490 คะแนน”
“พลังในการต่อสู้สูงสุด: 107 คะแนน”
ที่บรรทัดสุดท้าย ดวงตาของหนิงเทียนหลินก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น “1,490!”
“ไม่เลวเลย!”
เขาคิดว่าถ้าเขาอยากจะได้พลังงานเขาจะต้องไล่ล่าสิ่งมีชีวิตให้ได้เยอะๆแต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีหนทางที่ดีกว่าในการจัดการภารกิจที่ระบบการต่อสู้มอบหมายให้มา! อีกอย่างตอนนี้เขามีภารกิจใหญ่รออยู่ด้วยนั่นก็คือการชนะเกมส์ลีกออฟเลเจนด์ติดต่อกัน 100 เกมส์รวด !
ตอนนี้ภารกิจก็เริ่มไปสักพักแล้วและคาดว่ามันน่าจะจบลงภายในคืนพรุ่งนี้!
ในเวลานั้นคะแนนสำคัญก็จะได้อย่างมากมายและอาจจะแตะไปถึงที่ 3,000 คะแนนก็ได้!
“คะแนนพลังงาน 90 คะแนนจะเปลี่ยนเป็นเงินได้หนึ่งล้านหยวน”
“คะแนนพลังงาน 1,300 คะแนนไปอัพเกรดพลัง!”
“ส่วนคะแนนพลังงานหลายร้อยที่เหลือก็เก็บไว้ก่อน”
หลิงเทียนหลินลังเลอยู่สักพักและเริ่มจัดสรรคะแนนพลังงานที่มีอยู่
ตอนนี้เขามียอดเงินในการ์ดกาแล็กซี่เหลือเพียง 9,652 หยวนจากหลายสิบล้าน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้ไปที่โรงแรมแวนด้า ตอนแรกเขาแค่มีเงินสดมากกว่า 8 ล้านอยู่ในแหวนอวกาศ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเขายังเหลืองานอีกมากที่ต้องทำ เขาต้องใช้เงินไปอย่างมากซึ่งใช้ไปมากกว่า
90 ล้านหยวนแล้ว
ICSS บทที่ 105: วิทยาลัยศิลปะไคโฮคุ
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 13!”
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 14!”
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 15!”
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 16!”
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 17!”
ในไม่ช้าเสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในหูของ
หนิงเทียนหลิน ทำให้เขามีความสุขอย่างมาก ด้วยคะแนนพลังงาน 1,300 คะแนนซึ่งทำให้เขาไต่ระดับขึ้นไปทันที 5 ระดับ จนขึ้นไปที่ระดับปัจจุบันที่ระดับที่ 17!
ระดับที่ 17 เพียงแค่พลังในการต่อสู้ทางกายภาพอย่างเดียวก็แตะที่ 68 คะแนนแล้ว!
อีกนัยหนึ่งถ้ารวมอุปกรณ์ในการต่อสู้และหลังจากที่เขาและแมนซูลูรวมกันพลังในการต่อสู้ก็จะได้ที่ 108 คะแนน มากกว่าตอนนี้อีก!
“แล้วแหวนอวกาศล่ะ?”
“วันนี้พลังในการต่อสู้ของแหวนอวกาศของฉันเป็นเท่าไร?”
หนิงเทียนหลินตอบโต้ออกไปทันทีเพราะแหวนอวกาศนี้ไม่ใช่แหวนอวกาศธรรมดาๆแต่เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ซึ่งจะโตและโตอย่างต่อเนื่องไปตามคุณลักษณะทางกายภาพของเขาด้วย!
ตอนที่เขาอยู่ในระดับที่ 6 แหวนอวกาศนี้จะช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้เขาได้ 7 คะแนน และตอนที่อยู่ในระดับที่ 12 เขาก้ได้เพิ่ม 13 คะแนน ตอนนี้ที่ระดับ 15 เขาไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร
“20 คะแนน!”
“แหวนอวกาศตอนนี้สามารถเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้นายได้ 20 คะแนน”
ระบบการต่อสู้ตอบออกมา “ในเมื่อพลังในการต่อสู้ของเจ้านายเพิ่มขึ้น ช่วงของการปลดล็อควงแหวนอวกาศจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง มันเคยเป็นระดับและอีกเล็กน้อย และมันอาจกลายเป็นระดับสอง, สาม, สี่หรือมากกว่า!
“20 คะแนน!” มีแสงของความตื่นเต้นฉายเข้ามาในตาของหนิงเทียนหลินเพราะเมื่อรวมคะแนนนี้เข้าไป บวกกับกริซอีกพลังในการต่อสู้ของเขาที่สูงที่สุดก็จะไปแตะที่ 134 คะแนนเลย! “ตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องบาดเจ็บเพื่อที่จะจัดการกับยมฑูตทั้ง 2 ด้วยซ้ำ”
หนิงเทียนหลินรู้ดีว่าจะไม่สามารถยุติการต่อสู้ได้ภายในสิบนาทีหากเขาไม่ได้ตัดสินใจที่จะได้รับบาดเจ็บ ในเวลานั้นบางทีก็อาจจะจัดการยมฑูตทั้ง 2 ไม่ได้ด้วย อีกอย่างตอนนี้ในเมื่อเขารู้เรื่องพวกนี้แล้ว เขาก็คิดว่าถ้าเขาเผชิญหน้ากับวิญญาณพวกนั้นหรืออะไรแบบนั้นหลังจากที่เขาแตะตัวเอง เขาก็กลัวว่าเขาจะเลือกที่จะลงมือ
ความดึงดูดใจของวิญญาณนี้ยิ่งใหญ่เกินไป
“สตาร์วอร์ส ฉันมีคำถาม ตอนนี้ฉันมีดวงตาแห่งหยินและหยางแล้ว
หลังจากที่ฆ่าคนฉันก็จะต้องเห็นวิญญาณของพวกเขาแน่ๆ งั้นฉันจะสามารถฆ่าวิญญาณของพวกเขาเพื่อที่จะเอาผลึกหยินได้ไหม?”
หนิงเทียนหลินคิดถึงความเป็นไปได้และถามระบบการต่อสู้ออกไป
“ไม่ได้” ระบบการต่อสู้ตอบปฎิเสธออกไปตรงๆ
“วิญญาณมันหาจะได้กันง่ายๆแบบนั้นได้ยังไง? มันต้องใช้พลังของสวรรค์และของโลกที่มากมายมารวมเข้าด้วยกัน วิญญาณประเภทนี้อยู่ในโลกที่มืดครึ้มอย่างมาก มันเป็นที่นี่วิญญาณจะรวมเข้ากับร่าง”
“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏหลังจากกลายเป็นวิญญาณใหม่ๆ!”
“งั้นเรื่องแบบนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หนิงเทียนหลินก็พูดความคิดของตัวเองที่อาจจะกลายเป็นเรื่องจริงได้อย่างเงียบๆ ว่าทุกครั้งที่เขาฆ่าคน เขาจะไม่ได้แค่คะแนนเล็กน้อยแต่จะได้เพิ่มจากเดิมเป็น 7 เท่า
“โอเค ได้เวลากลับแล้ว”
“ภารกิจเกมส์ LOL ยังต้องดำเนินต่อไป”
หนิงเทียนหลินคิดว่าผลจากแดนกักกันน่าจะหายไปหมดแล้วตอนนี้
เขาจึงหันกลับเดินออกมาจากตรอกและเดินตรงไปที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ทันทีที่เขากลับมาถึงโต๊ะด้านหน้า เขาก็ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับไปด้วย 3 กล่อง
หลังจากที่เสียแรงไม่มากทำให้ตอนนี้เขารู้สึกหิวมาก
…
เมืองปักกิ่ง
วิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือ
หรือเรียกสั่นๆว่าเปยหยี เป็นโรงเรียนที่ฝึกดาราภาพยนต์และทีวีและ
เหล่านักร้อง ในช่วง 20-30 ปี มีผู้คนมากมายที่จบออกไปจากที่นี่ ซึ่งต่างก็ได้เป็นดาราภาพยนต์และดาราทีวี,เป็นพรีเซนเตอร์และนักร้องมากมายตัวอย่างเช่น เจ้าเหวย, หวงเสี่ยวหมิง, สูเหยี่ยน และอีกมากมายหรือจะพูดได้ว่าที่นี่เป็นโรงเรียนในฝันสำหรับนักเรียนที่อยากจะเป็นดาราก็ว่าได้
โดยเฉพาะการที่ได้ผ่านเข้ามาเรียนในคณะการแสดงของที่นี่ก็เท่ากับการก้าวเข้าสู่ประตูแห่งดวงดาวแล้ว จากที่นี่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นดารา แต่ก็สามารถกลายเป็นเจ้าของรายการท้องถิ่นหรืออะไรแบบนั้นได้เลย
ทุกปีหนุ่มสาวหน้าตาดีมากมายที่อยากจะเข้ามาในสาขาวิชาการแสดงนี้ต่างก็ต้องอกหักเพราะมีเพียง 1 ใน 1,000 เท่านั้นที่จะเข้ามาได้
“พี่ชาย!”
“ไม่! เร็วเข้า! เร็วหน่อย!”
“พวกมันบ้าไปแล้ว พี่ชาย! วิ่งหนีสิ!”
“ได้โปรดเถอะ ปล่อยพี่ชายฉันไป! ได้โปรดเถอะ!”
วิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือ
สาขาวิชาการแสดง
เด็กใหม่ของปี 2017 ภายในตึกหอพักนักศึกษา
บนเตียงที่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีชมพู มีเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง คิ้วขมวดแน่นและเธอกำลังพูดอยู่ หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและใบหน้าก็เต็มไปด้วยน้ำตา ถึงแม้เธอจะกำลังฝันอยู่แต่ร่างกายของเธอก็สั่นอย่างห้ามไม่ได้ แขนยกขึ้นและโบกไปมาเหมือนกำลังตบอะไรบางอย่าง ปกป้องอะไรบางอย่าง
“หนิงเทียนซิน! ตื่นขึ้น! ตื่นเร็ว!”
ทันใดนั้นแขนอันขาวซีดก็เริ่มที่จะเขย่าร่างของเธอ พยายามที่จะปลุกเธอจากความฝันด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบและเป็นห่วง
“พี่ชาย!”
ทันใดนั้นหนิงเทียนซินก็ลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งที่เตียงหายใจหอบหนักและช่วยไม่ได้นอกจากร้องไห้ เธอไม่ได้คิดว่าในวันแรกที่มาเรียนเธอจะฝันร้ายอีกแล้ว เธอยังเห็นมีดมากมายปักอยู่ที่ร่างของพี่ชายจนหายใจไม่ออกและล้มลงไปจมกองเลือด ความฝันนี้ไม่ได้ฝันแค่บางครั้งบางคราว
แต่ทุกครั้งที่นอนมันทำให้เธอร้องไห้น้ำตาท่วม รู้สึกเจ็บปวดจนต้องร้องไห้ออกมา
ถึงแม้เรื่องนี้มันจะผ่านมามากกว่า 10 วันแล้วก็ตาม แต่ทุกครั้งที่เธอคิดถึงพี่ชายที่รักเธออย่างมาก ที่จากไปแล้วและเธอไม่ได้มองเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำ เธอก็จะรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจเหมือนมีใครมาดึงเอาหัวใจของเธอออกไป
“เป็นอะไร? หนิงเทียนซิน?”
“ฝันร้ายเหรอ?”
ในเวลานี้ที่เตียงของหนิงเทียนซินมีเด็กสาวหน้าตาสวยมายืนอยู่ด้วยและมองมาที่เธอด้วยความเป็นห่วง นอกจากนี้ยังมีเด็กสาวอีก 2 คนที่นอนอยู่อีกเตียงลุกขึ้นมาและมองมาที่หนิงเทียนซินด้วยความสงสัยด้วยสีหน้าง่วงหงาว
มีเพียงคนเดียวที่มองมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยเพราะนี่มันก็ตี
4 แล้วและการฝันร้ายของหนิงเทียนซินก็รบกวนการนอนของเธอ และเธอไม่ชอบถูกรบกวนเวลานอนด้วย
อย่างไรก็ตามเพราะนี่เป็นวันแรกที่โรงเรียน เธอจึงเพียงแค่ขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร
“ใช่”
“ฝันร้าย”
หนิงเทียนซินพยักหน้า ปาดน้ำตาแต่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องความฝัน แต่พูดออกมาอย่างแผ่วเบา “ซูซู ขอบคุณนะ”
“ฉันไม่เป็นไร”
“ขอโทษนะที่รบกวนการนอนของเธอ”
หนิงเทียนซินรู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะในเวลานี้มันก็เลยตี 4 มาแล้วและนี่ทำให้ทุกคนตื่น จึงรู้สึกเสียใจนิดหน่อย
“ไม่เป็นไรเลย”
เด็กสาวที่ยืนอยู่ถัดจากหนิงเทียนซินยิ้ม “เรามาอยู่ที่นี่ด้วยกันก็เพราะโชคชะตา ในอีก 4 ปีข้างหน้าเราจะต้องดูแลกันและกันและกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแน่ๆ”
“เธอใจดีมากที่พูดแบบนั้น”
ซูซูยิ้มและทำท่าว่าเธอไม่เป็นไร ตอนที่เธอเห็นหนิงเทียนซินฝันร้าย เธอก็พูดปลอบใจแล้วกลับไปนั่งตรงหน้าคอมพิวเตอร์ที่เตียงของเธอ เธอนั่งอยู่แบบนั้นทั้งคืนและยังไม่ได้นอนเลย ไม่งั้นเธอคงจะไม่ได้ไปยืนอยู่ข้างเตียงของหนิงเทียนซินแน่ๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น