Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล 380-391

ตอนที่ 380

 

ในที่สุดหลังจากเเจ็คสันอธิบายพ่อกับเเม่ของเขาก็ค่อย ๆ ยอมรับ ลูกชายของพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องหลอกลวงพวกเขา นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยของเเจ็คสันมีเเต่พวกเขาจะต้องทำตามคำแนะนำ


 


ดังนั้น หลังจากรู้เรื่อง หลินไฮ่ เเละ เเมรี่ ก็ตั้งใจจะไปทำงานที่ สตาร์กอินดัสตรีท์ เเจ็คสันได้โทรไปหาโทนี่เเละบอกสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง


 


“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พ่อกับเเม่จะทำใจยอมรับในเรื่องนี้ เเต่พ่อกับเเม่สบายใจเถอะ ผมมั่นใจว่าอีกไม่นานพวกไฮดร้าจะต้องถูกลบหายออกไปจากโลกนี้”เเจ็คสันกอดพ่อกับเเม่พร้อมกับพูดอย่างมั่นใจ


 


“อืม,ลูกจะต้องระวังตัวให้ดี”


 


“พ่อกับเเม่ไม่รู้จะเป็นอย่างไรหากต้องสูญเสียลูกไป!”


 


หลินไฮ่เเละเเมรี่พูดด้วยความรักเเละความห่วงใย


 


หลังจากนั้นเเจ็คสันก็ส่งพ่อกับเเม่ของเขาขึ้นนอน ดวงตาของเเจ็คสันจ้องมองไปที่พวกเขาอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ให้คิดอีกก็คือเรื่องของทอม


 


ภารกิจของเเจ็คสันคือทำลายองค์กรไฮดร้าเเละต้องปกป้องครอบครัวของเขาไปด้วย โชคร้ายที่ มีสิ่งของอย่างอินฟินิตี้สโตนเข้ามาเเทรกทำให้ภารกิจของเขายากขึ้นเป็นกอง หากเเจ็คสันไม่สามารถหาทางรับมือกับสิ่งนี้ได้ โลกก็จะไม่ปลอดภัย คนรอบตัวของเขา ทอม เเละ คนอื่น ๆ ก็จะเป็นอันตราย ตอนนี้ เเจ็คสันต้องการช่วยทอมในการฟื้นฟูความทรงจำก่อนเป็นอันดับเเรก


 


“บางทีมันคงถึงเวลาที่นิคจะรู้สถานการณ์ที่โลกจะต้องเผชิญหน้าในอนาคต”เเจ็คสันกำมือถือเเน่นก่อนที่โทรศัพท์ของเขาจะดึงขึ้น


 


“เเจ็คสัน พ่อกับเเม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?เธอได้บอกอะไรพวกเขาไปเเล้วใช่ไหม?”เสียงของโทนี่ ดังออกมา


 


ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน ได้ส่งเมล ไปหา โทนี่ เกี่ยวกับเรื่องพ่อกับเเม่ของเขาที่จะไปทำงานที่อุตสาหกรรมสตาร์ก ดังนั้น โทนี่ จึงโทรกลับมาด้วยความเป็นห่วง


 


“พวกเขาเป็นกังวลมาก เเต่ไม่เป็นไร คุณสตาร์ก หลังจากนี้ผมมีเรื่องที่จะต้องพูดคุยกับคุณ”เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างจริงจัง


 


“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกไฮดร้าใช่มั้ย?”ได้ยินเสียงอันหนักเเน่นของเเจ็คสัน โทนี่ ถามออกมา


 


“ก็เเค่ส่วนนึง ก่อนหน้านี้ ผมยังไม่ได้บอกคุณถึงเรื่องบางอย่าง เอาเป็นว่าเรื่องนี้สำคัญเเละเร่งด่วนมาก”


 


“เรื่องสำคัญที่เธอว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับแบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E ด้วยใช่มั้ย…”โทนี่กล่าวออกมา เขารู้ดีว่าแบบเเปลนเรือเหาะสงครามนั้นเป็นสิ่งสำคัญเพียงใด


 


“อืม,ถ้าหากลางสังหรณ์ของผมถูกต้องในอนาคตอันใกล้นี้พวกเราต้องการใช้งานมันได้โดยเร็ว”เเจ็คสันตอบกลับอย่างเลี่ยงไม่ได้


 


เนื่องจากการเปลี่ยนเเปลงพล็อตเรื่องที่รุนเเรง เเจ็คสันไม่กล้าที่จะทำอะไรสุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะการปรากฏตัวของ สเปซอินฟินิตี้สโตน สิ่งนี้ทำให้เเจ็คสันรู้สึกกังวล สเปซสโตนที่ควรอยู่ในมือของ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้ตกอยู่ในมือของพวกไฮดร้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ โลกิ ชาวเเอสการ์ด เเละ สิ่งอื่น ๆ ทุกสิ่งล้วนผิดเเปลกไปหมด


 


ดังนั้นเพื่อความเเข็งเเกร่งของโลกเเละการพัฒนาเหล่าฮีโร่ตัวเอกทุกคน พวกเขาจะต้องมีการเปลี่ยนเเปลงมากกว่าเดิม มันไม่ใช่สิ่งเดิมตามพล็อตเรื่อง เเต่เป็นสิ่งที่พวกเขาพัฒนามันเเตกต่างไปจากพล็อตเรื่อง


 


เเจ็คสันตระหนักได้ว่าอีกไม่นานภัยพิบัติจะเข้ามารุมล้อมโลกเเห่งนี้อย่างเเน่นอน เเต่ด้วยความเเข็งเเกร่งของเขาเเละคนของโลกตอนนี้ไม่มีทางที่จะต้านทานการรุกรานเหล่านั้นได้เลย ตราบเท่าที่พวกเขามีความเเข็งเเกร่ง พวกเขาย่อมปกป้องสิ่งสำคัญของตัวเองได้ เเละ ยังมีความสามารถมากพอที่จะจัดการพล็อตเรื่องที่ผิดเเปลกไปนี้


 


“อืม,เธอมาที่นี่ก่อนเเล้วกัน อยู่ที่นี่เธอจะปลอดภัยกว่า”โทนี่กล่าว


 


“อืม,ผมจะรีบไปทันที ขอบคุณ คุณสตาร์ก!”ก่อนที่เเจ็คสันจะโทรศัพท์ เขากล่าวขอบคุณจากใจ หากไม่ได้โทนี่คอยช่วยเหลือเขาคงไม่มีวันนี้


 


เรื่องที่พวกไฮดร้าซุ่มโจมตีพ่อกับเเม่ของเขา มันทำให้ เเจ็คสันระมัดระวังตัวมากขึ้น ดังนั้นเพื่อปกป้องพ่อกับเเม่ของเขามีเเต่เขาจะต้องเปลี่ยนเเปลงตัวเอง


 


“ฮ่าฮ่า,เด็กน้อย บางทีเธอก็ควรระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองสบายใจหน่อยนะ”โทนี่ กล่าวออกมา


 


โทนี่ได้ยินหลายคำจากปากของเเจ็คสันผ่านทางโทรศัพท์ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงอารมณ์หลากหลายที่สั่นเครือ


 


“J.A.R.V.I.S นายคิดยังไงกับอารมณ์น้ำเสียงของเเจ็คสัน?เขาที่เคยมีความมั่นใจมาตลอด กลับเเสดงท่าทีที่อ่อนเเออย่างนี้ออกมา หรือว่าเขาสูญเสียความมั่นใจตัวเองไป?”โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว


 


เเจ็คสันเดิมที่กล้าคิดก่อตั้งสหพันธ์โลก เด็กหนุ่มที่กล้าประกาศตนเองว่าจะทำสิ่งที่ท้าทายที่หลายคนทำไม่สำเร็จ เพียงเเค่พ่ายเเพ้ต่อพวกไฮดร้าในครั้งนี้ ทำให้เเจ็คสันกลายเป็นคนสูญเสียความมั่นใจ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่โทนี่คิด หากเเจ็คสันยังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่มีทางที่ความฝันนั้นจะสำเร็จอย่างเเน่นอน


 


“เจ้านายไม่สามารถประเมินอย่างด่วนสรุปได้ คุณมิราจไนท์ หรือ เเจ็คสัน เขาเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง สิ่งนี้ฟังจากน้ำเสียงของเขาสามารถสรุปออกมาได้ในหลายรูปแบบ ทว่า ความกังวลในน้ำเสียงเหล่านั้น อาจมาจากสิ่งที่เขาไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบทันที


 


“สิ่งที่เขาไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ?ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน บางทีเด็กคนนี้อาจจะมีเรื่องอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดกับฉันก็ได้”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวเสียงต่ำลึก


 


เพียงเเต่ขณะนั้นเองโทนี่พลันเหมือนนึกอะไรขึ้นได้”J.A.R.V.I.S นี่นายพัฒนาขึ้นงั้นหรอ?”


 


เมื่อเร็ว ๆ นี้โทนี่ได้ค้นพบว่า สติปัญญาของ J.A.R.V.I.S ได้เติบโตขึ้น มันเป็นการสื่อทางด้านอารมณ์ที่มากกว่าเดิม หัวใจหลักของ J.A.R.V.I.S คือ ระบบ เอไอ ที่สามารถพัฒนาตนเองผ่านข้อมูลได้


 


“ดูเหมือนระบบของผมจะมีการยกระดับขึ้นหลังจากผมผ่านข้อมูลอันหลากหลายจำนวนมาก”J.A.R.V.I.S อธิบายเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง


 


อย่างไรก็ตาม J.A.R.V.I.S เป็นคนพิเศษสำหรับโทนี่ เขาเหมือนเพื่อนคนนึงที่คอยช่วยเหลือตนเองยามลำบาก ดังนั้น โทนี่ จึงคาดหวังเพื่อนคนนี้มาก


 


“เเจ็คสัน เด็กหนุ่มพิเศษ ที่ฉันให้ความสนใจ…ดูเหมือนเเผนของเราจะต้องเร่งความเร็วขึ้นเเล้ว J.A.R.V.I.S ยกเลิกภารกิจอื่น ๆ เเละมุ่งเน้นไปที่ ภารกิจ S5 เราจะต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุดสำหรับปัญหาที่เด็กหนุ่มเเจ็คสันกำลังจะบอกเรา”โทนี่ สั่งการ J.A.R.V.I.S


 


“ครับเจ้านาย!”

 

 

 


ตอนที่ 381

 

หลังจากวางสายตากโทนี่เเจ็คสันก็ระมัดระวังเเละจ้องมองไปทางพ่อเเม่ของเขา จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากนั้นสิบนาทีเเจ็คสันก็ออกไปข้างนอกอีกครั้ง


ก่อนออกจากบ้านเเจ็คสันก็ทิ้งโน๊ตเอาไว้บนโต๊ะบอกว่าจะไปบ้านของโทนี่ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง เเจ็คสันรู้ดีว่าคนของ S.H.I.E.L.D. ยังไม่ถอนตัวออกจากสถานที่เเห่งนี้ทั้งหมดพวกเขาได้เฝ้าระวังสถานการณ์โดยรอบ เเต่เเจ็คสันหาได้สนใจ ยิ่งมีการติดตามของ S.H.I.E.L.D. มันก็รับประกันความปลอดภัยของพ่อกับเเม่ของเขามากขึ้นเเจ็คสันไม่เชื่อว่าพวกไฮดร้าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้


บรื้น ๆ


เเจ็คสันได้ขับรถจิ๊บออกจากบ้านผ่านไปสองช่วงตึกเขาก็เข้าไปในจอดในซอยมืดเเละหยิบยานบินออกมาก่อนที่จะสังเกตุโดยรอบอย่างระมัดระวัง


ไม่นานเเจ็คสันก็เปลี่ยนเป็นมิราจไนท์เเละตรงไปที่บ้านพักตากอากาศของโทนี่ในทันทีในช่วงระหว่างทางเขาก็คิดเรื่องของ พวกไฮดร้าที่เเข็งเเกร่งเกินประมาณเอาไว้


เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. หัวหน้านิค หรือ ทีมX-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็กำลังมองหามิราจไนท์ เพื่อต้องการสนทนาถึงมาตราการตอบโต้พวกไฮดร้า พวกเขาเชื่อว่า มิราจไนท์จะต้องรู้อะไรบางอย่างเเน่นอน


ในการต่อสู้ครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต เเต่เรื่องนี้ก็ทำให้ นิค เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เป็นกังวล เพราะพวกเขาหวังจะได้รับข่าวจากมิราจไนท์โดยเร็ว เเต่เเจ็คสันกำลังมุ่งหน้าไปหาโทนี่ เขาตั้งใจจะบอกข้อมูลบางอย่างให้โทนี่ฟังก่อนหากนับความเชื่อใจเเล้วล่ะก็เเจ็คสันมีให้โทนี่มากกว่า นิค หรือ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์


ผ่านไปสิบนาทีเเจ็คสันก็ไปถึงบ้านพักของโทนี่เขาได้นำยานบินลงจอดที่หน้าบ้าน เเน่นอนว่าโดยรอบย่อมมีการเฝ้าระวังของพวก S.H.I.E.L.D. อย่างเต็มกำลังเเต่เเจ็คสันไม่ได้สนใจ


ตอนนี้สถานะของเขายังไม่เปิดเผย ทั้งเขาเชื่อว่ามันคงจะไม่ถูกเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้ ตราบใดที่เขาวางเเผนกับโทนี่สำเร็จ เเละ ถึงเเม้สถานะของเขาจะถูกเปิดเผย เเจ็คสันเชื่อว่าตราบใดที่เขามีความเเข็งเเกร่ง อิทธิพลจำนวนมากก็ย่อมไม่กล้าล่วงเกินเขาเเม้เเต่ S.H.I.E.L.D.


“คุณ เเจ็คสัน,คุณสตาร์กขอให้คุณไปที่ห้องปฏิบัติการหมายเลข 3 ทันทีที่คุณมาถึง”ทันทีที่เเจ็คสันเดินเข้าไป เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ถูกส่งออกมาได้ยินเสียง J.A.R.V.I.S เเจ็คสันค่อนข้างประหลาดใจ เขาปรากฏตัวขึ้นในฐานะ มิราจไนท์ เดิม J.A.R.V.I.S ควรจะเรียกเขามิราจไนท์


ดังนั้นเขาคิดว่า บางที J.A.R.V.I.S อาจมีพัฒนาการบางอย่าง ซึ่งมันเเตกต่างจาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาในตอนนั้น J.A.R.V.I.S กระทั่งปฏิเสธคำสั่งของ โทนี่ ซึ่งดูเหมือน J.A.R.V.I.S จะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองความรู้สึกของเขามันพัฒนาขึ้น


“ดูเหมือน J.A.R.V.I.S จะพัฒนาการตนเองขึ้นไปสู่อีกระดับนึง เเต่หวังว่าเขาจะไม่กลายเป็นตัวร้ายเหมือนในภาพยนตร์ ปัญญาประดิษฐ์ที่มีพัฒนาการระดับสูง จะไม่สามารถควบคุมได้”เเจ็คสันค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้


นอกจากความกังวลเรื่องนี้ ก็ยังมีเรื่องของอินฟินิตี้สโตน เดิม เเจ็คสันไม่คาดคิดว่ามันจะปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่เรื่องนี้เกิด เเจ็คสันก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับโลกิ ตามพล็อตเรื่อง โลกิได้ครอบครอง หนึ่งในอินฟินิตี้สโตน ,มายด์สโตน


เเต่ก่อนเเจ็คสันไม่ได้สนใจโลกิมากนัก เพราะเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรกับโลกในเร็ว ๆ นี้ เเต่การปรากฏตัวขึ้นของสเปซสโตน ทำให้เขาคิดต่างกัน พล็อตเรื่องที่ควรจะเป็น มันกลับกันไปปทั้งหมด ตอนนี้เเจ็คสันไม่สามารถคาดเดาอะไรได้


“ห้องปฏิบัติการหมายเลข?โอเค ฉันเข้าใจเเล้ว ขอบคุณ J.A.R.V.I.S “เเจ็คสันกล่าวขอบคุณ J.A.R.V.I.S


“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ,คุณ J.A.R.V.I.S นอกจากนี้ ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง


ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S ที่มีความหมายให้กำลังใจเขา เเจ็คสันรู้สึกตกใจอย่างมากเขาไม่คิดเลยว่า J.A.R.V.I.S จะช่วยให้กำลังใจเขาได้


เห็นพัฒนาการของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันเองก็เริ่มไม่มั่นใจตัวเอง เเต่เขาก็เริ่มรู้สึกดีราวกับว่ามีคนสนับสนุนเขา ดังนั้นเขาจะต้องขยันมากขึ้น เขาจะต้องเเข็งเเกร่งมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้สิ่งที่ตนเองรักถูกทำลายลงไป


ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ที่เขาเห็นสเปซสโตน โจมตี เดดพูล จนเกือบเสียชีวิต เเจ็คสันรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก จนเริ่มคิดว่า การเดินบนเส้นทางฮีโร่ นั้นมันดีจริง ๆ งั้นหรอ เส้นทางนี้เต็มไปด้วยอันตราย ทั้งยังต้องเสี่ยงชีวิตของตัวเอง เพื่อปกป้องสันติสุขของคนอื่น ๆ


ดังนั้นหากเเจ็คสันไม่อยากจะกังวลเรื่องเหล่านี้ ความเเข็งเเกร่งเป็นสิ่งจำเป็น เขาจะต้องมีความเเข็งเเกร่งเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือศัตรูที่น่าเกรงขามในอนาคต


ได้ยินการสนับสนุนของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันจ้องมองไปข้างบนเเละกล่าว”ขอบคุณ J.A.R.V.I.S ฉันจะพยายามมากขึ้น”


ตึก ตึก


จากนั้นเเจ็คสันก็เร่งฝีเท้าเดินลงไปยังห้องใต้ดิน


ทางตะวันตกของสหรัฐฐานของไฮดร้า หลังจากเหตุการณ์ประตูมิติอวกาศถูกทำลายพวกไฮดร้าก็หลบซ่อนตัวเป็นการชั่วคราว


ในห้องลับสุดยอด เร้ด สกัลล์ ได้นั่งอยู่ภายในห้องพร้อมกับถือจับกล่องสีดำในมือ ข้างในกล่องสีดำ มีลูกบาศก์ขนาดใหญ่ ที่มีสีฟ้าอ่อนบริสุทธิ์ ลูกบาศก์ ก้อนนี้ก็คือ สเปซสโตน


“ลูกบาศก์เวทมนตร์ สิ่งของตกทอดจากเหล่าเทพ ตราบใดที่พวกเราองค์กรไฮดร้ามีสิ่งนี้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องเกรงกลัวสิ่งใด”เร้ด สกัลล์ ยิ้มออกมา รอยยิ้มของเขาน่ากลัวอย่างมาก


จากนั้น เร้ด สกัลล์ ก็จ้องมองไปที่ ลูกบาศก์เวทมนตร์ ตาไม่กระพริบ เดิมเขาต้องการเปลี่ยนสิ่งนี้เป็นการโจมตีที่ร้ายกาจเเละรุนเเรง นี่เป็นเหตุผลที่ เร้ด สกัลล์ ได้หลบซ่อนตัวไปหลายปี เเต่ดูเหมือนความคืบหน้าในสิ่งที่เขาต้องการจะมีน้อยมาก


——————————————————————————————————————————————————————-


ตอนที่ 382 ไม่มี

 

 

 


ตอนที่ 383

 

โทนี่ ฟังคำพูดของเเจ็คสันอย่างใจจดใจจ่อ เเน่นอนว่าเขารู้ว่าเเจ็คสันคาดเดาอะไร


 


“ผมจะเเจ้งเรื่องนี้ให้ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN รู้ เกี่ยวกับภัยคุกคามที่โลกจะต้องเผชิญหน้า ผมเชื่อว่าเเผนการสร้างเรือเหาะสงครามระดับ E นี้จะต้องมีความคืบหน้ามากกว่าเดิมเเน่นอน”เเจ็คสันยังคงพูดต่อไป


 


เผชิญหน้ากับอินฟินิตี้สโตน ที่ถูกครอบครองโดยพวกไฮดร้า เเจ็คสันจะต้องเพิ่มมาตราการตอบโต้ หรือ ขุมกำลังทางอาวุธของตัวเองให้เเข็งเเกร่งขึ้น


 


เเน่นอนว่า เเจ็คสันหากเป็นไปได้ย่อมไม่ต้องการให้คนอื่นมายุ่มย่ามเเผนการลับของเขากับโทนี่ ,โทนี่ เป็นเพียงคนเดียวที่เเจ็คสันเชื่อใจได้อย่างสมบูรณ์ ถึงเเม้ S.H.I.E.L.D. จะเป็นองค์กรที่ดี เเต่ก็มี พวกสภาตาเเก่หัวโบราณคอยบงการอยู่เบื้องหลัง


 


โทนี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันในที่สุดเเจ็คสันก็พูดในสิ่งที่เขาคาดเดาออกมา”เเจ็คสัน เธอรู้ไหมว่าเธอพูดอะไรออกมา เธอคิดหรอว่าการประกาศเรื่องเทคโนโลยีระดับสูงดังกล่าวจะไม่เกิดผลกระทบ?”


 


“ภัยคุกคามระดับจักรวาลที่เธอพูดถึงนั้นยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เเละนอกจากนี้ เธอเชื่อหรอว่า นิค จะเชื่อคำพูดของเธอทั้งหมด เเม้เเต่ฉันเองก็ตาม ถ้าเกิดฉันไม่รู้จักเธอดีพอ ฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อเรื่องที่เธอพูดมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉันไม่คิดว่าการเผยเเพร่ข้อมูลเรื่อง เรือเหาะสงครามระดับ E นั้นจะเป็นความคิดที่ดี”โทนี่ กล่าวตอบโต้ทันที


 


“เเล้วคุณสตาร์กมีความคิดที่ดีกว่านี้ไหมเล่า?คุณจะบอกว่าคุณจะสามารถซ่อนความจริงเรื่องนี้กับทุกคนในช่วงระหว่างผลิตเรือเหาะสงครามระดับ E ?”เเจ็คสันเองก็ย่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ


 


เขารู้เเน่ชัดว่า การจับมือพันธมิตร กับ นิค ก็มีข้อดี เเละก็มีข้อเสีย อย่างไรก็ตาม องค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นองค์กรรัฐบาล ถ้าพวกเขารู้ว่า เขากับโทนี่ ครอบครองเทคโนโลยีติดอาวุธที่ร้ายเเรง บางทีไม่ต้องรอให้ถึงภัยพิบัติในอนาคต องค์กรรัฐบาลระดับโลก คงจะเคลื่อนไหวก่อนใครเป็นเเน่ เเละทุกอย่างก็อาจจะอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา


 


“เเจ็คสัน เธอคิดว่าS.H.I.E.L.D. หน่วยงานควบคุมการบริการด้านอากาศยาน จะเห็นด้วย ?”โทนี่ กล่าวพูดขึ้น


 


“S.H.I.E.L.D. ? หน่วยงานด้านควบคุมอากาศยาน? คุณหมายถึง…”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันเหมือนจะนึกอะไรได้


 


S.H.I.E.L.D. เป็นองค์กรขนาดใหญ่เเละมีหลายหน่วยงานที่ขึ้นตรงเเต่ละหน้าที่ เมื่อไม่นานมานี้ โปรเจคสร้างเครื่องยนต์เเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ของโทนี่ ได้หยุดชะลอตัวลง เหตุเพราะ ผู้ให้บริการด้านอากาศยาน ของ S.H.I.E.L.D. เล็งเห็นถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ถ้าหากอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่บินบนฟ้าเกิดขัดข้องเเละตกลงมามันจะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างจำนวนมาก


 


เเน่นอนว่าเเจ็คสันรู้ว่าโทนี่เองก็เเอบทดลองเรื่องเครื่องยนต์ต่อต้านเเรงโน้มถ่วงอย่างลับ ๆ เเละพยายามจะเสนอเรื่องให้กับ S.H.I.E.L.D. อีกครั้ง เเต่ด้วยความที่ หน่วยงานบริการอากาศยานไม่เห็นด้วย มีเเต่จะต้องชะลอโปรเจคเรื่องนี้ไป


 


หากเรื่องที่เเม้เเต่เครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วง ที่จะถูกนำไปใช้ในการสร้างยานรบ ถูกพักเบรก ไป ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องของ เรือเหาะสงคราม ที่มีความอันตรายมากกว่าหลายเท่า


 


“เครื่องบินบรรทุก,เเละ เครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ สองสิ่งนี้เเม้คล้ายกันเเต่มีความเสี่ยงต่างกัน อย่างน้อยพวกเขาก็เล็งเห็นในจุดที่อาจเกิดข้อผิดพลาดมาเเย้งพวกเรา”โทนี่ กล่าวบอกโดยตรง


 


“เเม้ว่า พวกเขาจะคัดค้านเเละไม่เห็นด้วย เเต่ถ้าหากเกิดสงครามขึ้นมา หากหน่วยงานด้านอากาศยานต้องรับผิดชอบเกรงว่าพวกเขาคงมีไม่พอ”เเจ็คสันเข้าใจความหมายของโทนี่ดี


 


“อ่า,ฉันเข้าใจว่าเธอไม่อยากให้โลกพบเจอกับหายนะ เเละเธอกังวลว่าโลกจะต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติระดับทำลายล้างในอนาคตใช่มั้ย?”โทนี่ยังคงอธิบายต่อไป


 


ในใจของโทนี่ เขาย่อมหวั่นเกรงต่ออิทธิพลต่างดาว ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ความเเข็งเเกร่งของอารยธรรมเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง โลกในปัจจุบันหากจะเทียบอิทธิพลความเเข็งเเกร่งกับอารยธรรมเหล่านั้นเกรงว่าคงจะไม่เพียงพอ


 


“ผมอยากปกป้องโลก ผมต้องการเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิด ไม่ใช่ว่าผมดูถูกความเเข็งเเกร่งของโลก เเต่โลกจะพินาศหากเราไม่เริ่มสร้างอิทธิพลของเราตั้งเเต่ช่วงเวลาที่มีโอกาส”เเจ็คสันเข้าใจว่าโทนี่ต้องการจะสื่ออะไร


 


ในโลกมาร์เวล โลก เป็นศูนย์กลางที่ห้อมล้อมไปด้วยภัยพิบัติ จริง ๆ เเล้วเเม้โลกจะผ่านพ้นวิกฤติเฉียดตายมาได้ทุกครั้ง เเต่เเจ็คสันไม่ต้องการแบบนั้น เขาต้องการความปลอดภัยที่ครอบคลุมไปทั้งหมดไม่ว่าโลกจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร ด้วยขุมพลังที่ตัวเองมี เเจ็คสันต้องการปกป้องโลก ปกป้องครอบครัว ปกป้องคนใกล้ตัวเเละคนที่รัก ดังนั้น เขาจะทำทุกวิถีทางไม่ให้โลกเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเหล่านั้น


 


“ดี,ฉันเข้าใจเธอเเล้ว พวกเราจะเเบ่งบันข้อมูล เเต่จะไม่ใช่แบบสาธารณะ เราจะบอกเฉพาะคนที่เราไว้วางใจมากที่สุด เเละ ก็เป็นที่ชัดเจนว่ามีอุดมคติในการปกป้องโลกเหมือนกับพวกเรา”ในที่สุดโทนี่ก็เห็นด้วยกับความคิดของเเจ็คสัน


 


“ความหมายของคุณสตาร์กคือ…ก่อตั้งองค์กรลับ งั้นหรอ?”


 


เเจ็คสันในตอนนี้ มีความร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D.,ทีมX-MEN เเละ สายเลือดเริ่มเเรกของโลกพ่อมด หากต้องการก่อตั้งองค์กรลับ ก็เริ่มจากเขาเเละโทนี่ก่อน ทางด้าน เอนเชี่ยนวัน คงจะไม่เข้าร่วมด้วย เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลอย่างร้ายเเรงดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องคิดอย่างรอบคอบ


 


“ใช่เเล้วพวกเราต้องการกำลังเสริมตอนนี้อิทธิพลของพวกเรายังมีน้อยเกินไปเราต้องการกำลังคนเพิ่ม”โทนี่พยักหน้าเล็กน้อย


 


ได้ยินคำตอบที่ชัดเจนของโทนี่ เเจ็คสัน นึกถึงเเผนการที่จะสามารถก้าวหน้าไปได้หรือไม่ เเต่ถ้าหากบุคคลที่พวกเราเลือกเฟ้นมาสามารถไว้วางใจได้ไม่ต้องสงสัยว่าเเผนการของพวกเขาย่อมต้องประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน


 


ทางด้านพวกจอมเวทย์พวกเขาได้ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับเเจ็คสันเเละสนับสนุนก็จริงเเต่พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งโดยตรง สำหรับ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ทีมX-MEN บางทีพวกเขาอาจจะลงเรือลำเดียวกับพวกเขาก็เป็นได้ ส่วนเรื่องS.H.I.E.L.D. เรื่องนี้ ต้องมีการคิดไตร่ตรองซักเล็กน้อย


 


“ดี,สรุปพวกเราจะทำตามเเผนนี้!”เเจ็คสันตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

 

 


ตอนที่ 384

 

ทันทีที่คิดเเผนการสำเร็จเเจ็คสันก็ออกจากห้องใต้ดินของโทนี่ พวกเขาได้คุยเเผนเรื่องการรับมือกับพวกไฮดร้า เเละ การจัดตั้งองค์กรลับ ตอนนี้ องค์กรลับสุดยอดของโลกมี เเจ็คสัน กับโทนี่อยู่ 2 คน เเละพวกเขาก็กำลังเล็งเห็นบุคคลทั้งสองเหมือนกัน


 


โดยโทนี่เเละเเจ็คสันได้เลือกกัปตันโรเจอร์สของพันธมิตรอเวนเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ทีมX-MEN เเจ็คสันนั้นไม่ชอบสไตล์ของ นิค ดังนั้นจึงไม่เลือก S.H.I.E.L.D. เขาเเค่สนใจ กัปตันโรเจอร์สเพียงเท่านั้น


 


เพียงเเต่กัปตันโรเจอร์สก็มีสถานะอยู่ใน S.H.I.E.L.D. ไม่น้อยเหมือนกัน บางทีคำพูดของหัวหน้านิคอาจจะสำคัญเเละกัปตันโรเจอร์สอาจจะไม่ยอมมาร่วมงานกับพวกเขา เเต่ถ้าเป็นไปได้เเจ็คสันเเละโทนี่ก็อยากจะดึงกัปตันโรเจอร์สมาร่วมทีมแบบต้องซ่อนความจริงจาก นิค สุนัขจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้


 


เเม้จะเป็นองค์กร S.H.I.E.L.D. องค์กรรักษาความปลอดภัยระดับโลก เเจ็คสัน เเละ โทนี่ ก็ยังไม่ไว้ใจมาก พวกเขาเชื่อว่าการกีดกันนิคออกจากเเผนการนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เเละ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ โทนี่เองก็ต้องวางเเผนอย่างรอบคอบ


 


ขณะเดียวกันเเจ็คสันก็ได้ออกเดินทางเตรียมพร้อมสำหรับการพูดคุยธุระกับทีม X-MEN เพื่อรับมือกับ อินฟินิตี้สโตน ของพวกไฮดร้า เเจ็คสัน จึงต้องการก่อตั้งองค์กรลับขึ้นโดยเร็ว เพื่อลดอัตราการเกิดเหตุไม่คาดฝันในอนาคต


 


หลังจากออกจากบ้านพักของโทนี่ เเจ็คสันได้ขี่ยานบินออกไป โดยธรรมชาติเขาไม่ได้ปกปิดตัวตนไม่ให้พวก S.H.I.E.L.D. เห็น ตอนนี้เขาอยู่ในสถานะมิราจไนท์ เขาจะทำอะไรเขาไม่จำเป็นต้องสนใจใคร


 


ดังนั้นเเจ็คสันจึงเดินทางไปยังฐานของทีม X-MEN โดยตรง ซึ่งหลังจากเขามาถึง คนของทีม X-MEN ก็ได้อยู่รอต้อนรับเขาที่หน้าประตูอยู่ก่อนเเล้ว


 


ฟุ่บ!


 


เเจ็คสันโดดลงจากยานบินก่อนที่เก็บมันเเละเดินเข้าไปยังฐานหรือโรงเรียน X


 


“มิราจไนท์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เเจ้งเเล้วว่าคุณจะมา ได้โปรดตามฉันมา”สตอร์ม กล่าวออกมา ดูเหมือนเธอจะออกมารอต้อนรับเเจ็คสัน


 


“อืม”เเจ็คสันเดินตามหลังสตอร์มไปโดยตรง


 


เเจ็คสันได้ติดต่อกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ ดังนั้นเเม้ S.H.I.E.L.D. จะติดตามเขามา เเต่ทันทีที่เขาเข้ามาในฐาน โรงเรียน X ก็ไม่มีประโยชน์ที่พวก S.H.I.E.L.D. จะสะกดรอยตามเขาได้อีก โดยธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้เเย้งระหว่าง S.H.I.E.L.D. กับ ทีมX-MEN พวกเขาจะไม่ล้ำเส้นกัน


 


ถึงจะเป็น S.H.I.E.L.D. ในมุมมองของ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน ในสงครามที่ผ่านมาไม่นาน ผลงานของพวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับ ทีมX-MEN นิค เองก็ต้องการผูกพันธมิตรกับทีม X-MEN เขาจึงต้องการรั้งตัวเเจ็คสันเอาไว้ ดังนั้นสถานการณ์ทางฝั่ง S.H.I.E.L.D. จึงค่อนข้างร้อนรนอย่างมาก


 


หากจะบอกให้ถูกก็คือ นิค รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับขุมอำนาจของ ทีมอเวนเจอร์สในตอนนี้,ไม่นานเเจ็คสันก็เดินตามสตอร์มไปถึงห้องลับใต้ดินของโรงเรียน X มันเป็นสถานที่ก่อนหน้านี้ที่เขากับศาสตราจารย์ชาร์ลส์สนทนากัน ตอนนี้ ข้างในไม่มีไอซ์แมนอยู่ เเต่กลับปรากฏบุคคลทั้งสองเเทน นั่นก็คือ เเฮงค์ กับ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์


 


เเจ็คสันไม่เเปลกใจที่ไม่เห็น ไอซ์แมน เพราะเหตุการณ์ต่อสู้ก่อนหน้านี้ ไอซ์แมนได้ปะทุพลังออกมาเพื่อต้านทานการโจมตีของสเปซอินฟินิตี้สโตน ทำให้ พวก เเจ็คสันที่อยู่ด้านหลังมีเวลาตอบโต้การโจมตี ซึ่งไอซ์แมนเองก็ต้องสูญเสียพละกำลังไปมากเขาต้องพักฟื้นอย่างน้อยสองเดือนโดยไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ใด ๆ ได้


 


“ในที่สุดคุณก็มา มิราจไนท์”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นเขาจ้องมองไปที่มิราจไนท์ก่อนที่จะพูด เพียงเเต่คราวนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้ยิ้มร่าเริงเหมือนเเต่ก่อนเขาค่อนข้างรู้สึกกังวล


 


“ต้องขออภัยที่มารบกวนยามดึก เเต่ฉันมีเรื่องสำคัญต้องรีบเเจ้งให้ทราบ หวังว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะไม่ถือสา”เเจ็คสันกล่าวออกมา ในคำพูดของเขาส่อเเววให้เห็นถึงความสำคัญในการมาครั้งนี้


 


ไม่ว่าเเจ็คสันจะเผชิญหน้ากับ สตอร์ม หรือ เเฮงค์ เขาก็ไม่ค่อยรู้สึกกังวลหรือกดดันเท่ากับ การเผชิญหน้ากับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีออร่าความเป็นผู้นำที่สูงมาก


 


“มิราจไนท์หากเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้า ไม่จำเป็นจะต้องอ้อมค้อมพวกเรายินดีรับฟัง”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เเฮงค์ที่อยู่ด้านหลังศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กล่าวเปิดปากพูด


 


มันสมองของทีม X-MEN อย่าง เเฮงค์ เขาเป็นที่ได้รับการไว้วางใจมากสุดจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์คนนึง เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ให้ความเคารพในการตัดสินใจของเเฮงค์


 


เมื่อเห็นสีหน้าของเเฮงค์ เเจ็คสันจ้องมองไปที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อีกครั้ง ดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็รอฟังคำตอบของเขาอยู่


 


“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจคุณเเต่สถานการณ์โดยรวมเเล้วฉันให้ความเคารพเเก่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ มีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้าที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้ สำหรับเรื่องที่ฉันจะพูดหากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่ฟังเรื่องจากฉันไปเเล้วเต็มใจที่จะพูดกับคุณฉันก็จะไม่ห้าม”เเจ็คสันกล่าวออกมาเขาไม่ต้องการจี้ใจดำเเฮงค์เเต่มันเป็นเรื่องสำคัญ


 


“เข้าใจเเล้ว เเฮงค์ นายกับ สตอร์ม ออกไปก่อน ผ่อนคลายเถอะ มิราจไนท์ ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร”เห็นเเฮงค์เตรียมจะพูด ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ บอกกล่าวกับเขา


 


ในฐานะผู้นำของทีม X-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เป็นที่เคารพอย่างมาก ธรรมชาติ เขารู้ว่ามิราจไนท์คงมีเรื่องจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับเขาเเละดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก


 


“ก็ได้พวกเราจะออกไปรอข้างนอก”ได้ยินศาสตราจารย์กล่าวเเฮงค์เเละสตอร์มไม่ได้รั้งจะอยู่ต่อพวกเขาได้เดินจากไป


 


ฟุ่บ!


 


ผ่านไปหนึ่งนาทีประตูเหล็กขนาดใหญ่ได้ถูกปิดลงจนทั้งห้องเหลือเพียงเเจ็คสันเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์เพียงสองคนเท่านั้น


 

 

 


ตอนที่ 385

 

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเงาร่างสีดำก็บินขึ้นไปบนฟ้าออกห่างจากโรงเรียน X ในเวลาไม่นาน เมื่อย้อนมองกลับไปจะเห็นว่าเงาร่างสีดำนั้นก็คือมิราจไนท์ ดูเหมือนว่า เเจ็คสันจะพูดคุยธุระกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างรวดเร็วเเละรีบจากไป


 


ในขณะที่มิราจไนท์ออกจากโรงเรียน X ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องลับใต้ดินเมื่อครู่ เรื่องที่ มิราจไนท์บอกต่อเขา ทำให้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ จะบอกว่าครึ่งชั่วโมงนั้นอาจจะไม่ใช่เวลาที่มากที่เเต่มันก็มากพอที่จะทำให้มุมมองของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่มีต่อโลกนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง


 


ฟู่วว~


 


ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ขมวดคิ้วเเน่น หลังจากมิราจไนท์จากไปประตูห้องลับก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้งตามมาด้วยสองบุคคลที่เดินเข้ามาซึ่งก็คือ เเฮงค์ กับ สตอร์ม


 


พวกเขาได้เห็นประตูได้ถูกเปิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่ามิราจไนท์คงจะรีบมาพูดคุยธุระเเละก็รีบออกจากโรงเรียน X ไป เดิมพวกเขาคิดว่ามันจะนานกว่านี้ เเต่ไม่คิดเลยว่ามิราจไนท์จะจากไปอย่างรวดเร็ว


 


“ชาร์ลส์?”เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเฮงค์จ้องมองไปที่การเเสดงออกของชาร์ลส์ บางทีเรื่องสำคัญที่มิราจไนท์คุยเป็นการส่วนตัวกับชาร์ลส์อาจจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างเเน่นอน


 


ได้ยินเสียงของเเฮงค์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สามารถดึงสติกลับมาได้ เบื้องหน้าของเขา เขาเห็น เเฮงค์ เเละ สตอร์ม ยืนอยู่


 


“เเฮงค์ นายเชื่อว่ามนุษย์โลกธรรมดากับพวกเราเหล่ามิวแทนท์จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรมได้หรือไม่?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา


 


ได้ยินคำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเฮงค์ เเละ สตอร์ม รู้สึกตกใจ เดิมเป้าหมายนี้มันก็เป็นสิ่งเริ่มเเรกในการก่อตั้งทีม X-MEN ขึ้นมาอยู่เเล้ว ทำไม ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ถึงกล่าวแบบนี้ออกมา


 


เมื่อ เร็ว ๆ นี้ พวกเขาได้ร่วมมือกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ในการรับมือองค์กรชั่วร้ายอย่างพวกไฮดร้าที่มีเป้าหมายจะยึดครองโลก เหตุผลหลักที่พวกเขาตัดสินใจร่วมกับขุมกำลังอิทธิพลอื่นก็เพื่อผูกสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน นี่คือจุดประสงค์หลักของการก่อตั้งพันธมิตร


 


“ชาร์ลส์? มิราจไนท์ ได้บอกเล่าเรื่องอะไรให้คุณฟังกัน?”เเฮงค์ไม่ได้ตอบคำถามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เขาค่อนข้างรู้สึกกังวล


 


ในมุมมองของเเฮงค์ เขาไม่เคยเห็น ชาร์ลส์ เป็นแบบนี้มาก่อน ในสายตาของชาร์ลส์ตอนนี้เต็มไปด้วยความปราถนาอันเเรงกล้าหรือไม่มันก็เป็นเพราะความเชื่อใจที่มีต่อมิราจไนท์


 


สตอร์มที่ยืนอยู่ใกล้เเฮงค์ เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็กังวลเกี่ยวกับความผิดปกติของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ดังนั้นพวกเขาทั้งคู่จึงอยากรู้คำตอบของคำถามตอนนี้


 


เห็นการจ้องมองของทั้งสองคนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ปรับอารมณ์เล็กน้อยก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างรุนเเรง


 


“ก่อนหน้านี้ฉันได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อที่จะให้พวกเราเหล่ามิวแทนท์สามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างอิสระเเละมีฐานะเท่าเทียมกับมนุษย์ธรรมดาคนอื่น ๆ เเต่หลายปีที่ผ่านมาทำให้ฉันเข้าใจว่าความพยายามเหล่านั้นไม่ได้เข้าใกล้ความเป็นจริงเลย เเต่มิราจไนท์ ได้ทำให้ฉันมองเห็นถึงความหวัง ความหวังที่จะช่วยให้ฐานะของพวกเรามิวแทนท์กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกเเห่งนี้”


 


เวลาก่อนหน้านี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกราวกับว่าเขาได้กลับมาเริ่มต้นหนึ่งใหม่อีกครั้งมันเป็นช่วงเวลาที่เขายังร่วมมือกับเเมกนีโตที่มีความคิดริเริ่มเดียวกับเขาคือต้องการให้กลุ่มมิวแทนท์สามารถกลายเป็นที่ยอมรับของผู้คนธรรมดาได้ เเต่เเล้วหลังจากเวลาผ่านไป ความคิดเหล่านั้นกลับเริ่มพังทลายลงราวกับว่ามันไม่มีทางสำเร็จจริงไปได้


 


เพียงเเต่ข่าวที่ได้รับจาก มิราจไนท์ ทำให้ มุมมองความคิดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เปลี่ยนไปอีกครั้ง นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ทั้งโลกยอมรับการมีอยู่ของเหล่ามิวแทนท์จะเกิดอะไรขึ้น หากเรื่องที่มิราจไนท์บอกว่าศัตรูจากอารยธรรมต่างโลกจะมาเยือนโจมตีอารยธรรมโลกเเห่งนี้ ดังนั้นเหล่ามิวแทนท์เเละคนทั้งหมดบนโลกต่างก็ต้องตกทุกข์ยากเหมือนกัน พวกเขาจึงเปรียบเสมือนครอบครัว


 


เเม้ว่าโลกในปัจจุบันจะมีอิทธิพลมากมายอย่างองค์กรS.H.I.E.L.D. เเละ องค์กรไฮดร้า เเต่องค์กรเหล่านี้ก็ราวกับคนละขั้วกัน พวกเขาไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้ การคุกคามอิทธิพลจากต่างดาวนั้นเเน่นอนว่าจะต้องดึงอิทธิพลที่มีความคิดปกป้องโลกมาสนับสนุนด้วยเเละทีม X-MEN ที่มีอุดมการณ์นั้นก็จะเข้าร่วมโดยปริยาย


 


เเผนการสร้างองค์กรลับของมิราจไนท์ดึงดูดศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างมากโอกาสที่ความคิดเดิมของศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะสำเร็จมีเพิ่มขึ้นสูงจนน่ากลัว


 


“ชาร์ลส์ มิราจไนท์ ได้พูดอะไรกับ นายกันเเน่ หรือว่ามันเกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้า? โดยเฉพาะอาวุธประตูมิติอวกาศนั่น!”เเฮงค์กล่าวตอบโต้ข้อสงสัยเเม้เเต่สตอร์มเองก็รู้สึกสงสัย


 


“ไฮดร้า?หึ พวกมันก็เเค่อุปสรรค์เล็ก ๆ อนาคตของพวกเราเหล่ามิวแทนท์ จะไม่ได้หยุดอยู่กับที่เพียงเพราะเเค่รับมือกับอิทธิพลของพวกไฮดร้า”ได้ยินชื่อไฮดร้าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ประท้วงเล็กน้อย


 


เขากระพริบนัยน์ตาเเละกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมา


 


พวกเเฮงค์เเละสตอร์มไม่รู้ว่ามิราจไนท์ได้เป่าหูอะไรศาสตราจารย์ชาร์ลส์กันเเน่ ถึงทำให้ ชายคนนี้มีปฏิกิริยาที่เเตกต่างไปจากเดิม


 


เเฮงค์”…”


 


สตอร์ม”…”


 


เเฮงค์เเละสตอร์มไม่รู้จะพูดอะไรออกมา ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ผู้ทีมีสติปัญญาที่สงบตอนนี้เขายิ้มออกมาอย่างกับเป็นคนละคนดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะไม่ยอมบอกพวกเขาโดยง่าย


 



 


เเฮงค์เเละสตอร์มท้ายที่สุดก็ออกจากห้องลับใต้ดินเเห่งนี้ เหลือทิ้งไว้เพียงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่มีอารมณ์เเปรปรวน ขณะเดียวกัน บนยานบิน มิราจไนท์ที่กำลังมุ่งหน้าเร่งกลับนั้นเหตุเพราะเขาได้รับข่าวจากเจอร์รี่:ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ได้สติคืนมาเเล้ว

 

 

 


ตอนที่ 386

 

ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ภายในห้องเเห่งนึงที่ถูกใช้เป็นสถานที่รองรับกักกุมทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ทหารเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนเเรงเเละมีทหารสองคนตื่นขึ้นมาในเวลานี้หนึ่งในนั้นคือทอม


 


~


 


หลังจากทอมตื่นขึ้นมา เขาก็สังเกตุข้อมือเเละข้อเท้าที่ถูกล็อคโดยโซ่โลหะผสมอดาเเมนเทียม เเม้ว่าความเเข็งเเกร่งของทอมจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์เเต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีไป พอฟื้นขึ้นมาได้ไม่ถึงสองนาทีดูเหมือนเขาจะพล่อยหลับลงอีกครั้งราวกับเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง


 


ก่อนที่มิราจไนท์จะจากไป เจอร์รี่ รู้ว่า มิราจไนท์ให้ความสนใจกับทอมมากดังนั้นทันทีที่เขาตื่นเจอร์รี่ก็รีบเเจ้งข่าวเรื่องนี้ในทันที เจอร์รี่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ที่พวกไฮดร้าสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด


 


เพียงเเต่คำว่าสมบูรณ์แบบสำหรับคนเหล่านี้เจอร์รี่ว่ายังไม่ใช่ ถ้าหากเทียบความภักดีสำหรับการปฏิบัติการของทหารเหล่านี้ไม่ต้องถามพวกเขาให้ความภักดีทั้งหมด เพียงเเต่ทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ก็ยังมีข้อบกพร่องเเละข้อบกพร่องที่ร้ายเเรงที่สุดก็คือการตระหนักรู้ตัวเอง


 


เหมือนกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนก่อน รุ่นในปัจจุบันเเม้จะเเข็งเเกร่งเเละได้รับการปรับปรุงอย่างมาก สุดท้ายก็ยังมีข้อเสียที่ร้ายเเรงเหมือนกับรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด


 


เพียงเเต่เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ อีก 5 คน ทอมราวกับว่ามีความตระหนักรู้เเข็งเเกร่งมาก ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ระหว่างเขากับเเเจ็คสัน ทอมได้ใช้โอกาสในการเเอบซุ่มโจมตีเเจ็คสัน บางทียิ่งถูกล้างสมองรุนเเรงเท่าไหร่การตระหนักรู้ก็ยิ่งรุนเเรงมากขึ้นเท่านั้น


 


ฟุ่บ!


 


หลังจากทอมตื่นได้ไม่นานทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ก็มีท่าทีว่าจะเริ่มตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ เจอร์ณี่ จ้องมองไปที่คนเหล่านี้อย่างเงียบ ๆ เเน่นอนว่าเขาไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวคนเดียว


 


“มิราจไนท์คุณมาเเล้ว!”เมื่อเจอร์รี่ได้ยินเสียงบางอย่างเขาก็หันกลับ


 


วินาทีที่เขาหันกลับไปเขาพบเงาของมิราจไนท์ที่กลับมาอย่างรวดเร็ว เเม้เเต่เจอร์รี่ก็เเปลกใจ เพราะเขาเพิ่งติดต่อมิราจไนท์ไปได้ไม่นาน


 


“เจอร์รี่สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”เเจ็คสันเดินเข้ามาพร้อมกับถามด้วยความกังวล


 


“มีพวกเขาตื่นขึ้นมาสองคน ส่วนคนที่เหลือก็มีท่าทีเหมือนจะตื่นเเล้ว”เจอร์รี่อธิบายเล็กน้อย


 


“เเล้วสถานะข้อมูลของพวกเขา?”เเจ็คสันกล่าวถามอีกครั้ง


 


ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันจะเดินทางออกไปเขาให้เจอร์รี่ค้นหาสถานะที่เเท้จริงของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ในบรรดาทหารเหล่านี้เเจ็คสันรู้จักเพียงเเค่ทอม ดังนั้น เขาจึงวางเเผนค้นหาสถานะคนอื่น ๆ เพื่อคิดหาหนทางในการช่วยเหลือพวกเขา


 


“นอกเหนือจาก ทอม สมิธ สถานะอีกสามคนได้รับการค้นหาเเล้ว ส่วนอีกสองคนยังไม่ได้ข้อมูลใด ๆ เพียงเเต่เท่าที่ฉันดู จากการวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างอายุของพวกเขาค่อนข้างเเตกต่างกันมาก”เจอร์รี่อธิบาย


 


เเจ็คสันจ้องมองไปที่ข้อมูลของบุคคลทั้งสามคนเขาต้องยอมรับว่าเจอร์รี่นั้นสุดยอดมากที่สามารถหาสถานะของทั้งสามคนมาได้เเละคนที่ดูมีอายุมากที่สุดในพวกเขาก็มากถึง 65 ปี ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะใช้ข้อมูลการศึกษาอย่างเหมาะสมมีหลายละเอียดต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นอายุ หรือ ข้อมูลร่างกายต่าง ๆ


 


ฟุ่บ!


 


“อืม,นายไปดูเเลเดดพูลเถอะ ฉันจะสานต่อหน้าที่ตรงนี้ให้”เเจ็คสันกล่าวกับเจอร์รี่เล็กน้อย


 


“ก็ได้”เจอร์รี่รู้ดีว่ามิราจไนท์ต้องการใช้เวลาอยู่กับทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ตามลำพัง ดังนั้นเจอร์รี่จึงไม่ได้คิดปฏิเสธเขาได้เดินไปที่ห้องพักรับรองของเดดพูล เเม้เดดพูล จะยังไม่ตายเเต่สถานการณ์ของเขาดูเหมือนว่าจะยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเเม้เเต่น้อย


 


~


 


หลังจากเจอร์รี่ออกไปเเล้ว เเจ็คสันก็เดินเข้าไปหาทอมเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ดูเหมือนทหารคนอื่น ๆ จะตื่นขึ้นมากันเเล้วพวกเขาได้สังเกตุโซ่ข้อมูลเเละสถานการณ์ภายในห้องเเละไม่มีท่าทีว่าจะขัดขื่น


 


ฟุ่บ!


 


เห็นบุคคลนึงเดินเข้ามาทอมเเละคนอื่น ๆ ก็ได้เงยหน้ามองบน พวกเขาเห็นเงาร่างของมิราจไนท์ สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเเม้เเต่น้อยยามที่ต้องถูกจ้องมองอย่างนี้เพราะคนเหล่านี้ถูกมัดมือมัดเท้าอยู่


 


เพียงเเต่ทอมที่มองเห็นมิราจไนท์ในใจของเขารู้สึกขมขื่นมากเพราะก่อนที่จะหมดสติไปภาพสุดท้ายก็คือเขาถูกจัดการโดยมิราจไนท์


 


“ทอม สมิธ,เดนนี่ วิลเลี่ยม,ฮาร่า เเละ ก็เเฟรงค์ พวกนายมีใครจำชื่อเหล่านี้ได้มั่ง?”ในมือถือกระดาษเเผ่นนึงที่เป็นข้อมูลที่เจอร์รี่ค้นหามา เเจ็คสัน กล่าวถามพวกทหารวินเทอร์โซลเยอร์


 


ทันทีที่เขาตะโกนออกไปก็ดูเหมือนไม่มีท่าทีตอบรับของทหารวินเทอร์โซลเยอร์เเม้เเต่น้อย


 


เเจ็คสันเพียงต้องการเเสดงให้พวกเขาเห็นเเละเฝ้าดูพฤติกรรมเพียงเท่านั้นที่น่าผิดหวังก็คือไม่มีใครจำชื่อตัวเองได้เลยซักคน


 


เเจ็คสันไม่ได้เศร้าเสียใจเขารู้ดี ก่อนหน้านี้ที่เขาเผชิญหน้ากับทอม ดูเหมือนทอมจะถูกล้างสมองเเละเเทบจดจำอะไรไม่ได้ เพียงเเต่พอเขาลองใช้วิธีเดียวกับการเรียกคืน บัคกี้ บาร์นส์ ก็ดูเหมือนจะได้ผลเล็กน้อย สิ่งที่เเจ็คสันต้องการตอนนี้ก็คือความอดทน


 


ฟุ่บ!


 


เเจ็คสันได้เลือกกระดาษหลายเเผ่นก่อนที่จะวางลงตรงหน้าทอมโดยไม่ได้สนใจการเคลื่อนไหวของทอมที่ยังถูกล็อคมือล็อคเท้าอยู่


 


“ดูสิ”เห็นทอมจ้องมองมาที่เขาตาไม่กระพริบ เเจ็คสันไม่ได้สนใจท่าทีเช่นนั้นเขากล่าวต่ออีกฝ่ายในทันที


 


หลังจากนั้นเเจ็คสันก็เดินออกจากห้องไป ทอมก็มองไปที่กระดาษจำนวนมากที่กองอยู่ด้านหน้าเขาเห็นภาพหลายภาพที่เป็นรูปของครอบครัวนึงที่มีลูกชายเป็นหัวเเก้วหัวเเหวน เเละ ลูกชายคนนี้ที่ว่าก็คือทอม


 


เริ่มเเรกใบหน้าของทอมที่เย็นชาเพียงเเต่ได้มองภาพเหล่านั้นไปไม่นานสีหน้าที่เย็นชาของเขาก็เริ่มลดหายไปทีละน้อย

 

 

 


ตอนที่ 387

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังเฝ้ามองทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เจอร์รี่ก็เดินมาถึงเบื้องหน้าของเดดพูลที่กำลังนอนอยู่บนเตียง เขาสังเกตุเดดพูลอย่างระวัง เเละ เเทบไม่สามารถตรวจจับชีพจรชีวิตได้ ด้านหน้าของเขาราวกับศพนิ่งไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว


 


“หวังว่ามิราจไนท์จะพูดถูกต้องไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้สูญเสียสมาชิกคนสำคัญไปจริง ๆ เเน่”เจอร์รี่นั่งลงข้างเตียงของเดดพูล เขาไม่ได้รังเกียจหน้าตาของเดดพูลที่ถูกไฟคอก


 


ฟุ่บ!


 


“พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง มีวิธีที่จะช่วยฟื้นคืนความจำของพวกเขาไหม?ฉันได้ยินมาว่าทหารพวกนี้ได้ถูกล้างสมองเเละมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นความทรงจำของพวกเขา หากพยายามรื้อฟื้นความทรงจำของพวกเขา พวกเขาจะบ้าคลั่งขึ้นมา”เจอร์รี่ได้กล่าวถามมิราจไนท์เมื่อเห็นมิราจไนท์เดินเข้ามาภายในห้อง


 


เเจ็คสันไม่ได้ตอบเจอร์รี่ในทันทีเขาจ้องมองไปที่เตียงของเดดพูลอย่างระวัง ใบหน้าเดิมของเเจ็คสันก็ค่อนข้างกังวล เท่าที่เขาตรวจสอบ เดดพูลกำลังใช้เวลาฟื้นฟูตัวเองเซลล์ของเขากำลังก่อตัวขึ้นเเต่มันกลับช้าอย่างมาก


 


“ฉันไม่เเน่ใจว่าจะทำให้พวกเขาฟื้นคืนความทรงจำของตัวเองได้หรือไม่ เเต่ฉันจะลองพยายามดู”เเจ็คสันกล่าวตอบเจอร์รี่ตามจริง


 


หากมันมีไอเท็มพิเศษที่จะสามารถช่วยเหลือทอมเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ได้เขาก็ไม่ลังเลที่จะเเลกมันมา เพียงเเต่ถึงเเม้จะมีจริง เขาก็ไม่สามารถเเลกมันได้ในตอนนี้เพราะเเต้มคะแนนของเขาไม่เพียงพอ


 


ดังนั้นเเจ็คสันจึงลองพยายามฟื้นคืนความทรงจำด้วยความหลังต่าง ๆ จากรูปภาพ เเละ กระตุ้นความทรงจำก่อนหน้านี้ หากโชคดี ทอมก็คงจะพอนึกอะไรออกได้บ้าง


 


“งั้นหรอ เช่นนั้นฉันจะกลับไปค้นหาประวัติสถานะของอีกสองคนที่เหลือเพียงเเต่พวกไฮดร้าค่อนข้างมีอิทธิพลบางทีทั้งสองคนนั้นอาจจะเป็นคนต่างถิ่นไม่อาจใช้ฐานข้อมูลค้นหาได้”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เจอร์รี่ รู้สึกหมดหนทาง


 


ข้อมูลเกี่ยวกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์นั้นค่อนข้างหาได้ยากโดยเฉพาะสองคนที่เหลือราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ดังนั้นเจอร์รี่จึงต้องพยายามอย่างหนัก


 


“ขอบคุณเจอร์รี่สำหรับความพยายาม ช่วงนี้ก็ปล่อยให้พวกเขาถูกขังในห้องนั้นไปก่อน”ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่ เเจ็คสันตบไหล่เเฮ็กเกอร์อัจฉริยะของทีมเขา


 


เขารู้ว่าเจอร์รี่พยายามอย่างมากในการช่วยเหลือเรื่องนี้ เเต่มันก็ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เจอร์รี่จะสามารถทำได้ ดังนั้นเขาไม่ต้องการให้เจอร์รี่กดดันตัวเอง


 


“ฉันเข้าใจเเล้ว เเต่เรื่องของเดดพูล เขา…”ได้รับการสนับสนุนจากมิราจไนท์อารมณ์ของเจอร์รี่ดีขึ้นเล็กน้อย เพียงเเต่ความสนใจทั้งหมดก็ตกไปที่เดดพูลอีกครั้ง


 


“เดดพูลคงจะต้องใช้เวลาพักฟื้นตัวนาน ผ่อนคลายเถอะ ฉันไม่ได้หลอกพวกนายหรอก เพียงเเต่ด้วยอัตราการฟื้นฟูในปัจจุบันของเขา อาจจะต้องใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์นายถึงจะเห็นถึงความเปลี่ยนเเปลง”เเจ็คสันรู้ว่าเจอร์รี่กังวลเกี่ยวกับเดดพูล เขาจึงบอกให้ผ่อนคลายในเรื่องนี้


 


ร่างของเดดพูลมีเซลล์ 1-2 เซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาได้รับยายีนเเละน้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำเข้าไปช่วยฟื้นฟูเเล้ว เพียงเเต่อาการบาดเจ็บของเดดพูลรุนเเรงอย่างมาก ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยเหลือทั้งสองอย่างนั้นเป็นเพียงตัวเร่งเท่านั้นหากต้องการให้เเสดงผลจะต้องใช้เวลาพอสมควร


 


“ฉันเชื่อคุณ ฉันจะเข้ามาดูอาการของเดดพูลเป็นระยะ พอเขาฟื้นขึ้นมาฉันจะได้คอยช่วยเหลือเขาได้…”เจอร์รี่ตอบรับคำของเเจ็คสัน


 


“อืม ขอบคุณ”


 


ฟุ่บ!


 


“!!!”


 


ในขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะพูดอะไรต่อเขาก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่ดูเเล้วทรมาณอย่างมาก


 


“นายรออยู่ที่นี่!”เเจ็คสันบอกเจอร์รี่ก่อนที่จะรีบเร่งออกไป


 


ฟุ่บ!


 


เเจ็คสันรีบเดินไปถึงหน้าจอคอมเเละจ้องมองไปที่ภาพ เเน่นอนว่านอกเหนือจากทอมเเล้วเขาก็ได้ให้ภาพเเห่งความทรงจำเเก่ทั้งสามคนที่ตรวจสอบสถานะพบ


 


ทอมหลังจากดูรูปภาพเเละวิดิโอบนเเท็บเล็ตเขาก็ไม่ได้มีการตอบสนองใด ๆ เพียงเเต่คนอื่น ๆ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ เหมือนจะจำอะไรได้ เขาได้ตะโกนกรีดร้องออกมาอย่างทรมาณเเละเริ่มดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง


 


ปั้ง


 


ขณะนั้นมีเสียงของคนคนนึงดังร้องขึ้นซึ่งเขาร้องตะโกนราวกับไม่สนใจสิ่งใดเพียงเเต่คนคนนี้ที่ดิ้นรนได้ไม่นานด้วยความเเข็งเเกร่งของโซ่ผสมโลหะอดาเเมนเทียมมีหรือที่เขาจะสามารถหลุดไปได้ ไม่นานเสียงของเขาก็เงียบไป


 


ฟุ่บ


 


เเจ็คสันที่ได้ยินเสียงร้องเขาจ้องหน้าจอเเท็บเล็ตพีซีเสร็จก็เดินเข้ามา เขาเห็นคน ๆ นึงนอนหมดสติไป


 


“ฮาร่า? เขาอายุ 60 กว่าปีเเล้ว ดูเหมือนจะเป็นรุ่นอาวุโส ที่ถูกปิดผนึกความทรงจำมานาน ทันทีที่ถูกกระตุ้นความทรงจำเขาเลยบ้าคลั่งขึ้น?ส่วนอีกสองคนที่เหลือราวกับว่าพวกเขาพอจะนึกอะไรได้?”เเจ็คสันสังเกตุภายในห้องอย่างระวัง


 


เมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนฮาร่าจะนึกอะไรขึ้นได้ทำให้ความทรงจำของเขาสับสนอย่างมาก


 


วิธีนี้เเสดงให้เห็นว่าการกระทำของเเจ็คสันสามารถใช้ได้ผล เเจ็คสันจ้องมองไปที่ทอมอีกครั้ง เพียงเเต่ทอมไร้ซึ่งการตอบสนองใด ๆ ใบหน้าของเขากลับมาเยือกเย็นอีกครั้งราวกับว่าไม่เคยสัมผัสความทรงจำช่วงนั้นมาก่อน


 


“ดูท่าพวกเราจะต้องย้ายพวกเขาไปยังที่ปลอดภัยมากกว่านี้ ฐานเเห่งนี้เล็กก่อนไป ฉันไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นจะเกิดบ้าคลั่งตามมาหรือไม่”หลังจากสังเกตุท่าทีของคนอื่น ๆ เเจ็คสันครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ


 


เเม้ฐานเเห่งนี้จะมีการป้องกันที่มั่นคงเพียงเเต่ทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่นี้ก็ไม่ธรรมดา หากพวกเขาบ้าคลั่งขึ้นมาอาจสร้างความเสียหายได้ เเละ เจอร์รี่ ที่ถูกทิ้งไว้อยู่ในฐานเขาอาจจะตื่นกลัวโดยใช่เหตุ


 


ดูเหมือนว่าเเจ็คสันจะต้องร้องขอเรื่องนี้กับโทนี่เพื่อหาสถานที่คุมขังเหล่าทหารวินเทอร์โซลเยอร์พวกนี้ใหม่อีกครั้ง


 


เเจ็คสันเตรียมจะเดินออกจากห้องเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มเงียบสงบลง เขาจ้องมองไปที่ทอมที่นั่งมองเเท็บเล็ตก่อนที่จะสั่นศีรษะอย่างรุนเเรงเเละเตรียมเดินจากไป


 


“ทอม สมิธ นี่ใคร…?”

 

 

 


ตอนที่ 388

 

ในวันถัดไปด้วยความช่วยเหลือของโทนี่ เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ทั้งสามคน ได้ย้าย ทอมเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ไปยังฐานป้องกันระดับสูง


 


หลังจากเปลี่ยนมาที่นี่ เเจ็คสันได้เเยกทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 6 คนขังคนละห้อง เพื่อตรวจสอบความเปลี่ยนเเปลงของเเต่ละคน


 


สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือ เเม้ฮาร่าจะมีการตอบสนองเเต่ก็เหมือนเเค่ชั่ววูบเพียงเท่านั้น ดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องเฝ้าสังเกตุการณ์ต่อไป


 


“พวกเราขังคนเหล่าคนี้เอาไว้ก็จริง เเต่พวกเราจะทำอย่างไรถ้าหากพวกเขาไม่สามารถกู้คืนความทรงจำได้?”ปีเตอร์กล่าวถามเเจ็คสันหลังจากจ้องมองผ่านห้องกระจกใส


 


เขาเห็นทอมเพื่อนสนิทที่เป็นแบบนี้ ทำให้ปีเตอร์รู้สึกไม่ดีอย่างมาก


 


เมื่อคืนที่ผ่านมา เเจ็คสันได้มอบทหารวินเทอร์โซลเยอร์ให้ได้รับยายีนบำบัดขั้นต้นที่ออสคอร์ปผลิตเพียงเเต่การทำงานของมันดูเหมือนจะไม่มีผลเท่าไหร่


 


“พวกเราควรปล่อยพวกเขาไว้แบบนี้ไปก่อน การฝืนเร่งรัดกู้คืนความทรงจำอาจจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา บางทีตราบเท่าที่พวกเราทำลายพวกไฮดร้าได้อาจมีหนทางช่วยเหลือพวกเขา”ได้ยินความกังวลของปีเตอร์ เเจ็คสัน กล่าวตอบ


 


เเจ็คสันไม่มีหนทางที่จะช่วยเหลือพวกเขาในตอนนี้จริง ๆ ตราบใดที่สามารถกำจัดพวกไฮดร้าได้เเจ็คสันเชื่อว่าภารกิจนี้จะทำให้เขาได้เเต้มคะแนนมากพอ หากไม่สามารถช่วยเหลือทอมในการฟื้นคืนสติได้ เเจ็คสันจะมองหารายการเเลกเปลี่ยนพิเศษในร้านค้าเพื่อช่วยเหลือเขา


 


“ดี ฉันเชื่อนาย ดังนั้นพวกเราจะต้องหามาตราการตอบโต้พวกมัน”ปีเตอร์กำหมัดเเน่นทันทีที่ได้ยินเช่นนี้


 


การโจมตีโดยฉับพลันของพวกไฮดร้าโดยการใช้สเปซสโตนทำให้พวกเขา ทีมพันธมิตรผู้พิทัก,S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN ต่างก็หาวิธีตอบโต้พวกมันในเร็ว ๆ นี้


 


“เเน่นอน! อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉันต้องการ การตัดสินใจของกัปตันโรเจอร์บางอย่าง”เเจ็คสันกล่าวออกมา


 


หลังจากการต่อสู้เมื่อวานนี้สิ้นสุดลง S.H.I.E.L.D. ก็ยังไม่ได้ข้องเเวะกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ สำหรับ กัปตันโรเจอร์ส ดูเหมือนเขาไม่พอใจ S.H.I.E.L.D. อย่างมาก เขาจึงเก็บตัวไม่ออกไปไหน นิค เองก็ไม่ได้ไปตามหาเขา


 


“กัปตันโรเจอร์ส?เขาจะมางั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์กล่าวถามอย่างกระทันหัน เขานับถือในตัวกัปตันอเมริกาตั้งเเต่เล็ก ๆ ดังนั้นเมื่อเขาพบกัปตันโรเจอร์สในเเต่ละครั้งปีเตอร์จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก


 


“อืม,ฉันได้ติดต่อกัปตันโรเจอร์สไปเเล้ว เขาเองก็ตอบรับเเล้วด้วย”เห็นอารมณ์พลุ้งพล่านของปีเตอร์ เเจ็คสันตอบความจริง


 


ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ติดต่อกัปตันโรเจอร์สไป เนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเขาที่ค่อนข้างดีต่อกัน กัปตันโรเจอร์สจึงตอบรับอย่างรวดเร็ว เพียงเเต่เเจ็คสันได้กำชับว่าอย่าให้ S.H.I.E.L.D. ค้นพบ ตัวระหว่างทางมาที่นี่


 


“จริงสิ ฉันจะขอลายเซ็นของกัปตันอเมริกาบ้างได้รึเปล่านะ?”ปีเตอร์ที่รู้ว่ากัปตันโรเจอร์สจะมาเขาค่อนข้างตื่นเต้นเพราะอย่างไรก็ตามกัปตันโรเจอร์สก็เป็นถึงไอดอลของเขา


 


“พูดถึงลายเซ็น ที่ฉันได้รับมาก่อนหน้านี้ เป็นช่วงเวลาที่ฉันพาเขาไปเที่ยวชมสถานที่ในนิวยอร์กต่าง ๆ เดิมฉันตั้งใจจะขอลายเซ็นมาให้พวกนายด้วย เเต่ฉันลืม”เเจ็คสันกล่าวออกมาตามตรง


 


ตอนนี้เเจ็คสันมีลายเซ็นของกัปตันอเมริกาเเละลายเซ็นของไอรอนแมน โทนี่ ตอนนี้หากเเจ็คสันต้องการลายเซ็นของโทนี่ มันค่อนข้างง่ายเกินไป เพราะโทนี่ สามารถให้เขาได้มากเท่าที่ต้องการ


 


“เเจ็คสัน เป็นนายที่พากัปตันอเมริกาเที่ยวชมนิวยอร์ก?ทำไมนายไม่มองหาฉันในตอนนั้น!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์รู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยโอกาสที่เขาจะได้เดินเที่ยวเล่นกับไอดอลไม่ได้มีให้เห็นบ่อย ๆ เพราะเเต่ละครั้งที่เขาพบกัปตันโรเจอร์สปีเตอร์ไม่ค่อยมีเวลาได้สนทนากับกัปตันโรเจอร์สมากนัก


 


“ในเวลานั้นเรื่องข่าวการฟื้นคืนของกัปตันอเมริกานั้นยังเป็นความลับฉันจึงยังไม่ได้บอกนาย ก่อนหน้านั้นนายเองก็เคยเห็นกัปตันโรเจอร์สมาก่อนเเล้วนิ”เเจ็คสันรู้สึกพูดไม่ออก


 


เเม้เเฮร์รี่จะเป็นเหมือนปีเตอร์เเต่เขาก็ไม่ได้ออกอาการแบบนี้โดยเฉพาะตอนนี้ที่เเฮร์รี่เป็นประธานใหญ่ของออสคอร์ปเขาไม่ได้ทำตัวเหมือนเด็กมัธยมอีกเเล้ว


 


ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกับเสียงโทรศัพท์ของเเจ็คสันก็ดังขึ้น


 


มันคือเบอร์ของ กัปตันโรเจอร์ส


 


“มิราจไนท์ ฉันมาถึงเเล้ว”เสียงของกัปตันโรเจอร์สได้ส่งผ่านออกมา


 


“ดีฉันจะไปทันที”เเจ็คสันกล่าวออกมาเเละเตรียมเดินจากไป เเจ็คสันได้นัดกัปตันโรเจอร์สห่างจากที่เเห่งนี้ไปยังโรงงานลับของโทนี่ เพื่อป้องกันการตรวจสอบของ S.H.I.E.L.D.


 


“ฉันไปด้วย!”ได้ยินเเจ็คสันพูดปีเตอร์ขอตามไปด้วยในทันที


 


“ฉันจะอยู่เฝ้าที่นี่เองพวกนายไปเถอะ!”เเฮร์รี่ที่จัดการธุระภายในที่เเห่งนี้เสร็จเขาได้เดินกลับมาพร้อมกับได้ยินการสนทนาของทั้งสองคน


 


“อืม,พวกเราจะรีบกลับมาทันที”เเจ็คสันเเละปีเตอร์พยักหน้าก่อนที่จะออกจากฐานไปอย่างรวดเร็ว


 


ฟุ่บ!


 


หลังจากออกจากประตูหน้าฐานไปเเล้ว เเจ็คสัน กับ ปีเตอร์ ก็หยิบจักรยานคนละคันก่อนที่จะเริ่มปั่นไปยังตำเเหน่งโรงงานลับของโทนี่ ที่กัปตันโรเจอร์สรออยู่

 

 

 


ตอนที่ 389

 

ในขณะที่เเจ็คสันเเละปีเตอร์ขับจักรยานเพื่อไปพบกัปตันโรเจอร์สที่โรงงานลับของโทนี่, โทนี่ก็อยู่ในอุตสาหกรรมสตาร์กสำนักงานของตัวเอง ช่วงนี้เขาไม่ได้ทำการศึกษาชุดเกราะไอรอนแมนเพิ่มเติ่ม เพียงเเต่มุ่งเน้นไปด้านการศึกษาเรือเหาะสงครามระดับ E เเทน


 


ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์เวทมนตร์จำลองที่ถูกสร้างขึ้นเสริมพลังให้กับชุดเกราะไอรอนแมนยังไม่เสร็จสมบูรณ์มันยังไม่สามารถเทียบได้กับผลลัพธ์ที่เขาตั้งใจเอาไว้ รวมถึง เวน่อม ที่โทนี่คิดจะเอามาดัดเเปลงตอนนี้มันถูกขังอยู่ในกล่องกระจกใส เพราะโทนี่ยังไม่มีวิธีที่จะใช้งานมัน


 


ขณะที่โทนี่กำลังทำการวิจัยศึกษา โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์จาก นิค S.H.I.E.L.D. ในความเห็นของโทนี่ นิค โทรมาเพราะเเจ็คสันเเน่นอน


 


“สวัสดี โทนี่ ฉันต้องการพูดคุยกับมิราจไนท์เกี่ยวกับเทคโนโลยีของพวกไฮดร้า ตอนนี้พวกเราต้องประสานความคิดเห็นกันเพื่อรัมือกับพวกมัน”โทนี่ได้กดรับสายเเละไปนั่งบนโซฟาของเขาพร้อมกับรินไวน์ เสียงของ นิค ได้ดังขึ้น


 


“ฉันรู้ว่า คุณมีคำถามมากมาย เพียงเเต่หากคุณต้องการจะติดต่อ มิราจไนท์ โดยตรง ฉันเชื่อว่า เขาจะไม่ปฏิเสธคุณ”


 


“งั้นหรอ?ฉันเองก็มีงานมากมายที่รอทำค้างอยู่ จริงสิ ฉันมีเรื่องที่ยังไม่ได้พูดกับนาย”


 


“เครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่พิเศษที่ฉันติดตั้งใหม่ในคราวนี้หากนายมีเวลาก็มีดูเเละช่วยวิเคราะห์มันหน่อยเเล้วกัน”


 


“อืม,เข้าใจเเล้ว”


 


โทนี่กล่าวตอบในที่สุด ดูเหมือน นิค จะโทรมาเพราะเหตุผลเครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงมากกว่า เเต่ข่าวของนิค ก็คงทำให้ นิคลืมเรื่องการค้นหามิราจไนท์ชั่วคราว เพราะหากเครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์เมื่อไหร่ S.H.I.E.L.D. ก็จะยกระดับองค์กรขึ้นอย่างก้าวกระโดด


 


“ดูเหมือน นิค จะอยากได้เครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์โดยเร็ว พวกเขาคิดว่าสิ่งนั้นคือสุดยอดของเทคโนโลยีหลังจากสร้างมันขึ้นได้อย่างสมบูรณ์สินะ”โทนี่ยิ้มออกมา ในมือของเขารินไวน์เพิ่มพร้อมกับหวนนึกถึงแบบเเปลนเรือเหาะสงคราม


 


ฟุ่บ!


 


“เอาล่ะ J.A.R.V.I.S มาเริ่มงานกันต่อ นอกจากนี้เฝ้าระวังกล้องวงจรปิดทุกตัว จับตามองการเคลื่อนไหวของนิค เอาไว้”โทนี่ดีดตัวลุกขึ้นก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง


 


“ครับเจ้านาย,เพียงเเต่หากทำเช่นนั้นก็คงต้องทำการต่อต้าน มายา”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว


 


มายา ระบบ อัจฉริยะของ J.A.R.V.I.S ที่ถูกคิดค้นขึ้นเเละไม่ได้ด้อยไปกว่า J.A.R.V.I.S เพียงเเต่ J.A.R.V.I.S ในตอนนี้มีพัฒนาการเป็นของตัวเอง เขาเข้าใกล้คำว่ามนุษย์มากที่สุด หลายครั้งที่ J.A.R.V.I.S สามารถวิเคราะห์สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้


 


“งั้นหรอ…อืม”โทนี่ วางมือบนคีย์บอร์ดเเละเริ่มงานอีกครั้ง


 


ต๊อก เเต๊ก…


 



 


ขณะที่โทนี่เริ่มงานต่อ เเจ็คสัน ก็อยู่ภายในห้องของโรงงานลับ กับกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันบอกกัปตันโรเจอร์สเกี่ยวกับเเผนการของตัวเองชั่วคราว


 


“มิราจไนท์ คุณมีความมั่นใจใช่มั้ย?คุณเเน่ใจนะว่าที่พวกไฮดร้าถือครองคือ อินฟินิตี้สโตน”หลังจากเข้าใจความเเข็งเเกร่งของอินฟินิตี้สโตน กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถามมิราจไนท์อย่างจริงจัง


 


เเม้เเต่โทนี่เเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็สงสัยเหมือนกับกัปตันโรเจอร์ส หากเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน กัปตันโรเจอร์สย่อมไม่เชื่อเรื่องนี้อย่างเเน่นอน เเต่สิ่งที่กัปตันโรเจอร์สพบมันไม่สามารถอธิบายด้วยสามัญสำนึกได้


 


หากสิ่งที่พวกไฮดร้าครอบครองคือ อินฟินิตี้สโตน สมบัติระดับจักรวาลจริง กัปตันโรเจอร์ส ก็ย่อมรู้สึกตกใจเป็นเรื่องธรรมดา เพียงเเต่ มิราจไนท์ ดูเหมือนเขาจะรู้เรื่องที่คนธรรมดาที่ไม่อาจหยั่งถึงได้ กัปตันโรเจอร์สคิดว่าบางทีมิราจไนท์อาจเป็นคนจากนอกโลกก็ได้ เพราะเท่าที่กัปตันโรเจอร์สรู้ เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. องค์กรระดับโลก ก็ยังไม่มีข้อมูลระดับนี้


 


“ฉันเองก็ไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เเต่ธรรมชาติฉันรู้จัก อินฟินิตี้สโตน เเละ รู้จักพลังที่เเท้จริงของมัน เเละมันตรงกับข้อมูลที่ฉันมี อาจเป็นไปได้ว่า พวกไฮดร้า ได้ครอบครองหนึ่งในอินฟินิตี้สโตนพวกนั้นจริงๆ “เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างเเท้จริง


 


ที่จริงเเล้วการศึกษาเรื่องประตูมิติอวกาศใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นเเต่การโจมตีระดับนั้นที่ทรงพลังไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถจินตนาการได้ ในพล็อตเรื่องเดิม S.H.I.E.L.D. ที่ได้รับเทสเซอเเรคมา พวกเขาก็ได้ศึกษาอิทธิพลของมันก่อนที่โลกิจะปรากฏตัวขึ้นเเละเเย่งสิ่งนี้ไป


 


อย่างไรก็ตามตอนนี้พล็อตเรื่องได้เปลี่ยนไปเเล้ว เเละ เเจ็คสันเชื่อว่า พวกไฮดร้าได้ครอบครอง สเปซอินฟินิตี้สโตนจริง โชคดีที่พวกมันไม่สามารถใช้พลังที่เเท้จริงของสเปซอินฟินิตี้สโตนได้ ไม่งั้นพวกเเจ็คสันคงไม่มีหนทางในการเอาชนะ


 


“ดังนั้นก็ไม่เสียหายหากเราจะคิดเช่นนั้นไว้ก่อน การเตรียมพร้อมรับมือตั้งเเต่ตอนนี้ย่อมสร้างรากฐานให้เราได้มาก”


 


“ดี,ฉันจะสนับสนุนคุณ ก่อตั้งสหพันธ์โลกงั้นหรอ ฉันชักจะรู้สึกสนใจซะเเล้วสิ”หลังจากได้คำตอบยืนยันจาก มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส กำหมัดเเน่นด้วยความหวัง


 


การจัดตั้งสหพันธ์โลกหรือก็คือการรวมโลกให้เป็นหนึ่งนี่คือความฝันเริ่มเเรกของกัปตันโรเจอร์ส หลังจากฟื้นขึ้นมาจากชั้นน้ำเเข็ง กัปตันโรเจอร์สได้ถูกชักชวนเข้าร่วมองค์กร S.H.I.E.L.D. เพียงเเต่องค์กร นี้ก็ยังไม่สามารถมอบโลกในอุดมคติของกัปตันโรเจอร์สได้


 


ดังนั้นการที่มิราจไนท์ เสนอความคิดเช่นนี้ออกมา มันได้ดึงดูด ความฝันอันยิ่งใหญ่ของสตีฟ ตั้งเเต่ 60 ปีก่อน เด็กที่เกิดจากบรูคลิน ที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะชนะพวกไฮดร้า เขาจึงได้ตัดสินใจเดินตามความฝันในการเข้าร่วมกองทัพ


 


“จริงสิ มิราจไนท์ ฉันมีเรื่องขอให้คุณช่วย”หลังจากยืนยันความคิดของตัวเองได้เเล้วกัปตันโรเจอร์สกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว


 


“หืม?เรื่องอะไรละ”


 


“ฉันได้ยินว่าคุณจับ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ได้หลายคนใช่หรือไม่?”

 

 

 


ตอนที่ 390

 

ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันขมวดคิ้วเเน่นเล็กน้อย ดูเหมือน สิ่งที่เขารอในที่สุดก็เป็นจริง กัปตันโรเจอร์ส นั้นต้องการสื่อถึงเรื่องของ บัคกี้ บาร์นส์


 


หลังจากเเจ็คสันพูดเรื่อง อินฟินิตี้สโตน เเละ พวกไฮดร้า เเก่กัปตันโรเจอร์สไปเเล้ว รวมถึงเเผนก่อตั้งสหพันธ์โลก เดิมเขาคิดว่า กัปตันโรเจอร์สจะมีคำถามใด ๆ เพียงเเต่ไม่คิดว่าเขาจะถามเรื่อง ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เร็วขนาดนี้


 


“ใช่ ในการต่อสู้ครั้งก่อนกับพวกไฮดร้า ฉันได้จับทหารวินเทอร์โซลเยอร์มาหลายคน ฉันยังไม่ได้ฆ่าพวกเขา ฉันได้จับพวกเขามัดไว้ในฐานเเละลองทำการทดลองเพื่อดูว่าจะสามารถเรียกพวกเขากลับมาได้หรือไม่”เเจ็คสันกล่าวอย่างไม่ได้ปกปิดความจริง


 


ฮู้วว


 


ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์อารมณ์ของกัปตันโรเจอร์สผันผวนเล็กน้อย เเม้เเต่เรื่องของอินฟินิตี้สโตน หรือ ก่อตั้งสหพันธ์ โลกก็ยังไม่ทำให้อารมณ์ของเขาผันผวนขนาดนี้


 


“พวกเขา…เป็นเหมือนกับ บัคกี้ ใช่ไหม?”กัปตันโรเจอร์สกำหมัดเเน่นเล็กน้อย


 


“ใช่พวกเขาถูกล้างสมอง เพียงเเต่ เทียบกับ ผู้พันบาร์นส์ ระดับการล้างสมองของพวกเขาสูงกว่ามาก ฉันเองก็ลองหาวิธีเพื่อที่จะกู้คืนความทรงจำของพวกเขา เเต่ดูเหมือนจะไร้หนทาง ก็ต้องรอดูว่าหลังจากพวกเรากำจัดพวกไฮดร้าเเล้ว บางที พวกเราอาจได้หนทางในการช่วยเหลือพวกเขา”เเจ็คสันถอนหายใจออกมา


 


เนื่องจากทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ถูกล้างสมองเเจ็คสันจึงไม่ต้องการฆ่าพวกเขา เหตุผลอื่นก็คือ เพื่อนของเขา ทอม ก็ถูกล้างสมองด้วยเหมือนกัน เเจ็คสันรู้ว่ามันมีวิธีควบคุมทหารวินเทอร์โซลเยอร์อยู่ อย่างเช่น บัคกี้ เขาถูกควบคุมโดยชุดคำของภาษารัสเซียพิเศษ


 


หลายเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่พวกเขาไล่ทำลายฐานของพวก ไฮดร้า เเจ็คสันได้ร้องขอให้ J.A.R.V.I.S ช่วยค้นหาการมีอยู่ของหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่เป็นภาษารัสเซียพิเศษที่ว่านั่น เเละ ดูเหมือน เเจ็คสันจะได้รับข้อมูลบางอย่างมา เเต่ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสได้ใช้กับบัคกี้เเล้ว


 


หากเป็นทอมเวอร์ชั่นปกติบางทีเขาก็อาจจะเหมือนกับบัคกี้ เเต่ตอนนี้ เเจ็คสันไม่มีโอกาสได้ทดลองเรื่องที่ว่านี้ เพราะทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่คงจะต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติ่มรวมถึงการควบคุมที่ดีมากขึ้น


 


“คุณรู้สถานะของพวกเขาเเล้วหรือยัง?ฉันได้ยินมาว่าเพื่อนของคุณก็ตกเป็นเหยื่อของพวกไฮดร้าเหมือนกัน”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอีกครั้ง


 


เเจ็คสันลอบปิดความรู้สึกในตอนนี้ออกมาเขาไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเพื่อนของตัวเอง เรื่องที่ข่าวเพื่อนของเขาถูกจับไปโดยพวกไฮดร้า ดูเหมือน จะหลุดออกไปด้วยความไม่ตั้งใจ ไม่ว่าอย่างไร เเจ็คสันจะต้องช่วยเหลือ ทอม กลับมาให้ได้


 


“ฉันพอรู้สถานะของคนในกลุ่มคร่าว ๆ เเล้ว ฉันได้ลองค้นหาบันทึกวิดิโอเเละภาพสมาชิกครอบครัวให้พวกเขาดูเผื่อพวกเขาจะจำอะไรได้ เเต่ผลตอบรับก็ไม่ได้ดีอย่างที่เห็น ฉันคิดว่ากุญเเจสำคัญในการฟื้นคืนสติของพวกเขาก็คือข้อมูลจากพวกไฮดร้า”เเจ็คสันพยักหน้าตอบ


 


“เอ่อ…คุณมีข่าว บัคกี้ บ้างไหม? ฉันรู้ว่ามันค่อนข้างจะรบกวนคุณ เเต่ฉันยังไม่ได้ยินข่าวคราวของเขาเลย”กัปตันโรเจอร์สเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องของบัคกี้


 


ธรรมชาติ กัปตันโรเจอร์ส ย่อมเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ เเละ เตรียมจะถาม เเจ็คสัน เเจ็คสันเองก็รู้ว่า บัคกี้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของ กัปตันโรเจอร์ส


 


“ไม่เลย ผู้พันบาร์นส์ได้เเยกทางกับไฮดร้าเเละหายตัวไป ฉันไม่ได้รับข่าวคราวของเขาเลย เพียงเเต่หากคุณไม่สามารถหาเขาได้ ฉันลองเเนะนำให้คุณลองไปหาที่ประเทศนึงอันห่างไกล วากานด้า”เเจ็คสันกล่าวออกมา


 


เขาจำได้ว่าในพล็ตอเรื่องหลังจากที่เเยกกับกัปตันโรเจอร์สผู้พันบาร์นส์ได้หลบหนีไปยังประเทศ วากานด้า ที่เป็นประเทศที่ถูกปกครองโดย เเบล็คเเพนเทอร์ วากานด้า เป็นประเทศที่ร่ำรวยเเละมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า เพียงเเต่ด้วยเส้นวลาเเละพล็อตเรื่องในปัจจุบัน เเจ็คสันไม่รู้ว่าจะหาประเทศนี้ได้ที่ไหน


 


สิ่งอื่น ๆ ที่เเจ็คสันกังวลก็คือ หากพบตัวบัคกี้ เเละ เรื่องที่บัคกี้ เป็นคนฆ่าพ่อเเม่ของโทนี่ถูกเปิดเผย สงครามระหว่าง กัปตันโรเจอร์ส เเละ โทนี่ ก็จะบังเกิดขึ้น เเจ็คสันจะไม่มีทางห้ามปรามทั้งสองคนได้ในทันที ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้พวกไฮดร้าจะต้องถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ก่อนเป็นอันดับเเรก


 


เเม้ว่าสิ่งนี้จะดูไม่ยุติธรรมกับโทนี่ เเต่ถ้าหากเขารู้ความจริงเรื่องนี้ โทนี่ จะกลับมาเศร้าอีกครั้ง เเละ มันจะกระทบต่อเเผนการในอนาคตจำนวนมากของพวกเขา


 


“วากานด้า?!”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์กัปตันโรเจอร์สเเสดงออกให้เห็นถึงความเเปลกใจ


 


กัปตันโรเจอร์สเดิมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากมิราจไนท์ เพราะ มิราจไนท์เป็นคนบอกว่าไม่รู้ว่าบัคกี้อยู่ที่ไหน เเต่ตอนนี้ มิราจไนท์ได้ให้ปลายทางที่ว่า เเม้จะไม่เเน่นอน เเต่เขาก็มีเป้าหมายที่น่าลองเสี่ยงดู


 


นอกจากนี้ วากานด้า ที่มิราจไนท์พูดถึง ในบันทึกของ S.H.I.E.L.D. มันเป็นประเทศที่พิเศษมาก เเม้ประเทศนี้จะมีขนาดเล็ก เเต่ก็มีความมั่งคั่ง เเละสามารถผลิตสิ่งของหายากได้


 


ยกตัวอย่างเช่น อาวุธ ต่าง ๆ


 


“ขอบคุณมิราจไนท์ คุณได้ช่วยเหลือฉันอีกครั้ง!”กัปตันโรเจอร์สกล่าวขอบคุณมิราจไนท์


 


“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณสำหรับการสนับสนุนเเผนการทั้งหมด หากไม่ได้คุณเเผนการของเราก็คงจะไม่เดินหน้าต่อ นอกจากนี้ หากเเผนการของเราประสบความสำเร็จ เรื่องของ S.H.I.E.L.D. ก็คงจะต้องฝากรบกวนคุณเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวขอบคุณเช่นกัน


 


“ผ่อนคลายเถอะ ในสงครามโลกครั้งที่สอง ฉันค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านการโฆษณาชวนเชื่อ ฉันค่อนข้างมีทักษะในด้านนี้”กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา ในสงครามโลกครั้งที่สอง กัปตันโรเจอร์สได้พูดปลุกระดมทหารเกณฑ์จำนวนมาก ดูเหมือนเขาจะมีทักษะในด้านนี้


 


ก่อนกัปตันโรเจอร์สจากไป เเจ็คสันได้ เตือนเรื่อง หลีกเลี่ยงการเฝ้าระวังของ S.H.I.E.L.D. เพราะเขาไม่ต้องการให้เรื่องที่พวกเขานัดพบกันในวันนี้ถูกเปิดเผย


 


“เช่นนั้นไว้เจอกันมิราจไนท์ หวังว่าเเผนการของพวกเราจะประสบความสำเร็จดั่งที่คาดเอาไว้”


 


“อืม ไว้เจอกันกัปตันโรเจอร์ส”

 

 

 


ตอนที่ 391

 

S.H.I.E.L.D. สำนักงานใหญ่วอชิงตัน ห้องทำงานของนิค ,เขากำลังนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของตัวเองด้านหน้าคือจอคอมพิวเตอร์ที่เเสดงข้อมูลของ ทีม X-MEN เเละ ทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์


 


เมื่อเร็ว ๆ นี้นิครู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมากที่ S.H.I.E.L.D. ที่เคยเป็นองค์กรคู่ปรับพวกไฮดร้า กลับเสียท่าอย่างง่ายดาย พวกเขาประเมินพวกไฮดร้าผิดไปตลอด เพราะพวกมันไม่ใช่พวกอ่อนเเอ เพียงเเต่เก็บงำความสามารถที่เเท้จริง


 


ไพ่ในมือที่พวกไฮดร้าเปิดเผยมานั้น นิค ไม่รู้รายละเอียดเเน่ชัดว่าสิ่งนี้ทำอะไรได้บ้าง เเต่มิราจไนท์ อาจเป็นไปได้ว่าอาจรู้เงื่อนงำบางอย่าง ในฐานะ หัวหน้าของ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้เขายังไม่มีความคืบหน้าในข้อมูลอาวุธของศัตรูไม่เเปลกที่เขาจะรู้สึกอารมณ์ไม่ดี


 


สำหรับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ โดยเฉพาะมิราจไนท์ ท่าทีที่เขามีต่อ มิราจไนท์คือ คือความกตัญญูเเละความเคารพ ความกตัญญูเเละความเคารพส่วนใหญ่มาจากเรื่องก่อนหน้านี้ที่มิราจไนท์ช่วยชีวิตนิค ตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา นิค ก็ค้นพบว่า ตัวตนของมิราจไนท์ไม่ธรรมดาอย่างมาก


 


จนกระทั่งมีหลายสิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมายของเขาไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งทีมอเวนเจอร์ส ราวกับว่าทุกอย่างมีต้นตอมาจาก มิราจไนท์ เดิม ในความเห็นของนิค ทีมอเวนเจอร์สจะต้องได้รับ โทนี่ บรรจุเข้าร่วมทีม อย่างเเน่นอน เเต่ในปัจจุบัน มีเพียงเเค่กัปตันอเมริกาเพียงเท่านั้นที่เป็นคนเดียวที่รั้งอยู่


 


ถูกต้องเเม้โทนี่จะไม่ได้เปิดเผยการร่วมมือกับมิราจไนท์เเต่นั่นก็เเสดงให้นิคเห็นบางอย่าง พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเรื่องที่ มิราจไนท์ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องมรดกพ่อของโทนี่ ดังนั้นโทนี่จึงค้นพบองค์ประกอบธาตุใหม่เเละสามารถเเก้ไขพิษพาลาเดียมได้


 


การเคลื่อนไหวในเงามือของมิราจไนท์ ส่งผลต่อนิคโดยตรง ทีมอเวนเจอร์สที่ควรก่อเป็นรูปร่าง ได้หยุดชะงักลงเพราะมีสมาชิกนำทีมเพียงเเค่กัปตันโรเจอร์ส ในอุดมการณ์ของนิค ทีมอเวนเจอร์ส ไม่ใช่ทีมที่เป็นของกัปตันอเมริกา เเต่เป็นทีมของ S.H.I.E.L.D. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว การดึงตัวโทนี่ เข้าร่วมทีม จะสร้างผลประโยชน์ได้มากที่สุด


 


ตอนนี้ โทนี่ ไม่ได้เข้าร่วมทีมอเวนเจอร์ส สถานะของเขาเพียงเเค่ร่วมมือกันเพียงเท่านั้น เเละทีมอเวนเจอร์สในปัจจุบันถูกนำโดยกัปตันโรเจอร์ส ดังนั้นเเผนของนิคจึงค่อนข้างผิดเเปลกไปจากเดิม เเน่นอนว่าเขาได้รับเเรงกดดันจากสภาความมั่นคงของโลกอย่างหนักหน่วง


 


นิคจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏภาพเนื้อหาส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็น ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก,กัปตันอเมริกา สตีฟ โรเจอร์ส ทีมX-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ คนอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถระบุตัวตนได้ เเต่ยังมีบุคคลนึงที่ลึกลับเเละมีข้อมูลประมวลผลที่น้อยที่สุด หรือก็คือทุกอย่างล้วนเป็นเครื่องหมายคำถาม


 


“มิราจไนท์ คุณเป็นใครกันเเน่?”เครื่องหมายคำถามนี้หมายถึงไม่สามารถระบุข้อมูลอะไรได้เลยไม่ว่าจะเป็นเพศอายุหรือสถานะ ต่าง ๆ


 


นิคได้ตรวจสอบความจริงเรื่องนี้เเละกำลังสงสัยความสัมพันธ์ของโทนี่กับเเจ็คสัน บางที เเจ็คสันอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับมิราจไนท์ เเต่นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐาณยังไม่มีหลักฐานมากพอจะเชื่อมโยง


 


นิคได้ติดตามรายละเอียดการเคลื่อนไหวเเละข้อมูลของเเจ็คสันตลอดกระทั่งเรื่องในโรงเรียน ค่าเฉลี่ยคะเเนน สอบของเขาสูงมาก เเม้ว่า เเจ็คสันจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำการทดลองกับโทนี่ก็ตาม เเต่นิคก็เชื่อว่าพรสวรรค์สามารถทดเเทนเรื่องนี้กันได้ เรื่องที่เเจ็คสันอาจเป็นผู้เกี่ยวข้องกับมิราจไนท์ ยังไม่หายไปจากใจของนิค นั่นก็ทำให้ข้อสันนิษฐานอีกอย่างของนิคก็คือ มิราจไนท์ ควรจะเป็นบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 เเม้จะเป็นการสันนิษฐานที่ดูไร้ประโยชน์เเต่ก็ถือเป็นก้าวเเรกในการสืบข้อมูล


 


ขณะเดียวกันนิคก็ให้ความสนใจกับข้อมูลของพวกไฮดร้าที่บุกโจมตีพ่อกับเเม่ของเเจ็คสันมันอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่าสงสัย เเต่ เเจ็คสัน ก็ให้ข้อมูล เรื่อง ทำการทดลองกับ โทนี่ มันอาจจะเป็นการให้คำอธิบายที่เหมาะสมที่สุดเเล้วก็ได้


 


นอกเหนือจากเรื่องการคาดเดาเเล้ว นิค ก็สนใจข้อมูลอาวุธรุ่นพัฒนาของชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ มันเป็นอาวุธจำลองเวทมนตร์ที่โทนี่สร้างขึ้น เมื่อเทียบกับอาวุธธรรมดา ย่อมร้ายกาจกว่าหลายเท่า นิค ไม่เเปลกใจ ที่โทนี่จะสามารถสร้างเจ้านี่พร้อมกับปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะอย่าง J.A.R.V.I.S. ได้


 


เเต่ที่สำคัญก็คืออาวุธของพวกไฮดร้ากลับร้ายกาจกว่าหลายเท่า การรวมทีมของ ทีมพันธมิตรผู้ทักษ์ เเละ ทีมX-MEN ถูกอาวุธที่ไร้สามัญสำนึกกดดันจนเเทบพ่ายเเพ้ ในมุมมองนี้ ถือว่า เป็นเรื่องสำคัญร้ายเเรงที่นิคจะต้องรีบเตรียมพร้อมให้มากที่สุด


 


หากไม่ได้การรวมทีมที่มีเเกนนำคือทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ศึกปะทะกับพวกไฮดร้าคราวก่อนอาจเป็นการที่ฝ่ายพวกเขาถูกบดขยี้เพียงฝ่ายเดียว


 


“ทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สในตอนนี้ถึงเเม้จะอ่อนเเอ เเต่ฉันเชื่อว่าในอีกหลายปีข้างหน้าพวกเราจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างเเน่นอน”ในนิมิตของนิคเขามองเห็นขุมกำลังอันดับหนึ่งที่สามารถจัดการศัตรูได้ทุกรูปแบบ เขาถอนหายใจออกมาด้วยความหวัง


 



 


ในขณะที่นิคกำลังทำงานอย่างหนักในการค้นหาข้อมูลเบาะเเสต่าง ๆ ของพวกไฮดร้า,ภายในฐานไฮดร้าในปัจจุบัน เร้ด สกัลล์ กำลังดำเนินการบางอย่าง


 


เหตุต่อสู้เมื่อวานทำให้ เร้ด สกัลล์ ฉุดคิดบางอย่าง ถึงความไม่เสถียรของพลังได้ดังนั้นเขาจึงได้ทำการทดลองบางอย่างภายในห้องลับเเห่งนึง


 


ณ ใจกลางห้อง มีจัตุรัสยักษ์อยู่ในตำเเหน่งศูนย์กลาง เเละ ตำเเหน่งศูนย์กลางเหล่านี้ก็รายล้อมไปด้วยนักวิจัยจำนวนมาก พวกมันกำลังประมวลผลลูกบาศก์เวทมนตร์กันอยู่ ทันทีที่เครื่องถูกทำงานประจุไฟฟ้าจำนวนมากได้ถูกปลดปล่อยออกมา


 


ภายในห้องขอบสี่เหลี่ยมจัตุรัสนี้ เร้ด สกัลล์ ได้นั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองไปที่การทดลองด้านหน้า ใบหน้าติดกระดูกของ เร้ด สกัลล์ ทำให้หน้าตาของเขาดูหน้ากลัวอย่างมาก ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดมากกว่านิคในปัจจุบันหลายเท่า


 


“กว่า 60 ปี ที่เราไม่สามารถหาความลับของลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ เเต่ดูเหมือนประตูเเห่งความลับได้เปิดเเง้มบางส่วนเเล้ว!”เร้ด สกัลล์ จ้องมองไปที่ ด้านหน้า เเละ กล่าวกระซิบ


 


“การใช้พลังของลูกบาศก์เวทมนตร์ในครั้งต่อไปคงจะมีการเปลี่ยนเเปลงบางอย่างบ้าเเล้วเเต่มันจะดีกว่าหากเราสามารถเเก้ไขความลับของมันได้เร็วที่สุด”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม