Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล 303-309

ตอนที่ 303

 

ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเเจ็คสันโทนี่กล่าวถามอย่างเร่งรีบสิ่งเเปลกประหลาดใดกันที่กำหนดเป้าหมายให้ช่วยเหลือชีวิตของคนอื่น หากเป็นเรื่องจริง โทนี่ ก็ต้องการศึกษามันอย่างมาก


 


“คุณสตาร์ก หากคุณคิดจะศึกษามันผมคงต้องขอให้คุณล้มเลิกความคิดเพราะมันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์”ได้ยินคำถามของ โทนี่ เเจ็คสันรู้ทันทีว่าโทนี่คิดอะไร


 


“หรือว่ามันคือเวทมนตร์? เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เราเผชิญหน้าด้วยกัน? เหมือนเวทมนตร์ของพวกพ่อมด?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ ไม่เชื่อ


 


“คุณจะว่าอย่างนั้นก็ได้ เเต่เเท้จริงเเล้วสิ่งมหัศจรรย์ของผมกับเวทมนตร์ของพวกเขาไม่เหมือนกัน สิ่งมหัศจรรย์ของผมกำหนดเป้าหมายให้ช่วยเหลือคนอื่นด้วยตัวมันเอง?เเต่สิ่งที่พวกเขาทำเป็นการกระทำตามความคิดของตัวเองเช่นการปรากฏตัวช่วยเหลือเราในวันนั้น”


 


เเจ็คสันรู้ดีว่าเวทมนตร์ของพวกเขาเเตกต่างจากร้านค้าระบบของเขา เเม้มันจะคล้ายเวทมนตร์เเต่ความสามารถของมันเหนือล้ำกว่ามาก


 


“เธอนี่ทำตัวลึกลับเสียจริง เเม้เเต่พวกเขาก็มีท่าทีสนใจในตัวเธอ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวพูดแปลก ๆ


 


“หืม?คุณว่าอะไรนะ พวกเขามีความสนใจต่อผมนี่หมายความว่ายังไง?”ได้ยินคำตอบประหลาดของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวถาม


 


ก่อนหน้านี้เเน่นอนว่ามีพวกพ่อมดเหล่านั้นคอยเฝ้ามองพวกโทนี่เเละตามหาตัวของเเจ็คสันร่วมกับพวกโทนี่เเต่คนเหล่านั้นไม่ได้เปิดเผยตัว


 


“ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกตัวเลยสินะ ก่อนหน้านี้ที่เธอถูกจับโดยพวกไฮดร้า ก็มีพวกเขาที่ช่วยเหลือเธออยู่”จ้องมองไปที่การเเสดงออกของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวอธิบาย


 


“หืม?พวกพ่อมดคอยช่วยเหลือผมอย่างลับ ๆ คุณเเน่ใจนะว่าไม่ได้ดูผิดไป?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันรู้สึกสงสัยเขาเป็นเพียงฮีโร่ของนิวยอร์กธรรมดา ๆ จะเป็นต้องตาพวกพ่อมดเหล่านั้นได้อย่างไร


 


“ไม่ผิดเเน่ ผลรายงานของ J.A.R.V.I.S ได้รับการยืนยันเเล้ว มันเป็นเหมือนกับตอนที่ฉันจัดการฟรานซิสตอนนั้นฉันก็สัมผัสพบคลื่นพลังผันผวนของเวทมนตร์”เห็นเเจ็คสันไม่เชื่อ โทนี่ พูดจริงจัง


 


“คลื่นความผันผวนที่ว่ามันคือกระเเสพลังเวทย์สินะ?เช่นนั้นเป็นพวกเขาจริง?”เเจ็คสันรู้สึกสงสัย


 


เเม้ว่าเเจ็คสันจะตกอยู่ในอันตราย เเต่พวกไฮดร้าก็ไม่ใช่พวกปีศาจหรือเทพมาร ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องส่งคนมาช่วยเหลือเขาอย่างลับ ๆ


 


เเจ็คสันไม่สามารถนึกหาเหตุผลที่คนเหล่านั้นคอยเฝ้าระวังเขาอย่างลับ ๆ ได้


 


“บางทีหากฉันไม่ช่วยเหลือเธอก่อนหน้านี้ พวกเขาจะต้องเเทรกมือเข้ามาช่วยอย่างเเน่นอน ดังนั้นฉันจึงต้องการขอความช่วยเหลือจากเธอในการศึกษาเรื่องเวทมนตร์”เห็นเเจ็คสันไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ โทนี่ กล่าวพูดคำขอของเขา


 


“เกี่ยวกับเรื่องนี้ผมว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือได้ เเต่พวกเขาค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย ก่อนหน้าน้ปรมาจารย์โบราณคนนึงที่ปรปากฏตัวขึ้นเเม้หน้าตาของเขาจะดูสุภาพเเต่เเท้จริงเเล้วเขาค่อนข้างมีมนุษยสัมพันธ์ที่คาดเดาได้ยาก”เห็นโทนี่สนใจเวทมนตร์เเจ็คสันอธิบาย


 


“ฉันรู้,เพียงเเต่ที่ฉันเเปลกใจกลับคิดว่าเป็นเธอมากกว่า ไม่คิดว่าเธอจะสามารถรู้เรื่องรายละเอียดจำนวนมากขนาดนี้ได้ ยังมีอีกกี่อย่างกันที่เธอยังไม่ได้บอกฉัน”โทนี่ กล่าวถามออกมา


 


“คุณจะเอาเรื่องก่อนหน้าที่ผมจะเป็นมิราจไนท์ด้วยมั้ยล่ะ?”เเจ็คสันยิ้มออกมา พวกเขาได้ร่วมสทนากันอย่างสนุกสนานต่อจากนี้


 


โทนี่ได้ถามคำถามเเจ็คสันตามที่เขาอยากรู้ซึ่งเเจ็คสันเองก็ตอบคำถามเท่าที่เขาตอบได้ยกเว้นความลับเรื่องระบบเรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางเเพร่งพรายออกไปเเน่นอน ทั้งบางทีหากเขาพูดไปโทนี่อาจจะไม่เชื่อเเละกล่าวหาว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็เป็นได้


 


หลังจากผ่านไปหลายสิบนาทีการสนทนาตอบโต้คำถามนี้ก็จบลง โทนี่ได้ใช้เวลานานในการประมวลผลข้อมูลที่เขาได้รับมา


 


“เเอสการ์ด,ทั้งยังมีโลกทั้งเก้า ไม่คาดคิดว่ายังมีสิ่งอื่นที่ฉันยังไม่รู้อีกจำนวนมาก ดูเหมือนจักรวาลนี้จะไร้สิ้นสุดอย่างเเท้จริง!”โทนี่หลังจากประมวลผลความคิดของเขาเขาก็ถอนหายใจพูดออกมา


 


“ตามที่เธอพูดมาดูเหมือนโลกจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจำนวนมาก ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเลือกเดินทางสายนี้ เเละกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่เพื่อปกป้องโลก?”ในที่สุดโทนี่ก็กล่าวถามต่อเขาจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มเบื้องหน้าของเขา


 


“อืม,เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเส้นทางที่ผมเลือกไปเเล้ว!”เผชิญหน้ากับคำถามของโทนี่ เเจ็คสันตอบอย่างจริงจัง


 


“เเม้เธอจะรู้อยู่เเล้วว่าเป้าหมายที่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเเละมันก็มีราคาที่ต้องจ่ายจำนวนมาก เธอก็ยังต้องการ?”


 


โทนี่คิดว่าโลกนี้ใหญ่เกินไปที่จะเป็นภาระหน้าที่ของเเจ็คสัน เขาจ้องมองไปที่ดวงตาของเเจ็คสันเเละมองผ่านนัยน์ตาคู่นั้น ภาระที่ต้องปกป้องโลกนั้นมันใหญ่เกินไปที่เด็กอย่างเเจ็คสันจะคิดเกี่ยวกับมัน


 


“ผมต้องการ,เเม้ผมจะยังคงอ่อนเเอเเละความสามารถยังไม่สามารถเทียบกับ ฮัลค์ ได้ บุคคลที่ผมจะต้องเผชิญหน้าในอนาคตเเข็งเเกร่งขนาดที่สามารถคุกคามอนาคตหรือจักรวาลได้ เเต่หากผมไม่เลือกที่จะเปลี่ยนเเปลงตัวเองเเละเเข็งเเกร่งขึ้นผมก็ไม่อาจที่จะสามารถปกป้องครอบครัวหรือเเม้เเต่โลกใบนี้เอาไว้ได้”


 


“ทำไมเธอถึง…”


 


“ที่ผมทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะผมหวังสิ่งตอบเเทน เพราะผมเป็นตัวของตัวเองเเละมีบางสิ่งที่ต้องการปกป้อง คุณสตาร์กไม่คิดแบบนั้นหรอ?”เห็นโทนี่ต้องการพูดอะไร เเจ็คสัน กล่าวจริงจัง


 


“ฉัน?เเน่นอนว่าฉันเองก็มีคนที่อยากจะปกป้องรวมถึงผู้คนบนโลกใบนี้ อย่างไรก็ตามเธอรู้ไหมว่าเรื่องนี้มันหนักหนาสาหัสเเค่ไหน เเม้เเต่ฉันก็ยังไม่กล้าที่จะพูดจาใหญ่โตขนาดนั้น”ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวตอบ


 


เป็นครั้งเเรกที่โทนี่รู้สึกกดดันต่อภัยพิบัติที่จะคุกคามเขาในอนาคต สำหรับเขาที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดามีเพียงวิทยาการไอรอนแมนที่เป็นอาวุธลับคอยปกป้องโลก เเม้เเต่เขาก็ยังไม่เเน่ใจว่าจะรับมือภัยคุกคามที่สามารถทำลายโลกได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ความเเข็งเเกร่งของไอรอนแมนย่อมไม่เพียงพออย่างเเน่นอน


 


“ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการสร้างพันธมิตรหรือกองกำลังของตัวเอง ผมต้องการกำจัดกองกำลังที่ชั่วร้ายในโลกของเราทั้งหมดทิ้งไป เเละ รวมโลกของเราเป็นหนึ่งเดียวกัน”จ้องมองไปที่โทนี่ เเจ็คสัน กล่าวพูดอย่างชัดเจน

 

 

 


ตอนที่ 304

 

อึ๊ก!


 


ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ เงยหน้าจ้องมองเขาอย่างดุเดือดราวกับว่าตกตะลึงในคำพูดเหล่านี้


 


“เมื่อครู่เธอพูดว่าอะไรนะ!?”โทนี่กลัวว่าเขาจะฟังผิดไปเขาออกเสียงกล่าวถามเเจ็คสันอีกครั้ง


 


ต้องบอกว่ากองกำลังของโทนี่ในตอนนี้ค่อนข้างเผด็จการเเละเป็นหนึ่งในกองกำลังที่เเข็งเเกร่งของโลก กองทัพไอรอนแมนของเขาเป็นขวัญใจของผู้คน โทนี่ มีความคิดที่ต้องการจะปกป้องโลก เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะคิดละเมอเพ้อฝันอย่างการรวมโลกเป็นหนึ่ง เเละ กำจัดกองกำลังที่ชั่วร้ายทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเด็กคนนี้เสียสติไปเเล้วหรืออย่างไร


 


“คุณสตาร์ก คุณไม่ได้ฟังผมผิดไปหรอก ผมจะกำจัดกองกำลังที่ชั่วร้ายทั้งหมดเเละสร้างกองกำลังของตัวเองขึ้นมา เเน่นอนว่าเป้าหมายของผมยิ่งใหญ่ เเต่ท้ายที่สุดเเล้วเป้าหมายของผมก็คือการรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว”จ้องมองไปที่สีหน้าของโทนี่ เเจ็คสันรู้ดีว่า โทนี่ ย่อมไม่เชื่อถือคำพูดของเขา


 


“ฮ่าฮ่า,เธอกล้าคิดมันจริง ๆ เธอรู้หรือไม่ว่าในประวัติศาสตร์มีกี่คนที่มีความคิดแบบเธอ เเละพวกเขาสามารถทำสำเร็จ? ถึงอย่างนั้นเธอยังกล้าที่จะพูดเช่นนี้ต่อหน้าฉัน นี่มันบ้าไปเเล้ว”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ในที่สุดโทนี่ก็เชื่อจริง ๆ ว่าเเจ็คสันมีความคิดเพ้อฝันเช่นนี้ เเม้ว่าเเจ็คสันจะมีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา เเต่อิทธิพลของเเจ็คสันจะสามารถสั่นคลอนโลกใบนี้ได้?


 


“ไม่ใช่ว่าทุกคนก็มีความฝันของเราเอง?การทำตามความฝันนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของชีวิต”เเจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย


 


“ความคิดของเธอในตอนนี้ราวกับปลาตัวเล็กที่กำลังเเหวกว่ายผ่านมหาสมุทร เเม้จะมีผองเพื่อนทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเธอ ก็เป็นเพียงได้เเค่ฝูงปลาเล็ก เเน่นอนว่าไม่เว้นเเม้เเต่กองทัพไอรอนแมนของฉัน ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังมีความคิดที่จะท้าทายความฝันนั่น?”โทนี่ รู้สึกสงสัย ความบ้าบิ่นของเเจ็คสัน


 


“เเน่นอนว่าคุณอาจจะคิดว่าผมเพ้อฝัน เเละปัจจุบันทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเราเป็นเรื่องจริงที่ในปัจจุบันยังอ่อนเเออยู่มากอย่างไรก็ตามพวกเราก็พยายามที่เร่งพัฒนาการเติบโตของพวกเรา เเละ ผมเองก็เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้เเล้ว”เเจ็คสันกล่าวตอบ


 


“เเต่เรื่องนี้ผมเกรงว่าผมคงต้องขอรบกวนคุณด้วย!”เเจ็คสันกล่าวพูดเสริมขณะนั้นเขาก็สวมใส่ชุดสูทภูติมายาของเขา


 


ฟุ่บ!


 


จากนั้นเขาก็ล้วงมือไปหยิบของบางอย่างจากกระเป๋าสูทเเละนำฮาร์ดดิสก์อันนึงออกมา”หากคุณดูสิ่งที่อยู่ในนี้บางทีคุณอาจจะมองความคิดของผมในรูปแบบที่เเตกต่างออกไป”


 


“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น!”จ้องมองไปที่เเผ่นดิสก์ในมือของเเจ็คสันโทนี่ค่อนข้างสงสัย


 


โทนี่ไม่รู้ว่าเเจ็คสันต้องการเล่นเเง่อะไรกับเขาเเต่ความรู้สึกของเขาอยากรู้มากว่าข้อมูลภายในเเผ่นดิสก์นั้นมีอะไรอยู่ บางทีมันอาจจะเป็นบางสิ่งที่มีมูลค่า


 


“เอาล่ะ ฉันเองก็อยากจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในถึงทำให้เธอมั่นใจในคำพูดเหล่านั้น”โทนี่ กล่าวตอบพร้อมกับรับเเผ่นดิสก์มา เขาไม่รอช้าเเทรกมันลงในเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว


 


“รหัสผ่านคือ เเจ็คสัน หลิน 567####.”หลังจากที่โทนี่เชื่อมต่อเข้าสู่ฮาร์ดดิสก์ เเจ็คสันก็กล่าวบอกรหัสผ่านที่ด้านหลัง


 


“J.A.R.V.I.S ป้อนรหัสผ่านตามที่เขาว่า ฉันชักอยากจะรู้เเล้วสิว่ามีอะไรอยู่ข้างใน”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวบอกต่อ J.A.R.V.I.S


 


“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S กล่าวปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว


 


หลังจากป้อนรหัสผ่านตามที่เเจ็คสันบอกหน้าจอก็เด้งเข้าสู่ข้อมูลหลัก


 


ฟุ่บ~


 


ไม่ต้องรอให้ โทนี่ กล่าวสั่งต่อ J.A.R.V.I.S ได้เคลื่อนไหวเปิดข้อมูลเหล่านั้นขึ้น


 


ดูเหมือนว่าทันทีที่เปิดขึ้นข้อมูลนับไม่ถ้วนจะถูกเด้งขึ้นมามันเป็นหน้าจอขนาดเล็กจำนวนมากเป็นแบบคลายกับพิมพ์เขียวที่ซับซ้อน ซึ่งหากมองผ่าน ๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาเเล้ว


 


“J.A.R.V.I.S หยุดก่อน! เปิดรับเอกสารข้อมูลต้นฉบับเเละรวมเป็นหน้าเดียว!”เเม้จะเห็นข้อมูลเหล่านั้นเป็นพิมพ์เขียวจำนวนมากเเต่โทนี่ ก็ไม่สามารถมองได้ทัน เขาได้ให้ J.A.R.V.I.S ช่วยเรียบเรียงเเละรวมเข้ากันเป็นฉบับสมบูรณ์


 


“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ได้ตอบรับก่อนที่เอกสารข้อมูลเหล่านั้นจะถูกต่อเข้ารวมกันอย่างรวดเร็ว


 


ฟุ่บ!


 


ผ่านไปหลายวินาทีบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ปรากฏหน้าจอว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด หลงเหลือเพียง พิมพ์เขียวใบเดียวที่สมบูรณ์ โทนี่ จ้องมองไปที่มัน


 


เขายื่นมือขยายขอบเขตรูปภาพเเละขยายส่วนเเต่ละตำเเหน่งออกไป


 


ทันทีที่เขาจ้องมองอีกครั้งมันทำให้โทนี่รู้สึกประหลาดใจ จนหันกลับไปมองที่เเจ็คสัน ในสายตาของโทนี่ตอนนี้มีเเต่ความตื่นตระหนก


 


“J.A.R.V.I.S เปิดเอกสารในรูปแบบที่สอง!”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S


 


ฟุ่บ!


 


พิมพ์เขียวได้ถูกจัดเรียงใหม่อีกครั้งคราวนี้ ยิ่งโทนี่จ้องมองไปที่แบบพิมพ์เขียวเหล่านั้นมากเท่าไหร่เขาก็รู้สึกอยากค้นคว้ามากขึ้นเท่านั้น


 


เเน่นอนว่าในขณะที่โทนี่จ้องมองแบบพิมพ์เขียวเหล่านี้อย่างตั้งใจ เเจ็คสัน กลับไม่สามารถเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้ได้ โทนี่ใช้เวลามากกว่า 10 นาที เพื่อจ้องมองพิมพ์เขียวหลายฉบับในรูปแบบต่าง ๆ


 


„ J.A.R.V.I.S ดำเนินการจำลองการสร้างตามแบบพิมพ์เขียวนี้!”เห็นการออกแบบที่ซับซ้อนของพิมพ์เขียวทั้งหมดทันใดนั้นโทนี่ ก็รู้สึกคาดหวัง เขาตะโกนบอก „ J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว


 


ได้เห็นแบบพิมพ์เขียวที่น่าตื่นตาตื่นใจ หัวใจของโทนี่ไม่อาจนิ่งสงบได้อีก เขาคาดหวังกับการประมวลผลของ „ J.A.R.V.I.S ในครั้งนี้มาก


 


“ครับ,เจ้านาย!”„ J.A.R.V.I.S ปฏิบัติตามเเละเริ่มจำลองการสร้างตามแบบพิมพ์เขียว


 


หึ่ม!


 


ในขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังทำการคำนวณจำลองการสร้าง ขณะที่รอ โทนี่จ้องมองไปที่ เเจ็คสันที่อยู่ใกล้ ๆ เขาต้องการจะได้ยินเกี่ยวกับความเป็นมาของพิมพ์เขียวนี้จากปากของเเจ็คสัน เเต่พอเห็นสีหน้าของเเจ็คสัน โทนี่ รู้สึกเหมือน เเจ็คสันจะมั่นใจในพิมพ์เขียวนี้มาก

 

 

 


ตอนที่ 305

 

ดูท่าทีลักษณะท่าทีที่ดูสนใจของโทนี่ เเจ็คสันเองก็รู้สึกพึงพอใจเช่นเดียวกัน เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงแบบเเปลนพิมพ์เขียวเรือเหาะสงครามระดับ E เพียงเท่านั้น หากในอนาคตเขามีเเต้มคะแนนมากมายเขาสามารถเเลกเปลี่ยนเรือเหาะสงครามระดับสูงกว่านี้ได้ หากโทนี่ได้เห็นสิ่งที่ยิ่งกว่านี้มันจะไม่ทำให้โทนี่ตกใจจนตายไปเลยหรอ


 


“ไม่ใช่ว่าคุณควรจะตั้งใจรอการประมวลผลจาก J.A.R.V.I.S หรอกหรอ?”เเจ็คสันยิ้มออกมา ท่าทีของเขาไม่ได้ดูตื่นตกใจเหมือนโทนี่


 


“เจ้าเด็กคนนี้ !! หากสิ่งที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ของเธอสามารถทำให้มันเป็นรูปร่างได้จริง บางทีเราอาจจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่เธอวาดฝันไว้เมื่อครู่นี้ก็ได้!”คำพูดของโทนี่คราวนี้ดูตื่นเต้นมาก


 


พิมพ์เขียวเเห่งนี้คือพิมพ์เขียวต้นแบบเเห่งการประดิษฐ์ เเละ ใครคือโทนี่ ,โทนี่ สตาร์ก บุคคลผู้มีพรสวรรค์ในการสรรค์สร้างหลายสิ่งที่โลกไม่เคยมีมาก่อนเเน่นอนว่าโทนี่เคยผ่านตาแบบเเปลนพิมพ์เขียวมามากมายเเต่ไม่ใช่กับเเบบเเปลนพิมพ์เขียวนี้ เเม้เขาจะดูมีท่าทีสุขึมเยือกเย็นเเต่ในใจของเขาตอนนี้กำลังโลดเต้นเเทบบ้าคลั่ง มันคืออะไรนะหรอ นี่มันคือ เรือรบอวกาศ สิ่งที่จะสามารถทำให้อารยธรรมมนุษย์สามารถตะลุยในห้วงอวกาศได้ มันเป็นสิ่งที่จะทำให้อารยธรรมโลกของพวกเขาก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นนึง


 


เเม้ว่าชุดเกราะไอรอนแมนของ โทนี่ จะมีกลวิธีที่จัดการสนามรบได้ดีกว่าเรือเหาะสงครามนี้ เเต่เรือเหาะสงคราม คือวัตถุที่สามารถใช้ท่องอวกาศได้ นี่เป็นสิ่งที่ชุดเกราะไอรอนแมนในตอนนี้ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นความสามารถของทั้งสองจึงต่างกัน


 


หากคุณสงสัยก็ลองคิดภาพเรือเหาะสงครามระดับ E จำนวนหลายร้อยลำพร้อมกับกองทัพไอรอนแมนหลายพันตัว กองกำลังขนาดนี้จะทรงอิทธิพลขนาดไหน บางทีกระทั่งอาจสามารถพิชิตอารยธรรมดวงดาวอื่น ๆ ได้


 


“ดังนั้นผมถึงบอกว่าหากคุณได้ดูสิ่งนี้บางทีคุณอาจจะมีความเชื่อในเป้าหมายของผมไง”เเจ็คสันที่เห็นโทนี่มีอาการเเสดงออกที่ผิดปกติต่อเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E เขาเองก็เเอบยิ้มในใจ


 


“หึ่ม! เจ้าเด็กคนนี้ เเท้จริงเเล้วเธอยังมีความลับที่ยังไม่ได้บอกฉันมากน้อยเเค่ไหนกัน!”ในเวลานี้โทนี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันเเละพูดขึ้น ไพ่ที่เเจ็คสันเผยต่อหน้าของเขา เเน่นอนว่ามันร้ายกาจมากเกินกว่าที่โทนี่จะจินตนาการได้


 


“ก็อาจจะมีมากพอสมควร หากมันถึงเวลา ผมจะบอกคุณอย่างเเน่นอน!”เเจ็คสันไม่ได้พูดโกหก เเน่นอนว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่รุนเเรงเเละเเข็งเเกร่งกว่านี้ มันจะตามมาภายหลัง


 


“เห้อ ฉันชักรู้สึกสงสัยในตัวเธอซะเเล้วสิ”โทนี่รู้ว่าความลับของเเจ็คสันย่อมไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน


 


บางทีเเจ็คสันอาจจะได้รับมรดกของอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่เเห่งนึง ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถอธิบายเรื่องเหล่านี้ออกมาเป็นเหตุผลได้ เพื่อต้องการรับสิ่งตอบเเทนเหล่านี้ ก็ต้องสืบทอดความต้องการบางอย่างเพื่อให้ได้รับมันมา บางทีนี่อาจจะเป็นหนึ่งในความลับที่เเจ็คสันไม่ได้เปิดเผยต่อเขา


 


เเต่ความคิดของโทนี่ก็ไม่เเตกต่างจากการคาดเดาตัวตนของระบบ,ระบบ นั้น เลือก เเจ็คสันเป็นเป้าหมาย ทั้งยังปูให้เขาเดินบนเส้นทางซูเปอร์ฮีโร่ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ นอกจากนี้เควสเเต่ละอย่างที่ระบบมอบให้ ก็ตอบเเทนด้วยผลรางวัลเเละประสบการณ์ นี่เป็นบางสิ่งที่เรียกว่าเจตนารมณ์คล้ายการสืบทอดพลัง


 


“อืม,ผมเองก็อยากจะบอกเเต่หากความลับนี้ถูกบอกออกไปมันก็คงไม่ใช่ความลับจริงมั้ย?”เเจ็คสั้นเเกล้งเล่นลิ้นต่อหน้าโทนี่


 


เขาเชื่อว่าโทนี่จะต้องคิดว่าเขาได้รับสืบทอดมรดกของอารยธรรมใหญ่ ๆ สักเเห่งอย่างเเน่นอน ถึงอย่างไรเเม้โทนี่จะมีการคาดการณ์เเละสกิลการเดาที่ค่อนข้างสูงเเต่ก็คงไม่คาดคิดถึงตัวตนที่เเปลกประหลาดอย่างระบบเป็นเเน่


 


“เอาล่ะ,อย่างไรก็ตามฉันมีบางสิ่งที่อยากรู้จากเธอถึงการที่เธอมอบเเบบเเปลนนี้ให้ฉันดู หากเธอทำให้ฉันพึงพอใจ ฉันยินดีที่จะช่วยเธอ”โทนี่ รู้ดีว่าคงไม่มีทางล้วงความลับของเเจ็คสันออกมาได้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนทิศทางของคำถาม


 


“ผมต้องการกำจัดองค์กรไฮดร้าก่อนเป็นอันดับเเรก!”ได้ยินคำถามของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวตอบตามตรง


 


“กำจัดไฮดร้า?นี่เป็นเป้าหมายของเธอ อย่างไรตามฉันก็ไม่ได้อยากจะพูดให้เธอยอมเเพ้เรื่องนี้หรอกนะเเต่การกำจัดพวกมันไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ยิ่งไปกว่านั้นไพ่ในมือของเธอใบนี้เกรงว่าคงจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ รู้ดีว่าเเจ็คสันหมายถึงอะไร


 


ท้ายที่สุดเขาก็สามารถเดาได้ เเจ็คสัน ถูกไฮดร้าจับตัวไป ทั้งยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกพวกมันฆ่าสูง เเน่นอนว่าเเจ็คสันย่อมเเค้นเป็นธรรมดา เเละความเเค้นนี้ได้เปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่เเจ็คสันมีต่อพวกไฮดร้าจนถึงที่สุด


 


“เจ้านายครับ,ผลลัพธ์ได้รับการคำนวณเสร็จสิ้นเเล้ว!”ในระหว่างที่ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน สนทนากัน J.A.R.V.I.S ที่ประมวลผลแบบเเปลนพิมพ์เขียวเสร็จได้กล่าวเเทรกขึ้น


 


“เป็นอย่างไร,สามารถสร้างได้หรือไม่?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ไม่ได้ถามเเจ็คสันต่อเขารีบหันไปกล่าวถาม J.A.R.V.I.S อย่างกระวนกระวาย


 


“จากการประมวลผลการจำลอง,แบบเเปลนพิมพ์เขียวนี้เป็นของจริงเเละสามารถสร้างได้”J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานผลอย่างรวดเร็ว


 


ฟุ่บ!


 


ได้รับการตอบกลับจาก J.A.R.V.I.S โทนี่ ราวกับตื่นจากความฝันเเละกล่าวอย่างโง่งม”นี่มันเป็นเรื่องจริง?”


 


“เพียงเเต่ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของโลกเราคงจะไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ในขณะนี้”เห็นโทนี่ตื่นเต้น J.A.R.V.I.S รีบกล่าวเสริมต่อ


 


เเม้จะเป็นเรือเหาะสงครามระดับ E เเต่เมื่อเทียบกับวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีในปัจจุบันของโลกเเล้ว เเน่นอนว่ายังคงเป็นปัญหาอยู่


 


กล่าวอีกนัยนึงคือถึงจะเป็นสิ่งของที่วิเศษเพียงใด เเต่ด้วยเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างสิ่งของเหล่านี้


 


“ฉันเข้าใจดี เรื่องปัญหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีปล่อยมันไว้ก่อน ได้รู้ว่ามันเป็นของจริงเเละสามารถสร้างได้เท่านี้ก็พอเเล้ว”ได้รับคำตอบของ J.A.R.V.I.S อีกครั้ง เเน่นอนว่าโทนี่ไม่ได้ผิดหวังเกี่ยวกับคำตอบนี้


 


“ครับ,เจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ตอบกลับเบา ๆ


 


“เเม้ว่าเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันของเราจะอ่อนเเอ เเต่ตราบใดที่มันสามารถสร้างได้เเน่นอนว่าฉันย่อมมีโอกาสที่จะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างเเน่นอน”โทนี่ รู้สึกมั่นใจในเรื่องนี้มาก


 


“J.A.R.V.I.S ส่งข้อมูลทั้งหมดไปเก็บไว้ในคลังข้อมูลของหมายเลข 16 ของฉัน เฝ้าระวังความปลอดภัยเกี่ยวกับมันทุกวันเราจะต้องมั่นใจว่าข้อมูลนี้จะต้องไม่รั่วไหลออกไป”หลังจากตรวจสอบสิ่งต่างๆ เสร็จ โทนี่ ก็กล่าวต่อ


 


เเน่นอนว่าหาก J.A.R.V.I.S ถูกเเฮ็คเข้าระบบย่อมเป็นอันตรายต่อข้อมูลเหล่านี้มาก เพียงเเต่ โทนี่ไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีคนเเฮ็คระบบเเละเจาะผ่านปราการป้องกันของ J.A.R.V.I.S เข้ามาได้นอกจากเขา


 


“คุณสตาร์ก,เช่นนั้นคุณยอมรับเเล้วใช่ไหมว่าเป้าหมายของผมไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน?”เห็นโทนี่กล่าวอย่างตื่นเต้นเเจ็คสันถามอย่างสนใจ

 

 

 


ตอนที่ 306

 

“สิ่งเพ้อฝัน?ไม่…ในมุมมองของฉัน เธอก็ไม่ต่างไปจากเด็กคนนึง”เห็นเเจ็คสันเเสดงท่าที่โอ้อวด โทนี่ พูดอย่างจริงจริง


 


“ใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวนะ คุณว่าอะไรนะ?”เดิมเขาเหมือนรู้สึกว่าโทนี่จะชื่นชมเขา เเต่เเจ็คสันราวกับได้ยินคำพูดผิดไป


 


ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน รู้สึกสงสัย ไม่ใช่ว่าโทนี่ควรจะชื่นชมเขา ที่สามารถหาเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E นี้มาได้ไม่ใช่หรอกหรอ เเต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?


 


“ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจในคำพูดฉันผิดไป,ในสายตาของเธอ เธอคงคิดว่าเรือเหาะสงครามนี้อาจจะเป็นอิทธิพลที่เเข็งเเกร่งเเละสามารถกระทั่งยึดครองโลกได้ใช่มั้ย?”โทนี่ กล่าวถาม


 


“หรือว่าไม่ใช่?”


 


“ป่าวเลย,ที่ฉันกำลังจะบอกเธอหมายถึงวิธีการใช้ประโยชน์สูงสุดของมันต่างห่าง ความคิดของเธอนั้นยังคงตีกรอบในวงเเคบเกินไป ดังนั้นฉันถึงบอกว่าเธอยังเด็ก เเน่นอนว่าอาวุธเรือเหาะสงครามนี้คือเรือรบที่สามารถเดินทางในอวกาศได้เธอลองคิดภาพที่เรามีจำนวนเรือรบเเละกองกำลังที่เพียบพร้อมดู? คิดเอาว่าอารยธรรมของโลกเราจะก้าวหน้าขนาดไหน?”เห็นเเจ็คสันมีเป้าหมายเพียงเเค่ใช้จัดการสิ่งต่าง ๆ ในโลก โทนี่ กล่าวตำหนิทันที


 


“คุณคิดจะใช้เรือเหาะสงครามนี้เดินทางเพื่อค้นหาเเละพิชิตอารยธรรมอื่น ๆ ?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างตื่นตะลึง


 


เขาคิดว่าโลกในปัจจุบันตอนนี้ยังคงไม่พร้อม ทั้งจักรวาลอื่นๆ ที่น่าเกรงขามก็มีมากมาย ตัวตนเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่โลกในตอนนี้จะรับมือได้


 


“ใช่,เธอไม่คิดหรอว่า เรือเหาะสงครามนี่ สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้เยอะ”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวพูดเสริมถึงความสามารถของเรือรบนี้


 


“เรื่องนี้…เพียงเเต่นี่เป็นเพียงเเค่เรือเหาะสงครามระดับ E ประสิทธิภาพของมันเเน่นอนว่ายังคงมีขีดจำกัด”ได้ยินคำพูดของโทนี่ อีกครั้ งเเจ็คสัน กล่าวอย่างลังเล


 


“เดี๋ยว เมื่อกี้ เธอบอกว่า เเบบเเปลนนี้คือเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E เช่นนั้น ย่อมต้องมี ระดับ A,B,C,D ใช่ไหม?”โทนี่ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ


 


“….เเน่นอน เพียงเเต่สิ่งเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ผมในตอนนี้ คงไม่มีโอกาสที่จะได้รับมันมา”เห็นความคลั่งไคล้ของโทนี่ ประกายออกมา เเจ็คสัน กล่าวตอบอย่างเร่งรีบ


 


“ฉันรู้เเน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นคงไม่สามารถได้มาง่าย ๆ “โทนี่ ในที่สุดก็สงบลง เเต่คำตอบเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก


 


“สำหรับเเผนเเนวคิดที่จะเดินทางค้นหาอารยธรรมอื่น ๆ ที่ฉันพูดไปเมื่อครู่นี้ เเน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถทำได้ตอนนี้ เเม้จะทำได้ โลกของเราก็ยังไม่พร้อมรับมือกับเรื่องนี้อยู่ดี ดังนั้นเราต้องสร้างรากฐาน เราจำเป็นจะต้องทำมันเป็นขั้นตอนทีละอย่าง”เห็นเเจ็คสันพูดถึงแบบเเปลนเรือรบระดับที่สูงกว่าที่เขาได้ครอบครองอยู่ตอนนี้ โทนี่ วางเเผนในอนาคตอย่างรวดเร็ว


 


“เเน่นอน,เช่นนั้น คุณสตาร์ก คุณยินดีที่จะร่วมมือกับผมเพื่อทำให้เป้าหมายที่เพ้อฝันของผมเเละของคุณเป็นความจริงหรือไม่?”เเจ็คสันรู้ดีว่าโทนี่มีความคิดที่จะนำโลกก้าวพัฒนาไปสู่อารยธรรมที่เเข็งเเกร่ง จนกระทั่งโลกสามารถปกครองตนเองได้โดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด


 


มองไปที่ เด็กหนุ่มที่อายุประมาณ 17 ปี คนนี้ โทนี่ รู้สึกว่าเด็กคนนี้เต็มไปด้วยความลึกลับมากมายจริง ๆ


 


“ฮึ่ม,เจ้าเด็กนี่, ตั้งเเต่ที่เธอนำสิ่งนี้มาให้ฉัน เธอก็คงคาดหวังคำตอบที่จะได้จากฉันอยู่เเล้วสินะ เอาเถอะ ตราบใดที่เธอไม่ได้มีความคิดที่ชั่วร้าย เเละต้องการที่จะช่วยเหลือโลกของเราให้เลื่อนระดับไปสู่อารยธรรมที่เเข็งเเกร่ง ฉัน โทนี่ สตาร์ก จะขอร่วมมือกับเธอเอง”เผชิญหน้ากับคำถามของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล


 


“ฮ่าฮ่า,ผมคิดอยู่เเล้วว่าคุณสตาร์กจะต้องเลือกได้ดี สมกับเป็นคุณ!”ได้ยินคำตอบของโทนี่ เเจ็คสัน เองก็รู้สึกผ่อนคลาย ได้โทนี่มาร่วมอุดมการณ์ของเขาเเน่นอนว่าในอนาคตเส้นทางในการเก็บรวบรวมเเต้มคะแนนของเเจ็คสันเพื่อเเลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการก็จะง่ายขึ้น


 


“นอกจากนี้ ฉันอยากให้เธอรับปาก ตอนนี้เราได้ลงเรือลำเดียวกันเเล้ว ถ้าเธอมีเรื่องอะไรขอให้บอกกล่าวต่อฉันอย่าคิดปิดบังอีกเข้าใจมั้ย?”เห็นท่าทางของเเจ็คสันที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม โทนี่ กล่าวเตือน


 


“ผมเข้าใจเเล้ว!”


 


ฟุ่บ!


 


“เจ้านายครับ,ดูเหมือนตัวเเทนของ S.H.I.E.L.D. เจ้าหน้าที่ โคลสัน จะติดต่อมา”ในขณะที่เเจ็คสันเเละโทนี่กำลังสนทนากัน J.A.R.V.I.S ก็ได้ส่งเสียงเตือน


 


“S.H.I.E.L.D. ? พวกเขามีข่าวของทอมหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันรู้สึกกังวล


 


“J.A.R.V.I.S ต่อสายให้ฉัน!”เห็นเเจ็คสันตะโกนด้วยความกังวลต่อเพื่อนของเขา โทนี่ บอก J.A.R.V.I.S ให้ต่อสายโคลสัน ทันที


 


“สวัสดี เจ้าหน้าที่โคลสัน”


 


“อ่า,คุณสตาร์ก ตอนนี้ มิราจไนท์ อยู่ที่นั่นหรือไม่?”ทันทีที่ต่อสายเเละได้ยินเสียงของโทนี่ เจ้าหน้าที่โคลสัน กล่าวถามหา มิราจไนท์


 


“อืม,ฉันอยู่ที่นี่ เจ้าหน้าที่โคลสัน คุณเคลียร์สนามรบที่นั่นเสร็จรึยัง?”ได้ยินเจ้าหน้าที่โคลสันพูดถึงตัวเอง เเจ็คสัน ทนไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดโดยตรง


 


“เอ่อ…สวัสดี คุณมิราจไนท์ พวกเราได้เคลียร์พื้นที่สนามรบเเล้วเเต่คงยังไม่สะอาดเท่าที่ควร นอกจากการช่วยเหลือบุคลากรของเราที่ติดอยู่ ก็ยังมีสิ่งนึง…”ได้ยินมิราจไนท์กล่าวถาม โคลสัน ตอบกลับอย่างรวดเร็ว เเต่ก็ต้องหยุดชะงักไป


 


“มีอะไร?”เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันไม่พูดต่อ เเจ็คสันรู้สึกกังวลมาก


 


“คุณสตาร์ก บุคคลที่คุณให้เราตามหาพวกเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดเเล้ว จนถึงตอนนี้พวกเรายังไม่พบวี่เเววของเขาเเม้เเต่น้อย”เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวพูดบอกโทนี่


 


ก่อนหน้านี้เเจ็คสันต้องการวนกลับไปช่วยเหลือ ทอม เพื่อนสนิทของเขา เเต่ได้ถูกขวางโดยโทนี่ อย่างไรก็ตาม โทนี่ ก็ให้ S.H.I.E.L.D. ช่วยหาบุคคลนั้นเเทน เเต่ไม่ได้บอกว่าบุคคลที่เขาต้องการให้หานั้นเเท้จริงเเล้วเป็นคนที่มิราจไนท์ต้องการ


 


“ไม่พบ?เขาอาจจะหลงอยู่สักที่ใดในฐานเเห่งนั้นก็ได้ เพราะฐานเเห่งนั้นค่อนข้างใหญ่”คราวนี้โทนี่ เปิดปากพูด เขาส่งสัญญาณมือบอกให้เเจ็คสันสงบลงก่อน


 


“เรื่องนี้…เกรงว่าหากเป็นเช่นนั้นคงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะฐานเเห่งนี้ได้ระเบิดขึ้นเเละรัศมีได้ครอบคลุมเป็นวงกว้าง ตอนนี้เเทบจะไม่เหลือสถานที่ที่สามารถหลบซ่อนหรือเล็ดรอดสายตาพวกเราไปได้อีก เพียงเเต่ยังมีความเป็นไปได้อยู่สองทาง หนึ่งคือ ทอม สมิธ ได้หลบหนีไปพร้อมกับพวกไฮดร้า อีกทางเลือกนึงคือ เขาอาจจะพลาดท่าโดนลูกหลงของระเบิดเเละตายไป”ได้ยินคำถามของโทนี่ เจ้าหน้าที่โคลสัน พิจารณาเเละตอบกลับ


 


“ความเป็นไปได้ทั้งสองทางนี้ไม่ใช่ข่าวที่ดีเลย!”ได้ยินคำตอบเช่นนี้โทนี่ย่นคิ้วในเวลาเดียวกัน


 


“เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ โคลสัน ฉันคงต้องขอพึ่งคุณให้ช่วยทำการค้นหาต่อไป เเละฝากเคลียร์สนามรบทางฝั่งนั้นด้วย”โทนี่ กล่าวเสริมอีกครั้ง


 


“นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย นอกจากนี้ คุณสตาร์ก ดูเหมือน กัปตันโรเจอร์ส ต้องการติดต่อกับ มิราจไนท์ ไม่ทราบว่าคุณจะว่าอย่างไร…”หลังจากจบบทสนทนา โคลสันกล่าวพูดขึ้น


 


“กัปตันโรเจอร์ส เขาต้องการติดต่อกับมิราจไนท์? ไว้ฉันจะติดต่อกลับไปหาเขา ให้เขาพักผ่อนไปก่อนเถอะ ดูจากสภาพของเขาเเล้วไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก”โทนี่กล่าวตอบ


 


“ดี,เช่นนั้นฉันจะส่งข่าวนี้ให้กัปตันโรเจอร์ส”


 


“อืม,ไว้ค่อยคุยกัน”จากนั้นโทนี่ ก็ให้ J.A.R.V.I.S วางสาย


 


โทนี่จ้องมองไปที่ใบหน้าของเเจ็คสันที่กำลังรู้สึกกังวลอยู่ตอนนี้

 

 

 


ตอนที่ 307

 

“เพื่อนของเธอมีโอกาสที่จะถูกพวกไฮดร้าจับไปเป็นตัวประกันสูง เพราะพวกมันรู้ว่าเธอกับทอมสมิธมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พวกมันคงไม่ปล่อยให้เขาตายอย่างเเน่นอน”เห็นว่าเเจ็คสันเป็นกังวล โทนี่ กล่าวปลอบเขา


 


อึ๊ก~


 


เเจ็คสันที่ก้มหน้าด้วยความสลดเมื่อครู่ได้เงยศีรษะขึ้นเเละยิ้มให้กับโทนี่”คุณสตาร์ก ผมไม่เป็นไร นอกจากนี้ผมเชื่อว่า ทอมจะต้องไม่ตาย พวกมันต้องการใช้เขาเป็นเครื่องต่อรองเป็นเเน่ เเน่นอนว่านี้เรายังมีโอกาสที่จะช่วยเขาอยู่”


 


“…”โทนี่คิดว่าเเจ็คสันจะทำใจยอมรับไม่ได้ กลับกัน ไม่คาดคิดว่า เเจ็คสันจะตอบสนองได้ดีเกินคาดทำให้โทนี่ค่อนข้างตกใจเล็กน้อย


 


“นอกจากนี้ผมต้องขอบคุณ คุณมาก คุณสตาร์กที่ช่วยเหลือผมกลับมา เกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือของเราก็ได้พูดไปเเล้ว เเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E คงต้องฝากไว้ที่คุณเเล้วล่ะ ตอนนี้ผมขอตัวกลับบ้านก่อน เเม้ว่าคุณจะบอกพ่อกับเเม่ของผม เเต่พวกท่านก็คงเป็นกังวลใจอยู่ดีหากผมไม่ได้กลับบ้านไปเลย”ไม่ต้องรอให้โทนี่พูดอะไรต่อ เเจ็คสัน พูดขึ้น


 


“อืม,เช่นนั้นเธอกลับบ้านไปก่อนเถอะ”โทนี่ ไม่สามารถรู้ได้ว่าในปัจจุบันเเจ็คสันคิดอะไร เขาตอบกลับความคิดของเเจ็คสัน


 


~


 


อย่างไรก็ตามเเจ็คสันยังไม่ได้เดินทางกลับ เพียงเเต่ยกมือทั้งสองข้างขึ้น ซึ่งหลังจากที่โทนี่เห็นกุญเเจมือที่สวมอยู่ที่ข้อมือของเเจ็คสัน เขาก็ลืมไปเลย นี่เป็นกุญเเจมือพิเศษที่ทำจากโลหะผสมอดาเเมนเทียม มันเเข็งเเกร่งอย่างมาก


 


“! เอาเป็นว่าฉันจะช่วยถอดมันออกก่อนเเล้วกัน โชคดีที่พ่อของฉันทิ้งข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับโลหะอดาเเมนเทียมเอาไว้ ไม่งั้นคงลำบากเป็นเเน่…”เห็นข้อมือทั้งสองข้างของเเจ็คสัน โทนี่ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปที่ห้องปฏิบัติการของเขา


 



 


ฟุ่บ!


 


หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชุดเกราะไอรอนแมนก็ออกจากวิลล่าส่วนตัวของโทนี่ มุ่งหน้าเดินทางไปยังใจกลางนิวยอร์ก เเน่นอนว่า ชุดเกราะไอรอนแมนนี้ ข้างในก็คือ เเจ็คสัน หากเขาเดินดุ่มด่ามออกไปข้างนอกล่ะก็ ก็คงถูกพวก S.H.I.E.L.D. จับตามองได้ ดังนั้นเขาจึงได้เดินทางออกมาด้วยชุดเกราะไอรอนแมน


 


ผ่านไป 5 นาที เเจ็คสัน ได้ขับชุดเกราะไอรอนแมน มุ่งหน้าไปยังฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์ ซึ่งตอนนี้ สไปเดอร์แมน กับคนอื่น ๆ กำลังรอเขาอยู่


 


ครื่น!


 


“! มิราจไนท์!”เห็นเเจ็คสันมาออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมน ปีเตอร์ ตะโกนขึ้นทันที


 


ในที่สุด ปีเตอร์ก็รู้สึกโล่งใจ นี่เป็นเเจ็คสันจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันถูกจับตัวไป ปีเตอร์ ได้ออกไล่ล่าพวกไฮดร้าอย่างบ้าคลั่ง เเต่ก็คว้าได้เเต่น้ำเหลวเพียงเท่านั้น


 


“ใช่ ฉันเอง!”เเจ็คสันตบหลังปีเตอร์ เบา ๆ


 


“โชคดี,โชคดีจริง ๆ ที่ปลอดภัย”ได้รู้ว่าเเจ็คสันกลับมาอย่างปลอดภัยปีเตอร์พูดอย่างมีความสุข


 


ในขณะนั้นเเฮร์รี่ ก็เดินมาจากทางด้านหลัง เขาวางเเผนที่จะเข้าไปทักทายเเจ็คสัน เพียงเเต่ปีเตอร์ได้ตัดหน้าเขาไปก่อน หลังจากที่เเจ็คสันพูดกับปีเตอร์เสร็จ เเฮร์รี่ ก็เดินเข้าไปกอดเเจ็คสัน


 


“ยินดีต้อนรับกลับ!”


 


“ขอบคุณ!”


 


จากนั้นเเจ็คสันก็ได้เเสดงความขอบคุณสมาชิกทุกคน ที่คอยช่วยเหลือเขาในยามที่เขาลำบาก เเม้ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานของโทนี่เเละ S.H.I.E.L.D. เเต่ช่วงภายหลังมานี้ เเน่นอนว่าสไปเดอร์แมนเองก็มอบบทเรียนราคาเเพงให้พวกไฮดร้าเช่นเดียวกัน


 


ธรรมชาตินอกเหนือจากคนเหล่านี้ที่เเจ็คสันต้องขอบคุณก็คือทีม X-MEN ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ ได้รับข่าวพวกไฮดร้า จาก ฟรานซิส จนทำให้ S.H.I.E.L.D. สามารถสืบเสาะหาเเหล่งกบดานที่เป็นจุดต้องสงสัยพบ


 


นอกเหนือจากคนเหล่านี้ ก็ยังมี พวกพ่อมด เเต่เเจ็คสันไม่รู้จะติดต่อกับคนเหล่านี้อย่างไร เเม้คนเหล่านี้จะออกตามหาตัวเขา เเต่ในสถานการณ์ปัจจุบันพวกเขาไม่ได้มีวิธีติดต่อกัน ดังนั้น เเจ็คสันจึงรู้สึกสงสัย เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงคอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง


 


“ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ ฉันจะต้องลองไปที่ คาร์มา-ทัช ดู เพื่อเเสดงความขอบคุณต่อ ปรมาจารย์ เอนเชี่ยนวัน”ได้ยินว่าพ่อมดมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเขาครั้งนี้เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ


 


“มิราจไนท์ ทำไมพวกไฮดร้าถึงต้องโจมตีคุณ เเละในช่วงที่คุณถูกจับตัวไป พวกมันได้ทำอะไรคุณหรือไม่?”เห็นเเจ็คสันกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง สไปเดอร์แมนกล่าวถามขึ้น


 


การกระทำของพวกไฮดร้านั้นเป็นความลับ พวกมันได้สนับสนุนฟรานซิสอยู่เบื้องหลัง ถึงอย่างนั้น พวกปีเตอร์ก็รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับการโจมตีของพวกไฮดร้าที่มีต่อ มิราจไนท์


 


“เรื่องนี้ อาจเป็นเพราะพวกมันมีเป้าหมายเป็นเราหรือทีม X-MEN เพียงเเต่ในเวลานั้นฉันได้วิ่งเข้าไปหาปากกระบอกปืนเอง”ได้ยินคำถามของปีเตอร์ เเจ็คสันตอบกลับ


 


“ในมุมมองของพวกเรา ดูเหมือนการกระทำของพวกมันจะองอาจมากทีเดียว ตอนนี้ทั้งโลกรู้เเล้วว่าองค์กรไฮดร้าคืออิทธิพลร้ายขนาดใหญ่ เเต่พวกมันก็ยังกล้าเคลื่อนไหวเช่นนี้อยู่อีก!!”ได้ยินคำตอยบของเเจ็คสัน,เเจ็ค พูดขึ้น


 


“เเน่นอนว่าพวกมันไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใด เพราะเป้าหมายของพวกมันตราบเท่าที่สามารถทำให้องค์กรไฮดร้าขยายอิทธิพลได้ ไม่ว่าอะไรมันก็จะทำ”เเจ็คสันถอนหายใจออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของเเจ็ค


 


“นอกจากนี้ฉันประมาทเกินไป เเม้จะถูกลอบโจมตีเเละถูกจับตัวได้ เเต่เป็นฉันเองที่ตั้งใจวิ่งเข้าหาฐานของพวกมัน เเละพลาดท่าโดนอาวุธที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงของพวกมันจัดการ เพราะแบบนี้ฉันจึงหลบหนีออกมาไม่พ้น”


 


ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์,เเดร์เดวิลขมวดคิ้วเล็กน้อย”ดูเหมือนว่าการคาดเดาของฉันจะถูกต้อง มิราจไนท์ เดิมได้ดำเนินการตามเเผนของตัวเอง นอกจากนี้ นายรู้หรือไม่ว่าสองคนนั้นที่ลอบโจมตีนายคืนนั้นคือใคร?”


 


“ใช่ฉันรู้จักพวกเขา ไม่เพียงเเต่เเค่รู้จัก บางทีอาจกระทั่งรู้จักต้นกำเนิดของทั้งสองคนดี”ได้ยินคำพูดของเเดร์เดวิล เเจ็คสันพยักหน้าตอบ


 


“พวกเขาเป็นใคร? ฉันเคยถาม พวกคนจากทีม X-MEN เเล้ว เเต่พวกเขาบอกไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมิวแทนท์สองคนที่มีพลังน่ากลัวระดับนี้มาก่อน”เห็นเเจ็คสันพูด ปีเตอร์กล่าวถามอย่างเร่งรีบ


 


“ชื่อของเพื่อนที่มีความเร็วสูงคนนั้น ถูกเรียกว่า ควิกซิลเวอร์ ส่วนเพื่อนสาวของเราคนนั้นก็คือ สกาเล็ต วิช เธอมีความสามารถในการควบคุมจิตใจหรือก็คือพลังจิต ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน เเละ เป็นมิวแทนท์ที่เเข็งเเกร่งมาก”เเจ็คสันพูดชื่อ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ออกมา ในปัจจุบัน ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขาจำเป็นจะต้องรู้ข้อมูลรายละเอียดเเละความสามารถของศัตรู


 


“ความสามารถควบคุมจิตใจ? นั่นคือเวทมนตร์ที่เเท้จริงของเธอ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันเกี่ยวกับการอธิบายพลังของ สกาเล็ต วิช ทำให้ เดดพูล เปิดปากพูดขึ้น การต่อสู้ของสไปเดอร์แมน เเละ สกาเล็ต วิช ตอนนั้นเธอไม่ได้ใช้ความสามารถควบคุมจิตใจ ดูเหมือน สกาเล็ต วิช คนนี้ จะเก็บงำพลังเอาไว้อยู่


 


“เวทมนตร์?ไม่เลย ความสามารถของ สกาเล็ต วิช ไม่ใช่เวทมนตร์”ได้ยินคำพูดของเดดพูลที่เปรียบเทียบพลังของสกาเล็ต วิช เป็นเวทมนตร์ เเจ็คสัน ยิ้มออกมาเล็กน้อย


 


“หึ่ม~~~~ จากที่ฉันดูความสามารถของเธออย่างไรก็ตามไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอเเข็งเเกร่งมาก!”เดดพูลไม่ได้สนใจคำพูดของเเจ็คสัน


 


ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน ได้ถูกความสามารถของสกาเล็ต วิช โจมตี ทางจิตวิญญาณ เเน่นอนว่าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น จิตของคนเหล่านี้อาจจะได้รับความเสียหาย เเม้เเจ็คสันจะรอดมาได้ เเต่เขาก็ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นเช่นเดียวกัน


 


“ดังนั้นฉันขอเตือนหากพวกนายพบเธอ พยายามซ่อนตัวให้อยู่ห่างไกลที่สุด เเต่ทางที่ดี การฝึกฝนก็เป็นเรื่องสำคัญ หากพวกนายมีจิตใจที่เข้มเเข็งก็จะสามารถต้านทานพลังของเธอได้”เเจ็คสันได้อธิบายเกี่ยวกับการต้านทานความสามารถของสกาเล็ต วิช เขาได้กล่าวเตือนทุกคน


 


“มิราจไนท์ คุณวางเเผนจะทำอะไรต่อจากนี้?”

 

 

 


ตอนที่ 308

 

ได้ยินคำถามของของเเฮร์รี่เเจ็คสันเองก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ ตอนนี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขาก็มารวมตัวกันที่นี่ นอกจากนี้ เเจ็คสันยังมีความปราถนาอยู่ลึก ๆ ในใจ เป้าหมายของเขาไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่าพวกมันจะเป็นใคร


 


“เเผน?เเน่นอนว่าเเผนของฉันก็คือการทำให้พวกไฮดร้าพวกนี้ไม่ได้ตายดี!”เเจ็คสันกล่าวตอบเเละเเสดงท่าทีอย่างเย็นชา


 


ได้ยินคำตอบของ เเจ็คสัน เเฮร์รี่ เเละ คนอื่นๆ ในทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ ไม่ได้เเสดงออกอย่างเเปลกใจ นอกจากนี้ เป้าหมายของพวกเขาคือการกำจัดองค์กรชั่วร้าย เเละ ไฮดร้า เองก็เป็นหนึ่งในนั้น


 


“ธรรมชาตินี่เป็นเรื่องความเเค้นส่วนตัวของฉัน พวกนายจะไม่เข้ามายุ่งก็ได้”จ้องมองไปที่ท่าทีไม่เปลี่ยนเเปลงของคนในทีมของเขา เเจ็คสัน กล่าวพูดเสริม


 


การกำจัดพวกไฮดร้าเป็นเป้าหมายนึงของเขา ทั้งยังเป็นความเเค้นส่วนตัว หลังจากที่เขาพลาดท่าถูกจับตัวไป เเจ็คสันก็รู้เเล้วว่าความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของพวกไฮดร้านั้นรุนเเรงเพียงใด ปัจจุบันความเเข็งเเกร่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ไม่ใช่สิ่งที่จะต่อสู้กับพวกไฮดร้าได้เลย นอกจากนี้ พวกไฮดร้ายังรู้สถานะของเขา เขากังวลว่า พวกปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ จะตกอยู่ในอันตราย


 


“มิราจไนท์ เรื่องของคุณ ก็คือเรื่องของเรา ! ยิ่งกว่านั้นพวกไฮดร้าเป็นพวกชั่วช้าพวกนี่ไม่ใช่เป้าหมายของคุณคนเดียว”หลังจากที่เเจ็คสันกล่าว ปีเตอร์ กล่าวเสริมขึ้น เเน่นอนว่าปีเตอร์รู้ว่ามิราจไนท์คือเเจ็คสัน เขาย่อมไม่ปล่อยให้เพื่อนของเขาสู้ตามลำพัง


 


“ใช่เเล้ว,หน้าที่จัดการพวกไฮดร้าไม่ใช่ของคุณคนเดียว”หลังจากที่ปีเตอร์กล่าวสนับสนุน เเฮร์รี่ ก็ตัดสินใจจะเข้าร่วมด้วย เเม้ตอนนี้เขาจะไม่ใช่ลูกทีมของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทั้งตัว เเต่เขาก็จะไม่ยอมให้เเจ็คสันต้องลุยเดี่ยวเรื่องนี้


 


“เเม้ว่าความเเข็งเเกร่งของตัวฉันจะอ่อนเเอกว่าคุณ เเต่เบื้องหลังอิทธิพลครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ของฉัน ก็อาจจะช่วยเหลือคุณได้ไม่มากก็น้อย”เเจ็คกล่าวตอบ เเน่นอนว่า อิทธิพลของครัวเเฟรงเกนสไตน์นั้นไม่อาจดูถูกได้ เเน่นอนว่าเเมตต์เองก็เห็นด้วย


 


“เฮ้~ เเม้ว่า ฟรานซิสจะตกตายไปเเล้ว เเต่พวกไฮดร้า ก็เป็นคนสนับสนุนมัน ฉันจะเข้าร่วมด้วยคน”เห็นเพื่อนร่วมทีมให้การสนับสนุน มิราจไนท์ เดดพูล หัวเราะออกมา


 


“พวกนาย…,เช่นนั้นก็ฝากตัวด้วย”เห็นทุกคนให้การสนับสนุนตัวเอง เเจ็คสัน รู้สึกตื้นตันใจมาก นี่เป็นทีมของเขา เป็นทีมที่เขารวบรวมทุกคนที่สามารถเชื่อใจได้ เเจ็คสันรู้สึกขอบคุณตัวเองที่เขาคิดไม่ผิด


 


“ฉันก็สนับสนุนคุณเหมือนกัน มิราจไนท์!”เจอร์รี่ เห็นทุกคนสนับสนุนมิราจไนท์ ในฐานะที่เขาเป็นคนคอยซับพอร์ตทีมอยู่เบื้องหลัง เขาย่อมไม่อาจละทิ้งหน้าที่นี้ได้


 


“อืม,ขอบคุณ สกาย’อาย ขอบคุณทุกคน”เเจ็คสันพูดขอบคุณจากใจจริงของเขา


 


“ฮ่าฮ่า,ตอนนี้พวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันทั้งหมดสินะ!”ปีเตอร์ดึงเเจ็คสันเข้ามาโอบไล่ด้วยรอยยิ้ม


 


“อืม! “เเฮร์รี่ เห็นด้วย


 


“จุดประสงค์ที่เเท้จริงของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเรา ไม่เพียงเเต่ปกป้องนิวยอร์กเเห่งนี้ เเต่เราจะปกป้องโลกใบนี้เเละคนอื่น ๆ เเละสิ่งที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใดที่พวกเรามีก็คือ มิตรภาพ”เเดร์เดวิล เเมตต์ เองก็ยื่นมือไปสัมผัสไหล่ ของเเจ็คสัน


 


“ใช่,ฉันเองก็จะชักนำครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ไปสู่จุดที่รุ่งเรืองพวกเขาจะกลายเป็นหนึ่งในกองกำลังของพวกเรา”เเจ็คเองก็ยืนยันเรื่องนี้


 


“ฉันคงไม่มีอะไรจะพูด เพียงเเต่ เป้าหมายเเรกของพวกเราคือพวก ไฮดร้าสินะ!”เดดพูล เเละ คนอื่น ๆ ก็เดินเข้ามาในวงเบื้องหน้าของเเจ็คสัน


 


“ฉันเองก็จะพยายามด้วย!”ทันทีที่เจอร์รี่เข้ามา ทุกคนก็โอบไหล่กอดคอกันเเละกัน


 


จากนั้นทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคนก็ล้อมวงหันหน้าเข้าหากัน เเม้ทุกคนจะสวมหน้ากากหมด ยกเว้น เเจ็ค เเละ เจอร์รี่ ในเวลานี้ เเต่พวกเขากลับมีความเชื่อใจกันเเละกัน


 



 


หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็วางเเผนจัดการพวกไฮดร้าเสร็จ เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ได้ขอตัวจากไป ซึ่งเเจ็คสันได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนที่เขานำมาด้วยติดตัวไป


 


พอเดินทางออกจากฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์ไปได้ไกลพอสมควร ทั้งสามคนก็ถอดเสื้อคลุมที่ปิดบังสถานะของตัวเองออก เเจ็คสัน ถอดชุดสูทภูติมายาของเขาออก ปีเตอร์ เองก็ถอดชุดสไปเดอร์เเมน สำหรับ เเฮร์รี่ ชุดเกราะของเขาค่อนข้างถอดได้อย่างยากลำบาก


 


ชุดสูทภูติมายาของเเจ็คสันเพียงเเค่นึกคิดก็สามารถสวมใส่หรือถอดได้ ส่วนปีเตอร์ เพียงเเค่เขาสวมหมวกปิดบังอำพรางเพียงเท่านั้น เพราะชุดของปีเตอร์อย่างไรก็ยังสามารถใช้เสื้อผ้าอื่นสวมทับได้


 


เมื่อเทียบกับชุดเกราะดาร์คไนท์ของเเฮร์รี่ที่เป็นอุปกรณ์ประเภทปกปิดครึ่งลำตัวมันค่อนข้างยากที่จะถอดออก เเต่เเฮร์รี่ก็วางเเผนที่จะพัฒนาชุดเกราะของเขาเเม้โดยรวมเเล้วอุปกรณ์ของพวกเขาจะไม่สามารถเทียบกับชุดของมิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมนได้ก็ตาม เเต่ชุดเกราะของเขาก็ค่อนข้างเเข็งเเกร่งพอสมควร


 


ฟุ่บ!


 


ปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน เเฮร์รี่ ได้เดินเคียงข้างกัน พวกเขาเหมือนกับกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายธรรมดา ๆ ที่กำลังเดินทางกลับบ้าน


 


“เเจ็คสันที่นายพูดเป็นเรื่องจริง? ทอมได้ถูกพวกมันเล่นงาน?”ระหว่างเดินทางกลับบ้านได้ยินคำพูดของเเจ็คสันปีเตอร์รู้สึกไม่เชื่อ


 


เเจ็คสันได้อธิบายว่าทอมได้ถูกพวกไฮดร้าล้างสมองเเละเปลี่ยนเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะปิด เเน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคนอื่น ๆ ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเต่บอก ปีเตอร์ กับ เเฮร์รี่ เป็นการส่วนตัว


 


“อืม,ในช่วงเวลานั้นพวกมันต้องการใช้ทอมบังคับฉันเข้าร่วมไฮดร้า พวกมันได้เปลี่ยนทอมเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ตอนนี้ทอมได้ถูกพวกไฮดร้าควบคุมอยู่”เมื่อพูดถึงจุดนี้เเจ็คสันรู้สึกเเค้นเคืองพวกไฮดร้ามาก


 


“เวรเอ้ย,ไอ้พวกไฮดร้า เเล้วพวกเราจะทำยังไงกันต่อดี!”เเฮร์รี่ ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวถาม


 


เเม้ว่าเขากับทอมจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ลึกซึ้งกันมากนัก เเต่เขาก็เริ่มรู้สึกเกลียดพวกไฮดร้ามากขึ้น


 


“ไม่เห็นจะยาก,พวกเราก็เเค่ต้องช่วยทอมกลับมา”เปรียบเทียบกับเเฮร์รี่ ปีเตอร์ อยากจะช่วยเหลือทอมโดยเร็ว เขามีอารมณ์ที่รุนเเรงในตอนนี้


 


“นี่คือสัญญาที่ฉันให้ไว้กับทอม ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะช่วยเขากลับมา”เเจ็คสันพูดจริงจัง


 


“อืม,จริงสิ เเจ็คสัน ได้ยินว่าวันนั้นนายเดินทางไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต ดูเหมือนนายจะไปกับเพื่อนคนนึง ดูท่านายกับเขาจะค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำไมนายไม่เห็นเเนะนำให้พวกเรารู้จักเลย”ในระหว่างที่ทั้งสามคนเดินกลับบ้าน ปีเตอร์เหมือนจะนึกขึ้นได้ เขาได้กล่าวถามเเจ็คสัน


 


“อ๋อ,นายหมายถึง ธอร์?”

 

 

 


ตอนที่ 309

 

ได้ยินคำถามของปีเตอร์ เเจ็คสัน เกือบที่จะลืมเรื่องของ ธอร์ ไปเลย วันนั้นเขาได้ทิ้งธอร์ไว้ที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต เเละออกไปจัดการกับฟรานซิส เเละพลาดท่า จนถึงตอนนี้ ธอร์ก็ยังไม่รู้ข่าวเกี่ยวกับเขา ดังนั้นเขาจึงคิดว่าธอร์อาจกำลังกังวลเรื่องของเขาอยู่ก็เป็นได้


 


“เขาชื่อ ธอร์,ฉันรู้จักกับเขาตอนที่ฉันไปที่นิวเม็กซิโก สถานะของเขาค่อนข้างพิเศษ ฉันตั้งใจว่าจะเเนะนำให้พวกนายรู้จักทีหลังเเหละ จริงสิ พวกนายเคยเห็นเขางั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวพูดออกมา


 


“อืม,ตั้งเเต่ที่เรารู้ว่านายถูกจับตัวไปเราก็ไล่หาเบาะเเสจนพบว่านายไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตเเละร่วมดื่มกกับใครบางคน รถของนายก็ยังจอดอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าจอดนานขนาดนั้นจะได้รับใบสั่งกี่ใบก็ไม่รู้”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์ พูดออกมา


 


“หืม? ฉันให้กุญเเจรถธอร์ไปนะ เขาไม่ได้ขับรถกลับไปงั้นหรอ?”ได้ยินเช่นนี้ เเจ็คสันกล่าวถามอย่างสงสัย เเต่เขาก็พึ่งนึกขึ้นได้ ธอร์เพิ่งมาอยู่โลกสองเดือน เขาจะขับรถเป็นได้อย่างไร


 


“นายอาจจะไม่รู้ เเต่ดูเหมือนเพื่อนของนายคนนี้ไม่ได้ขับรถนายกลับไปด้วย”ปีเตอร์กล่าวบอก


 


เเจ็คสัน”….”


 


“อืม,ฉันลืมไปว่าเขาขับรถไม่เป็น”เเจ็คสันกล่าวเสียงเบา ๆ


 


“ดูเหมือนเพื่อนคนนี้ของนายจะค่อนข้างเเปลก ๆ ไว้นายค่อยเเนะนำให้เรารู้จักเขาก็เเล้วกัน”เเฮร์รี่ กล่าวพูดขึ้น เเน่นอนว่าเขาไม่ได้ไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตพร้อมกับปีเตอร์ เขาจึงไม่รู้จักธอร์


 


“อืม,ไว้มีโอกาส ฉันจะเเนะนำเขาให้พวกนายรู้จัก เขาเพิ่งย้ายมาอยู่นิวยอร์กเมื่อไม่นานมานี้ เเละกำลังมองหางาน ไม่รู้ว่าเขาจะได้รับงานหรือยัง”ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ เเจ็คสันพยักหน้าตอบ


 


จริง ๆ เเล้ว เเจ็คสันว่าจะขอให้ เเฮร์รี่ ช่วยเหลือ ธอร์ เรื่องงาน เเต่เขาก็รู้ดีว่างานที่ ออสคอร์ป นั้นไม่ง่าย เเละธอร์เองก็คงจะไม่สามารถทำได้ ทั้งยังมีเหตุผลอื่นอีก ตอนนี้ ธอร์เป้าหมายจับตามองของ S.H.I.E.L.D. หากเขาได้เข้าทำงานที่ ออสคอร์ป เเน่นอนว่าอาจไม่สะดวกซะเท่าไหร่


 


“เเล้วพวกเราจะรอ”


 


“อืม,ไว้ฉันจะเเนะนำให้เขารู้จัก”


 


“ฮ่าฮ่า, เขาเป็นใครชักอยากจะรู้จักเเล้วสิ ?”


 


“อืม,เราจะรอคอย”


 



 


นิวยอร์กห้องพักใหม่ของ ธอร์ ในขณะนี้ ธอร์ไม่ได้รับข่าวสารจากเเจ็คสันเลย เขาเดินไปในห้องอย่างกังวลใจ


 


ฟุ่บ!


 


“ทำไมยังไม่มีข่าวคราวของเเจ็คสันอีก? เขาไม่รู้หรืออย่างไรว่าข้าเป็นห่วงเขาเเค่ไหน?”ธอร์ที่เดินวนไปวนมา ท้ายที่สุดเขาก็นั่งลงบนโซฟาด้วยหน้าตาเศร้าหมอง


 


ก่อนหน้านี้ ปีเตอร์ ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับธอร์เลย ทำให้เขารู้สึกกังวลใจมาก


 


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าจับตามอง ธอร์ พวกเขาก็สังเกตุเห็นพฤติกรรมผิดปกติแบบนี้ของธอร์หลายครั้ง


 


เเน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้ว่าธอร์กังวลใจเรื่องอะไร เเต่หลังจากตรวจสอบดูอีกครั้ง พวกเขารู้ว่า ธอร์ได้กังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของเเจ็คสัน ในขณะที่ พวก S.H.I.E.L.D. เพิ่งรู้ข่าว มิราจไนท์ถูกจับตัวไปโดยพวกไฮดร้า นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาค้นพบเมื่อหลายวันก่อน เเละ ตอนนี้ พวกเขากำลังมองหาความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันของทั้งสอง เเน่นอนว่า S.H.I.E.L.D. ไม่ได้ตรวจสอบสถานะของ เเจ็คสัน โดยเฉพาะถึงขนาดที่ตามติดทุกย่างก้าว เเต่เพราะนี่เป็นโอกาสทองที่อาจจะได้ข้อมูลของมิราจไนท์


 


ดังนั้น S.H.I.E.L.D. จึงได้ลองตรวจสอบ เเละ ดูเหมือนข่าวของ เเจ็คสัน จะอยู่กับ โทนี่,โทนี่ ได้ให้การอำพรางช่วงที่เเจ็คสันหายตัวไปเเน่นอนว่าด้วยความช่วยเหลือของโทนี่ ทำให้พวก S.H.I.E.L.D. ไม่สามารถพบร่องรอยอื่นใดอีก


 


ฟุ่บ!


 


ในขณะที่ธอร์นั่งกังวลอยู่บนโซฟา โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น


 


ตู๊ดดด


 


ธอร์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะจ้องมองไปที่ชื่อบนหน้าจอเเละกดรับทันที


 


“เฮ้,เเจ็คสัน!”ธอร์ตะโกนพูดก่อนเป็นคนเเรก


 


“อืม,ฉันเอง ธอร์ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเป็นห่วง”เเจ็คสันตอบกลับเขาดูเหมือนจะลืมเพื่อนคนนี้ไปเลย


 


“ได้รู้ว่าเจ้าปลอดภัยดีก็ไม่เป็นไร ข้ากลัวว่าเจ้าจะประสบอุบัติเหตุ”ได้ยินเสียงของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวด้วยความกังวลใจ


 


“ฮ่าฮ่า,ฉันไม่ใช่คนที่จะประสบอุบัติเหตุได้อย่างง่าย ๆ หรอก เออใช่,คุณหางานทำได้หรือยัง?”เเจ็คสันไม่ต้องการพูดเรื่องในอดีตอีกเขากล่าวถามเรื่องงานของธอร์


 


ธอร์ที่ได้ยินการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาของเเจ็คสัน เเน่นอนว่าเขาไม่ได้จะถามออกไปหรือตั้งใจถามต่อ เขารู้สึกเหมือนเเจ็คสันไม่ต้องการอธิบายถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ให้เขาฟัง


 


เเม้เขาจะมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเเจ็คสัน เขาก็รู้ตัวดีว่าตอนนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ พอเขาสูญเสียพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเองไป ธอร์รู้สึกเหมือนตัวเขาไม่สามารถดำเนินการสิ่งใดได้ด้วยตัวเอง


 


“เอ่อ…ข้าก็กำลังมองหางานอยู่ เเจ็คสัน เจ้ามีงานอะไรเเนะนำข้าบ้างไหม?”ธอร์สลัดความคิดเหล่านั้นไปเเละกล่าวถามเเจ็คสัน


 


“อืม,ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากที่จะมองหางานในเมืองใหญ่ นิวยอร์กเเห่งนี้ นอกจากนี้งานที่เหมาะกับคุณนั้นค่อนข้างจะหายากซะด้วยสิ”เเจ็คสันกล่าวตอบ


 


ที่จริงเเล้วที่เขาบอกว่ายากเพราะธอร์ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับโลกได้อย่างสมบูรณ์ยังมีอีกหลายสิ่งที่ธอร์ยังไม่ได้เรียนรู้


 


นอกจากนี้ทั้งยังมีส่วนสูงของธอร์ที่สูงกว่า 1.9 เมตร ร่างกายบึกบึ่นกำยำเเละหล่อเหลาให้ราศีดูเหมือนผู้ดีในชาติวงศ์ตระกูลชั้นสูง สิ่งเหล่านี้ค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับงานทั่วไป


 


หากเป็นงานพวกทหารรับจ้าง ก็อาจจะผ่านได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร


 


นอกจากนี้ ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของธอร์ หากเป็นนายแบบ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ยังมีอีกเรื่องนึงที่ธอร์ยังไม่รู้ หากเขาเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. เเน่นอนว่า S.H.I.E.L.D. จะดูเเลเขาในฐานะเเขกจากต่างโลก ซึ่งเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องมองหางาน


 


นอกเหนือจากรูปลักษณ์หน้าตา ค่าพละทางกายที่เเข็งเเกร่ง การมองหางาน ผู้คุ้มกันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เเต่เรื่องนี้ เกรงว่า S.H.I.E.L.D. อาจจะเข้ามามีปัญหาได้


 


“หากคุณต้องการคำเเนะนำจากฉันบางทีเราควรจะนัดพูดคุยกันเอาเป็นว่าฉันจะช่วยเหลือคุณ”เเจ็คสันกล่าวรับปากเรื่องนี้


 


“อืม,เอาเป็นที่บาร์เดิมนั่นงั้นหรอ?”ธอร์กล่าวพูดขึ้น เขาดูเหมือนจะชอบบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต เพราะมันให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศที่คุ้นเคย


 


“….ฉันว่าฉันจะเเนะนำเพื่อนสองคนให้คุณรู้จักสถานที่นัดพบยังไม่ชัดเจนเอาเป็นว่าฉันจะติดต่อคุณไปภายหลังเเล้วกัน”


 


“อืม,เช่นนั้นไว้เจอกัน”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม