Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม 79-105

 ICSS บทที่ 79: 79


ทันทีที่พูดออกไป ชูหยิชานก็รู้สึกเขินเล็กน้อยที่จะต้องนวดให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอแต่เธอก็ยังเลิกคิดไม่ได้ อย่างไรซะเมื่อคิดว่าหนิงเทียนหลินไม่ได้ให้หมอนวดนวดก็เพราะต้องมาช่วยเธอ ตอนนี้เขาเหนื่อยมากและช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ค่อยดี


ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ อีกฝ่ายก็อาจจะได้รับบริการอยู่บนเตียงไปแล้ว


“เธอ…จะช่วยนวดให้ฉันเหรอ?”


หนิงเทียนหลินถึงกับตกตะลึงและพูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งสาวสวยอย่างชูหยิชานจะมาเสนอตัวที่จะนวดให้เขา ถ้าเพื่อนผู้ชายคนอื่นรู้เข้าพวกเขาจะต้องอิจฉาจนเป็นบ้าแน่ๆ!


“ทำไมเหรอ? ไม่มั่นใจในตัวฉันเหรอ? ฝีมือฉันก็ไม่ด้อยกว่าหมอนวดคนอื่นเลยนะ ช่วงปิดเทอม 2 เดือนนี้ ฉันศึกษามาอย่างดีว่าจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ยังไง”


ชูหยิชานคิดว่าหนิงเทียนหลินไม่เชื่อในเรื่องฝีมือของเธอจึงรีบพูดออกไปเพื่อยืนยัน


“ฉันไม่ได้ไม่เชื่อเธอ” หนิงเทียนหลินถึงกับต้องหัวเราะออกมาแต่หัวใจกลับเต้นแรงมากแล้วก็รู้สึกสับสน ทีสาวสวยยังกล้าเลยแล้วกับผู้ชายอย่างเขามีอะไรที่จะต้องอาย ในเวลาเดียวกันก็รีบตอบออกมาทันที


“โอเค! ฉันเพิ่งเคยไปโรงอาบน้ำของเธอครั้งแรกและไม่รู้ว่ามีบริการอะไรบ้าง แค่นั่นแหละ อย่างที่เธอเพิ่งบอก

ไอ้บริการนวดแบบราชวงศ์ 588 หยวนนี่มันเป็นยังไงเหรอ? ขอฉันลองหน่อยสิ ว่าพวกราชวงศ์เขารู้สึกกันยังไง อีกอย่างก็อยากจะเห็นฝีมือของเธอด้วยว่ามันจะดีอย่างที่เธอว่าหรือเปล่า”


หลังจากที่พูดจบ หนิงเทียนหลินไม่ได้โกรธแต่รอว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าอย่างไร


“หา! บริการนี่เหรอ?” เมื่อชูหยิชานได้ยินเธอก็ร้องออกมาทันที


“มีอะไรเหรอ? ทำไม? เธอเพิ่งบอกไม่ใช่เหรอว่าที่ร้านมีบริการนี้ด้วย?”


แน่นอนหนิงเทียนหลินรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงกรี๊ดออกมา เขาพยายามที่จะไม่ขำและพูดอย่างจริงจัง


“ใช่ ใช่…แต่…” หน้าของชูหยิชานออกจะบิดเบี้ยวแต่ดวงตากลับเป็นประกายแล้วเธอก็พูดออกมา


“โอเค งั้นนายจะได้เห็นฝีมือฉันกับบริการแบบราชวงศ์นี้”


“จริงเหรอ?” ครั้งนี้กลับเป็นหนิงเทียนหลินเองที่ถูกหลอก เขาไม่ใช่คนโง่ ที่โรงอาบน้ำเขาเดาว่าบริการนวดแบบราชวงศ์ 588 หยวนน่าจะเป็นบริการพิเศษ


แต่ตอนนี้ชูหยิชานกลับยอมตกลง!


“แน่นอน ฉันพูดจริง” ชูหยิชานหัวเราะ


“วันนี้นายช่วยฉันไว้ ฉันทำให้ทุกอย่างแหละ อีกอย่างฉันไม่เคยนวดมหาเศรษฐีด้วย ถ้านายไม่รู้สึกสบายก็อย่ามาโทษกันนะ”

ชูหยิชานมุ่งมั่นมากว่าหนิงเทียนหลินเป็นประเภทที่รวยมากๆ คนที่รวยแบบนั้นต้องเคยผ่านการนวดมามากมายแล้วแน่ๆ ถึงแม้เธอจะมั่นใจในฝีมือการนวดของตัวเองมาก แต่เธอก็คงเทียบชั้นกับพวกหมอนวดเก่งๆไม่ได้หรอก ยังห่างกันเยอะ


ดังนั้นเธอจะลองดูก่อนและถ้าเขารู้สึกไม่สบาย เขาก็จะมาโทษเธอไม่ได้นะ


“ฉันจะโทษเธอได้ยังไงล่ะ” หนิงเทียนหลินยิ้ม เขาก็เขินเหมือนกัน มันจะรู้สึกยังไงนะที่ได้ลองนวดจริงๆ


“ดีแล้ว” ชูหยิชานพยักหน้า


“นายไปอาบน้ำก่อนแล้วใส่กางเกงขาสั้นมาแล้วนอนรอที่เตียงเลย ฉันจะนวดแบบราชวงศ์ให้นาย”


“นวดเลยไม่ได้เหรอ? ทำไมต้องอาบน้ำด้วย? ฉันก็เพิ่งอาบมาจากโรงอาบน้ำไง” หนิงเทียนหลินอยากที่จะนวดตอนนี้เลยและรู้สึกว่าการอาบน้ำเป็นเรื่องเสียเวลา


“นั่นมันตั้งนานแล้ว นายไปสู้มามีแต่เหงื่อแล้วนี่นายจะต้องนวดก็ต้องลงน้ำมัน” ชูหยิชานคิดว่าดีกว่าถ้าจะอาบน้ำจึงแนะนำไปแบบนั้น


“ก็ได้ๆ”


“งั้นก็โอเค”


หนิงเทียนหลินไม่ได้คิดเรื่องนี้และทำได้เพียงทำตามอย่างที่ชูหยิชานบอก แต่เขาไม่ได้พูดเรื่องบ้าๆที่เขาคิดออกไปว่าจะให้เขาอาบคนเดียวหรือเราสองคนมาอาบพร้อมกัน เขามั่นใจมากว่าถ้าเขาพูดออกไปแบบนั้น ชูหยิชานจะต้องไปทันทีแน่ๆ


ถ้าชูหยิชานกระหายเงินจริงๆ เรื่องแบบวันนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น เธอสามารถหาคนรวยๆมาคอยเลี้ยงดูเธอได้เลยแล้วก็ไม่ต้องไปนวดหรือทำงานหนักๆอีกเลย ถึงแม้หนิงเทียนหลินจะไม่เคยนวดแต่เขาก็รู้ว่าการนวดต้องใช้แรงเยอะมาก


ถ้าเขาสนใจชูหยิชานจริงๆเขาก็ควรจะค่อยเป็นค่อยไป และอีกอย่างตอนนี้มันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว!


10 นาทีต่อมา


หนิงเทียนหลินก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ท่อนบนเปลือยเปล่า สวมแค่กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ และเพราะความฟิตของร่างกายได้รับการพัฒนามาอย่างดี กล้ามเนื้อหน้าอกจึงเพิ่มขึ้นมาและเอวก็ตั้งตรง ร่างกายเต็มไปด้วยการระเบิดของพลัง


เพียงแค่มองแวบเดียว หัวใจของชูหยิชานก็เต้นแรง เธอไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายที่สวยงามแบบนี้จะซ่อนอยู่ในท่าทางธรรมดาๆของหนิงเทียนหลิน และความเป็นชายของเขาก็แข็งแกร่งมากๆ


“นอนลงบนเตียงเลย” ชูหยิชานแก้มแดงระเรื่อพร้อมทั้งหันหัวไปทางอื่น ไม่กล้าที่จะมอง อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ


“อื่ม” หนิงเทียนหลินไม่ได้ลังเล ทุกอย่างอยู่ที่นี่แล้ว เขาก็ทำได้แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย เขาก้าวเท้าออกไป ก้าวขึ้นไปบนเตียงที่แสนหนุ่มและก้าวขึ้นไปนอนอย่างที่ชูหยิชานสั่ง

หลังจากนั้นก็ขึ้นไปบนเตียงด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆนิดหน่อยแล้วนั่งคุเข่าลงที่ข้างกายหนิงเทียนหลินพร้อมทั้งถือถาดไว้ในมือด้วย โดยมีขวด 2-3 ขวดอยู่ในถาดด้วยแล้ววางลงบนเตียง


“นี่คือน้ำมันหอมละเหยที่ฉันเพิ่งให้คนเอามาให้ มันช่วยเรื่องความสดชื่นแล้วฉันจะทาให้นาย” แล้วเธอก็เปิดขวด บีบครีมน้ำนมออกมาและนวดวนอยู่ในมือแล้วลูบลงไปที่ร่างของหนิงเทียนหลิน


“สิ้นหวัง!”


หนิงเทียนหลินรู้สึกอ่อนเหลว มือที่แสนนุ่มวางลงมาที่แผ่นหลังของเขาและหลังจากนั้นสักพักเธอก็ทาวนไปจนทั่วแผ่นหลังของเขา ทาอย่างแผ่วเบาเหมือนแค่แตะเฉยๆและน้ำมันก็นุ่มมากๆซึ่งทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจเล็กน้อย


”ฉันอยากให้มันแรงขึ้นอีกหน่อย”


เมื่อมือของชูหยิชานทาบลงบนคอของหนิงเทียนหลิน เขาก็พูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบา หลังจากนั้นหลิงเทียนหลินก็รู้สึกถึงแรงที่พอดีกดเข้าที่คอของเขา ไม่แรงไม่เบาเกินไป แต่รู้สึกสบายกำลังดี


“แล้วการนวดล่ะ?”


“ถ้ายังไม่พอดี ฉันจะเพิ่มแรงให้”


เมื่อชูหยิชานเห็นว่าหนิงเทียนหลินแข็งแร็งมากๆ เธอจึงใช้แรงเยอะและรู้สึกว่าเขาน่าจะทนได้


“ใช่”

“กำลังดีแล้ว” หนิงเทียนหลินแสดงถึงความสบาย


“งั้นฉันจะกดแรงนะ”


ชูหยิชานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตราบใดที่หนิงเทียนหลินพอใจ ในเวลาเดียวกันมือของเธอก็เลื่อนลงไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่สะโพกของหนิงเทียนหลิน ในเวลานี้เธอเหงือออกไปหมดและเสื้อก็เปียกไปหมดจนทำให้ติดอยู่กับร่างกาย


ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้พวกเขาก็จะสวมชุดที่เป็นผ้าบางๆและตอนนี้ชุดชั้นในสีแดงอยู่ที่ข้างในก็เห็นได้ชัดมาก นอกจากนี้มันยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก


มีเทียนหอมตั้งอยู่คู่หนึ่ง เทียนหลินนอนอยู่บนเตียงจึงมองไม่เห็น


“ทีนี้จะให้นวดขาหรือว่าท้องดี?”


ชูหยิชานเก็บมือและหายใจเข้าและถามหนิงเทียนหลินออกไป


“ขาแล้วกัน” หนิงเทียนหลินไม่กล้าที่จะหันตัวกลับเพราะตอนนี้น้องชายเขาตั้งตะหง่าชูชันอย่างมากแต่ถูกกดไว้อย่างดีด้วยเตียงนุ่ม การนอนอยู่บนเตียงแบบนี้ก็โอเคแล้ว ถ้าเขากล้าหันกลับมานอนหงายชูหยิชานจะต้องเห็นน้องชายเขาที่กำลังตั้งตะหง่าแน่ๆ


ICSS บทที่ 80: ฉันทำต่อไม่ได้แล้ว


“ได้”


“งั้นฉันนวดต้นขาก่อนแล้วกัน”


ชูหยิชานตอบและเลื่อนลงไปที่ก้นของหนิงเทียนหลิน โดยเฉพาะเมื่อนิ้วของเธอแตะเข้าที่ต้นขาของหนิงเทียนหลิน เขารู้สึกได้ว่าดูเหมือนมือของอีกฝ่ายจะมีไฟฟ้าสถิตทำให้ทั่งร่างของเขาถึงกับสะดุ้งและหัวใจเขาเต้นรัวมาก


จั๊กจี้อย่างไม่น่าเชื่อ


“พอแล้ว!”


ต่อจากนั้นชูหยิชานกดลงไปที่กล้ามเนื้อต้นขา โดยเฉพาะมือของชูหยิชานที่นวดกลับไปกลับมาที่ด้านในกล้ามเนื้อขาของเขา เขารู้สึกว่าตราบใดที่อีกฝ่ายยังเลื่อนลงไปเรื่อยๆ เขาก็อาจจะเก็บกดน้องชายไว้ไม่อยู่แล้ว

แต่มันห่างไปแค่นิ้วเดียว มันก็เหมือนกับสั่นสะเทือนแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ผ่านจุดนั้น


จนกระทั่งมือของชูหยิชานเลื่อนผ่านเข่าของเขาไปจนเขาต้องกลั้นหายใจอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าจะมีความสุขหรือผิดหวังดี

และมือนี้ก็เลื่อนลงไปที่เท้าและไม่กลับขึ้นมาอีก


“โอเค หลังนวดเสร็จแล้ว ทีนี้ก็ด้านหน้าแล้ว”


หลังจากที่นวดด้านหลังไปแล้ว ชูหยิชานก็บอกหนิงเทียนหลิน พร้อมทั้งบิดไม้บิดมือเล็กน้อย การนวดให้หนิงเทียนหลินที่ร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้มันเหนื่อยจริงๆ


“โอ้”


หนิงเทียนหลินตอบแต่สีหน้ากลับเปลี่ยนไปและเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะหันกลับไปหรือเปล่า เพราะเขามั่นใจ 100% เลยว่าถ้าเขาหันกลับไปไอ้แท่งที่แข็งอยู่ข้างล่างเขาจะต้องจั้งตะหง่าเป็นเสาขึ้นมาแน่ๆและชูหยิชานจะต้องเห็นได้ในทันที แต่เมื่อไม่มีการขยับหันกลับ อีกฝ่ายจึงทำอะไรไม่ได้


“ไม่ต้องสนใจนะ! ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! เธอไม่ต้องสนใจหรอก! ฉันยังใส่เสื้อผ้าอยู่!”


หนิงเทียนหลินหันหัวและตัวกลับมาพร้อมทั้งนอนหงายหน้าขึ้นมา


“อะไรกันเนี่ยยยย!”


แน่นอนว่าชูหยิชานที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆหนิงเทียนหลินร้องกรี๊ดขึ้นมา เธอไม่ได้ตาบอดนะ เธอจะไม่เห็นแท่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเธอนี่ได้ยังไงแล้วหน้าเธอก็แดงด้วยความเขินขึ้นมาทันที และในเวลาเดียวกันปฎิกิริยาแรกก็คือ


“ใหญ่จัง!”


เวลาที่เธอนวดใครก็จะมีผู้ชายบางคนที่มีอาการแข็งตัวขึ้นมา แต่ส่วนใหญ่ก็จะอายุ 40 หรือ 50 แล้ว พวกเขาไม่เหมือนหนิงเทียนหลินเลยสักนิด ซึ่งนี่น่าจะประมาณ 17-18 ซม. ได้เลย หนิงเทียนหลินไม่รู้เลยว่าน้องชายเขาใหญ่ขึ้นมากเพราะคุณลักษณะทางกายภาพที่เพิ่มมากขึ้นพลังการต่อสู้ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

“พระเจ้า!”


ครั้งนี้ที่หนิงเทียนหลินหันกลับมาเขาก็ได้เห็นร่างกายของชูหยิชานในทันที ปฎิกิริยาแรกคือการพยายามกลืนน้ำลายลงคอในทันที!


ในเวลานี้ร่างกายของชูหยิชานเปียกชุ่มไปหมดด้วยเหงื่อและเสื้อผ้าก็แนบติดกับร่างกายไปหมดแล้ว ทั้งคอ, ต้นขา, แขนและเสียงนุ่มไพเราะต่างก็มีเสน่ห์ไปหมดเลย โดยเฉพาะชุดชั้นในสีแดงที่เห็นได้ชัดจากเสื้อยืดสีขาวนั่น ผมยาวสวยที่มัดเป็นห่างม้าไว้ด้านหลัง นี่ยิ่งทำให้หนิงเทียนหลินอยากจะเข้าไปมองใกล้ๆเข้าไปกว่านี้อีก!


โดยเฉพาะในเวลานี้ที่ขาเธองอเพราะนั่งคุกเข่าอยู่และเธอก็นั่งอยู่ข้างๆใกล้ๆหนิงเทียนหลินเลย ดวงตาอันมีเสน่ห์ของเธอจ้องมาที่ร่างกายด้านล่างของหนิงเทียนหลิน ปากเล็กอ้าออกเล็กน้อยด้วยความตกใจเพราะจุดสำคัญของหนิงเทียนหลิน ช่างกระตุ้นใจดีจริงๆ


“นาย…นายทำแบบนี้ได้ยังไง…”ความอายแล้วแต่กลับ


หลังจากนั้นไม่นานชูหยิชานก็พูดออกมาด้วยความตกใจ หน้าเธอดูจะเขินๆพร้อมทั้งมองมาที่หนิงเทียนหลินอย่างอายๆด้วย


“ฉันก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่มันก็เป็นไปเอง”


หนิงเทียนหลินไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง นี่ก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่ได้รับการกระตุ้นร่างกายมันก็จะต้องตอบสนองแบบนี้แหละ โดยเฉพาะเมื่อเป็นชูหยิชานสาวที่สวยขนาดนี้


“ฉัน…ฉันไม่ได้…”

ชูหยิชานเอามือปิดตาพร้อมทั้งหันหลังไปแล้วนอนก้มลงไปกับเตียงและเพราะท่านี้ทำให้หนิงเทียนหลินเห็นร่างกายที่บอบบางของเธอได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะขาอ่อนที่หนิงเทียนหลินเห็นได้อย่างชัดเจน


“พระเจ้า”


หนิงเทียนหลินถึงกับกลืนน้ำลายเข้าไปอีกทีและข้างล่างยิ่งแข็งมากขึ้นไปอีก


“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันเหนื่อยแล้วและมันร้อนมากเลย ฉันจะไปอาบน้ำแล้วนะ”


ชูหยิชานหาข้ออ้างและรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป เธอรู้ดีว่านี่เป็นปฎิกิริยาปกติของหนิงเทียนหลินแต่เขาก็ควรที่จะปิดไว้สิ มันใหญ่ขนาดนั้นเลยนะ! ไม่รู้หรือไงว่ามันทำให้คนอื่นเขากลัว!


“น่าเศร้าจริงๆ นวดแบบราชวงศ์ ทำไม่ได้เหรอ…”


หนิงเทียนหลินจ้องไปที่ไอ้แท่งที่ตั้งอยู่ด้านล่างแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เปราะบางมาก เขากลัวว่าทุกอย่างมันจะจบลงตรงนี้แล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น เวลาแบบนี้เขาก็คงจะได้แสดงพลังไปแล้ว


แต่สำหรับชูหยิชานเขาทำแบบนั้นไม่ได้หรอก


ถึงแม้เขาจะไม่ได้สารภาพรัก แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาหลงรักแบบสุดๆ เขาไม่สามารถลืมความไร้เดียงสา, บริสุทธิ์, มีเสน่ห์ และความตกตะลึงเมื่อครั้งที่เขาได้เจอกับเธอเป็นครั้งแรกในชั้นเรียนเมื่อปีที่แล้วได้เลย

พูดได้เลยว่าเธอคือจุดอ่อนของเขาเลย เขาไม่อยากที่จะทำลายความประทับใจที่เธอเพิ่งจะรู้สึกกับเขา


บางทีครั้งนี้เธออาจจะโกรธจริงๆ เธอไม่ได้พูดอะไรมากแต่เขากลัวว่าความสัมพันธุ์ระหว่างเขากับเธอจะต้องจบลงตรงนี้ เขารู้ดีว่าชูหยิชานไม่ได้เป็นผู้หญิงแบบนั้นที่ชื่นชมความร่ำรวยมากกว่ารักที่บริสุทธิ์ อีกอย่างเธอไม่ได้รู้สึกยากลำบากเลยสักนิด

เมื่อเห็นเธอตอนนั้นเขาอยากที่จะให้วันนี้เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ


“สตาร์วอร์ส นายคิดว่าคะแนนของชูหยิชานเป็นเท่าไรกัน?”

ทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็คิดถึงปัญหานี้แล้วก็รู้สึกตื่นเต้น ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเขาจะถูกบังคับหักไป 100 อันดับแล้วน้องชายเขาจะหายไป 100 ปีหรือเปล่า แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าถ้าคะแนนของชูหยิชานไม่ถึง 80 จริงๆ เขาก็จะยอมจ่ายเพื่อให้เธอได้ “คะแนนที่สูงขึ้น” ไม่ว่ามันจะแพงแค่ไหน ตราบใดที่เขาต้องการเขาก็จะยอม


“ถ้าอยากรู้ก็ต้องแลกด้วยคะแนนวิญญาณสักหน่อยนะ”

คำตอบจากสตาร์วอร์สทำให้หนิงเทียนหลินอยากจะด่าออกมา


“ทำไมต้องใช้คะแนนด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนที่แล้วไม่เห็นต้องใช้เลย? นายก็บอกฉันเองได้นิ!”


ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อ 2-3 ชั่วโมงก่อน เขาก็คงจะยอมแลกด้วยแต่ตอนนี้เขาไม่มีพลังงานเหลืออยู่เลยเพราะเมื่อหัวค่ำเขาเพิ่งจะแลกเป็นเงินหยวนไปหมดแล้ว แต่มันก็แค่ไม่เท่าไร


“ตอนนั้นฉันพอใจที่จะบอก” สตาร์วอร์สตอบ


“งั้นตอนนี้นายก็ต้องพอใจที่จะบอกด้วย!”หนิงเทียนหลินรู้ว่าทำตัวไม่มีเหตุผลกับอีกฝ่าย แต่เขาต้องการที่จะชนะ


“ไม่มีอารมณ์” สตาร์วอร์สปฎิเสธออกมาตรงๆ


“งั้นรอก่อนเถอะ! ฉันจะไปหาพลังงานมาแลกกับนายเอง!” หนิงเทียนหลินอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทุกอย่างต้องใช้คะแนนพลังงาน

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ชูหยิชานก็เดินออกมาจากห้องน้ำแต่เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้ามีเพียงผ้าขนหนูที่ห่อตัวไว้ยาวประมาณเข่า ผมเปียกที่ระอยู่ตรงไหล่และคอขาดั่งหงษ์ขาว ใช่ นี่มันช่าง****เหลือเกิน


“เทียนหลิน ฉันแค่รู้สึกอาย ฉัน…ฉันทำต่อไม่ได้”


ประโยคแรกของชูหยิชานคือการกล่าวขอโทษกับหนิงเทียนหลิน เพราะเธอรู้ดีว่าจะโทษหนิงเทียนหลินไม่ได้เลยเพราะเธอยั่วเขาเองและสัญญาว่าจะนวดแบบราชวงศ์ให้ ซึ่งเธอทำต่อไม่ได้จริงๆ


ICSS บทที่ 81: จริงเหรอ?


“ไม่เป็นไร”


“ฉันมีธุระเหมือนกัน เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอกด้วย”


ในระหว่างที่ชูหยิชานอาบน้ำ ในเวลานั้นหนิงเทียนหลินก็เปลี่ยนชุดและรู้สึกว่ามันคงจะดีกว่าที่จะออกไปตอนนี้ ร่างกายเขากำลังรู้สึกร้อนรุ่มและแบบนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองอาจจะทำอะไรขึ้นมาก็ได้


ในความคิดเขาชูหยิชานแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ เขาไม่อยากที่จะใช้ความรุนแรงกับเธอ แค่อยากให้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ!


อีกอย่างหลังจากเรื่องมากมายวันนี้เขามั่นใจมากว่าเขาต้องได้อยู่ในหัวใจของอีกฝ่ายแน่ๆแค่ยังไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหน เขาจะคุยเรื่องนี้ทีหลัง เรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลา


เขาไม่ใช่คนที่เดินหน้าไม่ได้แต่สำหรับบางคนเขาก็ไม่อยากที่จะเดินจากไปไหนและไม่อยากที่จะปล่อยไปด้วย


“นาย…จะออกไปข้างนอกเหรอ?”


เมื่อชูหยิชานได้ยินแบบนั้นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปและเธอคิดว่าหนิงเทียนหลินโกรธเธอ บรรยากาศแบบนั้นมันก็ไม่ค่อยเหมาะที่จะเดินหนีออกไปเท่าไร ในเมื่อเธอเป็นคนบอกเองว่าจะนวดให้เขา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไงตราบใดที่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ การพูดเล่นตลกกันก็น่าจะสมควรมากกว่า

นี่คือสิ่งที่เธอพูดตอนที่เธอเข้าไปฝึกงาน


แต่ตอนนี้เธอรู้สึกอายจริงๆ ของหนิงเทียนหลินมันใหญ่เกินไป ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็จะต้องข้ามมันไปให้ได้สิ


“ใช่ พอดีเพื่อนฉันเพิ่งโทรมาและฉันจะออกไปหน่อย”


หนิงเทียนหลินโกหก เขาไม่มีเพื่อนในเมืองจินเปยเลย แม้แต่เพื่อนที่โรงเรียนหรือชั้นเดียวกันก็ตาม ไม่มีใครที่เขาจะคุยด้วยได้มากนัก คนที่เขาจะนับเป็นเพื่อนด้วยก็คงจะเป็นเพื่อนร่วมหอแค่นั้นแหละ

ส่วนคนอื่นๆก็แค่ทั่วๆไป


“นาย…ไม่ได้โกรธใช่ไหม? เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”


ชูหยิชานก็ยังไม่อยากจะเชื่อยู่ดี หลังจากเรื่องทุกอย่างนี่มันบังเอิญเกินไปและเขาก็จะออกไปทันทีที่เธอเดินออกมาเลย


“ไม่โกรธเลย” หนิงเทียนหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ได้โกรธอะไรเธอเลย ไม่ต้องกังวลนะ”


หนิงเทียนหลินมองอย่างจริงจังไปที่ชูหยิชานแล้วจึงโบกมือด้วยรอยยิ้ม


“ไปก่อนนะ เจอกันที่โรงเรียน”


เมื่อพูดจบโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ เขาก็หันหลังทันที เปิดประตูและเดินออกไป


“ได้ เจอกันที่โรงเรียน”


สายตาสุดท้ายของหนิงเทียนหลินทำให้ชูหยิชานถึงกับต้องหน้าแดง

เขาไม่ได้โกรธใครและเขาก็ไม่ได้โกรธเธอด้วย มันหมายความแบบนั้นใช่ไหม แต่ในเวลานี้เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่เธอรู้สึกถึงความหอมหวานอยู่ในใจ


“ฮึ? อะไรเนี่ย?”


แต่เมื่อเวลาที่เธอพร้อมกำลังจะเอนตัวลงนอน เธอก็สังเกตว่าที่ข้างหัวเตียงมีบึกเงินสีแดงซึ่งทั้งหมดเป็นแบงค์ 100 หยวน จึงรีบหยิบขึ้นมาแล้วก็เจอว่ามีกระดาษเขียนด้วยหมึกสีดำวางอยู่ด้วย


“หยิชาน ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องใช้เงิน นี่นะเงินหนึ่งล้าน เก็บเอาไว้แล้วถ้ามันไม่พอเธอก็มาบอกได้ แต่ถ้ามันพอแล้วก็เอาไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองด้วยนะ”


“ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนแกร่งและไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับฉัน แต่เงินนี้ฉันไม่ได้ให้เธอเฉยๆ เมื่อเธอเรียนจบแล้วหาเงินได้ มันก็ไม่สายที่เธอจะหามาคืนฉัน”


“อีกอย่าง นี่เบอร์โทรศัพท์ฉันนะ ถ้าพวกที่โรงอาบน้ำหรือชายแก่ที่กลืนกุญแจมาหาเรื่องเธอดึกๆ อย่าเปิดประตูแต่ให้โทรหาฉันและฉันบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้แล้วด้วย คงจะไม่มีปัญหาอะไร”


“เธอเก็บคีย์การ์ดไว้เพราะในอนาคตห้องนี้คือห้องของเธอ เมื่อไรก็ตามที่เธออยากจะกินอาหารดีๆ อาบน้ำหรือว่ายน้ำหรืออื่นๆก็ทำได้เลย แต่ชวนฉันด้วยนะถ้าจะจัดมื้อใหญ่ ฉันยินดีจะเป็นเพื่อนกินข้าวด้วย”


เมื่อได้อ่าน น้ำตาก็เอ่อล้นในตาของชูหยิชานและหลังจากนั้นเธอก็ห้ามตัวเองต่อไปไม่ได้จนต้องร้องได้ออกมา น้ำตาเปียกชุ่ม

เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องร้องไห้แต่เธออยากจะร้องมันออกมาและอยากจะร้องให้กับวันที่มันน่าขับข้องใจที่เธอต้องทรทรมานอย่างที่ผ่านมา

ไม่มีใครรู้ว่าเธอพยายามหาเงินมากแค่ไหน เธอต้องถูกรังแก, ถูกทำร้าย, โดนดูถูก แม้แต่ตอนเรียนมัธยมในระหว่างปิดภาคเรียนเธอต้องไปทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างเพื่อหาค่าเรียน ต้องไปแบกอิฐอยู่ตั้งหลายเดือน!


เรื่องพวกนี้เธอไม่เคยพูดให้ใครฟัง แต่เก็บไว้ในใจมาเป็นเวลานาน

เวลานี้เมื่อมันแตกออกมามันก็เกินจะควบคุมได้ เธอร้องไห้ไม่หยุดจนหลับไปพร้อมน้ำตาที่เปียกหมอนชุ่มไปหมด


“เทียนหลิน ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆ”


เธอไม่เคยคิดที่จะแฟนเพื่อมาช่วยปลอบใจ หรือแม้แต่เพื่อรับฟังเรื่องทุกข์ใจใดๆของเธอ แต่ยังไงไม่รู้เธอยังไม่เจอคนที่เธอชอบและเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองชอบแบบไหนกันแน่แต่ในเวลานี้เธอไม่รู้ตัวเลยว่าประตูสู่หัวใจของเธอได้เปิดออกแล้ว ในใจเธอเหมือนมีแสงสว่างและความอบอุ่นเกิดขึ้นมาแล้ว



ไนท์คลับโกลเด้น


ในเวลาตี 3 เป็นเวลาที่คนแน่นที่สุดของร้าน ชายหญิงกว่าร้อยคนเต้นเพลงของดีเจกันอย่างเมามันอยู่ที่พื้นที่เต้นรำ สาวสวยมากมายที่อยู่บนเวทีต่างก็แต่งตัวด้วยชุดโชว์เนื้อโชว์หนังกันมากมาย ทำให้เลือดสูบฉีดดีจริงๆ

โดยเฉพาะหญิงสาวที่สูงที่สุดทั้ง 3 คนที่อยู่ในชุดหนังตัวสั้นและรองเท้าบูททรงสูง ที่กำลังเต้นอยู่กับเสาพร้อมทั้งใช้ต้นขาหนีบเสาไว้และกระโดดมันช่างดูเซ็กซี่จริงๆ


“นี่เป็นคลับกลางคืนในตำนานเลยนะ”

หนิงเทียนหลินมาถึงที่นี่ได้สามนาทีแล้ว ตอนที่เขาออกมาจากโรงแรมแวนด้าก็ห้าทุ่มแล้ว ในเวลานี้จะกลับไปที่โรงเรียนก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะผู้จัดการหอก็คงจะล็อคประตูไปแล้ว


เมื่อคิดแบบนั้นเขาจึงต้องหาที่อื่นไปแทน


ประเด็นคือตอนนี้หนิงเทียนหลินไม่มีความง่วงเลย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนมา 3 วันแล้วก็ตาม เขายังรู้สึกพลังงานเต็มเปี่ยมอยู่เลย เขาไม่ได้เดินไปไหนไกลเลยแล้วเมื่อเขาเห็นที่นี่ก็ลังเลอยู่สักพักแต่ก็เดินเข้ามา

เขาอยู่มา 19 ปีแล้วแต่ไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อนเลย เต่เขาเคยได้ยินว่ากลางคืนจะมีพวกไนท์คลับเปิดอยู่แต่จะปิดเวลากลางวัน และในนี้จะมีอะไรน่าสนใจมากมายเต็มไปหมด


ที่นี่เขาจะได้เห็นคนมากมายหลายบุคลิกจริงๆ!


หนิงเทียนหลินที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกแต่กลับรู้สึกตื่นเต้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


เขาเพิ่งเข้ามาที่นี่ได้เพียง 3 นาทีแล้วเขาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ในนี้มีแต่เพลงที่ร้อนแรง, หุ่นสุดเซ็กซี่, ผู้ชายและผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความต้องการ, ยา, ปืน, และอื่นๆที่เขายังไม่เคยเห็นแล้ว


ตอนนี้เขานอนเอนอยู่บนโซฟา ในมือถือแก้วไวน์อยู่และมองไปที่ผู้คนที่กำลังเต้นกับอยู่ที่ฟลอร์เต้นรำด้วยความเบื่อหน่ายและคิดว่าถ้าอีก 10 นาทียังไม่มีอะไรน่าสนใจเขาจะออกไปจากที่นี่แล้ว


สถานที่แบบนี้มันเสียงดังจนน่าปวดหูเกินไป เขาชอบอยู่กับความเงียบมากกว่า


“จริงเหรอ? แน่ใจนะว่าอ่านมาถูกอ่ะ?”


พื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ให้คนเข้ามาได้อย่างฟรีๆและข้างในจะเป็นพื้นที่ที่มาเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ ในเวลานี้เด็กหนุ่มที่มีรอยสักรูปหมาป่าสีเทาผลักประตูเปิดเข้ามาและกระซิบที่ข้างหูของชายวัยกลางคน

ทันใดนั้นสีหน้าของชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนไปในทันทีและแสดงถึงความอับอายขึ้นมาทันที


ICSS บทที่ 82 : แล้วยาของนายล่ะ?


 


“แน่ใจครับ ผมเห็นมาชัดเจนเลยครับ! ชายคนนั้นเหมือนกับผู้ชายในโรงอาบน้ำที่เจอเมื่อบ่ายวันนี้เลยครับ” ชายที่มีรอยสักรูปหม่าป่าสีเทายืนยันอย่างชัดเจน


 


“ไปดูให้แน่ใจอีกที”


 


ชายวัยกลางคนที่หน้าซีดนี่ไม่ใช่ใครอื่น คือชายร่างกำยำที่หนิงเทียนหลินทำให้กลัวที่โรงอาบน้ำ หัวหน้าของเขาคือชายหัวโล้นที่ในเวลานี้ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล มีหลายคนที่ต้องเดือดร้อน


เพราะหนิงเทียนหลินแต่สุดท้ายแล้วหนิงเทียนหลินก็ขู่ที่จะฆ่าเขา!


 


ชายคนนี้จำเขาได้แน่ๆ!


 


วันนี้คนของพวกนี้เพิ่งจะกลับมาจากกรมตำรวจและคนที่พวกเขาโยนข้อหาคดีฆาตกรรมไป เป็นเด็กอายุ 15 ปี ตอนนี้เขากำลังคุยกันว่าจะให้เงินชดเชยกับที่บ้านเด็กคนนั้นยังไง


 


“โอเคครับพี่”


 


ชายคนนั้นค่อนข้างจะผอมบางค่อยๆเดินผ่าน


ประตูเล็กๆออกไป วันนี้เขาก็อยู่ที่นั้นด้วยเขาจึงจำหน้าตาของหนิงเทียนหลินได้อย่างดี หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาอีกรอบและพยักหน้าไปทางชายวัยกลางคน


 


“แน่ใจครับ!”


 


“ลูกพี่! ใช่คนนั้นแน่ๆ! ตอนนี้เขากำลังดื่มอยู่ด้วย”


 


น้ำเสียงพูดอย่างรีบร้อนและเร่งรีบ


 


“มันมาทำอะไรที่นี่ว่ะ?”


 


“แค่มาดื่มมั้งครับ?”


 


สีหน้าของฮาดรอนหวาดกลัวและตกใจ สิ่งแรกที่เขาคิดคืออีกฝ่ายรู้ว่าเขาอยู่ที่นี้เลยตั้งใจที่จะมา แต่เมื่อคิดเรื่องความเป็นไปได้นี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะพวกเขาเข้ามาทางหลังร้านและไม่มีใครที่น่าจะรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่


 


อีกอย่างพวกเขาก็ทำตามที่อีกฝ่ายสั่งไว้แล้ว แล้วอีกฝ่ายจะมาเขาที่นี่ด้วยเรื่องอะไร?


 


“น่าจะใช่ครับ เขามานั่งอยู่ที่นี่สักพักแล้ว แค่มาดื่มแล้วก็มองไปที่ฟลอร์เต้นรำ ไม่มีอย่างอื่นเลย ถ้าเขาอยากจะมีเรื่องกับเราจริงๆเขาก็น่าจะมาที่นี่ในตอนเช้าแทน” เด็กหนุ่มลองเดา


 


“งั้นเหรอ”


“ผมคิดว่าแบบนั้น” ชายที่เห็นหนิงเทียนหลินเป็นคนแรกพยักหน้า


 


“ถ้าเป็นแบบนั้น ครั้งนี้ก็อย่าปล่อยมันไป!”


 


เด็กหนุ่มอีกคนพูดด้วยความเกรี้ยวกราด


 


“ใช่ อย่าปล่อยมันไป! พวกเราก็อยู่ที่นี่กันหมด!” สายตาของฮาดรอนเปลี่ยนไปและความคิดของเขาก็แจ่มชัดขึ้นมาทันที


 


“แต่อีกฝ่ายมันแข็งแกร่งมากเลยนะ และพวกเราไม่น่าสู้เขาได้ด้วย…”


 


“ดื่ม…”


 


“ดื่ม…”


ฮาดรอนพูดคำนี้วนไปซ้ำๆแล้วเขาก็มองขึ้นมา มองไปที่ชายรุ่นน้องที่อยู่ถัดจากเขาไปแล้วมองไปข้างหน้า


 


“ไอ้รถตู้ นายยังมียาอยู่หรือเปล่า?”


 


“ไม่มีครับ เฮีย…”


 


“เดี๋ยวนี้ผมเอามาใช้กับผู้หญิงหลายคน ของเลยหมด…”


 


ไอ้รถตู้ตัวเล็กมากสูงเพียงแค่ 160 เซนติเท่านั้นเองและดูจะดื้อรั้นหน่อยๆ แม้แต่เดี๋ยวนี้สาวสวยมากมายก็ชอบที่จะใช้ยา และผู้หญิงที่มาในสถานที่แบบนี้ก็ไม่อายและไม่คิดที่จะฟ้องเขาถ้ามีเรื่องอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นด้วย


 


“โอ้! มึงใช้ยาไปกับเรื่องพรรณนั้นหมดแล้วเหรอ!”


ฮาดรอนตะโกนออกมาด้วยความโกรธจถึงขนาดเตะเขาออกไป แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไอ้รถตู้ก็รีบพูดออกมาทันทีว่า


 


“พี่ยานั่นหมดแล้วแต่มีบางคนที่มียานะครับ


พวกพ่อค้ายาไง”


 


“พวกพ่อค้ายาพวกนี้ยังมียานอนหลับอีกเพียบเลยแต่ในบางครั้งก็ทำให้คนเห็นภาพหลอนด้วย


พี่ก็รู้เรื่องยาพวกนี้ดีนิครับ”


 


“จะอันตรายไหมนะ?” ฮาดรอนขมวดคิ้ว


 


ถ้าใช้ยาพวกนี้อย่างถูกวิธีอีกฝ่ายจะล้มลงและหลับไปเลยและถึงขนาดมีเซ็กด้วยได้เลย แต่บางคนก็ถึงกับเสียสติและถอดเสื้อผ้าออกและแสดงนิสัยประหลาดๆออกมาได้เลยอย่างไรก็ตามเขาก็รู้ด้วยว่าตราบใดที่ยังใช้ยาอยู่ อีกฝ่ายก็จะหลับไปหลายชั่วโมงและมีอาการผันผวนทางจิตใจ


“งั้นก็ดีเลย! วิเศษไปเลย เวลาไม่เคยรอใคร


ถ้าพลาดโอกาสนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้แก้แค้นอีกเมื่อไร!”


 


ฮาดรอนพยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้อีกฝ่ายไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่และมันง่ายมากที่จะจัดการ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นยังไง! ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายทำให้เขากลัวจนสุดหัวใจ


 


“นายรู้ว่าต้องทำยังไงใช่ไหม? จำไว้ด้วย ครั้งนี้ต้องใช้ยาเยอะๆเอาให้ล้มทั้งยืนเลยนะ!”


 


ฮาดรอนพูดกับไอ้รถตู้ เขารู้ดีว่าไอ้รถตู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ดี


 


“ได้ครับลูกพี่ เชื่อใจได้เลย วันนี้มันไม่มีทางที่จะรอดไปได้แน่ๆ”


 


ฮาดรอนเลียปากอย่างหมายมั่น ความคิดเรื่องยานี่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น!



 


“เรียนแขกทุกท่าน ทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ผมอยากจะแจ้งข่าวดีกับทุกคน วันนี้เป็นวันเกิดหัวหน้าของเรา และตอนนี้หัวหน้าของเราอยากที่จะฉลองกับทุกคน คืนนี้เราจะแจกเบียร์


1,000 ขวดสำหรับทุกคนให้ได้ดื่มกันฟรีๆเลย!พนักงานบริการจะเสริฟเบียร์ให้กับทุกคนเพื่อเป็นการขอบคุณที่ให้การสนับสนุนเรามาตลอด!”


 


เมื่อหนิงเทียนหลินนั่งมาเกือบจะสิบนาทีแล้ว เสียงดังของดีเจบนเวทีก็ประกาศก้องไปทั่วทั้งร้านและในเวลาเดียวกัน ทั่วทั้งร้านก็มีเสียงร้องก้องดีใจด้วยความตื่นเต้นเต็มไปหมด


 


เพราะเสียงตะโกนพวกนี้ทำให้หนิงเทียนหลินไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไรมากนัก แต่ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นพนักงานเสริฟหลายคนที่กำลังถือถาดใส่เบียร์ฟรีเพื่อนำมาบริการลูกค้าอยู่ด้วย มีลูกค้ามากมายที่รับเบียร์เหล่านั้นไปดื่มด้วย


 


“คุณค่ะ เชิญรับเบียร์ไปได้เลยค่ะ”


 


หลังจากนั้นสักพัก หนิงเทียนหลินก็หยิบแก้วเบียร์และแก้วน้ำส้มมาวางไว้ตรงหน้า เขาไม่ได้ดื่มเบียร์มากนักแต่ดื่มน้ำส้มมากกว่า เขาชอบรสชาติของน้ำส้มมากกว่าเบียร์มาก


 


“อึก!”


 


“อึก!”


 


เพียงไม่กี่อึกเขาก็ดื่มน้ำส้มจนหมด


 


“โอเค ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าไนท์คลับมันเป็นยังไง”


 


ประมาณสองนาทีต่อมา เขาก็อยากที่จะลุกออกไปจากที่นี่แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้นร่างกายทั้งร่างของเขาก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาพร้อมทั้งล้มลงที่โซฟาข้างๆเขา


 


“เรียบร้อย! ลูกพี่! ยาออกฤทธิ์แล้ว!”


 


ที่ชั้นบนมีคน 2-3 คนที่จับตามองหนิงเทียนหลินด้วยความสนใจเป็นพิเศษและทันทีที่เห็นท่าทางของหนิงเทียนหลินก็รีบวิ่งลงมาชั้นล่างทันทีเพื่อมาเจอกับฮาดรอน


 


“สลบไปแล้วเหรอ?” ฮาดรอนถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า


 


“เกือบแล้วครับ เริ่มจะเซแล้วก็ไม่ได้สติแล้วครับ”


หลายคนกลับเข้ามาด้วยความตื่นเต้น


 


“ดีมาก! งั้นรออีกสักหน่อย!”


“เมื่อมันฟื้นก็ลากมันมาและบอกให้มันรู้ว่าคืนนี้มันจะต้องโดนแก้แค้นแล้ว!”


 


สายตาขอฮาดรอนไร้ซึ่งความปราณีใดๆ วันนี้เขาต้องอธิบายเรื่องที่หัวหน้าทั้งสองถูกหนิงเทียนหลินคนนี้เล่นงาน! มันรุนแรงจนอาจจะพิการได้เลย! อย่างน้อยก็โยนมันให้เป็นอาหารปลาก็แล้วกัน!


 


“ใจเย็นพี่ ทุกคนกำลังรออยู่นะ!”


 


“ไอ้คนนี้มันเจ๋งจริงๆ ผมต้องใส่ยาเท่ากับ 10 คนเลย! ถ้าเป็นคนธรรมดาคงอยู่ได้ไม่เกินครึ่งนาทีหรอก แค่ 10 วินาทีก็ล้มแล้ว! แต่ไอ้คนนี้ต้องใช้เวลาตั้ง 3 นาทีกว่าจะล้ม!”


 


ในเวลานี้ไอ้รถตู้รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก


ถ้ายานี้ใช้ได้ผลกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไป เธอคนนั้นต้องตายแน่!


ICSS บทที่ 83 :ปลาเยอะมากเลย!


 


“ปัง!”


 


ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ดวงตาของหนิงเทียนหลินกลายเป็นสีแดงเลือดไปแล้ว ชั่วขณะหนึ่งที่เขาเคยถูกพวกโจรรัดคอจนตายเพราะต้องการที่จะเห็นความยุติธรรมและที่สุสานของเขาเองเขากลายเป็นซอมบี้เพื่อที่จะฆ่าโจรพวกนั้น และยังตอนที่เขาช่วยชีวิตหลินเจียอี้จากน้ำมือของพวกแก๊งอีกจนทำให้เขาต้องฆ่าปลามากมายอยู่สักพักเลยทีเดียว!


 


ฉากเหตุการณ์ต่างๆเหมือนในหนังฉายขึ้นมาในใจเขา


 


“ปลา!”


 


“ปลาเป็นๆ!”


 


“ปลาเยอะๆเลย!”


 


ทันใดนั้น หนิงเทียนหลินไม่ได้ขยับไปไหนแต่ยืนตรงอยู่กับที่ ตรงหน้าเขาทุกอย่างกลายเป็นปลาไปหมด ทีละตัวแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ปลาตัวใหญ่กำลังแหวกว่ายอยู่บนฟลอร์เต้นรำ! และในมือของเขาเขาไม่รู้ว่าเมื่อไรที่กริซสีฟ้าใสมาปรากฎอยู่ในมือเขา


 


“ปลา! ปลาพวกนี้จำเป็น! ฉันต้องฆ่า! ฉันอยากที่จะอัพเกรด!”


 


ร่างกายของหนิงเทียนหลินระเบิดออกด้วยเสียงอันดังลั่น จากเวทีเขากระโดดตรงไปที่ฟลอร์เต้นรำ โบกกริซที่อยู่ในมือไปมาและทัดใดนั้นก็มีเลือดนอง! หัวของเด็กเสริฟหลุดลงไปกองกับพื้น!


และในไม่ช้าก็มีหัวที่ 2 หัวที่ 3…


 


“อะไรเนี่ย!”


 


“ใครทำอะไรกระเด็นใส่ฉันเนี่ย!”


 


สาวผมแดงที่กำลังเต้นอยู่อย่างเขินอาย อยู่ดีๆก็รู้สึกมีน้ำอะไรกระเด็นมาโดนที่คอ เธอคิดว่ามีใครทำเครื่องดื่มกระเด็นมาโดนเธอ ในเวลาเดียวกันเธอก็แตะไปที่แขนก็เจอคราบอะไรเหนียวๆ


เมื่อมองเข้าไปดีๆจึงเห็นว่าเป็นสีแดงเลือด


 


“อะไรเนี้ย! ดื่มสีแดงด้วย!”


 


หญิงสาวไม่ได้ตอบโต้อะไร เธอคิดว่าอีกฝ่ายทำน้ำมะเขือเทศกระเด็นใส่เธอจึงรีบหันไปมองอย่างเร็วและเตรียมที่จะด่าออกมาแต่ก็ต้องถูกรบกวนจากความรู้สึกเย็นๆที่คอพร้อมเลือดมากมายที่ไหลออกมาจากเธอ คอของเธอเริ่มที่จะโป่งออกมาและเริ่มเกิดรอยแยกเล็กๆขึ้นมา


ในสายตาของเธอมันเต็มไปด้วยความสยอง


“ฆ่า! มีคนกำลังฆ่ากันอยู่!”


 


ในไม่ช้าก็มีบางคนเริ่มจะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นบนฟลอร์เต้นรำและตะโกนออกมา ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ภายในเวลาแค่ 3 วินาที มี 5 คนแล้วที่ล้มลงไปนอนบนกองเลือด แต่กริซในมือของหนิงเทียนหลินก็ยังไม่ยอมหยุด ในสายตาของเขาพวกนี้ไม่ใช่คนแต่เป็นปลามากมาย! ปลาตัวใหญ่!


เขาอยากที่จะฆ่าปลา เขาอยากที่จะเก็บพลังงาน เขาอยากที่จะอัพเกรด!


 


“อะไรเนี่ย!”


 


แล้วก็เกิดเสียงกรีดร้องดังออกมาจากฟลอร์เต้นรำและทุกคนก็รีบวิ่งไปที่ทางออกทันที บางคนเริ่มที่จะวิ่งชนกันโดยไม่สนใจใคร ต่างวิ่งเหยียบกันไปมา บรรยากาศแห่งความหวาดกลัวกระจายตัวไปทั้งฟลอร์เต้นรำ


แม้แต่บนเวทีของดีเจ, บนเสาเต้นรำของสาวๆนักเต้น, และแขกที่นั่งดื่มต่างก็พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและรีบวิ่งออกท่างเวทีด้านหลังไป พวกเขาต่างก็คิดอยู่อย่างเดียวคือต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่!


 


“พี่ใหญ่! ไอ้หมอนั่นมันบ้าไปแล้ว! ผมไม่รู้ว่ามันเห็นภาพหลอนอะไร สารหลอนประสาทคงทำให้เขาอยากจะฆ่า! และตอนนี้มันก็ฆ่าอย่างบ้างคลั่งเลย! น่าจะมีคนถูกมันฆ่าไปเป็นโหลแล้วแน่ๆ!”


 


แน่นอนว่าเขาเห็นว่าหนิงเทียนหลินกำลังฆ่าคน เขารู้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป จึงรีบวิ่งตรงเข้าไปและตะโกนรายงานฮาโดโกะ ด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ!


 


แม้แต่หน้าเขาก็ออกจะซีดด้วยซ้ำไป!


ชีวิตมากมายพวกนั้น! พวกเขาเคยทำอะไรแบบนี้มาตั้งหลายปีแต่กลับไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนเลย!


 


“อะไรนะ!”


 


พวกลูกน้องต่างก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่ง เปิดประตูออกไปและเห็นเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่ฟลอร์เต้นรำและเขาก็สังเกตเห็น เด็กหนุ่มที่กำลังคลุ้มคลั่งที่โบกกริซไปทั่วพร้อมทั้งไล่ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง!


และนี่คนตายไปเป็นสิบแล้วนะ! เป็นสิบๆแล้ว!


 


“มันจบแล้ว…”


 


“มันจบแล้ว…”


 


นี่เป็นเรื่องใหญ่แล้ว! มีคนตายไปเป็นสิบแล้วและไนท์คลับของเขาต้องโดนรัฐบาลสั่งปิดแน่ๆ! พวกนั้นต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ! พวกเขาต้องติดคุกหัวโตไปตลอดชีวิตแน่ๆ


 


“บ้าไปแล้ว! มันบ้าไปแล้วแน่ๆ!”


 


คนกว่าสิบคนไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของหนิงเทียนหลิน พวกเขาเห็นแต่ความหวาดกลัวสะท้อนออกมา! เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่ากริซของหนิงเทียนหลินทั้งคมและรุนแรงมาก ไม่มีคอของใครอยู่ที่เดิมเลย!


 


“พี่ใหญ่ ไป รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ! อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว! ไม่รู้ว่าไอ้หมอนี่จะมาฆ่าเราเมื่อไร ถ้าเรามัวแต่ดูมันอยู่แบบนี้เราต้องตายกันหมดแน่ๆ!”


 


ในเวลานี้ ไอ้รถตู้ตะโกนเสียงดังไปที่หูของฮาดรอน


ในเวลานี้ขาของเขาสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นกลัว ภาพหลอนที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นเพราะฝีมือเขาเอง เขาเอาชีวิตของชายคนนี้มาเล่นแต่ประเด็นสำคัญตอนนี้คือการหนีออกไปจากที่นี่และเอาชีวิตรอดจากเรื่องหายนะนี้!


 


ถ้าอีกฝ่ายฆ่าคนที่อยู่ข้างล่างในไม่ช้าก็คงจะขึ้นมาฆ่าพวกเขาแน่ๆ! ตอนนี้ที่นี่อันตรายมากๆและต้องรีบหนีออกไปทันที!


 


“ใช่แล้ว! จริงด้วย! อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว! ออกไปจากที่ไนท์คลับก่อนเถอะ!”


 


สีหน้าของฮาดรอนมีแต่ความกลัว เขารู้ดัวยว่าอีกฝ่ายกำลังคลั่งและทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเมื่อเด็กหนุ่มคนนี้ได้รับการฝึกมาอย่างดีและมีความแข็งแกร่งที่ดีเยี่ยม เขากล้าที่จะพูดได้เลยว่าพวกนี้ไม่มีใครเป็นศัตรูของอีกฝ่ายเลย!


 


คนมากมายมารวมกันอยู่ที่นี่และต่างก็ถูกฆ่าทีละคนๆ!


 


“ว้าย!”


 


ฝูงชนต่างกรีดร้องและรีบวิ่งไปที่ประตูหลังของไนท์คลับ ทุกครั้งที่พวกเขามาจะต้องเข้าและออกจากทางนี้เสมอ


และการฆ่าข้างล่างก็ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง!


 


“ล็อค! ทำไมประตูล็อคล่ะ!”


 


“เปิดประตู เปิดประตูที!”


 


ในเวลานี้พวกแขกที่อยากจะหนีออกทางประตูหน้าและฮาดรอนที่อยากจะหนีออกทางประตูหลังต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เพราะประตูถูกล็อคจากข้างใน! ไม่ว่าจะพยายามเปิดแค่ไหนก็เปิดไม่ออก!


 


“ชนเลย! ชนประตูไปเลย!”


 


ประตูหน้าเป็นประตูกระจก แขกหลายคนจึงรีบหยิบเก้าอี้กขึ้นมาและทุบเข้าไปที่กระจกโดยตรง พวกเขาแค่อยากที่จะหนีออกไปตอนนี้! แต่เรื่องที่แปลกคือไม่ว่าพวกเขาจะทุบไปมากแค่ไหนประตูก็ไม่ขยับเลย ไม่ว่าจะแรงแค่ไหนประตูก็ไม่แตก!


ไม่ใช่ทุกคนที่แข็งแกร่งไปหมด!


 


พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าประตูที่ไนท์คลับเป็นประตูแบบนิรภัย!


 


แต่สิ่งที่แปลกไปกว่านั้นคือถ้าพวกเขายืนอยู่ข้างนอก พวกเขาก็จะเห็นว่าไนท์คลับในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาด้วยมือใหญ่ ทุกคนที่อยู่ข้างในจะสามารถมองออกมาข้างนอกได้แต่ถ้าอยู่ข้างนอกจะไม่สามารถมองเห็นไนท์คลับได้เลย!


เหมือนว่าไนท์คลับได้หายไปจากโลกนี้ไปเลย!


 


“ทุบเลยๆ! ทำไมมันถึงไม่แตกเนี่ย!”


ลูกน้องหลายคนถึงกับต้องตกตะลึงด้วยความช็อค ประตูนี้ไม่เคยล็อคมาก่อนเลยแต่ตอนนี้มันจะมาถูกล็อคแน่นขนาดนี้ได้ยังไง ลางสังหรณ์ไม่ดีพุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของพวกเขาจนทำให้ขนหัวลุกไปหมดแล้ว แต่ในมือของพวกเขาต่างก็มีมีดและขวานพร้อม จึงเหวี่ยงลงไปที่ประตูเหล็กเข้าอย่างจัง


 


“ปัง!”


 


“ปัง!”


 


แต่เมื่อขวานสัมผัสไปที่ประตูเหล็ก มันกลับเกิดเป็นเสียงอู้อี้ ไม่ว่าจะทุบไปแรงแค่ไหนก็ไม่มีแม้รอยขีดข่วนเกิดขึ้นเลย พวกเขาไม่รู้เลยว่าแผ่นเหล็กของประตูที่ทุบลงไปนั้นมันแข็งแรงอย่างมาก!


ICSS บทที่ 84:การแก้แค้น!


“หน้าต่าง!”


“ใช่ มีหน้าต่างนิ! กระโดดออกจากหน้าต่างกันเถอะ!”


บางคนที่รู้จักไนท์คลับอย่างดีก็จะรู้ว่าจริงๆแล้วมีหน้าต่าง 2-3 บานที่สามารถผ่านออกไปข้างนอกได้ เมื่อเห็นว่าทุบประตูให้แตกไม่ได้ พวกเขาจึงเบนเข็มไปที่หน้าต่างแทน


ที่ประตูหน้าพวกเขาไม่กล้าที่จะเดินผ่านเพราะมันต้องข้ามฟลอร์เต้นรำ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นโลกแห่งความตายไปหมดแล้ว!


“โอ้!”


ทุกคนรีบพุ่งตัวไปที่หน้าต่างอย่างไม่ลังเลและไม่นานเลยก่อนที่มือเขาจะแตะไปที่ตำแหน่งของหน้าต่างแต่น่าแปลกที่ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงแค่กำแพงหนา!


“ไม่นะ!”


“ทำไมไม่มีล่ะ!”


“ฉันจำได้ว่ามันอยู่ตรงนี้นิ!”


สีหน้าของฮาดรอนเปลี่ยนไปทันทีเพราะเขาจำได้อย่างชัดเจนว่ามีหน้าต่างอยู่ตรงนี้ ตราบใดที่พวกเขาเดินไปบาร์เหล็กนี้พวกเขาก็จะสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้! แต่ตอนนี้ทำไมกลับหาไม่เจอล่ะ!


พื้นก็อยู่ตรงนี้ มือจับก็ยังอยู่ตรงนี้ งั้นหน้าต่างก็ต้องอยู่ตรงนี้สิ!


“พี่ฮาดรอน…พี่ฮาดรอน…มีบางอย่างผิดปกติแล้วล่ะ!”


ทุกคนต่างก็รู้สึกเย็นเยือกกันไปหมดและพวกเขาต่างก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ก็พูดไม่ได้ว่ามีอะไรผิดปกติ ดูเหมือนจะมีมือล่องหนที่คอยควบคุมทุกอย่างอยู่!


“พี่ฮาดรอน ขอยืมโทรศัพท์หน่อย…เราออกไปไม่ได้! ผมอยากจะโทรศัพท์หน่อย…แต่ไม่มีสัญญาณเลย!”


ลูกน้องกำลังถือโทรศัพท์ของเขาอยู่แต่มีสีหน้าที่ค่อนข้างจะหวาดกลัวเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าเคยใช้โทรศัพท์ที่นี่มาแล้วกี่ครั้งแต่ทำไมครั้งนี้ถึงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย!


“ของฉันด้วย!”


“ไม่มีสัญญาณสักขีดเลย!”


ต่อมาคนอีกหลายคนก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยเหมือนกันแต่ก็ไม่มีสัญญาณเหมือนกัน! และทันใดนั้นทั่วทั้งร่างของทุกคนก็ต้องขนลุกโดยเฉพาะเมื่อนึกถึงว่าอีกห้องหนึ่งมีแต่กองศพที่นอนกองอยู่เต็มไปหมดด้วย


“กำแพง!”


“ทุบกำแพงเลยแล้วกัน!”


หัวของฮาดรอนรู้สึกชาไปเล็กน้อยแต่ในเวลานี้เขาทำได้แค่ออกคำสั่งออกมาดื้อๆ เขารู้ดีว่าถ้าวิธีนี้ไม่ได้ผลมันก็มีอีกแค่ทางเดียวนั่นคือสู้กับอีกฝ่ายไปเลย จัดการฆ่าหนิงเทียนหลินซะเลย!


แต่ด้วยความโหดร้ายของอีกฝ่ายทำให้เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้!


“อาฟา นายแข็งแรงงั้นช่วยฉันเอาค้อนมาทุบทีสิ! ทุบไปที่กำแพงเลย!”


กำแพงทำจากอิฐและไม่มีเหล็กเลย งั้นมันก็คงไม่ยากที่จะทุบให้พัง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาใช้ค้อนหนักๆทุบและคนพวกนี้ก็แข็งแรงกันทุกคน!


“ดีเลย!”


ในสายตาของทุกคน ผู้ชายที่แข็งแรงกำลังใช้ค้อนทุบไปที่กำแพง


“โอ้!”


ทุกคนต่างก็ต้องปวดหูเพราะเสียงอันดังลั่นนี้ ความแข็งแรงของอาฟาทำให้กำแพงแตกได้จริงๆแต่คนพวกนี้กลับรู้สึกหนาวไปถึงหัวใจเมื่อได้เห็นผลที่ตามมา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องรอยแตกเลย กำแพงไม่มีรอยด้วยซ้ำ!


“มันจบแล้ว…”


ทุกคนต่างก็มองหน้ากับไปมาด้วยสายตาแห่งความตื่นตะหนก



“รีบเลย!”


“โทรศัพท์โทรออกไม่ได้ได้ยังไงเนี่ย!”


ในเวลาเดียวกันทุกคนก็รีบกรูกันเข้ามาที่ล็อบบี้พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในมือแต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือมันไม่มีสัญญาณเลยสักขีด ไม่ต้องพูดถึงการโทรออกเลยแต่ฟังก์ชั่นอื่นก็กลับใช้ไม่ได้ด้วย


บางคนอยากที่จะถ่ายวีดีโอเหตุการณ์ในวันนี้ แต่ฟังก์ชั่นกล้องต่างๆก็ใช้งานไม่ได้ด้วย!


มือถือที่ถืออยู่ในมือแต่กลับไม่ต่างอะไรกับก้อนอิฐเลย!


“มาแล้ว!”


“เขามาทางนี้แล้ว!”


“รีบหนีเร็ว!”


แค่ 3 นาทีต่อมา ฝูงชนที่ยืนอยู่ใกล้ประตูต่างก็มีท่าทีที่แตกต่างออกไปเพราะร่างของปีศาจหนิงเทียนหลินได้มาปรากฎอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว และแทนที่จะค่อยๆเข้ามาเขากลับถือกริซและรีบวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง!

ตอนนี้ที่ฟลอร์เต้นรำมีศพไม่น้อยกว่าร้อยศพนอนกองอยู่นอกจากนี้ที่เวทีและที่ทางเดินก็มีศพกองอยู่ไม่ต่างกัน!


“หนีเร็ว! หนี!”


“เร็วเข้า! สู้มันเลย!”


“มันมีแค่คนเดียวกับกริซหนึ่งอันเอง! จะมีอะไรที่ต้องกลัวล่ะ!”


ในเวลานี้ ไม่มีใครมีเสียงอะไรออกมาเลยต่างก็เงียบสงบกันหมด จึงได้ยินเสียงของใครบางคนก้องออกมา


“ใช่! จะกลัวอะไร! มันมีแค่คนเดียวเอง! เรามีกันตั้งหลายคน!”


“ใช่! จัดการมันเลย!”


“ใช่ ลุยมันด้วยกันเลย!”


มีเพียงแต่พวกผู้ชายที่พูดออกมาแต่พวกผุ้หญิงที่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ต่างก็เงียบไม่พูดอะไร


“ฉับ!”


เพียงแค่หนิงเทียนหลินไม่ได้ให้เวลาพวกเขาได้พิจารณาอะไรกันอีกเลย ร่างทั้งร่างลอยลิ้วเข้ามาในฝูงชนในเวลาเพียงไม่ถึง 5 วินาที พร้อมด้วยมือที่กวัดแกว่ง และ 3 คนก็ต้องล้มลงไปนอนในกองเลือด รวมทั้งคนที่ก่อนหน้านี้อยากที่จะสู้กับหนิงเทียนหลินด้วย


เก้าอี้ในมือยังไม่ทันที่จะร่วงหล่นเลยแต่คอของเขาก็กลับถูกเฉือนเปิดอ้า เลือดไหลพุ่งออกมา!


ความเร็วของหนิงเทียนหลินช่างเร็วเหลือเกินจนคนพวกนี้ไม่ทันที่จะได้

ต่อสู้อะไรเลย!


“ฆ่า”


“ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง”


“นี่เป็นฆ่าเพื่อฉลอง!”


ในใจของหนิงเทียนหลินเต็มไปด้วยความคิดเรื่องปลา ปลาตัวใหญ่ๆเป็นๆ เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่และเขาไม่ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของระบบการต่อสู้ที่ดังก้องอยู่ในใจเขาเลย ในใจของมันทุกคนในโลกนี้คือปีศาจ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดมันไร้ค่าต้องฆ่าทิ้ง!


วันนี้จะเป็นงานฉลองการฆ่าของหนิงเทียนหลิน!


“อะไรกัน ไม่ๆๆๆๆๆ!”


ในไม่ช้าก็มีอีกเสียงกรีดร้องขึ้นมาแต่ไม่ช้าเสียงกรีดร้องก็ต้องกลายเป็นเสียงร้องด้วยความอนาถ และหลังจากนั้น 2 นาทีเสียงกรีดร้องก็หายไปอย่างไม่มีร่องรอย


ทั่วทั้งห้องกลับเงียบขึ้นมาอีกครั้ง


และที่พื้นก็มีศพกว่าร้อยศพนอนกองกันอยู่! มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง พวกเขาส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 18-30 เท่านั้นเอง


“จัดการ!”


“จัดการ!”


“ยังมีปลาเหลืออยู่เลย!”


หนิงเทียนหลินมีภาพอยู่ในหัว ยังเหลือปลาว่ายอยู่ในไนท์คลับอีกตั้ง 20-30 ตัว และพวกมันก็มารวมกันอยู่ตรงนี้แล้วด้วย ดวงตาของเขาเปล่งประกายแล้วเขาก็วิ่งตรงเข้าไปพร้อมด้วยกริซในมือ

“พี่ใหญ่!”


“นี่ ไอ้เด็กนั่นมาแล้ว!”


เมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินเนื้อตัวเปื้อนไปด้วยเลือดที่มาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนยมฑูตจากนรก พวกลูกน้องต่างก็มีสายตาที่หวาดกลัว พวกเขาไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวขนาดนี้มาก่อนเลย ถึงแม้ในมือของพวกเขาจะถือทั้งไม้และมีดแต่ขาของแต่ละคนกลับอ่อนยวบไปหมด!


อีกฝ่ายช่างน่ากลัวอะไรแบบนี้!


“ว้าว!”


หนิงเทียนหลินไม่ให้โอกาสพวกเขาได้โต้ตอบเลย พวกเขาวิ่งหนีไปได้ 7-8 เมตร ในสายตาของพวกเขาต่างก็ได้เห็นคนร่วงลงไปมากมาย

ทันใดนั้นก็มีรายที่ 2 และรายที่ 3


“ฉับ!”


“ฉับ!”


คนพวกนี้ไม่เหมือนแขกที่ล็อบบี้ที่ต่างก็มีมีดอยู่ในมือแต่ต่างก็นิ่งอึ่งกันไปสักพักและก็ล้มลงไปนอนจมกับกองเลือด ฮาดรอนก่อนที่เขาจะตายเขาก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนแบบนี้แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง! เขาแตะผมของอีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ!


ในเวลานี้พวกเขาต่างก็รู้สึกสงสารตัวเองที่จะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ไม่งั้นอีกฝ่ายก็คงจะแค่ดื่มแล้วก็จากไปตามทาง



ICSS บทที่ 85: ภาพหลอน


“ฉันฆ่าคนพวกนี้เหรอ…?”


“ฉันฆ่าคนมากขนาดนี้เลยเหรอ!”


เมื่อหนิงเทียนหลินตื่นขึ้นมา แค่วันเดียวกลับตาลปัตรไปหมดทั้งในฮอลล์, ที่ฟลอร์เต้นรำ, ที่เวที มีคนตายเต็มไปหมด! กองกันอย่างแน่นหนาอยู่ด้วยกัน เขาไม่รู้ว่ามันเยอะแค่ไหน แต่เมื่อดูจากปริมาณเลือดก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ


“380 ศพ!”


“นายฆ่าคนไปทั้งหมด 382 ศพในเวลาแค่ 18 นาที!”


สตาร์วอร์สไม่ได้ตอบคำถามหนิงเทียนหลิน แต่เขาพูดออกมาเหมือนเรื่องตลกและรายงานตัวเลขจำนวนที่แท้จริงออกไปและถึงขนาดพูดว่า


“ยินดีด้วยนะเจ้านาย นายเพิ่งเก็บคะแนนพลังงานได้ 427 คะแนน

นายอยากจะอัพเกรดหรือว่าแลกเป็นของดีล่ะ?”


“ฉันทำ! ฉันทำจริงๆงั้นเหรอ! 382 คนเลยนะ!”


หนิงเทียนหลินรู้สึกเขินเล็กน้อย เขาแทบจะไม่ได้ยินคะแนนพลังงานที่ระบบการต่อสู้บอกเขามาเลยด้วยซ้ำ ความสนใจทั้งหมดของเขาพุ่งไปที่ประโยคที่ระบบการต่อสู้บอกเท่านั้น ฆ่าไปทั้งหมด 382 คน!


“ฉันฆ่าคนไป 382 คน เป็นคนที่ไม่ได้มีความแค้นอะไรกันฉันเลยเนี่ยนะ!”


“แต่…แต่ฉันกำลังฆ่าปลานะ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง!”


หนิงเทียนหลินจำได้อย่างชัดเจนว่าในเวลานั้นตรงหน้าเขามีแต่ปลาเต็มไปหมดและมีแต่พวกปลาตัวใหญ่ๆที่กำลังแหวกว่ายไปมาไม่มีคนเลยสักคนเดียว! ถ้าเขารู้เขาก็คงไม่ทำแบบนี้หรอก! คนพวกนี้ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเขาเลย!


“ไม่มีความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรมหรอก” สตาร์วอร์สพยักหน้า


“แต่ตอนนี้หายเมาแล้วสินะ!”


ปัง!


ในหูของหนิงเทียนหลินได้ยินเสียงระฆังและกลองดังก้อง อยู่ดีๆเขาก็รู้สึกหัวหมุนไปหมดและสายตาก็เริ่มเบลอ


แต่หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็เริ่มที่จะชัดเจน


แต่ในเวลาต่อมาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือศพคนมากมายที่ยังกองอยู่บนฟลอร์เต้นรำ ทั้งๆที่เพลงก็ยังดังอึกทึกไปหมดอยู่เลยและทุกอย่างก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมในตำแหน่งเดิมทุกอย่าง


ตรงหน้าเขามีขวดวางอยู่และที่นั่งของเขาก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เขายังนั่งพิงอยู่ที่ที่นั่งไม่ได้ขยับไปไหน อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าที่สนามด้านหลังเต็มไปด้วยศพซึ่งก็คือพวกคนที่ทำให้เขาเห็นภาพหลอน คนที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ คนที่อยากจะฆ่าเขา


“ภาพหลอน”


“ทุกอย่างมันก็แค่ภาพหลอน!”


หนิงเทียนหลินดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเพราะในแหวนอวกาศของเขา มีดพลังการต่อสู้ของเขาก็ยังเลือดไหลอยู่!


“นายผิดแล้ว”


“ไม่ใช่แค่ภาพลวงตาแต่ยังเป็นเรื่องจริง!” ระบบการต่อสู้พูด


“เครื่องดื่มที่นายเพิ่งดื่มไปมีบางคนใส่ยาลงไปด้วย เลือดที่มีดของนายเป็นเลือดจริง เป็นเลือดของพวกคนที่กลัวนายไง พวกมนุษย์!”


“คนที่ตายเป็นไม่ใช่ภาพลวงตา”


“ถูกวางยางั้นเหรอ?” หนิงเทียนหลินตัวแข็งทื่อและนึกย้อนไปถึงตอนที่ดื่ม

น้ำผลไม้ไปตอนนั้น หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกง่วงขึ้นมาแต่ก็กลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากแล้วคนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาก็กลายเป็นปลาไปหมด!


“เป็นฝีมือของฮาดรอน คนที่นายเจอที่โรงอาบน้ำ! พวกเขาวางยาในน้ำของนาย ยาวิเศษที่ไนท์คลับนี้นำเข้ามาขาย”


สตาร์วอร์สอธิบายถึงเหตุผลตรงๆ “ฉันบอกนายแล้วว่านายต้องรุนแรงและอย่าให้คนอื่นได้มีโอกาสมาแก้แค้นนาย แต่นายก็ไม่ฟัง ถ้าตอนนั้นนายฆ่าไอ้ลูกพี่ไปซะ ตอนนี้นายก็คงจะไม่ได้ดื่มน้ำนี่เข้าไปหรอก!”


“เพราะนายไม่ฆ่างูไปซะ แม้นายก็จะไม่ตายแต่นายจะต้องทรมาน! เพราะงั้นนายจึงต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบวันนี้ไง”


สตาร์วอร์สพูดด้วยน้ำเสียงพอใจและหนิงเทียนหลินรู้สึกว่าสตาร์วอร์สดูเหมือนจะมีความสุขกับการตายครั้งนี้อย่างมาก


“ในเมื่อนายรู้ว่ามันมายาอยู่ แล้วทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ?” หนิงเทียนหลินมั่นใจ 100% ตราบใดที่ระบบการต่อสู้อยากจะช่วย มันสามารถที่จะปลุกเขาในตื่นได้ภายในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยวิธีมากมายหลายพันวิธี


“ทำไมฉันต้องบอกนายด้วยล่ะ?” ระบบการต่อสู้หัวเราะออกมาทันที


“ถ้าฉันบอกนาย ฉันก็ไม่ได้รู้สิว่านายจะจัดการพวกศัตรูอย่างไร! และฉันจะห้ามไม่ให้เจ้านายตัวเองเก็บพลังได้ยังไงล่ะ? จะให้ห้ามเหรอ?”


“ถึงแม้มันจะเป็นภาพลวงตา แต่มันก็ต่างจากภาพลวงตาอื่นๆเพราะเนื้อหาภายในที่เกิดขึ้นจริงๆคือสิ่งที่ฉันเป็นคนควบคุมเอง ถ้าฉันอยากให้ใครรอด คนนั้นก็จะรอด ถ้าฉันอยากให้ใครตาย คนนั้นก็จะต้องตาย!”


“งั้นทุกอย่างที่นายรู้สึกในภาพลวงตาเป็นเรื่องจริงแต่คนบริสุทธิ์และคนที่ไม่เกี่ยวข้องพวกนี้ไม่ได้เป็นอะไรเลยสินะ”


“นายไม่คิดว่ามันแปลกหรอ ไม่ว่านายจะทรงอำนาจมากแค่ไหนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าคนทั้งหมด 382 ในนี้ ถึงแม้มันจะเป็นแค่ภาพลวงตาแต่พวกนี้ก็มีขาที่จะหนีได้ ใช่! แต่ทุกคนต้องมาตายที่นี่วันนี้!”


ระหว่างที่สตาร์วอร์สพูด หนิงเทียนหลินก็เข้าใจในทันทีว่าอะไรเป็นยังไง


“ใช่ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าคนทั้งหมดในเวลาแค่ 10 วินาทีหรือ 1 นาที มันต้องมีใครหนีไปได้แน่ๆ

แต่ในภาพลวงตานี้ทั้งร้านเต็มไปด้วยศพมากมาย โดยเฉพาะที่ประตูที่นอนกันเป็นกอง!”


“ฝีมือนายเหรอ?”


ไม่ว่าหนิงเทียนหลินจะโง่ขนาดนั้น เขาก็รู้ว่าระบบการต่อสู้จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยแน่ๆและปิดช่องทางการหนีของทุกคนทุกทาง! เขายังจำตอนที่คลานออกมาจากหลุมศพวันนั้นได้ดีและเป็นเพราะระบบการต่อสู้ที่ช่วยเขาให้ออกมากหลุมศพ


“ใช่ ฉันเอง”


สตาร์วอร์สไม่ได้ปิดบังเลยแต่กลับพูดออกมาอย่างกล้าหาญ


“ฉันแค่ใช้ภาพหลอนของนายมาทำให้พวกเขาเห็นภาพหลอนไปด้วยแค่นั้นเอง เป้าหมายในการทำแบบนี้ก็แค่เพื่ออยากจะเห็นว่านายจะทำยังไงหลังจากที่นายฆ่าผู้บริสุทธิ์พวกนี้ที่อยู่ตรงหน้านาย! และสิ่งที่ฉันคิดไว้ก็ไม่แย่เท่าไร นายยังมีความรู้สึกสงสารและความรู้สึกผิดอยู่ และนายก็รู้สึกผิดกับการตายของพวกเขา”


คำพูดของสตาร์วอร์สทำให้หนิงเทียนหลินสับสน ในความคิดของเขาระบบการต่อสู้นี้ช่างเลือดเย็นและไร้ความปราณีแต่ส่วนที่ใหญ่ที่สุด ก็ยังมีความรู้สึกต่อการตายของคนพวกนี้และไม่มีใครที่จะละเลยพวกเขาได้อย่างจริง


“ในตอนท้ายของราชวงศ์หมิง จักรพรรดิ์ถูกสังหารที่ภูเขาถ่านหิน แต่สิ่งที่เขาพูดในประโยคสุดท้ายคือ


“ฉันมีประชาชนที่มีความคิดลบและบรรพบุรุษที่มีความคิดเชิงลบ””


“มันมีตัวอย่างของเรื่องนี้มากมายและฉันไม่อยากที่จะบอกนายทุกเรื่อง ไม่มีใครเลือดเย็นได้อย่างแท้จริงหรอกและฉันไม่อยากที่จะปลูกฝังให้นายกลายเป็นเครื่องจักรในการฆ่าในอนาคต”


“มันก็แค่การฆ่า ในอนาคตนายจะต้องสูญเสียตัวตนให้กับจักรวาลโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคือใคร ฉันทำเรื่องนี้ในวันนี้เพื่อที่จะให้นายรู้ว่านายเป็นใครและในอนาคตนายควรจะต้องห่วงเรื่องอะไรยังไงล่ะ?”



ICSS บทที่ 86: 427 คะแนน


ประโยคสุดท้ายของสตาร์วอร์สพูดออกมาด้วยอาการเมา โดยมีเสียงระฆังและเสียงกลองดังก้องอยู่ในหูของหนิงเทียนหลิน


“ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงครอบครัวที่สุด พ่อแม่ น้องสาว พวกเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของนายแต่ฉันหวังว่าสักวันนายจะเป็นที่นับถือของทั่วทั้งจีนและโลกทั้งโลกจะเป็นสิ่งที่นายห่วง”


“ครั้งนี้ฉันไม่ปล่อยให้นายฆ่าผู้บริสุทธิ์เพราะสุดท้ายแล้วนายจะจากโลกนี้ไปและไปสู่จักรวาลที่กว้างไกลไปจากประเทศจีนแห่งนี้ โลกแห่งนี้เป็นรากฐานของจักวาล บ้านเกิดของนายก็อยู่ในจักวาลด้วย!”


“ถ้าไม่มีพวกเขานายบ้านของนายคือจักวาล รากฐานก็เปล่าประโยชน์

นายพร้อมที่จะเป็นคนที่ไร้รากฐานไหมล่ะ?”


“ถ้านายสูญเสียตัวตนไปเพราะการฆ่า ด้วยความแข็งแกร่งของนายแบบนี้โลกทั้งโลกจะต้องถูกนายทำลายแน่ๆ สักวันนายจะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไล่ล่าและร่องลอยอยู่ในจักรวาล บ้านนาย บ้านเกิดของนาย แล้วคนของนายล่ะ?”


“ในอนาคตรูปแบบและวิสัยทัศน์ของนายจะเป็นจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาว คนในครอบครัวจะต้องถูกลงโทษถ้าทำอะไรผิดพลาด คนที่ไม่ทำผิดพลาดจะอยู่อย่างสันติและมั่นคง โดยเฉพาะคนของจีนต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกันหมด”


“ฉันอยากจะฝึกให้นายเป็นคนมีเมตตา,ชอบธรรม,รับผิดชอบ,เลือดร้อนและสู้ด้วยความโหดร้าย! ความเลือดเย็นหรือเลือดร้อนไม่ใช่แค่เรื่องการฆ่า”


“มีคนมากมายที่ฆ่าโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งมันจะเป็นการทำลายธรรมชาติอย่างแท้จริง!”


“ประเด็นคือฉันเชื่อว่าในวันที่โลกต้องเจอกับหายนะนายจะลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อโลกและสู้เพื่อบ้านเกิดของตัวเองได้! แทนที่จะเลือดเย็นไม่สนใจ

แต่เปลี่ยนเป็นลุกขึ้นมาสู้เคียงข้างแทน!”


คำพูดของระบบการต่อสู้ทให้หนิงเทียนหลินถึงกับเงียบและแม้แต่ประโยคสุดท้ายก็ทำให้เขาประหลาดใจไปด้วย เขาจึงถามออกไป


“นายหมายถึงว่าในอนาคตจะต้องมีความยากลำบากครั้งใหญ่งั้นเหรอ?”


แต่เขารู้ดีว่าระบบการต่อสู้ไม่มีวันที่จะบอกอะไรแน่ๆ เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกัน


“มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่นายจะต้องมากังวลตอนนี้”


“ตอนนีนายพัฒนาพลังการต่อสู้ไปมากและเป็นคนที่จะไม่ขายวิญญาณให้กับการฆ่า! ถ้าไม่เป็นแบบนี้เมื่อโลกถึงคราวหายนะ นายจะเสียตัวตนไปกับการฆ่าอย่างหน้ามืดตามัวและทำลายโลกซะเอง!”


ในเวลานี้ระบบการต่อสู้แสดงถึงความอวดดีในน้ำเสียง


“แต่ฉันไม่ใช่เวอร์จิ้นของนาย ถึงแม้คนพวกนี้จะเป็นคนในบ้านเกิดของนายของจักรวาลในอนาคต แต่พวกเขาก็รังแกนาย ถ้านายทนได้งั้นนายก็จะสุดยอดมากเลย เมื่อมันถึงเวลาที่ต้องจัดการ นายก็ต้องจัดการ”


“เข้าใจแล้ว”


หนิงเทียนหลินพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณ” ไปพร้อมๆกันในเวลานี้เขาได้คำตอบอย่างที่ใจต้องการแล้ว กลายเป็นว่าระบบการต่อสู้นี้ไม่ได้รู้จักแค่เพียงการฆ่า แต่ก็ยังเป็นมิตรที่ดีด้วย


หนิงเทียนหลินไม่อยากที่จะเป็นเพียงเครื่องจักรสังหารแน่นอน!


“ได้” ระบบการต่อสู้พยักหน้าด้วยเหมือนกัน


มันรู้ดีว่ามีความรักที่ยิ่งใหญ่และคำพูดมากมายแต่มันได้ข้ามผ่านกาแล็คซี่และดาวเคราะห์มามากมาย ได้เห็นคนมาก็เยอะแยะ ได้ฟังคำต่างๆมามากมายนับไม่ถ้วนและรู้ดีว่า


“เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อประชาชน เพื่อคนที่รักและเป็นห่วง การใช้ชีวิตเพื่อคนที่รัก”


คือสิ่งที่เป็นอมตะผู้ที่ทรงอำนาจในจักรวาลต่างก็ทำแบบเดียวกัน!


คนจำนวนมากหมดหวังที่จะปกป้องครอบครัว,ตระกูลและแม้แต่บ้านเกิดของตัวเอง


พวกเขาสิ้นหวัง เมื่อพวกเขาได้ไปยืนอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของจักรวาล พวกเขาไม่มีแม้กระทั่งเผ่า, ครอบครัว หรือแม้แต่บ้านเกิดด้วยซ้ำ ช่างเป็นความโดดเดี่ยวเสียจริงๆ


สิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าความโดดเดี่ยวนี้เกิดขึ้นเพราะตัวพวกเขาเอง มันก็จะถูกทำลายและเสียตัวตนไปกับการฆ่าและความคิดของพวกเขาจะลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่มีทางที่จะเพิ่มพลังในการต่อสู้ได้เลย


“ใช่”

หนิงเทียนหลินไม่อยากที่จะกลายเป็นคนประเภทนั้น ในเรื่องแบบนี้มันดีกว่าที่หัวใจจะยังมีความรู้สึกอยู่ พร้อมกันนั้นเขาก็คิดถึงเรื่องที่ระบบการต่อสู้เพิ่งจะพูดไป


“ฉันเพิ่งจำได้ว่านายบอกว่าคะแนนวิญญาณของฉันขึ้นไปสูงกว่า 400 คะแนนเลยเหรอ?”


หนิงเทียนหลินได้ยินไม่ชัดได้ยังไง แต่ตอนนี้สมองของเขาชัดเจนแล้ว


“427 คะแนน!”


“ตอนนี้นายมีคะแนนพลังงานเยอะเลย นายอยากจะอัพเกรดหรือแลกของจากประตูแห่งการแลกเปลี่ยนไหมล่ะ?” ในที่สุดระบบการต่อสู้ก็ถามออกมา


“427 คะแนนงั้นเหรอ?”


“มันเป็นไปได้ยังไงกัน! ฉันไม่ได้ฆ่าคนบริสุทธิ์พวกนั้นนะ แล้วคะแนนจะเยอะแบบนั้นได้ยังไง!” หนิงเทียนหลินถามออกมาด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ


“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้!” ระบบการต่อสู้พูดออกมา


“ฉันเพิ่งบอกไปไงว่าภาพหลอนก็คือภาพหลอน แต่ภาพหลอนที่ฉันสร้างขึ้นมาคือเรื่องจริงในภาพหลอน มันคือภาพหลอนในความจริงและทั้งสองก็ผสมเข้าด้วยกัน”


“ถึงแม้ในความเป็นจริงพวกเขาจะไม่ได้ถูกฆ่า แต่เรื่องพวกนี้ก็เกิดขึ้นจริงในภาพหลอน จะคนบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ก็ถูกนับเป็นคะแนนหมดแหละ”


“งั้นมันก็ไม่ถูกต้องสิ” หนิงเทียนหลินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย หลังจากทุกอย่างนี่เป็นเรื่องดีที่ได้เพิ่มพลังของตัวเอง และภาพหลอนก็คือภาพหลอน

แต่เขาก็ยังมีข้อสงสัย “แต่ฉันจำได้ว่านายบอกว่าแค่ตอนนี้ที่ฉันเห็นภาพหลอน คนทั้งหมด 382 คนต้องถูกฆ่าแต่ทำไมถึงเป็นคะแนนพลังงาน 427 คะแนน ไม่ใช่ว่าหนึ่งคน หนึ่งคะแนนเหรอ?”


“หนึ่งคนหนึ่งคะแนนแต่นั่นก็เป็นแค่ค่าเฉลี่ย ผู้คนต่างก็มีความแข็งแกร่ง, ความอ่อนแอและวิญญาณที่แตกต่างกันไป คนส่วนใหญ่ที่ถูกฆ่ายังเป็นวัยรุ่นและพลังของพวกเขาก็แข็งแกร่งมาก คะแนนมันก็เลยเยอะกว่าค่าเฉลี่ย”


“และถ้าในอนาคตนายฆ่าคนที่ทรงพลังมากๆ คะแนนพลังงานที่นายจะได้บางทีก็ถึง 12 คะแนนเลยนะ!” สตาร์วอร์สอธิบาย


“โอ้” หนิงเทียนหลินพยักหน้า ใช่แล้ว ร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน แล้วคะแนนสำคัญจะเท่ากันได้ยังไง


“งั้นบอกฉันมาเลยว่านายจะใช้คะแนนพลังงาน 427 นี้ยังไง? จะอัพเกรดหรือแลกของดี?” ระบบการต่อสู้ถาม


“ใช้คะแนน 300 คะแนนเพื่ออัพเกรดและส่วนที่เหลือเก็บเอาไว้ก่อน!”


หนิงเทียนหลินแบ่งคะแนนออกโดยไม่ลังเล ตอนนี้เขาอยากที่จะได้ขวานโบราณจริงๆ แต่เขาก็จำได้อย่างชัดเจนด้วยว่าขวานโบราณนี้ไม่ต้องใช้คะแนนแลก แต่ต้องใช้ระดับแทน


ในเวลานี้อุปกรณ์ในระดับกลาง-สูง ขวานโบราณสไปค์ ต้องใช้ระดับที่ 15

หนิงเทียนหลินต้องไต่ระดับก่อน ยังมีคะแนนพลังงานไม่พอแต่คะแนนในการอัพเกรดไม่สูงเท่าไร!


“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ได้อัพเกรด ตอนนี้อยู่ในระดับที่ 11 แล้ว”


“ติ่ง ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ได้อัพเกรด ตอนนี้อยู่ในระดับที่ 12 แล้ว”


การอัพเกรด 2 ครั้งทำให้หนิงเทียนหลินขึ้นไปอยู่ในระดับที่ 12 และนี่คือสิ่งที่เขาคาดไว้แล้ว ตอนนั้นเขาฆ่าปลาไปได้มากกว่า 200,000 ตัวในเวลาแค่ 3 วันและเก็บคะแนนพลังงานได้กว่า 200 คะแนนซึ่งทำให้เขาขึ้นจากระดับ 6 มาที่ระดับ 10 ข้ามมา 4 ระดับเลย


ก็ไม่แย่เท่าไรที่คะแนนสำคัญนี้ทำให้เขาได้เลื่อนขึ้นมาอีก 2 ระดับ

ส่วนที่เหลืออีกกว่า 100 คะแนนเขาจะเก็บไว้ใช้ทีหลัง


และคะแนนสำคัญนี้มันก็ยากที่จะพูด ถ้าเขาฆ่าปลา 3 วันอย่างต่อเนื่อง

เขาจะเก็บคะแนนได้กว่า 200 คะแนน ถ้าอยากจะเก็บให้ได้ 1,000 คะแนน ก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือน ต้องใช้เวลาและความพยายามที่จะอัพเกรดอย่างหนักมาก!



ICSS บทที่ 87: อยากจะกิน!


“โอเค ไปกันเถอะ”


“ศพของฮาดรานอยู่ที่สนามข้างหลัง นายช่วยจัดการทีนะ”


หนิงเทียนหลินไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่ต่อแล้ว กองศพพวกนี้ทำให้เขาอยากจะอ้วกและตอนนี้มันก็ตี 3 แล้วและใกล้ที่จะตี 5 แล้ว เขาต้องรีบไปโรงเรียนแล้วตอนนี้


“ว่าไง?”


ในเวลานี้อยู่ดีๆหนิงเทียนหลินก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวภายในหูของเขา หลังจากนั้นสักพักเจ้าร้อยขาก็ค่อยๆคลานออกมาจากหูเขา


“นายตื่นแล้ว”


หนิงเทียนหลินถือมันไว้ด้วยมืออีกข้างและมองไปที่เจ้าตัวที่มีขนาดประมาณนิ้วก้อย ตอนแรกมันก็ดูตลกดี หลังจากที่ดื่มเลือดเขาไปเมื่อครั้งที่แล้วมันก็หลับไปตั้ง 3 วัน และนี่ก็ถึงเวลาที่มันจะคลานออกมาแล้ว


“นาย…อยากจะกินศพพวกนั้นไหม?”


หลังจากนั้นจิตใจของหนิงเทียนหลินก็ส่งเสียงครวญครางถึงความคิดนี้โดยไม่มีเสียงใดๆเปล่งออกมาแต่เขากลับรู้สึกอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายอยากจะทำอะไร ไอ้ตัวเล็กขนาดเท่านิ้วก้อยกินศพพวกนั้น!


“อืม” มีอีกความคิดเข้ามาอีกแล้ว


“โอเคๆ!”


โดยไม่รอหนิงเทียนหลินตอบรับใดๆ เจ้าตัวเล็กนี่ก็รีบกระโดดลงจากมือของหนิงเทียนหลิน รอยอยู่ในอากาศสักพักแล้วรีบตรงไปที่สนามด้านหลัง และในใจของหนิงเทียนหลินก็เกิดภาพขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ


ถึงแม้จะมีกำแพงกั้นอยู่แต่ภาพในใจเขาก็จัดเชนเหมือนกับได้เห็นด้วยตาตัวเองเลยไม่มีผิด!


“เร็วมากเลย!”


หนิงเทียนหลินตกใจมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าไอ้ตัวเชื่องช้าแบบนี้จะทำอะไรได้เร็วขนาดนี้ มันแค่ตรงเข้าไปที่หูของศพแล้วมุดเข้าไปข้างใน


“ว้าว! ว้าว!”


ในสายตาที่ตกตะลึงของหนิงเทียนหลิน ศพถูกดูดเข้าไปด้วยความเร็วที่มองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่เห็นและหลังจากนั้นไม่นานก็เหลือแค่ผิวหนัง แต่ไม่นานหนักชั้นผิวหนังพวกนั้นก็หายไปไม่เหลือร่องรอย


“มันยังไม่มีฟันไม่ใช่เหรอ? แล้วมัน…”


หนิงเทียนหลินรู้ดี แต่อย่างไรก็ตามไอ้ตัวเล็กนั่นก็เพิ่งเกิดและยังไม่มีฟันด้วย! งั้นมันจะกินทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อของศพเข้าไปได้ยังไงกัน!


“ถึงมันจะยังไม่มีฟันแต่น้ำย่อยในปากของมันก็มีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงกระดูกเลยแม้แต่หินมันก็กินได้ในทันทีเลยและยิ่งมันโตขึ้นมากเท่าไร น้ำย่อยพวกนี้ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นๆตามไปด้วย”

“มันก็เหมือนกรดในกระเพาะของพวกเด็กเล็กๆนั่นแหละ ไม่ต้องแปลกใจไปหรอก””


ระบบการต่อสู้ก็ออกมาอธิบายเหตุผลในเรื่องนี้


“ว้าว!”


หลังจากนั้นไม่นานก็มีศพที่ 2 และที่ 3 ตามมา ทำให้หนิงเทียนหลินต้องมองด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาทีแต่ไอ้ตัวร้อยขานี้กินศพไปมากกว่าโหลแล้วแต่ก็ยังเหลืออีก 1


นอกจากนี้ขนาดตัวของมันก็เปลี่ยนจากเดิมที่ตัวเท่านิ้ก้อยเป็นยาวกว่า 56 ซม. แล้ว และแทนที่จะเป็นตัวสีขาวนมเหมือนตอนแรกก็กลายเป็นตัวสีน้ำตาลไปแล้วในตอนนี้


แม้แต่ฟันก็เริ่มงองออกมา งอกเลยออกมาจนเห็นจากปากได้อย่างชัดเจน

ขาที่ตัวก็เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยจากเดิมที่มีแค่ 2 ขาตอนนี้ก้เพิ่มมาอีก 2 ขาจนตอนนี้มีทั้งหมด 4 ขาแล้ว


“มันจะกินหมดเหรอ?”


หนิงเทียนหลินไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายถึงมันแล้ว เขาไม่เคยคิดว่าไอ้ตัวนี้จะกินศพได้มากมายขนาดนี้! นี่ถ้าให้เสือกิน มันก็คงไม่กินได้เร็วขนาดนี้หรอก!


“หมดเหรอ?” สตาร์วอร์สหัวเราะ “สักวันหนึ่งที่มันจะได้ข้ามจักรวาล ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์เป็นร้อยๆเลย นั่นยังน้อยไป ทั่งกาแล็กซี่มันก็กินได้หมด!

แล้วจะไม่หมดได้ยังไง?”


“พื้นที่ในท้องของมันมีไม่จำกัดหรอก!”


“ไอ้ตัวร้อยขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่หายากในจักรวาล อย่ามองมันด้วยมุมมองแบบโลกของนายเอง”


“และในฐานะเจ้านายในจักรวาลแห่งนี้ยังมีสิ่งมีชีวิจอีกหลายประเภทที่กินได้เยอะแบบมัน แค่มันตวัดลิ้นก็กลืนโลกนายได้ทั้งใบแล้ว”


เมื่อได้ยินแบบนี้ หนิงเทียนหลินก็ไม่อยากที่จะพูดอะไรต่ออีกแล้ว เรื่องพวกนี้มันไกลกว่าตัวเขามาก ตอนนี้เขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วหรืออย่างช้างที่เขาเห็นในสวนสัตว์ตอนที่เขายังเด็กๆ


แต่เขาไม่เคยเห็นวาฬที่ยาวเป็นสิบๆเมตร นี่ไม่ต้องพูดถึงไอ้ตัวพันขา สิ่งมีชีวิตในจักรวาลหลายดาวเคราะห์แบบนี้เลย


“งั้นตอนนี้มันมีพลังในการต่อสู้เท่าไรแล้ว?”


หนิงเทียนหลินมีความคาดหวังเล็กน้อยแต่เขาจำได้ในตอนนั้นว่าระบบการต่อสู้เคยบอกว่าพลังในการต่อสู้ของไอ้ตัวนี้จะสามารถแลกเปลี่ยนกับร่างกายของเขาได้สักวิธี พลังในการต่อสู้ของมันจริงๆแล้วก็คือพลังในการต่อสู้ของเขาด้วย!


ยิ่งมันทรงพลังมากเท่าไร มันก็ยิ่งช่วยเขาได้มากเท่านั้น!


“40 คะแนน” สตาร์วอร์สตอบกลับมาพร้อมทั้งอธิบายไปด้วยในคราวเดียวกัน “พลังในการต่อสู้ของมันก็จะเท่ากับจำนวน ‘ขา’ ของมันด้วย 1

‘ขา’ จะเท่ากับพลังในการต่อสู้ 10 คะแนน”


“จาก 2 ตอนนี้ก็กลายเป็น 4 แล้ว ก็เท่ากับ 40 คะแนน”


“40 คะแนน!” หัวใจหนิงเทียนหลินกระโดดขึ้นมาทันที เขาคิดว่ามันน่าจะเป็น 5 หรือ 6 และเมื่อถึง 10 คะแนนมันก็คงจะตายแต่ไม่มีทางแตะไปถึงที่ 40 แน่ๆ! เขาเพิ่งจะขึ้นมาในระดับที่ 10 ภายในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเอง นี่ยังไม่นับรวมเรื่องอุปกรณ์นะ แค่พลังในการต่อสู้ทางกายภาพอย่างเดียวก็ 40 แล้ว


เจ้าตัวเล็กนี่เทียบกับร่างกายของเขาได้เลยนะเนี่ย!


อย่างไรก็ตามเรื่องที่น่าตกใจที่สุดก็คือคะแนน 40 ของพลังในการต่อสู้นี้เทียบได้กับร่างกายของเขาเองด้วยและเพื่อการใช้งานของเขาเอง ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับพลังในการต่อสู้ของเขาเอง ถ้านับรวมอุปกรณ์ด้วยแล้ว มันก็เกือบจะร้อยคะแนนเลยใช่ไหม?


“ฉันจำที่นายพูดได้ว่าฉันใช้พลังในการต่อสู้ของมันได้ ฉันจะทำได้ยังไง?”

หนิงเทียนหลินอยากจะลองตอนนี้เลย เหตุการณ์แบบไหนที่จะทำให้เขาแบ่งพลังในการต่อสู้กับเจ้าตัวเล็กนี่ได้ล่ะ?


“แน่นอน”


“พลังในการต่อสู้ของมันเปลี่ยนให้เป็นพลังในการต่อสู้ของนายได้”


สตาร์วอร์สพยักหน้าและอธิบายต่อ “นายแค่ต้องควบคุมตัวอ่อนไอ้ร้อยขานี้ให้เข้ากับร่างกายของนายด้วยจิตใจของนายเอง พลังงานทั้งตัวของมันจะสะท้อนไปที่แขนขาของนายและพลังในการต่อสู้ของนายก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย”


“และพลังในการต่อสู้นี้ก็จะช่วยเพิ่มคุณลักษณะทางกายภาพของนายด้วย ทั้งทางกายภาพ, ความแข็งแกร่ง, ความว่องไวและวิญญาณด้วย และมันเทียบไม่ได้กับระดับของอุปกรณ์ด้วย”


“ตัวอย่างเช่น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นายจะใช้อุปกรณ์ทางกายภาพของระดับที่ต่ำกว่าในคุณลักษณะทางกายภาพที่ระดับที่ 12 ได้ แต่ถ้ายังฝืนใช้พลังในระดับนั้นร่างกายของนายจะต้องระเบิด!”


“แต่ตราบใดที่นายผสานเข้ากับแมนซุลุ คุณลักษณะทางกายภาพของนายก็สามารถไปแตะที่ระดับ 15 ได้เลยในครั้งเดียว ในเวลานี้นายก็สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายของชาวจีนได้เลย!”


หนิงเทียนหลินตัวแข็งทื่อตามด้วยความรู้สึกมีความสุขมาก นี่ไม่ใช่เหตุผลสำหรับการใช้อุปกรณ์ในเกมเพื่อลดระดับเหรอ! อุปกรณ์ที่ปกติแล้วต้องขึ้นระดับ 50 ถึงจะใช้ได้ แต่ตราบใดที่ผสานเข้ากับหวานซุ มันก็สามารถใช้ได้ในระดับที่ 45 แล้ว!


แบบนี้ไม่เพียงแต่พลังในการต่อสู้ที่จะสามารถเพิ่มได้อย่างไม่มีจำกัด ยิ่งคุณภาพของอุปกณ์สูงมากเท่าไร พลังในการต่อสู้ก็จะยิ่งเพิ่มได้มากขึ้นเท่านั้น!



ICSS บทที่ 88: ยาโง่ๆ!


“รวมพลัง!”


โดยไม่ลังเล หนิงเทียนหลินก็ใช้จิตใจของเขาเพื่อควบคุมการผสานของเจ้าตัวนี้กับตัวเขาทันทีและรวมเข้ากับความคิดของเขา เขาเห็นว่าร่างกายของเจ้าตัวร้อยขาหายไปในทันทีและรวมเข้ากับร่างกายของเขา


การหายไปนี้ไม่ได้หายไปแบบหายแวบแต่เป็นการหายไปแบบการส่งข้ามมิติ! ผสานกันเข้าไปในทันที!


เดิมแล้วเขาอยู่ห่างจากเจ้าตัวร้อยขาประมาณ 10 เมตรแต่กลับมาปรากฎตัวบนตัวเขาได้ในทันที


“ไม่ต้องเดาหรอก!”


ในเวลานี้ เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมา “เจ้าตัวร้อยขานี่ผูกอยู่กับชีวิตของนาย ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน แม้จะห่างกันไปคนละกาแล็กซี่แต่นายก็ยังสามารถผสานกับมันได้ในทันที”


“นายคือเจ้าของร่าง นายจะไม่ถูกแยกออกจากพื้นที่และระยะทางเลยสักนิด!”


หนิงเทียนหลินรู้สึกมีความสุขมาก ในกรณีนี้เขาก็จะช่วยอะไรได้อีกมากมาย! ถ้าสักวันเจ้าตัวร้อยขานี้มีพลังในการต่อสู้สูงๆ เขาก็สามารถปล่อยให้มันเพิ่มพลังในการต่อสู้ด้วยตัวมันเองได้


และเมื่อไรที่เขาต้องใช้ เขาก็ผสานกับมันได้ในทันที!


“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”


หนิงเทียนหลินพยักหน้าแต่ก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อย ถ้าเจ้าตัวร้อยขานี้ออกมาเร็วกว่านี้ เขาก็คงไม่ต้องใช้คะแนนพลังงานพวกนี้ในการอัพเกรดหรอกแต่เอาไปแลกเป็นขวานโบราณได้แล้ว!


มีหลายสิ่งที่ต้องพูดและเขาอาจพร้อมแล้ว!


“ไปกันเถอะ”


โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก หนิงเทียนหลินเดินตรงไปและเดินออกประตูของไนท์คลับออกไป เมื่อเขาเดินออกไปหมอกที่มองไม่เห็นก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งไนท์คลับทันที


หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป


รอยเลือดหายไป, พื้นที่เละเทะก็หายไป และของที่พังเสียหายมากมายก็ถูกทำลายไปจนหมด


ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิมเหมือนเมื่อตอนที่หนิงเทียนหลินเดินเข้ามาเพียงแค่ผู้คนมากมายที่ตอนนี้ได้หายไปหมดแล้วเหมือนกับว่าคนพวกนั้นได้หายไปอยู่อีกช่วงเวลา อีกห้วงอวกาศหนึ่งอย่างไงอย่างงั้นเลย


…….…


“ไอ้คนนั้นมันก็แค่เลวเห็นๆอยู่ว่าเราต้องชนะแต่มีไอ้โง่ 2 คนที่ทำนอกแผน จะสู้กับคน 3-5 คนได้ยังไง! ฉันถูกไอ้พวกบ้านั้นเล่นงานเลย! ตำแหน่งที่ฉันหวังว่าจะได้ก็เลยชวดเลย!”


ในเวลา 6.30 ในตอนเช้า หนิงเทียนหลินค่อยๆเดินเข้าประตูโรงเรียนและได้ยินบางคนที่กำลังบ่นอยู่ข้างๆเขา


เขาเดินมาเกือบจะ 2 ชั่วโมงแล้ว ตลอดทางเขาได้แต่คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้


เขารู้สึกเหมือนกำลังฝันกลับไปกลับมาตลอด


ชายที่เพิ่งฟื้นจากความตายได้กลับมายืนหน้าประตูโรงเรียนอีกครั้ง เขาได้แต่ขำกับเรื่องพวกนี้ ในเมื่อสวรรค์มอบชีวิตให้เขาอีกครั้งเขาจะใช้ชีวิตนี้อย่างมีความสุขแน่นอน!


“แม่ง! มันทำให้ฉันเสียไปตั้งหลายคะแนน”


“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นเรื่องของครอบครัวทั้งหมด!” อีกคนที่อยู่ข้างๆเขายังคงบ่นต่อไป


“ใครกันที่ทำให้ทั้งคืนมีเพียงสามคนเท่านั้นที่เรียกว่าสองคน อินเทอร์เน็ตคาเฟ่นั่งติดต่อกันตั้งห้าครั้ง จะมีเพื่อนร่วมทีมที่ลดลงได้อย่างไร!” คนสุดท้ายก็ยังบ่นต่อไปเรื่อยๆ


ในเวลานี้ทั้ง 3 คนกำลังยืนรอที่หน้าร้านแพนเค้ก เพื่อรอแพนเค้กผลไม้ที่สังไว้ รอบตามีรอยคล้ำเล็กน้อยและผมก็ดูจะยุ่งๆ ด้วยประสาทรับกลิ่นของหนิงเทียนหลินในตอนนี้ทำให้เขาได้กลิ่นของทั้ง 3 คน กลิ่นควันบุหรี่เหม็นไปหมด


อย่าไปคิดมากเลย ก็รู้อยู่ว่าทั้ง 3 คนนี้เพิ่งจะกลับมาจากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่อยู่มาทั้งคืน


และเขาก็รู้ด้วยว่าเรื่องที่กำลังพูดคุยกันอยู่นี้คงจะเกี่ยวกับเกมส์ LOL

ไม่มีอะไรมาก! และเกมส์นี้หนิงเทียนหลินก็เคยเล่นมาแล้วด้วยเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ได้เชี่ยวชาญแต่ก็เคยเล่นมาบางเลยรู้ว่ากฎกติกามันเป็นยังไง

ทันทีที่เขาเดินเข้ารั้วโรงเรียนเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องห่วงเรื่องอะไรอีกแล้ว เขาจำไม่ได้แล้วว่าในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมานี้เขาได้ฆ่าคนไปมากแค่ไหนแล้ว!


“ช่างมันเถอะ นี่ก็แค่วันเปิดเทอมวันแรก ก็ต้องมีบางคนแหละที่อยู่ทั้งคืนเหมือนพวกเรา เราชอบเกมส์ LOL มากจริงๆในชั้นเรียน, ในโรงเรียนหรือแม้แต่ในจีนก็มีคนที่ชอบไม่น้อย” ในครั้งนี้คนที่พูดเป็นคนแรกถึงกับถอนหายใจออกมา ทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกแปลกๆ


“ฮีโร่งั้นเหรอ จะเล่นตัวไหนดีนะ”


หนิงเทียนหลินยิ้ม ก้าวเดินต่อเพื่อเข้าไปในโรงเรียน


และนี่มันก็เพิ่งจะแค่ 6.30 เองและหนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่าโรงเรียนสะอาดมาก มีนักเรียนหลายคนที่กำลังถือไม้กวาดและที่กวาดผงไว้ในมือเพื่อทำความสะอาดทางเดิน และก็มีอีกมากมายที่กำลังแบกบันได, ถือป้าย, เลือกตำแหน่งบนกรอบประตูและไม้ต่างๆ พร้อมที่จะแขวน


หนิงเทียนหลินมองเหตุการณ์นี้และอ่านป้ายที่กำลังแขวนอยู่ที่เขียนว่า “ยินดีต้อนรับนักเรียนใหม่”


นี่ย้ำเตือนให้เขานึกได้ว่าวันนี้ไม่ได้มีแค่เด็กเก่าที่จะเริ่มเรียนแต่ยังเป็นวันที่พวกรุ่นน้องและเด็กใหม่จะเริ่มเข้าเรียนด้วย!


พวกนิสัยเสียพวกเดิมๆและเหยื่อรายใหม่มาถึงแล้ว!



ICSS บทที่ 89: นั่นเขานิ!


ในชั่วโมงเรียนเช้าหนิงเทียนหลินได้ยินพวกขี้เซาบางคนบ่นง่วงนอน

ถึงแม้วิญญาณของเขาจะไปไกลกว่าคนปกติมาก เขาก็ยังไม่เข้าใจวิชาภาษาอังกฤษและพวกตัวเลขอยู่ดี ทำไมเขาต้องเรียนอะไรพวกนี้ในโรงเรียนด้วยเนี่ย


เพราะจากวิถีชีวิตปกติของเขาแล้วเขาคงไม่มีทางที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตอยู่แล้ว และถึงแม้เขาจะเรียนเรื่องพวกนี้ไปแต่ถ้าไม่ได้ใช้ก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี


งั้นเขาเลยหลับตลอดเช้าเลย


5-6 วันแห่งความวุ่นวายทำให้เขาหลับในทันทีที่ฟุบลงไปกับโต๊ะ กว่าที่เขาจะตื่นก็เป็นเวลาอาหารกลางวันแล้วและเป็นเพื่อนร่วมหอเขาที่ชื่อชิเซียวจุนที่เป็นคนปลุก


“เทียนหลิน นายนี่หลับเก่งจริงๆนะ! เห็นหลับตลอดเช้าเลย”


“เมื่อคืนออกไปขโมยวัวมาหรือไง?” ชิเซียวจุนพูดติดตลก


“ขโมยวัวงั้นเหรอ! ฉันฆ่าคนมาทั้งคืนต่างหาก” หนิงเทียนหลินหัวเราะ

ในหอมีกันทั้งหมด 6 คน แต่ชิเซียวจุนคนนี้สนิทกับเขาที่สุด และส่วนคนอื่นๆก็แค่เฉยๆ


แต่ก็มีคนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกกับหนิงเทียนหลินเท่าไร


ชายคนนั้นชื่อหวังน่าน เป็นลูกชายของหัวหน้าเหมืองถ่านหินชานซีแต่ก็ไม่ใช่เหมืองถ่านที่ใหญ่โตอะไรแต่ก็มีมูลค่าสุทธิมากกว่าหนึ่งร้อยล้านหยวน


ไม่นานก่อนที่ภาคเรียนแรกจะเริ่มและหวังน่านต้องเสียเงินไปกว่า 3,000 หยวนที่เก็บไว้ในตู้ล็อคเกอร์ ด้วยเหตุผลบางอย่างเขามั่นใจมากว่าหนิงเทียนหลินเป็นคนเอาไป เรื่องนี้จึงถูกรายงานไปยังที่ปรึกษา


โดยปกติแล้วเงิน 3,000 หยวนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับคนแบบเขาเลยและมันคงจะไม่เป็นเรื่องถ้าเงินนี้ถูกพวกโจรข้างถนนขโมยไปแต่มันกลายเป็นอีกเรื่องเลยเมื่อเงินหายในหอพักแบบนี้ ถ้าเขาไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โดยการเอาไปบอกที่ปรึกษา คนอื่นก็คงไม่คิดว่าเขาเป็นคนทำหรอก!

หวังน่านไม่ใช่คนประเภทที่จะไปยุ่งด้วย!


โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้นแต่เขาก็รายงานเรื่องหนิงเทียนหลินกับที่ปรึกษาโดยตรง และหลังจากนั้นคนทั้งหอก็เริ่มที่จะสืบสวนและแม้แต่ รปภ. ของมหาลัยก็มาพาตัวหนิงเทียนหลินไปสอบสวนอย่างหนัก


ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานอะไร มันก็เป็นแค่การทะเลาะวิวาทเท่านั้นแต่ชื่อเสียงของหนิงเทียนหลินในชั้นเรียนก็เสียหายได้ในทันที ในตอนนั้นทุกคนมองว่าเขาเป็นโจรไปหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะจิตใจที่แข็งแกร่งของหนิงเทียนหลิน ไม่งั้นในตอนนั้นเขาคงทำเรื่องที่ไม่คาดคิดไปแล้ว


แต่ตั้งแต่ตอนนั้นมาเขาและหวังน่านก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ถึงแม้เขาจะเป็น

รูมเมทกันแต่เขาก็ไม่ได้ชำระแค้นอะไร


“จริงเหรอ!”


“นายไปฆ่าคนมาทั้งคืน”


“ใครฝันว่าฆ่าใครงั้นเหรอ?” ชิเซียวจุนยังคงเหน็บอยู่


“แหม นี่มันเที่ยงแล้วนะ ไปกินข้าวกันเถอะ อยากกินก๊วยเตี๊ยวไก่แล้ว!”


“ฉันคิดถึงรสชาติก๊วยเตี๊ยวไก่เจ้าหน้าประตูมาตลอดปิดเทอมหน้าร้อนเลย”


“ฉันด้วย” หนิงเทียนหลินพยักหน้า เพราะก๊วยเตี๊ยวไก่หน้าประตูราคาแค่ 8 หยวนแต่รสชาติอร่อยเด็ดมากเลย ทั้งเผ็ดและถึงรสชาติมากจริงๆ


“ไปกันเถอะ” ชิเซียวจุนยิ้ม



มหาวิทยาลัย ใต้ต้นไม้


“ยินดีต้อนรับเด็กใหม่ทั้งหลายสู่สาขาวิชาภาษาต่างประเทศ”


ภายใต้ป้ายยังมีแยกไปอีก 3 โต๊ะที่เชื่อมต่อกัน มีผู้หญิง 4 คนและผู้ชายอีก 2 คนกำลังนั่งอยู่ด้านหน้า พูดคุยและหัวเราะอยู่ด้วยกัน พวกเขาต่างก็ได้รับมอบหมายให้ช่วนต้อนรับเด็กใหม่จากสาขาวิชาภาษาต่างประเทศ พวกเขานั่งอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ชั่วโมงเรียนเช้าแล้ว


“ว้าว! หลิวปิว ดูดิโคตรสวยเลยอ่ะ!”


ผู้ชาย 2 คนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่ในสาขาวิชาภาษาต่างประเทศไม่ค่อยจะมีอะไรงามๆมากนัก และถึงแม้ในคณะจะมีผู้ชายมากมายแต่พวกเขาก็ถูกส่งมา และในเวลานี้ผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านขวาก็จ้องเขม้นไปที่สาวสวยที่กำลังเดินอยู่ที่ถนนและพร้อมทั้งตบไปที่มือของหลิวปินในเวลาเดียวกัน


และนอกจากสาวสวยคนนี้ ก็ยังมีสาวร่างสูงที่สวมชุดสุดหรูอีกที่ซึ่งเห็นแวบแรกก็รู้เลยว่าไม่ใช่เสื้อผ้าธรรมดาๆ


“สวยจริงๆด้วย!”


“สวยกว่าหลิวเหมยเหมยของเราอีกอ่ะ!”


หลิวปินยังล้อเล่นกับผู้หญิงที่นั่งข้างๆเขาอยู่พร้อมทั้งมองไปที่เหวินหยาน แต่เพียงแค่มองแวบเดียวก็เกือบจะทำให้เขาหยุดหายใจ


อีกคนที่สวมชุดเสื้อสีขาวแขนสั้นพร้อมด้วยกางเกงหลวมใหญ่สีม่วงอ่อนและรองเท้าแตะหุ้มส้นสีแดง มัดผมหางม้าก็เดินเข้ามา ทั้งคู่ช่างอ่อนเยาว์และสวยมีเสน่ห์อย่างมาก ทำให้พวกเขาต่างก็จ้องตาเป็นมัน


“กำลังมาแล้วๆ!”


“เดินมาที่โต๊ะเราแล้ว!”


หลิวปินหัวใจเต้นรัวเมื่อรู้ว่าสาวคนนี้จะต้องเป็นเด็กปีหนึ่งที่มาจากสาขาวิชาภาษาต่างประเทศแน่ๆ ดวงตาของเขาเป็นประกายและถึงขนาดต้องลุกขึ้นมาจากเก้าอี้และมองจ้องไปที่สาวคนนั้น เขายิ้มอย่างจริงใจ “มารายงานตัวหรือเปล่า?”


“คุณอาเป็นแม่ของน้องเหรอครับ สวยมากเลย”


หลิวปินรีบกล่าวทักทายทั้ง 2 คนและพยายามที่จะแสดงสีหน้าสดใส เขารู้ดีว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้างความประทับใจแรก ผู้ชายที่นั่งข้างๆหลิวปินเตือนเขาให้มองสาวสวยและในเวลาเดียวกันก็รีบลุกขึ้นเพื่อทักทายพวกเขา


ก็แค่เป็นเรื่องที่ครอบครัวของหลิวปินสอนมานานแล้วและเขาจำได้อย่างขึ้นใจว่าให้กล่าวทักทายเป็นอย่างแรก!


“ขอบคุณนะ”


เด็กสาวไม่ได้พูดอะไรและหญิงวัยกลางคนก็หัวเราะออกมา ในวัยนี้พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องหน้าตาแล้วแต่ก็ยังพูดเสริมออกไป


“ฉันไม่ใช่แม่หรอกค่ะ ฉันเป็นแค่อานะค่ะ”


เธออยากที่จะบอกว่าเป็นพี่เลี้ยงแต่เมื่อคุยกันแล้ว เธอก็กลายเป็นคุณอาแทน


“โอ้ ขอโทษด้วยนะครับคุณอา ยกโทษให้ผมด้วย มาชำระค่าเรียนหรือเปล่าครับ?”


“น้องเป็นเด็กปีหนึ่งของสาขาวิชาภาษาต่างประเทศหรือเปล่า?”


หลิวปินหันไปสนใจที่เด็กสาวแทนเพราะเธอคือคนที่เขาสนใจมากกว่า


“ใช่ค่ะ” อีกฝ่ายพยักหน้าและตอบออกมา


“นายดูแลจัดการเรื่องนี้งั้นเหรอ?” น้ำเสียงนุ่มนวลและฟังสบาย


“ใช่” หลิวปินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว


“ขอชื่อด้วยนะครับ? เอาเอกสารด้วยได้ไหมครับ?”


“ฉันชื่อหลินเจียอี้” เด็กสาวตอบ และในเวลาเดียวกันคุณอาพี่เลี้ยงก็รีบหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าสีแดงใบใหญ่แล้วส่งให้


“หลินเจียอี้ ชื่อเพราะมากเลย” หลินปินแอบเก็บไว้ในใจเงียบๆ พร้อมกันนั้นก็รับเอกสารมา หยิบปากกาขึ้นมาจากโต๊ะและเริ่มที่จะลงทะเบียน และสุดท้ายเขาก็ถามออกมา “มีเบอร์โทรศัพท์หรือเปล่า?”


“เป็นเด็กใหม่หรือว่าเด็กเก่าล่ะ? นี่ต้องใช้ในการลงทะเบียนด้วย”


เพราะอยู่ต่างเมืองจึงมีเด็กใหม่หลายคนที่เปิดเบอร์ใหม่เพื่อเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามในฐานะแบบเธอ หลินเจียอี้ไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก เธอเลยบอกเบอร์โทรศัทพ์ของเธอไปตรงๆ


แต่หลิวปินกลับมีความสุขมากเพราะไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลนี้ลงไปในเอกสารด้วยเลย ตอนนี้ด้วยวิธีนี้เขาจึงได้เบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายมาด้วย เดี๋ยวสักพักเขาก็จะเซฟเบอร์นี้ลงโทรศัพท์


“หา? นั่นเขานิ!”


ระหว่างที่หลินเจียอี้กำลังลงทะเบียน เธอเกิดความรู้สึกเบื่อจึงหันมองไปรอบๆแต่แค่แวบเดียวก็ทำให้เธอต้องรู้สึกตกใจ เหมือนว่าเธอได้เห็นบางอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อแล้วก็เกิดความรู้สึกมีความสุขขึ้นมา!


เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความสุขนี้มันมาจากไหนกัน!



ICSS บทที่ 90: รุ่นพี่ค่ะ


“เทียนหลิน ปิดเทอมหน้าร้อนนายไปไหนมา ฉันโทรหาไม่ติดเลยแล้วก็ไม่เห็นนายออน QQ เลยด้วย มันยากจริงๆเลยที่จะชวนนายมาเล่น LOL?”


ถนนสินธุ


นี่เป็นถนนที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเสฉวน มันเต็มไปด้วยต้นมะเดื่อและอยู่ใกล้กับทางเข้าโรงเรียนจึงมีคนมากมายที่เดินผ่านทางนี้ หนิงเทียนหลินและชิเซียวจุนค่อยๆเดินมาตามถนนเส้นนี้พร้อมทั้งพูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่อยๆ


“นายโทรมาหาฉันด้วยเหรอ?”


หนิงเทียนหลินถามและแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาไม่แน่ใจว่าข่าวเรื่องการตายของเขากระจายไปมากน้อยแค่ไหน และเพราะเรื่องเอกสารที่สถานีตำรวจท้องถิ่นแต่ทางโรงเรียนยังไม่มีเอกสารตัวนี้

เรื่องเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยเขาได้เยอะเลย


สิ่งที่หนิงเทียนหลินกังวลอยู่ตอนนี้คือพ่อแม่เขาจะโทรมาแจ้งที่ปรึกษาเรื่องการตายของเขาเลยทำให้ไม่ได้มาเรียน แต่ด้วยเหตุผลที่พ่อแม่เขาไม่รู้เบอร์โทรของทางโรงเรียนเลย นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเบอร์โทรของที่ปรึกษาเลย เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อทางโรงเรียนเห็นว่าเขาไม่ได้มาเรียนเลยก่อนที่จะโทรแจ้งทางบ้านเพื่อขอข้อมูล


วันนี้ชิเซียวจุนโทรหาเขาแต่ไม่ติด ถ้าติดเขาก็กลัวว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดโปงออกมา แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก เขาก็จะอ้างว่าเขามีปัญหากับทางครอบครัวนิดหน่อย พวกท่านเลยบอกว่าเขาตายไปแล้วเพราะไม่อยากจะยอมรับว่ามีลูกชายแบบเขา


“ใช่”


“ทักนายไปเป็นพันข้อความและทางคิวคิวก็ไม่มีข้อความอะไรแจ้งมาด้วย” ชิเซียวจุนบ่นออกมา


“ฉันเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่แล้ว พอดีมันถูกระงับไปสักพัก และเรื่อง QQ ฉันยุ่งอยู่ที่บ้านทั้งวัน ฉันก็เลยไม่มีเวลามาเล่น QQ” หนิงเทียนหลินพูดไปเรื่อยเปื่อย


“โอ้” ชิเซียวจุนไม่ได้ถามว่าที่บ้านยุ่งเรื่องอะไร หรือแม้แต่ QQ ก็ไม่มีเวลามาเล่นเนี้ยนะ “งั้นพอกินข้าวเสร็จไปเล่นเกมส์ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่กันไหม เราไม่ได้เล่นมาสักพักแหละคันไม้คันมือไปหมดเลย”


“นายไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่เล่น LOL ที่บ้านกับเล่นที่ร้านเกมส์มันไม่เหมือนกัน ที่บ้านมันไม่ได้บรรยากาศเลย!” ชิเซียวจุนพูด


“ร้านอินเตอร์เน็ต…”


“สวย! โคตรสวยเลยว่ะ!”


ชิเซียวจุนเตรียมที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องหยุดในทันทีแต่เสียงหัวใจกลับเต้นแรงกว่าอีกเพราะในเวลานี้สาวสวยกำลังเดินตรงเข้ามาให้พวกเขาด้วยใบหน้าแสนสวยพร้อมรอยยิ้ม


“พอฉันมาถึงโรงเรียนก็มีสาวสวยเดินเข้ามาทักทายฉันเลยเหรอเนี่ย?”

ชิเซียวจุนตกตะลึงไปกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอจนหัวใจเขารู้สึกคันเล็กๆ แต่เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหนิงเทียนหลินที่ยืนอยู่ข้างเขาทำหน้าขมวดคิ้วไปแล้ว


“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! มาเจอกันอีกได้ยังไงเนี้ย!”


หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วพร้อมด้วยสายตาที่ดูจะอึดอัดเล็กน้อย วันก่อนเขาขังเธอไว้ข้างนอกตั้งหลายชั่วโมงและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกลับไปกี่โมง เขาคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากนั้นแค่ 24 ชั่วโมงพวกเขาก็จะได้มาเจอกันอีก


“หวัดดี! ได้เจอกันอีกแล้ว!”


หลินเจียอี้กระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าหนิงเทียนหลินพร้อมทั้งจับมือหนิงเทียนหลินเพื่อทักทายไปด้วย ในเวลาเดียวกันนั้นเธอก็โบกมือให้

ชิเซียวจุง


“ไง หวัดดี”


“หวัดดีฮะ” ชิเซียวจุงตื่นเต้นมาก เขาอายุ 19 แล้วแต่ก็ไม่เคยมีสาวสวยขนาดนี้เข้ามาทักทายพูดคุยกับเขามาก่อนเลย ถึงแม้นี่จะเป็นแค่การทักทายก็เถอะ


“เจอกันอีกแล้ว” หนิงเทียนหลินไม่มีทางเลือกนอกจากทำหัวตรงๆ

เขาไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีก ในเวลาแค่ 5-6 วัน นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่พวกเขาได้เจอกัน


“เจียอี้นี่เพื่อนร่วมชั้นเรียนคุณใช่ไหม?” ในเวลานี้คุณอาพี่เลี้ยงเดินเข้ามาพอดีและเห็นหนิงเทียนหลิน ก็เลยจำได้ว่านี่คือคนที่ได้เจอที่

ตลาดปลาเมื่อวันก่อน


“คือใช่ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นมัธยมแต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาลัยด้วย”

ในครั้งนี้หลินเจียอี้ก็โกหกอีก


“คุณอาค่ะกลับไปก่อนก็ได้นะคะ ถ้ามีเขาอยู่ช่วยหนูก็ไม่ต้องกวนคุณอาแล้วค่ะ”


“ค่ะ ก็ได้ค่ะ”


“ยังไงซะเราก็มาลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว งั้นก้ได้ค่ะ”


“งั้นขอให้สนุกนะคะและเดี๋ยวกลับมาตอนกลางวัน ฉันจะทำของอร่อยไว้รอนะคะ”


คุณอาพี่เลี้ยงหัวเราะออกมา หน้าที่ของเธอตอนนี้ก็คือการส่งหลินเจียอี้มารายงานตัวที่โรงเรียน ปกติแล้วหลินเจียอี้จะมาคนเดียวแต่เธอไม่มั่นใจเลยตามมาด้วย


“ค่ะ”


“สวัสดีค่ะคุณอา” หลินเจียอี้ยิ้มและโบกมือลาคุณอาพี่เลี้ยง แล้วมองส่งเธอกลับไป


“สวัสดีครับคุณอา” หนิงเทียนหลินไม่ได้พูดแต่ชิเซียวจุนที่ยืนอยู่ข้างเขาทั้งโบกมือและยิ้มส่ง ต่อหน้าสาวสวยตรงหน้าเขาต้องสร้างความประทับใจซะหน่อย


“หวัดดีฮะ ฉันชื่อชิเซียวจุนและเทียนหลินเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนและเป็นรูมเมทกันด้วย” ชิเซียวจุนรีบที่จะแนะนำตัวเองในทันที


“ไม่คิดเลยว่าเธอกับเทียนหลินจะเป็นเพื่อนเรียนมัธยมมาด้วยกัน”


“เทียนหลินไม่เคยบอกเลยว่ามีเพื่อนมัธยมสวยขนาดนี้”


“เขาชื่อเทียนหลินนี่เอง!” หลินเจียอี้แอบจำชื่อไว้ในใจ ถึงแม้เธอจะเคยเจอเขามา 3 ครั้งแล้วและถึงขนาดที่อีกฝ่ายเคยช่วยชีวิตเขาไว้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่รู้ชื่อของอีกฝ่ายอยู่ดีและก็ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ถามด้วย


“ใช่”


“หวัดดีค่ะ ฉันชื่อหลินเจียอี้และฉันเป็นเพื่อนเรียนมัธยมกับเทียนหลินแต่ฉันต้องซ้ำชั้นไปปีหนึ่งเลยต้องมาสอบเข้าเรียนมหาลัยอีกรอบในปีนี้”


ตอนนี้หลินเจียอี้พูดได้แต่เรื่องโกหก อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินไม่ได้พูดอะไรและยังได้เห็นท่าทางเขาในวันนี้ ที่ยืนอยู่ข้างๆชิเซียวจุน


“พี่ชิมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”


“มาหาอะไรกินน่ะ ตรงประตูมีร้านก๊วยเตี๊ยวไก่เจ้าอร่อยอยู่”


ชิเซียวจุนไม่อยากจะคุยเรื่องไร้สาระมากนัก เขาอยากจะคุยเรื่องรายละเอียดของสาววัย 18 คนนี้แทนและเขารอที่จะคุยเรื่องนี้แทบไม่ไหว แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่าหลินเจียอี้เพิ่งจะมาถึงและดูเหมือนจะยังไม่ได้กินอะไร จึงรีบถามออกไปทันที


“หลินเจียอี้ เธอยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม ถ้างั้นเราไปกินด้วยกันไหม ก๊วยเตี๊ยวไก่ร้านนั้นอร่อยมากเลยนะ”


“ได้ๆ” หลินเจียอี้รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันเพิ่งมาที่นี่เลยยังไม่ค่อยคุ้นกับที่นี่เท่าไรและไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อยหรือไม่อร่อย เมื่อพี่ชิเซียวจุนแนะนำแบบนี้ฉันก็อยากลองกินนะ”


พร้อมกันนั้นเขาก็ยิ้มออกมาโดยไม่สนใจสายตาของหนิงเทียนหลินเลย เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธอะไร แต่เขาก็ยังรู้สึกคาใจว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนเรียนมัธยมกันแบบไหนกัน? เธอรู้แค่ว่าอีกฝ่ายชื่อว่าเทียนหลินแต่กลับไม่รู้จักนามสกุลของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ


“ไม่ต้องเรียกพี่หรอก” ชิเซียวจุนไม่เคยถูกเรียกแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะจากสาวสวยแบบนี้เลยทำให้เขารู้สึกเขินหน่อยๆ


“ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเทียนหลิน งั้นก็เป็นเพื่อนฉันด้วยเหมือนกัน ฉันจะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนในกลุ่มที่หลังจะได้มีทั้งเด็กใหม่และเด็กเก่า”


“เธอเพิ่งมาถึงที่นี่และก็คงจะยังไม่คุ้นกับที่นี่ ไม่ใช่แค่เรื่องกินแต่เรื่องที่ช้อปปิ้งด้วย งั้นฉันจะบอกแหล่งขายของราคาถูกๆน่ารักๆให้นะ”


“จะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ” หลินเจียอี้โบกมือปฎิเสธ


“นายเป็นพี่ ในเมื่อนายไม่อยากให้ฉันเรียกแต่ฉันก็จะเรียนพี่ว่าพี่เซียวจุนอยู่ดีนะ ใช่ไหม รุ่นพี่ค่ะ”


คำพูดของหลินเจียอี้หวานปานน้ำผึ้งจนทำให้หัวใจของชิเซียวจุนเต้นรัว มีเพียงหนิงเทียนหลินที่มองทั้ง 2 คนอย่างเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา



ICSS บทที่ 91: มันไม่จบหรอก!


“อร่อยจริงๆด้วย นี่น่าจะเป็นก๊วยเตี๊ยวไก่ที่อร่อยที่สุดเลย ที่เคยกินมาก่อนหน้านี้ก็ไม่อร่อยเท่านี้เลย”


หนิงเทียนหลินมองไปที่หลินเจียอี้ที่ทั้งกินและพูดไปพร้อมๆกันแต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่มากินกับพวกเขาด้วยแน่ๆ ยังไงซะนี่มันก็แค่ร้านเล็กๆหน้าโรงเรียน บรรยากาศก็ไม่ได้ดีอะไรและก็ไม่ได้สะอาดอะไรขนาดนั้นด้วย


หลินเจียอี้คนนี้เป็นลูกสาวของนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง หลินซวงแห่งเมืองจินฉวน ซึ่งน่าจะมีในกระเป๋ามากกว่า 10,000 หยวน แล้วเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะมากินอาหารในร้านเล็กๆแบบนี้? ที่นั่งทั้งร้านมีไม่กี่สิบตัวเองและพื้นที่ก็คับแคบและก็แออัดมากด้วย


เขาแค่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาที่นี่แต่เธอก็ดูน่ารักมากทีเดียว


“ก็ โอเค”


“ฮ่า ฮ่า”


ชิเซียวจุนหัวเราะออกมา “รสชาติของก๊วยเตี๊ยวไก่ร้านนี้ทำให้ฉันนึกถึงตลอดช่วงปิดเทอมหน้าร้อนเลย” แล้วเขาก็หยิบหัวหอมที่วางอยู่ข้างๆแล้วยัดเข้าปากไป


ถ้ากินก๊วยเตี๊ยวไก่แล้วไม่มีหัวหอม รสชาติก็จะหายไปเลยทันที


“เทียนหลิน หลังจากกินเสร็จนายช่วยพาฉันไปดูตึกสาขาวิชาภาษาต่างประเทศของเราหน่อยได้ไหม? ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน” หลินเจียอี้มองมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตามุ่งหวังแล้วกินต่อ แต่ในความรู้สึกของเธอก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ตกลง


ท่าทางของอีกฝ่ายเธอเคยเห็นมาบ้างแล้ว


“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตึกสาขาวิชาภาษาต่างประเทศอยู่ที่ไหน แล้วเดี๋ยวฉันต้องไปกับเพื่อนต่อด้วย”


หนิงเทียนหลินปฎิเสธออกไปตรงๆเพราะเขาไม่อยากที่จะติดต่ออะไรมากกับผู้หญิงร่ำรวยคนนี้ที่พูดแต่เรื่องโกหก อีกอย่างเขาก็คิดว่าในชีวิตนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เจอผู้หญิงคนนี้อีก ไม่ใช่มาเจอกันอีกหลังจากนั้น 24 ชั่วโมง ว่าจะได้มานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้


“ไม่ว่างเหรอ? เราจะทำอะไรกันเหรอ? ตอนบ่ายไม่มีเรียนนะ!”


อย่างที่เราต่างก็รู้ ชิเซียวจุนจ้องมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ สาวสวยขนาดนี้มาชวนไปข้างนอก จะปฎิเสธได้ยังไงกันเนี่ย?


“นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าหลังกินข้าวเสร็จนายจะไม่ไปเล่นเกมส์ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นิ?”


หนิงเทียนหลินอยากที่จะฆ่าชิเซียวจุนจริงๆ มันจำเป็นต้องมาพูดอะไรตอนนี้ด้วยเหรอ?


“นาย!” ชิเซียวจุนถึงกับพูดไม่ออกเหมือนกับว่าเพิ่งได้เจอหนิงเทียนหลินเป็นครั้งแรก สาวสวยมาชวนไปข้างนอกแต่เขากลับอยากจะออกไปเล่นเกมส์แทนงั้นเหรอ! สาวสวยมันสำคัญมากกว่าเกมส์นะเว้ย! เขานี่โง่จริงๆ!


“…” หลินเจียอี้ก็พูดไม่ออกเช่นกัน แน่นอนเธอรู้ว่านี่มันเกมส์อะไร นี่เป็นเกมส์ที่ดังที่สุดในตอนนี้ ถึงขนาดว่าเธอก็มีบัญชีเกมส์นี้ของตัวเองด้วยเหมือนกันแต่โดยไม่ได้คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะปฎิเสธเธอเพื่อไปเล่นเกมส์แทนแบบนี้!


“นี่…หนิงเทียนหลิน เราเลื่อนเล่นเกมส์ไปก่อนก็ได้ ยังไงซะหลินเจียอี้ก็มาโรงเรียนเป็นครั้งแรกและตึกสาขาวิชาต่างประเทศ ก็ไม่ได้หายากอะไรด้วยก็แค่…”


คนแบบชิเซียวจุนจะไม่รู้ได้ยังไงว่าตึกสาขาภาษาต่างประเทศอยู่ตรงไหน ที่ตึกนั่นเป็นสถานที่ที่มีปริมาณชายและหญิงไม่สมดุลกันเลย แต่มีสาวสวยเยอะมากทำให้เขาชอบไปที่นั่น หวังว่าจะได้เจอสาวสวยสักคน 2 คนมาตกหลุมรักเขาบ้าง


“นายรู้ว่าตึกสาขาภาษาต่างประเทศอยู่ที่ไหน นายก็พาเธอไปเองสิ!”


หนิงเทียนหลินโยนไปที่ชิเซียวจุนโดยตรงและเตะเข้าที่ขาเขาที่อยู่ใต้โต๊ะ พยายามทำให้เพื่อนเห็นด้วยกับเขา “นายไปที่ตึกสาขาภาษาต่างประเทศกับเธอแล้วกัน ฉันจะไปที่คาเฟ่แล้วพอนายกลับมาเราค่อยเล่นเกมส์ด้วยกัน”


“อะไรนะ!”


“ดีเลย! ดีเลย! ฉันจะพาเจียอี้ไปเอง! นายไปจองที่ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ให้ฉันด้วยนะ!”


ชิเซียวจุนรู้สึกเขินเล็กน้อย คนแบบเขากับสาวสวยแบบเธอจะไปด้วยกันได้ไหมนะ? เธอสวยโคตรๆ! บวกกับท่าทางของหนิงเทียนหลิน ทำให้เขารีบตอบออกไปในทันที! เขารู้ได้เลยว่าหนิงเทียนหลินพยายามที่จะเลี่ยงจะผู้หญิงคนนี้ และร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หน้าโรงเรียนต้องจองที่เพราะมันดังมากด้วย!


นี่เป็นร้านที่ดังมากซึ่งมีคนเข้าไปเล่นในแต่ละครั้งมากกว่า 500 คน!

และเป็นเรื่องดีเลยเพราะเขาต้องการแบบนี้!


“เจียอี้ ฉันจะพาเธอไปเอง ที่นี่มันถิ่นฉันเลย ไม่เหมือนเขาที่อยู่แต่ร้านเกมส์ทั้งวันเลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย” ชิเซียวจุนให้ความร่วมมือกับหนิงเทียนหลินเป็นอย่างดีและเจียอี้ตอนนี้ก็ถูกเรียกด้วยชื่ออย่างเดียวแบบสนิทสนาม


“อะ….โอ้ ก็ได้”


หลินเจียอี้อยากที่จะปฎิเสธ คนที่เธอตั้งใจเลือกไว้ไม่ใช่ชิเซียวจุนแต่เป็นหนิงเทียนหลิน แต่เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้เธอต้องมาเรียนแต่เช้าและเธอก็ไม่ได้อยู่หอด้วยจึงต้องรู้ให้ได้ว่าตึกสาขาภาษาต่างประเทศอยู่ที่ไหนก่อนเลยต้องใช้โอกาสนี้ เธอถามเรื่องของหนิงเทียนหลินจากชิเซียวจุนเอาก็ได้ซึ่งก็อาจจะได้เบอร์โทรมาด้วยซ้ำ!


หนิงเทียนหลินชอบไปร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่งั้นเหรอ? เธอไม่อยากจะเชื่อเลย!


คนแบบเขาจะไปอยู่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แล้วเล่นเกมส์ทั้งวันได้ยังไงกัน! ต้องเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงที่จะออกไปกับเธอแน่ๆ!


ทันใดนั้นมีคนไม่กี่คนที่คุยกันโดยไม่พูดอะไรเลยและพวกเขาก็เปิดกว้างมาก หลังจากกินอาหารพวกเขาก็แยกย้ายกันไป



“มีแต่คนมาร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เพื่อเล่นเกมส์ LOL …”


เมื่อหนิงเทียนหลินเดินเข้ามาและมองไปรอบๆ 8 จาก 10 คนกำลังเล่นเกมส์ LOL ไม่เพียงแค่เกมส์เท่านั้นที่กำลังดัง เขาเลือกนั่งบริเวณที่คนไม่เยอะมากนักและก็อดไม่ได้ที่จะสมัครบัญชีเกมส์ LOL ของตัวเองขึ้นมาบ้าง


สมัครและเลือกฮีโร่ที่ชอบ ต้องกาเลนเท่านั้น


กาเลนมีเลือดมากมายและผิวหนังที่หนาและไม่มีใครกล้าที่จะสู้กับเขาเลยเมื่อเขาชักดาบออกมา! หนิงเทียนหลินชอบบุคลิคที่กล้าหาญนี้


แค่ 5 นาทีผ่านไป


“2บี กาเลน นายจะเล่นไหม? ช่วยเร่งมือหน่อยได้ไหมว่ะ! เฮ้! เลือดเยอะจนน่ากลัวเลยนะเนี่ย!”


ที่หน้าจอ เพื่อนร่วมทีมพิเชง โพลิซวูแมนบ่นตัวละครในเกมของหนิงเทียนหลิน ตอนนี้ตราบใดที่กาเลนยังอยู่อันดับต้นๆ เขาจะต้องได้ 2 หัวแน่ๆ! มาเพื่อฆ่าเท่านั้น! แต่การต่อสู้ครั้งนี้ต้องล่าช้าเพราะหนิงเทียนหลินแต่เขาก็ช่วยไม่ได้เลยวางสายไปก่อน!


หนิงเทียนหลินไม่พูดอะไรและรู้สึกโกรธนิดหน่อย


“แหม กาเลนนี้มันงี่เง่าจริงๆ! เขาถูกจับอีกแล้ว! ไม่มีตาหรือไงว่ะ! ไอ้ 2บีโว้ย!”


ภายใน 7 นาที ยาสุโอะเพื่อนร่วมทีมอีกคนบ่นหนิงเทียนหลิน ในเวลานี้ตัวละครในเกมส์ “กาเลน” ของหนิงเทียนหลินตายไป 4 รอบแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงปัดดาบแบบนั้น ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่จับเขาล่ะ?


“กาเลนนี่งี่เง่าจริงๆ โง่สุดๆไปเลย!”


ในเวลาคนแรกที่เล่น “ปิป ซิตี้ โพลิซวูแมน” พิมพ์ข้อความเพิ่มลงไปในหน้าจออีก


อย่างไรก็ตาม หนิงเทียนหลินก็ยังไม่บ่นอะไรแต่สีหน้าเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว


“นายนี่มันอ่อนเปลี้ยจริงๆไอ้กาเลน จะเล่นแบบคนแก่แล้วก็ตายอีกเหรอไง! แกนี่มันเครื่องจักรไร้ประสิทธิภาพจริงๆ! กลับไปเรียนอนุบาลใหม่ไป๊! น่าเบื่อจริงๆ!”


10 นาทีต่อมา ตัวละครในเกมส์ของหนิงเทียนหลินตายมา 6 รอบแล้ว แต่ละครั้งไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำ! เพื่อนร่วมทีมอีกคนบ่นเขา และในเวลานี้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นอีกมากมายก็เริ่มที่จะด่าเข้ามาเพิ่ม


ถึงขนาดที่มีคนหนึ่งด่าออกมาเสียงดังตรงหน้าจอ “ไอ้ 2บี กาเลนนี่มันต้องเป็นสายแน่ๆ ในเวลาไม่ถึง 10 นาที แม่งตายไป 6 รอบแล้ว แถมฆ่าไม่ได้สักรอบ ถูกฆ่า 1 รอบ โดนตีไป 2 รอบอีก! โง่งี่เง่าจริงๆ! ตีเลยสิ!


ในเวลานี้หน้าของหนิงเทียนหลินเปลี่ยนสีด้วยความโกรธ ไม่ใช่แค่เรื่องเกมส์ที่เล่นแต่ที่ด่ากันมากกว่า! เขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะต้องโมโหเด็กใหม่กันขนาดนี้! และเขาทนไม่ได้อีกแล้วจึงพิมพ์ด่าลงไปในหน้าจอ


“พวกนายนี่มันไร้ค่าจริงๆ! ไอ้พวกโง่!”


ICSS บทที่ 92: ปลั๊กอินโกง!


“รู้สึกหัวร้อน เหี้ยอะไรนักหนา นี่มันก็แค่เพราะสายมันหลุดไม่ใช่เหรอ! ยังไงก็ตามนายต้องแพ้แน่ๆ พวกนายกลัวว่าตัวเองจะแพ้สินะ?”


เมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินตอกหน้ากลับ เพื่อนร่วมทีม 3 ใน 4 จึงโต้ตอบกลับมา!


“ไอ้หนู รีบกลับบ้านกินนมเลยไป๊” มีคนหนึ่งพูด


“ใช่เลย ไม่ต้องมาเล่นเกมส์พวกนี้เลยนะ!” อีกคนพูดต่อ “วันนี้เล่นได้ทุเรศมาก ฉันถึงกับแพ้ไปตั้ง 6 รอบเลย แถมยังสู้ได้ห่วยอีกต่างหาก!”


“ติ่ง!”


“ในฐานะเจ้านายของระบบการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล นายเล่นเกมส์ได้ห่วยขนาดนี้ได้ยังไงกัน!”


“ตอนนี้ภารกิจเริ่มแล้ว อย่างแรกเลยนะเกมส์ถูกกำหนดไว้แล้ว ตอนนี้เพื่อนร่วมทีมของนายพร้อมที่จะยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว งั้นเอาชัยชนะไปปาใส่หน้าพวกเขาได้เลย! พร้อมกันนั้นใช้พลังการต่อสู้ระเบิดเพื่อจัดการหุบปากเพื่อนร่วมทีมพวกนี้ซะเลย ให้รู้ไปเลยว่าอย่ามาหยาม!”


“รางวัลก็ คือ ทุกครั้งที่นายฆ่าเพื่อนร่วมทีมที่ปากมาก นายจะได้คะแนนสำคัญ 1 คะแนนเป็นรางวัล! ทั้งเกมส์จะได้รางวัลทั้หงหมด 10 คะแนน! ถ้าทำไม่สำเร็จ จะถูกหักคะแนนสำคัญ 100 คะแนน”


“ภารกิจที่ 2 ในเมื่อเล่นเกมส์อยู่แล้ว เราควรที่จะตั้งเป้าที่จะชนะทีละเกมส์และชัยชนะครั้งนี้ต้องทำด้วยความรวดเร็ว! ตั้งแต่นี้ไป เจ้านายต้องชนะให้ได้ 100 ศึก ชนะไปเรื่อยๆทุกรอบจำกัดเวลาภายใน 20 นาที!”


“รางวัลของภารกิจ คือ สำหรับศัตรู 100 ตัวใน 100 ศึกจะได้รางวัลเป็น 1 คะแนน และถ้าภารกิจไม่สำเร็จจะถูกหัก 100 คะแนน”


ตอนที่หนิงเทียนหลินถูกด่าและกำลังจะวางสายและเลิกเล่นแล้ว เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูของเขาซึ่งทำให้เขาหัวใจเต้นรัวและปฎิกิริยาเกือบจะเดือดเลือดพล่าน


มันจะเป็นไปได้ยังไง!


ระดับเขาจะนำทีมเอาชนะในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไง! เพื่อนร่วมทีมที่ถูกฆ่าจะออกจากฐานไม่ได้! ในเกมส์ LOL ทักษะของฮีโร่ไม่มีตัวไหนโกงคน 1 ต่อ 5 ได้หรอกนะ!


แล้วยังต้องชนะติดต่อกัน 100 ครั้งอีก เขาเป็นน้องใหม่แล้วจะชนะติดกัน 100 เกมส์ได้ยังไงกัน! และแต่ละเกมส์มีเวลาแค่ 20 นาทีเอง แค่เรื่องเวลาก็ยอมแพ้แล้วเนี่ย…


ถ้าเป็นจริงอย่างที่ระบบการต่อสู้พูดงั้นมันจำเป็นด้วยเหรอที่จะต้องหักคะแนนพลังงานของเขาไป 100 คะแนน เปลี่ยนกฎไม่ได้หรือไงเนี่ย!


“ไม่ได้! ระบบการต่อสู้ทำแบบนั้นไม่ได้นะ! มันเป็นไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงภารกิจที่ยังทำไม่สำเร็จ”


หนิงเทียนหลินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและคิดออกมาอย่างจริงจัง


“ฆ่าเพื่อนร่วมทีมเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไงที่จะฆ่าเพื่อนร่วมทีม? ข้อมูลในเกม LOL มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบนั้น! นอกจากซะว่านายจะเปลี่ยนข้อมูลของเกมส์ลีกออฟเลเจนด์! เปลี่ยนข้อมูลงั้นเหรอ?”


“เปลี่ยนข้อมูล…”


เมื่อคิดเรื่องนี้สายตาของหนิงเทียนหลินก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที

มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนอื่นที่จะใช้เปลี่ยนข้อมูลในเกมส์ LOL เพราะเรื่องแบบนี้จะถูกเทนเซ็นต์สกัดกั้นไว้ทันที เมื่อถึงเวลานั้นชื่อก็จะถูกแบนและการขึ้นอันดับก็จะสูญเปล่า!


แต่เขาไม่เหมือนหนิงเทียนหลิน!


ในระบบของประตูแห่งการแลกเปลี่ยน แค่การปลั๊กอินไปอย่างเดียวก็มีหุ่นยนต์อัจฉริยะขั้นสูงด้วย!


เรื่องการปลั๊กอินไปไม่ใช่อะไรง่ายๆสำหรับเขาเลย!


“เปิดระบบการแลกเปลี่ยน โซนเทคโนโลยี!”


เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หนิงเทียนหลินรีบเปิดระบบประตูแห่งการแลกเปลี่ยนแล้วหาเทคโนโลยีขั้นสุดยอดมากมาย ภายในเวลาแค่นาทีเขาก็เจอเข้ากับ “การบุกรุกรหัส” คำแนะนำข้างบนสามารถช่วยให้เข้าไปในฐานข้อมูลของเทคโนโลยีได้มากมายพร้อมทั้งแก้ไขข้อมูล, ทำสำเนา, สร้างข้อมูลโดยอัตโนมัติและอื่นๆได้อีกด้วย


และการบุกรุกรหัสนี้ก็แยกเป็น “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก”, “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะระดับกลาง”, การบุกรุกรหัสอัจฉริยะขั้นสูง” และอื่นๆอีก หนิงเทียนหลินอ่านคะแนะนำคร่าวๆและเลือกไปที่ “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก”…


เพราะเทคโนโลยีนี้มันมีอยู่แล้วในอารยธรรมระดับเก้าของจักรวาล ล้ำหน้ากว่าของโลกไปเป็นร้อยๆปี ทำให้การปรับเปลี่ยนข้อมูลของลีกออฟเลเจนด์เป็นเรื่องที่ง่ายมาก


“คะแนนที่ใช้แลก: คะแนนพลังงาน 3 คะแนน”


หนิงเทียนหลินมองไปที่คะแนนสำคัญที่ต้องใช้ในการแลกที่ด้านหลัง แค่ 3 คะแนนเอง เขาไม่ลังเลเลยที่จะแลก “การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก”

นี้ในทันที แล้วหลังจากนั้นในแวนอวกาศของเขาก็ปรากฎลูกบอลสีเขียว ที่มีพื้นผิวนุ่มและมีข้อมูลมากมายวิ่งล้อมรอบอยู่ด้วยความเร็วขึ้นมา


“แค่นำเจ้าสิ่งที่ไปครอบบริเวณที่มีกระแสไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต”


ในใจของหนิงเทียนหลินก็ปรากฎคำแนะนำในการใช้เจ้า

“การบุกรุกรหัสอัจฉริยะหลัก” ขึ้นมา โดยไม่ลังเลเขาก็หยิบมันออกมาจากแหวนอวกาศ ถือมันไว้ในมือขวาแล้วแตะไปที่เมาส์โดยตรง


“โอ้!”


ทันใดนั้น ลูกบอลสีเขียวก็หายไป และหนิงเทียนหลินรู้สึกว่ามันได้เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทางเมาส์นี้แล้ว หลังจากนั้นก็เครือข่าย…


“ติ่ง!”


ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที คอมพิวเตอร์ของหนิงเทียนหลินก็แสดงคำว่า

“การบุกรุกสำเร็จแล้ว” แล้วไม่กี่วินาทีต่อมาการโต้ตอบก็ปรากฎขึ้นที่มุมด้านขวาล่างของคอมพิวเตอร์ แสดงข้อมูลว่า

“จากคำขอของผู้ใช้งาน ข้อมูลของ LOL ได้ถูกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติไปเป็นสร้างปลั๊กอิน ชื่อรหัสคือ ‘ศูนย์’”


“เปิดใช้งานการปลั๊กอินแล้ว”


พร้อมกันนั้นการปลั๊กอินนี้ก็ถูกเปิดใช้งานอย่างอัตโนมัติพร้อมกับที่มันถูกสร้างขึ้นมาเลย


“ว้าว!”


หลังจากนั้นคำพูดมากมายก็แสดงขึ้นมาที่อินเตอร์เฟซลีกออฟเลเจนด์ของหนิงเทียนหลิน “ปลั๊กอิน ‘ศูนย์’ ท่านสามารถใช้ได้อย่างที่ต้องการ ท่านแค่ต้องพิมพ์ความต้องการที่หน้าจอด้วยตัวอักษรภาษาจีนแล้วท่านก็จะสามารถสร้างข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ”


“โอเค”


สายตาของหนิงเทียนหลินเปล่งประกายขึ้นมาในทันที เขาไม่คิดว่าทุกอย่างจะรวดเร็วขนาดนี้ ตั้งแต่แลกคะแนนจนถึงการสร้างการปลั๊กอินใช้เวลาไม่ถึงนาทีเลย!


“และมันก็ใช้ได้ไม่ยากเลยด้วย…”


หนิงเทียนหลินอ่านคำแนะนำการใช้งานอย่างระมัดระวังและรู้ดีว่าอยากให้ผลลัพท์มันออกมาเป็นยังไง ก็เพียงแค่พิมพ์ความต้องการลงไปที่หน้าจอด้วยตัวอักษรภาษาจีน


“ยังไงอ่ะ? ฉันมีเพื่อนร่วมทีมตั้งเยอะ แล้วจะต้องทำยังไง!”


“ไอ้ไก่อ่อนเอ่ย รีบเลิกเล่นไปเลยนะ ออกไปเลย รีบไสหัวออกจากเกมส์ไปเลยนะไม่งั้นเจอดีแน่! เป็นหง่อยหรือไงว่ะ! ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย! ทุเรศว่ะ!”


ไม่นานก่อนที่หลินเทียนหลินจะเริ่มใช้การปลั๊กอิน เพื่อนร่วมทีมอีกคนก็ส่งคำด่ามาให้เขา


ตอนนี้เพื่อนร่วมทีมทั้ง 4 ต่างก็กรนด่าในความอ่อนหัดเรื่องเกมส์ของหนิงเทียนหลินกันหมด!


“ฉันจะทำยังไงดี! นายจะตายที่ฐานไม่ได้นะเว้ยไม่งั้นพ่อจะจัดการนายแน่ๆ!”


“ไอ้อ่อนเอ่ย!”


หนิงเทียนหลินขาดสติและด่าออกไป พร้อมกันนั้นก็พิมพ์ลงไปที่หน้าจอเกมส์ว่า “ส่งผ่าน, ส่งผ่านอะไรก็ได้ที่นายต้องการ ไม่มีเวลาจำกัด!”


“เพิ่งพลังของทักษะ อี ‘การตัดสิน’ ไปอีก 10,000 เท่า! ครอบคลุมทั้งหน้าจอเลย! ไม่มีเวลาจำกัด! ให้นาน 10,000 วินาทีไปเลย!”


“พลังไม่มีจำกัด เลือดไม่มีจำกัด!”


“ปราการป้องกันของฉันจะต้องไม่มีวันพังทลาย!”



ทันทีที่หนิงเทียนหลินป้อนคำพวกนี้ลงไปที่หน้าจอ เพื่อนร่วมทีมทั้ง 4 ต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน “บ้าไปแล้ว! ไอ้นี่มันบ้าไปแล้วเว้ย!”


“ไอ้ไก่อ่อนชัดๆ!”


“อย่าไปว่ามันสิ มันสติไม่ค่อยดีเท่าไรนะ!”


“ไอ้บ้านี่มันจะทำอะไร มันโคตรทุเรศเลยว่ะ! จะบอกว่าไงดีว่ะ? นี่คือผลลัพท์ของกลุ่มเราเหรอว่ะ? ฮ่าฮ่า เราทำให้เพื่อนร่วมทีมบ้าไปแล้ว!”


“เก็บภาพหน้าจอ! นี่ต้องเป็นเรื่องของไอ้ไก่อ่อนที่ขำที่สุดในเกมส์

LOL เลยว่ะ! ฮ่าฮ่า!”


ในเวลาที่พวกเขาต่างก็กำลังเหน็บแนม ทันใดนั้นหน้าจอก็กลายเป็น

สีดำและฮีโร่ทั้งหมดก็เริ่มที่จะฟื้นคืนชีพกลับมา



ICSS บทที่ 93: การระเบิดของฐานทัพศัตรู


“ตาย!”


“ตายได้ไงว่ะ!”


เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินต่างก็จ้องไปที่หน้าจออย่างไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ไม่มีการสู้ใดๆเลย บางตัวได้แต่เดินไปมาในป่า บางตัวก็หมอบอยู่กับพื้น และต่างก็ไม่มีใครสู้กับศัตรูเลย พวกเขาเลยตาย!


แต่พวกเขาก็พยายามอย่างหนัก วินาทีต่อมาแสงจากดาบลมกรดสีเหลืองสูงตระหง่านก็กระจายไปทั่วทั้งหน้าจอ! แสงอันสว่างนี้จ้าเข้าตาของพวกเขาอย่างจัง!


“อะไรว่ะ!”


“นี่มันเรื่อง****บ้าอะไรกันว่ะ!”


หัวใจของคนทั้ง 4 ต่างก็สั่นระรัวและพวกเขาเล่นเกมส์นี้มาเกือบจะ 2 ปีแล้วยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย! แสงสว่างจากดาบส่องไปทั่วหน้าจอ มันจะเป็นไปได้ยังไง!


“นั่นกาเลนนิ!”


“นั่นมันฝีมือของกาเลน!”


ไม่ช้าทั้ง 4 ก็เห็นเพื่อนร่วมทีม กาเลนที่เพิ่งจะถูกพวกเขาด่าไป กำลังหมุนไปทั่วฐานทัพของตัวเอง สุ่ยเฉวียน พร้อมทั้งโบกดาบใหญ่ที่เปล่งประกายไปทั่วตั้งแต่ฝั่งของตัวเองและในไม่ช้าก็ครอบคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอ!


“โอ้ พระเจ้า!”


“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!”


“พลังขอกาเลนปกคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอเหรอ รอฉันเดี๋ยวนะ!”


3 ใน 4 คนนี้อยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่และในเวลานี้ต่างก็โวยวายกันด้วยความบ้าคลั่งและมีคนหนึ่งลุกขึ้นมาจากที่นั่งทันที ผลักเก้าอี้ไปด้านหลังและตะโกนออกมา


“โปร!”


“มองหาทุกคนที่กำลังเล่นโปร! ลีกออฟเลเจนด์ถูกเจาะ! ฝีมือของกาเลนครอบคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอเลย! ขอเวลาฉันเดี๋ยว!”


“ว้าว!”


จากเสียงตะโกนของเขาทำให้คนทั่วทั้งร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หันมาสนใจที่เขาแต่ส่วนใหญ่จะมองเหมือนเขาเป็นไอ้โง่ โปรเหรอตลอกแหละ ลีกออฟเลเจนด์จะมีโปรได้ยังไง!


นี่เป็นเกมส์ของเทนเซ็นต์ บริษัทเกมส์ที่โด่งดังไปทั่วโลกจะโดนเจาะได้ยังไง!


ไม่มีทาง เป็นโปรแน่ๆ!


อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนบางคนที่ยังสงสัยอยู่ พวกเขาต่างก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าจอของเขาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะ 2 คนที่นั่งข้างๆเขาต่างก็หันหัวเพื่อที่จะหันไปดูจอได้อย่างตรงๆแต่เพียงแค่แวบเดียวพวกเขาก็ต้องรีบหยิบแว่นขึ้นมาใส่ทันที!


เพราะพวกเขาเห็นว่ากาเลนที่อยู่ในวงล้อมของฐานบิดตัวและโบกดาบใหญ่ไปมาแล้วทั่วทั้งจอก็เต็มไปด้วยแสงสีเหลืองของดาบ!


หลังจากนั้นก็มีประโยคเพิ่มขึ้นมาอีก 2-3 ประโยคปรากฎขึ้นมาที่หน้าจอ


“ทุกคนจะได้รับการฟื้นคืนชีพทันทีหลังจากที่ตาย”


“ฐานของกาเลนโจมตีพลังเพิ่มอีก 10,000!”


“กาเลนเป็นอมตะ!”


คำพูดที่เร่งด่วนเหล่านี้แต่การนับถอยหลังก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มากกว่า 30 วินาทีที่ผู้คนมากมายที่ได้รับการชุบชีวตจากน้ำพุแห่งการเกิดใหม่


ถึงแม้มันจะถูกตั้งไว้ว่าให้ชุบชีวิตในทันทีเลยแต่ความเร็วในการตอบสนองของข้อมูลมากมายก็ยังถูกจำกัดด้วยฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ของเครื่องจักรและไม่มีใครช่วยอะไรได้ เวลาเกือบ 3 วินาทีที่คนพวกนี้จะได้รับการชุบชีวิตจากน้ำพุแห่งการเกิดใหม่


แต่ในทันทีร่างของพวกเขาก็ต้องเจอเข้ากับเจี้ยนกวงตัวมหึมาและถูกฆ่าในทันที!


อย่างไรก็ตามหนิงเทียนหลินก็ยังจำได้ว่าภารกิจแรกที่ระบบการต่อสู้ให้มาคือ “ทุกครั้งที่มีการฆ่าเพื่อนร่วมทีม นายจะได้คะแนนพลังงานนิดหน่อยเป็นรางวัล และหลังจากที่ชนะนายจะได้คะแนนพลังงาน 10 คะแนน” น่าเสียดายที่ภารกิจนี้จำกัดอยู่แค่ที่เกมส์นี้ ส่วนอีก 99 เกมส์ไม่นับรวมด้วย


หลังจากนี้จะไม่มีรางวัลสำหรับการฆ่าเพื่อนร่วมทีมแต่การฆ่าศัตรู 100 ตัวก็จะได้คะแนนพลังงานนิดหน่อย


ดังนั้นหนิงเทียนหลินจึงรอที่จะให้พวกเขาค่อยๆฟื้นคืนชีพไม่ไหวเพราะในระดับปัจจุบันนี้ต้องใช้เวลา 30 วินาทีในการฟื้นคืนชีพแต่ละครั้ง เวลาพวกนี้หมายถึงคะแนนวิญญาณและเขาไม่อยากที่จะต้องเสียมันไป!


“ใช่เลย!”


“โปร!”


“ใช่ โปร จริงๆด้วย!”


“โปร เหรอเจ๋งไปเลย!”


“ฝีมือของกาเลนครอบคลุมไปเต็มหน้าจอเลย! ไม่อยากจะเชื่อเลย!”


อีก 2 คนที่อยู่ถัดจากเขารีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที ตะโกนด่าอย่างเมามันพร้อมทั้งจ้องไปที่หน้าจอเขม้นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ


“มันคือ โปร!”


“ไอ้กาเลนมันใช้ โปรจริงๆด้วย!”


หลังจากนั้น คนไม่กี่คนที่เดินเข้ามาก็ได้เห็นภาพบนหน้าจอและต่างก็ต้องประหลาดใจ


“ว้าว!”


ในเวลานี้พวกคนมากมายที่เพิ่งพูดดูถูกก็ต้องหยุดเกมส์ที่กำลังเล่นอยู่

ในตอนนี้และรีบเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคนมีแค่คนเดียวพูดเรื่องปลั๊กอินก็คงไม่ค่อยน่าเชื่อแต่ตอนนี้มีคน 7-8 คนที่กำลังพูดเรื่องนี้อยู่มันจึงคุ้มที่จะเข้ามาดูเอง!


“คุณอา มันฟื้นคืนชีพจริงๆด้วย! อย่าเพิ่งนับถอยหลังสิ!”


“ฉันเชื่อว่าฉันจะฆ่าได้อีก!”


เขาเพิ่งจะเห็นคนไม่กี่คนพร้อมกับคำพวกนั้นบนหน้าจอแล้วก็ต้องตะโกนออกมาอีกครั้ง! แถมยังอธิบายอีกว่า “แค่เพราะที่กาเลนพูดไว้บนหน้าจอว่าทุกคนจะได้รับการชุบชีวิตทันทีหลังจากที่ตายแล้วพวกนั้นก็ได้รับการชุบชีวิตจริงๆด้วย!”


“แถมใช้เวลาไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ!”


ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างและเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีโปรในเกมส์นี้และยังเป็นการปลั๊กอินที่แย่มากๆด้วย!


“นายจะต้องเซฟไอ้นี่และรอให้มันออนไลน์ด้วยนะ!”


“ LOL ได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว!”


ชายคนนั้นตัดสินแล้วในใจแต่เขาไม่สังเกตเลยว่าคนรอบๆตัวเขาต่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพคอมพิวเตอร์เขากันอย่างมากมาย!


เรื่องแบบนี้ต้องมีผลกระทบกับอินเตอร์เน็ตอย่างมากเลยแน่ๆ!


“พี่ชายเอาไอ้ โปร นี่มาจากไหนกันล่ะ? ช่วยบอกทีสิ”


พร้อมกันนั้นก็มีข้อความปรากฎขึ้นมาที่หน้าจอของหนิงเทียนหลินซึ่งถูกส่งมาจากคนที่เล่นเป็นยาสุโอะเหมือนกับว่าเขาลืมไปแล้วว่าเพิ่งจะแช่งให้หนิงเทียนหลินไปตายซะอยู่หยกๆ แล้วแบบนี้หนิงเทียนหลินจะสนใจเขาทำไมกันล่ะ? แล้วถ้ามายืนอยู่ตรงหน้าเขาป่านนี้ก็คงจะถูกฆ่าตายไปแล้วแน่ๆ!


ในเวลาเดียวกัน


“แถวบี!”


“กาเลนนี้อยู่ที่แถวบี!”


“บ้าจริง! รอให้ได้รายงานก่อนเถอะ!


แน่นอนคู่ต่อสู้ของหนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่าทุกคนต่างก็ตายในน้ำพุ พร้อมกันนั้นสีหน้าเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปและเขาก็เริ่มที่จะด่ากราดลงในหน้าจอสาธารณะอยู่สักพักในระหว่างที่ขู่หนิงเทียนหลินว่าจะรายงานเรื่องนี้


“ยกเว้นไอ้กาเลน ทุกคนเงียบให้หมด!”


หนิงเทียนหลินไม่สนใจพวกนั้นและไม่ได้อยากจะเจอพวกนั้นด้วย เขาเยาะเย้ยออกมา “รายงานงั้นเหรอ?”


“น่าแปลกที่จะรายงานเรื่องที่เป็นประโยชน์!”


เขาใช้เทคโนโลยีที่โลกไม่รู้จักมาหลายปี ด้วยเทคโนโลยีของเทนเซ็นต์ในตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรวจจับเจอ!


หลังจากที่ได้เห็นคำพวกนี้ เพื่อนร่วมทีมพยายามที่จะด่าเข้าไปในช่องสนทนาอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะคำพูดที่เขาพิมพ์ไม่แสดงบนหน้าจอเลยสักคำและเขาก็มองไม่เห็นมันด้วย!



“คือเวลาใกล้จะหมดแล้ว!”


ตอนที่หนิงเทียนหลินใช้ โปร มันก็ผ่านไป 16 นาทีแล้ว อย่างไรก็ตามเขาจำได้ว่าระบบการต่อสู้จำกัดเวลาไว้สำหรับเกมส์ทั้งหมดของเขา เขาเชื่อว่าการต่อสู้ที่รวดเร็วเป็นการต่อสู้ที่แข็งแรงที่สุด


งั้นจึงกำจัดแต่ละเกมส์ที่ 20 นาที ถ้าเวลาหมดแม้แต่หนิงเทียนหลินก็จะแพ้ไปด้วย!


3 นาทีต่อมาหนิงเทียนหลินได้ฆ่าเพื่อนร่วมทีมไป 68 ครั้งแล้ว ครั้งละ 4 คนก็เท่ากับฆ่าไปแล้วทั้งหมด 272 คน! ก็จะได้คะแนนสำคัญ 272 คะแนนด้วย และฆ่าศัตรูไป 68 ครั้ง ครั้งละ 5 คนซึ่งก็เท่ากับฆ่าไปแล้ว 340 คน! ได้คะแนนสำคัญ 3 คะแนน


ในอีกแง่หนึ่งถ้าภารกิจนี้สำเร็จจากจำนวนการฆ่าเขาก็จะได้คะแนนพลังงาน 275 คะแนน


“ฐานทัพของศัตรูระเบิดแล้ว!”


เมื่อเกมส์เหลือเวลาอีกแค่ 15 วินาทีจะครบ 20 นาที หนิงเทียนหลินก็พิมพ์คำพวกนี้ลงไปที่หน้าจอ ทันใดนั้นหน้าจอของการระเบิดของฐานท้องถิ่นก็ปรากฎขึ้นมาและที่หน้าจอก็มีคำว่า “ชนะ” แสดงขึ้นมาตัวใหญ่เลย!



ICSS บทที่ 94: 200 คะแนนจากในเกมส์!


“ติ่ง!”


“ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ทำภารกิจที่ 1 สำเร็จ!”


ฆ่าเพื่อนร่วมทีมไปทั้งหมด 272 คน 1 คะแนนสำหรับแต่ละคน ได้คะแนนพลังงาน 272 คะแนน ฆ่าศัตรูไป 340 คน 1 คะแนน สำหรับ

100 คน ได้คะแนนพลังงาน 3 คะแนน ภารกิจสำเร็จ ได้คะแนนพลังงานเพิ่มอีก 10 คะแนน”


“ได้คะแนนสำคัญทั้งหมด 285 คะแนน”


เมื่อคำว่า “ชนะ” ปรากฎที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จิตของหนิงเทียนหลินก็ได้ยินเสียงของระบบการต่อสู้ดังขึ้นมาและเขาก็เห็นว่าคะแนนพลังงานของเขาไปแตะที่ 412 คะแนนแล้ว!


หลังจากที่ฆ่าไปมากกว่า 300 คนในไนท์คลับ เก็บคะแนนพลังงานได้ 127 คะแนน


“เยี่ยมเลย!”


หนิงเทียนหลินรู้สึกตื่นเต้นมากและคะแนนพลังงานที่เขาได้จากภารกิจนี้ก็ไม่น้อยไปกว่าคะแนนพลังงานที่เขาได้จากการฆ่าคนจริงๆเลย! ในเวลาแค่ไม่กี่นาทีก็เก็บคะแนนพลังงานได้ 285 คะแนนแล้ว และเขารู้ว่านี่ยังเป็นแค่คะแนนเล็กน้อย รอให้ได้รางวัลของภารกิจที่ 2 ก่อนเถอะ!


“ข้างล่างนี้คือชัยชนะต่อเนื่องนับร้อยครั้ง สำหรับทุกศัตรู 100 คนที่ถูกฆ่าจะได้คะแนนพลังงานนิดหน่อย!”


สายตาของหนิงเทียนหลินเปล่งประกายขึ้นมาแล้วจึงเริ่มที่จะเล่นอีกครั้ง หลังจากไม่กี่นาทีผ่านไปเขาก็กดเขาไปที่เกมส์และในครั้งนี้เขาเลือกกาเลน เมื่อเทียบกับคะแนนสำคัญแล้วงั้นขั้นตอนของเกมส์ก็ไม่สำคัญเลยสักนิด ไม่สำคัญเลยว่าเขาจะเลือกใครมา


“กาเลน!”


“ยิ่งใหญ่สุดๆ!”


“เรา 3 คนลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ นั่งยองๆมองวิวสวยๆและสู้เพื่อเลือด!”


“โอเค!” กษัตริย์ผู้ป่าเถื่อนพูดออกมา ดึงอาวุธออกมาแล้วลุกขึ้น


“ฝีมือทักษะของกาเลนเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เท่าและครอบคลุมไปทั่วทั้งแผนที่! เมือ 20 นาทีที่แล้ว!”


“น้ำพุของศัตรูหายไปแล้ว”


แต่ในเวลานี้กรอบข้อความปรากฎขึ้นมาที่หน้าจอ ทำให้เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินต่างก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น


“กาเลนมึงกล้ามาเลยนะ?” คนหนึ่งพูดอย่างข่มขู่


“พวกแกทุกคนตายหลังจากถูกชุบชีวิตทันที” แต่หนิงเทียนหลินไม่สนใจเขาเลยสักนิดและพิมพ์ลงไปที่หน้าจอโดยตรง


“ทุกคนงี่เง่าหมดยกเว้นกาเลน!”


หนิงเทียนหลินมั่นใจมากว่าเมื่อฝีมือของเขาเปิดเผยออกไปจะต้องมีการตบจออย่างแรงแน่ๆ เพื่อนร่วมทีมของเขาอาจจะดีกว่า หลังจากทุกอย่าง การชนะ อีกฝ่ายอาจจะต้องมาทักทายยกย่องเขาเลย

คำพวกนี้สมควรที่จะได้เห็นจริงๆ


“ใช่แล้ว!”


“ฉันคุยไม่ได้จริงๆ!”


เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินอยากที่จะถามเขาว่าเขาบ้าหรือเปล่าแต่พิมพ์ลงไปแค่ไม่กี่คำแต่มันก็ไม่ได้แสดงขึ้นมาเลยสักนิด เลยอดไม่ได้นอกจากตกตะลึงแต่แล้วก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องปิดกั้นการคุยกับเขาแน่ๆเลย ใช่ไหม?


“โอ้!”


ในเวลานี้ ทักษะอีของกาเลนในน้ำพุถูกเปิดออกมาแล้ว ทันใดนั้นลำแสงของดาบสูงตระหง่านก็ปกคลุมไปทั่วทั้งหน้าจอแล้วเพื่อนร่วมทีมของเขาก็ได้เห็น “เฟิร์สบลัด!” ที่หน้าจอของพวกเขา


“ดับเบิ้ลคิว!”


“ทริปเปิ้ลคิว!”



“เกิดอะไรขึ้น!”


“ทำไมฉันถึงตายล่ะ!”


“ลำแสงของดาบนี่มันอะไรกัน!”


ศัตรูทั้ง 5 ได้รับการชุบชีวิตจากน้ำพุ แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบโต้ตัวละครในเกมส์ของพวกเขาก็ตายอีกครั้งและน้ำพุก็ถูกครอบคลุมไปด้วยลำแสงของดาบ หลังจากการฟื้นคืนชีพเขาก็ถูกดาบนี้รัดคออีกรอบ!


“อะไรเนี่ย!”


“เกิดอะไรขึ้นว่ะ!”


“นี่จะไม่ให้คนอื่นเล่นเลยหรือไงว่ะ!”


ศัตรูทั้ง 5 ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นและอยากที่จะใส่เครื่องหมาย “??” ลงไปที่หน้าจอแต่มันก็ไม่แสดงขึ้นมาเลยสักนิดและเขาก็ไม่เห็นคำที่พิมพ์ลงไปด้วยซ้ำ แต่หลังจากนั้น 10 วินาทีใครบางคนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


“โปร!”


“อีกฝ่ายใช้โปร!”


เขาอยากที่จะแก้คำสาปแต่พิมพ์ลงไปไม่ได้ เขาเลยตะโกนออกมาในโลกความเป็นจริง “โปร!”


“อีกฝ่ายกำลังใช้โปร!”


นอกจากนี้เสียงของเขาก็ดังมากๆด้วยและดังกระทบผู้เล่นรอบๆในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ทันที ทุกคนต่างก็รีบวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นและเพียงแค่แวบเดียวก็ทำให้พวกเขาสนใจได้ในทันที! หน้าจอเต็มไปด้วยลำแสงของดาบ!


ตัวละครในเกมส์ของเขาถูกรัดคอทันทีที่ได้รับการชุบชีวิต!


“ใช่เลย!”


“มันคือ โปร จริงๆด้วย!”


ฝูกชนต่างก็ตระโกนออกมาและพร้อมกันนั้นพวกเขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปและตัดสินใจที่จะถ่ายวีดีโอซึ่งจะนำไปโพสลงออนไลน์แล้วมันต้องดังมากแน่ๆด้วย!”


“พี่ชาย นายมาจากไหน?”


เพื่อนร่วมทีมของหนิงเทียนหลินรู้ได้ในทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและรีบพิมพ์มาถามหนิงเทียนหลินทันที เขาอยากที่จะเก่งเรื่องการปลั๊กอิน! เขายังอยู่ในระดับบรอนซ์อยู่เลย ให้เวลาเขา 1 หรือ 2 วันแล้วเขาจะเป็นปรมาจารย์ได้เลยล่ะ!


น่าเสียดายที่เขาพบว่าคำพูดที่เขาพิมพ์ลงไปไม่แสดงขึ้นมาที่จอเลยสักนิด


ช่วยอะไรไม่ได้เขาทำได้เพียงแค่จ้องไปที่หน้าจอ เฝ้าดูกาเลนฆ่าแล้วฆ่าอีก!


“น่าเบื่อจริงๆ”


เหตุการณ์นี้อยู่ไปนาน 2-3 นาทีและหนิงเทียนหลินเริ่มรู้สึกเบื่อ มีเพียงกาเลนเท่านั้นที่บิดตัวไปมาในน้ำพุของตัวเอง โบกดาบไปมาและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง


ไม่มีกลเม็ดเพิ่มเติมเลยและเขาก้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกแล้ว

อย่างไรก็ตามเขาก็ยังรีบคำนวนอยู่ในหัวว่าใน 20 นาทีนี้เขาจะได้คะแนนพลังงานเท่าไร


“การฟื้นคืนชีพในทันทีแต่การตอบโต้ที่เร็วที่สุดของเซิร์ฟเวอร์ก็ยังต้องใช้ 3 วินาทีอยู่ดี ก็จะชุบชีวิตได้ 20 คนใน 1 นาที 5 คนในแต่ละครั้งซึ่งก็เท่ากับ 1,000 คน!


“1 นาทีได้ 1 คะแนน 20 นาทีก็จะได้ 20 คะแนน!”


สายตาของหนิงเทียนหลินเปล่งประกายเพราะนี่เป็นแค่เกมส์ ระบบการต่อสู้มอบหมายภารกิจนี้ให้เขาว่าต้องชนะ 100 ครั้งติดต่อกัน นอกจากนี้นี่เป็นแค่เกมส์แรก ยังเหลืออีก 99 เกมส์ สุดท้ายแล้วเมื่อจบ 99 เกมส์ เขาจะได้คะแนนพลังงาน 1,980 คะแนน!


บวกกับของเดิมอีก 412 คะแนน ก็หมายความว่าคะแนนพลังงานของเขาก็จะแตะที่ 2,000 คะแนน!


“2,000 คะแนน!”


“ทำอะไรได้เยอะเลยนะนั่น!”


หนิงเทียนหลินลดขนาดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงแล้วเปิดหนังที่หน้าจอดูแทน เพียงแต่ว่าใจเขาไม่ได้อยู่ที่หนังเลยแต่กลับเข้าไปที่ประตูแห่งการแลกเปลี่ยนของระบบการต่อสู้แทนและเริ่มที่จะหาสิ่งที่เขาต้องการ หลายสิ่งเลยด้วย


หลังจากผ่านไป 5-6 นาทีเขาจึงเข้าไปในเกมส์อีกครั้ง เมื่อเกมส์กำลังจะครบ 20 นาทีเขาจึงพิมพ์ “ฐานของศัตรูระเบิดแล้ว” ลงไปที่หน้าจอโดยตรง


“ติ่ง เกมส์นี้ฆ่าศัตรูไปได้ทั้งหมด 1,980 คน นายจะได้คะแนนสำคัญ 19 คะแนน ถ้าภารกิจสำเร็จ คะแนนสำคัญนี้จะถูกรวมเข้าด้วยกัน”


พร้อมกันนี้ในจิตของหนิงเทียนหลินก็ได้ยินเสียงของระบบการต่อสู้ดังขึ้นมา แนะนำว่าคะแนนวิญญาณพวกนี้จะต้องชนะทั้งหมด 100 เกมส์ถึงจะได้รับคะแนนเหล่านี้


และหนิงเทียนหลินก็ไม่ลังเลและเริ่มเกมส์ที่ 3, 4 และ 5 ต่อไปทันที…



ICSS บทที่ 95: เราทั้ง 3 คน


“โปร! LOL เจอโปร!”


“โปรในเกม LOL ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์! ทุกคนมันบ้าไปแล้ว!”


ด้วยการเล่นอย่างต่อเนื่องของหนิงเทียนหลิน รอบที่ 5 ใช่แล้วนี่ผ่านมาเกือบจะ 2 ชั่วโมงแล้ว บางคนก็ได้ถ่ายวีดีโอและโพสลงออนไลน์หรือในเวปไซต์เกมส์ที่โด่งดังและทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของประชาชนกลุ่มใหญ่!


เกมส์ LOL ถูกสร้างมาหลายปีแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่เกิดเกิดขึ้นมาก่อนเลย! เคยมีการโปรแต่ก็เป็นเพียงแค่ภาพรวมเท่านั้น มันแค่สามารถเห็นตำแหน่งของผู้เล่นทั้งหมดได้ที่หน้าจอและพวกเขาก็ถูกบล็อคทันทีหลังจากที่มันปรากฎขึ้นมา! มันเรียกว่า แฮกแมพ


แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีโปรอยู่จริงๆ จะเล่นอะไรอย่างที่ต้องการก็ได้! ทุกคนที่เห็นวีดีโอนี้จะรู้สึกว่านี่เป็นโปรที่เจ๋งมาก คนอื่นๆนอกจากเขาก็เห็นแมพกันหมดงั้นมันก็ง่ายมากที่จะขึ้นอันดับสูงสุดและมีเงินที่ไม่จำกัดได้!


นอกจากนี้โพสต์ที่ปรากฏบนอินเทอร์เน็ตถูกเพิ่มโดยผู้ดูแลไปยังตำแหน่งที่ร้อนที่สุดหลังจากผ่านไปสักครู่เพราะพวกเขาได้รับการยืนยันแล้ว วีดีโอในโพสนี้เป็นเรื่องจริง! และโพสอีก 4 อันก็ปรากฎขึ้นมาอีกหลังจากนั้น ระบุว่าการเปิดยังคงดำเนินอยู่! ยังไม่ถูกบล็อค ไม่ได้ถูกปิดกั้น!


เรื่องแบบนี้เป็นปรากฏการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในเกมส์ LOL เลยจริงๆ!


อีกอย่างที่ตอบโต้กับโพสพวกนี้ เกือบครึ่งของผู้คนต่างก็ถามว่าโปรนี้มาจากไหน! มันมีโปรที่เจ๋งขนาดนี้ได้ยังไง! พวกเขาก็อยากได้เหมือนกัน!


ในเวลาเดียวกัน


สำนักงานใหญ่ของเทนเซ็นต์


“รู้เรื่องโปรนี้หรือเปล่า?”


“แก้ไขเรื่องระบบบั๊คหรือยัง?”


“ต้องรีบปิดบัญชีนี้ทันทีเลย!”


คำถามมากมายหลั่งไหลออกมาจากปากของผู้จัดการแผนกเพราะเขารู้ดีว่าถ้ายังหาช่องโหว่ของโปรนี้ไม่ได้มันจะต้องสร้างความเสียหายให้กับลีกออฟเลเจนด์แน่ๆ! ถ้าโปรนี้ถูกแพร่ออกไปสู้สาธารณะใครกันที่จะเล่นเกมส์ได้อย่างสบายใจ!


จะต้องลบโปรนี้ให้ได้ฆ่าได้ก็ฆ่า!


ใครก็ตามที่ได้เทคโนโลยีโปรนี้ไปก็เหมือนได้ครองโลกนี้! ถึงแม้จะมี

นักเล่นที่เก่งกาจเข้ามาก็ทำอะไรไม่ได้แถมจะถูกฆ่าตายภายในเวลาไม่กี่วินาทีได้เลย!


โปรนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของเกมส์ LOL นี้เลยจริงๆ! และในอดีต เขาจำไม่ได้เลยว่ามีกี่เกมส์แล้วที่ถูกปล่อยมาในจีนแล้วต้องหายไปเพราะสาเหตุจากโปร เรื่องแบบนี้จะต้องไม่มีวันเกิดขึ้นกับเกมส์ LOL ที่เขาเป็นคนดูแลอยู่เด็ดขาด!


“ยังทำอะไรไม่ได้เลยครับ!”


“ยังหาไม่เจอเลยว่าโปรนี้มาจากไหน บัญชีนี้ยังถูกปิดอยู่เลย มันไม่อยู่ในฐานข้อมูลของเราเลยเราก็เลยบล็อคไม่ได้”


ช่างเทคนิคตอบคำถามออกมาด้วยหน้าเศร้าๆ


นี่ผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้ว ในอดีตช่องโหว่จะต้องถูกตรวจพบและได้รับการแก้ไขในทันทีแต่ตอนนี้แม้แต่ร่องรอยของโปรก็ยังหาไม่ตรวจไม่พบแถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายแก้ไขข้อมูลได้ยังไง


“หัวหน้าครับ คนที่ค้นคว้าและพัฒนาเรื่องโปรนี้จะต้องเป็นเซียนคอมพิวเตอร์แน่นอน” ในตอนจบช่างเทคนิคพูดเสริมออกมาอีก


“เซียนเหรอ?”


“พูดแบบนี้นายจะยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ!”


“ฉันให้เวลานายอีก 3 ชั่วโมงและถ้านายยังทำไม่ได้นะ โบนัสทั้งหมดของนายจะต้องถูกยกเลิก!”


หัวหน้าพูดออกมาและเดินออกไปจากห้องไป เขายังคงมั่นใจในตัว

ลูกน้องของตัวเองอยู่ ยังไงซะพวกเขาก็คือ DEV ที่มีความสามารถในการรักษาข้อมูลมากที่สุดในจีน พวกเขามั่นใจมากและในจีนก็ไม่ได้มีแบบพวกเขามากนัก



“เทียนหลินทำไมเหยียดหยามกันขนาดนี้ว่ะ! แบบนี้ไม่ต้องมาเล่นเกมส์อีกเลยนะ”


มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อมาทันทีหลังจากที่หนิงเทียนหลินเล่นเกมส์ที่ 7

ชิเซียวจุนก็เข้ามาในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่พอดีและได้เห็นว่าหนิงเทียนหลินกำลังดูหนังอยู่แต่เขาไม่ได้เปิดหน้าจอลีกออฟเลเจนด์ขึ้นมา ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ดึงเก้าอี้ที่อยู่ด้านซ้ายออกมานั่ง


“ทำแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย”


“เหยียดหยามเกมส์ของฉันแบบนี้ได้ยังไง!”


“นี่นายออกจากน้ำพุไม่ได้ด้วยซ้ำ!”


หนิงเทียนหลินยอมรับเรื่องนี้แต่แทนที่จะมองกลับไป เขากลับจ้องไปที่หน้าจอบนคอมพิวเตอร์และดูหนังต่อไป เกมส์เขายังรันต่อไปเรื่อยๆ

แค่ 3 นาทีในเกมส์ เขาเพียงแค่พิมพ์คำพูดลงไปไม่กี่คำในนาทีแรกแล้ววางสายไป


โปรจะฆ่าคนอื่นจนตายและเขาไม่ต้องทำอะไรเลย


“แค่ฝีมือของนายยังไปถึงระดับซิลเวอร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ! ฉันรู้น่า” ชิเซียวจุนพูดเหน็บแนมแบบไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่จำเป็นต้องเล่นกับหนิงเทียนหลินเลย ระดับเกมส์ของอีกฝ่ายทั้งๆที่เขาสอนไปแล้วด้วยซ้ำ


ตราบใดที่เขายังเล่นแบบนี้อยู่ พวกเขาไม่มีทางชนะหรอก!


“ฮ่า ฮ่า”


หนิงเทียนหลินไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยิ้มเฉยๆ ในเวลานี้เขาเจอว่าที่ด้านขวาของเขามีขวดชาเขียวมาสเตอร์ก่องวางอยู่จึงหันหัวไปและเห็นว่าหลินเจียอี้ก็ดึงเก้าอี้และมานั่งที่ด้านขวาของเขาด้วย


“เธอมาได้ยังไง?”


หนิงเทียนหลินขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมาในสถานที่แบบนี้ แบบร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่


“ทำไมฉันจะมาไม่ได้ล่ะ?”


“ฉันก็เล่น LOL เหมือนกันนะ”


“นายบอกว่าตัวเองเทคนิคดีใช่ไหม งั้นสอนฉันหน่อยได้ไหม ฉันเล่นแพ้ตลอดเลย”


หลินเจียอี้ยิ้มพร้อมทั้งมองจ้องไปที่สายตาของหนิงเทียนหลินที่อยู่ตรงหน้า


ในช่วง 2 ชั่วโมงนี้เธอได้ถามข้อมูลของหนิงเทียนหลินมาจากชิเซียวจุนหมดแล้ว ไม่เพียงแค่นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์ หรือแม้แต่ว่าเขาชอบใส่กางเกงในสีอะไร


เธอในตอนนี้เหลือแค่ไม่รู้ว่าน้องชายของหนิงเทียนหลินยาวแค่ไหน!


เพียงแต่ว่าหนิงเทียนหลินที่ออกมาจากปากของชิเซียวจุนไม่เหมือนที่เธอรู้จักเลย มันแตกต่างกันมาก


จากปากของชิเซียวจุน หนิงเทียนหลินก็เป็นเด็กธรรมดาๆที่เขินอายเวลาได้คุยกับผู้หญิงแต่ในความคิดของเธอ อีกฝ่ายช่างกล้าหาญถึงขนาดที่กล้าจะฆ่าคนอื่นแล้วแบบนี้จะมาอายเวลาที่ได้คุยกับผู้หญิงได้ยังไงกัน!


เวลาคุยกับเธอไม่เห็นเขาจะเขินอายเลย!


นอกจากนี้เธอไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองเล่นเกมส์เป็นยังไงเธอเพียงแค่อยากจะนั่งกับหนิงเทียนหลิน


“ใช่เลยเทียนหลิน ฉันว่าเรา 3 คนมารวมทีมแล้วเล่นด้วยกันไหม ถ้าเราแพ้ เราก็แพ้ด้วยกัน”


“ยังไงซะระดับของพวกเราก็คงต่ำกว่านี้ไม่ได้แล้วแหละ”


หนิงเทียนหลินยังไม่ได้พูดอะไรแต่เป็นชิเซียวจุนที่เป็นฝ่ายพูดเอง

เล่นเกมส์กับสาวสวยจะสนใจอะไรกับเรื่องชนะหรือแพ้กันล่ะ?


“ถ้าแพ้ก็คือแพ้” หนิงเทียนหลินพูด “มาดูกันว่าวันนี้ใครคือเซียนตัวจริง” พร้อมกันนั้นเขาก็หันไปเอนตัวไปที่หูของชิเซียวจุนและพูดออกมา


เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังชิเซียวจุนเรื่องโปรเลยและมันง่ายมากที่จะละเลยและพูดไปง่ายๆว่าจ่ายเงินซื้อมา ซึ่งก็เป็นเหตุผลว่าทำไมในอนาคตถึงจะเอามาใช้อีกไม่ได้เพราะมันจะถูกบล็อค


“นายพูดจริงหรือเปล่า?”


สายตาของชิเซียวจุนมุ่งมั่น ปากอ้างกว้าง เรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง


“จริงสิ”


“ฉันจ่ายเงินซื้อมาตั้ง 2,000 เหรียญ!”


หนิงเทียนหลินโกหกและเปิดหน้าจอเกมส์ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

ที่หน้าจอ พายุดาบทีทรงพลังของกาเลนก็สาดไปทั่วหน้าจอและที่กึ่งกลางของหน้าจอ เรื่องราวของกาเลนแพร่กระจายไปอย่างไม่น่าเชื่อ



ICSS บทที่ 96: จะบอกไหม?


“จริงเหรอ! เรื่องจริง งั้นเหรอ!”


สายตาของชิเซียวจุนเปล่งประกายและน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว!


“ชูว์!”


“เบาเสียงลงหน่อย!”


“กลัวคนพวกนี้ได้ยิน” หนิงเทียนหลินพูดติดตลกแลัวแกล้งทำเป็นบ่น


“ถ้านายกังวลเรื่อง ID ก็สร้างขึ้นมาใหม่เลย ระดับ 100 เป็นของนาย นายจะได้เป็นราชาเลยนะ!”


“โอเค!” ชิเซียวจุนทำตัวเหมือนโจร หันหัวไปมาแล้วพูดออกมา


“งั้นฉันไปสร้าง ID ใหม่เอาให้ประวัติไร้พ่ายไปเลยใครเห็นเป็นต้องกลัว! พอถึงเวลานั้นฉันก็จะไม่ต้องใช่ โปร อีกต่อไป!”


“มีอะไรเหรอ?” ในเวลานี้หลินเจียอี้เห็นทั้งสองคนทำลับๆล่อๆกันเลยเริ่มที่จะถาม เธอก็เพิ่งจะมองมาที่หน้าจอของหนิงเทียนหลินเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจ


“ไม่มีอะไรหรอก”


“ฉันซื้อ โปรมาน่ะ มาลองใช้ดู”


หนิงเทียนหลินไม่ได้บอกความจริง หลังจากนั้นจึงบอกให้ทั้ง 2 เข้ามาเล่นและแอดพวกเขาเป็นเพื่อน พร้อมทั้งเริ่มที่จะเล่นแล้ว


“ได้เลย!”


“เจ๋ง!”


“เขาเก่งจริงๆด้วย!”


ไม่กี่นาทีต่อมา ชิเซียวจุนก็ได้เห็นพลังของโปรเพราะหนิงเทียนหลินอยากที่จะฆ่าคนเพื่อที่จะเก็บคะแนนพลังงานทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะได้ฆ่าฮีโร่ของอีกฝ่ายเลยสักนิด แต่หนิงเทียนหลินก็เปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นฮีโร่โดยตรงไปเลยพร้อมทั้งเงินที่มีไม่จำกัด ทั้ง 2 ตรงเข้าไปที่ด่านมังกรและได้สู้กับมังกรทันที


เพื่อที่จะรับประกันว่ามังกรไม่ได้ตายด้วยฝีมือของกาเลน เขาถึงขนาดเล็งเป้าไปพวกศัตรูฮีโร่เท่านั้น ไม่ใช่ปีศาจ!


“เจ๋ง!”


ไม่นานก็หมดเวลา 20 นาทีและทั้ง 3 ก็ชนะในเกมส์แรก หลินเจียอี้ก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วย เธอไม่เคยรู้เลยว่าสามารถเล่นเกมส์แบบนี้ก็ได้ด้วย!

แล้วก็ตามมาด้วยเกมส์ที่ 2 และ 3 จนถึงเกมส์ที่ 10 เวลาผ่านมา 4-5 ชั่วโมงแล้ว มันเริ่มจะดึกแล้วประมาณทุ่มแล้ว


“ขอบฟ้าอันกว้างใหญ่คือที่รักของฉัน…”


ทันใดนั้นโทรศัพท์ของหลินเจียอี้ก็ดังขึ้นมาและหลังจากที่คุยเรียบร้อย เป็นสายจากคุณอาพี่เลี้ยงของเธอเพื่อที่จะเตือนเธอว่าให้กลับมาทานข้าวที่บ้านและเธอก็มองที่นาฬิกา นี่เพิ่งจะหนึ่งทุ่มเองและเมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินยังปฎิเสธอยู่ บอกว่าจะกลับไปกินกับเพื่อนร่วมชั้น

คุณอาพี่เลี้ยงไม่ได้บังคับอะไรเธอจึงบอกเธอว่าให้รีบกลับบ้านด้วย


“ฉันหิว ฉันจะออกไปหาอะไรกินหน่อย”


หนิงเทียนหลินเปิดฝีมือของเขาให้รันอยู่ เขาจึงไม่ต้องทำอะไรมากนักและในตอนนี้เขาก็กำลังดูหนังอยู่ด้วย แต่นี่ก็เป็นเวลาอาหารแล้ว เขาจึงลุกขึ้นและถามอีก 2 คนว่า “จะกินอะไรไหม? ฉันจะไปซื้อมาให้”


“ซอสเบคอนกับเกี๊ยวเนื้อ ขอน้ำเย็นด้วย” ชิเซียวจุนพูดออกไปตรงๆ ในเวลาเดียวกันเขาก็ยื่นมือออกไปเพื่อที่จะหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า เป็นเรื่องปกติของเขาที่จะฝากให้เพื่อนซื้อข้าวให้และเขาก็จะฝากเงินไปเลย


อย่างไรก็ตาม สายตาของเขาก็ยังจ้องไปที่หน้าจอสักพักและก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่


“ฉันด้วย” หลินเจียอี้ไม่รู้ว่าจะกินอะไร เธอเลยสั่งตามแบบของชิเซียวจุน


“โอเค” หนิงเทียนหลินหันหลังแล้วเดินออกไปและร้านเบคอนและเนื้ออยู่แค่ข้างๆเนี่ยเอง และเขาจะรับเงินจากชิเซียวจุนได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้การเงินเขาฝืดเคืองอยู่


เพียงแค่ 10 นาทีต่อมาเมื่อเขากลับมาจากซื้ออาหาร เขาก็เห็นว่าตรงที่นั่งของเขามีคนอื่นเข้ามานั่นแทนแล้ว ชิเซียวจุนเถียงกับคนนั้นและถึงขนาดผลักกันด้วย หลินเจียอี้รู้สึกกลัวนิดหน่อย เธอยืนอยู่ด้านข้างและดวงตาเริ่มจะเป็นสีแดง


รีบเดินเข้าไปทันที


“นี่มันโปรใช่ไหม? เจ๋งสุดๆไปเลย บอกฉันมาเลยนะว่าเอามาได้ยังไงไม่งั้นนายไม่รอดไปได้แน่ๆ! วันนี้เพื่อนๆฉันยังพูดถึงเรื่องนี้กันใหญ่

นายได้โปรนี้มาได้ยังไง บอกมาเลยนะ!”


“ใช่แล้ว บอกมาเลย เร็วๆ ไม่งั้นวันนี้นายไม่ได้ออกไปจากที่นี่แน่ๆ!”


“อย่ามาถ่วงเวลา รีบบอกมาเร็วๆ!”


ก่อนที่หนิงเทียนหลินจะไปถึง เขาได้ยินเสียงตะโกนจากหลายคนและแม้แต่ตอนที่เดินผ่านฝูงชน เขาก็เห็นคนที่กำลังถือบุหรี่อยู่ในมือชี้ไปที่

ชิเซียวจุน บุหรี่สีแดงร้อนๆกำลังจะถูกจี้ไปที่หน้าของชิเซียวจุน


“ฉันบอกไปหมดแล้วไง เราไม่รู้ว่าจะเอาโปรนี้มาจากไหน เราแค่ใช้มันเฉยๆ”


ในตอนนี้ชิเซียวจุนได้แต่โต้เถียงแต่น้ำเสียงของเขาไม่ได้ทรงพลังเลย คนพวกนี้ยืนล้อมรอบเขาและทำให้เขารู้สึกกลัวนิดหน่อย และเขาก็ยังเห็นอีกว่าในแก๊งนี้มีอย่างน้อยก็ 6-7 คนเลยทีเดียว


“พอเลย! ฉันเพิ่งเห็นว่านายใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้และเข้าไปดูแบบเต็มหน้าจอ ฉันเลยได้เห็นทุกอย่าง!”


ในเวลานี้ มีอีกคนที่พูดขึ้นมา


“โอ้! ดูเหมือนฉันคงจะต้องเพิ่มสีสันให้นายหน่อยแล้วนะ นายว่าไหม!”


เด็กหนุ่มคนที่พูดเป็นคนแรกกระซิบออกมาและในเวลาเดียวกัน บุหรี่ท่ำลังไหม้อยู่ในมือเขาก็ลอยไปอยู่ที่หน้าของชิเซียวจุน ทันใดนั้นก็ทิ้งรอยดำไว้บนหน้าของชิเซียวจุน รอยไหม้แล้วก็ตกลงที่พื้น


กลายเป็นว่าคนพวกนี้เห็นภาพที่หน้าจอของชิเซียวจุนไม่นานหลังจากที่หนิงเทียนหลินเดินออกไปแล้วก็เริ่มสงสัยในทันที โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาเห็นว่าจำนวนเงินของตัวละครในเกมส์ของเขากลายเป็น 9,999,999

และในทันทีก็รู้เลยว่าชิเซียวจุนกำลังใช้การปลั๊กอิน!


หลังจากนั้นชิเซียวจุนก็ใช้คอมพิวเตอร์ของหนิงเทียนหลินเพื่อเล่นเกมส์และหลังจากที่พิมพ์ข้อความว่า “มองเห็นได้แบบภาพเต็ม” ฐานของศัตรูก็จะมองเห็นได้ ซึ่งก็ยืนยันความคิดของพวกเขามากขึ้นไปอีก


คนพวกนี้ก็เป็นแฟนตัวยงของ LOL ด้วยแต่พวกเขาไม่ใช่นักเรียน

แต่เป็นเด็กๆที่อยู่ใกล้ๆนี้ ยังไงซะที่นี่ก็เป็นร้านอินเตอร์เน็ตที่รองรับคนได้จำนวนมาก และคนกลุ่มนี้ก็มาที่นี่เพื่อชิลแค่นั้นเพราะที่นี่มันง่ายมากที่จะได้เจอสาวๆมหาลัย


บางทีอาจจะมีได้มีบางอย่างเกิดขึ้นได้!


“หยิบขึ้นมาแล้วเอาบุหรี่มาให้ฉัน!”


เด็กหนุ่มพูดเสียงเย็นชากับชิเซียวจุน เขาต้องคิดว่าการบอกเรื่องโปรหรือเรื่องร่างกายสำคัญกว่ากัน! และเมื่อตอนนี้มีคนากมายยืนล้อมรอบเขาจะต้องสร้างอำนาจให้ตัวเอง ถึงแม้ชิเซียวจุนจะหยิบมันขึ้นมาให้เขา เขาอยากให้อีกฝ่ายกินก้นบุหรี่เข้าไป


“ฉันจะแจ้งตำรวจ!” ชิเซียวจุนพูดได้แค่นี้หลังจากที่เห็นสถานการณ์


“งั้นก็แจ้งเลย!” ใครบางคนพูดเยาะเย้ยออกมา “ก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าตำรวจจะมาเร็วกว่าที่จะเราเอาบุหรี่นี่ยัดปากนายแล้วหนีไปก่อนหรือเปล่า!”


“หมับ!”


ทันทีที่เขาพูดจบ มือใหญ่ที่ทรงพลังก็คว้าหมับเข้าที่ด้านหลังคอของเขาทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะโต้ตอบเลย เขาก็ถูกกดลงไปอย่างแรงจนหน้าผากกระแทกลงไปที่ด้านข้างของโต๊ะคอมพิวเตอร์


“ปัง!”


โต๊ะของคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดเสียงที่ดังขึ้นไปอีกและโต๊ะกระจกก็แตกลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที หน้าผากของอีกฝ่ายมีเลือดไหลออกมาและเขาก็สลบไปในทันที และถึงแม้จะจับคอมพิวเตอร์ไว้แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะล้มไปได้ทุกเมื่อ


“หมับ!”


หลังจากนั้นไม่นานหนิงเทียนหลินก็ยืดมือทั้งสองข้างและจับเข้าที่หัวของอีกสองคนและบีบอย่างแรง เหมือนบีบลูกแตงโมแล้วจับทั้งคู่มาชนกัน ทันใดนั้นหัวของทั้งสองก็เริ่มมึนงงและกลิ่งลงไปกองกับพื้น



ICSS บทที่ 97: เลียให้สะอาด!


“หมับ!”


เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเหวี่ยงหมัดมาเพื่อที่จะชกเขา หนิงเทียนหลินก็หัวเราะพร้อมทั้งยื่นมือออกไปโดยตรงเพื่อที่จะจับเข้าที่หมัดของอีกฝ่าย


“กร๊อบ!”


เสียงกร๊อบ ข้อมือของเขาโดนหนิงเทียนหลินหักอย่างจัง! แต่หลังจากนั้น หนิงเทียนหลินเห็นว่าอีกฝ่ายไม่รู้ว่าไปเอาปากกามาจากไหน


ถึงแม้มันจะแค่ปากกาเจลธรรมดา แต่ด้านที่ไม่ได้สวมปลอกก็พุ่งตรงมาหน้าของหนิงเทียนหลิน ถ้ามันโดนเข้าตอนนี้ก็จะต้องกลายเป็นรูแผลลึกที่หน้าเขาแน่ๆ!


“อ้ากกกกกกกกก!”


ทันใดนั้น เสียงร้องโหยหวนก็ดังออกมาจากปากของอีกฝ่าย ความเจ็บปวดจากข้อมือที่หักและนิ้วที่ถูกทำให้พิการไม่ได้ทำเขาเป็นลมไปในทันที แต่คนๆนี้ยังทนได้แม้จะต้องกุมมือเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด!


“ไอ้คนนี้…เป็นนักเรียนไม่ใช่เหรอ?”


ทุกอย่างที่เกิดขึ้นขึ้นในระหว่างที่เกิดไฟฟ้าดับ แม้จะแค่ภายใน

10 วินาทีแต่ทั้ง 4 ก็ลงไปนอนกองที่พื้นเรียบร้อยแล้ว ฝูงชนที่เข้ามามุงเหตุการณ์ก็รีบกระจัดกระจายออกไปทันทีและกลับไปที่นั่งของตัวเองพร้อมทั้งมองมาที่หนิงเทียนหลินอย่างหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาเล่นงานพวกเขาด้วย


ไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะกลายเป็นคนที่โหดร้ายได้ขนาดนี้! ทั้งน่ากลัวและรุนแรงอีกด้วย! เห็นได้ชัดว่าทั้ง 4 คนนั้นบาดเจ็บหนักพอตัวอยู่เหมือนกัน!


ในเวลานี้มีคนหนึ่งที่พึมพำกับตัวเองด้วยความหวาดกลัว


“อะไรกัน ดูเหมือนฉันจะเคยเจอเขานะ”


“ใช่ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักเรียนชีววิทยาชั้นปีที่ 2 เราเคยเลยเรียนวิชาทั่วไปด้วยกัน”


คนส่วนใหญ่ที่มาร้านอินเตอร์เน็ตร้านนี้จะเป็นนักเรียน ดังนั้นจึงมีบางคนที่จำหน้าหนิงเทียนหลินได้ในทันทีเพียงแค่ไม่รู้ชื่อเท่านั้นเองเพราะก่อนหน้านี้หนิงเทียนหลินก็เป็นเด็กธรรมดาๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น


“ฉันไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้…เพียงแค่พริบตาเขาก็จัดการไป

4 คนเลย มันสุดยอดมากๆเลย” คนหนึ่งพูดขึ้นมาอีก


แม้แต่ชิเซียวจุนที่อยู่กับหนิงเทียนหลินมาตลอดก็มองมาที่เพื่อนตัวเองด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ หนิงเทียนหลินทำทุกอย่างต่อหน้าต่อตาเขาเลย! พวกเขาอยู่ด้วยกันมาทั้งปีแต่เขาไม่เคยเห็นหนิงเทียนหลินสู้กับใครมาก่อนเลย!


นอกจากนี้ครั้งที่แล้วที่หวังน่านใส่ร้ายว่าหนิงเทียนหลินเป็นคนขโมยเงินไปแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ!


กลายเป็นว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนที่โหดร้ายมากจริงๆ!


แต่ปฎิกิริยาของเขาเป็นปกติและเขารู้สึกว่าคนพวกนี้สมควรโดนแล้ว

มีเพียงหลินเจียอี้ที่เคยเห็นหนิงเทียนหลินฆ่าคนมาแล้ว เขาฆ่าพวกโจรไป 5 คนในพริบตาทั้งๆที่อีกฝ่ายมีปืนอยู่ในมือด้วยซ้ำ!


ตอนนี้คนธรรมดาทั้ง 4 คนนี้ไม่รอดแน่ๆ!


“หยิบก้นบุหรี่แล้วก็ที่เขี่ยบุหรี่มาให้ฉันด้วยก่อนที่จะไป! แล้วเอามันใส่เข้าปากไปซะ!”


หนิงเทียนหลินมองไปรอบๆแล้วจึงหยิบที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาจากโต๊ะ ดูๆแล้วน่าจะมีก้นบุหรี่มากกว่า 10 อันและก็มีขี้บุหรี่เยอะเลย ตอนนี้พวกนั้นได้สติแล้ว แต่เขาก็ยังสร้างบาดแผลให้พวกเขาอยู่ดี


“ถ้าไม่กินเข้าไปฉันจะหักมือพวกแกให้ไม่เหลือแม้แต่กระดูกเลย”


หนิงเทียนหลินพูดอย่างเย็นชา ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาได้เห็นมาเยอะแล้วว่ากับคนพวกนี้ต้องใช้การข่มขู่และความรุนแรงด้วยถึงจะเป็นวิธีจัดการที่ดีและเหมาะกับพวกนี้ที่สุด


“ฉันๆ ฉันจะกิน”


“พวกเราจะกินๆ”


พวกเขาเห็นเท้าของอีกฝ่ายเริ่มขยับแต่ด้วยใบหน้าที่ลังเลก็ยังหยิบก้นบุหรี่จากที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาและใส่เข้าปากไป พวกเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ!


ไอ้คนที่ข้อมือและนิ้วหักเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีเลย!


“อ้วก!”


ทันทีที่ก้นบุหรี่เข้าไปในปาก พวกเขาก็อ้วกออกมาทันที ก้นบุหรี่ไม่ใช่ผลไม้อร่อยๆ! เขาเกรงว่าตัวเองจะต้องปวดท้องไปอีกหลายวันเลยแน่ๆ


“ถ้ากล้าที่จะคายออกมาก็รู้นะว่าผลจะเป็นยังไง” หนิงเทียนหลินมองไปที่เขาด้วยสายตาเยือกเย็น


“โอเคๆ”


ทั้ง 2 รู้สึกคลื่นไส้มากและต่างก็มีสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไรนักเหมือนกำลัง

กินขี้เข้าไปแต่ก็ต้องกัดฟันไว้แล้วกลืนมันเข้าไปอย่างยากลำบาค


ถ้าเขากลืนก้นบุหรี่เข้าไปก็แค่ปวดท้องไม่กี่วันแต่ถ้าไม่กินเข้าไปทั้งมือและนิ้วจะต้องเจ็บปวดอย่างมากซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะทนได้เลย!


“นาย เปิดขวดน้ำนี้และเอาก้นบุหรี่ให้มันกินด้วย!”


เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกลื่นเข้าไปแล้ว หนิงเทียนหลินก็สั่งให้หนึ่งในพวกนั้นเปิดขวดชาเขียวที่หลินเจียอี้ซื้อมาให้เขาแล้วชี้ไปที่คนที่สลบนอนอยู่ที่พื้น


ชายคนนี้ทำให้การกลืนก้นบุหรี่หยุดชะงั้นไปได้หน่อย ถึงแม้ตอนนี้เขาจะสลบอยู่แต่เขาก็ไม่รอดไปได้ง่ายๆแน่!


“ได้”


อีกฝ่ายพยักหน้า มีคนมากมายกำลังดูอยู่เขารีบกำก้นบุหรี่เต็มกำมือแล้วยัดเข้าไปในปากของเพื่อน แล้วเปิดขวดชาเขียวกรอกเข้าไปในปากเพื่อที่เพื่อนดื่มเข้าไป


ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งหนิงเทียนหลินจริงๆเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรที่เขาเองก็ไม่กล้าที่จะนึกภาพเลย


“พอแล้ว!”


“ตานายแล้ว!”


“นายกินในนี้ให้หมดเลยนะ!”


ในเวลานี้หนิงเทียนหลินหยิบที่เขี่ยบุหรี่มาจากอีกโต๊ะและครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากครั้งแรกมากนัก ครั้งนี้หันไปหาชายอีกคนที่ข้อมือและนิ้วหักแหลกเหลว


เพียงแค่ว่าตอนนี้เหตุผลที่เขาต้องตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิดก็เพราะปากกาในมือของอีกฝ่าย ถ้ามันแทงเข้ามาที่หน้าของเขาจริงๆ เขาจะต้องเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิตแน่ๆ! คนแบบนี้จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก!


ดังนั้นถึงแม้เขาจะบาดเจ็บอย่างหนักแล้วแต่เขาก็ต้องกินก้นบุหรี่เข้าไปอยู่ดี!


ในเวลานี้อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรมากเพราะเขารู้ว่าในกรณีนี้มันก็คงเปล่าประโยชน์ที่จะพูดอะไร! จึงหยิบก้นบุหรี่ขึ้นมาและกลืนเข้าไป! ไม่ว่าจะกินอะไรลงท้องไปก็ห้ามคายออกมาเด็ดขาด


แต่ในตาของเขากลับเติมไปด้วยความโกรธแค้น


“ใส่น้ำลงไปหน่อย ล้างขี้บุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่แล้วดื่นมันซะ!”


หนิงเทียนหลินไม่สังเกตเห็นความโกรธแค้นในสายตาของอีกฝ่ายได้ยังไงแต่กลับหัวเราะเย้ยในใจและในเวลาเดียวกันก็เทชาเขียวลงไปในที่เขี่ยบุหรี่และใช้ปากกาเจลคน แล้วจึงให้อีกฝ่ายดื่มน้ำขี้บุหรี่ให้หมด!


โกรธแค้นงั้นเหรอ? ตอนนี้แกจะไปทำอะไรฉันได้!


เพื่อที่จะได้รู้ตัว เขาทำให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าตัวเองได้ทำพลาดอะไรลงไป!


“อร่อยใช่ไหม! ดื่มไปให้หมด!”


สายตาของอีกฝ่ายกำลังจะพล่ามัวด้วยไฟแค้นแต่ก็ยังเก็บมันไว้ เขาถือที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาและยกดื่มทั้งหมดลงไป


“เลียซะ! จำไว้ เอาให้สะอาด!”


เมื่อได้เห็นเหตุการณ์นี้ หนิงเทียนหลินถึงกับหัวเราะในใจ เขาจึงเปิดปากและบอกให้อีกฝ่ายใช้เลียที่เขี่ยบุหรีด้วย



ICSS บทที่ 98: 14 กรกฎาคม ทั้งคืน


“อร่อย! ฉันจะเลียให้หมดเลย!”


ใครๆต่างก็เห็นว่าสายตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อเขาพูดออกไป เขาก็ต้องกัดฟันจนแน่น เขาต้องเกลียดเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างมากจริงๆ มันเดาไม่ยากเลยว่าเขาต้องคิดหาวิธีที่จะแก้แค้นหลังจากนี้แน่ๆ!


เรื่องนี้จะต้องไม่จบง่ายๆแน่!


เมื่อมีคนถูกรังแกเขาจะมีความรู้สึก 2 อย่าง หนึ่งคือโมโหและเขาอยากที่จะแก้แค้นในอนาคตและอีกอย่างคือต้องอดทนเพราะไม่กล้าที่จะออกไปห้ามด้วยซ้ำ และตอนนี้พวกคนที่กำลังถูกหนิงเทียนหลินกดขี่ก็เป็นพวกคนที่สมควรจะโดนแล้ว


“เร็วๆหน่อย! ถ้ายังชักช้าอยู่ฉันจะเอายัดใส่ปากนายเอง!”


หนิงเทียนหลินไม่ใช่คนโง่แล้วเขาจะไม่สังเกตเห็นได้ยังไงแต่สำหรับเขาวันนี้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมยังไงก็ตาม เขาก็จะทำจนกว่าจะพอใจ! และถ้ายังขัดขืนต่อไปก็ไม่ต้องกินแล้วแต่เขาจะฆ่ามันเอง!


เขาไม่สนใจว่าตอนนี้ตัวเองจะมีชีวิตมากแค่ไหน!


“ดูดให้หมด”


ไม่นานชายคนนี้ก็เลียที่เขี่ยบุหรี่ต่อหน้าคนมากมายและไม่นานเขาก็เลียส่วนที่เหลือทั้งหมดจนสะอาดเหมือนเพิ่งล้างมาเลย


“ดี” หนิงเทียนหลินพยักหน้าและหัวเราะเยาะไปที่พวกเขาทั้ง 4


“ในเมื่อพวกนายเชื่อฟังเป็นอย่างดี งั้นเอาเงินให้เจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ไป 10,000 เป็นค่าความเสียหายภายในร้านนี้!”


หนิงเทียนหลินรู้ว่า 10,000 หยวนนี้พอกับค่าความเสียหายแน่นอน

ยังไงซะภายในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นี้ก็มีเพียงแค่โต๊ะคอมที่เสียหาย คอมพิวเตอร์ไม่ได้รับความเสียหายอะไร แต่เขาจะไม่ยอมจ่ายด้วยเงินตัวเองแน่นอนถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงก็ตาม


“10,000 เหรอ?”


“ทำไมถึงเยอะขนาดนั้นเลยล่ะ!”


หลายคนถึงกับผงะ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่นักเรียนแล้วแต่เป็นคนที่มีงานทำแล้วก็ตามแต่เงิน 10,000 หยวนก็ไม่ใช่เงินน้อยๆสำหรับพวกเขาอยู่ดี และที่สำคัญที่สุดคือพวกเขารู้สึกผิดและถูกซ้อมอย่างหนักแล้ว แล้วยังต้องมาเสียเงินอีกเหรอ!


ไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ


“ไม่เยอะหรอก แล้วถ้าพวกนายไม่จ่ายว่าฉันก็จะทำให้จ่ายเอง!”


หนิงเทียนหลินไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องคุยกับคนพวกนี้ เพราะจากสิ่งที่พวกนี้ทำวันนี้ทำให้พวกมันต้องชดใช้! ไม่เพียงแค่เห็นว่าชิเซียวจุนอยู่คนเดียวแต่ยังรังแกหลินเจียอี้ด้วย


ถ้าอยากที่จะเข้ามาถามเรื่องการโปร! อย่างน้อยก็ควรจะถามกันดีๆ!


“เร็วเข้า ให้เวลา 1 นาทีหยิบบัตรเครดิตออกมาแล้วให้เจ้าของร้านรูดไปซะ! ไม่งั้นก็รู้นะว่าผลมันจะเป็นยังไง” หนิงเทียนหลินอยากที่จะให้พวกนี้เลือดตกยางออก ไม่งั้นคนพวกนี้คงไม่หลาบจำ มันดีกว่าแค่การขู่ธรรมดาๆ


อีกอย่างอีกฝ่ายก็มีเงิน เขาจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงในเมื่อมันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับระบบการต่อสู้


“ก็ได้! พวกเราจะจ่ายให้!”


สุดท้ายแล้วคนพวกนั้นก็ตัดสินใจที่จะจ่ายเงิน 10,000 หยวน ยังไงซะพวกเขาก็ได้เงินเฉลี่ยวันละ 2,000 หยวนอยู่แล้วไม่งั้นพวกเขาคงไม่พอจ่าย หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกไปจากร้านอินเตอร์เน็ตนี้


และตอนที่เขากำลังเดินออกไป ชายคนที่ถูกหนิงเทียนหลินบังคับให้เลียที่เขี่ยบุหรี่ก็หันมามองหนิงเทียนหลินด้วยสายตาที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโกรธแค้นเป็นอย่างมาก


หลังจากนั้นเด็กในร้านก็เดินเอาน้ำ 3 ขวดมาให้พวกหนิงเทียนหลินพร้อมทั้งกล่าวขอบคุณไปพร้อมๆกันด้วย เพราะถ้าไม่ได้เงิน 10,000 หยวนนั่นเป็นค่าชดเชยเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง เขาคงจะต้องถูกหักเงินเดือนแน่ๆ!


“เทียนหลิน นายเป็นพวกที่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”


กลับไปนั่งที่โต๊ะคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ชิเซียวจุนก็ยังมองเพื่อนร่วมหอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่ออยู่ จากเหตูการณ์เมื่อกี้เขากลัวมากจริงๆและอีกฝ่ายถูกซ้อมจนเลือดตกยางออกด้วย! เขาไม่เคยมีประสบการณ์การต่อสู้อะไรแบบนี้เลย


“ไม่มีอะไรเปลี่ยนนิ”


“นายยังไม่เคยเห็นฉันสู้มาก่อนเลยนะ”


ความสนใจของหนิงเทียนหลินในตอนนี้กลับไปที่เกมส์อีกครั้งพร้อมทั้งยิ้มให้ชิเซียวจุน เรื่องแบบนี้จะมาอธิบายกันได้ยังไงล่ะ? อีกอย่างเขาอยากสร้างความประทับใจกับชิเซียวจุน ใช่แล้วเขาแข็งแกร่งมากๆแต่เขาก็ไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อน


ยังไงซะในอนาคตเรื่องแบบนี้ก็คงจะต้องได้เจอกันบ่อยๆ


“เออ ก็จริงนะ”


ชิเซียวจุนตัวแข็งแต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ถึงแม้เขากับหนิงเทียนหลินจะอยู่หอเดียวกันมาเป็นปีแต่เขาก็ไม่เคยเห็นหนิงเทียนหลินสู้มาก่อนเลย งั้นนี่อาจจะเป็นความแข็งแกร่งปกติของเขาก็ได้


และหลินเจียอี้ที่อยู่ข้างๆเขาก็พูดออกมาเบาๆ “ใช่เลย!”


“กลายเป็นว่าที่โรงเรียน เวลาเล่นต่อสู้ ฉันก็ไม่มีโอกาสได้แสดงอะไรมากนัก”


เธอเคยเห็นหนิงเทียนหลินฆ่าคนอย่างโหดร้ายมาด้วยตาตัวเองแล้ว

เธอจึงเชื่อมั่นมากว่าเหตุการณ์เล็กๆเมื่อกี้เขารับมือได้อย่างง่ายดาย


“รีบกินกันเถอะ อาหารที่ฉันซื้อมาเย็นหมดแล้ว”


เมื่อพูดจบเขาก็หยิบเบคอนซอสออกมาและวางน้ำไว้ด้านข้าง



หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง


“เทียนหลิน จะกลับหรือยัง? จะกลับไปที่หอไหม?”


“อยู่ทั้งคืนไหม?”


ชิเซียวจุนจื่นเต้นกับการเล่นมาก เพียงแค่เล่นมาไม่กี่ชั่วโมงเขาก็แตะที่ระดับ 3 ของซิลเวอร์แล้วและก็ไต่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วขนาดนี้เขาคิดไปถึงระดับโกลด์แล้วด้วยซ้ำ


ดังนั้นไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกถึงความง่วงเลยแถมยังชวนให้หนิงเทียนหลินอยู่ทั้งคืนอีกต่างหาก


“ได้ เล่นทั้งคืนไปเลย”


หนิงเทียนหลินตัดสินใจไปนานแล้วว่าจะไม่เดินออกจากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่จนกว่าจะเล่นครบ 100 เกมส์ นี่เพื่อคะแนนของเขาซึ่งมันดีมาก! 100 เกมส์ แต่ละเกมส์ 20 นาที ทั้งหมดก็ 2,000 นาที,

35 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นซึ่งมากกว่าวันครึ่ง


เมื่อบวกความล่าช้าอื่นๆเข้าไปด้วย มันก็จะต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน

งั้นพรุ่งนี้เขาจะไม่เข้าเรียน เขาจะต้องสู้ให้จบ ทุกอย่างก็เพื่อคะแนน!

แล้วเรื่องเรียนล่ะ? อาจารย์จะเช็คชื่อหรือเปล่า?


“หลินเจียอี้ จะอยู่ทั้งคืนไหม?” ชิเซียวจุนถามหลินเจียอี้อีกครั้ง


“หา? ทั้งคืนเหรอ?” ถึงแม้หลินเจียอี้จะเป็นลูกเศรษฐี แต่เธอก็ไม่เคยอยู่

ค้างคืนและไม่เคยเล่นเกมส์ทั้งคืนในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มาก่อนเลย


“ตอนที่เธอคุยโทรศัพท์ ฉันไต่อันดับขึ้นอีกแล้วนะ”


เธอรู้ดีว่าในใจเธอคิดยังไง เธอจึงหยิบโทรศัพท์และโทรหาคุณอา

พี่เลี้ยงและสุดท้ายเธอก็ต้องโกหกออกไปอีกครั้ง


คืนนี้


จากปฎิทินแสงอาทิตย์คือวันที่ 1 กันยายน


วันที่ 14 กรกฎาคม ในปฏิทินจันทรคติ เป็นวันที่ประตูนรกจะถูกปิด


“ว่าไง?”


นี่ก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว หนิงเทียนหลินเพิ่งจะเล่น LOL เสร็จและทันใดนั้นก็เห็นผู้ชาย 2 คนเดินเข้าประตูมา, จ่ายเงินและหลังจากที่คุยเรื่อง

วิธีการที่เคาร์เตอร์เสร็จ พวกเขาก็นั่งลงที่เก้าอี้และเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์


“ทำไมฉันรู้สึกว่า 2 คนนี้แปลกๆนะ?”


หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วเพราะความรู้สึกของ 2 คนนี้มันแปลกมากๆแต่ก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไรหรือแปลกยังไง


ICSS บทที่ 99: ผี


“ลมหายใจ! 2 คนนี้ไม่มีลมหายใจเลย!”


ลมหายใจของคน จะมากหรือน้อยแต่มันก็ต้องมีซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอกว่าคนนั้นยังมีชีวิตแต่ 2 คนนี้ไม่มี! ตอนนี้ประสาทสัมผัสของหนิงเทียนหลินแรงกว่าคนปกติมากและเขาไม่เคยผิดเรื่องนี้เลย!


“ผี!”


อดไม่ได้ที่จะเกิดคำๆหนึ่งขึ้นมาในใจของหนิงเทียนหลิน ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไป และในใจเขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเหตุการณ์การตายของตัวเองในวันนั้น การที่ได้เจอกับหยินเชาไต้ฟู และเขารู้ดีว่าในโลกนี้มีผี อย่างน้อยก็ที่โลกใบนี้!


การล่องลอยของผีจากที่หยินเชาไต้ฟูบอกมา มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย!


ใน 5,000 ปีของจีน เพิ่งจะช่วย 50-60 ปีหลังนี่เองที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เข้ามาทำให้ทฤษฎีเรื่องผีจมหายไปกับแม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์ ส่วนที่เหลือก็เป็นไปตามสมัยนิยม แม้แต่บรรพบุรุษของจักรพรรดิฉินและจักรพรรดิฉินจักรพรรดิในอดีตจะปิดผนึกไทชานเมื่อเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น!


ก็เหมือนภูเขาวูไทในมณฑลซานซี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา ที่นั่นจะมีชางหมิงฮอลล์ที่มีโคมไฟชางหมิงเป็นจำนวนมาก ที่บรรจุไว้อย่างหนาแน่เป็นหมื่นๆอันเกือบจะเต็มพื้นที่ของชางหมิงฮอลล์เลยทีเดียว


โคมไฟชางหมิงพวกนี้จะไม่เคยถูกเอาออกไปไหนแต่พระจะจุดมันขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทุกวันๆ


สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในชางหมิงฮอลล์นี้จะมีพระอาจารย์อ่านพระคัมภีร์อยู่ตลอดเวลา คอยอวยพรให้คนที่จุดโคมไฟชางหมิง คอยชำระบาปให้พวกเขาและขอให้หลังจากความตายจงเป็น “ผี” ที่ดี


และในชางหมิงฮอลล์นี้ถ้าอยากจะได้โคมไฟที่ยาวๆ ก็จะต้องจ่ายค่าธูปบูชา 10 ล้านหยวน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้! เพราะในตำแหน่งนี้จะมีพวกเศรษฐีนับไม่ถ้วนและคนที่ทรงอำนาจจองไว้หมดแล้ว


ถ้ามองใกล้ๆก็จะเห็นว่าที่โคมไฟจะมีชื่อและวันเกิดของเจ้าของติดไว้ด้วย และคนพวกนี้ต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงของยุคนั้นๆด้วย

ทั้งหลี่เจียเฉิง, กุยเฉินหยิง, หวังจ้าวจิ และอื่นๆ ที่จะเห็นได้ทุกที่

คนพวกนี้นอกจากรวยแล้วยังทรงอำนาจ พวกเขามีข้อมูลและแหล่งข่าวมากกว่าคนปกติธรรมดาหรือเปล่า?


พวกเขาต่างก็เป็นคนโง่ที่ใช้เงินไปกับเรื่องพวกนี้หรือเปล่า?


บางทีอาจจะบอกได้ว่าพวกเขาก้แค่จ่ายเงินไปเพื่อความสบายใจ ยังไงซะพวกเขาแต่ละคนที่สำเร็จได้แบบทุกวันนี้ก็คงต้องมีสติมากอยู่ เป้าหมายของการทำแบบนี้ก็เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดที่มีอยู่ในใจ แต่ถ้าเดาไม่ผิดบางทีพวกเขาได้ข่าวอะไรผ่านช่องทางที่คนธรรมดาไม่รู้ล่ะ?


มันต้องมากกว่าเรื่องฮวงจุ้ย แต่เจ้าหน้าที่ผู้สูงศักดิ์เกือบทั้งหมดมีเงาของคนหนึ่งหรือสองคนที่อยู่ด้านหลังพวกเขาและยิ่งพวกเขารวยมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งเชื่อมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่ในหลักสูตรสถาปัตยกรรมของมหาวิทยาลัยยังมีสอนเรื่องพวกนี้เลย มันถูกเรียกว่า “ฮวงจุ้ย” ซึ่งอธิบายเรื่องความสำคัญของฮวงจุ้ยในตึกอาคารโดยเฉพาะ เช่นเมื่อไรที่ควรจะขุดดิน, ในทิศทางไหนและต้นไม้แบบไหนที่ไม่ควรปลูก


อีกหนึ่งตัวอย่างก็คือพนักงานที่ฟ็อกคอนน์ที่ฆ่าตัวตายที่เซินเจิ้นเมื่อปีที่แล้ว


ปีนั้นมีพนักงานมากกว่า 10 คนที่ฆ่าตัวตายทุกวัน วันละคนมากกว่า

10 วันและทุกคนต่างก็ตายกลางดึกทั้งนั้น! คำอธิบายอย่างเป็นทางการจากโรงงานคือ “เกิดจากความเครียดทำให้ฆ่าตัวตาย!”


ใครๆต่างก็รู้ว่ามีโรงงานมากมายในฟ็อกคอนน์ในเมืองจีน ซึ่งไม่น้อยกว่า 10 โรงงาน ทำไมถึงเกิดเรื่องแค่ที่โรงงานในเซินเจิ้นเท่านั้นล่ะ? ทุกวันมีคนฆ่าตัวตาย ตายกันไปเป็นสิบๆคน!


และซึ่งปกติไม่มีเรื่องแบบนี้ แตพวกเขากลับเลือกที่จะมาทำให้ช่วง 10 วันนั้น!


หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น บอสของฟ็อกคอนน์ กัวไทหมิงก้ไปที่เซินเจิ้นเพื่อจัดการเรื่องนี้และเรื่องนี้ก็มีวิธีเดียวที่จะจัดการได้และนั่นคือการเชิญพระมาจากเขาวูไทเพื่อจับผีและปีศาจและทำให้วิญญาณได้ข้ามไป!


เรื่องแบบนี้หาอ่านได้จากอินเตอร์เน็ตของปีที่แล้ว!


อีกอย่างที่น่าแปลกคือหลังจากที่พระทำพิธีเสร็จจนกลับไปแล้วเรื่องแบบนี้ก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย ในที่สุดเรื่องการฆ่าตัวตายกว่า 10 วันก็จบลง โรงงานที่เซินเจิ้นได้ทำการบูรณะใหม่เพื่อความสบายใจ


ในสายตาของคนอื่นเรื่องผีสางและปีศาจอาจจะเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ที่ไม่ค่อยจะน่าเชื่อเท่าไรแต่ในความคิดของบางคนที่ทรงอำนาจ พวกเขาก็มีความคิดว่าเรื่องพวกนี้มันน่าเชื่อถือเกินกว่าที่จะไม่เชื่อ


คนรุ่นเก่าๆ 5-6 คนจาก 10 คนสามารถบอกถึงเรื่องที่ไม่มีคำอธิบายพวกนี้ที่พวกเขาเคยเจอมากับตัวได้ แต่ในทุกวันนี้ทั่วทั้งจีน ในทุกๆวันและทุกๆนาทีมีคนออกมาบอกว่าพวกเขาได้เจอกับผีและปีศาจแต่กลับไม่มีใครเชื่อพวกเขาเลย


และหนิงเทียนหลินเองเชื่ออย่างสุดใจว่าในโลกนี้มีเรื่องแบบนี้แน่นอนเพราะตัวเขาเองก็เพิ่งจะกลับมาจากโลกแห่งความตายเอง!


“คิดไม่ถึงเลยว่าผีพวกนี้จะเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ LOL ด้วย!”


หนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่าหลังจากที่พวกเขาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ พวกเขาก็เล่นเกมส์ลีกออฟเลเจนด์ด้วยเหมือนกันและดูจากฝีมือแล้วไม่น่าจะใช่ครั้งแรกด้วย


“โอ้”


ในเวลานี้หนึ่งในพวกนั้นหันหัวมา สายตาจ้องตรงมาที่หนิงเทียนหลินเพราะเขารู้สึกว่าสายตาของหนิงเทียนหลินจ้องมาที่พวกเขาตั้งแต่เข้าร้านมาแล้ว!


“ถูกจับได้แล้ว!”


ทันใดนั้นหัวใจของหนิงเทียนหลินก็หล่นฮวบ ถึงแม้เขาจะเพิ่งกลับมาจากหยินเชาไต้ฟู แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับผีในร่างของมนุษย์ เขาทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ฮ่าฮ่า” แล้วหันหัวกลับมาทำเป็นเลิกจ้องที่พวกเขา


เพราะเขารู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายเริ่มจะโมโหแล้ว


เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมีเรื่องกับพวกนั้นตอนนี้ งั้นไม่มีเรื่องด้วยจะดีกว่า

หลังจากที่เห็นว่าหนิงเทียนหลินไม่ได้จ้องมาที่พวกเขาแล้ว คนที่สูงที่สุดก็หันหัวกลับไปสนใจอยู่ที่เกมส์ลีกออฟเลเจนด์ต่อ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจแต่เขาก็มองหน้าเตือนหนิงเทียนหลินไปแล้ว


“สตาร์วอร์ส 2 คนนั้นเป็นผีใช่ไหม?”


คนเดียวที่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องกับเขาได้ก็คือระบบการต่อสู้ หนิงเทียนหลินจึงถามเขาไปในใจ


“ใช่” คำตอบของสตาร์วอร์สช่วยยืนยันเข้าไปอีก


“ใช่สินะ!” หนิงเทียนหลินขยิบตาอย่างลับๆ


“แล้วฉันเห็นพวกเขาได้ยังไง?”


“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นผีในโลกไม่ใช่เหรอ?”


หนิงเทียนหลินรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย เหตุผลก็เพราะผีเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาจนผีไม่สามารถที่จะเข้าสิงเขาได้และแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเห็นพวกผีได้นิ


“นายมีดวงตาของหยินและหยางและมันก็ใช้งานได้ดีด้วย และนั่นคือเหตุผลที่นายเห็นพวกเขา”


“ตอนนี้พวกเขากำลังเล่นเกมส์โดยมีแสงแดดและแน่นอนว่าพวกเขามีตัวตน ไม่งั้นเกมส์คงจะเล่นตัวมันเองไม่ได้และพวกนั้นก็คงจะไม่ได้มาหลอกคนในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แน่ๆ!”


หนิงเทียนหลินพยักหน้า กลายเป็นว่า 2 คนนั้นตั้งใจที่จะเข้ามาที่นี่จึงถามออกไป “แล้วพลังในการต่อสู้ล่ะ?”


“2 คนนั้นมีพลังในการต่อสู้เท่าไร?”


หนิงเทียนหลินอยากที่จะรู้ถ้าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากัน เขาหรือผี 2 ตัวนั้นใครกันแน่ที่จะชนะ!



ICSS บทที่ 100: ฆ่ามันซะ!


“2 คนนี้ไม่ใช่ผีธรรมดา แต่เป็นยมฑูต!”


ระบบการต่อสู้อธิบายต่อ “วันนี้วันที่ 14 กรกฎาคมตามปฏิทินจันทรคติ ประตูจะปิด วิญญาณทั้งหมดที่ตายภายใน 3 ปีจะถูกพาขึ้นมาอย่างนับไม่ถ้วนในวันนี้และจะได้กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องบนโลกเป็นเวลา

2 ชั่วโมง”


“ยมฑูต 2 คนนี้เป็นหนึ่งในผู้คุม”


“พลังในการต่อสู้สูงสุดคือ 103 และอีกคนก็ 105”


ระบบการต่อสู้คำนวนและรายงานพลังการต่อสู้ของชาย 2 คนนี้ออกมาแต่นี่กลับทำให้หนิงเทียนหลินถึงกับตะลึง “พลังในการต่อสู้ 100 กว่าคะแนนพวกนี้ร่วมอาวุธแล้วหรือยัง แล้วอาวุธหรือเครื่องมืออะไรที่พวกเขาใช้?”


หนิงเทียนหลินได้ยินชัดเจนว่าระบบการต่อสู้ใช้คำว่าพลังในการต่อสู้

“สูงสุด” ซึ่งเป็นพลังในการต่อสู้ที่สูงที่สุดของชาย 2 คนนี้! น่าจะรวมถึงอุปกรณ์, อาวุธและอะไรพวกนั้นด้วย


“แน่นอนอยู่แล้ว!” ระบบการต่อสู้ตอบกลับมา


“งั้นนายรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาใช้เครื่องมือหรืออาวุธอะไร?”


หนิงเทียนหลินไม่เห็นอาวุธอะไรที่ข้างตัวพวกเขาเลย หรือว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช้อาวุธ


“นายไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องพวกนั้นหรอก” ระบบการต่อสู้ตอบอย่างเย็นชา “ฉันบอกนายแล้วไงว่าในโลกนี้, ในจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้

ฉันมองไม่เห็นแต่ก็ไม่ได้บอกว่าฉันจะไม่รู้ว่าอาวุธของพวกเขาอยู่ในระดับที่ 8 ฉันบอกได้เลย!”


“ตราบใดที่ฉันอยากจะรู้ ก็ไม่มีอะไรในจักรวาลนี้จะซ่อนจากฉันได้!”


น้ำเสียงของระบบการต่อสู้เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจซึ่งทำให้

หนิงเทียนหลินรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ธรรมดาเข้าไปอีกก็ได้! เขาไม่รู้ว่าทำไมในหยินเชาไต้ฟูเขาถึงถูกเลือก อย่างไรก็ตามเขารู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะแบบนี้เขาจะสามารถรู้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้ก่อนที่จะสู้กันด้วยซ้ำว่ามันจะสูงหรือต่ำกว่าของเขา!


นี่ยังทำให้เขาได้เลือกตัดสินใจอย่างถูกต้องที่สุดด้วย!


“103 เหรอ?”


“105 เหรอ?”


หนิงเทียนหลินรีบคำนวนความแตกต่างระหว่างพลังในการต่อสู้ของตัวเองกับอีกฝ่ายทันที ตอนนี้เขาอยู่ในระดับที่ 12 และพลังในการต่อสู้อยู่ที่ 48 คะแนนและเมื่อรวมเข้ากับเจ้าตัวร้อยขามันก็จะขึ้นไปที่ 88 คะแนน นอกจากนี้กริซก็บวกคะแนนพลังงานให้เขาเข้าไปอีก 6 คะแนน

แหวนอวกาศบวกพลังในการต่อสู้ให้เขาได้อีก 7 คะแนน


“ผิดแล้ว!”


“ตอนนี้แหวนอวกาศไม่ใช่ 7 แต่เป็น 12 คะแนน!”


ในเวลาเดียวกันเสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาและแก้สิ่งที่หนิงเทียนหลินคิดให้ถูกต้อง “ในวันนั้นระดับของนายอยู่แค่ที่ระดับ 6 เลยมีพลังในการต่อสู้อยู่ที่ 7 คะแนนแต่ตอนนี้นายอยู่ที่ระดับ 12 แล้ว”


“คุณลักษณะทางร่างกายของนายก็เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าจากวันนั้น พลังในการต่อสู้ของนายก็เลยได้เพิ่มโบนัสจากเจ็บเป็น 13 แทน”


“ฉันเคยบอกนายแล้วไงว่าแหวนอวกาศนี่ไม่ใช่แหวนอวกาศธรรมดาๆ มันจะพัฒนาไปพร้อมๆกับคุณลักษณะทางร่ายกายของนายไปเรื่อยๆ!

นายไม่เห็นเหรอว่าพื้นที่เก็บของของมันใหญ่ขึ้นกว่าตอนเริ่มแรกขึ้นมาก? เห็นไหม?”


หนิงเทียนหลินถึงกับตัวแข็ง จมความคิดลงไปกับแหวนและใช่เลย เขาจำได้ว่าพื้นที่เก็บของเดิมมีแค่ประมาณ 5-6 ตรม. เองแต่ตอนนี้มันขยายออกไปเป็น 12-13 ตรม. มากกว่าขนาดเดิมตั้ง 2 เท่า!


วันนี้เขาไม่ได้สังเกตเลยถ้าไม่ได้เช็คดู!


“งั้นก็พูดได้ว่าพลังในการต่อสู้ปัจจุบันของฉัน บวกเข้ากับของเจ้าตัวร้อยขา บวกเข้ากับกริซและแหวนอวกาศ ฉันก็แตะที่ 107 คะแนนแล้วสิ! ถึงแม้ฉันจะไม่ใช้อาวุธ แต่ใช้แค่ร่างกายตัวเองเพื่อจัดการ 2 คนนั้น ก็ยังสูงกว่าอยู่ดีนิ!”


สายตาของหนิงเทียนหลินตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยเพราะนั่นหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวยมฑูต 2 คนนั้นเลยสักนิด! แล้วก็เกิดความคิดเรื่องความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา เขาจึงรีบถามออกไป


“กริซของฉันทำร้ายร่างกายคนพวกนั้นได้ไหม?”


ยังไงซะคนกับผีก็ไม่เหมือนกัน จะโจมตีอย่างที่ต้องการไม่ได้ พวกเขาไม่มีร่างกายด้วยซ้ำ พวกเขาก็แค่การรวมตัวกันของหยิน และมีดธรรมดาๆไม่มีทางที่จะทำอะไรผีได้แน่ๆ


“ทำได้!”


ระบบพลังต่อสู้ตอบออกมา “อาวุธพลังการต่อสู้สู้สร้างมาจากรัศมีของสวรรค์และโลกพลังวิญญาณอีกมากมาย แค่ผีธรรมดาๆจะจัดการไม่ได้ได้ยังไง? แม้แต่อาวุธพลังการต่อสู้ในระดับต่ำที่สุดก็ยังเป็นไปได้เลย”


“เจ๋งไปเลย!” ดวงตาของหนิงเทียนหลินเปล่งแสงแพรวพราว ตราบใดที่เขาสามารถโจมตีได้ เขาก็สู้ได้! นั่นก็หมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวผีพวกนี้เลยด้วยซ้ำ!


“ติ่ง!”


“ภารกิจออกมาแล้ว ในเมื่อตอนนี้เจ้านายอยากที่จะสู้กับผีพวกนี้อยู่แล้ว งั้นก็ฆ่าเจ้ายมฑูต 2 ตัวนี้เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งซะเลย!”


ถ้าภารกิจสำเร็จจะได้รางวัลเป็นคะแนนพลังงาน 300 คะแนน”


“ถ้าภารกิจล้มเหลว จะถูกหักคะแนนสำคัญ 1,000 คะแนน”


ในเวลานี้เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูของหนิงเทียนหลิน ทำให้เขาตกตะลึงและตามมาด้วยความช็อค “ฆ่ายมฑูต 2 คนนี้เหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง! พวกเขาเป็นยมฑูตของหยินเชาไต้ฟูเลยนะ!”


“อีกอย่างทำไมถ้าทำสำเร็จถึงได้คะแนนพลังงานแค่ 300 คะแนนเองล่ะ? แต่ถ้าล้มเหลวกลับถูกหักไปตั้ง 1,000 คะแนนแน่ะ? คะแนนพลังงานของฉันยังไม่ถึง 1,000 คะแนนด้วยซ้ำ!”


“ตอนนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเกี่ยวกับเรื่องอนาคตนะ ถ้าภารกิจล้มเหลวฉันก็สามารถหักคะแนนพลังงานที่นายจะได้ในอนาคตได้!” ระบบการต่อสู้พูด “แล้วยมฑูตของหยินเชาไต้ฟูมันยังไง นายก็ฆ่าพวกเขาได้

ฉันรับรองได้เลยไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลยสักนิด!”


“หน้าที่ก็คือให้นายฆ่าพวกเขา อย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้!”


น้ำเสียงของระบบการต่อสู้พยายามที่จะกระตุ้นหนิงเทียนหลิน ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้เขาก็แค่อยากที่จะให้หนิงเทียนหลินเติมโตในการฆ่าและได้ตั้งหลักในจักรวาล ไม่มีวิธีอื่นเลยนอกจากการฆ่าและเก็บพลังในการต่อสู้ไปเรื่อยๆ!!


“แล้วจะให้เริ่มเมื่อไร?”


หลังจากนั้นสักพักหนิงเทียนหลินก็หายใจเข้าลึกๆและถามออกไป เขารู้ดีว่าภารกิจที่ระบบการต่อสู้มอบหมายมาให้ไม่ใช่อะไรที่จะต่อรองได้เลยสักนิดและไม่มีทางเลยที่จะยกเลิกภารกิจ


เพื่อที่จะให้ได้คะแนนพลังงาน 1,000 คะแนน เขาจะต้องฆ่า 2 คนนี้!

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอากริซออกมาไว้ในมือตอนนี้


“เวลาเที่ยงคืน ประตูผีจะถูกปิดและพวกเขาจะอยู่ที่นี่ได้ 2 ชั่วโมง

1 ชั่วโมงเท่ากับ 2 ชั่วโมง นั่นก็คือพวกเขาจะต้องกลับก่อนตี 4 และในครั้งนี้พวกเขาก็จะต้องกลับไปสู่กลุ่มของผี”


“ในกลุ่มนี้จะมีผีเป็นร้อยๆตัวเลย”


“การที่ฉันให้นายทำเรื่องนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุผลนะเพราะการฆ่ายมฑูตพวกนี้ไม่ใช่การฆ่าที่ดี ซึ่งมันจะสร้างประโยชน์ให้นายอย่างมาก”


ระบบการต่อสู้อธิบาย “แต่มันเป็นเรื่องดีจริงๆ นายแค่ต้องทำก่อนที่ตัวเองจะได้รู้เหตุผล!”


“ประโยชน์เหรอ?”


หนิงเทียนหลินครางอยู่นาน “โอเค!”


“ฉันจะทำ!”


“แต่ก่อนจะตี 4 ฉันมีอีกเรื่องที่ต้องจัดการและเมื่อเรื่องนี้จบ การฆ่าผีพวกนี้ก็จะทำให้ฉันมั่นใจมากยิ่งขึ้น!”


หนิงเทียนหลินลืมตาขึ้นมาและตัดสินใจอย่างแน่วแน่!



ICSS บทที่ 101: แลกเปลี่ยนดวงตาหยินและหยาง


“เนตรหยินหยาง! ฆ่าพวกนั้นต้องมีสิ่งนี้!”


หนิงเทียนหลินไม่ใช่คนโง่ เขามองพวกนั้นไม่เห็นแล้วจะฆ่าพวกนั้นได้ยังไงกัน! ความละเลยเล็กๆน้อยๆก็สามารถทำให้พวกเขาหนีไปได้

มีเพียงดวงตาแห่งหยินและหยางเท่านั้นที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นไปได้!


“ต้องใช้คะแนนพลังงานเท่าไร?”


หนิงเทียนหลินขี้เกียจเกินกว่าจะเข้าไปค้นหาในระบบ มีของเป็น

สิบๆล้านชิ้น ถึงแม้จะมีชั้นของเงื่อนไขอยู่ที่หน้าจอก็ตามแต่ก็ต้องใช้เวลากว่า 10 นาทีก็อาจจะยังหาไม่เจอเลย ถ้าบอกชื่อได้ระบบการต่อสู้ก็จะบอกคำตอบให้


“98”


“เนตรแห่งหยินหยางนี้แค่เพียงทำให้ผู้คนมองเห็นผีแต่ไม่ได้เพิ่มพลังในการต่อสู้อะไรก็เลยไม่ต้องใช้คะแนนอะไรมากนัก” ระบบการต่อสู้อธิบายต่อ


“แลกเลย!” หนิงเทียนหลินมีความสุขมากเลย เขาไม่ได้มีคะแนนเยอะอะไรแต่เขาก็ยังมีตั้ง 412 คะแนน แค่ 100 คะแนนเขาแลกได้อยู่แล้ว!


“การแลกสำเร็จ!”


ภายในแค่ครึ่งวินาที ระบบการต่อสู้ก็ส่งสัญญาณว่าเขาทำสำเร็จแล้ว และในทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็รู้สึกว่ามีน้ำเย็นๆไหลเข้ามาในตาของเขา ดูน่าขนลุกแต่กลับรู้สึกสบายขึ้นมาก


หลังจาก 3 นาทีเต็มๆความรู้สึกนี้ก็หายไปในพริบตา


“เรียบร้อย!”


หนิงเทียนหลินรู้สึกยินดีมาก แล้ว “เขา” ก็หันหัวกลับไปมองที่ยมฑูตทั้ง 2 เขาอยากที่จะเห็นว่าเมื่อมีดวงตาแห่งหยินและหยางแล้วกับตอนที่ไม่มีดวงตาหยินและหยางจะต่างกันหรือเปล่า แต่กลับไม่มีอะไรแตกต่างเลย!


นอกจากนี้สายตาของเขาในตอนนี้ก็บอกได้เลยว่ามองไปอย่างไม่เกรงกลัวอีกแล้ว ในเมื่อเขารู้แล้วว่าพลังในการต่อสู้ของอีกฝ่ายไม่ได้ดีเท่าเขางั้นเขาจะมีอะไรที่ต้องกลัวล่ะ! อีกอย่างพวกเขาจะต้องสู้กันถึงตายอยู่แล้ว จากภารกิจของระบบในการต่อสู้แสดงว่าพวกเขาไม่ได้เป็นมิตรอยู่แล้วด้วย


“กลายเป็นว่าไม่แตกต่างเลย!”


ในสายตาของหนิงเทียนหลิน รูปร่างของอีกฝ่ายก็ยังเหมือนเดิมแต่ร่างกายของชาย 2 คนนี้กลับเป็นควันหนาๆ, สีเทา-น้ำตาลและเป็นกลุ่มก้อน ถึงแม้ว่าจะแตะต้องไม่ได้ หนิงเทียนหลินก็มั่นใจมากว่ายมฑูตพวกนี้จะต้องหนาวและกลัวมากแน่ๆ!


หลังจากที่เขาตายในวันนั้นและดวงวิญญาณได้กลับมาที่โลก เขามีเพียงความรู้สึกเดียวคือความหนาว!


นั่น มันหนักหนามากๆ!


“ว้าว!”


และด้วยความสนใจของหนิงเทียนหลินก็ทำให้ยมฑูตหันกลับมามองเขาด้วยสายตารุนแรงเพราะเขารู้สึกได้ถึงความอึดอัดอย่างมาก เพียงแค่

แวบเดียวก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วเพราะในเวลานี้ชายคนหนึ่งได้จ้องเขามาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเดินเข้าประตูมาแล้ว และยิ่งไม่เกรงใจและไม่สนใจเข้าไปอีก


“เขาเห็นความแตกต่างของเราหรือเปล่า?”


ยมฑูตนี้มองอย่างโมโหมาที่หนิงเทียนหลิน เขาไม่ได้คิดว่าคนๆนั้นจะมองเขาแล้วมองเขาอีก จ้องมาที่เขา! ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้


ทันทีที่เกิดความคิดนี้ขึ้นมา ใจเขาก็หายแวบ นี่เป็นครั้งแรกสำหรับเขา

2 คนที่ออกมาทำเรื่องอะไรแบบนี้ ในวันที่ 14 กรกฎาคมของแต่ละปี กลุ่มของผีจะถูกส่งมาที่โลก ในระหว่างนั้นพวกเขาก็จะไปเยี่ยมญาติพี่น้องและมาที่นี่เพื่อเล่นเกมส์ลีกออฟเลเจนด์สัก 2-3 ชั่วโมง


หยินเชาไต้ฟูไม่ใช่นรกในแบบที่มนุษย์จินตนาการคิด ที่นั่นจะมีเมืองต่างๆ, มีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, มีอินเตอร์เน็ตคาเฟ่, มีโทรศัพท์มือถือและอะไรอีกมากมาย


เขาสามารถที่จะฝึกเล่นเกมส์ที่นั่นได้เลยแต่ไม่ใช่ที่โลก!


มันก็แค่ว่าทั้งคนและผีต่างก็มีเส้นทางที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่สามารถที่จะสื่อสารถึงกันและกันได้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกมาทันทีที่ต้องการ


วิญญาณปกติในเวลาปกติจะออกมาเจอแสงอาทิตย์ไม่ได้


วิญญาณในโลก 90.9% ก็จะแอบหลบซ่อนไม่ยอมรายงานตัวกับรัฐบาลท้องถิ่น


“นายพล ชายคนนั้นจับเราได้และเอาแต่จ้องเราไม่เลิกเลย!”


ชายคนนั้นเห็นว่าหนิงเทียนหลินยังคงมองอยู่ เขาถึงกับขมวดคิ้วและต้องมองไปรอบๆและถามเพื่อนออกไป


เพื่อนของเขาสนใจในเรื่องเกมส์ลีกออฟเลเจนด์มากกว่าที่เขาคิด เขาอุทิศตัวเองให้กับเกมส์ไปแล้ว เขาไม่ได้เห็นหนิงเทียนหลินมองมาที่พวกเขาและเมื่อเขาได้ยินคำถามจากเพื่อน เขาก็ไม่ได้หันหน้าออกมาจากจอคอมพิวเตอร์ ยะซุโอะกำลังควบคุมกำลังเสริมเนื่องจากกลัวว่าจะพลาด


เขาพูดออกมาโดยตรงโดยไม่หันกลับมามอง “แล้วเราจะจับเราได้ยังไง? เดี๋ยวนี้ไม่ได้มีคนที่มีดวงตาหยินและหยางอยู่แล้ว!”


“อีกอย่างถ้าเขาจับเราได้เราก็พังแน่ๆ เราจะต้องโดนรายงานไปทางรัฐบาลท้องถิ่นแน่ๆที่เราไม่รับผิดชอบและมาเล่นเกมส์ในระหว่างทำงานแน่ๆจริงไหม? แค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งจะกลัวอะไรล่ะ!”


“พ่อมดที่มาจากภูเขาวูไทไงและเขาไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเราต้องเจอปัญหายังไงที่เขาไปติดต่อกับรัฐบาลท้องถิ่น! เดี๋ยวนี้ทั่วทั้งจีนก็แทบจะไม่มีใครที่สามารถสื่อสารกับรัฐบาลท้องถิ่นได้แล้ว


“ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย!”


“เร็วเข้าๆแล้วตั้งกองทัพขึ้นมา อย่ารอให้เขามาจัดการจนลุกไม่ขึ้น!”


เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องหนิงเทียนหลินเลยแถมยังรีบบอกให้เพื่อนกลับมาเล่นเกมส์เร็วๆด้วย ในใจเขาเรื่องเกมส์สำคัญกว่าเรื่องอื่นใดทั้งนั้น!


“โอ้”


ชายคนนั้นตอบ แต่ก็หันหัวกลับมาอย่างแรงและมองไปที่หนิงเทียนหลินอีกครั้งและพบว่าอีกฝ่ายได้หันหัวกลับไปแล้ว ไม่ได้มองมาที่เขาอีก เขาจึงพูดว่า “สงสัยคงเป็นแบบนั้น” แล้วหันกลับไปสนใจที่เกมส์ตามเดิม


เมื่อพวกเขาทั้ง 2 หันกลับไปสนใจเกมส์อย่างจริงจัง ตอนนี้พวกเขายังเหลือเวลาและจะเสียไปอีกไม่ได้แล้ว


หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง


“เซียวจุน ฉันเริ่มจะง่วงแล้วเดี๋ยวขอออกไปรับลมหน่อยนะ”


หนิงเทียนหลินลุกขึ้นและยืดเหยียดแขนออกไปเล็กน้อย เขาเริ่มเกมส์ไปกว่า 10 นาทีแล้วและอีกเกมส์เขายังไม่ได้เริ่มเพราะเขากลัวว่ามันจะต้องใช้เวลารอนานกว่า 20 นาที


ในภารกิจสุดท้าย ระบบการต่อสู้กำหนดไว้ว่าแต่ละรอบจะต้องไม่เกิน 20 นาที ไม่งั้นเขาจะถูกพิจารณาว่าแพ้!


“โอเค”


“ดีเลย”


นี่เกือบจะตี 4 แล้วซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะเริ่มง่วงได้ง่ายๆหลังจากที่นั่งมาทั้งคืน ชิเซียวจุนรู้สึกงงนิดหน่อยแต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะเปิดลีกออฟเลเจนด์อีกเกมส์แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้การปลั๊กอิน


หลังจากที่เขาชนะมาทั้งคืน เขาก้อยากที่จะเปลี่ยนกลเม็ดบ้าง

หลินเจียอี้กำลังดูทีวีอยู่ ดูซีรี่ย์เกาหลีและกำลังสนุกเลย


“ว้าว!”


หนิงเทียนหลินดันเก้าอี้กลับเข้าไปและเดินออกมาเพราะในเวลานี้ยมฑูตทั้ง 2 เพิ่งจะเดินออกไปได้เกือบ 30 วินาทีแล้ว ถึงแม้ระบบการต่อสู้จะบอกตำแหน่งให้เขารู้แต่เขาก็กลัวว่าเขาจะพลาดโอกาส


ภารกิจนี้จะต้องชนะเท่านั้น ห้ามแพ้เด็ดขาด! ต้องทำให้แน่ใจว่าได้ฆ่ายมฑูต 2 คนนั้น!


ไม่งั้นเขาจะสร้างศัตรูในหยินเชาไต้ฟูเพิ่มขึ้นแน่ๆ บางทีครั้งหน้าที่ประตูผีปิดเขาจะต้องเดือดร้อนแน่ๆ! และอาจจะซีเรียสไปอีกถ้ามีใครไปรายงานรัฐบาลท้องถิ่นของหยินเชาไต้ฟูเรื่องเขา


“นั่นไง! เดินเข้าตรอกไปแล้ว!”


ทันทีที่หนิงเทียนหลินเดินออกประตูร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มา เขาก็เห็นว่ายมฑูต 2 คนนั้นได้เดินเข้าตรอกไปและหนึ่งในพวกเขาไม่รู้ว่าระฆังจะดังเมื่อไรและมันจะต้องสั่นดัง “ดิ่งๆ” เหมือนเป็นการเรียกอะไรบางอย่าง



ICSS บทที่ 102: ต้นไทร


“เมื่อไร!”


“เมื่อไร!”


เสียงเพลงแสนหวานและแผ่วเบาแต่ดูเหมือนจะเป็นเสียงที่มหัศจรรย์, สั่นสะเทือนและดูแปลกมากในท้องฟ้ายามค่ำคืนในเวลาตี 4 และ

หนิงเทียนหลินรู้สึกรางๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณลักษณะทางกายภาพของเขาที่ดีกว่าคนปกติธรรมดา เขาก็คงจะไม่ได้ยินเสียงเพลงนี้แน่ๆ!


เสียงนี้ดูเหมือนจะมีผลกับหัวใจของคน!


“นี่เป็นอาวุธเวทมนต์ที่เรียกว่าระฆังวิญญาณ แต่จะถูกใช้เพื่อรวบรวมวิญญาณ ไม่ว่าวิญญาณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเรียกได้ในทันทีนอกนั้นก็เปล่าประโยชน์!”


ระบบการต่อสู้อธิบายเพิ่มในเวลานี้และกล่าวเสริมในตอนสุดท้าย หนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่ามีวิญญาณปรากฎขึ้นมาจากทุกด้าน ยืนอยู่ข้างๆยมฑูต 2 คนนี้ เหมือนกับว่ายืนอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว


และในไม่ช้าพวกเขาก็ยืนเรียงเป็นแถวแบบเรียงหนึ่งเรียบร้อย


“ไม่ได้ผลแน่ๆ! มีวิญญาณเยอะมาก แบบนี้ฉันจะฆ่าวิญญาณ 2 ตัวนั่นได้ยังไง!”


หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วลึก เขาไม่ได้คาดคิดว่าพวกวิญญาณที่กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องจะถูกเรียกกลับมายืนอยู่ข้างยมฑูต 2 คนนี้เร็วขนาดนี้ เขาวางแผนว่าจะใช้ข้อได้เปรียบจากเวลานี้และเขาเพิ่งจะคิดได้ว่าจะคุยกับชาย 2 คนนี้ยังไง


แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องง่ายๆนี้จะเริ่มไม่ง่ายแล้ว


“จะฆ่าไม่ได้ได้ยังไง!” ระบการต่อสู้เปล่งเสียงออกมา


“ยมฑูตนี้จะฆ่าวิญญาณพวกนี้ทุกตัว สนใจเรื่องวิญญาณทั้ง 100 ดวงไหมล่ะ?


“วิญญาณพวกนี้ก็แค่ทรงพลังในด้านวิญญาณ แต่พลังในการต่อสู้ของแต่ละตัวน้อยกว่า 15 ด้วยซ้ำ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายเลยสักนิด!”


หนิงเทียนหลินตัวแข็งและถามออกมาในทันที


“นายหมายถึงจะให้ฉันฆ่าวิญญาณทั้งหมดเลยเหรอ?”


หลังจากนั้นหัวใจของเขาก็เต้นรัวเกินอันตราปกติไปมาก ความคิดนี้มันบ้ามากๆ นี่มันวิญญาณตั้งร้อยดวงนะ ไม่ใช่คนร้อยคนนะ! หนิงเทียนหลินยังไม่เคยสู้กับวิญญาณมาก่อนเลย! เขาไม่รู้ว่าพวกนี้ทำอะไรได้บ้าง

ความเข้าใจในเรื่องวิญญาณของเขาก็แค่ 7 วันตอนที่เขาเป็นวิญญาณอยู่ในหยินเชาไต้ฟู!


“ถ้านายคิดว่าจะมีทางที่นายทำไม่ได้” เสียงของระบบการต่อสู้ฟังดูน่าขำ ทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกว่าดูเหมือนมันจะต้องมีผลที่ตามมาแน่ๆ


“และฉันบอกแล้วว่ามันจะดีกับนายเองหลังจากที่ได้ฆ่าวิญญาณพวกนี้”


สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับระบบการต่อสู้ยังไม่ได้บอก


“โอเค ฉันจะทำ!” หนิงเทียนหลินโหดร้ายและไร้ความปราณี ในเวลาเดียวกันนั้นก็เปิดประตูแห่งการแลกเปลี่ยนเพื่อหาบางอย่างเพื่อแลกเปลี่ยน แล้วจึงค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาวิญญาณพวกนี้ แผนมันเปลี่ยนไปแล้วและความตั้งใจของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว


“วิญญาณ 100 ดวงมาถึงแล้วและเราก็ไปได้แล้ว”


เสียงเฉียบดังออกมาจากตรอกและเขาก็กำลังจะไปแล้ว ในมือของพวกเขาต่างก็ถือกุญแจไปสู่หยินเชาไต้ฟูไว้ด้วย ตราบใดที่ยังถือกุญแจอยู่ พวกเขาจะไปโผล่ที่ถนนอุยก๋วนในหยินเชาไต้ฟูได้ในทันที


“ตายซะ!”


ในเวลานี้ในคืนที่เงียบสงบ ก็มีเสียงบางอย่างดังออกมาทันทีในระยะที่ห่างออกไปจากพวกเขาประมาณ 100 เมตรพร้อมันนั้นก็มีระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นจากระยะ 100 เมตรออกมาจากเงามืดและก็มาจากข้างหลังพวกเขาที่ห่างออกไป 2-300 เมตรอีก ซึ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง

เหมือนกึ่งทรงกลมที่ครอบคลุมพื้นที่ภายใน 500 เมตรนี้


แดนกักขัง!


หนิงเทียนหลินเพิ่งจะแลกมันมากจากระบบการแลกเปลี่ยน ไอ้เจ้าสิ่งนี้ทำให้เขาต้องเสียคะแนนพลังงานไปตั้ง 50 คะแนน


แดนกักขัง ก็เหมือนกับชื่อของมันใช้เพื่อกักขังด้านหนึ่งของโลกและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหลังจะไม่สามารถหนีออกไปไหนได้เลย! เหมือนเป็นที่กักขังอะไรสักอย่าง


ตอนนี้หนิงเทียนหลินพร้อมที่จะฆ่าวิญญาณมากกว่าร้อยดวงพร้อมกันแล้ว เขาเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว อย่างน้อยที่สุดเขาไม่สามารถปล่อยให้พวกนี้หนีไปได้เลยก่อนที่เขาจะเริ่ม! ไม่งั้นคงจะเป็นปัญหาแน่ที่จะจัดการวิญญาณสักดวง!


แดนกักขังก็มีทั้งดีและไม่ดี ด้านที่ดีเราจะสามารถกักขังได้ทั้งกาแล็กซี่และสนามดวงดาวเป็นเวลานานนับไม่ถ้วนตั่นก็ต้องใช้คะแนนพลังงานที่ไม่จำกัดด้วย นั่นคือเรื่องง่ายๆที่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำได้


แดนกักขังที่เขาเพิ่งจะแลกมาเป็นเกรดที่ต่ำที่สุด เขากักขังได้แค่ในระยะ 500 เมตรเท่านั้นและมันจะคงอยู่แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

แต่เวลาครึ่งชั่วโมง หนิงเทียนหลินก็รู้สึกว่ามันเพียงพอที่จะใช้ฆ่าวิญญาณทั้งหมดนี้แล้ว!


“ปึง!”


ในเวลาเดียวกัน ครึ่งนาทีต่อมาหัวหน้ายมฑูตก็กำกุญแจไว้ในมือแล้วประตูเล็กๆก็ก่อตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาและเดินเข้าไปในประตูเล็กๆนั้น พวกเขาจะต้องไปปรากฎตัวที่ถนนอุยก๋วนในหยินเชาไต้ฟูในทันที


“อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?”


สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือหลังจากนั้นเกือบ 30 วินาที ประตูเล็กๆอย่างที่เขาตั้งใจไว้ก็ไม่ปรากฎขึ้นมาจนเขาต้องขมวดคิ้ว พร้อมกันนั้นเขาก็หันหัวมามองที่เพื่อนและความหมายของคำถามนั้นปรากฏชัดในตัวเอง


“ทำไมมันไม่เปิด?”


ยมฑูตอีกคนก็รู้สึกงงไปด้วย ไม่ใช่ว่าพวกเขามาที่นี่แค่ครั้งหรือสองครั้งและยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย


“ตายซะ!”


“ตายซะ!”


พร้อมกันนี้ไม่ไกลนักก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา ในคืนที่เงียบสงัดนี้ทำให้มันฟังได้อย่างชัดเจนและพร้อมกันนั้นเสียงหัวใจของยมฑูตทั้ง 2 ก็ดังรัวเป็นกลองเลยทีเดียว


“นายนี่เอง!”


ไม่นานยมฑูตทั้ง 2 และวิญญาณทั้ง 100 ก็เห็นร่างของคนปรากฎขึ้นมา โดยเฉพาะหยินเชาที่เพิ่งเห็นหนิงเทียนหลิน เขาก็ต้องขมวดคิ้วและความรู้สึกไม่ดีก็เกิดขึ้นมาในใจของเขา


ความรู้สึกรางๆว่าเรื่องกุญแจที่ผิดพลาดก็น่าจะเกิดขึ้นเพราะเด็กหนุ่มคนนี้!


“ฉันเอง” หนิงเทียนหลินตอบด้วยรอยยิ้ม


“ท่านยมฑูตอุตส่าห์มาถึงโลกแต่ทำไมกลับกันเร็วจังล่ะ? อยู่ต่ออีกหน่อยสิ!”


“นายจับพวกเราได้จริงๆด้วย!”


เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่หนิงเทียนหลินเรียกเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

“นายจับเราได้ตั้งแต่ตอนที่เราเดินเข้าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เลยเหรอ?”


“ใช่” หนิงเทียนหลินพยักหน้า ไม่ได้ปิดบังเลย


“ดูเหมือนว่านายจะมีเนตรหยินหยางสินะ เราประเมินนายต่ำไปจริงๆ!”


ด้วยเสียงที่ตะโกนเรียก พวกเขาและวิญญาณพวกนี้ต่างก็ซ่อนตัว คนปกติจะหาพวกเขาไม่เจอเลย


“ฮ่าฮ่า” หนิงเทียนหลินหัวเราะอย่างแผ่วเบา


“ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีเนตรหยินหยางหรือเปล่า ฉันมาเพื่อบอกพวกนายว่าวันนี้พวกนายจะกลับไปที่หยินเชาไต้ฟูไม่ได้”


“ทำไม?”


“ที่กุญแจใช้ไม่ได้เป็นเพราะนายใช่ไหม?”


ยมฑูตอีกคนเดินออกมาในเวลานี้พร้อมทั้งขมวดคิ้วและถามหนิงเทียนหลินออกไป


แม้แต่วิญญาณที่อยู่หลังพวกเขาต่างก็จ้องมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตาสงสัย พวกเขาต่างก็เป็นคนธรรมดาที่ตาย ตอนที่พวกเขายังมีชีวิต พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีคนแบบหนิงเทียนหลินที่สามารถมองเห็นพวกเขาได้


แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความสงสัยและไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายเลยสักนิด


“ใช่”


“ฉันทำเอง” หนิงเทียนหลินพยักหน้า


“ไม่มีอะไรหรอกแค่ว่าวันนี้มีบางคนมอบภารกิจให้ฉันมาและขอให้ฉันฆ่าพวกนายให้หมด!”



ICSS บทที่ 103: ฆ่า!


“ฮ่าฮ่า!”


เหมือนกับว่าพวกเขาได้ยินเรื่องตลกที่น่าขำที่สุด เมื่อยมฑูตทั้ง 2 ได้ยินสิ่งที่หนิงเทียนหลินพูดออกมาแล้วต่างก็มองหน้ากันและกัน พร้อมทั้งหัวเราะออกมา “นายหมายถึงว่านายจะฆ่าพวกเรางั้นเหรอ? และวิญญาณพวกนี้ด้วยงั้นเหรอ?”


“นายรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดเรื่องอะไร?”


“แม้แต่เจ้าแห่งสวรรค์แห่งภูเขาหลงหูถ้ามาอยู่ที่นี่ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดเรื่องอะไรแบบนี้เลย!”


“มันขึ้นอยู่กับนายงั้นเหรอ?”


ยมฑูตทั้ง 2 มองหนิงเทียนหลินเหมือนเป็นคนบ้า รู้สึกว่าพวกเขากำลังพูดเหมือนในหนังสือการ์ตูน เขาจะมีความสามารถฆ่าวิญญาณได้สักกี่ดวง? ทั้ง 2 รู้สึกขำ!


ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเหมือนเป็นตัวแทนของยมฑูตทั้งหมดและการฆ่าพวกเขาก็เหมือนกับการมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในหยินเชาไต้ฟู!


เจ้าหน้าที่จะต้องไปปล่อยให้เด็กหนุ่มนี่รอดไปได้แน่ๆ และคิงหยานเลาต้องไม่เก็บเขาไว้แน่ๆ!


“วิ้งงงงงงงง!”


เขาเพียงแค่เยาะเย้ยกับคำถามของพวกเขาและคำตอบสำหรับพวกเขาก็คือกริซสีขาวเงิน ที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นแต่กริซในการต่อสู้นี้ยาวไม่ถึง 5 นิ้ว และร่างกายของหนิงเทียนหลินก็พุ่งตรงเข้ามาพร้อมเสียงตะโกน!


“อาวุธเวทมนต์! ทำไมมันอยู่ในมือเขา! ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงกล้าพูดแบบนี้!”


ทั้ง 2 ต่างก็ต้องประหลาดใจเพราะในยุคนี้อาวุธเวทมนต์ในโลกนี้หายากมากแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีมันก็จะถูกเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และอาวุธที่เป็นเวทมนต์แบบนี้ก็ยิ่งหายากเข้าไปอีก


อาวุธเวทมนต์ อย่างไรก็ตามมันโจมตีร่างกายของพวกเขาได้!


พวกเขาไม่กลัวปืนหรืออาวุธอื่นๆบนโลกนี้ แม้ระเบิดจะมาระเบิดอยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาก็แค่หัวเราะแต่อาวุธนี้มันไม่เหมือนกัน นี่มันเป็นอะไรที่สามารถฆ่าพวกเขาได้จริงๆ!


“วิ้งงงงงงงงง!”


ทั้ง 2 ไม่ลังเลเลย พวกเขารีบยืดแขนและแสดงไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์ออกมาในมือของแต่ละคน ดวงตาแสดงความภูมิใจพร้อมทั้งมองหนิงเทียนหลินวิ่งตรงเข้ามา


ไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์นี้สีดาและยาวประมาณ 1 เมตร พร้อมด้วยขนของแมลงและสัตว์อะไรบางอย่างประดับอยู่ที่ไม้ด้วย นี่เป็นอาวุธพื้นฐานที่รัฐบาลหยินเชาไต้ฟูจะมอบให้ยมฑูตทุกคน เหมือนกระบองสำหรับพวกตำรวจที่เอาไว้สู้กับอาชญากร


ถึงแม้มันจะไม่ใช่อาวุธเวทมนต์ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าอาวุธเวทมนต์ที่ระดับต่ำที่สุด


“โอ้!”


ความเร็วของหนิงเทียนหลินเร็วมาก ห่างไปอีกแค่ 10 เมตรโดยใช้เวลาไม่ถึงวินาที พร้อมทั้งโบกกริซไว้ในมือ เขาพุ่งตรงมาที่คอของยมฑูตที่อยู่ด้านซ้าย พลังที่แรงกล้าทำให้เกิดเสียงดังแหวกอากาศ


วันนี้คุณภาพร่างกายของหนิงเทียนหลินสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้สามารถเล่นได้ไม่ว่าจะเป็นอะไร! นอกจากนี้เหตุผลที่เขาเลือกที่จะโจมตียมฑูตที่อยู่ด้านซ้ายก่อนเพราะพลังในการต่อสู้ของเขาสูงที่สุด แตะที่ 105 คะแนน ซึ่งใกล้กับ 107 คะแนนที่สุด ซึ่งห่างกันแค่ 2 คะแนนเอง


ส่วนอีกคนมีพลังในการต่อสู้อยู่ที่ 103 คะแนนซึ่งห่างกับเขาอยู่

4 คะแนน


ตราบใดที่คนๆนี้ถูกจัดการไปซะ เขาก็จะสามารถรู้สึกได้ว่าเขาจะไม่ถูกวิญญาณทั้งหมดจัดการ ร่วมทั้งยมฑูตอีกคนด้วย! พร้อมกันนั้นการฆ่าวิญญาณอื่นๆก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก!


“อะไรกัน!”


ยมฑูตที่อยู่ด้านซ้ายตกใจกลัว เขาไม่ได้คาดคิดไว้เลย ความเร็วของเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาช่งเร็วเหลือเกินแทบจะทำอะไรไม่ทันเลย! ทั้งๆที่เขาเตรียมตัวไว้นานแล้วด้วยซ้ำ!


โชคดีที่ไม้กายสิทธิ์และกริซของอีกฝ่ายเข้ามาปะทะกันพอดี ทำให้บล็อคการฆ่าไว้ได้ ร่างกายของเขาทั้งร่างเมื่อปะทะเข้ากับแรงอันมหาศาลของหนิงเทียนหลินเขาก็ถึงกับยืนไม่มั่นคงจนต้องเดินถอยหลังไป 2-3 ก้าวและล้มลงกับพื้น


แม้แต่ไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์ในมือเขาก็ยังสั่นและตกลงด้านข้าง


“ตู้มมมม!”


หนิงเทียนหลินไม่ได้หยุดมือเลย เขาพุ่งตัวเข้าไปทันทีและกำลังที่จะฆ่าอีกฝ่าย! แม้แต่ไม้กายสิทธิ์อีกอันก็โบกตรงมาที่ร่างเขา!


“ปัง!”


พร้อมกันนั้นยมฑูตที่ล้มลงไปที่พื้น ทันใดนั้นก็ยิงแสงออกมา หนิงเทียนหลินเพียงแค่รู้สึกว่าวิญญาณของเขาถูกช็อตแต่มันก็เป็นเพียงแค่แสงแวบ แต่กริซในมือของเขายังแทงอยู่ที่คอของอีกฝ่าย


“มันเป็นไปได้… การโจมตีทางจิตไม่ได้ผลได้ยังไง!”


ทันทีที่ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของยมฑูต ที่คอเขาก็รู้สึกเย็นๆและพลังงานชีวิตจำนวนมากก็ไหลอย่างรวดเร็วออกมาแตะที่กริซและที่คอ ภายในไม่กี่วินาทีก็ไม่มีพลังในดวงตาของเขาอีกและปิดสนิทไปตลอดกาล


“การโจมตีทางจิตไม่เป็นผลเพราะความสามารถทางจิตวิณญาญของฉันสูงกว่านายไงล่ะ! มันสูงกว่าตอนที่นายใช้ฝีมือลึกลับอีก!”


คุณลักษณะทางกายภาพปัจจุบันของหนิงเทียนหลินแข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติทางจิตวิญญาณที่แม่นยำมาก แหวนอวกาศและกริซช่วยเพิ่มพลังได้มาก โดยเฉพาะแหวนอวกาศซึ่งเน้นไปที่ด้านจิตวิญญาณมากที่สุด


ยิ่งไปกว่านั้นพลังในการต่อสู้ที่ระบบการต่อสู้รายงานมาไม่ใช่แค่พลังในการต่อสู้รวมแต่ยังคุณลักษณะทางร่างกายด้วยก็ถูกอธิบายถึงรายละเอียด ว่าพลังมากแค่ไหน, รายละเอียดของความว่องไว, ทางด้านจิตใจและทางกายภาพ ร่ายยาวออกมา


แม้แต่อาวุธของอีกฝ่าย, ทักษะปริศนาประเภทไหนก็อธิบายออกมาอย่างละเอียด


ดังนั้นหนิงเทียนหลินจึงพร้อมที่จะโฟกัสไปที่วิญญาณเพื่อที่จะป้องกันการโจมตีทางจิตใจของอีกฝ่าย!


“ปัง!”


แต่ในเวลาเดียวกัน ไม้กายสิทธิ์แห่งความทุกข์ก็ตกลงมาที่เขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาอยากที่จะฆ่าอีกคนด้วยการระเบิดซะเลย!


“ปัง!”


ร่างกายของหนิงเทียนหลินบินขึ้นไปโดยไม่ตั้งใจและหลิงกงก็ช่วยไม่ได้ที่วิญญาณจะไหลออกมาและล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง พลังในการต่อสู้ของทั้ง 2 ต่างกันแค่ 4 คะแนนและเพราะจากการระเบิดอย่างแรงนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถป้องกันได้อย่างเต็มที่


ไม่นานมือของหนิงเทียนหลินก้ปรากฎยาเอนกประสงค์ สีเขียวเข้มขึ้นมาซึ่งเพิ่งจะดึงออกมาจากแหวนอวกาศ ยานี้กลิ้นเหมือนยาทั่วๆไปในโลกนี้ โดยไม่ลังเลเขาก็รีบกรอกใส่ปากในทันที


ดื่มเข้าไปในทันที


และชั่วขณะหนึ่งหนิงเทียนหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจากการที่อวัยวะภายในสั่นสะเทือน แล้วก็หายไปในทันทีและแม้แต่พลังงานที่เพิ่งใช้ไปก็ถูกเติมเต็มในทันที


ยาฟื้นคืนชีพซึ่งซ่อมแซมการบาดเจ็บและเติมเต็มร่างกายในทันทีเป็นวิธีการรักษาที่ง่าย ตอนที่หนิงเทียนหลินเตรียมพร้อมที่จะเริ่ม เขาก็แลกมันออกมาจากประตูแห่งการแลกเปลี่ยนด้วยคะแนนพลังงาน 10 คะแนน แต่สำหรับยารักษาขั้นสูงที่มากกว่านี้เขาไม่ได้แลกมาเพราะในแผนเดิมเขาคิดถึงแค่สิ่งนี้และในวันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา


“ปัง!”


หลังจากการปลดปล่อยนี้หนิงเทียนหลินก็รีบลุกขึ้น หมุนตัวและกระโดดขึ้นมาจากพื้นพร้อมทั้งกริซที่อยู่ในมือ แทงอย่างรุนแรงเข้าไปที่ยมฑูต อีกคนหลังจากนั้นหนึ่งนาทีก็แทงกริซเข้าไปที่คอของเขาและปล่อยให้เขาตายอย่างช้าๆ!


“ต่อไปก็ตาพวกนาย!”


ตั้งแต่ที่ยมฑูตถูกฆ่าต่อหน้าพวกวิญญาณมากมาย หนิงเทียนหลินก็จะปล่อยพวกเขาไปไม่ได้แล้ว ในสายตาที่หวาดกลัวของเหล่าวิญญาณ เขากระโดดเหมือนกับเสือเข้าหาฝูงชนพร้อมทั้งเปิดแหวนแห่งการฆ่า 10 นาทีต่อมาก็ไม่เหลือวิญญาณในโลกนี้อีกเลย



ICSS บทที่ 104: พลอยโมรา


“ติ่ง!”


“ขอแสดงความยินดีด้วยนะเจ้านายที่ทำภารกิจส่วนที่เพิ่มมาได้สำเร็จและจะได้รับรางวัลเป็นคะแนนสำคัญ 500 คะแนน”


ตอนที่หนิงเทียนหลินฆ่าวิญญาณทั้งหมดเรียบร้อย เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูทำให้เขาตกตะลึง “ภารกิจเสริมเหรอ?”


“มันเยอะมาก!”


ก่อนหน้านี้หนิงเทียนหลินก็ทำภารกิจสำเร็จไปมากมายแล้วแต่ทั้งหมดก็จะได้รับแค่รางวัลเท่านั้น ไม่เคยมีรางวัลเพิ่มเติมเลยสักนิด เขาคาดว่าที่ครั้งนี้ได้ก็น่าจะเพราะวิญญาณทั้งร้อยได้ถูกฆ่าไปด้วย


“คะแนนสำคัญสำหรับภารกิจเดิมก็คือ 300 คะแนน หลังจากที่ปริมาณถูกเพิ่มขึ้น 200 คะแนนก็เลยถูกเพิ่มเข้ามา!”


หนิงเทียนหลินรู้สึกพอใจเล็กน้อยเพราะคะแนนพลังงาน 200 คะแนนนี้ก็ไม่ได้มากเกินไป เดิมเขาคิดว่าจะได้คะแนนพลังงานแค่ 300 คะแนนเท่านั้น


“วิ้งงงงงงง!”


ระหว่างที่หนิงเทียนหลินกำลังคำนวนคะแนนสำคัญของตัวเองอยู่นั้น อยู่ดีๆโลกรอบตัวเขาก็ถูกปกคลุ่มไปด้วยพลังงานปริศนา ชั่วขณะหนึ่งวิญญาณทั้งหมดที่อยู่บนพื้น รวมทั้งยมฑูตทั้ง 2 คนนั้นด้วยต่างก็หดตัวอย่างเร็วเร็วและต่อเนื่อง


ในดวงตาที่ตกตะลึงของหนิงเทียนหลินเพียงแค่พริบตาวิญญาณเป็นร้อยๆดวงก็รวมตัวกันเป็นผลึกคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

สีขาวเหมือนหมอก เพียงแต่ขนาดที่แตกต่างกัน


“สตาร์วอร์สนายทำเหรอ?”


ในพื้นที่นี้เพราะแดนกักกัน มันเลยเป็นไปไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตอื่นจะผ่านเข้ามาภายในช่วง 30 นาทีนี้ได้ดังนั้นนอกจากที่หนิงเทียนหลินจะตกตะลึง แต่ที่มากกว่านั้นคือเขาพุ่งความสงสัยไปที่ระบบการต่อสู้


“จำในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ได้ไหมที่ฉันบอกนายว่าหลังจากที่ฆ่า

พวกวิญญาณเสร็จ นายจะได้รับรางวัลที่คาดไม่ถึง” ในเวลานี้ ระบบการต่อสู้ไม่ได้บอกออกมาตรงๆแต่อธิบายต่อ


“ทุกอย่างที่มีชีวิตสามารถให้พลังงานกับนายได้”


“วิญญาณถึงแม้จะถูกเปลี่ยนร่างไปแล้วหลังความตายแต่ใครบอกกันว่าวิญญาณพวกนี้ไม่ใช่อีกรูปแบบหนึ่งของชีวิตล่ะ? มันก็เหมือนน้ำที่ละเหยเป็นก๊าซน่ะแหละแต่ก๊าซพวกนี้ก็ยังมีน้ำอยู่”


“ผลึกขนมเปียกปูนพวกนี้เรียกว่าผลึกหยินที่ถูกสร้างมาจากพลังหยินของสวรรค์และโลกที่อยู่ในวิญญาณพวกนี้และผสมเข้ากับพลังงานของวิญญาณเอง พวกมันคืออีกรูปแบบหนึ่งของแก่นแท้

ปกติแล้วผลึกหยินพวกนี้จะไม่ปรากฎออกมา เจ้านายยังไม่มีประสบการณ์ นายยังรวมมันไม่ได้เลย”


“พวกมันถูกสร้างมาเพื่อนาย”


“งั้นเพื่อเป็นการตอบเทน ฉันจะคิดค่านำส่งนายสำหรับผลึกนี้ 10% และคะแนนพลังงานที่เหลือคือสิ่งที่นายจะได้รับในครั้งนี้”


เมื่อได้ยินดังนี้ หนิงเทียนหลินก็เข้าใจความหมายในทันทีและถามออกไป


“นายหมายถึงผลึกนี้ก็คือคะแนนสำคัญ นายจะคิดค่าบริการ 10% เหรอ?”


“ใช่”


“มันหมายความตามนั้นแหละ” ระบบการต่อสู้พยักหน้า


“โอเค!” หนิงเทียนหลินเห็นด้วยในทันทีและไม่มีอะไรที่ไม่น่าพอใจ

ตอนแรกเขาไม่ได้คิดว่าการฆ่าวิญญาณพวกนี้จะได้คะแนนสำคัญด้วย เขาคิดว่าคะแนนสำคัญนี้จะได้รับจากภารกิจนั่นคือก๊าซคะแนนสำคัญ 500 คะแนน แต่ตอนนี้จากสิ่งที่ระบบการต่อสู้พูดออกมาเขายังจะได้อีกเยอะเลย!


“งั้นจะดูดผลึกหยินนี้เข้าไปยังไง?” ปกติแล้วหนิงเทียนหลินจะฆ่าชีวิตและเปลี่ยนเป็นคะแนนสำคัญได้โดยตรง เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน


“ไม่จำเป็นหรอก” ระบบการต่อสู้ส่ายหน้า “ในประตูแห่งการแลกเปลี่ยนนายจะแลกคะแนนสำคัญได้อัตโนมัติ นายจะแลกตอนนี้เลยไหม?”


“แลกเลย” หนิงเทียนหลินมองไปที่พื้นและตอบออกมา


“ว้าว!”


เมื่อเสียงเขาเงียบลงก็มีมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นคลุมไปทั่วทั้งพื้นและวิญญาณกว่า 100 ดวงที่อยู่บนพื้นก็หายวับไปในทันทีและเสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูของหนิงเทียนหลิน “การแลกเปลี่ยนสำเร็จแล้ว”


“คะแนนพลังงานเท่าไร?” หนิงเทียนหลินรีบถามออกมาทันที


“ทั้งหมดแลกคะแนนพลังงานได้ 820 คะแนน ลบไป 10% เป็นค่าบริการ ก็จะเหลือ 738 คะแนน” ระบบการต่อสู้รายงาน


“738 คะแนน! เยอะจัง!” หนิงเทียนหลินมีความสุขมาก เขาไม่เคยคิดว่าผลึกหยินพวกนี้จะมีค่ามากขนาดนี้! ทุกครั้งที่เขาฆ่าคนจริงๆ เฉลี่ยแล้วเขาก็จะได้คะแนนพลังงานแค่นิดหน่อยเอง


“วิญญาณ 102 ดวงนี้ให้คะแนนเขาตั้ง 738 คะแนนแน่ะ!”


นี่มากกว่าเกือบจะ 7 เท่าแน่ะ! อีกอย่างนี้ขนาดว่าหักค่าบริการไปด้วย

แล้วนะเนี่ย!


“ผลึก 2 อันสร้างมาจากยมฑูตทั้ง 2 จะแลกได้คะแนนทั้งหมด 248 คะแนน ส่วนผลึกอื่นๆที่สร้างมาจากวิญญาณธรรมดาจะแลกได้ 572 เลยรวมเป็น 820 คะแนน!”


“ถูกหักค่าบริการไป 10% ก็จะเหลือ 738 คะแนน”


ระบบการต่อสู้อธิบาย “ผลึกหยินจะบรรจุเต็มไปด้วยพลังหยินของสวรรค์และของโลก นี่เป็นเหตุผลพื้นฐานว่าทำไมคะแนนสำคัญถึงเยอะนัก และยมฑูตทั้ง 2 ก็ได้มีส่วนร่วมมากมายด้วย”


หนิงเทียนหลินพูด “โอ้” แล้วก็ไม่ได้สนใจประเด็นนี้อีกแล้วแต่กลับเกิดความคิดในใจและรีบคำนวนคะแนนพลังงานที่เขามีตอนนี้อย่างเร็ว


“คะแนนสำคัญเดิมของเขาคือ 412 คะแนน ใช้ 100 คะแนนเพื่อแลกดวงตาแห่งหยินและหยาง 50 คะแนนเพื่อต้นไทร 10 คะแนนเพื่อยาฟื้นฟูร่างกาย นั่นก็น่าจะเป็น 252 คะแนน!


“ได้อีก 500 คะแนนจากภารกิจ ซึ่งรวมเป็น 752 คะแนน!”


“บวกกับคะแนนปัจจุบันอีก 738 คะแนน งั้นก็จะรวมเป็น 1,490 คะแนน!”


เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับระบบการต่อสู้ “เปิดข้อมูลของฉันที”


ว้าว!


ทันทีที่เขาพูดออกมาม่านแสงสีเขียวก็ปรากฎขึ้นมาตรงหน้าเขาและมีเพียงหนิงเทียนหลินคนเดียวที่มองเห็น


“ชื่อ: หนิงเทียนหลิน”


“บ้านเกิด: ทางช้างเผือก, โลก, จีน”


“ระดับ: 12 และอีก 60%”


“พันธมิตรการต่อสู้ที่มีอยู่: ยังไม่แน่ใจ”


“ยอดเงินในบัญชี: 9,652 หยวน”


“คะแนนสำคัญ: 1,490 คะแนน”


“พลังในการต่อสู้สูงสุด: 107 คะแนน”


ที่บรรทัดสุดท้าย ดวงตาของหนิงเทียนหลินก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น “1,490!”


“ไม่เลวเลย!”


เขาคิดว่าถ้าเขาอยากจะได้พลังงานเขาจะต้องไล่ล่าสิ่งมีชีวิตให้ได้เยอะๆแต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีหนทางที่ดีกว่าในการจัดการภารกิจที่ระบบการต่อสู้มอบหมายให้มา! อีกอย่างตอนนี้เขามีภารกิจใหญ่รออยู่ด้วยนั่นก็คือการชนะเกมส์ลีกออฟเลเจนด์ติดต่อกัน 100 เกมส์รวด !


ตอนนี้ภารกิจก็เริ่มไปสักพักแล้วและคาดว่ามันน่าจะจบลงภายในคืนพรุ่งนี้!


ในเวลานั้นคะแนนสำคัญก็จะได้อย่างมากมายและอาจจะแตะไปถึงที่ 3,000 คะแนนก็ได้!


“คะแนนพลังงาน 90 คะแนนจะเปลี่ยนเป็นเงินได้หนึ่งล้านหยวน”


“คะแนนพลังงาน 1,300 คะแนนไปอัพเกรดพลัง!”


“ส่วนคะแนนพลังงานหลายร้อยที่เหลือก็เก็บไว้ก่อน”


หลิงเทียนหลินลังเลอยู่สักพักและเริ่มจัดสรรคะแนนพลังงานที่มีอยู่

ตอนนี้เขามียอดเงินในการ์ดกาแล็กซี่เหลือเพียง 9,652 หยวนจากหลายสิบล้าน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้ไปที่โรงแรมแวนด้า ตอนแรกเขาแค่มีเงินสดมากกว่า 8 ล้านอยู่ในแหวนอวกาศ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเขายังเหลืองานอีกมากที่ต้องทำ เขาต้องใช้เงินไปอย่างมากซึ่งใช้ไปมากกว่า

90 ล้านหยวนแล้ว



ICSS บทที่ 105: วิทยาลัยศิลปะไคโฮคุ


“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 13!”


“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 14!”


“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 15!”


“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 16!”


“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านาย เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 17!”


ในไม่ช้าเสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในหูของ

หนิงเทียนหลิน ทำให้เขามีความสุขอย่างมาก ด้วยคะแนนพลังงาน 1,300 คะแนนซึ่งทำให้เขาไต่ระดับขึ้นไปทันที 5 ระดับ จนขึ้นไปที่ระดับปัจจุบันที่ระดับที่ 17!


ระดับที่ 17 เพียงแค่พลังในการต่อสู้ทางกายภาพอย่างเดียวก็แตะที่ 68 คะแนนแล้ว!


อีกนัยหนึ่งถ้ารวมอุปกรณ์ในการต่อสู้และหลังจากที่เขาและแมนซูลูรวมกันพลังในการต่อสู้ก็จะได้ที่ 108 คะแนน มากกว่าตอนนี้อีก!


“แล้วแหวนอวกาศล่ะ?”


“วันนี้พลังในการต่อสู้ของแหวนอวกาศของฉันเป็นเท่าไร?”


หนิงเทียนหลินตอบโต้ออกไปทันทีเพราะแหวนอวกาศนี้ไม่ใช่แหวนอวกาศธรรมดาๆแต่เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ซึ่งจะโตและโตอย่างต่อเนื่องไปตามคุณลักษณะทางกายภาพของเขาด้วย!


ตอนที่เขาอยู่ในระดับที่ 6 แหวนอวกาศนี้จะช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้เขาได้ 7 คะแนน และตอนที่อยู่ในระดับที่ 12 เขาก้ได้เพิ่ม 13 คะแนน ตอนนี้ที่ระดับ 15 เขาไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร


“20 คะแนน!”


“แหวนอวกาศตอนนี้สามารถเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้นายได้ 20 คะแนน”


ระบบการต่อสู้ตอบออกมา “ในเมื่อพลังในการต่อสู้ของเจ้านายเพิ่มขึ้น ช่วงของการปลดล็อควงแหวนอวกาศจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง มันเคยเป็นระดับและอีกเล็กน้อย และมันอาจกลายเป็นระดับสอง, สาม, สี่หรือมากกว่า!


“20 คะแนน!” มีแสงของความตื่นเต้นฉายเข้ามาในตาของหนิงเทียนหลินเพราะเมื่อรวมคะแนนนี้เข้าไป บวกกับกริซอีกพลังในการต่อสู้ของเขาที่สูงที่สุดก็จะไปแตะที่ 134 คะแนนเลย! “ตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องบาดเจ็บเพื่อที่จะจัดการกับยมฑูตทั้ง 2 ด้วยซ้ำ”


หนิงเทียนหลินรู้ดีว่าจะไม่สามารถยุติการต่อสู้ได้ภายในสิบนาทีหากเขาไม่ได้ตัดสินใจที่จะได้รับบาดเจ็บ ในเวลานั้นบางทีก็อาจจะจัดการยมฑูตทั้ง 2 ไม่ได้ด้วย อีกอย่างตอนนี้ในเมื่อเขารู้เรื่องพวกนี้แล้ว เขาก็คิดว่าถ้าเขาเผชิญหน้ากับวิญญาณพวกนั้นหรืออะไรแบบนั้นหลังจากที่เขาแตะตัวเอง เขาก็กลัวว่าเขาจะเลือกที่จะลงมือ

ความดึงดูดใจของวิญญาณนี้ยิ่งใหญ่เกินไป


“สตาร์วอร์ส ฉันมีคำถาม ตอนนี้ฉันมีดวงตาแห่งหยินและหยางแล้ว

หลังจากที่ฆ่าคนฉันก็จะต้องเห็นวิญญาณของพวกเขาแน่ๆ งั้นฉันจะสามารถฆ่าวิญญาณของพวกเขาเพื่อที่จะเอาผลึกหยินได้ไหม?”


หนิงเทียนหลินคิดถึงความเป็นไปได้และถามระบบการต่อสู้ออกไป


“ไม่ได้” ระบบการต่อสู้ตอบปฎิเสธออกไปตรงๆ

“วิญญาณมันหาจะได้กันง่ายๆแบบนั้นได้ยังไง? มันต้องใช้พลังของสวรรค์และของโลกที่มากมายมารวมเข้าด้วยกัน วิญญาณประเภทนี้อยู่ในโลกที่มืดครึ้มอย่างมาก มันเป็นที่นี่วิญญาณจะรวมเข้ากับร่าง”


“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏหลังจากกลายเป็นวิญญาณใหม่ๆ!”


“งั้นเรื่องแบบนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้”


เมื่อได้ยินแบบนี้ หนิงเทียนหลินก็พูดความคิดของตัวเองที่อาจจะกลายเป็นเรื่องจริงได้อย่างเงียบๆ ว่าทุกครั้งที่เขาฆ่าคน เขาจะไม่ได้แค่คะแนนเล็กน้อยแต่จะได้เพิ่มจากเดิมเป็น 7 เท่า


“โอเค ได้เวลากลับแล้ว”


“ภารกิจเกมส์ LOL ยังต้องดำเนินต่อไป”


หนิงเทียนหลินคิดว่าผลจากแดนกักกันน่าจะหายไปหมดแล้วตอนนี้

เขาจึงหันกลับเดินออกมาจากตรอกและเดินตรงไปที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ทันทีที่เขากลับมาถึงโต๊ะด้านหน้า เขาก็ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับไปด้วย 3 กล่อง


หลังจากที่เสียแรงไม่มากทำให้ตอนนี้เขารู้สึกหิวมาก



เมืองปักกิ่ง


วิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือ


หรือเรียกสั่นๆว่าเปยหยี เป็นโรงเรียนที่ฝึกดาราภาพยนต์และทีวีและ

เหล่านักร้อง ในช่วง 20-30 ปี มีผู้คนมากมายที่จบออกไปจากที่นี่ ซึ่งต่างก็ได้เป็นดาราภาพยนต์และดาราทีวี,เป็นพรีเซนเตอร์และนักร้องมากมายตัวอย่างเช่น เจ้าเหวย, หวงเสี่ยวหมิง, สูเหยี่ยน และอีกมากมายหรือจะพูดได้ว่าที่นี่เป็นโรงเรียนในฝันสำหรับนักเรียนที่อยากจะเป็นดาราก็ว่าได้


โดยเฉพาะการที่ได้ผ่านเข้ามาเรียนในคณะการแสดงของที่นี่ก็เท่ากับการก้าวเข้าสู่ประตูแห่งดวงดาวแล้ว จากที่นี่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นดารา แต่ก็สามารถกลายเป็นเจ้าของรายการท้องถิ่นหรืออะไรแบบนั้นได้เลย


ทุกปีหนุ่มสาวหน้าตาดีมากมายที่อยากจะเข้ามาในสาขาวิชาการแสดงนี้ต่างก็ต้องอกหักเพราะมีเพียง 1 ใน 1,000 เท่านั้นที่จะเข้ามาได้


“พี่ชาย!”


“ไม่! เร็วเข้า! เร็วหน่อย!”


“พวกมันบ้าไปแล้ว พี่ชาย! วิ่งหนีสิ!”


“ได้โปรดเถอะ ปล่อยพี่ชายฉันไป! ได้โปรดเถอะ!”


วิทยาลัยศิลปะปักกิ่งเหนือ


สาขาวิชาการแสดง


เด็กใหม่ของปี 2017 ภายในตึกหอพักนักศึกษา


บนเตียงที่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีชมพู มีเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง คิ้วขมวดแน่นและเธอกำลังพูดอยู่ หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและใบหน้าก็เต็มไปด้วยน้ำตา ถึงแม้เธอจะกำลังฝันอยู่แต่ร่างกายของเธอก็สั่นอย่างห้ามไม่ได้ แขนยกขึ้นและโบกไปมาเหมือนกำลังตบอะไรบางอย่าง ปกป้องอะไรบางอย่าง


“หนิงเทียนซิน! ตื่นขึ้น! ตื่นเร็ว!”


ทันใดนั้นแขนอันขาวซีดก็เริ่มที่จะเขย่าร่างของเธอ พยายามที่จะปลุกเธอจากความฝันด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบและเป็นห่วง


“พี่ชาย!”


ทันใดนั้นหนิงเทียนซินก็ลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งที่เตียงหายใจหอบหนักและช่วยไม่ได้นอกจากร้องไห้ เธอไม่ได้คิดว่าในวันแรกที่มาเรียนเธอจะฝันร้ายอีกแล้ว เธอยังเห็นมีดมากมายปักอยู่ที่ร่างของพี่ชายจนหายใจไม่ออกและล้มลงไปจมกองเลือด ความฝันนี้ไม่ได้ฝันแค่บางครั้งบางคราว


แต่ทุกครั้งที่นอนมันทำให้เธอร้องไห้น้ำตาท่วม รู้สึกเจ็บปวดจนต้องร้องไห้ออกมา


ถึงแม้เรื่องนี้มันจะผ่านมามากกว่า 10 วันแล้วก็ตาม แต่ทุกครั้งที่เธอคิดถึงพี่ชายที่รักเธออย่างมาก ที่จากไปแล้วและเธอไม่ได้มองเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำ เธอก็จะรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจเหมือนมีใครมาดึงเอาหัวใจของเธอออกไป


“เป็นอะไร? หนิงเทียนซิน?”


“ฝันร้ายเหรอ?”


ในเวลานี้ที่เตียงของหนิงเทียนซินมีเด็กสาวหน้าตาสวยมายืนอยู่ด้วยและมองมาที่เธอด้วยความเป็นห่วง นอกจากนี้ยังมีเด็กสาวอีก 2 คนที่นอนอยู่อีกเตียงลุกขึ้นมาและมองมาที่หนิงเทียนซินด้วยความสงสัยด้วยสีหน้าง่วงหงาว


มีเพียงคนเดียวที่มองมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยเพราะนี่มันก็ตี

4 แล้วและการฝันร้ายของหนิงเทียนซินก็รบกวนการนอนของเธอ และเธอไม่ชอบถูกรบกวนเวลานอนด้วย


อย่างไรก็ตามเพราะนี่เป็นวันแรกที่โรงเรียน เธอจึงเพียงแค่ขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร


“ใช่”


“ฝันร้าย”


หนิงเทียนซินพยักหน้า ปาดน้ำตาแต่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องความฝัน แต่พูดออกมาอย่างแผ่วเบา “ซูซู ขอบคุณนะ”


“ฉันไม่เป็นไร”


“ขอโทษนะที่รบกวนการนอนของเธอ”


หนิงเทียนซินรู้สึกผิดเล็กน้อยเพราะในเวลานี้มันก็เลยตี 4 มาแล้วและนี่ทำให้ทุกคนตื่น จึงรู้สึกเสียใจนิดหน่อย


“ไม่เป็นไรเลย”


เด็กสาวที่ยืนอยู่ถัดจากหนิงเทียนซินยิ้ม “เรามาอยู่ที่นี่ด้วยกันก็เพราะโชคชะตา ในอีก 4 ปีข้างหน้าเราจะต้องดูแลกันและกันและกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแน่ๆ”


“เธอใจดีมากที่พูดแบบนั้น”


ซูซูยิ้มและทำท่าว่าเธอไม่เป็นไร ตอนที่เธอเห็นหนิงเทียนซินฝันร้าย เธอก็พูดปลอบใจแล้วกลับไปนั่งตรงหน้าคอมพิวเตอร์ที่เตียงของเธอ เธอนั่งอยู่แบบนั้นทั้งคืนและยังไม่ได้นอนเลย ไม่งั้นเธอคงจะไม่ได้ไปยืนอยู่ข้างเตียงของหนิงเทียนซินแน่ๆ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม