Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล 345-351

ตอนที่ 345

 

ฟ้าว! ~~


 


สองสัปดาห์ต่อมารัฐเท็กซัส ศูนย์กลางของเมืองที่เป็นที่ไม่ค่อยรู้จัก อาคารสูงเเห่งนึง ผู้คนรอบนอกต่างได้ยินเสียงบานกระจกถูกทำลายเเละเหมือนตัวตึกจะมีการระเบิดขึ้น


 


“ไฟไหม้!”


 


“ไฟไหม้!”


 


“นั่นมันตึกของเรโนลต์!”


 


จู่ๆ อาคารเเห่งนั้นก็เกิดอุบัติเหตุ หลายคนต่างตะโกนออกมาด้วยความกังวลพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมโทรหาตำรวจ ที่น่าเเปลกใจก็คือ คนท้องถิ่นเรียกสถานที่เเห่งนี้ว่าอุตสาหกรรมเรโนลต์


 


ฟุ่บ~


 


อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้เตรียมจะรายงานตำรวจหรือหน่วยกู้ภัยพวกเขาก็เห็นทีมของรัฐบาลที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีทำการล้อมรอบตัวตึกเเห่งนี้


 


พวกเขารู้สึกสงสัยว่าทำไมคนของหน่วยงานรัฐถึงมาได้รวดเร็วเเม้จะดีใจเเต่ก็ยังคงเคลือบเเคลงด้วยความกังวล


 


ดูเหมือนทีมของหน่วยงานรัฐนี้จะเริ่มต้นล้อมรอบเเละจัดการเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นพร้อมเขากำชับคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไปจากพื้นที่ในทันที


 


ปั้ง


 


จากนั้นตัวอาคารก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงของฝูงชนภายนอกต่างเอะอะกันยกใหญ่


 


ภายใต้สายตาของคนเหล่านี้พวกเขาเห็นเงาร่างนึงกระโดดออกมาจากหน้าต่าง เมื่อคิดว่าเงาร่างนี้จะตกเเต่ เขากลับดูเหมือนจะลอยกลางอากาศได้ ทั้งลักษณะของเขามันทำให้มองเห็นยากสืบเนื่องด้วยเพราะมีเหตุควันไฟลอยฟุ้ง


 


“นั่นใครกัน?ยอดมนุษย์?!”


 


“โอ้,ฉันต้องตาฟาดไปเเล้วเเน่!”


 


เงาร่างนั้นราวกับหลุดมาจากภาพยนตร์นี่ทำให้เหล่าคนมุงรอบนอกต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ


 


พวกเขากำลังนึกสงสัยอยู่ว่านี่เป็นการถ่ายหนังภาพยนตร์หรือไม่เหตุระเบิดเเละรีเเอ็คชั่นของเงาร่างนั้นค่อนข้างเล่นได้สมบทบาทอย่างมาก


 


“ระวัง!”


 


“มันกำลังจะระเบิดอีกครั้ง”


 


พวกคนมุงที่เห็นเงาร่างนั้นตกลงมาถึงพื้นเสร็จจากนั้นเหตุระเบิดระลอกสองก็ระเบิดขึ้นภายใต้การคาดเดาของคนเหล่านี้ เงาร่างนั้นจะต้องไม่รอดอย่างเเน่นอน


 


อย่างไรก็ตามเเม้เหตุระเบิดเเละเปลวเพลิงจะปกคลุมไปทั่วพื้นที่เเต่พวกเขาก็ยังเห็นเงาร่างสีดำที่ดูเหมือนจะถืออาวุธในมือ พริบตาต่อมาเเสงสีม่วงเเพรวพราวก็ปรากฏขึ้นสะท้อนนัยน์ตาของพวกเขา


 


เหล่าคนมุงจ้องมองไปหวังว่าจะเห็นลักษณะของคนคนนั้นอย่างชัด ๆ พวกเขาตัดสินใจได้เเล้วว่านี่ไม่ใช่การเเสดงหนังอย่างเเน่นอน เพราะเหตุระเบิดนั่นเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ที่โดนจะรอดชีวิตได้เเม้จะเป็นสตั้นเเมนมืออาชีพก็ตาม ขณะที่พวกเขากำลังคาดหวังอยากรู้ว่าตัวตนนั้นคือใคร รังเเสงสีม่วงก็วาดผ่านไปที่ตัวตึกจนสามารถฟันพื้นที่ด้านหน้าเเยกออกจากกันได้


 


“นั่นมันอะไร…?”


 


“รังเเสงสีม่วงนั่นมันคืออะไรกัน?”


 


พวกเขาราวกับเห็นภาพมายาที่มนุษย์ไม่อาจทำได้เเสงสีม่วงนั้นราวกับสามารถผ่าเเยกได้ทุกสิ่งจนในที่สุดควันก็เริ่มจางลงเรื่อย ๆ จนคนมุงรอบนอกสามารถสังเกตุเห็นลักษณะของเงาร่างสีดำ


 


“นั่นมัน มิราจไนท์ ! ไม่คิดว่ามิราจไนท์จะมาที่นี่ ! ฮีโร่จากนิวยอร์ก!”ในที่สุดก็มีคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นมันได้กระตุ้นต่อมความอยากรู้ของคนอื่น ๆ เหมือนกัน


 


“มิราจไนท์ ? ใครกันล่ะนั่น?”


 


“มิราจไนท์ !? เป็นเขาจริงงั้นหรอ?”


 


“ใช่ มิราจไนท์ จริง ๆ “


 


หลังจากคนตะโกนออกมาเหล่าผู้ที่อยู่โดยรอบต่างก็เอะใจ เเม้จะมีบางคนไม่รู้จักเเต่คนในพื้นที่ส่วนมากต่างก็ได้ยินวีรกรรมของมิราจไนท์ พวกเขารีบบอกเล่าเรื่องราวในทันที ว่ามิราจไนท์ : ฮีโร่จากนิวยอร์ก


 


นอกจากนี้จะมีคนบางคนไม่รู้จักมิราจไนท์ก็ไม่เเปลก เพราะ เเจ็คสัน ได้เคลื่อนไหวในนิวยอร์กส่วนใหญ่ ทั้งยังเป็นพื้นที่บางเเห่ง เเต่รัฐเท็กซัส เอง ก็ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากนิวยอร์ก ดังนั้นหากใครในสถานที่เเห่งนี้จะไม่รู้จักเขาก็ไม่เเปลก


 


ทันทีที่ยืนยันได้ว่าเป็นมิราจไนท์คนจำนวนมากหยิบกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอย่างตื่นเต้นพร้อมส่งผ่านไปยังเว็บไซต์ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ด้วยอัตราการเข้าชมเเละบรรดาเเฟนคลับจำนวนมาก คลิบนี้จะต้องได้ยอดไลค์เยอะอย่างเเน่นอน ทั้งยังเป็นการโปรโมททีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ให้โด่งดังยิ่งขึ้น


 


ตั้งเเต่ สกาย’อาย เข้าร่วม ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ บรรดาเเฟนคลับ เเละ เหล่า เเฟน ๆ ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า สกาย’อาย สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดึงดูดสายตาเเละเป็นที่น่าจับตามองของกลุ่มใครหลายคน


 


เพราะทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ต่างก็รวมไปด้วย เหล่าฮีโร่ ขวัญใจของผู้คน


 


ขณะที่พวกผู้คนกำลังนึกดีใจกันอยู่ เหตุผลที่เเจ็คสันมาที่นี่ ก็เพราะเขาได้ผสานงานกับ S.H.I.E.L.D. ในการซุ่มโจมตีฐานพวกไฮดร้า ในรัฐเท็กซัส เเจ็คสันไม่คาดคิดเลยว่า หลังจากเขาบุกเข้าไปป เขาก็ต้องเผชิยหน้ากับมิวแทนท์ระดับ 4 ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเสียเวลาอยู่ข้างในพอสมควร


 


จากนั้นเเจ็คสันก็ลงมือจัดการศัตรู เขาเเทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บกลับมา หากจะว่าโชคร้ายก็คงเป็นอาคารเเห่งนี้ที่ระเบิดภายใต้การโจมตีของมิวแทนท์ตัวนั้น


 


โชคดีที่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีพวกกองกำลังหลักของพวกไฮดร้ามากไม่งั้นเเม้เเต่เเจ็คสันก็ยังคงลำบาก เเต่ก็มีสิ่งนึงที่เเจ็คสันจำได้ขึ้นใจ พวกไฮดร้าดูเหมือนจะซุกซ่อนกองกำลังเอาไว้มากมาย


 


การซุ่มโจมตีฐานในครั้งนี้ ก็เพราะได้รับข่าวสารจาก S.H.I.E.L.D. มา ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เเบ่งทีมจัดการฐานของพวกไฮดร้าไปเเล้ว 3 เเห่ง ไม่คาดคิดว่าข่าวสารของ พวก S.H.I.E.L.D. จะไวขนาดนี้ เเต่ที่โชคร้ายก็คือฐานเเห่งนี้ไม่มีตัวบุคคลสำคัญของพวก ไฮดร้าอยู่


 


“นี่ก็เป็นฐานที่สี่เเล้ว ,พวก ไฮดร้า มาดูกันว่าพวกเเกจะมัวซ่อนตัวอีกนานเเค่ไหน”เเจ็คสันสบทในใจก่อนที่จะจ้องมองไปที่ซากปรักหักพังของตัวตึก

 

 

 


ตอนที่ 346

 

ฟู่วว~~


 


ในขณะที่เเจ็คสันจ้องมองไปที่ซากปปรักหักพัง ทีมที่รับผิดชอบในการผสานงานกับมิราจไนท์ ของ S.H.I.E.L.D. ก็รีบวิ่งเข้ามา จากนั้นพวกเขาก็จัดการพวกลิ่วล้อของพวกไฮดร้าที่กำลังหลบหนีเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะจัดการได้อย่างรวดเร็วเพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีความเเข็งเเกร่งที่สูงนัก


 


“มิราจไนท์ ต้องขออภัยด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเราทำให้คุณต้องเสี่ยงเเล้ว!”เจ้าหน้าที่วัยกลางคนกล่าวขอโทษมิราจไนท์ทันที


 


การเคลื่อนไหวทำลายฐานไฮดร้าในตึกเรโนล์ด ครั้งนี้ เเม้พวกเขาจะเตรียมการกันมาก่อนเเต่ก็เป็นเหตุฉุกเฉิน หลังจาก S.H.I.E.L.D. ได้รับข่าวก็เคลื่อนตัวบุกทันที พวกเขาได้รีบติดต่อ มิราจไนท์ ไป เพื่อที่จะยืมความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ เเต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่า มิราจไนท์จะต้องเผชิญหน้ากับ มิวแทนท์ระดับ 4 ด้วยตัวคนเดียว นี่เป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจประเมินได้


 


“ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ขอเพียงกำจัดพวกไฮดร้าออกไปจากโลกนี้ได้ ฉันก็พร้อมจะเสี่ยงอยู่เเล้ว”เเจ็คสันกล่าวตอบ หากเขาไม่มาด้วยไม่รู้ว่าจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายในเเผนการครั้งนี้มากเเค่ไหน


 


“ขอบคุณมิราจไนท์ หากไม่ได้คุณ พวกเราคงบาดเจ็บเเละสูญเสียกองกำลังจำนวนมากจากการรับมือกับมิวแทนท์ตนนี้”เจ้าหน้าที่วัยกลางคนกล่าวตอบ


 


S.H.I.E.L.D. ยังคงให้ความสำคัญกับตัวตนของมิราจไนท์อยู่ เเน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นการเปลี่ยนเเปลงมากที่สุดก็คือความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ในช่วงเวลาเพียงครึ่งปี ตัวตนของมิราจไนท์ สามารถรับมือกับมิวแทนท์ที่เหนือกว่าระดับ 3 ได้ด้วยตัวคนเดียว


 


ใน S.H.I.E.L.D. นั้นมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เป็นพิเศษ พวกเขารู้ดีว่า มิราจไนท์ไม่ได้เก็บออมความเเข็งเเกร่งเอาไว้ เเต่มันเป็นพัฒนาการในช่วงเวลากว่าครึ่งปี ความสามารถของเขาพัฒนาอย่างน่ากลัวจริง ๆ


 


“เอาล่ะ เรื่องเคลียร์พื้นที่ตรงนี้ ฉันขอฝากด้วยล่ะ ฉันขอตัวกลับก่อน”เเจ็คสันไม่ต้องการจะรั้งอยู่ที่นี่ต่ออีกเขาขอตัวกลับ


 


ทันใดนั้นหัวหน้าของ S.H.I.E.L.D. ก็จ้องมองไปที่ มิราจไนท์ ที่เดินจากไป”ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขาจะเเค้นพวกไฮดร้ามากคงจะเป็นเรื่องจริง”


 


ฟุ่บ!


 


เเจ็คสันได้กล่าวลาก่อนที่จะโดดขึ้นยานบินเเละหายตัวไปจากพื้นที่เเห่งนี้ทันที


 


เห็นมิราจไนท์จากไป คนของ S.H.I.E.L.D. ก็เริ่มเก็บกวาดพื้นที่สนามรบในครั้งนี้ ชัยชนะในครั้งนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขอีกครั้ง เพราะว่าความคืบหน้าในการกำจัดพวกไฮดร้านับว่าเป็นรูปเป็นร่างเเล้ว


 


เเจ็คสันหลังจากบรรลุภารกิจของเขา ธรรมชาติเขาจะไม่ขี่ยานบินกลับไปนิวยอร์ก เพราะสถานที่เเห่งนี้ค่อนข้างห่างไกลอย่างมาก เเละความเร็วก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับชุดเกราะไอรอนแมนเลย ดังนั้น เขาจึงบินไปที่ ฐานของ S.H.I.E.L.D. เพื่อขอให้พวกเขาใช้ควินเจ็ท ส่งเขากลับไปนิวยอร์ก


 


วันนี้นอกเหนือจากสถานที่ของเเจ็คสันเเล้วในเมืองเเคนซัสบางเเห่งก็เกิดเหตุปะทุขึ้น นี่เป็นฝีมือของกปตันโรเจอร์ส ในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ของ S.H.I.E.L.D. เเละทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้ร่วมมือกัน ดังนั้นเเผนการกวาดล้างพวกไฮดร้าจึงสำเร็จเร็วกว่าเดิม


 


นิคได้ให้ข้อมูลทุกอย่างกับมิราจไนท์ ตราบเท่าที่พวกเขาร่วมมือกัน เเน่นอนว่าองค์กรไฮดร้า จะต้องถูกกำจัดไม่ช้าก็เร็ว นอกจากนี้ นิค ยังต้องการความร่วมมือจาก ทีม X-MEN เเต่เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายยังไม่เปิดใจให้กับเขา ทั้งจุดยืนของพวกมิวแทนท์ก็ยังเเตกต่างในสังคมอย่างมาก ดังนั้น นิค จึงจะใช้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เป็นสื่อกลางในครั้งนี้


 


ภายใต้การตรวจสอบของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ นั้นสมาชิกพวกไฮดร้าต่างถูกค้นพบมากขึ้น เเละ ก็จบด้วยการบุกทำลายของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ S.H.I.E.L.D.


 


เเผนการกวาดล้างพวกไฮดร้าดำเนินไปอย่างไม่หยุดหย่อน ภารกิจเควสของเเจ็คสันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภารกิจของเขาก็ฝ่าฝันไปได้มากถึง 70% เหลือเพียง 30% เพียงเท่านั้น เเต่ 30% ที่ว่านี่ย่อมเป็นส่วนที่น่าเกรงขามที่สุดของพวกไฮดร้าอย่างเเน่นอน


 



 


ด้วยการผสานงานของ S.H.I.E.L.D. ,ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีม X-MEN พวกไฮดร้า ที่หลบซ่อนตัวย่อมไม่สามารถทนได้ โดยเฉพาะพวกสมาชิกระดับสูงที่หลบซ่อนตัว ยิ่งพวกเขาได้เห็นองค์กรของตัวเองจัดการไปมากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น


 


ทางทิศตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ในชานเมืองอันห่างไกล ห้องประชุมลับในฐานใต้ดินของพวกไฮดร้า


 


ปั้ง!


 


“ไอ้พวก,S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ พวกมันชักจะเหิมเกริมเกินไปเเล้ว! โดยเฉพาะมิราจไนท์ ฉันอยากจะฉีกมันเป็นชิ้น ๆ “คนที่เพิ่งทุบไปก็คือนายพลรีส เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก


 


เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาได้รับข่าวที่องค์กรไฮดร้าของเขาถูกตามเก็บกวาดทำให้ ผิวของเขารู้สึกย่ำเเย่มาก สถานการณ์ของไฮดร้าในตอนนี้กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ เเต่ไม่คาดคิดว่าพวกมันจะเจอโพรงที่พวกเขาหลบซ่อนตัวกัน


 


เห็นนายพลรีสเดือดดาลผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงดังออกมา ครั้งก่อนเป็นเขาที่ปล่อยโอกาสให้ เเจ็คสันหนีไป หากเขายืนยันตามความคิดของนายพลรีสเเต่เเรก มิราจไนท์ ก็คงไม่อยู่จนถึงตอนนี้


 


ดังนั้นผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ จึงนั่งอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ออกความเห็นใด ๆ


 


“พวกเราต้องเริ่มตอบโต้พวกมันบ้างเเล้ว หากไม่เเล้ว โลกนี้จะไม่เหลือที่พักพิงสำหรับเราอีก!”ชายวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามนายพลรีสกล่าวขึ้น


 


“คิดว่าฉันไม่อยากทำหรืออย่างไร?เเต่นายมีเเผนที่จะสามารถรับมือกับพวกมันได้?”ได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน นายพลรีสไม่ได้ชื่นชมความคิดนี้


 


เเม้ว่าอิทธิพลของพวกไฮดร้าจะสูญเสียหนักไปในช่วงหลายสัปดาห์มานี้เเต่บุคคลสำคัญของพวกเขาก็ยังคงรักษาเอาไว้ เเต่การสูญเสียพวกทหารปลายเเถวพวกนี้ไปจำนวนมากจะทำให้อิทธิพลของพวกเขาตกต่ำลง


 


“เรื่องนี้…”เห็นการสอบสวนของนายพลรีส ชายวัยกลางคนต้องการจะพูด เเต่ก็ต้องหยุดลง


 


ชี่~~


 


หลังจากที่ชายวัยกลางคนคนนั้นหยุดกล่าวทั้งห้องก็พลันเงียบสงบราวกับว่าพวกเขากำลังรอใครบางคน เเน่นอนว่าผู้ที่เข้ามาอยู่ในห้องเเห่งนี้ได้มีเเต่พวกระดับสูงของไฮดร้า ดังนั้น สายตาของคนหลายคนในห้องประชุมได้เปลี่ยนทิศทางไปยังทางเข้า


 


เเอ๊ดด~


 


ภายใต้สายตาของคนหลายคนประตูเหล็กหนาได้ถูกเปิดขึ้น จากนั้นก็มีคนบางคนก้าวเข้ามาเขาสวมรองเท้าเเดงที่เด่นสะดุดตา

 

 

 


ตอนที่ 347

 

ตึก ตึก~~


 


บุคคลนิรนามที่สวมใส่รองเท้าบู๊ทสีเเดงได้เดินเข้ามาในพื้นที่ห้องประชุมระดับสูงขององค์กรไฮดร้า ในเวลานี้ นายพลรีส เเละ เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ต่างได้ลุกยืนขึ้น


 


“เร้ด!~…ท่าน เร้ด สกัลล์!”เห็นบุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นหลายคนภายในห้องต่างก็พูดติดอ่างกันในทันทีเห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกตะลึงกับการปรากฏตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงของไฮดร้าคนนี้มาก


 


เร้ด สกัลล์! ชื่อนี้เป็นชื่อที่ กัปตันโรเจอร์ส หรือ สตีฟ เคยเผชิญหน้าด้วย ก่อนหน้านี้ เขาได้จัดการชายคนนี้ไปเเล้ว เเต่ไม่คาดคิดเลยว่า เร้ด สกัลล์ ที่เป็นผู้นำของพวกไฮดร้าจะยังมีชีวิตอยู่


 


เเม้ว่าบุคคลที่อยู่ในห้องประชุมนี้จะเป็นบุคลากรสำคัญระดับสูง เเต่พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่า บุคคลที่หายสาบสูญกว่า 60 ปี หัวหน้าขององค์กรไฮดร้า เร้ด สกัลล์ จะยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้หน้าต่างของเขายังโดดเด่นอีกด้วย เพราะรูปลักษณ์หน้าตาที่เหมือนหัวกระโหลกสีเเดงทั้งยังใส่เสื้อคลุมสีดำ เขาเหมือนคนที่ฟื้นคืนชีพจากความตาย


 


ไม่ต้องพูดถึงพวกไฮดร้า ที่เเทบจะไม่มีใครรู้ว่า เร้ด สกัลล์ ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. ที่ทำการต่อต้านองค์กรไฮดร้ามาตลอด ก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของ เร้ด สกัลล์ เเม้เเต่น้อย เเละบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขององค์กรไฮดร้าได้ปรากฏตัวขึ้นนี่อาจจะเป็นการอธิบายได้ว่าองค์กรไฮดร้าจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง


 


“ท่าน เร้ด สกัลล์ !”นายพลรีสเดินไปที่ด้านหน้าของ เร้ด สกัลล์ เเละโค้งคำนับในทันที


 


“ท่าน เร้ด สกัลล์ “ภายใต้การเคลื่อนไหวของนายพลรีส ตัวตนระดับสูงของไฮดร้าคนอื่น ๆ ก็ทำตามเเละกล่าวตะโกนอย่างเร่งรีบ


 



 


เผชิญหน้ากับการต้อนรับเช่นนี้ เร้ด สกัลล์ ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ เขาเพียงยืนนิ่งสงบ เเละ จ้องมองไปที่กลุ่มคนเหล่านี้ ด้วยนัยน์ตาสีเเดงเลือด ราวกับว่าเขาต้องการสำรวจกลุ่มคนเหล่านี้


 


ฟิ้ว~


 


ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ นายพลรีส เเละ คนอื่น ๆ ไม่กล้าที่จะส่งเสียงรบกวนหรือทำลายบรรยากาศในขณะนี้เเม้เเต่การคงสภาพท่าโค้งคำนับนี้เอาไว้


 


อึก ~


 


ในที่สุดนายพลรีสเเละคนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถทนได้อีก พวกเขาต้องการจะพูดอะไรเพียงเเต่ เร้ด สกัลล์ ก็ได้ก้าวเท้าเดินจากนั้นก็ไปนั่งยังตำเเหน่งหัวโต๊ะที่ประชุม


 


ฟุ่บ~


 


เห็น เเต่ เร้ด สกัลล์ เดินไปนั่งลง นายพลรีส เเละ คนอื่น ๆ ก็เลิกโค้งคำนับพร้อมกับไปยืนยังตำเเหน่งที่เหมาะสมเพื่อเฝ้ารอดูการเคลื่อนไหวของ เร้ด สกัลล์ ต่อไป


 


“ฉันคิดว่าพวกเเกคงรู้เเล้วว่า สถานการณ์ของไฮดร้าในช่วง 60 ปีหลังมานี้ย่ำเเย่กว่าตอนที่ปกปิดตัวตนกว่า 60 ปี มากเพียงใด ในมือของพวกเเกครอบครองทรัพยากรมากมาย เเต่ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน พวกเเกกลับทำให้สถานการณ์มันเเย่ลงมาก พวกเเกมีสิ่งใดจะพูดไหม?”ด้วยลูกตาซ็อกเก็ตลึกเขากวาดสายตามองไปที่ในที่ประชุมสำรวจคนหลายคน


 


เผชิญหน้ากับ เร้ด สกัลล์ ,นายพลรีส เเละ คนอื่น ๆ จ้องมองไปที่เขาด้วยความตกใจ คนเหล่านี้ไม่กล้าที่จะอธิบายเหตุผลให้ เร้ด สกัลล์ ฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาบอกว่า โดนพวก S.H.I.E.L.D. จัดการจนย่อยยับ นี่คงจะเป็นผลเสียอย่างมาก เพราะ องค์กรไฮดร้าได้เปิดฉากต่อสู้กับองค์กร S.H.I.E.L.D. มาอย่างยาวนาน


 


เเต่มันก็เลี่ยงไม่ได้เพราะนี่เป็นความจริง S.H.I.E.L.D. ได้ค้นพบฐานลับของพวกไฮดร้า จากนั้นก็ส่งกองทัพซุ่มโจมตี พวกมันทำลายความสงบสุขของพวกเขา ทั้งยังทำให้กองกำลังของพวกเขาต้องสูญเสียอย่างหนักหน่วง


 


โดยเฉพาะ S.H.I.E.L.D. ที่ถูกเเปลงโฉมขึ้นใหม่ภายใต้การนำของ นิค,นิค ต้องการจัดตั้งพันธมิตรอเวนเจอร์ส ในการรวบรวมกำลังคนหรือยอดมนุษย์ที่เเข็งเเกร่ง มาเพื่อต่อต้านองค์กรชั่วร้ายอย่างไฮดร้า เเผนการก่อตั้งทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สนั้นหากสำเร็จ จะช่วยลดอัตราการสูญเสียบุคลากรของกองทัพอย่างมาก


 


ตอนนี้ S.H.I.E.L.D. ได้ร่วมมือกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ,ทีม X-MEN โดนการร่วมกำจัดพวกไฮดร้าด้วยกัน เเละ นับวัน องค์กรไฮดร้าก็ยิ่งอ่อนเเอลงเรื่อย ๆ ดังนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของ เร้ด สกัลล์ จึงไม่มีใครกล้าพูดโต้เเย้ง ใด ๆ


 


“ไม่มีงั้นหรอ?ฉันคิดว่าพวกเเกต้องมีอะไรจะพูดเเน่นอน เริ่มจากเเกก่อนเลย เจฟเฟอร์รี่ ?”เร้ด สกัลล์ หลังจากจ้องมองไปที่บุคคลหลายคนเขาก็หยุดที่ เจฟเฟอร์รี่ เเละ พูดขึ้น


 


“ท่าน เร้ด สกัลล์! เอ่อ…ฉัน?”ได้ยินคำถามของ เร้ด สกัลล์ เจฟเฟอร์รี่ พูดอย่างติดขัด ก่อนที่จะเดินไปข้างหน้าเพื่อตอบสนอง


 


“ไม่ต้องกังวลไป ฉันมีของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะให้เเกก่อนที่เเกจะพูด”มองไปที่ เจฟเฟอร์รี่ ,เร้ด สกัลล์ พูดเบา ๆ


 


ได้ยินของขวัญเช่นนี้ของ เร้ด สกัลล์ เเน่นอนว่า ใบหน้าของ ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ย่อมไม่ได้เเสดงออกถึงความสุข มันเป็นใบหน้าที่สิ้นหวังอย่างมาก


 


“ท่าน เร้ด สกัลล์,ฉัน…”


 


ปั้ง


 


เพียงเเต่ในขณะที่ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ไม่รู้จะอธิบายอะไรเขาได้เงยหน้าขึ้นเเละทันใดนั้นเองเขาก็เห็นปลายกระบอกปืนพกเล็งมาที่ตัวเขาก่อนที่กระสุนนึงนัดจะถูกยิงออกมาเข้าที่กลางอกของตัวเอง


 


จุ๋ม~


 


หลังจากที่ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ล้มไปด้วยกระสุนนัดเเรกที่เข้ากลางอกกระสุนนัดที่สองก็ถูกยิงซ้ำที่ศีรษะอีกครั้งจนเลือดสีเเดงได้ไหลเป็นทางยาว


 


ทันทีที่เป่าศีรษะของผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่เสร็จ เร้ด สกัลล์ ก็เป่าปากกระบอกปืน เมื่อไม่นานมานี้ เร้ด สกัลล์ ได้รู้ข่าว ว่า ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ได้ทำผิดพลาดเเละ ทำให้ มิราจไนท์ หลุดมือไป หลังจากนั้น ก็เกิดผลเสียที่ติดตามกันมา เเน่นอนว่าในตอนนี้ เร้ด สกัลล์ ย่อมรู้สถานะที่เเท้จริง ของ เเจ็คสัน


 


“ตอนนี้ฉันมีภารกิจให้พวกเเกทำ”เร้ด สกัลล์ ลูบปืนพกของตัวเองก่อนที่จะมองไปที่กลุ่มคนเหล่านี้ที่เบื้องหน้าของเขา


 


“เชิญสั่งการมาได้เลย,ท่าน เร้ด สกัลล์!”


 



 


การปรากฏตัวของ เร้ด สกัลล์ ไม่มีใครรู้นอกจากคนในห้องนี้ เพราะเเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. หรือ เเจ็คสัน ก็ยังไม่รู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ เเม้เเต่สตีฟ ที่มีเซรุ่มซูเปอร์โซลเดอร์ ในร่าง หากเขามีอายุ 90 ปี โดยที่ไม่ได้ถูกเเช่เเข็งในน้ำเเข็ง เขาก็ไม่มีทางที่จะดูสุภาพเเข็งเเรงเหมือนกับ เร้ด สกัลล์ ในตอนนี้


 


 


ดังนั้น S.H.I.E.L.D. ที่กำลังวางเเผนเตรียมการรับมือในการกำจัดพวกไฮดร้า พวกเขาคงจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการสวนกลับของพวกไฮดร้า ในไม่ช้าเมื่อถึงเวลาใครจะรู้ว่าอสรพิษที่ฟื้นคืนชีพกลับมาจากความตายตัวนี้จะทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากเเค่ไหน

 

 

 


ตอนที่ 348

 

ตั้งเเต่ที่ทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ S.H.I.E.L.D เเละ ทีม X-MEN ร่วมมือในการจัดการพวกไฮดร้า สองสัปดาห์ผ่านไป ทำให้ความก้าวหน้าในเควสภารกิจของเเจ็คสัน พุ่งสูงถึง 77%


 


เเต่ในช่วงสองสัปดาห์ของการซุ่มโจมตีทำให้เเจ็คสันรู้สึกค่อนข้างเพลียอย่างมาก ดูจากรายงานที่ศาสตราจารย์ชาร์ลสได้ให้ไว้ เเจ็คสันได้ปรับเเผนการเเละต้องการจะพักผ่อน ในวันนี้ เขาต้องการไปเยี่ยมดู งาน ของ ธอร์


 


ครั้งก่อนเขาได้จัดให้ธอร์ทำงานอาสาสมัคร ในที่สุด เเจ็คสันก็มองหางาน เลี้ยงสุนัขจรจัดได้ เขาเชื่อว่างานนี้ อาจจะช่วยฝึกฝนทำให้ธอร์มีวินัยมากขึ้น ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เเจ็คสัน ก็ได้ขับรถจิ๊ปของเขาไปที่สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัด


 


โฮ่ง! เเฮ่ก ๆ !~~


 


เเฮ่ก ๆ เเฮ่ก ๆ ~~~~


 


ทันทีที่เเจ็คสันถึงจุดหมายปลายทางเขาก็ได้ยินเสียงสุนัขร้องหรือเห่าออกมา เขาคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นการต้อนรับผู้มาเยือนจากเหล่าสุนัขพวกนี้ก็เป็นได้


 


“เห้,เจ้าหมาน้อย อย่าเลียซิ เเกกำลังทำให้ฉันตัวเปื้อนน้ำลายไปหมดเเล้ว!”


 


“เอ้า,ไปวิ่งเล่นเเถวนู้นไป!”


 


เเจ็คสันเห็นฝูงสุนัขที่มาต้อนรับ จากนั้นเขาก็ยื่นเเลกเปลี่ยนบัตรเเละถามพนักงานเเถวนั้นเกี่ยวกับธอร์ ดูเหมือนธอร์จะได้รับมอบหมายงานเเล้ว เเจ็คสัน เองก็อยากจะรู้ว่า เจ้าชายเเอสการ์ดผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ จะมีสีหน้าท่าทีอย่างไรในขณะที่ทำงาน


 


“เห้อ,นี่มันคราวซวยของข้าเเล้วกระมัง? ทำไมข้าจะต้องได้รับหน้าที่ล้างกรงเจ้าพวกตูบหน้าขนเหล่านี้ด้วย”เสียงของธอร์บ่นพึมพัมออกมา


 


ได้ยินว่าธอร์ได้รับมอบหมายงานเป็นการทำความสะอาดกรง เเจ็คสันยิ้มออกมา ขณะเดียวกันธอร์ที่กำลังล้างกรงอยู่เขาก็เช็ดไปตามพื้นที่จนเหลือบไปเห็นเงาของบุคคลที่หน้าประตู


 


“เเจ็คสัน? เจ้ามาตั้งเเต่เมื่อไหร่?”หลังจากวิเคราะห์เงานั้นว่าคือเเจ็คสัน ธอร์ รู้สึกมี ความสุขอย่างมาก เพราะเขาไม่ได้เห็นหน้าของเเจ็คสันกว่า สองสัปดาห์ ไม่คาดคิดว่าเเจ็คสันจะมาเยี่ยมดูงานของเขา


 


ขณะที่ธอร์รู้สึกมีความสุข ขาของเขาก็ก้าวเดินเข้าหาเเจ็คสันพร้อมกับยื่นเเขนออกมาเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการกอดทักทาย


 


ทันทีที่เห็นการเคลื่อนไหวของธอร์ สัญชาตญาณของเเจ็คสันร้องเตือนทันที เดิมเขาก็ไม่ชอบการทักทายที่เเสนอบอุ่นเช่นนี้นัก ยิ่งไปกว่านั้น ธอร์ กำลังทำความสะอาดล้างกรงอยู่ มือของเขาเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล ทั้ง เขายังไม่ได้ล้างมือ


 


ฟิ้ว!


 


 


“ฮ่าฮ่า,เจ้าก็ยังเป็นเจ้าเหมือนเคย”เห็นเเจ็คสันหลบการสวมกอดทักทายของเขา ธอร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย


 


“รู้แบบนี้ก็ยังจะทำอีก!”เเจ็คสันยิ้มกล่าวตอบ


 


เห็นสภาพในปัจจุบันของธอร์ เเจ็คสัน เชื่อว่า ธอร์คงปรับตัวทำงานในสถานที่เเห่งนี้ได้ไม่มากก็น้อย นอกจากนี้ ดูเหมือนเหล่าสุนัขจรจัดจะชอบเขาเสียด้วย


 


“เห้,สหาย เจ้ารอข้าก่อน ข้าใกล้จะทำความสะอาดกรงนี้เสร็จเเล้ว ไว้พวกเราค่อยสนทนากัน”เห็นเเจ็คสันเดินทางมาถึง ธอร์ต้องการจะอยู่สนทนากับเขา เเต่เขายังมีงานที่ต้องสะสางให้เสร็จก่อน


 


“ไม่มีปัญหา!”เเจ็คสันกล่าวตอบ เห็นธอร์มีความตั้งใจในหน้าที่การงานที่ได้รับเขาเองก็พลอยรู้สึกดีใจไปด้วย


 


“ฉันจะอยู่ที่นี่รอดูการทำงานของคุณเเหละ ทำให้เสร็จเถอะ”เเจ็คสันกล่าวเสริมเล็กน้อย


 


จากนั้นเเจ็คสันก็กวักมือเลี้ยงสุนัขตัวน้อยมาลูบเล่น เขาเองก็ค่อนข้างชอบสัตว์ขนปุกปุยเหล่านี้มาก เเต่โชคร้าย ที่เเม่ของเขา เเพ้ขนสัตว์ นั่นทำให้ เเจ็คสัน ไม่สามารถเลี้ยงสิ่งที่ชอบได้โดย เฉพาะ สุนัข


 


“เจ้ามากับข้าหน่อย!”จากนั้นธอร์ก็เก็บกวาดพื้นที่เเละทำความสะอาดพื้นที่จนเสร็จ


 


เนื่องจาอาสาสมัครมีไม่มาก ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ เเจ็คสัน มาช่วยต้อนสุนัขเข้ากรง เพราะมีสุนัขจำนวนมากอาศัยอยู่ในสถานที่เเห่งนี้ ดังนั้นจึงไม่เเปลกที่ภายในกรงจะสกปรกอย่างมาก


 


จากนั้นธอร์ก็เดินไปเก็บเครื่องมือของตัวเองเเละทำความสะอาดตัวเอง ในสายตาของเเจ็คสัน เเทบจะบรรยายถึงภาพลักษณ์เบื้องหน้าไม่ได้ หาก โลกิ รู้ว่า พี่ชาย ที่เป็นเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ เทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ได้ตกอับ ถึงขนาด จับไม้กวาด ทำความสะอาดกรงสุนัขเเล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าเขาจะทำสีหน้าเช่นใด


 


“ธอร์ ในช่วงสองสัปดาห์มานี้ ดูเหมือน คุณจะค่อนข้างคุ้นเคยกับงานเเละปรับตัวได้ดีเเล้ว”ขณะที่ธอร์กำลังทำความสะอาดตัวเอง เเจ็คสัน ได้ชวนธอร์พูดคุย


 


“ก็เรื่อย ๆ งานอาสาสมัครนี้ มีคนงานค่อนข้างน้อย ดังนั้นมันจึงเหนื่อยอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ดังนั้นมันถือเป็นประสบการณ์ในชีวิตของข้า”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวตอบเบา ๆ


 


“งั้นหรอ? ดูเหมือนว่าคุณจะยอมรับสถานะของตัวเอง ในตอนนี้ เเละปรับตัวให้เข้ากับงานได้อย่างรวดเร็ว จนฉันนั้นประหลาดใจจริง ๆ “เเจ็คสัน กล่าวพูด


 


ในขั้นต้น เเจ็คสัน เดินทางมาที่นี่ เขาเองก็หวังจะเห็นภาพลักษณ์ที่ดูท้อเเท้ของธอร์ อย่างไรก็ตาม ธอร์ กลับไม่ได้ทำเช่นนั้น เเม้เขาจะบ่นเกี่ยวกับหน้าที่ที่ได้รับ เเต่เขาก็ตั้งใจทำไม ด้วยความรับผิดชอบ เเละดูเหมือน เขาจะเริ่มคุ้นเคยกับงานด้านการทำความสะอาดกรงสุนัขนี้เเล้วด้วย ทำให้เนื้องานออกมาค่อนข้างเรียบร้อย


 


“การปรับตัวก็เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะข้า ที่ไม่สามารถกลับไปยังโลกเเอสการ์ดได้ อาจกระทั่งบางที ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกเลย”


 


“ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของข้า ขึ้นอยู่กับค่าเเรง 5,000 เหรียญ ดังนั้นข้าจึงต้องปรับตัวเเละใช้ชีวิตอยู่ที่โลกเเห่งนี้ให้ได้”ธอร์กล่าวตอบอีกครั้ง


 


เเม้ในใจของเขาจะไม่สามารถยอมรับได้ว่าตัวเองจะไม่สามารถกลับไปที่โลกเดิมได้ เเต่มันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเเปลงไปตามกาลเวลา ในช่วงสัปดาห์เเรกที่เขามาทำงาน เขารู้สึกท้อเเท้ เเละหมดหวัง เเต่พอนานเข้า เขากลับเริ่มชินชากับตำเเหน่งหน้าที่การงานหรือความเป็นอยู่ในการใช้ชีวิต


 


“อืม,ดูเหมือนคุณเองก็มีเรื่องให้ลำบากใจอยู่ไม่น้อย”ได้ยิน ธอร์ กล่าว เเจ็คสัน ย่นคิ้วทันที


 


หากจะบอกว่า ธอร์ ปรับตัว เพราะสถานการณ์มันบังคับ ก็ไม่ได้ผิดไปซะทีเดียว เพราะ ธอร์ ไม่สามารถเดินทางกลับโลก เเอสการ์ดได้ในตอนนี้ ทั้งเขาก็ยังเชื่อว่าต้องอาศัยอยู่ที่โลกเเห่งนี้เป็นเวลานาน สำหรับความคิดของเเจ็คสันเเล้ว หากธอร์มีความคิดที่จะอยู่ที่โลกเเห่งนี้อย่างสงบสุขก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี เเต่มันจะกระทบต่อ เเผนการของเขาในอนาคต


 


“นี่มันไม่ดีเลย!”เเจ็คสันบ่นพึมพัมออกมา เขาไม่มีทางยอมให้ธอร์กลายเป็นคนธรรมดาที่ประสบความสำเร็จบนโลกนี้เด็ดขาด


 


“อะไรที่ไม่ดี?”เห็นเเจ็คสันบ่นพึมพัมออกมา ธอร์ เงยหน้าขึ้นถามเขา 

 

 


ตอนที่ 349

 

ในขณะที่ธอร์ได้ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ที่โลก เเอสการ์ดในตอนนี้ก็กำลังเกิดสงครามกันอยู่ เเต่เพราะ มีโลกิกับโอดิน สถานการณ์ทางฝั่งนั้นอาจจะไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนัก ถึงธอร์จะพยายามฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเอง มันก็ยังไม่สามารถทำได้โดยง่าย


 


เเต่ไม่ว่าอย่างไร เเจ็คสัน ก็จดจำคำพูดของ โลกิได้ ,โลกิเหมือนต้องการให้เเจ็คสันช่วย ธอร์ฟื้นคืนพลังเทพของตัวเอง หากธอร์ไม่สามารถฟื้นคืนพลังตัวเองได้ ไม่มีอะไรมารับประกันว่าโลกิจะไม่โจมตีหรือวางเเผนการร้ายใดใด ไว้


 


หากเป็นเช่นนั้นเเม้จะเป็นเเจ็คสันเองก็จนปัญญา เพราะแบบนี้เขาถึงต้องการให้ธอร์ฟื้นคืนพลังของตัวเองเช่นเดียวกัน ตอนนี้พวกเขาลงเรือกันเเล้ว ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนเพียงเท่านั้น เเต่ในฐานะคู่ค้า ไม่งั้นโลกก็ต้องเฝ้ารอความตายที่คืบคลานเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน


 


“เพราะ…คุณเป็นเทพเจ้าสายฟ้า! คุณไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา! … หรือว่าคุณไม่ต้องการที่จะฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของคุณให้กลับมา?”เห็นธอร์ไม่มีปฏิกิริยากับเรื่องนี้ เเจ็คสัน ทักท้วง


 


เห็นการเเสดงออกที่ดูจริงจังของเเจ็คสัน ธอร์จ้องมองไปที่เขา ธอร์ไม่เคยเห็นเเจ็คสันร้อนรนแบบนี้มาก่อน มันทำให้ธอร์รู้สึกสงสัย


 


“เเจ็คสันข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้าคอยเตือนว่าข้าอยู่ในสถานะอะไร,อย่างไรก็ตามทำไมเจ้ากลับดูสนใจจนผิดเเปลก ตอนนี้มันสำคัญหรือที่อดีตข้าเคยเป็นเทพเจ้าสายฟ้า สุดท้ายตอนนี้ข้าก็เเค่มนุษย์ธรรมดาที่ไร้พลังดังนั้นข้าจึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ เเต่ดูเจ้าจะดูเป็นทุกข์ร้อนมากกว่าข้าเพราะอะไรกัน? “ธอร์จ้องมองไปที่เเจ็คสัน เขาตระหนักได้ทุกอย่าง


 


“ฉัน…เพราะว่า…?”ได้ยินคำพูดของธอร์เเจ็คสันไม่ได้ตระเตรียมคำพูดมา เขาไม่คิดเลยว่า ธอร์ จะเห็นอาการผิดปกติของเขาที่เเสดงออกมาอย่างลนลาน


 


“หืม? เพราะอะไร? เเจ็คสันทำไมเจ้าถึงไม่พูดต่อล่ะ?”เห็นบางสิ่งที่ดูเหมือนเเจ็คสันกำลังพยายามปิดบังเขา มันทำให้ ธอร์รู้สึกโกรธมาก เขาเดินมาที่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน เพื่อตื้อถามเขา


 


เเม้ธอร์จะดูบ้าพลังไร้สมอง เเต่เขาไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถมองออกได้ว่าเเจ็คสันมีเจตนาเเฝงบางอย่าง ธอร์ในตอนนี้ต้องการที่จะขว้าจับไหล่ทั้งสองข้างของเเจ็คสันเพื่อซักถามเขาโดยการบีบบังคับ


 


เห็นเเขนทั้งสองข้างของธอร์ที่พุ่งเข้ามาที่ไหล่ของเขาโดยไม่เจตนา เเจ็คสันเข้าใจในทันที เพราะว่าธอร์สงสัยในตัวเขา เเจ็คสันต้องการจะเพิ่มความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายของเขา เพียงเเต่ว่ามันอาจจะทำให้ธอร์บาดเจ็บได้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำ


 


“เป็นโลกิ…เพราะโลกิน้องชายของคุณ!”เเจ็คสันไม่สามารถทนต่อการถูกบีบบังคับได้ เขากล่าวตะโกนเสียงดัง


 


ฟุ่บ~


 


หลังจากตอบปัญหาของธอร์เสร็จ เเจ็คสันก็ใช้ประโยชน์ในการคลายเเขนทั้งสองข้างของธอร์ ด้วยพละกำลังของเขาในตอนนี้เเน่นอนว่าสามารถสลัดเเขนทั้งสองข้างของธอร์ได้โดยง่าย


 


ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กลายเป็นเคร่งขรึมขึ้น”โลกิ?เขาทำไม?”


 


ได้ยินชื่อของโลกิจากปากของเเจ็คสัน ทำให้ธอร์รู้สึกใส่ใจมากกว่าปกติ เพราะโลกิมักจะทำเรื่องที่ไม่ดีกับเขานั่นอาจลุกลามไปถึงเพื่อนของเขา เเม้เเต่ เจน เขาก็เชื่อว่ามันเป็นเพราะโลกิที่ทำให้เขากับเจนต้องเลิกกัน เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คาดคิดเลยว่า โลกิจะทำอะไรบางอย่างกับเพื่อนคนนี้เเจ็คสันของเขาด้วย


 


“คุณจำตอนที่โลกิมาหาคุณครั้งก่อนได้หรือไม่?หลังจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่อพาร์ทเม้นต์ของคุณฟอสเตอร์ ก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้ทิ้งคำพูดบางอย่างที่ข้างหูของฉัน”เเจ็คสันเงยหน้ามองธอร์โดยตรงเเละพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง


 


“ข้าจำได้ดี เขาต้องการทำให้ข้ารู้สึกอัปปยศในชีวิตตัวเอง เเล้วเขาพูดอะไรกับเจ้า”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวถาม


 


“โลกิบอกว่าการมาของเขาคราวนี้ก็เพื่อทำให้คุณถูกจัดการอย่างน่าสังเวชที่สุด นั่นรวมไปถึง เพื่อน พี่น้อง หรือ เเฟนสาว คนที่ใกล้ชิดคุณ พวกเขาจะถูกจัดการทั้งหมด เเละมันก็เป็นเพราะเขา ที่ทำให้คุณกับคุณฟอสเตอร์เลิกกัน”เเจ็คสันพูดด้วยความสัตย์จริง


 


ปั้ง


 


ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์เหวี่ยงหมัดไปที่กรงด้านข้างจนทำให้กรงบุบลงไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่า ธอร์จะคาดเดาถูกต้อง เหตุผลที่ เจนบอกเลิกเขา มันเป็นเพราะโลกิต้องพูดอะไรบางอย่างกับ เจนไว้ เเต่ก่อนเขาพยายามจะไม่เชื่อในความคิดนี้เเต่พอได้ยินการยืนยันจากปากของเเจ็คสันมันทำให้เขาสำนึกรู้ในที่สุด


 


“เขายังบอกอะไรเจ้าอีกหรือไม่?”ธอร์ตะโกนถามด้วยเสียงต่ำราวกับว่าจิตใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธ


 


“เขาบอกว่าเขามาหาคุณก็เพื่อขัดขวางคุณทุกอย่างรวมไปถึงการฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของคุณ เหตุผลก็เพราะเขาต้องการให้คุณถูกเนรเทศอยู่ที่โลกเเห่งนี้ตลอดกาล”ในที่สุดเเจ็คสันก็กล่าวตอบ คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่เขาเเสดงออกมาเพื่อบิ้วอารมณ์ของธอร์


 


“ว่าอะไรนะ!”


 


หึ่ม~


 


“โลกิ!”ธอร์ไม่เคยนึกสงสัยว่าคำพูดของเเจ็คสันจะเป็นเรื่องหลอก เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งตะโกนชื่อของโลกิออกมาก่อนที่จะต่อยไปที่กรงด้วยโทสะที่เดือดดาล


 


“โลกิได้บอกฉันให้กันคุณเเละพยายามให้คุณอยู่ห่างจากค้อนเทพเจ้าสายฟ้ามากที่สุดไม่งั้น…”เเจ็คสันไม่ต้องการจะพูดต่อ เเต่คำพูดของเขาในตอนท้ายทเเน่นอนว่า ธอร์รู้ความหมาย โลกิจะต้องขู่ว่าจะฆ่าเเจ็คสันเเน่นอน


 


เฮือก~


 


ธอร์สูดหายใจเขาลึกก่อนที่จะหลุดถามออกมา”ทำไมเจ้าถึงไม่ทำตามที่โลกิบอกเล่า?ป้องกันข้าไม่ให้ข้าฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้า ไม่ใช่ว่านั่นจะเป็นเหตุผลที่ดีสำหรับเจ้าที่สุดเเล้วหรอกหรือ?”


 


“ป่าวเลย…เพราะคุณคือเพื่อนของฉัน! คุณคือเจ้าสายเเอสการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ เทพเจ้าสายฟ้า เเม้ว่าฉันจะถูกคุกคามโดยโลกิ เเต่ฉันก็กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาโดยการช่วยเหลือคุณ นี่เป็นความตั้งใจของฉันที่ต้องการให้คุณฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเอง เเน่นอนว่าหลังจากคุณกลับมาคุณย่อมที่จะช่วยฉันกำจัดภัยคุกคามอย่างโลกิได้!”เเจ็คสันโต้ตอบคำถามของธอร์


 


เเจ็คสันคิดว่าทักษะการเเสดงของเขาสมควรอยู่ในระดับปรมาจารย์อย่างน้อยในตอนนี้มันก็สมควรคว้ารางวัลออสการ์มาได้อย่างง่ายดาย ไม่งั้นธอร์คงไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้


 


“เเจ็คสัน,ข้าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าคือสหายที่ดีที่สุดคนนึงของข้า”


 


“ข้าไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก่อนยกโทษให้ข้าด้วย”ธอร์รู้สึกผิดที่บีบบังคับเเจ็คสัน


 


“ผ่อนคลายเถอะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ ฉันคิดว่าพวกเรามาหาทางให้คุณฟื้นคืนพลังของคุณกันดีกว่า หากคุณพยายามอย่างมากบางทีฉันเชื่อว่าคุณสามารถที่จะฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าได้ในไม่ช้า”


 


“เเน่นอน,เเจ็คสัน เจ้าสบายใจได้ ข้าจะพยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะเอาค้อนของข้ากลับมา เเละข้าจะไม่ยอมให้โลกิมาข่มขู่เจ้าอีก!”


 


“อืม,ฉันเชื่อคุณ”เเจ็คสันมองไปที่ธอร์อย่างให้กำลังใจ


 


หลังจากนั้นทั้งสองคนก็กลับไปทำความสะอาดกรงอีกครั้ง เเต่จิตวิญญาณของธอร์ในตอนนี้ได้เปลี่ยนอย่างกะเป็นคนละคนกัน ต้องบอกว่าคำพูดของเเจ็คสันก่อนหน้านี้ ราวกับประกายชนวน ที่ทำให้ ธอร์อยากจะฟื้นคืนพลังเทพของตัวเอง


 


หู้วว ~


 


“โชคดีที่ฉันมีทักษะการเเสดงที่ยอดเยี่ยม,ถึงอย่างไรฉันก็ค่อนข้างรู้สึกผิด เเต่ว่า ถ้าธอร์กลายเป็นคนธรรมดา โลกจะต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติร้ายเเรงในอนาคตเเน่นอน”ในขณะที่ธอร์กำลังทำความสะอาด เเจ็คสัน จ้องมองไปที่เเผ่นหลังของเขา

 

 

 


ตอนที่ 350

 

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงความเงียบสงบก็ได้ถูกเเทนที่ด้วยเสียงเห่าของสุนัขจรจัดจำนวนมาก โดยเฉพาะธอร์ เขารู้สึกขุ่นเคืองอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องที่เเจ็คสันเพิ่งพูดเขาให้เขาฟังไม่นานมานี้


 


เขารู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเเจ็คสัน ในอีกทางหนึ่งเขาก็รู้สึกเสียใจกับโลกิ ตอนนี้ ธอร์ต้องการฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็จะคิดบัญชีกับโลกิ


 


“เเจ็คสันข้าให้สัญญาว่าหลังจากข้าฟื้นคืนพลังของข้าได้ ข้าจะช่วยเจ้าสั่งสอนโลกิอย่างเเน่นอน!”หลังจากต้อนสุนัขจรจัดเข้ากรง ธอร์ ก็พูดคุยกับเเจ็คสัน


 


“อืม,ฉันเชื่อคุณ ธอร์ ไม่ใช่ว่าคุณคือบุตรเเห่งโอดิน เเต่เพราะคุณดูมีความโดดเด่นเเละพิเศษกว่าคุณ อื่น นั่นเป็นเหตุผลให้ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องเอาชนะค้อนของตัวเองเเละฟื้นคืนพลังได้ในที่สุด”เเจ็คสันกล่าวออกมา


 


“ฮ่าฮ่า,เเน่นอน เพราะข้าคือเทพเจ้าสายฟ้า ไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับข้า!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ทำให้ธอร์รู้สึกมีความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง เเต่สิ่งที่เเตกต่างไปก็คือ ความหยิ่งยโส ในอดีตของเขา


 


“อืม,เพราะคุณคือเทพเจ้าสายฟ้า! เอาล่ะ นี่ก็ยังอยู่ในเวลางานของคุณ เช่นนั้นฉันขอตัวกลับก่อนเเล้วกัน”เเจ็คสันวางเเผนที่จะเดินทางกลับ


 


“อืม,เจ้าสนใจจะรับหมาน้อยพวกนี้ไปเลี้ยงบ้างไหมล่ะ?”


 


“ฮิฮิ,ไว้จะลองคิดดู”


 


ตึก ตึก!


 


บรื้นน~


 


จากนั้นเเจ็คสันก็ขับรถจิ๊ปของตัวเองออกจากสถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัด เขาได้จ้องมองไปที่กระจนมองหลังจนลับสายตาของธอร์ไปในที่สุด


 


“ต้องรักษาท่าทีการเเสดงกับความอดทนอดกลั้นนี่มันเหนื่อยมากจริง ๆ เเม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่รู้สึกผิดต่อธอร์ เเต่ต้นเหตุก็มาจากโลกิ การให้เขาเป็นฝ่ายจัดโลกิดูท่าจะเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด”เเจ็คสัน ได้วางเเผนปลุกกำลังใจให้ธอร์มีความกระตือรือร้นในการฟื้นคืนพลังสำเร็จในที่สุด


 


“ฮ่าฮ่า,”จากนั้นเเจ็คสันก็หัวเราะออกมา


 


ไม่ใช่เพราะว่าเขาหัวเราะเรื่องที่หลอกลวงธอร์สำเร็จ เเต่มันเป็นเพราะ เขาตั้งหน้าตั้งตอรอที่จะเห็นโลกิ ถูกจัดการ ไม่ไหว เพราะถึงอย่างไร พลังของโลกิ ก็ยังเหนือชั้นกว่าเเจ็คสันมาก ทำให้เขาเคลื่อนไหวด้วยตัวเองไม่สะดวก


 


“อีกไม่นานรอก่อนเถอะ!”ใบหน้าของเเจ็คสันเผยรอยยิ้มกว้าง


 


อันที่จริงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเเจ็คสันมัวเเต่ยุ่งเรื่องของพวกไฮดร้าทั้งเขายังเป็นเเนวหน้าในการจัดการพวกมัน ที่เขาต้องเป็นเเนวหน้าเองเหตุผลนึงก็เพราะต้องการหาตัวทอมที่ถูกพวกมันจับตัวไป เเต่ฐานของพวกไฮดร้าในช่วงสองสัปดาห์มานี้ ไม่มีเบาะเเสของทอมเเม้เเต่น้อย มันทำให้ เเจ็คสัน กระวนกระวายอย่างมาก


 


ติ๊ดด


 


ขณะที่เเจ็คสันกำลังขับรถไปพลางคิดไปโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นทำให้เขารู้สึกตกใจทันที เขารีบดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเเละเปิดดูพบว่ามันเป็นเบอร์โทรศัพท์ของ โทนี่ เเจ็คสันได้ชะลอความเร็วลงเเละหยุดรถเพื่อรับโทรศัพท์


 


“เเจ็คสัน! ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะมุ่งเป้ามาที่พ่อเเม่ของเธอ!”ทันทีที่เเจ็คสันกดรับโทรศัพท์ เสียงของ โทนี่ ค่อนข้างตึงเครียด เทียบกับโทนี่ เเล้วเเจ็คสันยิ่งตกใจยิ่งกว่า


 


“อะไรนะ? เเล้วตอนนี้พ่อเเม่ของผมอยู่ที่ไหน? สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน ถามในทันที


 


“ตอนนี้ J.A.R.V.I.S ไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณตำเเหน่งได้ คาดว่าอีกฝ่ายคงปิดกั้นสัญญาณเอาไว้ ฉันได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปยังตำเเหน่งล่าสุดของพวกเขาเเล้วตอนนี้ เพราะผู้คุ้มกันที่ฉันส่งไปเฝ้าระวังดูเหมือนจะถูกจัดการไปเเล้ว”ได้ยินเเจ็คสันกังวล โทนี่ รีบตอบ


 


ปั้ง


 


“ปิดกั้นสัญญาณ? คุณสตาร์ก ส่งตำเเหน่งล่าสุดของพ่อกับเเม่มาให้ผมเร็ว!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน ทุบประตูรถอย่างรุนเเรง


 


อุบัติเหตุก่อนหน้านี้ ทำให้เเจ็คสันถูกเปิดเผยสถานะตัวตนโดยพวกไฮดร้า หลังจากนั้นเเจ็คสันก็เป็นกังวลเกี่ยวกับพวกไฮดร้าว่าจะมาทำร้ายคนในครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาจึงเเลกเปลี่ยนสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับสูงเเละมอบให้ทั้งสองคนไป เเต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น


 


สำหรับโทนี่ เขาเองก็รู้ว่าถ้าสถานะของเเจ็คสันถูกเปิดเผยออกไป มันย่อมเป็นอันตรายต่อสมาชิกครอบครัวของเขา ดังนั้น โทนี่ จึงส่ง ผู้คุ้มกันบางคนไปเฝ้าระวังคอยปกป้องพ่อเเม่ของเเจ็คสัน เเต่พวกไฮดร้าไม่ได้ยุ่งกับครอบครัวของเเจ็คสันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เรื่องนี้ทำให้ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน รู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งรวมกำลัง S.H.I.E.L.D. ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีม X-MEN โดยเร่งเดินหน้าจัดการพวกไฮดร้าโดยเร็วที่สุด


 


เเต่ในขณะที่พวกเขากำลังผ่อนคลายไม่คาดคิดว่าพวกไฮดร้ากลับเลือกที่จะลงมือกับทางครอบครัวฝั่งเเจ็คสัน นอกจากนี้ พวกมันยังสามารถปิดกั้นสัญญาณของJ.A.R.V.I.S ได้อีกฝ่ายคงไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน เเม้ว่าพ่อกับเเม่ของเเจ็คสันจะครอบครองสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับสูง ก็ไม่สามารถทำให้เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายได้ในขณะนี้


 


“พ่อ,เเม่…”


 


ติ๊ด!


 


หลังจากได้ตำเเหน่งของพ่อกับเเม่ เเจ็คสันไม่ได้ขับรถจิ๊ปออกไป เขาได้หยิบยานบินออกมา เพื่อที่จะเดินทางไปด้วยตัวเอง


 


ตำเเหน่งล่าสุดที่โทนี่ส่งมาให้ดูเหมือน พ่อของเขา หลิน ไฮ่ จะอยู่ห่างจากทางเขาขึ้นไป เเม้เเจ็คสันต้องการจะไปรับพ่อกับเเม่ด้วยตัวเอง เเต่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เขาจึงเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุดกับเขาก็คือตำเเหน่งพ่อของเขาสำหรับเเม่ของเขา เเมรี่ เเจ็คสันคาดหวังว่า โทนี่ จะใช้ไอรอนแมน ช่วยเเม่ของเขาออกมาได้ ขณะนั้นเองเขาก็โทรประสานงานกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ โดยให้ สกาย’อาย จัดการ


 


“เร็วเข้า,ต้องเร็วกว่านี้”ยานบินของเเจ็คสันได้เร่งความเร็วจนถึงสุด เเต่ความเร็วระดับน้ก็ยังช้าเกินไป


 


ในเวลานี้เเจ็คสันรู้สึก อิจฉา บลิงก์ อย่างมาก ความสามารถของเธอ เหมือนกับเหล่าเชื้อสายจอมเวทย์ เหล่าพ่อมด ที่สามารถเปิดประตูมิติ เดินทางไปที่นี่ไหนก็ได้ เเน่นอนว่า เเจ็คสันย่อมไม่ลืมที่จะติดต่อกับพวกเขา เเม้ว่าจะต้องปิดเผยสถานะของตัวเอง เขาก็ไม่ลังเลอีกเเล้ว


 


โรงเรียน X


 


เมื่อไม่นานมานี้ ไอซ์แมน กำลังพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนเเปลงภายในของ ทีม X-MEN กับ ชาโดว์เเคท จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นก่อนที่ใบหน้าของไอซ์แมนจะเปลี่ยนไป


 


“หืม?ใครโทรมางั้นหรอ?”เห็นการเเสดงออกของไอซ์แมน ชาโดว์เเคท กล่าวถาม


 


“มิราจไนท์ ดูเหมือนเพื่อนคนนี้ จะมีเรื่องบางอย่าง ไม่รู้ว่าเขาต้องการจะให้เราช่วยอะไรอีก”ไอซ์แมน กล่าวตอบ ชาโดว์เเคท ด้วยรอยยิ้ม


 


จากนั้นเขาก็รับโทรศัพท์ในทันที ,หลังจากรับโทรศัพท์ เสียงของเเจ็คสันก็กล่าวออกมาด้วยความกังวล จนไอซ์แมนมีสีหน้าที่เปลี่ยนสี


 


ฟุ่บ!


 


“เร็วเข้า! ต้องรีบติดต่อบลิงก์ ! มิราจไนท์กำลังมีปัญหา!”วางสายโทรศัพท์ของมิราจไนท์เสร็จ ไอซ์แมน ดึง ชาโดว์เเคทออกไปข้างนอกในทันที


 


ที่พวกเขามองหาบลิงก์ ก็เพื่อที่จะได้ไปสนับสนุน มิราจไนท์ได้ ขณะเดียวกัน เเจ็คสัน ก็โทรออกไปยังสายของพ่อมดรุ่ยเคอ หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที พ่อมดรุ่ยเคอ ,พ่อมดไต้เหวิ่น ก็หายตัวเข้าไปในประตูมิติเวทย์มนตร์

 

 

 


ตอนที่ 351

 

ปั้ง


 


“ระวัง!”


 


“ถอยกลับมาเร็ว!!”


 


ปั้ง


 


“เดนนี่!”


 


ครื่น!


 


ในขณะที่เเจ็คสันกำลังขับยานบินของตัวเองไปยังตำเเหน่งพ่อของเขา ที่ย่านการค้าใจกลางเมืองของนิวยอร์กอาคารเเห่งนึงกำลังเปิดฉากจู่โจมกันอย่างรุนเเรง ทีมทหารของพวกไฮดร้ากำลังเปิดฉากโจมตีกลุ่มคนของโทนี่ ที่ส่งมาเฝ้า เเม่ของ เเจ็คสัน ดูเหมือนในขณะนี้่ดูเหมือนจะมีผู้คุ้มกันชั้นเเนวหน้าหลายคนตกตาย


 


“มาดาม เเมรี่,ได้โปรดตามมา พวกเราไม่สามารถอยู่ต้านทานกลุ่มคนเหล่านี้ได้!”ในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันของเเมรี่อย่างลับ ๆ สตีฟ ได้ปกป้องเเมรี่ ไปยังเมืองการค้าเพื่อหลบหนี


 


เเม้ว่าเเมรี่จะไม่รู้เรื่องราวที่ชัดเจน ว่าทำไมเธอถึงถูกโจมตี เเต่เหตุปะทะเมื่อครู่ทำให้สัญชาตญาณของเธอร้องให้รีบหลบหนีไปกับคนคุ้มกันเหล่านี้ เสียงระเบิดด้านนอกได้ส่งผ่านมาอย่างไม่หยุดหย่อนจนเธอรู้สึกขวัญเสียอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในชีวิตของเธอเอง


 


ในเมืองการค้าการยิงปะทะเริ่มลดลงเนื่องเพราะเป้าหมายของพวกไฮดร้าไม่ใช่การโจมตีหน่วยคุ้มกัน เเต่เป็น เเมรี่ ดังนั้นพวกเขาจะเลี่ยงการปะทะให้มากที่สุด สตีฟ เอง ก็ไม่มีวิธีที่จะช่วยให้เเมรี่หนีได้อย่างปลอดภัย เขาจึงได้วิ่งพาเเมรี่หนีพาไปแบบสุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงปะทะกับกลุ่มทหารของพวกไฮดร้า


 


ปั้ง


 


ผู้คุ้มกันหลายคนที่ทำการปกป้องเเมรี่อยู่ได้ถอนตัวห่างออกไปเพราะลำเเสงเลเซอร์ได้ถูกยิงเข้ามาพร้อมกับการระเบิดที่รุนเเรง เเรงระเบิดเหล่านั้นส่งผลให้กลุ่มคนเหล่านั้นไม่สามารถต้านทานได้จนเเยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง


 


เปรี้ยง


 


การโจมตีเหล่านั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สตีฟ ที่เห็นชะตากรรมเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง เขารู้ดีว่าหากเขาไม่หาสถานที่กำบังที่ดีหลบพวกเขาก็คงไม่รอดอย่างเเน่นอน


 


ปั้ง!


 


เพียงเเต่ว่ากระสุนนัดนึงได้พุ่งเข้าไปที่หน้าอกของสตีฟ การโจมตีจำนวนมากได้กราดเข้ามาใส่ผู้คุ้มกันหลายคนจนพวกเขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เเม้ว่าคนเหล่านี้จะสวมใส่ชุดเกราะทำขึ้นพิเศษที่ได้มาจากโทนี่ เเต่ไม่รู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่


 


ในเวลานี้ กลุ่มคนจำนวนนึงได้เดินมาถึงหน้าของเเมรี่


 


“พวกคุณ,พวกคุณเป็นใครกัน…พวกคุณต้องการอะไรจากฉัน!”เเมรี่จ้องมองไปที่เงาเบื้องหน้าเเละตะโกนกล่าวถาม


 


ฟุ่บ!


 


กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้สนใจคำถามของ เเมรี่ หัวหน้าทีมของหน่วยไฮดร้าในครั้งนี้สั่งการคนไปล้อมเเมรี่หลังจากนั้นก็ยกปืนพกขึ้นมายิงไปที่เเขนของเเมรี่โดยตรง


 


ปั้ง


 


กระสุนปืนได้ยิงเข้าไปที่เเขนของเเมรี่ คำสั่งที่พวกเขาได้รับมาคือพยายามทุกวิถีทางเพื่อนำตัวอีกฝ่ายมา เเต่ไม่ได้บอกให้จับเป็นหรือตาย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการจะทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นนั่นคือจับตาย


 


“!”เพียงเเต่ว่ากระสุนปืนที่ยิงไปที่เเขนของเเมรี่นั้นกลับไม่สามารถทำร้ายร่างกายของเธอได้เเม้เเต่เเมรี่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ทหารของไฮดร้าตกใจมาก


 


กรี๊ดดด!


 


เเมรี่ ได้ตะโกนร้องออกมา เเต่ก็ต้องประหลาดใจ เธอลืมตาขึ้นเเละพบว่ากระสุนเหมือนจะไม่ได้ยิงทะลุร่างของเธอไป ทันทีที่กระสุนถูกยิงออกมา ม่านพลังสีฟ้าอ่อนก็ปรากฏออกมาจากร่างของเเมรี่ได้ปิดกั้นการทะลวงของกระสุนนัดนั้น


 


“สนามพลังงานงั้นหรอ?”เห็นสสารสีฟ้าที่อ่อนเเรงปรากฏขึ้น หัวหน้าหน่วยไฮดร้า กล่าวอย่างตื่นตะลึง


 


ปั้งปั้ง!


 


หัวหน้าหน่วยคนนี้ยิงปืนออกไป สามสี่นัด เพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเองอีกครั้ง เพียงเเต่ว่า เเสงสีฟ้านั้นก็ได้หยุดลูกกระสุนจากปืนอีกครั้ง


 


“ไม่…นี่ไม่น่าใช่สนามพลัง!”เมื่อเห็นว่าสสารสีฟ้าอ่อนไม่ได้เป็นสนามพลังที่เขารู้จัก หัวหน้าหน่วยไฮดร้าคนนี้ รู้สึกสงสัยอย่างมาก


 


เเมรี่ที่ไม่รู้สึกเหมือนถูกกระทำได้ลืมเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ ในเวลานี้ เธอค้นพบว่าผิวของเธอถูกปกคลุมด้วยพลังงานอ่อน ๆ จากเเสงสีฟ้า เเม้เธอจะโล่งใจ เเต่ก็ไม่สามารถหลบหนีกลุ่มคนที่ล้อมเธอเอาไว้ได้


 


“นำตัวไป!”เเม้จะพยายามใช้อาวุธอย่างไรก็ไม่สามารถทำลายม่านปราการป้องกันของเเมรี่ได้ดังนั้นหัวหน้าหน่วยคนนี้จึงต้องจับเป็นเเมรี่


 


เเสงสีฟ้านั้นก็คือสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับสูงที่เเจ็คสันให้เอาไว้ เเม้จะสามารถป้องกันการโจมตีคุกคามชีวิตต่าง ๆได้มากมายเเต่ก็ไม่สามารถทำให้เเมรี่หลุดจากการคุกคามด้วยกำลังพลของพวกไฮดร้าได้ ดังนั้นเเมรี่จึงถูกอุ้มเตรียมจะออกไปจากเมืองการค้าเเห่งนี้


 


ฟุ่บ!


 


อย่างไรก็ตามในขณะที่ทหารไฮดร้าเหล่านี้เตรียมจะถอยทัพประตูมิติก็ปรากฏปิดกั้นเส้นทางหลบหนีด้านหน้าของพวกเขา รูปแบบของมิติยังเปิดออกอย่างไม่สมบูรณ์ ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที เงาร่างสีน้ำเงินก็ปรากฏออกมา นี่ คือ ไอซ์แมน


 


ปั้ง ปั้ง


 


ทันทีที่ ไอซ์แมน ปรากฏตัวขึ้น ทีมทหารไฮดร้าเหล่านี้ไม่ลังเลที่จะยกปืนเเละยิงกราดออกไปที่เงาร่างน้ำเเข็ง เศษชิ้นส่วนน้ำเเข็งจำนวนมากถูกกร่อนจนกระเด็นไปทั่วพื้นที่เพียงเเต่ว่าพริบตาเดียวร่างของกลุ่มคนเหล่านี้ก็ถูกเเช่เเข็งอย่างรวดเร็ว


 


ตึก ตึก !


 


ทันทีที่จัดการทหารของพวกไฮดร้าเสร็จ ไอซ์แมน ก็เดินไปที่เบื้องหน้าของเเมรี่ ที่ตอนนี้กำลังหวาดกลัวอยู่ ตอนนี้เเมรี่เองก็รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับมนุษย์น้ำเเข็งที่ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของเธอ เธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายเธอ


 


“สวัสดี,มาดามเเมรี่ ไม่ต้องกลัว ผมมาช่วยคุณ ตอนนี้คุณปลอดภัยเเล้ว”โรเบิร์ต กล่าวพูด


 


เพียงเเต่ว่าเเม้โรเบิร์ตจะกล่าวเช่นนั้นเเมรี่ก็ยังสั่นกลัวอยู่


 


ขณะนั้นเองลำเเสงเลเซอร์ขนาดใหญ่ก็พุ่งเป้าไปที่ด้านหลังของ ไอซ์แมน ลำเเสงเลเซอร์นี้พุ่งมาด้วยความเร็วสูง ถ้าไอซ์แมนหลบ ลำเเสงนี้ก็จะโดนเเมรี่ หากเขาไม่หลบเเละเข้าปะทะ เเม้ไม่ตายก็คงได้รับบาดเเผลสาหัส


 


ฟุ่บ!


 


เพียงเเต่ไอซ์แมนไม่ได้เลือกที่จะหลบ เเต่กลับมีประตูมิติปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา ดูเหมือนบลิงก์จะสร้างพื้นที่มิติเพื่อส่งลำเเสงพลังงานที่ถูกยิงออกมาไปยังที่อื่น


 


ฟุ่บ!


 


หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากบลิงก์ไอซ์แมนก็ใช้การโจมตีผลึกน้ำเเข็งพุ่งโจมตีไปยังทิศทางที่ถูกยิง ไอซ์แมนได้หักล้างกระสุนจำนวนมากพร้อมกับเข้าปะทะกับกระสุนเลเซอร์อื่น ๆ ขณะที่เขากำลังโจมตี ก็มีปืนใหญ่พลังงานกำลังเตรียมชาร์จพร้อมยิงตอนนี้มันกำลังสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง


 


เป้าหมายภารกิจของพวกไฮดร้าในครั้งนี้คือการจับตัวเเมรี่ การสูญเสียทหารพวกนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เเต่หากพวกเขาสามารถที่จะกำจัด มิราจไนท์ ไอซ์แมน หรือ บลิงก์ ได้ พวกไฮดร้าก็ยังนับว่าเเผนการครั้งนี้ย่อมคุ้มค่า

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม